📜
๑๖. อตฺถทสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา
ปิยทสฺสิมฺหิ ¶ ¶ ¶ สมฺมาสมฺพุทฺเธ ปรินิพฺพุเต ตสฺส สาสเน จ อนฺตรหิเต ปริหายิตฺวา วฑฺฒิตฺวา อปริมิตายุเกสุ มนุสฺเสสุ อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา วสฺสสตสหสฺสายุเกสุ ชาเตสุ ปรมตฺถทสฺสี อตฺถทสฺสี นาม พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชิ. โส ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา ปรมโสภเน โสภเน นาม นคเร สาครสฺส นาม รฺโ กุเล อคฺคมเหสิยา สุทสฺสนเทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ทส มาเส คพฺเภ วสิตฺวา สุจินฺธนุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. มาตุกุจฺฉิโต มหาปุริเส นิกฺขนฺตมตฺเต สุจิรกาลนิหิตานิ กุลปรมฺปราคตานิ มหานิธานานิ ธนสามิกา ปฏิลภึสูติ ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘อตฺถทสฺสี’’ติ นามมกํสุ. โส ทสวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. อมรคิริ-สุรคิริ-คิริวาหนนามกา ปรมสุรภิชนกา ตโย จสฺส ปาสาทา อเหสุํ. วิสาขาเทวิปฺปมุขานิ เตตฺตึส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ.
โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา วิสาขาเทวิยา เสลกุมาเร นาม ปุตฺเต อุปฺปนฺเน สุทสฺสนํ นาม อสฺสราชํ อภิรุหิตฺวา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. ตํ นว มนุสฺสโกฏิโย อนุปพฺพชึสุ. เตหิ ปริวุโต โส มหาปุริโส อฏฺ มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย สุจินฺธรนาคิยา อุปหารตฺถาย อานีตํ มธุปายาสํ มหาชเนน สนฺทิสฺสมานสพฺพสรีราย นาคิยา สห สุวณฺณปาติยา ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา ตรุณตรุสตสมลงฺกเต ตรุณสาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย ธมฺมรุจินา มหารุจินา นาม นาคราเชน ทินฺนา อฏฺ กุสติณมุฏฺิโย คเหตฺวา จมฺปกโพธึ อุปสงฺกมิตฺวา เตปฺาสหตฺถายามวิตฺถตํ กุสติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺวา สพฺพพุทฺธาจิณฺณํ – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา พฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนายาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตนา สห ปพฺพชิตนวภิกฺขุโกฏิโย อริยธมฺมปฏิเวธสมตฺเถ ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา อโนมนครสมีเป อโนมุยฺยาเน โอตริตฺวา เตหิ ปริวุโต ¶ ตตฺถ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา โกฏิสตสหสฺสานํ ปโม ธมฺมาภิสมโย อโหสิ.
ปุน ¶ ภควติ โลกนายเก เทวโลกจาริกํ จริตฺวา ตตฺถ ธมฺมํ เทเสนฺเต โกฏิสตสหสฺสานํ ทุติโย อภิสมโย อโหสิ. ยทา ปน ภควา อตฺถทสฺสี อมฺหากํ ภควา วิย กปิลวตฺถุปุรํ โสภนปุรํ ปวิสิตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา โกฏิสตสหสฺสานํ ตติโย ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ตตฺเถว ¶ มณฺฑกปฺปมฺหิ, อตฺถทสฺสี มหายโส;
มหาตมํ นิหนฺตฺวาน, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘พฺรหฺมุนา ยาจิโต สนฺโต, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยิ;
อมเตน ตปฺปยี โลกํ, ทสสหสฺสี สเทวกํ.
‘‘ตสฺสาปิ โลกนาถสฺส, อเหสุํ อภิสมยา ตโย;
โกฏิสตสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหุ.
‘‘ยทา พุทฺโธ อตฺถทสฺสี, จรติ เทวจาริกํ;
โกฏิสตสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหุ.
‘‘ปุนาปรํ ยทา พุทฺโธ, เทเสสิ ปิตุสนฺติเก;
โกฏิสตสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.
