📜
๑๕. วีสตินิปาโต
[๔๙๗] ๑. มาตงฺคชาตกวณฺณนา
กุโต ¶ ¶ ¶ นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุเทนํ นาม วํสราชานํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺมิฺหิ กาเล อายสฺมา ปิณฺโฑลภารทฺวาโช เชตวนโต อากาเสน คนฺตฺวา เยภุยฺเยน โกสมฺพิยํ อุเทนสฺส รฺโ อุยฺยานํ ทิวาวิหาราย คจฺฉติ. เถโร กิร ปุริมภเว รชฺชํ กาเรนฺโต ทีฆมทฺธานํ ตสฺมึ อุยฺยาเน มหาปริวาโร สมฺปตฺตึ อนุภวิ. โส เตน ปุพฺพาจิณฺเณน เยภุยฺเยน ตตฺเถว ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา ผลสมาปตฺติสุเขน วีตินาเมติ. ตสฺมึ เอกทิวสํ ตตฺถ คนฺตฺวา สุปุปฺผิตสาลมูเล นิสินฺเน อุเทโน สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิตฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬํ กีฬิสฺสามี’’ติ มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ อฺตราย อิตฺถิยา องฺเก นิปนฺโน สุรามทมตฺตตาย นิทฺทํ โอกฺกมิ. คายนฺตา นิสินฺนิตฺถิโย ตูริยานิ ฉฑฺเฑตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ปุปฺผผลาทีนิ วิจินนฺติโย เถรํ ทิสฺวา คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ. เถโร ตาสํ ธมฺมกถํ กเถนฺโต นิสีทิ. อิตราปิ อิตฺถี องฺกํ จาเลตฺวา ราชานํ ปโพเธตฺวา ‘‘กุหึ ตา วสลิโย คตา’’ติ วุตฺเต ‘‘เอกํ สมณํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา’’ติ อาห. โส กุทฺโธ คนฺตฺวา เถรํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา ‘‘หนฺทาหํ, ตํ สมณํ ตมฺพกิปิลฺลเกหิ ขาทาเปสฺสามี’’ติ โกธวเสน เถรสฺส สรีเร ตมฺพกิปิลฺลกปุฏํ ภินฺทาเปสิ. เถโร อากาเส ตฺวา ตสฺโสวาทํ ทตฺวา เชตวเน คนฺธกุฏิทฺวาเรเยว โอตริตฺวา ตถาคเตน ‘‘กุโต อาคโตสี’’ติ ปุฏฺโ เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สตฺถา ‘‘น โข, ภารทฺวาช, อุเทโน อิทาเนว ปพฺพชิเต วิเหเติ, ปุพฺเพปิ วิเหเสิเยวา’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต ตทา มหาสตฺโต พหินคเร จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺติ, ‘‘มาตงฺโค’’ติสฺส นามํ กรึสุ. อปรภาเค ¶ วิฺุตํ ปตฺโต ‘‘มาตงฺคปณฺฑิโต’’ติ ปากโฏ อโหสิ. ตทา พาราณสิเสฏฺิโน ธีตา ทิฏฺมงฺคลิกา นาม เอกมาสทฺเวมาสวาเรน มหาปริวารา อุยฺยานํ กีฬิตุํ คจฺฉติ. อเถกทิวสํ มหาสตฺโต เกนจิ กมฺเมน นครํ ปวิสนฺโต อนฺตรทฺวาเร ทิฏฺมงฺคลิกํ ทิสฺวา เอกมนฺตํ อปคนฺตฺวา อลฺลียิตฺวา อฏฺาสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา ¶ สาณิยา อนฺตเรน โอโลเกนฺตี ตํ ทิสฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จณฺฑาโล อยฺเย’’ติ วุตฺเต ‘‘อทิฏฺปุพฺพยุตฺตกํ วต ปสฺสามี’’ติ คนฺโธทเกน อกฺขีนิ โธวิตฺวา ตโต นิวตฺติ. ตาย สทฺธึ นิกฺขนฺตชโน ‘‘อเร, ทุฏฺ จณฺฑาล, อชฺช ตํ นิสฺสาย อมฺหากํ อมูลกํ สุราภตฺตํ นฏฺ’’นฺติ โกธาภิภูโต มาตงฺคปณฺฑิตํ หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โปเถตฺวา วิสฺึ กตฺวา ปกฺกามิ. โส มุหุตฺตํ วีตินาเมตฺวา ปฏิลทฺธสฺโ จินฺเตสิ ‘‘ทิฏฺมงฺคลิกาย ปริชโน มํ นิทฺโทสํ อการเณน โปเถสิ, ทิฏฺมงฺคลิกํ ลภิตฺวาว อุฏฺหิสฺสามิ, โน อลภิตฺวา’’ติ อธิฏฺาย คนฺตฺวา ตสฺสา ปิตุ นิเวสนทฺวาเร นิปชฺชิ. โส ‘‘เกน การเณน นิปนฺโนสี’’ติ วุตฺเต ‘‘อฺํ การณํ นตฺถิ, ทิฏฺมงฺคลิกาย เม อตฺโถ’’ติ อาห. เอโก ทิวโส อตีโต, ตถา ทุติโย, ตติโย, จตุตฺโถ, ปฺจโม, ฉฏฺโ จ. โพธิสตฺตานํ อธิฏฺานํ นาม สมิชฺฌติ, ตสฺมา สตฺตเม ทิวเส ทิฏฺมงฺคลิกํ นีหริตฺวา ตสฺส อทํสุ.
อถ นํ สา ‘‘อุฏฺเหิ, สามิ, ตุมฺหากํ เคหํ คจฺฉามา’’ติ อาห. ภทฺเท, ตว ปริชเนนมฺหิ สุโปถิโต ทุพฺพโล, มํ อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา อาทาย คจฺฉาหีติ. สา ตถา กตฺวา นครวาสีนํ ปสฺสนฺตานฺเว นครา นิกฺขมิตฺวา จณฺฑาลคามกํ คตา. อถ นํ มหาสตฺโต ชาติสมฺเภทวีติกฺกมํ อกตฺวาว กติปาหํ เคเห วสาเปตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหเมตํ ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตํ กโรนฺโต ปพฺพชิตฺวาว กาตุํ สกฺขิสฺสามิ, น อิตรถา’’ติ ¶ . อถ นํ อามนฺเตตฺวา ‘ภทฺเท, มยิ อรฺโต กิฺจิ อนาหรนฺเต อมฺหากํ ชีวิกา นปฺปวตฺตติ, ยาว มมาคมนา มา อุกฺกณฺิ, อหํ อรฺํ คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา เคหวาสิโนปิ ‘‘อิมํ มา ปมชฺชิตฺถา’’ติ โอวทิตฺวา อรฺํ คนฺตฺวา สมณปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อปฺปมตฺโต สตฺตเม ทิวเส อฏฺ สมาปตฺติโย จ ปฺจ อภิฺาโย จ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ ทิฏฺมงฺคลิกาย ¶ อวสฺสโย ภวิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา จณฺฑาลคามทฺวาเร โอตริตฺวา ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหทฺวารํ อคมาสิ. สา ตสฺสาคมนํ สุตฺวา เคหโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘สามิ, กสฺมา มํ อนาถํ กตฺวา ปพฺพชิโตสี’’ติ ปริเทวิ. อถ นํ ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, ตว โปราณกยสโต อิทานิ มหนฺตตรํ ยสํ กริสฺสามิ, อปิจ โข ปน ‘น มยฺหํ มาตงฺคปณฺฑิโต สามิโก, มหาพฺรหฺมา เม สามิโก’ติ เอตฺตกํ ปริสมชฺเฌ วตฺตุํ สกฺขิสฺสสี’ติ อาห. ‘‘อาม, สามิ, สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ‘‘อิทานิ เต สามิโก กุหินฺติ ปุฏฺา ‘พฺรหฺมโลกํ คโต’ติ วตฺวา ‘กทา อาคมิสฺสตี’ติ วุตฺเต ‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ปุณฺณมายํ จนฺทํ ภินฺทิตฺวา อาคมิสฺสตี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ นํ วตฺวา มหาสตฺโต หิมวนฺตเมว คโต.
ทิฏฺมงฺคลิกาปิ ¶ พาราณสิยํ มหาชนสฺส มชฺเฌ เตสุ เตสุ าเนสุ ตถา กเถสิ. มหาชโน ‘‘อโห มหาพฺรหฺมา สมาโน ทิฏฺมงฺคลิกํ น คจฺฉติ, เอวเมตํ ภวิสฺสตี’’ติ สทฺทหิ. โพธิสตฺโตปิ ปุณฺณมทิวเส จนฺทสฺส คคนมชฺเฌ ิตกาเล พฺรหฺมตฺตภาวํ มาเปตฺวา สกลํ กาสิรฏฺํ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสินครฺจ เอโกภาสํ กตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ภินฺทิตฺวา โอตริตฺวา พาราณสิยา อุปรูปริ ติกฺขตฺตุํ ปริพฺภมิตฺวา มหาชเนน คนฺธมาลาทีหิ ปูชิยมาโน จณฺฑาลคามกาภิมุโข อโหสิ. พฺรหฺมภตฺตา สนฺนิปติตฺวา จณฺฑาลคามกํ คนฺตฺวา ทิฏฺมงฺคลิกาย เคหํ สุทฺธวตฺเถหิ ฉาเทตฺวา ภูมึ จตุชฺชาติยคนฺเธหิ โอปฺุฉิตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ธูมํ ¶ ทตฺวา เจลวิตานํ ปสาเรตฺวา มหาสยนํ ปฺเปตฺวา คนฺธเตเลหิ ทีปํ ชาเลตฺวา ทฺวาเร รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกํ โอกิริตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา ธเช พนฺธึสุ. เอวํ อลงฺกเต เคเห มหาสตฺโต โอตริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา โถกํ สยนปิฏฺเ นิสีทิ.
ตทา ทิฏฺมงฺคลิกา อุตุนี โหติ. อถสฺสา องฺคุฏฺเกน นาภึ ปรามสิ, กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺาสิ. อถ นํ มหาสตฺโต อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, คพฺโภ เต ปติฏฺิโต, ตฺวํ ปุตฺตํ วิชายิสฺสสิ, ตฺวมฺปิ ปุตฺโตปิ เต ลาภคฺคยสคฺคปฺปตฺตา ภวิสฺสถ, ตว ปาทโธวนอุทกํ สกลชมฺพุทีเป ราชูนํ อภิเสโกทกํ ภวิสฺสติ, นหาโนทกํ ปน เต อมโตสธํ ภวิสฺสติ, เย ตํ สีเส อาสิฺจิสฺสนฺติ, เต สพฺพโรเคหิ มุจฺจิสฺสนฺติ, กาฬกณฺณึ ¶ ปริวชฺเชสฺสนฺติ, ตว ปาทปิฏฺเ สีสํ เปตฺวา วนฺทนฺตา สหสฺสํ ทสฺสนฺติ, โสตปเถ ตฺวา วนฺทนฺตา สตํ ทสฺสนฺติ, จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทนฺตา เอกํ กหาปณํ ทตฺวา วนฺทิสฺสนฺติ, อปฺปมตฺตา โหหี’’ติ นํ โอวทิตฺวา เคหา นิกฺขมิตฺวา มหาชนสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว อุปฺปติตฺวา จนฺทมณฺฑลํ ปาวิสิ. พฺรหฺมภตฺตา สนฺนิปติตฺวา ิตกาว รตฺตึ วีตินาเมตฺวา ปาโตว ทิฏฺมงฺคลิกํ สุวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา สีเสน อุกฺขิปิตฺวา นครํ ปวิสึสุ. ‘‘มหาพฺรหฺมภริยา’’ติ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา มหาชโน คนฺธมาลาทีหิ ปูเชสิ. ปาทปิฏฺเ สีสํ เปตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา สหสฺสตฺถวิกํ เทนฺติ, โสตปเถ ตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา สตํ เทนฺติ, จกฺขุปเถ ตฺวา วนฺทิตุํ ลภนฺตา เอกํ กหาปณํ เทนฺติ. เอวํ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ ตํ คเหตฺวา วิจรนฺตา อฏฺารสโกฏิธนํ ลภึสุ.
อถ นํ นครํ ปริหริตฺวา อาเนตฺวา นครมชฺเฌ มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา มหาสยนํ ปฺเปตฺวา มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน ตตฺถ วสาเปสุํ. มณฺฑปสนฺติเกเยว สตฺตทฺวารโกฏฺํ สตฺตภูมิกํ ปาสาทํ กาตุํ อารภึสุ, มหนฺตํ นวกมฺมํ อโหสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา มณฺฑเปเยว ปุตฺตํ วิชายิ. อถสฺส นามคฺคหณทิวเส พฺราหฺมณา สนฺนิปติตฺวา ¶ ¶ มณฺฑเป ชาตตฺตา ‘‘มณฺฑพฺยกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ปาสาโท ปน ทสหิ มาเสหิ นิฏฺิโต. ตโต ปฏฺาย สา มหนฺเตน ยเสน ตสฺมึ วสติ, มณฺฑพฺยกุมาโรปิ มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒติ. ตสฺส สตฺตฏฺวสฺสกาเลเยว ชมฺพุทีปตเล อุตฺตมาจริยา สนฺนิปตึสุ. เต ตํ ตโย เวเท อุคฺคณฺหาเปสุํ. โส โสฬสวสฺสกาลโต ปฏฺาย พฺราหฺมณานํ ภตฺตํ ปฏฺเปสิ, นิพทฺธํ โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ ภฺุชนฺติ. จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก พฺราหฺมณานํ ทานํ เทติ.
อเถกสฺมึ มหามหทิวเส เคเห พหุํ ปายาสํ ปฏิยาเทสุํ. โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก นิสีทิตฺวา สุวณฺณรสวณฺเณน นวสปฺปินา ปกฺกมธุขณฺฑสกฺขราหิ จ อภิสงฺขตํ ปายาสํ ปริภฺุชนฺติ. กุมาโรปิ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สุวณฺณปาทุกา อารุยฺห หตฺเถน กฺจนทณฺฑํ คเหตฺวา ‘‘อิธ สปฺปึ เทถ, อิธ มธุ’’นฺติ วิจาเรนฺโต จรติ. ตสฺมึ ขเณ มาตงฺคปณฺฑิโต หิมวนฺเต อสฺสมปเท ¶ นิสินฺโน ‘‘กา นุ โข ทิฏฺมงฺคลิกาย ปุตฺตสฺส ปวตฺตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตสฺส อติตฺเถ ปกฺขนฺทภาวํ ทิสฺวา ‘‘อชฺเชว คนฺตฺวา มาณวํ ทเมตฺวา ยตฺถ ทินฺนํ มหปฺผลํ โหติ, ตตฺถ ทานํ ทาเปตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อากาเสน อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา มุขโธวนาทีนิ กตฺวา มโนสิลาตเล ิโต รตฺตทุปฏฺฏํ นิวาเสตฺวา กายพนฺธนํ พนฺธิตฺวา ปํสุกูลสงฺฆาฏึ ปารุปิตฺวา มตฺติกาปตฺตํ อาทาย อากาเสนาคนฺตฺวา จตุตฺเถ ทฺวารโกฏฺเก ทานคฺเคเยว โอตริตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. มณฺฑพฺโย กุมาโร อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘เอวํวิรูโป สงฺการยกฺขสทิโส อยํ ปพฺพชิโต อิมํ านํ อาคจฺฉนฺโต กุโต นุ โข อาคจฺฉตี’’ติ เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กุโต ¶ นุ อาคจฺฉสิ ทุมฺมวาสี, โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;
สงฺการโจฬํ ปฏิมฺุจ กณฺเ, โก เร ตุวํ โหสิ อทกฺขิเณยฺโย’’ติ.
ตตฺถ ทุมฺมวาสีติ อนฺชิตอมณฺฑิตฆฏิตสงฺฆาฏิกปิโลติกวสโน. โอตลฺลโกติ ลามโก โอลมฺพวิลมฺพนนฺตกธโร วา. ปํสุปิสาจโกวาติ สงฺการฏฺาเน ปิสาจโก วิย. สงฺการโจฬนฺติ สงฺการฏฺาเน ลทฺธปิโลติกํ. ปฏิมฺุจาติ ปฏิมฺุจิตฺวา. อทกฺขิเณยฺโยติ ตฺวํ อทกฺขิเณยฺโย อิเมสํ ปรมทกฺขิเณยฺยานํ นิสินฺนฏฺานํ เอโก หุตฺวา กุโต อาคโต.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต มุทุจิตฺเตเนว เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –
‘‘อนฺนํ ¶ ตเวทํ ปกตํ ยสสฺสิ, ตํ ขชฺชเร ภฺุชเร ปิยฺยเร จ;
ชานาสิ มํ ตฺวํ ปรทตฺตูปชีวึ, อุตฺติฏฺปิณฺฑํ ลภตํ สปาโก’’ติ.
ตตฺถ ปกตนฺติ ปฏิยตฺตํ. ยสสฺสีติ ปริวารสมฺปนฺน. ตํ ขชฺชเรติ ตํ ขชฺชนฺติ จ ภฺุชนฺติ จ ปิวนฺติ จ. กึการณา มยฺหํ กุชฺฌสิ? อุตฺติฏฺปิณฺฑนฺติ อุปติฏฺิตฺวา ¶ ลภิตพฺพปิณฺฑํ, อุฏฺาย ิเตหิ วา ทียมานํ เหฏฺา ตฺวา ลภิตพฺพปิณฺฑํ. ลภตํ สปาโกติ สปาโก จณฺฑาโลปิ ลภตุ. ชาติสมฺปนฺนา หิ ยตฺถ กตฺถจิ ลภนฺติ, สปากจณฺฑาลสฺส ปน โก เทติ, ทุลฺลภปิณฺโฑ อหํ, ตสฺมา เม ชีวิตปวตฺตนตฺถํ โภชนํ ทาเปหิ, กุมาราติ.
ตโต ¶ มณฺฑพฺโย คาถมาห –
‘‘อนฺนํ มเมทํ ปกตํ พฺราหฺมณานํ, อตฺตตฺถาย สทฺทหโต มเมทํ;
อเปหิ เอตฺโต กิมิธฏฺิโตสิ, น มาทิสา ตุมฺหํ ททนฺติ ชมฺมา’’ติ.
ตตฺถ ¶ อตฺตตฺถายาติ อตฺตโน วฑฺฒิอตฺถาย. อเปหิ เอตฺโตติ อิมมฺหา านา อปคจฺฉ. น มาทิสาติ มาทิสา ชาติสมฺปนฺนานํ อุทิจฺจพฺราหฺมณานํ ทานํ เทนฺติ, น ตุยฺหํ จณฺฑาลสฺส, คจฺฉ, ชมฺมาติ.
ตโต มหาสตฺโต คาถมาห –
‘‘ถเล จ นินฺเน จ วปนฺติ พีชํ, อนูปเขตฺเต ผลมาสมานา;
เอตาย สทฺธาย ททาหิ ทานํ, อปฺเปว อาราธเย ทกฺขิเณยฺเย’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – กุมาร, สสฺสผลํ อาสีสมานา ตีสุปิ เขตฺเตสุ พีชํ วปนฺติ. ตตฺถ อติวุฏฺิกาเล ถเล สสฺสํ สมฺปชฺชติ, นินฺเน ปูติกํ โหติ, อนูปเขตฺเต นทิฺจ ตฬากฺจ นิสฺสาย กตํ โอเฆน วุยฺหติ. มนฺทวุฏฺิกาเล ถเล เขตฺเต วิปชฺชติ, นินฺเน โถกํ สมฺปชฺชติ, อนูปเขตฺเต สมฺปชฺชเตว. สมวุฏฺิกาเล ถเล เขตฺเต โถกํ สมฺปชฺชติ, อิตเรสุ สมฺปชฺชเตว. ตสฺมา ยถา ผลมาสีสมานา ตีสุปิ เขตฺเตสุ วปนฺติ, ตถา ตฺวมฺปิ เอตาย ผลสทฺธาย อาคตาคตานํ สพฺเพสํเยว ทานํ เทหิ, อปฺเปว นาม เอวํ ททนฺโต ทกฺขิเณยฺเย อาราเธยฺยาสิ ลเภยฺยาสีติ.
ตโต ¶ มณฺฑพฺโย คาถมาห –
‘‘เขตฺตานิ มยฺหํ วิทิตานิ โลเก, เยสาหํ พีชานิ ปติฏฺเปมิ;
เย พฺราหฺมณา ชาติมนฺตูปปนฺนา, ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ.
ตตฺถ เยสาหนฺติ เยสุ อหํ. ชาติมนฺตูปปนฺนาติ ชาติยา จ มนฺเตหิ จ อุปปนฺนา.
ตโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ชาติมโท จ อติมานิตา จ, โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;
เอเต อคุณา เยสุ จ สนฺติ สพฺเพ, ตานีธ เขตฺตานิ อเปสลานิ.
‘‘ชาติมโท จ อติมานิตา จ, โลโภ จ โทโส จ มโท จ โมโห;
เอเต ¶ อคุณา เยสุ น สนฺติ สพฺเพ, ตานีธ เขตฺตานิ สุเปสลานี’’ติ.
ตตฺถ ชาติมโทติ ‘‘อหมสฺมิ ชาติสมฺปนฺโน’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนมาโน. อติมานิตา จาติ ‘‘อฺโ มยา สทฺธึ ชาติอาทีหิ สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมฺม ปวตฺตมาโน. โลภาทโย ลุพฺภนทุสฺสนมชฺชนมุยฺหนมตฺตาว. อเปสลานีติ เอวรูปา ปุคฺคลา อาสีวิสภริตา วิย วมฺมิกา อปฺปิยสีลา โหนฺติ. เอวรูปานํ ทินฺนํ น มหปฺผลํ โหติ, ตสฺมา มา เอเตสํ สุเปสลเขตฺตภาวํ มฺิตฺถ. น หิ ชาติมนฺตา สคฺคทายกา. เย ปน ชาติมานาทิรหิตา อริยา, ตานิ เขตฺตานิ สุเปสลานิ, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผลํ, เต สคฺคทายกา โหนฺตีติ.
อิติ โส มหาสตฺเต ปุนปฺปุนํ กเถนฺเต กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ อติวิย พหุํ วิปฺปลปติ, กุหึ คตา อิเม โทวาริกา, นยิมํ จณฺฑาลํ นีหรนฺตี’’ติ คาถมาห –
‘‘กฺเวตฺถ ¶ คตา อุปโชติโย จ, อุปชฺฌาโย อถ วา คณฺฑกุจฺฉิ;
อิมสฺส ทณฺฑฺจ วธฺจ ทตฺวา, คเล คเหตฺวา ขลยาถ ชมฺม’’นฺติ.
ตตฺถ กฺเวตฺถ คตาติ อิเมสุ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปิตา อุปโชติโย จ อุปชฺฌาโย จ คณฺฑกุจฺฉิ จาติ ตโย โทวาริกา กุหึ คตาติ อตฺโถ.
เตปิ ¶ ตสฺส วจนํ สุตฺวา เวเคนาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กึ กโรม เทวา’’ติ อาหํสุ. ‘‘อยํ โว ชมฺโม จณฺฑาโล ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น ปสฺสาม เทว, กุโตจิ อาคตภาวํ น ชานามา’’ติ. ‘‘โก เจส มายากาโร วา วิชฺชาธโร วา ภวิสฺสติ, อิทานิ กึ ติฏฺถา’’ติ. ‘‘กึ กโรม เทวา’’ติ? ‘‘อิมสฺส มุขเมว โปเถตฺวา ภินฺทนฺตา ทณฺฑเวฬุเปสิกาหิ ปิฏฺิจมฺมํ อุปฺปาเฏนฺตา วธฺจ ทตฺวา คเล คเหตฺวา เอตํ ชมฺมํ ขลยาถ, อิโต นีหรถา’’ติ.
มหาสตฺโต เตสุ อตฺตโน สนฺติกํ อนาคเตสฺเวว อุปฺปติตฺวา อากาเส ิโต คาถมาห –
‘‘คิรึ ¶ นเขน ขณสิ, อโย ทนฺเตหิ ขาทสิ;
ชาตเวทํ ปทหสิ, โย อิสึ ปริภาสสี’’ติ.
ตตฺถ ชาตเวทํ ปทหสีติ อคฺคึ คิลิตุํ วายมสิ.
อิมฺจ ปน คาถํ วตฺวา มหาสตฺโต ปสฺสนฺตสฺเสว มาณวสฺส จ พฺราหฺมณานฺจ อากาเส ปกฺขนฺทิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘อิทํ วตฺวาน มาตงฺโค, อิสิ สจฺจปรกฺกโม;
อนฺตลิกฺขสฺมึ ปกฺกามิ, พฺราหฺมณานํ อุทิกฺขต’’นฺติ.
ตตฺถ สจฺจปรกฺกโมติ สภาวปรกฺกโม.
โส ปาจีนทิสาภิมุโข คนฺตฺวา เอกาย วีถิยา โอตริตฺวา ‘‘ปทวฬฺชํ ปฺายตู’’ติ อธิฏฺาย ปาจีนทฺวารสมีเป ปิณฺฑาย จรนฺโต มิสฺสกภตฺตํ สํกฑฺฒิตฺวา เอกิสฺสํ สาลายํ นิสีทิตฺวา มิสฺสกภตฺตํ ปริภฺุชิ ¶ . นครเทวตา ‘‘อยํ อมฺหากํ อยฺยํ วิเหเตฺวา กเถตี’’ติ อสหมานา อาคมึสุ. อถสฺส เชฏฺกยกฺโข มณฺฑพฺยสฺส คีวํ คเหตฺวา ปริวตฺเตสิ, เสสเทวตา เสสพฺราหฺมณานํ คีวํ คณฺหิตฺวา ปริวตฺเตสุํ. โพธิสตฺเต มุทุจิตฺตตาย ปน ‘‘ตสฺส ปุตฺโต’’ติ นํ น มาเรนฺติ, เกวลํ กิลเมนฺติเยว. มณฺฑพฺยสฺส สีสํ ปริวตฺติตฺวา ปิฏฺิปสฺสาภิมุขํ ชาตํ, หตฺถปาทา อุชุกา ถทฺธาว อฏฺํสุ, อกฺขีนิ กาลกตสฺเสว ปริวตฺตึสุ. โส ถทฺธสรีโรว นิปชฺชิ, เสสพฺราหฺมณา มุเขน เขฬํ วมนฺตา อปราปรํ ปริวตฺตนฺติ ¶ . มาณวา ‘‘อยฺเย, ปุตฺตสฺส เต กึ ชาต’’นฺติ ทิฏฺมงฺคลิกาย อาโรจยึสุ. สา เวเคน คนฺตฺวา ปุตฺตํ ทิสฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘อาเวลฺลิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ, พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;
เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส, โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อาเวลฺลิตนฺติ ปริวตฺติตํ.
อถสฺสา ตสฺมึ าเน ิตชโน อาโรเจตุํ คาถมาห –
‘‘อิธาคมา สมโณ ทุมฺมวาสี, โอตลฺลโก ปํสุปิสาจโกว;
สงฺการโจฬํ ปฏิมฺุจ กณฺเ, โส เต อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.
สา ตํ สุตฺวาว จินฺเตสิ ‘‘อฺสฺเสตํ พลํ นตฺถิ, นิสฺสํสยํ มาตงฺคปณฺฑิโต ภวิสฺสติ, สมฺปนฺนเมตฺตาภาวโน โข ปน ธีโร น เอตฺตกํ ชนํ กิลเมตฺวา คมิสฺสติ, กตรํ นุ โข ทิสํ คโต ภวิสฺสตี’’ติ. ตโต ปุจฺฉนฺตี คาถมาห –
‘‘กตมํ ทิสํ อคมา ภูริปฺโ, อกฺขาถ เม มาณวา เอตมตฺถํ;
คนฺตฺวาน ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยํ, อปฺเปว นํ ปุตฺต ลเภมุ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ คนฺตฺวานาติ ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา. ตํ ปฏิกเรมุ อจฺจยนฺติ ตํ อจฺจยํ ปฏิกริสฺสาม เทเสสฺสาม, ขมาเปสฺสาม นนฺติ. ปุตฺต ลเภมุ ชีวิตนฺติ อปฺเปว นาม ปุตฺตสฺส ชีวิตํ ลเภยฺยาม.
อถสฺสา ตตฺถ ิตา มาณวา กเถนฺตา คาถมาหํสุ –
‘‘เวหายสํ อคมา ภูริปฺโ, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;
อปิ จาปิ โส ปุริมทิสํ อคจฺฉิ, สจฺจปฺปฏิฺโ อิสิ สาธุรูโป’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปถทฺธุโนติ อากาสปถสงฺขาตสฺส อทฺธุโน มชฺเฌ ิโต ปนฺนรเส จนฺโท วิย. อปิ จาปิ โสติ อปิจ โข ปน โส ปุรตฺถิมํ ทิสํ คโต.
สา เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘มม สามิกํ อุปธาเรสฺสามี’’ติ สุวณฺณกลสสุวณฺณสรกานิ คาหาเปตฺวา ทาสิคณปริวุตา เตน ปทวฬฺชสฺส อธิฏฺิตฏฺานํ ปตฺวา เตนานุสาเรน คจฺฉนฺตี ตสฺมึ ปีิกาย นิสีทิตฺวา ภฺุชมาเน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ¶ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. โส ตํ ทิสฺวา โถกํ โอทนํ ปตฺเต เปสิ. ทิฏฺมงฺคลิกา สุวณฺณกลเสน ตสฺส อุทกํ อทาสิ. โส ตตฺเถว หตฺถํ โธวิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลสิ. อถ นํ สา ‘‘เกน เม ปุตฺตสฺส โส วิปฺปกาโร กโต’’ติ ปุจฺฉนฺตี คาถมาห –
‘‘อาเวลฺลิตํ ปิฏฺิโต อุตฺตมงฺคํ, พาหุํ ปสาเรติ อกมฺมเนยฺยํ;
เสตานิ อกฺขีนิ ยถา มตสฺส, โก เม อิมํ ปุตฺตมกาสิ เอว’’นฺติ.
ตโต ปรา เตสํ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –
‘‘ยกฺขา หเว สนฺติ มหานุภาวา, อนฺวาคตา อิสโย สาธุรูปา;
เต ทุฏฺจิตฺตํ กุปิตํ วิทิตฺวา, ยกฺขา หิ เต ปุตฺตมกํสุ เอวํ.
‘‘ยกฺขา ¶ จ เม ปุตฺตมกํสุ เอวํ, ตฺวฺเว เม มา กุทฺโธ พฺรหฺมจาริ;
ตุมฺเหว ปาเท สรณํ คตาสฺมิ, อนฺวาคตา ปุตฺตโสเกน ภิกฺขุ.
‘‘ตเทว หิ เอตรหิ จ มยฺหํ, มโนปโทโส น มมตฺถิ โกจิ;
ปุตฺโต จ เต เวทมเทน มตฺโต, อตฺถํ น ชานาติ อธิจฺจ เวเท.
‘‘อทฺธา หเว ภิกฺขุ มุหุตฺตเกน, สมฺมุยฺหเตว ปุริสสฺส สฺา;
เอกาปราธํ ขม ภูริปฺ, น ปณฺฑิตา โกธพลา ภวนฺตี’’ติ.
ตตฺถ ยกฺขาติ นครปริคฺคาหกยกฺขา. อนฺวาคตาติ อนุ อาคตา, อิสโย สาธุรูปา คุณสมฺปนฺนาติ เอวํ ชานมานาติ อตฺโถ. เตติ เต อิสีนํ คุณํ ตฺวา ตว ปุตฺตํ ทุฏฺจิตฺตํ กุปิตจิตฺตํ วิทิตฺวา. ตฺวฺเว เมติ สเจ ¶ ยกฺขา กุปิตา เอวมกํสุ, กโรนฺตุ, เทวตา นาม ¶ ปานียอุฬุงฺกมตฺเตน สนฺตปฺเปตุํ สกฺกา, ตสฺมาหํ เตสํ น ภายามิ, เกวลํ ตฺวฺเว เม ปุตฺตสฺส มา กุชฺฌิ. อนฺวาคตาติ อาคตาสฺมิ. ภิกฺขูติ มหาสตฺตํ อาลปนฺตี ปุตฺตสฺส ชีวิตทานํ ยาจติ. ตเทว หีติ ทิฏฺมงฺคลิเก ตทา ตว ปุตฺตสฺส มํ อกฺโกสนกาเล จ มยฺหํ มโนปโทโส นตฺถิ, เอตรหิ จ ตยิ ยาจมานายปิ มม ตสฺมึ มโนปโทโส นตฺถิเยว. เวทมเทนาติ ‘‘ตโย เวทา เม อุคฺคหิตา’’ติ มเทน. อธิจฺจาติ เวเท อุคฺคเหตฺวาปิ อตฺถานตฺถํ น ชานาติ. มุหุตฺตเกนาติ ยํ กิฺจิ อุคฺคเหตฺวา มุหุตฺตเกเนว.
เอวํ ตาย ขมาปิยมาโน มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ เอเตสํ ยกฺขานํ ปลายนตฺถาย อมโตสธํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘อิทฺจ ¶ มยฺหํ อุตฺติฏฺปิณฺฑํ, ตว มณฺฑพฺโย ภฺุชตุ อปฺปปฺโ;
ยกฺขา จ เต นํ น วิเหเยยฺยุํ, ปุตฺโต จ เต เหสฺสติ โส อโรโค’’ติ.
ตตฺถ อุตฺติฏฺปิณฺฑนฺติ อุจฺฉิฏฺกปิณฺฑํ, ‘‘อุจฺฉิฏฺปิณฺฑ’’นฺติปิ ปาโ.
สา มหาสตฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘เทถ, สามิ, อมโตสธ’’นฺติ สุวณฺณสรกํ อุปนาเมสิ. มหาสตฺโต อุจฺฉิฏฺกกฺชิกํ ตตฺถ อาสิฺจิตฺวา ‘‘ปมฺเว อิโต อุปฑฺฒํ ตว ปุตฺตสฺส มุเข โอสิฺจิตฺวา เสสํ จาฏิยํ อุทเกน มิสฺเสตฺวา เสสพฺราหฺมณานํ มุเข โอสิฺเจหิ, สพฺเพปิ นิโรคา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตเมว คโต. สาปิ ตํ สรกํ สีเสนาทาย ‘‘อมโตสธํ เม ลทฺธ’’นฺติ วทนฺตี นิเวสนํ คนฺตฺวา ปมํ ปุตฺตสฺส มุเข กฺชิกํ โอสิฺจิ, ยกฺโข ปลายิ. อิตโร ปํสุํ ปฺุฉนฺโต อุฏฺาย ‘‘อมฺม กิเมต’’นฺติ อาห. ตยา กตํ ตฺวเมว ชานิสฺสสิ. เอหิ, ตาต, ตว ทกฺขิเณยฺยานํ เตสํ วิปฺปการํ ปสฺสาติ. โส เต ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี อโหสิ. อถ ¶ นํ มาตา ‘‘ตาต มณฺฑพฺย, ตฺวํ พาโล ทานสฺส มหปฺผลฏฺานํ น ชานาสิ, ทกฺขิเณยฺยา นาม เอวรูปา น โหนฺติ, มาตงฺคปณฺฑิตสทิสาว โหนฺติ, อิโต ปฏฺาย มา เอเตสํ ทุสฺสีลานํ ทานมทาสิ, สีลวนฺตานํ เทหี’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘มณฺฑพฺย พาโลสิ ปริตฺตปฺโ, โย ปฺุกฺเขตฺตานมโกวิโทสิ;
มหกฺกสาเวสุ ททาสิ ทานํ, กิลิฏฺกมฺเมสุ อสฺเตสุ.
‘‘ชฏา ¶ จ เกสา อชินา นิวตฺถา, ชรูทปานํว มุขํ ปรูฬฺหํ;
ปชํ อิมํ ปสฺสถ ทุมฺมรูปํ, น ชฏาชินํ ตายติ อปฺปปฺํ.
‘‘เยสํ ¶ ราโค จ โทโส จ, อวิชฺชา จ วิราชิตา;
ขีณาสวา อรหนฺโต, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผล’’นฺติ.
ตตฺถ มหกฺกสาเวสูติ มหากสาเวสุ มหนฺเตหิ ราคกสาวาทีหิ สมนฺนาคเตสุ. ชฏา จ เกสาติ ตาต มณฺฑพฺย, ตว ทกฺขิเณยฺเยสุ เอกจฺจานํ เกสา ชฏา กตฺวา พทฺธา. อชินา นิวตฺถาติ สขุรานิ อชินจมฺมานิ นิวตฺถา. ชรูทปานํ วาติ ติณคหเนน ชิณฺณกูโป วิย มุขํ ทีฆมสฺสุตาย ปรูฬฺหํ. ปชํ อิมนฺติ อิมํ เอวรูปํ อนฺชิตามณฺฑิตลูขเวสํ ปชํ ปสฺสถ. น ชฏาชินนฺติ เอตํ ชฏาชินํ อิมํ อปฺปปฺํ ปชํ ตายิตุํ น สกฺโกติ, สีลปฺาณตโปกมฺมาเนว อิเมสํ สตฺตานํ ปติฏฺา โหนฺติ. เยสนฺติ ยสฺมา เยสํ เอเต รชฺชนทุสฺสนมุยฺหนสภาวา ราคาทโย อฏฺวตฺถุกา จ อวิชฺชา วิราชิตา วิคตา, วิคตตฺตาเยว จ เอเตสํ กิเลสานํ เย ขีณาสวา อรหนฺโต, เตสุ ทินฺนํ มหปฺผลํ, ตสฺมา ตฺวํ, ตาต, อิโต ปฏฺาย เอวรูปานํ ทุสฺสีลานํ อทตฺวา เย โลเก อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปฺจาภิฺา ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ สนฺติ, เตสํ ทานํ เทหิ. เอหิ, ตาต, ตว กุลูปเก อมโตสธํ ปาเยตฺวา อโรเค ¶ กริสฺสามาติ วตฺวา อุจฺฉิฏฺกฺชิกํ คาหาเปตฺวา อุทกจาฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา โสฬสนฺนํ พฺราหฺมณสหสฺสานํ มุเขสุ อาสิฺจาเปสิ.
เอเกโก ปํสุํ ปฺุฉนฺโตว อุฏฺหิ. อถ เน พฺราหฺมณา ‘‘อิเมหิ จณฺฑาลุจฺฉิฏฺกํ ปีต’’นฺติ อพฺราหฺมเณ กรึสุ. เต ลชฺชิตา พาราณสิโต นิกฺขมิตฺวา มชฺฌรฏฺํ คนฺตฺวา มชฺฌรฺโ สนฺติเก วสึสุ, มณฺฑพฺโย ปน ตตฺเถว วสิ. ตทา เวตฺตวตีนครํ อุปนิสฺสาย เวตฺตวตีนทีตีเร ชาติมนฺโต นาเมโก พฺราหฺมโณ ปพฺพชิโต ชาตึ นิสฺสาย มหนฺตํ มานมกาสิ. มหาสตฺโต ‘‘เอตสฺส มานํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตํ านํ คนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก อุปริโสเต วาสํ กปฺเปสิ. โส เอกทิวสํ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา ‘‘อิมํ ทนฺตกฏฺํ ชาติมนฺตสฺส ชฏาสุ ลคฺคตู’’ติ อธิฏฺาย นทิยํ ปาเตสิ. ตํ ตสฺส อุทกํ อาจมนฺตสฺส ชฏาสุ ลคฺคิ. โส ตํ ทิสฺวาว ‘‘นสฺส วสลา’’ติ วตฺวา ‘‘กุโต อยํ กาฬกณฺณี อาคโต, อุปธาเรสฺสามิ น’’นฺติ อุทฺธํโสตํ คจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘กึชาติโกสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘จณฺฑาโลสฺมี’’ติ. ‘‘ตยา นทิยา ทนฺตกฏฺํ ปาติต’’นฺติ ¶ ? ‘‘อาม, มยา’’ติ. ‘‘นสฺส, วสล, จณฺฑาล กาฬกณฺณิ มา อิธ วสิ, เหฏฺาโสเต วสาหี’’ติ วตฺวา เหฏฺาโสเต วสนฺเตนปิ เตน ปาติเต ทนฺตกฏฺเ ¶ ปฏิโสตํ อาคนฺตฺวา ชฏาสุ ลคฺคนฺเต โส ‘‘นสฺส วสล, สเจ อิธ วสิสฺสสิ, สตฺตเม ทิวเส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ อาห.
มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ เอตสฺส กุชฺฌิสฺสามิ, สีลํ เม อรกฺขิตํ ภวิสฺสติ, อุปาเยเนวสฺส มานํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ สตฺตเม ทิวเส สูริยุคฺคมนํ นิวาเรสิ. มนุสฺสา อุพฺพาฬฺหา ชาติมนฺตํ ตาปสํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห สูริยุคฺคมนํ น เทถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. โส อาห – ‘‘น เม ตํ กมฺมํ, นทีตีเร ปเนโก จณฺฑาโล วสติ, ตสฺเสตํ กมฺมํ ภวิสฺสตี’’ติ. มนุสฺสา มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, สูริยุคฺคมนํ ¶ น เทถา’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อามาวุโส’’ติ. ‘‘กึการณา’’ติ. ‘‘ตุมฺหากํ กุลูปโก ตาปโส มํ นิรปราธํ อภิสปิ, ตสฺมึ อาคนฺตฺวา ขมาปนตฺถาย มม ปาเทสุ ปติเต สูริยํ วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ. เต คนฺตฺวา ตํ กฑฺฒนฺตา อาเนตฺวา มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล นิปชฺชาเปตฺวา ขมาเปตฺวา อาหํสุ ‘‘สูริยํ วิสฺสชฺเชถ ภนฺเต’’ติ. ‘‘น สกฺกา วิสฺสชฺเชตุํ, สจาหํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, อิมสฺส สตฺตธา มุทฺธา ผลิสฺสตี’’ติ. ‘‘อถ, ภนฺเต, กึ กโรมา’’ติ? โส ‘‘มตฺติกาปิณฺฑํ อาหรถา’’ติ อาหราเปตฺวา ‘‘อิมํ ตาปสสฺส สีเส เปตฺวา ตาปสํ โอตาเรตฺวา อุทเก เปถา’’ติ ปาเปตฺวา สูริยํ วิสฺสชฺเชสิ. สูริยรสฺมีหิ ปหฏมตฺเต มตฺติกาปิณฺโฑ สตฺตธา ภิชฺชิ, ตาปโส อุทเก นิมุชฺชิ.
มหาสตฺโต ตํ ทเมตฺวา ‘‘กหํ นุ โข ทานิ โสฬส พฺราหฺมณสหสฺสานิ วสนฺตี’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘มชฺฌรฺโ สนฺติเก’’ติ ตฺวา ‘‘เต ทเมสฺสามี’’ติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา นครสามนฺเต โอตริตฺวา ปตฺตํ อาทาย นคเร ปิณฺฑาย จริ. พฺราหฺมณา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ อิธ เอกํ ทฺเว ทิวเส วสนฺโตปิ อมฺเห อปฺปติฏฺเ กริสฺสตี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, มายากาโร เอโก วิชฺชาธโร โจโร อาคโต, คณฺหาเปถ น’’นฺติ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. มหาสตฺโตปิ มิสฺสกภตฺตํ อาทาย อฺตรํ กุฏฺฏํ นิสฺสาย ปีิกาย นิสินฺโน ภฺุชติ. อถ นํ อฺวิหิตกํ อาหารํ ปริภฺุชมานเมว รฺา ปหิตปุริสา อสินา ¶ คีวํ ปหริตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสุํ. โส กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ. อิมสฺมึ กิร ชาตเก โพธิสตฺโต โกณฺฑทมโก อโหสิ. โส เตเนว ปรตนฺติยุตฺตภาเวน ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เทวตา กุชฺฌิตฺวา สกลเมว มชฺฌรฏฺํ อุณฺหํ กุกฺกุฬวสฺสํ วสฺสาเปตฺวา รฏฺํ อรฏฺมกํสุ. เตน วุตฺตํ –
‘‘อุปหจฺจ ¶ มนํ มชฺโฌ, มาตงฺคสฺมึ ยสสฺสิเน;
สปาริสชฺโช อุจฺฉินฺโน, มชฺฌารฺํ ตทา อหู’’ติ. (ชา. ๒.๑๙.๙๖);
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อุเทโน ปพฺพชิเต วิเหเสิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มณฺฑพฺโย อุเทโน อโหสิ, มาตงฺคปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มาตงฺคชาตกวณฺณนา ปมา.
