📜
๓. ยุธฺชยวคฺโค
๑. ยุธฺชยจริยา
‘‘ยทาหํ ¶ ¶ ¶ อมิตยโส, ราชปุตฺโต ยุธฺชโย;
อุสฺสาวพินฺทุํ สูริยาตเป, ปติตํ ทิสฺวาน สํวิชึ.
‘‘ตฺเวาธิปตึ กตฺวา, สํเวคมนุพฺรูหยึ;
มาตาปิตู จ วนฺทิตฺวา, ปพฺพชฺชมนุยาจหํ.
‘‘ยาจนฺติ มํ ปฺชลิกา, สเนคมา สรฏฺกา;
‘อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, อิทฺธํ ผีตํ มหามหึ’.
‘‘สราชเก สโหโรเธ, สเนคเม สรฏฺเก;
กรุณํ ปริเทวนฺเต, อนเปกฺโขว ปริจฺจชึ.
‘‘เกวลํ ปถวึ รชฺชํ, าติปริชนํ ยสํ;
จชมาโน น จินฺเตสึ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘มาตาปิตา น เม เทสฺสา, นปิ เม เทสฺสํ มหายสํ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
ยุธฺชยจริยํ ปมํ.
๒. โสมนสฺสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, อินฺทปตฺเถ ปุรุตฺตเม;
กามิโต ทยิโต ปุตฺโต, โสมนสฺโสติ วิสฺสุโต.
‘‘สีลวา คุณสมฺปนฺโน, กลฺยาณปฏิภานวา;
วุฑฺฒาปจายี หิรีมา, สงฺคเหสุ จ โกวิโท.
‘‘ตสฺส ¶ รฺโ ปติกโร, อโหสิ กุหกตาปโส;
อารามํ มาลาวจฺฉฺจ, โรปยิตฺวาน ชีวติ.
‘‘ตมหํ ¶ ทิสฺวาน กุหกํ, ถุสราสึว อตณฺฑุลํ;
ทุมํว อนฺโต สุสิรํ, กทลึว อสารกํ.
‘‘นตฺถิมสฺส ¶ สตํ ธมฺโม, สามฺาปคโต อยํ;
หิรีสุกฺกธมฺมชหิโต, ชีวิตวุตฺติการณา.
‘‘กุปิโต อหุ [อโหสิ (สี.), อาสิ (สฺยา.)] ปจฺจนฺโต, อฏวีหิ ปรนฺติหิ;
ตํ นิเสเธตุํ คจฺฉนฺโต, อนุสาสิ ปิตา มมํ.
‘‘‘มา ปมชฺชิ ตุวํ ตาต, ชฏิลํ อุคฺคตาปนํ;
ยทิจฺฉกํ ปวตฺเตหิ, สพฺพกามทโท หิ โส’.
‘‘ตมหํ คนฺตฺวานุปฏฺานํ, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘กจฺจิ เต คหปติ กุสลํ, กึ วา เต อาหรียตุ’.
‘‘เตน โส กุปิโต อาสิ, กุหโก มานนิสฺสิโต;
‘ฆาตาเปมิ ตุวํ อชฺช, รฏฺา ปพฺพาชยามิ วา’.
‘‘นิเสธยิตฺวา ¶ ปจฺจนฺตํ, ราชา กุหกมพฺรวิ;
‘กจฺจิ เต ภนฺเต ขมนียํ, สมฺมาโน เต ปวตฺติโต’.
‘‘ตสฺส อาจิกฺขตี ปาโป, กุมาโร ยถา นาสิโย;
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, อาณาเปสิ มหีปติ.
‘‘‘สีสํ ตตฺเถว ฉินฺทิตฺวา, กตฺวาน จตุขณฺฑิกํ;
รถิยา รถิยํ ทสฺเสถ, สา คติ ชฏิลหีฬิตา’.
‘‘ตตฺถ การณิกา คนฺตฺวา, จณฺฑา ลุทฺทา อการุณา;
มาตุองฺเก นิสินฺนสฺส, อากฑฺฒิตฺวา นยนฺติ มํ.
‘‘เตสาหํ เอวมวจํ, พนฺธตํ คาฬฺหพนฺธนํ;
‘รฺโ ทสฺเสถ มํ ขิปฺปํ, ราชกิริยานิ อตฺถิ เม’.
