📜

๔. โกณฺฑฺพุทฺธวํสวณฺณนา

ทีปงฺกเร กิร ภควติ ปรินิพฺพุเต ตสฺส สาสนํ วสฺสสตสหสฺสํ ปวตฺติตฺถ. อถ พุทฺธานุพุทฺธานํ สาวกานํ อนฺตรธาเนน สาสนมฺปิสฺส อนฺตรธายิ. อถสฺส อปรภาเค เอกมสงฺขฺเยยฺยมติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึ กปฺเป โกณฺฑฺโ นาม สตฺถา อุทปาทิ. โส ปน ภควา โสฬสอสงฺขฺเยยฺยํ กปฺปานฺจ สตสหสฺสํ ปารมิโย ปูเรตฺวา โพธิาณํ ปริปาเจตฺวา เวสฺสนฺตรตฺตภาวสทิเส อตฺตภาเว ตฺวา ตโต จวิตฺวา ตุสิตปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา เทวตานํ ปฏิฺํ ทตฺวา ตุสิตปุรโต จวิตฺวา รมฺมวตีนคเร สุนนฺทสฺส นาม รฺโ กุเล สุชาตาย นาม เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. ตสฺสปิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ทีปงฺกรพุทฺธวํเส วุตฺตปฺปการานิ ทฺวตฺตึส ปาฏิหาริยานิ นิพฺพตฺตึสุ. โส เทวตาหิ กตารกฺขสํวิธาโน ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิตฺวา สพฺพสตฺตุตฺตโร อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คนฺตฺวา สพฺพา จ ทิสา วิโลเกตฺวา อาสภึ วาจํ นิจฺฉาเรสิ – ‘‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗).

ตโต กุมารสฺส นามกรณทิวเส นามํ กโรนฺตา ‘‘โกณฺฑฺโ’’ติ นามมกํสุ. โส หิ ภควา โกณฺฑฺโคตฺโต อโหสิ. ตสฺส กิร ตโย ปาสาทา อเหสุํ – ราม, สุราม, สุภนามกา ปรมรมณียา. เตสุ ตีณิ สตสหสฺสานิ นาฏกิตฺถีนํ นจฺจคีตวาทิตกุสลานํ สพฺพกาลํ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ. ตสฺส รุจิเทวี นาม อคฺคมเหสี อโหสิ. วิชิตเสโน นามสฺส ปุตฺโต อโหสิ. โส ทสวสฺสสหสฺสานิ อคารํ อชฺฌาวสิ.

โส ปน ชิณฺณพฺยาธิมตปพฺพชิเต ทิสฺวา อาชฺรเถน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตฺวา ทส มาเส ปธานจริยํ จริ. โกณฺฑฺกุมารํ ปน ปพฺพชนฺตํ ทส ชนโกฏิโย อนุปพฺพชึสุ. โส เตหิ ปริวุโต ทส มาเส ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย สุนนฺทคาเม สมสหิตฆนปโยธราย ยโสธราย นาม เสฏฺิธีตาย ทินฺนํ ปรมมธุรํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา ผลปลฺลวงฺกุรสมลงฺกเต สาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย คณํ ปหาย สุนนฺทกาชีวเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา สาลกลฺยาณิรุกฺขํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปุพฺพทิสาภาคํ โอโลเกตฺวา โพธิรุกฺขํ ปิฏฺิโต กตฺวา อฏฺปณฺณาสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย มารพลํ วิธมิตฺวา รตฺติยา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ วิโสเธตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปจฺจยาการํ สมฺมสิตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย ปฺจสุ ขนฺเธสุ อภินิวิสิตฺวา อุทยพฺพยวเสน สมปฺาส ลกฺขณานิ ทิสฺวา ยาว โคตฺรภุาณํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา จตฺตาริ มคฺคาณานิ จตฺตาริ จ ผลาณานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ ฉ อสาธารณาณานิ สกเล จ พุทฺธคุเณ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ปริปุณฺณสงฺกปฺโป โพธิมูเล นิสินฺโนว –

‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;

คหการํ คเวสนฺโต, ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ.

‘‘คหการก ทิฏฺโสิ, ปุน เคหํ น กาหสิ;

สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา, คหกูฏํ วิสงฺขตํ;

วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ, ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา. (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔);

‘‘อโยฆนหตสฺเสว, ชลโต ชาตเวทโส;

อนุปุพฺพูปสนฺตสฺส, ยถา น ายเต คติ.