[๔๙๘] ๒. จิตฺตสมฺภูตชาตกวณฺณนา
สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส ปิยสํวาเส ทฺเว สทฺธิวิหาริเก ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ. เต กิร อฺมฺํ อปฺปฏิวิภตฺตโภคา ปรมวิสฺสาสิกา อเหสุํ, ปิณฺฑาย จรนฺตาปิ เอกโตว คจฺฉนฺติ, เอกโตว อาคจฺฉนฺติ, วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ. ธมฺมสภายํ ภิกฺขู เตสํเยว วิสฺสาสํ วณฺณยมานา นิสีทึสุ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิเมสํ เอกสฺมึ อตฺตภาเว วิสฺสาสิกตฺตํ, โปราณกปณฺฑิตา ตีณิ จตฺตาริ ภวนฺตรานิ คจฺฉนฺตาปิ มิตฺตภาวํ น วิชหึสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต อวนฺติรฏฺเ อุชฺเชนิยํ อวนฺติมหาราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา อุชฺเชนิยา พหิ จณฺฑาลคามโก อโหสิ. มหาสตฺโต ตตฺถ นิพฺพตฺติ, อปโรปิ สตฺโต ตสฺเสว มาตุจฺฉาปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เตสุ เอโก จิตฺโต นาม อโหสิ, เอโก สมฺภูโต นาม. เต อุโภปิ ¶ วยปฺปตฺตา จณฺฑาลวํสโธวนํ นาม สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา เอกทิวสํ ‘‘อุชฺเชนีนครทฺวาเร สิปฺปํ ทสฺเสสฺสามา’’ติ เอโก อุตฺตรทฺวาเร สิปฺปํ ทสฺเสสิ, เอโก ปาจีนทฺวาเร. ตสฺมิฺจ นคเร ทฺเว ทิฏฺมงฺคลิกาโย อเหสุํ, เอกา เสฏฺิธีตา, เอกา ปุโรหิตธีตา. ตา พหุขาทนียโภชนียมาลาคนฺธาทีนิ คาหาเปตฺวา ‘‘อุยฺยานกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ เอกา อุตฺตรทฺวาเรน นิกฺขมิ, เอกา ปาจีนทฺวาเรน. ตา เต จณฺฑาลปุตฺเต สิปฺปํ ทสฺเสนฺเต ทิสฺวา ‘‘เก เอเต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘จณฺฑาลปุตฺตา’’ติ สุตฺวา ‘‘อปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ วต ปสฺสิมฺหา’’ติ คนฺโธทเกน ¶ อกฺขีนิ โธวิตฺวา นิวตฺตึสุ. มหาชโน ‘‘อเร ทุฏฺจณฺฑาล, ตุมฺเห นิสฺสาย มยํ อมูลกานิ สุราภตฺตาทีนิ น ลภิมฺหา’’ติ เต อุโภปิ ภาติเก โปเถตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิ.
เต ¶ ปฏิลทฺธสฺา อุฏฺาย อฺมฺสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺตา เอกสฺมึ าเน สมาคนฺตฺวา อฺมฺสฺส ตํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ อาโรเจตฺวา โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ‘‘กินฺติ กริสฺสามา’’ติ มนฺเตตฺวา ‘‘อิมํ อมฺหากํ ชาตึ นิสฺสาย ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ, จณฺฑาลกมฺมํ กาตุํ น สกฺขิสฺสาม, ชาตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา พฺราหฺมณมาณววณฺเณน ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิสฺสามา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ธมฺมนฺเตวาสิกา หุตฺวา ทิสาปาโมกฺขาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ ปฏฺเปสุํ. ชมฺพุทีปตเล ‘‘ทฺเว กิร จณฺฑาลา ชาตึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺตี’’ติ สูยิตฺถ. เตสุ จิตฺตปณฺฑิตสฺส สิปฺปํ นิฏฺิตํ, สมฺภูตสฺส น ตาว นิฏฺาติ.
อเถกทิวสํ เอโก คามวาสี ‘‘พฺราหฺมณวาจนกํ กริสฺสามี’’ติ อาจริยํ นิมนฺเตสิ. ตเมว รตฺตึ เทโว วสฺสิตฺวา มคฺเค กนฺทราทีนิ ปูเรสิ. อาจริโย ปาโตว จิตฺตปณฺฑิตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, อหํ คนฺตุํ น สกฺขิสฺสามิ, ตฺวํ มาณเวหิ สทฺธึ คนฺตา มงฺคลํ วตฺวา ตุมฺเหหิ ลทฺธํ ภฺุชิตฺวา อมฺเหหิ ลทฺธํ อาหรา’’ติ เปเสสิ. โส ‘‘สาธู’’ติ มาณวเก คเหตฺวา คโต. ยาว มาณวา นฺหายนฺติ เจว มุขานิ จ โธวนฺติ, ตาว มนุสฺสา ปายาสํ วฑฺเฒตฺวา นิพฺพาตูติ เปสุํ. มาณวา ตสฺมึ อนิพฺพุเตเยว อาคนฺตฺวา นิสีทึสุ. มนุสฺสา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา เตสํ ปุรโต ปาติโย เปสุํ. สมฺภูโต ลุทฺธธาตุโก วิย หุตฺวา ‘‘สีตโล’’ติ สฺาย ปายาสปิณฺฑํ อุกฺขิปิตฺวา มุเข เปสิ, โส ตสฺส ¶ อาทิตฺตอโยคุโฬ วิย มุขํ ทหิ. โส กมฺปมาโน สตึ อนุปฏฺาเปตฺวา จิตฺตปณฺฑิตํ โอโลเกตฺวา จณฺฑาลภาสาย เอว ‘‘ขฬุ ขฬู’’ติ อาห ¶ . โสปิ ตเถว สตึ อนุปฏฺาเปตฺวา จณฺฑาลภาสาย เอว ‘‘นิคฺคล นิคฺคลา’’ติ อาห. มาณวา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ ภาสา นาเมสา’’ติ วทึสุ. จิตฺตปณฺฑิโต มงฺคลํ อภาสิ. มาณวา พหิ นิกฺขมิตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิสีทิตฺวา ภาสํ โสเธนฺตา ‘‘จณฺฑาลภาสา’’ติ ตฺวา ‘‘อเร ทุฏฺจณฺฑาลา, เอตฺตกํ กาลํ ‘พฺราหฺมณามฺหา’ติ วตฺวา วฺจยิตฺถา’’ติ อุโภปิ เต โปถยึสุ. อเถโก สปฺปุริโส ‘‘อเปถา’’ติ วาเรตฺวา ‘‘อยํ ตุมฺหากํ ชาติยา โทโส, คจฺฉถ กตฺถจิ เทเสว ปพฺพชิตฺวา ชีวถา’’ติ เต อุโภ อุยฺโยเชสิ. มาณวา เตสํ จณฺฑาลภาวํ อาจริยสฺส อาโรเจสุํ.
เตปิ อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา น จิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา เนรฺชราย ตีเร มิคิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺตึสุ. เต มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย เอกโตว วิจรนฺติ, วินา ภวิตุํ น สกฺโกนฺติ. เต เอกทิวสํ โคจรํ คเหตฺวา เอกสฺมึ รุกฺขมูเล สีเสน สีสํ, สิงฺเคน สิงฺคํ, ตุณฺเฑน ตุณฺฑํ อลฺลียาเปตฺวา โรมนฺถยมาเน ิเต ทิสฺวา เอโก ลุทฺทโก สตฺตึ ขิปิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว ชีวิตา โวโรเปสิ. ตโต จวิตฺวา นมฺมทานทีตีเร ¶ อุกฺกุสโยนิยํ นิพฺพตฺตึสุ. ตตฺราปิ วุทฺธิปฺปตฺเต โคจรํ คเหตฺวา สีเสน สีสํ, ตุณฺเฑน ตุณฺฑํ อลฺลียาเปตฺวา ิเต ทิสฺวา เอโก ยฏฺิลุทฺทโก เอกปฺปหาเรเนว พนฺธิตฺวา วธิ. ตโต ปน จวิตฺวา จิตฺตปณฺฑิโต โกสมฺพิยํ ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. สมฺภูตปณฺฑิโต อุตฺตรปฺจาลรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ. เต นามคฺคหณทิวสโต ปฏฺาย อตฺตโน ชาตึ อนุสฺสรึสุ. เตสุ สมฺภูตปณฺฑิโต นิรนฺตรํ สริตุํ อสกฺโกนฺโต จตุตฺถํ จณฺฑาลชาติเมว อนุสฺสรติ, จิตฺตปณฺฑิโต ปฏิปาฏิยา จตสฺโสปิ ชาติโย. โส โสฬสวสฺสกาเล นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ¶ ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานสุเขน วีตินาเมนฺโต วสิ. สมฺภูตปณฺฑิโตปิ ปิตุ อจฺจเยน ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา ฉตฺตมงฺคลทิวเสเยว มหาชนมชฺเฌ มงฺคลคีตํ กตฺวา อุทานวเสน ทฺเว คาถา ¶ อภาสิ. ตํ สุตฺวา ‘‘อมฺหากํ รฺโ มงฺคลคีต’’นฺติ โอโรธาปิ คนฺธพฺพาปิ ตเมว คีตํ คายนฺติ. อนุกฺกเมเนว ‘‘รฺโ ปิยคีต’’นฺติ สพฺเพปิ นครวาสิโน มนุสฺสา ตเมว คายนฺติ.
จิตฺตปณฺฑิโตปิ หิมวนฺตปเทเส วสนฺโตเยว ‘‘กึ นุ โข มม ภาติเกน สมฺภูเตน ฉตฺตํ ลทฺธํ, อุทาหุ น วา’’ติ อุปธาเรนฺโต ลทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘นวรชฺชํ ตาว อิทานิ คนฺตฺวาปิ โพเธตุํ น สกฺขิสฺสามิ, มหลฺลกกาเล นํ อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา ปพฺพาเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปณฺณาส วสฺสานิ อคนฺตฺวา รฺโ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิตกาเล อิทฺธิยา คนฺตฺวา อุยฺยาเน โอตริตฺวา มงฺคลสิลาปฏฺเฏ สุวณฺณปฏิมา วิย นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ เอโก ทารโก ตํ คีตํ คายนฺโต ทารูนิ อุทฺธรติ. จิตฺตปณฺฑิโต ตํ ปกฺโกสิ. โส อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ อาห – ‘‘ตฺวํ ปาโตว ปฏฺาย อิมเมว คีตํ คายสิ, กึ อฺํ น ชานาสี’’ติ. ‘‘ภนฺเต, อฺานิปิ พหูนิ ชานามิ, อิมานิ ปน ทฺเว รฺโ ปิยคีตานิ, ตสฺมา อิมาเนว คายามี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน รฺโ คีตสฺส ปฏิคีตํ คายนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกฺขิสฺสสิ ปน ตฺวํ ปฏิคีตํ คายิตุ’’นฺติ? ‘‘ชานนฺโต สกฺขิสฺสามี’’ติ. ‘‘เตน หิ ตฺวํ รฺา ทฺวีสุ คีเตสุ คายิเตสุ อิทํ ตติยํ กตฺวา คายสฺสู’’ติ คีตํทตฺวา ‘‘คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก คายิสฺสสิ, ราชา เต ปสีทิตฺวา มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทสฺสตี’’ติ อุยฺโยเชสิ.
โส สีฆํ มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา อตฺตานํ อลงฺการาเปตฺวา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘เอโก กิร ทารโก ตุมฺเหหิ สทฺธึ ปฏิคีตํ คายิสฺสตี’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา ‘‘อาคจฺฉตู’’ติ วุตฺเต คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร, ตาต, ปฏิคีตํ คายิสฺสสี’’ติ ¶ ปุฏฺโ ‘‘อาม, เทว, สพฺพํ ราชปริสํ สนฺนิปาเตถา’’ติ สนฺนิปติตาย ปริสาย ราชานํ อาห ‘‘ตุมฺเห ตาว, เทว, ตุมฺหากํ คีตํ คายถ, อถาหํ ปฏิคีตํ คายิสฺสามี’’ติ. ราชา คาถาทฺวยมาห –
‘‘สพฺพํ ¶ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;
ปสฺสามิ สมฺภูตํ มหานุภาวํ, สกมฺมุนา ปฺุผลูปปนฺนํ.
‘‘สพฺพํ ¶ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;
กจฺจินฺนุ จิตฺตสฺสปิ เอวเมวํ, อิทฺโธ มโน ตสฺส ยถาปิ มยฺห’’นฺติ.
ตตฺถ น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถีติ สุกตทุกฺกเฏสุ กมฺเมสุ กิฺจน เอกกมฺมมฺปิ โมฆํ นาม นตฺถิ, นิปฺผลํ น โหติ, วิปากํ ทตฺวาว นสฺสตีติ อปราปริยเวทนียกมฺมํ สนฺธายาห. สมฺภูตนฺติ อตฺตานํ วทติ, ปสฺสามหํ อายสฺมนฺตํ สมฺภูตํ สเกน กมฺเมน ปฺุผลูปปนฺนํ, สกมฺมํ นิสฺสาย ปฺุผเลน อุปปนฺนํ ตํ ปสฺสามีติ อตฺโถ. กจฺจินฺนุ จิตฺตสฺสปีติ มยฺหิ ทฺเวปิ ชนา เอกโต หุตฺวา น จิรํ สีลํ รกฺขิมฺห, อหํ ตาว ตสฺส ผเลน มหนฺตํ ยสํ ปตฺโต, กจฺจิ นุ โข เม ภาติกสฺส จิตฺตสฺสปิ เอวเมว มโน อิทฺโธ สมิทฺโธติ.
ตสฺส คีตาวสาเน ทารโก คายนฺโต ตติยํ คาถมาห –
‘‘สพฺพํ นรานํ สผลํ สุจิณฺณํ, น กมฺมุนา กิฺจน โมฆมตฺถิ;
จิตฺตมฺปิ ชานาหิ ตเถว เทว, อิทฺโธ มโน ตสฺส ยถาปิ ตุยฺห’’นฺติ.
ตํ สุตฺวา ราชา จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘ภวํ นุ จิตฺโต สุตมฺโต เต, อุทาหุ เต โกจิ นํ เอตทกฺขา;
คาถา สุคีตา น มมตฺถิ กงฺขา, ททามิ เต คามวรํ สตฺจา’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุตมฺโต เตติ อหํ สมฺภูตสฺส ภาตา จิตฺโต นามาติ วทนฺตสฺส จิตฺตสฺเสว นุ เต สนฺติกา สุตนฺติ อตฺโถ. โกจิ นนฺติ อุทาหุ มยา สมฺภูตสฺส รฺโ ภาตา จิตฺโต ทิฏฺโติ โกจิ เต เอตมตฺถํ อาจิกฺขิ. สุคีตาติ สพฺพถาปิ อยํ คาถา สุคีตา, นตฺเถตฺถ มม กงฺขา. คามวรํ สตฺจาติ คามวรานํ เต สตํ ททามีติ วทติ.
ตโต ¶ ทารโก ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘น ¶ จาหํ จิตฺโต สุตมฺโต เม, อิสี จ เม เอตมตฺถํ อสํสิ;
คนฺตฺวาน รฺโ ปฏิคาหิ คาถํ, อปิ เต วรํ อตฺตมโน ทเทยฺยา’’ติ.
ตตฺถ เอตมตฺถนฺติ ตุมฺหากํ อุยฺยาเน นิสินฺโน เอโก อิสิ มยฺหํ เอตมตฺถํ อาจิกฺขิ.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘โส มม ภาตา จิตฺโต ภวิสฺสติ, อิทาเนว นํ คนฺตฺวา ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปุริเส อาณาเปนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘โยเชนฺตุ เว ราชรเถ, สุกเต จิตฺตสิพฺพเน;
กจฺฉํ นาคานํ พนฺธถ, คีเวยฺยํ ปฏิมฺุจถ.
‘‘อาหฺนฺตุ เภริมุทิงฺคสงฺเข, สีฆานิ ยานานิ จ โยชยนฺตุ;
อชฺเชวหํ อสฺสมํ ตํ คมิสฺสํ, ยตฺเถว ทกฺขิสฺสมิสึ นิสินฺน’’นฺติ.
ตตฺถ อาหฺนฺตูติ อาหนนฺตุ. อสฺสมํ ตนฺติ ตํ อสฺสมํ.
โส เอวํ วตฺวา รถํ อภิรุยฺห สีฆํ คนฺตฺวา อุยฺยานทฺวาเร รถํ เปตฺวา จิตฺตปณฺฑิตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ตุฏฺมานโส อฏฺมํ คาถมาห –
‘‘สุลทฺธลาโภ วต เม อโหสิ, คาถา สุคีตา ปริสาย มชฺเฌ;
สฺวาหํ อิสึ สีลวตูปปนฺนํ, ทิสฺวา ปตีโต สุมโนหมสฺมี’’ติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – สุลทฺธลาโภ วต มยฺหํ ฉตฺตมงฺคลทิวเส ปริสาย มชฺเฌ คีตคาถา สุคีตาว อโหสิ, สฺวาหํ อชฺช สีลวตสมฺปนฺนํ อิสึ ทิสฺวา ปีติโสมนสฺสปฺปตฺโต ชาโตติ.
โส ¶ จิตฺตปณฺฑิตสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย โสมนสฺสปฺปตฺโต ‘‘ภาติกสฺส เม ปลฺลงฺกํ อตฺถรถา’’ติอาทีนิ อาณาเปนฺโต นวมํ คาถมาห –
‘‘อาสนํ อุทกํ ปชฺชํ, ปฏิคฺคณฺหาตุ โน ภวํ;
อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภว’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อคฺเฆติ อติถิโน ทาตพฺพยุตฺตกสฺมึ อคฺเฆ ภวนฺตํ อาปุจฺฉาม. กุรุตุ โนติ อิมํ โน อคฺฆํ ภวํ ปฏิคฺคณฺหาตุ.
เอวํ มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา รชฺชํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา เทนฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘รมฺมฺจ เต อาวสถํ กโรนฺตุ, นารีคเณหิ ปริจารยสฺสุ;
กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, อุโภปิมํ อิสฺสริยํ กโรมา’’ติ.
ตตฺถ อิมํ อิสฺสริยนฺติ กปิลรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร รชฺชํ มชฺเฌ ภินฺทิตฺวา ทฺเวปิ ชนา กโรม อนุภวาม.
ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา จิตฺตปณฺฑิโต ธมฺมํ เทเสนฺโต ฉ คาถา อภาสิ –
‘‘ทิสฺวา ผลํ ทุจฺจริตสฺส ราช, อตฺโถ สุจิณฺณสฺส มหาวิปากํ;
อตฺตานเมว ปฏิสํยมิสฺสํ, น ปตฺถเย ปุตฺต ปสุํ ธนํ วา.
‘‘ทเสวิมา วสฺสทสา, มจฺจานํ อิธ ชีวิตํ;
อปตฺตฺเว ตํ โอธึ, นโฬ ฉินฺโนว สุสฺสติ.
‘‘ตตฺถ กา นนฺทิ กา ขิฑฺฑา, กา รตี กา ธเนสนา;
กึ เม ปุตฺเตหิ ทาเรหิ, ราช มุตฺโตสฺมิ พนฺธนา.
‘‘โสหํ เอวํ ปชานามิ, มจฺจุ เม นปฺปมชฺชติ;
อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส, กา รตี กา ธเนสนา.
‘‘ชาติ ¶ ¶ นรานํ อธมา ชนินฺท, จณฺฑาลโยนิ ทฺวิปทากนิฏฺา;
สเกหิ กมฺเมหิ สุปาปเกหิ, จณฺฑาลคพฺเภ อวสิมฺห ปุพฺเพ.
‘‘จณฺฑาลาหุมฺห อวนฺตีสุ, มิคา เนรฺชรํ ปติ;
อุกฺกุสา นมฺมทาตีเร, ตฺยชฺช พฺราหฺมณขตฺติยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทุจฺจริตสฺสาติ มหาราช, ตฺวํ สุจริตสฺเสว ผลํ ชานาสิ, อหํ ปน ทุจฺจริตสฺสปิ ผลํ ปสฺสามิเยว. มยฺหิ อุโภ ทุจฺจริตสฺส ผเลน อิโต จตุตฺเถ อตฺตภาเว จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺตา. ตตฺถ น จิรํ สีลํ รกฺขิตฺวา ตสฺส ผเลน ตฺวํ ขตฺติยกุเล นิพฺพตฺโต, อหํ พฺราหฺมณกุเล, เอวาหํ ทุจฺจริตสฺส จ ผลํ สุจิณฺณสฺส จ มหาวิปากํ ทิสฺวา อตฺตานเมว สีลสํยเมน ปฏิสํยมิสฺสํ, ปุตฺตํ วา ปสุํ วา ธนํ วา น ปตฺเถมิ.
ทเสวิมา วสฺสทสาติ มหาราช, มนฺททสกํ ขิฑฺฑาทสกํ วณฺณทสกํ พลทสกํ ปฺาทสกํ หานิทสกํ ปพฺภารทสกํ วงฺกทสกํ โมมูหทสกํ สยนทสกนฺติ อิเมสฺหิ ทสนฺนํ ทสกานํ วเสน ทเสว วสฺสทสา อิเมสํ มจฺจานํ อิธ มนุสฺสโลเก ชีวิตํ. ตยิทํ น นิยเมน สพฺพา เอว เอตา ทสา ปาปุณาติ, อถ โข อปฺปตฺตฺเว ตํ โอธึ นโฬ ฉินฺโนว สุสฺสติ. เยปิ สกลํ วสฺสสตํ ชีวนฺติ, เตสมฺปิ มนฺททสเก ปวตฺตา รูปารูปธมฺมา วิจฺฉินฺทิตฺวา อาตเป ขิตฺตนโฬ วิย ตตฺเถว สุสฺสนฺติ อนฺตรธายนฺติ, ตํ โอธึ อติกฺกมิตฺวา ขิฑฺฑาทสกํ น ปาปุณนฺติ, ตถา ขิฏฺฏาทสกาทีสุ ปวตฺตา วณฺณทสกาทีนิ.
ตตฺถาติ ตสฺมึ เอวํ สุสฺสมาเน ชีวิเต กา ปฺจ กามคุเณ นิสฺสาย อภินนฺที, กา กายกีฬาทิวเสน ขิฑฺฑา, กา โสมนสฺสวเสน รติ, กา ธเนสนา, กึ เม ปุตฺเตหิ, กึ ทาเรหิ, มุตฺโตสฺมิ ตมฺหา ปุตฺตทารพนฺธนาติ อตฺโถ. อนฺตเกนาธิปนฺนสฺสาติ ชีวิตนฺตกเรน มจฺจุนา อภิภูตสฺส. ทฺวิปทากนิฏฺาติ ทฺวิปทานํ อนฺตเร ลามกา. อวสิมฺหาติ ทฺเวปิ มยํ วสิมฺห.
จณฺฑาลาหุมฺหาติ ¶ มหาราช, อิโต ปุพฺเพ จตุตฺถํ ชาตึ อวนฺติรฏฺเ อุชฺเชนินคเร จณฺฑาลา อหุมฺห, ตโต จวิตฺวา เนรฺชราย นทิยา ตีเร อุโภปิ มิคา อหุมฺห. ตตฺถ ทฺเวปิ อมฺเห เอกสฺมึ รุกฺขมูเล อฺมฺํ นิสฺสาย ิเต เอโก ลุทฺทโก เอเกเนว สตฺติปหาเรน ชีวิตา โวโรเปสิ, ตโต จวิตฺวา นมฺมทานทีตีเร กุรรา อหุมฺห. ตตฺราปิ โน นิสฺสาย ิเต เอโก เนสาโท เอกปฺปหาเรเนว พนฺธิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ, ตโต จวิตฺวา เต ¶ มยํ อชฺช พฺราหฺมณขตฺติยา ชาตา. อหํ โกสมฺพิยํ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺโต, ตฺวํ อิธ ราชา ชาโตติ.
เอวมสฺส อตีเต ลามกชาติโย ปกาเสตฺวา อิทานิ อิมิสฺสาปิ ชาติยา อายุสงฺขารปริตฺตตํ ทสฺเสตฺวา ปฺุเสุ อุสฺสาหํ ชเนนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อุปนียติ ¶ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;
กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ ทุกฺขุทฺรยานิ.
‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;
กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ ทุกฺขปฺผลานิ.
‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา;
กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมานิ รชสฺสิรานิ.
‘‘อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุ, วณฺณํ ชรา หนฺติ นรสฺส ชิยฺยโต;
กโรหิ ปฺจาล มเมต วากฺยํ, มากาสิ กมฺมํ นิรยูปปตฺติยา’’ติ.
ตตฺถ ¶ อุปนียตีติ มหาราช, อิทํ ชีวิตํ มรณํ อุปคจฺฉติ. อิทฺหิ อิเมสํ สตฺตานํ อปฺปมายุ สรสปริตฺตตายปิ ิติปริตฺตตายปิ ปริตฺตกํ, สูริยุคฺคมเน ติณคฺเค อุสฺสาวพินฺทุสทิสํ. น สนฺติ ตาณาติ น หิ ชราย มรณํ อุปนีตสฺส ปุตฺตาทโย ตาณา นาม โหนฺติ. มเมต วากฺยนฺติ มม เอตํ วจนํ. มากาสีติ มา รูปาทิกามคุณเหตุ ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา นิรยาทีสุ ทุกฺขวฑฺฒนานิ กมฺมานิ กริ. ทุกฺขปฺผลานีติ ทุกฺขวิปากานิ. รชสฺสิรานีติ กิเลสรเชน โอกิณฺณสีสานิ. วณฺณนฺติ ชีรมานสฺส นรสฺส สรีรวณฺณํ ชรา หนฺติ. นิรยูปปตฺติยาติ นิรสฺสาเท นิรเย อุปฺปชฺชนตฺถาย.
เอวํ ¶ มหาสตฺเต กเถนฺเต ราชา ตุสฺสิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวตํ, ยถา อิสี ภาสสิ เอวเมตํ;
กามา จ เม สนฺติ อนปฺปรูปา, เต ทุจฺจชา มาทิสเกน ภิกฺขุ.
‘‘นาโค ยถา ปงฺกมชฺเฌ พฺยสนฺโน, ปสฺสํ ถลํ นาภิสมฺโภติ คนฺตุํ;
เอวมฺปหํ กามปงฺเก พฺยสนฺโน, น ภิกฺขุโน มคฺคมนุพฺพชามิ.
‘‘ยถาปิ มาตา จ ปิตา จ ปุตฺตํ, อนุสาสเร กินฺติ สุขี ภเวยฺย;
เอวมฺปิ มํ ตฺวํ อนุสาส ภนฺเต, ยถา จิรํ เปจฺจ สุขี ภเวยฺย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อนปฺปรูปาติ อปริตฺตชาติกา พหู อปริมิตา. เต ทุจฺจชา มาทิสเกนาติ ภาติก, ตฺวํ กิเลเส ปหาย ิโต, อหํ ปน กามปงฺเก นิมุคฺโค, ตสฺมา มาทิสเกน เต กามา ทุจฺจชา. ‘‘นาโค ยถา’’ติ อิมินา อตฺตโน กามปงฺเก นิมุคฺคภาวสฺส อุปมํ ทสฺเสติ. ตตฺถ พฺยสนฺโนติ วิสนฺโน อนุปวิฏฺโ อยเมว วา ปาโ. มคฺคนฺติ ตุมฺหากํ ¶ โอวาทานุสาสนีมคฺคํ นานุพฺพชามิ ปพฺพชิตุํ น สกฺโกมิ, อิเธว ปน เม ิตสฺส โอวาทํ เทถาติ. อนุสาสเรติ อนุสาสนฺติ.
อถ นํ มหาสตฺโต อาห –
‘‘โน เจ ตุวํ อุสฺสหเส ชนินฺท, กาเม อิเม มานุสเก ปหาตุํ;
ธมฺมึ พลึ ปฏฺปยสฺสุ ราช, อธมฺมกาโร ตว มาหุ รฏฺเ.
‘‘ทูตา วิธาวนฺตุ ทิสา จตสฺโส, นิมนฺตกา สมณพฺราหฺมณานํ;
เต อนฺนปาเนน อุปฏฺหสฺสุ, วตฺเถน เสนาสนปจฺจเยน จ.
‘‘อนฺเนน ¶ ปาเนน ปสนฺนจิตฺโต, สนฺตปฺปย สมณพฺราหฺมเณ จ;
ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิโต สคฺคมุเปหิ านํ.
‘‘สเจ จ ตํ ราช มโท สเหยฺย, นารีคเณหิ ปริจารยนฺตํ;
อิมเมว คาถํ มนสี กโรหิ, ภาเสสิ เจนํ ปริสาย มชฺเฌ.
‘‘อพฺโภกาสสโย ชนฺตุ, วชนฺตฺยา ขีรปายิโต;
ปริกิณฺโณ สุวาเนหิ, สฺวาชฺช ราชาติ วุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ อุสฺสหเสติ อุสฺสหสิ. ธมฺมึ พลินฺติ ธมฺเมน สเมน อนติริตฺตํ พลึ คณฺหาติ อตฺโถ. อธมฺมกาโรติ โปราณกราชูหิ ปิตํ วินิจฺฉยธมฺมํ ภินฺทิตฺวา ปวตฺตา อธมฺมกิริยา. นิมนฺตกาติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ นิมนฺเตตฺวา ปกฺโกสกา. ยถานุภาวนฺติ ยถาพลํ ยถาสตฺตึ. อิมเมว คาถนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สนฺธายาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – ‘‘มหาราช, สเจ ตํ มโท อภิภเวยฺย, สเจ เต นารีคณปริวุตสฺส ¶ รูปาทโย วา กามคุเณ รชฺชสุขํ วา อารพฺภ มาโน อุปฺปชฺเชยฺย, อเถวํ จินฺเตยฺยาสิ ‘อหํ ปุเร จณฺฑาลโยนิยํ นิพฺพตฺโต ฉนฺนสฺส ติณกุฏิมตฺตสฺสปิ ¶ อภาวา อพฺโภกาสสโย อโหสึ, ตทา หิ เม มาตา จณฺฑาลี อรฺํ ทารุปณฺณาทีนํ อตฺถาย คจฺฉนฺตี มํ กุกฺกุรคณสฺส มชฺเฌ อพฺโภกาเส นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน ขีรํ ปาเยตฺวา คจฺฉติ, โสหํ กุกฺกุเรหิ ปริวาริโต เตหิเยว สทฺธึ สุนขิยา ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิโต, เอวํ นีจชจฺโจ หุตฺวา อชฺช ราชา นาม ชาโต’ติ. ‘อิติ โข, ตฺวํ มหาราช, อิมินา อตฺเถน อตฺตานํ โอวทนฺโต โย โส ปุพฺเพ อพฺโภกาสสโย ชนฺตุ อรฺเ วชนฺติยา จณฺฑาลิยา อิโต จิโต จ อนุสฺจรนฺติยา สุนขิยา จ ขีรํ ปายิโต สุนเขหิ ปริกิณฺโณ วฑฺฒิโต, โส อชฺช ราชาติ วุจฺจตี’ติ อิมํ คาถํ ภาเสยฺยาสี’’ติ.
เอวํ มหาสตฺโต ตสฺส โอวาทํ ทตฺวา ‘‘ทินฺโน เต มยา โอวาโท, อิทานิ ตฺวํ ปพฺพช วา มา วา, อตฺตนาว อตฺตโน กมฺมสฺส วิปากํ ปฏิเสวิสฺสตี’’ติ วตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา ตสฺส มตฺถเก ปาทรชํ ปาเตนฺโต หิมวนฺตเมว คโต. ราชาปิ ตํ ทิสฺวา ¶ อุปฺปนฺนสํเวโค เชฏฺปุตฺตสฺส รชฺชํ ทตฺวา พลกายํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. มหาสตฺโต ตสฺสาคมนํ ตฺวา อิสิคณปริวุโต อาคนฺตฺวา ตํ อาทาย คนฺตฺวา ปพฺพาเชตฺวา กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขิ. โส ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตสิ. อิติ เต อุโภปิ พฺรหฺมโลกูปคา อเหสุํ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา ตีณิ จตฺตาริ ภวนฺตรานิ คจฺฉนฺตาปิ ทฬฺหวิสฺสาสาว อเหสุ’’นฺติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สมฺภูตปณฺฑิโต อานนฺโท อโหสิ, จิตฺตปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จิตฺตสมฺภูตชาตกวณฺณนา ทุติยา
[๔๙๙] ๓. สิวิชาตกวณฺณนา
ทูเร ¶ อปสฺสํ เถโรวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อสทิสทานํ อารพฺภ กเถสิ. ตํ อฏฺกนิปาเต สิวิชาตเก วิตฺถาริตเมว. ตทา ปน ราชา สตฺตเม ทิวเส สพฺพปริกฺขาเร ทตฺวา อนุโมทนํ ยาจิ, สตฺถา อกตฺวาว ปกฺกามิ. ราชา ภุตฺตปาตราโส วิหารํ คนฺตฺวา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, อนุโมทนํ น กริตฺถา’’ติ อาห. สตฺถา ‘‘อปริสุทฺธา, มหาราช, ปริสา’’ติ วตฺวา ‘‘น เว กทริยา เทวโลกํ วชนฺตี’’ติ (ธ. ป. ๑๗๗) คาถาย ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา ปสีทิตฺวา สตสหสฺสคฺฆนเกน สีเวยฺยเกน อุตฺตราสงฺเคน ตถาคตํ ปูเชตฺวา นครํ ปาวิสิ. ปุนทิวเส ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, โกสลราชา อสทิสทานํ ทตฺวา ตาทิเสนปิ ¶ ทาเนน อติตฺโต ทสพเลน ธมฺเม เทสิเต ปุน สตสหสฺสคฺฆนกํ สีเวยฺยกวตฺถํ อทาสิ, ยาว อติตฺโต วต อาวุโส ทาเนน ราชา’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขเว, พาหิรภณฺฑํ นาม สุทินฺนํ, โปราณกปณฺฑิตา สกลชมฺพุทีปํ อุนฺนงฺคลํ กตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาเคน ทานํ ททมานาปิ พาหิรทาเนน อติตฺตา ‘ปิยสฺส ทาตา ปิยํ ลภตี’ติ สมฺปตฺตยาจกานํ อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา อทํสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรนคเร สิวิมหาราเช รชฺชํ กาเรนฺเต มหาสตฺโต ตสฺส ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ‘‘สิวิกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา อุคฺคหิตสิปฺโป ¶ อาคนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา อุปรชฺชํ ลภิตฺวา อปรภาเค ปิตุ อจฺจเยน ราชา หุตฺวา อคติคมนํ ปหาย ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาเคน มหาทานํ ปวตฺเตสิ. อฏฺมิยํ จาตุทฺทสิยํ ปนฺนรสิยฺจ นิจฺจํ ทานสาลํ คนฺตฺวา ทานํ โอโลเกสิ. โส เอกทา ปุณฺณมทิวเส ปาโตว สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน อตฺตนา ทินฺนทานํ อาวชฺเชนฺโต พาหิรวตฺถุํ ¶ อตฺตนา อทินฺนํ นาม อทิสฺวา ‘‘มยา พาหิรวตฺถุ อทินฺนํ นาม นตฺถิ, น มํ พาหิรทานํ โตเสติ, อหํ อชฺฌตฺติกทานํ ทาตุกาโม, อโห วต อชฺช มม ทานสาลํ คตกาเล โกจิเทว ยาจโก พาหิรวตฺถุํ อยาจิตฺวา อชฺฌตฺติกสฺส นามํ คณฺเหยฺย, สเจ หิ เม โกจิ หทยมํสสฺส นามํ คณฺเหยฺย, กณเยน อุรํ ปหริตฺวา ปสนฺนอุทกโต สนาฬํ ปทุมํ อุทฺธรนฺโต วิย โลหิตพินฺทูนิ ปคฺฆรนฺตํ หทยํ นีหริตฺวา ทสฺสามิ. สเจ สรีรมํสสฺส นามํ คณฺเหยฺย, อวเลขนสตฺถเกน เตลสิงฺคํ ลิขนฺโต วิย สรีรมํสํ โอตาเรตฺวา ทสฺสามิ. สเจ โลหิตสฺส นามํ คณฺเหยฺย, ยนฺตมุเข ปกฺขนฺทิตฺวา อุปนีตํ ภาชนํ ปูเรตฺวา โลหิตํ ทสฺสามิ. สเจ วา ปน โกจิ ‘เคเห เม กมฺมํ นปฺปวตฺตติ, เคเห เม ทาสกมฺมํ กโรหี’ติ วเทยฺย, ราชเวสํ อปเนตฺวา พหิ ตฺวา อตฺตานํ สาเวตฺวา ทาสกมฺมํ กริสฺสามิ. สเจ เม โกจิ อกฺขิโน นามํ คณฺเหยฺย, ตาลมิฺชํ นีหรนฺโต วิย อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
อิติ โส –
‘‘ยํกิฺจิ มานุสํ ทานํ, อทินฺนํ เม น วิชฺชติ;
โยปิ ยาเจยฺย มํ จกฺขุํ, ทเทยฺยํ อวิกมฺปิโต’’ติ. (จริยา. ๑.๕๒) –
จินฺเตตฺวา ¶ โสฬสหิ คนฺโธทกฆเฏหิ นฺหายิตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต นานคฺครสโภชนํ ภฺุชิตฺวา อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต ¶ ทานคฺคํ อคมาสิ. สกฺโก ตสฺส อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา ‘‘สิวิราชา ‘อชฺช สมฺปตฺตยาจกานํ จกฺขูนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทสฺสามี’ติ จินฺเตสิ, สกฺขิสฺสติ นุ โข ทาตุํ, อุทาหุ โน’’ติ ตสฺส วิมํสนตฺถาย ชราปตฺโต อนฺธพฺราหฺมโณ วิย หุตฺวา รฺโ ทานคฺคคมนกาเล เอกสฺมึ อุนฺนตปฺปเทเส หตฺถํ ปสาเรตฺวา ราชานํ ชยาเปตฺวา อฏฺาสิ. ราชา ตทภิมุขํ วารณํ เปเสตฺวา ‘‘พฺราหฺมณ, กึ วเทสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ สกฺโก ‘‘มหาราช, ตว ทานชฺฌาสยํ นิสฺสาย สมุคฺคเตน กิตฺติโฆเสน สกลโลกสนฺนิวาโส นิรนฺตรํ ผุโฏ, อหํ อนฺโธ, ตฺวํ ทฺวิจกฺขุโก’’ติ วตฺวา จกฺขุํ ยาจนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘ทูเร ¶ อปสฺสํ เถโรว, จกฺขุํ ยาจิตุมาคโต;
เอกเนตฺตา ภวิสฺสาม, จกฺขุํ เม เทหิ ยาจิโต’’ติ.
ตตฺถ ทูเรติ อิโต ทูเร วสนฺโต. เถโรติ ชราชิณฺณเถโร. เอกเนตฺตาติ เอกํ เนตฺตํ มยฺหํ เทหิ, เอวํ ทฺเวปิ เอเกกเนตฺตา ภวิสฺสามาติ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อิทาเนวาหํ ปาสาเท นิสินฺโน จินฺเตตฺวา อาคโต, อโห เม ลาโภ, อชฺเชว เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อทินฺนปุพฺพํ ทานํ ทสฺสามี’’ติ ตุฏฺมานโส ทุติยํ คาถมาห –
‘‘เกนานุสิฏฺโ อิธ มาคโตสิ, วนิพฺพก จกฺขุปถานิ ยาจิตุํ;
สุทุจฺจชํ ยาจสิ อุตฺตมงฺคํ, ยมาหุ เนตฺตํ ปุริเสน ‘ทุจฺจช’นฺติ.
ตตฺถ วนิพฺพกาติ ตํ อาลปติ. จกฺขุปถานีติ จกฺขูนเมตํ นามํ. ยมาหูติ ยํ ปณฺฑิตา ‘‘ทุจฺจช’’นฺติ กเถนฺติ.
อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –
‘‘ยมาหุ เทเวสุ สุชมฺปตีติ, มฆวาติ นํ อาหุ มนุสฺสโลเก;
เตนานุสิฏฺโ ¶ อิธ มาคโตสฺมิ, วนิพฺพโก จกฺขุปถานิ ยาจิตุํ.
‘‘วนิพฺพโต ¶ มยฺห วนึ อนุตฺตรํ, ททาหิ เต จกฺขุปถานิ ยาจิโต;
ททาหิ เม จกฺขุปถํ อนุตฺตรํ, ยมาหุ เนตฺตํ ปุริเสน ทุจฺจชํ.
‘‘เยน อตฺเถน อาคจฺฉิ, ยมตฺถมภิปตฺถยํ;
เต เต อิชฺฌนฺตุ สงฺกปฺปา, ลภ จกฺขูนิ พฺราหฺมณ.
‘‘เอกํ ¶ เต ยาจมานสฺส, อุภยานิ ททามหํ;
ส จกฺขุมา คจฺฉ ชนสฺส เปกฺขโต, ยทิจฺฉเส ตฺวํ ตทเต สมิชฺฌตู’’ติ.
ตตฺถ วนิพฺพโตติ ยาจนฺตสฺส. วนินฺติ ยาจนํ. เต เตติ เต ตว ตสฺส อตฺถสฺส สงฺกปฺปา. ส จกฺขุมาติ โส ตฺวํ มม จกฺขูหิ จกฺขุมา หุตฺวา. ยทิจฺฉเส ตฺวํ ตทเต สมิชฺฌตูติ ยํ ตฺวํ มม สนฺติกา อิจฺฉสิ, ตํ เต สมิชฺฌตูติ.
ราชา เอตฺตกํ กเถตฺวา ‘‘อิเธว มยา อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา ทาตุํ อสารุปฺป’’นฺติ จินฺเตตฺวา พฺราหฺมณํ อาทาย อนฺเตปุรํ คนฺตฺวา ราชาสเน นิสีทิตฺวา สีวิกํ นาม เวชฺชํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อกฺขึ เม โสเธหี’’ติ อาห. ‘‘อมฺหากํ กิร ราชา อกฺขีนิ อุปฺปาเฏตฺวา พฺราหฺมณสฺส ทาตุกาโม’’ติ สกลนคเร เอกโกลาหลํ อโหสิ. อถ เสนาปติอาทโย ราชวลฺลภา จ นาครา จ โอโรธา จ สพฺเพ สนฺนิปติตฺวา ราชานํ วาเรนฺตา ติสฺโส คาถา อโวจุํ –
‘‘มา โน เทว อทา จกฺขุํ, มา โน สพฺเพ ปรากริ;
ธนํ เทหิ มหาราช, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.
‘‘ยุตฺเต เทว รเถ เทหิ, อาชานีเย จลงฺกเต;
นาเค เทหิ มหาราช, เหมกปฺปนวาสเส.
‘‘ยถา ¶ ตํ สิวโย สพฺเพ, สโยคฺคา สรถา สทา;
สมนฺตา ปริกิเรยฺยุํ, เอวํ เทหิ รเถสภา’’ติ.
ตตฺถ ปรากรีติ ปริจฺจชิ. อกฺขีสุ หิ ทินฺเนสุ รชฺชํ ตฺวํ น กาเรสฺสสิ, อฺโ ราชา ¶ ภวิสฺสติ, เอวํ ตยา มยํ ปริจฺจตฺตา นาม ภวิสฺสามาติ อธิปฺปาเยเนวมาหํสุ. ปริกิเรยฺยุนฺติ ปริวาเรยฺยุํ. เอวํ เทหีติ ยถา ตํ อวิกลจกฺขุํ สิวโย ปริวาเรยฺยุํ, เอวํ พาหิรธนเมวสฺส เทหิ, มา อกฺขีนิ. อกฺขีสุ หิ ทินฺเนสุ น ตํ สิวโย ปริวาเรสฺสนฺตีติ.
อถ ¶ ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘โย เว ทสฺสนฺติ วตฺวาน, อทาเน กุรุเต มโน;
ภูมฺยํ โส ปติตํ ปาสํ, คีวายํ ปฏิมฺุจติ.
‘‘โย เว ทสฺสนฺติ วตฺวานํ, อทาเน กุรุเต มโน;
ปาปา ปาปตโร โหติ, สมฺปตฺโต ยมสาธนํ.
‘‘ยฺหิ ยาเจ ตฺหิ ทเท, ยํ น ยาเจ น ตํ ทเท;
สฺวาหํ ตเมว ทสฺสามิ, ยํ มํ ยาจติ พฺราหฺมโณ’’ติ.
ตตฺถ ปฏิมฺุจตีติ ปเวเสติ. ปาปา ปาปตโรติ ลามกาปิ ลามกตโร นาม โหติ. สมฺปตฺโต ยมสาธนนฺติ ยมสฺส อาณาปวตฺติฏฺานํ อุสฺสทนิรยํ เอส ปตฺโตเยว นาม โหติ. ยฺหิ ยาเจติ ยํ ยาจโก ยาเจยฺย, ทายโกปิ ตเมว ทเทยฺย, น อยาจิตํ, อยฺจ พฺราหฺมโณ มํ จกฺขุํ ยาจติ, น มุตฺตาทิกํ ธนํ, ตเทวสฺสาหํ ทสฺสามีติ วทติ.
อถ นํ อมจฺจา ‘‘กึ ปตฺเถตฺวา จกฺขูนิ เทสี’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –
‘‘อายุํ นุ วณฺณํ นุ สุขํ พลํ นุ, กึ ปตฺถยาโน นุ ชนินฺท เทสิ;
กถฺหิ ราชา สิวินํ อนุตฺตโร, จกฺขูนิ ทชฺชา ปรโลกเหตู’’ติ.
ตตฺถ ปรโลกเหตูติ มหาราช, กถํ นาม ตุมฺหาทิโส ปณฺฑิตปุริโส สนฺทิฏฺิกํ อิสฺสริยํ ปหาย ปรโลกเหตุ จกฺขูนิ ทเทยฺยาติ.
อถ ¶ เนสํ กเถนฺโต ราชา คาถมาห –
‘‘น ¶ วาหเมตํ ยสสา ททามิ, น ปุตฺตมิจฺเฉ น ธนํ น รฏฺํ;
สตฺจ ธมฺโม จริโต ปุราโณ, อิจฺเจว ทาเน รมเต มโน มมา’’ติ.
