📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
จริยาปิฏกปาฬิ
๑. อกิตฺติวคฺโค
๑. อกิตฺติจริยา
‘‘กปฺเป ¶ ¶ ¶ ¶ จ สตสหสฺเส, จตุโร จ อสงฺขิเย;
เอตฺถนฺตเร ยํ จริตํ, สพฺพํ ตํ โพธิปาจนํ.
‘‘อตีตกปฺเป จริตํ, ปยิตฺวา ภวาภเว;
อิมมฺหิ กปฺเป จริตํ, ปวกฺขิสฺสํ สุโณหิ เม.
‘‘ยทา อหํ พฺรหารฺเ, สฺุเ วิปินกานเน;
อชฺโฌคาเหตฺวา [อชฺโฌคเหตฺวา (สี. สฺยา.)] วิหรามิ, อกิตฺติ นาม ตาปโส.
‘‘ตทา ¶ มํ ตปเตเชน, สนฺตตฺโต ติทิวาภิภู;
ธาเรนฺโต พฺราหฺมณวณฺณํ, ภิกฺขาย มํ อุปาคมิ.
‘‘ปวนา อาภตํ ปณฺณํ, อเตลฺจ อโลณิกํ;
มม ทฺวาเร ิตํ ทิสฺวา, สกฏาเหน อากิรึ.
‘‘ตสฺส ทตฺวานหํ ปณฺณํ, นิกฺกุชฺชิตฺวาน ภาชนํ;
ปุเนสนํ ชหิตฺวาน, ปาวิสึ ปณฺณสาลกํ.
‘‘ทุติยมฺปิ ¶ ตติยมฺปิ, อุปคฺฉิ มมนฺติกํ;
อกมฺปิโต อโนลคฺโค, เอวเมวมทาสหํ.
‘‘น ¶ เม ตปฺปจฺจยา อตฺถิ, สรีรสฺมึ วิวณฺณิยํ;
ปีติสุเขน รติยา, วีตินาเมมิ ตํ ทิวํ.
‘‘ยทิ มาสมฺปิ ทฺเวมาสํ, ทกฺขิเณยฺยํ วรํ ลเภ;
อกมฺปิโต อโนลีโน, ทเทยฺยํ ทานมุตฺตมํ.
‘‘น ตสฺส ทานํ ททมาโน, ยสํ ลาภฺจ ปตฺถยึ;
สพฺพฺุตํ ปตฺถยาโน, ตานิ กมฺมานิ อาจริ’’นฺติ.
อกิตฺติจริยํ ปมํ.
๒. สงฺขจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, พฺราหฺมโณ สงฺขสวฺหโย;
มหาสมุทฺทํ ตริตุกาโม, อุปคจฺฉามิ ปฏฺฏนํ.
‘‘ตตฺถทฺทสํ ปฏิปเถ, สยมฺภุํ อปราชิตํ;
กนฺตารทฺธานํ ปฏิปนฺนํ [กนฺตารทฺธานปฏิปนฺนํ (สี. สฺยา.)], ตตฺตาย กินภูมิยา.
‘‘ตมหํ ปฏิปเถ ทิสฺวา, อิมมตฺถํ วิจินฺตยึ;
‘อิทํ เขตฺตํ อนุปฺปตฺตํ, ปฺุกามสฺส ชนฺตุโน.
‘‘‘ยถา กสฺสโก ปุริโส, เขตฺตํ ทิสฺวา มหาคมํ;
ตตฺถ พีชํ น โรเปติ, น โส ธฺเน อตฺถิโก.
‘‘‘เอวเมวาหํ ¶ ¶ ปฺุกาโม, ทิสฺวา เขตฺตวรุตฺตมํ;
ยทิ ตตฺถ การํ น กโรมิ, นาหํ ปฺุเน อตฺถิโก.
‘‘‘ยถา อมจฺโจ มุทฺทิกาโม, รฺโ อนฺเตปุเร ชเน;
น เทติ เตสํ ธนธฺํ, มุทฺทิโต ปริหายติ.
