📜

๙. นวกนิปาโต

[๔๒๗] ๑. คิชฺฌชาตกวณฺณนา

ปริสงฺกุปโถนามาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทุพฺพจภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร เอโก กุลปุตฺโต นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ อตฺถกาเมหิ อาจริยุปชฺฌาเยหิ เจว สพฺรหฺมจารีหิ จ ‘‘เอวํ เต อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ ปฏิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ อาโลกิตพฺพํ, เอวํ วิโลกิตพฺพํ, เอวํ สมิฺชิตพฺพํ, เอวํ ปสาริตพฺพํ, เอวํ นิวาเสตพฺพํ, เอวํ ปารุปิตพฺพํ, เอวํ ปตฺโต คเหตพฺโพ, ยาปนมตฺตํ ภตฺตํ คเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาเรน โภชเน มตฺตฺุนา ชาคริยมนุยุตฺเตน ภวิตพฺพํ, อิทํ อาคนฺตุกวตฺตํ นาม ชานิตพฺพํ, อิทํ คมิกวตฺตํ นาม, อิมานิ จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ, อสีติ มหาวตฺตานิ. ตตฺถ เต สมฺมา วตฺติตพฺพํ, อิเม เตรส ธุตงฺคคุณา นาม, เอเต สมาทาย วตฺติตพฺพ’’นฺติ โอวทิยมาโน ทุพฺพโจ อโหสิ อกฺขโม อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ. ‘‘อหํ ตุมฺเห น วทามิ, ตุมฺเห ปน มํ กสฺมา วทถ, อหเมว อตฺตโน อตฺถํ วา อนตฺถํ วา ชานิสฺสามี’’ติ อตฺตานํ อวจนียํ อกาสิ. อถสฺส ทุพฺพจภาวํ ตฺวา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ อคุณกถํ กเถนฺตา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ ทุพฺพโจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อตฺถกามานํ วจนํ น กโรสิ, ปุพฺเพปิ ตฺวํ ปณฺฑิตานํ วจนํ อกตฺวา เวรมฺภวาตมุเข จุณฺณวิจุณฺโณ ชาโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต โพธิสตฺโต คิชฺฌโยนิยํ นิพฺพตฺติ. ปุตฺโต ปนสฺส สุปตฺโต นาม คิชฺฌราชา อเนกสหสฺสคิชฺฌปริวาโร ถามสมฺปนฺโน อโหสิ. โส มาตาปิตโร โปเสสิ, ถามสมฺปนฺนตฺตา ปน อติทูรํ อุปฺปตติ. อถ นํ ปิตา ‘‘ตาต, เอตฺตกํ นาม านํ อติกฺกมิตฺวา น คนฺตพฺพ’’นฺติ โอวทิ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวาปิ เอกทิวสํ ปน วุฏฺเ เทเว คิชฺเฌหิ สทฺธึ อุปฺปติตฺวา เสเส โอหาย อติภูมึ คนฺตฺวา เวรมฺภวาตมุขํ ปตฺวา จุณฺณวิจุณฺณภาวํ ปาปุณิ. สตฺถา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

.

‘‘ปริสงฺกุปโถ นาม, คิชฺฌปนฺโถ สนนฺตโน;

ตตฺราสิ มาตาปิตโร, คิชฺโฌ โปเสสิ ชิณฺณเก;

เตสํ อชครเมทํ, อจฺจหาสิ พหุตฺตโส.

.

‘‘ปิตา จ ปุตฺตํ อวจ, ชานํ อุจฺจํ ปปาตินํ;

สุปตฺตํ ถามสมฺปนฺนํ, เตชสฺสึ ทูรคามินํ.

.

‘‘ปริปฺลวนฺตํ ปถวึ, ยทา ตาต วิชานหิ;

สาคเรน ปริกฺขิตฺตํ, จกฺกํว ปริมณฺฑลํ;

ตโต ตาต นิวตฺตสฺสุ, มาสฺสุ เอตฺโต ปรํ คมิ.

.

‘‘อุทปตฺโตสิ เวเคน, พลี ปกฺขี ทิชุตฺตโม;

โอโลกยนฺโต วกฺกงฺโค, ปพฺพตานิ วนานิ จ.

.

‘‘อทฺทสฺส ปถวึ คิชฺโฌ, ยถาสาสิ ปิตุสฺสุตํ;

สาคเรน ปริกฺขิตฺตํ, จกฺกํว ปริมณฺฑลํ.

.

‘‘ตฺจ โส สมติกฺกมฺม, ปรเมวจฺจวตฺตถ;

ตฺจ วาตสิขา ติกฺขา, อจฺจหาสิ พลึ ทิชํ.

.

‘‘นาสกฺขาติคโต โปโส, ปุนเทว นิวตฺติตุํ;

ทิโช พฺยสนมาปาทิ, เวรมฺภานํ วสํ คโต.

.

‘‘ตสฺส ปุตฺตา จ ทารา จ, เย จฺเ อนุชีวิโน;

สพฺเพ พฺยสนมาปาทุํ, อโนวาทกเร ทิเช.

.

‘‘เอวมฺปิ อิธ วุฑฺฒานํ, โย วากฺยํ นาวพุชฺฌติ;

อติสีมจโร ทิตฺโต, คิชฺโฌวาตีตสาสโน;

ส เว พฺยสนํ ปปฺโปติ, อกตฺวา วุฑฺฒสาสน’’นฺติ.

ตตฺถ ปริสงฺกุปโถติ สงฺกุปโถ. มนุสฺสา หิรฺสุวณฺณตฺถาย คจฺฉนฺตา ตสฺมึ ปเทเส ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา เตสุ รชฺชุโย พนฺธิตฺวา คจฺฉนฺติ, เตน โส คิชฺฌปพฺพเต ชงฺฆมคฺโค ‘‘สงฺกุปโถ’’ติ วุจฺจติ. คิชฺฌปนฺโถติ คิชฺฌปพฺพตมตฺถเก มหามคฺโค. สนนฺตโนติ โปราโณ. ตตฺราสีติ ตสฺมึ คิชฺฌปพฺพตมตฺถเก สงฺกุปเถ เอโก คิชฺโฌ อาสิ, โส ชิณฺณเก มาตาปิตโร โปเสสิ. อชครเมทนฺติ อชครานํ เมทํ. อจฺจหาสีติ อติวิย อาหริ. พหุตฺตโสติ พหุโส. ชานํ อุจฺจํ ปปาตินนฺติ ‘‘ปุตฺโต เต อติอุจฺจํ านํ ลงฺฆตี’’ติ สุตฺวา ‘‘อุจฺเจ ปปาตี อย’’นฺติ ชานนฺโต. เตชสฺสินฺติ ปุริสเตชสมฺปนฺนํ. ทูรคามินนฺติ เตเนว เตเชน ทูรคามึ. ปริปฺลวนฺตนฺติ อุปฺปลปตฺตํ วิย อุทเก อุปฺลวมานํ. วิชานหีติ วิชานาสิ. จกฺกํว ปริมณฺฑลนฺติ ยสฺมึ เต ปเทเส ิตสฺส สมุทฺเทน ปริจฺฉินฺโน ชมฺพุทีโป จกฺกมณฺฑลํว ปฺายติ, ตโต ตาต นิวตฺตาหีติ โอวทนฺโต เอวมาห.

อุทปตฺโตสีติ ปิตุ โอวาทํ อกตฺวา เอกทิวสํ คิชฺเฌหิ สทฺธึ อุปฺปติโต เต โอหาย ปิตรา กถิตฏฺานํ อคมาสิ. โอโลกยนฺโตติ ตํ านํ ปตฺวา เหฏฺา โอโลเกนฺโต. วกฺกงฺโคติ วงฺกคีโว. ยถาสาสิ ปิตุสฺสุตนฺติ ยถาสฺส ปิตุ สนฺติกา สุตํ อาสิ, ตเถว อทฺทส, ‘‘ยถาสฺสาสี’’ติปิ ปาโ. ปรเมวจฺจวตฺตถาติ ปิตรา อกฺขาตฏฺานโต ปรํ อติวตฺโตว. ตฺจ วาตสิขา ติกฺขาติ ตํ อโนวาทกํ พลิมฺปิ สมานํ ทิชํ ติขิณเวรมฺภวาตสิขา อจฺจหาสิ อติหริ, จุณฺณวิจุณฺณํ อกาสิ. นาสกฺขาติคโตติ นาสกฺขิ อติคโต. โปโสติ สตฺโต. อโนวาทกเรติ ตสฺมึ ทิเช ปณฺฑิตานํ โอวาทํ อกโรนฺเต สพฺเพปิ เต มหาทุกฺขํ ปาปุณึสุ. อกตฺวา วุฑฺฒสาสนนฺติ วุฑฺฒานํ หิตกามานํ วจนํ อกตฺวา เอวเมว พฺยสนํ มหาทุกฺขํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ตฺวํ ภิกฺขุ มา คิชฺฌสทิโส ภว, อตฺถกามานํ วจนํ กโรหีติ. โส สตฺถารา เอวํ โอวทิโต ตโต ปฏฺาย สุวโจ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ทุพฺพจคิชฺโฌ เอตรหิ ทุพฺพจภิกฺขุ อโหสิ, คิชฺฌปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

คิชฺฌชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๒๘] ๒. โกสมฺพิยชาตกวณฺณนา

ปุถุสทฺโทติ อิทํ สตฺถา โกสมฺพึ นิสฺสาย โฆสิตาราเม วิหรนฺโต โกสมฺพิยํ ภณฺฑนการเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ โกสมฺพกกฺขนฺธเก (มหาว. ๔๕๑ อาทโย) อาคตเมว, อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป. ตทา กิร ทฺเว ภิกฺขู เอกสฺมึ อาวาเส วสึสุ วินยธโร จ สุตฺตนฺติโก จ. เตสุ สุตฺตนฺติโก เอกทิวสํ สรีรวลฺชํ กตฺวา อุทกโกฏฺเก อาจมนอุทกาวเสสํ ภาชเน เปตฺวา นิกฺขมิ. ปจฺฉา วินยธโร ตตฺถ ปวิฏฺโ ตํ อุทกํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา อิตรํ ปุจฺฉิ ‘‘อาวุโส, ตยา อุทกํ ปิต’’นฺติ. ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ อาปตฺติภาวํ น ชานาสี’’ติ? ‘‘อามาวุโส น ชานามี’’ติ. ‘‘โหติ, อาวุโส, เอตฺถ อาปตฺตี’’ติ? ‘‘เตน หิ ปฏิกริสฺสามิ น’’นฺติ. ‘‘สเจ ปน เต, อาวุโส, อสฺจิจฺจ อสติยา กตํ, นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ. โส ตสฺสา อาปตฺติยา อนาปตฺติทิฏฺิ อโหสิ. วินยธโรปิ อตฺตโน นิสฺสิตกานํ ‘‘อยํ สุตฺตนฺติโก อาปตฺตึ อาปชฺชมาโนปิ น ชานาตี’’ติ อาโรเจสิ. เต ตสฺส นิสฺสิตเก ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวาปิ อาปตฺติภาวํ น ชานาตี’’ติ อาหํสุ. เต คนฺตฺวา อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อาโรเจสุํ. โส เอวมาห – ‘‘อยํ วินยธโร ปุพฺเพ ‘อนาปตฺตี’ติ วตฺวา อิทานิ ‘อาปตฺตี’ติ วทติ, มุสาวาที เอโส’’ติ. เต คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อุปชฺฌาโย มุสาวาที’’ติ เอวํ อฺมฺํ กลหํ วฑฺฒยึสุ. ตโต วินยธโร โอกาสํ ลภิตฺวา ตสฺส อาปตฺติยา อทสฺสเนน อุกฺเขปนียกมฺมํ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย เตสํ ปจฺจยทายกา อุปาสกาปิ ทฺเว โกฏฺาสา อเหสุํ. โอวาทปฏิคฺคาหิกา ภิกฺขุนิโยปิ อารกฺขเทวตาปิ ทฺเว โกฏฺาสา อเหสุํ. ตาสํ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตา อากาสฏฺเทวตาปิ ยาว พฺรหฺมโลกา สพฺเพ ปุถุชฺชนา ทฺเว ปกฺขา อเหสุํ. ยาว อกนิฏฺภวนา ปน อิทํ โกลาหลํ อคมาสิ.

อเถโก ภิกฺขุ ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺเขปกานํ ‘‘ธมฺมิเกเนว กมฺเมน อยํ อุกฺขิตฺโต, อุกฺขิตฺตานุวตฺตกานํ อธมฺมิเกน กมฺเมน อุกฺขิตฺโต’’ติ ลทฺธึ, อุกฺเขปเกหิ วาริยมานานมฺปิ เตสํ ตํ อนุปริวาเรตฺวา จรณภาวฺจ สตฺถุ อาโรเจสิ. ภควา ‘‘สมคฺคา กิร โหนฺตู’’ติ ทฺเว วาเร เปเสตฺวา ‘‘น อิจฺฉนฺติ ภนฺเต สมคฺคา ภวิตุ’’นฺติ สุตฺวา ตติยวาเร ‘‘ภินฺโน ภิกฺขุสงฺโฆ’’ติ เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา อุกฺเขปกานํ อุกฺเขปเน, อิตเรสฺจ อสฺจิจฺจ อาปตฺติยา อทสฺสเน อาทีนวํ วตฺวา ปกฺกามิ. ปุน เตสํ ตตฺเถว เอกสีมายํ อุโปสถาทีนิ กาเรตฺวา ภตฺตคฺคาทีสุ ภณฺฑนชาตานํ ‘‘อาสนนฺตริกาย นิสีทิตพฺพ’’นฺติ ภตฺตคฺเค วตฺตํ ปฺาเปตฺวา ‘‘อิทานิปิ ภณฺฑนชาตา วิหรนฺตี’’ติ สุตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑน’’นฺติอาทีนิ วตฺวา อฺตเรน ภิกฺขุนา ธมฺมวาทินา ภควโต วิเหสํ อนิจฺฉนฺเตน ‘‘อาคเมตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมสามิ, อปฺโปสฺสุกฺโก ภนฺเต, ภควา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารํ อนุยุตฺโต วิหรตุ, มยํ เตน ภณฺฑเนน กลเหน วิคฺคเหน วิวาเทน ปฺายิสฺสามา’’ติ วุตฺเต –

ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต นาม กาสิราชา อโหสีติ พฺรหฺมทตฺเตน ทีฆีติสฺส โกสลรฺโ รชฺชํ อจฺฉนฺทิตฺวา อฺาตกเวเสน วสนฺตสฺส มาริตภาวฺเจว ทีฆาวุกุมาเรน อตฺตโน ชีวิเต ทินฺเน ตโต ปฏฺาย เตสํ สมคฺคภาวฺจ กเถตฺวา ‘‘เตสฺหิ นาม, ภิกฺขเว, ราชูนํ อาทินฺนทณฺฑานํ อาทินฺนสตฺถานํ เอวรูปํ ขนฺติโสรจฺจํ ภวิสฺสติ. อิธ โข ตํ, ภิกฺขเว, โสเภถ, ยํ ตุมฺเห เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ปพฺพชิตา สมานา ขมา จ ภเวยฺยาถ โสรตา จา’’ติ โอวทิตฺวา ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ‘‘อลํ, ภิกฺขเว, มา ภณฺฑน’’นฺติ วาเรตฺวา อโนรมนฺเต ทิสฺวา ‘‘ปริยาทิณฺณรูปา โข อิเม โมฆปุริสา, น ยิเม สุกรา สฺาเปตุ’’นฺติ ปกฺกมิตฺวา ปุนทิวเส ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต คนฺธกุฏิยา โถกํ วิสฺสมิตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย สงฺฆมชฺเฌ อากาเส ตฺวา อิมา คาถา อภาสิ –

๑๐.

‘‘ปุถุสทฺโท สมชโน, น พาโล โกจิ มฺถ;

สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมานสฺมึ, นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุํ.

๑๑.

‘‘ปริมุฏฺา ปณฺฑิตาภาสา, วาจาโคจรภาณิโน;

ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, เยน นีตา น ตํ วิทู.

๑๒.

‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;

เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสํ น สมฺมติ.

๑๓.

‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;

เย จ ตํ นุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสูปสมฺมติ.

๑๔.

‘‘น หิ เวเรน เวรานิ, สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ;

อเวเรน จ สมฺมนฺติ, เอส ธมฺโม สนนฺตโน.

๑๕.

‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;

เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคา.

๑๖.

‘‘อฏฺิจฺฉินฺนา ปาณหรา, ควาสฺสธนหาริโน;

รฏฺํ วิลุมฺปมานานํ, เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ;

กสฺมา ตุมฺหาก โน สิยา.

๑๗.

‘‘สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ, สทฺธึจรํ สาธุวิหาริธีรํ;

อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ, จเรยฺย เตนตฺตมโน สตีมา.

๑๘.

‘‘โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ, สทฺธึจรํ สาธุวิหาริธีรํ;

ราชาว รฏฺํ วิชิตํ ปหาย, เอโก จเร มาตงฺครฺเว นาโค.

๑๙.

‘‘เอกสฺส จริตํ เสยฺโย, นตฺถิ พาเล สหายตา;

เอโก จเร น ปาปานิ กยิรา, อปฺโปสฺสุกฺโก มาตงฺครฺเว นาโค’’ติ.

ตตฺถ ปุถุ มหาสทฺโท อสฺสาติ ปุถุสทฺโท. สมชโนติ สมาโน เอกสทิโส ชโน, สพฺโพวายํ ภณฺฑนการกชโน สมนฺตโต สทฺทนิจฺฉารเณน ปุถุสทฺโท เจว สทิโส จาติ วุตฺตํ โหติ. น พาโล โกจิ มฺถาติ ตตฺถ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ น มฺิตฺถ, สพฺเพ ปณฺฑิตมานิโน, สพฺโพวายํ ภณฺฑนการโก ชโนเยว. นาฺํ ภิยฺโย อมฺรุนฺติ โกจิ เอโกปิ ‘‘อหํ พาโล’’ติ น มฺิตฺถ, ภิยฺโย จ สงฺฆสฺมึ ภิชฺชมาเน อฺมฺปิ เอกํ ‘‘มยฺหํ การณา สงฺโฆ ภิชฺชตี’’ติ อิทํ การณํ น มฺิตฺถาติ อตฺโถ.

ปริมุฏฺาติ มุฏฺสฺสติโน. ปณฺฑิตาภาสาติ อตฺตโน ปณฺฑิตมาเนน ปณฺฑิตสทิสา. วาจาโคจรภาณิโนติ รา-การสฺส รสฺสาเทโส กโต, วาจาโคจรา จ น สติปฏฺานาทิอริยธมฺมโคจรา, ภาณิโน จ. กถํ ภาณิโน? ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามนฺติ, ยาว มุขํ ปสาเรตุํ อิจฺฉนฺติ, ตาว ปสาเรตฺวา อคฺคปาเทหิ ตฺวา ภาณิโน, เอโกปิ สงฺฆคารเวน มุขสงฺโกจนํ น กโรตีติ อตฺโถ. เยน นีตาติ เยน ภณฺฑเนน อิมํ นิลฺลชฺชภาวํ นีตา. น ตํ วิทูติ เอวํ ‘‘อาทีนวํ อิท’’นฺติ ตํ น ชานนฺติ.

เยจ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ ตํ ‘‘อกฺโกจฺฉิ ม’’นฺติอาทิกํ อาการํ เย อุปนยฺหนฺติ. สนนฺตโนติ โปราโณ. ปเรติ ปณฺฑิเต เปตฺวา ตโต อฺเ ภณฺฑนการกา ปเร นาม. เต เอตฺถ สงฺฆมชฺเฌ โกลาหลํ กโรนฺตา ‘‘มยํ ยมามเส อุปยมาม นสฺสาม, สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ น ชานนฺติ. เย จ ตตฺถ วิชานนฺตีติ เย ตตฺถ ปณฺฑิตา ‘‘มยํ มจฺจุสมีปํ คจฺฉามา’’ติ วิชานนฺติ. ตโต สมฺมนฺติ เมธคาติ ภิกฺขเว, เอวฺหิ เต ชานนฺตา โยนิโสมนสิการํ อุปฺปาเทตฺวา เมธคานํ กลหานํ วูปสมาย ปฏิปชฺชนฺติ.

อฏฺิจฺฉินฺนาติ อยํ คาถา พฺรหฺมทตฺตฺจ ทีฆาวุกุมารฺจ สนฺธาย วุตฺตา. เตสมฺปิ โหติ สงฺคติ. กสฺมา ตุมฺหากํ น โหติ? เยสํ โว เนว มาตาปิตูนํ อฏฺีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หฏา, น ควาสฺสธนานิ หฏานิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, เตสฺหิ นาม อาทินฺนทณฺฑานํ อาทินฺนสตฺถานํ ราชูนํ เอวรูปา สงฺคติ สมาคโม อาวาหวิวาหสมฺพนฺธํ กตฺวา เอกโต ปานโภชนํ โหติ, ตุมฺเห เอวรูเป สาสเน ปพฺพชิตฺวา อตฺตโน เวรมตฺตมฺปิ ชหิตุํ น สกฺโกถ, โก ตุมฺหากํ ภิกฺขุภาโวติ.

สเจลเภถาติอาทิคาถาโย ปณฺฑิตสหายสฺส จ พาลสหายสฺส จ วณฺณาวณฺณทีปนตฺถํ วุตฺตา. อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ สพฺเพ ปากฏปริสฺสเย จ ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสเย จ อภิภวิตฺวา เตน สทฺธึ อตฺตมโน สติมา จเรยฺย. ราชาว รฏฺํ วิชิตํ ปหายาติ ยถา อตฺตโน วิชิตํ รฏฺํ มหาชนกราชา จ อรินฺทมราชา จ ปหาย เอกโกว จรึสุ, เอวํ จเรยฺยาติ อตฺโถ. มาตงฺครฺเว นาโคติ มาตงฺโค อรฺเ นาโคว. มาตงฺโคติ หตฺถี วุจฺจติ, นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมตํ. ยถา หิ มาตุโปสโก มาตงฺคนาโค อรฺเ เอกโก จริ, น จ ปาปานิ อกาสิ, ยถา จ สีลวหตฺถินาโค. ยถา จ ปาลิเลยฺยโก, เอวํ เอโก จเร, น จ ปาปานิ กยิราติ วุตฺตํ โหติ.

