📜
๑๓. เตรสกนิปาโต
[๔๗๔] ๑. อมฺพชาตกวณฺณนา
อหาสิ ¶ ¶ ¶ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺโต หิ ‘‘อหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามิ, มยฺหํ สมโณ โคตโม เนว อาจริโย น อุปชฺฌาโย’’ติ อาจริยํ ปจฺจกฺขาย ฌานปริหีโน สงฺฆํ ภินฺทิตฺวา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ อาคจฺฉนฺโต พหิเชตวเน ปถวิยา วิวเร ทินฺเน อวีจึ ปาวิสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต, อวีจิมหานิรเย นิพฺพตฺโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส ปุโรหิตกุลํ อหิวาตโรเคน วินสฺสิ. เอโกว ปุตฺโต ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวา ปลาโต. โส ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺสาจริยสฺส สนฺติเก ตโย เวเท จ อวเสสสิปฺปานิ จ อุคฺคเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺโต ‘‘เทสจาริตฺตํ ชานิสฺสามี’’ติ จรนฺโต เอกํ ปจฺจนฺตนครํ ปาปุณิ. ตํ นิสฺสาย มหาจณฺฑาลคามโก อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ คาเม ปฏิวสติ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต อกาเล ผลํ คณฺหาปนมนฺตํ ชานาติ. โส ปาโตว วุฏฺาย กาชํ อาทาย ตโต คามา นิกฺขิมิตฺวา อรฺเ เอกํ อมฺพรุกฺขํ อุปสงฺกมิตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ตํ มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา อมฺพรุกฺขํ เอเกน ¶ อุทกปสเตน ปหรติ. รุกฺขโต ตงฺขณฺเว ปุราณปณฺณานิ ปตนฺติ, นวานิ อุฏฺหนฺติ, ปุปฺผานิ ปุปฺผิตฺวา ปตนฺติ, อมฺพผลานิ อุฏฺาย มุหุตฺเตเนว ปจฺจิตฺวา มธุรานิ โอชวนฺตานิ ทิพฺพรสสทิสานิ หุตฺวา รุกฺขโต ปตนฺติ. มหาสตฺโต ตานิ อุจฺจินิตฺวา ยาวทตฺถํ ขาทิตฺวา กาชํ ปูราเปตฺวา เคหํ คนฺตฺวา ตานิ วิกฺกิณิตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสสิ.
โส ¶ ¶ พฺราหฺมณกุมาโร มหาสตฺตํ อกาเล อมฺพปกฺกานิ อาหริตฺวา วิกฺกิณนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสเยน เตหิ มนฺตพเลน อุปฺปนฺเนหิ ภวิตพฺพํ, อิมํ ปุริสํ นิสฺสาย อิทํ อนคฺฆมนฺตํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อมฺพานิ อาหรณนิยามํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตถโต ตฺวา ตสฺมึ อรฺโต อนาคเตเยว ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา อชานนฺโต วิย หุตฺวา ตสฺส ภริยํ ‘‘กุหึ อยฺโย, อาจริโย’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อรฺํ คโต’’ติ วุตฺเต ตํ อาคตํ อาคมยมาโนว ตฺวา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา หตฺถโต ปจฺฉึ คเหตฺวา อาหริตฺวา เคเห เปสิ. มหาสตฺโต ตํ โอโลเกตฺวา ภริยํ อาห – ‘‘ภทฺเท, อยํ มาณโว มนฺตตฺถาย อาคโต, ตสฺส หตฺเถ มนฺโต นสฺสติ, อสปฺปุริโส เอโส’’ติ. มาณโวปิ ‘‘อหํ อิมํ มนฺตํ อาจริยสฺส อุปการโก หุตฺวา ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ตสฺส เคเห สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ทารูนิ อาหรติ, วีหึ โกฏฺเฏติ, ภตฺตํ ปจติ, ทนฺตกฏฺมุขโธวนาทีนิ เทติ, ปาทํ โธวติ.
เอกทิวสํ มหาสตฺเตน ‘‘ตาต มาณว, มฺจปาทานํ เม อุปธานํ เทหี’’ติ วุตฺเต อฺํ อปสฺสิตฺวา สพฺพรตฺตึ อูรุมฺหิ เปตฺวา นิสีทิ. อปรภาเค มหาสตฺตสฺส ภริยา ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปสูติกาเล ปริกมฺมํ สพฺพมกาสิ. สา เอกทิวสํ มหาสตฺตํ อาห ‘‘สามิ, อยํ มาณโว ชาติสมฺปนฺโน หุตฺวา มนฺตตฺถาย อมฺหากํ เวยฺยาวจฺจํ กโรติ, เอตสฺส หตฺเถ มนฺโต ติฏฺตุ วา มา วา, เทถ ตสฺส มนฺต’’นฺติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ¶ ตสฺส มนฺตํ ทตฺวา เอวมาห – ‘‘ตาต, อนคฺโฆยํ มนฺโต, ตว อิมํ นิสฺสาย มหาลาภสกฺกาโร ภวิสฺสติ, รฺา วา ราชมหามตฺเตน วา ‘โก เต อาจริโย’ติ ปุฏฺกาเล มา มํ นิคูหิตฺโถ, สเจ หิ ‘จณฺฑาลสฺส เม สนฺติกา มนฺโต คหิโต’ติ ลชฺชนฺโต ‘พฺราหฺมณมหาสาโล เม อาจริโย’ติ กเถสฺสสิ, อิมสฺส มนฺตสฺส ผลํ น ลภิสฺสสี’’ติ. โส ‘‘กึ การณา ตํ นิคูหิสฺสามิ, เกนจิ ปุฏฺกาเล ตุมฺเหเยว กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา ตํ วนฺทิตฺวา จณฺฑาลคามโต นิกฺขมิตฺวา มนฺตํ วีมํสิตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา อมฺพานิ วิกฺกิณิตฺวา พหุํ ธนํ ลภิ.
อเถกทิวสํ อุยฺยานปาโล ตสฺส หตฺถโต อมฺพํ กิณิตฺวา รฺโ อทาสิ. ราชา ตํ ปริภฺุชิตฺวา ‘‘กุโต สมฺม, ตยา เอวรูปํ อมฺพํ ¶ ลทฺธ’’นฺติ ปุจฺฉิ. เทว, เอโก มาณโว อกาลอมฺพผลานิ อาเนตฺวา วิกฺกิณาติ, ตโต เม คหิตนฺติ. เตน หิ ‘‘อิโต ปฏฺาย อิเธว อมฺพานิ อาหรตู’’ติ นํ วเทหีติ. โส ตถา อกาสิ. มาณโวปิ ตโต ปฏฺาย อมฺพานิ ราชกุลํ หรติ. อถ รฺา ‘‘อุปฏฺห ม’’นฺติ วุตฺเต ราชานํ อุปฏฺหนฺโต พหุํ ธนํ ลภิตฺวา อนุกฺกเมน วิสฺสาสิโก ชาโต. อถ นํ เอกทิวสํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘มาณว, กุโต อกาเล เอวํ ¶ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนานิ อมฺพานิ ลภสิ, กึ เต นาโค วา สุปณฺโณ วา เทโว วา โกจิ เทติ, อุทาหุ มนฺตพลํ เอต’’นฺติ? ‘‘น เม มหาราช, โกจิ เทติ, อนคฺโฆ ปน เม มนฺโต อตฺถิ, ตสฺเสว พล’’นฺติ. ‘‘เตน หิ มยมฺปิ เต เอกทิวสํ มนฺตพลํ ทฏฺุกามา’’ติ. ‘‘สาธุ, เทว, ทสฺเสสฺสามี’’ติ. ราชา ปุนทิวเส เตน สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ‘‘ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพรุกฺขํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา รุกฺขํ อุทเกน ปหริ. ตงฺขณฺเว อมฺพรุกฺโข เหฏฺา วุตฺตนิยาเมเนว ผลํ คเหตฺวา ¶ มหาเมโฆ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสิ. มหาชโน สาธุการํ อทาสิ, เจลุกฺเขปา ปวตฺตึสุ.
ราชา อมฺพผลานิ ขาทิตฺวา ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘มาณวก, เอวรูโป เต อจฺฉริยมนฺโต กสฺส สนฺติเก คหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. มาณโว ‘‘สจาหํ ‘จณฺฑาลสฺส สนฺติเก’ติ วกฺขามิ, ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, มฺจ ครหิสฺสนฺติ, มนฺโต โข ปน เม ปคุโณ, อิทานิ น นสฺสิสฺสติ, ทิสาปาโมกฺขํ อาจริยํ อปทิสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มุสาวาทํ กตฺวา ‘‘ตกฺกสิลายํ ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก คหิโต เม’’ติ วทนฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาสิ. ตงฺขณฺเว มนฺโต อนฺตรธายิ. ราชา โสมนสฺสชาโต ตํ อาทาย นครํ ปวิสิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘อมฺพานิ ขาทิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ นิสีทิตฺวา มาณว, อมฺพานิ อาหราติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ อมฺพํ อุปคนฺตฺวา สตฺตปทมตฺถเก ิโต ‘‘มนฺตํ ปริวตฺเตสฺสามี’’ติ มนฺเต อนุปฏฺหนฺเต อนฺตรหิตภาวํ ตฺวา ลชฺชิโต อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อยํ ปุพฺเพ ปริสมชฺเฌเยว อมฺพานิ อาหริตฺวา อมฺหากํ เทติ, ฆนเมฆวสฺสํ วิย อมฺพวสฺสํ วสฺสาเปติ, อิทานิ ถทฺโธ วิย ิโต, กึ นุ โข การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อหาสิ ¶ เม อมฺพผลานิ ปุพฺเพ, อณูนิ ถูลานิ จ พฺรหฺมจาริ;
เตเหว มนฺเตหิ น ทานิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม’’ติ.
ตตฺถ อหาสีติ อาหริ. ทุมปฺผลาติ รุกฺขผลานิ.
ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘สเจ ‘อชฺช อมฺพผลํ น คณฺหามี’ติ วกฺขามิ, ราชา เม กุชฺฌิสฺสติ, มุสาวาเทน นํ วฺเจสฺสามี’’ติ ทุติยํ คาถมาห –
‘‘นกฺขตฺตโยคํ ¶ ปฏิมานยามิ, ขณํ มุหุตฺตฺจ มนฺเต น ปสฺสํ;
นกฺขตฺตโยคฺจ ¶ ขณฺจ ลทฺธา, อทฺธา หริสฺสมฺพผลํ ปหูต’’นฺติ.
ตตฺถ อทฺธาหริสฺสมฺพผลนฺติ อทฺธา อมฺพผลํ อาหริสฺสามิ.
ราชา ‘‘อยํ อฺทา นกฺขตฺตโยคํ น วทติ, กึ นุ โข เอต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘นกฺขตฺตโยคํ น ปุเร อภาณิ, ขณํ มุหุตฺตํ น ปุเร อสํสิ;
สยํ หรี อมฺพผลํ ปหูตํ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตํ.
‘‘มนฺตาภิชปฺเปน ปุเร หิ ตุยฺหํ, ทุมปฺผลา ปาตุภวนฺติ พฺรหฺเม;
สฺวาชฺช น ปาเรสิ ชปฺปมฺปิ มนฺตํ, อยํ โส โก นาม ตวชฺช ธมฺโม’’ติ.
ตตฺถ น ปาเรสีติ น สกฺโกสิ. ชปฺปมฺปีติ ชปฺปนฺโตปิ ปริวตฺเตนฺโตปิ. อยํ โสติ อยเมว โส ตว สภาโว อชฺช โก นาม ชาโตติ.
ตํ สุตฺวา มาณโว ‘‘น สกฺกา ราชานํ มุสาวาเทน วฺเจตุํ, สเจปิ เม สภาเว กถิเต อาณํ กเรยฺย, กโรตุ, สภาวเมว กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘จณฺฑาลปุตฺโต ¶ มม สมฺปทาสิ, ธมฺเมน มนฺเต ปกติฺจ สํสิ;
มา จสฺสุ เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ, คุยฺหิตฺโถ อตฺถํ วิชเหยฺย มนฺโต.
‘‘โสหํ ชนินฺเทน ชนมฺหิ ปุฏฺโ, มกฺขาภิภูโต อลิกํ อภาณึ;
‘มนฺตา อิเม พฺราหฺมณสฺสา’ติ มิจฺฉา, ปหีนมนฺโต กปโณ รุทามี’’ติ.
ตตฺถ ธมฺเมนาติ สเมน การเณน อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวาว อทาสิ. ปกติฺจ สํสีติ ‘‘มา เม ปุจฺฉิโต นามโคตฺตํ คุยฺหิตฺโถ, สเจ คูหสิ ¶ , มนฺตา เต นสฺสิสฺสนฺตี’’ติ เตสํ นสฺสนปกติฺจ มยฺหํ สํสิ. พฺราหฺมณสฺสาติ มิจฺฉาติ ‘‘พฺราหฺมณสฺส สนฺติเก มยา อิเม มนฺตา คหิตา’’ติ ¶ มิจฺฉาย อภณึ, เตน เม เต มนฺตา นฏฺา, สฺวาหํ ปหีนมนฺโต อิทานิ กปโณ รุทามีติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ ปาปธมฺโม เอวรูปํ รตนมนฺตํ น โอโลเกสิ, เอวรูปสฺมิฺหิ อุตฺตมรตนมนฺเต ลทฺเธ ชาติ กึ กริสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส ครหนฺโต –
‘‘เอรณฺฑา ปุจิมนฺทา วา, อถ วา ปาลิภทฺทกา;
มธุํ มธุตฺถิโก วินฺเท, โส หิ ตสฺส ทุมุตฺตโม.
‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;
ยมฺหา ธมฺมํ วิชาเนยฺย, โส หิ ตสฺส นรุตฺตโม.
‘‘อิมสฺส ทณฺฑฺจ วธฺจ ทตฺวา, คเล คเหตฺวา ขลยาถ ชมฺมํ;
โย อุตฺตมตฺถํ กสิเรน ลทฺธํ, มานาติมาเนน วินาสยิตฺถา’’ติ. –
อิมา คาถา อาห.
ตตฺถ ¶ มธุตฺถิโกติ มธุอตฺถิโก ปุริโส อรฺเ มธุํ โอโลเกนฺโต เอเตสํ รุกฺขานํ ยโต มธุํ ลภติ, โสว ทุโม ตสฺส ทุมุตฺตโม นาม. ตเถว ขตฺติยาทีสุ ยมฺหา ปุริสา ธมฺมํ การณํ ยุตฺตํ อตฺถํ วิชาเนยฺย, โสว ตสฺส อุตฺตโม นโร นาม. อิมสฺส ทณฺฑฺจาติ อิมสฺส ปาปธมฺมสฺส สพฺพสฺสหรณทณฺฑฺจ เวฬุเปสิกาทีหิ ปิฏฺิจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา วธฺจ ทตฺวา อิมํ ชมฺมํ คเล คเหตฺวา ขลยาถ, ขลิการตฺตํ ปาเปตฺวา นิทฺธมถ นิกฺกฑฺฒถ, กึ อิมินา อิธ วสนฺเตนาติ.
ราชปุริสา ตถา กตฺวา ‘‘ตวาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวาว สเจ ปุน มนฺเต ลภิสฺสสิ, อิธ อาคจฺเฉยฺยาสิ, โน เจ, อิมํ ทิสํ มา โอโลเกยฺยาสี’’ติ ตํ นิพฺพิสยมกํสุ. โส อนาโถ หุตฺวา ‘‘เปตฺวา อาจริยํ น เม อฺํ ปฏิสรณํ อตฺถิ, ตสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อาราเธตฺวา ปุน มนฺตํ ยาจิสฺสามี’’ติ โรทนฺโต ตํ คามํ อคมาสิ. อถ ¶ นํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ภริยํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปสฺส ตํ ปาปธมฺมํ ปริหีนมนฺตํ ปุน อาคจฺฉนฺต’’นฺติ อาห. โส มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสินฺโน ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ ‘‘อาจริย, มุสาวาทํ กตฺวา อาจริยํ ปจฺจกฺขิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ วตฺวา อจฺจยํ ทสฺเสตฺวา ปุน มนฺเต ยาจนฺโต –
‘‘ยถา สมํ มฺมาโน ปเตยฺย, โสพฺภํ คุหํ นรกํ ปูติปาทํ;
รชฺชูติ วา อกฺกเม กณฺหสปฺปํ, อนฺโธ ยถา โชติมธิฏฺเหยฺย;
เอวมฺปิ มํ ตํ ขลิตํ สปฺ, ปหีนมนฺตสฺส ปุนปฺปทาหี’’ติ. – คาถมาห;
ตตฺถ ยถา สมนฺติ ยถา ปุริโส อิทํ สมํ านนฺติ มฺมาโน โสพฺภํ วา คุหํ วา ภูมิยา ผลิตฏฺานสงฺขาตํ นรกํ วา ปูติปาทํ วา ปเตยฺย. ปูติปาโทติ หิมวนฺตปเทเส มหารุกฺเข สุสฺสิตฺวา มเต ตสฺส ¶ มูเลสุ ปูติเกสุ ชาเตสุ ตสฺมึ าเน มหาอาวาโฏ โหติ, ตสฺส นามํ. โชติมธิฏฺเหยฺยาติ อคฺคึ อกฺกเมยฺย. เอวมฺปีติ เอวํ อหมฺปิ ปฺาจกฺขุโน อภาวา อนฺโธ ตุมฺหากํ วิเสสํ อชานนฺโต ตุมฺเหสุ ขลิโต, ตํ มํ ขลิตํ วิทิตฺวา สปฺ าณสมฺปนฺน ปหีนมนฺตสฺส มม ปุนปิ เทถาติ.
อถ นํ อาจริโย ‘‘ตาต, กึ กเถสิ, อนฺโธ หิ สฺาย ทินฺนาย โสพฺภาทีนิ ปริหรติ, มยา ปมเมว ตว กถิตํ, อิทานิ กิมตฺถํ มม สนฺติกํ อาคโตสี’’ติ วตฺวา –
‘‘ธมฺเมน มนฺตํ ตว สมฺปทาสึ, ตุวมฺปิ ธมฺเมน ปฏิคฺคเหสิ;
ปกติมฺปิ เต อตฺตมโน อสํสึ, ธมฺเม ิตํ ตํ น ชเหยฺย มนฺโต.
‘‘โย ¶ พาล-มนฺตํ กสิเรน ลทฺธํ, ยํ ทุลฺลภํ อชฺช มนุสฺสโลเก;
กิฺจาปิ ลทฺธา ชีวิตุํ อปฺปปฺโ, วินาสยี อลิกํ ภาสมาโน.
‘‘พาลสฺส มูฬฺหสฺส อกตฺุโน จ, มุสา ภณนฺตสฺส อสฺตสฺส;
มนฺเต มยํ ตาทิสเก น เทม, กุโต มนฺตา คจฺฉ น มยฺหํ รุจฺจสี’’ติ. –
อิมา คาถา อาห.
ตตฺถ ธมฺเมนาติ อหมฺปิ ตว อาจริยภาคํ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา อคฺคเหตฺวา ธมฺเมเนว มนฺตํ สมฺปทาสึ, ตฺวมฺปิ กิฺจิ อทตฺวา ธมฺเมน สเมเนว ปฏิคฺคเหสิ. ธมฺเม ิตนฺติ อาจริยปูชกธมฺเม ¶ ิตํ. ตาทิสเกติ ตถารูเป อกาลผลคณฺหาปเก มนฺเต น เทม, คจฺฉ น เม รุจฺจสีติ.
โส เอวํ อาจริเยน อุยฺโยชิโต ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตนา’’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา อนาถมรณํ มริ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อาจริยํ ปจฺจกฺขาย มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อกตฺู มาณโว เทวทตฺโต อโหสิ, ราชา อานนฺโท, จณฺฑาลปุตฺโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
อมฺพชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๗๕] ๒. ผนฺทนชาตกวณฺณนา
กุาริหตฺโถ ปุริโสติ อิทํ สตฺถา โรหิณีนทีตีเร วิหรนฺโต าตกานํ กลหํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน กุณาลชาตเก (ชา. ๒.๒๑.กุณาลชาตก) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา าตเก อามนฺเตตฺวา – มหาราชา, อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พหินคเร วฑฺฒกิคาโม อโหสิ. ตตฺเรโก พฺราหฺมณวฑฺฒกี อรฺโต ทารูนิ อาหริตฺวา รถํ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. ตทา หิมวนฺตปเทเส มหาผนฺทนรุกฺโข อโหสิ ¶ . เอโก กาฬสีโห โคจรํ ปริเยสิตฺวา อาคนฺตฺวา ตสฺส มูเล นิปชฺชิ. อถสฺส เอกทิวสํ วาเต ปหรนฺเต เอโก สุกฺขทณฺฑโก ปติตฺวา ขนฺเธ อวตฺถาสิ. โส โถกํ ขนฺเธน รุชนฺเตน ภีตตสิโต อุฏฺาย ปกฺขนฺทิตฺวา ปุน นิวตฺโต อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺโต กิฺจิ อทิสฺวา ‘‘อฺโ มํ สีโห วา พฺยคฺโฆ วา อนุพนฺธนฺโต นตฺถิ, อิมสฺมึ ปน รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา มํ เอตฺถ นิปชฺชนฺตํ น สหติ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ อฏฺาเน โกปํ พนฺธิตฺวา รุกฺขํ ปหริตฺวา ‘‘เนว ตว รุกฺขสฺส ปตฺตํ ขาทามิ, น สาขํ ภฺชามิ, อิธ อฺเ มิเค วสนฺเต สหสิ, มํ น สหสิ, โก มยฺหํ โทโส อตฺถิ, กติปาหํ อาคเมหิ, สมูลํ เต รุกฺขํ อุปฺปาเฏตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปสฺสามี’’ติ รุกฺขเทวตํ ตชฺเชตฺวา เอกํ ปุริสํ อุปธาเรนฺโต วิจริ. ตทา โส พฺราหฺมณวฑฺฒกี ทฺเว ตโย มนุสฺเส อาทาย รถทารูนํ อตฺถาย ยานเกน ตํ ปเทสํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ าเน ยานกํ เปตฺวา วาสิผรสุหตฺโถ รุกฺเข อุปธาเรนฺโต ผนฺทนสมีปํ อคมาสิ. กาฬสีโห ตํ ทิสฺวา ‘‘อชฺช, มยา ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ทฏฺุํ วฏฺฏตี’’ติ คนฺตฺวา รุกฺขมูเล อฏฺาสิ ¶ . วฑฺฒกี จ อิโต จิโต โอโลเกตฺวา ¶ ผนฺทนสมีเปน ปายาสิ. โส ‘‘ยาว เอโส นาติกฺกมติ, ตาวเทวสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘กุาริหตฺโถ ปุริโส, วนโมคยฺห ติฏฺสิ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เฉตุมิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ ปุริโสติ ตฺวํ กุาริหตฺโถ เอโก ปุริโส อิมํ วนํ โอคยฺห ติฏฺสีติ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, น วต เม อิโต ปุพฺเพ มิโค มนุสฺสวาจํ ภาสนฺโต ทิฏฺปุพฺโพ, เอส รถานุจฺฉวิกํ ¶ ทารุํ ชานิสฺสติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อิสฺโส วนานิ จรสิ, สมานิ วิสมานิ จ;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กึ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.
ตตฺถ อิสฺโสติ ตฺวมฺปิ เอโก กาฬสีโห วนานิ จรสิ, ตฺวํ รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ ชานิสฺสสีติ.
ตํ สุตฺวา กาฬสีโห ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตติยํ คาถมาห –
‘‘เนว สาโล น ขทิโร, นาสฺสกณฺโณ กุโต ธโว;
รุกฺโข จ ผนฺทโน นาม, ตํ ทารุํ เนมิยา ทฬฺห’’นฺติ.
โส ตํ สุตฺวา โสมนสฺสชาโต ‘‘สุทิวเสน วตมฺหิ อชฺช อรฺํ ปวิฏฺโ, ติรจฺฉานคโต เม รถานุจฺฉวิกํ ทารุํ อาจิกฺขติ, อโห สาธู’’ติ ปุจฺฉนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘กีทิสานิสฺส ปตฺตานิ, ขนฺโธ วา ปน กีทิโส;
ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, ยถา ชาเนมุ ผนฺทน’’นฺติ.
อถสฺส ¶ โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺส สาขา ปลมฺพนฺติ, นมนฺติ น จ ภฺชเร;
โส รุกฺโข ผนฺทโน นาม, ยสฺส มูเล อหํ ิโต.
‘‘อรานํ ¶ จกฺกนาภีนํ, อีสาเนมิรถสฺส จ;
สพฺพสฺส เต กมฺมนิโย, อยํ เหสฺสติ ผนฺทโน’’ติ.
ตตฺถ ‘‘อราน’’นฺติ อิทํ โส ‘‘กทาเจส อิมํ รุกฺขํ น คณฺเหยฺย, คุณมฺปิสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอวมาห. ตตฺถ อีสาเนมิรถสฺส จาติ อีสาย จ เนมิยา จ เสสสฺส จ รถสฺส สพฺพสฺส เต เอส กมฺมนิโย กมฺมกฺขโม ภวิสฺสตีติ.
โส เอวํ อาจิกฺขิตฺวา ตุฏฺมานโส เอกมนฺเต วิจริ, วฑฺฒกีปิ รุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อารภิ. รุกฺขเทวตา จินฺเตสิ ‘‘มยา เอตสฺส อุปริ น กิฺจิ ปาติตํ, อยํ อฏฺาเน อาฆาตํ พนฺธิตฺวา มม วิมานํ นาเสติ, อหฺจ วินสฺสิสฺสามิ, เอเกนุปาเยน ¶ อิมฺจ อิสฺสํ วินาเสสฺสามี’’ติ. สา วนกมฺมิกปุริโส วิย หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘โภ ปุริส มนาโป เต รุกฺโข ลทฺโธ, อิมํ ฉินฺทิตฺวา กึ กริสฺสสี’’ติ? ‘‘รถเนมึ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘อิมินา รุกฺเขน รโถ ภวิสฺสตี’’ติ เกน เต อกฺขาตนฺติ. ‘‘เอเกน กาฬสีเหนา’’ติ. ‘‘สาธุ สุฏฺุ เตน อกฺขาตํ, อิมินา รุกฺเขน รโถ สุนฺทโร ภวิสฺสติ, กาฬสีหสฺส คลจมฺมํ อุปฺปาเฏตฺวา จตุรงฺคุลมตฺเต าเน อยปฏฺเฏน วิย เนมิมณฺฑเล ปริกฺขิตฺเต เนมิ จ ถิรา ภวิสฺสติ, พหฺุจ ธนํ ลภิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสีหจมฺมํ กุโต ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘ตฺวํ พาลโกสิ, อยํ ตว รุกฺโข วเน ิโต น ปลายติ, ตฺวํ เยน เต รุกฺโข อกฺขาโต, ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘สามิ ตยา ทสฺสิตรุกฺขํ กตรฏฺาเน ฉินฺทามี’ติ วฺเจตฺวา อาเนหิ, อถ นํ นิราสงฺกํ ‘อิธ จ เอตฺถ จ ฉินฺทา’ติ มุขตุณฺฑํ ปสาเรตฺวา อาจิกฺขนฺตํ ติขิเณน มหาผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา จมฺมํ อาทาย วรมํสํ ขาทิตฺวา รุกฺขํ ฉินฺทา’’ติ เวรํ อปฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –
‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, ตาวเท อชฺฌภาสถ;
มยฺหมฺปิ วจนํ อตฺถิ, ภารทฺวาช สุโณหิ เม.
