📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

๑๗. จตฺตาลีสนิปาโต

[๕๒๑] ๑. เตสกุณชาตกวณฺณนา

เวสฺสนฺตรํตํ ปุจฺฉามีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต โกสลรฺโ โอวาทวเสน กเถสิ. ตฺหิ ราชานํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคตํ สตฺถา อามนฺเตตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพํ, ยสฺมิฺหิ สมเย ราชาโน อธมฺมิกา โหนฺติ, ราชยุตฺตาปิ ตสฺมึ สมเย อธมฺมิกา โหนฺตี’’ติ จตุกฺกนิปาเต (อ. นิ. ๔.๗๐) อาคตสุตฺตนเยน โอวทิตฺวา อคติคมเน อคติอคมเน จ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ กเถตฺวา ‘‘สุปินกูปมา กามา’’ติอาทินา นเยน กาเมสุ อาทีนวํ วิตฺถาเรตฺวา, ‘‘มหาราช, อิเมสฺหิ สตฺตานํ –

‘มจฺจุนา สงฺคโร นตฺถิ, ลฺชคฺคาโห น วิชฺชติ;

ยุทฺธํ นตฺถิ ชโย นตฺถิ, สพฺเพ มจฺจุปรายณา’.

เตสํ ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ เปตฺวา อตฺตนา กตํ กลฺยาณกมฺมํ อฺา ปติฏฺา นาม นตฺถิ. เอวํ อิตฺตรปจฺจุปฏฺานํ อวสฺสํ ปหาตพฺพํ, น ยสํ นิสฺสาย ปมาทํ กาตุํ วฏฺฏติ, อปฺปมตฺเตเนว หุตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ วฏฺฏติ. โปราณกราชาโน อนุปฺปนฺเนปิ พุทฺเธ ปณฺฑิตานํ โอวาเท ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา เทวนครํ ปูรยมานา คมึสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺโต รชฺชํ กาเรนฺโต อปุตฺตโก อโหสิ, ปตฺเถนฺโตปิ ปุตฺตํ วา ธีตรํ วา น ลภิ. โส เอกทิวสํ มหนฺเตน ปริวาเรน อุยฺยานํ คนฺตฺวา ทิวสภาคํ อุยฺยาเน กีฬิตฺวา มงฺคลสาลรุกฺขมูเล สยนํ อตฺถราเปตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปพุทฺโธ สาลรุกฺขํ โอโลเกตฺวา ตตฺถ สกุณกุลาวกํ ปสฺสิ, สห ทสฺสเนเนวสฺส สิเนโห อุปฺปชฺชิ. โส เอกํ ปุริสํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา เอตสฺมึ กุลาวเก กสฺสจิ อตฺถิตํ วา นตฺถิตํ วา ชานาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ วตฺวา อภิรุหิตฺวา ตตฺถ ตีณิ อณฺฑกานิ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘เตน หิ เอเตสํ อุปริ นาสวาตํ มา วิสฺสชฺเชสี’’ติ วตฺวา ‘‘จงฺโกฏเก กปฺปาสปิจุํ อตฺถริตฺวา ตตฺเถว ตานิ อณฺฑกานิ เปตฺวา สณิกํ โอตราหี’’ติ โอตาราเปตฺวา จงฺโกฏกํ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘กตรสกุณณฺฑกานิ นาเมตานี’’ติ อมจฺเจ ปุจฺฉิ. เต ‘‘มยํ น ชานาม, เนสาทา ชานิสฺสนฺตี’’ติ วทึสุ. ราชา เนสาเท ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิ. เนสาทา, ‘‘มหาราช, เตสุ เอกํ อุลูกอณฺฑํ, เอกํ สาลิกาอณฺฑํ, เอกํ สุวกอณฺฑ’’นฺติ กถยึสุ. กึ ปน เอกสฺมึ กุลาวเก ติณฺณํ สกุณิกานํ อณฺฑานิ โหนฺตีติ. อาม, เทว, ปริปนฺเถ อสติ สุนิกฺขิตฺตานิ น นสฺสนฺตีติ. ราชา ตุสฺสิตฺวา ‘‘อิเม มม ปุตฺตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตานิ ตีณิ อณฺฑานิ ตโย อมจฺเจ ปฏิจฺฉาเปตฺวา ‘‘อิเม มยฺหํ ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ, ตุมฺเห สาธุกํ ปฏิชคฺคิตฺวา อณฺฑโกสโต นิกฺขนฺตกาเล มมาโรเจยฺยาถา’’ติ อาห. เต ตานิ สาธุกํ รกฺขึสุ.

เตสุ ปมํ อุลูกอณฺฑํ ภิชฺชิ. อมจฺโจ เอกํ เนสาทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิตฺถิภาวํ วา ปุริสภาวํ วา ชานาหี’’ติ วตฺวา เตน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺส พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตกํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘เวสฺสนฺตโร’ติ จสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตถา อกาสิ. ตโต กติปาหจฺจเยน สาลิกาอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ ตํ เนสาเทน วีมํสาเปตฺวา ‘‘อิตฺถี’’ติ สุตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ธีตา เต, เทว, ชาตา’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ธีตรํ เม สาธุกํ ปฏิชคฺค, ‘กุณฺฑลินี’ติ จสฺสา นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. ปุน กติปาหจฺจเยน สุวกอณฺฑํ ภิชฺชิ. โสปิ อมจฺโจ เนสาเทน ตํ วีมํสิตฺวา ‘‘ปุริโส’’ติ วุตฺเต รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เต, เทว, ชาโต’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺโ ตสฺสปิ พหุํ ธนํ ทตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส เม มหนฺเตน ปริวาเรน มงฺคลํ กตฺวา ‘ชมฺพุโก’ติสฺส นามํ กโรหี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โสปิ ตถา อกาสิ. เต ตโยปิ สกุณา ติณฺณํ อมจฺจานํ เคเหสุ ราชกุมารปริหาเรเนว วฑฺฒนฺติ. ราชา ‘‘มม ปุตฺโต, มม ธีตา’’ติ โวหรติ. อถสฺส อมจฺจา อฺมฺํ อวหสนฺติ ‘‘ปสฺสถ, โภ, รฺโ กิริยํ, ติรจฺฉานคเตปิ ‘ปุตฺโต เม, ธีตา เม’ติ วทนฺโต วิจรตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘อิเม อมจฺจา เอเตสํ มม ปุตฺตานํ ปฺาสมฺปทํ น ชานนฺติ, ปากฏํ เนสํ กริสฺสามี’’ติ. อเถกํ อมจฺจํ เวสฺสนฺตรสฺส สนฺติกํ เปเสสิ – ‘‘ตุมฺหากํ ปิตา ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, กทา กิร อาคนฺตฺวา ปุจฺฉตู’’ติ. โส อมจฺโจ คนฺตฺวา เวสฺสนฺตรํ วนฺทิตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร อตฺตโน ปฏิชคฺคกํ อมจฺจํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘มยฺหํ กิร ปิตา มํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุกาโม, ตสฺส อิธาคตสฺส สกฺการํ กาตุํ วฏฺฏติ, กทา อาคจฺฉตู’’ติ ปุจฺฉิ. อมจฺโจ ‘‘อิโต สตฺตเม ทิวเส ตว ปิตา อาคจฺฉตู’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ‘‘ปิตา เม อิโต สตฺตเม ทิวเส อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส อาคนฺตฺวา รฺโ อาจิกฺขิ. ราชา สตฺตเม ทิวเส นคเร เภรึ จราเปตฺวา ปุตฺตสฺส นิเวสนํ อคมาสิ. เวสฺสนฺตโร รฺโ มหนฺตํ สกฺการํ กาเรสิ, อนฺตมโส ทาสกมฺมการานมฺปิ สกฺการํ กาเรสิ. ราชา เวสฺสนฺตรสกุณสฺส เคเห ภุฺชิตฺวา มหนฺตํ ยสํ อนุภวิตฺวา สกํ นิเวสนํ อาคนฺตฺวา ราชงฺคเณ มหนฺตํ มณฺฑปํ การาเปตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา อลงฺกตมณฺฑปมชฺเฌ มหาชนปริวาโร นิสีทิตฺวา ‘‘เวสฺสนฺตรํ อาเนตู’’ติ อมจฺจสฺส สนฺติกํ เปเสสิ. อมจฺโจ เวสฺสนฺตรํ สุวณฺณปีเ นิสีทาเปตฺวา อาเนสิ. เวสฺสนฺตรสกุโณ ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา ปิตรา สห กีฬิตฺวา คนฺตฺวา ตตฺเถว สุวณฺณปีเ นิสีทิ. อถ นํ ราชา มหาชนมชฺเฌ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘เวสฺสนฺตรํ ตํ ปุจฺฉามิ, สกุณ ภทฺทมตฺถุ เต;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกุณาติ ตํ อาลปติ. กึ สูติ กตรํ กิจฺจํ กตํ วรํ อุตฺตมํ โหติ, กเถหิ เม, ตาต, สกลํ ราชธมฺมนฺติ เอวํ กิร ตํ โส ปุจฺฉิ.

ตํ สุตฺวา เวสฺสนฺตโร ปฺหํ อกเถตฺวาว ราชานํ ตาว ปมาเทน โจเทนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘จิรสฺสํ วต มํ ตาโต, กํโส พาราณสิคฺคโห;

ปมตฺโต อปฺปมตฺตํ มํ, ปิตา ปุตฺตํ อโจทยี’’ติ.

ตตฺถ ตาโตติ ปิตา. กํโสติ อิทํ ตสฺส นามํ. พาราณสิคฺคโหติ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ พาราณสึ สงฺคเหตฺวา วตฺตนฺโต. ปมตฺโตติ เอวรูปานํ ปณฺฑิตานํ สนฺติเก วสนฺโต ปฺหสฺส อปุจฺฉเนน ปมตฺโต. อปฺปมตฺตํ มนฺติ สีลาทิคุณโยเคน มํ อปฺปมตฺตํ. ปิตาติ โปสกปิตา. อโจทยีติ อมจฺเจหิ ‘‘ติรจฺฉานคเต ปุตฺเต กตฺวา โวหรตี’’ติ อวหสิยมาโน ปมาทํ อาปชฺชิตฺวา จิรสฺสํ อชฺช โจเทสิ, ปฺหํ ปุจฺฉีติ วทติ.

เอวํ โส อิมาย คาถาย โจเทตฺวา ‘‘มหาราช, รฺา นาม ตีสุ ธมฺเมสุ ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ราชธมฺมํ กเถนฺโต อิมา คาถาโย อาห –

.

‘‘ปเมเนว วิตถํ, โกธํ หาสํ นิวารเย;

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺย, ตํ วตํ อาหุ ขตฺติย.

.

‘‘ยํ ตฺวํ ตาต ตโปกมฺมํ, ปุพฺเพ กตมสํสยํ;

รตฺโต ทุฏฺโ จ ยํ กยิรา, น ตํ กยิรา ตโต ปุน.

.

‘‘ขตฺติยสฺส ปมตฺตสฺส, รฏฺสฺมึ รฏฺวฑฺฒน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

.

‘‘สิรี ตาต อลกฺขี จ, ปุจฺฉิตา เอตทพฺรวุํ;

อุฏฺานวีริเย โปเส, รมาหํ อนุสูยเก.

.

‘‘อุสูยเก ทุหทเย, ปุริเส กมฺมทุสฺสเก;

กาฬกณฺณี มหาราช, รมติ จกฺกภฺชนี.

.

‘‘โส ตฺวํ สพฺเพ สุหทโย, สพฺเพสํ รกฺขิโต ภว;

อลกฺขึ นุท มหาราช, ลกฺขฺยา ภว นิเวสนํ.

.

‘‘ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโน, ปุริโส หิ มหคฺคโต;

อมิตฺตานํ กาสิปติ, มูลํ อคฺคฺจ ฉินฺทติ.

๑๐.

‘‘สกฺโกปิ หิ ภูตปติ, อุฏฺาเน นปฺปมชฺชติ;

ส กลฺยาเณ ธิตึ กตฺวา, อุฏฺาเน กุรุเต มโน.

๑๑.

‘‘คนฺธพฺพา ปิตโร เทวา, สาชีวา โหนฺติ ตาทิโน;

อุฏฺาหโต อปฺปมชฺชโต, อนุติฏฺนฺติ เทวตา.

๑๒.

‘‘โส อปฺปมตฺโต อกฺกุทฺโธ, ตาต กิจฺจานิ การย;

วายมสฺสุ จ กิจฺเจสุ, นาลโส วินฺทเต สุขํ.

๑๓.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

อลํ มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานํ ทุขาย จา’’ติ.

ตตฺถ ปเมเนว วิตถนฺติ, ตาต, ราชา นาม อาทิโตว มุสาวาทํ นิวารเย. มุสาวาทิโน หิ รฺโ รฏฺํ นิโรชํ โหติ, ปถวิยา โอชา กมฺมกรณฏฺานโต สตฺตรตนมตฺตํ เหฏฺา ภสฺสติ, ตโต อาหาเร วา เตลมธุผาณิตาทีสุ วา โอสเธสุ โอชา น โหติ. นิโรชาหารโภชนา มนุสฺสา พหฺวาพาธา โหนฺติ, รฏฺเ ถลชลปเถสุ อาโย นุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ อนุปฺปชฺชนฺเต ราชาโน ทุคฺคตา โหนฺติ. เต เสวเก สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกนฺติ, อสงฺคหิตา เสวกา ราชานํ ครุจิตฺเตน น โอโลเกนฺติ. เอวํ, ตาต, มุสาวาโท นาเมส นิโรโช, น โส ชีวิตเหตุปิ กาตพฺโพ, สจฺจํ ปน สาทุตรํ รสานนฺติ ตเทว ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อปิจ มุสาวาโท นาม คุณปริธํสโก วิปตฺติปริโยสาโน, ทุติยจิตฺตวาเร อวีจิปรายณํ กโรติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘ธมฺโม หเว หโต หนฺตี’’ติ เจติยชาตกํ (ชา. ๑.๘.๔๕ อาทโย) กเถตพฺพํ.

โกธนฺติ, ตาต, ราชา นาม ปมเมว กุชฺฌนลกฺขณํ โกธมฺปิ นิวาเรยฺย. ตาต, อฺเสฺหิ โกโธ ขิปฺปํ มตฺถกํ น ปาปุณาติ, ราชูนํ ปาปุณาติ. ราชาโน นาม วาจาวุธา กุชฺฌิตฺวา โอโลกิตมตฺเตนาปิ ปรํ วินาเสนฺติ, ตสฺมา รฺา อฺเหิ มนุสฺเสหิ อติเรกตรํ นิกฺโกเธน ภวิตพฺพํ, ขนฺติเมตฺตานุทฺทยาสมฺปนฺเนน อตฺตโน ปิยปุตฺตํ วิย โลกํ โวโลเกนฺเตน ภวิตพฺพํ. ตาต, อติโกธโน นาม ราชา อุปฺปนฺนํ ยสํ รกฺขิตุํ น สกฺโกติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) จูฬธมฺมปาลชาตกานิ (ชา. ๑.๕.๔๔ อาทโย) กเถตพฺพานิ. จูฬธมฺมปาลชาตกสฺมิฺหิ มหาปตาปโน นาม ราชา ปุตฺตํ ฆาเตตฺวา ปุตฺตโสเกน หทเยน ผลิเตน มตาย เทวิยา สยมฺปิ เทวึ อนุโสจนฺโต หทเยน ผลิเตเนว มริ. อถ เต ตโยปิ เอกอาฬาหเนว ฌาเปสุํ. ตสฺมา รฺา ปมเมว มุสาวาทํ วชฺเชตฺวา ทุติยํ โกโธ วชฺเชตพฺโพ.

หาสนฺติ หสฺสํ, อยเมว วา ปาโ. เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ อุปฺปิลาวิตจิตฺตตาย เกฬิสีลตํ ปริหาสํ นิวาเรยฺย. ตาต, รฺา นาม เกฬิสีเลน น ภวิตพฺพํ, อปรปตฺติเยน หุตฺวา สพฺพานิ กิจฺจานิ อตฺตปจฺจกฺเขเนว กาตพฺพานิ. อุปฺปิลาวิตจิตฺโต หิ ราชา อตุเลตฺวา กมฺมานิ กโรนฺโต ลทฺธํ ยสํ วินาเสติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ สรภงฺคชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) ปุโรหิตสฺส วจนํ คเหตฺวา ทณฺฑกิรฺโ กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ มาตงฺคชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๑ อาทโย) มชฺฌรฺโ พฺราหฺมณานํ กถํ คเหตฺวา มาตงฺคตาปเส อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน อุจฺฉิชฺชิตฺวา นิรเย นิพฺพตฺตภาโว จ ฆฏปณฺฑิตชาตเก (ชา. ๑.๑๐.๑๖๕ อาทโย) ทสภาติกราชทารกานํ โมหมูฬฺหานํ วจนํ คเหตฺวา กณฺหทีปายเน อปรชฺฌิตฺวา วาสุเทวกุลสฺส นาสิตภาโว จ กเถตพฺโพ.

ตโต กิจฺจานิ กาเรยฺยาติ เอวํ, ตาต, ปมํ มุสาวาทํ ทุติยํ โกธํ ตติยํ อธมฺมหาสํ วชฺเชตฺวา ตโต ปจฺฉา ราชา รฏฺวาสีนํ กตฺตพฺพกิจฺจานิ กาเรยฺย. ตํ วตํ อาหุ ขตฺติยาติ, ขตฺติยมหาราช, ยํ มยา วุตฺตํ, เอตํ รฺโ วตสมาทานนฺติ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ.

น ตํ กยิราติ ยํ ตยา ราคาทิวเสน ปจฺฉา ตาปกรํ กมฺมํ กตํ โหติ, ตโต ปุพฺเพ กตโต ปุน ตาทิสํ กมฺมํ น กยิรา, มา กเรยฺยาสิ, ตาตาติ. วุจฺจเตติ ตํ รฺโ อฆนฺติ วุจฺจติ, เอวํ โปราณกปณฺฑิตา กถยึสุ. สิรีติ อิทํ เวสฺสนฺตรสกุโณ ปุพฺเพ พาราณสิยํ ปวตฺติตการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห. ตตฺถ อพฺรวุนฺติ สุจิปริวารเสฏฺินา ปุจฺฉิตา กถยึสุ. อุฏฺานวีริเยติ โย โปโส อุฏฺาเน วีริเย จ ปติฏฺิโต, น จ ปเรสํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา อุสูยติ, ตสฺมึ อหํ อภิรมามีติ อาห. เอวํ ตาว ตาต สิรี กเถสิ. อุสูยเกติ อลกฺขี ปน, ตาต, ปุจฺฉิตา อหํ ปรสมฺปตฺติอุสูยเก ทุหทเย ทุจิตฺเต กลฺยาณกมฺมทูสเก โย กลฺยาณกมฺมํ ทุสฺสนฺโต อปฺปิยายนฺโต อฏฺฏียนฺโต น กโรติ, ตสฺมึ อภิรมามีติ อาห. เอวํ สา กาฬกณฺณี, มหาราช, รมติ ปติรูปเทสวาสาทิโน กุสลจกฺกสฺส ภฺชนี.

สุหทโยติ สุนฺทรจิตฺโต หิตจิตฺตโก. นุทาติ นีหร. นิเวสนนฺติ ลกฺขิยา ปน นิเวสนํ ภว ปติฏฺา โหหิ. ส ลกฺขีธิติสมฺปนฺโนติ, มหาราช, กาสิปติ โส ปุริโส ปฺาย เจว วีริเยน จ สมฺปนฺโน. มหคฺคโตติ มหชฺฌาสโย โจรานํ ปจฺจยภูเต คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ มูลํ โจเร คณฺหนฺโต อมิตฺตานํ อคฺคํ ฉินฺทตีติ วทติ. สกฺโกติ อินฺโท. ภูตปตีติ ราชานํ อาลปติ. อุฏฺาเนติ อุฏฺานวีริเย. นปฺปมชฺชตีติ น ปมชฺชติ, สพฺพกิจฺจานิ กโรติ. ส กลฺยาเณติ โส เทวราชา อุฏฺานวีริเย มนํ กโรนฺโต ปาปกมฺมํ อกตฺวา กลฺยาเณ ปุฺกมฺมสฺมิฺเว ธิตึ กตฺวา อปฺปมตฺโต อุฏฺาเน มนํ กโรติ, ตสฺส ปน กลฺยาณกมฺเม วีริยกรณภาวทสฺสนตฺถํ สรภงฺคชาตเก ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ สทฺธึ กปิฏฺารามํ อาคนฺตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉิตฺวา ธมฺมสฺส สุตภาโว, มหากณฺหชาตเก (ชา. ๑.๑๒.๖๑ อาทโย) อตฺตโน อานุภาเวน ชนํ ตาเสตฺวา โอสกฺกนฺตสฺส สาสนสฺส ปวตฺติตภาโว จาติ เอวมาทีนิ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ.

คนฺธพฺพาติ จาตุมหาราชิกานํ เหฏฺา จตุโยนิกา เทวา, จตุโยนิกตฺตาเยว กิร เต คนฺธพฺพา นาม ชาตา. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. เทวาติ อุปปตฺติเทววเสน ฉ กามาวจรเทวา. ตาทิโนติ ตถาวิธสฺส กุสลาภิรตสฺส รฺโ. สาชีวา โหนฺตีติ สมานชีวิกา อุปชีวิตพฺพา. ตาทิสา หิ ราชาโน ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรนฺตา เทวตานํ ปตฺตึ เทนฺติ, ตา ตํ ปตฺตึ อนุโมทิตฺวา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทิพฺพยเสน วฑฺฒนฺติ. อนุติฏฺนฺตีติ ตาทิสสฺส รฺโ วีริยํ กโรนฺตสฺส อปฺปมาทํ อาปชฺชนฺตสฺส เทวตา อนุติฏฺนฺติ อนุคจฺฉนฺติ, ธมฺมิกํ รกฺขํ สํวิทหนฺตีติ อตฺโถ.

โสติ โส ตฺวํ. วายมสฺสูติ ตานิ รฏฺกิจฺจานิ กโรนฺโต ตุลนวเสน ตีรณวเสน ปจฺจกฺขกมฺมวเสน เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ วีริยํ กรสฺสุ. ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ, ตาต, ยํ มํ ตฺวํ กึสุ กิจฺจํ กตํ วรนฺติ ปุจฺฉิ, ตตฺถ ตว ปฺเหเยว เอเต มยา ‘‘ปเมเนว วิตถ’’นฺติอาทโย วุตฺตา, เอเต วตฺตปทา วตฺตโกฏฺาสา, เอวํ ตตฺถ วตฺตสฺสุ. เอสาติ ยา เต มยา กถิตา, เอสาว ตว อนุสาสนี. อลนฺติ เอวํ วตฺตมาโน หิ ราชา อตฺตโน มิตฺเต สุขาเปตุํ, อมิตฺตานฺจ ทุกฺขาย อลํ ปริยตฺโต สมตฺโถติ.

เอวํ เวสฺสนฺตรสกุเณน เอกาย คาถาย รฺโ ปมาทํ โจเทตฺวา เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺเม กถิเต ‘‘พุทฺธลีฬาย ปฺโห กถิโต’’ติ มหาชโน อจฺฉริยพฺภุตจิตฺตชาโต สาธุการสตานิ ปวตฺเตสิ. ราชา โสมนสฺสปฺปตฺโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน เวสฺสนฺตเรน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. มหาเสนคุตฺเตน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส มหาเสนคุตฺตฏฺานํ ทมฺมี’’ติ เวสฺสนฺตรํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย มหาเสนคุตฺตฏฺาเน ิโต ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

เวสฺสนฺตรปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว กุณฺฑลินิยา สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺจาคนฺตฺวา ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิตฺวา กุณฺฑลินึ อาหราเปตฺวา สุวณฺณปีเ นิสินฺนํ ราชธมฺมํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๑๔.

‘‘สกฺขิสิ ตฺวํ กุณฺฑลินิ, มฺสิ ขตฺตพนฺธุนิ;

รชฺชํ กาเรตุกาเมน, กึ สุ กิจฺจํ กตํ วร’’นฺติ.

ตตฺถ สกฺขิสีติ มยา ปุฏฺปฺหํ กเถตุํ สกฺขิสฺสสีติ ปุจฺฉติ. กุณฺฑลินีติ ตสฺสา สลิงฺคโต อาคตนาเมนาลปติ. ตสฺสา กิร ทฺวีสุ กณฺณปิฏฺเสุ กุณฺฑลสณฺานา ทฺเว เลขา อเหสุํ, เตนสฺสา ‘‘กุณฺฑลินี’’ติ นามํ กาเรสิ. มฺสีติ ชานิสฺสสิ มยา ปุฏฺปฺหสฺส อตฺถนฺติ. ขตฺตพนฺธุนีติ ขตฺตสฺส มหาเสนคุตฺตสฺส ภคินิภาเวน นํ เอวํ อาลปติ. กสฺมา ปเนส เวสฺสนฺตรสกุณํ เอวํ อปุจฺฉิตฺวา อิมเมว ปุจฺฉตีติ? อิตฺถิภาเวน. อิตฺถิโย หิ ปริตฺตปฺา, ตสฺมา ‘‘สเจ สกฺโกติ, ปุจฺฉิสฺสามิ, โน เจ, น ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วีมํสนวเสน เอวํ ปุจฺฉิตฺวา ตฺเว ปฺหํ ปุจฺฉิ.

สา เอวํ รฺา ราชธมฺเม ปุจฺฉิเต, ‘‘ตาต, ตฺวํ มํ ‘อิตฺถิกา นาม กึ กเถสฺสตี’ติ วีมํสสิ มฺเ, สกลํ เต ราชธมฺมํ ทฺวีสุเยว ปเทสุ ปกฺขิปิตฺวา กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕.

‘‘ทฺเวว ตาต ปทกานิ, ยตฺถ สพฺพํ ปติฏฺิตํ;

อลทฺธสฺส จ โย ลาโภ, ลทฺธสฺส จานุรกฺขณา.

๑๖.

‘‘อมจฺเจ ตาต ชานาหิ, ธีเร อตฺถสฺส โกวิเท;

อนกฺขากิตเว ตาต, อโสณฺเฑ อวินาสเก.

๑๗.

‘‘โย จ ตํ ตาต รกฺเขยฺย, ธนํ ยฺเจว เต สิยา;

สูโตว รถํ สงฺคณฺเห, โส เต กิจฺจานิ การเย.

๑๘.

‘‘สุสงฺคหิตนฺตชโน, สยํ วิตฺตํ อเวกฺขิย;

นิธิฺจ อิณทานฺจ, น กเร ปรปตฺติยา.

๑๙.

‘‘สยํ อายํ วยํ ชฺา, สยํ ชฺา กตากตํ;

นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ, ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ.

๒๐.

‘‘สยํ ชานปทํ อตฺถํ, อนุสาส รเถสภ;

มา เต อธมฺมิกา ยุตฺตา, ธนํ รฏฺฺจ นาสยุํ.

๒๑.

‘‘มา จ เวเคน กิจฺจานิ, กโรสิ การเยสิ วา;

เวคสา หิ กตํ กมฺมํ, มนฺโท ปจฺฉานุตปฺปติ.

๒๒.

‘‘มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตํ;

โกธสา หิ พหู ผีตา, กุลา อกุลตํ คตา.

๒๓.

‘‘‘มา ตาต อิสฺสโรมฺหี’ติ, อนตฺถาย ปตารยิ;

อิตฺถีนํ ปุริสานฺจ, มา เต อาสิ ทุขุทฺรโย.

๒๔.

‘‘อเปตโลมหํสสฺส, รฺโ กามานุสาริโน;

สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, รฺโ ตํ วุจฺจเต อฆํ.

๒๕.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

ทกฺขสฺสุทานิ ปุฺกโร, อโสณฺโฑ อวินาสโก;

สีลวาสฺสุ มหาราช, ทุสฺสีโล วินิปาติโก’’ติ.

ตตฺถ ปทกานีติ การณปทานิ. ยตฺถาติ เยสุ ทฺวีสุ ปเทสุ สพฺพํ อตฺถชาตํ หิตสุขํ ปติฏฺิตํ. อลทฺธสฺสาติ โย จ ปุพฺเพ อลทฺธสฺส ลาภสฺส ลาโภ, ยา จ ลทฺธสฺส อนุรกฺขณา. ตาต, อนุปฺปนฺนสฺส หิ ลาภสฺส อุปฺปาทนํ นาม น ภาโร, อุปฺปนฺนสฺส ปน อนุรกฺขณเมว ภาโร. เอกจฺโจ หิ ยสํ อุปฺปาเทตฺวาปิ ยเส ปมตฺโต ปมาทํ อุปฺปาเทตฺวา ปาณาติปาตาทีนิ กโรติ, มหาโจโร หุตฺวา รฏฺํ วิลุมฺปมาโน จรติ. อถ นํ ราชาโน คาหาเปตฺวา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. อถ วา อุปฺปนฺนรูปาทีสุ กามคุเณสุ ปมตฺโต อโยนิโส ธนํ นาเสนฺโต สพฺพสาปเตยฺเย ขีเณ กปโณ หุตฺวา จีรกวสโน กปาลมาทาย จรติ. ปพฺพชิโต วา ปน คนฺถธุราทิวเสน ลาภสกฺการํ นิพฺพตฺเตตฺวา ปมตฺโต หีนายาวตฺตติ. อปโร ปมฌานาทีนิ นิพฺพตฺเตตฺวาปิ มุฏฺสฺสติตาย ตถารูเป อารมฺมเณ พชฺฌิตฺวา ฌานา ปริหายติ. เอวํ อุปฺปนฺนสฺส ยสสฺส วา ฌานาทิลาภสฺส วา รกฺขณเมว ทุกฺกรํ. ตทตฺถทีปนตฺถํ ปน เทวทตฺตสฺส วตฺถุ จ, มุทุลกฺขณ- (ชา. ๑.๑.๖๖) โลมสกสฺสป- (ชา. ๑.๙.๖๐ อาทโย) หริตจชาตก- (ชา. ๑.๙.๔๐ อาทโย) สงฺกปฺปชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๓.๑ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ. เอโก ปน ลาภสกฺการํ อุปฺปาเทตฺวา อปฺปมาเท ตฺวา กลฺยาณกมฺมํ กโรติ, ตสฺส โส ยโส สุกฺกปกฺเข จนฺโท วิย วฑฺฒติ, ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, อปฺปมตฺโต ปโยคสมฺปตฺติยา ตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ตว อุปฺปนฺนํ ยสํ อนุรกฺขาหีติ.

ชานาหีติ ภณฺฑาคาริกกมฺมาทีนํ กรณตฺถํ อุปธาเรหิ. อนกฺขากิตเวติ อนกฺเข อกิตเว อชุตกเร เจว อเกราฏิเก จ . อโสณฺเฑติ ปูวสุราคนฺธมาลาโสณฺฑภาวรหิเต. อวินาสเกติ ตว สนฺตกานํ ธนธฺาทีนํ อวินาสเก. โยติ โย อมจฺโจ. ยฺเจวาติ ยฺจ เต ฆเร ธนํ สิยา, ตํ รกฺเขยฺย. สูโตวาติ รถสารถิ วิย. ยถา สารถิ วิสมมคฺคนิวารณตฺถํ อสฺเส สงฺคณฺหนฺโต รถํ สงฺคณฺเหยฺย, เอวํ โย สห โภเคหิ ตํ รกฺขิตุํ สกฺโกติ, โส เต อมจฺโจ นาม ตาทิสํ สงฺคเหตฺวา ภณฺฑาคาริกาทิกิจฺจานิ การเย.

สุสงฺคหิตนฺตชโนติ, ตาต, ยสฺส หิ รฺโ อตฺตโน อนฺโตชโน อตฺตโน วลฺชนกปริชโน จ ทานาทีหิ อสงฺคหิโต โหติ, ตสฺส อนฺโตนิเวสเน สุวณฺณหิรฺาทีนิ เตสํ อสงฺคหิตมนุสฺสานํ วเสน นสฺสนฺติ, อนฺโตชนา พหิ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ สุฏฺุสงฺคหิตอนฺโตชโน หุตฺวา ‘‘เอตฺตกํ นาม เม วิตฺต’’นฺติ สยํ อตฺตโน ธนํ อเวกฺขิตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม นิธึ นิเธม, อสุกสฺส อิณํ เทมา’’ติ อิทํ อุภยมฺปิ น กเร ปรปตฺติยา, ปรปตฺติยาปิ ตฺวํ มา กริ, สพฺพํ อตฺตปจฺจกฺขเมว กเรยฺยาสีติ วทติ.

