📜

๒. สุเมธปตฺถนากถา

.

กปฺเป จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;

อมรํ นาม นครํ, ทสฺสเนยฺยํ มโนรมํ.

.

ทสหิ สทฺเทหิ อวิวิตฺตํ, อนฺนปานสมายุตํ;

หตฺถิสทฺทํ อสฺสสทฺทํ, เภริสงฺขรถานิ จ;

ขาทถ ปิวถ เจว, อนฺนปาเนน โฆสิตํ.

.

นครํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนํ, สพฺพกมฺมมุปาคตํ;

สตฺตรตนสมฺปนฺนํ, นานาชนสมากุลํ;

สมิทฺธํ เทวนครํว, อาวาสํ ปุฺกมฺมินํ.

.

นคเร อมรวติยา, สุเมโธ นาม พฺราหฺมโณ;

อเนกโกฏิสนฺนิจโย, ปหูตธนธฺวา.

.

อชฺฌายโก มนฺตธโร, ติณฺณํ เวทาน ปารคู;

ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สธมฺเม ปารมึ คโต.

.

รโหคโต นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

‘‘ทุกฺโข ปุนพฺภโว นาม, สรีรสฺส จ เภทนํ.

.

‘‘ชาติธมฺโม ชราธมฺโม, พฺยาธิธมฺโม สหํ [จหํ (สี. สฺยา.)] ตทา;

อชรํ อมตํ เขมํ, ปริเยสิสฺสามิ นิพฺพุตึ.

.

‘‘ยํนูนิมํ ปูติกายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

.

‘‘อตฺถิ เหหิติ โส มคฺโค, น โส สกฺกา น เหตุเย;

ปริเยสิสฺสามิ ตํ มคฺคํ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

๑๐.

‘‘ยถาปิ ทุกฺเข วิชฺชนฺเต, สุขํ นามปิ วิชฺชติ;

เอวํ ภเว วิชฺชมาเน, วิภโวปิ อิจฺฉิตพฺพโก.

๑๑.

‘‘ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;

เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพกํ.

๑๒.

‘‘ยถาปิ ปาเป วิชฺชนฺเต, กลฺยาณมปิ วิชฺชติ;

เอวเมว ชาติ วิชฺชนฺเต, อชาติปิจฺฉิตพฺพกํ.

๑๓.

‘‘ยถา คูถคโต ปุริโส, ตฬากํ ทิสฺวาน ปูริตํ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส ตฬากสฺส โส.

๑๔.

‘‘เอวํ กิเลสมลโธว, วิชฺชนฺเต อมตนฺตเฬ;

น คเวสติ ตํ ตฬากํ, น โทโส อมตนฺตเฬ.

๑๕.

‘‘ยถา อรีหิ ปริรุทฺโธ, วิชฺชนฺเต คมนมฺปเถ;

น ปลายติ โส ปุริโส, น โทโส อฺชสสฺส โส.

๑๖.

‘‘เอวํ กิเลสปริรุทฺโธ, วิชฺชมาเน สิเว ปเถ;

น คเวสติ ตํ มคฺคํ, น โทโส สิวมฺชเส.

๑๗.

‘‘ยถาปิ พฺยาธิโต ปุริโส, วิชฺชมาเน ติกิจฺฉเก;

น ติกิจฺฉาเปติ ตํ พฺยาธึ, น โทโส โส ติกิจฺฉเก.

๑๘.

‘‘เอวํ กิเลสพฺยาธีหิ, ทุกฺขิโต ปริปีฬิโต;

น คเวสติ ตํ อาจริยํ, น โทโส โส วินายเก.

๑๙.

‘‘ยถาปิ กุณปํ ปุริโส, กณฺเ พนฺธํ ชิคุจฺฉิย;

โมจยิตฺวาน คจฺเฉยฺย, สุขี เสรี สยํวสี.

๒๐.

‘‘ตเถวิมํ ปูติกายํ, นานากุณปสฺจยํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺเฉยฺยํ, อนเปกฺโข อนตฺถิโก.

๒๑.

‘‘ยถา อุจฺจารฏฺานมฺหิ, กรีสํ นรนาริโย;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

๒๒.

‘‘เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นานากุณปปูริตํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, วจฺจํ กตฺวา ยถา กุฏึ.