‘‘อิสฺสสฺส ¶ อุปกฺขนฺธมฺหา, อุกฺกจฺจ จตุรงฺคุลํ;
เตน เนมึ ปสาเรสิ, เอวํ ทฬฺหตรํ สิยา.
‘‘อิติ ผนฺทนรุกฺโขปิ, เวรํ อปฺเปสิ ตาวเท;
ชาตานฺจ อชาตานํ, อิสฺสานํ ทุกฺขมาวหี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ภารทฺวาชาติ ตํ โคตฺเตน อาลปติ. อุปกฺขนฺธมฺหาติ ขนฺธโต. อุกฺกจฺจาติ อุกฺกนฺติตฺวา.
วฑฺฒกี รุกฺขเทวตาย วจนํ สุตฺวา ‘‘อโห อชฺช มยฺหํ มงฺคลทิวโส’’ติ กาฬสีหํ ฆาเตตฺวา รุกฺขํ เฉตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อิจฺเจวํ ผนฺทโน อิสฺสํ, อิสฺโส จ ปน ผนฺทนํ;
อฺมฺํ วิวาเทน, อฺมฺมฆาตยุํ.
‘‘เอวเมว มนุสฺสานํ, วิวาโท ยตฺถ ชายติ;
มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ, ยถา เต อิสฺสผนฺทนา.
‘‘ตํ โว วทามิ ภทฺทํ โว, ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา;
สมฺโมทถ มา วิวทถ, มา โหถ อิสฺสผนฺทนา.
‘‘สามคฺคิเมว สิกฺเขถ, พุทฺเธเหตํ ปสํสิตํ;
สามคฺคิรโต ธมฺมฏฺโ, โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ.
ตตฺถ อฆาตยุนฺติ ฆาตาเปสุํ. มยูรนจฺจํ นจฺจนฺตีติ มหาราชา ยตฺถ หิ มนุสฺสานํ วิวาโท โหติ, ตตฺถ ยถา นาม มยูรา นจฺจนฺตา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ รหสฺสงฺคํ ปากฏํ กโรนฺติ, เอวํ มนุสฺสา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา มยูรนจฺจํ นจฺจนฺติ นาม. ยถา เต อิสฺสผนฺทนา อฺมฺสฺส รนฺธํ ปกาเสนฺตา นจฺจึสุ นาม. ตํ โวติ เตน การเณน ตุมฺเห วทามิ. ภทฺทํ โวติ ภทฺทํ ตุมฺหากํ โหตุ. ยาวนฺเตตฺถาติ ยาวนฺโต เอตฺถ อิสฺสผนฺทนสทิสา มา อหุวตฺถ. สามคฺคิเมว สิกฺเขถาติ สมคฺคภาวเมว ตุมฺเห สิกฺขถ, อิทํ ปฺาวุทฺเธหิ ปณฺฑิเตหิ ปสํสิตํ ¶ . ธมฺมฏฺโติ สุจริตธมฺเม ิโต. โยคกฺเขมา น ธํสตีติ โยเคหิ เขมา นิพฺพานา น ปริหายตีติ นิพฺพาเนน เทสนากูฏํ คณฺหิ. สกฺยราชาโน ธมฺมกถํ สุตฺวา สมคฺคา ชาตา.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ตํ การณํ วิทิตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ นิวุตฺถเทวตา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ผนฺทนชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๔๗๖] ๓. ชวนหํสชาตกวณฺณนา
อิเธว ¶ หํส นิปตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฬฺหธมฺมธนุคฺคหสุตฺตนฺตเทสนํ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) อารพฺภ กเถสิ. ภควตา หิ –
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหา สุสิกฺขิตา กตหตฺถา กตูปาสนา จตุทฺทิสา ิตา อสฺสุ, อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ‘อหํ อิเมสํ จตุนฺนํ ทฬฺหธมฺมานํ ธนุคฺคหานํ สุสิกฺขิตานํ กตหตฺถานํ กตูปาสนานํ ¶ จตุทฺทิสา กณฺเฑ ขิตฺเต อปติฏฺิเต ปถวิยํ คเหตฺวา อาหริสฺสามี’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺถ, ภิกฺขเว, ‘ชวโน ปุริโส ปรเมน ชเวน สมนฺนาคโต’ติ อลํ วจนายา’’ติ? ‘‘เอวํ ภนฺเต’’ติ. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ตโต สีฆตโร. ยถา จ, ภิกฺขเว, ตสฺส ปุริสสฺส ชโว, ยถา จ จนฺทิมสูริยานํ ชโว, ยถา จ ยา เทวตา จนฺทิมสูริยานํ ปุรโต ธาวนฺติ, ตาสํ เทวตานํ ชโว, ตโต สีฆตรํ อายุสงฺขารา ขียนฺติ, ตสฺมาติห, ภิกฺขเว, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ‘อปฺปมตฺตา วิหริสฺสามา’ติ. เอวฺหิ โว, ภิกฺขเว, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ –
อิมสฺส สุตฺตสฺส กถิตทิวสโต ทุติยทิวเส ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา อตฺตโน พุทฺธวิสเย ตฺวา อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขาเร อิตฺตเร ทุพฺพเล กตฺวา ปริทีเปนฺโต ปุถุชฺชนภิกฺขู อติวิย สนฺตาสํ ปาเปสิ, อโห พุทฺธพลํ นามา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, สฺวาหํ อิทานิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ทสฺเสตฺวา ภิกฺขู สํเวเชตฺวา ธมฺมํ เทเสมิ, มยา หิ ปุพฺเพ อเหตุกหํสโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ อายุสงฺขารานํ อิตฺตรภาวํ ¶ ทสฺเสตฺวา พาราณสิราชานํ อาทึ กตฺวา สกลราชปริสํ สํเวเชตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ชวนหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ ปฏิวสติ. โส เอกทิวสํ ชมฺพุทีปตเล เอกสฺมึ สเร สปริวาโร สยํชาตสาลึ ขาทิตฺวา อากาเส สุวณฺณกิลฺชํ ปตฺถรนฺโต วิย มหนฺเตน ปริวาเรน พาราณสินครสฺส มตฺถเกน มนฺทมนฺทาย วิลาสคติยา จิตฺตกูฏํ คจฺฉติ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา ‘‘อิมินาปิ มาทิเสน รฺา ภวิตพฺพ’’นฺติ อมจฺจานํ วตฺวา ตสฺมึ สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา มาลาคนฺธวิเลปนํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ โอโลเกตฺวา สพฺพตูริยานิ ปคฺคณฺหาเปสิ. มหาสตฺโต อตฺตโน สกฺการํ กโรนฺตํ ทิสฺวา หํเส ปุจฺฉิ ‘‘ราชา ¶ , มม เอวรูปํ สกฺการํ กโรนฺโต กึ ปจฺจาสีสตี’’ติ? ‘‘ตุมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาวํ เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ รฺโ อมฺเหหิ สทฺธึ มิตฺตภาโว โหตู’’ติ รฺา สทฺธึ มิตฺตภาวํ กตฺวา ปกฺกามิ. อเถกทิวสํ รฺโ อุยฺยานํ คตกาเล อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา เอเกน ปกฺเขน อุทกํ, เอเกน จนฺทนจุณฺณํ อาทาย อาคนฺตฺวา ราชานํ เตน อุทเกน นฺหาเปตฺวา จนฺทนจุณฺเณน โอกิริตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว สปริวาโร จิตฺตกูฏํ อคมาสิ. ตโต ปฏฺาย ราชา มหาสตฺตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา ‘‘สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสติ, สหาโย เม อชฺช อาคมิสฺสตี’’ติ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต อจฺฉติ.
ตทา มหาสตฺตสฺส กนิฏฺา ทฺเว หํสโปตกา ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา มหาสตฺตสฺส อาโรเจสุํ ‘‘มยํ สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ. ‘‘ตาตา, สูริยชโว นาม สีโฆ, สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสถ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสถ, มา คมิตฺถา’’ติ. เต ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ ยาจึสุ, โพธิสตฺโตปิ เต ยาวตติยํ วาเรสิเยว. เต มานถทฺธา อตฺตโน พลํ อชานนฺตา มหาสตฺตสฺส อนาจิกฺขิตฺวาว ‘‘สูริเยน สทฺธึ ชวิสฺสามา’’ติ สูริเย อนุคฺคเตเยว คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทึสุ. มหาสตฺโต เต อทิสฺวา ‘‘กหํ นุ โข คตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘เต สูริเยน สทฺธึ ชวิตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, อนฺตราว วินสฺสิสฺสนฺติ, ชีวิตํ เตสํ ทสฺสามี’’ติ. โสปิ คนฺตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเกเยว นิสีทิ. อถ อุคฺคเต สูริยมณฺฑเล หํสโปตกา อุปฺปติตฺวา สูริเยน สทฺธึ ปกฺขนฺทึสุ, มหาสตฺโตปิ เตหิ สทฺธึ ปกฺขนฺทิ. กนิฏฺภาติโก ¶ ยาว ปุพฺพณฺหสมยา ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. โส โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิ, ชีวิตํ เต ทสฺสามี’’ติ ปกฺขปฺชเรน ปริกฺขิปิตฺวา ¶ อสฺสาเสตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตํ เนตฺวา หํสานํ มชฺเฌ เปตฺวา ปุน ปกฺขนฺทิตฺวา สูริยํ ปตฺวา อิตเรน สทฺธึ ปายาสิ. โสปิ ยาว อุปกฏฺมชฺฌนฺหิกา สูริเยน ¶ สทฺธึ ชวิตฺวา กิลมิ, ปกฺขสนฺธีสุ อคฺคิอุฏฺานกาโล วิย อโหสิ. ตทา โพธิสตฺตสฺส สฺํ อทาสิ ‘‘ภาติก, น สกฺโกมี’’ติ. ตมฺปิ มหาสตฺโต ตเถว สมสฺสาเสตฺวา ปกฺขปฺชเรนาทาย จิตฺตกูฏเมว อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ สูริโย นภมชฺฌํ ปาปุณิ.
อถ มหาสตฺโต ‘‘มม อชฺช สรีรพลํ วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา เอกเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ยุคนฺธรมตฺถเก นิสีทิตฺวา ตโต อุปฺปติตฺวา เอกเวเคน สูริยํ ปาปุณิตฺวา กาเลน ปุรโต, กาเลน ปจฺฉโต ชวิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มยฺหํ สูริเยน สทฺธึ ชวนํ นาม นิรตฺถกํ อโยนิโสมนสิการสมฺภูตํ, กึ เม อิมินา, พาราณสึ คนฺตฺวา มม สหายกสฺส รฺโ อตฺถยุตฺตํ ธมฺมยุตฺตํ กถํ กเถสฺสามี’’ติ. โส นิวตฺติตฺวา สูริเย นภมชฺฌํ อนติกฺกนฺเตเยว สกลจกฺกวาฬคพฺภํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา เวคํ ปริหาเปนฺโต สกลชมฺพุทีปํ อนฺตนฺเตน อนุสํยายิตฺวา พาราณสึ ปาปุณิ. ทฺวาทสโยชนิกํ สกลนครํ หํสจฺฉนฺนํ วิย อโหสิ, ฉิทฺทํ นาม น ปฺายิ, อนุกฺกเมน เวเค ปริหายนฺเต อากาเส ฉิทฺทานิ ปฺายึสุ. มหาสตฺโต เวคํ ปริหาเปตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา สีหปฺชรสฺส อภิมุขฏฺาเน อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อาคโต เม สหาโย’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ตสฺส นิสีทนตฺถาย กฺจนปีํ ปฺเปตฺวา ‘‘สมฺม, ปวิส, อิธ นิสีทา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘อิเธว หํส นิปต, ปิยํ เม ตว ทสฺสนํ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยมิธตฺถิ ปเวทยา’’ติ.
ตตฺถ ‘‘อิธา’’ติ กฺจนปีํ สนฺธายาห. นิปตาติ นิสีท. อิสฺสโรสีติ ตฺวํ อิมสฺส านสฺส อิสฺสโร สามิ หุตฺวา อาคโตสีติ วทติ. ยมิธตฺถิ ปเวทยาติ ¶ ยํ อิมสฺมึ นิเวสเน อตฺถิ, ตํ อปริสงฺกนฺโต อมฺหากํ กเถหีติ.
มหาสตฺโต กฺจนปีเ นิสีทิ. ราชา สตปากสหสฺสปาเกหิ เตเลหิ ตสฺส ปกฺขนฺตรานิ มกฺเขตฺวา กฺจนตฏฺฏเก มธุลาเช จ มธุโรทกฺจ สกฺขโรทกฺจ ทาเปตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา ¶ ‘‘สมฺม, ตฺวํ เอกโกว อาคโตสิ, กุหึ อคมิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ตํ ปวตฺตึ วิตฺถาเรน กเถสิ. อถ นํ ราชา อาห ‘‘สมฺม, มมปิ สูริเยน สทฺธึ ชวิตเวคํ ทสฺเสหี’’ติ. มหาราช, น สกฺกา โส เวโค ทสฺเสตุนฺติ. เตน หิ เม สริกฺขกมตฺตํ ¶ ทสฺเสหีติ. สาธุ, มหาราช, สริกฺขกมตฺตํ ทสฺเสสฺสามิ, อกฺขณเวธี ธนุคฺคเห สนฺนิปาเตหีติ. ราชา สนฺนิปาเตสิ. มหาสตฺโต จตฺตาโร ธนุคฺคเห คเหตฺวา นิเวสนา โอรุยฺห ราชงฺคเณ สิลาถมฺภํ นิขณาเปตฺวา อตฺตโน คีวายํ ฆณฺฏํ พนฺธาเปตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสีทิตฺวา จตฺตาโร ธนุคฺคเห ถมฺภํ นิสฺสาย จตุทฺทิสาภิมุเข เปตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ชนา เอกปฺปหาเรเนว จตุทฺทิสาภิมุขา จตฺตาริ กณฺฑานิ ขิปนฺตุ, ตานิ อหํ ปถวึ อปฺปตฺตาเนว อาหริตฺวา เอเตสํ ปาทมูเล ปาเตสฺสามิ. มม กณฺฑคหณตฺถาย คตภาวํ ฆณฺฏสทฺทสฺาย ชาเนยฺยาสิ, มํ ปน น ปสฺสิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตหิ เอกปฺปหาเรเนว ขิตฺตกณฺฑานิ อาหริตฺวา เตสํ ปาทมูเล ปาเตตฺวา สิลาถมฺภมตฺถเก นิสินฺนเมว อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘ทิฏฺโ เต, มหาราช, มยฺหํ เวโค’’ติ วตฺวา ‘‘มหาราช, อยํ เวโค มยฺหํ เนว อุตฺตโม, มชฺฌิโม, ปริตฺโต ลามกเวโค เอส, เอวํ สีโฆ, มหาราช, อมฺหากํ เวโค’’ติ อาห.
อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม, อตฺถิ ปน ตุมฺหากํ เวคโต อฺโ สีฆตโร เวโค’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อมฺหากํ อุตฺตมเวคโตปิ สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน อิเมสํ สตฺตานํ อายุสงฺขารา สีฆตรํ ขียนฺติ ภิชฺชนฺติ, ขยํ คจฺฉนฺตี’’ติ ขณิกนิโรธวเสน รูปธมฺมานํ นิโรธํ ทสฺเสติ, ตโต นามธมฺมานํ. ราชา มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา มรณภยภีโต สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ภูมิยํ ปติ, มหาชโน อุตฺราสํ ปตฺโต อโหสิ. รฺโ มุขํ อุทเกน สิฺจิตฺวา ¶ สตึ ลภาเปสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, มา ภายิ, มรณสฺสตึ ¶ ภาเวหิ, ธมฺมํ จราหิ, ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรหิ, อปฺปมตฺโต โหหิ, เทวา’’ติ โอวทิ. อถ ราชา ‘‘สามิ, มยํ ตุมฺหาทิเสน าณพลสมฺปนฺเนน อาจริเยน วินา วสิตุํ น สกฺขิสฺสาม, จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา มยฺหํ ธมฺมํ เทเสนฺโต มยฺหํ โอวาทาจริโย หุตฺวา อิเธว วสาหี’’ติ ยาจนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘สวเนน เอกสฺส ปิยา ภวนฺติ, ทิสฺวา ปเนกสฺส วิเยติ ฉนฺโท;
ทิสฺวา จ สุตฺวา จ ปิยา ภวนฺติ, กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนน.
‘‘สวเนน ปิโย เมสิ, ภิยฺโย จาคมฺม ทสฺสนํ;
เอวํ ปิยทสฺสโน เม, วส หํส มมนฺติเก’’ติ.
ตาสํ อตฺโถ – สมฺม หํสราช สวเนน เอกสฺส เอกจฺเจ ปิยา โหนฺติ, ‘‘เอวํ คุโณ นามา’’ติ สุตฺวา สวเนน ปิยายติ, เอกสฺส ปน เอกจฺเจ ทิสฺวาว ฉนฺโท วิคจฺฉติ, เปมํ อนฺตรธายติ ¶ , ขาทิตุํ อาคตา ยกฺขา วิย อุปฏฺหนฺติ, เอกสฺส เอกจฺเจ ทิสฺวา จ สุตฺวา จาติ อุภยถาปิ ปิยา โหนฺติ, เตน ตํ ปุจฺฉามิ. กจฺจินฺนุ เม ปียสิ ทสฺสเนนาติ กจฺจิ นุ ตฺวํ มํ ปิยายสิ, มยฺหํ ปน ตฺวํ สวเนน ปิโยว, ทสฺสนํ ปนาคมฺม อติปิโยว. เอวํ มม ปิยทสฺสโน สมาโน จิตฺตกูฏํ อคนฺตฺวา อิธ มม สนฺติเก วสาติ.
โพธิสตฺโต อาห –
‘‘วเสยฺยาม ตวาคาเร, นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา;
มตฺโต จ เอกทา วชฺเช, หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ.
ตตฺถ มตฺโต จ เอกทาติ มหาราช, มยํ ตว ฆเร นิจฺจํ ปูชิตา วเสยฺยาม, ตฺวํ ปน กทาจิ สุรามทมตฺโต มํสขาทนตฺถํ ‘‘หํสราชํ ปจนฺตุ เม’’ติ วเทยฺยาสิ, อถ เอวํ ตว อนุชีวิโน มํ มาเรตฺวา ปเจยฺยุํ, ตทาหํ กึ กริสฺสามีติ.
อถสฺส ¶ ¶ ราชา ‘‘เตน หิ มชฺชเมว น ปิวิสฺสามี’’ติ ปฏิฺํ ทาตุํ อิมํ คาถมาห –
‘‘ธิรตฺถุ ตํ มชฺชปานํ, ยํ เม ปิยตรํ ตยา;
น จาปิ มชฺชํ ปิสฺสามิ, ยาว เม วจฺฉสี ฆเร’’ติ.
ตโต ปรํ โพธิสตฺโต ฉ คาถา อาห –
‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.
‘‘ยสฺมึ มโน นิวิสติ, อวิทูเร สหาปิ โส;
สนฺติเกปิ หิ โส ทูเร, ยสฺมึ นาวิสเต มโน.
‘‘อนฺโตปิ ¶ โส โหติ ปสนฺนจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปสนฺนจิตฺโต;
อนฺโตปิ โส โหติ ปทุฏฺจิตฺโต, ปารํ สมุทฺทสฺส ปทุฏฺจิตฺโต.
‘‘สํวสนฺตา วิวสนฺติ, เย ทิสา เต รเถสภ;
อารา สนฺโต สํวสนฺติ, มนสา รฏฺวฑฺฒน.
‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.
ตตฺถ วสฺสิตนฺติ มหาราช, ติรจฺฉานคตา อุชุหทยา, เตน เตสํ วสฺสิตํ สุวิชานํ, มนุสฺสา ปน กกฺขฬา, ตสฺมา เตสํ วจนํ ทุพฺพิชานตรนฺติ อตฺโถ. โย ปุพฺเพติ โย ปุคฺคโล ปมเมว อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘ตฺวํ มยฺหํ าตโก มิตฺโต ปาณสโม สขา’’ติ อปิ เอวํ มฺติ, สฺเวว ปจฺฉา ทิโส เวรี สมฺปชฺชติ, เอวํ ทุพฺพิชานํ นาม มนุสฺสหทยนฺติ. นิวิสตีติ มหาราช, ยสฺมึ ปุคฺคเล เปมวเสน มโน นิวิสติ, โส ทูเร ¶ วสนฺโตปิ อวิทูเร สหาปิ วสติเยว นาม. ยสฺมึ ปน ปุคฺคเล มโน น นิวิสติ อเปติ, โส สนฺติเก วสนฺโตปิ ทูเรเยว.
อนฺโตปิ โส โหตีติ มหาราช, โย สหาโย ปสนฺนจิตฺโต, โส จิตฺเตน อลฺลีนตฺตา ปารํ สมุทฺทสฺส วสนฺโตปิ อนฺโตเยว ¶ โหติ. โย ปน ปทุฏฺจิตฺโต, โส จิตฺเตน อนลฺลีนตฺตา อนฺโต วสนฺโตปิ ปารํ สมุทฺทสฺส นาม. เย ทิสา เตติ เย เวริโน ปจฺจตฺถิกา, เต เอกโต วสนฺตาปิ ทูเร วสนฺติเยว นาม. สนฺโต ปน ปณฺฑิตา อารา ิตาปิ เมตฺตาภาวิเตน มนสา อาวชฺเชนฺตา สํวสนฺติเยว. ปุรา เต โหมาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาวเทว ตํ อามนฺเตตฺวา คจฺฉามาติ วทติ.
อถ นํ ราชา อาห –
‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;
ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;
เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เอวํ เจติ สเจ หํสราช, เอวํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจมานานํ อมฺหากํ อิมํ อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ, ตว ปริจารกานํ สมานานํ วจนํ น กโรสิ, อถ นํ เอวํ ยาจาม. ปุน กยิราสิ ปริยายนฺติ กาเลน กาลํ อิธ อาคมนาย วารํ กเรยฺยาสีติ อตฺโถ.
ตโต โพธิสตฺโต อาห –
‘‘เอวํ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;
ตุยฺหํ จาปิ มหาราช, มยฺหฺจ รฏฺวฑฺฒน;
อปฺเปว นาม ปสฺเสมุ, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.
ตตฺถ เอวํ เจ โนติ มหาราช, มา จินฺตยิตฺถ, สเจ อมฺหากมฺปิ เอวํ วิหรนฺตานํ ชีวิตนฺตราโย น ภวิสฺสติ, อปฺเปว นาม อุโภ อฺมฺํ ปสฺสิสฺสาม, อปิจ ตฺวํ มยา ทินฺนํ โอวาทเมว มม าเน เปตฺวา เอวํ อิตฺตรชีวิเต โลกสนฺนิวาเส อปฺปมตฺโต หุตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรนฺโต ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอวฺหิ ¶ เม โอวาทํ กโรนฺโต มํ ปสฺสิสฺสติเยวาติ. เอวํ มหาสตฺโต ราชานํ โอวทิตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพตเมว คโต.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺเตนปิ มยา อายุสงฺขารานํ ทุพฺพลภาวํ ทสฺเสตฺวา ธมฺโม เทสิโต’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กนิฏฺโ โมคฺคลฺลาโน, มชฺฌิโม สาริปุตฺโต, เสสหํสคณา พุทฺธปริสา, ชวนหํโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ชวนหํสชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๔๗๗] ๔. จูฬนารทชาตกวณฺณนา
น ¶ เต กฏฺานิ ภินฺนานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ถุลฺลกุมาริกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. สาวตฺถิวาสิโน กิเรกสฺส กุลสฺส ปนฺนรสโสฬสวสฺสุทฺเทสิกา ธีตา อโหสิ โสภคฺคปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรสิ. อถสฺสา มาตา จินฺเตสิ ‘‘มม ธีตา วยปฺปตฺตา, น จ นํ โกจิ วาเรติ, อามิเสน มจฺฉํ วิย เอตาย เอกํ สากิยภิกฺขุํ ปโลเภตฺวา อุปฺปพฺพาเชตฺวา ¶ ตํ นิสฺสาย ชีวิสฺสามี’’ติ. ตทา จ สาวตฺถิวาสี เอโก กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย สิกฺขากามตํ ปหาย อาลสิโย สรีรมณฺฑนมนุยุตฺโต วิหาสิ. มหาอุปาสิกา เคเห ยาคุขาทนียโภชนียานิ สมฺปาเทตฺวา ทฺวาเร ตฺวา อนฺตรวีถิยา คจฺฉนฺเตสุ ภิกฺขูสุ เอกํ ภิกฺขุํ รสตณฺหาย พนฺธิตฺวา คเหตุํ สกฺกุเณยฺยรูปํ อุปธาเรนฺตี เตปิฏกอาภิธมฺมิกวินยธรานํ มหนฺเตน ปริวาเรน คจฺฉนฺตานํ อนฺตเร กฺจิ คยฺหุปคํ อทิสฺวา เตสํ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตานํ มธุรธมฺมกถิกานํ อจฺฉินฺนวลาหกสทิสานํ ปิณฺฑปาติกานมฺปิ อนฺตเร กฺจิ อทิสฺวาว เอกํ ยาว พหิ อปงฺคา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา เกเส โอสณฺเหตฺวา ทุกูลนฺตรวาสกํ นิวาเสตฺวา ฆฏิตมฏฺํ จีวรํ ปารุปิตฺวา มณิวณฺณปตฺตํ อาทาย มโนรมํ ฉตฺตํ ธารยมานํ วิสฺสฏฺินฺทฺริยํ กายทฬฺหิพหุลํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ สกฺกา คณฺหิตุ’’นฺติ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา ‘‘เอถ ¶ , ภนฺเต’’ติ ฆรํ อาเนตฺวา นิสีทาเปตฺวา ยาคุอาทีหิ ปริวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย อิเธวาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. โสปิ ตโต ปฏฺาย ตตฺเถว คนฺตฺวา อปรภาเค วิสฺสาสิโก อโหสิ.
