📜
๑๑. เอกาทสกนิปาโต
[๔๕๕] ๑. มาตุโปสกชาตกวณฺณนา
ตสฺส ¶ ¶ ¶ นาคสฺส วิปฺปวาเสนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตกวตฺถุสทิสเมว. สตฺถา ปน ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘มา ภิกฺขเว, เอตํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ มาตรา วิยุตฺตา สตฺตาหํ นิราหารตาย สุสฺสมานา ราชารหํ โภชนํ ลภิตฺวาปิ ‘มาตรา วินา น ภฺุชิสฺสามา’ติ มาตรํ ทิสฺวาว โคจรํ คณฺหึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตมาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส หตฺถิโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สพฺพเสโต อโหสิ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ลกฺขณสมฺปนฺโน อสีติหตฺถิสหสฺสปริวาโร. โส ชราชิณฺณํ มาตรํ โปเสสิ, มาตา ปนสฺส อนฺธา. โส มธุรมธุรานิ ผลาผลานิ หตฺถีนํ ทตฺวา มาตุ สนฺติกํ เปเสสิ. หตฺถี ตสฺสา อทตฺวา อตฺตนาว ขาทนฺติ. โส ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘ยูถํ ฉฑฺเฑตฺวา มาตรเมว โปเสสฺสามี’’ติ รตฺติภาเค อฺเสํ หตฺถีนํ อชานนฺตานํ มาตรํ คเหตฺวา จณฺโฑรณปพฺพตปาทํ คนฺตฺวา เอกํ นฬินึ อุปนิสฺสาย ิตาย ปพฺพตคุหายํ มาตรํ เปตฺวา โปเสสิ. อเถโก พาราณสิวาสี วนจรโก มคฺคมูฬฺโห ทิสํ ววตฺถเปตุํ อสกฺโกนฺโต มหนฺเตน ¶ สทฺเทน ปริเทวิ. โพธิสตฺโต ตสฺส สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ ปุริโส อนาโถ, น โข ปน เมตํ ปติรูปํ, ยํ เอส มยิ ิเต อิธ วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ ภเยน ปลายนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริส, นตฺถิ เต มํ นิสฺสาย ภยํ, มา ปลายิ, กสฺมา ตฺวํ ปริเทวนฺโต วิจรสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สามิ, อหํ มคฺคมูฬฺโห, อชฺช เม สตฺตโม ทิวโส’’ติ วุตฺเต ‘‘โภ ปุริส, มา ภายิ, อหํ ตํ มนุสฺสปเถ เปสฺสามี’’ติ ตํ อตฺตโน ปิฏฺิยํ นิสีทาเปตฺวา อรฺา นีหริตฺวา นิวตฺติ. โสปิ ปาโป ‘‘นครํ คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ รุกฺขสฺํ ปพฺพตสฺํ กโรนฺโตว นิกฺขมิตฺวา พาราณสึ อคมาสิ.
ตสฺมึ ¶ ¶ กาเล รฺโ มงฺคลหตฺถี กาลมกาสิ. ราชา ‘‘สเจ เกนจิ กตฺถจิ โอปวยฺหํ กาตุํ ยุตฺตรูโป หตฺถี ทิฏฺโ อตฺถิ, โส อาจิกฺขตู’’ติ เภรึ จราเปสิ. โส ปุริโส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มยา, เทว, ตุมฺหากํ โอปวยฺโห ภวิตุํ ยุตฺตรูโป สพฺพเสโต สีลวา หตฺถิราชา ทิฏฺโ, อหํ มคฺคํ ทสฺเสสฺสามิ, มยา สทฺธึ หตฺถาจริเย เปเสตฺวา ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ‘‘อิมํ มคฺคเทสกํ กตฺวา อรฺํ คนฺตฺวา อิมินา วุตฺตํ หตฺถินาคํ อาเนถา’’ติ เตน สทฺธึ มหนฺเตน ปริวาเรน หตฺถาจริยํ เปเสสิ. โส เตน สทฺธึ คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ นฬินึ ปวิสิตฺวา โคจรํ คณฺหนฺตํ ปสฺสิ. โพธิสตฺโตปิ หตฺถาจริยํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ภยํ น อฺโต อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกา อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสติ, อหํ โข ปน มหาพโล หตฺถิสหสฺสมฺปิ วิทฺธํเสตุํ สมตฺโถ โหมิ, กุชฺฌิตฺวา สรฏฺกํ เสนาวาหนํ นาเสตุํ, สเจ ปน กุชฺฌิสฺสามิ, สีลํ เม ภิชฺชิสฺสติ, ตสฺมา อชฺช สตฺตีหิ โกฏฺฏิยมาโนปิ น กุชฺฌิสฺสามี’’ติ อธิฏฺาย สีสํ นาเมตฺวา นิจฺจโลว อฏฺาสิ. หตฺถาจริโย ปทุมสรํ โอตริตฺวา ตสฺส ลกฺขณสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘เอหิ ปุตฺตา’’ติ รชตทามสทิสาย โสณฺฑาย คเหตฺวา สตฺตเม ทิวเส พาราณสึ ปาปุณิ. โพธิสตฺตมาตา ปน ปุตฺเต อนาคจฺฉนฺเต ‘‘ปุตฺโต เม ราชราชมหามตฺตาทีหิ นีโต ¶ ภวิสฺสติ, อิทานิ ตสฺส วิปฺปวาเสน อยํ วนสณฺโฑ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ตสฺส นาคสฺส วิปฺปวาเสน, วิรูฬฺโห สลฺลกี จ กุฏชา จ;
กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จ, นิวาเต ปุปฺผิตา จ กณิการา.
‘‘โกจิเทว สุวณฺณกายุรา, นาคราชํ ภรนฺติ ปิณฺเฑน;
ยตฺถ ราชา ราชกุมาโร วา, กวจมภิเหสฺสติ อฉมฺภิโต’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิรูฬฺหาติ วฑฺฒิตา นาม, นตฺเถตฺถ สํสโยติ อสํสยวเสเนวมาห. สลฺลกี จ กุฏชา จาติ อินฺทสาลรุกฺขา จ กุฏชรุกฺขา จ. กุรุวินฺทกรวีรา ภิสสามา จาติ กุรุวินฺทรุกฺขา จ กรวีรนามกานิ มหาติณานิ จ ภิสานิ จ สามากานิ จาติ อตฺโถ. เอเต จ สพฺเพ อิทานิ วฑฺฒิสฺสนฺตีติ ปริเทวติ. นิวาเตติ ปพฺพตปาเท. ปุปฺผิตาติ มม ปุตฺเตน สาขํ ภฺชิตฺวา อขาทิยมานา กณิการาปิ ปุปฺผิตา ภวิสฺสนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. โกจิเทวาติ กตฺถจิเทว คาเม วา นคเร วา. สุวณฺณกายุราติ สุวณฺณาภรณา ราชราชมหามตฺตา. ภรนฺติ ปิณฺเฑนาติ อชฺช มาตุโปสกํ นาคราชํ ราชารหสฺส โภชนสฺส สุวฑฺฒิเตน ปิณฺเฑน โปเสนฺติ. ยตฺถาติ ยสฺมึ นาคราเช ราชา นิสีทิตฺวา. กวจมภิเหสฺสตีติ ¶ สงฺคามํ ปวิสิตฺวา ปจฺจามิตฺตานํ กวจํ อภิหนิสฺสติ ภินฺทิสฺสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยตฺถ มม ปุตฺเต นิสินฺโน ราชา วา ราชกุมาโร วา อฉมฺภิโต หุตฺวา สปตฺตานํ กวจํ หนิสฺสติ, ตํ เม ปุตฺตํ นาคราชานํ สุวณฺณาภรณา อชฺช ปิณฺเฑน ภรนฺตี’’ติ.
หตฺถาจริโยปิ อนฺตรามคฺเคว รฺโ สาสนํ เปเสสิ. ตํ สุตฺวา ราชา นครํ อลงฺการาเปสิ. หตฺถาจริโย โพธิสตฺตํ กตคนฺธปริภณฺฑํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ หตฺถิสาลํ เนตฺวา วิจิตฺรสาณิยา ปริกฺขิปาเปตฺวา รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา นานคฺครสโภชนํ อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทาเปสิ. โส ‘‘มาตรํ วินา โคจรํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปิณฺฑํ น คณฺหิ. อถ นํ ยาจนฺโต ราชา ตติยํ คาถมาห –
‘‘คณฺหาหิ ¶ นาค กพฬํ, มา นาค กิสโก ภว;
พหูนิ ราชกิจฺจานิ, ตานิ นาค กริสฺสสี’’ติ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘สา นูนสา กปณิกา, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
ตตฺถ สา นูนสาติ มหาราช, นูน สา เอสา. กปณิกาติ ปุตฺตวิโยเคน กปณา. ขาณุนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ รุกฺขกลิงฺครํ. ฆฏฺเฏตีติ ปริเทวมานา ตตฺถ ตตฺถ ปาเทน โปเถนฺตี นูน ปาเทน หนติ ¶ . คิรึ จณฺโฑรณํ ปตีติ จณฺโฑรณปพฺพตาภิมุขี, ปพฺพตปาเท ปริปฺผนฺทมานาติ อตฺโถ.
อถ นํ ปุจฺฉนฺโต ราชา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘กา นุ เต สา มหานาค, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
โพธิสตฺโต ¶ ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘มาตา เม สา มหาราช, อนฺธา อปริณายิกา;
ขาณุํ ปาเทน ฆฏฺเฏติ, คิรึ จณฺโฑรณํ ปตี’’ติ.
ราชา ฉฏฺคาถาย ตมตฺถํ สุตฺวา มฺุจาเปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘มฺุจเถตํ มหานาคํ, โยยํ ภรติ มาตรํ;
สเมตุ มาตรา นาโค, สห สพฺเพหิ าติภี’’ติ.
ตตฺถ โยยํ ภรตีติ อยํ นาโค ‘‘อหํ, มหาราช, อนฺธํ มาตรํ โปเสมิ, มยา วินา มยฺหํ มาตา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิสฺสติ, ตาย วินา มยฺหํ อิสฺสริเยน อตฺโถ นตฺถิ, อชฺช เม มาตุ โคจรํ อลภนฺติยา สตฺตโม ทิวโส’’ติ วทติ, ตสฺมา โย อยํ มาตรํ ภรติ, เอตํ มหานาคํ ขิปฺปํ มฺุจถ. สพฺเพหิ าติภีติ สทฺธึ เอส มาตรา สเมตุ สมาคจฺฉตูติ.
อฏฺมนวมา อภิสมฺพุทฺธคาถา โหนฺติ –
‘‘มุตฺโต จ พนฺธนา นาโค, มุตฺตมาทาย กฺุชโร;
มุหุตฺตํ อสฺสาสยิตฺวา, อคมา เยน ปพฺพโต.
‘‘ตโต ¶ โส นฬินึ คนฺตฺวา, สีตํ กฺุชรเสวิตํ;
โสณฺฑายูทกมาหตฺวา, มาตรํ อภิสิฺจถา’’ติ.
โส กิร นาโค พนฺธนา มุตฺโต โถกํ วิสฺสมิตฺวา รฺโ ทสราชธมฺมคาถาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ โอวาทํ ¶ ทตฺวา มหาชเนน คนฺธมาลาทีหิ ปูชิยมาโน นครา นิกฺขมิตฺวา ตทเหว ตํ ปทุมสรํ ปตฺวา ‘‘มม มาตรํ โคจรํ คาหาเปตฺวาว สยํ คณฺหิสฺสามี’’ติ พหุํ ภิสมุฬาลํ อาทาย โสณฺฑปูรํ อุทกํ คเหตฺวา คุหาเลณโต นิกฺขมิตฺวา คุหาทฺวาเร นิสินฺนาย มาตุยา สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺตาหํ นิราหารตาย มาตุ สรีรสฺส ผสฺสปฏิลาภตฺถํ ¶ อุปริ อุทกํ สิฺจิ, ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ. โพธิสตฺตสฺส มาตาปิ ‘‘เทโว วสฺสตี’’ติ สฺาย ตํ อกฺโกสนฺตี ทสมํ คาถมาห –
‘‘โกยํ อนริโย เทโว, อกาเลนปิ วสฺสติ;
คโต เม อตฺรโช ปุตฺโต, โย มยฺหํ ปริจารโก’’ติ.
ตตฺถ อตฺรโชติ อตฺตโต ชาโต.
อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต โพธิสตฺโต เอกาทสมํ คาถมาห –
‘‘อุฏฺเหิ อมฺม กึ เสสิ, อาคโต ตฺยาหมตฺรโช;
มุตฺโตมฺหิ กาสิราเชน, เวเทเหน ยสสฺสินา’’ติ.
ตตฺถ อาคโต ตฺยาหนฺติ อาคโต เต อหํ. เวเทเหนาติ าณสมฺปนฺเนน. ยสสฺสินาติ มหาปริวาเรน เตน รฺา มงฺคลหตฺถิภาวาย คหิโตปิ อหํ มุตฺโต, อิทานิ ตว สนฺติกํ อาคโต อุฏฺเหิ โคจรํ คณฺหาหีติ.
สา ตุฏฺมานสา รฺโ อนุโมทนํ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘จิรํ ชีวตุ โส ราชา, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;
โย เม ปุตฺตํ ปโมเจสิ, สทา วุทฺธาปจายิก’’นฺติ.
ตทา ราชา โพธิสตฺตสฺส คุเณ ปสีทิตฺวา นฬินิยา อวิทูเร คามํ มาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส จ มาตุ จสฺส นิพทฺธํ วตฺตํ ปฏฺเปสิ. อปรภาเค โพธิสตฺโต มาตริ กาลกตาย ตสฺสา สรีรปริหารํ กตฺวา ¶ การณฺฑกอสฺสมปทํ นาม คโต. ตสฺมึ ปน าเน หิมวนฺตโต โอตริตฺวา ปฺจสตา อิสโย วสึสุ, ตํ วตฺตํ เตสํ อทาสิ. ราชา โพธิสตฺตสฺส สมานรูปํ สิลาปฏิมํ กาเรตฺวา มหาสกฺการํ ปวตฺเตสิ ¶ . สกลชมฺพุทีปวาสิโน อนุสํวจฺฉรํ สนฺนิปติตฺวา หตฺถิมหํ นาม กรึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ¶ มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปาปปุริโส เทวทตฺโต, หตฺถาจริโย สาริปุตฺโต, มาตา หตฺถินี มหามายา, มาตุโปสกนาโค ปน อหเมว อโหสินฺติ.
มาตุโปสกชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๕๖] ๒. ชุณฺหชาตกวณฺณนา
สุโณหิ มยฺหํ วจนํ ชนินฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน ลทฺธวเร อารพฺภ กเถสิ. ปมโพธิยฺหิ วีสติ วสฺสานิ ภควโต อนิพทฺธุปฏฺากา อเหสุํ. เอกทา เถโร นาคสมาโล, เอกทา นาคิโต, เอกทา อุปวาโณ, เอกทา สุนกฺขตฺโต, เอกทา จุนฺโท, เอกทา นนฺโท, เอกทา สาคโต, เอกทา เมฆิโย ภควนฺตํ อุปฏฺหิ. อเถกทิวสํ ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘‘ภิกฺขเว, อิทานิมฺหิ มหลฺลโก, เอกจฺเจ ภิกฺขู ‘อิมินา มคฺเคน คจฺฉามา’ติ วุตฺเต อฺเน คจฺฉนฺติ, เอกจฺเจ มยฺหํ ปตฺตจีวรํ ภูมิยํ นิกฺขิปนฺติ, นิพทฺธุปฏฺากํ เม เอกํ ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, อหํ อุปฏฺหิสฺสามิ, อหํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ สิรสิ อฺชลึ กตฺวา อุฏฺิเต สาริปุตฺตตฺเถราทโย ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺถนา มตฺถกํ ปตฺตา, อล’’นฺติ ปฏิกฺขิปิ. ตโต ภิกฺขู อานนฺทตฺเถรํ ‘‘ตฺวํ อาวุโส, อุปฏฺากฏฺานํ ยาจาหี’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘สเจ เม ภนฺเต, ภควา อตฺตนา ลทฺธจีวรํ น ทสฺสติ, ปิณฺฑปาตํ น ทสฺสติ, เอกคนฺธกุฏิยํ วสิตุํ น ทสฺสติ, มํ คเหตฺวา นิมนฺตนํ น คมิสฺสติ, สเจ ปน ภควา มยา คหิตํ นิมนฺตนํ คมิสฺสติ, สเจ อหํ ติโรรฏฺา ติโรชนปทา ภควนฺตํ ทฏฺุํ อาคตํ ปริสํ อาคตกฺขเณเยว ทสฺเสตุํ ลภิสฺสามิ ¶ , ยทา เม กงฺขา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ ขเณเยว ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตุํ ลภิสฺสามิ, สเจ ยํ ภควา มม ปรมฺมุขา ธมฺมํ กเถติ, ตํ อาคนฺตฺวา มยฺหํ กเถสฺสติ, เอวาหํ ¶ ภควนฺตํ อุปฏฺหิสฺสามี’’ติ อิเม จตฺตาโร ปฏิกฺเขเป จตสฺโส จ อายาจนาติ อฏฺ วเร ยาจิ, ภควาปิสฺส อทาสิ.
โส ตโต ปฏฺาย ปฺจวีสติ วสฺสานิ นิพทฺธุปฏฺาโก อโหสิ. โส ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺเค ปนํ ปตฺวา อาคมสมฺปทา, อธิคมสมฺปทา, ปุพฺพเหตุสมฺปทา, อตฺตตฺถปริปุจฺฉาสมฺปทา, ติตฺถวาสสมฺปทา, โยนิโสมนสิการสมฺปทา, พุทฺธูปนิสฺสยสมฺปทาติ อิมาหิ สตฺตหิ สมฺปทาหิ สมนฺนาคโต พุทฺธสฺส สนฺติเก อฏฺวรทายชฺชํ ลภิตฺวา พุทฺธสาสเน ปฺาโต คคนมชฺเฌ จนฺโท วิย ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ตถาคโต อานนฺทตฺเถรํ ¶ วรทาเนน สนฺตปฺเปสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ, ปุพฺเพปาหํ ยํ ยํ เอส ยาจิ, ตํ ตํ อทาสึเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม หุตฺวา ตกฺกสิลายํ สิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส อนุโยคํ ทตฺวา รตฺติภาเค อนฺธกาเร อาจริยสฺส ฆรา นิกฺขมิตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ เวเคน คจฺฉนฺโต อฺตรํ พฺราหฺมณํ ภิกฺขํ จริตฺวา อตฺตโน นิวาสฏฺานํ คจฺฉนฺตํ อปสฺสนฺโต พาหุนา ปหริตฺวา ตสฺส ภตฺตปาตึ ภินฺทึ, พฺราหฺมโณ ปติตฺวา วิรวิ. กุมาโร การฺุเน นิวตฺติตฺวา ตํ หตฺเถ คเหตฺวา อุฏฺาเปสิ. พฺราหฺมโณ ‘‘ตยา, ตาต, มม ภิกฺขาภาชนํ ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อาห. กุมาโร ‘‘พฺราหฺมณ, น ทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ วตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. ปิตา ‘‘ชีวนฺเตน เม ปุตฺโต ทิฏฺโ, ราชภูตมฺปิ นํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ รชฺเช อภิสิฺจิ. โส ¶ ชุณฺหราชา นาม หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. พฺราหฺมโณ ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อิทานิ มม ภตฺตมูลํ อาหริสฺสามี’’ติ พาราณสึ คนฺตฺวา ราชานํ อลงฺกตนครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺตเมว ทิสฺวา เอกสฺมึ อุนฺนตปฺปเทเส ิโต หตฺถํ ปสาเรตฺวา ชยาเปสิ. อถ นํ ราชา อโนโลเกตฺวาว อติกฺกมิ. พฺราหฺมโณ เตน อทิฏฺภาวํ ตฺวา กถํ สมุฏฺาเปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘สุโณหิ ¶ มยฺหํ วจนํ ชนินฺท, อตฺเถน ชุณฺหมฺหิ อิธานุปตฺโต;
น พฺราหฺมเณ อทฺธิเก ติฏฺมาเน, คนฺตพฺพมาหุ ทฺวิปทินฺท เสฏฺา’’ติ.
