📜
๒๒. สิขีพุทฺธวํสวณฺณนา
วิปสฺสิสฺส ¶ ¶ ¶ อปรภาเค อนฺตรหิเต จ ตสฺมึ กปฺเป ตโต ปรํ เอกูนสฏฺิยา กปฺเปสุ พุทฺธา โลเก น อุปฺปชฺชึสุ. อปคตพุทฺธาโลโก อโหสิ. กิเลสเทวปุตฺตมารานํ เอกรชฺชํ อปคตกณฺฏกํ อโหสิ. อิโต ปน เอกตฺตึสกปฺเป สินิทฺธสุกฺขสารทารุปจิโต ปหูตสปฺปิสิตฺโต นิธูโม สิขี วิย สิขี จ เวสฺสภู จาติ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา โลเก อุปฺปชฺชึสุ. ตตฺถ สิขี ปน ภควา ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา กุสลกรณวตี อรุณวตีนคเร ปรมคุณวโต อรุณวโต นาม รฺโ อคฺคมเหสิยา รตฺตกนกปฏิพิมฺพรุจิรปฺปภาย ปภาวติยา นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ทส มาเส วีตินาเมตฺวา นิสภุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. เนมิตฺติกา ปนสฺส นามํ กโรนฺตา อุณฺหีสสฺส สิขา วิย อุคฺคตตฺตา ‘‘สิขี’’ติ นามมกํสุ. โส สตฺตวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. สุจนฺทกสิรีคิริยสนาริวสภ นามกา ตโย ปาสาทา อเหสุํ. สพฺพกามาเทวิปฺปมุขานิ จตุวีสติ อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ.
โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา สพฺพกามาเทวิยา คุณคณาตุเล อตุเล นาม ปุตฺเต อุปฺปนฺเน หตฺถิยาเนน หตฺถิกฺขนฺธวรคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิ. ตํ สตฺตติปุริสสตสหสฺสานิ อนุปพฺพชึสุ. โส เตหิ ปริวุโต อฏฺมาสํ ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย คณสงฺคณิกํ ปหาย สุทสฺสนนิคเม ปิยทสฺสีเสฏฺิโน ธีตุยา ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา ตรุณขทิรวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา อโนมทสฺสินา นาม ตาปเสน ทินฺนา อฏฺ กุสติณมุฏฺิโย คเหตฺวา ปุณฺฑรีกโพธึ อุปสงฺกมิ. ตสฺสา กิร ปุณฺฑรีกโพธิยาปิ ปาฏลิยา ปมาณเมว ปมาณํ อโหสิ. ตํทิวสเมว โส ปณฺณาสรตนกฺขนฺโธ หุตฺวา อพฺภุคฺคโต, สาขาปิสฺส ปณฺณาสรตนมตฺตาว. โส ทิพฺเพหิ คนฺเธหิ ปุปฺเผหิ สฺฉนฺโน อโหสิ. น เกวลํ ปุปฺเผเหว, ผเลหิปิ สฺฉนฺโน อโหสิ. ตสฺส เอกปสฺสโต ตรุณานิ ผลานิ เอกโต มชฺฌิมานิ เอกโต นาติปกฺกานิ เอกโต ปกฺขิตฺตทิพฺโพชานิ วิย สุรสานิ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนานิ ตโต ตโต โอลมฺพนฺติ. ยถา จ โส ¶ , เอวํ ทสสหสฺสิจกฺกวาเฬสุ ปุปฺผูปคา รุกฺขา ปุปฺเผหิ ผลูปคา รุกฺขา ผเลหิ ปฏิมณฺฑิตา อเหสุํ.
โส ¶ ตตฺถ จตุวีสติหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย นิสีทิ. เอวํ นิสีทิตฺวา ฉตฺตึส โยชนวิตฺถตํ สมารํ มารพลํ วิธมิตฺวา สมฺโพธึ ปาปุณิตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา โพธิสมีเปเยว สตฺตสตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา พฺรหฺมายาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตนา สห ปพฺพชิตานํ สตฺตติยา ภิกฺขุสตสหสฺสานํ อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ทิสฺวา สุรปเถน คนฺตฺวา วิวิธาวรณวติยา อรุณวติยา ราชธานิยา สมีเป มิคาชินุยฺยาเน โอตริตฺวา เตหิ มุนิคเณหิ ปริวุโต เตสํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา โกฏิสตสหสฺสานํ ปโม อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘วิปสฺสิสฺส ¶ อปเรน, สมฺพุทฺโธ ทฺวิปทุตฺตโม;
สิขิวฺหโย อาสิ ชิโน, อสโม อปฺปฏิปุคฺคโล.
‘‘มารเสนํ ปมทฺทิตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ;
ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ, อนุกมฺปาย ปาณินํ.
‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเต, สิขิมฺหิ ชินปุงฺคเว;
โกฏิสตสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.