อายํ วยนฺติ ตโต อุปฺปชฺชนกํ อายฺจ เตสํ เตสํ ทาตพฺพํ วยฺจ สยเมว ชาเนยฺยาสีติ. กตากตนฺติ สงฺคาเม วา นวกมฺเม วา อฺเสุ วา กิจฺเจสุ ‘‘อิมินา อิทํ นาม มยฺหํ กตํ, อิมินา น กต’’นฺติ เอตมฺปิ สยเมว ชาเนยฺยาสิ, มา ปรปตฺติโย โหหิ. นิคฺคณฺเหติ, ตาต, ราชา นาม สนฺธิจฺเฉทาทิการกํ นิคฺคหารหํ อาเนตฺวา ทสฺสิตํ อุปปริกฺขิตฺวา โสเธตฺวา โปราณกราชูหิ ปิตทณฺฑํ โอโลเกตฺวา โทสานุรูปํ นิคฺคณฺเหยฺย. ปคฺคณฺเหติ โย ปน ปคฺคหารโห โหติ, อภินฺนสฺส วา ปรพลสฺส เภเทตา, ภินฺนสฺส วา สกพลสฺส อาราธโก, อลทฺธสฺส วา รชฺชสฺส อาหรโก, ลทฺธสฺส วา ถาวรการโก, เยน วา ปน ชีวิตํ ทินฺนํ โหติ, เอวรูปํ ปคฺคหารหํ ปคฺคเหตฺวา มหนฺตํ สกฺการสมฺมานํ กเรยฺย. เอวํ หิสฺส กิจฺเจสุ อฺเปิ อุรํ ทตฺวา กตฺตพฺพํ กริสฺสนฺติ.

ชานปทนฺติ ชนปทวาสีนํ อตฺถํ สยํ อตฺตปจฺจกฺเขเนว อนุสาส. อธมฺมิกา ยุตฺตาติ อธมฺมิกา ตตฺถ ตตฺถ นิยุตฺตา อายุตฺตกา ลฺชํ คเหตฺวา วินิจฺฉยํ ภินฺทนฺตา ตว ธนฺจ รฏฺฺจ มา นาสยุํ. อิมินา การเณน อปฺปมตฺโต หุตฺวา สยเมว อนุสาส. เวเคนาติ สหสา อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา. เวคสาติ อตุเลตฺวา อตีเรตฺวา ฉนฺทาทิวเสน สหสา กตํ กมฺมฺหิ น สาธุ น สุนฺทรํ. กึการณา? ตาทิสฺหิ กตฺวา มนฺโท ปจฺฉา วิปฺปฏิสารวเสน อิธ โลเก อปายทุกฺขํ อนุภวนฺโต ปรโลเก จ อนุตปฺปติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ ‘‘อิสีนมนฺตรํ กตฺวา, ภรุราชาติ เม สุต’’นฺติ ภรุชาตเกน (ชา. ๑.๒.๑๒๕-๑๒๖) ทีเปตพฺโพ .

มา เต อธิสเร มุฺจ, สุพาฬฺหมธิโกปิตนฺติ, ตาต, ตว หทยํ กุสลํ อธิสริตฺวา อติกฺกมิตฺวา ปวตฺเต ปเรสํ อกุสลกมฺเม สุฏฺุ พาฬฺหํ อธิโกปิตํ กุชฺฌาปิตํ หุตฺวา มา มุฺจ, มา ปติฏฺายตูติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยทา เต วินิจฺฉเย ิตสฺส อิมินา ปุริโส วา หโต สนฺธิ วา ฉินฺโนติ โจรํ ทสฺเสนฺติ, ตทา เต ปเรสํ วจเนหิ สุฏฺุ โกปิตมฺปิ หทยํ โกธวเสน มา มุฺจ, อปริคฺคเหตฺวา มา ทณฺฑํ ปเณหิ. กึการณา? อโจรมฺปิ หิ ‘‘โจโร’’ติ คเหตฺวา อาเนนฺติ, ตสฺมา อกุชฺฌิตฺวา อุภินฺนํ อตฺตปจฺจตฺถิกานํ กถํ สุตฺวา สุฏฺุ โสเธตฺวา อตฺตปจฺจกฺเขน ตสฺส โจรภาวํ ตฺวา ปเวณิยา ปิตทณฺฑวเสน กตฺตพฺพํ กโรหิ. รฺา หิ อุปฺปนฺเนปิ โกเธ หทยํ สีตลํ อกตฺวา กมฺมํ น กาตพฺพํ. ยทา ปนสฺส หทยํ นิพฺพุตํ โหติ มุทุกํ, ตทา วินิจฺฉยกมฺมํ กาตพฺพํ. ผรุเส หิ จิตฺเต ปกฺกุถิเต อุทเก มุขนิมิตฺตํ วิย การณํ น ปฺายติ. โกธสา หีติ, ตาต, โกเธน หิ พหูนิ ผีตานิ ราชกุลานิ อกุลภาวํ คตานิ มหาวินาสเมว ปตฺตานีติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถํ ขนฺติวาทิชาตก- (ชา. ๑.๔.๔๙ อาทโย) นาฬิเกรราชวตฺถุสหสฺสพาหุอชฺชุนวตฺถุอาทีนิ กเถตพฺพานิ.

มา, ตาต, อิสฺสโรมฺหีติ, อนตฺถาย ปตารยีติ, ตาต, ‘‘อหํ ปถวิสฺสโร’’ติ มา มหาชนํ กายทุจฺจริตาทิอนตฺถาย ปตารยิ มา โอตารยิ, ยถา ตํ อนตฺถํ สมาทาย วตฺตติ, มา เอวมกาสีติ อตฺโถ. มา เต อาสีติ, ตาต, ตว วิชิเต มนุสฺสชาติกานํ วา ติรจฺฉานชาติกานํ วา อิตฺถิปุริสานํ ทุขุทฺรโย ทุกฺขุปฺปตฺติ มา อาสิ. ยถา หิ อธมฺมิกราชูนํ วิชิเต มนุสฺสา กายทุจฺจริตาทีนิ กตฺวา นิรเย อุปฺปชฺชนฺติ, ตว รฏฺวาสีนํ ตํ ทุกฺขํ ยถา น โหติ, ตถา กโรหีติ อตฺโถ.

อเปตโลมหํสสฺสาติ อตฺตานุวาทาทิภเยหิ นิพฺภยสฺส. อิมินา อิมํ ทสฺเสติ – ตาต, โย ราชา กิสฺมิฺจิ อาสงฺกํ อกตฺวา อตฺตโน กามเมว อนุสฺสรติ, ฉนฺทวเสน ยํ ยํ อิจฺฉติ, ตํ ตํ กโรติ, วิสฺสฏฺยฏฺิ วิย อนฺโธ นิรงฺกุโส วิย จ จณฺฑหตฺถี โหติ, ตสฺส สพฺเพ โภคา วินสฺสนฺติ, ตสฺส ตํ โภคพฺยสนํ อฆํ ทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.

ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. ทกฺขสฺสุทานีติ, ตาต, ตฺวํ อิมํ อนุสาสนึ สุตฺวา อิทานิ ทกฺโข อนลโส ปุฺานํ กรเณน ปุฺกโร สุราทิปริหรเณน. อโสณฺโฑ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกสฺส อตฺถสฺส อวินาสเนน อวินาสโก ภเวยฺยาสีติ. สีลวาสฺสูติ สีลวา อาจารสมฺปนฺโน ภว, ทสสุ ราชธมฺเมสุ ปติฏฺาย รชฺชํ กาเรหิ. ทุสฺสีโล วินิปาติโกติ ทุสฺสีโล หิ, มหาราช, อตฺตานํ นิรเย วินิปาเตนฺโต วินิปาติโก นาม โหตีติ.

เอวํ กุณฺฑลินีปิ เอกาทสหิ คาถาหิ ธมฺมํ เทเสสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ธีตาย กุณฺฑลินิยา เอวํ กถยมานาย เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. ภณฺฑาคาริเกน, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺสา ภณฺฑาคาริกฏฺานํ ทมฺมี’’ติ กุณฺฑลินึ านนฺตเร เปสิ. สา ตโต ปฏฺาย ภณฺฑาคาริกฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมํ อกาสีติ.

กุณฺฑลินิปฺโห นิฏฺิโต.

ปุน ราชา กติปาหจฺจเยน ปุริมนเยเนว ชมฺพุกปณฺฑิตสฺส สนฺติกํ ทูตํ เปเสตฺวา สตฺตเม ทิวเส ตตฺถ คนฺตฺวา สมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา ปจฺจาคโต ตตฺเถว มณฺฑปมชฺเฌ นิสีทิ. อมจฺโจ ชมฺพุกปณฺฑิตํ กฺจนภทฺทปีเ นิสีทาเปตฺวา ปีํ สีเสนาทาย อาคจฺฉิ. ปณฺฑิโต ปิตุ องฺเก นิสีทิตฺวา กีฬิตฺวา คนฺตฺวา กฺจนปีเเยว นิสีทิ. อถ นํ ราชา ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๖.

‘‘อปุจฺฉิมฺห โกสิยโคตฺตํ, กุณฺฑลินึ ตเถว จ;

ตฺวํ ทานิ วเทหิ ชมฺพุก, พลานํ พลมุตฺตม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตาต, ชมฺพุก, อหํ ตว ภาตรํ โกสิยโคตฺตํ เวสฺสนฺตรํ ภคินิฺจ เต กุณฺฑลินึ ราชธมฺมํ อปุจฺฉึ, เต อตฺตโน พเลน กเถสุํ, ยถา ปน เต ปุจฺฉึ, ตเถว อิทานิ, ปุตฺต ชมฺพุก, ตํ ปุจฺฉามิ, ตฺวํ เม ราชธมฺมฺจ พลานํ อุตฺตมํ พลฺจ กเถหีติ.

เอวํ ราชา มหาสตฺตํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต อฺเสํ ปุจฺฉิตนิยาเมน อปุจฺฉิตฺวา วิเสเสตฺวา ปุจฺฉิ. อถสฺส ปณฺฑิโต ‘‘เตน หิ, มหาราช, โอหิตโสโต สุณาหิ, สพฺพํ เต กเถสฺสามี’’ติ ปสาริตหตฺเถ สหสฺสตฺถวิกํ เปนฺโต วิย ธมฺมเทสนํ อารภิ –

๒๗.

‘‘พลํ ปฺจวิธํ โลเก, ปุริสสฺมึ มหคฺคเต;

ตตฺถ พาหุพลํ นาม, จริมํ วุจฺจเต พลํ.

๒๘.

‘‘โภคพลฺจ ทีฆาวุ, ทุติยํ วุจฺจเต พลํ;

อมจฺจพลฺจ ทีฆาวุ, ตติยํ วุจฺจเต พลํ.

๒๙.

‘‘อภิชจฺจพลฺเจว, ตํ จตุตฺถํ อสํสยํ;

ยานิ เจตานิ สพฺพานิ, อธิคณฺหาติ ปณฺฑิโต.

๓๐.

‘‘ตํ พลานํ พลํ เสฏฺํ, อคฺคํ ปฺาพลํ พลํ;

ปฺาพเลนุปตฺถทฺโธ, อตฺถํ วินฺทติ ปณฺฑิโต.

๓๑.

‘‘อปิ เจ ลภติ มนฺโท, ผีตํ ธรณิมุตฺตมํ;

อกามสฺส ปสยฺหํ วา, อฺโ ตํ ปฏิปชฺชติ.

๓๒.

‘‘อภิชาโตปิ เจ โหติ, รชฺชํ ลทฺธาน ขตฺติโย;

ทุปฺปฺโ หิ กาสิปติ, สพฺเพนปิ น ชีวติ.

๓๓.

‘‘ปฺาว สุตํ วินิจฺฉินี, ปฺา กิตฺติสิโลกวฑฺฒนี;

ปฺาสหิโต นโร อิธ, อปิ ทุกฺเข สุขานิ วินฺทติ.

๓๔.

‘‘ปฺฺจ โข อสุสฺสูสํ, น โกจิ อธิคจฺฉติ;

พหุสฺสุตํ อนาคมฺม, ธมฺมฏฺํ อวินิพฺภุชํ.

๓๕.

‘‘โย จ ธมฺมวิภงฺคฺู, กาลุฏฺายี อตนฺทิโต;

อนุฏฺหติ กาเลน, กมฺมผลํ ตสฺสิชฺฌติ.

๓๖.

‘‘อนายตนสีลสฺส, อนายตนเสวิโน;

น นิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๗.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ ปยุตฺตสฺส, ตถายตนเสวิโน;

อนิพฺพินฺทิยการิสฺส, สมฺมทตฺโถ วิปจฺจติ.

๓๘.

‘‘โยคปฺปโยคสงฺขาตํ, สมฺภตสฺสานุรกฺขณํ;

ตานิ ตฺวํ ตาต เสวสฺสุ, มา อกมฺมาย รนฺธยิ;

อกมฺมุนา หิ ทุมฺเมโธ, นฬาคารํว สีทตี’’ติ.

ตตฺถ มหคฺคเตติ, มหาราช, อิมสฺมึ สตฺตโลเก มหชฺฌาสเย ปุริเส ปฺจวิธํ พลํ โหติ. พาหุพลนฺติ กายพลํ. จริมนฺติ ตํ อติมหนฺตมฺปิ สมานํ ลามกเมว. กึการณา? อนฺธพาลภาเวน. สเจ หิ กายพลํ มหนฺตํ นาม ภเวยฺย, วารณพลโต ลฏุกิกาย พลํ ขุทฺทกํ ภเวยฺย, วารณพลํ ปน อนฺธพาลภาเวน มรณสฺส ปจฺจยํ ชาตํ, ลฏุกิกา อตฺตโน าณกุสลตาย วารณํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสิ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ ‘‘น เหว สพฺพตฺถ พเลน กิจฺจํ, พลฺหิ พาลสฺส วธาย โหตี’’ติ สุตฺตํ (ชา. ๑.๕.๔๒) อาหริตพฺพํ.

โภคพลนฺติ อุปตฺถมฺภนวเสน สพฺพํ หิรฺสุวณฺณาทิ อุปโภคชาตํ โภคพลํ นาม, ตํ กายพลโต มหนฺตตรํ. อมจฺจพลนฺติ อเภชฺชมนฺตสฺส สูรสฺส สุหทยสฺส อมจฺจมณฺฑลสฺส อตฺถิตา, ตํ พลํ สงฺคามสูรตาย ปุริเมหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. อภิชจฺจพลนฺติ ตีณิ กุลานิ อติกฺกมิตฺวา ขตฺติยกุลวเสน ชาติสมฺปตฺติ , ตํ อิตเรหิ พเลหิ มหนฺตตรํ. ชาติสมฺปนฺนา เอว หิ สุชฺฌนฺติ, น อิตเรติ. ยานิ เจตานีติ ยานิ จ เอตานิ จตฺตาริปิ พลานิ ปณฺฑิโต ปฺานุภาเวน อธิคณฺหาติ อภิภวติ, ตํ สพฺพพลานํ ปฺาพลํ เสฏฺนฺติ จ อคฺคนฺติ จ วุจฺจติ. กึการณา? เตน หิ พเลน อุปตฺถทฺโธ ปณฺฑิโต อตฺถํ วินฺทติ, วุฑฺฒึ ปาปุณาติ . ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘ปุณฺณํ นทึ เยน จ เปยฺยมาหู’’ติ ปุณฺณนทีชาตกฺจ (ชา. ๑.๒.๑๒๗ อาทโย) สิรีกาฬกณฺณิปฺหํ ปฺจปณฺฑิตปฺหฺจ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) สรภงฺคชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๑๗.๕๐ อาทโย) จ กเถตพฺพานิ.

มนฺโทติ มนฺทปฺโ พาโล. ผีตนฺติ, ตาต, มนฺทปฺโ ปุคฺคโล สตฺตรตนปุณฺณํ เจปิ อุตฺตมํ ธรณึ ลภติ, ตสฺส อนิจฺฉมานสฺเสว ปสยฺหการํ วา ปน กตฺวา อฺโ ปฺาสมฺปนฺโน ตํ ปฏิปชฺชติ. มนฺโท หิ ลทฺธํ ยสํ รกฺขิตุํ กุลสนฺตกํ วา ปน ปเวณิอาคตมฺปิ รชฺชํ อธิคนฺตุํ น สกฺโกติ. ตทตฺถโชตนตฺถํ ‘‘อทฺธา ปาทฺชลี สพฺเพ, ปฺาย อติโรจตี’’ติ ปาทฺชลีชาตกํ (ชา. ๑.๒.๑๙๔-๑๙๕) กเถตพฺพํ. ลทฺธานาติ ชาติสมฺปตฺตึ นิสฺสาย กุลสนฺตกํ รชฺชํ ลภิตฺวาปิ. สพฺเพนปีติ เตน สกเลนปิ รชฺเชน น ชีวติ, อนุปายกุสลตาย ทุคฺคโตว โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต เอตฺตเกน าเนน อปณฺฑิตสฺส อคุณํ กเถตฺวา อิทานิ ปฺํ ปสํสนฺโต ‘‘ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตนฺติ สุตปริยตฺติ. ตฺหิ ปฺาว วินิจฺฉินติ. กิตฺติสิโลกวฑฺฒนีติ กิตฺติโฆสสฺส จ ลาภสกฺการสฺส จ วฑฺฒนี. ทุกฺเข สุขานิ วินฺทตีติ ทุกฺเข อุปฺปนฺเนปิ นิพฺภโย หุตฺวา อุปายกุสลตาย สุขํ ปฏิลภติ. ตทตฺถทีปนตฺถํ –

‘‘ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, วานรินฺท ยถา ตว’’. (ชา. ๑.๑.๕๗);

อลเมเตหิ อมฺเพหิ, ชมฺพูหิ ปนเสหิ จา’’ติ. (ชา. ๑.๒.๑๑๕) –

อาทีนิ ชาตกานิ กเถตพฺพานิ.

อสุสฺสูสนฺติ ปณฺฑิตปุคฺคเล อปยิรุปาสนฺโต อสฺสุณนฺโต. ธมฺมฏฺนฺติ สภาวการเณ ิตํ พหุสฺสุตํ อนาคมฺม ตํ อสทฺทหนฺโต. อวินิพฺภุชนฺติ อตฺถานตฺถํ การณาการณํ อโนคาหนฺโต อตีเรนฺโต น โกจิ ปฺํ อธิคจฺฉติ, ตาตาติ.

ธมฺมวิภงฺคฺูติ ทสกุสลกมฺมปถวิภงฺคกุสโล. กาลุฏฺายีติ วีริยํ กาตุํ ยุตฺตกาเล วีริยสฺส การโก. อนุฏฺหตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล ตํ ตํ กิจฺจํ กโรติ. ตสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กมฺมผลํ สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชติ. อนายตนสีลสฺสาติ อนายตนํ วุจฺจติ ลาภยสสุขานํ อนากโร ทุสฺสีลฺยกมฺมํ, ตํสีลสฺส เตน ทุสฺสีลฺยกมฺเมน สมนฺนาคตสฺส, อนายตนภูตเมว ทุสฺสีลปุคฺคลํ เสวนฺตสฺส, กุสลสฺส กมฺมสฺส กรณกาเล นิพฺพินฺทิยการิสฺส นิพฺพินฺทิตฺวา อุกฺกณฺิตฺวา กโรนฺตสฺส เอวรูปสฺส, ตาต, ปุคฺคลสฺส กมฺมานํ อตฺโถ สมฺมา น วิปจฺจติ น สมฺปชฺชติ, ตีณิ กุลคฺคานิ จ ฉ กามสคฺคานิ จ น อุปเนตีติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตฺจาติ อตฺตโน นิยกชฺฌตฺตํ อนิจฺจภาวนาทิวเสน ปยุตฺตสฺส. ตถายตนเสวิโนติ ตเถว สีลวนฺเต ปุคฺคเล เสวมานสฺส. วิปจฺจตีติ สมฺปชฺชติ มหนฺตํ ยสํ เทติ.

โยคปฺปโยคสงฺขาตนฺติ โยเค ยุฺชิตพฺพยุตฺตเก การเณ ปโยคโกฏฺาสภูตํ ปฺํ. สมฺภตสฺสาติ ราสิกตสฺส ธนสฺส อนุรกฺขณํ. ตานิ ตฺวนฺติ เอตานิ จ ทฺเว ปุริมานิ จ มยา วุตฺตการณานิ สพฺพานิ, ตาต, ตฺวํ เสวสฺสุ, มยา วุตฺตํ โอวาทํ หทเย กตฺวา อตฺตโน ฆเร ธนํ รกฺข. มา อกมฺมาย รนฺธยีติ อยุตฺเตน อการเณน มา รนฺธยิ, ตํ ธนํ มา ฌาปยิ มา นาสยิ. กึการณา? อกมฺมุนา หีติ อยุตฺตกมฺมกรเณน ทุมฺเมโธ ปุคฺคโล สกํ ธนํ นาเสตฺวา ปจฺฉา ทุคฺคโต. นฬาคารํว สีทตีติ ยถา นฬาคารํ มูลโต ปฏฺาย ชีรมานํ อปฺปติฏฺํ ปตติ, เอวํ อการเณน ธนํ นาเสตฺวา อปาเยสุ นิพฺพตฺตตีติ.

เอวมฺปิ โพธิสตฺโต เอตฺตเกน าเนน ปฺจ พลานิ วณฺเณตฺวา ปฺาพลํ อุกฺขิปิตฺวา จนฺทมณฺฑลํ นีหรนฺโต วิย กเถตฺวา อิทานิ ทสหิ คาถาหิ รฺโ โอวาทํ เทนฺโต อาห –

๓๙.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๐.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๑.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๒.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๓.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๔.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเ ชนปเทสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๕.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมเณ พฺราหฺมเณสุ จ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๖.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๗.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.

๔๘.

‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;

สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.

ตตฺถ ปมคาถาย ตาว อิธ ธมฺมนฺติ มาตาปิตุปฏฺานธมฺมํ. ตํ กาลสฺเสว วุฏฺาย มาตาปิตูนํ มุโขทกทนฺตกฏฺทานมาทึ กตฺวา สพฺพสรีรกิจฺจปริหรณํ กโรนฺโตว ปูเรหีติ วทติ. ปุตฺตทาเรสูติ ปุตฺตธีตโร ตาว ปาปา นิวาเรตฺวา กลฺยาเณ นิเวเสนฺโต สิปฺปํ อุคฺคณฺหาเปนฺโต วยปฺปตฺตกาเล ปติรูปกุลวํเสน อาวาหวิวาหํ กโรนฺโต สมเย ธนํ เทนฺโต ปุตฺเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม, ภริยํ สมฺมาเนนฺโต อนวมาเนนฺโต อนติจรนฺโต อิสฺสริยํ โวสฺสชฺเชนฺโต อลงฺการํ อนุปฺปเทนฺโต ทาเรสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิตฺตามจฺเจสูติ มิตฺตามจฺเจ จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ สงฺคณฺหนฺโต อวิสํวาเทนฺโต เอเตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. วาหเนสุ พเลสุ จาติ หตฺถิอสฺสาทีนํ วาหนานํ พลกายสฺส จ ทาตพฺพยุตฺตกํ เทนฺโต สกฺการํ กโรนฺโต หตฺถิอสฺสาทโย มหลฺลกกาเล กมฺเมสุ อโยเชนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม.

คาเมสุ นิคเมสุ จาติ คามนิคมวาสิโน ทณฺฑพลีหิ อปีเฬนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. รฏฺเ ชนปเทสุ จาติ รฏฺฺจ ชนปทฺจ อการเณน กิลเมนฺโต หิตจิตฺตํ อปจฺจุปฏฺเปนฺโต ตตฺถ อธมฺมํ จรติ นาม, อปีเฬนฺโต ปน หิตจิตฺเตน ผรนฺโต ตตฺถ ธมฺมํ จรติ นาม. สมเณ พฺราหฺมเณสุ จาติ เตสํ จตฺตาโร ปจฺจเย เทนฺโตว เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. มิคปกฺขีสูติ สพฺพจตุปฺปทสกุณานํ อภยํ เทนฺโต เตสุ ธมฺมํ จรติ นาม. ธมฺโม จิณฺโณติ สุจริตธมฺโม จิณฺโณ. สุขาวโหติ ตีสุ กุลสมฺปทาสุ ฉสุ กามสคฺเคสุ สุขํ อาวหติ. สุจิณฺเณนาติ อิธ จิณฺเณน กายสุจริตาทินา สุจิณฺเณน. ทิวํ ปตฺตาติ เทวโลกพฺรหฺมโลกสงฺขาตํ ทิวํ คตา, ตตฺถ ทิพฺพสมฺปตฺติลาภิโน ชาตา. มา ธมฺมํ ราช ปามโทติ ตสฺมา ตฺวํ, มหาราช, ชีวิตํ ชหนฺโตปิ ธมฺมํ มา ปมชฺชีติ.

เอวํ ทส ธมฺมจริยคาถาโย วตฺวา อุตฺตริปิ โอวทนฺโต โอสานคาถมาห –

๔๙.

‘‘ตตฺเถว เต วตฺตปทา, เอสาว อนุสาสนี;

สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทู’’ติ.

ตตฺถ ตตฺเถว เต วตฺตปทาติ อิทํ ปุริมนเยเนว โยเชตพฺพํ. สปฺปฺเสวี กลฺยาณี, สมตฺตํ สาม ตํ วิทูติ, มหาราช, ตํ มยา วุตฺตํ โอวาทํ ตฺวํ นิจฺจกาลํ สปฺปฺปุคฺคลเสวี กลฺยาณคุณสมนฺนาคโต หุตฺวา สมตฺตํ ปริปุณฺณํ สามํ วิทู อตฺตปจฺจกฺขโตว ชานิตฺวา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชาติ.

เอวํ มหาสตฺโต อากาสคงฺคํ โอตาเรนฺโต วิย พุทฺธลีฬาย ธมฺมํ เทเสสิ. มหาชโน มหาสกฺการํ อกาสิ, สาธุการสหสฺสานิ อทาสิ. ราชา ตุฏฺโ อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โภนฺโต! อมจฺจา มม ปุตฺเตน ตรุณชมฺพุผลสมานตุณฺเฑน ชมฺพุกปณฺฑิเตน เอวํ กเถนฺเตน เกน กตฺตพฺพํ กิจฺจํ กต’’นฺติ. เสนาปตินา, เทวาติ. ‘‘เตน หิสฺส เสนาปติฏฺานํ ทมฺมี’’ติ ชมฺพุกํ านนฺตเร เปสิ. โส ตโต ปฏฺาย เสนาปติฏฺาเน ตฺวา ปิตุ กมฺมานิ อกาสิ. ติณฺณํ สกุณานํ มหนฺโต สกฺกาโร อโหสิ. ตโยปิ ชนา รฺโ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสึสุ. มหาสตฺตสฺโสวาเท ตฺวา ราชา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา สคฺคปรายโณ อโหสิ. อมจฺจา รฺโ สรีรกิจฺจํ กตฺวา สกุณานํ อาโรเจตฺวา ‘‘สามิ, ชมฺพุกสกุณ ราชา ตุมฺหากํ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตพฺพํ อกาสี’’ติ วทึสุ. มหาสตฺโต ‘‘น มยฺหํ รชฺเชนตฺโถ, ตุมฺเห อปฺปมตฺตา รชฺชํ กาเรถา’’ติ มหาชนํ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘เอวํ วินิจฺฉยํ ปวตฺเตยฺยาถา’’ติ วินิจฺฉยธมฺมํ สุวณฺณปฏฺเฏ ลิขาเปตฺวา อรฺํ ปาวิสิ. ตสฺโสวาโท จตฺตาลีส วสฺสสหสฺสานิ ปวตฺตติ.

สตฺถา รฺโ โอวาทวเสน อิมํ ธมฺมเทสนํ เทเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ราชา อานนฺโท อโหสิ, กุณฺฑลินี อุปฺปลวณฺณา, เวสฺสนฺตโร สาริปุตฺโต, ชมฺพุกสกุโณ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

เตสกุณชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๒๒] ๒. สรภงฺคชาตกวณฺณนา

อลงฺกตากุณฺฑลิโน สุวตฺถาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปรินิพฺพานํ อารพฺภ กเถสิ. สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตํ เชตวเน วิหรนฺตํ อตฺตโน ปรินิพฺพานํ อนุชานาเปตฺวา คนฺตฺวา นาฬกคามเก ชาโตวรเก ปรินิพฺพายิ. ตสฺส ปรินิพฺพุตภาวํ สุตฺวา สตฺถา ราชคหํ คนฺตฺวา เวฬุวเน วิหาสิ. ตทา มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร อิสิคิลิปสฺเส กาฬสิลายํ วิหรติ. โส ปน อิทฺธิพเลน โกฏิปฺปตฺตภาเวน เทวโลกจาริกฺจ อุสฺสทนิรยจาริกฺจ คจฺฉติ. เทวโลเก พุทฺธสาวกานํ มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทิสฺวา อุสฺสทนิรเยสุ จ ติตฺถิยสาวกานํ มหนฺตํ ทุกฺขํ ทิสฺวา มนุสฺสโลกํ อาคนฺตฺวา ‘‘อสุโก อุปาสโก อสุกา จ อุปาสิกา อสุกสฺมึ นาม เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา มหาสมฺปตฺตึ อนุภวนฺติ, ติตฺถิยสาวเกสุ อสุโก จ อสุกา จ นิรยาทีสุ อสุกอปาเย นาม นิพฺพตฺตา’’ติ มนุสฺสานํ กเถสิ. มนุสฺสา สาสเน ปสีทนฺติ, ติตฺถิเย ปริวชฺเชนฺติ. พุทฺธสาวกานํ สกฺกาโร มหนฺโต อโหสิ, ติตฺถิยานํ ปริหายติ.

เต เถเร อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ชีวนฺเต อมฺหากํ อุปฏฺากา ภิชฺชนฺติ, สกฺกาโร จ ปริหายติ, มาราเปสฺสาม น’’นฺติ เถรสฺส มารณตฺถํ สมณคุตฺตกสฺส นาม โจรสฺส สหสฺสํ อทํสุ. โส ‘‘เถรํ มาเรสฺสามี’’ติ มหนฺเตน ปริวาเรน สทฺธึ กาฬสิลํ อคมาสิ. เถโร ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อิทฺธิยา อุปฺปติตฺวา ปกฺกามิ. โจโร ตํ ทิวสํ เถรํ อทิสฺวา นิวตฺติตฺวา ปุนทิวเสปีติ ฉ ทิวเส อคมาสิ. เถโรปิ ตเถว อิทฺธิยา ปกฺกามิ. สตฺตเม ปน ทิวเส เถรสฺส ปุพฺเพ กตํ อปราปริยเวทนียกมฺมํ โอกาสํ ลภิ. โส กิร ปุพฺเพ ภริยาย วจนํ คเหตฺวา มาตาปิตโร มาเรตุกาโม ยานเกน อรฺํ เนตฺวา โจรานํ อุฏฺิตาการํ กตฺวา มาตาปิตโร โปเถสิ ปหริ. เต จกฺขุทุพฺพลตาย รูปทสฺสนรหิตา ตํ อตฺตโน ปุตฺตํ อสฺชานนฺตา ‘‘โจรา เอว เอเต’’ติ สฺาย, ‘‘ตาต, อสุกา นาม โจรา โน ฆาเตนฺติ, ตฺวํ ปฏิกฺกมาหี’’ติ ตสฺเสวตฺถาย ปริเทวึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อิเม มยา โปถิยมานาปิ มยฺหํ เยวตฺถาย ปริเทวนฺติ, อยุตฺตํ กมฺมํ กโรมี’’ติ. อถ เน อสฺสาเสตฺวา โจรานํ ปลายนาการํ ทสฺเสตฺวา เตสํ หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา ‘‘อมฺม , ตาตา, มา ภายิตฺถ, โจรา ปลาตา’’ติ วตฺวา ปุน อตฺตโน เคหเมว อาเนสิ. ตํ กมฺมํ เอตฺตกํ กาลํ โอกาสํ อลภิตฺวา ภสฺมปฏิจฺฉนฺโน องฺคารราสิ วิย ตฺวา อิมํ อนฺติมสรีรํ อุปธาวิตฺวา คณฺหิ. ยถา หิ ปน สุนขลุทฺทเกน มิคํ ทิสฺวา สุนโข วิสฺสชฺชิโต มิคํ อนุพนฺธิตฺวา ยสฺมึ าเน ปาปุณาติ, ตสฺมึเยว คณฺหาติ, เอวํ อิทํ กมฺมํ ยสฺมึ าเน โอกาสํ ลภติ, ตสฺมึ วิปากํ เทติ, เตน มุตฺโต นาม นตฺถิ.

