📜
๑๘. ปณฺณาสนิปาโต
[๕๒๖] ๑. นิฬินิกาชาตกวณฺณนา
อุทฺทยฺหเต ¶ ¶ ¶ ชนปโทติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปุราณทุติยิกาปโลภนํ อารพฺพ กเถสิ. กเถนฺโต จ ตํ ภิกฺขุํ ‘‘เกน อุกฺกณฺาปิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติ วุตฺเต ‘‘น เอสา โข, ภิกฺขุ, อิทาเนว ตว อนตฺถการิกา, ปุพฺเพปิ ตฺวํ เอตํ นิสฺสาย ฌานา ปริหายิตฺวา มหาวินาสํ ปตฺโต’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปตฺโต อุคฺคหิตสิปฺโป อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพิชิตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กปฺเปสิ. อลมฺพุสาชาตเก วุตฺตนเยเนว ตํ ปฏิจฺจ เอกา มิคี คพฺภํ ปฏิลภิตฺวา ปุตฺตํ วิชายิ, ‘‘อิสิสิงฺโค’’ตฺเววสฺส นามํ อโหสิ. อถ นํ ปิตา วยปฺปตฺตํ ปพฺพาเชตฺวา กสิณปริกมฺมํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โส นจิรสฺเสว ฌานาภิฺา อุปฺปาเทตฺวา ฌานสุเขน กีฬิ, โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย อโหสิ. ตสฺส สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ กมฺปิ. สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ตฺวา ‘‘อุปาเยนสฺส สีลํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตีณิ สํวจฺฉรานิ สกลกาสิรฏฺเ วุฏฺึ นิวาเรสิ, รฏฺํ อคฺคิทฑฺฒํ วิย อโหสิ. สสฺเส อสมฺปชฺชมาเน ทุพฺภิกฺขปีฬิตา มนุสฺสา สนฺนิปติตฺวา ราชงฺคเณ อุปกฺโกสึสุ. อถ เน ราชา วาตปาเน ิโต ‘‘กึ เอต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, ตีณิ ¶ สํวจฺฉรานิ เทวสฺส อวสฺสนฺตตฺตา สกลรฏฺํ อุทฺทยฺหติ, มนุสฺสา ทุกฺขิตา, เทวํ วสฺสาเปหิ, เทวา’’ติ. ราชา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถํ อุปวสนฺโตปิ วสฺสํ วสฺสาเปตุํ นาสกฺขิ.
ตสฺมึ กาเล สกฺโก อฑฺฒรตฺตสมเย ตสฺส สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา เอโกภาสํ กตฺวา เวหาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา ‘‘โกสิ ตฺว’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺโกหมสฺมี’’ติ. ‘‘เกนตฺเถนาคโตสี’’ติ? ‘‘วสฺสติ เต, มหาราช ¶ , รฏฺเ เทโว’’ติ? ‘‘น วสฺสตี’’ติ. ‘‘ชานาสิ ปนสฺส อวสฺสนการณ’’นฺติ? ‘‘น ชานามิ, สกฺกา’’ติ. ‘‘มหาราช, หิมวนฺตปเทเส ¶ อิสิสิงฺโค นาม ตาปโส ปฏิวสติ โฆรตโป ปรมธิตินฺทฺริโย. โส นิพทฺธํ เทเว วสฺสนฺเต กุชฺฌิตฺวา อากาสํ โอโลเกสิ, ตสฺมา เทโว น วสฺสตี’’ติ. ‘‘อิทานิ ปเนตฺถ กึ กาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ตสฺส ตเป ภินฺเน เทโว วสฺสิสฺสตี’’ติ. ‘‘โก ปนสฺส ตปํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ’’ติ? ‘‘ธีตา เต, มหาราช, นิฬินิกา สมตฺถา, ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘อสุกฏฺานํ นาม คนฺตฺวา ตาปสสฺส ตปํ ภินฺทาหี’ติ เปเสหี’’ติ. เอวํ โส ราชานํ อนุสาสิตฺวา สกฏฺานเมว อคมาสิ. ราชา ปุนทิวเส อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา ธีตรํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปมํ คาถมาห –
‘‘อุทฺทยฺหเต ชนปโท, รฏฺฺจาปิ วินสฺสติ;
เอหิ นิฬินิเก คจฺฉ, ตํ เม พฺราหฺมณมานยา’’ติ.
ตตฺถ ตํ เมติ ตํ มม อนตฺถการึ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อาเนหิ, กิเลสรติวเสนสฺส สีลํ ภินฺทาหีติ.
ตํ สุตฺวา สา ทุติยํ คาถมาห –
‘‘นาหํ ทุกฺขกฺขมา ราช, นาหํ อทฺธานโกวิทา;
กถํ อหํ คมิสฺสามิ, วนํ กฺุชรเสวิต’’นฺติ.
ตตฺถ ทุกฺขกฺขมาติ อหํ, มหาราช, ทุกฺขสฺส ขมา น โหมิ, อทฺธานมฺปิ น ชานามิ, สาหํ กถํ คมิสฺสามีติ.
ตโต ราชา ทฺเว คาถาโย อภาสิ –
‘‘ผีตํ ชนปทํ คนฺตฺวา, หตฺถินา จ รเถน จ;
ทารุสงฺฆาฏยาเนน, เอวํ คจฺฉ นิฬินิเก.
‘‘หตฺถิอสฺสรเถ ¶ ปตฺตี, คจฺเฉวาทาย ขตฺติเย;
ตเวว วณฺณรูเปน, วสํ ตมานยิสฺสสี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ทารุสงฺฆาฏยาเนนาติ, อมฺม, นิฬินิเก น ตฺวํ ปทสา คมิสฺสสิ, ผีตํ ปน สุภิกฺขํ เขมํ อตฺตโน ชนปทํ หตฺถิวาหเนหิ จ รถวาหเนหิ จ ¶ คนฺตฺวา ตโต ปรมฺปิ อชฺโฌกาเส ปฏิจฺฉนฺเนน วยฺหาทินา อุทกฏฺาเน นาวาสงฺขาเตน ทารุสงฺฆาฏยาเนน คจฺฉ. วณฺณรูเปนาติ เอวํ อกิลมมานา คนฺตฺวา ตว วณฺเณน เจว รูปสมฺปทาย จ ตํ พฺราหฺมณํ อตฺตโน วสํ อานยิสฺสสีติ.
เอวํ โส ธีตรา สทฺธึ อกเถตพฺพมฺปิ รฏฺปริปาลนํ นิสฺสาย กเถสิ. สาปิ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถสฺสา สพฺพํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา อมจฺเจหิ สทฺธึ อุยฺโยเชสิ. อมจฺจา ตํ อาทาย ปจฺจนฺตํ ปตฺวา ตตฺถ ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ราชธีตรํ อุกฺขิปาเปตฺวา วนจรเกน เทสิเตน มคฺเคน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปุพฺพณฺหสมเย ตสฺส อสฺสมปทสฺส สมีปํ ปาปุณึสุ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ปุตฺตํ อสฺสมปเท นิวาสาเปตฺวา สยํ ผลาผลตฺถาย อรฺํ ปวิฏฺโ โหติ. วนจรโก สยํ อสฺสมํ อคนฺตฺวา ตสฺส ปน ทสฺสนฏฺาเน ตฺวา นิฬินิกาย ตํ ทสฺเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘กทลีธชปฺาโณ, อาภุชีปริวาริโต;
เอโส ปทิสฺสติ รมฺโม, อิสิสิงฺคสฺส อสฺสโม.
‘‘เอโส อคฺคิสฺส สงฺขาโต, เอโส ธูโม ปทิสฺสติ;
มฺเ โน อคฺคึ หาเปติ, อิสิสิงฺโค มหิทฺธิโก’’ติ.
ตตฺถ กทลีสงฺขาตา ธชา ปฺาณํ อสฺสาติ กทลีธชปฺาโณ. อาภุชีปริวาริโตติ ภุชปตฺตวนปริกฺขิตฺโต. สงฺขาโตติ เอโส อคฺคิ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส ฌาเนน สงฺขาโต ปจฺจกฺขคโต ชลติ. มฺเ โน อคฺคินฺติ อคฺคึ โน หาเปติ ชุหติ ปริจรตีติ มฺามิ.
อมจฺจาปิ โพธิสตฺตสฺส อรฺํ ปวิฏฺเวลาย อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา อารกฺขํ เปตฺวา ราชธีตรํ อิสิเวสํ คาหาเปตฺวา ¶ สุวณฺณจีรเกน นิวาสนปารุปนํ กตฺวา สพฺพาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา ตนฺตุพทฺธํ จิตฺตเคณฺฑุกํ คาหาเปตฺวา อสฺสมปทํ เปเสตฺวา สยํ พหิ รกฺขนฺตา อฏฺํสุ. สา เตน เคณฺฑุเกน กีฬนฺตี จงฺกมโกฏิยํ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ อิสิสิงฺโค ปณฺณสาลทฺวาเร ปาสาณผลเก นิสินฺโน โหติ. โส ตํ อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ภีตตสิโต อุฏฺาย ปณฺณสาลํ ¶ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ ¶ . สาปิสฺส ปณฺณสาลทฺวารํ คนฺตฺวา กีฬิเยว. สตฺถา ตฺจ ตโต อุตฺตริ จ อตฺถํ ปกาเสนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;
อิสิสิงฺโค ปาวิสิ ภีโต, อสฺสมํ ปณฺณฉาทนํ.
‘‘อสฺสมสฺส จ สา ทฺวาเร, เคณฺฑุเกนสฺส กีฬติ;
วิทํสยนฺตี องฺคานิ, คุยฺหํ ปกาสิตานิ จ.
‘‘ตฺจ ทิสฺวาน กีฬนฺตึ, ปณฺณสาลคโต ชฏี;
อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, อิทํ วจนมพฺรวี’’ติ.
ตตฺถ เคณฺฑุเกนสฺสาติ อสฺส อิสิสิงฺคสฺส อสฺสมทฺวาเร เคณฺฑุเกน กีฬติ. วิทํสยนฺตีติ ทสฺเสนฺตี. คุยฺหํ ปกาสิตานิ จาติ คุยฺหฺจ รหสฺสงฺคํ ปกาสิตานิ จ ปากฏานิ มุขหตฺถาทีนิ. อพฺรวีติ โส กิร ปณฺณสาลาย ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘สจายํ ยกฺโข ภเวยฺย, ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา มํ มุรุมุราเปตฺวา ขาเทยฺย, นายํ ยกฺโข, ตาปโส ภวิสฺสตี’’ติ อสฺสมา นิกฺขมิตฺวา ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘อมฺโภ โก นาม โส รุกฺโข, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;
ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น ตํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.
ตตฺถ ยสฺส เตวํคตํ ผลนฺติ ยสฺส ตว รุกฺขสฺส เอวํคติกํ มโนรมํ ผลํ. โก นาม โส รุกฺโขติ จิตฺรเคณฺฑุกสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘รุกฺขผเลน เตน ภวิตพฺพ’’นฺติ มฺมาโน เอวํ ปุจฺฉติ.
อถสฺส สา รุกฺขํ อาจิกฺขนฺตี คาถมาห –
‘‘อสฺสมสฺส มม พฺรหฺเม, สมีเป คนฺธมาทเน;
พหโว ตาทิสา รุกฺขา, ยสฺส เตวํคตํ ผลํ;
ทูเรปิ ขิตฺตํ ปจฺเจติ, น มํ โอหาย คจฺฉตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ ¶ สมีเป คนฺธมาทเนติ คนฺธมาทนปพฺพเต มม อสฺสมสฺส สมีเป. ยสฺส เตวํคตนฺติ ยสฺส เอวํคตํ, ต-กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโรติ.
อิติ ¶ สา มุสาวาทํ อภาสิ. อิตโรปิ สทฺทหิตฺวา ‘‘ตาปโส เอโส’’ติ สฺาย ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถมาห –
‘‘เอตู ภวํ อสฺสมิมํ อเทตุ, ปชฺชฺจ ภกฺขฺจ ปฏิจฺฉ ทมฺมิ;
อิทมาสนํ อตฺร ภวํ นิสีทตุ, อิโต ภวํ มูลผลานิ ภฺุชตู’’ติ.
ตตฺถ อสฺสมิมนฺติ อสฺสมํ อิมํ ภวํ ปวิสตุ. อเทตูติ ยถาสนฺนิหิตํ อาหารํ ปริภฺุชตุ. ปชฺชนฺติ ปาทพฺภฺชนํ. ภกฺขนฺติ มธุรผลาผลํ. ปฏิจฺฉาติ ปฏิคฺคณฺห. อิทมาสนนฺติ ปวิฏฺกาเล เอวมาห.
ตสฺสา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กฏฺตฺถรเณ นิสีทนฺติยา สุวณฺณจีรเก ทฺวิธา คเต สรีรํ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ อโหสิ. ตาปโส มาตุคามสรีรสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา ตํ ทิสฺวา ‘‘วณฺโณ เอโส’’ติ สฺาย เอวมาห –
‘‘กึ เต อิทํ อูรูนมนฺตรสฺมึ, สุปิจฺฉิตํ กณฺหริวปฺปกาสติ;
อกฺขาหิ เม ปุจฺฉิโต เอตมตฺถํ, โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺ’’นฺติ.
ตตฺถ สุปิจฺฉิตนฺติ ทฺวินฺนํ อูรูนํ สมาคมกาเล สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. สุภลกฺขเณน หิ อสมนฺนาคตาย ตํ านํ อาวาฏธาตุกํ โหติ, สมนฺนาคตาย อพฺภุนฺนตํ สิปฺปิปุฏมุขสณฺานํ. กณฺหริวปฺปกาสตีติ อุโภสุ ปสฺเสสุ กาฬกํ วิย ขายติ. โกเส นุ เต อุตฺตมงฺคํ ปวิฏฺนฺติ ตว อุตฺตมงฺคํ ลิงฺคสณฺานํ น ปฺายติ, กึ นุ ตํ ตว สรีรสงฺขาเต โกเส ปวิฏฺนฺติ ปุจฺฉติ.
อถ นํ สา วฺจยนฺตี คาถาทฺวยมาห –
‘‘อหํ วเน มูลผเลสนํ จรํ, อาสาทยึ อจฺฉํ สุโฆรรูปํ;
โส ¶ มํ ปติตฺวา สหสาชฺฌปตฺโต, ปนุชฺช มํ อพฺพหิ อุตฺตมงฺคํ.
‘‘สฺวายํ ¶ ¶ วโณ ขชฺชติ กณฺฑุวายติ, สพฺพฺจ กาลํ น ลภามิ สาตํ;
ปโห ภวํ กณฺฑุมิมํ วิเนตุํ, กุรุตํ ภวํ ยาจิโต พฺราหฺมณตฺถ’’นฺติ.
ตตฺถ อาสาทยินฺติ ฆฏฺเฏสึ, อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา เลฑฺฑุนา ปหรินฺติ อตฺโถ. ปติตฺวาติ อุปธาวิตฺวา. สหสาชฺฌปฺปตฺโตติ มมํ สหสา อชฺฌปฺปตฺโต สมฺปตฺโต. ปนุชฺชาติ อถ มํ โปเตตฺวา. อพฺพหีติ มุเขน มม อุตฺตมงฺคํ ลฺุจิตฺวา ปกฺกามิ, ตโต ปฏฺาย อิมสฺมึ าเน วโณ ชาโต. สฺวายนฺติ โส อยํ ตโต ปฏฺาย มยฺหํ วโณ ขชฺชติ เจว กณฺฑุวฺจ กโรติ, ตปฺปจฺจยา สาหํ สพฺพกาลํ กายิกเจตสิกสุขํ น ลภามิ. ปโหติ ปหุ สมตฺโถ. พฺราหฺมณตฺถนฺติ ภวํ มยา ยาจิโต อิมํ พฺราหฺมณสฺส อตฺถํ กโรตุ, อิทํ เม ทุกฺขํ หราหีติ วทติ.
โส ตสฺสา มุสาวาทํ ‘‘สภาโว’’ติ สทฺทหิตฺวา ‘‘สเจ เต เอวํ สุขํ โหติ, กริสฺสามี’’ติ ตํ ปเทสํ โอโลเกตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘คมฺภีรรูโป เต วโณ สโลหิโต, อปูติโก วณคนฺโธ มหา จ;
กโรมิ เต กิฺจิ กสายโยคํ, ยถา ภวํ ปรมสุขี ภเวยฺยา’’ติ.
ตตฺถ สโลหิโตติ รตฺโตภาโส. อปูติโกติ ปูติมํสรหิโต. วณคนฺโธติ โถกํ ทุคฺคนฺโธ. กสายโยคนฺติ อหํ เกจิ รุกฺขกสาเย คเหตฺวา ตว เอกํ กสายโยคํ กโรมีติ.
ตโต นิฬินิกา คาถมาห
‘‘น มนฺตโยคา น กสายโยคา, น โอสธา พฺรหฺมจาริ กมนฺติ;
ยํ เต มุทุ เตน วิเนหิ กณฺฑุํ, ยถา อหํ ปรมสุขี ภเวยฺย’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ¶ กมนฺตีติ, โภ พฺรหฺมจาริ, อิมสฺมึ มม วเณ เนว มนฺตโยคา, น กสายโยคา, น ปุปฺผผลาทีนิ โอสธานิ กมนฺติ, อเนกวารํ กเตหิปิ เตหิ เอตสฺส ผาสุกภาโว น ภูตปุพฺโพ. ยํ ปน เต เอตํ มุทุ องฺคชาตํ, เตน ฆฏฺฏิยมานสฺเสว ตสฺส กณฺฑุ น โหติ, ตสฺมา เตน วิเนหิ กณฺฑุนฺติ.
โส ¶ ‘‘สจฺจํ เอโส ภณตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เมถุนสํสคฺเคน สีลํ ภิชฺชติ, ฌานํ อนฺตรธายตี’’ติ อชานนฺโต มาตุคามสฺส อทิฏฺปุพฺพตฺตา เมถุนธมฺมสฺส จ อชานนภาเวน ‘‘เภสชฺช’’นฺติ วทนฺติยา ตาย เมถุนํ ปฏิเสวิ. ตาวเทวสฺส สีลํ ภิชฺชิ, ฌานํ ปริหายิ. โส ทฺเว ตโย วาเร สํสคฺคํ กตฺวา กิลนฺโต หุตฺวา นิกฺขมิตฺวา สรํ โอรุยฺห นฺหตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อาคนฺตฺวา ปณฺณสาลายํ นิสีทิตฺวา ปุนปิ ตํ ‘‘ตาปโส’’ติ มฺมาโน วสนฏฺานํ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –
‘‘อิโต นุ โภโต กตเมน อสฺสโม, กจฺจิ ภวํ อภิรมสิ อรฺเ;
กจฺจิ นุ เต มูลผลํ ปหูตํ, กจฺจิ ภวนฺตํ น วิหึสนฺติ วาฬา’’ติ.
ตตฺถ กตเมนาติ อิโต กตเมน ทิสาภาเคน โภโต อสฺสโม. ภวนฺติ อาลปนเมตํ.
ตโต นิฬินิกา จตสฺโส คาถาโย อภาสิ –
‘‘อิโต อุชุํ อุตฺตรายํ ทิสายํ, เขมา นที หิมวตา ปภาวี;
ตสฺสา ตีเร อสฺสโม มยฺห รมฺโม, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.
‘‘อมฺพา จ สาลา ติลกา จ ชมฺพุโย, อุทฺทาลกา ปาฏลิโย จ ผุลฺลา;
สมนฺตโต กิมฺปุริสาภิคีตํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.
‘‘ตาลา ¶ จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปํ;
ตํ ¶ ภูมิภาเคหิ อุเปตรูปํ, อโห ภวํ อสฺสมํ มยฺหํ ปสฺเส.
‘‘ผลา จ มูลา จ ปหูตเมตฺถ, วณฺเณน คนฺเธน รเสนุเปตา;
อายนฺติ จ ลุทฺทกา ตํ ปเทสํ, มา เม ตโต มูลผลํ อหาสุ’’นฺติ.
ตตฺถ อุตฺตรายนฺติ อุตฺตราย. เขมาติ เอวํนามิกา นที. หิมวตา ปภาวีติ หิมวนฺตโต ปวตฺตติ. อโหติ ปตฺถนตฺเถ นิปาโต. อุทฺทาลกาติ วาตฆาตกา. กิมฺปุริสาภิคีตนฺติ สมนฺตโต ปริวาเรตฺวา มธุรสทฺเทน คายนฺเตหิ กิมฺปุริเสหิ อภิคีตํ. ตาลา จ มูลา จ ผลา จ เมตฺถาติ เอตฺถ มม อสฺสเม ปาสาทิกา ตาลรุกฺขา จ เตสฺเว วณฺณคนฺธาทิสมฺปนฺนา กนฺทสงฺขาตา ¶ มูลา จ ผลา จ. ปหูตเมตฺถาติ นานารุกฺขผลา จ รุกฺขวลฺลิมูลา จ ปหูตา เอตฺถ. มา เม ตโตติ ตํ มม อสฺสมปทํ สมฺพหุลา ลุทฺทกา อาคจฺฉนฺติ, มยา เจตฺถ อาหริตฺวา ปิตํ พหุ มธุรสมูลผลาผลํ อตฺถิ, เต มยิ จิรายนฺเต มูลผลาผลํ หเรยฺยุํ. เต ตโต มม มูลผลาผลํ มา หรึสุ, ตสฺมา สเจปิ มยา สทฺธึ อาคนฺตุกาโม, เอหิ, โน เจ, อหํ คมิสฺสามีติ อาห.