๒๓.

‘‘ยถาปิ ชชฺชรํ นาวํ, ปลุคฺคํ อุทคาหินึ [อุทกคาหิณึ (สี.), อุทกคาหินึ (สฺยา.)];

สามี ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, อนเปกฺขา อนตฺถิกา.

๒๔.

‘‘เอวเมวาหํ อิมํ กายํ, นวจฺฉิทฺทํ ธุวสฺสวํ;

ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉิสฺสํ, ชิณฺณนาวํว สามิกา.

๒๕.

‘‘ยถาปิ ปุริโส โจเรหิ, คจฺฉนฺโต ภณฺฑมาทิย;

ภณฺฑจฺเฉทภยํ ทิสฺวา, ฉฑฺฑยิตฺวาน คจฺฉติ.

๒๖.

‘‘เอวเมว อยํ กาโย, มหาโจรสโม วิย;

ปหายิมํ คมิสฺสามิ, กุสลจฺเฉทนา ภยา’’.

๒๗.

เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, เนกโกฏิสตํ ธนํ;

นาถานาถานํ ทตฺวาน, หิมวนฺตมุปาคมึ.

๒๘.

หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, ธมฺมิโก นาม ปพฺพโต;

อสฺสโม สุกโต มยฺหํ, ปณฺณสาลา สุมาปิตา.

๒๙.

จงฺกมํ ตตฺถ มาเปสึ, ปฺจโทสวิวชฺชิตํ;

อฏฺคุณสมูเปตํ, อภิฺาพลมาหรึ.

๓๐.

สาฏกํ ปชหึ ตตฺถ, นวโทสมุปาคตํ;

วากจีรํ นิวาเสสึ, ทฺวาทสคุณมุปาคตํ.

๓๑.

อฏฺโทสสมากิณฺณํ , ปชหึ ปณฺณสาลกํ;

อุปาคมึ รุกฺขมูลํ, คุเณ ทสหุปาคตํ.

๓๒.

วาปิตํ โรปิตํ ธฺํ, ปชหึ นิรวเสสโต;

อเนกคุณสมฺปนฺนํ, ปวตฺตผลมาทิยึ.

๓๓.

ตตฺถปฺปธานํ ปทหึ, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อพฺภนฺตรมฺหิ สตฺตาเห, อภิฺาพลปาปุณึ.

๓๔.

เอวํ เม สิทฺธิปฺปตฺตสฺส, วสีภูตสฺส สาสเน;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก.

๓๕.

อุปฺปชฺชนฺเต จ ชายนฺเต, พุชฺฌนฺเต ธมฺมเทสเน;

จตุโร นิมิตฺเต นาทฺทสํ, ฌานรติสมปฺปิโต.

๓๖.

ปจฺจนฺตเทสวิสเย, นิมนฺเตตฺวา ตถาคตํ;

ตสฺส อาคมนํ มคฺคํ, โสเธนฺติ ตุฏฺมานสา.

๓๗.

อหํ เตน สมเยน, นิกฺขมิตฺวา สกสฺสมา;

ธุนนฺโต วากจีรานิ, คจฺฉามิ อมฺพเร ตทา.

๓๘.

เวทชาตํ ชนํ ทิสฺวา, ตุฏฺหฏฺํ ปโมทิตํ;

โอโรหิตฺวาน คคนา, มนุสฺเส ปุจฺฉิ ตาวเท.

๓๙.

‘‘ตุฏฺหฏฺโ ปมุทิโต, เวทชาโต มหาชโน;

กสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

๔๐.

เต เม ปุฏฺา วิยากํสุ, ‘‘พุทฺโธ โลเก อนุตฺตโร;

ทีปงฺกโร นาม ชิโน, อุปฺปชฺชิ โลกนายโก;

ตสฺส โสธียติ มคฺโค, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

๔๑.

พุทฺโธติวจนํ [พุทฺโธติ มม (สี. สฺยา. ก.)] สุตฺวาน, ปีติ อุปฺปชฺชิ ตาวเท;

พุทฺโธ พุทฺโธติ กถยนฺโต, โสมนสฺสํ ปเวทยึ.

๔๒.

ตตฺถ ตฺวา วิจินฺเตสึ, ตุฏฺโ สํวิคฺคมานโส;

‘‘อิธ พีชานิ โรปิสฺสํ, ขโณ เว มา อุปจฺจคา.