เถโร อตฺตนา กตกมฺมสฺส อากฑฺฒิตภาวํ ตฺวา น อปคจฺฉิ. เถโร ตสฺส นิสฺสนฺเทน อากาเส อุปฺปติตุํ นาสกฺขิ. นนฺโทปนนฺททมนสมตฺถเวชยนฺตกมฺปนสมตฺถาปิสฺส อิทฺธิ กมฺมพเลน ทุพฺพลตํ ปตฺตา. โจโร เถรํ คเหตฺวา เถรสฺส อฏฺีนิ ตณฺฑุลกณมตฺตานิ กโรนฺโต ภินฺทิตฺวา สฺจุณฺเณตฺวา ปลาลปิฏฺิกกรณํ นาม กตฺวา ‘‘มโต’’ติ สฺาย เอกสฺมึ คุมฺพปิฏฺเ ขิปิตฺวา สปริวาโร ปกฺกามิ. เถโร สตึ ปฏิลภิตฺวา ‘‘สตฺถารํ ปสฺสิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สรีรํ ฌานเวเนน เวเตฺวา ถิรํ กตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา อากาเสน สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, อายุสงฺขาโร เม โอสฺสฏฺโ, ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ปรินิพฺพายิสฺสสิ, โมคฺคลฺลาน’’อาติ. ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กตฺถ คนฺตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสสี’’ติ. ‘‘กาฬสิลาปฏฺเฏ, ภนฺเต’’ติ. เตน หิ, โมคฺคลฺลาน, ธมฺมํ มยฺหํ กเถตฺวา ยาหิ, ตาทิสสฺส สาวกสฺส อิทานิ ทสฺสนํ นตฺถีติ. โส ‘‘เอวํ กริสฺสามิ, ภนฺเต’’ติ สตฺถารํ วนฺทิตฺวา ตาลปฺปมาณํ อากาเส อุปฺปติตฺวา ปรินิพฺพานทิวเส สาริปุตฺตตฺเถโร วิย นานปฺปการา อิทฺธิโย กตฺวา ธมฺมํ กเถตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา กาฬสิลายํ อฏวิยํ ปรินิพฺพายิ.

ตงฺขณฺเว ฉ เทวโลกา เอกโกลาหลา อเหสุํ, ‘‘อมฺหากํ กิร อาจริโย ปรินิพฺพุโต’’ติ ทิพฺพคนฺธมาลาวาสธูมจนฺทนจุณฺณานิ เจว นานาทารูนิ จ คเหตฺวา อาคมึสุ, เอกูนสตรตนจนฺทนจิตกา อโหสิ. สตฺถา เถรสฺส สนฺติเก ตฺวา สรีรนิกฺเขปํ กาเรสิ. อาฬาหนสฺส สมนฺตโต โยชนมตฺเต ปเทเส ปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ. เทวานํ อนฺตเร มนุสฺสา, มนุสฺสานํ อนฺตเร เทวา อเหสุํ. ยถากฺกเมน เทวานํ อนฺตเร ยกฺขา ติฏฺนฺติ, ยกฺขานํ อนฺตเร คนฺธพฺพา ติฏฺนฺติ, คนฺธพฺพานํ อนฺตเร นาคา ติฏฺนฺติ, นาคานํ อนฺตเร เวนเตยฺยา ติฏฺนฺติ, เวนเตยฺยานํ อนฺตเร กินฺนรา ติฏฺนฺติ, กินฺนรานํ อนฺตเร ฉตฺตา ติฏฺนฺติ, ฉตฺตานํ อนฺตเร สุวณฺณจามรา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ธชา ติฏฺนฺติ, เตสํ อนฺตเร ปฏากา ติฏฺนฺติ. สตฺต ทิวสานิ สาธุกีฬํ กีฬึสุ. สตฺถา เถรสฺส ธาตุํ คาหาเปตฺวา เวฬุวนทฺวารโกฏฺเก เจติยํ การาเปสิ. ตทา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สาริปุตฺตตฺเถโร ตถาคตสฺส สนฺติเก อปรินิพฺพุตตฺตา พุทฺธานํ สนฺติกา มหนฺตํ สมฺมานํ น ลภิ, โมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน พุทฺธานํ สมีเป ปรินิพฺพุตตฺตา มหาสมฺมานํ ลภี’’ติ. สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว โมคฺคลฺลาโน มม สนฺติกา สมฺมานํ ลภติ, ปุพฺเพปิ ลภิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตฺวา ทสมาสจฺจเยน ปจฺจูสสมเย มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺมึ ขเณ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร สพฺพาวุธานิ ปชฺชลึสุ. ปุโรหิโต ปุตฺตสฺส ชาตกฺขเณ พหิ นิกฺขมิตฺวา อากาสํ โอโลเกนฺโต นกฺขตฺตโยคํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นกฺขตฺเตน ชาตตฺตา เอโส กุมาโร สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา กาลสฺเสว ราชกุลํ คนฺตฺวา ราชานํ สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิ. ‘‘กุโต เม, อาจริย, สุขํ, อชฺช สกลนิเวสเน อาวุธานิ ปชฺชลิตานี’’ติ วุตฺเต ‘‘มา ภายิ, เทว, น ตุมฺหากํ นิเวสเนเยว, สกลนคเรปิ ปชฺชลึสุเยว, อชฺช อมฺหากํ เคเห กุมารสฺส ชาตตฺตา เอวํ อโหสี’’ติ. ‘‘อาจริย, เอวํ ชาตกุมารสฺส ปน กึ ภวิสฺสตี’’ติ? ‘‘น กิฺจิ, มหาราช, โส ปน สกลชมฺพุทีเป ธนุคฺคหานํ อคฺโค ภวิสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, อาจริย, เตน หิ นํ ปฏิชคฺคิตฺวา วยปฺปตฺตกาเล อมฺหากํ ทสฺเสยฺยาสี’’ติ วตฺวา ขีรมูลํ ตาว สหสฺสํ ทาเปสิ. ปุโรหิโต ตํ คเหตฺวา นิเวสนํ คนฺตฺวา พฺราหฺมณิยา ทตฺวา ปุตฺตสฺส นามคฺคหณทิวเส ชาตกฺขเณ อาวุธานํ ปชฺชลิตตฺตา ‘‘โชติปาโล’’ติสฺส นามํ อกาสิ.

โส มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒมาโน โสฬสวสฺสกาเล อุตฺตมรูปธโร อโหสิ. อถสฺส ปิตา สรีรสมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา, ‘‘ตาต, ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุปฺปณฺหาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อาจริยภาคํ คเหตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปตฺวา สตฺตาเหเนว นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. อถสฺส อาจริโย ตุสฺสิตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ ขคฺครตนํ สนฺธิยุตฺตํ เมณฺฑกสิงฺคธนุํ สนฺธิยุตฺตํ ตูณีรํ อตฺตโน สนฺนาหกฺจุกํ อุณฺหีสฺจ ทตฺวา ‘‘ตาต โชติโปล, อหํ มหลฺลโก, อิทานิ ตฺวํ อิเม มาณวเก สิกฺขาเปหี’’ติ ปฺจสตมาณวเกปิ ตสฺเสว นิยฺยาเทสิ. โพธิสตฺโต สพฺพํ อุปกรณํ คเหตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา พาราณสิเมว อาคนฺตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถ นํ วนฺทิตฺวา ิตํ ปิตา อโวจ ‘‘อุคฺคหิตํ เต, ตาต, สิปฺป’’นฺติ. ‘‘อาม, ตาตา’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา ‘‘ปุตฺโต เม , เทว, สิปฺปํ สิกฺขิตฺวา อาคโต, กึ กโรตู’’ติ อาห. ‘‘อาจริย, อมฺเห อุปฏฺหตู’’ติ. ‘‘ปริพฺพยมสฺส ชานาถ, เทวา’’ติ. ‘‘โส เทวสิกํ สหสฺสํ ลภตู’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา กุมารํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ราชานํ อุปฏฺหา’’ติ อาห. โส ตโต ปฏฺาย เทวสิกํ สหสฺสํ ลภิตฺวา ราชานํ อุปฏฺหิ.

ราชปาทมูลิกา อุชฺฌายึสุ – ‘‘มยํ โชติปาเลน กตกมฺมํ น ปสฺสาม, เทวสิกํ สหสฺสํ คณฺหาติ, มยมสฺส สิปฺปํ ปสฺสิตุกามา’’ติ. ราชา เตสํ วจนํ สุตฺวา ปุโรหิตสฺส กเถสิ. ปุโรหิโต ‘‘สาธุ, เทวา’’ติ ปุตฺตสฺสาโรเจสิ. โส ‘‘สาธุ, ตาต, อิโต สตฺตเม ทิวเส ทสฺเสสฺสามิ สิปฺปํ, อปิจ ราชา อตฺตโน วิชิเต ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปตู’’ติ อาห. ปุโรหิโต คนฺตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปตฺวา ธนุคฺคเห สนฺนิปาตาเปสิ. สฏฺิสหสฺสา ธนุคฺคหา สนฺนิปตึสุ. ราชา เตสํ สนฺนิปติตภาวํ ตฺวา ‘‘นครวาสิโน โชติปาลสฺส สิปฺปํ ปสฺสนฺตู’’ติ นคเร เภรึ จราเปตฺวา ราชงฺคณํ สชฺชาเปตฺวา มหาชนปริวุโต ปลฺลงฺกวเร นิสีทิตฺวา ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘โชติปาโล อาคจฺฉตู’’ติ เปเสสิ. โส อาจริเยน ทินฺนานิ ธนุตูณีรสนฺนาหกฺจุกอุณฺหีสานิ นิวาสนนฺตเร เปตฺวา ขคฺคํ คาหาเปตฺวา ปกติเวเสน รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ.

ธนุคฺคหา ‘‘โชติปาโล กิร ธนุสิปฺปํ ทสฺเสตุํ อาคโต, ธนุํ อคฺคเหตฺวา ปน อาคตตฺตา อมฺหากํ หตฺถโต ธนุํ คเหตุกาโม ภวิสฺสติ , นาสฺส ทสฺสามา’’ติ กติกํ กรึสุ. ราชา โชติปาลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สิปฺปํ ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส สาณึ ปริกฺขิปาเปตฺวา อนฺโตสาณิยํ ิโต สาฏกํ อปเนตฺวา สนฺนาหกฺจุกํ ปเวเสตฺวา อุณฺหีสํ สีเส ปฏิมุฺจิตฺวา เมณฺฑกสิงฺคธนุมฺหิ ปวาลวณฺณํ ชิยํ อาโรเปตฺวา ตูณีรํ ปิฏฺเ พนฺธิตฺวา ขคฺคํ วามโต กตฺวา วชิรคฺคํ นาราจํ นขปิฏฺเน ปริวตฺเตตฺวา สาณึ วิวริตฺวา ปถวึ ภินฺทิตฺวา อลงฺกตนาคกุมาโร วิย นิกฺขมิตฺวา คนฺตฺวา รฺโ อปจิตึ ทสฺเสตฺวา อฏฺาสิ. ตํ ทิสฺวา มหาชนา วคฺคนฺติ นทนฺติ อปฺโผเฏนฺติ เสเฬนฺติ. ราชา ‘‘ทสฺเสหิ, โชติปาล, สิปฺป’’นฺติ อาห. เทว, ตุมฺหากํ ธนุคฺคเหสุ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน จตฺตาโร ธนุคฺคเห ปกฺโกสาเปหีติ. อถ ราชา ปกฺโกสาเปสิ.

มหาสตฺโต ราชงฺคเณ จตุรสฺสปริจฺเฉทพฺภนฺตเร มณฺฑลํ กตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ จตฺตาโร ธนุคฺคเห เปตฺวา เอเกกสฺส ตึส ตึส กณฺฑสหสฺสานิ ทาเปตฺวา เอเกกสฺส สนฺติเก เอเกกํ กณฺฑทายกํ เปตฺวา สยํ วชิรคฺคํ นาราจํ คเหตฺวา มณฺฑลมชฺเฌ ตฺวา ‘‘มหาราช, อิเม จตฺตาโร ธนุคฺคหา เอกปฺปหาเรเนว สเร ขิปิตฺวา มํ วิชฺฌนฺตุ, อหํ เอเตหิ ขิตฺตกณฺฑานิ นิวาเรสฺสามี’’ติ อาห. ราชา ‘‘เอวํ กโรถา’’ติ อาณาเปสิ. ธนุคฺคหา อาหํสุ, ‘‘มหาราช, มยํ อกฺขณเวธิวาลเวธิสรเวธิสทฺทเวธิโน, โชติปาโล ตรุณทารโก, น มยํ วิชฺฌิสฺสามา’’ติ. มหาสตฺโต ‘‘สเจ สกฺโกถ, วิชฺฌถ ม’’นฺติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เอกปฺปหาเรเนว กณฺฑานิ ขิปึสุ. มหาสตฺโต ตานิ นาราเจน ปหริตฺวา ยถา วา ตถา วา น ปาเตสิ, โพธิโกฏฺกํ ปน ปริกฺขิปนฺโต วิย ตาเลน ตาลํ, วาเลน วาลํ, ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ, วาเชน วาชํ อนติกฺกมนฺโต ขิปิตฺวา สรคพฺภํ อกาสิ. ธนุคฺคหานํ กณฺฑานิ ขีณานิ. โส เตสํ กณฺฑขีณภาวํ ตฺวา สรคพฺภํ อวินาเสนฺโตว อุปฺปติตฺวา คนฺตฺวา รฺโ สนฺติเก อฏฺาสิ. มหาชโน อุนฺนาเทนฺโต วคฺคนฺโต อปฺโผเฏนฺโต เสเฬนฺโต อจฺฉรํ ปหรนฺโต มหาโกลาหลํ กตฺวา วตฺถาภรณาทีนิ ขิปิ. เอวํ เอกราสิภูตํ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ อโหสิ.

อถ นํ ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ โชติปาลา’’ติ? สรปฏิพาหนํ นาม, เทวาติ. อฺเ เอตํ ชานนฺตา อตฺถีติ. สกลชมฺพุทีเป มํ เปตฺวา อฺโ นตฺถิ, เทวาติ. อปรํ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. เทว, เอเต ตาว จตูสุ กณฺเณสุ ตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา มํ วิชฺฌิตุํ น สกฺขึสุ, อหํ ปเนเต จตูสุ กณฺเณสุ ิเต เอเกเนว สเรน วิชฺฌิสฺสามีติ. ธนุคฺคหา าตุํ น อุสฺสหึสุ. มหาสตฺโต จตูสุ กณฺเณสุ จตสฺโส กทลิโย ปาเปตฺวา นาราจปุงฺเข รตฺตสุตฺตกํ พนฺธิตฺวา เอกํ กทลึ สนฺธาย ขิปิ. นาราโจ ตํ กทลึ วิชฺฌิตฺวา ตโต ทุติยํ, ตโต ตติยํ, ตโต จตุตฺถํ, ตโต ปมํ วิทฺธเมว วิชฺฌิตฺวา ปุน ตสฺส หตฺเถเยว ปติฏฺหิ. กทลิโย สุตฺตปริกฺขิตฺตา อฏฺํสุ. มหาชโน อุนฺนาทสหสฺสานิ ปวตฺเตสิ. ราชา ‘‘กึ สิปฺปํ นาเมตํ, ตาตา’’ติ? จกฺกวิทฺธํ นาม, เทวาติ. อปรมฺปิ ทสฺเสหิ, ตาตาติ. มหาสตฺโต สรลฏฺึ นาม, สรรชฺชุํ นาม, สรเวธึ นาม ทสฺเสสิ, สรปาสาทํ นาม, สรโสปานํ นาม, สรมณฺฑปํ นาม, สรปาการํ นาม, สรโปกฺขรณึ นาม อกาสิ, สรปทุมํ นาม ปุปฺผาเปสิ, สรวสฺสํ นาม วสฺสาเปสิ. อิติ อฺเหิ อสาธารณานิ อิมานิ ทฺวาทส สิปฺปานิ ทสฺเสตฺวา ปุน อฺเหิ อสาธารเณเยว สตฺต มหากาเย ปทาเลสิ, อฏฺงฺคุลพหลํ อุทุมฺพรปทรํ วิชฺฌิ, จตุรงฺคุลพหลํ อสนปทรํ, ทฺวงฺคุลพหลํ ตมฺพปฏฺฏํ, เอกงฺคุลพหลํ อยปฏฺฏํ, เอกาพทฺธํ ผลกสตํ วินิวิชฺฌิตฺวา ปลาลสกฏวาลุกสกฏปทรสกฏานํ ปุริมภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปจฺฉาภาเคน นิกฺขมาเปสิ, ปจฺฉาภาเคน สรํ ขิปิตฺวา ปุริมภาเคน นิกฺขมาเปสิ, อุทเก จตุอุสภํ, ถเล อฏฺอุสภฏฺานํ กณฺฑํ เปเสสิ. วาติงฺคณสฺาย อุสภมตฺตเก วาลํ วิชฺฌิ. โพธิสตฺโต สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ ‘‘สรภงฺโค’’ติ นาม ปฺาโต. ตสฺส เอตฺตกานิ สิปฺปานิ ทสฺเสนฺตสฺเสว สูริโย อตฺถงฺคโต.

อถสฺส ราชา เสนาปติฏฺานํ ปฏิชานิตฺวา ‘‘โชติปาล, อชฺช วิกาโล, สฺเว ตฺวํ เสนาปติฏฺานํ สกฺการํ คณฺหิสฺสสิ, เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา เอหี’’ติ ตํ ทิวสํ ปริพฺพยตฺถาย สตสหสฺสํ อทาสิ. มหาสตฺโต ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถี’’ติ อฏฺารสโกฏิสงฺขฺยํ ธนํ สามิกานฺเว ทตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นฺหายิตุํ นทึ คนฺตฺวา เกสมสฺสุํ กาเรตฺวา นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฺปฏิมณฺฑิโต อโนปมาย สิริยา นิเวสนํ ปวิสิตฺวา นานคฺครสโภชนํ ภุฺชิตฺวา สิริสยนํ อภิรุยฺห นิปนฺโน ทฺเว ยาเม สยิตฺวา ปจฺฉิมยาเม ปพุทฺโธ อุฏฺาย ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา สยนปิฏฺเ นิสินฺโนว อตฺตโน สิปฺปสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ โอโลเกนฺโต ‘‘มม สิปฺปสฺส อาทิโตว ปรมารณํ ปฺายติ, มชฺเฌ กิเลสปริโภโค, ปริโยสาเน นิรยมฺหิ ปฏิสนฺธิ, ปาณาติปาโต กิเลสปริโภเคสุ จ อธิมตฺตปฺปมาโท นิรเย ปฏิสนฺธึ เทติ, รฺา มยฺหํ มหนฺตํ เสนาปติฏฺานํ ทินฺนํ, มหนฺตํ เม อิสฺสริยํ ภวิสฺสติ, ภริยา จ ปุตฺตธีตโร จ พหู ภวิสฺสนฺติ. กิเลสวตฺถุ โข ปน เวปุลฺลคตํ ทุจฺจชํ โหติ, อิทาเนว นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตุํ ยุตฺตํ มยฺห’’นฺติ มหาสยนโต อุฏฺาย กฺจิ อชานาเปนฺโต ปาสาทา โอรุยฺห อคฺคทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา เอกโกว อรฺํ ปวิสิตฺวา โคธาวรินทีตีเร ติโยชนิกํ กปิฏฺวนํ สนฺธาย ปายาสิ.

ตสฺส นิกฺขนฺตภาวํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, ชาติปาโล อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, มหาสมาคโม ภวิสฺสติ, โคธาวรินทีตีเร กปิฏฺวเน อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. มหาสตฺโต ตํ านํ ปตฺวา เอกปทิกมคฺคํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตานํ วสนฏฺาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ เตน มคฺเคน ตตฺถ คนฺตฺวา กฺจิ อปสฺสนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ทิสฺวา ‘‘สกฺโก เทวราชา มม นิกฺขนฺตภาวํ อฺาสิ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา สาฏกํ อปเนตฺวา รตฺตวากจิรํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ อชินจมฺมํ เอกํสคตํ อกาสิ, ชฏามณฺฑลํ พนฺธิตฺวา ขาริกาชํ อํเส กตฺวา กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา จงฺกมํ อารุยฺห กติปยวาเร อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชาสิริยา วนํ อุปโสภยมาโน กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส อฏฺ สมาปตฺติโย ปฺจ อภิฺาโย จ นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย วนมูลผลาหาโร เอกโกว วิหาสิ. มาตาปิตโร มิตฺตสุหชฺชาทโย าติวคฺคาปิสฺส ตํ อปสฺสนฺตา โรทนฺตา ปริเทวนฺตา วิจรนฺติ.

อเถโก วนจรโก อรฺํ ปวิสิตฺวา กปิฏฺกอสฺสมปเท นิสินฺนํ มหาสตฺตํ ทิสฺวา สฺชานิตฺวา คนฺตฺวา เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นครํ คนฺตฺวา ตสฺส มาตาปิตูนํ อาโรเจสิ. เต รฺโ อาโรจยึสุ. ราชา ‘‘เอถ นํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ตสฺส มาตาปิตโร คเหตฺวา มหาชนปริวุโต วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน โคธาวรินทีตีรํ ปาปุณิ. โพธิสตฺโต นทีตีรํ อาคนฺตฺวา อากาเส นิสินฺโน ธมฺมํ เทเสตฺวา เต สพฺเพ อสฺสมปทํ ปเวเสตฺวา ตตฺรปิ เตสํ อากาเส นิสินฺโนว กาเมสุ อาทีนวํ ปกาเสตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. ราชานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพว ปพฺพชึสุ. โพธิสตฺโต อิสิคณปริวุโต ตตฺเถว วสิ. อถสฺส ตตฺถ วสนภาโว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ. อฺเปิ ราชาโน รฏฺวาสีหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก ปพฺพชึสุ, สมาคโม มหา อโหสิ. อนุปุพฺเพน อเนกสตสหสฺสปริสา อเหสุํ. โย กามวิตกฺกํ วา พฺยาปาทวิตกฺกํ วา วิหึสาวิตกฺกํ วา วิตกฺเกติ, มหาสตฺโต คนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อากาเส นิสีทิตฺวา ธมฺมํ เทเสติ, กสิณปริกมฺมํ อาจิกฺขติ. ตสฺโสวาเท ตฺวา อฏฺ สมาปตฺติโย อุปฺปาเทตฺวา ฌานนิปฺผตฺตึ ปตฺตา สาลิสฺสโร เมณฺฑิสฺสโร ปพฺพโต กาฬเทวิโล กิสวจฺโฉ อนุสิสฺโส นารโทติ สตฺต เชฏฺนฺเตวาสิโน อเหสุํ. อปรภาเค กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. อิสิคณสฺส วสโนกาโส นปฺปโหติ.

อถ มหาสตฺโต สาลิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สาลิสฺสร, อยํ อสฺสโม อิสิคณสฺส นปฺปโหติ, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ คเหตฺวา มชฺฌรฺโ วิชิเต กลปฺปจุลฺลกนิคมํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อเนกสหสฺสํ อิสิคณํ คเหตฺวา คนฺตฺวา ตตฺถ วาสํ กปฺเปสิ. มนุสฺเสสุ อาคนฺตฺวา ปพฺพชนฺเตสุ ปุน อสฺสโม ปริปูริ. โพธิสตฺโต เมณฺฑิสฺสรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘เมณฺฑิสฺสร, ตฺวํ อิมํ อิสิคณํ อาทาย สุรฏฺชนปทสฺส สีมนฺตเร สาโตทิกา นาม นที อตฺถิ, ตสฺสา ตีเร วสาหี’’ติ อุยฺโยเชสิ, ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ. เอเตนุปาเยน ตติยวาเร ปพฺพตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ปพฺพต, ตฺวํ มหาอฏวิยํ อฺชนปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. จตุตฺถวาเร กาฬเทวิลํ อามนฺเตตฺวา ‘‘กาฬเทวิล, ตฺวํ ทกฺขิณปเถ อวนฺติรฏฺเ ฆนเสลปพฺพโต นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย วสาหี’’ติ เปเสสิ. ปุน กปิฏฺกอสฺสโม ปริปูริ, ปฺจสุ าเนสุ อเนกสตสหสฺสอิสิคโณ อโหสิ. กิสวจฺโฉ ปน มหาสตฺตํ อาปุจฺฉิตฺวา ทณฺฑกิรฺโ วิชิเต กุมฺภวตินครํ นาม อตฺถิ, ตํ อุปนิสฺสาย อุยฺยาเน วิหาสิ. นารโท มชฺฌิมเทเส อฺชนคิรินามเก ปพฺพตชาลนฺตเร วิหาสิ. อนุสิสฺโส ปน มหาสตฺตสฺส สนฺติเกว อโหสิ.

ตสฺมึ กาเล ทณฺฑกิราชา เอกํ ลทฺธสกฺการํ คณิกํ านา จาเวสิ. สา อตฺตโน ธมฺมตาย วิจรนฺตี อุยฺยานํ คนฺตฺวา กิสวจฺฉตาปสํ ทิสฺวา ‘‘อยํ กาฬกณฺณี ภวิสฺสติ, อิมสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา นฺหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ ตสฺสูปริ พหลเขฬํ นิฏฺุภนฺตี กิสวจฺฉตาปสสฺส ชฏนฺตเร นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺมฺปิสฺส สีเสเยว ขิปิตฺวา สยํ สีสํ นฺหายิตฺวา คตา. ราชาปิ ตํ สริตฺวา ปุน ปากติกเมว อกาสิ. สา โมหมูฬฺหา หุตฺวา ‘‘กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหตฺวา มมฺปิ ราชา ปุน าเน เปติ มยา ยโส ลทฺโธ’’ติ สฺมกาสิ. ตโต นจิรสฺเสว ราชา ปุโรหิตํ านโต จาเวสิ. โส ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ตฺวํ เกน การเณน ปุน านํ ลภสี’’ติ ปุจฺฉิ. อถสฺส สา ‘‘ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลิสฺส ปวาหิตตฺตา’’ติ อาโรเจสิ. ปุโรหิโต คนฺตฺวา ตเถว ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหสิ, ตมฺปิ ราชา ปุน าเน เปสิ. อถสฺส อปรภาเค ปจฺจนฺโต กุปฺปิ. โส เสนงฺคปริวุโต ยุทฺธาย นิกฺขมิ. อถ นํ โมหมูฬฺโห ปุโรหิโต, ‘‘มหาราช, กึ ตุมฺเห ชยํ อิจฺฉถ, อุทาหุ ปราชย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ชย’’นฺติ วุตฺเต – ‘‘เตน หิ ราชุยฺยาเน กาฬกณฺณี วสติ, ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา ยาหี’’ติ อาห. โส ตสฺส กถํ คเหตฺวา ‘‘เย มยา สทฺธึ อาคจฺฉนฺติ, เต อุยฺยาเน กาฬกณฺณิสรีเร กลึ ปวาเหนฺตู’’ติ วตฺวา อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา ทนฺตกฏฺํ ขาทิตฺวา สพฺพปมํ สยเมว ตสฺส ชฏนฺตเร เขฬํ นิฏฺุภิตฺวา ทนฺตกฏฺฺจ ขิปิตฺวา สีสํ นฺหายิ. พลกาโยปิสฺส ตถา อกาสิ.

ตสฺมึ ปกฺกนฺเต เสนาปติ คนฺตฺวา ตาปสํ ทิสฺวา ทนฺตกฏฺาทีนิ นีหริตฺวา สาธุกํ นฺหาเปตฺวา ‘‘ภนฺเต, รฺโ กึ ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาวุสา มยฺหํ มโนปโทโส นตฺถิ, เทวตา ปน กุปิตา อิโต สตฺตเม ทิวเส สกลรฏฺํ อรฏฺํ กริสฺสนฺติ, ตฺวํ ปุตฺตทารํ คเหตฺวา สีฆํ ปลายิตฺวา อฺตฺถ ยาหีติ. โส ภีตตสิโต คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ, ราชา ตสฺส วจนํ น คณฺหิ. โส นิวตฺติตฺวา อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา ปุตฺตทารํ อาทาย ปลายิตฺวา อฺํ รฏฺํ อคมาสิ. สรภงฺคสตฺถา ตํ การณํ ตฺวา ทฺเว ตรุณตาปเส เปเสตฺวา ‘‘กิสวจฺฉํ มฺจสิวิกาย อาเนถา’’ติ อากาเสน อาณาเปสิ. ราชา ยุชฺฌิตฺวา โจเร คเหตฺวา นครเมว ปจฺจาคมิ. ตสฺมึ อาคเต เทวตา ปมํ เทวํ วสฺสาเปสุํ, วสฺโสเฆน สพฺพกุณเปสุ อวหเฏสุ สุทฺธวาลุกวสฺสํ วสฺสิ, สุทฺธวาลุกมตฺถเก ทิพฺพปุปฺผวสฺสํ วสฺสิ, ทิพฺพปุปฺผมตฺถเก มาสกวสฺสํ, มาสกมตฺถเก กหาปณวสฺสํ, กหาปณมตฺถเก ทิพฺพาภรณวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา โสมนสฺสปฺปตฺตา หิรฺสุวณฺณาภรณานิ คณฺหิตุํ อารภึสุ. อถ เนสํ สรีเร สมฺปชฺชลิตํ นานปฺปการํ อาวุธวสฺสํ วสฺสิ, มนุสฺสา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉิชฺชึสุ. อถ เนสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตา วีตจฺจิตงฺคารา ปตึสุ , เตสํ อุปริ มหนฺตมหนฺตานิ ปชฺชลิตปพฺพตกูฏานิ ปตึสุ, เตสํ อุปริ สฏฺิหตฺถฏฺานํ ปูรยนฺตํ สุขุมวาลุกวสฺสํ วสฺสิ. เอวํ สฏฺิโยชนฏฺานํ อรฏฺํ อโหสิ, ตสฺส เอวํ อรฏฺภาโว สกลชมฺพุทีเป ปฺายิ.