สตฺถา เอวํ กเถตฺวาปิ เต ภิกฺขู สมคฺเค กาตุํ อสกฺโกนฺโต พาลกโลณกคามํ คนฺตฺวา ภคุตฺเถรสฺส เอกีภาเว อานิสํสํ กเถตฺวา ตโต ติณฺณํ กุลปุตฺตานํ วสนฏฺานํ คนฺตฺวา เตสํ สามคฺคิวาเส อานิสํสํ กเถตฺวา ตโต ปาลิเลยฺยกวนสณฺฑํ คนฺตฺวา ตตฺถ เตมาสํ วสิตฺวา ปุน โกสมฺพึ อคนฺตฺวา สาวตฺถิเมว อคมาสิ. โกสมฺพิวาสิโนปิ อุปาสกา ‘‘อิเม โข อยฺยา, โกสมฺพกา ภิกฺขู พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การกา, อิเมหิ อุพฺพาฬฺโห ภควา ปกฺกนฺโต, อิเมสํ เนว อภิวาทนาทีนิ กริสฺสาม, น อุปคตานํ ปิณฺฑปาตํ ทสฺสาม, เอวํ อิเม ปกฺกมิสฺสนฺติ วา เวรํ วิรมิสฺสนฺติ วา ภควนฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺตี’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ตเถว อกํสุ. เต เตน ทณฺฑกมฺเมน ปีฬิตา สาวตฺถึ คนฺตฺวา ภควนฺตํ ขมาเปสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ปิตา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, มาตา มหามายา, ทีฆาวุกุมาโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

โกสมฺพิยชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๒๙] ๓. มหาสุวชาตกวณฺณนา

ทุโมยทา โหตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา โกสลชนปเท อฺตรํ ปจฺจนฺตคามํ อุปนิสฺสาย อรฺเ วิหาสิ. มนุสฺสา ตสฺส รตฺติฏฺานทิวาฏฺานานิ สมฺปาเทตฺวา คมนาคมนสมฺปนฺเน าเน เสนาสนํ กตฺวา สกฺกจฺจํ อุปฏฺหึสุ. ตสฺส วสฺสูปคตสฺส ปมมาเสเยว โส คาโม ฌายิ, มนุสฺสานํ พีชมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ นาโหสิ. เต ตสฺส ปณีตํ ปิณฺฑปาตํ ทาตุํ นาสกฺขึสุ. โส สปฺปายเสนาสเนปิ ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺโต มคฺคํ วา ผลํ วา นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ เตมาสจฺจเยน สตฺถารํ วนฺทิตุํ อาคตํ สตฺถา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘กจฺจิ ภิกฺขุ ปิณฺฑปาเตน น กิลมนฺโตสิ, เสนาสนสปฺปายฺจ อโหสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘ตสฺส เสนาสนํ สปฺปาย’’นฺติ ตฺวา ‘‘ภิกฺขุ สมเณน นาม เสนาสนสปฺปาเย สติ โลลุปฺปจารํ ปหาย กิฺจิเทว ยถาลทฺธํ ปริภุฺชิตฺวา สนฺตุฏฺเน สมณธมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ. โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อตฺตโน นิวาสสุกฺขรุกฺเข จุณฺณํ ขาทนฺตาปิ โลลุปฺปจารํ ปหาย สนฺตุฏฺา มิตฺตธมฺมํ อภินฺทิตฺวา อฺตฺถ น คมึสุ, ตฺวํ ปน กสฺมา ‘ปิณฺฑปาโต ปริตฺโต ลูโข’ติ สปฺปายเสนาสนํ ปริจฺจชี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต หิมวนฺเต คงฺคาตีเร เอกสฺมึ อุทุมฺพรวเน อเนกสตสหสฺสา สุกา วสึสุ. ตตฺร เอโก สุวราชา อตฺตโน นิวาสรุกฺขสฺส ผเลสุ ขีเณสุ ยเทว อวสิฏฺํ โหติ องฺกุโร วา ปตฺตํ วา ตโจ วา ปปฏิกา วา, ตํ ขาทิตฺวา คงฺคาย ปานียํ ปิวิตฺวา ปรมปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺโ หุตฺวา อฺตฺถ น คจฺฉติ. ตสฺส อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺภาวคุเณน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺชมาโน ตํ ทิสฺวา ตสฺส วีมํสนตฺถํ อตฺตโน อานุภาเวน ตํ รุกฺขํ สุกฺขาเปสิ. รุกฺโข ขาณุกมตฺโต หุตฺวา ฉิทฺทาวฉิทฺโท วาเต ปหรนฺเต อาโกฏิยมาโน วิย อฏฺาสิ. ตสฺส ฉิทฺเทหิ จุณฺณานิ นิกฺขมนฺติ. สุวราชา ตานิ จุณฺณานิ ขาทิตฺวา คงฺคาย ปานียํ ปิวิตฺวา อฺตฺถ อคนฺตฺวา วาตาตปํ อคเณตฺวา อุทุมฺพรขาณุเก นิสีทิ. สกฺโก ตสฺส ปรมปฺปิจฺฉภาวํ ตฺวา ‘‘มิตฺตธมฺมคุณํ กถาเปตฺวา วรมสฺส ทตฺวา อุทุมฺพรํ อมตผลํ กริตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ เอโก หํสราชา หุตฺวา สุชํ อสุรกฺํ ปุรโต กตฺวา ตํ อุทุมฺพรวนํ คนฺตฺวา อวิทูเร เอกรุกฺขสฺส สาขาย นิสีทิตฺวา เตน สทฺธึ กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๒๐.

‘‘ทุโม ยทา โหติ ผลูปปนฺโน, ภุฺชนฺติ นํ วิหงฺคมา สมฺปตนฺตา;

ขีณนฺติ ตฺวาน ทุมํ ผลจฺจเย, ทิโสทิสํ ยนฺติ ตโต วิหงฺคมา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สุวราช, รุกฺโข นาม ยทา ผลสมฺปนฺโน โหติ, ตทา ตํ สาขโต สาขํ สมฺปตนฺตาว วิหงฺคมา ภุฺชนฺติ, ตํ ปน ขีณํ ตฺวา ผลานํ อจฺจเยน ตโต รุกฺขโต ทิโสทิสํ วิหงฺคมา คจฺฉนฺตีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ตโต นํ อุยฺโยเชตุํ ทุติยํ คาถมาห –

๒๑.

‘‘จร จาริกํ โลหิตตุณฺฑ มา มริ, กึ ตฺวํ สุว สุกฺขทุมมฺหิ ฌายสิ;

ตทิงฺฆ มํ พฺรูหิ วสนฺตสนฺนิภ, กสฺมา สุว สุกฺขทุมํ น ริฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ฌายสีติ กึการณา สุกฺขขาณุมตฺถเก ฌายนฺโต ปชฺฌายนฺโต ติฏฺสิ. อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. วสนฺตสนฺนิภาติ วสนฺตกาเล วนสณฺโฑ สุวคณสโมกิณฺโณ วิย นีโลภาโส โหติ, เตน ตํ ‘‘วสนฺตสนฺนิภา’’ติ อาลปติ. น ริฺจสีติ น ฉฑฺเฑสิ.

อถ นํ สุวราชา ‘‘อหํ หํส อตฺตโน กตฺุกตเวทิตาย อิมํ รุกฺขํ น ชหามี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๒.

‘‘เย เว สขีนํ สขาโร ภวนฺติ, ปาณจฺจเย ทุกฺขสุเขสุ หํส;

ขีณํ อขีณมฺปิ น ตํ ชหนฺติ, สนฺโต สตํ ธมฺมมนุสฺสรนฺตา.

๒๓.

‘‘โสหํ สตํ อฺตโรสฺมิ หํส, าตี จ เม โหติ สขา จ รุกฺโข;

ตํ นุสฺสเห ชีวิกตฺโถ ปหาตุํ, ขีณนฺติ ตฺวาน น เหส ธมฺโม’’ติ.

ตตฺถ เย เว สขีนํ สขาโร ภวนฺตีติ เย สหายานํ สหายา โหนฺติ. ขีณํ อขีณมฺปีติ ปณฺฑิตา นาม อตฺตโน สหายํ โภคปริกฺขเยน ขีณมฺปิ อขีณมฺปิ น ชหนฺติ. สตํ ธมฺมมนุสฺสรนฺตาติ ปณฺฑิตานํ ปเวณึ อนุสฺสรมานา. าตี จ เมติ หํสราช, อยํ รุกฺโข สมฺปิยายนตฺเถน มยฺหํ าติ จ สมาจิณฺณจรณตาย สขา จ. ชีวิกตฺโถติ ตมหํ ชีวิกาย อตฺถิโก หุตฺวา ปหาตุํ น สกฺโกมิ.

สกฺโก ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺโ ปสํสิตฺวา วรํ ทาตุกาโม ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๔.

‘‘สาธุ สกฺขิ กตํ โหติ, เมตฺติ สํสติ สนฺถโว;

สเจตํ ธมฺมํ โรเจสิ, ปาสํโสสิ วิชานตํ.

๒๕.

‘‘โส เต สุว วรํ ทมฺมิ, ปตฺตยาน วิหงฺคม;

วรํ วรสฺสุ วกฺกงฺค, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ สาธูติ สมฺปหํสนํ. สกฺขิ กตํ โหติ, เมตฺติ สํสติ สนฺถโวติ สขิภาโว จ เมตฺติ จ ปริสมชฺเฌ สนฺถโว จาติ ตยา มิตฺตํ กตํ สาธุ โหติ ลทฺธกํ ภทฺทกเมว. สเจตํ ธมฺมนฺติ สเจ เอตํ มิตฺตธมฺมํ. วิชานตนฺติ เอวํ สนฺเต วิฺูนํ ปสํสิตพฺพยุตฺตโกสีติ อตฺโถ. โส เตติ โส อหํ ตุยฺหํ. วรสฺสูติ อิจฺฉสฺสุ. ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสีติ ยํ กิฺจิ มนสา อิจฺฉสิ, สพฺพํ ตํ วรํ ททามิ เตติ.

ตํ สุตฺวา สุวราชา วรํ คณฺหนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๒๖.

‘‘วรฺจ เม หํส ภวํ ทเทยฺย, อยฺจ รุกฺโข ปุนรายุํ ลเภถ;

โส สาขวา ผลิมา สํวิรูฬฺโห, มธุตฺถิโก ติฏฺตุ โสภมาโน’’ติ.

ตตฺถ สาขวาติ สาขสมฺปนฺโน. ผลิมาติ ผเลน อุเปโต. สํวิรูฬฺโหติ สมนฺตโต วิรูฬฺหปตฺโต ตรุณปตฺตสมฺปนฺโน หุตฺวา. มธุตฺถิโกติ สํวิชฺชมานมธุรผเลสุ ปกฺขิตฺตมธุ วิย มธุรผโล หุตฺวาติ อตฺโถ.

อถสฺส สกฺโก วรํ ททมาโน อฏฺมํ คาถมาห –

๒๗.

‘‘ตํ ปสฺส สมฺม ผลิมํ อุฬารํ, สหาว เต โหตุ อุทุมฺพเรน;

โส สาขวา ผลิมา สํวิรูฬฺโห, มธุตฺถิโก ติฏฺตุ โสภมาโน’’ติ.

ตตฺถ สหาว เต โหตุ อุทุมฺพเรนาติ ตว อุทุมฺพเรน สทฺธึ สห เอกโตว วาโส โหตุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สกฺโก ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา อตฺตโน จ สุชาย จ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา คงฺคาโต หตฺเถน อุทกํ คเหตฺวา อุทุมฺพรขาณุกํ ปหริ. ตาวเทว สาขาวิฏปสจฺฉนฺโน มธุรผโล รุกฺโข อุฏฺหิตฺวา มุณฺฑมณิปพฺพโต วิย วิลาสสมฺปนฺโน อฏฺาสิ. สุวราชา ตํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต สกฺกสฺส ถุตึ กโรนฺโต นวมํ คาถมาห –

๒๘.

‘‘เอวํ สกฺก สุขี โหหิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช สุขิโต, ทิสฺวาน สผลํ ทุม’’นฺติ.

สกฺโกปิ ตสฺส วรํ ทตฺวา อุทุมฺพรํ อมตผลํ กตฺวา สทฺธึ สุชาย อตฺตโน านเมว คโต. ตมตฺถํ ทีปยมานา โอสาเน อภิสมฺพุทฺธคาถา ปิตา –

๒๙.

‘‘สุวสฺส จ วรํ ทตฺวา, กตฺวาน สผลํ ทุมํ;

ปกฺกามิ สห ภริยาย, เทวานํ นนฺทนํ วน’’นฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ อโลลุปฺปจารา อเหสุํ. ตฺวํ ปน กสฺมา เอวรูเป สาสเน ปพฺพชิตฺวา โลลุปฺปจารํ จรสิ, คจฺฉ ตตฺเถว วสาหี’’ติ กมฺมฏฺานมสฺส กเถตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ. โส ภิกฺขุ ตตฺถ คนฺตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, สุวราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

มหาสุวชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๓๐] ๔. จูฬสุวชาตกวณฺณนา

สนฺติรุกฺขาติ อิทํ สตฺถา สาวตฺถิยํ เชตวเน วิหรนฺโต เวรฺชกณฺฑํ อารพฺภ กเถสิ. สตฺถริ เวรฺชายํ วสฺสํ วสิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อนุปฺปตฺเต ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ตถาคโต ขตฺติยสุขุมาโล พุทฺธสุขุมาโล มหนฺเตน อิทฺธานุภาเวน สมนฺนาคโตปิ เวรฺชพฺราหฺมเณน นิมนฺติโต เตมาสํ วสนฺโต มาราวฏฺฏนวเสน ตสฺส สนฺติกา เอกทิวสมฺปิ ภิกฺขํ อลภิตฺวา โลลุปฺปจารํ ปหาย เตมาสํ ปตฺถปุลกปิฏฺโทเกน ยาเปนฺโต อฺตฺถ น อคมาสิ, อโห ตถาคตานํ อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺภาโว’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺส อิทานิ โลลุปฺปจารปฺปหานํ, ปุพฺเพปิ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ โลลุปฺปจารํ ปหาสิ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ. สพฺพมฺปิ วตฺถุ ปุริมนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ.

๓๐.

‘‘สนฺติ รุกฺขา หริปตฺตา, ทุมา เนกผลา พหู;

กสฺมา นุ สุกฺเข โกฬาเป, สุวสฺส นิรโต มโน.

๓๑.

‘‘ผลสฺส อุปภุฺชิมฺหา, เนกวสฺสคเณ พหู;

อผลมฺปิ วิทิตฺวาน, สาว เมตฺติ ยถา ปุเร.

๓๒.

‘‘สุกฺขฺจ รุกฺขํ โกฬาปํ, โอปตฺตมผลํ ทุมํ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ โทสํ ปสฺสเส ทิช.

๓๓.

‘‘เย ผลตฺถา สมฺภชนฺติ, อผโลติ ชหนฺติ นํ;

อตฺตตฺถปฺา ทุมฺเมธา, เต โหนฺติ ปกฺขปาติโน.

๓๔.

‘‘สาธุ สกฺขิ กตํ โหติ, เมตฺติ สํสติ สนฺถโว;

สเจตํ ธมฺมํ โรเจสิ, ปาสํโสสิ วิชานตํ.

๓๕.

‘‘โส เต สุว วรํ ทมฺมิ, ปตฺตยาน วิหงฺคม;

วรํ วรสฺสุ วกฺกงฺค, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.

๓๖.

‘‘อปิ นาม นํ ปสฺเสยฺยํ, สปตฺตํ สผลํ ทุมํ;

ทลิทฺโทว นิธึ ลทฺธา, นนฺเทยฺยาหํ ปุนปฺปุนํ.

๓๗.

‘‘ตโต อมตมาทาย, อภิสิฺจิ มหีรุหํ;

ตสฺส สาขา วิรูหึสุ, สีตจฺฉายา มโนรมา.

๓๘.

‘‘เอวํ สกฺก สุขี โหหิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช สุขิโต, ทิสฺวาน สผลํ ทุมํ.

๓๙.

‘‘สุวสฺส จ วรํ ทตฺวา, กตฺวาน สผลํ ทุมํ;

ปกฺกามิ สห ภริยาย, เทวานํ นนฺทนํ วน’’นฺติ. –

ปฺหปฏิปฺหาปิ อตฺโถปิ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพา, อนุตฺตานปทเมว ปน วณฺณยิสฺสาม.

หริปตฺตาติ นีลปตฺตสจฺฉนฺนา. โกฬาเปติ วาเต ปหรนฺเต อาโกฏิตสทฺทํ วิย มุฺจมาเน นิสฺสาเร. สุวสฺสาติ อายสฺมโต สุวราชสฺส กสฺมา เอวรูเป รุกฺเข มโน นิรโต. ผลสฺสาติ ผลํ อสฺส รุกฺขสฺส. เนกวสฺสคเณติ อเนกวสฺสคเณ. พหูติ สมาเนปิ อเนกสเต น ทฺเว ตโย, อถ โข พหูว. วิทิตฺวานาติ หํสราช อิทานิ อมฺหากํ อิมํ รุกฺขํ อผลํ วิทิตฺวาปิ ยถา ปุเร เอเตน สทฺธึ เมตฺติ, สาว เมตฺติ, ตฺหิ มยํ น ภินฺทาม, เมตฺตึ ภินฺทนฺตา หิ อนริยา อสปฺปุริสา นาม โหนฺตีติ ปกาเสนฺโต เอวมาห.

โอปตฺตนฺติ อวปตฺตํ นิปฺปตฺตํ ปติตปตฺตํ. กึ โทสํ ปสฺสเสติ อฺเ สกุณา เอตํ โอหาย อฺตฺถ คจฺฉนฺติ, ตฺวํ เอวํ คมเน กึ นาม โทสํ ปสฺสสิ. เย ผลตฺถาติ เย ปกฺขิโน ผลตฺถาย ผลการณา สมฺภชนฺติ อุปคจฺฉนฺติ, อผโลติ ตฺวา เอตํ ชหนฺติ. อตฺตตฺถปฺาติ อตฺตโน อตฺถาย ปฺา, ปรํ อโนโลเกตฺวา อตฺตนิเยว วา ิตา เอเตสํ ปฺาติ อตฺตตฺถปฺา. ปกฺขปาติโนติ เต อตฺตโนเยว วุฑฺฒึ ปจฺจาสีสมานา มิตฺตปกฺขํ ปาเตนฺติ นาเสนฺตีติ ปกฺขปาติโน นาม โหนฺติ. อตฺตปกฺเขเยว วา ปตนฺตีติ ปกฺขปาติโน.

อปินาม นนฺติ หํสราช, สเจ เม มโนรโถ นิปฺผชฺเชยฺย, ตยา ทินฺโน วโร สมฺปชฺเชยฺย, อปิ นาม อหํ อิมํ รุกฺขํ สปตฺตํ สผลํ ปุน ปสฺเสยฺยํ, ตโต ทลิทฺโท นิธึ ลภิตฺวาว ปุนปฺปุนํ เอตํ อภินนฺเทยฺยํ, ตํ ทิสฺวาว ปโมเทยฺยํ. อมตมาทายาติ อตฺตโน อานุภาเวน ิโต คงฺโคทกํ คเหตฺวา อภิสิฺจยีติ อตฺโถ. อิมสฺมึ ชาตเก อิมาย สทฺธึ ทฺเว อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, สุวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬสุวชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๓๑] ๕. หริตจชาตกวณฺณนา

สุตํ เมตํ มหาพฺรหฺเมติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ ภิกฺขุํ เอกํ อลงฺกตมาตุคามํ ทิสฺวา อุกฺกณฺิตํ ทีฆเกสนขโลมํ วิพฺภมิตุกามํ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อรุจิยา อานีตํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึการณา’’ติ วตฺวา ‘‘อลงฺกตมาตุคามํ ทิสฺวา กิเลสวเสน, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กิเลโส นาม คุณวิทฺธํสโก อปฺปสฺสาโท นิรเย นิพฺพตฺตาเปติ, เอส ปน กิเลโส กึการณา ตํ น กิลเมสฺสติ? น หิ สิเนรุํ ปหริตฺวา ปหรณวาโต ปุราณปณฺณสฺส ลชฺชติ, อิมฺหิ กิเลสํ นิสฺสาย โพธิาณสฺส อนุปทํ จรมานา ปฺจอภิฺอฏฺสมาปตฺติลาภิโน วิสุทฺธมหาปุริสาปิ สตึ อุปฏฺเปตุํ อสกฺโกนฺตา ฌานํ อนฺตรธาเปสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต เอกสฺมึ นิคเม อสีติโกฏิวิภเว พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติ, กฺจนฉวิตาย ปนสฺส ‘‘หริตจกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป กุฏุมฺพํ สณฺเปตฺวา มาตาปิตูนํ อจฺจเยน ธนวิโลกนํ กตฺวา ‘‘ธนเมว ปฺายติ, ธนสฺส อุปฺปาทกา น ปฺายนฺติ, มยาปิ มรณมุเข จุณฺณวิจุณฺเณน ภวิตพฺพ’’นฺติ มรณภยภีโต มหาทานํ ทตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ตตฺถ จิรํ วนมูลผลาหาโร ยาเปตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย ปพฺพตา โอตริตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส พาราณสิยํ ภิกฺขาย จรนฺโต ราชทฺวารํ สมฺปาปุณิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปกฺโกสาเปตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา นานคฺครสโภชนํ โภเชตฺวา อนุโมทนาวสาเน อติเรกตรํ ปสีทิตฺวา ‘‘กหํ, ภนฺเต, คจฺฉถา’’ติ วตฺวา ‘‘วสฺสาวาสฏฺานํ อุปธาเรม, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภุตฺตปาตราโส ตํ อาทาย อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตตฺถ รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนิ การาเปตฺวา อุยฺยานปาลํ ปริจารกํ กตฺวา ทตฺวา วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ. มหาสตฺโต ตโต ปฏฺาย นิพทฺธํ รฺโ เคเห ภุฺชนฺโต ทฺวาทส วสฺสานิ ตตฺถ วสิ.