๔๓.

‘‘ยทิ พุทฺธสฺส โสเธถ, เอโกกาสํ ททาถ เม;

อหมฺปิ โสธยิสฺสามิ, อฺชสํ วฏุมายนํ’’.

๔๔.

อทํสุ เต มโมกาสํ, โสเธตุํ อฺชสํ ตทา;

พุทฺโธ พุทฺโธติ จินฺเตนฺโต, มคฺคํ โสเธมหํ ตทา.

๔๕.

อนิฏฺิเต มโมกาเส, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

จตูหิ สตสหสฺเสหิ, ฉฬภิฺเหิ ตาทิหิ;

ขีณาสเวหิ วิมเลหิ, ปฏิปชฺชิ อฺชสํ ชิโน.

๔๖.

ปจฺจุคฺคมนา วตฺตนฺติ, วชฺชนฺติ เภริโย พหู;

อาโมทิตา นรมรู, สาธุการํ ปวตฺตยุํ.

๔๗.

เทวา มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, มนุสฺสาปิ จ เทวตา;

อุโภปิ เต ปฺชลิกา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

๔๘.

เทวา ทิพฺเพหิ ตุริเยหิ, มนุสฺสา มานุเสหิ จ [มานุสฺสเกหิ จ มานุสเกหิ จ (สฺยา. ก.)];

อุโภปิ เต วชฺชยนฺตา, อนุยนฺติ ตถาคตํ.

๔๙.

ทิพฺพํ มนฺทารวํ ปุปฺผํ, ปทุมํ ปาริฉตฺตกํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา มรู.

๕๐.

ทิพฺพํ จนฺทนจุณฺณฺจ, วรคนฺธฺจ เกวลํ;

ทิโสทิสํ โอกิรนฺติ, อากาสนภคตา [อากาเส นภคา (สฺยา.)] มรู.

๕๑.

จมฺปกํ สรลํ นีปํ, นาคปุนฺนาคเกตกํ;

ทิโสทิสํ อุกฺขิปนฺติ, ภูมิตลคตา นรา.

๕๒.

เกเส มุฺจิตฺวาหํ ตตฺถ, วากจีรฺจ จมฺมกํ;

กลเล ปตฺถริตฺวาน, อวกุชฺโช นิปชฺชหํ.

๕๓.

‘‘อกฺกมิตฺวาน มํ พุทฺโธ, สห สิสฺเสหิ คจฺฉตุ;

มา นํ กลเล อกฺกมิตฺถ, หิตาย เม ภวิสฺสติ’’.

๕๔.

ปถวิยํ นิปนฺนสฺส, เอวํ เม อาสิ เจตโส;

‘‘อิจฺฉมาโน อหํ อชฺช, กิเลเส ฌาปเย มม.

๕๕.

‘‘กึ เม อฺาตเวเสน, ธมฺมํ สจฺฉิกเตนิธ;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, พุทฺโธ เหสฺสํ สเทวเก.

๕๖.

‘‘กึ เม เอเกน ติณฺเณน, ปุริเสน ถามทสฺสินา;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ.

๕๗.

‘‘อิมินา เม อธิกาเรน, กเตน ปุริสุตฺตเม;

สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา, ตาเรมิ ชนตํ พหุํ.

๕๘.

‘‘สํสารโสตํ ฉินฺทิตฺวา, วิทฺธํเสตฺวา ตโย ภเว;

ธมฺมนาวํ สมารุยฺห, สนฺตาเรสฺสํ สเทวกํ’’.

๕๙.

มนุสฺสตฺตํ ลิงฺคสมฺปตฺติ, เหตุ สตฺถารทสฺสนํ;

ปพฺพชฺชา คุณสมฺปตฺติ, อธิกาโร จ ฉนฺทตา;

อฏฺธมฺมสโมธานา, อภินีหาโร สมิชฺฌติ.

๖๐.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

อุสฺสีสเก มํ ตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๖๑.

‘‘ปสฺสถ อิมํ ตาปสํ, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;

อปริเมยฺยิโต กปฺเป, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ.

๖๒.

‘‘อหุ กปิลวฺหยา รมฺมา, นิกฺขมิตฺวา ตถาคโต;

ปธานํ ปทหิตฺวาน, กตฺวา ทุกฺกรการิกํ.