อเถกทิวสํ มหาอุปาสิกา ตสฺส สวนปเถ ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ เคเห อุปโภคปริโภคมตฺตา อตฺถิ, ตถารูโป ปน เม ปุตฺโต วา ชามาตา วา เคหํ วิจาริตุํ สมตฺโถ นตฺถี’’ติ อาห. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘กิมตฺถํ นุ โข กเถตี’’ติ โถกํ หทเย วิทฺโธ วิย อโหสิ. สา ธีตรํ อาห ‘‘อิมํ ปโลเภตฺวา ตว วเส วตฺตาเปหี’’ติ. สา ตโต ปฏฺาย มณฺฑิตปสาธิตา อิตฺถิกุตฺตวิลาเสหิ ตํ ปโลเภสิ. ถุลฺลกุมาริกาติ ¶ น จ ถูลสรีรา ทฏฺพฺพา, ถูลา วา โหตุ กิสา วา, ปฺจกามคุณิกราเคน ปน ถูลตาย ‘‘ถุลฺลกุมาริกา’’ติ วุจฺจติ. โส ทหโร กิเลสวสิโก หุตฺวา ‘‘น ทานาหํ พุทฺธสาสเน ปติฏฺาตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา อสุกฏฺานํ นาม คมิสฺสามิ, ตตฺร เม วตฺถานิ เปเสถา’’ติ วตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ นิยฺยาเทตฺวา ‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมี’’ติ อาจริยุปชฺฌาเย อาห. เต ตํ อาทาย สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ถุลฺลกุมาริกาย, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ ปุพฺเพเปสา ตว อรฺเ วสนฺตสฺส พฺรหฺมจริยนฺตรายํ กตฺวา มหนฺตํ อนตฺถมกาสิ, ปุน ตฺวํ เอตเมว นิสฺสาย กสฺมา อุกฺกณฺิโตสี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ มหาโภเค พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป กุฏุมฺพํ สณฺเปสิ, อถสฺส ภริยา เอกํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา กาลมกาสิ. โส ‘‘ยเถว เม ปิยภริยาย, เอวํ มยิปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ปพฺพชิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา กาเม ปหาย ปุตฺตํ อาทาย หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา เตน สทฺธึ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา วนมูลผลาหาโร อรฺเ วิหาสิ. ตทา ปจฺจนฺตวาสิโน โจรา ชนปทํ ปวิสิตฺวา ¶ คามํ ปหริตฺวา กรมเร คเหตฺวา ภณฺฑิกํ อุกฺขิปาเปตฺวา ปุน ปจฺจนฺตํ ปาปยึสุ. เตสํ อนฺตเร เอกา อภิรูปา กุมาริกา เกราฏิกปฺาย สมนฺนาคตา จินฺเตสิ ‘‘อิเม อมฺเห คเหตฺวา ทาสิโภเคน ปริภฺุชิสฺสนฺติ, เอเกน อุปาเยน ปลายิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. สา ‘‘สามิ, สรีรกิจฺจํ กาตุกามามฺหิ, โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา ติฏฺถา’’ติ วตฺวา โจเร วฺเจตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสนฺตี โพธิสตฺตสฺส ปุตฺตํ อสฺสเม เปตฺวา ผลาผลตฺถาย คตกาเล ปุพฺพณฺหสมเย ตํ อสฺสมํ ปาปุณิตฺวา ตํ ตาปสกุมารํ ¶ กามรติยา ปโลเภตฺวา สีลมสฺส ภินฺทิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ‘‘กึ เต อรฺวาเสน, เอหิ คามํ คนฺตฺวา วสิสฺสาม, ตตฺร หิ รูปาทโย กามคุณา สุลภา’’ติ อาห. โสปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ปิตา ตาว เม อรฺโต ผลาผลํ อาหริตุํ คโต, ตํ ทิสฺวา อุโภปิ เอกโตว คมิสฺสามา’’ติ อาห.
สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตรุณทารโก น กิฺจิ ชานาติ, ปิตรา ปนสฺส มหลฺลกกาเล ปพฺพชิเตน ภวิตพฺพํ, โส อาคนฺตฺวา ‘อิธ กึ กโรสี’ติ มํ โปเถตฺวา ปาเท คเหตฺวา กฑฺเฒตฺวา อรฺเ ขิปิสฺสติ, ตสฺมึ อนาคเตเยว ปลายิสฺสามี’’ติ. อถ นํ ‘‘อหํ ปุรโต คจฺฉามิ, ตฺวํ ปจฺฉา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา มคฺคสฺํ อาจิกฺขิตฺวา ปกฺกามิ. โส ตสฺสา คตกาลโต ปฏฺาย อุปฺปนฺนโทมนสฺโส ยถา ปุเร กิฺจิ วตฺตํ อกตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา อนฺโตปณฺณสาลาย ปชฺฌายนฺโต นิปชฺชิ. มหาสตฺโต ผลาผลํ อาทาย อาคนฺตฺวา ตสฺสา ปทวลฺชํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มาตุคามสฺส ปทวลฺโช, ‘‘ปุตฺตสฺส มม สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ผลาผลํ โอตาเรตฺวา ปุตฺตํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;
อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อคฺคีปิ เต น หาปิโตติ อคฺคิปิ เต น ชาลิโต. มนฺโทวาติ นิปฺปฺโ อนฺธพาโล วิย.
โส ปิตุ กถํ สุตฺวา อุฏฺาย ปิตรํ วนฺทิตฺวา คารเวเนว อรฺวาเส อนุสฺสาหํ ปเวเทนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘น ¶ อุสฺสเห วเน วตฺถุํ, กสฺสปามนฺตยามิ ตํ;
ทุกฺโข วาโส อรฺมฺหิ, รฏฺํ อิจฺฉามิ คนฺตเว.
‘‘ยถา อหํ อิโต คนฺตฺวา, ยสฺมึ ชนปเท วสํ;
อาจารํ พฺรหฺเม สิกฺเขยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส ม’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ กสฺสปามนฺตยามิ ตนฺติ กสฺสป อามนฺตยามิ ตํ. คนฺตเวติ คนฺตุํ. อาจารนฺติ ยสฺมึ ชนปเท วสามิ, ตตฺถ วสนฺโต ยถา อาจารํ ชนปทจาริตฺตํ สิกฺเขยฺยํ ชาเนยฺยํ, ตํ ธมฺมํ อนุสาส โอวทาหีติ วทติ.
มหาสตฺโต ‘‘สาธุ, ตาต, เทสจาริตฺตํ เต กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –
‘‘สเจ อรฺํ หิตฺวาน, วนมูลผลานิ จ;
รฏฺเ โรจยเส วาสํ, ตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ เม.
‘‘วิสํ มา ปฏิเสวิตฺโถ, ปปาตํ ปริวชฺชย;
ปงฺเก จ มา วิสีทิตฺโถ, ยตฺโต จาสีวิเส จเร’’ติ.
ตตฺถ ธมฺมนฺติ สเจ รฏฺวาสํ โรเจสิ, เตน หิ ตฺวํ ชนปทจาริตฺตํ ธมฺมํ นิสาเมหิ. ยตฺโต จาสีวิเสติ อาสีวิสสฺส สนฺติเก ยตฺโต ปฏิยตฺโต จเรยฺยาสิ, สกฺโกนฺโต อาสีวิสํ ปริวชฺเชยฺยาสีติ อตฺโถ.
ตาปสกุมาโร สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส อตฺถํ อชานนฺโต ปุจฺฉิ –
‘‘กึ ¶ นุ วิสํ ปปาโต วา, ปงฺโก วา พฺรหฺมจารินํ;
กํ ตฺวํ อาสีวิสํ พฺรูสิ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิโต’’ติ.
อิตโรปิสฺส พฺยากาสิ –
‘‘อาสโว ตาต โลกสฺมึ, สุรา นาม ปวุจฺจติ;
มนฺุโ สุรภี วคฺคุ, สาทุ ขุทฺทรสูปโม;
วิสํ ตทาหุ อริยา เส, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘อิตฺถิโย ¶ ตาต โลกสฺมึ, ปมตฺตํ ปมเถนฺติ ตา;
หรนฺติ ยุวิโน จิตฺตํ, ตูลํ ภฏฺํว มาลุโต;
ปปาโต เอโส อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘ลาโภ สิโลโก สกฺกาโร, ปูชา ปรกุเลสุ จ;
ปงฺโก เอโส จ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘สสตฺถา ตาต ราชาโน, อาวสนฺติ มหึ อิมํ;
เต ตาทิเส มนุสฺสินฺเท, มหนฺเต ตาต นารท.
‘‘อิสฺสรานํ ¶ อธิปตีนํ, น เตสํ ปาทโต จเร;
อาสีวิโสติ อกฺขาโต, พฺรหฺมจริยสฺส นารท.
‘‘ภตฺตตฺโถ ภตฺตกาเล จ, ยํ เคหมุปสงฺกเม;
ยเทตฺถ กุสลํ ชฺา, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเร.
‘‘ปวิสิตฺวา ปรกุลํ, ปานตฺถํ โภชนาย วา;
มิตํ ขาเท มิตํ ภฺุเช, น จ รูเป มนํ กเร.
‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏฺจ, สภา นิกิรณานิ จ;
อารกา ปริวชฺเชหิ, ยานีว วิสมํ ปถ’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อาสโวติ ปุปฺผาสวาทิ. วิสํ ตทาหูติ ตํ อาสวสงฺขาตํ สุรํ อริยา ‘‘พฺรหฺมจริยสฺส วิส’’นฺติ วทนฺติ. ปมตฺตนฺติ มุฏฺสฺสตึ. ตูลํ ภฏฺํวาติ รุกฺขา ภสฺสิตฺวา ปติตตูลํ วิย. อกฺขาโตติ พุทฺธาทีหิ กถิโต. สิโลโกติ กิตฺติวณฺโณ. สกฺกาโรติ อฺชลิกมฺมาทิ. ปูชาติ คนฺธมาลาทีหิ ปูชา. ปงฺโกติ เอส โอสีทาปนฏฺเน ‘‘ปงฺโก’’ติ อกฺขาโต. มหนฺเตติ มหนฺตภาวปฺปตฺเต. น เตสํ ปาทโต จเรติ เตสํ สนฺติเก น จเร, ราชกุลูปโก น ภเวยฺยาสีติ อตฺโถ. ราชาโน หิ อาสีวิสา วิย มุหุตฺเตเนว กุชฺฌิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ. อปิจ อนฺเตปุรปฺปเวสเน วุตฺตาทีนววเสนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ภตฺตตฺโถติ ¶ ภตฺเตน อตฺถิโก หุตฺวา. ยเทตฺถ กุสลนฺติ ยํ เตสุ อุปสงฺกมิตพฺเพสุ เคเหสุ กุสลํ อนวชฺชํ ปฺจอโคจรรหิตํ ชาเนยฺยาสิ, ตตฺถ ฆาเสสนํ จเรยฺยาสีติ อตฺโถ. น จ รูเป มนํ กเรติ ปรกุเล มตฺตฺู หุตฺวา โภชนํ ภฺุชนฺโตปิ ตตฺถ อิตฺถิรูเป มนํ มา กเรยฺยาสิ, มา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา อิตฺถิรูเป นิมิตฺตํ คณฺเหยฺยาสีติ วทติ. โคฏฺํ มชฺชํ กิราฏนฺติ อยํ โปตฺถเกสุ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘โคฏฺํ มชฺชํ กิราสฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘โคฏฺนฺติ คุนฺนํ ิตฏฺานํ. มชฺชนฺติ ปานาคารํ. กิราสนฺติ ธุตฺตเกราฏิกชน’’นฺติ วุตฺตํ. สภา นิกิรณานิ จาติ สภาโย จ หิรฺสุวณฺณานํ นิกิรณฏฺานานิ จ. อารกาติ เอตานิ สพฺพานิ ทูรโต ปริวชฺเชยฺยาสิ. ยานีวาติ สปฺปิเตลยาเนน คจฺฉนฺโต วิสมํ มคฺคํ วิย.
มาณโว ปิตุ กเถนฺตสฺเสว สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘ตาต, อลํ เม มนุสฺสปเถนา’’ติ อาห. อถสฺส ปิตา ¶ เมตฺตาทิภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตสฺโสวาเท ตฺวา น จิรสฺเสว ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ. อุโภปิ ปิตาปุตฺตา อปริหีนชฺฌานา กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สา กุมาริกา อยํ กุมาริกา อโหสิ, ตาปสกุมาโร อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จูฬนารทชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๔๗๘] ๕. ทูตชาตกวณฺณนา
ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตโน ปฺาปสํสนํ อารพฺภ กเถสิ. ธมฺมสภายํ ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ปสฺสถ, อาวุโส, ทสพลสฺส อุปายโกสลฺลํ, นนฺทสฺส ¶ สกฺยปุตฺตสฺส อจฺฉราคณํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, จูฬปนฺถกสฺส ปิโลติกํ ทตฺวา สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ อทาสิ, กมฺมารปุตฺตสฺส ปทุมํ ทสฺเสตฺวา อรหตฺตํ อทาสิ, เอวํ นานาอุปาเยหิ สตฺเต วิเนตี’’ติ ¶ . สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว ‘อิมินา อิทํ โหตี’ติ อุปายกุสโล, ปุพฺเพปิ อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ชนปโท อหิรฺโ อโหสิ. โส หิ ชนปทํ ปีเฬตฺวา ธนเมว สํกฑฺฒิ. ตทา โพธิสตฺโต กาสิคาเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ‘‘ปจฺฉา ธมฺเมน ภิกฺขํ จริตฺวา อาจริยธนํ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา นิฏฺิตสิปฺโป อนุโยคํ ทตฺวา ‘‘อาจริย, ตุมฺหากํ ธนํ อาหริสฺสามี’’ติ อาปุจฺฉิตฺวา นิกฺขมฺม ชนปเท จรนฺโต ธมฺเมน สเมน ปริเยสิตฺวา สตฺต นิกฺเข ลภิตฺวา ‘‘อาจริยสฺส ทสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค คงฺคํ โอตริตุํ นาวํ อภิรุหิ. ตสฺส ตตฺถ นาวาย วิปริวตฺตมานาย ตํ สุวณฺณํ อุทเก ปติ. โส จินฺเตสิ ‘‘ทุลฺลภํ หิรฺํ, ชนปเท ปุน อาจริยธเน ปริเยสิยมาเน ¶ ปปฺโจ ภวิสฺสติ, ยํนูนาหํ คงฺคาตีเรเยว นิราหาโร นิสีเทยฺยํ, ตสฺส เม นิสินฺนภาวํ อนุปุพฺเพน ราชา ชานิสฺสติ, ตโต อมจฺเจ เปเสสฺสติ, อหํ เตหิ สทฺธึ น มนฺเตสฺสามิ, ตโต ราชา สยํ อาคมิสฺสติ, อิมินา อุปาเยน ตสฺส สนฺติเก อาจริยธนํ ลภิสฺสามี’’ติ. โส คงฺคาตีเร อุตฺตริสาฏกํ ปารุปิตฺวา ยฺสุตฺตํ พหิ เปตฺวา รชตปฏฺฏวณฺเณ วาลุกตเล สุวณฺณปฏิมา วิย นิสีทิ. ตํ นิราหารํ นิสินฺนํ ทิสฺวา มหาชโน ‘‘กสฺมา นิสินฺโนสี’’ติ ปุจฺฉิ, กสฺสจิ น กเถสิ. ปุนทิวเส ทฺวารคามวาสิโน ตสฺส ตตฺถ นิสินฺนภาวํ สุตฺวา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉึสุ, เตสมฺปิ น กเถสิ. เต ตสฺส กิลมถํ ทิสฺวา ปริเทวนฺตา ปกฺกมึสุ. ตติยทิวเส นครวาสิโน อาคมึสุ, จตุตฺถทิวเส นครโต อิสฺสรชนา, ปฺจมทิวเส ราชปุริสา. ฉฏฺทิวเส ราชา อมจฺเจ เปเสสิ, เตหิปิ สทฺธึ น กเถสิ. สตฺตมทิวเส ราชา ภยฏฺฏิโต หุตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ทูเต เต พฺรหฺเม ปาเหสึ, คงฺคาตีรสฺมิ ฌายโต;
เตสํ ปุฏฺโ น พฺยากาสิ, ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เต’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทุกฺขํ คุยฺหมตํ นุ เตติ กึ นุ โข, พฺราหฺมณ, ยํ ตว ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ, ตํ เต คุยฺหเมว มตํ, น อฺสฺส อาจิกฺขิตพฺพนฺติ.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, ทุกฺขํ นาม หริตุํ สมตฺถสฺเสว อาจิกฺขิตพฺพํ, น อฺสฺสา’’ติ วตฺวา สตฺต คาถา อภาสิ –
‘‘สเจ เต ทุกฺขมุปฺปชฺเช, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒน;
มา โข นํ ตสฺส อกฺขาหิ, โย ตํ ทุกฺขา น โมจเย.
‘‘โย ตสฺส ทุกฺขชาตสฺส, เอกงฺคมปิ ภาคโส;
วิปฺปโมเจยฺย ธมฺเมน, กามํ ตสฺส ปเวทย.
‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
‘‘อปิ ¶ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส.
‘‘โย อตฺตโน ทุกฺขมนานุปุฏฺโ, ปเวทเย ชนฺตุ อกาลรูเป;
อานนฺทิโน ตสฺส ภวนฺติ มิตฺตา, หิเตสิโน ตสฺส ทุขี ภวนฺติ.
‘‘กาลฺจ ตฺวาน ตถาวิธสฺส, เมธาวินํ เอกมนํ วิทิตฺวา;
อกฺเขยฺย ติพฺพานิ ปรสฺส ธีโร, สณฺหํ คิรํ อตฺถวตึ ปมฺุเจ.
‘‘สเจ จ ชฺา อวิสยฺหมตฺตโน, น เต หิ มยฺหํ สุขาคมาย;
เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโร, สจฺจํ หิโรตฺตปฺปมเปกฺขมาโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุปฺปชฺเชติ สเจ ตว อุปฺปชฺเชยฺย. มา อกฺขาหีติ มา กเถหิ. ทุพฺพิชานตรํ ตโตติ ตโต ติรจฺฉานคตวสฺสิตโตปิ ทุพฺพิชานตรํ, ตสฺมา ตถโต อชานิตฺวา หริตุํ อสมตฺถสฺส อตฺตโน ทุกฺขํ น กเถตพฺพเมวาติ. อปิ เจติ คาถา วุตฺตตฺถาว. อนานุปุฏฺโติ ปุนปฺปุนํ ปุฏฺโ. ปเวทเยติ กเถติ. อกาลรูเปติ อกาเล. กาลนฺติ อตฺตโน คุยฺหสฺส กถนกาลํ. ตถาวิธสฺสาติ ปณฺฑิตปุริสํ อตฺตนา สทฺธึ เอกมนํ วิทิตฺวา ตถาวิธสฺส อาจิกฺเขยฺย. ติพฺพานีติ ทุกฺขานิ.
สเจติ ¶ ยทิ อตฺตโน ทุกฺขํ อวิสยฺหํ อตฺตโน วา ปเรสํ วา ปุริสกาเรน อเตกิจฺฉํ ชาเนยฺย. เต หีติ เต เอว โลกปเวณิกา, อฏฺโลกธมฺมาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อถ อยํ โลกปเวณี น มยฺหํ เอว สุขาคมาย อุปฺปนฺนา, อฏฺหิ โลกธมฺเมหิ ปริมุตฺโต นาม นตฺถิ, เอวํ สนฺเต สุขเมว ปตฺเถนฺเตน ปรสฺส ทุกฺขาโรปนํ นาม น ยุตฺตํ, เนตํ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน กตฺตพฺพํ, อตฺถิ จ เม หิรี โอตฺตปฺปนฺติ สจฺจํ สํวิชฺชมานํ อตฺตนิ หิโรตฺตปฺปํ อเปกฺขมาโนว อฺสฺส อนาโรเจตฺวา เอโกว ติพฺพานิ สเหยฺย ธีโรติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต สตฺตหิ คาถาหิ รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา อตฺตโน อาจริยธนสฺส ปริเยสิตภาวํ ทสฺเสนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อหํ รฏฺเ วิจรนฺโต, นิคเม ราชธานิโย;
ภิกฺขมาโน มหาราช, อาจริยสฺส ธนตฺถิโก.
‘‘คหปตี ราชปุริเส, มหาสาเล จ พฺราหฺมเณ;
อลตฺถํ สตฺต นิกฺขานิ, สุวณฺณสฺส ชนาธิป;
เต เม นฏฺา มหาราช, ตสฺมา โสจามหํ ภุสํ.
‘‘ปุริสา เต มหาราช, มนสานุวิจินฺติตา;
นาลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา เตสํ น พฺยาหรึ.
‘‘ตฺวฺจ ¶ โข เม มหาราช, มนสานุวิจินฺติโต;
อลํ ทุกฺขา ปโมเจตุํ, ตสฺมา ตุยฺหํ ปเวทยิ’’นฺติ.
ตตฺถ ภิกฺขมาโนติ เอเต คหปติอาทโย ยาจมาโน. เต เมติ เต สตฺต นิกฺขา มม คงฺคํ ตรนฺตสฺส นฏฺา, คงฺคายํ ปติตา. ปุริสา เตติ มหาราช, ตว ทูตปุริสา. อนุวิจินฺติตาติ ‘‘นาลํ อิเม มํ ทุกฺขา โมเจตุ’’นฺติ มยา าตา. ตสฺมาติ เตน การเณน เตสํ อตฺตโน ทุกฺขํ นาจิกฺขึ. ปเวทยินฺติ กเถสึ.
ราชา ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ‘‘มา จินฺตยิ, พฺราหฺมณ, อหํ เต อาจริยธนํ ทสฺสามี’’ติ ทฺวิคุณธนมทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –
‘‘ตสฺสาทาสิ ¶ ปสนฺนตฺโต, กาสีนํ รฏฺวฑฺฒโน;
ชาตรูปมเย นิกฺเข, สุวณฺณสฺส จตุทฺทสา’’ติ.
ตตฺถ ชาตรูปมเยติ เต สุวณฺณสฺส จตุทฺทส นิกฺเข ชาตรูปมเยเยว อทาสิ, น ยสฺส วา ตสฺส วา สุวณฺณสฺสาติ อตฺโถ.
มหาสตฺโต รฺโ โอวาทํ ทตฺวา อาจริยสฺส ธนํ ทตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา ราชาปิ ตสฺโสวาเท ิโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อุโภปิ ยถากมฺมํ คตา.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต อุปายกุสโลเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, อาจริโย สาริปุตฺโต, พฺราหฺมณมาณโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ทูตชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๔๗๙] ๖. กาลิงฺคโพธิชาตกวณฺณนา
ราชา กาลิงฺโค จกฺกวตฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อานนฺทตฺเถเรน กตํ มหาโพธิปูชํ อารพฺภ กเถสิ. เวเนยฺยสงฺคหตฺถาย หิ ตถาคเต ชนปทจาริกํ ปกฺกนฺเต สาวตฺถิวาสิโน คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา อฺํ ปูชนียฏฺานํ อลภิตฺวา คนฺธกุฏิทฺวาเร ปาเตตฺวา ¶ คจฺฉนฺติ, เต อุฬารปาโมชฺชา น โหนฺติ. ตํ การณํ ตฺวา อนาถปิณฺฑิโก ตถาคตสฺส เชตวนํ อาคตกาเล อานนฺทตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อยํ วิหาโร ตถาคเต จาริกํ ปกฺกนฺเต นิปจฺจโย โหติ, มนุสฺสานํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชนียฏฺานํ น โหติ, สาธุ, ภนฺเต, ตถาคตสฺส อิมมตฺถํ อาโรเจตฺวา เอกสฺส ปูชนียฏฺานสฺส สกฺกุเณยฺยภาวํ ชานาถา’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถาคตํ ปุจฺฉิ ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต, เจติยานี’’ติ? ‘‘ตีณิ อานนฺทา’’ติ. ‘‘กตมานิ, ภนฺเต, ตีณี’’ติ? ‘‘สารีริกํ ปาริโภคิกํ อุทฺทิสฺสก’’นฺติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ธรนฺเตสุเยว เจติยํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘อานนฺท, สารีริกํ น สกฺกา กาตุํ. ตฺหิ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานกาเล โหติ, อุทฺทิสฺสกํ อวตฺถุกํ มมายนมตฺตเมว โหติ, พุทฺเธหิ ปริภุตฺโต มหาโพธิรุกฺโข พุทฺเธสุ ธรนฺเตสุปิ เจติยเมวา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ ปกฺกนฺเตสุ เชตวนวิหาโร อปฺปฏิสรโณ โหติ, มหาชโน ปูชนียฏฺานํ ¶ น ลภติ, มหาโพธิโต พีชํ อาหริตฺวา เชตวนทฺวาเร โรเปสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สาธุ, อานนฺท, โรเปหิ, เอวํ สนฺเต เชตวเน มม นิพทฺธวาโส วิย ภวิสฺสตี’’ติ.
เถโร โกสลนรินฺทสฺส อนาถปิณฺฑิกสฺส วิสาขาทีนฺจ อาโรเจตฺวา เชตวนทฺวาเร โพธิโรปนฏฺาเน อาวาฏํ ขณาเปตฺวา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อหํ เชตวนทฺวาเร โพธึ โรเปสฺสามิ, มหาโพธิโต เม โพธิปกฺกํ อาหรถา’’ติ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อากาเสน โพธิมณฺฑํ คนฺตฺวา วณฺฏา ปริคลนฺตํ ¶ ปกฺกํ ภูมึ อสมฺปตฺตเมว จีวเรน สมฺปฏิจฺฉิตฺวา คเหตฺวา อานนฺทตฺเถรสฺส อทาสิ. อานนฺทตฺเถโร ‘‘อชฺช โพธึ โรเปสฺสามี’’ติ โกสลราชาทีนํ อาโรเจสิ. ราชา สายนฺหสมเย มหนฺเตน ปริวาเรน สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา อาคมิ, ตถา อนาถปิณฺฑิโก วิสาขา จ อฺโ จ สทฺโธ ชโน. เถโร มหาโพธิโรปนฏฺาเน มหนฺตํ สุวณฺณกฏาหํ เปตฺวา เหฏฺา ฉิทฺทํ กาเรตฺวา คนฺธกลลสฺส ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ โพธิปกฺกํ โรเปหิ, มหาราชา’’ติ รฺโ อทาสิ. โส จินฺเตสิ ‘‘รชฺชํ นาม น สพฺพกาลํ อมฺหากํ หตฺเถ ติฏฺติ, อิทํ มยา อนาถปิณฺฑิเกน โรปาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ ¶ . โส ตํ โพธิปกฺกํ มหาเสฏฺิสฺส หตฺเถ เปสิ. อนาถปิณฺฑิโก คนฺธกลลํ วิยูหิตฺวา ตตฺถ ปาเตสิ. ตสฺมึ ตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเตเยว สพฺเพสํ ปสฺสนฺตานฺเว นงฺคลสีสปฺปมาโณ โพธิขนฺโธ ปณฺณาสหตฺถุพฺเพโธ อุฏฺหิ, จตูสุ ทิสาสุ อุทฺธฺจาติ ปฺจ มหาสาขา ปณฺณาสหตฺถาว นิกฺขมึสุ. อิติ โส ตงฺขณฺเว วนปฺปติเชฏฺโก หุตฺวา อฏฺาสิ. ราชา อฏฺารสมตฺเต สุวณฺณรชตฆเฏ คนฺโธทเกน ปูเรตฺวา นีลุปฺปลหตฺถกาทิปฏิมณฺฑิเต มหาโพธึ ปริกฺขิปิตฺวา ปุณฺณฆเฏ ปฏิปาฏิยา เปสิ, สตฺตรตนมยํ เวทิกํ กาเรสิ, สุวณฺณมิสฺสกํ วาลุกํ โอกิริ, ปาการปริกฺเขปํ กาเรสิ, สตฺตรตนมยํ ทฺวารโกฏฺกํ กาเรสิ, สกฺกาโร มหา อโหสิ.