ตตฺถ ¶ น วาหนฺติ น เว อหํ. ยสสาติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา ยสสฺส การณา. น ปุตฺตมิจฺเฉติ อิมสฺส จกฺขุทานสฺส ผเลน เนวาหํ ปุตฺตํ อิจฺฉามิ, น ธนํ น รฏฺํ, อปิจ สตํ ปณฺฑิตานํ สพฺพฺุโพธิสตฺตานํ เอส อาจิณฺโณ สมาจิณฺโณ โปราณกมคฺโค, ยทิทํ ปารมีปูรณํ นาม. น หิ ปารมิโย อปูเรตฺวา โพธิปลฺลงฺเก สพฺพฺุตํ ปาปุณิตุํ สมตฺโถ นาม อตฺถิ, อหฺจ ปารมิโย ปูเรตฺวา พุทฺโธ ภวิตุกาโม. อิจฺเจว ทาเน รมเต มโน มมาติ อิมินา การเณน มม มโน ทาเนเยว นิรโตติ วทติ.
สมฺมาสมฺพุทฺโธปิ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส จริยาปิฏกํ เทเสนฺโต ‘‘มยฺหํ ทฺวีหิ จกฺขูหิปิ สพฺพฺุตฺาณเมว ปิยตร’’นฺติ ทีเปตุํ อาห –
‘‘น เม เทสฺสา อุโภ จกฺขู, อตฺตานํ เม น เทสฺสิยํ;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา จกฺขุํ อทาสห’’นฺติ. (จริยา. ๑.๖๖);
มหาสตฺตสฺส ปน กถํ สุตฺวา อมจฺเจสุ อปฺปฏิภาเณสุ ิเตสุ มหาสตฺโต สีวิกํ เวชฺชํ คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘สขา จ มิตฺโต จ มมาสิ สีวิก, สุสิกฺขิโต สาธุ กโรหิ เม วโจ;
อุทฺธริตฺวา จกฺขูนิ มมํ ชิคีสโต, หตฺเถสุ เปหิ วนิพฺพกสฺสา’’ติ.
ตสฺสตฺโถ – สมฺม สีวิก, ตฺวํ มยฺหํ สหาโย จ มิตฺโต จ เวชฺชสิปฺเป จาสิ สุสิกฺขิโต, สาธุ เม วจนํ กโรหิ. มม ชิคีสโต อุปธาเรนฺตสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว ตาลมิฺชํ วิย เม อกฺขีนิ อุทฺธริตฺวา อิมสฺส ยาจกสฺส หตฺเถสุ เปหีติ.
อถ นํ สีวิโก อาห ‘‘จกฺขุทานํ นาม ภาริยํ, อุปธาเรหิ, เทวา’’ติ. สีวิก, อุปธาริตํ มยา, ตฺวํ มา ปปฺจํ ¶ กโรหิ, มา มยา สทฺธึ พหุํ กเถหีติ. โส จินฺเตสิ ‘‘อยุตฺตํ มาทิสสฺส สุสิกฺขิตสฺส เวชฺชสฺส รฺโ อกฺขีสุ สตฺถปาตน’’นฺติ. โส นานาเภสชฺชานิ ฆํสิตฺวา เภสชฺชจุณฺเณน นีลุปฺปลํ ¶ ปริภาเวตฺวา ทกฺขิณกฺขึ อุปสิงฺฆาเปสิ, อกฺขิ ¶ ปริวตฺติ, ทุกฺขเวทนา อุปฺปชฺชิ. ‘‘สลฺลกฺเขหิ, มหาราช, ปฏิปากติกกรณํ มยฺหํ ภาโร’’ติ. ‘‘อลฺหิ ตาต มา ปปฺจํ กรี’’ติ. โส ปริภาเวตฺวา ปุน อุปสิงฺฆาเปสิ, อกฺขิ อกฺขิกูปโต มุจฺจิ, พลวตรา เวทนา อุทปาทิ. ‘‘สลฺลกฺเขหิ มหาราช, สกฺโกมหํ ปฏิปากติกํ กาตุ’’นฺติ. ‘‘มา ปปฺจํ กรี’’ติ. โส ตติยวาเร ขรตรํ ปริภาเวตฺวา อุปนาเมสิ. อกฺขิ โอสธพเลน ปริพฺภมิตฺวา อกฺขิกูปโต นิกฺขมิตฺวา นฺหารุสุตฺตเกน โอลมฺพมานํ อฏฺาสิ. สลฺลกฺเขหิ นรินฺท, ปุน ปากติกกรณํ มยฺหํ พลนฺติ. มา ปปฺจํ กรีติ. อธิมตฺตา เวทนา อุทปาทิ, โลหิตํ ปคฺฆริ, นิวตฺถสาฏกา โลหิเตน เตมึสุ. โอโรธา จ อมจฺจา จ รฺโ ปาทมูเล ปติตฺวา ‘‘เทว อกฺขีนิ มา เทหี’’ติ มหาปริเทวํ ปริเทวึสุ.
ราชา เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘ตาต, มา ปปฺจํ กรี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วามหตฺเถน อกฺขึ ธาเรตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน สตฺถกํ อาทาย อกฺขิสุตฺตกํ ฉินฺทิตฺวา อกฺขึ คเหตฺวา มหาสตฺตสฺส หตฺเถ เปสิ. โส วามกฺขินา ทกฺขิณกฺขึ โอโลเกตฺวา เวทนํ อธิวาเสตฺวา ‘‘เอหิ พฺราหฺมณา’’ติ พฺราหฺมณํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มม อิโต อกฺขิโต สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน สพฺพฺุตฺาณกฺขิเมว ปิยตรํ, ตสฺส เม อิทํ ปจฺจโย โหตู’’ติ วตฺวา พฺราหฺมณสฺส อกฺขึ อทาสิ. โส ตํ อุกฺขิปิตฺวา อตฺตโน อกฺขิมฺหิ เปสิ. ตํ ตสฺสานุภาเวน วิกสิตนีลุปฺปลํ วิย หุตฺวา ปติฏฺาสิ. มหาสตฺโต วามกฺขินา ตสฺส ตํ อกฺขึ ทิสฺวา ‘‘อโห, สุทินฺนํ มยา อกฺขิทาน’’นฺติ อนฺโต สมุคฺคตาย ¶ ปีติยา นิรนฺตรํ ผุโฏ หุตฺวา อิตรมฺปิ อกฺขึ อทาสิ. สกฺโก ตมฺปิ อตฺตโน อกฺขิมฺหิ เปตฺวา ราชนิเวสนา นิกฺขมิตฺวา มหาชนสฺส โอโลเกนฺตสฺเสว นครา นิกฺขมิตฺวา เทวโลกเมว คโต. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทิยฑฺฒคาถมาห –
‘‘โจทิโต สิวิราเชน, สีวิโก วจนํกโร;
รฺโ จกฺขูนุทฺธริตฺวา, พฺราหฺมณสฺสูปนามยิ;
สจกฺขุ พฺราหฺมโณ อาสิ, อนฺโธ ราชา อุปาวิสี’’ติ.
รฺโ ¶ น จิรสฺเสว อกฺขีนิ รุหึสุ, รุหมานานิ จ อาวาฏภาวํ อปฺปตฺวา กมฺพลเคณฺฑุเกน วิย อุคฺคเตน มํสปิณฺเฑน ปูเรตฺวา จิตฺตกมฺมรูปสฺส วิย อกฺขีนิ อเหสุํ, เวทนา ปจฺฉิชฺชิ. อถ มหาสตฺโต กติปาหํ ปาสาเท วสิตฺวา ‘‘กึ อนฺธสฺส รชฺเชน, อมจฺจานํ รชฺชํ นิยฺยาเทตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อมจฺเจ ¶ ปกฺโกสาเปตฺวา เตสํ ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘เอโก มุขโธวนาทิทายโก กปฺปิยการโกว มยฺหํ สนฺติเก ภวิสฺสติ, สรีรกิจฺจฏฺาเนสุปิ เม รชฺชุกํ พนฺธถา’’ติ วตฺวา สารถึ อามนฺเตตฺวา ‘‘รถํ โยเชหี’’ติ อาห. อมจฺจา ปนสฺส รเถน คนฺตุํ อทตฺวา สุวณฺณสิวิกาย นํ เนตฺวา โปกฺขรณีตีเร นิสีทาเปตฺวา อารกฺขํ สํวิธาย ปฏิกฺกมึสุ. ราชา ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน อตฺตโน ทานํ อาวชฺเชสิ. ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส อาสนํ อุณฺหํ อโหสิ. โส อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ทิสฺวา ‘‘มหาราชสฺส วรํ ทตฺวา จกฺขุํ ปฏิปากติกํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส อวิทูเร อปราปรํ จงฺกมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อิมา คาถา อาห –
‘‘ตโต โส กติปาหสฺส, อุปรูฬฺเหสุ จกฺขุสุ;
สูตํ อามนฺตยี ราชา, สิวีนํ รฏฺวฑฺฒโน.
‘‘โยเชหิ ¶ สารถิ ยานํ, ยุตฺตฺจ ปฏิเวทย;
อุยฺยานภูมึ คจฺฉาม, โปกฺขรฺโ วนานิ จ.
‘‘โส จ โปกฺขรณีตีเร, ปลฺลงฺเกน อุปาวิสิ;
ตสฺส สกฺโก ปาตุรหุ, เทวราชา สุชมฺปตี’’ติ.
สกฺโกปิ มหาสตฺเตน ปทสทฺทํ สุตฺวา ‘‘โก เอโส’’ติ ปุฏฺโ คาถมาห –
‘‘สกฺโกหมสฺมิ เทวินฺโท, อาคโตสฺมิ ตวนฺติเก;
วรํ วรสฺสุ ราชีสิ, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉสี’’ติ. –
เอวํ วุตฺเต ราชา คาถมาห –
‘‘ปหูตํ เม ธนํ สกฺก, พลํ โกโส จนปฺปโก;
อนฺธสฺส เม สโต ทานิ, มรณฺเว รุจฺจตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ มรณฺเว รุจฺจตีติ เทวราช, อิทานิ มยฺหํ อนฺธภาเวน มรณเมว รุจฺจติ, ตํ เม เทหีติ.
อถ นํ สกฺโก อาห ‘‘สิวิราช, กึ ปน ตฺวํ มริตุกาโม หุตฺวา มรณํ โรเจสิ, อุทาหุ อนฺธภาเวนา’’ติ? ‘‘อนฺธภาเวน เทวา’’ติ. ‘‘มหาราช, ทานํ นาม น เกวลํ สมฺปรายตฺถเมว ทียติ, ทิฏฺธมฺมตฺถายปิ ปจฺจโย โหติ, ตฺวฺจ เอกํ จกฺขุํ ยาจิโต ทฺเว อทาสิ, เตน สจฺจกิริยํ กโรหี’’ติ กถํ สมุฏฺาเปตฺวา อาห –
‘‘ยานิ สจฺจานิ ทฺวิปทินฺท, ตานิ ภาสสฺสุ ขตฺติย;
สจฺจํ เต ภณมานสฺส, ปุน จกฺขุ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สกฺก, สเจสิ มม จกฺขุํ ทาตุกาโม, อฺํ อุปายํ มา กริ, มม ทานนิสฺสนฺเทเนว เม จกฺขุ อุปฺปชฺชตู’’ติ วตฺวา สกฺเกน ‘‘มหาราช, อหํ สกฺโก เทวราชาปิ น ปเรสํ จกฺขุํ ทาตุํ สกฺโกมิ, ตยา ทินฺนทานสฺส ผเลเนว เต จกฺขุ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มยา ทานํ สุทินฺน’’นฺติ วตฺวา สจฺจกิริยํ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘เย ¶ มํ ยาจิตุมายนฺติ, นานาโคตฺตา วนิพฺพกา;
โยปิ มํ ยาจเต ตตฺถ, โสปิ เม มนโส ปิโย;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, จกฺขุ เม อุปปชฺชถา’’ติ.
ตตฺถ เย มนฺติ เย มํ ยาจิตุํ อาคจฺฉนฺติ, เตสุ ยาจเกสุ อาคจฺฉนฺเตสุ โยปิ มํ ยาจเต, โสปิ เม มนโส ปิโย. เอเตนาติ สเจ มม สพฺเพปิ ยาจกา ปิยา, สจฺจเมเวตํ มยา วุตฺตํ, เอเตน เม สจฺจวจเนน เอกํ เม จกฺขุ อุปปชฺชถ อุปปชฺชตูติ อาห.
อถสฺส วจนานนฺตรเมว ปมํ จกฺขุ อุทปาทิ. ตโต ทุติยสฺส อุปฺปชฺชนตฺถาย คาถาทฺวยมาห –
‘‘ยํ มํ โส ยาจิตุํ อาคา, เทหิ จกฺขุนฺติ พฺราหฺมโณ;
ตสฺส จกฺขูนิ ปาทาสึ, พฺราหฺมณสฺส วนิพฺพโต.
‘‘ภิยฺโย ¶ มํ อาวิสี ปีติ, โสมนสฺสฺจนปฺปกํ;
เอเตน สจฺจวชฺเชน, ทุติยํ เม อุปปชฺชถา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ยํ มนฺติ โย มํ ยาจติ. โสติ โส จกฺขุวิกโล พฺราหฺมโณ ‘‘เทหิ เม จกฺขุ’’นฺติ ยาจิตุํ อาคโต. วนิพฺพโตติ ยาจนฺตสฺส. ภิยฺโย มํ อาวิสีติ พฺราหฺมณสฺส จกฺขูนิ ทตฺวา อนฺธกาลโต ปฏฺาย ตสฺมึ อนฺธกาเล ตถารูปํ เวทนํ อคเณตฺวา ‘‘อโห สุทินฺนํ เม ทาน’’นฺติ ปจฺจเวกฺขนฺตํ มํ ภิยฺโย อติเรกตรา ปีติ อาวิสิ, มม หทยํ ปวิฏฺา, โสมนสฺสฺจ มม อนนฺตํ อปริมาณํ อุปฺปชฺชิ. เอเตนาติ สเจ มม ตทา อนปฺปกํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปนฺนํ, สจฺจเมเวตํ มยา วุตฺตํ, เอเตน เม สจฺจวจเนน ทุติยมฺปิ จกฺขุ อุปปชฺชตูติ อาห.
ตงฺขณฺเว ทุติยมฺปิ จกฺขุ อุทปาทิ. ตานิ ปนสฺส จกฺขูนิ เนว ปากติกานิ, น ทิพฺพานิ. สกฺกพฺราหฺมณสฺส หิ ทินฺนํ จกฺขุํ ปุน ปากติกํ กาตุํ น สกฺกา, อุปหตวตฺถุโน จ ทิพฺพจกฺขุ นาม น อุปฺปชฺชติ, ตานิ ปนสฺส ¶ สจฺจปารมิตานุภาเวน สมฺภูตานิ จกฺขูนีติ วุตฺตานิ. เตสํ อุปฺปตฺติสมกาลเมว สกฺกานุภาเวน สพฺพา ราชปริสา สนฺนิปติตาว อเหสุํ. อถสฺส สกฺโก มหาชนมชฺเฌเยว ถุตึ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘ธมฺเมน ภาสิตา คาถา, สิวีนํ รฏฺวฑฺฒน;
เอตานิ ตว เนตฺตานิ, ทิพฺพานิ ปฏิทิสฺสเร.
‘‘ติโรกุฏฺฏํ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;
สมนฺตา โยชนสตํ, ทสฺสนํ อนุโภนฺตุ เต’’ติ.
ตตฺถ ธมฺเมน ภาสิตาติ มหาราช, อิมา เต คาถา ธมฺเมน สภาเวเนว ภาสิตา. ทิพฺพานีติ ทิพฺพานุภาวยุตฺตานิ. ปฏิทิสฺสเรติ ปฏิทิสฺสนฺติ. ติโรกุฏฺฏนฺติ มหาราช, อิมานิ เต จกฺขูนิ เทวตานํ จกฺขูนิ วิย ปรกุฏฺฏํ ปรเสลํ ยํกิฺจิ ปพฺพตมฺปิ สมติคฺคยฺห อติกฺกมิตฺวา สมนฺตา ทส ทิสา โยชนสตํ รูปทสฺสนํ อนุโภนฺตุ สาเธนฺตูติ อตฺโถ.
อิติ โส อากาเส ตฺวา มหาชนมชฺเฌ อิมา คาถา ภาสิตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ มหาสตฺตํ โอวทิตฺวา เทวโลกเมว คโต. มหาสตฺโตปิ มหาชนปริวุโต มหนฺเตน สกฺกาเรน นครํ ¶ ปวิสิตฺวา สุจนฺทกํ ปาสาทํ อภิรุหิ. เตน จกฺขูนํ ปฏิลทฺธภาโว สกลสิวิรฏฺเ ปากโฏ ชาโต. อถสฺส ทสฺสนตฺถํ สกลรฏฺวาสิโน พหุํ ปณฺณาการํ ¶ คเหตฺวา อาคมึสุ. มหาสตฺโต ‘‘อิมสฺมึ มหาชนสนฺนิปาเต มม ทานํ วณฺณยิสฺสามี’’ติ ราชทฺวาเร มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน นคเร เภรึ จราเปตฺวา สพฺพเสนิโย สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อมฺโภ, สิวิรฏฺวาสิโน อิมานิ เม ทิพฺพจกฺขูนิ ทิสฺวา อิโต ปฏฺาย ทานํ อทตฺวา มา ภฺุชถา’’ติ ธมฺมํ เทเสนฺโต จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘โก นีธ วิตฺตํ น ทเทยฺย ยาจิโต, อปิ วิสิฏฺํ สุปิยมฺปิ อตฺตโน;
ตทิงฺฆ สพฺเพ สิวโย สมาคตา, ทิพฺพานิ เนตฺตานิ มมชฺช ปสฺสถ.
‘‘ติโรกุฏฺฏํ ¶ ติโรเสลํ, สมติคฺคยฺห ปพฺพตํ;
สมนฺตา โยชนสตํ, ทสฺสนํ อนุโภนฺติ เม.
‘‘น จาคมตฺตา ปรมตฺถิ กิฺจิ, มจฺจานํ อิธ ชีวิเต;
ทตฺวาน มานุสํ จกฺขุํ, ลทฺธํ เม จกฺขุํ อมานุสํ.
‘‘เอตมฺปิ ทิสฺวา สิวโย, เทถ ทานานิ ภฺุชถ;
ทตฺวา จ ภุตฺวา จ ยถานุภาวํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปถ าน’’นฺติ.
ตตฺถ โกนีธาติ โก นุ อิธ. อปิ วิสิฏฺนฺติ อุตฺตมมฺปิ สมานํ. จาคมตฺตาติ จาคปมาณโต อฺํ วรํ นาม นตฺถิ. อิธ ชีวิเตติ อิมสฺมึ ชีวโลเก. ‘‘อิธ ชีวต’’นฺติปิ ปาโ, อิมสฺมึ โลเก ชีวมานานนฺติ อตฺโถ. อมานุสนฺติ ทิพฺพจกฺขุ มยา ลทฺธํ, อิมินา การเณน เวทิตพฺพเมตํ ‘‘จาคโต อุตฺตมํ นาม นตฺถี’’ติ. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ เอตํ มยา ลทฺธํ ทิพฺพจกฺขุํ ทิสฺวาปิ.
อิติ อิมาหิ จตูหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ตโต ปฏฺาย อนฺวทฺธมาสํ ปนฺนรสุโปสเถสุ มหาชนํ สนฺนิปาตาเปตฺวา นิจฺจํ อิมาหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. ตํ สุตฺวา มหาชโน ทานาทีนิ ปฺุานิ กตฺวา เทวโลกํ ปูเรนฺโตว อคมาสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, โปราณกปณฺฑิตา พาหิรทาเนน อสนฺตุฏฺา ¶ สมฺปตฺตยาจกานํ อตฺตโน จกฺขูนิ อุปฺปาเฏตฺวา อทํสู’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สีวิกเวชฺโช อานนฺโท อโหสิ, สกฺโก อนุรุทฺโธ อโหสิ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สิวิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สิวิชาตกวณฺณนา ตติยา.
[๕๐๐] ๔. สิรีมนฺตชาตกวณฺณนา
๘๓-๑๐๓. ปฺายุเปตํ สิริยา วิหีนนฺติ อยํ สิรีมนฺตปฺโห มหาอุมงฺเค (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ.
สิรีมนฺตชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.
[๕๐๑] ๕. โรหณมิคชาตกวณฺณนา
เอเต ¶ ยูถา ปติยนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ชีวิตปริจฺจาคํ อารพฺภ กเถสิ. โส ปนสฺส ชีวิตปริจฺจาโค อสีตินิปาเต จูฬหํสชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๑ อาทโย) ธนปาลทมเน อาวิ ภวิสฺสติ. เอวํ เตนายสฺมตา สตฺถุ อตฺถาย ชีวิเต ปริจฺจตฺเต ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อายสฺมา อานนฺโท เสกฺขปฏิสมฺภิทปฺปตฺโต หุตฺวา ทสพลสฺสตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เขมา นามสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต หิมวนฺตปเทเส มิคโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา สุวณฺณวณฺโณ อโหสิ โสภคฺคปฺปตฺโต. กนิฏฺโปิสฺส จิตฺตมิโค นาม สุวณฺณวณฺโณว อโหสิ, กนิฏฺภคินีปิสฺส สุตนา นาม ¶ สุวณฺณวณฺณาว อโหสิ. มหาสตฺโต ปน โรหโณ นาม มิคราชา อโหสิ. โส หิมวนฺเต ทฺเว ปพฺพตราชิโย อติกฺกมิตฺวา ตติยาย อนฺตเร โรหณํ นาม สรํ นิสฺสาย อสีติมิคสหสฺสปริวาโร วาสํ กปฺเปสิ. โส อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสสิ. อเถโก พาราณสิโต อวิทูเร เนสาทคามวาสี เนสาทปุตฺโต หิมวนฺตํ ปวิฏฺโ มหาสตฺตํ ทิสฺวา อตฺตโน คามํ ¶ อาคนฺตฺวา อปรภาเค กาลํ กโรนฺโต ปุตฺตสฺสาโรเจสิ ‘‘ตาต, อมฺหากํ กมฺมภูมิยํ อสุกสฺมึ นาม าเน สุวณฺณวณฺโณ มิโค วสติ, สเจ ราชา ปุจฺเฉยฺย, กเถยฺยาสี’’ติ.
อเถกทิวสํ เขมา เทวี ปจฺจูสกาเล สุปินํ อทฺทส. เอวรูโป สุปิโน อโหสิ – สุวณฺณวณฺโณ มิโค อาคนฺตฺวา กฺจนปีเ นิสีทิตฺวา สุวณฺณกิงฺกิณิกํ อาโกเฏนฺโต วิย มธุรสฺสเรน เทวิยา ธมฺมํ เทเสติ, สา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณาติ. มิโค ธมฺมกถาย อนิฏฺิตาย เอว อุฏฺาย คจฺฉติ, สา ‘‘มิคํ คณฺหถ คณฺหถา’’ติ วทนฺตีเยว ปพุชฺฌิ. ปริจาริกาโย ตสฺสา สทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปิหิตทฺวารวาตปานํ เคหํ วาตสฺสปิ โอกาโส นตฺถิ, อยฺยา, อิมาย เวลาย มิคํ คณฺหาเปตี’’ติ อวหสึสุ. สา ตสฺมึ ขเณ ¶ ‘‘สุปิโน อย’’นฺติ ตฺวา จินฺเตสิ ‘‘สุปิโนติ วุตฺเต ราชา อนาทโร ภวิสฺสติ, ‘โทหโฬ อุปฺปนฺโน’ติ วุตฺเต ปน อาทเรน ปริเยสิสฺสติ, สุวณฺณวณฺณสฺส มิคสฺส ธมฺมกถํ สุณิสฺสามี’’ติ. สา คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิ. ราชา อาคนฺตฺวา ‘‘ภทฺเท, กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, อฺํ นตฺถิ, โทหโฬ ปน เม อุปฺปนฺโน’’ติ. ‘‘กึ อิจฺฉสิ เทวี’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณสฺส ธมฺมิกมิคสฺส ธมฺมํ โสตุกามา เทวา’’ติ. ‘‘ภทฺเท, ยํ นตฺถิ, ตตฺถ เต โทหโฬ อุปฺปนฺโน, สุวณฺณวณฺโณ นาม มิโคเยว นตฺถี’’ติ. โส ‘‘สเจ น ลภามิ, อิเธว เม มรณ’’นฺติ รฺโ ปิฏฺึ ทตฺวา นิปชฺชิ.
ราชา ‘‘สเจ อตฺถิ, ลภิสฺสสี’’ติ ปริสมชฺเฌ นิสีทิตฺวา โมรชาตเก (ชา. ๑.๒.๑๗ อาทโย) วุตฺตนเยเนว อมจฺเจ จ พฺราหฺมเณ จ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณา มิคา นาม โหนฺตี’’ติ สุตฺวา ลุทฺทเก สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘เอวรูโป มิโค เกน ทิฏฺโ, เกน สุโต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน เนสาทปุตฺเตน ปิตุ สนฺติกา สุตนิยาเมน ¶ กถิเต ‘‘สมฺม, ตสฺส เต มิคสฺส อานีตกาเล มหนฺตํ สกฺการํ กริสฺสามิ, คจฺฉ อาเนหิ น’’นฺติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา ตํ เปเสสิ. โสปิ ‘‘สจาหํ, เทว, ตํ อาเนตุํ น สกฺขิสฺสามิ, จมฺมมสฺส อาเนสฺสามิ, ตํ อาเนตุํ อสกฺโกนฺโต โลมานิปิสฺส อาเนสฺสามิ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถา’’ติ วตฺวา อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารสฺส ปริพฺพยํ ทตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ มิคราชานํ ทิสฺวา ‘‘กสฺมึ นุ โข าเน ปาสํ โอฑฺเฑตฺวา อิมํ มิคราชานํ คณฺหิตุํ สกฺขิสฺสามี’’ติ วีมํสนฺโต ปานียติตฺเถ โอกาสํ ปสฺสิ. โส ทฬฺหํ จมฺมโยตฺตํ วฏฺเฏตฺวา มหาสตฺตสฺส ปานียปิวนฏฺาเน ยฏฺิปาสํ โอฑฺเฑสิ.
ปุนทิวเส มหาสตฺโต อสีติยา มิคสหสฺเสหิ สทฺธึ โคจรํ จริตฺวา ‘‘ปกติติตฺเถเยว ปานียํ ¶ ปิวิสฺสามี’’ติ ตตฺถ คนฺตฺวา โอตรนฺโตเยว ปาเส พชฺฌิ. โส ‘‘สจาหํ อิทาเนว พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าติคณา ปานียํ อปิวิตฺวาว ภีตา ปลายิสฺสนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ยฏฺิยํ ¶ อลฺลียิตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ปานียํ ปิวนฺโต วิย อโหสิ. อถ อสีติยา มิคสหสฺสานํ ปานียํ ปิวิตฺวา อุตฺตริตฺวา ิตกาเล ‘‘ปาสํ ฉินฺทิสฺสามี’’ติ ติกฺขตฺตุํ อากฑฺฒิ. ปมวาเร จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุํ ฉินฺทิตฺวา ปาโส อฏฺึ อาหจฺจ อฏฺาสิ. โส ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโต พทฺธรวํ รวิ, มิคคณา ภายิตฺวา ตีหิ ฆฏาหิ ปลายึสุ. จิตฺตมิโค ติณฺณมฺปิ ฆฏานํ อนฺตเร มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘อิทํ ภยํ อุปฺปชฺชมานํ มม ภาตุ อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา พทฺธํ ปสฺสิ. อถ นํ มหาสตฺโต ทิสฺวา ‘‘ภาติก, มา อิธ ติฏฺ, สาสงฺกํ อิทํ าน’’นฺติ วตฺวา อุยฺโยเชนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘เอเต ยูถา ปติยนฺติ, ภีตา มรณสฺส จิตฺตก;
คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สหา’’ติ.
ตตฺถ เอเตติ จกฺขุปถํ อติกฺกมิตฺวา ทูรคเต สนฺธายาห. ปติยนฺตีติ ปติคจฺฉนฺติ, ปลายนฺตีติ อตฺโถ. จิตฺตกาติ ตํ อาลปติ. ตยา สหาติ ตฺวํ เอเตสํ มม าเน ตฺวา ราชา โหหิ, เอเต ตยา สทฺธึ ชีวิสฺสนฺตีติ.
ตโต ¶ อุภินฺนมฺปิ ติสฺโส เอกนฺตริกคาถาโย โหนฺติ –
‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;
น ตํ อหํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิตํ.
‘‘เต หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;
คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สห.
‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;
น ตํ พทฺธํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ โรหณาติ มหาสตฺตํ นาเมนาลปติ. อวกสฺสตีติ กฑฺฒยติ, โสเกน วา กฑฺฒียติ ¶ . เต หิ นูนาติ เต อมฺหากํ มาตาปิตโร เอกํเสเนว ทฺวีสุปิ อมฺเหสุ อิธ มเตสุ อปริณายกา หุตฺวา อปฺปฏิชคฺคิยมานา สุสฺสิตฺวา มริสฺสนฺติ, ตสฺมา ภาติก จิตฺตก, คจฺฉ ตุวํ, ตยา สห เต ชีวิสฺสนฺตีติ อตฺโถ. อิธ หิสฺสามีติ อิมสฺมึเยว าเน ชีวิตํ ชหิสฺสามีติ.
อิติ วตฺวา โพธิสตฺตสฺส ¶ ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ตํ สนฺธาเรตฺวา อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. สุตนาปิ มิคโปติกา ปลายิตฺวา มิคานํ อนฺตเร อุโภ ภาติเก อปสฺสนฺตี ‘‘อิทํ ภยํ มม ภาติกานํ อุปฺปนฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ นิวตฺติตฺวา เตสํ สนฺติกํ อาคตา. นํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา มหาสตฺโต ปฺจมํ คาถมาห –
‘‘คจฺฉ ภีรุ ปลายสฺสุ, กูเฏ พทฺโธสฺมิ อายเส;
คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สหา’’ติ.
ตตฺถ ภีรูติ มาตุคาโม นาม อปฺปมตฺตเกนปิ ภายติ, เตน นํ เอวํ อาลปติ. กูเฏติ ปฏิจฺฉนฺนปาเส. อายเสติ โส หิ อนฺโตอุทเก อยกฺขนฺธํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ สารทารุํ ยฏฺึ พนฺธิตฺวา โอฑฺฑิโต, ตสฺมา เอวมาห. ตยา สหาติ เต อสีติสหสฺสา มิคา ตยา สทฺธึ ชีวิสฺสนฺตีติ.
ตโต ¶ ปรํ ปุริมนเยเนว ติสฺโส คาถา โหนฺติ –
‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;
น ตํ อหํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิตํ.
‘‘เต หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;
คจฺฉ ตุวมฺปิ มากงฺขิ, ชีวิสฺสนฺติ ตยา สห.
‘‘นาหํ โรหณ คจฺฉามิ, หทยํ เม อวกสฺสติ;
น ตํ พทฺธํ ชหิสฺสามิ, อิธ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ เต หิ นูนาติ อิธาปิ มาตาปิตโรเยว สนฺธายาห.
สาปิ ¶ ตเถว ปฏิกฺขิปิตฺวา มหาสตฺตสฺส วามปสฺสํ นิสฺสาย อสฺสาสยมานา อฏฺาสิ. ลุทฺโทปิ เต มิเค ปลายนฺเต ทิสฺวา พทฺธรวฺจ สุตฺวา ‘‘พทฺโธ ภวิสฺสติ มิคราชา’’ติ ทฬฺหํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา มิคมารณสตฺตึ อาทาย เวเคนาคจฺฉิ. มหาสตฺโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา นวมํ คาถมาห –
‘‘อยํ โส ลุทฺทโก เอติ, ลุทฺทรูโป สหาวุโธ;
โย โน วธิสฺสติ อชฺช, อุสุนา สตฺติยา อปี’’ติ.
ตตฺถ ลุทฺทรูโปติ ทารุณชาติโก. สตฺติยา อปีติ สตฺติยาปิ โน ปหริตฺวา วธิสฺสติ, ตสฺมา ยาว โส นาคจฺฉติ, ตาว ปลายถาติ.
ตํ ¶ ทิสฺวาปิ จิตฺตมิโค น ปลายิ. สุตนา ปน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี มรณภยภีตา โถกํ ปลายิตฺวา – ‘‘อหํ ทฺเว ภาติเก ปหาย กุหึ ปลายิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ชีวิตํ ชหิตฺวา นลาเฏน มจฺจุํ อาทาย ปุนาคนฺตฺวา ภาตุ วามปสฺเส อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทสมํ คาถมาห –
‘‘สา มุหุตฺตํ ปลายิตฺวา, ภยฏฺฏา ภยตชฺชิตา;
สุทุกฺกรํ อกรา ภีรุ, มรณายูปนิวตฺตถา’’ติ.
ตตฺถ มรณายูปนิวตฺตถาติ มรณตฺถาย อุปนิวตฺติ.
ลุทฺโทปิ ¶ อาคนฺตฺวา เต ตโย ชเน เอกโต ิเต ทิสฺวา เมตฺตจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา เอกกุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตภาตโร วิย เต มฺมาโน จินฺเตสิ ‘‘มิคราชา, ตาว ปาเส พทฺโธ, อิเม ปน ทฺเว ชนา หิโรตฺตปฺปพนฺธเนน พทฺธา, กึ นุ โข อิเม เอตสฺส โหนฺตี’’ติ? อถ นํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘กึ นุ เตเม มิคา โหนฺติ, มุตฺตา พทฺธํ อุปาสเร;
น ตํ จชิตุมิจฺฉนฺติ, ชีวิตสฺสปิ การณา’’ติ.
ตตฺถ กึ นุ เตเมติ กึ นุ เต อิเม. อุปาสเรติ อุปาสนฺติ.
อถสฺส ¶ โพธิสตฺโต อาจิกฺขิ –
‘‘ภาตโร โหนฺติ เม ลุทฺท, โสทริยา เอกมาตุกา;
น มํ จชิตุมิจฺฉนฺติ, ชีวิตสฺสปิ การณา’’ติ.
โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ภิยฺโยโสมตฺตาย มุทุจิตฺโต อโหสิ. จิตฺตมิคราชา ตสฺส มุทุจิตฺตภาวํ ตฺวา ‘‘สมฺม ลุทฺทก, มา ตฺวํ เอตํ มิคราชานํ ‘มิคมตฺโตเยวา’ติ มฺิตฺถ, อยฺหิ อสีติยา มิคสหสฺสานํ ราชา สีลาจารสมฺปนฺโน สพฺพสตฺเตสุ มุทุจิตฺโต มหาปฺโ อนฺเธ ชิณฺเณ มาตาปิตโร โปเสติ. สเจ ตฺวํ เอวรูปํ ธมฺมิกํ มิคํ มาเรสิ, เอตํ มาเรนฺโต มาตาปิตโร จ โน มฺจ ภคินิฺจ เมติ อมฺเห ปฺจปิ ชเน มาเรสิเยว. มยฺหํ ปน ภาตุ ชีวิตํ เทนฺโต ปฺจนฺนมฺปิ ชนานํ ชีวิตทายโกสี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘เต ¶ หิ นูน มริสฺสนฺติ, อนฺธา อปริณายกา;
ปฺจนฺนํ ชีวิตํ เทหิ, ภาตรํ มฺุจ ลุทฺทกา’’ติ.
โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ‘‘มา ภายิ สามี’’ติ วตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘โส โว อหํ ปโมกฺขามิ, มาตาเปตฺติภรํ มิคํ;
นนฺทนฺตุ มาตาปิตโร, มุตฺตํ ทิสฺวา มหามิค’’นฺติ.
ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. มุตฺตนฺติ พนฺธนา มุตฺตํ ปสฺสิตฺวา.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา จินฺเตสิ ‘‘รฺา ทินฺนยโส มยฺหํ กึ กริสฺสติ, สจาหํ อิมํ มิคราชานํ วธิสฺสามิ, อยํ วา เม ปถวี ภิชฺชิตฺวา วิวรํ ทสฺสติ, อสนิ วา เม มตฺถเก ปติสฺสติ, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ. โส มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยฏฺึ ปาเตตฺวา จมฺมโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา มิคราชานํ อาลิงฺคิตฺวา อุทกปริยนฺเต นิปชฺชาเปตฺวา มุทุจิตฺเตน สณิกํ ปาสา โมเจตฺวา นฺหารูหิ นฺหารุํ, มํเสน มํสํ, จมฺเมน จมฺมํ สโมธาเนตฺวา อุทเกน โลหิตํ โธวิตฺวา เมตฺตจิตฺเตน ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ. ตสฺส เมตฺตานุภาเวเนว มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ สพฺพานิ นฺหารุมํสจมฺมานิ สนฺธียึสุ, ปาโท สฺฉนฺนฉวิ สฺฉนฺนโลโม อโหสิ, อสุกฏฺาเน ¶ พทฺโธ อโหสีติปิ น ปฺายิ. มหาสตฺโต สุขปฺปตฺโต หุตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา จิตฺตมิโค โสมนสฺสชาโต ลุทฺทสฺส อนุโมทนํ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา มหามิค’’นฺติ.
อถ มหาสตฺโต ‘‘กึ นุ โข เอส ลุทฺโท มํ คณฺหนฺโต อตฺตโน กาเมน คณฺหิ, อุทาหุ อฺสฺส อาณตฺติยา’’ติ จินฺเตตฺวา คหิตการณํ ปุจฺฉิ. ลุทฺทปุตฺโต อาห – ‘‘สามิ, น มยฺหํ ตุมฺเหหิ กมฺมํ อตฺถิ, รฺโ ปน อคฺคมเหสี เขมา นาม ตุมฺหากํ ธมฺมกถํ โสตุกามา, ตทตฺถาย รฺโ อาณตฺติยา ตฺวํ มยา คหิโต’’ติ. สมฺม, เอวํ สนฺเต มํ วิสฺสชฺเชนฺโต อติทุกฺกรํ ¶ กโรสิ, เอหิ มํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสหิ, เทวิยา ธมฺมํ กเถสฺสามีติ. สามิ, ราชาโน นาม กกฺขฬา, โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสติ, มยฺหํ รฺา ทินฺนยเสน กมฺมํ นตฺถิ, คจฺฉ ตฺวํ ยถาสุขนฺติ. ปุน มหาสตฺโต ‘‘อิมินา มํ วิสฺสชฺเชนฺเตน อติทุกฺกรํ กตํ, ยสปฏิลาภสฺส อุปายมสฺส กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ปิฏฺึ ตาว เม หตฺเถน ปริมชฺชา’’ติ อาห. ‘‘โส ปริมชฺชิ, หตฺโถ สุวณฺณวณฺเณหิ โลเมหิ ปูริ’’. ‘‘สามิ, อิเมหิ โลเมหิ กึ กาโรมี’’ติ. ‘‘สมฺม, อิมานิ หริตฺวา รฺโ จ เทวิยา จ ทสฺเสตฺวา ‘อิมานิ ตสฺส สุวณฺณวณฺณมิคสฺส โลมานี’ติ วตฺวา มม าเน ตฺวา อิมาหิ คาถาหิ เทวิยา ธมฺมํ เทเสหิ, ตํ สุตฺวาเยว จสฺสา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสตี’’ติ ¶ . ‘‘ธมฺมํ จร มหาราชา’’ติ ทส ธมฺมจริยคาถา อุคฺคณฺหาเปตฺวา ปฺจ สีลานิ ทตฺวา อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. ลุทฺทปุตฺโต มหาสตฺตํ อาจริยฏฺาเน เปตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา จตูสุ าเนสุ วนฺทิตฺวา โลมานิ ปทุมินิปตฺเตน คเหตฺวา ปกฺกามิ. เตปิ ตโย ชนา โถกํ อนุคนฺตฺวา มุเขน โคจรฺจ ปานียฺจ คเหตฺวา มาตาปิตูนํ สนฺติกํ คมึสุ. มาตาปิตโร ‘‘ตาต โรหณ, ตฺวํ กิร ปาเส พทฺโธ กถํ มุตฺโตสี’’ติ ปุจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –
‘‘กถํ ตฺวํ ปโมกฺโข อาสิ, อุปนีตสฺมิ ชีวิเต;
กถํ ปุตฺต อโมเจสิ, กูฏปาสมฺห ลุทฺทโก’’ติ.
ตตฺถ อุปนีตสฺมีติ ตว ชีวิเต มรณสนฺติกํ อุปนีเต กถํ ปโมกฺโข อาสิ.
ตํ สุตฺวา โพธิสตฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ภณํ ¶ กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;
สุภาสิตาหิ วาจาหิ, จิตฺตโก มํ อโมจยิ.
‘‘ภณํ กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;
สุภาสิตาหิ วาจาหิ, สุตนา มํ อโมจยิ.
‘‘สุตฺวา ¶ กณฺณสุขํ วาจํ, หทยงฺคํ หทยสฺสิตํ;
สุภาสิตานิ สุตฺวาน, ลุทฺทโก มํ อโมจยี’’ติ.
ตตฺถ ภณนฺติ ภณนฺโต. หทยงฺคนฺติ หทยงฺคมํ. ทุติยคาถาย ภณนฺติ ภณมานา. สุตฺวาติ โส อิเมสํ อุภินฺนํ วาจํ สุตฺวา.
อถสฺส มาตาปิตโร อนุโมทนฺตา อาหํสุ –
‘‘เอวํ อานนฺทิโต โหตุ, สห ทาเรหิ ลุทฺทโก;
ยถา มยชฺช นนฺทาม, ทิสฺวา โรหณมาคต’’นฺติ.
ลุทฺโทปิ อรฺา นิกฺขมิตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา ราชา คาถมาห –
‘‘นนุ ตฺวํ อวจ ลุทฺท, ‘มิคจมฺมานิ อาหรึ’;
อถ เกน นุ วณฺเณน, มิคจมฺมานิ นาหรี’’ติ.
ตตฺถ ¶ มิคจมฺมานีติ มิคํ วา จมฺมํ วา. อาหรินฺติ อาหริสฺสามิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺโภ ลุทฺท, นนุ ตฺวํ เอวํ อวจ ‘‘มิคํ อาเนตุํ อสกฺโกนฺโต จมฺมํ อาหริสฺสามิ, ตํ อสกฺโกนฺโต โลมานี’’ติ, โส ตฺวํ เกน การเณน เนว มิคํ, น มิคจมฺมํ อาหรีติ?
ตํ สุตฺวา ลุทฺโท คาถมาห –
‘‘อาคมา ¶ เจว หตฺถตฺถํ, กูฏปาสฺจ โส มิโค;
อพชฺฌิ ตํ มิคราชํ, ตฺจ มุตฺตา อุปาสเร.
‘‘ตสฺส เม อหุ สํเวโค, อพฺภุโต โลมหํสโน;
อิมฺจาหํ มิคํ หฺเ, อชฺช หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ อาคมาติ มหาราช, โส มิโค มม หตฺถตฺถํ หตฺถปาสฺเจว มยา โอฑฺฑิตํ กูฏปาสฺจ อาคโต, ตสฺมิฺจ กูฏปาเส อพชฺฌิ. ตฺจ มุตฺตา อุปาสเรติ ตฺจ พทฺธํ อปเร มุตฺตา อพทฺธาว ทฺเว มิคา อสฺสาเสนฺตา ตํ นิสฺสาย อฏฺํสุ. อพฺภุโตติ ปุพฺเพ อภูตปุพฺโพ. อิมฺจาหนฺติ อถ เม สํวิคฺคสฺส เอตทโหสิ ‘‘สเจ อหํ อิมํ มิคํ หนิสฺสามิ, อชฺเชว อิมสฺมึเยว าเน ชีวิตํ ชหิสฺสามี’’ติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อาห –
‘‘กีทิสา เต มิคา ลุทฺท, กีทิสา ธมฺมิกา มิคา;
กถํวณฺณา กถํสีลา, พาฬฺหํ โข เน ปสํสสี’’ติ.
อิทํ โส ราชา วิมฺหยวเสน ปุนปฺปุนํ ปุจฺฉติ. ตํ สุตฺวา ลุทฺโท คาถมาห –
‘‘โอทาตสิงฺคา ¶ สุจิวาลา, ชาตรูปตจูปมา;
ปาทา โลหิตกา เตสํ, อฺชิตกฺขา มโนรมา’’ติ.
ตตฺถ โอทาตสิงฺคาติ รชตทามสทิสสิงฺคา. สุจิวาลาติ จามริวาลสทิเสน สุจินา วาเลน สมนฺนาคตา. โลหิตกาติ รตฺตนขา ปวาฬสทิสา. ปาทาติ ขุรปริยนฺตา. อฺชิตกฺขาติ อฺชิเตหิ วิย วิสุทฺธปฺจปสาเทหิ อกฺขีหิ สมนฺนาคตา.
อิติ ¶ โส กเถนฺโตว มหาสตฺตสฺส สุวณฺณวณฺณานิ โลมานิ รฺโ หตฺเถ เปตฺวา เตสํ มิคานํ สรีรวณฺณํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –
‘‘เอทิสา ¶ เต มิคา เทว, เอทิสา ธมฺมิกา มิคา;
มาตาเปตฺติภรา เทว, น เต โส อภิหาริตุ’’นฺติ.
