📜

๑๔. ปกิณฺณกนิปาโต

[๔๘๔] ๑. สาลิเกทารชาตกวณฺณนา

สมฺปนฺนํสาลิเกทารนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ คิหี โปเสสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ เต โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘มาตาปิตโร เม, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ ภิกฺขุ, โปราณกปณฺฑิตา ติรจฺฉานา หุตฺวา สุวโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวาปิ ชิณฺเณ มาตาปิตโร กุลาวเก นิปชฺชาเปตฺวา มุขตุณฺฑเกน โคจรํ อาหริตฺวา โปเสสุ’’นฺติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา นครโต ปุพฺพุตฺตรทิสาย สาลิทฺทิโย นาม พฺราหฺมณคาโม อโหสิ. ตสฺส ปุพฺพุตฺตรทิสาย มคธเขตฺตํ อตฺถิ, ตตฺถ โกสิยโคตฺโต นาม สาลิทฺทิยวาสี พฺราหฺมโณ สหสฺสกรีสมตฺตํ เขตฺตํ คเหตฺวา สาลึ วปาเปสิ. อุฏฺิเต จ ปน สสฺเส วตึ ถิรํ กาเรตฺวา กสฺสจิ ปณฺณาสกรีสมตฺตํ, กสฺสจิ สฏฺิกรีสมตฺตนฺติ เอวํ ปฺจสตกรีสมตฺตํ เขตฺตํ อตฺตโน ปุริสานํเยว อารกฺขณตฺถาย ทตฺวา เสสํ ปฺจสตกรีสมตฺตํ เขตฺตํ ภตึ กตฺวา เอกสฺส ภตกสฺส อทาสิ. โส ตตฺถ กุฏึ กตฺวา รตฺตินฺทิวํ วสติ. เขตฺตสฺส ปน ปุพฺพุตฺตรทิสาภาเค เอกสฺมึ สานุปพฺพเต มหนฺตํ สิมฺพลิวนํ อตฺถิ, ตตฺถ อเนกานิ สุวสตานิ วสนฺติ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺมึ สุวสงฺเฆ สุวรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. โส วยปฺปตฺโต อภิรูโป ถามสมฺปนฺโน สกฏนาภิปมาณสรีโร อโหสิ. อถสฺส ปิตา มหลฺลกกาเล ‘‘อหํ อิทานิ ทูรํ คนฺตุํ น สกฺโกมิ, ตฺวํ อิมํ คณํ ปริหรา’’ติ คณํ นิยฺยาเทสิ. โส ปุนทิวสโต ปฏฺาย มาตาปิตูนํ โคจรตฺถาย คนฺตุํ นาทาสิ, สุวคณํ ปริหรนฺโต หิมวนฺตํ คนฺตฺวา สยํชาตสาลิวเน ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา อาคมนกาเล มาตาปิตูนํ ปโหนกํ โคจรํ อาหริตฺวา มาตาปิตโร โปเสสิ.

อถสฺส เอกทิวสํ สุวา อาโรเจสุํ ‘‘ปุพฺเพ อิมสฺมึ กาเล มคธเขตฺเต สาลิ ปจฺจติ, อิทานิ กึ นุ โข ชาต’’นฺติ? ‘‘เตน หิ ชานาถา’’ติ ทฺเว สุเว ปหิณึสุ. เต คนฺตฺวา มคธเขตฺเต โอตรนฺตา ตสฺส ภติยา รกฺขณปุริสสฺส เขตฺเต โอตริตฺวา สาลึ ขาทิตฺวา เอกํ สาลิสีสํ อาทาย สิมฺพลิวนํ คนฺตฺวา สาลิสีสํ มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ตตฺถ เอวรูโป สาลี’’ติ วทึสุ. โส ปุนทิวเส สุวคณปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา ตสฺมึ ภตกสฺส เขตฺเต โอตริ. โส ปน ปุริโส สุเว สาลึ ขาทนฺเต ทิสฺวา อิโต จิโต จ ธาวิตฺวา วาเรนฺโตปิ วาเรตุํ น สกฺโกติ. เสสา สุวา ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา ตุจฺฉมุขาว คจฺฉนฺติ. สุวราชา ปน พหูนิ สาลิสีสานิ เอกโต กตฺวา เตหิ ปริวุโต หุตฺวา อาหริตฺวา มาตาปิตูนํ เทติ. สุวา ปุนทิวสโต ปฏฺาย ตตฺเถว สาลึ ขาทึสุ. อถ โส ปุริโส ‘‘สเจ อิเม อฺํ กติปาหํ เอวํ ขาทิสฺสนฺติ, กิฺจิ น ภวิสฺสติ, พฺราหฺมโณ สาลึ อคฺฆาเปตฺวา มยฺหํ อิณํ กริสฺสติ, คนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจสฺสามี’’ติ สาลิมุฏฺินา สทฺธึ ตถารูปํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา สาลิทฺทิยคามํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณํ ปสฺสิตฺวา วนฺทิตฺวา ปณฺณาการํ ทตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ‘‘กึ, โภ ปุริส, สมฺปนฺนํ สาลิเขตฺต’’นฺติ ปุฏฺโ ‘‘อาม, พฺราหฺมณ, สมฺปนฺน’’นฺติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทารํ, สุวา ภุฺชนฺติ โกสิย;

ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น เน วาเรตุมุสฺสเห.

.

‘‘เอโก จ ตตฺถ สกุโณ, โย เนสํ สพฺพสุนฺทโร;

ภุตฺวา สาลึ ยถากามํ, ตุณฺเฑนาทาย คจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ สมฺปนฺนนฺติ ปริปุณฺณํ อเวกลฺลํ. สาลิเกทารนฺติ สาลิเขตฺตํ. สพฺพสุนฺทโรติ สพฺเพหิ โกฏฺาเสหิ สุนฺทโร รตฺตตุณฺโฑ ชิฺชุกสนฺนิภอกฺขิ รตฺตปาโท ตีหิ รตฺตราชีหิ ปริกฺขิตฺตคีโว มหามยูรปมาโณ โส ยาวทตฺถํ สาลึ ขาทิตฺวา อฺํ ตุณฺเฑน คเหตฺวา คจฺฉตีติ.

พฺราหฺมโณ ตสฺส กถํ สุตฺวา สุวราเช สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา เขตฺตปาลํ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ ปุริส, ปาสํ โอฑฺเฑตุํ ชานาสี’’ติ? ‘‘อาม, ชานามี’’ติ. อถ นํ คาถาย อชฺฌภาสิ –

.

‘‘โอฑฺเฑนฺตุ วาลปาสานิ, ยถา พชฺเฌถ โส ทิโช;

ชีวฺจ นํ คเหตฺวาน, อานเยหิ มมนฺติเก’’ติ.

ตตฺถ โอฑฺเฑนฺตูติ โอฑฺฑยนฺตุ. วาลปาสานีติ อสฺสวาลาทิรชฺชุมยปาสานิ. ชีวฺจ นนฺติ ชีวนฺตํ เอว นํ. อานเยหีติ อาเนหิ.

ตํ สุตฺวา เขตฺตปาโล สาลึ อคฺฆาเปตฺวา อิณสฺส อกตภาเวน ตุฏฺโ คนฺตฺวา อสฺสวาเล วฏฺเฏตฺวา ‘‘อชฺช อิมสฺมึ าเน โอตริสฺสตี’’ติ สุวรฺโ โอตรณฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว จาฏิปมาณํ ปฺชรํ กตฺวา ปาสฺจ โอฑฺเฑตฺวา สุวานํ อาคมนํ โอโลเกนฺโต กุฏิยํ นิสีทิ. สุวราชาปิ สุวคณปริวุโต อาคนฺตฺวา อโลลุปฺปจารตาย หิยฺโย ขาทิตฏฺาเน โอฑฺฑิตปาเส ปาทํ ปเวสนฺโตว โอตริ. โส อตฺตโน พทฺธภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สจาหํ อิทาเนว พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกาเม ภยตชฺชิตา โคจรํ อคฺคเหตฺวาว ปลายิสฺสนฺติ, ยาว เอเตสํ โคจรคฺคหณํ, ตาว อธิวาเสสฺสามี’’ติ. โส เตสํ สุหิตภาวํ ตฺวา มรณภยตชฺชิโต หุตฺวา ติกฺขตฺตุํ พทฺธรวํ รวิ. อถ สพฺเพ เต สุวา ปลายึสุ. สุวราชา ‘‘เอตฺตเกสุ เม าตเกสุ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต เอโกปิ นตฺถิ, กึ นุ โข มยา ปาปํ กต’’นฺติ วิลปนฺโต คาถมาห –

.

‘‘เอเต ภุตฺวา ปิวิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

เอโก พทฺโธสฺมิ ปาเสน, กึ ปาปํ ปกตํ มยา’’ติ.

เขตฺตปาโล สุวราชสฺส พทฺธรวํ สุวานฺจ อากาเส ปกฺขนฺทนสทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ นุ โข’’ติ กุฏิยา โอรุยฺห ปาสาฏฺานํ คนฺตฺวา สุวราชานํ ทิสฺวา ‘‘ยสฺเสว เม ปาโส โอฑฺฑิโต, สฺเวว พทฺโธ’’ติ ตุฏฺมานโส สุวราชานํ ปาสโต โมเจตฺวา ทฺเว ปาเท เอกโต พนฺธิตฺวา ทฬฺหํ อาทาย สาลิทฺทิยคามํ คนฺตฺวา สุวราชํ พฺราหฺมณสฺส อทาสิ. พฺราหฺมโณ พลวสิเนเหน มหาสตฺตํ อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา องฺเก นิสีทาเปตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

.

‘‘อุทรํ นูน อฺเสํ, สุว อจฺโจทรํ ตว;

ภุตฺวา สาลึ ยถากามํ, ตุณฺเฑนาทาย คจฺฉสิ.

.

‘‘โกฏฺํ นุ ตตฺถ ปูเรสิ, สุว เวรํ นุ เต มยา;

ปุฏฺโ เม สมฺม อกฺขาหิ, กุหึ สาลึ นิทาหสี’’ติ.

ตตฺถ อุทรํ นูนาติ อฺเสํ อุทรํ อุทรเมว มฺเ, ตว อุทรํ ปน อติอุทรํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ สิมฺพลิวเน. ปูเรสีติ วสฺสารตฺตตฺถาย ปูเรสิ. นิทาหสีติ นิธานํ กตฺวา เปสิ, ‘‘นิธียสี’’ติปิ ปาโ.

ตํ สุตฺวา สุวราชา มธุราย มนุสฺสภาสาย สตฺตมํ คาถมาห –

.

‘‘น เม เวรํ ตยา สทฺธึ, โกฏฺโ มยฺหํ น วิชฺชติ;

อิณํ มุฺจามิณํ ทมฺมิ, สมฺปตฺโต โกฏสิมฺพลึ;

นิธิมฺปิ ตตฺถ นิทหามิ, เอวํ ชานาหิ โกสิยา’’ติ.

ตตฺถ อิณํ มุฺจามิณํ ทมฺมีติ ตว สาลึ หริตฺวา อิณํ มุฺจามิ เจว ทมฺมิ จาติ วทติ. นิธิมฺปีติ เอกํ ตตฺถ สิมฺพลิวเน อนุคามิกนิธิมฺปิ นิทหามิ.

อถ นํ พฺราหฺมโณ ปุจฺฉิ –

.

‘‘กีทิสํ เต อิณทานํ, อิณโมกฺโข จ กีทิโส;

นิธินิธานมกฺขาหิ, อถ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อิณทานนฺติ อิณสฺส ทานํ. นิธินิธานนฺติ นิธิโน นิธานํ.

เอวํ พฺราหฺมเณน ปุฏฺโ สุวราชา ตสฺส พฺยากโรนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘อชาตปกฺขา ตรุณา, ปุตฺตกา มยฺห โกสิย;

เต มํ ภตา ภริสฺสนฺติ, ตสฺมา เตสํ อิณํ ทเท.

๑๐.

‘‘มาตา ปิตา จ เม วุทฺธา, ชิณฺณกา คตโยพฺพนา;

เตสํ ตุณฺเฑน หาตูน, มุฺเจ ปุพฺพกตํ อิณํ.

๑๑.

‘‘อฺเปิ ตตฺถ สกุณา, ขีณปกฺขา สุทุพฺพลา;

เตสํ ปุฺตฺถิโก ทมฺมิ, ตํ นิธึ อาหุ ปณฺฑิตา.

๑๒.

‘‘อีทิสํ เม อิณทานํ, อิณโมกฺโข จ อีทิโส;

นิธินิธานมกฺขามิ, เอวํ ชานาหิ โกสิยา’’ติ.

ตตฺถ หาตูนาติ หริตฺวา. ตํ นิธินฺติ ตํ ปุฺกมฺมํ ปณฺฑิตา อนุคามิกนิธึ นาม กเถนฺติ. นิธินิธานนฺติ นิธิโน นิธานํ, ‘‘นิธานนิธิ’’นฺติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ.

พฺราหฺมโณ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ.

๑๓.

‘‘ภทฺทโก วตยํ ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

เอกจฺเจสุ มนุสฺเสสุ, อยํ ธมฺโม น วิชฺชติ.

๑๔.

‘‘ภุฺช สาลึ ยถากามํ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ปุนาปิ สุว ปสฺเสมุ, ปิยํ เม ตว ทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ ภุฺช สาลินฺติ อิโต ปฏฺาย นิพฺภโย หุตฺวา ภุฺชาติ กรีสสหสฺสมฺปิ ตสฺเสว นิยฺยาเทนฺโต เอวมาห. ปสฺเสมูติ อตฺตโน รุจิยา อาคตํ อฺเสุปิ ทิวเสสุ ตํ ปสฺเสยฺยามาติ.

เอวํ พฺราหฺมโณ มหาสตฺตํ ยาจิตฺวา ปิยปุตฺตํ วิย มุทุจิตฺเตน โอโลเกนฺโต ปาทโต พนฺธนํ โมเจตฺวา สตปากเตเลน ปาเท มกฺเขตฺวา ภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา กฺจนตฏฺฏเก มธุลาเช ขาทาเปตฺวา สกฺขโรทกํ ปาเยสิ. อถสฺส สุวราชา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, พฺราหฺมณา’’ติ วตฺวา โอวาทํ เทนฺโต อาห –

๑๕.

‘‘ภุตฺตฺจ ปีตฺจ ตวสฺสมมฺหิ, รตี จ โน โกสิย เต สกาเส;

นิกฺขิตฺตทณฺเฑสุ ททาหิ ทานํ, ชิณฺเณ จ มาตาปิตโร ภรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ ตวสฺสมมฺหีติ ตว นิเวสเน. รตีติ อภิรติ.

ตํ สุตฺวา พฺราหฺมโณ ตุฏฺมานโส อุทานํ อุทาเนนฺโต คาถมาห –

๑๖.

‘‘ลกฺขี วต เม อุทปาทิ อชฺช, โย อทฺทสาสึ ปวรํ ทิชานํ;

สุวสฺส สุตฺวาน สุภาสิตานิ, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ ลกฺขีติ สิรีปิ ปุฺมฺปิ ปฺาปิ.

มหาสตฺโต พฺราหฺมเณน อตฺตโน ทินฺนํ กรีสสหสฺสมตฺตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อฏฺกรีสเมว คณฺหิ. พฺราหฺมโณ ถมฺเภ นิขนิตฺวา ตสฺส เขตฺตํ นิยฺยาเทตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา ขมาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ สามิ, อสฺสุมุเข โรทมาเน มาตาปิตโร อสฺสาเสหี’’ติ วตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ตุฏฺมานโส สาลิสีสํ อาทาย คนฺตฺวา มาตาปิตูนํ ปุรโต นิกฺขิปิตฺวา ‘‘อมฺมตาตา, อุฏฺเถา’’ติ อาห. เต อสฺสุมุขา โรทมานา อุฏฺหึสุ, ตาวเทว สุวคณา สนฺนิปติตฺวา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, เทวา’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส เตสํ สพฺพํ วิตฺถารโต กเถสิ. โกสิโยปิ สุวรฺโ โอวาทํ สุตฺวา ตโต ปฏฺาย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ มหาทานํ ปฏฺเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๗.

‘‘โส โกสิโย อตฺตมโน อุทคฺโค, อนฺนฺจ ปานฺจภิสงฺขริตฺวา;

อนฺเนน ปาเนน ปสนฺนจิตฺโต, สนฺตปฺปยิ สมณพฺราหฺมเณ จา’’ติ.

ตตฺถ สนฺตปฺปยีติ คหิตคหิตานิ ภาชนานิ ปูเรนฺโต สนฺตปฺเปสีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขุ มาตาปิตูนํ โปสนํ นาม ปณฺฑิตานํ วํโส’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา สุวคณา พุทฺธปริสา อเหสุํ, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, เขตฺตปาโล ฉนฺโน, พฺราหฺมโณ อานนฺโท, สุวราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สาลิเกทารชาตกวณฺณนา ปมา.

[๔๘๕] ๒. จนฺทกินฺนรีชาตกวณฺณนา

อุปนียติทํมฺเติ อิทํ สตฺถา กปิลวตฺถุปุรํ อุปนิสฺสาย นิคฺโรธาราเม วิหรนฺโต ราชนิเวสเน ราหุลมาตรํ อารพฺภ กเถสิ. อิทํ ปน ชาตกํ ทูเรนิทานโต ปฏฺาย กเถตพฺพํ. สา ปเนสา นิทานกถา ยาว ลฏฺิวเน อุรุเวลกสฺสปสีหนาทา อปณฺณกชาตเก กถิตา, ตโต ปรํ ยาว กปิลวตฺถุคมนา เวสฺสนฺตรชาตเก อาวิ ภวิสฺสติ. สตฺถา ปน ปิตุ นิเวสเน นิสีทิตฺวา อนฺตรภตฺตสมเย มหาธมฺมปาลชาตกํ (ชา. ๑.๑๐.๙๒ อาทโย) กเถตฺวา กตภตฺตกิจฺโจ ‘‘ราหุลมาตุ นิเวสเน นิสีทิตฺวา ตสฺสา คุณํ วณฺเณนฺโต จนฺทกินฺนรีชาตกํ (ชา. ๑.๑๔.๑๘ อาทโย) กเถสฺสามี’’ติ ราชานํ ปตฺตํ คาหาเปตฺวา ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ สทฺธึ ราหุลมาตุ นิเวสนฏฺานํ ปายาสิ. ตทา ตสฺสา สมฺมุขา จตฺตาลีสสหสฺสนาฏกิตฺถิโย วสนฺติ ตาสุ ขตฺติยกฺานํเยว นวุติอธิกสหสฺสํ. สา ตถาคตสฺส อาคมนํ ตฺวา ‘‘สพฺพา กาสาวาเนว นิวาเสนฺตู’’ติ ตาสํ อาโรจาเปสิ. ตา ตถา กรึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. อถ ตา สพฺพาปิ เอกปฺปหาเรเนว วิรวึสุ, มหาปริเทวสทฺโท อโหสิ. ราหุลมาตาปิ ปริเทวิตฺวา โสกํ วิโนเทตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ราชคเตน พหุมาเนน สคารเวน นิสีทิ. ราชา ตสฺสา คุณกถํ อารภิ, ‘‘ภนฺเต, มม สุณฺหา ‘ตุมฺเหหิ กาสาวานิ นิวตฺถานี’ติ สุตฺวา กาสาวาเนว นิวาเสสิ, ‘มาลาทีนิ ปริจฺจตฺตานี’ติ สุตฺวา มาลาทีนิ ปริจฺจชิ, ‘ภูมิยํ สยตี’ติ สุตฺวา ภูมิสยนาว ชาตา, ตุมฺหากํ ปพฺพชิตกาเล วิธวา หุตฺวา อฺเหิ ราชูหิ เปสิตํ ปณฺณาการํ น คณฺหิ, เอวํ ตุมฺเหสุ อสํหีรจิตฺตา เอสา’’ติ นานปฺปกาเรหิ ตสฺสา คุณกถํ กเถสิ. สตฺถา ‘‘อนจฺฉริยํ, มหาราช, ยํ เอสา อิทานิ มม ปจฺฉิเม อตฺตภาเว มยิ สสิเนหา อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา ภเวยฺย. เอสา ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺตาปิ มยิ อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา อโหสี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต มหาสตฺโต หิมวนฺตปเทเส กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติ, จนฺทา นามสฺส ภริยา. เต อุโภปิ จนฺทนามเก รชตปพฺพเต วสึสุ. ตทา พาราณสิราชา อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ทฺเว กาสายานิ นิวาเสตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ เอกโกว หิมวนฺตํ ปาวิสิ. โส มิคมํสํ ขาทนฺโต เอกํ ขุทฺทกนทึ อนุสฺจรนฺโต อุทฺธํ อภิรุหิ. จนฺทปพฺพตวาสิโน กินฺนรา วสฺสารตฺตสมเย อโนตริตฺวา ปพฺพเตเยว วสนฺติ, นิทาฆสมเย โอตรนฺติ. ตทา จ โส จนฺทกินฺนโร อตฺตโน ภริยาย สทฺธึ โอตริตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ คนฺเธ วิลิมฺปนฺโต ปุปฺผเรณุํ ขาทนฺโต ปุปฺผปเฏ นิวาเสนฺโต ปารุปนฺโต ลตาโทลาหิ กีฬนฺโต มธุรสฺสเรน คายนฺโต ตํ ขุทฺทกนทึ ปตฺวา เอกสฺมึ นิวตฺตนฏฺาเน โอตริตฺวา อุทเก ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา อุทกกีฬํ กีฬิตฺวา ปุปฺผปเฏ นิวาเสตฺวา ปารุปิตฺวา รชตปฏฺฏวณฺณาย วาลุกาย ปุปฺผาสนํ ปฺเปตฺวา เอกํ เวฬุ ทณฺฑกํ คเหตฺวา สยเน นิสีทิ . ตโต จนฺทกินฺนโร เวฬุํ วาเทนฺโต มธุรสทฺเทน คายิ. จนฺทกินฺนรี มุทุหตฺเถ นาเมตฺวา ตสฺส อวิทูเร ิตา นจฺจิ เจว คายิ จ. โส ราชา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ปทสทฺทํ อสาเวนฺโต สณิกํ คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา เต กินฺนเร ทิสฺวา กินฺนริยา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘ตํ กินฺนรํ วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อิมาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสฺสามี’’ติ ตฺวา จนฺทกินฺนรํ วิชฺฌิ. โส เวทนาปฺปตฺโต ปริเทวมาโน จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๘.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, จนฺเท โลหิตมทฺทเน;

อชฺช ชหามิ ชีวิตํ, ปาณา เม จนฺเท นิรุชฺฌนฺติ.

๑๙.

‘‘โอสีทิ เม ทุกฺขํ หทยํ, เม ฑยฺหเต นิตมฺมามิ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหิ.

๒๐.

‘‘ติณมิว วนมิว มิลายามิ, นที อปริปุณฺณาว สุสฺสามิ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหิ.

๒๑.

‘‘วสฺสมิว สเร ปาเท, อิมานิ อสฺสูนิ วตฺตเร มยฺหํ;

ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา, น นํ อฺเหิ โสเกหี’’ติ.

ตตฺถ อุปนียตีติ สนฺตติวิจฺเฉทํ อุปนียติ. อิทนฺติ ชีวิตํ. ปาณา เมติ ภทฺเท, จนฺเท มม ชีวิตปาณา นิรุชฺฌนฺติ. โอสีทิ เมติ ชีวิตํ เม โอสีทติ. นิตมฺมามีติ อติกิลมามิ. ตว จนฺทิยาติ อิทํ มม ทุกฺขํ, น นํ อฺเหิ โสเกหิ, อถ โข ตว จนฺทิยา โสจนฺติยา โสกเหตุ ยสฺมา ตฺวํ มม วิโยเคน โสจิสฺสสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ติณมิว วนมิว มิลายามีติ ตตฺตปาสาเณ ขิตฺตติณมิว มูลฉินฺนวนมิว มิลายามีติ วทติ. สเร ปาเทติ ยถา นาม ปพฺพตปาเท ปติตวสฺสํ สริตฺวา อจฺฉินฺนธารํ วตฺตติ.

มหาสตฺโต อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา ปุปฺผสยเน นิปนฺโนว สตึ วิสฺสชฺเชตฺวา ปริวตฺติ. ราชา ปติฏฺิโตว. อิตรา มหาสตฺเต ปริเทวนฺเต อตฺตโน รติยา มตฺตา หุตฺวา ตสฺส วิทฺธภาวํ น ชานาติ, วิสฺํ ปน นํ ปริวตฺติตฺวา นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เม ปิยสามิกสฺส ทุกฺข’’นฺติ อุปธาเรนฺตี ปหารมุขโต ปคฺฆรนฺตํ โลหิตํ ทิสฺวา ปิยสามิเก อุปฺปนฺนํ พลวโสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี มหาสทฺเทน ปริเทวิ. ราชา ‘‘กินฺนโร มโต ภวิสฺสตี’’ติ นิกฺขมิตฺวา อตฺตานํ ทสฺเสสิ. จนฺทา ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา เม โจเรน ปิยสามิโก วิทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ กมฺปมานา ปลายิตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ตฺวา ราชานํ ปริภาสนฺตี ปฺจ คาถา อภาสิ –

๒๒.

‘‘ปาโป โขสิ ราชปุตฺต, โย เม อิจฺฉิตํ ปตึ วรากิยา;

วิชฺฌสิ วนมูลสฺมึ, โสยํ วิทฺโธ ฉมา เสติ.

๒๓.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ราชปุตฺต ตว มาตา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, กิมฺปุริสํ อเวกฺขมานาย.

๒๔.

‘‘อิมํ มยฺหํ หทยโสกํ, ปฏิมุฺจตุ ราชปุตฺต ตว ชายา;

โย มยฺหํ หทยโสโก, กิมฺปุริสํ อเวกฺขมานาย.

๒๕.

‘‘มา จ ปุตฺตํ มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ราชปุตฺต ตว มาตา;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หิ.

๒๖.

‘‘มา จ ปุตฺตํ มา จ ปตึ, อทฺทกฺขิ ราชปุตฺต ตว ชายา;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หี’’ติ.

ตตฺถ วรากิยาติ กปณาย. ปฏิมุฺจตูติ ปฏิลภตุ ผุสตุ ปาปุณาตุ. มยฺห กามา หีติ มยฺหํ กาเมน.

ราชา นํ ปฺจหิ คาถาหิ ปริภาสิตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ิตํเยว อสฺสาเสนฺโต คาถมาห –

๒๗.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท โรทิ มา โสปิ, วนติมิรมตฺตกฺขิ;

มม ตฺวํ เหหิสิ ภริยา, ราชกุเล ปูชิตา นารีภี’’ติ.

ตตฺถ จนฺเทติ มหาสตฺตสฺส ปริเทวนกาเล นามสฺส สุตตฺตา เอวมาห. วนติมิรมตฺตกฺขีติ วนติมิรปุปฺผสมานอกฺขิ. ปูชิตา นารีภีติ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา อคฺคมเหสี เหสฺสสิ.

จนฺทา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ กึ มํ วเทสี’’ติ สีหนาทํ นทนฺตี อนนฺตรคาถมาห –

๒๘.

‘‘อปิ นูนหํ มริสฺสํ, นาหํ ราชปุตฺต ตว เหสฺสํ;

โย กิมฺปุริสํ อวธิ, อทูสกํ มยฺห กามา หี’’ติ.

ตตฺถ อปิ นูนหนฺติ อปิ เอกํเสเนว อหํ มริสฺสํ.

โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา นิจฺฉนฺทราโค หุตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๒๙.

‘‘อปิ ภีรุเก อปิ ชีวิตุกามิเก, กิมฺปุริสิ คจฺฉ หิมวนฺตํ;

ตาลีสตครโภชนา, อฺเ ตํ มิคา รมิสฺสนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อปิ ภีรุเกติ ภีรุชาติเก. ตาลีสตครโภชนาติ ตฺวํ ตาลีสปตฺตตครปตฺตโภชนา มิคี, ตสฺมา อฺเ ตํ มิคา รมิสฺสนฺติ, น ตฺวํ ราชกุลารหา, คจฺฉาติ นํ อวจ, วตฺวา จ ปน นิรเปกฺโข หุตฺวา ปกฺกามิ.

สา ตสฺส คตภาวํ ตฺวา โอรุยฺห มหาสตฺตํ อาลิงฺคิตฺวา ปพฺพตมตฺถกํ อาโรเปตฺวา ปพฺพตตเล นิปชฺชาเปตฺวา สีสมสฺส อตฺตโน อูรูสุ กตฺวา พลวปริเทวํ ปริเทวมานา ทฺวาทส คาถา อภาสิ –

๓๐.

‘‘เต ปพฺพตา ตา จ กนฺทรา, ตา จ คิริคุหาโย ตเถว ติฏฺนฺติ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๑.

‘‘เต ปณฺณสนฺถตา รมณียา, วาฬมิเคหิ อนุจิณฺณา;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๒.

‘‘เต ปุปฺผสนฺถตา รมณียา, วาฬมิเคหิ อนุจิณฺณา;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๓.

‘‘อจฺฉา สวนฺติ คิริวนนทิโย, กุสุมาภิกิณฺณโสตาโย;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๔.

‘‘นีลานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๕.

‘‘ปีตานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๖.

‘‘ตมฺพานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๗.

‘‘ตุงฺคานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๘.

‘‘เสตานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๓๙.

‘‘จิตฺรานิ หิมวโต ปพฺพตสฺส, กูฏานิ ทสฺสนียานิ;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๔๐.

‘‘ยกฺขคณเสวิเต คนฺธมาทเน, โอสเธภิ สฺฉนฺเน;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺสํ.

๔๑.

‘‘กิมฺปุริสเสวิเต คนฺธมาทเน, โอสเธภิ สฺฉนฺเน;

ตตฺเถว ตํ อปสฺสนฺตี, กิมฺปุริส กถํ อหํ กสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ เต ปพฺพตาติ เยสุ มยํ เอกโตว อภิรมิมฺห, อิเม เต ปพฺพตา ตา จ กนฺทรา ตา จ คิริคุหาโย ตเถว ิตา. เตสุ อหํ อิทานิ ตํ อปสฺสนฺตี กถํ กสฺสํ, กึ กริสฺสามิ, เตสุ ปุปฺผผลปลฺลวาทิโสภํ ตํ อปสฺสนฺตี กถํ อธิวาเสตุํ สกฺขิสฺสามีติ ปริเทวติ. ปณฺณสนฺถตาติ ตาลีสปตฺตาทิคนฺธปณฺณสนฺถรา. อจฺฉาติ วิปฺปสนฺโนทกา. นีลานีติ นีลมณิมยานิ. ปีตานีติ โสวณฺณมยานิ. ตมฺพานีติ มโนสิลมยานิ. ตุงฺคานีติ อุจฺจานิ ติขิณคฺคานิ. เสตานีติ รชตมยานิ. จิตฺรานีติ สตฺตรตนมิสฺสกานิ. ยกฺขคณเสวิเตติ ภุมฺมเทวตาหิ เสวิเต.

อิติ สา ทฺวาทสหิ คาถาหิ ปริเทวิตฺวา มหาสตฺตสฺส อุเร หตฺถํ เปตฺวา สนฺตาปภาวํ ตฺวา ‘‘จนฺโท ชีวติเยว, เทวุชฺฌานกมฺมํ กตฺวา ชีวิตมสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กึ นุ โข โลกปาลา นาม นตฺถิ, อุทาหุ วิปฺปวุตฺถา, อทุ มตา , เต เม ปิยสามิกํ น รกฺขนฺตี’’ติ เทวุชฺฌานกมฺมํ อกาสิ. ตสฺสา โสกเวเคน สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหํ อโหสิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา พฺราหฺมณวณฺเณน เวเคเนว อาคนฺตฺวา กุณฺฑิกโต อุทกํ คเหตฺวา มหาสตฺตํ อาสิฺจิ. ตาวเทว วิสํ อนฺตรธายิ, วโณ รุหิ, อิมสฺมึ าเน วิทฺโธติปิ น ปฺายิ. มหาสตฺโต สุขิโต อุฏฺาสิ. จนฺทา ปิยสามิกํ อโรคํ ทิสฺวา โสมนสฺสปฺปตฺตา สกฺกสฺส ปาเท วนฺทนฺตี อนนฺตรคาถมาห –

๔๒.

‘‘วนฺเท เต อยิรพฺรหฺเม, โย เม อิจฺฉิตํ ปตึ วรากิยา;

อมเตน อภิสิฺจิ, สมาคตาสฺมิ ปิยตเมนา’’ติ.

ตตฺถ อมเตนาติ อุทกํ ‘‘อมต’’นฺติ มฺมานา เอวมาห. ปิยตเมนาติ ปิยตเรน, อยเมว วา ปาโ.

สกฺโก เตสํ โอวาทมทาสิ ‘‘อิโต ปฏฺาย จนฺทปพฺพตโต โอรุยฺห มนุสฺสปถํ มา คมิตฺถ, อิเธว วสถา’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา เต โอวทิตฺวา สกฏฺานเมว คโต. จนฺทาปิ ‘‘กึ โน สามิ อิมินา ปริปนฺถฏฺาเนน, เอหิ จนฺทปพฺพตเมว คจฺฉามา’’ติ วตฺวา โอสานคาถมาห –

๔๓.

