📜
๗. สตฺตกนิปาโต
๑. กุกฺกุวคฺโค
[๓๙๖] ๑. กุกฺกุชาตกวณฺณนา
ทิยฑฺฒกุกฺกูติ ¶ ¶ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ราโชวาทํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อมจฺโจ อโหสิ. ราชา อคติคมเน ปติฏฺาย อธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, ชนปทํ ปีเฬตฺวา ธนเมว สํหริ. โพธิสตฺโต ราชานํ โอวทิตุกาโม เอกํ อุปมํ อุปธาเรนฺโต วิจรติ, รฺโ อุยฺยาเน วาสาคารํ วิปฺปกตํ โหติ อนิฏฺิตจฺฉทนํ, ทารุกณฺณิกํ อาโรเปตฺวา โคปานสิโย ปเวสิตมตฺตา โหนฺติ. ราชา กีฬนตฺถาย อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ วิจริตฺวา ตํ เคหํ ปวิสิตฺวา อุลฺโลเกนฺโต กณฺณิกมณฺฑลํ ทิสฺวา อตฺตโน อุปริปตนภเยน นิกฺขมิตฺวา พหิ ิโต ปุน โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข นิสฺสาย กณฺณิกา ิตา, กึ นิสฺสาย โคปานสิโย’’ติ จินฺเตตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ทิยฑฺฒกุกฺกู ¶ อุทเยน กณฺณิกา, วิทตฺถิโย อฏฺ ปริกฺขิปนฺติ นํ;
สา สึสปา, สารมยา อเผคฺคุกา, กุหึ ิตา อุปฺปริโต น ธํสตี’’ติ.
ตตฺถ ทิยฑฺฒกุกฺกูติ ทิยฑฺฒรตนา. อุทเยนาติ อุจฺจตฺเตน. ปริกฺขิปนฺติ นนฺติ ตํ ปเนตํ อฏฺ วิทตฺถิโย ปริกฺขิปนฺติ, ปริกฺเขปโต อฏฺวิทตฺถิปมาณาติ วุตฺตํ โหติ. กุหึ ิตาติ กตฺถ ปติฏฺิตา หุตฺวา. น ธํสตีติ น ปตติ.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘ลทฺธา ทานิ เม รฺโ โอวาทตฺถาย อุปมา’’ติ จินฺเตตฺวา อิมา คาถา อาห –
‘‘ยา ตึสติ สารมยา อนุชฺชุกา, ปริกิริย โคปานสิโย สมํ ิตา;
ตาหิ สุสงฺคหิตา พลสา ปีฬิตา, สมํ ิตา อุปฺปริโต น ธํสติ.
‘‘เอวมฺปิ มิตฺเตหิ ทฬฺเหหิ ปณฺฑิโต, อเภชฺชรูเปหิ สุจีหิ มนฺติภิ;
สุสงฺคหีโต สิริยา น ธํสติ, โคปานสีภารวหาว กณฺณิกา’’ติ.
ตตฺถ ยา ตึสติ สารมยาติ ยา เอตา สารรุกฺขมยา ตึสติ โคปานสิโย. ปริกิริยาติ ปริวาเรตฺวา. สมํ ิตาติ สมภาเคน ิตา. พลสา ปีฬิตาติ ตาหิ ตาหิ โคปานสีหิ พเลน ปีฬิตา สุฏฺุ สงฺคหิตา เอกาพทฺธา หุตฺวา. ปณฺฑิโตติ าณสมฺปนฺโน ราชา. สุจีหีติ สุจิสมาจาเรหิ กลฺยาณมิตฺเตหิ. มนฺติภีติ มนฺตกุสเลหิ. โคปานสีภารวหาว กณฺณิกาติ ยถา โคปานสีนํ ภารํ วหมานา กณฺณิกา น ธํสติ น ปตติ, เอวํ ราชาปิ วุตฺตปฺปกาเรหิ มนฺตีหิ อภิชฺชหทเยหิ สุสงฺคหิโต สิริโต น ธํสติ น ปตติ น ปริหายติ.
ราชา ¶ โพธิสตฺเต กเถนฺเตเยว อตฺตโน กิริยํ สลฺลกฺเขตฺวา กณฺณิกาย อสติ โคปานสิโย น ติฏฺนฺติ, โคปานสีหิ อสงฺคหิตา กณฺณิกา น ติฏฺติ, โคปานสีสุ ภิชฺชนฺตีสุ กณฺณิกา ปตติ, เอวเมว อธมฺมิโก ราชา อตฺตโน มิตฺตามจฺเจ จ พลกาเย จ พฺราหฺมณคหปติเก จ อสงฺคณฺหนฺโต เตสุ ภิชฺชนฺเตสุ เตหิ อสงฺคหิโต อิสฺสริยา ธํสติ, รฺา นาม ธมฺมิเกน ภวิตพฺพนฺติ. อถสฺส ตสฺมึ ขเณ ปณฺณาการตฺถาย มาตุลุงฺคํ อาหรึสุ. ราชา ‘‘สหาย, อิมํ มาตุลุงฺคํ ขาทา’’ติ โพธิสตฺตํ อาห. โพธิสตฺโต ตํ คเหตฺวา ‘‘มหาราช, อิมํ ขาทิตุํ อชานนฺตา ติตฺตกํ วา กโรนฺติ อมฺพิลํ วา, ชานนฺตา ¶ ปน ปณฺฑิตา ติตฺตกํ หาเรตฺวา อมฺพิลํ อนีหริตฺวา มาตุลุงฺครสํ อนาเสตฺวาว ขาทนฺตี’’ติ รฺโ อิมาย อุปมาย ธนสงฺฆรณูปายํ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ขรตฺตจํ เพลฺลํ ยถาปิ สตฺถวา, อนามสนฺโตปิ กโรติ ติตฺตกํ;
สมาหรํ สาทุํ กโรติ ปตฺถิว, อสาทุํ กยิรา ตนุพนฺธมุทฺธรํ.
‘‘เอวมฺปิ ¶ คามนิคเมสุ ปณฺฑิโต, อสาหสํ ราชธนานิ สงฺฆรํ;
ธมฺมานุวตฺตี ปฏิปชฺชมาโน, ส ผาติ กยิรา อวิเหยํ ปร’’นฺติ.
ตตฺถ ขรตฺตจนฺติ ถทฺธตจํ. เพลฺลนฺติ มาตุลุงฺคํ. ‘เพล’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. สตฺถวาติ สตฺถกหตฺโถ. อนามสนฺโตติ พหิตจํ ตนุกมฺปิ อตจฺฉนฺโต อิทํ ผลํ ติตฺตกํ กโรติ. สมาหรนฺติ สมาหรนฺโต พหิตจํ ตจฺฉนฺโต อนฺโต จ อมฺพิลํ อนีหรนฺโต ตํ สาทุํ กโรติ. ปตฺถิวาติ ราชานํ อาลปติ. ตนุพนฺธมุทฺธรนฺติ ¶ ตนุกํ ปน ตจํ อุทฺธรนฺโต สพฺพโส ติตฺตกสฺส อนปนีตตฺตา ตํ อสาทุเมว กยิรา. เอวนฺติ เอวํ ปณฺฑิโต ราชาปิ อสาหสํ สาหสิยา ตณฺหาย วสํ อคจฺฉนฺโต อคติคมนํ ปหาย รฏฺํ อปีเฬตฺวา อุปจิกานํ วมฺมิกวฑฺฒนนิยาเมน มธุกรานํ เรณุํ คเหตฺวา มธุกรณนิยาเมน จ ธนํ สงฺฆรนฺโต –
‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;
อกฺโกธํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจ อวิโรธน’’นฺติ. –
อิติ อิเมสํ ทสนฺนํ ราชธมฺมานํ อนุวตฺตเนน ธมฺมานุวตฺตี หุตฺวา ปฏิปชฺชมาโน โส อตฺตโน จ ปเรสฺจ ผาตึ วฑฺฒึ กเรยฺย ปรํ อวิเหเนฺโตเยวาติ.
ราชา โพธิสตฺเตน สทฺธึ มนฺเตนฺโต โปกฺขรณีตีรํ คนฺตฺวา สุปุปฺผิตํ พาลสูริยวณฺณํ อุทเกน อนุปลิตฺตํ ปทุมํ ทิสฺวา อาห – ‘‘สหาย, อิมํ ¶ ปทุมํ อุทเก สฺชาตเมว อุทเกน อลิมฺปมานํ ิต’’นฺติ. อถ นํ โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, รฺา นาม เอวรูเปน ภวิตพฺพ’’นฺติ โอวทนฺโต อิมา คาถา อาห –
‘‘โอทาตมูลํ สุจิวาริสมฺภวํ, ชาตํ ยถา โปกฺขรณีสุ อมฺพุชํ;
ปทุมํ ยถา อคฺคินิกาสิผาลิมํ, น กทฺทโม น รโช น วาริ ลิมฺปติ.
‘‘เอวมฺปิ โวหารสุจึ อสาหสํ, วิสุทฺธกมฺมนฺตมเปตปาปกํ;
น ลิมฺปติ กมฺมกิเลส ตาทิโส, ชาตํ ยถา โปกฺขรณีสุ อมฺพุช’’นฺติ.
ตตฺถ โอทาตมูลนฺติ ปณฺฑรมูลํ. อมฺพุชนฺติ ปทุมสฺเสว เววจนํ. อคฺคินิกาสิผาลิมนฺติ อคฺคินิกาสินา สูริเยน ผาลิตํ วิกสิตนฺติ อตฺโถ. น กทฺทโม น ¶ รโช น วาริ ลิมฺปตีติ เนว กทฺทโม น รโช น อุทกํ ลิมฺปติ, น มกฺเขตีติ อตฺโถ. ‘‘ลิปฺปติ’’จฺเจว วา ปาโ, ภุมฺมตฺเถ วา เอตานิ ปจฺจตฺตวจนานิ, เอเตสุ กทฺทมาทีสุ น ลิปฺปติ, น อลฺลียตีติ อตฺโถ. โวหารสุจินฺติ ¶ โปราณเกหิ ธมฺมิกราชูหิ ลิขาเปตฺวา ปิตวินิจฺฉยโวหาเร สุจึ, อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน วินิจฺฉยการกนฺติ อตฺโถ. อสาหสนฺติ ธมฺมิกวินิจฺฉเย ิตตฺตาเยว สาหสิกกิริยาย วิรหิตํ. วิสุทฺธกมฺมนฺตนฺติ เตเนว อสาหสิกฏฺเน วิสุทฺธกมฺมนฺตํ สจฺจวาทึ นิกฺโกธํ มชฺฌตฺตํ ตุลาภูตํ โลกสฺส. อเปตปาปกนฺติ อปคตปาปกมฺมํ. น ลิมฺปติ กมฺมกิเลส ตาทิโสติ ตํ ราชานํ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโร มุสาวาโทติ อยํ กมฺมกิเลโส น อลฺลียติ. กึการณา? ตาทิโส ชาตํ ยถา โปกฺขรณีสุ อมฺพุชํ. ตาทิโส หิ ราชา ยถา โปกฺขรณีสุ ชาตํ ปทุมํ อนุปลิตฺตํ, เอวํ อนุปลิตฺโต นาม โหติ.
ราชา โพธิสตฺตสฺส โอวาทํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปณฺฑิตามจฺโจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กุกฺกุชาตกวณฺณนา ปมา.
[๓๙๗] ๒. มโนชชาตกวณฺณนา
ยถา จาโป นินฺนมตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต วิปกฺขเสวกํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน เหฏฺา มหิฬามุขชาตเก (ชา. ๑.๑.๒๖) วิตฺถาริตเมว. ตทา ปน สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส วิปกฺขเสวโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต สีโห หุตฺวา สีหิยา สทฺธึ สํวสนฺโต ทฺเว โปตเก ลภิ – ปุตฺตฺจ ธีตรฺจ. ปุตฺตสฺส มโนโชติ นามํ อโหสิ, โส วยปฺปตฺโต เอกํ สีหโปติกํ คณฺหิ. อิติ เต ปฺจ ชนา อเหสุํ. มโนโช วนมหึสาทโย วธิตฺวา มํสํ อาหริตฺวา มาตาปิตโร จ ภคินิฺจ ปชาปติฺจ โปเสติ. โส ¶ เอกทิวสํ โคจรภูมิยํ คิริยํ นาม สิงฺคาลํ ปลายิตุํ อปฺปโหนฺตํ อุเรน นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กึ, สมฺมา’’ติ ¶ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุปฏฺาตุกาโมมฺหิ, สามี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, อุปฏฺหสฺสู’’ติ ตํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนคุหํ อาเนสิ. โพธิสตฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต มโนช, สิงฺคาลา นาม ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา อกิจฺเจ นิโยเชนฺติ, มา เอตํ อตฺตโน สนฺติเก กรี’’ติ วาเรตุํ นาสกฺขิ.
อเถกทิวสํ สิงฺคาโล อสฺสมํสํ ขาทิตุกาโม มโนชํ อาห – ‘‘สามิ, อมฺเหหิ เปตฺวา อสฺสมํสํ อฺํ อขาทิตปุพฺพํ นาม นตฺถิ, อสฺสํ คณฺหิสฺสามา’’ติ. ‘‘กหํ ปน, สมฺม, อสฺสา โหนฺตี’’ติ? ‘‘พาราณสิยํ นทีตีเร’’ติ. โส ตสฺส วจนํ คเหตฺวา เตน สทฺธึ อสฺสานํ นทิยา นฺหานเวลายํ คนฺตฺวา เอกํ อสฺสํ คเหตฺวา ปิฏฺิยํ อาโรเปตฺวา เวเคน อตฺตโน คุหาทฺวารเมว อาคโต. อถสฺส ปิตา อสฺสมํสํ ขาทิตฺวา ‘‘ตาต, อสฺสา นาม ราชโภคา, ราชาโน จ นาม อเนกมายา กุสเลหิ ¶ ธนุคฺคเหหิ วิชฺฌาเปนฺติ, อสฺสมํสขาทนสีหา นาม ทีฆายุกา น โหนฺติ, อิโต ปฏฺาย มา อสฺสํ คณฺหี’’ติ อาห. โส ปิตุ วจนํ อกตฺวา คณฺหเตว. ‘‘สีโห อสฺเส คณฺหาตี’’ติ สุตฺวา ราชา อนฺโตนคเรเยว อสฺสานํ โปกฺขรณึ การาเปสิ. ตโตปิ อาคนฺตฺวา คณฺหิเยว. ราชา อสฺสสาลํ กาเรตฺวา อนฺโตสาลายเมว ติโณทกํ ทาเปสิ. สีโห ปาการมตฺถเกน คนฺตฺวา อนฺโตสาลาโตปิ คณฺหิเยว.
ราชา เอกํ อกฺขณเวธึ ธนุคฺคหํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สกฺขิสฺสสิ ตาต, สีหํ วิชฺฌิตุ’’นฺติ อาห. โส ‘‘สกฺโกมี’’ติ วตฺวา ปาการํ นิสฺสาย สีหสฺส อาคมนมคฺเค อฏฺฏกํ กาเรตฺวา อฏฺาสิ. สีโห อาคนฺตฺวา พหิสุสาเน สิงฺคาลํ เปตฺวา อสฺสคหณตฺถาย นครํ ปกฺขนฺทิ. ธนุคฺคโห อาคมนกาเล ‘‘อติติขิโณ เวโค’’ติ สีหํ อวิชฺฌิตฺวา อสฺสํ คเหตฺวา คมนกาเล ครุภารตาย โอลีนเวคํ สีหํ ติขิเณน นาราเจน ปจฺฉาภาเค วิชฺฌิ. นาราโจ ปุริมกาเยน นิกฺขมิตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. สีโห ¶ ‘‘วิทฺโธสฺมี’’ติ วิรวิ. ธนุคฺคโห ตํ วิชฺฌิตฺวา อสนิ วิย ชิยํ โปเถสิ. สิงฺคาโล สีหสฺส จ ชิยาย จ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘สหาโย เม ธนุคฺคเหน วิชฺฌิตฺวา มาริโต ภวิสฺสติ, มตเกน หิ สทฺธึ วิสฺสาโส นาม นตฺถิ, อิทานิ มม ปกติยา วสนวนเมว คมิสฺสามี’’ติ อตฺตนาว สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยถา จาโป นินฺนมติ, ชิยา จาปิ นิกูชติ;
หฺเต นูน มโนโช, มิคราชา สขา มม.
‘‘หนฺท ¶ ทานิ วนนฺตานิ, ปกฺกมามิ ยถาสุขํ;
เนตาทิสา สขา โหนฺติ, ลพฺภา เม ชีวโต สขา’’ติ.
ตตฺถ ยถาติ เยนากาเรเนว จาโป นินฺนมติ. หฺเต นูนาติ นูน หฺติ. เนตาทิสาติ เอวรูปา มตกา สหายา นาม น โหนฺติ. ลพฺภา เมติ ชีวโต มม สหาโย นาม สกฺกา ลทฺธุํ.
สีโหปิ เอกเวเคน คนฺตฺวา อสฺสํ คุหาทฺวาเร ปาเตตฺวา สยมฺปิ มริตฺวา ปติ. อถสฺส าตกา นิกฺขมิตฺวา ตํ โลหิตมกฺขิตํ ปหารมุเขหิ ¶ ปคฺฆริตโลหิตํ ปาปชนเสวิตาย ชีวิตกฺขยํ ปตฺตํ อทฺทสํสุ, ทิสฺวา จสฺส มาตา ปิตา ภคินี ปชาปตีติ ปฏิปาฏิยา จตสฺโส คาถา ภาสึสุ –
‘‘น ปาปชนสํเสวี, อจฺจนฺตํ สุขเมธติ;
มโนชํ ปสฺส เสมานํ, คิริยสฺสานุสาสนี.
‘‘น ปาปสมฺปวงฺเกน, มาตา ปุตฺเตน นนฺทติ;
มโนชํ ปสฺส เสมานํ, อจฺฉนฺนํ สมฺหิ โลหิเต.
‘‘เอวมาปชฺชเต โปโส, ปาปิโย จ นิคจฺฉติ;
โย เว หิตานํ วจนํ, น กโรติ อตฺถทสฺสินํ.
‘‘เอวฺจ โส โหติ ตโต จ ปาปิโย, โย อุตฺตโม อธมชนูปเสวี;
ปสฺสุตฺตมํ ¶ อธมชนูปเสวิตํ, มิคาธิปํ สรวรเวคนิทฺธุต’’นฺติ.
ตตฺถ อจฺจนฺตํ สุขเมธตีติ น จิรํ สุขํ ลภติ. คิริยสฺสานุสาสนีติ อยํ เอวรูปา คิริยสฺสานุสาสนีติ ครหนฺโต อาห. ปาปสมฺปวงฺเกนาติ ปาเปสุ สมฺปวงฺเกน ปาปสหาเยน. อจฺฉนฺนนฺติ นิมุคฺคํ. ปาปิโย จ นิคจฺฉตีติ ปาปฺจ วินฺทติ. หิตานนฺติ อตฺถกามานํ. อตฺถทสฺสินนฺติ อนาคตอตฺถํ ปสฺสนฺตานํ. ปาปิโยติ ปาปตโร. อธมชนูปเสวีติ อธมชนํ อุปเสวี. อุตฺตมนฺติ สรีรพเลน เชฏฺกํ.
ปจฺฉิมา ¶ อภิสมฺพุทฺธคาถา –
‘‘นิหียติ ปุริโส นิหีนเสวี, น จ หาเยถ กทาจิ ตุลฺยเสวี;
เสฏฺมุปคมํ อุเทติ ขิปฺปํ, ตสฺมาตฺตนา อุตฺตริตรํ ภเชถา’’ติ.
ตตฺถ นิหียตีติ ภิกฺขเว, นิหีนเสวี นาม มโนโช สีโห วิย นิหียติ ปริหายติ วินาสํ ปาปุณาติ. ตุลฺยเสวีติ สีลาทีหิ อตฺตนา ¶ สทิสํ เสวมาโน น หายติ, วฑฺฒิเยว ปนสฺส โหติ. เสฏฺมุปคมนฺติ สีลาทีหิ อุตฺตริตรํเยว อุปคจฺฉนฺโต. อุเทติ ขิปฺปนฺติ สีฆเมว สีลาทีหิ คุเณหิ อุเทติ, วุทฺธึ อุปคจฺฉตีติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน วิปกฺขเสวโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.
ตทา สิงฺคาโล เทวทตฺโต อโหสิ, มโนโช วิปกฺขเสวโก, ภคินี อุปฺปลวณฺณา, ภริยา เขมา ภิกฺขุนี, มาตา ราหุลมาตา, ปิตา สีหราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
มโนชชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๓๙๘] ๓. สุตนุชาตกวณฺณนา
ราชา เต ภตฺตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ทุคฺคตคหปติกุเล นิพฺพตฺติ, สุตนูติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ภตึ กตฺวา มาตาปิตโร โปเสตฺวา ปิตริ กาลกเต มาตรํ โปเสติ. ตสฺมึ ปน กาเล พาราณสิราชา มิควิตฺตโก อโหสิ. โส เอกทิวสํ มหนฺเตน ปริวาเรน โยชนทฺวิโยชนมตฺตํ อรฺํ ปวิสิตฺวา ‘‘ยสฺส ิตฏฺาเนน มิโค ปลายติ, โส อิมํ นาม ชิโต’’ติ สพฺเพสํ อาโรจาเปสิ. อมจฺจา รฺโ ธุวมคฺคฏฺาเน โกฏฺกํ ฉาเทตฺวา อทํสุ. มนุสฺเสหิ มิคานํ วสนฏฺานานิ ปริวาเรตฺวา อุนฺนาเทนฺเตหิ อุฏฺาปิเตสุ มิเคสุ เอโก เอณิมิโค รฺโ ิตฏฺานํ ปฏิปชฺชิ. ราชา ‘‘ตํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ สรํ ขิปิ ¶ . อุคฺคหิตมาโย มิโค สรํ มหาผาสุกาภิมุขํ อาคจฺฉนฺตํ ตฺวา ปริวตฺติตฺวา สเรน วิทฺโธ วิย หุตฺวา ปติ. ราชา ‘‘มิโค เม วิทฺโธ’’ติ คหณตฺถาย ธาวิ. มิโค อุฏฺาย วาตเวเคน ปลายิ, อมจฺจาทโย ราชานํ อวหสึสุ. โส มิคํ อนุพนฺธิตฺวา กิลนฺตกาเล ขคฺเคน ทฺวิธา ฉินฺทิตฺวา เอกสฺมึ ทณฺฑเก ลคฺคิตฺวา ¶ กาชํ วหนฺโต วิย อาคจฺฉนฺโต ‘‘โถกํ วิสฺสมิสฺสามี’’ติ มคฺคสมีเป ิตํ วฏรุกฺขํ อุปคนฺตฺวา นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.
ตสฺมึ ปน วฏรุกฺเข นิพฺพตฺโต มฆเทโว นาม ยกฺโข ตตฺถ ปวิฏฺเ เวสฺสวณสฺส สนฺติกา ขาทิตุํ ลภิ. โส ราชานํ อุฏฺาย คจฺฉนฺตํ ‘‘ติฏฺ ภกฺโขสิ เม’’ติ หตฺเถ คณฺหิ. ‘‘ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ? ‘‘อหํ อิธ นิพฺพตฺตยกฺโข, อิมํ านํ ปวิฏฺเก ขาทิตุํ ลภามี’’ติ. ราชา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ‘‘กึ อชฺเชว มํ ขาทิสฺสสิ, อุทาหุ นิพทฺธํ ขาทิสฺสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ลภนฺโต นิพทฺธํ ขาทิสฺสามี’’ติ. ราชา ‘‘อิมํ อชฺช มิคํ ขาทิตฺวา มํ วิสฺสชฺเชหิ, อหํ เต สฺเว ปฏฺาย เอกาย ภตฺตปาติยา สทฺธึ เอกํ มนุสฺสํ เปเสสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ อปฺปมตฺโต โหหิ, อเปสิตทิวเส ตฺเว ¶ ขาทิสฺสามี’’ติ. ‘‘อหํ พาราณสิราชา, มยฺหํ อวิชฺชมานํ นาม นตฺถี’’ติ. ยกฺโข ปฏิฺํ คเหตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชสิ. โส นครํ ปวิสิตฺวา ตมตฺถํ เอกสฺส อตฺถจรกสฺส อมจฺจสฺส กเถตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ทิวสปริจฺเฉโท กโต, เทวา’’ติ? ‘‘น กโต’’ติ. ‘‘อยุตฺตํ โว กตํ, เอวํ สนฺเตปิ มา จินฺตยิตฺถ, พหู พนฺธนาคาเร มนุสฺสา’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ เอตํ กมฺมํ กร, มยฺหํ ชีวิตํ เทหี’’ติ.
อมจฺโจ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เทวสิกํ พนฺธนาคารโต มนุสฺสํ นีหริตฺวา ภตฺตปาตึ คเหตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวาว ยกฺขสฺส เปเสสิ. ยกฺโข ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา มนุสฺสํ ขาทติ. อปรภาเค พนฺธนาคารานิ นิมฺมนุสฺสานิ ชาตานิ. ราชา ภตฺตหารกํ อลภนฺโต มรณภเยน กมฺปิ. อถ นํ อมจฺโจ อสฺสาเสตฺวา ‘‘เทว, ชีวิตาสาโต ธนาสาว พลวตรา, หตฺถิกฺขนฺเธ สหสฺสภณฺฑิกํ เปตฺวา ‘โก อิมํ ธนํ คเหตฺวา ยกฺขสฺส ภตฺตํ อาทาย คมิสฺสตี’ติ เภรึ จราเปมา’’ติ วตฺวา ตถา กาเรสิ. อถ ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘อหํ ภติยา มาสกฑฺฒมาสกํ สงฺฆริตฺวา กิจฺเฉน มาตรํ โปเสมิ, อิมํ ธนํ คเหตฺวา มาตุ ทตฺวา ยกฺขสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามิ, สเจ ยกฺขํ ทเมตุํ สกฺขิสฺสามิ, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ สกฺขิสฺสามิ, มาตา เม สุขํ ชีวิสฺสตี’’ติ. โส ตมตฺถํ มาตุ อาโรเจตฺวา ‘‘อลํ ตาต, น มม อตฺโถ ธเนนา’’ติ ทฺเว วาเร ปฏิกฺขิปิตฺวา ตติยวาเร ตํ อนาปุจฺฉิตฺวาว ‘‘อาหรถ, อยฺย, สหสฺสํ, อหํ ภตฺตํ หริสฺสามี’’ติ สหสฺสํ คเหตฺวา มาตุ ทตฺวา ‘‘อมฺม ¶ , มา จินฺตยิ ¶ , อหํ ยกฺขํ ทเมตฺวา มหาชนสฺส โสตฺถึ กริสฺสามิ, อชฺเชว ตว อสฺสุกิลินฺนมุขํ หาสาเปนฺโตว อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตรํ วนฺทิตฺวา ราชปุริเสหิ สทฺธึ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.
ตโต รฺา ‘‘ตาต, ตฺวํ ภตฺตํ หริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อาม, เทวา’’ติ อาห. ‘‘กึ เต ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ ¶ สุวณฺณปาทุกา, เทวา’’ติ. ‘‘กึการณา’’ติ? ‘‘เทว, โส ยกฺโข อตฺตโน รุกฺขมูเล ภูมิยํ ิตเก ขาทิตุํ ลภติ, อหํ เอตสฺส สนฺตกภูมิยํ อฏฺตฺวา ปาทุกาสุ สฺสามี’’ติ. ‘‘อฺํ กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ ฉตฺตํ, เทวา’’ติ. ‘‘อิทํ กิมตฺถายา’’ติ? ‘‘เทว, ยกฺโข อตฺตโน รุกฺขจฺฉายาย ิตเก ขาทิตุํ ลภติ, อหํ ตสฺส รุกฺขจฺฉายาย อฏฺตฺวา ฉตฺตจฺฉายาย สฺสามี’’ติ. ‘‘อฺํ กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ ขคฺคํ, เทวา’’ติ. ‘‘อิมินา โก อตฺโถ’’ติ? ‘‘เทว, อมนุสฺสาปิ อาวุธหตฺถานํ ภายนฺติเยวา’’ติ. ‘‘อฺํ กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘สุวณฺณปาตึ ปูเรตฺวา ตุมฺหากํ ภฺุชนกภตฺตํ เทถ, เทวา’’ติ. ‘‘กึการณา, ตาตา’’ติ? ‘‘เทว, มาทิสสฺส นาม ปณฺฑิตสฺส ปุริสสฺส มตฺติกปาติยา ลูขโภชนํ หริตุํ อนนุจฺฉวิก’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ ราชา สพฺพํ ทาเปตฺวา ตสฺส เวยฺยาวจฺจกเร ปฏิปาเทสิ.
โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, มา ภายิตฺถ, อชฺชาหํ ยกฺขํ ทเมตฺวา ตุมฺหากํ โสตฺถึ กตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ ราชานํ วนฺทิตฺวา อุปกรณานิ คาหาเปตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มนุสฺเส รุกฺขสฺสาวิทูเร เปตฺวา สุวณฺณปาทุกํ อารุยฺห ขคฺคํ สนฺนยฺหิตฺวา เสตจฺฉตฺตํ มตฺถเก กตฺวา กฺจนปาติยา ภตฺตํ คเหตฺวา ยกฺขสฺส สนฺติกํ ปายาสิ. ยกฺโข มคฺคํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุริโส น อฺเสุ ทิวเสสุ อาคมนนิยาเมน เอติ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ จินฺเตสิ. โพธิสตฺโตปิ รุกฺขสมีปํ คนฺตฺวา อสิตุณฺเฑน ภตฺตปาตึ อนฺโตฉายาย กริตฺวา ฉายาย ปริยนฺเต ิโต ปมํ คาถมาห.
‘‘ราชา เต ภตฺตํ ปาเหสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ;
มฆเทวสฺมึ อธิวตฺเถ, เอหิ นิกฺขมฺม ภฺุชสู’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปาเหสีติ ปหิณิ. มฆเทวสฺมึ อธิวตฺเถติ มฆเทโวติ วฏรุกฺโข วุจฺจติ, ตสฺมึ อธิวตฺเถติ เทวตํ อาลปติ.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา ยกฺโข ‘‘อิมํ ปุริสํ วฺเจตฺวา อนฺโตฉายาย ปวิฏฺํ ขาทิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘เอหิ มาณว โอเรน, ภิกฺขมาทาย สูปิตํ;
ตฺวฺจ มาณว ภิกฺขา จ, อุโภ ภกฺขา ภวิสฺสถา’’ติ.
ตตฺถ ภิกฺขนฺติ มม นิพทฺธภิกฺขํ. สูปิตนฺติ สูปสมฺปนฺนํ.
ตโต โพธิสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อปฺปเกน ตุวํ ยกฺข, ถุลฺลมตฺถํ ชหิสฺสสิ;
ภิกฺขํ เต นาหริสฺสนฺติ, ชนา มรณสฺิโน.
‘‘ลทฺธาย ยกฺขา ตว นิจฺจภิกฺขํ, สุจึ ปณีตํ รสสา อุเปตํ;
ภิกฺขฺจ เต อาหริโย นโร อิธ, สุทุลฺลโภ เหหิติ ภกฺขิเต มยี’’ติ.
ตตฺถ ถุลฺลมตฺถนฺติ อปฺปเกน การเณน มหนฺตํ อตฺถํ ชหิสฺสสีติ ทสฺเสติ. นาหริสฺสนฺตีติ อิโต ปฏฺาย มรณสฺิโน หุตฺวา น อาหริสฺสนฺติ, อถ ตฺวํ มิลาตสาโข วิย รุกฺโข นิราหาโร ทุพฺพโล ภวิสฺสสีติ. ลทฺธายนฺติ ลทฺธอยํ ลทฺธาคมนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม ยกฺข, ยํ อหํ อชฺช อาหรึ, อิทํ ตว นิจฺจภิกฺขํ สุจึ ปณีตํ อุตฺตมํ รเสน อุเปตํ ลทฺธาคมนํ เทวสิกํ เต อาคจฺฉิสฺสติ. อาหริโยติ อาหรณโก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สเจ ตฺวํ อิมํ ภิกฺขํ คเหตฺวา อาคตํ มํ ภกฺขสิ, อเถวํ มยิ ภกฺขิเต ภิกฺขฺจ เต อาหรณโก อฺโ นโร อิธ สุทุลฺลโภ ภวิสฺสติ. กึการณา? มาทิโส หิ พาราณสิยํ อฺโ ปณฺฑิตมนุสฺโส นาม นตฺถิ, มยิ ปน ขาทิเต สุตนุปิ นาม ยกฺเขน ขาทิโต, อฺสฺส กสฺส โส ลชฺชิสฺสตี’’ติ ภตฺตาหรณกํ น ลภิสฺสสิ, อถ เต อิโต ปฏฺาย โภชนํ ทุลฺลภํ ภวิสฺสติ, อมฺหากมฺปิ ราชานํ คณฺหิตุํ น ลภิสฺสสิ. กสฺมา? รุกฺขโต พหิภาเวน. สเจ ปนิทํ ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา มํ ปหิณิสฺสสิ, อหํ เต รฺโ กเถตฺวา นิพทฺธํ ภตฺตํ เปเสสฺสามิ, อตฺตานมฺปิ จ เต ¶ ขาทิตุํ ¶ น ทสฺสามิ, อหมฺปิ ตว สนฺติเก าเน น สฺสามิ, ปาทุกาสุ สฺสามิ, รุกฺขจฺฉายายมฺปิ เต น สฺสามิ, อตฺตโน ฉตฺตจฺฉายายเมว สฺสามิ, สเจ ปน มยา สทฺธึ วิรุชฺฌิสฺสสิ, ขคฺเคน ตํ ทฺวิธา ภินฺทิสฺสามิ ¶ , อหฺหิ อชฺช เอตทตฺถเมว สชฺโช หุตฺวา อาคโตติ. เอวํ กิร นํ มหาสตฺโต ตชฺเชสิ.
ยกฺโข ‘‘ยุตฺตรูปํ มาณโว วทตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘มเมว สุตโน อตฺโถ, ยถา ภาสสิ มาณว;
มยา ตฺวํ สมนฺุาโต, โสตฺถึ ปสฺสาหิ มาตรํ.
‘‘ขคฺคํ ฉตฺตฺจ ปาติฺจ, คจฺฉมาทาย มาณว;
โสตฺถึ ปสฺสตุ เต มาตา, ตฺวฺจ ปสฺสาหิ มาตร’’นฺติ.
ตตฺถ สุตโนติ โพธิสตฺตํ อาลปติ. ยถา ภาสสีติ ยถา ตฺวํ ภาสสิ, ตถา โย เอส ตยา ภาสิโต อตฺโถ, เอโส มเมวตฺโถ, มยฺหเมว วฑฺฒีติ.
ยกฺขสฺส กถํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘มม กมฺมํ นิปฺผนฺนํ, ทมิโต เม ยกฺโข, พหฺุจ ธนํ ลทฺธํ, รฺโ จ วจนํ กต’’นฺติ ตุฏฺจิตฺโต ยกฺขสฺส อนุโมทนํ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘เอวํ ยกฺข สุขี โหหิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
ธนฺจ เม อธิคตํ, รฺโ จ วจนํ กต’’นฺติ. –
วตฺวา จ ปน ยกฺขํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ ปุพฺเพ อกุสลกมฺมํ กตฺวา กกฺขโฬ ผรุโส ปเรสํ โลหิตมํสภกฺโข ยกฺโข หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อิโต ปฏฺาย ปาณาติปาตาทีนิ มา กรี’’ติ สีเล จ อานิสํสํ, ทุสฺสีลฺเย จ อาทีนวํ กเถตฺวา ยกฺขํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘กึ เต อรฺวาเสน, เอหิ นครทฺวาเร ตํ นิสีทาเปตฺวา อคฺคภตฺตลาภึ กโรมี’’ติ ยกฺเขน สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ขคฺคาทีนิ ยกฺขํ คาหาเปตฺวา พาราณสึ อคมาสิ. ‘‘สุตนุ มาณโว ยกฺขํ คเหตฺวา เอตี’’ติ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา อมจฺจปริวุโต โพธิสตฺตสฺส ¶ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ยกฺขํ นครทฺวาเร ¶ นิสีทาเปตฺวา อคฺคภตฺตลาภินํ กตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา เภรึ จราเปตฺวา นาคเร สนฺนิปาตาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส คุณํ กเถตฺวา เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. อยฺจ โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ยกฺโข องฺคุลิมาโล อโหสิ, ราชา อานนฺโท, มาณโว ปน อหเมว อโหสินฺติ.
สุตนุชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๓๙๙] ๔. มาตุโปสกคิชฺฌชาตกวณฺณนา
เต กถํ นุ กริสฺสนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต คิชฺฌโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต วุทฺเธ ปริหีนจกฺขุเก มาตาปิตโร คิชฺฌคุหายํ เปตฺวา โคมํสาทีนิ อาหริตฺวา โปเสสิ. ตสฺมึ กาเล พาราณสิยํ สุสาเน เอโก เนสาโท อนิยเมตฺวา คิชฺฌานํ ปาเส โอฑฺเฑสิ. อเถกทิวสํ โพธิสตฺโต โคมํสาทึ ปริเยสนฺโต สุสานํ ปวิฏฺโ ปาเทน ปาเส พชฺฌิตฺวา อตฺตโน น จินฺเตสิ, วุทฺเธ ปริหีนจกฺขุเก มาตาปิตโร อนุสฺสริตฺวา ‘‘กถํ นุ โข เม มาตาปิตโร ยาเปสฺสนฺติ, มม พทฺธภาวมฺปิ อชานนฺตา อนาถา นิปฺปจฺจยา ปพฺพตคุหายเมว สุสฺสิตฺวา มริสฺสนฺติ มฺเ’’ติ วิลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘เต กถํ นุ กริสฺสนฺติ, วุทฺธา คิริทรีสยา;
อหํ พทฺโธสฺมิ ปาเสน, นิลียสฺส วสํ คโต’’ติ.
ตตฺถ นิลียสฺสาติ เอวํนามกสฺส เนสาทปุตฺตสฺส.
อถ ¶ เนสาทปุตฺโต คิชฺฌราชสฺส ¶ ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘กึ คิชฺฌ ปริเทวสิ, กา นุ เต ปริเทวนา;
น เม สุโต วา ทิฏฺโ วา, ภาสนฺโต มานุสึ ทิโช’’ติ.
คิชฺโฌ อาห –
‘‘ภรามิ ¶ มาตาปิตโร, วุทฺเธ คิริทรีสเย;
เต กถํ นุ กริสฺสนฺติ, อหํ วสํ คโต ตวา’’ติ.
เนสาโท อาห –
‘‘ยํ นุ คิชฺโฌ โยชนสตํ, กุณปานิ อเวกฺขติ;
กสฺมา ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌสี’’ติ.
คิชฺฌราชา อาห –
‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;
อถ ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภรสฺสุ มาตาปิตโร, วุทฺเธ คิริทรีสเย;
มยา ตฺวํ สมนฺุาโต, โสตฺถึ ปสฺสาหิ าตเก.
‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
ภริสฺสํ มาตาปิตโร, วุทฺเธ คิริทรีสเย’’ติ. –
เนสาทปุตฺเตน ทุติยา, คิชฺเฌน ตติยาติ อิมา คาถา ปฏิปาฏิยา วุตฺตา.
ตตฺถ ยํ นูติ ยํ นุ เอตํ โลเก กถียติ. คิชฺโฌ โยชนสตํ, กุณปานิ อเวกฺขตีติ โยชนสตํ อติกฺกมฺม ิตานิปิ กุณปานิ ปสฺสติ, ตํ ยทิ ตถํ, อถ กสฺมา ตฺวํ อิมํ ชาลฺจ ปาสฺจ อาสชฺชาปิ น พุชฺฌสิ, สนฺติกํ อาคนฺตฺวาปิ น ชานาสีติ.
ปราภโวติ วินาโส. ภรสฺสูติ อิทํ โส โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘ปณฺฑิโต คิชฺฌราชา ปริเทวนฺโต น อตฺตโน ปริเทวติ, มาตาปิตูนํ ¶ ปริเทวติ, นายํ มาเรตุํ ยุตฺโต’’ติ ตุสฺสิตฺวา อาห, วตฺวา จ ปน ปิยจิตฺเตน มุทุจิตฺเตน ปาสํ โมเจสิ.
อถสฺส ¶ โพธิสตฺโต มรณมุขา ปมุตฺโต สุขิโต อนุโมทนํ กโรนฺโต โอสานคาถํ วตฺวา มุขปูรํ มํสํ อาทาย มาตาปิตูนํ อทาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ ¶ .
ตทา เนสาทปุตฺโต ฉนฺโน อโหสิ, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, คิชฺฌราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
มาตุโปสกคิชฺฌชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๐๐] ๕. ทพฺภปุปฺผชาตกวณฺณนา
อนุตีรจารี ภทฺทนฺเตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุปนนฺทํ สกฺยปุตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ สาสเน ปพฺพชิตฺวา อปฺปิจฺฉตาทิคุเณ ปหาย มหาตณฺโห อโหสิ. วสฺสูปนายิกาย ทฺเว ตโย วิหาเร ปริคฺคเหตฺวา เอกสฺมึ ฉตฺตํ วา อุปาหนํ วา เอกสฺมึ กตฺตรยฏฺึ วา อุทกตุมฺพํ วา เปตฺวา เอกสฺมึ สยํ วสติ. โส เอกสฺมึ ชนปทวิหาเร วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ‘‘ภิกฺขูหิ นาม อปฺปิจฺเฉหิ ภวิตพฺพ’’นฺติ อากาเส จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ภิกฺขูนํ ปจฺจยสนฺโตสทีปกํ อริยวํสปฏิปทํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ภิกฺขู มนาปานิ ปตฺตจีวรานิ ฉฑฺเฑตฺวา มตฺติกาปตฺตานิ เจว ปํสุกูลจีวรานิ จ คณฺหึสุ. โส ตานิ อตฺตโน วสนฏฺาเน เปตฺวา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ยานกํ ปูเรตฺวา เชตวนํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เอกสฺส อรฺวิหารสฺส ปิฏฺิภาเค ปาเท วลฺลิยา ปลิพุทฺโธ ‘‘อทฺธา เอตฺถ กิฺจิ ลทฺธพฺพํ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ วิหารํ ปาวิสิ. ตตฺถ ปน ทฺเว มหลฺลกา ภิกฺขู วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ. เต ทฺเว จ ถูลสาฏเก เอกฺจ สุขุมกมฺพลํ ลภิตฺวา ภาเชตุํ อสกฺโกนฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘เถโร โน ภาเชตฺวา ทสฺสตี’’ติ ตุฏฺจิตฺตา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อิมํ วสฺสาวาสิกํ ภาเชตุํ น สกฺโกม, อิมํ โน นิสฺสาย วิวาโท โหติ, อิทํ อมฺหากํ ภาเชตฺวา เทถา’’ติ อาหํสุ. โส ¶ ‘‘สาธุ ภาเชสฺสามี’’ติ ทฺเว ถูลสาฏเก ทฺวินฺนมฺปิ ภาเชตฺวา ‘‘อยํ อมฺหากํ วินยธรานํ ปาปุณาตี’’ติ กมฺพลํ คเหตฺวา ปกฺกามิ.
เตปิ เถรา กมฺพเล สาลยา เตเนว สทฺธึ เชตวนํ คนฺตฺวา วินยธรานํ ภิกฺขูนํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ¶ ‘‘ลพฺภติ นุ โข, ภนฺเต, วินยธรานํ เอวํ วิโลปํ ขาทิตุ’’นฺติ อาหํสุ. ภิกฺขู อุปนนฺทตฺเถเรน อาภตํ ปตฺตจีวรราสึ ทิสฺวา ‘‘มหาปฺุโสิ ตฺวํ อาวุโส, พหุํ เต ปตฺตจีวรํ ลทฺธ’’นฺติ วทึสุ. โส ‘‘กุโต เม อาวุโส, ปฺุํ, อิมินา เม อุปาเยน อิทํ ลทฺธ’’นฺติ สพฺพํ กเถสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโต มหาตณฺโห มหาโลโภ’’ติ. สตฺถา ¶ อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อุปนนฺเทน ปฏิปทาย อนุจฺฉวิกํ กตํ, ปรสฺส ปฏิปทํ กเถนฺเตน นาม ภิกฺขุนา ปมํ อตฺตโน อนุจฺฉวิกํ กตฺวา ปจฺฉา ปโร โอวทิตพฺโพ’’ติ.
‘‘อตฺตานเมว ปมํ, ปติรูเป นิเวสเย;
อถฺมนุสาเสยฺย, น กิลิสฺเสยฺย ปณฺฑิโต’’ติ. (ธ. ป. ๑๕๘) –
อิมาย ธมฺมปเท คาถาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อุปนนฺโท อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มหาตณฺโห มหาโลโภว, น จ ปน อิทาเนว, ปุพฺเพเปส อิเมสํ สนฺตกํ วิลุมฺปิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต นทีตีเร รุกฺขเทวตา อโหสิ. ตทา เอโก สิงฺคาโล มายาวึ นาม ภริยํ คเหตฺวา นทีตีเร เอกสฺมึ าเน วสิ. อเถกทิวสํ สิงฺคาลี สิงฺคาลํ อาห ‘‘โทหโฬ เม สามิ, อุปฺปนฺโน, อลฺลโรหิตมจฺฉํ ขาทิตุํ อิจฺฉามี’’ติ. สิงฺคาโล ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา โหหิ, อาหริสฺสามิ เต’’ติ นทีตีเร จรนฺโต วลฺลิยา ปาเท ปลิพุชฺฌิตฺวา อนุตีรเมว อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ คมฺภีรจารี จ อนุตีรจารี จาติ ทฺเว อุทฺทา มจฺเฉ ปริเยสนฺตา ตีเร อฏฺํสุ. เตสุ คมฺภีรจารี มหนฺตํ โรหิตมจฺฉํ ทิสฺวา เวเคน อุทเก ปวิสิตฺวา ตํ นงฺคุฏฺเ คณฺหิ. พลวา มจฺโฉ ปริกฑฺฒนฺโต ยาสิ. โส คมฺภีรจารี อุทฺโท ‘‘มหามจฺโฉ อุภินฺนมฺปิ โน ปโหสฺสติ, เอหิ เม สหาโย โหหี’’ติ อิตเรน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อนุตีรจารี ¶ ภทฺทนฺเต, สหายมนุธาว มํ;
มหา เม คหิโต มจฺโฉ, โส มํ หรติ เวคสา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สหายมนุธาว มนฺติ สหาย อนุธาว มํ, สนฺธิวเสน ม-กาโร วุตฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาหํ อิมินา มจฺเฉน น สํหีรามิ, เอวํ มํ นงฺคุฏฺขณฺเฑ คเหตฺวา ตฺวํ อนุธาวาติ.
ตํ ¶ สุตฺวา อิตโร ทุติยํ คาถมาห –
‘‘คมฺภีรจารี ภทฺทนฺเต, ทฬฺหํ คณฺหาหิ ถามสา;
อหํ ตํ อุทฺธริสฺสามิ, สุปณฺโณ อุรคามิวา’’ติ.
ตตฺถ ถามสาติ ถาเมน. อุทฺธริสฺสามีติ นีหริสฺสามิ. สุปณฺโณ อุรคามิวาติ ครุโฬ สปฺปํ วิย.
อถ ทฺเวปิ เต เอกโต หุตฺวา โรหิตมจฺฉํ นีหริตฺวา ถเล เปตฺวา มาเรตฺวา ‘‘ตฺวํ ภาเชหิ, ตฺวํ ภาเชหี’’ติ กลหํ กตฺวา ภาเชตุํ อสกฺโกนฺตา เปตฺวา นิสีทึสุ. ตสฺมึ กาเล สิงฺคาโล ตํ านํ อนุปฺปตฺโต. เต ตํ ทิสฺวา อุโภปิ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ‘‘อยํ, สมฺม, ทพฺภปุปฺผมจฺโฉ อมฺเหหิ เอกโต หุตฺวา คหิโต, ตํ โน ภาเชตุํ อสกฺโกนฺตานํ วิวาโท อุปฺปนฺโน, สมภาคํ โน ภาเชตฺวา เทหี’’ติ ตติยํ คาถมาหํสุ –
‘‘วิวาโท โน สมุปฺปนฺโน, ทพฺภปุปฺผ สุโณหิ เม;
สเมหิ เมธคํ สมฺมา, วิวาโท วูปสมฺมต’’นฺติ.
ตตฺถ ทพฺภปุปฺผาติ ทพฺภปุปฺผสมานวณฺณตาย ตํ อาลปนฺติ. เมธคนฺติ กลหํ.
เตสํ วจนํ สุตฺวา สิงฺคาโล อตฺตโน พลํ ทีเปนฺโต –
‘‘ธมฺมฏฺโหํ ปุเร อาสึ, พหู อฑฺฑา เม ตีริตา;
สเมมิ เมธคํ สมฺมา, วิวาโท วูปสมฺมต’’นฺติ. –
อิทํ คาถํ วตฺวา ภาเชนฺโต –
‘‘อนุตีรจาริ ¶ ¶ นงฺคุฏฺํ, สีสํ คมฺภีรจาริโน;
อจฺจายํ มชฺฌิโม ขณฺโฑ, ธมฺมฏฺสฺส ภวิสฺสตี’’ติ. –
อิมํ คาถมาห –
ตตฺถ ปมคาถาย อยมตฺโถ – อหํ ปุพฺเพ ราชูนํ วินิจฺฉยามจฺโจ อาสึ, เตน มยา วินิจฺฉเย นิสีทิตฺวา พหู อฑฺฑา ตีริตา, เตสํ เตสํ พฺราหฺมณคหปติกาทีนํ พหู อฑฺฑา ตีริตา วินิจฺฉิตา, สฺวาหํ ตุมฺหาทิสานํ สมชาติกานํ จตุปฺปทานํ อฑฺฑํ ตีเรตุํ กึ น สกฺขิสฺสามิ, อหํ โว สเมมิ เมธคํ, สมฺมา มํ นิสฺสาย ตุมฺหากํ วิวาโท วูปสมฺมตูติ ¶ .
เอวฺจ ปน วตฺวา มจฺฉํ ตโย โกฏฺาเส กตฺวา อนุตีรจาริ ตฺวํ นงฺคุฏฺํ คณฺห, สีสํ คมฺภีรจาริโน โหตุ. อจฺจายํ มชฺฌิโม ขณฺโฑติ อปิจ อยํ มชฺฌิโม โกฏฺาโส. อถ วา อจฺจาติ อติจฺจ, อิเม ทฺเว โกฏฺาเส อติกฺกมิตฺวา ิโต อยํ มชฺฌิโม ขณฺโฑ ธมฺมฏฺสฺส วินิจฺฉยสามิกสฺส มยฺหํ ภวิสฺสตีติ.
เอวํ ตํ มจฺฉํ วิภชิตฺวา ‘‘ตุมฺเห กลหํ อกตฺวา นงฺคุฏฺฺจ สีสฺจ ขาทถา’’ติ วตฺวา มชฺฌิมขณฺฑํ มุเขน ฑํสิตฺวา เตสํ ปสฺสนฺตานํเยว ปลายิ. เต สหสฺสํ ปราชิตา วิย ทุมฺมุขา นิสีทิตฺวา คาถมาหํสุ –
‘‘จิรมฺปิ ภกฺโข อภวิสฺส, สเจ น วิวเทมเส;
อสีสกํ อนงฺคุฏฺํ, สิงฺคาโล หรติ โรหิต’’นฺติ.
ตตฺถ จิรมฺปีติ ทฺเว ตโย ทิวเส สนฺธาย วุตฺตํ.
สิงฺคาโลปิ ‘‘อชฺช ภริยํ โรหิตมจฺฉํ ขาทาเปสฺสามี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต ตสฺสา สนฺติกํ อคมาสิ. สา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อภินนฺทมานา –
‘‘ยถาปิ ราชา นนฺเทยฺย, รชฺชํ ลทฺธาน ขตฺติโย;
เอวาหมชฺช นนฺทามิ, ทิสฺวา ปุณฺณมุขํ ปติ’’นฺติ. –
อิมํ ¶ คาถํ วตฺวา อธิคมูปายํ ปุจฺฉนฺตี –
‘‘กถํ นุ ถลโช สนฺโต, อุทเก มจฺฉํ ปรามสิ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กถํ อธิคตํ ตยา’’ติ. –
อิมํ คาถมาห –
ตตฺถ ¶ กถํ นูติ ‘‘ขาท, ภทฺเท’’ติ มจฺฉขณฺเฑ ปุรโต ปิเต ‘‘กถํ นุ ตฺวํ ถลโช สมาโน อุทเก มจฺฉํ คณฺหี’’ติ ปุจฺฉิ.
สิงฺคาโล ตสฺสา อธิคมูปายํ อาจิกฺขนฺโต อนนฺตรคาถมาห –
‘‘วิวาเทน กิสา โหนฺติ, วิวาเทน ธนกฺขยา;
ชีนา อุทฺทา วิวาเทน, ภฺุช มายาวิ โรหิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ วิวาเทน กิสา โหนฺตีติ ภทฺเท, อิเม สตฺตา วิวาทํ กโรนฺตา วิวาทํ นิสฺสาย กิสา อปฺปมํสโลหิตา โหนฺติ. วิวาเทน ธนกฺขยาติ หิรฺสุวณฺณาทีนํ ธนานํ ขยา วิวาเทเนว โหนฺติ. ทฺวีสุปิ วิวทนฺเตสุ เอโก ปราชิโต ปราชิตตฺตา ธนกฺขยํ ปาปุณาติ, อิตโร ชยภาคทาเนน. ชีนา อุทฺทาติ ทฺเว อุทฺทาปิ วิวาเทเนว อิมํ มจฺฉํ ชีนา, ตสฺมา ตฺวํ มยา อาภตสฺส อุปฺปตฺตึ มา ปุจฺฉ, เกวลํ อิมํ ภฺุช มายาวิ โรหิตนฺติ.
อิตรา อภิสมฺพุทฺธคาถา –
‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, วิวาโท ยตฺถ ชายติ;
ธมฺมฏฺํ ปฏิธาวติ, โส หิ เนสํ วินายโก;
ธนาปิ ตตฺถ ชียนฺติ, ราชโกโส ปวฑฺฒตี’’ติ.
ตตฺถ เอวเมวาติ ภิกฺขเว, ยถา เอเต อุทฺทา ชีนา, เอวเมว มนุสฺเสสุปิ ยสฺมึ าเน วิวาโท ชายติ, ตตฺถ เต มนุสฺสา ธมฺมฏฺํ ปติธาวนฺติ, วินิจฺฉยสามิกํ อุปสงฺกมนฺติ. กึการณา? โส หิ เนสํ วินายโก, โส เตสํ วิวาทาปนฺนานํ วิวาทวูปสมโกติ อตฺโถ. ธนาปิ ¶ ตตฺถาติ ตตฺถ เต วิวาทาปนฺนา ธนโตปิ ชียนฺติ, อตฺตโน สนฺตกา ปริหายนฺติ, ทณฺเฑน เจว ชยภาคคฺคหเณน จ ราชโกโส ปวฑฺฒตีติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สิงฺคาโล อุปนนฺโท อโหสิ, อุทฺทา ทฺเว มหลฺลกา, ตสฺส การณสฺส ปจฺจกฺขการิกา รุกฺขเทวตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ทพฺภปุปฺผชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๐๑] ๖. ปณฺณกชาตกวณฺณนา
ปณฺณกํ ¶ ติขิณธารนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโต’’ติ วตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ อยํ อิตฺถี ตุยฺหํ อนตฺถการิกา, ปุพฺเพปิ ตฺวํ อิมํ นิสฺสาย เจตสิกโรเคน มรนฺโต ปณฺฑิเต นิสฺสาย ชีวิตํ อลตฺถา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ มทฺทวมหาราเช รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, เสนกกุมาโรติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา พาราณสึ ปจฺจาคนฺตฺวา มทฺทวรฺโ อตฺถธมฺมานุสาสโก อมจฺโจ อโหสิ, ‘‘เสนกปณฺฑิโต’’ติ วุตฺเต สกลนคเร จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปฺายิ. ตทา รฺโ ปุโรหิตปุตฺโต ราชุปฏฺานํ อาคโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ อุตฺตมรูปธรํ รฺโ อคฺคมเหสึ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา เคหํ คนฺตฺวา นิราหาโร นิปชฺชิตฺวา สหายเกหิ ปุฏฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชาปิ ‘‘ปุโรหิตปุตฺโต น ทิสฺสติ, กหํ นุ โข’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อหํ เต อิมํ สตฺต ทิวสานิ ทมฺมิ, สตฺตาหํ ฆเร กตฺวา อฏฺเม ทิวเส อาเนยฺยาสี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ เคหํ เนตฺวา ตาย สทฺธึ อภิรมิ. เต อฺมฺํ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา อคฺคทฺวาเรน ปลายิตฺวา อฺสฺส รฺโ วิชิตํ อคมสุํ, โกจิ คตฏฺานํ น ชานิ, นาวาย คตมคฺโค วิย อโหสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปตฺวา นานปฺปกาเรน วิจินนฺโตปิ ตสฺส คตฏฺานํ น อฺาสิ. อถสฺส ตํ นิสฺสาย พลวโสโก ¶ อุปฺปชฺชิ, หทยํ อุณฺหํ หุตฺวา โลหิตํ ปคฺฆริ. ตโต ปฏฺาย จสฺส กุจฺฉิโต โลหิตํ นิกฺขมิ, พฺยาธิ มหนฺโต อโหสิ. มหนฺตาปิ ราชเวชฺชา ติกิจฺฉิตุํ นาสกฺขึสุ.
โพธิสตฺโต ‘‘อิมสฺส รฺโ พฺยาธิ นตฺถิ, ภริยํ ปน อปสฺสนฺโต เจตสิกโรเคน ผุฏฺโ, อุปาเยน ตํ ติกิจฺฉิสฺสามี’’ติ อายุรฺจ ปุกฺกุสฺจาติ ทฺเว รฺโ ปณฺฑิตามจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘รฺโ เทวิยา อทสฺสเนน ¶ เจตสิกํ โรคํ เปตฺวา อฺโ โรโค นตฺถิ, พหูปกาโร จ โข ปน อมฺหากํ ราชา, ตสฺมา อุปาเยน นํ ติกิจฺฉาม, ราชงฺคเณ ¶ สมชฺชํ กาเรตฺวา อสึ คิลิตุํ ชานนฺเตน อสึ คิลาเปตฺวา ราชานํ สีหปฺชเร กตฺวา สมชฺชํ โอโลกาเปสฺสาม, ราชา อสึ คิลนฺตํ ทิสฺวา ‘อตฺถิ นุ โข อิโต อฺํ ทุกฺกรตร’นฺติ ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ. ตํ สมฺม อายุร, ตฺวํ ‘อสุกํ นาม ททามีติ วจนํ อิโต ทุกฺกรตร’นฺติ พฺยากเรยฺยาสิ, ตโต สมฺม ปุกฺกุส, ตํ ปุจฺฉิสฺสติ, อถสฺส ตฺวํ ‘มหาราช, ททามีติ วตฺวา อททโต สา วาจา อผลา โหติ, ตถารูปํ วาจํ น เกจิ อุปชีวนฺติ น ขาทนฺติ น ปิวนฺติ, เย ปน ตสฺส วจนสฺสานุจฺฉวิกํ กโรนฺติ, ยถาปฏิฺาตมตฺถํ เทนฺติเยว, อิทํ ตโต ทุกฺกรตร’นฺติ เอวํ พฺยากเรยฺยาสิ, อิโต ปรํ กตฺตพฺพํ อหํ ชานิสฺสามี’’ติ วตฺวา สมชฺชํ กาเรสิ.
อถ เต ตโยปิ ปณฺฑิตา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, ราชงฺคเณ สมชฺโช วตฺตติ, ตํ โอโลเกนฺตานํ ทุกฺขมฺปิ น ทุกฺขํ โหติ, เอหิ คจฺฉามา’’ติ ราชานํ เนตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา สมชฺชํ โอโลกาเปสุํ. พหู ชนา อตฺตโน อตฺตโน ชานนกสิปฺปํ ทสฺเสสุํ. เอโก ปน ปุริโส เตตฺตึสงฺคุลํ ติขิณธารํ อสิรตนํ คิลติ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปุริโส เอตํ อสึ คิลติ, ‘อตฺถิ นุ โข อิโต อฺํ ทุกฺกรตร’นฺติ อิเม ปณฺฑิเต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อายุรํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ปณฺณกํ ติขิณธารํ, อสึ สมฺปนฺนปายินํ;
ปริสายํ ปุริโส คิลติ, กึ ทุกฺกรตรํ ตโต;
ยทฺํ ทุกฺกรํ านํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
ตตฺถ ปณฺณกนฺติ ปณฺณกรฏฺเ อุปฺปนฺนํ. สมฺปนฺนปายินนฺติ สมฺปนฺนํ ปรโลหิตปายินํ. ปริสายนฺติ ปริสมชฺเฌ ธนโลเภน อยํ ปุริโส คิลติ. ยทฺนฺติ อิโต อสิคิลนโต ยํ อฺํ ทุกฺกรตรํ การณํ, ตํ มยา ปุจฺฉิโต กเถหีติ.
อถสฺส ¶ ¶ ¶ โส ตํ กเถนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘คิเลยฺย ปุริโส โลภา, อสึ สมฺปนฺนปายินํ;
โย จ วชฺชา ททามีติ, ตํ ทุกฺกรตรํ ตโต;
สพฺพฺํ สุกรํ านํ, เอวํ ชานาหิ มทฺทวา’’ติ.
ตตฺถ วชฺชาติ วเทยฺย. ตํ ทุกฺกรตรนฺติ ‘‘ททามี’’ติ วจนํ ตโต อสิคิลนโต ทุกฺกรตรํ. สพฺพฺนฺติ ‘‘อสุกํ นาม ตว ทสฺสามี’’ติ วจนํ เปตฺวา อฺํ สพฺพมฺปิ การณํ สุกรํ. มทฺทวาติ ราชานํ โคตฺเตน อาลปติ.
รฺโ อายุรปณฺฑิตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อสิคิลนโต กิร ‘อิทํ นาม ทมฺมี’ติ วจนํ ทุกฺกรํ, อหฺจ ‘ปุโรหิตปุตฺตสฺส เทวึ ทมฺมี’ติ อวจํ, อติทุกฺกรํ วต เม กต’’นฺติ วีมํสนฺตสฺเสว หทยโสโก โถกํ ตนุตฺตํ คโต. โส ตโต ‘‘ปรสฺส อิมํ ทมฺมีติ วจนโต ปน อฺํ ทุกฺกรตรํ อตฺถิ นุ โข’’ติ จินฺเตตฺวา ปุกฺกุสปณฺฑิเตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘พฺยากาสิ อายุโร ปฺหํ, อตฺถํ ธมฺมสฺส โกวิโท;
ปุกฺกุสํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ ทุกฺกรตรํ ตโต;
ยทฺํ ทุกฺกรํ านํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
ตตฺถ ปฺหํ อตฺถนฺติ ปฺหสฺส อตฺถํ พฺยากาสีติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมสฺส โกวิโทติ ตทตฺถโชตเก คนฺเถ กุสโล. ตโตติ ตโต วจนโต กึ ทุกฺกรตรนฺติ.
อถสฺส พฺยากโรนฺโต ปุกฺกุสปณฺฑิโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘น วาจมุปชีวนฺติ, อผลํ คิรมุทีริตํ;
โย จ ทตฺวา อวากยิรา, ตํ ทุกฺกรตรํ ตโต;
สพฺพฺํ สุกรํ านํ, เอวํ ชานาหิ มทฺทวา’’ติ.
ตตฺถ ทตฺวาติ ‘‘อสุกํ นาม ทมฺมี’’ติ ปฏิฺํ ทตฺวา. อวากยิราติ ตํ ปฏิฺาตมตฺถํ ¶ ททนฺโต ตสฺมึ โลภํ อวากเรยฺย ฉินฺเทยฺย, ตํ ภณฺฑํ ¶ ทเทยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. ตโตติ ตโต อสิคิลนโต ‘‘อสุกํ นาม เต ทมฺมี’’ติ วจนโต จ ตเทว ทุกฺกรตรํ.
รฺโ ¶ ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อหํ ‘ปุโรหิตปุตฺตสฺส เทวึ ทมฺมี’ติ ปมํ วตฺวา วาจาย อนุจฺฉวิกํ กตฺวา ตํ อทาสึ, ทุกฺกรํ วต เม กต’’นฺติ ปริวิตกฺเกนฺตสฺส โสโก ตนุกตโร ชาโต. อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘เสนกปณฺฑิตโต อฺโ ปณฺฑิตตโร นาม นตฺถิ, อิมํ ปฺหํ เอตํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. ตโต ตํ ปุจฺฉนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘พฺยากาสิ ปุกฺกุโส ปฺหํ, อตฺถํ ธมฺมสฺส โกวิโท;
เสนกํ ทานิ ปุจฺฉามิ, กึ ทุกฺกรตรํ ตโต;
ยทฺํ ทุกฺกรํ านํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
อถสฺส พฺยากโรนฺโต เสนโก ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘ทเทยฺย ปุริโส ทานํ, อปฺปํ วา ยทิ วา พหุํ;
โย จ ทตฺวา นานุตปฺเป, ตํ ทุกฺกรตรํ ตโต;
สพฺพฺํ สุกรํ านํ, เอวํ ชานาหิ มทฺทวา’’ติ.
ตตฺถ นานุตปฺเปติ อตฺตโน อติกนฺตํ อติมนาปํ ปิยภณฺฑํ ปรสฺส ทตฺวา ‘‘กิมตฺถํ มยา อิทํ ทินฺน’’นฺติ เอวํ ตํ ปิยภณฺฑํ อารพฺภ โย ปจฺฉา น ตปฺปติ น โสจติ, ตํ อสิคิลนโต จ ‘‘อสุกํ นาม เต ทมฺมี’’ติ วจนโต จ ตสฺส ทานโต จ ทุกฺกรตรํ.
อิติ มหาสตฺโต ราชานํ สฺาเปนฺตา กเถสิ. ทานฺหิ ทตฺวา อปรเจตนาว ทุสฺสนฺธาริยา, ตสฺสา สนฺธารณทุกฺกรตา เวสฺสนฺตรชาตเกน ทีปิตา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อทุ จาปํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ พนฺธิย วามโต;
อาเนสฺสามิ สเก ปุตฺเต, ปุตฺตานฺหิ วโธ ทุโข.
‘‘อฏฺานเมตํ ¶ ทุกฺขรูปํ, ยํ กุมารา วิหฺเร;
สตฺจ ธมฺมมฺาย, โก ทตฺวา อนุตปฺปตี’’ติ. (ชา. ๒.๒๒.๒๑๕๘-๒๑๕๙);
ราชาปิ โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา สลฺลกฺเขสิ ‘‘อหํ อตฺตโน มเนเนว ปุโรหิตปุตฺตสฺส เทวึ ทตฺวา สกมนํ สนฺธาเรตุํ ¶ น สกฺโกมิ, โสจามิ กิลมามิ, น เม อิทํ อนุจฺฉวิกํ, สเจ สา มยิ สสิเนหา ภเวยฺย ¶ , อิมํ อิสฺสริยํ ฉฑฺเฑตฺวา น ปลาเยยฺย, มยิ ปน สิเนหํ อกตฺวา ปลาตาย กึ ตาย มยฺห’’นฺติ. ตสฺเสวํ จินฺเตนฺตสฺส ปทุมปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย สพฺพโสโก นิวตฺติตฺวา คโต, ตงฺขณฺเวสฺส กุจฺฉิ ปริสณฺาสิ. โส นิโรโค สุขิโต หุตฺวา โพธิสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘พฺยากาสิ อายุโร ปฺหํ, อโถ ปุกฺกุสโปริโส;
สพฺเพ ปฺเห อติโภติ, ยถา ภาสติ เสนโก’’ติ.
ตตฺถ ยถา ภาสตีติ ยถา ปณฺฑิโต ภาสติ, ตเถเวตํ ทานํ นาม ทตฺวา เนว อนุตปฺปิตพฺพนฺติ. อิมํ ปนสฺส ถุตึ กตฺวา ตุฏฺโ พหุํ ธนมทาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชมเหสี ปุราณทุติยิกา อโหสิ, ราชา อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, อายุรปณฺฑิโต โมคฺคลฺลาโน, ปุกฺกุสปณฺฑิโต สาริปุตฺโต, เสนกปณฺฑิโต อหเมว อโหสินฺติ.
ปณฺณกชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๐๒] ๗. สตฺตุภสฺตชาตกวณฺณนา
วิพฺภนฺตจิตฺโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ อุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
อตีเต พาราณสิยํ ชนโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ ¶ , เสนกกุมาโรติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา พาราณสึ ปจฺจาคนฺตฺวา ราชานํ ปสฺสิ, ราชา ตํ อมจฺจฏฺาเน เปสิ, มหนฺตฺจสฺส ยสํ อนุปฺปทาสิ ¶ . โส รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสิ, มธุรกโถ ธมฺมกถิโก หุตฺวา ราชานํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ทาเน อุโปสถกมฺเม ทสสุ กุสลกมฺมปเถสูติ อิมาย กลฺยาณปฏิปทาย ปติฏฺาเปสิ ¶ , สกลรฏฺเ พุทฺธานํ อุปฺปนฺนกาโล วิย อโหสิ. ปกฺขทิวเสสุ ราชา จ อุปราชาทโย จ สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ธมฺมสภํ สชฺเชนฺติ. มหาสตฺโต สชฺชิตธมฺมสภายํ รตนปลฺลงฺกวรคโต พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสติ, พุทฺธานํ ธมฺมกถาสทิสาวสฺส กถา โหติ.
อถ อฺตโร มหลฺลกพฺราหฺมโณ ธนภิกฺขํ จริตฺวา กหาปณสหสฺสํ ลภิตฺวา เอกสฺมึ พฺราหฺมณกุเล นิกฺขิปิตฺวา ปุน ‘‘ภิกฺขํ จริสฺสามี’’ติ คโต. ตสฺส คตกาเล ตํ กุลํ กหาปเณ วฬฺเชสิ. โส อาคนฺตฺวา กหาปเณ อาหราเปสิ. พฺราหฺมโณ กหาปเณ ทาตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตโน ธีตรํ ตสฺส ปาทปริจาริกํ กตฺวา อทาสิ. พฺราหฺมโณ ตํ คเหตฺวา พาราณสิโต อวิทูเร เอกสฺมึ พฺราหฺมณคาเม วาสํ กปฺเปสิ. อถสฺส ภริยา ทหรตาย กาเมสุ อติตฺตา อฺเน ตรุณพฺราหฺมเณน สทฺธึ มิจฺฉาจารํ จริ. โสฬส หิ อตปฺปนียวตฺถูนิ นาม. กตมานิ โสฬส? สาคโร สพฺพสวนฺตีหิ น ตปฺปติ, อคฺคิ อุปาทาเนน น ตปฺปติ, ราชา รฏฺเน น ตปฺปติ, พาโล ปาเปหิ น ตปฺปติ, อิตฺถี เมถุนธมฺเมน อลงฺกาเรน วิชายเนนาติ อิเมหิ ตีหิ น ตปฺปติ, พฺราหฺมโณ มนฺเตหิ น ตปฺปติ, ฌายี วิหารสมาปตฺติยา น ตปฺปติ, เสกฺโข อปจเยน น ตปฺปติ, อปฺปิจฺโฉ ธุตงฺคคุเณน น ตปฺปติ, อารทฺธวีริโย วีริยารมฺเภน น ตปฺปติ, ธมฺมกถิโก สากจฺฉาย น ตปฺปติ, วิสารโท ปริสาย น ตปฺปติ, สทฺโธ สงฺฆุปฏฺาเนน น ตปฺปติ, ทายโก ปริจฺจาเคน น ตปฺปติ, ปณฺฑิโต ธมฺมสฺสวเนน น ตปฺปติ, จตสฺโส ปริสา ตถาคตทสฺสเนน น ตปฺปนฺตีติ.
สาปิ พฺราหฺมณี เมถุนธมฺเมน, อติตฺตา ¶ ตํ พฺราหฺมณํ นีหริตฺวา วิสฺสตฺถา ปาปกมฺมํ กาตุกามา หุตฺวา เอกทิวสํ ทุมฺมนา นิปชฺชิตฺวา ‘‘กึ โภตี’’ติ วุตฺตา ‘‘พฺราหฺมณ, อหํ ตว เคเห กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกมิ, ทาสิทาสํ อาเนหี’’ติ อาห. ‘‘โภติ ธนํ เม นตฺถิ, กึ ทตฺวา อาเนมี’’ติ. ‘‘ภิกฺขํ จริตฺวา ธนํ ปริเยสิตฺวา อาเนหี’’ติ. ‘‘เตน หิ โภติ ปาเถยฺยํ เม สชฺเชหี’’ติ. ‘‘สา ตสฺส พทฺธสตฺตูนฺจ อพทฺธสตฺตูนฺจ จมฺมปสิพฺพกํ ปูเรตฺวา อทาสิ’’. พฺราหฺมโณ คามนิคมราชธานีสุ ¶ จรนฺโต สตฺต กหาปณสตานิ ลภิตฺวา ‘‘อลํ เม เอตฺตกํ ธนํ ทาสิทาสมูลายา’’ติ นิวตฺติตฺวา อตฺตโน คามํ อาคจฺฉนฺโต เอกสฺมึ อุทกผาสุกฏฺาเน ¶ ปสิพฺพกํ มฺุจิตฺวา สตฺตุํ ขาทิตฺวา ปสิพฺพกมุขํ อพนฺธิตฺวาว ปานียํ ปิวิตุํ โอติณฺโณ. อเถกสฺมึ รุกฺขสุสิเร เอโก กณฺหสปฺโป สตฺตุคนฺธํ ฆายิตฺวา ปสิพฺพกํ ปวิสิตฺวา โภคํ อาภุชิตฺวา สตฺตุํ ขาทนฺโต นิปชฺชิ. พฺราหฺมโณ อาคนฺตฺวา ปสิพฺพกสฺส อพฺภนฺตรํ อโนโลเกตฺวา ปสิพฺพกํ พนฺธิตฺวา อํเส กตฺวา ปายาสิ. อนฺตรามคฺเค เอกสฺมึ รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา ขนฺธวิฏเป ตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, สเจ อนฺตรามคฺเค วสิสฺสสิ, สยํ มริสฺสสิ, สเจ อชฺช ฆรํ คมิสฺสสิ, ภริยา เต มริสฺสตี’’ติ วตฺวา อนฺตรธายิ. โส โอโลเกนฺโต เทวตํ อทิสฺวา ภีโต มรณภยตชฺชิโต โรทนฺโต ปริเทวนฺโต พาราณสินครทฺวารํ สมฺปาปุณิ.
ตทา จ ปนฺนรสุโปสโถ โหติ อลงฺกตธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา โพธิสตฺตสฺส ธมฺมกถนทิวโส. มหาชโน นานาคนฺธปุปฺผาทิหตฺโถ วคฺควคฺโค หุตฺวา ธมฺมึ กถํ โสตุํ คจฺฉติ. พฺราหฺมโณ ตํ ทิสฺวา ‘‘กหํ คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, อชฺช เสนกปณฺฑิโต มธุรสฺสเรน พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสติ, กึ ตฺวมฺปิ น ชานาสี’’ติ วุตฺเต จินฺเตสิ ‘‘ปณฺฑิโต กิร ธมฺมกถิโก, อหฺจมฺหิ มรณภยตชฺชิโต, ปณฺฑิตา โข ปน มหนฺตมฺปิ ¶ โสกํ หริตุํ สกฺโกนฺติ, มยาปิ ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมํ โสตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส เตหิ สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนาย สราชิกาย ปริสาย ปริยนฺเต สตฺตุปสิพฺพเกน ขนฺธคเตน ธมฺมาสนโต อวิทูเร มรณภยตชฺชิโต โรทมาโน อฏฺาสิ. มหาสตฺโต อากาสคงฺคํ โอตรนฺโต วิย อมตวสฺสํ วสฺเสนฺโต วิย จ ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน สฺชาตโสมนสฺโส สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ อสฺโสสิ.
ปณฺฑิตา จ นาม ทิสาจกฺขุกา โหนฺติ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต ปสนฺนปฺจปสาทานิ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา สมนฺตโต ปริสํ โอโลเกนฺโต ตํ พฺราหฺมณํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘เอตฺตกา ปริสา โสมนสฺสชาตา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ, อยํ ปเนโก พฺราหฺมโณ โทมนสฺสปฺปตฺโต โรทติ, เอตสฺส อพฺภนฺตเร อสฺสุชนนสมตฺเถน โสเกน ภวิตพฺพํ, ตมสฺส อมฺพิเลน ¶ ปหริตฺวา ตมฺพมลํ วิย ปทุมปลาสโต อุทกพินฺทุํ วิย วินิวตฺเตตฺวา เอตฺเถว นํ นิสฺโสกํ ตุฏฺมานสํ กตฺวา ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติ. โส ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, เสนกปณฺฑิโต นามาหํ, อิทาเนว ตํ นิสฺโสกํ กริสฺสามิ, วิสฺสตฺโถ กเถหี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘วิพฺภนฺตจิตฺโต กุปิตินฺทฺริโยสิ, เนตฺเตหิ เต วาริคณา สวนฺติ;
กึ เต นฏฺํ กึ ปน ปตฺถยาโน, อิธาคมา พฺรหฺเม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติ.
