📜
๒๓. เวสฺสภูพุทฺธวํสวณฺณนา
สิขิสฺส ¶ ปน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อปรภาเค อนฺตรหิเต ตสฺส สาสเน สตฺตติวสฺสสหสฺสายุกา มนุสฺสา อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา ทสวสฺสายุกา อเหสุํ. ปุน วฑฺฒิตฺวา อปริมิตายุกา หุตฺวา อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา สฏฺิวสฺสสหสฺสายุกา อเหสุํ. ตทา วิชิตมโนภู สพฺพโลกาภิภู สยมฺภู เวสฺสภู นาม สตฺถา โลเก อุทปาทิ. โส ปารมิโย ปูเรตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา อโนมนคเร สุปฺปตีตสฺส สุปฺปตีตสฺส นาม รฺโ อคฺคมเหสิยา สีลวติยา ยสวติยา นาม กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. โส ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อนุปมุยฺยาเน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ชายมาโนว ชนํ โตเสนฺโต วสภนาทํ นทิ. ตสฺมา วสภนาทเหตุตฺตา ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘เวสฺสภู’’ติ นามมกํสุ ¶ . โส ฉพฺพสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ. รุจิ-สุรุจิ-รติวฑฺฒนนามกา ตโย ปาสาทา ตสฺส ¶ อเหสุํ. สุจิตฺตาเทวิปฺปมุขานิ ตึส อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ.
โส จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา สุจิตฺตาย นาม เทวิยา สุปฺปพุทฺเธ นาม กุมาเร อุปฺปนฺเน สุวณฺณสิวิกาย อุยฺยานทสฺสนตฺถาย คนฺตฺวา เทวทตฺตานิ กาสายานิ คเหตฺวา ปพฺพชิ. ตํ สตฺตตฺตึสสหสฺสานิ อนุปพฺพชึสุ. อถ โส เตหิ ปริวุโต ฉ มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย สุจิตฺตนิคเม สนฺทิสฺสมานสรีราย สิริวฑฺฒนาย นาม ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภฺุชิตฺวา สาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย นรินฺทนาคราเชน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา สาลโพธึ ปทกฺขิณโต อุปาคมิ. ตสฺสาปิ สาลสฺส ตเทว ปาฏลิยา ปมาณเมว ปมาณํ อโหสิ. ตเถว ปุปฺผผลสิริวิภโว เวทิตพฺโพ. โส สาลมูลมุปคนฺตฺวา จตฺตาลีสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา วิคตนีวรณํ สพฺพกามมทาวรณํ อนาวรณาณํ ปฏิลภิตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ ตตฺเถว วีตินาเมตฺวา อตฺตโน กนิฏฺภาติกสฺส โสณกุมารสฺส อุตฺตรกุมารสฺส จ อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ทิสฺวา เทวปเถน คนฺตฺวา อโนมนครสมีเป อรุณุยฺยาเน โอตริตฺวา อุยฺยานปาเลน กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ สปริวารานํ มชฺเฌ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตสิ. ตทา อสีติยา โกฏิสหสฺสานํ ปโม อภิสมโย อโหสิ.
ปุน ¶ ชนปทจาริกํ จรนฺโต ภควา ตตฺถ ตตฺถ ธมฺมํ เทเสนฺโต สตฺตติยา โกฏิสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, โส ทุติโย อภิสมโย อโหสิ. อโนมนคเรเยว ทิฏฺิชาลํ ภินฺทนฺโต ติตฺถิยมานทฺธชํ ปาเตนฺโต มานมทํ วิทฺธํเสนฺโต ธมฺมทฺธชํ สมุสฺสยนฺโต นวุติโยชนวิตฺถตาย มนุสฺสปริสาย ปริมาณรหิตาย เทวปริสาย ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา เทวมนุสฺเส ปสาเทตฺวา สฏฺิโกฏิโย ธมฺมามเตน ตปฺเปสิ, โส ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ตตฺเถว มณฺฑกปฺปมฺหิ, อสโม อปฺปฏิปุคฺคโล;
เวสฺสภู นาม นาเมน, โลเก อุปฺปชฺชิ นายโก.
‘‘อาทิตฺตํ ¶ วต ราคคฺคิ, ตณฺหานํ วิชิตํ ตทา;
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเต, เวสฺสภูโลกนายเก;
อสีติโกฏิสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหุ.
‘‘ปกฺกนฺเต ¶ จาริกํ รฏฺเ, โลกเชฏฺเ นราสเภ;
สตฺตติโกฏิสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหุ.
‘‘มหาทิฏฺึ วิโนเทนฺโต, ปาฏิเหรํ กโรติ โส;
สมาคตา นรมรู, ทสสหสฺสี สเทวเก.