‘‘วิจราม ทานิ คิริวนนทิโย, กุสุมาภิกิณฺณโสตาโย;

นานาทุมวสนาโย, ปิยํวทา อฺมฺสฺสา’’ติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น อิทาเนว, ปุพฺเพเปสา มยิ อสํหีรจิตฺตา อนฺเนยฺยา เอวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา เทวทตฺโต อโหสิ, สกฺโก อนุรุทฺโธ, จนฺทา ราหุลมาตา, จนฺทกินฺนโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จนฺทกินฺนรีชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๔๘๖] ๓. มหาอุกฺกุสชาตกวณฺณนา

อุกฺกา จิลาจา พนฺธนฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มิตฺตพนฺธกอุปาสกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิยํ ปริชิณฺณสฺส กุลสฺส ปุตฺโต สหายํ เปเสตฺวา อฺตรํ กุลธีตรํ วาราเปตฺวา ‘‘อตฺถิ ปนสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจํ นิตฺถรณสมตฺโถ มิตฺโต วา สหาโย วา’’ติ วุตฺเต ‘‘นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ มิตฺเต ตาว พนฺธตู’’ติ วุตฺเต ตสฺมึ โอวาเท ตฺวา ปมํ ตาว จตูหิ โทวาริเกหิ สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ, อถานุปุพฺเพน นครคุตฺติกคณกมหามตฺตาทีหิ สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา เสนาปตินาปิ อุปราเชนาปิ สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. เตหิ ปน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา รฺา สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. ตโต อสีติยา มหาเถเรหิ สทฺธึ อานนฺทตฺเถเรนปิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา ตถาคเตน สทฺธึ เมตฺตึ อกาสิ. อถ นํ สตฺถา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปสิ, ราชาปิสฺส อิสฺสริยมทาสิ. โส มิตฺตพนฺธโกเยวาติ ปากโฏ ชาโต. อถสฺส ราชา มหนฺตํ เคหํ ทตฺวา อาวาหมงฺคลํ กาเรสิ. ราชานํ อาทึ กตฺวา มหาชโน ปณฺณากาเร ปหิณิ. อถสฺส ภริยา รฺา ปหิตํ ปณฺณาการํ อุปราชสฺส, อุปราเชน ปหิตํ ปณฺณาการํ เสนาปติสฺสาติ เอเตน อุปาเยน สกลนครวาสิโน อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. สตฺตเม ทิวเส มหาสกฺการํ กตฺวา ทสพลํ นิมนฺเตตฺวา ปฺจสตสฺส พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน สตฺถารา กถิตํ อนุโมทนํ สุตฺวา อุโภปิ ชยมฺปติกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหึสุ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, มิตฺตพนฺธกอุปาสโก อตฺตโน ภริยํ นิสฺสาย ตสฺสา วจนํ กตฺวา สพฺเพหิ เมตฺตึ กตฺวา รฺโ สนฺติกา มหนฺตํ สกฺการํ ลภิ, ตถาคเตน ปน สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา อุโภปิ ชยมฺปติกา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โส เอตํ มาตุคามํ นิสฺสาย มหนฺตํ ยสํ สมฺปตฺโต, ปุพฺเพ ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ ปเนส เอติสฺสา วจเนน พหูหิ สทฺธึ เมตฺตึ กตฺวา ปุตฺตโสกโต มุตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอกจฺเจ ปจฺจนฺตวาสิโน ยตฺถ ยตฺถ พหุํ มํสํ ลภนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ คามํ นิวาเสตฺวา อรฺเ จริตฺวา มิคาทโย มาเรตฺวา มํสํ อาหริตฺวา ปุตฺตทาเร โปเสนฺติ. เตสํ คามโต อวิทูเร มหาชาตสฺสโร อตฺถิ. ตสฺส ทกฺขิณปสฺเส เอโก เสนสกุโณ, ปจฺฉิมปสฺเส เอกา เสนสกุณี, อุตฺตรปสฺเส สีโห มิคราชา, ปาจีนปสฺเส อุกฺกุสสกุณราชา วสติ. ชาตสฺสรมชฺเฌ ปน อุนฺนตฏฺาเน กจฺฉโป วสติ. ตทา เสโน เสนึ ‘‘ภริยา เม โหหี’’ติ วทติ. อถ นํ สา อาห – ‘‘อตฺถิ ปน เต โกจิ มิตฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภทฺเท’’ติ. อมฺหากํ อุปฺปนฺนํ ภยํ วา ทุกฺขํ วา หรณสมตฺถํ มิตฺตํ วา สหายํ วา ลทฺธุํ วฏฺฏติ, มิตฺเต ตาว คณฺหาหีติ. ‘‘เกหิ สทฺธึ เมตฺตึ กโรมิ ภทฺเท’’ติ? ปาจีนปสฺเส วสนฺเตน อุกฺกุสราเชน, อุตฺตรปสฺเส สีเหน, ชาตสฺสรมชฺเฌ กจฺฉเปน สทฺธึ เมตฺตึ กโรหีติ. โส ตสฺสา วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตถา อกาสิ. ตทา เต อุโภปิ สํวาสํ กปฺเปตฺวา ตสฺมึเยว สเร เอกสฺมึ ทีปเก กทมฺพรุกฺโข อตฺถิ สมนฺตา อุทเกน ปริกฺขิตฺโต, ตสฺมึ กุลาวกํ กตฺวา ปฏิวสึสุ.

เตสํ อปรภาเค ทฺเว สกุณโปตกา ชายึสุ. เตสํ ปกฺเขสุ อสฺชาเตสุเยว เอกทิวสํ เต ชานปทา ทิวสํ อรฺเ จริตฺวา กิฺจิ อลภิตฺวา ‘‘น สกฺกา ตุจฺฉหตฺเถน ฆรํ คนฺตุํ, มจฺเฉ วา กจฺฉเป วา คณฺหิสฺสามา’’ติ สรํ โอตริตฺวา ตํ ทีปกํ คนฺตฺวา ตสฺส กทมฺพสฺส มูเล นิปชฺชิตฺวา มกสาทีหิ ขชฺชมานา เตสํ ปลาปนตฺถาย อรณึ มนฺเถตฺวา อคฺคึ นิพฺพตฺเตตฺวา ธูมํ กรึสุ. ธุโม อุคฺคนฺตฺวา สกุเณ ปหริ, สกุณโปตกา วิรวึสุ. ชานปทา ตํ สุตฺวา ‘‘อมฺโภ, สกุณโปตกานํ สูยติ สทฺโท, อุฏฺเถ อุกฺกา พนฺธถ, ฉาตา สยิตุํ น สกฺโกม, สกุณมํสํ ขาทิตฺวาว สยิสฺสามา’’ติ วตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา อุกฺกา พนฺธึสุ. สกุณิกา เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อิเม อมฺหากํ โปตเก ขาทิตุกามา, มยํ เอวรูปสฺส ภยสฺส หรณตฺถาย มิตฺเต คณฺหิมฺห, สามิกํ อุกฺกุสราชสฺส สนฺติกํ เปเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ, สามิ , ปุตฺตานํ โน อุปฺปนฺนภยํ อุกฺกุสราชสฺส อาโรเจหี’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๔๔.

‘‘อุกฺกา จิลาจา พนฺธนฺติ ทีเป, ปชา มมํ ขาทิตุํ ปตฺถยนฺติ;

มิตฺตํ สหายฺจ วเทหิ เสนก, อาจิกฺข าติพฺยสนํ ทิชาน’’นฺติ.

ตตฺถ จิลาจาติ ชานปทา. ทีเปติ ทีปกมฺหิ. ปชา มมนฺติ มม ปุตฺตเก. เสนกาติ เสนกสกุณํ นาเมนาลปติ. าติพฺยสนนฺติ ปุตฺตานํ พฺยสนํ. ทิชานนฺติ อมฺหากํ าตีนํ ทิชานํ อิทํ พฺยสนํ อุกฺกุสราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาจิกฺขาหีติ วทติ.

โส เวเคน ตสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา วสฺสิตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ ชานาเปตฺวา กโตกาโส อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึการณา อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ อาคตการณํ ทสฺเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๔๕.

‘‘ทิโช ทิชานํ ปวโรสิ ปกฺขิม, อุกฺกุสราช สรณํ ตํ อุเปม;

ปชา มมํ ขาทิตุํ ปตฺถยนฺติ, ลุทฺทา จิลาจา ภว เม สุขายา’’ติ.

ตตฺถ ทิโชติ ตฺวํ ทิโช เจว ทิชานํ ปวโร จ.

อุกฺกุสราชา ‘‘เสนก มา ภายี’’ติ ตํ อสฺสาเสตฺวา ตติยํ คาถมาห –

๔๖.

‘‘มิตฺตํ สหายฺจ กโรนฺติ ปณฺฑิตา, กาเล อกาเล สุขเมสมานา;

กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อริโย หิ อริยสฺส กโรติ กิจฺจ’’นฺติ.

ตตฺถ กาเล อกาเลติ ทิวา จ รตฺติฺจ. อริโยติ อิธ อาจารอริโย อธิปฺเปโต. อาจารสมฺปนฺโน หิ อาจารสมฺปนฺนสฺส กิจฺจํ กโรเตว, กิเมตฺถ กรณียนฺติ วทติ.

อถ นํ ปุจฺฉิ ‘‘กึ, สมฺม, รุกฺขํ อภิรุฬฺหา จิลาจา’’ติ? น ตาว อภิรุฬฺหา, อุกฺกาเยว พนฺธนฺตีติ. เตน หิ ตฺวํ สีฆํ คนฺตฺวา มม สหายิกํ อสฺสาเสตฺวา มมาคมนภาวํ อาจิกฺขาหีติ. โส ตถา อกาสิ. อุกฺกุสราชาปิ คนฺตฺวา กทมฺพสฺส อวิทูเร จิลาจานํ อภิรุหนํ โอโลเกนฺโต เอกสฺมึ รุกฺขคฺเค นิสีทิตฺวา เอกสฺส จิลาจสฺส อภิรุหนกาเล ตสฺมึ กุลาวกสฺส อวิทูรํ อภิรุฬฺเห สเร นิมุชฺชิตฺวา ปกฺเขหิ จ มุเขน จ อุทกํ อาหริตฺวา อุกฺกาย อุปริ อาสิฺจิ, สา นิพฺพายิ. จิลาจา ‘‘อิมฺจ เสนกสกุณโปตเก จสฺส ขาทิสฺสามี’’ติ โอตริตฺวา ปุน อุกฺกํ ชาลาเปตฺวา อภิรุหึสุ. ปุน โส อุกฺกํ วิชฺฌาเปสิ. เอเตนุปาเยน พทฺธํ พทฺธํ วิชฺฌาเปนฺตสฺเสวสฺส อฑฺฒรตฺโต ชาโต. โส อติวิย กิลมิ, เหฏฺาอุทเร กิโลมกํ ตนุตํ คตํ, อกฺขีนิ รตฺตานิ ชาตานิ. ตํ ทิสฺวา สกุณี สามิกํ อาห – ‘‘สามิ, อติวิย กิลนฺโต อุกฺกุสราชา, เอตสฺส โถกํ วิสฺสมนตฺถาย คนฺตฺวา กจฺฉปราชสฺส กเถหี’’ติ. โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา อุกฺกุสํ อุปสงฺกมิตฺวา คาถาย อชฺฌภาสิ –

๔๗.

‘‘ยํ โหติ กิจฺจํ อนุกมฺปเกน, อริยสฺส อริเยน กตํ ตยีทํ;

อตฺตานุรกฺขี ภว มา อฑยฺหิ, ลจฺฉาม ปุตฺเต ตยิ ชีวมาเน’’ติ.

ตตฺถ ตยีทนฺติ ตยา อิทํ, อยเมว วา ปาโ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สีหนาทํ นทนฺโต ปฺจมํ คาถมาห –

๔๘.

‘‘ตเวว รกฺขาวรณํ กโรนฺโต, สรีรเภทาปิ น สนฺตสามิ;

กโรนฺติ เหเก สขินํ สขาโร, ปาณํ จชนฺตา สตเมส ธมฺโม’’ติ.

ฉฏฺํ ปน สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา ตสฺส คุณํ วณฺเณนฺโต อาห –

๔๙.

‘‘สุทุกฺกรํ กมฺมมกาสิ, อณฺฑชายํ วิหงฺคโม;

อตฺถาย กุรโร ปุตฺเต, อฑฺฒรตฺเต อนาคเต’’ติ.

ตตฺถ กุรโรติ อุกฺกุสราชา. ปุตฺเตติ เสนกสฺส ปุตฺเต รกฺขนฺโต เตสํ อตฺถาย อฑฺฒรตฺเต อนาคเต ยาว ทิยฑฺฒยามา วายามํ กโรนฺโต ทุกฺกรํ อกาสิ.

เสโนปิ อุกฺกุสํ ‘‘โถกํ วิสฺสมาหิ, สมฺมา’’ติ วตฺวา กจฺฉปสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อุฏฺาเปตฺวา ‘‘กึ, สมฺม, อาคโตสี’’ติ วุตฺโต ‘‘เอวรูปํ นาม ภยํ อุปฺปนฺนํ, อุกฺกุสราชา ปมยามโต ปฏฺาย วายมนฺโต กิลมิ, เตนมฺหิ ตว สนฺติกํ อาคโต’’ติ วตฺวา สตฺตมํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘จุตาปิ เหเก ขลิตา สกมฺมุนา, มิตฺตานุกมฺปาย ปติฏฺหนฺติ;

ปุตฺตา มมฏฺฏา คติมาคโตสฺมิ, อตฺถํ จเรโถ มม วาริจรา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สามิ, เอกจฺเจ หิ ยสโต วา ธนโต วา จุตาปิ สกมฺมุนา ขลิตาปิ มิตฺตานํ อนุกมฺปาย ปติฏฺหนฺติ, มม จ ปุตฺตา อฏฺฏา อาตุรา, เตนาหํ ตํ คตึ ปฏิสรณํ กตฺวา อาคโตสฺมิ, ปุตฺตานํ ชีวิตทานํ ททนฺโต อตฺถํ เม จราหิ วาริจราติ.

ตํ สุตฺวา กจฺฉโป อิตรํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘ธเนน ธฺเน จ อตฺตนา จ, มิตฺตํ สหายฺจ กโรนฺติ ปณฺฑิตา;

กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อริโย หิ อริยสฺส กโรติ กิจฺจ’’นฺติ.

อถสฺส ปุตฺโต อวิทูเร นิปนฺโน ปิตุ วจนํ สุตฺวา ‘‘มา เม ปิตา กิลมตุ, อหํ ปิตุ กิจฺจํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นวมํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ตาต ตุวํ นิสีท, ปุตฺโต ปิตุ จรติ อตฺถจริยํ;

อหํ จริสฺสามิ ตเวตมตฺถํ, เสนสฺส ปุตฺเต ปริตายมาโน’’ติ.

อถ นํ ปิตา คาถาย อชฺฌภาสิ –

๕๓.

‘‘อทฺธา หิ ตาต สตเมส ธมฺโม, ปุตฺโต ปิตุ ยํ จเร อตฺถจริยํ;

อปฺเปว มํ ทิสฺวาน ปวฑฺฒกายํ, เสนสฺส ปุตฺตา น วิเหเยยฺยุ’’นฺติ.

ตตฺถ สตเมส ธมฺโมติ ปณฺฑิตานํ เอส ธมฺโม. ปุตฺตาติ เสนสฺส ปุตฺเต จิลาจา น เหเยยฺยุนฺติ.

เอวํ วตฺวา มหากจฺฉโป ‘‘สมฺม, มา ภายิ, ตฺวํ ปุรโต คจฺฉ, อิทานาหํ อาคมิสฺสามี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา อุทเก ปติตฺวา กลลฺจ เสวาลฺจ สํกฑฺฒิตฺวา อาทาย ทีปกํ คนฺตฺวา อคฺคึ วิชฺฌาเปตฺวา นิปชฺชิ. จิลาจา ‘‘กึ โน เสนโปตเกหิ, อิมํ กาฬกจฺฉปํ ปริวตฺเตตฺวา มาเรสฺสาม, อยํ โน สพฺเพสํ ปโหสฺสตี’’ติ วลฺลิโย อุทฺธริตฺวา ชิยา คเหตฺวา นิวตฺถปิโลติกาปิ โมเจตฺวา เตสุ เตสุ าเนสุ พนฺธิตฺวา กจฺฉปํ ปริวตฺเตตุํ น สกฺโกนฺติ. กจฺฉโป เต อากฑฺฒนฺโต คนฺตฺวา คมฺภีรฏฺาเน อุทเก ปติ. เตปิ กจฺฉปโลเภน สทฺธึเยว ปติตฺวา อุทกปุณฺณาย กุจฺฉิยา กิลนฺตา นิกฺขมิตฺวา ‘‘โภ เอเกน โน อุกฺกุเสน ยาว อฑฺฒรตฺตา อุกฺกา วิชฺฌาปิตา, อิทานิ อิมินา กจฺฉเปน อุทเก ปาเตตฺวา อุทกํ ปาเยตฺวา มโหทรา กตมฺห, ปุน อคฺคึ กริตฺวา อรุเณ อุคฺคเตปิ อิเม เสนกโปตเก ขาทิสฺสามา’’ติ อคฺคึ กาตุํ อารภึสุ. สกุณี เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘สามิ, อิเม ยาย กายจิ เวลาย อมฺหากํ ปุตฺตเก ขาทิตฺวา คมิสฺสนฺติ, สหายสฺส โน สีหสฺส สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส ตงฺขณฺเว สีหสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึ อเวลาย อาคโตสี’’ติ วุตฺเต อาทิโต ปฏฺาย ตํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา เอกาทสมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ปสู มนุสฺสา มิควีรเสฏฺ, ภยฏฺฏิตา เสฏฺมุปพฺพชนฺติ;

ปุตฺตา มมฏฺฏา คติมาคโตสฺมิ, ตฺวํ โนสิ ราชา ภว เม สุขายา’’ติ.

ตตฺถ ปสูติ สพฺพติรจฺฉาเน อาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สามิ, มิเคสุ วีริเยน เสฏฺ, สพฺพโลกสฺมิฺหิ สพฺเพ ติรจฺฉานาปิ มนุสฺสาปิ ภยฏฺฏิตา หุตฺวา เสฏฺํ อุปคจฺฉนฺติ, มม จ ปุตฺตา อฏฺฏา อาตุรา. ตสฺมาหํ ตํ คตึ กตฺวา อาคโตมฺหิ, ตฺวํ อมฺหากํ ราชา สุขาย เม ภวาหี’’ติ.

ตํ สุตฺวา สีโห คาถมาห –

๕๕.

‘‘กโรมิ เต เสนก เอตมตฺถํ, อายามิ เต ตํ ทิสตํ วธาย;

กถฺหิ วิฺู ปหุ สมฺปชาโน, น วายเม อตฺตชนสฺส คุตฺติยา’’ติ.

ตตฺถ ตํ ทิสตนฺติ ตํ ทิสสมูหํ, ตํ ตว ปจฺจตฺถิกคณนฺติ อตฺโถ. ปหูติ อมิตฺเต หนฺตุํ สมตฺโถ. สมฺปชาโนติ มิตฺตสฺส ภยุปฺปตฺตึ ชานนฺโต. อตฺตชนสฺสาติ อตฺตสมสฺส องฺคสมานสฺส ชนสฺส, มิตฺตสฺสาติ อตฺโถ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ ปุตฺเต สมสฺสาเสหี’’ติ ตํ อุยฺโยเชตฺวา มณิวณฺณํ อุทกํ มทฺทมาโน ปายาสิ. จิลาจา ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘กุรเรน ตาว อมฺหากํ อุกฺกา วิชฺฌาปิตา, ตถา กจฺฉเปน อมฺเห นิวตฺถปิโลติกานมฺปิ อสฺสามิกา กตา, อิทานิ ปน นฏฺมฺหา, สีโห โน ชีวิตกฺขยเมว ปาเปสฺสตี’’ติ มรณภยตชฺชิตา เยน วา เตน วา ปลายึสุ. สีโห อาคนฺตฺวา รุกฺขมูเล น กิฺจิ อทฺทส. อถ นํ กุรโร จ กจฺฉโป จ เสโน จ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทึสุ. โส เตสํ มิตฺตานิสํสํ กเถตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย มิตฺตธมฺมํ อภินฺทิตฺวา อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวทิตฺวา ปกฺกามิ, เตปิ สกานานิ คตา. เสนสกุณี อตฺตโน ปุตฺเต โอโลเกตฺวา ‘‘มิตฺเต นิสฺสาย อมฺเหหิ ทารกา ลทฺธา’’ติ สุขนิสินฺนสมเย เสเนน สทฺธึ สลฺลปนฺตี มิตฺตธมฺมํ ปกาสมานา ฉ คาถา อภาสิ –

๕๖.

‘‘มิตฺตฺจ กยิราถ สุหทยฺจ, อยิรฺจ กยิราถ สุขาคมาย;

นิวตฺถโกโจว สเรภิหนฺตฺวา, โมทาม ปุตฺเตหิ สมงฺคิภูตา.

๕๗.

‘‘สกมิตฺตสฺส กมฺเมน, สหายสฺสาปลายิโน;

กูชนฺตมุปกูชนฺติ, โลมสา หทยงฺคมํ.

๕๘.

‘‘มิตฺตํ สหายํ อธิคมฺม ปณฺฑิโต, โส ภุฺชตี ปุตฺต ปสุํ ธนํ วา;

อหฺจ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, มิตฺตานุกมฺปาย สมงฺคิภูตา.

๕๙.

‘‘ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถ, สมฺปนฺนสขิสฺส ภวนฺติ เหเต;

โส มิตฺตวา ยสวา อุคฺคตตฺโต, อสฺมึธโลเก โมทติ กามกามี.

๖๐.

‘‘กรณียานิ มิตฺตานิ, ทลิทฺเทนาปิ เสนก;

ปสฺส มิตฺตานุกมฺปาย, สมคฺคมฺหา สาตเก.

๖๑.

‘‘สูเรน พลวนฺเตน, โย มิตฺเต กุรุเต ทิโช;

เอวํ โส สุขิโต โหติ, ยถาหํ ตฺวฺจ เสนกา’’ติ.

ตตฺถ มิตฺตฺจาติ ยํกิฺจิ อตฺตโน มิตฺตฺจ สุหทยฺจ สุหทยสหายฺจ สามิกสงฺขาตํ อยิรฺจ กโรเถว. นิวตฺถโกโจว สเรภิหนฺตฺวาติ เอตฺถ โกโจติ กวโจ. ยถา นาม ปฏิมุกฺกกวโจ สเร อภิหนติ นิวาเรติ, เอวํ มยมฺปิ มิตฺตพเลน ปจฺจตฺถิเก อภิหนฺตฺวา ปุตฺเตหิ สทฺธึ โมทามาติ วทติ. สกมิตฺตสฺส กมฺเมนาติ สกสฺส มิตฺตสฺส ปรกฺกเมน. สหายสฺสาปลายิโนติ สหายสฺส อปลายิโน มิคราชสฺส. โลมสาติ ปกฺขิโน อมฺหากํ ปุตฺตกา มฺจ ตฺจ กูชนฺตํ หทยงฺคมํ มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา อุปกูชนฺติ. สมงฺคิภูตาติ เอกฏฺาเน ิตา.

ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถติ ยสฺส สีหสทิโส ราชา อุกฺกุสกจฺฉปสทิสา จ สูรา มิตฺตา โหนฺติ, เตน ราชวตา สูรวตา จ อตฺโถ สกฺกา ปาปุณิตุํ. ภวนฺติ เหเตติ โย จ สมฺปนฺนสโข ปริปุณฺณมิตฺตธมฺโม, ตสฺส เอเต สหายา ภวนฺติ. อุคฺคตตฺโตติ สิริโสภคฺเคน อุคฺคตสภาโว. อสฺมึธโลเกติ อิธโลกสงฺขาเต อสฺมึ โลเก โมทติ. กามกามีติ สามิกํ อาลปติ. โส หิ กาเม กามนโต กามกามี นาม. สมคฺคมฺหาติ สมคฺคา ชาตมฺหา. สาตเกติ าตเกหิ ปุตฺเตหิ สทฺธึ.

เอวํ สา ฉหิ คาถาหิ มิตฺตธมฺมสฺส คุณกถํ กเถสิ. เต สพฺเพปิ สหายกา มิตฺตธมฺมํ อภินฺทิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โส ภริยํ นิสฺสาย สุขปฺปตฺโต, ปุพฺเพปิ สุขปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เสโน จ เสนี จ ชยมฺปติกา อเหสุํ, ปุตฺตกจฺฉโป ราหุโล, ปิตา มหาโมคฺคลฺลาโน, อุกฺกุโส สาริปุตฺโต, สีโห ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาอุกฺกุสชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๔๘๗] ๔. อุทฺทาลกชาตกวณฺณนา

ขราชินา ชฏิลา ปงฺกทนฺตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ กุหกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส หิ นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวาปิ จตุปจฺจยตฺถาย ติวิธํ กุหกวตฺถุํ ปูเรสิ. อถสฺส อคุณํ ปกาเสนฺตา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา กุหนํ นิสฺสาย ชีวิกํ กปฺเปตี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ตสฺส ปุโรหิโต อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต. โส เอกทิวสํ อุยฺยานกีฬํ คโต เอกํ อภิรูปํ คณิกํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา ตํ ปฏิจฺจ คพฺภํ ปฏิลภิ. คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา ตํ อาห – ‘‘สามิ, คพฺโภ เม ปติฏฺิโต, ชาตกาเล นามํ กโรนฺตี อสฺส กึ นามํ กโรมี’’ติ? โส ‘‘วณฺณทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตตฺตา น สกฺกา กุลนามํ กาตุ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อยํ วาตฆาตรุกฺโข อุทฺทาโล นาม, อิธ ปฏิลทฺธตฺตา ‘อุทฺทาลโก’ติสฺส นามํ กเรยฺยาสี’’ติ วตฺวา องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ. ‘‘สเจ ธีตา โหติ, อิมาย นํ โปเสยฺยาสิ, สเจ ปุตฺโต, อถ นํ วยปฺปตฺตํ มยฺหํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ อาห. สา อปรภาเค ปุตฺตํ วิชายิตฺวา ‘‘อุทฺทาลโก’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส วยปฺปตฺโต มาตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘อมฺม, โก เม ปิตา’’ติ? ‘‘ปุโรหิโต ตาตา’’ติ. ‘‘ยทิ เอวํ เวเท อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ มาตุ หตฺถโต มุทฺทิกฺจ อาจริยภาคฺจ คเหตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต เอกํ ตาปสคณํ ทิสฺวา ‘‘อิเมสํ สนฺติเก วรสิปฺปํ ภวิสฺสติ, ตํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ สิปฺปโลเภน ปพฺพชิตฺวา เตสํ วตฺตปฏิวตฺตํ กตฺวา ‘‘อาจริยา มํ ตุมฺหากํ ชานนสิปฺปํ สิกฺขาเปถา’’ติ อาห. เต อตฺตโน อตฺตโน ชานนนิยาเมเนว ตํ สิกฺขาเปสุํ. ปฺจนฺนํ ตาปสสตานํ เอโกปิ เตน อติเรกปฺโ นาโหสิ, สฺเวว เตสํ ปฺาย อคฺโค. อถสฺส เต สนฺนิปติตฺวา อาจริยฏฺานํ อทํสุ. อถ เน โส อาห – ‘‘มาริสา, ตุมฺเห นิจฺจํ วนมูลผลาหารา อรฺเว วสถ, มนุสฺสปถํ กสฺมา น คจฺฉถา’’ติ? ‘‘มาริส, มนุสฺสา นาม มหาทานํ ทตฺวา อนุโมทนํ การาเปนฺติ, ธมฺมึ กถํ ภณาเปนฺติ, ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, มยํ เตน ภเยน ตตฺถ น คจฺฉามา’’ติ. ‘‘มาริสา, สเจปิ จกฺกวตฺติราชา ภวิสฺสติ, มนํ คเหตฺวา กถนํ นาม มยฺหํ ภาโร, ตุมฺเห มา ภายถา’’ติ วตฺวา เตหิ สทฺธึ จาริกํ จรมาโน อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส สพฺเพหิ สทฺธึ ทฺวารคาเม ภิกฺขาย จริ, มนุสฺสา มหาทานํ อทํสุ. ตาปสา ปุนทิวเส นครํ ปวิสึสุ มนุสฺสา มหาทานํ อทํสุ. อุทฺทาลกตาปโส ทานานุโมทนํ กโรติ, มงฺคลํ วทติ, ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, มนุสฺสา ปสีทิตฺวา พหุปจฺจเย อทํสุ. สกลนครํ ‘‘ปณฺฑิโต คณสตฺถา ธมฺมิกตาปโส อาคโต’’ติ สงฺขุภิ, ตํ รฺโปิ กถยึสุ.

ราชา ‘‘กุหึ วสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อุยฺยาเน’’ติ สุตฺวา ‘‘สาธุ อชฺช เตสํ ทสฺสนาย คมิสฺสามี’’ติ อาห. เอโก ปุริโส คนฺตฺวา ‘‘ราชา กิร โว ปสฺสิตุํ อาคจฺฉิสฺสตี’’ติ อุทฺทาลกสฺส กเถสิ. โสปิ อิสิคณํ อามนฺเตตฺวา ‘‘มาริสา, ราชา กิร อาคมิสฺสติ, อิสฺสเร นาม เอกทิวสํ อาราเธตฺวา ยาวชีวํ อลํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ปน กาตพฺพํ อาจริยา’’ติ? โส เอวมาห – ‘‘ตุมฺเหสุ เอกจฺเจ วคฺคุลิวตํ จรนฺตุ, เอกจฺเจ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุฺชนฺตุ, เอกจฺเจ กณฺฏกาปสฺสยิกา ภวนฺตุ, เอกจฺเจ ปฺจาตปํ ตปนฺตุ, เอกจฺเจ อุทโกโรหนกมฺมํ กโรนฺตุ, เอกจฺเจ ตตฺถ ตตฺถ มนฺเต สชฺฌายนฺตู’’ติ. เต ตถา กรึสุ. สยํ ปน อฏฺ วา ทส วา ปณฺฑิตวาทิโน คเหตฺวา มโนรเม อาธารเก รมณียํ โปตฺถกํ เปตฺวา อนฺเตวาสิกปริวุโต สุปฺตฺเต สาปสฺสเย อาสเน นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา ปุโรหิตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา เต มิจฺฉาตปํ จรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อปายภยมฺหา มุตฺตา’’ติ ปสีทิตฺวา อุทฺทาลกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตุฏฺมานโส ปุโรหิเตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๖๒.

‘‘ขราชินา ชฏิลา ปงฺกทนฺตา, ทุมฺมกฺขรูปา เย มนฺตํ ชปฺปนฺติ;

กจฺจินฺนุ เต มานุสเก ปโยเค, อิทํ วิทู ปริมุตฺตา อปายา’’ติ.

ตตฺถ ขราชินาติ สขุเรหิ อชินจมฺเมหิ สมนฺนาคตา. ปงฺกทนฺตาติ ทนฺตกฏฺสฺส อขาทเนน มลคฺคหิตทนฺตา. ทุมฺมกฺขรูปาติ อนฺชิตกฺขา อมณฺฑิตรูปา ลูขสงฺฆาฏิธรา. มานุสเก ปโยเคติ มนุสฺเสหิ กตฺตพฺพวีริเย. อิทํ วิทูติ อิทํ ตปจรณฺจ มนฺตสชฺฌายนฺจ ชานนฺตา. อปายาติ กจฺจิ อาจริย, อิเม จตูหิ อปาเยหิ มุตฺตาติ ปุจฺฉติ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต ‘‘อยํ ราชา อฏฺาเน ปสนฺโน, ตุณฺหี ภวิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

๖๓.

‘‘ปาปานิ กมฺมานิ กเรถ ราช, พหุสฺสุโต เจ น จเรยฺย ธมฺมํ;

สหสฺสเวโทปิ น ตํ ปฏิจฺจ, ทุกฺขา ปมุจฺเจ จรณํ อปตฺวา’’ติ.

ตตฺถ พหุสฺสุโต เจติ สเจ มหาราช, ‘‘อหํ พหุสฺสุโตมฺหี’’ติ ปคุณเวโทปิ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ น จเรยฺย, ตีหิ ทฺวาเรหิ ปาปาเนว กเรยฺย, ติฏฺนฺตุ ตโย เวทา, สหสฺสเวโทปิ สมาโน ตํ พาหุสจฺจํ ปฏิจฺจ อฏฺสมาปตฺติสงฺขาตํ จรณํ อปฺปตฺวา อปายทุกฺขโต น มุจฺเจยฺยาติ.

ตสฺส วจนํ สุตฺวา อุทฺทาลโก จินฺเตสิ ‘‘ราชา ยถา วา ตถา วา อิสิคณสฺส ปสีทิ, อยํ ปน พฺราหฺมโณ จรนฺตํ โคณํ ทณฺเฑน ปหรนฺโต วิย วฑฺฒิตภตฺเต กจวรํ ขิปนฺโต วิย กเถสิ, เตน สทฺธึ กเถสฺสามี’’ติ. โส เตน สทฺธึ กเถนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๖๔.

‘‘สหสฺสเวโทปิ น ตํ ปฏิจฺจ, ทุกฺขา ปมุจฺเจ จรณํ อปตฺวา;

มฺามิ เวทา อผลา ภวนฺติ, สสํยมํ จรณฺเว สจฺจ’’นฺติ.

ตตฺถ อผลาติ ตว วาเท เวทา จ เสสสิปฺปานิ จ อผลานิ อาปชฺชนฺติ, ตานิ กสฺมา อุคฺคณฺหนฺติ, สีลสํยเมน สทฺธึ จรณฺเว เอกํ สจฺจํ อาปชฺชตีติ.

ตโต ปุโรหิโต จตุตฺถํ คาถมาห –

๖๕.

‘‘น เหว เวทา อผลา ภวนฺติ, สสํยมํ จรณฺเว สจฺจํ;

กิตฺติฺหิ ปปฺโปติ อธิจฺจ เวเท, สนฺตึ ปุณาติ จรเณน ทนฺโต’’ติ.

ตตฺถ น เหวาติ นาหํ ‘‘เวทา อผลา’’ติ วทามิ, อปิจ โข ปน สสํยมํ จรณํ สจฺจเมว สภาวภูตํ อุตฺตมํ. เตน หิ สกฺกา ทุกฺขา มุจฺจิตุํ. สนฺตึ ปุณาตีติ สมาปตฺติสงฺขาเตน จรเณน ทนฺโต ภยสนฺติกรํ นิพฺพานํ ปาปุณาตีติ.

ตํ สุตฺวา อุทฺทาลโก ‘‘น สกฺกา อิมินา สทฺธึ ปฏิปกฺขวเสน าตุํ, ‘ปุตฺโต ตวาห’นฺติ วุตฺเต สิเนหํ อกโรนฺโต นาม นตฺถิ, ปุตฺตภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปฺจมํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘ภจฺจา มาตา ปิตา พนฺธู, เยน ชาโต สเยว โส;

อุทฺทาลโก อหํ โภโต, โสตฺติยากุลวํสโก’’ติ.

ตตฺถ ภจฺจาติ มาตา จ ปิตา จ เสสพนฺธู จ ภริตพฺพา นาม. เยน ปน ชาโต, โสเยว โส โหติ. อตฺตาเยว หิ อตฺตโน ชายติ, อหฺจ ตยาว อุทฺทาลกรุกฺขมูเล ชนิโต, ตยา วุตฺตเมว นามํ กตํ, อุทฺทาลโก อหํ โภติ.