ตตฺถ ¶ กุปิตินฺทฺริโยสีติ จกฺขุนฺทฺริยเมว สนฺธาย ‘‘กุปิตินฺทฺริโยสี’’ติ อาห. วาริคณาติ อสฺสุพินฺทูนิ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. ตฺหิ มหาสตฺโต โจเทนฺโต เอวมาห ‘‘พฺราหฺมณ, สตฺตา นาม ทฺวีหิ การเณหิ โสจนฺติ ปริเทวนฺติ สตฺตสงฺขาเรสุ กิสฺมิฺจิเทว ปิยชาติเก นฏฺเ วา, กิฺจิเทว ปิยชาติกํ ปตฺเถตฺวา อลภนฺตา วา. ตตฺถ กึ เต นฏฺํ, กึ วา ปน ปตฺถยนฺโต ตฺวํ อิธ อาคโต, อิทํ เม ขิปฺปํ พฺรูหี’’ติ.
อถสฺส ¶ อตฺตโน โสกการณํ กเถนฺโต พฺราหฺมโณ ทุติยํ คาถมาห –
‘‘มิยฺเยถ ภริยา วชโต มมชฺช, อคจฺฉโต มรณมาห ยกฺโข;
เอเตน ทุกฺเขน ปเวธิโตสฺมิ, อกฺขาหิ เม เสนก เอตมตฺถ’’นฺติ.
ตตฺถ วชโตติ เคหํ คจฺฉนฺตสฺส. อคจฺฉโตติ อคจฺฉนฺตสฺส. ยกฺโขติ อนฺตรามคฺเค เอกา รุกฺขเทวตา เอวมาหาติ วทติ. สา กิร เทวตา ‘‘ปสิพฺพเก เต พฺราหฺมณ, กณฺหสปฺโป’’ติ อนาจิกฺขนฺตี โพธิสตฺตสฺส าณานุภาวปฺปกาสนตฺถํ นาจิกฺขิ. เอเตน ทุกฺเขนาติ คจฺฉโต ภริยาย มรณทุกฺเขน, อคจฺฉโต อตฺตโน มรณทุกฺเขน, เตนสฺมิ ปเวธิโต ฆฏฺฏิโต กมฺปิโต. เอตมตฺถนฺติ เอตํ การณํ. เยน เม การเณน ¶ คจฺฉโต ภริยาย มรณํ, อคจฺฉโต อตฺตโน มรณํ โหติ, เอตํ เม การณํ อาจิกฺขาหีติ อตฺโถ.
มหาสตฺโต พฺราหฺมณสฺส วจนํ สุตฺวา สมุทฺทมตฺถเก ชาลํ ขิปนฺโต วิย าณชาลํ ปตฺถริตฺวา ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ พหูนิ มรณการณานิ. สมุทฺเท นิมุคฺคาปิ มรนฺติ, ตตฺถ วาฬมจฺเฉหิ คหิตาปิ, คงฺคาย ปติตาปิ, ตตฺถ สุสุมาเรหิ คหิตาปิ, รุกฺขโต ปติตาปิ, กณฺฏเกน วิทฺธาปิ, นานปฺปกาเรหิ อาวุเธหิ ปหฏาปิ, วิสํ ขาทิตฺวาปิ, อุพฺพนฺธิตฺวาปิ, ปปาเต ปติตาปิ, อติสีตาทีหิ วา นานปฺปกาเรหิ วา โรเคหิ อุปทฺทุตาปิ มรนฺติเยว, เอวํ พหูสุ มรณการเณสุ กตเรน นุ โข การเณน อชฺเชส พฺราหฺมโณ อนฺตรามคฺเค วสนฺโต สยํ มริสฺสติ, เคหมสฺส วชโต ภริยา มริสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ. จินฺเตนฺโต เอว พฺราหฺมณสฺส ขนฺเธ ปสิพฺพกํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺมึ ปสิพฺพเก เอเกน สปฺเปน ปวิฏฺเน ภวิตพฺพํ, ปวิสนฺโต จ ปเนโส อิมสฺมึ พฺราหฺมเณ ปาตราสสมเย สตฺตุํ ขาทิตฺวา ปสิพฺพกมุขํ อพนฺธิตฺวา ปานียํ ปาตุํ คเต สตฺตุคนฺเธน สปฺโป ปวิฏฺโ ภวิสฺสติ. พฺราหฺมโณปิ ปานียํ ปิวิตฺวา อาคโต สปฺปสฺส ปวิฏฺภาวํ อชานิตฺวา ปสิพฺพกํ พนฺธิตฺวา อาทาย ปกฺกนฺโต ¶ ภวิสฺสติ, สจายํ อนฺตรามคฺเค วสนฺโต สายํ วสนฏฺาเน ‘‘สตฺตุํ ขาทิสฺสามี’’ติ ปสิพฺพกํ มฺุจิตฺวา หตฺถํ ปเวเสสฺสติ ¶ , อถ นํ สปฺโป หตฺเถ ฑํสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสติ, อิทมสฺส อนฺตรามคฺเค วสนฺตสฺส มรณการณํ. สเจ ปน เคหํ คจฺเฉยฺย, ปสิพฺพโก ภริยาย หตฺถคโต ภวิสฺสติ, สา ‘อนฺโตภณฺฑํ โอโลเกสฺสามี’’ติ ปสิพฺพกํ มฺุจิตฺวา หตฺถํ ปเวเสสฺสติ, อถ นํ สปฺโป ฑํสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสติ, อิทมสฺส อชฺช เคหํ คตสฺส ภริยาย มรณการณ’’นฺติ อุปายโกสลฺลาเณเนว อฺาสิ.
อถสฺส เอตทโหสิ ‘‘อิมินา กณฺหสปฺเปน สูเรน นิพฺภเยน ภวิตพฺพํ. อยฺหิ พฺราหฺมณสฺส มหาผาสุกํ ปหรนฺโตปิ ปสิพฺพเก อตฺตโน จลนํ วา ผนฺทนํ วา น ทสฺเสติ, เอวรูปาย ปริสาย มชฺเฌปิ อตฺตโน อตฺถิภาวํ น ทสฺเสติ, ตสฺมา อิมินา กณฺหสปฺเปน สูเรน นิพฺภเยน ภวิตพฺพ’’นฺติ. อิทมฺปิ โส อุปายโกสลฺลาเณเนว ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสนฺโต วิย อฺาสิ. เอวํ สราชิกาย ปริสาย มชฺเฌ สปฺปํ ปสิพฺพกํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ิตปุริโส วิย มหาสตฺโต อุปายโกสลฺลาเณเนว ปริจฺฉินฺทิตฺวา พฺราหฺมณสฺส ปฺหํ กเถนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘พหูนิ ¶ านานิ วิจินฺตยิตฺวา, ยเมตฺถ วกฺขามิ ตเทว สจฺจํ;
มฺามิ เต พฺราหฺมณ สตฺตุภสฺตํ, อชานโต กณฺหสปฺโป ปวิฏฺโ’’ติ.
ตตฺถ พหูนิ านานีติ พหูนิ การณานิ. วิจินฺตยิตฺวาติ ปฏิวิชฺฌิตฺวา จินฺตาวเสน ปวตฺตปฏิเวโธ หุตฺวา. ยเมตฺถ วกฺขามีติ ยํ เต อหํ เอเตสุ การเณสุ เอตํ การณํ วกฺขามิ. ตเทว สจฺจนฺติ ตเทว ตถํ ทิพฺพจกฺขุนา ทิสฺวา กถิตสทิสํ ภวิสฺสตีติ ทีเปติ. มฺามีติ สลฺลกฺเขมิ. สตฺตุภสฺตนฺติ สตฺตุปสิพฺพกํ. อชานโตติ อชานนฺตสฺเสว เอโก กณฺหสปฺโป ปวิฏฺโติ มฺามีติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘อตฺถิ เต พฺราหฺมณ, เอตสฺมึ ปสิพฺพเก สตฺตู’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘อชฺช ปาตราสเวลาย สตฺตุํ ขาที’’ติ? ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘กตฺถ นิสีทิตฺวา’’ติ? ‘‘อรฺเ รุกฺขมูลสฺมึ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘สตฺตุํ ขาทิตฺวา ปานียํ ปาตุํ คจฺฉนฺโต ปสิพฺพกมุขํ พนฺธิ, น พนฺธี’’ติ? ‘‘น พนฺธึ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘ปานียํ ปิวิตฺวา อาคโต ปสิพฺพกํ โอโลเกตฺวา พนฺธี’’ติ. ‘‘อโนโลเกตฺวาว พนฺธึ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘พฺราหฺมณ, ตว ปานียํ ปาตุํ คตกาเล อชานนฺตสฺเสว เต สตฺตุคนฺเธน ปสิพฺพกํ สปฺโป ปวิฏฺโติ มฺามิ, เอวเมตฺถ อาคโต ตฺวํ, ตสฺมา ปสิพฺพกํ โอตาเรตฺวา ปริสมชฺเฌ เปตฺวา ปสิพฺพกมุขํ ¶ โมเจตฺวา ปฏิกฺกมฺม ิโต เอกํ ทณฺฑกํ คเหตฺวา ปสิพฺพกํ ตาว ปหร, ตโต ปตฺถฏผณํ สุสูติสทฺทํ กตฺวา นิกฺขมนฺตํ กณฺหสปฺปํ ทิสฺวา นิกฺกงฺโข ภวิสฺสตี’’ติ จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘อาทาย ทณฺฑํ ปริสุมฺภ ภสฺตํ, ปสฺเสฬมูคํ อุรคํ ทุชิวฺหํ;
ฉินฺทชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานิ, ภุชงฺคมํ ปสฺส ปมฺุจ ภสฺต’’นฺติ.
ตตฺถ ปริสุมฺภาติ ปหร. ปสฺเสฬมูคนฺติ เอฬํ ปคฺฆรนฺเตน มุเขน เอฬมูคํ ปสิพฺพกโต นิกฺขมนฺตํ ทุชิวฺหํ อุรคํ ปสฺส. ฉนฺทชฺช กงฺขํ วิจิกิจฺฉิตานีติ ‘‘อตฺถิ นุ โข เม ปสิพฺพเก สปฺโป, อุทาหุ นตฺถี’’ติ กงฺขเมว ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานานิ วิจิกิจฺฉิตานิ จ อชฺช ฉินฺท, มยฺหํ สทฺทห, อวิตถฺหิ เม เวยฺยากรณํ, อิทาเนว นิกฺขมนฺตํ ภุชงฺคมํ ปสฺส ปมฺุจ ภสฺตนฺติ.
พฺราหฺมโณ ¶ มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา สํวิคฺโค ภยปฺปตฺโต ตถา อกาสิ. สปฺโปปิ สตฺตุภสฺเต ทณฺเฑน ปหเฏ ปสิพฺพกมุขา นิกฺขมิตฺวา มหาชนํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘สํวิคฺครูโป ปริสาย มชฺเฌ, โส พฺราหฺมโณ สตฺตุภสฺตํ ปมฺุจิ;
อถ นิกฺขมิ อุรโค อุคฺคเตโช, อาสีวิโส สปฺโป ผณํ กริตฺวา’’ติ.
สปฺปสฺส ผณํ กตฺวา นิกฺขนฺตกาเล ‘‘มหาสตฺตสฺส สพฺพฺุพุทฺธสฺเสว พฺยากรณํ อโหสี’’ติ มหาชโน เจลุกฺเขปสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ, องฺคุลิโผฏนสหสฺสานิ ปริพฺภมึสุ, ฆนเมฆวสฺสํ วิย สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสิ, สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺตึสุ, มหาปถวีภิชฺชนสทฺโท วิย อโหสิ. อิทํ ปน พุทฺธลีฬาย เอวรูปสฺส ปฺหสฺส กถนํ นาม เนว ชาติยา พลํ, น โคตฺตกุลปฺปเทสานํ พลํ, กสฺส ปเนตํ พลนฺติ? ปฺาย พลํ. ปฺวา หิ ปุคฺคโล วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยมคฺคทฺวารํ วิวริตฺวา อมตมหานิพฺพานํ ปวิสติ, สาวกปารมิมฺปิ ปจฺเจกโพธิมฺปิ สมฺมาสมฺโพธิมฺปิ ปฏิวิชฺฌติ. อมตมหานิพฺพานสมฺปาปเกสุ หิ ธมฺเมสุ ปฺาว เสฏฺา, อวเสสา ตสฺสา ปริวารา โหนฺติ. เตเนตํ วุตฺตํ –
‘‘ปฺา ¶ หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;
สีลํ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโม, อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺตี’’ติ. (ชา. ๒.๑๗.๘๑);
เอวํ กถิเต จ ปน มหาสตฺเตน ปฺเห เอโก อหิตุณฺฑิโก สปฺปสฺส มุขพนฺธนํ กตฺวา สปฺปํ คเหตฺวา อรฺเ วิสฺสชฺเชสิ. พฺราหฺมโณ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ชยาเปตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห รฺโ ถุตึ กโรนฺโต อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘สุลทฺธลาภา ชนกสฺส รฺโ;
โย ปสฺสตี เสนกํ สาธุปฺ’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – โย สาธุปฺํ อุตฺตมปฺํ เสนกปณฺฑิตํ อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ปิยจกฺขูหิ ปสฺสิตุํ ลภติ, ตสฺส รฺโ ชนกสฺส เอเต อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ทสฺสนลาภา สุลทฺธลาภา วต, เอเตน ลทฺเธสุ สพฺพลาเภสุ เอเตว ลาภา สุลทฺธลาภา นามาติ.
พฺราหฺมโณปิ รฺโ ¶ ถุตึ กตฺวา ปุน ปสิพฺพกโต สตฺต กหาปณสตานิ คเหตฺวา มหาสตฺตสฺส ถุตึ กตฺวา ตุฏฺิทายํ ทาตุกาโม ทิยฑฺฒคาถมาห –
‘‘วิวฏฺฏฉทฺโท นุสิ สพฺพทสฺสี, าณํ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูปํ.
‘‘อิมานิ เม สตฺตสตานิ อตฺถิ, คณฺหาหิ สพฺพานิ ททามิ ตุยฺหํ;
ตยา หิ เม ชีวิตมชฺช ลทฺธํ, อโถปิ ภริยาย มกาสิ โสตฺถิ’’นฺติ.
ตตฺถ วิวฏฺฏฉทฺโท นุสิ สพฺพทสฺสีติ กึ นุ โข ตฺวํ สพฺเพสุ ธมฺมากาเรสุ วิวฏฺฏฉทโน วิวฏฺฏเนยฺยธมฺโม สพฺพฺุพุทฺโธติ ถุติวเสน ปุจฺฉติ. าณํ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูปนฺติ อุทาหุ อสพฺพฺุสฺสปิ สโต ตว าณํ อติวิย ภึสรูปํ สพฺพฺุตฺาณํ วิย พลวนฺติ. ตยา หิ เมติ ตยา หิ ทินฺนตฺตา อชฺช มยา ชีวิตํ ลทฺธํ. อโถปิ ภริยาย มกาสิ โสตฺถินฺติ อโถปิ เม ภริยาย ตฺวเมว โสตฺถึ อกาสิ.
อิติ ¶ โส วตฺวา ‘‘สเจปิ สตสหสฺสํ ภเวยฺย, ทเทยฺยเมวาหํ, เอตฺตกเมว เม ธนํ, อิมานิ เม สตฺต สตานิ คณฺหา’’ติ ปุนปฺปุนํ โพธิสตฺตํ ยาจิ. ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘น ปณฺฑิตา เวตนมาทิยนฺติ, จิตฺราหิ คาถาหิ สุภาสิตาหิ;
อิโตปิ เต พฺรหฺเม ททนฺตุ วิตฺตํ, อาทาย ตฺวํ คจฺฉ สกํ นิเกต’’นฺติ.
ตตฺถ เวตนนฺติ เวตฺตนํ, อยเมว วา ปาโ. อิโตปิ เต พฺรหฺเมติ พฺราหฺมณ, อิโต มม ปาทมูลโตปิ ตุยฺหํ ธนํ ททนฺตุ. วิตฺตํ อาทาย ตฺวํ คจฺฉาติ ¶ อิโต อฺานิ ตีณิ สตานิ คเหตฺวา สหสฺสภณฺฑิกํ อาทาย สกนิเวสนํ คจฺฉ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺโต พฺราหฺมณสฺส สหสฺสํ ปูราเปนฺโต กหาปเณ ทาเปตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, เกน ตฺวํ ธนภิกฺขาย เปสิโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภริยาย เม ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘ภริยา ¶ ปน เต มหลฺลิกา, ทหรา’’ติ. ‘‘ทหรา, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘เตน หิ สา อฺเน สทฺธึ อนาจารํ กโรนฺตี ‘นิพฺภยา หุตฺวา กริสฺสามี’ติ ตํ เปเสสิ, สเจ อิเม กหาปเณ ฆรํ เนสฺสสิ, สา เต ทุกฺเขน ลทฺธกหาปเณ อตฺตโน ชารสฺส ทสฺสติ, ตสฺมา ตฺวํ อุชุกเมว เคหํ อคนฺตฺวา พหิคาเม รุกฺขมูเล วา ยตฺถ กตฺถจิ วา กหาปเณ เปตฺวา ปวิเสยฺยาสี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. โส คามสมีปํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ รุกฺขมูเล กหาปเณ เปตฺวา สายํ เคหํ อคมาสิ. ภริยาปิสฺส ตสฺมึ ขเณ ชาเรน สทฺธึ นิสินฺนา อโหสิ. พฺราหฺมโณ ทฺวาเร ตฺวา ‘‘โภตี’’ติ อาห. สา ตสฺส สทฺทํ สลฺลกฺเขตฺวา ทีปํ นิพฺพาเปตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา พฺราหฺมเณ อนฺโต ปวิฏฺเ อิตรํ นีหริตฺวา ทฺวารมูเล เปตฺวา เคหํ ปวิสิตฺวา ปสิพฺพเก กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กึ เต ภิกฺขํ จริตฺวา ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สหสฺสํ เม ลทฺธ’’นฺติ. ‘‘กหํ ปน ต’’นฺติ. ‘‘อสุกฏฺาเน นาม ปิตํ, ปาโตว อาหริสฺสามิ, มา จินฺตยี’’ติ. สา คนฺตฺวา ชารสฺส อาจิกฺขิ. โส นิกฺขมิตฺวา อตฺตนา ปิตํ วิย คณฺหิ.
พฺราหฺมโณ ปุนทิวเส คนฺตฺวา กหาปเณ อปสฺสนฺโต โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ, พฺราหฺมณา’’ติ วุตฺเต ‘‘กหาปเณ น ปสฺสามิ, ปณฺฑิตา’’ติ อาห. ‘‘ภริยาย เต อาจิกฺขี’’ติ? ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. มหาสตฺโต ตาย ชารสฺส อาจิกฺขิตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ ปน เต พฺราหฺมณ, ภริยาย กุลูปกพฺราหฺมโณ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘ตุยฺหมฺปิ อตฺถี’’ติ? ‘‘อาม, ปณฺฑิตา’’ติ. อถสฺส มหาสตฺโต สตฺตนฺนํ ทิวสานํ ปริพฺพยํ ทาเปตฺวา ¶ ‘‘คจฺฉ ปมทิวเส ตว สตฺต, ภริยาย เต สตฺตาติ จุทฺทส พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา โภเชถ, ปุนทิวสโต ปฏฺาย เอเกกํ หาเปตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตว เอกํ, ภริยาย เต เอกนฺติ ทฺเว พฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา ภริยาย เต สตฺต ทิวเส นิมนฺติตพฺราหฺมณสฺส นิพทฺธํ อาคมนภาวํ ตฺวา มยฺหํ อาโรเจหี’’ติ ¶ อาห. พฺราหฺมโณ ตถา ¶ กตฺวา ‘‘สลฺลกฺขิโต เม ปณฺฑิต, นิพทฺธํ ภฺุชนกพฺราหฺมโณ’’ติ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ.
โพธิสตฺโต เตน สทฺธึ ปุริเส เปเสตฺวา ตํ พฺราหฺมณํ อาหราเปตฺวา ‘‘อสุกรุกฺขมูลโต เต อิมสฺส พฺราหฺมณสฺส สนฺตกํ กหาปณสหสฺสํ คหิต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘น คณฺหามิ, ปณฺฑิตา’’ติ. ‘‘ตฺวํ มม เสนกปณฺฑิตภาวํ น ชานาสิ, อาหราเปสฺสามิ เต กหาปเณ’’ติ. โส ภีโต ‘‘คหิตา เม’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ‘‘กุหึ เต ปิตา’’ติ? ‘‘ตตฺเถว, ปณฺฑิต, ปิตา’’ติ. โพธิสตฺโต พฺราหฺมณํ ปุจฺฉิ ‘‘พฺราหฺมณ, กึ เต สาเยว ภริยา โหตุ, อุทาหุ อฺํ คณฺหิสฺสสี’’ติ. ‘‘สาเยว เม โหตุ, ปณฺฑิตา’’ติ. โพธิสตฺโต มนุสฺเส เปเสตฺวา พฺราหฺมณสฺส กหาปเณ จ พฺราหฺมณิฺจ อาหราเปตฺวา โจรพฺราหฺมณสฺส หตฺถโต กหาปเณ พฺราหฺมณสฺส ทาเปตฺวา อิตรสฺส ราชาณํ กาเรตฺวา นครา นีหราเปตฺวา พฺราหฺมณิยาปิ ราชาณํ กาเรตฺวา พฺราหฺมณสฺส มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา อตฺตโนเยว สนฺติเก วสาเปสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีนิ สจฺฉิกรึสุ. ตทา พฺราหฺมโณ อานนฺโท อโหสิ, รุกฺขเทวตา สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, เสนกปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.
สตฺตุภสฺตชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๐๓] ๘. อฏฺิเสนชาตกวณฺณนา
เยเม อหํ น ชานามีติ อิทํ สตฺถา อาฬวึ นิสฺสาย อคฺคาฬเว เจติเย วิหรนฺโต กุฏิการสิกฺขาปทํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ เหฏฺา มณิกณฺชาตเก (ชา. ๑.๓.๗ อาทโย) กถิตเมว. สตฺถา ปน เต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา ปุพฺเพ อนุปฺปนฺเน ¶ พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา ราชูหิ ปวาริตาปิ ‘ยาจนา นาม ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา’ติ น ยาจึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมึ นิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, อฏฺิเสนกุมาโรติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อปรภาเค กาเมสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ฆราวาสโต นิกฺขมิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย มนุสฺสปถํ โอตริตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาย จรนฺโต ราชงฺคณํ อคมาสิ. ราชา ตสฺสาจารวิหาเร ปสีทิตฺวา ตํ นิมนฺตาเปตฺวา ปาสาทตเล ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สุโภชนํ โภเชตฺวา โภชนาวสาเน อนุโมทนํ สุตฺวา ปสนฺโน ปฏิฺํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ ราชุยฺยาเน วสาเปสิ, ทิวสสฺส จ ทฺเว ตโย วาเร อุปฏฺานํ อคมาสิ. โส เอกทิวสํ ธมฺมกถาย ปสนฺโน รชฺชํ อาทึ กตฺวา ‘‘เยน โว อตฺโถ, ตํ วเทยฺยาถา’’ติ ปวาเรสิ. โพธิสตฺโต ‘‘อิทํ นาม เม เทหี’’ติ น วทติ. อฺเ ยาจกา ‘‘อิทํ เทหิ, อิทํ เทหี’’ติ อิจฺฉิติจฺฉิตํ ยาจนฺติ, ราชา อสชฺชมาโน เทติเยว. โส เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘อฺเ ยาจนกวนิพฺพกา ‘อิทฺจิทฺจ อมฺหากํ เทหี’ติ มํ ยาจนฺติ, อยฺโย ปน อฏฺิเสโน ปวาริตกาลโต ปฏฺาย น กิฺจิ ยาจติ, ปฺวา โข ปเนส อุปายกุสโล, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส เอกทิวสํ ภุตฺตปาตราโส คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อฺเสํ ยาจนการณํ ตสฺส จ อยาจนการณํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘เยเม อหํ น ชานามิ, อฏฺิเสน วนิพฺพเก;
เต มํ สงฺคมฺม ยาจนฺติ, กสฺมา มํ ตฺวํ น ยาจสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ วนิพฺพเกติ ยาจนเก. สงฺคมฺมาติ สมาคนฺตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยฺย, อฏฺิเสน, เยเม วนิพฺพเก อหํ นามโคตฺตชาติกุลปฺปเทเสน ‘‘อิเม นาเมเต’’ติปิ น ชานามิ, เต มํ สมาคนฺตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตํ ยาจนฺติ, ตฺวํ ปน กสฺมา มํ กิฺจิ น ยาจสีติ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ยาจโก อปฺปิโย โหติ, ยาจํ อททมปฺปิโย;
ตสฺมาหํ ตํ น ยาจามิ, มา เม วิเทสฺสนา อหู’’ติ.
ตตฺถ ¶ ยาจโก อปฺปิโย โหตีติ โย หิ, มหาราช, ปุคฺคโล ‘‘อิทํ เม เทหี’’ติ ยาจโก, โส มาตาปิตูนมฺปิ มิตฺตามจฺจาทีนมฺปิ อปฺปิโย โหติ อมนาโป. ตสฺส อปฺปิยภาโว ¶ มณิกณฺชาตเกน ทีเปตพฺโพ. ยาจนฺติ ยาจิตภณฺฑํ. อททนฺติ อททมาโน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โยปิ ยาจิตํ น เทติ, โส มาตาปิตโร อาทึ กตฺวา อททมาโน ปุคฺคโล ยาจกสฺส อปฺปิโย โหตีติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยาจโกปิ ทายกสฺส, ยาจิตํ ภณฺฑํ อททนฺโตปิ ยาจกสฺส อปฺปิโย โหติ, ตสฺมา อหํ ตํ น ยาจามิ. มา เม วิเทสฺสนา อหูติ สเจ หิ อหํ ยาเจยฺยเมว, ตว วิเทสฺโส ภเวยฺย, สา เม ตว สนฺติกา อุปฺปนฺนา วิเทสฺสนา, สเจ ปน ตฺวํ น ทเทยฺยาสิ, มม วิเทสฺโส ภเวยฺยาสิ, สา จ มม ตยิ วิเทสฺสนา, เอวํ สพฺพถาปิ มา เม วิเทสฺสนา อหุ, มา โน อุภินฺนมฺปิ เมตฺตา ภิชฺชีติ เอตมตฺถํ สมฺปสฺสนฺโต อหํ ตํ น กิฺจิ ยาจามีติ.
อถสฺส วจนํ สุตฺวา ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘โย เว ยาจนชีวาโน, กาเล ยาจํ น ยาจติ;
ปรฺจ ปฺุา ธํเสติ, อตฺตนาปิ น ชีวติ.
‘‘โย จ ยาจนชีวาโน, กาเล ยาจฺหิ ยาจติ;
ปรฺจ ปฺุํ ลพฺเภติ, อตฺตนาปิ จ ชีวติ.
‘‘น เวเทสฺสนฺติ สปฺปฺา, ทิสฺวา ยาจกมาคเต;
พฺรหฺมจาริ ปิโย เมสิ, วท ตฺวํ ภฺมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ ยาจนชีวาโนติ ยาจนชีวมาโน, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยฺย, อฏฺิเสน โย ยาจเนน ชีวมาโน ธมฺมิโก สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ยาจิตพฺพยุตฺตปตฺตกาเล กิฺจิเทว ยาจิตพฺพํ น ยาจติ, โส ปรฺจ ทายกํ ปฺุา ธํเสติ ปริหาเปติ, อตฺตนาปิ จ สุขํ น ชีวติ. ปฺุํ ลพฺเภตีติ ¶ กาเล ปน ยาจิตพฺพํ ยาจนฺโต ปรฺจ ปฺุํ อธิคเมติ, อตฺตนาปิ จ สุขํ ชีวติ. น เวเทสฺสนฺตีติ ยํ ตฺวํ วเทสิ ‘‘มา เม วิเทสฺสนา อหู’’ติ, ตํ กสฺมา วทสิ. สปฺปฺา หิ ทานฺจ ¶ ทานผลฺจ ชานนฺตา ปณฺฑิตา ยาจเก อาคเต ทิสฺวา น เทสฺสนฺติ น กุชฺฌนฺติ, อฺทตฺถุ ปน ปมุทิตาว โหนฺตีติ ทีเปติ. ยาจกมาคเตติ ม-กาโร พฺยฺชนสนฺธิวเสน วุตฺโต, ยาจเก อาคเตติ อตฺโถ. พฺรหฺมจาริ ปิโย เมสีติ อยฺย อฏฺิเสน, ปริสุทฺธจาริ มหาปฺุ, ตฺวํ มยฺหํ อติวิย ปิโย, ตสฺมา วรํ ตฺวํ มํ วเทหิ ยาจาหิเยว. ภฺมิจฺฉสีติ ยํกิฺจิ วตฺตพฺพํ อิจฺฉสิ, สพฺพํ วท, รชฺชมฺปิ เต ทสฺสามิเยวาติ.
เอวํ ¶ โพธิสตฺโต รฺา รชฺเชนาปิ ปวาริโต เนว กิฺจิ ยาจิ. รฺโ ปน เอวํ อตฺตโน อชฺฌาสเย กถิเต มหาสตฺโตปิ ปพฺพชิตปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘มหาราช, ยาจนา หิ นาเมสา กามโภคีนํ คิหีนํ อาจิณฺณา, น ปพฺพชิตานํ, ปพฺพชิเตน ปน ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย คิหีหิ อสมานปริสุทฺธาชีเวน ภวิตพฺพ’’นฺติ ปพฺพชิตปฏิปทํ ทสฺเสนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘น เว ยาจนฺติ สปฺปฺา, ธีโร จ เวทิตุมรหติ;
อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺติ, เอสา อริยาน ยาจนา’’ติ.
ตตฺถ สปฺปฺาติ พุทฺธา จ พุทฺทสาวกา จ โพธิยา ปฏิปนฺนา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตา โพธิสตฺตา จ สพฺเพปิ สปฺปฺา จ สุสีลา จ, เอเต เอวรูปา สปฺปฺา ‘‘อมฺหากํ อิทฺจิทฺจ เทถา’’ติ น ยาจนฺติ. ธีโร จ เวทิตุมรหตีติ อุปฏฺาโก ปน ธีโร ปณฺฑิโต คิลานกาเล จ อคิลานกาเล จ เยน เยนตฺโถ, ตํ สพฺพํ สยเมว เวทิตุํ ชานิตุํ อรหติ. อุทฺทิสฺส อริยา ติฏฺนฺตีติ อริยา ปน วาจํ อภินฺทิตฺวา เยนตฺถิกา โหนฺติ, ตํ อุทฺทิสฺส เกวลํ ภิกฺขาจารวตฺเตน ติฏฺนฺติ, เนว กายงฺคํ วา วาจงฺคํ วา โกเปนฺติ. กายวิการํ ทสฺเสตฺวา นิมิตฺตํ กโรนฺโต หิ กายงฺคํ โกเปติ นาม, วจีเภทํ กโรนฺโต วาจงฺคํ โกเปติ นาม, ตทุภยํ อกตฺวา พุทฺธาทโย อริยา ติฏฺนฺติ. เอสา อริยาน ยาจนาติ เอสา กายงฺควาจงฺคํ อโกเปตฺวา ภิกฺขาย ติฏฺมานา อริยานํ ยาจนา นาม.
ราชา ¶ โพธิสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ภนฺเต, ยทิ สปฺปฺโ อุปฏฺาโก อตฺตนาว ตฺวา กุลูปกสฺส ทาตพฺพํ เทติ, อหมฺปิ ตุมฺหากํ อิทฺจิทฺจ ทมฺมี’’ติ วทนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘ททามิ ¶ เต พฺราหฺมณ โรหิณีนํ, ควํ สหสฺสํ สห ปุงฺคเวน;
อริโย หิ อริยสฺส กถํ น ทชฺชา, สุตฺวาน คาถา ตว ธมฺมยุตฺตา’’ติ.
ตตฺถ โรหิณีนนฺติ รตฺตวณฺณานํ. ควํ สหสฺสนฺติ ขีรทธิอาทิมธุรรสปริโภคตฺถาย เอวรูปานํ คุนฺนํ สหสฺสํ ตุยฺหํ ทมฺมิ, ตํ เม ปฏิคฺคณฺห. อริโยติ อาจารอริโย. อริยสฺสาติ อาจารอริยสฺส. กถํ น ทชฺชาติ เกน การเณน น ทเทยฺย.
เอวํ วุตฺเต โพธิสตฺโต ‘‘อหํ มหาราช, อกิฺจโน ปพฺพชิโต, น เม คาวีหิ อตฺโถ’’ติ ¶ ปฏิกฺขิปิ. ราชา ตสฺโสวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. โสปิ อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน พหู โสตาปตฺติผลาทีสุ ปติฏฺิตา. ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, อฏฺิเสโน ปน อหเมว อโหสินฺติ.
อฏฺิเสนชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๐๔] ๙. กปิชาตกวณฺณนา
ยตฺถ เวรี นิวสตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปถวิปเวสนํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺมิฺหิ ปถวึ ปวิฏฺเ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต สห ปริสาย นฏฺโ’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว เทวทตฺโต สห ปริสาย นฏฺโ, ปุพฺเพปิ นสฺสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กปิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจสตกปิปริวาโร ราชุยฺยาเน ¶ วสิ. เทวทตฺโตปิ กปิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปฺจสตกปิปริวาโร ตตฺเถว วสิ. อเถกทิวสํ ปุโรหิเต อุยฺยานํ คนฺตฺวา นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา นิกฺขมนฺเต เอโก ¶ โลลกปิ ปุเรตรํ คนฺตฺวา ราชุยฺยานทฺวาเร โตรณมตฺถเก นิสีทิตฺวา ตสฺส มตฺถเก วจฺจปิณฺฑํ ปาเตตฺวา ปุน อุทฺธํ โอโลเกนฺตสฺส มุเข ปาเตสิ. โส นิวตฺติตฺวา ‘‘โหตุ, ชานิสฺสามิ ตุมฺหากํ กตฺตพฺพ’’นฺติ มกฺกเฏ สนฺตชฺเชตฺวา ปุน นฺหตฺวา ปกฺกามิ. เตน เวรํ คเหตฺวา มกฺกฏานํ สนฺตชฺชิตภาวํ โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสุํ. โส ‘‘เวรีนํ นิวสนฏฺาเน นาม วสิตุํ น วฏฺฏติ, สพฺโพปิ กปิคโณ ปลายิตฺวา อฺตฺถ คจฺฉตู’’ติ กปิสหสฺสสฺสปิ อาโรจาเปสิ. ทุพฺพจกปิ อตฺตโน ปริวารมกฺกเฏ คเหตฺวา ‘‘ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ ตตฺเถว นิสีทิ. โพธิสตฺโต อตฺตโน ปริวารํ คเหตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. อเถกทิวสํ เอกิสฺสา วีหิโกฏฺฏิกาย ทาสิยา อาตเป ปสาริตวีหึ ขาทนฺโต เอโก เอฬโก อุมฺมุกฺเกน ปหารํ ลภิตฺวา อาทิตฺตสรีโร ปลายนฺโต เอกิสฺสา หตฺถิสาลํ นิสฺสาย ติณกุฏิยา กุฏฺเฏ สรีรํ ฆํสิ ¶ . โส อคฺคิ ติณกุฏิกํ คณฺหิ, ตโต อุฏฺาย หตฺถิสาลํ คณฺหิ, หตฺถิสาลาย หตฺถีนํ ปิฏฺิ ฌายิ, หตฺถิเวชฺชา หตฺถีนํ ปฏิชคฺคนฺติ.
ปุโรหิโตปิ มกฺกฏานํ คหณูปายํ อุปธาเรนฺโต วิจรติ. อถ นํ ราชุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ ราชา อาห ‘‘อาจริย, พหู โน หตฺถี วณิตา ชาตา, หตฺถิเวชฺชา ปฏิชคฺคิตุํ น ชานนฺติ, ชานาสิ นุ โข กิฺจิ เภสชฺช’’นฺติ? ‘‘ชานามิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ นามา’’ติ? ‘‘มกฺกฏวสา, มหาราชา’’ติ. ‘‘กหํ ลภิสฺสามา’’ติ? ‘‘นนุ อุยฺยาเน พหู มกฺกฏา’’ติ? ราชา ‘‘อุยฺยาเน มกฺกเฏ มาเรตฺวา วสํ อาเนถา’’ติ อาห. ธนุคฺคหา คนฺตฺวา ปฺจสเตปิ มกฺกเฏ วิชฺฌิตฺวา มาเรสุํ. เอโก ปน เชฏฺกมกฺกโฏ ปลายนฺโต สรปหารํ ลภิตฺวาปิ ตตฺเถว อปติตฺวา ¶ โพธิสตฺตสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา ปติ. วานรา ‘‘อมฺหากํ วสนฏฺานํ ปตฺวา มโต’’ติ ตสฺส ปหารํ ลทฺธา มตภาวํ โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสุํ. โส คนฺตฺวา กปิคณมชฺเฌ นิสินฺโน ‘‘ปณฺฑิตานํ โอวาทํ อกตฺวา เวริฏฺาเน วสนฺตา นาม เอวํ วินสฺสนฺตี’’ติ กปิคณสฺส โอวาทวเสน อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ยตฺถ เวรี นิวสติ, น วเส ตตฺถ ปณฺฑิโต;
เอกรตฺตํ ทฺวิรตฺตํ วา, ทุกฺขํ วสติ เวริสุ.
‘‘ทิโส ¶ เว ลหุจิตฺตสฺส, โปสสฺสานุวิธียโต;
เอกสฺส กปิโน เหตุ, ยูถสฺส อนโย กโต.
‘‘พาโลว ปณฺฑิตมานี, ยูถสฺส ปริหารโก;
สจิตฺตสฺส วสํ คนฺตฺวา, สเยถายํ ยถา กปิ.
‘‘น สาธุ พลวา พาโล, ยูถสฺส ปริหารโก;
อหิโต ภวติ าตีนํ, สกุณานํว เจตโก.
‘‘ธีโรว พลวา สาธุ, ยูถสฺส ปริหารโก;
หิโต ภวติ าตีนํ, ติทสานํว วาสโว.
‘‘โย ¶ จ สีลฺจ ปฺฺจ, สุตฺจตฺตนิ ปสฺสติ;
อุภินฺนมตฺถํ จรติ, อตฺตโน จ ปรสฺส จ.
‘‘ตสฺมา ตุเลยฺย มตฺตานํ, สีลปฺาสุตามิว;
คณํ วา ปริหเร ธีโร, เอโก วาปิ ปริพฺพเช’’ติ.
ตตฺถ ลหุจิตฺตสฺสาติ ลหุจิตฺโต อสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย โปโส ลหุจิตฺตสฺส มิตฺตสฺส วา าติโน วา อนุวิธียติ อนุวตฺตติ, ตสฺส โปสสฺส อนุวิธียโต โส ลหุจิตฺโต ทิโส โหติ, เวริกิจฺจํ กโรติ. เอกสฺส กปิโนติ ปสฺสถ เอกสฺส ลหุจิตฺตสฺส อนฺธพาลสฺส กปิโน เหตุ อยํ สกลสฺส ยูถสฺส อนโย อวุฑฺฒิ มหาวินาโส กโตติ. ปณฺฑิตมานีติ โย สยํ พาโล หุตฺวา ‘‘อหํ ปณฺฑิโต’’ติ อตฺตานํ มฺมาโน ปณฺฑิตานํ โอวาทํ อกตฺวา สกสฺส จิตฺตสฺส วสํ คจฺฉติ, โส สจิตฺตสฺส วสํ คนฺตฺวา ยถายํ ทุพฺพจกปิ มตสยนํ สยิโต, เอวํ สเยถาติ อตฺโถ.