‘‘เต มํ รฺโ ทสฺสยึสุ, ปาปสฺส ปาปเสวิโน;
ทิสฺวาน ตํ สฺาเปสึ, มมฺจ วสมานยึ.
‘‘โส มํ ตตฺถ ขมาเปสิ, มหารชฺชมทาสิ เม;
โสหํ ตมํ ทาลยิตฺวา, ปพฺพชึ อนคาริยํ.
‘‘น ¶ เม เทสฺสํ มหารชฺชํ, กามโภโค น เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
โสมนสฺสจริยํ ทุติยํ.
๓. อโยฆรจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, กาสิราชสฺส อตฺรโช;
อโยฆรมฺหิ สํวฑฺโฒ, นาเมนาสิ อโยฆโร.
‘‘ทุกฺเขน ชีวิโต ลทฺโธ, สํปีเฬ ปติโปสิโต;
อชฺเชว ปุตฺต ปฏิปชฺช, เกวลํ วสุธํ อิมํ.
‘‘สรฏฺกํ สนิคมํ, สชนํ วนฺทิตฺว ขตฺติยํ;
อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวึ.
‘‘‘เย เกจิ มหิยา สตฺตา, หีนมุกฺกฏฺมชฺฌิมา;
นิรารกฺขา สเก เคเห, วฑฺฒนฺติ สกาติภิ.
‘‘‘อิทํ โลเก อุตฺตริยํ, สํปีเฬ มม โปสนํ;
อโยฆรมฺหิ สํวฑฺโฒ, อปฺปเภ จนฺทสูริเย.
‘‘‘ปูติกุณปสมฺปุณฺณา, มุจฺจิตฺวา มาตุ กุจฺฉิโต;
ตโต โฆรตเร ทุกฺเข, ปุน ปกฺขิตฺตโยฆเร.
‘‘‘ยทิหํ ตาทิสํ ปตฺวา, ทุกฺขํ ปรมทารุณํ;
รชฺเชสุ ยทิ รชฺชามิ [รฺชามิ (สี.)], ปาปานํ อุตฺตโม สิยํ.
‘‘‘อุกฺกณฺิโตมฺหิ กาเยน, รชฺเชนมฺหิ อนตฺถิโก;
นิพฺพุตึ ปริเยสิสฺสํ, ยตฺถ มํ มจฺจุ น มทฺทิเย’.
‘‘เอวาหํ จินฺตยิตฺวาน, วิรวนฺเต มหาชเน;
นาโคว พนฺธนํ เฉตฺวา, ปาวิสึ กานนํ วนํ.
‘‘มาตาปิตา ¶ ¶ น เม เทสฺสา, นปิ เม เทสฺสํ มหายสํ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา รชฺชํ ปริจฺจชิ’’นฺติ.
อโยฆรจริยํ ตติยํ.
๔. ภิสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, กาสีนํ ปุรวรุตฺตเม;
ภคินี จ ภาตโร สตฺต, นิพฺพตฺตา โสตฺถิเย กุเล.
‘‘เอเตสํ ¶ ปุพฺพโช อาสึ, หิรีสุกฺกมุปาคโต;
ภวํ ทิสฺวาน ภยโต, เนกฺขมฺมาภิรโต อหํ.
‘‘มาตาปิตูหิ ¶ ปหิตา, สหายา เอกมานสา;
กาเมหิ มํ นิมนฺเตนฺติ, ‘กุลวํสํ ธเรหิ’ติ.
‘‘ยํ เตสํ วจนํ วุตฺตํ, คิหีธมฺเม สุขาวหํ;
ตํ เม อโหสิ กินํ, ตตฺต [สนฺตตฺต (ก.)] ผาลสมํ วิย.
‘‘เต มํ ตทา อุกฺขิปนฺตํ, ปุจฺฉึสุ ปตฺถิตํ มม;
‘กึ ตฺวํ ปตฺถยเส สมฺม, ยทิ กาเม น ภฺุชสิ’.
‘‘เตสาหํ เอวมวจํ, อตฺถกาโม หิเตสินํ;
‘นาหํ ปตฺเถมิ คิหีภาวํ, เนกฺขมฺมาภิรโต อหํ’.
‘‘เต มยฺหํ วจนํ สุตฺวา, ปิตุมาตุ จ สาวยุํ;
มาตาปิตา เอวมาหุ, ‘สพฺเพว ปพฺพชาม โภ’.
