📜

๒๐. สตฺตตินิปาโต

[๕๓๑] ๑. กุสชาตกวณฺณนา

อิทํเต รฏฺนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต อุกฺกณฺิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. เอโก กิร สาวตฺถิวาสี กุลปุตฺโต สาสเน อุรํ ทตฺวา ปพฺพชิโต เอกทิวสํ สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จรนฺโต เอกํ อลงฺกตอิตฺถึ ทิสฺวา สุภนิมิตฺตคฺคาหวเสน โอโลเกตฺวา กิเลสาภิภูโต อนภิรโต วิหาสิ ทีฆเกสนโข กิลิฏฺจีวโร อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต ธมนีสนฺถตคตฺโต. ยถา หิ เทวโลกา จวนธมฺมานํ เทวปุตฺตานํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, มาลา มิลายนฺติ, วตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, อุโภหิ กจฺเฉหิ เสทา มุจฺจนฺติ, เทโว เทวาสเน นาภิรมติ, เอวเมว สาสนา จวนธมฺมานํ อุกฺกณฺิตภิกฺขูนํ ปฺจ ปุพฺพนิมิตฺตานิ ปฺายนฺติ, สทฺธาปุปฺผานิ มิลายนฺติ, สีลวตฺถานิ กิลิสฺสนฺติ, สรีเร มงฺกุตาย เจว อยสวเสน จ ทุพฺพณฺณิยํ โอกฺกมติ, กิเลสเสทา มุจฺจนฺติ, อรฺรุกฺขมูลสุฺาคาเรสุ นาภิรมนฺติ. ตสฺสปิ ตานิ ปฺายึสุ. อถ นํ ภิกฺขู สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, อุกฺกณฺิโต’’ติ ทสฺเสสุํ. สตฺถา ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, อุกฺกณฺิโตสี’’ติ ตํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘มา, ภิกฺขุ, กิเลสวสิโก โหหิ, มาตุคาโม นาเมส ปาโป, ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตตํ วิโนเทหิ, สาสเน อภิรม, มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺตตาย หิ เตชวนฺโตปิ โปราณกปณฺฑิตา นิตฺเตชา หุตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุณึสู’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต มลฺลรฏฺเ กุสาวตีราชธานิยํ โอกฺกาโก นาม ราชา ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตสฺส โสฬสนฺนํ อิตฺถิสหสฺสานํ เชฏฺิกา สีลวตี นาม อคฺคมเหสี อโหสิ, สา เนว ปุตฺตํ, น ธีตรํ ลภิ. อถสฺส นาครา เจว รฏฺวาสิโน จ ราชนิเวสนทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา ‘‘รฏฺํ นสฺสิสฺสติ, รฏฺํ นสฺสิสฺสตี’’ติ อุปกฺโกสึสุ. ราชา สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา ‘‘มยิ รชฺชํ กาเรนฺเต อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, กสฺมา อุปกฺโกสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สจฺจํ, เทว, อธมฺมกาโร นาม นตฺถิ, อปิจ วํสานุรกฺขโก ปน โว ปุตฺโต นตฺถิ, อฺโ รชฺชํ คเหตฺวา รฏฺํ นาเสสฺสติ, ตสฺมา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตุํ สมตฺถํ ปุตฺตํ ปตฺเถถา’’ติ. ‘‘ปุตฺตํ ปตฺเถนฺโต กึ กโรมี’’ติ? ‘‘ปมํ ตาว เอกํ สตฺตาหํ จุลฺลนาฏกํ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชถ, สเจ สา ปุตฺตํ ลภิสฺสติ, สาธุ, โน เจ, อถ มชฺฌิมนาฏกํ วิสฺสชฺเชถ, ตโต เชฏฺนาฏกํ, อวสฺสํ เอตฺตกาสุ อิตฺถีสุ เอกา ปุฺวตี ปุตฺตํ ลภิสฺสตี’’ติ. ราชา เตสํ วจเนน ตถา กตฺวา สตฺต ทิวเส ยถาสุขํ อภิรมิตฺวา อาคตาคตํ ปุจฺฉิ – ‘‘กจฺจิ โว ปุตฺโต ลทฺโธ’’ติ? สพฺพา ‘‘น ลภาม, เทวา’’ติ อาหํสุ. ราชา ‘‘น เม ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ อนตฺตมโน อโหสิ. นาครา ปุน ตเถว อุปกฺโกสึสุ. ราชา ‘‘กึ อุปกฺโกสถ, มยา ตุมฺหากํ วจเนน นาฏกานิ วิสฺสฏฺานิ, เอกาปิ ปุตฺตํ น ลภติ, อิทานิ กึ กโรมา’’ติ อาห. ‘‘เทว, เอตา ทุสฺสีลา ภวิสฺสนฺติ นิปฺปุฺา, นตฺถิ เอตาสํ ปุตฺตลาภาย ปุฺํ, ตุมฺเห เอตาสุ ปุตฺตํ อลภนฺตีสุปิ มา อปฺโปสฺสุกฺกตํ อาปชฺชถ, อคฺคมเหสี โว สีลวตี เทวี สีลสมฺปนฺนา, ตํ วิสฺสชฺเชถ, ตสฺสา ปุตฺโต อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘อิโต กิร สตฺตเม ทิวเส ราชา สีลวตึ เทวึ ธมฺมนาฏกํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสติ, ปุริสา สนฺนิปตนฺตู’’ติ เภรึ จราเปตฺวา สตฺตเม ทิวเส เทวึ อลงฺการาเปตฺวา ราชนิเวสนา โอตาเรตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. ตสฺสา สีลเตเชน สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ. สกฺโก ‘‘กึ นุ โข’’ติ อาวชฺเชนฺโต เทวิยา ปุตฺตปตฺถนภาวํ ตฺวา ‘‘เอติสฺสา มยา ปุตฺตํ ทาตุํ วฏฺฏติ, อตฺถิ นุ โข เทวโลเก เอติสฺสา อนุจฺฉวิโก ปุตฺโต’’ติ อุปธาเรนฺโต โพธิสตฺตํ อทฺทส. โส กิร ตทา ตาวตึสภวเน อายุํ เขเปตฺวา อุปริเทวโลเก นิพฺพตฺติตุกาโม อโหสิ. สกฺโก ตสฺส วิมานทฺวารํ คนฺตฺวา ตํ ปกฺโกสิตฺวา, ‘‘มาริส, ตยา มนุสฺสโลกํ คนฺตฺวา โอกฺกากรฺโ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา อปรมฺปิ เทวปุตฺตํ ‘‘ตฺวมฺปิ เอติสฺสา เอว ปุตฺโต ภวิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘มา โข ปนสฺสา โกจิ สีลํ ภินฺทตู’’ติ มหลฺลกพฺราหฺมณเวเสน รฺโ นิเวสนทฺวารํ อคมาสิ.