น สาธูติ พาโล นาม พลสมฺปนฺโน ยูถสฺส ปริหารโก น สาธุ น ลทฺธโก. กึการณา? โส หิ อหิโต ภวติ าตีนํ, วินาสเมว วหติ. สกุณานํว เจตโกติ ยถา หิ ติตฺติรสกุณานํ ¶ ทีปกติตฺติโร ทิวสมฺปิ วสฺสนฺโต อฺเ สกุเณ น มาเรติ, าตเกว มาเรติ, เตสฺเว อหิโต โหติ, เอวนฺติ อตฺโถ. หิโต ภวตีติ กาเยนปิ วาจายปิ มนสาปิ หิตการโกเยว. อุภินฺนมตฺถํ จรตีติ โย อิธ ปุคฺคโล เอเต สีลาทโย คุเณ อตฺตนิ ¶ ปสฺสติ, โส ‘‘มยฺหํ อาจารสีลมฺปิ อตฺถิ, ปฺาปิ สุตปริยตฺติปิ อตฺถี’’ติ ตถโต ชานิตฺวา คณํ ปริหรนฺโต อตฺตโน จ ปเรสฺจ อตฺตานํ ปริวาเรตฺวา จรนฺตานนฺติ อุภินฺนมฺปิ อตฺถเมว จรติ.
ตุเลยฺย มตฺตานนฺติ ตุเลยฺย อตฺตานํ. ตุเลยฺยาติ ตุเลตฺวา. สีลปฺาสุตามิวาติ เอตานิ สีลาทีนิ วิย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา สีลาทีนิ อตฺตนิ สมนุปสฺสนฺโต อุภินฺนมตฺถํ จรติ, ตสฺมา ปณฺฑิโต เอตานิ สีลาทีนิ วิย อตฺตานมฺปิ เตสุ ตุเลตฺวา ‘‘ปติฏฺิโต นุ โขมฺหิ สีเล ปฺาย สุเต’’ติ ตีเรตฺวา ปติฏฺิตภาวํ ปจฺจกฺขํ กตฺวา ธีโร คณํ วา ปริหเรยฺย, จตูสุ อิริยาปเถสุ เอโก วา หุตฺวา ปริพฺพเชยฺย วตฺเตยฺย, ปริสุปฏฺาเกนปิ วิเวกจารินาปิ อิเมหิ ตีหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคเตเนว ภวิตพฺพนฺติ. เอวํ มหาสตฺโต กปิราชา หุตฺวาปิ วินยปริยตฺติกิจฺจํ กเถสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ทุพฺพจกปิ เทวทตฺโต อโหสิ, ปริสาปิสฺส เทวทตฺตปริสา, ปณฺฑิตกปิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กปิชาตกวณฺณนา นวมา.
[๔๐๕] ๑๐. พกชาตกวณฺณนา
ทฺวาสตฺตตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต พกพฺรหฺมานํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺส หิ ‘‘อิทํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสตํ อจวนธมฺมํ, อิโต อฺํ โลกนิสฺสรณํ นิพฺพานํ นาม นตฺถี’’ติ เอวํ ทิฏฺิ อุปฺปชฺชิ. เหฏฺูปปตฺติโก กิเรส พฺรหฺมา ปุพฺเพ ฌานํ ภาเวตฺวา เวหปฺผเลสุ นิพฺพตฺโต, ตตฺถ ปฺจกปฺปสตปริมาณํ อายุํ เขเปตฺวา สุภกิณฺเหสุ นิพฺพตฺติตฺวา จตุสฏฺิกปฺปํ เขเปตฺวา ตโต จุโต อฏฺกปฺปายุเกสุ อาภสฺสเรสุ นิพฺพตฺติ, ตตฺรสฺส เอสา ทิฏฺิ อุปฺปชฺชิ. โส หิ เนว อุปริพฺรหฺมโลกโต จุตึ, น ตตฺถ อุปปตฺตึ อนุสฺสริ, ตทุภยมฺปิ อปสฺสนฺโต เอวํ ทิฏฺึ คณฺหิ. ภควา ตสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺาย เสยฺยถาปิ ¶ นาม พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว เชตวเน อนฺตรหิโต ตสฺมึ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิ. อถ ¶ พฺรหฺมา ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ โข, มาริส, สฺวาคตํ มาริส, จิรสฺสํ โข, มาริส, อิมํ ปริยายมกาสิ, ยทิทํ อิธาคมนาย. อิทฺหิ มาริส, นิจฺจํ อิทํ ธุวํ อิทํ สสฺสตํ อิทํ เกวลํ อิทํ อจวนธมฺมํ, อิทฺหิ น จ ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, อิโต จ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ นตฺถี’’ติ อาห.
เอวํ วุตฺเต ภควา พกํ พฺรหฺมานํ เอตทโวจ ‘‘อวิชฺชาคโต วต โภ พโก พฺรหฺมา, อวิชฺชาคโต วต โภ พโก พฺรหฺมา, ยตฺร หิ นาม อนิจฺจฺเว สมานํ นิจฺจนฺติ วกฺขติ…เป… สนฺตฺจ ปนฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณํ, นตฺถฺํ อุตฺตริ นิสฺสรณนฺติ วกฺขตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๕). ตํ สุตฺวา พฺรหฺมา ‘‘ตฺวํ เอวํ กเถสิ, ตฺวํ เอวํ กเถสิ, อิติ มํ เอส อนุยฺุชนฺโต อนุพนฺธตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยถา นาม ทุพฺพโล โจโร กติปเย ปหาเร ลภิตฺวา ‘‘กึ อหเมว โจโร, อสุโกปิ โจโร อสุโกปิ โจโร’’ติ สพฺเพปิ สหายเก อาจิกฺขติ, ตเถว ภควโต อนุโยคภเยน ภีโต อฺเปิ อตฺตโน สหายเก อาจิกฺขนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ทฺวาสตฺตติ ¶ โคตม ปฺุกมฺมา, วสวตฺติโน ชาติชรํ อตีตา;
อยมนฺติมา เวทคู พฺรหฺมปตฺติ, อสฺมาภิชปฺปนฺติ ชนา อเนกา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๕);
ตตฺถ ทฺวาสตฺตตีติ น เกวลํ โภ โคตม, อหเมว, อถ โข อิมสฺมึ พฺรหฺมโลเก มยํ ทฺวาสตฺตติ ชนา ปฺุกมฺมา อฺเสํ อุปริ อตฺถโน วสํ วตฺตเนน วสวตฺติโน ชาติฺจ ชรฺจ อตีตา, อยํ โน เวเทหิ คตตฺตา เวทคู, อยํ โภ โคตม อนฺติมา พฺรหฺมปตฺติ, ปจฺฉิมโกฏิปฺปตฺติ เสฏฺภาวปฺปตฺติ. อสฺมาภิชปฺปนฺติ ชนา อเนกาติ อมฺเห อฺเ พหู ชนา ปฺชลิกา หุตฺวา – ‘‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา’’ติอาทีนิ วทนฺตา นมสฺสนฺติ ปตฺเถนฺติ ปิหยนฺติ, ‘‘อโห วต มยมฺปิ เอวรูปา ภเวยฺยามา’’ติ อิจฺฉนฺตีติ อตฺโถ.
ตสฺส ¶ ¶ วจนํ สุตฺวา สตฺถา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อปฺปํ หิ เอตํ น หิ ทีฆมายุ, ยํ ตฺวํ พก มฺสิ ทีฆมายุํ;
สตํ สหสฺสานิ นิรพฺพุทานํ, อายุํ ปชานามิ ตวาห พฺรหฺเม’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๕);
ตตฺถ สตํ สหสฺสานิ นิรพฺพุทานนฺติ นิรพฺพุทสงฺขาตานํ คณนานํ สตสหสฺสานิ. วสฺสานฺหิ ทสทสกํ สตํ, ทส สตานํ สหสฺสํ, สตํ สหสฺสานํ สตสหสฺสํ, สตํ สตสหสฺสานํ โกฏิ นาม, สตํ โกฏิสตสหสฺสานํ ปโกฏิ นาม, สตํ ปโกฏิสตสหสฺสานํ โกฏิปโกฏิ นาม, สตํ โกฏิปโกฏิสตสหสฺสานํ เอกํ นหุตํ นาม, สตํ นหุตสตสหสฺสานํ เอกํ นินฺนหุตํ นาม. เฉโก คณโก เอตฺตกํ คเณตุํ สกฺโกติ, ตโต ปรํ คณนา นาม พุทฺธานเมว วิสโย. ตตฺถ สตํ นินฺนหุตสตสหสฺสานํ เอกํ อพฺพุทํ, วีสติ อพฺพุทานิ เอกํ นิรพฺพุทํ, เตสํ นิรพฺพุทสตสหสฺสานํ เอกํ อหหํ นาม, เอตฺตกํ พกสฺส พฺรหฺมุโน ตสฺมึ ภเว อวสิฏฺํ อายุ, ตํ สนฺธาย ภควา เอวมาห.
ตํ สุตฺวา พโก ตติยํ คาถมาห –
‘‘อนนฺตทสฺสี ¶ ภควาหมสฺมิ, ชาติชฺชรํ โสกมุปาติวตฺโต;
กึ เม ปุราณํ วตสีลวตฺตํ, อาจิกฺข เม ตํ ยมหํ วิชฺ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๕);
ตตฺถ ภควาติ ภควา ตุมฺเห ‘‘อายุํ ปชานามิ ตวาห’’นฺติ วทนฺตา ‘‘อหํ อนนฺตทสฺสี ชาติชรฺจ โสกฺจ อุปาติวตฺโตสฺมี’’ติ วทถ. วตสีลวตฺตนฺติ วตสมาทานฺจ สีลวตฺตฺจ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ ตุมฺเห สพฺพฺุพุทฺธา, เอวํ สนฺเต กึ มยฺหํ ปุราณํ วตฺจ สีลวตฺตฺจ, อาจิกฺข เม ตํ, ยมหํ ตยา อาจิกฺขิตํ ยาถาวสรสโต วิชาเนยฺยนฺติ.
อถสฺส ¶ ภควา อตีตานิ วตฺถูนิ อาหริตฺวา อาจิกฺขนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ยํ ตฺวํ อปาเยสิ พหู มนุสฺเส, ปิปาสิเต ฆมฺมนิ สมฺปเรเต;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ, สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามิ.
‘‘ยํ ¶ เอณิกูลสฺมิ ชนํ คหีตํ, อโมจยี คยฺหก นียมานํ;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ, สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามิ.
‘‘คงฺคาย โสตสฺมึ คหีตนาวํ, ลุทฺเทน นาเคน มนุสฺสกปฺปา;
อโมจยิ ตฺวํ พลสา ปสยฺห, ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ;
สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามิ.
‘‘กปฺโป จ เต พทฺธจโร อโหสึ, สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺํ;
ตํ เต ปุราณํ วตสีลวตฺตํ, สุตฺตปฺปพุทฺโธว อนุสฺสรามี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๕);
ตตฺถ อปาเยสีติ ปาเยสิ. ฆมฺมนิ สมฺปเรเตติ ฆมฺเมน สมฺปเรเต อติวิย ผุฏฺเ ฆมฺมกิลนฺเต. สุตฺตปฺปพุทฺโธวาติ ปจฺจูสกาเล สุปนฺโต สุปินํ ปสฺสิตฺวา ตํ สุปินกํ วิย อนุสฺสรามิ. โส กิร พกพฺรหฺมา เอกสฺมึ กปฺเป ตาปโส หุตฺวา มรุกนฺตาเร วสนฺโต พหูนํ กนฺตารปฏิปนฺนานํ ¶ ปานียํ อาหริตฺวา อทาสิ. อเถกทิวสํ เอโก สตฺถวาโห ปฺจหิ สกฏสเตหิ มรุกนฺตารํ ปฏิปชฺชิ. มนุสฺสา ทิสา ววตฺถเปตุํ อสกฺโกนฺตา สตฺต ทิวสานิ อาหิณฺฑิตฺวา ขีณทารุทกา นิราหารา อุณฺหาภิภูตา ‘‘อิทานิ โน ชีวิตํ นตฺถี’’ติ สกเฏ ปริวตฺเตตฺวา โคเณ ¶ โมเจตฺวา เหฏฺาสกเฏสุ นิปชฺชึสุ. ตทา ตาปโส อาวชฺเชนฺโต เต ทิสฺวา ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต มา นสฺสึสู’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อิทฺธานุภาเวน คงฺคาโสตํ อุพฺพตฺเตตฺวา สตฺถวาหาภิมุขํ อกาสิ, อวิทูเร จ เอกํ วนสณฺฑํ มาเปสิ. มนุสฺสา ปานียํ ปิวิตฺวา นฺหตฺวา โคเณ สนฺตปฺเปตฺวา วนสณฺฑโต ติณํ ลายิตฺวา ทารูนิ คเหตฺวา ทิสํ สลฺลกฺเขตฺวา อโรคา กนฺตารํ อติกฺกมึสุ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
เอณิกูลสฺมินฺติ เอณิยา นาม นทิยา กูเล. คยฺหก นียมานนฺติ กรมรคาหํ คเหตฺวา นียมานํ. โส กิร ตาปโส อปรสฺมึ กาเล เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย นทีตีเร วนสณฺเฑ วิหาสิ. อเถกสฺมึ ทิวเส ปพฺพตโต โจรา โอตริตฺวา ตํ คามํ ปหริตฺวา มหาชนํ คเหตฺวา ปพฺพตํ อาโรเปตฺวา อนฺตรามคฺเค จารกมนุสฺเส เปตฺวา ปพฺพตพิลํ ปวิสิตฺวา อาหารํ ปจาเปนฺตา นิสีทึสุ. ตาปโส โคมหึสาทีนฺเจว ทารกทาริกาทีนฺจ มหนฺตํ อฏฺฏสฺสรํ สุตฺวา ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต มา นสฺสึสู’’ติ อิทฺธานุภาเวน อตฺตภาวํ ชหิตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต ราชา หุตฺวา ยุทฺธเภรึ อาโกฏาเปนฺโต ตํ านํ อคมาสิ. จารกมนุสฺสา ¶ ตํ ทิสฺวา โจรานํ อาโรเจสุํ. โจรา ‘‘รฺา สทฺธึ วิคฺคโห นาม น ยุตฺโต’’ติ สพฺพํ คหิตคหิตํ ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวา ภตฺตํ อภฺุชิตฺวาว ปลายึสุ. ตาปโส เต สพฺเพ อาเนตฺวา สกคาเมเยว ปติฏฺาเปสิ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
คหีตนาวนฺติ นิคฺคหิตนาวํ. ลุทฺเทนาติ กกฺขเฬน. มนุสฺสกปฺปาติ มนุสฺเส วินาเสตุกามตาย. พลสาติ พเลน. ปสยฺหาติ อภิภวิตฺวา. อปรสฺมึ กาเล โส ตาปโส คงฺคาตีเร วิหาสิ. ตทา มนุสฺสา ทฺเว ตโย นาวาสงฺฆาเฏ พนฺธิตฺวา สงฺฆาฏมตฺถเก ปุปฺผมณฺฑปํ กาเรตฺวา สงฺฆาเฏ นิสีทิตฺวา ขาทนฺตา ปิวนฺตา สมฺพนฺธกุลํ คจฺฉนฺติ. เต ปีตาวเสสํ สุรํ ภุตฺตขาทิตาวเสสานิ ภตฺตมจฺฉมํสตมฺพุลาทีนิ คงฺคายเมว ปาเตนฺติ. คงฺเคยฺโย นาคราชา ‘‘อิเม อุจฺฉิฏฺกํ มม อุปริ ขิปนฺตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘สพฺเพ เต ชเน คเหตฺวา คงฺคาย โอสีทาเปสฺสามี’’ติ มหนฺตํ เอกโทณิกนาวปฺปมาณํ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา อุทกํ ภินฺทิตฺวา ¶ ผณํ ธารยมาโน เตสํ อภิมุโข ปายาสิ. เต นาคราชานํ ทิสฺวา มรณภยตชฺชิตา เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺทํ กรึสุ. ตาปโส เตสํ ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา นาคราชสฺส จ กุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘มยิ ปสฺสนฺเต มา นสฺสึสู’’ติ ขิปฺปนิสนฺติยา อตฺตโน อานุภาเวน ขิปฺปํ สุปณฺณวณฺณํ อตฺตานํ มาเปตฺวา อคมาสิ ¶ . นาคราชา ตํ ทิสฺวา มรณภยตชฺชิโต อุทเก นิมุชฺชิ. มนุสฺสา โสตฺถิภาวํ ปตฺวา อคมํสุ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ.
พทฺธจโรติ อนฺเตวาสิโก. สมฺพุทฺธิมนฺตํ วตินํ อมฺนฺติ พุทฺธิสมฺปนฺโน เจว วตสมฺปนฺโน จ ตาปโสติ ตํ มฺมาโน. อิมินา กึ ทสฺเสติ? มหาพฺรหฺเม อหํ อตีเต ตว เกสวตาปสกาเล กปฺโป นาม อนฺเตวาสิโก เวยฺยาวจฺจกโร หุตฺวา ตุยฺหํ นารเทน นาม อมจฺเจน พาราณสิโต หิมวนฺตํ อานีตสฺส โรคํ วูปสเมสึ. อถ นํ นารโท ทุติยวาเร อาคนฺตฺวา นิโรคํ ทิสฺวา อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘มนุสฺสินฺทํ ชหิตฺวาน, สพฺพกามสมิทฺธินํ;
กถํ นุ ภควา เกสิ, กปฺปสฺส รมติ อสฺสเม’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๘๑);
ตเมนํ ตฺวํ เอตทโวจ –
‘‘สาทูนิ รมณียานิ, สนฺติ วกฺขา มโนรมา;
สุภาสิตานิ กปฺปสฺส, นารท รมยนฺติ ม’’นฺติ. (ชา. ๑.๔.๑๘๒);
อิติสฺส ภควา อิมํ อตฺตนา อนฺเตวาสิเกน หุตฺวา โรคสฺส วูปสมิตภาวํ ทีเปนฺโต เอวมาห. ตฺจ ปน พฺรหฺมุนา มนุสฺสโลเก กตกมฺมํ สพฺพํ มหาพฺรหฺมานํ สลฺลกฺขาเปนฺโตว กเถสิ.
โส ¶ สตฺถุ วจเนน อตฺตนา กตกมฺมํ สริตฺวา ตถาคตสฺส ถุตึ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘อทฺธา ปชานาสิ มเมตมายุํ, อฺมฺปิ ชานาสิ ตถา หิ พุทฺโธ;
ตถา หิ ตายํ ชลิตานุภาโว, โอภาสยํ ติฏฺติ พฺรหฺมโลก’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ตถา หิ พุทฺโธติ ตถา หิ ตฺวํ พุทฺโธ. พุทฺธานฺหิ อฺาตํ นาม นตฺถิ, สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตาเยว หิ เต พุทฺธา นามาติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ตายนฺติ พุทฺธตฺตาเยว จ ปน ตว อยํ ชลิโต สรีรปฺปภานุภาโว. โอภาสยํ ติฏฺตีติ อิมํ สกลมฺปิ พฺรหฺมโลกํ โอภาเสนฺโต ติฏฺติ.
เอวํ ¶ สตฺถา อตฺตโน พุทฺธคุณํ ชานาเปนฺโต ธมฺมํ เทเสตฺวา สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน สมฺปตฺตานํ ทสมตฺตานํ พฺรหฺมสหสฺสานํ อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตานิ วิมุจฺจึสุ. อิติ ภควา พหูนํ พฺรหฺมานํ อวสฺสโย หุตฺวา พฺรหฺมโลกา เชตวนํ อาคนฺตฺวา ตตฺถ กถิตนิยาเมเนว ตํ ธมฺมเทสนํ ภิกฺขูนํ กเถตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เกสวตาปโส พกพฺรหฺมา อโหสิ, กปฺปมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
พกชาตกวณฺณนา ทสมา.
กุกฺกุวคฺโค ปโม.
๒. คนฺธารวคฺโค
[๔๐๖] ๑. คนฺธารชาตกวณฺณนา
หิตฺวา ¶ คามสหสฺสานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เภสชฺชสนฺนิธิการสิกฺขาปทํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน ราชคเห สมุฏฺิตํ. อายสฺมตา หิ ปิลินฺทวจฺเฉน อารามิกกุลํ โมเจตุํ ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา รฺโ ปาสาเท อิทฺธิพเลน โสวณฺณมเย กเต มนุสฺสา ปสีทิตฺวา เถรสฺส ปฺจ เภสชฺชานิ ปหิณึสุ. โส ตานิ ปริสาย วิสฺสชฺเชสิ. ปริสา ปนสฺส พาหุลฺลิกา อโหสิ, ลทฺธํ ¶ ลทฺธํ โกฬมฺเพปิ ฆเฏปิ ปตฺตตฺถวิกาโยปิ ปูเรตฺวา ปฏิสาเมสิ. มนุสฺสา ทิสฺวา ‘‘มหิจฺฉา อิเม สมณา อนฺโตโกฏฺาคาริกา’’ติ อุชฺฌายึสุ. สตฺถา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘ยานิ โข ปน ตานิ คิลานานํ ภิกฺขูน’’นฺติ (ปารา. ๖๒๒-๖๒๓) สิกฺขาปทํ ปฺเปตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ปฺจสีลมตฺตกํ รกฺขนฺตาปิ โลณสกฺขรมตฺตกํ ปุนทิวสตฺถาย นิทหนฺเต ¶ ครหึสุ, ตุมฺเห ปน เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา ทุติยตติยทิวสตฺถาย สนฺนิธึ กโรนฺตา อยุตฺตํ กโรถา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต คนฺธารรฏฺเ โพธิสตฺโต คนฺธารรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. มชฺฌิมปเทเสปิ วิเทหรฏฺเ วิเทโห นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. เต ทฺเวปิ ราชาโน อทิฏฺสหายา หุตฺวา อฺมฺํ ถิรวิสฺสาสา อเหสุํ. ตทา มนุสฺสา ทีฆายุกา โหนฺติ, ตึส วสฺสสหสฺสานิ ชีวนฺติ. อเถกทา คนฺธารราชา ปุณฺณมุโปสถทิวเส สมาทินฺนสีโล มหาตเล ปฺตฺตวรปลฺลงฺกมชฺฌคโต วิวเฏน สีหปฺชเรน ปาจีนโลกธาตุํ โอโลเกนฺโต อมจฺจานํ ธมฺมตฺถยุตฺตกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ คคนตลํ อติลงฺฆนฺตมิว ปริปุณฺณํ จนฺทมณฺฑลํ ราหุ อวตฺถริ, จนฺทปฺปภา อนฺตรธายิ. อมจฺจา จนฺทาโลกํ อปสฺสนฺตา จนฺทสฺส ราหุนา คหิตภาวํ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา จนฺทํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ จนฺโท อาคนฺตุกอุปกฺกิเลเสน อุปกฺกิลิฏฺโ นิปฺปโภ ชาโต, มยฺหมฺเปส ราชปริวาโร อุปกฺกิเลโส, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยาหํ ราหุนา คหิตจนฺโท วิย นิปฺปโภ ภเวยฺยํ, วิสุทฺเธ คคนตเร วิโรจนฺตํ จนฺทมณฺฑลํ วิย รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, กึ เม ปเรน โอวทิเตน ¶ , กุเล จ คเณ จ อลคฺโค หุตฺวา อตฺตานเมว โอวทนฺโต วิจริสฺสามิ, อิทํ เม ปติรูป’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ยํ อิจฺฉถ, ตํ ¶ ราชานํ กโรถา’’ติ รชฺชํ อมจฺจานํ นิยฺยาเทสิ. โส รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานรติสมปฺปิโต หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิ.
วิเทหราชาปิ ‘‘สุขํ เม สหายสฺสา’’ติ วาณิเช ปุจฺฉิตฺวา ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ สุตฺวา ‘‘มม สหาเย ปพฺพชิเต อหํ รชฺเชน กึ กริสฺสามี’’ติ สตฺตโยชนิเก มิถิลนคเร ติโยชนสติเก วิเทหรฏฺเ โสฬสสุ คามสหสฺเสสุ ปูริตานิ โกฏฺาคารานิ, โสฬสสหสฺสา จ นาฏกิตฺถิโย ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺตธีตโร อมนสิกตฺวา หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา ปวตฺตผลโภชโน หุตฺวา สมปฺปวตฺตวาสํ วสนฺโต วิจริ. เต อุโภปิ สมวตฺตจารํ จรนฺตา อปรภาเค สมาคจฺฉึสุ, น ปน อฺมฺํ สฺชานึสุ, สมฺโมทมานา เอกโตว สมปฺปวตฺตวาสํ วสึสุ. ตทา วิเทหตาปโส คนฺธารตาปสสฺส อุปฏฺานํ กโรติ. เตสํ ¶ เอกสฺมึ ปุณฺณมทิวเส อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทิตฺวา ธมฺมตฺถยุตฺตกถํ กเถนฺตานํ คคนตเล วิโรจมานํ จนฺทมณฺฑลํ ราหุ อวตฺถริ. วิเทหตาปโส ‘‘กึ นุ โข จนฺทสฺส ปภา นฏฺา’’ติ โอโลเกตฺวา ราหุนา คหิตํ จนฺทํ ทิสฺวา ‘‘โก นุ โข เอส อาจริย, จนฺทํ อวตฺถริตฺวา นิปฺปภมกาสี’’ติ ปุจฺฉิ. อนฺเตวาสิก อยํ ราหุ นาม จนฺทสฺเสโก อุปกฺกิเลโส, วิโรจิตุํ น เทติ, อหมฺปิ ราหุคหิตํ จนฺทมณฺฑลํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ปริสุทฺธสฺส จนฺทมณฺฑลสฺส อาคนฺตุเกน อุปกฺกิเลเสน นิปฺปภํ ชาตํ, มยฺหมฺปิ อิทํ รชฺชํ อุปกฺกิเลโส, ยาว จนฺทมณฺฑลํ ราหุ วิย อิทํ นิปฺปภํ น กโรติ, ตาว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตเทว ราหุคหิตํ จนฺทมณฺฑลํ อารมฺมณํ กตฺวา มหารชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตติ. ‘‘อาจริย, ตฺวํ คนฺธารราชา’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, อห’’นฺติ. ‘‘อาจริย, อหมฺปิ วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร วิเทหราชา นาม, นนุ มยํ อฺมฺํ อทิฏฺสหายา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต อารมฺมณํ อโหสี’’ติ? อหํ ‘‘ตุมฺเห ปพฺพชิตา’’ติ สุตฺวา ‘‘อทฺธา ปพฺพชฺชาย มหนฺตํ คุณํ อทฺทสา’’ติ ตุมฺเหเยว อารมฺมณํ กตฺวา รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิโตติ. เต ตโต ปฏฺาย อติวิย สมคฺคา สมฺโมทมานา ปวตฺตผลโภชนา หุตฺวา วิหรึสุ. ตตฺถ ทีฆรตฺตํ วสิตฺวา จ ปน โลณมฺพิลเสวนตฺถาย หิมวนฺตโต โอตริตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ สมฺปาปุณึสุ.
มนุสฺสา เตสํ อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา ภิกฺขํ ทตฺวา ปฏิฺํ คเหตฺวา อรฺเ รตฺติทิวฏฺานาทีนิ มาเปตฺวา วสาเปสุํ. อนฺตรามคฺเคปิ เนสํ ภตฺตกิจฺจกรณตฺถาย อุทกผาสุกฏฺาเน ปณฺณสาลํ กาเรสุํ. เต ปจฺจนฺตคาเม ภิกฺขํ จริตฺวา ตาย ปณฺณสาลาย นิสีทิตฺวา ¶ ปริภฺุชิตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉนฺติ. เตปิ มนุสฺสา เตสํ อาหารํ ททมานา เอกทา โลณํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา เทนฺติ, เอกทา ปณฺณปุเฏ พนฺธิตฺวา เทนฺติ, เอกทา อโลณกาหารเมว เทนฺติ. เต เอกทิวสํ ปณฺณปุเฏ พหุตรํ โลณํ อทํสุ. วิเทหตาปโส โลณํ อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ภตฺตกิจฺจกาเล ปโหนกํ ทตฺวา อตฺตโนปิ ปมาณยุตฺตํ คเหตฺวา อติเรกํ ปณฺณปุเฏ พนฺธิตฺวา ‘‘อโลณกทิวเส ภวิสฺสตี’’ติ ติณวฏฺฏิกอนฺตเร เปสิ. อเถกทิวสํ อโลณเก อาหาเร ลทฺเธ วิเทโห คนฺธารสฺส ภิกฺขาภาชนํ ทตฺวา ติณวฏฺฏิกอนฺตรโต โลณํ อาหริตฺวา ‘‘อาจริย, โลณํ คณฺหถา’’ติ อาห. ‘‘อชฺช มนุสฺเสหิ ¶ โลณํ น ทินฺนํ, ตฺวํ กุโต ลภสี’’ติ? ‘‘อาจริย, ปุริมทิวเส มนุสฺสา พหุํ โลณมทํสุ, อถาหํ ‘อโลณกทิวเส ภวิสฺสตี’ติ อติเรกํ โลณํ เปสิ’’นฺติ. อถ นํ โพธิสตฺโต ‘‘โมฆปุริส, ติโยชนสติกํ วิเทหรฏฺํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา อกิฺจนภาวํ ปตฺวา อิทานิ โลณสกฺขราย ตณฺหํ ชเนสี’’ติ ตชฺเชตฺวา โอวทนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘หิตฺวา ¶ คามสหสฺสานิ, ปริปุณฺณานิ โสฬส;
โกฏฺาคารานิ ผีตานิ, สนฺนิธึ ทานิ กุพฺพสี’’ติ.
ตตฺถ โกฏฺาคารานีติ สุวณฺณรชตมณิมุตฺตาทิรตนโกฏฺาคารานิ เจว ทุสฺสโกฏฺาคารานิ จ ธฺโกฏฺาคารานิ จ. ผีตานีติ ปูรานิ. สนฺนิธึ ทานิ กุพฺพสีติ อิทานิ ‘‘สฺเว ภวิสฺสติ, ตติยทิวเส ภวิสฺสตี’’ติ โลณมตฺตํ สนฺนิธึ กโรสีติ.
วิเทโห เอวํ ครหิยมาโน ครหํ อสหนฺโต ปฏิปกฺโข หุตฺวา ‘‘อาจริย, ตุมฺเห อตฺตโน โทสํ อทิสฺวา มยฺหเมว โทสํ ปสฺสถ, นนุ ตุมฺเห ‘กึ เม ปเรน โอวทิเตน, อตฺตานเมว โอวทิสฺสามี’ติ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิตา, ตุมฺเห อิทานิ มํ กสฺมา โอวทถา’’ติ โจเทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘หิตฺวา คนฺธารวิสยํ, ปหูตธนธาริยํ;
ปสาสนโต นิกฺขนฺโต, อิธ ทานิ ปสาสสี’’ติ.
ตตฺถ ปสาสนโตติ โอวาทานุสาสนีทานโต. อิธ ทานีติ อิทานิ อิธ อรฺเ กสฺมา มํ โอวทถาติ.
ตํ ¶ สุตฺวา โพธิสตฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘ธมฺมํ ภณามิ เวเทห, อธมฺโม เม น รุจฺจติ;
ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมนฺติ สภาวํ, พุทฺธาทีหิ วณฺณิตํ ปสตฺถํ การณเมว. อธมฺโม เม น รุจฺจตีติ อธมฺโม นาม อสภาโว มยฺหํ กทาจิปิ น รุจฺจติ. น ปาปมุปลิมฺปตีติ มม สภาวเมว การณเมว ภณนฺตสฺส ปาปํ นาม หทเย ¶ น ลิมฺปติ น อลฺลียติ. โอวาททานํ นาเมตํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกโพธิสตฺตานํ ปเวณี. เตหิ ทินฺโนวาทํ พาลา น คณฺหนฺติ, โอวาททายกสฺส ปน ปาปํ นาม นตฺถิ.
‘‘นิธีนํว ปวตฺตารํ, ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ;
นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวึ, ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช;
ตาทิสํ ภชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.
‘‘โอวเทยฺยานุสาเสยฺย, อสพฺภา จ นิวารเย;
สตฺหิ โส ปิโย โหติ, อสตํ โหติ อปฺปิโย’’ติ. (ธ. ป. ๗๖-๗๗);
วิเทหตาปโส โพธิสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อาจริย, อตฺถนิสฺสิตํ กเถนฺเตนปิ ปรํ ฆฏฺเฏตฺวา โรเสตฺวา กเถตุํ น ¶ วฏฺฏติ, ตฺวํ มํ กุณฺสตฺถเกน มุณฺเฑนฺโต วิย อติผรุสํ กเถสี’’ติ วตฺวา จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘เยน เกนจิ วณฺเณน, ปโร ลภติ รุปฺปนํ;
มหตฺถิยมฺปิ เจ วาจํ, น ตํ ภาเสยฺย ปณฺฑิโต’’ติ.
ตตฺถ เยน เกนจีติ ธมฺมยุตฺเตนาปิ การเณน. ลภติ รุปฺปนนฺติ ฆฏฺฏนํ ทุสฺสนํ กุปฺปนํ ลภติเยว. น ตํ ภาเสยฺยาติ ตสฺมา ตํ ปรปุคฺคลํ ยาย โส วาจาย ทุสฺสติ, ตํ มหตฺถิยํ มหนฺตํ อตฺถนิสฺสิตมฺปิ วาจํ น ภาเสยฺยาติ อตฺโถ.
อถสฺส โพธิสตฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘กามํ ¶ รุปฺปตุ วา มา วา, ภุสํว วิกิรียตุ;
ธมฺมํ เม ภณมานสฺส, น ปาปมุปลิมฺปตี’’ติ.
ตตฺถ กามนฺติ เอกํเสน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อยุตฺตการโก ปุคฺคโล ‘‘อยุตฺตํ เต กต’’นฺติ โอวทิยมาโน เอกํเสเนว กุชฺฌตุ วา มา วา กุชฺฌตุ, อถ วา ภุสมุฏฺิ วิย วิกิรียตุ, มยฺหํ ปน ธมฺมํ ภณนฺตสฺส ปาปํ นาม นตฺถีติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘น โว อหํ, อานนฺท, ตถา ปรกฺกมิสฺสามิ, ยถา กุมฺภกาโร อามเก อามกมตฺเต. นิคฺคยฺห นิคฺคยฺหาหํ อานนฺท, วกฺขามิ, โย ¶ สาโร โส สฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๙๖) อิมสฺส สุคโตวาทสฺส อนุรูปาย ปฏิปตฺติยา ตฺวา ‘‘ยถา กุมฺภกาโร ภาชเนสุ ปุนปฺปุนํ อาโกเฏตฺวา อาโกเฏตฺวา อามกํ อคฺคเหตฺวา สุปกฺกเมว ภาชนํ คณฺหาติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ โอวทิตฺวา นิคฺคณฺหิตฺวา ปกฺกภาชนสทิโส ปุคฺคโล คเหตพฺโพ’’ติ ทสฺเสตุํ ปุน ตํ โอวทนฺโต –
‘‘โน เจ อสฺส สกา พุทฺธิ, วินโย วา สุสิกฺขิโต;
วเน อนฺธมหึโสว, จเรยฺย พหุโก ชโน.
‘‘ยสฺมา จ ปนิเธกจฺเจ, อาเจรมฺหิ สุสิกฺขิตา;
ตสฺมา วินีตวินยา, จรนฺติ สุสมาหิตา’’ติ. – อิทํ คาถาทฺวยมาห;
ตสฺสตฺโถ ¶ – สมฺม เวเทห, อิเมสฺหิ สตฺตานํ สเจ อตฺตโน พุทฺธิ วา ปณฺฑิเต โอวาททายเก นิสฺสาย อาจารปณฺณตฺติวินโย วา สุสิกฺขิโต น ภเวยฺย, เอวํ สนฺเต ยถา ติณลตาทิคหเน วเน อนฺธมหึโส โคจราโคจรํ สาสงฺกนิราสงฺกฺจ านํ อชานนฺโต จรติ, ตถา ตุมฺหาทิโส พหุโก ชโน จเรยฺย. ยสฺมา ปน อิธ เอกจฺเจ สกาย พุทฺธิยา รหิตา สตฺตา อาจริยสนฺติเก อาจารปณฺณตฺติสุสิกฺขิตา, ตสฺมา อาจริเยหิ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูเปน วินเยน วินีตตฺตา วินีตวินยา สุสมาหิตา เอกคฺคจิตฺตา หุตฺวา จรนฺตีติ.
อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – อิมินา หิ สตฺเตน คิหินา หุตฺวา อตฺตโน กุลานุรูปา, ปพฺพชิเตน ปพฺพชิตานุรูปา สิกฺขา สิกฺขิตพฺพา. คิหิโนปิ หิ อตฺตโน กุลานุรูเปสุ กสิโครกฺขาทีสุ สิกฺขิตาว สมฺปนฺนาชีวา หุตฺวา สุสมาหิตา จรนฺติ, ปพฺพชิตาปิ ปพฺพชิตานุรูเปสุ ¶ ปาสาทิเกสุ อภิกฺกนฺตปฏิกฺกนฺตาทีสุ อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาสุ สิกฺขิตาว วิคตวิกฺเขปา สุสมาหิตา จรนฺติ. โลกสฺมิฺหิ –
‘‘พาหุสจฺจฺจ สิปฺปฺจ, วินโย จ สุสิกฺขิโต;
สุภาสิตา จ ยา วาจา, เอตํ มงฺคลมุตฺตม’’นฺติ. (ขุ. ปา. ๕.๕; สุ. นิ. ๒๖๔);
ตํ สุตฺวา เวเทหตาปโส ‘‘อาจริย, อิโต ปฏฺาย มํ โอวทถ อนุสาสถ, อหํ อนธิวาสนชาติกตาย ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถสึ, ตํ ¶ เม ขมถา’’ติ วนฺทิตฺวา มหาสตฺตํ ขมาเปสิ. เต สมคฺควาสํ วสิตฺวา ปุน หิมวนฺตเมว อคมํสุ. ตตฺร โพธิสตฺโต เวเทหตาปสสฺส กสิณปริกมฺมํ กเถสิ. โส ตํ กตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตสิ. อิติ เต อุโภปิ อปริหีนชฺฌานา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เวเทโห อานนฺโท อโหสิ, คนฺธารราชา ปน อหเมว อโหสี’’นฺติ.
คนฺธารชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๐๗] ๒. มหากปิชาตกวณฺณนา
อตฺตานํ สงฺกมํ กตฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต าตตฺถจริยํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ภทฺทสาลชาตเก (ชา. ๑.๑๒.๑๓ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สมฺมาสมฺพุทฺโธ าตกานํ อตฺถํ จรตี’’ติ. สตฺถา ¶ อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต าตีนํ อตฺถํ จริเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กปิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต อาโรหปริณาหสมฺปนฺโน ถามพลูเปโต ปฺจหตฺถิพลปริมาโณ อสีติสหสฺสกปิคณปริวุโต หิมวนฺตปเทเส วสติ. ตตฺถ คงฺคาตีรํ นิสฺสาย สาขาวิฏปสมฺปนฺโน สนฺทจฺฉาโย พหลปตฺโต ¶ ปพฺพตกูฏํ วิย สมุคฺคโต อมฺพรุกฺโข อโหสิ ‘‘นิคฺโรธรุกฺโข’’ติปิ วทนฺติ. ตสฺส มธุรานิ ผลานิ ทิพฺพคนฺธรสานิ มหนฺตานิ มหนฺตกุมฺภปฺปมาณานิ. ตสฺส เอกิสฺสา สาขาย ผลานิ ถเล ปตนฺติ, เอกิสฺสา สาขาย คงฺคาชเล, ทฺวินฺนํ สาขานํ ผลานิ มชฺเฌ รุกฺขมูเล ปตนฺติ. โพธิสตฺโต กปิคณํ อาทาย ตตฺถ ผลานิ ขาทนฺโต ‘‘เอกสฺมึ กาเล อิมสฺส รุกฺขสฺส อุทเก ปติตํ ผลํ นิสฺสาย อมฺหากํ ¶ ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อุทกมตฺถเก สาขาย เอกผลมฺปิ อนวเสเสตฺวา ปุปฺผกาเล กฬายมตฺตกาลโต ปฏฺาย ขาทาเปติ เจว ปาตาเปติ จ. เอวํ สนฺเตปิ อสีติวานรสหสฺเสหิ อทิฏฺํ กิปิลฺลิกปุฏปฏิจฺฉนฺนํ เอกํ ปกฺกผลํ นทิยํ ปติตฺวา อุทฺธฺจ อโธ จ ชาลํ พนฺธาเปตฺวา อุทกกีฬํ กีฬนฺตสฺส พาราณสิรฺโ อุทฺธํชาเล ลคฺคิ. รฺโ ทิวสํ กีฬิตฺวา สายํ คมนสมเย เกวฏฺฏา ชาลํ อุกฺขิปนฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘อสุกผลํ นามา’’ติ อชานนฺตา รฺโ ทสฺเสสุํ.
ราชา ‘‘กึผลํ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘น ชานาม, เทวา’’ติ. ‘‘เก ชานิสฺสนฺตี’’ติ? ‘‘วนจรกา, เทวา’’ติ. โส วนจรเก ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ สนฺติกา ‘‘อมฺพปกฺก’’นฺติ สุตฺวา ฉุริกาย ฉินฺทิตฺวา ปมํ วนจรเก ขาทาเปตฺวา ปจฺฉา อตฺตนาปิ ขาทิ, อิตฺถาคารสฺสาปิ ¶ อมจฺจานมฺปิ ทาเปสิ. รฺโ อมฺพปกฺกรโส สกลสรีรํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. โส รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส ิตฏฺานํ วนจรเก ปุจฺฉิตฺวา เตหิ ‘‘หิมวนฺตปเทเส นทีตีเร’’ติ วุตฺเต พหู นาวาสงฺฆาเฏ พนฺธาเปตฺวา วนจรเกหิ เทสิตมคฺเคน อุทฺธํโสตํ อคมาสิ. ‘‘เอตฺตกานิ ทิวสานี’’ติ ปริจฺเฉโท น กถิโต, อนุปุพฺเพน ปน ตํ านํ ปตฺวา ‘‘เอโส เทว, รุกฺโข’’ติ วนจรกา รฺโ อาจิกฺขึสุ. ราชา นาวํ เปตฺวา มหาชนปริวุโต ปทสา ตตฺถ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล สยนํ ปฺปาเปตฺวา อมฺพปกฺกานิ ขาทิตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา นิปชฺชิ, สพฺพทิสาสุ อารกฺขํ เปตฺวา อคฺคึ กรึสุ.
มหาสตฺโต มนุสฺเสสุ นิทฺทํ โอกฺกนฺเตสุ อฑฺฒรตฺตสมเย ปริสาย สทฺธึ อคมาสิ. อสีติสหสฺสวานรา สาขาย สาขํ จรนฺตา อมฺพานิ ขาทนฺติ. ราชา ปพุชฺฌิตฺวา กปิคณํ ทิสฺวา มนุสฺเส อุฏฺาเปตฺวา ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ยถา เอเต ผลขาทกา วานรา น ปลายนฺติ, ตถา เต ปริกฺขิปิตฺวา วิชฺฌถ, สฺเว อมฺพานิ เจว วานรมํสฺจ ขาทิสฺสามี’’ติ อาห. ธนุคฺคหา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รุกฺขํ ปริวาเรตฺวา สเร สนฺนยฺหิตฺวา อฏฺํสุ. เต ทิสฺวา วานรา มรณภยภีตา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตา มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, ‘ปลายนมกฺกเฏ วิชฺฌิสฺสามา’ติ รุกฺขํ ปริวาเรตฺวา ธนุคฺคหา ิตา, กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา กมฺปมานา อฏฺํสุ. โพธิสตฺโต ‘‘มา ภายิตฺถ, อหํ โว ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ วานรคณํ ¶ สมสฺสาเสตฺวา อุชุกํ อุคฺคตสาขํ อารุยฺห คงฺคาภิมุขํ ¶ คตสาขํ คนฺตฺวา ตสฺสา ปริยนฺตโต ปกฺขนฺทิตฺวา ธนุสตมตฺตํ านํ อติกฺกมฺม คงฺคาตีเร เอกสฺมึ คุมฺพมตฺถเก ปติตฺวา ตโต โอรุยฺห ‘‘มมาคตฏฺานํ เอตฺตกํ ภวิสฺสตี’’ติ อากาสํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ¶ เอกํ เวตฺตลตํ มูเล ฉินฺทิตฺวา โสเธตฺวา ‘‘เอตฺตกํ านํ รุกฺเข พชฺฌิสฺสติ, เอตฺตกํ อากาสฏฺํ ภวิสฺสตี’’ติ อิมานิ ทฺเว านานิ ววตฺถเปตฺวา อตฺตโน กฏิยํ พนฺธนฏฺานํ น สลฺลกฺเขสิ.
โส ตํ ลตํ อาทาย เอกํ โกฏึ คงฺคาตีเร ปติฏฺิตรุกฺเข พนฺธิตฺวา เอกํ อตฺตโน กฏิยํ พนฺธิตฺวา วาตจฺฉินฺนวลาหโก วิย เวเคน ธนุสตมตฺตํ านํ ลงฺฆิตฺวา กฏิยํ พนฺธนฏฺานสฺส อสลฺลกฺขิตตฺตา รุกฺขํ ปาปุณิตุํ อสกฺโกนฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ อมฺพสาขํ ทฬฺหํ คณฺหิตฺวา วานรคณสฺส สฺมทาสิ ‘‘สีฆํ มม ปิฏฺึ มทฺทมานา เวตฺตลตาย โสตฺถิคมนํ คจฺฉถา’’ติ. อสีติสหสฺสวานรา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา ตถา อคมํสุ. ตทา เทวทตฺโตปิ มกฺกโฏ หุตฺวา เตสํ อพฺภนฺตเร โหติ. โส ‘‘อยํ เม ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิตุํ กาโล’’ติ อุจฺจํ สาขํ อารุยฺห เวคํ ชเนตฺวา ตสฺส ปิฏฺิยํ ปติ. มหาสตฺตสฺส หทยํ ภิชฺชิ, พลวเวทนา อุปฺปชฺชิ. โสปิ ตํ เวทนาปฺปตฺตํ กตฺวา ปกฺกามิ. มหาสตฺโต เอกโกว อโหสิ. ราชา อนิทฺทายนฺโต วานเรหิ จ มหาสตฺเตน จ กตกิริยํ สพฺพํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ติรจฺฉาโน หุตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวา ปริสาย โสตฺถิภาวเมว อกาสี’’ติ จินฺเตนฺโต นิปชฺชิ.
โส ปภาตาย รตฺติยา มหาสตฺตสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘น ยุตฺตํ อิมํ กปิราชานํ นาเสตุํ, อุปาเยน นํ โอตาเรตฺวา ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ อนฺโตคงฺคาย นาวาสงฺฆาฏํ เปตฺวา ตตฺถ อฏฺฏกํ พนฺธาเปตฺวา สณิกํ มหาสตฺตํ โอตาราเปตฺวา ปิฏฺิยํ กาสาววตฺถํ ปตฺถราเปตฺวา คงฺโคทเกน นฺหาเปตฺวา ผาณิโตทกํ ปาเยตฺวา ปริสุทฺธสรีรํ สหสฺสปากเตเลน อพฺภฺชาเปตฺวา สยนปิฏฺเ เอฬกจมฺมํ สนฺถราเปตฺวา สณิกํ ตตฺถ นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตนา นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘อตฺตานํ ¶ สงฺกมํ กตฺวา, โย โสตฺถึ สมตารยิ;
กึ ตฺวํ เตสํ กิเม ตุยฺหํ, โหนฺติ เอเต มหากปี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – อมฺโภ มหากปิ, โย ตฺวํ อตฺตานํ สงฺกมํ กตฺวา ตุลํ อาโรเปตฺวา ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา อิเม วานเร โสตฺถึ สมตารยิ, เขเมน สนฺตาเรสิ; กึ ตฺวํ เตสํ โหสิ, กิเม ตุยฺหํ วา กึสุ เอเต โหนฺตีติ?
ตํ ¶ สุตฺวา โพธิสตฺโต ราชานํ โอวทนฺโต เสสคาถา อภาสิ –
‘‘ราชาหํ อิสฺสโร เตสํ, ยูถสฺส ปริหารโก;
เตสํ โสกปเรตานํ, ภีตานํ เต อรินฺทม.
‘‘อุลฺลงฺฆยิตฺวา อตฺตานํ, วิสฺสฏฺธนุโน สตํ;
ตโต อปรปาเทสุ, ทฬฺหํ พนฺธํ ลตาคุณํ.
‘‘ฉินฺนพฺภมิว วาเตน, นุณฺโณ รุกฺขํ อุปาคมึ;
โสหํ อปฺปภวํ ตตฺถ, สาขํ หตฺเถหิ อคฺคหึ.
‘‘ตํ มํ วิยายตํ สนฺตํ, สาขาย จ ลตาย จ;
สมนุกฺกมนฺตา ปาเทหิ, โสตฺถึ สาขามิคา คตา.
‘‘ตํ มํ น ตปเต พนฺโธ, มโต เม น ตเปสฺสติ;
สุขมาหริตํ เตสํ, เยสํ รชฺชมการยึ.
‘‘เอสา เต อุปมา ราช, ตํ สุโณหิ อรินฺทม;
รฺา รฏฺสฺส โยคฺคสฺส, พลสฺส นิคมสฺส จ;
สพฺเพสํ สุขเมฏฺพฺพํ, ขตฺติเยน ปชานตา’’ติ.
ตตฺถ เตสนฺติ เตสํ อสีติสหสฺสานํ วานรานํ. ภีตานํ เตติ ตว วิชฺฌนตฺถาย อาณาเปตฺวา ิตสฺส ภีตานํ. อรินฺทมาติ ราชานํ อาลปติ. ราชา หิ โจราทีนํ อรีนํ ทมนโต ‘‘อรินฺทโม’’ติ วุจฺจติ. วิสฺสฏฺธนุโน สตนฺติ อนาโรปิตธนุสตปฺปมาณํ านํ อตฺตานํ อากาเส อุลฺลงฺฆยิตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา ตโต อิมมฺหา รุกฺขา ลงฺฆยิตฺวา คตฏฺานโต. อปรปาเทสูติ ปจฺฉาปาเทสุ. อิทํ กฏิภาคํ สนฺธาย วุตฺตํ. โพธิสตฺโต หิ กฏิภาเค ตํ ลตาคุณํ ทฬฺหํ พนฺธิตฺวา ปจฺฉิมปาเทหิ ภูมิยํ อกฺกมิตฺวา วิสฺสชฺเชตฺวา วาตเวเคน อากาสํ ปกฺขนฺทิ. นุณฺโณ ¶ รุกฺขํ อุปาคมินฺติ วาตจฺฉินฺนํ อพฺภมิว อตฺตโน ¶ เวคชนิเตน วาเตน นุณฺโณ. ยถา วาตจฺฉินฺนพฺภํ วาเตน, เอวํ อตฺตโน เวเคน นุณฺโณ หุตฺวา อิมํ อมฺพรุกฺขํ อุปาคมึ ¶ . อปฺปภวนฺติ โส อหํ ตตฺถ อากาสปฺปเทเส รุกฺขํ ปาปุณิตุํ อปฺปโหนฺโต ตสฺส รุกฺขสฺส สาขํ หตฺเถหิ อคฺคเหสินฺติ อตฺโถ.
วิยายตนฺติ รุกฺขสาขาย จ เวตฺตลตาย จ วีณาย ภมรตนฺติ วิย วิตตํ อากฑฺฒิตสรีรํ. สมนุกฺกมนฺตาติ มยา อนฺุาตา มํ วนฺทิตฺวา ปาเทหิ อนุกฺกมนฺตา นิรนฺตรเมว อกฺกมนฺตา โสตฺถึ คตา. ตํ มํ น ตปเต พนฺโธติ ตํ มํ นาปิ โส วลฺลิยา พนฺโธ ตปติ, นาปิ อิทานิ มรณํ ตเปสฺสติ. กึการณา? สุขมาหริตํ เตสนฺติ ยสฺมา เยสํ อหํ รชฺชมการยึ, เตสํ มยา สุขมาหริตํ. เอเต หิ ‘‘มหาราช, อยํ โน อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ หริตฺวา สุขํ อาหริสฺสตี’’ติ มํ ราชานํ อกํสุ. อหมฺปิ ‘‘ตุมฺหากํ อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ หริสฺสามิ’’จฺเจว เอเตสํ ราชา ชาโต. ตํ อชฺช มยา เอเตสํ มรณทุกฺขํ หริตฺวา ชีวิตสุขํ อาหฏํ, เตน มํ นาปิ พนฺโธ ตปติ, น มรณวโธ ตเปสฺสติ.
เอสา เต อุปมาติ เอสา เต มหาราช, มยา กตกิริยาย อุปมา. ตํ สุโณหีติ ตสฺมา อิมาย อุปมาย สํสนฺเทตฺวา อตฺตโน ทิยฺยมานํ โอวาทํ สุณาหิ. รฺา รฏฺสฺสาติ มหาราช, รฺา นาม อุจฺฉุยนฺเต อุจฺฉุํ วิย รฏฺํ อปีเฬตฺวา จตุพฺพิธํ อคติคมนํ ปหาย จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคณฺหนฺเตน ทสสุ ราชธมฺเมสุ ปติฏฺาย มยา วิย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ‘‘กินฺติเม รฏฺวาสิโน วิคตภยา คิมฺหกาเล วิวฏทฺวาเร าตีหิ จ ปริวารเกหิ จ ปริวาริตา อุเร ปุตฺเต นจฺเจนฺตา สีเตน วาเตน พีชิยมานา ยถารุจิ อตฺตโน อตฺตโน สนฺตกํ ปริภฺุชนฺตา กายิกเจตสิกสุขสมงฺคิโน ภเวยฺยุ’’นฺติ สกลรฏฺสฺส จ รถสกฏาทิยุตฺตวาหนสฺส โยคฺคสฺส จ ปตฺติสงฺขาตสฺส พลสฺส จ นิคมชนปทสงฺขาตสฺส นิคมสฺส จ สพฺเพสํ สุขเมว เอสิตพฺพํ คเวสิตพฺพนฺติ อตฺโถ. ขตฺติเยน ปชานตาติ เขตฺตานํ อธิปติภาเวน ‘‘ขตฺติโย’’ติ ลทฺธนาเมน ปน เอเตน อวเสสสตฺเต อติกฺกมฺม ปชานตา าณสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพนฺติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต ราชานํ โอวทนฺโต อนุสาสนฺโตว กาลมกาสิ. ราชา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมสฺส กปิราชสฺส ราชูนํ วิย สรีรกิจฺจํ กโรถา’’ติ วตฺวา อิตฺถาคารมฺปิ อาณาเปสิ ‘‘ตุมฺเห รตฺตวตฺถนิวตฺถา วิกิณฺณเกสา ทณฺฑทีปิกหตฺถา กปิราชานํ ปริวาเรตฺวา อาฬาหนํ คจฺฉถา’’ติ. อมจฺจา ¶ ทารูนํ สกฏสตมตฺเตน จิตกํ กริตฺวา ราชูนํ กรณนิยาเมเนว มหาสตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา สีสกปาลํ คเหตฺวา รฺโ สนฺติกํ อคมํสุ. ราชา มหาสตฺตสฺส อาฬาหเน เจติยํ กาเรตฺวา ทีเป ชาลาเปตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ¶ สีสกปาลํ สุวณฺณขจิตํ กาเรตฺวา กุนฺตคฺเค เปตฺวา ปุรโต กตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺโต พาราณสึ คนฺตฺวา อนฺโตราชทฺวาเร เปตฺวา สกลนครํ สชฺชาเปตฺวา สตฺตาหํ ธาตุปูชํ กาเรสิ. อถ นํ ธาตุํ คเหตฺวา เจติยํ กาเรตฺวา ยาวชีวํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ปติฏฺาย ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ทุฏฺกปิ เทวทตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, กปิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มหากปิชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๐๘] ๓. กุมฺภการชาตกวณฺณนา
อมฺพาหมทฺทํ วนมนฺตรสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปานียชาตเก (ชา. ๑.๑๑.๕๙ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สาวตฺถิยํ ปฺจสตา สหายกา ปพฺพชิตฺวา อนฺโตโกฏิสนฺถาเร วสมานา อฑฺฒรตฺตสมเย กามวิตกฺกํ วิตกฺกยึสุ. สตฺถา อตฺตโน สาวเก รตฺติยา ตโย วาเร, ทิวสสฺส ตโย วาเรติ รตฺตินฺทิวํ ฉ วาเร โอโลเกนฺโต กิกี อณฺฑํ วิย, จมรี วาลธึ วิย, มาตา ปิยปุตฺตํ วิย, เอกจกฺขุโก ปุริโส จกฺขุํ วิย รกฺขติ, ตสฺมึ ตสฺมึเยว ขเณ อุปฺปนฺนกิเลสํ นิคฺคณฺหาติ. โส ตํ ทิวสํ อฑฺฒรตฺตสมเย เชตวนํ ¶ ปริคฺคณฺหนฺโต เตสํ ภิกฺขูนํ วิตกฺกสมุทาจารํ ตฺวา ‘‘อิเมสํ ภิกฺขูนํ อพฺภนฺตเร อยํ กิเลโส วฑฺฒนฺโต อรหตฺตสฺส เหตุํ ภินฺทิสฺสติ, อิทาเนว เนสํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ทสฺสามี’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา อานนฺทตฺเถรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อานนฺท, อนฺโตโกฏิสนฺถาเร ¶ วสนกภิกฺขู สพฺเพ สนฺนิปาเตหี’’ติ สนฺนิปาตาเปตฺวา ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อนฺโตปวตฺตกิเลสานํ วเส วตฺติตุํ วฏฺฏติ, กิเลโส หิ วฑฺฒมาโน ปจฺจามิตฺโต วิย มหาวินาสํ ปาเปติ, ภิกฺขุนา นาม อปฺปมตฺตกมฺปิ กิเลสํ นิคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏติ, โปราณกปณฺฑิตา อปฺปมตฺตกํ อารมฺมณํ ทิสฺวา อพฺภนฺตเร ปวตฺตกิเลสํ นิคฺคณฺหิตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต พาราณสินครสฺส ทฺวารคาเม กุมฺภการกุเล ¶ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา เอกํ ปุตฺตฺจ ธีตรฺจ ลภิตฺวา กุมฺภการกมฺมํ นิสฺสาย ปุตฺตทารํ โปเสสิ. ตทา กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร กรณฺฑโก นาม ราชา มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คจฺฉนฺโต อุยฺยานทฺวาเร ผลภารภริตํ มธุรผลํ อมฺพรุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถิกฺขนฺธวรคโตเยว หตฺถํ ปสาเรตฺวา เอกํ อมฺพปิณฺฑํ คเหตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มงฺคลสิลาย นิสินฺโน ทาตพฺพยุตฺตกานํ ทตฺวา อมฺพํ ปริภฺุชิ. ‘‘รฺา คหิตกาลโต ปฏฺาย เสเสหิ นาม คเหตพฺพเมวา’’ติ อมจฺจาปิ พฺราหฺมณคหปติกาทโยปิ อมฺพานิ ปาเตตฺวา ขาทึสุ. ปจฺฉา อาคตา รุกฺขํ อารุยฺห มุคฺคเรหิ โปเถตฺวา โอภคฺควิภคฺคสาขํ กตฺวา อามกผลมฺปิ อเสเสตฺวา ขาทึสุ.
ราชา ทิวสํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา สายนฺหสมเย อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวเร นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต ตํ รุกฺขํ ทิสฺวา หตฺถิโต โอตริตฺวา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา รุกฺขํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ปาโตว ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกโร ผลภารภริโต โสภมาโน อฏฺาสิ, อิทานิ คหิตผโล โอภคฺควิภคฺโค อโสภมาโน ิโต’’ติ จินฺเตตฺวา ปุน อฺโต โอโลเกนฺโต อปรํ นิปฺผลํ อมฺพรุกฺขํ ทิสฺวา ‘‘เอส รุกฺโข อตฺตโน นิปฺผลภาเวน มุณฺฑมณิปพฺพโต วิย โสภมาโน ิโต, อยํ ¶ ปน สผลภาเวน อิมํ พฺยสนํ ¶ ปตฺโต, อิทํ อคารมชฺฌมฺปิ ผลิตรุกฺขสทิสํ, ปพฺพชฺชา นิปฺผลรุกฺขสทิสา, สธนสฺเสว ภยํ อตฺถิ, นิทฺธนสฺส ภยํ นตฺถิ, มยาปิ นิปฺผลรุกฺเขน วิย ภวิตพฺพ’’นฺติ ผลรุกฺขํ อารมฺมณํ กตฺวา รุกฺขมูเล ิตโกว ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘วิทฺธํสิตา ทานิ เม มาตุกุจฺฉิกุฏิกา, ฉินฺนา ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธิ, โสธิตา สํสารอุกฺการภูมิ, โสสิโต มยา อสฺสุสมุทฺโท, ภินฺโน อฏฺิปากาโร, นตฺถิ เม ปุน ปฏิสนฺธี’’ติ อาวชฺเชนฺโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโตว อฏฺาสิ.
อถ นํ อมจฺจา อาหํสุ ‘‘อติพหุํ ิตตฺถ, มหาราชา’’ติ. ‘‘น มยํ มหาราชาโน, ปจฺเจกพุทฺธา นาม มย’’นฺติ. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธา นาม ตุมฺหาทิสา น โหนฺติ, เทวา’’ติ. ‘‘อถ กีทิสา โหนฺตี’’ติ? ‘‘โอโรปิตเกสมสฺสุกาสาววตฺถปฏิจฺฉนฺนา กุเล วา คเณ วา อลคฺคา วาตจฺฉินฺนวลาหกราหุมุตฺตจนฺทมณฺฑลปฏิภาคา หิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร วสนฺติ, เอวรูปา เทว, ปจฺเจกพุทฺธา’’ติ. ตสฺมึ ขเณ ราชา หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา สีสํ ปรามสิ, ตาวเทวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สมณลิงฺคํ ปาตุรโหสิ.
‘‘ติจีวรฺจ ¶ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;
ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ. –
เอวํ วุตฺตา สมณปริกฺขารา กายปฏิพทฺธาว อเหสุํ. โส อากาเส ตฺวา มหาชนสฺส โอวาทํ ทตฺวา อนิลปเถน อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภารเมว อคมาสิ.
คนฺธารรฏฺเปิ ตกฺกสิลนคเร นคฺคชิ นาม ราชา อุปริปาสาเท ปลฺลงฺกมชฺฌคโต เอกํ อิตฺถึ เอเกกหตฺเถ เอเกกํ มณิวลยํ ปิฬนฺธิตฺวา อวิทูเร นิสีทิตฺวา คนฺธํ ปิสมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตานิ วลยานิ เอเกกภาเวน น ฆฏฺเฏนฺติ น วิรวนฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต นิสีทิ. อถ สา ทกฺขิณหตฺถโต วลยํ ¶ วามหตฺเถเยว ปิฬนฺธิตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน คนฺธํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปิสิตุํ อารภิ, วามหตฺเถ วลยํ ทุติยํ อาคมฺม ฆฏฺฏิยมานํ สทฺทมกาสิ. ราชา ตานิ ทฺเว วลยานิ อฺมฺํ ฆฏฺเฏนฺตานิ วิรวนฺตานิ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิทํ วลยํ เอเกกกาเล น ฆฏฺเฏสิ, ทุติยํ อาคมฺม ฆฏฺเฏติ, สทฺทํ กโรติ, เอวเมว อิเม สตฺตาปิ เอเกกา ¶ น ฆฏฺเฏนฺติ น วิวทนฺติ, ทฺเว ตโย หุตฺวา อฺมฺํ ฆฏฺเฏนฺติ, กลหํ กโรนฺติ. อหํ ปน กสฺมีรคนฺธาเรสุ ทฺวีสุ รชฺเชสุ รฏฺวาสิโน วิจาเรมิ, มยาปิ เอกวลยสทิเสน หุตฺวา ปรํ อวิจาเรตฺวา อตฺตานเมว วิจาเรนฺเตน วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สงฺฆฏฺฏนวลยํ อารมฺมณํ กตฺวา ยถานิสินฺโนว ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตสิ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
วิเทหรฏฺเ มิถิลนคเร นิมิ นาม ราชา ภุตฺตปาตราโส อมจฺจคณปริวุโต วิวฏสีหปฺชเรน อนฺตรวีถึ เปกฺขมาโน อฏฺาสิ. อเถโก เสโน สูนาปณโต มํสเปสึ คเหตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. ตเมนํ อิโต จิโต จ คิชฺฌาทโย สกุณา สมฺปริวาเรตฺวา อาหารเหตุ ตุณฺเฑน วิชฺฌนฺตา ปกฺเขหิ ปหรนฺตา ปาเทหิ มทฺทนฺตา อคมํสุ. โส อตฺตโน วธํ อสหมาโน ตํ มํสํ ฉฑฺเฑสิ. อฺโ คณฺหิ, สกุณา อิมํ มฺุจิตฺวา ตํ อนุพนฺธึสุ. เตนปิ วิสฺสฏฺํ อฺโ อคฺคเหสิ, ตมฺปิ ตเถว วิเหเสุํ. ราชา เต สกุเณ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘โย โย มํสเปสึ คณฺหิ, ตสฺส ตสฺเสว ทุกฺขํ, โย โย ตํ วิสฺสชฺเชสิ, ตสฺส ตสฺเสว สุขํ, อิเมปิ ปฺจ กามคุเณ โย โย คณฺหาติ, ตสฺส ตสฺเสว ทุกฺขํ, อิตรสฺส สุขํ, อิเม หิ พหูนํ สาธารณา, มยฺหํ โข ปน โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ, มยา วิสฺสฏฺมํสปิณฺเฑน วิย เสเนน ปฺจ กามคุเณ ปหาย สุขิเตน ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส โยนิโส มนสิ กโรนฺโต ยถาิโตว ¶ ¶ ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตสิ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อุตฺตรปฺจาลรฏฺเ กปิลนคเร ทุมฺมุโข นาม ราชา ภุตฺตปาตราโส สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อมจฺจคณปริวุโต วิวฏสีหปฺชเร ราชงฺคณํ โอโลเกนฺโต อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ โคปาลกา วชทฺวารํ วิวรึสุ, อุสภา วชโต นิกฺขมิตฺวา กิเลสวเสน เอกํ คาวึ อนุพนฺธึสุ. ตตฺเถโก ติขิณสิงฺโค มหาอุสโภ อฺํ อุสภํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา กิเลสมจฺเฉราภิภูโต ติขิเณน สิงฺเคน อนฺตรสตฺถิมฺหิ ปหริ. ตสฺส ปหารมุเขน อนฺตานิ นิกฺขมึสุ, โส ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. ราชา ตํ ¶ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิเม สตฺตา ติรจฺฉานคเต อาทึ กตฺวา กิเลสวเสน ทุกฺขํ ปาปุณนฺติ, อยํ อุสโภ กิเลสํ นิสฺสาย ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, อฺเปิ สตฺตา กิเลเสเหว กมฺปนฺติ, มยา อิเมสํ สตฺตานํ กมฺปนกิเลเส ปหาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ิตโกว ตีณิ ลกฺขณานิ สลฺลกฺเขตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตสิ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
อเถกทิวสํ จตฺตาโร ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขาจารเวลํ สลฺลกฺเขตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารา นิกฺขมฺม อโนตตฺตทเห นาคลตาทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา กตสรีรปฏิชคฺคนา มโนสิลาตเล ตฺวา นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อิทฺธิยา อากาเส อุปฺปติตฺวา ปฺจวณฺณวลาหเก มทฺทมานา คนฺตฺวา พาราณสินครทฺวารคามกสฺส อวิทูเร โอตริตฺวา เอกสฺมึ ผาสุกฏฺาเน จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ทฺวารคามํ ปวิสิตฺวา ปิณฺฑาย จรนฺตา โพธิสตฺตสฺส เคหทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. โพธิสตฺโต เต ทิสฺวา ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา เคหํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา สงฺฆตฺเถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา อติวิย โสภติ, วิปฺปสนฺนานิ โว อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ, กึ นุ โข อารมฺมณํ ทิสฺวา ¶ ตุมฺเห อิมํ ภิกฺขาจริยปพฺพชฺชํ อุปคตา’’ติ ปุจฺฉิ. ยถา จ สงฺฆตฺเถรํ, เอวํ เสเสปิ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ. อถสฺส เต จตฺตาโรปิ ชนา ‘‘อหํ อสุกนคเร อสุกรฏฺเ อสุกราชา นาม หุตฺวา’’ติอาทินา นเยน อตฺตโน อตฺตโน อภินิกฺขมนวตฺถูนิ กเถตฺวา ปฏิปาฏิยา เอเกกํ คาถมาหํสุ –
‘‘อมฺพาหมทฺทํ วนมนฺตรสฺมึ, นิโลภาสํ ผลิตํ สํวิรูฬฺหํ;
ตมทฺทสํ ผลเหตุ วิภคฺคํ, ตํ ทิสฺวา ภิกฺขาจริยํ จรามิ.
‘‘เสลํ ¶ สุมฏฺํ นรวีรนิฏฺิตํ, นารี ยุคํ ธารยิ อปฺปสทฺทํ;
ทุติยฺจ อาคมฺม อโหสิ สทฺโท, ตํ ทิสฺวา ภิกฺขาจริยํ จรามิ.
‘‘ทิชา ¶ ทิชํ กุณปมาหรนฺตํ, เอกํ สมานํ พหุกา สเมจฺจ;
อาหารเหตู ปริปาตยึสุ, ตํ ทิสฺวา ภิกฺขาจริยํ จรามิ.
‘‘อุสภาหมทฺทํ ยูถสฺส มชฺเฌ, จลกฺกกุํ วณฺณพลูปปนฺนํ;
ตมทฺทสํ กามเหตุ วิตุนฺนํ, ตํ ทิสฺวา ภิกฺขาจริยํ จรามี’’ติ.
ตตฺถ อมฺพาหมทฺทนฺติ อมฺพรุกฺขํ อหํ อทฺทสํ. วนมนฺตรสฺมินฺติ วนอนฺตเร, อมฺพวนมชฺเฌติ อตฺโถ. สํวิรูฬฺหนฺติ สุวฑฺฒิตํ. ตมทฺทสนฺติ ตํ อุยฺยานโต นิกฺขนฺโต ผลเหตุ วิภคฺคํ ปุน อทฺทสํ. ตํ ทิสฺวาติ ตํ ผลเหตุ วิภคฺคํ ทิสฺวา ปฏิลทฺธสํเวโค ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อิมํ ภิกฺขาจริยปพฺพชฺชํ อุปคโตสฺมิ, ตสฺมา ภิกฺขาจริยํ จรามีติ. อิทํ โส ผลเหตุ วิภคฺคํ อมฺพรุกฺขํ ทสฺสนโต ปฏฺาย สพฺพํ จิตฺตาจารํ กเถสิ. เสสานํ วิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปเนตฺถ อนุตฺตานปทวณฺณนา – เสลนฺติ มณิวลยํ. นรวีรนิฏฺิตนฺติ วีรนเรหิ นิฏฺิตํ, ปณฺฑิตปุริเสหิ ¶ กตนฺติ อตฺโถ. ยุคนฺติ เอเกกสฺมึ เอเกกํ กตฺวา เอกํ วลยยุคฬํ. ทิชา ทิชนฺติ คหิตมํสปิณฺฑํ ทิชํ อวเสสทิชา. กุณปมาหรนฺตนฺติ มํสปิณฺฑํ อาทาย อาหรนฺตํ. สเมจฺจาติ สมาคนฺตฺวา สนฺนิปติตฺวา. ปริปาตยึสูติ โกฏฺเฏนฺตา อนุพนฺธึสุ. อุสภาหมทฺทนฺติ อุสภํ อหํ อทฺทสํ. จลกฺกกุนฺติ จลกฺกกุธํ.
โพธิสตฺโต เอเกกํ คาถํ สุตฺวา ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ตุมฺหากเมว ตํ อารมฺมณํ อนุรูป’’นฺติ เอเกกสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ถุตึ อกาสิ. ตฺจ ปน จตูหิ ชเนหิ เทสิตํ ธมฺมกถํ สุตฺวา ฆราวาเส อนเปกฺโข หุตฺวา ปกฺกนฺเตสุ ปจฺเจกพุทฺเธสุ ภุตฺตปาตราโส สุขนิสินฺโน ภริยํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, เอเต จตฺตาโร ปจฺเจกพุทฺธา รชฺชํ ปหาย ปพฺพชิตฺวา อกิฺจนา อปลิโพธา ปพฺพชฺชาสุเขน วีตินาเมนฺติ, อหํ ปน ภติยา ชีวิกํ กปฺเปมิ, กึ เม ฆราวาเสน, ตฺวํ ปุตฺตเก สงฺคณฺหนฺตี เคเห วสา’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘กรณฺฑโก ¶ ¶ กลิงฺคานํ, คนฺธารานฺจ นคฺคชิ;
นิมิราชา วิเทหานํ, ปฺจาลานฺจ ทุมฺมุโข;
เอเต รฏฺานิ หิตฺวาน, ปพฺพชึสุ อกิฺจนา.
‘‘สพฺเพปิเม เทวสมา สมาคตา, อคฺคี ยถา ปชฺชลิโต ตเถวิเม;
อหมฺปิ เอโก จริสฺสามิ ภคฺควิ, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานี’’ติ.
ตาสํ อตฺโถ – ภทฺเท, เอส สงฺฆตฺเถโร ปจฺเจกพุทฺโธ ทนฺตปุเร นาม นคเร กรณฺฑโก นาม กลิงฺคานํ ชนปทสฺส ราชา, ทุติโย ตกฺกสิลนคเร นคฺคชิ นาม คนฺธารานํ ชนปทสฺส ราชา, ตติโย มิถิลนคเร นิมิ นาม วิเทหานํ ชนปทสฺส ราชา, จตุตฺโถ กปิลนคเร ทุมฺมุโข นาม อุตฺตรปฺจาลานํ ชนปทสฺส ราชา, เอเต เอวรูปานิ รฏฺานิ หิตฺวา อกิฺจนา หุตฺวา ปพฺพชึสุ. สพฺเพปิเมติ อิเม ปน สพฺเพปิ วิสุทฺธิเทเวหิ ปุริมปจฺเจกพุทฺเธหิ สมานา เอกโต สมาคตา. อคฺคี ยถาติ ยถา หิ อคฺคิ ปชฺชลิโต โอภาสติ. ตเถวิเมติ อิเมปิ ตเถว ¶ สีลาทีหิ ปฺจหิ คุเณหิ โอภาสนฺติ. ยถา เอเต, ตถา อหมฺปิ ปพฺพชิตฺวา เอโก จริสฺสามีติ อตฺโถ. ภคฺควีติ ภริยํ อาลปติ. หิตฺวาน กามานีติ รูปาทโย วตฺถุกาเม หิตฺวา. ยโถธิกานีติ อตฺตโน โอธิวเสน ิตานิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – รูปาทิโอธิวเสน ยถาิเต กาเม ปหาย อหมฺปิ ปพฺพชิตฺวา เอโก จริสฺสามีติ. ‘‘ยโตธิกานี’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – ยโต อุปรโต โอธิ เอเตสนฺติ ยโตธิกานิ, อุปรตโกฏฺาสานิ. ปพฺพชิสฺสามีติ จินฺติตกาลโต ปฏฺาย หิ กิเลสกามานํ เอโก โกฏฺาโส อุปรโต นาม โหติ นิรุทฺโธ, ตสฺส วตฺถุภูโต กามโกฏฺาโสปิ อุปรโตว โหตีติ.
สา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘มยฺหมฺปิ โข สามิ, ปจฺเจกพุทฺธานํ ธมฺมกถํ สุตกาลโต ปฏฺาย อคาเร จิตฺตํ น สณฺาตี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
‘‘อยเมว ¶ กาโล น หิ อฺโ อตฺถิ, อนุสาสิตา เม น ภเวยฺย ปจฺฉา;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ ภคฺคว, สกุณีว มุตฺตา ปุริสสฺส หตฺถา’’ติ.
ตตฺถ อนุสาสิตา เม น ภเวยฺย ปจฺฉาติ อนุสาสโก โอวาทโก น ภเวยฺย ทุลฺลภตฺตา โอวาทกานํ, ตสฺมา อยเมว ปพฺพชิตุํ กาโล, น หิ อฺโ อตฺถีติ ทสฺเสติ. สกุณีว มุตฺตาติ ยถา สากุณิเกน คเหตฺวา สกุณปจฺฉิยํ ขิตฺตาสุ สกุณีสุ ตสฺส หตฺถโต มุตฺตา เอกา สกุณี ¶ อนิลปถํ ลงฺฆยิตฺวา ยถารุจิตฏฺานํ คนฺตฺวา เอกิกาว จเรยฺย, ตถา อหมฺปิ ตว หตฺถโต มุตฺตา เอกิกา จริสฺสามีติ สยมฺปิ ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา เอวมาห.