ตตฺถ ตตฺเถวาติ ตสฺมิฺเว กปฺเปติ อตฺโถ. เอตฺถ ปน วรกปฺโป ‘‘มณฺฑกปฺโป’’ติ อธิปฺเปโต. ‘‘ยสฺมึ กปฺเป ตโย พุทฺธา นิพฺพตฺตนฺติ, โส กปฺโป วรกปฺโป’’ติ เหฏฺา ปทุมุตฺตรพุทฺธวํสวณฺณนายํ วุตฺโต. ตสฺมา วรกปฺโป อิธ ‘‘มณฺฑกปฺโป’’ติ วุตฺโต. นิหนฺตฺวานาติ นิหนิตฺวา. อยเมว วา ปาโ. สนฺโตติ สมาโน. อมเตนาติ มคฺคผลาธิคมามตปาเนน. ตปฺปยีติ อตปฺปยิ, ปีเณสีติ อตฺโถ. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสิโลกธาตุํ. เทวจาริกนฺติ เทวานํ วินยนตฺถํ เทวโลกจาริกนฺติ อตฺโถ.
สุจนฺทกนคเร กิร สนฺโต จ ราชปุตฺโต อุปสนฺโต จ ปุโรหิตปุตฺโต ตีสุ เวเทสุ สพฺพสมยนฺตเรสุ จ สารมทิสฺวา นครสฺส จตูสุ ทฺวาเรสุ ¶ จตฺตาโร ปณฺฑิเต วิสารเท จ มนุสฺเส เปสุํ – ‘‘ยํ ปน ตุมฺเห ปณฺฑิตํ สมณํ วา พฺราหฺมณํ วา ปสฺสถ สุณาถ วา, ตํ อมฺหากํ อาคนฺตฺวา ¶ อาโรเจถา’’ติ. เตน จ สมเยน อตฺถทสฺสี โลกนาโถ สุจนฺทกนครํ สมฺปาปุณิ. อถ เตหิ นิเวทิตา ปุริสา คนฺตฺวา เตสํ ทสพลสฺส ตตฺถาคมนํ ปฏิเวเทสุํ. ตโต เต สนฺโตปสนฺตา ตถาคตาคมนํ สุตฺวา ปหฏฺมานสา สหสฺสปริวารา ทสพลํ อสมํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อภิวาเทตฺวา นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส อสทิสํ มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส สกลนครวาสีหิ มนุสฺเสหิ สทฺธึ ธมฺมกถํ สุณึสุ. ตสฺมึ กิร ทิวเส อฏฺนวุติสหสฺสานิ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตาย ปริสาย มชฺเฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ.
ยทา ปน ภควา อตฺตโน ปุตฺตสฺส เสลตฺเถรสฺส ¶ ธมฺมํ เทเสนฺโต อฏฺาสีติสหสฺสานิ ปสาเทตฺวา เอหิภิกฺขุภาเวน ปพฺพาเชตฺวา อรหตฺตํ ปาเปตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. ปุน มหามงฺคลสมาคเม มาฆปุณฺณมายํ เทวมนุสฺสานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต อฏฺสตฺตติสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาเปตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ตสฺสาปิ จ มเหสิโน;
ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.
‘‘อฏฺนวุติสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม;
อฏฺาสีติสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.
‘‘อฏฺสตฺตติสหสฺสานํ, ตติโย อาสิ สมาคโม;
อนุปาทา วิมุตฺตานํ, วิมลานํ มเหสิน’’นฺติ.
ตทา กิร อมฺหากํ โพธิสตฺโต จมฺปกนคเร สุสีโม นาม พฺราหฺมณมหาสาโล โลกสมฺมโต อโหสิ. โส สพฺพวิภวชาตํ ทีนานาถกปณทฺธิกาทีนํ วิสฺสชฺเชตฺวา หิมวนฺตสมีปํ คนฺตฺวา ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ¶ มหิทฺธิโก มหานุภาโว หุตฺวา มหาชนสฺส กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ อนวชฺชสาวชฺชภาวฺจ ทสฺเสตฺวา พุทฺธุปฺปาทํ อาคมยมาโน อฏฺาสิ.