ตตฺถ มาตาเปตฺติภราติ ชิณฺเณ อนฺเธ มาตาปิตโร โปเสนฺติ, เอตาทิสา เนสํ ธมฺมิกตา. น เต โส อภิหาริตุนฺติ โส มิคราชา น สกฺกา เกนจิ ตว ปณฺณาการตฺถาย อภิหริตุนฺติ อตฺโถ. ‘‘อภิหารยิ’’นฺติปิ ปาโ, โส อหํ ตํ เต ปณฺณาการตฺถาย นาภิหารยึ น อาหรินฺติ อตฺโถ.
อิติ โส มหาสตฺตสฺส จ จิตฺตมิคสฺส จ สุตนาย มิคโปติกาย จ คุณํ กเถตฺวา ‘‘มหาราช, อหํ เตน มิครฺา ‘อตฺตโน โลมานิ ทสฺเสตฺวา มม าเน ตฺวา ทสหิ ราชธมฺมจริยคาถาหิ เทวิยา ธมฺมํ กเถยฺยาสี’ติ อุคฺคณฺหาปิโต อาณตฺโต’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา ราชา นํ นฺหาเปตฺวา อหตวตฺถานิ นิวาเสตฺวา สตฺตรตนขจิเต ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา สยํ เทวิยา สทฺธึ นีจาสเน เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ตํ อฺชลึ ปคฺคยฺห ยาจติ. โส ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ ¶ ¶ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;
สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ. (ชา. ๒.๑๘.๑๑๔-๑๒๓);
อิติ เนสาทปุตฺโต มหาสตฺเตน เทสิตนิยาเมน อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน สาธุการสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ. ธมฺมกถํ สุตฺวาเยว เทวิยา ¶ โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ลุทฺทปุตฺตํ มหนฺเตน ยเสน สนฺตปฺเปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ทมฺมิ นิกฺขสตํ ลุทฺท, ถูลฺจ มณิกุณฺฑลํ;
จตุสฺสทฺจ ปลฺลงฺกํ, อุมาปุปฺผสรินฺนิภํ.
‘‘ทฺเว จ สาทิสิโย ภริยา, อุสภฺจ ควํ สตํ;
ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสฺสํ, พหุกาโร เมสิ ลุทฺทก.
‘‘กสิวาณิชฺชา อิณทานํ, อุจฺฉาจริยา จ ลุทฺทก;
เอเตน ทารํ โปเสหิ, มา ปาปํ อกรี ปุนา’’ติ.
ตตฺถ ถูลนฺติ มหคฺฆํ มณิกุณฺฑลปสาธนฺจ เต ทมฺมิ. จตุสฺสทนฺติ จตุรุสฺสทํ, จตุอุสฺสีสกนฺติ ¶ อตฺโถ. อุมาปุปฺผสรินฺนิภนฺติ นีลปจฺจตฺถรณตฺตา อุมาปุปฺผสทิสาย นิภาย โอภาเสน สมนฺนาคตํ, กาฬวณฺณทารุสารมยํ วา. สาทิสิโยติ อฺมฺํ ¶ รูเปน จ โภเคน จ สทิสา. อุสภฺจ ควํ สตนฺติ อุสภํ เชฏฺกํ กตฺวา ควํ สตฺจ เต ทมฺมิ. กาเรสฺสนฺติ ¶ ทส ราชธมฺเม อโกเปนฺโต ธมฺเมเนว รชฺชํ กาเรสฺสามิ. พหุกาโร เมสีติ สุวณฺณวณฺณสฺส มิครฺโ าเน ตฺวา ธมฺมสฺส เทสิตตฺตา ตฺวํ มม พหุปกาโร, มิคราเชน วุตฺตนิยาเมเนว เต อหํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาปิโต. กสิวาณิชฺชาติ สมฺม ลุทฺทก, อหมฺปิ มิคราชานํ อทิสฺวา ตสฺส วจนเมว สุตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต, ตฺวมฺปิ อิโต ปฏฺาย สีลวา โหหิ, ยานิ ตานิ กสิวาณิชฺชานิ อิณทานํ อฺุฉาจริยาติ อาชีวมุขานิ, เอเตเนว สมฺมาอาชีเวน ตว ปุตฺตทารํ โปเสหิ, มา ปุน ปาปํ กรีติ.
โส รฺโ กถํ สุตฺวา ‘‘น เม ฆราวาเสนตฺโถ, ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาถ เทวา’’ติ อนุชานาเปตฺวา รฺา ทินฺนธนํ ปุตฺตทารสฺส ทตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ. ราชาปิ มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ, ตสฺส โอวาโท วสฺสสหสฺสํ ปวตฺติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ ภิกฺขเว ปุพฺเพปิ มมตฺถาย อานนฺเทน ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ลุทฺโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต, เทวี เขมา ภิกฺขุนี, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, สุตนา อุปฺปลวณฺณา, จิตฺตมิโค อานนฺโท, อสีติ มิคสหสฺสานิ สากิยคโณ, โรหโณ มิคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
โรหณมิคชาตกวณฺณนา ปฺจมา.
[๕๐๒] ๖. จูฬหํสชาตกวณฺณนา
เอเต หํสา ปกฺกมนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อานนฺทเถรสฺส ชีวิตปริจฺจาคเมว อารพฺภ กเถสิ. ตทาปิ หิ ธมฺมสภายํ เถรสฺส คุณกถํ กเถนฺเตสุ ภิกฺขูสุ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺเทน มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ ¶ พาราณสิยํ พหุปุตฺตโก นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. เขมา นามสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา มหาสตฺโต สุวณฺณหํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ วสิ. ตทาปิ เทวี ¶ วุตฺตนเยเนว สุปินํ ทิสฺวา รฺโ สุวณฺณวณฺณหํสสฺส ธมฺมเทสนาสวนโทหฬํ อาโรเจสิ. ราชาปิ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณหํสา นาม จิตฺตกูฏปพฺพเต วสนฺตี’’ติ จ สุตฺวา เขมํ นาม สรํ กาเรตฺวา นานปฺปการานิ นิวาปธฺานิ โรปาเปตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ เทวสิกํ อภยโฆสนํ โฆสาเปสิ, เอกฺจ ลุทฺทปุตฺตํ หํสานํ คหณตฺถาย ปโยเชสิ. ตสฺส ปโยชิตากาโร จ, เตน ตตฺถ สกุณานํ อุปปริกฺขิตภาโว จ, สุวณฺณหํสานํ อาคตกาเล รฺโ อาโรเจตฺวา ปาสานํ โอฑฺฑิตนิยาโม จ, มหาสตฺตสฺส ปาเส พทฺธนิยาโม จ, สุมุขสฺส หํสเสนาปติโน ตีสุ หํสฆฏาสุ ตํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺจ สพฺพํ มหาหํสชาตเก (ชา. ๒.๒๑.๘๙ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. อิธาปิ มหาสตฺโต ยฏฺิปาเส พชฺฌิตฺวา ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺโตเยว คีวํ ปสาเรตฺวา หํสานํ คตมคฺคํ โอโลเกนฺโต สุมุขํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อาคตกาเล นํ วีมํสิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺมึ อาคเต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;
หริตฺตจ เหมวณฺณ, กามํ สุมุข ปกฺกม.
‘‘โอหาย มํ าติคณา, เอกํ ปาสวสํ คตํ;
อนเปกฺขมานา คจฺฉนฺติ, กึ เอโก อวหิยฺยสิ.
‘‘ปเตว ปตตํ เสฏฺ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา;
มา อนีฆาย หาเปสิ, กามํ สุมุข ปกฺกมา’’ติ.
ตตฺถ ภยเมริตาติ ภเยริตา ภยตชฺชิตา ภยจลิตา. หริตฺตจ เหมวณฺณาติ ทฺวีหิปิ วจเนหิ ตเมวาลปติ. กามนฺติ สุวณฺณตฺตจ, สุวณฺณวณฺณ, สุนฺทรมุข เอกํเสน ปกฺกมาหิเยว, กึ เต อิธาคมเนนาติ วทติ. โอหายาติ มํ ชหิตฺวา อุปฺปติตา. อนเปกฺขมานาติ เต มม าตกา มยิ อนเปกฺขาว คจฺฉนฺติ. ปเตวาติ อุปฺปเตว. มา อนีฆายาติ ¶ อิโต คนฺตฺวา ปตฺตพฺพาย นิทฺทุกฺขภาวาย วีริยํ มา หาเปสิ.
ตโต ¶ สุมุโข ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิตฺวา คาถมาห –
‘‘นาหํ ¶ ทุกฺขปเรโตติ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;
ชีวิตํ มรณํ วา เม, ตยา สทฺธึ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตตฺถ ทุกฺขปเรโตติ มหาราช, ‘‘ตฺวํ มรณทุกฺขปเรโต’’ติ เอตฺตเกเนว นาหํ ตํ ชหามิ.
เอวํ สุมุเขน สีหนาเท กถิเต ธตรฏฺโ คาถมาห –
‘‘เอตทริยสฺส กลฺยาณํ, ยํ ตฺวํ สุมุข ภาสสิ;
ตฺจ วีมํสมาโนหํ, ปตเตตํ อวสฺสชิ’’นฺติ.
ตตฺถ เอตทริยสฺสาติ ยํ ตฺวํ ‘‘นาหํ ตํ ชเห’’ติ ภาสสิ, เอตํ อาจารสมฺปนฺนสฺส อริยสฺส กลฺยาณํ อุตฺตมวจนํ. ปตเตตนฺติ อหฺจ น ตํ วิสฺสชฺเชตุกาโมว เอวํ อวจํ, อถ โข ตํ วีมํสมาโน ‘‘ปตตู’’ติ เอตํ วจนํ อวสฺสชึ, คจฺฉาติ ตํ อโวจนฺติ อตฺโถ.
เอวํ เตสํ กเถนฺตานฺเว ลุทฺทปุตฺโต ทณฺฑมาทาย เวเคนาคโต. สุมุโข ธตรฏฺํ อสฺสาเสตฺวา ตสฺสาภิมุโข คนฺตฺวา อปจิตึ ทสฺเสตฺวา หํสรฺโ คุเณ กเถสิ. ตาวเทว ลุทฺโท มุทุจิตฺโต อโหสิ. โส ตสฺส มุทุจิตฺตกํ ตฺวา ปุน คนฺตฺวา หํสราชเมว อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. ลุทฺโทปิ หํสราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ฉฏฺํ คาถมาห –
‘‘อปเทน ปทํ ยาติ, อนฺตลิกฺขจโร ทิโช;
อารา ปาสํ น พุชฺฌิ ตฺวํ, หํสานํ ปวรุตฺตมา’’ติ.
ตตฺถ อปเทน ปทนฺติ มหาราช, ตุมฺหาทิโส อนฺตลิกฺขจโร ทิโช อปเท อากาเส ปทํ กตฺวา ยาติ. น พุชฺฌิ ตฺวนฺติ โส ตฺวํ เอวรูโป ทูรโตว อิมํ ปาสํ น พุชฺฌิ น ชานีติ ปุจฺฉติ.
มหาสตฺโต ¶ อาห –
‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;
อถ ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ ยทา ปราภโวติ สมฺม ลุทฺทปุตฺต, ยทา ปราภโว อวุฑฺฒิ วินาโส สมฺปตฺโต โหติ, อถ โปโส ชีวิตสงฺขเย ปตฺเต ชาลฺจ ปาสฺจ ปตฺวาปิ น ชานาตีติ อตฺโถ.
ลุทฺโท หํสรฺโ กถํ อภินนฺทิตฺวา สุมุเขน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;
หริตฺตจ เหมวณฺณ, ตฺวฺเว อวหิยฺยสิ.
‘‘เอเต ภุตฺวา จ ปิวิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;
อนเปกฺขมานา วกฺกงฺคา, ตฺวฺเเวโก อุปาสสิ.
‘‘กึ นุ ตฺยายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;
โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหิยฺยสี’’ติ.
ตตฺถ ตฺวฺเวาติ ตฺวเมว โอหิยฺยสีติ ปุจฺฉติ. อุปาสสีติ ปยิรุปาสสิ.
สุมุโข อาห –
‘‘ราชา เม โส ทิโช มิตฺโต, สขา ปาณสโม จ เม;
เนว นํ วิชหิสฺสามิ, ยาว กาลสฺส ปริยาย’’นฺติ.
ตตฺถ ยาว กาลสฺส ปริยายนฺติ ลุทฺทปุตฺต, ยาว ชีวิตกาลสฺส ปริโยสานํ อหํ เอตํ น วิชหิสฺสามิเยว.
ตํ สุตฺวา ลุทฺโท ปสนฺนจิตฺโต หุตฺวา ‘‘สจาหํ เอวํ สีลสมฺปนฺเนสุ อิเมสุ อปรชฺฌิสฺสามิ, ปถวีปิ เม วิวรํ ทเทยฺย, กึ เม รฺโ สนฺติกา ลทฺเธน ธเนน, วิสฺสชฺเชสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –
‘‘โย ¶ จ ตฺวํ สขิโน เหตุ, ปาณํ จชิตุมิจฺฉสิ;
โส เต สหายํ มฺุจามิ, โหตุ ราชา ตวานุโค’’ติ.
ตตฺถ ¶ โย จ ตฺวนฺติ โย นาม ตฺวํ. โสติ โส อหํ. ตวานุโคติ เอส หํสราชา ตว วสํ อนุคโต โหตุ, ตยา สทฺธึ เอกฏฺาเน วสตุ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ธตรฏฺํ ยฏฺิปาสโต โอตาเรตฺวา สรตีรํ เนตฺวา ปาสํ มฺุจิตฺวา มุทุจิตฺเตน โลหิตํ โธวิตฺวา นฺหารุอาทีนิ ¶ ปฏิปาเทสิ. ตสฺส มุทุจิตฺตตาย มหาสตฺตสฺส ปารมิตานุภาเวน จ ตาวเทว ปาโท สจฺฉวิ อโหสิ, พทฺธฏฺานมฺปิ น ปฺายิ. สุมุโข โพธิสตฺตํ โอโลเกตฺวา ตุฏฺจิตฺโต อนุโมทนํ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;
ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิป’’นฺติ.
ตํ สุตฺวา ลุทฺโท ‘‘คจฺฉถ, สามี’’ติ อาห. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ ปน ตฺวํ สมฺม, มํ อตฺตโน อตฺถาย พนฺธิ, อุทาหุ อฺสฺส อาณตฺติยา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เตน ตสฺมึ การเณ อาโรจิเต ‘‘กึ นุ โข เม อิโตว จิตฺตกูฏํ คนฺตุํ เสยฺโย, อุทาหุ นคร’’นฺติ วิมํสนฺโต ‘‘มยิ นครํ คเต ลุทฺทปุตฺโต ธนํ ลภิสฺสติ, เทวิยา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิสฺสติ, สุมุขสฺส มิตฺตธมฺโม ปากโฏ ภวิสฺสติ, ตถา มม าณพลํ, เขมฺจ สรํ อภยทกฺขิณํ กตฺวา ลภิสฺสามิ, ตสฺมา นครเมว คนฺตุํ เสยฺโย’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ‘‘ลุทฺท, ตฺวํ อมฺเห กาเชนาทาย รฺโ สนฺติกํ เนหิ, สเจ โน ราชา วิสฺสชฺเชตุกาโม ภวิสฺสติ, วิสฺสชฺเชสฺสตี’’ติ อาห. ราชาโน นาม สามิ, กกฺขฬา, คจฺฉถ ตุมฺเหติ. มยํ ตาทิสํ ลุทฺทมฺปิ มุทุกํ กริมฺห, รฺโ อาราธเน อมฺหากํ ภาโร, เนหิเยว โน, สมฺมาติ. โส ตถา อกาสิ. ราชา หํเส ทิสฺวาว โสมนสฺสชาโต หุตฺวา ทฺเวปิ หํเส กฺจนปีเ นิสีทาเปตฺวา มธุลาเช ขาทาเปตฺวา มธุโรทกํ ปาเยตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ธมฺมกถํ อายาจิ. หํสราชา ตสฺส โสตุกามตํ วิทิตฺวา ปมํ ตาว ปฏิสนฺถารมกาสิ ¶ . ตตฺริมา หํสสฺส จ รฺโ จ วจนปฏิวจนคาถาโย โหนฺติ –
‘‘กจฺจินฺนุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;
กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.
‘‘กุสลํ ¶ เจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;
อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.
‘‘กจฺจิ ¶ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;
กจฺจิ อารา อมิตฺตา เต, ฉายา ทกฺขิณโตริว.
‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;
อโถ อารา อมิตฺตา เม, ฉายา ทกฺขิณโตริว.
‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.
‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา.
‘‘กจฺจิ เต พหโว ปุตฺตา, สุชาตา รฏฺวฑฺฒน;
ปฺาชเวน สมฺปนฺนา, สมฺโมทนฺติ ตโต ตโต.
‘‘สตเมโก จ เม ปุตฺตา, ธตรฏฺ มยา สุตา;
เตสํ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหิ, นาวรุชฺฌนฺติ เต วโจ’’ติ.
ตตฺถ กุสลนฺติ อาโรคฺยํ, อิตรํ ตสฺเสว เววจนํ. ผีตนฺติ กจฺจิ เต อิทํ รฏฺํ ผีตํ สุภิกฺขํ, ธมฺเมน จ นํ อนุสาสสีติ ปุจฺฉติ. โทโสติ อปราโธ. ฉายา ทกฺขิณโตริวาติ ยถา นาม ทกฺขิณทิสาภิมุขา ฉายา น วฑฺฒติ, เอวํ เต กจฺจิ อมิตฺตา น วฑฺฒนฺตีติ วทติ. สาทิสีติ ชาติโคตฺตกุลปเทเสหิ สมานา. เอวรูปา หิ อติจารินี น โหติ. อสฺสวาติ วจนปฏิคฺคาหิกา. ปุตฺตรูปยสูเปตาติ ปุตฺเตหิ จ รูเปน ¶ จ ยเสน จ อุเปตา. ปฺาชเวนาติ ปฺาเวเคน ปฺํ ชวาเปตฺวา ตานิ ตานิ กิจฺจานิ ปริจฺฉินฺทิตุํ สมตฺถาติ ปุจฺฉติ. สมฺโมทนฺติ ตโต ตโตติ ยตฺถ ยตฺถ นิยุตฺตา โหนฺติ, ตโต ตโต สมฺโมทนฺเตว, น วิรุชฺฌนฺตีติ ปุจฺฉติ. มยา สุตาติ มยา วิสฺสุตา. มฺหิ โลโก ‘‘พหุปุตฺตราชา’’ติ วทติ, อิติ เต มํ นิสฺสาย วิสฺสุตา ปากฏา ชาตาติ มยา สุตา นาม โหนฺตีติ วทติ. เตสํ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหีติ เตสํ มม ปุตฺตานํ ‘‘อิทํ นาม กโรนฺตู’’ติ ตฺวํ กิจฺจมกฺขาหิ, น เต วจนํ อวรุชฺฌนฺติ, โอวาทํ เนสํ เทหีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.
ตํ ¶ สุตฺวา มหาสตฺโต ตสฺส โอวาทํ เทนฺโต ปฺจ คาถา อภาสิ –
‘‘อุปปนฺโนปิ เจ โหติ, ชาติยา วินเยน วา;
อถ ปจฺฉา กุรุเต โยคํ, กิจฺเฉ อาปาสุ สีทติ.
‘‘ตสฺส ¶ สํหีรปฺสฺส, วิวโร ชายเต มหา;
รตฺติมนฺโธว รูปานิ, ถูลานิ มนุปสฺสติ.
‘‘อสาเร สารโยคฺู, มตึ น ตฺเวว วินฺทติ;
สรโภว คิริทุคฺคสฺมึ, อนฺตราเยว สีทติ.
‘‘หีนชจฺโจปิ เจ โหติ, อุฏฺาตา ธิติมา นโร;
อาจารสีลสมฺปนฺโน, นิเส อคฺคีว ภาสติ.
‘‘เอตํ เม อุปมํ กตฺวา, ปุตฺเต วิชฺชาสุ วาจย;
สํวิรูฬฺเหถ เมธาวี, เขตฺเต พีชํว วุฏฺิยา’’ติ.
ตตฺถ วินเยนาติ อาจาเรน. ปจฺฉา กุรุเต โยคนฺติ โย เจ สิกฺขิตพฺพสิกฺขาสุ ทหรกาเล โยคํ วีริยํ อกตฺวา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล กโรติ, เอวรูโป ปจฺฉา ตถารูเป ทุกฺเข วา อาปทาสุ วา อุปฺปนฺนาสุ สีทติ, อตฺตานํ อุทฺธริตุํ น สกฺโกติ. ตสฺส สํหีรปฺสฺสาติ ตสฺส อสิกฺขิตตฺตา ตโต ตโต หริตพฺพปฺสฺส นิจฺจํ จลพุทฺธิโน. วิวโรติ โภคาทีนํ ฉิทฺทํ, ปริหานีติ อตฺโถ. รตฺติมนฺโธติ รตฺตนฺโธ. อิทํ ¶ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ยถา รตฺตนฺโธ รตฺติกาโณ รตฺตึ จนฺโทภาสาทีหิ ถูลรูปาเนว ปสฺสติ, สุขุมานิ ปสฺสิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ อสิกฺขิโต สํหีรปฺโ กิสฺมิฺจิเทว ภเย อุปฺปนฺเน สุขุมานิ กิจฺจานิ ปสฺสิตุํ น สกฺโกติ, โอฬาริเกเยว ปสฺสติ, ตสฺมา ตว ปุตฺเต ทหรกาเลเยว สิกฺขาเปตุํ วฏฺฏตี’’ติ.
อสาเรติ นิสฺสาเร โลกายตเวทสมเย. สารโยคฺูติ สารยุตฺโต เอส สมโยติ มฺมาโน. มตึ น ตฺเวว วินฺทตีติ พหุํ สิกฺขิตฺวาปิ ปฺํ น ลภติเยว. คิริทุคฺคสฺมินฺติ โส เอวรูโป ยถา นาม สรโภ อตฺตโน วสนฏฺานํ อาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค วิสมมฺปิ ¶ สมนฺติ มฺมาโน คิริทุคฺเค เวเคนาคจฺฉนฺโต นรกปปาตํ ปติตฺวา อนฺตราเยว สีทติ, อาวาสํ น ปาปุณาติ, เอวเมตํ อสารํ โลกายตเวทสมยํ สารสฺาย อุคฺคเหตฺวา มหาวินาสํ ปาปุณาติ. ตสฺมา ตว ปุตฺเต อตฺถนิสฺสิเตสุ วฑฺฒิอาวเหสุ กิจฺเจสุ โยเชตฺวา สิกฺขาเปหีติ. นิเส อคฺคีวาติ มหาราช, หีนชาติโกปิ อุฏฺานาทิคุณสมฺปนฺโน รตฺตึ อคฺคิกฺขนฺโธ วิย โอภาสติ. เอตํ เมติ เอตํ มยา วุตฺตํ รตฺตนฺธฺจ อคฺคิกฺขนฺธฺจ อุปมํ กตฺวา ตว ปุตฺเต วิชฺชาสุ วาจย, สิกฺขิตพฺพยุตฺตาสุ สิกฺขาสุ โยเชหิ. เอวํ ยุตฺโต หิ ยถา สุเขตฺเต สุวุฏฺิยา พีชํ สํวิรูหติ, ตเถว เมธาวี สํวิรูหติ, ยเสน จ โภเคหิ จ วฑฺฒตีติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต สพฺพรตฺตึ รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ, เทวิยา โทหโฬ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ. มหาสตฺโต อรุณุคฺคมนเวลายเมว ราชานํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺเปตฺวา อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา สทฺธึ สุมุเขน อุตฺตรสีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา จิตฺตกูฏเมว คโต.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ อิมินา มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจตฺตเมวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ลุทฺโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต, เทวี เขมาภิกฺขุนี, หํสปริสา สากิยคโณ, สุมุโข อานนฺโท, หํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จูฬหํสชาตกวณฺณนา ฉฏฺา.
[๕๐๓] ๗. สตฺติคุมฺพชาตกวณฺณนา
มิคลุทฺโท ¶ มหาราชาติ อิทํ สตฺถา มทฺทกุจฺฉิสฺมึ มิคทาเย วิหรนฺโต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺเตน หิ สิลาย ปวิทฺธาย ภควโต ปาเท สกลิกาย ขเต พลวเวทนา อุปฺปชฺชิ. ตถาคตสฺส ทสฺสนตฺถาย พหู ภิกฺขู สนฺนิปตึสุ. อถ ภควา ปริสํ สนฺนิปติตํ ทิสฺวา ‘‘ภิกฺขเว, อิทํ เสนาสนํ อติสมฺพาธํ, สนฺนิปาโต มหา ภวิสฺสติ, มํ มฺจสิวิกาย มทฺทกุจฺฉึ เนถา’’ติ อาห. ภิกฺขู ตถา กรึสุ. ชีวโก ตถาคตสฺส ปาทํ ผาสุกํ อกาสิ. ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติเก นิสินฺนาว กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, เทวทตฺโต สยมฺปิ ปาโป, ปริสาปิสฺส ปาปา, อิติ โส ปาโป ปาปปริวาโรว วิหรตี’’ติ. สตฺถา ‘‘กึ กเถถ, ภิกฺขเว’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิทํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปาโป ปาปปริวาโรเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ อุตฺตรปฺจาลนคเร ปฺจาโล นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. มหาสตฺโต อรฺายตเน เอกสฺมึ สานุปพฺพเต สิมฺพลิวเน เอกสฺส สุวรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ทฺเว ภาตโร อเหสุํ. ตสฺส ปน ปพฺพตสฺส อุปริวาเต โจรคามโก อโหสิ ปฺจนฺนํ โจรสตานํ นิวาโส, อโธวาเต อสฺสโม ปฺจนฺนํ อิสิสตานํ นิวาโส. เตสํ สุวโปตกานํ ปกฺขนิกฺขมนกาเล วาตมณฺฑลิกา อุทปาทิ. ตาย ปหโฏ เอโก สุวโปตโก โจรคามเก ¶ โจรานํ อาวุธนฺตเร ปติโต, ตสฺส ตตฺถ ปติตตฺตา ‘‘สตฺติคุมฺโพ’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. เอโก อสฺสเม วาลุกตเล ปุปฺผนฺตเร ปติ, ตสฺส ตตฺถ ปติตตฺตา ‘‘ปุปฺผโก’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. สตฺติคุมฺโพ โจรานํ อนฺตเร วฑฺฒิโต, ปุปฺผโก อิสีนํ.
อเถกทิวสํ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต รถวรํ อภิรุหิตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน มิควธาย นครโต นาติทูเร สุปุปฺผิตผลิตํ รมณียํ อุปคุมฺพวนํ คนฺตฺวา ‘‘ยสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายติ, ตสฺเสว คีวา’’ติ วตฺวา รถา โอรุยฺห ปฏิจฺฉาเทตฺวา ทินฺเน โกฏฺเก ธนุํ อาทาย อฏฺาสิ. ปุริเสหิ มิคานํ อุฏฺาปนตฺถาย วนคุมฺเพสุ โปถิยมาเนสุ เอโก เอณิมิโค อุฏฺาย คมนมคฺคํ โอโลเกนฺโต รฺโ ิตฏฺานสฺเสว วิวิตฺตตํ ¶ ทิสฺวา ตทภิมุโข ปกฺขนฺทิตฺวา ปลายิ. อมจฺจา ‘‘กสฺส ปสฺเสน มิโค ปลายิโต’’ติ ปุจฺฉนฺตา ‘‘รฺโ ปสฺเสนา’’ติ ตฺวา รฺา สทฺธึ เกฬึ กรึสุ. ราชา อสฺมิมาเนน เตสํ เกฬึ อสหนฺโต ‘‘อิทานิ ตํ มิคํ คเหสฺสามี’’ติ รถํ อารุยฺห ‘‘สีฆํ เปเสหี’’ติ สารถึ อาณาเปตฺวา มิเคน คตมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. รถํ เวเคน คจฺฉนฺตํ ปริสา อนุพนฺธิตุํ นาสกฺขิ. ราชา สารถิทุติโย ยาว มชฺฌนฺหิกา คนฺตฺวา ตํ มิคํ อทิสฺวา นิวตฺตนฺโต ตสฺส โจรคามสฺส สนฺติเก รมณียํ กนฺทรํ ทิสฺวา รถา โอรุยฺห นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริ. อถสฺส สารถิ รถสฺส อุตฺตรตฺถรณํ โอตาเรตฺวา สยนํ รุกฺขจฺฉายาย ปฺเปสิ, โส ตตฺถ นิปชฺชิ. สารถิปิ ตสฺส ปาเท สมฺพาหนฺโต นิสีทิ. ราชา อนฺตรนฺตรา นิทฺทายติ เจว ปพุชฺฌติ จ.
โจรคามวาสิโน โจราปิ รฺโ อารกฺขณตฺถาย อรฺเมว ปวิสึสุ. โจรคามเก สตฺติคุมฺโพ เจว ภตฺตรนฺธโก ปติโกลมฺโพ นาเมโก ปุริโส จาติ ทฺเวว โอหียึสุ. ตสฺมึ ขเณ สตฺติคุมฺโพ คามกา นิกฺขมิตฺวา ราชานํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ นิทฺทายมานเมว มาเรตฺวา อาภรณานิ คเหสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ปติโกลมฺพสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ การณํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจ คาถา อภาสิ –
‘‘มิคลุทฺโท ¶ มหาราชา, ปฺจาลานํ รเถสโภ;
นิกฺขนฺโต สห เสนาย, โอคโณ วนมาคมา.
‘‘ตตฺถทฺทสา อรฺสฺมึ, ตกฺกรานํ กุฏึ กตํ;
ตสฺสา กุฏิยา นิกฺขมฺม, สุโว ลุทฺทานิ ภาสติ.
‘‘สมฺปนฺนวาหโน โปโส, ยุวา สมฺมฏฺกุณฺฑโล;
โสภติ โลหิตุณฺหีโส, ทิวา สูริโยว ภาสติ.
‘‘มชฺฌนฺหิเก สมฺปติเก, สุตฺโต ราชา สสารถิ;
หนฺทสฺสาภรณํ สพฺพํ, คณฺหาม สาหสา มยํ.
‘‘นิสีเถปิ รโหทานิ, สุตฺโต ราชา สสารถิ;
อาทาย วตฺถํ มณิกุณฺฑลฺจ, หนฺตฺวาน สาขาหิ อวตฺถรามา’’ติ.
ตตฺถ ¶ มิคลุทฺโทติ ลุทฺโท วิย มิคานํ คเวสนโต ‘‘มิคลุทฺโท’’ติ วุตฺโต. โอคโณติ คณา โอหีโน ปริหีโน หุตฺวา. ตกฺกรานํ กุฏึ กตนฺติ โส ราชา ตตฺถ อรฺเ โจรานํ วสนตฺถาย กตํ คามกํ อทฺทส. ตสฺสาติ ตโต โจรกุฏิโต. ลุทฺทานิ ภาสตีติ ปติโกลมฺเพน สทฺธึ ทารุณานิ วจนานิ กเถติ. สมฺปนฺนวาหโนติ สมฺปนฺนอสฺสวาหโน. โลหิตุณฺหีโสติ รตฺเตน อุณฺหีสปฏฺเฏน สมนฺนาคโต. สมฺปติเกติ สมฺปติ อิทานิ, เอวรูเป ิตมชฺฌนฺหิกกาเลติ อตฺโถ. สาหสาติ สาหเสน ปสยฺหาการํ กตฺวา คณฺหามาติ วทติ. นิสีเถปิ รโหทานีติ นิสีเถปิ อิทานิปิ รโห. อิทํ วทติ – ยถา นิสีเถ อฑฺฒรตฺตสมเย มนุสฺสา กิลนฺตา สยนฺติ, รโห นาม โหติ, อิทานิ ิตมชฺฌนฺหิเกปิ กาเล ตเถวาติ. หนฺตฺวานาติ ราชานํ มาเรตฺวา วตฺถาภรณานิสฺส คเหตฺวา อถ นํ ปาเท คเหตฺวา กฑฺฒิตฺวา เอกมนฺเต สาขาหิ ปฏิจฺฉาเทมาติ.
อิติ โส เวเคน สกึ นิกฺขมติ, สกึ ปติโกลมฺพสฺส สนฺติกํ คจฺฉติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา นิกฺขมิตฺวา โอโลเกนฺโต ราชภาวํ ตฺวา ภีโต คาถมาห –
‘‘กินฺนุ ¶ อุมฺมตฺตรูโปว, สตฺติคุมฺพ ปภาสสิ;
ทุราสทา หิ ราชาโน, อคฺคิ ปชฺชลิโต ยถา’’ติ.
อถ นํ สุโว คาถาย อชฺฌภาสิ –
‘‘อถ ตฺวํ ปติโกลมฺพ, มตฺโต ถุลฺลานิ คชฺชสิ;
มาตริ มยฺห นคฺคาย, กินฺนุ ตฺวํ วิชิคุจฺฉเส’’ติ.
ตตฺถ ¶ อถ ตฺวนฺติ นนุ ตฺวํ. มตฺโตติ โจรานํ อุจฺฉิฏฺสุรํ ลภิตฺวา ตาย มตฺโต หุตฺวา ปุพฺเพ มหาคชฺชิตานิ คชฺชสิ. มาตรีติ โจรเชฏฺกสฺส ภริยํ สนฺธายาห. สา กิร ตทา สาขาภงฺคํ นิวาเสตฺวา จรติ. วิชิคุจฺฉเสติ มม มาตริ นคฺคาย กินฺนุ ตฺวํ อิทานิ โจรกมฺมํ ชิคุจฺฉสิ, กาตุํ น อิจฺฉสีติ.
ราชา ปพุชฺฌิตฺวา ตสฺส เตน สทฺธึ มนุสฺสภาสาย กเถนฺตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สปฺปฏิภยํ อิทํ าน’’นฺติ สารถึ อุฏฺาเปนฺโต คาถมาห –
‘‘อุฏฺเหิ ¶ สมฺม ตรมาโน, รถํ โยเชหิ สารถิ;
สกุโณ เม น รุจฺจติ, อฺํ คจฺฉาม อสฺสม’’นฺติ.
โสปิ สีฆํ อุฏฺหิตฺวา รถํ โยเชตฺวา คาถมาห –
‘‘ยุตฺโต รโถ มหาราช, ยุตฺโต จ พลวาหโน;
อธิติฏฺ มหาราช, อฺํ คจฺฉาม อสฺสม’’นฺติ.
ตตฺถ พลวาหโนติ พลววาหโน, มหาถามอสฺสสมฺปนฺโนติ อตฺโถ. อธิติฏฺาติ อภิรุห.
อภิรุฬฺหมตฺเตเยว จ ตสฺมึ สินฺธวา วาตเวเคน ปกฺขนฺทึสุ. สตฺติคุมฺโพ รถํ คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สํเวคปฺปตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โก ¶ นุเมว คตา สพฺเพ, เย อสฺมึ ปริจารกา;
เอส คจฺฉติ ปฺจาโล, มุตฺโต เตสํ อทสฺสนา.
‘‘โกทณฺฑกานิ คณฺหถ, สตฺติโย โตมรานิ จ;
เอส คจฺฉติ ปฺจาโล, มา โว มฺุจิตฺถ ชีวต’’นฺติ.
ตตฺถ โก นุเมติ กุหึ นุ อิเม. อสฺมินฺติ อิมสฺมึ อสฺสเม. ปริจารกาติ โจรา. อทสฺสนาติ เอเตสํ โจรานํ อทสฺสเนน มุตฺโต เอส คจฺฉตีติ, เอเตสํ หตฺถโต มุตฺโต หุตฺวา เอส อทสฺสนํ คจฺฉตีติปิ อตฺโถ. โกทณฺฑกานีติ ธนูนิ. ชีวตนฺติ ตุมฺหากํ ชีวนฺตานํ มา มฺุจิตฺถ, อาวุธหตฺถา ธาวิตฺวา คณฺหถ นนฺติ.
เอวํ ตสฺส วิรวิตฺวา อปราปรํ ธาวนฺตสฺเสว ราชา อิสีนํ อสฺสมํ ปตฺโต. ตสฺมึ ขเณ อิสโย ผลาผลตฺถาย คตา ¶ . เอโก ปุปฺผกสุโวว อสฺสมปเท ิโต โหติ. โส ราชานํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘อถาปโร ปฏินนฺทิตฺถ, สุโว โลหิตตุณฺฑโก;
สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;
อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.
‘‘ติณฺฑุกานิ ¶ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;
ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภฺุช ราช วรํ วรํ.
‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;
ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ.
‘‘อรฺํ อฺุฉาย คตา, เย อสฺมึ ปริจารกา;
สยํ อุฏฺาย คณฺหวฺโห, หตฺถา เม นตฺถิ ทาตเว’’ติ.
ตตฺถ ปฏินนฺทิตฺถาติ ราชานํ ทิสฺวาว ตุสฺสิ. โลหิตตุณฺฑโกติ รตฺตตุณฺโฑ โสภคฺคปฺปตฺโต ¶ . มธุเกติ มธุกผลานิ. กาสุมาริโยติ เอวํนามกานิ ผลานิ, การผลานิ วา. ตโต ปิวาติ ตโต ปานียมาฬโต คเหตฺวา ปานียํ ปิว. เย อสฺมึ ปริจารกาติ มหาราช, เย อิมสฺมึ อสฺสเม วิจรณกา อิสโย, เต อรฺํ อฺุฉาย คตา. คณฺหวฺโหติ ผลาผลานิ คณฺหถ. ทาตเวติ ทาตุํ.
ราชา ตสฺส ปฏิสนฺถาเร ปสีทิตฺวา คาถาทฺวยมาห –
‘‘ภทฺทโก วตยํ ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;
อเถโส อิตโร ปกฺขี, สุโว ลุทฺทานิ ภาสติ.
‘‘‘เอตํ หนถ พนฺธถ, มา โว มฺุจิตฺถ ชีวตํ’;
อิจฺเจวํ วิลปนฺตสฺส, โสตฺถึ ปตฺโตสฺมิ อสฺสม’’นฺติ.
ตตฺถ อิตโรติ โจรกุฏิยํ สุวโก. อิจฺเจวนฺติ อหํ ปน ตสฺส เอวํ วิลปนฺตสฺเสว อิมํ อสฺสมํ โสตฺถินา ปตฺโต.
รฺโ กถํ สุตฺวา ปุปฺผโก ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ภาตโรสฺม มหาราช, โสทริยา เอกมาตุกา;
เอกรุกฺขสฺมึ สํวฑฺฒา, นานาเขตฺตคตา อุโภ.
‘‘สตฺติคุมฺโพ จ โจรานํ, อหฺจ อิสินํ อิธ;
อสตํ โส, สตํ อหํ, เตน ธมฺเมน โน วินา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ภาตโรสฺมาติ มหาราช, โส จ อหฺจ อุโภ ภาตโร โหม. โจรานนฺติ โส โจรานํ สนฺติเก สํวฑฺโฒ, อหํ อิสีนํ สนฺติเก ¶ . อสตํ โส, สตํ อหนฺติ โส อสาธูนํ ทุสฺสีลานํ สนฺติกํ อุปคโต, อหํ สาธูนํ สีลวนฺตานํ. เตน ธมฺเมน โน วินาติ มหาราช, ตํ สตฺติคุมฺพํ โจรา โจรธมฺเมน โจรกิริยาย วิเนสุํ, มํ อิสโย อิสิธมฺเมน อิสิสีลาจาเรน, ตสฺมา โสปิ เตน โจรธมฺเมน โน วินา โหติ, อหมฺปิ อิสิธมฺเมน โน วินา โหมีติ.
อิทานิ ¶ ตํ ธมฺมํ วิภชนฺโต คาถาทฺวยมาห –
‘‘ตตฺถ วโธ จ พนฺโธ จ, นิกตี วฺจนานิ จ;
อาโลปา สาหสาการา, ตานิ โส ตตฺถ สิกฺขติ.
‘‘อิธ สจฺจฺจ ธมฺโม จ, อหึสา สํยโม ทโม;
อาสนูทกทายีนํ, องฺเก วทฺโธสฺมิ ภารธา’’ติ.
ตตฺถ นิกตีติ ปติรูปเกน วฺจนา. วฺจนานีติ อุชุกวฺจนาเนว. อาโลปาติ ทิวา คามฆาตา. สาหสาการาติ เคหํ ปวิสิตฺวา มรเณน ตชฺเชตฺวา สาหสิกกมฺมกรณานิ. สจฺจนฺติ สภาโว. ธมฺโมติ สุจริตธมฺโม. อหึสาติ เมตฺตาปุพฺพภาโค. สํยโมติ สีลสํยโม. ทโมติ อินฺทฺริยทมนํ. อาสนูทกทายีนนฺติ อพฺภาคตานํ อาสนฺจ อุทกฺจ ทานสีลานํ. ภารธาติ ราชานํ อาลปติ.
อิทานิ รฺโ ธมฺมํ เทเสนฺโต อิมา คาถา อภาสิ –
‘‘ยํ ยฺหิ ราช ภชติ, สนฺตํ วา ยทิ วา อสํ;
สีลวนฺตํ วิสีลํ วา, วสํ ตสฺเสว คจฺฉติ.
‘‘ยาทิสํ กุรุเต มิตฺตํ, ยาทิสํ จูปเสวติ;
โสปิ ตาทิสโก โหติ, สหวาโส หิ ตาทิโส.
‘‘เสวมาโน เสวมานํ, สมฺผุฏฺโ สมฺผุสํ ปรํ;
สโร ทิทฺโธ กลาปํว, อลิตฺตมุปลิมฺปติ;
อุปเลปภยา ธีโร, เนว ปาปสขา สิยา.
‘‘ปูติมจฺฉํ กุสคฺเคน, โย นโร อุปนยฺหติ;
กุสาปิ ปูติ วายนฺติ, เอวํ พาลูปเสวนา.
‘‘ตครฺจ ¶ ¶ ¶ ปลาเสน, โย นโร อุปนยฺหติ;
ปตฺตาปิ สุรภิ วายนฺติ, เอวํ ธีรูปเสวนา.
‘‘ตสฺมา ปตฺตปุฏสฺเสว, ตฺวา สมฺปากมตฺตโน;
อสนฺเต โนปเสเวยฺย, สนฺเต เสเวยฺย ปณฺฑิโต;
อสนฺโต นิรยํ เนนฺติ, สนฺโต ปาเปนฺติ สุคฺคติ’’นฺติ.
ตตฺถ สนฺตํ วา ยทิ วา อสนฺติ สปฺปุริสํ วา อสปฺปุริสํ วา. เสวมาโน เสวมานนฺติ เสวิยมาโน อาจริโย เสวมานํ อนฺเตวาสิกํ. สมฺผุฏฺโติ อนฺเตวาสินา วา ผุฏฺโ อาจริโย. สมฺผุสํ ปรนฺติ ปรํ อาจริยํ สมฺผุสนฺโต อนฺเตวาสี วา. อลิตฺตนฺติ ตํ อนฺเตวาสิกํ ปาปธมฺเมน อลิตฺตํ โส อาจริโย วิสทิทฺโธ สโร เสสํ สรกลาปํ วิย ลิมฺปติ. เอวํ พาลูปเสวนาติ พาลูปเสวี หิ ปูติมจฺฉํ อุปนยฺหนกุสคฺคํ วิย โหติ, ปาปกมฺมํ อกโรนฺโตปิ อวณฺณํ อกิตฺตึ ลภติ. ธีรูปเสวนาติ ธีรูปเสวี ปุคฺคโล ตคราทิคนฺธชาติปลิเวนปตฺตํ วิย โหติ, ปณฺฑิโต ภวิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ กลฺยาณมิตฺตเสวี คุณกิตฺตึ ลภติ. ปตฺตปุฏสฺเสวาติ ทุคฺคนฺธสุคนฺธปลิเวนปณฺณสฺเสว. สมฺปากมตฺตโนติ กลฺยาณมิตฺตสํสคฺควเสน อตฺตโน ปริปากํ ปริภาวนํ ตฺวาติ อตฺโถ. ปาเปนฺติ สุคฺคตินฺติ สนฺโต สมฺมาทิฏฺิกา อตฺตานํ นิสฺสิเต สตฺเต สคฺคเมว ปาเปนฺตีติ เทสนํ ยถานุสนฺธิเมว ปาเปสิ.
ราชา ตสฺส ธมฺมกถาย ปสีทิ, อิสิคโณปิ อาคโต. ราชา อิสโย วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, มํ อนุกมฺปมานา มม วสนฏฺาเน วสถา’’ติ วตฺวา เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา นครํ คนฺตฺวา สุวานํ อภยํ อทาสิ. อิสโยปิ ตตฺถ อคมํสุ. ราชา อิสิคณํ อุยฺยาเน วสาเปนฺโต ยาวชีวํ อุปฏฺหิตฺวา สคฺคปุรํ ปูเรสิ. อถสฺส ปุตฺโตปิ ฉตฺตํ อุสฺสาเปนฺโต อิสิคณํ ปฏิชคฺคิเยวาติ ตสฺมึ กุลปริวฏฺเฏ สตฺต ราชาโน อิสิคณสฺส ทานํ ปวตฺตยึสุ. มหาสตฺโต อรฺเ วสนฺโตเยว ยถากมฺมํ คโต.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ เทวทตฺโต ปาโป ปาปปริวาโรเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา สตฺติคุมฺโพ เทวทตฺโต อโหสิ, โจรา เทวทตฺตปริสา ¶ , ราชา อานนฺโท, อิสิคณา พุทฺธปริสา, ปุปฺผกสุโว ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
สตฺติคุมฺพชาตกวณฺณนา สตฺตมา.
