📜
๒. สุเมธปตฺถนากถาวณฺณนา
‘‘กปฺเป จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;
อมรํ นาม นครํ, ทสฺสเนยฺยํ มโนรม’’นฺติ. –
อาทินยปฺปวตฺตาย พุทฺธวํสวณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. สา ปเนสา พุทฺธวํสวณฺณนา ยสฺมา สุตฺตนิกฺเขปํ วิจาเรตฺวา วุจฺจมานา ปากฏา โหติ, ตสฺมา สุตฺตนิกฺเขปวิจารณา ตาว เวทิตพฺพา. จตฺตาโร หิ สุตฺตนิกฺเขปา อตฺตชฺฌาสโย ปรชฺฌาสโย ปุจฺฉาวสิโก อฏฺุปฺปตฺติโกติ. ตตฺถ ยานิ สุตฺตานิ ภควา ปเรหิ อนชฺฌิฏฺโ เกวลํ อตฺตโน อชฺฌาสเยน กเถสิ. เสยฺยถิทํ – อากงฺเขยฺยสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๖๔ อาทโย) วตฺถสุตฺตนฺติ (ม. นิ. ๑.๗๐ อาทโย) เอวมาทีนิ, เตสํ อตฺตชฺฌาสโย นิกฺเขโป.
ยานิ วา ปน ‘‘ปริปกฺกา โข ราหุลสฺส วิมุตฺติปริปาจนียา ธมฺมา, ยํนูนาหํ ราหุลํ อุตฺตรึ อาสวานํ ขเย วิเนยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๒๑) เอวํ ปเรสํ อชฺฌาสยํ ขนฺตึ มนํ พุชฺฌนกภาวฺจ โอโลเกตฺวา ปรชฺฌาสยวเสน กถิตานิ. เสยฺยถิทํ – ราหุโลวาทสุตฺตํธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓ อาทโย; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอวมาทีนิ, เตสํ ปรชฺฌาสโย นิกฺเขโป.
ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา เต เต เทวมนุสฺสา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ. เอวํ ปุฏฺเน ปน ภควตา ยานิ กถิตานิ เทวตาสํยุตฺต (สํ. นิ. ๑.๑ อาทโย) โพชฺฌงฺคสํยุตฺตาทีนิ (สํ. นิ. ๕.๑๘๒ อาทโย) เตสํ ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป.
ยานิ วา ปน อุปฺปนฺนํ การณํ ปฏิจฺจ เทสิตานิ ธมฺมทายาท- (ม. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) ปุตฺตมํสูปมาทีนิ (สํ. นิ. ๒.๖๓), เตสํ อฏฺุปฺปตฺติโก นิกฺเขโป. เอวเมเตสุ จตูสุ สุตฺตนิกฺเขเปสุ อิมสฺส พุทฺธวํสสฺส ปุจฺฉาวสิโก นิกฺเขโป. ปุจฺฉาวเสน หิ ภควตา อยํ ¶ นิกฺขิตฺโต. กสฺส ปุจฺฉาวเสน? อายสฺมโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส. วุตฺตฺเหตํ อสฺมึ นิทานสฺมึ เอว –
‘‘สาริปุตฺโต ¶ ¶ มหาปฺโ, สมาธิชฺฌานโกวิโท;
ปฺาย ปารมิปฺปตฺโต, ปุจฺฉติ โลกนายกํ;
กีทิโส เต มหาวีร, อภินีหาโร นรุตฺตมา’’ติ. (พุ. วํ. ๑.๗๔-๗๕) –
อาทิ. เตเนสา พุทฺธวํสเทสนา ปุจฺฉาวสิกาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ กปฺเป จ สตสหสฺเสติ เอตฺถ กปฺป-สทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติเฉทนวิกปฺปนเลสสมนฺตภาวอายุกปฺปมหากปฺปาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ ‘‘โอกปฺปนียเมตํ โภโต โคตมสฺส. ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหเน ทิสฺสติ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภฺุชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาเร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาเล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ (สุ. นิ. ๑๐๙๘; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉา ๑๑๗; กปฺปมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๑) จ, ‘‘นิคฺโรธกปฺโป อิติ ตสฺส นามํ, ตยา กตํ ภควา พฺราหฺมณสฺสา’’ติ จ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๓๔๖) ปฺตฺติยํ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๓๖๘) เฉทเน. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺเป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลเส. ‘‘เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา’’ติอาทีสุ สมนฺตภาเว. ‘‘ติฏฺตุ, ภนฺเต, ภควา กปฺปํ, ติฏฺตุ สุคโต กปฺป’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๑๗๘; อุทา. ๕๑) เอตฺถ อายุกปฺเป. ‘‘กีว ทีโฆ นุ โข, ภนฺเต, กปฺโป’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๘-๑๒๙) เอตฺถ มหากปฺเป. อาทิสทฺเทน ‘‘สตฺถุกปฺเปน วต กิร, โภ, มยํ สาวเกน สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺหา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๖๐) เอตฺถ ปฏิภาเค. ‘‘กปฺโป นฏฺโ โหติ. กปฺปกโตกาโส ชิณฺโณ โหตี’’ติ (ปาจิ. ๓๗๑) เอตฺถ วินยกปฺเป. อิธ ปน มหากปฺเป ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา กปฺเป จ สตสหสฺเสติ มหากปฺปานํ สตสหสฺสานนฺติ อตฺโถ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๙; ๓.๒๗๕; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๑๒๘; ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.มงฺคลสุตฺต, เอวมิจฺจาทิปาวณฺณนา; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.มงฺคลสุตฺตวณฺณนา; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา.๑; จูฬนิ. อฏฺ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา). ¶ จตุโร จ อสงฺขิเยติ ‘‘จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก’’ติ วจนเสโส ทฏฺพฺโพ. กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเกติ อตฺโถ. อมรํ นาม นครนฺติ ‘‘อมร’’นฺติ จ ‘‘อมรวตี’’ติ ¶ จ ลทฺธนามํ นครํ อโหสิ. เกจิ ปเนตฺถ อฺเนาปิ ปกาเรน วณฺณยนฺติ, กึ เตหิ, นามมตฺตํ ปเนตํ ตสฺส นครสฺส. ทสฺสเนยฺยนฺติ สุวิภตฺตวิจิตฺร-จจฺจรทฺวาร-จตุกฺกสิงฺฆาฏิก-ปาการ-ปริกฺเขปปาสาท- หมฺมิย-ภวน-สมลงฺกตตฺตา ทสฺสนียํ. มโนรมนฺติ สมสุจิปรมรมณียภูมิภาคตฺตา ฉายูทกสมฺปนฺนตฺตา ¶ สุลภาหารตฺตา สพฺโพปกรณยุตฺตตฺตา จ สมิทฺธตฺตา เทวมนุสฺสาทีนํ มโน รมยตีติ มโนรมํ.
ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตนฺติ หตฺถิสทฺเทน อสฺสสทฺเทน รถสทฺเทน เภริสทฺเทน สงฺขสทฺเทน มุทิงฺคสทฺเทน วีณาสทฺเทน คีตสทฺเทน สมฺมตาฬสทฺเทน ‘‘ภฺุชถ ปิวถ ขาทถา’’ติ ทสเมน สทฺเทนาติ; อิเมหิ ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตํ อโหสิ, สพฺพกาลํ อนุปมุสฺสวสมชฺชนาฏกา กีฬนฺตีติ อตฺโถ. อนฺนปานสมายุตนฺติ อนฺเนน จตุพฺพิเธนาหาเรน จ ปาเนน จ สุฏฺุ อายุตํ อนฺนปานสมายุตํ, อิมินา สุภิกฺขตา ทสฺสิตา, พหุอนฺนปานสมายุตนฺติ อตฺโถ.
อิทานิ เต ทส สทฺเท วตฺถุโต ทสฺสนตฺถํ –
‘‘หตฺถิสทฺทํ อสฺสสทฺทํ, เภริสงฺขรถานิ จ;
ขาทถ ปิวถ เจว, อนฺนปาเนน โฆสิต’’นฺติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ หตฺถิสทฺทนฺติ หตฺถีนํ โกฺจนาทสทฺเทน, กรณตฺเถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย เสสปเทสุปิ. เภริสงฺขรถานิ จาติ เภริสทฺเทน จ สงฺขสทฺเทน จ รถสทฺเทน จาติ อตฺโถ. ลิงฺควิปริยาเสน วุตฺตํ, ‘ขาทถ ปิวถา’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺเตน อนฺนปานปฏิสํยุตฺเตน โฆสิตํ อภินาทิตนฺติ อตฺโถ. เอตฺถาห – เตสํ ปน สทฺทานํ เอกเทโสว ทสฺสิโต, น สกโลติ? น เอกเทโส สกโล ทสวิโธ ทสฺสิโตว. กถํ? เภริสทฺเทน มุทิงฺคสทฺโท สงฺคหิโต, สงฺขสทฺเทน วีณาคีตสมฺมตาฬสทฺทา สงฺคหิตาติ ทเสว ทสฺสิตา.
เอวํ เอเกน ปริยาเยน นครสมฺปตฺตึ วณฺเณตฺวา ปุน ตเมว ทสฺเสตุํ –
‘‘นครํ ¶ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, สพฺพกมฺมมุปาคตํ, สตฺตรตนสมฺปนฺนํ, นานาชนสมากุลํ;
สมิทฺธํ เทวนครํว, อาวาสํ ปฺุกมฺมิน’’นฺติ. – วุตฺตํ;
ตตฺถ ¶ สพฺพงฺคสมฺปนฺนนฺติ ปาการโคปุรฏฺฏาลกาทิสพฺพนคราวยวสมฺปนฺนํ, ปริปุณฺณสพฺพวิตฺตูปกรณธนธฺติณกฏฺโทกนฺติ วา อตฺโถ. สพฺพกมฺมมุปาคตนฺติ สพฺพกมฺมนฺเตน อุปคตํ, สมุปคตสพฺพกมฺมนฺตนฺติ อตฺโถ. สตฺตรตนสมฺปนฺนนฺติ ¶ ปริปุณฺณมุตฺตาทิสตฺตรตนํ, จกฺกวตฺตินิวาสภูมิโต วา หตฺถิรตนาทีหิ สตฺตรตเนหิ สมฺปนฺนํ. นานาชนสมากุลนฺติ นานาวิธเทสภาเสหิ ชเนหิ สมากุลํ. สมิทฺธนฺติ มนุสฺโสปโภคสพฺโพปกรเณหิ สมิทฺธํ ผีตํ. เทวนครํ วาติ เทวนครํ วิย อาลกมนฺทา วิย อมรวตี สมิทฺธนฺติ วุตฺตํ โหติ. อาวาสํ ปฺุกมฺมินนฺติ อาวสนฺติ เอตฺถ ปฺุกมฺมิโน ชนาติ อาวาโส. ‘‘อาวาโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อาวาส’’นฺติ ลิงฺคเภทํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฺายติ เตนาติ ปฺุํ, กุลรูปมหาโภคิสฺสริยวเสน ปฺายตีติ อตฺโถ. ปุนาตีติ วา ปฺุํ. สพฺพกุสลมลรชาปวาหกตฺตา ปฺุํ กมฺมํ เยสํ อตฺถิ เต ปฺุกมฺมิโน, เตสํ ปฺุกมฺมินํ อาวาสภูตนฺติ อตฺโถ.
ตตฺถ สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ ปฏิวสติ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ, สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา อกฺขิตฺโต อนุปกุฏฺโ ชาติวาเทน, อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, โส ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อโหสิ สนิฆณฺฑุเกฏุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ อนวโย โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ. ตสฺส ปน ทหรกาเลเยว มาตาปิตโร กาลมกํสุ. อถสฺส ราสิวฑฺฒโก อมจฺโจ อายโปตฺถกํ อาหริตฺวา สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาทิวิวิธรตนภริเต คพฺเภ วิวริตฺวา – ‘‘เอตฺถกํ เต, กุมาร, มาตุ สนฺตกํ, เอตฺถกํ ปิตุ สนฺตกํ, เอตฺถกํ อยฺยกปยฺยกาน’’นฺติ ยาว สตฺตมา กุลปริวฏฺฏา ธนํ อาจิกฺขิตฺวา – ‘‘เอตํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ นิยฺยาเตสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปฺุานิ กโรนฺโต อคารํ อชฺฌาวสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘นคเร ¶ อมรวติยา, สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ;
อเนกโกฏิสนฺนิจโย, ปหูตธนธฺวา.
‘‘อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;
ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สธมฺเม ปารมึ คโต’’ติ.
ตตฺถ นคเร อมรวติยาติ อมรวตีสงฺขาเต นคเร. สุเมโธ นามาติ เอตฺถ ‘‘เมธา’’ติ ปฺา ¶ วุจฺจติ. สา ตสฺส สุนฺทรา ปสตฺถาติ สุเมโธติ ปฺายิตฺถ. พฺราหฺมโณติ พฺรหฺมํ อณติ สิกฺขตีติ พฺราหฺมโณ, มนฺเต สชฺฌายตีติ อตฺโถ ¶ . อกฺขรจินฺตกา ปน ‘‘พฺรหฺมุโน อปจฺจํ พฺราหฺมโณ’’ติ วทนฺติ. อริยา ปน พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมณาติ. อเนกโกฏิสนฺนิจโยติ โกฏีนํ สนฺนิจโย โกฏิสนฺนิจโย, อเนโก โกฏิสนฺนิจโย ยสฺส โสยํ อเนกโกฏิสนฺนิจโย, อเนกโกฏิ ธนสนฺนิจโยติ อตฺโถ. ปหูตธนธฺวาติ พหุลธนธฺวา. ปุริมํ ภูมิคตคพฺภคตธนธฺวเสน วุตฺตํ, อิทํ นิจฺจปริโภคูปคตธนธฺวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อชฺฌายโกติ น ฌายตีติ อชฺฌายโก, ฌานภาวนารหิโตติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘น ทานิเม ฌายนฺตีติ. น ทานิเม ฌายนฺตีติ โข, วาเสฏฺ, ‘อชฺฌายกา อชฺฌายกา’ ตฺเวว ตติยํ อกฺขรํ อุปนิพฺพตฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๓๒) เอวํ ปมกปฺปิกกาเล ฌานวิรหิตานํ พฺราหฺมณานํ ครหวจนํ อุปฺปนฺนํ. อิทานิ มนฺตํ ฌายตีติ อชฺฌายโก, มนฺเต ปริวตฺเตตีติ อิมินา อตฺเถน ปสํสวจนํ กตฺวา โวหรนฺติ. มนฺเต ธาเรตีติ มนฺตธโร. ติณฺณํ เวทานนฺติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทานํ ติณฺณํ เวทานํ. อยํ ปน เวท-สทฺโท าณโสมนสฺสคนฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส – ‘‘ยํ พฺราหฺมณํ เวทคุมาภิชฺา, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺต’’นฺติอาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๖๕) าเณ ทิสฺสติ. ‘‘เย เวทชาตา วิจรนฺติ โลเก’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๕๗) โสมนสฺเส. ‘‘ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฏุภาน’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๖) คนฺเถ. อิธาปิ คนฺเถ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๗๕). ปารคูติ ติณฺณํ เวทานํ โอฏฺปหตกรณมตฺเตน ปารํ คโตติ ปารคู. ลกฺขเณติ อิตฺถิลกฺขณปุริสลกฺขณมหาปุริสลกฺขณาทิเก ลกฺขเณ. อิติหาเสติ อิติห อาส, อิติห อาสาติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺเต ¶ ปุราณสงฺขาเต คนฺถวิเสเส. สธมฺเมติ พฺราหฺมณานํ สเก ธมฺเม, สเก อาจริยเก วา. ปารมึ คโตติ ปารํ คโต, ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย อโหสีติ อตฺโถ.
อเถกทิวสํ โส ทสคุณคณาราธิตปณฺฑิโต สุเมธปณฺฑิโต อุปริปาสาทวรตเล รโหคโต หุตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘ปุนพฺภเว ปฏิสนฺธิคฺคหณํ นาม ทุกฺขํ, ตถา นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน สรีรเภทนํ, อหฺจ ชาติธมฺโม, ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม, มรณธมฺโม, เอวํภูเตน มยา อชาตึ อชรํ อพฺยาธึ อมรณํ สุขํ สิวํ นิพฺพานํ ปริเยสิตุํ ¶ วฏฺฏติ, อวสฺสํ ภวจารกโต มุจฺจิตฺวา นิพฺพานคามินา เอเกน มคฺเคน ภวิตพฺพ’’นฺติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘รโหคโต ¶ นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
ทุกฺโข ปุนพฺภโว นาม, สรีรสฺส จ เภทนํ.
‘‘ชาติธมฺโม ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม สหํ ตทา;
อชรํ อมรํ เขมํ, ปริเยสิสฺสามิ นิพฺพุตึ.
‘‘ยํนูนิมํ ปูติกายํ, นานากุณปปูริตํ;
ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.
‘‘อตฺถิ เหหิติ โส มคฺโค, น โส สกฺกา น เหตุเย;
ปริเยสิสฺสามิ ตํ มคฺคํ, ภวโต ปริมุตฺติยา’’ติ.
เอตฺถ ปน คาถาสมฺพนฺธฺจ อนุตฺตานปทานมตฺถฺจ วตฺวาว คมิสฺสาม. ตตฺถ รโหคโตติ รหสิ คโต, รหสิ าเน นิสินฺโน. เอวํ จินฺเตสหนฺติ เอวํ จินฺเตสึ อหํ. เอวนฺติ อิมินา จินฺตนาการํ ทสฺเสติ. ตทาติ ตสฺมึ สุเมธปณฺฑิตกาเล. ‘‘เอวํ จินฺเตสห’’นฺติ ภควา อิมินา อตฺตนา สทฺธึ สุเมธปณฺฑิตํ เอกตฺตํ กโรติ. ตสฺมา ตทา โส สุเมโธ อหเมวาติ ปกาเสนฺโต ‘‘เอวํ จินฺเตสหํ ตทา’’ติ ภควา อุตฺตมปุริสวเสนาห. ชาติธมฺโมติ ชาติสภาโว. เอส นโย เสสปเทสุปิ. นิพฺพุตินฺติ นิพฺพานํ.
ยํนูนาติ ¶ ปริวิตกฺกนตฺเถ นิปาโต, ยทิ ปนาหนฺติ อตฺโถ. ปูติกายนฺติ ปูติภูตํ กายํ. นานากุณปปูริตนฺติ มุตฺต-กรีส-ปุพฺพโลหิต-ปิตฺต-เสมฺห-เขฬสิงฺฆาณิกาทิอเนกกุณปปูริตํ. อนเปกฺโขติ อนาลโย. อตฺถีติ อวสฺสํ อุปลพฺภติ. เหหิตีติ ภวิสฺสติ, ปริวิตกฺกนวจนมิทํ. น โส สกฺกา น เหตุเยติ เตน มคฺเคน น สกฺกา น ภวิตุํ. โส ปน มคฺโค เหตุเยติ เหตุภาวาย น น โหติ, เหตุเยวาติ อตฺโถ. ภวโต ปริมุตฺติยาติ ภวพนฺธนวิมุตฺติยาติ อตฺโถ.
อิทานิ อตฺตนา ปริวิตกฺกิตมตฺถํ สมฺปาทยิตุํ ‘‘ยถาปี’’ติ อาทิมาห. ยถา หิ โลเก ทุกฺขสฺส ปฏิปกฺขภูตํ สุขํ นาม อตฺถิ, เอวํ ภเว สติ ตปฺปฏิปกฺเขน วิภเวนาปิ ภวิตพฺพํ ¶ , ยถา จ อุณฺเห สติ ตสฺส วูปสมภูตํ สีตลมฺปิ อตฺถิ, เอวํ ราคาทิอคฺคีนํ วูปสเมน นิพฺพาเนน ภวิตพฺพํ. ยถา จ ปาปสฺส ลามกสฺส ธมฺมสฺส ปฏิปกฺขภูโต กลฺยาโณ อนวชฺชธมฺโมปิ ¶ อตฺถิเยว, เอวเมว ปาปิกาย ชาติยา สติ สพฺพชาติเขปนโต อชาติสงฺขาเตน นิพฺพาเนนาปิ ภวิตพฺพเมวาติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยถาปิ ทุกฺเข วิชฺชนฺเต, สุขํ นามปิ วิชฺชติ;
เอวํ ภเว วิชฺชมาเน, วิภโวปิจฺฉิตพฺพโก.
‘‘ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;
เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพกํ.
‘‘ยถาปิ ปาเป วิชฺชนฺเต, กลฺยาณมปิ วิชฺชติ;
เอวเมว ชาติ วิชฺชนฺเต, อชาติปิจฺฉิตพฺพก’’นฺติ.
ตตฺถ ยถาปีติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. สุขนฺติ กายิกเจตสิกสุขํ, สุฏฺุ ทุกฺขํ ขณตีติ สุขํ. ภเวติ ชนเน. วิภโวติ อชนนํ, ชนเน วิชฺชมาเน อชนนธมฺโมปิ อิจฺฉิตพฺโพ. ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเตติ ติวิเธ ราคาทิเก อคฺคิมฺหิ วิชฺชมาเนติ อตฺโถ. นิพฺพานนฺติ ตสฺส ติวิธสฺส ราคาทิอคฺคิสฺส นิพฺพาปนํ อุปสมนํ นิพฺพานฺจ อิจฺฉิตพฺพํ. ปาเปติ อกุสเล ลามเก. กลฺยาณมปีติ กุสลมปิ. เอวเมวาติ เอวเมวํ. ชาติ วิชฺชนฺเตติ ¶ ชาติยา วิชฺชมานายาติ อตฺโถ. ลิงฺคเภทฺจ วิภตฺติโลปฺจ กตฺวา วุตฺตํ. อชาติปีติ ชาติเขปนํ อชาตินิพฺพานมฺปิ อิจฺฉิตพฺพํ.