เถโร ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ มยา โรปิตโพธิมูเล นิสีทิตฺวา มหาชนสฺส หิตตฺถาย สมาปชฺชถา’’ติ อาห. ‘‘อานนฺท, กึ กเถสิ, มยิ มหาโพธิมูเล สมาปนฺนสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน อฺโ ปเทโส ธาเรตุํ น สกฺโกตี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชนสฺส หิตตฺถาย อิมสฺส ภูมิปฺปเทสสฺส ธุวนิยาเมน สมาปตฺติสุเขน ตํ โพธิมูลํ ปริภฺุชถา’’ติ. สตฺถา เอกรตฺตึ สมาปตฺติสุเขน ปริภฺุชิ. เถโร โกสลราชาทีนํ กเถตฺวา โพธิมหํ นาม กาเรสิ. โสปิ โข โพธิรุกฺโข อานนฺทตฺเถเรน โรปิตตฺตา อานนฺทโพธิเยวาติ ปฺายิตฺถ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส อายสฺมา อานนฺโท ธรนฺเตเยว ตถาคเต โพธึ โรเปตฺวา มหาปูชํ กาเรสิ ¶ , อโห มหาคุโณ เถโร’’ติ ¶ . สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท สปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ มนุสฺเส คเหตฺวา พหุคนฺธมาลาทีนิ อาหริตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ โพธิมหํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร กาลิงฺโค นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส มหากาลิงฺโค, จูฬกาลิงฺโคติ ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เนมิตฺตกา ‘‘เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน รชฺชํ กาเรสฺสติ, กนิฏฺโ ปน อิสิปพฺพชฺชํ ¶ ปพฺพชิตฺวา ภิกฺขาย จริสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺส จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อปรภาเค เชฏฺปุตฺโต ปิตุ อจฺจเยน ราชา อโหสิ, กนิฏฺโ ปน อุปราชา. โส ‘‘ปุตฺโต กิร เม จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ ปุตฺตํ นิสฺสาย มานํ อกาสิ. ราชา อสหนฺโต ‘‘จูฬกาลิงฺคํ คณฺหา’’ติ เอกํ อตฺถจรกํ อาณาเปสิ. โส คนฺตฺวา ‘‘กุมาร, ราชา ตํ คณฺหาเปตุกาโม, ตว ชีวิตํ รกฺขาหี’’ติ อาห. โส อตฺตโน ลฺชนมุทฺทิกฺจ สุขุมกมฺพลฺจ ขคฺคฺจาติ อิมานิ ตีณิ อตฺถจรกามจฺจสฺส ทสฺเสตฺวา ‘‘อิมาย สฺาย มม ปุตฺตสฺส รชฺชํ ทเทยฺยาถา’’ติ วตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา นทีตีเร วาสํ กปฺเปสิ.
มทฺทรฏฺเปิ สาคลนคเร มทฺทรฺโ อคฺคมเหสี ธีตรํ วิชายิ. ตํ เนมิตฺตกา ‘‘อยํ ภิกฺขํ จริตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสติ, ปุตฺโต ปนสฺสา จกฺกวตฺตี ภวิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. สกลชมฺพุทีเป ราชาโน ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา เอกปฺปหาเรเนว อาคนฺตฺวา สาคลนครํ รุนฺธึสุ. มทฺทราชา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ อิมํ เอกสฺส ทสฺสามิ, เสสราชาโน กุชฺฌิสฺสนฺติ, มม ธีตรํ รกฺขิสฺสามี’’ติ ธีตรฺจ ภริยฺจ คเหตฺวา อฺาตกเวเสน ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส อสฺสมปทโต อุปริภาเค อสฺสมํ ¶ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา อฺุฉาจริยาย ชีวิกํ กปฺเปนฺโต ตตฺถ ปฏิวสติ. มาตาปิตโร ‘‘ธีตรํ รกฺขิสฺสามา’’ติ ตํ อสฺสมปเท กตฺวา ผลาผลตฺถาย คจฺฉนฺติ. สา เตสํ คตกาเล นานาปุปฺผานิ คเหตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ กตฺวา คงฺคาตีเร ปิตโสปานปนฺติ วิย ชาโต เอโก สุปุปฺผิโต อมฺพรุกฺโข อตฺถิ, ตํ อภิรุหิตฺวา กีฬิตฺวา ปุปฺผจุมฺพฏกํ อุทเก ขิปิ. ตํ เอกทิวสํ คงฺคายํ นฺหายนฺตสฺส จูฬกาลิงฺคกุมารสฺส สีเส ลคฺคิ. โส ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทํ เอกาย อิตฺถิยา กตํ, โน จ โข มหลฺลิกาย, ตรุณกุมาริกาย กตกมฺมํ, วีมํสิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ กิเลสวเสน อุปริคงฺคํ คนฺตฺวา ตสฺสา อมฺพรุกฺเข นิสีทิตฺวา มธุเรน สเรน คายนฺติยา สทฺทํ สุตฺวา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา ‘‘ภทฺเท, กา นาม ตฺว’’นฺติ อาห. ‘‘มนุสฺสิตฺถีหมสฺมิ สามี’’ติ ¶ . ‘‘เตน หิ โอตราหี’’ติ. ‘‘น สกฺกา สามิ, อหํ ขตฺติยา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, อหมฺปิ ขตฺติโยเยว, โอตราหี’’ติ. สามิ, น วจนมตฺเตเนว ขตฺติโย โหติ, ยทิสิ ขตฺติโย, ขตฺติยมายํ ¶ กเถหี’’ติ. เต อุโภปิ อฺมฺํ ขตฺติยมายํ กถยึสุ. ราชธีตา โอตริ.
เต อฺมฺํ อชฺฌาจารํ จรึสุ. สา มาตาปิตูสุ อาคเตสุ ตสฺส กาลิงฺคราชปุตฺตภาวฺเจว อรฺํ ปวิฏฺการณฺจ วิตฺถาเรน เตสํ กเถสิ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ตสฺส อทํสุ. เตสํ ปิยสํวาเสน วสนฺตานํ ราชธีตา คพฺภํ ลภิตฺวา ทสมาสจฺจเยน ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘กาลิงฺโค’’ติสฺส นามํ อกํสุ. โส วยปฺปตฺโต ปิตุ เจว อยฺยกสฺส จ สนฺติเก สพฺพสิปฺปานํ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. อถสฺส ปิตา นกฺขตฺตโยควเสน ภาตุ มตภาวํ ตฺวา ‘‘ตาต, มา ตฺวํ อรฺเ วส, เปตฺเตยฺโย เต มหากาลิงฺโค กาลกโต, ตฺวํ ทนฺตปุรนครํ คนฺตฺวา กุลสนฺตกํ สกลรชฺชํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา อตฺตนา ¶ อานีตํ มุทฺทิกฺจ กมฺพลฺจ ขคฺคฺจ ทตฺวา ‘‘ตาต, ทนฺตปุรนคเร อสุกวีถิยํ อมฺหากํ อตฺถจรโก อมจฺโจ อตฺถิ, ตสฺส เคเห สยนมชฺเฌ โอตริตฺวา อิมานิ ตีณิ รตนานิ ตสฺส ทสฺเสตฺวา มม ปุตฺตภาวํ อาจิกฺข, โส ตํ รชฺเช ปติฏฺาเปสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชสิ. โส มาตาปิตโร จ อยฺยกายฺยิเก จ วนฺทิตฺวา ปฺุมหิทฺธิยา อากาเสน คนฺตฺวา อมจฺจสฺส สยนปิฏฺเเยว โอตริตฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘จูฬกาลิงฺคสฺส ปุตฺโตมฺหี’’ติ อาจิกฺขิตฺวา ตานิ รตนานิ ทสฺเสสิ. อมจฺโจ ราชปริสาย อาโรเจสิ. อมจฺจา นครํ อลงฺการาเปตฺวา ตสฺส เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาปยึสุ.
อถสฺส กาลิงฺคภารทฺวาโช นาม ปุโรหิโต ตสฺส ทส จกฺกวตฺติวตฺตานิ อาจิกฺขิ. โส ตํ วตฺตํ ปูเรสิ. อถสฺส ปนฺนรสอุโปสถทิวเส จกฺกทหโต จกฺกรตนํ, อุโปสถกุลโต หตฺถิรตนํ, วลาหกกุลโต อสฺสรตนํ, เวปุลฺลปพฺพตโต มณิรตนํ อาคมิ, อิตฺถิรตนคหปติรตนปริณายกรตนานิ ปาตุภวนฺติ. โส สกลจกฺกวาฬคพฺเภ รชฺชํ คณฺหิตฺวา เอกทิวสฺจ ฉตฺตึสโยชนาย ปริสาย ปริวุโต สพฺพเสตํ เกลาสกูฏปฏิภาคํ หตฺถึ อารุยฺห มหนฺเตน สิริวิลาเสน มาตาปิตูนํ สนฺติกํ ปายาสิ. อถสฺส สพฺพพุทฺธานํ ชยปลฺลงฺกสฺส ปถวีนาภิภูตสฺส มหาโพธิมณฺฑสฺส อุปริภาเค นาโค คนฺตุํ นาสกฺขิ. ราชา ปุนปฺปุนํ โจเทสิ, โส นาสกฺขิเยว. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –
‘‘ราชา ¶ ¶ กาลิงฺโค จกฺกวตฺติ, ธมฺเมน ปถวิมนุสาสํ;
อคมา โพธิสมีปํ, นาเคน มหานุภาเวนา’’ติ.
อถ รฺโ ปุโรหิโต รฺา สทฺธึ คจฺฉนฺโต ‘‘อากาเส อาวรณํ นาม นตฺถิ, กึ นุ โข ราชา หตฺถึ เปเสตุํ น สกฺโกติ ¶ , วีมํสิสฺสามี’’ติ อากาสโต โอรุยฺห สพฺพพุทฺธานํเยว ชยปลฺลงฺกํ ปถวีนาภิมณฺฑลภูตํ ภูมิภาคํ ปสฺสิ. ตทา กิร ตตฺถ อฏฺราชกรีสมตฺเต าเน เกสมสฺสุมตฺตมฺปิ ติณํ นาม นตฺถิ, รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกา วิปฺปกิณฺณา โหนฺติ, สมนฺตา ติณลตาวนปฺปติโย โพธิมณฺฑํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อาวฏฺเฏตฺวา โพธิมณฺฑาภิมุขาว อฏฺํสุ. พฺราหฺมโณ ตํ ภูมิภาคํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิทฺหิ สพฺพพุทฺธานํ สพฺพกิเลสวิทฺธํสนฏฺานํ, อิมสฺส อุปริภาเค สกฺกาทีหิปิ น สกฺกา คนฺตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา กาลิงฺครฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา โพธิมณฺฑสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ราชานํ ‘‘โอตรา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –
‘‘กาลิงฺโค ภารทฺวาโช จ, ราชานํ กาลิงฺคํ สมณโกลฺํ;
จกฺกํ วตฺตยโต ปริคฺคเหตฺวา, ปฺชลี อิทมโวจ.
‘‘ปจฺโจโรห มหาราช, ภูมิภาโค ยถา สมณุคฺคโต;
อิธ อนธิวรา พุทฺธา, อภิสมฺพุทฺธา วิโรจนฺติ.
‘‘ปทกฺขิณโต อาวฏฺฏา, ติณลตา อสฺมึ ภูมิภาคสฺมึ;
ปถวิยา นาภิยํ มณฺโฑ, อิติ โน สุตํ มนฺเต มหาราช.
‘‘สาครปริยนฺตาย, เมทินิยา สพฺพภูตธรณิยา;
ปถวิยา อยํ มณฺโฑ, โอโรหิตฺวา นโม กโรหิ.
‘‘เย เต ภวนฺติ นาคา จ, อภิชาตา จ กฺุชรา;
เอตฺตาวตา ปเทสํ เต, นาคา เนว มุปยนฺติ.
‘‘อภิชาโต นาโค กามํ, เปเสหิ กฺุชรํ ทนฺตึ;
เอตฺตาวตา ปเทโส, สกฺกา นาเคน มุปคนฺตุํ.
‘‘ตํ ¶ ¶ สุตฺวา ราชา กาลิงฺโค, เวยฺยฺชนิกวโจ นิสาเมตฺวา;
สมฺเปเสสิ นาคํ สฺสาม, มยํ ยถิมสฺสิทํ วจนํ.
‘‘สมฺเปสิโต จ รฺา, นาโค โกฺโจว อภินทิตฺวาน;
ปฏิสกฺกิตฺวา นิสีทิ, ครุํว ภารํ อสหมาโน’’ติ.
ตตฺถ ¶ สมณโกลฺนฺติ ตาปสานํ ปุตฺตํ. จกฺกํ วตฺตยโตติ จกฺกํ วตฺตยมานํ, จกฺกวตฺตินฺติ อตฺโถ. ปริคฺคเหตฺวาติ ภูมิภาคํ วีมํสิตฺวา. สมณุคฺคโตติ สพฺพพุทฺเธหิ วณฺณิโต. อนธิวราติ อตุลฺยา อปฺปเมยฺยา. วิโรจนฺตีติ วิหตสพฺพกิเลสนฺธการา ตรุณสูริยา วิย อิธ นิสินฺนา วิโรจนฺติ. ติณลตาติ ติณานิ จ ลตาโย จ. มณฺโฑติ จตุนหุตาธิกทฺวิโยชนสตสหสฺสพหลาย ปถวิยา มณฺโฑ สาโร นาภิภูโต อจลฏฺานํ, กปฺเป สณฺหนฺเต ปมํ สณฺหติ, วินสฺสนฺเต ปจฺฉา วินสฺสติ. อิติ โน สุตนฺติ เอวํ อมฺเหหิ ลกฺขณมนฺตวเสน สุตํ. โอโรหิตฺวาติ อากาสโต โอตริตฺวา อิมสฺส สพฺพพุทฺธานํ กิเลสวิทฺธํสนฏฺานสฺส นโม กโรหิ, ปูชาสกฺการํ กโรหิ.
เย เตติ เย จกฺกวตฺติรฺโ หตฺถิรตนสงฺขาตา อุโปสถกุเล นิพฺพตฺตนาคา. เอตฺตาวตาติ สพฺเพปิ เต เอตฺตกํ ปเทสํ เนว อุปยนฺติ, โกฏฺฏิยมานาปิ น อุปคจฺฉนฺติเยว. อภิชาโตติ โคจริยาทีนิ อฏฺ หตฺถิกุลานิ อภิภวิตฺวา อติกฺกมิตฺวา อุโปสถกุเล ชาโต. กฺุชรนฺติ อุตฺตมํ. เอตฺตาวตาติ เอตฺตโก ปเทโส สกฺกา เอเตน นาเคน อุปคนฺตุํ, อิโต อุตฺตริ น สกฺกา, อภิกงฺขนฺโต วชิรงฺกุเสน สฺํ ทตฺวา เปเสหีติ. เวยฺยฺชนิกวโจ นิสาเมตฺวาติ ภิกฺขเว, โส ราชา ตสฺส ลกฺขณปากสฺส เวยฺยฺชนิกสฺส กาลิงฺคภารทฺวาชสฺส วโจ นิสาเมตฺวา อุปธาเรตฺวา ‘‘สฺสาม มยํ ยถา อิมสฺส วจนํ ยทิ วา สจฺจํ ยทิ วา อลิก’’นฺติ วีมํสนฺโต นาคํ เปเสสีติ อตฺโถ. โกฺโจว อภินทิตฺวานาติ ภิกฺขเว, โส นาโค เตน รฺา วชิรงฺกุเสน โจเทตฺวา เปสิโต โกฺจสกุโณ วิย นทิตฺวา ปฏิสกฺกิตฺวา โสณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา คีวํ อุนฺนาเมตฺวา ครุํ ภารํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต วิย อากาเสเยว นิสีทิ.
โส ¶ เตน ปุนปฺปุนํ วิชฺฌิยมาโน เวทนํ สหิตุํ อสกฺโกนฺโต กาลมกาสิ. ราชา ปนสฺส มตภาวํ อชานนฺโต ปิฏฺเ นิสินฺโนว อโหสิ. กาลิงฺคภารทฺวาโช ‘‘มหาราช, ตว นาโค นิรุทฺโธ, อฺํ หตฺถึ สงฺกมา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทสมํ คาถมาห –
‘‘กาลิงฺคภารทฺวาโช ¶ , นาคํ ขีณายุกํ วิทิตฺวาน;
ราชานํ กาลิงฺคํ, ตรมาโน อชฺฌภาสิตฺถ;
อฺํ สงฺกม นาคํ, นาโค ขีณายุโก มหาราชา’’ติ.
ตตฺถ ¶ นาโค ขีณายุโกติ นาโค เต ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต, ยํ กิฺจิ กโรนฺเตน น สกฺกา ปิฏฺเ นิสินฺเนน โพธิมณฺฑมตฺถเกน คนฺตุํ. อฺํ นาคํ สงฺกมาติ รฺโ ปฺุิทฺธิพเลน อฺโ นาโค อุโปสถกุลโต อาคนฺตฺวา ปิฏฺึ อุปนาเมสิ.
ราชา ตสฺส ปิฏฺิยํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ มตหตฺถี ภูมิยํ ปติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิตรํ คาถมาห –
‘‘ตํ สุตฺวา กาลิงฺโค, ตรมาโน สงฺกมี นาคํ;
สงฺกนฺเตว รฺเ นาโค, ตตฺเถว ปติ ภุมฺยา;
เวยฺยฺชนิกวโจ, ยถา ตถา อหุ นาโค’’ติ.
อถ ราชา อากาสโต โอรุยฺห โพธิมณฺฑํ โอโลเกตฺวา ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา ภารทฺวาชสฺส ถุตึ กโรนฺโต อาห –
‘‘กาลิงฺโค ราชา กาลิงฺคํ, พฺราหฺมณํ เอตทโวจ;
ตฺวเมว อสิ สมฺพุทฺโธ, สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ.
พฺราหฺมโณ ตํ อนธิวาเสนฺโต อตฺตานํ นีจฏฺาเน เปตฺวา พุทฺเธเยว อุกฺขิปิตฺวา วณฺเณสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ตํ อนธิวาเสนฺโต กาลิงฺค, พฺราหฺมโณ อิทมโวจ;
เวยฺยฺชนิกา หิ มยํ, พุทฺธา สพฺพฺุโน มหาราช.
‘‘สพฺพฺู ¶ สพฺพวิทู จ, พุทฺธา น ลกฺขเณน ชานนฺติ;
อาคมพลสา หิ มยํ, พุทฺธา สพฺพํ ปชานนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ เวยฺยฺชนิกาติ มหาราช, มยํ พฺยฺชนํ ทิสฺวา พฺยากรณสมตฺถา สุตพุทฺธา นาม, พุทฺธา ปน สพฺพฺู สพฺพวิทู. พุทฺธา หิ อตีตาทิเภทํ สพฺพํ ชานนฺติ เจว ปสฺสนฺติ จ, สพฺพฺุตฺาเณน เต สพฺพํ ชานนฺติ, น ลกฺขเณน. มยํ ปน อาคมพลสา อตฺตโน สิปฺปพเลเนว ชานาม, ตฺจ เอกเทสเมว, พุทฺธา ปน สพฺพํ ปชานนฺตีติ.
ราชา พุทฺธคุเณ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา สกลจกฺกวาฬวาสิเกหิ พหุคนฺธมาลํ อาหราเปตฺวา มหาโพธิมณฺเฑ สตฺตาหํ วสิตฺวา มหาโพธิปูชํ กาเรสิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘มหยิตฺวา สมฺโพธึ, นานาตุริเยหิ วชฺชมาเนหิ;
มาลาวิเลปนํ อภิหริตฺวา, อถ ราชา มนุปายาสิ.
‘‘สฏฺิ วาหสหสฺสานิ, ปุปฺผานํ สนฺนิปาตยิ;
ปูเชสิ ราชา กาลิงฺโค, โพธิมณฺฑมนุตฺตร’’นฺติ.
ตตฺถ มนุปายาสีติ มาตาปิตูนํ สนฺติกํ อคมาสิ. โส มหาโพธิมณฺเฑ อฏฺารสหตฺถํ สุวณฺณตฺถมฺภํ อุสฺสาเปสิ. ตสฺส สตฺตรตนมยา เวทิกา กาเรสิ, รตนมิสฺสกํ วาลุกํ โอกิราเปตฺวา ปาการปริกฺขิตฺตํ กาเรสิ, สตฺตรตนมยํ ทฺวารโกฏฺกํ กาเรสิ, เทวสิกํ ปุปฺผานํ สฏฺิวาหสหสฺสานิ สนฺนิปาตยิ, เอวํ โพธิมณฺฑํ ปูเชสิ. ปาฬิยํ ปน ‘‘สฏฺิ วาหสหสฺสานิ ปุปฺผาน’’นฺติ เอตฺตกเมว อาคตํ.
เอวํ มหาโพธิปูชํ กตฺวา มาตาปิตโร อยฺยกายฺยิเก จ อาทาย ทนฺตปุรเมว อาเนตฺวา ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท โพธิปูชํ กาเรสิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาณวกกาลิงฺโค อานนฺโท อโหสิ, กาลิงฺคภารทฺวาโช ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
กาลิงฺคโพธิชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๔๘๐] ๗. อกิตฺติชาตกวณฺณนา
อกิตฺตึ ¶ ทิสฺวา สมฺมนฺตนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ สาวตฺถิวาสึ ทานปตึ อุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา สตฺตาหํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ปริโยสานทิวเส อริยสงฺฆสฺส สพฺพปริกฺขาเร อทาสิ. อถสฺส สตฺถา ปริสมชฺเฌเยว อนุโมทนํ กโรนฺโต ‘‘อุปาสก, มหา เต ปริจฺจาโค, อโห ทุกฺกรํ ตยา กตํ, อยฺหิ ทานวํโส นาม โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, ทานํ นาม คิหินาปิ ปพฺพชิเตนาปิ ทาตพฺพเมว. โปราณกปณฺฑิตา ปน ปพฺพชิตฺวา อรฺเ วสนฺตาปิ อโลณกํ วิธูปนํ อุทกมตฺตสิตฺตํ การปณฺณํ ¶ ขาทมานาปิ สมฺปตฺตยาจกานํ ยาวทตฺถํ ทตฺวา สยํ ปีติสุเขน ยาปยึสู’’ติ วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิทํ ตาว สพฺพปริกฺขารทานํ มหาชนสฺส ปากฏํ, ตุมฺเหหิ วุตฺตํ อปากฏํ, ตํ โน กเถถา’’ติ เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อสีติโกฏิวิภวสฺส พฺราหฺมณมหาสาลสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘อกิตฺตี’’ติสฺส นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล ภคินีปิ ชายิ, ‘‘ยสวตี’’ติสฺสา นามํ กรึสุ. มหาสตฺโต โสฬสวสฺสกาเล ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา ปจฺจาคมิ. อถสฺส มาตาปิตโร กาลมกํสุ. โส เตสํ เปตกิจฺจานิ กาเรตฺวา ธนวิโลกนํ กโรนฺโต ‘‘อสุโก นาม เอตฺตกํ ธนํ สณฺเปตฺวา อตีโต, อสุโก เอตฺตก’’นฺติ วจนํ สุตฺวา สํวิคฺคมานโส หุตฺวา ‘‘อิทํ ธนเมว ปฺายติ, น ธนสฺส สํหารกา, สพฺเพ อิมํ ธนํ ปหาเยว คตา, อหํ ปน ตํ อาทาย คมิสฺสามี’’ติ ภคินึ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิมํ ธนํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ อาห ¶ . ‘‘ตุมฺหากํ ปน โก อชฺฌาสโย’’ติ? ‘‘ปพฺพชิตุกาโมมฺหี’’ติ. ‘‘ภาติก, อหํ ตุมฺเหหิ ฉฑฺฑิตํ เขฬํ น สิรสา สมฺปฏิจฺฉามิ, น เม อิมินา อตฺโถ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา เภรึ จราเปสิ ‘‘ธเนน อตฺถิกา อกิตฺติปณฺฑิตสฺส เคหํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ.
โส สตฺตาหํ มหาทานํ ปวตฺเตตฺวา ธเน อขียมาเน จินฺเตสิ ‘‘อิเม สงฺขารา ขียนฺติ, กึ เม ธนกีฬาย, อตฺถิกา ตํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ นิเวสนทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘ทินฺนฺเว หรนฺตู’’ติ สหิรฺสุวณฺณํ เคหํ ปหาย าติมณฺฑลสฺส ปริเทวนฺตสฺส ภคินึ คเหตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมิ. เยน ทฺวาเรน นิกฺขมิ, ตํ อกิตฺติทฺวารํ นาม ชาตํ, เยน ติตฺเถน นทึ โอติณฺโณ, ตมฺปิ อกิตฺติติตฺถํ นาม ชาตํ. โส ทฺเว ตีณิ โยชนานิ คนฺตฺวา รมณีเย าเน ปณฺณสาลํ กตฺวา ภคินิยา สทฺธึ ปพฺพชิ. ตสฺส ปพฺพชิตกาลโต ¶ ปฏฺาย พหุคามนิคมราชธานิวาสิโน ¶ ปพฺพชึสุ. มหาปริวาโร อโหสิ, มหาลาภสกฺกาโร นิพฺพตฺติ, พุทฺธุปฺปาทกาโล วิย ปวตฺติ. อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ ลาภสกฺกาโร มหา, ปริวาโรปิ มหนฺโต, มยา เอกเกเนว วิหริตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา อเวลาย อนฺตมโส ภคินิมฺปิ อชานาเปตฺวา เอกโกว นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ทมิฬรฏฺํ ปตฺวา กาวีรปฏฺฏนสมีเป อุยฺยาเน วิหรนฺโต ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตสิ. ตตฺราปิสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุปฺปชฺชิ. โส ตํ ชิคุจฺฉิตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา อากาเสน คนฺตฺวา นาคทีปสมีเป การทีเป โอตริ. ตทา การทีโป อหิทีโป นาม อโหสิ. โส ตตฺถ มหนฺตํ การรุกฺขํ อุปนิสฺสาย ปณฺณสาลํ มาเปตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. ตตฺถ ตสฺส วสนภาวํ น โกจิ ชานาติ. อถสฺส ภคินี ภาตรํ คเวสมานา อนุปุพฺเพน ทมิฬรฏฺํ ปตฺวา ตํ อทิสฺวา เตน วสิตฏฺาเนเยว วสิ, ฌานํ ปน นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ.
มหาสตฺโต อปฺปิจฺฉตาย กตฺถจิ อคนฺตฺวา ตสฺส รุกฺขสฺส ผลกาเล ผลานิ ขาทติ, ปตฺตกาเล ปตฺตานิ อุทกสิตฺตานิ ขาทติ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก ‘‘โก นุ โข มํ านา จาเวตุกาโม’’ติ อาวชฺเชนฺโต อกิตฺติปณฺฑิตํ ทิสฺวา ‘‘กิมตฺถํ เอส ตาปโส สีลานิ รกฺขติ, สกฺกตฺตํ นุ โข ปตฺเถติ, อุทาหุ อฺํ, วีมึสิสฺสามิ นํ. อยฺหิ ทุกฺเขน ชีวิกํ กปฺเปสิ, อุทกสิตฺตานิ การปณฺณานิ ¶ ขาทติ, สเจ สกฺกตฺตํ ปตฺเถติ, อตฺตโน สิตฺตปตฺตานิ มยฺหํ ทสฺสติ, โน เจ, น ทสฺสตี’’ติ พฺราหฺมณวณฺเณน ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โพธิสตฺโต การปณฺณานิ เสเทตฺวา โอตาเรตฺวา ‘‘สีตลภูตานิ ขาทิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ. อถสฺส ปุรโต สกฺโก ภิกฺขาย อฏฺาสิ. มหาสตฺโต ตํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘ลาภา วต เม, โยหํ ยาจกํ ปสฺสามิ, อชฺช เม มโนรถํ มตฺถกํ ¶ ปาเปตฺวา ทานํ ทสฺสามี’’ติ ปกฺกภาชเนเนว อาทาย คนฺตฺวา ‘‘อิทํ เม ทานํ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปจฺจโย โหตู’’ติ อตฺตโน อเสเสตฺวาว ตสฺส ภาชเน ปกฺขิปิ. พฺราหฺมโณ ตํ คเหตฺวา โถกํ คนฺตฺวา อนฺตรธายิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส ทตฺวา ปุน อปจิตฺวา ปีติสุเขเนว วีตินาเมตฺวา ปุนทิวเส ปจิตฺวา ตตฺเถว ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ.
