📜
๒. หตฺถินาควคฺโค
๑. มาตุโปสกจริยา
‘‘ยทา ¶ ¶ ¶ ¶ อโหสึ ปวเน, กฺุชโร มาตุโปสโก;
น ตทา อตฺถิ มหิยา, คุเณน มม สาทิโส.
‘‘ปวเน ทิสฺวา วนจโร, รฺโ มํ ปฏิเวทยิ;
‘ตวานุจฺฉโว มหาราช, คโช วสติ กานเน.
‘‘‘น ตสฺส ปริกฺขายตฺโถ, นปิ อาฬกกาสุยา;
สห คหิเต [สมํ คหิเต (สี.)] โสณฺฑาย, สยเมว อิเธหิ’ติ.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ราชาปิ ตุฏฺมานโส;
เปเสสิ หตฺถิทมกํ, เฉกาจริยํ สุสิกฺขิตํ.
‘‘คนฺตฺวา โส หตฺถิทมโก, อทฺทส ปทุมสฺสเร;
ภิสมุฬาลํ [ภิสมูลํ (ก.)] อุทฺธรนฺตํ, ยาปนตฺถาย มาตุยา.
‘‘วิฺาย เม สีลคุณํ, ลกฺขณํ อุปธารยิ;
‘เอหิ ปุตฺตา’ติ ปตฺวาน, มม โสณฺฑาย อคฺคหิ.
‘‘ยํ เม ตทา ปากติกํ, สรีรานุคตํ พลํ;
อชฺช นาคสหสฺสานํ, พเลน สมสาทิสํ.
‘‘ยทิหํ เตสํ ปกุปฺเปยฺยํ, อุเปตานํ คหณาย มํ;
ปฏิพโล ภเว เตสํ, ยาว รชฺชมฺปิ มานุสํ.
‘‘อปิ ¶ จาหํ สีลรกฺขาย, สีลปารมิปูริยา;
น กโรมิ จิตฺเต อฺถตฺตํ, ปกฺขิปนฺตํ มมาฬเก.
‘‘ยทิ เต มํ ตตฺถ โกฏฺเฏยฺยุํ, ผรสูหิ โตมเรหิ จ;
เนว เตสํ ปกุปฺเปยฺยํ, สีลขณฺฑภยา มมา’’ติ.
มาตุโปสกจริยํ ปมํ.
๒. ภูริทตฺตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, ภูริทตฺโต มหิทฺธิโก;
วิรูปกฺเขน มหารฺา, เทวโลกมคฺฉหํ.
‘‘ตตฺถ ปสฺสิตฺวาหํ เทเว, เอกนฺตํ สุขสมปฺปิเต;
ตํ สคฺคคมนตฺถาย, สีลพฺพตํ สมาทิยึ.
‘‘สรีรกิจฺจํ กตฺวาน, ภุตฺวา ยาปนมตฺตกํ;
จตุโร องฺเค อธิฏฺาย, เสมิ วมฺมิกมุทฺธนิ.
‘‘ฉวิยา จมฺเมน มํเสน, นหารุอฏฺิเกหิ วา;
ยสฺส เอเตน กรณียํ, ทินฺนํเยว หราตุ โส.
‘‘สํสิโต อกตฺุนา, อาลมฺปายโน [อาลมฺพโณ (สี.)] มมคฺคหิ;
เปฬาย ปกฺขิปิตฺวาน, กีเฬติ มํ ตหึ ตหึ.
‘‘เปฬาย ปกฺขิปนฺเตปิ, สมฺมทฺทนฺเตปิ ปาณินา;
อาลมฺปายเน [อาลมฺพเณ (สี.)] น กุปฺปามิ, สีลขณฺฑภยา มม.
‘‘สกชีวิตปริจฺจาโค ¶ , ติณโต ลหุโก มม;
สีลวีติกฺกโม มยฺหํ, ปถวีอุปฺปตนํ วิย.
‘‘นิรนฺตรํ ชาติสตํ, จเชยฺยํ มม ชีวิตํ;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, จตุทฺทีปาน เหตุปิ.
‘‘อปิ จาหํ สีลรกฺขาย, สีลปารมิปูริยา;
น กโรมิ จิตฺเต อฺถตฺตํ, ปกฺขิปนฺตมฺปิ เปฬเก’’ติ.
