📜

๒๑. วิปสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา

ผุสฺสสฺส พุทฺธสฺส อปรภาเค สานฺตรกปฺเป ตสฺมิฺจ กปฺเป วีติวตฺเต อิโต เอกนวุติกปฺเป วิชิตสพฺพกปฺโป ปรหิตนิรตสงฺกปฺโป สพฺพตฺถ วิปสฺสี วิปสฺสี นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิ. โส ปารมิโย ปูเรตฺวา อเนกรตนมณิวิสรสมุชฺโชติตภวเน ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา พนฺธุมตีนคเร อเนกพนฺธุมโต พนฺธุมโต รฺโ พนฺธุมติยา นาม อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. โส ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน เขเม มิคทาเย มาตุทรโต อสิตนีรทราชิโต ปุณฺณจนฺโท วิย นิกฺขมิ. นามคฺคหณทิวเส ปนสฺส ลกฺขณปากา าตกา จ ทิวา จ รตฺติฺจ อนฺตรนฺตรา นิมฺมิสสฺชนิตนฺธการวิรเหน วิสุทฺธํ ปสฺสนฺติ, วิวเฏหิ วา อกฺขีหิ ปสฺสตีติ ‘‘วิปสฺสี’’ติ นามมกํสุ. ‘‘วิเจยฺย วิเจยฺย ปสฺสตีติ วิปสฺสี’’ติ วทนฺติ. โส อฏฺวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. นนฺท-สุนนฺท-สิริมานามกา ตโย จสฺส ปาสาทา อเหสุํ.

สุทสฺสนาเทวิปฺปมุขานํ อิตฺถีนํ สตสหสฺสํ วีสติ จ สหสฺสานิ อเหสุํ. ‘‘สุตนู’’ติปิ สุทสฺสนา วุจฺจติ. โส อฏฺวสฺสสหสฺสานํ อจฺจเยน จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา สุตนุเทวิยา สมวฏฺฏกฺขนฺเธ นาม ตนเย ชาเต อาชฺรเถน มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. ตํ ปุริสานํ จตุราสีติสตสหสฺสานิ อนุปพฺพชึสุ. โส เตหิ ปริวุโต มหาปุริโส อฏฺมาสํ ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย สุทสฺสนเสฏฺิธีตาย ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา กุสุมสมลงฺกเต สาลวเน ทิวาวิหารํ กตฺวา สุชาเตน นาม ยวปาลเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา ปาฏลิโพธึ สมลงฺกตํ ทิสฺวา ทกฺขิณทิสาภาเคน ตํ อุปาคมิ.

ตสฺสา ปน ปาฏลิยา สมวฏฺฏกฺขนฺโธ ตํ ทิวสํ ปณฺณาสรตโน หุตฺวา อพฺภุคฺคโต สาขา ปณฺณาสรตนา อุพฺเพเธน รตนสตํ อโหสิ. ตํทิวสเมว สา ปาฏลี กณฺณิกาพทฺเธหิ วิย ปุปฺเผหิ ปรมสุรภิคนฺเธหิ มูลโต ปฏฺาย สพฺพสฺฉนฺนา อโหสิ. ทิพฺพคนฺโธ วายติ, น เกวลํ ตทา อยเมว ปุปฺผิโต, ทสสหสฺสิ จกฺกวาเฬสุ สพฺเพ ปาฏลิโย ปุปฺผิตาว. น เกวลํ ปาฏลิโยว, ทสสหสฺสิจกฺกวาเฬสุ สพฺพรุกฺขคุมฺพลตาโยปิ ปุปฺผึสุ. มหาสมุทฺโทปิ ปฺจวณฺเณหิ ปทุเมหิ กุวลยุปฺปลกุมุเทหิ สฺฉนฺโน สีตลมธุรสลิโล อโหสิ. สพฺพมฺปิ จ ทสสหสฺสิ จกฺกวาฬพฺภนฺตรํ ธชมาลากุลํ อโหสิ. ตตฺถ ตตฺถ ปฏิมาลาคุลวิปฺปกิณฺณํ นานาสุรภิกุสุมสชฺชิตธรณีตลํ ธูปจุณฺณนฺธการํ อโหสิ. ตํ อุปคนฺตฺวา เตปณฺณาสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา จตุรงฺคสมนฺนาคตํ วีริยํ อธิฏฺาย – ‘‘ยาว พุทฺโธ น โหมิ, ตาว อิโต น อุฏฺหามี’’ติ ปฏิฺํ กตฺวา นิสีทิ. เอวํ นิสีทิตฺวา สมารํ มารพลํ วิธมิตฺวา มคฺคานุกฺกเมน จตฺตาริ มคฺคาณานิ มคฺคานนฺตรํ จตฺตาริ ผลาณานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ จตุเวสารชฺชาณานิ ฉ อสาธารณาณานิ จ สกเล จ พุทฺธคุเณ หตฺถคเต กตฺวา ปริปุณฺณสงฺกปฺโป โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโนว –

‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔);

‘‘อโยฆนหตสฺเสว, ชลโต ชาตเวทโส;

อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.

‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;

ปฺาเปตุํ คตี นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุข’’นฺติ. (อุทา. ๘๐) –

เอวํ อุทานํ อุทาเนตฺวา โพธิสมีเปเยว สตฺตสตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา พฺรหฺมายาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน เวมาติกสฺส ภาติกสฺส ขณฺฑกุมารสฺส จ ปุโรหิตปุตฺตสฺส ติสฺสกุมารสฺส จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา เขเม มิคทาเย โอตริตฺวา อุโภปิ เต อุยฺยานปาเลน ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ ปริวารานํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา อปริมิตานํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ผุสฺสสฺส จ อปเรน, สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทุตฺตโม;

วิปสฺสี นาม นาเมน, โลเก อุปฺปชฺชิ จกฺขุมา.

.

‘‘อวิชฺชํ สพฺพํ ปทาเลตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ;

ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุํ, ปกฺกามิ พนฺธุมตีปุรํ.

.

‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา, อุโภ โพเธสิ นายโก;

คณนาย น วตฺตพฺโพ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ปทาเลตฺวาติ ภินฺทิตฺวา, อวิชฺชนฺธการํ ภินฺทิตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘วตฺเตตฺวา จกฺกมาราเม’’ติปิ ปาโ, ตสฺส อาราเมติ เขเม มิคทาเยติ อตฺโถ. อุโภ โพเธสีติ อตฺตโน กนิฏฺภาติกํ ขณฺฑํ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตนฺติ อุโภ โพเธสิ. คณนาย น วตฺตพฺโพติ เทวตานํ อภิสมยวเสน คณนปริจฺเฉโท นตฺถีติ อตฺโถ.

อถาปเรน สมเยน ขณฺฑํ ราชปุตฺตํ ติสฺสฺจ ปุโรหิตปุตฺตํ อนุปพฺพชิตานิ จตุราสีติภิกฺขุสหสฺสานิ ธมฺมามตํ ปาเยสิ. โส ทุติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ปุนาปรํ อมิตยโส, ตตฺถ สจฺจํ ปกาสยิ;

จตุราสีติสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ตตฺถาติ เขเม มิคทาเยติ อตฺโถ. ‘‘จตุราสีติสหสฺสานิ, สมฺพุทฺธมนุปพฺพชุ’’นฺติ เอตฺถ เอเต ปน จตุราสีติสหสฺสสงฺขาตา ปุริสา วิปสฺสิสฺส กุมารสฺส อุปฏฺากปุริสาเยว. เต ปาโตว วิปสฺสิกุมารสฺส อุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา กุมารมทิสฺวา ปาตราสตฺถาย คนฺตฺวา ภุตฺตปาตราสา ‘‘กุหึ กุมาโร’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตโต ‘‘อุยฺยานภูมึ คโต’’ติ สุตฺวา ‘‘ตตฺเถว นํ ทกฺขิสฺสามา’’ติ นิกฺขนฺตา นิวตฺตมานํ ตสฺส สารถึ ทิสฺวา ‘‘กุมาโร ปพฺพชิโต’’ติ สุตฺวา สุตฏฺาเนเยว สพฺพาภรณานิ มุฺจิตฺวา อนฺตราปณโต กาสายานิ วตฺถานิ อาหราเปตฺวา เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา ปพฺพชึสุ. ปพฺพชิตฺวา จ เต คนฺตฺวา มหาปุริสํ ปริวารยึสุ.