‘‘เอวํ สมฺมา วิมุตฺตานํ, กามพนฺโธฆตารินํ;

ปฺาเปตุํ คตี นตฺถิ, ปตฺตานํ อจลํ สุข’’นฺติ. (อุทา. ๘๐) –

เอวํ อุทานํ อุทาเนตฺวา สตฺตสตฺตาหํ โพธิมูเลเยว ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมตฺวา อฏฺเม สตฺตาเห พฺรหฺมุโน อชฺเฌสนํ ปฏิจฺจ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๐) อุปธาเรนฺโต อตฺตนา สทฺธึ ปพฺพชิตา ทส ภิกฺขุโกฏิโย อทฺทส. ‘‘อิเม ปน กุลปุตฺตา สมุปจิตกุสลมูลา มํ ปพฺพชนฺตํ อนุปพฺพชิตา มยา สทฺธึ ปธานํ จริตฺวา มํ อุปฏฺหึสุ, หนฺทาหํ อิเมสํ สพฺพปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ เอวํ อุปธาเรตฺวา – ‘‘อิทานิ ปน เต กตฺถ วสนฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต – ‘‘อิโต อฏฺารสโยชนิเก อรุนฺธวตีนคเร เทววเน วิหรนฺตี’’ติ ทิสฺวา – ‘‘เตสํ ธมฺมํ เทเสตุํ คมิสฺสามี’’ติ ปตฺตจีวรมาทาย เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว โพธิมูเล อนฺตรหิโต เทววเน ปาตุรโหสิ.

ตสฺมิฺจ สมเย ตา ทส ภิกฺขุโกฏิโย อรุนฺธวตีนครํ อุปนิสฺสาย เทววเน วิหรนฺติ. เต ปน ภิกฺขู ทสพลํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนมานสา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา, ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา, พุทฺธาสนํ ปฺาเปตฺวา, สตฺถุ คารวํ กตฺวา, ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา, ปริวาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. ตตฺร โกณฺฑฺโ ทสพโล มุนิคณปริวุโต พุทฺธาสเน นิสินฺโน ติทสคณปริวุโต ทสสตนยโน วิย วิมลคคนตลคโต สรทสมยรชนิกโร วิย ตาราคณปริวุโต ปุณฺณจนฺโท วิย วิโรจิตฺถ. อถ สตฺถา เตสํ สพฺพพุทฺธนิเสวิตํ อนุตฺตรํ ติปริวฏฺฏํ ทฺวาทสาการํ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตํ กเถตฺวา ทสภิกฺขุโกฏิปฺปมุขา สตสหสฺสเทวมนุสฺสโกฏิโย ธมฺมามตํ ปาเยสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ทีปงฺกรสฺส อปเรน, โกณฺฑฺโ นาม นายโก;

อนนฺตเตโช อมิตยโส, อปฺปเมยฺโย ทุราสโท.

.

‘‘ธรณูปโม ขมเนน, สีเลน สาครูปโม;

สมาธินา เมรูปโม, าเณน คคนูปโม.

.

‘‘อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺค-มคฺคสจฺจปฺปกาสนํ;

ปกาเสสิ สทา พุทฺโธ หิตาย สพฺพปาณินํ.

.

‘‘ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตนฺเต, โกณฺฑฺเ โลกนายเก;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ทีปงฺกรสฺส อปเรนาติ ทีปงฺกรสฺส สตฺถุโน อปรภาเคติ อตฺโถ. โกณฺฑฺโ นามาติ อตฺตโน โคตฺตวเสน สมธิคตนามเธยฺโย. นายโกติ วินายโก. อนนฺตเตโชติ อตฺตโน สีลคุณาณปุฺเตเชน อนนฺตเตโช. เหฏฺโต อวีจิ อุปริ ภวคฺคํ ติริยโต อนนฺตา โลกธาตุโย เอตฺถนฺตเร เอกปุคฺคโลปิ ตสฺส มุขํ โอโลเกตฺวา าตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนนฺตเตโช’’ติ. อมิตยโสติ อนนฺตปริวาโร. ตสฺส หิ ภควโต วสฺสสตสหสฺสานิ ยาว ปรินิพฺพานสมยํ เอตฺถนฺตเร ภิกฺขุปริสาย คณนปริจฺเฉโท นาม นาโหสิ. ตสฺมา ‘‘อมิตยโส’’ติ วุจฺจติ. อมิตคุณกิตฺติปิ ‘‘อมิตยโส’’ติ วุจฺจติ. อปฺปเมยฺโยติ คุณคณปริมาณวเสน นปฺปเมยฺโยติ อปฺปเมยฺโย. ยถาห –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ, กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร, วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา);