‘‘อุโภ ¶ มาตาปิตา มยฺหํ, ภคินี จ สตฺต ภาตโร;
อมิตธนํ ฉฑฺฑยิตฺวา, ปาวิสิมฺหา มหาวน’’นฺติ.
ภิสจริยํ จตุตฺถํ.
๕. โสณปณฺฑิตจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, นคเร พฺรหฺมวฑฺฒเน;
ตตฺถ กุลวเร เสฏฺเ, มหาสาเล อชายหํ.
‘‘ตทาปิ โลกํ ทิสฺวาน, อนฺธีภูตํ ตโมตฺถฏํ;
จิตฺตํ ภวโต ปติกุฏติ, ตุตฺตเวคหตํ วิย.
‘‘ทิสฺวาน วิวิธํ ปาปํ, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา;
‘กทาหํ เคหา นิกฺขมฺม, ปวิสิสฺสามิ กานนํ’.
‘‘ตทาปิ มํ นิมนฺเตสุํ, กามโภเคหิ าตโย;
เตสมฺปิ ฉนฺทมาจิกฺขึ, ‘มา นิมนฺเตถ เตหิ มํ’.
‘‘โย ¶ เม กนิฏฺโก ภาตา, นนฺโท นามาสิ ปณฺฑิโต;
โสปิ มํ อนุสิกฺขนฺโต, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.
‘‘อหํ โสโณ จ นนฺโท จ, อุโภ มาตาปิตา มม;
ตทาปิ โภเค ฉฑฺเฑตฺวา, ปาวิสิมฺหา มหาวน’’นฺติ.
โสณปณฺฑิตจริยํ ปฺจมํ.
๖. เตมิยจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, กาสิราชสฺส อตฺรโช;
มูคปกฺโขติ นาเมน, เตมิโยติ วทนฺติ มํ.
‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานํ, น วิชฺชติ ปุโม ตทา [สทา (สี.)];
อโหรตฺตานํ อจฺจเยน, นิพฺพตฺโต อหเมกโก.
‘‘กิจฺฉา ลทฺธํ ปิยํ ปุตฺตํ, อภิชาตํ ชุตินฺธรํ;
เสตจฺฉตฺตํ ธารยิตฺวาน, สยเน โปเสติ มํ ปิตา.
‘‘นิทฺทายมาโน สยนวเร, ปพุชฺฌิตฺวานหํ ตทา;
อทฺทสํ ปณฺฑรํ ฉตฺตํ, เยนาหํ นิรยํ คโต.
‘‘สห ¶ ทิฏฺสฺส เม ฉตฺตํ, ตาโส อุปฺปชฺชิ เภรโว;
วินิจฺฉยํ สมาปนฺโน, ‘กถาหํ อิมํ มฺุจิสฺสํ’.
‘‘ปุพฺพสาโลหิตา มยฺหํ, เทวตา อตฺถกามินี;
สา มํ ทิสฺวาน ทุกฺขิตํ, ตีสุ าเนสุ โยชยิ.
‘‘‘มา ปณฺฑิจฺจยํ วิภาวย, พาลมโต ภว สพฺพปาณินํ;
สพฺโพ ตํ ชโน โอจินายตุ, เอวํ ตว อตฺโถ ภวิสฺสติ’.
‘‘เอวํ วุตฺตายหํ ตสฺสา, อิทํ วจนมพฺรวึ;
‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ ตฺวํ ภณสิ เทวเต;
อตฺถกามาสิ เม อมฺม, หิตกามาสิ เทวเต’.
‘‘ตสฺสาหํ วจนํ สุตฺวา, สาคเรว ถลํ ลภึ;
หฏฺโ ¶ สํวิคฺคมานโส, ตโย องฺเค อธิฏฺหึ.
‘‘มูโค ¶ อโหสึ พธิโร, ปกฺโข คติวิวชฺชิโต;
เอเต องฺเค อธิฏฺาย, วสฺสานิ โสฬสํ วสึ.
‘‘ตโต เม หตฺถปาเท จ, ชิวฺหํ โสตฺจ มทฺทิย;
อนูนตํ เม ปสฺสิตฺวา, ‘กาฬกณฺณี’ติ นินฺทิสุํ.
‘‘ตโต ชานปทา สพฺเพ, เสนาปติปุโรหิตา;
สพฺเพ เอกมนา หุตฺวา, ฉฑฺฑนํ อนุโมทิสุํ.