อเถกทิวสํ ราชา ปจฺจนฺตํ กุปิตํ วูปสเมตุํ คจฺฉนฺโต ‘‘อมฺหากํ ปุฺกฺเขตฺตํ มา ปมชฺชี’’ติ มหาสตฺตํ เทวิยา นิยฺยาเทตฺวา อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย สา มหาสตฺตํ สหตฺถา ปริวิสติ. อเถกทิวสํ สา โภชนํ สมฺปาเทตฺวา ตสฺมึ จิรายมาเน คนฺโธทเกน นฺหตฺวา สณฺหํ มฏฺสาฏกํ นิวาเสตฺวา สีหปฺชรํ วิวราเปตฺวา สรีเร วาตํ ปหราเปนฺตี ขุทฺทกมฺจเก นิปชฺชิ. มหาสตฺโตปิ ทิวาตรํ สุนิวตฺโถ สุปารุโต ภิกฺขาภาชนํ อาทาย อากาเสนาคนฺตฺวา สีหปฺชรํ ปาปุณิ. เทวิยา ตสฺส วากจิรสทฺทํ สุตฺวา เวเคน อุฏฺหนฺติยา มฏฺสาฏโก ภสฺสิ, มหาสตฺตสฺส วิสภาคารมฺมณํ จกฺขุํ ปฏิหฺิ. อถสฺส อเนกวสฺสโกฏิสตสหสฺสกาเล อพฺภนฺตเร นิวุตฺถกิเลโส กรณฺฑเก สยิตอาสีวิโส วิย อุฏฺหิตฺวา ฌานํ อนฺตรธาเปสิ. โส สตึ อุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา เทวึ หตฺเถ คณฺหิ, ตาวเทว สาณึ ปริกฺขิปึสุ. โส ตาย สทฺธึ โลกธมฺมํ เสวิตฺวา ภุฺชิตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตโต ปฏฺาย เทวสิกํ ตเถว อกาสิ. ตสฺส ตาย สทฺธึ โลกธมฺมปฏิเสวนํ สกลนคเร ปากฏํ ชาตํ. อมจฺจา ‘‘หริตจตาปโส เอวมกาสี’’ติ รฺโ ปณฺณํ ปหิณึสุ. ราชา ‘‘มํ ภินฺทิตุกามา เอวํ วทนฺตี’’ติ อสทฺทหิตฺวา ปจฺจนฺตํ วูปสเมตฺวา พาราณสึ ปจฺจาคนฺตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เทวิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ, กิร มม อยฺโย หริตจตาปโส ตยา สทฺธึ โลกธมฺมํ ปฏิเสวตี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สจฺจํ, เทวา’’ติ. โส ตสฺสาปิ อสทฺทหิตฺวา ‘‘ตเมว ปฏิปุจฺฉิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๔๐.

‘‘สุตํ เมตํ มหาพฺรหฺเม, กาเม ภุฺชติ หาริโต;

กจฺเจตํ วจนํ ตุจฺฉํ, กจฺจิ สุทฺโธ อิริยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ กจฺเจตนฺติ กจฺจิ เอตํ ‘‘หาริโต กาเม ปริภุฺชตี’’ติ อมฺเหหิ สุตํ วจนํ ตุจฺฉํ อภูตํ, กจฺจิ ตฺวํ สุทฺโธ อิริยฺยสิ วิหรสีติ.

โส จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา ‘นาหํ ปริภุฺชามี’ติ วุตฺเตปิ มม สทฺทหิสฺสเตว, อิมสฺมึ โลเก สจฺจสทิสี ปติฏฺา นาม นตฺถิ. อุชฺฌิตสจฺจา หิ โพธิมูเล นิสีทิตฺวา โพธึ ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ, มยา สจฺจเมว กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โพธิสตฺตสฺส หิ เอกจฺเจสุ าเนสุ ปาณาติปาโตปิ อทินฺนาทานมฺปิ กาเมสุมิจฺฉาจาโรปิ สุราเมรยมชฺชปานมฺปิ โหติเยว, อตฺถเภทกวิสํวาทนํ ปุรกฺขตฺวา มุสาวาโท นาม น โหติ, ตสฺมา โส สจฺจเมว กเถนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๔๑.

‘‘เอวเมตํ มหาราช, ยถา เต วจนํ สุตํ;

กุมฺมคฺคํ ปฏิปนฺโนสฺมิ, โมหเนยฺเยสุ มุจฺฉิโต’’ติ.

ตตฺถ โมหเนยฺเยสูติ กามคุเณสุ. กามคุเณสุ หิ โลโก มุยฺหติ, เต จ โลกํ โมหยนฺติ, ตสฺมา เต ‘‘โมหเนยฺยา’’ติ วุจฺจนฺตีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตติยํ คาถมาห –

๔๒.

‘‘อทุ ปฺา กิมตฺถิยา, นิปุณา สาธุจินฺตินี;

ยาย อุปฺปติตํ ราคํ, กึ มโน น วิโนทเย’’ติ.

ตตฺถ อทูติ นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภนฺเต, คิลานสฺส นาม เภสชฺชํ, ปิปาสิตสฺส ปานียํ ปฏิสรณํ, ตุมฺหากํ ปเนสา นิปุณา สาธูนํ อตฺถานํ จินฺตินี ปฺา กิมตฺถิยา, ยาย ปุน อุปฺปติตํ ราคํ กึ มโน น วิโนทเย, กึ จิตฺตํ วิโนเทตุํ นาสกฺขีติ.

อถสฺส กิเลสพลํ ทสฺเสนฺโต หาริโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๔๓.

‘‘จตฺตาโรเม มหาราช, โลเก อติพลา ภุสา;

ราโค โทโส มโท โมโห, ยตฺถ ปฺา น คาธตี’’ติ.

ตตฺถ ยตฺถาติ เยสุ ปริยุฏฺานํ ปตฺเตสุ มโหเฆ ปติตา วิย ปฺา คาธํ ปติฏฺํ น ลภติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ปฺจมํ คาถมาห –

๔๔.

‘‘อรหา สีลสมฺปนฺโน, สุทฺโธ จรติ หาริโต;

เมธาวี ปณฺฑิโต เจว, อิติ โน สมฺมโต ภว’’นฺติ.

ตตฺถ อิติ โน สมฺมโตติ เอวํ อมฺหากํ สมฺมโต สมฺภาวิโต ภวํ.

ตโต หาริโต ฉฏฺมํ คาถมาห –

๔๕.

‘‘เมธาวีนมฺปิ หึสนฺติ, อิสึ ธมฺมคุเณ รตํ;

วิตกฺกา ปาปกา ราช, สุภา ราคูปสํหิตา’’ติ.

ตตฺถ สุภาติ สุภนิมิตฺตคฺคหเณน ปวตฺตาติ.

อถ นํ กิเลสปฺปหาเน อุสฺสาหํ กาเรนฺโต ราชา สตฺตมํ คาถมาห –

๔๖.

‘‘อุปฺปนฺนายํ สรีรโช, ราโค วณฺณวิทูสโน ตว;

ตํ ปชห ภทฺทมตฺถุ เต, พหุนฺนาสิ เมธาวิสมฺมโต’’ติ.

ตตฺถ วณฺณวิทูสโน ตวาติ ตว สรีรวณฺณสฺส จ คุณวณฺณสฺส จ วิทูสโน. พหุนฺนาสีติ พหูนํ อาสิ เมธาวีติ สมฺมโต.

ตโต มหาสตฺโต สตึ ลภิตฺวา กาเมสุ อาทีนวํ สลฺลกฺเขตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –

๔๗.

‘‘เต อนฺธการเก กาเม, พหุทุกฺเข มหาวิเส;

เตสํ มูลํ คเวสิสฺสํ, เฉจฺฉํ ราคํ สพนฺธน’’นฺติ.

ตตฺถ อนฺธการเกติ ปฺาจกฺขุวินาสนโต อนฺธภาวกเร. พหุทุกฺเขติ เอตฺถ ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา’’ติอาทีนิ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕) สุตฺตานิ หริตฺวา เตสํ พหุทุกฺขตา ทสฺเสตพฺพา. มหาวิเสติ สมฺปยุตฺตกิเลสวิสสฺส เจว วิปากวิสสฺส จ มหนฺตตาย มหาวิเส. เตสํ มูลนฺติ เต วุตฺตปฺปกาเร กาเม ปหาตุํ เตสํ มูลํ คเวสิสฺสํ ปริเยสิสฺสามิ. กึ ปน เตสํ มูลนฺติ? อโยนิโสมนสิกาโร. เฉจฺฉํ ราคํ สพนฺธนนฺติ มหาราช, อิทาเนว ปฺาขคฺเคน ปหริตฺวา สุภนิมิตฺตพนฺธเนน สพนฺธนํ ราคํ ฉินฺทิสฺสามีติ.

อิทฺจ ปน วตฺวา ‘‘มหาราช, โอกาสํ ตาว เม กโรหี’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กสิณมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ปุน นฏฺชฺฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ อฏฺาเน วุตฺถการณา มหาชนมชฺเฌ ครหปฺปตฺโต, อปฺปมตฺโต โหหิ, ปุน ทานิ อหํ อนิตฺถิคนฺธวนสณฺฑเมว คมิสฺสามี’’ติ รฺโ โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส หิมวนฺตเมว คนฺตฺวา อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา ตํ การณํ ตฺวา –

๔๘.

‘‘อิทํ วตฺวาน หาริโต, อิสิ สจฺจปรกฺกโม;

กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺรหฺมโลกูปโค อหู’’ติ. –

อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา อิมํ คาถํ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อรหตฺเต ปติฏฺหิ.

ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, หริตจตาปโส ปน อหเมว อโหสินฺติ.

หริตจชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๓๒] ๖. ปทกุสลมาณวชาตกวณฺณนา

พหุสฺสุตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทารกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิยํ กุฏุมฺพิกปุตฺโต สตฺตวสฺสกาเลเยว ปทกุสโล อโหสิ. อถสฺส ปิตา ‘‘อิมํ วีมํสิสฺสามี’’ติ ตสฺส อชานนฺตสฺเสว มิตฺตฆรํ อคมาสิ. โส ปิตุ คตฏฺานํ อปุจฺฉิตฺวาว ตสฺส ปทานุสาเรน คนฺตฺวา ปิตุ สนฺติเก อฏฺาสิ. อถ นํ ปิตา เอกทิวสํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, ตฺวํ มยิ ตํ อชานาเปตฺวา คเตปิ มม คตฏฺานํ กึ ชานาสี’’ติ? ‘‘ตาต , ปทํ เต สฺชานามิ, ปทกุสโล อห’’นฺติ. อถสฺส วีมํสนตฺถาย ปิตา ภุตฺตปาตราโส ฆรา นิกฺขมิตฺวา อนนฺตรํ ปฏิวิสฺสกฆรํ คนฺตฺวา ตโต ทุติยํ, ตโต ตติยํ ฆรํ ปวิสิตฺวา ตติยฆรา นิกฺขมิตฺวา ปุน อตฺตโน ฆรํ อาคนฺตฺวา ตโต อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา นครํ วามํ กโรนฺโต เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺโต นิสีทิ. ทารโก ‘‘กหํ เม ปิตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ชานามา’’ติ วุตฺเต ตสฺส ปทานุสาเรน อนนฺตรปฏิวิสฺสกสฺส ฆรํ อาทึ กตฺวา ปิตุ คตมคฺเคเนว เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปิตุ สนฺติเก อฏฺาสิ. ปิตรา จ ‘‘กถํ ตาต, มม อิธาคตภาวํ อฺาสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘ปทํ เต สฺชานิตฺวา ปทานุสาเรน อาคโตมฺหี’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘กึ กเถสิ อุปาสกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ ทารโก ปทกุสโล, อหํ อิมํ วีมํสนฺโต อิมินา นาม อุปาเยน อาคโต, อยมฺปิ มํ เคเห อทิสฺวา มม ปทานุสาเรน อาคโต’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, อุปาสก, ภูมิยํ ปทสฺชานนํ, โปราณกปณฺฑิตา อากาเส ปทํ สฺชานึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส อคฺคมเหสี อติจริตฺวา รฺา ปุจฺฉิตา ‘‘สเจ อหํ ตุมฺเห อติจรามิ, อสฺสมุขี ยกฺขินี โหมี’’ติ สปถํ กตฺวา ตโต กาลํ กตฺวา เอกสฺมึ ปพฺพตปาเท อสฺสมุขี ยกฺขินี หุตฺวา เลณคุหายํ วสมานา มหาอฏวิยํ ปุพฺพนฺตโต อปรนฺตํ คมนมคฺเค อนุสฺจรนฺเต มนุสฺเส คเหตฺวา ขาทติ. สา กิร ตีณิ วสฺสานิ เวสฺสวณํ อุปฏฺหิตฺวา อายามโต ตึสโยชเน วิตฺถารโต ปฺจโยชเน าเน มนุสฺเส ขาทิตุํ ลภิ. อเถกทิวสํ เอโก อฑฺโฒ มหทฺธโน มหาโภโค อภิรูโป พฺราหฺมโณ พหูหิ มนุสฺเสหิ ปริวุโต ตํ มคฺคํ อภิรุหิ. ตํ ทิสฺวา ยกฺขินี ตุสฺสิตฺวา ปกฺขนฺทิ, ตํ ทิสฺวา ปริวารมนุสฺสา ปลายึสุ. สา วาตเวเคน คนฺตฺวา พฺราหฺมณํ คเหตฺวา ปิฏฺิยา นิปชฺชาเปตฺวา คุหํ คจฺฉนฺตี ปุริสสมฺผสฺสํ ปฏิลภิตฺวา กิเลสวเสน ตสฺมึ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อขาทิตฺวา อตฺตโน สามิกํ อกาสิ. เต อุโภปิ สมคฺคสํวาสํ วสึสุ ตโต ปฏฺาย ยกฺขินี มนุสฺเส คณฺหนฺตี วตฺถตณฺฑุลเตลาทีนิปิ คเหตฺวา ตสฺส นานคฺครสโภชนํ อุปเนตฺวา อตฺตนา มนุสฺสมํสํ ขาทติ. คมนกาเล ตสฺส ปลายนภเยน มหติยา สิลาย คุหาทฺวารํ ปิทหิตฺวา คจฺฉติ. เอวํ เตสุ สมฺโมทมาเนสุ วสนฺเตสุ โพธิสตฺโต นิพฺพตฺตฏฺานา จวิตฺวา พฺราหฺมณํ ปฏิจฺจ ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิตฺวา ปุตฺเต จ พฺราหฺมเณ จ พลวสิเนหา หุตฺวา อุโภปิ โปเสสิ. สา อปรภาเค ปุตฺเต วุฑฺฒิปฺปตฺเต ปุตฺตมฺปิ ปิตรา สทฺธึ อนฺโตคุหายํ ปเวเสตฺวา ทฺวารํ ปิทหิ.

อเถกทิวสํ โพธิสตฺโต ตสฺสา คตกาลํ ตฺวา สิลํ อปเนตฺวา ปิตรํ พหิ อกาสิ. สา อาคนฺตฺวา ‘‘เกน สิลา อปนีตา’’ติ วตฺวา ‘‘อมฺม, มยา อปนีตา, อนฺธกาเร นิสีทิตุํ น สกฺโกมี’’ติ วุตฺเต ปุตฺตสิเนเหน น กิฺจิ อโวจ. อเถกทิวสํ โพธิสตฺโต ปิตรํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, มยฺหํ มาตุ มุขํ อฺาทิสํ, ตุมฺหากํ มุขํ อฺาทิสํ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ? ‘‘ตาต, ตว มาตา มนุสฺสมํสขาทิกา ยกฺขินี, มยํ อุโภ มนุสฺสา’’ติ. ‘‘ตาต, ยทิ เอวํ, อิธ กสฺมา วสาม, เอหิ มนุสฺสปถํ คจฺฉามา’’ติ. ‘‘ตาต, สเจ มยํ ปลายิสฺสาม, อุโภปิ อมฺเห ตว มาตา ขาทิสฺสตี’’ติ. โพธิสตฺโต ‘‘มา ภายิ, ตาต, ตว มนุสฺสปถสมฺปาปนํ มม ภาโร’’ติ ปิตรํ สมสฺสาเสตฺวา ปุนทิวเส มาตริ คตาย ปิตรํ คเหตฺวา ปลายิ. ยกฺขินี อาคนฺตฺวา เต อทิสฺวา วาตเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา เต คเหตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กึ ปลายสิ, กึ เต อิธ นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘ภทฺเท, มา มยฺหํ กุชฺฌิ, ปุตฺโต เต มํ คเหตฺวา ปลายตี’’ติ วุตฺเต ปุตฺตสิเนเหน กิฺจิ อวตฺวา เต อสฺสาเสตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานฺเว เต คเหตฺวา คนฺตฺวา เอวํ ปุนปิ กติปเย ทิวเส ปลายนฺเต อาเนสิ.

โพธิสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ มาตุ ปริจฺฉินฺเนน โอกาเสน ภวิตพฺพํ, ยํนูนาหํ อิมิสฺสา อาณาปวตฺติฏฺานสีมํ ปุจฺเฉยฺยํ, อถ นํ อติกฺกมิตฺวา ปลายิสฺสามา’’ติ. โส เอกทิวสํ มาตรํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ‘‘อมฺม, มาตุสนฺตกํ นาม ปุตฺตานํ ปาปุณาติ, อกฺขาหิ ตาว เม อตฺตโน สนฺตกาย ภูมิยา ปริจฺเฉท’’นฺติ อาห. สา สพฺพทิสาสุ ปพฺพตนทีนิมิตฺตาทีนิ กเถตฺวา อายามโต ตึสโยชนํ, วิตฺถารโต ปฺจโยชนํ ปุตฺตสฺส กเถตฺวา ‘‘อิทํ เอตฺตกํ านํ สลฺลกฺเขหิ ปุตฺตา’’ติ อาห. โส ทฺเว ตโย ทิวเส อติกฺกมิตฺวา มาตุ อฏวิคตกาเล ปิตรํ ขนฺธํ อาโรเปตฺวา ตสฺสา ทินฺนสฺาย วาตเวเคน ปกฺขนฺโท ปริจฺเฉทนทีตีรํ สมฺปาปุณิ. สาปิ อาคนฺตฺวา เต อปสฺสนฺตี อนุพนฺธิ. โพธิสตฺโต ปิตรํ คเหตฺวา นทีมชฺฌํ อคมาสิ. สา อาคนฺตฺวา นทีตีเร ตฺวา อตฺตโน ปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตภาวํ ตฺวา ตตฺเถว ตฺวา ‘‘ตาต, ปิตรํ คเหตฺวา เอหิ, โก มยฺหํ โทโส, ตุมฺหากํ มํ นิสฺสาย กึ นาม น สมฺปชฺชติ, นิวตฺต, สามี’’ติ ปุตฺตฺจ ปติฺจ ยาจิ. อถ พฺราหฺมโณ นทึ อุตฺตริ. สา ปุตฺตเมว ยาจนฺตี ‘‘ตาต, มา เอวํ กริ, นิวตฺตาหี’’ติ อาห. ‘‘อมฺม, มยํ มนุสฺสา, ตฺวํ ยกฺขินี, น สกฺกา สพฺพกาลํ ตว สนฺติเก วสิตุ’’นฺติ. ‘‘เนว นิวตฺติสฺสสิ, ตาตา’’ติ. ‘‘อาม, อมฺมา’’ติ. ‘‘ตาต, ยทิ น นิวตฺติสฺสสิ, มนุสฺสโลเก ชีวิตํ นาม ทุกฺขํ, สิปฺปํ อชานนฺตา ชีวิตุํ น สกฺโกนฺติ, อหํ เอกํ จินฺตามณึ นาม วิชฺชํ ชานามิ, ตสฺสานุภาเวน ทฺวาทสสํวจฺฉรมตฺถเก หฏภณฺฑมฺปิ ปทานุปทํ คนฺตฺวา สกฺกา ชานิตุํ. อยํ เต ชีวิกา ภวิสฺสติ, อุคฺคณฺห, ตาต, อนคฺฆํ มนฺต’’นฺติ ตถารูเปน ทุกฺเขน อภิภูตาปิ ปุตฺตสิเนเหน มนฺตํ อทาสิ.

โพธิสตฺโต นทิยา ิตโกว มาตรํ วนฺทิตฺวา อติสกฺกจฺจํ สุตํ กตฺวา มนฺตํ คเหตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘คจฺฉถ, อมฺมา’’ติ อาห. ‘‘ตาต, ตุมฺเหสุ อนิวตฺตนฺเตสุ มยฺหํ ชีวิตํ นตฺถี’’ติ วตฺวา –

‘‘เอหิ ปุตฺต นิวตฺตสฺสุ, มา อนาถํ กโรหิ เม;

อชฺช ปุตฺตํ อปสฺสนฺตี, ยกฺขินี มรณํ คตา’’ติ.

ยกฺขินี อุรํ ปหริ, ตาวเทวสฺสา ปุตฺตโสเกน หทยํ ผลิ. สา มริตฺวา ตตฺเถว ปติตา. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺสา มตภาวํ ตฺวา ปิตรํ ปกฺโกสิตฺวา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา จิตกํ กตฺวา ฌาเปตฺวา อาฬาหนํ นิพฺพาเปตฺวา นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา วนฺทิตฺวา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ปิตรํ อาทาย พาราณสึ คนฺตฺวา ราชทฺวาเร ตฺวา ‘‘ปทกุสโล มาณโว ทฺวาเร ิโต’’ติ รฺโ ปฏิเวเทตฺวา ‘‘เตน หิ อาคจฺฉตู’’ติ วุตฺเต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, กึ สิปฺปํ ชานาสี’’ติ วุตฺเต ‘‘เทว, ทฺวาทสสํวจฺฉรมตฺถเก หฏภณฺฑํ ปทานุปทํ คนฺตฺวา คณฺหิตุํ ชานามี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ มํ อุปฏฺาหี’’ติ. ‘‘เทว, เทวสิกํ สหสฺสํ ลภนฺโต อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ ตาต, อุปฏฺหา’’ติ. ราชา เทวสิกํ สหสฺสํ ทาเปสิ.