ตสฺมา อปฺปเมยฺยคุณคณตฺตา ‘‘อปฺปเมยฺโย’’ติ วุจฺจติ. ทุราสโทติ ทุรุปสงฺกมนีโย, อาสชฺช ฆฏฺเฏตฺวา อุปสงฺกมิตุมสกฺกุเณยฺยภาวโต ทุราสโท, ทุรภิภวนีโยติ อตฺโถ.

ธรณูปโมติ ธรณีสโม. ขมเนนาติ ขนฺติยา, จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลา มหาปถวี วิย ปกติวาเตน ลาภาลาภอิฏฺานิฏฺาทีหิ อกมฺปนภาวโต ‘‘ธรณูปโม’’ติ วุจฺจติ. สีเลน สาครูปโมติ สีลสํวเรน เวลานาติกฺกมนภาเวน สาครสโม. ‘‘มหาสมุทฺโท, ภิกฺขเว, ิตธมฺโม เวลํ นาติวตฺตตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๑๙; จูฬว. ๓๘๔; มิ. ป. ๖.๒.๑๐) หิ วุตฺตํ.

สมาธินา เมรูปโมติ สมาธิปฏิปกฺขภูตธมฺมชนิตกมฺปาภาวโต เมรุนา คิริวเรน สโม, สทิโสติ อตฺโถ. เมรุคิริวโร วิย ถิรตรสรีโรติ วา. าเณน คคนูปโมติ เอตฺถ ภควโต าณสฺส อนนฺตภาเวน อนนฺตากาเสน อุปมา กตา. จตฺตาริ อนนฺตานิ วุตฺตานิ ภควตา. ยถาห –

‘‘สตฺตกาโย จ อากาโส, จกฺกวาฬา จนนฺตกา;

พุทฺธาณํ อปฺปเมยฺยํ, น สกฺกา เอเต วิชานิตุ’’นฺติ. (พุ. วํ. ๑.๖๔);

ตสฺมา อนนฺตสฺส าณสฺส อนนฺเตน อากาเสน อุปมา กตาติ.

อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคสจฺจปฺปกาสนนฺติ เอเตสํ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคสจฺจานํ คหเณน สติปฏฺานสมฺมปฺปธานิทฺธิปาทาปิ คหิตาว โหนฺติ. ตสฺมา อินฺทฺริยาทีนํ จตุสงฺเขปานํ วเสน สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ ปกาสนธมฺมํ ปกาเสสิ, เทเสสีติ อตฺโถ. หิตายาติ หิตตฺถํ. ธมฺมจกฺกํปวตฺเตนฺเตติ เทสนาาเณ ปวตฺติยมาเน.

ตโต อปรภาเค มหามงฺคลสมาคเม ทสสุ จกฺกวาฬสหสฺเสสุ เทวตาโย สุขุเม อตฺตภาเว มาเปตฺวา อิมสฺมิฺเว จกฺกวาเฬ สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ กิร อฺตโร เทวปุตฺโต โกณฺฑฺทสพลํ มงฺคลปฺหํ ปุจฺฉิ. ตสฺส ภควา มงฺคลานิ กเถสิ. ตตฺถ นวุติโกฏิสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. โสตาปนฺนาทีนํ คณนปริจฺเฉโท นาม นาโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ตโต ปรมฺปิ เทเสนฺเต, นรมรูนํ สมาคเม;

นวุติโกฏิสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ตโต ปรมฺปีติ ตโต อปรภาเคปิ. เทเสนฺเตติ ภควติ ธมฺมํ เทเสนฺเต. นรมรูนนฺติ นรานฺเจว อมรานฺจ, ยทา ปน ภควา คคนตเล ติตฺถิยมานมทฺทนํ ยมกปาฏิหาริยํ กโรนฺโต ธมฺมํ เทเสสิ ตทา อสีติโกฏิสหสฺสานิ อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. ตีสุ ผเลสุ ปติฏฺิตา คณนปถํ วีติวตฺตา. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ติตฺถิเย อภิมทฺทนฺโต, ยทา ธมฺมมเทสยิ;

อสีติโกฏิสหสฺสานํ, ตติยาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ตทา-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ภควา ธมฺมํ เทเสสิ, ตทา อสีติโกฏิสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อหูติ.

