📜

๗. เรวตพุทฺธวํสวณฺณนา

สุมนสฺส ปน ภควโต อปรภาเค สาสเน จสฺส อนฺตรหิเต นวุติวสฺสสหสฺสายุกา มนุสฺสา อนุกฺกเมน ปริหายิตฺวา ทสวสฺสายุกา หุตฺวา ปุน อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อสงฺขฺเยยฺยายุกา หุตฺวา ปุน ปริหายมานา สฏฺิวสฺสสหสฺสายุกา อเหสุํ. ตทา เรวโต นาม สตฺถา อุทปาทิ. โสปิ ปารมิโย ปูเรตฺวา อเนกรตนสมุชฺชลิตภวเน ตุสิตภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ตโต จวิตฺวา สพฺพธนธฺวติสุธฺวตีนคเร สพฺพาลงฺการสมลงฺกตอมิตรุจิรปริวารปริวุตสฺส สิริวิภวสมุทเยนากุลสฺส สพฺพสมิทฺธิวิปุลสฺส วิปุลสฺส นาม รฺโ กุเล สพฺพชนนยนาลิปาลิสมากุลาย สมฺผุลฺลนยนกุวลยสสฺสิริกสินิทฺธวทนกมลากรโสภาสมุชฺชลาย สุรุจิรมโนหรคุณคณวิปุลาย วิปุลาย นาม อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา ทสนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน จิตฺตกูฏปพฺพตโต สุวณฺณหํสราชา วิย มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ.

ตสฺส ปฏิสนฺธิยํ ชาติยฺจ ปาฏิหาริยานิ ปุพฺเพ วุตฺตนยาเนว อเหสุํ. สุทสฺสนรตนคฺฆิอาเวฬนามกา ตโย จสฺส ปาสาทา อเหสุํ. สุทสฺสนาเทวิปฺปมุขานิ เตตฺตึส อิตฺถิสหสฺสานิ ปจฺจุปฏฺิตานิ อเหสุํ. ตาหิ ปริวุโต โส สุรยุวตีหิ ปริวุโต เทวกุมาโร วิย ฉพฺพสฺสสหสฺสานิ วิสยสุขมนุภวมาโน อคารํ อชฺฌาวสิ. โส สุทสฺสนาย นาม เทวิยา วรุเณ นาม ตนเย ชาเต จตฺตาริ นิมิตฺตานิ ทิสฺวา นานาวิราคตนุวรวสนนิวสโน อามุกฺกมุตฺตาหารมณิกุณฺฑโล วรเกยูรมกุฏกฏกธโร ปรมสุรภิคนฺธกุสุมสมลงฺกโต ปรมรุจิรกรนิกโร สรทสมยรชนิกโร วิย ตาราคณปริวุโต วิย จนฺโท ติทสคณปริวุโต วิย ทสสตนยโน พฺรหฺมคณปริวุโต วิย จ หาริตมหาพฺรหฺมา จตุรงฺคินิยา มหติยา เสนาย ปริวุโต อาชฺรเถน มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา สพฺพาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺส หตฺเถ ทตฺวา ชลชามลาวิกลนีลกุวลยทลสทิเสนาตินิสิเตนาติติขิเณนาสินา สเกสมกุฏํ ฉินฺทิตฺวา อากาเส ขิปิ. ตํ สกฺโก เทวราชา สุวณฺณจงฺโกฏเกน ปฏิคฺคเหตฺวา ตาวตึสภวนํ เนตฺวา สิเนรุมุทฺธนิ สตฺตรตนมยํ เจติยํ อกาสิ.

มหาปุริโส ปน เทวทตฺตานิ กาสายานิ ปริทหิตฺวา ปพฺพชิ, เอกา จ นํ ปุริสโกฏิ อนุปพฺพชิ. โส เตหิ ปริวุโต สตฺตมาเส ปธานจริยํ จริตฺวา วิสาขปุณฺณมาย อฺตราย สาธุเทวิยา นาม เสฏฺิธีตาย ทินฺนํ มธุปายาสํ ปริภุฺชิตฺวา สาลวเน ทิวาวิหารํ วีตินาเมตฺวา สายนฺหสมเย อฺตเรนาชีวเกน ทินฺนา อฏฺ ติณมุฏฺิโย คเหตฺวา มตฺตวรนาคคามี นาคโพธึ ปทกฺขิณํ กตฺวา เตปณฺณาสหตฺถวิตฺถตํ ติณสนฺถรํ สนฺถริตฺวา จตุรงฺควีริยํ อธิฏฺาย นิสีทิตฺวา มารพลํ วิธมิตฺวา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา – ‘‘อเนกชาติสํสารํ…เป… ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา’’ติ (ธ. ป. ๑๕๓-๑๕๔) อุทานํ อุทาเนสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สุมนสฺส อปเรน, เรวโต นาม นายโก;