‘‘‘เอวเมวาหํ ปฺุกาโม, วิปุลํ ทิสฺวาน ทกฺขิณํ;
ยทิ ตสฺส ทานํ น ททามิ, ปริหายิสฺสามิ ปฺุโต’.
‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, โอโรหิตฺวา อุปาหนา;
ตสฺส ปาทานิ วนฺทิตฺวา, อทาสึ ฉตฺตุปาหนํ.
‘‘เตเนวาหํ ¶ สตคุณโต, สุขุมาโล สุเขธิโต;
อปิ จ ทานํ ปริปูเรนฺโต, เอวํ ตสฺส อทาสห’’นฺติ.
สงฺขจริยํ ทุติยํ.
๓. กุรุราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, อินฺทปตฺเถ [อินฺทปตฺเต (สี. ก.)] ปุรุตฺตเม;
ราชา ธนฺจโย นาม, กุสเล ทสหุปาคโต.
‘‘กลิงฺครฏฺวิสยา, พฺราหฺมณา อุปคฺฉุ มํ;
อายาจุํ มํ หตฺถินาคํ, ธฺํ มงฺคลสมฺมตํ.
‘‘‘อวุฏฺิโก ชนปโท, ทุพฺภิกฺโข ฉาตโก มหา;
ททาหิ ปวรํ นาคํ, นีลํ อฺชนสวฺหยํ.
‘‘‘น ¶ ¶ เม ยาจกมนุปฺปตฺเต, ปฏิกฺเขโป อนุจฺฉโว;
มา เม ภิชฺชิ สมาทานํ, ทสฺสามิ วิปุลํ คชํ’.
‘‘นาคํ คเหตฺวา โสณฺฑาย, ภิงฺคาเร [ภิงฺกาเร (สี.)] รตนามเย;
ชลํ หตฺเถ อากิริตฺวา, พฺราหฺมณานํ อทํ คชํ.
‘‘ตสฺส นาเค ปทินฺนมฺหิ, อมจฺจา เอตทพฺรวุํ;
‘กึ นุ ตุยฺหํ วรํ นาคํ, ยาจกานํ ปทสฺสสิ.
‘‘‘ธฺํ ¶ มงฺคลสมฺปนฺนํ, สงฺคามวิชยุตฺตมํ;
ตสฺมึ นาเค ปทินฺนมฺหิ, กึ เต รชฺชํ กริสฺสติ.
‘‘‘รชฺชมฺปิ เม ทเท สพฺพํ, สรีรํ ทชฺชมตฺตโน;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา นาคํ อทาสห’’’นฺติ.
กุรุราชจริยํ ตติยํ.
๔. มหาสุทสฺสนจริยา
‘‘กุสาวติมฺหิ นคเร, ยทา อาสึ มหีปติ;
มหาสุทสฺสโน นาม, จกฺกวตฺตี มหพฺพโล.
‘‘ตตฺถาหํ ¶ ทิวเส ติกฺขตฺตุํ, โฆสาเปมิ ตหึ ตหึ;
‘โก กึ อิจฺฉติ ปตฺเถติ, กสฺส กึ ทียตู ธนํ.
‘‘‘โก ฉาตโก โก ตสิโต, โก มาลํ โก วิเลปนํ;
นานารตฺตานิ วตฺถานิ, โก นคฺโค ปริทหิสฺสติ.
‘‘‘โก ปเถ ฉตฺตมาเทติ, โกปาหนา มุทู สุภา’;
อิติ ¶ สายฺจ ปาโต จ, โฆสาเปมิ ตหึ ตหึ.
‘‘น ตํ ทสสุ าเนสุ, นปิ านสเตสุ วา;
อเนกสตาเนสุ, ปฏิยตฺตํ ยาจเก ธนํ.
‘‘ทิวา วา ยทิ วา รตฺตึ, ยทิ เอติ วนิพฺพโก;
ลทฺธา ยทิจฺฉกํ โภคํ, ปูรหตฺโถว คจฺฉติ.
‘‘เอวรูปํ มหาทานํ, อทาสึ ยาวชีวิกํ;
นปาหํ เทสฺสํ ธนํ ทมฺมิ, นปิ นตฺถิ นิจโย มยิ.