อถาหํ ปรมฺปิ จินฺเตสึ – ‘‘ยถา นาม คูถราสิมฺหิ นิมุคฺเคน ปุริเสน ทูรโตว กมลกุวลยปุณฺฑรีกสณฺฑมณฺฑิตํ วิมลสลิลํ ตฬากํ ทิสฺวา – ‘กตเรน นุ โข มคฺเคน ตตฺถ คนฺตพฺพ’นฺติ ตฬากํ คเวสิตุํ ยุตฺตํ. ยํ ตสฺส อคเวสนํ, น โส ตสฺส ตฬากสฺส โทโส, ตสฺส ปุริสสฺเสว โทโส. เอวเมว กิเลสมลโธวเน อมตมหาตฬาเก วิชฺชมาเน ยํ ตสฺส อคเวสนํ, น โส อมตสงฺขาตสฺส นิพฺพานมหาตฬากสฺส โทโส, ปุริสสฺเสว โทโส. ยถา ปน โจเรหิ สํปริวาริโต ปุริโส ปลายนมคฺเค วิชฺชมาเนปิ สเจ โส น ปลายติ, น โส ตสฺส มคฺคสฺส โทโส, ตสฺส ปุริสสฺเสว โทโส. เอวเมว กิเลสโจเรหิ ปริวาเรตฺวา คหิตสฺส ปุริสสฺส วิชฺชมาเนเยว นิพฺพานมหานครคามิมฺหิ สิเว มหามคฺเค ตสฺส มคฺคสฺส อคเวสนํ ¶ นาม น มคฺคสฺส โทโส, ปุริสสฺเสว โทโส. ยถา พฺยาธิปีฬิโต ปุริโส วิชฺชมาเน พฺยาธิติกิจฺฉเก เวชฺเช สเจ ตํ เวชฺชํ คเวสิตฺวา ตํ พฺยาธึ น ติกิจฺฉาเปติ, น ¶ โส เวชฺชสฺส โทโส, ตสฺส ปุริสสฺเสว โทโส. เอวเมว ปน โย กิเลสพฺยาธิปริปีฬิโต กิเลสวูปสมมคฺคโกวิทํ วิชฺชมานเมว อาจริยํ น คเวสติ, ตสฺเสว โทโส, น กิเลสพฺยาธิวินายกสฺส อาจริยสฺส โทโส’’ติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยถา คูถคโต ปุริโส, ตฬากํ ทิสฺวาน ปูริตํ;
น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส ตฬากสฺส โส.
‘‘เอวํ กิเลสมลโธวํ, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;
น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ.
‘‘ยถา อรีหิ ปริรุทฺโธ, วิชฺชนฺเต คมนมฺปเถ;
น ปลายติ โส ปุริโส, น โทโส อฺชสสฺส โส.
‘‘เอวํ กิเลสปริรุทฺโธ, วิชฺชมาเน สิเว ปเถ;
น คเวสติ ตํ มคฺคํ, น โทโส สิวมฺชเส.
‘‘ยถาปิ ¶ พฺยาธิโต ปุริโส, วิชฺชมาเน ติกิจฺฉเก;
น ติกิจฺฉาเปติ ตํ พฺยาธึ, น โทโส โส ติกิจฺฉเก.
‘‘เอวํ กิเลสพฺยาธีหิ, ทุกฺขิโต ปติปีฬิโต;
น คเวสติ ตํ อาจริยํ, น โทโส โส วินายเก’’ติ.
ตตฺถ คูถคโตติ คูถกูปคโต, คูเถน คโต มกฺขิโต วา. กิเลสมลโธวนฺติ กิเลสมลโสธเน, ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อมตนฺตเฬติ อมตสงฺขาตสฺส ตฬากสฺส, สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ, อนุสฺสรํ ปกฺขิปิตฺวา วุตฺตํ. อรีหีติ ปจฺจตฺถิเกหิ. ปริรุทฺโธติ สมนฺตโต นิรุทฺโธ. คมนมฺปเถติ คมนปเถ. ฉนฺทาวินาสตฺถํ อนุสฺสราคมนํ กตฺวา วุตฺตํ. น ปลายตีติ ยทิ น ปลาเยยฺย. โส ปุริโสติ โส โจเรหิ ปริรุทฺโธ ปุริโส. อฺชสสฺสาติ ¶ มคฺคสฺส. มคฺคสฺส หิ –
‘‘มคฺโค ¶ ปนฺโถ ปโถ ปชฺโช, อฺชสํ วฏุมายนํ;
นาวา อุตฺตรเสตุ จ, กุลฺโล จ ภิสิ สงฺกโม’’ติ. (จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๑๐๑) –
พหูนิ นามานิ. สฺวายมิธ อฺชสนาเมน วุตฺโต. สิเวติ สพฺพุปทฺทวาภาวโต สิเว. สิวมฺชเสติ สิวสฺส อฺชสสฺสาติ อตฺโถ. ติกิจฺฉเกติ เวชฺเช. น ติกิจฺฉาเปตีติ น ติกิจฺฉาเปยฺย. น โทโส โส ติกิจฺฉเกติ ติกิจฺฉกสฺส โทโส นตฺถิ, พฺยาธิตสฺเสว โทโสติ อตฺโถ. ทุกฺขิโตติ สฺชาตกายิกเจตสิกทุกฺโข. อาจริยนฺติ โมกฺขมคฺคาจริยํ. วินายเกติ อาจริยสฺส.
เอวํ ปนาหํ จินฺเตตฺวา อุตฺตริมฺปิ เอวํ จินฺเตสึ – ‘‘ยถาปิ มณฺฑนกชาติโก ปุริโส กณฺเ อาสตฺตํ กุณปํ ฉฑฺเฑตฺวา สุขี คจฺเฉยฺย, เอวํ มยาปิ อิมํ ปูติกายํ ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺเขน นิพฺพานมหานครํ ปวิสิตพฺพํ. ยถา จ นรนาริโย อุกฺการภูมิยํ อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา น ตํ อุจฺฉงฺเคน วา อาทาย ทสนฺเต วา เวเตฺวา อาทาย คจฺฉนฺติ, อถ โข ชิคุจฺฉมานา โอโลเกตุมฺปิ อนิจฺฉนฺตา อนเปกฺขา ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, เอวํ มยาปิ อิมํ ปูติกายํ อนเปกฺเขน ฉฑฺเฑตฺวา อมตํ นิพฺพานนครํ ปวิสิตุํ วฏฺฏติ. ยถา จ นาวิกา นาม ชชฺชรํ นาวํ อุทกคาหินึ ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ, เอวมหมฺปิ อิมํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺฆรนฺตํ กายํ ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข นิพฺพานมหานครํ ปวิสิสฺสามิ ¶ . ยถา จ โกจิ ปุริโส มุตฺตามณิเวฬุริยาทีนิ นานาวิธานิ รตนานิ อาทาย โจเรหิ สทฺธึ มคฺคํ คจฺฉนฺโต อตฺตโน รตนวินาสภเยน เต โจเร ฉฑฺเฑตฺวา เขมํ มคฺคํ คณฺหาติ, เอวมยมฺปิ ปูติกาโย รตนวิโลปกโจรสทิโส. สจาหํ เอตฺถ ตณฺหํ กริสฺสามิ, อริยมคฺคกุสลธมฺมรตนานิ เม นสฺสิสฺสนฺติ, ตสฺมา มยา อิมํ มหาโจรสทิสํ กรชกายํ ฉฑฺเฑตฺวา นิพฺพานมหานครํ ปวิสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยถาปิ กุณปํ ปุริโส, กณฺเ พทฺธํ ชิคุจฺฉิย;
โมจยิตฺวาน คจฺเฉยฺย, สุขี เสรี สยํวสี.
‘‘ตเถวิมํ ปูติกายํ, นานากุณปสฺจยํ;
ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.
‘‘ยถา ¶ ¶ อุจฺจารฏฺานมฺหิ, กรีสํ นรนาริโย;
ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.
‘‘เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นานากุณปปูริตํ;
ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, วจฺจํ กตฺวา ยถา กุฏึ.
‘‘ยถาปิ ชชฺชรํ นาวํ, ปลุคฺคํ อุทคาหินึ;
สามี ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.
‘‘เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นวจฺฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ;
ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, ชิณฺณนาวํว สามิกา.
‘‘ยถาปิ ปุริโส โจเรหิ, คจฺฉนฺโต ภณฺฑมาทิย;
ภณฺฑจฺเฉทภยํ ทิสฺวา, ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉติ.
‘‘เอวเมว อิมํ กาโย, มหาโจรสโม วิย;
ปหายิมํ คมิสฺสามิ, กุสลจฺเฉทนาภยา’’ติ.
ตตฺถ ยถาปิ กุณปํ ปุริโสติ ยถาปิ ทหโร ยุวา มณฺฑนกชาติโก ปุริโส อหิกุณเปน วา กุกฺกุรกุณเปน วา มนุสฺสกุณเปน วา กณฺเ อาสตฺเตน อฏฺฏียิตฺวา หรายิตฺวา ชิคุจฺฉิตฺวา ตํ กุณปํ โมเจตฺวา ¶ คจฺเฉยฺย. สุขีติ สุขิโต. เสรีติ ยถิจฺฉกวิหารี. นานากุณปสฺจยนฺติ อเนกวิธกุณปราสิภูตํ ‘‘นานากุณปปูริต’’นฺติปิ ปาโ.
อุจฺจารฏฺานมฺหีติ อุจฺจาเรนฺติ วจฺจํ กโรนฺติ เอตฺถาติ อุจฺจาโร, อุจฺจาโร จ โส านํ เจติ อุจฺจารฏฺานํ. อถ วา อุสฺสาสิยฺยตีติ อุสฺสาโส, วจฺจสฺเสตํ นามํ, ตสฺส านํ อุสฺสาสฏฺานํ, ตสฺมึ อุสฺสาสฏฺานมฺหิ, อุกฺการฏฺาเนติ อตฺโถ. วจฺจํ กตฺวา ยถา กุฏินฺติ วจฺจํ กตฺวา กุฏึ นรนาริโย วิยาติ อตฺโถ.
ชชฺชรนฺติ ชิณฺณํ. ปลุคฺคนฺติ ปลุชฺชนฺตึ, วิกิรนฺตินฺติ อตฺโถ. อุทคาหินินฺติ อุทกคาหินึ ¶ . สามีติ นาวาสามิกา. นวจฺฉิทฺทนฺติ จกฺขุโสตาทีหิ นวหิ วณมุเขหิ ฉิทฺทาวจฺฉิทฺเทหิ ยุตฺตตฺตา นวจฺฉิทฺทํ. ธุวสฺสวนฺติ ธุวนิสฺสนฺทํ, นิจฺจํ ปคฺฆรณาสุจินฺติ อตฺโถ.
ภณฺฑมาทิยาติ ยํกิฺจิ รตนาทิกํ ภณฺฑํ อาทิย. ภณฺฑจฺเฉทภยํ ¶ ทิสฺวาติ ภณฺฑสฺส อจฺฉินฺทเนน ภยํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. เอวเมวาติ โส ภณฺฑมาทาย คจฺฉนฺโต ปุริโส วิย. อยํ กาโยติ อยํ ปน กุจฺฉิตานํ ปรมเชคุจฺฉานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปตฺติฏฺานํ. อายนฺติ ตโตติ อาโย, กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย. มหาโจรสโม วิยาติ จกฺขุอาทีหิ รูปาทีสุ ปิยรูเปสุ สารชฺชนาทิวเสน ปาณาติปาตาทินฺนาทานาทิโจโร หุตฺวา สพฺพกุสลํ วิลุมฺปตีติ มหาโจรสโม. ตสฺมา ยถา โส รตนภณฺฑมาทาย โจเรหิ สทฺธึ คจฺฉนฺโต ปุริโส เต โจเร ปหาย คจฺฉติ, เอวเมวาหมฺปิ อิมํ มหาโจรสมํ กายํ ปหาย อตฺตโน โสตฺถิภาวกรํ มคฺคํ คเวสิตุํ คมิสฺสามีติ อตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. กุสลจฺเฉทนาภยาติ กุสลธมฺมวิโลปนภเยนาติ อตฺโถ.
อเถวํ สุเมธปณฺฑิโต นานาวิธาหิ อุปมาหิ เนกฺขมฺมการณํ จินฺเตตฺวา ปุนปิ จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ มหาธนราสึ สํหริตฺวา มยฺหํ ปิตุปิตามหาทโย ปรโลกํ คจฺฉนฺตา เอกกหาปณมฺปิ คเหตฺวา น คตา, มยา ปน คเหตฺวา คมนการณํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ ¶ – ‘‘อหํ, มหาราช, ชาติชราทีหิ อุปทฺทุตหทโย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิสฺสามิ, มยฺหํ อเนกโกฏิสตสหสฺสํ ธนํ อตฺถิ, ตํ เทโว ปฏิปชฺชตู’’ติ. ราชา อาห – ‘‘น มยฺหํ เต ธเนน อตฺโถ, ตฺวํเยว ยถิจฺฉกํ กโรหี’’ติ.
โส จ ‘‘สาธุ เทวา’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาชนสฺส ทานํ ทตฺวา วตฺถุกาเม จ กิเลสกาเม จ ปหาย อมรวรนครสทิสโต อมรนครโต นิกฺขมิตฺวา เอกโกว นานามิคคณวนฺเต หิมวนฺเต ธมฺมิกํ นาม ปพฺพตํ นิสฺสาย อสฺสมํ กตฺวา ตตฺถ ปณฺณสาลํ กตฺวา ปฺจโทสวิวชฺชิตํ จงฺกมํ มาเปตฺวา อฏฺคุณสมุเปตํ อภิฺาพลํ สมาหริตุํ นวโทสสมนฺนาคตํ สาฏกํ ปชหิตฺวา ทฺวาทสคุณมุปาคตํ วากจีรํ นิวาเสตฺวา ปพฺพชิ. เอวํ ปน โส ปพฺพชิโต อฏฺโทสสมากิณฺณํ ปณฺณสาลํ ปหาย ทสคุณสมนฺนาคตํ รุกฺขมูลํ อุปคนฺตฺวา สพฺพธฺวิกตึ ปหาย ปวตฺตผลโภชโน หุตฺวา นิสชฺชฏฺานจงฺกมนวเสน ปธานํ ปทหนฺโต สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ปฺจนฺนฺจ อภิฺานํ ลาภี อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เอวาหํ ¶ จินฺตยิตฺวาน, เนกโกฏิสตํ ธนํ;
นาถานาถานํ ทตฺวาน, หิมวนฺตมุปาคมึ.
‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ธมฺมิโก นาม ปพฺพโต;
อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.
‘‘จงฺกมํ ¶ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิตํ.
อฏฺคุณสมุเปตํ, อภิฺาพลมาหรึ.
‘‘สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตํ;
วากจีรํ นิวาเสสึ, ทฺวาทสคุณมุปาคตํ.
‘‘อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลกํ;
อุปาคมึ รุกฺขมูลํ, คุเณ ทสหุปาคตํ.
‘‘วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;
อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.
‘‘ตตฺถปฺปธานํ ¶ ปทหึ, นิสฺสชฺชฏฺานจงฺกเม;
อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพลปาปุณิ’’นฺติ.
ตตฺถ เอวาหนฺติ เอวํ อหํ, เหฏฺา วุตฺตปฺปกาเรน จินฺเตตฺวาติ อตฺโถ. นาถานาถานนฺติ สนาถานมนาถานฺจ อฑฺฒานฺเจว ทลิทฺทานฺจ ‘‘อตฺถิกา คณฺหนฺตู’’ติ สห โกฏฺาคาเรหิ ทตฺวาติ อตฺโถ. หิมวนฺตสฺสาวิทูเรติ หิมวนฺตปพฺพตราชสฺส อวิทูเร สมีเป. ธมฺมิโก นาม ปพฺพโตติ เอวํนามโก ปพฺพโต. กสฺมา ปนายํ ธมฺมิโกติ? เยภุยฺเยน ปน โพธิสตฺตา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตํ ปพฺพตํ อุปนิสฺสาย อภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา สมณธมฺมํ อกํสุ. ตสฺมา สมณธมฺมสฺส นิสฺสยภูตตฺตา ‘‘ธมฺมิโก’’ตฺเวว ปากโฏ อโหสิ. อสฺสโม สุกโต มยฺหนฺติอาทินา สุเมธปณฺฑิเตน อสฺสมปณฺณสาลา จงฺกมา สหตฺถา มาปิตา วิย วุตฺตา, น จ ปน สหตฺถา มาปิตา, กินฺตุ สกฺเกน เทเวน เปสิเต วิสฺสกมฺมุนา เทวปุตฺเตน นิมฺมิตา. ภควา ¶ ปน ตทา อตฺตโน ปฺุานุภาเวน นิพฺพตฺตํ ตํ สมฺปทํ สนฺธาย – ‘‘สาริปุตฺต, ตสฺมึ ปพฺพเต –
‘อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา;
จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิต’’’นฺติ. – อาทิมาห;
ตตฺถ ปณฺณสาลาติ ปณฺณฉทนสาลา. ตตฺถาติ ตสฺมึ อสฺสมปเท. ปฺจโทสวิวชฺชิตนฺติ ปฺจหิ จงฺกมโทเสหิ วิวชฺชิตํ. กตเม ปฺจ จงฺกมโทสา นาม? ถทฺธวิสมตา, อนฺโตรุกฺขตา, คหนจฺฉนฺนตา, อติสมฺพาธตา, อติวิสาลตาติ อิเมหิ ปฺจหิ ¶ โทเสหิ วิวชฺชิตํ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน ทีฆโต สฏฺิรตโน วิตฺถารโต ทิยฑฺฒรตโน จงฺกโม วุตฺโต. อถ วา ปฺจโทสวิวชฺชิตนฺติ ปฺจหิ นีวรณโทเสหิ วิวชฺชิตํ ปริหีนํ อภิฺาพลมาหรินฺติ อิมินา อุตฺตรปเทน สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา, สุเมธกถา). อฏฺคุณสมุเปตนฺติ ‘‘เอวํ สมาหิเต จิตฺเต ปริสุทฺเธ ปริโยทาเต อนงฺคเณ วิคตูปกฺกิเลเส มุทุภูเต กมฺมนิเย ิเต อาเนฺชปฺปตฺเต’’ติ เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺคุเณหิ (ที. นิ. ๑.๒๔๔-๒๔๕; ม. นิ. ๑.๓๘๔-๓๘๖, ๔๓๑-๔๓๓; ปารา. ๑๒-๑๔) สมนฺนาคตํ อภิฺาพลํ อาหรึ อาเนสินฺติ อตฺโถ.
เกจิ ¶ ปน ‘‘อฏฺหิ สมณสุเขหิ อุเปตํ, อฏฺิมานิ สมณสุขานิ นาม ธนธฺปริคฺคหาภาโว, อนวชฺชปิณฺฑปาตปริเยสนภาโว, นิพฺพุตปิณฺฑภฺุชนภาโว, รฏฺํ ปีเฬตฺวา ธนธฺาทีสุ คณฺหนฺเตสุ ราชปุริเสสุ รฏฺปีฬนกิเลสาภาโว, อุปกรเณสุ นิจฺฉนฺทราคภาโว, โจรวิโลปเน นิพฺภยภาโว, ราชราชมหามตฺเตหิ อสํสฏฺภาโว, จตูสุ ทิสาสุ อปฺปฏิหตภาโวติ อิเมหิ อฏฺหิ สมณสุเขหิ (อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) อุเปตํ สมุเปตํ อสฺสมํ มาเปสิ’’นฺติ อสฺสเมน สมฺพนฺธํ กตฺวา วทนฺติ, ตํ ปาฬิยา น สเมติ.
สาฏกนฺติ วตฺถํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ อสฺสเม. นวโทสมุปาคตนฺติ, สาริปุตฺต, ตตฺถ วสนฺโต อตฺตโน นิวตฺถปารุตํ มหคฺฆสาฏกํ ปชหึ ปริจฺจชึ. สาฏกํ ปชหนฺโต จ ตตฺถ นว โทเส ทิสฺวา ปชหินฺติ ทีเปติ. ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตานฺหิ สาฏกสฺมึ นว โทสา ปกาสิตา. กตเม นว? สาฏกสฺส มหคฺฆภาโว, ปรปฏิพทฺธภาโว, ปริโภเคน ลหุกํ กิลิสฺสนภาโว, กิลิฏฺโ จ โธวิตพฺโพ ปุน รชิตพฺโพ จ โหติ ปริโภเคน ชีรณภาโว, ชิณฺณสฺส ปุน ตุนฺนกรณํ ¶ วา อคฺคฬทานํ วา กาตพฺพํ โหติ ปุน ปริเยสนาย ทุรภิสมฺภวภาโว, ตาปสปพฺพชฺชาย อนนุจฺฉวิกภาโว, ปจฺจตฺถิกานํ สาธารณภาโว, ยถา นํ น ปจฺจตฺถิกา คณฺหนฺติ, เอวํ โคเปตพฺโพ โหติ ปริทหโต วิภูสนฏฺานภาโว, คเหตฺวา จรนฺตสฺส มหิจฺฉภาโวติ เอเตหิ นวหิ โทเสหิ (อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา) อุปคตํ สาฏกํ ปหาย วากจีรํ นิวาเสสินฺติ ทีเปติ. วากจีรนฺติ มฺุชติณํ หีราหีรํ กตฺวา คนฺเถตฺวา กตํ วากมยจีรํ นิวาสนปารุปนตฺถาย อาทิยินฺติ อตฺโถ. ทฺวาทสคุณมุปาคตนฺติ ทฺวาทสหิ อานิสํเสหิ อุเปตํ. เอตฺถ คุณ-สทฺโท อานิสํสฏฺโ ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) วิย. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. วากจีรสฺมึ ทฺวาทสานิสํสา ¶ อปฺปคฺฆตา, อปรายตฺตตา, สหตฺถา กาตุํ สกฺกุเณยฺยตา, ปริโภเคน ชิณฺเณปิ สิพฺพิตพฺพาภาโว, โจรภยาภาโว ปริเยสนฺตสฺส สุเขน กรณภาโว, ตาปสปพฺพชฺชาย สารุปฺปภาโว, เสวมานสฺส วิภูสนฏฺานาภาโว, จีวรปฺปจฺจเย อปฺปิจฺฉภาโว ¶ , ปริโภคสุขภาโว, วากุปฺปตฺติยา สุลภภาโว, วากจีเร นฏฺเปิ อนเปกฺขภาโวติ อิเมหิ ทฺวาทสหิ คุเณหิ สมฺปนฺนํ (อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา).