‘‘โสหํ เตสํ มตึ สุตฺวา, หฏฺโ สํวิคฺคมานโส;
ยสฺสตฺถาย ตโปจิณฺโณ, โส เม อตฺโถ สมิชฺฌถ.
‘‘นฺหาเปตฺวา อนุลิมฺปิตฺวา, เวเตฺวา ราชเวนํ;
ฉตฺเตน อภิสิฺจิตฺวา, กาเรสุํ ปุรํ ปทกฺขิณํ.
‘‘สตฺตาหํ ธารยิตฺวาน, อุคฺคเต รวิมณฺฑเล;
รเถน มํ นีหริตฺวา, สารถี วนมุปาคมิ.
‘‘เอโกกาเส ¶ รถํ กตฺวา, สชฺชสฺสํ หตฺถมุจฺจิโต [หตฺถมฺุจิโต (สี. สฺยา.)];
สารถี ขณตี กาสุํ, นิขาตุํ ปถวิยา มมํ.
‘‘อธิฏฺิตมธิฏฺานํ, ตชฺเชนฺโต วิวิธการณา;
น ภินฺทึ ตมธิฏฺานํ, โพธิยาเยว การณา.
‘‘มาตาปิตา น เม เทสฺสา, อตฺตา เม น จ เทสฺสิโย;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา วตมธิฏฺหึ.
‘‘เอเต ¶ ¶ องฺเค อธิฏฺาย, วสฺสานิ โสฬสํ วสึ;
อธิฏฺาเนน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม อธิฏฺานปารมี’’ติ.
เตมิยจริยํ ฉฏฺํ.
๗. กปิราชจริยา
‘‘ยทา อหํ กปิ อาสึ, นทีกูเล ทรีสเย;
ปีฬิโต สุสุมาเรน, คมนํ น ลภามหํ.
‘‘ยมฺโหกาเส ¶ อหํ ตฺวา, โอรา ปารํ ปตามหํ;
ตตฺถจฺฉิ สตฺตุ วธโก, กุมฺภีโล ลุทฺททสฺสโน.
‘‘โส มํ อสํสิ ‘เอหี’ติ, ‘อหํเปมี’ติ ตํ วตึ;
ตสฺส มตฺถกมกฺกมฺม, ปรกูเล ปติฏฺหึ.
‘‘น ตสฺส อลิกํ ภณิตํ, ยถา วาจํ อกาสหํ;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
กปิราชจริยํ สตฺตมํ.
๘. สจฺจตาปสจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, ตาปโส สจฺจสวฺหโย;
สจฺเจน โลกํ ปาเลสึ, สมคฺคํ ชนมกาสห’’นฺติ.
สจฺจตาปสจริยํ อฏฺมํ.
๙. วฏฺฏโปตกจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ¶ ยทา โหมิ, มคเธ วฏฺฏโปตโก;
อชาตปกฺโข ตรุโณ, มํสเปสิ กุลาวเก.
‘‘มุขตุณฺฑเกนาหริตฺวา [มุขตุณฺเฑนาหริตฺวา (สี.)], มาตา โปสยตี มมํ;
ตสฺสา ผสฺเสน ชีวามิ, นตฺถิ เม กายิกํ พลํ.
‘‘สํวจฺฉเร คิมฺหสมเย, ทวฑาโห [วนทาโห (ก.)] ปทิปฺปติ;
อุปคจฺฉติ อมฺหากํ, ปาวโก กณฺหวตฺตนี.
‘‘ธมธมา อิติเอวํ, สทฺทายนฺโต มหาสิขี;
อนุปุพฺเพน ฌาเปนฺโต, อคฺคิ มมมุปาคมิ.
‘‘อคฺคิเวคภยาตีตา, ตสิตา มาตาปิตา มม;
กุลาวเก มํ ฉฑฺเฑตฺวา, อตฺตานํ ปริโมจยุํ.
‘‘ปาเท ¶ ปกฺเข ปชหามิ, นตฺถิ เม กายิกํ พลํ;
โสหํ อคติโก ตตฺถ, เอวํ จินฺเตสหํ ตทา.
‘‘‘เยสาหํ อุปธาเวยฺยํ, ภีโต ตสิตเวธิโต;
เต มํ โอหาย ปกฺกนฺตา, กถํ เม อชฺช กาตเว.