๖๓.

‘‘อชปาลรุกฺขมูลสฺมึ, นิสีทิตฺวา ตถาคโต;

ตตฺถ ปายาสํ ปคฺคยฺห, เนรฺชรมุเปหิติ.

๖๔.

‘‘เนรฺชราย ตีรมฺหิ, ปายาสํ อท โส ชิโน;

ปฏิยตฺตวรมคฺเคน, โพธิมูลมุเปหิติ.

๖๕.

‘‘ตโต ปทกฺขิณํ กตฺวา, โพธิมณฺฑํ อนุตฺตโร [อนุตฺตรํ (สฺยา. กํ.)];

อสฺสตฺถรุกฺขมูลมฺหิ, พุชฺฌิสฺสติ มหายโส.

๖๖.

‘‘อิมสฺส ชนิกา มาตา, มายา นาม ภวิสฺสติ;

ปิตา สุทฺโธทโน นาม, อยํ เหสฺสติ โคตโม.

๖๗.

‘‘อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โกลิโต อุปติสฺโส จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวกา;

อานนฺโท นามุปฏฺาโก, อุปฏฺิสฺสติมํ [อุปฏฺิสฺสติ ตํ (สี.)] ชินํ.

๖๘.

‘‘เขมา อุปฺปลวณฺณา จ, อคฺคา เหสฺสนฺติ สาวิกา;

อนาสวา วีตราคา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;

โพธิ ตสฺส ภควโต, อสฺสตฺโถติ ปวุจฺจติ.

๖๙.

‘‘จิตฺโต จ หตฺถาฬวโก [หตฺถาลวโก (สี.)], อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺกา;

อุตฺตรา นนฺทมาตา จ, อคฺคา เหสฺสนฺตุปฏฺิกา’’.

๗๐.

อิทํ สุตฺวาน วจนํ, อสมสฺส มเหสิโน;

อาโมทิตา นรมรู, พุทฺธพีชํ กิร [พุทฺธพีชงฺกุโร (สี. สฺยา.)] อยํ.

๗๑.

อุกฺกุฏฺิสทฺทา วตฺตนฺติ, อปฺโผเฏนฺติ [อปฺโผเนฺติ (สี.)] หสนฺติ จ;

กตฺชลี นมสฺสนฺติ, ทสสหสฺสี สเทวกา.

๗๒.

‘‘ยทิมสฺส โลกนาถสฺส, วิรชฺฌิสฺสาม สาสนํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ.

๗๓.

‘‘ยถา มนุสฺสา นทึ ตรนฺตา, ปฏิติตฺถํ วิรชฺฌิย;

เหฏฺาติตฺเถ คเหตฺวาน, อุตฺตรนฺติ มหานทึ.

๗๔.

‘‘เอวเมว มยํ สพฺเพ, ยทิ มุฺจามิมํ ชินํ;

อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, เหสฺสาม สมฺมุขา อิมํ’’.

๗๕.

ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.

๗๖.

เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, ปทกฺขิณมกํสุ [สพฺเพ ปทกฺขิณมกํสุ (สฺยา. ก.)] มํ;

เทวา มนุสฺสา อสุรา จ, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุํ.

๗๗.

ทสฺสนํ เม อติกฺกนฺเต, สสงฺเฆ โลกนายเก;

สยนา วุฏฺหิตฺวาน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.

๗๘.

สุเขน สุขิโต โหมิ, ปาโมชฺเชน ปโมทิโต;

ปีติยา จ อภิสฺสนฺโน, ปลฺลงฺกํ อาภุชึ ตทา.

๗๙.

ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;

‘‘วสีภูโต อหํ ฌาเน, อภิฺาสุ ปารมึคโต [อภิฺาปารมึ คโต (สี.)].

๘๐.

‘‘สหสฺสิยมฺหิ โลกมฺหิ, อิสโย นตฺถิ เม สมา;

อสโม อิทฺธิธมฺเมสุ, อลภึ อีทิสํ สุขํ.

๘๑.

‘‘ปลฺลงฺกาภุชเน มยฺหํ, ทสสหสฺสาธิวาสิโน;

มหานาทํ ปวตฺเตสุํ, ‘ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๒.