อเถกทิวสํ ปุโรหิโต ราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, มยํ ตสฺส มาณวสฺส สิปฺปานุภาเวน กสฺสจิ กมฺมสฺส อกตตฺตา ‘สิปฺปํ อตฺถิ วา นตฺถิ วา’ติ น ชานาม, วีมํสิสฺสาม ตาว น’’นฺติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อุโภปิ ชนา นานารตนโคปกานํ สฺํ ทตฺวา รตนสารภณฺฑิกํ คเหตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห ราชนิเวสนนฺตเร ติกฺขตฺตุํ อาวิชฺฌิตฺวา นิสฺเสณึ อตฺถริตฺวา ปาการมตฺถเกน พหิ โอตริตฺวา วินิจฺฉยสาลํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ นิสีทิตฺวา ปุน คนฺตฺวา นิสฺเสณึ อตฺถริตฺวา ปาการมตฺถเกน โอตริตฺวา อนฺเตปุเร โปกฺขรณิยา ตีรํ คนฺตฺวา โปกฺขรณึ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา โอตริตฺวา อนฺโตโปกฺขรณิยํ ภณฺฑิกํ เปตฺวา ปาสาทํ อภิรุหึสุ. ปุนทิวเส ‘‘ราชนิเวสนโต กิร รตนํ หรึสู’’ติ เอกโกลาหลํ อโหสิ. ราชา อชานนฺโต วิย หุตฺวา โพธิสตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ราชนิเวสนโต พหุรตนภณฺฑํ หฏํ, หนฺท นํ อนุวิจินิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห . ‘‘มหาราช, ทฺวาทสสํวจฺฉรมตฺถเก หฏภณฺฑํ โจรานํ ปทานุปทํ คนฺตฺวา อาหรณสมตฺถสฺส มม อนจฺฉริยํ อชฺช รตฺตึ หฏภณฺฑํ อาหริตุํ, อาหริสฺสามิ ตํ, มา จินฺตยิตฺถา’’ติ. ‘‘เตน หิ อาหรา’’ติ. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา มหาตเล ิโตว ‘‘มหาราช, ทฺวินฺนํ โจรานํ ปทํ ปฺายตี’’ติ วตฺวา รฺโ จ ปุโรหิตสฺส จ ปทานุสาเรน สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ตโต นิกฺขมิตฺวา ปาสาทา โอรุยฺห ราชนิเวสนนฺตเร ติกฺขตฺตุํ ปริคนฺตฺวา ปทานุสาเรเนว ปาการสมีปํ คนฺตฺวา ปากาเร ตฺวา ‘‘มหาราช, อิมสฺมึ าเน ปาการโต มุจฺจิตฺวา อากาเส ปทํ ปฺายติ, นิสฺเสณึ อตฺถราเปตฺวา เทถา’’ติ นิสฺเสณึ ปาการมตฺถเกน โอตริตฺวา ปทานุสาเรเนว วินิจฺฉยสาลํ คนฺตฺวา ปุน ราชนิเวสนํ อาคนฺตฺวา นิสฺเสณึ อตฺถราเปตฺวา ปาการมตฺถเกน โอรุยฺห โปกฺขรณึ คนฺตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ‘‘มหาราช, โจรา อิมํ โปกฺขรณึ โอติณฺณา’’ติ วตฺวา อตฺตนา ปิตํ วิย ภณฺฑิกํ นีหริตฺวา รฺโ ทตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม ทฺเว โจรา อภิฺาตมหาโจรา อิมินา มคฺเคน ราชนิเวสนํ อภิรุฬฺหา’’ติ อาห. มหาชนา ตุฏฺปหฏฺา องฺคุลิโย โผเฏสุํ, เจลุกฺเขปา ปวตฺตึสุ.

ราชา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ มาณโว ปทานุสาเรน คนฺตฺวา โจเรหิ ปิตภณฺฑฏฺานเมว มฺเ ชานาติ, โจเร ปน คณฺหิตุํ น สกฺโกตี’’ติ. อถ นํ อาห ‘‘โจเรหิ หฏภณฺฑํ ตาว โน ตยา อาหฏํ, โจรา ปน น อาหฏา’’ติ. ‘‘มหาราช, อิเธว โจรา, น ทูเร’’ติ. ‘‘โก จ โก จา’’ติ. ‘‘โย มหาราช, อิจฺฉติ, โสว โจโร โหติ, ตโต ตุมฺหากํ ภณฺฑิกสฺส ลทฺธกาลโต ปฏฺาย โจเรหิ โก อตฺโถ, มา ปุจฺฉิตฺถา’’ติ. ‘‘ตาต, อหํ ตุยฺหํ เทวสิกํ สหสฺสํ ทมฺมิ, โจเร เม คเหตฺวา เทหี’’ติ. ‘‘มหาราช, ธเน ลทฺเธ กึ โจเรหี’’ติ. ‘‘ธนโตปิ โน, ตาต, โจเร ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ‘อิเม นาม โจรา’ติ ตุมฺหากํ น กเถสฺสามิ, อตีเต ปวตฺตการณํ ปน เต อาหริสฺสามิ, สเจ ตุมฺเห ปฺวนฺโต, ตํ การณํ ชานาถา’’ติ โส เอวํ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิโต อวิทูเร นทีตีรคามเก ปาฏลิ นาม เอโก นโฏ วสติ. โส เอกสฺมึ อุสฺสวทิวเส ภริยมาทาย พาราณสึ ปวิสิตฺวา นจฺจิตฺวา วีณํ วาทิตฺวา คายิตฺวา ธนํ ลภิตฺวา อุสฺสวปริโยสาเน พหุํ สุราภตฺตํ คาหาเปตฺวา อตฺตโน คามํ คจฺฉนฺโต นทีตีรํ ปตฺวา นโวทกํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภตฺตํ ภุฺชนฺโต สุรํ ปิวนฺโต นิสีทิตฺวา มตฺโต หุตฺวา อตฺตโน พลํ อชานนฺโต ‘‘มหาวีณํ คีวาย พนฺธิตฺวา นทึ อุตฺตริตฺวา คมิสฺสามี’’ติ ภริยํ หตฺเถ คเหตฺวา นทึ โอตริ. วีณาฉิทฺเทหิ อุทกํ ปาวิสิ. อถ นํ สา วีณา อุทเก โอสีทาเปสิ . ภริยา ปนสฺส โอสีทนภาวํ ตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชตฺวา อุตฺตริตฺวา ตีเร อฏฺาสิ. นฏปาฏลิ สกึ อุมฺมุชฺชติ, สกึ นิมุชฺชติ, อุทกํ ปวิสิตฺวา อุทฺธุมาตอุทโร อโหสิ. อถสฺส ภริยา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สามิโก อิทานิ มริสฺสติ, เอกํ นํ คีตกํ ยาจิตฺวา ปริสมชฺเฌ ตํ คายนฺตี ชีวิกํ กปฺเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สามิ, ตฺวํ อุทเก นิมุชฺชสิ, เอกํ เม คีตกํ เทหิ, เตน ชีวิกํ กปฺเปสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๙.

‘‘พหุสฺสุตํ จิตฺตกถึ, คงฺคา วหติ ปาฏลึ;

วุยฺหมานก ภทฺทนฺเต, เอกํ เม เทหิ คาถก’’นฺติ.

ตตฺถ คาถกนฺติ ขุทฺทกํ คาถํ.

อถ นํ นฏปาฏลิ ‘‘ภทฺเท, กถํ ตว คีตกํ ทสฺสามิ, อิทานิ มหาชนสฺส ปฏิสรณภูตํ อุทกํ มํ มาเรตี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๕๐.

‘‘เยน สิฺจนฺติ ทุกฺขิตํ, เยน สิฺจนฺติ อาตุรํ;

ตสฺส มชฺเฌ มริสฺสามิ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

โพธิสตฺโต อิมํ คาถํ วตฺวา ‘‘มหาราช, ยถา อุทกํ มหาชนสฺส ปฏิสรณํ, ตถา ราชาโนปิ, เตสํ สนฺติกา ภเย อุปฺปนฺเน ตํ ภยํ โก ปฏิพาหิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘มหาราช, อิทํ การณํ ปฏิจฺฉนฺนํ, มยา ปน ปณฺฑิตเวทนียํ กตฺวา กถิตํ, ชานาหิ, มหาราชา’’ติ อาห. ‘‘ตาต อหํ เอวรูปํ ปฏิจฺฉนฺนกถํ น ชานามิ, โจเร เม คเหตฺวา เทหี’’ติ. อถสฺส มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, อิทํ สุตฺวา ชานาหี’’ติ อปรมฺปิ การณํ อาหริ. เทว, ปุพฺเพ อิมิสฺสาว พาราณสิยา ทฺวารคาเม เอโก กุมฺภกาโร ภาชนตฺถาย มตฺติกํ อาหรนฺโต เอกสฺมึเยว าเน นิพทฺธํ คณฺหิตฺวา อนฺโตปพฺภารํ มหนฺตํ อาวาฏํ ขณิ. อเถกทิวสํ ตสฺส มตฺติกํ คณฺหนฺตสฺส อกาลมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา มหาวุฏฺึ ปาเตสิ. อุทกํ อวตฺถรมานํ อาวาฏํ ปาเตสิ, เตนสฺส มตฺถโก ภิชฺชิ. โส ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๕๑.

‘‘ยตฺถ พีชานิ รูหนฺติ, สตฺตา ยตฺถ ปติฏฺิตา;

สา เม สีสํ นิปีเฬติ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ นิปีเฬตีติ นิปติตฺวา ปีเฬติ ภินฺทติ.

ยถา หิ เทว, มหาชนสฺส ปฏิสรณภูตา มหาปถวี กุมฺภการสฺส สีสํ ภินฺทิ, เอวเมว มหาปถวีสเม สพฺพโลกสฺส ปฏิสรเณ นรินฺเท อุฏฺาย โจรกมฺมํ กโรนฺเต โก พาหิสฺสติ, สกฺขิสฺสสิ, มหาราช, เอวํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กถิตํ โจรํ ชานิตุนฺติ. ตาต, มยฺหํ ปฏิจฺฉนฺเนน การณํ นตฺถิ, อยํ โจโรติ เอวํ เม โจรํ คเหตฺวา เทหีติ. โส ราชานํ รกฺขนฺโต ‘‘ตฺวํ โจโร’’ติ อวตฺวา อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. มหาราช, ปุพฺเพ อิมสฺมึเยว นคเร เอกสฺส ปุริสสฺส เคหํ อาทิตฺตํ. โส ‘‘อนฺโต ปวิสิตฺวา ภณฺฑกํ นีหรา’’ติ อฺํ อาณาเปสิ. ตสฺมึ ปวิสิตฺวา นีหรนฺเต เคหทฺวารํ ปิทหิ. โส ธูมนฺโธ หุตฺวา นิกฺขมนมคฺคํ อลภนฺโต อุปฺปนฺนฑาหทุกฺโข หุตฺวา อนฺโต ิโตว ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๕๒.

‘‘เยน ภตฺตานิ ปจฺจนฺติ, สีตํ เยน วิหฺติ;

โส มํ ฑหติ คตฺตานิ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ โส มํ ฑหตีติ โส เม ฑหติ, อยเมว วา ปาโ.

‘‘มหาราช, อคฺคิ วิย มหาชนสฺส ปฏิสรณภูโต เอโก มนุสฺโส รตนภณฺฑิกํ หริ, มา มํ โจรํ ปุจฺฉา’’ติ. ‘‘ตาต, มยฺหํ โจรํ เทหิเยวา’’ติ. โส ราชานํ ‘‘ตฺวํ โจโร’’ติ อวตฺวา อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. เทว, ปุพฺเพ อิมสฺมึเยว นคเร เอโก ปุริโส อติพหุํ ภุฺชิตฺวา ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต เวทนาปฺปตฺโต หุตฺวา ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๕๓.

‘‘เยน ภุตฺเตน ยาปนฺติ, ปุถู พฺราหฺมณขตฺติยา;

โส มํ ภุตฺโต พฺยาปาเทติ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ โส มํ ภุตฺโต พฺยาปาเทตีติ โส โอทโน ภุตฺโต มํ พฺยาปาเทติ มาเรติ.

‘‘มหาราช, ภตฺตํ วิย มหาชนสฺส ปฏิสรณภูโต เอโก ภณฺฑํ หริ, ตสฺมึ ลทฺเธ กึ โจรํ ปุจฺฉสี’’ติ? ‘‘ตาต, สกฺโกนฺโต โจรํ เม เทหี’’ติ. โส ตสฺส สฺาปนตฺถํ อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. มหาราช , ปุพฺเพปิ อิมสฺมึเยว นคเร เอกสฺส วาโต อุฏฺหิตฺวา คตฺตานิ ภฺชิ. โส ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๕๔.

‘‘คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส, วาตมิจฺฉนฺติ ปณฺฑิตา;

โส มํ ภฺชติ คตฺตานิ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

อิติ มหาราช, สรณโต ภยํ อุปฺปนฺนํ, ชานาหิ ตํ การณนฺติ. ตาต, โจรํ เม เทหีติ. โส ตสฺส สฺาปนตฺถํ อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. เทว, อตีเต หิมวนฺตปเทเส สาขาวิฏปสมฺปนฺโน มหารุกฺโข อโหสิ ปุปฺผผลสมฺปนฺโน อเนกสหสฺสานํ สกุณานํ นิวาโส ตสฺส ทฺเว สาขา อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏสุํ, ตโต ธูโม อุปฺปชฺชิ, อคฺคิจุณฺณานิ ปตึสุ. ตํ ทิสฺวา สกุณเชฏฺโก คาถมาห –

๕๕.

‘‘ยํ นิสฺสิตา ชคติรุหํ, สฺวายํ อคฺคึ ปมุฺจติ;

ทิสา ภชถ วกฺกงฺคา, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ ชคติรุหนฺติ มหีรุหํ.

ยถา หิ, เทว, รุกฺโข ปกฺขีนํ ปฏิสรณํ, เอวํ ราชา มหาชนสฺส ปฏิสรณํ, ตสฺมึ โจริกํ กโรนฺเต โก ปฏิพาหิสฺสติ, สลฺลกฺเขหิ, เทวาติ. ตาต, มยฺหํ โจรเมว เทหีติ. อถสฺส โส อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. มหาราช, เอกสฺมึ กาสิคาเม อฺตรสฺส กุลฆรสฺส ปจฺฉิมภาเค กกฺขฬา สุสุมารนที อตฺถิ, ตสฺส จ กุลสฺส เอโกว ปุตฺโต. โส ปิตริ กาลกเต มาตรํ ปฏิชคฺคิ. ตสฺส มาตา อนิจฺฉมานสฺเสว เอกํ กุลธีตรํ อาเนสิ. สา ปุพฺพภาเค สสฺสุํ สมฺปิยายิตฺวา ปจฺฉา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒมานา ตํ นีหริตุกามา อโหสิ. ตสฺสา ปน มาตาปิ ตสฺมึเยว ฆเร วสติ. สา สามิกสฺส สนฺติเก สสฺสุยา นานปฺปการํ โทสํ วตฺวา ปริภินฺทิตฺวา ‘‘อหํ เต มาตรํ โปเสตุํ น สกฺโกมิ, มาเรหิ น’’นฺติ วตฺวา ‘‘มนุสฺสมารณํ นาม ภาริยํ, กถํ นํ มาเรมี’’ติ วุตฺเต ‘‘นิทฺโทกฺกมนกาเล นํ มฺจเกเนว สทฺธึ คเหตฺวา สุสุมารนทิยํ ขิปิสฺสาม, อถ นํ สุสมารา ขาทิสฺสนฺตี’’ติ อาห. ‘‘ตุยฺหํ ปน มาตา กห’’นฺติ? ‘‘ตสฺสาเยว สนฺติเก สุปตี’’ติ. ‘‘เตน หิ คจฺฉ, ตสฺสา นิปนฺนมฺจเก รชฺชุํ พนฺธิตฺวา สฺํ กโรหี’’ติ. สา ตถา กตฺวา ‘‘กตา เม สฺา’’ติ อาห. อิตโร ‘‘โถกํ อธิวาเสหิ, มนุสฺสา ตาว นิทฺทายนฺตู’’ติ นิทฺทายนฺโต วิย นิปชฺชิตฺวา คนฺตฺวา ตํ รชฺชุกํ ภริยาย มาตุ มฺจเก พนฺธิตฺวา ภริยํ ปโพเธตฺวา อุโภปิ คนฺตฺวา ตํ มฺจเกเนว สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา นทิยํ ขิปึสุ. ตตฺถ นํ นิทฺทายมานํ สุสุมารา วิทฺธํเสตฺวา ขาทึสุ.

สา ปุนทิวเส มาตุ ปริวตฺติตภาวํ ตฺวา ‘‘สามิ, มม มาตาว มาริตา, อิทานิ ตว มาตรํ มาเรหี’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ สาธู’’ติ วุตฺเต ‘‘สุสาเน จิตกํ กตฺวา อคฺคิมฺหิ นํ ปกฺขิปิตฺวา มาเรสฺสามา’’ติ อาห. อถ นํ นิทฺทายมานํ อุโภปิ สุสานํ เนตฺวา ปยึสุ. ตตฺถ สามิโก ภริยํ อาห ‘‘อคฺคิ เต อาภโต’’ติ? ‘‘ปมุฏฺาสฺมิ, สามี’’ติ. ‘‘เตน หิ คนฺตฺวา อาเนหี’’ติ. ‘‘น สกฺโกมิ สามิ, คนฺตุํ, ตยิ คเตปิ าตุํ น สกฺขิสฺสามิ, อุโภปิ มยํ คจฺฉิสฺสามา’’ติ. เตสุ คเตสุ มหลฺลิกา สีตวาเตน ปโพธิตา สุสานภาวํ ตฺวา ‘‘อิเม มํ มาเรตุกามา อคฺคิอตฺถาย คตา’’ติ จ อุปธาเรตฺวา ‘‘น เม พลํ ชานนฺตี’’ติ เอกํ มตกเฬวรํ คเหตฺวา มฺจเก นิปชฺชาเปตฺวา อุปริ ปิโลติกาย ปฏิจฺฉาเทตฺวา สยํ ปลายิตฺวา ตตฺเถว เลณคุหํ ปาวิสิ. อิตเร อคฺคึ อาหริตฺวา ‘‘มหลฺลิกา’’ติ สฺาย กเฬวรํ ฌาเปตฺวา ปกฺกมึสุ. เอเกน โจเรน ตสฺมึ คุหาเลเณ ปุพฺเพ ภณฺฑิกา ปิตา, โส ‘‘ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา มหลฺลิกํ ทิสฺวา ‘‘เอกา ยกฺขินี ภวิสฺสติ, ภณฺฑิกา เม อมนุสฺสปริคฺคหิตา’’ติ เอกํ ภูตเวชฺชํ อาเนสิ. เวชฺโช มนฺตํ กโรนฺโต คุหํ ปาวิสิ.

อถ นํ สา อาห ‘‘นาหํ ยกฺขินี, เอหิ อุโภปิ อิมํ ธนํ ภาเชสฺสามา’’ติ. ‘‘กถํ สทฺทหิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ตว ชิวฺหํ มม ชิวฺหาย เปหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. อถสฺส สา ชิวฺหํ ฑํสิตฺวา ฉินฺทิตฺวา ปาเตสิ. ภูตเวชฺโช ‘‘อทฺธา เอสา ยกฺขินี’’ติ ชิวฺหาย โลหิตํ ปคฺฆรนฺติยา วิรวมาโน ปลายิ. มหลฺลิกา ปุนทิวเส มฏฺสาฏกํ นิวาเสตฺวา นานารตนภณฺฑิกํ คเหตฺวา ฆรํ อคมาสิ. สุณิสา ตํ ทิสฺวา ‘‘กหํ เต, อมฺม, อิทํ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อมฺม, เอตสฺมึ สุสาเน ทารุจิตกาย ฌาปิตา เอวรูปํ ลภนฺตี’’ติ. ‘‘อมฺม, มยาปิ สกฺกา ลทฺธุ’’นฺติ. ‘‘มาทิสี หุตฺวา ลภิสฺสสี’’ติ. สา ลทฺธภณฺฑิกโลเภน สามิกสฺส กเถตฺวา ตตฺถ อตฺตานํ ฌาเปสิ. อถ นํ ปุนทิวเส สามิโก อปสฺสนฺโต ‘‘อมฺม, อิมายปิ เวลาย ตฺวํ อาคตา, สุณิสา เต นาคจฺฉตี’’ติ อาห. สา ตํ สุตฺวา ‘‘อเร ปาปปุริส, กึ มตา นาม อาคจฺฉนฺตี’’ติ ตํ ตชฺเชตฺวา คาถมาห –

๕๖.

‘‘ยมานยึ โสมนสฺสํ, มาลินึ จนฺทนุสฺสทํ;

สา มํ ฆรา นิจฺฉุภติ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ โสมนสฺสนฺติ โสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา. ‘‘โสมนสฺสา’’ติปิ ปาโ, โสมนสฺสวตี หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยมหํ ‘‘อิมํ เม นิสฺสาย ปุตฺโต ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสติ, มฺจ มหลฺลิกกาเล โปเสสฺสตี’’ติ มาลินึ จนฺทนุสฺสทํ กตฺวา อลงฺกริตฺวา โสมนสฺสชาตา อาเนสึ. สา มํ อชฺช ฆรา นีหรติ, สรณโตเยว เม ภยํ อุปฺปนฺนนฺติ.