ภูริทตฺตจริยํ ทุติยํ.
๓. จมฺเปยฺยนาคจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, จมฺเปยฺยโก มหิทฺธิโก;
ตทาปิ ธมฺมิโก อาสึ, สีลพฺพตสมปฺปิโต.
‘‘ตทาปิ ¶ มํ ธมฺมจารึ, อุปวุตฺถํ อุโปสถํ;
อหิตุณฺฑิโก คเหตฺวาน, ราชทฺวารมฺหิ กีฬติ.
‘‘ยํ ¶ ยํ โส วณฺณํ จินฺตยิ, นีลํว ปีตโลหิตํ;
ตสฺส จิตฺตานุวตฺตนฺโต, โหมิ จินฺติตสนฺนิโภ.
‘‘ถลํ ¶ กเรยฺยมุทกํ, อุทกมฺปิ ถลํ กเร;
ยทิหํ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ขเณน ฉาริกํ กเร.
‘‘ยทิ จิตฺตวสี เหสฺสํ, ปริหายิสฺสามิ สีลโต;
สีเลน ปริหีนสฺส, อุตฺตมตฺโถ น สิชฺฌติ.
‘‘กามํ ¶ ภิชฺชตุยํ กาโย, อิเธว วิกิรียตุ;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, วิกิรนฺเต ภุสํ วิยา’’ติ.
จมฺเปยฺยนาคจริยํ ตติยํ.
๔. จูฬโพธิจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, จูฬโพธิ สุสีลวา;
ภวํ ทิสฺวาน ภยโต, เนกฺขมฺมํ อภินิกฺขมึ.
‘‘ยา เม ทุติยิกา อาสิ, พฺราหฺมณี กนกสนฺนิภา;
สาปิ วฏฺเฏ อนเปกฺขา, เนกฺขมฺมํ อภินิกฺขมิ.
‘‘นิราลยา ฉินฺนพนฺธู, อนเปกฺขา กุเล คเณ;
จรนฺตา คามนิคมํ, พาราณสิมุปาคมุํ.
‘‘ตตฺถ วสาม นิปกา, อสํสฏฺา กุเล คเณ;
นิรากุเล อปฺปสทฺเท, ราชุยฺยาเน วสามุโภ.
‘‘อุยฺยานทสฺสนํ คนฺตฺวา, ราชา อทฺทส พฺราหฺมณึ;
อุปคมฺม มมํ ปุจฺฉิ, ‘ตุยฺเหสา กา กสฺส ภริยา’.
‘‘เอวํ วุตฺเต อหํ ตสฺส, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘น มยฺหํ ภริยา เอสา, สหธมฺมา เอกสาสนี’.
‘‘ติสฺสา ¶ [ตสฺสา (สี.)] สารตฺตคธิโต, คาหาเปตฺวาน เจฏเก;
นิปฺปีฬยนฺโต พลสา, อนฺเตปุรํ ปเวสยิ.
‘‘โอทปตฺตกิยา ¶ มยฺหํ, สหชา เอกสาสนี;
อากฑฺฒิตฺวา นยนฺติยา, โกโป เม อุปปชฺชถ.
‘‘สห ¶ โกเป สมุปฺปนฺเน, สีลพฺพตมนุสฺสรึ;
ตตฺเถว โกปํ นิคฺคณฺหึ, นาทาสึ วฑฺฒิตูปริ.
‘‘ยทิ นํ พฺราหฺมณึ โกจิ, โกฏฺเฏยฺย ติณฺหสตฺติยา;
เนว สีลํ ปภินฺเทยฺยํ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘น เมสา พฺราหฺมณี เทสฺสา, นปิ เม พลํ น วิชฺชติ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา สีลานุรกฺขิส’’นฺติ.
จูฬโพธิจริยํ จตุตฺถํ.
๕. มหึสราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, มหึโส ปวนจารโก;
ปวฑฺฒกาโย พลวา, มหนฺโต ภีมทสฺสโน.
‘‘ปพฺภาเร คิริทุคฺเค [วนทุคฺเค (สี.)] จ, รุกฺขมูเล ทกาสเย;
โหเตตฺถ านํ มหึสานํ, โกจิ โกจิ ตหึ ตหึ.