‘‘‘ยา ปุพฺเพ โพธิสตฺตานํ, ปลฺลงฺกวรมาภุเช;

นิมิตฺตานิ ปทิสฺสนฺติ, ตานิ อชฺช ปทิสฺสเร.

๘๓.

‘‘‘สีตํ พฺยปคตํ โหติ, อุณฺหฺจ อุปสมฺมติ;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๔.

‘‘‘ทสสหสฺสี โลกธาตู, นิสฺสทฺทา โหนฺติ นิรากุลา;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๕.

‘‘‘มหาวาตา น วายนฺติ, น สนฺทนฺติ สวนฺติโย;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๖.

‘‘‘ถลชา ทกชา ปุปฺผา, สพฺเพ ปุปฺผนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ปุปฺผิตา [ปุปฺผิตานิ (อฏฺ.)] สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๗.

‘‘‘ลตา วา ยทิ วา รุกฺขา, ผลภารา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช ผลิตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๘.

‘‘‘อากาสฏฺา จ ภูมฏฺา, รตนา โชตนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช รตนา โชตนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๘๙.

‘‘‘มานุสฺสกา จ ทิพฺพา จ, ตุริยา วชฺชนฺติ ตาวเท;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๐.

‘‘‘วิจิตฺรปุปฺผา คคนา, อภิวสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปิ อชฺช ปวสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๑.

‘‘‘มหาสมุทฺโท อาภุชติ, ทสสหสฺสี ปกมฺปติ;

เตปชฺชุโภ อภิรวนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๒.

‘‘‘นิรเยปิ ทสสหสฺเส, อคฺคี นิพฺพนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช นิพฺพุตา อคฺคี, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๓.

‘‘‘วิมโล โหติ สูริโย, สพฺพา ทิสฺสนฺติ ตารกา;

เตปิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๔.

‘‘‘อโนวฏฺเน [อโนวุฏฺเน (สฺยา. ก.)] อุทกํ, มหิยา อุพฺภิชฺชิ ตาวเท;

ตมฺปชฺชุพฺภิชฺชเต มหิยา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๕.

‘‘‘ตาราคณา วิโรจนฺติ, นกฺขตฺตา คคนมณฺฑเล;

วิสาขา จนฺทิมา ยุตฺตา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๖.

‘‘‘พิลาสยา ทรีสยา, นิกฺขมนฺติ สกาสยา;

เตปชฺช อาสยา ฉุทฺธา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๗.

‘‘‘น โหนฺติ อรตี สตฺตานํ, สนฺตุฏฺา โหนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ สนฺตุฏฺา, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๘.

‘‘‘โรคา ตทุปสมฺมนฺติ, ชิฆจฺฉา จ วินสฺสติ;

ตานิ อชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๙๙.

‘‘‘ราโค ตทา ตนุ โหติ, โทโส โมโห วินสฺสติ;

เตปชฺช วิคตา สพฺเพ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๐.

‘‘‘ภยํ ตทา น ภวติ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๑.

‘‘‘รโชนุทฺธํสติ อุทฺธํ, อชฺชเปตํ ปทิสฺสติ;

เตน ลิงฺเคน ชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๒.

‘‘‘อนิฏฺคนฺโธ ปกฺกมติ, ทิพฺพคนฺโธ ปวายติ;

โสปชฺช วายติ คนฺโธ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๓.

‘‘‘สพฺเพ เทวา ปทิสฺสนฺติ, ปยิตฺวา อรูปิโน;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๔.

‘‘‘ยาวตา นิรยา นาม, สพฺเพ ทิสฺสนฺติ ตาวเท;

เตปชฺช สพฺเพ ทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๕.

‘‘‘กุฏฺฏา [กุฑฺฑา (สี.)] กวาฏา เสลา จ, น โหนฺตาวรณา ตทา;

อากาสภูตา เตปชฺช, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๖.

‘‘‘จุตี จ อุปปตฺติ จ, ขเณ ตสฺมึ น วิชฺชติ;

ตานิปชฺช ปทิสฺสนฺติ, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ.

๑๐๗.

‘‘‘ทฬฺหํ ปคฺคณฺห วีริยํ, มา นิวตฺต อภิกฺกม;

มยมฺเปตํ วิชานาม, ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสสิ’’’.