อถ สุเมธปณฺฑิโต ตตฺถ ปณฺณสาลายํ วิหรนฺโต ปจฺจูสสมเย ปจฺจุฏฺาย อตฺตโน นิกฺขมนการณํ ปจฺจเวกฺขมาโน เอวํ กิร จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปน นวกนกกฏกนูปุราทิสงฺฆฏฺฏนสทฺทสมฺมิสฺสิต-มธุรหสิตกถิตเคหชนรมณียํ อุฬารวิภวโสภิตํ สุรวรภวนาการมคารํ เขฬปิณฺฑํ วิย ปหาย วิเวการามตาย สพฺพชนปาปปวาหนํ ตโปวนํ ปวิฏฺโสฺมิ, อิธ ปน เม ปณฺณสาลาย วาโส ทุติโย ฆราวาโส วิย โหติ, หนฺทาหํ รุกฺขมูเล วเสยฺย’’นฺติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อฏฺโทสสมากิณฺณํ, ปชหึ ปณฺณสาลก’’นฺติ.
ตตฺถ อฏฺโทสสมากิณฺณนฺติ อฏฺหิ โทเสหิ สมากิณฺณํ สํยุตฺตํ. กตเมหิ อฏฺหิ? มหาสมฺภาเรหิ นิปฺผาทนียตา, ติณปณฺณมตฺติกาทีหิ นิจฺจํ ปฏิชคฺคนียตา, เสนาสนํ นาม มหลฺลกสฺส ปาปุณาตีติ อเวลาย วุฏฺาปิยมานสฺส จิตฺเตกคฺคตา น โหตีติ วุฏฺาปนียภาโว, สีตุณฺหสฺส ปฏิฆาเตน กายสฺส สุขุมาลกรณภาโว, ฆรํ ปวิฏฺเน ยํ กิฺจิ ปาปํ สกฺกา กาตุนฺติ ครหปฏิจฺฉาทนกรณภาโว, ‘‘มยฺหมิท’’นฺติ สปริคฺคหภาโว, เคหสฺส อตฺถิภาโว สทุติยกวาโส, อูกามงฺคุลฆรโคฬิกาทีนํ สาธารณตาย พหุสาธารณภาโวติ ¶ อิติ อิเม อฏฺ อาทีนเว (อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา) ทิสฺวา มหาสตฺโต ปณฺณสาลํ ปชหึ.
คุเณ ทสหุปาคตนฺติ ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ทสหิ คุเณหิ อุเปตํ, รุกฺขมูลํ อุปคโตสฺมีติ อตฺโถ. กตเมหิ ทสหิ? อปฺปสมารมฺภตา, อุปคมนมตฺตเมเวตฺถ โหตีติ สุลภานวชฺชตา, อภิณฺหํ ตรุปณฺณวิการทสฺสเนน อนิจฺจสฺาสมุฏฺาปนตา, เสนาสนมจฺเฉราภาโว, ตตฺถ หิ ปาปํ กโรนฺโต ลชฺชตีติ ปาปกรณารหาภาโว, ปริคฺคหกรณาภาโว, เทวตาหิ สห วาโส, ฉนฺนปฏิกฺเขโป, ปริโภคสุขตา, รุกฺขมูลเสนาสนสฺส คตคตฏฺาเน สุลภตาย อนเปกฺขภาโวติ อิติ อิเม ทส คุเณ (อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา) ทิสฺวา รุกฺขมูลํ อุปคโตสฺมีติ วทติ. อาห จ –
‘‘วณฺณิโต ¶ พุทฺธเสฏฺเน, นิสฺสโยติ จ ภาสิโต;
นิวาโส ปวิวิตฺตสฺส, รุกฺขมูลสโม กุโต.
‘‘อาวาสมจฺเฉรหเร, เทวตาปริปาลิเต;
ปวิวิตฺเต วสนฺโต หิ, รุกฺขมูลมฺหิ สุพฺพโต.
‘‘อภิรตฺตานิ ¶ นีลานิ, ปณฺฑูนิ ปติตานิ จ;
ปสฺสนฺโต ตรุปณฺณานิ, นิจฺจสฺํ ปนูทติ.
‘‘ตสฺมา หิ พุทฺธทายชฺชํ, ภาวนาภิรตาลยํ;
วิวิตฺตํ นาติมฺเยฺย, รุกฺขมูลํ วิจกฺขโณ’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๓๒);
อถ สุเมธปณฺฑิโต ปณฺณสาลาย ทิฏฺโทโส หุตฺวา รุกฺขมูลเสนาสเน ลทฺธานิสํโส วิหรนฺโต อุตฺตริปิ จินฺเตสิ – ‘‘อาหารตฺถาย เม คามคมนํ อาหารปริเยสนทุกฺขํ, นาหํ เกนจิ ปาริชฺุเน นิกฺขมิตฺวา อาหารตฺถาย ปพฺพชิโต, อาหารปริเยสนมูลสฺส จ ทุกฺขสฺส ปมาณํ นตฺถิ, ยํนูนาหํ ปวตฺตผเลน ยาเปยฺย’’นฺติ. อิมํ ปน อตฺถวิเสสํ ทีเปนฺโต –
๓๒-๓๓. ‘‘วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต.
อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยิ’’นฺติ. – อาทิมาห;
ตตฺถ ¶ วาปิตนฺติ วปิตฺวา นิปฺผนฺนํ. โรปิตนฺติ โรปิตฺวา นิปฺผนฺนํ, วปนโรปนวเสน ทุวิธาว สสฺสนิปฺผตฺติ, ตํ ทุวิธมฺปิ อตฺตโน อปฺปิจฺฉตาย ปหาย ปวตฺตผเลน ยาเปสึ. ปวตฺตผลนฺติ สยเมว ปติตผลํ. อาทิยินฺติ ปริภฺุชึ.
‘‘ปวตฺตผลสนฺตุฏฺโ, อปรายตฺตชีวิโก;
ปหีนาหารโลลุปฺโป, โหติ จาตุทฺทิโส มุนิ.
‘‘ชหาติ รสตณฺหฺจ, อาชีโว ตสฺส สุชฺฌติ;
ตสฺมา หิ นาติมฺเยฺย, ปวตฺตผลโภชน’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖ โถกํ วิสทิสํ) –
เอวํ ปวตฺตมาโน สุเมธปณฺฑิโต นจิรสฺเสว อนฺโตสตฺตาเห อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ ปาปุณิ. อิมมตฺถํ ปกาเสนฺเตน ‘‘ตตฺถปฺปธานํ ¶ ปทหิ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ อสฺสเม. ปธานนฺติ วีริยํ, วีริยฺหิ ปทหิตพฺพโต ปธานภาวกรณโต วา ‘‘ปธาน’’นฺติ วุจฺจติ. ปทหินฺติ วีริยมารภึ. นิสฺสชฺชฏฺานจงฺกเมติ นิสชฺชาย จ าเนน จ จงฺกเมน จ.
สุเมธปณฺฑิโต ปน เสยฺยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา นิสชฺชฏฺานจงฺกเมเหว รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมตฺวา สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว อภิฺาพลํ ปาปุณิ. เอวํ ปน อภิฺาพลํ ปตฺวา สุเมธตาปเส สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺเต ตทา สพฺพชนสงฺคหกโร มารพลภยํกโร าณทีปงฺกโร ทีปงฺกโร นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิ.
สงฺเขเปเนว ตสฺสายมานุปุพฺพิกถา – อยํ กิร ทีปงฺกโร นาม มหาสตฺโต สมตฺตึส ปารมิโย ปูเรตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาวสทิเส อตฺตภาเว ิโต ปถวิกมฺปนาทีนิ มหาทานานิ ทตฺวา อายุปริโยสาเน ¶ ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตาหิ สนฺนิปติตฺวา –
‘‘กาโล โข เต มหาวีร, อุปฺปชฺช มาตุกุจฺฉิยํ;
สเทวกํ ตารยนฺโต, พุชฺฌสฺสุ อมตํ ปท’’นฺติ. (พุ. วํ. ๑.๖๗) –
วุตฺเต ¶ ตโต โส เทวตานํ วจนํ สุตฺวา จ ปฺจ มหาวิโลกนานิ วิโลเกตฺวา ตโต จุโต รมฺมวตีนคเร อตฺตโน ยสวิภูติยา วิชิตวาสุเทวสฺส นรเทวสฺส สุเทวสฺส นาม รฺโ กุเล สุเมธาย เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ อาสาฬฺหิปุณฺณมิยา อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา มหตา ปริวาเรน ปริหริยมาโน มหาเทวิยา กุจฺฉิมฺหิ มณิกูฏคโต วิย เกนจิ อสุจินา อมกฺขิโต ทส มาเส วสิตฺวา สลิลธรวิวรคโต สรทกาลจนฺโท วิย ตสฺสา อุทรโต นิกฺขมิ.
ทฺวตฺตึส ปุพฺพนิมิตฺตานิ
ตสฺส ปน ทีปงฺกรกุมารสฺส ปฏิสนฺธิกฺขเณปิ วิชาตกฺขเณปิ ทฺวตฺตึส ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปาฏิหาริยานิ ปาตุรเหสุํ. สพฺพสพฺพฺุโพธิสตฺเตสุ มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเตสุ นิกฺขมนฺเตสุ สมฺพุชฺฌนฺเตสุ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตนฺเตสูติ อิเมสุ ¶ จตูสุ าเนสุ ทฺวตฺตึส ปาฏิหาริยานิ ปวตฺตนฺเตว. ตสฺมา มยา ปากฏตฺตา ทีปงฺกรกุมารสฺส ชาติยํ ทสฺสิตานิ –
‘‘ทีปงฺกเร จารุกเร กุมาเร, สิวํกเร สนฺติกเรว ชาเต;
ปกมฺปิ สงฺกมฺปิ ตทา สมนฺตา, สหสฺสสงฺขฺยา ทสโลกธาตุ.
‘‘จกฺกวาฬสหสฺเสสุ, ทสสหสฺเสว เทวตา;
เอกสฺมึ จกฺกวาฬสฺมึ, ตทา สนฺนิปตึสุ ตา.
‘‘โพธิสตฺตํ มหาสตฺตํ, ชาตมตฺตนฺตุ เทวตา;
ปมํ ปฏิคฺคณฺหึสุ, ปจฺฉา ตํ มนุชา ปน.
‘‘อวาทิตา เกนจิ จมฺมนทฺธา, สุโปกฺขรา ทุนฺทุภิโย จ วีณา;
อฆฏฺฏิตานาภรณานิ ตสฺมึ, ขเณ สมนฺตา มธุรํ รวึสุ.
‘‘ฉิชฺชึสุ สพฺพตฺถ จ พนฺธนานิ, สยํ วิคจฺฉึสุ จ สพฺพโรคา;
รูปานิ ปสฺสึสุ จ ชาติอนฺธา, สทฺทํ สมนฺตา พธิรา สุณึสุ.
‘‘อนุสฺสตึ ชาติชฬา มนุสฺสา, ลภึสุ ยานํ ปทสาว ปงฺคุลา;
วิเทสยาตา สยเมว นาวา, สปฏฺฏนํ สีฆมุปาคมึสุ.
‘‘อากาสฏฺํ ¶ ¶ ภูมิคตฺจ สพฺพํ, สยํ สมนฺตา รตนํ วิโรจิ;
นิพฺพายิ โฆเร นิรเย หุตาโส, นทีสุ โตยมฺปิ จ นปฺปวตฺติ.
‘‘โลกนฺตเร ¶ ทุกฺขนิรนฺตเรปิ, ปภา อุฬารา วิปุลา อโหสิ;
ตถา ตทา สนฺตตรงฺคมาโล, มหาสมุทฺโท มธุโรทโกยํ.
‘‘น วายิ วาโต ผรุโส ขโร วา, สมฺผุลฺลปุปฺผา ตรโว อเหสุํ;
วิโรจิ จนฺโท อธิกํ สตาโร, น จาปิ อุณฺโห สูริโย อโหสิ.
‘‘ขคา นภมฺหาปิ จ รุกฺขโต จ, หฏฺาว เหฏฺา ปถวึ ภชึสุ;
มหาจตุทฺทีปคโต จ เมโฆ, ปวสฺสิ โตยํ มธุรํ สมนฺตา.
‘‘ตฺวาว ทิพฺเพ ภวเน สกสฺมึ, ปสนฺนจิตฺตา ปน เทวตาโย;
นจฺจึสุ คายึสุ จ วาทยึสุ, เสฬึสุ ตา เกฬิมกํสุ เจว.
‘‘สยํ กิร ทฺวารมหากวาฏา, ขเณว ตสฺมึ วิวฏา อเหสุํ;
มหาชเน เนว ขุทา ปิปาสา, ปีเฬสิ โลกํ กิร กฺจิ กฺจิ.
‘‘เย นิจฺจเวรา ปน ปาณิสงฺฆา, เต เมตฺตจิตฺตํ ปรมํ ลภึสุ;
กากา อุลูเกหิ จรึสุ สทฺธึ, โกณา วราเหหิ อกํสุ เกฬึ.
‘‘โฆราปิ สปฺปานมุขาปิ สปฺปา, กีฬึสุ กามํ นกุเลหิ สทฺธึ;
คณฺหึสุ มชฺชารสิเรสุ ยูกา, วิสฺสตฺถจิตฺตา ฆรมูสิกาปิ.
‘‘พุทฺธนฺตเรนาปิ ¶ อลทฺธโตเย, ปิสาจโลเก วิคตา ปิปาสา;
ขุชฺชา อเหสุํ สมจารุกายา, มูคา จ วาจํ มธุรํ ลปึสุ.
‘‘ปสนฺนจิตฺตา ¶ ปน ปาณิสงฺฆา, ตทฺมฺํ ปิยมาลปึสุ;
อสฺสา จ เหสึสุ ปหฏฺจิตฺตา, คชฺชึสุ มตฺตา วรวารณาปิ.
‘‘สุรภิจนฺทนจุณฺณสมากุลา ¶ , กุสุมกุงฺกุมธูปสุคนฺธินี;
วิวิธจารุมหทฺธชมาลินี, ทสสหสฺสิ อโหสิ สมนฺตโต’’ติ.
ตตฺร หิสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺโป สพฺพฺุตฺาณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, เทวตานํ เอกจกฺกวาเฬ สนฺนิปาโต ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนกาเล เอกปฺปหาเรเนว สนฺนิปติตฺวา ธมฺมปฏิคฺคหณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปมํ เทวตานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปจฺฉา มนุสฺสานํ ปฏิคฺคหณํ จตุนฺนํ อรูปาวจรชฺฌานานํ ปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, จมฺมนทฺธทุนฺทุภีนํ สยเมว วชฺชนํ มหนฺติยา ธมฺมเภริยา อนุสาวนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วีณาภรณานํ สยเมว วชฺชนํ อนุปุพฺพวิหารปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, พนฺธนานํ สยเมว เฉโท อสฺมิมานสมุจฺเฉทสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, มหาชนสฺส สพฺพโรควิคโม จตุสจฺจผลปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ชจฺจนฺธานํ รูปทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, พธิรานํ สทฺทสฺสวนํ ทิพฺพโสตธาตุปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.
ชาติชฬานํ อนุสฺสตุปฺปาโท จตุสติปฏฺานปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, ปงฺคุลานํ ปทสา คมนํ จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, วิเทสคตานํ นาวานํ สปฏฺฏนาคมนํ จตุปฏิสมฺภิทาธิคมสฺส, รตนานํ สยเมว วิโรจนํ ธมฺโมภาสปฏิลาภสฺส, นิรเย อคฺคินิพฺพายนํ เอกาทสคฺคินิพฺพายนสฺส, นทีสุ โตยสฺส นปฺปวตฺตนํ จตุเวสารชฺชปฏิลาภสฺส, โลกนฺตเร อาโลโก อวิชฺชนฺธการํ วิธเมตฺวา าณโลกทสฺสนสฺส, มหาสมุทฺทสฺส ¶ มธุโรทกตา นิพฺพานรเสน เอกรสภาวสฺส, วาตสฺส อวายนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตเภทนสฺส, ตรูนํ ปุปฺผิตภาโว วิมุตฺติปุปฺเผหิ ปุปฺผิตภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ.
จนฺทสฺส อติวิโรจนํ พหุชนกนฺตตาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, สูริยสฺส นาติอุณฺหวิมลภาโว กายิกเจตสิกสุขุปฺปตฺติยา, ขคานํ นคาทีหิ ปถวิคมนํ โอวาทํ สุตฺวา มหาชนสฺส ปาเณหิ สรณคมนสฺส, มหโต จตุทฺทีปคตเมฆสฺส ปวสฺสนํ มหโต ธมฺมวสฺสสฺส, เทวตานํ สกสกภวเนสฺเวว ตฺวา นจฺจาทีหิ กีฬนํ พุทฺธภาวํ ปตฺวา อุทานุทานสฺส, ทฺวารกวาฏานํ สยเมว วิวรณํ อฏฺงฺคิกมคฺคทฺวารวิวรณสฺส, ขุทาปีฬนสฺส อภาโว วิมุตฺติสุเขน สุขิตภาวสฺส, เวรีนํ เมตฺตจิตฺตปฏิลาโภ จตุพฺรหฺมวิหารปฏิลาภสฺส, ทสสหสฺสิโลกธาตุยา ¶ เอกธชมาลิตา อริยธชมาลิตาย ปุพฺพนิมิตฺตํ, เสสวิเสสา ปน เสสพุทฺธคุณปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตานีติ เวทิตพฺพา.
อถ ¶ ทีปงฺกรกุมาโร มหติยา สมฺปตฺติยา ปริจาริยมาโน อนุกฺกเมน ภทฺทํ โยพฺพนํ ปตฺวา ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ เทวโลกสิรึ วิย รชฺชสิริมนุภวนฺโต อุยฺยานกีฬาย คมนสมเย อนุกฺกเมน ชิณฺณพฺยาธิมตสงฺขาเต ตโย เทวทูเต ทิสฺวา สฺชาตสํเวโค นิวตฺติตฺวา สุทสฺสนนครสทิสวิภวโสภํ รมฺมวตี นาม นครํ ปาวิสิ. นครํ ปวิสิตฺวา ปุน จตุตฺถวาเร หตฺถาจริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อหํ, ตาต, อุยฺยานทสฺสนตฺถาย นิกฺขมิสฺสามิ หตฺถิยานานิ กปฺปาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ปฏิสุณิตฺวา จตุราสีติหตฺถิสหสฺสานิ กปฺปาเปสิ. อถ วิสฺสกมฺโม นาม เทวปุตฺโต โพธิสตฺตํ นานาวิราควสนนิวาสนํ อามุกฺกมุตฺตาหารเกยูรํ รุจิรนวกนกกฏกมกุฏกุณฺฑลธรํ ปรมสุรภิกุสุมมาลสมลงฺกตสิโรรุหํ สมลงฺกริ กิร. อถ ทีปงฺกรกุมาโร เทวกุมาโร วิย จตุราสีติยา หตฺถิสหสฺเสหิ ปริวุโต หตฺถิกฺขนฺธวรคโต มหตา พลกาเยน ปริวุโต รติชนนํ อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห ตํ อุยฺยานมนุสฺจริตฺวา ปรมรุจิรทสฺสเน สกหทยสีตเล สิลาตเล นิสีทิตฺวา ปพฺพชฺชาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ ¶ . ตงฺขณฺเว สุทฺธาวาสขีณาสโว มหาพฺรหฺมา อฏฺ สมณปริกฺขาเร อาทาย มหาปุริสสฺส จกฺขุปเถ ปาตุรโหสิ.
มหาปุริโส ตํ ทิสฺวา – ‘‘กิมิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา, ‘‘สมณปริกฺขาโร’’ติ สุตฺวา อลงฺการภณฺฑํ โอมฺุจิตฺวา ปสาธนภณฺฑาคาริกสฺส หตฺเถ ทตฺวา มงฺคลขคฺคมาทาย สทฺธึ มกุเฏน เกเส ฉินฺทิตฺวา อนฺตลิกฺเข อากาเส อุกฺขิปิ. อถ สกฺโก เทวราชา สุวณฺณจงฺโกฏเกน ตํ เกสมกุฏํ อาทาย สิเนรุมุทฺธนิ ติโยชนปฺปมาณํ อินฺทนีลมณิมยํ มกุฏเจติยํ นาม อกาสิ. อถ มหาปุริโส เทวทตฺติยํ อรหตฺตธชํ กาสาวํ ปริทหิตฺวา สาฏกยุคํ อากาเส ขิปิ. ตํ พฺรหฺมา ปฏิคฺคเหตฺวา พฺรหฺมโลเก ทฺวาทสโยชนิกํ สพฺพรตนมยํ เจติยมกาสิ. ทีปงฺกรกุมารํ ปน ปพฺพชนฺตํ เอกา ปุริสโกฏิ อนุปพฺพชิ. ตาย ปน ปริสาย ปริวุโต โพธิสตฺโต ทส มาเส ปธานจริยํ อจริ. อถ วิสาขปุณฺณมาย อฺตรํ นครํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
ตสฺมึ กิร นคเร ตํทิวสํ เทวตานํ พลิกรณตฺถาย นิรุทกปายาสํ ปจึสุ. ตสฺส ปน มหาสตฺตสฺส สปริสสฺส ปิณฺฑาย ปวิฏฺสฺส มนุสฺสา อทํสุ. ตํ กิร สพฺเพสํ โกฏิสงฺขฺยายานํ ภิกฺขูนํ ปริยตฺตํ อโหสิ. มหาปุริสสฺส ปน ปตฺเต เทวตา ทิพฺโพชํ ปกฺขิปึสุ. ตํ ปริภฺุชิตฺวา ตตฺเถว ¶ สาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย ปฏิสลฺลานา วุฏฺาย คณํ วิสฺสชฺเชตฺวา สุนนฺเทน นามาชีวเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา ¶ ปิปฺผลิโพธิรุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา นวุติหตฺถํ โพธิกฺขนฺธํ ปิฏฺิโต กตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺหิตฺวา โพธิรุกฺขมูเล นิสีทิ.