อนุปโม อสทิโส, อตุโล อุตฺตโม ชิโน’’ติ.

เรวโต กิร สตฺถา โพธิสมีเปเยว สตฺตสตฺตาหานิ วีตินาเมตฺวา ธมฺมเทสนตฺถํ พฺรหฺมายาจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๗๒; ม. นิ. ๑.๒๘๔; ๒.๓๔๑; มหาว. ๑๐) อุปธาเรนฺโต อตฺตนา สห ปพฺพชิตภิกฺขุโกฏิโย อฺเ จ พหู เทวมนุสฺเส อุปนิสฺสยสมฺปนฺเน ทิสฺวา อากาเสน คนฺตฺวา วรุณาราเม โอตริตฺวา เตหิ ปริวุโต คมฺภีรํ นิปุณํ ติปริวฏฺฏํ อปฺปฏิวตฺติยํ อฺเน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา ภิกฺขูนํ โกฏิ อรหตฺเต ปติฏฺาเปสิ. ตีสุ มคฺคผเลสุ ปติฏฺิตานํ คณนปริจฺเฉโท นตฺถิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘โสปิ ธมฺมํ ปกาเสสิ, พฺรหฺมุนา อภิยาจิโต;

ขนฺธธาตุววตฺถานํ, อปฺปวตฺตํ ภวาภเว’’ติ.

ตตฺถ ขนฺธธาตุววตฺถานนฺติ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ นามรูปววตฺถานาทิวเสน วิภาคกรณํ. สภาวลกฺขณสามฺลกฺขณาทิวเสน รูปารูปธมฺมปริคฺคโห ขนฺธธาตุววตฺถานํ นาม. อถ วา เผณปิณฺฑูปมํ รูปํ ปริมทฺทนาสหนโต ฉิทฺทาวฉิทฺทาทิภาวโต จ อุทกปุพฺพุฬกํ วิย เวทนา มุหุตฺตรมณียภาวโต, มรีจิกา วิย สฺา วิปฺปลมฺภนโต, กทลิกฺขนฺโธ วิย สงฺขารา อสารกโต, มายา วิย วิฺาณํ วฺจนกโต’’ติ เอวมาทินาปิ นเยน อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสนปิ ขนฺธธาตุววตฺถานํ เวทิตพฺพํ (วิภ. อฏฺ. ๒๖ กมาทิวินิจฺฉยกถา). อปฺปวตฺตํ ภวาภเวติ เอตฺถ ภโวติ วฑฺฒิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ สสฺสตทิฏฺิ , อภโวติ อุจฺเฉททิฏฺิ. ภโวติ ขุทฺทกภโว, อภโวติ มหาภโว. ภโวติ กามภโว, อภโวติ รูปารูปภโวติ เอวมาทินา นเยน ภวาภวานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๐๘๐; อุทา. อฏฺ. ๒๐). เตสํ ภวาภวานํ อปฺปวตฺติเหตุภูตํ ธมฺมํ ปกาเสสีติ อตฺโถ. อถ วา ภวติ อเนนาติ ภโว, ตีสุ ภเวสุ อุปฺปตฺตินิมิตฺตํ กมฺมาทิกํ. อุปปตฺติภโว อภโว นาม. อุภยตฺถ นิกนฺติยา ปหานกรํ อปฺปวตฺตํ ธมฺมํ เทเสสีติ อตฺโถ. ตสฺส ปน เรวตพุทฺธสฺส ตโยว อภิสมยา อเหสุํ. ปโม ปนสฺส คณนปถํ วีติวตฺโต. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ตสฺสาภิสมยา ตีณิ, อเหสุํ ธมฺมเทสเน;

คณนาย น วตฺตพฺโพ, ปมาภิสมโย อหู’’ติ.