โส ‘‘เอกํเสน ตฺวํ อุทฺทาลโกสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อามา’’ติ วตฺวา ‘‘มยา เต มาตุ สฺาณํ ทินฺนํ, ตํ กุหิ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อิทํ พฺราหฺมณา’’ติ มุทฺทิกํ ตสฺส หตฺเถ เปสิ. พฺราหฺมโณ มุทฺทิกํ สฺชานิตฺวา นิจฺฉเยน ‘‘ตฺวํ พฺราหฺมณธมฺมํ ปชานาสี’’ติ วตฺวา พฺราหฺมณธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ฉฏฺํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘กถํ โภ พฺราหฺมโณ โหติ, กถํ ภวติ เกวลี;

กถฺจ ปรินิพฺพานํ, ธมฺมฏฺโ กินฺติ วุจฺจตี’’ติ.

อุทฺทาลโกปิ ตสฺส อาจิกฺขนฺโต สตฺตมํ คาถมาห –

๖๘.

‘‘นิรํกตฺวา อคฺคิมาทาย พฺราหฺมโณ, อาโป สิฺจํ ยชํ อุสฺเสติ ยูปํ;

เอวํกโร พฺราหฺมโณ โหติ เขมี, ธมฺเม ิตํ เตน อมาปยึสู’’ติ.

ตตฺถ นิรํกตฺวา อคฺคิมาทายาติ นิรนฺตรํ กตฺวา อคฺคึ คเหตฺวา ปริจรติ. อาโป สิฺจํ ยชํ อุสฺเสติ ยูปนฺติ อภิเสจนกกมฺมํ กโรนฺโต สมฺมาปาสํ วา วาชเปยฺยํ วา นิรคฺคฬํ วา ยชนฺโต สุวณฺณยูปํ อุสฺสาเปติ. เขมีติ เขมปฺปตฺโต. อมาปยึสูติ เตเนว จ การเณน ธมฺเม ิตํ กถยึสุ.

ตํ สุตฺวา ปุโรหิโต เตน กถิตํ พฺราหฺมณธมฺมํ ครหนฺโต อฏฺมํ คาถมาห –

๖๙.

‘‘น สุทฺธิ เสจเนนตฺถิ, นาปิ เกวลี พฺราหฺมโณ;

น ขนฺตี นาปิ โสรจฺจํ, นาปิ โส ปรินิพฺพุโต’’ติ.

ตตฺถ เสจเนนาติ เตน วุตฺเตสุ พฺราหฺมณธมฺเมสุ เอกํ ทสฺเสตฺวา สพฺพํ ปฏิกฺขิปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อคฺคิปริจรเณน วา อุทกเสจเนน วา ปสุฆาตยฺเน วา สุทฺธิ นาม นตฺถิ, นาปิ เอตฺตเกน พฺราหฺมโณ เกวลปริปุณฺโณ โหติ, น อธิวาสนขนฺติ, น สีลโสรจฺจํ, นาปิ กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโต นาม โหตี’’ติ.

ตโต นํ อุทฺทาลโก ‘‘ยทิ เอวํ พฺราหฺมโณ น โหติ, อถ กถํ โหตี’’ติ ปุจฺฉนฺโต นวมํ คาถมาห –

๗๐.

‘‘กถํ โส พฺราหฺมโณ โหติ, กถํ ภวติ เกวลี;

กถฺจ ปรินิพฺพานํ, ธมฺมฏฺโ กินฺติ วุจฺจตี’’ติ.

ปุโรหิโตปิสฺส กเถนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๗๑.

‘‘อเขตฺตพนฺธู อมโม นิราโส, นิลฺโลภปาโป ภวโลภขีโณ;

เอวํกโร พฺราหฺมโณ โหติ เขมี, ธมฺเม ิตํ เตน อมาปยึสู’’ติ.

ตตฺถ อเขตฺตพนฺธูติ อกฺเขตฺโต อพนฺธุ, เขตฺตวตฺถุคามนิคมปริคฺคเหน เจว าติพนฺธวโคตฺตพนฺธวมิตฺตพนฺธวสหายพนฺธวสิปฺปพนฺธวปริคฺคเหน จ รหิโต. อมโมติ สตฺตสงฺขาเรสุ ตณฺหาทิฏฺิมมายนรหิโต. นิราโสติ ลาภธนปุตฺตชีวิตาสาย รหิโต. นิลฺโลภปาโปติ ปาปโลภวิสมโลเภน รหิโต. ภวโลภขีโณติ ขีณภวราโค.

ตโต อุทฺทาลโก คาถมาห –

๗๒.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา;

สพฺเพสํ สีติภูตานํ, อตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย’’ติ.

ตตฺถ อตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโยติ เอเต ขตฺติยาทโย สพฺเพปิ โสรจฺจาทีหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ, เอวํ ภูตานํ ปน เตสํ อยํ เสยฺโย, อยํ ปาปิโยติ เอวํ หีนุกฺกฏฺตา อตฺถิ, นตฺถีติ ปุจฺฉติ.

อถสฺส ‘‘อรหตฺตุปฺปตฺติโต ปฏฺาย หีนุกฺกฏฺตา นาม นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุํ พฺราหฺมโณ คาถมาห –

๗๓.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา;

สพฺเพสํ สีติภูตานํ, นตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย’’ติ.

อถ นํ ครหนฺโต อุทฺทาลโก คาถาทฺวยมาห –

๗๔.

‘‘ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา, สุทฺทา จณฺฑาลปุกฺกุสา;

สพฺเพว โสรตา ทนฺตา, สพฺเพว ปรินิพฺพุตา.

๗๕.

‘‘สพฺเพสํ สีติภูตานํ, นตฺถิ เสยฺโยถ ปาปิโย;

ปนฏฺํ จรสิ พฺรหฺมฺํ, โสตฺติยากุลวํสต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทิ เอเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคตานํ วิเสโส นตฺถิ, เอโก วณฺโณว โหติ, เอวํ สนฺเต ตฺวํ อุภโต สุชาตภาวํ นาเสนฺโต ปนฏฺํ จรสิ พฺรหฺมฺํ, จณฺฑาลสโม โหสิ, โสตฺติยกุลวํสตํ นาเสสีติ.

อถ นํ ปุโรหิโต อุปมาย สฺาเปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๗๖.

‘‘นานารตฺเตหิ วตฺเถหิ, วิมานํ ภวติ ฉาทิตํ;

น เตสํ ฉายา วตฺถานํ, โส ราโค อนุปชฺชถ.

๗๗.

‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, ยทา สุชฺฌนฺติ มาณวา;

เต สชาตึ ปมุฺจนฺติ, ธมฺมมฺาย สุพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ วิมานนฺติ เคหํ วา มณฺฑปํ วา. ฉายาติ เตสํ วตฺถานํ ฉายา โส นานาวิโธ ราโค น อุเปติ, สพฺพา ฉายา เอกวณฺณาว โหนฺติ. เอวเมวาติ มนุสฺเสสุปิ เอวเมว เอกจฺเจ อฺาณพฺราหฺมณา อการเณเนว จาตุวณฺเณ สุทฺธึ ปฺาเปนฺติ, เอสา อตฺถีติ มา คณฺหิ. ยทา อริยมคฺเคน มาณวา สุชฺฌนฺติ, ตทา เตหิ ปฏิวิทฺธํ นิพฺพานธมฺมํ ชานิตฺวา สุพฺพตา สีลวนฺตา ปณฺฑิตปุริสา เต สชาตึ มุฺจนฺติ. นิพฺพานปฺปตฺติโต ปฏฺาย หิ ชาติ นาม นิรตฺถกาติ.

อุทฺทาลโก ปน ปจฺจาหริตุํ อสกฺโกนฺโต อปฺปฏิภาโนว นิสีทิ. อถ พฺราหฺมโณ ราชานํ อาห – ‘‘สพฺเพ เอเต, มหาราช, กุหกา สกลชมฺพุทีเป โกหฺเเนว นาเสนฺติ, อุทฺทาลกํ อุปฺปพฺพาเชตฺวา อุปปุโรหิตํ กโรถ, เสเส อุปฺปพฺพาเชตฺวา ผลกาวุธานิ ทตฺวา เสวเก กโรถา’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริยา’’ติ ราชา ตถา กาเรสิ. เต ราชานํ อุปฏฺหนฺตาว ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส กุหโกเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อุทฺทาลโก กุหกภิกฺขุ อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปุโรหิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

อุทฺทาลกชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๔๘๘] ๕. ภิสชาตกวณฺณนา

อสฺสํควํ รชตํ ชาตรูปนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ ปน กุสชาตเก (ชา. ๒.๒๐.๑ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ ปฏิจฺจา’’ติ วตฺวา ‘‘กิเลสํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ เอวรูเป นิยฺยานิกสาสเน ปพฺพชิตฺวา กสฺมา กิเลสํ ปฏิจฺจ อุกฺกณฺิโตสิ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ พาหิรกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วตฺถุกามกิเลสกาเม อารพฺภ อุปฺปชฺชนกสฺํ สปถํ กตฺวา วิหรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อสีติโกฏิวิภวสฺส พฺราหฺมณมหาสาลกุลสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘มหากฺจนกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อถสฺส ปทสา วิจรณกาเล อปโรปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘อุปกฺจนกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เอวํ ปฏิปาฏิยา สตฺต ปุตฺตา อเหสุํ. สพฺพกนิฏฺา ปเนกา ธีตา, ตสฺสา ‘‘กฺจนเทวี’’ติ นามํ กรึสุ. มหากฺจนกุมาโร วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลโต สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉิ. อถ นํ มาตาปิตโร ฆราวาเสน พนฺธิตุกามา ‘‘อตฺตนา สมานชาติยกุลโต เต ทาริกํ อาเนสฺสาม, ฆราวาสํ สณฺเปหี’’ติ วทึสุ. ‘‘อมฺมตาตา, น มยฺหํ ฆราวาเสนตฺโถ, มยฺหฺหิ ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย สปฺปฏิภยา, พนฺธนาคารํ วิย ปลิพุทฺธา, อุกฺการภูมิ วิย เชคุจฺฉา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, มยา สุปิเนนปิ เมถุนธมฺโม น ทิฏฺปุพฺโพ, อฺเ โว ปุตฺตา อตฺถิ, เต ฆราวาเสน นิมนฺเตถา’’ติ วตฺวา ปุนปฺปุนํ ยาจิโตปิ สหาเย เปเสตฺวา เตหิ ยาจิโตปิ น อิจฺฉิ.

อถ นํ สหายา ‘‘สมฺม, กึ ปน ตฺวํ ปตฺเถนฺโต กาเม ปริภุฺชิตุํ น อิจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส เตสํ เนกฺขมฺมชฺฌาสยตํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา มาตาปิตโร เสสปุตฺเต นิมนฺเตสุํ, เตปิ น อิจฺฉึสุ. กฺจนเทวีปิ น อิจฺฉิเยว. อปรภาเค มาตาปิตโร กาลมกํสุ. มหากฺจนปณฺฑิโต มาตาปิตูนํ กตฺตพฺพกิจฺจํ กตฺวา อสีติโกฏิธเนน กปณทฺธิกานํ มหาทานํ ทตฺวา ฉ ภาตโร ภคินึ เอกํ ทาสํ เอกํ ทาสึ เอกํ สหายกฺจ อาทาย มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสิ. เต ตตฺถ เอกํ ปทุมสรํ นิสฺสาย รมณีเย ภูมิภาเค อสฺสมํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาเรหิ ยาปยึสุ. เต อรฺํ คจฺฉนฺตา เอกโตว คนฺตฺวา ยตฺถ เอโก ผลํ วา ปตฺตํ วา ปสฺสติ, ตตฺถ อิตเรปิ ปกฺโกสิตฺวา ทิฏฺสุตาทีนิ กเถนฺตา อุจฺจินนฺติ, คามสฺส กมฺมนฺตฏฺานํ วิย โหติ. อถ อาจริโย มหากฺจนตาปโส จินฺเตสิ ‘‘อมฺหากํ อสีติโกฏิธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ปพฺพชิตานํ เอวํ โลลุปฺปจารวเสน ผลาผลตฺถาย วิจรณํ นาม อปฺปติรูปํ, อิโต ปฏฺาย อหเมว ผลาผลํ อาหริสฺสามี’’ติ. โส อสฺสมํ ปตฺวา สพฺเพปิ เต สายนฺหสมเย สนฺนิปาเตตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตุมฺเห อิเธว สมณธมฺมํ กโรนฺตา อจฺฉถ, อหํ ผลาผลํ อาหริสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ อุปกฺจนาทโย ‘‘มยํ อาจริย, ตุมฺเห นิสฺสาย ปพฺพชิตา, ตุมฺเห อิเธว สมณธมฺมํ กโรถ, ภคินีปิ โน อิเธว โหตุ, ทาสีปิ ตสฺสา สนฺติเก อจฺฉตุ, มยํ อฏฺ ชนา วาเรน ผลาผลํ อาหริสฺสาม, ตุมฺเห ปน ตโย วารมุตฺตาว โหถา’’ติ วตฺวา ปฏิฺํ คณฺหึสุ.

ตโต ปฏฺาย อฏฺสุปิ ชเนสุ เอเกโก วาเรเนว ผลาผลํ อาหรติ. เสสา อตฺตโน อตฺตโน ปณฺณสาลายเมว โหนฺติ, อการเณน เอกโต ภวิตุํ น ลภนฺติ. วารปฺปตฺโต ผลาผลํ อาหริตฺวา เอโก มาฬโก อตฺถิ, ตตฺถ ปาสาณผลเก เอกาทส โกฏฺาเส กตฺวา ฆณฺฑิสฺํ กตฺวา อตฺตโน โกฏฺาสํ อาทาย วสนฏฺานํ ปวิสติ. เสสา ฆณฺฑิสฺาย นิกฺขมิตฺวา โลลุปฺปํ อกตฺวา คารวปริหาเรน คนฺตฺวา อตฺตโน ปาปุณนโกฏฺาสํ อาทาย วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ปริภุฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. เต อปรภาเค ภิสานิ อาหริตฺวา ขาทนฺตา ตตฺตตปา โฆรตปา ปรมาชิตินฺทฺริยา กสิณปริกมฺมํ กโรนฺตา วิหรึสุ. อถ เตสํ สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโกปิ อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘กามาธิมุตฺตา นุ โข อิเม อิสโย , โน’’ติ อาสงฺกํ กโรติเยว. โส ‘‘อิเม ตาว อิสโย ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน มหาสตฺตสฺส โกฏฺาสํ ตโย ทิวเส อนฺตรธาเปสิ. โส ปมทิวเส โกฏฺาสํ อทิสฺวา ‘‘มม โกฏฺาสํ ปมุฏฺโ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสิ, ทุติยทิวเส ‘‘มม โทเสน ภวิตพฺพํ, ปณามนวเสน มม โกฏฺาสํ น เปสิ มฺเ’’ติ จินฺเตสิ, ตติยทิวเส ‘‘เกน นุ โข การเณน มยฺหํ โกฏฺาสํ น เปนฺติ, สเจ เม โทโส อตฺถิ, ขมาเปสฺสามี’’ติ สายนฺหสมเย ฆณฺฑิสฺํ อทาสิ.

สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ‘‘เกน ฆณฺฑิสฺา ทินฺนา’’ติ อาหํสุ. ‘‘มยา ตาตา’’ติ. ‘‘กึการณา อาจริยา’’ติ? ‘‘ตาตา ตติยทิวเส เกน ผลาผลํ อาภต’’นฺติ? เตสุ เอโก อุฏฺาย ‘‘มยา อาจริยา’’ติ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาเส กโรนฺเตน เต มยฺหํ โกฏฺาโส กโตติ. ‘‘อาม, อาจริย, เชฏฺกโกฏฺาโส เม กโต’’ติ. ‘‘หิยฺโย เกนาภต’’นฺติ? ‘‘มยา’’ติ อปโร อุฏฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ อนุสฺสรีติ. ‘‘ตุมฺหากํ เม เชฏฺกโกฏฺาโส ปิโต’’ติ. ‘‘อชฺช เกนาภต’’นฺติ. ‘‘มยา’’ติ อปโร อุฏฺาย วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ อนุสฺสรีติ. ‘‘ตุมฺหากํ เม เชฏฺกโกฏฺาโส กโต’’ติ. ‘‘ตาตา, อชฺช มยฺหํ โกฏฺาสํ อลภนฺตสฺส ตติโย ทิวโส, ปมทิวเส โกฏฺาสํ อทิสฺวา ‘โกฏฺาสํ กโรนฺโต มํ ปมุฏฺโ ภวิสฺสตี’ติ จินฺเตสึ, ทุติยทิวเส ‘‘มม โกจิ โทโส ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตสึ, อชฺช ปน ‘‘สเจ เม โทโส อตฺถิ, ขมาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ฆณฺฑิสฺาย ตุมฺเห สนฺนิปาเตสึ. เอเต ภิสโกฏฺาเส ตุมฺเห ‘‘กริมฺหา’’ติ วทถ, อหํ น ลภามิ, เอเตสํ เถเนตฺวา ขาทกํ าตุํ วฏฺฏติ, กาเม ปหาย ปพฺพชิตานํ ภิสมตฺตํ เถนนํ นาม อปฺปติรูปนฺติ. เต ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อโห สาหสิกกมฺม’’นฺติ สพฺเพว อุพฺเพคปฺปตฺตา อเหสุํ.

ตสฺมึ อสฺสมปเท วนเชฏฺกรุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตาปิ โอตริตฺวา อาคนฺตฺวา เตสํเยว สนฺติเก นิสีทิ. อาเนฺชกรณํ การิยมาโน ทุกฺขํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อาฬานํ ภินฺทิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิฏฺโ เอโก วารโณ กาเลน กาลํ อิสิคณํ วนฺทติ, โสปิ อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. สปฺปกีฬาปนโก เอโก วานโร อหิตุณฺฑิกสฺส หตฺถโต มุจฺจิตฺวา ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺเถว อสฺสเม วสติ. โสปิ ตํ ทิวสํ อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. สกฺโก ‘‘อิสิคณํ ปริคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ เตสํ สนฺติเก อทิสฺสมานกาโย อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณว โพธิสตฺตสฺส กนิฏฺโ อุปกฺจนตาปโส อุฏฺายาสนา โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา เสสานํ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา ‘‘อาจริย, อหํ อฺเ อปฏฺเปตฺวา อตฺตานฺเว โสเธตุํ ลภามี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, ลภสี’’ติ. โส อิสิคณมชฺเฌ ตฺวา ‘‘สเจ เต มยา ภิสานิ ขาทิตานิ, เอวรูโป นาม โหตู’’ติ สปถํ กโรนฺโต ปมํ คาถมาห –

๗๘.

‘‘อสฺสํ ควํ รชตํ ชาตรูปํ, ภริยฺจ โส อิธ ลภตํ มนาปํ;

ปุตฺเตหิ ทาเรหิ สมงฺคิ โหตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘อสฺสํ คว’’นฺติ อิทํ ‘‘โส ‘ยตฺตกานิ ปิยวตฺถูนิ โหนฺติ, เตหิ วิปฺปโยเค ตตฺตกานิ โสกทุกฺขานิ อุปฺปชฺชนฺตี’ติ วตฺถุกาเม ครหนฺโต อภาสี’’ติ เวทิตพฺพํ.

ตํ สุตฺวา อิสิคโณ ‘‘มาริส, มา เอวํ กเถถ, อติภาริโย เต สปโถ’’ติ กณฺเณ ปิทหิ. โพธิสตฺโตปิ นํ ‘‘ตาต, อติภาริโย เต สปโถ, น ตฺวํ ขาทสิ, ตว ปตฺตาสเน นิสีทา’’ติ อาห. ตสฺมึ ปมํ สปถํ กตฺวา นิสินฺเน ทุติโยปิ ภาตา สหสา อุฏฺาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา สปเถน อตฺตานํ โสเธนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๗๙.

‘‘มาลฺจ โส กาสิกจนฺทนฺจ, ธาเรตุ ปุตฺตสฺส พหู ภวนฺตุ;

กาเมสุ ติพฺพํ กุรุตํ อเปกฺขํ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ติพฺพนฺติ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ พหลํ อเปกฺขํ กโรตูติ. อิทํ โส ‘‘ยสฺเสเตสุ ติพฺพา อเปกฺขา โหนฺติ, โส เตหิ วิปฺปโยเค มหนฺตํ ทุกฺขํ ปาปุณาตี’’ติ ทุกฺขปฏิกฺเขปวเสเนว อาห.

ตสฺมึ นิสินฺเน เสสาปิ อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ตํ ตํ คาถํ อภาสึสุ –

๘๐.

‘‘ปหูตธฺโ กสิมา ยสสฺสี, ปุตฺเต คิหี ธนิมา สพฺพกาเม;

วยํ อปสฺสํ ฆรมาวสาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๑.

‘‘โส ขตฺติโย โหตุ ปสยฺหการี, ราชาภิราชา พลวา ยสสฺสี;

ส จาตุรนฺตํ มหิมาวสาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๒.

‘‘โส พฺราหฺมโณ โหตุ อวีตราโค, มุหุตฺตนกฺขตฺตปเถสุ ยุตฺโต;

ปูเชตุ นํ รฏฺปตี ยสสฺสี, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๓.

‘‘อชฺฌายกํ สพฺพสมนฺตเวทํ, ตปสฺสินํ มฺตุ สพฺพโลโก;

ปูเชนฺตุ นํ ชานปทา สเมจฺจ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๔.

‘‘จตุสฺสทํ คามวรํ สมิทฺธํ, ทินฺนฺหิ โส ภุฺชตุ วาสเวน;

อวีตราโค มรณํ อุเปตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๕.

‘‘โส คามณี โหตุ สหายมชฺเฌ, นจฺเจหิ คีเตหิ ปโมทมาโน;

โส ราชโต พฺยสน มาลตฺถ กิฺจิ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๖.

‘‘ยํ เอกราชา ปถวึ วิเชตฺวา, อิตฺถีสหสฺสาน เปตุ อคฺคํ;

สีมนฺตินีนํ ปวรา ภวาตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ ยา อหาสิ.

๘๗.

‘‘อิสีนฺหิ สา สพฺพสมาคตานํ, ภุฺเชยฺย สาทุํ อวิกมฺปมานา;

จราตุ ลาเภน วิกตฺถมานา, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ ยา อหาสิ.

๘๘.

‘‘อาวาสิโก โหตุ มหาวิหาเร, นวกมฺมิโก โหตุ คชงฺคลายํ;

อาโลกสนฺธึ ทิวสํ กโรตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๘๙.

‘‘โส พชฺฌตู ปาสสเตหิ ฉพฺภิ, รมฺมา วนา นิยฺยตุ ราชธานึ;

ตุตฺเตหิ โส หฺตุ ปาจเนหิ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสิ.

๙๐.

‘‘อลกฺกมาลี ติปุกณฺณวิทฺโธ, ลฏฺีหโต สปฺปมุขํ อุเปตุ;

สกจฺฉพนฺโธ วิสิขํ จราตุ, ภิสานิ เต พฺราหฺมณ โย อหาสี’’ติ.

ตตฺถ ตติเยน วุตฺตคาถาย กสิมาติ สมฺปนฺนกสิกมฺโม. ปุตฺเต คิหี ธนิมา สพฺพกาเมติ ปุตฺเต ลภตุ, คิหี โหตุ, สตฺตวิเธน รตนธเนน ธนิมา โหตุ, รูปาทิเภเท สพฺพกาเม ลภตุ. วยํ อปสฺสนฺติ มหลฺลกกาเล ปพฺพชฺชานุรูปมฺปิ อตฺตโน วยํ อปสฺสนฺโต ปฺจกามคุณสมิทฺธํ ฆรเมว อาวสตูติ. อิทํ โส ‘‘ปฺจกามคุณคิทฺโธ กามคุณวิปฺปโยเคน มหาวินาสํ ปาปุณาตี’’ติ ทสฺเสตุํ กเถสิ.

จตุตฺเถน วุตฺตคาถาย ราชาภิราชาติ ราชูนํ อนฺตเร อภิราชาติ. อิทํ โส ‘‘อิสฺสรานํ นาม อิสฺสริเย ปริคลิเต มหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตี’’ติ รชฺเช โทสํ ทสฺเสนฺโต กเถสิ. ปฺจเมน วุตฺตคาถาย อวีตราโคติ ปุโรหิตฏฺานตณฺหาย สตณฺโหติ. อิทํ โส ‘‘ปุโรหิตสฺส ปุโรหิตฏฺาเน ปริคลิเต มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ทสฺเสตุํ กเถสิ. ฉฏฺเน วุตฺตคาถาย ตปสฺสินนฺติ ตปสีลสมฺปนฺโนติ ตํ มฺตุ. อิทํ โส ‘‘ลาภสกฺการาปคเมน มหนฺตํ โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ลาภสกฺการครหวเสน กเถสิ.

สหายตาปเสน วุตฺตคาถาย จตุสฺสทนฺติ อากิณฺณมนุสฺสตาย มนุสฺเสหิ, ปหูตธฺตาย ธฺเน, สุลภทารุตาย ทารูหิ, สมฺปนฺโนทกตาย อุทเกนาติ จตูหิ อุสฺสนฺนํ, จตุสฺสทสมนฺนาคตนฺติ อตฺโถ. วาสเวนาติ วาสเวน ทินฺนํ วิย อจลํ, วาสวโต ลทฺธวรานุภาเวน เอกํ ราชานํ อาราเธตฺวา เตน ทินฺนนฺติปิ อตฺโถ. อวีตราโคติ กทฺทเม สูกโร วิย กามปงฺเก นิมุคฺโคว หุตฺวา. อิติ โสปิ กามานํ อาทีนวํ กเถนฺโต เอวมาห.

ทาเสน วุตฺตคาถาย คามณีติ คามเชฏฺโก. อยมฺปิ กาเม ครหนฺโตเยว เอวมาห. กฺจนเทวิยา วุตฺตคาถาย นฺติ ยํ อิตฺถินฺติ อตฺโถ. เอกราชาติ อคฺคราชา. อิตฺถิสหสฺสานนฺติ วจนมฏฺตาย วุตฺตํ, โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ อคฺคฏฺาเน เปตูติ อตฺโถ. สีมนฺตินีนนฺติ สีมนฺตธรานํ อิตฺถีนนฺติ อตฺโถ. อิติ สา อิตฺถิภาเว ตฺวาปิ ทุคฺคนฺธคูถราสึ วิย กาเม ครหนฺตีเยว เอวมาห. ทาสิยา วุตฺตคาถาย สพฺพสมาคตานนฺติ สพฺเพสํ สนฺนิปติตานํ มชฺเฌ นิสีทิตฺวา อวิกมฺปมานา อโนสกฺกมานา สาทุรสํ ภุฺชตูติ อตฺโถ. ทาสีนํ กิร สามิกสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา ภุฺชนํ นาม อปฺปิยํ. อิติ สา อตฺตโน อปฺปิยตาย เอวมาห. จราตูติ จรตุ. ลาเภน วิกตฺถมานาติ ลาภเหตุ กุหนกมฺมํ กโรนฺตี ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทนฺตี จรตูติ อตฺโถ. อิมินา สา ทาสิภาเว ิตาปิ กิเลสกามวตฺถุกาเม ครหติ.

เทวตาย วุตฺตคาถาย อาวาสิโกติ อาวาสชคฺคนโก. คชงฺคลายนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตตฺถ กิร ทพฺพสมฺภารา สุลภา. อาโลกสนฺธึ ทิวสนฺติ เอกทิวเสเนว วาตปานํ กโรตุ. โส กิร เทวปุตฺโต กสฺสปพุทฺธกาเล คชงฺคลนครํ นิสฺสาย โยชนิเก ชิณฺณมหาวิหาเร อาวาสิกสงฺฆตฺเถโร หุตฺวา ชิณฺณวิหาเร นวกมฺมํ กโรนฺโตเยว มหาทุกฺขํ อนุภวิ. ตสฺมา ตเทว ทุกฺขํ อารพฺภ เอวมาห. หตฺถินา วุตฺตคาถาย ปาสสเตหีติ พหูหิ ปาเสหิ. ฉพฺภีติ จตูสุ ปาเทสุ คีวาย กฏิภาเค จาติ ฉสุ าเนสุ. ตุตฺเตหีติ ทฺวิกณฺฑกาหิ ทีฆลฏฺีหิ. ปาจเนหีติ ทสปาจเนหิ องฺกุเสหิ วา. โส กิร อตฺตโน อนุภูตทุกฺขฺเว อารพฺภ เอวมาห.

วานเรน วุตฺตคาถาย อลกฺกมาลีติ อหิตุณฺฑิเกน กณฺเ ปริกฺขิปิตฺวา ปิตาย อลกฺกมาลาย สมนฺนาคโต. ติปุกณฺณวิทฺโธติ ติปุปิฬนฺธเนน ปิฬนฺธกณฺโณ. ลฏฺีหโตติ สปฺปกีฬํ สิกฺขาปยมาโน ลฏฺิยา หโต หุตฺวา. เอโสปิ อหิตุณฺฑิกสฺส หตฺเถ อตฺตโน อนุภูตทุกฺขเมว สนฺธาย เอวมาห.

เอวํ เตหิ เตรสหิ ชเนหิ สปเถ กเต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘กทาจิ อิเม ‘อยํ อนฏฺเมว นฏฺนฺติ กเถตี’ติ มยิ อาสงฺกํ กเรยฺยุํ, อหมฺปิ สปถํ กโรมี’’ติ. อถ นํ กโรนฺโต จุทฺทสมํ คาถมาห –

๙๑.

‘‘โย เว อนฏฺํว นฏฺนฺติ จาห, กาเมว โส ลภตํ ภุฺชตฺจ;

อคารมชฺเฌ มรณํ อุเปตุ, โย วา โภนฺโต สงฺกติ กฺจิเทวา’’ติ.

ตตฺถ โภนฺโตติ อาลปนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภวนฺโต โย อนฏฺเ โกฏฺาเส ‘‘นฏฺํ เม’’ติ วทติ, โย วา ตุมฺเหสุ กฺจิ อาสงฺกติ, โส ปฺจ กามคุเณ ลภตุ เจว ภุฺชตุ จ, รมณียเมว ปพฺพชฺชํ อลภิตฺวา อคารมชฺเฌเยว มรตูติ.

เอวํ อิสีหิ สปเถ กเต สกฺโก ภายิตฺวา ‘‘อหํ อิเม วีมํสนฺโต ภิสานิ อนฺตรธาเปสึ. อิเม จ ฉฑฺฑิตเขฬปิณฺฑํ วิย กาเม ครหนฺตา สปถํ กโรนฺติ, กาเม ครหการณํ เต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิสฺสมานรูโป โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘ยเทสมานา วิจรนฺติ โลเก, อิฏฺฺจ กนฺตฺจ พหูนเมตํ;

ปิยํ มนุฺํ จิธ ชีวโลเก, กสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเม’’ติ.

ตตฺถ ยเทสมานาติ ยํ วตฺถุกามํ กิเลสกามฺจ กสิโครกฺขาทีหิ สมวิสมกมฺเมหิ ปริเยสมานา สตฺตา โลเก วิจรนฺติ, เอตํ พหูนํ เทวมนุสฺสานํ อิฏฺฺจ กนฺตฺจ ปิยฺจ มนุฺฺจ, กสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเมติ อตฺโถ. ‘‘กาเม’’ติ อิมินา ตํ วตฺถุํ สรูปโต ทสฺเสติ.

อถสฺส ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๙๓.

‘‘กาเมสุ เว หฺเร พชฺฌเร จ, กาเมสุ ทุกฺขฺจ ภยฺจ ชาตํ;

กาเมสุ ภูตาธิปตี ปมตฺตา, ปาปานิ กมฺมานิ กโรนฺติ โมหา.

๙๔.

‘‘เต ปาปธมฺมา ปสเวตฺว ปาปํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺติ;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, ตสฺมา อิสโย นปฺปสํสนฺติ กาเม’’ติ.

ตตฺถ กาเมสูติ กามเหตุ, กาเม นิสฺสาย กายทุจฺจริตาทีนิ กโรนฺตีติ อตฺโถ. หฺเรติ ทณฺฑาทีหิ หฺนฺติ. พชฺฌเรติ รชฺชุพนฺธนาทีหิ พชฺฌนฺติ. ทุกฺขนฺติ กายิกเจตสิกํ อสาตํ ทุกฺขํ. ภยนฺติ อตฺตานุวาทาทิกํ สพฺพมฺปิ ภยํ. ภูตาธิปตีติ สกฺกํ อาลปติ. อาทีนวนฺติ เอวรูปํ โทสํ. โส ปเนส อาทีนโว ทุกฺขกฺขนฺธาทีหิ สุตฺเตหิ (ม. นิ. ๑.๑๖๓-๑๘๐) ทีเปตพฺโพ.

สกฺโก มหาสตฺตสฺส กถํ สุตฺวา สํวิคฺคมานโส อนนฺตรํ คาถมาห –

๙๕.

‘‘วีมํสมาโน อิสิโน ภิสานิ, ตีเร คเหตฺวาน ถเล นิเธสึ;

สุทฺธา อปาปา อิสโย วสนฺติ, เอตานิ เต พฺรหฺมจารี ภิสานี’’ติ.

ตตฺถ วิมํสมาโนติ ภนฺเต, อหํ ‘‘อิเม อิสโย กามาธิมุตฺตา วา, โน วา’’ติ วีมํสนฺโต. อิสิโนติ ตว มเหสิโน สนฺตกานิ ภิสานิ. ตีเร คเหตฺวานาติ ตีเร นิกฺขิตฺตานิ คเหตฺวา ถเล เอกมนฺเต นิเธสึ. สุทฺธาติ อิทานิ มยา ตุมฺหากํ สปถกิริยาย าตํ ‘‘อิเม อิสโย สุทฺธา อปาปา หุตฺวา วสนฺตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต คาถมาห –

๙๖.

‘‘น เต นฏา โน ปน กีฬเนยฺยา, น พนฺธวา โน ปน เต สหายา;

กิสฺมึ วุปตฺถมฺภ สหสฺสเนตฺต, อิสีหิ ตฺวํ กีฬสิ เทวราชา’’ติ.

ตตฺถ น เต นฏา โนติ เทวราช, มยํ ตว นฏา วา กีฬิตพฺพยุตฺตกา วา เกจิ น โหม, นาปิ ตว าตกา, น สหายา, อถ ตฺวํ กึ วา อุปตฺถมฺภํ กตฺวา กึ นิสฺสาย อิสีหิ สทฺธึ กีฬสีติ อตฺโถ.

อถ นํ สกฺโก ขมาเปนฺโต วีสติมํ คาถมาห –

๙๗.

‘‘อาจริโย เมสิ ปิตา จ มยฺหํ, เอสา ปติฏฺา ขลิตสฺส พฺรหฺเม;

เอกาปราธํ ขม ภูริปฺ, น ปณฺฑิตา โกธพลา ภวนฺตี’’ติ.