อถ ตสฺส รฏฺสฺส อนนฺตรรฏฺาธิปติโน กาลิงฺโค, อฏฺโก, ภีมรโถติ ตโย ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘ปุพฺเพ พาราณสิยํ กลาพุกาสิกราชา ขนฺติวาทิตาปเส อปรชฺฌิตฺวา ปถวึ ปวิฏฺโติ สูยติ, ตถา ‘‘นาฬิเกรราชา ตาปเส สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา, สหสฺสพาหุ อชฺชุโน จ องฺคีรเส อปรชฺฌิตฺวา, อิทานิ ทณฺฑกิราชา กิสวจฺเฉ อปรชฺฌิตฺวา สห รฏฺเน วินาสํ ปตฺโต’’ติ สูยติ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺานํ มยํ น ชานาม, ตํ โน เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามา’’ติ . เต ตโยปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ปฺหปุจฺฉนตฺถาย นิกฺขมึสุ. เต ปน ‘‘อสุโกปิ นิกฺขนฺโต’’ติ น ชานนฺติ, เอเกโก ‘‘อหเมว คจฺฉามี’’ติ มฺติ, เตสํ โคธาวรินทิโต อวิทูเร สมาคโม อโหสิ. เต รเถหิ โอตริตฺวา ตโยปิ เอกเมว รถํ อภิรุยฺห โคธาวรินทีตีรํ สมฺปาปุณึสุ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน สตฺต ปฺเห จินฺเตตฺวา ‘‘อิเม ปฺเห เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ อฺโ สเทวเก โลเก กเถตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ตํ อิเม ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามิ, อิเมปิ ตโย ราชาโน สรภงฺคสตฺถารํ ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ โคธาวรินทีตีรํ ปตฺตา, เอเตสํ ปฺเหปิ อหเมว ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ทฺวีสุ เทวโลเกสุ เทวตาหิ ปริวุโต เทวโลกโต โอตริ. ตํ ทิวสเมว กิสวจฺโฉ กาลมกาสิ. ตสฺส สรีรกิจฺจํ กาเรตุํ จตูสุ าเนสุ อเนกสหสฺสา อิสโย ตตฺเถว คนฺตฺวา ปฺจสุ าเนสุ มณฺฑปฺจ กาเรตฺวา อเนกสหสฺสา อิสิคณา กิสวจฺฉสฺส ตาปสสฺส จนฺทนจิตกํ กตฺวา สรีรํ ฌาเปสุํ. อาฬาหนสฺส สมนฺตา อฑฺฒโยชนมตฺเต าเน ทิพฺพกุสุมวสฺสํ วสฺสิ. มหาสตฺโต ตสฺส สรีรนิกฺเขปํ การาเปตฺวา อสฺสมํ ปวิสิตฺวา เตหิ อิสิคเณหิ ปริวุโต นิสีทิ. เตสมฺปิ ราชูนํ นทีตีรํ อาคตกาเล มหาเสนาวาหนตูริยสทฺโท อโหสิ. มหาสตฺโต ตํ สุตฺวา อนุสิสฺสํ ตาปสํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, ตฺวํ คนฺตฺวา ตาว ชานาหิ, กึ สทฺโท นาเมโส’’ติ อาห. โส ปานียฆฏํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา เต ราชาโน ทิสฺวา ปุจฺฉนวเสน ปมํ คาถมาห –

๕๐.

‘‘อลงฺกตา กุณฺฑลิโน สุวตฺถา, เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธา;

รเถสภา ติฏฺถ เก นุ ตุมฺเห, กถํ โว ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวฬุริยมุตฺตาถรุขคฺคพนฺธาติ เวฬุริยมณีหิ เจว มุตฺตาลมฺพเกหิ จ อลงฺกตถรูหิ ขคฺครตเนหิ สมนฺนาคตา. ติฏฺถาติ เอกสฺมึ รเถ ติฏฺถ. เก นูติ เก นาม ตุมฺเห, กถํ โว สฺชานนฺตีติ?

เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา รถา โอตริตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺํสุ. เตสุ อฏฺกราชา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๕๑.

‘‘อหมฏฺโก ภีมรโถ ปนายํ, กาลิงฺคราชา ปน อุคฺคโตยํ;

สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนาย, อิธาคตา ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเห’’ติ.

ตตฺถ อุคฺคโตติ จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากโฏ ปฺาโต. สุสฺตานํ อิสีนนฺติ, ภนฺเต, น มยํ วนกีฬาทีนํ อตฺถาย อาคตา, อถ โข กายาทีหิ สุสฺตานํ สีลสมฺปนฺนานํ อิสีนํ ทสฺสนตฺถาย อิธาคตา. ปุจฺฉิตาเยมฺห ปฺเหติ สรภงฺคสตฺถารํ ปฺเห ปุจฺฉิตุํ เอมฺห, อาคตามฺหาติ อตฺโถ. ย-กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ เวทิตพฺโพ.

อถ เน ตาปโส ‘‘สาธุ มหาราชา, อาคนฺตพฺพฏฺานฺเว อาคตาตฺถ, เตน หิ นฺหตฺวา วิสฺสมิตฺวา อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา สรภงฺคสตฺถารเมว ปฺหํ ปุจฺฉถา’’ติ เตหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ปานียฆฏํ อุกฺขิปิตฺวา อุทกเถเว ปุฺฉนฺโต อากาสํ โอโลเกนฺโต สกฺกํ เทวราชานํ เทวคณปริวุตํ เอราวณกฺขนฺธวรคตํ โอตรนฺตํ ทิสฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ตติยํ คาถมาห –

๕๒.

‘‘เวหายสํ ติฏฺสิ อนฺตลิกฺเข, ปถทฺธุโน ปนฺนรเสว จนฺโท;

ปุจฺฉามิ ตํ ยกฺข มหานุภาว, กตํ ตํ ชานนฺติ มนุสฺสโลเก’’ติ.

ตตฺถ เวหายสนฺติ อพฺภุคฺคนฺตฺวา อนฺตลิกฺเข อากาเส ติฏฺสิ. ปถทฺธุโนติ ปถทฺธคโต, อทฺธปเถ คคนมชฺเฌ ิโตติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก จตุตฺถํ คาถมาห –

๕๓.

‘‘ยมาหุ เทเวสุ ‘สุชมฺปตี’ติ, ‘มฆวา’ติ ตํ อาหุ มนุสฺสโลเก;

ส เทวราชา อิทมชฺช ปตฺโต, สุสฺตานํ อิสีนํ ทสฺสนายา’’ติ.

ตตฺถ ส เทวราชาติ โส อหํ สกฺโก เทวราชา. อิทมชฺช ปตฺโตติ อิทํ านํ อชฺช อาคโต. ทสฺสนายาติ ทสฺสนตฺถาย วนฺทนตฺถาย สรภงฺคสตฺถารฺจ ปฺหํ ปุจฺฉนตฺถายาติ อาห.

อถ นํ อนุสิสฺโส ‘‘สาธุ, มหาราช, ตุมฺเห ปจฺฉา อาคจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปานียฆฏํ อาทาย อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปานียฆฏํ ปฏิสาเมตฺวา ติณฺณํ ราชูนํ เทวราชสฺส จ ปฺหปุจฺฉนตฺถาย อาคตภาวํ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ. โส อิสิคณปริวุโต มหาวิสาลมาฬเก นิสีทิ. ตโย ราชาโน อาคนฺตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทึสุ. สกฺโกปิ โอตริตฺวา อิสิคณํ อุปสงฺกมิตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห ิโต อิสิคณํ วณฺเณตฺวา วนฺทมาโน ปฺจมํ คาถมาห –

๕๔.

‘‘ทูเร สุตา โน อิสโย สมาคตา, มหิทฺธิกา อิทฺธิคุณูปปนฺนา;

วนฺทามิ เต อยิเร ปสนฺนจิตฺโต, เย ชีวโลเกตฺถ มนุสฺสเสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ ทูเร สุตา โนติ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ตุมฺเห ทูเร เทวโลเก ิเตหิเยว สุตาติ มมายนฺโต เอวมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม อิธ สมาคตา อมฺหากํ อิสโย ทูเร สุตา ยาว พฺรหฺมโลกา วิสฺสุตา ปากฏาติ. มหิทฺธิกาติ มหานุภาวา. อิทฺธิคุณูปปนฺนาติ ปฺจวิเธน อิทฺธิคุเณน สมนฺนาคตา. อยิเรติ, อยฺเย. เยติ เย ตุมฺเห อิมสฺมึ ชีวโลเก มนุสฺเสสุ เสฏฺาติ.

เอวํ อิสิคณํ วณฺเณตฺวา สกฺโก ฉ นิสชฺชโทเส ปริหรนฺโต เอกมนฺตํ นิสีทิ. อถ นํ อิสีนํ อโธวาเต นิสินฺนํ ทิสฺวา อนุสิสฺโส ฉฏฺํ คาถมาห –

๕๕.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉติ มาลุเตน;

อิโต ปฏิกฺกมฺม สหสฺสเนตฺต, คนฺโธ อิสีนํ อสุจิ เทวราชา’’ติ.

ตตฺถ จิรทิกฺขิตานนฺติ จิรปพฺพชิตานํ. ปฏิกฺกมฺมาติ ปฏิกฺกม อเปหิ. สหสฺสเนตฺตาติ อาลปนเมตํ. สกฺโก หิ อมจฺจสหสฺเสหิ จินฺติตํ อตฺถํ เอกโกว ปสฺสติ, ตสฺมา ‘‘สหสฺสเนตฺโต’’ติ วุจฺจติ . อถ วา สหสฺสเนตฺตานํ ปน เทวานํ ทสฺสนูปจาราติกฺกมนสมตฺโถติ สหสฺสเนตฺตา . อสุจีติ เสทมลาทีหิ ปริภาวิตตฺตา ทุคฺคนฺโธ, ตุมฺเห จ สุจิกามา, เตน โว เอส คนฺโธ พาธตีติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก อิตรํ คาถมาห –

๕๖.

‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตานํ, กายา จุโต คจฺฉตุ มาลุเตน;

วิจิตฺตปุปฺผํ สุรภึว มาลํ, คนฺธฺจ เอตํ ปาฏิกงฺขาม ภนฺเต;

น เหตฺถ เทวา ปฏิกฺกูลสฺิโน’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉตูติ ยถาสุขํ ปวตฺตตุ, นาสปุฏํ โน ปหรตูติ อตฺโถ. ปาฏิกงฺขามาติ อิจฺฉาม ปตฺเถม. เอตฺถาติ เอตสฺมึ คนฺเธ เทวา ชิคุจฺฉสฺิโน น โหนฺติ. ทุสฺสีเลเยว หิ เทวา ชิคุจฺฉนฺติ, น สีลวนฺเตติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘ภนฺเต, อนุสิสฺส อหํ มหนฺเตน อุสฺสาเหน ปฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคโต, โอกาสํ เม กโรหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา อุฏฺายาสนา อิสิคณํ โอกาสํ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๕๗.

‘‘ปุรินฺทโท ภูตปตี ยสสฺสี, เทวานมินฺโท สกฺโก มฆวา สุชมฺปติ;

ส เทวราชา อสุรคณปฺปมทฺทโน, โอกาสมากงฺขติ ปฺห ปุจฺฉิตุํ.

๕๘.

‘‘โก เนวิเมสํ อิธ ปณฺฑิตานํ, ปฺเห ปุฏฺโ นิปุเณ พฺยากริสฺสติ;

ติณฺจ รฺํ มนุชาธิปานํ, เทวานมินฺทสฺส จ วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ ‘‘ปุรินฺทโท’’ติอาทีนิ สกฺกสฺเสว คุณนามานิ. โส หิ ปุเร ทานํ ทินฺนตฺตา ปุรินฺทโท, ภูเตสุ เชฏฺกตฺตา ภูตปติ, ปริวารสมฺปทาย ยสสฺสี, ปรมิสฺสรตาย เทวานมินฺโท, สตฺตนฺนํ วตฺตปทานํ สุฏฺุ กตตฺตา สกฺโก, ปุริมชาติวเสน มฆวา, สุชาย อสุรกฺาย ปติภาเวน สุชมฺปติ, เทวานํ รฺชนตาย เทวราชา. โก เนวาติ โก นุ เอว. นิปุเณติ สณฺหสุขุเม ปฺเห. รฺนฺติ ราชูนํ. อิเมสํ จตุนฺนํ ราชูนํ มนํ คเหตฺวา โก อิเมสํ ปณฺฑิตานํ อิสีนํ ปฺเห กเถสฺสติ, ปฺหํ เนสํ กเถตุํ สมตฺถํ ชานาถาติ วทติ.

ตํ สุตฺวา อิสิคโณ, ‘‘มาริส, อนุสิสฺส ตฺวํ ปถวิยํ ตฺวา ปถวึ อปสฺสนฺโต วิย กเถสิ, เปตฺวา สรภงฺคสตฺถารํ โก อฺโ เอเตสํ ปฺหํ กเถตุํ สมตฺโถ’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๕๙.

‘‘อยํ อิสิ สรภงฺโค ตปสฺสี, ยโต ชาโต วิรโต เมถุนสฺมา;

อาเจรปุตฺโต สุวินีตรูโป, โส เนสํ ปฺหานิ วิยากริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ สรภงฺโคติ สเร ขิปิตฺวา อากาเส สรปาสาทาทีนิ กตฺวา ปุน เอเกน สเรน เต สเร ปาเตนฺโต ภงฺควิภงฺเค อกาสีติ สรภงฺโค. เมถุนสฺมาติ เมถุนธมฺมโต. โส กิร เมถุนํ อเสวิตฺวา ปพฺพชิโต. อาเจรปุตฺโตติ รฺโ อาจริยสฺส ปุโรหิตสฺส ปุตฺโต.

เอวฺจ ปน วตฺวา อิสิคโณ อนุสิสฺสํ อาห – ‘‘มาริส, ตฺวเมว สตฺถารํ วนฺทิตฺวา อิสิคณสฺส วจเนน สกฺเกน ปุจฺฉิตปฺหกถนาย โอกาสํ กาเรหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๐.

‘‘โกณฺฑฺ ปฺหานิ วิยากโรหิ, ยาจนฺติ ตํ อิสโย สาธุรูปา;

โกณฺฑฺ เอโส มนุเชสุ ธมฺโม, ยํ วุทฺธมาคจฺฉติ เอส ภาโร’’ติ.

ตตฺถ โกณฺฑฺาติ ตํ โคตฺเตนาลปติ. ธมฺโมติ สภาโว. ยํ วุทฺธนฺติ ยํ ปฺาย วุทฺธํ ปุริสํ เอส ปฺหานํ วิสฺสชฺชนภาโร นาม อาคจฺฉติ, เอโส มนุเชสุ สภาโว, ตสฺมา จนฺทิมสูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา เทวรฺโ ปฺเห กเถหีติ.

ตโต มหาปุริโส โอกาสํ กโรนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๖๑.

‘‘กตาวกาสา ปุจฺฉนฺตุ โภนฺโต, ยํ กิฺจิ ปฺหํ มนสาภิปตฺถิตํ;

อหฺหิ ตํ ตํ โว วิยากริสฺสํ, ตฺวา สยํ โลกมิมํ ปรฺจา’’ติ.

ตตฺถ ยํ กิฺจีติ น เกวลํ ตุมฺหากํเยว, อถ โข สเทวกสฺสปิ โลกสฺส ยํ มนสาภิปตฺถิตํ, ตํ มํ ภวนฺโต ปุจฺฉนฺตุ. อหฺหิ โว อิธโลกนิสฺสิตํ วา ปรโลกนิสฺสิตํ วา สพฺพํ ปฺหํ อิมฺจ ปรฺจ โลกํ สยํ ปฺาย สจฺฉิกตฺวา กเถสฺสามีติ สพฺพฺุปวารณํ สมฺปวาเรสิ.

เอวํ เตน โอกาเส กเต สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขตํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๒.

‘‘ตโต จ มฆวา สกฺโก, อตฺถทสฺสี ปุรินฺทโท;

อปุจฺฉิ ปมํ ปฺหํ, ยฺจาสิ อภิปตฺถิตํ.

๖๓.

‘‘กึ สู วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, กิสฺสปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

กสฺสีธ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

ตตฺถ ยฺจาสีติ ยํ ตสฺส มนสา อภิปตฺถิตํ อาสิ, ตํ ปุจฺฉีติ อตฺโถ. เอตนฺติ เอตํ มยา ปุจฺฉิตมตฺถํ อกฺขาหิ เมติ เอกคาถาย ตโย ปฺเห ปุจฺฉิ.

ตโต ปรํ พฺยากโรนฺโต อาห –

๖๔.

‘‘โกธํ วธิตฺวา น กทาจิ โสจติ, มกฺขปฺปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ;

สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ.

ตตฺถ โกธํ วธิตฺวาติ โกธํ มาเรตฺวา ฉฑฺเฑตฺวา. โสจนฺโต หิ ปฏิฆจิตฺเตเนว โสจติ, โกธาภาวา กุโต โสโก. เตน วุตฺตํ ‘‘น กทาจิ โสจตี’’ติ. มกฺขปฺปหานนฺติ ปเรหิ อตฺตโน กตคุณมกฺขนลกฺขณสฺส อกตฺุภาวสงฺขาตสฺส มกฺขสฺส ปหานํ อิสโย วณฺณยนฺติ. สพฺเพสนฺติ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺานํ สพฺเพสมฺปิ ผรุสํ วจนํ ขเมถ. สนฺโตติ โปราณกา ปณฺฑิตา เอวํ กเถนฺติ.

สกฺโก อาห –

๖๕.

‘‘สกฺกา อุภินฺนํ วจนํ ติติกฺขิตุํ, สทิสสฺส วา เสฏฺตรสฺส วาปิ;

กถํ นุ หีนสฺส วโจ ขเมถ, อกฺขาหิ เม โกณฺฑฺ เอตมตฺถ’’นฺติ.

สรภงฺโค อาห –

๖๖.

‘‘ภยา หิ เสฏฺสฺส วโจ ขเมถ, สารมฺภเหตู ปน สาทิสสฺส;

โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’’ติ. –

เอวมาทีนํ คาถานํ วจนปฺปฏิวจนวเสน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อกฺขาหิ เมติ, ภนฺเต โกณฺฑฺ, ตุมฺเหหิ ทฺเว ปฺหา สุกถิตา, เอโก เม จิตฺตํ น คณฺหาติ, กถํ สกฺกา อตฺตโน หีนตรสฺส วจนํ อธิวาเสตุํ, ตํ มม อกฺขาหีติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. เอตํ ขนฺตินฺติ ยเทตํ ชาติโคตฺตาทิหีนสฺส วจนํ ขมนํ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมนฺติ โปราณกปณฺฑิตา วทนฺติ. ยํ ปเนตํ ชาติอาทีหิ เสฏฺสฺส ภเยน, สทิสสฺส กรณุตฺตริยลกฺขเณ สารมฺเภ อาทีนวทสฺสเนน ขมนํ, เนสา อธิวาสนขนฺติ นามาติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต สกฺโก มหาสตฺตํ อาห – ‘‘ภนฺเต, ปมํ ตุมฺเห ‘สพฺเพสํ วุตฺตํ ผรุสํ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วตฺวา อิทานิ ‘โย จีธ หีนสฺส วโจ ขเมถ, เอตํ ขนฺตึ อุตฺตมมาหุ สนฺโต’ติ วทถ, น โว ปุริเมน ปจฺฉิมํ สเมตี’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สกฺก, ปจฺฉิมํ มยา ‘อยํ หีโน’ติ ตฺวา ผรุสวจนํ อธิวาเสนฺตสฺส วเสน วุตฺตํ, ยสฺมา ปน น สกฺกา รูปทสฺสนมตฺเตน สตฺตานํ เสฏฺาทิภาโว าตุํ, ตสฺมา ปุริมํ วุตฺต’’นฺติ วตฺวา สตฺตานํ อฺตฺร สํวาสา รูปทสฺสนมตฺเตน เสฏฺาทิภาวสฺส ทุวิฺเยฺยตํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๖๗.

‘‘กถํ วิชฺา จตุปตฺถรูปํ, เสฏฺํ สริกฺขํ อถวาปิ หีนํ;

วิรูปรูเปน จรนฺติ สนฺโต, ตสฺมา หิ สพฺเพสํ วโจ ขเมถา’’ติ.

ตตฺถ จตุปตฺถรูปนฺติ จตูหิ อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนสภาวํ. วิรูปรูเปนาติ วิรูปานํ ลามกปุคฺคลานํ รูเปน อุตฺตมคุณา สนฺโตปิ วิจรนฺติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ มชฺฌนฺติกตฺเถรสฺส วตฺถุ กเถตพฺพํ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก นิกฺกงฺโข หุตฺวา, ‘‘ภนฺเต, เอตาย โน ขนฺติยา อานิสํสํ กเถหี’’ติ ยาจิ. อถสฺส มหาสตฺโต คาถมาห –

๖๘.

‘‘น เหตมตฺถํ มหตีปิ เสนา, สราชิกา ยุชฺฌมานา ลเภถ;

ยํ ขนฺติมา สปฺปุริโส ลเภถ, ขนฺตีพลสฺสูปสมนฺติ เวรา’’ติ.

ตตฺถ เอตมตฺถนฺติ เอตํ เวรวูปสมนิปฺปฏิฆสภาวสงฺขาตํ อตฺถํ.

เอวํ มหาสตฺเตน ขนฺติคุเณ กถิเต เต ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘สกฺโก อตฺตโนว ปฺเห ปุจฺฉติ, อมฺหากํ ปุจฺฉโนกาสํ น ทสฺสตี’’ติ. อถ เนสํ อชฺฌาสยํ วิทิตฺวา สกฺโก อตฺตนา อภิสงฺขเต จตฺตาโร ปฺเห เปตฺวาว เตสํ กงฺขํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๖๙.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

ยถา อหุํ ทณฺฑกี นาฬิเกโร, อถชฺชุโน กลาพุ จาปิ ราชา;

เตสํ คตึ พฺรูหิ สุปาปกมฺมินํ, กตฺถูปปนฺนา อิสีนํ วิเหกา’’ติ.

ตตฺถ อนุโมทิยานาติ อิทํ มยา ปุฏฺานํ ติณฺณํ ปฺหานํ วิสฺสชฺชนสงฺขาตํ ตว สุภาสิตํ อนุโมทิตฺวา. ยถา อหุนฺติ ยถา จตฺตาโร ชนา อเหสุํ. กลาพุ จาติ กลาพุราชา จ. อถชฺชุโนติ อถ อชฺชุนราชา.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๗๐.

‘‘กิสฺหิ วจฺฉํ อวกิริย ทณฺฑกี, อุจฺฉินฺนมูโล สชโน สรฏฺโ;

กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหิ ปจฺจติ, ตสฺส ผุลิงฺคานิ ปตนฺติ กาเย.

๗๑.

‘‘โย สฺเต ปพฺพชิเต อเหยิ, ธมฺมํ ภณนฺเต สมเณ อทูสเก;

ตํ นาฬิเกรํ สุนขา ปรตฺถ, สงฺคมฺม ขาทนฺติ วิผนฺทมานํ.

๗๒.

‘‘อถชฺชุโน นิรเย สตฺติสูเล, อวํสิโร ปติโต อุทฺธํปาโท;

องฺคีรสํ โคตมํ เหยิตฺวา, ขนฺตึ ตปสฺสึ จิรพฺรหฺมจารึ.

๗๓.

‘‘โย ขณฺฑโส ปพฺพชิตํ อเฉทยิ, ขนฺตึ วทนฺตํ สมณํ อทูสกํ;

กลาพุวีจึ อุปปชฺช ปจฺจติ, มหาปตาปํ กฏุกํ ภยานกํ.

๗๔.

‘‘เอตานิ สุตฺวา นิรยานิ ปณฺฑิโต, อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถ;

ธมฺมํ จเร สมณพฺราหฺมเณสุ, เอวํกโร สคฺคมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ กิสนฺติ อปฺปมํสโลหิตตฺตา กิสสรีรํ. อวกิริยาติ อวกิริตฺวา นิฏฺุภนทนฺตกฏฺปาตเนน ตสฺส สรีเร กลึ ปวาเหตฺวา. อุจฺฉินฺนมูโลติ อุจฺฉินฺนมูโล หุตฺวา. สชโนติ สปริโส. กุกฺกุฬนาเม นิรยมฺหีติ โยชนสตปฺปมาเณ กปฺปสณฺิเต อุณฺหฉาริกนิรเย. ผุลิงฺคานีติ วีตจฺจิตงฺคารา. ตสฺส กิร ตตฺถ อุณฺหกุกฺกุเฬ นิมุคฺคสฺส นวหิ วณมุเขหิ อุณฺหา ฉาริกา ปวิสนฺติ, สีเส มหนฺตมหนฺตา องฺคารา ปตนฺติ. เตสํ ปน ปตนกาเล สกลสรีรํ ทีปรุกฺโข วิย ชลติ, พลวเวทนา วตฺตนฺติ. โส อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต มหาวิรวํ รวติ. สรภงฺคสตฺถา ปถวึ ภินฺทิตฺวา ตํ ตตฺถ ตถาปจฺจมานํ ทสฺเสสิ, มหาชโน ภยสนฺตาสมาปชฺชิ. ตสฺส อติวิย ภีตภาวํ ตฺวา มหาสตฺโต ตํ นิรยํ อนฺตรธาเปสิ.

ธมฺมํ ภณนฺเตติ ทสกุสลกมฺมปถธมฺมํ ภาสนฺเต. สมเณติ สมิตปาเป. อทูสเกติ นิรปราเธ. นาฬิเกรนฺติ เอวํนามกํ ราชานํ. ปรตฺถาติ ปรโลเก นิรเย นิพฺพตฺตํ. สงฺคมฺมาติ อิโต จิโต จ สมาคนฺตฺวา ฉินฺทิตฺวา มหนฺตมหนฺตา สุนขา ขาทนฺติ. ตสฺมึ กิร กลิงฺครฏฺเ ทนฺตปุรนคเร นาฬิเกเร นาม รฺเ รชฺชํ การยมาเน เอโก มหาตาปโส ปฺจสตตาปสปริวุโต หิมวนฺตา อาคมฺม ราชุยฺยาเน วาสํ กปฺเปตฺวา มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. ‘‘ธมฺมิกตาปโส อุยฺยาเน วสตี’’ติ รฺโปิ อาโรจยึสุ. ราชา ปน อธมฺมิโก อธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. โส อมจฺเจสุ ตาปสํ ปสํสนฺเตสุ ‘‘อหมฺปิ ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตาปสํ วนฺทิตฺวา นิสีทิ. ตาปโส รฺา สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘กึ, มหาราช, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, ชนํ น ปีเฬสี’’ติ อาห. โส ตสฺส กุชฺฌิตฺวา ‘‘อยํ กูฏชฏิโล เอตฺตกํ กาลํ นาครานํ สนฺติเก มมฺเว อคุณํ กเถสิ มฺเ, โหตุ ชานิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สฺเว อมฺหากํ ฆรทฺวารํ อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ นิมนฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปุราณคูถสฺส จาฏิโย ปริปูราเปตฺวา ตาปเสสุ อาคเตสุ เตสํ ภิกฺขาภาชนานิ คูถสฺส ปูราเปตฺวา ทฺวารํ ปิทหาเปตฺวา มุสลานิ จ โลหทณฺเฑ จ คาหาเปตฺวา อิสีนํ สีสานิ ภินฺทาเปตฺวา ชฏาสุ คาหาเปตฺวา กฑฺฒาเปตฺวา สุนเขหิ ขาทาเปตฺวา ตตฺเถว ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สุนขมหานิรเย นิพฺพตฺตติ, ตตฺรสฺส ติคาวุตปฺปมาณสรีรํ อโหสิ. อถ นํ มหนฺตมหนฺตา มหาหตฺถิปฺปมาณา ปฺจวณฺณา สุนขา อนุพนฺธิตฺวา ฑํสิตฺวา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา ปาเตตฺวา มุขปูรํ ลุฺจนฺตา วิปฺผนฺทมานํ ขาทึสุ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

อถชฺชุโนติ สหสฺสพาหุราชา. องฺคีรสนฺติ องฺเคหิ รํสีนํ นิจฺฉรณโต เอวํลทฺธนามํ. เหยิตฺวาติ วิเหเตฺวา วิสปีตกณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา. โส กิร อชฺชุโน นาม ราชา มหิสกรฏฺเ เกตกราชธานิยํ รชฺชํ กาเรนฺโต มิควํ คนฺตฺวา มิเค วธิตฺวา องฺคารปกฺกมํสํ ขาทนฺโต วิจริ. อเถกทิวสํ มิคานํ อาคมนฏฺาเน โกฏฺกํ กตฺวา มิเค โอโลกยมาโน อฏฺาสิ. ตทา โส ตาปโส ตสฺส รฺโ อวิทูเร เอกํ การรุกฺขํ อภิรุหิตฺวา ผลานิ โอจินนฺโต โอจินิตผลสาขํ มุฺจิ. ตสฺสา วิสฺสฏฺาย สทฺเทน ตํานํ ปตฺตา มิคา ปลายึสุ. ราชา กุชฺฌิตฺวา ตาปสํ วิสมิสฺสิเตน สลฺเลน วิชฺฌิ. โส ปริคลิตฺวา ปตนฺโต มตฺถเกน ขทิรขาณุกํ อาสาเทตฺวา สูลคฺเคเยว กาลมกาสิ. ราชา ตงฺขเณเยว ทฺวิธา ภินฺนํ ปถวึ ปวิสิตฺวา สตฺติสูลนิรเย นิพฺพตฺติ, ติคาวุตปฺปมาณํ สรีรํ อโหสิ. ตตฺร ตํ นิรยปาลา ชลิเตหิ อาวุเธหิ โกฏฺเฏตฺวา ชลิตํ อยปพฺพตํ อาโรเปนฺติ. ปพฺพตมตฺถเก ิตกาเล วาโต ปหรติ, โส วาตปฺปหาเรน ปริคลิตฺวา ปตติ. ตสฺมึ ขเณ เหฏฺา นวโยชนาย ชลิตอยปถวิยา มหาตาลกฺขนฺธปฺปมาณํ ชลิตํ อยสูลํ อุฏฺหติ. โส สูลคฺคมตฺถเกเยว อาสาเทตฺวา สูลาวุโต ติฏฺติ. ตสฺมึ ขเณ ปถวี ชลติ, สูลํ ชลติ, ตสฺส สรีรํ ชลติ. โส ตตฺถ มหารวํ รวนฺโต ปจฺจติ. มหาสตฺโต ปถวึ ทฺวิธา กตฺวา ตํ นิรยํ ทสฺเสตฺวา มหาชนสฺส ภีตภาวํ ตฺวา อนฺตรธาเปสิ.

ขณฺฑโสติ จตฺตาโร หตฺถปาเท กณฺณนาสฺจ ขณฺฑาขณฺฑํ กตฺวา. อทูสกนฺติ นิรปราธํ. ตถา เฉทาเปตฺวา ทฺวีหิ กสาหิ ปหารสหสฺเสหิ ตาฬาเปตฺวา ชฏาสุ คเหตฺวา อากฑฺฒาเปตฺวา ปฏิกุชฺชํ นิปชฺชาเปตฺวา ปิฏฺิยํ ปณฺหิยา ปหริตฺวา มหาทุกฺขสมปฺปิตํ อกาสิ. กลาพุวีจินฺติ กลาพุ อวีจึ. กฏุกนฺติ ติขิณเวทนํ, เอวรูปํ นิรยํ อุปปชฺชิตฺวา ฉนฺนํ ชาลานํ อนฺตเร ปจฺจติ. วิตฺถารโต ปน กลาพุรฺโ วตฺถุ ขนฺติวาทิชาตเก (ชา. ๑.๔.๔๙-๕๒) กถิตเมว. อฺานิ ปาปิฏฺตรานิ เจตฺถาติ เอเตหิ นิรเยหิ ปาปิฏฺตรานิ จ อฺานิ นิรยานิ สุตฺวา. ธมฺมํ จเรติ, สกฺก เทวราช, ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต น เกวลํ เอเตเยว จตฺตาโร นิรยา, เอเตเยว จ ราชาโน เนรยิกา, อถ โข อฺเปิ นิรยา, อฺเปิ จ ราชาโน นิรเยสุ อุปฺปนฺนาติ วิทิตฺวา จตุปจฺจยทานธมฺมิการกฺขาวรณสํวิธานสงฺขาตํ สมณพฺราหฺมเณสุ ธมฺมํ จเรยฺยาติ.

เอวํ มหาสตฺเตน จตุนฺนํ ราชูนํ นิพฺพตฺตฏฺาเน ทสฺสิเต ตโย ราชาโน นิกฺกงฺขา อเหสุํ. ตโต สกฺโก อวเสเส จตฺตาโร ปฺเห ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๗๕.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ, กถํวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ;

กถํวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ, กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ กถํวิธํ โน สิริ โน ชหาตีติ กถํวิธํ นุ ปุริสํ ปฏิลทฺธสิรี น ชหาตีติ.

อถสฺส วิสฺสชฺเชนฺโต มหาสตฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๗๖.

‘‘กาเยน วาจาย จ โยธ สฺโต, มนสา จ กิฺจิ น กโรติ ปาปํ;

น อตฺตเหตู อลิกํ ภเณติ, ตถาวิธํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

๗๗.

‘‘คมฺภีรปฺหํ มนสาภิจินฺตยํ, นาจฺจาหิตํ กมฺม กโรติ ลุทฺทํ;

กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ, ตถาวิธํ ปฺวนฺตํ วทนฺติ.