สกฺโก ปุน พฺราหฺมณเวเสน อคมาสิ. ปุนปิสฺส ทตฺวา มหาสตฺโต ตเถว วีตินาเมสิ. ตติยทิวเสปิ ตเถว ทตฺวา ‘‘อโห เม ลาภา วต, การปณฺณานิ นิสฺสาย มหนฺตํ ปฺุํ ปสุต’’นฺติ โสมนสฺสปฺปตฺโต ตโย ทิวเส อนาหารตาย ทุพฺพโลปิ สมาโน มชฺฌนฺหิกสมเย ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ทานํ อาวชฺเชนฺโต ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ. สกฺโกปิ จินฺเตสิ ‘‘อยํ ¶ พฺราหฺมโณ ตโย ทิวเส นิราหาโร หุตฺวา เอวํ ทุพฺพโลปิ ทานํ เทนฺโต ตุฏฺจิตฺโตว เทติ, จิตฺตสฺส อฺถตฺตมฺปิ นตฺถิ, อหํ อิมํ ‘อิทํ นาม ปตฺเถตฺวา เทตี’ติ น ชานามิ, ปุจฺฉิตฺวา อชฺฌาสยมสฺส สุตฺวา ทานการณํ ชานิสฺสามี’’ติ. โส มชฺฌนฺหิเก วีติวตฺเต มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน คคนตเล ตรุณสูริโย วิย ชลมาโน อาคนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส ปุรโตว ตฺวา ‘‘อมฺโภ ตาปส, เอวํ อุณฺหวาเต ปหรนฺเต เอวรูเป โลณชลปริกฺขิตฺเต อรฺเ กิมตฺถํ ตโปกมฺมํ กโรสี’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –
‘‘อกิตฺตึ ทิสฺวา สมฺมนฺตํ, สกฺโก ภูตปตี พฺรวิ;
กึ ปตฺถยํ มหาพฺรหฺเม, เอโก สมฺมสิ ฆมฺมนี’’ติ.
ตตฺถ กึ ปตฺถยนฺติ กึ มนุสฺสสมฺปตฺตึ ปตฺเถนฺโต, อุทาหุ สกฺกสมฺปตฺติอาทีนํ อฺตรนฺติ.
มหาสตฺโต ¶ ตํ สุตฺวา สกฺกภาวฺจสฺส ตฺวา ‘‘นาหํ เอตา สมฺปตฺติโย ปตฺเถมิ, สพฺพฺุตํ ปน ปตฺเถนฺโต ตโปกมฺมํ กโรมี’’ติ ปกาเสตุํ ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ทุกฺโข ¶ ปุนพฺภโว สกฺก, สรีรสฺส จ เภทนํ;
สมฺโมหมรณํ ทุกฺขํ, ตสฺมา สมฺมามิ วาสวา’’ติ.
ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา ปุนปฺปุนํ ชาติ ขนฺธานํ เภทนํ สมฺโมหมรณฺจ ทุกฺขํ, ตสฺมา ยตฺเถตานิ นตฺถิ, ตํ นิพฺพานํ ปตฺเถนฺโต อิธ สมฺมามีติ เอวํ อตฺตโน นิพฺพานชฺฌาสยตํ ทีเปติ.
ตํ สุตฺวา สกฺโก ตุฏฺมานโส ‘‘สพฺพภเวสุ กิรายํ อุกฺกณฺิโต นิพฺพานตฺถาย อรฺเ วิหรติ, วรมสฺส ทสฺสามี’’ติ วเรน นิมนฺเตนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ.
ตตฺถ ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสีติ ยํ มนสา อิจฺฉสิ, ตํ ทมฺมิ, วรํ คณฺหาหีติ.
มหาสตฺโต ¶ วรํ คณฺหนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
เยน ปุตฺเต จ ทาเร จ, ธนธฺํ ปิยานิ จ;
ลทฺธา นรา น ตปฺปนฺติ, โส โลโภ น มยี วเส’’ติ.
ตตฺถ วรฺเจ เม อโทติ สเจ วรํ มยฺหํ เทสิ. ปิยานิ จาติ อฺานิ จ ยานิ ปิยภณฺฑานิ. น ตปฺปนฺตีติ ปุนปฺปุนํ ปุตฺตาทโย ปตฺเถนฺติเยว, น ติตฺตึ อุปคจฺฉนฺติ. น มยี วเสติ มยิ มา วสตุ มา อุปฺปชฺชตุ.
อถสฺส สกฺโก ตุสฺสิตฺวา อุตฺตริมฺปิ วรํ เทนฺโต มหาสตฺโต จ วรํ คณฺหนฺโต อิมา คาถา อภาสึสุ –
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.
‘‘วรฺเจ ¶ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
เขตฺตํ วตฺถุํ หิรฺฺจ, ควาสฺสํ ทาสโปริสํ;
เยน ชาเตน ชียนฺติ, โส โทโส น มยี วเส.
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.
‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
พาลํ น ปสฺเส น สุเณ, น จ พาเลน สํวเส;
พาเลนลฺลาปสลฺลาปํ, น กเร น จ โรจเย.
‘‘กึ ¶ นุ เต อกรํ พาโล, วท กสฺสป การณํ;
เกน กสฺสป พาลสฺส, ทสฺสนํ นาภิกงฺขสิ.
‘‘อนยํ ¶ นยติ ทุมฺเมโธ, อธุรายํ นิยฺุชติ;
ทุนฺนโย เสยฺยโส โหติ, สมฺมา วุตฺโต ปกุปฺปติ;
วินยํ โส น ชานาติ, สาธุ ตสฺส อทสฺสนํ.
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.
‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
ธีรํ ปสฺเส สุเณ ธีรํ, ธีเรน สห สํวเส;
ธีเรนลฺลาปสลฺลาปํ, ตํ กเร ตฺจ โรจเย.
‘‘กึ นุ เต อกรํ ธีโร, วท กสฺสป การณํ;
เกน กสฺสป ธีรสฺส, ทสฺสนํ อภิกงฺขสิ.
‘‘นยํ นยติ เมธาวี, อธุรายํ น ยฺุชติ;
สุนโย เสยฺยโส โหติ, สมฺมา วุตฺโต น กุปฺปติ;
วินยํ โส ปชานาติ, สาธุ เตน สมาคโม.
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.
‘‘วรฺเจ ¶ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;
ทิพฺพา ภกฺขา ปาตุภเวยฺยุํ, สีลวนฺโต จ ยาจกา.
‘‘ททโต เม น ขีเยถ, ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ;
ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ, เอตํ สกฺก วรํ วเร.
‘‘เอตสฺมึ เต สุลปิเต, ปติรูเป สุภาสิเต;
วรํ กสฺสป เต ทมฺมิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสิ.
‘‘วรฺเจ ¶ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
น มํ ปุน อุเปยฺยาสิ, เอตํ สกฺก วรํ วเร.
‘‘พหูหิ วตจริยาหิ, นรา จ อถ นาริโย;
ทสฺสนํ อภิกงฺขนฺติ, กึ นุ เม ทสฺสเน ภยํ.
‘‘ตํ ตาทิสํ เทววณฺณํ, สพฺพกามสมิทฺธินํ;
ทิสฺวา ตโป ปมชฺเชยฺยํ, เอตํ เต ทสฺสเน ภย’’นฺติ.
ตตฺถ เยน ชาเตนาติ เยน จิตฺเตน ชาเตน กุทฺธา สตฺตา ปาณวธาทีนํ กตตฺตา ราชทณฺฑวเสน วิสขาทนาทีหิ วา อตฺตโน มรณวเสน ¶ เอตานิ เขตฺตาทีนิ ชียนฺติ, โส โทโส มยิ น วเสยฺยาติ ยาจติ. น สุเณติ อสุกฏฺาเน นาม วสตีติปิ อิเมหิ การเณหิ น สุเณยฺยํ. กึ นุ เต อกรนฺติ กึ นุ ตว พาเลน มาตา มาริตา, อุทาหุ ตว ปิตา, อฺํ วา ปน เต กึ นาม อนตฺถํ พาโล อกรํ.
อนยํ นยตีติ อการณํ ‘‘การณ’’นฺติ คณฺหาติ, ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสฺสามีติ เอวรูปานิ อนตฺถกมฺมานิ จินฺเตติ. อธุรายนฺติ สทฺธาธุรสีลธุรปฺาธุเรสุ อโยเชตฺวา อโยเค นิยฺุชติ. ทุนฺนโย เสยฺยโส โหตีติ ทุนฺนโยว ตสฺส เสยฺโย โหติ. ปฺจ ทุสฺสีลกมฺมานิ สมาทาย วตฺตนเมว เสยฺโยติ คณฺหาติ, หิตปฏิปตฺติยา วา ทุนฺนโย โหติ เนตุํ อสกฺกุเณยฺโย. สมฺมา วุตฺโตติ เหตุนา ¶ การเณน วุตฺโต กุปฺปติ. วินยนฺติ ‘‘เอวํ อภิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทิกํ อาจารวินยํ น ชานาติ, โอวาทฺจ น สมฺปฏิจฺฉติ. สาธุ ตสฺสาติ เอเตหิ การเณหิ ตสฺส อทสฺสนเมว สาธุ.
สูริยุคฺคมนํ ปตีติ สูริยุคฺคมนเวลาย. ทิพฺพา ภกฺขาติ ทิพฺพโภชนํ ยาจกาติ ตสฺส ทิพฺพโภชนสฺส ปฏิคฺคาหกา. วตจริยาหีติ ทานสีลอุโปสถกมฺเมหิ. ทสฺสนํ อภิกงฺขนฺตีติ ทสฺสนํ มม อภิกงฺขนฺติ. ตํ ตาทิสนฺติ เอวรูปํ ทิพฺพาลงฺการวิภูสิตํ. ปมชฺเชยฺยนฺติ ปมาทํ อาปชฺเชยฺยํ. ตว สิริสมฺปตฺตึ ปตฺเถยฺยํ, เอวํ นิพฺพานตฺถาย ปวตฺติเต ตโปกมฺเม สกฺกฏฺานํ ปตฺเถนฺโต ปมตฺโต นาม ภเวยฺยํ, เอตํ ตว ทสฺสเน มยฺหํ ภยนฺติ.
สกฺโก ‘‘สาธุ, ภนฺเต, อิโต ปฏฺาย น เต สนฺติกํ อาคมิสฺสามา’’ติ ตํ วนฺทิตฺวา ขมาเปตฺวา ¶ ปกฺกามิ. มหาสตฺโต ยาวชีวํ ตตฺเถว วสนฺโต พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, อกิตฺติปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
อกิตฺติชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๔๘๑] ๘. ตกฺการิยชาตกวณฺณนา
อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสิ พาโลติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกกาลิกํ อารพฺภ กเถสิ. เอกสฺมิฺหิ อนฺโตวสฺเส ทฺเว อคฺคสาวกา คณํ ปหาย วิวิตฺตาวาสํ วสิตุกามา สตฺถารํ อาปุจฺฉิตฺวา โกกาลิกรฏฺเ โกกาลิกสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ เอวมาหํสุ ‘‘อาวุโส โกกาลิก, ตํ ¶ นิสฺสาย อมฺหากํ, อมฺเห จ นิสฺสาย ตว ผาสุวิหาโร ภวิสฺสติ, อิมํ เตมาสํ อิธ วเสยฺยามา’’ติ. ‘‘โก ปนาวุโส, มํ นิสฺสาย ตุมฺหากํ ผาสุวิหาโร’’ติ. สเจ ตฺวํ อาวุโส ‘‘ทฺเว อคฺคสาวกา อิธ วิหรนฺตี’’ติ กสฺสจิ นาโรเจยฺยาสิ, มยํ สุขํ วิหเรยฺยาม, อยํ ตํ นิสฺสาย อมฺหากํ ผาสุวิหาโรติ. ‘‘อถ ¶ ตุมฺเห นิสฺสาย มยฺหํ โก ผาสุวิหาโร’’ติ? ‘‘มยํ ตุยฺหํ อนฺโตเตมาสํ ธมฺมํ วาเจสฺสาม, ธมฺมกถํ กเถสฺสาม, เอส ตุยฺหํ อมฺเห นิสฺสาย ผาสุวิหาโร’’ติ. ‘‘วสถาวุโส, ยถาชฺฌาสเยนา’’ติ. โส เตสํ ปติรูปํ เสนาสนํ อทาสิ. เต ผลสมาปตฺติสุเขน สุขํ วสึสุ. โกจิ เนสํ ตตฺถ วสนภาวํ น ชานาติ.
เต วุตฺถวสฺสา ปวาเรตฺวา ‘‘อาวุโส, ตํ นิสฺสาย สุขํ วุตฺถามฺห, สตฺถารํ วนฺทิตุํ คจฺฉามา’’ติ ตํ อาปุจฺฉึสุ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต อาทาย ธุรคาเม ปิณฺฑาย จริ. เถรา กตภตฺตกิจฺจา คามโต นิกฺขมึสุ. โกกาลิโก เต อุยฺโยเชตฺวา นิวตฺติตฺวา มนุสฺสานํ อาโรเจสิ ‘‘อุปาสกา, ตุมฺเห ติรจฺฉานสทิสา, ทฺเว อคฺคสาวเก เตมาสํ ธุรวิหาเร วสนฺเต น ชานิตฺถ, อิทานิ เต คตา’’ติ. มนุสฺสา ‘‘กสฺมา ปน, ภนฺเต, อมฺหากํ นาโรจิตฺถา’’ติ วตฺวา พหุํ สปฺปิเตลาทิเภสชฺชฺเจว วตฺถจฺฉาทนฺจ คเหตฺวา เถเร อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ขมถ โน, ภนฺเต, มยํ ตุมฺหากํ อคฺคสาวกภาวํ น ชานาม, อชฺช โน โกกาลิกภทนฺตสฺส วจเนน าตา, อมฺหากํ อนุกมฺปาย อิมานิ เภสชฺชวตฺถจฺฉาทนานิ คณฺหถา’’ติ อาหํสุ.
โกกาลิโก ¶ ‘‘เถรา อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา, อิมานิ วตฺถานิ อตฺตนา อคฺคเหตฺวา มยฺหํ ทสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา อุปาสเกหิ สทฺธึเยว เถรานํ สนฺติกํ คโต. เถรา ภิกฺขุปริปาจิตตฺตา ตโต กิฺจิ เนว อตฺตนา คณฺหึสุ, น โกกาลิกสฺส ทาเปสุํ. อุปาสกา ‘‘ภนฺเต, อิทานิ อคณฺหนฺตา ปุน อมฺหากํ อนุกมฺปาย อิธ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ ยาจึสุ. เถรา อนธิวาเสตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ อคมึสุ. โกกาลิโก ‘‘อิเม เถรา อตฺตนา อคณฺหนฺตา มยฺหํ น ทาเปสุ’’นฺติ อาฆาตํ พนฺธิ. เถราปิ สตฺถุ สนฺติเก โถกํ วสิตฺวา อตฺตโน ปริวาเร ปฺจภิกฺขุสเต จ อาทาย ภิกฺขุสหสฺเสน สทฺธึ จาริกํ จรมานา โกกาลิกรฏฺํ ปตฺตา. เต อุปาสกา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา เถเร อาทาย ตเมว วิหารํ เนตฺวา เทวสิกํ มหาสกฺการํ กรึสุ. ปหุตํ เภสชฺชวตฺถจฺฉาทนํ ¶ อุปฺปชฺชิ, เถเรหิ สทฺธึ อาคตภิกฺขู จีวรานิ วิจาเรนฺตา สทฺธึ อาคตานํ ภิกฺขูนฺเว เทนฺติ ¶ , โกกาลิกสฺส น เทนฺติ, เถราปิ ตสฺส น ทาเปนฺติ. โกกาลิโก จีวรํ อลภิตฺวา ‘‘ปาปิจฺฉา สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปุพฺเพ ทียมานํ ลาภํ อคฺคเหตฺวา อิทานิ คณฺหนฺติ, ปูเรตุํ น สกฺกา, อฺเ น โอโลเกนฺตี’’ติ เถเร อกฺโกสติ ปริภาสติ. เถรา ‘‘อยํ อมฺเห นิสฺสาย อกุสลํ ปสวตี’’ติ สปริวารา นิกฺขมิตฺวา ‘‘อฺํ, ภนฺเต, กติปาหํ วสถา’’ติ มนุสฺเสหิ ยาจิยมานาปิ นิวตฺติตุํ น อิจฺฉึสุ.
อเถโก ทหโร ภิกฺขุ อาห – ‘‘อุปาสกา, กถํ เถรา วสิสฺสนฺติ, ตุมฺหากํ กุลูปโก เถโร อิธ อิเมสํ วาสํ น สหตี’’ติ. เต ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กิร เถรานํ อิธ วาสํ น สหถ, คจฺฉถ เน ขมาเปตฺวา นิวตฺเตถ, สเจ น นิวตฺเตถ, ปลายิตฺวา อฺตฺถ วสถา’’ติ อาหํสุ. โส อุปาสกานํ ภเยน คนฺตฺวา เถเร ยาจิ. เถรา ‘‘คจฺฉาวุโส, น มยํ นิวตฺตามา’’ติ ปกฺกมึสุ. โส เถเร นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต วิหารเมว ปจฺจาคโต. อถ นํ อุปาสกา ปุจฺฉึสุ ‘‘นิวตฺติตา เต, ภนฺเต, เถรา’’ติ. ‘‘นิวตฺเตตุํ นาสกฺขึ อาวุโส’’ติ. อถ นํ ‘‘อิมสฺมึ ปาปธมฺเม วสนฺเต อิธ เปสลา ภิกฺขู น วสิสฺสนฺติ, นิกฺกฑฺฒาม น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภนฺเต, มา ตฺวํ อิธ วสิ, อมฺเห นิสฺสาย ตุยฺหํ กิฺจิ นตฺถี’’ติ อาหํสุ. โส เตหิ นิกฺกฑฺฒิโต ปตฺตจีวรมาทาย เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปาปิจฺฉา, ภนฺเต, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา, ปาปิกานํ อิจฺฉานํ วสํ คตา’’ติ อาห. อถ นํ สตฺถา ‘‘มา เหวํ โกกาลิก, อวจ, มา เหวํ โกกาลิก อวจ, ปสาเทหิ โกกาลิก, สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนสุ จิตฺตํ, เต เปสลา ภิกฺขู’’ติ วาเรติ. วาริโตปิ โกกาลิโก ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อคฺคสาวกานํ สทฺทหถ, อหํ ปจฺจกฺขโต อทฺทสํ, ปาปิจฺฉา เอเต ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตา ทุสฺสีลา’’ติ วตฺวา ยาวตติยํ สตฺถารา วาริโตปิ ตเถว วตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ตสฺส ปกฺกนฺตมตฺตสฺเสว สกลสรีเร สาสปมตฺตา ปิฬกา อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วฑฺฒิตฺวา ¶ เพฬุวปกฺกมตฺตา หุตฺวา ภิชฺชิตฺวา ปุพฺพโลหิตานิ ปคฺฆรึสุ. โส นิตฺถุนนฺโต เวทนาปฺปตฺโต เชตวนทฺวารโกฏฺเก นิปชฺชิ. ‘‘โกกาลิเกน ทฺเว อคฺคสาวกา อกฺกุฏฺา’’ติ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิ.
อถสฺส ¶ อุปชฺฌาโย ตุรู นาม พฺรหฺมา ¶ ตํ การณํ ตฺวา ‘‘เถเร ขมาเปสฺสามี’’ติ อาคนฺตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘โกกาลิก, ผรุสํ เต กมฺมํ กตํ, อคฺคสาวเก ปสาเทหี’’ติ อาห. ‘‘โก ปน ตฺวํ อาวุโส’’ติ? ‘‘ตุรู พฺรหฺมา นามาห’’นฺติ. ‘‘นนุ ตฺวํ, อาวุโส, ภควตา อนาคามีติ พฺยากโต, อนาคามี จ อนาวตฺติธมฺโม อสฺมา โลกาติ วุตฺตํ, ตฺวํ สงฺการฏฺาเน ยกฺโข ภวิสฺสสี’’ติ มหาพฺรหฺมํ อปสาเทสิ. โส ตํ อตฺตโน วจนํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘ตว วาจาย ตฺวฺเว ปฺายิสฺสสี’’ติ วตฺวา สุทฺธาวาสเมว คโต. โกกาลิโกปิ กาลํ กตฺวา ปทุมนิรเย อุปฺปชฺชิ. ตสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตภาวํ ตฺวา สหมฺปติพฺรหฺมา ตถาคตสฺส อาโรเจสิ, สตฺถา ภิกฺขูนํ อาโรเจสิ. ภิกฺขู ตสฺส อคุณํ กเถนฺตา ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, โกกาลิโก กิร สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเน อกฺโกสิตฺวา อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ปทุมนิรเย อุปฺปนฺโน’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โกกาลิโก วจเนน หโต อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ทุกฺขํ อนุโภติ, ปุพฺเพปิ เอส อตฺตโน มุขํ นิสฺสาย ทุกฺขํ อนุโภสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตสฺส ปุโรหิโต ปิงฺคโล นิกฺขนฺตทาโ อโหสิ. ตสฺส พฺราหฺมณี อฺเน พฺราหฺมเณน สทฺธึ อติจริ, โสปิ ตาทิโสว. ปุโรหิโต พฺราหฺมณึ ปุนปฺปุนํ วาเรนฺโตปิ วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘อิมํ มม เวรึ สหตฺถา มาเรตุํ น สกฺกา, อุปาเยน นํ มาเรสฺสามี’’ติ. โส ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห ‘‘มหาราช, ตว นครํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคนครํ, ตฺวํ อคฺคราชา, เอวํ อคฺครฺโ นาม ตว ทกฺขิณทฺวารํ ทุยุตฺตํ อวมงฺคล’’นฺติ. ‘‘อาจริย, อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘มงฺคลํ กตฺวา โยเชตพฺพ’’นฺติ. ‘‘กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘ปุราณทฺวารํ หาเรตฺวา มงฺคลยุตฺตานิ ทารูนิ คเหตฺวา นครปริคฺคาหกานํ ภูตานํ พลึ ทตฺวา มงฺคลนกฺขตฺเตน ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘เตน หิ เอวํ กโรถา’’ติ. ตทา โพธิสตฺโต ตกฺการิโย นาม มาณโว ¶ หุตฺวา ¶ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหาติ. ปุโรหิโต ปุราณทฺวารํ หาเรตฺวา นวํ นิฏฺาเปตฺวา ราชานํ อาห – ‘‘นิฏฺิตํ, เทว, ทฺวารํ, สฺเว ภทฺทกํ นกฺขตฺตํ, ตํ อนติกฺกมิตฺวา พลึ กตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘อาจริย, พลิกมฺมตฺถาย กึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เทว, มเหสกฺขํ ทฺวารํ มเหสกฺขาหิ เทวตาหิ ¶ ปริคฺคหิตํ, เอกํ ปิงฺคลํ นิกฺขนฺตทาํ อุภโตวิสุทฺธํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา ตสฺส มํสโลหิเตน พลึ กตฺวา สรีรํ เหฏฺา ขิปิตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปตพฺพํ, เอวํ ตุมฺหากฺจ นครสฺส จ วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ อาจริย, เอวรูปํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปหี’’ติ.
โส ตุฏฺมานโส ‘‘สฺเว ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหชาโต อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา มุขํ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโต ตุริตตุริโต ภริยํ อาห – ‘‘ปาเป จณฺฑาลิ อิโต ปฏฺาย เกน สทฺธึ อภิรมิสฺสสิ, สฺเว เต ชารํ มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘นิรปราธํ กึการณา มาเรสฺสสี’’ติ? ราชา ‘‘กฬารปิงฺคลสฺส พฺราหฺมณสฺส มํสโลหิเตน พลิกมฺมํ กตฺวา นครทฺวารํ ปติฏฺาเปหี’’ติ อาห, ‘‘ชาโร จ เต กฬารปิงฺคโล, ตํ มาเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ. สา ชารสฺส สนฺติกํ สาสนํ ปาเหสิ ‘‘ราชา กิร กฬารปิงฺคลํ พฺราหฺมณํ มาเรตฺวา พลึ กาตุกาโม, สเจ ชีวิตุกาโม, อฺเปิ ตยา สทิเส พฺราหฺมเณ คเหตฺวา กาลสฺเสว ปลายสฺสู’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ตํ นคเร ปากฏํ อโหสิ, สกลนครโต สพฺเพ กฬารปิงฺคลา ปลายึสุ.
ปุโรหิโต ปจฺจามิตฺตสฺส ปลาตภาวํ อชานิตฺวา ปาโตว ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, อสุกฏฺาเน กฬารปิงฺคโล พฺราหฺมโณ อตฺถิ, ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาห. ราชา อมจฺเจ เปเสสิ. เต ตํ อปสฺสนฺตา อาคนฺตฺวา ‘‘ปลาโต กิรา’’ติ อาโรเจสุํ. ‘‘อฺตฺถ อุปธาเรถา’’ติ ¶ สกลนครํ อุปธาเรนฺตาปิ น ปสฺสึสุ. ตโต ‘‘อฺํ อุปธาเรถา’’ติ วุตฺเต ‘‘เทว, เปตฺวา ปุโรหิตํ อฺโ เอวรูโป นตฺถี’’ติ วทึสุ. ปุโรหิตํ น สกฺกา มาเรตุนฺติ. ‘‘เทว, กึ กเถถ, ปุโรหิตสฺส การณา อชฺช ทฺวาเร อปฺปติฏฺาปิเต นครํ อคุตฺตํ ภวิสฺสติ, อาจริโย กเถนฺโต ‘‘อชฺช นกฺขตฺตํ อติกฺกมิตฺวา อิโต สํวจฺฉรจฺจเยน นกฺขตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ กเถสิ, สํวจฺฉรํ นคเร อทฺวารเก ปจฺจตฺถิกานํ โอกาโส ภวิสฺสติ, อิมํ มาเรตฺวา อฺเน พฺยตฺเตน ¶ พฺราหฺมเณน พลิกมฺมํ กาเรตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปสฺสามา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน อฺโ อาจริยสทิโส ปณฺฑิโต พฺราหฺมโณ’’ติ? ‘‘อตฺถิ เทว, ตสฺส อนฺเตวาสี ตกฺการิยมาณโว นาม, ตสฺส ปุโรหิตฏฺานํ ทตฺวา มงฺคลํ กโรถา’’ติ.