๑๐๘.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, ทสสหสฺสีนจูภยํ;

ตุฏฺหฏฺโ ปโมทิโต, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.

๑๐๙.

‘‘อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา, อโมฆวจนา ชินา;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๐.

‘‘ยถา ขิตฺตํ นเภ เลฑฺฑุ, ธุวํ ปตติ ภูมิยํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๑.

‘‘ยถาปิ สพฺพสตฺตานํ, มรณํ ธุวสสฺสตํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๒.

‘‘ยถา รตฺติกฺขเย ปตฺเต, สูริยุคฺคมนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๓.

‘‘ยถา นิกฺขนฺตสยนสฺส, สีหสฺส นทนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๔.

‘‘ยถา อาปนฺนสตฺตานํ, ภารโมโรปนํ ธุวํ;

ตเถว พุทฺธเสฏฺานํ, วจนํ ธุวสสฺสตํ;

วิตถํ นตฺถิ พุทฺธานํ, ธุวํ พุทฺโธ ภวามหํ.

๑๑๕.

‘‘หนฺท พุทฺธกเร ธมฺเม, วิจินามิ อิโต จิโต;

อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา, ยาวตา ธมฺมธาตุยา’’.

๑๑๖.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ปมํ ทานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อนุจิณฺณํ มหาปถํ.

๑๑๗.

‘‘อิมํ ตฺวํ ปมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ทานปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๑๘.

‘‘ยถาปิ กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ, ยสฺส กสฺสจิ อโธ กโต;

วมเต วุทกํ นิสฺเสสํ, น ตตฺถ ปริรกฺขติ.

๑๑๙.

‘‘ตเถว ยาจเก ทิสฺวา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

ททาหิ ทานํ นิสฺเสสํ, กุมฺโภ วิย อโธ กโต.

๑๒๐.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๒๑.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ทุติยํ สีลปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๒๒.

‘‘อิมํ ตฺวํ ทุติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

สีลปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๒๓.

‘‘ยถาปิ จมรี วาลํ, กิสฺมิฺจิ ปฏิลคฺคิตํ;

อุเปติ มรณํ ตตฺถ, น วิโกเปติ วาลธึ.

๑๒๔.

‘‘ตเถว ตฺวํ จตูสุ ภูมีสุ, สีลานิ ปริปูรย;

ปริรกฺข สพฺพทา สีลํ, จมรี วิย วาลธึ.

๑๒๕.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๒๖.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ตติยํ เนกฺขมฺมปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๒๗.

‘‘อิมํ ตฺวํ ตติยํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เนกฺขมฺมปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๒๘.

‘‘ยถา อนฺทุฆเร ปุริโส, จิรวุตฺโถ ทุขฏฺฏิโต;

น ตตฺถ ราคํ ชเนสิ, มุตฺตึเยว คเวสติ.

๑๒๙.

‘‘ตเถว ตฺวํ สพฺพภเว, ปสฺส อนฺทุฆเร วิย;

เนกฺขมฺมาภิมุโข โหหิ, ภวโต ปริมุตฺติยา.

๑๓๐.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๓๑.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, จตุตฺถํ ปฺาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๓๒.

‘‘อิมํ ตฺวํ จตุตฺถํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ปฺาปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๓๓.

‘‘ยถาปิ ภิกฺขุ ภิกฺขนฺโต, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิเม;

กุลานิ น วิวชฺเชนฺโต, เอวํ ลภติ ยาปนํ.

๑๓๔.

‘‘ตเถว ตฺวํ สพฺพกาลํ, ปริปุจฺฉํ พุธํ ชนํ;

ปฺาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๓๕.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๓๖.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ปฺจมํ วีริยปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๓๗.

‘‘อิมํ ตฺวํ ปฺจมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

วีริยปารมิตํ คจฺฉ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๓๘.

‘‘ยถาปิ สีโห มิคราชา, นิสชฺชฏฺานจงฺกเม;

อลีนวีริโย โหติ, ปคฺคหิตมโน สทา.

๑๓๙.

‘‘ตเถว ตฺวํ [ตฺวํปิ (สี.)] สพฺพภเว, ปคฺคณฺห วีริยํ ทฬฺหํ;

วีริยปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๔๐.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๔๑.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ฉฏฺมํ ขนฺติปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๔๒.