ตโต วิปสฺสี โพธิสตฺโต ‘‘ปธานจริยํ จรนฺโต อากิณฺโณ วิหรามิ, น โข ปนเมตํ ปาติรูปํ ยเถว มํ อิเม คิหิภูตา ปุพฺเพ ปริวาเรตฺวา จรนฺติ, อิทานิปิ ตเถว กึ อิมินา คเณนา’’ติ คณสงฺคณิกาย อุกฺกณฺิตฺวา ‘‘อชฺเชว คจฺฉามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน – ‘‘อชฺช อเวลา, สเจ ปนาหํ อชฺช คมิสฺสามิ, สพฺเพปิเม ชานิสฺสนฺติ, สฺเวว คมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตํทิวสฺจ อุรุเวลคามสทิเส เอกสฺมึ คาเม คามวาสิโน มนุสฺสา สฺวาตนาย สทฺธึ ปริสาย มหาปุริสํ นิมนฺตยึสุ. เต เตสํ จตุราสีติสหสฺสานํ มหาปุริสสฺส จ ปายาสเมว ปฏิยาทยึสุ. อถ วิปสฺสี มหาปุริโส ปุนทิวเส วิสาขปุณฺณมาย ตสฺมึ คาเม เตหิ ปพฺพชิตชเนหิ สทฺธึ ภตฺตกิจฺจํ กตฺวา วสนฏฺานเมว อคมาสิ. ตตฺร เต ปพฺพชิตา มหาปุริสสฺส วตฺตํ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน อตฺตโน รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ ปวิสึสุ.

โพธิสตฺโตปิ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน จินฺเตสิ – ‘‘อยํ กาโล นิกฺขมิตุ’’นฺติ นิกฺขมิตฺวา ปณฺณสาลทฺวารํ ปิทหิตฺวา โพธิมณฺฑาภิมุโข ปายาสิ. เต กิร ปพฺพชิตา สายํ โพธิสตฺตสฺส อุปฏฺานํ คนฺตฺวา ปณฺณสาลํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา – ‘‘อติวิกาโล ชาโต อุปธาเรถา’’ติ วตฺวา ปณฺณสาลทฺวารํ วิวริตฺวา ตํ อปสฺสนฺตาปิ ‘‘กุหึ นุ คโต มหาปุริโส’’ติ นานุพนฺธึสุ. ‘‘คณวาเส นิพฺพินฺโน เอโก วิหริตุกาโม มฺเ มหาปุริโส พุทฺธภูตํเยว ตํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ อนฺโตชมฺพุทีปาภิมุขา จาริกํ ปกฺกมึสุ. อถ เต – ‘‘วิปสฺสินา กิร พุทฺธตฺตํ ปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติต’’นฺติ สุตฺวา อนุกฺกเมน สพฺเพ เต ปพฺพชิตา พนฺธุมติยา ราชธานิยา เขเม มิคทาเย สนฺนิปตึสุ. ตโต เตสํ ภควา ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา จตุราสีติยา ภิกฺขุสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. โส ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘จตุราสีติสหสฺสานิ, สมฺพุทฺธํ อนุปพฺพชุํ;

เตสมารามปตฺตานํ, ธมฺมํ เทเสสิ จกฺขุมา.

.

‘‘สพฺพากาเรน ภาสโต, สุตฺวา อุปนิสาทิโน;

เตปิ ธมฺมวรํ คนฺตฺวา, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ จตุราสีติสหสฺสานิ, สมฺพุทฺธํ อนุปพฺพชุนฺติ เอตฺถ อนุนา โยคโต สมฺพุทฺธนฺติ อุปโยควจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, สมฺพุทฺธสฺส ปจฺฉา ปพฺพชึสูติ อตฺโถ. ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต คเหตพฺพํ. ‘‘ตตฺถ อารามปตฺตาน’’นฺติปิ ปาโ. ภาสโตติ วทโต. อุปนิสาทิโนติ คนฺตฺวา อุปนิสฺสาย ธมฺมทานํ ททโตติ อตฺโถ. เตปีติ เต จตุราสีติสหสฺสสงฺขาตา ปพฺพชิตา วิปสฺสิสฺส อุปฏฺากภูตา. คนฺตฺวาติ ตสฺส ธมฺมํ ตฺวา. เอวํ เตสํ ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เขเม มิคทาเย วิปสฺสีสมฺมาสมฺพุทฺธํ ทฺเว จ อคฺคสาวเก อนุปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ อฏฺสฏฺิสตสหสฺสานํ มชฺเฌ นิสินฺโน วิปสฺสี ภควา –

‘‘ขนฺตีปรมํ ตโป ติติกฺขา, นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา;

น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี, น สมโณ โหติ ปรํ วิเหยนฺโต.