‘‘ยถาปิ อาตุโร นาม, โรคโต ปริมุตฺติยา;
ธเนน เวชฺชํ ตปฺเปตฺวา, โรคโต ปริมุจฺจติ.
‘‘ตเถวาหํ ชานมาโน, ปริปูเรตุมเสสโต;
อูนมนํ ปูรยิตุํ, เทมิ ทานํ วนิพฺพเก;
นิราลโย อปจฺจาโส, สมฺโพธิมนุปตฺติยา’’ติ.
มหาสุทสฺสนจริยํ จตุตฺถํ.
๕. มหาโควินฺทจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, สตฺตราชปุโรหิโต;
ปูชิโต นรเทเวหิ, มหาโควินฺทพฺราหฺมโณ.
‘‘ตทาหํ สตฺตรชฺเชสุ, ยํ เม อาสิ อุปายนํ;
เตน เทมิ มหาทานํ, อกฺโขพฺภํ [อกฺโขภํ (สฺยา. กํ.)] สาครูปมํ.
‘‘น ¶ ¶ เม เทสฺสํ ธนํ ธฺํ, นปิ นตฺถิ นิจโย มยิ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา เทมิ วรํ ธน’’นฺติ.
มหาโควินฺทจริยํ ปฺจมํ.
๖. นิมิราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, มิถิลายํ ปุรุตฺตเม;
นิมิ นาม มหาราชา, ปณฺฑิโต กุสลตฺถิโก.
‘‘ตทาหํ มาปยิตฺวาน, จตุสฺสาลํ จตุมฺมุขํ;
ตตฺถ ทานํ ปวตฺเตสึ, มิคปกฺขินราทินํ.
‘‘อจฺฉาทนฺจ สยนํ, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
อพฺโพจฺฉินฺนํ กริตฺวาน, มหาทานํ ปวตฺตยึ.
‘‘ยถาปิ เสวโก สามึ, ธนเหตุมุปาคโต;
กาเยน วาจา มนสา, อาราธนียเมสติ.
‘‘ตเถวาหํ สพฺพภเว, ปริเยสิสฺสามิ โพธิชํ;
ทาเนน สตฺเต ตปฺเปตฺวา, อิจฺฉามิ โพธิมุตฺตม’’นฺติ.
นิมิราชจริยํ ฉฏฺํ.
๗. จนฺทกุมารจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, เอกราชสฺส อตฺรโช;
นคเร ปุปฺผวติยา, กุมาโร จนฺทสวฺหโย.
‘‘ตทาหํ ¶ ยชนา มุตฺโต, นิกฺขนฺโต ยฺวาฏโต;
สํเวคํ ชนยิตฺวาน, มหาทานํ ปวตฺตยึ.
‘‘นาหํ ปิวามิ ขาทามิ, นปิ ภฺุชามิ โภชนํ;
ทกฺขิเณยฺเย อทตฺวาน, อปิ ฉปฺปฺจรตฺติโย.
‘‘ยถาปิ ¶ วาณิโช นาม, กตฺวาน ภณฺฑสฺจยํ;
ยตฺถ ลาโภ มหา โหติ, ตตฺถ ตํ [ตตฺถ นํ (สี.), ตตฺถ (ก.)] หรติ ภณฺฑกํ.
‘‘ตเถว สกภุตฺตาปิ, ปเร ทินฺนํ มหปฺผลํ;
ตสฺมา ปรสฺส ทาตพฺพํ, สตภาโค ภวิสฺสติ.
‘‘เอตมตฺถวสํ ตฺวา, เทมิ ทานํ ภวาภเว;
น ปฏิกฺกมามิ ทานโต, สมฺโพธิมนุปตฺติยา’’ติ.
จนฺทกุมารจริยํ สตฺตมํ.
๘. สิวิราชจริยา
‘‘อริฏฺสวฺหเย นคเร, สิวินามาสิ ขตฺติโย;
นิสชฺช ปาสาทวเร, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.