ตตฺถ ตีณีติ ตโย, ลิงฺควิปลฺลาโส กโต, อยํ ปโม อภิสมโย อโหสิ.

อถาปเรน สมเยน นครุตฺตเร อุตฺตเร นคเร สพฺพารินฺทโม อรินฺทโม นาม ราชา อโหสิ. โส กิร ภควนฺตํ อตฺตโน นครมนุปฺปตฺตํ สุตฺวา ตีหิ ชนโกฏีหิ ปริวุโต ภควโต ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ติคาวุตวิตฺถตํ ทีปปูชํ กตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิ. อถ ภควา ตสฺส มโนนุกูลํ วิจิตฺตนยํ ธมฺมํ เทเสสิ. ตตฺถ เทวมนุสฺสานํ โกฏิสหสฺสสฺส ทุติยาภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘ยทา อรินฺทมํ ราชํ, วิเนสิ เรวโต มุนิ;

ตทา โกฏิสหสฺสานํ, ทุติยาภิสมโย อหู’’ติ.

อยํ ทุติโย อภิสมโย.

อถาปเรน สมเยน เรวโต สตฺถา อุตฺตรนิคมํ นาม อุปนิสฺสาย วิหรนฺโต สตฺตาหํ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. ตทา กิร อุตฺตรนิคมวาสิโน มนุสฺสา ยาคุภตฺตขชฺชกเภสชฺชปานกาทีนิ อาหริตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ภิกฺขู ปริปุจฺฉึสุ – ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ภควา’’ติ? ตโต เตสํ ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘ภควา, อาวุโส, นิโรธสมาปตฺตึ สมาปนฺโน’’ติ. อถาตีเต ตสฺมึ สตฺตาเห ภควนฺตํ นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตํ สรทสมเย สูริโย วิย อตฺตโน อนูปมาย พุทฺธสิริยา วิโรจมานํ ทิสฺวา นิโรธสมาปตฺติยา คุณานิสํสํ ปุจฺฉึสุ. ภควา จ เตสํ นิโรธสมาปตฺติยา คุณานิสํสํ กเถสิ. ตทา เทวมนุสฺสานํ โกฏิสตํ อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. อยํ ตติโย อภิสมโย อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สตฺตาหํ ปฏิสลฺลานา, วุฏฺหิตฺวา นราสโภ;

โกฏิสตํ นรมรูนํ, วิเนสิ อุตฺตเม ผเล’’ติ.

สุธฺวตีนคเร ปมมหาปาติโมกฺขุทฺเทเส เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตานํ อรหนฺตานํ คณนปถํ วีติวตฺตานํ ปโม สนฺนิปาโต อโหสิ. เมขลนคเร โกฏิสตสหสฺสสงฺขาตานํ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตานํ อรหนฺตานํ ทุติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เรวตสฺส ปน ภควโต ธมฺมจกฺกานุวตฺตโก วรุโณ นาม อคฺคสาวโก ปฺวนฺตานํ อคฺโค อาพาธิโก อโหสิ. ตตฺถ คิลานปุจฺฉนตฺถาย สมฺปตฺตมหาชนสฺส ลกฺขณตฺตยปริทีปกํ ธมฺมํ เทเสตฺวา โกฏิสตสหสฺสํ ปุริสานํ เอหิภิกฺขุปพฺพชฺชาย ปพฺพาเชตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาเปตฺวา จตุรงฺคินิเก สนฺนิปาเต ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิ. อยํ ตติโย สนฺนิปาโต อโหสิ. เตน วุตฺตํ –

.

‘‘สนฺนิปาตา ตโย อาสุํ, เรวตสฺส มเหสิโน;

ขีณาสวานํ วิมลานํ, สุวิมุตฺตาน ตาทินํ.

.

‘‘อติกฺกนฺตา คณนปถํ, ปมํ เย สมาคตา;

โกฏิสตสหสฺสานํ, ทุติโย อาสิ สมาคโม.

.

‘‘โยปิ ปฺาย อสโม, ตสฺส จกฺกานุวตฺตโก;

โส ตทา พฺยาธิโต อาสิ, ปตฺโต ชีวิตสํสยํ.