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสนํ.

‘‘อนูปวาโท อนูปฆาโต, ปาติโมกฺเข จ สํวโร;

มตฺตฺุตา จ ภตฺตสฺมึ, ปนฺตฺจ สยนาสนํ;

อธิจิตฺเต จ อาโยโค, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓, ๑๘๔, ๑๘๕) –

อิมํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ. อิมา ปน สพฺพพุทฺธานํ ปาติโมกฺขุทฺเทสคาถาโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ. ปุน ยมกปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ สตสหสฺสานํ ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. ยทา ปน วิปสฺสิสฺส เวมาติกา ตโย ภาตโร ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา ภควโต อุปฏฺานกิริยาย ลทฺธวรา หุตฺวา อตฺตโน นครํ เนตฺวา อุปฏฺหนฺตา ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ปพฺพชึสุ. เตสํ อสีติสตสหสฺสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ภควา เขเม มิคทาเย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน;

ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.

.

‘‘อฏฺสฏฺิสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม;

ภิกฺขุสตสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.

.

‘‘อสีติภิกฺขุสหสฺสานํ, ตติโย อาสิ สมาคโม;

ตตฺถ ภิกฺขุคณมชฺเฌ, สมฺพุทฺโธ อติโรจตี’’ติ.

ตตฺถ อฏฺสฏฺิสตสหสฺสานนฺติ อฏฺสฏฺิสหสฺสาธิกานํ สตสหสฺสภิกฺขูนนฺติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตตฺถ เขเม มิคทาเย. ภิกฺขุคณมชฺเฌติ ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌ. ‘‘ตสฺส ภิกฺขุคณมชฺเฌ’’ติปิ ปาโ, ตสฺส ภิกฺขุคณสฺส มชฺเฌติ อตฺโถ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต มหิทฺธิโก มหานุภาโว อตุโล นาม นาคราชา หุตฺวา อเนกนาคโกฏิสตสหสฺสปริวาโร หุตฺวา สปริวารสฺส ทสพลสฺส อสมพลสีลสฺส กรุณาสีตลหทยสฺส สกฺการกรณตฺถํ สตฺตรตนมยํ จนฺทมณฺฑลสงฺกาสํ ทฏฺพฺพสารมณฺฑํ มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ นิสีทาเปตฺวา สตฺตาหํ ทิพฺพวิภวานุรูปํ มหาทานํ ทตฺวา สตฺตรตนขจิตํ มหารหํ สุวณฺณมยํ นานามณิชุติวิสรสมุชฺชลํ ปีํ ภควโต อทาสิ. ตทา นํ ปีานุโมทนาวสาเน ‘‘อิโต อยํ เอกนวุติกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –

๑๐.

‘‘อหํ เตน สมเยน, นาคราชา มหิทฺธิโก;

อตุโล นาม นาเมน, ปุฺวนฺโต ชุตินฺธโร.

๑๑.

‘‘เนกานํ นาคโกฏีนํ, ปริวาเรตฺวานหํ ตทา;

วชฺชนฺโต ทิพฺพตุริเยหิ, โลกเชฏฺํ อุปาคมึ.

๑๒.

‘‘อุปสงฺกมิตฺวา สมฺพุทฺธํ, วิปสฺสึ โลกนายกํ;

มณิมุตฺตรตนขจิตํ, สพฺพาภรณภูสิตํ;

นิมนฺเตตฺวา ธมฺมราชสฺส, สุวณฺณปีมทาสหํ.

๑๓.

‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, สงฺฆมชฺเฌ นิสีทิย;

เอกนวุติโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.

๑๔.

‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา, นิกฺขมิตฺวา ตถาคโต;

ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ.

๑๕.

‘‘อชปาลรุกฺขมูลสฺมึ, นิสีทิตฺวา ตถาคโต;

ตตฺถ ปายาสํ ปคฺคยฺห, เนรฺชรมุเปหิติ.

๑๖.

‘‘เนรฺชราย ตีรมฺหิ, ปายาสํ อท โส ชิโน;

ปฏิยตฺตวรมคฺเคน, โพธิมูลมุเปหิติ.

๑๗.

‘‘ตโต ปทกฺขิณํ กตฺวา, โพธิมณฺฑํ อนุตฺตโร;

อสฺสตฺถมูเล สมฺโพธึ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.

๑๘.

‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;

ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.

๑๙.

‘‘อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;

อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติมํ ชินํ.

๒๐.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;

อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ…เป….