๗๘.

‘‘โย เว กตฺู กตเวทิ ธีโร, กลฺยาณมิตฺโต ทฬฺหภตฺติ จ โหติ;

ทุขิตสฺส สกฺกจฺจ กโรติ กิจฺจํ, ตถาวิธํ สปฺปุริสํ วทนฺติ.

๗๙.

‘‘เอเตหิ สพฺเพหิ คุเณหุเปโต, สทฺโธ มุทู สํวิภาคี วทฺู;

สงฺคาหกํ สขิลํ สณฺหวาจํ, ตถาวิธํ โน สิริ โน ชหาตี’’ติ.

ตตฺถ ‘‘กาเยนา’’ติอาทีนิ ปทานิ ติวิธสุจริตทฺวารวเสน วุตฺตานิ. น อตฺตเหตูติ เทสนาสีสเมเวตํ, อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วา ยสเหตุ วา ธนเหตุ วา ลาภเหตุ วา อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วา อลิกํ น กเถตีติ อตฺโถ. กามฺเจส อตฺโถ ‘‘วาจาย สฺโต’’ติ อิมินาว สิทฺโธ, มุสาวาทิโน ปน อกตฺตพฺพํ ปาปํ นาม นตฺถีติ ครุภาวทีปนตฺถํ ปุน เอวมาหาติ เวทิตพฺโพ. ตํ ปุคฺคลํ สีลวนฺตํ วทนฺติ.

คมฺภีรปฺหนฺติ อตฺถโต จ ปาฬิโต จ คมฺภีรํ คุฬฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ สตฺตุภสฺตชาตก- (ชา. ๑.๗.๔๖ อาทโย) สมฺภวชาตก- (ชา. ๑.๑๖.๑๓๘ อาทโย) มหาอุมงฺคชาตเกสุ (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาคตสทิสํ ปฺหํ. มนสาภิจินฺตยนฺติ มนสา อภิจินฺเตนฺโต อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา จนฺทสหสฺสํ สูริยสหสฺสํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปากฏํ กตฺวา โย กเถตุํ สกฺโกตีติ อตฺโถ. นาจฺจาหิตนฺติ น อติอหิตํ, หิตาติกฺกนฺตํ ลุทฺทํ ผรุสํ สาหสิกกมฺมฺจ โย น กโรตีติ อตฺโถ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ –

‘‘น ปณฺฑิตา อตฺตสุขสฺส เหตุ, ปาปานิ กมฺมานิ สมาจรนฺติ;

ทุกฺเขน ผุฏฺา ปิฬิตาปิ สนฺตา, ฉนฺทา โทสา จ น ชหนฺติ ธมฺม’’นฺติ. –

ภูริปฺโห กเถตพฺโพ.

กาลาคตนฺติ เอตฺถ ทานํ ทาตพฺพกาเล, สีลํ รกฺขณกาเล, อุโปสถํ อุปวาสกาเล, สรเณสุ ปติฏฺานกาเล, ปพฺพชิตกาเล, สมณธมฺมกรณกาเล, วิปสฺสนาจารสฺมึ ยุฺชนกาเล จาติ อิมานิ ทานาทีนิ สมฺปาเทนฺโต กาลาคตํ อตฺถปทํ น ริฺจติ น หาเปติ น คฬาเปติ นาม. ตถาวิธนฺติ สกฺก สพฺพฺุพุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ โพธิสตฺตา จ ปฺวนฺตํ กเถนฺตา เอวรูปํ ปุคฺคลํ กเถนฺติ.

‘‘โย เว’’ติ คาถาย ปเรน อตฺตโน กตคุณํ ชานาตีติ กตฺู. เอวํ ตฺวา ปน เยนสฺส คุโณ กโต, ตสฺส คุณํ ปฏิกโรนฺโต กตเวที นาม. ทุขิตสฺสาติ อตฺตโน สหายสฺส ทุกฺขปฺปตฺตสฺส ทุกฺขํ อตฺตนิ อาโรเปตฺวา โย ตสฺส อุปฺปนฺนกิจฺจํ สหตฺเถน สกฺกจฺจํ กโรติ, พุทฺธาทโย เอวรูปํ สปฺปุริสํ นาม กเถนฺติ. อปิจ สปฺปุริสา นาม กตฺู กตเวทิโน โหนฺตีติ สตปตฺตชาตก- (ชา. ๑.๓.๘๕-๘๗) จูฬหํสชาตก- (ชา. ๑.๑๕.๑๓๓ อาทโย) มหาหํสชาตกาทีนิ (ชา. ๒.๒๑.๘๙ อาทโย) กเถตพฺพานิ. เอเตหิ สพฺเพหีติ สกฺก โย เอเตหิ เหฏฺา วุตฺเตหิ สีลาทีหิ สพฺเพหิปิ คุเณหิ อุเปโต. สทฺโธติ โอกปฺปนสทฺธาย สมนฺนาคโต. มุทูติ ปิยภาณี. สํวิภาคีติ สีลสํวิภาคทานสํวิภาคาภิรตตฺตา สํวิภาคี. ยาจกานํ วจนํ ตฺวา ทานวเสน วทฺู. จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ เตสํ เตสํ สงฺคณฺหนโต สงฺคาหกํ, มธุรวจนตาย สขิลํ, มฏฺวจนตาย สณฺหวาจํ ตถาวิธํ นุ ปุคฺคลํ อธิคตยสโสภคฺคสงฺขาตา สิรี โน ชหาติ, นาสฺส สิรี วินสฺสตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต คคนตเล ปุณฺณจนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย จตฺตาโร ปฺเห วิสฺสชฺเชสิ. ตโต ปรํ เสสปฺหานํ ปุจฺฉา จ วิสฺสชฺชนฺจ โหติ –

๘๐.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

สีลํ สิริฺจาปิ สตฺจ ธมฺมํ, ปฺฺจ กํ เสฏฺตรํ วทนฺติ.

๘๑.

‘‘ปฺา หิ เสฏฺา กุสลา วทนฺติ, นกฺขตฺตราชาริว ตารกานํ;

สีลํ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโม, อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ.

๘๒.

‘‘สุภาสิตํ เต อนุโมทิยาน, อฺํ ตํ ปุจฺฉามิ ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

กถํกโร กินฺติกโร กิมาจรํ, กึ เสวมาโน ลภตีธ ปฺํ;

ปฺาย ทานิปฺปฏิปทํ วเทหิ, กถํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๓.

‘‘เสเวถ วุทฺเธ นิปุเณ พหุสฺสุเต, อุคฺคาหโก จ ปริปุจฺฉโก สิยา;

สุเณยฺย สกฺกจฺจ สุภาสิตานิ, เอวํกโร ปฺวา โหติ มจฺโจ.

๘๔.

‘‘ส ปฺวา กามคุเณ อเวกฺขติ, อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต จ;

เอวํ วิปสฺสี ปชหาติ ฉนฺทํ, ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ.

๘๕.

‘‘ส วีตราโค ปวิเนยฺย โทสํ, เมตฺตํ จิตฺตํ ภาวเย อปฺปมาณํ;

สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, อนินฺทิโต พฺรหฺมมุเปติ าน’’นฺติ.

ตตฺถ สีลนฺติ อาจารสีลํ. สิรินฺติ อิสฺสริยสิรึ. สตฺจ ธมฺมนฺติ สปฺปุริสธมฺมํ. ปฺนฺติ สุปฺํ. เอวํ อิเมสํ จตุนฺนํ ธมฺมานํ กตรํ ธมฺมํ เสฏฺตรํ วทนฺตีติ ปุจฺฉติ. ปฺา หีติ, สกฺก, เอเตสุ จตูสุ ธมฺเมสุ ยา เอสา ปฺา นาม, สาว เสฏฺา, อิติ พุทฺธาทโย กุสลา วทนฺติ. ยถา หิ ตารกคณา จนฺทํ ปริวาเรนฺติ, จนฺโทว เตสํ อุตฺตโม. เอวํ สีลฺจ สิรี จาปิ สตฺจ ธมฺโมติ เอเต ตโยปิ อนฺวายิกา ปฺวโต ภวนฺติ ปฺวนฺตเมว อนุคจฺฉนฺติ, ปฺาย เอว ปริวารา โหนฺตีติ อตฺโถ.

‘‘กถํกโร’’ติอาทีนิ อฺมฺเววจนาเนว. กถํกโรติ กึ นาม กมฺมํ กโรนฺโต กึ อาจรนฺโต กึ เสวมาโน ภชมาโน ปยิรุปาสมาโน อิธโลเก ปฺํ ลภติ, ปฺายเมว ปฏิปทํ วเทหิ, ชานิตุกาโมมฺหิ, กถํกโร มจฺโจ ปฺวา นาม โหตีติ ปุจฺฉติ. วุทฺเธติ ปฺาวุทฺธิปฺปตฺเต ปณฺฑิเต. นิปุเณติ สุขุมการณชานนสมตฺเถ. เอวํกโรติ โย ปุคฺคโล เอวํ วุตฺตปฺปกาเร ปุคฺคเล เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ, ปาฬึ อุคฺคณฺหาติ, ปุนปฺปุนํ อตฺถํ ปุจฺฉติ, ปาสาเณ เลขํ ขณนฺโต วิย กฺจนนาฬิยา สีหวสํ สมฺปฏิจฺฉนฺโต วิย โอหิตโสโต สกฺกจฺจํ สุภาสิตานิ สุณาติ, อยํ เอวํกโร มจฺโจ ปฺวา โหตีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปาจีนโลกธาตุโต สูริยํ อุฏฺาเปนฺโต วิย ปฺาย ปฏิปทํ กเถตฺวา อิทานิ ตสฺสา ปฺาย คุณํ กเถนฺโต ‘‘ส ปฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามคุเณติ กามโกฏฺาเส หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺจโต, ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกานํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาเวน ทุกฺขโต, อฏฺนวุติยา โรคมุขานํ กาเม นิสฺสาย อุปฺปตฺติสมฺภเวน โรคโต จ อเวกฺขติ โอโลเกติ, โส เอวํ วิปสฺสี เอเตหิ การเณหิ กามานํ อนิจฺจาทิตํ ปสฺสนฺโต ‘‘กาเม นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกทุกฺขานํ อนฺโต นตฺถิ, กามานํ ปหานเมว สุข’’นฺติ วิทิตฺวา ทุกฺเขสุ กาเมสุ มหพฺภเยสุ ฉนฺทํ ปชหาติ. ส วีตราโคติ, ‘‘สกฺก, โส ปุคฺคโล เอวํ วีตราโค นวาฆาตวตฺถุวเสน อุปฺปชฺชนกสภาวโทสํ วิเนตฺวา เมตฺตจิตฺตํ ภาเวยฺย, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมาณํ ตํ ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาโน อครหิโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺชตี’’ติ.

เอวํ มหาสตฺเต กามานํ โทสํ กเถนฺเตเยว เตสํ ติณฺณมฺปิ ราชูนํ สพลกายานํ ตทงฺคปฺปหาเนน ปฺจกามคุณราโค ปหีโน. ตํ ตฺวา มหาสตฺโต เตสํ ปหํสนวเสน คาถมาห –

๘๖.

‘‘มหตฺถิยํ อาคมนํ อโหสิ, ตวมฏฺกา ภีมรถสฺส จาปิ;

กาลิงฺคราชสฺส จ อุคฺคตสฺส, สพฺเพส โว กามราโค ปหีโน’’ติ.

ตตฺถ มหตฺถิยนฺติ มหตฺถํ มหาวิปฺผารํ มหาชุติกํ. ตวมฏฺกาติ ตว อฏฺกา. ปหีโนติ ตทงฺคปฺปหาเนน ปหีโน.

ตํ สุตฺวา ราชาโน มหาสตฺตสฺส ถุตึ กโรนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๗.

‘‘เอวเมตํ ปรจิตฺตเวทิ, สพฺเพส โน กามราโค ปหีโน;

กโรหิ โอกาสมนุคฺคหาย, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

ตตฺถ อนุคฺคหายาติ ปพฺพชฺชตฺถาย โอกาสํ โน กโรหิ. ยถา มยํ ปพฺพชิตฺวา ตว คตึ นิปฺผตฺตึ อภิสมฺภเวม ปาปุเณยฺยาม, ตยา ปฏิวิทฺธคุณํ ปฏิวิชฺเฌยฺยามาติ วทึสุ.

อถ เนสํ โอกาสํ กโรนฺโต มหาสตฺโต อิตรํ คาถมาห –

๘๘.

‘‘กโรมิ โอกาสมนุคฺคหาย, ตถา หิ โว กามราโค ปหีโน;

ผราถ กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เม อภิสมฺภเวถา’’ติ.

ตตฺถ ผราถ กายนฺติ ฌานปีติยา วิปุลาย กายํ ผรถาติ.

ตํ สุตฺวา เต สมฺปฏิจฺฉนฺตา คาถมาหํสุ –

๘๙.

‘‘สพฺพํ กริสฺสาม ตวานุสาสนึ, ยํ ยํ ตุวํ วกฺขสิ ภูริปฺ;

ผราม กายํ วิปุลาย ปีติยา, ยถา คตึ เต อภิสมฺภเวมา’’ติ.

อถ เนสํ สพลกายานํ มหาสตฺโต ปพฺพชฺชํ ทาเปตฺวา อิสิคณํ อุยฺโยเชนฺโต คาถมาห –

๙๐.

‘‘กตาย วจฺฉสฺส กิสสฺส ปูชา, คจฺฉนฺตุ โภนฺโต อิสโย สาธุรูปา;

ฌาเน รตา โหถ สทา สมาหิตา, เอสา รตี ปพฺพชิตสฺส เสฏฺา’’ติ.

ตตฺถ คจฺฉนฺตูติ อตฺตโน อตฺตโน วสนฏฺานานิ คจฺฉนฺตุ.

อิสโย ตสฺส สรภงฺคสตฺถุโน วจนํ สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วนฺทิตฺวา อากาสํ อุปฺปติตฺวา สกานิ วสนฏฺานานิ คมึสุ. สกฺโกปิ อุฏฺายาสนา มหาสตฺตสฺส ถุตึ กตฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สูริยํ นมสฺสนฺโต วิย มหาสตฺตํ นมสฺสมาโน สปริโส ปกฺกามิ. เอตมตฺถํ วิทิตฺวา สตฺถา อิมา คาถาโย อภาสิ –

๙๑.

‘‘สุตฺวาน คาถา ปรมตฺถสํหิตา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

เต เวทชาตา อนุโมทมานา, ปกฺกามุ เทวา เทวปุรํ ยสสฺสิโน.

๙๒.

‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยฺชนา, สุภาสิตา อิสินา ปณฺฑิเตน;

โย โกจิมา อฏฺิกตฺวา สุเณยฺย, ลเภถ ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ;

ลทฺธาน ปุพฺพาปริยํ วิเสสํ, อทสฺสนํ มจฺจุราชสฺส คจฺเฉ’’ติ.

ตตฺถ ปรมตฺถสํหิตาติ อนิจฺจาทิทีปเนน นิพฺพานนิสฺสิตา. คาถา อิมาติ อิทํ สตฺถา สรภงฺคสตฺถุโน นิพฺพานทายกํ สุภาสิตํ วณฺเณนฺโต อาห. ตตฺถ อตฺถวตีติ นิพฺพานทายกฏฺเน ปรมตฺถนิสฺสิตา. สุพฺยฺชนาติ ปริสุทฺธพฺยฺชนา. สุภาสิตาติ สุกถิตา. อฏฺิกตฺวาติ อตฺตโน อตฺถิกภาวํ กตฺวา อตฺถิโก หุตฺวา สกฺกจฺจํ สุเณยฺย. ปุพฺพาปริยนฺติ ปมชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ทุติยชฺฌานํ อปรวิเสโส. ทุติยชฺฌานํ ปุพฺพวิเสโส, ตติยชฺฌานํ อปรวิเสโสติ เอวํ อฏฺสมาปตฺติจตุมคฺควเสน ปุพฺพาปรภาเวน ิตํ วิเสสํ. อทสฺสนนฺติ ปริโยสาเน อปรวิเสสํ อรหตฺตํ ลภิตฺวา นิพฺพานํ ปาปุเณยฺย. นิพฺพานปฺปตฺโต หิ ปุคฺคโล มจฺจุราชสฺส อทสฺสนํ คโต นาม โหตีติ.

เอวํ สตฺถา อรหตฺเตน เทสนาย กูฏํ คณฺหิตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ โมคฺคลฺลานสฺส อาฬาหเน ปุปฺผวสฺสํ วสฺสี’’ติ วตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต อาห –

๙๓.

‘‘สาลิสฺสโร สาริปุตฺโต, เมณฺฑิสฺสโร จ กสฺสโป;

ปพฺพโต อนุรุทฺโธ จ, กจฺจายโน จ เทวโล;

๙๔.

‘‘อนุสิสฺโส จ อานนฺโท, กิสวจฺโฉ จ โกลิโต;

นารโท อุทายิตฺเถโร, ปริสา พุทฺธปริสา;

สรภงฺโค โลกนาโถ, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

สรภงฺคชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๒๓] ๓. อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา

อถพฺรวีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ อินฺทฺริยชาตเก (ชา. ๑.๘.๖๐ อาทโย) วิตฺถาริตเมว. สตฺถา ปน ตํ ภิกฺขุํ ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ เอสา อิตฺถี ตุยฺหํ อนตฺถการิกา, ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานํ นาเสตฺวา ตีณิ สํวจฺฉรานิ มูฬฺโห วิสฺี นิปชฺชิตฺวา อุปฺปนฺนาย สฺาย มหาปริเทวํ ปริเทวี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อรฺายตเน วนมูลผลาหาโร ยาเปสิ. อเถกา มิคี ตสฺส ปสฺสาวฏฺาเน สมฺภวมิสฺสกํ ติณํ ขาทิตฺวา อุทกํ ปิวิ. เอตฺตเกเนว จ ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ตโต ปฏฺาย กตฺถจิ อคนฺตฺวา ตตฺเถว ติณํ ขาทิตฺวา อสฺสมสฺส สามนฺเตเยว วิจรติ . มหาสตฺโต ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ การณํ อฺาสิ. สา อปรภาเค มนุสฺสทารกํ วิชายิ. มหาสตฺโต ตํ ปุตฺตสิเนเหน ปฏิชคฺคิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ติสฺส นามํ อกาสิ. อถ นํ มหาสตฺโต วิฺุตปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา อตฺตโน มหลฺลกกาเล ตํ อาทาย นาริวนํ นาม คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, อิมสฺมึ หิมวนฺเต อิเมหิ ปุปฺเผหิ สทิสา อิตฺถิโย นาม โหนฺติ, ตา อตฺตโน วสํ คเต มหาวินาสํ ปาเปนฺติ, น ตาสํ วสํ นาม คนฺตุํ วฏฺฏตี’’ติ โอวทิตฺวา อปรภาเค พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสิ.

อิสิสิงฺโคปิ ฌานกีฬํ กีฬนฺโต หิมวนฺตปฺปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. อถสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ, สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อยํ มํ สกฺกตฺตา จาเวยฺย, เอกํ อจฺฉรํ เปเสตฺวา สีลมสฺส ภินฺทาเปสฺสามี’’ติ สกลเทวโลกํ อุปปริกฺขนฺโต อตฺตโน อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขานํ ปริจาริกานํ มชฺเฌ เอกํ อลมฺพุสํ นาม อจฺฉรํ เปตฺวา อฺํ ตสฺส สีลํ ภินฺทิตุํ สมตฺถํ อทิสฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สีลเภทํ กาตุํ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา ปมํ คาถมาห –

๙๕.

‘‘อถพฺรวิ พฺรหา อินฺโท, วตฺรภู ชยตํ ปิตา;

เทวกฺํ ปราเภตฺวา, สุธมฺมายํ อลมฺพุส’’นฺติ.

ตตฺถ พฺรหาติ มหา. วตฺรภูติ วตฺรสฺส นาม อสุรสฺส อภิภวิตา. ชยตํ ปิตาติ ชยนฺตานํ ชยปฺปตฺตานํ เสสานํ เตตฺตึสาย เทวปุตฺตานํ ปิตุกิจฺจสาธเนน ปิตา. ปราเภตฺวาติ หทยํ ภินฺทิตฺวา โอโลเกนฺโต วิย ตํ ‘‘ปฏิพลา อย’’นฺติ ตฺวาติ อตฺโถ. สุธมฺมายนฺติ สุธมฺมายํ เทวสภายํ.

ปณฺฑุกมฺพลสิลาสเน นิสินฺโน ตํ อลมฺพุสํ ปกฺโกสาเปตฺวา อิทมาห –

๙๖.

‘‘มิสฺเส เทวา ตํ ยาจนฺติ, ตาวตึสา สอินฺทกา;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุเส’’ติ.

ตตฺถ มิสฺเสติ ตํ อาลปติ, อิทฺจ ตสฺสา นามํ, สพฺพา ปนิตฺถิโย ปุริเส กิเลสมิสฺสเนน มิสฺสนโต ‘‘มิสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ, เตน สาธารเณน คุณนาเมนาลปนฺโต เอวมาห. อิสิปฺปโลภเนติ อิสีนํ ปโลภนสมตฺเถ. อิสิสิงฺคนฺติ ตสฺส กิร มตฺถเก มิคสิงฺคากาเรน ทฺเว จูฬา อุฏฺหึสุ, ตสฺมา เอวํ วุจฺจติ.

อิติ สกฺโก ‘‘คจฺฉ อิสิสิงฺคํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน วสํ อาเนตฺวา สีลมสฺส ภินฺทา’’ติ อลมฺพุสํ อาณาเปสิ.

๙๗.

‘‘ปุรายํ อมฺเห อจฺเจติ, วตฺตวา พฺรหฺมจริยวา;

นิพฺพานาภิรโต วุทฺโธ, ตสฺส มคฺคานิ อาวรา’’ติ. – วจนํ อาห;

ตตฺถ ปุรายนฺติ อยํ ตาปโส วตฺตสมฺปนฺโน จ พฺรหฺมจริยวา จ, โส ปเนส ทีฆายุกตาย นิพฺพานสงฺขาเต มคฺเค อภิรโต คุณวุทฺธิยา จ วุทฺโธ. ตสฺมา ยาว เอส อมฺเห นาติกฺกมติ, น อภิภวิตฺวา อิมมฺหา านา จาเวติ, ตาวเทว ตฺวํ คนฺตฺวา ตสฺส เทวโลกคมนานิ มคฺคานิ อาวร, ยถา อิธ นาคจฺฉติ, เอวํ กโรหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา คาถาทฺวยมาห –

๙๘.

‘‘เทวราช กิเมว ตฺวํ, มเมว ตุวํ สิกฺขสิ;

อิสิปฺปโลภเน คจฺฉ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา.

๙๙.

‘‘มาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน;

ตาสมฺปิ โหตุ ปริยาโย, ตาปิ ยนฺตุ ปโลภนา’’ติ.

ตตฺถ กิเมว ตฺวนฺติ กึ นาเมตํ ตฺวํ กโรสีติ ทีเปติ. มเมว ตุวํ สิกฺขสีติ อิมสฺมึ สกลเทวโลเก มเมว ตุวํ อิกฺขสิ, อฺํ น ปสฺสสีติ อธิปฺปาเยน วทติ. -กาโร ปเนตฺถ พฺยฺชนสนฺธิกโร. อิสิปฺปโลภเน คจฺฉาติ กึการณา มฺเว เอวํ วเทสีติ อธิปฺปาโย . ปวรา เจวาติ มยา อุตฺตริตรา เจว. อโสเกติ โสกรหิเต. นนฺทเนติ นนฺทิชนเก. ปริยาโยติ คมนวาโร.

ตโต สกฺโก ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๐๐.

‘‘อทฺธา หิ สจฺจํ ภณสิ, สนฺติ อฺาปิ อจฺฉรา;

ตาทิสิโย ปวรา เจว, อโสเก นนฺทเน วเน.

๑๐๑.

‘‘น ตา เอวํ ปชานนฺติ, ปาริจริยํ ปุมํ คตา;

ยาทิสํ ตฺวํ ปชานาสิ, นาริ สพฺพงฺคโสภเน.

๑๐๒.

‘‘ตฺวเมว คจฺฉ กลฺยาณิ, อิตฺถีนํ ปวรา จสิ;

ตเวว วณฺณรูเปน, สวสมานยิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ปุมํ คตาติ ปุริสํ อุปสงฺกมนฺตา สมานา ปุริสปโลภินิปาริจริยํ น ชานนฺติ. วณฺณรูเปนาติ สรีรวณฺเณน เจว รูปสมฺปตฺติยา จ. สวสมานยิสฺสสีติ ตํ ตาปสํ อตฺตโน วสํ อาเนสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๐๓.

‘‘น วาหํ น คมิสฺสามิ, เทวราเชน เปสิตา;

วิเภมิ เจตํ อาสาทุํ, อุคฺคเตโช หิ พฺราหฺมโณ.

๑๐๔.

‘‘อเนเก นิรยํ ปตฺตา, อิสิมาสาทิยา ชนา;

อาปนฺนา โมหสํสารํ, ตสฺมา โลมานิ หํสเย’’ติ.

ตตฺถ น วาหนฺติ น เว อหํ. วิเภมีติ ภายามิ. อาสาทุนฺติ อาสาทิตุํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – นาหํ, เทว, ตยา เปสิตา น คมิสฺสามิ, อปิจาหํ ตํ อิสึ สีลเภทนตฺถาย อลฺลียิตุํ ภายามิ, อุคฺคเตโช หิ โสติ. อาสาทิยาติ อาสาเทตฺวา. โมหสํสารนฺติ โมเหน สํสารํ, โมเหน อิสึ ปโลเภตฺวา สํสารํ อาปนฺนา วฏฺฏทุกฺเข ปติฏฺิตา สตฺตา คณนปถํ อติกฺกนฺตา . ตสฺมาติ เตน การเณน. โลมานิ หํสเยติ อหํ โลมานิ อุฏฺเปมิ, ‘‘ตสฺส กิราหํ สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ จินฺตยมานาย เม โลมานิ ปหํสนฺตีติ วทติ.

๑๐๕.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๐๖.

‘‘สา จ ตํ วนโมคยฺห, อิสิสิงฺเคน รกฺขิตํ;

พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนํ, สมนฺตา อทฺธโยชนํ.

๑๐๗.

‘‘ปาโตว ปาตราสมฺหิ, อุทณฺหสมยํ ปติ;

อคฺคิฏฺํ ปริมชฺชนฺตํ, อิสิสิงฺคํ อุปาคมี’’ติ. – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ปกฺกามีติ เตน หิ, เทวราช, อาวชฺเชยฺยาสิ มนฺติ อตฺตโน สยนคพฺภํ ปวิสิตฺวา อลงฺกริตฺวา อิสิสิงฺคํ กิเลเสน มิสฺสิตุํ อิจฺฉนฺตี ปกฺกามิ, ภิกฺขเว, สา อจฺฉรา ตสฺส อสฺสมํ คตาติ. พิมฺพิชาลกสฺฉนฺนนฺติ รตฺตงฺกุรวเนน สฺฉนฺนํ. ปาโตว ปาตราสมฺหีติ, ภิกฺขเว, ปาตราสเวลาย ปาโตว ปเคเยว อติปเคว. อุทณฺหสมยํ ปตีติ สูริยุคฺคมนเวลายเมว. อคฺคิฏฺนฺติ อคฺคิสาลํ. รตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปาโตว นฺหตฺวา อุทกกิจฺจํ กตฺวา ปณฺณสาลายํ โถกํ ฌานสุเขน วีตินาเมตฺวา นิกฺขมิตฺวา อคฺคิสาลํ สมฺมชฺชนฺตํ ตํ อิสิสิงฺคํ สา อุปาคมิ, อิตฺถิวิลาสํ ทสฺเสนฺตี ตสฺส ปุรโต อฏฺาสิ.

อถ นํ ตาปโส ปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๐๘.

‘‘กา นุ วิชฺชุริวาภาสิ, โอสธี วิย ตารกา;

วิจิตฺตหตฺถาภรณา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา.

๑๐๙.

‘‘อาทิจฺจวณฺณสงฺกาสา, เหมจนฺทนคนฺธินี;

สฺตูรู มหามายา, กุมารี จารุทสฺสนา.

๑๑๐.

‘‘วิลคฺคา มุทุกา สุทฺธา, ปาทา เต สุปฺปติฏฺิตา;

คมนา กามนียา เต, หรนฺติเยว เม มโน.

๑๑๑.

‘‘อนุปุพฺพา จ เต อูรู, นาคนาสสมูปมา;

วิมฏฺา ตุยฺหํ สุสฺโสณี, อกฺขสฺส ผลกํ ยถา.

๑๑๒.

‘‘อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขา, นาภิ เต สาธุสณฺิตา;

ปุรา กณฺหฺชนสฺเสว, ทูรโต ปติทิสฺสติ.

๑๑๓.

‘‘ทุวิธา ชาตา อุรชา, อวณฺฏา สาธุปจฺจุทา;

ปโยธรา อปติตา, อฑฺฒลาพุสมา ถนา.

๑๑๔.

‘‘ทีฆา กมฺพุตลาภาสา, คีวา เอเณยฺยกา ยถา;

ปณฺฑราวรณา วคฺคุ, จตุตฺถมนสนฺนิภา.

๑๑๕.

‘‘อุทฺธคฺคา จ อธคฺคา จ, ทุมคฺคปริมชฺชิตา;

ทุวิชา เนลสมฺภูตา, ทนฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๖.

‘‘อปณฺฑรา โลหิตนฺตา, ชิฺชูกผลสนฺนิภา;

อายตา จ วิสาลา จ, เนตฺตา ตว สุทสฺสนา.

๑๑๗.

‘‘นาติทีฆา สุสมฺมฏฺา, กนกพฺยาสโมจิตา;

อุตฺตมงฺครุหา ตุยฺหํ, เกสา จนฺทนคนฺธิกา.

๑๑๘.

‘‘ยาวตา กสิโครกฺขา, วาณิชานฺจ ยา คติ;

อิสีนฺจ ปรกฺกนฺตํ, สฺตานํ ตปสฺสินํ.

๑๑๙.

‘‘น เต สมสมํ ปสฺเส, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล;

โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุตฺโต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ วิจิตฺตหตฺถาภรณาติ วิจิตฺเตหิ หตฺถาภรเณหิ สมนฺนาคตา. เหมจนฺทนคนฺธินีติ สุวณฺณวณฺณจนฺทนคนฺธวิเลปนา. สฺตูรูติ สุวฏฺฏิตฆนอูรุ สมฺปนฺนอูรุลกฺขณา. วิลคฺคาติ สํขิตฺตมชฺฌา. มุทุกาติ มุทุ สุขุมาลา. สุทฺธาติ นิมฺมลา. สุปฺปติฏฺิตาติ สมํ ปถวึ ผุสนฺตา สุฏฺุ ปติฏฺิตา. คมนาติ คจฺฉมานา. กามนียาติ กนฺตา กามิตพฺพยุตฺตกา. หรนฺติเยว เม มโนติ เอเต เอวรูเปน ปรเมน อิตฺถิวิลาเสน จงฺกมนฺติยา ตว ปาทา มม จิตฺตํ หรนฺติเยว. วิมฏฺาติ วิสาลา. สุสฺโสณีติ สุนฺทรโสณี. อกฺขสฺสาติ สุนฺทรวณฺณสฺส อกฺขสฺส สุวณฺณผลกํ วิย วิสาลา เต โสณีติ วทติ. อุปฺปลสฺเสว กิฺชกฺขาติ นีลุปฺปลกณฺณิกา วิย. กณฺหฺชนสฺเสวาติ สุขุมกณฺหโลมจิตฺตตฺตา เอวมาห.