ตตฺถ เอสา ปติฏฺาติ เอสา ตว ปาทจฺฉายา อชฺช มม ขลิตสฺส อปรทฺธสฺส ปติฏฺา โหตุ. โกธพลาติ ปณฺฑิตา นาม ขนฺติพลา ภวนฺติ, น โกธพลาติ.

อถ มหาสตฺโต สกฺกสฺส เทวรฺโ ขมิตฺวา สยํ อิสิคณํ ขมาเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๙๘.

‘‘สุวาสิตํ อิสินํ เอกรตฺตํ, ยํ วาสวํ ภูตปติทฺทสาม;

สพฺเพว โภนฺโต สุมนา ภวนฺตุ, ยํ พฺราหฺมโณ ปจฺจุปาที ภิสานี’’ติ.

ตตฺถ สุวาสิตํ อิสินํ เอกรตฺตนฺติ อายสฺมนฺตานํ อิสีนํ เอกรตฺตมฺปิ อิมสฺมึ อรฺเ วสิตํ สุวสิตเมว. กึการณา? ยํ วาสวํ ภูตปตึ อทฺทสาม, สเจ หิ มยํ นคเร อวสิมฺห, อิมํ น อทฺทสาม. โภนฺโตติ ภวนฺโต สพฺเพปิ สุมนา ภวนฺตุ, ตุสฺสนฺตุ, สกฺกสฺส เทวรฺโ ขมนฺตุ. กึการณา? ยํ พฺราหฺมโณ ปจฺจุปาที ภิสานิ, ยสฺมา ตุมฺหากํ อาจริโย ภิสานิ ปฏิลภีติ.

สกฺโก อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. อิสิคโณปิ ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา สปถํ กตฺวา กิเลเส ปชหึสู’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ชาตกํ สโมธาเนนฺโต ปุน สตฺถา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๙๙.

‘‘อหฺจ สาริปุตฺโต จ, โมคฺคลฺลาโน จ กสฺสโป;

อนุรุทฺโธ ปุณฺโณ อานนฺโท, ตทาสุํ สตฺต ภาตโร.

๑๐๐.

‘‘ภคินี อุปฺปลวณฺณา จ, ทาสี ขุชฺชุตฺตรา ตทา;

จิตฺโต คหปติ ทาโส, ยกฺโข สาตาคิโร ตทา.

๑๐๑.

‘‘ปาลิเลยฺโย ตทา นาโค, มธุโท เสฏฺวานโร;

กาฬุทายี ตทา สกฺโก, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

ภิสชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

[๔๘๙] ๖. สุรุจิชาตกวณฺณนา

มเหสีสุรุจิโน ภริยาติ อิทํ สตฺถา สาวตฺถึ อุปนิสฺสาย มิคารมาตุปาสาเท วิหรนฺโต วิสาขาย มหาอุปาสิกาย ลทฺเธ อฏฺ วเร อารพฺภ กเถสิ. สา หิ เอกทิวสํ เชตวเน ธมฺมกถํ สุตฺวา ภควนฺตํ สทฺธึ ภิกฺขุสงฺเฆน สฺวาตนาย นิมนฺเตตฺวา ปกฺกามิ. ตสฺสา ปน รตฺติยา อจฺจเยน จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ ปาวสฺสิ . ภควา ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ยถา, ภิกฺขเว, เชตวเน วสฺสติ, เอวํ จตูสุ ทีเปสุ วสฺสติ, โอวสฺสาเปถ, ภิกฺขเว, กายํ, อยํ ปจฺฉิมโก จาตุทฺทีปิโก มหาเมโฆ’’ติ วตฺวา โอวสฺสาปิตกาเยหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิทฺธิพเลน เชตวเน อนฺตรหิโต วิสาขาย โกฏฺเก ปาตุรโหสิ. อุปาสิกา ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ, ตถาคตสฺส มหิทฺธิกตา มหานุภาวตา, ยตฺร หิ นาม ชาณุกมตฺเตสุปิ โอเฆสุ วตฺตมาเนสุ กฏิมตฺเตสุปิ โอเฆสุ วตฺตมาเนสุ น หิ นาม เอกภิกฺขุสฺสปิ ปาทา วา จีวรานิ วา อลฺลานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ หฏฺา อุทคฺคา พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปริวิสิตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ ภควนฺตํ เอตทโวจ ‘‘อฏฺาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ วรานิ ยาจามี’’ติ. ‘‘อติกฺกนฺตวรา โข, วิสาเข, ตถาคตา’’ติ. ‘‘ยานิ จ, ภนฺเต, กปฺปิยานิ ยานิ จ อนวชฺชานี’’ติ. ‘‘วเทหิ วิสาเข’’ติ. ‘‘อิจฺฉามหํ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ยาวชีวํ วสฺสิกสาฏิกํ ทาตุํ, อาคนฺตุกภตฺตํ ทาตุํ, คมิกภตฺตํ ทาตุํ, คิลานภตฺตํ ทาตุํ, คิลานุปฏฺากภตฺตํ ทาตุํ, คิลานเภสชฺชํ ทาตุํ, ธุวยาคุํ ทาตุํ, ภิกฺขุนิสงฺฆสฺส ยาวชีวํ อุทกสาฏิกํ ทาตุ’’นฺติ.

สตฺถา ‘‘กํ ปน ตฺวํ, วิสาเข, อตฺถวสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตาย วรานิสํเส กถิเต ‘‘สาธุ สาธุ, วิสาเข, สาธุ โข ตฺวํ, วิสาเข, อิมํ อานิสํสํ สมฺปสฺสมานา ตถาคตํ อฏฺ วรานิ ยาจสี’’ติ วตฺวา ‘‘อนุชานามิ เต, วิสาเข, อฏฺ วรานี’’ติ อฏฺ วเร ทตฺวา อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ. อเถกทิวสํ สตฺถริ ปุพฺพาราเม วิหรนฺเต ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, วิสาขา มหาอุปาสิกา มาตุคามตฺตภาเว ตฺวาปิ ทสพลสฺส สนฺติเก อฏฺ วเร ลภิ, อโห มหาคุณา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, วิสาขา อิทาเนว มม สนฺติกา วเร ลภติ, ปุพฺเพเปสา ลภิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต มิถิลายํ สุรุจิ นาม ราชา รชฺชํ กาเรนฺโต ปุตฺตํ ปฏิลภิตฺวา ตสฺส ‘‘สุรุจิกุมาโร’’ตฺเวว นามํ อกาสิ. โส วยปฺปตฺโต ‘‘ตกฺกสิลายํ สิปฺปํ อุคฺคณฺหิสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา นครทฺวาเร สาลายํ นิสีทิ. พาราณสิรฺโปิ ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นาม ตเถว คนฺตฺวา สุรุจิกุมารสฺส นิสินฺนผลเกเยว นิสีทิ. เต อฺมฺํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสาสิกา หุตฺวา เอกโตว อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาจริยภาคํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา น จิรสฺเสว นิฏฺิตสิปฺปา อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา โถกํ มคฺคํ เอกโตว คนฺตฺวา ทฺเวธาปเถ ิตา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา มิตฺตธมฺมานุรกฺขณตฺถํ กติกํ กรึสุ ‘‘สเจ มม ปุตฺโต ชายติ, ตว ธีตา, ตว ปุตฺโต, มม ธีตา, เตสํ อาวาหวิวาหํ กริสฺสามา’’ติ. เตสุ รชฺชํ กาเรนฺเตสุ สุรุจิมหาราชสฺส ปุตฺโต ชายิ, ‘‘สุรุจิกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. พฺรหฺมทตฺตสฺส ธีตา ชายิ, ‘‘สุเมธา’’ติสฺสา นามํ กรึสุ.

สุรุจิกุมาโร วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคจฺฉิ. อถ นํ ปิตา รชฺเช อภิสิฺจิตุกาโม หุตฺวา ‘‘สหายสฺส กิร เม พาราณสิรฺโ ธีตา อตฺถิ, ตเมวสฺส อคฺคมเหสึ กริสฺสามี’’ติ ตสฺสา อตฺถาย พหุํ ปณฺณาการํ ทตฺวา อมจฺเจ เปเสสิ. เตสํ อนาคตกาเลเยว พาราณสิราชา เทวึ ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, มาตุคามสฺส นาม กึ อติเรกทุกฺข’’นฺติ? ‘‘สปตฺติโรสทุกฺขํ เทวา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภทฺเท, อมฺหากํ เอกํ ธีตรํ สุเมธาเทวึ ตมฺหา ทุกฺขา โมเจตฺวา โย เอตํ เอกิกเมว คณฺหิสฺสติ, ตสฺส ทสฺสามา’’ติ อาห. โส เตหิ อมจฺเจหิ อาคนฺตฺวา ตสฺสา นาเม คหิเต ‘‘ตาตา, กามํ มยา ปุพฺเพ มยฺหํ สหายสฺส ปฏิฺา กตา, อิมํ ปน มยํ อิตฺถิฆฏาย อนฺตเร น ขิปิตุกามา, โย เอตํ เอกิกเมว คณฺหาติ, ตสฺส ทาตุกามมฺหา’’ติ อาห. เต รฺโ สนฺติกํ ปหิณึสุ. ราชา ปน ‘‘อมฺหากํ รชฺชํ มหนฺตํ, สตฺตโยชนิกํ มิถิลนครํ, ตีณิ โยชนสตานิ รฏฺปริจฺเฉโท, เหฏฺิมนฺเตน โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา น โรเจสิ.

สุรุจิกุมาโร ปน สุเมธาย รูปสมฺปทํ สุตฺวา สวนสํสคฺเคน พชฺฌิตฺวา ‘‘อหํ ตํ เอกิกเมว คณฺหิสฺสามิ, น มยฺหํ อิตฺถิฆฏาย อตฺโถ, ตเมว อาเนนฺตู’’ติ มาตาปิตูนํ เปเสสิ. เต ตสฺส มนํ อภินฺทิตฺวา พหุํ ธนํ เปเสตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ตํ อาเนตฺวา กุมารสฺส อคฺคมเหสึ กตฺวา เอกโตว อภิสิฺจึสุ. โส สุรุจิมหาราชา นาม หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ตาย สทฺธึ ปิยสํวาสํ วสิ. สา ปน ทส วสฺสสหสฺสานิ ตสฺส เคเห วสนฺตี เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภิ. อถ นาครา สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ อุปกฺโกสิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘รฺโ โทโส นตฺถิ, วํสานุปาลโก ปน โว ปุตฺโต น วิชฺชติ, ตุมฺหากํ เอกาว เทวี, ราชกุเล จ นาม เหฏฺิมนฺเตน โสฬสหิ อิตฺถิสหสฺเสหิ ภวิตพฺพํ, อิตฺถิฆฏํ คณฺห, เทว, อทฺธา ตาสุ ปุฺวตี ปุตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ วตฺวา ‘‘ตาตา, กึ กเถถ, ‘อหํ อฺํ น คณฺหิสฺสามี’ติ ปฏิฺํ ทตฺวา มยา เอสา อานีตา, น สกฺกา มุสาวาทํ กาตุํ, น มยฺหํ อิตฺถิฆฏาย อตฺโถ’’ติ รฺา ปฏิกฺขิตฺตา ปกฺกมึสุ.

สุเมธา ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘ราชา ตาว สจฺจวาทิตาย อฺา อิตฺถิโย น อาเนสิ, อหเมว ปนสฺส อาเนสฺสามี’’ติ รฺโ มาตุสมภริยฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน รุจิยาว ขตฺติยกฺานํ สหสฺสํ, อมจฺจกฺานํ สหสฺสํ, คหปติกฺานํ สหสฺสํ, สพฺพสมยนาฏกิตฺถีนํ สหสฺสนฺติ จตฺตาริ อิตฺถิสหสฺสานิ อาเนสิ. ตาปิ ทส วสฺสสหสฺสานิ ราชกุเล วสิตฺวา เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภึสุ. เอเตเนวุปาเยน อปรานิปิ ติกฺขตฺตุํ จตฺตาริ จตฺตาริ สหสฺสานิ อาเนสิ. ตาปิ เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภึสุ. เอตฺตาวตา โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ. จตฺตาลีส วสฺสสหสฺสานิ อติกฺกมึสุ, ตานิ ตาย เอกิกาย วุตฺเถหิ ทสหิ สหสฺเสหิ สทฺธึ ปฺาส วสฺสสหสฺสานิ โหนฺติ. อถ นาครา สนฺนิปติตฺวา ปุน อุปกฺโกสิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว, ตุมฺหากํ อิตฺถิโย ปุตฺตํ ปตฺเถตุํ อาณาเปถา’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ อาห. ตา ตโต ปฏฺาย ปุตฺตํ ปตฺถยมานา นานาเทวตา นมสฺสนฺติ, นานาวตานิ จรนฺติ, ปุตฺโต นุปฺปชฺชเตว. อถ ราชา สุเมธํ อาห ‘‘ภทฺเท, ตฺวมฺปิ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปนฺนรสอุโปสถทิวเส อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อุโปสถํ สมาทาย สิริคพฺเภ สีลานิ อาวชฺชมานา กปฺปิยมฺจเก นิสีทิ . เสสา อชวตโควตา หุตฺวา ปุตฺตํ อลภิตฺวา อุยฺยานํ อคมํสุ.

สุเมธาย สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. ตทา สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ‘‘สุเมธา ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺตมสฺสา ทสฺสามิ, น โข ปน สกฺกา ยํ วา ตํ วา ทาตุํ, อนุจฺฉวิกมสฺสา ปุตฺตํ อุปธาเรสฺสามี’’ติ อุปธาเรนฺโต นฬการเทวปุตฺตํ ปสฺสิ. โส หิ ปุฺสมฺปนฺโน สตฺโต ปุริมตฺตภาเว พาราณสิยํ วสนฺโต วปฺปกาเล เขตฺตํ คจฺฉนฺโต เอกํ ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา ทาสกมฺมกเร ‘‘วปถา’’ติ ปหิณิ. สยํ นิวตฺติตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ เคหํ เนตฺวา โภเชตฺวา ปุน คงฺคาตีรํ อาเนตฺวา ปุตฺเตน สทฺธึ เอกโต หุตฺวา อุทุมฺพรภิตฺติปาทํ นฬภิตฺติกํ ปณฺณสาลํ กตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา จงฺกมํ กตฺวา ปจฺเจกพุทฺธํ ตตฺเถว เตมาสํ วสาเปตฺวา วุตฺถวสฺสํ ทฺเว ปิตาปุตฺตา ติจีวเรน อจฺฉาเทตฺวา อุยฺโยเชสุํ. เอเตเนว นิยาเมน สตฺตฏฺ ปจฺเจกพุทฺเธ ตาย ปณฺณสาลาย วสาเปตฺวา ติจีวรานิ อทํสุ. ‘‘ทฺเว ปิตาปุตฺตา นฬการา หุตฺวา คงฺคาตีเร เวฬุํ อุปธาเรนฺตา ปจฺเจกพุทฺธํ ทิสฺวา เอวมกํสู’’ติปิ วทนฺติเยว.

เต กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺติตฺวา ฉสุ กามาวจรสคฺเคสุ อนุโลมปฏิโลเมน มหนฺตํ เทวิสฺสริยํ อนุภวนฺตา วิจรนฺติ. เต ตโต จวิตฺวา อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺติตุกามา โหนฺติ. สกฺโก ตถา คตภาวํ ตฺวา เตสุ เอกสฺส วิมานทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตํ อาห – ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ‘‘มหาราช, มนุสฺสโลโก นาม เชคุจฺโฉ ปฏิกูโล, ตตฺถ ิตา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา เทวโลกํ ปตฺเถนฺติ, ตตฺถ คนฺตฺวา กึ กริสฺสามี’’ติ. ‘‘มาริส, เทวโลเก ปริภุฺชิตพฺพสมฺปตฺตึ มนุสฺสโลเก ปริภุฺชิสฺสสิ, ปฺจวีสติโยชนุพฺเพเธ นวโยชนอายาเม อฏฺโยชนวิตฺถาเร รตนปาสาเท วสิสฺสสิ, อธิวาเสหี’’ติ. โส อธิวาเสสิ. สกฺโก ตสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา อิสิเวเสน ราชุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาสํ อิตฺถีนํ อุปริ อากาเส จงฺกมนฺโต อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา ‘‘กสฺสาหํ ปุตฺตวรํ ทมฺมิ, กา ปุตฺตวรํ คณฺหิสฺสตี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ เทหิ, มยฺหํ เทหี’’ติ โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ หตฺเถ อุกฺขิปึสุ. ตโต สกฺโก อาห – ‘‘อหํ สีลวตีนํ ปุตฺตํ ทมฺมิ, ตุมฺหากํ กึ สีลํ, โก อาจาโร’’ติ. ตา อุกฺขิตฺตหตฺเถ สมฺฉิตฺวา ‘‘สเจ สีลวติยา ทาตุกาโม, สุเมธาย สนฺติกํ คจฺฉาหี’’ติ วทึสุ. โส อากาเสเนว คนฺตฺวา ตสฺสา วาสาคาเร สีหปฺชเร อฏฺาสิ.

อถสฺสา ตา อิตฺถิโย อาโรเจสุํ ‘‘เอถ, เทวิ, สกฺโก เทวราชา ‘ตุมฺหากํ ปุตฺตวรํ ทสฺสามี’ติ อากาเสนาคนฺตฺวา สีหปฺชเร ิโต’’ติ. สา ครุปริหาเรนาคนฺตฺวา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, ภนฺเต, ตุมฺเห สีลวติยา ปุตฺตวรํ เทถา’’ติ อาห. ‘‘อาม เทวี’’ติ. ‘‘เตน หิ มยฺหํ เทถา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต สีลํ, กเถหิ, สเจ เม รุจฺจติ, ทสฺสามิ เต ปุตฺตวร’’นฺติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ สุณาหี’’ติ วตฺวา อตฺตโน สีลคุณํ กเถนฺตี ปนฺนรส คาถา อภาสิ –

๑๐๒.

‘‘มเหสี สุรุจิโน ภริยา, อานีตา ปมํ อหํ;

ทส วสฺสสหสฺสานิ, ยํ มํ สุรุจิมานยิ.

๑๐๓.

‘‘สาหํ พฺราหฺมณ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;

นาภิชานามิ กาเยน, วาจาย อุท เจตสา;

สุรุจึ อติมฺิตฺถ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

๑๐๔.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๐๕.

‘‘ภตฺตุ มม สสฺสุ มาตา, ปิตา จาปิ จ สสฺสุโร;

เต มํ พฺรหฺเม วิเนตาโร, ยาว อฏฺํสุ ชีวิตํ.

๑๐๖.

‘‘สาหํ อหึสารตินี, กามสา ธมฺมจารินี;

สกฺกจฺจํ เต อุปฏฺาสึ, รตฺตินฺทิวมตนฺทิตา.

๑๐๗.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๐๘.

‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ , สหภริยานิ พฺราหฺมณ;

ตาสุ อิสฺสา วา โกโธ วา, นาหุ มยฺหํ กุทาจนํ.

๑๐๙.

‘‘หิเตน ตาสํ นนฺทามิ, น จ เม กาจิ อปฺปิยา;

อตฺตานํวานุกมฺปามิ, สทา สพฺพา สปตฺติโย.

๑๑๐.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๑.

‘‘ทาเส กมฺมกเร เปสฺเส, เย จฺเ อนุชีวิโน;

เปเสมิ สหธมฺเมน, สทา ปมุทิตินฺทฺริยา.

๑๑๒.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๓.

‘‘สมเณ พฺราหฺมเณ จาปิ, อฺเ จาปิ วนิพฺพเก;

ตปฺเปมิ อนฺนปาเนน, สทา ปยตปาณินี.

๑๑๔.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา.

๑๑๕.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทฺทสึ, ยา จ ปกฺขสฺส อฏฺมี;

ปาฏิหาริยปกฺขฺจ, อฏฺงฺคสุสมาคตํ;

อุโปสถํ อุปวสามิ, สทา สีเลสุ สํวุตา.

๑๑๖.

‘‘เอเตน สจฺจวชฺเชน, ปุตฺโต อุปฺปชฺชตํ อิเส;

มุสา เม ภณมานาย, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’ติ.

ตตฺถ มเหสีติ อคฺคมเหสี. สุรุจิโนติ สุรุจิรฺโ. ปมนฺติ โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ สพฺพปมํ. ยํ มนฺติ ยสฺมึ กาเล มํ สุรุจิ อานยิ, ตโต ปฏฺาย อหํ ทส วสฺสสหสฺสานิ เอกิกาว อิมสฺมึ เคเห วสึ. อติมฺิตฺถาติ มุหุตฺตมฺปิ สมฺมุขา วา ปรมฺมุขา วา อติมฺินฺติ อิทํ อติกฺกมิตฺวา มฺนํ น ชานามิ น สรามิ. อิเสติ ตํ อาลปติ.

เตนฺติ สสุโร จ สสฺสุ จาติ เต อุโภปิ มํ วิเนตาโร, เตหิ วินีตา อมฺหิ, เต เม ยาว ชีวึสุ, ตาว โอวาทมทํสุ. อหึสารตินีติ อหึสาสงฺขาตาย รติยา สมนฺนาคตา. มยา หิ กุนฺถกิปิลฺลิโกปิ น หึสิตปุพฺโพ. กามสาติ เอกนฺเตเนว. ธมฺมจารินีติ ทสกุสลกมฺมปเถสุ ปูเรมิ. อุปฏฺาสินฺติ ปาทปริกมฺมาทีนิ กิจฺจานิ กโรนฺตี อุปฏฺหึ.

สหภริยานีติ มยา สห เอกสามิกสฺส ภริยภูตานิ. นาหูติ กิเลสํ นิสฺสาย อิสฺสาธมฺโม วา โกธธมฺโม วา มยฺหํ น ภูตปุพฺโพ. หิเตนาติ ยํ ตาสํ หิตํ, เตเนว นนฺทามิ, อุเร วุตฺถธีตโร วิย ตา ทิสฺวา ตุสฺสามิ. กาจีติ ตาสุ เอกาปิ มยฺหํ อปฺปิยา นาม นตฺถิ, สพฺพาปิ ปิยกาเยว. อนุกมฺปามีติ มุทุจิตฺเตน สพฺพา โสฬสสหสฺสาปิ ตา อตฺตานํ วิย อนุกมฺปามิ.

สหธมฺเมนาติ นเยน การเณน โย ยํ กาตุํ สกฺโกติ, ตํ ตสฺมึ กมฺเม ปโยเชมีติ อตฺโถ. ปมุทิตินฺทฺริยาติ เปเสนฺตี จ นิจฺจํ ปมุทิตินฺทฺริยาว หุตฺวา เปเสมิ, ‘‘อเร ทุฏฺ ทาส อิทํ นาม กโรหี’ติ เอวํ กุชฺฌิตฺวา น เม โกจิ กตฺถจิ เปสิตปุพฺโพ. ปยตปาณินีติ โธตหตฺถา ปสาริตหตฺถาว หุตฺวา. ปาฏิหาริยปกฺขฺจาติ อฏฺมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีนํ ปจฺจุคฺคมนานุคฺคมนวเสน จตฺตาโร ทิวสา. สทาติ นิจฺจกาลํ ปฺจสุ สีเลสุ สํวุตา, เตหิ ปิหิตโคปิตตฺตภาวาว โหมีติ.

เอวํ ตสฺสา คาถาย สเตนปิ สหสฺเสนปิ วณฺณิยมานานํ คุณานํ ปมาณํ นาม นตฺถิ, ตาย ปนฺนรสหิ คาถาหิ อตฺตโน คุณานํ วณฺณิตกาเลเยว สกฺโก อตฺตโน พหุกรณียตาย ตสฺสา กถํ อวิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘ปหูตา อพฺภุตาเยว เต คุณา’’ติ ตํ ปสํสนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๑๗.

‘‘สพฺเพว เต ธมฺมคุณา, ราชปุตฺติ ยสสฺสินิ;

สํวิชฺชนฺติ ตยิ ภทฺเท, เย ตฺวํ กิตฺเตสิ อตฺตนิ.

๑๑๘.

‘‘ขตฺติโย ชาติสมฺปนฺโน, อภิชาโต ยสสฺสิมา;

ธมฺมราชา วิเทหานํ, ปุตฺโต อุปฺปชฺชเต ตวา’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมคุณาติ สภาวคุณา ภูตคุณา. สํวิชฺชนฺตีติ เย ตยา วุตฺตา, เต สพฺเพว ตยิ อุปลพฺภนฺติ. อภิชาโตติ อติชาโต สุทฺธชาโต. ยสสฺสิมาติ ยสสมฺปนฺเนน ปริวารสมฺปนฺเนน สมนฺนาคโต. อุปฺปชฺชเตติ เอวรูโป ปุตฺโต ตว อุปฺปชฺชิสฺสติ, มา จินฺตยีติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสมนสฺสชาตา ตํ ปุจฺฉนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๑๙.

‘‘ทุมฺมี รโชชลฺลธโร, อเฆ เวหายสํ ิโต;

มนุฺํ ภาสเส วาจํ, ยํ มยฺหํ หทยงฺคมํ.

๑๒๐.

‘‘เทวตานุสิ สคฺคมฺหา, อิสิ วาสิ มหิทฺธิโก;

โก วาสิ ตฺวํ อนุปฺปตฺโต, อตฺตานํ เม ปเวทยา’’ติ.

ตตฺถ ทุมฺมีติ อนฺชิตามณฺฑิโต สกฺโก อาคจฺฉนฺโต รมณีเยน ตาปสเวเสน อาคโต, ปพฺพชิตเวเสน อาคตตฺตา ปน สา เอวมาห. อเฆติ อปฺปฏิเฆ าเน. ยํ มยฺหนฺติ ยํ เอตํ มนุฺํ วาจํ มยฺหํ ภาสสิ, ตํ ภาสมาโน ตฺวํ เทวตานุสิ สคฺคมฺหา อิธาคโต. อิสิ วาสิ มหิทฺธิโกติ ยกฺขาทีสุ โก วา ตฺวํ อสิ อิธานุปฺปตฺโต, อตฺตานํ เม ปเวทย, ยถาภูตํ กเถหีติ วทติ.

สกฺโก ตสฺสา กเถนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –

๑๒๑.

‘‘ยํ เทวสงฺฆา วนฺทนฺติ, สุธมฺมายํ สมาคตา;

โสหํ สกฺโก สหสฺสกฺโข, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก.

๑๒๒.

‘‘อิตฺถิโย ชีวโลกสฺมึ, ยา โหติ สมจารินี;

เมธาวินี สีลวตี, สสฺสุเทวา ปติพฺพตา.

๑๒๓.

‘‘ตาทิสาย สุเมธาย, สุจิกมฺมาย นาริยา;

เทวา ทสฺสนมายนฺติ, มานุสิยา อมานุสา.

๑๒๔.

‘‘ตฺวฺจ ภทฺเท สุจิณฺเณน, ปุพฺเพ สุจริเตน จ;

อิธ ราชกุเล ชาตา, สพฺพกามสมิทฺธินี.

๑๒๕.

‘‘อยฺจ เต ราชปุตฺติ, อุภยตฺถ กฏคฺคโห;

เทวโลกูปปตฺตี จ, กิตฺตี จ อิธ ชีวิเต.

๑๒๖.

‘‘จิรํ สุเมเธ สุขินี, ธมฺมมตฺตนิ ปาลย;

เอสาหํ ติทิวํ ยามิ, ปิยํ เม ตว ทสฺสน’’นฺติ.

ตตฺถ สหสฺสกฺโขติ อตฺถสหสฺสสฺส ตํมุหุตฺตํ ทสฺสนวเสน สหสฺสกฺโข. อิตฺถิโยติ อิตฺถี. สมจารินีติ ตีหิ ทฺวาเรหิ สมจริยาย สมนฺนาคตา. ตาทิสายาติ ตถารูปาย. สุเมธายาติ สุปฺาย. อุภยตฺถ กฏคฺคโหติ อยํ ตว อิมสฺมิฺจ อตฺตภาเว อนาคเต จ ชยคฺคาโห. เตสุ อนาคเต เทวโลกุปฺปตฺติ จ อิธ ชีวิเต ปวตฺตมาเน กิตฺติ จาติ อยํ อุภยตฺถ กฏคฺคโห นาม. ธมฺมนฺติ เอวํ สภาวคุณํ จิรํ อตฺตนิ ปาลย. เอสาหนฺติ เอโส อหํ. ปิยํ เมติ มยฺหํ ตว ทสฺสนํ ปิยํ.

เทวโลเก ปน เม กิจฺจกรณียํ อตฺถิ, ตสฺมา คจฺฉามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺตา โหหีติ ตสฺสา โอวาทํ ทตฺวา ปกฺกามิ. นฬการเทวปุตฺโต ปน ปจฺจูสกาเล จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ราชา คพฺภสฺส ปริหารํ อทาสิ. สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘มหาปนาโท’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อุภยรฏฺวาสิโน ‘‘สามิปุตฺตสฺส โน ขีรมูล’’นฺติ เอเกกํ กหาปณํ ราชงฺคเณ ขิปึสุ, มหาธนราสิ อโหสิ. รฺา ปฏิกฺขิตฺตาปิ ‘‘สามิปุตฺตสฺส โน วฑฺฒิตกาเล ปริพฺพโย ภวิสฺสตี’’ติ อคฺคเหตฺวาว ปกฺกมึสุ. กุมาโร ปน มหาปริวาเรน วฑฺฒิตฺวา วยปฺปตฺโต โสฬสวสฺสกาเลเยว สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. ราชา ปุตฺตสฺส วยํ โอโลเกตฺวา เทวึ อาห – ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เม รชฺชาภิเสกกาโล, รมณียมสฺส ปาสาทํ กาเรตฺวา อภิเสกํ กริสฺสามี’’ติ. สา ‘‘สาธุ เทวา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ราชา วตฺถุวิชฺชาจริเย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาตา, วฑฺฒกึ คเหตฺวา อมฺหากํ นิเวสนโต อวิทูเร ปุตฺตสฺส เม ปาสาทํ มาเปถ, รชฺเชน นํ อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ภูมิปฺปเทสํ วีมํสนฺติ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. โส ตํ การณํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาปนาทกุมารสฺส อายาเมน นวโยชนิกํ, วิตฺถารโต อฏฺโยชนิกํ, อุพฺเพเธน ปฺจวีสติโยชนิกํ, รตนปาสาทํ มาเปหี’’ติ เปเสสิ. โส วฑฺฒกีเวเสน วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปาตราสํ ภุฺชิตฺวา เอถา’’ติ เต เปเสตฺวา ทณฺฑเกน ภูมึ ปหริ, ตาวเทว วุตฺตปฺปกาโร สตฺตภูมิโก ปาสาโท อุฏฺหิ. มหาปนาทสฺส ปาสาทมงฺคลํ, ฉตฺตมงฺคลํ, อาวาหมงฺคลนฺติ ตีณิ มงฺคลานิ เอกโตว อเหสุํ. มงฺคลฏฺาเน อุภยรฏฺวาสิโน สนฺนิปติตฺวา มงฺคลจฺฉเณน สตฺต วสฺสานิ วีตินาเมสุํ. เนว เน ราชา อุยฺโยเชสิ, เตสํ วตฺถาลงฺการขาทนียโภชนียาทิ สพฺพํ ราชกุลสนฺตกเมว อโหสิ. เต สตฺตสํวจฺฉรจฺจเยน อุปกฺโกสิตฺวา สุรุจิมหาราเชน ‘‘กิเมต’’นฺติ ปุฏฺา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ มงฺคลํ ภุฺชนฺตานํ สตฺต วสฺสานิ คตานิ, กทา มงฺคลสฺส โอสานํ ภวิสฺสตี’’ติ อาหํสุ. ตโต ราชา ‘‘ตาตา, ปุตฺเตน เม เอตฺตกํ กาลํ น หสิตปุพฺพํ, ยทา โส หสิสฺสติ, ตทา คมิสฺสถา’’ติ อาห. อถ มหาชโน เภรึ จราเปตฺวา นเฏ สนฺนิปาเตสิ. ฉ นฏสหสฺสานิ สนฺนิปติตฺวา สตฺต โกฏฺาสา หุตฺวา นจฺจนฺตา ราชานํ หสาเปตุํ นาสกฺขึสุ. ตสฺส กิร ทีฆรตฺตํ ทิพฺพนาฏกานํ ทิฏฺตฺตา เตสํ นจฺจํ อมนุฺํ อโหสิ.

ตทา ภณฺฑุกณฺโฑ จ ปณฺฑุกณฺโฑ จาติ ทฺเว นาฏกเชฏฺกา ‘‘มยํ ราชานํ หสาเปสฺสามา’’ติ ราชงฺคณํ ปวิสึสุ. เตสุ ภณฺฑุกณฺโฑ ตาว ราชทฺวาเร มหนฺตํ อตุลํ นาม อมฺพํ มาเปตฺวา สุตฺตคุฬํ ขิปิตฺวา ตสฺส สาขาย ลคฺคาเปตฺวา สุตฺเตน อตุลมฺพํ อภิรุหิ. อตุลมฺโพติ กิร เวสฺสวณสฺส อมฺโพ. อถ ตมฺปิ เวสฺสวณสฺส ทาสา คเหตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ ฉินฺทิตฺวา ปาเตสุํ, เสสนาฏกา ตานิ สโมธาเนตฺวา อุทเกน อภิสิฺจึสุ. โส ปุปฺผปฏํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นจฺจนฺโตว อุฏฺหิ. มหาปนาโท ตมฺปิ ทิสฺวา เนว หสิ. ปณฺฑุกณฺโฑ นโฏ ราชงฺคเณ ทารุจิตกํ กาเรตฺวา อตฺตโน ปริสาย สทฺธึ อคฺคึ ปาวิสิ. ตสฺมึ นิพฺพุเต จิตกํ อุทเกน อภิสิฺจึสุ. โส สปริโส ปุปฺผปฏํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ นจฺจนฺโตว อุฏฺหิ. ตมฺปิ ทิสฺวา ราชา เนว หสิ. อิติ ตํ หสาเปตุํ อสกฺโกนฺตา มนุสฺสา อุปทฺทุตา อเหสุํ.