‘‘‘ยํ กิฺจิ มานุสํ ทานํ, อทินฺนํ เม น วิชฺชติ;
โยปิ ยาเจยฺย มํ จกฺขุํ, ทเทยฺยํ อวิกมฺปิโต’.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สกฺโก เทวานมิสฺสโร;
นิสินฺโน เทวปริสาย, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘‘นิสชฺช ¶ ปาสาทวเร, สิวิราชา มหิทฺธิโก;
จินฺเตนฺโต วิวิธํ ทานํ, อเทยฺยํ โส น ปสฺสติ.
‘‘‘ตถํ ¶ นุ วิตถํ เนตํ, หนฺท วีมํสยามิ ตํ;
มุหุตฺตํ อาคเมยฺยาถ, ยาว ชานามิ ตํ มนํ’.
‘‘ปเวธมาโน ปลิตสิโร, วลิคตฺโต [วลิตคตฺโต (สี.)] ชราตุโร;
อนฺธวณฺโณว หุตฺวาน, ราชานํ อุปสงฺกมิ.
‘‘โส ¶ ตทา ปคฺคเหตฺวาน, วามํ ทกฺขิณพาหุ จ;
สิรสฺมึ อฺชลึ กตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิ.
‘‘‘ยาจามิ ตํ มหาราช, ธมฺมิก รฏฺวฑฺฒน;
ตว ทานรตา กิตฺติ, อุคฺคตา เทวมานุเส.
‘‘‘อุโภปิ ¶ เนตฺตา นยนา, อนฺธา อุปหตา มม;
เอกํ เม นยนํ เทหิ, ตฺวมฺปิ เอเกน ยาปย’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, หฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
กตฺชลี เวทชาโต, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘อิทานาหํ จินฺตยิตฺวาน, ปาสาทโต อิธาคโต;
ตฺวํ มม จิตฺตมฺาย, เนตฺตํ ยาจิตุมาคโต.
‘‘‘อโห เม มานสํ สิทฺธํ, สงฺกปฺโป ปริปูริโต;
อทินฺนปุพฺพํ ทานวรํ, อชฺช ทสฺสามิ ยาจเก.
‘‘‘เอหิ สิวก อุฏฺเหิ, มา ทนฺธยิ มา ปเวธยิ;
อุโภปิ นยนํ เทหิ, อุปฺปาเฏตฺวา วณิพฺพเก’.
‘‘ตโต ¶ โส โจทิโต มยฺหํ, สิวโก วจนํ กโร;
อุทฺธริตฺวาน ปาทาสิ, ตาลมิฺชํว ยาจเก.
‘‘ททมานสฺส เทนฺตสฺส, ทินฺนทานสฺส เม สโต;
จิตฺตสฺส อฺถา นตฺถิ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ จกฺขู, อตฺตา น เม น เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา จกฺขุํ อทาสห’’นฺติ.
สิวิราชจริยํ อฏฺมํ.
๙. เวสฺสนฺตรจริยา
‘‘ยา ¶ เม อโหสิ ชนิกา, ผุสฺสตี [ผุสตี (สี.)] นาม ขตฺติยา;
สา อตีตาสุ ชาตีสุ, สกฺกสฺส มเหสี ปิยา.
‘‘ตสฺสา อายุกฺขยํ ตฺวา, เทวินฺโท เอตทพฺรวิ;
‘ททามิ เต ทส วเร, วรภทฺเท ยทิจฺฉสิ’.
‘‘เอวํ วุตฺตา จ สา เทวี, สกฺกํ ปุนิทมพฺรวิ;
‘กึ นุ เม อปราธตฺถิ, กึ นุ เทสฺสา อหํ ตว;
รมฺมา จาเวสิ มํ านา, วาโตว ธรณีรุหํ’.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺโต จ โส สกฺโก, ปุน ตสฺสิทมพฺรวิ;
‘น เจว เต กตํ ปาปํ, น จ เม ตฺวํสิ อปฺปิยา.
‘‘‘เอตฺตกํเยว ¶ เต อายุ, จวนกาโล ภวิสฺสติ;
ปฏิคฺคณฺห มยา ทินฺเน, วเร ทส วรุตฺตเม’.