‘‘มหาราช, สุณิสา วิย สสฺสุยา มหาชนสฺส ราชา ปฏิสรณํ, ตโต ภเย อุปฺปนฺเน กึ สกฺกา กาตุํ, สลฺลกฺเขหิ, เทวา’’ติ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ตาต, นาหํ ตยา อานีตการณานิ ชานามิ, โจรเมว เม เทหี’’ติ อาห. โส ‘‘ราชานํ รกฺขิสฺสามี’’ติ อปรมฺปิ อุทาหรณํ อาหริ. เทว, ปุพฺเพ อิมสฺมึเยว นคเร เอโก ปุริโส ปตฺถนํ กตฺวา ปุตฺตํ ลภิ. โส ปุตฺตชาตกาเล ‘‘ปุตฺโต เม ลทฺโธ’’ติ โสมนสฺสชาโต ตํ โปเสตฺวา วยปฺปตฺตกาเล ทาเรน สํโยเชตฺวา อปรภาเค ชรํ ปตฺวา กมฺมํ อธิฏฺาตุํ นาสกฺขิ. อถ นํ ปุตฺโต ‘‘ตฺวํ กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกสิ, อิโต นิกฺขมา’’ติ เคหโต นีหริ . โส กิจฺเฉน กสิเรน ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ปริเทวมาโน คาถมาห –

๕๗.

‘‘เยน ชาเตน นนฺทิสฺสํ, ยสฺส จ ภวมิจฺฉิสํ;

โส มํ ฆรา นิจฺฉุภติ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ โส มนฺติ โส ปุตฺโต มํ ฆรโต นิจฺฉุภติ นีหรติ. สฺวาหํ ภิกฺขํ จริตฺวา ทุกฺเขน ชีวามิ, สรณโตเยว เม ภยํ อุปฺปนฺนนฺติ.

‘‘มหาราช, ยถา ปิตา นาม มหลฺลโก ปฏิพเลน ปุตฺเตน รกฺขิตพฺโพ, เอวํ สพฺโพปิ ชนปโท รฺา รกฺขิตพฺโพ, อิทฺจ ภยํ อุปฺปชฺชมานํ สพฺพสตฺเต รกฺขนฺตสฺส รฺโ สนฺติกา อุปฺปนฺนํ, อิมินา การเณน ‘อสุโก นาม โจโร’ติ ชานาหิ, เทวา’’ติ. ‘‘ตาต, นาหํ การณํ วา อการณํ วา ชานามิ, โจรํ วา เม เทหิ, ตฺวฺเว วา โจโร โหหี’’ติ เอวํ ราชา ปุนปฺปุนํ มาณวํ อนุยุฺชิ. อถ นํ โส เอวมาห ‘‘กึ ปน, มหาราช, เอกํเสน โจรคหณํ โรเจถา’’ติ? ‘‘อาม, ตาตา’’ติ. เตน หิ ‘‘อสุโก จ อสุโก จ โจโร’’ติ ปริสมชฺเฌ ปกาเสมีติ. ‘‘เอวํ กโรหิ, ตาตา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ ราชา อตฺตานํ รกฺขิตุํ น เทติ, คณฺหิสฺสามิ ทานิ โจร’’นฺติ สนฺนิปติเต มหาชเน อามนฺเตตฺวา อิมา คาถา อาห –

๕๘.

‘‘สุณนฺตุ เม ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;

ยโตทกํ ตทาทิตฺตํ, ยโต เขมํ ตโต ภยํ.

๕๙.

‘‘ราชา วิลุมฺปเต รฏฺํ, พฺราหฺมโณ จ ปุโรหิโต;

อตฺตคุตฺตา วิหรถ, ชาตํ สรณโต ภย’’นฺติ.

ตตฺถ ยโตทกํ ตทาทิตฺตนฺติ ยํ อุทกํ ตเทว อาทิตฺตํ. ยโต เขมนฺติ ยโต ราชโต เขเมน ภวิตพฺพํ, ตโตว ภยํ อุปฺปนฺนํ. อตฺถคุตฺตา วิหรถาติ ตุมฺเห อิทานิ อนาถา ชาตา, อตฺตานํ มา วินาเสถ, อตฺตนาว คุตฺตา หุตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ ธนธฺํ รกฺขถ, ราชา นาม มหาชนสฺส ปฏิสรณํ, ตโต ตุมฺหากํ ภยํ อุปฺปนฺนํ, ราชา จ ปุโรหิโต จ วิโลปขาทกโจรา, สเจ โจเร คณฺหิตุกามตฺถ, อิเม ทฺเว คเหตฺวา กมฺมกรณํ กโรถาติ.

เต ตสฺส กถํ สุตฺวา จินฺตยึสุ ‘‘อยํ ราชา รกฺขณารโหปิ สมาโน อิทานิ อฺสฺส อุปริ โทสํ อาโรเปตฺวา อตฺตโน ภณฺฑิกํ สยเมว โปกฺขรณิยํ เปตฺวา โจรํ ปริเยสาเปติ, อิโต ทานิ ปฏฺาย ปุน โจรกมฺมสฺส อกรณตฺถาย มาเรม นํ ปาปราชาน’’นฺติ. เต ทณฺฑมุคฺคราทิหตฺถา อุฏฺาย ตตฺเถว ราชานฺจ ปุโรหิตฺจ โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา มหาสตฺตํ อภิสิฺจิตฺวา รชฺเช ปติฏฺเปสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อนจฺฉริยํ, อุปาสก, ปถวิยํ ปทสฺชานนํ, โปราณกปณฺฑิตา เอวํ อากาเส ปทํ สฺชานึสู’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุปาสโก จ ปุตฺโต จ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา. ตทา ปิตา กสฺสโป อโหสิ, ปทกุสลมาณโว ปน อหเมว อโหสินฺติ.

ปทกุสลมาณวชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๓๓] ๗. โลมสกสฺสปชาตกวณฺณนา

อสฺส อินฺทสโม ราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ สิเนรุกมฺปนวาโต กึ ปุราณปณฺณานิ น กมฺเปสฺสติ, ยสสมงฺคิโนปิ สปฺปุริสา อายสกฺยํ ปาปุณนฺติ, กิเลสา นาเมเต ปริสุทฺธสตฺเตปิ สํกิลิฏฺเ กโรนฺติ, ปเคว ตาทิส’’นฺติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พฺรหฺมทตฺตสฺส ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นาม ปุโรหิตปุตฺโต จ กสฺสโป นาม ทฺเว สหายกา หุตฺวา เอกาจริยกุเล สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหึสุ. อปรภาเค พฺรหฺมทตฺตกุมาโร ปิตุ อจฺจเยน รชฺเช ปติฏฺาสิ. กสฺสโป จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สหาโย ราชา ชาโต, อิทานิ เม มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทสฺสติ, กึ เม อิสฺสริเยน, อหํ มาตาปิตโร จ ราชานฺจ อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ราชานฺจ มาตาปิตโร จ อาปุจฺฉิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย ยาเปนฺโต วิหาสิ. ปพฺพชิตํ ปน นํ ‘‘โลมสกสฺสโป’’ติ สฺชานึสุ. โส ปรมชิตินฺทฺริโย โฆรตโป ตาปโส อโหสิ. ตสฺส เตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อยํ ตาปโส อติวิย อุคฺคเตโช สกฺกภาวาปิ มํ จาเวยฺย, พาราณสิรฺา สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ตปมสฺส ภินฺทิสฺสามี’’ติ. โส สกฺกานุภาเวน อฑฺฒรตฺตสมเย พาราณสิรฺโ สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา สกลคพฺภํ สรีรปฺปภาย โอภาเสตฺวา รฺโ สนฺติเก อากาเส ิโต ‘‘อุฏฺเหิ, มหาราชา’’ติ ราชานํ ปโพเธสิ. ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ วุตฺเต ‘‘สกฺโกหมสฺมี’’ติ อาห. ‘‘กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ? ‘‘มหาราช, สกลชมฺพุทีเป เอกรชฺชํ อิจฺฉสิ, น อิจฺฉสี’’ติ? ‘‘กิสฺส น อิจฺฉามี’’ติ? อถ นํ สกฺโก ‘‘เตน หิ โลมสกสฺสปํ อาเนตฺวา ปสุฆาตยฺํ ยชาเปหิ, สกฺกสโม อชรามโร หุตฺวา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ กาเรสฺสสี’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๖๐.

‘‘อสฺส อินฺทสโม ราช, อจฺจนฺตํ อชรามโร;

สเจ ตฺวํ ยฺํ ยาเชยฺย, อิสึ โลมสกสฺสป’’นฺติ.

ตตฺถ อสฺสาติ ภวิสฺสสิ. ยาเชยฺยาติ สเจ ตฺวํ อรฺายตนโต อิสึ โลมสกสฺสปํ อาเนตฺวา ยฺํ ยเชยฺยาสีติ.

ตสฺส วจนํ สุตฺวา ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. สกฺโก ‘‘เตน หิ มา ปปฺจํ กรี’’ติ วตฺวา ปกฺกามิ. ราชา ปุนทิวเส เสยฺยํ นาม อมจฺจํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม, มยฺหํ ปิยสหายกสฺส โลมสกสฺสปสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา มม วจเนน เอวํ วเทหิ ‘ราชา กิร ตุมฺเหหิ ปสุฆาตยฺํ ยชาเปตฺวา สกลชมฺพุทีเป เอกราชา ภวิสฺสติ, ตุมฺหากมฺปิ ยตฺตกํ ปเทสํ อิจฺฉถ, ตตฺตกํ ทสฺสติ, มยา สทฺธึ ยฺํ ยชิตุํ อาคจฺฉถา’’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ตาปสสฺส วสโนกาสชานนตฺถํ นคเร เภรึ จราเปตฺวา เอเกน วนจรเกน ‘‘อหํ ชานามี’’ติ วุตฺเต ตํ ปุรโต กตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตตฺถ คนฺตฺวา อิสึ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตํ สาสนํ อาโรเจสิ. อถ นํ โส ‘‘เสยฺย กึ นาเมตํ กเถสี’’ติ วตฺวา ปฏิกฺขิปนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๖๑.

‘‘สสมุทฺทปริยายํ, มหึ สาครกุณฺฑลํ;

น อิจฺเฉ สห นินฺทาย, เอวํ เสยฺย วิชานหิ.

๖๒.

‘‘ธิรตฺถุ ตํ ยสลาภํ, ธนลาภฺจ พฺราหฺมณ;

ยา วุตฺติ วินิปาเตน, อธมฺมจรเณน วา.

๖๓.

‘‘อปิ เจ ปตฺตมาทาย, อนคาโร ปริพฺพเช;

สาเยว ชีวิกา เสยฺโย, ยา จาธมฺเมน เอสนา.

๖๔.

‘‘อปิ เจ ปตฺตมาทาย, อนคาโร ปริพฺพเช;

อฺํ อหึสยํ โลเก, อปิ รชฺเชน ตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สสมุทฺทปริยายนฺติ สสมุทฺทปริกฺเขปํ. สาครกุณฺฑลนฺติ จตฺตาโร ทีเป ปริกฺขิปิตฺวา ิตสาคเรหิ กณฺณวลิยา ปิตกุณฺฑเลหิ วิย สมนฺนาคตํ. สห นินฺทายาติ ‘‘อิมินา ปสุฆาตกมฺมํ กต’’นฺติ อิมาย นินฺทาย สห จกฺกวาฬปริยนฺตํ มหาปถวึ น อิจฺฉามีติ วทติ. ยา วุตฺติ วินิปาเตนาติ นรเก วินิปาตกมฺเมน ยา จ ชีวิตวุตฺติ โหติ, ตํ ธิรตฺถุ, ครหามิ ตํ วุตฺตินฺติ ทีเปติ. สาเยว ชีวิกาติ ปพฺพชิตสฺส มตฺติกาปตฺตํ อาทาย ปรฆรานิ อุปสงฺกมิตฺวา อาหารปริเยสนชีวิกาว ยสธนลาภโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน วรตราติ อตฺโถ อปิ รชฺเชน ตํ วรนฺติ ตํ อนคารสฺส สโต อฺํ อวิหึสนฺตสฺส ปริพฺพชนํ สกลชมฺพุทีปรชฺเชนปิ วรนฺติ อตฺโถ.

อมจฺโจ ตสฺส กถํ สุตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อนาคจฺฉนฺเต กึ สกฺกา กาตุ’’นฺติ ตุณฺหี อโหสิ. ปุน สกฺโก อฑฺฒรตฺตสมเย อาคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘กึ, มหาราช, โลมสกสฺสปํ อาเนตฺวา ยฺํ น ยชาเปสี’’ติ อาห. ‘‘มยา เปสิโตปิ นาคจฺฉตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, อตฺตโน ธีตรํ จนฺทวตึ กุมาริกํ อลงฺกริตฺวา เสยฺยํ ตเถว เปเสตฺวา ‘สเจ กิร อาคนฺตฺวา ยฺํ ยชิสฺสสิ, ราชา เต อิมํ กุมาริกํ ทสฺสตี’ติ วทาเปหิ, อทฺธา โส กุมาริกาย ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุนทิวเส เสยฺยสฺส หตฺเถ ธีตรํ อทาสิ. โส ราชธีตรํ คเหตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อิสึ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เทวจฺฉรปฏิภาคํ ราชธีตรํ ตสฺส ทสฺเสตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ อิสิ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา ตํ โอโลเกสิ, สห โอโลกเนเนว ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ฌานา ปริหายิ. อมจฺโจ ตสฺส ปฏิพทฺธจิตฺตภาวํ ตฺวา ‘‘ภนฺเต, สเจ กิร ยฺํ ยชิสฺสถ, ราชา เต อิมํ ทาริกํ ปาทปริจาริกํ กตฺวา ทสฺสตี’’ติ อาห. โส กิเลสวเสน กมฺปนฺโต ‘‘อิมํ กิร เม ทสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘อาม, ยฺํ ยชนฺตสฺส เต ทสฺสตี’’ติ. โส ‘‘สาธุ อิมํ ลภนฺโต ยชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตํ คเหตฺวา สเหว ชฏาหิ อลงฺกตรถํ อภิรุยฺห พาราณสึ อคมาสิ. ราชาปิ ‘‘อาคจฺฉติ กิรา’’ติ สุตฺวา ยฺาวาเฏ กมฺมํ ปฏฺเปสิ. อถ นํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘สฺเว ยฺํ ยชาหิ, อหํ อินฺทสโม ภวิสฺสามิ, ยฺปริโยสาเน เต ธีตรํ ทสฺสามี’’ติ อาห. กสฺสโป ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ราชา ปุนทิวเส ตํ อาทาย จนฺทวติยา สทฺธึเยว ยฺาวาฏํ คโต. ตตฺถ หตฺถิอสฺสอุสภาทิสพฺพจตุปฺปทา ปฏิปาฏิยา ปิตาว อเหสุํ. กสฺสโป เต สพฺเพ หนิตฺวาว ฆาเตตฺวา ยฺํ ยชิตุํ อารภิ. อถ นํ ตตฺถ สนฺนิปติโต มหาชโน ทิสฺวา ‘‘อิทํ เต โลมสกสฺสป อยุตฺตํ อปฺปติรูปํ, กึ นาเมตํ กโรสี’’ติ วตฺวา ปริเทวนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๖๕.

‘‘พลํ จนฺโท พลํ สุริโย, พลํ สมณพฺราหฺมณา;

พลํ เวลา สมุทฺทสฺส, พลาติพลมิตฺถิโย.

๖๖.

‘‘ยถา อุคฺคตปํ สนฺตํ, อิสึ โลมสกสฺสปํ;

ปิตุ อตฺถา จนฺทวตี, วาชเปยฺยํ อยาชยี’’ติ.

ตตฺถ พลํ จนฺโท พลํ สุริโยติ มหนฺธการวิธมเน อฺํ พลํ นาม นตฺถิ, จนฺทิมสูริยาเวตฺถ พลวนฺโตติ อตฺโถ. สมณพฺราหฺมณาติ อิฏฺานิฏฺวิสยเวคสหเน ขนฺติพลาณพเลน สมนฺนาคตา สมิตปาปพาหิตปาปา สมณพฺราหฺมณา. พลํ เวลา สมุทฺทสฺสาติ มหาสมุทฺทสฺส อุตฺตริตุํ อทตฺวา อุทกํ อาวริตฺวา วินาเสตุํ สมตฺถตาย เวลา พลํ นาม. พลาติพลมิตฺถิโยติ อิตฺถิโย ปน วิสทาเณปิ อวีตราเค อตฺตโน วสํ อาเนตฺวา วินาเสตุํ สมตฺถตาย เตหิ สพฺเพหิ พเลหิปิ อติพลา นาม, สพฺพพเลหิ อิตฺถิพลเมว มหนฺตนฺติ อตฺโถ. ยถาติ ยสฺมา. ปิตุ อตฺถาติ ปิตุ วุฑฺฒิอตฺถาย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อิมํ อุคฺคตปํ สมานํ สีลาทิคุณานํ เอสิตตฺตา อิสึ อยํ จนฺทวตี นิสฺสีลํ กตฺวา ปิตุ วุฑฺฒิอตฺถาย วาชเปยฺยํ ยฺํ ยาเชติ, ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘พลาติพลมิตฺถิโย’’ติ.

ตสฺมึ สมเย กสฺสโป ยฺํ ยชนตฺถาย ‘‘มงฺคลหตฺถึ คีวายํ ปหริสฺสามี’’ติ ขคฺครตนํ อุกฺขิปิ. หตฺถี ตํ ทิสฺวา มรณภยตชฺชิโต มหารวํ รวิ. ตสฺส รวํ สุตฺวา เสสาปิ หตฺถิอสฺสอุสภาทโย มรณภยตชฺชิตา ภเยน วิรวึสุ. มหาชโนปิ วิรวิ. กสฺสโป ตํ มหาวิรวํ สุตฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา อตฺตโน ชฏาทีนิ โอโลเกสิ. อถสฺส ชฏามสฺสุกจฺฉโลมานิ ปากฏานิ อเหสุํ. โส วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘อนนุรูปํ วต เม ปาปกมฺมํ กต’’นฺติ สํเวคํ ปกาเสนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘ตํ โลภปกตํ กมฺมํ, กฏุกํ กามเหตุกํ;

ตสฺส มูลํ คเวสิสฺสํ, เฉจฺฉํ ราคํ สพนฺธน’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ยํ เอตํ มยา จนฺทวติยา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา เตน โลเภน ปกตํ กามเหตุกํ ปาปกํ, ตํ กฏุกํ ติขิณวิปากํ. ตสฺสาหํ อโยนิโสมนสิการสงฺขาตํ มูลํ คเวสิสฺสํ, อลํ เม อิมินา ขคฺเคน, ปฺาขคฺคํ นีหริตฺวา สุภนิมิตฺตพนฺธเนน สทฺธึ สพนฺธนํ ราคํ ฉินฺทิสฺสามีติ.

อถ นํ ราชา ‘‘มา ภายิ สมฺม, อิทานิ เต จนฺทวตึ กุมาริฺจ รฏฺฺจ สตฺตรตนราสิฺจ ทสฺสามิ, ยชาหิ ยฺ’’นฺติ อาห. ตํ สุตฺวา กสฺสโป ‘‘น เม, มหาราช, อิมินา กิเลเสน อตฺโถ’’ติ วตฺวา โอสานคาถมาห –

๖๘.

‘‘ธิรตฺถุ กาเม สุพหูปิ โลเก, ตโปว เสยฺโย กามคุเณหิ ราช;

ตโป กริสฺสามิ ปหาย กาเม, ตเวว รฏฺํ จนฺทวตี จ โหตู’’ติ.

ตตฺถ สุพหูปีติ อติพหุเกปิ. ตโป กริสฺสามีติ สีลสํยมตปเมว กริสฺสามิ.

โส เอวํ วตฺวา กสิณํ สมนฺนาหริตฺวา นฏฺํ วิเสสํ อุปฺปาเทตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ โอวทิตฺวา ยฺาวาฏํ วิทฺธํสาเปตฺวา มหาชนสฺส อภยทานํ ทาเปตฺวา รฺโ ยาจนฺตสฺเสว อุปฺปติตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คนฺตฺวา ยาวชีวํ ตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา เสยฺโย มหาอมจฺโจ สาริปุตฺโต อโหสิ, โลมสกสฺสโป ปน อหเมว อโหสินฺติ.

โลมสกสฺสปชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๓๔] ๘. จกฺกวากชาตกวณฺณนา

กาสายวตฺเถติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โลลภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร โลโล อโหสิ ปจฺจยลุทฺโธ, อาจริยุปชฺฌายวตฺตาทีนิ ฉฑฺเฑตฺวา ปาโตว สาวตฺถึ ปวิสิตฺวา วิสาขาย เคเห อเนกขาทนียปริวารํ ยาคุํ ปิวิตฺวา นานคฺครสสาลิมํโสทนํ ภุฺชิตฺวาปิ เตน อติตฺโต ตโต จูฬอนาถปิณฺฑิกสฺส มหาอนาถปิณฺฑิกสฺส โกสลรฺโติ เตสํ เตสํ นิเวสนานิ สนฺธาย วิจริ. อเถกทิวสํ ตสฺส โลลภาวํ อารพฺภ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ โลโล’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา โลโลสิ, ปุพฺเพปิ ตฺวํ โลลภาเวน พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีนิ ขาทิตฺวา วิจรนฺโต เตหิ อติตฺโต ตโต นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีเร วิจรนฺโต หิมวนฺตํ ปวฏฺโ’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก โลลกาโก พาราณสิยํ หตฺถิกุณปาทีนิ ขาทิตฺวา วิจรนฺโต เตหิ อติตฺโต ‘‘คงฺคากูเล มจฺฉมตํ ขาทิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ตตฺถ มตมจฺเฉ ขาทนฺโต กติปาหํ วสิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา นานาผลาผลานิ ขาทนฺโต พหุมจฺฉกจฺฉปํ มหนฺตํ ปทุมสรํ ปตฺวา ตตฺถ สุวณฺณวณฺเณ ทฺเว จกฺกวาเก เสวาลํ ขาทิตฺวา วสนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม อติวิย วณฺณสมฺปนฺนา โสภคฺคปฺปตฺตา, อิเมสํ โภชนํ มนาปํ ภวิสฺสติ, อิเมสํ โภชนํ ปุจฺฉิตฺวา อหมฺปิ ตเทว ภุฺชิตฺวา สุวณฺณวณฺโณ ภวิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกสฺมึ สาขปริยนฺเต นิสีทิตฺวา เตสํ ปสํสนปฏิสํยุตฺตํ กถํ กเถนฺโต ปมํ คาถมาห –

๖๙.