ตตฺถ ชุณฺหมฺหีติ มหาราช, ตยิ ชุณฺหมฺหิ อหํ เอเกน อตฺเถน อิธานุปฺปตฺโต, น นิกฺการณา อิธาคโตมฺหีติ ทีเปติ. อทฺธิเกติ อทฺธานํ อาคเต. คนฺตพฺพนฺติ ตํ อทฺธิกํ อทฺธานมาคตํ ยาจมานํ พฺราหฺมณํ อโนโลเกตฺวาว คนฺตพฺพนฺติ ปณฺฑิตา น อาหุ น กเถนฺตีติ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา หตฺถึ วชิรงฺกุเสน นิคฺคเหตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘สุโณมิ ¶ ติฏฺามิ วเทหิ พฺรหฺเม, เยนาสิ อตฺเถน อิธานุปตฺโต;
กํ วา ตฺวมตฺถํ มยิ ปตฺถยาโน, อิธาคโม พฺรหฺเม ตทิงฺฆ พฺรูหี’’ติ.
ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต.
ตโต ปรํ พฺราหฺมณสฺส จ รฺโ จ วจนปฏิวจนวเสน เสสคาถา กถิตา –
‘‘ททาหิ เม คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;
ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เม สาทิสี ทฺเว ททาหิ.
‘‘ตโป ¶ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูโป, มนฺตา นุ เต พฺราหฺมณ จิตฺตรูปา;
ยกฺขา นุ เต อสฺสวา สนฺติ เกจิ, อตฺถํ วา เม อภิชานาสิ กตฺตํ.
‘‘น ¶ เม ตโป อตฺถิ น จาปิ มนฺตา, ยกฺขาปิ เม อสฺสวา นตฺถิ เกจิ;
อตฺถมฺปิ เต นาภิชานามิ กตฺตํ, ปุพฺเพ จ โข สงฺคติมตฺตมาสิ.
‘‘ปมํ อิทํ ทสฺสนํ ชานโต เม, น ตาภิชานามิ อิโต ปุรตฺถา;
อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, กทา กุหึ วา อหุ สงฺคโม โน.
‘‘คนฺธารราชสฺส ปุรมฺหิ รมฺเม, อวสิมฺหเส ตกฺกสีลายํ เทว;
ตตฺถนฺธการมฺหิ ติมีสิกายํ, อํเสน อํสํ สมฆฏฺฏยิมฺห.
‘‘เต ตตฺถ ตฺวาน อุโภ ชนินฺท, สาราณิยํ วีติสารยิมฺห ตตฺถ;
สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสิ, ตโต น ปจฺฉา น ปุเร อโหสิ.
‘‘ยทา กทาจิ มนุเชสุ พฺรหฺเม, สมาคโม สปฺปุริเสน โหติ;
น ปณฺฑิตา สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ.
‘‘พาลาว โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ วินาสยนฺติ;
พหุมฺปิ พาเลสุ กตํ วินสฺสติ, ตถา หิ พาลา อกตฺุรูปา.
‘‘ธีรา ¶ จ โข สงฺคติสนฺถวานิ, ปุพฺเพ กตํ วาปิ น นาสยนฺติ;
อปฺปมฺปิ ¶ ธีเรสุ กตํ น นสฺสติ, ตถา หิ ธีรา สุกตฺุรูปา.
‘‘ททามิ ¶ เต คามวรานิ ปฺจ, ทาสีสตํ สตฺต ควํสตานิ;
ปโรสหสฺสฺจ สุวณฺณนิกฺเข, ภริยา จ เต สาทิสี ทฺเว ททามิ.
‘‘เอวํ สตํ โหติ สเมจฺจ ราช, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;
อาปูรตี กาสิปตี ตถาหํ, ตยาปิ เม สงฺคโม อชฺช ลทฺโธ’’ติ.
ตตฺถ สาทิสีติ รูปวณฺณชาติกุลปเทเสน มยา สาทิสี เอกสทิสา ทฺเว มหายสา ภริยา จ เม เทหีติ อตฺโถ. ภึสรูโปติ กึ นุ เต พฺราหฺมณ พลวรูปสีลาจารคุณสงฺขาตํ ตโปกมฺมํ อตฺถีติ ปุจฺฉติ. มนฺตา นุ เตติ อุทาหุ วิจิตฺรรูปา สพฺพตฺถสาธกา มนฺตา เต อตฺถิ. อสฺสวาติ วจนการกา อิจฺฉิติจฺฉิตทายกา ยกฺขา วา เต เกจิ สนฺติ. กตฺตนฺติ กตํ, อุทาหุ ตยา กตํ กิฺจิ มม อตฺถํ อภิชานาสีติ ปุจฺฉติ. สงฺคติมตฺตนฺติ สมาคมมตฺตํ ตยา สทฺธึ ปุพฺเพ มม อาสีติ วทติ. ชานโต เมติ ชานนฺตสฺส มม อิทํ ปมํ ตว ทสฺสนํ. น ตาภิชานามีติ น ตํ อภิชานามิ. ติมีสิกายนฺติ พหลติมิรายํ รตฺติยํ. เต ตตฺถ ตฺวานาติ เต มยํ ตสฺมึ อํเสน อํสํ ฆฏฺฏิตฏฺาเน ตฺวา วีติสารยิมฺห ตตฺถาติ ตสฺมึเยว าเน สริตพฺพยุตฺตกํ กถํ วีติสารยิมฺห, อหํ ‘‘ภิกฺขาภาชนํ เม ตยา ภินฺนํ, ภตฺตมูลํ เม เทหี’’ติ อวจํ, ตฺวํ ‘‘อิทานาหํ ตว ภตฺตมูลํ ทาตุํ น สกฺโกมิ, อหํ โข ปน กาสิกรฺโ ปุตฺโต ชุณฺหกุมาโร นาม, มยิ รชฺเช ปติฏฺิเต อาคนฺตฺวา มํ ธนํ ยาเจยฺยาสี’’ติ อวจาติ อิมํ สารณียกถํ กริมฺหาติ อาห. สาเยว โน สงฺคติมตฺตมาสีติ เทว, อมฺหากํ สาเยว อฺมฺํ สงฺคติมตฺตมาสิ, เอกมุหุตฺติกมโหสีติ ทีเปติ. ตโตติ ตโต ปน ตํมุหุตฺติกมิตฺตธมฺมโต ปจฺฉา วา ปุเร วา กทาจิ อมฺหากํ สงฺคติ นาม น ภูตปุพฺพา.
น ปณฺฑิตาติ พฺราหฺมณ ปณฺฑิตา นาม ตํมุหุตฺติกํ สงฺคตึ วา จิรกาลสนฺถวานิ วา ยํ กิฺจิ ปุพฺเพ กตคุณํ วา น นาเสนฺติ. พหุมฺปีติ พหุกมฺปิ ¶ . อกตฺุรูปาติ ยสฺมา พาลา อกตฺุสภาวา, ตสฺมา เตสุ พหุมฺปิ กตํ นสฺสตีติ อตฺโถ. สุกตฺุรูปาติ สุฏฺุ กตฺุสภาวา. เอตฺถาปิ ตตฺถาปิ ตถา หีติ หิ-กาโร การณตฺโถ. ททามิ เตติ พฺราหฺมเณน ยาจิตยาจิตํ ททนฺโต เอวมาห. เอวํ สตนฺติ พฺราหฺมโณ รฺโ ¶ อนุโมทนํ กโรนฺโต วทติ, สตํ ¶ สปฺปุริสานํ เอกวารมฺปิ สเมจฺจ สงฺคติ นาม เอวํ โหติ. นกฺขตฺตราชาริวาติ เอตฺถ ร-กาโร นิปาตมตฺตํ. ตารกานนฺติ ตารกคณมชฺเฌ. กาสิปตีติ ราชานมาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เทว, กาสิรฏฺาธิปติ ยถา จนฺโท ตารกานํ มชฺเฌ ิโต ตารกคณปริวุโต ปาฏิปทโต ปฏฺาย ยาว ปุณฺณมา อาปูรติ, ตถา อหมฺปิ อชฺช ตยา ทินฺเนหิ คามวราทีหิ อาปูรามี’’ติ. ตยาปิ เมติ มยา ปุพฺเพ ตยา สทฺธึ ลทฺโธปิ สงฺคโม อลทฺโธว, อชฺช ปน มม มโนรถสฺส นิปฺผนฺนตฺตา มยา ตยา สห สงฺคโม ลทฺโธ นามาติ นิปฺผนฺนํ เม ตยา สทฺธึ มิตฺตผลนฺติ วทติ. โพธิสตฺโต ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปาหํ อานนฺทํ วเรน สนฺตปฺเปสึ เยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พฺราหฺมโณ อานนฺโท อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชุณฺหชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๕๗] ๓. ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา
ยโสกโร ปฺุกโรหมสฺมีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส ปถวิปเวสนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต ตถาคเตน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น อิทาเนเวส, ภิกฺขเว, มม ชินจกฺเก ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ, ปุพฺเพปิ ธมฺมจกฺเก ¶ ปหารํ ทตฺวา ปถวึ ปวิสิตฺวา อวีจิปรายโณ ชาโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กามาวจรเทวโลเก ธมฺโม นาม เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, เทวทตฺโต อธมฺโม นาม. เตสุ ธมฺโม ทิพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต ทิพฺพรถวรมภิรุยฺห อจฺฉราคณปริวุโต มนุสฺเสสุ สายมาสํ ภฺุชิตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ฆรทฺวาเร สุขกถาย นิสินฺเนสุ ปุณฺณมุโปสถทิวเส คามนิคมชนปทราชธานีสุ อากาเส ตฺวา ‘‘ปาณาติปาตาทีหิ ทสหิ อกุสลกมฺมปเถหิ วิรมิตฺวา มาตุปฏฺานธมฺมํ ปิตุปฏฺานธมฺมํ ติวิธสุจริตธมฺมฺจ ปูเรถ ¶ , เอวํ สคฺคปรายณา หุตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิสฺสถา’’ติ มนุสฺเส ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ ปทกฺขิณํ กโรติ. อธมฺโม ปน เทวปุตฺโต ‘‘ปาณํ หนถา’’ติอาทินา นเยน ทส อกุสลกมฺมปเถ สมาทเปนฺโต ชมฺพุทีปํ วามํ กโรติ. อถ เตสํ ¶ อากาเส รถา สมฺมุขา อเหสุํ. อถ เนสํ ปริสา ‘‘ตุมฺเห กสฺส, ตุมฺเห กสฺสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘มยํ ธมฺมสฺส, มยํ อธมฺมสฺสา’’ติ วตฺวา มคฺคา โอกฺกมิตฺวา ทฺวิธา ชาตา. ธมฺโมปิ อธมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ อธมฺโม, อหํ ธมฺโม, มคฺโค มยฺหํ อนุจฺฉวิโก, ตว รถํ โอกฺกาเมตฺวา มยฺหํ มคฺคํ เทหี’’ติ ปมํ คาถมาห –
‘‘ยโสกโร ปฺุกโรหมสฺมิ, สทาตฺถุโต สมณพฺราหฺมณานํ;
มคฺคารโห เทวมนุสฺสปูชิโต, ธมฺโม อหํ เทหิ อธมฺม มคฺค’’นฺติ.
ตตฺถ ยโสกโรติ อหํ เทวมนุสฺสานํ ยสทายโก. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. สทาตฺถุโตติ สทา ถุโต นิจฺจปสตฺโถ. ตโต ปรา –
‘‘อธมฺมยานํ ทฬฺหมารุหิตฺวา, อสนฺตสนฺโต พลวาหมสฺมิ;
ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชํ, มคฺคํ อหํ ธมฺม อทินฺนปุพฺพํ.
‘‘ธมฺโม ¶ หเว ปาตุรโหสิ ปุพฺเพ, ปจฺฉา อธมฺโม อุทปาทิ โลเก;
เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ สนนฺตโน จ, อุยฺยาหิ เชฏฺสฺส กนิฏฺ มคฺคา.
‘‘น ยาจนาย นปิ ปาติรูปา, น อรหตา เตหํ ทเทยฺยํ มคฺคํ;
ยุทฺธฺจ ¶ โน โหตุ อุภินฺนมชฺช, ยุทฺธมฺหิ โย เชสฺสติ ตสฺส มคฺโค.
‘‘สพฺพา ทิสา อนุวิสโฏหมสฺมิ, มหพฺพโล อมิตยโส อตุลฺโย;
คุเณหิ สพฺเพหิ อุเปตรูโป, ธมฺโม อธมฺม ตฺวํ กถํ วิเชสฺสสิ.
‘‘โลเหน เว หฺติ ชาตรูปํ, น ชาตรูเปน หนนฺติ โลหํ;
สเจ อธมฺโม หฺฉติ ธมฺมมชฺช, อโย สุวณฺณํ วิย ทสฺสเนยฺยํ.
‘‘สเจ ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺม, น ตุยฺห วุฑฺฒา จ ครู จ อตฺถิ;
มคฺคฺจ เต ทมฺมิ ปิยาปฺปิเยน, วาจาทุรุตฺตานิปิ เต ขมามี’’ติ. –
อิมา ฉ คาถา เตสฺเว วจนปฏิวจนวเสน กถิตา.
ตตฺถ ¶ ส กิสฺส เหตุมฺหิ ตวชฺช ทชฺชนฺติ โสมฺหิ อหํ อธมฺโม อธมฺมยานํ รถํ อารุฬฺโห อภีโต พลวา. กึการณา อชฺช โภ ธมฺม, กสฺสจิ อทินฺนปุพฺพํ มคฺคํ ตุยฺหํ ทมฺมีติ. ปุพฺเพติ ปมกปฺปิกกาเล อิมสฺมึ โลเก ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม จ ปุพฺเพ ปาตุรโหสิ, ปจฺฉา อธมฺโม. เชฏฺโ จาติ ปุเร นิพฺพตฺตภาเวน อหํ เชฏฺโ จ เสฏฺโ จ โปราณโก จ, ตฺวํ ปน กนิฏฺโ, ตสฺมา มคฺคา อุยฺยาหีติ วทติ. นปิ ¶ ปาติรูปาติ อหฺหิ เต เนว ยาจนาย น ปติรูปวจเนน มคฺคารหตาย มคฺคํ ทเทยฺยํ. อนุวิสโฏติ อหํ จตสฺโส ทิสา จตสฺโส อนุทิสาติ สพฺพา ทิสา อตฺตโน คุเณน ปตฺถโฏ ปฺาโต ปากโฏ. โลเหนาติ อยมุฏฺิเกน. หฺฉตีติ หนิสฺสติ. ตุวํ ยุทฺธพโล อธมฺมาติ สเจ ตฺวํ ยุทฺธพโลสิ อธมฺม. วุฑฺฒา จ ครู จาติ ยทิ ตุยฺหํ ‘‘อิเม วุฑฺฒา, อิเม ครู ปณฺฑิตา’’ติ เอวํ นตฺถิ. ปิยาปฺปิเยนาติ ปิเยนาปิ อปฺปิเยนาปิ ททนฺโต ปิเยน วิย เต มคฺคํ ททามีติ อตฺโถ.
โพธิสตฺเตน ¶ ปน อิมาย คาถาย กถิตกฺขเณเยว อธมฺโม รเถ าตุํ อสกฺโกนฺโต อวํสิโร ปถวิยํ ปติตฺวา ปถวิยา วิวเร ทินฺเน คนฺตฺวา อวีจิมฺหิเยว นิพฺพตฺติ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ภควา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา เสสคาถา อภาสิ –
‘‘อิทฺจ สุตฺวา วจนํ อธมฺโม, อวํสิโร ปติโต อุทฺธปาโท;
ยุทฺธตฺถิโก เจ น ลภามิ ยุทฺธํ, เอตฺตาวตา โหติ หโต อธมฺโม.
‘‘ขนฺตีพโล ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา, หนฺตฺวา อธมฺมํ นิหนิตฺว ภูมฺยา;
ปายาสิ วิตฺโต อภิรุยฺห สนฺทนํ, มคฺเคเนว อติพโล สจฺจนิกฺกโม.
‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, อสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ เต;
ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร.
‘‘มาตา ปิตา สมณพฺราหฺมณา จ, สุสมฺมานิตา ยสฺส สเก อคาเร;
อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺติ เต;
ยถาปิ ธมฺโม อภิรุยฺห สนฺทน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ยุทฺธตฺถิโก เจติ อยํ ตสฺส วิลาโป, โส กิเรวํ วิลปนฺโตเยว ปติตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ ¶ . เอตฺตาวตาติ ภิกฺขเว, ยาวตา ปถวึ ปวิฏฺโ, ตาวตา อธมฺโม หโต นาม โหติ. ขนฺตีพโลติ ภิกฺขเว, เอวํ อธมฺโม ปถวึ ปวิฏฺโ อธิวาสนขนฺตีพโล ตํ ยุทฺธพลํ วิเชตฺวา วธิตฺวา ภูมิยํ นิหนิตฺวา ปาเตตฺวา วิตฺตชาตตาย วิตฺโต อตฺตโน รถํ อารุยฺห มคฺเคเนว สจฺจนิกฺกโม ตถปรกฺกโม ธมฺมเทวปุตฺโต ปายาสิ. อสมฺมานิตาติ อสกฺกตา. สรีรเทหนฺติ อิมสฺมึเยว โลเก สรีรสงฺขาตํ เทหํ นิกฺขิปิตฺวา. นิรยํ วชนฺตีติ ยสฺส ปาปปุคฺคลสฺส เอเต สกฺการารหา เคเห อสกฺกตา, ตถารูปา ยถา อธมฺโม ปติโต อวํสิโร, เอวํ อวํสิรา ¶ นิรยํ วชนฺตีติ อตฺโถ. สุคตึ วชนฺตีติ ยสฺส ปเนเต สกฺกตา, ตาทิสา ปณฺฑิตา ยถาปิ ธมฺโม สนฺทนํ อภิรุยฺห เทวโลกํ คโต, เอวํ สุคตึ วชนฺตีติ.