ราชา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา สมฺมานํ กาเรตฺวา ปุโรหิตฏฺานํ ทตฺวา ตถา กาตุํ อาณาเปสิ. โส มหนฺเตน ปริวาเรน นครทฺวารํ อคมาสิ. ปุโรหิตํ ราชานุภาเวน พนฺธิตฺวา อานยึสุ. มหาสตฺโต ทฺวารฏฺปนฏฺาเน อาวาฏํ ขณาเปตฺวา สาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา อาจริเยน สทฺธึ อนฺโตสาณิยํ อฏฺาสิ. อาจริโย อาวาฏํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน ปติฏฺํ อลภนฺโต ‘‘อตฺโถ ตาว ¶ เม นิปฺผาทิโต อโหสิ, พาลตฺตา ปน มุขํ รกฺขิตุํ อสกฺโกนฺโต เวเคน ปาปิตฺถิยา กเถสึ, อตฺตนาว อตฺตโน วโธ อาภโต’’ติ มหาสตฺตํ อาลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสิ พาโล, เภโกวรฺเ อหิมวฺหายมาโน;
ตกฺการิเย โสพฺภมิมํ ปตามิ, น กิเรว สาธุ อติเวลภาณี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทุพฺภาสิตํ ภาสีติ ทุพฺภาสิตํ ภาสึ. เภโกวาติ ยถา อรฺเ มณฺฑูโก วสฺสนฺโต อตฺตโน ขาทกํ อหึ อวฺหายมาโน ทุพฺภาสิตํ ภาสติ นาม, เอวํ อหเมว ทุพฺภาสิตํ ภาสึ. ตกฺการิเยติ ตสฺส นามํ, ตกฺการิยาติ อิตฺถิลิงฺคํ นามํ, เตเนว ตํ อาลปนฺโต เอวมาห.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ปปฺโปติ มจฺโจ อติเวลภาณี, พนฺธํ วธํ โสกปริทฺทวฺจ;
อตฺตานเมว ครหาสิ เอตฺถ, อาเจร ยํ ตํ นิขณนฺติ โสพฺเภ’’ติ.
ตตฺถ ¶ อติเวลภาณีติ เวลาติกฺกนฺตํ ปมาณาติกฺกนฺตํ กตฺวา กถนํ นาม น สาธุ, อติเวลภาณี ปุริโส น สาธูติ อตฺโถ. โสกปริทฺทวฺจาติ อาจริย, เอวเมว อติเวลภาณี ปุริโส วธํ พนฺธฺจ โสกฺจ มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวฺจ ปปฺโปติ. ครหาสีติ ปรํ อครหิตฺวา อตฺตานํเยว ครเหยฺยาสิ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ การเณ. อาเจร ยํ ตนฺติ อาจริย, เยน การเณน ตํ นิขณนฺติ โสพฺเภ, ตํ ตยาว กตํ, ตสฺมา อตฺตานเมว ครเหยฺยาสีติ วทติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อาจริย, วาจํ อรกฺขิตฺวา น เกวลํ ตฺวเมว ทุกฺขปฺปตฺโต, อฺโปิ ทุกฺขปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ.
ปุพฺเพ กิร พาราณสิยํ กาฬี นาม คณิกา อโหสิ, ตสฺสา ตุณฺฑิโล นาม ภาตา. กาฬี เอกทิวสํ สหสฺสํ คณฺหาติ. ตุณฺฑิโล ปน อิตฺถิธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต อโหสิ. สา ตสฺส ธนํ เทติ, โส ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ. สา ตํ วาเรนฺตีปิ วาเรตุํ นาสกฺขิ. โส เอกทิวสํ ชูตปราชิโต นิวตฺถวตฺถานิ ทตฺวา กฏสารกขณฺฑํ นิวาเสตฺวา ตสฺสา เคหํ อาคมิ ¶ . ตาย จ ทาสิโย อาณตฺตา โหนฺติ ‘‘ตุณฺฑิลสฺส อาคตกาเล ¶ กิฺจิ อทตฺวา คีวายํ นํ คเหตฺวา นีหเรยฺยาถา’’ติ. ตา ตถา กรึสุ. โส ทฺวารมูเล โรทนฺโต อฏฺาสิ.
อเถโก เสฏฺิปุตฺโต นิจฺจกาลํ กาฬิยา สหสฺสํ อาหราเปนฺโต ทิสฺวา ‘‘กสฺมา ตุณฺฑิล โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, ชูตปราชิโต มม ภคินิยา สนฺติกํ อาคโตมฺหิ, ตํ มํ ทาสิโย คีวายํ คเหตฺวา นีหรึสู’’ติ. ‘‘เตน หิ ติฏฺ, ภคินิยา เต กเถสฺสามี’’ติ โส คนฺตฺวา ‘‘ภาตา เต กฏสารกขณฺฑํ นิวาเสตฺวา ทฺวารมูเล ิโต, วตฺถานิสฺส กิมตฺถํ น เทสี’’ติ อาห. ‘‘อหํ ตาว น เทมิ, สเจ ปน เต สิเนโห อตฺถิ, ตฺวํ เทหี’’ติ. ตสฺมึ ปน คณิกาย ฆเร อิทํจาริตฺตํ – อาภตสหสฺสโต ปฺจสตานิ คณิกาย โหนฺติ, ปฺจสตานิ วตฺถคนฺธมาลมูลานิ โหนฺติ. อาคตปุริสา ตสฺมึ ฆเร ลทฺธวตฺถานิ นิวาเสตฺวา รตฺตึ วสิตฺวา ปุนทิวเส คจฺฉนฺตา อาภตวตฺถาเนว นิวาเสตฺวา คจฺฉนฺติ. ตสฺมา โส เสฏฺิปุตฺโต ตาย ทินฺนวตฺถานิ นิวาเสตฺวา อตฺตโน สาฏเก ตุณฺฑิลสฺส ทาเปสิ. โส นิวาเสตฺวา นทนฺโต ¶ คชฺชนฺโต คนฺตฺวา สุราเคหํ ปาวิสิ. กาฬีปิ ทาสิโย อาณาเปสิ ‘‘สฺเว เอตสฺส คมนกาเล วตฺถานิ อจฺฉินฺเทยฺยาถา’’ติ. ตา ตสฺส นิกฺขมนกาเล อิโต จิโต จ อุปธาวิตฺวา วิลุมฺปมานา สาฏเก คเหตฺวา ‘‘อิทานิ ยาหิ กุมารา’’ติ นคฺคํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสุํ. โส นคฺโคว นิกฺขมิ. ชโน ปริหาสํ กโรติ. โส ลชฺชิตฺวา ‘‘มยาเวตํ กตํ, อหเมว อตฺตโน มุขํ รกฺขิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ ปริเทวิ. อิทํ ตาว ทสฺเสตุํ ตติยํ คาถมาห –
‘‘กิเมวหํ ตุณฺฑิลมนุปุจฺฉึ, กเรยฺย สํ ภาตรํ กาฬิกายํ;
นคฺโควหํ วตฺถยุคฺจ ชีโน, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.
ตตฺถ ¶ พหุตาทิโสวาติ เสฏฺิปุตฺโต หิ อตฺตนา กเตน ทุกฺขํ ปตฺโต, ตฺวมฺปิ ตสฺมา อยมฺปิ ตุยฺหํ ทุกฺขปฺปตฺติ อตฺโถ. พหูหิ การเณหิ ตาทิโสว.
อปโรปิ พาราณสิยํ อชปาลานํ ปมาเทน โคจรภูมิยํ ทฺวีสุ เมณฺเฑสุ ยุชฺฌนฺเตสุ เอโก กุลิงฺคสกุโณ ‘‘อิเม ทานิ ภินฺเนหิ สีเสหิ มริสฺสนฺติ, วาเรสฺสามิ เตติ มาตุลา มา ยุชฺฌถา’’ติ วาเรตฺวา เตสํ กถํ อคฺคเหตฺวา ยุชฺฌนฺตานฺเว ปิฏฺิยมฺปิ สีเสปิ นิสีทิตฺวา ยาจิตฺวา วาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘เตน หิ มํ มาเรตฺวา ยุชฺฌถา’’ติ อุภินฺนมฺปิ สีสนฺตรํ ปาวิสิ. เต อฺมฺํ ยุชฺฌึสุเยว. โส สณฺหกรณิยํ ปิสิโต วิย อตฺตนา กเตเนว วินาสํ ปตฺโต. อิทมฺปิ อปรํ การณํ ทสฺเสตุํ จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘โย ¶ ยุชฺฌมานานมยุชฺฌมาโน, เมณฺฑนฺตรํ อจฺจุปตี กุลิงฺโค;
โส ปึสิโต เมณฺฑสิเรหิ ตตฺถ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.
ตตฺถ เมณฺฑนฺตรนฺติ เมณฺฑานํ อนฺตรํ. อจฺจุปตีติ อติคนฺตฺวา อุปฺปติ, อากาเส สีสานํ เวมชฺเฌ อฏฺาสีติ อตฺโถ. ปึสิโตติ ปีฬิโต.
อปเรปิ ¶ พาราณสิวาสิโน โคปาลกา ผลิตํ ตาลรุกฺขํ ทิสฺวา เอกํ ตาลผลตฺถาย รุกฺขํ อาโรเปสุํ. ตสฺมึ ผลานิ ปาเตนฺเต เอโก กณฺหสปฺโป วมฺมิกา นิกฺขมิตฺวา ตาลรุกฺขํ อารุหิ. เหฏฺา ปติฏฺิตา ทณฺเฑหิ ปหรนฺตา นิวาเรตุํ นาสกฺขึสุ. เต ‘‘สปฺโป ตาลํ อภิรุหตี’’ติ อิตรสฺส อาจิกฺขึสุ. โส ภีโต มหาวิรวํ วิรวิ. เหฏฺา ิตา เอกํ ถิรสาฏกํ จตูสุ กณฺเณสุ คเหตฺวา ‘‘อิมสฺมึ สาฏเก ปตา’’ติ อาหํสุ. โส ปตนฺโต จตุนฺนมฺปิ อนฺตเร สาฏกมชฺเฌ ปติ. ตสฺส ปน ปาตนเวเคน เต สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตา อฺมฺํ ¶ สีเสหิ ปหริตฺวา ภินฺเนหิ สีเสหิ ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา. อิทมฺปิ การณํ ทสฺเสนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘จตุโร ชนา โปตฺถกมคฺคเหสุํ, เอกฺจ โปสํ อนุรกฺขมานา;
สพฺเพว เต ภินฺนสิรา สยึสุ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.
ตตฺถ โปตฺถกนฺติ สาณสาฏกํ. สพฺเพว เตติ เตปิ จตฺตาโร ชนา อตฺตนา กเตเนว ภินฺนสีสา สยึสุ.
อปเรปิ พาราณสิวาสิโน เอฬกโจรา รตฺตึ เอกํ อชํ เถเนตฺวา ‘‘ทิวา อรฺเ ขาทิสฺสามา’’ติ ตสฺสา อวสฺสนตฺถาย มุขํ พนฺธิตฺวา เวฬุคุมฺเพ เปสุํ. ปุนทิวเส ตํ ขาทิตุํ คจฺฉนฺตา อาวุธํ ปมุสฺสิตฺวา อคมํสุ. เต ‘‘อชํ มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา ขาทิสฺสาม, อาหรถาวุธ’’นฺติ เอกสฺสปิ หตฺเถ อาวุธํ อทิสฺวา ‘‘วินา อาวุเธน เอตํ มาเรตฺวาปิ มํสํ คเหตุํ น สกฺกา, วิสฺสชฺเชถ นํ, ปฺุมสฺส อตฺถี’’ติ วิสฺสชฺเชสุํ. ตทา เอโก นฬกาโร เวฬุํ คเหตฺวา ‘‘ปุนปิ อาคนฺตฺวา คเหสฺสามี’’ติ นฬการสตฺถํ เวฬุคุมฺพนฺตเร เปตฺวา ปกฺกามิ. อชา ‘‘มุตฺตามฺหี’’ติ ตุสฺสิตฺวา เวฬุมูเล กีฬมานา ปจฺฉิมปาเทหิ ปหริตฺวา ตํ สตฺถํ ปาเตสิ. โจรา สตฺถสทฺทํ สุตฺวา อุปธาเรนฺตา ตํ ทิสฺวา ตุฏฺมานสา อชํ มาเรตฺวา มํสํ ขาทึสุ. อิติ ‘‘สาปิ อชา อตฺตนา กเตเนว มตา’’ติ ทสฺเสตุํ ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘อชา ¶ ¶ ยถา เวฬุคุมฺพสฺมึ พทฺธา, อวกฺขิปนฺตี อสิมชฺฌคจฺฉิ;
เตเนว ตสฺสา คลกาวกนฺตํ, อยมฺปิ อตฺโถ พหุตาทิโสวา’’ติ.
ตตฺถ อวกฺขิปนฺตีติ กีฬมานา ปจฺฉิมปาเท ขิปนฺตี.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘อตฺตโน วจนํ รกฺขิตฺวา มิตภาณิโน นาม มรณทุกฺขา มุจฺจนฺตี’’ติ ทสฺเสตฺวา กินฺนรวตฺถุํ อาหริ.
พาราณสิวาสี กิเรโก ลุทฺทโก หิมวนฺตํ คนฺตฺวา เอเกนุปาเยน ชยมฺปติเก ทฺเว กินฺนเร คเหตฺวา อาเนตฺวา รฺโ อทาสิ. ราชา อทิฏฺปุพฺเพ กินฺนเร ทิสฺวา ตุสฺสิตฺวา ‘‘ลุทฺท, อิเมสํ โก คุโณ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, เอเต มธุเรน สทฺเทน คายนฺติ, มนฺุํ นจฺจนฺติ, มนุสฺสา เอวํ คายิตฺุจ นจฺจิตฺุจ น ชานนฺตี’’ติ. ราชา ลุทฺทสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา กินฺนเร ‘‘คายถ นจฺจถา’’ติ อาห. กินฺนรา ‘‘สเจ มยํ คายนฺตา พฺยฺชนํ ปริปุณฺณํ กาตุํ น สกฺขิสฺสาม, ทุคฺคีตํ โหติ, อมฺเห ครหิสฺสนฺติ วธิสฺสนฺติ, พหุํ กเถนฺตานฺจ ปน มุสาวาโทปิ โหตี’’ติ มุสาวาทภเยน รฺา ปุนปฺปุนํ วุตฺตาปิ น คายึสุ น นจฺจึสุ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ‘‘อิเม มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา อาหรถา’’ติ อาณาเปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘อิเม น เทวา น คนฺธพฺพปุตฺตา, มิคา อิเม อตฺถวสํ คตา เม;
เอกฺจ นํ สายมาเส ปจนฺตุ, เอกํ ปุนปฺปาตราเส ปจนฺตู’’ติ.
ตตฺถ มิคา อิเมติ อิเม สเจ เทวา คนฺธพฺพา วา ภเวยฺยุํ, นจฺเจยฺยฺุเจว คาเยยฺยฺุจ, อิเม ปน มิคา ติรจฺฉานคตา. อตฺถวสํ คตา เมติ อตฺถํ ปจฺจาสีสนฺเตน ลุทฺเทน อานีตตฺตา อตฺถวเสน มม หตฺถํ คตา. เอเตสุ เอกํ สายมาเส, เอกํ ปาตราเส ปจนฺตูติ.
กินฺนรี จินฺเตสิ ‘‘ราชา กุทฺโธ นิสฺสํสยํ มาเรสฺสติ, อิทานิ กเถตุํ กาโล’’ติ อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘สตํ ¶ สหสฺสานิ ทุภาสิตานิ, กลมฺปิ นาคฺฆนฺติ สุภาสิตสฺส;
ทุพฺภาสิตํ สงฺกมาโน กิเลโส, ตสฺมา ตุณฺหี กิมฺปุริสา น พาลฺยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ สงฺกมาโน กิเลโสติ กทาจิ อหํ ภาสมาโน ทุพฺภาสิตํ ภาเสยฺยํ, เอวํ ทุพฺภาสิตํ สงฺกมาโน กิลิสฺสติ กิลมติ. ตสฺมาติ เตน การเณน ตุมฺหากํ น คายึ, น พาลภาเวนาติ.
ราชา กินฺนริยา ตุสฺสิตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘ยา เมสา พฺยาหาสิ ปมฺุจเถตํ, คิริฺจ นํ หิมวนฺตํ นยนฺตุ;
อิมฺจ โข เทนฺตุ มหานสาย, ปาโตว นํ ปาตราเส ปจนฺตู’’ติ.
ตตฺถ ยา เมสาติ ยา เม เอสา. เทนฺตูติ มหานสตฺถาย เทนฺตุ.
กินฺนโร รฺโ วจนํ สุตฺวา ‘‘อยํ มํ อกเถนฺตํ อวสฺสํ มาเรสฺสติ, อิทานิ กเถตุํ วฏฺฏตี’’ติ อิตรํ คาถมาห –
‘‘ปชฺชุนฺนนาถา ปสโว, ปสุนาถา อยํ ปชา;
ตฺวํ นาโถสิ มหาราช, นาโถหํ ภริยาย เม;
ทฺวินฺนมฺตรํ ตฺวา, มุตฺโต คจฺเฉยฺย ปพฺพต’’นฺติ.
ตตฺถ ปชฺชุนฺนนาถา ปสโวติ ติณภกฺขา ปสโว เมฆนาถา นาม. ปสุนาถา อยํ ปชาติ อยํ ปน มนุสฺสปชา ปฺจโครเสน อุปชีวนฺตี ปสุนาถา ปสุปติฏฺา. ตฺวํ นาโถสีติ ตฺวํ มม ปติฏฺา อสิ. นาโถหนฺติ มม ภริยาย อหํ นาโถ, อหมสฺสา ปติฏฺา. ทฺวินฺนมฺตรํ ตฺวา, มุตฺโต คจฺเฉยฺย ปพฺพตนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ อนฺตเร เอโก เอกํ มตํ ตฺวา สยํ มรณโต มุตฺโต หิมวนฺตํ คจฺเฉยฺย, ชีวมานา ปน มยํ อฺมฺํ น ชหาม, ตสฺมา สเจปิ อิมํ หิมวนฺตํ เปเสตุกาโม, มํ ปมํ มาเรตฺวา ปจฺฉา เปเสหีติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘มหาราช, น มยํ ตว วจนํ อกาตุกามตาย ตุณฺหี อหุมฺห, มยํ กถาย ปน โทสํ ทิสฺวา น กถยิมฺหา’’ติ ทีเปนฺโต อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘น เว นินฺทา สุปริวชฺชเยถ, นานา ชนา เสวิตพฺพา ชนินฺท;
เยเนว ¶ เอโก ลภเต ปสํสํ, เตเนว อฺโ ลภเต นินฺทิตารํ.
‘‘สพฺโพ ¶ โลโก ปริจิตฺโต อติจิตฺโต, สพฺโพ โลโก จิตฺตวา สมฺหิ จิตฺเต;
ปจฺเจกจิตฺตา ปุถุ สพฺพสตฺตา, กสฺสีธ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเต’’ติ.
ตตฺถ สุปริวชฺชเยถาติ มหาราช, นินฺทา นาม สุเขน ปริวชฺเชตุํ น สกฺกา. นานา ชนาติ นานาฉนฺทา ชนา. เยเนวาติ เยน สีลาทิคุเณน เอโก ปสํสํ ลภติ, เตเนว อฺโ นินฺทิตารํ ลภติ. อมฺหากฺหิ กินฺนรานํ อนฺตเร กถเนน ปสํสํ ลภติ, มนุสฺสานํ อนฺตเร นินฺทํ, อิติ นินฺทา นาม ทุปฺปริวชฺชิยา, สฺวาหํ กถํ ตว สนฺติกา ปสํสํ ลภิสฺสามีติ.
สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโตติ มหาราช, อสปฺปุริโส นาม ปาณาติปาตาทิจิตฺเตน, สปฺปุริโส ปาณาติปาตา เวรมณิ อาทิจิตฺเตน อติจิตฺโตติ, เอวํ สพฺโพ โลโก ปริจิตฺโต อติจิตฺโตติ อตฺโถ. จิตฺตวา สมฺหิ จิตฺเตติ สพฺโพ ปน โลโก อตฺตโน หีเนน วา ปณีเตน วา จิตฺเตน จิตฺตวา นาม. ปจฺเจกจิตฺตาติ ปาฏิเยกฺกจิตฺตา ปุถุปฺปเภทา สพฺเพ สตฺตา. เตสุ กสฺเสกสฺส ตว วา อฺสฺส วา จิตฺเตน กินฺนรี วา มาทิโส วา อฺโ วา วตฺเตยฺย, ตสฺมา ‘‘อยํ มม จิตฺตวเสน น วตฺตตี’’ติ, มา มยฺหํ กุชฺฌิ. สพฺพสตฺตา ¶ หิ อตฺตโน จิตฺตวเสน คจฺฉนฺติ, เทวาติ. กิมฺปุริโส รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ.
ราชา ‘‘สภาวเมว กเถติ ปณฺฑิโต กินฺนโร’’ติ โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา โอสานคาถมาห –
‘‘ตุณฺหี อหู กิมฺปุริโส สภริโย, โย ทานิ พฺยาหาสิ ภยสฺส ภีโต;
โส ทานิ มุตฺโต สุขิโต อโรโค, วาจากิเรวตฺถวตี นราน’’นฺติ.
ตตฺถ วาจากิเรวตฺถวตี นรานนฺติ วาจาคิรา เอว อิเมสํ สตฺตานํ อตฺถวตี หิตาวหา โหตีติ อตฺโถ.
ราชา กินฺนเร สุวณฺณปฺชเร นิสีทาเปตฺวา ตเมว ลุทฺทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ ภเณ, คหิตฏฺาเนเยว วิสฺสชฺเชหี’’ติ วิสฺสชฺชาเปสิ. มหาสตฺโตปิ ¶ ‘‘อาจริย, เอวํ กินฺนรา วาจํ รกฺขิตฺวา ปตฺตกาเล กถิเตน สุภาสิเตเนว มุตฺตา, ตฺวํ ปน ทุกฺกถิเตน มหาทุกฺขํ ปตฺโต’’ติ อิทํ อุทาหรณํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาจริย, มา ภายิ, ชีวิตํ เต อหํ ทสฺสามี’’ติ อสฺสาเสสิ, ‘‘อปิจ โข ปน ตุมฺเห มํ รกฺเขยฺยาถา’’ติวุตฺเต ‘‘น ตาว นกฺขตฺตโยโค ลพฺภตี’’ติ ¶ ทิวสํ วีตินาเมตฺวา มชฺฌิมยามสมนนฺตเร มตํ เอฬกํ อาหราเปตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, ยตฺถ กตฺถจิ คนฺตฺวา ชีวาหี’’ติ กฺจิ อชานาเปตฺวา อุยฺโยเชตฺวา เอฬกมํเสน พลึ กตฺวา ทฺวารํ ปติฏฺาเปสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โกกาลิโก วาจาย หโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กฬารปิงฺคโล โกกาลิโก อโหสิ, ตกฺการิยปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ตกฺการิยชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๔๘๒] ๙. รุรุมิคราชชาตกวณฺณนา
ตสฺส ¶ คามวรํ ทมฺมีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร ภิกฺขูหิ ‘‘พหูปกาโร เต อาวุโส, เทวทตฺตสตฺถา, ตฺวํ ตถาคตํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชํ ลภิ, ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคณฺหิ, ลาภสกฺการํ ปาปุณี’’ติ วุตฺโต ‘‘อาวุโส, สตฺถารา มม ติณคฺคมตฺโตปิ อุปกาโร น กโต, อหํ สยเมว ปพฺพชึ, สยํ ตีณิ ปิฏกานิ อุคฺคณฺหึ, สยํ ลาภสกฺการํ ปาปุณิ’’นฺติ กเถสิ. ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อกตฺู อาวุโส, เทวทตฺโต อกตเวที’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทตฺโต อิทาเนว อกตฺู, ปุพฺเพปิ อกตฺูเยว, ปุพฺเพเปส มยา ชีวิเต ทินฺเนปิ มม คุณมตฺตํ น ชานาตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก อสีติโกฏิวิภโว เสฏฺิ ปุตฺตํ ลภิตฺวา ‘‘มหาธนโก’’ติสฺส, นามํ กตฺวา ‘‘สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต มม ปุตฺโต กิลมิสฺสตี’’ติ น กิฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส คีตนจฺจวาทิตขาทนโภชนโต อุทฺธํ น กิฺจิ อฺาสิ. ตํ วยปฺปตฺตํ ปติรูเปน ทาเรน สํโยเชตฺวา มาตาปิตโร กาลมกํสุ. โส เตสํ อจฺจเยน อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทีหิ ปริวุโต นานาพฺยสนมุเขหิ ¶ อิณํ อาทาย ตํ ทาตุํ อสกฺโกนฺโต อิณายิเกหิ โจทิยมาโน จินฺเตสิ ‘‘กึ มยฺหํ ชีวิเตน, เอเกนมฺหิ อตฺตภาเวน อฺโ วิย ชาโต, มตํ เม เสยฺโย’’ติ. โส อิณายิเก อาห – ‘‘ตุมฺหากํ อิณปณฺณานิ คเหตฺวา อาคจฺฉถ, คงฺคาตีเร เม นิทหิตํ กุลสนฺตกํ ธนํ อตฺถิ, ตํ โว ทสฺสามี’’ติ. เต เตน ¶ สทฺธึ อคมํสุ. โส ‘‘อิธ ธน’’นฺติ นิธิฏฺานํ อาจิกฺขนฺโต วิย ‘‘คงฺคายํ ปติตฺวา มริสฺสามี’’ติ ปลายิตฺวา คงฺคายํ ปติ. โส จณฺฑโสเตน วุยฺหนฺโต การฺุรวํ วิรวิ.
ตทา มหาสตฺโต รุรุมิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา ปริวารํ ฉฑฺเฑตฺวา เอกโกว คงฺคานิวตฺตเน รมณีเย สาลมิสฺสเก สุปุปฺผิตอมฺพวเน วสติ อุโปสถํ อุปวุตฺถาย. ตสฺส สรีรจฺฉวิ สุมชฺชิตกฺจนปฏฺฏวณฺณา อโหสิ, หตฺถปาทา ¶ ลาขารสปริกมฺมกตา วิย, นงฺคุฏฺํ จามรีนงฺคุฏฺํ วิย, สิงฺคานิ รชตทามสทิสานิ, อกฺขีนิ สุมชฺชิตมณิคุฬิกา วิย, มุขํ โอทหิตฺวา ปิตรตฺตกมฺพลเคณฺฑุกํ วิย. เอวรูปํ ตสฺส รูปํ อโหสิ. โส อฑฺฒรตฺตสมเย ตสฺส การฺุสทฺทํ สุตฺวา ‘‘มนุสฺสสทฺโท สูยติ, มา มยิ ธรนฺเต มรตุ, ชีวิตมสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สยนคุมฺพา อุฏฺาย นทีตีรํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺโภ ปุริส, มา ภายิ, ชีวิตํ เต ทสฺสามี’’ติ อสฺสาเสตฺวา โสตํ ฉินฺทนฺโต คนฺตฺวา ตํ ปิฏฺิยํ อาโรเปตฺวา ตีรํ ปาเปตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ เนตฺวา ผลาผลานิ ทตฺวา ทฺวีหตีหจฺจเยน ‘‘โภ ปุริส, อหํ ตํ อิโต อรฺโต นีหริตฺวา พาราณสิมคฺเค เปสฺสามิ, ตฺวํ โสตฺถินา คมิสฺสสิ, อปิจ โข ปน ตฺวํ ‘อสุกฏฺาเน นาม กฺจนมิโค วสตี’ติ ธนการณา มํ รฺโ เจว ราชมหามตฺตสฺส จ มา อาจิกฺขาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ สามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ.