‘‘วิจรนฺโต พฺรหารฺเ, านํ อทฺทส ภทฺทกํ;
ตํ านํ อุปคนฺตฺวาน, ติฏฺามิ จ สยามิ จ.
‘‘อเถตฺถ กปิมาคนฺตฺวา, ปาโป อนริโย ลหุ;
ขนฺเธ นลาเฏ ภมุเก, มุตฺเตติ โอหเนติตํ.
‘‘สกิมฺปิ ทิวสํ ทุติยํ, ตติยํ จตุตฺถมฺปิ จ;
ทูเสติ มํ สพฺพกาลํ, เตน โหมิ อุปทฺทุโต.
‘‘มมํ ¶ อุปทฺทุตํ ทิสฺวา, ยกฺโข มํ อิทมพฺรวิ;
‘นาเสเหตํ ฉวํ ปาปํ, สิงฺเคหิ จ ขุเรหิ จ’.
‘‘เอวํ ¶ วุตฺเต ตทา ยกฺเข, อหํ ตํ อิทมพฺรวึ;
‘กึ ตฺวํ มกฺเขสิ กุณเปน, ปาเปน อนริเยน มํ.
‘‘‘ยทิหํ ¶ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ตโต หีนตโร ภเว;
สีลฺจ เม ปภิชฺเชยฺย, วิฺู จ ครเหยฺยุ มํ.
‘‘‘หีฬิตา ชีวิตา วาปิ, ปริสุทฺเธน มตํ วรํ;
กฺยาหํ ชีวิตเหตูปิ, กาหามึ ปรเหนํ’.
‘‘มเมวายํ มฺมาโน, อฺเเปวํ กริสฺสติ;
เตว ตสฺส วธิสฺสนฺติ, สา เม มุตฺติ ภวิสฺสติ.
‘‘หีนมชฺฌิมอุกฺกฏฺเ, สหนฺโต อวมานิตํ;
เอวํ ลภติ สปฺปฺโ, มนสา ยถา ปตฺถิต’’นฺติ.
มหึสราชจริยํ ปฺจมํ.
๖. รุรุราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, สุตตฺตกนกสนฺนิโภ;
มิคราชา รุรุนาม, ปรมสีลสมาหิโต.
‘‘รมฺเม ปเทเส รมณีเย, วิวิตฺเต อมนุสฺสเก;
ตตฺถ วาสํ อุปคฺฉึ, คงฺคากูเล มโนรเม.
‘‘อถ ¶ อุปริ คงฺคาย, ธนิเกหิ ปริปีฬิโต;
ปุริโส คงฺคาย ปปติ, ‘ชีวามิ วา มรามิ วา’.
‘‘รตฺตินฺทิวํ ¶ โส คงฺคาย, วุยฺหมาโน มโหทเก;
รวนฺโต กรุณํ รวํ, มชฺเฌ คงฺคาย คจฺฉติ.
‘‘ตสฺสาหํ สทฺทํ สุตฺวาน, กรุณํ ปริเทวโต;
คงฺคาย ตีเร ตฺวาน, อปุจฺฉึ ‘โกสิ ตฺวํ นโร’.
‘‘โส เม ปุฏฺโ จ พฺยากาสิ, อตฺตโน กรณํ ตทา;
‘ธนิเกหิ ภีโต ตสิโต, ปกฺขนฺโทหํ มหานทึ’.
‘‘ตสฺส ¶ กตฺวาน การฺุํ, จชิตฺวา มม ชีวิตํ;
ปวิสิตฺวา นีหรึ ตสฺส, อนฺธการมฺหิ รตฺติยา.
‘‘อสฺสตฺถกาลมฺาย, ตสฺสาหํ อิทมพฺรวึ;
‘เอกํ ตํ วรํ ยาจามิ, มา มํ กสฺสจิ ปาวท’.
‘‘นครํ ¶ คนฺตฺวาน อาจิกฺขิ, ปุจฺฉิโต ธนเหตุโก;
ราชานํ โส คเหตฺวาน, อุปคฺฉิ มมนฺติกํ.
‘‘ยาวตา กรณํ สพฺพํ, รฺโ อาโรจิตํ มยา;
ราชา สุตฺวาน วจนํ, อุสุํ ตสฺส ปกปฺปยิ;
‘อิเธว ฆาตยิสฺสามิ, มิตฺตทุพฺภึ [มิตฺตทูภึ (สี.)] อนาริยํ’.