สกฺโก ตํ การณํ ตฺวา ‘‘คจฺฉ, ตาต, มหาปนาทํ หสาเปตฺวา เอหี’’ติ เทวนฏํ เปเสสิ. โส อาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ อากาเส ตฺวา อุปฑฺฒองฺคํ นาม ทสฺเสสิ, เอโกว หตฺโถ, เอโกว ปาโท, เอกํ อกฺขิ, เอกา ทาา นจฺจติ จลติ ผนฺทติ, เสสํ นิจฺจลมโหสิ. ตํ ทิสฺวา มหาปนาโท โถกํ หสิตํ อกาสิ. มหาชโน ปน หสนฺโต หสนฺโต หาสํ สนฺธาเรตุํ สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต องฺคานิ วิสฺสชฺเชตฺวา ราชงฺคเณเยว ปติ, ตสฺมึ กาเล มงฺคลํ นิฏฺิตํ. เสสเมตฺถ ‘‘ปนาโท นาม โส ราชา, ยสฺส ยูโป สุวณฺณโย’’ติ มหาปนาทชาตเกน วณฺเณตพฺพํ. ราชา มหาปนาโท ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน เทวโลกเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, วิสาขา ปุพฺเพปิ มม สนฺติกา วรํ ลภิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มหาปนาโท ภทฺทชิ อโหสิ, สุเมธาเทวี วิสาขา, วิสฺสกมฺโม อานนฺโท, สกฺโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สุรุจิชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.

[๔๙๐] ๗. ปฺจุโปสถชาตกวณฺณนา

อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ตุวํ กโปตาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถิเก ปฺจสเต อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ธมฺมสภายํ จตุปริสมชฺเฌ อลงฺกตพุทฺธาสเน นิสีทิตฺวา มุทุจิตฺเตน ปริสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อชฺช อุปาสกานํ กถํ ปฏิจฺจ เทสนา สมุฏฺหิสฺสตี’’ติ ตฺวา อุปาสเก อามนฺเตตฺวา ‘‘อุโปสถิกตฺถ อุปาสกา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม , ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ โว กตํ, อุโปสโถ นาเมส โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, โปราณกปณฺฑิตา หิ ราคาทิกิเลสนิคฺคหตฺถํ อุโปสถวาสํ วสึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มคธรฏฺาทีนํ ติณฺณํ รฏฺานํ อนฺตเร อฏวี อโหสิ. โพธิสตฺโต มคธรฏฺเ พฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต กาเม ปหาย นิกฺขมิตฺวา ตํ อฏวึ ปวิสิตฺวา อสฺสมํ กตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา วาสํ กปฺเปสิ. ตสฺส ปน อสฺสมสฺส อวิทูเร เอกสฺมึ เวฬุคหเน อตฺตโน ภริยาย สทฺธึ กโปตสกุโณ วสติ, เอกสฺมึ วมฺมิเก อหิ, เอกสฺมึ วนคุมฺเพ สิงฺคาโล, เอกสฺมึ วนคุมฺเพ อจฺโฉ. เต จตฺตาโรปิ กาเลน กาลํ อิสึ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ.

อเถกทิวสํ กโปโต ภริยาย สทฺธึ กุลาวกา นิกฺขมิตฺวา โคจราย ปกฺกามิ. ตสฺส ปจฺฉโต คจฺฉนฺตึ กโปตึ เอโก เสโน คเหตฺวา ปลายิ. ตสฺสา วิรวสทฺทํ สุตฺวา กโปโต นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต ตํ เตน หริยมานํ ปสฺสิ. เสโนปิ นํ วิรวนฺตึเยว มาเรตฺวา ขาทิ. กโปโต ตาย วิโยเคน ราคปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน จินฺเตสิ ‘‘อยํ ราโค มํ อติวิย กิลเมติ, น อิทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจราย ปกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส โคจรปถํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ตาปสสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ราคนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

สปฺโปปิ ‘‘โคจรํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ วสนฏฺานา นิกฺขมิตฺวา ปจฺจนฺตคาเม คาวีนํ วิจรณฏฺาเน โคจรํ ปริเยสติ. ตทา คามโภชกสฺส สพฺพเสโต มงฺคลอุสโภ โคจรํ คเหตฺวา เอกสฺมึ วมฺมิกปาเท ชณฺณุนา ปติฏฺาย สิงฺเคหิ มตฺติกํ คณฺหนฺโต กีฬติ, สปฺโป คาวีนํ ปทสทฺเทน ภีโต ตํ วมฺมิกํ ปวิสิตุํ ปกฺกนฺโต. อถ นํ อุสโภ ปาเทน อกฺกมิ. โส ตํ กุชฺฌิตฺวา ฑํสิ, อุสโภ ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปตฺโต. คามวาสิโน ‘‘อุสโภ กิร มโต’’ติ สุตฺวา สพฺเพ เอกโต อาคนฺตฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ตํ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา อาวาเฏ นิขณิตฺวา ปกฺกมึสุ. สปฺโป เตสํ คตกาเล นิกฺขมิตฺวา ‘‘อหํ โกธํ นิสฺสาย อิมํ ชีวิตา โวโรเปตฺวา มหาชนสฺส หทเย โสกํ ปเวเสสึ, น ทานิ อิมํ โกธํ อนิคฺคเหตฺวา โคจราย ปกฺกมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา นิวตฺติตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา โกธนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

สิงฺคาโลปิ โคจรํ ปริเยสนฺโต เอกํ มตหตฺถึ ทิสฺวา ‘‘มหา เม โคจโร ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺโ คนฺตฺวา โสณฺฑายํ ฑํสิ, ถมฺเภ ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. ตตฺถ อสฺสาทํ อลภิตฺวา ทนฺเต ฑํสิ, ปาสาเณ ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. กุจฺฉิยํ ฑํสิ, กุสุเล ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. นงฺคุฏฺเ ฑํสิ, อยสลาเก ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. วจฺจมคฺเค ฑํสิ, ฆตปูเว ทฏฺกาโล วิย อโหสิ. โส โลภวเสน ขาทนฺโต อนฺโตกุจฺฉิยํ ปาวิสิ, ตตฺถ ฉาตกาเล มํสํ ขาทติ, ปิปาสิตกาเล โลหิตํ ปิวติ, นิปชฺชนกาเล อนฺตานิ จ ปปฺผาสฺจ อวตฺถริตฺวา นิปชฺชิ. โส ‘‘อิเธว เม อนฺนปานฺจ สยนฺจ นิปฺผนฺนํ, อฺตฺถ กึ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺเถว อภิรโต พหิ อนิกฺขมิตฺวา อนฺโตกุจฺฉิยํเยว วสิ. อปรภาเค วาตาตเปน หตฺถิกุณเป สุกฺขนฺเต กรีสมคฺโค ปิหิโต, สิงฺคาโล อนฺโตกุจฺฉิยํ นิปชฺชมาโน อปฺปมํสโลหิโต ปณฺฑุสรีโร หุตฺวา นิกฺขมนมคฺคํ น ปสฺสิ. อเถกทิวสํ อกาลเมโฆ วสฺสิ, กรีสมคฺโค เตมิยมาโน มุทุ หุตฺวา วิวรํ ทสฺเสสิ. สิงฺคาโล ฉิทฺทํ ทิสฺวา ‘‘อติจิรมฺหิ กิลนฺโต, อิมินา ฉิทฺเทน ปลายิสฺสามี’’ติ กรีสมคฺคํ สีเสน ปหริ. ตสฺส สมฺพาธฏฺาเนน เวเคน นิกฺขนฺตสฺส สินฺนสรีรสฺส สพฺพานิ โลมานิ กรีสมคฺเค ลคฺคานิ, ตาลกนฺโท วิย นิลฺโลมสรีโร หุตฺวา นิกฺขมิ. โส ‘‘โลภํ นิสฺสาย มยา อิทํ ทุกฺขํ อนุภูตํ, น ทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา โลภนิคฺคหตฺถาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

อจฺโฉปิ อรฺา นิกฺขมิตฺวา อตฺริจฺฉาภิภูโต มลฺลรฏฺเ ปจฺจนฺตคามํ คโต. คามวาสิโน ‘‘อจฺโฉ กิร อาคโต’’ติ ธนุทณฺฑาทิหตฺถา นิกฺขมิตฺวา เตน ปวิฏฺํ คุมฺพํ ปริวาเรสุํ. โส มหาชเนน ปริวาริตภาวํ ตฺวา นิกฺขมิตฺวา ปลายิ, ปลายนฺตเมว ตํ ธนูหิ เจว ทณฺฑาทีหิ จ โปเถสุํ. โส ภินฺเนน สีเสน โลหิเตน คลนฺเตน อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ‘‘อิทํ ทุกฺขํ มม อตฺริจฺฉาโลภวเสน อุปฺปนฺนํ, น ทานิ อิมํ อนิคฺคเหตฺวา โคจรํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา อตฺริจฺฉานิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา เอกมนฺตํ นิปชฺชิ.

ตาปโสปิ อตฺตโน ชาตึ นิสฺสาย มานวสิโก หุตฺวา ฌานํ อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกติ. อเถโก ปจฺเจกพุทฺโธ ตสฺส มานนิสฺสิตภาวํ ตฺวา ‘‘อยํ น ลามกสตฺโต, พุทฺธงฺกุโร เอส, อิมสฺมึเยว ภทฺทกปฺเป สพฺพฺุตํ ปาปุณิสฺสติ, อิมสฺส มานนิคฺคหํ กตฺวา สมาปตฺตินิพฺพตฺตนาการํ กริสฺสามี’’ติ ตสฺมึ ปณฺณสาลาย นิสินฺเนเยว อุตฺตรหิมวนฺตโต อาคนฺตฺวา ตสฺส ปาสาณผลเก นิสีทิ. โส นิกฺขมิตฺวา ตํ อตฺตโน อาสเน นิสินฺนํ ทิสฺวา มานนิสฺสิตภาเวน อนตฺตมโน หุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อจฺฉรํ ปหริตฺวา ‘‘นสฺส, วสล, กาฬกณฺณิ, มุณฺฑก, สมณก, กิมตฺถํ มม นิสินฺนผลเก นิสินฺโนสี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘สปฺปุริส, กสฺมา มานนิสฺสิโตสิ, อหํ ปฏิวิทฺธปจฺเจกโพธิาโณ, ตฺวํ อิมสฺมึเยว ภทฺทกปฺเป สพฺพฺุพุทฺโธ ภวิสฺสสิ, พุทฺธงฺกุโรสิ, ปารมิโย ปูเรตฺวา อาคโต อฺํ เอตฺตกํ นาม กาลํ อติกฺกมิตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสสิ, พุทฺธตฺตภาเว ิโต สิทฺธตฺโถ นาม ภวิสฺสสี’’ติ นามฺจ โคตฺตฺจ กุลฺจ อคฺคสาวกาทโย จ สพฺเพ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘กิมตฺถํ ตฺวํ มานนิสฺสิโต หุตฺวา ผรุโส โหสิ, นยิทํ ตว อนุจฺฉวิก’’นฺติ โอวาทมทาสิ. โส เตน เอวํ วุตฺโตปิ เนว นํ วนฺทิ, น จ ‘‘กทาหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามี’’ติอาทีนิ ปุจฺฉิ. อถ นํ ปจฺเจกพุทฺโธ ‘‘ตว ชาติยา มม คุณานํ มหนฺตภาวํ ชาน, สเจ สกฺโกสิ, อหํ วิย อากาเส วิจราหี’’ติ วตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา อตฺตโน ปาทปํสุํ ตสฺส ชฏามณฺฑเล วิกิรนฺโต อุตฺตรหิมวนฺตเมว คโต.

ตาปโส ตสฺส คตกาเล สํเวคปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อยํ สมโณ เอวํ ครุสรีโร วาตมุเข ขิตฺตตูลปิจุ วิย อากาเส ปกฺขนฺโท, อหํ ชาติมาเนน เอวรูปสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส เนว ปาเท วนฺทึ, น จ ‘‘กทาหํ พุทฺโธ ภวิสฺสามี’ติ ปุจฺฉึ, ชาติ นาเมสา กึ กริสฺสติ, อิมสฺมึ โลเก สีลจรณเมว มหนฺตํ, อยํ โข ปน เม มาโน วฑฺฒนฺโต นิรยํ อุปเนสฺสติ, น อิทานิ อิมํ มานํ อนิคฺคเหตฺวา ผลาผลตฺถาย คมิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มานนิคฺคหาย อุโปสถํ สมาทาย กฏฺตฺถริกาย นิสินฺโน มหาาโณ กุลปุตฺโต มานํ นิคฺคเหตฺวา กสิณํ วฑฺเฒตฺวา อภิฺา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา นิกฺขมิตฺวา จงฺกมนโกฏิยํ ปาสาณผลเก นิสีทิ. อถ นํ กโปตาทโย อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. มหาสตฺโต กโปตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวํ อฺเสุ ทิวเสสุ น อิมาย เวลาย อาคจฺฉสิ, โคจรํ ปริเยสสิ, กึ นุ โข อชฺช อุโปสถิโก ชาโตสี’’ติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. อถ นํ ‘‘เกน การเณนา’’ติ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘อปฺโปสฺสุกฺโก ทานิ ตุวํ กโปต, วิหงฺคม น ตว โภชนตฺโถ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก กโปตา’’ติ.

ตตฺถ อปฺโปสฺสุกฺโกติ นิราลโย. น ตว โภชนตฺโถติ กึ อชฺช ตว โภชเนน อตฺโถ นตฺถิ.

ตํ สุตฺวา กโปโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๒๘.

‘‘อหํ ปุเร คิทฺธิคโต กโปติยา, อสฺมึ ปเทสสฺมิมุโภ รมาม;

อถคฺคหี สากุณิโก กโปตึ, อกามโก ตาย วินา อโหสึ.

๑๒๙.

‘‘นานาภวา วิปฺปโยเคน ตสฺสา, มโนมยํ เวทน เวทยามิ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, ราโค มมํ มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ รมามาติ อิมสฺมึ ภูมิภาเค กามรติยา รมาม. สากุณิโกติ เสนสกุโณ.

กโปเตน อตฺตโน อุโปสถกมฺเม วณฺณิเต มหาสตฺโต สปฺปาทีสุ เอเกกํ ปุจฺฉิ. เตปิ ยถาภูตํ พฺยากรึสุ –

๑๓๐.

‘‘อนุชฺชุคามี อุรคา ทุชิวฺห, ทาาวุโธ โฆรวิโสสิ สปฺป;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ ทีฆ.

๑๓๑.

‘‘อุสโภ อหู พลวา คามิกสฺส, จลกฺกกู วณฺณพลูปปนฺโน;

โส มํ อกฺกมิ ตํ กุปิโต อฑํสึ, ทุกฺขาภิตุณฺโณ มรณํ อุปาคา.

๑๓๒.

‘‘ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา, กนฺทิตฺวา โรทิตฺวา อปกฺกมึสุ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, โกโธ มมํ มา ปุนราคมาสิ.

๑๓๓.

‘‘มตาน มํสานิ พหู สุสาเน, มนุฺรูปํ ตว โภชเน ตํ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก สิงฺคาล.

๑๓๔.

‘‘ปวิสิ กุจฺฉึ มหโต คชสฺส, กุณเป รโต หตฺถิมํเสสุ คิทฺโธ;

อุณฺโห จ วาโต ติขิณา จ รสฺมิโย, เต โสสยุํ ตสฺส กรีสมคฺคํ.

๑๓๕.

‘‘กิโส จ ปณฺฑู จ อหํ ภทนฺเต, น เม อหู นิกฺขมนาย มคฺโค;

มหา จ เมโฆ สหสา ปวสฺสิ, โส เตมยี ตสฺส กรีสมคฺคํ.

๑๓๖.

‘‘ตโต อหํ นิกฺขมิสํ ภทนฺเต, จนฺโท ยถา ราหุมุขา ปมุตฺโต;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, โลโภ มมํ มา ปุนราคมาสิ.

๑๓๗.

‘‘วมฺมีกถูปสฺมึ กิปิลฺลิกานิ, นิปฺโปถยนฺโต ตุวํ ปุเร จราสิ;

ขุทํ ปิปาสํ อธิวาสยนฺโต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ อจฺฉ.

๑๓๘.

‘‘สกํ นิเกตํ อติหีฬยาโน, อตฺริจฺฉตา มลฺลคามํ อคจฺฉึ;

ตโต ชนา นิกฺขมิตฺวาน คามา, โกทณฺฑเกน ปริโปถยึสุ มํ.

๑๓๙.

‘‘โส ภินฺนสีโส รุหิรมกฺขิตงฺโค, ปจฺจาคมาสึ สกํ นิเกตํ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, อตฺริจฺฉตา มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ อนุชฺชุคามีติอาทีหิ ตํ อาลปติ. จลกฺกกูติ จลมานกกุโธ. ทุกฺขาภิตุณฺโณติ โส อุสโภ ทุกฺเขน อภิตุณฺโณ อาตุโร หุตฺวา. พหูติ พหูนิ. ปวิสีติ ปาวิสึ. รสฺมิโยติ สูริยรสฺมิโย. นิกฺขมิสนฺติ นิกฺขมึ. กิปิลฺลิกานีติ อุปจิกาโย. นิปฺโปถยนฺโตติ ขาทมาโน. อติหีฬยาโนติ อติมฺนฺโต นินฺทนฺโต ครหนฺโต. โกทณฺฑเกนาติ ธนุทณฺฑเกหิ เจว มุคฺคเรหิ จ.

เอวํ เต จตฺตาโรปิ อตฺตโน อุโปสถกมฺมํ วณฺเณตฺวา อุฏฺาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห อฺเสุ ทิวเสสุ อิมาย เวลาย ผลาผลตฺถาย คจฺฉถ, อชฺช อคนฺตฺวา กสฺมา อุโปสถิกตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๑๔๐.

‘‘ยํ โน อปุจฺฉิตฺถ ตุวํ ภทนฺเต, สพฺเพว พฺยากริมฺห ยถาปชานํ;

มยมฺปิ ปุจฺฉาม ตุวํ ภทนฺเต, กสฺมา ภวํโปสถิโก นุ พฺรหฺเม’’ติ.

โสปิ เนสํ พฺยากาสิ –

๑๔๑.

‘‘อนูปลิตฺโต มม อสฺสมมฺหิ, ปจฺเจกพุทฺโธ มุหุตฺตํ นิสีทิ;

โส มํ อเวที คติมาคติฺจ, นามฺจ โคตฺตํ จรณฺจ สพฺพํ.

๑๔๒.

‘‘เอวมฺปหํ น วนฺทิ ตสฺส ปาเท, น จาปิ นํ มานคเตน ปุจฺฉึ;

ตสฺมา อหํโปสถํ ปาลยามิ, มาโน มมํ มา ปุนราคมาสี’’ติ.

ตตฺถ ยํ โนติ ยํ อตฺถํ ตฺวํ อมฺเห อปุจฺฉิ. ยถาปชานนฺติ อตฺตโน ปชานนนิยาเมน ตํ มยํ พฺยากริมฺห. อนูปลิตฺโตติ สพฺพกิเลเสหิ อลิตฺโต. โส มํ อเวทีติ โส มม อิทานิ คนฺตพฺพฏฺานฺจ คตฏฺานฺจ ‘‘อนาคเต ตฺวํ เอวํนาโม พุทฺโธ ภวิสฺสสิ เอวํโคตฺโต, เอวรูปํ เต สีลจรณํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ นามฺจ โคตฺตฺจ จรณฺจ สพฺพํ มํ อเวทิ ชานาเปสิ, กเถสีติ อตฺโถ. เอวมฺปหํ น วนฺทีติ เอวํ กเถนฺตสฺสปิ ตสฺส อหํ อตฺตโน มานํ นิสฺสาย ปาเท น วนฺทินฺติ.

เอวํ มหาสตฺโต อตฺตโน อุโปสถการณํ กเถตฺวา เต โอวทิตฺวา อุยฺโยเชตฺวา ปณฺณสาลํ ปาวิสิ, อิตเรปิ ยถาฏฺานานิ อคมํสุ. มหาสตฺโต อปริหีนชฺฌาโน พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ, อิตเร จ ตสฺโสวาเท ตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ อุปาสกา, อุโปสโถ นาเมส โปราณกปณฺฑิตานํ วํโส, อุปวสิตพฺโพ อุโปสถวาโส’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กโปโต อนุรุทฺโธ อโหสิ, อจฺโฉ กสฺสโป, สิงฺคาโล โมคฺคลฺลาโน, สปฺโป สาริปุตฺโต, ตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ปฺจุโปสถชาตกวณฺณนา สตฺตมา.

[๔๙๑] ๘. มหาโมรชาตกวณฺณนา

สเจหิ ตฺยาหํ ธนเหตุ คาหิโตติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. ตฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ อยํ นนฺทีราโค ตาทิสํ กึ นาม นาโลเลสฺสติ, น หิ สิเนรุอุพฺพาหนกวาโต สามนฺเต ปุราณปณฺณสฺส ลชฺชติ, ปุพฺเพ สตฺต วสฺสสตานิ อนฺโตกิเลสสมุทาจารํ วาเรตฺวา วิหรนฺเต วิสุทฺธสตฺเตเปส อาโลเลสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ปจฺจนฺตปเทเส โมรสกุณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสิ. คพฺเภ ปริปากคเต มาตา โคจรภูมิยํ อณฺฑํ ปาเตตฺวา ปกฺกามิ. อณฺฑฺจ นาม มาตุ อโรคภาเว สติ อฺสฺมึ ทีฆชาติกาทิปริปนฺเถ จ อวิชฺชมาเน น นสฺสติ. ตสฺมา ตํ อณฺฑํ กณิการมกุลํ วิย สุวณฺณวณฺณํ หุตฺวา ปริณตกาเล อตฺตโน ธมฺมตาย ภิชฺชิ, สุวณฺณวณฺโณ โมรจฺฉาโป นิกฺขมิ. ตสฺส ทฺเว อกฺขีนิ ชิฺชุกาผลสทิสานิ, ตุณฺฑํ ปวาฬวณฺณํ, ติสฺโส รตฺตราชิโย คีวํ ปริกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิมชฺเฌน อคมํสุ. โส วยปฺปตฺโต ภณฺฑสกฏมตฺตสรีโร อภิรูโป อโหสิ. ตํ สพฺเพ นีลโมรา สนฺนิปติตฺวา ราชานํ กตฺวา ปริวารยึสุ.

โส เอกทิวสํ อุทกโสณฺฑิยํ ปานียํ ปิวนฺโต อตฺตโน รูปสมฺปตฺตึ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหํ สพฺพโมเรหิ อติเรกรูปโสโภ, สจาหํ อิเมหิ สทฺธึ มนุสฺสปเถ วสิสฺสามิ, ปริปนฺโถ เม อุปฺปชฺชิสฺสติ, หิมวนฺตํ คนฺตฺวา เอกโกว ผาสุกฏฺาเน วสิสฺสามี’’ติ. โส รตฺติภาเค โมเรสุ ปฏิสลฺลีเนสุ กฺจิ อชานาเปตฺวา อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ติสฺโส ปพฺพตราชิโย อติกฺกมฺม จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา เอกสฺมึ อรฺเ ปทุมสฺฉนฺโน ชาตสฺสโร อตฺถิ, ตสฺส อวิทูเร เอกํ ปพฺพตํ นิสฺสาย ิโต มหานิคฺโรธรุกฺโข อตฺถิ, ตสฺส สาขาย นิลียิ. ตสฺส ปน ปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ มนาปา คุหา อตฺถิ. โส ตตฺถ วสิตุกาโม หุตฺวา ตสฺสา ปมุเข ปพฺพตตเล นิลียิ. ตํ ปน านํ เนว เหฏฺาภาเคน อภิรุหิตุํ, น อุปริภาเคน โอตริตุํ สกฺกา, พิฬาลทีฆชาติกมนุสฺสภเยหิ วิมุตฺตํ. โส ‘‘อิทํ เม ผาสุกฏฺาน’’นฺติ ตํ ทิวสํ ตตฺเถว วสิตฺวา ปุนทิวเส ปพฺพตคุหาโต อุฏฺาย ปพฺพตมตฺถเก ปุรตฺถาภิมุโข นิสินฺโน อุเทนฺตํ สูริยมณฺฑลํ ทิสฺวา อตฺตโน ทิวารกฺขาวรณตฺถาย ‘‘อุเทตยํ จกฺขุมา เอกราชา’’ติ ปริตฺตํ กตฺวา โคจรภูมิยํ โอตริตฺวา โคจรํ คเหตฺวา สายํ อาคนฺตฺวา ปพฺพตมตฺถเก ปจฺฉาภิมุโข นิสินฺโน อตฺถงฺคตํ สูริยมณฺฑลํ ทิสฺวา อตฺตโน รตฺติรกฺขาวรณตฺถาย ‘‘อเปตยํ จกฺขุมา เอกราชา’’ติ ปริตฺตํ กตฺวา เอเตนุปาเยน วสติ.

อถ นํ เอกทิวสํ เอโก ลุทฺทปุตฺโต อรฺเ วิจรนฺโต ปพฺพตมตฺถเก นิสินฺนํ โมรํ ทิสฺวา อตฺตโน นิเวสนํ อาคนฺตฺวา มรณาสนฺนกาเล ปุตฺตํ อาห – ‘‘ตาต, จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา อรฺเ สุวณฺณวณฺโณ โมโร อตฺถิ, สเจ ราชา ปุจฺฉติ, อาจิกฺเขยฺยาสี’’ติ. อเถกสฺมึ ทิวเส พาราณสิรฺโ เขมา นาม อคฺคมเหสี ปจฺจูสกาเล สุปินํ ปสฺสิ. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – ‘‘สุวณฺณวณฺโณ โมโร ธมฺมํ เทเสติ, สา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณาติ, โมโร ธมฺมํ เทเสตฺวา อุฏฺาย ปกฺกามิ’’. สา ‘‘โมรราชา คจฺฉติ, คณฺหถ น’’นฺติ วทนฺตีเยว ปพุชฺฌิ, ปพุชฺฌิตฺวา จ ปน สุปินภาวํ ตฺวา ‘‘สุปิโนติ วุตฺเต ราชา น อาทรํ กริสฺสติ, ‘โทหโฬ เม’ติ วุตฺเต กริสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา โทหฬินี วิย หุตฺวา นิปชฺชิ. อถ นํ ราชา อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, กึ เต อผาสุก’’นฺติ. ‘‘โทหโฬ เม อุปฺปนฺโน’’ติ. ‘‘กึ อิจฺฉสิ ภทฺเท’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณสฺส โมรสฺส ธมฺมํ โสตุํ เทวา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, กุโต เอวรูปํ โมรํ ลจฺฉามี’’ติ? ‘‘เทว, สเจ น ลภามิ, ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, สเจ กตฺถจิ อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ ราชา นํ อสฺสาเสตฺวา คนฺตฺวา ราชาสเน นิสินฺโน อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘อมฺโภ, เทวี สุวณฺณวณฺณสฺส โมรสฺส ธมฺมํ โสตุกามา, โมรา นาม สุวณฺณวณฺณา โหนฺตี’’ติ? ‘‘พฺราหฺมณา ชานิสฺสนฺติ เทวา’’ติ.

ราชา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. พฺราหฺมณา เอวมาหํสุ ‘‘มหาราช ชลเชสุ มจฺฉกจฺฉปกกฺกฏกา, ถลเชสุ มิคา หํสา โมรา ติตฺติรา เอเต ติรจฺฉานคตา จ มนุสฺสา จ สุวณฺณวณฺณา โหนฺตีติ อมฺหากํ ลกฺขณมนฺเตสุ อาคต’’นฺติ. ราชา อตฺตโน วิชิเต ลุทฺทปุตฺเต สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺโณ โมโร โว ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ ปุจฺฉิ. เสสา ‘‘น ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ อาหํสุ. ยสฺส ปน ปิตรา อาจิกฺขิตํ, โส อาห – ‘‘มยาปิ น ทิฏฺปุพฺโพ, ปิตา ปน เม ‘อสุกฏฺาเน นาม สุวณฺณวณฺโณ โมโร อตฺถี’ติ กเถสี’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘สมฺม, มยฺหฺจ เทวิยา จ ชีวิตํ ทินฺนํ ภวิสฺสติ, คนฺตฺวา ตํ พนฺธิตฺวา อาเนหี’’ติ พหุํ ธนํ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ปุตฺตทารสฺส ธนํ ทตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ ทิสฺวา ปาเส โอฑฺเฑตฺวา ‘‘อชฺช พชฺฌิสฺสติ, อชฺช พชฺฌิสฺสตี’’ติ อพชฺฌิตฺวาว มโต, เทวีปิ ปตฺถนํ อลภนฺตี มตา. ราชา ‘‘ตํ โมรํ นิสฺสาย ปิยภริยา เม มตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา โกธวสิโก หุตฺวา ‘‘หิมวนฺเต จตุตฺถาย ปพฺพตราชิยา สุวณฺณวณฺโณ โมโร จรติ, ตสฺส มํสํ ขาทิตฺวา อชรา อมรา โหนฺตี’’ติ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา ตํ ปฏฺฏํ สารมฺชูสายํ เปตฺวา กาลมกาสิ.

อถ อฺโ ราชา อโหสิ. โส สุวณฺณปฏฺเฏ อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘อชโร อมโร ภวิสฺสามี’’ติ ตสฺส คหณตฺถาย เอกํ ลุทฺทปุตฺตํ เปเสสิ. โสปิ ตตฺเถว มโต. เอวํ ฉ ราชปริวฏฺฏา คตา, ฉ ลุทฺทปุตฺตา หิมวนฺเตเยว มตา. สตฺตเมน ปน รฺา เปสิโต สตฺตโม ลุทฺโท ‘‘อชฺช อชฺเชวา’’ติ สตฺต สํวจฺฉรานิ พชฺฌิตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ ‘‘กึ นุ โข อิมสฺส โมรราชสฺส ปาเท ปาสสฺส อสฺจรณการณ’’นฺติ? อถ นํ ปริคฺคณฺหนฺโต สายํปาตํ ปริตฺตํ กโรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน อฺโ โมโร นตฺถิ, อิมินา พฺรหฺมจารินา ภวิตพฺพํ, พฺรหฺมจริยานุภาเวน เจว ปริตฺตานุภาเวน จสฺส ปาโท ปาเส น พชฺฌตี’’ติ นยโต ปริคฺคเหตฺวา ปจฺจนฺตชนปทํ คนฺตฺวา เอกํ โมรึ พนฺธิตฺวา ยถา สา อจฺฉราย ปหฏาย วสฺสติ, ปาณิมฺหิ ปหเฏ นจฺจติ, เอวํ สิกฺขาเปตฺวา อาทาย คนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปริตฺตกรณโต ปุเรตรเมว ปาสํ โอฑฺเฑตฺวา อจฺฉรํ ปหริตฺวา โมรึ วสฺสาเปสิ. โมโร ตสฺสา สทฺทํ สุณิ, ตาวเทวสฺส สตฺต วสฺสสตานิ สนฺนิสินฺนกิเลโส ผณํ กริตฺวา ทณฺเฑน ปหฏาสีวิโส วิย อุฏฺหิ. โส กิเลสาตุโร หุตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ อสกฺกุณิตฺวาว เวเคน ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ปาเส ปาทํ ปเวเสนฺโตเยว อากาสา โอตริ. สตฺต วสฺสสตานิ อสฺจรณกปาโส ตงฺขณฺเว สฺจริตฺวา ปาทํ พนฺธิ.

อถ นํ ลุทฺทปุตฺโต ยฏฺิอคฺเค โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิมํ โมรราชํ ฉ ลุทฺทปุตฺตา พนฺธิตุํ นาสกฺขึสุ, อหมฺปิ สตฺต วสฺสานิ นาสกฺขึ, อชฺช ปเนส อิมํ โมรึ นิสฺสาย กิเลสาตุโร หุตฺวา ปริตฺตํ กาตุํ อสกฺกุณิตฺวา อาคมฺม ปาเส พทฺโธ เหฏฺาสีสโก โอลมฺพติ, เอวรูโป เม สีลวา กิลมิโต, เอวรูปํ รฺโ ปณฺณาการตฺถาย เนตุํ อยุตฺตํ, กึ เม รฺา ทินฺเนน สกฺกาเรน, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ. ปุน จินฺเตสิ ‘‘อยํ นาคพโล ถามสมฺปนฺโน มยิ อุปสงฺกมนฺเต ‘เอส มํ มาเรตุํ อาคจฺฉตี’ติ มรณภยตชฺชิโต ผนฺทมาโน ปาทํ วา ปกฺขํ วา ภินฺเทยฺย, อนุปคนฺตฺวา ปน ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา ขุรปฺเปนสฺส ปาสํ ฉินฺทิสฺสามิ, ตโต สยเมว ยถารุจิยา คมิสฺสตี’’ติ. โส ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา ธนุํ อาโรเปตฺวา ขุรปฺปํ สนฺนยฺหิตฺวา อากฑฺฒิ. โมโรปิ ‘‘อยํ ลุทฺทโก มํ กิเลสาตุรํ กตฺวา พทฺธภาวํ ตฺวา นิราสงฺโก อาคจฺฉิสฺสติ, กหํ นุ โข โส’’ติ จินฺเตตฺวา อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ธนุํ อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา ‘‘มาเรตฺวา มํ อาทาย คนฺตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน มรณภยตชฺชิโต หุตฺวา ชีวิตํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘สเจ หิ ตฺยาหํ ธนเหตุ คาหิโต, มา มํ วธี ชีวคาหํ คเหตฺวา;

รฺโ จ มํ สมฺม อุปนฺติกํ เนหิ, มฺเ ธนํ ลจฺฉสินปฺปรูป’’นฺติ.

ตตฺถ สเจ หิ ตฺยาหนฺติ สเจ หิ เต อหํ. อุปนฺติกํ เนหีติ อุปสนฺติกํ เนหิ. ลจฺฉสินปฺปรูปนฺติ ลจฺฉสิ อนปฺปกรูปํ.

ตํ สุตฺวา ลุทฺทปุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘โมรราชา, ‘อยํ มํ วิชฺฌิตุกามตาย ขุรปฺปํ สนฺนยฺหี’ติ มฺติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ. โส อสฺสาเสนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๑๔๔.

‘‘น เม อยํ ตุยฺห วธาย อชฺช, สมาหิโต จาปธุเร ขุรปฺโป;

ปาสฺจ ตฺยาหํ อธิปาตยิสฺสํ, ยถาสุขํ คจฺฉตุ โมรราชา’’ติ.

ตตฺถ อธิปาตยิสฺสนฺติ ฉินฺทยิสฺสํ.

ตโต โมรราชา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๔๕.

‘‘ยํ สตฺต วสฺสานิ มมานุพนฺธิ, รตฺตินฺทิวํ ขุปฺปิปาสํ สหนฺโต;

อถ กิสฺส มํ ปาสวสูปนีตํ, ปมุตฺตเว อิจฺฉสิ พนฺธนสฺมา.