ตโต มารพลํ วิธมิตฺวา รตฺติยา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม อนุโลมปฏิโลมวเสน ปจฺจยาการํ สมฺมสิตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสิตฺวา อุทยพฺพยวเสน สมปฺาส ลกฺขณานิ ทิสฺวา ยาว โคตฺรภุาณํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรุโณทเย อริยมคฺเคน สกลพุทฺธคุเณ ปฏิวิชฺฌิตฺวา พุทฺธสีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา พฺรหฺมุโน ธมฺมเทสนํ ปฏิฺาย สุนนฺทาราเม ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา โกฏิสตานํ เทวมนุสฺสานํ ธมฺมามตํ ปาเยตฺวา จตุทฺทีปิกมหาเมโฆ วิย ธมฺมวสฺสํ ¶ วสฺเสนฺโต มหาชนสฺส พนฺธนโมกฺขํ กโรนฺโต ชนปทจาริกํ วิจริ.
ตทา กิร สุเมธปณฺฑิโต สมาปตฺติสุเขน วีตินาเมนฺโต เนว ปถวิกมฺปนมทฺทส น ตานิ นิมิตฺตานิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เอวํ เม สิทฺธิปฺปตฺตสฺส, วสีภูตสฺส สาสเน;
ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก.
‘‘อุปฺปชฺชนฺเต จ ชายนฺเต, พุชฺฌนฺเต ธมฺมเทสเน;
จตุโร นิมิตฺเต นาทฺทสํ, ฌานรติสมปฺปิโต’’ติ.
ตตฺถ เอวนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ นิทสฺเสติ. เมติ มม. สิทฺธิปฺปตฺตสฺสาติ ปฺจาภิฺาสิทฺธิปฺปตฺตสฺส. วสีภูตสฺสาติ ภูตวสิสฺส, จิณฺณวสีภาวมุปคตสฺสาติ อตฺโถ. สาสเนติ วิเวกมานสานํ สาสเน, อนาทรลกฺขเณ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. ชิโนติ กิเลสาริชยเนน ชิโน.
อุปฺปชฺชนฺเตติ ปฏิสนฺธิคฺคหเณ. ชายนฺเตติ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมเน. พุชฺฌนฺเตติ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌนฺเต. ธมฺมเทสเนติ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน. จตุโร ¶ นิมิตฺเตติ จตฺตาริ นิมิตฺตานิ. ทีปงฺกรสฺส ทสพลสฺส ปฏิสนฺธิ-ชาติ-โพธิ-ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนสุ จตูสุ าเนสุ ทสสหสฺสิโลกธาตุกมฺปนาทีนิ นิมิตฺตานีติ อตฺโถ. เอตฺถาห – ตานิ ปน พหูนิ นิมิตฺตานิ, กสฺมา ¶ ‘‘จตุโร นิมิตฺเต’’ติ วุตฺตํ, อยุตฺตํ นนูติ? นายุตฺตํ, ยทิปิ เอตานิ พหูนิ นิมิตฺตานิ, จตูสุ าเนสุ ปน ปวตฺตตฺตา ‘‘จตุโร นิมิตฺเต’’ติ วุตฺตํ. นาทฺทสนฺติ นาทฺทสึ. อิทานิ เตสํ จตุนฺนํ นิมิตฺตานํ อทสฺสเน การณํ นิทฺทิสนฺโต ‘‘ฌานรติสมปฺปิโต’’ติ อาห. ฌานรตีติ สมาปตฺติสุขสฺเสตํ อธิวจนํ. ฌานรติยา สมปฺปิตตฺตา สมงฺคีภูตตฺตา ตานิ นิมิตฺตานิ นาทฺทสนฺติ อตฺโถ.
อถ ตสฺมึ กาเล ทีปงฺกรทสพโล จตูหิ ขีณาสวสตสหสฺเสหิ ปริวุโต อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน ปรมรมฺมํ รมฺมํ นาม นครํ ปตฺวา สุทสฺสนมหาวิหาเร ปฏิวสติ. รมฺมนครวาสิโน ‘‘ทีปงฺกโร กิร ทสพโล อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก อนุปุพฺเพน ¶ จาริกํ จรมาโน รมฺมนครํ ปตฺวา สุทสฺสนมหาวิหาเร ปฏิวสตี’’ติ สุตฺวา สปฺปิอาทีนิ เภสชฺชานิ คเหตฺวา ภุตฺตปาตราสา สุทฺธุตฺตราสงฺคา ปุปฺผธูปคนฺธหตฺถา เยน พุทฺโธ เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา อติมธุรํ ธมฺมกถํ สุตฺวา สฺวาตนาย ภควนฺตํ นิมนฺเตตฺวา อุฏฺายาสนา ทสพลํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ.
เต ปุนทิวเส อสทิสมหาทานํ สชฺเชตฺวา มณฺฑปํ กาเรตฺวา วิมลโกมเลหิ นีลุปฺปเลหิ ฉาเทตฺวา จตุชฺชาติคนฺเธน ปริภณฺฑํ กาเรตฺวา ลาชปฺจมานิ สุรภิกุสุมานิ วิกิริตฺวา มณฺฑปสฺส จตูสุ โกเณสุ สีตลมธุรวาริปุณฺณา จาฏิโย เปตฺวา กทลิปณฺเณหิ ปิทหิตฺวา มณฺฑโปปริ ชยสุมนกุสุมสทิสํ ปรมรุจิรทสฺสนํ เจลวิตานํ พนฺธิตฺวา สุวณฺณมณิรชตตารกาหิ รจยิตฺวา ตตฺถ คนฺธทามปุปฺผทามปตฺตทามรตนทามานิ โอลมฺเพตฺวา ธูเปหิ ทุทฺทินํ กตฺวา สกลฺจ ตํ รมฺมํ รมฺมนครํ สมฺมฏฺํ สผลกทลิโย จ ปุปฺผสมลงฺกเต ปุณฺณฆเฏ จ ปาเปตฺวา นานาวิราคา ธชปฏากาโย จ สมุสฺสาเปตฺวา มหาวีถิยา อุโภสุ ปสฺเสสุ สาณิปากาเรหิ ปริกฺขิปิตฺวา ทีปงฺกรทสพลสฺส อาคมนมคฺคํ อลงฺกโรนฺตา อุทกปริภินฺนฏฺาเนสุ ปํสุํ ปกฺขิปิตฺวา จิกฺขลฺลกมฺปิ ปถวึ อสมํ สมํ กตฺวา มุตฺตาสทิสาหิ วาลุกาหิ อากิรนฺติ, ลาชปฺจเมหิ จ ปุปฺเผหิ อากิรนฺติ, สผลกทลิกมุเก จ ปติฏฺาเปนฺติ.
อถ ตสฺมึ กาเล สุเมธตาปโส อตฺตโน อสฺสมปทโต อุคฺคนฺตฺวา รมฺมนครวาสีนํ เตสํ มนุสฺสานํ อุปริภาเคน อากาเสน คจฺฉนฺโต เต หฏฺปหฏฺเ มคฺคํ โสเธนฺเต จ อลงฺกโรนฺเต จ ทิสฺวา – ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานฺเว ¶ อากาสโต โอรุยฺห เอกมนฺเต ¶ ตฺวา เต มนุสฺเส ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺโภ! กสฺสตฺถาย ตุมฺเห อิมํ มคฺคํ โสเธถา’’ติ? เตน วุตฺตํ –
‘‘ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;
ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฏฺมานสา.
‘‘อหํ เตน สมเยน, นิกฺขมิตฺวา สกสฺสมา;
ธุนนฺโต วากจีรานิ, คจฺฉามิ อมฺพเร ตทา.
‘‘เวทชาตํ ¶ ชนํ ทิสฺวา, ตุฏฺหฏฺํ ปโมทิตํ;
โอโรหิตฺวาน คคนา, มนุสฺเส ปุจฺฉิ ตาวเท.
‘‘ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต, เวทชาโต มหาชโน;
กสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายน’’นฺติ.
ตตฺถ ปจฺจนฺตเทสวิสเยติ มชฺฌิมเทสสฺเสว เอกปสฺเส ปจฺจนฺตเทสสฺิเต ชนปเท. ตสฺส อาคมนํ มคฺคนฺติ เตน อาคนฺตพฺพํ มคฺคนฺติ อตฺโถ. อหํ เตน สมเยนาติ อหํ ตสฺมึ สมเย, ภุมฺมตฺเถ เจตํ กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ. สกสฺสมาติ อตฺตโน อสฺสมปทโต นิกฺขมิตฺวา. ธุนนฺโตติ โอธุนนฺโต. ‘‘เตน สมเยน’’ จ, ‘‘ตทา’’ จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปทานํ เอกตฺถตฺตา ปุริมสฺส นิกฺขมนกิริยาย ปจฺฉิมสฺส จ คมนกิริยาย สทฺธึ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ, อิตรถา ปุนรุตฺติโทสา น มุจฺจติ. ตทาติ ตสฺมึ สมเย.
เวทชาตนฺติ สฺชาตโสมนสฺสํ. ตุฏฺหฏฺํ ปโมทิตนฺติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ อฺมฺเววจนานิ อฺมฺสฺส อตฺถทีปนานิ. อถ วา สุเขน ตุฏฺํ, ปีติยา หฏฺํ, ปาโมชฺเชน ปมุทิตํ. โอโรหิตฺวานาติ โอตริตฺวา. มนุสฺเส ปุจฺฉีติ มานุเส ปุจฺฉิ. อยเมว วา ปาโ. ตาวเทติ ตทา, ตงฺขเณเยวาติ อตฺโถ. อิทานิ ปุจฺฉิตมตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ มหาชโน ตุฏฺหฏฺโ ปโมทิตหทโย หุตฺวา มคฺคํ โสเธติ, กึ การณา โสเธติ, กสฺสตฺถาย วา โสเธตีติ? เอวํ ‘‘โสเธติ’’ สทฺทํ อาหริตฺวา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อิตรถา น ยุชฺชติ. โสธียตีติ สุทฺธภาโว กรียติ. มคฺโค อฺชสํ วฏุมายนนฺติ มคฺคสฺเสเวตานิ เววจนานิ.
เอวํ ¶ เตน สุเมธตาปเสน ปุฏฺา เต มนุสฺสา อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต ¶ สุเมธ, กึ น ชานาถ ทีปงฺกโร นาม พุทฺโธ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺวา ปวตฺติตวรธมฺมจกฺโก ชนปทจาริกํ จรมาโน อนุกฺกเมน อมฺหากํ นครํ ปตฺวา สุทสฺสนมหาวิหาเร ปฏิวสติ, มยํ ตํ ภควนฺตํ นิมนฺตยิตฺวา ตสฺเสว พุทฺธสฺส ภควโต อาคมนมคฺคํ โสเธมา’’ติ. ตโต ตํ สุตฺวา สุเมธปณฺฑิโต จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺโธติ โข ปเนส โฆโสปิ ทุลฺลโภ, ปเคว พุทฺธุปฺปาโท, เตน หิ มยาปิ อิเมหิ มนุสฺเสหิ สทฺธึ ทสพลสฺส อาคมนมคฺคํ โสเธตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส เต มนุสฺเส ¶ อาห – ‘‘สเจ, โภ, ตุมฺเห อิมํ มคฺคํ พุทฺธสฺส โสเธถ, มยฺหมฺปิ เอกํ โอกาสํ เทถ, อหมฺปิ ตุมฺเหหิ สทฺธึ พุทฺธสฺส มคฺคํ โสเธสฺสามี’’ติ. ตโต เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา – ‘‘อยํ สุเมธปณฺฑิโต มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติ ชานมานา ทุพฺพิโสธนํ อุทกสมฺภินฺนํ อติวิย วิสมํ เอกํ โอกาสํ สลฺลกฺเขตฺวา – ‘‘อิมํ โอกาสํ ตุมฺเห โสเธถ อลงฺกโรถ จา’’ติ อทํสุ. ตโต สุเมธปณฺฑิโต พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ อุปฺปาเทตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปน อิมํ โอกาสํ อิทฺธิยา ปรมทสฺสนียํ กาตุํ ปโหมิ, เอวํ กเต ปน มํ น ปริโตเสสฺสติ. อชฺช ปน มยา กายเวยฺยาวจฺจํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปํสุํ อาหริตฺวา ตํ ปเทสํ ปูเรติ.
ตสฺส ปน ตสฺมึ ปเทเส อโสธิเต วิปฺปกเตเยว รมฺมนครวาสิโน มนุสฺสา ภควโต กาลมาโรเจสุํ – ‘‘นิฏฺิตํ, ภนฺเต, ภตฺต’’นฺติ. เอวํ เตหิ กาเล อาโรจิเต ทสพโล ชยสุมนกุสุมสทิสวณฺณํ ทุปฏฺฏจีวรํ ติมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา นิวาเสตฺวา ตสฺสุปริ สุวณฺณปามงฺเคน ชยสุมนกุสุมกลาปํ ปริกฺขิปนฺโต วิย วิชฺชุลตาสสฺสิริกํ กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา กนกคิริสิขรมตฺถเก ลาขารสํ ปริสิฺจนฺโต วิย สุวณฺณเจติยํ ปวาฬชาเลน ปริกฺขิปนฺโต วิย จ สุวณฺณคฺฆิกํ รตฺตกมฺพเลน ปฏิมฺุจนฺโต วิย จ สรทสมยรชนิกรํ รตฺตวลาหเกน ปฏิจฺฉาเทนฺโต วิย จ ลาขารเสน ตินฺตกึสุกกุสุมสทิสวณฺณํ รตฺตวรปํสุกูลจีวรํ ปารุปิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวารโต กฺจนคุหโต สีโห วิย นิกฺขมิตฺวา คนฺธกุฏิปมุเข อฏฺาสิ. อถ สพฺเพ ภิกฺขู อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ภควนฺตํ ปริวารยึสุ. เต ปน ปริวาเรตฺวา ิตา ภิกฺขู เอวรูปา อเหสุํ –
‘‘อปฺปิจฺฉา ปน สนฺตุฏฺา, วตฺตาโร วจนกฺขมา;
ปวิวิตฺตา อสํสฏฺา, วินีตา ปาปครหิโน.
‘‘สพฺเพปิ สีลสมฺปนฺนา, สมาธิชฺฌานโกวิทา;
ปฺาวิมุตฺติสมฺปนฺนา, ติปฺจจรณายุตา.
‘‘ขีณาสวา ¶ วสิปฺปตฺตา, อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน;
สนฺตินฺทฺริยา ทมปฺปตฺตา, สุทฺธา ขีณปุนพฺภวา’’ติ.
อิติ ¶ ¶ ภควา สยํ วีตราโค วีตราเคหิ วีตโทโส วีตโทเสหิ วีตโมโห วีตโมเหหิ ปริวุโต อติวิย วิโรจิตฺถ. อถ สตฺถา มหานุภาวานํ ขีณาสวานํ ฉฬภิฺานํ จตูหิ สตสหสฺเสหิ ปริวุโต มรุคณปริวุโต ทสสตนยโน วิย พฺรหฺมคณปริวุโต หาริตมหาพฺรหฺมา วิย จ อปริมิตสมยสมุปจิตกุสลพลชนิตาย อโนปมาย พุทฺธลีฬาย ตาราคณปริวุโต สรทสมยรชนิกโร วิย จ คคนตลํ ตํ มคฺคํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ ปฏิปชฺชิ.
‘‘สุวณฺณวณฺณาย ปภาย ธีโร, สุวณฺณวณฺเณ กิร มคฺครุกฺเข;
สุวณฺณวณฺเณ กุสุเม กโรนฺโต, สุวณฺณวณฺโณ ปฏิปชฺชิ มคฺคํ’’.
สุเมธตาปโสปิ เตน อลงฺกตปฏิยตฺเตน มคฺเคน อาคจฺฉนฺตสฺส ทีปงฺกรสฺส ภควโต ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ อสีติยา อนุพฺยฺชเนหิ อนุรฺชิตํ พฺยามปฺปภาย ปริกฺเขปํ สสฺสิริกํ อินฺทนีลมณิสทิสํ อากาเส นานปฺปการา วิชฺชุลตา วิย ฉพฺพณฺณพุทฺธรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺตํ รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ อตฺตภาวํ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตฺวา – ‘‘อชฺช มยา ทสพลสฺส ชีวิตปริจฺจาคํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ, ‘‘มา ภควา กลเล อกฺกมิ, มณิมยผลกเสตุํ อกฺกมนฺโต วิย สทฺธึ จตูหิ ขีณาสวสตสหสฺเสหิ มม ปิฏฺึ อกฺกมนฺโต คจฺฉตุ, ตํ เม ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ เกเส โมเจตฺวา อชินชฏาวากจีรานิ กาฬวณฺเณ กลเล ปตฺถริตฺวา ตตฺเถว กลลปิฏฺเ นิปชฺชิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เต เม ปุฏฺา วิยากํสุ, พุทฺโธ โลเก อนุตฺตโร;
ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก;
ตสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ.
‘‘พุทฺโธติ วจนํ สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;
พุทฺโธ พุทฺโธติ กถยนฺโต, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.
‘‘ตตฺถ ¶ ¶ ตฺวา วิจินฺเตสึ, ตุฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
อิธ พีชานิ โรปิสฺสํ, ขโณ เว มา อุปจฺจคา.
‘‘ยทิ พุทฺธสฺส โสเธถ, เอโกกาสํ ททาถ เม;
อหมฺปิ โสธยิสฺสามิ, อฺชสํ วฏุมายนํ.
‘‘อทํสุ ¶ เต มโมกาสํ, โสเธตุํ อฺชสํ ตทา;
พุทฺโธ พุทฺโธติ จินฺเตนฺโต, มคฺคํ โสเธมหํ ตทา.
‘‘อนิฏฺิเต มโมกาเส, ทีปงฺกโร มหามุนิ;
จตูหิ สตสหสฺเสหิ, ฉฬภิฺเหิ ตาทิหิ;
ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, ปฏิปชฺชิ อฺชสํ ชิโน.
‘‘ปจฺจุคฺคมนา วตฺตนฺติ, วชฺชนฺติ เภริโย พหู;
อาโมทิตา นรมรู, สาธุการํ ปวตฺตยุํ.
‘‘เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, มนุสฺสาปิ จ เทวตา;
อุโภปิ เต ปฺชลิกา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.
‘‘เทวา ทิพฺเพหิ ตุริเยหิ, มนุสฺสา มานุเสหิ จ;
อุโภปิ เต วชฺชยนฺตา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.
‘‘ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;
ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.
‘‘ทิพฺพํ จนฺทนจุณฺณฺจ, วรคนฺธฺจ เกวลํ;
ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.
‘‘จมฺปกํ สรลํ นีปํ, นาคปุนฺนาคเกตลํ;
ทิโสทิสํ อุกฺขิปนฺติ, ภูมิตลคตา นรา.
‘‘เกเส ¶ มฺุจิตฺวาหํ ตตฺถ, วากจีรฺจ จมฺมกํ;
กลเล ปตฺถริตฺวาน, อวกุชฺโช นิปชฺชหํ.
‘‘อกฺกมิตฺวาน มํ พุทฺโธ, สห สิสฺเสหิ คจฺฉตุ;
มา นํ กลเล อกฺกมิตฺถ, หิตาย เม ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิยากํสูติ พฺยากรึสุ. ‘‘ทีปงฺกโร นาม ชิโน, ตสฺส โสธียติ ปโถ’’ติปิ ปาโ. โสมนสฺสํ ปเวทยินฺติ โสมนสฺสมนุภวินฺติ อตฺโถ. ตตฺถ ตฺวาติ ยสฺมึ ปเทเส อากาสโต โอตริ, ตตฺเถว ตฺวา. สํวิคฺคมานโสติ ปีติวิมฺหิตมานโส. อิธาติ อิมสฺมึ ทีปงฺกเร ปฺุกฺเขตฺเต. พีชานีติ กุสลพีชานิ. โรปิสฺสนฺติ โรปิสฺสามิ. ขโณติ อฏฺกฺขณวิรหิโต นวโม ขณสนฺนิปาโต. อติทุลฺลโภ โส มยา ปฏิลทฺโธ. เวติ นิปาตมตฺตํ. มา อุปจฺจคาติ โส มา อจฺจคมา, มา อติกฺกมีติ อตฺโถ. ททาถาติ ¶ เทถ. เตติ เย เม ปุฏฺา มนุสฺสา, เตติ อตฺโถ. โสเธมหํ ตทาติ โสเธมิ อหํ ตทา. อนิฏฺิเตติ อปริโยสิเต วิปฺปกเต. ขีณาสเวหีติ เอตฺถ จตฺตาโร อาสวา – กามาสโว, ภวาสโว, ทิฏฺาสโว, อวิชฺชาสโวติ (จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๙) อิเม จตฺตาโร อาสวา เยสํ ขีณา ปหีนา สมุจฺฉินฺนา ปฏิปฺปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา าณคฺคินา ทฑฺฒา, เต ขีณาสวา, เตหิ ขีณาสเวหิ. ขีณาสวตฺตาเยว วิมเลหิ.
เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺตีติ เอตฺถ เทวานํ มนุสฺสทสฺสเน วตฺตพฺพํ นตฺถิ, ปกติทสฺสนวเสน ปน ยถา มนุสฺสา อิธ ตฺวา ปสฺสนฺติ, เอวํ เทวาปิ มนุสฺเส ปสฺสนฺตีติ อตฺโถ. เทวตาติ เทเว. อุโภปีติ อุโภ เทวมนุสฺสา. ปฺชลิกาติ กตปฺชลิกา, อุโภปิ หตฺเถ สิรสิ ปติฏฺาเปตฺวาติ อตฺโถ. อนุยนฺติ ตถาคตนฺติ ตถาคตสฺส ปจฺฉโต ยนฺติ, อนุโยเค สติ สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ โหตีติ ลกฺขณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุยนฺติ ตถาคต’’นฺติ. วชฺชยนฺตาติ วาเทนฺตา.
มนฺทารวนฺติ มนฺทารวปุปฺผํ. ทิโสทิสนฺติ ทิสโต ทิสโต. โอกิรนฺตีติ อวกิรนฺติ. อากาสนภคตาติ อากาสสงฺขาเต นภสิ คตา. อถ วา อากาสํ คตา สคฺคคตาว. ‘‘นโภ’’ติ หิ สคฺโค วุจฺจติ. มรูติ อมรา. สรลนฺติ สรลตรุกุสุมํ. นีปนฺติ กทมฺพปุปฺผํ. นาคปุนฺนาคเกตกนฺติ นาคปุนฺนาคเกตกปุปฺผานิ จ. ภูมิตลคตาติ ภูมิคตา.
เกเส ¶ มฺุจิตฺวาหนฺติ อหํ เกเส พทฺธา กลาปกุฏิลชฏา มฺุจิตฺวา, วิปฺปกิริตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ มยฺหํ ทินฺเน โอกาเส. จมฺมกนฺติ จมฺมกฺขณฺฑํ. กลเลติ จิกฺขลฺลกทฺทเม. อวกุชฺโชติ อโธมุโข หุตฺวา. นิปชฺชหนฺติ นิปชฺชึ ¶ อหํ. มา นนฺติ เอตฺถ มาติ ปฏิเสธตฺเถ นิปาโต. นนฺติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต, พุทฺโธ กลเล มา อกฺกมิตฺถาติ อตฺโถ. หิตาย เม ภวิสฺสตีติ ตํ กลเล อนกฺกมนํ ทีฆรตฺตํ มม หิตตฺถาย ภวิสฺสตีติ. ‘‘สุขาย เม ภวิสฺสตี’’ติปิ ปาโ.
ตโต ¶ สุเมธปณฺฑิโต กลลปิฏฺเ นิปนฺโน เอวํ จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ อิจฺเฉยฺยํ สพฺพกิเลเส ฌาเปตฺวา สงฺฆนวโก หุตฺวา รมฺมนครํ ปวิเสยฺยํ, อฺาตกเวเสน ปน เม กิเลเส ฌาเปตฺวา นิพฺพานปฺปตฺติยา กิจฺจํ นตฺถิ, ยํนูนาหํ ทีปงฺกรทสพโล วิย ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺวา ธมฺมนาวํ อาโรเปตฺวา มหาชนํ สํสารสาครา อุตฺตาเรตฺวา ปจฺฉา ปรินิพฺพาเยยฺยํ, อิทํ เม ปติรูป’’นฺติ. ตโต อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวา พุทฺธภาวาย อภินีหารํ กตฺวา นิปชฺชิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ปถวิยํ นิปนฺนสฺส, เอวํ เม อาสิ เจตโส;
อิจฺฉมาโน อหํ อชฺช, กิเลเส ฌาปเย มม.
‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, พุทฺโธ เหสฺสํ สเทวเก.
‘‘กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ.
‘‘อิมินา เม อธิกาเรน, กเตน ปุริสุตฺตเม;
สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตาเรมิ ชนตํ พหุํ.
‘‘สํสารโสตํ ฉินฺทิตฺวา, วิทฺธํเสตฺวา ตโย ภเว;
ธมฺมนาวํ สมารุยฺห, สนฺตาเรสฺสํ สเทวก’’นฺติ.
ตตฺถ ปถวิยํ นิปนฺนสฺสาติ ปุถวิยา นิปนฺนสฺส. อยเมว วา ปาโ. เจตโสติ เจตโส ปริวิตกฺโก ¶ อโหสีติ อตฺโถ. ‘‘เอวํ เม อาสิ เจตนา’’ติปิ ปาโ. อิจฺฉมาโนติ อากงฺขมาโน. กิเลเสติ กิลิสฺสนฺติ อุปตาเปนฺตีติ กิเลสา, ราคาทโย ทส. ฌาปเยติ ฌาเปยฺยํ, มม กิเลเส ฌาปเย อหนฺติ อตฺโถ.
กินฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. อฺาตเวเสนาติ อปากฏเวเสน, อวิฺาเตน ปฏิจฺฉนฺเนน. อิธ ปน ภิกฺขู วิย อาสวกฺขยํ กตฺวา กึ, พุทฺธกเร ธมฺเม ¶ ปูเรตฺวา ปฏิสนฺธิชาติโพธิธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเนสุ มหาปถวิกมฺปนํ กตฺวา พุทฺโธ โพเธตา, ติณฺโณ ตาเรตา, มุตฺโต โมเจตา ภเวยฺยนฺติ อธิปฺปาโย. สเทวเกติ สเทวเก โลเก.
ถามทสฺสินาติ อตฺตโน ถามพลํ ปสฺสมาเนน. สนฺตาเรสฺสนฺติ สนฺตาเรสฺสามิ. สเทวกนฺติ ¶ สเทวกํ สตฺตนิกายํ, สเทวกํ โลกํ วา. อธิกาเรนาติ อธิวิสิฏฺเน กาเรน, พุทฺธสฺส มม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา กลลปิฏฺเ สยเนนาธิกาเรนาติ อตฺโถ.
สํสารโสตนฺติ กมฺมกิเลสวเสน โยนิคติวิฺาณฏฺิตินวสตฺตาวาเสสุ อิโต จิโต จ สํสรณํ สํสาโร. ยถาห –
‘‘ขนฺธานฺจ ปฏิปาฏิ, ธาตุอายตนานฺจ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ วตฺตมานา, สํสาโรติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๙; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๙๕ อปสาทนาวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๖๐; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๑๙๙; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา; วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺขาปทนิทฺเทส; สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๕๒๓; อุทา. อฏฺ. ๓๙; อิติวุ. อฏฺ. ๑๔, ๕๘; เถรคา. อฏฺ. ๑.๖๗, ๙๙; จูฬนิ. อฏฺ. ๖; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๗);
สํสาโร จ โส โสตํ เจติ สํสารโสตํ, ตํ สํสารโสตํ. อถ วา สํสารสฺส โสตํ สํสารโสตํ, สํสารการณํ ตณฺหาโสตํ ฉินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. ตโย ภเวติ กามรูปารูปภเว. ติภวนิพฺพตฺตกกมฺมกิเลสา ตโย ภวาติ อธิปฺเปตา. ธมฺมนาวนฺติ อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ. โส หิ จตุโรฆุตฺตรณฏฺเน ‘‘ธมฺมนาวา’’ติ วุจฺจติ. สมารุยฺหาติ อารุยฺห. สนฺตาเรสฺสนฺติ สนฺตาเรสฺสามิ. ยสฺมา ปน พุทฺธตฺตํ ปตฺเถนฺตสฺส –
‘‘มนุสฺสตฺตํ ¶ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;
ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;
อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌติ’’.
ตตฺถ มนุสฺสตฺตนฺติ มนุสฺสตฺตภาเวเยว ตฺวา พุทฺธตฺตํ ปตฺเถนฺตสฺส ปตฺถนา สมิชฺฌติ, น นาคชาติอาทีสุ ิตานํ. กสฺมาติ เจ? อเหตุกภาวโต.
ลิงฺคสมฺปตฺตีติ มนุสฺสตฺตภาเว วตฺตมานสฺสาปิ ปุริสลิงฺเค ิตสฺเสว ปตฺถนา สมิชฺฌติ, น อิตฺถิยา วา ปณฺฑกนปุํสกอุภโตพฺยฺชนกานํ วา สมิชฺฌติ ¶ . กสฺมาติ เจ? ลกฺขณปาริปูริยา อภาวโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ อิตฺถี อรหํ อสฺส สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๐; อ. นิ. ๑.๒๗๙; วิภ. ๘๐๙) วิตฺถาโร. ตสฺมา อิตฺถิลิงฺเค ิตสฺส มนุสฺสชาติกสฺสาปิ ปตฺถนา น สมิชฺฌติ.
เหตูติ ปุริสสฺสาปิ ตสฺมึ อตฺตภาเว อรหตฺตปฺปตฺติยา เหตุสมฺปนฺนสฺเสว ปตฺถนา สมิชฺฌติ, โน อิตรสฺส.
สตฺถารทสฺสนนฺติ สเจ ชีวมานกพุทฺธสฺเสว สนฺติเก ปตฺเถติ ปตฺถนา สมิชฺฌติ. ปรินิพฺพุเต ภควติ เจติยสฺส สนฺติเก วา โพธิรุกฺขมูเล วา ปฏิมาย วา ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วา สนฺติเก ปตฺถนา น สมิชฺฌติ. กสฺมา? ภพฺพาภพฺพเก ตฺวา กมฺมวิปากปริจฺเฉทกาเณน ¶ ปริจฺฉินฺทิตฺวา พฺยากาตุํ อสมตฺถตฺตา. ตสฺมา พุทฺธสฺส สนฺติเกเยว ปตฺถนา สมิชฺฌติ.
ปพฺพชฺชาติ พุทฺธสฺส ภควโต สนฺติเก ปตฺเถนฺตสฺสาปิ กมฺมกิริยวาทีสุ ตาปเสสุ วา ภิกฺขูสุ วา ปพฺพชิตสฺเสว ปตฺถนา สมิชฺฌติ, โน คิหิลิงฺเค ิตสฺส. กสฺมา? ปพฺพชิตาเยว หิ โพธิสตฺตา สมฺโพธึ อธิคจฺฉนฺติ, น คหฏฺา. ตสฺมา อาทิมฺหิ ปณิธานกาเลปิ ปพฺพชิเตเนว ภวิตพฺพํ.
คุณสมฺปตฺตีติ ปพฺพชิตสฺสาปิ อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปฺจาภิฺสฺเสว สมิชฺฌติ, น ปน อิมาย คุณสมฺปตฺติยา วิรหิตสฺส. กสฺมา? นิคฺคุณสฺส ตทภาวโต.
อธิกาโรติ ¶ คุณสมฺปนฺเนนาปิ เยน อตฺตโน ชีวิตํ พุทฺธานํ ปริจฺจตฺตํ โหติ, ตสฺส อิมินา อธิกาเรน สมฺปนฺนสฺเสว สมิชฺฌติ, น อิตรสฺส.
ฉนฺทตาติ อภินีหารสมฺปนฺนสฺสาปิ ยสฺส พุทฺธการกธมฺมานํ อตฺถาย มหนฺโต ฉนฺโท วายาโม จ อุสฺสาโห จ ปริเยฏฺิ จ, ตสฺเสว สมิชฺฌติ, น อิตรสฺส. ตตฺริทํ ฉนฺทมหนฺตตาย โอปมฺมํ – สเจ หิ เอวมสฺส, ‘‘โย ปน สกลจกฺกวาฬคพฺภํ เอโกทกีภูตํ อตฺตโน พาหุพเลน อุตฺตริตฺวา ปารํ คนฺตุํ สมตฺโถ, โส พุทฺธตฺตํ ปาปุณาติ. โย ปนิมํ อตฺตโน ทุกฺกรํ น มฺติ ‘อหํ อิมํ อุตฺตริตฺวา ปารํ คมิสฺสามี’’’ติ เอวํ มหตา ฉนฺเทน อุสฺสาเหน สมนฺนาคโต โหติ, ตสฺส ปตฺถนา สมิชฺฌติ, น อิตรสฺส (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.ขคฺควิสาณสุตฺตวณฺณนา; อป. อฏฺ. ๑.ทูเรนิทาน, สุเมธกถา; จริยา. อฏฺ. ปกิณฺณกกถา).
สุเมธปณฺฑิโต ¶ ปน อิเม อฏฺ ธมฺเม สโมธาเนตฺวาว พุทฺธภาวาย อภินีหารํ กตฺวา นิปชฺชิ. ทีปงฺกโรปิ ภควา อาคนฺตฺวา สุเมธปณฺฑิตสฺส สีสภาเค ตฺวา กลลปิฏฺเ นิปนฺนํ สุเมธตาปสํ ทิสฺวา – ‘‘อยํ ตาปโส พุทฺธตฺตาย อภินีหารํ กตฺวา นิปนฺโน, อิชฺฌิสฺสติ นุ โข เอตสฺส ปตฺถนา, อุทาหุ โน’’ติ อนาคตํสาณํ เปเสตฺวา อุปธาเรนฺโต – ‘‘อิโต กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ อติกฺกมิตฺวา โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ิตโกว ปริสมชฺเฌ พฺยากาสิ – ‘‘ปสฺสถ โน, ตุมฺเห ภิกฺขเว, อิมํ อุคฺคตปํ ตาปสํ กลลปิฏฺเ นิปนฺน’’นฺติ. ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ. อยํ พุทฺธตฺตาย อภินีหารํ กตฺวา นิปนฺโน, สมิชฺฌิสฺสติ อิมสฺส ตาปสสฺส ปตฺถนา, อยฺหิ อิโต กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ. ตสฺมึ ปนสฺส อตฺตภาเว กปิลวตฺถุ นาม นครํ นิวาโส ภวิสฺสติ, มหามายา นาม เทวี มาตา, สุทฺโธทโน นาม ราชา ปิตา, อุปติสฺโส จ โกลิโต จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อานนฺโท นาม อุปฏฺาโก, เขมา จ อุปฺปลวณฺณา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา ภวิสฺสนฺติ ¶ . อยํ ปริปกฺกาโณ หุตฺวา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา มหาปธานํ ปทหิตฺวา นิคฺโรธมูเล สุชาตาย นาม กุมาริยา ทินฺนํ ปายาสํ ปฏิคฺคเหตฺวา เนรฺชราย ตีเร ปริภฺุชิตฺวา โพธิมณฺฑํ อารุยฺห อสฺสตฺถรุกฺขมูเล อภิสมฺพุชฺฌิสฺสตีติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
อุสฺสีสเก มํ ตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘ปสฺสถ ¶ อิมํ ตาปสํ, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;
อปริเมยฺยิโต กปฺเป, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ.
‘‘อหู กปิลวฺหยา รมฺมา, นิกฺขมิตฺวา ตถาคโต;
ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ.
‘‘อชปาลรุกฺขมูลสฺมึ, นิสีทิตฺวา ตถาคโต;
ตตฺถ ปายาสํ ปคฺคยฺห, เนรฺชรมุเปหิติ.
‘‘เนรฺชราย ตีรมฺหิ, ปายาสํ อท โส ชิโน;
ปฏิยตฺตวรมคฺเคน, โพธิมูลมุเปหิติ.
‘‘ตโต ¶ ปทกฺขิณํ กตฺวา, โพธิมณฺฑํ อนุตฺตโร;
อสฺสตฺถรุกฺขมูลมฺหิ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.
‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;
ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.
‘‘อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;
โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;
อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติมํ ชินํ.
‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;
อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา.
‘‘โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ;
จิตฺโต จ หตฺถาฬวโก, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺกา;
อุตฺตรา นนฺทมาตา จ, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺิกา’’ติ.
ตตฺถ โลกวิทูติ สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา ปน โลกวิทู. ภควา หิ สภาวโต สมุทยโต ¶ นิโรธโต นิโรธูปายโตติ สพฺพถาปิ โลกํ ¶ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. ตสฺมา โลกวิทูติ วุจฺจติ. ยถาห –
‘‘ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ, โลกนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา, นาสีสตี โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๖);
อปิ จ ตโย โลกา – สงฺขารโลโก, สตฺตโลโก, โอกาสโลโกติ. ตตฺถ สงฺขารโลโก นาม ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ปถวิอาทโย ธมฺมา. สตฺตโลโก นาม สฺิโน อสฺิโน เนวสฺินาสฺิโน จ สตฺตา. โอกาสโลโก นาม สตฺตานํ นิวาสฏฺานํ. อิเม ปน ตโยปิ โลกา ภควตา ยถาสภาวโต วิทิตา, ตสฺมา โลกวิทูติ วุจฺจติ. อาหุตีนํ ปฏิคฺคโหติ ทานานํ ปฏิคฺคเหตุํ อรหตฺตา ทกฺขิเณยฺยตฺตา อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห. อุสฺสีสเก มํ ตฺวานาติ มม ¶ สีสสมีเป ตฺวา. อิทํ อิทานิ วตฺตพฺพํ วจนํ อพฺรวีติ อตฺโถ. ชฏิลนฺติ ชฏา อสฺส สนฺตีติ ชฏิโล, ตํ ชฏิลํ. อุคฺคตาปนนฺติ อุคฺคตาปสํ. อหูติ อหนิ, อถาติ อตฺโถ. อยเมว วา ปาโ. กปิลวฺหยาติ กปิลอวฺหยา อภิธานา. รมฺมาติ รมณียโต. ปธานนฺติ วีริยํ. เอหิตีติ เอสฺสติ คมิสฺสติ. เสสคาถาสุ อุตฺตานเมวาติ.
ตโต สุเมธปณฺฑิโต – ‘‘มยฺหํ กิร ปตฺถนา สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส อโหสิ. มหาชโน ทีปงฺกรทสพลสฺส วจนํ สุตฺวา – ‘‘สุเมธตาปโส กิร พุทฺธพีชงฺกุโร’’ติ หฏฺตุฏฺโ อโหสิ. เอวฺจสฺส อโหสิ – ‘‘ยถา นาม ปุริโส นทึ ตรนฺโต อุชุเกน ติตฺเถน ตริตุํ อสกฺโกนฺโต เหฏฺาติตฺเถน อุตฺตรติ, เอวเมว มยํ ทีปงฺกรทสพลสฺส สาสเน มคฺคผลํ อลภมานา อนาคเต ยทา ตฺวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ, ตทา ตว สมฺมุขา มคฺคผลํ สจฺฉิกาตุํ สมตฺถา ภเวยฺยามา’’ติ ปตฺถนํ อกํสุ. ทีปงฺกรทสพโล โพธิสตฺตํ มหาสตฺตํ ปสํสิตฺวา อฏฺหิ ปุปฺผมุฏฺีหิ ปูเชตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ. เตปิ จตุสตสหสฺสา ขีณาสวา โพธิสตฺตํ ปุปฺเผหิ จ คนฺเธหิ จ ปูเชตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกมึสุ. เทวมนุสฺสา ปน ตเถว ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา ปกฺกมึสุ.
อถ สพฺพโลกมติทีปงฺกโร ทีปงฺกโร ภควา จตูหิ ขีณาสวสตสหสฺเสหิ ปริวุโต รมฺมนครวาสีหิ ปูชิยมาโน เทวตาหิ อภิวนฺทิยมาโน สฺฌาปฺปภานุรฺชิตวรกนกคิริสิขโร วิย ชงฺคมมาโน อเนเกสุ ปาฏิหาริเยสุ ¶ วตฺตมาเนสุ เตน อลงฺกตปฏิยตฺเตน ¶ มคฺเคน คนฺตฺวา นานาสุรภิกุสุมคนฺธวาสิตํ จุณฺณสมฺโมทคนฺธํ สมุสฺสิตธชปฏากํ คนฺธานุพทฺธหทเยหิ ภมรคเณหิ คุมฺพคุมฺพายมานํ ธูปนฺธการํ อมรปุรสทิสโสภํ อภิรมฺมํ รมฺมนครํ ปวิสิตฺวา ปฺตฺเต มหารเห พุทฺธาสเน ยุคนฺธรมตฺถเก สรทสมยรุจิรกรรชนิกโร ติมิรนิกรนิธนกโร กมลวนวิกสนกโร ทิวสกโร วิย ทสพลทิวสกโร นิสีทิ. ภิกฺขุสงฺโฆปิ ปฏิปาฏิยา อตฺตโน อตฺตโน ปตฺตาสเน นิสีทิ. รมฺมนครวาสิโน ปน อุปาสกา สทฺธาทิคุณสมฺปนฺนา นานาวิธขชฺชาทีหิ สมลงฺกตํ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนํ อสทิสํ สุขนิทานํ ทานํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อทํสุ.