มหาชโนปิ นฺหาโต อลงฺกโต ‘‘อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามิ, อหํ เทวึ คณฺหิสฺสามี’’ติ ราชทฺวาเร สนฺนิปติตฺวา สกฺกฺจ ทิสฺวา ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปริหาสมกาสิ. สกฺโก ‘‘กึ มํ ตุมฺเห ครหถ, สเจปิ เม สรีรํ ชิณฺณํ, ราโค ปน น ชีรติ, สเจ สีลวตึ ลภิสฺสามิ, อาทาย นํ คมิสฺสามีติ อาคโตมฺหี’’ติ วตฺวา อตฺตโน อานุภาเวน สพฺเพสํ ปุรโตว อฏฺาสิ. อฺโ โกจิ ตสฺส เตเชน ปุรโต ภวิตุํ นาสกฺขิ. โส ตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ นิเวสนา นิกฺขมนฺติฺเว หตฺเถ คเหตฺวา ปกฺกามิ. อถ นํ ตตฺถ ตตฺถ ิตา ครหึสุ ‘‘ปสฺสถ, โภ, มหลฺลกพฺราหฺมโณ เอวํ อุตฺตมรูปธรํ เทวึ อาทาย คจฺฉติ, อตฺตโน ยุตฺตํ น ชานาตี’’ติ. เทวีปิ ‘‘มหลฺลโก มํ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ น อฏฺฏียติ น หรายติ. ราชาปิ วาตปาเน ตฺวา ‘‘โก นุ โข เทวึ คเหตฺวา คจฺฉตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา อนตฺตมโน อโหสิ.