ตํ สุตฺวา ตาปโส ยาว ปิตุ อาคมนา อธิวาสาเปตุํ คาถมาห –
‘‘ปิตา มมํ มูลผเลสนํ คโต, อิทานิ อาคจฺฉติ สายกาเล;
อุโภว คจฺฉามเส อสฺสมํ ตํ, ยาว ปิตา มูลผลโต เอตู’’ติ.
ตตฺถ อุโภว คจฺฉามเสติ มม ปิตุ อาโรเจตฺวา อุโภว คมิสฺสาม.
ตโต ¶ สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ตาว อรฺเว วฑฺฒิตภาเวน มม อิตฺถิภาวํ น ชานาติ, ปิตา ปนสฺส มํ ทิสฺวาว ชานิตฺวา ‘ตฺวํ อิธ กึ กโรสี’ติ กาชโกฏิยา ปหริตฺวา สีสมฺปิ เม ภินฺเทยฺย, ตสฺมึ อนาคเตเยว มยา คนฺตุํ วฏฺฏติ, อาคมนกมฺมมฺปิ เม นิฏฺิต’’นฺติ. สา ตสฺส อาคมนูปายํ อาจิกฺขนฺตี อิตรํ คาถมาห –
‘‘อฺเ ¶ พหู อิสโย สาธุรูปา, ราชีสโย อนุมคฺเค วสนฺติ;
เตเยว ปุจฺเฉสิ มมสฺสมํ ตํ, เต ตํ นยิสฺสนฺติ มมํ สกาเส’’ติ.
ตตฺถ ราชีสโยติ, สมฺม, มยา น สกฺกา จิรายิตุํ, อฺเ ปน สาธุสภาวา ราชิสโย จ พฺราหฺมณิสโย จ อนุมคฺเค มม อสฺสมมคฺคปสฺเส วสนฺติ, อหํ เตสํ อาจิกฺขิตฺวา คมิสฺสามิ, ตฺวํ เต ปุจฺเฉยฺยาสิ, เต ตํ มม สนฺติกํ นยิสฺสนฺตีติ.
เอวํ สา อตฺตโน ปลายนูปายํ กตฺวา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ตํ โอโลเกนฺตเมว ‘‘ตฺวํ นิวตฺตา’’ติ วตฺวา อาคมนมคฺเคเนว อมจฺจานํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ คเหตฺวา ขนฺธาวารํ คนฺตฺวา อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปาปุณึสุ. สกฺโกปิ ตํ ทิวสเมว ตุสฺสิตฺวา สกลรฏฺเ เทวํ วสฺสาเปสิ, ตโต สุภิกฺขํ ชนปทํ อโหสิ. อิสิสิงฺคตาปสสฺสปิ ตาย ปกฺกนฺตมตฺตาย เอว กาเย ฑาโห อุปฺปชฺชิ. โส กมฺปนฺโต ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา วากจีรํ ปารุปิตฺวา ¶ โสจนฺโต นิปชฺชิ. โพธิสตฺโต สายํ อาคนฺตฺวา ปุตฺตํ อปสฺสนฺโต ‘‘กหํ นุ โข คโต’’ติ กาชํ โอตาเรตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ตํ นิปนฺนกํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, กึ กโรสี’’ติ ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –
‘‘น เต กฏฺานิ ภินฺนานิ, น เต อุทกมาภตํ;
อคฺคีปิ เต น หาปิโต, กึ นุ มนฺโทว ฌายสิ.
‘‘ภินฺนานิ กฏฺานิ หุโต จ อคฺคิ, ตปนีปิ เต สมิตา พฺรหฺมจารี;
ปีฺจ มยฺหํ อุทกฺจ โหติ, รมสิ ตุวํ พฺรหฺมภูโต ปุรตฺถา.
‘‘อภินฺนกฏฺโสิ ¶ อนาภโตทโก, อหาปิตคฺคีสิ อสิทฺธโภชโน;
น เม ตุวํ อาลปสี มมชฺช, นฏฺํ นุ กึ เจตสิกฺจ ทุกฺข’’นฺติ.
ตตฺถ ¶ ภินฺนานีติ อรฺโต อุทฺธฏานิ. น หาปิโตติ น ชลิโต. ภินฺนานีติ ปุพฺเพ ตยา มมาคมนเวลาย กฏฺานิ อุทฺธฏาเนว โหนฺติ. หุโต จ อคฺคีติ อคฺคิ จ หุโต โหติ. ตปนีติ วิสิพฺพนอคฺคิสงฺขาตา ตปนีปิ เต สมิตาว สยเมว สํวิทหิตาว โหติ. ปีนฺติ มม อาสนตฺถาย ปีฺจ ปฺตฺตเมว โหติ. อุทกฺจาติ ปาทโธวนอุทกมฺปิ อุปฏฺาปิตเมว โหติ. พฺรหฺมภูโตติ ตุวมฺปิ อิโต ปุรตฺถา เสฏฺภูโต อิมสฺมึ อสฺสเม อภิรมสิ. อภินฺนกฏฺโสีติ โส ทานิ อชฺช อนุทฺธฏกฏฺโสิ. อสิทฺธโภชโนติ น เต กิฺจิ อมฺหากํ กนฺทมูลํ วา ปณฺณํ วา เสทิตํ. มมชฺชาติ, มม ปุตฺต, อชฺช น เม ตฺวํ อาลปสิ. นฏฺํ นุ กินฺติ กึ นุ เต นฏฺํ วา, กึ เจตสิกํ วา ทุกฺขํ, อกฺขาหิ เม นิปนฺนการณนฺติ ปุจฺฉติ.
โส ปิตุ วจนํ สุตฺวา ตํ การณํ กเถนฺโต อาห –
‘‘อิธาคมา ชฏิโล พฺรหฺมจารี, สุทสฺสเนยฺโย สุตนู วิเนติ;
เนวาติทีโฆ น ปนาติรสฺโส, สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโต.
‘‘อมสฺสุชาโต อปุราณวณฺณี, อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเ;
ทฺเว ยมา คณฺฑา อุเร สุชาตา, สุวณฺณตินฺทุกนิภา ปภสฺสรา.
‘‘มุขฺจ ¶ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยํ, กณฺเณสุ ลมฺพนฺติ จ กฺุจิตคฺคา;
เต โชตเร จรโต มาณวสฺส, สุตฺตฺจ ยํ สํยมนํ ชฏานํ.
‘‘อฺา ¶ จ ตสฺส สํยมานิ จตสฺโส, นีลา ปีตา โลหิติกา จ เสตา;
ตา ปึสเร จรโต มาณวสฺส, ติริฏิสงฺฆาริว ปาวุสมฺหิ.
‘‘น มิขลํ มฺุชมยํ ธาเรติ, น สนฺถเร โน ปน ปพฺพชสฺส;
ตา ¶ โชตเร ชฆนนฺตเร วิลคฺคา, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข.
‘‘อขีลกานิ จ อวณฺฏกานิ, เหฏฺา นภฺยา กฏิสโมหิตานิ;
อฆฏฺฏิตา นิจฺจกีฬํ กโรนฺติ, หํ ตาต กึรุกฺขผลานิ ตานิ.
‘‘ชฏา จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, ปโรสตํ เวลฺลิตคฺคา สุคนฺธา;
ทฺเวธา สิโร สาธุ วิภตฺตรูโป, อโห นุ โข มยฺห ตถา ชฏาสฺสุ.
‘‘ยทา จ โส ปกิรติ ตา ชฏาโย, วณฺเณน คนฺเธน อุเปตรูปา;
นีลุปฺปลํ วาตสเมริตํว, ตเถว สํวาติ ปนสฺสโม อยํ.
‘‘ปงฺโก จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺโย, เนตาทิโส ยาทิโส มยฺหํ กาเย;
โส วายติ เอริโต มาลุเตน, วนํ ยถา อคฺคคิมฺเห สุผุลฺลํ.
‘‘นิหนฺติ โส รุกฺขผลํ ปถพฺยา, สุจิตฺตรูปํ รุจิรํ ทสฺสเนยฺยํ;
ขิตฺตฺจ ตสฺส ปุนเรหิ หตฺถํ, หํ ตาต กึรุกฺขผลํ นุ โข ตํ.
‘‘ทนฺตา ¶ จ ตสฺส ภุสทสฺสเนยฺยา, สุทฺธา สมา สงฺขวรูปปนฺนา;
มโน ปสาเทนฺติ วิวริยมานา, น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหิ.
‘‘อกกฺกสํ อคฺคฬิตํ มุหุํ มุทุํ, อุชุํ อนุทฺธตํ อจปลมสฺส ภาสิตํ;
รุทํ ¶ มนฺุํ กรวีกสุสฺสรํ, หทยงฺคมํ รฺชยเตว เม มโน.
‘‘พินฺทุสฺสโร ¶ นาติวิสฏฺวากฺโย, น นูน สชฺฌายมติปฺปยุตฺโต;
อิจฺฉามิ โภ ตํ ปุนเทว ทฏฺุํ, มิตฺโต หิ เม มาณโวหุ ปุรตฺถา.
‘‘สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณํ, ปุถู สุชาตํ ขรปตฺตสนฺนิภํ;
เตเนว มํ อุตฺตริยาน มาณโว, วิวริตํ อูรุํ ชฆเนน ปิฬยิ.
‘‘ตปนฺติ อาภนฺติ วิโรจเร จ, สเตรตา วิชฺชุริวนฺตลิกฺเข;
พาหา มุทู อฺชนโลมสาทิสา, วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเร.
‘‘อกกฺกสงฺโค น จ ทีฆโลโม, นขาสฺส ทีฆา อปิ โลหิตคฺคา;
มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชนฺโต, กลฺยาณรูโป รมยํ อุปฏฺหิ.
‘‘ทุมสฺส ตูลูปนิภา ปภสฺสรา, สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวิ;
หตฺถา มุทู เตหิ มํ สมฺผุสิตฺวา, อิโต คโต เตน มํ ทหนฺติ ตาต.
‘‘น ¶ นูน โส ขาริวิธํ อหาสิ, น นูน โส กฏฺานิ สยํ อภฺชิ;
น นูน โส หนฺติ ทุเม กุาริยา, น หิสฺส หตฺเถสุ ขิลานิ อตฺถิ.
‘‘อจฺโฉ จ โข ตสฺส วณํ อกาสิ, โส มํพฺรวิ ‘สุขิตํ มํ กโรหิ’;
ตาหํ ¶ กรึ เตน มมาสิ โสขฺยํ, โส จพฺรวิ ‘สุขิโตสฺมี’ติ พฺรหฺเม.
‘‘อยฺจ เต มาลุวปณฺณสนฺถตา, วิกิณฺณรูปาว มยา จ เตน จ;
กิลนฺตรูปา อุทเก รมิตฺวา, ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชาม.
‘‘น มชฺช มนฺตา ปฏิภนฺติ ตาต, น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตํ;
น จาปิ เต มูลผลานิ ภฺุเช, ยาว น ปสฺสามิ ตํ พฺรหฺมจารึ.
‘‘อทฺธา ปชานาสิ ตุวมฺปิ ตาต, ยสฺสํ ทิสํ วสเต พฺรหฺมจารี;
ตํ มํ ทิสํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, มา เต อหํ อมริมสฺสมมฺหิ.
‘‘วิจิตฺรผุลฺลฺหิ ¶ วนํ สุตํ มยา, ทิชาภิฆุฏฺํ ทิชสงฺฆเสวิตํ;
ตํ มํ วนํ ปาปย ตาต ขิปฺปํ, ปุรา เต ปาณํ วิชหามิ อสฺสเม’’ติ.
ตตฺถ อิธาคมาติ, ตาต, อิมํ อสฺสมปทํ อาคโต. สุทสฺสเนยฺโยติ สุฏฺุ ทสฺสเนยฺโย. สุตนูติ สุฏฺุ ตนุโก นาติกิโส นาติถูโล ¶ . วิเนตีติ อตฺตโน สรีรปฺปภาย อสฺสมปทํ เอโกภาสํ วิย วิเนติ ปูเรติ. สุกณฺหกณฺหจฺฉทเนหิ โภโตติ, ตาต, ตสฺส โภโต สุกณฺเหหิ กณฺหจฺฉทเนหิ ภมรวณฺเณหิ เกเสหิ สุกณฺหสีสํ สุมชฺชิตมณิมยํ วิย ขายติ. อมสฺสูชาโตติ น ตาวสฺส มสฺสุ ชายติ, ตรุโณเยว. อปุราณวณฺณีติ อจิรปพฺพชิโต. อาธารรูปฺจ ปนสฺส กณฺเติ กณฺเ จ ปนสฺส อมฺหากํ ภิกฺขาภาชนฏฺปนํ ปตฺตาธารสทิสํ ปิฬนฺธนํ อตฺถีติ มุตฺตาหารํ สนฺธาย วทติ. คณฺฑาติ ถเน สนฺธายาห. อุเร สุชาตาติ อุรมฺหิ สุชาตา. ‘‘อุรโต’’ติปิ ปาโ. ปภสฺสราติ ปภาสมฺปนฺนา. ‘‘ปภาสเร’’ติปิ ปาโ, โอภาสนฺตีติ อตฺโถ.
ภุสทสฺสเนยฺยนฺติ อติวิย ทสฺสนียํ. กฺุจิตคฺคาติ สีหกุณฺฑลํ สนฺธาย วทติ. สุตฺตฺจาติ ยํ ตสฺส ชฏาพนฺธนสุตฺตํ, ตมฺปิ โชตติ ปภํ มฺุจติ. ‘‘สํยมานิ จตสฺโส’’ติ อิมินา มณิสุวณฺณปวาฬรชตมยานิ จตฺตาริ ปิฬนฺธนานิ ทสฺเสติ ¶ . ตา ปึสเรติ ตานิ ปิฬนฺธนานิ ปาวุสมฺหิ ปวุฏฺเ เทเว ติริฏิสงฺฆา วิย วิรวนฺติ. มิขลนฺติ เมขลํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ นิวตฺถกฺจนจีรกํ สนฺธายาห. น สนฺถเรติ น วาเก. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, ยถา มยํ ติณมยํ วา วากมยํ วา จีรกํ ธาเรม, น ตถา โส, โส ปน สุวณฺณจีรกํ ธาเรตีติ. อขีลกานีติ อตจานิ นิปฺปณฺณานิ. กฏิสโมหิตานีติ กฏิยํ พทฺธานิ. นิจฺจกีฬํ กโรนฺตีติ อฆฏฺฏิตานิปิ นิจฺจกาลํ กีฬายนฺติ. หํ, ตาตาติ หมฺโภ, ตาต. กึ รุกฺขผลานิ ตานีติ ตานิ ตสฺส มาณวสฺส สุตฺตารุฬฺหานิ กฏิยํ พทฺธานิ กตรรุกฺขผลานิ นามาติ มณิสงฺฆาฏึ สนฺธายาห.
ชฏาติ ชฏามณฺฑลากาเรน พทฺธรตนมิสฺสกเกสวฏฺฏิโย สนฺธายาห. เวลฺลิตคฺคาติ กฺุจิตคฺคา. ทฺเวธาสิโรติ ตสฺส สีสํ ทฺเวธา กตฺวา พทฺธานํ ชฏานํ วเสน สุฏฺุ วิภตฺตรูปํ. ตถาติ ยถา ตสฺส มาณวสฺส ชฏา, ตถา ตุมฺเหหิ มม น พทฺธา, อโห วต มมปิ ตถา อสฺสูติ ปตฺเถนฺโต อาห. อุเปตรูปาติ อุเปตสภาวา. วาตสเมริตํวาติ ¶ ยถา นาม นีลุปฺปลํ วาเตน สมีริตํ, ตเถว อยํ อิมสฺมึ วนสณฺเฑ อสฺสโม สํวาติ. เนตาทิโสติ, ตาต, ยาทิโส ¶ มม กาเย ปงฺโก, เนตาทิโส ตสฺส สรีเร. โส หิ ทสฺสนีโย เจว สุคนฺโธ จ. อคฺคคิมฺเหติ วสนฺตสมเย.
นิหนฺตีติ ปหรติ. กึ รุกฺขผลํ นุ โข ตนฺติ กตรรุกฺขสฺส นุ โข ตํ ผลํ. สงฺขวรูปปนฺนาติ สุโธตสงฺขปฏิภาคา. น หิ นูน โส สากมขาทิ เตหีติ น นูน โส มาณโว มยํ วิย เตหิ ทนฺเตหิ รุกฺขปณฺณานิ เจว มูลผลาผลานิ จ ขาทิ. อมฺหากฺหิ ตานิ ขาทนฺตานํ สพลา ปณฺณวณฺณา ทนฺตาติ ทีเปติ.
อกกฺกสนฺติ, ตาต, ตสฺส ภาสิตํ อผรุสํ อคฬิตํ, ปุนปฺปุนํ วทนฺตสฺสาปิ มธุรตาย มุหุํ มุทุํ, อปมุสฺสตาย อุชุํ, อวิกฺขิตฺตตาย อนุทฺธฏํ, ปติฏฺิตตาย อจปลํ. รุทนฺติ ภาสมานสฺส สรสงฺขาตํ รุทมฺปิ มโนหรํ กรวีกสฺส วิย สุสฺสรํ สุมธุรํ. รฺชยเตวาติ มม มโน รฺชติเยว. พินฺทุสฺสโรติ ปิณฺฑิตสฺสโร. มาณโวหูติ โส หิ มาณโว ปุรตฺถา มม มิตฺโต อหุ.
สุสนฺธิ สพฺพตฺถ วิมฏฺิมํ วณนฺติ ตาต ตสฺส มาณวสฺส อูรูนํ อนฺตเร เอกํ วณํ อตฺถิ, ตํ สุสนฺธิ สุผุสิตํ สิปฺปิปุฏมุขสทิสํ, สพฺพตฺถ วิมฏฺํ สมนฺตโต มฏฺํ. ปุถูติ มหนฺตํ. สุชาตนฺติ สุสณฺิตํ. ขรปตฺตสนฺนิภนฺติ ¶ สุปุปฺผิตปทุมมกุฬสนฺนิภํ. อุตฺตริยานาติ อุตฺตริตฺวา อวตฺถริตฺวา. ปิฬยีติ ปีเฬสิ. ตปนฺตีติ ตสฺส มาณวสฺส สรีรโต นิจฺฉรนฺตา สุวณฺณวณฺณรํสิโย ชลนฺติ โอภาสนฺติ วิโรจนฺติ จ. พาหาติ พาหาปิสฺส มุทู. อฺชนโลมสาทิสาติ อฺชนสทิเสหิ โลเมหิ สมนฺนาคตา. วิจิตฺรวฏฺฏงฺคุลิกาสฺส โสภเรติ หตฺถาปิสฺส วรลกฺขณวิจิตฺราหิ ปวาลงฺกุรสทิสาหิ วฏฺฏงฺคุลีหิ สมนฺนาคตา โสภนฺติ.
อกกฺกสงฺโคติ กจฺฉุปีฬกาทิรหิตองฺคปจฺจงฺโค. รมยํ อุปฏฺหีติ มํ รมยนฺโต อุปฏฺหิ ปริจริ. ตูลูปนิภาติ มุทุภาวสฺส อุปมา. สุวณฺณกมฺพุตลวฏฺฏสุจฺฉวีติ สุวณฺณมยํ อาทาสตลํ วิย วฏฺฏา จ สุจฺฉวิ จ, ปริมณฺฑลตลา เจว สุนฺทรจฺฉวิ จาติ อตฺโถ. สมฺผุสิตฺวาติ สุฏฺุ ผุสิตฺวา อตฺตโน หตฺถสมฺผสฺสํ มม สรีเร ผราเปตฺวา. อิโต คโตติ มม ¶ โอโลเกนฺตสฺเสว อิโต คโต. เตน มํ ทหนฺตีติ เตน ตสฺส หตฺถสมฺผสฺเสน อิทานิ มํ ทหนฺติ. ตถา หิ ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย มม สรีเร ฑาโห อุฏฺิโต, เตนมฺหิ โทมนสฺสปฺปตฺโต นิปนฺโนติ.
น ¶ นูน โส ขาริวิธนฺติ, ตาต, นูน โส มาณโว น ขาริภารํ อุกฺขิปิตฺวา วิจริ. ขิลานีติ กิลานิ, ‘‘อยเมว วา ปาโ. โสขฺยนฺติ สุขํ. มาลุวปณฺณสนฺถตา วิกิณฺณรูปาวาติ, ตาต, อยํ ตว มาลุวปณฺณสนฺถตา อชฺช มยา จ เตน จ อฺมฺํ ปรามสนาลิงฺคนวเสน ปริวตฺตนฺเตหิ วิกิณฺณา วิย อากุลพฺยากุลา ชาตา. ปุนปฺปุนํ ปณฺณกุฏึ วชามาติ, ตาต, อหฺจ โส จ อภิรมิตฺวา กิลนฺตรูปา ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา อุทกํ ปวิสิตฺวา รมิตฺวา วิคตทรถา ปุนปฺปุนํ อิมเมว กุฏึ ปวิสามาติ วทติ.