๑๔๖.

‘‘ปาณาติปาตา วิรโต นุสชฺช, อภยํ นุ เต สพฺพภูเตสุ ทินฺนํ;

ยํ มํ ตุวํ ปาสวสูปนีตํ, ปมุตฺตเว อิจฺฉสิ พนฺธนสฺมา’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ยสฺมา มํ เอตฺตกํ กาลํ ตฺวํ อนุพนฺธิ, ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ, อถ กิสฺส มํ ปาสวสํ อุปนีตํ พนฺธนสฺมา ปโมเจตุํ อิจฺฉสีติ อตฺโถ. วิรโต นุสชฺชาติ วิรโต นุสิ อชฺช. สพฺพภูเตสูติ สพฺพสตฺตานํ.

อิโต ปรํ –

๑๔๗.

‘‘ปาณาติปาตา วิรตสฺส พฺรูหิ, อภยฺจ โย สพฺพภูเตสุ เทติ;

ปุจฺฉามิ ตํ โมรราเชตมตฺถํ, อิโต จุโต กึ ลภเต สุขํ โส.

๑๔๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรตสฺส พฺรูมิ, อภยฺจ โย สพฺพภูเตสุ เทติ;

ทิฏฺเว ธมฺเม ลภเต ปสํสํ, สคฺคฺจ โส ยาติ สรีรเภทา.

๑๔๙.

‘‘น สนฺติ เทวา อิติ อาหุ เอเก, อิเธว ชีโว วิภวํ อุเปติ;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตฺจ วทนฺติ ทานํ;

เตสํ วโจ อรหตํ สทฺทหาโน, ตสฺมา อหํ สกุเณ พาธยามี’’ติ. –

อิมา อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยน เวทิตพฺพา.

ตตฺถ อิติ อาหุ เอเกติ เอกจฺเจ สมณพฺราหฺมณา เอวํ กเถนฺติ. เตสํ วโจ อรหตํ สทฺทหาโนติ ตสฺส กิร กุลูปกา อุจฺเฉทวาทิโน นคฺคสมณกา. เต ตํ ปจฺเจกโพธิาณสฺส อุปนิสฺสยสมฺปนฺนมฺปิ สตฺตํ อุจฺเฉทวาทํ คณฺหาเปสุํ. โส เตหิ สํสคฺเคน ‘‘กุสลากุสลํ นตฺถี’’ติ คเหตฺวา สกุเณ มาเรติ. เอวํ มหาสาวชฺชา เอสา อสปฺปุริสเสวนา นาม. เตเยว อยํ ‘‘อรหนฺโต’’ติ มฺมาโน เอวมาห.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘ตสฺเสว ปรโลกสฺส อตฺถิภาวํ กเถสฺสามี’’ติ ปาสยฏฺิยํ อโธสิโร โอลมฺพมาโนว อิมํ คาถมาห –

๑๕๐.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา, คจฺฉนฺติ โอภาสยมนฺตลิกฺเข;

อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส วา เต, กถํ นุ เต อาหุ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ อิมสฺสาติ กึ นุ เต อิมสฺส โลกสฺส สนฺติ, อุทาหุ ปรโลกสฺสาติ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ สามิวจนํ. กถํ นุ เตติ เอเตสุ วิมาเนสุ จนฺทิมสูริยเทวปุตฺเต กถํ นุ กเถนฺติ, กึ อตฺถีติ กเถนฺติ, อุทาหุ นตฺถีติ, กึ วา เทวา, อุทาหุ มนุสฺสาติ?

ลุทฺทปุตฺโต คาถมาห –

๑๕๑.

‘‘จนฺโท จ สุริโย จ อุโภ สุทสฺสนา, คจฺฉนฺติ โอภาสยมนฺตลิกฺเข;

ปรสฺส โลกสฺส น เต อิมสฺส, เทวาติ เต อาหุ มนุสฺสโลเก’’ติ.

อถ นํ มหาสตฺโต อาห –

๑๕๒.

‘‘เอตฺเถว เต นีหตา หีนวาทา, อเหตุกา เย น วทนฺติ กมฺมํ;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตํ เย จ วทนฺติ ทาน’’นฺติ.

ตตฺถ เอตฺเถว เต นิหตา หีนวาทาติ สเจ จนฺทิมสูริยา เทวโลเก ิตา, น มนุสฺสโลเก, สเจ จ เต เทวา, น มนุสฺสา, เอตฺเถว เอตฺตเก พฺยากรเณ เต ตว กุลูปกา หีนวาทา นีหตา โหนฺติ. อเหตุกา ‘‘วิสุทฺธิยา วา สํกิเลสสฺส วา เหตุภูตํ กมฺมํ นตฺถี’’ติ เอวํวาทา. ทตฺตุปฺตฺตนฺติ เย จ ทานํ ‘‘พาลเกหิ ปฺตฺต’’นฺติ วทนฺติ.

โส มหาสตฺเต กเถนฺเต สลฺลกฺเขตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๕๓.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวทํ, กถฺหิ ทานํ อผลํ ภเวยฺย;

ตถา ผลํ สุกตทุกฺกฏานํ, ทตฺตุปฺตฺตฺจ กถํ ภเวยฺย.

๑๕๔.

‘‘กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กึ เสวมาโน เกน ตโปคุเณน;

อกฺขาหิ เม โมรราเชตมตฺถํ, ยถา อหํ โน นิรยํ ปเตยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ ทตฺตุปฺตฺตฺจาติ ทานฺจ ทตฺตุปฺตฺตํ นาม กถํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. กถํกโรติ กตรกมฺมํ กโรนฺโต. กินฺติกโรติ เกน การเณน กโรนฺโต อหํ นิรยํ น คจฺเฉยฺยํ. อิตรานิ ตสฺเสว เววจนานิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ อิมํ ปฺหํ น กเถสฺสามิ, มนุสฺสโลโก ตุจฺโฉ วิย กโต ภวิสฺสติ, ตเถวสฺส ธมฺมิกานํ สมณพฺราหฺมณานํ อตฺถิภาวํ กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๕๕.

‘‘เย เกจิ อตฺถิ สมณา ปถพฺยา, กาสายวตฺถา อนคาริยา เต;

ปาโตว ปิณฺฑาย จรนฺติ กาเล, วิกาลจริยา วิรตา หิ สนฺโต.

๑๕๖.

‘‘เต ตตฺถ กาเลนุปสงฺกมิตฺวา, ปุจฺฉาหิ ยํ เต มนโส ปิยํ สิยา;

เต เต ปวกฺขนฺติ ยถาปชานํ, อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส จตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ สนฺโตติ สนฺตปาปา ปณฺฑิตา ปจฺเจกพุทฺธา. ยถาปชานนฺติ เต ตุยฺหํ อตฺตโน ปชานนนิยาเมน วกฺขนฺติ, กงฺขํ เต ฉินฺทิตฺวา กเถสฺสนฺติ. อิมสฺส โลกสฺส ปรสฺส จตฺถนฺติ อิมินา นาม กมฺเมน มนุสฺสโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, อิมินา เทวโลเก, อิมินา นิรยาทีสูติ เอวํ อิมสฺส จ ปรสฺส จ โลกสฺส อตฺถํ อาจิกฺขิสฺสนฺติ, เต ปุจฺฉาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา นิรยภเยน ตชฺเชสิ. โส ปน ปูริตปารมี ปจฺเจกโพธิสตฺโต สูริยรสฺมิสมฺผสฺสํ โอโลเกตฺวา ิตํ ปริณตปทุมํ วิย ปริปากคตาโณ วิจรติ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุณนฺโต ิตปเทเนว ิโต สงฺขาเร ปริคฺคณฺหิตฺวา ติลกฺขณํ สมฺมสนฺโต ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิชฺฌิ. ตสฺส ปฏิเวโธ จ มหาสตฺตสฺส ปาสโต โมกฺโข จ เอกกฺขเณเยว อโหสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ สพฺพกิเลเส ปทาเลตฺวา ภวปริยนฺเต ิโตว อุทานํ อุทานนฺโต คาถมาห –

๑๕๗.

‘‘ตจํว ชิณฺณํ อุรโค ปุราณํ, ปณฺฑูปลาสํ หริโต ทุโมว;

เอสปฺปหีโน มม ลุทฺทภาโว, ชหามหํ ลุทฺทกภาวมชฺชา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยถา ชิณฺณํ ปุราณํ ตจํ อุรโค ชหติ, ยถา จ หริโต สมฺปชฺชมานนีลปตฺโต ทุโม กตฺถจิ ิตํ ปณฺฑุปลาสํ ชหติ, เอวํ อหมฺปิ อชฺช ลุทฺทภาวํ ทารุณภาวํ ชหิตฺวา ิโต, โส ทานิ เอส ปหีโน มม ลุทฺทภาโว, สาธุ วต ชหามหํ ลุทฺทกภาวมชฺชาติ. ชหามหนฺติ ปชหึ อหนฺติ อตฺโถ.

โส อิมํ อุทานํ อุทาเนตฺวา ‘‘อหํ ตาว สพฺพกิเลสพนฺธเนหิ มุตฺโต, นิเวสเน ปน เม พนฺธิตฺวา ปิตา พหู สกุณา อตฺถิ, เต กถํ โมเจสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตํ ปุจฺฉิ – ‘‘โมรราช, นิเวสเน เม พหู สกุณา พทฺธา อตฺถิ, เต กถํ โมเจสฺสามี’’ติ? ปจฺเจกพุทฺธโตปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตานฺเว อุปายปริคฺคหาณํ มหนฺตตรํ โหติ, เตน นํ อาห ‘‘ยํ โว มคฺเคน กิเลเส ขณฺเฑตฺวา ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิทฺธํ, ตํ อารพฺภ สจฺจกิริยํ กโรถ, สกลชมฺพุทีเป พนฺธนคโต สตฺโต นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. โส โพธิสตฺเตน ทินฺนนยทฺวาเร ตฺวา สจฺจกิริยํ กโรนฺโต คาถมาห –

๑๕๘.

‘‘เย จาปิ เม สกุณา อตฺถิ พทฺธา, สตานิเนกานิ นิเวสนสฺมึ;

เตสมฺปหํ ชีวิตมชฺช ทมฺมิ, โมกฺขฺจ เต ปตฺตา สกํ นิเกต’’นฺติ.

ตตฺถ โมกฺขฺจ เต ปตฺตาติ สฺวาหํ โมกฺขํ ปตฺโต ปจฺเจกโพธิาณํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต, เต สตฺเต ชีวิตทาเนน อนุกมฺปามิ, เอเตน สจฺเจน. สกํ นิเกตนฺติ สพฺเพปิ เต สตฺตา อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานํ คจฺฉนฺตูติ วทติ.

อถสฺส สจฺจกิริยาสมกาลเมว สพฺเพ พนฺธนา มุจฺจิตฺวา ตุฏฺิรวํ รวนฺตา สกฏฺานเมว อคมึสุ. ตสฺมึ ขเณ เตสํ เตสํ เคเหสุ พิฬาเล อาทึ กตฺวา สกลชมฺพุทีเป พนฺธนคโต สตฺโต นาม นาโหสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา สีสํ ปรามสิ. ตาวเทว คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายิ, ปพฺพชิตลิงฺคํ ปาตุรโหสิ. โส สฏฺิวสฺสิกตฺเถโร วิย อากปฺปสมฺปนฺโน อฏฺปริกฺขารธโร หุตฺวา ‘‘ตฺวเมว มม ปติฏฺา อโหสี’’ติ โมรราชสฺส อฺชลึ ปคฺคยฺห ปทกฺขิณํ กตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา นนฺทมูลกปพฺภารํ อคมาสิ. โมรราชาปิ ยฏฺิอคฺคโต อุปฺปติตฺวา โคจรํ คเหตฺวา อตฺตโน วสนฏฺานํ คโต. อิทานิ ลุทฺทสฺส สตฺต วสฺสานิ ปาสหตฺถสฺส จริตฺวาปิ โมรราชานํ นิสฺสาย ทุกฺขา มุตฺตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๕๙.

‘‘ลุทฺโท จรี ปาสหตฺโถ อรฺเ, พาเธตุ โมราธิปตึ ยสสฺสึ;

พนฺธิตฺวา โมราธิปตึ ยสสฺสึ, ทุกฺขา ส ปมุจฺจิ ยถาหํ ปมุตฺโต’’ติ.

ตตฺถ พาเธตูติ มาเรตุํ, อยเมว วา ปาโ. พนฺธิตฺวาติ พนฺธิตฺวา ิตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปฏิลทฺธสํเวโค หุตฺวาติ อตฺโถ. ยถาหนฺติ ยถา อหํ สยมฺภุาเณน มุตฺโต, เอวเมว โสปิ มุตฺโตติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตทา โมรราชา อหเมว อโหสินฺติ.

มหาโมรชาตกวณฺณนา อฏฺมา.

[๔๙๒] ๙. ตจฺฉสูกรชาตกวณฺณนา

ยเทสมานา วิจริมฺหาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ทฺเว มหลฺลกตฺเถเร อารพฺภ กเถสิ. มหาโกสโล กิร รฺโ พิมฺพิสารสฺส ธีตรํ เทนฺโต ธีตุ นฺหานียมูลตฺถาย กาสิคามํ อทาสิ. ปเสนทิ ราชา อชาตสตฺตุนา ปิตริ มาริเต ตํ คามํ อจฺฉินฺทิ. เตสุ ตสฺสตฺถาย ยุชฺฌนฺเตสุ ปมํ อชาตสตฺตุสฺส ชโย อโหสิ. โกสลราชา ปราชยปฺปตฺโต อมจฺเจ ปุจฺฉิ ‘‘เกน นุ โข อุปาเยน อชาตสตฺตุํ คณฺเหยฺยามา’’ติ. มหาราช, ภิกฺขู นาม มนฺตกุสลา โหนฺติ, จรปุริเส เปเสตฺวา วิหาเร ภิกฺขูนํ กถํ ปริคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา ‘‘เอถ, ตุมฺเห วิหารํ คนฺตฺวา ปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา ภทนฺตานํ กถํ ปริคฺคณฺหถา’’ติ จรปุริเส ปโยเชสิ. เชตวเนปิ พหู ราชปุริสา ปพฺพชิตา โหนฺติ. เตสุ ทฺเว มหลฺลกตฺเถรา วิหารปจฺจนฺเต ปณฺณสาลายํ วสนฺติ, เอโก ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร นาม, เอโก มนฺติทตฺตตฺเถโร นาม. เต สพฺพรตฺตึ สุปิตฺวา ปจฺจูสกาเล ปพุชฺฌึสุ.

เตสุ ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร อคฺคึ ชาเลตฺวา อาห ‘‘ภนฺเต, มนฺติทตฺตตฺเถรา’’ติ. ‘‘กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘นิทฺทายถ ตุมฺเห’’ติ. ‘‘น นิทฺทายามิ, กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ภนฺเต, ลาลโก วตายํ โกสลราชา จาฏิมตฺตโภชนเมว ภุฺชิตุํ ชานาตี’’ติ. ‘‘อถ กึ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อตฺตโน กุจฺฉิมฺหิ ปาณกมตฺเตน อชาตสตฺตุนา ปราชิโต ราชา’’ติ. ‘‘กินฺติ ปน ภนฺเต กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘ภนฺเต, มนฺติทตฺตตฺเถร ยุทฺธํ นาม สกฏพฺยูหจกฺกพฺยูหปทุมพฺยูหวเสน ติวิธํ. เตสุ ภาคิเนยฺยํ อชาตสตฺตุํ คณฺหนฺเตน สกฏพฺยูหํ กตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, อสุกสฺมึ นาม ปพฺพตกณฺเณ ทฺวีสุ ปสฺเสสุ สูรปุริเส เปตฺวา ปุรโต พลํ ทสฺเสตฺวา อนฺโต ปวิฏฺภาวํ ตฺวา นทิตฺวา วคฺคิตฺวา กุมิเน ปวิฏฺมจฺฉํ วิย อนฺโตมุฏฺิยํ กตฺวาว นํ คเหตุํ สกฺกา’’ติ.

ปโยชิตปุริสา ตํ กถํ สุตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา มหติยา เสนาย คนฺตฺวา ตถา กตฺวา อชาตสตฺตุํ คเหตฺวา สงฺขลิกพนฺธเนน พนฺธิตฺวา กติปาหํ นิมฺมทํ กตฺวา ‘‘ปุน เอวรูปํ มา กรี’’ติ อสฺสาเสตฺวา โมเจตฺวา ธีตรํ วชิรกุมารึ นาม ตสฺส ทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน วิสฺสชฺเชสิ. ‘‘โกสลรฺา ธนุคฺคหติสฺสตฺเถรสฺส สํวิธาเนน อชาตสตฺตุ คหิโต’’ติ ภิกฺขูนํ อนฺตเร กถา สมุฏฺหิ, ธมฺมสภายมฺปิ ตเมว กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ธนุคฺคหติสฺโส ยุทฺธสํวิธาเน เฉโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสินครสฺส ทฺวารคามวาสี เอโก วฑฺฒกี ทารุอตฺถาย อรฺํ คนฺตฺวา อาวาเฏ ปติตํ เอกํ สูกรโปตกํ ทิสฺวา อาเนตฺวา ‘‘ตจฺฉสูกโร’’ติสฺส นามํ กตฺวา โปเสสิ. โส ตสฺส อุปการโก อโหสิ. ตุณฺเฑน รุกฺเข ปริวตฺเตตฺวา เทติ, ทาาย เวเตฺวา กาฬสุตฺตํ กฑฺฒติ, มุเขน ฑํสิตฺวา วาสินิขาทนมุคฺคเร อาหรติ. โส วุฑฺฒิปฺปตฺโต มหาพโล มหาสรีโร อโหสิ. อถ วฑฺฒกี ตสฺมึ ปุตฺตเปมํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ‘‘อิมํ อิธ วสนฺตํ โกจิเทว หึเสยฺยา’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชสิ. โส จินฺเตสิ ‘‘อหํ อิมสฺมึ อรฺเ เอกโกว วสิตุํ น สกฺขิสฺสามิ, าตเก ปริเยสิตฺวา เตหิ ปริวุโต วสิสฺสามี’’ติ. โส วนฆฏาย สูกเร ปริเยสนฺโต พหู สูกเร ทิสฺวา ตุสฺสิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๖๐.

‘‘ยเทสมานา วิจริมฺห, ปพฺพตานิ วนานิ จ;

อนฺเวสํ วิจรึ าตี, เตเม อธิคตา มยา.

๑๖๑.

‘‘พหุฺจิทํ มูลผลํ, ภกฺโข จายํ อนปฺปโก;

รมฺมา จิมา คิรีนชฺโช, ผาสุวาโส ภวิสฺสติ.

๑๖๒.

‘‘อิเธวาหํ วสิสฺสามิ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

อปฺโปสฺสุกฺโก นิราสงฺกี, อโสโก อกุโตภโย’’ติ.

ตตฺถ ยเทสมานาติ ยํ าติคณํ ปริเยสนฺตา มยํ วิจริมฺห. อนฺเวสนฺติ จิรํ วต อนฺเวสนฺโต วิจรึ. เตเมติ เต อิเม. ภกฺโขติ สฺเวว วนมูลผลสงฺขาโต ภกฺโข. อปฺโปสฺสุกฺโกติ อนุสฺสุกฺโก หุตฺวา.

สูกรา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จตุตฺถํ คาถมาหํสุ –

๑๖๓.

‘‘อฺมฺปิ เลณํ ปริเยส, สตฺตุ โน อิธ วิชฺชติ;

โส ตจฺฉ สูกเร หนฺติ, อิธาคนฺตฺวา วรํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ ตจฺฉาติ ตํ นาเมนาลปนฺติ. วรํ วรนฺติ สูกเร หนนฺโต ถูลมํสํ วรํ วรฺเว หนติ.

อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยน เวทิตพฺพา –

๑๖๔.

‘‘โก นุมฺหากํ อิธ สตฺตุ, โก าตี สุสมาคเต;

ทุปฺปธํเส ปธํเสติ, ตํ เม อกฺขาถ ปุจฺฉิตา.

๑๖๕.

‘‘อุทฺธคฺคราชี มิคราชา, พลี ทาาวุโธ มิโค;

โส ตจฺฉ สูกเร หนฺติ, อิธาคนฺตฺวา วรํ วรํ.

๑๖๖.

‘‘น โน ทาา น วิชฺชนฺติ, พลํ กาเย สโมหิตํ;

สพฺเพ สมคฺคา หุตฺวาน, วสํ กาหาม เอกกํ.

๑๖๗.

‘‘หทยงฺคมํ กณฺณสุขํ, วาจํ ภาสสิ ตจฺฉก;

โยปิ ยุทฺเธ ปลาเยยฺย, ตมฺปิ ปจฺฉา หนามเส’’ติ.

ตตฺถ โก นุมฺหากนฺติ อหํ ตุมฺเห ทิสฺวาว ‘‘อิเม สูกรา อปฺปมํสโลหิตา, ภเยน เนสํ ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตสึ, ตสฺมา เม อาจิกฺขถ, โก นุ อมฺหากํ อิธ สตฺตุ. อุทฺธคฺคราชีติ อุทฺธคฺคาหิ สรีรราชีหิ สมนฺนาคโต. พฺยคฺฆํ สนฺธาเยวมาหํสุ. โยปีติ โย อมฺหากํ อนฺตเร เอโกปิ ปลายิสฺสติ, ตมฺปิ มยํ ปจฺฉา หนิสฺสามาติ.

ตจฺฉสูกโร สพฺเพ สูกเร เอกจิตฺเต กตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘กาย เวลาย พฺยคฺโฆ อาคมิสฺสตี’’ติ. อชฺช ปาโตว เอกํ คเหตฺวา คโต, สฺเว ปาโตว อาคมิสฺสตีติ. โส ยุทฺธกุสโล ‘‘อิมสฺมึ าเน ิเตน สกฺกา เชตุ’’นฺติ ภูมิสีสํ ปชานาติ, ตสฺมา เอกํ ปเทสํ สลฺลกฺเขตฺวา รตฺติเมว สูกเร โคจรํ คาหาเปตฺวา พลวปจฺจูสโต ปฏฺาย ‘‘ยุทฺธํ นาม สกฏพฺยูหาทิวเสน ติวิธํ โหตี’’ติ วตฺวา ปทุมพฺยูหํ สํวิทหติ. มชฺเฌ าเน ขีรปิวเก สูกรโปตเก เปสิ. เต ปริวาเรตฺวา เตสํ มาตโร, ตา ปริวาเรตฺวา วฺฌา สูกริโย, ตาสํ อนนฺตรา สูกรโปตเก, เตสํ อนนฺตรา มกุลทาเ ตรุณสูกเร, เตสํ อนนฺตรา มหาทาเ, เตสํ อนนฺตรา ชิณฺณสูกเร, ตโต ตตฺถ ตตฺถ ทสวคฺคํ วีสติวคฺคํ ตึสวคฺคฺจ กตฺวา พลคุมฺพํ เปสิ. อตฺตโน อตฺถาย เอกํ อาวาฏํ, พฺยคฺฆสฺส ปตนตฺถาย เอกํ สุปฺปสณฺานํ ปพฺภารํ กตฺวา ขณาเปสิ. ทฺวินฺนํ อาวาฏานํ อนฺตเร อตฺตโน วสนตฺถาย ปีกํ กาเรสิ. โส ถามสมฺปนฺเน โยธสูกเร คเหตฺวา ตสฺมึ ตสฺมึ าเน สูกเร อสฺสาเสนฺโต วิจริ. ตสฺเสวํ กโรนฺตสฺเสว สูริโย อุคฺคจฺฉติ.

อถ พฺยคฺฆราชา กูฏชฏิลสฺส อสฺสมปทา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพตตเล อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา สูกรา ‘‘อาคโต โน ภนฺเต เวรี’’ติ วทึสุ. มา ภายถ, ยํ ยํ เอส กโรติ, ตํ สพฺพํ สริกฺขา หุตฺวา กโรถาติ. พฺยคฺโฆ สรีรํ วิธุนิตฺวา โอสกฺกนฺโต วิย ปสฺสาวมกาสิ, สูกราปิ ตเถว กรึสุ. พฺยคฺโฆ สูกเร โอโลเกตฺวา มหานทํ นทิ, เตปิ ตเถว กรึสุ. โส เตสํ กิริยํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘น อิเม ปุพฺพสทิสา, อชฺช มยฺหํ ปฏิสตฺตุโน หุตฺวา วคฺควคฺคา ิตา, สํวิทหโก เนสํ เสนานายโกปิ อตฺถิ, อชฺช มยา เอเตสํ สนฺติกํ คนฺตุํ น วฏฺฏตี’’ติ มรณภยตชฺชิโต นิวตฺติตฺวา กูฏชฏิลสฺส สนฺติกํ คโต. อถ นํ โส ตุจฺฉหตฺถํ ทิสฺวา นวมํ คาถมาห –

๑๖๘.

‘‘ปาณาติปาตา วิรโต นุ อชฺช, อภยํ นุ เต สพฺพภูเตสุ ทินฺนํ;

ทาา นุ เต มิควธาย น สนฺติ, โย สงฺฆปตฺโต กปโณว ฌายสี’’ติ.

ตตฺถ สงฺฆปตฺโตติ โย ตฺวํ สูกรสงฺฆปตฺโต หุตฺวา กิฺจิ โคจรํ อลภิตฺวา กปโณ วิย ฌายสีติ.

อถ พฺยคฺโฆ ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๑๖๙.

‘‘น เม ทาา น วิชฺชนฺติ, พลํ กาเย สโมหิตํ;

าตี จ ทิสฺวาน สามคฺคี เอกโต, ตสฺมา จ ฌายามิ วนมฺหิ เอกโก.

๑๗๐.

‘‘อิมสฺสุทํ ยนฺติ ทิโสทิสํ ปุเร, ภยฏฺฏิตา เลณคเวสิโน ปุถุ;

เต ทานิ สงฺคมฺม วสนฺติ เอกโต, ยตฺถฏฺิตา ทุปฺปสหชฺช เต มยา.

๑๗๑.

‘‘ปริณายกสมฺปนฺนา , สหิตา เอกวาทิโน;

เต มํ สมคฺคา หึเสยฺยุํ, ตสฺมา เนสํ น ปตฺถเย’’ติ.

ตตฺถ สามคฺคี เอกโตติ สหิตา หุตฺวา เอกโต ิเต. อิมสฺสุทนฺติ อิเม สุทํ มยา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตมตฺตาว ปุพฺเพ ทิโสทิสํ คจฺฉนฺติ. ปุถูติ วิสุํ วิสุํ. ยตฺถฏฺิตาติ ยสฺมึ ภูมิภาเค ิตา. ปริณายกสมฺปนฺนาติ เสนานายเกน สมฺปนฺนา. ตสฺมา เนสํ น ปตฺถเยติ เตน การเณน เอเตสํ น ปตฺเถมิ.

ตํ สุตฺวา กูฏชฏิโล ตสฺส อุสฺสาหํ ชนยนฺโต คาถมาห –

๑๗๒.

‘‘เอโกว อินฺโท อสุเร ชินาติ, เอโกว เสโน หนฺติ ทิเช ปสยฺห;

เอโกว พฺยคฺโฆ มิคสงฺฆปตฺโต, วรํ วรํ หนฺติ พลฺหิ ตาทิส’’นฺติ.

ตตฺถ มิคสงฺฆปตฺโตติ มิคคณปตฺโต หุตฺวา วรํ วรํ มิคํ หนฺติ. พลฺหิ ตาทิสนฺติ ตาทิสฺหิ ตสฺส พลํ.

อถ พฺยคฺโฆ คาถมาห –

๑๗๓.

‘‘น เหว อินฺโท น เสโน, นปิ พฺยคฺโฆ มิคาธิโป;

สมคฺเค สหิเต าตี, น พฺยคฺเฆ กุรุเต วเส’’ติ.

ตตฺถ พฺยคฺเฆติ พฺยคฺฆสทิเส หุตฺวา สรีรวิธูนนาทีนิ กตฺวา ิเต วเส น กุรุเต, อตฺตโน วเส วตฺตาเปตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ.

ปุน ชฏิโล ตํ อุสฺสาเหนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๗๔.

‘‘กุมฺภีลกา สกุณกา, สงฺฆิโน คณจาริโน;

สมฺโมทมานา เอกชฺฌํ, อุปฺปตนฺติ ฑยนฺติ จ.

๑๗๕.

‘‘เตสฺจ ฑยมานานํ, เอเกตฺถ อปสกฺกติ;

ตฺจ เสโน นิตาเฬติ, เวยฺยคฺฆิเยว สา คตี’’ติ.

ตตฺถ กุมฺภีลกาติ เอวํนามกา ขุทฺทกสกุณา. อุปฺปตนฺตีติ โคจรํ จรนฺตา อุปฺปตนฺติ. ฑยนฺติ จาติ โคจรํ คเหตฺวา อากาเสน คจฺฉนฺติ. เอเกตฺถ อปสกฺกตีติ เอโก เอเตสุ โอสกฺกิตฺวา วา เอกปสฺเสน วา วิสุํ คจฺฉติ. นิตาเฬตีติ ปหริตฺวา คณฺหาติ. เวยฺยคฺฆิเยว สา คตีติ พฺยคฺฆานํ เอสาติ เวยฺยคฺฆิ, สมคฺคานํ คจฺฉนฺตานมฺปิ เอสา เอวรูปา คติ พฺยคฺฆานํ คติเยว นาม โหติ. น หิ สกฺกา สพฺเพหิ เอกโตว คนฺตุํ, ตสฺมา โย เอวํ ตตฺถ เอโก คจฺฉติ, ตํ คณฺหาติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘พฺยคฺฆราช ตฺวํ อตฺตโน พลํ น ชานาสิ, มา ภายิ, เกวลํ ตฺวํ นทิตฺวา ปกฺขนฺท, ทฺเว เอกโต คจฺฉนฺตา นาม น ภวิสฺสนฺตี’’ติ อุสฺสาเหสิ . โส ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๗๖.

‘‘อุสฺสาหิโต ชฏิเลน, ลุทฺเทนามิสจกฺขุนา;

ทาี ทาีสุ ปกฺขนฺติ, มฺมาโน ยถา ปุเร’’ติ.

ตตฺถ ทาีติ สยํ ทาาวุโธ อิตเรสุ ทาาวุเธสุ ปกฺขนฺทิ. ยถา ปุเรติ ยถา ปุพฺเพ มฺติ, ตเถว มฺมาโน.

โส กิร คนฺตฺวา ปพฺพตตเล ตาว อฏฺาสิ. สูกรา ‘‘ปุนาคโต สามิ, โจโร’’ติ ตจฺฉสฺส อาโรเจสุํ. โส ‘‘มา ภายถา’’ติ เต อสฺสาเสตฺวา อุฏฺาย ทฺวินฺนํ อาวาฏานํ อนฺตเร ปีกาย อฏฺาสิ. พฺยคฺโฆ เวคํ ชเนตฺวา ตจฺฉสูกรํ สนฺธาย ปกฺขนฺทิ. ตจฺฉสูกโร ปริวตฺติตฺวา ปจฺฉามุโข ปุริมอาวาเฏ ปติ. พฺยคฺโฆ จ เวคํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต คนฺตฺวา สุปฺปปพฺภาเร อาวาเฏ ปติตฺวา ปุฺชกิโตว อฏฺาสิ. ตจฺฉสูกโร เวเคน อุฏฺาย ตสฺส อนฺตรสตฺถิมฺหิ ทาํ โอตาเรตฺวา ยาว หทยา ผาเลตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา มุเขน ฑํสิตฺวา พหิอาวาเฏ ปาเตตฺวา ‘‘คณฺหถิมํ ทาส’’นฺติ อาห. ปมาคตา เอกวารเมว ตุณฺโฑตารณมตฺตํ ลภึสุ, ปจฺฉา อาคตา อลภิตฺวา ‘‘พฺยคฺฆมํสํ นาม กีทิส’’นฺติ วทึสุ. ตจฺฉสูกโร อาวาฏา อุตฺตริตฺวา สูกเร โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข น ตุสฺสถา’’ติ อาห. ‘‘สามิ, เอโก ตาว พฺยคฺโฆ คหิโต, อฺโ ปเนโก ทสพฺยคฺฆคฺฆนโก อตฺถี’’ติ? ‘‘โก นาเมโส’’ติ? ‘‘พฺยคฺเฆน อาภตาภตมํสํ ขาทโก กูฏชฏิโล’’ติ. ‘‘เตน หิ เอถ, คณฺหิสฺสาม น’’นฺติ เตหิ สทฺธึ เวเคน ปกฺขนฺทิ.

ชฏิโล ‘‘พฺยคฺโฆ จิรายตี’’ติ ตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต พหู สูกเร อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม พฺยคฺฆํ มาเรตฺวา มม มารณตฺถาย อาคจฺฉนฺติ มฺเ’’ติ ปลายิตฺวา เอกํ อุทุมฺพรรุกฺขํ อภิรุหิ. สูกรา ‘‘เอส รุกฺขํ อารุฬฺโห’’ติ วทึสุ. ‘‘กึ รุกฺข’’นฺติ. ‘‘อุทุมฺพรรุกฺข’’นฺติ. ‘‘เตน หิ มา จินฺตยิตฺถ, อิทานิ นํ คณฺหิสฺสามา’’ติ ตรุณสูกเร ปกฺโกสิตฺวา รุกฺขมูลตา ปํสุํ อปพฺยูหาเปสิ, สูกรีหิ มุขปูรํ อุทกํ อาหราเปสิ, มหาทาสูกเรหิ สมนฺตา มูลานิ ฉินฺทาเปสิ. เอกํ อุชุกํ โอติณฺณมูลเมว อฏฺาสิ. ตโต เสสสูกเร ‘‘ตุมฺเห อเปถา’’ติ อุสฺสาเรตฺวา ชณฺณุเกหิ ปติฏฺหิตฺวา ทาาย มูลํ ปหริ, ผรสุนา ปหฏํ วิย ฉิชฺชิตฺวา คตํ. รุกฺโข ปริวตฺติตฺวา ปติ. ตํ กูฏชฏิลํ ปตนฺตเมว สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มํสํ ภกฺเขสุํ. ตํ อจฺฉริยํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา คาถมาห –

๑๗๗.

‘‘สาธุ สมฺพหุลา าตี, อปิ รุกฺขา อรฺชา;

สูกเรหิ สมคฺเคหิ, พฺยคฺโฆ เอกายเน หโต’’ติ.

ตตฺถ เอกายเน หโตติ เอกคมนสฺมึเยว หโต.

