📜

๒๐. ผุสฺสพุทฺธวํสวณฺณนา

ตสฺส ติสฺสสฺส ภควโต อปรภาเค อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา ปุน วฑฺฒิตฺวา อปริมิตายุกา หุตฺวา อนุปุพฺเพน หายิตฺวา นวุติวสฺสสหสฺสายุเกสุ ชาเตสุ ตสฺมึเยว กปฺเป ผุสฺโส นาม สตฺถา โลเก อุปฺปชฺชิ. โสปิ ภควา ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา กาสิกนคเร ชยเสนรฺโ อคฺคมเหสิยา สิริมาย นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน สิริมุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. โส นววสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. ตสฺส กิร ครุฬปกฺข-หํส-สุวณฺณภาราติ ตโย ปาสาทา อเหสุํ. กิสาโคตมิปฺปมุขานิ ตึส อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ.

โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา กิสาโคตมิยา อนุปเม นาม ปุตฺเต อุปฺปนฺเน อลงฺกตคชวรกฺขนฺธคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. ตํ ปพฺพชิตํ ชนโกฏิ อนุปพฺพชิ. โส เตหิ ปริวุโต ฉ มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา ตโต คณํ ปหาย สตฺตาหํ เอกจริยํ อนุพฺรูหยมาโน วสิตฺวา วิสาขปุณฺณมาย อฺตเร นคเร อฺตรสฺส เสฏฺิโน ธีตาย สิริวฑฺฒาย นาม ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา สึสปาวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย สิริวฑฺเฒน นาม อุปาสเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา อามลกโพธึ อุปสงฺกมิตฺวา สมารํ มารพลํ วิธมิตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิสมีเปเยว วีตินาเมตฺวา อตฺตนา สทฺธึ ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ โกฏีนํ ธมฺมปฏิเวธสมตฺถตํ ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา สงฺกสฺสนคเร อิสิปตเน มิคทาเย โอตริตฺวา เตสํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา โกฏิสตสหสฺสานํ ปโม อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ตตฺเถว มณฺฑกปฺปมฺหิ, อหุ สตฺถา อนุตฺตโร;

อนูปโม อสมสโม, ผุสฺโส โลกคฺคนายโก.

.

‘‘โสปิ สพฺพํ ตมํ หนฺตฺวา, วิชเฏตฺวา มหาชฏํ;

สเทวกํ ตปฺปยนฺโต, อภิวสฺสิ อมตมฺพุนา.

.

‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเต, ผุสฺเส นกฺขตฺตมงฺคเล;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ตตฺเถว มณฺฑกปฺปมฺหีติ ยสฺมึ กปฺเป ทฺเว พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, โส ‘‘มณฺฑกปฺโป’’ติ เหฏฺา วุตฺโต. วิชเฏตฺวาติ ปฏิวิสฺสชฺเชตฺวา. มหาชฏนฺติ เอตฺถ ชฏาติ ตณฺหาเยตํ อธิวจนํ. สา หิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนโต สุตฺตคุมฺพชาลปูวสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏาติ วุตฺตํ, ตํ มหาชฏํ. สเทวกนฺติ สเทวกํ โลกํ. อภิวสฺสีติ ปาวสฺสิ. อมตมฺพุนาติ อมตสงฺขาเตน ธมฺมกถาสลิเลน ตปฺปยนฺโต ปาวสฺสีติ อตฺโถ.

ยทา ปน พาราณสีนคเร สิริวฑฺโฒ นาม ราชา มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ ปหาย ตาปสปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. เตน สห ปพฺพชิตานํ ตาปสานํ นวุติสตสหสฺสานิ อเหสุํ. เตสํ ภควา ธมฺมํ เทเสสิ. ตทา นวุติยา สตสหสฺสานํ ทุติยาภิสมโย อโหสิ. ยทา ปน อตฺตโน ปุตฺตสฺส อนุปมกุมารสฺส ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา อสีติยา สตสหสฺสานํ ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘นวุติสตสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหุ;

อสีติสตสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ตโต อปเรน สมเยน กณฺณกุชฺชนคเร สุรกฺขิโต ราชปุตฺโต จ ปุโรหิตปุตฺโต ธมฺมเสนกุมาโร จ ผุสฺเส สมฺมาสมฺพุทฺเธ อตฺตโน นครํ สมฺปตฺเต สฏฺิยา ปุริสสตสหสฺเสหิ สทฺธึ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ มหาทานํ ทตฺวา ทสพลสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ภควติ ปสีทิตฺวา เต สปริวารา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เตสํ สฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺสานํ มชฺเฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ. ปุน กาสินคเร ชยเสนรฺโ สฏฺิมตฺตานํ าตีนํ สมาคเม พุทฺธวํสํ เทเสสิ, ตํ สุตฺวา ปฺาสสตสหสฺสานิ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เตสํ มชฺฌคโต ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. ปุน มหามงฺคลสมาคเม มงฺคลกถํ สุตฺวา จตฺตาลีสปุริสสตสหสฺสานิ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. เตสํ มชฺฌคโต สุคโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, ผุสฺสสฺสปิ มเหสิโน;

ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.