โพธิสตฺโต ตสฺสา กถํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. สา ปน โพธิสตฺตํ วฺเจตฺวา ปุเรตรํ ปพฺพชิตุกามา ‘‘สามิ, ปานียติตฺถํ คมิสฺสามิ, ทารเก โอโลเกหี’’ติ ฆฏํ อาทาย คจฺฉนฺตี วิย ปลายิตฺวา นครสามนฺเต ตาปสานํ สนฺติเก คนฺตฺวา ปพฺพชิ. โพธิสตฺโต ตสฺสา อนาคมนํ ตฺวา สยํ ทารเก โปเสสิ. อปรภาเค เตสุ โถกํ วฑฺฒิตฺวา อตฺตโน อยานยชานนสมตฺถตํ สมฺปตฺเตสุ เตสํ วีมํสนตฺถํ เอกทิวสํ ¶ ภตฺตํ ปจนฺโต โถกํ อุตฺตณฺฑุลํ ปจิ, เอกทิวสํ โถกํ กิลินฺนํ, เอกทิวสํ สุปกฺกํ, เอกทิวสํ อติกิลินฺนํ, เอกทิวสํ อโลณกํ, เอกทิวสํ อติโลณกํ. ทารกา ‘‘ตาต, อชฺช ภตฺตํ อุตฺตณฺฑุลํ, อชฺช กิลินฺนํ, อชฺช สุปกฺกํ, อชฺช อติกิลินฺนํ, อชฺช อโลณกํ, อชฺช อติโลณก’’นฺติ อาหํสุ. ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘อาม, ตาตา’’ติ วตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิเม ทารกา อิทานิ อามปกฺกโลณิกอติโลณิกานิ ชานนฺติ, อตฺตโน ธมฺมตาย ชีวิตุํ สกฺขิสฺสนฺติ, มยา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อถ เต ทารเก าตกานํ ทตฺวา ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘อมฺมตาตา, อิเม ทารเก สาธุกํ โปเสถา’’ติ วตฺวา โส าตกานํ ปริเทวนฺตานฺเว นครา นิกฺขมิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นครสฺส สามนฺเตเยว วสิ.
อถ นํ เอกทิวสํ พาราณสิยํ ภิกฺขาย จรนฺตํ ปริพฺพาชิกา ทิสฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อยฺย, ทารกา เต นาสิตา มฺเ’’ติ อาห. มหาสตฺโต ‘‘นาหํ ทารเก นาเสมิ, เตสํ อตฺตโน อยานยชานนกาเล ปพฺพชิโตมฺหิ ¶ , ตฺวํ เตสํ อจินฺเตตฺวา ปพฺพชฺชาย อภิรมา’’ติ วตฺวา โอสานคาถมาห –
‘‘อามํ ปกฺกฺจ ชานนฺติ, อโถ โลณํ อโลณกํ;
ตมหํ ทิสฺวาน ปพฺพชึ, จเรว ตฺวํ จรามห’’นฺติ.
ตตฺถ ตมหนฺติ ตํ อหํ ทารกานํ กิริยํ ทิสฺวา ปพฺพชิโต. จเรว ตฺวํ จรามหนฺติ ตฺวมฺปิ ภิกฺขาจริยเมว จร, อหมฺปิ ภิกฺขาจริยเมว จริสฺสามีติ.
อิติ โส ปริพฺพาชิกํ โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. สาปิ โอวาทํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ¶ ยถารุจิตํ านํ คตา. เปตฺวา กิร ตํ ทิวสํ น เต ปุน อฺมฺํ อทฺทสํสุ. โพธิสตฺโต จ ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน เต ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. ตทา ธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, ปุตฺโต ราหุลกุมาโร, ปริพฺพาชิกา ราหุลมาตา, ปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.
กุมฺภการชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๐๙] ๔. ทฬฺหธมฺมชาตกวณฺณนา
อหํ เจ ¶ ทฬฺหธมฺมสฺสาติ อิทํ สตฺถา โกสมฺพึ นิสฺสาย โฆสิตาราเม วิหรนฺโต อุเทนสฺส รฺโ ภทฺทวติกํ หตฺถินึ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺสา ปน หตฺถินิยา ลทฺธวิธานฺจ อุเทนสฺส ราชวํโส จ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. เอกทิวสํ ปน สา หตฺถินี นครา นิกฺขมนฺตี ภควนฺตํ ปาโตว อริยคณปริวุตํ อโนมาย พุทฺธสิริยา นครํ ปิณฺฑาย ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ตถาคตสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘ภควา สพฺพฺุ สพฺพโลกนิตฺถรณ อุเทโน วํสราชา มํ ตรุณกาเล กมฺมํ นิตฺถริตุํ สมตฺถกาเล ‘อิมํ นิสฺสาย มยา ชีวิตฺจ รชฺชฺจ เทวี จ ลทฺธา’ติ ปิยายิตฺวา มหนฺตํ ปริหารํ อทาสิ, สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ิตฏฺานํ ¶ คนฺเธน ปริภณฺฑํ กาเรตฺวา มตฺถเก สุวณฺณตารกขจิตวิตานํ พนฺธาเปตฺวา สมนฺตา จิตฺรสาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา คนฺธเตเลน ทีปํ ชาลาเปตฺวา ธูมตฏฺฏกํ ปาเปตฺวา กรีสฉฑฺฑนฏฺาเน สุวณฺณกฏาหํ ปติฏฺปาเปตฺวา มํ จิตฺตตฺถรณปิฏฺเ เปสิ, ราชารหฺจ เม นานคฺครสโภชนํ ทาเปสิ. อิทานิ ปน เม มหลฺลกกาเล กมฺมํ นิตฺถริตุํ อสมตฺถกาเล สพฺพํ ตํ ปริหารํ อจฺฉินฺทิ, อนาถา นิปฺปจฺจยา หุตฺวา อรฺเ เกตกานิ ขาทนฺตี ชีวามิ, อฺํ มยฺหํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, อุเทนํ มม คุณํ สลฺลกฺขาเปตฺวา โปราณกปริหารํ เม ปฏิปากติกํ กาเรถ ภควา’’ติ ปริเทวมานา ตถาคตํ ยาจิ.
สตฺถา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, อหํ เต รฺโ กเถตฺวา ยสํ ปฏิปากติกํ กาเรสฺสามี’’ติ วตฺวา รฺโ นิเวสนทฺวารํ อคมาสิ. ราชา ตถาคตํ อนฺโตนิเวสนํ ปเวเสตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส สงฺฆสฺส มหาทานํ ปวตฺเตสิ. สตฺถา ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘มหาราช, ภทฺทวติกา กห’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘น ชานามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘มหาราช, อุปการกานํ ยสํ ทตฺวา มหลฺลกกาเล ¶ คเหตุํ นาม น วฏฺฏติ, กตฺุนา กตเวทินา ภวิตุํ วฏฺฏติ. ภทฺทวติกา อิทานิ มหลฺลิกา ชราชิณฺณา อนาถา หุตฺวา อรฺเ เกตกานิ ขาทนฺตี ชีวติ, ตํ ชิณฺณกาเล อนาถํ กาตุํ ตุมฺหากํ อยุตฺต’’นฺติ ภทฺทวติกาย คุณํ กเถตฺวา ‘‘สพฺพํ โปราณกปริหารํ ปฏิปากติกํ กโรหี’’ติ ¶ วตฺวา ปกฺกามิ. ราชา ตถา อกาสิ. ‘‘ตถาคเตน กิร ภทฺทวติกาย คุณํ กเถตฺวา โปราณกยโส ปฏิปากติโก การิโต’’ติ สกลนครํ ปตฺถริ, ภิกฺขุสงฺเฆปิ สา ปวตฺติ ปากฏา ชาตา. อถ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถารา กิร ภทฺทวติกาย คุณํ กเถตฺวา โปราณกยโส ปฏิปากติโก การิโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต เอติสฺสา คุณํ กเถตฺวา นฏฺยสํ ปฏิปากติกํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ ทฬฺหธมฺโม นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต อมจฺจกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตํ ราชานํ อุปฏฺหิ. โส ¶ ตสฺส สนฺติกา มหนฺตํ ยสํ ลภิตฺวา อมจฺจรตนฏฺาเน อฏฺาสิ. ตทา ตสฺส รฺโ เอกา โอฏฺิพฺยาธิ หตฺถินี ถามพลสมฺปนฺนา มหพฺพลา อโหสิ. สา เอกทิวสํ โยชนสตํ คจฺฉติ, รฺโ ทูเตยฺยหรณกิจฺจํ กโรติ, สงฺคาเม ยุทฺธํ กตฺวา สตฺตุ มทฺทนํ กโรติ. ราชา ‘‘อยํ เม พหูปการา’’ติ ตสฺสา สพฺพาลงฺการํ ทตฺวา อุเทเนน ภทฺทวติกาย ทินฺนสทิสํ สพฺพํ ปริหารํ ทาเปสิ. อถสฺสา ชิณฺณทุพฺพลกาเล ราชา สพฺพํ ยสํ คณฺหิ. สา ตโต ปฏฺาย อนาถา หุตฺวา อรฺเ ติณปณฺณานิ ขาทนฺตี ชีวติ. อเถกทิวสํ ราชกุเล ภาชเนสุ อปฺปโหนฺเตสุ ราชา กุมฺภการํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ภาชนานิ กิร นปฺปโหนฺตี’’ติ อาห. ‘‘โคมยาหรณยานเก โยเชตุํ โคเณ น ลภามิ, เทวา’’ติ. ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อมฺหากํ โอฏฺิพฺยาธิ กห’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺตโน ธมฺมตาย จรติ, เทวา’’ติ. ราชา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตํ โยเชตฺวา โคมยํ อาหรา’’ติ ตํ กุมฺภการสฺส อทาสิ. กุมฺภกาโร ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ตถา อกาสิ.
อเถกทิวสํ สา นครา นิกฺขมมานา นครํ ปวิสนฺตํ โพธิสตฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา ตสฺส ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ปริเทวมานา ‘‘สามิ, ราชา มํ ‘ตรุณกาเล พหูปการา’ติ สลฺลกฺเขตฺวา มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ¶ อิทานิ มหลฺลกกาเล สพฺพํ อจฺฉินฺทิตฺวา มยิ จิตฺตมฺปิ น กโรติ, อหํ ปน อนาถา อรฺเ ติณปณฺณานิ ขาทนฺตี ชีวามิ, เอวํ ทุกฺขปฺปตฺตํ มํ อิทานิ ยานเก โยเชตุํ กุมฺภการสฺส อทาสิ, เปตฺวา ตุมฺเห อฺํ มยฺหํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, มยา รฺโ ¶ กตูปการํ ตุมฺเห ชานาถ, สาธุ อิทานิ เม นฏฺํ ยสํ ปฏิปากติกํ กโรถา’’ติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อหํ เจ ทฬฺหธมฺมสฺส, วหนฺตี นาภิราธยึ;
ธรนฺตี อุรสิ สลฺลํ, ยุทฺเธ วิกฺกนฺตจารินี.
‘‘นูน ราชา น ชานาติ, มม วิกฺกมโปริสํ;
สงฺคาเม สุกตนฺตานิ, ทูตวิปฺปหิตานิ จ.
‘‘สา นูนาหํ มริสฺสามิ, อพนฺธุ อปรายินี;
ตทา หิ กุมฺภการสฺส, ทินฺนา ฉกณหาริกา’’ติ.
ตตฺถ ¶ วหนฺตีติ ทูเตยฺยหรณํ สงฺคาเม พลโกฏฺกภินฺทนํ ตํ ตํ กิจฺจํ วหนฺตี นิตฺถรนฺตี. ธรนฺตี อุรสิ สลฺลนฺติ อุรสฺมึ พทฺธํ กณฺฑํ วา อสึ วา สตฺตึ วา ยุทฺธกาเล สตฺตูนํ อุปริ อภิหรนฺตี. วิกฺกนฺตจารินีติ วิกฺกมํ ปรกฺกมํ กตฺวา ปรพลวิชเยน ยุทฺเธ วิกฺกนฺตคามินี. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สเจ สามิ, อหํ อิมานิ กิจฺจานิ กโรนฺตี รฺโ ทฬฺหธมฺมสฺส จิตฺตํ นาราธยึ น ปริโตเสสึ, โก ทานิ อฺโ ตสฺส จิตฺตํ อาราธยิสฺสตีติ.
มม วิกฺกมโปริสนฺติ มยา กตํ ปุริสปรกฺกมํ. สุกตนฺตานีติ สุกตานิ. ยถา หิ กมฺมาเนว กมฺมนฺตานิ, วนาเนว วนนฺตานิ, เอวมิธ สุกตาเนว ‘‘สุกตนฺตานี’’ติ วุตฺตานิ. ทูตวิปฺปหิตานิ จาติ คเล ปณฺณํ พนฺธิตฺวา ‘‘อสุกรฺโ นาม เทหี’’ติ ปหิตาย มยา เอกทิวเสเนว โยชนสตํ คนฺตฺวา กตานิ ทูตเปสนานิ จ. นูน ราชา น ชานาตีติ นูน ตุมฺหากํ เอส ราชา เอตานิ มยา กตานิ กิจฺจานิ น ชานาติ. อปรายินีติ อปฺปติฏฺา ¶ อปฺปฏิสรณา. ตทา หีติ ตถา หิ, อยเมว วา ปาโ. ทินฺนาติ อหํ รฺา ฉกณหาริกา กตฺวา กุมฺภการสฺส ทินฺนาติ.
โพธิสตฺโต ตสฺสา กถํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ มา โสจิ, อหํ รฺโ กเถตฺวา ตว ยสํ ปฏิปากติกํ กริสฺสามี’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ภุตฺตปาตราโส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา กถํ สมุฏฺาเปตฺวา ‘‘มหาราช, นนุ ตุมฺหากํ อสุกา นาม โอฏฺิพฺยาธิ อสุกฏฺาเน จ อสุกฏฺาเน ¶ จ อุเร สลฺลํ พนฺธิตฺวา สงฺคามํ นิตฺถริ, อสุกทิวสํ นาม คีวาย ปณฺณํ พนฺธิตฺวา เปสิตา โยชนสตํ อคมาสิ, ตุมฺเหปิสฺสา มหนฺตํ ยสํ อทตฺถ, สา อิทานิ กห’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตมหํ กุมฺภการสฺส โคมยหรณตฺถาย อทาสิ’’นฺติ. อถ นํ โพธิสตฺโต ‘‘อยุตฺตํ โข, มหาราช, ตุมฺหากํ ตํ กุมฺภการสฺส ยานเก โยชนตฺถาย ทาตุ’’นฺติ วตฺวา รฺโ โอวาทวเสน จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ยาวตาสีสตี โปโส, ตาวเทว ปวีณติ;
อตฺถาปาเย ชหนฺติ นํ, โอฏฺิพฺยาธึว ขตฺติโย.
‘‘โย ¶ ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, กตตฺโถ นาวพุชฺฌติ;
อตฺถา ตสฺส ปลุชฺชนฺติ, เย โหนฺติ อภิปตฺถิตา.
‘‘โย ปุพฺเพ กตกลฺยาโณ, กตตฺโถ มนุพุชฺฌติ;
อตฺถา ตสฺส ปวฑฺฒนฺติ, เย โหนฺติ อภิปตฺถิกา.
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทนฺเต, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
สพฺเพ กตฺุโน โหถ, จิรํ สคฺคมฺหิ สฺสถา’’ติ.
ตตฺถ ปมคาถาย ตาว อตฺโถ – อิเธกจฺโจ อฺาณชาติโก โปโส ยาวตาสีสตี, ยาว ‘‘อิทํ นาม เม อยํ กาตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ ปจฺจาสีสติ, ตาวเทว ตํ ปุริสํ ปวีณติ ภชติ เสวติ, ตสฺส ปน อตฺถาปาเย วฑฺฒิยา อปคมเน ปริหีนกาเล ตํ นานากิจฺเจสุ ปตฺถิตํ โปสํ เอกจฺเจ พาลา อิมํ โอฏฺิพฺยาธึ อยํ ขตฺติโย วิย ชหนฺติ.
กตกลฺยาโณติ ปเรน อตฺตโน กตกลฺยาณกมฺโม. กตตฺโถติ นิปฺผาทิตกิจฺโจ. นาวพุชฺฌตีติ ปจฺฉาปิ ตํ ปเรน ¶ กตํ อุปการํ ตสฺส ชราชิณฺณกาเล อสมตฺถกาเล น สรติ, อตฺตนา ทินฺนมฺปิ ยสํ ปุน คณฺหาติ. ปลุชฺชนฺตีติ ภิชฺชนฺติ นสฺสนฺติ. เย โหนฺติ อภิปตฺถิตาติ เย เกจิ อตฺถา อิจฺฉิตา นาม โหนฺติ, สพฺเพ นสฺสนฺตีติ ทีเปติ. มิตฺตทุพฺภิปุคฺคลสฺส หิ ปตฺถิตปตฺถิตํ อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตพีชํ วิย นสฺสติ. กตตฺโถ มนุพุชฺฌตีติ กตตฺโถ อนุพุชฺฌติ, ม-กาโร พฺยฺชนสนฺธิวเสน คหิโต. ตํ โว วทามีติ เตน การเณน ตุมฺเห วทามิ. สฺสถาติ กตฺุโน หุตฺวา จิรกาลํ สคฺคมฺหิ ทิพฺพสมฺปตฺตึ อนุภวนฺตา ปติฏฺหิสฺสถ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต ราชานํ อาทึ กตฺวา สนฺนิปติตานํ สพฺเพสํ โอวาทํ อทาสิ. ตํ สุตฺวา ราชา โอฏฺิพฺยาธิยา ยสํ ปฏิปากติกํ อกาสิ. โพธิสตฺตสฺส จ โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา โอฏฺิพฺยาธิ ภทฺทวติกา อโหสิ, ราชา อานนฺโท, อมจฺโจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ทฬฺหธมฺมชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๑๐] ๕. โสมทตฺตชาตกวณฺณนา
โย ¶ มํ ปุเร ปจฺจุฑฺเฑตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ มหลฺลกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิเรกํ สามเณรํ ปพฺพาเชสิ, สามเณโร ตสฺส อุปการโก หุตฺวา ตถารูเปน โรเคน กาลมกาสิ. มหลฺลโก ตสฺมึ กาลกเต โรทนฺโต ปริเทวนฺโต วิจรติ. ตํ ทิสฺวา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุกมหลฺลโก สามเณรสฺส กาลกิริยาย โรทนฺโต ปริเทวนฺโต วิจรติ, มรณสฺสติกมฺมฏฺานรหิโต มฺเ’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส อิมสฺมึ มเต โรทิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตาวตึสภวเน สกฺกตฺตํ กาเรสิ. อเถโก กาสิคามวาสี พฺราหฺมณมหาสาโล กาเม ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ¶ ปพฺพชิตฺวา อฺุฉาจริยาย วนมูลผลาผเลหิ ยาเปนฺโต วาสํ กปฺเปสิ. เอกทิวสํ ผลาผลตฺถาย คโต เอกํ หตฺถิฉาปํ ทิสฺวา อตฺตโน อสฺสมํ อาเนตฺวา ปุตฺตฏฺาเน เปตฺวา โสมทตฺโตติสฺส นามํ กตฺวา ติณปณฺณานิ ขาทาเปนฺโต ปฏิชคฺคิ. โส วยปฺปตฺโต มหาสรีโร หุตฺวา เอกทิวสํ พหุํ โภชนํ คเหตฺวา อชีรเกน ทุพฺพโล อโหสิ. ตาปโส ตํ อสฺสมปเท กตฺวา ผลาผลตฺถาย คโต, ตสฺมึ อนาคเตเยว หตฺถิโปตโก กาลมกาสิ. ตาปโส ผลาผลํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺโต ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ เม ปุตฺโต ปจฺจุคฺคมนํ กโรติ, อชฺช น ทิสฺสติ, กหํ นุ โข คโต’’ติ ปริเทวนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘โย ¶ มํ ปุเร ปจฺจุฑฺเฑติ, อรฺเ ทูรมายโต;
โส น ทิสฺสติ มาตงฺโค, โสมทตฺโต กุหึ คโต’’ติ.
ตตฺถ ปุเรติ อิโต ปุเร. ปจฺจุฑฺเฑตีติ ปจฺจุคฺคจฺฉติ. อรฺเ ทูรนฺติ อิมสฺมึ นิมฺมนุสฺเส อรฺเ มํ ทูรํ ปจฺจุฑฺเฑติ. อายโตติ อายามสมฺปนฺโน.
เอวํ ¶ ปริเทวมาโน อาคนฺตฺวา ตํ จงฺกมนโกฏิยํ ปติตํ ทิสฺวา คเล คเหตฺวา ปริเทวมาโน ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อยํ วา โส มโต เสติ, อลฺลสิงฺคํว วจฺฉิโต;
ภูมฺยา นิปติโต เสติ, อมรา วต กฺุชโร’’ติ.
ตตฺถ อยํ วาติ วิภาวนตฺเถ วา-สทฺโท. อยเมว โส, น อฺโติ ตํ วิภาเวนฺโต เอวมาห. อลฺลสิงฺคนฺติ มาลุวลตาย อคฺคปวาลํ. วจฺฉิโตติ ฉินฺโน, คิมฺหกาเล มชฺฌนฺหิกสมเย ตตฺตวาลิกาปุลิเน นเขน ฉินฺทิตฺวา ปาติโต มาลุวลตาย องฺกุโร วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ภูมฺยาติ ภูมิยํ. อมรา วตาติ มโต วต, ‘‘อมรี’’ติปิ ปาโ.
ตสฺมึ ขเณ สกฺโก โลกํ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ตาปโส ปุตฺตทารํ ปหาย ปพฺพชิโต, อิทานิ หตฺถิโปตเก ปุตฺตสฺํ กตฺวา ปริเทวติ, สํเวเชตฺวา นํ สตึ ปฏิลภาเปสฺสามี’’ติ ตสฺส อสฺสมปทํ อาคนฺตฺวา อากาเส ิโตว ตติยํ คาถมาห –
‘‘อนคาริยุเปตสฺส ¶ , วิปฺปมุตฺตสฺส เต สโต;
สมณสฺส น ตํ สาธุ, ยํ เปตมนุโสจสี’’ติ.
อถสฺส วจนํ สุตฺวา ตาปโส จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘สํวาเสน หเว สกฺก, มนุสฺสสฺส มิคสฺส วา;
หทเย ชายเต เปมํ, ตํ น สกฺกา อโสจิตุ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ มิคสฺส วาติ อิมสฺมึ าเน สพฺเพปิ ติรจฺฉานา ‘‘มิคา’’ติ วุตฺตา. ตนฺติ ปิยายิตํ สตฺตํ.
อถ นํ โอวทนฺโต สกฺโก ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘มตํ มริสฺสํ โรทนฺติ, เย รุทนฺติ ลปนฺติ จ;
ตสฺมา ตฺวํ อิสิ มา โรทิ, โรทิตํ โมฆมาหุ สนฺโต.
‘‘กนฺทิเตน หเว พฺรหฺเม, มโต เปโต สมุฏฺเห;
สพฺเพ สงฺคมฺม โรทาม, อฺมฺสฺส าตเก’’ติ.
ตตฺถ ¶ เย รุทนฺติ ลปนฺติ จาติ พฺรหฺเม เย สตฺตา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ จ, สพฺเพ เต มตํ, โย จ มริสฺสติ, ตํ โรทนฺติ, เตสํเยว เอวํ โรทนฺตานํ อสฺสุสุกฺขนกาโล นตฺถิ, ตสฺมา ตฺวํ อิสิ มา โรทิ. กึการณา? โรทิตํ โมฆมาหุ สนฺโต, ปณฺฑิตา หิ ‘‘โรทิตํ นิปฺผล’’นฺติ วทนฺติ. มโต เปโตติ ยทิ เอส เปโตติ สงฺขฺยํ คโต มโต โรทิเตน สมุฏฺเหยฺย, เอวํ สนฺเต สพฺเพปิ มยํ สมาคนฺตฺวา อฺมฺสฺส าตเก โรทาม, กึ นิกฺกมฺมา อจฺฉามาติ.
ตาปโส สกฺกสฺส วจนํ สุตฺวา สตึ ปฏิลภิตฺวา วิคตโสโก อสฺสูนิ ปฺุฉิตฺวา สกฺกสฺส ถุติวเสน เสสคาถา อาห –
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
วารินา วิย โอสิฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํ.
‘‘อพฺพหี วต เม สลฺลํ, ยมาสิ หทยสฺสิตํ;
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิ.
‘‘โสหํ ¶ อพฺพูฬฺหสลฺโลสฺมิ, วีตโสโก อนาวิโล;
น โสจามิ น โรทามิ, ตว สุตฺวาน วาสวา’’ติ.
ตา ¶ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. เอวํ สกฺโก ตาปสสฺส โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา หตฺถิโปตโก สามเณโร อโหสิ, ตาปโส มหลฺลโก, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
โสมทตฺตชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๑๑] ๖. สุสีมชาตกวณฺณนา
กาฬานิ เกสานิ ปุเร อเหสุนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺมิฺหิ สมเย ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ทสพลสฺส นิกฺขมนํ วณฺณยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ¶ ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, มยา ทานิ อเนกานิ กปฺปโกฏิสตสหสฺสานิ ปูริตปารมินา มหาภินิกฺขมนํ, ปุพฺเพปาหํ ติโยชนสติเก กาสิรฏฺเ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุโรหิตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ตสฺส ชาตทิวเสเยว พาราณสิรฺโปิ ปุตฺโต ชายิ. เตสํ นามคฺคหณทิวเส มหาสตฺตสฺส สุสีมกุมาโรติ นามํ อกํสุ, ราชปุตฺตสฺส พฺรหฺมทตฺตกุมาโรติ. พาราณสิราชา ‘‘ปุตฺเตน เม สทฺธึ เอกทิวเส ชาโต’’ติ โพธิสตฺตํ อาณาเปตฺวา ธาติโย ทตฺวา เตน สทฺธึ เอกโต วฑฺเฒสิ. เต อุโภปิ วยปฺปตฺตา อภิรูปา เทวกุมารวณฺณิโน หุตฺวา ตกฺกสิลายํ ¶ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมึสุ. ราชปุตฺโต อุปราชา หุตฺวา โพธิสตฺเตน สทฺธึ เอกโต ขาทนฺโต ปิวนฺโต นิสีทนฺโต สยนฺโต ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ ปตฺวา มหาสตฺตสฺส มหนฺตํ ยสํ ทตฺวา ปุโรหิตฏฺาเน ตํ เปตฺวา เอกทิวสํ นครํ สชฺชาเปตฺวา สกฺโก เทวราชา วิย อลงฺกโต อลงฺกตเอราวณปฏิภาคสฺส มตฺตวรวารณสฺส ขนฺเธ นิสีทิตฺวา โพธิสตฺตํ ปจฺฉาสเน หตฺถิปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ อกาสิ. มาตาปิสฺส ‘‘ปุตฺตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ สีหปฺชเร ตฺวา ตสฺส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส ปจฺฉโต นิสินฺนํ ปุโรหิตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘อิมํ อลภนฺตี เอตฺเถว มริสฺสามี’’ติ อาหารํ ปจฺฉินฺทิตฺวา นิปชฺชิ.
ราชา ¶ มาตรํ อปสฺสนฺโต ‘‘กุหึ เม มาตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึ อมฺม, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. สา ลชฺชาย น กเถสิ. โส คนฺตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา อตฺตโน อคฺคมเหสึ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘คจฺฉ อมฺมาย อผาสุกํ ชานาหี’’ติ เปเสสิ. สา คนฺตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺตี ปุจฺฉิ, อิตฺถิโย นาม อิตฺถีนํ รหสฺสํ น นิคุหนฺติ, สา ตสฺสา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. อิตราปิ ตํ สุตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘โหตุ, คจฺฉ นํ สมสฺสาเสหิ, ปุโรหิตํ ราชานํ กตฺวา ตสฺส ตํ อคฺคมเหสึ กริสฺสามี’’ติ อาห. สา อาคนฺตฺวา ตํ สมสฺสาเสสิ. ราชาปิ ปุโรหิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘สมฺม, มาตุ เม ชีวิตํ เทหิ, ตฺวํ ราชา ภวิสฺสสิ, สา อคฺคมเหสี, อหํ อุปราชา’’ติ ¶ อาห. โส ‘‘น สกฺกา เอวํ กาตุ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา เตน ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน สมฺปฏิจฺฉิ. ราชา ปุโรหิตํ ราชานํ, มาตรํ อคฺคมเหสึ กาเรตฺวา สยํ อุปราชา อโหสิ.
เตสํ สมคฺควาสํ วสนฺตานํ อปรภาเค โพธิสตฺโต อคารมชฺเฌ อุกฺกณฺิโต กาเม ปหาย ปพฺพชฺชาย นินฺนจิตฺโต กิเลสรตึ อนลฺลียนฺโต เอกโกว ติฏฺติ, เอกโกว นิสีทติ, เอกโกว สยติ, พนฺธนาคาเร พทฺโธ วิย ปฺชเร ปกฺขิตฺตกุกฺกุโฏ ¶ วิย จ อโหสิ. อถสฺส อคฺคมเหสี ‘‘อยํ ราชา มยา สทฺธึ นาภิรมติ, เอกโกว ติฏฺติ นิสีทติ เสยฺยํ กปฺเปติ, อยํ โข ปน ทหโร ตรุโณ, อหํ มหลฺลิกา, สีเส เม ปลิตานิ ปฺายนฺติ, ยํนูนาหํ ‘สีเส เต เทว, เอกํ ปลิตํ ปฺายตี’ติ มุสาวาทํ กตฺวา เอเกนุปาเยน ราชานํ ปตฺติยาเปตฺวา มยา สทฺธึ อภิรมาเปยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา เอกทิวสํ รฺโ สีเส อูกา วิจินนฺตี วิย หุตฺวา ‘‘เทว, มหลฺลโกสิ ชาโต, สีเส เต เอกํ ปลิตํ ปฺายตี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ ภทฺเท, เอตํ ปลิตํ ลฺุชิตฺวา มยฺหํ หตฺเถ เปหี’’ติ. สา ตสฺส สีสโต เอกํ เกสํ ลฺุชิตฺวา อตฺตโน สีเส ปลิตํ คเหตฺวา ‘‘อิทํ เต, เทว, ปลิต’’นฺติ ตสฺส หตฺเถ เปสิ. โพธิสตฺตสฺส ตํ ทิสฺวาว ภีตตสิตสฺส กฺจนปฏฺฏสทิสา นลาฏา เสทา มุจฺจึสุ.
โส อตฺตานํ โอวทนฺโต ‘‘สุสีม, ตฺวํ ทหโร หุตฺวา มหลฺลโก ชาโต, เอตฺตกํ กาลํ คูถกลเล นิมุคฺโค คามสูกโร วิย กามกลเล นิมุชฺชิตฺวา ตํ กลลํ ชหิตุํ น สกฺโกสิ, นนุ กาเม ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมจริยวาสสฺส เต กาโล’’ติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘กาฬานิ ¶ เกสานิ ปุเร อเหสุํ, ชาตานิ สีสมฺหิ ยถาปเทเส;
ตานชฺช เสตานิ สุสีม ทิสฺวา, ธมฺมํ จร พฺรหฺมจริยสฺส กาโล’’ติ.
ตตฺถ ยถาปเทเสติ ตว สีเส ตสฺมึ ตสฺมึ เกสานํ อนุรูเป ปเทเส อิโต ปุพฺเพ กาฬานิ ภมรปตฺตวณฺณานิ เกสานิ ชาตานิ อเหสุนฺติ ¶ วทติ. ธมฺมํ จราติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราติ อตฺตานเมว อาณาเปติ. พฺรหฺมจริยสฺสาติ เมถุนวิรติยา เต กาโลติ อตฺโถ.
เอวํ โพธิสตฺเตน พฺรหฺมจริยวาสสฺส คุเณ วณฺณิเต อิตรา ‘‘อหํ ‘อิมสฺส ลคฺคนํ กริสฺสามี’ติ วิสฺสชฺชนเมว กริ’’นฺติ ภีตตสิตา ‘‘อิทานิสฺส อปพฺพชฺชนตฺถาย สรีรวณฺณํ วณฺณยิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘มเมว ¶ เทว ปลิตํ น ตุยฺหํ, มเมว สีสํ มม อุตฺตมงฺคํ;
‘อตฺถํ กริสฺส’นฺติ มุสา อภาณึ, เอกาปราธํ ขม ราชเสฏฺ.
‘‘ทหโร ตุวํ ทสฺสนิโยสิ ราช, ปมุคฺคโต โหติ ยถา กฬีโร;
รชฺชฺจ กาเรหิ มมฺจ ปสฺส, มา กาลิกํ อนุธาวี ชนินฺทา’’ติ.
ตตฺถ มเมว สีสนฺติ มเมว สีเส สฺชาตํ ปลิตนฺติ ทีเปติ. อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. อตฺถนฺติ อตฺตโน วุฑฺฒึ กริสฺสามีติ มุสา กเถสึ. เอกาปราธนฺติ. อิมํ มยฺหํ เอกํ อปราธํ. ปมุคฺคโตติ ปมวเยน อุคฺคโต. โหหีติ โหสิ, ปมวเย ปติฏฺิโตสีติ อตฺโถ. ‘‘โหสี’’ติเยว วา ปาโ. ยถา กฬีโรติ ยถา สินิทฺธฉวิตรุณกฬีโร มนฺทวาเตริโต อติวิย โสภติ, เอวรูโปสิ ตฺวนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘ปมุคฺคโต โหตี’’ติปิ ปาโ, ตสฺสตฺโถ – ยถา ปมุคฺคโต ตรุณกฬีโร ทสฺสนีโย โหติ, เอวํ ตฺวมฺปิ ทสฺสนีโยติ. มมฺจ ปสฺสาติ มมฺจ โอโลเกหิ, มา มํ อนาถํ วิธวํ กโรหีติ อตฺโถ. กาลิกนฺติ พฺรหฺมจริยจรณํ นาม ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว วิปากทานโต กาลิกํ นาม, รชฺชํ ปน อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว กามคุณสุขุปฺปาทนโต อกาลิกํ, โส ตฺวํ อิมํ อกาลิกํ ปหาย มา กาลิกํ อนุธาวีติ วทติ.
โพธิสตฺโต ¶ ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ ภวิตพฺพเมเวตํ กถํ กเถสิ, ปริณมนฺเต หิ มม วเย อิเมหิ กาฬเกเสหิ ปริวตฺเตตฺวา สาณวากสทิเสหิ ปณฺฑเรหิ ภวิตพฺพํ. อหฺหิ ¶ นีลุปฺปลาทิกุสุมทามสทิสกุมารานํ กฺจนรูปปฏิภาคานํ อุตฺตมโยพฺพนวิลาสสมฺปตฺตานํ ขตฺติยกฺาทีนํ วเย ปริณมนฺเต ชรํ ปตฺตานํ เววณฺณิยฺเจว สรีรภงฺคฺจ ปสฺสามิ. เอวํ วิปตฺติปริโยสาโนเวส ภทฺเท, ชีวโลโก’’ติ วตฺวา อุปริ พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘ปสฺสามิ ¶ โวหํ ทหรึ กุมารึ, สามฏฺปสฺสํ สุตนุํ สุมชฺฌํ;
กาฬปฺปวาฬาว ปเวลฺลมานา, ปโลภยนฺตีว นเรสุ คจฺฉติ.
‘‘ตเมน ปสฺสามิปเรน นารึ, อาสีติกํ นาวุติกํว ชจฺจา;
ทณฺฑํ คเหตฺวาน ปเวธมานํ, โคปานสีโภคฺคสมํ จรนฺติ’’นฺติ.
ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. สามฏฺปสฺสนฺติ สมฺมฏฺปสฺสํ. อยเมว วา ปาโ, สพฺพปสฺเสสุ มฏฺฉวิวณฺณนฺติ อตฺโถ. สุตนุนฺติ สุนฺทรสรีรํ. สุมชฺฌนฺติ สุสณฺิตมชฺฌํ. กาฬปฺปวาฬาว ปเวลฺลมานาติ ยถา นาม ตรุณกาเล สุสมุคฺคตา กาฬวลฺลี ปวาฬา วา หุตฺวา มนฺทวาเตริตา อิโต จิโต จ ปเวลฺลติ, เอวํ ปเวลฺลมานา อิตฺถิวิลาสํ ทสฺสยมานา กุมาริกา ปโลภยนฺตีว นเรสุ คจฺฉติ. สมีปตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ปุริสานํ สนฺติเก เต ปุริเส กิเลสวเสน ปโลภยนฺตี วิย คจฺฉติ.
ตเมน ปสฺสามิปเรน นารินฺติ ตเมนํ นารึ อปเรน สมเยน ชรํ ปตฺตํ อนฺตรหิตรูปโสภคฺคปฺปตฺตํ ปสฺสามิ. โพธิสตฺโต หิ ปมคาถาย รูเป อสฺสาทํ กเถตฺวา อิทานิ อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. อาสีติกํ นาวุติกํว ชจฺจาติ อสีติสํวจฺฉรํ วา นวุติสํวจฺฉรํ วา ชาติยา. โคปานสีโภคฺคสมนฺติ โคปานสีสมํ โภคฺคํ, โคปานสีอากาเรน ภคฺคสรีรํ โอนมิตฺวา นฏฺกากณิกํ ปริเยสนฺตึ วิย จรมานนฺติ อตฺโถ. กามฺจ ¶ โพธิสตฺเตน ทหรกาเล ทิสฺวา ปุน นาวุติกกาเล ทิฏฺปุพฺพา นาม นตฺถิ, าเณน ทิฏฺภาวํ สนฺธาย ปเนตํ วุตฺตํ.
อิติ มหาสตฺโต อิมาย คาถาย รูปสฺส อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อคารมชฺเฌ อตฺตโน อนภิรตึ ปกาเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘โสหํ ¶ ¶ ตเมวานุวิจินฺตยนฺโต, เอโก สยามิ สยนสฺส มชฺเฌ;
‘อหมฺปิ เอวํ’ อิติ เปกฺขมาโน, น คเห รเม พฺรหฺมจริยสฺส กาโล.
‘‘รชฺชุวาลมฺพนี เจสา, ยา เคเห วสโต รติ;
เอตมฺปิ เฉตฺวาน วชนฺติ ธีรา, อนเปกฺขิโน กามสุขํ ปหายา’’ติ.
ตตฺถ โสหนฺติ โส อหํ. ตเมวานุวิจินฺตยนฺโตติ ตเมว รูปานํ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ จินฺเตนฺโต. เอวํ อิติ เปกฺขมาโนติ ‘‘ยถา เอสา ปริณตา, อหมฺปิ ชรํ ปตฺโต ภคฺคสรีโร ภวิสฺสามี’’ติ เปกฺขมาโน. น คเห รเมติ เคเห น รมามิ. พฺรหฺมจริยสฺส กาโลติ ภทฺเท, พฺรหฺมจริยสฺส เม กาโล, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามีติ ทีเปติ.