อุภินฺนํ ปน เนสํ หตภาวํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิตรํ คาถมาห –

๑๗๘.

‘‘พฺราหฺมณฺเจว พฺยคฺฆฺจ, อุโภ หนฺตฺวาน สูกรา;

อานนฺทิโน ปมุทิตา, มหานาทํ ปนาทิสุ’’นฺติ.

ปุน ตจฺฉสูกโร เต ปุจฺฉิ ‘‘อฺเปิ โว อมิตฺตา อตฺถี’’ติ? สูกรา ‘‘นตฺถิ, สามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตํ อภิสิฺจิตฺวา ราชานํ กริสฺสามา’’ติ อุทกํ ปริเยสนฺตา ชฏิลสฺส ปานียสงฺขํ ทิสฺวา ตํ ทกฺขิณาวฏฺฏํ สงฺขรตนํ ปูเรตฺวา อุทกํ อภิหริตฺวา ตจฺฉสูกรํ อุทุมฺพรรุกฺขมูเลเยว อภิสิฺจึสุ. อภิเสกอุทกํ อาสิตฺตํ, สูกริเมวสฺส อคฺคมเหสึ กรึสุ. ตโต ปฏฺาย อุทุมฺพรภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิณาวฏฺฏสงฺเขน อภิเสกกรณํ ปวตฺตํ. ตมฺปิ อตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๑๗๙.

‘‘เต สุ อุทุมฺพรมูลสฺมึ, สูกรา สุสมาคตา;

ตจฺฉกํ อภิสิฺจึสุ, ตฺวํ โน ราชาสิ อิสฺสโร’’ติ.

ตตฺถ เต สูติ เต สูกรา, สุ-กาโร นิปาตมตฺตํ. อุทุมฺพรมูลสฺมินฺติ อุทุมฺพรสฺส มูเล.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ธนุคฺคหติสฺสตฺเถโร ยุทฺธสํวิทหเน เฉโกเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กูฏชฏิโล เทวทตฺโต อโหสิ, ตจฺฉสูกโร ธนุคฺคหติสฺโส, รุกฺขเทวตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ตจฺฉสูกรชาตกวณฺณนา นวมา.

[๔๙๓] ๑๐. มหาวาณิชชาตกวณฺณนา

วาณิชาสมิตึ กตฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต สาวตฺถิวาสิโน วาณิเช อารพฺภ กเถสิ. เต กิร โวหารตฺถาย คจฺฉนฺตา สตฺถุ มหาทานํ ทตฺวา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาย ‘‘ภนฺเต, สเจ อโรคา อาคมิสฺสาม, ปุน ตุมฺหากํ ปาเท วนฺทิสฺสามา’’ติ วตฺวา ปฺจมตฺเตหิ สกฏสเตหิ นิกฺขมิตฺวา กนฺตารํ ปตฺวา มคฺคํ อสลฺลกฺเขตฺวา มคฺคมูฬฺหา นิรุทเก นิราหาเร อรฺเ วิจรนฺตา เอกํ นาคปริคฺคหิตํ นิคฺโรธรุกฺขํ ทิสฺวา สกฏานิ โมเจตฺวา รุกฺขมูเล นิสีทึสุ. เต ตสฺส อุทกตินฺตานิ วิย นีลานิ สินิทฺธานิ ปตฺตานิ อุทกปุณฺณา วิย จ สาขา ทิสฺวา จินฺตยึสุ ‘‘อิมสฺมึ รุกฺเข อุทกํ สฺจรนฺตํ วิย ปฺายติ, อิมสฺส ปุริมสาขํ ฉินฺทาม, ปานียํ โน ทสฺสตี’’ติ. อเถโก รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา สาขํ ฉินฺทิ, ตโต ตาลกฺขนฺธปฺปมาณา อุทกธารา ปวตฺติ. เต ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา จ ทกฺขิณสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต นานคฺครสโภชนํ นิกฺขมิ. ตํ ภุฺชิตฺวา ปจฺฉิมสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต อลงฺกตอิตฺถิโย นิกฺขมึสุ. ตาหิ สทฺธึ อภิรมิตฺวา อุตฺตรสาขํ ฉินฺทึสุ, ตโต สตฺต รตนานิ นิกฺขมึสุ. ตานิ คเหตฺวา ปฺจ สกฏสตานิ ปูเรตฺวา สาวตฺถึ ปจฺจาคนฺตฺวา ธนํ โคเปตฺวา คนฺธมาลาทิหตฺถา เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปูเชตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺนา ธมฺมกถํ สุตฺวา นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหาทานํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมสฺมึ ทาเน อมฺหากํ ธนทายิกาย รุกฺขเทวตาย ปตฺตึ เทมา’’ติ ปตฺตึ อทํสุ. สตฺถา นิฏฺิตภตฺตกิจฺโจ ‘‘กตรรุกฺขเทวตาย ปตฺตึ เทถา’’ติ ปุจฺฉิ. วาณิชา นิคฺโรธรุกฺเข ธนสฺส ลทฺธาการํ ตถาคตสฺสาโรเจสุํ. สตฺถา ‘‘ตุมฺเห ตาว มตฺตฺุตาย ตณฺหาวสิกา อหุตฺวา ธนํ ลภิตฺถ, ปุพฺเพ ปน อมตฺตฺุตาย ตณฺหาวสิกา ธนฺจ ชีวิตฺจ วิชหึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสินคเร ตเทว ปน กนฺตารํ สฺเวว นิคฺโรโธ. วาณิชา มคฺคมูฬฺหา หุตฺวา ตเมว นิคฺโรธํ ปสฺสึสุ. ตมตฺถํ สตฺถา อภิสมฺพุทฺโธ หุตฺวา กเถนฺโต อิมา คาถา อาห –

๑๘๐.

‘‘วาณิชา สมิตึ กตฺวา, นานารฏฺโต อาคตา;

ธนาหรา ปกฺกมึสุ, เอกํ กตฺวาน คามณึ.

๑๘๑.

‘‘เต ตํ กนฺตารมาคมฺม, อปฺปภกฺขํ อโนทกํ;

มหานิคฺโรธมทฺทกฺขุํ, สีตจฺฉายํ มโนรมํ.

๑๘๒.

‘‘เต จ ตตฺถ นิสีทิตฺวา, ตสฺส รุกฺขสฺส ฉายยา;

วาณิชา สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา.

๑๘๓.

‘‘อลฺลายเต อยํ รุกฺโข, อปิ วารีว สนฺทติ;

อิงฺฆสฺส ปุริมํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๔.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, อจฺฉํ วารึ อนาวิลํ;

เต ตตฺถ นฺหตฺวา ปิวิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๘๕.

‘‘ทุติยํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส ทกฺขิณํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๖.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, สาลิมํโสทนํ พหุํ;

อปฺโปทวณฺเณ กุมฺมาเส, สิงฺคึ วิทลสูปิโย.

๑๘๗.

‘‘เต ตตฺถ ภุตฺวา ขาทิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา;

ตติยํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส ปจฺฉิมํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๘๘.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, นาริโย สมลงฺกตา;

วิจิตฺรวตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

๑๘๙.

‘‘อปิ สุ วาณิชา เอกา, นาริโย ปณฺณวีสติ;

สมนฺตา ปริวารึสุ, ตสฺส รุกฺขสฺส ฉายยา;

เต ตาหิ ปริจาเรตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๙๐.

‘‘จตุตฺถํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส อุตฺตรํ สาขํ, มยํ ฉินฺทาม วาณิชา.

๑๙๑.

‘‘สา จ ฉินฺนาว ปคฺฆริ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู;

รชตํ ชาตรูปฺจ, กุตฺติโย ปฏิยานิ จ.

๑๙๒.

‘‘กาสิกานิ จ วตฺถานิ, อุทฺทิยานิ จ กมฺพลา;

เต ตตฺถ ภาเร พนฺธิตฺวา, ยาวติจฺฉึสุ วาณิชา.

๑๙๓.

‘‘ปฺจมํ สมจินฺเตสุํ, พาลา โมเหน ปารุตา;

อิงฺฆสฺส มูลํ ฉินฺทาม, อปิ ภิยฺโย ลภามเส.

๑๙๔.

‘‘อถุฏฺหิ สตฺถวาโห, ยาจมาโน กตฺชลี;

นิคฺโรโธ กึ ปรชฺฌติ, วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เต.

๑๙๕.

‘‘วาริทา ปุริมา สาขา, อนฺนปานฺจ ทกฺขิณา;

นาริทา ปจฺฉิมา สาขา, สพฺพกาเม จ อุตฺตรา;

นิคฺโรโธ กึ ปรชฺฌติ, วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เต.

๑๙๖.

‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;

น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.

๑๙๗.

‘‘เต จ ตสฺสานาทิยิตฺวา, เอกสฺส วจนํ พหู;

นิสิตาหิ กุารีหิ, มูลโต นํ อุปกฺกมุ’’นฺติ.

ตตฺถ สมิตึ กตฺวาติ พาราณสิยํ สมาคมํ กตฺวา, พหู เอกโต หุตฺวาติ อตฺโถ. ปกฺกมึสูติ ปฺจหิ สกฏสเตหิ พาราณเสยฺยกํ ภณฺฑํ อาทาย ปกฺกมึสุ. คามณินฺติ เอกํ ปฺวนฺตตรํ สตฺถวาหํ กตฺวา . ฉายยาติ ฉายาย. อลฺลายเตติ อุทกภริโต วิย อลฺโล หุตฺวา ปฺายติ. ฉินฺนาว ปคฺฆรีติ เอโก รุกฺขาโรหนกุสโล อภิรุหิตฺวา ตํ ฉินฺทิ, สา ฉินฺนมตฺตาว ปคฺฆรีติ ทสฺเสติ. ปรโตปิ เอเสว นโย.

อปฺโปทวณฺเณกุมฺมาเสติ อปฺโปทกปายาสสทิเส กุมฺมาเส. สิงฺคินฺติ สิงฺคิเวราทิกํ อุตฺตริภงฺคํ. วิทลสูปิโยติ มุคฺคสูปาทโย. วาณิชา เอกาติ เอเกกสฺส วาณิชสฺส ยตฺตกา วาณิชา , เตสุ เอเกกสฺส เอเกกาว, สตฺถวาหสฺส ปน สนฺติเก ปฺจวีสตีติ อตฺโถ. ปริวารึสูติ ปริวาเรสุํ. ตาหิ ปน สทฺธึเยว นาคานุภาเวน สาณิวิตานสยนาทีนิ ปคฺฆรึสุ.

กุตฺติโยติ หตฺถตฺถราทโย. ปฏิยานิจาติ อุณฺณามยปจฺจตฺถรณานิ. ‘‘เสตกมฺพลานี’’ติปิ วทนฺติเยว. อุทฺทิยานิ จ กมฺพลาติ อุทฺทิยานิ นาม กมฺพลา อตฺถิ. เต ตตฺถ ภาเร พนฺธิตฺวาติ ยาวตกํ อิจฺฉึสุ, ตาวตกํ คเหตฺวา ปฺจ สกฏสตานิ ปูเรตฺวาติ อตฺโถ. วาณิชา ภทฺทมตฺถุ เตติ เอเกกํ วาณิชํ อาลปนฺโต ‘‘ภทฺทํ เต อตฺถู’’ติ อาห. อนฺนปานฺจาติ อนฺนฺจ ปานฺจ อทาสิ. สพฺพกาเม จาติ สพฺพกาเม จ อทาสิ. มิตฺตทุพฺโภ หีติ มิตฺตานํ ทุพฺภนปุริโส หิ ปาปโก ลามโก นาม. อนาทิยิตฺวาติ ตสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา. อุปกฺกมุนฺติ โมหาว ฉินฺทิตุํ อารภึสุ.

อถ เน ฉินฺทนตฺถาย รุกฺขํ อุปคเต ทิสฺวา นาคราชา จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอเตสํ ปิปาสิตานํ ปานียํ ทาเปสึ, ตโต ทิพฺพโภชนํ, ตโต สยนาทีนิ เจว ปริจาริกา จ นาริโย, ตโต ปฺจสตสกฏปูรํ รตนํ, อิทานิ ปนิเม ‘‘รุกฺขํ มูลโต ฉินฺทิสฺสามา’ติ วทนฺติ, อติวิย ลุทฺธา อิเม, เปตฺวา สตฺถวาหํ อวเสเส มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ‘‘เอตฺตกา สนฺนทฺธโยธา นิกฺขมนฺตุ, เอตฺตกา ธนุคฺคหา, เอตฺตกา วมฺมิโน’’ติ เสนํ วิจาเรสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา คาถมาห –

๑๙๘.

‘‘ตโต นาคา นิกฺขมึสุ, สนฺนทฺธา ปณฺณวีสติ;

ธนุคฺคหานํ ติสตา, ฉสหสฺสา จ วมฺมิโน’’ติ.

ตตฺถ สนฺนทฺธาติ สุวณฺณรชตาทิวมฺมกวจิกา. ธนุคฺคหานํ ติสตาติ เมณฺฑวิสาณธนุคฺคหานํ ตีณิ สตานิ. วมฺมิโนติ เขฏกผลกหตฺถา ฉสหสฺสา.

๑๙๙.

‘‘เอเต หนถ พนฺธถ, มา โว มุฺจิตฺถ ชีวิตํ;

เปตฺวา สตฺถวาหํว, สพฺเพ ภสฺมํ กโรถ เน’’ติ. – อยํ นาคราเชน วุตฺตคาถา;

ตตฺถ มา โว มุฺจิตฺถ ชีวิตนฺติ กสฺสจิ เอกสฺสปิ ชีวิตํ มา มุฺจิตฺถ.

นาคา ตถา กตฺวา อตฺถรณาทีนิ ปฺจสุ สกฏสเตสุ อาโรเปตฺวา สตฺถวาหํ คเหตฺวา สยํ ตานิ สกฏานิ ปาเชนฺตา พาราณสึ คนฺตฺวา สพฺพํ ธนํ ตสฺส เคเห ปฏิสาเมตฺวา ตํ อาปุจฺฉิตฺวา อตฺตโน นาคภวนเมว คตา. ตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา โอวาทวเสน คาถาทฺวยมาห –

๒๐๐.

‘‘ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ อตฺถมตฺตโน;

โลภสฺส น วสํ คจฺเฉ, หเนยฺยาริสกํ มนํ.

๒๐๑.

‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

ตตฺถ ตสฺมาติ ยสฺมา โลภวสิกา มหาวินาสํ ปตฺตา, สตฺถวาโห อุตฺตมสมฺปตฺตึ, ตสฺมา. หเนยฺยาริสกํ มนนฺติ อนฺโต อุปฺปชฺชมานานํ นานาวิธานํ โลภสตฺตูนํ สนฺตกํ มนํ, โลภสมฺปยุตฺตจิตฺตํ หเนยฺยาติ อตฺโถ. เอวมาทีนวนฺติ เอวํ โลเภ อาทีนวํ ชานิตฺวา. ตณฺหา ทุกฺขสฺส สมฺภวนฺติ ชาติอาทิทุกฺขสฺส ตณฺหา สมฺภโว, ตโต เอตํ ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, เอวํ ตณฺหาว ทุกฺขสฺส สมฺภวํ ตฺวา วีตตณฺโห ตณฺหาอาทาเนน อนาทาโน มคฺเคน อาคตาย สติยา สโต หุตฺวา ภิกฺขุ ปริพฺพเช อิริเยถ วตฺเตถาติ อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิ.

อิมฺจ ปน ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ อุปาสกา ปุพฺเพ โลภวสิกา วาณิชา มหาวินาสํ ปตฺตา, ตสฺมา โลภวสิเกน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน เต วาณิชา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺิตา. ตทา นาคราชา สาริปุตฺโต อโหสิ, สตฺถวาโห ปน อหเมว อโหสินฺติ.

มหาวาณิชชาตกวณฺณนา ทสมา.

[๔๙๔] ๑๑. สาธินชาตกวณฺณนา

อพฺภุโตวต โลกสฺมินฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถิเก อุปาสเก อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘อุปาสกา โปราณกปณฺฑิตา อตฺตโน อุโปสถกมฺมํ นิสฺสาย มนุสฺสสรีเรเนว เทวโลกํ คนฺตฺวา จิรํ วสึสู’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มิถิลายํ สาธิโน นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา มหาทานํ ปวตฺเตสิ, เทวสิกํ ฉ สตสหสฺสานิ วยกรณํ คจฺฉนฺติ, ปฺจ สีลานิ รกฺขติ, อุโปสถํ อุปวสติ. รฏฺวาสิโนปิ ตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา มตมตา เทวนคเรเยว นิพฺพตฺตึสุ. สุธมฺมเทวสภํ ปูเรตฺวา นิสินฺนา เทวา รฺโ สีลาทิคุณเมว วณฺณยนฺติ. ตํ สุตฺวา เสสเทวาปิ ราชานํ ทฏฺุกามา อเหสุํ. สกฺโก เทวราชา เตสํ มนํ วิทิตฺวา อาห – ‘‘สาธินราชานํ ทฏฺุกามตฺถา’’ติ. ‘‘อาม เทวา’’ติ. โส มาตลึ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ ตฺวํ เวชยนฺตรถํ โยเชตฺวา สาธินราชานํ อาเนหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา รถํ โยเชตฺวา วิเทหรฏฺํ อคมาสิ, ตทา ปุณฺณมทิวโส โหติ. มาตลิ มนุสฺสานํ สายมาสํ ภุฺชิตฺวา ฆรทฺวาเรสุ สุขกถาย นิสินฺนกาเล จนฺทมณฺฑเลน สทฺธึ รถํ เปเสสิ. มนุสฺสา ‘‘ทฺเว จนฺทา อุฏฺิตา’’ติ วทนฺตา ปุน จนฺทมณฺฑลํ โอหาย รถํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘นายํ จนฺโท, รโถ เอโส, เทวปุตฺโต ปฺายติ, กสฺเสส เอตํ มโนมยสินฺธวยุตฺตํ ทิพฺพรถํ อาเนติ, น อฺสฺส, อมฺหากํ รฺโ ภวิสฺสติ, ราชา หิ โน ธมฺมิโก ธมฺมราชา’’ติ โสมนสฺสชาตา หุตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ิตา ปมํ คาถมาหํสุ –

๒๐๒.

‘‘อพฺภุโต วต โลกสฺมึ, อุปฺปชฺชิ โลมหํสโน;

ทิพฺโพ รโถ ปาตุรหุ, เวเทหสฺส ยสสฺสิโน’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – อพฺภุโต วเตส อมฺหากํ ราชา, โลกสฺมึ โลมหํสโน อุปฺปชฺชิ, ยสฺส ทิพฺโพ รโถ ปาตุรโหสิ เวเทหสฺส ยสสฺสิโนติ.

มาตลิปิ ตํ รถํ อาเนตฺวา มนุสฺเสสุ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชนฺเตสุ ติกฺขตฺตุํ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา รฺโ นิเวสนทฺวารํ คนฺตฺวา รถํ นิวตฺเตตฺวา ปจฺฉาภาเคน สีหปฺชรอุมฺมาเร เปตฺวา อาโรหณสชฺชํ กตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิวสํ ราชาปิ ทานสาลาโย โอโลเกตฺวา ‘‘อิมินา นิยาเมน ทานํ เทถา’’ติ อาณาเปตฺวา อุโปสถํ สมาทิยิตฺวา ทิวสํ วีตินาเมตฺวา อมจฺจคณปริวุโต อลงฺกตมหาตเล ปาจีนสีหปฺชราภิมุโข ธมฺมยุตฺตํ กเถนฺโต นิสินฺโน โหติ. อถ นํ มาตลิ รถาภิรุหนตฺถํ นิมนฺเตตฺวา อาทาย อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อภาสิ –

๒๐๓.

‘‘เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก, มาตลิ เทวสารถิ;

นิมนฺตยิตฺถ ราชานํ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ.

๒๐๔.

‘‘เอหิมํ รถมารุยฺห, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

เทวา ทสฺสนกามา เต, ตาวตึสา สอินฺทกา;

สรมานา หิ เต เทวา, สุธมฺมายํ สมจฺฉเร.

๒๐๕.

‘‘ตโต จ ราชา สาธิโน, เวเทโห มิถิลคฺคโห;

สหสฺสยุตฺตมารุยฺห, อคา เทวาน สนฺติเก;

ตํ เทวา ปฏินนฺทึสุ, ทิสฺวา ราชานมาคตํ.

๒๐๖.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

นิสีท ทานิ ราชีสิ, เทวราชสฺส สนฺติเก.

๒๐๗.

‘‘สกฺโกปิ ปฏินนฺทิตฺถ, เวเทหํ มิถิลคฺคหํ;

นิมนฺตยิตฺถ กาเมหิ, อาสเนน จ วาสโว.

๒๐๘.

‘‘สาธุ โขสิ อนุปฺปตฺโต, อาวาสํ วสวตฺตินํ;

วส เทเวสุ ราชีสิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภุฺช กาเม อมานุเส’’ติ.

ตตฺถ สมจฺฉเรติ อจฺฉนฺติ. อคา เทวาน สนฺติเกติ เทวานํ สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺมิฺหิ รถํ อภิรุหิตฺวา ิเต รโถ อากาสํ ปกฺขนฺทิ, โส มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว อนฺตรธายิ. มาตลิ ราชานํ เทวโลกํ เนสิ . ตํ ทิสฺวา เทวตา จ สกฺโก จ หฏฺตุฏฺา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปฏิสนฺถารํ กรึสุ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ เทวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปฏินนฺทึสูติ ปุนปฺปุนํ นนฺทึสุ. อาสเนน จาติ ราชานํ อาลิงฺคิตฺวา ‘‘อิธ นิสีทา’’ติ อตฺตโน ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเนน จ กาเมหิ จ นิมนฺเตสิ, อุปฑฺฒรชฺชํ ทตฺวา เอกาสเน นิสีทาเปสีติ อตฺโถ.

ตตฺถ สกฺเกน เทวรฺา ทสโยชนสหสฺสํ เทวนครํ อฑฺฒติยา จ อจฺฉราโกฏิโย เวชยนฺตปาสาทฺจ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทินฺนํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตสฺส มนุสฺสคณนาย สตฺต วสฺสสตานิ อติกฺกนฺตานิ. เตนตฺตภาเวน เทวโลเก วสนกํ ปุฺํ ขีณํ, อนภิรติ อุปฺปนฺนา, ตสฺมา สกฺเกน สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถมาห –

๒๐๙.

‘‘อหํ ปุเร สคฺคคโต รมามิ, นจฺเจหิ คีเตหิ จ วาทิเตหิ;

โส ทานิ อชฺช น รมามิ สคฺเค, อายุํ นุ ขีโณ มรณํ นุ สนฺติเก;

อุทาหุ มูฬฺโหสฺมิ ชนินฺทเสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ อายุํ นุ ขีโณติ กึ นุ มม สรเสน ชีวิตินฺทฺริยํ ขีณํ, อุทาหุ อุปจฺเฉทกกมฺมวเสน มรณํ สนฺติเก ชาตนฺติ ปุจฺฉติ. ชนินฺทเสฏฺาติ ชนินฺทานํ เทวานํ เสฏฺ.

อถ นํ สกฺโก อาห –

๒๑๐.

‘‘น ตายุ ขีณํ มรณฺจ ทูเร, น จาปิ มูฬฺโห นรวีรเสฏฺ;

ตุยฺหฺจ ปุฺานิ ปริตฺตกานิ, เยสํ วิปากํ อิธ เวทยิตฺโถ.

๒๑๑.

‘‘วส เทวานุภาเวน, ราชเสฏฺ ทิสมฺปติ;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, ภุฺช กาเม อมานุเส’’ติ.

ตตฺถ ‘‘ปริตฺตกานี’’ติ อิทํ เตน อตฺตภาเวน เทวโลเก วิปากทายกานิ ปุฺานิ สนฺธาย วุตฺตํ, อิตรานิ ปนสฺส ปุฺานิ ปถวิยํ ปํสุ วิย อปฺปมาณานิ. วส เทวานุภาเวนาติ อหํ เต อตฺตโน ปุฺานิ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทสฺสามิ, มมานุภาเวน วสาติ ตํ สมสฺสาเสนฺโต อาห.

อถ นํ ปฏิกฺขิปนฺโต มหาสตฺโต อาห –

๒๑๒.

‘‘ยถา ยาจิตกํ ยานํ, ยถา ยาจิตกํ ธนํ;

เอวํสมฺปทเมเวตํ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา.

๒๑๓.

‘‘น จาหเมตมิจฺฉามิ, ยํ ปรโต ทานปจฺจยา;

สยํกตานิ ปุฺานิ, ตํ เม อาเวณิกํ ธนํ.

๒๑๔.

‘‘โสหํ คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ, กาหามิ กุสลํ พหุํ;

ทาเนน สมจริยาย, สํยเมน ทเมน จ;

ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ, น จ ปจฺฉานุตปฺปตี’’ติ.

ตตฺถ ยํ ปรโต ทานปจฺจยาติ ยํ ปเรน ทินฺนตฺตา ลพฺภติ, ตํ ยาจิตกสทิสเมว โหติ. ยาจิตกฺหิ ตุฏฺกาเล เทนฺติ, อตุฏฺกาเล อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺตีติ วทติ. สมจริยายาติ กายาทีหิ ปาปสฺส อกรเณน. สํยเมนาติ สีลสํยเมน. ทเมนาติ อินฺทฺริยทมเนน. ยํ กตฺวาติ ยํ กริตฺวา สุขิโต เจว โหติ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ, ตถารูปเมว กมฺมํ กริสฺสามีติ.

อถสฺส วจนํ สุตฺวา สกฺโก มาตลึ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ, ตาต, สาธินราชานํ มิถิลํ เนตฺวา อุยฺยาเน โอตาเรหี’’ติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา อุยฺยาเน จงฺกมติ. อถ นํ อุยฺยานปาโล ทิสฺวา ปุจฺฉิตฺวา คนฺตฺวา นารทรฺโ อาโรเจสิ. โส รฺโ อาคตภาวํ สุตฺวา ‘‘ตฺวํ ปุรโต คนฺตฺวา อุยฺยานํ สชฺเชตฺวา ตสฺส จ มยฺหฺจ ทฺเว อาสนานิ ปฺาเปหี’’ติ อุยฺยานปาลํ อุยฺโยเชสิ. โส ตถา อกาสิ. อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ ‘‘กสฺส ทฺเว อาสนานิ ปฺาเปสี’’ติ? ‘‘เอกํ ตุมฺหากํ, เอกํ อมฺหากํ รฺโ’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘โก อฺโ สตฺโต มม สนฺติเก อาสเน นิสีทิสฺสตี’’ติ วตฺวา เอกสฺมึ นิสีทิตฺวา เอกสฺมึ ปาเท เปสิ. นารทราชา อาคนฺตฺวา ตสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. โส กิรสฺส สตฺตโม ปนตฺตา. ตทา กิร วสฺสสตายุกกาโลว โหติ. มหาสตฺโต ปน อตฺตโน ปุฺพเลน เอตฺตกํ กาลํ วีตินาเมสิ. โส นารทํ หตฺเถ คเหตฺวา อุยฺยาเน วิจรนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๑๕.

‘‘อิมานิ ตานิ เขตฺตานิ, อิมํ นิกฺขํ สุกุณฺฑลํ;

อิมา ตา หริตานูปา, อิมา นชฺโช สวนฺติโย.

๒๑๖.

‘‘อิมา ตา โปกฺขรณี รมฺมา, จกฺกวากปกูชิตา;

มนฺทาลเกหิ สฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;

ยสฺสิมานิ มมายึสุ, กึ นุ เต ทิสตํ คตา.

๒๑๗.

‘‘ตานีธ เขตฺตานิ โส ภูมิภาโค, เตเยว อารามวนูปจารา;

ตเมว มยฺหํ ชนตํ อปสฺสโต, สุฺํว เม นารท ขายเต ทิสา’’ติ.

ตตฺถ เขตฺตานีติ ภูมิภาเค สนฺธายาห. อิมํ นิกฺขนฺติ อิมํ ตาทิสเมว อุทกนิทฺธมนํ. สุกุณฺฑลนฺติ โสภเนน มุสลปเวสนกุณฺฑเลน สมนฺนาคตํ. หริตานูปาติ อุทกนิทฺธมนสฺส อุโภสุ ปสฺเสสุ หริตติณสฺฉนฺนา อนูปภูมิโย. ยสฺสิมานิ มมายึสูติ ตาต นารท, เย มม อุปฏฺากา จ โอโรธา จ อิมสฺมึ อุยฺยาเน มหนฺเตน ยเสน มยา สทฺธึ วิจรนฺตา อิมานิ านานิ มมายึสุ ปิยายึสุ, กตรํ นุ เต ทิสตํ คตา, กตฺถ เต เปสิตา. ตานีธ เขตฺตานีติ อิมสฺมึ อุยฺยาเน ตาเนว เอตานิ อุปโรปนกวิรุหนฏฺานานิ. เตเยว อารามวนูปจาราติ อิเม เตเยว อารามวนูปจารา, วิหารภูมิโยติ อตฺโถ.

อถ นํ นารโท อาห – ‘‘เทว, ตุมฺหากํ เทวโลกคตานํ อิทานิ สตฺต วสฺสสตานิ, อหํ โว สตฺตโม ปนตฺตา, ตุมฺหากํ อุปฏฺากา จ โอโรธา จ มรณมุขํ ปตฺตา, อิทํ โว อตฺตโน สนฺตกํ รชฺชํ, อนุภวถ น’’นฺติ. ราชา ‘‘ตาต นารท, นาหํ อิธาคจฺฉนฺโต รชฺชตฺถาย อาคโต, ปุฺกรณตฺถายมฺหิ อาคโต, อหํ ปุฺเมว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถา อาห –

๒๑๘.

‘‘ทิฏฺา มยา วิมานานิ, โอภาเสนฺตา จตุทฺทิสา;

สมฺมุขา เทวราชสฺส, ติทสานฺจ สมฺมุขา.

๒๑๙.

‘‘วุตฺถํ เม ภวนํ ทิพฺยํ, ภุตฺตา กามา อมานุสา;

ตาวตึเสสุ เทเวสุ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ.

๒๒๐.

‘‘โสหํ เอตาทิสํ หิตฺวา, ปุฺายมฺหิ อิธาคโต;

ธมฺมเมว จริสฺสามิ, นาหํ รชฺเชน อตฺถิโก.

๒๒๑.

‘‘อทณฺฑาวจรํ มคฺคํ, สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิตํ;

ตํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิสฺสํ, เยน คจฺฉนฺติ สุพฺพตา’’ติ.

ตตฺถ วุตฺถํ เม ภวนํ ทิพฺยนฺติ เวชยนฺตํ สนฺธาย อาห. โสหํ เอตาทิสนฺติ ตาต นารท, โสหํ พุทฺธาเณน อปริจฺฉินฺทนียํ เอวรูปํ กามคุณสมฺปตฺตึ ปหาย ปุฺกรณตฺถาย อิธาคโต. อทณฺฑาวจรนฺติ อทณฺเฑหิ นิกฺขิตฺตทณฺฑหตฺเถหิ อวจริตพฺพํ สมฺมาทิฏฺิปุเรกฺขารํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ. สุพฺพตาติ เยน มคฺเคน สุพฺพตา สพฺพฺุพุทฺธา คจฺฉนฺติ, อหมฺปิ อคตปุพฺพํ ทิสํ คนฺตุํ โพธิตเล นิสีทิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิสฺสามีติ.

เอวํ โพธิสตฺโต อิมา คาถาโย สพฺพฺุตฺาเณน สงฺขิปิตฺวา กเถสิ. นารโท ปุนปิ อาห – ‘‘รชฺชํ, เทว, อนุสาสา’’ติ. ‘‘ตาต, น เม รชฺเชนตฺโถ, สตฺต วสฺสสตานิ วิคตํ ทานํ สตฺตาเหเนว ทาตุกามมฺหี’’ติ. นารโท ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา มหาทานํ ปฏิยาเทสิ. ราชา สตฺตาหํ ทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส กาลํ กตฺวา ตาวตึสภวเนเยว นิพฺพตฺติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ วสิตพฺพยุตฺตกํ อุโปสถกมฺมํ นามา’’ติ ทสฺเสตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุโปสถิเกสุ อุปาสเกสุ เกจิ โสตาปตฺติผเล, เกจิ สกทาคามิผเล, เกจิ อนาคามิผเล ปติฏฺหึสุ. ตทา นารทราชา สาริปุตฺโต อโหสิ, มาตลิ อานนฺโท, สกฺโก อนุรุทฺโธ, สาธินราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

สาธินชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.

[๔๙๕] ๑๒. ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา

ราชาอโวจ วิธุรนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิ. ตํ อฏฺกนิปาเต อาทิตฺตชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๙ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. ราชา กิร ตํ ทานํ ททนฺโต สตฺถารํ เชฏฺกํ กตฺวา ปฺจ ภิกฺขุสตานิ วิจินิตฺวา คณฺหิตฺวา มหาขีณาสวานํเยว อทาสิ. อถสฺส คุณกถํ กเถนฺตา ‘‘อาวุโส, ราชา อสทิสทานํ ททนฺโต วิจินิตฺวา มหปฺผลฏฺาเน อทาสี’’ติ ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, ยํ โกสลราชา มาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฏฺาโก หุตฺวา วิเจยฺยทานํ เทติ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเน พุทฺเธปิ วิเจยฺยทานํ อทํสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร ยุธิฏฺิลโคตฺโต โกรพฺโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส วิธุโร นาม อมจฺโจ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสติ. ราชา สกลชมฺพุทีปํ โขเภตฺวา มหาทานํ เทติ. ตํ คเหตฺวา ภุฺชนฺเตสุ เอโกปิ ปฺจสีลมตฺตํ รกฺขนฺโต นาม นตฺถิ, สพฺเพ ทุสฺสีลาว, ทานํ ราชานํ น โตเสติ. ราชา ‘‘วิเจยฺยทานํ มหปฺผล’’นฺติ สีลวนฺตานํ ทาตุกาโม หุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘วิธุรปณฺฑิเตน สทฺธึ มนฺตยิสฺสามี’’ติ. โส ตํ อุปฏฺานํ อาคตํ อาสเน นิสีทาเปตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อุปฑฺฒคาถมาห –

๒๒๒.

‘‘ราชา อโวจ วิธุรํ, ธมฺมกาโม ยุธิฏฺิโล’’ติ;

ปรโต รฺโ จ วิธุรสฺส จ วจนปฏิวจนํ โหติ –

‘‘พฺราหฺมเณ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๒๓.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๒๔.