.

‘‘สฏฺิสตสหสฺสานํ , ปโม อาสิ สมาคโม;

ปฺาสสตสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.

.

‘‘จตฺตาลีสสตสหสฺสานํ, ตติโย อาสิ สมาคโม;

อนุปาทา วิมุตฺตานํ, โวจฺฉินฺนปฏิสนฺธิน’’นฺติ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต อรินฺทมนคเร วิชิตาวี นาม ขตฺติโย หุตฺวา ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ภควติ ปสีทิตฺวา ตสฺส มหาทานํ ทตฺวา มหารชฺชํ ปหาย ภควโต สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา เตปิฏกธโร มหาชนสฺส ธมฺมกถํ กเถสิ, สีลปารมิฺจ ปูเรสิ. โสปิ นํ ‘‘พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘อหํ เตน สมเยน, วิชิตาวี นาม ขตฺติโย;

ฉฑฺฑยิตฺวา มหารชฺชํ, ปพฺพชึ ตสฺส สนฺติเก.

.

‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, ผุสฺโส โลกคฺคนายโก;

ทฺเวนวุเต อิโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.

๑๐.

‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป… ทสปารมิปูริยา.

๑๒.

‘‘สุตฺตนฺตํ วินยฺจาปิ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ;

สพฺพํ ปริยาปุณิตฺวา, โสภยึ ชินสาสนํ.

๑๓.

‘‘ตตฺถปฺปมตฺโต วิหรนฺโต, พฺรหฺมํ ภาเวตฺว ภาวนํ;

อภิฺาปารมึ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกมคฺฉห’’นฺติ.

ตสฺส ปน ภควโต กาสิกํ นาม นครํ อโหสิ. ชยเสโน นาม ราชา ปิตา, สิริมา นาม มาตา, สุรกฺขิโต จ ธมฺมเสโน จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สภิโย นามุปฏฺาโก, จาลา จ อุปจาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, อามลกรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อฏฺปณฺณาสหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ , อายุ นวุติวสฺสสหสฺสานิ, กิสาโคตมี นาม อคฺคมเหสี, อนุปโม นามสฺส ปุตฺโต, หตฺถิยาเนน นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ –

๑๔.

‘‘กาสิกํ นาม นครํ, ชยเสโน นาม ขตฺติโย;

สิริมา นาม ชนิกา, ผุสฺสสฺสาปิ มเหสิโน…เป. …;

โพธิ ตสฺส ภควโต, อามณฺโฑติ ปวุจฺจติ…เป….

๒๒.

‘‘อฏฺปณฺณาสรตนํ, โสปิ อจฺจุคฺคโต มุนิ;

โสภเต สตรํสีว, อุฬุราชาว ปูริโต.

๒๓.

‘‘นวุติวสฺสสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

๒๔.

‘‘โอวทิตฺวา พหู สตฺเต, สนฺตาเรตฺวา พหู ชเน;

โสปิ สตฺถา อตุลยโส, นิพฺพุโต โส สสาวโก’’ติ.

ตตฺถ อามณฺโฑติ อามลกรุกฺโข. โอวทิตฺวาติ โอวาทํ ทตฺวา, อนุสาสิตฺวาติ อตฺโถ. โสปิ สตฺถา อตุลยโสติ โสปิ สตฺถา อมิตยโสติ อตฺโถ. ‘‘โส ชหิตฺวา อมิตยโส’’ติปิ ปาโ, ตสฺส โส สพฺพเมว วุตฺตปฺปการํ วิเสสํ หิตฺวาติ อตฺโถ.

ผุสฺโส กิร สมฺมาสมฺพุทฺโธ กุสินารายํ เสนาราเม ปรินิพฺพายิ. ธาตุโย กิรสฺส วิตฺถาริกา อเหสุํ. เสสคาถาสุ สพฺพตฺถ ปากฏเมวาติ.

ผุสฺสพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต อฏฺารสโม พุทฺธวํโส.