‘‘กาสายวตฺเถ สกุเณ วทามิ, ทุเว ทุเว นนฺทมเน จรนฺเต;

กํ อณฺฑชํ อณฺฑชา มานุเสสุ, ชาตึ ปสํสนฺติ ตทิงฺฆ พฺรูถา’’ติ.

ตตฺถ กาสายวตฺเถติ สุวณฺณวณฺเณ กาสายวตฺเถ วิย. ทุเว ทุเวติ ทฺเว ทฺเว หุตฺวา. นนฺทมเนติ ตุฏฺจิตฺเต. กํ อณฺฑชํ อณฺฑชา มานุเสสุ ชาตึ ปสํสนฺตีติ อมฺโภ อณฺฑชา ตุมฺเห มนุสฺเสสุ ปสํสนฺตา กํ อณฺฑชํ ชาตึ กตรํ นาม อณฺฑชนฺติ วตฺวา ปสํสนฺติ, กํ สกุณํ นามาติ วตฺวา ตุมฺเห มนุสฺสานํ อนฺตเร วณฺเณนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘กํ อณฺฑชํ อณฺฑชมานุเสสู’’ติปิ ปาโ. ตสฺสตฺโถ – ตุมฺเห อณฺฑเชสุ จ มานุเสสุ จ กตรํ อณฺฑชนฺติ วตฺวา ปสํสนฺตีติ.

ตํ สุตฺวา จกฺกวาโก ทุติยํ คาถมาห –

๗๐.

‘‘อมฺเห มนุสฺเสสุ มนุสฺสหึส, อนุพฺพเต จกฺกวาเก วทนฺติ;

กลฺยาณภาวมฺเห ทิเชสุ สมฺมตา, อภิรูปา วิจราม อณฺณเว’’ติ.

ตตฺถ มนุสฺสหึสาติ กาโก มนุสฺเส หึสติ วิเหเติ, เตน นํ เอวํ อาลปติ. อนุพฺพเตติ อฺมฺํ อนุคเต สมฺโมทมาเน วิยสํวาเส. จกฺกวาเกติ จกฺกวากา นาม สา อณฺฑชชาตีติ ปสํสนฺติ วณฺเณนฺติ กเถนฺติ. ทิเชสูติ ยตฺตกา ปกฺขิโน นาม, เตสุ มยํ ‘‘กลฺยาณภาวา’’ติปิ มนุสฺเสสุ สมฺมตา. ทุติเย อตฺถวิกปฺเป มนุสฺเสสุ อมฺเห ‘‘จกฺกวากา’’ติปิ วทนฺติ, ทิเชสุ ปน มยํ ‘‘กลฺยาณภาวา’’ติ สมฺมตา, ‘‘กลฺยาณภาวา’’ติ โน ทิชา วทนฺตีติ อตฺโถ. อณฺณเวติ อิมสฺมึ าเน สโร ‘‘อณฺณโว’’ติ วุตฺโต, อิมสฺมึ ปทุมสเร มยเมว ทฺเว ชนา ปเรสํ อหึสนโต อภิรูปา วิจรามาติ อตฺโถ. อิมิสฺสาย ปน คาถาย จตุตฺถปทํ ‘‘น ฆาสเหตูปิ กโรม ปาป’’นฺติ ปนฺติ. ตสฺสตฺโถ – ยสฺมา มยํ ฆาสเหตูปิ ปาปํ น กโรม, ตสฺมา ‘‘กลฺยาณภาวา’’ติ อมฺเห มนุสฺเสสุ จ ทิเชสุ จ สมฺมตา.

ตํ สุตฺวา กาโก ตติยํ คาถมาห –

๗๑.

‘‘กึ อณฺณเว กานิ ผลานิ ภุฺเช, มํสํ กุโต ขาทถ จกฺกวากา;

กึ โภชนํ ภุฺชถ โว อโนมา, พลฺจ วณฺโณ จ อนปฺปรูปา’’ติ.

ตตฺถ กินฺติ ปุจฺฉาวเสน อาลปนํ, กึ โภ จกฺกวากาติ วุตฺตํ โหติ. อณฺณเวติ อิมสฺมึ สเร. ภุฺเชติ ภุฺชถ, กึ ภุฺชถาติ อตฺโถ มํสํ กุโต ขาทถาติ กตรปาณานํ สรีรโต มํสํ ขาทถ. ภุฺชถ โวติ โวกาโร นิปาตมตฺตํ, ปรปเทน วาสฺส สมฺพนฺโธ ‘‘พลฺจ วา วณฺโณ จ อนปฺปรูปา’’ติ.

ตโต จกฺกวาโก จตุตฺถํ คาถมาห –

๗๒.

‘‘น อณฺณเว สนฺติ ผลานิ ธงฺก, มํสํ กุโต ขาทิตุํ จกฺกวาเก;

เสวาลภกฺขมฺห อปาณโภชนา, น ฆาสเหตูปิ กโรม ปาป’’นฺติ.

ตตฺถ จกฺกวาเกติ จกฺกวากสฺส. อปาณโภชนาติ ปาณกรหิตอุทกโภชนา. อมฺหากฺหิ เสวาลฺเจว อุทกฺจ โภชนนฺติ ทสฺเสติ. น ฆาสเหตูติ ตุมฺหาทิสา วิย มยํ ฆาสเหตุ ปาปํ น กโรมาติ.

ตโต กาโก ทฺเว คาถา อภาสิ –

๗๓.

‘‘น เม อิทํ รุจฺจติ จกฺกวาก, อสฺมึ ภเว โภชนสนฺนิกาโส;

อโหสิ ปุพฺเพ ตโต เม อฺถา, อิจฺเจว เม วิมติ เอตฺถ ชาตา.

๗๔.

‘‘อหมฺปิ มํสานิ ผลานิ ภุฺเช, อนฺนานิ จ โลณิยเตลิยานิ;

รสํ มนุสฺเสสุ ลภามิ โภตฺตุํ, สูโรว สงฺคามมุขํ วิเชตฺวา;

น จ เม ตาทิโส วณฺโณ, จกฺกวาก ยถา ตวา’’ติ.

ตตฺถ อิทนฺติ อิทํ ตุมฺหากํ ภุฺชนโภชนํ มยฺหํ น รุจฺจติ. อสฺมึ ภเว โภชนสนฺนิกาโสติ อิมสฺมึ ภเว โภชนสนฺนิกาโส ยํ อิมสฺมึ จกฺกวากภเว โภชนํ, ตฺวํ เตน สนฺนิกาโส ตํสทิโส ตทนุรูโป อโหสิ, อติวิย ปสนฺนสรีโรสีติ อตฺโถ. ตโต เม อฺถาติ ยํ มยฺหํ ปุพฺเพ ตุมฺเห ทิสฺวาว เอเต เอตฺถ นานาวิธานิ ผลานิ เจว มจฺฉมํสฺจ ขาทนฺติ, เตน เอวํ โสภคฺคปฺปตฺตาติ อโหสิ, อิทานิ เม ตโต อฺถา โหตีติ อตฺโถ. อิจฺเจว เมติ เอเตเนว เม การเณน เอตฺถ ตุมฺหากํ สรีรวณฺเณ วิมติ ชาตา ‘‘กถํ นุ โข เอเต เอวรูปํ ลูขโภชนํ ภุฺชนฺตา วณฺณวนฺโต ชาตา’’ติ. อหมฺปีติ อหฺหิ, อยเมว วา ปาโ . ภุฺเชติ ภุฺชามิ. อนฺนานิ จาติ โภชนานิ จ. โลณิยเตลิยานีติ โลณเตลยุตฺตานิ. รสนฺติ มนุสฺเสสุ ปริโภคํ ปณีตรสํ. วิเชตฺวาติ ยถา สูโร วีรโยโธ สงฺคามมุขํ วิเชตฺวา วิลุมฺปิตฺวา ปริภุฺชติ, ตถา วิลุมฺปิตฺวา ปริภุฺชามีติ อตฺโถ. ยถา ตวาติ เอวํ ปณีตํ โภชนํ ภุฺชนฺตสฺสปิ มม ตาทิโส วณฺโณ นตฺถิ, ยาทิโส ตว วณฺโณ, เตน ตว วจนํ น สทฺทหามีติ ทีเปติ.

อถสฺส วณฺณสมฺปตฺติยา อภาวการณํ อตฺตโน จ ภาวการณํ กเถนฺโต จกฺกวาโก เสสคาถา อภาสิ –

๗๕.

‘‘อสุทฺธภกฺโขสิ ขณานุปาตี, กิจฺเฉน เต ลพฺภติ อนฺนปานํ;

น ตุสฺสสี รุกฺขผเลหิ ธงฺก, มํสานิ วา ยานิ สุสานมชฺเฌ.

๗๖.

‘‘โย สาหเสน อธิคมฺม โภเค, ปริภุฺชติ ธงฺก ขณานุปาตี;

ตโต อุปกฺโกสติ นํ สภาโว, อุปกฺกุฏฺโ วณฺณพลํ ชหาติ.

๗๗.

‘‘อปฺปมฺปิ เจ นิพฺพุตึ ภุฺชตี ยทิ, อสาหเสน อปรูปฆาตี;

พลฺจ วณฺโณ จ ตทสฺส โหติ, น หิ สพฺโพ อาหารมเยน วณฺโณ’’ติ.

ตตฺถ อสุทฺธภกฺโขสีติ ตฺวํ เถเนตฺวา วฺเจตฺวา ภกฺขนโต อสุทฺธภกฺโข อสิ. ขณานุปาตีติ ปมาทกฺขเณ อนุปตนสีโล. กิจฺเฉนเตติ ตยา ทุกฺเขน อนฺนปานํ ลพฺภติ. มํสานิ วา ยานีติ ยานิ วา สุสานมชฺเฌ มํสานิ, เตหิ น ตุสฺสสิ. ตโตติ ปจฺฉา. อุปกฺโกสติ นํ สภาโวติ อตฺตาว ตํ ปุคฺคลํ ครหิ. อุปกฺกุฏฺโติ อตฺตนาปิ ปเรหิปิ อุปกฺกุฏฺโ ครหิโต วิปฺปฏิสาริตาย วณฺณฺจ พลฺจ ชหาสิ. นิพฺพุตึ ภุฺชตี ยทีติ ยทิ ปน ปรํ อวิเหเตฺวา อปฺปกมฺปิ ธมฺมลทฺธํ นิพฺพุติโภชนํ ภุฺชติ. ตทสฺส โหตีติ ตทา อสฺส ปณฺฑิตสฺส สรีเร พลฺจ วณฺโณ จ โหติ. อาหารมเยนาติ นานปฺปกาเรน อาหาเรเนว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – โภ กาก, วณฺโณ นาเมส จตุสมุฏฺาโน, โส น อาหารมตฺเตเนว โหติ, อุตุจิตฺตกมฺเมหิปิ โหติเยวาติ.

เอวํ จกฺกวาโก อเนกปริยาเยน กากํ ครหิ. กาโก หรายิตฺวา ‘‘น มยฺหํ ตว วณฺเณน อตฺโถ, กา กา’’ติ วสฺสนฺโต ปลายิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โลลภิกฺขุ อนาคามิผเล ปติฏฺหิ. ตทา กาโก โลลภิกฺขุ อโหสิ, จกฺกวากี ราหุลมาตา, จกฺกวาโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.

จกฺกวากชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๓๕] ๙. หลิทฺทิราคชาตกวณฺณนา

สุติติกฺขนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ถุลฺลกุมาริกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ เตรสกนิปาเต จูฬนารทชาตเก (ชา. ๑.๑๓.๔๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. อตีตวตฺถุมฺหิ ปน สา กุมาริกา ตสฺส ตาปสกุมารสฺส สีลํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน วเส ิตภาวํ ตฺวา ‘‘อิมํ วฺเจตฺวา มนุสฺสปถํ เนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘รูปาทิกามคุณวิรหิเต อรฺเ รกฺขิตสีลํ นาม น มหปฺผลํ โหติ, มนุสฺสปเถ รูปาทีนํ ปจฺจุปฏฺาเน มหปฺผลํ โหติ, เอหิ มยา สทฺธึ ตตฺถ คนฺตฺวา สีลํ รกฺขาหิ, กึ เต อรฺเนา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๗๘.

‘‘สุติติกฺขํ อรฺมฺหิ, ปนฺตมฺหิ สยนาสเน;

เย จ คาเม ติติกฺขนฺติ, เต อุฬารตรา ตยา’’ติ.

ตตฺถ สุติติกฺขนฺติ สุฏฺุ อธิวาสนํ. ติติกฺขนฺตีติ สีตาทีนิ อธิวาเสนฺติ.

ตํ สุตฺวา ตาปสกุมาโร ‘‘ปิตา เม อรฺํ คโต, ตสฺมึ อาคเต ตํ อาปุจฺฉิตฺวา คมิสฺสามี’’ติ อาห. สา จินฺเตสิ ‘‘ปิตา กิรสฺส อตฺถิ, สเจ มํ โส ปสฺสิสฺสติ, กาชโกฏิยา มํ โปเถตฺวา วินาสํ ปาเปสฺสติ, มยา ปมเมว คนฺตพฺพ’’นฺติ. อถ นํ สา ‘‘เตน หิ อหํ มคฺคสฺํ กุรุมานา ปมตรํ คมิสฺสามิ, ตฺวํ ปจฺฉา อาคจฺฉาหี’’ติ วตฺวา อคมาสิ. โส ตสฺสา คตกาเล เนว ทารูนิ อาหริ, น ปานียํ, น ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปสิ, เกวลํ ปชฺฌายนฺโตว นิสีทิ, ปิตุ อาคมนกาเล ปจฺจุคฺคมนํ นากาสิ. อถ นํ ปิตา ‘‘อิตฺถีนํ วสํ คโต เอโส’’ติ ตฺวาปิ ‘‘กสฺมา ตาต, เนว ทารูนิ อาหริ, น ปานียํ, น ปริโภชนียํ อุปฏฺาเปสิ, ปชฺฌายนฺโตเยว ปน นิสินฺโนสี’’ติ อาห. อถ นํ ตาปสกุมาโร ‘‘ตาต, อรฺเ กิร รกฺขิตสีลํ นาม น มหปฺผลํ โหติ, มนุสฺสปเถ มหปฺผลํ , อหํ ตตฺถ คนฺตฺวา สีลํ รกฺขิสฺสามิ, สหาโย เม มํ ‘อาคจฺเฉยฺยาสี’ติ วตฺวา ปุรโต คโต, อหํ เตเนว สทฺธึ คมิสฺสามิ, ตตฺถ ปน วสนฺเตน มยา กตโร ปุริโส เสวิตพฺโพ’’ติ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๗๙.

‘‘อรฺา คามมาคมฺม, กึสีลํ กึวตํ อหํ;

ปุริสํ ตาต เสเวยฺยํ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.

อถสฺส ปิตา กเถนฺโต เสสคาถา อภาสิ –

๘๐.

‘‘โย เต วิสฺสาสเย ตาต, วิสฺสาสฺจ ขเมยฺย เต;

สุสฺสูสี จ ติติกฺขี จ, ตํ ภเชหิ อิโต คโต.

๘๑.

‘‘ยสฺส กาเยน วาจาย, มนสา นตฺถิ ทุกฺกฏํ;

อุรสีว ปติฏฺาย, ตํ ภเชหิ อิโต คโต.

๘๒.

‘‘โย จ ธมฺเมน จรติ, จรนฺโตปิ น มฺติ;

วิสุทฺธการึ สปฺปฺํ, ตํ ภเชหิ อิโต คโต.

๘๓.

‘‘หลิทฺทิราคํ กปิจิตฺตํ, ปุริสํ ราควิราคินํ;

ตาทิสํ ตาต มา เสวิ, นิมฺมนุสฺสมฺปิ เจ สิยา.

๘๔.

‘‘อาสีวิสํว กุปิตํ, มีฬฺหลิตฺตํ มหาปถํ;

อารกา ปริวชฺเชหิ, ยานีว วิสมํ ปถํ.

๘๕.

‘‘อนตฺถา ตาต วฑฺฒนฺติ, พาลํ อจฺจุปเสวโต;

มาสฺสุ พาเลน สํคจฺฉิ, อมิตฺเตเนว สพฺพทา.

๘๖.

‘‘ตํ ตาหํ ตาต ยาจามิ, กรสฺสุ วจนํ มม;

มาสฺสุ พาเลน สํคจฺฉิ, ทุกฺโข พาเลหิ สงฺคโม’’ติ.

ตตฺถ โย เต วิสฺสาสเยติ โย ตว วิสฺสาเสยฺย. ขเมยฺย เตติ โย จ ตว อตฺตนิ ตยา กตํ วิสฺสาสํ ขเมยฺย. สุสฺสูสี จ ติติกฺขี จาติ ตว วจนํ สุสฺสูสาย เจว วจนาธิวาสเนน จ สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อุรสีว ปติฏฺายาติ ยถา มาตุ อุรสิ ปุตฺโต ปติฏฺาติ, เอวํ ปติฏฺหิตฺวา อตฺตโน มาตรํ วิย มฺมาโน ตํ ภเชยฺยาสีติ วทติ. โย จ ธมฺเมน จรตีติ โย ติวิเธน สุจริเตน ธมฺเมน อิริยติ. น มฺตีติ ตถา จรนฺโตปิ ‘‘อหํ ธมฺมํ จรามี’’ติ มานํ น กโรติ. วิสุทฺธการินฺติ วิสุทฺธานํ ทสกุสลกมฺมปถานํ การกํ.

ราควิราคินนฺติ ราคินฺจ วิราคินฺจ รชฺชิตฺวา ตํขณฺเว วิรชฺชนสภาวํ. นิมฺมนุสฺสมฺปิ เจ สิยาติ สเจปิ สกลชมฺพุทีปตลํ นิมฺมนุสฺสํ โหติ, โสเยว เอโก มนุสฺโส ติฏฺติ, ตถาปิ ตาทิสํ มา เสวิ. มหาปถนฺติ คูถมกฺขิตํ มคฺคํ วิย. ยานีวาติ ยาเนน คจฺฉนฺโต วิย. วิสมนฺติ นินฺนอุนฺนตขาณุปาสาณาทิวิสมํ. พาลํ อจฺจุปเสวโตติ พาลํ อปฺปฺํ อติเสวนฺตสฺส. สพฺพทาติ ตาต, พาเลน สห สํวาโส นาม อมิตฺตสํวาโส วิย สพฺพทา นิจฺจกาลเมว ทุกฺโข. ตํ ตาหนฺติ เตน การเณน ตํ อหํ.

โส เอวํ ปิตรา โอวทิโต ‘‘ตาต, อหํ มนุสฺสปถํ คนฺตฺวา ตุมฺหาทิเส ปณฺฑิเต น ลภิสฺสามิ, ตตฺถ คนฺตุํ ภายามิ, อิเธว ตุมฺหากํ สนฺติเก วสิสฺสามี’’ติ อาห. อถสฺส ภิยฺโยปิ โอวาทํ ทตฺวา กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. โส น จิรสฺเสว อภิฺาสมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา สทฺธึ ปิตรา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.

ตทา ตาปสกุมาโร อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อโหสิ, กุมาริกา ถุลฺลกุมาริกาว, ปิตา ตาปโส ปน อหเมว อโหสินฺติ.

หลิทฺทิราคชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๓๖] ๑๐. สมุคฺคชาตกวณฺณนา

กุโตนุ อาคจฺฉถาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภิกฺขุ มาตุคามํ ปตฺเถสิ, มาตุคาโม นาเมส อสพฺโภ อกตฺู, ปุพฺเพ ทานวรกฺขสา คิลิตฺวา กุจฺฉินา ปริหรนฺตาปิ มาตุคามํ รกฺขิตุํ เอกปุริสนิสฺสิตํ กาตุํ นาสกฺขึสุ, ตฺวํ กถํ สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาเม ปหาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา ผลาผเลน ยาเปนฺโต วิหาสิ. ตสฺส ปณฺณสาลาย อวิทูเร เอโก ทานวรกฺขโส วสติ. โส อนฺตรนฺตรา มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณาติ, อฏวิยํ ปน มนุสฺสานํ สฺจรณมคฺเค ตฺวา อาคตาคเต มนุสฺเส คเหตฺวา ขาทติ. ตสฺมึ กาเล เอกา กาสิรฏฺเ กุลธีตา อุตฺตมรูปธรา อฺตรสฺมึ ปจฺจนฺตคาเม นิวุตฺถา โหติ. ตสฺสา เอกทิวสํ มาตาปิตูนํ ทสฺสนตฺถาย คนฺตฺวา ปจฺจาคมนกาเล ปริวารมนุสฺเส ทิสฺวา โส ทานโว เภรวรูเปน ปกฺขนฺทิ. มนุสฺสา ภีตา คหิตคหิตาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายึสุ. ทานโว ยาเน นิสินฺนํ อภิรูปํ มาตุคามํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ตํ อตฺตโน คุหํ เนตฺวา ภริยํ อกาสิ. ตโต ปฏฺาย สปฺปิเตลตณฺฑุลมจฺฉมํสาทีนิ เจว มธุรผลาผลานิ จ อาหริตฺวา ตํ โปเสสิ, วตฺถาลงฺกาเรหิ จ นํ อลงฺกริตฺวา รกฺขณตฺถาย เอกสฺมึ กรณฺฑเก ปกฺขิปิตฺวา กรณฺฑกํ คิลิตฺวา กุจฺฉินา ปริหรติ. โส เอกทิวสํ นฺหายิตุกามตาย เอกํ สรํ คนฺตฺวา กรณฺฑกํ อุคฺคิลิตฺวา ตํ ตโต นีหริตฺวา นฺหาเปตฺวา วิลิมฺเปตฺวา อลงฺกาเรตฺวา ‘‘โถกํ ตว สรีรํ อุตุํ คณฺหาเปหี’’ติ ตํ กรณฺฑกสมีเป เปตฺวา สยํ นฺหานติตฺถํ โอตริตฺวา ตํ อนาสงฺกมาโน โถกํ ทูรํ คนฺตฺวา นฺหายิ.