สตฺถา เอวํ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต มยา สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อธมฺโม เทวปุตฺโต เทวทตฺโต อโหสิ, ปริสาปิสฺส เทวทตฺตปริสา, ธมฺโม ปน อหเมว, ปริสา พุทฺธปริสาเยวา’’ติ.
ธมฺมเทวปุตฺตชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๕๘] ๔. อุทยชาตกวณฺณนา
เอกา นิสินฺนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ กสฺมา กิเลสวเสน เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา อุกฺกณฺิโตสิ? โปราณกปณฺฑิตา สมิทฺเธ ทฺวาทสโยชนิเก สุรุนฺธนนคเร รชฺชํ กาเรนฺตา เทวจฺฉรปฏิภาคาย อิตฺถิยา สทฺธึ สตฺต วสฺสสตานิ เอกคพฺเภ วสนฺตาปิ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โลภวเสน น โอโลเกสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ กาสิรฏฺเ สุรุนฺธนนคเร กาสิราชา รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺส เนว ปุตฺโต, น ธีตา อโหสิ. โส อตฺตโน เทวิโย ‘‘ปุตฺเต ปตฺเถถา’’ติ อาห. อคฺคมเหสีปิ รฺโ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ตทา โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. อถสฺส มหาชนสฺส หทยํ วฑฺเฒตฺวา ชาตภาเวน ‘‘อุทยภทฺโท’’ติ ¶ นามํ กรึสุ. กุมารสฺส ปทสา จรณกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺเสว รฺโ อฺตราย เทวิยา กุจฺฉิมฺหิ กุมาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺสาปิ ‘‘อุทยภทฺทา’’ติ นามํ กรึสุ. กุมาโร วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺปนิปฺผตฺตึ ปาปุณิ ¶ , ชาตพฺรหฺมจารี ปน อโหสิ, สุปินนฺเตนปิ เมถุนธมฺมํ น ชานาติ, น ตสฺส กิเลเสสุ จิตฺตํ อลฺลียิ. ราชา ปุตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุกาโม ‘‘กุมารสฺส อิทานิ รชฺชสุขเสวนกาโล, นาฏกาปิสฺส ปจฺจุปฏฺาเปสฺสามี’’ติ สาสนํ เปเสสิ. โพธิสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, กิเลเสสุ เม จิตฺตํ น อลฺลียตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน รตฺตชมฺพุนทมยํ อิตฺถิรูปํ กาเรตฺวา ‘‘เอวรูปํ อิตฺถึ ลภมาโน รชฺชํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามี’’ติ มาตาปิตูนํ เปเสสิ. เต ตํ สุวณฺณรูปกํ สกลชมฺพุทีปํ ปริหาราเปตฺวา ตถารูปํ อิตฺถึ อลภนฺตา อุทยภทฺทํ อลงฺกาเรตฺวา ตสฺส สนฺติเก เปสุํ. สา ตํ สุวณฺณรูปกํ อภิภวิตฺวา อฏฺาสิ. อถ เนสํ อนิจฺฉมานานฺเว เวมาติกํ ภคินึ อุทยภทฺทกุมารึ อคฺคมเหสึ กตฺวา โพธิสตฺตํ รชฺเช อภิสิฺจึสุ. เต ปน ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสเมว วสึสุ.
อปรภาเค มาตาปิตูนํ อจฺจเยน โพธิสตฺโต รชฺชํ กาเรสิ. อุโภ เอกคพฺเภ วสมานาปิ โลภวเสน อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา อฺมฺํ น โอโลเกสุํ, อปิจ โข ปน ‘‘โย อมฺเหสุ ปมตรํ กาลํ กโรติ, โส นิพฺพตฺตฏฺานโต อาคนฺตฺวา ‘อสุกฏฺาเน นิพฺพตฺโตสฺมี’ติ อาโรเจตู’’ติ สงฺครมกํสุ. อถ โข โพธิสตฺโต อภิเสกโต สตฺตวสฺสสตจฺจเยน กาลมกาสิ. อฺโ ราชา นาโหสิ, อุทยภทฺทายเยว อาณา ปวตฺติ. อมจฺจา รชฺชํ อนุสาสึสุ. โพธิสตฺโตปิ จุติกฺขเณ ตาวตึสภวเน สกฺกตฺตํ ปตฺวา ยสมหนฺตตาย สตฺตาหํ อนุสฺสริตุํ นาสกฺขิ. อิติ โส มนุสฺสคณนาย สตฺตวสฺสสตจฺจเยน อาวชฺเชตฺวา ‘‘อุทยภทฺทํ ราชธีตรํ ธเนน วีมํสิตฺวา สีหนาทํ นทาเปตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา สงฺครํ โมเจตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. ตทา ¶ กิร มนุสฺสานํ ทสวสฺสสหสฺสายุกกาโล โหติ. ราชธีตาปิ ตํ ทิวสํ รตฺติภาเค ปิหิเตสุ ทฺวาเรสุ ปิตอารกฺเข สตฺตภูมิกปาสาทวรตเล อลงฺกตสิริคพฺเภ เอกิกาว นิจฺจลา อตฺตโน ¶ สีลํ อาวชฺชมานา นิสีทิ. อถ สกฺโก สุวณฺณมาสกปูรํ เอกํ สุวณฺณปาตึ อาทาย อาคนฺตฺวา สยนคพฺเภเยว ปาตุภวิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘เอกา นิสินฺนา สุจิ สฺตูรู, ปาสาทมารุยฺห อนินฺทิตงฺคี;
ยาจามิ ตํ กินฺนรเนตฺตจกฺขุ, อิเมกรตฺตึ อุภโย วเสมา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุจีติ สุจิวตฺถนิวตฺถา. สฺตูรูติ สุฏฺุ ปิตอูรู, อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา สุจิวตฺถา เอกิกาว นิสินฺนาสีติ วุตฺตํ โหติ. อนินฺทิตงฺคีติ ปาทนฺตโต ยาว เกสคฺคา อนินฺทิตสรีรา ปรมโสภคฺคปฺปตฺตสรีรา. กินฺนรเนตฺตจกฺขูติ ตีหิ มณฺฑเลหิ ปฺจหิ จ ปสาเทหิ อุปโสภิตตฺตา กินฺนรานํ เนตฺตสทิเสหิ จกฺขูหิ สมนฺนาคเต. อิเมกรตฺตินฺติ อิมํ เอกรตฺตํ อชฺช อิมสฺมึ อลงฺกตสยนคพฺเภ เอกโต วเสยฺยามาติ ยาจติ.
ตโต ราชธีตา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โอกิณฺณนฺตรปริขํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;
รกฺขิตํ ขคฺคหตฺเถหิ, ทุปฺปเวสมิทํ ปุรํ.
‘‘ทหรสฺส ยุวิโน จาปิ, อาคโม จ น วิชฺชติ;
อถ เกน นุ วณฺเณน, สงฺคมํ อิจฺฉเส มยา’’ติ.
ตตฺถ โอกิณฺณนฺตรปริขนฺติ อิทํ ทฺวาทสโยชนิกํ สุรุนฺธนปุรํ อนฺตรนฺตรา อุทกปริขานํ กทฺทมปริขานํ สุกฺขปริขานํ โอกิณฺณตฺตา โอกิณฺณนฺตรปริขํ. ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกนฺติ ถิรตเรหิ อฏฺฏาลเกหิ ทฺวารโกฏฺเกหิ จ สมนฺนาคตํ. ขคฺคหตฺเถหีติ อาวุธหตฺเถหิ ทสหิ โยธสหสฺเสหิ รกฺขิตํ. ทุปฺปเวสมิทํ ปุรนฺติ อิทํ สกลปุรมฺปิ ตสฺส อนฺโต มาปิตํ มยฺหํ นิวาสปุรมฺปิ อุภยํ กสฺสจิ ปวิสิตุํ น สกฺกา. อาคโม จาติ อิธ อิมาย ¶ เวลาย ตรุณสฺส วา โยพฺพนปฺปตฺตสฺส วา ถามสมฺปนฺนโยธสฺส วา อฺสฺส วา มหนฺตมฺปิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตสฺส อาคโม นาม นตฺถิ. สงฺคมนฺติ อถ ตฺวํ เกน การเณน อิมาย เวลาย มยา สห สมาคมํ อิจฺฉสีติ.
อถ สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ยกฺโขหมสฺมิ ¶ กลฺยาณิ, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;
ตฺวํ มํ นนฺทย ภทฺทนฺเต, ปุณฺณกํสํ ททามิ เต’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – กลฺยาณิ, สุนฺทรทสฺสเน อหเมโก เทวปุตฺโต เทวตานุภาเวน อิธาคโต, ตฺวํ อชฺช มํ นนฺทย โตเสหิ, อหํ เต อิมํ สุวณฺณมาสกปุณฺณํ สุวณฺณปาตึ ททามีติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชธีตา ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘เทวํว ยกฺขํ อถ วา มนุสฺสํ, น ปตฺถเย อุทยมติจฺจ อฺํ;
คจฺเฉว ตฺวํ ยกฺข มหานุภาว, มา จสฺสุ คนฺตฺวา ปุนราวชิตฺถา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อหํ เทวราช, เทวํ วา ยกฺขํ วา อุทยํ อติกฺกมิตฺวา อฺํ น ปตฺเถมิ, โส ตฺวํ คจฺเฉว, มา อิธ อฏฺาสิ, น เม ตยา อาภเตน ปณฺณากาเรน อตฺโถ, คนฺตฺวา จ มา อิมํ านํ ปุนราวชิตฺถาติ.
โส ตสฺสา สีหนาทํ สุตฺวา อฏฺตฺวา คตสทิโส หุตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต อฏฺาสิ. โส ปุนทิวเส ตาย เวลายเมว สุวณฺณมาสกปูรํ รชตปาตึ อาทาย ตาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘ยา สา รติ อุตฺตมา กามโภคินํ, ยํเหตุ สตฺตา วิสมํ จรนฺติ;
มา ตํ รตึ ชียิ ตุวํ สุจิมฺหิเต, ททามิ เต รูปิยํ กํสปูร’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – ภทฺเท, ราชธีเต ยา เอสา กามโภคิสตฺตานํ รตีสุ เมถุนกามรติ นาม อุตฺตมา รติ, ยสฺสา รติยา การณา สตฺตา กายทุจฺจริตาทิวิสมํ จรนฺติ, ตํ รตึ ตฺวํ ภทฺเท, สุจิมฺหิเต มนาปหสิเต มา ชียิ, อหมฺปิ อาคจฺฉนฺโต น ตุจฺฉหตฺโถ อาคโต, หิยฺโย สุวณฺณมาสกปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหรึ, อชฺช รูปิยปาตึ, อิมํ เต อหํ รูปิยปาตึ สุวณฺณปูรํ ททามีติ.
ราชธีตา จินฺเตสิ ‘‘อยํ กถาสลฺลาปํ ลภนฺโต ปุนปฺปุนํ อาคมิสฺสติ, น ทานิ เตน สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ. สา กิฺจิ น ¶ กเถสิ.
สกฺโก ตสฺสา อกถิตภาวํ ตฺวา ตตฺเถว อนฺตรหิโต หุตฺวา ปุนทิวเส ตายเมว เวลาย โลหปาตึ กหาปณปูรํ อาทาย ‘‘ภทฺเท, ตฺวํ มํ กามรติยา สนฺตปฺเปหิ, อิมํ เต กหาปณปูรํ โลหปาตึ ทสฺสามี’’ติ อาห. ตํ ทิสฺวา ราชธีตา สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘นารึ ¶ นโร นิชฺฌปยํ ธเนน, อุกฺกํสตี ยตฺถ กโรติ ฉนฺทํ;
วิปจฺจนีโก ตว เทวธมฺโม, ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – โภ ปุริส, ตฺวํ ชโฬ. นโร หิ นาม นารึ กิเลสรติการณา ธเนน นิชฺฌาเปนฺโต สฺาเปนฺโต ยตฺถ นาริยา ฉนฺทํ กโรติ, ตํ อุกฺกํสติ วณฺเณตฺวา โถเมตฺวา พหุตเรน ธเนน ปโลเภติ, ตุยฺหํ ปเนโส เทวสภาโว วิปจฺจนีโก, ตฺวฺหิ มยา ปจฺจกฺขโต โถกตเรน เอสิ, ปมทิวเส สุวณฺณปูรํ สุวณฺณปาตึ อาหริตฺวา, ทุติยทิวเส สุวณฺณปูรํ รูปิยปาตึ, ตติยทิวเส กหาปณปูรํ โลหปาตึ อาหรสีติ.
ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘ภทฺเท ราชกุมาริ, อหํ เฉกวาณิโช น นิรตฺถเกน อตฺถํ นาเสมิ, สเจ ตฺวํ อายุนา วา วณฺเณน วา วฑฺเฒยฺยาสิ, อหํ เต ปณฺณาการํ วฑฺเฒตฺวา อาหเรยฺยํ, ตฺวํ ปน ปริหายเสว, เตนาหมฺปิ ธนํ ปริหาเปมี’’ติ วตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อายุ ¶ จ วณฺโณ จ มนุสฺสโลเก, นิหียติ มนุชานํ สุคตฺเต;
เตเนว วณฺเณน ธนมฺปิ ตุยฺหํ, นิหียติ ชิณฺณตราสิ อชฺช.
‘‘เอวํ เม เปกฺขมานสฺส, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;
หายเตว ตว วณฺโณ, อโหรตฺตานมจฺจเย.
‘‘อิมินาว ตฺวํ วยสา, ราชปุตฺติ สุเมธเส;
พฺรหฺมจริยํ จเรยฺยาสิ, ภิยฺโย วณฺณวตี สิยา’’ติ.
ตตฺถ นิหียตีติ ปริสฺสาวเน อาสิตฺตอุทกํ วิย ปริหายติ. มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ สตฺตา ชีวิเตน วณฺเณน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ทิเน ทิเน ปริหายนฺเตว. ชิณฺณตราสีติ ¶ มม ปมํ อาคตทิวเส ปวตฺตฺหิ เต อายุ หิยฺโย ทิวสํ น ปาปุณิ, กุาริยา ฉินฺนํ วิย ตตฺเถว นิรุชฺฌิ, หิยฺโย ปวตฺตมฺปิ อชฺชทิวสํ น ปาปุณิ, หิยฺโยว กุาริยา ฉินฺนํ วิย นิรุชฺฌิ, ตสฺมา อชฺช ชิณฺณตราสิ ชาตา. เอวํ เมติ ติฏฺตุ หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ, อชฺเชว ปน มยฺหํ เอวํ เปกฺขมานสฺเสว หายเตว ตว วณฺโณ. อโหรตฺตานมจฺจเยติ อิโต ปฏฺาย รตฺตินฺทิเวสุ วีติวตฺเตสุ อโหรตฺตานํ อจฺจเยน อปณฺณตฺติกภาวเมว คมิสฺสสีติ ทสฺเสติ. อิมินาวาติ ตสฺมา ภทฺเท, สเจ ตฺวํ อิมินา วเยเนว อิมสฺมึ สุวณฺณวณฺเณ สรีเร รชาย ¶ อวิลุตฺเตเยว เสฏฺจริยํ จเรยฺยาสิ, ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยาสิ. ภิยฺโย วณฺณวตี สิยาติ อติเรกตรวณฺณา ภเวยฺยาสีติ.
ตโต ราชธีตา อิตรํ คาถมาห –
‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;
ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กถํ นุ เทวาน สรีรเทโห’’ติ.
ตตฺถ ¶ สรีรเทโหติ สรีรสงฺขาโต เทโห, เทวานํ สรีรํ กถํ น ชีรติ, อิทํ อหํ ตํ ปุจฺฉามีติ วทติ.
อถสฺสา กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –
‘‘เทวา น ชีรนฺติ ยถา มนุสฺสา, คตฺเตสุ เตสํ วลิโย น โหนฺติ;
สุเว สุเว ภิยฺยตโรว เตสํ, ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา’’ติ.
ตตฺถ ยถา มนุสฺสาติ ยถา มนุสฺสา ชีรนฺตา รูเปน วณฺเณน โภเคน จกฺขุปสาทาทีหิ จ ชีรนฺติ, น เอวํ เทวา. เตสฺหิ คตฺเตสุ วลิโยปิ น สนฺติ, มฏฺกฺจนปฏฺฏมิว สรีรํ โหติ. สุเว สุเวติ ทิวเส ทิวเส. ภิยฺยตโรวาติ อติเรกตโรว เตสํ ทิพฺโพ จ วณฺโณ วิปุลา จ โภคา โหนฺติ, มนุสฺเสสุ หิ รูปปริหานิ จิรชาตภาวสฺส สกฺขิ, เทเวสุ อติเรกรูปสมฺปตฺติ จ อติเรกปริวารสมฺปตฺติ จ. เอวํ อปริหานธมฺโม นาเมส เทวโลโก ¶ . ตสฺมา ตฺวํ ชรํ อปฺปตฺวาว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพช, เอวํ ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา จวิตฺวา อปริหานิยสภาวํ เอวรูปํ เทวโลกํ คมิสฺสสีติ.
สา เทวโลกสฺส วณฺณํ สุตฺวา ตสฺส คมนมคฺคํ ปุจฺฉนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘กึสูธ ภีตา ชนตา อเนกา, มคฺโค จ เนกายตนํ ปวุตฺโต;
ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.
ตตฺถ กึสูธ ภีตาติ เทวราช, อยํ ขตฺติยาทิเภทา อเนกา ชนตา กึภีตา กสฺส ภเยน ¶ ปริหานิยสภาวา มนุสฺสโลกา เทวโลกํ น คจฺฉตีติ ปุจฺฉติ. มคฺโคติ เทวโลกคามิมคฺโค. อิธ ปน ‘‘กิ’’นฺติ อาหริตฺวา ‘‘โก’’ติ ปุจฺฉา กาตพฺพา. อยฺเหตฺถ อตฺโถ ‘‘อเนกติตฺถายตนวเสน ปณฺฑิเตหิ ปวุตฺโต เทวโลกมคฺโค โก กตโร’’ติ วุตฺโต. กตฺถฏฺิโตติ ปรโลกํ คจฺฉนฺโต กตรสฺมึ มคฺเค ิโต น ภายตีติ.