‘‘สกฺเกน ¶ สา ทินฺนวรา, ตุฏฺหฏฺา ปโมทิตา;
มมํ อพฺภนฺตรํ กตฺวา, ผุสฺสตี ทส วเร วรี.
‘‘ตโต จุตา สา ผุสฺสตี, ขตฺติเย อุปปชฺชถ;
เชตุตฺตรมฺหิ นคเร, สฺชเยน สมาคมิ.
‘‘ยทาหํ ผุสฺสติยา กุจฺฉึ, โอกฺกนฺโต ปิยมาตุยา;
มม เตเชน เม มาตา, สทา ทานรตา อหุ.
‘‘อธเน อาตุเร ชิณฺเณ, ยาจเก อทฺธิเก [ปถิเก (ก.)] ชเน;
สมเณ พฺราหฺมเณ ขีเณ, เทติ ทานํ อกิฺจเน.
‘‘ทส มาเส ธารยิตฺวาน, กโรนฺเต ปุรํ ปทกฺขิณํ;
เวสฺสานํ วีถิยา มชฺเฌ, ชเนสิ ผุสฺสตี มมํ.
‘‘น มยฺหํ มตฺติกํ นามํ, นปิ เปตฺติกสมฺภวํ;
ชาเตตฺถ เวสฺสวีถิยา, ตสฺมา เวสฺสนฺตโร อหุ.
‘‘ยทาหํ ทารโก โหมิ, ชาติยา อฏฺวสฺสิโก;
ตทา นิสชฺช ปาสาเท, ทานํ ทาตุํ วิจินฺตยึ.
‘‘‘หทยํ ¶ ทเทยฺยํ จกฺขุํ, มํสมฺปิ รุธิรมฺปิ จ;
ทเทยฺยํ กายํ สาเวตฺวา, ยทิ โกจิ ยาจเย มมํ’.
‘‘สภาวํ จินฺตยนฺตสฺส, อกมฺปิตมสณฺิตํ;
อกมฺปิ ตตฺถ ปถวี, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘อนฺวทฺธมาเส ปนฺนรเส, ปุณฺณมาเส อุโปสเถ;
ปจฺจยํ นาคมารุยฺห, ทานํ ทาตุํ อุปาคมึ.
‘‘กลิงฺครฏฺวิสยา ¶ , พฺราหฺมณา อุปคฺฉุ มํ;
อยาจุํ มํ หตฺถินาคํ, ธฺํ มงฺคลสมฺมตํ.
‘‘อวุฏฺิโก ¶ ชนปโท, ทุพฺภิกฺโข ฉาตโก มหา;
ททาหิ ปวรํ นาคํ, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ.
‘‘ททามิ น วิกมฺปามิ, ยํ มํ ยาจนฺติ พฺราหฺมณา;
สนฺตํ นปฺปติคูหามิ [นปฺปติคุยฺหามิ (สี. ก.)], ทาเน เม รมเต มโน.
‘‘น เม ยาจกมนุปฺปตฺเต, ปฏิกฺเขโป อนุจฺฉโว;
‘มา เม ภิชฺชิ สมาทานํ, ทสฺสามิ วิปุลํ คชํ’.
‘‘นาคํ คเหตฺวา โสณฺฑาย, ภิงฺคาเร รตนามเย;
ชลํ หตฺเถ อากิริตฺวา, พฺราหฺมณานํ อทํ คชํ.
‘‘ปุนาปรํ ททนฺตสฺส, สพฺพเสตํ คชุตฺตมํ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ตสฺส นาคสฺส ทาเนน, สิวโย กุทฺธา สมาคตา;
ปพฺพาเชสุํ สกา รฏฺา, ‘วงฺกํ คจฺฉตุ ปพฺพตํ’.
‘‘เตสํ นิจฺฉุภมานานํ, อกมฺปิตฺถมสณฺิตํ;
มหาทานํ ปวตฺเตตุํ, เอกํ วรมยาจิสํ.
‘‘ยาจิตา ¶ สิวโย สพฺเพ, เอกํ วรมทํสุ เม;
สาวยิตฺวา กณฺณเภรึ, มหาทานํ ททามหํ.