.

‘‘ตสฺส คิลานปุจฺฉาย, เย ตทา อุปคตา มุนี;

โกฏิสตสหสฺสา อรหนฺโต, ตติโย อาสิ สมาคโม’’ติ.

ตตฺถ จกฺกานุวตฺตโกติ ธมฺมจกฺกานุวตฺตโก. ปตฺโต ชีวิตสํสยนฺติ เอตฺถ ชีวิเต สํสยํ ชีวิตสํสยํ, ชีวิตกฺขยํ ปาปุณาติ วา, น วา ปาปุณาตีติ เอวํ ชีวิตสํสยํ ปตฺโต, พฺยาธิตสฺส พลวภาเวน มรติ, น มรตีติ ชีวิเต สํสยํ ปตฺโตติ อตฺโถ. เย ตทา อุปคตา มุนีติ อิติ ทีฆภาเว สติ ภิกฺขูนํ อุปริ โหติ, รสฺเส อนุสฺสเรน สทฺธึ วรุณสฺส อุปริ โหติ.

ตทา อมฺหากํ โพธิสตฺโต รมฺมวตีนคเร อติเทโว นาม พฺราหฺมโณ หุตฺวา พฺราหฺมณธมฺเม ปารํ คโต เรวตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ ทิสฺวา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา สรเณสุ ปติฏฺาย สิโลกสหสฺเสน ทสพลํ กิตฺเตตฺวา สหสฺสคฺฆนิเกน อุตฺตราสงฺเคน ภควนฺตํ ปูเชสิ. โสปิ นํ พุทฺโธ พฺยากาสิ – ‘‘อิโต กปฺปสตสหสฺสาธิกานํ ทฺวินฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก โคตโม นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ. เตน วุตฺตํ –

๑๐.

‘‘อหํ เตน สมเยน, อติเทโว นาม พฺราหฺมโณ;

อุปคนฺตฺวา เรวตํ พุทฺธํ, สรณํ ตสฺส คฺฉหํ.

๑๑.

‘‘ตสฺส สีลํ สมาธิฺจ, ปฺาคุณมนุตฺตมํ;

โถมยิตฺวา ยถาถามํ, อุตฺตรียมทาสหํ.

๑๒.

‘‘โสปิ มํ พุทฺโธ พฺยากาสิ, เรวโต โลกนายโก;

อปริเมยฺยิโต กปฺเป, อยํ พุทฺโธ ภวิสฺสติ.

๑๓.

‘ปธานํ ปทหิตฺวาน…เป… เหสฺสาม สมฺมุขา อิม’’’นฺติ. –

อฏฺ คาถา วิตฺถาเรตพฺพา.

๑๔.

‘‘ตสฺสาปิ วจนํ สุตฺวา, ภิยฺโย จิตฺตํ ปสาทยึ;

อุตฺตรึ วตมธิฏฺาสึ, ทสปารมิปูริยา.

๑๕.

‘‘ตทาปิ ตํ พุทฺธธมฺมํ, สริตฺวา อนุพฺรูหยึ;

อาหริสฺสามิ ตํ ธมฺมํ, ยํ มยฺหํ อภิปตฺถิต’’นฺติ.

ตตฺถ สรณํ ตสฺส คฺฉหนฺติ ตํ สรณํ อคฺฉึ อหํ, อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ปฺาคุณนฺติ ปฺาสมฺปตฺตึ. อนุตฺตมนฺติ เสฏฺํ. ‘‘ปฺาวิมุตฺติคุณมุตฺตม’’นฺติปิ ปาโ, โส อุตฺตาโนว. โถมยิตฺวาติ โถเมตฺวา วณฺณยิตฺวา. ยถาถามนฺติ ยถาพลํ. อุตฺตรียนฺติ อุตฺตราสงฺคํ. อทาสหนฺติ อทาสึ อหํ. พุทฺธธมฺมนฺติ พุทฺธภาวกรํ ธมฺมํ, ปารมีธมฺมนฺติ อตฺโถ. สริตฺวาติ อนุสฺสริตฺวา. อนุพฺรูหยินฺติ อภิวฑฺเฒสึ. อาหริสฺสามีติ อานยิสฺสามิ. ตํ ธมฺมนฺติ ตํ พุทฺธตฺตํ. ยํ มยฺหํ อภิปตฺถิตนฺติ ยํ มยา อภิปตฺถิตํ พุทฺธตฺตํ, ตํ อาหริสฺสามีติ อตฺโถ.