ตสฺมึ สมเย วายุสฺสปุตฺโต นาม วิชฺชาธโร สนฺนทฺธขคฺโค อากาเสน คจฺฉติ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘เอหี’’ติ หตฺถมุทฺทํ อกาสิ, วิชฺชาธโร ขิปฺปํ โอตริ. อถ นํ สา กรณฺฑเก ปกฺขิปิตฺวา ทานวสฺส อาคมนํ โอโลเกนฺตี กรณฺฑกูปริ นิสีทิตฺวา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ กรณฺฑกสมีปํ อสมฺปตฺเตเยว กรณฺฑกํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา วิชฺชาธรสฺส อุปริ นิปชฺชิตฺวา อตฺตโน สาฏกํ ปารุปิ. ทานโว อาคนฺตฺวา กรณฺฑกํ อโสเธตฺวา ‘‘มาตุคาโมเยว เม’’ติ สฺาย กรณฺฑกํ คิลิตฺวา อตฺตโน คุหํ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค จินฺเตสิ ‘‘ตาปโส เม จิรํ ทิฏฺโ, อชฺช ตาว นํ คนฺตฺวา วนฺทิสฺสามี’’ติ. โส ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ตาปโสปิ นํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ทฺวินฺนํ ชนานํ กุจฺฉิคตภาวํ ตฺวา สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๘๗.

‘‘กุโต นุ อาคจฺฉถ โภ ตโย ชนา, สฺวาคตา เอถ นิสีทถาสเน;

กจฺจิตฺถ, โภนฺโต กุสลํ อนามยํ, จิรสฺสมพฺภาคมนฺหิ โว อิธา’’ติ.

ตตฺถ โภติ อาลปนํ. กจฺจิตฺถาติ กจฺจิ โหถ ภวถ วิชฺชถ. โภนฺโตติ ปุน อาลปนฺโต อาห. กุสลํ อนามยนฺติ กจฺจิ ตุมฺหากํ กุสลํ อาโรคฺยํ. จิรสฺสมพฺภาคมนฺหิ โว อิธาติ อชฺช ตุมฺหากํ อิธ อพฺภาคมนฺจ จิรํ ชาตํ.

ตํ สุตฺวา ทานโว ‘‘อหํ อิมสฺส ตาปสสฺส สนฺติกํ เอกโกว อาคโต, อยฺจ ตาปโส ‘ตโย ชนา’ติ วทติ, กึ นาเมส กเถติ, กึ นุ โข สภาวํ ตฺวา กเถติ, อุทาหุ อุมฺมตฺตโก หุตฺวา วิลปตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๘๘.

‘‘อหเมว เอโก อิธ มชฺช ปตฺโต, น จาปิ เม ทุติโย โกจิ วิชฺชติ;

กิเมว สนฺธาย เต ภาสิตํ อิเส, กุโต นุ อาคจฺฉถ โภ ตโย ชนา’’ติ.

ตตฺถ อิธ มชฺชาติ อิธ อชฺช. กิเมว สนฺธาย เต ภาสิตํ อิเสติ ภนฺเต, อิสิ กึ นาเมตํ สนฺธาย ตยา ภาสิตํ, ปากฏํ ตาว เม กตฺวา กเถหีติ.

ตาปโส ‘‘เอกํเสเนวาวุโส โสตุกาโมสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา ตติยํ คาถมาห –

๘๙.

‘‘ตุวฺจ เอโก ภริยา จ เต ปิยา, สมุคฺคปกฺขิตฺตนิกิณฺณมนฺตเร;

สา รกฺขิตา กุจฺฉิคตาว เต สทา, วายุสฺสปุตฺเตน สหา ตหึ รตา’’ติ.

ตตฺถ ตุวฺจ เอโกติ ปมํ ตาว ตฺวํ เอโก ชโน. ปกฺขิตฺตนิกิณฺณมนฺตเรติ ปกฺขิตฺตานิกิณฺณอนฺตเร ตํ ตตฺถ ภริยํ รกฺขิตุกาเมน สทา ตยา สมุคฺเค ปกฺขิตฺตา สทฺธึ สมุคฺเคน นิกิณฺณา อนฺตเร, อนฺโตกุจฺฉิยํ ปิตาติ อตฺโถ. วายุสฺสปุตฺเตน สหาติ เอวํนามเกน วิชฺชาธเรน สทฺธึ. ตหึ รตาติ ตตฺถ ตว อนฺโตกุจฺฉิยฺเว กิเลสรติยา รตา. โส ทานิ ตฺวํ มาตุคามํ ‘‘เอกํ ปุริสนิสฺสิตํ กริสฺสามี’’ติ กุจฺฉินาปิ ปริหรนฺโต ตสฺสา ชารํ อุกฺขิปิตฺวา จรสีติ.

ตํ สุตฺวา ทานโว ‘‘วิชฺชาธรา นาม พหุมายา โหนฺติ, สจสฺส ขคฺโค หตฺถคโต ภวิสฺสติ, กุจฺฉึ เม ผาเลตฺวาปิ ปลายิสฺสตี’’ติ ภีตตสิโต หุตฺวา ขิปฺปํ กรณฺฑกํ อุคฺคิลิตฺวา ปุรโต เปสิ. สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ตํ ปวตฺตึ ปกาเสนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๙๐.

‘‘สํวิคฺครูโป อิสินา วิยากโต, โส ทานโว ตตฺถ สมุคฺคมุคฺคิลิ;

อทฺทกฺขิ ภริยํ สุจิมาลธารินึ, วายุสฺสปุตฺเตน สหา ตหึ รต’’นฺติ.

ตตฺถ อทฺทกฺขีติ โส กรณฺฑกํ วิวริตฺวา อทฺทส.

กรณฺฑเก ปน วิวฏมตฺเตเยว วิชฺชาธโร วิชฺชํ ชปฺปิตฺวา ขคฺคํ คเหตฺวา อากาสํ ปกฺขนฺทิ. ตํ ทิสฺวา ทานโว มหาสตฺตสฺส ตุสฺสิตฺวา ถุติปุพฺพงฺคมา เสสคาถา อภาสิ –

๙๑.

‘‘สุทิฏฺรูปมุคฺคตปานุวตฺตินา, หีนา นรา เย ปมทาวสํ คตา;

ยถา หเว ปาณริเวตฺถ รกฺขิตา, ทุฏฺา มยี อฺมภิปฺปโมทยิ.

๙๒.

‘‘ทิวา จ รตฺโต จ มยา อุปฏฺิตา, ตปสฺสินา โชติริวา วเน วสํ;

สา ธมฺมมุกฺกมฺม อธมฺมมาจริ, อกิริยรูโป ปมทาหิ สนฺถโว.

๙๓.

‘‘สรีรมชฺฌมฺหิ ิตาติ มฺหํ, มยฺหํ อยนฺติ อสตึ อสฺตํ;

สา ธมฺมมุกฺกมฺม อธมฺมมาจริ, อกิริยรูโป ปมทาหิ สนฺถโว.

๙๔.

‘‘สุรกฺขิตํ เมติ กถํ นุ วิสฺสเส, อเนกจิตฺตาสุ น หตฺถิ รกฺขณา;

เอตา หิ ปาตาลปปาตสนฺนิภา, เอตฺถปฺปมตฺโต พฺยสนํ นิคจฺฉติ.

๙๕.

‘‘ตสฺมา หิ เต สุขิโน วีตโสกา, เย มาตุคาเมหิ จรนฺติ นิสฺสฏา;

เอตํ สิวํ อุตฺตมมาภิปตฺถยํ, น มาตุคาเมหิ กเรยฺย สนฺถว’’นฺติ.

ตตฺถ สุทิฏฺรูปมุคฺคตปานุวตฺตินาติ ภนฺเต, อิสิ อุคฺคตปานุวตฺตินา ตยา สุทิฏฺรูปํ อิทํ การณํ. หีนาติ นีจา. ยถา หเว ปาณริเวตฺถ รกฺขิตาติ อยํ มยา อตฺตโน ปาณา วิย เอตฺถ อนฺโตกุจฺฉิยํ ปริหรนฺเตน รกฺขิตา. ทุฏฺา มยีติ อิทานิ มยิ มิตฺตทุพฺภิกมฺมํ กตฺวา ทุฏฺา อฺํ ปุริสํ อภิปฺปโมทติ. โชติริวา วเน วสนฺติ วเน วสนฺเตน ตปสฺสินา อคฺคิ วิย มยา อุปฏฺิตา ปริจริตา. สา ธมฺมมุกฺกมฺมาติ สา เอสา ธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา อติกฺกมิตฺวา. อกิริยรูโปติ อกตฺตพฺพรูโป. สรีรมชฺฌมฺหิ ิตาติ มฺหํ, มยฺหํ อยนฺติ อสตึ อสฺตนฺติ อิมํ อสตึ อสปฺปุริสธมฺมสมนฺนาคตํ อสฺตํ ทุสฺสีลํ ‘‘มยฺหํ สรีรมชฺฌมฺหิ ิตา’’ติ จ ‘‘มยฺหํ อย’’นฺติ จ มฺามิ.

สุรกฺขิตํ เมติ กถํ นุ วิสฺสเสติ อยํ มยา สุรกฺขิตาติ กถํ ปณฺฑิโต วิสฺสาเสยฺย, ยตฺร หิ นาม มาทิโสปิ อนฺโตกุจฺฉิยํ รกฺขนฺโต รกฺขิตุํ นาสกฺขิ. ปาตาลปปาตสนฺนิภาติ โลกสฺสาเทน ทุปฺปูรณียตฺตา มหาสมุทฺเท ปาตาลสงฺขาเตน ปปาเตน สทิสา. เอตฺถปฺปมตฺโตติ เอตาสุ เอวรูปาสุ นิคฺคุณาสุ ปมตฺโต ปุริโส มหาพฺยสนํ ปาปุณาติ. ตสฺมา หีติ ยสฺมา มาตุคามวสํ คตา มหาวินาสํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา เย มาตุคาเมหิ นิสฺสฏา หุตฺวา จรนฺติ, เต สุขิโน. เอตํ สิวนฺติ ยเทตํ มาตุคามโต นิสฺสฏานํ วิสํสฏฺานํ จรณํ, เอตํ ฌานสุขเมว สิวํ เขมํ อุตฺตมํ อภิปตฺเถตพฺพํ, เอตํ ปตฺถยมาโน มาตุคาเมหิ สทฺธึ สนฺถวํ น กเรยฺยาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ทานโว มหาสตฺตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห นิสฺสาย มยา ชีวิตํ ลทฺธํ, อหํ อิมาย ปาปธมฺมาย วิชฺชาธเรน มาราปิโต’’ติ มหาสตฺตํ อภิตฺถวิ. โสปิสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อิมิสฺสา มา กิฺจิ ปาปํ อกาสิ, สีลานิ คณฺหาหี’’ติ ตํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ทานโว ‘‘อหํ กุจฺฉินา ปริหรนฺโตปิ ตํ รกฺขิตุํ น สกฺโกมิ, อฺโ โก รกฺขิสฺสตี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา อตฺตโน อรฺเมว อคมาสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ทิพฺพจกฺขุกตาปโส อหเมว อโหสินฺติ.

สมุคฺคชาตกวณฺณนา ทสมา.

[๔๓๗] ๑๑. ปูติมํสชาตกวณฺณนา

โข เม รุจฺจตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อินฺทฺริยอสํวรํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ สมเย พหู ภิกฺขู อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารา อเหสุํ. สตฺถา ‘‘อิเม ภิกฺขู โอวทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อานนฺทตฺเถรสฺส วตฺวา อนิยมวเสน ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อลงฺกตปลฺลงฺกวรมชฺฌคโต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา นาม รูปาทีสุ สุภนิมิตฺตวเสน นิมิตฺตํ คเหตุํ วฏฺฏติ, สเจ หิ ตสฺมึ สมเย กาลํ กโรติ, นิรยาทีสุ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา รูปาทีสุ สุภนิมิตฺตํ มา คณฺหถ. ภิกฺขุนา นาม รูปาทิโคจเรน น ภวิตพฺพํ, รูปาทิโคจรา หิ ทิฏฺเว ธมฺเม มหาวินาสํ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา วรํ, ภิกฺขเว, ตตฺตาย อโยสลากาย อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย จกฺขุนฺทฺริยํ สมฺปลิมฏฺ’’นฺติ วิตฺถาเรตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ รูปํ โอโลกนกาโลปิ อตฺถิ อโนโลกนกาโลปิ. โอโลกนกาเล สุภวเสน อโนโลเกตฺวา อสุภวเสเนว โอโลเกยฺยาถ, เอวํ อตฺตโน โคจรา น ปริหายิสฺสถ. โก ปน ตุมฺหากํ โคจโรติ? จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, นว โลกุตฺตรธมฺมา. เอตสฺมิฺหิ โว โคจเร จรนฺตานํ น ลจฺฉติ มาโร โอตารํ, สเจ ปน กิเลสวสิกา หุตฺวา สุภนิมิตฺตวเสน โอโลเกสฺสถ, ปูติมํสสิงฺคาโล วิย อตฺตโน โคจรา ปริหายิสฺสถา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต หิมวนฺตปเทเส อรฺายตเน ปพฺพตคุหายํ อเนกสตา เอฬกา วสนฺติ. เตสํ วสนฏฺานโต อวิทูเร เอกิสฺสา คุหาย ปูติมํโส นาม สิงฺคาโล เวณิยา นาม ภริยาย สทฺธึ วสติ. โส เอกทิวสํ ภริยาย สทฺธึ วิจรนฺโต เต เอฬเก ทิสฺวา ‘‘เอเกน อุปาเยน อิเมสํ มํสํ ขาทิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปาเยน เอเกกํ เอฬกํ มาเรสิ. เต อุโภปิ เอฬกมํสํ ขาทนฺตา ถามสมฺปนฺนา ถูลสรีรา อเหสุํ. อนุปุพฺเพน เอฬกา ปริกฺขยํ อคมํสุ. เตสํ อนฺตเร เมณฺฑมาตา นาม เอกา เอฬิกา พฺยตฺตา อโหสิ อุปายกุสลา. สิงฺคาโล ตํ มาเรตุํ อสกฺโกนฺโต เอกทิวสํ ภริยาย สทฺธึ สมฺมนฺเตนฺโต ‘‘ภทฺเท, เอฬกา ขีณา, อิมํ เอฬิกํ เอเกน อุปาเยน ขาทิตุํ วฏฺฏติ, อยํ ปเนตฺถ อุปาโย, ตฺวํ เอกิกาว คนฺตฺวา เอตาย สทฺธึ สขี โหหิ, อถ เต ตาย สทฺธึ วิสฺสาเส อุปฺปนฺเน อหํ มตาลยํ กริตฺวา นิปชฺชิสฺสามิ, ตฺวํ เอตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘เอฬิเก สามิโก เม มโต, อหฺจ อนาถา, เปตฺวา ตํ อฺโ เม าตโก นตฺถิ, เอหิ โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ตสฺส สรีรกิจฺจํ กริสฺสามา’ติ วตฺวา ตํ คเหตฺวา อาคจฺเฉยฺยาสิ, อถ นํ อหํ อุปฺปติตฺวา คีวาย ฑํสิตฺวา มาเรสฺสามี’’ติ อาห.

สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาย สทฺธึ สขิภาวํ กตฺวา วิสฺสาเส อุปฺปนฺเน เอฬิกํ ตถา อโวจ. เอฬิกา ‘‘อาฬิ สิงฺคาลิ ตว สามิเกน สพฺเพ มม าตกา ขาทิตา, ภายามิ น สกฺโกมิ คนฺตุ’’นฺติ อาห. ‘‘อาฬิ, มา ภายิ, มตโก กึ กริสฺสตี’’ติ? ‘‘ขรมนฺโต เต สามิโก, ภายาเมวาห’’นฺติ สา เอวํ วตฺวาปิ ตาย ปุนปฺปุนํ ยาจิยมานา ‘‘อทฺธา มโต ภวิสฺสตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตาย สทฺธึ ปายาสิ. คจฺฉนฺตี ปน ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺมึ อาสงฺกาย สิงฺคาลึ ปุรโต กตฺวา สิงฺคาลํ ปริคฺคณฺหนฺตีเยว คจฺฉติ. สิงฺคาโล ตาสํ ปทสทฺทํ สุตฺวา ‘‘อาคตา นุ โข เอฬิกา’’ติ สีสํ อุกฺขิปิตฺวา อกฺขีนิ ปริวตฺเตตฺวา โอโลเกสิ. เอฬิกา ตํ ตถา กโรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ปาปธมฺโม มํ วฺเจตฺวา มาเรตุกาโม มตาลยํ ทสฺเสตฺวา นิปนฺโน’’ติ นิวตฺติตฺวา ปลายนฺตี สิงฺคาลิยา ‘‘กสฺมา ปลายสี’’ติ วุตฺเต ตํ การณํ กเถนฺตี ปมํ คาถมาห –

๙๖.

‘‘น โข เม รุจฺจติ อาฬิ, ปูติมํสสฺส เปกฺขนา;

เอตาทิสา สขารสฺมา, อารกา ปริวชฺชเย’’ติ.

ตตฺถ อาฬีติ อาลปนํ, สขิ สหายิเกติ อตฺโถ. เอตาทิสา สขารสฺมาติ เอวรูปา สหายกา อปกฺกมิตฺวา ตํ สหายกํ อารกา ปริวชฺเชยฺยาติ อตฺโถ.

เอวฺจ ปน วตฺวา สา นิวตฺติตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานเมว คตา. สิงฺคาลี ตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา กุชฺฌิตฺวา อตฺตโน สามิกสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ปชฺฌายมานา นิสีทิ. อถ นํ สิงฺคาโล ครหนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๙๗.

‘‘อุมฺมตฺติกา อยํ เวณี, วณฺเณติ ปติโน สขึ;

ปชฺฌายิ ปฏิคจฺฉนฺตึ, อาคตํ เมณฺฑมาตร’’นฺติ.

ตตฺถ เวณีติ ตสฺสา นามํ. วณฺเณติ ปติโน สขินฺติ ปมเมว อตฺตโน สขึ เอฬิกํ ‘‘มยิ สิเนหา วิสฺสาสิกา อาคมิสฺสติ โน สนฺติกํ, มตาลยํ กโรหี’’ติ ปติโน สนฺติเก วณฺเณติ. อถ นํ สา อิทานิ อาคตํ มม สนฺติกํ อนาคนฺตฺวาว ปฏิคจฺฉนฺตึ เมณฺฑมาตรํ ปชฺฌายติ อนุโสจตีติ.

ตํ สุตฺวา สิงฺคาลี ตติยํ คาถมาห –

๙๘.

‘‘ตฺวํ โขสิ สมฺม อุมฺมตฺโต, ทุมฺเมโธ อวิจกฺขโณ;

โย ตฺวํ มตาลยํ กตฺวา, อกาเลน วิเปกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อวิจกฺขโณติ วิจารณปฺารหิโต. อกาเลน วิเปกฺขสีติ เอฬิกาย อตฺตโน สนฺติกํ อนาคตาเยว โอโลเกสีติ อตฺโถ.

๙๙.

‘‘น อกาเล วิเปกฺขยฺย, กาเล เปกฺเขยฺย ปณฺฑิโต;

ปูติมํโสว ปชฺฌายิ, โย อกาเล วิเปกฺขตี’’ติ. – อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ อกาเลติ กามคุเณ อารพฺภ สุภวเสน จิตฺตุปฺปาทกาเล. อยฺหิ ภิกฺขุโน รูปํ โอโลเกตุํ อกาโล นาม. กาเลติ อสุภวเสน อนุสฺสติวเสน กสิณวเสน วา รูปคฺคหณกาเล. อยฺหิ ภิกฺขุโน รูปํ โอโลเกตุํ กาโล นาม. ตตฺถ อกาเล สารตฺตกาเล รูปํ โอโลเกนฺตา มหาวินาสํ ปาปุณนฺตีติ หริตจชาตกโลมสกสฺสปชาตกาทีหิ ทีเปตพฺพํ. กาเล อสุภวเสน โอโลเกนฺตา อรหตฺเต ปติฏฺหนฺตีติ อสุภกมฺมิกติสฺสตฺเถรวตฺถุนา กเถตพฺพํ. ปูติมํโสว ปชฺฌายีติ ภิกฺขเว, ยถา ปูติมํสสิงฺคาโล อกาเล เอฬิกํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน โคจรา ปริหีโน ปชฺฌายติ, เอวํ ภิกฺขุ อกาเล สุภวเสน รูปํ โอโลเกตฺวา สติปฏฺานาทิโคจรา ปริหีโน ทิฏฺธมฺเม สมฺปราเยปิ โสจติ ปชฺฌายติ กิลมตีติ.

เวณีปิ โข สิงฺคาลี ปูติมํสํ อสฺสาเสตฺวา ‘‘สามิ, มา จินฺเตสิ, อหํ ตํ ปุนปิ อุปาเยน อาเนสฺสามิ, ตฺวํ อาคตกาเล อปฺปมตฺโต คณฺเหยฺยาสี’’ติ วตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อาฬิ, ตว อาคตกาเลเยว โน อตฺโถ ชาโต, ตว อาคตกาลสฺมึเยว หิ เม สามิโก สตึ ปฏิลภิ, อิทานิ ชีวติ, เอหิ เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรหี’’ติ วตฺวา ปฺจมํ คาถมาห –

๑๐๐.

‘‘ปิยํ โข อาฬิ เม โหตุ, ปุณฺณปตฺตํ ททาหิ เม;

ปติ สฺชีวิโต มยฺหํ, เอยฺยาสิ ปิยปุจฺฉิกา’’ติ.

ตตฺถ ปุณฺณปตฺตํ ททาหิ เมติ ปิยกฺขานํ อกฺขายิกา มยฺหํ ตุฏฺิทานํ เทหิ. ปติ สฺชีวิโต มยฺหนฺติ มม สามิโก สฺชีวิโต อุฏฺิโต อโรโคติ อตฺโถ. เอยฺยาสีติ มยา สทฺธึ อาคจฺฉ.