๒๓.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;

อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา’’ติ.

ตตฺถ ปุฺวนฺโตติ ปุฺวา, สมุปจิตปุฺสฺจโยติ อตฺโถ. ชุตินฺธโรติ ปภายุตฺโต. เนกานํ นาคโกฏีนนฺติ อเนกาหิ นาคโกฏีหิ, กรณตฺเถ สามิวจนํ ทฏฺพฺพํ. ปริวาเรตฺวานาติ ภควนฺตํ ปริวาเรตฺวา. อหนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. วชฺชนฺโตติ วาเทนฺโต ตาเฬนฺโต. มณิมุตฺตรตนขจิตนฺติ มณิมุตฺตาทีหิ วิวิเธหิ รตเนหิ ขจิตนฺติ อตฺโถ. สพฺพาภรณภูสิตนฺติ สพฺพาภรเณหิ วาฬรูปาทีหิ รตนมเยหิ มณฺฑิตนฺติ อตฺโถ. สุวณฺณปีนฺติ สุวณฺณมยํ ปีํ. อทาสหนฺติ อทาสึ อหํ.

ตสฺส ปน วิปสฺสิสฺส ภควโต พนฺธุมตี นาม นครํ อโหสิ. พนฺธุมา นาม ราชา ปิตา, พนฺธุมตี นาม มาตา, ขณฺโฑ จ ติสฺโส จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อโสโก นามุปฏฺาโก, จนฺทา จ จนฺทมิตฺตา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปาฏลิรุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, สรีรปฺปภา สพฺพกาลํ สตฺต โยชนานิ ผริตฺวา อฏฺาสิ อสีติวสฺสสหสฺสานิ อายุ, สุตนุ นามสฺส อคฺคมเหสี, สมวฏฺฏกฺขนฺโธ นามสฺส ปุตฺโต, อาชฺรเถน นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ –

๒๔.

‘‘นครํ พนฺธุมตี นาม, พนฺธุมา นาม ขตฺติโย;

มาตา พนฺธุมตี นาม, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน.

๒๙.

‘‘ขณฺโฑ จ ติสฺสนาโม จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

อโสโก นามุปฏฺาโก, วิปสฺสิสฺส มเหสิโน.

๓๐.

‘‘จนฺทา จ จนฺทมิตฺตา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, ปาฏลีติ ปวุจฺจติ.

๓๒.

‘‘อสีติหตฺถมุพฺเพโธ, วิปสฺสี โลกนายโก;

ปภา นิทฺธาวตี ตสฺส, สมนฺตา สตฺตโยชเน.

๓๓.

‘‘อสีติวสฺสสหสฺสานิ, อายุ พุทฺธสฺส ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

๓๔.

‘‘พหุเทวมนุสฺสานํ, พนฺธนา ปริโมจยิ;

มคฺคามคฺคฺจ อาจิกฺขิ, อวเสสปุถุชฺชเน.

๓๕.

‘‘อาโลกํ ทสฺสยิตฺวาน, เทเสตฺวา อมตํ ปทํ;

ชลิตฺวา อคฺคิกฺขนฺโธว, นิพฺพุโต โส สสาวโก.

๓๖.

‘‘อิทฺธิวรํ ปุฺวรํ, ลกฺขณฺจ กุสุมิตํ;

สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขารา’’ติ.

ตตฺถ พนฺธนาติ เทวมนุสฺเส กามราคสํโยชนาทิพนฺธนา โมเจสิ, วิกาเสสีติ อตฺโถ. มคฺคามคฺคฺจ อาจิกฺขีติ ‘‘อมตาธิคมาย อยํ มคฺโค อุจฺเฉทสสฺสตทิฏฺิวิรหิตา มชฺฌิมา ปฏิปทา มคฺโค กายกิลมถาทิโก นายํ มคฺโค’’ติ เสสปุถุชฺชเน อาจิกฺขีติ อตฺโถ. อาโลกํ ทสฺสยิตฺวานาติ มคฺคาณาโลกํ วิปสฺสนาาณาโลกฺจ ทสฺสยิตฺวา. ลกฺขณฺจ กุสุมิตนฺติ จิตฺตลกฺขณาทีหิ ผุลฺลิตํ มณฺฑิตํ ภควโต สรีรนฺติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ คาถาสุ อุตฺตานเมวาติ.

วิปสฺสีพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต เอกูนวีสติโม พุทฺธวํโส.