โกณฺฑฺโ กิร สตฺถา อภิสมฺโพธึ ปตฺวา ปมวสฺสํ จนฺทวตีนครํ อุปนิสฺสาย จนฺทาราเม วิหาสิ. ตตฺถ สุจินฺธรสฺส นาม พฺราหฺมณมหาสาลสฺส ปุตฺโต ภทฺทมาณโว นาม ยโสธรพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต สุภทฺทมาณโว จ โกณฺฑฺสฺส พุทฺธสฺส สมฺมุขา ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปสนฺนมานสา ทสหิ มาณวกสหสฺเสหิ สทฺธึ ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณึสุ.

อถ โกณฺฑฺโ สตฺถา เชฏฺมาสปุณฺณมาย สุภทฺทตฺเถรปฺปมุเขน โกฏิสตสหสฺเสน ปริวุโต ปาติโมกฺขมุทฺทิสิ, โส ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ. ตโต อปรภาเค โกณฺฑฺสตฺถุโน ปุตฺเต วิชิตเสเน นาม อรหตฺตํ ปตฺเต ตํปมุขสฺส โกฏิสหสฺสสฺส มชฺเฌ ภควา ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. อถาปเรน สมเยน ทสพโล ชนปทจาริกํ จรนฺโต อุเทนราชานํ นาม นวุติโกฏิชนปริวารํ ปพฺพาเชสิ สทฺธึ ตาย ปริสาย. ตสฺมึ ปน อรหตฺตํ ปตฺเต ตํปมุเขหิ นวุติยา อรหนฺตโกฏีหิ ภควา ปริวุโต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ, โส ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, โกณฺฑฺสฺส มเหสิโน;

ขีณาสวานํ วิมลานํ, สนฺตจิตฺตาน ตาทินํ.

.

‘‘โกฏิสตสหสฺสานํ, ปโม อาสิ สมาคโม;

ทุติโย โกฏิสหสฺสานํ, ตติโย นวุติโกฏิน’’นฺติ.

ตทา กิร อมฺหากํ โพธิสตฺโต วิชิตาวี นาม จกฺกวตฺตี หุตฺวา จนฺทวตีนคเร ปฏิวสติ. โส กิร อเนกนรวรปริวุโต สลิลนิธินิวสนํ สเมรุยุคนฺธรํ อปริมิตวสุธรํ วสุนฺธรํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน ปริปาเลติ. อถ โกณฺฑฺโ พุทฺโธปิ โกฏิสตสหสฺสขีณาสวปริวุโต ชนปทจาริกํ จรมาโน อนุปุพฺเพน จนฺทวตีนครํ สมฺปาปุณิ.

โส วิชิตาวี กิร ราชา – ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ กิร อมฺหากํ นครํ อนุปฺปตฺโต’’ติ สุตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ภควโต วสนฏฺานํ สํวิทหิตฺวา สฺวาตนาย สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส ภตฺตวิธึ สุฏฺุ ปฏิยาเทตฺวา โกฏิสตสหสฺสสงฺขสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ อทาสิ. โพธิสตฺโต ภควนฺตํ โภเชตฺวา อนุโมทนาวสาเน – ‘‘ภนฺเต, เตมาสํ มหาชนสงฺคหํ กโรนฺโต อิเธว วสถา’’ติ ยาจิตฺวา ตโย มาเส นิรนฺตรํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อสทิสมหาทานํ อทาสิ.

อถ สตฺถา โพธิสตฺตํ – ‘‘อนาคเต โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากริตฺวา ธมฺมมสฺส เทเสสิ. โส สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคเหตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ จ อภิฺาโย อุปฺปาเทตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘อหํ เตน สมเยน, วิชิตาวี นาม ขตฺติโย;

สมุทฺทํ อนฺตมนฺเตน, อิสฺสริยํ วตฺตยามหํ.

๑๐.

‘‘โกฏิสตสหสฺสานํ, วิมลานํ มเหสินํ;

สห โลกคฺคนาเถน, ปรมนฺเนน ตปฺปยึ.