น มชฺช มนฺตาติ อชฺช มม ตสฺส คตกาลโต ปฏฺาย เนว มนฺตา ปฏิภนฺติ น อุปฏฺหนฺติ น รุจฺจนฺติ. น อคฺคิหุตฺตํ นปิ ยฺตนฺตนฺติ มหาพฺรหฺมุโน อาราธนตฺถาย กตฺตพฺพโหมวิธูปนาทิยฺกิริยาปิ เม น ปฏิภาติ น อุปฏฺาติ น รุจฺจติ. น จาปิ เตติ ตยา อาภตมูลผลาผลานิปิ น ภฺุชามิ. ยสฺสํ ทิสนฺติ ยสฺสํ ทิสายํ. วนนฺติ ตสฺส มาณวสฺส อสฺสมํ ปริวาเรตฺวา ิตวนนฺติ.
ตสฺเสวํ วิลปนฺตสฺส ตํ วิลาปํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เอกาย อิตฺถิยา อิมสฺส สีลํ ภินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ โอวทนฺโต ฉ คาถาโย อภาสิ –
‘‘อิมสฺมาหํ โชติรเส วนมฺหิ, คนฺธพฺพเทวจฺฉรสงฺฆเสวิเต;
อิสีนมาวาเส ¶ สนนฺตนมฺหิ, เนตาทิสํ อรตึ ปาปุเณถ.
‘‘ภวนฺติ มิตฺตานิ อโถ น โหนฺติ, าตีสุ มิตฺเตสุ กโรนฺติ เปมํ;
อยฺจ ชมฺโม กิสฺส วา นิวิฏฺโ, โย เนว ชานาติ ‘กุโตมฺหิ อาคโต’.
‘‘สํวาเสน ¶ หิ มิตฺตานิ, สนฺธียนฺติ ปุนปฺปุนํ;
สฺเวว มิตฺโต อสํคนฺตุ, อสํวาเสน ชีรติ.
‘‘สเจ ตุวํ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, สเจ ตุวํ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;
สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, ตโปคุณํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.
‘‘ปุนปิ เจ ทกฺขสิ พฺรหฺมจารึ, ปุนปิ เจ สลฺลเป พฺรหฺมจารินา;
สมฺปนฺนสสฺสํว มโหทเกน, อุสฺมาคตํ ขิปฺปมิมํ ปหิสฺสสิ.
‘‘ภูตานิ ¶ เหตานิ จรนฺติ ตาต, วิรูปรูเปน มนุสฺสโลเก;
น ตานิ เสเวถ นโร สปฺโ, อาสชฺช นํ นสฺสติ พฺรหฺมจารี’’ติ.
ตตฺถ อิมสฺมาติ อิมสฺมึ. หนฺติ นิปาตมตฺตํ. โชติรเสติ หูยมานสฺส โชติโน รํสิโอภาสิเต. สนนฺตนมฺหีติ โปราณเก. ปาปุเณถาติ ปาปุเณยฺย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, เอวรูเป วเน วสนฺโต ยํ อรตึ ตฺวํ ปตฺโต, เอตาทิสํ น ปาปุเณยฺย ปณฺฑิโต กุลปุตฺโต, ปตฺตุํ นารหตีติ อตฺโถ.
‘‘ภวนฺตี’’ติ อิมํ คาถํ มหาสตฺโต อนฺโตคตเมว ภาสติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – โลเก สตฺตานํ มิตฺตานิ นาม โหนฺติปิ น โหนฺติปิ ตตฺถ เยสํ โหนฺติ, เต อตฺตโน าตีสุ จ มิตฺเตสุ จ เปมํ กโรนฺติ. อยฺจ ชมฺโมติ มิคสิงฺโค ลามโก. กิสฺส วา นิวิฏฺโติ เกน นาม การเณน ตสฺมึ มาตุคาเม มิตฺตสฺาย นิวิฏฺโ, โส มิคิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติตฺวา อรฺเ วฑฺฒิตตฺตา ‘‘กุโตมฺหิ อาคโต’’ติ อตฺตโน อาคตฏฺานมตฺตมฺปิ ¶ น ชานาติ, ปเคว าติมิตฺเตติ.
ปุนปฺปุนนฺติ, ตาต, มิตฺตานิ นาม ปุนปฺปุนํ สํวาเสน สํเสวเนน สนฺธียนฺติ ฆฏียนฺติ. สฺเวว มิตฺโตติ โส เอว มิตฺโต อสํคนฺตุ อสมาคจฺฉนฺตสฺส ปุริสสฺส เตน อสมาคมสงฺขาเตน อสํวาเสน ชีรติ วินสฺสติ ¶ . สเจติ ตสฺมา, ตาต, สเจ ตฺวํ ปุนปิ ตํ ทกฺขสิ, เตน วา สลฺลปิสฺสสิ, อถ ยถา นาม นิปฺผนฺนสสฺสํ มโหเฆน หรียติ, เอวํ อิมํ อตฺตโน ตโปคุณํ ปหิสฺสสิ หาเรสฺสสีติ อตฺโถ. อุสฺมาคตนฺติ สมณเตชํ.
วิรูปรูเปนาติ วิวิธรูเปน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตาต, มนุสฺสโลกสฺมิฺหิ เอตานิ ยกฺขินิสงฺขาตานิ ภูตานิ วิวิธรูปปฏิจฺฉนฺเนน อตฺตโน รูเปน อตฺตโน วสํ คเต ขาทิตุํ จรนฺติ, ตานิ สปฺโ นโร น เสเวถ. ตาทิสฺหิ ภูตํ อาสชฺช นํ ปตฺวา นสฺสติ พฺรหฺมจารี, ทิฏฺโสิ ตาย ยกฺขินิยา น ขาทิโตติ ปุตฺตํ โอวทิ.
โส ปิตุ กถํ สุตฺวา ‘‘ยกฺขินี กิร สา’’ติ ภีโต จิตฺตํ นิวตฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เอตฺโต น คมิสฺสามิ, ขมถ เม’’ติ ขมาเปสิ. โสปิ นํ สมสฺสาเสตฺวา ‘‘เอหิ ตฺวํ, มาณว, เมตฺตํ ภาเวหิ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺข’’นฺติ พฺรหฺมวิหารภาวนํ อาจิกฺขิ. โส ตถา ปฏิปชฺชิตฺวา ปุน ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตสิ.
สตฺถา ¶ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา นิฬินิกา ปุราณทุติยิกา อโหสิ, อิสิสิงฺโค อุกฺกณฺิตภิกฺขุ, ปิตา ปน อหเมว อโหสินฺติ.
นิฬินิกาชาตกวณฺณนา ปมา.
[๕๒๗] ๒. อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา
นิเวสนํ กสฺสนุทํ สุนนฺทาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิเรกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตปฏิยตฺตํ อุตฺตมรูปธรํ อิตฺถึ โอโลเกตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺโต หุตฺวา จิตฺตํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต วิหารเมว อาคนฺตฺวา ตโต ปฏฺาย สลฺลวิทฺโธ วิย ราคาตุโร ภนฺตมิคปฏิภาโค กิโส ธมนีสนฺถตคตฺโต อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต อนภิรโต เอกิริยาปเถปิ ¶ จิตฺตสฺสาทํ อลภนฺโต อาจริยวตฺตาทีนิ ปหาย อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานานุโยครหิโต วิหาสิ. โส สหายภิกฺขูหิ ‘‘ปุพฺเพ ตฺวํ, อาวุโส, สนฺตินฺทฺริโย วิปฺปสนฺนมุขวณฺโณ, อิทานิ โน ตถา, กึ ¶ นุ โข การณ’’นฺติ ปุฏฺโ, ‘‘อาวุโส, อนภิรโตมฺหี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘อภิรมาวุโส, สาสเน, พุทฺธุปฺปาโท นาม ทุลฺลโภ, ตถา สทฺธมฺมสฺสวนํ มนุสฺสปฏิลาโภ จ, โส ตฺวํ มนุสฺสปฏิลาภํ ปฏิลภิตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกิริยํ ปตฺถยมาโน อสฺสุมุขํ าติชนํ ปหาย สทฺธาย ปพฺพชิตฺวา กึการณา กิเลสวสํ ยาสิ, กิเลสา นาเมเต คณฺฑุปฺปาทกปาณกํ อุปาทาย สพฺพพาลชนสาธารณา, เย เตสํ วตฺถุภูตา, เตปิ อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย. อฏฺิกงฺกลูปมา กามา, มํสเปสูปมา กามา, ติณุกฺกูปมา กามา, องฺคารกาสูปมา กามา, สุปินกูปมา กามา, ยาจิตกูปมา กามา, รุกฺขผลูปมา กามา, อสิสูนูปมา กามา, สตฺติสูลูปมา กามา, สปฺปสิรูปมา กามา, อคฺคิกฺขนฺธูปมา กามา, ตฺวํ นาม เอวรูเป พุทฺธสาสเน ปพฺพชิตฺวา เอวํ อนตฺถการกานํ กิเลสานํ วสํ คโตสี’’ติ โอวทิตฺวา อตฺตโน กถํ คาหาเปตุํ อสกฺโกนฺตา สตฺถุ สนฺติกํ ธมฺมสภํ เนตฺวา ‘‘กึ, ภิกฺขเว, อนิจฺฉมานกํ ภิกฺขุํ อานยิตฺถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘ภนฺเต, อยํ กิร ภิกฺขุ อุกฺกณฺิโต’’ติ อาหํสุ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิรา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘ภิกฺขุ โปราณกปณฺฑิตา รชฺชํ อนุสาสนฺตาปิ กิเลเส อุปฺปนฺเน ตสฺส วสํ อคนฺตฺวา จิตฺตํ นิวาเรตฺวา น อยุตฺตกํ กรึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต ¶ สิวิรฏฺเ อริฏฺปุรนคเร สิวิ นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺติ, ‘‘สิวิกุมาโร’’ตฺเววสฺส นามํ กรึสุ. เสนาปติสฺสปิ ปุตฺโต ชายิ, ‘‘อภิปารโก’’ติสฺส นามํ กรึสุ. เต อุโภปิ สหายา หุตฺวา อภิวฑฺฒนฺตา โสฬสวสฺสิกา หุตฺวา ตกฺกสิลํ คนฺตฺวา สิปฺปํ อุคฺคณฺหิตฺวา อาคมึสุ. ราชา ปุตฺตสฺส รชฺชํ อทาสิ. โสปิ อภิปารกํ เสนาปติฏฺาเน เปตฺวา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺมึเยว นคเร ติริฏิวจฺฉสฺส นาม อสีติโกฏิวิภวสฺส เสฏฺิโน ธีตา นิพฺพตฺติ อุตฺตมรูปธรา โสภคฺคปฺปตฺตา สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตา, ตสฺสา นามคฺคหณทิวเส ‘‘อุมฺมาทนฺตี’’ติ ¶ นามํ กรึสุ. สา โสฬสวสฺสิกกาเล อติกฺกนฺตมานุสวณฺณา เทวจฺฉรา วิย อภิรูปา ทสฺสนียา ปาสาทิกา ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคตา อโหสิ. เย เย ปุถุชฺชนา ตํ ปสฺสนฺติ, เต เต สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตา ¶ สุราปานมทมตฺตา วิย กิเลสมเทน มตฺตา หุตฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ สมตฺถา นาม นาเหสุํ.
อถสฺสา ปิตา ติริฏิวจฺโฉ ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, มม เคเห อิตฺถิรตนํ อุปฺปนฺนํ, รฺโว อนุจฺฉวิกํ, ลกฺขณปาเก พฺราหฺมเณ เปเสตฺวา ตํ วีมํสาเปตฺวา ยถารุจิ กโรหี’’ติ อาห. ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา พฺราหฺมเณ เปเสสิ. เต เสฏฺิเคหํ คนฺตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ปายาสํ ปริภฺุชึสุ. ตสฺมึ ขเณ อุมฺมาทนฺตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา เตสํ สนฺติกํ อคมาสิ. เต ตํ ทิสฺวา สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา กิเลสมทมตฺตา หุตฺวา อตฺตโน วิปฺปกตโภชนภาวํ น ชานึสุ. เอกจฺเจ อาโลปํ คเหตฺวา ‘‘ภฺุชิสฺสามา’’ติ สฺาย สีเส เปสุํ, เอกจฺเจ อุปกจฺฉนฺตเร ขิปึสุ, เอกจฺเจ ภิตฺตึ ปหรึสุ, สพฺเพว อุมฺมตฺตกา อเหสุํ. สา เต ทิสฺวา ‘‘อิเม กิร มม ลกฺขณํ วีมํสิสฺสนฺติ, คีวายํ เน คเหตฺวา นีหรถา’’ติ นีหราเปสิ. เต มงฺกุภูตา ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺติยา กุทฺธา ‘‘เทว, สา อิตฺถี กาฬกณฺณี, น ตุมฺหากํ อนุจฺฉวิกา’’ติ วทึสุ. ราชา ‘‘กาฬกณฺณี กิรา’’ติ น ตํ อาณาเปสิ. สา ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อหํ กิร กาฬกณฺณีติ รฺา น คหิตา, กาฬกณฺณิโย นาม น เอวรูปา โหนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘โหตุ, สเจ ปน ตํ ราชานํ ปสฺสิสฺสามิ, ชานิสฺสามี’’ติ ตสฺมึ อาฆาตํ พนฺธิ. อถ นํ ปิตา อภิปารกสฺส อทาสิ, สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา.
กสฺส ปน กมฺมสฺส นิสฺสนฺเทน สา เอวํ อภิรูปา อโหสีติ? รตฺตวตฺถทานสฺส นิสฺสนฺเทนาติ. สา กิร อตีเต พาราณสิยํ ทลิทฺทกุเล นิพฺพตฺติตฺวา อุสฺสวทิวเส ปฺุสมฺปนฺนา อิตฺถิโย กุสุมฺภรตฺตวตฺถํ นิวาเสตฺวา อลงฺกตา กีฬนฺติโย ทิสฺวา ตาทิสํ วตฺถํ นิวาเสตฺวา ¶ กีฬิตุกามา หุตฺวา มาตาปิตูนํ อาโรเจตฺวา เตหิ, ‘‘อมฺม, มยํ ทลิทฺทา, กุโต โน เอวรูปํ วตฺถ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มํ เอกสฺมึ อฑฺฒกุเล ภตึ กาตุํ อนุชานาถ ¶ , เต มม คุณํ ตฺวา ทสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา เตหิ ¶ อนฺุาตา เอกํ กุลํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กุสุมฺภรตฺตวตฺเถน ภตึ กโรมี’’ติ อาห. อถ นํ เต ‘‘ตีณิ สํวจฺฉรานิ กมฺเม กเต ตว คุณํ ตฺวา ทสฺสามา’’ติ วทึสุ. สา ‘‘สาธู’’ติ ปฏิสฺสุณิตฺวา กมฺมํ ปฏิปชฺชิ. เต ตสฺสา คุณํ ตฺวา อปริปุณฺเณสุเยว ตีสุ สํวจฺฉเรสุ ตสฺสา ฆนกุสุมฺภรตฺตวตฺเถน สทฺธึ อฺมฺปิ วตฺถํ ทตฺวา ‘‘ตว สหายิกาหิ สทฺธึ คนฺตฺวา นฺหตฺวา นิวาเสหี’’ติ ตํ เปสยึสุ. สา สหายิกา อาทาย คนฺตฺวา รตฺตวตฺถํ นทีตีเร เปตฺวา นฺหายิ.
ตสฺมึ ขเณ เอโก กสฺสปทสพลสฺส สาวโก อจฺฉินฺนจีวโร สาขาภงฺคํ นิวาเสตฺวา จ ปารุปิตฺวา จ ตํ ปเทสํ ปาปุณิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ภทนฺโต อจฺฉินฺนจีวโร ภวิสฺสติ, ปุพฺเพปิ อทินฺนภาเวน เม นิวาสนํ ทุลฺลภํ ชาต’’นฺติ ตํ วตฺถํ ทฺวิธา ผาเลตฺวา ‘‘เอกํ โกฏฺาสํ อยฺยสฺส ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อุตฺตริตฺวา อตฺตโน นิวาสนํ นิวาเสตฺวา ‘‘ติฏฺถ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา รตฺตวตฺถํ มชฺเฌ ผาเลตฺวา ตสฺเสกํ โกฏฺาสํ อทาสิ. โส เอกมนฺเต ปฏิจฺฉนฺเน ตฺวา สาขาภงฺคํ ฉฑฺเฑตฺวา ตสฺเสกํ กณฺณํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา นิกฺขมิ. อถสฺส วตฺโถภาเสน สกลสรีรํ ตรุณสูริโย วิย เอโกภาสํ อโหสิ. สา ตํ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ อยฺโย ปมํ น โสภติ, อิทานิ ตรุณสูริโย วิย วิโรจติ, อิทมฺปิ เอตสฺเสว ทสฺสามี’’ติ ทุติยมฺปิ โกฏฺาสํ ทตฺวา ‘‘ภนฺเต, อหํ ภเว ภเว วิจรนฺตี อุตฺตมรูปธรา ภเวยฺยํ, มํ ทิสฺวา โกจิ ปุริโส สกภาเวน สณฺาตุํ มา อสกฺขิ, มยา อภิรูปตรา นาม อฺา มา โหตู’’ติ ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ. เถโรปิ อนุโมทนํ กตฺวา ปกฺกามิ.
สา เทวโลเก สํสรนฺตี ตสฺมึ กาเล อริฏฺปุเร นิพฺพตฺติตฺวา ตถา อภิรูปา อโหสิ. อถ ตสฺมึ นคเร กตฺติกฉณํ โฆสยึสุ, กตฺติกปุณฺณมายํ นครํ สชฺชยึสุ. อภิปารโก อตฺตโน อารกฺขฏฺานํ คจฺฉนฺโต ตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, อุมฺมาทนฺติ ¶ อชฺช กตฺติกรตฺติวาโร ฉโณ, ราชา นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมํ อิมํ เคหทฺวารํ อาคมิสฺสติ, มา โข ตสฺส อตฺตานํ ทสฺเสสิ, โสปิ ตํ ทิสฺวา สตึ อุปฏฺาเปตุํ น สกฺขิสฺสตี’’ติ อาห. สา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ, สามิ, อหํ ชานิสฺสามี’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ¶ ตสฺมึ คเต ทาสึ อาณาเปสิ ‘‘รฺโ อิมํ เคหทฺวารํ อาคตกาเล มยฺหํ อาโรเจยฺยาสี’’ติ. อถ สูริเย อตฺถงฺคเต อุคฺคเห ปุณฺณจนฺเท เทวนคเร วิย นคเร อลงฺกเต สพฺพทิสาสุ ทีเปสุ ชลิเตสุ ราชา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อาชฺรถวรคโต ¶ อมจฺจคณปริวุโต มหนฺเตน ยเสน นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ปมเมว อภิปารกสฺส เคหทฺวารํ อคมาสิ. ตํ ปน เคหํ มโนสิลาวณฺณปาการปริกฺขิตฺตํ อลงฺกตทฺวารฏฺฏาลกํ โสภคฺคปฺปตฺตํ ปาสาทิกํ. ตสฺมึ ขเณ ทาสี อุมฺมาทนฺติยา อาโรเจสิ. สา ปุปฺผสมุคฺคํ คาหาเปตฺวา กินฺนริลีฬาย วาตปานํ นิสฺสาย ิตา รฺโ ปุปฺผานิ ขิปิ. โส ตํ อุลฺโลเกตฺวา กิเลสมทมตฺโต สตึ อุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อภิปารกสฺเสตํ เคห’’นฺติ สฺชานิตุมฺปิ นาสกฺขิ, อถ สารถึ อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘นิเวสนํ กสฺส นุทํ สุนนฺท, ปากาเรน ปณฺฑุมเยน คุตฺตํ;
กา ทิสฺสติ อคฺคิสิขาว ทูเร, เวหายสํ ปพฺพตคฺเคว อจฺจิ.
‘‘ธีตา นฺวยํ กสฺส สุนนฺท โหติ, สุณิสา นฺวยํ กสฺส อโถปิ ภริยา;
อกฺขาหิ เม ขิปฺปมิเธว ปุฏฺโ, อวาวฏา ยทิ วา อตฺถิ ภตฺตา’’ติ.
ตตฺถ กสฺส นุทนฺติ กสฺส นุ อิทํ. ปณฺฑุมเยนาติ รตฺติฏฺกมเยน. ทิสฺสตีติ วาตปาเน ิตา ปฺายติ. อจฺจีติ อนลชาลกฺขนฺโธ. ธีตา ¶ นฺวยนฺติ ธีตา นุ อยํ. อวาวฏาติ อเปตาวรณา อปริคฺคหา. ภตฺตาติ ยทิ วา อสฺสา สามิโก อตฺถิ, เอตํ เม อกฺขาหีติ.
อถสฺส โส อาจิกฺขนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘อหฺหิ ชานามิ ชนินฺท เอตํ, มตฺยา จ เปตฺยา จ อโถปิ อสฺสา;
ตเวว โส ปุริโส ภูมิปาล, รตฺตินฺทิวํ อปฺปมตฺโต ตวตฺเถ.