‘‘ตมหํ อนุรกฺขนฺโต, นิมฺมินึ มม อตฺตนา;
‘ติฏฺเตโส มหาราช, กามกาโร ภวามิ เต’.
‘‘อนุรกฺขึ มม สีลํ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
สีลวา หิ ตทา อาสึ, โพธิยาเยว การณา’’ติ.
รุรุราชจริยํ ฉฏฺํ.
๗. มาตงฺคจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, ชฏิโล อุคฺคตาปโน;
มาตงฺโค นาม นาเมน, สีลวา สุสมาหิโต.
‘‘อหฺจ พฺราหฺมโณ เอโก, คงฺคากูเล วสามุโภ;
อหํ วสามิ อุปริ, เหฏฺา วสติ พฺราหฺมโณ.
‘‘วิจรนฺโต อนุกูลมฺหิ, อุทฺธํ เม อสฺสมทฺทส;
ตตฺถ มํ ปริภาเสตฺวา, อภิสปิ มุทฺธผาลนํ.
‘‘ยทิหํ ตสฺส ปกุปฺเปยฺยํ, ยทิ สีลํ น โคปเย;
โอโลเกตฺวานหํ ตสฺส, กเรยฺยํ ฉาริกํ วิย.
‘‘ยํ ¶ โส ตทา มํ อภิสปิ, กุปิโต ทุฏฺมานโส;
ตสฺเสว มตฺถเก นิปติ, โยเคน ตํ ปโมจยึ.
‘‘อนุรกฺขึ ¶ มม สีลํ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
สีลวา หิ ตทา อาสึ, โพธิยาเยว การณา’’ติ.
มาตงฺคจริยํ สตฺตมํ.
๘. ธมฺมเทวปุตฺตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, มหาปกฺโข มหิทฺธิโก;
ธมฺโม นาม มหายกฺโข, สพฺพโลกานุกมฺปโก.
‘‘ทสกุสลกมฺมปเถ ¶ , สมาทเปนฺโต มหาชนํ;
จรามิ คามนิคมํ, สมิตฺโต สปริชฺชโน.
‘‘ปาโป กทริโย ยกฺโข, ทีเปนฺโต ทส ปาปเก;
โสเปตฺถ มหิยา จรติ, สมิตฺโต สปริชฺชโน.
‘‘ธมฺมวาที อธมฺโม จ, อุโภ ปจฺจนิกา มยํ;
ธุเร ธุรํ ฆฏฺฏยนฺตา, สมิมฺหา ปฏิปเถ อุโภ.
‘‘กลโห วตฺตตี เภสฺมา, กลฺยาณปาปกสฺส จ;
มคฺคา โอกฺกมนตฺถาย, มหายุทฺโธ อุปฏฺิโต.
‘‘ยทิหํ ตสฺส กุปฺเปยฺยํ, ยทิ ภินฺเท ตโปคุณํ;
สหปริชนํ ตสฺส, รชภูตํ กเรยฺยหํ.
‘‘อปิจาหํ สีลรกฺขาย, นิพฺพาเปตฺวาน มานสํ;
สห ชเนโนกฺกมิตฺวา, ปถํ ปาปสฺส ทาสหํ.
‘‘สห ปถโต โอกฺกนฺเต, กตฺวา จิตฺตสฺส นิพฺพุตึ;
วิวรํ อทาสิ ปถวี, ปาปยกฺขสฺส ตาวเท’’ติ.
ธมฺมเทวปุตฺตจริยํ อฏฺมํ.
๙. อลีนสตฺตุจริยา
‘‘ปฺจาลรฏฺเ ¶ ¶ นครวเร, กปิลายํ [กมฺปิลายํ (สี.), กปฺปิลายํ (สฺยา.)] ปุรุตฺตเม;
ราชา ชยทฺทิโส นาม, สีลคุณมุปาคโต.
‘‘ตสฺส ¶ รฺโ อหํ ปุตฺโต, สุตธมฺโม สุสีลวา;
อลีนสตฺโต คุณวา, อนุรกฺขปริชโน สทา.