อถสฺสา ¶ กเถนฺโต สกฺโก อิตรํ คาถมาห –
‘‘วาจํ มนฺจ ปณิธาย สมฺมา, กาเยน ปาปานิ อกุพฺพมาโน;
พหุนฺนปานํ ฆรมาวสนฺโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;
สงฺคาหโก สขิโล สณฺหวาโจ, เอตฺถฏฺิโต ปรโลกํ น ภาเย’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท, อุทเย วาจํ มนฺจ สมฺมา เปตฺวา กาเยน ปาปานิ อกโรนฺโต อิเม ทส กุสลกมฺมปเถ สมาทาย วตฺตนฺโต พหุอนฺนปาเน ปหูตเทยฺยธมฺเม ฆเร วสนฺโต ‘‘ทานสฺส วิปาโก อตฺถี’’ติ สทฺธาย สมนฺนาคโต มุทุจิตฺโต ทานสํวิภาคตาย สํวิภาคี ปพฺพชิตา ภิกฺขาย จรมานา วทนฺติ นาม, เตสํ ปจฺจยทาเนน ตสฺส วาทสฺส ชานนโต วทฺู จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคหตาย สงฺคาหโก ปิยวาทิตาย สขิโล มฏฺวจนตาย สณฺหวาโจ เอตฺถ เอตฺตเก คุณราสิมฺหิ ิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต น ภายตีติ.
ตโต ¶ ราชธีตา ตํ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ถุตึ กโรนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘อนุสาสสิ มํ ยกฺข, ยถา มาตา ยถา ปิตา;
อุฬารวณฺณ ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ สุพฺรหา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ยถา มาตาปิตโร ปุตฺตเก อนุสาสนฺติ, ตถา มํ อนุสาสสิ. อุฬารวณฺณ โสภคฺคปฺปตฺตรูปทารก โก นุ อสิ ตฺวํ เอวํ อจฺจุคฺคตสรีโรติ.
ตโต โพธิสตฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘อุทโยหมสฺมิ กลฺยาณิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺครา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ ¶ – กลฺยาณทสฺสเน อหํ ปุริมภเว ตว สามิโก อุทโย นาม ตาวตึสภวเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺโต, อิธาคจฺฉนฺโต น กิเลสวเสนาคโต, ตํ วีมํสิตฺวา ปน สงฺครํ โมเจสฺสามีติ สงฺครตฺตา ปุพฺเพ สงฺครสฺส กตตฺตา อาคโตสฺมิ, อิทานิ ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามิ, มุตฺโตสฺมิ ตว สงฺคราติ.
ราชธีตา อสฺสสิตฺวา ‘‘สามิ, ตฺวํ อุทยภทฺทราชา’’ติ อสฺสุธารา ปวตฺตยมานา ‘‘อหํ ตุมฺเหหิ วินา วสิตุํ น สกฺโกมิ, ยถา ตุมฺหากํ สนฺติเก วสามิ, ตถา มํ อนุสาสถา’’ติ วตฺวา อิตรํ คาถํ อภาสิ –
‘‘สเจ โข ตฺวํ อุทโยสิ, สงฺครตฺตา อิธาคโต;
อนุสาส มํ ราชปุตฺต, ยถาสฺส ปุน สงฺคโม’’ติ.
อถ นํ อนุสาสนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อติปตติ วโย ขโณ ตเถว, านํ นตฺถิ ธุวํ จวนฺติ สตฺตา;
ปริชียติ อทฺธุวํ สรีรํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘กสิณา ปถวี ธนสฺส ปูรา, เอกสฺเสว สิยา อนฺเธยฺยา;
ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโค, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘มาตา ¶ จ ปิตา จ ภาตโร จ, ภริยา ยาปิ ธเนน โหติ กีตา;
เต จาปิ ชหนฺติ อฺมฺํ, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺมํ.
‘‘กาโย ¶ ปรโภชนนฺติ ตฺวา, สํสาเร สุคติฺจ ทุคฺคติฺจ;
อิตฺตรวาโสติ ชานิยาน, อุทเย มา ปมาท จรสฺสุ ธมฺม’’นฺติ.
ตตฺถ อติปตตีติ อติวิย ปตติ, สีฆํ อติกฺกมติ. วโยติ ปมวยาทิติวิโธปิ วโย. ขโณ ตเถวาติ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคกฺขโณปิ ตเถว อติปตติ. อุภเยนปิ ภินฺโน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร นาม สีฆโสตา นที วิย อนิวตฺตนฺโต สีฆํ อติกฺกมตีติ ทสฺเสติ. านํ นตฺถีติ ‘‘อุปฺปนฺนา สงฺขารา อภิชฺชิตฺวา ติฏฺนฺตู’’ติ ปตฺถนายปิ ¶ เตสํ านํ นาม นตฺถิ, ธุวํ เอกํเสเนว พุทฺธํ ภควนฺตํ อาทึ กตฺวา สพฺเพปิ สตฺตา จวนฺติ, ‘‘ธุวํ มรณํ, อทฺธุวํ ชีวิต’’นฺติ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวหีติ ทีเปติ. ปริชียตีติ อิทํ สุวณฺณวณฺณมฺปิ สรีรํ ชีรเตว, เอวํ ชานาหิ. มา ปมาทนฺติ ตสฺมา ตฺวํ อุทยภทฺเท มา ปมาทํ อาปชฺชิ, อปฺปมตฺตา หุตฺวา ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ จราหีติ.
กสิณาติ สกลา. เอกสฺเสวาติ ยทิ เอกสฺเสว รฺโ, ตสฺมึ เอกสฺมึเยว อนฺาธีนา อสฺส. ตํ จาปิ ชหติ อวีตราโคติ ตณฺหาวสิโก ปุคฺคโล เอตฺตเกนปิ ยเสน อติตฺโต มรณกาเล อวีตราโคว ตํ วิชหติ. เอวํ ตณฺหาย อปูรณียภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ. เต จาปีติ มาตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต มาตรํ, ปิตา ปุตฺตํ, ปุตฺโต ปิตรํ, ภาตา ภคินึ, ภคินี ภาตรํ, ภริยา สามิกํ, สามิโก ภริยนฺติ เอเต อฺมฺํ ชหนฺติ, นานา โหนฺติ. เอวํ สตฺตานํ นานาภาววินาภาวํ ชานาหีติ ทีเปติ.
ปรโภชนนฺติ วิวิธานํ กากาทีนํ ปรสตฺตานํ โภชนํ. อิตฺตรวาโสติ ยา เอสา อิมสฺมึ สํสาเร มนุสฺสภูตา สุคฺคติ จ ติรจฺฉานภูตา ทุคฺคติ จ, เอตํ อุภยมฺปิ ‘‘อิตฺตรวาโส’’ติ ชานิตฺวา มา ปมาทํ, จรสฺสุ ธมฺมํ. อิเมสํ สตฺตานํ นานาานโต อาคนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน สมาคโม ปริตฺโต, อิเม สตฺตา อปฺปกสฺมึเยว กาเล เอกโต วสนฺติ, ตสฺมา อปฺปมตฺตา โหหีติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต ตสฺสา โอวาทมทาสิ. สาปิ ตสฺส ธมฺมกถาย ปสีทิตฺวา ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘สาธุ ¶ ภาสติยํ ยกฺโข, อปฺปํ มจฺจาน ชีวิตํ;
กสิรฺจ ปริตฺตฺจ, ตฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ;
สาหํ เอกา ปพฺพชิสฺสามิ, หิตฺวา กาสึ สุรุนฺธน’’นฺติ.
ตตฺถ สาธูติ ‘‘อปฺปํ มจฺจาน ชีวิต’’นฺติ ภาสมาโน อยํ เทวราชา สาธุ ภาสติ. กึการณา? อิทฺหิ กสิรฺจ ทุกฺขํ อสฺสาทรหิตํ, ปริตฺตฺจ น พหุกํ อิตฺตรกาลํ. สเจ หิ กสิรมฺปิ สมานํ ทีฆกาลํ ปวตฺเตยฺย, ปริตฺตกมฺปิ สมานํ สุขํ ภเวยฺย, อิทํ ปน กสิรฺเจว ปริตฺตฺจ สกเลน วฏฺฏทุกฺเขน สํยุตํ สนฺนิหิตํ. สาหนฺติ สา อหํ. สุรุนฺธนนฺติ สุรุนฺธนนครฺจ กาสิรฏฺฺจ ฉฑฺเฑตฺวา เอกิกาว ปพฺพชิสฺสามีติ อาห.
โพธิสตฺโต ¶ ตสฺสา โอวาทํ ทตฺวา สกฏฺานเมว คโต. สาปิ ปุนทิวเส อมจฺเจ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา อนฺโตนคเรเยว รมณีเย อุยฺยาเน อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จริตฺวา อายุปริโยสาเน ตาวตึสภวเน โพธิสตฺตสฺส ปาทปริจาริกา หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ราชธีตา ราหุลมาตา อโหสิ, สกฺโก ปน อหเมว อโหสินฺติ.
อุทยชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๕๙] ๕. ปานียชาตกวณฺณนา
มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต กิเลสนิคฺคหํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ สมเย สาวตฺถิวาสิโน ปฺจสตา คิหิสหายกา ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนา อนฺโตโกฏิสนฺถาเร วสนฺตา อฑฺฒรตฺตสมเย กามวิตกฺกํ วิตกฺเกสุํ. สพฺพํ ¶ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภควโต อาณตฺติยา ปนายสฺมตา อานนฺเทน ภิกฺขุสงฺเฆ สนฺนิปาติเต สตฺถา ปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา อโนทิสฺสกํ กตฺวา ‘‘กามวิตกฺกํ วิตกฺกยิตฺถา’’ติ อวตฺวา สพฺพสงฺคาหิกวเสเนว ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, ภิกฺขุนา นาม อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา กิเลสา นิคฺคเหตพฺพา, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ กิเลเส นิคฺคเหตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ ปตฺตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต กาสิรฏฺเ เอกสฺมึ คามเก ทฺเว สหายกา ปานียตุมฺพานิ อาทาย เขตฺตํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ เปตฺวา เขตฺตํ โกฏฺเฏตฺวา ปิปาสิตกาเล อาคนฺตฺวา ปานียํ ปิวนฺติ. เตสุ เอโก ปานียตฺถาย อาคนฺตฺวา อตฺตโน ปานียํ รกฺขนฺโต อิตรสฺส ตุมฺพโต ปิวิตฺวา สายํ อรฺา นิกฺขมิตฺวา นฺหายิตฺวา ิโต ‘‘อตฺถิ นุ โข เม กายทฺวาราทีหิ อชฺช กิฺจิ ปาปํ กต’’นฺติ อุปธาเรนฺโต เถเนตฺวา ปานียสฺส ปิวิตภาวํ ทิสฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อยํ ตณฺหา วฑฺฒมานา มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ ปานียสฺส เถเนตฺวา ปิวิตภาวํ อารมฺมณํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปฏิลทฺธคุณํ อาวชฺเชนฺโต อฏฺาสิ. อถ นํ อิตโร นฺหายิตฺวา อุฏฺิโต ‘‘เอหิ, สมฺม, ฆรํ คจฺฉามา’’ติ อาห. ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, มม ฆเรน กิจฺจํ นตฺถิ, ปจฺเจกพุทฺธา ¶ นาม มย’’นฺติ. ‘‘ปจฺเจกพุทฺธา นาม ตุมฺหาทิสา น โหนฺตี’’ติ. ‘‘อถ กีทิสา ปจฺเจกพุทฺธา โหนฺตี’’ติ? ‘‘ทฺวงฺคุลเกสา กาสายวตฺถวสนา อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร วสนฺตี’’ติ. โส สีสํ ปรามสิ, ตํ ขณฺเวสฺส คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, สุรตฺตทุปฏฺฏํ นิวตฺถเมว, วิชฺชุลตาสทิสํ กายพนฺธนํ พทฺธเมว, อลตฺตกปาฏลวณฺณํ อุตฺตราสงฺคจีวรํ เอกํสํ กตเมว, เมฆวณฺณํ ปํสุกูลจีวรํ ทกฺขิณอํสกูเฏ ปิตเมว, ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วามอํสกูเฏ ลคฺคิโตว อโหสิ. โส อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภาเรเยว โอตริ.
อปโรปิ กาสิคาเมเยว กุฏุมฺพิโก อาปเณ นิสินฺโน เอกํ ปุริสํ อตฺตโน ภริยํ อาทาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ อินฺทฺริยานิ ภินฺทิตฺวา โอโลเกตฺวา ปุน จินฺเตสิ ‘‘อยํ โลโภ วฑฺฒมาโน มํ ¶ อปาเยสุ ขิปิสฺสตี’’ติ สํวิคฺคมานโส วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว ¶ คโต.
อปเรปิ กาสิคามวาสิโนเยว ทฺเว ปิตาปุตฺตา เอกโต มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ. อฏวีมุเข ปน โจรา อุฏฺิตา โหนฺติ. เต ปิตาปุตฺเต ลภิตฺวา ปุตฺตํ คเหตฺวา ‘‘ธนํ อาหริตฺวา ตว ปุตฺตํ คณฺหา’’ติ ปิตรํ วิสฺสชฺเชนฺติ, ทฺเว ภาตโร ลภิตฺวา กนิฏฺํ คเหตฺวา เชฏฺํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อาจริยนฺเตวาสิเก ลภิตฺวา อาจริยํ คเหตฺวา อนฺเตวาสิกํ วิสฺสชฺเชนฺติ, อนฺเตวาสิโก สิปฺปโลเภน ธนํ อาหริตฺวา อาจริยํ คณฺหิตฺวา คจฺฉติ. อถ เต ปิตาปุตฺตาปิ ตตฺถ โจรานํ อุฏฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ตฺวํ มํ ‘ปิตา’ติ มา วท, อหมฺปิ ตํ ‘ปุตฺโต’ติ น วกฺขามี’’ติ กติกํ กตฺวา โจเรหิ คหิตกาเล ‘‘ตุมฺเห อฺมฺํ กึ โหถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘น กิฺจิ โหมา’’ติ สมฺปชานมุสาวาทํ กรึสุ. เตสุ อฏวิโต นิกฺขมิตฺวา สายํ นฺหายิตฺวา ิเตสุ ปุตฺโต อตฺตโน สีลํ โสเธนฺโต ตํ มุสาวาทํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ ปาปํ วฑฺฒมานํ มํ อปาเยสุ ขิปิสฺสติ, อิมํ กิเลสํ นิคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปโรปิ กาสิคาเมเยว ปน เอโก คามโภชโก มาฆาตํ การาเปสิ. อถ นํ พลิกมฺมกาเล มหาชโน สนฺนิปติตฺวา อาห ‘‘สามิ, มยํ มิคสูกราทโย มาเรตฺวา ยกฺขานํ พลิกมฺมํ กริสฺสาม, พลิกมฺมกาโล เอโส’’ติ. ตุมฺหากํ ปุพฺเพ กรณนิยาเมเนว กโรถาติ มนุสฺสา พหุํ ปาณาติปาตมกํสุ. โส พหุํ มจฺฉมํสํ ทิสฺวา ‘‘อิเม มนุสฺสา เอตฺตเก ปาเณ มาเรนฺตา มเมเวกสฺส วจเนน มารยึสู’’ติ กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ ¶ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา อากาเส ิโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปโรปิ กาสิรฏฺเเยว คามโภชโก มชฺชวิกฺกยํ วาเรตฺวา ‘‘สามิ, ปุพฺเพ อิมสฺมึ กาเล สุราฉโณ นาม โหติ, กึ กโรมา’’ติ มหาชเนน วุตฺโต ‘‘ตุมฺหากํ โปราณกนิยาเมเนว กโรถา’’ติ ¶ ¶ อาห. มนุสฺสา ฉณํ กตฺวา สุรํ ปิวิตฺวา กลหํ กโรนฺตา หตฺถปาเท ภฺชิตฺวา สีสํ ภินฺทิตฺวา กณฺเณ ฉินฺทิตฺวา พหุทณฺเฑน พชฺฌึสุ. คามโภชโก เต ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยิ อนนุชานนฺเต อิเม อิมํ ทุกฺขํ น วินฺเทยฺยุ’’นฺติ. โส เอตฺตเกน กุกฺกุจฺจํ กตฺวา วาตปานํ นิสฺสาย ิตโกว วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ นิพฺพตฺเตตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารเมว คโต.
อปรภาเค เต ปฺจ ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขาจารตฺถาย พาราณสิทฺวาเร โอตริตฺวา สุนิวตฺถา สุปารุตา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย จรนฺตา ราชทฺวารํ สมฺปาปุณึสุ. ราชา เต ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺโต ราชนิเวสนํ ปเวเสตฺวา ปาเท โธวิตฺวา คนฺธเตเลน มกฺเขตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปมวเย ปพฺพชฺชา โสภติ, อิมสฺมึ วเย ปพฺพชนฺตา กถํ กาเมสุ อาทีนวํ ปสฺสิตฺถ, กึ โว อารมฺมณํ อโหสี’’ติ ปุจฺฉิ. เต ตสฺส กเถนฺตา –
‘‘มิตฺโต มิตฺตสฺส ปานียํ, อทินฺนํ ปริภฺุชิสํ;
เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปรทารฺจ ทิสฺวาน, ฉนฺโท เม อุทปชฺชถ;
เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปิตรํ เม มหาราช, โจรา อคณฺหุ กานเน;
เตสาหํ ปุจฺฉิโต ชานํ, อฺถา นํ วิยากรึ.
‘‘เตน ¶ ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘ปาณาติปาตมกรุํ, โสมยาเค อุปฏฺิเต;
เตสาหํ สมนฺุาสึ.
‘‘เตน ¶ ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อหํ.
‘‘สุราเมรยมาธุกา, เย ชนา ปมาสุ โน;
พหูนํ เต อนตฺถาย, มชฺชปานมกปฺปยุํ;
เตสาหํ ¶ สมนฺุาสึ.
‘‘เตน ปจฺฉา วิชิคุจฺฉึ, ตํ ปาปํ ปกตํ มยา;
มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตสฺมา ปพฺพชิโต อห’’นฺติ. –
อิมา ปฏิปาฏิยา ปฺจ คาถา อภาสึสุ. ราชาปิ เอกเมกสฺส พฺยากรณํ สุตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ ปพฺพชฺชา ตุมฺหากํ เยวานุจฺฉวิกา’’ติ ถุติมกาสิ.