‘‘อเถตฺถ วตฺตตี สทฺโท, ตุมุโล เภรโว มหา;
ทาเนนิมํ นีหรนฺติ, ปุน ทานํ ททาตยํ.
‘‘หตฺถึ ¶ อสฺเส รเถ ทตฺวา, ทาสึ ทาสํ ควํ ธนํ;
มหาทานํ ททิตฺวาน, นครา นิกฺขมึ ตทา.
‘‘นิกฺขมิตฺวาน ¶ นครา, นิวตฺติตฺวา วิโลกิเต;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘จตุวาหึ รถํ ทตฺวา, ตฺวา จาตุมฺมหาปเถ;
เอกากิโย อทุติโย, มทฺทิเทวึ อิทมพฺรวึ.
‘‘‘ตฺวํ มทฺทิ กณฺหํ คณฺหาหิ, ลหุกา เอสา กนิฏฺิกา;
อหํ ชาลึ คเหสฺสามิ, ครุโก ภาติโก หิ โส’.
‘‘ปทุมํ ¶ ปุณฺฑรีกํว, มทฺที กณฺหาชินคฺคหี;
อหํ สุวณฺณพิมฺพํว, ชาลึ ขตฺติยมคฺคหึ.
‘‘อภิชาตา สุขุมาลา, ขตฺติยา จตุโร ชนา;
วิสมํ สมํ อกฺกมนฺตา, วงฺกํ คจฺฉาม ปพฺพตํ.
‘‘เย เกจิ มนุชา เอนฺติ, อนุมคฺเค ปฏิปฺปเถ;
มคฺคนฺเต ปฏิปุจฺฉาม, ‘กุหึ วงฺกนฺต [วงฺกต (สี.)] ปพฺพโต’.
‘‘เต ตตฺถ อมฺเห ปสฺสิตฺวา, กรุณํ คิรมุทีรยุํ;
ทุกฺขํ เต ปฏิเวเทนฺติ, ทูเร วงฺกนฺตปพฺพโต.
‘‘ยทิ ปสฺสนฺติ ปวเน, ทารกา ผลิเน ทุเม;
เตสํ ผลานํ เหตุมฺหิ, อุปโรทนฺติ ทารกา.
‘‘โรทนฺเต ทารเก ทิสฺวา, อุพฺพิทฺธา [อุพฺพิคฺคา (สฺยา. กํ.)] วิปุลา ทุมา;
สยเมโวณมิตฺวาน, อุปคจฺฉนฺติ ทารเก.
‘‘อิทํ ¶ อจฺฉริยํ ทิสฺวา, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
สาหุการํ [สาธุการํ (สพฺพตฺถ)] ปวตฺเตสิ, มทฺที สพฺพงฺคโสภนา.
‘‘อจฺเฉรํ วต โลกสฺมึ, อพฺภุตํ โลมหํสนํ;
เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน, สยเมโวณตา ทุมา.
‘‘สงฺขิปึสุ ปถํ ยกฺขา, อนุกมฺปาย ทารเก;
นิกฺขนฺตทิวเสเนว [นิกฺขนฺตทิวเสเยว (สี.)], เจตรฏฺมุปาคมุํ.
‘‘สฏฺิราชสหสฺสานิ, ตทา วสนฺติ มาตุเล;
สพฺเพ ปฺชลิกา หุตฺวา, โรทมานา อุปาคมุํ.
‘‘ตตฺถ วตฺเตตฺวา สลฺลาปํ, เจเตหิ เจตปุตฺเตหิ;
เต ตโต นิกฺขมิตฺวาน, วงฺกํ อคมุ ปพฺพตํ.
‘‘อามนฺตยิตฺวา ¶ เทวินฺโท, วิสฺสกมฺมํ [วิสุกมฺมํ (ก.)] มหิทฺธิกํ;
อสฺสมํ สุกตํ รมฺมํ, ปณฺณสาลํ สุมาปย.
‘‘สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา, วิสฺสกมฺโม มหิทฺธิโก;
อสฺสมํ ¶ สุกตํ รมฺมํ, ปณฺณสาลํ สุมาปยิ.