‘‘‘อตฺถิ โลเก สีลคุโณ, สจฺจํ โสเจยฺยนุทฺทยา;
เตน สจฺเจน กาหามิ, สจฺจกิริยมุตฺตมํ.
‘‘‘อาเวชฺเชตฺวา ธมฺมพลํ, สริตฺวา ปุพฺพเก ชิเน;
สจฺจพลมวสฺสาย, สจฺจกิริยมกาสหํ.
‘‘‘สนฺติ ¶ ปกฺขา อปตนา, สนฺติ ปาทา อวฺจนา;
มาตาปิตา จ นิกฺขนฺตา, ชาตเวท ปฏิกฺกม’.
‘‘สหสจฺเจ กเต มยฺหํ, มหาปชฺชลิโต สิขี;
วชฺเชสิ โสฬสกรีสานิ, อุทกํ ปตฺวา ยถา สิขี;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
วฏฺฏโปตกจริยํ นวมํ.
๑๐. มจฺฉราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ¶ ยทา โหมิ, มจฺฉราชา มหาสเร;
อุณฺเห สูริยสนฺตาเป, สเร อุทก ขียถ.
‘‘ตโต กากา จ คิชฺฌา จ, กงฺกา [พกา (สี.)] กุลลเสนกา;
ภกฺขยนฺติ ทิวารตฺตึ, มจฺเฉ อุปนิสีทิย.
‘‘เอวํ จินฺเตสหํ ตตฺถ, สห าตีหิ ปีฬิโต;
‘เกน นุ โข อุปาเยน, าตี ทุกฺขา ปโมจเย’.
‘‘วิจินฺตยิตฺวา ธมฺมตฺถํ, สจฺจํ อทฺทส ปสฺสยํ;
สจฺเจ ตฺวา ปโมเจสึ, าตีนํ ตํ อติกฺขยํ.
‘‘อนุสฺสริตฺวา สตํ ธมฺมํ, ปรมตฺถํ วิจินฺตยํ;
อกาสิ สจฺจกิริยํ, ยํ โลเก ธุวสสฺสตํ.
‘‘‘ยโต ¶ สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
นาภิชานามิ สฺจิจฺจ, เอกปาณมฺปิ หึสิตํ.
‘‘‘เอเตน ¶ สจฺจวชฺเชน, ปชฺชุนฺโน อภิวสฺสตุ;
อภิตฺถนย ปชฺชุนฺน, นิธึ กากสฺส นาสย;
กากํ โสกาย รนฺเธหิ, มจฺเฉ โสกา ปโมจย’.
‘‘สหกเต สจฺจวเร, ปชฺชุนฺโน อภิคชฺชิย;
ถลํ นินฺนฺจ ปูเรนฺโต, ขเณน อภิวสฺสถ.
‘‘เอวรูปํ สจฺจวรํ, กตฺวา วีริยมุตฺตมํ;
วสฺสาเปสึ มหาเมฆํ, สจฺจเตชพลสฺสิโต;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
มจฺฉราชจริยํ ทสมํ.
๑๑. กณฺหทีปายนจริยา
‘‘ปุนาปรํ ¶ ยทา โหมิ, กณฺหทีปายโน อิสิ;
ปโรปฺาสวสฺสานิ, อนภิรโตจรึ อหํ.
‘‘น โกจิ เอตํ ชานาติ, อนภิรติมนํ มม;
อหฺหิ กสฺสจิ นาจิกฺขึ, อรติ เม จรติ มานเส.
‘‘สพฺรหฺมจารี ¶ มณฺฑพฺโย, สหาโย เม มหาอิสิ;
ปุพฺพกมฺมสมายุตฺโต, สูลมาโรปนํ ลภิ.
‘‘ตมหํ อุปฏฺหิตฺวาน, อาโรคฺยมนุปาปยึ;
อาปุจฺฉิตฺวาน อาคฺฉึ, ยํ มยฺหํ สกมสฺสมํ.
‘‘สหาโย ¶ พฺราหฺมโณ มยฺหํ, ภริยํ อาทาย ปุตฺตกํ;
ตโย ชนา สมาคนฺตฺวา, อาคฺฉุํ ปาหุนาคตํ.
‘‘สมฺโมทมาโน เตหิ สห, นิสินฺโน สกมสฺสเม;
ทารโก วฏฺฏมนุกฺขิปํ, อาสีวิสมโกปยิ.