[๕๐๔] ๘. ภลฺลาติยชาตกวณฺณนา
ภลฺลาติโย ¶ นาม อโหสิ ราชาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มลฺลิกํ เทวึ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺสา กิร เอกทิวสํ รฺา สทฺธึ สยนํ นิสฺสาย กลโห อโหสิ. ราชา กุชฺฌิตฺวา นํ น โอโลเกสิ. สา จินฺเตสิ ‘‘นนุ ตถาคโต รฺโ มยิ กุทฺธภาวํ น ชานาตี’’ติ. สตฺถา ตํ การณํ ตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต สาวตฺถึ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา รฺโ เคหทฺวารํ คโต. ราชา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา สตฺถารํ ปาสาทํ อาโรเปตฺวา ปฏิปาฏิยา ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา ทกฺขิโณทกํ ทตฺวา ปณีเตนาหาเรน ปริวิสิตฺวา ภตฺตกิจฺจาวสาเน เอกมนฺตํ นิสีทิ. สตฺถา ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, มลฺลิกา น ปฺายตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อตฺตโน สุขมทมตฺตตายา’’ติ วุตฺเต ‘‘นนุ, มหาราช, ตฺวํ ปุพฺเพ กินฺนรโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา เอกรตฺตึ กินฺนริยา วินา หุตฺวา สตฺต วสฺสสตานิ ปริเทวมาโน วิจรี’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ ภลฺลาติโย นาม ราชา รชฺชํ กาเรนฺโต ‘‘องฺคารปกฺกมิคมํสํ ขาทิสฺสามี’’ติ รชฺชํ อมจฺจานํ นิยฺยาเทตฺวา สนฺนทฺธปฺจาวุโธ สุสิกฺขิตโกเลยฺยกสุณขคณปริวุโต นครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา อนุคงฺคํ คนฺตฺวา อุปริ อภิรุหิตุํ อสกฺโกนฺโต เอกํ คงฺคํ โอติณฺณนทึ ทิสฺวา ตทนุสาเรน คจฺฉนฺโต มิคสูกราทโย วธิตฺวา องฺคารปกฺกมํสํ ขาทนฺโต อุจฺจฏฺานํ อภิรุหิ. ตตฺถ รมณียา นทิกา ปริปุณฺณกาเล ถนปมาโณทกา หุตฺวา สนฺทติ, อฺทา ชณฺณุกปมาโณทกา โหติ. ตตฺถ นานปฺปการกา มจฺฉกจฺฉปา วิจรนฺติ. อุทกปริยนฺเต ¶ รชตปฏฺฏวณฺณวาลุกา อุโภสุ ตีเรสุ นานาปุปฺผผลภริตวินมิตา รุกฺขา ปุปฺผผลรสมตฺเตหิ นานาวิหงฺคมภมรคเณหิ สมฺปริกิณฺณา วิวิธมิคสงฺฆนิเสวิตา สีตจฺฉายา. เอวํ รมณียาย เหมวตนทิยา ตีเร ทฺเว ¶ กินฺนรา อฺมฺํ อาลิงฺคิตฺวา ปริจุมฺพิตฺวา นานปฺปกาเรหิ ปริเทวนฺตา โรทนฺติ.
ราชา ตสฺสา นทิยา ตีเรน คนฺธมาทนํ อภิรุหนฺโต เต กินฺนเร ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอเต เอวํ ปริเทวนฺติ, ปุจฺฉิสฺสามิ เน’’ติ จินฺเตตฺวา สุนเข โอโลเกตฺวา อจฺฉรํ ปหริ. สุสิกฺขิตโกเลยฺยกสุนขา ตาย สฺาย คุมฺพํ ปวิสิตฺวา อุเรน นิปชฺชึสุ. โส เตสํ ปฏิสลฺลีนภาวํ ตฺวา ธนุกลาปฺเจว เสสาวุธานิ จ รุกฺขํ นิสฺสาย เปตฺวา ปทสทฺทํ อกโรนฺโต สณิกํ เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘กึการณา ตุมฺเห โรทถา’’ติ กินฺนเร ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ภลฺลาติโย ¶ นาม อโหสิ ราชา, รฏฺํ ปหาย มิควํ อจาริ โส;
อคมา คิริวรํ คนฺธมาทนํ, สุปุปฺผิตํ กิมฺปุริสานุจิณฺณํ.
‘‘สาฬูรสงฺฆฺจ นิเสธยิตฺวา, ธนุํ กลาปฺจ โส นิกฺขิปิตฺวา;
อุปาคมิ วจนํ วตฺตุกาโม, ยตฺถฏฺิตา กิมฺปุริสา อเหสุํ.
‘‘หิมจฺจเย เหมวตาย ตีเร, กิมิธฏฺิตา มนฺตยวฺโห อภิณฺหํ;
ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.
ตตฺถ สาฬูรสงฺฆนฺติ สุนขคณํ. หิมจฺจเยติ จตุนฺนํ เหมนฺตมาสานํ อติกฺกเม. เหมวตายาติ อิมิสฺสา เหมวตาย นทิยา ตีเร.
รฺโ ¶ วจนํ สุตฺวา กินฺนโร ตุณฺหี อโหสิ, กินฺนรี ปน รฺา สทฺธึ สลฺลปิ –
‘‘มลฺลํ คิรึ ปณฺฑรกํ ติกูฏํ, สีโตทกา อนุวิจราม นชฺโช;
มิคา ¶ มนุสฺสาว นิภาสวณฺณา, ชานนฺติ โน กิมฺปุริสาติ ลุทฺทา’’ติ.
ตตฺถ มลฺลํ คิรินฺติ สมฺม ลุทฺทก, มยํ อิมํ มลฺลคิริฺจ ปณฺฑรกฺจ ติกูฏฺจ อิมา จ นชฺโช อนุวิจราม. ‘‘มาลาคิริ’’นฺติปิ ปาโ. นิภาสวณฺณาติ นิภาสมานวณฺณา, ทิสฺสมานสรีราติ อตฺโถ.
ตโต ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘สุกิจฺฉรูปํ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;
ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน โรทถ อปฺปตีตา.
‘‘สุกิจฺฉรูปํ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;
ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน วิลปถ อปฺปตีตา.
‘‘สุกิจฺฉรูปํ ¶ ปริเทวยวฺโห, อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยาย;
ปุจฺฉามิ โว มานุสเทหวณฺเณ, กิมิธ วเน โสจถ อปฺปตีตา’’ติ.
ตตฺถ สุกิจฺฉรูปนฺติ สุฏฺุ ทุกฺขปฺปตฺตา วิย หุตฺวา. อาลิงฺคิโต จาสิ ปิโย ปิยายาติ ตยา ปิยาย ตว ปิโย อาลิงฺคิโต จ อาสิ. ‘‘อาลิงฺคิโย จาสี’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. กิมิธ วเนติ กึการณา อิธ วเน อนฺตรนฺตรา อาลิงฺคิตฺวา ปริจุมฺพิตฺวา ปิยกถํ กเถตฺวา ปุน อปฺปตีตา โรทถาติ.
ตโต ¶ ปรา อุภินฺนมฺปิ อาลาปสลฺลาปคาถา โหนฺติ –
‘‘มเยกรตฺตํ วิปฺปวสิมฺห ลุทฺท, อกามกา อฺมฺํ สรนฺตา;
ตเมกรตฺตํ อนุตปฺปมานา, โสจาม ‘สา รตฺติ ปุนํ น โหสฺสติ’.
‘‘ยเมกรตฺตํ อนุตปฺปเถตํ, ธนํว นฏฺํ ปิตรํว เปตํ;
ปุจฺฉามิ ¶ โว มานุสเทหวณฺเณ, กถํ วินา วาสมกปฺปยิตฺถ.
‘‘ยมิมํ นทึ ปสฺสสิ สีฆโสตํ, นานาทุมจฺฉาทนํ เสลกูลํ;
ตํ เม ปิโย อุตฺตริ วสฺสกาเล, มมฺจ มฺํ อนุพนฺธตีติ.
‘‘อหฺจ องฺโกลกโมจินามิ, อติมุตฺตกํ สตฺตลิโยถิกฺจ;
‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.
‘‘อหฺจิทํ กุรวกโมจินามิ, อุทฺทาลกา ปาฏลิสินฺธุวารกา;
‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.
‘‘อหฺจ สาลสฺส สุปุปฺผิตสฺส, โอเจยฺย ปุปฺผานิ กโรมิ มาลํ;
‘ปิโย จ เม เหหิติ มาลภารี, อหฺจ นํ มาลินี อชฺฌุเปสฺสํ’.
‘‘อหฺจ สาลสฺส สุปุปฺผิตสฺส, โอเจยฺย ปุปฺผานิ กโรมิ ภารํ;
อิทฺจ โน เหหิติ สนฺถรตฺถํ, ยตฺถชฺชิมํ วิหริสฺสาม รตฺตึ.
‘‘อหฺจ ¶ ¶ โข อคฬุํ จนฺทนฺจ, สิลาย ปึสามิ ปมตฺตรูปา;
‘ปิโย จ เม เหหิติ โรสิตงฺโค, อหฺจ นํ โรสิตา อชฺฌุเปสฺสํ’.
‘‘อถาคมา สลิลํ สีฆโสตํ, นุทํ สาเล สลเฬ กณฺณิกาเร;
อาปูรถ ¶ เตน มุหุตฺตเกน, สายํ นที อาสิ มยา สุทุตฺตรา.
‘‘อุโภสุ ตีเรสุ มยํ ตทา ิตา, สมฺปสฺสนฺตา อุภโย อฺมฺํ;
สกิมฺปิ โรทาม สกึ หสาม, กิจฺเฉน โน อาคมา สํวรี สา.
‘‘ปาโตว โข อุคฺคเต สูริยมฺหิ, จตุกฺกํ นทึ อุตฺตริยาน ลุทฺท;
อาลิงฺคิยา อฺมฺํ มยํ อุโภ, สกิมฺปิ โรทาม สกึ หสาม.
‘‘ตีหูนกํ สตฺต สตานิ ลุทฺท, ยมิธ มยํ วิปฺปวสิมฺห ปุพฺเพ;
วสฺเสกิมํ ชีวิตํ ภูมิปาล, โก นีธ กนฺตาย วินา วเสยฺย.
‘‘อายฺุจ โว กีวตโก นุ สมฺม, สเจปิ ชานาถ วเทถ อายุํ;
อนุสฺสวา วุฑฺฒโต อาคมา วา, อกฺขาถ เมตํ อวิกมฺปมานา.
‘‘อายฺุจ โน วสฺสสหสฺสํ ลุทฺท, น จนฺตรา ปาปโก อตฺถิ โรโค;
อปฺปฺจ ทุกฺขํ สุขเมว ภิยฺโย, อวีตราคา วิชหาม ชีวิต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ มเยกรตฺตนฺติ มยํ เอกรตฺตํ. วิปฺปวสิมฺหาติ วิปฺปยุตฺตา หุตฺวา วสิมฺห. อนุตปฺปมานาติ ‘‘อนิจฺฉมานานํ โน เอกรตฺโต อตีโต’’ติ ตํ เอกรตฺตํ อนุจินฺตยมานา. ปุนํ น เหสฺสตีติ ปุน น ภวิสฺสติ นาคมิสฺสตีติ โสจาม. ธนํว นฏฺํ ปิตรํว เปตนฺติ ธนํ วา นฏฺํ ปิตรํ วา มาตรํ วาเปตํ กาลกตํ กึ นุ โข ตุมฺเห จินฺตยมานา เกน การเณน ตํ เอกรตฺตํ วินา วาสํ อกปฺปยิตฺถ, อิทํ เม อาจิกฺขถาติ ปุจฺฉติ. ยมิมนฺติ ยํ อิมํ. เสลกูลนฺติ ทฺวินฺนํ เสลานํ อนฺตเร สนฺทมานํ. วสฺสกาเลติ เอกสฺส เมฆสฺส อุฏฺาย วสฺสนกาเล ¶ . อมฺหากฺหิ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ รติวเสน จรนฺตานํ เอโก เมโฆ อุฏฺหิ. อถ เม ปิยสามิโก กินฺนโรมํ ‘‘ปจฺฉโต อาคจฺฉตี’’ติ มฺมาโน เอตํ นทึ อุตฺตรีติ อาห.
อหฺจาติ ¶ อหํ ปเนตสฺส ปรตีรํ คตภาวํ อชานนฺตี สุปุปฺผิตานิ องฺโกลกาทีนิ ปุปฺผานิ โอจินามิ. ตตฺถ สตฺตลิโยถิกฺจาติ กุนฺทาลปุปฺผฺจ สุวณฺณโยถิกฺจ โอจินนฺตี ปน ‘‘ปิโย จ เม มาลภารี ภวิสฺสติ, อหฺจ นํ มาลินี หุตฺวา อชฺฌุเปสฺส’’นฺติ อิมินา การเณน โอจินามิ. อุทฺทาลกา ปาฏลิสินฺธุวารกาติ เตปิ มยา โอจิตาเยวาติ วทติ. โอเจยฺยาติ โอจินิตฺวา. อคฬุํ จนฺทนฺจาติ กาฬาคฬฺุจ รตฺตจนฺทนฺจ. โรสิตงฺโคติ วิลิตฺตสรีโร. โรสิตาติ วิลิตฺตา หุตฺวา. อชฺฌุเปสฺสนฺติ สยเน อุปคมิสฺสามิ. นุทํ สาเล สลเฬ กณฺณิกาเรติ เอตานิ มยา โอจินิตฺวา ตีเร ปิตานิ ปุปฺผานิ นุทนฺตํ หรนฺตํ. สุทุตฺตราติ ตสฺสา หิ โอริมตีเร ิตกาเลเยว นทิยา อุทกํ อาคตํ, ตงฺขณฺเว สูริโย อตฺถงฺคโต, วิชฺชุลตา นิจฺฉรนฺติ, กินฺนรา นาม อุทกภีรุกา โหนฺติ, อิติ สา โอตริตุํ น วิสหิ. เตนาห ‘‘สายํ นที อาสิ มยา สุทุตฺตรา’’ติ.
สมฺปสฺสนฺตาติ วิชฺชุลตานิจฺฉรณกาเล ปสฺสนฺตา. โรทามาติ อนฺธการกาเล อปสฺสนฺตา โรทาม, วิชฺชุลตานิจฺฉรณกาเล ปสฺสนฺตา หสาม. สํวรีติ รตฺติ. จตุกฺกนฺติ ตุจฺฉํ. อุตฺตริยานาติ อุตฺตริตฺวา. ตีหูนกนฺติ ตีหิ อูนานิ สตฺต วสฺสสตานิ. ยมิธ มยนฺติ ยํ กาลํ อิธ มยํ วิปฺปวสิมฺห, โส อิโต ตีหิ อูนกานิ สตฺต วสฺสสตานิ โหนฺตีติ วทติ. วสฺเสกิมนฺติ วสฺสํ เอกํ อิมํ, ตุมฺหากํ เอกเมว วสฺสสตํ อิมํ ชีวิตนฺติ วทติ. โก นีธาติ เอวํ ปริตฺตเก ชีวิเต โก ¶ นุ อิธ กนฺตาย วินา ภเวยฺย, อยุตฺตํ ตว ปิยภริยาย วินา ภวิตุนฺติ ทีเปติ.
กีวตโก นูติ ราชา กินฺนริยา วจนํ สุตฺวา ‘‘อิเมสํ อายุปฺปมาณํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ กิตฺตโก อายู’’ติ ปุจฺฉติ. อนุสฺสวาติ สเจ โว กสฺสจิ วทนฺตสฺส วา สุตํ, มาตาปิตูนํ วา วุฑฺฒานํ มหลฺลกานํ สนฺติกา อาคโม อตฺถิ, อถ เม ตโต อนุสฺสวา วุฑฺฒโต อาคมา วา เอตํ อวิกมฺปมานา อกฺขาถ. น จนฺตราติ อมฺหากํ วสฺสสหสฺสํ อายุ, อนฺตรา จ โน ปาปโก ชีวิตนฺตรายกโร โรโคปิ นตฺถิ. อวีตราคาติ อฺมฺํ อวิคตเปมาว หุตฺวา.
ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อิเม หิ นาม ติรจฺฉานคตา หุตฺวา เอกรตฺตึ วิปฺปโยเคน สตฺต วสฺสสตานิ โรทนฺตา วิจรนฺติ, อหํ ปน ติโยชนสติเก รชฺเช มหาสมฺปตฺตึ ปหาย อรฺเ วิจรามิ, อโห อกิจฺจการิมฺหี’’ติ ตโตว นิวตฺโต พาราณสึ คนฺตฺวา ‘‘กึ เต, มหาราช, หิมวนฺเต ¶ อจฺฉริยํ ทิฏฺ’’นฺติ อมจฺเจหิ ¶ ปุฏฺโ สพฺพํ อาโรเจตฺวา ตโต ปฏฺาย ทานานิ ททนฺโต โภเค ภฺุชิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา –
‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, ภลฺลาติโย อิตฺตรํ ชีวิตนฺติ;
นิวตฺตถ น มิควํ อจริ, อทาสิ ทานานิ อภฺุชิ โภเค’’ติ. –
อิมํ คาถํ วตฺวา ปุน โอวทนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, สมฺโมทถ มา กลหํ อกตฺถ;
มา โว ตปี อตฺตกมฺมาปราโธ, ยถาปิ เต กิมฺปุริเสกรตฺตํ.
‘‘อิทฺจ สุตฺวาน อมานุสานํ, สมฺโมทถ มา วิวาทํ อกตฺถ;
มา โว ตปี อตฺตกมฺมาปราโธ, ยถาปิ เต กิมฺปุริเสกรตฺต’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อมานุสานนฺติ กินฺนรานํ. อตฺตกมฺมาปราโธติ อตฺตโน กมฺมโทโส. กิมฺปุริเสกรตฺตนฺติ ยถา เต กิมฺปุริเส เอกรตฺตึ กโต อตฺตโน กมฺมโทโส ตปิ, ตถา ตุมฺเหปิ มา ตปีติ อตฺโถ.
มลฺลิกา เทวี ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา อฺชลึ ปคฺคยฺห ทสพลสฺส ถุตึ กโรนฺตี โอสานคาถมาห –
‘‘วิวิธํ อธิมนา สุโณมหํ, วจนปถํ ตว อตฺถสํหิตํ;
มฺุจํ คิรํ นุทเสว เม ทรํ, สมณ สุขาวห ชีว เม จิร’’นฺติ.
ตตฺถ วิวิธํ อธิมนา สุโณมหนฺติ ภนฺเต, ตุมฺเหหิ วิวิเธหิ นานาการเณหิ อลงฺกริตฺวา เทสิตํ ธมฺมเทสนํ อหํ อธิมนา ปสนฺนจิตฺตา หุตฺวา สุโณมิ. วจนปถนฺติ ตํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ วิวิธวจนํ. มฺุจํ คิรํ นุทเสว เม ทรนฺติ กณฺณสุขํ มธุรํ คิรํ มฺุจนฺโต มม หทเย โสกทรถํ นุทสิเยว หรสิเยว. สมณ ¶ สุขาวห ชีว เม จิรนฺติ ภนฺเต พุทฺธสมณ, ทิพฺพมานุสโลกิยโลกุตฺตรสุขาวห มม สามิ ธมฺมราช, จิรํ ชีวาติ.
โกสลราชา ¶ ตโต ปฏฺาย ตาย สทฺธึ สมคฺควาสํ วสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กินฺนโร โกสลราชา อโหสิ, กินฺนรี มลฺลิกา เทวี, ภลฺลาติยราชา อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
ภลฺลาติยชาตกวณฺณนา อฏฺมา.
[๕๐๕] ๙. โสมนสฺสชาตกวณฺณนา
โก ตํ หึสติ เหเตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เทวทตฺตสฺส วธาย ปริสกฺกนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปส มม วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ กุรุรฏฺเ อุตฺตรปฺจาลนคเร เรณุ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตทา มหารกฺขิโต นาม ตาปโส ปฺจสตตาปสปริวาโร หิมวนฺเต จิรํ วสิตฺวา โลณมฺพิลเสวนตฺถาย จาริกํ จรนฺโต อุตฺตรปฺจาลนครํ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา สปริโส ปิณฺฑาย จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ. ราชา อิสิคณํ ทิสฺวา อิริยาปเถ ปสนฺโน อลงฺกตมหาตเล นิสีทาเปตฺวา ปณีเตนาหาเรน ปริวิสิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อิมํ วสฺสารตฺตํ มม อุยฺยาเนเยว วสถา’’ติ วตฺวา เตหิ สทฺธึ อุยฺยานํ คนฺตฺวา วสนฏฺานานิ กาเรตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทตฺวา วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ. ตโต ปฏฺาย สพฺเพปิ เต ราชนิเวสเน ภฺุชนฺติ. ราชา ปน อปุตฺตโก ปุตฺตํ ปตฺเถติ, ปุตฺตา นุปฺปชฺชนฺติ. วสฺสารตฺตจฺจเยน มหารกฺขิโต ‘‘อิทานิ หิมวนฺโต รมณีโย, ตตฺเถว คมิสฺสามา’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา รฺา กตสกฺการสมฺมาโน นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค มชฺฌนฺหิกสมเย มคฺคา โอกฺกมฺม เอกสฺส สนฺทจฺฉายสฺส รุกฺขสฺส เหฏฺา ตรุณติณปิฏฺเ สปริวาโร นิสีทิ.
ตาปสา กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘ราชเคเห วํสานุรกฺขิโต ปุตฺโต นตฺถิ, สาธุ วตสฺส สเจ ราชา ปุตฺตํ ลเภยฺย, ปเวณิ ฆฏีเยถา’’ติ. มหารกฺขิโต เตสํ กถํ สุตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ นุ โข รฺโ ¶ ปุตฺโต, อุทาหุ โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา เอวมาห ‘‘มา โภนฺโต จินฺตยิตฺถ, อชฺช ปจฺจูสกาเล เอโก เทวปุตฺโต จวิตฺวา รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสตี’’ติ. ตํ สุตฺวา เอโก กุฏชฏิโล ‘‘อิทานิ ราชกุลูปโก ภวิสฺสามี’’ติ ¶ จินฺเตตฺวา ตาปสานํ คมนกาเล คิลานาลยํ กตฺวา นิปชฺชิตฺวา ‘‘เอหิ คจฺฉามา’’ติ วุตฺโต ‘‘น สกฺโกมี’’ติ อาห. มหารกฺขิโต ตสฺส นิปนฺนการณํ ตฺวา ‘‘ยทา สกฺโกสิ, ตทา อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ วตฺวา อิสิคณํ อาทาย หิมวนฺตเมว คโต. กุหโกปิ นิวตฺติตฺวา เวเคนาคนฺตฺวา ราชทฺวาเร ตฺวา ‘‘มหารกฺขิตสฺส อุปฏฺากตาปโส อาคโต’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา รฺา เวเคน ปกฺโกสาปิโต ปาสาทํ อภิรุยฺห ปฺตฺตาสเน นิสีทิ. ราชา กุหกํ ตาปสํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน อิสีนํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อติขิปฺปํ นิวตฺติตฺถ, เวเคน เกนตฺเถนาคตตฺถา’’ติ อาห. ‘‘อาม, มหาราช, อิสิคโณ สุขนิสินฺโน ‘สาธุ วตสฺส, สเจ รฺโ ปเวณิปาลโก ปุตฺโต อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ กถํ สมุฏฺาเปสิ. อหํ กถํ ¶ สุตฺวา ‘‘ภวิสฺสติ นุ โข รฺโ ปุตฺโต, อุทาหุ โน’’ติ ทิพฺพจกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘มหิทฺธิโก เทวปุตฺโต จวิตฺวา อคฺคมเหสิยา สุธมฺมาย กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘อชานนฺตา คพฺภํ นาเสยฺยุํ, อาจิกฺขิสฺสามิ เนส’’นฺติ ตุมฺหากํ กถนตฺถาย อาคโต. กถิตํ เต มยา, คจฺฉามหํ, มหาราชาติ. ราชา ‘‘ภนฺเต, น สกฺกา คนฺตุ’’นฺติ หฏฺตุฏฺโ ปสนฺนจิตฺโต กุหกตาปสํ อุยฺยานํ เนตฺวา วสนฏฺานํ สํวิทหิตฺวา อทาสิ. โส ตโต ปฏฺาย ราชกุเล ภฺุชนฺโต วสติ, ‘‘ทิพฺพจกฺขุโก’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ.
ตทา โพธิสตฺโต ตาวตึสภวนา จวิตฺวา ตตฺถ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ชาตสฺส จสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘โสมนสฺสกุมาโร’’ตฺเวว นามํ กรึสุ. โส กุมารปริหาเรน วฑฺฒติ. กุหกตาปโสปิ อุยฺยานสฺส เอกสฺมึ ปสฺเส นานปฺปการํ สูเปยฺยสากฺจ วลฺลิผลานิ จ โรเปตฺวา ปณฺณิกานํ หตฺเถ วิกฺกิณนฺโต ธนํ สณฺเปสิ. โพธิสตฺตสฺส สตฺตวสฺสิกกาเล รฺโ ปจฺจนฺโต ¶ กุปฺปิ. ‘‘ทิพฺพจกฺขุตาปสํ มา ปมชฺชี’’ติ กุมารํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘ปจฺจนฺตํ วูปสเมสฺสามี’’ติ คโต. อเถกทิวสํ กุมาโร ‘‘ชฏิลํ ปสฺสิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา กูฏชฏิลํ เอกํ คณฺิกกาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ ทฺเว อุทกฆเฏ คเหตฺวา สากวตฺถุสฺมึ อุทกํ อาสิฺจนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ กูฏชฏิโล อตฺตโน สมณธมฺมํ อกตฺวา ปณฺณิกกมฺมํ กโรตี’’ติ ตฺวา ‘‘กึ กโรสิ ปณฺณิกคหปติกา’’ติ ตํ ลชฺชาเปตฺวา อวนฺทิตฺวาว นิกฺขมิ. กูฏชฏิโล ‘‘อยํ อิทาเนว เอวรูโป ปจฺจามิตฺโต, โก ชานาติ กึ กริสฺสติ, อิทาเนว นํ นาเสตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา รฺโ อาคมนกาเล ปาสาณผลกํ เอกมนฺตํ ขิปิตฺวา ปานียฆฏํ ภินฺทิตฺวา ปณฺณสาลาย ติณานิ วิกิริตฺวา สรีรํ เตเลน มกฺเขตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา สสีสํ ปารุปิตฺวา มหาทุกฺขปฺปตฺโต วิย มฺเจ นิปชฺชิ. ราชา อาคนฺตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ อปวิสิตฺวาว ‘‘มม สามิกํ ทิพฺพจกฺขุกํ ¶ ปสฺสิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อนฺโต ปวิสิตฺวา ตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ปาเท ปริมชฺชนฺโต ปมํ คาถมาห –
‘‘โก ¶ ตํ หึสติ เหเติ, กึ ทุมฺมโน โสจสิ อปฺปตีโต;
กสฺสชฺช มาตาปิตโร รุทนฺตุ, กฺวชฺช เสตุ นิหโต ปถพฺยา’’ติ.
ตตฺถ หึสตีติ ปหรติ. เหเตีติ อกฺโกสติ. กฺวชฺช เสตูติ โก อชฺช สยตุ.
ตํ สุตฺวา กูฏชฏิโล นิตฺถุนนฺโต อุฏฺาย ทุติยํ คาถมาห –
‘‘ตุฏฺโสฺมิ เทว ตว ทสฺสเนน, จิรสฺสํ ปสฺสามิ ตํ ภูมิปาล;
อหึสโก ¶ เรณุมนุปฺปวิสฺส, ปุตฺเตน เต เหยิโตสฺมิ เทวา’’ติ.
อิโต ปรา อุตฺตานสมฺพนฺธคาถา ปาฬินเยเนว เวทิตพฺพา –
‘‘อายนฺตุ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา ยนฺตุ อนฺเตปุรนฺตํ;
หนฺตฺวาน ตํ โสมนสฺสํ กุมารํ, เฉตฺวาน สีสํ วรมาหรนฺตุ.
‘‘เปสิตา ราชิโน ทูตา, กุมารํ เอตทพฺรวุํ;
อิสฺสเรน วิติณฺโณสิ, วธํ ปตฺโตสิ ขตฺติย.
‘‘ส ราชปุตฺโต ปริเทวยนฺโต, ทสงฺคุลึ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา;
อหมฺปิ อิจฺฉามิ ชนินฺท ทฏฺุํ, ชีวํ มํ เนตฺวา ปฏิทสฺสเยถ.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, รฺโ ปุตฺตํ อทสฺสยุํ;
ปุตฺโต จ ปิตรํ ทิสฺวา, ทูรโตวชฺฌภาสถ.
‘‘อาคจฺฉุํ ¶ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา หนฺตุ มมํ ชนินฺท;
อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, อปราโธ โก นิธ มมชฺช อตฺถี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อหึสโกติ อหํ กสฺสจิ อหึสโก สีลาจารสมฺปนฺโน. เรณุมนุปฺปวิสฺสาติ มหาราช เรณุ, อหํ ตว ปุตฺเตน มหาปริวาเรน อนุปวิสิตฺวา ‘‘อเร กูฏตาปส, กสฺมา ตฺวํ อิธ วสสี’’ติ วตฺวา ปาสาณผลกํ ขิปิตฺวา ฆฏํ ภินฺทิตฺวา หตฺเถหิ จ ปาเทหิ จ โกฏฺเฏนฺเตน วิเหิโตสฺมีติ เอวํ โส อภูตเมว ภูตํ วิย กตฺวา ราชานํ สทฺทหาเปสิ. อายนฺตูติ คจฺฉนฺตุ. ‘‘มม สามิมฺหิ วิปฺปฏิปนฺนกาลโต ปฏฺาย มยิปิ โส น ลชฺชิสฺสตี’’ติ กุชฺฌิตฺวา ตสฺส วธํ อาณาเปนฺโต เอวมาห. กาสาวิยาติ โจรฆาตกา. เตปิ ผรสุหตฺถา อตฺตโน วิธาเนน คจฺฉนฺตูติ วทติ. วรนฺติ วรํ สีสํ อุตฺตมสีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรนฺตุ.
ราชิโนติ ภิกฺขเว, รฺโ สนฺติกา ทูตา รฺา เปสิตา เวเคน คนฺตฺวา มาตรา อลงฺกริตฺวา อตฺตโน องฺเก นิสีทาปิตํ กุมารํ ปริวาเรตฺวา เอตทโวจุํ. อิสฺสเรนาติ รฺา. วิติณฺโณสีติ ปริจฺจตฺโตสิ. ส ราชปุตฺโตติ ภิกฺขเว, เตสํ วจนํ สุตฺวา มรณภยตชฺชิโต มาตุ องฺกโต อุฏฺาย โส ราชปุตฺโต ¶ . ปฏิทสฺสเยถาติ ทสฺเสถ. ตสฺสาติ ภิกฺขเว, เต ทูตา กุมารสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา มาเรตุํ อวิสหนฺตา โคณํ วิย นํ รชฺชุยา ปริกฑฺฒนฺตา เนตฺวา รฺโ ทสฺสยุํ. กุมาเร ปน นียมาเน ทาสิคณปริวุตา สทฺธึ โอโรเธหิ สุธมฺมาปิ เทวี นาคราปิ ‘‘มยํ นิรปราธํ กุมารํ มาเรตุํ น ทสฺสามา’’ติ เตน สทฺธึเยว อคมํสุ. อาคจฺฉุนฺติ ตุมฺหากํ อาณาย มม สนฺติกํ อาคมึสุ. หนฺตุํ มมนฺติ มํ มาเรตุํ. โก นีธาติ โก นุ อิธ มม อปราโธ, เยน มํ ตฺวํ มาเรสีติ ปุจฺฉิ.
ราชา ‘‘ภวคฺคํ อตินีจํ, ตว โทโส อติมหนฺโต’’ติ ตสฺส โทสํ กเถนฺโต คาถมาห –
‘‘สายฺจ ¶ ปาโต อุทกํ สชาติ, อคฺคึ สทา ปาริจรตปฺปมตฺโต;
ตํ ตาทิสํ สํยตํ พฺรหฺมจารึ, กสฺมา ตุวํ พฺรูสิ คหปฺปตี’’ติ.
ตตฺถ อุทกํ สชาตีติ อุทโกโรหณกมฺมํ กโรติ. ตํ ตาทิสนฺติ ตํ ตถารูปํ มม สามึ ทิพฺพจกฺขุตาปสํ กสฺมา ตฺวํ คหปติวาเทน สมุทาจรสีติ วทติ.
ตโต กุมาโร ‘‘เทว, มยฺหํ คหปติฺเว ‘คหปตี’ติ วทนฺตสฺส โก โทโส’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘ตาลา ¶ จ มูลา จ ผลา จ เทว, ปริคฺคหา วิวิธา สนฺติมสฺส;
เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโต, ตสฺมา อหํ พฺรูมิ คหปฺปตี’’ติ.
ตตฺถ มูลาติ มูลกาทิมูลานิ. ผลาติ นานาวิธานิ วลฺลิผลานิ. เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโตติ เต เอส ตว กุลูปกตาปโส ปณฺณิกกมฺมํ กโรนฺโต นิสีทิตฺวา รกฺขติ, วตึ กตฺวา โคปยติ อปฺปมตฺโต, เตน การเณน โส ตว พฺราหฺมโณ คหปติ นาม โหติ.
อิติ นํ อหมฺปิ ‘‘คหปตี’’ติ กเถสึ. สเจ น สทฺทหสิ, จตูสุ ทฺวาเรสุ ปณฺณิเก ปุจฺฉาเปหีติ. ราชา ปุจฺฉาเปสิ. เต ¶ ‘‘อาม, มยํ อิมสฺส หตฺถโต ปณฺณฺจ ผลาผลานิ จ กิณามา’’ติ อาหํสุ. ปณฺณวตฺถุมฺปิ อุปธาราเปตฺวา ปจฺจกฺขมกาสิ. ปณฺณสาลมฺปิสฺส ปวิสิตฺวา กุมารสฺส ปุริสา ปณฺณวิกฺกยลทฺธํ กหาปณมาสกภณฺฑิกํ นีหริตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. ราชา มหาสตฺตสฺส นิทฺโทสภาวํ ตฺวา คาถมาห –
‘‘สจฺจํ โข เอตํ วทสิ กุมาร, ปริคฺคหา วิวิธา สนฺติมสฺส;
เต รกฺขติ โคปยตปฺปมตฺโต, ส พฺราหฺมโณ คหปติ เตน โหตี’’ติ.
ตโต มหาสตฺโต จินฺเตสิ ‘‘เอวรูปสฺส พาลสฺส รฺโ สนฺติเก วาสโต หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตุํ วรํ, ปริสมชฺเฌเยวสฺส โทสํ อาวิกตฺวา ¶ อาปุจฺฉิตฺวา อชฺเชว นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ปริสาย นมกฺการํ กตฺวา คาถมาห –
‘‘สุณนฺตุ มยฺหํ ปริสา สมาคตา, สเนคมา ชานปทา จ สพฺเพ;
พาลายํ พาลสฺส วโจ นิสมฺม, อเหตุนา ฆาตยเต มํ ชนินฺโท’’ติ.
ตตฺถ พาลายํ พาลสฺสาติ อยํ ราชา สยํ พาโล อิมสฺส พาลสฺส กูฏชฏิลสฺส วจนํ สุตฺวา อเหตุนาว มํ ฆาตยเตติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา ปิตรํ วนฺทิตฺวา อตฺตานํ ปพฺพชฺชาย อนุชานาเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘ทฬฺหสฺมิ มูเล วิสเฏ วิรูฬฺเห, ทุนฺนิกฺกโย เวฬุ ปสาขชาโต;
วนฺทามิ ปาทานิ ตว ชนินฺท, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวา’’ติ.
ตตฺถ ¶ วิสเฏติ วิสาเล มหนฺเต ชาเต. ทุนฺนิกฺกโยติ ทุนฺนิกฺกฑฺฒิโย.
ตโต ¶ ปรา รฺโ จ ปุตฺตสฺส จ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –
‘‘ภฺุชสฺสุ โภเค วิปุเล กุมาร, สพฺพฺจ เต อิสฺสริยํ ททามิ;
อชฺเชว ตฺวํ กุรูนํ โหหิ ราชา, มา ปพฺพชี ปพฺพชฺชา หิ ทุกฺขา.
‘‘กินฺนูธ เทว ตวมตฺถิ โภคา, ปุพฺเพวหํ เทวโลเก รมิสฺสํ;
รูเปหิ สทฺเทหิ อโถ รเสหิ, คนฺเธหิ ผสฺเสหิ มโนรเมหิ.
‘‘ภุตฺตา ¶ จ เม โภคา ติทิวสฺมึ เทว, ปริวาริโต อจฺฉรานํ คเณน;
ตุวฺจ พาลํ ปรเนยฺยํ วิทิตฺวา, น ตาทิเส ราชกุเล วเสยฺยํ.
‘‘สจาหํ พาโล ปรเนยฺโย อสฺมิ, เอกาปราธํ ขม ปุตฺต มยฺหํ;
ปุนปิ เจ เอทิสกํ ภเวยฺย, ยถามตึ โสมนสฺส กโรหี’’ติ.
ตตฺถ ทุกฺขาติ ตาต, ปพฺพชฺชา นาม ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ทุกฺขา, มา ปพฺพชิ, ราชา โหหีติ ตํ ยาจิ. กินฺนูธ เทวาติ เทว, เย ตว โภคา, เตสุ กึ นาม ภฺุชิตพฺพํ อตฺถิ. ปริวาริโตติ ปริจาริโต, อยเมว วา ปาโ. ตสฺส กิร ชาติสฺสราณํ อุปฺปชฺชิ, ตสฺมา เอวมาห. ปรเนยฺยนฺติ อนฺธํ วิย ยฏฺิยา ปเรน เนตพฺพํ. ตาทิเสติ ตาทิสสฺส รฺโ สนฺติเก น ปณฺฑิเตน วสิตพฺพํ, มยา อตฺตโน าณพเลน อชฺช ชีวิตํ ลทฺธํ, นาหํ ตว สนฺติเก วสิสฺสามีติ าเปตุํ เอวมาห. ยถามตินฺติ สเจ ปุน มยฺหํ เอวรูโป โทโส โหติ, อถ ตฺวํ ยถาอชฺฌาสยํ กโรหีติ ปุตฺตํ ขมาเปสิ.
มหาสตฺโต ราชานํ โอวทนฺโต อฏฺ คาถา อภาสิ –
‘‘อนิสมฺม ¶ กตํ กมฺมํ, อนวตฺถาย จินฺติตํ;
เภสชฺชสฺเสว เวภงฺโค, วิปาโก โหติ ปาปโก.
‘‘นิสมฺม ¶ จ กตํ กมฺมํ, สมฺมาวตฺถาย จินฺติตํ;
เภสชฺชสฺเสว สมฺปตฺติ, วิปาโก โหติ ภทฺรโก.
‘‘อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ, อสฺโต ปพฺพชิโต น สาธุ;
ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี, โย ปณฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.
‘‘นิสมฺม ¶ ขตฺติโย กยิรา, นานิสมฺม ทิสมฺปติ;
นิสมฺมการิโน ราช, ยโส กิตฺติ จ วฑฺฒติ.
‘‘นิสมฺม ทณฺฑํ ปณเยยฺย อิสฺสโร, เวคา กตํ ตปฺปติ ภูมิปาล;
สมฺมาปณีธี จ นรสฺส อตฺถา, อนานุตปฺปา เต ภวนฺติ ปจฺฉา.
‘‘อนานุตปฺปานิ หิ เย กโรนฺติ, วิภชฺช กมฺมายตนานิ โลเก;
วิฺุปฺปสตฺถานิ สุขุทฺรยานิ, ภวนฺติ พุทฺธานุมตานิ ตานิ.
‘‘อาคจฺฉุํ โทวาริกา ขคฺคพนฺธา, กาสาวิยา หนฺตุ มมํ ชนินฺท;
มาตฺุจ องฺกสฺมิมหํ นิสินฺโน, อากฑฺฒิโต สหสา เตหิ เทว.
‘‘กฏุกฺหิ สมฺพาธํ สุกิจฺฉํ ปตฺโต, มธุรมฺปิ ยํ ชีวิตํ ลทฺธ ราช;
กิจฺเฉนหํ อชฺช วธา ปมุตฺโต, ปพฺพชฺชเมวาภิมโนหมสฺมี’’ติ.
ตตฺถ ¶ อนิสมฺมาติ อโนโลเกตฺวา อนุปธาเรตฺวา. อนวตฺถาย จินฺติตนฺติ อนวตฺถเปตฺวา อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา จินฺติตํ. วิปาโก โหติ ปาปโกติ ตสฺส หิ ยถา นาม เภสชฺชสฺส เวภงฺโค วิปตฺติ, เอวเมวํ วิปาโก โหติ ปาปโก. อสฺโตติ กายาทีหิ อสฺโต ทุสฺสีโล. ตํ น สาธูติ ตํ ตสฺส โกธนํ น สาธุ. นานิสมฺมาติ อนิสาเมตฺวา กิฺจิ กมฺมํ น กเรยฺย. ปณเยยฺยาติ ปฏฺเปยฺย ปวตฺเตยฺย. เวคาติ เวเคน สหสา. สมฺมาปณีธี จาติ โยนิโส ปิเตน จิตฺเตน กตา นรสฺส อตฺถา ปจฺฉา อนานุตปฺปา ภวนฺตีติ อตฺโถ. วิภชฺชาติ ‘‘อิมานิ กาตุํ ยุตฺตานิ, อิมานิ อยุตฺตานี’’ติ เอวํ ปฺาย วิภชิตฺวา. กมฺมายตนานีติ กมฺมานิ. พุทฺธานุมตานีติ ปณฺฑิเตหิ อนุมตานิ อนวชฺชานิ โหนฺติ. กฏุกนฺติ ¶ เทว ¶ , กฏุกํ สมฺพาธํ สุกิจฺฉํ มรณภยํ ปตฺโตมฺหิ. ลทฺธาติ อตฺตโน าณพเลน ลภิตฺวา. ปพฺพชฺชเมวาภิมโนหมสฺมีติ ปพฺพชฺชาภิมุขจิตฺโตเยวสฺมิ.
เอวํ มหาสตฺเตน ธมฺเม เทสิเต ราชา เทวึ อามนฺเตตฺวา คาถมาห –
‘‘ปุตฺโต ตวายํ ตรุโณ สุธมฺเม, อนุกมฺปโก โสมนสฺโส กุมาโร;
ตํ ยาจมาโน น ลภามิ สฺวชฺช, อรหสิ นํ ยาจิตเว ตุวมฺปี’’ติ.
ตตฺถ ยาจิตเวติ ยาจิตุํ.
สา ปพฺพชฺชายเมว อุโยเชนฺตี คาถมาห –
‘‘รมสฺสุ ภิกฺขาจริยาย ปุตฺต, นิสมฺม ธมฺเมสุ ปริพฺพชสฺสุ;
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ าน’’นฺติ.
ตตฺถ นิสมฺมาติ ปพฺพชนฺโต จ นิสาเมตฺวา มิจฺฉาทิฏฺิกานํ ปพฺพชฺชํ ปหาย สมฺมาทิฏฺิยุตฺตํ นิยฺยานิกปพฺพชฺชํ ปพฺพช.
อถ ราชา คาถมาห –
‘‘อจฺเฉรรูปํ วต ยาทิสฺจ, ทุกฺขิตํ มํ ทุกฺขาปยเส สุธมฺเม;
ยาจสฺสุ ¶ ปุตฺตํ อิติ วุจฺจมานา, ภิยฺโยว อุสฺสาหยเส กุมาร’’นฺติ.
ตตฺถ ยาทิสฺจาติ ยาทิสํ อิทํ ตฺวํ วเทสิ, ตํ อจฺฉริยรูปํ วต. ทุกฺขิตนฺติ ปกติยาปิ มํ ทุกฺขิตํ ภิยฺโย ทุกฺขาปยสิ.
ปุน เทวี คาถมาห –
‘‘เย ¶ วิปฺปมุตฺตา อนวชฺชโภคิโน, ปรินิพฺพุตา โลกมิมํ จรนฺติ;
ตมริยมคฺคํ ปฏิปชฺชมานํ, น อุสฺสเห วารยิตุํ กุมาร’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ วิปฺปมุตฺตาติ ราคาทีหิ วิปฺปมุตฺตา. ปรินิพฺพุตาติ กิเลสปรินิพฺพาเนน นิพฺพุตา. ตมริยมคฺคนฺติ ตํ เตสํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ สนฺตกํ มคฺคํ ปฏิปชฺชมานํ มม ปุตฺตํ วาเรตุํ น อุสฺสหามิ เทวาติ.
ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ราชา โอสานคาถมาห –
‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;
เยสายํ สุตฺวาน สุภาสิตานิ, อปฺโปสฺสุกฺกา วีตโสกา สุธมฺมา’’ติ.
ตตฺถ พหุานจินฺติโนติ พหุการณจินฺติโน. เยสายนฺติ เยสํ อยํ. โสมนสฺสกุมารสฺเสว หิ สา สุภาสิตํ สุตฺวา อปฺโปสฺสุกฺกา ชาตา, ราชาปิ ตเทว สนฺธายาห.