‘‘ทุวิธา’’ติคาถํ ถเน วณฺณยนฺโต อาห. เต หิ ทฺเว หุตฺวา อุเร ชาตา วณฺฏสฺส อภาวา อวณฺฏา, อุเร ลคฺคา เอว หุตฺวา สุฏฺุ นิกฺขนฺตตฺตา สาธุปจฺจุทา, ปยสฺส ธารณโต ปโยธรา, อปติตาติ น ปติตา, อมิลาตตาย วา อลมฺพนตาย วา น อนฺโต ปวิฏฺาติ อปติตา, สุวณฺณผลเก ปิตสุวณฺณมยวฏฺฏอลาพุโน อฑฺเฒน สทิสตาย อฑฺฒลาพุสมา ถนา. เอเณยฺยกา ยถาติ เอณีมิคสฺส หิ ทีฆา จ วฏฺฏา จ คีวา โสภติ ยถา, เอวํ ตว คีวา โถกํ ทีฆา. กมฺพุตลาภาสาติ สุวณฺณาลิงฺคตลสนฺนิภา คีวาติ อตฺโถ. ปณฺฑราวรณาติ ทนฺตาวรณา. จตุตฺถมนสนฺนิภาติ จตุตฺถมโน วุจฺจติ จตุตฺถมนวตฺถุภูตา ชิวฺหา. อภิรตฺตภาเวน ชิวฺหาสทิสํ เต โอฏฺปริโยสานนฺติ วทติ. อุทฺธคฺคาติ เหฏฺิมทนฺตา. อธคฺคาติ อุปริมทนฺตา. ทุมคฺคปริมชฺชิตาติ ทนฺตกฏฺปริมชฺชิตา ปริสุทฺธา. ทุวิชาติ ทฺวิชา. เนลสมฺภูตาติ นิทฺโทเสสุ หนุมํสปริโยสาเนสุ สมฺภูตา.

อปณฺฑราติ กณฺหา. โลหิตนฺตาติ รตฺตปริยนฺตา. ชิฺชูกผลสนฺนิภาติ รตฺตฏฺาเน ชิฺชุกผลสทิสา. สุทสฺสนาติ ปสฺสนฺตานํ อติตฺติกรา ปฺจปสาทสมนฺนาคตา. นาติทีฆาติ ปมาณยุตฺตา. สุสมฺมฏฺาติ สุฏฺุ สมฺมฏฺา. กนกพฺยาสโมจิตาติ กนกพฺยา วุจฺจติ สุวณฺณผณิกา, ตาย คนฺธเตลํ อาทาย ปหริตา สุรจิตา. กสิโครกฺขาติ อิมินา กสิฺจ โครกฺขฺจ นิสฺสาย ชีวนกสตฺเต ทสฺเสติ. ยา คตีติ ยตฺตกา นิปฺผตฺติ. ปรกฺกนฺตนฺติ ยตฺตกํ อิสีนํ ปรกฺกนฺตํ, วิตฺถารีกตา อิมสฺมึ หิมวนฺเต ยตฺตกา อิสโย วสนฺตีติ อตฺโถ. น เต สมสมนฺติ เตสุ สพฺเพสุ เอกมฺปิ รูปลีฬาวิลาสาทิสมตาย ตยา สมานํ น ปสฺสามิ. โก วา ตฺวนฺติ อิทํ ตสฺสา อิตฺถิภาวํ ชานนฺโต ปุริสโวหารวเสน ปุจฺฉติ.

เอวํ ปาทโต ปฏฺาย ยาว เกสา อตฺตโน วณฺณํ ภาสนฺเต ตาปเส อลมฺพุสา ตุณฺหี หุตฺวา ตสฺสา กถาย ยถานุสนฺธึ คตาย ตสฺส สมฺมูฬฺหภาวํ ตฺวา คาถมาห –

๑๒๐.

‘‘น ปฺหกาโล ภทฺทนฺเต, กสฺสเปวํ คเต สติ;

เอหิ สมฺม รมิสฺสาม, อุโภ อสฺมากมสฺสเม;

เอหิ ตํ อุปคูหิสฺสํ, รตีนํ กุสโล ภวา’’ติ.

ตตฺถ กสฺสเปวํ คเต สตีติ กสฺสปโคตฺต เอวํ ตว จิตฺเต ปวตฺเต สติ ปฺหกาโล น โหติ. สมฺมาติ วยสฺส, ปิยวจนาลปนเมตํ. รตีนนฺติ ปฺจกามคุณรตีนํ.

เอวํ วตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘นายํ มยิ ิตาย หตฺถปาสํ อาคมิสฺสติ, คจฺฉนฺตี วิย ภวิสฺสามี’’ติ. สา อิตฺถิมายากุสลตาย ตาปสํ อนุปสงฺกมิตฺวา อาคตมคฺคาภิมุขี ปายาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๑.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, อจฺฉรา กามวณฺณินี;

มิสฺสา มิสฺสิตุมิจฺฉนฺตี, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา’’ติ.

อถ นํ ตาปโส คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อยํ คจฺฉตี’’ติ อตฺตโน ทนฺธปรกฺกมํ มนฺทคมนํ ฉินฺทิตฺวา เวเคน ธาวิตฺวา เกเสสุ หตฺเถน ปรามสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๒.

‘‘โส จ เวเคน นิกฺขมฺม, เฉตฺวา ทนฺธปรกฺกมํ;

ตมุตฺตมาสุ เวณีสุ, อชฺฌปฺปตฺโต ปรามสิ.

๑๒๓.

‘‘ตมุทาวตฺต กลฺยาณี, ปลิสฺสชิ สุโสภนา;

จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตา.

๑๒๔.

‘‘มนสา อคมา อินฺทํ, วสนฺตํ นนฺทเน วเน;

ตสฺสา สงฺกปฺปมฺาย, มฆวา เทวกุฺชโร.

๑๒๕.

‘‘ปลฺลงฺกํ ปหิณี ขิปฺปํ, โสวณฺณํ โสปวาหนํ;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาสํ, สหสฺสปฏิยตฺถตํ.

๑๒๖.

‘‘ตเมนํ ตตฺถ ธาเรสิ, อุเร กตฺวาน โสภนา;

ยถา เอกมุหุตฺตํว, ตีณิ วสฺสานิ ธารยิ.

๑๒๗.

‘‘วิมโท ตีหิ วสฺเสหิ, ปพุชฺฌิตฺวาน พฺราหฺมโณ;

อทฺทสาสิ หริตรุกฺเข, สมนฺตา อคฺคิยายนํ.

๑๒๘.

‘‘นวปตฺตวนํ ผุลฺลํ, โกกิลคฺคณโฆสิตํ;

สมนฺตา ปวิโลเกตฺวา, รุทํ อสฺสูนิ วตฺตยิ.

๑๒๙.

‘‘น ชุเห น ชเป มนฺเต, อคฺคิหุตฺตํ ปหาปิตํ;

โก นุ เม ปาริจริยาย, ปุพฺเพ จิตฺตํ ปโลภยิ.

๑๓๐.

‘‘อรฺเ เม วิหรโต, โย เม เตชา ห สมฺภุตํ;

นานารตนปริปูรํ, นาวํว คณฺหิ อณฺณเว’’ติ.

ตตฺถ อชฺฌปฺปตฺโตติ สมฺปตฺโต. ตมุทาวตฺต กลฺยาณีติ ตํ เกเส ปรามสิตฺวา ิตํ อิสึ อุทาวตฺติตฺวา นิวตฺติตฺวา กลฺยาณทสฺสนา สา สุฏฺุ โสภนา. ปลิสฺสชีติ อาลิงฺคิ. จวิตมฺหิ พฺรหฺมจริยา, ยถา ตํ อถ โตสิตาติ, ภิกฺขเว, ตสฺส อิสิโน ตาวเทว ฌานํ อนฺตรธายิ. ตสฺมึ ตมฺหา ฌานา พฺรหฺมจริยา จวิเต ยถา ตํ สกฺเกน ปตฺถิตํ, ตเถว อโหสิ. อถ สกฺกสฺส ปตฺถนาย สมิทฺธภาวํ วิทิตฺวา สา เทวกฺา โตสิตา, ตสฺส เตน พฺรหฺมจริยวินาเสน สฺชนิตปีติปาโมชฺชาติ อตฺโถ.

มนสา อคมาติ สา ตํ อาลิงฺคิตฺวา ิตา ‘‘อโห วต สกฺโก ปลฺลงฺกํ เม เปเสยฺยา’’ติ เอวํ ปวตฺเตน มนสา อินฺทํ อคมา. นนฺทเน วเนติ นนฺทิชนนสมตฺถตาย นนฺทนวนสงฺขาเต ตาวตึสภวเน วสนฺตํ. เทวกุฺชโรติ เทวเสฏฺโ . ปหิณีติ เปเสสิ. ‘‘ปาหิณี’’ติปิ ปาโ. โสปวาหนนฺติ สปริวารํ. สอุตฺตรจฺฉทปฺาสนฺติ ปฺาสาย อุตฺตรจฺฉเทหิ ปฏิจฺฉาทิตํ. สหสฺสปฏิยตฺถตนฺติ สหสฺสทิพฺพโกชวตฺถตํ. ตเมนํ ตตฺถาติ ตํ อิสิสิงฺคํ ตตฺถ ทิพฺพปลฺลงฺเก นิสินฺนา สา อุเร กตฺวา ธาเรสิ. ตีณิ วสฺสานีติ เอกมุหุตฺตํ วิย มนุสฺสคณนาย ตีณิ วสฺสานิ ตํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา ตตฺถ นิสินฺนา ธาเรสิ.

วิมโทติ นิมฺมโท วิคตสฺภาโว. โส หิ ตีณิ สํวจฺฉรานิ วิสฺโ สยิตฺวา ปจฺฉา ปฏิลทฺธสฺโ ปพุชฺฌิ. ตสฺมึ ปพุชฺฌมาเน หตฺถาทิผนฺทนํ ทิสฺวาว อลมฺพุสา ตสฺส ปพุชฺฌนภาวํ ตฺวา ปลฺลงฺกํ อนฺตรธาเปตฺวา สยมฺปิ อนฺตรหิตา อฏฺาสิ. อทฺทสาสีติ โส อสฺสมปทํ โอโลเกนฺโต ‘‘เกน นุ โขมฺหิ สีลวินาสํ ปาปิโต’’ติ จินฺเตตฺวา มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวมาโน อทฺทสาสิ. หริตรุกฺเขติ อคฺคิยายนสงฺขาตํ อคฺคิสาลํ สมนฺตา ปริวาเรตฺวา ิเต หริตปตฺตรุกฺเข. นวปตฺตวนนฺติ ตรุเณหิ นวปตฺเตหิ สฺฉนฺนํ วนํ. รุทนฺติ ปริเทวนฺโต.

ชุเห น ชเป มนฺเตติ อยมสฺส ปริเทวนคาถา. ปหาปิตนฺติ หาปิตํ, -กาโร อุปสคฺคมตฺตํ. ปาริจริยายาติ โก นุ กิเลสปาริจริยาย อิโต ปุพฺเพ มม จิตฺตํ ปโลภยีติ ปริเทวติ. โย เม เตชา ห สมฺภุตนฺติ -กาโร นิปาตมตฺตํ. โย มม สมณเตเชน สมฺภูตํ ฌานคุณํ นานารตนปริปุณฺณํ มหนฺตํ มหณฺณเว นาวํ วิย คณฺหิ, วินาสํ ปาเปสิ, โก นาเมโสติ ปริเทวตีติ.

ตํ สุตฺวา อลมฺพุสา จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ น กเถสฺสามิ, อยํ เม อภิสปิสฺสติ, หนฺทสฺส กเถสฺสามี’’ติ. สา ทิสฺสมาเนน กาเยน ตฺวา คาถมาห –

๑๓๑.

‘‘อหํ เต ปาริจริยาย, เทวราเชน เปสิตา;

อวธึ จิตฺตํ จิตฺเตน, ปมาโท ตฺวํ น พุชฺฌสี’’ติ.

โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปิตรา ทินฺนโอวาทํ สริตฺวา ‘‘ปิตุ วจนํ อกตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโตมฺหี’’ติ ปริเทวนฺโต จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๒.

‘‘อิมานิ กิร มํ ตาโต, กสฺสโป อนุสาสติ;

กมลาสทิสิตฺถิโย, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว.

๑๓๓.

‘‘อุเรคณฺฑาโย พุชฺเฌสิ, ตาโย พุชฺเฌสิ มาณว;

อิจฺจานุสาสิ มํ ตาโต, ยถา มํ อนุกมฺปโก.

๑๓๔.

‘‘ตสฺสาหํ วจนํ นากํ, ปิตุ วุทฺธสฺส สาสนํ;

อรฺเ นิมฺมนุสฺสมฺหิ, สฺวชฺช ฌายามิ เอกโก.

๑๓๕.

‘‘โสหํ ตถา กริสฺสามิ, ธิรตฺถุ ชีวิเตน เม;

ปุน วา ตาทิโส เหสฺสํ, มรณํ เม ภวิสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ อิมานีติ อิมานิ วจนานิ. กมลาสทิสิตฺถิโยติ กมลา วุจฺจติ นาริปุปฺผลตา, ตาสํ ปุปฺผสทิสา อิตฺถิโย. ตาโย พุชฺเฌสิ มาณวาติ มาณว ตฺวํ ตาโย ชาเนยฺยาสิ, ตฺวา ทสฺสนปถํ อคนฺตฺวา ปลาเปยฺยาสีติ ยานิ เอวรูปานิ วจนานิ ตทา มํ ตาโต อนุสาสติ, อิมานิ กิร ตานีติ. อุเรคณฺฑาโยติ อุรมฺหิ ทฺวีหิ คณฺเฑหิ สมนฺนาคตา. ตาโย พุชฺเฌสิ, มาณวาติ, มาณว, ตาโย อตฺตโน วสํ คเต วินาสํ ปาเปนฺตีติ ตฺวํ ชาเนยฺยาสิ. นากนฺติ นากรึ. ฌายามีติ ปชฺฌายามิ ปริเทวามิ. ธิรตฺถุ ชีวิเตน เมติ ธิรตฺถุ ครหิตํ มม ชีวิตํ, ชีวิเตน เม โก อตฺโถ. ปุน วาติ ตถา กริสฺสามิ, ยถา ปุน วา ตาทิโส ภวิสฺสามิ, นฏฺํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา วีตราโค ภวิสฺสามิ, มรณํ วา เม ภวิสฺสตีติ.

โส กามราคํ ปหาย ปุน ฌานํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส สมณเตชํ ทิสฺวา ฌานสฺส จ อุปฺปาทิตภาวํ ตฺวา อลมฺพุสา ภีตา ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๓๖.

‘‘ตสฺส เตชํ วีริยฺจ, ธิตึ ตฺวา อวฏฺิตํ;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, อิสิสิงฺคํ อลมฺพุสา.

๑๓๗.

‘‘มา เม กุชฺฌ มหาวีร, มา เม กุชฺฌ มหาอิเส;

มหา อตฺโถ มยา จิณฺโณ, ติทสานํ ยสสฺสินํ;

ตยา ปกมฺปิตํ อาสิ, สพฺพํ เทวปุรํ ตทา’’ติ.

อถ นํ โส ‘‘ขมามิ เต, ภทฺเท, ยถาสุขํ คจฺฉา’’ติ วิสฺสชฺเชนฺโต คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘ตาวตึสา จ เย เทวา, ติทสานฺจ วาสโว;

ตฺวฺจ ภทฺเท สุขี โหหิ, คจฺฉ กฺเ ยถาสุข’’นฺติ.

สา ตํ วนฺทิตฺวา เตเนว สุวณฺณปลฺลงฺเกน เทวปุรํ คตา. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๑๓๙.

‘‘ตสฺส ปาเท คเหตฺวาน, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

อฺชลึ ปคฺคเหตฺวาน, ตมฺหา านา อปกฺกมิ.

๑๔๐.

‘‘โย จ ตสฺสาสิ ปลฺลงฺโก, โสวณฺโณ โสปวาหโน;

สอุตฺตรจฺฉทปฺาโส, สหสฺสปฏิยตฺถโต;

ตเมว ปลฺลงฺกมารุยฺห, อคา เทวาน สนฺติเก.

๑๔๑.

‘‘ตโมกฺกมิว อายนฺตึ, ชลนฺตึ วิชฺชุตํ ยถา;

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, เทวินฺโท อททา วร’’นฺติ.

ตตฺถ โอกฺกมิวาติ ทีปกํ วิย. ‘‘ปตีโต’’ติอาทีหิ ตุฏฺากาโรว ทสฺสิโต อททา วรนฺติ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ิตาย ตุฏฺโ วรํ อทาสิ.

สา ตสฺส สนฺติเก วรํ คณฺหนฺตี โอสานคาถมาห –

๑๔๒.

‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;

นิสิปฺปโลภิกา คจฺเฉ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สกฺก เทวราช, สเจ เม ตฺวํ วรํ อโท, ปุน อิสิปโลภิกาย น คจฺเฉยฺยํ, มา มํ เอตทตฺถาย ปหิเณยฺยาสิ, เอตํ วรํ วเร ยาจามี’’ติ.

สตฺถา ตสฺส ภิกฺขุโน อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา อลมฺพุสา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา มหาอิสิ ปน อหเมว อโหสินฺติ.

อลมฺพุสาชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๒๔] ๔. สงฺขปาลชาตกวณฺณนา

อริยาวกาโสสีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุโปสถกมฺมํ อารพฺภ กเถสิ. ตทา หิ สตฺถา อุโปสถิเก อุปาสเก สมฺปหํเสตฺวา ‘‘โปราณกปณฺฑิตา มหตึ นาคสมฺปตฺตึ ปหาย อุโปสถวาสํ อุปวสึสุเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต ราชคเห มคธราชา นาม รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส รฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ‘‘ทุยฺโยธโน’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคนฺตฺวา ปิตุ สิปฺปํ ทสฺเสสิ. อถ นํ ปิตา รชฺเช อภิสิฺจิตฺวา อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อุยฺยาเน วสิ. โพธิสตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ปิตุ สนฺติกํ อคมาสิ. ตสฺส มหาลาภสกฺกาโร อุทปาทิ. โส เตเนว ปลิโพเธน กสิณปริกมฺมมตฺตมฺปิ กาตุํ อสกฺโกนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มหา เม ลาภสกฺกาโร, น สกฺกา มยา อิธ วสนฺเตน อิมํ ชฏํ ฉินฺทิตุํ, ปุตฺตสฺส เม อนาโรเจตฺวาว อฺตฺถ คมิสฺสามี’’ติ. โส กฺจิ อชานาเปตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา มคธรฏฺํ อติกฺกมิตฺวา มหิสกรฏฺเ สงฺขปาลทหโต นาม นิกฺขนฺตาย กณฺณเวณฺณาย นทิยา นิวตฺตเน จนฺทกปพฺพตํ อุปนิสฺสาย ปณฺณสาลํ กตฺวา ตตฺถ วสนฺโต กสิณปริกมฺมํ กตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา อุฺฉาจริยาย ยาเปสิ. ตเมนํ สงฺขปาโล นาม นาคราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กณฺณเวณฺณนทิโต นิกฺขมิตฺวา อนฺตรนฺตรา อุปสงฺกมติ. โส ตสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. อถสฺส ปุตฺโต ปิตรํ ทฏฺุกาโม คตฏฺานํ อชานนฺโต อนุวิจาราเปตฺวา ‘‘อสุกฏฺาเน นาม วสตี’’ติ ตฺวา ตสฺส ทสฺสนตฺถาย มหนฺเตน ปริวาเรน ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺเต ขนฺธวารํ นิวาเสตฺวา กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อสฺสมปทาภิมุโข ปายาสิ.

ตสฺมึ ขเณ สงฺขปาโล มหนฺเตน ปริวาเรน ธมฺมํ สุณนฺโต นิสีทิ. โส ตํ ราชานํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อิสึ วนฺทิตฺวา อุฏฺายาสนา ปกฺกามิ. ราชา ปิตรํ วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, กตรราชา นาเมส ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคโต’’ติ. ตาต, สงฺขปาลนาคราชา นาเมโสติ. โส ตสฺส สมฺปตฺตึ นิสฺสาย นาคภวเน โลภํ กตฺวา กติปาหํ วสิตฺวา ปิตุ ภิกฺขาหารํ นิพทฺธํ ทาเปตฺวา อตฺตโน นครเมว คนฺตฺวา จตูสุ ทฺวาเรสุ ทานสาลาโย กาเรตฺวา สกลชมฺพุทีปํ สงฺโขเภนฺโต ทานํ ทตฺวา สีลํ รกฺขิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา นาคภวนํ ปตฺเถตฺวา อายุปริโยสาเน นาคภวเน นิพฺพตฺติตฺวา สงฺขปาลนาคราชา อโหสิ . โส คจฺฉนฺเต กาเล ตาย สมฺปตฺติยา วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ตโต ปฏฺาย มนุสฺสโยนึ ปตฺเถนฺโต อุโปสถวาสํ วสิ. อถสฺส นาคภวเน วสนฺตสฺส อุโปสถวาโส น สมฺปชฺชติ, สีลวินาสํ ปาปุณาติ. โส ตโต ปฏฺาย นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา กณฺณเวณฺณาย นทิยา อวิทูเร มหามคฺคสฺส จ เอกปทิกมคฺคสฺส จ อนฺตเร เอกํ วมฺมิกํ ปริกฺขิปิตฺวา อุโปสถํ อธิฏฺาย สมาทินฺนสีโล ‘‘มม จมฺมมํสาทีหิ อตฺถิกา จมฺมมํสาทีนิ หรนฺตู’’ติ อตฺตานํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺโน สมณธมฺมํ กโรนฺโต จาตุทฺทเส ปนฺนรเส วสิตฺวา ปาฏิปเท นาคภวนํ คจฺฉติ.

ตสฺมึ เอกทิวสํ เอวํ สีลํ สมาทิยิตฺวา นิปนฺเน ปจฺจนฺตคามวาสิโน โสฬส ชนา ‘‘มํสํ อาหริสฺสามา’’ติ อาวุธหตฺถา อรฺเ วิจรนฺตา กิฺจิ อลภิตฺวา นิกฺขนฺตา ตํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มยํ อชฺช โคธาโปตกมฺปิ น ลภิมฺหา, อิมํ นาคราชานํ วธิตฺวา ขาทิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มหา โข ปเนส คยฺหมาโน ปลาเยยฺย, ยถานิปนฺนเมว ตํ โภเคสุ สูเลหิ วิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ สูลานิ อาทาย อุปสงฺกมึสุ. โพธิสตฺตสฺส สรีรํ มหนฺตํ เอกโทณิกนาวปฺปมาณํ วฏฺเฏตฺวา ปิตสุมนปุปฺผทามํ วิย ชิฺชุกผลสนฺนิเภหิ อกฺขีหิ ชยสุมนปุปฺผสทิเสน จ สีเสน สมนฺนาคตํ อติวิย โสภติ. โส เตสํ โสฬสนฺนํ ชนานํ ปทสทฺเทน โภคนฺตรโต สีสํ นีหริตฺวา รตฺตกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต สูลหตฺเถ อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อชฺช มยฺหํ มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อหํ อตฺตานํ ทานมุเข นิยฺยาเทตฺวา วีริยํ อธิฏฺหิตฺวา นิปนฺโน, อิเม มม สรีรํ สตฺตีหิ โกฏฺเฏตฺวา ฉิทฺทาวฉิทฺทํ กโรนฺเต โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา น โอโลเกสฺสามี’’ติ อตฺตโน สีลเภทภเยน ทฬฺหํ อธิฏฺาย สีสํ โภคนฺตเรเยว ปเวเสตฺวา นิปชฺชิ. อถ นํ เต อุปคนฺตฺวา นงฺคุฏฺเ คเหตฺวา กฑฺฒนฺตา ภูมิยํ โปเถตฺวา ติขิณสูเลหิ อฏฺสุ าเนสุ วิชฺฌิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตยฏฺิโย ปหารมุเขหิ ปเวเสตฺวา อฏฺสุ าเนสุ กาเชนาทาย มหามคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ, มหาสตฺโต สูเลหิ วิชฺฌนโต ปฏฺาย เอกฏฺาเนปิ โกธวเสน อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เต น โอโลเกสิ. ตสฺส อฏฺหิ กาเชหิ อาทาย นียมานสฺส สีสํ โอลมฺเพตฺวา ภูมิยํ ปหริ. อถ นํ ‘‘สีสมสฺส โอลมฺพตี’’ติ มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ตรุณสูเลน นาสาปุฏํ วิชฺฌิตฺวา รชฺชุกํ ปเวเสตฺวา สีสํ อุกฺขิปิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺคิตฺวา ปุนปิ อุกฺขิปิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชึสุ.

ตสฺมึ ขเณ วิเทหรฏฺเ มิถิลนครวาสี อาฬาโร นาม กุฏุมฺพิโก ปฺจ สกฏสตานิ อาทาย สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต เต โภชปุตฺเต โพธิสตฺตํ ตถา คณฺหิตฺวา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา เตสํ โสฬสนฺนมฺปิ โสฬสหิ วาหโคเณหิ สทฺธึ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก สพฺเพสํ นิวาสนปารุปนานิ ภริยานมฺปิ เนสํ วตฺถาภรณานิ ทตฺวา วิสฺสชฺชาเปสิ. อถ โส นาคภวนํ คนฺตฺวา ตตฺถ ปปฺจํ อกตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา อาฬารํ อุปสงฺกมิตฺวา นาคภวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา ตํ อาทาย นาคภวนํ คนฺตฺวา ตีหิ นาคกฺาสเตหิ สทฺธึ มหนฺตมสฺส ยสํ ทตฺวา ทิพฺเพหิ กาเมหิ สนฺตปฺเปสิ. อาฬาโร นาคภวเน เอกวสฺสํ วสิตฺวา ทิพฺพกาเม ปริภุฺชิตฺวา ‘‘อิจฺฉามหํ, สมฺม, ปพฺพชิตุ’’นฺติ นาคราชสฺส กเถตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร คเหตฺวา นาคภวนโต หิมวนฺตปฺปเทสํ คนฺตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ จิรํ วสิตฺวา อปรภาเค จาริกํ จรนฺโต พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ภิกฺขาย นครํ ปวิสิตฺวา ราชทฺวารํ อคมาสิ. อถ นํ พาราณสิราชา ทิสฺวา อิริยาปเถ ปสีทิตฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา นานคฺครสโภชนํ โภเชตฺวา อฺตรสฺมึ นีเจ อาสเน นิสินฺโน วนฺทิตฺวา เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต ปมํ คาถมาห –

๑๔๓.

‘‘อริยาวกาโสสิ ปสนฺนเนตฺโต, มฺเ ภวํ ปพฺพชิโต กุลมฺหา;

กถํ นุ วิตฺตานิ ปหาย โภเค, ปพฺพชิ นิกฺขมฺม ฆรา สปฺา’’ติ.

ตตฺถ อริยาวกาโสสีติ นิทฺโทสสุนฺทรสรีราวกาโสสิ, อภิรูโปสีติ อตฺโถ. ปสนฺนเนตฺโตติ ปฺจหิ ปสาเทหิ ยุตฺตเนตฺโต. กุลมฺหาติ ขตฺติยกุลา วา พฺราหฺมณกุลา วา เสฏฺิกุลา วา ปพฺพชิโตสีติ มฺามิ. กถํ นูติ เกน การเณน กึ อารมฺมณํ กตฺวา ธนฺจ อุปโภเค จ ปหาย ฆรา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตสิ สปฺ ปณฺฑิตปุริสาติ ปุจฺฉติ.

ตโต ปรํ ตาปสสฺส จ รฺโ จ วจนปฺปฏิวจนวเสน คาถานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ –

๑๔๔.

‘‘สยํ วิมานํ นรเทว ทิสฺวา, มหานุภาวสฺส มโหรคสฺส;

ทิสฺวาน ปุฺาน มหาวิปากํ, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๔๕.

‘‘น กามกามา น ภยา น โทสา, วาจํ มุสา ปพฺพชิตา ภณนฺติ;

อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, สุตฺวาน เม ชายิหิติปฺปสาโท.

๑๔๖.

‘‘วาณิชฺช รฏฺาธิป คจฺฉมาโน, ปเถ อทฺทสาสิมฺหิ โภชปุตฺเต;

ปวฑฺฒกายํ อุรคํ มหนฺตํ, อาทาย คจฺฉนฺเต ปโมทมาเน.

๑๔๗.

‘‘โสหํ สมาคมฺม ชนินฺท เตหิ, ปหฏฺโลโม อวจมฺหิ ภีโต;

กุหึ อยํ นียติ ภีมกาโย, นาเคน กึ กาหถ โภชปุตฺตา.

๑๔๘.

‘‘นาโค อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

สาทุฺจ ถูลฺจ มุทุฺจ มํสํ, น ตฺวํ รสฺาสิ วิเทหปุตฺต.

๑๔๙.

‘‘อิโต มยํ คนฺตฺวา สกํ นิเกตํ, อาทาย สตฺถานิ วิโกปยิตฺวา;

มํสานิ โภกฺขาม ปโมทมานา, มยฺหิ เว สตฺตโว ปนฺนคานํ.

๑๕๐.

‘‘สเจ อยํ นียติ โภชนตฺถา, ปวฑฺฒกาโย อุรโค มหนฺโต;

ททามิ โว พลิพทฺทานิ โสฬส, นาคํ อิมํ มุฺจถ พนฺธนสฺมา.

๑๕๑.

‘‘อทฺธา หิ โน ภกฺโข อยํ มนาโป, พหู จ โน อุรคา ภุตฺตปุพฺพา;

กโรม เต ตํ วจนํ อฬาร, มิตฺตฺจ โน โหหิ วิเทหปุตฺต.

๑๕๒.

‘‘ตทาสฺสุ เต พนฺธนา โมจยึสุ, ยํ นตฺถุโต ปฏิโมกฺกสฺส ปาเส;

มุตฺโต จ โส พนฺธนา นาคราชา, ปกฺกามิ ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ.

๑๕๓.

‘‘คนฺตฺวาน ปาจีนมุโข มุหุตฺตํ, ปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ปโลกยี มํ;

ตทาสฺสหํ ปิฏฺิโต อนฺวคจฺฉึ, ทสงฺคุลึ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา.

๑๕๔.

‘‘คจฺเฉว โข ตฺวํ ตรมานรูโป, มา ตํ อมิตฺตา ปุนรคฺคเหสุํ;

ทุกฺโข หิ ลุทฺเทหิ ปุนา สมาคโม, อทสฺสนํ โภชปุตฺตาน คจฺฉ.

๑๕๕.

‘‘อคมาสิ โส รหทํ วิปฺปสนฺนํ, นีโลภาสํ รมณียํ สุติตฺถํ;

สโมตตํ ชมฺพุหิ เวตสาหิ, ปาเวกฺขิ นิตฺติณฺณภโย ปตีโต.

๑๕๖.

‘‘โส ตํ ปวิสฺส นจิรสฺส นาโค, ทิพฺเพน เม ปาตุรหู ชนินฺท;

อุปฏฺหี มํ ปิตรํว ปุตฺโต, หทยงฺคมํ กณฺณสุขํ ภณนฺโต.

๑๕๗.

‘‘ตฺวํ เมสิ มาตา จ ปิตา อฬาร, อพฺภนฺตโร ปาณทโท สหาโย;

สกฺจ อิทฺธึ ปฏิลาภโกสฺมิ, อฬาร ปสฺส เม นิเวสนานิ;

ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ, มสกฺกสารํ วิย วาสวสฺสา’’ติ.

ตตฺถ วิมานนฺติ สงฺขปาลนาครฺโ อเนกสตนาฏกสมฺปตฺติสมฺปนฺนํ กฺจนมณิวิมานํ. ปุฺานนฺติ เตน กตปุฺานํ มหนฺตํ วิปากํ ทิสฺวา กมฺมฺจ ผลฺจ ปรโลกฺจ สทฺทหิตฺวา ปวตฺตาย สทฺธาย อหํ ปพฺพชิโต. น กามกามาติ น วตฺถุกาเมนปิ ภเยนปิ โทเสนปิ มุสา ภณนฺติ. ชายิหิตีติ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ วจนํ สุตฺวา มยฺหมฺปิ ปสาโท โสมนสฺสํ ชายิสฺสติ. วาณิชฺชนฺติ วาณิชฺชกมฺมํ กริสฺสามีติ คจฺฉนฺโต. ปเถ อทฺทสาสิมฺหีติ ปฺจนฺนํ สกฏสตานํ ปุรโต สุขยานเก นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺโต มหามคฺเค ชนปทมนุสฺเส อทฺทสํ. ปวฑฺฒกายนฺติ วฑฺฒิตกายํ. อาทายาติ อฏฺหิ กาเชหิ คเหตฺวา. อวจมฺหีติ อภาสึ. ภีมกาโยติ ภยชนกกาโย. โภชปุตฺตาติ ลุทฺทปุตฺตเก ปิยสมุทาจาเรนาลปติ. วิเทหปุตฺตาติ วิเทหรฏฺวาสิตาย อาฬารํ อาลปึสุ. วิโกปยิตฺวาติ ฉินฺทิตฺวา. มยฺหิ โว สตฺตโวติ มยํ ปน นาคานํ เวริโน นาม. โภชนตฺถาติ โภชนตฺถาย. มิตฺตฺจ โน โหหีติ ตฺวํ อมฺหากํ มิตฺโต โหหิ, กตคุณํ ชาน.