‘‘อิมํ ตฺวํ ฉฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌมานโส, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๔๓.

‘‘ยถาปิ ปถวี นาม, สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ จ;

สพฺพํ สหติ นิกฺเขปํ, น กโรติ ปฏิฆํ ตยา.

๑๔๔.

‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ สพฺเพสํ, สมฺมานาวมานกฺขโม;

ขนฺติปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๔๕.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๔๖.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, สตฺตมํ สจฺจปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๔๗.

‘‘อิมํ ตฺวํ สตฺตมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ อทฺเวชฺฌวจโน, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๔๘.

‘‘ยถาปิ โอสธี นาม, ตุลาภูตา สเทวเก;

สมเย อุตุวสฺเส วา, น โวกฺกมติ วีถิโต.

๑๔๙.

‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ สจฺเจสุ, มา โวกฺกม หิ วีถิโต;

สจฺจปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๕๐.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๕๑.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, อฏฺมํ อธิฏฺานปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๕๒.

‘‘อิมํ ตฺวํ อฏฺมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตตฺถ ตฺวํ อจโล หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๕๓.

‘‘ยถาปิ ปพฺพโต เสโล, อจโล สุปฺปติฏฺิโต;

น กมฺปติ ภุสวาเตหิ, สกฏฺาเนว ติฏฺติ.

๑๕๔.

‘‘ตเถว ตฺวมฺปิ อธิฏฺาเน, สพฺพทา อจโล ภว;

อธิฏฺานปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๕๕.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๕๖.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, นวมํ เมตฺตาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๕๗.

‘‘อิมํ ตฺวํ นวมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

เมตฺตาย อสโม โหหิ, ยทิ โพธึ ปตฺตุมิจฺฉสิ.

๑๕๘.

‘‘ยถาปิ อุทกํ นาม, กลฺยาเณ ปาปเก ชเน;

สมํ ผรติ สีเตน, ปวาเหติ รโชมลํ.

๑๕๙.

‘‘ตเถว ตฺวํ หิตาหิเต, สมํ เมตฺตาย ภาวย;

เมตฺตาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๖๐.

‘‘นเหเต เอตฺตกาเยว, พุทฺธธมฺมา ภวิสฺสเร;

อฺเปิ วิจินิสฺสามิ, เย ธมฺมา โพธิปาจนา’’.

๑๖๑.

วิจินนฺโต ตทา ทกฺขึ, ทสมํ อุเปกฺขาปารมึ;

ปุพฺพเกหิ มเหสีหิ, อาเสวิตนิเสวิตํ.

๑๖๒.

‘‘อิมํ ตฺวํ ทสมํ ตาว, ทฬฺหํ กตฺวา สมาทิย;

ตุลาภูโต ทฬฺโห หุตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๖๓.

‘‘ยถาปิ ปถวี นาม, นิกฺขิตฺตํ อสุจึ สุจึ;

อุเปกฺขติ อุโภเปเต, โกปานุนยวชฺชิตา.

๑๖๔.

‘‘ตเถว ตฺวํ สุขทุกฺเข, ตุลาภูโต สทา ภว;

อุเปกฺขาปารมิตํ คนฺตฺวา, สมฺโพธึ ปาปุณิสฺสสิ.

๑๖๕.

‘‘เอตฺตกาเยว เต โลเก, เย ธมฺมา โพธิปาจนา;

ตตุทฺธํ นตฺถิ อฺตฺร, ทฬฺหํ ตตฺถ ปติฏฺห’’.

๑๖๖.

อิเม ธมฺเม สมฺมสโต, สภาวสรสลกฺขเณ;

ธมฺมเตเชน วสุธา, ทสสหสฺสี ปกมฺปถ.

๑๖๗.

จลตี รวตี ปถวี, อุจฺฉุยนฺตํว ปีฬิตํ;

เตลยนฺเต ยถา จกฺกํ, เอวํ กมฺปติ เมทนี.

๑๖๘.

ยาวตา ปริสา อาสิ, พุทฺธสฺส ปริเวสเน;

ปเวธมานา สา ตตฺถ, มุจฺฉิตา เสติ ภูมิยํ.

๑๖๙.