‘‘ทุลฺลภา พฺราหฺมณา เทว, สีลวนฺโต พหุสฺสุตา;

วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุฺเชยฺยุ โภชนํ.

๒๒๕.

‘‘ทส ขลุ มหาราช, ยา ตา พฺราหฺมณชาติโย;

เตสํ วิภงฺคํ วิจยํ, วิตฺถาเรน สุโณหิ เม.

๒๒๖.

‘‘ปสิพฺพเก คเหตฺวาน, ปุณฺเณ มูลสฺส สํวุเต;

โอสธิกาโย คนฺเถนฺติ, นฺหาปยนฺติ ชปนฺติ จ.

๒๒๗.

‘‘ติกิจฺฉกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๒๘.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๒๙.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๐.

‘‘กิงฺกิณิกาโย คเหตฺวา, โฆเสนฺติ ปุรโตปิ เต;

เปสนานิปิ คจฺฉนฺติ, รถจริยาสุ สิกฺขเร.

๒๓๑.

‘‘ปริจารกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๓๒.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๓๓.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๔.

‘‘กมณฺฑลุํ คเหตฺวาน, วงฺกทณฺฑฺจ พฺราหฺมณา;

ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโน, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

นาทินฺเน วุฏฺหิสฺสาม, คามมฺหิ วา วนมฺหิ วา.

๒๓๕.

‘‘นิคฺคาหกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๓๖.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๓๗.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๓๘.

‘‘ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมา, ปงฺกทนฺตา รชสฺสิรา;

โอกิณฺณา รชเรณูหิ, ยาจกา วิจรนฺติ เต.

๒๓๙.

‘‘ขาณุฆาตสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๐.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๔๑.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๔๒.

‘‘หรีตกํ อามลกํ, อมฺพํ ชมฺพุํ วิภีตกํ;

ลพุชํ ทนฺตโปณานิ, เพลุวา พทรานิ จ.

๒๔๓.

‘‘ราชายตนํ อุจฺฉุปุฏํ, ธูมเนตฺตํ มธุอฺชนํ;

อุจฺจาวจานิ ปณิยานิ, วิปเณนฺติ ชนาธิป.

๒๔๔.

‘‘วาณิชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๕.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๔๖.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๔๗.

‘‘กสิวาณิชฺชํ กาเรนฺติ, โปสยนฺติ อเชฬเก;

กุมาริโย ปเวจฺฉนฺติ, วิวาหนฺตาวหนฺติ จ.

๒๔๘.

‘‘สมา อมฺพฏฺเวสฺเสหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๔๙.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๐.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๑.

‘‘นิกฺขิตฺตภิกฺขํ ภุฺชนฺติ, คาเมสฺเวเก ปุโรหิตา;

พหู เต ปริปุจฺฉนฺติ, อณฺฑจฺเฉทา นิลฺฉกา.

๒๕๒.

‘‘ปสูปิ ตตฺถ หฺนฺติ, มหึสา สูกรา อชา;

โคฆาตกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๕๓.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๔.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๕.

‘‘อสิจมฺมํ คเหตฺวาน, ขคฺคํ ปคฺคยฺห พฺราหฺมณา;

เวสฺสปเถสุ ติฏฺนฺติ, สตฺถํ อพฺพาหยนฺติปิ.

๒๕๖.

‘‘สมา โคปนิสาเทหิ, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๕๗.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๕๘.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๕๙.

‘‘อรฺเ กุฏิกํ กตฺวา, กุฏานิ การยนฺติ เต;

สสพิฬาเร พาเธนฺติ, อาโคธา มจฺฉกจฺฉปํ.

๒๖๐.

‘‘เต ลุทฺทกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๖๑.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๖๒.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๖๓.

‘‘อฺเ ธนสฺส กามา หิ, เหฏฺามฺเจ ปสกฺกิตา;

ราชาโน อุปริ นฺหายนฺติ, โสมยาเค อุปฏฺิเต.

๒๖๔.

‘‘มลมชฺชกสมา ราช, เตปิ วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส.

๒๖๕.

‘‘อเปตา เต จ พฺรหฺมฺา, (อิติ ราชา โกรพฺโย)

น เต วุจฺจนฺติ พฺราหฺมณา;

อฺเ วิธุร ปริเยส, สีลวนฺเต พหุสฺสุเต.

๒๖๖.

‘‘วิรเต เมถุนา ธมฺมา, เย เม ภุฺเชยฺยุ โภชนํ;

ทกฺขิณํ สมฺม ทสฺสาม, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.

ตตฺถ สีลวนฺเตติ มคฺเคนาคตสีเล. พหุสฺสุเตติ ปฏิเวธพหุสฺสุเต. ทกฺขิณนฺติ ทานํ. เย เตติ เย ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา ตว ทานํ ภุฺเชยฺยุํ, เต ทุลฺลภา. พฺราหฺมณชาติโยติ พฺราหฺมณกุลานิ. เตสํ วิภงฺคํ วิจยนฺติ เตสํ พฺราหฺมณานํ วิภงฺคํ มม ปฺาย วิจิตภาวํ วิตฺถาเรน สุโณหิ. สํวุเตติ พทฺธมุเข. โอสธิกาโย คนฺเถนฺตีติ ‘‘อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺชํ, อิทํ อิมสฺส โรคสฺส เภสชฺช’’นฺติ เอวํ สิโลเก พนฺธิตฺวา มนุสฺสานํ เทนฺติ. นฺหาปยนฺตีติ นหาปนํ นาม กโรนฺติ. ชปนฺติ จาติ ภูตวิชฺชํ ปริวตฺเตนฺติ. ติกิจฺฉกสมาติ เวชฺชสทิสา. เตปิ วุจฺจนฺตีติ เตปิ ‘‘พฺราหฺมณา วา มยํ, อพฺราหฺมณา วา’’ติ อชานิตฺวา เวชฺชกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปนฺตา โวหาเรน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ. อกฺขาตา เตติ อิเม เต มยา เวชฺชพฺราหฺมณา นาม อกฺขาตา. นิปตามเสติ วเทหิ ทานิ, กึ ตาทิเส พฺราหฺมเณ นิปตาม, นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมาม, อตฺถิ เต เอเตหิ อตฺโถติ ปุจฺฉติ. พฺรหฺมฺาติ พฺราหฺมณธมฺมโต. น เต วุจฺจนฺตีติ เต พาหิตปาปตาย พฺราหฺมณา นาม น วุจฺจนฺติ.

กิงฺกิณิกาโยติ มหาราช, อปเรปิ พฺราหฺมณา อตฺตโน พฺราหฺมณธมฺมํ ฉฑฺเฑตฺวา ชีวิกตฺถาย ราชราชมหามตฺตานํ ปุรโต กํสตาเฬ คเหตฺวา วาเทนฺตา คายนฺตา คจฺฉนฺติ. เปสนานิปีติ ทาสกมฺมกรา วิย เปสนานิปิ คจฺฉนฺติ. รถจริยาสูติ รถสิปฺปํ สิกฺขนฺติ. ปริจารกสมาติ ทาสกมฺมกรสทิสา. วงฺกทณฺฑนฺติ วงฺกทณฺฑกฏฺํ. ปจฺจุเปสฺสนฺติ ราชาโนติ ราชราชมหามตฺเต ปฏิจฺจ อาคมฺม สนฺธาย อุปเสวนฺติ. คาเมสุ นิคเมสุ จาติ เตสํ นิเวสนทฺวาเร นิสีทนฺติ. นิคฺคาหกสมาติ นิคฺคหการเกหิ พลิสาธกราชปุริเสหิ สมา. ยถา เต ปุริสา ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิคฺคหํ กตฺวา คณฺหนฺติเยว, ตถา ‘‘คาเม วา วเน วา อลทฺธา มรนฺตาปิ น วุฏฺหิสฺสามา’’ติ อุปวสนฺติ. เตปีติ เตปิ พลิสาธกสทิสา ปาปธมฺมา.

รชเรณูหีติ รเชหิ จ ปํสูหิ จ โอกิณฺณา. ยาจกาติ ธนยาจกา. ขาณุฆาตสมาติ มลีนสรีรตาย ฌามเขตฺเต ขาณุฆาตเกหิ ภูมึ ขณิตฺวา ฌามขาณุกอุทฺธรณกมนุสฺเสหิ สมานา, ‘‘อคฺคเหตฺวา น คมิสฺสามา’’ติ นิจฺจลภาเวน ิตตฺตา นิขณิตฺวา ปิตวติขาณุกา วิยาติปิ อตฺโถ. เตปีติ เตปิ ตถา ลทฺธํ ธนํ วฑฺฒิยา ปโยเชตฺวา ปุน ตเถว ิตตฺตา ทุสฺสีลา พฺราหฺมณา.

อุจฺฉุปุฏนฺติ อุจฺฉุฺเจว ผาณิตปุฏฺจ. มธุอฺชนนฺติ มธุฺเจว อฺชนฺจ. อุจฺจาวจานีติ มหคฺฆอปฺปคฺฆานิ. ปณิยานีติ ภณฺฑานิ. วิปเณนฺตีติ วิกฺกิณนฺติ. เตปีติ เตปิ อิมานิ เอตฺตกานิ วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปกา วาณิชกพฺราหฺมณา. โปสยนฺตีติ โครสวิกฺกเยน ชีวิกกปฺปนตฺถํ โปเสนฺติ. ปเวจฺฉนฺตีติ อตฺตโน ธีตโร หิรฺสุวณฺณํ คเหตฺวา ปเรสํ เทนฺติ. เต เอวํ ปเรสํ ททมานา วิวาหนฺติ นาม, อตฺตโน ปุตฺตานํ อตฺถาย คณฺหมานา อาวาหนฺติ นาม. อมฺพฏฺเวสฺเสหีติ กุฏุมฺพิเกหิ เจว คหปตีหิ จ สมา, เตปิ โวหารวเสน ‘‘พฺราหฺมณา’’ติ วุจฺจนฺติ.

นิกฺขิตฺตภิกฺขนฺติ คามปุโรหิตา หุตฺวา อตฺตโน อตฺถาย นิพทฺธภิกฺขํ. พหู เตติ พหู ชนา เอเต คามปุโรหิเต นกฺขตฺตมุหุตฺตมงฺคลานิ ปุจฺฉนฺติ. อณฺฑจฺเฉทา นิลฺฉกาติ ภตึ คเหตฺวา พลิพทฺทานํ อณฺฑจฺเฉทกา เจว ติสูลาทิองฺกกรเณน ลฺฉกา จ, ลกฺขณการกาติ อตฺโถ. ตตฺถาติ เตสํ คามปุโรหิตานํ เคเหสุ มํสวิกฺกิณนตฺถํ เอเต ปสุอาทโยปิ หฺนฺติ. เตปีติ เตปิ โคฆาตกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

อสิจมฺมนฺติ อสิลฏฺิฺเจว กณฺฑวารณฺจ. เวสฺสปเถสูติ วาณิชานํ คมนมคฺเคสุ. สตฺถํ อพฺพาหยนฺตีติ สตฺถวาหานํ หตฺถโต สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ คเหตฺวา สตฺเถ โจราฏวึ อติพาเหนฺติ. โคปนิสาเทหีติ โคปาลเกหิ เจว นิสาเทหิ จ คามฆาตกโจเรหิ สมาติ วุตฺตํ. เตปีติ เตปิ เอวรูปา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ. กุฏานิ การยนฺติ เตติ กูฏปาสาทีนิ โรเปนฺติ. สสพิฬาเรติ สเส เจว พิฬาเร จ. เอเตน ถลจเร มิเค ทสฺเสติ. อาโคธา มจฺฉกจฺฉปนฺติ ถลเชสุ ตาว อาโคธโต มหนฺเต จ ขุทฺทเก จ ปาณโย พาเธนฺติ มาเรนฺติ, ชลเชสุ มจฺฉกจฺฉเป. เตปีติ เตปิ ลุทฺทกสมา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

อฺเธนสฺส กามา หีติ อปเร พฺราหฺมณา ธนํ ปตฺเถนฺตา. เหฏฺามฺเจ ปสกฺกิตาติ ‘‘กลิปวาหกมฺมํ กาเรสฺสามา’’ติ รตนมยํ มฺจํ กาเรตฺวา ตสฺส เหฏฺา นิปนฺนา อจฺฉนฺติ. อถ เนสํ โสมยาเค อุปฏฺิเต ราชาโน อุปริ นหายนฺติ, เต กิร โสมยาเค นิฏฺิเต อาคนฺตฺวา ตสฺมึ มฺเจ นิสีทนฺติ. อถ เน อฺเ พฺราหฺมณา ‘‘กลึ ปวาเหสฺสามา’’ติ นหาเปนฺติ. รตนมฺโจ เจว รฺโ ราชาลงฺกาโร จ สพฺโพ เหฏฺามฺเจ นิปนฺนสฺเสว โหติ. เตปีติ เตปิ มลมชฺชเกหิ นหาปิเตหิ สทิสา พฺราหฺมณาติ วุจฺจนฺติ.

เอวฺจิเม โวหารมตฺตพฺราหฺมเณ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปรมตฺถพฺราหฺมเณ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๖๗.

‘‘อตฺถิ โข พฺราหฺมณา เทว, สีลวนฺโต พหุสฺสุตา;

วิรตา เมถุนา ธมฺมา, เย เต ภุฺเชยฺยุ โภชนํ.

๒๖๘.

‘‘เอกฺจ ภตฺตํ ภุฺชนฺติ, น จ มชฺชํ ปิวนฺติ เต;

อกฺขาตา เต มหาราช, ตาทิเส นิปตามเส’’ติ.

ตตฺถ สีลวนฺโตติ อริยสีเลน สมนฺนาคตา. พหุสฺสุตาติ ปฏิเวธพาหุสจฺเจน สมนฺนาคตา. ตาทิเสติ เอวรูเป พาหิตปาเป ปจฺเจกพุทฺธพฺราหฺมเณ นิมนฺตนตฺถาย อุปสงฺกมามาติ.

ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘สมฺม วิธุร, เอวรูปา อคฺคทกฺขิเณยฺยา พฺราหฺมณา กหํ วสนฺตี’’ติ? อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภาเร, มหาราชาติ. ‘‘เตน หิ, ปณฺฑิต, ตว พเลน มยฺหํ เต พฺราหฺมเณ ปริเยสา’’ติ ตุฏฺมานโส คาถมาห –

๒๖๙.

‘‘เอเต โข พฺราหฺมณา วิธุร, สีสวนฺโต พหุสฺสุตา;

เอเต วิธุร ปริเยส, ขิปฺปฺจ เน นิมนฺตยา’’ติ.

มหาสตฺโต ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, นครํ อลงฺการาเปตฺวา สพฺเพ นครวาสิโน ทานํ ทตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สมาทินฺนสีลา โหนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา ‘‘ตุมฺเหปิ สทฺธึ ปริชเนน อุโปสถํ สมาทิยถา’’ติ วตฺวา สยํ ปาโตว ภุฺชิตฺวา อุโปสถํ สมาทาย สายนฺหสมเย ชาติปุปฺผปุณฺณํ สุวณฺณสมุคฺคํ อาหราเปตฺวา รฺา สทฺธึ ปฺจปติฏฺิตํ ปติฏฺหิตฺวา ปจฺเจกพุทฺธานํ คุเณ อนุสฺสริตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘อุตฺตรหิมวนฺเต นนฺทมูลกปพฺภารวาสิโน ปฺจสตา ปจฺเจกพุทฺธา สฺเว อมฺหากํ ภิกฺขํ คณฺหนฺตู’’ติ นิมนฺเตตฺวา อากาเส อฏฺ ปุปฺผมุฏฺิโย วิสฺสชฺเชสิ. ตทา ตตฺถ ปฺจสตา ปจฺเจกพุทฺธา วสนฺติ, ปุปฺผานิ คนฺตฺวา เตสํ อุปริ ปตึสุ. เต อาวชฺเชนฺตา ตํ การณํ ตฺวา ‘‘มาริสา, วิธุรปณฺฑิเตน นิมนฺติตมฺห, น โข ปเนส อิตฺตรสตฺโต, พุทฺธงฺกุโร เอส, อิมสฺมึเยว กปฺเป พุทฺโธ ภวิสฺสติ, กริสฺสามสฺส สงฺคห’’นฺติ นิมนฺตนํ อธิวาสยึสุ. มหาสตฺโต ปุปฺผานํ อนาคมนสฺาย อธิวาสิตภาวํ ตฺวา ‘‘มหาราช, สฺเว ปจฺเจกพุทฺธา อาคมิสฺสนฺติ, สกฺการสมฺมานํ กโรหี’’ติ อาห. ราชา ปุนทิวเส มหาสกฺการํ กตฺวา มหาตเล มหารหานิ อาสนานิ ปฺเปสิ. ปจฺเจกพุทฺธา อโนตตฺตทเห กตสรีรปฏิชคฺคนา เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา อากาเสนาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ โอตรึสุ. ราชา จ โพธิสตฺโต จ ปสนฺนมานสา เตสํ หตฺถโต ปตฺตานิ คเหตฺวา ปาสาทํ อาโรเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน ปริวิสึสุ. ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน จ ปุนทิวสตฺถายาติ เอวํ สตฺต ทิวเส นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร อทํสุ. เต อนุโมทนํ กตฺวา อากาเสน ตตฺเถว คตา, ปริกฺขาราปิ เตหิ สทฺธึเยว คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, โกสลรฺโ มม อุปฏฺากสฺส สโต วิเจยฺยทานํ ทาตุํ, โปราณกปณฺฑิตา อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ ทานํ อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, วิธุรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ทสพฺราหฺมณชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.

[๔๙๖] ๑๓. ภิกฺขาปรมฺปรชาตกวณฺณนา

สุขุมาลรูปํทิสฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อฺตรํ กุฏุมฺพิกํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สทฺโธ อโหสิ ปสนฺโน, ตถาคตสฺส เจว สงฺฆสฺส จ นิพทฺธํ มหาสกฺการํ กโรติ. อเถกทิวสํ จินฺเตสิ ‘‘อหํ พุทฺธรตนสฺส เจว สงฺฆรตนสฺส จ ปณีตานิ ขาทนียโภชนียานิ เจว สุขุมวตฺถานิ จ เทนฺโต นิจฺจํ มหาสกฺการํ กโรมิ, อิทานิ ธมฺมรตนสฺสปิ กริสฺสามิ, กถํ นุ โข ตสฺส สกฺการํ กโรนฺเตน กตฺตพฺพ’’นฺติ. โส พหูนิ คนฺธมาลาทีนิ อาทาย เชตวนํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กตฺตุกาโมมฺหิ, กถํ นุ โข ตสฺส สกฺการํ กโรนฺเตน กตฺตพฺพ’’นฺติ. อถ นํ สตฺถา อาห – ‘‘สเจ ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กตฺตุกาโม, ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส อานนฺทสฺส สกฺการํ กโรหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา เถรํ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส มหนฺเตน สกฺกาเรน อตฺตโน เคหํ เนตฺวา มหารเห อาสเน นิสีทาเปตฺวา คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา นานคฺครสโภชนํ ทตฺวา มหคฺเฆ ติจีวรปฺปโหนเก สาฏเก อทาสิ. เถโรปิ ‘‘อยํ สกฺกาโร ธมฺมรตนสฺส กโต, น มยฺหํ อนุจฺฉวิโก, อคฺคสาวกสฺส ธมฺมเสนาปติสฺส อนุจฺฉวิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ปิณฺฑปาตฺจ วตฺถานิ จ วิหารํ หริตฺวา สาริปุตฺตตฺเถรสฺส อทาสิ. โสปิ ‘‘อยํ สกฺกาโร ธมฺมรตนสฺส กโต, เอกนฺเตน ธมฺมสฺสามิโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺเสว อนุจฺฉวิโก’’ติ จินฺเตตฺวา ทสพลสฺส อทาสิ. สตฺถา อตฺตโน อุตฺตริตรํ อทิสฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ, จีวรสาฏเก อคฺคเหสิ.

ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม กุฏุมฺพิโก ‘ธมฺมรตนสฺส สกฺการํ กโรมี’ติ ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส อานนฺทตฺเถรสฺส อทาสิ. เถโร ‘นายํ มยฺหํ อนุจฺฉวิโก’ติ ธมฺมเสนาปติโน อทาสิ, โสปิ ‘นายํ มยฺหํ อนุจฺฉวิโก’ติ ตถาคตสฺส อทาสิ. ตถาคโต อฺํ อุตฺตริตรํ อปสฺสนฺโต อตฺตโน ธมฺมสฺสามิตาย ‘มยฺหเมเวโส อนุจฺฉวิโก’ติ ตํ ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิ, จีวรสาฏเกปิ คณฺหิ, เอวํ โส ปิณฺฑปาโต ยถานุจฺฉวิกตาย ธมฺมสฺสามิโนว ปาทมูลํ คโต’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปิณฺฑปาโต ปรมฺปรา ยถานุจฺฉวิกํ คจฺฉติ, ปุพฺเพปิ อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ อคมาสิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. เอวํ สนฺเตปิสฺส วินิจฺฉโย สุฺโ วิย อโหสิ. ราชา อตฺตโน อคุณคเวสโก หุตฺวา อนฺโตนิเวสนาทีนิ ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺเตปุเร จ อนฺโตนคเร จ ทฺวารคาเมสุ จ อตฺตโน อคุณํ กเถนฺตํ อทิสฺวา ‘‘ชนปเท คเวสิสฺสามี’’ติ อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา ปุโรหิเตน สทฺธึ อฺาตกเวเสเนว กาสิรฏฺเ จรนฺโต กฺจิ อคุณํ กเถนฺตํ อทิสฺวา ปจฺจนฺเต เอกํ นิคมํ ปตฺวา พหิทฺวารสาลายํ นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ นิคมวาสี อสีติโกฏิวิภโว กุฏุมฺพิโก มหนฺเตน ปริวาเรน นฺหานติตฺถํ คจฺฉนฺโต สาลายํ นิสินฺนํ สุวณฺณวณฺณํ สุขุมาลสรีรํ ราชานํ ทิสฺวา อุปฺปนฺนสิเนโห สาลํ ปวิสิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘อิเธว โหถา’’ติ วตฺวา เคหํ คนฺตฺวา นานคฺครสโภชนํ สมฺปาเทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน ภตฺตภาชนานิ คาหาเปตฺวา อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ หิมวนฺตวาสี ปฺจาภิฺโ ตาปโส อาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิสีทิ. นนฺทมูลกปพฺภารโต ปจฺเจกพุทฺโธปิ อาคนฺตฺวา ตตฺเถว นิสีทิ.

กุฏุมฺพิโก รฺโ หตฺถโธวนอุทกํ ทตฺวา นานคฺครเสหิ สูปพฺยฺชเนหิ ภตฺตปาตึ สชฺเชตฺวา รฺโ อุปเนสิ. ราชา นํ คเหตฺวา ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส อทาสิ. พฺราหฺมโณ คเหตฺวา ตาปสสฺส อทาสิ. ตาปโส ปจฺเจกพุทฺธสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วามหตฺเถน ภตฺตปาตึ, ทกฺขิณหตฺเถน กมณฺฑลุํ คเหตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปตฺเต ภตฺตํ ปกฺขิปิ. โส กฺจิ อนิมนฺเตตฺวา อนาปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิ. ตสฺส ภตฺตกิจฺจปริโยสาเน กุฏุมฺพิโก จินฺเตสิ ‘‘มยา รฺโ ภตฺตํ ทินฺนํ, รฺา พฺราหฺมณสฺส, พฺราหฺมเณน ตาปสสฺส, ตาปเสน ปจฺเจกพุทฺธสฺส, ปจฺเจกพุทฺโธ กฺจิ อนาปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิ, กึ นุ โข อิเมสํ เอตฺตกํ ทานการณํ, กึ อิมสฺส กฺจิ อนาปุจฺฉิตฺวาว ภุฺชนการณํ, อนุปุพฺเพน เต ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. โส เอเกกํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ. เตปิสฺส กเถสุํ –

๒๗๐.

‘‘สุขุมาลรูปํ ทิสฺวา, รฏฺา วิวนมาคตํ;

กุฏาคารวรูเปตํ, มหาสยนมุปาสิตํ.

๒๗๑.

‘‘ตสฺส เต เปมเกนาหํ, อทาสึ วฑฺฒโมทนํ;

สาลีนํ วิจิตํ ภตฺตํ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๗๒.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, พฺราหฺมณสฺส อทาสยิ;

อตฺตานํ อนสิตฺวาน, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๗๓.

‘‘อาจริโย พฺราหฺมโณ มยฺหํ, กิจฺจากิจฺเจสุ พฺยาวโฏ;

ครุ จ อามนฺตนีโย จ, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๗๔.

‘‘พฺราหฺมณํ ทานิ ปุจฺฉามิ, โคตมํ ราชปูชิตํ;

ราชา เต ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๗๕.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, อิสิสฺส โภชนํ อทา;

อเขตฺตฺูสิ ทานสฺส, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๗๖.

‘‘ภรามิ ปุตฺตทาเร จ, ฆเรสุ คธิโต อหํ;

ภุฺเช มานุสเก กาเม, อนุสาสามิ ราชิโน.

๒๗๗.

‘‘อารฺิกสฺส อิสิโน, จิรรตฺตํ ตปสฺสิโน;

วุฑฺฒสฺส ภาวิตตฺตสฺส, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๗๘.

‘‘อิสิฺจ ทานิ ปุจฺฉามิ, กิสํ ธมนิสนฺถตํ;

ปรูฬฺหกจฺฉนขโลมํ, ปงฺกทนฺตํ รชสฺสิรํ.

๒๗๙.

‘‘เอโก อรฺเ วิหรสิ, นาวกงฺขสิ ชีวิตํ;

ภิกฺขุ เกน ตยา เสยฺโย, ยสฺส ตฺวํ โภชนํ อทา.

๒๘๐.

‘‘ขณนฺตาลุกลมฺพานิ, พิลาลิตกฺกลานิ จ;

ธุนํ สามากนีวารํ, สงฺฆาริยํ ปสาริยํ.

๒๘๑.

‘‘สากํ ภิสํ มธุํ มํสํ, พทรามลกานิ จ;

ตานิ อาหริตฺวา ภุฺชามิ, อตฺถิ เม โส ปริคฺคโห.

๒๘๒.

‘‘ปจนฺโต อปจนฺตสฺส, อมมสฺส สกิฺจโน;

อนาทานสฺส สาทาโน, ทาตุมรหามิ โภชนํ.

๒๘๓.

‘‘ภิกฺขุฺจ ทานิ ปุจฺฉามิ, ตุณฺหีมาสีน สุพฺพตํ;

อิสิ เต ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๘๔.

‘‘ตํ ตฺวํ ภตฺตํ ปฏิคฺคยฺห, ตุณฺหี ภุฺชสิ เอกโก;

นาฺํ กฺจิ นิมนฺเตสิ, โกยํ ธมฺโม นมตฺถุ เต.

๒๘๕.

‘‘น ปจามิ น ปาเจมิ, น ฉินฺทามิ น เฉทเย;

ตํ มํ อกิฺจนํ ตฺวา, สพฺพปาเปหิ อารตํ.

๒๘๖.

‘‘วาเมน ภิกฺขมาทาย, ทกฺขิเณน กมณฺฑลุํ;

อิสิ เม ภตฺตํ ปาทาสิ, สุจึ มํสูปเสจนํ.

๒๘๗.

‘‘เอเต หิ ทาตุมรหนฺติ, สมมา สปริคฺคหา;

ปจฺจนีกมหํ มฺเ, โย ทาตารํ นิมนฺตเย’’ติ.

ตตฺถ วิวนนฺติ นิรุทการฺสทิสํ อิมํ ปจฺจนฺตํ อาคตํ. กูฏาคารวรูเปตนฺติ กูฏาคารวเรน อุปคตํ, เอกํ วรกูฏาคารวาสินนฺติ อตฺโถ. มหาสยนมุปาสิตนฺติ ตตฺเถว สุปฺตฺตํ สิริสยนํ อุปาสิตํ. ตสฺส เตติ เอวรูปํ ตํ ทิสฺวา อหํ เปมมกาสึ, ตสฺส เต เปมเกน. วฑฺฒโมทนนฺติ อุตฺตโมทนํ. วิจิตนฺติ อปคตขณฺฑกาฬเกหิ วิจิตตณฺฑุเลหิ กตํ. อทาสยีติ อทาสิ. อตฺตานนฺติ อตฺตนา, อยเมว วา ปาโ. อนสิตฺวานาติ อภุฺชิตฺวา. โกยํ ธมฺโมติ มหาราช, โก เอส ตุมฺหากํ สภาโว. นมตฺถุ เตติ นโม ตว อตฺถุ, โย ตฺวํ อตฺตนา อภุฺชิตฺวา ปรสฺส อทาสิ.

อาจริโยติ กุฏุมฺพิก เอส มยฺหํ อาจารสิกฺขาปโก อาจริโย. พฺยาวโฏติ อุสฺสุโก. อามนฺตนีโยติ อามนฺเตตพฺพยุตฺตโก มยา ทินฺนํ ภตฺตํ คเหตุํ อนุรูโป. ทาตุมรหามีติ ‘‘อหํ เอวรูปสฺส อาจริยสฺส โภชนํ ทาตุํ อรหามี’’ติ ราชา พฺราหฺมณสฺส คุณํ วณฺเณสิ. อเขตฺตฺูสีติ นาหํ ทานสฺส เขตฺตํ, มยิ ทินฺนํ มหปฺผลํ น โหตีติ เอวํ อตฺตานํ ทานสฺส อเขตฺตํ ชานาสิ มฺเติ. อนุสาสามีติ อตฺตโน อตฺถํ ปหาย รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสามิ.

เอวํ อตฺตโน อคุณํ กเถตฺวา อารฺิกสฺสาติ อิสิโน คุณํ กเถสิ. อิสิโนติ สีลาทิคุณปริเยสกสฺส. ตปสฺสิโนติ ตปนิสฺสิตสฺส. วุฑฺฒสฺสาติ ปณฺฑิตสฺส คุณวุฑฺฒสฺส. นาวกงฺขสีติ สยํ ทุลฺลภโภชโน หุตฺวา เอวรูปํ โภชนํ อฺสฺส เทสิ, กึ อตฺตโน ชีวิตํ น กงฺขสิ. ภิกฺขุ เกนาติ อยํ ภิกฺขุ กตเรน คุเณน ตยา เสฏฺตโร.

ขณนฺตาลุกลมฺพานีติ ขณนฺโต อาลูนิ เจว ตาลกนฺทานิ จ. พิลาลิตกฺกลานิ จาติ พิลาลิกนฺทตกฺกลกนฺทานิ จ. ธุนํ สามากนีวารนฺติ สามากฺจ นีวารฺจ ธุนิตฺวา. สงฺฆาริยํ ปสาริยนฺติ เอเต สามากนีวาเร ธุนนฺโต สงฺฆาเรตฺวา ปุน สุกฺขาปิเต ปสาเรตฺวา สุปฺเปน ปปฺโผเฏตฺวา โกฏฺเฏตฺวา ตณฺฑุเล อาทาย ปจิตฺวา ภุฺชามีติ วทติ. สากนฺติ ยํ กิฺจิ สูเปยฺยปณฺณํ. มํสนฺติ สีหพฺยคฺฆวิฆาสาทิมํสํ. ตานิ อาหริตฺวาติ ตานิ สากาทีนิ อาหริตฺวา. อมมสฺสาติ ตณฺหาทิฏฺิมมตฺตรหิตสฺส. สกิฺจโนติ สปลิโพโธ. อนาทานสฺสาติ นิคฺคหณสฺส. ทาตุมรหามีติ เอวรูปสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส อตฺตนา ลทฺธโภชนํ ทาตุํ อรหามิ.

ตุณฺหีมาสีนนฺติ กิฺจิ อวตฺวา นิสินฺนํ. อกิฺจนนฺติ ราคกิฺจนาทีหิ รหิตํ. อารตนฺติ วิรตํ สพฺพปาปานิ ปหาย ิตํ. กมณฺฑลุนฺติ กุณฺฑิกํ. เอเต หีติ เอเต ราชาทโย ตโย ชนาติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา เต นิทฺทิสนฺโต เอวมาห. ทาตุมรหนฺตีติ มาทิสสฺส ทาตุํ อรหนฺติ. ปจฺจนีกนฺติ ปจฺจนีกปฏิปทํ. ทายกสฺส หิ นิมนฺตนํ เอกวีสติยา อเนสนาสุ อฺตราย ปิณฺฑปาตปริเยสนาย ชีวิกกปฺปนสงฺขาตา มิจฺฉาชีวปฏิปตฺติ นาม โหติ.

ตสฺส วจนํ สุตฺวา กุฏุมฺพิโก อตฺตมโน ทฺเว โอสานคาถา อภาสิ –

๒๘๘.

‘‘อตฺถาย วต เม อชฺช, อิธาคจฺฉิ รเถสโภ;

โสหํ อชฺช ปชานามิ, ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ.

๒๘๙.

‘‘รฏฺเสุ คิทฺธา ราชาโน, กิจฺจากิจฺเจสุ พฺราหฺมณา;

อิสี มูลผเล คิทฺธา, วิปฺปมุตฺตา จ ภิกฺขโว’’ติ.

ตตฺถ รเถสโภติ ราชานํ สนฺธายาห. กิจฺจากิจฺเจสูติ รฺโ กิจฺจกรณีเยสุ. ภิกฺขโวติ ปจฺเจกพุทฺธา ภิกฺขโว ปน สพฺพภเวหิ วิปฺปมุตฺตา.

ปจฺเจกพุทฺโธ ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา สกฏฺานเมว คโต, ตถา ตาปโส. ราชา ปน กติปาหํ ตสฺส สนฺติเก วสิตฺวา พาราณสิเมว คโต.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปิณฺฑปาโต ยถานุจฺฉวิกํ คจฺฉติ , ปุพฺเพปิ คโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กุฏุมฺพิโก ธมฺมรตนสฺส สกฺการการโก กุฏุมฺพิโก อโหสิ, ราชา อานนฺโท, ปุโรหิโต สาริปุตฺโต, หิมวนฺตตาปโส ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

ภิกฺขาปรมฺปรชาตกวณฺณนา เตรสมา.

ชาตกุทฺทานํ –

เกทารํ จนฺทกินฺนรี, อุกฺกุสุทฺทาลภิสกํ;

สุรุจิ ปฺจุโปสถํ, มหาโมรฺจ ตจฺฉกํ.

มหาวาณิช สาธินํ, ทสพฺราหฺมณชาตกํ;

ภิกฺขาปรมฺปราปิ จ, เตรสานิ ปกิณฺณเก.

ปกิณฺณกนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.