๑๑.

‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, โกณฺฑฺโ โลกนายโก;

อปริเมยฺยิโต กปฺเป, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ.

๑๒.

‘‘ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ;

อสฺสตฺถมูเล สมฺพุทฺโธ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.

๑๓.

‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;

ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.

๑๔.

‘‘โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;

อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติ ตํ ชินํ.

๑๕.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ.

๑๖.

‘‘จิตฺโต จ หตฺถาฬวโก, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺกา;

นนฺทมาตา จ อุตฺตรา, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺิกา;

อายุ วสฺสสตํ ตสฺส, โคตมสฺส ยสสฺสิโน.

๑๗.

‘‘อิทํ สุตฺวาน วจนํ, อสมสฺส มเหสิโน;

อาโมทิตา นรมรู, พุทฺธพีชํ กิร อยํ.

๑๘.

‘‘อุกฺกุฏฺิสทฺทา วตฺตนฺติ, อปฺโผเฏนฺติ หสนฺติ จ;

กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ทสสหสฺสิเทวตา.

๑๙.

‘‘ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

๒๐.

‘‘ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;

เหฏฺาติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.

๒๑.

‘‘เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มุฺจามิมํ ชินํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

๒๒.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;

ตเมว อตฺถํ สาเธนฺโต, มหารชฺชํ ชิเน อทํ;

มหารชฺชํ ททิตฺวาน, ปพฺพชึ ตสฺส สนฺติเก.

๒๓.

‘‘สุตฺตนฺตํ วินยํ จาปิ, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ;

สพฺพํ ปริยาปุณิตฺวาน, โสภยึ ชินสาสนํ.

๒๔.

‘‘ตตฺถปฺปมตฺโต วิหรนฺโต, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อภิฺาปารมึ คนฺตฺวา, พฺรหฺมโลกมคฺฉห’’นฺติ.

ตตฺถ อหํ เตน สมเยนาติ อหํ ตสฺมึ สมเย. วิชิตาวี นามาติ เอวํนามโก จกฺกวตฺติราชา อโหสึ. สมุทฺทํ อนฺตมนฺเตนาติ เอตฺถ จกฺกวาฬปพฺพตํ สีมํ มริยาทํ กตฺวา ิตํ สมุทฺทํ อนฺตํ กตฺวา อิสฺสริยํ วตฺตยามีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา น ปากฏํ โหติ.

ราชา กิร จกฺกวตฺตี จกฺกรตนานุภาเวน วามปสฺเสน สิเนรุํ กตฺวา สมุทฺทสฺส อุปริภาเคน อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ ปุพฺพวิเทหํ คจฺฉติ. ตตฺถ ราชา จกฺกวตฺตี – ‘‘ปาโณ น หนฺตพฺโพ, อทินฺนํ นาทาตพฺพํ, กาเมสุมิจฺฉา น จริตพฺพา, มุสา น ภาสิตพฺพา, มชฺชํ น ปาตพฺพํ, ยถาภุตฺตฺจ ภุฺชถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๔; ๓.๘๕; ม. นิ. ๓.๒๕๗) โอวาทํ เทติ. เอวํ โอวาเท ทินฺเน ตํ จกฺกรตนํ เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ปุรตฺถิมํ สมุทฺทํ อชฺโฌคาหติ. ยถา ยถา จ ตํ อชฺโฌคาหติ, ตถา ตถา สํขิตฺตอูมิวิปฺผารํ หุตฺวา โอคจฺฉมานํ มหาสมุทฺทสลิลํ โยชนมตฺตํ โอคฺคนฺตฺวา อนฺโตสมุทฺทํ อุโภสุ ปสฺเสสุ เวฬุริยมณิภิตฺติ วิย ปรมทสฺสนียํ หุตฺวา ติฏฺติ, เอวํ ปุรตฺถิมสาครปริยนฺตํ คนฺตฺวา ตํ จกฺกรตนํ ปฏินิวตฺตติ. ปฏินิวตฺตมาเน จ ตสฺมึ สา ปริสา อคฺคโต โหติ, มชฺเฌ ราชา จกฺกวตฺตี อนฺเต จกฺกรตนํ โหติ. ตมฺปิ ชลํ ชลนฺเตน วิโยคํ อสหมานมิว เนมิมณฺฑลปริยนฺตํ อภิหนนฺตเมว ตีรมุปคจฺฉติ.