‘‘อิทฺโธ ¶ จ ผีโต จ สุวฑฺฒิโต จ, อมจฺโจ จ เต อฺตโร ชนินฺท;
ตสฺเสสา ภริยาภิปารกสฺส, อุมฺมาทนฺตี นามเธยฺเยน ราชา’’ติ.
ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาติโต จ ปิติโต เจตํ ชานามิ. อโถปิ อสฺสาติ อถ สามิกมฺปิ อสฺสา ชานามีติ วทติ. อิทฺโธติ สมิทฺโธ. ผีโตติ วตฺถาลงฺกาเรหิ สุปุปฺผิโต. สุวฑฺฒิโตติ สุฏฺุ วุทฺโธ. นามเธยฺเยนาติ นาเมน. อยฺหิ โย นํ ปสฺสติ, ตํ อุมฺมาเทติ, สติมสฺส ปจฺจุปฏฺาเปตุํ น เทติ, ตสฺมา อุมฺมาทนฺตีติ วุจฺจติ.
ตํ ¶ สุตฺวา ราชา นามมสฺสา โถเมนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘อมฺโภ อมฺโภ นามมิทํ อิมิสฺสา, มตฺยา จ เปตฺยา จ กตํ สุสาธุ;
ตทา หิ มยฺหํ อวโลกยนฺตี, อุมฺมตฺตกํ อุมฺมทนฺตี อกาสี’’ติ.
ตตฺถ มตฺยา จ เปตฺยา จาติ มาตรา จ ปิตรา จ. มยฺหนฺติ อุปโยคตฺเถ สมฺปทานวจนํ. อวโลกยนฺตีติ มยา อวโลกิตา สยมฺปิ มํ อวโลกยนฺตี มํ อุมฺมตฺตกํ อกาสีติ อตฺโถ.
สา ตสฺส กมฺปิตภาวํ ตฺวา วาตปานํ ถเกตฺวา สิริคพฺภเมว อคมาสิ. รฺโปิ ตสฺสา ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย นครํ ปทกฺขิณกรเณ จิตฺตเมว นาโหสิ. โส สารถึ อามนฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม สุนนฺท, รถํ นิวตฺเตหิ, อยํ ฉโณ ¶ อมฺหากํ นานุจฺฉวิโก, อภิปารกสฺส เสนาปติสฺเสวานุจฺฉวิโก, รชฺชมฺปิ ตสฺเสวานุจฺฉวิก’’นฺติ รถํ นิวตฺตาเปตฺวา ปาสาทํ อภิรุยฺห สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา วิปฺปลปนฺโต อาห –
‘‘ยา ปุณฺณมาเส มิคมนฺทโลจนา, อุปาวิสิ ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;
ทฺเว ปุณฺณมาโย ตทหู อมฺหํ, ทิสฺวาน ปาราวตรตฺตวาสินึ.
‘‘อฬารปมฺเหหิ ¶ สุเภหิ วคฺคุภิ, ปโลภยนฺตี มํ ยทา อุทิกฺขติ;
วิชมฺภมานา หรเตว เม มโน, ชาตา วเน กิมฺปุริสีว ปพฺพเต.
‘‘ตทา หิ พฺรหตี สามา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลา;
เอกจฺจวสนา นารี, มิคี ภนฺตาวุทิกฺขติ.
‘‘กทาสฺสุ มํ ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;
วฏฺฏงฺคุลี สนฺนตธีรกุตฺติยา, นารี อุปฺิสฺสติ สีสโต สุภา.
‘‘กทาสฺสุ มํ กฺจนชาลุรจฺฉทา, ธีตา ติรีฏิสฺส วิลคฺคมชฺฌา;
มุทูหิ พาหาหิ ปลิสฺสชิสฺสติ, พฺรหาวเน ชาตทุมํว มาลุวา.
‘‘กทาสฺสุ ¶ ลาขารสรตฺตสุจฺฉวี, พินฺทุตฺถนี ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคี;
มุขํ มุเขน อุปนามยิสฺสติ, โสณฺโฑว โสณฺฑสฺส สุราย ถาลํ.
‘‘ยทาทฺทสํ ตํ ติฏฺนฺตึ, สพฺพภทฺทํ มโนรมํ;
ตโต สกสฺส จิตฺตสฺส, นาวโพธามิ กฺจินํ.
‘‘อุมฺมาทนฺติมหํ ทฏฺา, อามุตฺตมณิกุณฺฑลํ;
น สุปามิ ทิวารตฺตึ, สหสฺสํว ปราชิโต.
‘‘สกฺโก ¶ เจ เม วรํ ทชฺชา, โส จ ลพฺเภถ เม วโร;
เอกรตฺตํ ทิรตฺตํ วา, ภเวยฺยํ อภิปารโก;
อุมฺมาทนฺตฺยา รมิตฺวาน, สิวิราชา ตโต สิย’’นฺติ.
ตตฺถ ปุณฺณมาเสติ ปุณฺณจนฺทาย รตฺติยา. มิคมนฺทโลจนาติ กณฺฑสนฺตาเสน ปลายิตฺวา วนนฺตเร ตฺวา ลุทฺทํ โอโลเกนฺติยา มิคิยา วิย มนฺทานิ ¶ โลจนานิ อสฺสาติ มิคมนฺทโลจนา. อุปาวิสีติ ปทุมวณฺเณน กรตเลน ปุปฺผานิ ขิปิตฺวา มํ โอโลเกนฺตี วาตปาเน นิสีทิ. ปุณฺฑรีกตฺตจงฺคีติ รตฺตปทุมวณฺณสรีรา. ทฺเว ปุณฺณมาโยติ อหํ ตทหุ ตสฺมึ ฉณทิวเส ตํ ปาราวตปาทสมานวณฺณรตฺตวตฺถนิวตฺถํ ทิสฺวา ตสฺสา มุขโสภํ โอโลเกนฺโต เอกสฺส ปาจีนโลกธาตุโต เอกสฺส อภิปารกสฺส เสนาปติโน นิเวสเนติ ทฺวินฺนํ ปุณฺณจนฺทานํ อุคฺคตตฺตา ทฺเว ปุณฺณมาโย อมฺึ. อฬารปมฺเหหีติ วิสาลปขุเมหิ. สุเภหีติ ปริสุทฺเธหิ. วคฺคุภีติ มธุรากาเรหิ. อุทิกฺขตีติ เอวรูเปหิ เนตฺเตหิ ยสฺมึ ขเณ โอโลเกติ. ปพฺพเตติ ยถา หิมวนฺตปพฺพเต สุปุปฺผิตวเน วีณํ อาทาย ตนฺติสฺสเรน อตฺตโน สรํ สํสนฺทนฺตี กิมฺปุริสี กิมฺปุริสสฺส มนํ หรติ, เอวํ หรเตว เม มโนติ วิปฺปลปติ.
พฺรหตีติ อุฬารา. สามาติ สุวณฺณวณฺณสามา. เอกจฺจวสนาติ เอกจฺจิกวสนา, เอกวตฺถนิวตฺถาติ อตฺโถ. ภนฺตาวุทิกฺขตีติ สณฺหเกสา ปุถุนลาฏา อายตภมู วิสาลกฺขี ตุงฺคนาสา รตฺโตฏฺา เสตทนฺตา ติขิณทาา สุวฏฺฏิตคีวา สุตนุพาหุ สุสณฺิตปโยธรา กรมิตมชฺฌา วิสาลโสณี สุวณฺณกทลิสมาโนรุ สา อุตฺตมิตฺถี ตสฺมึ ขเณ มํ อุทิกฺขนฺตี ภเยน วนํ ปวิสิตฺวา ปุน นิวตฺติตฺวา ลุทฺทํ อุทิกฺขนฺตี ภนฺตา มิคีว มํ อุทิกฺขตีติ วทติ. พาหามุทูติ มุทุพาหา. สนฺนตธีรกุตฺติยาติ สุผุสิตเฉกกรณา. อุปฺิสฺสติ ¶ มนฺติ สา สุภา นารี กทา นุ มํ เตหิ ตมฺพนเขหิ สีสโต ปฏฺาย สนฺนเตน ธีเรน กรเณน ปริโตเสสฺสตีติ ปตฺเถนฺโต วิลปติ.
กฺจนชาลุรจฺฉทาติ กฺจนมยอุรจฺฉทาลงฺการา. วิลคฺคมชฺฌาติ วิลคฺคสรีรา ตนุมชฺฌิมา. พฺรหาวเนติ มหาวเน. ลาขารสรตฺตสุจฺฉวีติ หตฺถปาทตลอคฺคนขโอฏฺมํเสสุ ลาขารสรตฺตมณิปวาลวณฺณา. พินฺทุตฺถนีติ อุทกปุปฺผุฬปริมณฺฑลตฺถนี. ตโตติ ยทา ตํ ติฏฺนฺตึ อทฺทสํ, ตโต ปฏฺาย. สกสฺส จิตฺตสฺสาติ อตฺตโน จิตฺตสฺส อนิสฺสโร ชาโตมฺหีติ อธิปฺปาโย. กฺจินนฺติ กฺจิ ‘‘อยํ อสุโก นามา’’ติ น ชานามิ, อุมฺมตฺตโก ชาโตมฺหีติ วทติ. ทฏฺาติ ทิสฺวา. น สุปามีติ เนว รตฺตึ, น ทิวา นิทฺทํ ลภามิ. โส จ ลพฺเภถาติ ยํ เม สกฺโก วรํ ทเทยฺย, โส จ เม วโร ลพฺเภถ, ลเภยฺยาหํ ตํ วรนฺติ อตฺโถ.
อถ ¶ เต อมจฺจา อภิปารกสฺสปิ อาโรจยึสุ – ‘‘สามิ ราชา, นครํ ปทกฺขิณํ กโรนฺโต ตุมฺหากํ ฆรทฺวารํ ปตฺวา นิวตฺติตฺวา ¶ ปาสาทํ อภิรุหี’’ติ. โส อตฺตโน เคหํ คนฺตฺวา อุมฺมาทนฺตึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, กจฺจิ รฺโ อตฺตานํ ทสฺเสสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สามิ, เอโก มโหทโร มหาทาิโก รเถ ตฺวา อาคโต ปุริโส อตฺถิ, อหํ ตํ ราชา วา อราชา วาติ น ชานามิ, เอโก อิสฺสโรติ ปน วุตฺเต วาตปาเน ตฺวา ปุปฺผานิ ขิปึ, โส ตาวเทว นิวตฺติตฺวา คโต’’ติ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘นาสิโตมฺหิ ตยา’’ติ ปุนทิวเส ปาโตว ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวาเร ตฺวา รฺโ อุมฺมาทนฺตึ นิสฺสาย วิปฺปลาปํ สุตฺวา ‘‘อยํ อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต ชาโต, ตํ อลภนฺโต มริสฺสติ, รฺโ จ มม จ อคุณํ โมเจตฺวา อิมสฺส มยา ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ อตฺตโน นิเวสนํ คนฺตฺวา เอกํ ทฬฺหมนฺตํ อุปฏฺากํ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาต, อสุกฏฺาเน สุสิรเจติยรุกฺโข อตฺถิ, ตฺวํ กฺจิ อชานาเปตฺวา อตฺถงฺคเต สูริเย ตตฺถ คนฺตฺวา อนฺโตรุกฺเข นิสีท, อหํ ตตฺถ พลิกมฺมํ กโรนฺโต ตํ านํ ปตฺวา เทวตา นมสฺสนฺโต, ‘สามิ เทวราช, อมฺหากํ ราชา นครมฺหิ ฉเณ วตฺตมาเน อกีฬิตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา วิปฺปลปนฺโตว นิปนฺโน, มยํ ตตฺถ การณํ น ชานาม, ราชา เทวตานํ พหูปกาโร, อนุสํวจฺฉรํ สหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา พลิกมฺมํ กโรติ, อิทํ นาม นิสฺสาย ราชา วิปฺปลปตีติ อาจิกฺขถ, รฺโ โน ชีวิตทานํ เทถา’ติ ยาจิสฺสามิ, ตฺวํ ตสฺมึ ขเณ สทฺทํ ปริวตฺติตฺวา, ‘เสนาปติ, ตุมฺหากํ รฺโ พฺยาธิ นาม นตฺถิ, โส ปน ตว ภริยาย อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺโต. สเจ นํ ลภิสฺสติ, ชีวิสฺสติ, โน เจ, มริสฺสติ. สเจ ¶ ตสฺส ชีวิตํ อิจฺฉสิ, อุมฺมาทนฺติมสฺส เทหี’ติ วเทยฺยาสี’’ติ เอวํ ตํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา อุยฺโยเชสิ.
โส คนฺตฺวา ตสฺมึ รุกฺเข นิสีทิตฺวา ปุนทิวเส เสนาปตินา อมจฺจคณปริวุเตน ตํ านํ คนฺตฺวา ยาจิโต ตถา อภาสิ. เสนาปติ ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เทวตํ วนฺทิตฺวา อมจฺเจ ชานาเปตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ราชนิเวสนํ อารุยฺห สิริคพฺภทฺวารํ อาโกเฏสิ. ราชา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ¶ ‘‘โก เอโส’’ติ ปุจฺฉิ. อหํ, เทว, อภิปารโกติ. อถสฺส ราชา ทฺวารํ วิวริ. โส ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา คาถมาห –
‘‘ภูตานิ ¶ เม ภูตปตี นมสฺสโต, อาคมฺม ยกฺโข อิทเมตทพฺรวิ;
รฺโ มโน อุมฺมทนฺตฺยา นิวิฏฺโ, ททามิ เต ตํ ปริจารยสฺสู’’ติ.
ตตฺถ นมสฺสโตติ ตุมฺหากํ วิปฺปลาปการณชานนตฺถํ พลิกมฺมํ กตฺวา นมสฺสนฺตสฺส. ตนฺติ อหํ ตํ อุมฺมาทนฺตึ ตุมฺหากํ ปริจาริกํ กตฺวา ททามีติ.
อถ นํ ราชา, ‘‘สมฺม อภิปารก, มม อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตตาย วิปฺปลปิตภาวํ ยกฺขาปิ ชานนฺตี’’ติ ปุจฺฉิ. อาม, เทวาติ. โส ‘‘สพฺพโลเกน กิร เม ลามกภาโว าโต’’ติ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺาย อนนฺตรํ คาถมาห –
‘‘ปฺุา จ ธํเส อมโร น จมฺหิ, ชโน จ เม ปาปมิทฺจ ชฺา;
ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา’’ติ.
ตตฺถ ธํเสติ, สมฺม อภิปารก, อหํ ตาย สทฺธึ กิเลสวเสน ปริจาเรนฺโต ปฺุโต จ ธํเสยฺยํ, ตาย สทฺธึ ปริจาริตมตฺเตน อมโร จ น โหมิ, มหาชโน จ เม อิมํ ลามกภาวํ ชาเนยฺย, ตโต ‘‘อยุตฺตํ รฺา กต’’นฺติ ครเหยฺย, ตฺจ มม ทตฺวา ปจฺฉา ปิยภริยํ อทฏฺา ตว มนโส วิฆาโต จสฺสาติ อตฺโถ.
เสสา อุภินฺนมฺปิ วจนปฏิวจนคาถา โหนฺติ –
‘‘ชนินฺท ¶ นาฺตฺร ตยา มยา วา, สพฺพาปิ กมฺมสฺส กตสฺส ชฺา;
ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.
‘‘โย ปาปกํ กมฺมกรํ มนุสฺโส, โส มฺติ มายิท มฺึสุ อฺเ;
ปสฺสนฺติ ¶ ภูตานิ กโรนฺตเมตํ, ยุตฺตา จ เย โหนฺติ นรา ปถพฺยา.
‘‘อฺโ ¶ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;
ภุโส จ ตฺยสฺส มนุโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.
‘‘อทฺธา ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;
คจฺเฉว ตฺวํ อุมฺมทนฺตึ ภทนฺเต, สีโหว เสลสฺส คุหํ อุเปติ.
‘‘น ปีฬิตา อตฺตทุเขน ธีรา, สุขปฺผลํ กมฺม ปริจฺจชนฺติ;
สมฺโมหิตา วาปิ สุเขน มตฺตา, น ปาปกมฺมฺจ สมาจรนฺติ.
‘‘ตุวฺหิ มาตา จ ปิตา จ มยฺหํ, ภตฺตา ปตี โปสโก เทวตา จ;
ทาโส อหํ ตุยฺห สปุตฺตทาโร, ยถาสุขํ สามิ กโรหิ กามํ.
‘‘โย ‘อิสฺสโรมฺหี’ติ กโรติ ปาปํ, กตฺวา จ โส นุตฺตสเต ปเรสํ;
น เตน โส ชีวติ ทีฆมายุ, เทวาปิ ปาเปน สเมกฺขเร นํ.
‘‘อฺาตกํ สามิเกหี ปทินฺนํ, ธมฺเม ิตา เย ปฏิจฺฉนฺติ ทานํ;
ปฏิจฺฉกา ทายกา จาปิ ตตฺถ, สุขปฺผลฺเว กโรนฺติ กมฺมํ.
‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;
ภุโส ¶ จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.
‘‘อทฺธา ¶ ปิยา มยฺห ชนินฺท เอสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;
ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.
‘‘โย ¶ อตฺตทุกฺเขน ปรสฺส ทุกฺขํ, สุเขน วา อตฺตสุขํ ทหาติ;
ยเถวิทํ มยฺห ตถา ปเรสํ, โย เอวํ ชานาติ ส เวทิ ธมฺมํ.
‘‘อฺโ นุ เต โกจิ นโร ปถพฺยา, สทฺเธยฺย โลกสฺมิ น เม ปิยาติ;
ภุโส จ ตฺยสฺส มนโส วิฆาโต, ทตฺวา ปิยํ อุมฺมทนฺตึ อทฏฺา.
‘‘ชนินฺท ชานาสิ ปิยา มเมสา, น สา มมํ อปฺปิยา ภูมิปาล;
ปิเยน เต ทมฺมิ ปิยํ ชนินฺท, ปิยทายิโน เทว ปิยํ ลภนฺติ.
‘‘โส นูนาหํ วธิสฺสามิ, อตฺตานํ กามเหตุกํ;
น หิ ธมฺมํ อธมฺเมน, อหํ วธิตุมุสฺสเห.
‘‘สเจ ตุวํ มยฺห สตึ ชนินฺท, น กามยาสิ นรวีร เสฏฺ;
จชามิ นํ สพฺพชนสฺส สิพฺยา, มยา ปมุตฺตํ ตโต อวฺหเยสิ นํ.
‘‘อทูสิยํ เจ อภิปารก ตฺวํ, จชาสิ กตฺเต อหิตาย ตฺยสฺส;
มหา จ เต อุปวาโทปิ อสฺส, น จาปิ ตฺยสฺส นครมฺหิ ปกฺโข.
‘‘อหํ ¶ สหิสฺสํ อุปวาทเมตํ, นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ;
มเมตมาคจฺฉตุ ภูมิปาล, ยถาสุขํ สิวิ กโรหิ กามํ.
‘‘โย ¶ เนว นินฺทํ น ปนปฺปสํสํ, อาทิยติ ครหํ โนปิ ปูชํ;
สิรี จ ลกฺขี จ อเปติ ตมฺหา, อาโป สุวุฏฺีว ยถา ถลมฺหา.
‘‘ยํ กิฺจิ ทุกฺขฺจ สุขฺจ เอตฺโต, ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ;
อุรสา อหํ ปจฺจุตฺตริสฺสามิ สพฺพํ, ปถวี ยถา ถาวรานํ ตสานํ.
‘‘ธมฺมาติสารฺจ มโนวิฆาตํ, ทุกฺขฺจ นิจฺฉามิ อหํ ปเรสํ;
เอโกวิมํ หารยิสฺสามิ ภารํ, ธมฺเม ิโต กิฺจิ อหาปยนฺโต.
‘‘สคฺคูปคํ ¶ ปฺุกมฺมํ ชนินฺท, มา เม ตุวํ อนฺตรายํ อกาสิ;
ททามิ เต อุมฺมทนฺตึ ปสนฺโน, ราชาว ยฺเ ธนํ พฺราหฺมณานํ.
‘‘อทฺธา ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;
นินฺเทยฺยุ เทวา ปิตโร จ สพฺเพ, ปาปฺจ ปสฺสํ อภิสมฺปรายํ.
‘‘น เหตธมฺมํ สิวิราช วชฺชุํ, สเนคมา ชานปทา จ สพฺเพ;
ยํ เต มยา อุมฺมทนฺตี ปทินฺนา, ภุเสหิ ราชา วนถํ สชาหิ.
‘‘อทฺธา ¶ ตุวํ กตฺเต หิเตสิ มยฺหํ, สขา มมํ อุมฺมทนฺตี ตุวฺจ;
สตฺจ ธมฺมานิ สุกิตฺติตานิ, สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ.
‘‘อาหุเนยฺโย เมสิ หิตานุกมฺปี, ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโล;
ตยี ¶ หุตา ราช มหปฺผลา หิ, กาเมน เม อุมฺมทนฺตึ ปฏิจฺฉ.
‘‘อทฺธา หิ สพฺพํ อภิปารก ตฺวํ, ธมฺมํ อจารี มม กตฺตุปุตฺต;
อฺโ นุ เต โก อิธ โสตฺถิกตฺตา, ทฺวิปโท นโร อรุเณ ชีวโลเก.