‘‘ตโต โส วฏฺฏคตํ มคฺคํ, อนฺเวสนฺโต กุมารโก;
อาสีวิสสฺส หตฺเถน, อุตฺตมงฺคํ ปรามสิ.
‘‘ตสฺส ¶ อามสเน กุทฺโธ, สปฺโป วิสพลสฺสิโต;
กุปิโต ปรมโกเปน, อฑํสิ ทารกํ ขเณ.
‘‘สหทฏฺโ อาสีวิเสน [อติวิเสน (ปี. ก.)], ทารโก ปปติ [ปตติ (ก.)] ภูมิยํ;
เตนาหํ ทุกฺขิโต อาสึ, มม วาหสิ ตํ ทุกฺขํ.
‘‘ตฺยาหํ อสฺสาสยิตฺวาน, ทุกฺขิเต โสกสลฺลิเต;
ปมํ อกาสึ กิริยํ, อคฺคํ สจฺจํ วรุตฺตมํ.
‘‘‘สตฺตาหเมวาหํ ปสนฺนจิตฺโต, ปฺุตฺถิโก อจรึ พฺรหฺมจริยํ;
อถาปรํ ยํ จริตํ มเมทํ, วสฺสานิ ปฺาสสมาธิกานิ.
‘‘‘อกามโก วาหิ อหํ จรามิ, เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ;
หตํ วิสํ ชีวตุ ยฺทตฺโต’.
‘‘สห ¶ ¶ สจฺเจ กเต มยฺหํ, วิสเวเคน เวธิโต;
อพุชฺฌิตฺวาน วุฏฺาสิ, อโรโค จาสิ มาณโว;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
กณฺหทีปายนจริยํ เอกาทสมํ.
๑๒. สุตโสมจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, สุตโสโม มหีปติ;
คหิโต โปริสาเทน, พฺราหฺมเณ สงฺครํ สรึ.
‘‘ขตฺติยานํ เอกสตํ, อาวุณิตฺวา กรตฺตเล;
เอเตสํ ปมิลาเปตฺวา, ยฺตฺเถ อุปนยี มมํ.
‘‘อปุจฺฉิ ¶ มํ โปริสาโท, ‘กึ ตฺวํ อิจฺฉสิ นิสฺสชํ;
ยถามติ เต กาหามิ, ยทิ เม ตฺวํ ปุเนหิสิ’.
‘‘ตสฺส ¶ ปฏิสฺสุณิตฺวาน, ปณฺเห อาคมนํ มม;
อุปคนฺตฺวา ปุรํ รมฺมํ, รชฺชํ นิยฺยาทยึ ตทา.
‘‘อนุสฺสริตฺวา สตํ ธมฺมํ, ปุพฺพกํ ชินเสวิตํ;
พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา, โปริสาทํ อุปาคมึ.
‘‘นตฺถิ เม สํสโย ตตฺถ, ฆาตยิสฺสติ วา น วา;
สจฺจวาจานุรกฺขนฺโต, ชีวิตํ จชิตุมุปาคมึ;
สจฺเจน เม สโม นตฺถิ, เอสา เม สจฺจปารมี’’ติ.
สุตโสมจริยํ ทฺวาทสมํ.
๑๓. สุวณฺณสามจริยา
‘‘สาโม ¶ ¶ ยทา วเน อาสึ, สกฺเกน อภินิมฺมิโต;
ปวเน สีหพฺยคฺเฆ จ, เมตฺตายมุปนามยึ.
‘‘สีหพฺยคฺเฆหิ ทีปีหิ, อจฺเฉหิ มหิเสหิ จ;
ปสทมิควราเหหิ, ปริวาเรตฺวา วเน วสึ.
‘‘น มํ โกจิ อุตฺตสติ, นปิ ภายามิ กสฺสจิ;
เมตฺตาพเลนุปตฺถทฺโธ, รมามิ ปวเน ตทา’’ติ.
สุวณฺณสามจริยํ เตรสมํ.
๑๔. เอกราชจริยา
‘‘ปุนาปรํ ยทา โหมิ, เอกราชาติ วิสฺสุโต;
ปรมํ สีลํ อธิฏฺาย, ปสาสามิ มหามหึ.