รชฺชุวาลมฺพนี เจสาติ จ-กาโร นิปาตมตฺโต, อาลมฺพนรชฺชุ วิย เอสาติ อตฺโถ. กตรา? ยา เคเห วสโต รติ, ยา เคเห วสนฺตสฺส รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ กามรตีติ อตฺโถ. อิมินา กามานํ อปฺปสฺสาทตํ ทสฺเสติ. อยํ เอตฺถาธิปฺปาโย – ยถา คิลานสฺส มนุสฺสสฺส อตฺตโน พเลน ปริวตฺติตุํ อสกฺโกนฺตสฺส ‘‘อิมํ อาลมฺพิตฺวา ปริวตฺเตยฺยาสี’’ติ อาลมฺพนรชฺชุํ พนฺเธยฺยุํ, ตสฺส ตํ อาลมฺพิตฺวา ปริวตฺตนฺตสฺส อปฺปมตฺตกํ กายิกเจตสิกสุขํ ภเวยฺย, เอวํ กิเลสาตุรานํ สตฺตานํ วิเวกสุขวเสน ปริวตฺติตุํ อสกฺโกนฺตานํ อคารมชฺเฌ ปิตานิ กามรติทายกานิ รูปาทีนิ อารมฺมณานิ เตสํ กิเลสปริฬาหกาเล เมถุนธมฺมปฏิเสวนวเสน ตานิ อารพฺภ ปริวตฺตมานานํ กายิกเจตสิกสุขสงฺขาตา กามรติ นาม ตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชมานา ¶ อปฺปมตฺติกา โหติ, เอวํ อปฺปสฺสาทา กามาติ. เอตมฺปิ เฉตฺวานาติ ยสฺมา ปน พหุทุกฺขา กามา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย, ตสฺมา ตํ อาทีนวํ สมฺปสฺสมานา ปณฺฑิตา เอตมฺปิ รชฺชุํ เฉตฺวา คูถกูเป นิมุคฺคปุริโส ตํ ปชหนฺโต วิย อนเปกฺขิโน เอตํ อปฺปมตฺตกํ พหุทุกฺขํ กามสุขํ ปหาย วชนฺติ, นิกฺขมิตฺวา มโนรมํ ปพฺพชฺชํ ปพฺพชนฺตีติ.
เอวํ มหาสตฺโต กาเมสุ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ ทสฺเสนฺโต พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสตฺวา สหายํ ปกฺโกสาเปตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา าติมิตฺตสุหชฺชานํ โรทนฺตานํ ปริเทวนฺตานเมว สิริวิภวํ ฉฑฺเฑตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา ¶ ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา พหู ชเน อมตปานํ ปาเยตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อคฺคมเหสี ราหุลมาตา อโหสิ, สหายราชา อานนฺโท, สุสีมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สุสีมชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๑๒] ๗. โกฏสิมฺพลิชาตกวณฺณนา
อหํ ทสสตํพฺยามนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน ปานียชาตเก (ชา. ๑.๑๑.๕๙ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. อิธาปิ สตฺถา อนฺโตโกฏิสนฺถาเร กามวิตกฺกาภิภูเต ปฺจสเต ภิกฺขู ทิสฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, อาสงฺกิตพฺพยุตฺตกํ นาม อาสงฺกิตุํ วฏฺฏติ, กิเลสา นาม วฑฺฒนฺตา วเน นิคฺโรธาทโย วิย รุกฺขํ, ปุริสํ ภฺชนฺติ, เตเนว ปุพฺเพปิ โกฏสิมฺพลิยํ นิพฺพตฺตเทวตา เอกํ สกุณํ นิคฺโรธพีชานิ ขาทิตฺวา อตฺตโน รุกฺขสฺส สาขนฺตเร วจฺจํ ปาเตนฺตํ ทิสฺวา ‘อิโต เม วิมานสฺส วินาโส ภวิสฺสตี’ติ ภยปฺปตฺตา อโหสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต โกฏสิมฺพลิยํ รุกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. อเถโก สุปณฺณราชา ทิยฑฺฒโยชนสติกํ ¶ อตฺตภาวํ มาเปตฺวา ปกฺขวาเตหิ มหาสมุทฺเท อุทกํ ทฺวิธา กตฺวา เอกํ พฺยามสหสฺสายามํ นาคราชานํ นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา มุเขนสฺส คหิตโคจรํ ฉฑฺฑาเปตฺวา โกฏสิมฺพลึ สนฺธาย วนมตฺถเกน ปายาสิ. นาคราชา ‘‘โอลมฺเพนฺโต อตฺตานํ โมเจสฺสามี’’ติ นิคฺโรธรุกฺเข โภคํ ปเวเสตฺวา นิคฺโรธํ เวเตฺวา คณฺหิ. สุปณฺณรฺโ มหาพลตาย นาคราชสฺส จ มหาสรีรตาย นิคฺโรธรุกฺโข สมุคฺฆาฏํ อคมาสิ. นาคราชา เนว รุกฺขํ วิสฺสชฺเชสิ, สุปณฺณราชา สทฺธึ นิคฺโรธรุกฺเขน นาคราชานํ คเหตฺวา โกฏสิมฺพลึ ปตฺวา นาคราชานํ ขนฺธปิฏฺเ นิปชฺชาเปตฺวา อุทรมสฺส ผาเลตฺวา ¶ นาคเมทํ ขาทิตฺวา เสสกเฬวรํ สมุทฺเท วิสฺสชฺเชสิ. ตสฺมึ ปน นิคฺโรเธ เอกา สกุณิกา อตฺถิ, สา นิคฺโรธรุกฺเข วิสฺสฏฺเ อุปฺปติตฺวา โกฏสิมฺพลิยา สาขนฺตเร นิสีทิ. รุกฺขเทวตา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ สกุณิกา มม รุกฺขกฺขนฺเธ วจฺจํ ปาเตสฺสติ, ตโต นิคฺโรธคจฺโฉ วา ปิลกฺขคจฺโฉ วา อุฏฺหิตฺวา สกลรุกฺขํ โอตฺถริตฺวา คจฺฉิสฺสติ, อถ เม วิมานํ นสฺสิสฺสตี’’ติ ภีตตสิตา ปเวธิ. ตสฺสา ปเวธนฺติยา โกฏสิมฺพลีปิ ยาว มูลา ปเวธิ. สุปณฺณราชา ตํ ปเวธมานํ ทิสฺวา การณํ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อหํ ¶ ทสสตํพฺยามํ, อุรคมาทาย อาคโต;
ตฺจ มฺจ มหากายํ, ธารยํ นปฺปเวธสิ.
‘‘อถิมํ ขุทฺทกํ ปกฺขึ, อปฺปมํสตรํ มยา;
ธารยํ พฺยถสิ ภีตา, กมตฺถํ โกฏสิมฺพลี’’ติ.
ตตฺถ ทสสตํพฺยามนฺติ สหสฺสพฺยามมตฺตายามํ. อุรคมาทาย อาคโตติ เอวํ มหนฺตํ อุรคํ อาทาย อิธ อาคโต. ตฺจ มฺจาติ ตฺจ อุรคํ มฺจ. ธารยนฺติ ธารยมานา. พฺยถสีติ กมฺปสิ. กมตฺถนฺติ กึ อตฺถํ, เกน การเณนาติ ปุจฺฉติ, กํ วา อตฺถํ สมฺปสฺสมานาติปิ อตฺโถ. โกฏสิมฺพลีติ รุกฺขนาเมน เทวปุตฺตํ อาลปติ. โส หิ สิมฺพลิรุกฺโข ขนฺธสาขมหนฺตตาย โกฏสิมฺพลินามํ ลภติ, ตสฺมึ อธิวตฺถเทวปุตฺตสฺสปิ ตเทว นามํ.
อถสฺส ¶ การณํ กเถนฺโต เทวปุตฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘มํสภกฺโข ตุวํ ราช, ผลภกฺโข อยํ ทิโช;
อยํ นิคฺโรธพีชานิ, ปิลกฺขุทุมฺพรานิ จ;
อสฺสตฺถานิ จ ภกฺขิตฺวา, ขนฺเธ เม โอหทิสฺสติ.
‘‘เต รุกฺขา สํวิรูหนฺติ, มม ปสฺเส นิวาตชา;
เต มํ ปริโยนนฺธิสฺสนฺติ, อรุกฺขํ มํ กริสฺสเร.
‘‘สนฺติ ¶ อฺเปิ รุกฺขา เส, มูลิโน ขนฺธิโน ทุมา;
อิมินา สกุณชาเตน, พีชมาหริตา หตา.
‘‘อชฺฌารูหาภิวฑฺฒนฺติ, พฺรหนฺตมฺปิ วนปฺปตึ;
ตสฺมา ราช ปเวธามิ, สมฺปสฺสํนาคตํ ภย’’นฺติ.
ตตฺถ โอหทิสฺสตีติ วจฺจํ ปาเตสฺสติ. เต รุกฺขาติ เตหิ พีเชหิ ชาตา นิคฺโรธาทโย รุกฺขา. สํวิรูหนฺตีติ สํวิรุหิสฺสนฺติ วฑฺฒิสฺสนฺติ. มม ปสฺเสติ มม สาขนฺตราทีสุ. นิวาตชาติ มม สาขาหิ วาตสฺส นิวาริตตฺตา นิวาเต ชาตา. เต มํ ปริโยนนฺธิสฺสนฺตีติ เอเต ¶ เอวํ วฑฺฒิตา มํ ปริโยนนฺธิสฺสนฺตีติ อยเมตฺถาธิปฺปาโย. กริสฺสเรติ อเถวํ ปริโยนนฺธิตฺวา มํ อรุกฺขเมว กริสฺสนฺติ สพฺพโส ภฺชิสฺสนฺติ. รุกฺขา เสติ รุกฺขา. มูลิโน ขนฺธิโนติ มูลสมฺปนฺนา เจว ขนฺธสมฺปนฺนา จ. ทุมาติ รุกฺขเววจนเมว. พีชมาหริตาติ พีชํ อาหริตฺวา. หตาติ อฺเปิ อิมสฺมึ วเน รุกฺขา วินาสิตา สนฺติ. อชฺฌารูหาภิวฑฺฒนฺตีติ นิคฺโรธาทโย รุกฺขา อชฺฌารูหา หุตฺวา มหนฺตมฺปิ อฺํ วนปฺปตึ อติกฺกมฺม วฑฺฒนฺตีติ ทสฺเสติ. เอตฺถ ปน วเน ปติ, วนสฺส ปติ, วนปฺปตีติ ตโยปิ ปาาเยว. ราชาติ สุปณฺณํ อาลปติ.
รุกฺขเทวตาย วจนํ สุตฺวา สุปณฺโณ โอสานคาถมาห –
‘‘สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ, รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ;
อนาคตภยา ธีโร, อุโภ โลเก อเวกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อนาคตํ ภยนฺติ ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺโต ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ อนาคตํ ภยํ รกฺขติ นาม, ปาปมิตฺเต เวริปุคฺคเล จ อนุปสงฺกมนฺโต อนาคตภยํ รกฺขติ นาม. เอวํ อนาคตํ ภยํ รกฺเขยฺย. อนาคตภยาติ อนาคตภยการณา ตํ ภยํ ปสฺสนฺโต ธีโร อิธโลกฺจ ปรโลกฺจ อเวกฺขติ โอโลเกติ นาม.
เอวฺจ ปน วตฺวา สุปณฺโณ อตฺตโน อานุภาเวน ตํ ปกฺขึ ตมฺหา รุกฺขา ปลาเปสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อาสงฺกิตพฺพยุตฺตกํ อาสงฺกิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ¶ ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตผเล ปติฏฺหึสุ.
ตทา สุปณฺณราชา สาริปุตฺโต อโหสิ, รุกฺขเทวตา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
โกฏสิมฺพลิชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๑๓] ๘. ธูมการิชาตกวณฺณนา
ราชา ¶ อปุจฺฉิ วิธุรนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ อาคนฺตุกสงฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร เอกสฺมึ สมเย ปเวณิอาคตานํ โปราณกโยธานํ สงฺคหํ อกตฺวา อภินวาคตานํ อาคนฺตุกานฺเว สกฺการสมฺมานํ อกาสิ. อถสฺส ปจฺจนฺเต กุปิเต ยุชฺฌนตฺถาย คตสฺส ‘‘อาคนฺตุกา ลทฺธสกฺการา ยุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ โปราณกโยธา น ยุชฺฌึสุ, ‘‘โปราณกโยธา ยุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ อาคนฺตุกาปิ น ยุชฺฌึสุ. โจรา ราชานํ ชินึสุ. ราชา ปราชิโต อาคนฺตุกสงฺคหโทเสน อตฺตโน ปราชิตภาวํ ตฺวา สาวตฺถึ ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘กึ นุ โข อหเมว เอวํ กโรนฺโต ปราชิโต, อุทาหุ อฺเปิ ราชาโน ปราชิตปุพฺพาติ ทสพลํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส เชตวนํ คนฺตฺวา สกฺการํ กตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. สตฺถา ‘‘น โข, มหาราช, ตฺวเมเวโก, โปราณกราชาโนปิ อาคนฺตุกสงฺคหํ กตฺวา ปราชิตา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร ยุธิฏฺิลโคตฺโต ธนฺจโย นาม โกรพฺยราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส ปุโรหิตกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อินฺทปตฺถํ ปจฺจาคนฺตฺวา ปิตุ อจฺจเยน ปุโรหิตฏฺานํ ลภิตฺวา รฺโ อตฺถธมฺมานุสาสโก อโหสิ, วิธุรปณฺฑิโตติสฺส นามํ กรึสุ. ตทา ธนฺจยราชา โปราณกโยเธ อคเณตฺวา อาคนฺตุกานฺเว สงฺคหํ อกาสิ. ตสฺส ปจฺจนฺเต กุปิเต ยุชฺฌนตฺถาย คตสฺส ‘‘อาคนฺตุกา ชานิสฺสนฺตี’’ติ เนว โปราณกา ยุชฺฌึสุ, ‘‘โปราณกา ยุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ น อาคนฺตุกา ยุชฺฌึสุ. ราชา ปราชิโต อินฺทปตฺถเมว ปจฺจาคนฺตฺวา ‘‘อาคนฺตุกสงฺคหสฺส กตภาเวน ปราชิโตมฺหี’’ติ ¶ จินฺเตสิ. โส เอกทิวสํ ‘‘กึ นุ โข อหเมว อาคนฺตุกสงฺคหํ กตฺวา ปราชิโต, อุทาหุ อฺเปิ ราชาโน ปราชิตปุพฺพา อตฺถีติ วิธุรปณฺฑิตํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ ราชุปฏฺานํ อาคนฺตฺวา นิสินฺนํ ตมตฺถํ ปุจฺฉิ. อถสฺส ตํ ปุจฺฉนาการํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘ราชา อปุจฺฉิ วิธุรํ, ธมฺมกาโม ยุธิฏฺิโล’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมกาโมติ สุจริตธมฺมปฺปิโย.
‘‘อปิ พฺราหฺมณ ชานาสิ, โก เอโก พหุ โสจตี’’ติ –
เสสอุปฑฺฒคาถาย ปน อยมตฺโถ – อปิ นาม, พฺราหฺมณ, ตฺวํ ชานาสิ ‘‘โก อิมสฺมึ โลเก
เอโก ¶ พหุ โสจติ, นานาการเณน โสจตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ‘‘มหาราช, กึ โสโก นาม ตุมฺหากํ โสโก, ปุพฺเพ ธูมการี นาเมโก อชปาลพฺราหฺมโณ มหนฺตํ อชยูถํ คเหตฺวา อรฺเ วชํ กตฺวา ตตฺถ อชา เปตฺวา อคฺคิฺจ ธูมฺจ กตฺวา อชยูถํ ปฏิชคฺคนฺโต ขีราทีนิ ปริภฺุชนฺโต วสิ. โส ตตฺถ อาคเต สุวณฺณวณฺเณ สรเภ ทิสฺวา เตสุ สิเนหํ กตฺวา อชา อคเณตฺวา อชานํ สกฺการํ สรภานํ กตฺวา สรทกาเล สรเภสุ ปลายิตฺวา หิมวนฺตํ คเตสุ อชาสุปิ นฏฺาสุ สรเภ อปสฺสนฺโต โสเกน ปณฺฑุโรคี หุตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, อยํ อาคนฺตุกสงฺคหํ กตฺวา ตุมฺเหหิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน โสจิตฺวา กิลมิตฺวา ¶ วินาสํ ปตฺโต’’ติ อิทํ อุทาหรณํ อาเนตฺวา ทสฺเสนฺโต อิมา คาถา อาห –
‘‘พฺราหฺมโณ อชยูเถน, ปหูเตโช วเน วสํ;
ธูมํ อกาสิ วาเสฏฺโ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.
‘‘ตสฺส ตํธูมคนฺเธน, สรภา มกสฑฺฑิตา;
วสฺสาวาสํ อุปคจฺฉุํ, ธูมการิสฺส สนฺติเก.
‘‘สรเภสุ มนํ กตฺวา, อชา โส นาวพุชฺฌถ;
อาคจฺฉนฺตี วชนฺตี วา, ตสฺส ตา วินสุํ อชา.
‘‘สรภา ¶ สรเท กาเล, ปหีนมกเส วเน;
ปาวิสุํ คิริทุคฺคานิ, นทีนํ ปภวานิ จ.
‘‘สรเภ จ คเต ทิสฺวา, อชา จ วิภวํ คตา;
กิโส จ วิวณฺโณ จาสิ, ปณฺฑุโรคี จ พฺราหฺมโณ.
‘‘เอวํ โย สํ นิรํกตฺวา, อาคนฺตุํ กุรุเต ปิยํ;
โส เอโก พหุ โสจติ, ธูมการีว พฺราหฺมโณ’’ติ.
ตตฺถ ปหูเตโชติ ปหูตอินฺธโน. ธูมํ อกาสีติ มกฺขิกปริปนฺถหรณตฺถาย อคฺคิฺจ ธูมฺจ อกาสิ. วาเสฏฺโติ ตสฺส โคตฺตํ. อตนฺทิโตติ อนลโส หุตฺวา. ตํธูมคนฺเธนาติ เตน ธูมคนฺเธน. สรภาติ สรภมิคา. มกสฑฺฑิตาติ มกเสหิ อุปทฺทุตา ปีฬิตา. เสสมกฺขิกาปิ มกสคฺคหเณเนว ¶ คหิตา. วสฺสาวาสนฺติ วสฺสารตฺตวาสํ วสึสุ. มนํ กตฺวาติ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา. นาวพุชฺฌถาติ อรฺโต จริตฺวา วชํ อาคจฺฉนฺตี เจว วชโต อรฺํ คจฺฉนฺตี จ ‘‘เอตฺตกา อาคตา, เอตฺตกา อนาคตา’’ติ น ชานาติ. ตสฺส ตา วินสุนฺติ ตสฺส ตา เอวํ อปจฺจเวกฺขนฺตสฺส สีหปริปนฺถาทิโต อรกฺขิยมานา อชา สีหปริปนฺถาทีหิ วินสฺสึสุ, สพฺพาว วินฏฺา.
นทีนํ ปภวานิ จาติ ปพฺพเตยฺยานํ นทีนํ ปภวฏฺานานิ จ ปวิฏฺา. วิภวนฺติ อภาวํ. อชา จ วินาสํ ปตฺตา ทิสฺวา ชานิตฺวา. กิโส จ วิวณฺโณติ ขีราทิทายิกา อชา ปหาย สรเภ สงฺคณฺหิตฺวา เตปิ อปสฺสนฺโต อุภโต ¶ ปริหีโน โสกาภิภูโต กิโส เจว ทุพฺพณฺโณ จ อโหสิ. เอวํ โย สํ นิรํกตฺวาติ เอวํ มหาราช, โย สกํ โปราณํ อชฺฌตฺติกํ ชนํ นีหริตฺวา ปหาย กิสฺมิฺจิ อคเณตฺวา อาคนฺตุกํ ปิยํ กโรติ, โส ตุมฺหาทิโส เอโก พหุ โสจติ, อยํ เต มยา ทสฺสิโต ธูมการี พฺราหฺมโณ วิย พหุ โสจตีติ.
เอวํ มหาสตฺโต ราชานํ สฺาเปนฺโต กเถสิ. โสปิ สฺตฺตํ คนฺตฺวา ตสฺส ปสีทิตฺวา พหุํ ธนํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย จ อชฺฌตฺติกสงฺคหเมว กโรนฺโต ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา โกรพฺยราชา อานนฺโท อโหสิ, ธูมการี ปเสนทิโกสโล, วิธุรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ธูมการิชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๑๔] ๙. ชาครชาตกวณฺณนา
โกธ ¶ ชาครตํ สุตฺโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ โสตาปนฺโน อริยสาวโก สาวตฺถิโต สกฏสตฺเถน สทฺธึ กนฺตารมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. สตฺถวาโห ตตฺถ เอกสฺมึ อุทกผาสุกฏฺาเน ปฺจ สกฏสตานิ โมเจตฺวา ขาทนียโภชนียํ สํวิทหิตฺวา วาสํ อุปคจฺฉิ. เต มนุสฺสา ตตฺถ ตตฺถ นิปชฺชิตฺวา สุปึสุ, อุปาสโก ปน สตฺถวาหสฺส สนฺติเก เอกสฺมึ รุกฺขมูเล จงฺกมํ อธิฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถํ วิลุมฺปิตุกามา ¶ ปฺจสตา โจรา นานาวุธานิ คเหตฺวา สตฺถํ ปริวาเรตฺวา อฏฺํสุ. เต ตํ อุปาสกํ จงฺกมนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส นิทฺทายนกาเล วิลุมฺปิสฺสามา’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อฏฺํสุ, โสปิ ติยามรตฺตึ จงฺกมิเยว. โจรา ปจฺจูสสมเย คหิตคหิตา ปาสาณมุคฺคราทโย ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘โภ สตฺถวาห, อิมํ อปฺปมาเทน ชคฺคนฺตํ ปุริสํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลภิตฺวา ตว สนฺตกสฺส สามิโก ชาโต, เอตสฺส สกฺการํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา ปกฺกมึสุ. มนุสฺสา ¶ กาลสฺเสว วุฏฺาย เตหิ ฉฑฺฑิตปาสาณมุคฺคราทโย ทิสฺวา ‘‘อิมํ นิสฺสาย อมฺเหหิ ชีวิตํ ลทฺธ’’นฺติ อุปาสกสฺส สกฺการํ อกํสุ. อุปาสโกปิ อิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตฺวา กตกิจฺโจ ปุน สาวตฺถึ อาคนฺตฺวา เชตวนํ คนฺตฺวา ตถาคตํ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺโน ‘‘กึ, อุปาสก, น ปฺายสี’’ติ วุตฺเต ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘น โข, อุปาสก, ตฺวํเยว อนิทฺทายิตฺวา ชคฺคนฺโต วิเสสํ ลภิ, โปราณกปณฺฑิตาปิ ชคฺคนฺตา วิเสสํ คุณํ ลภึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ วสนฺโต อปรภาเค นิกฺขมิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส านจงฺกมิริยาปโถ หุตฺวา วสนฺโต นิทฺทํ อนุปคนฺตฺวา สพฺพรตฺตึ จงฺกมติ. อถสฺส จงฺกมนโกฏิยํ นิพฺพตฺตรุกฺขเทวตา ¶ ตุสฺสิตฺวา รุกฺขวิฏเป ตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺตี ปมํ คาถมาห –
‘‘โกธ ชาครตํ สุตฺโต, โกธ สุตฺเตสุ ชาคโร;
โก มเมตํ วิชานาติ, โก ตํ ปฏิภณาติ เม’’ติ.
ตตฺถ โกธาติ โก อิธ. โก มเมตนฺติ โก มม เอตํ ปฺหํ วิชานาติ. โก ตํ ปฏิภณาติ เมติ เอตํ มยา ปุฏฺํ ปฺหํ มยฺหํ โก ปฏิภณาติ, โก พฺยากริตุํ สกฺขิสฺสตีติ ปุจฺฉติ.
โพธิสตฺโต ตสฺสา วจนํ สุตฺวา –
‘‘อหํ ชาครตํ สุตฺโต, อหํ สุตฺเตสุ ชาคโร;
อหเมตํ วิชานามิ, อหํ ปฏิภณามิ เต’’ติ. –
อิมํ คาถํ วตฺวา ปุน ตาย –
‘‘กถํ ¶ ชาครตํ สุตฺโต, กถํ สุตฺเตสุ ชาคโร;
กถํ เอตํ วิชานาสิ, กถํ ปฏิภณาสิ เม’’ติ. –
อิมํ คาถํ ปุฏฺโ ตมตฺถํ พฺยากโรนฺโต –
‘‘เย ธมฺมํ นปฺปชานนฺติ, สํยโมติ ทโมติ จ;
เตสุ สุปฺปมาเนสุ, อหํ ชคฺคามิ เทวเต.
‘‘เยสํ ¶ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;
เตสุ ชาครมาเนสุ, อหํ สุตฺโตสฺมิ เทวเต.
‘‘เอวํ ชาครตํ สุตฺโต, เอวํ สุตฺเตสุ ชาคโร;
เอวเมตํ วิชานามิ, เอวํ ปฏิภณามิ เต’’ติ. – อิมา คาถา อาห;
ตตฺถ กถํ ชาครตํ สุตฺโตติ กถํ ตฺวํ ชาครตํ สตฺตานํ อนฺตเร สุตฺโต นาม โหสิ. เอส นโย สพฺพตฺถ. เย ธมฺมนฺติ เย สตฺตา นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ น ปชานนฺติ. สํยโมติ ทโมติ จาติ ‘‘อยํ สํยโม, อยํ ทโม’’ติ เอวฺจ เย มคฺเคน อาคตํ สีลฺเจว อินฺทฺริยสํวรฺจ น ชานนฺติ. อินฺทฺริยสํวโร หิ มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ ทมนโต ‘‘ทโม’’ติ วุจฺจติ. เตสุ สุปฺปมาเนสูติ เตสุ กิเลสนิทฺทาวเสน สุปนฺเตสุ สตฺเตสุ อหํ อปฺปมาทวเสน ชคฺคามิ.
‘‘เยสํ ราโค จา’’ติ คาถาย เยสํ มหาขีณาสวานํ ปทสเตน นิทฺทิฏฺทิยฑฺฒสหสฺสตณฺหาโลภสงฺขาโต ราโค จ นวอาฆาตวตฺถุสมุฏฺาโน โทโส จ ทุกฺขาทีสุ อฏฺสุ วตฺถูสุ ¶ อฺาณภูตา อวิชฺชา จาติ อิเม กิเลสา วิราชิตา ปหีนา, เตสุ อริเยสุ สพฺพากาเรน ชาครมาเนสุ เต อุปาทาย อหํ สุตฺโต นาม เทวเตติ อตฺโถ. เอวํ ชาครตนฺติ เอวํ เทวเต อหํ อิมินา การเณน ชาครตํ สุตฺโต นามาติ. เอส นโย สพฺพปเทสุ.
เอวํ มหาสตฺเตน ปฺเห กถิเต ตุฏฺา เทวตา ตสฺส ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘สาธุ ¶ ชาครตํ สุตฺโต, สาธุ สุตฺเตสุ ชาคโร;
สาธุ เมตํ วิชานาสิ, สาธุ ปฏิภณาสิ เม’’ติ.
ตตฺถ สาธูติ ภทฺทกํ กตฺวา ตฺวํ อิมํ ปฺหํ กเถสิ, มยมฺปิ นํ เอวเมว กเถมาติ. เอวํ สา โพธิสตฺตสฺส ถุตึ กตฺวา อตฺตโน วิมานเมว ปาวิสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เทวธีตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชาครชาตกวณฺณนา นวมา.
[๔๑๕] ๑๐. กุมฺมาสปิณฺฑิชาตกวณฺณนา
น กิรตฺถีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวึ อารพฺภ กเถสิ. สา หิ สาวตฺถิยํ เอกสฺส มาลาการเชฏฺกสฺส ธีตา อุตฺตมรูปธรา มหาปฺุา โสฬสวสฺสิกกาเล เอกทิวสํ กุมาริกาหิ สทฺธึ ปุปฺผารามํ คจฺฉนฺตี ตโย กุมฺมาสปิณฺเฑ คเหตฺวา ปุปฺผปจฺฉิยํ เปตฺวา คจฺฉติ. สา นครโต นิกฺขมนกาเล ภควนฺตํ สรีรปฺปภํ วิสฺสชฺเชตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุตํ นครํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ตโย กุมฺมาสปิณฺเฑ อุปนาเมสิ. สตฺถา จตุมหาราชทตฺติยํ ปตฺตํ อุปเนตฺวา ปฏิคฺคเหสิ. สาปิ ตถาคตสฺส ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ คเหตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สตฺถา ตํ โอโลเกตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิ. อายสฺมา อานนฺโท ‘‘โก นุ โข, ภนฺเต, เหตุ โก ปจฺจโย ตถาคตสฺส สิตกรเณ’’ติ ภควนฺตํ ปุจฺฉิ. อถสฺส สตฺถา ‘‘อานนฺท, อยํ กุมาริกา อิเมสํ กุมฺมาสปิณฺฑานํ ผเลน อชฺเชว โกสลรฺโ อคฺคมเหสี ภวิสฺสตี’’ติ สิตการณํ กเถสิ.
กุมาริกาปิ ปุปฺผารามํ คตา ¶ . ตํ ทิวสเมว โกสลราชา อชาตสตฺตุนา สทฺธึ ยุชฺฌนฺโต ยุทฺธปราชิโต ปลายิตฺวา อสฺสํ อภิรุยฺห อาคจฺฉนฺโต ตสฺสา คีตสทฺทํ สุตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต อสฺสํ ตํ อารามาภิมุขํ เปเสสิ. ปฺุสมฺปนฺนา กุมาริกา ราชานํ ทิสฺวา อปลายิตฺวาว อาคนฺตฺวา อสฺสสฺส นาสรชฺชุยา คณฺหิ, ราชา อสฺสปิฏฺิยํ นิสินฺโนว ‘‘สสามิกาสิ, อสามิกาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อสามิกภาวํ ตฺวา อสฺสา โอรุยฺห วาตาตปกิลนฺโต ตสฺสา องฺเก นิปนฺโน มุหุตฺตํ วิสฺสมิตฺวา ตํ อสฺสปิฏฺิยํ นิสีทาเปตฺวา พลกายปริวุโต ¶ นครํ ปวิสิตฺวา อตฺตโน กุลฆรํ เปเสตฺวา สายนฺหสมเย ยานํ ปหิณิตฺวา ¶ มหนฺเตน สกฺการสมฺมาเนน กุลฆรโต อาหราเปตฺวา รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิเสกํ ทตฺวา อคฺคมเหสึ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย จ สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา, ปุพฺพุฏฺายิกาทีหิ ปฺจหิ กลฺยาณธมฺเมหิ สมนฺนาคตา ปติเทวตา, พุทฺธานมฺปิ วลฺลภา อโหสิ. ตสฺสา สตฺถุ ตโย กุมฺมาสปิณฺเฑ ทตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ อธิคตภาโว สกลนครํ ปตฺถริตฺวา คโต.
อเถกทิวสํ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, มลฺลิกา เทวี พุทฺธานํ ตโย กุมฺมาสปิณฺเฑ ทตฺวา เตสํ ผเลน ตํ ทิวสฺเว อภิเสกํ ปตฺตา, อโห พุทฺธานํ มหาคุณตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, มลฺลิกาย เอกสฺส สพฺพฺุพุทฺธสฺส ตโย กุมฺมาสปิณฺเฑ ทตฺวา โกสลรฺโ อคฺคมเหสิภาวาธิคโม. กสฺมา? พุทฺธานํ คุณมหนฺตตาย. โปราณกปณฺฑิตา ปน ปจฺเจกพุทฺธานํ อโลณกํ อสฺเนหํ อผาณิตํ กุมฺมาสํ ทตฺวา ตสฺส ผเลน ทุติเย อตฺตภาเว ติโยชนสติเก กาสิรฏฺเ รชฺชสิรึ ปาปุณึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมึ ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต เอกํ เสฏฺึ นิสฺสาย ภติยา กมฺมํ กโรนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. โส เอกทิวสํ ‘‘ปาตราสตฺถาย เม ภวิสฺสตี’’ติ อนฺตราปณโต จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺเฑ คเหตฺวา กมฺมนฺตํ คจฺฉนฺโต จตฺตาโร ปจฺเจกพุทฺเธ ภิกฺขาจารตฺถาย พาราณสินคราภิมุเข อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขํ สนฺธาย พาราณสึ คจฺฉนฺติ ¶ , มยฺหมฺปิเม จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺฑา อตฺถิ, ยํนูนาหํ อิเม อิเมสํ ทเทยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา เต อุปสํกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิเม เม หตฺเถ จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺฑา, อหํ อิเม ตุมฺหากํ ททามิ, สาธุ เม, ภนฺเต, ปฏิคฺคณฺหถ, เอวมิทํ ปฺุํ มยฺหํ ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติ วตฺวา เตสํ อธิวาสนํ วิทิตฺวา วาลิกํ อุสฺสาเปตฺวา จตฺตาริ อาสนานิ ปฺเปตฺวา เตสํ อุปริ สาขาภงฺคํ อตฺถริตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ ปฏิปาฏิยา นิสีทาเปตฺวา ปณฺณปุเฏน อุทกํ อาหริตฺวา ทกฺขิโณทกํ ปาเตตฺวา จตูสุ ปตฺเตสุ จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺเฑ ปติฏฺาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, เอเตสํ นิสฺสนฺเทน ทลิทฺทเคเห นิพฺพตฺติ นาม มา โหตุ, สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหตู’’ติ ¶ อาห. ปจฺเจกพุทฺธา ปริภฺุชึสุ, ปริโภคาวสาเน อนุโมทนํ กตฺวา อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว อคมํสุ.
โพธิสตฺโต อฺชลึ ปคฺคยฺห ปจฺเจกพุทฺธคตํ ปีตึ คเหตฺวา เตสุ จกฺขุปถํ อตีเตสุ อตฺตโน ¶ กมฺมนฺตํ คนฺตฺวา ยาวตายุกํ ทานํ อนุสฺสริตฺวา กาลํ กตฺวา ตสฺส ผเลน พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, พฺรหฺมทตฺตกุมาโรติสฺส นามํ อกํสุ. โส อตฺตโน ปทสา คมนกาลโต ปฏฺาย ‘‘อหํ อิมสฺมึเยว นคเร ภตโก หุตฺวา กมฺมนฺตํ คจฺฉนฺโต ปจฺเจกพุทฺธานํ จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺเฑ ทตฺวา ตสฺส ทานสฺส ผเลน อิธ นิพฺพตฺโต’’ติ ปสนฺนาทาเส มุขนิมิตฺตํ วิย สพฺพํ ปุริมชาติกิริยํ ชาติสฺสราเณน ปากฏํ กตฺวา ปสฺสิ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา สิกฺขิตสิปฺปํ ปิตุ ทสฺเสตฺวา ตุฏฺเน ปิตรา โอปรชฺเช ปติฏฺาปิโต, อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺาสิ. อถสฺส อุตฺตมรูปธรํ โกสลรฺโ ธีตรํ อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ อกํสุ, ฉตฺตมงฺคลทิวเส ปนสฺส สกลนครํ เทวนครํ วิย อลงฺกรึสุ.
โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อลงฺกตปาสาทํ ¶ อภิรุหิตฺวา มหาตลมชฺเฌ สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ ปลฺลงฺกํ อภิรุยฺห นิสินฺโน ปริวาเรตฺวา ิเต เอกโต อมจฺเจ, เอกโต พฺราหฺมณคหปติอาทโย นานาวิภเว สิริวิลาสสมุชฺชเล, เอกโต นานาวิธปณฺณาการหตฺเถ นาครมนุสฺเส, เอกโต อลงฺกตเทวจฺฉรสงฺฆํ วิย โสฬสสหสฺสสงฺขํ นาฏกิตฺถิคณนฺติ อิมํ อติมโนรมํ สิริวิภวํ โอโลเกนฺโต อตฺตโน ปุพฺพกมฺมํ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อิทํ สุวณฺณปิณฺฑิกํ กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ, อิมานิ จ อเนกสหสฺสานิ หตฺถิวาหนอสฺสวาหนรถวาหนานิ, มณิมุตฺตาทิปูริตา สารคพฺภา, นานาวิธธฺปูริตา มหาปถวี, เทวจฺฉรปฏิภาคา นาริโย จาติ สพฺโพเปส มยฺหํ สิริวิภโว น อฺสฺส สนฺตโก, จตุนฺนํ ปจฺเจกพุทฺธานํ ทินฺนสฺส จตุกุมฺมาสปิณฺฑทานสฺเสว สนฺตโก, เต นิสฺสาย มยา เอส ลทฺโธ’’ติ ปจฺเจกพุทฺธานํ คุณํ อนุสฺสริตฺวา อตฺตโน กมฺมํ ปากฏํ อกาสิ. ตสฺส ตํ อนุสฺสรนฺตสฺส สกลสรีรํ ปีติยา ปูริ. โส ปีติยา เตมิตหทโย มหาชนสฺส มชฺเฌ อุทานคีตํ คายนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘น ¶ กิรตฺถิ อโนมทสฺสิสุ, ปาริจริยา พุทฺเธสุ อปฺปิกา;
สุกฺขาย อโลณิกาย จ, ปสฺส ผลํ กุมฺมาสปิณฺฑิยา.
‘‘หตฺถิควาสฺสา จิเม พหู, ธนธฺํ ปถวี จ เกวลา;
นาริโย จิมา อจฺฉรูปมา, ปสฺส ผลํ กุมฺมาสปิณฺฑิยา’’ติ.
ตตฺถ อโนมทสฺสิสูติ อโนมสฺส อลามกสฺส ปจฺเจกโพธิาณสฺส ทิฏฺตฺตา ปจฺเจกพุทฺธา อโนมทสฺสิโน นาม. ปาริจริยาติ อภิวาทนปจฺจุฏฺานฺชลิกมฺมาทิเภทา สามีจิกิริยาปิ, สมฺปตฺเต ¶ ทิสฺวา อตฺตโน สนฺตกํ อปฺปํ วา พหุํ วา ลูขํ วา ปณีตํ วา เทยฺยธมฺมํ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา คุณํ สลฺลกฺเขตฺวา ติสฺโส เจตนา วิโสเธตฺวา ผลํ สทฺทหิตฺวา ปริจฺจชนกิริยาปิ ¶ . พุทฺเธสูติ ปจฺเจกพุทฺเธสุ. อปฺปิกาติ มนฺทา ปริตฺตา นาม นตฺถิ กิร. สุกฺขายาติ นิสฺเนหาย. อโลณิกายาติ ผาณิตวิรหิตาย. นิปฺผาณิตตฺตา หิ สา ‘‘อโลณิกา’’ติ วุตฺตา. กุมฺมาสปิณฺฑิยาติ จตฺตาโร กุมฺมาสปิณฺเฑ เอกโต กตฺวา คหิตํ กุมฺมาสํ สนฺธาย เอวมาห. คุณวนฺตานํ สมณพฺราหฺมณานํ คุณํ สลฺลกฺเขตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา ผลุปฺปตฺตึ ปาฏิกงฺขมานานํ ติสฺโส เจตนา วิโสเธตฺวา ทินฺนปทกฺขิณา อปฺปิกา นาม นตฺถิ, นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน มหาสมฺปตฺติเมว เทตีติ วุตฺตํ โหติ. โหติ เจตฺถ –
‘‘นตฺถิ จิตฺเต ปสนฺนมฺหิ, อปฺปิกา นาม ทกฺขิณา;
ตถาคเต วา สมฺพุทฺเธ, อถ วา ตสฺส สาวเก.