‘‘มหาอจฺฉริยํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
เทวา เจว มนุสฺสา จ, พุชฺฌเร สฏฺิโกฏิโย’’ติ.
ตตฺถ อาทิตฺตนฺติ สกลมิทํ โลกตฺตยํ สมฺปทิตฺตํ. ราคคฺคีติ ราเคน. ตณฺหานํ วิชิตนฺติ ตณฺหานํ วิชิตํ รฏฺํ วสวตฺติฏฺานนฺติ เอวํ ตฺวาติ อตฺโถ. นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวาติ หตฺถี วิย ปูติลตาพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺโต อธิคโต. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสิยํ. สเทวเกติ สเทวเก โลเก. พุชฺฌเรติ พุชฺฌึสุ.
โสณุตฺตรานํ ¶ ปน ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ สมาคเม ปพฺพชิตานํ อสีติยา อรหนฺตสหสฺสานํ มชฺเฌ มาฆปุณฺณมายํ ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ. ยทา ปน เวสฺสภุนา สพฺพโลกาภิภุนา สห ปพฺพชิตา สตฺตตฺตึสสหสฺสสงฺขา ภิกฺขู คณโต โอหีนสมเย ปกฺกนฺตา, เต เวสฺสภุสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตึ สุตฺวา โสเรยฺยํ นาม นครํ อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ อทฺทสํสุ. เตสํ ภควา ธมฺมํ เทเสตฺวา สพฺเพว เต เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชตฺวา จตุรงฺคสมนฺนาคตาย ปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ.
ยทา ปน นาริวาหนนคเร อุปสนฺโต นาม ราชปุตฺโต รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺสานุกมฺปาย ภควา ตตฺถ อคมาสิ, โสปิ ภควโต อาคมนํ สุตฺวา สปริวาโร ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนหทโย ปพฺพชิ. ตํ สฏฺิสหสฺสสงฺขา ปุริสา ¶ อนุปพฺพชึสุ. เต เตน สทฺธึ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. โส เตหิ ปริวุโต เวสฺสภู ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, เวสฺสภุสฺส มเหสิโน;
ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.
‘‘อสีติภิกฺขุสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม;
สตฺตติภิกฺขุสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.
‘‘สฏฺิภิกฺขุสหสฺสานํ ¶ , ตติโย อาสิ สมาคโม;
ชราทิภยตีตานํ, โอรสานํ มเหสิโน’’ติ.
ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต สรภวตีนคเร ปรมปิยทสฺสโน สุทสฺสโน นาม ราชา หุตฺวา เวสฺสภุมฺหิ โลกนายเก สรภนครมุปคเต ตสฺส ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนหทโย ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ ชลชามลาวิกลกมลมกุลสทิสมฺชลึ สิรสิ กตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส สจีวรํ มหาทานํ ทตฺวา ตตฺเถว ภควโต นิวาสตฺถาย คนฺธกุฏึ กตฺวา ตํ ปริกฺขิปิตฺวา วิหารสหสฺสํ กาเรตฺวา สพฺพฺจ วิภวชาตํ ภควโต สาสเน ปริจฺจชิตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อาจารคุณสมฺปนฺโน เตรสธุตคุเณสุ นิรโต โพธิสมฺภารปริเยสนาย รโต ¶ พุทฺธสาสนาภิรโต วิหาสิ. โสปิ ตํ ภควา พฺยากาสิ – ‘‘อนาคเต อิโต เอกตฺตึสกปฺเป อยํ โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อหํ เตน สมเยน, สุทสฺสโน นาม ขตฺติโย;
นิมนฺเตตฺวา มหาวีรํ, ทานํ ทตฺวา มหารหํ;
อนฺนปาเนน วตฺเถน, สสงฺฆํ ชินปูชยึ.
‘‘ตสฺส พุทฺธสฺส อสมสฺส, จกฺกํ วตฺติตมุตฺตมํ;
สุตฺวาน ปณิตํ ธมฺมํ, ปพฺพชฺชมภิโรจยึ.
‘‘มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต;
ปพฺพชฺชํ คุณสมฺปนฺนํ, ปพฺพชึ ชินสนฺติเก.
‘‘อาจารคุณสมฺปนฺโน, วตฺตสีลสมาหิโต;
สพฺพฺุตํ คเวสนฺโต, รมามิ ชินสาสเน.
‘‘สทฺธาปีตึ ¶ อุปคนฺตฺวา, พุทฺธํ วนฺทามิ สตฺถรํ;
ปีติ อุปฺปชฺชติ มยฺหํ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘อนิวตฺตมานสํ ตฺวา, สมฺพุทฺโธ เอตทพฺรวิ;
เอกตฺตึเส อิโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา…เป… เหสฺสาม สมฺมุขํ อิมํ.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;
อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา’’ติ.