‘‘ตุวํ นุ เสฏฺโ ตฺวมนุตฺตโรสิ, ตฺวํ ธมฺมคุตฺโต ธมฺมวิทู สุเมโธ;
โส ธมฺมคุตฺโต จิรเมว ชีว, ธมฺมฺจ เม เทสย ธมฺมปาล.
‘‘ตทิงฺฆ อภิปารก, สุโณหิ วจนํ มม;
ธมฺมํ เต เทสยิสฺสามิ, สตํ อาเสวิตํ อหํ.
‘‘สาธุ ธมฺมรุจี ราชา, สาธุ ปฺาณวา นโร;
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ, ปาปสฺสากรณํ สุขํ.
‘‘อกฺโกธนสฺส วิชิเต, ิตธมฺมสฺส ราชิโน;
สุขํ มนุสฺสา อาเสถ, สีตจฺฉายาย สงฺฆเร.
‘‘น ¶ จาหเมตํ อภิโรจยามิ, กมฺมํ อสเมกฺขกตํ อสาธุ;
เย วาปิ ตฺวาน สยํ กโรนฺติ, อุปมา อิมา มยฺหํ ตุวํ สุโณหิ.
‘‘ควํ ¶ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.
‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.
‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.
‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.
‘‘น ¶ จาปาหํ อธมฺเมน, อมรตฺตมภิปตฺถเย;
อิมํ วา ปถวึ สพฺพํ, วิเชตุํ อภิปารก.
‘‘ยฺหิ กิฺจิ มนุสฺเสสุ, รตนํ อิธ วิชฺชติ;
คาโว ทาโส หิรฺฺจ, วตฺถิยํ หริจนฺทนํ.
‘‘อสฺสิตฺถิโย รตนํ มณิกฺจ, ยฺจาปิ เม จนฺทิมสูริยา อภิปาลยนฺติ;
น ตสฺส เหตุ วิสมํ จเรยฺยํ, มชฺเฌ สิวีนํ อุสโภมฺหิ ชาโต.
‘‘เนตา หิตา อุคฺคโต รฏฺปาโล, ธมฺมํ สิวีนํ อปจายมาโน;
โส ธมฺมเมวานุวิจินฺตยนฺโต, ตสฺมา สเก จิตฺตวเส น วตฺโต.
‘‘อทฺธา ¶ ตุวํ มหาราช, นิจฺจํ อพฺยสนํ สิวํ;
กริสฺสสิ จิรํ รชฺชํ, ปฺา หิ ตว ตาทิสี.
‘‘เอตํ เต อนุโมทาม, ยํ ธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ;
ธมฺมํ ปมชฺช ขตฺติโย, รฏฺา จวติ อิสฺสโร.
‘‘ธมฺมํ ¶ จร มหาราช, มาตาปิตูสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, ปุตฺตทาเรสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิตฺตามจฺเจสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, วาหเนสุ พเลสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, คาเมสุ นิคเมสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, รฏฺเสุ ชนปเทสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สมณพฺราหฺมเณสุ จ;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, มิคปกฺขีสุ ขตฺติย;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ ¶ จร มหาราช, ธมฺโม จิณฺโณ สุขาวโห;
อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ราช สคฺคํ คมิสฺสสิ.
‘‘ธมฺมํ จร มหาราช, สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา;
สุจิณฺเณน ทิวํ ปตฺตา, มา ธมฺมํ ราช ปามโท’’ติ.
ตตฺถ ¶ สพฺพาปีติ, ชนินฺท, อหเมตํ เอกโกว ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาเนสฺสามิ, ตสฺมา เปตฺวา มมฺจ ตุวฺจ อฺา สพฺพาปิ ปชา อิมสฺส กตสฺส อาการมตฺตมฺปิ น ชฺา น ชานิสฺสนฺติ. ภุเสหีติ ตาย สทฺธึ อภิรมนฺโต อตฺตโน ตณฺหาวนถํ ภุสํ กโรหิ วฑฺเฒหิ มโนรถํ ปูเรหิ. สชาหีติ มโนรถํ ปน ปูเรตฺวา สเจ เต น รุจฺจติ, อถ นํ สชาหิ มยฺหเมว ปฏิเทหิ. กมฺมกรนฺติ, สมฺม อภิปารก, โย มนุสฺโส ปาปกํ กมฺมํ ¶ กโรนฺโต, โส ปจฺฉา มา อิธ อฺเ อิทํ ปาปกมฺมํ มฺึสุ มา ชานนฺตูติ มฺติ จินฺเตติ, ทุจินฺติตเมตํ ตสฺส. กึการณา? ปสฺสนฺติ ภูตานิ กโรนฺตเมตนฺติ เย จ พุทฺธา ปจฺเจกพุทฺธา พุทฺธปุตฺตา อิทฺธิยา ยุตฺตา, เต จ นํ ปสฺสนฺติเยว. น เม ปิยาติ, สมฺม อภิปารก, อฺโ นุ เต โกจิ ‘‘อิธ โลกสฺมึ สกลายปิ ปถวิยา น เม อุมฺมาทนฺตี ปิยา’’ติ เอวํ สทฺทเหยฺย.
สีโหว เสลสฺส คุหนฺติ, มหาราช, สเจ ตฺวํ ตํ อิธ น อาเนสิ, อถ ยถา สีโห กิเลสปริฬาเห อุปฺปนฺเน สีหโปติกาย วสนฏฺานํ มณิคุหํ อุเปติ, เอวํ ตสฺสา วสนฏฺานํ คจฺฉ, ตตฺถ อตฺตโน ปตฺถนํ ปูเรหีติ. สุขปฺผลนฺติ, สมฺม อภิปารก, ปณฺฑิตา อตฺตโน ทุกฺเขน ผุฏฺา สมานา น สุขวิปากทายกกมฺมํ ปริจฺจชนฺติ, สมฺโมหิตา วาปิ หุตฺวา โมเหน มูฬฺหา สุเขน มตฺตา ปาปกมฺมํ นาม น สมาจรนฺติ. ยถาสุขํ, สามิ, กโรหิ กามนฺติ, สามิ สิวิราช, อตฺตโน ทาสึ ปริจาเรนฺตสฺส ครหา นาม นตฺถิ, ตฺวํ ยถาสุขํ ยถาชฺฌาสยํ กามํ กโรหิ, อตฺตโน อิจฺฉํ ปูเรหีติ. น เตน โส ชีวตีติ, สมฺม อภิปารก, โย ‘‘อิสฺสโรมฺหี’’ติ ปาปํ กโรติ, กตฺวา จ กึ มํ เทวมนุสฺสา วกฺขนฺตีติ น อุตฺตสติ น โอตฺตปฺปติ, โส เตน กมฺเมน น จ ทีฆกาลํ ชีวติ, ขิปฺปเมว มรติ, เทวตาปิ ปน ‘‘กึ อิมสฺส ปาปรฺโ รชฺเชน, วรมสฺส วาฬุกฆฏํ คเล พนฺธิตฺวา มรณ’’นฺติ ลามเกน จกฺขุนา โอโลเกนฺติ.
อฺาตกนฺติ, มหาราช, อฺเสํ สนฺตกํ เตหิ สามิเกหิ ปทินฺนํ ทานํ เย อตฺตโน ธมฺเม ¶ ิตา ปฏิจฺฉนฺติ, เต ตตฺถ ปฏิจฺฉกา จ ทายกา จ สพฺเพปิ สุขปฺผลเมว กมฺมํ กโรนฺติ. ปฏิคฺคาหเก หิ ปฏิคฺคณฺหนฺเต ตํ ทานํ ทายกสฺส มหนฺตํ วิปากํ เทตีติ. โย อตฺตทุกฺเขนาติ, สมฺม อภิปารก, โย อตฺตโน ทุกฺเขน ปีฬิโต ตํ ปรสฺส ทหติ, อตฺตโน สรีรโต อปเนตฺวา ปรสฺส สรีเร ขิปติ, ปรสฺส วา สุเขน อตฺตโน สุขํ ทหติ, ปรสฺส สุขํ คเหตฺวา อตฺตนิ ปกฺขิปติ, ‘‘อตฺตโน ทุกฺขํ หริสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรํ ทุกฺขิตํ กโรติ, ‘‘อตฺตานํ สุเขสฺสามี’’ติ ปรสฺส สุขํ นาเสติ, น โส ธมฺมํ ชานาติ. โย ปน เอวํ ชานาติ ‘‘ยเถวิทํ มยฺหํ ¶ สุขทุกฺขํ, ตถา ปเรส’’นฺติ, ส เวทิ ธมฺมํ ชานาติ นามาติ อยเมติสฺสา คาถาย อตฺโถ.
ปิเยน เต ทมฺมีติ ปิเยน การณภูเตน ปิยํ ผลํ ปตฺเถนฺโต ทมฺมีติ อตฺโถ. ปิยํ ลภนฺตีติ สํสาเร สํสรนฺตา ปิยเมว ลภนฺติ. กามเหตุกนฺติ, สมฺม อภิปารก ¶ , กามเหตุกํ อยุตฺตํ กตฺวา ‘‘อตฺตานํ วธิสฺสามี’’ติ เม ปริวิตกฺโก อุปฺปชฺชติ. มยฺห สตินฺติ มม สนฺตกํ. ‘‘มยฺห สตี’’ติปิ ปาโ, มม สนฺตกาติ เอวํ มฺมาโน สเจ ตฺวํ ตํ น กาเมสีติ อตฺโถ. สพฺพชนสฺสาติ สพฺพา เสนิโย สนฺนิปาตาเปตฺวา ตสฺส สพฺพชนสฺส อยํ มยฺหํ อหิตาติ ปริจฺจชิสฺสามิ. ตโต อวฺหเยสีติ ตโต ตํ อปริคฺคหิตตฺตา อาเนยฺยาสิ. อทูสิยนฺติ อนปราธํ. กตฺเตติ ตเมว อปเรน นาเมน อาลปติ. โส หิ รฺโ หิตํ กโรติ, ตสฺมา ‘‘กตฺตา’’ติ วุจฺจติ. น จาปิ ตฺยสฺสาติ เอวํ อกิจฺจการีติ นคเร ตว โกจิ ปกฺโขปิ น ภเวยฺย.
นินฺทนฺติ น เกวลํ อุปวาทเมว, สเจปิ มํ โกจิ สมฺมุขา นินฺทิสฺสติ วา ปสํสิสฺสติ วา, โทสํ วา ปน อาโรเปนฺโต ครหิสฺสติ, ตมฺปาหํ นินฺทํ ปสํสํ ครหฺจ สพฺพํ สหิสฺสามิ, สพฺพเมตํ มม อาคจฺฉตูติ วทติ. ตมฺหาติ โย เอเต นินฺทาทโย น คณฺหาติ, ตมฺหา ปุริสา อิสฺสริยสงฺขาตา สิรี จ ปฺาสงฺขาตา ลกฺขี จ ถลฏฺานโต สุวุฏฺิสงฺขาโต อาโป วิย อเปติ น ปติฏฺาตีติ. เอตฺโตติ อิโต มม ตสฺสา ปริจฺจตฺตการณา. ธมฺมาติสารฺจาติ ธมฺมํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ อกุสลํ วา ยํ กิฺจิ โหติ. ปจฺจุตฺตริสฺสามีติ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ. ถาวรานํ ตสานนฺติ ยถา มหาปถวี ขีณาสวานฺจ ปุถุชฺชนานฺจ กิฺจิ สมฺปฏิจฺฉติ สพฺพํ อธิวาเสติ, ตเถวาหมฺปิ สพฺพเมตํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามิ อธิวาเสสฺสามีติ ทีเปติ. เอโกวิมนฺติ อหํ เอโกว อิมมฺปิ อตฺตโน ทุกฺขภารํ หารยิสฺสามิ ธารยิสฺสามิ วหิสฺสามิ. ธมฺเม ิโตติ วินิจฺฉยธมฺเม ปเวณิธมฺเม ติวิธสุจริตธมฺเม จ ิโต หุตฺวา.
สคฺคูปคนฺติ ¶ , เทว, ปฺุกมฺมํ นาเมตํ สคฺคูปคํ โหติ. ยฺเ ธนนฺติ ยฺธนํ, อยเมว วา ปาโ. สขาติ อุมฺมาทนฺตีปิ มม สหายิกา, ตฺวมฺปิ ¶ สหายโก. ปิตโรติ พฺรหฺมาโน. สพฺเพติ น เกวลํ เทวพฺรหฺมาโนว, สพฺเพ รฏฺวาสิโนปิ มํ ปสฺสถ, ‘‘โภ, สหายกสฺส ภริยา สหายิกา อิมินา เคเห กตา’’ติ นินฺเทยฺยุํ. น เหตธมฺมนฺติ น หิ เอตํ อธมฺมิกํ. ยํ เต มยาติ ยสฺมา มยา สา ตุยฺหํ ทินฺนา, ตสฺมา เอตํ อธมฺโมติ น วทิสฺสนฺติ. สตนฺติ สนฺตานํ พุทฺธาทีนํ ขนฺติเมตฺตาภาวนาสีลาจารสงฺขาตานิ ธมฺมานิ สุวณฺณิตานิ สมุทฺทเวลาว ทุรจฺจยานิ, ตสฺมา ยถา สมุทฺโท เวลํ นาติกฺกมติ, เอวมหมฺปิ สีลเวลํ นาติกฺกมิสฺสามีติ วทติ.
อาหุเนยฺโย เมสีติ, มหาราช, ตฺวํ มม อาหุนปาหุนสกฺการสฺสานุจฺฉวิโก. ธาตา วิธาตา จสิ กามปาโลติ ตฺวํ มม, เทว, ธารณโต ธาตา อิสฺสริยสุขสฺส วิทหนโต วิธาตา อิจฺฉิตปตฺถิตานํ ¶ กามานํ ปาลนโต กามปาโล. ตยี หุตาติ ตุยฺหํ ทินฺนา. กาเมน เมติ มม กาเมน มม ปตฺถนาย อุมฺมาทนฺตึ ปฏิจฺฉาติ เอวํ อภิปารโก รฺโ เทติ. ราชา ‘‘น มยฺหํ อตฺโถ’’ติ ปฏิกฺขิปติ. ภูมิยํ ปติตํ สากุณิกปจฺฉึ ปิฏฺิปาเทน ปหริตฺวา อฏวิยํ ขิปนฺตา วิย อุโภปิ นํ ชหนฺเตว. อิทานิ ราชา ปุน อกถนตฺถาย ตํ สนฺตชฺเชนฺโต ‘‘อทฺธา หี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ กตฺตุปุตฺตาติ ปิตาปิสฺส กตฺตาว, เตน นํ เอวํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อทฺธา ตฺวํ อิโต ปุพฺเพ มยฺหํ สพฺพธมฺมํ อจริ, หิตเมว วุฑฺฒิเมว อกาสิ, อิทานิ ปน ปฏิปกฺโข หุตฺวา พหุํ กเถสิ, ‘‘มา เอวํ วิปฺปลปสิ, อฺโ นุ เต ทฺวิปโท นโร, โก อิธ ชีวโลเก อรุเณเยว โสตฺถิกตฺตา, สเจ หิ อหํ วิย อฺโ ราชา ตว ภริยาย ปฏิพทฺธจิตฺโต อภวิสฺส, อนฺโตอรุเณเยว ตว สีสํ ฉินฺทาเปตฺวา ตํ อตฺตโน ฆเร กเรยฺย, อหํ ปน อกุสลภเยเนว น กโรมิ, ตุณฺหี โหหิ, น เม เอตาย อตฺโถ’’ติ ตํ สนฺตชฺเชสิ.
โส ตํ สุตฺวา ปุน กิฺจิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต รฺโ ถุติวเสน ‘‘ตุวํ นู’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวฺเว สกลชมฺพุทีเป สพฺเพสํ นรินฺทานํ เสฏฺโ, ตฺวํ อนุตฺตโร, ตฺวํ วินิจฺฉยธมฺมปเวณิธมฺมสุจริตธมฺมานํ โคปายเนน ธมฺมคุตฺโต, เตสํ วิทิตตฺตา ธมฺมวิทู ตฺวํ สุเมโธ, โส ตฺวํ ยํ ธมฺมํ โคเปสิ, เตเนว คุตฺโต จีรํ ชีว, ธมฺมฺจ เม เทเสหิ ธมฺมปาลก, ธมฺมโคปก, ราชวราติ.
อถ ¶ ราชา ธมฺมํ เทเสนฺโต ‘‘ตทิงฺฆา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต, ยสฺมา ¶ มํ ตฺวํ โจเทสิ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สตนฺติ พุทฺธาทีหิ สปฺปุริเสหิ อาเสวิตํ. สาธูติ สุนฺทโร ปสตฺโถ. วินิจฺฉยปเวณิสุจริตธมฺเม โรเจตีติ ธมฺมรุจิ. ตาทิโส หิ ชีวิตํ ชหนฺโตปิ อกิจฺจํ น กโรติ, ตสฺมา สาธุ. ปฺาณวาติ าณสมฺปนฺโน. มิตฺตานมทฺทุพฺโภติ มิตฺตสฺส อทุสฺสนภาโว. ิตธมฺมสฺสาติ ปติฏฺิตติวิธธมฺมสฺส. อาเสถาติ อาเสยฺยุํ นิสีเทยฺยุํ. เทสนาสีสเมว เจตํ, จตฺตาโรปิ อิริยาปเถ สุขํ กปฺเปยฺยุนฺติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. สีตจฺฉายายาติ ปุตฺตทาราติมิตฺตานํ สีตลาย ฉายาย. สงฺฆเรติ สกฆเร, อตฺตโน เคเหติ อตฺโถ. อธมฺมพลิทณฺฑาทีหิ อนุปทฺทุตา สุขํ วเสยฺยุนฺติ ทสฺเสติ. น จาหเมตนฺติ, สมฺม อภิปารก, ยเมตํ อสเมกฺขิตฺวา กตํ อสาธุกมฺมํ, เอตํ อหํ น โรจยามิ. เย วาปิ ตฺวานาติ เย วา ปน ราชาโน ตฺวา ตุเลตฺวา ตีเรตฺวา สยํ กโรนฺติ, เตสาหํ กมฺมํ โรเจมีติ อธิปฺปาโย. อุปมา อิมาติ อิมสฺมึ ปนตฺเถ ตฺวํ มยฺหํ อิมา ทฺเว อุปมา สุโณหิ.
ชิมฺหนฺติ วงฺกํ. เนตฺเตติ โย คาวิโย เนติ, ตสฺมึ เชฏฺกอุสเภ. ปเควาติ ตสฺมึ อธมฺมํ จรนฺเต อิตรา ปชา ปเคว จรติ, อติวิย กโรตีติ อตฺโถ. ธมฺมิโกติ จตฺตาริ อคติคมนานิ ปหาย ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต. อมรตฺตนฺติ เทวตฺตํ. รตนนฺติ สวิฺาณกาวิฺาณกรตนํ. วตฺถิยนฺติ กาสิกวตฺถเมว. อสฺสิตฺถิโยติ วาตสมคติอสฺเสปิ อุตฺตมรูปธรา อิตฺถิโยปิ. รตนํ มณิกฺจาติ สตฺตวิธรตนฺจ มหคฺฆภณฺฑกฺจ. อภิปาลยนฺตีติ ¶ อาโลกํ กโรนฺตา รกฺขนฺติ. น ตสฺสาติ ตสฺส จกฺกวตฺติรชฺชสฺสปิ เหตุ น วิสมํ จเรยฺยํ. อุสโภมฺหีติ ยสฺมา อหํ สิวีนํ มชฺเฌ เชฏฺกราชา หุตฺวา ชาโต, ตสฺมา จกฺกวตฺติรชฺชการณมฺปิ น วิสมํ จรามีติ อตฺโถ. เนตาติ มหาชนํ กุสเล ปติฏฺาเปตฺวา เทวนครํ เนตา, หิตกรเณน ตสฺส หิตา, ‘‘สิวิราชา กิร ธมฺมจารี’’ติ สกลชมฺพุทีเป าตตฺตา อุคฺคโต, สเมน รฏฺปาลนโต รฏฺปาโล. อปจายมาโนติ สิวีนํ โปราณกราชูนํ ปเวณิธมฺมํ อปจายมาโน. โสติ โส อหํ ตเมว ธมฺมํ อนุวิจินฺตยนฺโต ตสฺมา เตน การเณน อตฺตโน จิตฺตสฺส วเส น วตฺตามิ.
เอวํ ¶ มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา อภิปารโก ถุตึ กโรนฺโต ‘‘อทฺธา’’ติอาทิมาห. นปฺปมชฺชสีติ อตฺตนา กถิตธมฺมํ นปฺปมชฺชสิ ตตฺเถว วตฺเตสิ. ธมฺมํ ปมชฺชาติ ธมฺมํ ปมุสฺสิตฺวา อคติวเสน คนฺตฺวา. เอวํ โส ตสฺส ถุตึ กตฺวา ‘‘ธมฺมํ จรา’’ติ ธมฺมจริยาย นิยฺโยเชนฺโต อุตฺตริปิ ทส โอวาทคาถา อภาสิ. ตาสมตฺโถ เหฏฺา เตสกุณชาตเก (ชา. ๒.๑๗.๑ อาทโย) วณฺณิโตว.