มหาสตฺโต มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ‘‘สเจ มยฺหํ โทโส อตฺถิ, ขมถา’’ติ มหาชนสฺส อฺชลึ กตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข คนฺตฺวา มนุสฺเสสุ นิวตฺเตสุ มนุสฺสวณฺเณนาคนฺตฺวา เทวตาหิ สตฺต ปพฺพตราชิโย อติกฺกมิตฺวา หิมวนฺตํ นีโต วิสฺสกมฺมุนา นิมฺมิตาย ปณฺณสาลาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิ. ตํ ตตฺถ ยาว โสฬสวสฺสกาลา ราชกุลปริจาริกเวเสน เทวตาเยว อุปฏฺหึสุ. กูฏชฏิลมฺปิ มหาชโน โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. มหาสตฺโต ฌานาภิฺํ นิพฺพตฺเตตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพเปส มยฺหํ วธาย ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กุหโก เทวทตฺโต อโหสิ, มาตา มหามายา, มหารกฺขิโต สาริปุตฺโต, โสมนสฺสกุมาโร ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
โสมนสฺสชาตกวณฺณนา นวมา.
[๕๐๖] ๑๐. จมฺเปยฺยชาตกวณฺณนา
กา ¶ นุ วิชฺชุริวาภาสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘สาธุ โว กตํ อุปาสกา อุโปสถวาสํ วสนฺเตหิ, โปราณกปณฺฑิตา นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ วสึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ องฺครฏฺเ องฺเค จ มคธรฏฺเ มคเธ จ รชฺชํ กาเรนฺเต องฺคมคธรฏฺานํ อนฺตเร จมฺปา นาม นที, ตตฺถ นาคภวนํ อโหสิ. จมฺเปยฺโย นาม นาคราชา รชฺชํ กาเรสิ. กทาจิ มคธราชา องฺครฏฺํ คณฺหาติ, กทาจิ องฺคราชา มคธรฏฺํ. อเถกทิวสํ มคธราชา องฺเคน สทฺธึ ยุชฺฌิตฺวา ยุทฺธปราชิโต อสฺสํ อารุยฺห ปลายนฺโต องฺครฺโ โยเธหิ อนุพทฺโธ ปุณฺณํ จมฺปานทึ ปตฺวา ‘‘ปรหตฺเถ มรณโต นทึ ปวิสิตฺวา มตํ เสยฺโย’’ติ อสฺเสเนว สทฺธึ นทึ โอตริ. ตทา จมฺเปยฺโย นาคราชา อนฺโตทเก รตนมณฺฑปํ นิมฺมินิตฺวา มหาปริวาโร มหาปานํ ปิวติ. อสฺโส รฺา สทฺธึ อุทเก นิมุชฺชิตฺวา นาครฺโ ปุรโต โอตริ. นาคราชา อลงฺกตปฏิยตฺตํ ราชานํ ทิสฺวา สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา อาสนา อุฏฺาย ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ ราชานํ อตฺตโน ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา อุทเก นิมุคฺคการณํ ปุจฺฉิ. ราชา ยถาภูตํ กเถสิ. อถ นํ ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ ตํ ทฺวินฺนํ รฏฺานํ สามิกํ กริสฺสามี’’ติ อสฺสาเสตฺวา สตฺตาหํ มหนฺตํ ยสํ อนุภวิตฺวา สตฺตเม ทิวเส มคธราเชน สทฺธึ นาคภวนา นิกฺขมิ. มคธราชา นาคราชสฺสานุภาเวน องฺคราชานํ คเหตฺวา ชีวิตา โวโรเปตฺวา ทฺวีสุ รฏฺเสุ รชฺชํ กาเรสิ. ตโต ปฏฺาย รฺโ จ นาคราชสฺส จ วิสฺสาโส ถิโร อโหสิ. ราชา อนุสํวจฺฉรํ จมฺปานทีตีเร ¶ รตนมณฺฑปํ กาเรตฺวา มหนฺเตน ปริจฺจาเคน นาครฺโ พลิกมฺมํ กโรติ. โสปิ มหนฺเตน ปริวาเรน นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา พลิกมฺมํ สมฺปฏิจฺฉติ. มหาชโน นาครฺโ สมฺปตฺตึ โอโลเกติ.
ตทา โพธิสตฺโต ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺโต ราชปริสาย สทฺธึ นทีตีรํ คนฺตฺวา ตํ นาคราชสฺส สมฺปตฺตึ ทิสฺวา โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปตฺถยมาโน ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา จมฺเปยฺยนาคราชสฺส กาลกิริยโต สตฺตเม ทิวเส จวิตฺวา ตสฺส วสนปาสาเท สิริคพฺเภ สิริสยนปิฏฺเ นิพฺพตฺติ ¶ . สรีรํ สุมนทามวณฺณํ มหนฺตํ อโหสิ. โส ตํ ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘มยา กตกุสลนิสฺสนฺเทน ฉสุ กามสคฺเคสุ อิสฺสริยํ โกฏฺเ ปฏิสามิตํ ธฺํ วิย อโหสิ. สฺวาหํ อิมิสฺสา ติรจฺฉานโยนิยา ปฏิสนฺธึ คณฺหึ, กึ เม ชีวิเตนา’’ติ มรณาย จิตฺตํ อุปฺปาเทสิ. อถ นํ สุมนา นาม นาคมาณวิกา ทิสฺวา ‘‘มหานุภาโว สตฺโต นิพฺพตฺโต ภวิสฺสตี’’ติ เสสนาคมาณวิกานํ สฺํ อทาสิ, สพฺพา นานาตูริยหตฺถา อาคนฺตฺวา ตสฺส อุปหารํ กรึสุ. ตสฺส ตํ นาคภวนํ สกฺกภวนํ วิย อโหสิ, มรณจิตฺตํ ปฏิปฺปสฺสมฺภิ, สปฺปสรีรํ วิชหิตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต สยนปิฏฺเ นิสีทิ. อถสฺส ตโต ปฏฺาย ยโส มหา อโหสิ.
โส ตตฺถ นาครชฺชํ กาเรนฺโต อปรภาเค วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘กึ เม อิมาย ติรจฺฉานโยนิยา ¶ , อุโปสถวาสํ วสิตฺวา อิโต มุจฺจิตฺวา มนุสฺสปถํ คนฺตฺวา สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย ตสฺมึเยว ปาสาเท อุโปสถกมฺมํ กโรติ. อลงฺกตนาคมาณวิกา ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉนฺติ, เยภุยฺเยนสฺส สีลํ ภิชฺชติ. โส ตโต ปฏฺาย ปาสาทา นิกฺขมิตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉติ. ตา ตตฺราปิ คจฺฉนฺติ, อุโปสโถ ภิชฺชเตว. โส จินฺเตสิ ‘‘มยา อิโต นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถวาสํ วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ¶ อุโปสถทิวเสสุ นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา เอกสฺส ปจฺจนฺตคามสฺส อวิทูเร มหามคฺคสมีเป วมฺมิกมตฺถเก ‘‘มม จมฺมาทีหิ อตฺถิกา คณฺหนฺตุ, มํ กีฬาสปฺปํ วา กาตุกามา กโรนฺตู’’ติ สรีรํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา โภเค อาภุชิตฺวา นิปนฺโน อุโปสถวาสํ วสติ. มหามคฺเคน คจฺฉนฺตา จ อาคจฺฉนฺตา จ ตํ ทิสฺวา คนฺธาทีหิ ปูเชตฺวา ปกฺกมนฺติ. ปจฺจนฺตคามวาสิโน คนฺตฺวา ‘‘มหานุภาโว นาคราชา’’ติ ตสฺส อุปริ มณฺฑปํ กริตฺวา สมนฺตา วาลุกํ โอกิริตฺวา คนฺธาทีหิ ปูชยึสุ. ตโต ปฏฺาย มนุสฺสา มหาสตฺเต ปสีทิตฺวา ปูชํ กตฺวา ปุตฺตํ ปตฺเถนฺติ, ธีตรํ ปตฺเถนฺติ.
มหาสตฺโตปิ อุโปสถกมฺมํ กโรนฺโต จาตุทฺทสีปนฺนรสีสุ วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิตฺวา ปาฏิปเท นาคภวนํ คจฺฉติ. ตสฺเสวํ อุโปสถํ กโรนฺตสฺส อทฺธา วีติวตฺโต. เอกทิวสํ สุมนา อคฺคมเหสี อาห ‘‘เทว ¶ , ตฺวํ มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา อุโปสถํ อุปวสสิ, มนุสฺสโลโก จ สาสงฺโก สปฺปฏิภโย, สเจ เต ภยํ อุปฺปชฺเชยฺย, อถ มยํ เยน นิมิตฺเตน ชาเนยฺยาม, ตํ โน อาจิกฺขาหี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต มงฺคลโปกฺขรณิยา ตีรํ เนตฺวา ‘‘สเจ มํ ภทฺเท, โกจิ ปหริตฺวา กิลเมสฺสติ, อิมิสฺสา โปกฺขรณิยา อุทกํ อาวิลํ ภวิสฺสติ, สเจ สุปณฺโณ คเหสฺสติ, อุทกํ ปกฺกุถิสฺสติ, สเจ อหิตุณฺฑิโก คณฺหิสฺสติ, อุทกํ โลหิตวณฺณํ ภวิสฺสตี’’ติ อาห. เอวํ ตสฺสา ตีณิ นิมิตฺตานิ อาจิกฺขิตฺวา จาตุทฺทสีอุโปสถํ อธิฏฺาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิ สรีรโสภาย วมฺมิกํ โสภยมาโน. สรีรฺหิสฺส รชตทามํ วิย เสตํ อโหสิ มตฺถโก รตฺตกมฺพลเคณฺฑุโก วิย. อิมสฺมึ ปน ชาตเก โพธิสตฺตสฺส สรีรํ นงฺคลสีสปมาณํ อโหสิ, ภูริทตฺตชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๗๘๔ อาทโย) อูรุปฺปมาณํ, สงฺขปาลชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑๔๓ อาทโย) เอกโทณิกนาวปมาณํ.
ตทา เอโก พาราณสิวาสี มาณโว ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก อลมฺปายนมนฺตํ ¶ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน มคฺเคน อตฺตโน เคหํ คจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ สปฺปํ คเหตฺวา คามนิคมราชธานีสุ กีฬาเปนฺโต ธนํ อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทิพฺโพสธานิ ¶ คเหตฺวา ทิพฺพมนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ทิพฺพมนฺตสุตกาลโต ปฏฺาย มหาสตฺตสฺส กณฺเณสุ อยสลากปเวสนกาโล วิย ชาโต, มตฺถโก สิขเรน อภิมตฺถิยมาโน วิย ชาโต. โส ‘‘โก นุ โข เอโส’’ติ โภคนฺตรโต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา โอโลเกนฺโต อหิตุณฺฑิกํ ทิสฺวา จินฺเตสิ ‘‘มม วิสํ มหนฺตํ, สจาหํ กุชฺฌิตฺวา นาสวาตํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, เอตสฺส สรีรํ ภสฺมมุฏฺิ วิย วิปฺปกิริสฺสติ, อถ เม สีลํ ขณฺฑํ ภวิสฺสติ, น ทานิ ตํ โอโลเกสฺสามี’’ติ. โส อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวา สีสํ โภคนฺตเร เปสิ.
อหิตุณฺฑิโก ¶ พฺราหฺมโณ โอสธํ ขาทิตฺวา มนฺตํ ปริวตฺเตตฺวา เขฬํ มหาสตฺตสฺส สรีเร โอปิ, โอสธานฺจ มนฺตสฺส จานุภาเวน เขเฬน ผุฏฺผุฏฺฏฺาเน โผฏานํ อุฏฺานกาโล วิย ชาโต. อถ นํ โส นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา กฑฺฒิตฺวา ทีฆโส นิปชฺชาเปตฺวา อชปเทน ทณฺเฑน อุปฺปีเฬนฺโต ทุพฺพลํ กตฺวา สีสํ ทฬฺหํ คเหตฺวา นิปฺปีฬิ, มหาสตฺตสฺส มุขํ วิวริ. อถสฺส มุเข เขฬํ โอปิตฺวา โอสธมนฺตํ กตฺวา ทนฺเต ภินฺทิ, มุขํ โลหิตสฺส ปูริ. มหาสตฺโต อตฺตโน สีลเภทภเยน เอวรูปํ ทุกฺขํ อธิวาเสนฺโต อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกนมตฺตมฺปิ นากริ. โสปิ ‘‘นาคราชานํ ทุพฺพลํ กริสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺโต ปฏฺายสฺส อฏฺีนิ จุณฺณยมาโน วิย สกลสรีรํ มทฺทิตฺวา ปฏฺฏกเวนํ นาม เวเสิ, ตนฺตมชฺชิตํ นาม มชฺชิ, นงฺคุฏฺํ คเหตฺวา ทุสฺสโปถิมํ นาม โปเถสิ. มหาสตฺตสฺส สกลสรีรํ โลหิตมกฺขิตํ อโหสิ. โส มหาเวทนํ อธิวาเสสิ.
อถสฺส ทุพฺพลภาวํ ตฺวา วลฺลีหิ เปฬํ ¶ กริตฺวา ตตฺถ นํ ปกฺขิปิตฺวา ปจฺจนฺตคามํ เนตฺวา มหาชนมชฺเฌ กีฬาเปสิ. นีลาทีสุ วณฺเณสุ วฏฺฏจตุรสฺสาทีสุ สณฺาเนสุ อณุํถูลาทีสุ ปมาเณสุ ยํ ยํ พฺราหฺมโณ อิจฺฉติ, มหาสตฺโต ตํตเทว กตฺวา นจฺจติ, ผณสตํ ผณสหสฺสมฺปิ กโรติเยว. มหาชโน ปสีทิตฺวา พหุํ ธนํ อทาสิ. เอกทิวสเมว กหาปณสหสฺสฺเจว สหสฺสคฺฆนเก จ ปริกฺขาเร ลภิ. พฺราหฺมโณ อาทิโตว สหสฺสํ ลภิตฺวา ‘‘วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ, ตํ ปน ธนํ ลภิตฺวา ‘‘ปจฺจนฺตคาเมเยว ตาว เม เอตฺตกํ ธนํ ลทฺธํ, ราชราชมหามจฺจานํ สนฺติเก พหุํ ธนํ ลภิสฺสามี’’ติ สกฏฺจ สุขยานกฺจ คเหตฺวา สกเฏ ปริกฺขาเร เปตฺวา สุขยานเก นิสินฺโน มหนฺเตน ปริวาเรน มหาสตฺตํ คามนิคมาทีสุ กีฬาเปนฺโต ‘‘พาราณสิยํ อุคฺคเสนรฺโ สนฺติเก กีฬาเปตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ อคมาสิ. โส มณฺฑูเก มาเรตฺวา นาครฺโ เทติ. นาคราชา ‘‘ปุนปฺปุนํ เอส มํ นิสฺสาย มาเรสฺสตี’’ติ น ขาทติ. อถสฺส มธุลาเช อทาสิ. มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ โภชนํ ¶ คณฺหิสฺสามิ, อนฺโตเปฬาย เอว มรณํ ภวิสฺสตี’’ติ เตปิ น ขาทติ. พฺราหฺมโณ มาสมตฺเตน พาราณสึ ปตฺวา ทฺวารคาเมสุ กีฬาเปนฺโต พหุํ ธนํ ลภิ.
ราชาปิ ¶ นํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อมฺหากํ กีฬาเปหี’’ติ อาห. ‘‘สาธุ, เทว, สฺเว ปนฺนรเส ตุมฺหากํ กีฬาเปสฺสามี’’ติ. ราชา ‘‘สฺเว นาคราชา ราชงฺคเณ นจฺจิสฺสติ, มหาชโน สนฺนิปติตฺวา ปสฺสตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา ปุนทิวเส ราชงฺคณํ อลงฺการาเปตฺวา พฺราหฺมณํ ปกฺโกสาเปสิ. โส รตนเปฬาย มหาสตฺตํ เนตฺวา วิจิตฺตตฺถเร เปฬํ เปตฺวา นิสีทิ. ราชาปิ ปาสาทา โอรุยฺห มหาชนปริวุโต ราชาสเน นิสีทิ. พฺราหฺมโณ มหาสตฺตํ นีหริตฺวา นจฺจาเปสิ. มหาชโน สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต เจลุกฺเขปสหสฺสํ ปวตฺเตติ. โพธิสตฺตสฺส อุปริ สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสติ. ตสฺส คหิตสฺส มาโส สมฺปูริ. เอตฺตกํ กาลํ นิราหาโรว อโหสิ. สุมนา ¶ ‘‘อติจิรายติ เม ปิยสามิโก, อิทานิสฺส อิธ อนาคจฺฉนฺตสฺส มาโส สมฺปุณฺโณ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ คนฺตฺวา โปกฺขรณึ โอโลเกนฺตี โลหิตวณฺณํ อุทกํ ทิสฺวา ‘‘อหิตุณฺฑิเกน คหิโต ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา วมฺมิกสนฺติกํ คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส คหิตฏฺานฺจ กิลมิตฏฺานฺจ ทิสฺวา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา ปจฺจนฺตคามํ คนฺตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ราชงฺคเณ ปริสมชฺเฌ อากาเส โรทมานา อฏฺาสิ. มหาสตฺโต นจฺจนฺโตว อากาสํ โอโลเกตฺวา ตํ ทิสฺวา ลชฺชิโต เปฬํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. ราชา ตสฺส เปฬํ ปวิฏฺกาเล ‘‘กึ นุ โข การณ’’นฺติ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ตํ อากาเส ิตํ ทิสฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘กา นุ วิชฺชุริวาภาสิ, โอสธี วิย ตารกา;
เทวตา นุสิ คนฺธพฺพี, น ตํ มฺามี มานุสิ’’นฺติ.
ตตฺถ น ตํ มฺามิ มานุสินฺติ อหํ ตํ มานุสีติ น มฺามิ, ตยา เอกาย เทวตาย คนฺธพฺพิยา วา ภวิตุํ วฏฺฏตีติ วทติ.
อิทานิ เตสํ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –
‘‘นมฺหิ เทวี น คนฺธพฺพี, น มหาราช มานุสี;
นาคกฺาสฺมิ ภทฺทนฺเต, อตฺเถนมฺหิ อิธาคตา.
‘‘วิพฺภนฺตจิตฺตา ¶ ¶ กุปิตินฺทฺริยาสิ, เนตฺเตหิ เต วาริคณา สวนฺติ;
กึ เต นฏฺํ กึ ปน ปตฺถยานา, อิธาคตา นาริ ตทิงฺฆ พฺรูหิ.
‘‘ยมุคฺคเตโช อุรโคติ จาหุ, นาโคติ นํ อาหุ ชนา ชนินฺท;
ตมคฺคหี ปุริโส ชีวิกตฺโถ, ตํ พนฺธนา มฺุจ ปตี มเมโส.
‘‘กถํ นฺวยํ พลวิริยูปปนฺโน, หตฺถตฺตมาคจฺฉิ วนิพฺพกสฺส;
อกฺขาหิ เม นาคกฺเ ตมตฺถํ, กถํ วิชาเนมุ คหีตนาคํ.
‘‘นครมฺปิ ¶ นาโค ภสฺมํ กเรยฺย, ตถา หิ โส พลวิริยูปปนฺโน;
ธมฺมฺจ นาโค อปจายมาโน, ตสฺมา ปรกฺกมฺม ตโป กโรตี’’ติ.
ตตฺถ อตฺเถนมฺหีติ อหํ เอกํ การณํ ปฏิจฺจ อิธาคตา. กุปิตินฺทฺริยาติ กิลนฺตินฺทฺริยา. วาริคณาติ อสฺสุพินฺทุฆฏา. อุรโคติ จาหูติ อุรโคติ จายํ มหาชโน กเถสิ. ตมคฺคหี ปุริโสติ อยํ ปุริโส ตํ นาคราชานํ ชีวิกตฺถาย อคฺคเหสิ. วนิพฺพกสฺสาติ อิมสฺส วนิพฺพกสฺส กถํ นุ เอส มหานุภาโว สมาโน หตฺถตฺตํ อาคโตติ ปุจฺฉติ. ธมฺมฺจาติ ปฺจสีลธมฺมํ อุโปสถวาสธมฺมฺจ ครุํ กโรนฺโต วิหรติ, ตสฺมา อิมินา ปุริเสน คหิโตปิ ‘‘สจาหํ อิมสฺส อุปริ นาสวาตํ วิสฺสชฺเชสฺสามิ, ภสฺมมุฏฺิ วิย วิกิริสฺสติ, เอวํ เม สีลํ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ สีลเภทภยา ปรกฺกมฺม ตํ ทุกฺขํ อธิวาเสตฺวา ตโป กโรติ, วีริยเมว กโรตีติ อาห.
ราชา ‘‘กหํ ปเนโส อิมินา คหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส สา อาจิกฺขนฺตี คาถมาห –
‘‘จาตุทฺทสึ ¶ ปฺจทสิฺจ ราช, จตุปฺปเถ สมฺมติ นาคราชา;
ตมคฺคหี ปุริโส ชีวิกตฺโถ, ตํ พนฺธนา มฺุจ ปตี มเมโส’’ติ.
ตตฺถ จตุปฺปเถติ จตุกฺกมคฺคสฺส อาสนฺนฏฺาเน เอกสฺมึ วมฺมิเก จตุรงฺคสมนฺนาคตํ อธิฏฺานํ อธิฏฺหิตฺวา อุโปสถวาสํ วสนฺโต นิปชฺชตีติ อตฺโถ. ตํ พนฺธนาติ ตํ เอวํ ธมฺมิกํ คุณวนฺตํ นาคราชานํ เอตสฺส ธนํ ทตฺวา เปฬพนฺธนา ปมฺุจ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ปุนปิ ตํ ยาจนฺตี ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘โสฬสิตฺถิสหสฺสานิ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
วาริเคหสยา นารี, ตาปิ ตํ สรณํ คตา.
‘‘ธมฺเมน โมเจหิ อสาหเสน, คาเมน นิกฺเขน ควํ สเตน;
โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปฺุตฺถิโก มฺุจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.
ตตฺถ ¶ โสฬสิตฺถิสหสฺสานีติ มา ตฺวํ เอส โย วา โส วา ทลิทฺทนาโคติ มฺิตฺถ. เอตสฺส หิ เอตฺตกา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา อิตฺถิโยว, เสสา สมฺปตฺติ อปริมาณาติ ทสฺเสติ. วาริเคหสยาติ อุทกจฺฉทนํ อุทกคพฺภํ กตฺวา ตตฺถ สยนสีลา. โอสฺสฏฺกาโยติ นิสฺสฏฺกาโย หุตฺวา. จราตูติ จรตุ.
อถ นํ ราชา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ธมฺเมน โมเจมิ อสาหเสน, คาเมน นิกฺเขน ควํ สเตน;
โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปฺุตฺถิโก มฺุจตุ พนฺธนสฺมา.
‘‘ทมฺมิ นิกฺขสตํ ลุทฺท, ถูลฺจ มณิกุณฺฑลํ;
จตุสฺสทฺจ ปลฺลงฺกํ, อุมาปุปฺผสรินฺนิภํ.
‘‘ทฺเว ¶ จ สาทิสิโย ภริยา, อุสภฺจ ควํ สตํ;
โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปฺุตฺถิโก มฺุจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.
ตตฺถ ลุทฺทาติ ราชา อุรคํ โมเจตุํ อหิตุณฺฑิกํ อามนฺเตตฺวา ตสฺส ทาตพฺพํ เทยฺยธมฺมํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห. คาถา ปน เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว.
อถ นํ ลุทฺโท อาห –
‘‘วินาปิ ¶ ทานา ตว วจนํ ชนินฺท, มฺุเจมุ นํ อุรคํ พนฺธนสฺมา;
โอสฺสฏฺกาโย อุรโค จราตุ, ปฺุตฺถิโก มฺุจตุ พนฺธนสฺมา’’ติ.
ตตฺถ ตว วจนนฺติ มหาราช, วินาปิ ทาเนน ตว วจนเมว อมฺหากํ ครุ. มฺุเจมุ นนฺติ มฺุจิสฺสามิ เอตนฺติ วทติ.
เอวฺจ ปน วตฺวา มหาสตฺตํ เปฬโต นีหริ. นาคราชา นิกฺขมิตฺวา ปุปฺผนฺตรํ ปวิสิตฺวา ตํ อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา มาณวกวณฺเณน อลงฺกตสรีโร หุตฺวา ปถวึ ภินฺทนฺโต วิย นิกฺขนฺโต อฏฺาสิ. สุมนา อากาสโต โอตริตฺวา ตสฺส สนฺติเก ิตา. นาคราชา อฺชลึ ปคฺคยฺห ราชานํ นมสฺสมาโน อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ¶ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘มุตฺโต จมฺเปยฺยโก นาโค, ราชานํ เอตทพฺรวิ;
นโม เต กาสิราชตฺถุ, นโม เต กาสิวฑฺฒน;
อฺชลึ เต ปคฺคณฺหามิ, ปสฺเสยฺยํ เม นิเวสนํ.
‘‘อทฺธา หิ ทุพฺพิสฺสสเมตมาหุ, ยํ มานุโส วิสฺสเส อมานุสมฺหิ;
สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, ทกฺเขมุ เต นาค นิเวสนานี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ปสฺเสยฺยํ เม นิเวสนนฺติ มม นิเวสนํ จมฺเปยฺยนาคภวนํ รมณียํ ปสฺสิตพฺพยุตฺตกํ. ตํ เต อหํ ทสฺเสตุกาโม, ตํ สพลวาหโน ตฺวํ อาคนฺตฺวา ปสฺส, นรินฺทาติ วทติ. ทุพฺพิสฺสสนฺติ ทุวิสฺสาสนียํ. สเจ จาติ สเจ มํ ยาจสิ, ปสฺเสยฺยาม เต นิเวสนานิ, อปิ จ โข ปน ตํ น สทฺทหามีติ วทติ.
อถ นํ สทฺทหาเปตุํ สปถํ กโรนฺโต มหาสตฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺย, จนฺโท จ สุริโย จ ฉมา ปเตยฺยุํ;
สพฺพา จ นชฺโช ปฏิโสตํ วเชยฺยุํ, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํ.
‘‘นภํ ¶ ผเลยฺย อุทธีปิ สุสฺเส, สํวฏฺฏเย ภูตธรา วสุนฺธรา;
สิลุจฺจโย เมรุ สมูลมุปฺปเต, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺย’’นฺติ.
ตตฺถ สํวฏฺฏเย ภูตธรา วสุนฺธราติ อยํ ภูตธราติ จ วสุนฺธราติ จ สงฺขํ คตา มหาปถวี กิลฺชํ วิย สํวฏฺเฏยฺย. สมูลมุปฺปเตติ เอวํ มหาสิเนรุปพฺพโต สมูโล อุฏฺาย ปุราณปณฺณํ วิย อากาเส ปกฺขนฺเทยฺย.
โส มหาสตฺเตน เอวํ วุตฺเตปิ อสทฺทหนฺโต –
‘‘อทฺธา หิ ทุพฺพิสฺสสเมตมาหุ, ยํ มานุโส วิสฺสเส อมานุสมฺหิ;
สเจ ¶ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, ทกฺเขมุ เต นาค นิเวสนานี’’ติ. –
ปุนปิ ตเมว คาถํ วตฺวา ‘‘ตฺวํ มยา กตคุณํ ชานิตุํ อรหสิ, สทฺทหิตุํ ปน ยุตฺตภาวํ วา อยุตฺตภาวํ วา อหํ ชานิสฺสามี’’ติ ปกาเสนฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘ตุมฺเห ¶ โขตฺถ โฆรวิสา อุฬารา, มหาเตชา ขิปฺปโกปี จ โหถ;
มํการณา พนฺธนสฺมา ปมุตฺโต, อรหสิ โน ชานิตุเย กตานี’’ติ.
ตตฺถ อุฬาราติ อุฬารวิสา. ชานิตุเยติ ชานิตุํ.
อถ นํ สทฺทหาเปตุํ ปุน สปถํ กโรนฺโต มหาสตฺโต คาถมาห –
‘‘โส ปจฺจตํ นิรเย โฆรรูเป, มา กายิกํ สาตมลตฺถ กิฺจิ;
เปฬาย พทฺโธ มรณํ อุเปตุ, โย ตาทิสํ กมฺมกตํ น ชาเน’’ติ.
ตตฺถ ปจฺจตนฺติ ปจฺจตุ. กมฺมกตนฺติ กตกมฺมํ เอวํ คุณการกํ ตุมฺหาทิสํ โย น ชานาติ, โส เอวรูโป โหตูติ วทติ.
อถสฺส ราชา สทฺทหิตฺวา ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘สจฺจปฺปฏิฺา ¶ ตว เมส โหตุ, อกฺโกธโน โหหิ อนุปนาหี;
สพฺพฺจ เต นาคกุลํ สุปณฺณา, อคฺคึว คิมฺเหสุ วิวชฺชยนฺตู’’ติ.
ตตฺถ ตว เมส โหตูติ ตว เอสา ปฏิฺา สจฺจา โหตุ. อคฺคึว คิมฺเหสุ วิวชฺชยนฺตูติ ยถา มนุสฺสา คิมฺหกาเล สนฺตาปํ อนิจฺฉนฺตา ชลมานํ อคฺคึ วิวชฺเชนฺติ, เอวํ วิวชฺเชนฺตุ ทูรโตว ปริหรนฺตุ.
มหาสตฺโตปิ รฺโ ถุตึ กโรนฺโต อิตรํ คาถมาห –
‘‘อนุกมฺปสี นาคกุลํ ชนินฺท, มาตา ยถา สุปฺปิยํ เอกปุตฺตํ;
อหฺจ เต นาคกุเลน สทฺธึ, กาหามิ เวยฺยาวฏิกํ อุฬาร’’นฺติ.
ตํ ¶ ¶ สุตฺวา ราชา นาคภวนํ คนฺตุกาโม เสนํ คมนสชฺชํ กาตุํ อาณาเปนฺโต คาถมาห –
‘‘โยเชนฺตุ เว ราชรเถ สุจิตฺเต, กมฺโพชเก อสฺสตเร สุทนฺเต;
นาเค จ โยเชนฺตุ สุวณฺณกปฺปเน, ทกฺเขมุ นาคสฺส นิเวสนานี’’ติ.
ตตฺถ กมฺโพชเก อสฺสตเร สุทนฺเตติ สุสิกฺขิเต กมฺโพชรฏฺสมฺภเว อสฺสตเร โยเชนฺตุ.
อิตรา อภิสมฺพุทฺธคาถา –
‘‘เภรี มุทิงฺคา ปณวา จ สงฺขา, อวชฺชยึสุ อุคฺคเสนสฺส รฺโ;
ปายาสิ ราชา พหุ โสภมาโน, ปุรกฺขโต นาริคณสฺส มชฺเฌ’’ติ.
ตตฺถ พหุ โสภมาโนติ ภิกฺขเว, พาราณสิราชา โสฬสหิ นารีสหสฺเสหิ ปุรกฺขโต ปริวาริโต ตสฺส นารีคณสฺส มชฺเฌ พาราณสิโต นาคภวนํ คจฺฉนฺโต อติวิย โสภมาโน ปายาสิ.
ตสฺส นครา นิกฺขนฺตกาเลเยว มหาสตฺโต อตฺตโน อานุภาเวน นาคภวนํ สพฺพรตนมยํ ปาการฺจ ทฺวารฏฺฏาลเก จ ทิสฺสมานรูเป กตฺวา นาคภวนคามึ มคฺคํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ มาเปสิ ¶ . ราชา สปริโส เตน มคฺเคน นาคภวนํ ปวิสิตฺวา รมณียํ ภูมิภาคฺจ ปาสาเท จ อทฺทส. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สุวณฺณจิตกํ ภูมึ, อทฺทกฺขิ กาสิวฑฺฒโน;
โสวณฺณมยปาสาเท, เวฬุริยผลกตฺถเต.
‘‘ส ราชา ปาวิสิ พฺยมฺหํ, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ;
อาทิจฺจวณฺณสนฺนิภํ, กํสวิชฺชุปภสฺสรํ.
‘‘นานารุกฺเขหิ ¶ สฺฉนฺนํ, นานาคนฺธสมีริตํ;
โส ปาเวกฺขิ กาสิราชา, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ.
‘‘ปวิฏฺสฺมึ กาสิรฺเ, จมฺเปยฺยสฺส นิเวสนํ;
ทิพฺพา ตูริยา ปวชฺชึสุ, นาคกฺา จ นจฺจิสุํ.
‘‘ตํ ¶ นาคกฺา จริตํ คเณน, อนฺวารุหี กาสิราชา ปสนฺโน;
นิสีทิ โสวณฺณมยมฺหิ ปีเ, สาปสฺสเย จนฺทนสารลิตฺเต’’ติ.
ตตฺถ สุวณฺณจิตกนฺติ สุวณฺณวาลุกาย สนฺถตํ. พฺยมฺหนฺติ อลงฺกตนาคภวนํ. จมฺเปยฺยสฺสาติ นาคภวนํ ปวิสิตฺวา จมฺเปยฺยนาคราชสฺส นิเวสนํ ปาวิสิ. กํสวิชฺชุปภสฺสรนฺติ เมฆมุเข สฺจรณสุวณฺณวิชฺชุ วิย โอภาสมานํ. นานาคนฺธสมีริตนฺติ นานาวิเธหิ ทิพฺพคนฺเธหิ อนุสฺจริตํ. จริตํ คเณนาติ ตํ นิเวสนํ นาคกฺาคเณน จริตํ อนุสฺจริตํ. จนฺทนสารลิตฺเตติ ทิพฺพสารจนฺทเนน อนุลิตฺเต.
ตตฺถ นิสินฺนมตฺตสฺเสวสฺส นานคฺครสํ ทิพฺพโภชนํ อุปนาเมสุํ, ตถา โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เสสราชปริสาย จ. โส สตฺตาหมตฺตํ สปริโส ทิพฺพนฺนปานาทีนิ ปริภฺุชิตฺวา ทิพฺเพหิ กามคุเณหิ อภิรมิตฺวา สุขสยเน นิสินฺโน มหาสตฺตสฺส ยสํ วณฺเณตฺวา ‘‘นาคราช, ตฺวํ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ปหาย มนุสฺสโลเก วมฺมิกมตฺถเก นิปชฺชิตฺวา กสฺมา อุโปสถวาสํ วสี’’ติ ปุจฺฉิ. โสปิสฺส กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘โส ¶ ตตฺถ ภุตฺวา จ อโถ รมิตฺวา, จมฺเปยฺยกํ กาสิราชา อโวจ;
วิมานเสฏฺานิ อิมานิ ตุยฺหํ, อาทิจฺจวณฺณานิ ปภสฺสรานิ;
เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘ตา ¶ กมฺพุกายูรธรา สุวตฺถา, วฏฺฏงฺคุลี ตมฺพตลูปปนฺนา;
ปคฺคยฺห ปาเยนฺติ อโนมวณฺณา, เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก;
กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘นชฺโช ¶ จ เตมา ปุถุโลมมจฺฉา, อาฏาสกุนฺตาภิรุทา สุติตฺถา;
เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘โกฺจา มยูรา ทิวิยา จ หํสา, วคฺคุสฺสรา โกกิลา สมฺปตนฺติ;
เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลา;
เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘อิมา จ เต โปกฺขรฺโ สมนฺตโต, ทิพฺพา จ คนฺธา สตตํ ปวายนฺติ;
เนตาทิสํ อตฺถิ มนุสฺสโลเก, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.
‘‘น ปุตฺตเหตุ น ธนสฺส เหตุ, น อายุโน จาปิ ชนินฺท เหตุ;
มนุสฺสโยนึ อภิปตฺถยาโน, ตสฺมา ปรกฺกมฺม ตโป กโรมี’’ติ.
ตตฺถ ตาติ โสฬสสหสฺสนาคกฺาโย สนฺธายาห. กมฺพุกายูรธราติ สุวณฺณาภรณธรา. วฏฺฏงฺคุลีติ ปวาฬงฺกุรสทิสวฏฺฏงฺคุลี. ตมฺพตลูปปนฺนาติ อภิรตฺเตหิ หตฺถปาทตเลหิ สมนฺนาคตา. ปาเยนฺตีติ ¶ ทิพฺพปานํ อุกฺขิปิตฺวา ตํ ปาเยนฺติ. ปุถุโลมมจฺฉาติ ปุถุลปตฺเตหิ นานามจฺเฉหิ สมนฺนาคตา. อาฏาสกุนฺตาภิรุทาติ อาฏาสงฺขาเตหิ สกุเณหิ อภิรุทา. สุติตฺถาติ สุนฺทรติตฺถา. ทิวิยา จ หํสาติ ทิพฺพหํสา จ. สมฺปตนฺตีติ มนฺุรวํ รวนฺตา รุกฺขโต รุกฺขํ สมฺปตนฺติ. ทิพฺพา จ คนฺธาติ ตาสุ โปกฺขรณีสุ สตตํ ทิพฺพคนฺธา วายนฺติ. อภิปตฺถยาโนติ ¶ ปตฺถยนฺโต วิจรามิ. ตสฺมาติ เตน การเณน ปรกฺกมฺม วีริยํ ปคฺคเหตฺวา ตโป กโรมิ, อุโปสถํ อุปวสามีติ.
เอวํ วุตฺเต ราชา อาห –
‘‘ตฺวํ โลหิตกฺโข วิหตนฺตรํโส, อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ;
สุโรสิโต โลหิตจนฺทเนน, คนฺธพฺพราชาว ทิสา ปภาสสิ.
‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;
ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, เสยฺโย อิโต เกน มนุสฺสโลโก’’ติ.
ตตฺถ ¶ สุโรสิโตติ สุวิลิตฺโต.
อถสฺส อาจิกฺขนฺโต นาคราชา อาห –
‘‘ชนินฺท นาฺตฺร มนุสฺสโลกา, สุทฺธีว สํวิชฺชติ สํยโม วา;
อหฺจ ลทฺธาน มนุสฺสโยนึ, กาหามิ ชาติมรณสฺส อนฺต’’นฺติ.
ตตฺถ สุทฺธี วาติ มหาราช, อฺตฺร มนุสฺสโลกา อมตมหานิพฺพานสงฺขาตา สุทฺธิ วา สีลสํยโม วา นตฺถิ. อนฺตนฺติ มนุสฺสโยนึ ลทฺธา ชาติมรณสฺส อนฺตํ กริสฺสามีติ ตโป กโรมีติ.
ตํ สุตฺวา ราชา อาห –
‘‘อทฺธา ¶ หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;
นาริโย จ ทิสฺวาน ตุวฺจ นาค, กาหามิ ปฺุานิ อนปฺปกานี’’ติ.
ตตฺถ นาริโย จาติ อิมา ตว นาคกฺาโย จ ตุวฺจ ทิสฺวา พหูนิ ปฺุานิ กริสฺสามีติ วทติ.
อถ ¶ นํ นาคราชา อาห –
‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;
นาริโย จ ทิสฺวาน มมฺจ ราช, กโรหิ ปฺุานิ อนปฺปกานี’’ติ.
ตตฺถ กโรหีติ กเรยฺยาสิ, มหาราชาติ.
เอวํ วุตฺเต อุคฺคเสโน คนฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘นาคราช, จิรํ วสิมฺห, คมิสฺสามา’’ติ อาปุจฺฉิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ มหาราช, ยาวทิจฺฉกํ ธนํ คณฺหาหี’’ติ ธนํ ทสฺเสนฺโต อาห –
‘‘อิทฺจ เม ชาตรูปํ ปหูตํ, ราสี สุวณฺณสฺส จ ตาลมตฺตา;
อิโต หริตฺวาน สุวณฺณฆรานิ, กรสฺสุ รูปิยปาการํ กโรนฺตุ.
‘‘มุตฺตา ¶ จ วาหสหสฺสานิ ปฺจ, เวฬุริยมิสฺสานิ อิโต หริตฺวา;
อนฺเตปุเร ภูมิยํ สนฺถรนฺตุ, นิกฺกทฺทมา เหหิติ นีรชา จ.
‘‘เอตาทิสํ อาวส ราชเสฏฺ, วิมานเสฏฺํ พหุ โสภมานํ;
พาราณสึ นครํ อิทฺธํ ผีตํ, รชฺชฺจ กาเรหิ อโนมปฺา’’ติ.
ตตฺถ ¶ ราสีติ เตสุ เตสุ าเนสุ ตาลปมาณา ราสิโย. สุวณฺณฆรานีติ สุวณฺณเคหานิ. นิกฺกทฺทมาติ เอวํ เต อนฺเตปุเร ภูมิ นิกฺกทฺทมา จ นิรชา จ ภวิสฺสติ. เอตาทิสนฺติ เอวรูปํ สุวณฺณมยํ รชตปาการํ มุตฺตาเวฬุริยสนฺถตภูมิภาคํ. ผีตนฺติ ผีตํ พาราณสินครฺจ อาวส. อโนมปฺาติ อลามกปฺา.
ราชา ตสฺส กถํ สุตฺวา อธิวาเสสิ. อถ มหาสตฺโต นาคภวเน เภรึ จราเปสิ ‘‘สพฺพา ราชปริสา ยาวทิจฺฉกํ หิรฺสุวณฺณาทิกํ ธนํ คณฺหนฺตู’’ติ. รฺโ จ อเนเกหิ สกฏสเตหิ ธนํ เปเสสิ. ราชา มหนฺเตน ยเสน นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา พาราณสิเมว คโต. ตโต ปฏฺาย กิร ชมฺพุทีปตลํ สหิรฺํ ชาตํ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ โปราณกปณฺฑิตา นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ วสึสู’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อหิตุณฺฑิโก เทวทตฺโต อโหสิ, สุมนา ราหุลมาตา, อุคฺคเสโน สาริปุตฺโต, จมฺเปยฺยนาคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
จมฺเปยฺยชาตกวณฺณนา ทสมา.
[๕๐๗] ๑๑. มหาปโลภนชาตกวณฺณนา
พฺรหฺมโลกา จวิตฺวานาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต วิสุทฺธสํกิเลสํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ เหฏฺา วิตฺถาริตเมว. อิธ ปน สตฺถา ‘‘ภิกฺขุ มาตุคาโม นาเมส วิสุทฺธสตฺเตปิ สํกิลิฏฺเ กโรตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยนฺติ จูฬปโลภเน (ชา. ๑.๓.๓๗ อาทโย) วุตฺตนเยเนว อตีตวตฺถุ วิตฺถาริตพฺพํ. ตทา ปน มหาสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา กาสิรฺโ ปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, อนิตฺถิคนฺธกุมาโร นาม อโหสิ. อิตฺถีนํ หตฺเถ น สณฺาติ, ปุริสเวเสน นํ ถฺํ ปาเยนฺติ, ฌานาคาเร วสติ, อิตฺถิโย น ปสฺสติ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา จตสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘พฺรหฺมโลกา ¶ จวิตฺวาน, เทวปุตฺโต มหิทฺธิโก;
รฺโ ปุตฺโต อุทปาทิ, สพฺพกามสมิทฺธิสุ.
‘‘กามา วา กามสฺา วา, พฺรหฺมโลเก น วิชฺชติ;
สฺวาสฺสุ ตาเยว สฺาย, กาเมหิ วิชิคุจฺฉถ.
‘‘ตสฺส จนฺเตปุเร อาสิ, ฌานาคารํ สุมาปิตํ;
โส ตตฺถ ปฏิสลฺลีโน, เอโก รหสิ ฌายถ.
‘‘ส ราชา ปริเทเวสิ, ปุตฺตโสเกน อฏฺฏิโต;
เอกปุตฺโต จยํ มยฺหํ, น จ กามานิ ภฺุชตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ สพฺพกามสมิทฺธิสูติ สพฺพกามานํ สมิทฺธีสุ สมฺปตฺตีสุ ิตสฺส รฺโ ปุตฺโต หุตฺวา เอโก เทวปุตฺโต นิพฺพตฺติ. สฺวาสฺสูติ โส กุมาโร. ตาเยวาติ ตาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตาย ฌานสฺาย เอว. สุมาปิตนฺติ ปิตรา สุฏฺุ มนาปํ กตฺวา มาปิตํ. รหสิ ฌายถาติ มาตุคามํ อปสฺสนฺโต วสิ. ปริเทเวสีติ วิลปิ.
ปฺจมา รฺโ ปริเทวนคาถา –
‘‘โก นุ ขฺเวตฺถ อุปาโย โส, โก วา ชานาติ กิฺจนํ;
โย เม ปุตฺตํ ปโลเภยฺย, ยถา กามานิ ปตฺถเย’’ติ.
ตตฺถ โก นุ ขฺเวตฺถ อุปาโยติ โก นุ โข เอตฺถ เอตสฺส กามานํ ภฺุชนอุปาโย. ‘‘โก นุ โข อิธุปาโย โส’’ติปิ ปาโ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘โก นุ โข เอตํ อุปวสิตฺวา อุปลาปนการณํ ชานาตี’’ติ วุตฺตํ. โก วา ชานาติ กิฺจนนฺติ โก วา เอตสฺส ปลิโพธการณํ ชานาตีติ อตฺโถ.
ตโต ปรํ ทิยฑฺฒคาถา อภิสมฺพุทฺธคาถา –
‘‘อหุ กุมารี ตตฺเถว, วณฺณรูปสมาหิตา;
กุสลา นจฺจคีตสฺส, วาทิเต จ ปทกฺขิณา.
‘‘สา ¶ ตตฺถ อุปสงฺกมฺม, ราชานํ เอตทพฺรวี’’ติ;
ตตฺถ ¶ อหูติ ภิกฺขเว, ตตฺเถว อนฺเตปุเร จูฬนาฏกานํ อนฺตเร เอกา ตรุณกุมาริกา อโหสิ. ปทกฺขิณาติ สุสิกฺขิตา.