ตตฺถ จกฺกํ วตฺติตนฺติ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ. ปณีตํ ธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ. ปพฺพชฺชํ คุณสมฺปนฺนนฺติ ตฺวา ปพฺพชินฺติ อตฺโถ. วตฺตสีลสมาหิโตติ วตฺเตสุ จ สีเลสุ จ สมาหิโต. เตสํ เตสํ ปูรเณ สมาหิโตติ อตฺโถ. รมามีติ อภิรมึ. สทฺธาปีตินฺติ สทฺธฺจ ปีติฺจ อุปคนฺตฺวา. วนฺทามีติ อภิวนฺทึ, อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ ทฏฺพฺพํ. สตฺถรนฺติ สตฺถารํ. อนิวตฺตมานสนฺติ อโนสกฺกิยมานมานสํ.
ตสฺส ¶ ¶ ปน ภควโต อโนมํ นาม นครํ อโหสิ. สุปฺปตีโต นามสฺส ปิตา ขตฺติโย, ยสวตี นาม มาตา, โสโณ จ อุตฺตโร จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อุปสนฺโต นามุปฏฺาโก, รามา จ สมาลา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลรุกฺโข โพธิ, สรีรํ สฏฺิหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ. สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ อายุ, สุจิตฺตา นามสฺส ภริยา, สุปฺปพุทฺโธ นามสฺส ปุตฺโต, สุวณฺณสิวิกาย นิกฺขมิ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อโนมํ นาม นครํ, สุปฺปตีโต นาม ขตฺติโย;
มาตา ยสวตี นาม, เวสฺสภุสฺส มเหสิโน.
‘‘โสโณ จ อุตฺตโร เจว, อเหสุํ อคฺคสาวกา;
อุปสนฺโต นามุปฏฺาโก, เวสฺสภุสฺส มเหสิโน.
‘‘รามา เจว สมาลา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;
โพธิ ตสฺส ภควโต, มหาสาโลติ วุจฺจติ.
‘‘โสตฺถิโก ¶ เจว รมฺโม จ, อเหสุํ อคฺคุปฏฺกา;
โคตมี สิริมา เจว, อเหสุํ อคฺคุปฏฺิกา.
‘‘สฏฺิรตนมุพฺเพโธ, เหมยูปสมูปโม;
กายา นิจฺฉรตี รสฺมิ, รตฺตึว ปพฺพเต สิขี.
‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, อายุ ตสฺส มเหสิโน;
ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ, ชนตํ พหุํ.
‘‘ธมฺมํ วิตฺถาริกํ กตฺวา, วิภชิตฺวา มหาชนํ;
ธมฺมนาวํ เปตฺวาน, นิพฺพุโต โส สสาวโก.
‘‘ทสฺสเนยฺยํ สพฺพชนํ, วิหารํ อิริยาปถํ;
สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขารา’’ติ.
ตตฺถ ¶ เหมยูปสมูปโมติ ¶ สุวณฺณตฺถมฺภสทิโสติ อตฺโถ. นิจฺฉรตีติ อิโต จิโต จ สนฺธาวติ. รสฺมีติ ปภารสฺมิ. รตฺตึว ปพฺพเต สิขีติ รตฺติยํ ปพฺพตมตฺถเก อคฺคิ วิย. รํสิวิชฺโชตา ตสฺส กาเยติ อตฺโถ. วิภชิตฺวาติ วิภาคํ กตฺวา, อุคฺฆฏิตาทิวเสน โสตาปนฺนาทิวเสน จาติ อตฺโถ. ธมฺมนาวนฺติ อฏฺงฺคมคฺคสงฺขาตํ ธมฺมนาวํ, จตุโรฆนิตฺถรณตฺถาย เปตฺวาติ อตฺโถ. ทสฺสเนยฺยนฺติ ทสฺสนีโย. สพฺพชนนฺติ สพฺโพ ชโน, สสาวกสงฺโฆ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ อตฺโถ. วิหารนฺติ วิหาโร, สพฺพตฺถ ปจฺจตฺเต อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ.
เวสฺสภู กิร ภควา อุสภวตีนคเร เขเม มิคทาเย ปรินิพฺพายิ. ธาตุโย ปนสฺส วิปฺปกิรึสุ.
‘‘อุสภวติปุเร ปุรุตฺตเม, ชินวสโภ ภควา หิ เวสฺสภู;
อุปวนวิหเร มโนรเม, นิรุปธิเสสมุปาคโต กิรา’’ติ.
เสสํ สพฺพตฺถ คาถาสุ ปากฏเมวาติ.
เวสฺสภูพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต เอกวีสติโม พุทฺธวํโส.