เอวํ ¶ อภิปารกเสนาปตินา รฺโ ธมฺเม เทสิเต ราชา อุมฺมาทนฺติยา ปฏิพทฺธจิตฺตํ วิโนเทสิ.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน โส ภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาสิ. ตทา สุนนฺทสารถิ อานนฺโท อโหสิ, อภิปารโก สาริปุตฺโต, อุมฺมาทนฺตี อุปฺปลวณฺณา, เสสปริสา พุทฺธปริสา, สิวิราชา อหเมว อโหสินฺติ.
อุมฺมาทนฺตีชาตกวณฺณนา ทุติยา.
[๕๒๘] ๓. มหาโพธิชาตกวณฺณนา
กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต ปฺาปารมึ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ มหาอุมงฺคชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๕๙๐ อาทโย) อาวิ ภวิสฺสติ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวา ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต โพธิสตฺโต กาสิรฏฺเ อสีติโกฏิวิภวสฺส อุทิจฺจพฺราหฺมณมหาสาลสฺส กุเล นิพฺพตฺติ, ‘‘โพธิกุมาโร’’ติสฺส นามํ กรึสุ. โส วยปฺปตฺโต ตกฺกสิลายํ อุคฺคหิตสิปฺโป ปจฺจาคนฺตฺวา อคารมชฺเฌ วสนฺโต อปรภาเค กาเม ปหาย หิมวนฺตปเทสํ ปวิสิตฺวา ปริพฺพาชกปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ¶ ตตฺเถว วนมูลผลาหาโร จิรํ วสิตฺวา วสฺสารตฺตสมเย หิมวนฺตา โอรุยฺห จาริกํ จรนฺโต อนุปุพฺเพน พาราณสึ ปตฺวา ราชุยฺยาเน วสิตฺวา ปุนทิวเส ปริพฺพาชกสารุปฺเปน นคเร ภิกฺขาย จรนฺโต ราชทฺวารํ ปาปุณิ ¶ ตเมนํ สีหปฺชเร ิโต ราชา ทิสฺวา ตสฺส อุปสเม ปสีทิตฺวา ตํ อตฺตโน ภวนํ ปเวเสตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา กตปฏิสนฺถาโร โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา นานคฺครสโภชนํ ทาเปสิ. มหาสตฺโต ภตฺตํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิทํ ราชกุลํ นาม พหุโทสํ พหุปจฺจามิตฺตํ โหติ, โก นุ โข มม อุปฺปนฺนํ ภยํ นิตฺถริสฺสตี’’ติ. โส อวิทูเร ิตํ ราชวลฺลภํ เอกํ ปิงฺคลสุนขํ ทิสฺวา มหนฺตํ ภตฺตปิณฺฑํ คเหตฺวา ตสฺส ทาตุกามตาการํ ทสฺเสสิ. ราชา ตฺวา สุนขสฺส ภาชนํ อาหราเปตฺวา ภตฺตํ คาหาเปตฺวา ทาเปสิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส ทตฺวา ภตฺตกิจฺจํ นิฏฺเปสิ. ราชาปิสฺส ปฏิฺํ คเหตฺวา อนฺโตนคเร ราชุยฺยาเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ปพฺพชิตปริกฺขาเร ¶ ทตฺวา ตํ ตตฺถ วาสาเปสิ, เทวสิกฺจสฺส ทฺเว ตโย วาเร อุปฏฺานํ อคมาสิ. โภชนกาเล ปน มหาสตฺโต นิจฺจํ ราชปลฺลงฺเกเยว นิสีทิตฺวา ราชโภชนเมว ภฺุชติ. เอวํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ อตีตานิ.
ตสฺส ปน รฺโ ปฺจ อมจฺจา อตฺถฺจ ธมฺมฺจ อนุสาสนฺติ. เตสุ เอโก อเหตุกวาที, เอโก อิสฺสรกตวาที, เอโก ปุพฺเพกตวาที, เอโก อุจฺเฉทวาที, เอโก ขตฺตวิชฺชวาที. เตสุ อเหตุกวาที ‘‘อิเม สตฺตา สํสารสุทฺธิกา’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อิสฺสรกตวาที ‘‘อยํ โลโก อิสฺสรนิมฺมิโต’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ปุพฺเพกตวาที ‘‘อิเมสํ สตฺตานํ สุขํ วา ทุกฺขํ วา อุปฺปชฺชมานํ ปุพฺเพกเตเนว อุปฺปชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. อุจฺเฉทวาที ‘‘อิโต ปรโลกํ คโต นาม นตฺถิ, อยํ โลโก อุจฺฉิชฺชตี’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. ขตฺตวิชฺชวาที ‘‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโนว อตฺโถ กาตพฺโพ’’ติ มหาชนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. เต รฺโ วินิจฺฉเย นิยุตฺตา ลฺชขาทกา ¶ หุตฺวา อสฺสามิกํ สามิกํ, สามิกํ อสฺสามิกํ กโรนฺติ.
อเถกทิวสํ เอโก ปุริโส กูฏฏฺฏปราชิโต มหาสตฺตํ ภิกฺขาย จรนฺตํ ราชเคหํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห ราชเคเห ภฺุชมานา วินิจฺฉยามจฺเจ ลฺชํ คเหตฺวา โลกํ วินาเสนฺเต กสฺมา อชฺฌุเปกฺขถ, อิทานิ ปฺจหิ อมจฺเจหิ กูฏฏฺฏการกสฺส หตฺถโต ลฺชํ คเหตฺวา สามิโกว สมาโน อสฺสามิโก กโต’’ติ ปริเทวิ. โส ¶ ตสฺมึ การฺุวเสน วินิจฺฉยํ คนฺตฺวา ธมฺเมน วินิจฺฉินิตฺวา สามิกฺเว สามิกํ อกาสิ. มหาชโน เอกปฺปหาเรเนว มหาสทฺเทน สาธุการํ อทาสิ. ราชา ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึสทฺโท นามาย’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา กตภตฺตกิจฺจํ มหาสตฺตํ อุปนิสีทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, อชฺช กิร โว อฏฺโฏ วินิจฺฉิโต’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหสุ วินิจฺฉินนฺเตสุ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสติ, อิโต ปฏฺาย ตุมฺเหว วินิจฺฉินถา’’ติ. ‘‘มหาราช, มยํ ปพฺพชิตา นาม, เนตํ กมฺมํ อมฺหากํ กมฺม’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต, มหาชเน การฺุเน กาตุํ วฏฺฏติ, ตุมฺเห สกลทิวสํ มา วินิจฺฉินถ, อุยฺยานโต ปน อิธาคจฺฉนฺตา วินิจฺฉยฏฺานํ คนฺตฺวา ปาโตว จตฺตาโร อฏฺเฏ วินิจฺฉินถ, ภุตฺวา อุยฺยานํ คจฺฉนฺตา จตฺตาโร, เอวํ มหาชนสฺส วุฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ. โส เตน ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโน ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ.
กูฏฏฺฏการกา โอกาสํ น ลภึสุ. เตปิ อมจฺจา ลฺชํ อลภนฺตา ทุคฺคตา หุตฺวา จินฺตยึสุ ¶ – ‘‘โพธิปริพฺพาชกสฺส วินิจฺฉินนกาลโต ปฏฺาย มยํ กิฺจิ น ลภาม, หนฺท นํ ‘ราชเวริโก’ติ วตฺวา รฺโ อนฺตเร ปริภินฺทิตฺวา มาราเปสฺสามา’’ติ. เต ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘มหาราช, โพธิปริพฺพาชโก ตุมฺหากํ อนตฺถกาโม’’ติ วตฺวา อสทฺทหนฺเตน รฺา ‘‘สีลวา เอส าณสมฺปนฺโน, น เอวํ กริสฺสตี’’ติ วุตฺเต, ‘‘มหาราช, เตน สกลนครวาสิโน อตฺตโน หตฺเถ กตฺวา เกวลํ อมฺเหเยว ปฺจ ¶ ชเน กาตุํ น สกฺกา, สเจ อมฺหากํ วจนํ น สทฺทหถ, ตสฺส อิธาคมนกาเล ปริสํ โอโลเกถา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ โอโลเกนฺโต ปริวารํ ทิสฺวา อตฺตโน อฺาเณน อฏฺฏการกมนุสฺเส ‘‘ตสฺส ปริวารา’’ติ มฺมาโน ภิชฺชิตฺวา เต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กินฺติ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘คณฺหาเปถ นํ, เทวา’’ติ. ‘‘โอฬาริกํ อปราธํ อปสฺสนฺตา กถํ คณฺหามา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปกติปริหารมสฺส หาเปถ, ตํ ปริหายนฺตํ ทิสฺวา ปณฺฑิโต ปริพฺพาชโก กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปลายิสฺสตี’’ติ.
ราชา ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา อนุปุพฺเพน ตสฺส ปริหารํ ปริหาเปสิ. ปมทิวสํ ตาว นํ ตุจฺฉปลฺลงฺเกเยว นิสีทาเปสุํ. โส ตุจฺฉปลฺลงฺกํ ทิสฺวาว ¶ รฺโ ปริภินฺนภาวํ ตฺวา สยเมว อุยฺยานํ คนฺตฺวา ตํ ทิวสเมว ปกฺกมิตุกาโม หุตฺวาปิ ‘‘เอกนฺเตน ตฺวา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ น ปกฺกามิ. อถสฺส ปุนทิวเส ตุจฺฉปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส รฺโปกติภตฺตฺจ อฺฺจ คเหตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. ตติยทิวเส มหาตลํ ปวิสิตุํ อทตฺวา โสปานสีเสเยว เปตฺวา มิสฺสกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ อาทาย อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. จตุตฺถทิวเส เหฏฺาปาสาเท เปตฺวา กณาชกภตฺตํ อทํสุ. โส ตมฺปิ คเหตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ภตฺตกิจฺจํ อกาสิ. ราชา อมจฺเจ ปุจฺฉิ – ‘‘โพธิปริพฺพาชโก สกฺกาเร ปริหาปิเตปิ น ปกฺกมติ, กินฺติ นํ กโรมา’’ติ? ‘‘เทว, น โส ภตฺตตฺถาย จรติ, ฉตฺตตฺถาย ปน จรติ. สเจ ภตฺตตฺถาย จเรยฺย, ปมทิวสํเยว ปลาเยยฺยา’’ติ. ‘‘อิทานิ กึ กโรมา’’ติ? ‘‘สฺเว ฆาตาเปถ นํ, มหาราชา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ เตสฺเว หตฺเถ ขคฺเค เปตฺวา ‘‘สฺเว อนฺตรทฺวาเร ตฺวา ปวิสนฺตสฺเสวสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา กฺจิ อชานาเปตฺวา วจฺจกุฏิยํ ปกฺขิปิตฺวา นฺหตฺวา อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘สฺเว อาคนฺตฺวา เอวํ กริสฺสามา’’ติ อฺมฺํ ¶ วิจาเรตฺวา เอวํ อตฺตโน นิเวสนํ อคมํสุ.
ราชาปิ สายํ ภุตฺตโภชโน สิริสยเน นิปชฺชิตฺวา มหาสตฺตสฺส คุเณ อนุสฺสริ. อถสฺส ตาวเทว โสโก อุปฺปชฺชิ, สรีรโต เสทา มุจฺจึสุ, สยเน อสฺสาสํ อลภนฺโต อปราปรํ ¶ ปริวตฺติ. อถสฺส อคฺคมเหสี อุปนิปชฺชิ, โส ตาย สทฺธึ สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กริ. อถ นํ สา ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, สลฺลาปมตฺตมฺปิ น กโรถ, อปิ นุ โข เม โกจิ อปราโธ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ เทวิ, อปิจ โข โพธิปริพฺพาชโก กิร อมฺหากํ ปจฺจตฺถิโก ชาโตติ ตสฺส สฺเว ฆาตนตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ อาณาเปสึ, เต ปน นํ มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ กตฺวา วจฺจกูเป ปกฺขิปิสฺสนฺติ, โส ปน อมฺหากํ ทฺวาทส สํวจฺฉรานิ พหุํ ธมฺมํ เทเสสิ, เอกาปราโธปิสฺส มยา ปจฺจกฺขโต น ทิฏฺปุพฺโพ, ปรปตฺติเยน หุตฺวา ตสฺส มยา วโธ อาณตฺโต, เตน การเณน โสจามี’’ติ. อถ นํ สา ‘‘สเจ เต เทว โส ปจฺจตฺถิโก ชาโต, ตํ ฆาเตนฺโต กึ โสจสิ, ปจฺจตฺถิกํ นาม ปุตฺตมฺปิ ฆาเตตฺวา อตฺตโน โสตฺถิภาโว กาตพฺโพว, มา โสจิตฺถา’’ติ อสฺสาเสสิ. โส ตสฺสา วจเนน ปฏิลทฺธสฺสาโส นิทฺทํ โอกฺกมิ.
ตสฺมึ ¶ ขเณ โกเลยฺยโก ปิงฺคลสุนโข ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘สฺเว มยา อตฺตโน พเลนสฺส ชีวิตํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ปาสาทา โอรุยฺห มหาทฺวารํ อาคนฺตฺวา อุมฺมาเร สีสํ กตฺวา มหาสตฺตสฺส อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺโตว นิปชฺชิ. เตปิ อมจฺจา ปาโตว ขคฺคหตฺถา อาคนฺตฺวา ทฺวารนฺตเร อฏฺํสุ. โพธิสตฺโตปิ เวลํ สลฺลกฺเขตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมฺม ราชทฺวารํ อาคฺฉิ. อถ นํ สุนโข ทิสฺวา มุขํ วิวริตฺวา จตสฺโส ทาา ทสฺเสตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ, ภนฺเต, ชมฺพุทีปตเล อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, อมฺหากํ ราชา ตว มารณตฺถาย ปฺจ อมจฺเจ ขคฺคหตฺเถ ทฺวารนฺตเร เปสิ, มา ตฺวํ นลาเฏน มจฺจุํ คเหตฺวา อาคมิ, สีฆํ ปกฺกมา’’ติ มหาสทฺเทน วิรวิ. โส สพฺพรุตฺุตาย ตมตฺถํ ตฺวา ตโตว นิวตฺติตฺวา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ¶ ปกฺกมนตฺถาย ปริกฺขาเร อาทิยิ. ราชา สีหปฺชเร ิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ คจฺฉนฺตฺจ ทิสฺวา ‘‘สเจ อยํ มม ปจฺจตฺถิโก ภเวยฺย, อุยฺยานํ คนฺตฺวา พลํ สนฺนิปาตาเปตฺวา กมฺมสชฺโช ภวิสฺสติ. โน เจ, อตฺตโน ปริกฺขาเร คเหตฺวา คมนสชฺโช ภวิสฺสติ, ชานิสฺสามิ ตาวสฺส กิริย’’นฺติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ อตฺตโน ปริกฺขาเร อาทาย ‘‘คมิสฺสามี’’ติ ปณฺณสาลโต นิกฺขนฺตํ จงฺกมนโกฏิยํ ทิสฺวาว วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต ปมํ คาถมาห –
‘‘กึ นุ ทณฺฑํ กิมชินํ, กึ ฉตฺตํ กิมุปาหนํ;
กิมงฺกุสฺจ ปตฺตฺจ, สงฺฆาฏิฺจาปิ พฺราหฺมณ;
ตรมานรูโปหาสิ, กึ นุ ปตฺถยเส ทิส’’นฺติ.
ตสฺสตฺโถ ¶ – ภนฺเต, ปุพฺเพ ตฺวํ อมฺหากํ ฆรํ อาคจฺฉนฺโต ทณฺฑาทีนิ น คณฺหาสิ, อชฺช ปน เกน การเณน ทณฺฑฺจ อชินฺจ ฉตฺตูปาหนฺจ มตฺติกปสิพฺพโกลมฺพนองฺกุสฺจ มตฺติกปตฺตฺจ สงฺฆาฏิฺจาติ สพฺเพปิเม ปริกฺขาเร ตรมานรูโป คณฺหาสิ, กตรํ นุ ทิสํ ปตฺเถสิ, กตฺถ คนฺตุกาโมสีติ ปุจฺฉิ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ อตฺตนา กตกมฺมํ น ชานาตีติ มฺติ, ชานาเปสฺสามิ น’’นฺติ ทฺเว คาถา อภาสิ –
‘‘ทฺวาทเสตานิ วสฺสานิ, วุสิตานิ ตวนฺติเก;
นาภิชานามิ โสเณน, ปิงฺคเลนาภิกูชิตํ.
‘‘สฺวายํ ¶ ทิตฺโตว นทติ, สุกฺกทาํ วิทํสยํ;
ตว สุตฺวา สภริยสฺส, วีตสทฺธสฺส มํ ปตี’’ติ.
ตตฺถ อภิกูชิตนฺติ เอเตน ตว สุนเขน เอวํ มหาวิรเวน วิรวิตํ น ชานามิ. ทิตฺโต วาติ ทปฺปิโต วิย. สภริยสฺสาติ ตว สภริยสฺส มม มารณตฺถาย ปฺจนฺนํ อมจฺจานํ อาณตฺตภาวํ กเถนฺตสฺส สุตฺวา ‘‘กึ ตฺวํ อฺตฺถ ภิกฺขํ น ลภสิ, รฺา เต วโธ อาณตฺโต, อิธ มาคจฺฉี’’ติ ทิตฺโตว นทติ. วีตสทฺธสฺส มํ ปตีติ มมนฺตเร วิคตสทฺธสฺส ตว วจนํ สุตฺวา เอว นทตีติ อาห.
ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ขมาเปนฺโต จตุตฺถํ คาถมาห –
‘‘อหุ ¶ เอส กโต โทโส, ยถา ภาสสิ พฺราหฺมณ;
เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, วส พฺราหฺมณ มาคมา’’ติ.
ตตฺถ ภิยฺโยติ สจฺจํ มยา เอวํ อาณตฺตํ, อยํ เม โทโส, เอส ปนาหํ อิทานิ อธิกตรํ ตยิ ปสีทามิ, อิเธว วส, มา อฺตฺถ คมีติ.
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต, ‘‘มหาราช, ปณฺฑิตา นาม ตาทิเสน ปรปตฺติเยน อปจฺจกฺขการินา สทฺธึ น วสนฺตี’’ติ วตฺวา ตสฺส อนาจารํ ปกาเสนฺโต อาห –
‘‘สพฺพเสโต ¶ ปุเร อาสิ, ตโตปิ สพโล อหุ;
สพฺพโลหิตโก ทานิ, กาโล ปกฺกมิตุํ มม.
‘‘อพฺภนฺตรํ ปุเร อาสิ, ตโต มชฺเฌ ตโต พหิ;
ปุรา นิทฺธมนา โหติ, สยเมว วชามหํ.
‘‘วีตสทฺธํ น เสเวยฺย, อุปทานํวโนทกํ;
สเจปิ นํ อนุขเณ, วาริ กทฺทมคนฺธิกํ.
‘‘ปสนฺนเมว เสเวยฺย, อปฺปสนฺนํ วิวชฺชเย;
ปสนฺนํ ปยิรุปาเสยฺย, รหทํวุทกตฺถิโก.
‘‘ภเช ภชนฺตํ ปุริสํ, อภชนฺตํ น ภชฺชเย;
อสปฺปุริสธมฺโม โส, โย ภชนฺตํ น ภชฺชติ.
‘‘โย ¶ ภชนฺตํ น ภชติ, เสวมานํ น เสวติ;
ส เว มนุสฺสปาปิฏฺโ, มิโค สาขสฺสิโต ยถา.
‘‘อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคา, อสโมสรเณน จ;
เอเตน มิตฺตา ชีรนฺติ, อกาเล ยาจนาย จ.
‘‘ตสฺมา นาภิกฺขณํ คจฺเฉ, น จ คจฺเฉ จิราจิรํ;
กาเลน ยาจํ ยาเจยฺย, เอวํ มิตฺตา น ชียเร.
‘‘อติจิรํ นิวาเสน, ปิโย ภวติ อปฺปิโย;
อามนฺต โข ตํ คจฺฉาม, ปุรา เต โหม อปฺปิยา’’ติ.
ตตฺถ สพฺพเสโตติ, มหาราช, ปมเมว ตว นิเวสเน มม โอทโน สพฺพเสโต อโหสิ, ยํ ตฺวํ ภฺุชสิ, ตเมว ทาเปสีติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต ปจฺฉา ปริเภทกานํ วจนํ คเหตฺวา ตว มยิ วิรตฺตกาเล สพโล มิสฺสโกทโน ชาโต. ทานีติ อิทานิ สพฺพโลหิตโก ชาโต. กาโลติ อคุณฺุสฺส ¶ ตว สนฺติกา อิทานิ มม ปกฺกมิตุํ กาโล. อพฺภนฺตรนฺติ ปมํ มม อพฺภนฺตรํ ¶ อาสนํ อาสิ, อลงฺกตมหาตลมฺหิ อุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเกเยว มํ นิสีทาเปสุํ. มชฺเฌติ โสปานมตฺถเก. ปุรา นิทฺธมนา โหตีติ ยาว คีวายํ คเหตฺวา นิกฺกฑฺฒนา น โหติ.