ตตฺถ มิตฺโต มิตฺตสฺสาติ มหาราช, อหํ เอกสฺส มิตฺโต หุตฺวา ตสฺส มิตฺตสฺส สนฺตกํ ปานียํ อิมินา นิยาเมเนว ปริภฺุชึ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุถุชฺชนา นาม ปาปกมฺมํ กโรนฺติ, ตสฺมา อหํ มา ปุน อกรํ ปาปํ, ตํ ปาปํ อารมฺมณํ กตฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ. ฉนฺโทติ มหาราช, อิมินาว นิยาเมน มม ปรทารํ ทิสฺวา กาเม ฉนฺโท อุปฺปชฺชิ. อคณฺหูติ อคณฺหึสุ. ชานนฺติ เตสํ โจรานํ ‘‘อยํ กึ เต โหตี’’ติ ปุจฺฉิโต ชานนฺโตเยว ‘‘น กิฺจิ โหตี’’ติ อฺถา พฺยากาสึ. โสมยาเคติ นวจนฺเท อุฏฺิเต โสมยาคํ นาม ยกฺขพลึ กรึสุ, ตสฺมึ อุปฏฺิเต. สมนฺุาสินฺติ สมนฺุโ อาสึ. สุราเมรยมาธุกาติ ปิฏฺสุราทิสุรฺจ ปุปฺผาสวาทิเมรยฺจ ปกฺกมธุ วิย มธุรํ มฺมานา. เย ชนา ปมาสุ โนติ เย โน คาเม ชนา ปมํ เอวรูปา อาสุํ อเหสุํ. พหูนํ เตติ เต เอกทิวสํ เอกสฺมึ ฉเณ ปตฺเต พหูนํ อนตฺถาย มชฺชปานํ อกปฺปยึสุ.
ราชา ¶ เตสํ ธมฺมํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต จีวรสาฏเก จ เภสชฺชานิ จ ทตฺวา ปจฺเจกพุทฺเธ อุยฺโยเชสิ. เตปิ ตสฺส อนุโมทนํ กตฺวา ตตฺเถว อคมํสุ. ตโต ปฏฺาย ราชา วตฺถุกาเมสุ วิรตฺโต อนเปกฺโข หุตฺวา ¶ นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา อิตฺถิโย อนาลปิตฺวา อโนโลเกตฺวา วิรตฺตจิตฺโต อุฏฺาย สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา นิสินฺโน เสตภิตฺติยํ กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตสิ. โส ฌานปฺปตฺโต กาเม ครหนฺโต –
‘‘ธิรตฺถุ สุพหู กาเม, ทุคฺคนฺเธ พหุกณฺฏเก;
เย อหํ ปฏิเสวนฺโต, นาลภึ ตาทิสํ สุข’’นฺติ. – คาถมาห;
ตตฺถ พหุกณฺฏเกติ พหู ปจฺจามิตฺเต. เย อหนฺติ โย อหํ, อยเมว วา ปาโ. ตาทิสนฺติ เอตาทิสํ กิเลสรหิตํ ฌานสุขํ.
อถสฺส ¶ อคฺคมเหสี ‘‘อยํ ราชา ปจฺเจกพุทฺธานํ ธมฺมกถํ สุตฺวา อุกฺกณฺิตรูโป อโหสิ, อมฺเหหิ สทฺธึ อกเถตฺวาว สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา สิริคพฺภทฺวาเร ิตา รฺโ กาเมสุ ครหนฺตสฺส อุทานํ สุตฺวา ‘‘มหาราช, ตฺวํ กาเม ครหสิ, กามสุขสทิสํ นาม สุขํ นตฺถี’’ติ กาเม วณฺเณนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘มหสฺสาทา สุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ สุขํ;
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, สคฺคํ เต อุปปชฺชเร’’ติ.
ตตฺถ มหสฺสาทาติ มหาราช, เอเต กามา นาม มหาอสฺสาทา, อิโต อุตฺตรึ อฺํ สุขํ นตฺถิ. กามเสวิโน หิ อปาเย อนุปคมฺม สคฺเค นิพฺพตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ตสฺสา ‘‘นสฺส วสลิ, กึ กเถสิ, กาเมสุ สุขํ นาม กุโต อตฺถิ, วิปริณามทุกฺขา เอเต’’ติ ครหนฺโต เสสคาถา อภาสิ –
‘‘อปฺปสฺสาทา ทุขา กามา, นตฺถิ กามา ปรํ ทุขํ;
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ, นิรยํ เต อุปปชฺชเร.
‘‘อสี ¶ ยถา สุนิสิโต, เนตฺตึโสว สุปายิโก;
สตฺตีว อุรสิ ขิตฺตา, กามา ทุกฺขตรา ตโต.
‘‘องฺคารานํว ¶ ชลิตํ, กาสุํ สาธิกโปริสํ;
ผาลํว ทิวสํตตฺตํ, กามา ทุกฺขตรา ตโต.
‘‘วิสํ ยถา หลาหลํ, เตลํ ปกฺกุถิตํ ยถา;
ตมฺพโลหวิลีนํว, กามา ทุกฺขตรา ตโต’’ติ.
ตตฺถ เนตฺตึโสติ นิกฺกรุโณ, อิทมฺปิ เอกสฺส ขคฺคสฺส นามํ. ทุกฺขตราติ เอวํ ชลิตงฺคารกาสุํ วา ทิวสํ ตตฺตํ ผาลํ วา ปฏิจฺจ ยํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตโตปิ กามาเยว ทุกฺขตราติ อตฺโถ. อนนฺตรคาถาย ยถา เอตานิ วิสาทีนิ ทุกฺขาวหนโต ทุกฺขานิ, เอวํ กามาปิ ทุกฺขา, ตํ ปน กามทุกฺขํ อิตเรหิ ทุกฺเขหิ ทุกฺขตรนฺติ อตฺโถ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต เทวิยา ธมฺมํ เทเสตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘โภนฺโต อมจฺจา, ตุมฺเห รชฺชํ ปฏิปชฺชถ, อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา มหาชนสฺส โรทนฺตสฺส ปริเทวนฺตสฺส อุฏฺาย อากาเส ตฺวา โอวาทํ ทตฺวา อนิลปเถเนว อุตฺตรหิมวนฺตํ คนฺตฺวา รมณีเย ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อายุปริโยสาเน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขเว, กิเลโส ขุทฺทโก นาม นตฺถิ, อปฺปมตฺตโกปิ ปณฺฑิเตหิ นิคฺคหิตพฺโพเยวา’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. ตทา ปจฺเจกพุทฺธา ปรินิพฺพายึสุ, เทวี ราหุลมาตา อโหสิ, ราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ปานียชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๖๐] ๖. ยุธฺจยชาตกวณฺณนา
มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหนฺติ ¶ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ‘‘อาวุโส, สเจ ทสพโล อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, สกลจกฺกวาฬคพฺเภ จกฺกวตฺติราชา อภวิสฺส สตฺตรตนสมนฺนาคโต จตุริทฺธีหิ สมิทฺโธ ปโรสหสฺสปุตฺตปริวาโร ¶ , โส เอวรูปํ สิริวิภวํ ปหาย กาเมสุ โทสํ ทิสฺวา อฑฺฒรตฺตสมเย ฉนฺนสหาโยว กณฺฏกมารุยฺห นิกฺขมิตฺวา อโนมนทีตีเร ปพฺพชิตฺวา ฉพฺพสฺสานิ ทุกฺกรการิกํ กตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ ปตฺโต’’ติ สตฺถุ คุณกถํ กถยึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, ปุพฺเพปิ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ ปหาย นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต รมฺมนคเร สพฺพทตฺโต นาม ราชา อโหสิ. อยฺหิ พาราณสี อุทยชาตเก (ชา. ๑.๑๑.๓๗ อาทโย) สุรุนฺธนนครํ นาม ชาตา, จูฬสุตโสมชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๙๕ อาทโย) สุทสฺสนํ นาม, โสณนนฺทชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๙๒ อาทโย) พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม, ขณฺฑหาลชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๙๘๒ อาทโย) ปุปฺผวตี ¶ นาม, สงฺขพฺราหฺมณชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๓๙ อาทโย) โมฬินี นาม, อิมสฺมึ ปน ยุธฺจยชาตเก รมฺมนครํ นาม อโหสิ. เอวมสฺสา กทาจิ นามํ ปริวตฺตติ. ตตฺถ สพฺพทตฺตรฺโ ปุตฺตสหสฺสํ อโหสิ. ยุธฺจยสฺส นาม เชฏฺปุตฺตสฺส อุปรชฺชํ อทาสิ. โส ทิวเส ทิวเส มหาทานํ ปวตฺเตสิ. เอวํ คจฺฉนฺเต กาเล โพธิสตฺโต เอกทิวสํ ปาโตว รถวรมารุยฺห มหนฺเตน สิริวิภเวน อุยฺยานกีฬํ คจฺฉนฺโต รุกฺขคฺคติณคฺคสาขคฺคมกฺกฏกสุตฺตชาลาทีสุ มุตฺตาชาลากาเรน ลคฺคิตอุสฺสวพินฺทูนิ ทิสฺวา ‘‘สมฺม สารถิ, กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอเต เทว, หิมสมเย ปตนกอุสฺสวพินฺทูนิ นามา’’ติ สุตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา สายนฺหกาเล ปจฺจาคจฺฉนฺโต เต อทิสฺวาว ‘‘สมฺม สารถิ, กหํ นุ โข เอเต อุสฺสวพินฺทู, น เต อิทานิ ปสฺสามี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, เต สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต สพฺเพว ภิชฺชิตฺวา ปถวิยํ ปตนฺตี’’ติ สุตฺวา สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขาราปิ ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุสทิสาว, มยา พฺยาธิชรามรเณหิ อปีฬิเตเยว มาตาปิตโร อาปุจฺฉิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุสฺสวพินฺทุเมว อารมฺมณํ กตฺวา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสนฺโต อตฺตโน เคหํ อคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตาย วินิจฺฉยสาลาย นิสินฺนสฺส ปิตุ สนฺติกํเยว คนฺตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปพฺพชฺชํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘มิตฺตามจฺจปริพฺยูฬฺหํ ¶ ¶ , อหํ วนฺเท รเถสภํ;
ปพฺพชิสฺสามหํ ราช, ตํ เทโว อนุมฺตู’’ติ.
ตตฺถ ปริพฺยูฬฺหนฺติ ปริวาริตํ. ตํ เทโวติ ตํ มม ปพฺพชฺชํ เทโว อนุชานาตูติ อตฺโถ.
อถ นํ ราชา นิวาเรนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘สเจ เต อูนํ กาเมหิ, อหํ ปริปูรยามิ เต;
โย ตํ หึ สติ วาเรมิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตํ ¶ สุตฺวา กุมาโร ตติยํ คาถมาห –
‘‘น มตฺถิ อูนํ กาเมหิ, หึสิตา เม น วิชฺชติ;
ทีปฺจ กาตุมิจฺฉามิ, ยํ ชรา นาภิกีรตี’’ติ.
ตตฺถ ทีปฺจาติ ตาต เนว มยฺหํ กาเมหิ อูนํ อตฺถิ, น มํ หึสนฺโต โกจิ วิชฺชติ, อหํ ปน ปรโลกคมนาย อตฺตโน ปติฏฺํ กาตุมิจฺฉามิ. กีทิสํ? ยํ ชรา นาภิกีรติ น วิทฺธํเสติ, ตมหํ กาตุมิจฺฉามิ, อมตมหานิพฺพานํ คเวสิสฺสามิ, น เม กาเมหิ อตฺโถ, อนุชานาถ มํ, มหาราชาติ วทติ.
อิติ ปุนปฺปุนํ กุมาโร ปพฺพชฺชํ ยาจิ, ราชา ‘‘มา ปพฺพชา’’ติ วาเรติ. ตมตฺถมาวิกโรนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒํ คาถมาห –
‘‘ปุตฺโต วา ปิตรํ ยาเจ, ปิตา วา ปุตฺตโมรส’’นฺติ.
ตตฺถ วา-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุตฺโต จ ปิตรํ ยาจติ, ปิตา จ โอรสํ ปุตฺตํ ยาจตี’’ติ.
เสสํ อุปฑฺฒคาถํ ราชา อาห –
‘‘เนคโม ¶ ตํ ยาเจ ตาต, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อยํ เต ตาต นิคมวาสิมหาชโน ยาจติ, นครชโนปิ มา ตฺวํ ปพฺพชาติ.
กุมาโร ปุนปิ ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘มา ¶ มํ เทว นิวาเรหิ, ปพฺพชนฺตํ รเถสภ;
มาหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต, ชราย วสมนฺวคู’’ติ.
ตตฺถ วสมนฺวคูติ มา อหํ กาเมหิ สมฺมตฺโต ปมตฺโต ชราย วสคามี นาม โหมิ, วฏฺฏทุกฺขํ ปน เขเปตฺวา ยถา จ สพฺพฺุตฺาณปฺปฏิวิชฺฌนโก โหมิ,. ตถา มํ โอโลเกหีติ อธิปฺปาโย.
เอวํ วุตฺเต ราชา อปฺปฏิภาโณ อโหสิ. มาตา ปนสฺส ‘‘ปุตฺโต เต, เทวิ, ปิตรํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตี’’ติ สุตฺวา ‘‘กึ ตุมฺเห กเถถา’’ติ นิรสฺสาเสน มุเขน สุวณฺณสิวิกาย นิสีทิตฺวา สีฆํ วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ยาจมานา ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘อหํ ตํ ตาต ยาจามิ, อหํ ปุตฺต นิวารเย;
จิรํ ตํ ทฏฺุมิจฺฉามิ, มา ปพฺพช ยุธฺจยา’’ติ.
ตํ ¶ สุตฺวา กุมาโร สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘อุสฺสาโวว ติณคฺคมฺหิ, สูริยุคฺคมนํ ปติ;
เอวมายุ มนุสฺสานํ, มา มํ อมฺม นิวารยา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – อมฺม, ยถา ติณคฺเค อุสฺสวพินฺทุ สูริยสฺส อุคฺคมนํ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ, ปถวิยํ ปตติ, เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตํ ปริตฺตํ ตาวกาลิกํ อจิรฏฺิติกํ, เอวรูเป โลกสนฺนิวาเส กถํ ตฺวํ จิรํ มํ ปสฺสสิ, มา มํ นิวาเรหีติ.
เอวํ ¶ วุตฺเตปิ สา ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. ตโต มหาสตฺโต ปิตรํ อามนฺเตตฺวา อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘ตรมาโน อิมํ ยานํ, อาโรเปตุ รเถสภ;
มา เม มาตา ตรนฺตสฺส, อนฺตรายกรา อหู’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – ตาต รเถสภ, อิมํ มม มาตรํ ตรมาโน ปุริโส สุวณฺณสิวิกายานํ อาโรเปตุ, มา เม ชาติชราพฺยาธิมรณกนฺตารํ ตรนฺตสฺส อติกฺกมนฺตสฺส มาตา อนฺตรายกรา อหูติ.
ราชา ¶ ปุตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉ, ภทฺเท, ตว สิวิกาย นิสีทิตฺวา รติวฑฺฒนปาสาทํ อภิรุหา’’ติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี นารีคณปริวุตา คนฺตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘กา นุ โข ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ วินิจฺฉยฏฺานํ โอโลเกนฺตี อฏฺาสิ. โพธิสตฺโต มาตุ คตกาเล ปุน ปิตรํ ยาจิ. ราชา ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เตน หิ ตาต, ตว มนํ มตฺถกํ ปาเปหิ, ปพฺพชาหี’’ติ อนุชานิ. รฺโ อนฺุาตกาเล โพธิสตฺตสฺส กนิฏฺโ ยุธิฏฺิลกุมาโร นาม ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตาต, มยฺหํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาถา’’ติ อนุชานาเปสิ. อุโภปิ ภาตโร ปิตรํ วนฺทิตฺวา กาเม ปหาย มหาชนปริวุตา วินิจฺฉยโต นิกฺขมึสุ. เทวีปิ มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘มม ปุตฺเต ปพฺพชิเต รมฺมนครํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสตี’’ติ ปริเทวมานา คาถาทฺวยมาห –
‘‘อภิธาวถ ภทฺทนฺเต, สฺุํ เหสฺสติ รมฺมกํ;
ยุธฺจโย อนฺุาโต, สพฺพทตฺเตน ราชินา.
‘‘โยหุ ¶ เสฏฺโ สหสฺสสฺส, ยุวา กฺจนสนฺนิโภ;
โสยํ กุมาโร ปพฺพชิโต, กาสายวสโน พลี’’ติ.
ตตฺถ อภิธาวถาติ ปริวาเรตฺวา ิตา นาริโย สพฺพา เวเคน ธาวถาติ อาณาเปติ. ภทฺทนฺเตติ เอวํ คนฺตฺวา ‘‘ภทฺทํ ตว โหตู’’ติ วทถ. รมฺมกนฺติ รมฺมนครํ สนฺธายาห. โยหุ เสฏฺโติ โย รฺโ ปุตฺโต สหสฺสสฺส เสฏฺโ อโหสิ, โส ปพฺพชิโตติ ปพฺพชฺชาย คจฺฉนฺตํ สนฺธาเยวมาห.
โพธิสตฺโตปิ ¶ น ตาว ปพฺพชติ. โส หิ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา กนิฏฺํ ยุธิฏฺิลกุมารํ คเหตฺวา นครา นิกฺขมฺม มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อุโภปิ ภาตโร หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา มโนรเม าเน อสฺสมปทํ กริตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาทีหิ ยาวชีวํ ยาเปตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ. ตมตฺถํ โอสาเน อภิสมฺพุทฺธคาถาย ทีเปติ –
‘‘อุโภ กุมารา ปพฺพชิตา, ยุธฺจโย ยุธิฏฺิโล;
ปหาย มาตาปิตโร, สงฺคํ เฉตฺวาน มจฺจุโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ มจฺจุโนติ มารสฺส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภิกฺขเว, ยุธฺจโย จ ยุธิฏฺิโล จ เต อุโภปิ กุมารา มาตาปิตโร ปหาย มารสฺส สนฺตกํ ราคโทสโมหสงฺคํ ฉินฺทิตฺวา ปพฺพชิตาติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, ยุธิฏฺิลกุมาโร อานนฺโท, ยุธฺจโย ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ยุธฺจยชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๖๑] ๗. ทสรถชาตกวณฺณนา
เอถ ลกฺขณ สีตา จาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ มตปิติกํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ ปิตริ กาลกเต โสกาภิภูโต สพฺพกิจฺจานิ ปหาย โสกานุวตฺตโกว อโหสิ. สตฺถา ปจฺจูสสมเย โลกํ โอโลเกนฺโต ตสฺส โสตาปตฺติผลูปนิสฺสยํ ทิสฺวา ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา เอกํ ปจฺฉาสมณํ ¶ คเหตฺวา ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ มธุรวจเนน อาลปนฺโต ‘‘กึ โสจสิ อุปาสกา’’ติ วตฺวา ‘‘อาม, ภนฺเต, ปิตุโสโก มํ พาธตี’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก, โปราณกปณฺฑิตา อฏฺวิเธ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺตา ปิตริ กาลกเต อปฺปมตฺตกมฺปิ โสกํ น กรึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ ทสรถมหาราชา นาม อคติคมนํ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส ¶ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา อคฺคมเหสี ทฺเว ปุตฺเต เอกฺจ ธีตรํ วิชายิ. เชฏฺปุตฺโต รามปณฺฑิโต นาม อโหสิ, ทุติโย ลกฺขณกุมาโร นาม, ธีตา สีตา เทวี นาม. อปรภาเค มเหสี กาลมกาสิ. ราชา ตสฺสา กาลกตาย จิรตรํ โสกวสํ คนฺตฺวา อมจฺเจหิ สฺาปิโต ตสฺสา กตฺตพฺพปริหารํ ¶ กตฺวา อฺํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา รฺโ ปิยา อโหสิ มนาปา. สาปิ อปรภาเค คพฺภํ คณฺหิตฺวา ลทฺธคพฺภปริหารา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘ภรตกุมาโร’’ติสฺส นามํ อกํสุ. ราชา ปุตฺตสิเนเหน ‘‘ภทฺเท, วรํ เต ทมฺมิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. สา คหิตกํ กตฺวา เปตฺวา กุมารสฺส สตฺตฏฺวสฺสกาเล ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, ตุมฺเหหิ มยฺหํ ปุตฺตสฺส วโร ทินฺโน, อิทานิสฺส วรํ เทถา’’ติ อาห. คณฺห, ภทฺเทติ. ‘‘เทว, ปุตฺตสฺส เม รชฺชํ เทถา’’ติ วุตฺเต ราชา อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘นสฺส, วสลิ, มยฺหํ ทฺเว ปุตฺตา อคฺคิกฺขนฺธา วิย ชลนฺติ, เต มาราเปตฺวา ตว ปุตฺตสฺส รชฺชํ ยาจสี’’ติ ตชฺเชสิ. สา ภีตา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฺเสุปิ ทิวเสสุ ราชานํ ปุนปฺปุนํ รชฺชเมว ยาจิ.