สกฺโก ตํ อาทาย นครทฺวารโต นิกฺขมิตฺวา ทฺวารสมีเป เอกํ ฆรํ มาเปสิ วิวฏทฺวารํ ปฺตฺตกฏฺตฺถริกํ. อถ นํ สา ‘‘อิทํ เต นิเวสน’’นฺติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘อาม, ภทฺเท, ปุพฺเพ ปนาหํ เอโก, อิทานิมฺหา มยํ ทฺเว ชนา, อหํ ภิกฺขาย จริตฺวา ตณฺฑุลาทีนิ อาหริสฺสามิ, ตฺวํ อิมิสฺสา กฏฺตฺถริกาย นิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ตํ มุทุนา หตฺเถน ปรามสนฺโต ทิพฺพสมฺผสฺสํ ผราเปตฺวา ตตฺถ นิปชฺชาเปสิ. สา ทิพฺพสมฺผสฺสผรเณน สฺํ วิสฺสชฺเชสิ. อถ นํ อตฺตโน อานุภาเวน ตาวตึสภวนํ เนตฺวา อลงฺกตวิมาเน ทิพฺพสยเน นิปชฺชาเปสิ. สา สตฺตเม ทิวเส ปพุชฺฌิตฺวา ตํ สมฺปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘น โส พฺราหฺมโณ มนุสฺโส, สกฺโก ภวิสฺสตี’’ติ อฺาสิ. สกฺโกปิ ตสฺมึ สมเย ปาริจฺฉตฺตกมูเล ทิพฺพนาฏกปริวุโต นิสินฺโน อโหสิ. สา สยนา อุฏฺาย ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ สกฺโก ‘‘วรํ เต, เทวิ, ททามิ, คณฺหาหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ, เทว, เอกํ ปุตฺตํ เม เทหี’’ติ. ‘‘เทวิ, ติฏฺตุ เอโก ปุตฺโต, อหํ เต ทฺเว ปุตฺเต ทสฺสามิ. เตสุ ปน เอโก ปฺวา ภวิสฺสติ วิรูปวา, เอโก รูปวา น ปฺวา. เตสุ กตรํ ปมํ อิจฺฉสี’’ติ? ‘‘ปฺวนฺตํ, เทวา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา ตสฺสา กุสติณํ ทิพฺพวตฺถํ ทิพฺพจนฺทนํ ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ โกกนุทฺจ นาม วีณํ ทตฺวา ตํ อาทาย รฺโ สยนฆรํ ปวิสิตฺวา รฺา สทฺธึ เอกสยเน นิปชฺชาเปตฺวา องฺคุฏฺเกน ตสฺสา นาภึ ปรามสิ. ตสฺมึ ขเณ โพธิสตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สกฺโกปิ สกฏฺานเมว คโต. ปณฺฑิตา เทวี คพฺภสฺส ปติฏฺิตภาวํ ชานิ.

อถ นํ ปพุทฺโธ ราชา ทิสฺวา, ‘‘เทวิ, เกน นีตาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สกฺเกน, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ปจฺจกฺขโต เอกํ มหลฺลกพฺราหฺมณํ ตํ อาทาย คจฺฉนฺตํ อทฺทสํ, กสฺมา มํ วฺเจสี’’ติ? ‘‘สทฺทหถ, เทว, สกฺโก มํ คเหตฺวา เทวโลกํ เนสี’’ติ. ‘‘น สทฺทหามิ, เทวี’’ติ. อถสฺส สา สกฺกทตฺติยํ กุสติณํ ทสฺเสตฺวา ‘‘สทฺทหถา’’ติ อาห. ราชา ‘‘กุสติณํ นาม ยโต กุโตจิ ลพฺภตี’’ติ น สทฺทหิ. อถสฺส สา ทิพฺพวตฺถาทีนิ ทสฺเสสิ. ราชา ตานิ ทิสฺวา สทฺทหิตฺวา, ‘‘ภทฺเท, สกฺโก ตาว ตํ เนตุ, ปุตฺโต ปน เต ลทฺโธ’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ลทฺโธ มหาราช, คพฺโภ เม ปติฏฺิโต’’ติ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา คพฺภปริหารํ อทาสิ . สา ทสมาสจฺจเยน ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส อฺํ นามํ อกตฺวา กุสติณนามเมว อกํสุ. กุสกุมารสฺส ปทสา คมนกาเล อิตโร เทวปุตฺโต ตสฺสา กุจฺฉิยํ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาเส ปริปุณฺเณ ปุตฺตํ วิชายิ, ตสฺส ‘‘ชยมฺปตี’’ติ นามํ กรึสุ. เต มหนฺเตน ยเสน วฑฺฒึสุ. โพธิสตฺโต ปฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก กิฺจิ สิปฺปํ อนุคฺคเหตฺวา อตฺตโนว ปฺาย สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ.