‘‘อหํ โข นํ ปโลเภยฺยํ, สเจ ภตฺตา ภวิสฺสตี’’ติ. –
อุปฑฺฒคาถา กุมาริกาย วุตฺตา.
ตตฺถ สเจ ภตฺตาติ สเจ เอส มยฺหํ ปติ ภวิสฺสตีติ.
‘‘ตํ ¶ ตถาวาทินึ ราชา, กุมารึ เอตทพฺรวิ;
ตฺวฺเว นํ ปโลเภหิ, ตว ภตฺตา ภวิสฺสตีติ.
ตตฺถ ตว ภตฺตาติ ตเวส ปติ ภวิสฺสติ, ตฺวฺเว ตสฺส อคฺคมเหสี ภวิสฺสสิ, คจฺฉ นํ ปโลเภหิ, กามรสํ ชานาเปหีติ.
เอวํ วตฺวา ราชา ‘‘อิมิสฺสา กิร โอกาสํ กโรนฺตู’’ติ กุมารสฺส อุปฏฺากานํ เปเสสิ. สา ปจฺจูสกาเล วีณํ อาทาย คนฺตฺวา กุมารสฺส สยนคพฺภสฺส พหิ อวิทูเร ตฺวา อคฺคนเขหิ วีณํ วาเทนฺตี มธุรสเรน คายิตฺวา ตํ ปโลเภสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –
‘‘สา จ อนฺเตปุรํ คนฺตฺวา, พหุํ กามุปสํหิตํ;
หทยงฺคมา เปมนียา, จิตฺรา คาถา อภาสถ.
‘‘ตสฺสา จ คายมานาย, สทฺทํ สุตฺวาน นาริยา;
กามจฺฉนฺทสฺส อุปฺปชฺชิ, ชนํ โส ปริปุจฺฉถ.
‘‘กสฺเสโส สทฺโท โก วา โส, ภณติ อุจฺจาวจํ พหุํ;
หทยงฺคมํ เปมนียํ, อโห กณฺณสุขํ มม.
‘‘เอสา โข ปมทา เทว, ขิฑฺฑา เอสา อนปฺปิกา;
สเจ ตฺวํ กาเม ภฺุเชยฺย, ภิยฺโย ภิยฺโย ฉาเทยฺยุ ตํ.
‘‘อิงฺฆ อาคจฺฉโตเรน, อวิทูรมฺหิ คายตุ;
อสฺสมสฺส สมีปมฺหิ, สนฺติเก มยฺห คายตุ.
‘‘ติโรกุฏฺฏมฺหิ คายิตฺวา, ฌานาคารมฺหิ ปาวิสิ;
พนฺธิ นํ อนุปุพฺเพน, อารฺมิว กฺุชรํ.
‘‘ตสฺส ¶ ¶ กามรสํ ตฺวา, อิสฺสาธมฺโม อชายถ;
‘อหเมว กาเม ภฺุเชยฺยํ, มา อฺโ ปุริโส อหุ’.
‘‘ตโต อสึ คเหตฺวาน, ปุริเส หนฺตุํ อุปกฺกมิ;
อหเมเวโก ภฺุชิสฺสํ, มา อฺโ ปุริโส สิยา.
‘‘ตโต ¶ ชานปทา สพฺเพ, วิกฺกนฺทึสุ สมาคตา;
ปุตฺโต ตฺยายํ มหาราช, ชนํ เหเตฺยทูสกํ.
‘‘ตฺจ ราชา วิวาเหสิ, สมฺหา รฏฺา จ ขตฺติโย;
ยาวตา วิชิตํ มยฺหํ, น เต วตฺถพฺพ ตาวเท.
‘‘ตโต โส ภริยมาทาย, สมุทฺทํ อุปสงฺกมิ;
ปณฺณสาลํ กริตฺวาน, วนมฺุฉาย ปาวิสิ.
‘‘อเถตฺถ อิสิ มาคจฺฉิ, สมุทฺทํ อุปรูปริ;
โส ตสฺส เคหํ ปาเวกฺขิ, ภตฺตกาเล อุปฏฺิเต.
‘‘ตฺจ ภริยา ปโลเภสิ, ปสฺส ยาว สุทารุณํ;
จุโต โส พฺรหฺมจริยมฺหา, อิทฺธิยา ปริหายถ.
‘‘ราชปุตฺโต จ อฺุฉาโต, วนมูลผลํ พหุํ;
สายํ กาเชน อาทาย, อสฺสมํ อุปสงฺกมิ.
‘‘อิสี จ ขตฺติยํ ทิสฺวา, สมุทฺทํ อุปสงฺกมิ;
‘เวหายสํ คมิสฺส’นฺติ, สีทเต โส มหณฺณเว.
‘‘ขตฺติโย จ อิสึ ทิสฺวา, สีทมานํ มหณฺณเว;
ตสฺเสว อนุกมฺปาย, อิมา คาถา อภาสถ.
‘‘อภิชฺชมาเน ¶ วาริสฺมึ, สยํ อาคมฺม อิทฺธิยา;
มิสฺสีภาวิตฺถิยา คนฺตฺวา, สํสีทสิ มหณฺณเว.
‘‘อาวฏฺฏนี มหามายา, พฺรหฺมจริยวิโกปนา;
สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.
‘‘อนลา มุทุสมฺภาสา, ทุปฺปูรา ตา นทีสมา;
สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.
‘‘ยํ ¶ เอตา อุปเสวนฺติ, ฉนฺทสา วา ธเนน วา;
ชาตเวโทว สํ านํ, ขิปฺปํ อนุทหนฺติ ตํ.
‘‘ขตฺติยสฺส วโจ สุตฺวา, อิสิสฺส นิพฺพิทา อหุ;
ลทฺธา โปราณกํ มคฺคํ, คจฺฉเต โส วิหายสํ.
‘‘ขตฺติโย จ อิสึ ทิสฺวา, คจฺฉมานํ วิหายสํ;
สํเวคํ อลภี ธีโร, ปพฺพชฺชํ สมโรจยิ.
‘‘ตโต โส ปพฺพชิตฺวาน, กามราคํ วิราชยิ;
กามราคํ วิราเชตฺวา, พฺราหฺมโลกูปโค อหู’’ติ.
ตตฺถ ¶ อนฺเตปุรนฺติ กุมารสฺส วสนฏฺานํ. พหุนฺติ พหุํ นานปฺปการํ. กามุปสํหิตนฺติ กามนิสฺสิตํ คีตํ ปวตฺตยมานา. กามจฺฉนฺทสฺสาติ อสฺส อนิตฺถิคนฺธกุมารสฺส กามจฺฉนฺโท อุปฺปชฺชิ. ชนนฺติ อตฺตโน สนฺติกาวจรํ ปริจาริกชนํ. อุจฺจาวจนฺติ อุคฺคตฺจ อนุคฺคตฺจ. ภฺุเชยฺยาติ สเจ ภฺุเชยฺยาสิ. ฉาเทยฺยุ ตนฺติ เอเต กามา นาม ตว รุจฺเจยฺยุํ. โส ‘‘ปมทา’’ติ วจนํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อิตรา ปุนทิวเสปิ คายิ. เอวํ กุมาโร ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา ตสฺสา อาคมนํ โรเจนฺโต ปริจาริเก อามนฺเตตฺวา ‘‘อิงฺฆา’’ติ คาถมาห.
ติโรกุฏฺฏมฺหีติ สยนคพฺภกุฏฺฏสฺส พหิ. มา อฺโติ อฺโ กาเม ปริภฺุชนฺโต ปุริโส นาม มา สิยา. หนฺตุํ อุปกฺกมีติ อนฺตรวีถึ โอตริตฺวา มาเรตุํ อารภิ. วิกนฺทึสูติ ¶ กุมาเรน กติปเยสุ ปุริเสสุ ปหเตสุ ปุริสา ปลายิตฺวา เคหานิ ปวิสึสุ. โส ปุริเส อลภนฺโต โถกํ วิสฺสมิ. ตสฺมึ ขเณ ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา อุปกฺโกสึสุ. ชนํ เหเตฺยทูสกนฺติ นิรปราธํ ชนํ เหเติ, ตํ คณฺหาเปถาติ วทึสุ. ราชา อุปาเยน กุมารํ คณฺหาเปตฺวา ‘‘อิมสฺส กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, อฺํ นตฺถิ, อิมํ ปน กุมารํ ตาย กุมาริกาย สทฺธึ รฏฺา ปพฺพาเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต ตถา อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘ตฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิวาเหสีติ ปพฺพาเชสิ. น เต วตฺถพฺพ ตาวเทติ ยตฺตกํ มยฺหํ วิชิตํ, ตตฺตเก ตยา น วตฺถพฺพํ. อฺุฉายาติ ผลาผลตฺถาย.
ตสฺมึ ¶ ปน วนํ ปวิฏฺเ อิตรา ยํ ตตฺถ ปจิตพฺพยุตฺตกํ อตฺถิ, ตํ ปจิตฺวา ตสฺสาคมนํ โอโลเกนฺตี ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทติ. เอวํ กาเล คจฺฉนฺเต เอกทิวสํ อนฺตรทีปกวาสี เอโก อิทฺธิมนฺตตาปโส อสฺสมปทโต นิกฺขมิตฺวา มณิผลกํ วิย อุทกํ มทฺทมาโนว อากาเส อุปฺปติตฺวา ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺโต ปณฺณสาลาย อุปริภาคํ ปตฺวา ธูมํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺมึ าเน มนุสฺสา วสนฺติ มฺเ’’ติ ปณฺณสาลทฺวาเร โอตริ. สา ตํ ทิสฺวา นิสีทาเปตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา อิตฺถิกุตฺตํ ทสฺเสตฺวา เตน สทฺธึ อนาจารํ อจริ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ‘‘อเถตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิสิ มาคจฺฉีติ อิสิ อาคจฺฉิ. สมุทฺทํ อุปรูปรีติ สมุทฺทสฺส มตฺถกมตฺถเกน. ปสฺส ยาว สุทารุณนฺติ ปสฺสถ, ภิกฺขเว, ตาย กุมาริกาย ยาว สุทารุณํ กมฺมํ กตนฺติ อตฺโถ.
สายนฺติ สายนฺหสมเย. ทิสฺวาติ ตํ วิชหิตุํ อสกฺโกนฺโต สกลทิวสํ ตตฺเถว หุตฺวา สายนฺหสมเย ราชปุตฺตํ อาคตํ ทิสฺวา ปลายิตุํ ‘‘เวหายสํ คมิสฺส’’นฺติ อุปฺปตนาการํ กโรนฺโต ปติตฺวา มหณฺณเว สีทติ. อิสึ ทิสฺวาติ อนุพนฺธมาโน คนฺตฺวา ปสฺสิตฺวา. อนุกมฺปายาติ สจายํ ภูมิยา อาคโต อภวิสฺส, ปลายิตฺวา อรฺํ ปวิเสยฺย, อากาเสน อาคโต ¶ ภวิสฺสติ, ตสฺมา สมุทฺเท ปติโตปิ อุปฺปตนาการเมว กโรตีติ อนุกมฺปํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺเสว อนุกมฺปาย อภาสถ. ตาสํ ปน คาถานํ อตฺโถ ติกนิปาเต วุตฺโตเยว. นิพฺพิทา อหูติ กาเมสุ นิพฺเพโท ชาโต. โปราณกํ มคฺคนฺติ ปุพฺเพ อธิคตํ ฌานวิเสสํ. ปพฺพชิตฺวานาติ ตํ อิตฺถึ มนุสฺสาวาสํ เนตฺวา นิวตฺติตฺวา อรฺเ อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา กามราคํ วิราชยิ, วิราเชตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสีติ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, มาตุคามํ ปฏิจฺจ วิสุทฺธสตฺตาปิ สํกิลิสฺสนฺตี’’ติ ¶ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ อรหตฺตํ ปตฺโต. ตทา อนิตฺถิคนฺธกุมาโร อหเมว อโหสินฺติ.
มหาปโลภนชาตกวณฺณนา เอกาทสมา.
[๕๐๘] ๑๒. ปฺจปณฺฑิตชาตกวณฺณนา
๓๑๕-๓๓๖. ปฺจปณฺฑิตชาตกํ ¶ มหาอุมงฺเค อาวิ ภวิสฺสติ.
ปฺจปณฺฑิตชาตกวณฺณนา ทฺวาทสมา.
[๕๐๙] ๑๓. หตฺถิปาลชาตกวณฺณนา
จิรสฺสํ วต ปสฺสามาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ เอสุการี นาม ราชา อโหสิ. ตสฺส ปุโรหิโต ทหรกาลโต ปฏฺาย ปิยสหาโย. เต อุโภปิ อปุตฺตกา อเหสุํ. เต เอกทิวสํ สุขสยเน นิสินฺนา มนฺตยึสุ ‘‘อมฺหากํ อิสฺสริยํ มหนฺตํ, ปุตฺโต วา ธีตา วา นตฺถิ, กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ. ตโต ราชา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘สมฺม, สเจ ตว เคเห ปุตฺโต ชายิสฺสติ, มม รชฺชสฺส สามิโก ภวิสฺสติ, สเจ มม ปุตฺโต ชายิสฺสติ, ตว เคเห โภคานํ สามิโก ภวิสฺสตี’’ติ. เอวํ อุโภปิ อฺมฺํ สงฺกรึสุ.
อเถกทิวสํ ปุโรหิโต โภคคามํ คนฺตฺวา อาคมนกาเล ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนฺโต พหินคเร เอกํ พหุปุตฺติกํ นาม ¶ ทุคฺคติตฺถึ ปสฺสิ. ตสฺสา สตฺต ปุตฺตา สพฺเพว อโรคา, เอโก ปจนภาชนกปลฺลํ คณฺหิ, เอโก สยนกฏสารกํ, เอโก ปุรโต คจฺฉติ, เอโก ปจฺฉโต, เอโก องฺคุลึ คณฺหิ, เอโก องฺเก นิสินฺโน, เอโก ขนฺเธ. อถ นํ ปุโรหิโต ปุจฺฉิ ‘‘ภทฺเท, อิเมสํ ทารกานํ ปิตา กุหิ’’นฺติ? ‘‘สามิ, อิเมสํ ปิตา นาม นิพทฺโธ นตฺถี’’ติ. ‘‘เอวรูเป สตฺต ปุตฺเต กินฺติ กตฺวา อลตฺถา’’ติ? สา อฺํ คหณํ อปสฺสนฺตี นครทฺวาเร ิตํ ¶ นิคฺโรธรุกฺขํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สามิ เอตสฺมึ นิคฺโรเธ อธิวตฺถาย เทวตาย สนฺติเก ปตฺเถตฺวา ลภึ, เอตาย เม ปุตฺตา ทินฺนา’’ติ อาห. ปุโรหิโต ‘‘เตน หิ คจฺฉ ตฺว’’นฺติ รถา ¶ โอรุยฺห นิคฺโรธมูลํ คนฺตฺวา สาขาย คเหตฺวา จาเลตฺวา ‘‘อมฺโภ เทวเต, ตฺวํ รฺโ สนฺติกา กึ นาม น ลภสิ, ราชา เต อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา พลิกมฺมํ กโรติ, ตสฺส ปุตฺตํ น เทสิ, เอตาย ทุคฺคติตฺถิยา ตว โก อุปกาโร กโต, เยนสฺสา สตฺต ปุตฺเต อทาสิ. สเจ อมฺหากํ รฺโ ปุตฺตํ น เทสิ, อิโต ตํ สตฺตเม ทิวเส สมูลํ ฉินฺทาเปตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กาเรสฺสามี’’ติ รุกฺขเทวตํ ตชฺเชตฺวา ปกฺกามิ. โส เอเตน นิยาเมเนว ปุนทิวเสปีติ ปฏิปาฏิยา ฉ ทิวเส กเถสิ. ฉฏฺเ ปน ทิวเส สาขาย คเหตฺวา ‘‘รุกฺขเทวเต อชฺเชกรตฺติมตฺตกเมว เสสํ, สเจ เม รฺโ ปุตฺตํ น เทสิ, สฺเว ตํ นิฏฺาเปสฺสามี’’ติ อาห.
รุกฺขเทวตา อาวชฺเชตฺวา ตํ การณํ ตถโต ตฺวา ‘‘อยํ พฺราหฺมโณ ปุตฺตํ อลภนฺโต มม วิมานํ นาเสสฺสติ, เกน นุ โข อุปาเยน ตสฺส ปุตฺตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จตุนฺนํ มหาราชานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. เต ‘‘มยํ ตสฺส ปุตฺตํ ทาตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ วทึสุ. อฏฺวีสติยกฺขเสนาปตีนํ สนฺติกํ อคมาสิ, เตปิ ตเถวาหํสุ. สกฺกสฺส เทวรฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา กเถสิ. โสปิ ‘‘ลภิสฺสติ นุ โข ราชา อนุจฺฉวิเก ปุตฺเต, อุทาหุ โน’’ติ ¶ อุปธาเรนฺโต ปฺุวนฺเต จตฺตาโร เทวปุตฺเต ปสฺสิ. เต กิร ปุริมภเว พาราณสิยํ เปสการา หุตฺวา เตน กมฺเมน ลทฺธกํ ปฺจโกฏฺาสํ กตฺวา จตฺตาโร โกฏฺาเส ปริภฺุชึสุ. ปฺจมํ คเหตฺวา เอกโตว ทานํ อทํสุ. เต ตโต จุตา ตาวตึสภวเน นิพฺพตฺตึสุ, ตโต ยามภวเนติ เอวํ อนุโลมปฏิโลมํ ฉสุ เทวโลเกสุ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตา วิจรนฺติ. ตทา ปน เนสํ ตาวตึสภวนโต จวิตฺวา ยามภวนํ คมนวาโร โหติ. สกฺโก เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มาริสา, ตุมฺเหหิ มนุสฺสโลกํ คนฺตุํ วฏฺฏติ, เอสุการีรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตถา’’ติ อาห. เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สาธุ เทว, คมิสฺสาม, น ปนมฺหากํ ราชกุเลนตฺโถ, ปุโรหิตสฺส เคเห นิพฺพตฺติตฺวา ทหรกาเลเยว กาเม ปหาย ปพฺพชิสฺสามา’’ติ วทึสุ. สกฺโก ‘‘สาธู’’ติ เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา อาคนฺตฺวา รุกฺขเทวตาย ตมตฺถํ อาโรเจสิ. สา ตุฏฺมานสา สกฺกํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน วิมานเมว คตา.
ปุโรหิโตปิ ¶ ปุนทิวเส พลวปุริเส สนฺนิปาตาเปตฺวา วาสิผรสุอาทีนิ คาหาเปตฺวา รุกฺขมูลํ คนฺตฺวา รุกฺขสาขาย คเหตฺวา ‘‘อมฺโภ เทวเต, อชฺช มยฺหํ ตํ ยาจนฺตสฺส สตฺตโม ทิวโส, อิทานิ เต นิฏฺานกาโล’’ติ อาห. ตโต รุกฺขเทวตา มหนฺเตนานุภาเวน ขนฺธวิวรโต นิกฺขมิตฺวา มธุรสเรน ตํ อามนฺเตตฺวา ‘พฺราหฺมณ, ติฏฺตุ เอโก ปุตฺโต, จตฺตาโร เต ¶ ปุตฺเต ทสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘มม ปุตฺเตนตฺโถ นตฺถิ, อมฺหากํ รฺโ ปุตฺตํ เทหี’’ติ. ‘‘ตุยฺหํเยว เทมี’’ติ. ‘‘เตน หิ มม ทฺเว, รฺโ ทฺเว เทหี’’ติ. ‘‘รฺโ น เทมิ, จตฺตาโรปิ ตุยฺหเมว ทมฺมิ, ตยา จ ลทฺธมตฺตาว ภวิสฺสนฺติ, อคาเร ปน อฏฺตฺวา ทหรกาเลเยว ปพฺพชิสฺสนฺตี’’ติ. ‘‘ตฺวํ เม เกวลํ ปุตฺเต เทหิ, อปพฺพชนการณํ ปน อมฺหากํ ภาโร’’ติ. สา ตสฺส ปุตฺตวรํ ทตฺวา อตฺตโน ภวนํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาย เทวตาย สกฺกาโร มหา อโหสิ.
เชฏฺกเทวปุตฺโต จวิตฺวา ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา ¶ กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. ตสฺส นามคฺคหณทิวเส ‘‘หตฺถิปาโล’’ติ นามํ กตฺวา อปพฺพชนตฺถาย หตฺถิโคปเก ปฏิจฺฉาเปสุํ. โส เตสํ สนฺติเก วฑฺฒติ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล ทุติโย จวิตฺวา อสฺสา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ตสฺสปิ ชาตกาเล ‘‘อสฺสปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส อสฺสโคปกานํ สนฺติเก วฑฺฒติ. ตติยสฺส ชาตกาเล ‘‘โคปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส โคปาเลหิ สทฺธึ วฑฺฒติ. จตุตฺถสฺส ชาตกาเล ‘‘อชปาโล’’ติ นามํ กรึสุ. โส อชปาเลหิ สทฺธึ วฑฺฒติ. เต วุฑฺฒิมนฺวาย โสภคฺคปฺปตฺตา อเหสุํ.
อถ เนสํ ปพฺพชิตภเยน รฺโ วิชิตา ปพฺพชิเต นีหรึสุ. สกลกาสิรฏฺเ เอกปพฺพชิโตปิ นาโหสิ. เต กุมารา อติผรุสา อเหสุํ, ยาย ทิสาย คจฺฉนฺติ, ตาย อาหริยมานํ ปณฺณาการํ วิลุมฺปนฺติ. หตฺถิปาลสฺส โสฬสวสฺสกาเล กายสมฺปตฺตึ ทิสฺวา ราชา จ ปุโรหิโต จ ‘‘กุมารา มหลฺลกา ชาตา, ฉตฺตุสฺสาปนสมโย, เตสํ กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ มนฺเตตฺวา ‘‘เอเต อภิสิตฺตกาลโต ปฏฺาย อติสฺสรา ภวิสฺสนฺติ, ตโต ตโต ปพฺพชิตา อาคมิสฺสนฺติ, เต ทิสฺวา ปพฺพชิสฺสนฺติ, เอเตสํ ปพฺพชิตกาเล ชนปโท อุลฺโลโฬ ภวิสฺสติ, วีมํสิสฺสาม ตาว เน, ปจฺฉา อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา อุโภปิ อิสิเวสํ คเหตฺวา ภิกฺขํ จรนฺตา หตฺถิปาลสฺส ¶ กุมารสฺส นิเวสนทฺวารํ อคมํสุ. กุมาโร เต ทิสฺวาว ตุฏฺโ ปสนฺโน อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสาม, พฺราหฺมณํ เทววณฺณินํ;
มหาชฏํ ขาริธรํ, ปงฺกทนฺตํ รชสฺสิรํ.
‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสาม, อิสึ ธมฺมคุเณ รตํ;
กาสายวตฺถวสนํ, วากจีรํ ปฏิจฺฉทํ.
‘‘อาสนํ ¶ อุทกํ ปชฺชํ, ปฏิคณฺหาตุ โน ภวํ;
อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม, อคฺฆํ กุรุตุ โน ภว’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ พฺราหฺมณนฺติ พาหิตปาปพฺราหฺมณํ. เทววณฺณินนฺติ เสฏฺวณฺณินํ โฆรตปํ ปรมติกฺขินฺทฺริยํ ปพฺพชิตภาวํ อุปคตนฺติ อตฺโถ. ขาริธรนฺติ ขาริภารธรํ. อิสินฺติ สีลกฺขนฺธาทโย ปริเยสิตฺวา ิตํ. ธมฺมคุเณ รตนฺติ สุจริตโกฏฺาเส อภิรตํ. ‘‘อาสน’’นฺติ อิทํ เตสํ นิสีทนตฺถาย อาสนํ ปฺเปตฺวา คนฺโธทกฺจ ปาทพฺภฺชนฺจ อุปเนตฺวา อาห. อคฺเฆติ อิเม สพฺเพปิ อาสนาทโย อคฺเฆ ภวนฺตํ ปุจฺฉาม. กุรุตุ โนติ อิเม โน อคฺเฆ ภวํ ปฏิคฺคณฺหตูติ.
เอวํ โส เตสุ เอเกกํ วาเรนาห. อถ นํ ปุโรหิโต อาห – ‘‘ตาต หตฺถิปาล ตฺวํ อมฺเห ‘เก อิเม’ติ มฺมาโน เอวํ กเถสี’’ติ. ‘‘เหมวนฺตกา อิสโย’’ติ. ‘‘น มยํ, ตาต, อิสโย, เอส ราชา เอสุการี, อหํ เต ปิตา ปโรหิโต’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา อิสิเวสํ คณฺหิตฺถา’’ติ? ‘‘ตว วีมํสนตฺถายา’’ติ. ‘‘มม กึ วีมํสถา’’ติ? ‘‘สเจ อมฺเห ทิสฺวา น ปพฺพชิสฺสสิ, อถ ตํ รชฺเช อภิสิฺจิตุํ อาคตามฺหา’’ติ. ‘‘ตาต น เม รชฺเชนตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามหนฺติ. อถ นํ ปิตา ‘‘ตาต หตฺถิปาล, นายํ กาโล ปพฺพชฺชายา’’ติ วตฺวา ยถาชฺฌาสยํ อนุสาสนฺโต จตุตฺถคาถมาห –
‘‘อธิจฺจ ¶ เวเท ปริเยส วิตฺตํ, ปุตฺเต เคเห ตาต ปติฏฺเปตฺวา;
คนฺเธ รเส ปจฺจนุภุยฺย สพฺพํ, อรฺํ สาธุ มุนิ โส ปสตฺโถ’’ติ.
ตตฺถ อธิจฺจาติ สชฺฌายิตฺวา. ปุตฺเตติ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา นาฏเก วาเรน อุปฏฺาเปตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิตฺวา เต ปุตฺเต เคเห ปติฏฺาเปตฺวาติ อตฺโถ. สพฺพนฺติ เอเต จ คนฺธรเส เสสฺจ สพฺพํ วตฺถุกามํ อนุภวิตฺวา. อรฺํ สาธุ มุนิ โส ปสตฺโถติ ปจฺฉา มหลฺลกกาเล ปพฺพชิตสฺส อรฺํ สาธุ ลทฺธกํ โหติ. โย เอวรูเป กาเล ปพฺพชติ, โส มุนิ พุทฺธาทีหิ อริเยหิ ปสตฺโถติ วทติ.
ตโต หตฺถิปาโล คาถมาห –
‘‘เวทา ¶ น สจฺจา น จ วิตฺตลาโภ, น ปุตฺตลาเภน ชรํ วิหนฺติ;
คนฺเธ ¶ รเส มุจฺจนมาหุ สนฺโต, สกมฺมุนา โหติ ผลูปปตฺตี’’ติ.
ตตฺถ น สจฺจาติ ยํ สคฺคฺจ มคฺคฺจ วทนฺติ, น ตํ สาเธนฺติ, ตุจฺฉา นิสฺสารา นิปฺผลา. น จ วิตฺตลาโภติ ธนลาโภปิ ปฺจสาธารณตฺตา สพฺโพ เอกสภาโว น โหติ. ชรนฺติ ตาต, ชรํ วา พฺยาธิมรณํ วา น โกจิ ปุตฺตลาเภน ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ นาม อตฺถิ. ทุกฺขมูลา เหเต อุปธโย. คนฺเธ รเสติ คนฺเธ จ รเส จ เสเสสุ อารมฺมเณสุ จ มุจฺจนํ มุตฺติเมว พุทฺธาทโย ปณฺฑิตา กเถนฺติ. สกมฺมุนาติ อตฺตนา กตกมฺเมเนว สตฺตานํ ผลูปปตฺติ ผลนิปฺผตฺติ โหติ. กมฺมสฺสกา หิ, ตาต, สตฺตาติ.
กุมารสฺส วจนํ สุตฺวา ราชา คาถมาห –
‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ วจนํ ตเวตํ, สกมฺมุนา โหติ ผลูปปตฺติ;
ชิณฺณา จ มาตาปิตโร ตวีเม, ปสฺเสยฺยุํ ตํ วสฺสสตํ อโรค’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ วสฺสสตํ อโรคนฺติ เอเต วสฺสสตํ อโรคํ ตํ ปสฺเสยฺยุํ, ตฺวมฺปิ วสฺสสตํ ชีวนฺโต มาตาปิตโร โปสสฺสูติ วทติ.
ตํ สุตฺวา กุมาโร ‘‘เทว, ตฺวํ กึ นาเมตํ วทสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ยสฺสสฺส สกฺขี มรเณน ราช, ชราย เมตฺตี นรวีรเสฏฺ;
โย จาปิ ชฺา น มริสฺสํ กทาจิ, ปสฺเสยฺยุํ ตํ วสฺสสตํ อโรคํ.
‘‘ยถาปิ นาวํ ปุริโส ทกมฺหิ, เอเรติ เจ นํ อุปเนติ ตีรํ;
เอวมฺปิ พฺยาธี สตตํ ชรา จ, อุปเนติ มจฺจํ วสมนฺตกสฺสา’’ติ.
ตตฺถ สกฺขีติ มิตฺตธมฺโม. มรเณนาติ ทตฺโต มโต มิตฺโต มโตติ สมฺมุติมรเณน. ชรายาติ ปากฏชราย วา สทฺธึ ยสฺส เมตฺตี ¶ ภเวยฺย, ยสฺเสตํ มรณฺจ ชรา จ มิตฺตภาเวน นาคจฺเฉยฺยาติ อตฺโถ. เอเรติ เจ นนฺติ มหาราช, ยถา นาม ปุริโส นทีติตฺเถ อุทกมฺหิ นาวํ เปตฺวา ปรตีรคามึ ชนํ อาโรเปตฺวา สเจ อริตฺเตน อุปฺปีเฬนฺโต ผิเยน กฑฺฒนฺโต ¶ จาเลติ ฆฏฺเฏติ, อถ นํ ปรตีรํ เนติ. เอวํ พฺยาธิ ชรา จ นิจฺจํ อนฺตกสฺส มจฺจุโน วสํ อุปเนติเยวาติ.
เอวํ อิเมสํ สตฺตานํ ชีวิตสงฺขารสฺส ปริตฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘มหาราช, ตุมฺเห ติฏฺถ, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กถยนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺติ, อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวาทํ ทตฺวา ราชานฺจ ปิตรฺจ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ปริจารเก คเหตฺวา พาราณสิยํ รชฺชํ ปหาย ‘‘ปพฺพชิสฺสามี’’ติ นครโต นิกฺขมิ. ‘‘ปพฺพชฺชา นาเมสา โสภนา ภวิสฺสตี’’ติ หตฺถิปาลกุมาเรน สทฺธึ มหาชโน นิกฺขมิ. โยชนิกา ปริสา อโหสิ. โส ตาย ปริสาย สทฺธึ คงฺคาย ตีรํ ปตฺวา คงฺคาย อุทกํ โอโลเกตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา จินฺเตสิ ¶ ‘‘อยํ สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, มม ตโย กนิฏฺภาตโร มาตาปิตโร ราชา เทวีติ สพฺเพ สปริสา ปพฺพชิสฺสนฺติ, พาราณสี สฺุา ภวิสฺสติ, ยาว เอเตสํ อาคมนา อิเธว ภวิสฺสามี’’ติ. โส ตตฺเถว มหาชนสฺส โอวาทํ เทนฺโต นิสีทิ.
ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ จินฺตยึสุ ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร ตาว ‘รชฺชํ ปหาย มหาชนํ อาทาย ปพฺพชิสฺสามี’ติ คนฺตฺวา คงฺคาตีเร นิสินฺโน, อสฺสปาลํ วีมํสิตฺวา อภิสิฺจิสฺสามา’’ติ. เต อิสิเวเสเนว ตสฺสปิ เคหทฺวารํ อคมํสุ. โสปิ เต ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘จิรสฺสํ วต ปสฺสามา’’ติอาทีนิ วทนฺโต ตเถว ปฏิปชฺชิ. เตปิ ตํ ตเถว วตฺวา อตฺตโน อาคตการณํ กถยึสุ. โส ‘‘มม ภาติเก หตฺถิปาลกุมาเร สนฺเต กถํ ปมตรํ มยฺหเมว เสตจฺฉตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตาต, ภาตา, เต ‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, ปพฺพชิสฺสามี’ติ วตฺวา นิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺเต ‘‘กหํ ปเนโส อิทานี’’ติ วตฺวา ‘‘คงฺคาตีเร ¶ นิสินฺโน’’ติ วุตฺเต ‘‘ตาต, มม ภาตรา ฉฑฺฑิตเขเฬน กมฺมํ นตฺถิ, พาลา หิ ปริตฺตกปฺา สตฺตา เอตํ กิเลสํ ชหิตุํ น สกฺโกนฺติ, อหํ ปน ชหิสฺสามี’’ติ รฺโ จ ปิตุ จ ธมฺมํ เทเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ปงฺโก จ กามา ปลิโป จ กามา, มโนหรา ทุตฺตรา มจฺจุเธยฺยา;
เอตสฺมึ ปงฺเก ปลิเป พฺยสนฺนา, หีนตฺตรูปา น ตรนฺติ ปารํ.
‘‘อยํ ปุเร ลุทฺทมกาสิ กมฺมํ, สฺวายํ คหีโต น หิ โมกฺขิโต เม;
โอรุนฺธิยา นํ ปริรกฺขิสฺสามิ, มายํ ปุน ลุทฺทมกาสิ กมฺม’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ปงฺโกติ โย โกจิ กทฺทโม. ปลิโปติ สุขุมวาลุกมิสฺโส สณฺหกทฺทโม. ตตฺถ กามา ลคฺคาปนวเสน ปงฺโก นาม, โอสีทาปนวเสน ปลิโป นามาติ วุตฺตา. ทุตฺตราติ ทุรติกฺกมา. มจฺจุเธยฺยาติ มจฺจุโน อธิฏฺานา. เอเตสุ หิ ลคฺคา เจว อนุปวิฏฺา จ สตฺตา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺตา ทุกฺขกฺขนฺธปริยาเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขฺเจว มรณฺจ ¶ ปาปุณนฺติ. เตนาห – ‘‘เอตสฺมึ ปงฺเก ปลิเป พฺยสนฺนา หีนตฺตรูปา น ตรนฺติ ปาร’’นฺติ. ตตฺถ พฺยสนฺนาติ สนฺนา. ‘‘วิสนฺนา’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. หีนตฺตรูปาติ หีนจิตฺตสภาวา. น ตรนฺติ ปารนฺติ นิพฺพานปารํ คนฺตุํ น สกฺโกนฺติ.
อยนฺติ มหาราช, อยํ มมตฺตภาโว ปุพฺเพ อสฺสโคปเกหิ สทฺธึ วฑฺฒนฺโต มหาชนสฺส วิลุมฺปนวิเหนาทิวเสน พหุํ ลุทฺทํ สาหสิกกมฺมํ อกาสิ. สฺวายํ คหีโตติ โส อยํ ตสฺส กมฺมสฺส วิปาโก มยา คหิโต. น หิ โมกฺขิโต เมติ สํสารวฏฺเฏ สติ น หิ โมกฺโข อิโต อกุสลผลโต มม อตฺถิ. โอรุนฺธิยา นํ ปริรกฺขิสฺสามีติ อิทานิ นํ กายวจีมโนทฺวารานิ ปิทหนฺโต โอรุนฺธิตฺวา ปริรกฺขิสฺสามิ. กึการณา? มายํ ปุน ลุทฺทมกาสิ กมฺมํ. อหฺหิ อิโต ปฏฺาย ปาปํ อกตฺวา กลฺยาณเมว กริสฺสามิ.
เอวํ อสฺสปาลกุมาโร ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ โอวาทํ ทตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ¶ นิกฺขมิตฺวา หตฺถิปาลกุมารสฺเสว สนฺติกํ คโต. โส ตสฺส อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ภาติก, อยํ สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, อิเธว ตาว โหมา’’ติ อาห. อิตโรปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ เตเนวุปาเยน โคปาลกุมารสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา เตนปิ ตเถว ปฏินนฺทิตฺวา อตฺตโน อาคมนการณํ อาจิกฺขึสุ. โสปิ อสฺสปาลกุมาโร วิย ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อหํ จิรโต ปฏฺาย ปพฺพชิตุกาโม วเน นฏฺโคณํ วิย ปพฺพชฺชํ อุปธาเรนฺโต วิจรามิ, เตน เม นฏฺโคณสฺส ปทํ วิย ภาติกานํ คตมคฺโค ทิฏฺโ, สฺวาหํ เตเนว มคฺเคน คมิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –
‘‘ควํว นฏฺํ ปุริโส ยถา วเน, อนฺเวสตี ราช อปสฺสมาโน;
เอวํ นฏฺโ เอสุการี มมตฺโถ, โสหํ กถํ น คเวเสยฺยํ ราชา’’ติ.
ตตฺถ ¶ เอสุการีติ ราชานํ อาลปติ. มมตฺโถติ วเน โคโณ วิย มม ปพฺพชฺชาสงฺขาโต ¶ อตฺโถ นฏฺโ. โสหนฺติ โส อหํ อชฺช ปพฺพชิตานํ มคฺคํ ทิสฺวา กถํ ปพฺพชฺชํ น คเวเสยฺยํ, มม ภาติกานํ คตมคฺคเมว คมิสฺสามิ นรินฺทาติ.
อถ นํ ‘‘ตาต โคปาล, เอกาหํ ทฺวีหํ อาคเมหิ, อมฺเห สมสฺสาเสตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วทึสุ. โส ‘‘มหาราช, อชฺช กตฺตพฺพกมฺมํ ‘สฺเว กริสฺสามี’ติ น วตฺตพฺพํ, กลฺยาณกมฺมํ นาม อชฺเชว กตฺตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อิตรํ คาถมาห –
‘‘หิยฺโยติ หิยฺยติ โปโส, ปเรติ ปริหายติ;
อนาคตํ เนตมตฺถีติ ตฺวา, อุปฺปนฺนฉนฺทํ โก ปนุเทยฺย ธีโร’’ติ.
ตตฺถ หิยฺโยติ สฺเวติ อตฺโถ. ปเรติ ปุนทิวเส. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘โย มหาราช, อชฺช กตฺตพฺพํ กมฺมํ ‘สฺเว’ติ, สฺเว กตฺตพฺพํ กมฺมํ ‘ปเร’ติ วตฺวา น กโรติ, โส ตโต ปริหายติ, น ตํ กมฺมํ กาตุํ สกฺโกตี’’ติ. เอวํ โคปาโล ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ ¶ (ม. นิ. ๓.๒๗๒ อาทโย) นาม กเถสิ. สฺวายมตฺโถ ภทฺเทกรตฺตสุตฺเตน กเถตพฺโพ. อนาคตํ เนตมตฺถีติ ยํ อนาคตํ, ตํ ‘‘เนตํ อตฺถี’’ติ ตฺวา อุปฺปนฺนํ กุสลจฺฉนฺทํ โก ปณฺฑิโต ปนุเทยฺย หเรยฺย.
เอวํ โคปาลกุมาโร ทฺวีหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา ทฺวินฺนํ ภาติกานํ สนฺติกํ คโต. หตฺถิปาโล ตสฺสปิ ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส ราชา จ ปุโรหิโต จ เตเนวุปาเยน อชปาลกุมารสฺส นิเวสนํ คนฺตฺวา เตนปิ ตเถว ปฏินนฺทิตฺวา อตฺตโน อาคมนการณํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ฉตฺตํ เต อุสฺสาเปสฺสามา’’ติ วทึสุ. กุมาโร อาห – ‘‘มยฺหํ ภาติกา กุหิ’’นฺติ? เต ‘‘อมฺหากํ รชฺเชนตฺโถ นตฺถี’’ติ เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีเร นิสินฺนาติ. นาหํ มม ภาติเกหิ ฉฑฺฑิตเขฬํ สีเสนาทาย วิจริสฺสามิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามีติ. ตาต, ตฺวํ ตาว ทหโร ¶ , อมฺหากํ หตฺถภาโร, วยปฺปตฺตกาเล ปพฺพชิสฺสสีติ. อถ เน กุมาโร ‘‘กึ ตุมฺเห กเถถ, นนุ อิเม สตฺตา ทหรกาเลปิ มหลฺลกกาเลปิ มรนฺติเยว, ‘อยํ ทหรกาเล มริสฺสติ, อยํ มหลฺลกกาเล’ติ กสฺสจิ หตฺเถ วา ปาเท วา นิมิตฺตํ นตฺถิ, อหํ มม มรณกาลํ น ชานามิ, ตสฺมา อิทาเนว ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ปสฺสามิ ¶ โวหํ ทหรํ กุมารึ, มตฺตูปมํ เกตกปุปฺผเนตฺตํ;
อภุตฺตโภเค ปเม วยสฺมึ, อาทาย มจฺจุ วชเต กุมารึ.
‘‘ยุวา สุชาโต สุมุโข สุทสฺสโน, สาโม กุสุมฺภปริกิณฺณมสฺสุ;
หิตฺวาน กาเม ปฏิกจฺจ เคหํ, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวา’’ติ.
ตตฺถ ¶ โวติ นิปาตมตฺตํ, ปสฺสามิจฺเจวาติ อตฺโถ. มตฺตูปมนฺติ หาสภาสวิลาเสหิ มตฺตํ วิย จรนฺตึ. เกตกปุปฺผเนตฺตนฺติ เกตกปุปฺผปตฺตํ วิย ปุถุลายตเนตฺตํ. อภุตฺตโภเคติ เอวํ อุตฺตมรูปธรํ กุมารึ ปมวเย วตฺตมานํ อภุตฺตโภคเมว มาตาปิตูนํ อุปริ มหนฺตํ โสกํ ปาเตตฺวา มจฺจุ คเหตฺวาว คจฺฉติ. สุชาโตติ สุสณฺิโต. สุมุโขติ กฺจนาทาสปุณฺณจนฺทสทิสมุโข. สุทสฺสโนติ อุตฺตมรูปธาริตาย สมฺปนฺนทสฺสโน. สาโมติ สุวณฺณสาโม. กุสุมฺภปริกิณฺณมสฺสูติ สนฺนิสินฺนฏฺเน สุขุมฏฺเน จ ตรุณกุสุมฺภเกสรสทิสปริกิณฺณมสฺสุ. อิมินา เอวรูโปปิ กุมาโร มจฺจุวสํ คจฺฉติ. ตถาวิธมฺปิ หิ สิเนรุํ อุปฺปาเตนฺโต วิย นิกฺกรุโณ มจฺจุ อาทาย คจฺฉตีติ ทสฺเสติ. หิตฺวาน กาเม ปฏิกจฺจ เคหํ, อนุชาน มํ ปพฺพชิสฺสามิ เทวาติ เทว, ปุตฺตทารพนฺธนสฺมิฺหิ อุปฺปนฺเน ตํ พนฺธนํ ทุจฺเฉทนียํ โหติ, เตนาหํ ปุเรตรฺเว กาเม จ เคหฺจ หิตฺวา อิทาเนว ปพฺพชิสฺสามิ, อนุชาน, มนฺติ.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ‘‘ติฏฺถ ตุมฺเห, ตุมฺเหหิ สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺตี’’ติ เต อุโภปิ วนฺทิตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา คงฺคาตีรเมว อคมาสิ. หตฺถิปาโล ตสฺสปิ อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘สมาคโม มหา ภวิสฺสตี’’ติ ตตฺเถว นิสีทิ. ปุนทิวเส ปุโรหิโต ปลฺลงฺกวรมชฺฌคโต นิสีทิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘มม ปุตฺตา ปพฺพชิตา, อิทานาหํ เอกโกว มนุสฺสขาณุโก ชาโตมฺหิ, อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส พฺราหฺมณิยา สทฺธึ มนฺเตนฺโต คาถมาห –
‘‘สาขาหิ รุกฺโข ลภเต สมฺํ, ปหีนสาขํ ปน ขาณุมาหุ;
ปหีนปุตฺตสฺส มมชฺช โภติ, วาเสฏฺิ ภิกฺขาจริยาย กาโล’’ติ.
ตตฺถ ลภเต สมฺนฺติ รุกฺโขติ โวหารํ ลภติ. วาเสฏฺีติ พฺราหฺมณึ อาลปติ. ภิกฺขาจริยายาติ มยฺหมฺปิ ปพฺพชฺชาย กาโล, ปุตฺตานํ สนฺติกเมว คมิสฺสามีติ.