เอวํ ราชา จกฺกวตฺตี ปุรตฺถิมสมุทฺทปริยนฺตํ ปุพฺพวิเทหํ อภิวิชินิตฺวา ทกฺขิณสมุทฺทปริยนฺตํ ชมฺพุทีปํ วิเชตุกาโม จกฺกรตนเทสิเตน มคฺเคน ทกฺขิณสมุทฺทาภิมุโข คจฺฉติ. ตํ ทสสหสฺสโยชนปฺปมาณํ ชมฺพุทีปํ อภิวิชินิตฺวา ทกฺขิณสมุทฺทโต ปจฺจุตฺตริตฺวา สตฺตโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อปรโคยานํ วิเชตุํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว คนฺตฺวา ตมฺปิ สาครปริยนฺตํ อภิวิชินิตฺวา ปจฺฉิมสมุทฺทโตปิ อุตฺตริตฺวา อฏฺโยชนสหสฺสปฺปมาณํ อุตฺตรกุรุํ วิเชตุํ ตเถว คนฺตฺวา ตํ สมุทฺทปริยนฺตํ กตฺวา ตเถว อภิวิชิย อุตฺตรสมุทฺทโตปิ ปจฺจุตฺตรติ. เอตฺตาวตา รฺา จกฺกวตฺตินา สาครปริยนฺตาย ปถวิยา อิสฺสริยํ อธิคตํ โหติ. เตน วุตฺตํ สมุทฺทํ อนฺตมนฺเตน, อิสฺสริยํ วตฺตยามห’’นฺติ.

โกฏิสตสหสฺสานนฺติ โกฏิสตสหสฺสานิ. อยเมว วา ปาโ. วิมลานนฺติ ขีณาสวานํ. สห โลกคฺคนาเถนาติ สทฺธึ ทสพเลน โกฏิสตสหสฺสานนฺติ อตฺโถ. ปรมนฺเนนาติ ปณีเตน อนฺเนน. ตปฺปยินฺติ ตปฺเปสึ. อปริเมยฺยิโต กปฺเปติ อิโต ปฏฺาย สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ ตีณิ อสงฺขฺเยยฺยานิ อติกฺกมิตฺวา เอกสฺมึ ภทฺทกปฺเปติ อตฺโถ.

ปธานนฺติ วีริยํ. ตเมว อตฺถํ สาเธนฺโตติ ตเมว พุทฺธการกมตฺถํ ทานปารมึ ปูเรนฺโต สาเธนฺโต นิปฺผาเทนฺโตติ อตฺโถ. มหารชฺชนฺติ จกฺกวตฺติรชฺชํ. ชิเนติ ภควติ, สมฺปทานตฺเถ วา ภุมฺมํ ทฏฺพฺพํ. อทนฺติ อทาสึ. เอวมตฺถํ สาเธนฺโตติ อิมินา สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. ‘‘มหารชฺชํ ชิเน ททิ’’นฺติ ปนฺติ เกจิ. ททิตฺวานาติ จชิตฺวา. สุตฺตนฺตนฺติ สุตฺตนฺตปิฏกํ. วินยนฺติ วินยปิฏกํ. นวงฺคนฺติ สุตฺตเคยฺยาทินวงฺคํ. โสภยึ ชินสาสนนฺติ อาคมาธิคเมหิ โลกิเยหิ สมลงฺกรึ. ตตฺถาติ ตสฺส ภควโต สาสเน. อปฺปมตฺโตติ สติสมฺปนฺโน. พฺรหฺมโลกมคฺฉหนฺติ พฺรหฺมโลกํ อคฺฉึ อหํ.

อิมสฺส ปน โกณฺฑฺพุทฺธสฺส รมฺมวตี นาม นครํ อโหสิ, สุนนฺโท นาม ราชา ปิตา, สุชาตา นาม เทวี มาตา, ภทฺโท จ สุภทฺโท จ ทฺเว อคฺคสาวกา, อนุรุทฺโธ นามุปฏฺาโก, ติสฺสา จ อุปติสฺสา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, สาลกลฺยาณิรุกฺโข โพธิ, อฏฺาสีติหตฺถุพฺเพธํ สรีรํ , วสฺสสตสหสฺสานิ อายุปฺปมาณํ อโหสิ, ตสฺส รุจิเทวี นาม อคฺคมเหสี อโหสิ, วิชิตเสโน นามสฺส ปุตฺโต, จนฺโท นามุปฏฺาโก ราชา. จนฺทาราเม กิร วสีติ. เตน วุตฺตํ –

๒๕.