ฆฏาเนกสหสฺสานิ, กุมฺภีนฺจ สตา พหู;

สฺจุณฺณมถิตา ตตฺถ, อฺมฺํ ปฆฏฺฏิตา.

๑๗๐.

อุพฺพิคฺคา ตสิตา ภีตา, ภนฺตา พฺยาถิตมานสา;

มหาชนา สมาคมฺม, ทีปงฺกรมุปาคมุํ.

๑๗๑.

‘‘กึ ภวิสฺสติ โลกสฺส, กลฺยาณมถ ปาปกํ;

สพฺโพ อุปทฺทุโต โลโก, ตํ วิโนเทหิ จกฺขุม’’.

๑๗๒.

เตสํ ตทา สฺเปสิ, ทีปงฺกโร มหามุนิ;

‘‘วิสฏฺา โหถ มา เภถ [ภาถ (สพฺพตฺถ)], อิมสฺมึ ปถวิกมฺปเน.

๑๗๓.

‘‘ยมหํ อชฺช พฺยากาสึ, พุทฺโธ โลเก ภวิสฺสติ;

เอโส สมฺมสติ ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ.

๑๗๔.

‘‘ตสฺส สมฺมสโต ธมฺมํ, พุทฺธภูมึ อเสสโต;

เตนายํ กมฺปิตา ปถวี, ทสสหสฺสี สเทวเก’’.

๑๗๕.

พุทฺธสฺส วจนํ สุตฺวา, มโน นิพฺพายิ ตาวเท;

สพฺเพ มํ อุปสงฺกมฺม, ปุนาปิ อภิวนฺทิสุํ.

๑๗๖.

สมาทิยิตฺวา พุทฺธคุณํ, ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ;

ทีปงฺกรํ นมสฺสิตฺวา, อาสนา วุฏฺหึ ตทา.

๑๗๗.

ทิพฺพํ มานุสกํ ปุปฺผํ, เทวา มานุสกา อุโภ;

สโมกิรนฺติ ปุปฺเผหิ, วุฏฺหนฺตสฺส อาสนา.

๑๗๘.

เวทยนฺติ จ เต โสตฺถึ, เทวา มานุสกา อุโภ;

‘‘มหนฺตํ ปตฺถิตํ ตุยฺหํ, ตํ ลภสฺสุ ยถิจฺฉิตํ.

๑๗๙.

‘‘สพฺพีติโย วิวชฺชนฺตุ, โสโก โรโค วินสฺสตุ;

มา เต ภวนฺตฺวนฺตรายา [ภวตฺวนฺตราโย (สี. สฺยา.)], ผุส ขิปฺปํ โพธิมุตฺตมํ.

๑๘๐.

‘‘ยถาปิ สมเย ปตฺเต, ปุปฺผนฺติ ปุปฺผิโน ทุมา;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุทฺธาเณน ปุปฺผสิ.

๑๘๑.

‘‘ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ปูรยุํ ทส ปารมี;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ปูรย ทส ปารมี.

๑๘๒.

‘‘ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, โพธิมณฺฑมฺหิ พุชฺฌเร;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, พุชฺฌสฺสุ ชินโพธิยํ.

๑๘๓.

‘‘ยถา เย เกจิ สมฺพุทฺธา, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตยุํ;

ตเถว ตฺวํ มหาวีร, ธมฺมจกฺกํ ปวตฺตย.

๑๘๔.

‘‘ปุณฺณมาเย ยถา จนฺโท, ปริสุทฺโธ วิโรจติ;

ตเถว ตฺวํ ปุณฺณมโน, วิโรจ ทสสหสฺสิยํ.

๑๘๕.

‘‘ราหุมุตฺโต ยถา สูริโย, ตาเปน อติโรจติ;

ตเถว โลกา มุฺจิตฺวา, วิโรจ สิริยา ตุวํ.

๑๘๖.

‘‘ยถา ยา กาจิ นทิโย, โอสรนฺติ มโหทธึ;

เอวํ สเทวกา โลกา, โอสรนฺตุ ตวนฺติเก’’.

๑๘๗.

เตหิ ถุตปฺปสตฺโถ โส, ทส ธมฺเม สมาทิย;

เต ธมฺเม ปริปูเรนฺโต, ปวนํ ปาวิสี ตทาติ.

สุเมธปตฺถนากถา นิฏฺิตา.