โส ¶ เอวํ วตฺวา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปสิ, สฏฺิ พฺราหฺมณสหสฺสานิ สนฺนิปตึสุ. อถ เน อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ¶ ตุมฺเห ปน อาจริยาติ. ‘‘อหํ มม ปุตฺตสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘น ตุมฺหากเมว นิรโย อุณฺโห, มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. โส อสีติโกฏิธนํ พฺราหฺมณิยา นิยฺยาเทตฺวา โยชนิกํ พฺราหฺมณปริสํ อาทาย นิกฺขมิตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกฺเว คโต. หตฺถิปาโล ตายปิ ปริสาย อากาเส ตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส พฺราหฺมณี จินฺเตสิ ‘‘มม จตฺตาโร ปุตฺตา เสตจฺฉตฺตํ ปหาย ‘ปพฺพชิสฺสามา’ติ คตา, พฺราหฺมโณปิ ปุโรหิตฏฺาเนน สทฺธึ อสีติโกฏิธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺตานฺเว สนฺติกํ คโต, อหเมว เอกา กึ กริสฺสามิ, ปุตฺตานํ คตมคฺเคเนว คมิสฺสามี’’ติ. สา อตีตํ อุทาหรณํ อาหรนฺตี อุทานคาถมาห –
‘‘อฆสฺมิ โกฺจาว ยถา หิมจฺจเย, กตานิ ชาลานิ ปทาลิย หํสา;
คจฺฉนฺติ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, สาหํ กถํ นานุวเช ปชาน’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ อฆสฺมิ โกฺจาว ยถาติ ยเถว อากาเส โกฺจสกุณา อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ. หิมจฺจเยติ วสฺสานจฺจเย. กตานิ ชาลานิ ปทาลิย หํสาติ อตีเต กิร ฉนฺนวุติสหสฺสา สุวณฺณหํสาวสฺสารตฺตปโหนกํ สาลึ กฺจนคุหายํ นิกฺขิปิตฺวา วสฺสภเยน พหิ อนิกฺขมิตฺวา จตุมาสํ ตตฺถ วสนฺติ. อถ เนสํ อุณฺณนาภิ นาม มกฺกฏโก คุหาทฺวาเร ชาลํ พนฺธติ. หํสา ทฺวินฺนํ ตรุณหํสานํ ทฺวิคุณํ วฏฺฏํ เทนฺติ. เต ถามสมฺปนฺนตาย ตํ ชาลํ ฉินฺทิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺติ, เสสา เตสํ คตมคฺเคน คจฺฉนฺติ. สา ตมตฺถํ ปกาเสนฺตี เอวมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเถว อากาเส โกฺจสกุณา อสชฺชมานา คจฺฉนฺติ, ตถา หิมจฺจเย วสฺสานาติกฺกเม ทฺเว ตรุณหํสา กตานิ ชาลานิ ปทาเลตฺวา คจฺฉนฺติ, อถ เนสํ คตมคฺเคน อิตเร หํสา. อิทานิ ปน มม ปุตฺตา ตรุณหํสา ชาลํ วิย กามชาลํ ฉินฺทิตฺวา คตา, มยาปิ เตสํ คตมคฺเคน คนฺตพฺพนฺติ อิมินาธิปฺปาเยน ‘‘คจฺฉนฺติ ปุตฺตา จ ปตี จ มยฺหํ, สาหํ กถํ นานุวเช ปชาน’’นฺติ อาห.
อิติ สา ‘‘กถํ อหํ เอวํ ปชานนฺตี น ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพชิสฺสามิ เยวา’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา พฺราหฺมณิโย ปกฺโกสาเปตฺวา เอวมาห ‘‘ตุมฺเห กึ ¶ กริสฺสถา’’ติ? ‘‘ตุมฺเห ปน อยฺเย’’ติ. ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. สา ตํ วิภวํ ฉฑฺเฑตฺวา โยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกเมว คตา. หตฺถิปาโล ตายปิ ปริสาย อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ปุนทิวเส ราชา ‘‘กุหึ ปุโรหิโต’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, ปุโรหิโต ¶ จ พฺราหฺมณี จ สพฺพํ ธนํ ฉฑฺเฑตฺวา ทฺวิโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ปุตฺตานํ สนฺติกํ คตา’’ติ. ราชา ‘‘อสามิกํ ธนํ อมฺหากํ ปาปุณาตี’’ติ ตสฺส เคหโต ธนํ อาหราเปสิ. อถสฺส อคฺคมเหสี ‘‘ราชา กึ กโรตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปุโรหิตสฺส เคหโต ธนํ อาหราเปตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุโรหิโต กุหิ’’นฺติ วตฺวา ‘‘สปชาปติโก ปพฺพชฺชตฺถาย นิกฺขนฺโต’’ติ สุตฺวา ‘‘อยํ ราชา พฺราหฺมเณน จ พฺราหฺมณิยา จ จตูหิ ปุตฺเตหิ จ ชหิตํ อุกฺการํ โมเหน มูฬฺโห อตฺตโน ฆรํ อาหราเปติ, อุปมาย นํ โพเธสฺสามี’’ติ สูนโต มํสํ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสึ กาเรตฺวา อุชุมคฺคํ วิสฺสชฺเชตฺวา ¶ ชาลํ ปริกฺขิปาเปสิ. คิชฺฌา ทูรโตว ทิสฺวา ตสฺสตฺถาย โอตรึสุ. ตตฺถ สปฺปฺา ชาลํ ปสาริตํ ตฺวา อติภาริกา หุตฺวา ‘‘อุชุกํ อุปฺปติตุํ น สกฺขิสฺสามา’’ติ อตฺตนา ขาทิตมํสํ ฉฑฺเฑตฺวา วมิตฺวา ชาลํ อนลฺลียิตฺวา อุชุกเมว อุปฺปติตฺวา คมึสุ. อนฺธพาลา ปน เตหิ ฉฑฺฑิตํ วมิตํ ขาทิตฺวา ภาริยา หุตฺวา อุชุกํ อุปฺปติตุํ อสกฺโกนฺตา อาคนฺตฺวา ชาเล พชฺฌึสุ. อเถกํ คิชฺฌํ อาเนตฺวา เทวิยา ทสฺสยึสุ. สา ตํ อาทาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เอถ ตาว, มหาราช, ราชงฺคเณ เอกํ กิริยํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ‘‘อิเม คิชฺเฌ โอโลเกหิ มหาราชา’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘เอเต ภุตฺวา วมิตฺวา จ, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;
เย จ ภุตฺวา น วมึสุ, เต เม หตฺถตฺตมาคตา.
‘‘อวมี ¶ พฺราหฺมโณ กาเม, โส ตฺวํ ปจฺจาวมิสฺสสิ;
วนฺตาโท ปุริโส ราช, น โส โหติ ปสํสิโย’’ติ.
ตตฺถ ภุตฺวา วมิตฺวา จาติ มํสํ ขาทิตฺวา วมิตฺวา จ. ปจฺจาวมิสฺสสีติ ปฏิภฺุชิสฺสสิ. วนฺตาโทติ ปรสฺส วมิตขาทโก. น ปสํสิโยติ โส ตณฺหาวสิโก พาโล พุทฺธาทีหิ ปณฺฑิเตหิ ปสํสิตพฺโพ น โหติ.
ตํ สุตฺวา ราชา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ตโย ภวา อาทิตฺตา วิย อุปฏฺหึสุ. โส ‘‘อชฺเชว รชฺชํ ปหาย มม ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อุปฺปนฺนสํเวโค เทวิยา ถุตึ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘ปงฺเก จ โปสํ ปลิเป พฺยสนฺนํ, พลี ยถา ทุพฺพลมุทฺธเรยฺย;
เอวมฺปิ มํ ตฺวํ อุทตาริ โภติ, ปฺจาลิ คาถาหิ สุภาสิตาหี’’ติ.
ตตฺถ ¶ พฺยสนฺนนฺติ นิมุคฺคํ, ‘‘วิสนฺน’’นฺติปิ ปาโ. อุทฺธเรยฺยาติ เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ถเล เปยฺย. อุทตารีติ กามปงฺกโต อุตฺตารยิ. ‘‘อุทตาสี’’ติปิ ปาโ, อยเมวตฺโถ. ‘‘อุทฺธฏาสี’’ติปิ ปาโ, อุทฺธรีติ อตฺโถ. ปฺจาลีติ ปฺจาลราชธีเต.
เอวฺจ ¶ ปน วตฺวา ตงฺขณฺเว ปพฺพชิตุกาโม หุตฺวา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ตุมฺเห ปน, เทวาติ? ‘‘อหํ หตฺถิปาลสฺส สนฺติเก ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสาม, เทวา’’ติ. ราชา ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘อตฺถิกา เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปนฺตู’’ติ อมจฺจปริวุโต ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา กุมารสฺเสว สนฺติกํ คโต. หตฺถิปาโล ตสฺสาปิ ปริสาย อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสสิ. สตฺถา รฺโ ปพฺพชิตภาวํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –
‘‘อิทํ วตฺวา มหาราชา, เอสุการี ทิสมฺปติ;
รฏฺํ หิตฺวาน ปพฺพชิ, นาโค เฉตฺวาว พนฺธน’’นฺติ.
ปุนทิวเส ¶ นคเร โอหีนชโน สนฺนิปติตฺวา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา เทวิยา อาโรเจตฺวา นิเวสนํ ปวิสิตฺวา เทวึ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต คาถมาห.
‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;
ตุวมฺปิ โน โหหิ ยเถว ราชา, อมฺเหหิ คุตฺตา อนุสาส รชฺช’’นฺติ.
ตตฺถ อนุสาสาติ อมฺเหหิ คุตฺตา หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ.
สา มหาชนสฺส กถํ สุตฺวา เสสคาถา อภาสิ –
‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ มโนรมานิ.
‘‘ราชา จ ปพฺพชฺชมโรจยิตฺถ, รฏฺํ ปหาย นรวีรเสฏฺโ;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานิ.
‘‘อจฺเจนฺติ ¶ ¶ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ มโนรมานิ.
‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานิ.
‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ;
อหมฺปิ เอกา จริสฺสามิ โลเก, สีติภูตา สพฺพมติจฺจ สงฺค’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ เอกาติ ปุตฺตธีตุกิเลสสมฺพาเธหิ มุจฺจิตฺวา อิมสฺมึ โลเก เอกิกาว จริสฺสามิ. กามานีติ รูปาทโย กามคุเณ. ยโตธิกานีติ เยน เยน โอธินา ิตานิ, เตน เตน ิตาเนว ชหิสฺสามิ, น กิฺจิ อามสิสฺสามีติ อตฺโถ. อจฺเจนฺติ กาลาติ ปุพฺพณฺหาทโย กาลา อติกฺกมนฺติ. ตรยนฺตีติ อตุจฺฉา หุตฺวา อายุสงฺขารํ เขปยมานา ขาทยมานา คจฺฉนฺติ. วโยคุณาติ ปมวยาทโย ตโย, มนฺททสกาทโย วา ทส โกฏฺาสา. อนุปุพฺพํ ชหนฺตีติ อุปรูปริโกฏฺาสํ อปฺปตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว นิรุชฺฌนฺติ. สีติภูตาติ อุณฺหการเก อุณฺหสภาเว กิเลเส ปหาย สีตลา หุตฺวา. สพฺพมติจฺจ สงฺคนฺติ ราคสงฺคาทิกํ สพฺพสงฺคํ อติกฺกมิตฺวา เอกา จริสฺสามิ, หตฺถิปาลกุมารสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ.
อิติ สา อิมาหิ คาถาหิ มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา อมจฺจภริยาโย ปกฺโกสาเปตฺวา อาห – ‘‘ตุมฺเห กึ กริสฺสถา’’ติ ตุมฺเห ปน อยฺเยติ? ‘‘อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. ‘‘มยมฺปิ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ. สา ‘‘สาธู’’ติ ราชนิเวสเน สุวณฺณโกฏฺาคาราทีนิ วิวราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน จ อสุกฏฺาเน จ มหานิธิ นิทหิต’’นฺติ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา ‘‘ทินฺนฺเว, อตฺถิกา หรนฺตู’’ติ วตฺวา สุวณฺณปฏฺฏํ มหาตเล ถมฺเภ พนฺธาเปตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาสมฺปตฺตึ ฉฑฺเฑตฺวา นครา นิกฺขมิ. ตสฺมึ ¶ ขเณ สกลนครํ สงฺขุภิ. ‘‘ราชา จ กิร เทวี จ รชฺชํ ปหาย ‘ปพฺพชิสฺสามา’ติ นิกฺขมนฺติ, มยํ อิธ กึ กริสฺสามา’’ติ ตโต ตโต มนุสฺสา ยถาปูริตาเนว เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา ปุตฺเต หตฺเถสุ คเหตฺวา นิกฺขมึสุ. สพฺพาปณา ปสาริตนิยาเมเนว ิตา, นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต นาม นาโหสิ. สกลนครํ ตุจฺฉํ อโหสิ, เทวีปิ ติโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา ตตฺเถว คตา. หตฺถิปาโล ตสฺสาปิ ปริสาย อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสตฺวา ทฺวาทสโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร กิร ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ ตุจฺฉํ กตฺวา ‘ปพฺพชิสฺสามี’ติ มหาชนํ อาทาย ¶ หิมวนฺตํ คจฺฉติ, กิมงฺคํ ปน มย’’นฺติ สกลกาสิรฏฺํ สงฺขุภิ. อปรภาเค ปริสา ตึสโยชนิกา อเหสุํ, โส ตาย ปริสาย สทฺธึ หิมวนฺตํ ¶ ปาวิสิ.
สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ ปวตฺตึ ตฺวา ‘‘หตฺถิปาลกุมาโร มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, สมาคโม มหา ภวิสฺสติ, วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วิสฺสกมฺมํ อาณาเปสิ ‘‘คจฺฉ, อายามโต ฉตฺตึสโยชนํ, วิตฺถารโต ปนฺนรสโยชนํ อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร สมฺปาเทหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา คงฺคาตีเร รมณีเย ภูมิภาเค วุตฺตปฺปมาณํ อสฺสมปทํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาสุ กฏฺตฺถรณปณฺณตฺถรณอาสนาทีนิ ปฺเปตฺวา สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร มาเปสิ. เอเกกิสฺสา ปณฺณสาลาย ทฺวาเร เอเกโก จงฺกโม รตฺติฏฺานทิวาฏฺานปริจฺฉินฺโน กตสุธาปริกมฺโม อาลมฺพนผลโก, เตสุ เตสุ าเนสุ นานาวณฺณสุรภิกุสุมสฺฉนฺนา ปุปฺผคจฺฉา, เอเกกสฺส จงฺกมสฺส โกฏิยํ เอเกโก อุทกภริโต กูโป, ตสฺส สนฺติเก เอเกโก ผลรุกฺโข, โส เอโกว สพฺพผลานิ ผลติ. อิทํ สพฺพํ เทวตานุภาเวน อโหสิ. วิสฺสกมฺโม อสฺสมปทํ มาเปตฺวา ปณฺณสาลาสุ ปพฺพชิตปริกฺขาเร เปตฺวา ‘‘เย เกจิ ปพฺพชิตุกามา อิเม ปริกฺขาเร คณฺหนฺตู’’ติ ชาติหิงฺคุลเกน ภิตฺติยา อกฺขรานิ ลิขิตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน เภรวสทฺเท มิคปกฺขี ทุทฺทสิเก อมนุสฺเส จ ปฏิกฺกมาเปตฺวา สกฏฺานเมว คโต.
หตฺถิปาลกุมาโร เอกปทิกมคฺเคน สกฺกทตฺติยํ อสฺสมํ ปวิสิตฺวา อกฺขรานิ ทิสฺวา ‘‘สกฺเกน มม มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺตภาโว าโต ภวิสฺสตี’’ติ ¶ ทฺวารํ วิวริตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชลิงฺคํ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา จงฺกมํ โอตริตฺวา กติปเย วาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา เสสชนกายํ ปพฺพาเชตฺวา อสฺสมปทํ วิจาเรนฺโต ตรุณปุตฺตานํ อิตฺถีนํ มชฺฌฏฺาเน ปณฺณสาลํ อทาสิ. ตโต อนนฺตรํ มหลฺลกิตฺถีนํ, ตโต อนนฺตรํ มชฺฌิมิตฺถีนํ, สมนฺตา ปริกฺขิปิตฺวา ปน ปุริสานํ อทาสิ ¶ . อเถโก ราชา ‘‘พาราณสิยํ กิร ราชา นตฺถี’’ติ อาคนฺตฺวา อลงฺกตปฏิยตฺตํ นครํ โอโลเกตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห ตตฺถ ตตฺถ รตนราสึ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปํ นครํ ปหาย ปพฺพชิตกาลโต ปฏฺาย ปพฺพชฺชา นาเมสา อุฬารา ภวิสฺสตี’’ติ สุราโสณฺเฑ มคฺคํ ปุจฺฉิตฺวา หตฺถิปาลสฺส สนฺติกํ ปายาสิ. หตฺถิปาโล ตสฺส วนนฺตรํ อาคตภาวํ ตฺวา ปฏิมคฺคํ คนฺตฺวา อากาเส นิสินฺโน ปริสาย ธมฺมํ เทเสตฺวา อสฺสมปทํ เนตฺวา สพฺพปริสํ ปพฺพาเชสิ. เอเตนุปาเยน อฺเปิ ฉ ราชาโน ปพฺพชึสุ. สตฺต ราชาโน โภเค ฉฑฺฑยึสุ, ฉตฺตึสโยชนิโก อสฺสโม นิรนฺตโร ปริปูริ. โย กามวิตกฺกาทีสุ อฺตรํ วิตกฺเกติ, มหาปุริโส ตสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา พฺรหฺมวิหารภาวนฺเจว กสิณภาวนฺจ ¶ อาจิกฺขติ. เต เยภุยฺเยน ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา ตีสุ โกฏฺาเสสุ ทฺเว โกฏฺาสา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตึสุ. ตติยโกฏฺาสํ ติธา กตฺวา เอโก โกฏฺาโส พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, เอโก ฉสุ กามสคฺเคสุ, เอโก อิสีนํ ปาริจริยํ กตฺวา มนุสฺสโลเก ตีสุ กุลสมฺปตฺตีสุ นิพฺพตฺติ. เอวํ หตฺถิปาลสฺส สาสนํ อปคตนิรยติรจฺฉานโยนิเปตฺติวิสยาสุรกายํ อโหสิ.
อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ปถวิจาลกธมฺมคุตฺตตฺเถโร, กฏกนฺธการวาสี ผุสฺสเทวตฺเถโร, อุปริมณฺฑลวาสี มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร, มลยมหาเทวตฺเถโร, อภยคิริวาสี มหาเทวตฺเถโร, คามนฺตปพฺภารวาสี มหาสิวตฺเถโร, กาฬวลฺลิมณฺฑปวาสี มหานาคตฺเถโร กุทฺทาลสมาคเม มูคปกฺขสมาคเม จูฬสุตโสมสมาคเม อโยฆรปณฺฑิตสมาคเม หตฺถิปาลสมาคเม จ สพฺพปจฺฉา นิกฺขนฺตปุริสา อเหสุํ. เตเนวาห ภควา –
‘‘อภิตฺถเรถ ¶ กลฺยาเณ, ปาปา จิตฺตํ นิวารเย;
ทนฺธฺหิ กโรโต ปฺุํ, ปาปสฺมึ รมเต มโน’’ติ. (ธ. ป. ๑๑๖);
ตสฺมา กลฺยาณํ ตุริตตุริเตเนว กาตพฺพนฺติ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา เอสุการี ราชา สุทฺโธทนมหาราชา อโหสิ, เทวี มหามายา, ปุโรหิโต กสฺสโป, พฺราหฺมณี ภทฺทกาปิลานี, อชปาโล อนุรุทฺโธ, โคปาโล โมคฺคลฺลาโน, อสฺสปาโล สาริปุตฺโต, เสสปริสา พุทฺธปริสา, หตฺถิปาโล ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
หตฺถิปาลชาตกวณฺณนา เตรสมา.
[๕๑๐] ๑๔. อโยฆรชาตกวณฺณนา
ยเมกรตฺตึ ปมนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มหาภินิกฺขมนฺเว อารพฺภ กเถสิ. ตทาปิ หิ โส ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต พฺรหฺมทตฺตสฺส รฺโ อคฺคมเหสี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ลทฺธคพฺภปริหารา ปริณตคพฺภา ปจฺจูสสมนนฺตเร ปุตฺตํ วิชายิ. ตสฺสา ปุริมตฺตภาเว เอกา สปตฺติกา ‘‘ตว ชาตํ ชาตํ ปชํ ขาทิตุํ ลภิสฺสามี’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. สา กิร สยํ วฺฌา หุตฺวา ปุตฺตมาตุโกเธน ตํ ปตฺถนํ กตฺวา ยกฺขโยนิยํ นิพฺพตฺติ. อิตรา รฺโ อคฺคมเหสี หุตฺวา อิมํ ปุตฺตํ วิชายิ. สา ยกฺขินี ตทา โอกาสํ ลภิตฺวา เทวิยา ปสฺสนฺติยาว พีภจฺฉรูปา หุตฺวา อาคนฺตฺวา ตํ ทารกํ คเหตฺวา ปลายิ. เทวี ‘‘ยกฺขินี เม ปุตฺตํ คเหตฺวา ปลายี’’ติ มหาสทฺเทน วิรวิ. อิตราปิ ทารกํ มูลกนฺทํ วิย มุรุํ มุรุํ กโรนฺตี ขาทิตฺวา เทวิยา หตฺถวิการาทีหิ เภรวํ ปกาเสตฺวา ตชฺเชตฺวา ปกฺกามิ. ราชา ตํ วจนํ สุตฺวา ‘‘กึ สกฺกา ยกฺขินิยา กาตุ’’นฺติ ตุณฺหี อโหสิ. ปุน เทวิยา วิชายนกาเล ทฬฺหํ อารกฺขมกาสิ. เทวี ปุตฺตํ ปุน วิชายิ. ยกฺขินี อาคนฺตฺวา ตมฺปิ ขาทิตฺวา คตา. ตติยวาเร ¶ ตสฺสา กุจฺฉิยํ มหาสตฺโต ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. ราชา มหาชนํ สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘เทวิยา ชาตํ ชาตํ ปชํ เอกา ยกฺขินี ขาทติ ¶ , กึ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิ. อเถโก ‘‘ยกฺขา นาม ตาลปณฺณสฺส ภายนฺติ, เทวิยา หตฺถปาเทสุ ตาลปณฺณํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. อเถโก ‘‘อโยฆรสฺส ภายนฺติ, อโยฆรํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ อตฺตโน วิชิเต กมฺมาเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘อโยฆรํ กโรถา’’ติ อาณาเปตฺวา อายุตฺตเก อทาสิ. อนฺโตนคเรเยว รมณีเย ภูมิภาเค เคหํ ปฏฺเปสุํ, ถมฺเภ อาทึ กตฺวา สพฺพเคหสมฺภารา อโยมยาว อเหสุํ, นวหิ มาเสหิ อโยมยํ มหนฺตํ จตุรสฺสสาลํ นิฏฺานํ อคมาสิ. ตํ นิจฺจํ ปชฺชลิตปทีปเมว โหติ.
ราชา เทวิยา คพฺภปริปากํ ตฺวา อโยฆรํ อลงฺการาเปตฺวา ตํ อาทาย อโยฆรํ ปาวิสิ. สา ตตฺถ ธฺปฺุลกฺขณสมฺปนฺนํ ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘อโยฆรกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. ตํ ธาตีนํ ทตฺวา มหนฺตํ อารกฺขํ สํวิทหิตฺวา ราชา เทวึ อาทาย นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา อลงฺกตปาสาทตลเมว อภิรุหิ. ยกฺขินีปิ อุทกวารํ คนฺตฺวา เวสฺสวณสฺส อุทกํ วหนฺตี ชีวิตกฺขยํ ปตฺตา. มหาสตฺโต อโยฆเรเยว วฑฺฒิตฺวา วิฺุตํ ปตฺโต ตตฺเถว สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิ. ราชา ‘‘โก เม ปุตฺตสฺส วยปฺปเทโส’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘โสฬสวสฺโส, เทว, สูโร ถามสมฺปนฺโน ยกฺขสหสฺสมฺปิ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ’’ติ สุตฺวา ‘‘รชฺชมสฺส ทสฺสามิ, สกลนครํ อลงฺกริตฺวา อโยฆรโต ตํ นีหริตฺวา อาเนถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ทฺวาทสโยชนิกํ พาราณสึ อลงฺกริตฺวา สพฺพาลงฺการวิภูสิตํ มงฺคลวารณํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา กุมารํ อลงฺการาเปตฺวา หตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทาเปตฺวา ‘‘เทว, กุลสนฺตกํ ¶ อลงฺกตนครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ปิตรํ กาสิราชานํ วนฺทถ, อชฺเชว เสตจฺฉตฺตํ ลภิสฺสถา’’ติ อาหํสุ.
มหาสตฺโต นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต อารามรามเณยฺยกวนโปกฺขรณิภูมิรามเณยฺยกปาสาทรามเณยฺยกาทีนิ ทิสฺวา ¶ จินฺเตสิ ‘‘มม ปิตา มํ เอตฺตกํ กาลํ พนฺธนาคาเร วสาเปสิ. เอวรูปํ อลงฺกตนครํ ทฏฺุํ นาทาสิ, โก นุ โข มยฺหํ โทโส’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว, นตฺถิ ตุมฺหากํ โทโส, ตุมฺหากํ ปน ทฺเวภาติเก เอกา ยกฺขินี ขาทิ, เตน โว ¶ ปิตา อโยฆเร วสาเปสิ, อโยฆเรน ชีวิตํ ตุมฺหากํ ลทฺธ’’นฺติ. โส เตสํ วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อหํ ทส มาเส โลหกุมฺภินิรเย วิย จ คูถนิรเย วิย จ มาตุกุจฺฉิมฺหิ วสิตฺวา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺตกาลโต ปฏฺาย โสฬส วสฺสานิ เอตสฺมึ พนฺธนาคาเร วสึ, พหิ โอโลเกตุมฺปิ น ลภึ, อุสฺสทนิรเย ขิตฺโต วิย อโหสึ, ยกฺขินิยา หตฺถโต มุตฺโตปิ ปนาหํ เนว อชโร, น อมโร โหมิ, กึ เม รชฺเชน, รชฺเช ิตกาลโต ปฏฺาย ทุนฺนิกฺขมนํ โหติ, อชฺเชว มม ปิตรํ ปพฺพชฺชํ อนุชานาเปตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ราชกุลํ ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ.
ราชา ตสฺส สรีรโสภํ โอโลเกตฺวา พลวสิเนเหน อมจฺเจ โอโลเกสิ. เต ‘‘กึ กโรม, เทวา’’ติ วทึสุ. ปุตฺตํ เม รตนราสิมฺหิ เปตฺวา ตีหิ สงฺเขหิ อภิสิฺจิตฺวา กฺจนมาลํ เสตจฺฉตฺตํ อุสฺสาเปถาติ. มหาสตฺโต ปิตรํ วนฺทิตฺวา ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, อหํ ปพฺพชิสฺสามิ, ปพฺพชฺชํ เม อนุชานาถา’’ติ อาห. ตาต รชฺชํ ปฏิกฺขิปิตฺวา กึการณา ปพฺพชิสฺสสีติ. ‘‘เทว อหํ มาตุกุจฺฉิมฺหิ ทส มาเส คูถนิรเย วิย วสิตฺวา มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขนฺโต ยกฺขินิภเยน โสฬส วสฺสานิ พนฺธนาคาเร วสนฺโต พหิ โอโลเกตุมฺปิ น อลภึ, อุสฺสทนิรเย ขิตฺโต วิย อโหสึ, ยกฺขินิยา หตฺถโต มุตฺโตมฺหีติปิ อชโร อมโร น โหมิ. มจฺจุ นาเมส น สกฺกา เกนจิ ชินิตุํ, ภเว อุกฺกณฺิโตมฺหิ, ยาว เม พฺยาธิชรามรณานิ นาคจฺฉนฺติ, ตาวเทว ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จริสฺสามิ, อลํ เม รชฺเชน, อนุชานาถ มํ, เทวา’’ติ วตฺวา ปิตุ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘ยเมกรตฺตึ ¶ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;
อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตติ.
‘‘น ¶ ยุชฺฌมานา น พเลนวสฺสิตา, นรา น ชีรนฺติ น จาปิ มียเร;
สพฺพํ หิทํ ชาติชรายุปทฺทุตํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘จตุรงฺคินึ ¶ เสนํ สุภึสรูปํ, ชยนฺติ รฏฺาธิปตี ปสยฺห;
น มจฺจุโน ชยิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘หตฺถีหิ อสฺเสหิ รเถหิ ปตฺติภิ, ปริวาริตา มุจฺจเร เอกจฺเจยฺยา;
น มจฺจุโน มุจฺจิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘หตฺถีหิ อสฺเสหิ รเถหิ ปตฺติภิ, สูรา ปภฺชนฺติ ปธํสยนฺติ;
น มจฺจุโน ภฺชิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘มตฺตา คชา ภินฺนคฬา ปภินฺนา, นครานิ มทฺทนฺติ ชนํ หนนฺติ;
น มจฺจุโน มทฺทิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘อิสฺสาสิโน กตหตฺถาปิ วีรา, ทูเรปาตี อกฺขณเวธิโนปิ;
น มจฺจุโน วิชฺฌิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘สรานิ ขียนฺติ สเสลกานนา, สพฺพํ หิทํ ขียติ ทีฆมนฺตรํ;
สพฺพํ หิทํ ภฺชเร กาลปริยายํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘สพฺเพสเมวฺหิ นราน นารินํ, จลาจลํ ปาณภุโนธ ชีวิตํ;
ปโฏว ธุตฺตสฺส, ทุโมว กูลโช, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘ทุมปฺผลาเนว ¶ ¶ ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุทฺธา จ สรีรเภทา;
นาริโย นรา มชฺฌิมโปริสา จ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘นายํ วโย ตารกราชสนฺนิโภ, ยทพฺภตีตํ คตเมว ทานิ ตํ;
ชิณฺณสฺส หี นตฺถิ รตี กุโต สุขํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘ยกฺขา ¶ ปิสาจา อถวาปิ เปตา, กุปิตา เต อสฺสสนฺติ มนุสฺเส;
น มจฺจุโน อสฺสสิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘ยกฺเข ปิสาเจ อถวาปิ เปเต, กุปิเตปิ เต นิชฺฌปนํ กโรนฺติ;
น มจฺจุโน นิชฺฌปนํ กโรนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘อปราธเก ทูสเก เหเก จ, ราชาโน ทณฺเฑนฺติ วิทิตฺวาน โทสํ;
น มจฺจุโน ทณฺฑยิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘อปราธกา ทูสกา เหกา จ, ลภนฺติ เต ราชิโน นิชฺฌเปตุํ;
น มจฺจุโน นิชฺฌปนํ กโรนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘น ขตฺติโยติ น จ พฺราหฺมโณติ, น อฑฺฒกา พลวา เตชวาปิ;
น มจฺจุราชสฺส อเปกฺขมตฺถิ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘สีหา ¶ จ พฺยคฺฆา จ อโถปิ ทีปิโย, ปสยฺห ขาทนฺติ วิปฺผนฺทมานํ;
น มจฺจุโน ขาทิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘มายาการา รงฺคมชฺเฌ กโรนฺตา, โมเหนฺติ จกฺขูนิ ชนสฺส ตาวเท;
น มจฺจุโน โมหยิตุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘อาสีวิสา ¶ กุปิตา อุคฺคเตชา, ฑํสนฺติ มาเรนฺติปิ เต มนุสฺเส;
น มจฺจุโน ฑํสิตุมุสฺสหนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘อาสีวิสา กุปิตา ยํ ฑํสนฺติ, ติกิจฺฉกา เตส วิสํ หนนฺติ;
น มจฺจุโน ทฏฺวิสํ หนนฺติ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘ธมฺมนฺตรี เวตฺตรณี จ โภโช, วิสานิ หนฺตฺวาน ภุชงฺคมานํ;
สุยฺยนฺติ เต กาลกตา ตเถว, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘วิชฺชาธรา ¶ โฆรมธียมานา, อทสฺสนํ โอสเธหิ วชนฺติ;
น มจฺจุราชสฺส วชนฺตทสฺสนํ, ตํ เม มตี โหติ จรามิ ธมฺมํ.
‘‘ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ;
เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.
‘‘น ¶ หิ ธมฺโม อธมฺโม จ, อุโภ สมวิปากิโน;
อธมฺโม นิรยํ เนติ, ธมฺโม ปาเปติ สุคฺคติ’’นฺติ.
ตตฺถ ยเมกรตฺตินฺติ เยภุยฺเยน สตฺตา มาตุกุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตา รตฺติยํเยว คณฺหนฺติ, ตสฺมา เอวมาห. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – ยํ เอกรตฺตึ วา ทิวา วา ปมเมว ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา มาตุกุจฺฉิสงฺขาเต คพฺเภ วสติ. มาณโวติ สตฺโต กลลภาเวน ปติฏฺาติ. อพฺภุฏฺิโตว โส ยาตีติ โส มาณโว ยถา นาม วลาหกสงฺขาโต อพฺโภ อุฏฺิโต นิพฺพตฺโต วายุเวคาหโต ปฏิคจฺฉติ, ตเถว –
‘‘ปมํ กลลํ โหติ, กลลา โหติ อพฺพุทํ;
อพฺพุทา ชายเต เปสิ, เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโน;
ฆนา ปสาขา ชายนฺติ, เกสา โลมา นขาปิ จ.
‘‘ยฺจสฺส ภฺุชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;
เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโรติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕);
อิมํ มาตุกุจฺฉิยํ กลลาทิภาวํ, มาตุกุจฺฉิโต จ นิกฺขนฺโต มนฺททสกาทิภาวํ อาปชฺชมาโน สตตํ สมิตํ คจฺฉติ. ส คจฺฉํ น นิวตฺตตีติ สจายํ ¶ เอวํ คจฺฉนฺโต ปุน อพฺพุทโต กลลภาวํ, เปสิอาทิโต วา อพฺพุทาทิภาวํ, ขิฑฺฑาทสกโต มนฺททสกภาวํ, วณฺณทสกาทิโต วา ขิฑฺฑาทสกาทิภาวํ ปาปุณิตุํ น นิวตฺตติ. ยถา ปน โส วลาหโก วาตเวเคน สํจุณฺณิยมาโน ‘‘อหํ อสุกฏฺาเน นาม อุฏฺิโต ปุน นิวตฺติตฺวา ตตฺเถว คนฺตฺวา ปกติภาเวน สฺสามี’’ติ น ลภติ, ยํ ทิสํ คตํ, ตํ คตเมว, ยํ อนฺตรหิตํ, ตํ อนฺตรหิตเมว โหติ, ตถา โสปิ กลลาทิภาเวน คจฺฉมาโน คจฺฉเตว, ตสฺมึ ตสฺมึ โกฏฺาเส สงฺขารา ปุริมานํ ปุริมานํ ปจฺจยา หุตฺวา ปจฺฉโต อนิวตฺติตฺวา ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, ชรากาเล ¶ สงฺขารา ‘‘อมฺเหหิ เอส ปุพฺเพ ยุวา ถามสมฺปนฺโน กโต, ปุน นํ นิวตฺติตฺวา ตตฺเถว กริสฺสามา’’ติ น ลภนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ทสฺเสติ.
น ¶ ยุชฺฌมานาติ อุภโต พฺยูฬฺเห สงฺคาเม ยุชฺฌนฺตา. น พเลนวสฺสิตาติ น กายพเลน วา โยธพเลน วา อุปคตา สมนฺนาคตา. น ชีรนฺตีติ ปุริม-น-การํ อาหริตฺวา เอวรูปาปิ นรา น ชีรนฺติ น จาปิ น มียเรติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สพฺพํ หิทนฺติ มหาราช, สพฺพเมว อิทํ ปาณมณฺฑลํ มหายนฺเตน ปีฬิยมานา อุจฺฉุฆฏิกา วิย ชาติยา จ ชราย จ อุปทฺทุตํ นิจฺจํ ปีฬิตํ. ตํ เม มตี โหตีติ เตน การเณน มม ‘‘ปพฺพชิตฺวา ธมฺมํ จรามี’’ติ มติ โหติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.
จตุรงฺคินินฺติ หตฺถิอาทีหิ จตุรงฺเคหิ สมนฺนาคตํ. เสนํ สุภึสรูปนฺติ สุฏฺุ ภึสนกชาติกํ เสนํ. ชยนฺตีติ กทาจิ เอกจฺเจ ราชาโน อตฺตโน เสนาย ชยนฺติ. น มจฺจุโนติ เตปิ ราชาโน มหาเสนสฺส มจฺจุโน เสนํ ชยิตุํ น อุสฺสหนฺติ, น พฺยาธิชรามรณานิ มทฺทิตุํ สกฺโกนฺติ. มุจฺจเร เอกจฺเจยฺยาติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ ปริวาริตา เอกจฺเจ ปจฺจามิตฺตานํ หตฺถโต มุจฺจนฺติ, มจฺจุโน ปน สนฺติกา มุจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. ปภฺชนฺตีติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ ปจฺจตฺถิกราชูนํ นครานิ ปภฺชนฺติ. ปธํสยนฺตีติ มหาชนํ ธํเสนฺตา ปธํเสนฺตา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ. น มจฺจุโนติ เตปิ มรณกาเล ปตฺเต มจฺจุโน ภฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ.
ภินฺนคฬา ปภินฺนาติ ตีสุ าเนสุ ปภินฺนา หุตฺวา มทํ คฬนฺตา, ปคฺฆริตมทาติ อตฺโถ. น มจฺจุโนติ เตปิ มหามจฺจุํ มทฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ. อิสฺสาสิโนติ อิสฺสาสา ธนุคฺคหา. กตหตฺถาติ สุสิกฺขิตา. ทูเรปาตีติ สรํ ทูเร ปาเตตุํ สมตฺถา. อกฺขณเวธิโนติ อวิรทฺธเวธิโน, วิชฺชุอาโลเกน วิชฺฌนสมตฺถา วา. สรานีติ อโนตตฺตาทีนิ มหาสรานิ ขียนฺติเยว. สเสลกานนาติ สปพฺพตวนสณฺฑา มหาปถวีปิ ขียติ. สพฺพํ หิทนฺติ สพฺพมิทํ สงฺขารคตํ ทีฆมนฺตรํ ตฺวา ขียเตว. กปฺปุฏฺานคฺคึ ¶ ปตฺวา มหาสิเนรุปิ อคฺคิมุเข มธุสิตฺถกํ วิย วิลียเตว, อณุมตฺโตปิ สงฺขาโร าตุํ น สกฺโกติ. กาลปริยายนฺติ กาลปริยายํ นสฺสนกาลวารํ ปตฺวา สพฺพํ ภฺชเร, สพฺพํ สงฺขารคตํ ภิชฺชเตว. ตสฺส ปกาสนตฺถํ สตฺตสูริยสุตฺตํ (อ. นิ. ๗.๖๖) อาหริตพฺพํ.
จลาจลนฺติ จฺจลํ สกภาเวน าตุํ อสมตฺถํ นานาภาววินาภาวสภาวเมว. ปาณภุโนธ ¶ ชีวิตนฺติ อิธ โลเก อิเมสํ ปาณภูตานํ ชีวิตํ ¶ . ปโฏว ธุตฺตสฺส, ทุโมว กูลโชติ สุรธุตฺโต หิ สุรํ ทิสฺวาว อุทเร พทฺธํ สาฏกํ ทตฺวา ปิวเตว, นทีกูเล ชาตทุโมว กูเล ลุชฺชมาเน ลุชฺชติ, ยถา เอส ปโฏ จ ทุโม จ จฺจโล, เอวํ สตฺตานํ ชีวิตํ, เทวาติ. ทุมปฺผลาเนวาติ ยถา ปกฺกานิ ผลานิ วาตาหตานิ ทุมคฺคโต ภูมิยํ ปตนฺติ, ตเถวิเม มาณวา ชราวาตาหตา ชีวิตา คฬิตฺวา มรณปถวิยํ ปตนฺติ. ทหราติ อนฺตมโส กลลภาเว ิตาปิ. มชฺฌิมโปริสาติ นารีนรานํ มชฺเฌ ิตา อุภโตพฺยฺชนกนปุํสกา.
ตารกราชสนฺนิโภติ ยถา ตารกราชา กาฬปกฺเข ขีโณ, ปุน ชุณฺหปกฺเข ปูรติ, น เอวํ สตฺตานํ วโย. สตฺตานฺหิ ยํ อพฺภตีตํ, คตเมว ทานิ ตํ, น ตสฺส ปุนาคมนํ อตฺถิ. กุโต สุขนฺติ ชราชิณฺณสฺส กามคุเณสุ รติปิ นตฺถิ, เต ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกสุขํ กุโตเยว. ยกฺขาติ มหิทฺธิกา ยกฺขา. ปิสาจาติ ปํสุปิสาจกา. เปตาติ เปตฺติวิสยิกา. อสฺสสนฺตีติ อสฺสาสวาเตน อุปหนนฺติ, อาวิสนฺตีติ วา อตฺโถ. น มจฺจุโนติ มจฺจุํ ปน เตปิ อสฺสาเสน อุปหนิตุํ วา อาวิสิตุํ วา น สกฺโกนฺติ. นิชฺฌปนํ กโรนฺตีติ พลิกมฺมวเสน ขมาเปนฺติ ปสาเทนฺติ. อปราธเกติ ราชาปราธการเก. ทูสเกติ รชฺชทูสเก. เหเกติ สนฺธิจฺเฉทาทีหิ โลกวิเหเก. ราชาโนติ ราชาโน. วิทิตฺวาน โทสนฺติ โทสํ ชานิตฺวา ยถานุรูเปน ทณฺเฑน ทณฺเฑนฺตีติ อตฺโถ. น มจฺจุโนติ เตปิ มจฺจุํ ทณฺฑยิตุํ น สกฺโกนฺติ.
นิชฺฌเปตุนฺติ สกฺขีหิ อตฺตโน นิรปราธภาวํ ปกาเสตฺวา ปสาเทตุํ. น อฑฺฒกา พลวา เตชวาปีติ ‘‘อิเม อฑฺฒา, อยํ กายพลาณพลาทีหิ พลวา, อยํ เตชวา’’ติ เอวมฺปิ น ปจฺจุราชสฺส อเปกฺขํ อตฺถิ, เอกสฺมิมฺปิ สตฺเต อเปกฺขํ เปมํ สิเนโห นตฺถิ, สพฺพเมว อภิมทฺทตีติ ทสฺเสติ. ปสยฺหาติ พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวา. น มจฺจุโนติ เตปิ มจฺจุํ ขาทิตุํ น สกฺโกนฺติ. กโรนฺตาติ มายํ กโรนฺตา. โมเหนฺตีติ อภูตํ ภูตํ กตฺวา ทสฺเสนฺตา โมเหนฺติ. อุคฺคเตชาติ อุคฺคเตน วิสเตเชน สมนฺนาคตา. ติกิจฺฉกาติ วิสเวชฺชา. ธมฺมนฺตรี เวตฺตรณี จ โภโชติ เอเต เอวํนามกา เวชฺชา. โฆรมธียมานาติ โฆรํ นาม วิชฺชํ อธียนฺตา. โอสเธหีติ โฆรํ วา คนฺธารึ ¶ วา วิชฺชํ สาเวตฺวา โอสธํ อาทาย เตหิ โอสเธหิ ปจฺจตฺถิกานํ อทสฺสนํ วชนฺติ.
ธมฺโมติ ¶ สุจริตธมฺโม. รกฺขตีติ เยน รกฺขิโต, ตํ ปฏิรกฺขติ. สุขนฺติ ฉสุ กามสคฺเคสุ สุขํ อาวหติ. ปาเปตีติ ปฏิสนฺธิวเสน อุปเนติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต จตุวีสติยา คาถาหิ ปิตุ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘มหาราช, ตุมฺหากํ รชฺชํ ตุมฺหากเมว โหตุ, น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ, ตุมฺเหหิ ปน สทฺธึ กเถนฺตเมว มํ พฺยาธิชรามรณานิ อุปคจฺฉนฺติ, ติฏฺถ, ตุมฺเห’’ติ วตฺวา อยทามํ ฉินฺทิตฺวา มตฺตหตฺถี วิย กฺจนปฺชรํ ฉินฺทิตฺวา สีหโปตโก วิย กาเม ปหาย มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา นิกฺขมิ. อถสฺส ปิตา ‘‘มมปิ รชฺเชนตฺโถ นตฺถี’’ติ รชฺชํ ปหาย เตน สทฺธิฺเว นิกฺขมิ, ตสฺมึ นิกฺขนฺเต เทวีปิ อมจฺจาปิ พฺราหฺมณคหปติกาทโยปีติ สกลนครวาสิโน เคหานิ ฉฑฺเฑตฺวา นิกฺขมึสุ. สมาคโม มหา อโหสิ, ปริสา ทฺวาทสโยชนิกา ชาตา. ตํ อาทาย มหาสตฺโต หิมวนฺตํ ปาวิสิ. สกฺโก ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา วิสฺสกมฺมํ เปเสตฺวา ทฺวาทสโยชนายามํ สตฺตโยชนวิตฺถารํ อสฺสมปทํ กาเรสิ. สพฺเพ ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาทาเปสิ. อิโต ปรํ มหาสตฺตสฺส ปพฺพชฺชา จ โอวาททานฺจ พฺรหฺมโลกปรายณตา จ ปริสาย อนปายคมนียตา จ สพฺพา เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, ภิกฺขเว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, เสสปริสา พุทฺธปริสา, อโยฆรปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
อโยฆรชาตกวณฺณนา จุทฺทสมา.
ชาตกุทฺทานํ –
มาตงฺโค จิตฺตสมฺภูโต, สิวิ สิรี จ โรหณํ;
หํโส สตฺติคุมฺโพ ภลฺลา, โสมนสฺสํ จมฺเปยฺยกํ.
ปโลภํ ปฺจปณฺฑิตํ, หตฺถิปาลํ อโยฆรํ;
วีสติยมฺหิ ชาตกา, จตุทฺทเสว สงฺคิตา.
วีสตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.
(จตุตฺโถ ภาโค นิฏฺิโต)
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ขุทฺทกนิกาเย
ชาตก-อฏฺกถา
(ปฺจโม ภาโค)