‘‘อชฺโฌคาเหตฺวา ¶ ปวนํ, อปฺปสทฺทํ นิรากุลํ;
จตุโร ชนา มยํ ตตฺถ, วสาม ปพฺพตนฺตเร.
‘‘อหฺจ มทฺทิเทวี จ, ชาลี กณฺหาชินา จุโภ;
อฺมฺํ โสกนุทา, วสาม อสฺสเม ตทา.
‘‘ทารเก อนุรกฺขนฺโต, อสฺุโ โหมิ อสฺสเม;
มทฺที ผลํ อาหริตฺวา, โปเสติ สา ตโย ชเน.
‘‘ปวเน ¶ วสมานสฺส, อทฺธิโก มํ อุปาคมิ;
อายาจิ ปุตฺตเก มยฺหํ, ชาลึ กณฺหาชินํ จุโภ.
‘‘ยาจกํ อุปคตํ ทิสฺวา, หาโส เม อุปปชฺชถ;
อุโภ ปุตฺเต คเหตฺวาน, อทาสึ พฺราหฺมเณ ตทา.
‘‘สเก ปุตฺเต จชนฺตสฺส, ชูชเก พฺราหฺมเณ ยทา;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ปุนเทว สกฺโก โอรุยฺห, หุตฺวา พฺราหฺมณสนฺนิโภ;
อายาจิ มํ มทฺทิเทวึ, สีลวนฺตึ ปติพฺพตํ.
‘‘มทฺทึ หตฺเถ คเหตฺวาน, อุทกฺชลิ ปูริย;
ปสนฺนมนสงฺกปฺโป, ตสฺส มทฺทึ อทาสหํ.
‘‘มทฺทิยา ทียมานาย, คคเน เทวา ปโมทิตา;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ชาลึ กณฺหาชินํ ธีตํ, มทฺทิเทวึ ปติพฺพตํ;
จชมาโน น จินฺเตสึ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา, มทฺทิเทวี น เทสฺสิยา;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา ปิเย อทาสหํ.
‘‘ปุนาปรํ พฺรหารฺเ, มาตาปิตุสมาคเม;
กรุณํ ปริเทวนฺเต, สลฺลปนฺเต สุขํ ทุขํ.
‘‘หิโรตฺตปฺเปน ¶ ครุนา [ครุนํ (สฺยา. ก.)], อุภินฺนํ อุปสงฺกมิ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ พฺรหารฺา, นิกฺขมิตฺวา สาติภิ;
ปวิสามิ ปุรํ รมฺมํ, เชตุตฺตรํ ปุรุตฺตมํ.
‘‘รตนานิ สตฺต วสฺสึสุ, มหาเมโฆ ปวสฺสถ;
ตทาปิ ปถวี กมฺปิ, สิเนรุวนวฏํสกา.
‘‘อเจตนายํ ปถวี, อวิฺาย สุขํ ทุขํ;
สาปิ ทานพลา มยฺหํ, สตฺตกฺขตฺตุํ ปกมฺปถา’’ติ.
เวสฺสนฺตรจริยํ นวมํ.
๑๐. สสปณฺฑิตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, สสโก ปวนจารโก;
ติณปณฺณสากผลภกฺโข, ปรเหนวิวชฺชิโต.
‘‘มกฺกโฏ จ สิงฺคาโล จ, สุตฺตโปโต จหํ ตทา;
วสาม เอกสามนฺตา, สายํ ปาโต จ ทิสฺสเร [สายํ ปาโต ปทิสฺสเร (ก.)].
‘‘อหํ เต อนุสาสามิ, กิริเย กลฺยาณปาปเก;
‘ปาปานิ ปริวชฺเชถ, กลฺยาเณ อภินิวิสฺสถ’.
‘‘อุโปสถมฺหิ ทิวเส, จนฺทํ ทิสฺวาน ปูริตํ;
เอเตสํ ตตฺถ อาจิกฺขึ, ทิวโส อชฺชุโปสโถ.
‘‘ทานานิ ปฏิยาเทถ, ทกฺขิเณยฺยสฺส ทาตเว;
ทตฺวา ทานํ ทกฺขิเณยฺเย, อุปวสฺสถุโปสถํ.