ปุนปิ อรุณวติยา ราชธานิยา สมีเปเยว อภิภูราชปุตฺตสฺส จ สมฺภวราชปุตฺตสฺส จาติ ทฺวินฺนํ สปริวารานํ ธมฺมํ เทเสตฺวา นวุติโกฏิสหสฺสานิ ธมฺมามตํ ปาเยสิ. โส ทุติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อปรมฺปิ ธมฺมํ เทเสนฺเต, คณเสฏฺเ นรุตฺตเม;
นวุตฺติโกฏิสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติ.
ยทา ปน สูริยวตีนครทฺวาเร จมฺปกรุกฺขมูเล ติตฺถิยมทมานภฺชนตฺถํ สพฺพชนพนฺธนโมกฺขตฺถฺจ ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺโต ภควา ธมฺมํ เทเสสิ ¶ , ตทา อสีติโกฏิสหสฺสานํ ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยมกปาฏิหาริยฺจ ¶ , ทสฺสยนฺเต สเทวเก;
อสีติโกฏิสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.
อภิภุนา จ สมฺภเวน จ ราชปุตฺเตน สทฺธึ ปพฺพชิตานํ อรหนฺตานํ สตสหสฺสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ, อรุณวตีนคเร าติสมาคเม ปพฺพชิตานํ อสีติยา ภิกฺขุสหสฺสานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. ธนฺชยนคเร ธนปาลกนาควินยนสมเย ปพฺพชิตานํ สตฺตติยา ภิกฺขุสหสฺสานํ มชฺเฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, สิขิสฺสาปิ มเหสิโน;
ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.
‘‘ภิกฺขุสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม;
อสีติภิกฺขุสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.
‘‘สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานํ ¶ , ตติโย อาสิ สมาคโม;
อนุปลิตฺโต ปทุมํว, โตยมฺหิ สมฺปวฑฺฒิต’’นฺติ.
ตตฺถ อนุปลิตฺโต ปทุมํวาติ โตเย ชาตํ โตเยว วฑฺฒิตํ ปทุมํ วิย โตเยน อนุปลิตฺตํ, โสปิ ภิกฺขุสนฺนิปาโต โลเก ชาโตปิ โลกธมฺเมหิ อนุปลิตฺโต อโหสีติ อตฺโถ.
ตทา กิร อมฺหากํ โพธิสตฺโต กตฺถจิ อสํสฏฺโ ปริภุตฺตนคเร อรินฺทโม นาม ราชา หุตฺวา สิขิมฺหิ สตฺถริ ปริภุตฺตนครมนุปฺปตฺเต สปริวาโร ราชา ภควโต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปสาทวฑฺฒิตหทยนยนโสโต ทสพลสฺส อมลจรณกมลยุคเฬสุ สปริวาโร สิรสา อภิวนฺทิตฺวา ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ อิสฺสริยกุลวิภวสทฺธานุรูปํ มหาทานํ ทตฺวา ทุสฺสภณฺฑาคารทฺวารานิ วิวราเปตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ¶ มหคฺฆานิ วตฺถานิ อทาสิ. อตฺตโน จ พลรูปลกฺขณชวสมฺปนฺนเหมชาลมาลาสมลงฺกตํ นวกนกรุจิรทณฺฑโกสจามรยุควิราชิตํ วิปุลมุทุกณฺณํ จนฺทราชิวิราชิตวทนโสภํ เอราวณวารณมิว อริวารณํ วรวารณํ ทตฺวา วารณปฺปมาณเมว ¶ กตฺวา กปฺปิยภณฺฑฺจ อทาสิ. โสปิ นํ สตฺถา – ‘‘อิโต เอกตฺตึสกปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากาสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อหํ เตน สมเยน, อรินฺทโม นาม ขตฺติโย;
สมฺพุทฺธปฺปมุขํ สงฺฆํ, อนฺนปาเนน ตปฺปยึ.
‘‘พหุํ ทุสฺสวรํ ทตฺวา, ทุสฺสโกฏึ อนปฺปกํ;
อลงฺกตํ หตฺถิยานํ, สมฺพุทฺธสฺส อทาสหํ.
‘‘หตฺถิยานํ นิมฺมินิตฺวา, กปฺปิยํ อุปนามยึ;
ปูรยึ มานสํ มยฺหํ, นิจฺจํ ทฬฺหมุปฏฺิตํ.
‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, สิขี โลกคฺคนายโก;
เอกตฺตึเส อิโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา…เป… เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;
อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา’’ติ.