อถสฺส โสฬสวสฺสกาเล ราชา รชฺชํ ทาตุกาโม เทวึ อามนฺเตตฺวา ‘‘ภทฺเท, ปุตฺตสฺส เต รชฺชํ ทตฺวา นาฏกานิ อุปฏฺเปสฺสาม, มยํ ชีวนฺตาเยว นํ รชฺเช ปติฏฺิตํ ปสฺสิสฺสาม, สกลชมฺพุทีเป โข ปน ยสฺส รฺโ ธีตรํ อิจฺฉติ, ตมสฺส อาเนตฺวา อคฺคมเหสึ กริสฺสาม, จิตฺตมสฺส ชานาหิ, กตรํ ราชธีตรํ โรเจสี’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘กุมารสฺส อิมํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา จิตฺตํ ชานาหี’’ติ เอกํ ปริจาริกํ เปเสสิ. สา คนฺตฺวา ตสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อหํ น รูปวา, รูปสมฺปนฺนา ราชธีตา อานีตาปิ มํ ทิสฺวา ‘กึ เม อิมินา วิรูเปนา’ติ ปลายิสฺสติ อิติ โน ลชฺชิตพฺพกํ ภวิสฺสติ, กึ เม ฆราวาเสน, ธรมาเน มาตาปิตโร อุปฏฺหิตฺวา เตสํ อจฺจเยน นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ. โส ‘‘มยฺหํ เนว รชฺเชนตฺโถ, น นาฏเกหิ, อหํ มาตาปิตูนํ อจฺจเยน ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา คนฺตฺวา ตสฺส กถํ เทวิยา อาโรเจสิ, เทวีปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา อนตฺตมโน หุตฺวา ปุน กติปาหจฺจเยน สาสนํ เปเสสิ. โสปิ ปฏิพาหติเยว. เอวํ ยาวตติยํ ปฏิพาหิตฺวา จตุตฺถวาเร จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตูหิ สทฺธึ เอกนฺเตน ปฏิปกฺขภาโว นาม น ยุตฺโต, เอกํ อุปายํ กริสฺสามี’’ติ.

โส กมฺมารเชฏฺกํ ปกฺโกสาเปตฺวา พหุํ สุวณฺณํ ทตฺวา ‘‘เอกํ อิตฺถิรูปกํ กโรหี’’ติ อุยฺโยเชตฺวา ตสฺมึ ปกฺกนฺเต อฺํ สุวณฺณํ คเหตฺวา สยมฺปิ อิตฺถิรูปกํ อกาสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ. ตํ สุวณฺณรูปกํ ชิวฺหาย อวณฺณนียโสภํ อโหสิ. อถ นํ มหาสตฺโต โขมํ นิวาสาเปตฺวา สิริคพฺเภ ปาเปสิ. โส กมฺมารเชฏฺเกน อาภตรูปกํ ทิสฺวา ตํ ครหิตฺวา ‘‘คจฺฉ อมฺหากํ สิริคพฺเภ ปิตรูปกํ อาหรา’’ติ อาห. โส สิริคพฺภํ ปวิฏฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘กุมาเรน สทฺธึ อภิรมิตุํ เอกา เทวจฺฉรา, อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ หตฺถํ ปสาเรตุํ อวิสหนฺโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘เทว, สิริคพฺเภ อยฺยา เอกิกาว ิตา, อุปคนฺตุํ น สกฺโกมี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, คจฺฉ, สุวณฺณรูปกํ เอตํ, อาหรา’’ติ ปุน เปสิโต อาหริ. กุมาโร กมฺมาเรน กตํ รูปกํ สุวณฺณคพฺเภ นิกฺขิปาเปตฺวา อตฺตนา กตํ อลงฺการาเปตฺวา รเถ ปาเปตฺวา ‘‘เอวรูปํ ลภนฺโต คณฺหามี’’ติ มาตุ สนฺติกํ ปหิณิ.