‘‘ปิตา เม มิควํ คนฺตฺวา, โปริสาทํ อุปาคมิ;
โส เม ปิตุมคฺคเหสิ, ‘ภกฺโขสิ มม มา จลิ’.
‘‘ตสฺส ¶ ตํ วจนํ สุตฺวา, ภีโต ตสิตเวธิโต;
อูรุกฺขมฺโภ อหุ ตสฺส, ทิสฺวาน โปริสาทกํ.
‘‘มิควํ คเหตฺวา มฺุจสฺสุ, กตฺวา อาคมนํ ปุน;
พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา, ปิตา อามนฺตยี มมํ.
‘‘‘รชฺชํ ปุตฺต ปฏิปชฺช, มา ปมชฺชิ ปุรํ อิทํ;
กตํ เม โปริสาเทน, มม อาคมนํ ปุน’.
‘‘มาตาปิตู จ วนฺทิตฺวา, นิมฺมินิตฺวาน อตฺตนา;
นิกฺขิปิตฺวา ธนุํ ขคฺคํ, โปริสาทํ อุปาคมึ.
‘‘สสตฺถหตฺถูปคตํ, กทาจิ โส ตสิสฺสติ;
เตน ภิชฺชิสฺสติ สีลํ, ปริตฺตาสํ [ปริตาสํ (สี.)] กเต มยิ.
‘‘สีลขณฺฑภยา มยฺหํ, ตสฺส เทสฺสํ น พฺยาหรึ;
เมตฺตจิตฺโต หิตวาที, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘อุชฺชาเลหิ มหาอคฺคึ, ปปติสฺสามิ รุกฺขโต;
ตฺวํ ปกฺกกาลมฺาย [สุปกฺกกาลมฺาย (ปี.)], ภกฺขย มํ ปิตามห’.
‘‘อิติ สีลวตํ เหตุ, นารกฺขึ มม ชีวิตํ;
ปพฺพาเชสึ จหํ ตสฺส, สทา ปาณาติปาติก’’นฺติ.
อลีนสตฺตุจริยํ นวมํ.
๑๐. สงฺขปาลจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, สงฺขปาโล มหิทฺธิโก;
ทาาวุโธ โฆรวิโส, ทฺวิชิวฺโห อุรคาธิภู.
‘‘จตุปฺปเถ มหามคฺเค, นานาชนสมากุเล;
จตุโร องฺเค อธิฏฺาย, ตตฺถ วาสมกปฺปยึ.
‘‘ฉวิยา จมฺเมน มํเสน, นหารุอฏฺิเกหิ วา;
ยสฺส เอเตน กรณียํ, ทินฺนํเยว หราตุ โส.
‘‘อทฺทสํสุ ¶ โภชปุตฺตา, ขรา ลุทฺทา อการุณา;
อุปคฺฉุํ มมํ ตตฺถ, ทณฺฑมุคฺครปาณิโน.
‘‘นาสาย วินิวิชฺฌิตฺวา, นงฺคุฏฺเ ปิฏฺิกณฺฏเก;
กาเช อาโรปยิตฺวาน, โภชปุตฺตา หรึสุ มํ.
‘‘สสาครนฺตํ ปถวึ, สกานนํ สปพฺพตํ;
อิจฺฉมาโน จหํ ตตฺถ, นาสาวาเตน ฌาปเย.
‘‘สูเลหิ วินิวิชฺฌนฺเต, โกฏฺฏยนฺเตปิ สตฺติภิ;
โภชปุตฺเต น กุปฺปามิ, เอสา เม สีลปารมี’’ติ.
สงฺขปาลจริยํ ทสมํ.
หตฺถินาควคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
หตฺถินาโค ¶ ภูริทตฺโต, จมฺเปยฺโย โพธิ มหึโส;
รุรุ มาตงฺโค ธมฺโม จ, อตฺรโช จ ชยทฺทิโส.
เอเต นว สีลพลา, ปริกฺขารา ปเทสิกา;
ชีวิตํ ปริรกฺขิตฺวา, สีลานิ อนุรกฺขิสํ.
สงฺขปาลสฺส เม สโต, สพฺพกาลมฺปิ ชีวิตํ;
ยสฺส กสฺสจิ นิยฺยตฺตํ, ตสฺมา สา สีลปารมีติ.
สีลปารมินิทฺเทโส นิฏฺิโต.