อนุขเณติ สเจปิ อนุทกํ อุทปานํ ปตฺโต ปุริโส อุทกํ อปสฺสนฺโต กลลํ วิยูหิตฺวา อนุขเณยฺย, ตถาปิ ตํ วาริ กทฺทมคนฺธิกํ ภเวยฺย, อมนฺุตาย น ปิเวยฺย, ตเถว วีตสทฺธํ ปยิรุปาสนฺเตน ลทฺธปจฺจยาปิ ปริตฺตา เจว ลูขา จ, อมนฺุา อปริโภคารหาติ อตฺโถ. ปสนฺนนฺติ ปติฏฺิตสทฺธํ. รหทนฺติ คมฺภีรํ มหารหทํ. ภชนฺตนฺติ อตฺตานํ ภชนฺตเมว ภเชยฺย. อภชนฺตนฺติ ปจฺจตฺถิกํ. น ภชฺชเยติ น ภเชยฺย. น ภชฺชตีติ โย ปุริโส อตฺตานํ ภชนฺตํ หิตจิตฺตํ ปุคฺคลํ น ภชติ, โส อสปฺปุริสธมฺโม นามาติ. มนุสฺสปาปิฏฺโติ มนุสฺสลามโก ปติกุฏฺโ สพฺพปจฺฉิมโก. สาขสฺสิโตติ มกฺกโฏ.
อจฺจาภิกฺขณสํสคฺคาติ ¶ อติวิย อภิณฺหสํสคฺเคน. อกาเลติ อยุตฺตปฺปตฺตกาเล ปรสฺส ปิยภณฺฑํ ยาจนาย มิตฺตา ชีรนฺติ นาม, ตฺวมฺปิ อติจิรํ นิวาเสน มยิ มิตฺตึ ภินฺทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา อจฺจาภิกฺขณสํสคฺเคน อสโมสรเณน จ มิตฺตา ชีรนฺติ, ตสฺมา. จิราจิรนฺติ จิรกาลํ วีตินาเมตฺวา จิรํ น คจฺเฉ น อุปสงฺกเมยฺย. ยาจนฺติ ยาจิตพฺพํ ภณฺฑกํ ยุตฺตกาเล ยาเจยฺย. น ชียเรติ เอวํ มิตฺตา น ชีรนฺติ. ปุรา เต โหม อปฺปิยาติ ยาว ตว อปฺปิยา น โหม, ตาว อามนฺเตตฺวาว ตํ คจฺฉามาติ.
ราชา อาห –
‘‘เอวํ เจ ยาจมานานํ, อฺชลึ นาวพุชฺฌสิ;
ปริจารกานํ สตํ, วจนํ น กโรสิ โน;
เอวํ ตํ อภิยาจาม, ปุน กยิราสิ ปริยาย’’นฺติ.
ตตฺถ นาวพุชฺฌสีติ สเจ, ภนฺเต, เอวํ ยาจนฺเตน มยา กตํ อฺชลึ น ชานาสิ, น ปฏิคฺคณฺหสีติ อตฺโถ. ปริยายนฺติ ปุน อิธาคมนาย เอกวารํ กเรยฺยาสีติ ยาจติ.
โพธิสตฺโต อาห –
‘‘เอวํ ¶ เจ โน วิหรตํ, อนฺตราโย น เหสฺสติ;
ตุยฺหํ วาปิ มหาราช, มยฺหํ วา รฏฺวทฺธน;
อปฺเปว นาม ปสฺเสม, อโหรตฺตานมจฺจเย’’ติ.
ตตฺถ เอวํ เจ โนติ สเจ, มหาราช, เอวํ นานา หุตฺวา วิหรนฺตานํ อมฺหากํ อนฺตราโย น เหสฺสติ, ตุยฺหํ วา มยฺหํ วา ชีวิตํ ปวตฺติสฺสตีติ ทีเปติ. ปสฺเสมาติ อปิ นาม ปสฺเสยฺยาม.
เอวํ ¶ วตฺวา มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหิ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อุยฺยานา นิกฺขมิตฺวา เอกสฺมึ สภาคฏฺาเน ภิกฺขาย จริตฺวา พาราณสิโต นิกฺขมฺม อนุปุพฺเพน หิมวนฺโตกาสเมว คนฺตฺวา กิฺจิ กาลํ วสิตฺวา ปุน โอตริตฺวา เอกํ ปจฺจนฺตคามํ นิสฺสาย อรฺเ วสิ. ตสฺส ปน คตกาลโต ปฏฺาย เต อมจฺจา ปุน วินิจฺฉเย นิสีทิตฺวา วิโลปํ กโรนฺตา จินฺตยึสุ – ‘‘สเจ มหาโพธิปริพฺพาชโก ปุนาคมิสฺสติ, ชีวิตํ โน นตฺถิ, กึ นุ ขฺวสฺส อนาคมนการณํ กเรยฺยามา’’ติ. อถ ¶ เนสํ เอตทโหสิ – ‘‘อิเม สตฺตา ปฏิพทฺธฏฺานํ นาม ชหิตุํ น สกฺโกนฺติ, กึ นุ ขฺวสฺส อิธ ปฏิพทฺธฏฺาน’’นฺติ. ตโต ‘‘รฺโ อคฺคมเหสี’’ติ ตฺวา ‘‘านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ โส อิมํ นิสฺสาย อาคจฺเฉยฺย, ปฏิกจฺเจว นํ มาราเปสฺสามา’’ติ เต ราชานํ เอตทโวจุํ – ‘‘เทว, อิมสฺมึ ทิวเส นคเร เอกา กถา สูยตี’’ติ. ‘‘กึ กถา นามา’’ติ? ‘‘มหาโพธิปริพฺพาชโก จ กิร เทวี จ อฺมฺํ สาสนปฏิสาสนํ เปเสนฺตี’’ติ. ‘‘กินฺติ กตฺวา’’ติ? เตน กิร เทวิยา เปสิตํ ‘‘สกฺกา นุ โข อตฺตโน พเลน ราชานํ มาราเปตฺวา มม เสตจฺฉตฺตํ ทาตุ’’นฺติ. ตายปิสฺส เปสิตํ ‘‘รฺโ มารณํ นาม มม ภาโร, มหาโพธิปริพฺพาชโก ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ ราชา เตสํ ปุนปฺปุนํ กเถนฺตานํ สทฺทหิตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เทวึ มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺเต อนุปปริกฺขิตฺวาว ‘‘เตน หิ นํ ตุมฺเหว มาเรตฺวา ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺทิตฺวา วจฺจกูเป ขิปถา’’ติ อาห. เต ตถา กรึสุ. ตสฺสา มาริตภาโว สกลนคเร ปากโฏ อโหสิ.
อถสฺสา จตฺตาโร ปุตฺตา ‘‘อิมินา โน นิรปราธา มาตา มาริตา’’ติ รฺโ ปจฺจตฺถิกา อเหสุํ. ราชา มหาภยปฺปตฺโต อโหสิ. มหาสตฺโต ปรมฺปราย ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เปตฺวา มํ อฺโ เต กุมาเร สฺาเปตฺวา ปิตรํ ขมาเปตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, รฺโ จ ชีวิตํ ทสฺสามิ, กุมาเร จ ปาปโต โมเจสฺสามี’’ติ. โส ปุนทิวเส ปจฺจนฺตคามํ ปวิสิตฺวา ¶ มนุสฺเสหิ ทินฺนํ มกฺกฏมํสํ ขาทิตฺวา ตสฺส ¶ จมฺมํ ยาจิตฺวา คเหตฺวา อสฺสมปเท สุกฺขาเปตฺวา นิคฺคนฺธํ กตฺวา นิวาเสสิปิ ปารุเปสิปิ อํเสปิ เปสิ. กึการณา? ‘‘พหูปกาโร เม’’ติ วจนตฺถาย. โส ตํ จมฺมํ อาทาย อนุปุพฺเพน พาราณสึ คนฺตฺวา กุมาเร อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ปิตุฆาตกกมฺมํ นาม ทารุณํ, ตํ โว น กาตพฺพํ, อชรามโร สตฺโต นาม นตฺถิ, อหํ ตุมฺเห อฺมฺํ สมคฺเค กริสฺสามิจฺเจว อาคโต, ตุมฺเห มยา ปหิเต สาสเน อาคจฺเฉยฺยาถา’’ติ กุมาเร โอวทิตฺวา อนฺโตนคเร อุยฺยานํ ปวิสิตฺวา มกฺกฏจมฺมํ อตฺถริตฺวา สิลาปฏฺเฏ นิสีทิ.
อถ นํ อุยฺยานปาลโก ทิสฺวา เวเคน คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สุตฺวาว สฺชาตโสมนสฺโส หุตฺวา เต อมจฺเจ อาทาย ¶ ตตฺถ คนฺตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กาตุํ อารภิ. มหาสตฺโต เตน สทฺธึ อสมฺโมทิตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชิ. อถ นํ เอวมาห – ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห มํ อกเถตฺวา มกฺกฏจมฺมเมว ปริมชฺชถ, กึ โว อิทํ มยา พหูปการตร’’นฺติ? ‘‘อาม มหาราช, พหูปกาโร เม เอส วานโร, อหมสฺส ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจรึ, อยํ เม ปานียฆฏํ อาหริ, วสนฏฺานํ สมฺมชฺชิ, อาภิสมาจาริกวตฺตปฏิวตฺตํ มม อกาสิ, อหํ ปน อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย อสฺส มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ สุกฺขาเปตฺวา อตฺถริตฺวา นิสีทามิ เจว นิปชฺชามิ จ, เอวํ พหูปกาโร เอส มยฺห’’นฺติ. อิติ โส เตสํ วาเท ภินฺทนตฺถาย วานรจมฺเม วานรโวหารํ อาโรเปตฺวา ตํ ตํ ปริยายํ สนฺธาย อิมํ กถํ กเถสิ. โส หิ ตสฺส นิวุตฺถปุพฺพตฺตา ‘‘ปิฏฺเ นิสีทิตฺวา วิจริ’’นฺติ อาห; ตํ อํเส กตฺวา ปานียฆฏสฺส อาหฏปุพฺพตฺตา ‘‘ปานียฆฏํ อาหรี’’ติ อาห; เตน จมฺเมน ภูมิยํ สมฺมฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วสนฏฺานํ สมฺมชฺชี’’ติ อาห; นิปนฺนกาเล เตน จมฺเมน ปิฏฺิยา, อกฺกนฺตกาเล ปาทานํ ผุฏฺปุพฺพตฺตา ‘‘วตฺตปฏิวตฺตํ เม อกาสี’’ติ อาห. ฉาตกาเล ปน ตสฺส มํสํ ลภิตฺวา ขาทิตตฺตา ‘‘อหํ ปน ¶ อตฺตโน ทุพฺพลจิตฺตตาย ตสฺส มํสํ ขาทิ’’นฺติ อาห.
ตํ สุตฺวา เต อมจฺจา ‘‘ปาณาติปาโต เตน กโต’’ติ สฺาย ‘‘ปสฺสถ, โภ, ปพฺพชิตสฺส กมฺมํ, มกฺกฏํ กิร มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตฺวา จมฺมํ คเหตฺวา วิจรตี’’ติ ปาณึ ปหริตฺวา ปริหาสมกํสุ. มหาสตฺโต เต ตถา กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อิเม อตฺตโน วาทเภทนตฺถาย มม จมฺมํ อาทาย อาคตภาวํ น ชานนฺติ, ชานาเปสฺสามิ เน’’ติ อเหตุกวาทึ ตาว อามนฺเตตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘อาวุโส, ตฺวํ กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ? ‘‘มิตฺตทุพฺภิกมฺมสฺส เจว ปาณาติปาตสฺส ¶ จ กตตฺตา’’ติ. ตโต มหาสตฺโต ‘‘โย ปน คติยา เจว ทิฏฺิยา จ เต สทฺทหิตฺวา เอวํ กเรยฺย, เตน กึ ทุกฺกฏ’’นฺติ ตสฺส วาทํ ภินฺทนฺโต อาห –
‘‘อุทีรณา เจ สํคตฺยา, ภาวายมนุวตฺตติ;
อกามา อกรณียํ วา, กรณียํ วาปิ กุพฺพติ;
อกามกรณียมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.
‘‘โส ¶ เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;
โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;
น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.
ตตฺถ อุทีรณาติ กถา. สํคตฺยาติ สํคติยา ฉนฺนํ อภิชาตีนํ ตํ ตํ อภิชาตึ อุปคมเนน. ภาวายมนุวตฺตตีติ ภาเวน อนุวตฺตติ, กรณตฺเถ สมฺปทานํ. อกามาติ อกาเมน อนิจฺฉาย. อกรณียํ วา กรณียํ วาปีติ อกตฺตพฺพํ ปาปํ วา กตฺตพฺพํ กุสลํ วา. กุพฺพตีติ กโรติ. กฺวิธาติ โก อิธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตฺวํ อเหตุกวาที ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสายา’’ติอาทิทิฏฺิโก, อยํ โลโก สํคติยา เจว สภาเวน จ อนุวตฺตติ ปริณมติ, ตตฺถ ตตฺถ สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวเทติ. อกามโกว ปาปํ วา ปฺุํ วา กโรตีติ วทสิ, อยํ ตว อุทีรณา สเจ ตถา, เอวํ สนฺเต อกามกรณียสฺมึ อตฺตโน ธมฺมตาย ปวตฺตมาเน ปาเป โก อิธ สตฺโต ปาเปน ลิปฺปติ, สเจ หิ อตฺตนา อกเตน ปาเปน ลิปฺปติ, น โกจิ น ลิปฺเปยฺยาติ.
โส เจติ โส อเหตุกวาทสงฺขาโต ตว ภาสิตตฺโถ จ อตฺถโชตโก ธมฺโม จ กลฺยาโณ น จ ปาปโก. ‘‘อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ, สุขทุกฺขํ ปฏิสํเวทิยนฺตี’’ติ อิทํ โภโต วจนํ ¶ สจฺจํ เจ, สุหโต วานโร มยา, โก เอตฺถ มม โทโสติ อตฺโถ. วิชานิยาติ, สมฺม, สเจ หิ ตฺวํ อตฺตโน วาทสฺส อปราธํ ชาเนยฺยาสิ, น มํ ครเหยฺยาสิ. กึการณา? โภโต วาโท หิ ตาทิโส, ตสฺมา อยํ มม วาทํ กโรตีติ มํ ปสํเสยฺยาสิ, อตฺตโน ปน วาทํ อชานนฺโต มํ ครหสีติ.
เอวํ ¶ มหาสตฺโต ตํ นิคฺคณฺหิตฺวา อปฺปฏิภาณํ อกาสิ. โสปิ ราชปริสติ มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ ตสฺส วาทํ ภินฺทิตฺวา อิสฺสรกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กสฺมา ปริหสสิ, ยทิ อิสฺสรนิมฺมิตวาทํ สารโต ปจฺเจสี’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘อิสฺสโร สพฺพโลกสฺส, สเจ กปฺเปติ ชีวิตํ;
อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;
นิทฺเทสการี ปุริโส, อิสฺสโร เตน ลิปฺปติ.
‘‘โส ¶ เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;
โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;
น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.
ตตฺถ กปฺเปติ ชีวิตนฺติ สเจ พฺรหฺมา วา อฺโ วา โกจิ อิสฺสโร ‘‘ตฺวํ กสิยา ชีว, ตฺวํ โครกฺเขนา’’ติ เอวํ สพฺพโลกสฺส ชีวิตํ สํวิทหติ วิจาเรติ. อิทฺธึ พฺยสนภาวฺจาติ อิสฺสริยาทิเภทา อิทฺธิโย จ าติวินาสาทิกํ พฺยสนภาวฺจ เสสฺจ กลฺยาณปาปกํ กมฺมํ สพฺพํ ยทิ อิสฺสโรว กปฺเปติ กโรติ. นิทฺเทสการีติ ยทิ ตสฺส นิทฺเทสํ อาณตฺติเมว เสโส โย โกจิ ปุริโส กโรติ, เอวํ สนฺเต โย โกจิ ปุริโส ปาปํ กโรติ, ตสฺส อิสฺสเรน กตตฺตา อิสฺสโรว เตน ปาเปน ลิปฺปติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ.
อิติ โส อมฺพโตว มุคฺครํ คเหตฺวา อมฺพํ ปาเตนฺโต วิย อิสฺสรกรเณเนว อิสฺสรกตวาทํ ภินฺทิตฺวา ปุพฺเพกตวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, มํ กึ ปริหสสิ, ยทิ ปุพฺเพกตวาทํ สจฺจํ มฺสี’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘สเจ ปุพฺเพกตเหตุ, สุขทุกฺขํ นิคจฺฉติ;
โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตเมโส มุจฺจเต อิณํ;
โปราณก อิณโมกฺโข, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.
‘‘โส ¶ ¶ เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;
โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;
น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.
ตตฺถ ปุพฺเพกตเหตูติ ปุพฺพกตเหตุ ปุริมภเว กตกมฺมการเณเนว. ตเมโส มุจฺจเต อิณนฺติ โย วธพนฺธาทีหิ ทุกฺขํ ปาปุณาติ, ยทิ โส ยํ เตน โปราณกํ กตํ ปาปํ, ตํ อิทานิ อิณํ มุจฺจติ, เอวํ สนฺเต มมปิ เอส โปราณกอิณโต โมกฺโข, อเนน หิ มกฺกเฏน ปุพฺเพ ¶ ปริพฺพาชเกน หุตฺวา อหํ มกฺกโฏ สมาโน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสามิ, สฺวายํ อิธ มกฺกฏตฺตํ ปตฺโต มยา ปริพฺพาชกตฺตํ ปตฺเตน มาเรตฺวา ขาทิโต ภวิสฺสติ, โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.
อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา อุจฺเฉทวาทึ อภิมุขํ กตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘อิตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทีนิ วตฺวา ‘อิเธว สตฺตา อุจฺฉิชฺชนฺติ, ปรโลกํ คตา นาม นตฺถี’ติ มฺมาโน กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ สนฺตชฺเชตฺวา อาห –
‘‘จตุนฺนํเยวุปาทาย, รูปํ สมฺโภติ ปาณินํ;
ยโต จ รูปํ สมฺโภติ, ตตฺเถวานุปคจฺฉติ;
อิเธว ชีวติ ชีโว, เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสติ.
‘‘อุจฺฉิชฺชติ อยํ โลโก, เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา;
อุจฺฉิชฺชมาเน โลกมฺหิ, กฺวิธ ปาเปน ลิปฺปติ.
‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;
โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;
น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.
ตตฺถ ¶ จตุนฺนนฺติ ปถวีอาทีนํ ภูตานํ. รูปนฺติ รูปกฺขนฺโธ. ตตฺเถวาติ ยโต ตํ รูปํ สมฺโภติ, นิรุชฺฌนกาเลปิ ตตฺเถว อนุปคจฺฉติ. อิมินา ตสฺส ‘‘จาตุมหาภูติโก อยํ ปุริโส ยทา กาลํ กโรติ, ตทา ปถวี ปถวีกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อาโป… เตโช… วาโย วาโยกายํ อนุเปติ อนุปคจฺฉติ, อากาสํ อินฺทฺริยานิ สงฺกมนฺติ, อาสนฺธิปฺจมา ปุริสา มตํ อาทาย คจฺฉนฺติ, ยาว อาฬาหนา ปทานิ ปฺายนฺติ, กาโปตกานิ อฏฺีนิ ภวนฺติ, ภสฺมนฺตา อาหุติโย ¶ , ทตฺตุปฺตฺตํ ยทิทํ ทานํ, เตสํ ตุจฺฉา มุสา วิลาโป, เย เกจิ อตฺถิกวาทํ วทนฺติ, พาเล จ ปณฺฑิเต จ กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชนฺติ วินสฺสนฺติ, น โหนฺติ ปรํ มรณา’’ติ อิมํ ทิฏฺึ ปติฏฺาเปสิ. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว โลเก ชีโว ชีวติ. เปจฺจ เปจฺจ วินสฺสตีติ ปรโลเก นิพฺพตฺโต สตฺโต คติวเสน อิธ อนาคนฺตฺวา ตตฺเถว ปรโลเก วินสฺสติ ¶ อุจฺฉิชฺชติ. เอวํ อุจฺฉิชฺชมาเน โลกสฺมึ โก อิธ ปาเปน ลิปฺปตีติ.
อิติ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ขตฺตวิชฺชวาทึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตฺวํ, อาวุโส, ‘มาตาปิตโรปิ มาเรตฺวา อตฺตโน อตฺโถ กาตพฺโพ’ติ อิมํ ลทฺธึ อุกฺขิปิตฺวา วิจรนฺโต กสฺมา มํ ปริหสสี’’ติ วตฺวา อาห –
‘‘อาหุ ขตฺตวิทา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;
มาตรํ ปิตรํ หฺเ, อโถ เชฏฺมฺปิ ภาตรํ;
หเนยฺย ปุตฺตทาเร จ, อตฺโถ เจ ตาทิโส สิยา’’ติ.
ตตฺถ ขตฺตวิทาติ ขตฺตวิชฺชา, อยเมว วา ปาโ. ขตฺตวิชฺชาจริยานํ เอตํ นามํ. พาลา ปณฺฑิตมานิโนติ พาลา สมานาปิ ‘‘ปณฺฑิตา มยํ อตฺตโน ปณฺฑิตภาวํ ปกาเสมา’’ติ มฺมานา ปณฺฑิตมานิโน หุตฺวา เอวมาหุ. อตฺโถ เจติ สเจ อตฺตโน ยถารูโป โกจิ อตฺโถ สิยา, น กิฺจิ ปริวชฺเชยฺย, สพฺพํ หเนยฺเยวาติ วทนฺติ, ตฺวมฺปิ เนสํ อฺตโรติ.