อถ ¶ โข โพธิสตฺโต ทสพลสฺส พฺยากรณํ สุตฺวา พุทฺธภาวํ กรตลคตมิว มฺมาโน ปมุทิตหทโย สพฺเพสุ ปฏิกฺกนฺเตสุ สยนา วุฏฺาย – ‘‘ปารมิโย วิจินิสฺสามี’’ติ ปุปฺผราสิมตฺถเก ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสีทิ. เอวํ นิสินฺเน มหาสตฺเต สกลทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สาธุการํ ทตฺวา – ‘‘อยฺย สุเมธตาปส, โปราณกโพธิสตฺตานํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา – ‘ปารมิโย วิจินิสฺสามี’ติ นิสินฺนกาเล ยานิ ปุพฺพนิมิตฺตานิ นาม ปฺายนฺติ, ตานิ สพฺพานิปิ อชฺช ปาตุภูตานิ นิสฺสํสเยน ตฺวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ, มยเมตํ ชานาม – ‘ยสฺเสตานิ นิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, โส เอกนฺเตเนว พุทฺโธ ภวิสฺสติ’ ตสฺมา ตฺวํ อตฺตโน วีริยํ ทฬฺหํ กตฺวา ปคฺคณฺหา’’ติ โพธิสตฺตํ นานปฺปการาหิ ถุตีหิ อภิตฺถวึสุ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อิทํ สุตฺวาน วจนํ, อสมสฺส มเหสิโน;
อาโมทิตา นรมรู, พุทฺธพีชํ กิร อยํ.
‘‘อุกฺกุฏฺิสทฺทา วตฺตนฺติ, อปฺโผเฏนฺติ หสนฺติ จ;
กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ทสสหสฺสี สเทวกา.
‘‘ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.
‘‘ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;
เหฏฺาติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.
‘‘เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มฺุจามิมํ ชินํ;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.
‘‘ทีปงฺกโร ¶ ¶ โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;
มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.
‘‘เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, ปทกฺขิณมกํสุ มํ;
เทวา มนุสฺสา อสุรา จ, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุํ.
‘‘ทสฺสนํ เม อติกฺกนฺเต, สสงฺเฆ โลกนายเก;
สยนา วุฏฺหิตฺวาน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.
‘‘สุเขน ¶ สุขิโต โหมิ, ปาโมชฺเชน ปโมทิโต;
ปีติยา จ อภิสฺสนฺโน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.
‘‘ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
วสีภูโต อหํ ฌาเน, อภิฺาสุ ปารมึ คโต.
‘‘สหสฺสิยมฺหิ โลกมฺหิ, อิสโย นตฺถิ เม สมา;
อสโม อิทฺธิธมฺเมสุ, อลภึ อีทิสํ สุขํ.
‘‘ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺหํ, ทสสหสฺสาธิวาสิโน;
มหานาทํ ปวตฺเตสุํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ยา ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ, ปลฺลงฺกวรมาภุเช;
นิมิตฺตานิ ปทิสฺสนฺติ, ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร.
‘‘สีตํ พฺยปคตํ โหติ, อุณฺหฺจ อุปสมฺมติ;
ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ทสสหสฺสี โลกธาตุ, นิสฺสทฺทา โหนฺติ นิรากุลา;
ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘มหาวาตา ¶ น วายนฺติ, น สนฺทนฺติ สวนฺติโย;
ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ถลชา ทกชา ปุปฺผา, สพฺเพ ปุปฺผนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช ปุปฺผิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ลตา วา ยทิ วา รุกฺขา, ผลภารา โหนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช ผลิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา, รตนา โชตนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช รตนา โชตนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘มานุสฺสกา จ ทิพฺพา จ, ตุริยา วชฺชนฺติ ตาวเท;
เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘วิจิตฺตปุปฺผา ¶ คคนา, อภิวสฺสนฺติ ตาวเท;
เตปิ อชฺช ปวสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘มหาสมุทฺโท ¶ อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปติ;
เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘นิรเยปิ ทสสหสฺเส, อคฺคี นิพฺพนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช นิพฺพุตา อคฺคี, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘วิมโล โหติ สูริโย, สพฺพา ทิสฺสนฺติ ตารกา;
เตปิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘อโนวฏฺเน อุทกํ, มหิยา อุพฺภิชฺชิ ตาวเท;
ตมฺปชฺชุพฺภิชฺชเต มหิยา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ตาราคณา ¶ วิโรจนฺติ, นกฺขตฺตา คคนมณฺฑเล;
วิสาขา จนฺทิมายุตฺตา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘พิลาสยา ทรีสยา, นิกฺขมนฺติ สกาสยา;
เตปชฺช อาสยา ฉุทฺธา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘น โหนฺติ อรตี สตฺตานํ, สนฺตุฏฺา โหนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช สพฺเพ สนฺตุฏฺา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘โรคา ตทุปสมฺมนฺติ, ชิฆจฺฉา จ วินสฺสสิ;
ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘โรคา ตทา ตนุ โหติ, โทโส โมโห วินสฺสสิ;
เตปชฺช วิคตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ภยํ ตทา น ภวติ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;
เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘รโชนุทฺธํสตี อุทฺธํ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;
เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘อนิฏฺคนฺโธ ปกฺกมติ, ทิพฺพคนฺโธ ปวายติ;
โสปชฺช วายตี คนฺโธ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘สพฺเพ ¶ เทวา ปทิสฺสนฺติ, ปยิตฺวา อรูปิโน;
เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ยาวตา นิรยา นาม, สพฺเพ ทิสฺสนฺติ ตาวเท;
เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘กุฏฺฏา ¶ ¶ กวาฏา เสลา จ, น โหนฺตาวรณา ตทา;
อากาสภูตา เตปชฺช, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘จุตี จ อุปปตฺตี จ, ขเณ ตสฺมึ น วิชฺชติ;
ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.
‘‘ทฬฺหํ ปคฺคณฺห วีริยํ, มา นิวตฺต อภิกฺกม;
มยมฺเปตํ วิชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ อิทํ สุตฺวาน วจนนฺติ อิทํ ทีปงฺกรสฺส ภควโต โพธิสตฺตสฺส พฺยากรณวจนํ สุตฺวา. อสมสฺสาติ สมสฺส สทิสสฺส อภาวโต อสมสฺส. ยถาห –
‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชติ;
สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ, นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล’’ติ. (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๑; กถา. ๔๐๕; มิ. ป. ๔.๕.๑๑);
มเหสิโนติ มหนฺเต สีลสมาธิปฺากฺขนฺเธ เอสิ คเวสีติ มเหสี, ตสฺส มเหสิโน. นรมรูติ นรา จ อมรา จ, อุกฺกฏฺนิทฺเทโส ปนายํ สพฺเพปิ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา นาคสุปณฺณยกฺขาทโยปิ อาโมทิตาว. พุทฺธพีชํ กิร อยนฺติ อยํ กิร พุทฺธงฺกุโร อุปฺปนฺโนติ อาโมทิตาติ อตฺโถ.
อุกฺกุฏฺิสทฺทาติ อุนฺนาทสทฺทา วตฺตนฺติ. อปฺโผเฏนฺตีติ หตฺเถหิ พาหา อภิหนนฺติ. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสิโลกธาตุโย. สเทวกาติ สห เทเวหิ สเทวกา ทสสหสฺสี นมสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ยทิมสฺสาติ ยทิ อิมสฺส, อยเมว วา ปาโ. วิรชฺฌิสฺสามาติ ยทิ น สมฺปาปุณิสฺสาม. อนาคตมฺหิ อทฺธาเนติ อนาคเต กาเล. เหสฺสามาติ ภวิสฺสาม. สมฺมุขาติ สมฺมุขีภูตา. อิมนฺติ อิมสฺส, สามิอตฺเถ อุปโยควจนํ.
นทึ ¶ ตรนฺตาติ นทีตรณกา, ‘‘นทิตรนฺตา’’ติปิ ปาโ. ปฏิติตฺถนฺติ ปฏิมุขติตฺถํ. วิรชฺฌิยาติ วิรชฺฌิตฺวา. ยทิ มฺุจามาติ ยทิ อิมํ ภควนฺตํ มฺุจิตฺวา อกตกิจฺจา คมิสฺสามาติ ¶ อตฺโถ. มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวาติ มม ภาวิตมตฺถํ พฺยากริตฺวา. ทกฺขิณํ ¶ ปาทมุทฺธรีติ ทกฺขิณํ ปาทํ อุกฺขิปิ, ‘‘กตปทกฺขิโณ’’ติปิ ปาโ.
ชินปุตฺตาติ ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน สาวกา. เทวา มนุสฺสา อสุรา จ, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุนฺติ เทวาทโย สพฺเพปิ อิเม มํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุปฺผาทีหิ ปูเชตฺวา สุปฺปติฏฺิตปฺจงฺคา วนฺทิตฺวา นิวตฺติตฺวา ปุนปฺปุนํ โอโลเกตฺวา มธุรตฺถพฺยฺชนาหิ นานปฺปการาหิ ถุตีหิ วณฺเณนฺตา ปกฺกมึสุ. ‘‘นรา นาคา จ คนฺธพฺพา, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุ’’นฺติปิ ปาโ.
ทสฺสนํ เม อติกฺกนฺเตติ มม ทสฺสนวิสยํ ภควติ อติกฺกนฺเต. ‘‘ชหิเต ทสฺสนูปจาเร’’ติปิ ปาโ. สสงฺเฆติ สทฺธึ สงฺเฆน สสงฺโฆ, ตสฺมึ สสงฺเฆ. สยนา วุฏฺหิตฺวานาติ นิปนฺนฏฺานโต กลลโต อุฏฺหิตฺวา. ปลฺลงฺกํ อาภุชินฺติ กตปลฺลงฺโก หุตฺวา ปุปฺผราสิมฺหิ นิสีทินฺติ อตฺโถ. ‘‘หฏฺโ หฏฺเน จิตฺเตน, อาสนา วุฏฺหึ ตทา’’ติปิ ปาโ, โส อุตฺตานตฺโถว.
ปีติยา จ อภิสฺสนฺโนติ ปีติปริปฺผุโฏ. วสีภูโตติ วสีภาวปฺปตฺโต. ฌาเนติ รูปาวจรารูปาวจรฌาเนสุ. สหสฺสิยมฺหีติ ทสสหสฺสิยํ. โลกมฺหีติ โลกธาตุยา. เม สมาติ มยา สทิสา. อวิเสเสน ‘‘เม สมา นตฺถี’’ติ วตฺวา อิทานิ ตเมว นิยเมนฺโต ‘‘อสโม อิทฺธิธมฺเมสู’’ติ อาห. ตตฺถ อิทฺธิธมฺเมสูติ ปฺจสุ อิทฺธิธมฺเมสูติ อตฺโถ. อลภินฺติ ปฏิลภึ. อีทิสํ สุขนฺติ อีทิสํ โสมนสฺสํ.
อถ สุเมธตาปโส ทสพลสฺส พฺยากรณํ สุตฺวา พุทฺธภาวํ กรตลคตกาลมิว มฺมาโน ปมุทิตหทโย ทสสุ โลกธาตุสหสฺเสสุ สุทฺธาวาสมหาพฺรหฺมาโน อตีตพุทฺธทสฺสาวิโน นิยตโพธิสตฺตานํ พฺยากรเณ อุปฺปชฺชมานปาฏิหาริยทสฺสเนน ตถาคตวจนสฺส อวิตถตํ ปกาเสนฺโต มํ ปริโตสยนฺตา อิมา คาถาโย อาหํสูติ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺห’’นฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺหนฺติ มม ปลฺลงฺกาภุชเน. อยเมว วา ปาโ. ทสสหสฺสาธิวาสิโนติ ทสสหสฺสิวาสิโน มหาพฺรหฺมาโน. ยา ปุพฺเพติ ยานิ ปุพฺเพ, วิภตฺติโลปํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ปลฺลงฺกวรมาภุเชติ วรปลฺลงฺกาภุชเน. นิมิตฺตานิ ปทิสฺสนฺตีติ นิมิตฺตานิ ¶ ปทิสฺสึสูติ อตฺโถ. อตีตวจเน วตฺตพฺเพ วตฺตมานวจนํ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อตีตวเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. ตานิ อชฺช ปทิสฺสเรติ ปุพฺเพปิ นิยตโพธิสตฺตานํ ปลฺลงฺกาภุชเน ¶ ยานิ นิมิตฺตานิ อุปฺปชฺชึสุ, ตานิ นิมิตฺตานิ อชฺช ปทิสฺสเร. ตสฺมา ตฺวํ ธุวเมว พุทฺโธ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ. น ปน ตานิเยว นิมิตฺตานิ อุปฺปชฺชึสุ, ตํสทิสตฺตา ‘‘ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สีตนฺติ สีตตฺตํ. พฺยปคตนฺติ คตํ วิคตํ. ตานีติ สีตวิคมนอุณฺหุปสมนานีติ อตฺโถ. นิสฺสทฺทาติ อสทฺทา อนิคฺโฆสา. นิรากุลาติ อนากุลา, อยเมว วา ปาโ. น สนฺทนฺตีติ น วหนฺติ นปฺปวตฺตนฺติ. สวนฺติโยติ นทิโย. ตานีติ อวายนอสนฺทนานิ. ถลชาติ ปถวิตลปพฺพตรุกฺเขสุ ชาตานิ. ทกชาติ โอทกานิ ปุปฺผานิ. ปุปฺผนฺตีติ ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ ปุปฺผึสุ, อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. เตปชฺช ปุปฺผิตานีติ ตานิ ปุปฺผานิ อชฺช ปุปฺผิตานีติ อตฺโถ.
ผลภาราติ ผลธรา. เตปชฺชาติ เตปิ อชฺช, ปุลฺลิงฺควเสน ‘‘เตปี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ลตา วา รุกฺขา วา’’ติ วุตฺตตฺตา. ผลิตาติ สฺชาตผลา. อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา จาติ อากาสคตา จ ภูมิคตา จ รตนานีติ มุตฺตาทีนิ รตนานิ. โชตนฺตีติ โอภาสนฺติ. มานุสฺสกาติ มนุสฺสานํ สนฺตกา มานุสฺสกา. ทิพฺพาติ เทวานํ สนฺตกา ทิพฺพา. ตุริยาติ อาตตํ วิตตํ อาตตวิตตํ สุสิรํ ฆนนฺติ ปฺจ ตุริยานิ. ตตฺถ อาตตํ นาม จมฺมปริโยนทฺเธสุ เภริอาทีสุ เอกตลตุริยํ. วิตตํ นาม อุภยตลํ. อาตตวิตตํ นาม สพฺพโต ปริโยนทฺธํ มหติวลฺลกิอาทิกํ. สุสิรํ นาม วํสาทิกํ. ฆนํ นาม สมฺมตาฬาทิกํ. วชฺชนฺตีติ เหฏฺา วุตฺตนเยน วชฺชึสุ, อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ เวทิตพฺพํ. เอส นโย อุปริ อีทิเสสุ วจเนสุปิ. อภิรวนฺตีติ ตตฺร ตตฺร กุสเลหิ สุมฺุจิตา สุปฺปตาฬิตา สุวาทิตา วิย อภิรวนฺติ, อภินทนฺตีติ อตฺโถ.
วิจิตฺตปุปฺผาติ ¶ วิจิตฺรานิ นานาคนฺธวณฺณานิ ปุปฺผานิ. อภิวสฺสนฺตีติ อภิวสฺสึสุ, นิปตึสูติ อตฺโถ. เตปีติ ตานิปิ วิจิตฺรปุปฺผานิ อภิวสฺสนฺตานิ ปทิสฺสนฺติ, เทวพฺรหฺมคเณหิ โอกิริยมานานีติ อธิปฺปาโย. อาภุชตีติ โอสกฺกติ. เตปชฺชุโภติ ¶ เตปิ อชฺช อุโภ มหาสมุทฺททสสหสฺสิโย. อภิรวนฺตีติ อภินทนฺติ. นิรเยติ นิรเยสุ. ทสสหสฺสาติ อเนกทสสหสฺสา. นิพฺพนฺตีติ สมฺมนฺติ, สนฺตึ อุเปนฺตีติ อตฺโถ. ตารกาติ นกฺขตฺตานิ ¶ . เตปิ อชฺช ปทิสฺสนฺตีติ เตปิ สูริยสฺส วิมลภาวา ตารกา อชฺช ทิวา ทิสฺสนฺติ.
อโนวฏฺเนาติ อโนวฏฺเ, ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. อถ วา อโนวฏฺเติ อนภิวฏฺเปิ. นาติ นิปาตมตฺตํ ‘‘สุตฺวา น ทูตวจน’’นฺติอาทีสุ วิย. ตมฺปชฺชุพฺภิชฺชเตติ ตมฺปิ อุทกํ อชฺช อุพฺภิชฺชติ, อุพฺภิชฺชิตฺวา อุฏฺหตีติ อตฺโถ. มหิยาติ ปถวิยา, นิสฺสกฺกวจนํ. ตาราคณาติ คหนกฺขตฺตาทโย สพฺเพ ตารคณา. นกฺขตฺตาติ นกฺขตฺตตารกา จ. คคนมณฺฑเลติ สกลคคนมณฺฑลํ วิโรจนฺตีติ อตฺโถ. พิลาสยาติ พิลาสยา อหินกุลกุมฺภีลโคธาทโย. ทรีสยาติ ฌราสยา. อยเมว วา ปาโ. นิกฺขมนฺตีติ นิกฺขมึสุ. สกาสยาติ อตฺตโน อตฺตโน อาสยโต. ‘‘ตทาสยา’’ติปิ ปาโ. ตสฺส ตทา ตสฺมึ กาเล, อาสยโต, พิลโตติ อตฺโถ. ฉุทฺธาติ สุฉุทฺธา สุวุทฺธาริตา, นิกฺขนฺตาติ อตฺโถ.
อรตีติ อุกฺกณฺา. สนฺตุฏฺาติ ปรเมน สนฺตุฏฺเน สนฺตุฏฺา. วินสฺสตีติ วิคจฺฉติ. ราโคติ กามราโค. ตทา ตนุ โหตีติ โอรมตฺตโก โหติ, อิมินา ปริยุฏฺานาภาวํ ทีเปติ. วิหตาติ วินฏฺา. ตทาติ ปุพฺเพ, โพธิสตฺตานํ ปลฺลงฺกาภุชเนติ อตฺโถ. น ภวตีติ น โหติ. อชฺชเปตนฺติ อชฺช ตว ปลฺลงฺกาภุชเนปิ เอตํ ภยํ น โหเตวาติ อตฺโถ. เตน ลิงฺเคน ชานามาติ เตน การเณน สพฺเพว มยํ ชานาม, ยํ ตฺวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสีติ อตฺโถ.
อนุทฺธํสตีติ น อุคฺคจฺฉติ. อนิฏฺคนฺโธติ ทุคฺคนฺโธ. ปกฺกมตีติ ปกฺกมิ วิคจฺฉิ. ปวายตีติ ปวายิ. โสปชฺชาติ โสปิ ทิพฺพคนฺโธ อชฺช. ปทิสฺสนฺตีติ ¶ ปทิสฺสึสุ. เตปชฺชาติ เตปิ สพฺเพ เทวา อชฺช. ยาวตาติ ปริจฺเฉทนตฺเถ ¶ นิปาโต, ยตฺตกาติ อตฺโถ. กุฏฺฏาติ ปาการา. น โหนฺตาวรณาติ อาวรณกรา น อเหสุํ. ตทาติ ปุพฺเพ. อากาสภูตาติ เต กุฏฺฏกวาฏปพฺพตา อาวรณํ ติโรกรณํ กาตุํ อสกฺโกนฺตา, อชฏากาสภูตาติ อตฺโถ. จุตีติ มรณํ. อุปปตฺตีติ ปฏิสนฺธิคฺคหณํ. ขเณติ ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ ปลฺลงฺกาภุชนกฺขเณ. น วิชฺชตีติ นาโหสิ. ตานิปชฺชาติ ตานิปิ อชฺช จวนภวนานีติ อตฺโถ. มา นิวตฺตีติ มา ปฏิกฺกมิ. อภิกฺกมาติ ปรกฺกม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ตโต สุเมธปณฺฑิโต ทีปงฺกรสฺส ทสพลสฺส จ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานฺจ วจนํ สุตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย สฺชาตุสฺสาโห หุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘พุทฺธา นาม อโมฆวจนา, นตฺถิ พุทฺธานํ กถาย อฺถตฺตํ. ยถา หิ อากาเส ขิตฺตสฺส เลฑฺฑุสฺส ปตนํ ธุวํ, ชาตสฺส มรณํ, อรุเณ ¶ อุคฺคเต สูริยสฺส อพฺภุคฺคมนํ, อาสยา นิกฺขนฺตสฺส สีหสฺส สีหนาทนทนํ, ครุคพฺภาย อิตฺถิยา ภารโมโรปนํ ธุวํ อวสฺสมฺภาวี, เอวเมว พุทฺธานํ วจนํ นาม ธุวํ อโมฆํ, อทฺธา อหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามีติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, ทสสหสฺสีนจูภยํ;
ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.
‘‘อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา, อโมฆวจนา ชินา;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.
‘‘ยถา ขิตฺตํ นเภ เลฑฺฑุ, ธุวํ ปตติ ภูมิยํ;
ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.
‘‘ยถาปิ สพฺพสตฺตานํ, มรณํ ธุวสสฺสตํ;
ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.
‘‘ยถา ¶ รตฺติกฺขเย ปตฺเต, สูริยุคฺคมนํ ธุวํ;
ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.
‘‘ยถา ¶ นิกฺขนฺตสยนสฺส, สีหสฺส นทนํ ธุวํ;
ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.
‘‘ยถา อาปนฺนสตฺตานํ, ภารโมโรปนํ ธุวํ;
ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;
วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามห’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, ทสสหสฺสี น จูภยนฺติ ทีปงฺกรสมฺมาสมฺพุทฺธสฺส จ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตานฺจ วจนํ สุตฺวา. อุภยนฺติ อุภเยสํ, สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, อุภยวจนํ วา. เอวํ จินฺเตสหนฺติ เอวํ จินฺเตสึ อหํ.