ตสฺส ปน เรวตสฺส ภควโต นครํ สุธฺวตี นาม อโหสิ, ปิตา วิปุโล นาม ขตฺติโย, มาตา วิปุลา นาม, วรุโณ จ พฺรหฺมเทโว จ ทฺเว อคฺคสาวกา, สมฺภโว นาม อุปฏฺาโก, ภทฺทา จ สุภทฺทา จ ทฺเว อคฺคสาวิกา, นาครุกฺโข โพธิ, สรีรํ อสีติหตฺถุพฺเพธํ อโหสิ, อายุ สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, สุทสฺสนา นาม อคฺคมเหสี, วรุโณ นาม ปุตฺโต, อาชฺรเถน นิกฺขมิ.

‘‘ตสฺส เทหาภินิกฺขนฺตํ, ปภาชาลมนุตฺตรํ;

ทิวา เจว ตทา รตฺตึ, นิจฺจํ ผรติ โยชนํ.

‘‘ธาตุโย มม สพฺพาปิ, วิกิรนฺตูติ โส ชิโน;

อธิฏฺาสิ มหาวีโร, สพฺพสตฺตานุกมฺปโก.

‘‘มหานาควนุยฺยาเน, มหโต นครสฺส โส;

ปูชิโต นรมรูหิ, ปรินิพฺพายิ เรวโต’’ติ.

เตน วุตฺตํ –

๑๖.

‘‘นครํ สุธฺวตี นาม, วิปุโล นาม ขตฺติโย;

วิปุลา นาม ชนิกา, เรวตสฺส มเหสิโน.

๒๑.

‘‘วรุโณ พฺรหฺมเทโว จ, อเหสุํ อคฺคสาวกา;

สมฺภโว นามุปฏฺาโก, เรวตสฺส มเหสิโน.

๒๒.

‘‘ภทฺทา เจว สุภทฺทา จ, อเหสุํ อคฺคสาวิกา;

โสปิ พุทฺโธ อสมสโม, นาคมูเล อพุชฺฌถ.

๒๓.

‘‘ปทุโม กุฺชโร เจว, อเหสุํ อคฺคุปฏฺกา;

สิริมา เจว ยสวตี, อเหสุํ อคฺคุปฏฺิกา.

๒๔.

‘‘อุจฺจตฺตเนน โส พุทฺโธ, อสีติหตฺถมุคฺคโต;

โอภาเสติ ทิสา สพฺพา, อินฺทเกตุว อุคฺคโต.

๒๕.

‘‘ตสฺส สรีเร นิพฺพตฺตา, ปภามาลา อนุตฺตรา;

ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, สมนฺตา ผรติ โยชนํ.

๒๖.

‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ , อายุ วิชฺชติ ตาวเท;

ตาวตา ทิฏฺมาโน โส, ตาเรสิ ชนตํ พหุํ.

๒๗.

‘‘ทสฺสยิตฺวา พุทฺธพลํ อมตํ โลเก ปกาสยํ;

นิพฺพายิ อนุปาทาโน, ยถคฺคุปาทานสงฺขยา.

๒๘.

‘‘โส จ กาโย รตนนิโภ, โส จ ธมฺโม อสาทิโส;

สพฺพํ ตมนฺตรหิตํ, นนุ ริตฺตา สพฺพสงฺขารา’’ติ.

ตตฺถ โอภาเสตีติ ปกาสยติ. อุคฺคโตติ อุสฺสิโต. ปภามาลาติ ปภาเวลา. ยถคฺคีติ อคฺคิ วิย. อุปาทานสงฺขยาติ อินฺธนกฺขยา. โส จ กาโย รตนนิโภติ โส จ ตสฺส ภควโต กาโย สุวณฺณวณฺโณ. ‘‘ตฺจ กายํ รตนนิภ’’นฺติปิ ปาโ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. โสเยว ปนสฺสตฺโถ. เสสคาถาสุ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติ.

เรวตพุทฺธวํสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิโต ปฺจโม พุทฺธวํโส.