มหาสตฺโต ตสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา ตํ อตฺตโน ปิฏฺิยํ อาโรเปตฺวา พาราณสิมคฺเค โอตาเรตฺวา นิวตฺติ. ตสฺส พาราณสิปวิสนทิวเสเยว เขมา นาม รฺโ อคฺคมเหสี ปจฺจูสกาเล สุปินนฺเต สุวณฺณวณฺณํ มิคํ อตฺตโน ธมฺมํ เทเสนฺตํ ทิสฺวา ¶ จินฺเตสิ ‘‘สเจ เอวรูโป มิโค น ภเวยฺย, นาหํ สุปิเน ปสฺเสยฺยํ, อทฺธา ภวิสฺสติ, รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ. สา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ สุวณฺณวณฺณํ มิคํ ปสฺสิตุํ อิจฺฉามิ, สุวณฺณวณฺณมิคสฺส ธมฺมํ โสตุกามามฺหิ, ลภิสฺสามิ เจ, ชีเวยฺยํ, โน เจ, นตฺถิ เม ชีวิต’’นฺติ อาห. ราชา ตํ อสฺสาเสตฺวา ‘‘สเจ มนุสฺสโลเก อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ วตฺวา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณา มิคา นาม โหนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, เทว, โหนฺตี’’ติ สุตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺเธ สุวณฺณจงฺโกฏเก สหสฺสถวิกํ เปตฺวา โย สุวณฺณวณฺณํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสติ, ตสฺส สทฺธึ สหสฺสถวิกสุวณฺณจงฺโกฏเกน ตฺจ หตฺถึ ตโต จ อุตฺตริ ทาตุกาโม หุตฺวา สุวณฺณปฏฺเฏ คาถํ ลิขาเปตฺวา เอกํ อมจฺจํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอหิ ตาต, มม วจเนน อิมํ คาถํ นครวาสีนํ กเถหี’’ติ อิมสฺมึ ชาตเก ปมํ คาถมาห –
‘‘ตสฺส ¶ ¶ คามวรํ ทมฺมิ, นาริโย จ อลงฺกตา;
โย เม ตํ มิคมกฺขาติ, มิคานํ มิคมุตฺตม’’นฺติ.
อมจฺโจ สุวณฺณปฏฺฏํ คเหตฺวา สกลนคเร วาจาเปสิ. อถ โส เสฏฺิปุตฺโต พาราณสึ ปวิสนฺโตว ตํ กถํ สุตฺวา อมจฺจสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ รฺโ เอวรูปํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสามิ, มํ รฺโ ทสฺเสหี’’ติ อาห. อมจฺโจ หตฺถิกฺขนฺธโต โอตริตฺวา ตํ รฺโ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ กิร, เทว, ตํ มิคํ อาจิกฺขิสฺสตี’’ติ ทสฺเสสิ. ราชา ‘‘สจฺจํ อมฺโภ ปุริสา’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สจฺจํ มหาราช, ตฺวํ เอตํ ยสํ มยฺหํ เทหี’’ติ วทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘มยฺหํ คามวรํ เทหิ, นาริโย จ อลงฺกตา;
อหํ เต มิคมกฺขิสฺสํ, มิคานํ มิคมุตฺตม’’นฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส มิตฺตทุพฺภิสฺส ตุสฺสิตฺวา ‘‘อพฺโภ กุหึ โส มิโค วสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม เทวา’’ติ วุตฺเต ตเมว มคฺคเทสกํ กตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ านํ อคมาสิ. อถ นํ โส มิตฺตทุพฺภี ‘‘เสนํ, เทว, สนฺนิสีทาเปหี’’ติ ¶ วตฺวา สนฺนิสินฺนาย เสนาย เอโส, เทว, สุวณฺณมิโค เอตสฺมึ วเน วสตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา อาจิกฺขนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘เอตสฺมึ วนสณฺฑสฺมึ, อมฺพา สาลา จ ปุปฺผิตา;
อินฺทโคปกสฺฉนฺนา, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.
ตตฺถ อินฺทโคปกสฺฉนฺนาติ เอตสฺส วนสณฺฑสฺส ภูมิ อินฺทโคปกวณฺณาย รตฺตาย สุขสมฺผสฺสาย ติณชาติยา สฺฉนฺนา, สสกุจฺฉิ วิย มุทุกา, เอตฺถ เอตสฺมึ รมณีเย วนสณฺเฑ เอโส ติฏฺตีติ ทสฺเสติ.
ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อมจฺเจ อาณาเปสิ ‘‘ตสฺส มิคสฺส ปลายิตุํ อทตฺวา ขิปฺปํ อาวุธหตฺเถหิ ปุริเสหิ สทฺธึ วนสณฺฑํ ปริวาเรถา’’ติ. เต ตถา กตฺวา อุนฺนทึสุ. ราชา กติปเยหิ ชเนหิ สทฺธึ เอกมนฺตํ อฏฺาสิ, โสปิสฺส อวิทูเร อฏฺาสิ. มหาสตฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มหนฺโต พลกายสทฺโท, ตมฺหา เม ปุริสา ¶ ภเยน อุปฺปนฺเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ ¶ . โส อุฏฺาย สกลปริสํ โอโลเกตฺวา รฺโ ิตฏฺานํ ทิสฺวา ‘‘รฺโ ิตฏฺาเนเยว เม โสตฺถิ ภวิสฺสติ, เอตฺเถว มยา คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ราชาภิมุโข ปายาสิ. ราชา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นาคพโล มิโค อวตฺถรนฺโต วิย อาคจฺเฉยฺย, สรํ สนฺนยฺหิตฺวา อิมํ มิคํ สนฺตาเสตฺวา สเจ ปลายติ, วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา คณฺหิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา โพธิสตฺตาภิมุโข อโหสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถาทฺวยมาห –
‘‘ธนุํ อทฺเวชฺฌํ กตฺวาน, อุสุํ สนฺนยฺหุปาคมิ;
มิโค จ ทิสฺวา ราชานํ, ทูรโต อชฺฌภาสถ.
‘‘อาคเมหิ มหาราช, มา มํ วิชฺฌิ รเถสภ;
โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.
ตตฺถ ¶ อทฺเวชฺฌํ กตฺวานาติ ชิยาย จ สเรน จ สทฺธึ เอกเมว กตฺวา. สนฺนยฺหาติ สนฺนยฺหิตฺวา. อาคเมหีติ ‘‘ติฏฺ, มหาราช, มา มํ วิชฺฌิ, ชีวคฺคาหเมว คณฺหาหี’’ติ มธุราย มนุสฺสวาจาย อภาสิ.
ราชา ตสฺส มธุรกถาย พนฺธิตฺวา ธนุํ โอตาเรตฺวา คารเวน อฏฺาสิ. มหาสตฺโตปิ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มหาชโนปิ สพฺพาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา อาคนฺตฺวา ราชานํ ปริวาเรสิ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต สุวณฺณกิงฺกิณิกํ จาเลนฺโต วิย มธุเรน สเรน ราชานํ ปุจฺฉิ ‘‘โก นุ เต อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ? ตสฺมึ ขเณ ปาปปุริโส โถกํ ปฏิกฺกมิตฺวา โสตปเถว อฏฺาสิ. ราชา ‘‘อิมินา เม ทสฺสิโต’’ติ กเถนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘เอส ปาปจโร โปโส, สมฺม ติฏฺติ อารกา;
โสยํ เม อิทมกฺขาสิ, เอตฺเถโส ติฏฺเต มิโค’’ติ.
ตตฺถ ปาปจโรติ วิสฺสฏฺาจาโร.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตํ มิตฺตทุพฺภึ ครหิตฺวา รฺา สทฺธึ สลฺลปนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –
‘‘สจฺจํ ¶ ¶ กิเรว มาหํสุ, นรา เอกจฺจิยา อิธ;
กฏฺํ นิปฺลวิตํ เสยฺโย, น ตฺเวเวกจฺจิโย นโร’’ติ.
ตตฺถ นิปฺลวิตนฺติ อุตฺตาริตํ. เอกจฺจิโยติ เอกจฺโจ ปน มิตฺตทุพฺภี ปาปปุคฺคโล อุทเก ปตนฺโตปิ อุตฺตาริโต น ตฺเวว เสยฺโย. กฏฺฺหิ นานปฺปกาเรน อุปการาย สํวตฺตติ, มิตฺตทุพฺภี ปน ปาปปุคฺคโล วินาสาย, ตสฺมา ตโต กฏฺเมว วรตรนฺติ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ, มยา ปน เตสํ วจนํ น กตนฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อิตรํ คาถมาห –
‘‘กึ นุ รุรุ ครหสิ มิคานํ, กึ ปกฺขีนํ กึ ปน มานุสานํ;
ภยํ ¶ หิ มํ วินฺทตินปฺปรูปํ, สุตฺวาน ตํ มานุสึ ภาสมาน’’นฺติ.
ตตฺถ มิคานนฺติ มิคานมฺตรํ ครหสิ, อุทาหุ ปกฺขีนํ, มานุสานนฺติ ปุจฺฉิ. ภยฺหิ มํ วินฺทตีติ ภยํ มํ ปฏิลภติ, อหํ อตฺตนิ อนิสฺสโร ภยสนฺตโก วิย โหมิ. อนปฺปรูปนฺติ มหนฺตํ.
ตโต มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, น มิคํ, น ปกฺขึ ครหามิ, มนุสฺสํ ปน ครหามี’’ติ ทสฺเสนฺโต นวมํ คาถมาห –
‘‘ยมุทฺธรึ วาหเน วุยฺหมานํ, มโหทเก สลิเล สีฆโสเต;
ตโตนิทานํ ภยมาคตํ มม, ทุกฺโข หเว ราช อสพฺภิ สงฺคโม’’ติ.
ตตฺถ วาหเนติ ปติตปติเต วหิตุํ สมตฺเถ คงฺคาวเห. มโหทเก สลิเลติ มหาอุทเก มหาสลิเลติ อตฺโถ. อุภเยนาปิ คงฺคาวหสฺเสว พหุอุทกตํ ทสฺเสติ. ตโตนิทานนฺติ มหาราช, โย มยฺหํ ตยา ทสฺสิโต ปุริโส, เอโส มยา คงฺคาย วุยฺหมาโน อฑฺฒรตฺตสมเย การฺุรวํ วิรวนฺโต อุทฺธริโต, ตโตนิทานํ เม อิทมชฺช ภยํ อาคตํ, อสปฺปุริเสหิ สมาคโม นาม ทุกฺโข, มหาราชาติ.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา ราชา ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอวํ พหูปการสฺส นาม คุณํ น ชานาติ, วิชฺฌิตฺวา นํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสามี’’ติ ทสมํ คาถมาห –
‘‘โสหํ จตุปฺปตฺตมิมํ วิหงฺคมํ, ตนุจฺฉิทํ หทเย โอสฺสชามิ;
หนามิ ตํ มิตฺตทุพฺภึ อกิจฺจการึ, โย ตาทิสํ กมฺมกตํ น ชาเน’’ติ.
ตตฺถ จตุปฺปตฺตนฺติ จตูหิ วาชปตฺเตหิ สมนฺนาคตํ. วิหงฺคมนฺติ อากาสคามึ. ตนุจฺฉิทนฺติ สรีรฉินฺทนํ. โอสฺสชามีติ เอตสฺส หทเย วิสฺสชฺเชมิ.
ตโต มหาสตฺโต ‘‘มา เอส มํ นิสฺสาย นสฺสตู’’ติ จินฺเตตฺวา เอกาทสมํ คาถมาห –
‘‘ธีรสฺส ¶ พาลสฺส หเว ชนินฺท, สนฺโต วธํ นปฺปสํสนฺติ ชาตุ;
กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม, ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส เทหิ;
อหฺจ เต กามกโร ภวามี’’ติ.
ตตฺถ กามนฺติ กาเมน ยถารุจิยา อตฺตโน ฆรํ คจฺฉตุ. ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส เทหีติ ยฺจ ตสฺส ‘‘อิทํ นาม เต ทสฺสามี’’ติ ตยา กถิตํ, ตํ ตสฺส เทหิ. กามกโรติ อิจฺฉากโร, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ กโรหิ, มํสํ วา เม ขาท, กีฬามิคํ วา กโรหิ, สพฺพตฺถ เต อนุกูลวตฺตี ภวิสฺสามีติ อตฺโถ.
ตํ สุตฺวา ราชา ตุฏฺมานโส มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘อทฺธา รุรู อฺตโร สตํ โส, โย ทุพฺภโต มานุสสฺส น ทุพฺภิ;
กามํ ฆรํ คจฺฉตุ ปาปธมฺโม, ยฺจสฺส ภฏฺํ ตเทตสฺส ทมฺมิ;
อหฺจ เต กามจารํ ททามี’’ติ.
ตตฺถ ¶ สตํ โสติ อทฺธา ตฺวํ สตํ ปณฺฑิตานํ อฺตโร. กามจารนฺติ อหํ ตว ธมฺมกถาย ปสีทิตฺวา ตุยฺหํ กามจารํ อภยํ ททามิ, อิโต ปฏฺาย ตุมฺเห นิพฺภยา ยถารุจิยา วิหรถาติ มหาสตฺตสฺส วรํ อทาสิ.
อถ ¶ นํ มหาสตฺโต ‘‘มหาราช, มนุสฺสา นาม อฺํ มุเขน ภาสนฺติ, อฺํ กาเยน กโรนฺตี’’ติ ปริคฺคณฺหนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘สุวิชานํ สิงฺคาลานํ, สกุณานฺจ วสฺสิตํ;
มนุสฺสวสฺสิตํ ราช, ทุพฺพิชานตรํ ตโต.
‘‘อปิ เจ มฺตี โปโส, าติ มิตฺโต สขาติ วา;
โย ปุพฺเพ สุมโน หุตฺวา, ปจฺฉา สมฺปชฺชเต ทิโส’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มิคราช, มา มํ เอวํ มฺิ, อหฺหิ รชฺชํ ชหนฺโตปิ น ตุยฺหํ ทินฺนวรํ ชหิสฺสํ, สทฺทหถ, มยฺห’’นฺติ ¶ วรํ อทาสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สนฺติเก วรํ คณฺหนฺโต อตฺตานํ อาทึ กตฺวา สพฺพสตฺตานํ อภยทานํ วรํ คณฺหิ. ราชาปิ ตํ วรํ ทตฺวา โพธิสตฺตํ นครํ เนตฺวา มหาสตฺตฺจ นครฺจ อลงฺการาเปตฺวา เทวิยา ธมฺมํ เทสาเปสิ. มหาสตฺโต เทวึ อาทึ กตฺวา รฺโ จ ราชปริสาย จ มธุราย มนุสฺสภาสาย ธมฺมํ เทเสตฺวา ราชานํ ทสหิ ราชธมฺเมหิ โอวทิตฺวา มหาชนํ อนุสาสิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา มิคคณปริวุโต วาสํ กปฺเปสิ. ราชา ‘‘สพฺเพสํ สตฺตานํ อภยํ ทมฺมี’’ติ นคเร เภรึ จราเปสิ. ตโต ปฏฺาย มิคปกฺขีนํ โกจิ หตฺถํ ปสาเรตุํ สมตฺโถ นาม นาโหสิ. มิคคโณ มนุสฺสานํ สสฺสานิ ขาทติ, โกจิ วาเรตุํ น สกฺโกติ. มหาชโน ราชงฺคณํ คนฺตฺวา อุปกฺโกสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมํ คาถมาห –
‘‘สมาคตา ชานปทา, เนคมา จ สมาคตา;
มิคา สสฺสานิ ขาทนฺติ, ตํ เทโว ปฏิเสธตู’’ติ.
ตตฺถ ตํ เทโวติ ตํ มิคคณํ เทโว ปฏิเสธตูติ.
ตํ สุตฺวา ราชา คาถาทฺวยมาห –
‘‘กามํ ชนปโท มาสิ, รฏฺฺจาปิ วินสฺสตุ;
น ตฺเววาหํ รุรุํ ทุพฺเภ, ทตฺวา อภยทกฺขิณํ.
‘‘มา ¶ ¶ เม ชนปโท อาสิ, รฏฺฺจาปิ วินสฺสตุ;
น ตฺเววาหํ มิคราชสฺส, วรํ ทตฺวา มุสา ภเณ’’ติ.
ตตฺถ มาสีติ กามํ มยฺหํ ชนปโท มา โหตุ. รุรุนฺติ น ตฺเวว อหํ สุวณฺณวณฺณสฺส รุรุมิคราชสฺส อภยทกฺขิณํ ทตฺวา ทุพฺภิสฺสามีติ.
มหาชโน รฺโ วจนํ สุตฺวา กิฺจิ วตฺตุํ อวิสหนฺโต ปฏิกฺกมิ. สา กถา วิตฺถาริกา อโหสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต มิคคณํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มนุสฺสานํ สสฺสานิ มา ขาทถา’’ติ โอวทิตฺวา ‘‘อตฺตโน เขตฺเตสุ ปณฺณสฺํ พนฺธนฺตู’’ติ ¶ มนุสฺสานํ โฆสาเปสิ. เต ตถา พนฺธึสุ, ตาย สฺาย มิคา ยาวชฺชตนา สสฺสานิ น ขาทนฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต อกตฺูเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา เสฏฺิปุตฺโต เทวทตฺโต อโหสิ, ราชา อานนฺโท, รุรุมิคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
รุรุมิคราชชาตกวณฺณนา นวมา.
[๔๘๓] ๑๐. สรภมิคชาตกวณฺณนา
อาสีเสเถว ปุริโสติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อตฺตนา สํขิตฺเตน ปุจฺฉิตปฺหสฺส ธมฺมเสนาปติโน วิตฺถาเรน พฺยากรณํ อารพฺภ กเถสิ. กทา ปน สตฺถา เถรํ สํขิตฺเตน ปฺหํ ปุจฺฉีติ? เทโวโรหเน. ตตฺรายํ สงฺเขปโต อนุปุพฺพิกถา. ราชคหเสฏฺิโน หิ สนฺตเก จนฺทนปตฺเต อายสฺมตา ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน อิทฺธิยา คหิเต สตฺถา ภิกฺขูนํ อิทฺธิปาฏิหาริยกรณํ ปฏิกฺขิปิ. ตทา ติตฺถิยา ‘‘ปฏิกฺขิตฺตํ สมเณน โคตเมน อิทฺธิปาฏิหาริยกรณํ, อิทานิ สยมฺปิ น กริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา มงฺกุภูเตหิ อตฺตโน สาวเกหิ ‘‘กึ, ภนฺเต, อิทฺธิยา ปตฺตํ น คณฺหถา’’ติ วุจฺจมานา ‘‘เนตํ อาวุโส, อมฺหากํ ทุกฺกรํ, ฉวสฺส ปน ทารุปตฺตสฺสตฺถาย อตฺตโน สณฺหสุขุมคุณํ โก คิหีนํ ปกาเสสฺสตีติ น คณฺหิมฺห, สมณา ปน สกฺยปุตฺติยา โลลตาย อิทฺธึ ทสฺเสตฺวา ¶ คณฺหึสุ. มา ‘อมฺหากํ อิทฺธิกรณํ ภาโร’ติ จินฺตยิตฺถ, มยฺหิ ติฏฺนฺตุ สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา, อากงฺขมานา ปน ¶ สมเณน โคตเมน สทฺธึ อิทฺธึ ทสฺเสสฺสาม, สเจ หิ สมโณ โคตโม เอกํ ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ, มยํ ทฺวิคุณํ กริสฺสามา’’ติ กถยึสุ.
ตํ สุตฺวา ภิกฺขู ภควโต อาโรเจสุํ ‘‘ภนฺเต, ติตฺถิยา กิร ปาฏิหาริยํ กริสฺสนฺตี’’ติ. สตฺถา ‘‘ภิกฺขเว, กโรนฺตุ, อหมฺปิ กริสฺสามี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา พิมฺพิสาโร อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘ภนฺเต, ปาฏิหาริยํ กิร กริสฺสถา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, สิกฺขาปทํ ปฺตฺต’’นฺติ. ‘‘มหาราช, ตํ มยา สาวกานํ ปฺตฺตํ, พุทฺธานํ ปน สิกฺขาปทํ นาม ¶ นตฺถิ. ‘‘ยถา หิ, มหาราช, ตว อุยฺยาเน ปุปฺผผลํ อฺเสํ วาริตํ, น ตว, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ‘‘กตฺถ ปน, ภนฺเต, ปาฏิหาริยํ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล’’ติ. ‘‘อมฺเหหิ ตตฺถ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ กิฺจิ มหาราชา’’ติ. ปุนทิวเส สตฺถา กตภตฺตกิจฺโจ จาริกํ ปกฺกามิ. มนุสฺสา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สตฺถา คจฺฉตี’’ติ ปุจฺฉนฺติ. ‘‘สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ติตฺถิยมทฺทนํ ยมกปาฏิหาริยํ กาตุ’’นฺติ เตสํ ภิกฺขู กถยนฺติ. มหาชโน ‘‘อจฺฉริยรูปํ กิร ปาฏิหาริยํ ภวิสฺสติ, ปสฺสิสฺสาม น’’นฺติ ฆรทฺวารานิ ฉฑฺเฑตฺวา สตฺถารา สทฺธึเยว อคมาสิ.
อฺติตฺถิยา ‘‘มยมฺปิ สมณสฺส โคตมสฺส ปาฏิหาริยกรณฏฺาเน ปาฏิหาริยํ กริสฺสามา’’ติ อุปฏฺาเกหิ สทฺธึ สตฺถารเมว อนุพนฺธึสุ. สตฺถา อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา รฺา ‘‘ปาฏิหาริยํ กิร, ภนฺเต, กริสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘กริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กทา, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส อาสาฬฺหิปุณฺณมาสิย’’นฺติ อาห. ‘‘มณฺฑปํ กโรมิ ภนฺเต’’ติ? ‘‘อลํ มหาราช, มม ปาฏิหาริยกรณฏฺาเน สกฺโก เทวราชา ทฺวาทสโยชนิกํ รตนมณฺฑปํ กริสฺสตี’’ติ. ‘‘เอตํ การณํ นคเร อุคฺโฆสาเปมิ, ภนฺเต’’ติ? ‘‘อุคฺโฆสาเปหิ มหาราชา’’ติ. ราชา ธมฺมโฆสกํ อลงฺกตหตฺถิปิฏฺึ อาโรเปตฺวา ‘‘ภควา กิร สาวตฺถินครทฺวาเร กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล ติตฺถิยมทฺทนํ ปาฏิหาริยํ กริสฺสติ อิโต สตฺตเม ทิวเส’’ติ ยาว ฉฏฺทิวสา เทวสิกํ โฆสนํ กาเรสิ. ติตฺถิยา ‘‘กณฺฑมฺพรุกฺขมูเล กิร กริสฺสตี’’ติ สามิกานํ ธนํ ¶ ทตฺวา สาวตฺถิสามนฺเต อมฺพรุกฺเข ฉินฺทาปยึสุ. ธมฺมโฆสโก ปุณฺณมีทิวเส ปาโตว ‘‘อชฺช, ภควโต ปาฏิหาริยํ ภวิสฺสตี’’ติ อุคฺโฆเสสิ. เทวตานุภาเวน สกลชมฺพุทีเป ทฺวาเร ตฺวา อุคฺโฆสิตํ วิย อโหสิ. เย เย คนฺตุํ จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺติ, เต เต สาวตฺถึ ปตฺตเมว อตฺตานํ ปสฺสึสุ, ทฺวาทสโยชนิกา ปริสา อโหสิ.
สตฺถา ¶ ปาโตว สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตุํ นิกฺขมิ. กณฺโฑ นาม อุยฺยานปาโล ปิณฺฑิปกฺกเมว กุมฺภปมาณํ มหนฺตํ อมฺพปกฺกํ รฺโ หรนฺโต สตฺถารํ นครทฺวาเร ทิสฺวา ‘‘อิทํ ตถาคตสฺเสว อนุจฺฉวิก’’นฺติ อทาสิ. สตฺถา ปฏิคฺคเหตฺวา ตตฺเถว เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปริภฺุชิตฺวา ‘‘อานนฺท, อิมํ อมฺพฏฺึ อุยฺยานปาลกสฺส อิมสฺมึ าเน โรปนตฺถาย เทหิ, เอส กณฺฑมฺโพ ¶ นาม ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เถโร ตถา อกาสิ. อุยฺยานปาโล ปํสุํ วิยูหิตฺวา โรเปสิ. ตงฺขณฺเว อฏฺึ ภินฺทิตฺวา มูลานิ โอตรึสุ, นงฺคลสีสปมาโณ รตฺตงฺกุโร อุฏฺหิ, มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว ปณฺณาสหตฺถกฺขนฺโธ ปณฺณาสหตฺถสาโข อุพฺเพธโต จ หตฺถสติโก อมฺพรุกฺโข สมฺปชฺชิ, ตาวเทวสฺส ปุปฺผานิ จ ผลานิ จ อุฏฺหึสุ. โส มธุกรปริวุโต สุวณฺณวณฺณผลภริโต นภํ ปูเรตฺวา อฏฺาสิ, วาตปฺปหรณกาเล มธุรปกฺกานิ ปตึสุ. ปจฺฉา อาคจฺฉนฺตา ภิกฺขู ปริภฺุชิตฺวาว อาคมึสุ.
สายนฺหสมเย สกฺโก เทวราชา อาวชฺเชนฺโต ‘‘สตฺถุ รตนมณฺฑปกรณํ อมฺหากํ ภาโร’’ติ ตฺวา วิสฺสกมฺมเทวปุตฺตํ เปเสตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ นีลุปฺปลสฺฉนฺนํ สตฺตรตนมณฺฑปํ กาเรสิ. เอวํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา สนฺนิปตึสุ. สตฺถา ติตฺถิยมทฺทนํ อสาธารณํ สาวเกหิ ยมกปาฏิหาริยํ กตฺวา พหุชนสฺส ปสนฺนภาวํ ตฺวา โอรุยฺห พุทฺธาสเน นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสสิ. วีสติ ปาณโกฏิโย อมตปานํ ปิวึสุ. ตโต ‘‘ปุริมพุทฺธา ปน ปาฏิหาริยํ กตฺวา กตฺถ คจฺฉนฺตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ‘‘ตาวตึสภวน’’นฺติ ตฺวา พุทฺธาสนา อุฏฺาย ทกฺขิณปาทํ ยุคนฺธรมุทฺธนิ เปตฺวา วามปาเทน สิเนรุมตฺถกํ อกฺกมิตฺวา ปาริจฺฉตฺตกมูเล ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ วสฺสํ อุปคนฺตฺวา อนฺโตเตมาสํ เทวานํ อภิธมฺมปิฏกํ กเถสิ. ปริสา สตฺถุ คตฏฺานํ อชานนฺตี ¶ ‘‘ทิสฺวาว คมิสฺสามา’’ติ ตตฺเถว เตมาสํ วสิ. อุปกฏฺาย ปวารณาย มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิ. อถ นํ สตฺถา ปุจฺฉิ ‘‘กหํ ปน เอตรหิ สาริปุตฺโต’’ติ? ‘‘เอโส, ภนฺเต, ปาฏิหาริเย ปสีทิตฺวา ปพฺพชิเตหิ ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ สงฺกสฺสนครทฺวาเร วสี’’ติ. ‘‘โมคฺคลฺลาน, อหํ อิโต สตฺตเม ทิวเส สงฺกสฺสนครทฺวาเร โอตริสฺสามิ, ตถาคตํ ทฏฺุกามา สงฺกสฺสนคเร เอกโต สนฺนิปตนฺตู’’ติ. เถโร ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา อาคนฺตฺวา ปริสาย อาโรเจตฺวา สกลปริสํ สาวตฺถิโต ตึสโยชนํ สงฺกสฺสนครํ เอกมุหุตฺเตเนว ปาเปสิ.