อทฺเวชฺฌวจนาติ ทฺเวธา อปฺปวตฺตวจนา, เอกํสวจนาติ อตฺโถ. ‘‘อจฺฉิทฺทวจนา’’ติปิ ปาโ, ตสฺส นิทฺโทสวจนาติ อตฺโถ. อโมฆวจนาติ อวิตถวจนา. วิตถนฺติ วิตถวจนํ นตฺถีติ อตฺโถ. ธุวํ พุทฺโธ ภวามหนฺติ อหํ เอกํเสเนว พุทฺโธ ภวิสฺสามีติ นิยตวเสน อวสฺสมฺภาวิวเสน จ วตฺตมานวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
สูริยุคฺคมนนฺติ สูริยสฺส อุทยนํ, อยเมว วา ปาโ. ธุวสสฺสตนฺติ เอกํสภาวี เจว สสฺสตฺจ. นิกฺขนฺตสยนสฺสาติ สยนโต นิกฺขนฺตสฺส. อาปนฺนสตฺตานนฺติ ครุคพฺภานํ, คพฺภินีนนฺติ อตฺโถ. ภารโมโรปนนฺติ ภารโอโรปนํ, คพฺภสฺส โอโรปนนฺติ อตฺโถ. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
‘‘สฺวาหํ อทฺธา พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ เอวํ กตสนฺนิฏฺาโน พุทฺธการเก ธมฺเม อุปธาเรตุํ – ‘‘กหํ นุ โข พุทฺธการกา ธมฺมา’’ติ, อุทฺธํ อโธ ทิสาสุ วิทิสาสูติ อนุกฺกเมน สกลํ ธมฺมธาตุํ วิจินนฺโต ปุพฺเพ โปราณเกหิ โพธิสตฺเตหิ อาเสวิตนิเสวิตํ ปมํ ทานปารมึ ทิสฺวา เอวํ อตฺตานํ โอวทิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย ปมํ ทานปารมึ ปูเรยฺยาสิ. ยถา หิ นิกุชฺชิโต อุทกกุมฺโภ นิสฺเสสํ กตฺวา อุทกํ วมติเยว น ปจฺจาหรติ, เอวเมว ธนํ วา ยสํ วา ปุตฺตทารํ ¶ วา องฺคปจฺจงฺคํ วา อโนโลเกตฺวา สพฺพตฺถ ยาจกานํ สพฺพํ อิจฺฉิติจฺฉิตํ นิสฺเสสํ กตฺวา ททมาโน โพธิมูเล นิสีทิตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ปมํ ทานปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘หนฺท ¶ พุทฺธกเร ธมฺเม, วิจินามิ อิโต จิโต;
อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา, ยาวตา ธมฺมธาตุยา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ปมํ ทานปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อนุจิณฺณํ มหาปถํ.
‘‘อิมํ ¶ ตฺวํ ปมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ทานปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถาปิ กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ, ยสฺส กสฺสจิ อโธ กโต;
วมเตวุทกํ นิสฺเสสํ, น ตตฺถ ปริรกฺขติ.
‘‘ตเถว ยาจเก ทิสฺวา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;
ททาหิ ทานํ นิสฺเสสํ, กุมฺโภ วิย อโธ กโต’’ติ.
ตตฺถ หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. พุทฺธกเร ธมฺเมติ พุทฺธตฺตกเร ธมฺเม. พุทฺธตฺตกรา นาม ธมฺมา ทานปารมิตาทโย ทส ธมฺมา. วิจินามีติ วิจินิสฺสามิ, วีมํสิสฺสามิ อุปปริกฺขิสฺสามีติ อตฺโถ. อิโต จิโตติ อิโต อิโต, อยเมว วา ปาโ. ตตฺถ ตตฺถ วิจินามีติ อตฺโถ. อุทฺธนฺติ เทวโลเก. อโธติ มนุสฺสโลเก. ทส ทิสาติ ทสสุ ทิสาสุ; กตฺถ นุ โข เต พุทฺธการกธมฺมา อุทฺธํ อโธ ติริยํ ทิสาสุ วิทิสาสูติ อธิปฺปาโย. ยาวตา ธมฺมธาตุยาติ เอตฺถ ยาวตาติ ปริจฺเฉทวจนํ. ธมฺมธาตุยาติ สภาวธมฺมสฺส, ปวตฺตนีติ วจนเสโส ทฏฺพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยาวติกา สภาวธมฺมานํ กามรูปารูปธมฺมานํ ปวตฺติ, ตาวติกํ วิจินิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ.
วิจินนฺโตติ วีมํสนฺโต อุปปริกฺขนฺโต. ปุพฺพเกหีติ โปราเณหิ โพธิสตฺเตหิ. อนุจิณฺณนฺติ อชฺฌาจิณฺณํ อาเสวิตํ. สมาทิยาติ สมาทิยนํ กโรหิ, อชฺช ปฏฺาย อยํ ปมํ ทานปารมี ปูเรตพฺพา มยาติ เอวํ สมาทิยาติ อตฺโถ. ทานปารมิตํ คจฺฉาติ ทานปารมึ คจฺฉ, ปูรยาติ อตฺโถ. ยทิ ¶ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสีติ โพธิมูลมุปคนฺตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺตุํ อิจฺฉสิ เจ. ยสฺส กสฺสจีติ อุทกสฺส วา ขีรสฺส วา ยสฺส กสฺสจิ สมฺปุณฺโณ. สมฺปุณฺณสทฺทโยเค สติ สามิวจนํ อิจฺฉนฺติ ¶ สทฺทวิทู. กรณตฺเถ วา สามิวจนํ, เยน เกนจีติ อตฺโถ. อโธ กโตติ เหฏฺามุขีกโต. น ตตฺถ ปริรกฺขตีติ ตสฺมึ วมเน น ปริรกฺขติ, นิสฺเสสํ อุทกํ วมเตวาติ อตฺโถ. หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเมติ หีนมชฺฌิมปณีเต. ม-กาโร ปทสนฺธิกโร. กุมฺโภ วิย อโธ กโตติ เหฏฺามุขีกโต วิย กุมฺโภ. ยาจเก อุปคเต ทิสฺวา – ‘‘ตฺวํ, สุเมธ, อตฺตโน อนวเสเสตฺวา สพฺพธนปริจฺจาเคน ทานปารมึ, องฺคปริจฺจาเคน อุปปารมึ, ชีวิตปริจฺจาเคน ปรมตฺถปารมิฺจ ปูเรหี’’ติ เอวํ อตฺตนาว อตฺตานํ โอวทิ.
อถสฺส ¶ ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการเกหิ ธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต ทุติยํ สีลปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย สีลปารมึ ปูเรยฺยาสิ. ยถา จมรี มิโค นาม ชีวิตมฺปิ อโนโลเกตฺวา อตฺตโน วาลเมว รกฺขติ, เอวํ ตฺวมฺปิ อิโต ปฏฺาย ชีวิตมฺปิ อโนโลเกตฺวา สีลเมว รกฺขนฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ทุติยํ สีลปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ทุติยํ สีลปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ ทุติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
สีลปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถาปิ จมรี วาลํ, กิสฺมิฺจิ ปฏิลคฺคิตํ;
อุเปติ มรณํ ตตฺถ, น วิโกเปติ วาลธึ.
‘‘ตเถว ตฺวํ จตูสุ ภูมีสุ, สีลานิ ปริปูรย;
ปริรกฺข สพฺพทา สีลํ, จมรี วิย วาลธิ’’นฺติ.
ตตฺถ น เหเตติ น หิ เอเตเยว. โพธิปาจนาติ มคฺคปริปาจนา สพฺพฺุตฺาณปริปาจนา วา. ทุติยํ ¶ สีลปารมินฺติ สีลํ นาม สพฺเพสํ กุสลธมฺมานํ ปติฏฺา, สีเล ปติฏฺิโต กุสลธมฺเมหิ น ปริหายติ, สพฺเพปิ ¶ โลกิยโลกุตฺตรคุเณ ปฏิลภติ. ตสฺมา สีลปารมี ปูเรตพฺพาติ ทุติยํ สีลปารมึ อทฺทกฺขินฺติ อตฺโถ.
อาเสวิตนิเสวิตนฺติ ภาวิตฺเจว พหุลีกตฺจ. จมรีติ จมรี มิโค. กิสฺมิฺจีติ ยตฺถ กตฺถจิ รุกฺขลตากณฺฏกาทีสุ อฺตรสฺมึ. ปฏิลคฺคิตนฺติ ปฏิวิลคฺคิตํ. ตตฺถาติ ยตฺถ วิลคฺคิตํ, ตตฺเถว ตฺวา มรณํ อุปคจฺฉติ. น วิโกเปตีติ น ฉินฺทติ. วาลธินฺติ วาลํ ฉินฺทิตฺวา น คจฺฉติ, ตตฺเถว มรณํ อุเปตีติ อตฺโถ.
จตูสุ ¶ ภูมีสุ สีลานีติ จตูสุ าเนสุ วิภตฺตสีลานิ, ปาติโมกฺขสํวรอินฺทฺริยสํวรอาชีวปาริสุทฺธิปจฺจยสนฺนิสฺสิตวเสนาติ อตฺโถ. ภูมิวเสน ปน ทฺวีสุเยว ภูมีสุ ปริยาปนฺนํ ตมฺปิ จตุสีลเมวาติ. ปริปูรยาติ ขณฺฑฉิทฺทสพลาทิอภาเวน ปริปูรย. สพฺพทาติ สพฺพกาลํ. จมรี วิยาติ จมรี มิโค วิย. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการเกหิ ธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย เนกฺขมฺมปารมิมฺปิ ปูเรยฺยาสิ. ยถาปิ สุจิรํ พนฺธนาคาเร วสมาโน ปุริโส น ตตฺถ สิเนหํ กโรติ, อถ โข อุกฺกณฺิโต อวสิตุกาโม โหติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สพฺพภเว พนฺธนาคารสทิเส กตฺวา ปสฺส, สพฺพภเวหิ อุกฺกณฺิโต มุจฺจิตุกาโม หุตฺวา เนกฺขมฺมาภิมุโขว โหติ, เอวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ ตติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
เนกฺขมฺมปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถา อนฺทุฆเร ปุริโส, จิรวุฏฺโ ทุขฏฺฏิโต;
น ตตฺถ ราคํ ชเนติ, มุตฺตึเยว คเวสติ.
‘‘ตเถว ¶ ¶ ตฺวํ สพฺพภเว, ปสฺส อนฺทุฆเร วิย;
เนกฺขมฺมาภิมุโข โหติ, ภวโต ปริมุตฺติยา’’ติ.
ตตฺถ อนฺทุฆเรติ พนฺธนาคาเร. จิรวุฏฺโติ จิรกาลํ วุฏฺโ. ทุขฏฺฏิโตติ ทุกฺขปีฬิโต. น ¶ ตตฺถ ราคํ ชเนตีติ ตตฺถ อนฺทุฆเร ราคํ สิเนหํ น ชเนติ น อุปฺปาเทติ. ‘‘อิมํ อนฺทุฆรํ มฺุจิตฺวา นาหํ อฺตฺถ คมิสฺสามี’’ติ เอวํ ตตฺถ ราคํ น ชเนติ, กินฺตุ มุตฺตึเยว โมกฺขเมว คเวสตีติ อธิปฺปาโย. เนกฺขมฺมาภิมุโขติ นิกฺขมนาภิมุโข โหติ. ภวโตติ สพฺพภเวหิ. ปริมุตฺติยาติ ปริโมจนตฺถาย. เนกฺขมฺมาภิมุโข หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติปิ ปาโ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต จตุตฺถํ ปฺาปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย ปฺาปารมิมฺปิ ปูเรยฺยาสิ. หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺเสุ กฺจิ อวชฺเชตฺวา สพฺเพปิ ปณฺฑิเต อุปสงฺกมิตฺวา ปฺหํ ปุจฺเฉยฺยาสิ. ยถาปิ ปิณฺฑจาริโก ภิกฺขุ หีนาทิเภเทสุ กุเลสุ กิฺจิ กุลํ อวิวชฺเชตฺวา ปฏิปาฏิยา ปิณฺฑาย จรนฺโต ขิปฺปํ ยาปนมตฺตํ ลภติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สพฺเพ ปณฺฑิเต อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉนฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ จตุตฺถํ ปฺาปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, จตุตฺถํ ปฺาปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ จตุตฺถํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ปฺาปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถา หิ ภิกฺขุ ภิกฺขนฺโต, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;
กุลานิ น วิวชฺเชนฺโต, เอวํ ลภติ ยาปนํ.
‘‘ตเถว ¶ ตฺวํ สพฺพกาลํ, ปริปุจฺฉํ พุธํ ชนํ;
ปฺาย ปารมึ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ภิกฺขนฺโตติ ปิณฺฑาย จรนฺโต. หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเมติ หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิมานิ กุลานีติ ¶ อตฺโถ. ลิงฺควิปริยาโส กโต. น วิวชฺเชนฺโตติ น ปริหรนฺโต, ฆรปฏิปาฏึ มฺุจิตฺวา จรนฺโต วิวชฺเชติ นาม, เอวมกตฺวาติ อตฺโถ. ยาปนนฺติ ยาปนมตฺตํ ปาณธารณํ อาหารํ ลภตีติ อตฺโถ. ปริปุจฺฉนฺติ – ‘‘กึ, ภนฺเต, กุสลํ, กึ อกุสลํ; กึ สาวชฺชํ, กึ อนวชฺช’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๓.๘๔, ๒๑๖) นเยน ตตฺถ ตตฺถ อภิฺาเต ปณฺฑิเต ชเน อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. พุธํ ชนนฺติ ปณฺฑิตํ ชนํ. ‘‘พุเธ ชเน’’ติปิ ปาโ. ปฺาย ปารมินฺติ ปฺาย ปารํ. ‘‘ปฺาปารมิตํ คนฺตฺวา’’ติปิ ปาโ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต ปฺจมํ วีริยปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย วีริยปารมิมฺปิ ปูเรยฺยาสิ. ยถาปิ สีโห มิคราชา สพฺพอิริยาปเถสุ ทฬฺหวีริโย โหติ, เอวํ ตฺวมฺปิ สพฺพภเวสุ สพฺพอิริยาปเถสุ ทฬฺหวีริโย อโนลีนวีริโย สมาโน พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ปฺจมํ วีริยปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ปฺจมํ วีริยปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ ปฺจมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
วีริยปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถาปิ สีโห มิคราชา, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;
อลีนวีริโย โหติ, ปคฺคหิตมโน สทา.
‘‘ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปคฺคณฺห วีริยํ ทฬฺหํ;
วีริยปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อลีนวีริโยติ อโนลีนวีริโย. สพฺพภเวติ ¶ ชาตชาตภเว, สพฺเพสุ ภเวสูติ อตฺโถ. อารทฺธวีริโย หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสีติปิ ปาโ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
อถสฺส ¶ ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย ขนฺติปารมึ ปริปูเรยฺยาสิ, สมฺมานเนปิ อวมานเนปิ ขโมว ภเวยฺยาสิ. ยถา หิ ปถวิยํ นาม สุจิมฺปิ ปกฺขิปนฺติ อสุจิมฺปิ, น จ เตน ปถวี สิเนหํ วา ปฏิฆํ วา กโรติ, ขมติ สหติ อธิวาเสติเยว, เอวเมว ตฺวมฺปิ สพฺเพสํ สมฺมานนาวมานเนสุ ขโม สมาโน พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ ฉฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ตตฺถ อทฺเวชฺฌมานโส, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.
‘‘ยถาปิ ปถวี นาม, สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ จ;
สพฺพํ สหติ นิกฺเขปํ, น กโรติ ปฏิฆํ ตยา.
‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ สพฺเพสํ, สมฺมานาวมานกฺขโม;
ขนฺติปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ขนฺติปารมิยํ. อทฺเวชฺฌมานโสติ เอกํสมานโส. สุจิมฺปีติ จนฺทนกุงฺกุมคนฺธมาลาทิสุจิมฺปิ. อสุจิมฺปีติ อหิกุกฺกุรมนุสฺสกุณปคูถมุตฺตเขฬสิงฺฆาณิกาทิอสุจิมฺปิ. สหตีติ ขมติ, อธิวาเสติ. นิกฺเขปนฺติ นิกฺขิตฺตํ. ปฏิฆนฺติ โกธํ. ตยาติ ตาย วุตฺติยา, ตาย นิกฺขิตฺตตาย วา. ‘‘ปฏิฆํ ทย’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส เตน นิกฺเขเปน ปฏิฆานุโรธํ น กโรตีติ อตฺโถ. สมฺมานาวมานกฺขโมติ สพฺเพสํ ¶ สมฺมานนาวมานนสโห ตฺวมฺปิ ¶ ภวาติ อตฺโถ. ‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ สพฺพภเว, สมฺมานนวิมานกฺขโม’’ติปิ ปนฺติ. ‘‘ขนฺติยา ปารมึ คนฺตฺวา’’ติปิ ปาโ, ตสฺสา ขนฺติยา ปารมิปูรณวเสน คนฺตฺวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ. อิโต ปรํ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา ยตฺถ ยตฺถ วิเสโส อตฺถิ, ตํ ตเมว วตฺวา ปานฺตรํ ทสฺเสตฺวา คมิสฺสามาติ.
อถสฺส ¶ ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต สตฺตมํ สจฺจปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย สจฺจปารมิมฺปิ ปูเรยฺยาสิ, อสนิยา มตฺถเก ปตมานายปิ ธนาทีนํ อตฺถาย ฉนฺทาทีนํ วเสน สมฺปชานมุสาวาทํ นาม มา ภาสิ. ยถาปิ โอสธีตารกา นาม สพฺพอุตูสุ อตฺตโน คมนวีถึ วิชหิตฺวา อฺาย วีถิยา น คจฺฉติ, สกวีถิยาว คจฺฉติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สจฺจํ ปหาย มุสาวาทํ นาม อวทนฺโตเยว พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ สตฺตมํ สจฺจปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, สตฺตมํ สจฺจปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ สตฺตมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ตตฺถ อทฺเวชฺฌวจโน, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.
‘‘ยถาปิ โอสธี นาม, ตุลาภูตา สเทวเก;
สมเย อุตุวสฺเส วา, น โวกฺกมติ วีถิโต.
‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ สจฺเจสุ, มา โวกฺกม หิ วีถิโต;
สจฺจปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ตตฺถาติ สจฺจปารมิยํ. อทฺเวชฺฌวจโนติ อวิตถวจโน. โอสธี นามาติ โอสธีตารกา, โอสธคหเณ โอสธีตารกํ อุทิตํ ทิสฺวา โอสธํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ‘‘โอสธีตารกา’’ติ วุจฺจติ. ตุลาภูตาติ ปมาณภูตา. สเทวเกติ สเทวกสฺส โลกสฺส. สมเยติ ¶ วสฺสสมเย. อุตุวสฺเสติ เหมนฺตคิมฺเหสุ. ‘‘สมเย อุตุวฏฺเฏ’’ติปิ ปาโ. ตสฺส สมเยติ คิมฺเห. อุตุวฏฺเฏติ เหมนฺเต จ วสฺสาเน จาติ อตฺโถ. น ¶ โวกฺกมติ วีถิโตติ ตํ ตํ อุตุมฺหิ อตฺตโน คมนวีถิโต น โวกฺกมติ น วิคจฺฉติ, ฉ มาเส ปจฺฉิมํ ทิสํ คจฺฉติ, ฉ มาเส ปุพฺพํ ทิสํ คจฺฉตีติ. อถ วา โอสธี นามาติ สิงฺคิเวรปิปฺผลิมริจาทิกํ โอสธํ. น โวกฺกมตีติ ยํ ยํ ผลทานสมตฺถํ โอสธํ, ตํ ตํ ผลทานํ โอกฺกมฺม อตฺตโน ¶ ผลํ อทตฺวา น นิวตฺตติ. วีถิโตติ คมนวีถิโต, ปิตฺตหโร ปิตฺตํ หรเตว, วาตหโร วาตํ หรเตว, เสมฺหหโร เสมฺหํ หรเตวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย อธิฏฺานปารมิมฺปิ ปูเรยฺยาสิ, ยํ อธิฏฺาสิ, ตสฺมึ อธิฏฺาเน นิจฺจโล ภเวยฺยาสิ, ยถา ปพฺพโต นาม สพฺพทิสาสุ วาเต ปหรนฺเตปิ น กมฺปติ น จลติ, อตฺตโน าเนเยว ติฏฺติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ อตฺตโน อธิฏฺาเน นิจฺจโล โหนฺโตว พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสีติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ อฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ตตฺถ ตฺวํ อจโล หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.
‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;
น กมฺปติ ภุสวาเตหิ, สกฏฺาเนว ติฏฺติ.
‘‘ตตฺเถว ตฺวมฺปิ อธิฏฺาเน, สพฺพทา อจโล ภว;
อธิฏฺานปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ เสโลติ สิลามโย. อจโลติ นิจฺจโล สุปฺปติฏฺิโตติ อจลตฺตาว สุฏฺุ ปติฏฺิโต. ‘‘ยถาปิ ปพฺพโต อจโล, นิขาโต สุปฺปติฏฺิโต’’ติปิ ปาโ. ภุสวาเตหีติ พลววาเตหิ. สกฏฺาเนวาติ อตฺตโน าเนเยว, ยถาิตฏฺาเนเยวาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต นวมํ เมตฺตาปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ ¶ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย เมตฺตาปารมึ ปูเรยฺยาสิ, หิเตสุปิ อหิเตสุปิ เอกจิตฺโตว ¶ ภเวยฺยาสิ. ยถาปิ อุทกํ นาม ปาปชนสฺสปิ กลฺยาณชนสฺสปิ สีตภาวํ เอกสทิสํ กตฺวา ผรติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺเตน เอกจิตฺโตว หุตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ นวมํ เมตฺตาปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสีติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, นวมํ เมตฺตาปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ นวมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
เมตฺตาย อสโม โหติ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.