สา อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา, ‘‘ตาตา, มยฺหํ ปุตฺโต มหาปุฺโ สกฺกทตฺติโย อนุจฺฉวิกํ กุมาริกํ ลภิสฺสติ, ตุมฺเห เอวรูปํ ลภนฺตา คณฺหิสฺสถ, อิมํ รูปกํ ปฏิจฺฉนฺนยาเน เปตฺวา สกลชมฺพุทีปํ จรนฺตา ยสฺส รฺโ เอวรูปํ ธีตรํ ปสฺสถ, ตสฺเสตํ ทตฺวา ‘โอกฺกากราชา ตุมฺเหหิ สทฺธึ อาวาหํ กริสฺสตี’ติ ทิวสํ ววตฺถเปตฺวา อาคจฺฉถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ ตํ อาทาย มหนฺเตน ปริวาเรน นิกฺขมิตฺวา วิจรนฺตา ยํ ราชธานึ ปาปุณนฺติ, ตตฺถ สายนฺหสมเย มหาชนสฺส สโมสรณฏฺาเน ตํ รูปกํ วตฺถปุปฺผาลงฺกาเรหิ อลงฺกริตฺวา สุวณฺณสิวิกํ อาโรเปตฺวา ติตฺถมคฺเค เปตฺวา อมจฺจา สยํ ปฏิกฺกมิตฺวา อาคตาคตานํ กถาสวนตฺถํ เอกมนฺเต ติฏฺนฺติ. มหาชโน ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ สฺํ อกตฺวา ‘‘อยํ มนุสฺสิตฺถี สมานาปิ เทวจฺฉรปฏิภาคา อติวิย โสภติ, กึ นุ โข เอตฺถ ิตา, กุโต วา อาคตา, อมฺหากํ นคเร เอวรูปา นตฺถี’’ติ วณฺเณนฺโต ปกฺกมติ. ตํ สุตฺวา อมจฺจา ‘‘สเจ อิธ เอวรูปา ทาริกา ภเวยฺย, ‘อสุกา ราชธีตา วิย อสุกา อมจฺจธีตา วิยา’ติ วเทยฺยุํ, อทฺธา อิธ เอวรูปา นตฺถี’’ติ ตํ อาทาย อฺํ นครํ คจฺฉนฺติ.

เต เอวํ วิจรนฺตา อนุปุพฺเพน มทฺทรฏฺเ สาคลนครํ สมฺปาปุณึสุ. ตตฺถ มทฺทรฺโ อฏฺ ธีตโร อุตฺตมรูปธรา เทวจฺฉรปฏิภาคา, ตาสํ สพฺพเชฏฺิกา ปภาวตี นาม. ตสฺสา สรีรโต พาลสูริยสฺส ปภา วิย ปภา นิจฺฉรนฺติ, อนฺธกาเรปิ จตุหตฺเถ อนฺโตคพฺเภ ปทีปกิจฺจํ นตฺถิ, สพฺโพ คพฺโภ เอโกภาโสว โหติ. ธาตี ปนสฺสา ขุชฺชา, สา ปภาวตึ โภเชตฺวา ตสฺสา สีสนฺหาปนตฺถํ อฏฺหิ วณฺณทาสีหิ อฏฺ ฆเฏ คาหาเปตฺวา สายนฺหสมเย อุทกตฺถาย คจฺฉนฺตี ติตฺถมคฺเค ิตํ ตํ รูปกํ ทิสฺวา ‘‘ปภาวตี’’ติ สฺาย ‘‘อยํ ทุพฺพินีตา ‘สีสํ นฺหายิสฺสามี’ติ อมฺเห อุทกตฺถาย เปเสตฺวา ปมตรํ อาคนฺตฺวา ติตฺถมคฺเค ิตา’’ติ กุชฺฌิตฺวา ‘‘อเร กุลลชฺชาปนิเก อมฺเหหิ ปุริมตรํ อาคนฺตฺวา กสฺมา อิธ ิตาสิ, สเจ ราชา ชานิสฺสติ, นาเสสฺสติ โน’’ติ วตฺวา หตฺเถน คณฺฑปสฺเส ปหริ, หตฺถตลํ ภิชฺชมานํ วิย ชาตํ. ตโต ‘‘สุวณฺณรูปก’’นฺติ ตฺวา หสมานา ตาสํ วณฺณทาสีนํ สนฺติกํ คจฺฉนฺตี ‘‘ปสฺสเถตํ เม กมฺมํ, มม ธีตาติสฺาย ปหารํ อทาสึ, อยํ มม ธีตุ สนฺติเก กิมคฺฆติ, เกวลํ เม หตฺโถ ทุกฺขาปิโต’’ติ อาห.