สตฺถา วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวา ‘‘มหาราช, มนุสฺสโลกํ คมิสฺสามี’’ติ สกฺกสฺส อาโรเจสิ. สกฺโก วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ทสพลสฺส มนุสฺสโลกคมนตฺถาย ตีณิ โสปานานิ กโรหี’’ติ อาห. โส สิเนรุมตฺถเก โสปานสีสํ สงฺกสฺสนครทฺวาเร ธุรโสปานํ กตฺวา ¶ มชฺเฌ มณิมยํ, เอกสฺมึ ปสฺเส รชตมยํ, เอกสฺมึ ปสฺเส สุวณฺณมยนฺติ ¶ ตีณิ โสปานานิ มาเปสิ, สตฺตรตนมยา เวทิกาปริกฺเขปา. สตฺถา โลกวิวรณํ ปาฏิหาริยํ กตฺวา มชฺเฌ มณิมเยน โสปาเนน โอตริ. สกฺโก ปตฺตจีวรํ อคฺคเหสิ, สุยาโม วาลพีชนึ, สหมฺปติ มหาพฺรหฺมา ฉตฺตํ ธาเรสิ, ทสสหสฺสจกฺกวาฬเทวตา ทิพฺพคนฺธมาลาทีหิ ปูชยึสุ. สตฺถารํ ธุรโสปาเน ปติฏฺิตํ ปมเมว สาริปุตฺตตฺเถโร วนฺทิ, ปจฺฉา เสสปริสา. ตสฺมึ สมาคเม สตฺถา จินฺเตสิ ‘‘โมคฺคลฺลาโน ‘‘อิทฺธิมา’ติ ปากโฏ, อุปาลิ ‘วินยธโร’ติ. สาริปุตฺตสฺส ปน มหาปฺคุโณ อปากโฏ, เปตฺวา มํ อฺโ เอเตน สทิโส สมปฺโ นาม นตฺถิ, ปฺาคุณมสฺส ปากฏํ กริสฺสามี’’ติ ปมํ ตาว ปุถุชฺชนานํ วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตํ ปุถุชฺชนาว กถยึสุ ตโต โสตาปนฺนานํ วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิ โสตาปนฺนาว กถยึสุ, ปุถุชฺชนา น ชานึสุ. เอวํ สกทาคามิวิสเย อนาคามิวิสเย ขีณาสววิสเย มหาสาวกวิสเย จ ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตมฺปิ เหฏฺิมา เหฏฺิมา น ชานึสุ, อุปริมา อุปริมาว กถยึสุ. อคฺคสาวกวิสเย ปุฏฺปฺหมฺปิ อคฺคสาวกาว กถยึสุ, อฺเ น ชานึสุ. ตโต สาริปุตฺตตฺเถรสฺส วิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิ, ตํ เถโรว กเถสิ, อฺเ น ชานึสุ.
มนุสฺสา ¶ ‘‘โก นาม เอส เถโร สตฺถารา สทฺธึ กเถสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร นามา’’ติ สุตฺวา ‘‘อโห มหาปฺโ’’ติ วทึสุ. ตโต ปฏฺาย เทวมนุสฺสานํ อนฺตเร เถรสฺส มหาปฺคุโณ ปากโฏ ชาโต. อถ นํ สตฺถา –
‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสขา ปุถู อิธ;
เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริสา’’ติ. (สุ. นิ. ๑๐๔๔; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๓; เนตฺติ. ๑๔) –
พุทฺธวิสเย ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมสฺส นุ โข สาริปุตฺต, สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส กถํ วิตฺถาเรน อตฺโถ ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห. เถโร ปฺหํ โอโลเกตฺวา ‘‘สตฺถา มํ เสขาเสขานํ ภิกฺขูนํ อาคมนปฏิปทํ ปุจฺฉตี’’ติ ปฺเห นิกฺกงฺโข หุตฺวา ‘‘อาคมนปฏิปทา นาม ขนฺธาทิวเสน พหูหิ มุเขหิ สกฺกา กเถตุํ, กตํ นุ โข กเถนฺโต สตฺถุ อชฺฌาสยํ คณฺหิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ อชฺฌาสเย กงฺขิ. สตฺถา ‘‘สาริปุตฺโต ปฺเห นิกฺกงฺโข, อชฺฌาสเย ปน เม กงฺขติ, มยา นเย อทินฺเน กเถตุํ น สกฺขิสฺสติ, นยมสฺส ทสฺสามี’’ติ ¶ นยํ ททนฺโต ‘‘ภูตมิทํ สาริปุตฺต สมนุปสฺสา’’ติ อาห. เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘สาริปุตฺโต มม อชฺฌาสยํ ¶ คเหตฺวา กเถนฺโต ขนฺธวเสน กเถสฺสตี’’ติ. เถรสฺส สห นยทาเนน โส ปฺโห นยสเตน นยสหสฺเสน อุปฏฺาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเย ตฺวา พุทฺธวิสเย ปฺหํ กเถสิ.
สตฺถา ทฺวาทสโยชนิกาย ปริสาย ธมฺมํ เทเสสิ. ตึส ปาณโกฏิโย อมตปานํ ปิวึสุ. สตฺถา ปริสํ อุยฺโยเชตฺวา จาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน สาวตฺถึ คนฺตฺวา ปุนทิวเส สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภิกฺขูหิ วตฺเต ทสฺสิเต คนฺธกุฏึ ปาวิสิ. สายนฺหสมเย ภิกฺขู เถรสฺส คุณกถํ กเถนฺตา ธมฺมสภายํ นิสีทึสุ ‘‘มหาปฺโ, อาวุโส, สาริปุตฺโต ปุถุปฺโ ชวนปฺโ ติกฺขปฺโ นิพฺเพธิกปฺโ ทสพเลน สํขิตฺเตน ปุจฺฉิตปฺหํ วิตฺถาเรน กเถสี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เอส สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ กเถสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต สรภมิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อรฺเ วสติ. ราชา มิควิตฺตโก อโหสิ ถามสมฺปนฺโน, อฺํ มนุสฺสํ ‘‘มนุสฺโส’’ติปิ น คเณติ. โส เอกทิวสํ มิควํ คนฺตฺวา อมจฺเจ อาห – ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, เตน โส ทณฺโฑ ทาตพฺโพ’’ติ. เต จินฺตยึสุ ‘‘กทาจิ เวมชฺเฌ ิตมิคํ วิชฺฌนฺติ, กทาจิ อุฏฺิตํ, กทาจิ ปลายนฺตมฺปิ, อชฺช ปน เยน เกนจิ อุปาเยน รฺโ ิตฏฺานฺเว อาโรเปสฺสามา’’ติ. จินฺเตตฺวา จ ปน กติกํ กตฺวา รฺโ ธุรมคฺคํ อทํสุ. เต มหนฺตํ คุมฺพํ ปริกฺขิปิตฺวา มุคฺคราทีหิ ภูมึ โปถยึสุ. ปมเมว สรภมิโค อุฏฺาย ติกฺขตฺตุํ คุพฺภํ อนุปริคนฺตฺวา ปลายโนกาสํ โอโลเกนฺโต เสสทิสาสุ มนุสฺเส พาหาย พาหํ ธนุนา ธนุํ อาหจฺจ นิรนฺตเร ิเต ทิสฺวา รฺโ ิตฏฺาเนเยว โอกาสํ อทฺทส. โส อุมฺมีลิเตสุ อกฺขีสุ ¶ วาลุกํ ขิปมาโน วิย ราชานํ อภิมุโข อคมาสิ. ราชา ตํ ลหุสมฺปตฺตํ ทิสฺวา สรํ อุกฺขิปิตฺวา วิชฺฌิ. สรภมิคา นาม สรํ วฺเจตุํ เฉกา โหนฺติ, สเร อภิมุขํ อาคจฺฉนฺเต เวคํ หาเปตฺวา ติฏฺนฺติ, ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺเต เวเคน ปุรโต ชวนฺติ, อุปริภาเคนาคจฺฉนฺเต ปิฏฺึ นาเมนฺติ, ปสฺเสนาคจฺฉนฺเต โถกํ อปคจฺฉนฺติ, กุจฺฉึ สนฺธายาคจฺฉนฺเต ปริวตฺติตฺวา ปตนฺติ, สเร อติกฺกนฺเต วาตจฺฉินฺนวลาหกเวเคน ปลายนฺติ.
โสปิ ราชา ตสฺมึ ปริวตฺติตฺวา ปติเต ‘‘สรภมิโค เม วิทฺโธ’’ติ นาทํ มฺุจิ. สรโภ อุฏฺาย วาตเวเคน ปลายิ. พลมณฺฑลํ ภิชฺชิตฺวา อุโภสุ ปสฺเสสุ ิตอมจฺจา สรภํ ปลายมานํ ทิสฺวา เอกโต หุตฺวา ปุจฺฉึสุ ‘‘มิโค กสฺส ิตฏฺานํ อภิรุหี’’ติ? ‘‘รฺโ ิตฏฺาน’’นฺติ ¶ . ‘‘ราชา ‘วิทฺโธ เม’ติ วทติ, โกเนน วิทฺโธ, นิพฺพิรชฺโฌ โภ อมฺหากํ ราชา, ภูมิเนน วิทฺธา’’ติ เต นานปฺปกาเรน รฺา สทฺธึ เกฬึ กรึสุ. ราชา จินฺเตสิ ‘‘อิเม มํ ปริหสนฺติ, น มม ปมาณํ ชานนฺตี’’ติ คาฬฺหํ นิวาเสตฺวา ปตฺติโกว ขคฺคํ อาทาย ‘‘สรภํ คณฺหิสฺสามี’’ติ เวเคน ปกฺขนฺทิ. อถ นํ ทิสฺวา ตีณิ โยชนานิ อนุพนฺธิ. สรโภ อรฺํ ปาวิสิ, ราชาปิ ปาวิสิ. ตตฺถ สรภมิคสฺส คมนมคฺเค สฏฺิหตฺถมตฺโต มหาปูติปาทนรกาวาโฏ ¶ อตฺถิ, โส ตึสหตฺถมตฺตํ อุทเกน ปุณฺโณ ติเณหิ จ ปฏิจฺฉนฺโน. สรโภ อุทกคนฺธํ ฆายิตฺวาว อาวาฏภาวํ ตฺวา โถกํ โอสกฺกิตฺวา คโต. ราชา ปน อุชุกเมว คจฺฉนฺโต ตสฺมึ ปติ.
สรโภ ตสฺส ปทสทฺทํ อสุณนฺโต นิวตฺติตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘นรกาวาเฏ ปติโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา อาคนฺตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ คมฺภีรอุทเก อปติฏฺํ กิลมนฺตํ ทิสฺวา เตน กตํ อปราธํ หทเย อกตฺวา ¶ สฺชาตการฺุโ ‘‘มา มยิ ปสฺสนฺเตว ราชา นสฺสตุ, อิมมฺหา ทุกฺขา นํ โมเจสฺสามี’’ติ อาวาฏตีเร ิโต ‘‘มา ภายิ, มหาราช, มหนฺตา ทุกฺขา ตํ โมเจสฺสามี’’ติ วตฺวา อตฺตโน ปิยปุตฺตํ อุทฺธริตุํ อุสฺสาหํ กโรนฺโต วิย ตสฺสุทฺธรณตฺถาย สิลาย โยคฺคํ กตฺวาว ‘‘วิชฺฌิสฺสามี’’ติ อาคตํ ราชานํ สฏฺิหตฺถา นรกา อุทฺธริตฺวา อสฺสาเสตฺวา ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา อรฺา นีหริตฺวา เสนาย อวิทูเร โอตาเรตฺวา โอวาทมสฺส ทตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ราชา มหาสตฺตํ วินา วสิตุํ อสกฺโกนฺโต อาห ‘‘สามิ สรภมิคราช, มยา สทฺธึ พาราณสึ เอหิ, ทฺวาทสโยชนิกาย เต พาราณสิยํ รชฺชํ ทมฺมิ, ตํ กาเรหี’’ติ. ‘‘มหาราช, มยํ ติรจฺฉานคตา, น เม รชฺเชนตฺโถ, สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, มยา ทินฺนานิ สีลานิ รกฺขนฺโต รฏฺวาสิโนปิ สีลํ รกฺขาเปหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา อรฺเมว ปาวิสิ.
โส อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตสฺส คุณํ สรนฺโตว เสนํ ปาปุณิตฺวา เสนงฺคปริวุโต นครํ คนฺตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย สกลนครวาสิโน ปฺจ สีลานิ รกฺขนฺตู’’ติ ธมฺมเภรึ จราเปสิ. มหาสตฺเตน ปน อตฺตโน กตคุณํ กสฺสจิ อกเถตฺวา สายนฺเห นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา อลงฺกตสยเน สยิตฺวา ปจฺจูสกาเล มหาสตฺตสฺส คุณํ สริตฺวา อุฏฺาย สยนปิฏฺเ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา ปีติปุณฺเณน หทเยน ฉหิ คาถาหิ อุทาเนสิ –
‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.
‘‘อาสีเสเถว ¶ ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.
‘‘วายเมเถว ¶ ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉึ ตถา อหุ.
‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพินฺเทยฺย ปณฺฑิโต;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํ.
‘‘ทุกฺขูปนีโตปิ นโร สปฺโ, อาสํ น ฉินฺเทยฺย สุขาคมาย;
พหู ¶ หิ ผสฺสา อหิตา หิตา จ, อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺติ.
‘‘อจินฺติตมฺปิ ภวติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ;
น หิ จินฺตามยา โภคา, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ติ.
ตตฺถ อาสีเสเถว ปุริโสติ อาสจฺเฉทกกมฺมํ อกตฺวา อตฺตโน กมฺเมสุ อาสํ กโรเถว น อุกฺกณฺเยฺย. ยถา อิจฺฉินฺติ อหฺหิ สฏฺิหตฺถา นรกา อุฏฺานํ อิจฺฉึ, โสมฺหิ ตเถว ชาโต, ตโต อุฏฺิโตเยวาติ ทีเปติ. อหิตา หิตา จาติ ทุกฺขผสฺสา จ สุขผสฺสา จ, ‘‘มรณผสฺสา ชีวิตผสฺสา จา’’ติปิ อตฺโถ, สตฺตานฺหิ มรณผสฺโส อหิโต ชีวิตผสฺโส หิโต, เตสํ อวิตกฺกิโต อจินฺติโตปิ มรณผสฺโส อาคจฺฉตีติ ทสฺเสติ. อจินฺติ ตมฺปีติ มยา ‘‘อาวาเฏ ปติสฺสามี’’ติ น จินฺติตํ, ‘‘สรภํ มาเรสฺสามี’’ติ จินฺติตํ, อิทานิ ปน เม จินฺติตํ นฏฺํ, อจินฺติตเมว ชาตํ. โภคาติ ยสปริวารา. เอเต จินฺตามยา น โหนฺติ, ตสฺมา าณวตา วีริยเมว กาตพฺพํ. วีริยวโต หิ อจินฺติตมฺปิ โหติเยว.
ตสฺเสวํ อุทานํ อุทาเนนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. ปุโรหิโต จ ปาโตว สุขเสยฺยปุจฺฉนตฺถํ อาคนฺตฺวา ราชทฺวาเร ิโต ตสฺส อุทานคีตสทฺทํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘ราชา หิยฺโย มิควํ อคมาสิ, ตตฺถ สรภมิคํ วิรทฺโธ ภวิสฺสติ, ตโต อมจฺเจหิ อวหสิยมาโน ‘มาเรตฺวา นํ อาหริสฺสามี’ติ ขตฺติยมาเนน ตํ อนุพนฺธนฺโต สฏฺิหตฺเถ นรเก ปติโต ภวิสฺสติ, ทยาลุนา สรภราเชน รฺโ โทสํ อจินฺเตตฺวา ราชา อุทฺธริโต ภวิสฺสติ, เตน มฺเ อุทานํ อุทาเนตี’’ติ. เอวํ พฺราหฺมณสฺส รฺโ ¶ ปริปุณฺณพฺยฺชนํ อุทานํ สุตฺวา สุมชฺชิเต อาทาเส มุขํ ¶ โอโลเกนฺตสฺส ฉายา วิย รฺา จ สรเภน จ กตการณํ ปากฏํ อโหสิ. โส นขคฺเคน ทฺวารํ อาโกเฏสิ. ราชา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อหํ เทว ปุโรหิโต’’ติ. อถสฺส ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิโต เอหาจริยา’’ติ อาห. โส ปวิสิตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘อหํ, มหาราช, ตยา อรฺเ กตการณํ ชานามิ, ตฺวํ เอกํ สรภมิคํ อนุพนฺธนฺโต นรเก ปติโต, อถ นํ โส สรโภ สิลาย โยคฺคํ กตฺวา ¶ นรกโต อุทฺธริ, โส ตฺวํ ตสฺส คุณํ อนุสฺสริตฺวา อุทานํ อุทาเนสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘สรภํ คิริทุคฺคสฺมึ, ยํ ตฺวํ อนุสรี ปุเร;
อลีนจิตฺตสฺส ตุวํ, วิกฺกนฺตมนุชีวสิ.
‘‘โย ตํ วิทุคฺคา นรกา สมุทฺธริ, สิลาย โยคฺคํ สรโภ กริตฺวา;
ทุกฺขูปนีตํ มจฺจุมุขา ปโมจยิ, อลีนจิตฺตํ ต มิคํ วเทสี’’ติ.
ตตฺถ อนุสรีติ อนุพนฺธิ. วิกฺกนฺตนฺติ อุทฺธรณตฺถาย กตปรกฺกมํ. อนุชีวสีติ อุปชีวสิ, ตสฺสานุภาเวน ตยา ชีวิตํ ลทฺธนฺติ อตฺโถ. สมุทฺธรีติ อุทฺธริ. ต มิคํ วเทสีติ ตํ สุวณฺณสรภมิคํ อิธ สิริสยเน นิสินฺโน วณฺเณสิ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ มยา สทฺธึ น มิควํ คโต, สพฺพํ ปวตฺตึ ชานาติ, กถํ นุ โข ชานาติ, ปุจฺฉิสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –
‘‘กึ ตฺวํ นุ ตตฺเถว ตทา อโหสิ, อุทาหุ เต โกจิ นํ เอตทกฺขา;
วิวฏจฺฉทฺโท นุสิ สพฺพทสฺสี, าณํ นุ เต พฺราหฺมณ ภึสรูป’’นฺติ.
ตตฺถ ภึสรูปนฺติ กึ นุ เต าณํ พลวชาติกํ, เตเนตํ ชานาสีติ.
พฺราหฺมโณ ¶ ‘‘นาหํ สพฺพฺุพุทฺโธ, พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา ตยา กถิตคาถานํ ปน มยฺหํ อตฺโถ อุปฏฺาตี’’ติ ทีเปนฺโต ทสมํ คาถมาห –
‘‘น เจวหํ ตตฺถ ตทา อโหสึ, น จาปิ เม โกจิ นํ เอตทกฺขา;
คาถาปทานฺจ ¶ สุภาสิตานํ, อตฺถํ ตทาเนนฺติ ชนินฺท ธีรา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุภาสิตานนฺติ พฺยฺชนํ อมกฺเขตฺวา สุฏฺุ ภาสิตานํ. อตฺถํ ตทาเนนฺตีติ โย เตสํ อตฺโถ, ตํ อาเนนฺติ อุปธาเรนฺตีติ.
ราชา ตสฺส ตุสฺสิตฺวา พหุํ ธนํ อทาสิ. ตโต ปฏฺาย ทานาทิปฺุาภิรโต อโหสิ, มนุสฺสาปิ ปฺุาภิรตา หุตฺวา มตมตา สคฺคเมว ปูรยึสุ. อเถกทิวสํ ราชา ‘‘ลกฺขํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ปุโรหิตมาทาย อุยฺยานํ คโต. ตทา สกฺโก เทวราชา พหู นเว เทเว จ เทวกฺาโย จ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต สรภมิเคน นรกา อุทฺธริตฺวา รฺโ สีเลสุ ปติฏฺาปิตภาวํ ตฺวา ‘‘รฺโ อานุภาเวน มหาชโน ปฺุานิ กโรติ, เตน เทวโลโก ปริปูรติ, อิทานิ โข ปน ราชา ลกฺขํ วิชฺฌิตุํ อุยฺยานํ คโต, ตํ วีมํสิตฺวา สีหนาทํ นทาเปตฺวา สรภมิคสฺส คุณํ กถาเปตฺวา อตฺตโน จ สกฺกภาวํ ชานาเปตฺวา อากาเส ิโต ธมฺมํ เทเสตฺวา เมตฺตาย เจว ปฺจนฺนํ สีลานฺจ คุณํ กเถตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุยฺยานํ อคมาสิ. ราชาปิ ‘‘ลกฺขํ วิชฺฌิสฺสามี’’ติ ธนุํ อาโรเปตฺวา สรํ สนฺนยฺหิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก รฺโ จ ลกฺขสฺส จ อนฺตเร อตฺตโน อานุภาเวน สรภํ ทสฺเสสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา สรํ น มฺุจิ. อถ นํ สกฺโก ปุโรหิตสฺส สรีเร อธิมุจฺจิตฺวา คาถํ อภาสิ –
‘‘อาทาย ปตฺตึ ปรวิริยฆาตึ, จาเป สรํ กึ วิจิกิจฺฉเส ตุวํ;
นุนฺโน สโร สรภํ หนฺตุ ขิปฺปํ, อนฺนฺหิ เอตํ วรปฺ รฺโ’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปตฺตินฺติ วาชปตฺเตหิ สมนฺนาคตํ. ปรวิริยฆาตินฺติ ปเรสํ วีริยฆาตกํ. จาเป สรนฺติ เอตํ ปตฺตสหิตํ สรํ จาเป อาทาย สนฺนยฺหิตฺวา อิทานิ ตฺวํ กึ วิจิกิจฺฉสิ. หนฺตูติ ตยา วิสฺสฏฺโ หุตฺวา เอส สโร ¶ ขิปฺปํ อิมํ สรภํ หนตุ. อนฺนฺหิ เอตนฺติ วรปฺ, มหาราช, สรโภ นาม รฺโ อาหาโร ภกฺโขติ อตฺโถ.
ตโต ราชา คาถมาห –
‘‘อทฺธา ปชานามิ อหมฺปิ เอตํ, อนฺนํ มิโค พฺราหฺมณ ขตฺติยสฺส;
ปุพฺเพ กตฺจ อปจายมาโน, ตสฺมา มิคํ สรภํ โน หนามี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปุพฺเพ กตฺจาติ พฺราหฺมณ, อหเมตํ เอกํเสน ชานามิ ยถา มิโค ขตฺติยสฺส อนฺนํ, ปุพฺเพ ปน อิมินา มยฺหํ กตคุณํ ปูเชมิ, ตสฺมา ตํ น หนามีติ.
ตโต สกฺโก คาถาทฺวยมาห –
‘‘เนโส มิโค มหาราช, อสุเรโส ทิสมฺปติ;
เอตํ หนฺตฺวา มนุสฺสินฺท, ภวสฺสุ อมราธิโป.
‘‘สเจ จ ราชา วิจิกิจฺฉเส ตุวํ, หนฺตุํ มิคํ สรภํ สหายกํ;
สปุตฺตทาโร นรวีรเสฏฺ, คนฺตา ตุวํ เวตรณึ ยมสฺสา’’ติ.
ตตฺถ อสุเรโสติ อสุโร เอโส, อสุรเชฏฺโก สกฺโก เอโสติ อธิปฺปาเยน วทติ. อมราธิโปติ ตฺวํ เอตํ สกฺกํ มาเรตฺวา สยํ สกฺโก เทวราชา โหหีติ วทติ. เวตรณึ ยมสฺสาติ ‘‘สเจ เอตํ ‘สหาโย เม’ติ จินฺเตตฺวา น มาเรสฺสสิ, สปุตฺตทาโร ยมสฺส เวตรณินิรยํ คโต ภวิสฺสสี’’ติ นํ ตาเสสิ.
ตโต ¶ ราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘กามํ อหํ ชานปทา จ สพฺเพ, ปุตฺตา จ ทารา จ สหายสงฺฆา;
คจฺเฉมุ ตํ เวตรณึ ยมสฺส, น ตฺเวว หฺโ มม ปาณโท โย.
‘‘อยํ ¶ มิโค กิจฺฉคตสฺส มยฺหํ, เอกสฺส กตฺตา วิวนสฺมิ โฆเร;
ตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโต, ชานํ มหาพฺรหฺเม กถํ หเนยฺย’’นฺติ.
ตตฺถ มม ปาณโท โยติ พฺราหฺมณ, โย มม ปาณทโท เยน เม ปิยํ ชีวิตํ ทินฺนํ, นรกํ ปวิสนฺเตน มยา โส น ตฺเวว หฺโ น หนิตพฺโพ, อวชฺโฌ เอโสติ วทติ. เอกสฺส กตฺตา วิวนสฺมิ โฆเรติ ทารุเณ อรฺเ ปวิฏฺสฺส สโต เอกสฺส อสหายกสฺส มม กตฺตา การโก ชีวิตสฺส ทายโก, สฺวาหํ ตํ อิมินา กตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโตเยว ตํ คุณํ ชานนฺโตเยว กถํ หเนยฺยํ.
อถ ¶ สกฺโก ปุโรหิตสฺส สรีรโต อปคนฺตฺวา สกฺกตฺตภาวํ มาเปตฺวา อากาเส ตฺวา รฺโ คุณํ ปกาเสนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘มิตฺตาภิราธี จิรเมว ชีว, รชฺชํ อิมํ ธมฺมคุเณ ปสาส;
นารีคเณหิ ปริจาริยนฺโต, โมทสฺสุ รฏฺเ ติทิเวว วาสโว.
‘‘อกฺโกธโน นิจฺจปสนฺนจิตฺโต, สพฺพาติถี ยาจโยโค ภวิตฺวา;
ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ าน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ มิตฺตาภิราธีติ มิตฺเต อาราเธนฺโต โตเสนฺโต เตสุ อทุพฺภมาโน. สพฺพาติถีติ สพฺเพ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ อติถี ปาหุนเกเยว กตฺวา ปริหรนฺโต ยาจิตพฺพยุตฺตโก หุตฺวา. อนินฺทิโตติ ทานาทีนิ ปฺุานิ กรเณน ปมุทิโต เทวโลเกน อภินนฺทิโต หุตฺวา สคฺคฏฺานํ อุเปหีติ.
เอวํ ¶ วตฺวา สกฺโก ‘‘อหํ มหาราชํ ตํ ปริคฺคณฺหิตุํ อาคโต, ตฺวํ อตฺตานํ ปริคฺคณฺหิตุํ นาทาสิ, อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ตํ โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ สาริปุตฺโต สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ ชานาติเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, ปุโรหิโต สาริปุตฺโต, สรภมิโค ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สรภมิคชาตกวณฺณนา ทสมา.
ชาตกุทฺทานํ –
อมฺพ ผนฺทน ชวน, นารท ทูต กลิงฺคา;
อกิตฺติ ตกฺการิยํ รุรุ, สรภํ ทส เตรเส.
เตรสกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.