ตทาสฺสุ เตติ, มหาราช, เตหิ โภชปุตฺเตหิ เอวํ วุตฺเต อหํ เตสํ โสฬส วาหโคเณ นิวาสนปารุปนานิ ปสตํ ปสตํ สุวณฺณมาสเก ภริยานฺจ เนสํ วตฺถาลงฺการํ อทาสึ, อถ เต สงฺขปาลนาคราชานํ ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา อตฺตโน กกฺขฬตาย สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตาย โกฏิยํ คเหตฺวา อากฑฺฒิตุํ อารภึสุ. อถาหํ นาคราชานํ กิลมนฺตํ ทิสฺวา อกิลเมนฺโตว อสินา ตา ลตา ฉินฺทิตฺวา ทารกานํ กณฺณเวธโต วฏฺฏินีหรณนิยาเมน อทุกฺขาเปนฺโต สณิกํ นีหรึ, ตสฺมึ กาเล เต โภชปุตฺตา ยํ พนฺธนํ อสฺส นตฺถุโต ปเวเสตฺวา ปาเส ปฏิโมกฺกํ, ตสฺมา พนฺธนา ตํ อุรคํ โมจยึสุ. ตสฺส นาสโต สห ปาเสน ตํ รชฺชุกํ นีหรึสูติ ทีเปติ. อิติ เต อุรคํ วิสฺสชฺเชตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ‘‘อยํ อุรโค ทุพฺพโล, มตกาเล นํ คเหตฺวา คมิสฺสามา’’ติ นิลียึสุ.

ปุณฺเณหีติ โสปิ มุหุตฺตํ ปาจีนาภิมุโข คนฺตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ มํ ปโลกยิ. ตทาสฺสหนฺติ ตทา อสฺส อหํ. คจฺเฉวาติ เอวํ ตํ อวจนฺติ วทติ. รหทนฺติ กณฺณเวณฺณทหํ. สโมตตนฺติ อุภยตีเรสุ ชมฺพุรุกฺขเวตสรุกฺเขหิ โอตตํ วิตตํ. นิตฺติณฺณภโย ปตีโตติ โส กิร ตํ ทหํ ปวิสนฺโต อาฬารสฺส นิปจฺจการํ ทสฺเสตฺวา ยาว นงฺคุฏฺา โอตริ, อุทเก ปวิฏฺฏฺานเมวสฺส นิพฺภยํ อโหสิ, ตสฺมา นิตฺติณฺณภโย ปตีโต หฏฺตุฏฺโ ปาเวกฺขีติ. ปวิสฺสาติ ปวิสิตฺวา. ทิพฺเพน เมติ นาคภวเน ปมาทํ อนาปชฺชิตฺวา มยิ กณฺณเวณฺณตีรํ อนติกฺกนฺเตเยว ทิพฺเพน ปริวาเรน มม ปุรโต ปาตุรโหสิ. อุปฏฺหีติ อุปาคมิ. อพฺภนฺตโรติ หทยมํสสทิโส. ตฺวํ มม พหุปกาโร, สกฺการํ เต กริสฺสามิ. ปสฺส เม นิเวสนานีติ มม นาคภวนํ ปสฺส. มสกฺกสารํ วิยาติ มสกฺกสาโร วุจฺจติ โอสกฺกนปริสกฺกนาภาเวน ฆนสารตาย จ สิเนรุปพฺพตราชา. อยํ ตตฺถ มาปิตํ ตาวตึสภวนํ สนฺธาเยวมาห.

มหาราช! เอวํ วตฺวา โส นาคราชา อุตฺตริ อตฺตโน นาคภวนํ วณฺเณนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๕๘.

‘‘ตํ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อสกฺขรา เจว มุทู สุภา จ;

นีจตฺติณา อปฺปรชา จ ภูมิ, ปาสาทิกา ยตฺถ ชหนฺติ โสกํ.

๑๕๙.

‘‘อนาวกุลา เวฬุริยูปนีลา, จตุทฺทิสํ อมฺพวนํ สุรมฺมํ;

ปกฺกา จ เปสี จ ผลา สุผุลฺลา, นิจฺโจตุกา ธารยนฺตี ผลานี’’ติ.

ตตฺถ อสกฺขราติ ยา ตตฺถ ภูมิ ปาสาณสกฺขรรหิตา มุทุ สุภา กฺจนรชตมณิมยา สตฺตรตนวาลุกากิณฺณา. นีจตฺติณาติ อินฺทโคปกปิฏฺิสทิสวณฺเณหิ นีจติเณหิ สมนฺนาคตา. อปฺปรชาติ ปํสุรหิตา. ยตฺถ ชหนฺติ โสกนฺติ ยตฺถ ปวิฏฺมตฺตาว นิสฺโสกา โหนฺติ. อนาวกุลาติ น อวกุลา อขาณุมา อุปริ อุกฺกุลวิกุลภาวรหิตา วา สมสณฺิตา. เวฬุริยูปนีลาติ เวฬุริเยน อุปนีลา, ตสฺมึ นาคภวเน เวฬุริยมยา ปสนฺนสลิลา นีโลภาสา อเนกวณฺณกมลุปฺปลสฺฉนฺนา โปกฺขรณีติ อตฺโถ. จตุทฺทิสนฺติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา จตูสุ ทิสาสุ. ปกฺกา จาติ ตสฺมึ อมฺพวเน อมฺพรุกฺขา ปกฺกผลา จ อฑฺฒปกฺกผลา จ ตรุณผลา จ ผุลฺลิตาเยวาติ อตฺโถ. นิจฺโจตุกาติ ฉนฺนมฺปิ อุตูนํ อนุรูเปหิ ปุปฺผผเลหิ สมนฺนาคตาติ.

๑๖๐.

เตสํ วนานํ นรเทว มชฺเฌ, นิเวสนํ ภสฺสรสนฺนิกาสํ;

รชตคฺคฬํ โสวณฺณมยํ อุฬารํ, โอภาสตี วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.

๑๖๑.

‘‘มณีมยา โสณฺณมยา อุฬารา, อเนกจิตฺตา สตตํ สุนิมฺมิตา;

ปริปูรา กฺาหิ อลงฺกตาหิ, สุวณฺณกายูรธราหิ ราช.

๑๖๒.

‘‘โส สงฺขปาโล ตรมานรูโป, ปาสาทมารุยฺห อโนมวณฺโณ;

สหสฺสถมฺภํ อตุลานุภาวํ, ยตฺถสฺส ภริยา มเหสี อโหสิ.

๑๖๓.

‘‘เอกา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย เวฬุริยมยํ มหคฺฆํ;

สุภํ มณึ ชาติมนฺตูปปนฺนํ, อโจทิตา อาสนมพฺภิหาสิ.

๑๖๔.

‘‘ตโต มํ อุรโค หตฺเถ คเหตฺวา, นิสีทยี ปามุขอาสนสฺมึ;

อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, ภวฺหิ เม อฺตโร ครูนํ.

๑๖๕.

‘‘อฺา จ นารี ตรมานรูปา, อาทาย วารึ อุปสงฺกมิตฺวา;

ปาทานิ ปกฺขาลยี เม ชนินฺท, ภริยาว ภตฺตู ปติโน ปิยสฺส.

๑๖๖.

‘‘อปรา จ นารี ตรมานรูปา, ปคฺคยฺห โสวณฺณมยาย ปาติยา;

อเนกสูปํ วิวิธํ วิยฺชนํ, อุปนามยี ภตฺต มนุฺรูปํ.

๑๖๗.

‘‘ตุริเยหิ มํ ภารต ภุตฺตวนฺตํ, อุปฏฺหุํ ภตฺตุ มโน วิทิตฺวา;

ตตุตฺตรึ มํ นิปตี มหนฺตํ, ทิพฺเพหิ กาเมหิ อนปฺปเกหี’’ติ.

ตตฺถ นิเวสนนฺติ ปาสาโท. ภสฺสรสนฺนิกาสนฺติ ปภสฺสรทสฺสนํ. รชตคฺคฬนฺติ รชตทฺวารกวาฏํ. มณีมยาติ เอวรูปา ตตฺถ กูฏาคารา จ คพฺภา จ. ปริปูราติ สมฺปุณฺณา. โส สงฺขปาโลติ, มหาราช, อหํ เอวํ ตสฺมึ นาคภวนํ วณฺเณนฺเต ตํ ทฏฺุกาโม อโหสึ, อถ มํ ตตฺถ เนตฺวา โส สงฺขปาโล หตฺเถ คเหตฺวา ตรมาโน เวฬุริยถมฺเภหิ สหสฺสถมฺภํ ปาสาทํ อารุยฺห ยสฺมึ าเน อสฺส มเหสี อโหสิ, ตํ านํ เนตีติ ทีเปติ. เอกา จาติ มยิ ปาสาทํ อภิรุฬฺเห เอกา อิตฺถี อฺเหิ มณีหิ ชาติมหนฺเตหิ อุเปตํ สุภํ เวฬุริยาสนํ เตน นาคราเชน อวุตฺตาว. อพฺภิหาสีติ อภิหริ, อตฺถรีติ วุตฺตํ โหติ.

ปามุขอาสนสฺมินฺติ ปมุขาสนสฺมึ, อุตฺตมาสเน นิสีทาเปสีติ อตฺโถ. ครูนนฺติ มาตาปิตูนํ เม ตฺวํ อฺตโรติ เอวํ วตฺวา นิสีทาเปสิ. วิวิธํ วิยฺชนนฺติ วิวิธํ พฺยฺชนํ. ภตฺต มนุฺรูปนฺติ ภตฺตํ มนุฺรูปํ. ภารตาติ ราชานํ อาลปติ. ภุตฺตวนฺตนฺติ ภุตฺตาวึ กตภตฺตกิจฺจํ. อุปฏฺหุนฺติ อเนกสเตหิ ตุริเยหิ คนฺธพฺพํ กุรุมานา อุปฏฺหึสุ. ภตฺตุ มโน วิทิตฺวาติ อตฺตโน ปติโน จิตฺตํ ชานิตฺวา. ตตุตฺตรินฺติ ตโต คนฺธพฺพกรณโต อุตฺตรึ. มํ นิปตีติ โส นาคราชา มํ อุปสงฺกมิ. มหนฺตํ ทิพฺเพหีติ มหนฺเตหิ อุฬาเรหิ ทิพฺเพหิ กาเมหิ เตหิ จ อนปฺปเกหิ.

เอวํ อุปสงฺกมิตฺวา จ ปน คาถมาห –

๑๖๘.

‘‘ภริยา มเมตา ติสตา อฬาร, สพฺพตฺตมชฺฌา ปทุมุตฺตราภา;

อฬาร เอตาสฺสุ เต กามการา, ททามิ เต ตา ปริจารยสฺสู’’ติ.

ตตฺถ สพฺพตฺตมชฺฌาติ สพฺพา อตฺตมชฺฌา, ปาณินา คหิตปฺปมาณมชฺฌาติ อตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สุมชฺฌา’’ติ ปาโ. ปทุมุตฺตราภาติ ปทุมวณฺณอุตฺตราภา, ปทุมวณฺณอุตฺตรจฺฉวิโยติ อตฺโถ. ปริจารยสฺสูติ ตา อตฺตโน ปาทปริจาริกา กโรหีติ วตฺวา ตีหิ อิตฺถิสเตหิ สทฺธึ มหาสมฺปตฺตึ มยฺหํ อทาสิ.

โส อาห –

๑๖๙.

‘‘สํวจฺฉรํ ทิพฺพรสานุภุตฺวา, ตทาสฺสุหํ อุตฺตริมชฺฌภาสึ;

นาคสฺสิทํ กินฺติ กถฺจ ลทฺธํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺํ.

๑๗๐.

‘‘อธิจฺจลทฺธํ ปริณามชํ เต, สยํกตํ อุทาหุ เทเวหิ ทินฺนํ;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, กถชฺฌคมาสิ วิมานเสฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ ทิพฺพรสานุภุตฺวาติ ทิพฺเพ กามคุณรเส อนุภวิตฺวา. ตทาสฺสุหนฺติ ตทา อสฺสุ อหํ. นาคสฺสิทนฺติ ภทฺรมุขสฺส สงฺขปาลนาคราชสฺส อิทํ สมฺปตฺติชาตํ กินฺติ กึ นาม กมฺมํ กตฺวา กถฺจ กตฺวา ลทฺธํ, กถเมตํ วิมานเสฏฺํ ตฺวํ อชฺฌคมาสิ, อิติ นํ อหํ ปุจฺฉึ. อธิจฺจลทฺธนฺติ อเหตุนา ลทฺธํ. ปริณามชํ เตติ เกนจิ ตว อตฺถาย ปริณามิตตฺตา ปริณามโต ชาตํ. สยํกตนฺติ การเก ปกฺโกสาเปตฺวา รตนานิ ทตฺวา การิตนฺติ.

ตโต ปรา ทฺวินฺนมฺปิ วจนปฺปฏิวจนคาถาว –

๑๗๑.

‘‘นาธิจฺจลทฺธํ น ปริณามชํ เม, น สยํกตํ นาปิ เทเวหิ ทินฺนํ;

สเกหิ กมฺเมหิ อปาปเกหิ, ปุฺเหิ เม ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๒.

‘‘กึ เต วตํ กึ ปน พฺรหฺมจริยํ, กิสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

อกฺขาหิ เม นาคราเชตมตฺถํ, กถํ นุ เต ลทฺธมิทํ วิมานํ.

๑๗๓.

‘‘ราชา อโหสึ มคธานมิสฺสโร, ทุยฺโยธโน นาม มหานุภาโว;

โส อิตฺตรํ ชีวิตํ สํวิทิตฺวา, อสสฺสตํ วิปริณามธมฺมํ.

๑๗๔.

‘‘อนฺนฺจ ปานฺจ ปสนฺนจิตฺโต, สกฺกจฺจ ทานํ วิปุลํ อทาสึ;

โอปานภูตํ เม ฆรํ ตทาสิ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ.

๑๗๕.

‘‘มาลฺจ คนฺธฺจ วิเลปนฺจ, ปทีปิยํ ยานมุปสฺสยฺจ;

อจฺฉาทนํ สยนมถนฺนปานํ, สกฺกจฺจ ทานานิ อทมฺห ตตฺถ.

๑๗๖.

‘‘ตํ เม วตํ ตํ ปน พฺรหฺมจริยํ, ตสฺส สุจิณฺณสฺส อยํ วิปาโก;

เตเนว เม ลทฺธมิทํ วิมานํ, ปหูตภกฺขํ พหุอนฺนปานํ;

นจฺเจหิ คีเตหิ จุเปตรูปํ, จิรฏฺิติกํ น จ สสฺสตายํ.

๑๗๗.

‘‘อปฺปานุภาวา ตํ มหานุภาวํ, เตชสฺสินํ หนฺติ อเตชวนฺโต;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, หตฺถตฺตมาคจฺฉิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๘.

‘‘ภยํ นุ เต อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลํ;

กิเมว ทาาวุธ กึ ปฏิจฺจ, กิเลสมาปชฺชิ วนิพฺพกานํ.

๑๗๙.

‘‘น เม ภยํ อนฺวคตํ มหนฺตํ, เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุํ;

สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.

๑๘๐.

‘‘จาตุทฺทสึ ปฺจทสึ อฬาร, อุโปสถํ นิจฺจมุปาวสามิ;

อถาคมุํ โสฬส โภชปุตฺตา, รชฺชุํ คเหตฺวาน ทฬฺหฺจ ปาสํ.

๑๘๑.

‘‘เภตฺวาน นาสํ อติกสฺส รชฺชุํ, นยึสุ มํ สมฺปริคยฺห ลุทฺทา;

เอตาทิสํ ทุกฺขมหํ ติติกฺขํ, อุโปสถํ อปฺปฏิโกปยนฺโต.

๑๘๒.

‘‘เอกายเน ตํ ปเถ อทฺทสํสุ, พเลน วณฺเณน จุเปตรูปํ;

สิริยา ปฺาย จ ภาวิโตสิ, กึ ปตฺถยํ นาค ตโป กโรสิ.

๑๘๓.

‘‘น ปุตฺตเหตู น ธนสฺส เหตู, น อายุโน จาปิ อฬาร เหตุ;

มนุสฺสโยนึ อภิปตฺถยาโน, ตสฺมา ปรกฺกม ตโป กโรมิ.

๑๘๔.

‘‘ตฺวํ โลหิตกฺโข วิหตนฺตรํโส, อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสุ;

สุโรสิโต โลหิตจนฺทเนน, คนฺธพฺพราชาว ทิสา ปภาสสิ.

๑๘๕.

‘‘เทวิทฺธิปตฺโตสิ มหานุภาโว, สพฺเพหิ กาเมหิ สมงฺคิภูโต;

ปุจฺฉามิ ตํ นาคราเชตมตฺถํ, เสยฺโย อิโต เกน มนุสฺสโลโก.

๑๘๖.

‘‘อฬาร นาฺตฺร มนุสฺสโลกา, สุทฺธีว สํวิชฺชติ สํยโม วา;

อหฺจ ลทฺธาน มนุสฺสโยนึ, กาหามิ ชาติมรณสฺส อนฺตํ.

๑๘๗.

‘‘สํวจฺฉโร เม วสโต ตวนฺติเก, อนฺเนน ปาเนน อุปฏฺิโตสฺมิ;

อามนฺตยิตฺวาน ปเลมิ นาค, จิรปฺปวุฏฺโสฺมิ อหํ ชนินฺท.

๑๘๘.

‘‘ปุตฺตา จ ทารา อนุชีวิโน จ, นิจฺจานุสิฏฺา อุปติฏฺเถตํ;

กจฺจินฺนุ ตํ นาภิสปิตฺถ โกจิ, ปิยฺหิ เม ทสฺสนํ ตุยฺหํ อฬาร.

๑๘๙.

‘‘ยถาปิ มาตู จ ปิตู อคาเร, ปุตฺโต ปิโย ปฏิวิหิโต วเสยฺย;

ตโตปิ มยฺหํ อิธเมว เสยฺโย, จิตฺตฺหิ เต นาค มยี ปสนฺนํ.

๑๙๐.

‘‘มณี มมํ วิชฺชติ โลหิตงฺโก, ธนาหโร มณิรตนํ อุฬารํ;

อาทาย ตฺวํ คจฺฉ สกํ นิเกตํ, ลทฺธา ธนํ ตํ มณิโมสฺสชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ กึ เต วตนฺติ กึ ตว วตสมาทานํ. พฺรหฺมจริยนฺติ เสฏฺจริยํ. โอปานภูตนฺติ จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย ธมฺมิกสมณพฺราหฺมณานํ ยถาสุขํ ปริภุฺชิตพฺพวิภวํ. น จ สสฺสตายนฺติ จิรฏฺิติกํ สมานมฺปิ เจ ตํ มยฺหํ สสฺสตํ น โหตีติ เม กเถติ.

อปฺปานุภาวาติ โภชปุตฺเต สนฺธายาห. หนฺตีติ อฏฺสุ าเนสุ สูเลหิ วิชฺฌนฺตา กึการณา หนึสุ. กึ ปฏิจฺจาติ กึ สนฺธาย ตฺวํ ตทา เตสํ หตฺถตฺตํ อาคจฺฉิ วสํ อุปคโต. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตา อิธ ‘‘วนิพฺพกา’’ติ วุตฺตา. เตโช นุ เต นานฺวคํ ทนฺตมูลนฺติ กึ นุ ตว เตโช โภชปุตฺเต ทิสฺวา ตทา ภยํ มหนฺตํ อนฺวคตํ, อุทาหุ วิสํ ทนฺตมูลํ น อนฺวคตํ. กิเลสนฺติ ทุกฺขํ. วนิพฺพกานนฺติ โภชปุตฺตานํ สนฺติเก, โภชปุตฺเต นิสฺสายาติ อตฺโถ.

เตโช น สกฺกา มม เตหิ หนฺตุนฺติ มม วิสเตโช อฺสฺส เตเชน อภิหนฺตุมฺปิ น สกฺกา. สตนฺติ พุทฺธาทีนํ. ธมฺมานีติ สีลสมาธิปฺาขนฺติอนุทฺทยเมตฺตาภาวนาสงฺขาตานิ ธมฺมานิ. สุกิตฺติตานีติ สุวณฺณิตานิ สุกถิตานิ. กินฺติ กตฺวา? สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานีติ เตหิ สมุทฺทเวลา วิย สปฺปุริเสหิ ชีวิตตฺถมฺปิ ทุรจฺจยานีติ วณฺณิตานิ, ตสฺมา อหํ สีลเภทภเยน ขนฺติเมตฺตาทิสมนฺนาคโต หุตฺวา มม โกปสฺส สีลเวลนฺตํ อติกฺกมิตุํ น อทาสินฺติ อาห.

‘‘อิมิสฺสา ปน สงฺขปาลธมฺมเทสนาย ทสปิ ปารมิโย ลพฺภนฺติ. ตทา หิ มหาสตฺเตน สรีรสฺส ปริจฺจตฺตภาโว ทานปารมี นาม โหติ, ตถารูเปนาปิ วิสเตเชน สีลสฺส อภินฺนตา สีลปารมี, นาคภวนโต นิกฺขมิตฺวา สมณธมฺมกรณํ เนกฺขมฺมปารมี, ‘อิทฺจิทฺจ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ สํวิทหนํ ปฺาปารมี, อธิวาสนวีริยํ วีริยปารมี, อธิวาสนขนฺติ ขนฺติปารมี, สจฺจสมาทานํ สจฺจปารมี, ‘มม สีลํ น ภินฺทิสฺสามี’ติ อธิฏฺานํ อธิฏฺานปารมี, อนุทฺทยภาโว เมตฺตาปารมี, เวทนาย มชฺฌตฺตภาโว อุเปกฺขาปารมี’’ติ.

อถาคมุนฺติ อเถกทิวสํ วมฺมิกมตฺถเก นิปนฺนํ ทิสฺวา โสฬส โภชปุตฺตา ขรรชฺชุฺจ ทฬฺหปาสฺจ สูลานิ จ คเหตฺวา มม สนฺติกํ อาคตา. เภตฺวานาติ มม สรีรํ อฏฺสุ าเนสุ ภินฺทิตฺวา สกณฺฏกกาฬเวตฺตลตา ปเวเสตฺวา. นาสํ อติกสฺส รชฺชุนฺติ โถกํ คนฺตฺวา สีสํ เม โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา มหามคฺเค นิปชฺชาเปตฺวา ปุน นาสมฺปิ เม ภินฺทิตฺวา วฏฺฏรชฺชุํ อติกสฺส อาวุนิตฺวา กาชโกฏิยํ ลคฺเคตฺวา สมนฺตโต ปริคฺคเหตฺวา มํ นยึสุ.

อทฺทสํสูติ, สมฺม สงฺขปาล, เต โภชปุตฺตา เอกายเน เอกคมเน ชงฺฆปทิกมคฺเค ตํ พเลน จ วณฺเณน จ อุเปตรูปํ ปสฺสึสุ, ตฺวํ ปน อิสฺสริยโสภคฺคสิริยา จ ปฺาย จ ภาวิโต วฑฺฒิโต, โส ตฺวํ เอวรูโป สมาโนปิ กิมตฺถํ ตปํ กโรสิ, กิมิจฺฉนฺโต อุโปสถวาสํ วสสิ, สีลํ รกฺขสิ. ‘‘อทฺทสาสิ’’นฺติปิ ปาโ, อหํ เอกายเน มหามคฺเค ตํ อทฺทสินฺติ อตฺโถ. อภิปตฺถยาโนติ ปตฺเถนฺโต. ตสฺมาติ ยสฺมา มนุสฺสโยนึ ปตฺเถมิ, ตสฺมา วีริเยน ปรกฺกมิตฺวา ตโปกมฺมํ กโรมิ.

สุโรสิโตติ สุฏฺุ มนุลิตฺโต. อิโตติ อิมมฺหา นาคภวนา มนุสฺสโลโก เกน อุตฺตริตโร. สุทฺธีติ มคฺคผลนิพฺพานสงฺขาตา วิสุทฺธิ. สํยโมติ สีลํ. อิทํ โส มนุสฺสโลเกเยว พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานํ อุปฺปตฺตึ สนฺธายาห. กาหามีติ อตฺตโน อปฺปฏิสนฺธิกภาวํ กโรนฺโต ชาติชรามรณสฺสนฺตํ กริสฺสามีติ. เอวํ, มหาราช, โส สงฺขปาโล มนุสฺสโลกํ วณฺเณสิ. สํวจฺฉโร เมติ เอวํ, มหาราช, ตสฺมึ มนุสฺสโลกํ วณฺเณนฺเต อหํ ปพฺพชฺชาย สิเนหํ กตฺวา เอตทโวจํ. ตตฺถ อุปฏฺิโตสฺมีติ อนฺนปาเนน เจว ทิพฺเพหิ จ กามคุเณหิ ปริจิณฺโณ มานิโต อสฺมิ. ปเลมีติ ปเรมิ คจฺฉามิ. จิรปฺปวุฏฺโสฺมีติ อหํ มนุสฺสโลกโต จิรปฺปวุฏฺโ อสฺมิ.

นาภิสปิตฺถาติ กจฺจิ นุ โข มม ปุตฺตาทีสุ โกจิ ตํ น อกฺโกสิ น ปริภาสีติ ปุจฺฉติ. ‘‘นาภิสชฺเชถา’’ติปิ ปาโ, น โกเปสีติ อตฺโถ. ปฏิวิหิโตติ ปฏิชคฺคิโต. มณี มมนฺติ สเจ, สมฺม อาฬาร, คจฺฉสิเยว, เอวํ สนฺเต มม โลหิตงฺโก ธนหารโก สพฺพกามทโท มณิ สํวิชฺชติ, ตํ อุฬารํ มณิรตนํ อาทาย ตว เคหํ คจฺฉ, ตตฺถ อิมสฺสานุภาเวน ยาวทิจฺฉกํ ธนํ ลทฺธา ปุน อิมํ มณึ โอสฺสชสฺสุ, โอสฺสชนฺโต จ อฺตฺถ อโนสฺสชิตฺวา อตฺตโน อุทกจาฏิยํ โอสฺสเชยฺยาสีติ วตฺวา มยฺหํ มณิรตนํ อุปเนสีติ วทติ.

เอวํ วตฺวา อาฬาโร ‘‘อถาหํ, มหาราช, นาคราชานํ เอตทโวจํ – ‘สมฺม, นาหํ ธเนนตฺถิโก, ปพฺพชิตุํ ปน อิจฺฉามี’ติ ปพฺพชิตปริกฺขารํ ยาจิตฺวา เตเนว สทฺธึ นาคภวนา นิกฺขมิตฺวา ตํ นิวตฺเตตฺวา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิโตมฺหี’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมกถํ กเถนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๙๑.

‘‘ทิฏฺา มยา มานุสกาปิ กามา, อสสฺสตา วิปริณามธมฺมา;

อาทีนวํ กามคุเณสุ ทิสฺวา, สทฺธายหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราช.

๑๙๒.

‘‘ทุมปฺผลานีว ปตนฺติ มาณวา, ทหรา จ วุทฺธา จ สรีรเภทา;

เอตมฺปิ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย’’ติ.

ตตฺถ สทฺธายาติ กมฺมฺจ ผลฺจ นิพฺพานฺจ สทฺทหิตฺวา. ทุมปฺผลานีว ปตนฺตีติ ยถา รุกฺขผลานิ ปกฺกานิปิ อปกฺกานิปิ ปตนฺติ, ตถา มาณวา ทหรา จ วุทฺธา จ ปตนฺติ. อปณฺณกนฺติ อวิรทฺธํ นิยฺยานิกํ. สามฺเมว เสยฺโยติ ปพฺพชฺชาว อุตฺตมาติ ปพฺพชฺชาย คุณํ ทิสฺวา ปพฺพชิโตมฺหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๙๓.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน ตวฺจฬาร, กาหามิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

ตตฺถ เย พหุานจินฺติโนติ เย พหูนิ การณานิ ชานนฺติ. นาคฺจาติ ตถา อปฺปมาทวิหารินํ นาคราชานฺจ ตว จ วจนํ สุตฺวา.

อถสฺส อุสฺสาหํ ชเนนฺโต ตาปโส โอสานคาถมาห –

๑๙๔.

‘‘อทฺธา หเว เสวิตพฺพา สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

นาคฺจ สุตฺวาน มมฺจ ราช, กโรหิ ปุฺานิ อนปฺปกานี’’ติ.

เอวํ โส รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ตตฺเถว จตฺตาโร วสฺสานมาเส วสิตฺวา ปุน หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ยาวชีวํ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ. สงฺขปาโลปิ ยาวชีวํ อุโปสถวาสํ วสิตฺวา ราชา จ ทานาทีนิ ปุฺานิ กริตฺวา ยถากมฺมํ คตา.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ปิตา ตาปโส กสฺสโป อโหสิ, พาราณสิราชา อานนฺโท, อาฬาโร สาริปุตฺโต, สงฺขปาลนาคราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สงฺขปาลชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๒๕] ๕. จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา

อามนฺตยามินิคมนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เนกฺขมฺมปารมึ อารพฺภ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺนวตฺถุ มหานารทกสฺสปชาตกสทิสเมว (ชา. ๒.๒๒.๑๑๕๓ อาทโย). อตีเต ปน พาราณสี สุทสฺสนํ นาม นครํ อโหสิ, ตตฺถ พฺรหฺมทตฺโต นาม ราชา อชฺฌาวสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ, ทสมาสจฺจเยน มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺส ปน ปุณฺณจนฺทสสฺสิริกํ มุขํ อโหสิ, เตนสฺส ‘‘โสมกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. โส วิฺุตํ ปตฺโต สุตวิตฺตโก สวนสีโล อโหสิ, เตน นํ ‘‘สุตโสโม’’ติ สฺชานึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ สพฺพสิปฺปานิ อุคฺคเหตฺวา อาคโต ปิตุ สนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ลภิตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ, มหนฺตํ อิสฺสริยํ อโหสิ. ตสฺส จนฺทาเทวิปฺปมุขานิ โสฬส อิตฺถิสหสฺสานิ อเหสุํ. โส อปรภาเค ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒนฺโต ฆราวาเส อนภิรโต อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตุกาโม อโหสิ.

โส เอกทิวสํ กปฺปกํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ยทา เม, สมฺม, สิรสฺมึ ปลิตํ ปสฺเสยฺยาสิ, ตทา เม อาโรเจยฺยาสี’’ติ อาห. กปฺปโก ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อปรภาเค ปลิตํ ทิสฺวา อาโรเจตฺวา ‘‘เตน หิ นํ, สมฺม กปฺปก, อุทฺธริตฺวา มม หตฺเถ ปติฏฺเปหี’’ติ วุตฺเต สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธริตฺวา รฺโ หตฺเถ เปสิ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต ‘‘ชราย เม สรีรํ อภิภูต’’นฺติ ภีโต ตํ ปลิตํ คเหตฺวาว ปาสาทา โอตริตฺวา มหาชนสฺส ทสฺสนฏฺาเน ปฺตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา เสนาปติปฺปมุขานิ อสีติอมจฺจสหสฺสานิ ปุโรหิตปฺปมุขานิ สฏฺิพฺราหฺมณสหสฺสานิ อฺเ จ รฏฺิกชานปทเนคมาทโย พหู ชเน ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สิรสฺมึ เม ปลิตํ ชาตํ, อหํ มหลฺลโกสฺมิ, มม ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ วตฺวา ปมํ คาถมาห –

๑๙๕.