ราชา ตสฺสา ตํ วรํ อทตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘มาตุคาโม นาม อกตฺู มิตฺตทุพฺภี, อยํ เม กูฏปณฺณํ วา กูฏลฺชํ วา กตฺวา ปุตฺเต ฆาตาเปยฺยา’’ติ. โส ปุตฺเต ปกฺโกสาเปตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตาตา, ตุมฺหากํ อิธ วสนฺตานํ อนฺตราโยปิ ภเวยฺย, ตุมฺเห สามนฺตรชฺชํ วา อรฺํ วา คนฺตฺวา มม มรณกาเล อาคนฺตฺวา กุลสนฺตกํ รชฺชํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา ปุน เนมิตฺตเก พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา อตฺตโน อายุปริจฺเฉทํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อฺานิ ทฺวาทส วสฺสานิ ¶ ปวตฺติสฺสตี’’ติ สุตฺวา ‘‘ตาตา, อิโต ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตา ปาสาทา โอตรึสุ. สีตา เทวี ‘‘อหมฺปิ ภาติเกหิ สทฺธึ คมิสฺสามี’’ติ ปิตรํ วนฺทิตฺวา โรทนฺตี นิกฺขมิ. ตโยปิ ชนา มหาปริวารา นิกฺขมิตฺวา มหาชนํ นิวตฺเตตฺวา อนุปุพฺเพน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา สมฺปนฺโนทเก สุลภผลาผเล ปเทเส อสฺสมํ มาเปตฺวา ผลาผเลน ยาเปนฺตา วสึสุ.
ลกฺขณปณฺฑิโต จ สีตา จ รามปณฺฑิตํ ยาจิตฺวา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ ปิตุฏฺาเน ิตา, ตสฺมา อสฺสเมเยว โหถ, มยํ ผลาผลํ อาหริตฺวา ตุมฺเห โปเสสฺสามา’’ติ ปฏิฺํ คณฺหึสุ. ตโต ปฏฺาย รามปณฺฑิโต ตตฺเถว โหติ. อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาหริตฺวา ตํ ปฏิชคฺคึสุ. เอวํ เตสํ ผลาผเลน ยาเปตฺวา วสนฺตานํ ทสรถมหาราชา ปุตฺตโสเกน นวเม สํวจฺฉเร กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตฺวา ¶ เทวี ‘‘อตฺตโน ปุตฺตสฺส ภรตกุมารสฺส ฉตฺตํ อุสฺสาเปถา’’ติ อาห. อมจฺจา ปน ‘‘ฉตฺตสฺสามิกา อรฺเ วสนฺตี’’ติ น อทํสุ. ภรตกุมาโร ¶ ‘‘มม ภาตรํ รามปณฺฑิตํ อรฺโต อาเนตฺวา ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามี’’ติ ปฺจราชกกุธภณฺฑานิ คเหตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ตสฺส วสนฏฺานํ ปตฺวา อวิทูเร ขนฺธาวารํ กตฺวา ตตฺถ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ ลกฺขณปณฺฑิตสฺส จ สีตาย จ อรฺํ คตกาเล อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อสฺสมปททฺวาเร ปิตกฺจนรูปกํ วิย รามปณฺฑิตํ นิราสงฺกํ สุขนิสินฺนํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต รฺโ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา สทฺธึ อมจฺเจหิ ปาเทสุ ปติตฺวา โรทติ. รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจิ, น ปริเทวิ, อินฺทฺริยวิการมตฺตมฺปิสฺส นาโหสิ. ภรตสฺส ปน โรทิตฺวา นิสินฺนกาเล สายนฺหสมเย อิตเร ทฺเว ผลาผลํ อาทาย อาคมึสุ. รามปณฺฑิโต จินฺเตสิ ‘‘อิเม ทหรา มยฺหํ วิย ปริคฺคณฺหนปฺา เอเตสํ นตฺถิ, สหสา ¶ ‘ปิตา โว มโต’ติ วุตฺเต โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตานํ หทยมฺปิ เตสํ ผเลยฺย, อุปาเยน เต อุทกํ โอตาเรตฺวา เอตํ ปวตฺตึ อาโรเจสฺสามี’’ติ. อถ เนสํ ปุรโต เอกํ อุทกฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ตุมฺเห อติจิเรน อาคตา, อิทํ โว ทณฺฑกมฺมํ โหตุ, อิมํ อุทกํ โอตริตฺวา ติฏฺถา’’ติ อุปฑฺฒคาถํ ตาว อาห –
‘‘เอถ ลกฺขณ สีตา จ, อุโภ โอตรโถทก’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ – เอถ ลกฺขณ สีตา จ อาคจฺฉถ, อุโภปิ โอตรถ อุทกนฺติ;
เต เอกวจเนเนว โอตริตฺวา อฏฺํสุ. อถ เนสํ ปิตุ ปวตฺตึ อาโรเจนฺโต เสสํ อุปฑฺฒคาถมาห –
‘‘เอวายํ ภรโต อาห, ราชา ทสรโถ มโต’’ติ.
เต ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว วิสฺา อเหสุํ. ปุนปิ เนสํ กเถสิ, ปุนปิ เต วิสฺา อเหสุนฺติ เอวํ ยาวตติยํ วิสฺิตํ ปตฺเต เต อมจฺจา อุกฺขิปิตฺวา อุทกา นีหริตฺวา ถเล นิสีทาเปตฺวา ลทฺธสฺสาเสสุ เตสุ ¶ สพฺเพ อฺมฺํ โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา นิสีทึสุ. ตทา ภรตกุมาโร จินฺเตสิ – ‘‘มยฺหํ ภาตา ลกฺขณกุมาโร จ ภคินี จ สีตา เทวี ปิตุ มตสาสนํ สุตฺวาว โสกํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, รามปณฺฑิโต ปน เนว โสจติ, น ปริเทวติ, กึ นุ โข ตสฺส อโสจนการณํ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ตํ ปุจฺฉนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘เกน ¶ รามปฺปภาเวน, โสจิตพฺพํ น โสจสิ;
ปิตรํ กาลกตํ สุตฺวา, น ตํ ปสหเต ทุข’’นฺติ.
ตตฺถ ปภาเวนาติ อานุภาเวน. น ตํ ปสหเต ทุขนฺติ เอวรูปํ ทุกฺขํ เกน การเณน ตํ น ปีเฬติ, กึ เต อโสจนการณํ, กเถหิ ตาว นนฺติ.
อถสฺส รามปณฺฑิโต อตฺตโน อโสจนการณํ กเถนฺโต –
‘‘ยํ น สกฺกา นิปาเลตุํ, โปเสน ลปตํ พหุํ;
ส กิสฺส วิฺู เมธาวี, อตฺตานมุปตาปเย.
‘‘ทหรา ¶ จ หิ วุทฺธา จ, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;
อฑฺฒา เจว ทลิทฺทา จ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา.
‘‘ผลานมิว ปกฺกานํ, นิจฺจํ ปตนโต ภยํ;
เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
‘‘สายเมเก น ทิสฺสนฺติ, ปาโต ทิฏฺา พหุชฺชนา;
ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ, สายํ ทิฏฺา พหุชฺชนา.
‘‘ปริเทวยมาโน เจ, กิฺจิทตฺถํ อุทพฺพเห;
สมฺมูฬฺโห หึสมตฺตานํ, กยิรา ตํ วิจกฺขโณ.
‘‘กิโส วิวณฺโณ ภวติ, หึสมตฺตานมตฺตโน;
น เตน เปตา ปาเลนฺติ, นิรตฺถา ปริเทวนา.
‘‘ยถา สรณมาทิตฺตํ, วารินา ปรินิพฺพเย;
เอวมฺปิ ธีโร สุตวา, เมธาวี ปณฺฑิโต นโร;
ขิปฺปมุปฺปติตํ โสกํ, วาโต ตูลํว ธํสเย.
‘‘มจฺโจ ¶ ¶ เอโกว อจฺเจติ, เอโกว ชายเต กุเล;
สํโยคปรมาตฺเวว, สมฺโภคา สพฺพปาณินํ.
‘‘ตสฺมา หิ ธีรสฺส พหุสฺสุตสฺส, สมฺปสฺสโต โลกมิมํ ปรฺจ;
อฺาย ธมฺมํ หทยํ มนฺจ, โสกา มหนฺตาปิ น ตาปยนฺติ.
‘‘โสหํ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจ, ภริสฺสามิ จ าตเก;
เสสฺจ ปาลยิสฺสามิ, กิจฺจเมตํ วิชานโต’’ติ. –
อิมาหิ ทสหิ คาถาหิ อนิจฺจตํ ปกาเสติ.
ตตฺถ นิปาเลตุนฺติ รกฺขิตุํ. ลปตนฺติ ลปนฺตานํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ตาต ภรต, ยํ สตฺตานํ ชีวิตํ พหุมฺปิ วิลปนฺตานํ ปุริสานํ เอเกนาปิ มา อุจฺฉิชฺชีติ น สกฺกา รกฺขิตุํ, โส ทานิ มาทิโส อฏฺ โลกธมฺเม ตถโต ชานนฺโต วิฺู เมธาวี ปณฺฑิโต มรณปริโยสานชีวิเตสุ สตฺเตสุ กิสฺส อตฺตานมุปตาปเย, กึการณา อนุปกาเรน โสกทุกฺเขน อตฺตานํ สนฺตาเปยฺยา’’ติ.
ทหรา จาติ คาถา ‘‘มจฺจุ นาเมส ตาต ภรต, เนว ¶ สุวณฺณรูปกสทิสานํ ทหรานํ ขตฺติยกุมารกาทีนํ, น วุทฺธิปฺปตฺตานํ มหาโยธานํ, น พาลานํ ปุถุชฺชนสตฺตานํ, น พุทฺธาทีนํ ปณฺฑิตานํ, น จกฺกวตฺติอาทีนํ อิสฺสรานํ, น นิทฺธนานํ ทลิทฺทาทีนํ ลชฺชติ, สพฺเพปิเม สตฺตา มจฺจุปรายณา มรณมุเข สํภคฺควิภคฺคา ภวนฺติเยวา’’ติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตา.
นิจฺจํ ปตนโตติ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา หิ ตาต ภรต, ปกฺกานํ ผลานํ ปกฺกกาลโต ปฏฺาย ‘‘อิทานิ วณฺฏา ฉิชฺชิตฺวา ปติสฺสนฺติ, อิทานิ ปติสฺสนฺตี’’ติ ปตนโต ภยํ นิจฺจํ ธุวํ เอกํสิกเมว ภวติ, เอวํ อาสงฺกนียโต เอวํ ชาตานํ มจฺจานมฺปิ เอกํสิกํเยว มรณโต ภยํ, นตฺถิ โส ขโณ วา ลโย วา ยตฺถ เตสํ มรณํ น อาสงฺกิตพฺพํ ภเวยฺยาติ.
สายนฺติ ¶ วิกาเล. อิมินา รตฺติภาเค จ ทิฏฺานํ ทิวสภาเค อทสฺสนํ, ทิวสภาเค จ ทิฏฺานํ รตฺติภาเค อทสฺสนํ ทีเปติ. กิฺจิทตฺถนฺติ ‘‘ปิตา เม, ปุตฺโต เม’’ติอาทีหิ ปริเทวมาโนว โปโส สมฺมูฬฺโห อตฺตานํ หึสนฺโต กิลเมนฺโต อปฺปมตฺตกมฺปิ อตฺถํ อาหเรยฺย. กยิรา ¶ ตํ วิจกฺขโณติ อถ ปณฺฑิโต ปุริโส เอวํ ปริเทวํ กเรยฺย, ยสฺมา ปน ปริเทวนฺโต มตํ วา อาเนตุํ อฺํ วา ตสฺส วฑฺฒึ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา นิรตฺถกตฺตา ปริเทวิตสฺส ปณฺฑิตา น ปริเทวนฺติ.
อตฺตานมตฺตโนติ อตฺตโน อตฺตภาวํ โสกปริเทวทุกฺเขน หึสนฺโต. น เตนาติ เตน ปริเทเวน ปรโลกํ คตา สตฺตา น ปาเลนฺติ น ยาเปนฺติ. นิรตฺถาติ ตสฺมา เตสํ มตสตฺตานํ อยํ ปริเทวนา นิรตฺถกา. สรณนฺติ นิวาสเคหํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปณฺฑิโต ปุริโส อตฺตโน วสนาคาเร อาทิตฺเต มุหุตฺตมฺปิ โวสานํ อนาปชฺชิตฺวา ฆฏสเตน ฆฏสหสฺเสน วารินา นิพฺพาปยเตว, เอวํ ธีโร อุปฺปติตํ โสกํ ขิปฺปเมว นิพฺพาปเย. ตูลํ วิย จ วาโต ยถา สณฺาตุํ น สกฺโกติ, เอวํ ธํสเย วิทฺธํเสยฺยาติ อตฺโถ.
มจฺโจ เอโกว อจฺเจตีติ เอตฺถ ตาต ภรต, อิเม สตฺตา กมฺมสฺสกา นาม, ตถา หิ อิโต ปรโลกํ คจฺฉนฺโต สตฺโต เอโกว อจฺเจติ อติกฺกมติ, ขตฺติยาทิกุเล ชายมาโนปิ เอโกว คนฺตฺวา ชายติ. ตตฺถ ตตฺถ ปน าติมิตฺตสํโยเคน ‘‘อยํ เม ปิตา, อยํ เม มาตา, อยํ เม มิตฺโต’’ติ สํโยคปรมาตฺเวว สมฺโภคา สพฺพปาณีนํ, ปรมตฺเถน ปน ตีสุปิ ภเวสุ กมฺมสฺสกาเวเต สตฺตาติ อตฺโถ.
ตสฺมาติ ยสฺมา เอเตสํ สตฺตานํ าติมิตฺตสํโยคํ าติมิตฺตปริโภคมตฺตํ เปตฺวา อิโต ปรํ อฺํ นตฺถิ, ตสฺมา. สมฺปสฺสโตติ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ นานาภาววินาภาวเมว สมฺมา ปสฺสโต. อฺาย ธมฺมนฺติ อฏฺวิธโลกธมฺมํ ชานิตฺวา. หทยํ มนฺจาติ ¶ อิทํ อุภยมฺปิ จิตฺตสฺเสว นามํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ –
‘‘ลาโภ ¶ อลาโภ ยโส อยโส จ, นินฺทา ปสํสา จ สุขฺจ ทุกฺขํ;
เอเต อนิจฺจา มนุเชสุ ธมฺมา, มา โสจ กึ โสจสิ โปฏฺปาทา’’ติ. (ชา. ๑.๔.๑๑๔) –
อิเมสํ อฏฺนฺนํ โลกธมฺมานํ เยน เกนจิ จิตฺตํ ปริยาทียติ, ตสฺส จ อนิจฺจตํ ตฺวา ิตสฺส ธีรสฺส ปิตุปุตฺตมรณาทิวตฺถุกา มหนฺตาปิ โสกา หทยํ น ตาปยนฺตีติ. เอตํ วา อฏฺวิธํ โลกธมฺมํ ตฺวา ิตสฺส หทยวตฺถฺุจ มนฺจ มหนฺตาปิ โสกา น ตาปยนฺตีติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
โสหํ ¶ ทสฺสฺจ โภกฺขฺจาติ คาถาย – ตาต ภรต, อนฺธพาลานํ สตฺตานํ วิย มม โรทนปริเทวนํ นาม น อนุจฺฉวิกํ, อหํ ปน ปิตุ อจฺจเยน ตสฺส าเน ตฺวา กปณาทีนํ ทานารหานํ ทานํ, านนฺตรารหานํ านนฺตรํ, ยสารหานํ ยสํ ทสฺสามิ, ปิตรา เม ปริภุตฺตนเยน อิสฺสริยํ ปริภฺุชิสฺสามิ, าตเก จ โปเสสฺสามิ, อวเสสฺจ อนฺโตปริชนาทิกํ ชนํ ปาเลสฺสามิ, ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ธมฺมิกํ รกฺขาวรณคุตฺตึ กริสฺสามีติ เอวฺหิ ชานโต ปณฺฑิตปุริสสฺส อนุรูปํ กิจฺจนฺติ อตฺโถ.