‘‘ยถาปิ อุทกํ นาม, กลฺยาเณ ปาปเก ชเน;
สมํ ผรติ สีเตน, ปวาเหติ รโชมลํ.
‘‘ตเถว ตฺวํ หิตาหิเต, สมํ เมตฺตาย ภาวย;
เมตฺตาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ อสโม โหหีติ เมตฺตาภาวนาย อสทิโส โหหิ. ตตฺถ ‘‘ตฺวํ สมสโม โหหี’’ติปิ ปาโ, โส อุตฺตานตฺโถว. สมนฺติ ตุลฺยํ. ผรตีติ ผุสติ. ปวาเหตีติ วิโสเธติ. รโชติ อาคนฺตุกรชํ. มลนฺติ สรีเร อุฏฺิตํ เสทมลาทึ. ‘‘รชมล’’นฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. หิตาหิเตติ ¶ หิเต จ อหิเต จ, มิตฺเต จ อมิตฺเต จาติ อตฺโถ. เมตฺตาย ภาวยาติ เมตฺตํ ภาวย วฑฺเฒหิ. เสสเมตฺถาปิ อุตฺตานเมวาติ.
อถสฺส ‘‘น เอตฺตเกเหว พุทฺธการกธมฺเมหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อุตฺตริมฺปิ อุปธารยโต ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ ทิสฺวา เอตทโหสิ – ‘‘สุเมธปณฺฑิต, ตฺวํ อิโต ปฏฺาย อุเปกฺขาปารมึ ปริปูเรยฺยาสิ, สุเขปิ ทุกฺเขปิ มชฺฌตฺโตว ภเวยฺยาสิ. ยถาปิ ปถวี นาม สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ จ ปกฺขิปมาเน มชฺฌตฺตาว โหติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สุขทุกฺเขสุ มชฺฌตฺโตว โหนฺโต พุทฺโธ ภวิสฺสสี’’ติ ¶ ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘น ¶ เหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;
อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา.
‘‘วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ;
ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.
‘‘อิมํ ตฺวํ ทสมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;
ตุลาภูโต ทฬฺโห หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.
‘‘ยถาปิ ปถวี นาม, นิกฺขิตฺตํ อสุจึ สุจึ;
อุเปกฺขติ อุโภเปเต, โกปานุนยวชฺชิตา.
‘‘ตเถว ตฺวํ สุขทุกฺเข, ตุลาภูโต สทา ภว;
อุเปกฺขาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ตุลาภูโตติ มชฺฌตฺตภาเว ิโต ยถา ตุลาย ทณฺโฑ สมํ ตุลิโต สมํ ติฏฺติ, น นมติ น อุนฺนมติ, เอวเมว ตฺวมฺปิ สุขทุกฺเขสุ ตุลาสทิโส หุตฺวา สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ. โกปานุนยวชฺชิตาติ ปฏิฆานุโรธวชฺชิตา. ‘‘ทยาโกปวิวชฺชิตา’’ติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. เสสํ ขนฺติปารมิยํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ตโต สุเมธปณฺฑิโต อิเม ทส ปารมิธมฺเม วิจินิตฺวา ตโต ปรํ จินฺเตสิ – ‘‘อิมสฺมึ ¶ โลเก โพธิสตฺเตหิ ปริปูเรตพฺพา โพธิปาจนา พุทฺธตฺตกรา ธมฺมา เอตฺตกาเยว, น อิโต ภิยฺโย, อิมา ปน ปารมิโย อุทฺธํ อากาเสปิ นตฺถิ, น เหฏฺา ปถวิยมฺปิ, น ปุรตฺถิมาทีสุ ทิสาสุปิ อตฺถิ, มยฺหํเยว ปน หทยมํสนฺตเรเยว ปติฏฺิตา’’ติ. เอวํ ตาสํ อตฺตโน หทเย ปติฏฺิตภาวํ ทิสฺวา สพฺพาปิ ตา ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาย ปุนปฺปุนํ สมฺมสนฺโต อนุโลมปฏิโลมํ สมฺมสิ, ปริยนฺเต คเหตฺวา อาทิมฺหิ ปาเปสิ, อาทิมฺหิ คเหตฺวา ปริยนฺเต เปสิ, มชฺเฌ คเหตฺวา อุภโต โอสาเปสิ, อุภโต โกฏีสุ คเหตฺวา มชฺเฌ โอสาเปสิ. พาหิรภณฺฑปริจฺจาโค ปารมิโย นาม, องฺคปริจฺจาโค อุปปารมิโย นาม, ชีวิตปริจฺจาโค ปรมตฺถปารมิโย นามาติ ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตฺตึส ปารมิโย ยมกเตลํ วินิวฏฺเฏนฺโต วิย สมฺมสิ. ตสฺส ทส ปารมิโย สมฺมสนฺตสฺส ธมฺมเตเชน ¶ จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา วิปุลา อยํ มหาปถวี หตฺถินา อกฺกนฺตนฬกลาโป วิย อุปฺปีฬิยมานํ อุจฺฉุยนฺตํ วิย จ มหาวิรวํ วิรวมานา สงฺกมฺปิ สมฺปกมฺปิ สมฺปเวธิ. กุลาลจกฺกํ ¶ วิย เตลยนฺตจกฺกํ วิย จ ปริพฺภมิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘เอตฺตกาเยว เต โลเก, เย ธมฺมา โพธิปาจนา;
ตตุทฺธํ นตฺถิ อฺตฺร, ทฬฺหํ ตตฺถ ปติฏฺห.
‘‘อิเม ธมฺเม สมฺมสโต, สภาวสรสลกฺขเณ;
ธมฺมเตเชน วสุธา, ทสสหสฺสี ปกมฺปถ.
‘‘จลตี รวตี ปถวี, อุจฺฉุยนฺตํว ปีฬิตํ;
เตลยนฺเต ยถา จกฺกํ, เอวํ กมฺปติ เมทนี’’ติ.
ตตฺถ เอตฺตกาเยวาติ นิทฺทิฏฺานํ ทสนฺนํ ปารมิตานํ อนูนาธิกภาวสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตุทฺธนฺติ ตโต ทสปารมีหิ อุทฺธํ นตฺถิ. อฺตฺราติ อฺํ, ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต คเหตพฺพํ. ตโต ทสปารมิโต อฺโ พุทฺธการกธมฺโม นตฺถีติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตาสุ ทสสุ ปารมีสุ. ปติฏฺหาติ ปติฏฺ, ปริปูเรนฺโต ติฏฺาติ อตฺโถ.
อิเม ธมฺเมติ ปารมิธมฺเม. สมฺมสโตติ อุปปริกฺขนฺตสฺส, อนาทรตฺเถ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. สภาวสรสลกฺขเณติ สภาวสงฺขาเตน สรสลกฺขเณน สมฺมสนฺตสฺสาติ อตฺโถ. ธมฺมเตเชนาติ ปารมิปวิจยาณเตเชน. วสุธาติ วสูติ รตนํ วุจฺจติ, ตํ ธาเรติ ธียติ วา เอตฺถาติ วสุธา ¶ . กา สา? เมทนี. ปกมฺปถาติ ปกมฺปิตฺถ. สุเมธปณฺฑิเต ปน ปารมิโย วิจินนฺเต ตสฺส าณเตเชน ทสสหสฺสี ปกมฺปิตฺถาติ อตฺโถ.
จลตีติ ฉปฺปการา กมฺปิ. รวตีติ นทติ วิกูชติ. อุจฺฉุยนฺตํว ปีฬิตนฺติ นิปฺปีฬิตํ อุจฺฉุยนฺตํ วิย. ‘‘คุฬยนฺตํว ปีฬิต’’นฺติปิ ปาโ, โสเยวตฺโถ. เตลยนฺเตติ เตลปีฬนยนฺเต. ยถา จกฺกนฺติ จกฺกิกานํ มหาจกฺกยนฺตํ วิย. เอวนฺติ ยถา เตลปีฬนจกฺกยนฺตํ ปริพฺภมติ กมฺปติ, เอวํ อยํ เมทนี กมฺปตีติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
เอวํ ¶ มหาปถวิยา กมฺปมานาย รมฺมนครวาสิโน มนุสฺสา ภควนฺตํ ¶ ปริวิสยมานา สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา ยุคนฺธรวาตพฺภาหตา มหาสาลา วิย มุจฺฉิตา ปปตึสุ. ฆฏาทีนิ กุลาลภณฺฑานิ ปวฏฺเฏนฺตานิ อฺมฺํ ปหรนฺตานิ จุณฺณวิจุณฺณานิ อเหสุํ. มหาชโน ภีตตสิโต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘กึ นุ โข ภควา ‘นาคาวฏฺโฏ อยํ, ภูตยกฺขเทวตาสุ อฺตราวฏฺโฏ วา’ติ น หิ มยํ เอตํ ชานาม. อปิ จ โข สพฺโพปิ อยํ มหาชโน ภเยน อุปทฺทุโต, กึ นุ โข อิมสฺส โลกสฺส ปาปกํ ภวิสฺสติ, อุทาหุ กลฺยาณํ, กเถถ โน เอตํ การณ’’นฺติ ปุจฺฉึสุ.
อถ สตฺถา เตสํ กถํ สุตฺวา – ‘‘ตุมฺเห มา ภายิตฺถ, มา โข จินฺตยิตฺถ, นตฺถิ โว อิโตนิทานํ ภยํ, โย โส มยา อชฺช สุเมธปณฺฑิโต ‘อนาคเต โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’ติ พฺยากโต, โส อิทานิ ปารมิโย สมฺมสติ, ตสฺส สมฺมสนฺตสฺส ธมฺมเตเชน สกลทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกปฺปหาเรน กมฺปติ เจว วิรวติ จา’’ติ อาห. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยาวตา ปริสา อาสิ, พุทฺธสฺส ปริเวสเน;
ปเวธมานา สา ตตฺถ, มุจฺฉิตา เสติ ภูมิยํ.
‘‘ฆฏาเนกสหสฺสานิ, กุมฺภีนฺจ สตา พหู;
สฺจุณฺณมถิตา ตตฺถ, อฺมฺํ ปฆฏฺฏิตา.
‘‘อุพฺพิคฺคา ตสิตา ภีตา, ภนฺตา พฺยถิตมานสา;
มหาชนา สมาคมฺม, ทีปงฺกรมุปาคมุํ.
‘‘กึ ¶ ภวิสฺสติ โลกสฺส, กลฺยาณมถ ปาปกํ;
สพฺโพ อุปทฺทุโต โลโก, ตํ วิโนเทหิ จกฺขุม.
‘‘เตสํ ตทา สฺาเปสิ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;
วิสฺสตฺถา โหถ มา ภาถ, อิมสฺมึ ปถวิกมฺปเน.
‘‘ยมหํ อชฺช พฺยากาสึ, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ;
เอโส สมฺมสตี ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ.
‘‘ตสฺส ¶ สมฺมสโต ธมฺมํ, พุทฺธภูมึ อเสสโต;
เตนายํ กมฺปิตา ปถวี, ทสสหสฺสี สเทวเก’’ติ.
ตตฺถ ยาวตาติ ยาวติกา. อาสีติ ¶ อโหสิ. ‘‘ยา ตทา ปริสา อาสี’’ติปิ ปาโ, ตสฺส ยา ตตฺถ ปริสา ิตา อาสีติ อตฺโถ. ปเวธมานาติ กมฺปมานา. สาติ สา ปริสา. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปริเวสนฏฺาเน. เสตีติ สยิตฺถ.
ฆฏาติ ฆฏานํ, สามิอตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, ฆฏานํ เนกสหสฺสานีติ อตฺโถ. สฺจุณฺณมถิตาติ จุณฺณา เจว มถิตา จ, มถิตสฺจุณฺณาติ อตฺโถ. อฺมฺํ ปฆฏฺฏิตาติ อฺมฺํ ปหฏา. อุพฺพิคฺคาติ อุตฺราสหทยา. ตสิตาติ สฺชาตตาสา. ภีตาติ ภยภีตา. ภนฺตาติ ผนฺทนมานสา, วิพฺภนฺตจิตฺตาติ อตฺโถ. สพฺพานิ ปเนตานิ อฺมฺเววจนานิ. สมาคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. อยเมว วา ปาโ.
อุปทฺทุโตติ อุปหโต. ตํ วิโนเทหีติ ตํ อุปทฺทุตภยํ วิโนเทหิ, วินาสยาติ อตฺโถ. จกฺขุมาติ ปฺจหิ จกฺขูหิ จกฺขุม. เตสํ ตทาติ เต ชเน ตทา, อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. สฺาเปสีติ าเปสิ โพเธสิ. วิสตฺถาติ วิสฺสตฺถจิตฺตา. มา ภาถาติ มา ภายถ. ยมหนฺติ ยํ อหํ สุเมธปณฺฑิตํ. ธมฺมนฺติ ปารมิธมฺมํ. ปุพฺพกนฺติ โปราณํ. ชินเสวิตนฺติ ชิเนหิ โพธิสตฺตกาเล เสวิตนฺติ อตฺโถ. พุทฺธภูมินฺติ ปารมิธมฺมํ. เตนาติ เตน สมฺมสนการเณน. กมฺปิตาติ จลิตา. สเทวเกติ สเทวเก โลเก.
ตโต มหาชโน ตถาคตสฺส วจนํ สุตฺวา หฏฺตุฏฺโ มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ อาทาย รมฺมนครโต ¶ นิกฺขมิตฺวา โพธิสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา มาลาคนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา รมฺมนครเมว ปาวิสิ. อถ โข โพธิสตฺโต ทส ปารมิโย สมฺมสิตฺวา วีริยํ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาย นิสินฺนาสนา วุฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘พุทฺธสฺส ¶ วจนํ สุตฺวา, มโน นิพฺพายิ ตาวเท;
สพฺเพ มํ อุปสงฺกมฺม, ปุนาปิ มํ อภิวนฺทิสุํ.
‘‘สมาทิยิตฺวา ¶ พุทฺธคุณํ, ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ;
ทีปงฺกรํ นมสฺสิตฺวา, อาสนา วุฏฺหึ ตทา’’ติ.
ตตฺถ มโน นิพฺพายีติ มหาชนสฺส ปถวิกมฺปเน อุพฺพิคฺคหทยสฺส ตตฺถ การณํ สุตฺวา มโน นิพฺพายิ, สนฺตึ อคมาสีติ อตฺโถ. ‘‘ชโน นิพฺพายี’’ติปิ ปาโ, โส อุตฺตาโนเยว. สมาทิยิตฺวาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา, สมาทายาติ อตฺโถ. พุทฺธคุณนฺติ ปารมิโย. เสสํ อุตฺตานเมว.
อถ โข โพธิสตฺตํ ทยิตสพฺพสตฺตํ อาสนา วุฏฺหนฺตํ สกลทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปติตฺวา ทิพฺเพหิ มาลาคนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา – ‘‘อยฺย สุเมธตาปส, ตยา อชฺช ทีปงฺกรทสพลสฺส ปาทมูเล มหติ ปตฺถนา ปตฺถิตา, สา เต อนนฺตราเยน สมิชฺฌตุ, มา เต ตตฺถ ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา อโหสิ. สรีเร เต อปฺปมตฺตโกปิ โรโค มา อุปฺปชฺชตุ, ขิปฺปํ ปารมิโย ปูเรตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ ปฏิวิชฺฌ. ยถา ปุปฺผูปคผลูปคา รุกฺขา สมเย ปุปฺผนฺติ เจว ผลนฺติ จ, ตเถว ตฺวมฺปิ ตํ สมยํ อนติกฺกมิตฺวา ขิปฺปํ สมฺโพธึ ผุสสฺสู’’ติอาทีนิ ถุติมงฺคลานิ ปยิรุทาหํสุ, เอวํ ปยิรุทาหิตฺวา โพธิสตฺตํ อภิวาเทตฺวา อตฺตโน อตฺตโน เทวฏฺานเมว อคมํสุ. โพธิสตฺโตปิ เทวตาหิ อภิตฺถุโต – ‘‘อหํ ทส ปารมิโย ปูเรตฺวา กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติ วีริยํ ทฬฺหํ กตฺวา อธิฏฺาย อากาสมพฺภุคฺคนฺตฺวา อิสิคณวนฺตํ หิมวนฺตํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ทิพฺพํ มานุสกํ ปุปฺผํ, เทวา มานุสกา อุโภ;
สโมกิรนฺติ ปุปฺเผหิ, วุฏฺหนฺตสฺส อาสนา.
‘‘เวทยนฺติ ¶ จ เต โสตฺถึ, เทวา มานุสกา อุโภ;
มหนฺตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ตํ ลภสฺสุ ยถิจฺฉิตํ.
‘‘สพฺพีติโย วิวชฺชนฺตุ, โสโก โรโค วินสฺสตุ;
มา เต ภวนฺตฺวนฺตรายา, ผุส ขิปฺปํ โพธิมุตฺตมํ.
‘‘ยถาปิ สมเย ปตฺเต, ปุปฺผนฺติ ปุปฺผิโน ทุมา;
ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณหิ ปุปฺผสุ.
‘‘ยถา ¶ ¶ เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ปูรยุํ ทสปารมี;
ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปูรย ทสปารมี.
‘‘ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, โพธิมณฺฑมฺหิ พุชฺฌเร;
ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุชฺฌสฺสุ ชินโพธิยํ.
‘‘ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยุํ;
ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตย.
‘‘ปุณฺณมาเย ยถา จนฺโท, ปริสุทฺโธ วิโรจติ;
ตเถว ตฺวํ ปุณฺณมโน, วิโรจ ทสสหสฺสิยํ.
‘‘ราหุมุตฺโต ยถา สูริโย, ตาเปน อติโรจติ;
ตเถว โลกา มุจฺจิตฺวา, วิโรจ สิริยา ตุวํ.
‘‘ยถา ยา กาจิ นทิโย, โอสรนฺติ มโหทธึ;
เอวํ สเทวกา โลกา, โอสรนฺตุ ตวนฺติเก.
‘‘เตหิ ถุตปฺปสตฺโถ โส, ทส ธมฺเม สมาทิย;
เต ธมฺเม ปริปูเรนฺโต, ปวนํ ปาวิสี ตทา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทิพฺพนฺติ มนฺทารวปาริจฺฉตฺตกสนฺตานกุเสสยาทิกํ ทิพฺพกุสุมํ เทวา มานุสกา จ มานุสปุปฺผํ คเหตฺวาติ อตฺโถ. สโมกิรนฺตีติ มโมปริ สโมกิรึสูติ อตฺโถ. วุฏฺหนฺตสฺสาติ วุฏฺหโต. เวทยนฺตีติ นิเวทยึสุ สฺาเปสุํ. โสตฺถินฺติ โสตฺถิภาวํ. อิทานิ เวทยิตาการทสฺสนตฺถํ ‘‘มหนฺตํ ปตฺถิตํ ตุยฺห’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตยา ปน, สุเมธปณฺฑิต, มหนฺตํ านํ ปตฺถิตํ, ตํ ยถาปตฺถิตํ ลภสฺสูติ อตฺโถ.
สพฺพีติโยติ เอนฺตีติ อีติโย, สพฺพา อีติโย สพฺพีติโย, อุปทฺทวา. วิวชฺชนฺตูติ มา โหนฺตุ. โสโก โรโค วินสฺสตูติ โสจนสงฺขาโต โสโก รุชนสงฺขาโต โรโค จ วินสฺสตุ. เตติ ตว. มา ภวนฺตฺวนฺตรายาติ มา ภวนฺตุ อนฺตรายา. ผุสาติ อธิคจฺฉ ปาปุณาหิ. โพธินฺติ อรหตฺตมคฺคาณํ สพฺพฺุตฺาณมฺปิ วฏฺฏติ. อุตฺตมนฺติ เสฏฺํ สพฺพพุทฺธคุณทายกตฺตา อรหตฺตมคฺคาณํ ‘‘อุตฺตม’’นฺติ วุตฺตํ.
สมเยติ ¶ ตสฺส ตสฺส รุกฺขสฺส ปุปฺผนสมเย สมฺปตฺเตติ อตฺโถ. ปุปฺผิโนติ ¶ ปุปฺผนกา. พุทฺธาเณหีติ อฏฺารสหิ พุทฺธาเณหิ. ปุปฺผสูติ ปุปฺผสฺสุ. ปูรยุนฺติ ปูรยึสุ. ปูรยาติ ปริปูรย. พุชฺฌเรติ พุชฺฌึสุ. ชินโพธิยนฺติ ชินานํ พุทฺธานํ โพธิยา, สพฺพฺุโพธิมูเลติ อตฺโถ. ปุณฺณมาเยติ ปุณฺณมาสิยํ. ปุณฺณมโนติ ปริปุณฺณมโนรโถ.
ราหุมุตฺโตติ ราหุนา โสพฺภานุนา มุตฺโต. ตาเปนาติ ปตาเปน, อาโลเกน. โลกา มุจฺจิตฺวาติ โลกธมฺเมหิ อลิตฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. วิโรจาติ วิราช. สิริยาติ พุทฺธสิริยา. โอสรนฺตีติ มหาสมุทฺทํ ปวิสนฺติ. โอสรนฺตูติ อุปคจฺฉนฺตุ. ตวนฺติเกติ ตว สนฺติกํ. เตหีติ เทเวหิ. ถุตปฺปสตฺโถติ ถุโต เจว ปสตฺโถ จ, ถุเตหิ วา ทีปงฺกราทีหิ ปสตฺโถติ ถุตปฺปสตฺโถ. ทส ธมฺเมติ ทส ปารมิธมฺเม. ปวนนฺติ มหาวนํ, ธมฺมิกปพฺพเต มหาวนํ ปาวิสีติ อตฺโถ. เสสคาถา สุอุตฺตานา เอวาติ.
อิติ มธุรตฺถวิลาสินิยา พุทฺธวํส-อฏฺกถาย
สุเมธปตฺถนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.