เอวํ ตสฺส ลทฺธึ ปติฏฺเปตฺวา อตฺตโน ลทฺธึ ปกาเสนฺโต อาห –
‘‘ยสฺส รุกฺขสฺส ฉายาย, นิสีเทยฺย สเยยฺย วา;
น ตสฺส สาขํ ภฺเชยฺย, มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก.
‘‘อถ ¶ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน, สมูลมปิ อพฺพเห;
อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘โส เจ อตฺโถ จ ธมฺโม จ, กลฺยาโณ น จ ปาปโก;
โภโต เจ วจนํ สจฺจํ, สุหโต วานโร มยา.
‘‘อตฺตโน เจ หิ วาทสฺส, อปราธํ วิชานิยา;
น มํ ตฺวํ ครเหยฺยาสิ, โภโต วาโท หิ ตาทิโส’’ติ.
ตตฺถ อมฺโภ ขตฺตวิท อมฺหากํ ปน อาจริยา เอวํ วณฺณยนฺติ. อตฺตนา ปริภุตฺตจฺฉายสฺส รุกฺขสฺสปิ สาขํ วา ปณฺณํ วา น ภฺเชยฺย. กึการณา ¶ ? มิตฺตทุพฺโภ หิ ปาปโก. ตฺวํ ปน เอวํ วเทสิ – ‘‘อถ อตฺเถ สมุปฺปนฺเน สมูลมปิ ¶ อพฺพเห’’ติ, มม จ ปาเถยฺเยน อตฺโถ อโหสิ, ตสฺมา สเจเปส มยา หโต, ตถาปิ อตฺโถ เม สมฺพเลนาปิ, สุหโต วานโร มยา.
เอวํ โส ตสฺสปิ วาทํ ภินฺทิตฺวา ปฺจสุ เตสุ อปฏิภาเนสุ นิสินฺเนสุ ราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, ตฺวํ อิเม ปฺจ รฏฺวิโลปเก มหาโจเร คเหตฺวา วิจรสิ, อโห พาโล, เอวรูปานฺหิ สํสคฺเคน ปุริโส ทิฏฺธมฺมิกมฺปิ สมฺปรายิกมฺปิ มหาทุกฺขํ ปาปุเณยฺยา’’ติ วตฺวา รฺโ ธมฺมํ เทเสนฺโต อาห –
‘‘อเหตุวาโท ปุริโส, โย จ อิสฺสรกุตฺติโก;
ปุพฺเพกตี จ อุจฺเฉที, โย จ ขตฺตวิโท นโร.
‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;
กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;
อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย’’ติ.
ตตฺถ ตาทิโสติ, มหาราช, ยาทิสา เอเต ปฺจ ทิฏฺิคติกา, ตาทิโส ปุริโส สยมฺปิ ปาปํ กเรยฺย. ยฺวาสฺส วจนํ สุณาติ, ตํ อฺมฺปิ การเย. ทุกฺขนฺโตติ เอวรูเปหิ อสปฺปุริเสหิ สทฺธึ สํสคฺโค อิธโลเกปิ ปรโลเกปิ ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโยว โหติ. อิมสฺส ปนตฺถสฺส ¶ ปกาสนตฺถํ ‘‘ยานิ กานิจิ, ภิกฺขเว, ภยานิ อุปฺปชฺชนฺติ, สพฺพานิ ตานิ พาลโต’’ติ สุตฺตํ (อ. นิ. ๓.๑) อาหริตพฺพํ. โคธชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๓๘) สฺชีวชาตก- (ชา. ๑.๑.๑๕๐) อกิตฺติชาตกาทีหิ (ชา. ๑.๑๓.๘๓ อาทโย) จายมตฺโถ ทีเปตพฺโพ.
อิทานี โอปมฺมทสฺสนวเสน ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒนฺโต อาห –
‘‘อุรพฺภรูเปน วกสฺสุ ปุพฺเพ, อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ;
หนฺตฺวา อุรณึ อชิกํ อชฺจ, อุตฺราสยิตฺวา เยนกามํ ปเลติ.
‘‘ตถาวิเธเก ¶ สมณพฺราหฺมณาเส, ฉทนํ กตฺวา วฺจยนฺติ มนุสฺเส;
อนาสกา ถณฺฑิลเสยฺยกา จ, รโชชลฺลํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ;
ปริยายภตฺตฺจ ¶ อปานกตฺตา, ปาปาจารา อรหนฺโต วทานา.
‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;
กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;
อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.
‘‘ยมาหุ นตฺถิ วีริยนฺติ, อเหตฺุจ ปวทนฺติ เย;
ปรการํ อตฺตการฺจ, เย ตุจฺฉํ สมวณฺณยุํ.
‘‘เอเต อสปฺปุริสา โลเก, พาลา ปณฺฑิตมานิโน;
กเรยฺย ตาทิโส ปาปํ, อโถ อฺมฺปิ การเย;
อสปฺปุริสสํสคฺโค, ทุกฺขนฺโต กฏุกุทฺรโย.
‘‘สเจ หิ วีริยํ นาสฺส, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;
น ภเร วฑฺฒกึ ราชา, นปิ ยนฺตานิ การเย.
‘‘ยสฺมา จ วีริยํ อตฺถิ, กมฺมํ กลฺยาณปาปกํ;
ตสฺมา ยนฺตานิ กาเรติ, ราชา ภรติ วฑฺฒกึ.
‘‘ยทิ ¶ วสฺสสตํ เทโว, น วสฺเส น หิมํ ปเต;
อุจฺฉิชฺเชยฺย อยํ โลโก, วินสฺเสยฺย อยํ ปชา.
‘‘ยสฺมา จ วสฺสตี เทโว, หิมฺจานุผุสายติ;
ตสฺมา สสฺสานิ ปจฺจนฺติ, รฏฺฺจ ปาลิเต จิรํ.
‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, ชิมฺหํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา ตา ชิมฺหํ คจฺฉนฺติ, เนตฺเต ชิมฺหํ คเต สติ.
‘‘เอวเมว ¶ มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส เจ อธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺํ ทุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ อธมฺมิโก.
‘‘ควํ เจ ตรมานานํ, อุชุํ คจฺฉติ ปุงฺคโว;
สพฺพา คาวี อุชุํ ยนฺติ, เนตฺเต อุชุํ คเต สติ.
‘‘เอวเมว มนุสฺเสสุ, โย โหติ เสฏฺสมฺมโต;
โส สเจ ธมฺมํ จรติ, ปเคว อิตรา ปชา;
สพฺพํ รฏฺํ สุขํ เสติ, ราชา เจ โหติ ธมฺมิโก.
‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, อามํ ฉินฺทติ โย ผลํ;
รสฺจสฺส น ชานาติ, พีชฺจสฺส วินสฺสติ.
‘‘มหารุกฺขูปมํ รฏฺํ, อธมฺเมน ปสาสติ;
รสฺจสฺส น ชานาติ, รฏฺฺจสฺส วินสฺสติ.
‘‘มหารุกฺขสฺส ผลิโน, ปกฺกํ ฉินฺทติ โย ผลํ;
รสฺจสฺส วิชานาติ, พีชฺจสฺส น นสฺสติ.
‘‘มหารุกฺขูปมํ ¶ ¶ รฏฺํ, ธมฺเมน โย ปสาสติ;
รสฺจสฺส วิชานาติ, รฏฺฺชสฺส น นสฺสติ.
‘‘โย จ ราชา ชนปทํ, อธมฺเมน ปสาสติ;
สพฺโพสธีหิ โส ราชา, วิรุทฺโธ โหติ ขตฺติโย.
‘‘ตเถว เนคเม หึสํ, เย ยุตฺตา กยวิกฺกเย;
โอชทานพลีกาเร, ส โกเสน วิรุชฺฌติ.
‘‘ปหารวรเขตฺตฺู, สงฺคาเม กตนิสฺสเม;
อุสฺสิเต หึสยํ ราชา, ส พเลน วิรุชฺฌติ.
‘‘ตเถว อิสโย หึสํ, สฺเต พฺรหฺมจาริโน;
อธมฺมจารี ขตฺติโย, โส สคฺเคน วิรุชฺฌติ.
‘‘โย ¶ จ ราชา อธมฺมฏฺโ, ภริยํ หนฺติ อทูสิกํ;
ลุทฺธํ ปสวเต านํ, ปุตฺเตหิ จ วิรุชฺฌติ.
‘‘ธมฺมํ จเร ชานปเท, เนคเมสุ พเลสุ จ;
อิสโย จ น หึเสยฺย, ปุตฺตทาเร สมํ จเร.
‘‘ส ตาทิโส ภูมิปติ, รฏฺปาโล อโกธโน;
สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ, อินฺโทว อสุราธิโป’’ติ.
ตตฺถ วกสฺสูติ วโก อสฺสุ, อสฺสูติ นิปาตมตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ปุพฺเพ เอโก อุรพฺภรูโป วโก อโหสิ, ตสฺส นงฺคุฏฺมตฺตเมว ทีฆํ, ตํ ปน โส อนฺตรสตฺติมฺหิ ปกฺขิปิตฺวา อุรพฺภรูเปน อสํกิโต อชยูถํ อุเปติ. ตตฺถ อุรณิกฺจ อชิกฺจ อชฺจ หนฺตฺวา เยนกามํ ปเลติ. ตถาวิเธเกติ ตถาวิธา เอเก สมณพฺราหฺมณา ปพฺพชฺชาลิงฺเคน ฉทนํ กตฺวา อตฺตานํ ฉาเทตฺวา มธุรวจนาทีหิ หิตกามา วิย หุตฺวา โลกํ วฺเจนฺติ. ‘‘อนาสกา’’ติอาทิ เตสํ ฉทนสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. เอกจฺเจ หิ ‘‘มยํ อนาสกา น กิฺจิ ¶ อาหาเรมา’’ติ มนุสฺเส วฺเจนฺติ, อปเร ‘‘มยํ ถณฺฑิลเสยฺยกา’’ติ. อฺเสํ ปน รโชชลฺลํ ฉทนํ, อฺเสํ อุกฺกุฏิกปฺปธานํ, เต คจฺฉนฺตาปิ อุปฺปติตฺวา อุกฺกุฏิกาว คจฺฉนฺติ. อฺเสํ สตฺตาหทสาหาทิวารโภชนสงฺขาตํ ¶ ปริยายภตฺตฉทนํ, อปเร อปานกตฺตา โหนฺติ, ‘‘มยํ ปานียํ น ปิวามา’’ติ วทนฺติ. อรหนฺโต วทานาติ ปาปาจารา หุตฺวาปิ ‘‘มยํ อรหนฺโต’’ติ วทนฺตา วิจรนฺติ. เอเตติ, มหาราช, อิเม วา ปฺจ ชนา โหนฺตุ อฺเ วา, ยาวนฺโต ทิฏฺิคติกา นาม, สพฺเพปิ เอเต อสปฺปุริสา. ยมาหูติ เย อาหุ, เย วทนฺติ.
สเจ หิ วีริยํ นาสฺสาติ, มหาราช, สเจ าณสมฺปยุตฺตํ กายิกเจตสิกวีริยํ น ภเวยฺย. กมฺมนฺติ กลฺยาณปาปกํ กมฺมมฺปิ ยทิ น ภเวยฺย. น ภเรติ เอวํ สนฺเต วฑฺฒกึ วา อฺเ วา การเก ราชา น โปเสยฺย, นปิ ยนฺตานีติ นปิ เตหิ สตฺตภูมิกปาสาทาทีนิ ยนฺตานิ กาเรยฺย. กึการณา? วีริยสฺส เจว กมฺมสฺส จ อภาวา. อุจฺฉิชฺเชยฺยาติ, มหาราช, ยทิ เอตฺตกํ กาลํ เนว เทโว วสฺเสยฺย, น หิมํ ปเตยฺย ¶ , อถ กปฺปุฏฺานกาโล วิย อยํ โลโก อุจฺฉิชฺเชยฺย. อุจฺเฉทวาทินา กถิตนิยาเมน ปน อุจฺเฉโท นาม นตฺถิ. ปาลิเตติ ปาลยติ.
‘‘ควํ เจ’’ติ จตสฺโส คาถา รฺโ ธมฺมเทสนายเมว วุตฺตา, ตถา ‘‘มหารุกฺขสฺสา’’ติอาทิกา. ตตฺถ มหารุกฺขสฺสาติ มธุรอมฺพรุกฺขสฺส. อธมฺเมนาติ อคติคมเนน. รสฺจสฺส น ชานาตีติ อธมฺมิโก ราชา รฏฺสฺส รสํ โอชํ น ชานาติ, อายสมฺปตฺตึ น ลภติ. วินสฺสตีติ สฺุํ โหติ, มนุสฺสา คามนิคเม ฉฑฺเฑตฺวา ปจฺจนฺตํ ปพฺพตวิสมํ ภชนฺติ, สพฺพานิ อายมุขานิ ปจฺฉิชฺชนฺติ. สพฺโพสธีหีติ สพฺเพหิ มูลตจปตฺตปุปฺผผลาทีหิ เจว สปฺปินวนีตาทีหิ จ โอสเธหิ วิรุชฺฌติ, ตานิ น สมฺปชฺชนฺติ. อธมฺมิกรฺโ หิ ปถวี นิโรชา โหติ, ตสฺสา นิโรชตาย โอสธานํ โอชา น โหติ, ตานิ โรคฺจ วูปสเมตุํ น สกฺโกนฺติ. อิติ โส เตหิ วิรุทฺโธ นาม โหติ.
เนคเมติ นิคมวาสิกุฏุมฺพิเก. หึสนฺติ หึสนฺโต ปีเฬนฺโต. เย ยุตฺตาติ เย กยวิกฺกเย ยุตฺตา อายานํ มุขา ถลชลปถวาณิชา, เต จ หึสนฺโต. โอชทานพลีกาเรติ ตโต ตโต ภณฺฑาหรณสุงฺกทานวเสน โอชทานฺเจว ฉภาคทสภาคาทิเภทํ พลิฺจ กโรนฺเต. ส โกเสนาติ โส เอเต หึสนฺโต อธมฺมิกราชา ธนธฺเหิ ปริหายนฺโต โกเสน วิรุชฺฌติ นาม. ปหารวรเขตฺตฺูติ ‘‘อิมสฺมึ าเน วิชฺฌิตุํ วฏฺฏตี’’ติ เอวํ ปหารวรานํ เขตฺตํ ชานนฺเต ธนุคฺคเห. สงฺคาเม กตนิสฺสเมติ ยุทฺเธ สุกตกมฺเม มหาโยเธ. อุสฺสิเตติ อุคฺคเต ปฺาเต มหามตฺเต ¶ . หิ สยนฺติ เอวรูเป สยํ วา หึสนฺโต ปเรหิ วา หึสาเปนฺโต. พเลนาติ พลกาเยน. ตถาวิธฺหิ ราชานํ ‘‘อยํ พหุกาเร อตฺตโน รชฺชทายเกปิ หึสติ, กิมงฺคํ ปน อมฺเห’’ติ อวเสสาปิ โยธา วิชหนฺติเยว. อิติ โส พเลน วิรุทฺโธ นาม โหติ.
ตเถว อิสโย หึสนฺติ ยถา จ เนคมาทโย, ตเถว เอสิตคุเณ ปพฺพชิเต อกฺโกสนปหรณาทีหิ ¶ หึสนฺโต อธมฺมจารี ราชา กายสฺส เภทา อปายเมว อุเปติ, สคฺเค นิพฺพตฺติตุํ น สกฺโกตีติ ¶ สคฺเคน วิรุทฺโธ นาม โหติ. ภริยํ หนฺติ อทูสิกนฺติ อตฺตโน พาหุจฺฉายาย วฑฺฒิตํ ปุตฺตธีตาหิ สํวฑฺฒํ สีลวตึ ภริยํ มิตฺตปติรูปกานํ โจรานํ วจนํ คเหตฺวา มาเรติ. ลุทฺธํ ปสวเต านนฺติ โส อตฺตโน นิรยูปปตฺตึ ปสวติ นิปฺผาเทติ. ปุตฺเตหิ จาติ อิมสฺมิฺเว อตฺตภาเว อตฺตโน ปุตฺเตหิ สทฺธึ วิรุชฺฌตีติ.
เอวมสฺส โส เตสํ ปฺจนฺนํ ชนานํ กถํ คเหตฺวา เทวิยา มาริตภาวฺจ ปุตฺตานํ วิรุทฺธภาวฺจ สนฺธิมุเข โจรํ จูฬายํ คณฺหนฺโต วิย กเถสิ. มหาสตฺโต หิ เตสํ อมจฺจานํ นิคฺคณฺหนฺจ ธมฺมเทสนฺจ เทวิยา เตหิ มาริตภาวสฺส อาวิกรณตฺถฺจ ตตฺถ อนุปุพฺเพน กถํ อาหริตฺวา โอกาสํ กตฺวา เอตมตฺถํ กเถสิ. ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน อปราธํ ชานิ. อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘อิโต ปฏฺาย, มหาราช, เอวรูปานํ ปาปานํ กถํ คเหตฺวา มา ปุน เอวมกาสี’’ติ วตฺวา โอวทนฺโต ‘‘ธมฺมํ จเร’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ธมฺมํ จเรติ, มหาราช, ราชา นาม ชนปทํ อธมฺมิเกน พลินา อปีเฬนฺโต ชนปเท ธมฺมํ จเรยฺย, สามิเก อสามิเก อกโรนฺโต เนคเมสุ ธมฺมํ จเรยฺย, อฏฺาเน อกิลเมนฺโต พเลสุ ธมฺมํ จเรยฺย. วธพนฺธอกฺโกสปริภาเส ปริหรนฺโต ปจฺจเย จ เนสํ ททนฺโต อิสโย น วิหึเสยฺย, ธีตโร ยุตฺตฏฺาเน ปติฏฺาเปนฺโต ปุตฺเต จ สิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา สมฺมา ปริหรนฺโต ภริยํ อิสฺสริยโวสฺสคฺคอลงฺการทานสมฺมานนาทีหิ อนุคฺคณฺหนฺโต ปุตฺตทาเร สมํ จเรยฺย. ส ตาทิโสติ โส ตาทิโส ราชา ปเวณึ อภินฺทิตฺวา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรนฺโต ราชาณาย ราชเตเชน สปตฺเต สมฺปกมฺเปติ ตาเสติ จาเลติ. ‘‘อินฺโทวา’’ติ อิทํ อุปมตฺถํ วุตฺตํ. ยถา อสุเร เชตฺวา อภิภวิตฺวา ิตกาลโต ปฏฺาย อสุราธิโปติ สงฺขฺยํ คโต อินฺโท อตฺตโน สปตฺตภูเต อสุเร กมฺเปสิ, ตถา กมฺเปตีติ.
เอวํ มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสตฺวา จตฺตาโรปิ กุมาเร ปกฺโกสาเปตฺวา โอวทิตฺวา รฺโ กตกมฺมํ ปกาเสตฺวา ราชานํ ขมาเปตฺวา ‘‘มหาราช, อิโต ปฏฺาย อตุเลตฺวา ปริเภทกานํ กถํ คเหตฺวา ¶ มา เอวรูปํ สาหสิกกมฺมํ อกาสิ, ตุมฺเหปิ กุมารา มา รฺโ ¶ ทุพฺภิตฺถา’’ติ สพฺเพสํ โอวาทํ อทาสิ. อถ นํ ราชา อาห – ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ จ เทวิยา จ อปรชฺฌนฺโต อิเม นิสฺสาย เอเตสํ กถํ คเหตฺวา เอตํ ปาปกมฺมํ กรึ, อิเม ปฺจปิ มาเรมี’’ติ ¶ . น ลพฺภา, มหาราช, เอวํ กาตุนฺติ. เตน หิ เตสํ หตฺถปาเท เฉทาเปมีติ. อิทมฺปิ น ลพฺภา กาตุนฺติ. ราชา ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เต สพฺพสํหรเณ กตฺวา ปฺจจูฬากรณคทฺทูลพนฺธนโคมยาสิฺจเนหิ อวมาเนตฺวา รฏฺา ปพฺพาเชสิ. โพธิสตฺโต ตตฺถ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ราชานํ โอวทิตฺวา หิมวนฺตํเยว คนฺตฺวา ฌานาภิฺา นิพฺพตฺเตตฺวา ยาวชีวํ พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิ.
สตฺถา อิมํ เทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ ตถาคโต ปฺวาเยว ปรปฺปวาทปฺปมทฺทโนเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ปฺจ ทิฏฺิคติกา ปูรณกสฺสปมกฺขลิโคสาลปกุธกจฺจานอชิตเกสกมฺพลนิคณฺนาฏปุตฺตา อเหสุํ, ปิงฺคลสุนโข อานนฺโท, มหาโพธิปริพฺพาชโก ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.
มหาโพธิชาตกวณฺณนา ตติยา.
ชาตกุทฺทานํ –
สนิฬีนิกมวฺหยโน ปโม, ทุติโย ปน สอุมฺมทนฺติวโร;
ตติโย ปน โพธิสิรีวฺหยโน, กถิตา ปน ตีณิ ชิเนน สุภาติ.
ปณฺณาสนิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.