ปริสา อิมํ รามปณฺฑิตสฺส อนิจฺจตาปกาสนํ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา นิสฺโสกา อเหสุํ. ตโต ภรตกุมาโร รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา ‘‘พาราณสิรชฺชํ สมฺปฏิจฺฉถา’’ติ อาห. ตาต ลกฺขณฺจ, สีตาเทวิฺจ คเหตฺวา คนฺตฺวา รชฺชํ อนุสาสถาติ. ตุมฺเห ปน, เทวาติ. ตาต, มม ปิตา ‘‘ทฺวาทสวสฺสจฺจเยน อาคนฺตฺวา รชฺชํ กาเรยฺยาสี’’ติ มํ อโวจ, อหํ อิทาเนว คจฺฉนฺโต ตสฺส วจนกโร นาม น โหมิ, อฺานิปิ ตีณิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา อาคมิสฺสามีติ. ‘‘เอตฺตกํ กาลํ โก รชฺชํ กาเรสฺสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเห กาเรถา’’ติ. ‘‘น มยํ กาเรสฺสามา’’ติ. ‘‘เตน หิ ยาว มมาคมนา อิมา ปาทุกา กาเรสฺสนฺตี’’ติ อตฺตโน ติณปาทุกา โอมฺุจิตฺวา อทาสิ. เต ตโยปิ ชนา ปาทุกา คเหตฺวา รามปณฺฑิตํ วนฺทิตฺวา มหาชนปริวุตา พาราณสึ อคมํสุ. ตีณิ สํวจฺฉรานิ ปาทุกา รชฺชํ กาเรสุํ. อมจฺจา ติณปาทุกา ราชปลฺลงฺเก เปตฺวา ¶ อฑฺฑํ วินิจฺฉินนฺติ. สเจ ทุพฺพินิจฺฉิโต โหติ, ปาทุกา อฺมฺํ ¶ ปฏิหฺนฺติ. ตาย สฺาย ปุน วินิจฺฉินนฺติ. สมฺมา วินิจฺฉิตกาเล ปาทุกา นิสฺสทฺทา สนฺนิสีทนฺติ. รามปณฺฑิโต ติณฺณํ สํวจฺฉรานํ อจฺจเยน อรฺา นิกฺขมิตฺวา พาราณสินครํ ปตฺวา อุยฺยานํ ปาวิสิ. ตสฺส อาคมนภาวํ ตฺวา กุมารา อมจฺจคณปริวุตา อุยฺยานํ คนฺตฺวา สีตํ อคฺคมเหสึ กตฺวา อุภินฺนมฺปิ อภิเสกํ อกํสุ. เอวํ อภิเสกปฺปตฺโต มหาสตฺโต อลงฺกตรเถ ตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นครํ ปวิสิตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา จนฺทกปาสาทวรสฺส มหาตลํ อภิรุหิ. ตโต ปฏฺาย โสฬส วสฺสสหสฺสานิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคปุรํ ปูเรสิ.
‘‘ทส วสฺสสหสฺสานิ, สฏฺิ วสฺสสตานิ จ;
กมฺพุคีโว มหาพาหุ, ราโม รชฺชมการยี’’ติ. –
อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา ตมตฺถํ ทีเปติ.
ตตฺถ ¶ กมฺพุคีโวติ สุวณฺณาฬิงฺคสทิสคีโว. สุวณฺณฺหิ กมฺพูติ วุจฺจติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา ทสรถมหาราชา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, มาตา มหามายาเทวี, สีตา ราหุลมาตา, ภรโต อานนฺโท, ลกฺขโณ สาริปุตฺโต, ปริสา พุทฺธปริสา, รามปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.
ทสรถชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๖๒] ๘. สํวรชาตกวณฺณนา
ชานนฺโต โน มหาราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ โอสฺสฏฺวีริยํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อาจริยุปชฺฌายวตฺตํ ปูเรนฺโต อุภยานิ ปาติโมกฺขานิ ปคุณานิ กตฺวา ปริปุณฺณปฺจวสฺโส ¶ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาปุจฺฉิตฺวา โกสลรฏฺเ เอกํ ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ตตฺถ อิริยาปเถ ปสนฺนมนุสฺเสหิ ¶ ปณฺณสาลํ กตฺวา อุปฏฺิยมาโน วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยฺุชนฺโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต อจฺจารทฺเธน วีริเยน เตมาสํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา โอภาสมตฺตมฺปิ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อทฺธา อหํ สตฺถารา เทสิเตสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ปทปรโม, กึ เม อรฺวาเสน, เชตวนํ คนฺตฺวา ตถาคตสฺส รูปสิรึ ปสฺสนฺโต มธุรธมฺมเทสนํ สุณนฺโต วีตินาเมสฺสามี’’ติ. โส วีริยํ โอสฺสชิตฺวา ตโต นิกฺขนฺโต อนุปุพฺเพน เชตวนํ คนฺตฺวา อาจริยุปชฺฌาเยหิ เจว สนฺทิฏฺสมฺภตฺเตหิ จ อาคมนการณํ ปุฏฺโ ตมตฺถํ กเถตฺวา เตหิ ‘‘กสฺมา เอวมกาสี’’ติ ครหิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ, ภนฺเต, วีริยํ โอสฺสชิตฺวา อาคโต’’ติ อาโรจิเต สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา ภิกฺขุ วีริยํ โอสฺสชิ, อิมสฺมิฺหิ สาสเน นิพฺพีริยสฺส กุสีตปุคฺคลสฺส อคฺคผลํ อรหตฺตํ นาม นตฺถิ, อารทฺธวีริยา อิมํ ธมฺมํ อาราเธนฺติ, ตฺวํ โข ปน ปุพฺเพ วีริยวา โอวาทกฺขโม, เตเนว การเณน พาราณสิรฺโ ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ หุตฺวาปิ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโตสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต สํวรกุมาโร นาม ปุตฺตสตสฺส สพฺพกนิฏฺโ อโหสิ. ราชา เอเกกํ ปุตฺตํ ‘‘สิกฺขิตพฺพยุตฺตกํ สิกฺขาเปถา’’ติ เอเกกสฺส อมจฺจสฺส อทาสิ. สํวรกุมารสฺส อาจริโย อมจฺโจ โพธิสตฺโต อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ราชปุตฺตสฺส ปิตุฏฺาเน ิโต. อมจฺจา สิกฺขิตสิปฺเป ราชปุตฺเต รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา เตสํ ชนปทํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. สํวรกุมาโร สพฺพสิปฺปสฺส นิปฺผตฺตึ ปตฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต, สเจ มํ ปิตา ชนปทํ เปเสติ, กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต, ตฺวํ ชนปเท ทียมาเน ตํ อคฺคเหตฺวา ‘เทว อหํ สพฺพกนิฏฺโ, มยิปิ คเต ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, อหํ ตุมฺหากํ ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ. อเถกทิวสํ ราชา สํวรกุมารํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺนํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ ตาต, สิปฺปํ เต นิฏฺิต’’นฺติ? ‘‘อาม, เทวา’’ติ. ‘‘ตุยฺหมฺปิ ชนปทํ เทมี’’ติ. ‘‘เทว ตุมฺหากํ ปาทมูลํ ¶ ตุจฺฉํ ภวิสฺสติ, ปาทมูเลเยว วสิสฺสามี’’ติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ ปาทมูเลเยว หุตฺวา ปุนปิ โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตาต อฺํ กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ตาต ราชานํ เอกํ ปุราณุยฺยานํ ยาจาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ อุยฺยานํ ยาจิตฺวา ตตฺถ ชาตเกหิ ปุปฺผผเลหิ นคเร อิสฺสรชนํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน ‘‘กึ กโรมี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตาต, ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา อนฺโตนคเร ภตฺตเวตนํ ตฺวเมว เทหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา อนฺโตนคเร กสฺสจิ กิฺจิ อหาเปตฺวา ภตฺตเวตนํ ทตฺวา ปุน โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา ราชานํ วิฺาเปตฺวา อนฺโตนิเวสเน ทาสโปริสานมฺปิ หตฺถีนมฺปิ อสฺสานมฺปิ พลกายสฺสปิ วตฺตํ อปริหาเปตฺวา อทาสิ, ติโรชนปเทหิ อาคตานํ ทูตาทีนํ นิวาสฏฺานาทีนิ วาณิชานํ สุงฺกนฺติ สพฺพกรณียานิ อตฺตนาว อกาสิ. เอวํ โส มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สพฺพํ อนฺโตชนฺจ พหิชนฺจ นาคเร จ รฏฺวาสิโน จ อาคนฺตุเก จ อายวตฺตเน จ เตน เตน สงฺคหวตฺถุนา อาพนฺธิตฺวา สงฺคณฺหิ, สพฺเพสํ ปิโย อโหสิ มนาโป.
อปรภาเค ราชานํ มรณมฺเจ นิปนฺนํ อมจฺจา ปุจฺฉึสุ ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อจฺจเยน เสตจฺฉตฺตํ กสฺส เทมา’’ติ? ‘‘ตาต, มม ปุตฺตา สพฺเพปิ เสตจฺฉตฺตสฺส สามิโนว. โย ปน ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺเสว เสตจฺฉตฺถํ ทเทยฺยาถา’’ติ. เต ตสฺมึ กาลกเต ตสฺส สรีรปริหารํ กตฺวา สตฺตเม ทิวเส สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฺา ‘โย ตุมฺหากํ มนํ คณฺหาติ, ตสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปยฺยาถา’ติ วุตฺตํ, อมฺหากฺจ อยํ สํวรกุมาโร มนํ คณฺหาตี’’ติ าตเกหิ ปริวาริตา ตสฺส กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยึสุ. สํวรมหาราชา โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. อิตเร เอกูนสตกุมารา ‘‘ปิตา กิร โน กาลกโต, สํวรกุมารสฺส กิร เสตจฺฉตฺตํ ¶ อุสฺสาเปสุํ, โส สพฺพกนิฏฺโ, ตสฺส ฉตฺตํ น ปาปุณาติ, สพฺพเชฏฺกสฺส ¶ ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสามา’’ติ เอกโต อาคนฺตฺวา ‘‘ฉตฺตํ วา โน เทตุ, ยุทฺธํ วา’’ติ สํวรมหาราชสฺส ปณฺณํ เปเสตฺวา นครํ อุปรุนฺธึสุ. ราชา โพธิสตฺตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. มหาราช, ตว ภาติเกหิ ¶ สทฺธึ ยุชฺฌนกิจฺจํ นตฺถิ, ตฺวํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ สตโกฏฺาเส กาเรตฺวา เอกูนสตํ ภาติกานํ เปเสตฺวา ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ โกฏฺาสํ ปิตุ สนฺตกํ คณฺหถ, นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’’ติ สาสนํ ปหิณาหีติ. โส ตถา อกาสิ. อถสฺส สพฺพเชฏฺภาติโก อุโปสถกุมาโร นาม เสเส อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาตา, ราชานํ นาม อภิภวิตุํ สมตฺถา นาม นตฺถิ, อยฺจ โน กนิฏฺภาติโก ปฏิสตฺตุปิ หุตฺวา น ติฏฺติ, อมฺหากํ ปิตุ สนฺตกํ ธนํ เปเสตฺวา ‘นาหํ ตุมฺเหหิ สทฺธึ ยุชฺฌามี’ติ เปเสสิ, น โข ปน มยํ สพฺเพปิ เอกกฺขเณ ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, เอกสฺเสว ฉตฺตํ อุสฺสาเปสฺสาม, อยเมว ราชา โหตุ, เอถ ตํ ปสฺสิตฺวา ราชกุฏุมฺพํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อมฺหากํ ชนปทเมว คจฺฉามา’’ติ อาห. อถ เต สพฺเพปิ กุมารา นครทฺวารํ วิวราเปตฺวา ปฏิสตฺตุโน อหุตฺวา นครํ ปวิสึสุ.
ราชาปิ เตสํ อมจฺเจหิ ปณฺณาการํ คาหาเปตฺวา ปฏิมคฺคํ เปเสติ. กุมารา นาติมหนฺเตน ปริวาเรน ปตฺติกาว อาคนฺตฺวา ราชนิเวสนํ อภิรุหิตฺวา สํวรมหาราชสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา นีจาสเน นิสีทึสุ. สํวรมหาราชา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สีหาสเน นิสีทิ, มหนฺโต ยโส มหนฺตํ สิริโสภคฺคํ อโหสิ, โอโลกิโตโลกิตฏฺานํ กมฺปิ. อุโปสถกุมาโร สํวรมหาราชสฺส สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิตา อตฺตโน อจฺจเยน สํวรกุมารสฺส ราชภาวํ ตฺวา มฺเ อมฺหากํ ชนปเท ทตฺวา อิมสฺส น อทาสี’’ติ จินฺเตตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ชานนฺโต ¶ โน มหาราช, ตว สีลํ ชนาธิโป;
อิเม กุมาเร ปูเชนฺโต, น ตํ เกนจิ มฺถ.
‘‘ติฏฺนฺเต โน มหาราเช, อทุ เทเว ทิวงฺคเต;
าตี ตํ สมนฺุึสุ, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน.
‘‘เกน สํวร วตฺเตน, สฺชาเต อภิติฏฺสิ;
เกน ตํ นาติวตฺตนฺติ, าติสงฺฆา สมาคตา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ชานนฺโต โนติ ชานนฺโต นุ. ชนาธิโปติ อมฺหากํ ปิตา นรินฺโท. อิเมติ อิเม เอกูนสเต กุมาเร. ปาฬิโปตฺถเกสุ ปน ‘‘อฺเ กุมาเร’’ติ ลิขิตํ. ปูเชนฺโตติ เตน เตน ชนปเทน มาเนนฺโต. น ตํ เกนจีติ ขุทฺทเกนาปิ เกนจิ ชนปเทน ตํ ปูเชตพฺพํ น มฺิตฺถ, ‘‘อยํ มม อจฺจเยน ราชา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา มฺเ อตฺตโน ปาทมูเลเยว วาเสสีติ. ติฏฺนฺเต โนติ ติฏฺนฺเต นุ, ธรมาเนเยว นูติ ปุจฺฉติ, อทุ เทเวติ อุทาหุ อมฺหากํ ปิตริ ทิวงฺคเต อตฺตโน อตฺถํ วุฑฺฒึ ปสฺสนฺตา สทฺธึ ราชการเกหิ เนคมชานปเทหิ าตโย ตํ ‘‘ราชา โหหี’’ติ สมนฺุึสุ. วตฺเตนาติ สีลาจาเรน. สฺชาเต อภิติฏฺสีติ สมานชาติเก เอกูนสตภาตโร อภิภวิตฺวา ติฏฺสิ. นาติวตฺตนฺตีติ น อภิภวนฺติ.
ตํ สุตฺวา สํวรมหาราชา อตฺตโน คุณํ กเถนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –
‘‘น ราชปุตฺต อุสูยามิ, สมณานํ มเหสินํ;
สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, ปาเท วนฺทามิ ตาทินํ.
‘‘เต มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ, สุสฺสูสมนุสูยกํ;
สมณา มนุสาสนฺติ, อิสี ธมฺมคุเณ รตา.
‘‘เตสาหํ วจนํ สุตฺวา, สมณานํ มเหสินํ;
น กิฺจิ อติมฺามิ, ธมฺเม เม นิรโต มโน.
‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;
เตสํ นปฺปฏิพนฺธามิ, นิวิฏฺํ ภตฺตเวตนํ.
‘‘มหามตฺตา จ เม อตฺถิ, มนฺติโน ปริจารกา;
พาราณสึ โวหรนฺติ, พหุมํสสุโรทนํ.
‘‘อโถปิ ¶ วาณิชา ผีตา, นานารฏฺเหิ อาคตา;
เตสุ เม วิหิตา รกฺขา, เอวํ ชานาหุโปสถา’’ติ.
ตตฺถ ¶ น ราชปุตฺตาติ อหํ ราชปุตฺต, กฺจิ สตฺตํ ‘‘อยํ สมฺปตฺติ อิมสฺส มา ¶ โหตู’’ติ น อุสูยามิ. ตาทินนฺติ ตาทิลกฺขณยุตฺตานํ สมิตปาปตาย สมณานํ มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ คุณานํ เอสิตตาย มเหสีนํ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ปฺจปติฏฺิเตน ปาเท วนฺทามิ, ทานํ ททนฺโต ธมฺมิกฺจ เนสํ รกฺขาวรณคุตฺตึ ปจฺจุปฏฺเปนฺโต สกฺกจฺจํ เต นมสฺสามิ, มเนน สมฺปิยายนฺโต จ ปูเชมีติ อตฺโถ. เต มนฺติ เต สมณา มํ ‘‘อยํ ธมฺมโกฏฺาเส ยุตฺตปยุตฺโต สุสฺสูสํ อนุสูยโก’’ติ ตถโต ตฺวา มํ ธมฺมคุเณ ยุตฺตํ สุสฺสูสํ อนุสูยกํ อนุสาสนฺติ, ‘‘อิทํ กร, อิทํ มา กรี’’ติ โอวทนฺตีติ อตฺโถ. เตสาหนฺติ เตสํ อหํ. หตฺถาโรหาติ หตฺถึ อารุยฺห ยุชฺฌนกา โยธา. อนีกฏฺาติ หตฺถานีกาทีสุ ิตา. รถิกาติ รถโยธา. ปตฺติการกาติ ปตฺติโนว. นิวิฏฺนฺติ ยํ เตหิ สชฺชิตํ ภตฺตฺจ เวตนฺจ, อหํ ตํ นปฺปฏิพนฺธามิ, อปริหาเปตฺวา ททามีติ อตฺโถ.
มหามตฺตาติ ภาติก, มยฺหํ มหาปฺา มนฺเตสุ กุสลา มหาอมจฺจา เจว อวเสสมนฺติโน จ ปริจารกา อตฺถิ. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ ‘‘ตุมฺเห มนฺตสมฺปนฺเน ปณฺฑิเต อาจริเย น ลภิตฺถ, อมฺหากํ ปน อาจริยา ปณฺฑิตา อุปายกุสลา, เต โน เสตจฺฉตฺเตน โยเชสุ’’นฺติ. พาราณสินฺติ ภาติก, มม ฉตฺตํ อุสฺสาปิตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อมฺหากํ ราชา ธมฺมิโก อนฺวทฺธมาสํ เทโว วสฺสติ, เตน สสฺสานิ สมฺปชฺชนฺติ, พาราณสิยํ พหุํ ขาทิตพฺพยุตฺตกํ มจฺฉมํสํ ปายิตพฺพยุตฺตกํ สุโรทกฺจ ชาต’’นฺติ เอวํ รฏฺวาสิโน พหุมํสสุโรทกํ กตฺวา พาราณสึ โวหรนฺติ. ผีตาติ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตรตนาทีนิ อาหริตฺวา นิรุปทฺทวา โวหารํ กโรนฺตา ผีตา สมิทฺธา. เอวํ ชานาหีติ ภาติก อุโปสถ อหํ อิเมหิ เอตฺตเกหิ การเณหิ สพฺพกนิฏฺโปิ หุตฺวา มม ภาติเก อภิภวิตฺวา เสตจฺฉตฺตํ ปตฺโต, เอวํ ชานาหีติ.
อถสฺส คุณํ สุตฺวา อุโปสถกุมาโร ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ธมฺเมน กิร าตีนํ, รชฺชํ กาเรหิ สํวร;
เมธาวี ปณฺฑิโต จาสิ, อโถปิ าตินํ หิโต.
‘‘ตํ ¶ ตํ าติปริพฺยูฬฺหํ, นานารตนโมจิตํ;
อมิตฺตา นปฺปสหนฺติ, อินฺทํว อสุราธิโป’’ติ.