‘‘ติฏฺนฺเต นิพฺพุเต จาปิ, สเม จิตฺเต สมํ ผลํ;
เจโตปณิธิเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ. (วิ. ว. ๘๐๔, ๘๐๖);
อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถาย –
‘‘ขีโรทนํ อหมทาสึ, ภิกฺขุโน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส; (วิ. ว. ๔๑๓);
ตสฺสา เม ปสฺส วิมานํ, อจฺฉรา กามวณฺณินีหมสฺมิ. (วิ. ว. ๓๓๔);
‘‘อจฺฉราสหสฺสสฺสาหํ ¶ , ปวรา ปสฺส ปฺุานํ วิปากํ;
เตน เมตาทิโส วณฺโณ, เตน เม อิธ มิชฺฌติ.
‘‘อุปฺปชฺชนฺติ จ เม โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยา;
เตนมฺหิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วณฺโณ จ เม สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติ. (วิ. ว. ๓๓๔-๓๓๖) –
เอวมาทีนิ วิมานวตฺถูนิ อาหริตพฺพานิ.
ธนธฺนฺติ ¶ มุตฺตาทิธนฺจ สตฺต ธฺานิ จ. ปถวี จ เกวลาติ สกลา เจสา มหาปถวีติ สกลปถวึ หตฺถคตํ มฺมาโน วทติ. ปสฺส ผลํ กุมฺมาสปิณฺฑิยาติ อตฺตโน ทานผลํ อตฺตนาว ทสฺเสนฺโต เอวมาห. ทานผลํ กิร โพธิสตฺตา จ สพฺพฺุพุทฺธาเยว จ ชานนฺติ. เตเนว สตฺถา อิติวุตฺตเก สุตฺตนฺตํ กเถนฺโต –
‘‘เอวฺเจ, ภิกฺขเว, สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ, ยถาหํ ชานามิ, น อทตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, น จ เนสํ มจฺเฉรมลํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺเยฺย. โยปิ เนสํ อสฺส จริโม อาโลโป จริมํ กพฬํ, ตโตปิ น อสํวิภชิตฺวา ภฺุเชยฺยุํ, สเจ เนสํ ปฏิคฺคาหกา อสฺสุ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, สตฺตา น เอวํ ชานนฺติ ทานสํวิภาคสฺส วิปากํ, ยถาหํ ชานามิ, ตสฺมา อทตฺวา ภฺุชนฺติ, มจฺเฉรมลฺจ เนสํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ (อิติวุ. ๒๖).
โพธิสตฺโตปิ อตฺตโน ฉตฺตมงฺคลทิวเส สฺชาตปีติปาโมชฺโช อิมาหิ ทฺวีหิ คาถาหิ อุทานคีตํ คายิ. ตโต ปฏฺาย ‘‘รฺโ ปิยคีต’’นฺติ โพธิสตฺตสฺส นาฏกิตฺถิโย จ เสสนาฏกคนฺธพฺพาทโยปิ จ อนฺเตปุรชโนปิ อนฺโตนครวาสิโนปิ พหินครวาสิโนปิ ปานาคาเรสุปิ อมจฺจมณฺฑเลสุปิ ‘‘อมฺหากํ รฺโ ปิยคีต’’นฺติ ตเทว ¶ คีตํ คายนฺติ. เอวํ อทฺธาเน คเต อคฺคมเหสี ตสฺส คีตสฺส อตฺถํ ชานิตุกามา อโหสิ, มหาสตฺตํ ปน ปุจฺฉิตุํ น วิสหติ. อถสฺสา เอกสฺมึ คุเณ ปสีทิตฺวา เอกทิวสํ ราชา ‘‘ภทฺเท, วรํ เต ทสฺสามิ, วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, เทว, คณฺหามี’’ติ. ‘‘หตฺถิอสฺสาทีสุ เต กึ ทมฺมี’’ติ? ‘‘เทว, ตุมฺเห นิสฺสาย มยฺหํ น กิฺจิ นตฺถิ, น เม เอเตหิ อตฺโถ, สเจ ปน ทาตุกามาตฺถ, ตุมฺหากํ คีตสฺส อตฺถํ กเถตฺวา เทถา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, โก เต ¶ อิมินา วเรน อตฺโถ, อฺํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘เทว, อฺเน เม อตฺโถ นตฺถิ, เอตเทว คณฺหามี’’ติ. ‘‘สาธุ ภทฺเท, กเถสฺสามิ, ตุยฺหํ ปน เอกิกาย รโห น กเถสฺสามิ, ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา เภรึ จราเปตฺวา ราชทฺวาเร รตนมณฺฑปํ กาเรตฺวา รตนปลฺลงฺกํ ปฺาเปตฺวา อมจฺจพฺราหฺมณาทีหิ จ นาคเรหิ เจว โสฬสหิ อิตฺถิสหสฺเสหิ จ ปริวุโต เตสํ มชฺเฌ รตนปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา กเถสฺสามี’’ติ. สา ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
ราชา ตถา กาเรตฺวา อมรคณปริวุโต สกฺโก เทวราชา วิย มหาชนกายปริวุโต รตนปลฺลงฺเก นิสีทิ. เทวีปิ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา กฺจนภทฺทปีํ อตฺถริตฺวา เอกมนฺเต อกฺขิโกฏิยา โอโลเกตฺวา ตถารูเป าเน นิสีทิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺหากํ ตุสฺสิตฺวา คายนมงฺคลคีตสฺส ¶ ตาว เม อตฺถํ คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา กเถถา’’ติ วตฺวา ตติยํ คาถมาห –
‘‘อภิกฺขณํ ราชกฺุชร, คาถา ภาสสิ โกสลาธิป;
ปุจฺฉามิ ตํ รฏฺวฑฺฒน, พาฬฺหํ ปีติมโน ปภาสสี’’ติ.
ตตฺถ โกสลาธิปาติ น โส โกสลรฏฺาธิโป, กุสเล ปน ธมฺเม อธิปตึ กตฺวา วิหรติ, เตน นํ อาลปนฺตี เอวมาห, กุสลาธิป กุสลชฺฌาสยาติ ¶ อตฺโถ. พาฬฺหํ ปีติมโน ปภาสสีติ อติวิย ปีติยุตฺตจิตฺโต หุตฺวา ภาสสิ, ตสฺมา กเถถ ตาว เม เอตาสํ คาถานํ อตฺถนฺติ.
อถสฺส คาถานมตฺถํ อาวิ กโรนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อิมสฺมึเยว นคเร, กุเล อฺตเร อหุํ;
ปรกมฺมกโร อาสึ, ภตโก สีลสํวุโต.
‘‘กมฺมาย นิกฺขมนฺโตหํ, จตุโร สมเณทฺทสํ;
อาจารสีลสมฺปนฺเน, สีติภูเต อนาสเว.
‘‘เตสุ ¶ จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, นิสีเทตฺวา ปณฺณสนฺถเต;
อทํ พุทฺธานํ กุมฺมาสํ, ปสนฺโน เสหิ ปาณิภิ.
‘‘ตสฺส กมฺมสฺส กุสลสฺส, อิทํ เม เอทิสํ ผลํ;
อนุโภมิ อิทํ รชฺชํ, ผีตํ ธรณิมุตฺตม’’นฺติ.
ตตฺถ กุเล อฺตเรติ นาเมน วา โคตฺเตน วา อปากเฏ เอกสฺมึเยว กุเล. อหุนฺติ นิพฺพตฺตึ. ปรกมฺมกโร อาสินฺติ ตสฺมึ กุเล ชาโตวาหํ ทลิทฺทตาย ปรสฺส กมฺมํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ปรกมฺมกโร อาสึ. ภตโกติ ปรเวตนภโต. สีลสํวุโตติ ปฺจสีลสํวเร ิโต, ภติยา ชีวนฺโตปิ ทุสฺสีลฺยํ ปหาย สีลสมฺปนฺโนว อโหสินฺติ ทีเปติ. กมฺมาย นิกฺขมนฺโตหนฺติ ตํ ทิวสํ กตฺตพฺพกิจฺจสฺส กรณตฺถาย นิกฺขนฺโต อหํ. จตุโร สมเณทฺทสนฺติ ¶ ภทฺเท, อหํ นครา นิกฺขมฺม มหามคฺคํ อารุยฺห อตฺตโน กมฺมภูมึ คจฺฉนฺโต ภิกฺขาย พาราณสินครํ ปวิสนฺเต สมิตปาเป จตฺตาโร ปพฺพชิเต อทฺทสํ. อาจารสีลสมฺปนฺเนติ เอกวีสติยา อเนสนาหิ ชีวิกกปฺปนํ อนาจาโร นาม, ตสฺส ปฏิปกฺเขน อาจาเรน เจว มคฺคผเลหิ อาคเตน สีเลน จ สมนฺนาคเต. สีติภูเตติ ราคาทิปริฬาหวูปสเมน เจว เอกาทสอคฺคินิพฺพาปเนน จ สีติภาวปฺปตฺเต. อนาสเวติ กามาสวาทิวิรหิเต. นิสีเทตฺวาติ วาลิกาสนานํ อุปริ สนฺถเต ปณฺณสนฺถเร นิสีทาเปตฺวา. สนฺถโร หิ อิธ สนฺถโตติ วุตฺโต. อทนฺติ เนสํ อุทกํ ทตฺวา สกฺกจฺจํ สเกหิ หตฺเถหิ กุมฺมาสํ อทาสึ. กุสลสฺสาติ อาโรคฺยานวชฺชฏฺเน กุสลสฺส. ผลนฺติ ตสฺส นิสฺสนฺทผลํ. ผีตนฺติ สพฺพสมฺปตฺติผุลฺลิตํ.
เอวฺจ ¶ มหาสตฺตสฺส อตฺตโน กมฺมผลํ วิตฺถาเรตฺวา กเถนฺตสฺส สุตฺวา เทวี ปสนฺนมนา ‘‘สเจ, มหาราช, เอวํ ปจฺจกฺขโต ทานผลํ ชานาถ, อิโต ทานิ ปฏฺาย เอกํ ภตฺตปิณฺฑํ ลภิตฺวา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ทตฺวาว ปริภฺุเชยฺยาถา’’ติ โพธิสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺตี –
‘‘ททํ ภฺุช มา จ ปมาโท, จกฺกํ วตฺตย โกสลาธิป;
มา ราช อธมฺมิโก อหุ, ธมฺมํ ปาลย โกสลาธิปา’’ติ. – อิมํ คาถมาห;
ตตฺถ ¶ ททํ ภฺุชาติ อฺเสํ ทตฺวาว อตฺตนา ภฺุช. มา จ ปมาโทติ ทานาทีสุ ปฺุเสุ มา ปมชฺชิ. จกฺกํ วตฺตย โกสลาธิปาติ กุสลชฺฌาสย, มหาราช, ปติรูปเทสวาสาทิกํ จตุพฺพิธํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตหิ. ปกติรโถ หิ ทฺวีหิ จกฺเกหิ คจฺฉติ, อยํ ปน กาโย อิเมหิ จตูหิ จกฺเกหิ เทวโลกํ คจฺฉติ, เตน เต ‘‘ธมฺมจกฺก’’นฺติ สงฺขฺยํ คตา, ตํ ตฺวํ จกฺกํ ปวตฺเตหิ. อธมฺมิโกติ ยถา อฺเ ฉนฺทาคตึ คจฺฉนฺตา โลกํ อุจฺฉุยนฺเต ปีเฬตฺวา วิย ธนเมว สํกฑฺฒนฺตา อธมฺมิกา โหนฺติ, ตถา ตฺวํ มา อธมฺมิโก อหุ. ธมฺมํ ปาลยาติ –
‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;
อกฺโกธํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจ อวิโรธน’’นฺติ. (ชา. ๒.๒๑.๑๗๖) –
อิมํ ปน ทสวิธํ ราชธมฺมเมว ปาลย รกฺข, มา ปริจฺจชิ.
มหาสตฺโต ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต –
‘‘โสหํ ตเทว ปุนปฺปุนํ, วฏุมํ อาจริสฺสามิ โสภเน;
อริยาจริตํ สุโกสเล, อรหนฺโต เม มนาปาว ปสฺสิตุ’’นฺติ. – คาถมาห;
ตตฺถ ¶ วฏุมนฺติ มคฺคํ. อริยาจริตนฺติ อริเยหิ พุทฺธาทีหิ อาจิณฺณํ. สุโกสเลติ โสภเน โกสลรฺโ ธีเตติ อตฺโถ. อรหนฺโตติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อรานฺจ อรีนฺจ หตตฺตา, ปจฺจยานํ อรหตฺตา เอวํลทฺธนามา ปจฺเจกพุทฺธา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภทฺเท, โกสลราชธีเต โส อหํ ‘‘ทานํ ¶ เม ทินฺน’’นฺติ ติตฺตึ อกตฺวา ปุนปฺปุนํ ตเทว อริยาจริตํ ทานมคฺคํ อาจริสฺสามิ. มยฺหฺหิ อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา อรหนฺโต มนาปทสฺสนา, จีวราทีนิ ทาตุกามตาย เตเยว ปสฺสิตุํ อิจฺฉามีติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ราชา เทวิยา สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา ‘‘ภทฺเท, มยา ตาว ปุริมภเว อตฺตโน กุสลกมฺมํ วิตฺถาเรตฺวา กถิตํ, อิมาสํ ปน นารีนํ มชฺเฌ รูเปน วา ลีฬาวิลาเสน วา ตยา สทิสี เอกาปิ ¶ นตฺถิ, สา ตฺวํ กึ กมฺมํ กตฺวา อิมํ สมฺปตฺตึ ปฏิลภี’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปุน คาถมาห –
‘‘เทวี วิย อจฺฉรูปมา, มชฺเฌ นาริคณสฺส โสภสิ;
กึ กมฺมมกาสิ ภทฺทกํ, เกนาสิ วณฺณวตี สุโกสเล’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท สุโกสเล โกสลรฺโ สุธีเต ตฺวํ รูปสมฺปตฺติยา อจฺฉรูปมา ติทสปุเร สกฺกสฺส เทวรฺโ อฺตรา เทวธีตา วิย อิมสฺส นารีคณสฺส มชฺเฌ โสภสิ, ปุพฺเพ กึ นาม ภทฺทกํ กลฺยาณกมฺมํ อกาสิ, เกนาสิ การเณน เอวํ วณฺณวตี ชาตาติ.
อถสฺส สา ปุริมภเว กลฺยาณกมฺมํ กเถนฺตี เสสคาถาทฺวยมาห –
‘‘อมฺพฏฺกุลสฺส ขตฺติย, ทาสฺยาหํ ปรเปสิยา อหุํ;
สฺตา จ ธมฺมชีวินี, สีลวตี จ อปาปทสฺสนา.
‘‘อุทฺธฏภตฺตํ อหํ ตทา, จรมานสฺส อทาสึ ภิกฺขุโน;
วิตฺตา สุมนา สยํ อหํ, ตสฺส กมฺมสฺส ผลํ มเมทิส’’นฺติ.
สาปิ กิร ชาติสฺสราว อโหสิ, ตสฺมา อตฺตโน ชาติสฺสราเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวาว กเถสิ.
ตตฺถ ¶ ¶ อมฺพฏฺกุลสฺสาติ กุฏุมฺพิยกุลสฺส. ทาสฺยาหนฺติ ทาสี อหํ, ‘‘ทาสาห’’นฺติปิ ปาโ. ปรเปสิยาติ ปเรหิ ตสฺส ตสฺส กิจฺจสฺส กรณตฺถาย เปสิตพฺพา เปสนการิกา. สฺตาติ ทาสิโย นาม ทุสฺสีลา โหนฺติ, อหํ ปน ตีหิ ทฺวาเรหิ สฺตา สีลสมฺปนฺนา. ธมฺมชีวินีติ ปรวฺจนาทีนิ อกตฺวา ธมฺเมน สเมน ปวตฺติตชีวิกา. สีลวตีติ อาจารสมฺปนฺนา คุณวตี. อปาปทสฺสนาติ กลฺยาณทสฺสนา ปิยธมฺมา.
อุทฺธฏภตฺตนฺติ ¶ อตฺตโน ปตฺตโกฏฺาสวเสน อุทฺธริตฺวา ลทฺธภาคภตฺตํ. ภิกฺขุโนติ ภินฺนกิเลสสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส. วิตฺตา สุมนาติ ตุฏฺา โสมนสฺสชาตา กมฺมผลํ สทฺทหนฺตี. ตสฺส กมฺมสฺสาติ ตสฺส เอกภิกฺขาทานกมฺมสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อหํ, มหาราช, ปุพฺเพ สาวตฺถิยํ อฺตรสฺส กุฏุมฺพิยกุลสฺส ทาสี หุตฺวา อตฺตโน ลทฺธภาคภตฺตํ อาทาย นิกฺขมนฺตี เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ ปิณฺฑาย จรนฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน ตณฺหํ มิลาเปตฺวา สฺตาทิคุณสมฺปนฺนา กมฺมผลํ สทฺทหนฺตี ตสฺส ตํ ภตฺตํ อทาสึ, สาหํ ยาวตายุกํ ตฺวา กาลํ กตฺวา ตตฺถ สาวตฺถิยํ โกสลรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา อิทานิ ตว ปาเท ปริจรมานา เอวรูปํ สมฺปตฺตึ อนุภวามิ, ตสฺส มม กมฺมสฺส อิทมีทิสํ ผลนฺติ. ตตฺถ คุณสมฺปนฺนานํ ทินฺนทานสฺส มหปฺผลภาวทสฺสนตฺถํ –
‘‘อคฺคโต เว ปสนฺนาน’’นฺติ (อิติวุ. ๙๐) จ.
‘‘เอส เทวมนุสฺสานํ, สพฺพกามทโท นิธี’’ติ (ขุ. ปา. ๘.๑๐) จ. –
อาทิคาถา วิตฺถาเรตพฺพา.
อิติ เต อุโภปิ อตฺตโน ปุริมกมฺมํ วิตฺถารโต กเถตฺวา ตโต ปฏฺาย จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเรติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สคฺคปรายณา อเหสุํ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เทวี ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กุมฺมาสปิณฺฑิชาตกวณฺณนา ทสมา.
[๔๑๖] ๑๑. ปรนฺตปชาตกวณฺณนา
อาคมิสฺสติ ¶ เม ปาปนฺติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ตถาคตสฺส ¶ มารณตฺถเมว ปริสกฺกติ, ธนุคฺคเห ปโยเชสิ, สิลํ ปวิชฺฌิ, นาฬาคิรึ วิสฺสชฺชาเปสิ, ตถาคตสฺส ¶ วินาสตฺถเมว อุปายํ กโรตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มม วธาย ปริสกฺกิ, ตาสมตฺตมฺปิ ปน กาตุํ อสกฺโกนฺโต อตฺตนาว ทุกฺขํ อนุโภสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขิ, สพฺพรุตชานนมนฺตํ อุคฺคณฺหิ. โส อาจริยสฺส อนุโยคํ ทตฺวา พาราณสึ ปจฺจาคจฺฉิ, ปิตา ตํ โอปรชฺเช เปสิ. กิฺจาปิ โอปรชฺเช เปติ, มาราเปตุกาโม ปน นํ หุตฺวา ทฏฺุมฺปิ น อิจฺฉิ. อเถกา สิงฺคาลี ทฺเว โปตเก คเหตฺวา รตฺตึ มนุสฺเสสุ ปฏิสลฺลีเนสุ นิทฺธมเนน นครํ ปาวิสิ. โพธิสตฺตสฺส จ ปาสาเท สยนคพฺภสฺส อวิทูเร เอกา สาลา อตฺถิ, ตตฺเถโก อทฺธิกมนุสฺโส อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา ปาทมูเล ภูมิยํ เปตฺวา เอกสฺมึ ผลเก นิปชฺชิ, น ตาว นิทฺทายติ. ตทา สิงฺคาลิยา โปตกา ฉาตา วิรวึสุ. อถ เตสํ มาตา ‘‘ตาตา, มา สทฺทํ กริตฺถ, เอติสฺสา สาลาย เอโก มนุสฺโส อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา ภูมิยํ เปตฺวา ผลเก นิปนฺโน น ตาว นิทฺทายติ, เอตสฺส นิทฺทายนกาเล เอตา อุปาหนา อาหริตฺวา ตุมฺเห ขาทาเปสฺสามี’’ติ อตฺตโน ภาสาย อาห. โพธิสตฺโต มนฺตานุภาเวน ตสฺสา ภาสํ ชานิตฺวา สยนคพฺภา นิกฺขมฺม วาตปานํ วิวริตฺวา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อหํ, เทว, อทฺธิกมนุสฺโส’’ติ. ‘‘อุปาหนา เต กุหิ’’นฺติ? ‘‘ภูมิยํ, เทวา’’ติ. ‘‘อุกฺขิตฺวา โอลมฺเพตฺวา เปหี’’ติ. ตํ สุตฺวา สิงฺคาลี โพธิสตฺตสฺส กุชฺฌิ.
ปุน เอกทิวสํ สา ตเถว นครํ ปาวิสิ. ตทา เจโก มตฺตมนุสฺโส ‘‘ปานียํ ¶ ปิวิสฺสามี’’ติ โปกฺขรณึ โอตรนฺโต ปติตฺวา นิมุคฺโค นิรสฺสาโส มริ. นิวตฺถา ปนสฺส ทฺเว สาฏกา นิวาสนนฺตเร กหาปณสหสฺสํ องฺคุลิยา จ มุทฺทิกา อตฺถิ. ตทาปิ สา ปุตฺตเก ‘‘ฉาตมฺหา, อมฺมา’’ติ วิรวนฺเต ‘‘ตาตา, มา สทฺทํ กริตฺถ, เอติสฺสา โปกฺขรณิยา มนุสฺโส มโต, ตสฺส อิทฺจิทฺจ อตฺถิ, โส ปน มริตฺวา โสปาเนเยว นิปนฺโน, ตุมฺเห เอตํ มนุสฺสํ ขาทาเปสฺสามี’’ติ ¶ อาห. โพธิสตฺโต ¶ ตํ สุตฺวา วาตปานํ วิวริตฺวา ‘‘สาลาย โก อตฺถี’’ติ วตฺวา เอเกนุฏฺาย ‘‘อหํ, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉ เอติสฺสา โปกฺขรณิยา มตมนุสฺสสฺส สาฏเก จ กหาปณสหสฺสฺจ องฺคุลิมุทฺทิกฺจ คเหตฺวา สรีรมสฺส ยถา น อุฏฺหติ, เอวํ อุทเก โอสีทาเปหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. สา ปุนปิ กุชฺฌิตฺวา ‘‘ปุริมทิวเส ตาว เม ปุตฺตกานํ อุปาหนา ขาทิตุํ น อทาสิ, อชฺช มตมนุสฺสํ ขาทิตุํ น เทติ, โหตุ, อิโต ทานิ ตติยทิวเส เอโก สปตฺตราชา อาคนฺตฺวา นครํ ปริกฺขิปิสฺสติ. อถ นํ ปิตา ยุทฺธตฺถาย เปเสสฺสติ, ตตฺร เต สีสํ ฉินฺทิสฺสนฺติ, อถ เต คลโลหิตํ ปิวิตฺวา เวรํ มฺุจิสฺสามิ. ตฺวํ มยา สทฺธึ เวรํ พนฺธสิ, ชานิสฺสามี’’ติ วิรวิตฺวา โพธิสตฺตํ ตชฺเชตฺวา ปุตฺตเก คเหตฺวา นิกฺขมติ.
ตติยทิวเส เอโก สปตฺตราชา อาคนฺตฺวา นครํ ปริวาเรสิ. ราชา โพธิสตฺตํ ‘‘คจฺฉ, ตาต, เตน สทฺธึ ยุชฺฌา’’ติ อาห. ‘‘มยา, เทว, เอกํ ทิฏฺํ อตฺถิ, คนฺตุํ น วิสหามิ, ชีวิตนฺตรายํ ภายามี’’ติ. ‘‘มยฺหํ ตยิ มเต วา อมเต วา กึ, คจฺฉาเหว ตฺว’’นฺติ? โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ มหาสตฺโต ปริสํ คเหตฺวา สปตฺตรฺโ ิตทฺวาเรน อนิกฺขมิตฺวา อฺํ ทฺวารํ วิวริตฺวา นิกฺขมิ. ตสฺมึ คจฺฉนฺเต สกลนครํ ตุจฺฉํ วิย อโหสิ. สพฺเพ เตเนว สทฺธึ นิกฺขมึสุ. โส เอกสฺมึ สภาคฏฺาเน ขนฺธาวารํ นิวาเสตฺวา อจฺฉิ. ราชา จินฺเตสิ ‘‘อุปราชา นครํ ตุจฺฉํ กตฺวา พลํ คเหตฺวา ปลายิ, สปตฺตราชาปิ นครํ ปริวาเรตฺวา ¶ ิโต, อิทานิ มยฺหํ ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. โส ‘‘ชีวิตํ รกฺขิสฺสามี’’ติ เทวิฺจ ปุโรหิตฺจ ปรนฺตปํ นาเมกํ ปาทมูลิกฺจ ทาสํ คเหตฺวา รตฺติภาเค อฺาตกเวเสน ปลายิตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส ปลาตภาวํ ตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ยุทฺธํ กตฺวา สปตฺตํ ปลาเปตฺวา รชฺชํ คณฺหิ. ปิตาปิสฺส เอกสฺมึ นทีตีเร ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ผลาผเลน ยาเปนฺโต วสิ. ราชา จ ปุโรหิโต จ ผลาผลตฺถาย คจฺฉนฺติ. ปรนฺตปทาโส เทวิยา สทฺธึ ปณฺณสาลายเมว โหติ. ตตฺราปิ ราชานํ ปฏิจฺจ เทวิยา กุจฺฉิสฺมึ คพฺโภ ปติฏฺาสิ. สา อภิณฺหสํสคฺควเสน ปรนฺตเปน สทฺธึ อติจริ. สา เอกทิวสํ ปรนฺตปํ อาห ‘‘รฺา าเต เนว ตว, น มยฺหํ ชีวิตํ อตฺถิ, ตสฺมา มาเรหิ น’’นฺติ. ‘‘กถํ มาเรมี’’ติ? เอส ตํ ขคฺคฺจ นฺหานสาฏกฺจ ¶ คาหาเปตฺวา นฺหายิตุํ คจฺฉติ, ตตฺรสฺส นฺหานฏฺาเน ปมาทํ ตฺวา ขคฺเคน สีสํ ฉินฺทิตฺวา สรีรํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา ภูมิยํ นิขณาหีติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
อเถกทิวสํ ปุโรหิโตเยว ผลาผลตฺถาย คนฺตฺวา อวิทูเร รฺโ นฺหานติตฺถสามนฺเต เอกํ รุกฺขํ ¶ อารุยฺห ผลาผลํ คณฺหาติ. ราชา ‘‘นฺหายิสฺสามี’’ติ ปรนฺตปํ ขคฺคฺจ นฺหานสาฏกฺจ คาหาเปตฺวา นทีตีรํ อคมาสิ. ตตฺถ นํ นฺหานกาเล ปมาทมาปนฺนํ ‘‘มาเรสฺสามี’’ติ ปรนฺตโป คีวาย คเหตฺวา ขคฺคํ อุกฺขิปิ. โส มรณภเยน วิรวิ. ปุโรหิโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา โอโลเกนฺโต ปรนฺตปํ ราชานํ มาเรนฺตํ ทิสฺวา ภีตตสิโต สาขํ วิสฺสชฺเชตฺวา รุกฺขโต โอรุยฺห เอกํ คุมฺพํ ปวิสิตฺวา นิลียิ. ปรนฺตโป ตสฺส สาขาวิสฺสชฺชนสทฺทํ สุตฺวา ราชานํ มาเรตฺวา ภูมิยํ ขณิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน สาขาวิสฺสชฺชนสทฺโท อโหสิ, โก นุ โข เอตฺถา’’ติ วิจินนฺโต กฺจิ อทิสฺวา นฺหตฺวา คโต. ตสฺส คตกาเล ปุโรหิโต นิสินฺนฏฺานา นิกฺขมิตฺวา รฺโ สรีรํ ขณฺฑาขณฺฑิกํ ¶ ฉินฺทิตฺวา อาวาเฏ นิขาตภาวํ ตฺวา นฺหตฺวา อตฺตโน วธภเยน อนฺธเวสํ คเหตฺวา ปณฺณสาลํ อคมาสิ. ตํ ทิสฺวา ปรนฺตโป ‘‘กึ เต, พฺราหฺมณ, กต’’นฺติ อาห. โส อชานนฺโต วิย ‘‘เทว, อกฺขีนิ เม นาเสตฺวา อาคโตมฺหิ, อุสฺสนฺนาสีวิเส อรฺเ เอกสฺมึ วมฺมิกปสฺเส อฏฺาสึ, ตตฺเรเกน อาสีวิเสน นาสวาโต วิสฺสฏฺโ เม ภวิสฺสตี’’ติ อาห. ปรนฺตโป ‘‘น มํ สฺชานาติ, ‘เทวา’ติ วทติ, สมสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, มา จินฺตยิ, อหํ ตํ ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ อสฺสาเสตฺวา ผลาผลํ ทตฺวา สนฺตปฺเปสิ. ตโต ปฏฺาย ปรนฺตปทาโส ผลาผลํ อาหริ, เทวีปิ ปุตฺตํ วิชายิ. สา ปุตฺเต วฑฺฒนฺเต เอกทิวสํ ปจฺจูสสมเย สุขนิสินฺนา สณิกํ ปรนฺตปทาสํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ ราชานํ มาเรนฺโต เกนจิ ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘น มํ โกจิ อทฺทส, สาขาวิสฺสชฺชนสทฺทํ ปน อสฺโสสึ, ตสฺสา สาขาย มนุสฺเสน วา ติรจฺฉาเนน วา วิสฺสฏฺภาวํ น ชานามิ, ยทา กทาจิ ปน เม ภยํ อาคจฺฉนฺตํ สาขาวิสฺสฏฺฏฺานโต อาคมิสฺสตี’’ติ ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อาคมิสฺสติ ¶ เม ปาปํ, อาคมิสฺสติ เม ภยํ;
ตทา หิ จลิตา สาขา, มนุสฺเสน มิเคน วา’’ติ.
ตตฺถ ปาปนฺติ ลามกํ อนิฏฺํ อกนฺตํ. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสภยมฺปิ เม อาคมิสฺสติ, น สกฺกา นาคนฺตุํ. กึการณา? ตทา หิ จลิตา สาขา มนุสฺเสน มิเคน วาติ น ปฺายติ, ตสฺมา ตโต มํ ภยํ อาคมิสฺสติ.
เต ‘‘ปุโรหิโต นิทฺทายตี’’ติ มฺึสุ. โส ปน อนิทฺทายมาโนว เตสํ กถํ อสฺโสสิ. อเถกทิวสํ ปุโรหิโต ปรนฺตปทาเส ผลาผลตฺถาย คเต อตฺตโน พฺราหฺมณึ สริตฺวา วิลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ภีรุยา ¶ ¶ นูน เม กาโม, อวิทูเร วสนฺติยา;
กริสฺสติ กิสํ ปณฺฑุํ, สาว สาขา ปรนฺตป’’นฺติ.
ตตฺถ ภีรุยาติ อิตฺถี จ นาม อปฺปมตฺตเกนาปิ ภายติ, ตสฺมา ‘‘ภีรู’’ติ วุจฺจติ. อวิทูเรติ นาติทูเร อิโต กติปยโยชนมตฺถเก วสนฺติยา ภีรุยา มยฺหํ พฺราหฺมณิยา โย มม กาโม อุปฺปนฺโน, โส นูน มํ กิสฺจ ปณฺฑฺุจ กริสฺสตีติ ทสฺเสติ. ‘‘สาว สาขา’’ติ อิมินา ปน โอปมฺมํ ทสฺเสติ, ยถา สาขา ปรนฺตปํ กิสํ ปณฺฑุํ กโรติ, เอวนฺติ อตฺโถ.
อิติ พฺราหฺมโณ คาถเมว วทติ, อตฺถํ ปน น กเถติ, ตสฺมา อิมาย คาถาย กิจฺจํ เทวิยา อปากฏํ. อถ นํ ‘‘กึ กเถสิ พฺราหฺมณา’’ติ อาห. โสปิ ‘‘สลฺลกฺขิตํ เม’’ติ วตฺวา ปุน เอกทิวสํ ตติยํ คาถมาห –
‘‘โสจยิสฺสติ มํ กนฺตา, คาเม วสมนินฺทิตา;
กริสฺสติ กิสํ ปณฺฑุํ, สาว สาขา ปรนฺตป’’นฺติ.
ตตฺถ โสจยิสฺสตีติ โสกุปฺปาทเนน สุกฺขาเปสฺสติ. กนฺตาติ อิฏฺภริยา. คาเม วสนฺติ พาราณสิยํ วสนฺตีติ อธิปฺปาโย. อนินฺทิตาติ อครหิตา อุตฺตมรูปธรา.
ปุเนกทิวสํ ¶ จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ตยา มํ อสิตาปงฺคิ, สิตานิ ภณิตานิ จ;
กิสํ ปณฺฑุํ กริสฺสนฺติ, สาว สาขา ปรนฺตป’’นฺติ.
ตตฺถ ตยา มํ อสิตาปงฺคีติ ตยา มํ อสิตา อปงฺคิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภทฺเท, อกฺขิโกฏิโต อฺชนสลากาย นีหริตฺวา อภิสงฺขตอสิตาปงฺคิ ตยา ปวตฺติตานิ มนฺทหสิตานิ จ มธุรภาสิตานิ จ มํ สา วิสฺสฏฺสาขา วิรวมานา ปรนฺตปํ วิย กิสํ ปณฺฑุํ กริสฺสตีติ. ป-การสฺส ว-การํ กตฺวา ‘‘วงฺคี’’ติปิ ปาโเยว.
อปรภาเค กุมาโร วยปฺปตฺโต อโหสิ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก. อถ นํ พฺราหฺมโณ ยฏฺิโกฏึ คาหาเปตฺวา นฺหานติตฺถํ คนฺตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกสิ. กุมาโร ‘‘นนุ ตฺวํ พฺราหฺมณ, อนฺโธ’’ติ ¶ ¶ อาห. โส ‘‘นาหํ อนฺโธ, อิมินา เม อุปาเยน ชีวิตํ รกฺขามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตว ปิตรํ ชานาสี’’ติ อาห. ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ วุตฺเต ‘‘นายํ ตว ปิตา, ปิตา ปน เต พาราณสิราชา, อยํ ตุมฺหากํ ทาโส, โส มาตริ เต วิปฺปฏิปชฺชิตฺวา อิมสฺมึ าเน ตว ปิตรํ มาเรตฺวา นิขณี’’ติ อฏฺีนิ นีหริตฺวา ทสฺเสสิ. กุมารสฺส พลวโกโธ อุปฺปชฺชิ. อถ นํ ‘‘อิทานิ กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ยํ เต อิสฺมึเยว ติตฺเถ ปิตุ เตน กตํ, ตํ กโรหี’’ติ สพฺพํ ปวตฺตึ อาจิกฺขิตฺวา กุมารํ กติปาหํ ถรุคณฺหนํ สิกฺขาเปสิ. อเถกทิวสํ กุมาโร ขคฺคฺจ นฺหานสาฏกฺจ คเหตฺวา ‘‘นฺหายิตุํ คจฺฉาม, ตาตา’’ติ อาห. ปรนฺตโป ‘‘สาธู’’ติ เตน สทฺธึ คโต. อถสฺส นฺหายิตุํ โอติณฺณกาเล ทกฺขิณหตฺเถน อสึ, วามหตฺเถน จูฬํ คเหตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร อิมสฺมึเยว ติตฺเถ มม ปิตรํ จูฬาย คเหตฺวา วิรวนฺตํ มาเรสิ, อหมฺปิ ตํ ตเถว กริสฺสามี’’ติ อาห. โส มรณภยภีโต ปริเทวมาโน ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อาคมา นูน โส สทฺโท, อสํสิ นูน โส ตว;
อกฺขาตํ นูน ตํ เตน, โย ตํ สาขมกมฺปยิ.
‘‘อิทํ ¶ โข ตํ สมาคมฺม, มม พาลสฺส จินฺติตํ;
ตทา หิ จลิตา สาขา, มนุสฺเสน มิเคน วา’’ติ.
ตตฺถ อาคมาติ โส สาขสทฺโท นูน ตํ อาคโต สมฺปตฺโต. อสํสิ นูน โส ตวาติ โส สทฺโท ตว อาโรเจสิ มฺเ. อกฺขาตํ นูน ตํ เตนาติ โย สตฺโต ตทา ตํ สาขํ อกมฺปยิ, เตน ‘‘เอวํ เต ปิตา มาริโต’’ติ นูน ตํ การณํ อกฺขาตํ. สมาคมฺมาติ สงฺคมฺม, สมาคตนฺติ อตฺโถ. ยํ มม พาลสฺส ‘‘ตทา จลิตา สาขา มนุสฺเสน มิเคน วา, ตโต เม ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จินฺติตํ ปริวิตกฺกิตํ อโหสิ, อิทํ ตยา สทฺธึ สมาคตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ตโต กุมาโร โอสานคาถมาห –
‘‘ตเถว ตฺวํ อเวเทสิ, อวฺจิ ปิตรํ มม;
หนฺตฺวา สาขาหิ ฉาเทนฺโต, อาคมิสฺสติ เม ภย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ตเถว ตฺวํ อเวเทสีติ ตเถว ตฺวํ อฺาสิ. อวฺจิ ปิตรํ มมาติ ตฺวํ มม ปิตรํ ¶ ‘‘นฺหายิตุํ คจฺฉามา’’ติ วิสฺสาเสตฺวา นฺหายนฺตํ มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา นิขณิตฺวา ‘‘สเจ โกจิ ชานิสฺสติ, มยฺหมฺปิ เอวรูปํ ภยํ อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ วฺเจสิ, อิทํ โข ปน มรณภยํ อิทานิ ตวาคตนฺติ.
อิติ ตํ วตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา นิขณิตฺวา สาขาหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ขคฺคํ โธวิตฺวา นฺหตฺวา ปณฺณสาลํ คนฺตฺวา ตสฺส มาริตภาวํ ปุโรหิตสฺส กเถตฺวา มาตรํ ปริภาสิตฺวา ‘‘อิธ กึ กริสฺสามา’’ติ ตโย ชนา พาราณสิเมว อคมํสุ. โพธิสตฺโต กนิฏฺสฺส โอปรชฺชํ ทตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา สคฺคปทํ ปูเรสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปิตุราชา เทวทตฺโต อโหสิ, ปุโรหิโต อานนฺโท, ปุตฺตราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ปรนฺตปชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.
คนฺธารวคฺโค ทุติโย.
ชาตกุทฺทานํ –
กุกฺกุ ¶ มโนช สุตโน, คิชฺฌ ทพฺภปุปฺผ ปณฺณโก;
สตฺตุภสฺต อฏฺิเสโน, กปิ พกพฺรหฺมา ทส.
คนฺธาโร มหากปิ จ, กุมฺภกาโร ทฬฺหธมฺโม;
โสมทตฺโต สุสีโม จ, โกฏสิมฺพลิ ธูมการี;
ชาคโร กุมฺมาสปิณฺโฑ, ปรนฺตปา เอกาทส.
สตฺตกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.