ตตฺถ นิมฺมินิตฺวาติ ตสฺส หตฺถิโน ปมาเณน ตุลยิตฺวา. กปฺปิยนฺติ กปฺปิยภณฺฑํ, ภิกฺขูนํ ยํ ภณฺฑํ กปฺปติ คเหตุํ, ตํ กปฺปิยภณฺฑํ นาม. ปูรยึ มานสํ มยฺหนฺติ มม จิตฺตํ ทานปีติยา ปูรยึ, มยฺหํ หาสุปฺปาทนสมตฺถํ อกาสินฺติ อตฺโถ. นิจฺจํ ทฬฺหมุปฏฺิตนฺติ นิจฺจกาลํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ ทานวเสน ทฬฺหํ อุปฏฺิตํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ.
ตสฺส ปน ภควโต นครํ อรุณวตี นาม อโหสิ. อรุณวา นาม ราชา ปิตา, ปภาวตี นาม มาตา, อภิภู จ สมฺภโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, เขมงฺกโร นามุปฏฺาโก, สขิลา จ มทุมา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, ปุณฺฑรีกรุกฺโข โพธิ, สรีรฺจสฺส สตฺตติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ ¶ . สรีรปฺปภา นิจฺจกาลํ โยชนตฺตยํ ผริตฺวา ¶ อฏฺาสิ. สตฺตติวสฺสสหสฺสานิ อายุ, สพฺพกามา นามสฺส อคฺคมเหสี, อตุโล นามสฺส ปุตฺโต, หตฺถิยาเนน นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘นครํ ¶ อรุณวตี นาม, อรุโณ นาม ขตฺติโย;
ปภาวตี นาม ชนิกา, สิขิสฺสาปิ มเหสิโน.
‘‘อภิภู สมฺภโว เจว, อเหสุํ อคฺคสาวกา;
เขมงฺกโร นามุปฏฺาโก, สิขิสฺสาปิ มเหสิโน.
‘‘สขิลา จ ปทุมา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;
โพธิ ตสฺส ภควโต, ปุณฺฑรีโกติ วุจฺจติ.
‘‘สิริวฑฺโฒ จ นนฺโท จ, อเหสุํ อคฺคุปฏฺกา;
จิตฺตา เจว สุคุตฺตา จ, อเหสุํ อคฺคุปฏฺิกา.
‘‘อุจฺจตฺตเนน โส พุทฺโธ, สตฺตติหตฺถมุคฺคโต;
กฺจนคฺฆิยสงฺกาโส, ทฺวตฺตึสวรลกฺขโณ.
‘‘ตสฺสาปิ พฺยามปฺปภา กายา, ทิวารตฺตึ นิรนฺตรํ;
ทิโสทิสํ นิจฺฉรนฺติ, ตีณิ โยชนโส ปภา.
‘‘สตฺตติวสฺสสหสฺสานิ, อายุ ตสฺส มเหสิโน;
ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.
‘‘ธมฺมเมฆํ ปวสฺเสตฺวา, เตมยิตฺวา สเทวเก;
เขมนฺตํ ปาปยิตฺวาน, นิพฺพุโต โส สสาวโก.
‘‘อนุพฺยฺชนสมฺปนฺนํ, ทฺวตฺตึสวรลกฺขณํ;
สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขารา’’ติ.
ตตฺถ ปุณฺฑรีโกติ ¶ เสตมฺพรุกฺโข. ตีณิ โยชนโส ปภาติ ตีณิ โยชนานิ ปภา นิจฺฉรนฺตีติ อตฺโถ. ธมฺมเมฆนฺติ ธมฺมวสฺสํ, ธมฺมวสฺสนโก พุทฺธเมโฆ. เตมยิตฺวาติ ธมฺมกถาสลิเลน เตเมตฺวา, สิฺจิตฺวาติ อตฺโถ. สเทวเกติ สเทวเก สตฺเต. เขมนฺตนฺติ เขมนฺตํ นิพฺพานํ ¶ ¶ . อนุพฺยฺชนสมฺปนฺนนฺติ ตมฺพนขตุงฺคนาสวฏฺฏงฺคุลิตาทีหิ อสีติยา อนุพฺยฺชเนหิ สมฺปนฺนํ, ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณปฏิมณฺฑิตํ ภควโต สรีรนฺติ อตฺโถ. สิขี กิร สมฺมาสมฺพุทฺโธ สีลวตีนคเร อสฺสาราเม ปรินิพฺพายิ.
‘‘สิขีว โลเก ตปสา ชลิตฺวา, สิขีว เมฆาคมเน นทิตฺวา;
สิขี มเหสินฺธนวิปฺปหีโน, สิขีว สนฺตึ สุคโต คโต โส’’.
สิขิสฺส กิร ภควโต ธาตุโย เอกคฺฆนาว หุตฺวา อฏฺํสุ น วิปฺปกิรึสุ. สกลชมฺพุทีปวาสิโน ปน มนุสฺสา ติโยชนุพฺเพธํ สตฺตรตนมยํ หิมคิริสทิสโสภํ ถูปมกํสุ. เสสเมตฺถ คาถาสุ ปากฏเมวาติ.
สิขีพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต วีสติโม พุทฺธวํโส.