‘‘นครํ รมฺมวตี นาม, สุนนฺโท นาม ขตฺติโย;

สุชาตา นาม ชนิกา, โกณฺฑฺสฺส มเหสิโน.

๓๐.

‘‘ภทฺโท เจว สุภทฺโท จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

อนุรุทฺโธ นามุปฏฺาโก, โกณฺฑฺสฺส มเหสิโน.

๓๑.

‘‘ติสฺสา จ อุปติสฺสา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

สาลกลฺยาณิโก โพธิ, โกณฺฑฺสฺส มเหสิโน.

๓๓.

‘‘โส อฏฺาสีติ หตฺถานิ, อจฺจุคฺคโต มหามุนิ;

โสภเต อุฬุราชาว, สูริโย มชฺฌนฺหิเก ยถา.

๓๔.

‘‘วสฺสสตสหสฺสานิ, อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ติฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

๓๕.

‘‘ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, วิจิตฺตา อาสิ เมทนี;

ยถา หิ คคนมุฬูภิ, เอวํ โส อุปโสภถ.

๓๖.

‘‘เตปิ นาคา อปฺปเมยฺยา, อสงฺโขภา ทุราสทา;

วิชฺชุปาตํว ทสฺเสตฺวา, นิพฺพุตา เต มหายสา.

๓๗.

‘‘สา จ อตุลิยา ชินสฺส อิทฺธิ, าณปริภาวิโต จ สมาธิ;

สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขารา’’ติ.

ตตฺถ สาลกลฺยาณิโกติ สาลกลฺยาณิรุกฺโข, โส พุทฺธกาเล เจว จกฺกวตฺติกาเล จ นิพฺพตฺตติ, นาฺทา. โส เอกาเหเนว อุฏฺาติ กิร. ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, วิจิตฺตา อาสิ เมทนีติ อยํ เมทนี ขีณาสเวหิ เอกกาสาวปชฺโชตา วิจิตฺตา ปรมทสฺสนียา อโหสิ. ยถาหีติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. อุฬูภีติ นกฺขตฺเตหิ, ตาราคเณหิ คคนตลํ วิย ขีณาสเวหิ วิจิตฺตา อยํ เมทนี โสภิตฺถาติ อตฺโถ.

อสงฺโขภาติ อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ อกฺโขภา อวิการา. วิชฺชุปาตํว ทสฺเสตฺวาติ วิชฺชุปาตํ วิย ทสฺสยิตฺวา, ‘‘วิชฺชุปฺปาตํวา’’ติปิ ปาโ. โกณฺฑฺพุทฺธสฺส กิร กาเล ปรินิพฺพายมานา ภิกฺขู สตฺตตาลปฺปมาณมากาสมพฺภุคฺคนฺตฺวา อสิตชลธรวิวรคตา วิชฺชุลตา วิย สมนฺตโต วิชฺโชตมานา เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา นิรุปาทานา ทหนา วิย ปรินิพฺพายึสุ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิชฺชุปาตํว ทสฺเสตฺวา’’ติ. อตุลิยาติ อตุลฺยา อสทิสา. าณปริภาวิโตติ าเณน วฑฺฒิโต. เสสคาถา เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานา เอวาติ.

‘‘โกณฺฑฺโ นาม สมฺพุทฺโธ, จนฺทาราเม มโนรเม;

นิพฺพายิ เจติโย ตสฺส, สตฺตโยชนิโก กโต.

‘‘น เหว ธาตุโย ตสฺส, สตฺถุโน, วิกิรึสุ ตา;

ิตา เอกฆนา หุตฺวา, สุวณฺณปฏิมา วิย’’.

สกลชมฺพุทีปวาสิโน มนุสฺสา สมาคนฺตฺวา สตฺตโยชนิกํ สตฺตรตนมยํ หริตาลมโนสิลาย มตฺติกากิจฺจํ เตลสปฺปีหิ อุทกกิจฺจํ กตฺวา นิฏฺาเปสุนฺติ.

โกณฺฑฺพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต ทุติโย พุทฺธวํโส.