‘‘อามนฺตยามิ นิคมํ, มิตฺตามจฺเจ ปริสฺสเช;

สิรสฺมึ ปลิตํ ชาตํ, ปพฺพชฺชํ ทานิ โรจห’’นฺติ.

ตตฺถ อามนฺตยามีติ ชานาเปมิ. โรจหนฺติ ‘‘โรเจมิ อหํ, ตสฺส เม, โภนฺโต! ปพฺพชิตภาวํ ชานาถา’’ติ.

ตํ สุตฺวา เตสุ เอโก วิสารทปฺปตฺโต หุตฺวา คาถมาห –

๑๙๖.

‘‘อภุํ เม กถํ นุ ภณสิ, สลฺลํ เม เทว อุรสิ กปฺเปสิ;

สตฺตสตา เต ภริยา, กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อภุนฺติ อวฑฺฒึ. อุรสิ กปฺเปสีติ อุรสฺมึ สุนิสิตโธตสตฺตึ จาเรสิ. สตฺตสตาติ สมชาติกา ขตฺติยกฺา สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. กถํ นุ เต ตา ภวิสฺสนฺตีติ ตา ตว ภริยา ตยิ ปพฺพชิเต อนาถา นิปฺปจฺจยา กถํ ภวิสฺสนฺติ, เอตา อนาถา กตฺวา ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา นาม น ยุตฺตาติ.

ตโต มหาสตฺโต ตติยํ คาถมาห –

๑๙๗.

‘‘ปฺายิหินฺติ เอตา, ทหรา อฺมฺปิ ตา คมิสฺสนฺติ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปฺายิหินฺตีติ อตฺตโน กมฺเมน ปฺายิสฺสนฺติ. อหํ เอตาสํ กึ โหมิ, สพฺพาเปตา ทหรา, โย อฺโ ราชา ภวิสฺสติ, ตํ เอตา คมิสฺสนฺตีติ.

อมจฺจาทโย โพธิสตฺตสฺส ปฏิวจนํ ทาตุํ อสกฺโกนฺตา ตสฺส มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสุํ. สา ตุริตตุริตา อาคนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ตาต, ปพฺพชิตุกาโมสี’’ติ วตฺวา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –

๑๙๘.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต โหมหํ มาตา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๑๙๙.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยํ ตํ อหํ วิชายิสฺสํ;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ทุลฺลทฺธนฺติ ยํ เอตํ มยา ลภนฺติยา ปุตฺตํ ชมฺมํ ลทฺธํ ทุลฺลทฺธํ. ยํ เมติ เยน การเณน มยิ นานปฺปการกํ วิปลนฺติยา ตฺวํ ปพฺพชิตุํ อิจฺฉสิ, เตน การเณน ตาทิสสฺส ปุตฺตสฺส ลภนํ มม ทุลฺลทฺธํ นามาติ.

โพธิสตฺโต เอวํ ปริเทวมานายปิ มาตรา สทฺธึ กิฺจิ น กเถสิ. สา โรทิตฺวา กนฺทิตฺวา สยเมว เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถสฺส ปิตุ อาโรเจสุํ. โส อาคนฺตฺวา เอกํ ตาว คาถมาห –

๒๐๐.

‘‘โก นาเมโส ธมฺโม, สุตโสม กา จ นาม ปพฺพชฺชา;

ยํ โน อมฺเห ชิณฺเณ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตตฺถ ยํ โน อมฺเหติ ยํ ตฺวํ อมฺหากํ ปุตฺโต สมาโน อมฺเห ชิณฺเณ ปฏิชคฺคิตพฺพกาเล อปฺปฏิชคฺคิตฺวา ปปาเต สิลํ ปวฏฺเฏนฺโต วิย ฉฑฺเฑตฺวา อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, เตน ตํ วทามิ โก นาเมโส ตว ธมฺโมติ อธิปฺปาโย.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตุณฺหี อโหสิ. อถ นํ ปิตา, ‘‘ตาต สุตโสม, สเจปิ เต มาตาปิตูสุ สิเนโห นตฺถิ, ปุตฺตธีตโร เต พหู ตรุณา, ตยา วินา วตฺติตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ, เตสํ วุฑฺฒิปฺปตฺตกาเล ปพฺพชิสฺสสี’’ติ วตฺวา สตฺตมํ คาถมาห –

๒๐๑.

‘‘ปุตฺตาปิ ตุยฺหํ พหโว, ทหรา อปฺปตฺตโยพฺพนา;

มฺชู เตปิตํ อปสฺสนฺตา, มฺเ ทุกฺขํ นิคจฺฉนฺตี’’ติ.

ตตฺถ มฺชูติ มธุรวจนา. นิคจฺฉนฺตีติ นิคจฺฉิสฺสนฺติ กายิกเจตสิกทุกฺขํ ปฏิลภิสฺสนฺตีติ มฺามิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๒.

‘‘ปุตฺเตหิ จ เม เอเตหิ, ทหเรหิ อปฺปตฺตโยพฺพเนหิ;

มฺชูหิ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหิ, จิรมฺปิ ตฺวา วินาสภาโว’’ติ.

ตตฺถ สพฺเพหิปิ ตุมฺเหหีติ, ตาต, น เกวลํ ปุตฺเตเหว, อถ โข ตุมฺเหหิปิ อฺเหิปิ สพฺพสงฺขาเรหิ จิรํ ตฺวาปิ ทีฆมทฺธานํ ตฺวาปิ วินาสภาโวว นิยโต. สกลสฺมิมฺปิ หิ โลกสนฺนิวาเส เอกสงฺขาโรปิ นิจฺโจ นาม นตฺถีติ.

เอวํ มหาสตฺโต ปิตุ ธมฺมกถํ กเถสิ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. อถสฺส สตฺตสตานํ ภริยานํ อาโรจยึสุ. ตา จ ปาสาทา โอรุยฺห ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา โคปฺผเกสุ คเหตฺวา ปริเทวมานา คาถมาหํสุ –

๒๐๓.

‘‘ฉินฺนํ นุ ตุยฺหํ หทยํ, อทุ เต กรุณา จ นตฺถิ อมฺเหสุ;

ยํ โน วิกนฺทนฺติโย, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทวา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – สามิ สุตโสม, อมฺเห วิธวา กตฺวา คจฺฉนฺตสฺส อปฺปมตฺตกสฺสปิ สิเนหสฺส อภาเวน ตว หทยํ อมฺเหสุ ฉินฺนํ นุ, อุทาหุ กรุณาย อภาเวน การุฺํ วา นตฺถิ, ยํ โน เอวํ วิกนฺทนฺติโย ปหาย ปพฺพชสีติ.

มหาสตฺโต ตาสํ ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวมานานํ ปริเทวนสทฺทํ สุตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘น จ มยฺหํ ฉินฺนํ หทยํ, อตฺถิ กรุณาปิ มยฺหํ ตุมฺเหสุ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ สคฺคฺจาติ อหํ สคฺคฺจ ปตฺถยนฺโต ยสฺมา อยํ ปพฺพชฺชา นาม พุทฺธาทีหิ วณฺณิตา, ตสฺมา ปพฺพชิสฺสามิ, ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถาติ ตา อสฺสาเสสิ.

อถสฺส อคฺคมเหสิยา อาโรเจสุํ. สา ครุภารา ปริปุณฺณคพฺภาปิ สมานา อาคนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิตา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๒๐๕.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม วิลปนฺติยา, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๖.

‘‘ทุลฺลทฺธํ เม อาสิ สุตโสม, ยสฺส เต อหํ ภริยา;

ยํ เม กุจฺฉิปฏิสนฺธึ, อนเปกฺโข ปพฺพชสิ เทว.

๒๐๗.

‘‘ปริปกฺโก เม คพฺโภ, กุจฺฉิคโต ยาว นํ วิชายามิ;

มาหํ เอกา วิธวา, ปจฺฉา ทุกฺขานิ อทฺทกฺขิ’’นฺติ.

ตตฺถ ยํ เมติ ยสฺมา มม วิลปนฺติยา ตฺวํ อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว สนฺติกา อคฺคมเหสิฏฺานํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธเมว อาสิ. ทุติยคาถาย ยสฺมา มํ ตฺวํ กุจฺฉิปฏิสนฺธึ ปหาย อนเปกฺโข ปพฺพชสิ, ตสฺมา ยํ มยา ตว ภริยตฺตํ ลทฺธํ, ตํ ทุลฺลทฺธํ เมติ อตฺโถ. ยาว นนฺติ ยาวาหํ ตํ คพฺภํ วิชายามิ, ตาว อธิวาเสหีติ.

ตโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๘.

‘‘ปริปกฺโก เต คพฺโภ, กุจฺฉิคโต อิงฺฆ ตฺวํ วิชายสฺสุ;

ปุตฺตํ อโนมวณฺณํ, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตนฺติ, ภทฺเท, ตว คพฺโภ ปริปกฺโกติ ชานามิ, ตฺวํ ปน วิชายมานา ปุตฺตํ วิชายิสฺสสิ, น ธีตรํ, สา ตฺวํ โสตฺถินา วิชายสฺสุ ปุตฺตํ, อหํ ปน สทฺธึ ตยา ตํ ปุตฺตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามิเยวาติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา โสกํ สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘อิโต ทานิ ปฏฺาย, เทว, อมฺหากํ สิรี นาม นตฺถี’’ติ อุโภหิ หตฺเถหิ หทยํ ธารยมานา อสฺสูนิ มุฺจนฺตี มหาสทฺเทน ปริเทวิ. อถ นํ สมสฺสาเสนฺโต มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๐๙.

‘‘มา ตฺวํ จนฺเท รุทิ, มา โสจิ วนติมิรมตฺตกฺขิ;

อาโรห วรปาสาทํ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ มา ตฺวํ จนฺเท รุทีติ, ภทฺเท จนฺทาเทวิ, ตฺวํ มา โรทิ มา โสจิ. วนติมิรมตฺตกฺขีติ คิริกณฺณิกปุปฺผสมานเนตฺเต. ปาฬิยํ ปน ‘‘โกวิฬารตมฺพกฺขี’’ติ ลิขิตํ, ตสฺสา โกวิฬารปุปฺผํ วิย ตมฺพเนตฺเตติ อตฺโถ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา าตุํ อสกฺโกนฺตี ปาสาทํ อารุยฺห โรทมานา นิสีทิ. อถ นํ โพธิสตฺตสฺส เชฏฺปุตฺโต ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เม มาตา โรทนฺตี นิสินฺนา’’ติ ตํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๒๑๐.

‘‘โก ตํ อมฺม โกเปสิ, กึ โรทสิ เปกฺขสิ จ มํ พาฬฺหํ;

กํ อวชฺฌํ ฆาเตมิ, าตีนํ อุทิกฺขมานาน’’นฺติ.

ตตฺถ โกเปสีติ, อมฺม! โก นาม ตํ โกเปสิ, โก เต อปฺปิยํ อกาสิ. เปกฺขสิ จาติ มํ พาฬฺหํ เปกฺขนฺตี กึการณา โรทสีติ อธิปฺปาโย. กํ อวชฺฌํ ฆาเตมีติ อฆาเตตพฺพมฺปิ กํ ฆาเตมิ อตฺตโน าตีนํ อุทิกฺขมานานฺเว, อกฺขาหิ เมติ ปุจฺฉติ.

ตโต เทวี คาถมาห –

๒๑๑.

‘‘น หิ โส สกฺกา หนฺตุํ, วิชิตาวี โย มํ ตาต โกเปสิ;

ปิตา เต มํ ตาต อวจ, อนเปกฺโข อหํ คมิสฺสามี’’ติ.

ตตฺถ วิชิตาวีติ, ตาต, โย มํ อิมิสฺสา ปถวิยา วิชิตาวี โกเปสิ, อปฺปิยสมุทาจาเรน เม หทเย โกปฺจ โสกฺจ ปเวเสสิ, โส ตยา หนฺตุํ น สกฺกา, มฺหิ, ตาต, ตว ปิตา ‘‘อหํ รชฺชสิริฺจ ตฺจ ปหาย อรฺํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อวจ, อิทํ เม โรทนการณนฺติ.

โส ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘อมฺม! กึ นาม ตฺวํ กเถสิ, นนุ เอวํ สนฺเต มยํ อนาถา นาม ภวิสฺสามา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๑๒.

‘‘โยหํ ปุพฺเพ นิยฺยามิ, อุยฺยานํ มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – โย อหํ ปุพฺเพ จตุอาชฺยุตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ รถํ อภิรุยฺห อุยฺยานํ คจฺฉามิ, มตฺตกุฺชเร จ โยเธมิ, อฺเหิ จ อสฺสกีฬาทีหิ กีฬามิ, สฺวาหํ อิทานิ สุตโสเม ปพฺพชิเต กถํ กริสฺสามีติ?

อถสฺส กนิฏฺภาตา สตฺตวสฺสิโก เต อุโภปิ โรทนฺเต ทิสฺวา มาตรํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อมฺม! กึการณา ตุมฺเห โรทถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ มา โรทถ, อหํ ตาตสฺส ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ อุโภปิ เต อสฺสาเสตฺวา ธาติยา สทฺธึ ปาสาทา โอรุยฺห ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘ตาต, ตฺวํ กิร อมฺเห อกามเก ปหาย ‘ปพฺพชามี’ติ วทสิ, อหํ เต ปพฺพชิตุํ น ทสฺสามี’’ติ ปิตรํ คีวาย ทฬฺหํ คเหตฺวา คาถมาห –

๒๑๓.

‘‘มาตุจฺจ เม รุทนฺตฺยา, เชฏฺสฺส จ ภาตุโน อกามสฺส;

หตฺเถปิ เต คเหสฺสํ, น หิ คจฺฉสิ โน อกามาน’’นฺติ.

มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ เม ปริปนฺถํ กโรติ, เกน นุ โข นํ อุปาเยน ปฏิกฺกมาเปยฺย’’นฺติ. ตโต ธาตึ โอโลเกตฺวา, ‘‘อมฺม! ธาติ หนฺทิมํ มณิกฺขนฺธปิฬนฺธนํ, ตเวโส โหตุ หตฺเถ, ปุตฺตํ อปเนหิ, มา เม อนฺตรายํ กรี’’ติ สยํ ปุตฺตํ หตฺเถ คเหตฺวา อปเนตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺสา ลฺชํ ปฏิชาเนตฺวา คาถมาห –

๒๑๔.

‘‘อุฏฺเหิ ตฺวํ ธาติ, อิมํ กุมารํ รเมหิ อฺตฺถ;

มา เม ปริปนฺถมกาสิ, สคฺคํ มม ปตฺถยานสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อิมํ กุมารนฺติ, อมฺม! ธาติ ตฺวํ อุฏฺเหิ, อิมํ กุมารํ อปเนตฺวา อาคนฺตฺวา อิมํ มณึ คเหตฺวา อฺตฺถ นํ อภิรเมหีติ.

สา ลฺชํ ลภิตฺวา กุมารํ สฺาเปตฺวา อาทาย อฺตฺถ คนฺตฺวา ปริเทวมานา คาถมาห –

๒๑๕.

‘‘ยํ นูนิมํ ทเทยฺยํ ปภงฺกรํ, โก นุ เม อิมินาตฺโถ;

สุตโสเม ปพฺพชิเต, กึ นุ เมนํ กริสฺสามี’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยํ นูน อหํ อิมํ ลฺชตฺถาย คหิตํ ปภงฺกรํ สุปฺปภาสํ มณึ ทเทยฺยํ, โก นุ มยฺหํ สุตโสมนรินฺเท ปพฺพชิเต อิมินา อตฺโถ, กึ นุ เมนํ กริสฺสามิ, อหํ ตสฺมึ ปพฺพชิเต อิมํ ลภิสฺสามิ, ลภนฺตีปิ จ กึ นุ โข เอตํ กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม กมฺมนฺติ.

ตโต มหาเสนคุตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ราชา ‘‘เคเห เม ธนํ มนฺท’นฺติ สฺํ กโรติ มฺเ, พหุภาวมสฺส กเถสฺสามี’’ติ. โส อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๖.

‘‘โกโส จ ตุยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ ตุยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ ตุยฺหํ วิชิตา, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๗.

‘‘โกโส จ มยฺหํ วิปุโล, โกฏฺาคารฺจ มยฺหํ ปริปูรํ;

ปถวี จ มยฺหํ วิชิตา, ตํ หิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ตสฺมึ อปคเต กุลวฑฺฒนเสฏฺิ นาม อุฏฺาย วนฺทิตฺวา คาถมาห –

๒๑๘.

‘‘มยฺหมฺปิ ธนํ ปหูตํ, สงฺขฺยาตุํ โนปิ เทว สกฺโกมิ;

ตํ เต ททามิ สพฺพมฺปิ, รมสฺสุ มา ปพฺพชิ เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘ชานามิ ธนํ ปหูตํ, กุลวฑฺฒน ปูชิโต ตยา จสฺมิ;

สคฺคฺจ ปตฺถยาโน, เตน อหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา กุลวฑฺฒเน อปคเต มหาสตฺโต โสมทตฺตํ กนิฏฺภาตรํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต, อหํ ปฺชรปกฺขิตฺโต วนกุกฺกุโฏ วิย อุกฺกณฺิโต, มํ ฆราวาเส อนภิรติ อภิภวติ, อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, ตฺวํ อิมํ รชฺชํ ปฏิปชฺชา’’ติ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺโต คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘อุกฺกณฺิโตสฺมิ พาฬฺหํ, อรติ มํ โสมทตฺต อาวิสติ;

พหุกาปิ เม อนฺตรายา, อชฺเชวาหํ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ.

ตํ สุตฺวา โสปิ ปพฺพชิตุกาโม ตํ ทีเปนฺโต อิตรํ คาถมาห –

๒๒๑.

‘‘อิทฺจ ตุยฺหํ รุจิตํ, สุตโสม อชฺเชว ทานิ ตฺวํ ปพฺพช;

อหมฺปิ ปพฺพชิสฺสามิ, น อุสฺสเห ตยา วินา อหํ าตุ’’นฺติ.

อถ นํ โส ปฏิกฺขิปิตฺวา อุปฑฺฒํ คาถมาห –

๒๒๒.

‘‘น หิ สกฺกา ปพฺพชิตุํ, นคเร น หิ ปจฺจติ ชนปเท จา’’ติ.

ตตฺถ น หิ ปจฺจตีติ อิทาเนว ตาว มม ปพฺพชฺชาธิปฺปายํ สุตฺวาว อิมสฺมึ ทฺวาทสโยชนิเก สุทสฺสนนคเร จ สกลชนปเท จ น ปจฺจติ, โกจิ อุทฺธเน อคฺคึ น ชาเลติ, อมฺเหสุ ปน ทฺวีสุ ปพฺพชิเตสุ อนาถาว รฏฺวาสิโน ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา น หิ สกฺกา ตยา ปพฺพชิตุํ, อหเมว ปพฺพชิสฺสามีติ.

ตํ สุตฺวา มหาชโน มหาสตฺตสฺส ปาทมูเล ปริวตฺติตฺวา ปริเทวนฺโต อุปฑฺฒคาถมาห –

‘‘สุตโสเม ปพฺพชิเต, กถํ นุ ทานิ กริสฺสามา’’ติ.

ตโต มหาสตฺโต ‘‘อลํ มา โสจยิตฺถ, อหํ จิรมฺปิ ตฺวา ตุมฺเหหิ วินา ภวิสฺสามิ, อุปฺปนฺนสงฺขาโร หิ นิจฺโจ นาม นตฺถี’’ติ มหาชนสฺส ธมฺมํ กเถนฺโต อาห –

๒๒๓.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, น จ ปมชฺชิตุํ กาโล.

๒๒๔.

‘‘อุปนียติทํ มฺเ, ปริตฺตํ อุทกํว จงฺกวารมฺหิ;

เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต, อนฺธพาลา ปมชฺชนฺติ.

๒๒๕.

‘‘เต วฑฺฒยนฺติ นิรยํ, ติรจฺฉานโยนิฺจ เปตฺติวิสยฺจ;

ตณฺหาย พนฺธนพทฺธา, วฑฺเฒนฺติ อสุรกาย’’นฺติ.

ตตฺถ อุปนียติทํ มฺเติ, ตาต, ‘‘อิทํ ชีวิตํ อุปนียตี’’ติ อหํ มฺามิ. อฺเสุ สุตฺเตสุ อุปสํหรณตฺโถ อุปนิยฺยนตฺโถ, อิธ ปน ปริยาทานตฺโถ. ตสฺมา ยถา ปริตฺตํ อุทกํ รชกานํ ขารจงฺกวาเร ปกฺขิตฺตํ สีฆํ ปริยาทิยติ, ตถา ชีวิตมฺปิ. เอวํ สุปริตฺตเก ชีวิเต ตํ ปริตฺตกํ อายุสงฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตานํ สตฺตานํ น ปุฺกิริยาย ปมชฺชิตุํ กาโล, อปฺปมาโทว กาตุํ วฏฺฏตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อนฺธพาลา ปมชฺชนฺตีติ อชรามรา วิย หุตฺวา คูถกลเล สูกรา วิย หุตฺวา กามปงฺเก นิมุชฺชนฺตา ปมชฺชนฺติ. อสุรกายนฺติ กาฬกฺชิกอสุรโยนิฺจ วฑฺเฒนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ มหาสตฺโต มหาชนสฺส ธมฺมํ เทเสตฺวา ปุพฺพกํ นาม ปาสาทํ อารุยฺห สตฺตมาย ภูมิยา ิโต ขคฺเคน จูฬํ ฉินฺทิตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ กิฺจิ น โหมิ, อตฺตโน ราชานํ คณฺหถา’’ติ สเวนํ จูฬํ มหาชนสฺส อนฺตเร ขิปิ. ตํ คเหตฺวา มหาชโน ภูมิยํ ปริวฏฺเฏนฺโต ปริวฏฺเฏนฺโต ปริเทวิ. ตสฺมึ าเน มหนฺตํ รชคฺคํ อุฏฺหิ. ปฏิกฺกมิตฺวา ิตชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘รฺา จูฬํ ฉินฺทิตฺวา สเวนา จูฬา มหาชนสฺส อนฺตเร ขิตฺตา ภวิสฺสติ, เตนายํ ปาสาทสฺส อวิทูเร รชวฏฺฏิ อุคฺคตา’’ติ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๒๒๖.

‘‘อูหฺเต รชคฺคํ อวิทูเร, ปุพฺพกมฺหิ จ ปาสาเท;

มฺเ โน เกสา ฉินฺนา, ยสสฺสิโน ธมฺมราชสฺสา’’ติ.

ตตฺถ อูหฺเตติ อุฏฺหติ. รชคฺคนฺติ รชกฺขนฺโธ. อวิทูเรติ อิโต อมฺหากํ ิตฏฺานโต อวิทูเร. ปุพฺพกมฺหีติ ปุพฺพกปาสาทสฺส สมีเป. มฺเ โนติ อมฺหากํ ธมฺมราชสฺส เกสา ฉินฺนา ภวิสฺสนฺตีติ มฺาม.

มหาสตฺโต ปริจาริกํ เปเสตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร อาหราเปตฺวา กปฺปเกน เกสมสฺสุํ โอหาราเปตฺวา อลงฺการํ สยนปิฏฺเ ปาเตตฺวา รตฺตปฏานํ ทสานิ ฉินฺทิตฺวา ตานิ กาสายานิ นิวาเสตฺวา มตฺติกาปตฺตํ วามอํสกูเฏ ลคฺเคตฺวา กตฺตรทณฺฑํ อาทาย มหาตเล อปราปรํ จงฺกมิตฺวา ปาสาทา โอตริตฺวา อนฺตรวีถึ ปฏิปชฺชิ. คจฺฉนฺตํ ปน นํ น โกจิ สฺชานิ. อถสฺส สตฺตสตา ขตฺติยกฺา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ตํ อทิสฺวา อาภรณภณฺฑเมว ทิสฺวา โอตริตฺวา อวเสสานํ โสฬสสหสฺสานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ ปิยสามิโก สุตโสมมหิสฺสโร ปพฺพชิโต’’ติ มหาสทฺเทน ปริเทวมานาว พหิ นิกฺขมึสุ. ตสฺมึ ขเณ มหาชโน ตสฺส ปพฺพชิตภาวํ อฺาสิ, สกลนครํ สงฺขุภิตฺวา ‘‘ราชา กิร โน ปพฺพชิโต’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติ, มหาชโน ‘‘อิธ ราชา ภวิสฺสติ, เอตฺถ ภวิสฺสตี’’ติ ปาสาทาทีนิ รฺโ ปริโภคฏฺานานิ คนฺตฺวา ราชานํ อทิสฺวา –

๒๒๗.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๒๘.

‘‘อยมสฺส ปาสาโท, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺโณ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๒๙.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๐.

‘‘อิทมสฺส กูฏาคารํ, โสวณฺณปุปฺผมาลฺยวีติกิณฺณํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๑.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๒.

‘‘อยมสฺส อโสกวนิกา, สุปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา รมฺมา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๓.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๔.

‘‘อิทมสฺส อุยฺยานํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๕.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๖.

‘‘อิทมสฺส กณิการวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๗.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๓๘.

‘‘อิทมสฺส ปาฏลิวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๓๙.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๐.

‘‘อิทมสฺส อมฺพวนํ, สุปุปฺผิตํ สพฺพกาลิกํ รมฺมํ;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆน.

๒๔๑.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ อิตฺถาคาเรหิ.

๒๔๒.

‘‘อยมสฺส โปกฺขรณี, สฺฉนฺนา อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณา;

ยหิมนุวิจริ ราชา, ปริกิณฺโณ าติสงฺเฆนา’’ติ. –

อิมาหิ คาถาหิ ปริเทวนฺโต วิจริ.

ตตฺถ วีติกิณฺโณติ โสวณฺณปุปฺเผหิ จ นานามาลฺเยหิ จ สโมกิณฺโณ. ปริกิณฺโณติ ปริวาริโต. อิตฺถาคาเรหีติ ทาสิโย อุปาทาย อิตฺถิโย อิตฺถาคารา นาม. าติสงฺเฆนาติ อมจฺจาปิ อิธ าตโย เอว. กูฏาคารนฺติ สตฺตรตนวิจิตฺโต สยนกูฏาคารคพฺโภ. อโสกวนิกาติ อโสกวนภูมิ. สพฺพกาลิกาติ สพฺพกาลปริโภคกฺขมา นิจฺจปุปฺผิตา วา. อุยฺยานนฺติ นนฺทนวนจิตฺตลตาวนสทิสํ อุยฺยานํ . สพฺพกาลิกนฺติ ฉสุปิ อุตูสุ อุปฺปชฺชนกปุปฺผผลสฺฉนฺนํ. กณิการวนาทีสุ สพฺพกาลิกนฺติ สพฺพกาเล สุปุปฺผิตผลิตเมว. สฺฉนฺนาติ นานาวิเธหิ ชลชถลชกุสุเมหิ สุฏฺุ สฺฉนฺนา. อณฺฑเชหิ วีติกิณฺณาติ สกุณสงฺเฆหิ โอกิณฺณา.

เอวํ เตสุ เตสุ าเนสุ ปริเทวิตฺวา มหาชโน ปุน ราชงฺคณํ อาคนฺตฺวา –

๒๔๓.

‘‘ราชา โว โข ปพฺพชิโต, สุตโสโม รชฺชํ อิมํ ปหตฺวาน;

กาสายวตฺถวสโน, นาโคว เอกโก จรตี’’ติ. –

คาถํ วตฺวา อตฺตโน ฆเร วิภวํ ปหาย ปุตฺตธีตโร หตฺเถสุ คเหตฺวา นิกฺขมิตฺวา โพธิสตฺตสฺเสว สนฺติกํ อคมาสิ, ตถา มาตาปิตโร ปุตฺตทารา โสฬสสหสฺสา จ นาฏกิตฺถิโย. สกลนครํ ตุจฺฉํ วิย อโหสิ, ชนปทวาสิโนปิ เตสํ ปจฺฉโต ปจฺฉโต คมึสุ. โพธิสตฺโต ทฺวาทสโยชนิกํ ปริสํ คเหตฺวา หิมวนฺตาภิมุโข ปายาสิ. อถสฺส อภินิกฺขมนํ ตฺวา สกฺโก วิสฺสกมฺมํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘ตาต วิสฺสกมฺม, สุตโสมมหาราชา อภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, วสนฏฺานํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ, สมาคโม จ มหา ภวิสฺสติ, คจฺฉ หิมวนฺตปเทเส คงฺคาตีเร ตึสโยชนายามํ ปฺจทสโยชนวิตฺถตํ อสฺสมปทํ มาเปหี’’ติ เปเสสิ. โส ตถา กตฺวา ตสฺมึ อสฺสมปเท ปพฺพชิตปริกฺขาเร ปฏิยาเทตฺวา เอกปทิกมคฺคํ มาเปตฺวา เทวโลกเมว คโต.

มหาสตฺโต เตน มคฺเคน คนฺตฺวา ตํ อสฺสมปทํ ปวิสิตฺวา ปมํ สยํ ปพฺพชิตฺวา ปจฺฉา เสเส ปพฺพาเชสิ, อปรภาเค พหู ปพฺพชึสุ. ตึสโยชนิกํ านํ ปริปูริ. วิสฺสกมฺเมน ปน อสฺสมมาปิตนิยาโม จ พหูนํ ปพฺพชิตนิยาโม จ โพธิสตฺตสฺส อสฺสมปทสํวิทหิตนิยาโม จ หตฺถิปาลชาตเก (ชา. ๑.๑๕.๓๓๗ อาทโย) อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตตฺถ มหาสตฺโต ยสฺส ยสฺเสว กามวิตกฺกาทิ มิจฺฉาวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ, ตํ ตํ อากาเสน อุปสงฺกมิตฺวา อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา โอวทนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๔๔.

‘‘มาสฺสุ ปุพฺเพ รติกีฬิตานิ, หสิตานิ จ อนุสฺสริตฺถ;

มา โว กามา หนึสุ, รมฺมฺหิ สุทสฺสนํ นครํ.

๒๔๕.

‘‘เมตฺตจิตฺตฺจ ภาเวถ, อปฺปมาณํ ทิวา จ รตฺโต จ;

อคจฺฉิตฺถ เทวปุรํ, อาวาสํ ปุฺกมฺมิน’’นฺติ.

ตตฺถ รติกีฬิตานีติ กามรติโย จ กายวาจาขิฑฺฑาวเสน ปวตฺตกีฬิตานิ จ. มา โว กามา หนึสูติ มา ตุมฺเห วตฺถุกามกิเลสกามา หนึสุ. รมฺมํ หีติ สุทสฺสนนครํ นาม รมณียํ, ตํ มา อนุสฺสริตฺถ. เมตฺตจิตฺตนฺติ อิทํ เทสนามตฺตเมว, โส ปน จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหาเร อาจิกฺขิ. อปฺปมาณนฺติ อปฺปมาณสตฺตารมฺมณํ. อคจฺฉิตฺถาติ คมิสฺสถ. เทวปุรนฺติ พฺรหฺมโลกํ.

โสปิ อิสิคโณ ตสฺโสวาเท ตฺวา พฺรหฺมโลกปรายโณ อโหสีติ สพฺพํ หตฺถิปาลชาตเก อาคตนเยเนว กเถตพฺพํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, จนฺทาเทวี ราหุลมาตา, เชฏฺปุตฺโต สาริปุตฺโต, กนิฏฺปุตฺโต ราหุโล, ธาติ ขุชฺชุตฺตรา, กุลวฑฺฒนเสฏฺิ กสฺสโป, มหาเสนคุตฺโต โมคฺคลฺลาโน, โสมทตฺตกุมาโร อานนฺโท, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สุตโสมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬสุตโสมชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

ชาตกุทฺทานํ –

สุวปณฺฑิตชมฺพุกกุณฺฑลิโน, วรกฺมลมฺพุสชาตกฺจ;

ปวรุตฺตมสงฺขสิรีวฺหยโก, สุตโสมอรินฺทมราชวโร.

จตฺตาลีสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.