‘‘เต ¶ เม สาธูติ วตฺวาน, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;
ทานานิ ปฏิยาเทตฺวา, ทกฺขิเณยฺยํ คเวสิสุํ [คเวสยฺยุํ (ก.)].
‘‘อหํ นิสชฺช จินฺเตสึ, ทานํ ทกฺขิณนุจฺฉวํ;
‘ยทิหํ ลเภ ทกฺขิเณยฺยํ, กึ เม ทานํ ภวิสฺสติ.
‘‘‘น ¶ เม อตฺถิ ติลา มุคฺคา, มาสา วา ตณฺฑุลา ฆตํ;
อหํ ติเณน ยาเปมิ, น สกฺกา ติณ ทาตเว.
‘‘‘ยทิ ¶ โกจิ เอติ ทกฺขิเณยฺโย, ภิกฺขาย มม สนฺติเก;
ทชฺชาหํ สกมตฺตานํ, น โส ตุจฺโฉ คมิสฺสติ’.
‘‘มม สงฺกปฺปมฺาย, สกฺโก พฺราหฺมณวณฺณินา;
อาสยํ เม อุปาคจฺฉิ, ทานวีมํสนาย เม.
‘‘ตมหํ ทิสฺวาน สนฺตุฏฺโ, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต, ฆาสเหตุ มมนฺติเก.
‘‘‘อทินฺนปุพฺพํ ทานวรํ, อชฺช ทสฺสามิ เต อหํ;
ตุวํ สีลคุณูเปโต, อยุตฺตํ เต ปรเหนํ.
‘‘‘เอหิ อคฺคึ ปทีเปหิ, นานากฏฺเ สมานย;
อหํ ปจิสฺสมตฺตานํ, ปกฺกํ ตฺวํ ภกฺขยิสฺสสิ’.
‘‘‘สาธู’ติ โส หฏฺมโน, นานากฏฺเ สมานยิ;
มหนฺตํ อกาสิ จิตกํ, กตฺวา องฺคารคพฺภกํ.
‘‘อคฺคึ ตตฺถ ปทีเปสิ, ยถา โส ขิปฺปํ มหา ภเว;
โผเฏตฺวา รชคเต คตฺเต, เอกมนฺตํ อุปาวิสึ.
‘‘ยทา ¶ มหากฏฺปฺุโช, อาทิตฺโต ธมธมายติ [ธุมธุมายติ (สี.), ธมมายติ (ก.)];
ตทุปฺปติตฺวา ปปตึ, มชฺเฌ ชาลสิขนฺตเร.
‘‘ยถา ¶ สีโตทกํ นาม, ปวิฏฺํ ยสฺส กสฺสจิ;
สเมติ ทรถปริฬาหํ, อสฺสาทํ เทติ ปีติ จ.
‘‘ตเถว ชลิตํ อคฺคึ, ปวิฏฺสฺส มมํ ตทา;
สพฺพํ สเมติ ทรถํ, ยถา สีโตทกํ วิย.
‘‘ฉวึ จมฺมํ มํสํ นฺหารุํ, อฏฺึ หทยพนฺธนํ;
เกวลํ สกลํ กายํ, พฺราหฺมณสฺส อทาสห’’นฺติ.
สสปณฺฑิตจริยํ ทสมํ.
อกิตฺติวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อกิตฺติพฺราหฺมโณ ¶ สงฺโข, กุรุราชา ธนฺจโย;
มหาสุทสฺสโน ราชา, มหาโควินฺทพฺราหฺมโณ.
นิมิ จนฺทกุมาโร จ, สิวิ เวสฺสนฺตโร สโส;
อหเมว ตทา อาสึ, โย เต ทานวเร อทา.
เอเต ทานปริกฺขารา, เอเต ทานสฺส ปารมี;
ชีวิตํ ยาจเก ทตฺวา, อิมํ ปารมิ ปูรยึ.
ภิกฺขาย อุปคตํ ทิสฺวา, สกตฺตานํ ปริจฺจชึ;
ทาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม ทานปารมีติ.
ทานปารมินิทฺเทโส นิฏฺิโต.