ตตฺถ ¶ ธมฺเมน กิร าตีนนฺติ ตาต สํวร มหาราช, ธมฺเมน กิร ตฺวํ เอกูนสตานํ าตีนํ ¶ อตฺตโน เชฏฺภาติกานํ อานุภาวํ อภิภวสิ, อิโต ปฏฺาย ตฺวเมว รชฺชํ กาเรหิ, ตฺวเมว เมธาวี เจว ปณฺฑิโต จ าตีนฺจ หิโตติ อตฺโถ. ตํ ตนฺติ เอวํ วิวิธคุณสมฺปนฺนํ ตํ. าติปริพฺยูฬฺหนฺติ อมฺเหหิ เอกูนสเตหิ าตเกหิ ปริวาริตํ. นานารตนโมจิตนฺติ นานารตเนหิ โอจิตํ สฺจิตํ พหุรตนสฺจยํ. อสุราธิโปติ ยถา ตาวตึเสหิ ปริวาริตํ อินฺทํ อสุรราชา นปฺปสหติ, เอวํ อมฺเหหิ อารกฺขํ กโรนฺเตหิ ปริวาริตํ ตํ ติโยชนสติเก กาสิรฏฺเ ทฺวาทสโยชนิกาย พาราณสิยา รชฺชํ กาเรนฺตํ อมิตฺตา นปฺปสหนฺตีติ ทีเปติ.
สํวรมหาราชา สพฺเพสมฺปิ ภาติกานํ มหนฺตํ ยสํ อทาสิ. เต ตสฺส สนฺติเก มาสฑฺฒมาสํ วสิตฺวา ‘‘มหาราช ชนปเทสุ โจเรสุ อุฏฺหนฺเตสุ มยํ ชานิสฺสาม, ตฺวํ รชฺชสุขํ อนุภวา’’ติ วตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ คตา. ราชาปิ โพธิสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา อายุปริโยสาเน เทวนครํ ปูเรนฺโต อคมาสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘ภิกฺขุ เอวํ ตฺวํ ปุพฺเพ โอวาทกฺขโม, อิทานิ กสฺมา วีริยํ น อกาสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ.
ตทา สํวรมหาราชา อยํ ภิกฺขุ อโหสิ, อุโปสถกุมาโร สาริปุตฺโต, เสสภาติกา เถรานุเถรา, ปริสา พุทฺธปริสา, โอวาททายโก อมจฺโจ ปน อหเมว อโหสินฺติ.
สํวรชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๖๓] ๙. สุปฺปารกชาตกวณฺณนา
อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. เอกทิวสฺหิ สายนฺหสมเย ตถาคตสฺส ธมฺมํ เทเสตุํ นิกฺขมนํ อาคมยมานา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, อโห ¶ สตฺถา มหาปฺโ ปุถุปฺโ หาสปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ตตฺร ตตฺร อุปายปฺาย สมนฺนาคโต วิปุลาย ปถวีสมาย, มหาสมุทฺโท วิย คมฺภีราย, อากาโส วิย วิตฺถิณฺณาย, สกลชมฺพุทีปสฺมิฺหิ อุฏฺิตปฺโห ทสพลํ อติกฺกมิตฺวา คนฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ. ยถา มหาสมุทฺเท อุฏฺิตอูมิโย เวลํ นาติกฺกมนฺติ, เวลํ ปตฺวาว ภิชฺชนฺติ, เอวํ ¶ น โกจิ ปฺโห ทสพลํ อติกฺกมติ, สตฺถุ ปาทมูลํ ¶ ปตฺวา ภิชฺชเตวา’’ติ ทสพลสฺส มหาปฺาปารมึ วณฺเณสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ปฺวา, ปุพฺเพปิ อปริปกฺเก าเณ ปฺวาว, อนฺโธ หุตฺวาปิ มหาสมุทฺเท อุทกสฺาย ‘อิมสฺมึ อิมสฺมึ สมุทฺเท อิทํ นาม อิทํ นาม รตน’นฺติ อฺาสี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต กุรุรฏฺเ กุรุราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ, กุรุกจฺฉํ นาม ปฏฺฏนคาโม อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต กุรุกจฺเฉ นิยามกเชฏฺกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ ปาสาทิโก สุวณฺณวณฺโณ, ‘‘สุปฺปารกกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒนฺโต โสฬสวสฺสกาเลเยว นิยามกสิปฺเป นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน นิยามกเชฏฺโก หุตฺวา นิยามกกมฺมํ อกาสิ, ปณฺฑิโต าณสมฺปนฺโน อโหสิ. เตน อารุฬฺหนาวาย พฺยาปตฺติ นาม นตฺถิ. ตสฺส อปรภาเค โลณชลปหฏานิ ทฺเวปิ จกฺขูนิ นสฺสึสุ. โส ตโต ปฏฺาย นิยามกเชฏฺโก หุตฺวาปิ นิยามกกมฺมํ อกตฺวา ‘‘ราชานํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ ราชานํ อุปสงฺกมิ. อถ นํ ราชา อคฺฆาปนิยกมฺเม เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺโ หตฺถิรตนอสฺสรตนมุตฺตสารมณิสาราทีนิ อคฺฆาเปสิ.
อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลหตฺถี ภวิสฺสตี’’ติ กาฬปาสาณกูฏวณฺณํ เอกํ วารณํ อาเนสุํ. ตํ ทิสฺวา ราชา ‘‘ปณฺฑิตสฺส ทสฺเสถา’’ติ อาห. อถ นํ ตสฺส สนฺติกํ นยึสุ. โส หตฺเถน ตสฺส สรีรํ ปริมชฺชิตฺวา ‘‘นายํ มงฺคลหตฺถี ภวิตุํ อนุจฺฉวิโก, ปาเทหิ วามนธาตุโก เอส, เอตฺหิ มาตา วิชายมานา องฺเกน สมฺปฏิจฺฉิตุํ นาสกฺขิ, ตสฺมา ภูมิยํ ปติตฺวา ปจฺฉิมปาเทหิ วามนธาตุโก โหตี’’ติ ¶ อาห. หตฺถึ คเหตฺวา อาคเต ปุจฺฉึสุ. เต ‘‘สจฺจํ ปณฺฑิโต กเถตี’’ติ วทึสุ. ตํ การณํ ¶ ราชา สุตฺวา ตุฏฺโ ตสฺส อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ.
ปุเนกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลอสฺโส ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ อสฺสํ อานยึสุ. ตมฺปิ ราชา ปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ มงฺคลอสฺโส ภวิตุํ น ยุตฺโต, เอตสฺส หิ ชาตทิวเสเยว มาตา มริ, ตสฺมา มาตุ ขีรํ อลภนฺโต น สมฺมา วฑฺฒิโต’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ตมฺปิ สุตฺวา ราชา ตุสฺสิตฺวา อฏฺ กหาปเณ ทาเปสิ. อเถกทิวสํ ‘‘รฺโ มงฺคลรโถ ภวิสฺสตี’’ติ รถํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ราชา ตสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อยํ รโถ สุสิรรุกฺเขน กโต, ตสฺมา รฺโ นานุจฺฉวิโก’’ติ อาห. สาปิสฺส กถา สจฺจาว อโหสิ. ราชา ตมฺปิ สุตฺวา อฏฺเว ¶ กหาปเณ ทาเปสิ. อถสฺส มหคฺฆํ กมฺพลรตนํ อาหรึสุ. ตมฺปิ ตสฺเสว เปเสสิ. โส ตมฺปิ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิมสฺส มูสิกจฺฉินฺนํ เอกฏฺานํ อตฺถี’’ติ อาห. โสเธนฺตา ตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา สุตฺวา ตุสฺสิตฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ.
โส จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราชา เอวรูปานิปิ อจฺฉริยานิ ทิสฺวา อฏฺเว กหาปเณ ทาเปสิ, อิมสฺส ทาโย นฺหาปิตทาโย, นฺหาปิตชาติโก ภวิสฺสติ, กึ เม เอวรูเปน ราชุปฏฺาเนน, อตฺตโน วสนฏฺานเมว คมิสฺสามี’’ติ. โส กุรุกจฺฉปฏฺฏนเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ ตตฺถ วสนฺเต วาณิชา นาวํ สชฺเชตฺวา ‘‘กํ นิยามกํ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตสุํ. ‘‘สุปฺปารกปณฺฑิเตน อารุฬฺหนาวา น พฺยาปชฺชติ, เอส ปณฺฑิโต อุปายกุสโล, อนฺโธ สมาโนปิ สุปฺปารกปณฺฑิโตว อุตฺตโม’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘นิยามโก โน โหหี’’ติ วตฺวา ‘‘ตาตา, อหํ อนฺโธ, กถํ นิยามกกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต ‘‘สามิ, อนฺธาปิ ตุมฺเหเยว อมฺหากํ อุตฺตมา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธุ ตาตา, ตุมฺเหหิ อาโรจิตสฺาย นิยามโก ภวิสฺสามี’’ติ เตสํ ¶ นาวํ อภิรุหิ. เต นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทึสุ. นาวา สตฺต ทิวสานิ นิรุปทฺทวา อคมาสิ, ตโต อกาลวาตํ อุปฺปาติตํ อุปฺปชฺชิ, นาวา จตฺตาโร มาเส ปกติสมุทฺทปิฏฺเ วิจริตฺวา ขุรมาลีสมุทฺทํ นาม ปตฺตา. ตตฺถ ¶ มจฺฉา มนุสฺสสมานสรีรา ขุรนาสา อุทเก อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรนฺติ. วาณิชา เต ทิสฺวา มหาสตฺตํ ตสฺส สมุทฺทสฺส นามํ ปุจฺฉนฺตา ปมํ คาถมาหํสุ –
‘‘อุมฺมุชฺชนฺติ นิมุชฺชนฺติ, มนุสฺสา ขุรนาสิกา;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ.
เอวํ เตหิ ปุฏฺโ มหาสตฺโต อตฺตโน นิยามกสุตฺเตน สํสนฺทิตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ขุรมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ ปยาตานนฺติ กุรุกจฺฉปฏฺฏนา นิกฺขมิตฺวา คจฺฉนฺตานํ. ธเนสินนฺติ ตุมฺหากํ วาณิชานํ ธนํ ปริเยสนฺตานํ. นาวาย วิปฺปนฏฺายาติ ตาต ตุมฺหากํ อิมาย วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวาย กมฺมการกํ ปกติสมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา สมฺปตฺโต อยํ สมุทฺโท ‘‘ขุรมาลี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมตํ ปณฺฑิตา กเถนฺตีติ.
ตสฺมึ ¶ ปน สมุทฺเท วชิรํ อุสฺสนฺนํ โหติ. มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ‘อยํ วชิรสมุทฺโท’ติ เอวํ เอเตสํ กเถสฺสามิ, โลเภน พหุํ วชิรํ คณฺหิตฺวา นาวํ โอสีทาเปสฺสนฺตี’’ติ เตสํ อนาจิกฺขิตฺวาว นาวํ ลคฺคาเปตฺวา อุปาเยเนกํ โยตฺตํ คเหตฺวา มจฺฉคหณนิยาเมน ชาลํ ขิปาเปตฺวา วชิรสารํ อุทฺธริตฺวา นาวายํ ปกฺขิปิตฺวา อฺํ อปฺปคฺฆภณฺฑํ ฉฑฺฑาเปสิ. นาวา ตํ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ปุรโต อคฺคิมาลึ นาม คตา. โส ปชฺชลิตอคฺคิกฺขนฺโธ วิย มชฺฌนฺหิกสูริโย วิย จ โอภาสํ มฺุจนฺโต อฏฺาสิ. วาณิชา –
‘‘ยถา อคฺคีว สูริโยว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. – คาถาย ตํ ปุจฺฉึสุ;
มหาสตฺโตปิ ¶ เตสํ อนนฺตรคาถาย กเถสิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ¶ ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, อคฺคิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท สุวณฺณํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. มหาสตฺโต ปุริมนเยเนว ตโตปิ สุวณฺณํ คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ขีรํ วิย ทธึ วิย จ โอภาสนฺตํ ทธิมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา ทธีว ขีรํว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, ทธิมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท รชตํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ ¶ . นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา นีลกุสติณํ วิย สมฺปนฺนสสฺสํ วิย จ โอภาสมานํ นีลวณฺณํ กุสมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา กุโสว สสฺโสว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
โส อนนฺตรคาถาย อาจิกฺขิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, กุสมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท นีลมณิรตนํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยเนว คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. นาวา ตมฺปิ สมุทฺทํ อติกฺกมิตฺวา ¶ นฬวนํ วิย เวฬุวนํ วิย จ ขายมานํ นฬมาลึ นาม สมุทฺทํ ปาปุณิ. วาณิชา –
‘‘ยถา ¶ นโฬว เวฬูว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
มหาสตฺโต อนนฺตรคาถาย กเถสิ –
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, นฬมาลีติ วุจฺจตี’’ติ.
ตสฺมึ ปน สมุทฺเท มสารคลฺลํ เวฬุริยํ อุสฺสนฺนํ อโหสิ. โส ตมฺปิ อุปาเยน คาหาเปตฺวา นาวายํ ปกฺขิปาเปสิ. อปโร นโย – นโฬติ วิจฺฉิกนโฬปิ กกฺกฏกนโฬปิ, โส ¶ รตฺตวณฺโณ โหติ. เวฬูติ ปน ปวาฬสฺเสตํ นามํ, โส จ สมุทฺโท ปวาฬุสฺสนฺโน รตฺโตภาโส อโหสิ, ตสฺมา ‘‘ยถา นโฬว เวฬุวา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต ตโต ปวาฬํ คาหาเปสีติ.
วาณิชา นฬมาลึ อติกฺกนฺตา พลวามุขสมุทฺทํ นาม ปสฺสึสุ. ตตฺถ อุทกํ กฑฺฒิตฺวา กฑฺฒิตฺวา สพฺพโต ภาเคน อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สพฺพโต ภาเคน อุคฺคเต อุทกํ สพฺพโต ภาเคน ฉินฺนปปาตมหาโสพฺโภ วิย ปฺายติ, อูมิยา อุคฺคตาย เอกโต ปปาตสทิสํ โหติ, ภยชนโน สทฺโท อุปฺปชฺชติ โสตานิ ภินฺทนฺโต วิย หทยํ ผาเลนฺโต วิย จ. ตํ ทิสฺวา วาณิชา ภีตตสิตา –
‘‘มหพฺภโย ภึสนโก, สทฺโท สุยฺยติมานุโส;
ยถา โสพฺโภ ปปาโตว, สมุทฺโท ปฏิทิสฺสติ;
สุปฺปารกํ ตํ ปุจฺฉาม, สมุทฺโท กตโม อย’’นฺติ. –
คาถาย ตสฺสปิ นามํ ปุจฺฉึสุ.
ตตฺถ ¶ สุยฺยติมานุโสติ สุยฺยติ อมานุโส สทฺโท.
‘‘กุรุกจฺฉา ปยาตานํ, วาณิชานํ ธเนสินํ;
นาวาย วิปฺปนฏฺาย, พลวามุขีติ วุจฺจตี’’ติ. –
โพธิสตฺโต อนนฺตรคาถาย ตสฺส นามํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ตาตา, อิมํ พลวามุขสมุทฺทํ ¶ ปตฺวา นิวตฺติตุํ สมตฺถา นาวา นาม นตฺถิ, อยํ สมฺปตฺตนาวํ นิมุชฺชาเปตฺวา วินาสํ ปาเปตี’’ติ อาห. ตฺจ นาวํ สตฺต มนุสฺสสตานิ อภิรุหึสุ. เต สพฺเพ มรณภยภีตา เอกปฺปหาเรเนว อวีจิมฺหิ ปจฺจมานสตฺตา วิย อติการฺุํ รวํ มฺุจึสุ. มหาสตฺโต ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เอเตสํ โสตฺถิภาวํ กาตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สจฺจกิริยาย เตสํ โสตฺถึ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เต อามนฺเตตฺวา อาห – ‘‘ตาตา, ขิปฺปํ มํ คนฺโธทเกน นฺหาเปตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาสาเปตฺวา ปุณฺณปาตึ สชฺเชตฺวา นาวาย ธุเร เปถา’’ติ. เต เวเคน ตถา กรึสุ. มหาสตฺโต อุโภหิ หตฺเถหิ ปุณฺณปาตึ คเหตฺวา นาวาย ธุเร ิโต สจฺจกิริยํ กโรนฺโต โอสานคาถมาห –
‘‘ยโต ¶ สรามิ อตฺตานํ, ยโต ปตฺโตสฺมิ วิฺุตํ;
นาภิชานามิ สฺจิจฺจ, เอกปาณมฺปิ หึสิตํ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, โสตฺถึ นาวา นิวตฺตตู’’ติ.
ตตฺถ ยโตติ ยโต ปฏฺาย อหํ อตฺตานํ สรามิ, ยโต ปฏฺาย จมฺหิ วิฺุตํ ปตฺโตติ อตฺโถ. เอกปาณมฺปิ หึสิตนฺติ เอตฺถนฺตเร สฺจิจฺจ เอกํ กุนฺถกิปิลฺลิกปาณมฺปิ หึสิตํ นาภิชานามิ. เทสนามตฺตเมเวตํ, โพธิสตฺโต ปน ติณสลากมฺปิ อุปาทาย มยา ปรสนฺตกํ น คหิตปุพฺพํ, โลภวเสน ปรทารํ น โอโลกิตปุพฺพํ, มุสา น ภาสิตปุพฺพา, ติณคฺเคนาปิ มชฺชํ น ปิวิตปุพฺพนฺติ เอวํ ปฺจสีลวเสน ปน สจฺจกิริยํ อกาสิ, กตฺวา จ ปน ปุณฺณปาติยา อุทกํ นาวาย ธุเร อภิสิฺจิ.
จตฺตาโร มาเส วิเทสํ ปกฺขนฺทนาวา นิวตฺติตฺวา อิทฺธิมา วิย สจฺจานุภาเวน เอกทิวเสเนว กุรุกจฺฉปฏฺฏนํ อคมาสิ. คนฺตฺวา จ ปน ถเลปิ อฏฺุสภมตฺตํ านํ ปกฺขนฺทิตฺวา นาวิกสฺส ฆรทฺวาเรเยว อฏฺาสิ. มหาสตฺโต เตสํ วาณิชานํ สุวณฺณรชตมณิปวาฬมุตฺตวชิรานิ ภาเชตฺวา ¶ อทาสิ. ‘‘เอตฺตเกหิ ¶ โว รตเนหิ อลํ, มา ปุน สมุทฺทํ ปวิสถา’’ติ เตสํ โอวาทํ ทตฺวา ยาวชีวํ ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เทวปุรํ ปูเรสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาปฺโเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปริสา พุทฺธปริสา อเหสุํ, สุปฺปารกปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สุปฺปารกชาตกวณฺณนา นวมา.
ชาตกุทฺทานํ –
มาตุโปสก ชุณฺโห จ, ธมฺม อุทย ปานีโย;
ยุธฺจโย ทสรโถ, สํวโร จ สุปฺปารโก;
เอกาทสนิปาตมฺหิ, สงฺคีตา นว ชาตกา.
เอกาทสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.