เอฬิกา ‘‘อยํ ปาปธมฺมา มํ วฺเจตุกามา, อยุตฺตํ โข ปน ปฏิปกฺขกรณํ, อุปาเยเนว นํ วฺเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๐๑.

‘‘ปิยํ โข อาฬิ เต โหตุ, ปุณฺณปตฺตํ ททามิ เต;

มหตา ปริวาเรน, เอสฺสํ กยิราหิ โภชน’’นฺติ.

ตตฺถ เอสฺสนฺติ อาคมิสฺสามิ. อาคจฺฉมานา จ อตฺตโน อารกฺขํ กตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน อาคมิสฺสามีติ.

อถ นํ สิงฺคาลี ปริวารํ ปุจฺฉนฺตี สตฺตมํ คาถมาห –

๑๐๒.

‘‘กีทิโส ตุยฺหํ ปริวาโร, เยสํ กาหามิ โภชนํ;

กึ นามกา จ เต สพฺเพ, เต เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา’’ติ.

สา อาจิกฺขนฺตี อฏฺมํ คาถมาห –

๑๐๓.

‘‘มาลิโย จตุรกฺโข จ, ปิงฺคิโย อถ ชมฺพุโก;

เอทิโส มยฺหํ ปริวาโร, เตสํ กยิราหิ โภชน’’นฺติ.

ตตฺถ เต เมติ เต ปริวาเร มยฺหํ อาจิกฺขิ. มาลิโยติอาทีนิ จตุนฺนํ สุนขานํ นามานิ. ‘‘ตตฺถ เอเกกสฺส ปฺจ ปฺจ สุนขสตานิ ปริวาเรนฺติ, เอวํ ทฺวีหิ สุนขสหสฺเสหิ ปริวาริตา อาคมิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘สเจ เต โภชนํ น ลภิสฺสนฺติ, ตุมฺเห ทฺเวปิ ชเน มาเรตฺวา ขาทิสฺสนฺตี’’ติ อาห.

ตํ สุตฺวา สิงฺคาลี ภีตา ‘‘อลํ อิมิสฺสา ตตฺถ คมเนน, อุปาเยนสฺสา อนาคมนเมว กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

๑๐๔.

‘‘นิกฺขนฺตาย อคารสฺมา, ภณฺฑกมฺปิ วินสฺสติ;

อาโรคฺยํ อาฬิโน วชฺชํ, อิเธว วส มาคมา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อาฬิ, ตว เคเห พหุภณฺฑกํ อตฺถิ, ตํ เต นิกฺขนฺตาย อคารสฺมา อนารกฺขํ ภณฺฑกํ วินสฺสติ, อหเมว เต อาฬิโน สหายกสฺส อาโรคฺยํ วชฺชํ วทิสฺสามิ, ตฺวํ อิเธว วส มาคมาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา มรณภยภีตา เวเคน สามิกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ คเหตฺวา ปลายิ. เต ปุน ตํ านํ อาคนฺตุํ นาสกฺขึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา อหํ ตสฺมึ าเน วนเชฏฺกรุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา อโหสิ’’นฺติ.

ปูติมํสชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.

[๔๓๘] ๑๒. ททฺทรชาตกวณฺณนา

โยเต ปุตฺตเกติ อิทํ สตฺถา คิชฺฌกูเฏ วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺมิฺหิ สมเย ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อโห อาวุโส เทวทตฺโต นิลฺลชฺโช อนริโย เอวํ อุตฺตมคุณธรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อชาตสตฺตุนา สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ธนุคฺคหปโยชนสิลาปวิชฺฌนนาฬาคิริวิสฺสชฺชเนหิ วธาย อุปายํ กโรตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยฺหํ วธาย ปริสกฺกิ, อิทานิ ปน เม ตาสมตฺตมฺปิ กาตุํ นาสกฺขี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย ปฺจสตานํ มาณวกานํ สิปฺปํ วาเจนฺโต เอกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ อิธ วสนฺตสฺส ปลิโพโธ โหติ, มาณวกานมฺปิ สิปฺปํ น นิฏฺาติ, หิมวนฺตปเทเส อรฺายตนํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ วสนฺโต วาเจสฺสามี’’ติ. โส มาณวกานํ กเถตฺวา ติลตณฺฑุลเตลวตฺถาทีนิ คาหาเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา มคฺคโต อวิทูเร าเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา นิวาสํ กปฺเปสิ, มาณวาปิ อตฺตโน ปณฺณสาลํ กรึสุ. มาณวกานํ าตกา เตลตณฺฑุลาทีนิ เปเสนฺติ. รฏฺวาสิโนปิ ‘‘ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย กิร อรฺเ อสุกฏฺาเน นาม วสนฺโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปตี’’ติ ตสฺส ตณฺฑุลาทีนิ อภิหรนฺติ, กนฺตารปฺปฏิปนฺนาปิ เทนฺติ, อฺตโรปิ ปุริโส ขีรปานตฺถาย สวจฺฉํ เธนุํ อทาสิ. อาจริยสฺส ปณฺณสาลาย สนฺติเก ทฺวีหิ โปตเกหิ สทฺธึ เอกา โคธา วสติ, สีหพฺยคฺฆาปิสฺส อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ. เอโก ติตฺติโรปิ ตตฺถ นิพทฺธวาโส อโหสิ. โส อาจริยสฺส มาณวานํ มนฺเต วาเจนฺตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ตโยปิ เวเท อุคฺคณฺหิ. มาณวา เตน สทฺธึ อติวิสฺสาสิกา อเหสุํ.

อปรภาเค มาณเวสุ นิปฺผตฺตึ อปฺปตฺเตสุเยว อาจริโย กาลมกาสิ. มาณวา ตสฺส สรีรํ ฌาเปตฺวา วาลุกาย ถูปํ กตฺวา นานาปุปฺเผหิ ปูเชตฺวา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ. อถ เน ติตฺติโร ‘‘กสฺมา โรทถา’’ติ อาห. ‘‘อาจริโย โน สิปฺเป อนิฏฺิเตเยว กาลกโต, ตสฺมา โรทามา’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต มา โสจิตฺถ, อหํ โว สิปฺปํ วาเจสฺสามี’’ติ. ‘‘ตฺวํ กถํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อหํ อาจริเย ตุมฺหากํ วาเจนฺเต สทฺทํ สุตฺวา ตโย เวเท ปคุเณ อกาสินฺติ. เตน หิ อตฺตโน ปคุณภาวํ อมฺเห ชานาเปหี’’ติ. ติตฺติโร ‘‘เตน หิ สุณาถา’’ติ เตสํ คณฺิฏฺานเมว ปพฺพตมตฺถกา นทึ โอตรนฺโต วิย โอสาเรสิ. มาณวา หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ติตฺติรปณฺฑิตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺเปสุํ. โสปิ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส าเน ตฺวา เตสํ สิปฺปํ วาเจสิ. มาณวา ตสฺส สุวณฺณปฺชรํ กริตฺวา อุปริ วิตานํ พนฺธิตฺวา สุวณฺณตฏฺฏเก มธุลาชาทีนิ อุปหรนฺตา นานาวณฺเณหิ ปุปฺเผหิ ปูเชนฺตา มหนฺตํ สกฺการํ กรึสุ. ‘‘ติตฺติโร กิร อรฺายตเน ปฺจสเต มาณวเก มนฺตํ วาเจตี’’ติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ.

ตทา ชมฺพุทีเป คิรคฺคสมชฺชสทิสํ มหนฺตํ ฉณํ โฆสยึสุ. มาณวานํ มาตาปิตโร ‘‘ฉณทสฺสนตฺถาย อาคจฺฉนฺตู’’ติ เปเสสุํ. มาณวา ติตฺติรสฺส อาโรเจตฺวา ติตฺติรปณฺฑิตํ สพฺพฺจ อสฺสมปทํ โคธํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นครเมว อคมึสุ. ตทา เอโก นิกฺการุณิโก ทุฏฺตาปโส ตตฺถ ตตฺถ วิจรนฺโต ตํ านํ สมฺปาปุณิ. โคธา ตํ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน ตณฺฑุลา, อสุกฏฺาเน เตลาทีนิ อตฺถิ, ภตฺตํ ปจิตฺวา ภุฺชาหี’’ติ วตฺวา โคจรตฺถาย คตา. ตาปโส ปาโตว ภตฺตํ ปจิตฺวา ทฺเว โคธาปุตฺตเก มาเรตฺวา ขาทิ, ทิวา ติตฺติรปณฺฑิตฺจ วจฺฉกฺจ มาเรตฺวา ขาทิ, สายํ เธนุํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตมฺปิ มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา รุกฺขมูเล นิปชฺชิตฺวา ฆุรุฆุรายนฺโต นิทฺทํ โอกฺกมิ. โคธา สายํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตเก อปสฺสนฺตี อุปธารยมานา วิจริ. รุกฺขเทวตา โคธํ ปุตฺตเก อทิสฺวา กมฺปมานํ โอโลเกตฺวา ขนฺธวิฏปพฺภนฺตเร ทิพฺพานุภาเวน ตฺวา ‘‘โคเธ มา กมฺปิ, อิมินา ปาปปุริเสน ตว ปุตฺตกา จ ติตฺติโร จ วจฺโฉ จ เธนุ จ มาริตา, คีวาย นํ ฑํสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปหี’’ติ สลฺลปนฺตี ปมํ คาถมาห –

๑๐๕.

‘‘โย เต ปุตฺตเก อขาทิ, ทินฺนภตฺโต อทูสเก;

ตสฺมึ ทาํ นิปาเตหิ, มา เต มุจฺจิตฺถ ชีวโต’’ติ.

ตตฺถ ทินฺนภตฺโตติ ภตฺตํ ปจิตฺวา ภุฺชาหีติ ตยา ทินฺนภตฺโต. อทูสเกติ นิทฺโทเส นิรปราเธ. ตสฺมึ ทาํ นิปาเตหีติ ตสฺมึ ปาปปุริเส จตสฺโสปิ ทาา นิปาเตหีติ อธิปฺปาโย. มา เต มุจฺจิตฺถ ชีวโตติ ชีวนฺโต สชีโว หุตฺวา ตว หตฺถโต เอโส ปาปธมฺโม มา มุจฺจิตฺถ, โมกฺขํ มา ลภตุ, ชีวิตกฺขยํ ปาเปหีติ อตฺโถ.

ตโต โคธา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๐๖.

‘‘อากิณฺณลุทฺโท ปุริโส, ธาติเจลํว มกฺขิโต;

ปเทสํ ตํ น ปสฺสามิ, ยตฺถ ทาํ นิปาตเย.

๑๐๗.

‘‘อกตฺุสฺส โปสสฺส, นิจฺจํ วิวรทสฺสิโน;

สพฺพํ เจ ปถวึ ทชฺชา, เนว นํ อภิราธเย’’ติ.

ตตฺถ อากิณฺณลุทฺโทติ คาฬฺหลุทฺโท. วิวรทสฺสิโนติ ฉิทฺทํ โอตารํ ปริเยสนฺตสฺส. เนว นํ อภิราธเยติ เอวรูปํ ปุคฺคลํ สกลปถวึ เทนฺโตปิ โตเสตุํ น สกฺกุเณยฺย, กิมงฺคํ ปนาหํ ภตฺตมตฺตทายิกาติ ทสฺเสติ.

โคธา เอวํ วตฺวา ‘‘อยํ ปพุชฺฌิตฺวา มมฺปิ ขาเทยฺยา’’ติ อตฺตโน ชีวิตํ รกฺขมานา ปลายิ. เตปิ ปน สีหพฺยคฺฆา ติตฺติรสฺส สหายกาว, กทาจิ เต อาคนฺตฺวา ติตฺติรํ ปสฺสนฺติ, กทาจิ โส คนฺตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสตฺวา อาคจฺฉติ, ตสฺมึ ปน ทิวเส สีโห พฺยคฺฆํ อาห – ‘‘สมฺม, จิรํ ทิฏฺโ โน ติตฺติโร, อชฺช สตฺตฏฺทิวสา โหนฺติ, คจฺฉ, ตาวสฺส ปวตฺตึ ตฺวา เอหี’’ติ. พฺยคฺโฆ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โคธาย ปลายนกาเล ตํ านํ ปตฺวา ตํ ปาปปุริสํ นิทฺทายนฺตํ ปสฺสิ. ตสฺส ชฏนฺตเร ติตฺติรปณฺฑิตสฺส โลมานิ ปฺายนฺติ, เธนุยา จ วจฺฉกสฺส จ อฏฺีนิ ปฺายนฺติ. พฺยคฺฆราชา ตํ สพฺพํ ทิสฺวา สุวณฺณปฺชเร จ ติตฺติรปณฺฑิตํ อทิสฺวา ‘‘อิมินา ปาปปุริเสน เอเต มาริตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตํ ปาเทน ปหริตฺวา อุฏฺาเปสิ. โสปิ ตํ ทิสฺวา ภีตตสิโต อโหสิ. อถ นํ พฺยคฺโฆ ‘‘ตฺวํ เอเต มาเรตฺวา ขาทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เนว มาเรมิ, น ขาทามี’’ติ. ‘‘ปาปธมฺม ตยิ อมาเรนฺเต อฺโ โก มาเรสฺสติ, กเถหิ ตาว การณํ, อกเถนฺตสฺส ชีวิตํ เต นตฺถี’’ติ. โส มรณภยภีโต ‘‘อาม, สามิ, โคธาปุตฺตเก จ วจฺฉกฺจ เธนุฺจ มาเรตฺวา ขาทามิ, ติตฺติรํ ปน น มาเรมี’’ติอาห. โส ตสฺส พหุํ กเถนฺตสฺสปิ อสทฺทหิตฺวา ‘‘ตฺวํ กุโต อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สามิ, กลิงฺครฏฺโต วาณิชกานํ ภณฺฑํ วหนฺโต ชีวิกเหตุ อิทฺจิทฺจ กมฺมํ กตฺวา อิทานิมฺหิ อิธาคโต’’ติ เตน สพฺพสฺมึ อตฺตนา กตกมฺเม กถิเต ‘‘ปาปธมฺม ตยิ ติตฺติรํ อมาเรนฺเต อฺโ โก มาเรสฺสติ, เอหิ สีหสฺส มิครฺโ สนฺติกํ ตํ เนสฺสามี’’ติ ตํ ปุรโต กตฺวา ตาเสนฺโต อคมาสิ. สีหราชา ตํ อาเนนฺตํ พฺยคฺฆํ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๑๐๘.

‘‘กึ นุ สุพาหุ ตรมานรูโป, ปจฺจาคโตสิ สห มาณเวน;

กึ กิจฺจมตฺถํ อิธมตฺถิ ตุยฺหํ, อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ สุพาหูติ พฺยคฺฆํ นาเมนาลปติ. พฺยคฺฆสฺส หิ ปุริมกาโย มนาโป โหติ, เตน ตํ เอวมาห. กึ กิจฺจมตฺถํ อิธมตฺถิ ตุยฺหนฺติ กึ กรณียํ อตฺถสฺิตํ อิมินา มาณเวน อิธ อตฺถิ. ‘‘ตุยฺหํ กึ กิจฺจมตฺถ’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ.

ตํ สุตฺวา พฺยคฺโฆ ปฺจมํ คาถมาห –

๑๐๙.

‘‘โย เต สขา ททฺทโร สาธุรูโป, ตสฺส วธํ ปริสงฺกามิ อชฺช;

ปุริสสฺส กมฺมายตนานิ สุตฺวา, นาหํ สุขึ ททฺทรํ อชฺช มฺเ’’ติ.

ตตฺถ ททฺทโรติ ติตฺติโร. ตสฺส วธนฺติ ตสฺส ติตฺติรปณฺฑิตสฺส อิมมฺหา ปุริสมฺหา อชฺช วธํ ปริสงฺกามิ. นาหํ สุขินฺติ อหํ อชฺช ททฺทรํ สุขึ อโรคํ น มฺามิ.

อถ นํ สีโห ฉฏฺํ คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘กานิสฺส กมฺมายตนานิ อสฺสุ, ปุริสสฺส วุตฺติสโมธานตาย;

กํ วา ปฏิฺํ ปุริสสฺส สุตฺวา, ปริสงฺกสิ ททฺทรํ มาณเวนา’’ติ.

ตตฺถ อสฺสูติ อสฺโสสิ. วุตฺติสโมธานตายาติ ชีวิตวุตฺติสโมธานตาย, กานิ นาม อิมินา อตฺตโน กมฺมานิ ตุยฺหํ กถิตานีติ อตฺโถ. มาณเวนาติ กึ สุตฺวา อิมินา มาณเวน มาริตํ ปริสงฺกสิ.

อถสฺส กเถนฺโต พฺยคฺฆราชา เสสคาถา อภาสิ –

๑๑๑.

‘‘จิณฺณา กลิงฺคา จริตา วณิชฺชา, เวตฺตาจโร สงฺกุปโถปิ จิณฺโณ;

นเฏหิ จิณฺณํ สห วากุเรหิ, ทณฺเฑน ยุทฺธมฺปิ สมชฺชมชฺเฌ.

๑๑๒.

‘‘พทฺธา กุลีกา มิตมาฬเกน, อกฺขา ชิตา สํยโม อพฺภตีโต;

อพฺพาหิตํ ปุพฺพกํ อฑฺฒรตฺตํ, หตฺถา ทฑฺฒา ปิณฺฑปฏิคฺคเหน.

๑๑๓.

‘‘ตานิสฺส กมฺมายตนานิ อสฺสุ, ปุริสสฺส วุตฺติสโมธานตาย;

ยถา อยํ ทิสฺสติ โลมปิณฺโฑ, คาโว หตา กึ ปน ททฺทรสฺสา’’ติ.

ตตฺถ จิณฺณา กลิงฺคาติ วาณิชกานํ ภณฺฑํ วหนฺเตน กิร เตน กลิงฺครฏฺเ จิณฺณา. จริตา วณิชฺชาติ วณิชฺชาปิ เตน กตา. เวตฺตาจโรติ เวตฺเตหิ สฺจริตพฺโพ. สงฺกุปโถปิ จิณฺโณติ ขาณุกมคฺโคปิ วลฺชิโต. นเฏหีติ ชีวิกเหตุเยว นเฏหิปิ สทฺธึ. จิณฺณํ สห วากุเรหีติ วากุรํ วหนฺเตน วากุเรหิ สทฺธึ จริตํ. ทณฺเฑน ยุทฺธนฺติ ทณฺเฑน ยุทฺธมฺปิ กิร เตน ยุชฺฌิตํ.

พทฺธา กุลีกาติ สกุณิกาปิ กิร เตน พทฺธา. มิตมาฬเกนาติ ธฺมาปกกมฺมมฺปิ กิร เตน กตํ. อกฺขา ชิตาติ อกฺขธุตฺตานํ เวยฺยาวจฺจํ กโรนฺเตน อกฺขา หฏา. สํยโม อพฺภตีโตติ ชีวิตวุตฺตึ นิสฺสาย ปพฺพชนฺเตเนว สีลสํยโม อติกฺกนฺโต. อพฺพาหิตนฺติ อปคฺฆรณํ กตํ. ปุพฺพกนฺติ โลหิตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิมินา กิร ชีวิกํ นิสฺสาย ราชาปราธิกานํ หตฺถปาเท ฉินฺทิตฺวา เต อาเนตฺวา สาลาย นิปชฺชาเปตฺวา วณมุเขหิ ปคฺฆรนฺตํ โลหิตํ อฑฺฒรตฺตสมเย ตตฺถ คนฺตฺวา กุณฺฑกธูมํ ทตฺวา ปิตนฺติ. หตฺถา ทฑฺฒาติ อาชีวิกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตกาเล อุณฺหปิณฺฑปาตปฏิคฺคหเณ หตฺถาปิ กิรสฺส ทฑฺฒา.

ตานิสฺส กมฺมายตนานีติ ตานิ อสฺส กมฺมานิ. อสฺสูติ อสฺโสสึ. ยถา อยนฺติ ยถา เอส เอตสฺส ชฏนฺตเร ติตฺติรโลมปิณฺโฑปิ ทิสฺสติ, อิมินา การเณน เวทิตพฺพเมตํ ‘‘เอเตเนว โส มาริโต’’ติ. คาโว หตา กึ ปน ททฺทรสฺสาติ คาโวปิ เอเตน หตา, ททฺทรสฺส ปน กึ น หนิตพฺพํ, กสฺมา เอส ตํ น มาเรสฺสตีติ.

สีโห ตํ ปุริสํ ปุจฺฉิ ‘‘มาริโต เต ติตฺติรปณฺฑิโต’’ติ? ‘‘อาม, สามี’’ติ. อถสฺส สจฺจวจนํ สุตฺวา สีโห ตํ วิสฺสชฺเชตุกาโม อโหสิ. พฺยคฺฆราชา ปน ‘‘มาเรตพฺพยุตฺตโก เอโส’’ติ วตฺวา ตตฺเถว นํ ทาาหิ ปหริตฺวา มาเรตฺวา อาวาฏํ ขณิตฺวา ปกฺขิปิ. มาณวา อาคนฺตฺวา ติตฺติรปณฺฑิกํ อทิสฺวา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นิวตฺตึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต ปุพฺเพปิ มยฺหํ วธาย ปริสกฺกี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กูฏชฏิโล เทวทตฺโต อโหสิ, โคธา อุปฺปลวณฺณา, พฺยคฺโฆ โมคฺคลฺลาโน, สีโห สาริปุตฺโต, ทิสาปาโมกฺโข อาจริโย มหากสฺสโป, ติตฺติรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ททฺทรชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

คิชฺฌโกสมฺพี สุวฺจ, จูฬสูวํ หริตฺตจํ;

กุสลํ โลมกสฺสปํ, จกฺกวากํ หลิทฺทิ จ.

สมุคฺคํ ปูติมํสฺจ, ททฺทรฺเจว ทฺวาทส;

ชาตเก นวนิปาเต, คียึสุ คีติการกา.

นวกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

(ตติโย ภาโค นิฏฺิโต.)