อถาปเรน สมเยน อตฺถทสฺสิมฺหิ โลกนายเก โลเก อุปฺปชฺชิตฺวา สุทสฺสนมหานคเร อฏฺนฺนํ ¶ ปริสานํ มชฺเฌ ธมฺมามตวสฺสํ วสฺเสนฺเต ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา สคฺคโลกํ คนฺตฺวา ทิพฺพานิ มนฺทารวปทุมปาริจฺฉตฺตกาทีนิ ปุปฺผานิ เทวโลกโต อาหริตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺเสนฺโต ทิสฺสมานสรีโร จตูสุ ทิสาสุ จตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วิย ปุปฺผวสฺสํ วสฺเสตฺวา สมนฺตโต ปุปฺผมณฺฑปํ ปุปฺผมยคฺฆิโตรณเหมชาลาทีนิ ปุปฺผมยานิ กตฺวา มนฺทารวปุปฺผจฺฉตฺเตน ทสพลํ ปูเชสิ. โสปิ นํ ภควา – ‘‘อนาคเต โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อหํ เตน สมเยน, ชฏิโล อุคฺคตาปโน;
สุสีโม นาม นาเมน, มหิยา เสฏฺสมฺมโต.
‘‘ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริจฺฉตฺตกํ;
เทวโลกา หริตฺวาน, สมฺพุทฺธมภิปูชยึ.
‘‘โสปิ ¶ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, อตฺถทสฺสี มหามุนิ;
อฏฺารเส กปฺปสเต, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป… เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.
‘‘ตสฺสาปิ วจนํ สุตฺวา, หฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา’’ติ.
ตตฺถ ชฏิโลติ ชฏา อสฺส อตฺถีติ ชฏิโล. มหิยา เสฏฺสมฺมโตติ สกเลนปิ โลเกน เสฏฺโ อุตฺตโม ปวโรติ เอวํ สมฺมโต สมฺภาวิโตติ อตฺโถ.
ตสฺส ปน ภควโต โสภนํ นาม นครํ อโหสิ. สาคโร นาม ราชา ปิตา, สุทสฺสนา นาม มาตา, สนฺโต อุปสนฺโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อภโย นามุปฏฺาโก, ธมฺมา จ สุธมฺมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, จมฺปกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ. สรีรปฺปภา ¶ สมนฺตโต สพฺพกาลํ โยชนมตฺตํ ผริตฺวา อฏฺาสิ, อายุ วสฺสสตสหสฺสํ, วิสาขา นามสฺส อคฺคมเหสี, เสโล นาม ปุตฺโต, อสฺสยาเนน นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘โสภนํ นาม นครํ, สาคโร นาม ขตฺติโย;
สุทสฺสนา นาม ชนิกา, อตฺถทสฺสิสฺส สตฺถุโน.
‘‘สนฺโต ¶ จ อุปสนฺโต จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;
อภโย นามุปฏฺาโก, อตฺถทสฺสิสฺส สตฺถุโน.
‘‘ธมฺมา เจว สุธมฺมา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;
โพธิ ตสฺส ภควโต, จมฺปโกติ ปวุจฺจติ.
‘‘โสปิ พุทฺโธ อสมสโม, อสีติหตฺถมุคฺคโต;
โสภเต สาลราชาว, อุฬุราชาว ปูริโต.
‘‘ตสฺส ปากติกา รํสี, อเนกสตโกฏิโย;
อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา, ผรนฺติ โยชนํ สทา.
‘‘โสปิ พุทฺโธ นราสโภ, สพฺพสตฺตุตฺตโม มุนิ;
วสฺสสตสหสฺสานิ, โลเก อฏฺาสิ จกฺขุมา.
‘‘อตุลํ ทสฺเสตฺวา โอภาสํ, วิโรเจตฺวา สเทวเก;
โสปิ อนิจฺจตํ ปตฺโต, ยถคฺคุปาทานสงฺขยา’’ติ.
ตตฺถ อุฬุราชาว ปูริโตติ สรทสมยปริปุณฺณวิมลสกลมณฺฑโล ตารกราชา วิยาติ อตฺโถ. ปากติกาติ ¶ ปกติวเสน อุปฺปชฺชมานา, น อธิฏฺานวเสน. ยทา อิจฺฉติ ภควา, ตทา อเนกโกฏิสตสหสฺเสปิ จกฺกวาเฬ อาภาย ผเรยฺย. รํสีติ รสฺมิโย. อุปาทานสงฺขยาติ อุปาทานกฺขยา อินฺธนกฺขยา อคฺคิ วิย. โสปิ ภควา จตุนฺนํ อุปาทานานํ ขเยน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา อนุปมนคเร อโนมาราเม ปรินิพฺพายิ. ธาตุโย ปนสฺส อธิฏฺาเนน วิกิรึสุ. เสสเมตฺถ คาถาสุ อุตฺตานเมวาติ.
อตฺถทสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต จุทฺทสโม พุทฺธวํโส.