‘‘ทส กุสลกมฺมปเถ, วตฺตามิ อนวเสสโต;
จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ, สงฺคณฺหามิ [สงฺคหามิ (ก.)] มหาชนํ.
‘‘เอวํ เม อปฺปมตฺตสฺส, อิธ โลเก ปรตฺถ จ;
ทพฺพเสโน ¶ อุปคนฺตฺวา, อจฺฉินฺทนฺโต ปุรํ มม.
‘‘ราชูปชีเว ¶ นิคเม, สพลฏฺเ สรฏฺเก;
สพฺพํ หตฺถคตํ กตฺวา, กาสุยา นิขณี มมํ.
‘‘อมจฺจมณฺฑลํ รชฺชํ, ผีตํ อนฺเตปุรํ มม;
อจฺฉินฺทิตฺวาน คหิตํ, ปิยํ ปุตฺตํว ปสฺสหํ;
เมตฺตาย เม สโม นตฺถิ, เอสา เม เมตฺตาปารมี’’ติ.
เอกราชจริยํ จุทฺทสมํ.
๑๕. มหาโลมหํสจริยา
‘‘สุสาเน ¶ ¶ เสยฺยํ กปฺเปมิ, ฉวฏฺิกํ อุปนิธายหํ;
คามณฺฑลา [โคมณฺฑลา (สี.), คามมณฺฑลา (สฺยา.)] อุปาคนฺตฺวา, รูปํ ทสฺเสนฺตินปฺปกํ.
‘‘อปเร คนฺธมาลฺจ, โภชนํ วิวิธํ พหุํ;
อุปายนานูปเนนฺติ, หฏฺา สํวิคฺคมานสา.
‘‘เย เม ทุกฺขํ อุปหรนฺติ, เย จ เทนฺติ สุขํ มม;
สพฺเพสํ สมโก โหมิ, ทยา โกโป น วิชฺชติ.
‘‘สุขทุกฺเข ตุลาภูโต, ยเสสุ อยเสสุ จ;
สพฺพตฺถ สมโก โหมิ, เอสา เม อุเปกฺขาปารมี’’ติ.
มหาโลมหํสจริยํ ปนฺนรสมํ.
ยุธฺชยวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ยุธฺชโย โสมนสฺโส, อโยฆรภิเสน จ;
โสณนนฺโท มูคปกฺโข, กปิราชา สจฺจสวฺหโย.
วฏฺฏโก มจฺฉราชา จ, กณฺหทีปายโน อิสิ;
สุตโสโม ปุน อาสึ [อาสิ (สฺยา.)], สาโม จ เอกราชหุ;
อุเปกฺขาปารมี อาสิ, อิติ วุตฺถํ [วุตฺตํ (สพฺพตฺถ) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] มเหสินา.
เอวํ ¶ พหุพฺพิธํ ทุกฺขํ, สมฺปตฺตี จ พหุพฺพิธา [สมฺปตฺติ จ พหุวิธา (สี.), สมฺปตฺตึ จ พหุวิธํ (ก.)];
ภวาภเว อนุภวิตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ทตฺวา ทาตพฺพกํ ทานํ, สีลํ ปูเรตฺวา อเสสโต;
เนกฺขมฺเม ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ปณฺฑิเต ¶ ปริปุจฺฉิตฺวา, วีริยํ กตฺวาน มุตฺตมํ;
ขนฺติยา ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
กตฺวา ทฬฺหมธิฏฺานํ, สจฺจวาจานุรกฺขิย;
เมตฺตาย ¶ ปารมึ คนฺตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
ลาภาลาเภ ¶ ยสายเส, สมฺมานนาวมานเน;
สพฺพตฺถ สมโก หุตฺวา, ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตมํ.
โกสชฺชํ ภยโต ทิสฺวา, วีริยารมฺภฺจ เขมโต;
อารทฺธวีริยา โหถ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
วิวาทํ ภยโต ทิสฺวา, อวิวาทฺจ เขมโต;
สมคฺคา สขิลา โหถ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา, อปฺปมาทฺจ เขมโต;
ภาเวถฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, เอสา พุทฺธานุสาสนี.
อิตฺถํ สุทํ ภควา อตฺตโน ปุพฺพจริยํ สมฺภาวยมาโน พุทฺธาปทานิยํ นาม ธมฺมปริยายํ อภาสิตฺถาติ.
จริยาปิฏกํ นิฏฺิตํ.