อถ นํ ราชทูตา คเหตฺวา ‘‘ตฺวํ ‘มม ธีตา อิโต อภิรูปตรา’ติ วทนฺตี กํ นาม กเถสี’’ติ อาหํสุ. ‘‘มทฺทรฺโ ธีตรํ ปภาวตึ, อิทํ รูปกํ ตสฺสา โสฬสิมฺปิ กลํ น อคฺฆตี’’ติ. เต ตุฏฺมานสา ราชทฺวารํ คนฺตฺวา ‘‘โอกฺกากรฺโ ทูตา ทฺวาเร ิตา’’ติ ปฏิหาเรสุํ. ราชา อาสนา วุฏฺาย ิตโกว ‘‘ปกฺโกสถา’’ติ อาห. เต ปวิสิตฺวา ราชานํ วนฺทิตฺวา ‘‘มหาราช, อมฺหากํ ราชา ตุมฺหากํ อาโรคฺยํ ปุจฺฉตี’’ติ วตฺวา กตสกฺการสมฺมานา ‘‘กิมตฺถํ อาคตตฺถา’’ติ ปุฏฺา ‘‘อมฺหากํ รฺโ สีหสฺสโร ปุตฺโต กุสกุมาโร นาม, ราชา ตสฺส รชฺชํ ทาตุกาโม อมฺเห ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณิ, ตุมฺหากํ กิร ธีตา ปภาวตี, ตํ ตสฺส เทถ, อิมฺจ สุวณฺณรูปกํ เทยฺยธมฺมํ คณฺหถา’’ติ ตํ รูปกํ ตสฺส อทํสุ. โสปิ ‘‘เอวรูเปน มหาราเชน สทฺธึ วิวาหมงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ ตุฏฺจิตฺโต สมฺปฏิจฺฉิ . อถ นํ ทูตา อาหํสุ – ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ น สกฺกา ปปฺจํ กาตุํ, กุมาริกาย ลทฺธภาวํ รฺโ อาโรเจสฺสาม, อถ นํ โส อาคนฺตฺวา อาทาย คมิสฺสตี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ วตฺวา เตสํ สกฺการํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสิ. เต คนฺตฺวา รฺโ จ เทวิยา จ อาโรเจสุํ. ราชา มหนฺเตน ปริวาเรน กุสาวติโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน สาคลนครํ ปาปุณิ. มทฺทราชา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ตํ นครํ ปเวเสตฺวา มหนฺตํ สกฺการมกาสิ.

สีลวตี เทวี ปณฺฑิตตฺตา ‘‘โก ชานาติ, กึ ภวิสฺสตี’’ติ เอกาหทฺวีหจฺจเยน มทฺทราชานํ อาห – ‘‘มหาราช, สุณิสํ ทฏฺุกามามฺหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปสิ. ปภาวตี สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ธาติคณปริวุตา อาคนฺตฺวา สสฺสุํ วนฺทิ. สา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ กุมาริกา อภิรูปา, มยฺหํ ปุตฺโต วิรูโป. สเจ เอสา ตํ ปสฺสิสฺสติ, เอกาหมฺปิ อวสิตฺวา ปลายิสฺสติ, อุปายํ กริสฺสามี’’ติ. สา มทฺทราชานํ อามนฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, สุณิสา เม ปุตฺตสฺส อนุจฺฉวิกา, อปิจ โข ปน อมฺหากํ กุลปเวณิยา อาคตํ จาริตฺตํ อตฺถิ, สเจ อยํ ตสฺมึ จาริตฺเต วตฺติสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ อาห. ‘‘กึ ปน โว จาริตฺต’’นฺติ. ‘‘อมฺหากํ วํเส ยาว เอกสฺส คพฺภสฺส ปติฏฺานํ โหติ, ตาว ทิวา สามิกํ ปสฺสิตุํ น ลภติ. สเจ เอสา ตถา กริสฺสติ, เนสฺสามิ น’’นฺติ. ราชา ‘‘กึ, อมฺม, สกฺขิสฺสสิ เอวํ วตฺติตุ’’นฺติ ธีตรํ ปุจฺฉิ. สา ‘‘อาม ตาตา’’ติ อาห. ตโต โอกฺกากราชา มทฺทรฺโ พหุํ ธนํ ทตฺวา ตํ อาทาย ปกฺกามิ. มทฺทราชาปิ มหนฺเตน ปริวาเรน ธีตรํ อุยฺโยเชสิ.

โอกฺกาโก กุสาวตึ คนฺตฺวา นครํ อลงฺการาเปตฺวา สพฺพพนฺธนานิ โมเจตฺวา ปุตฺตสฺส อภิเสกํ กตฺวา รชฺชํ ทตฺวา ปภาวตึ อคฺคมเหสึ กาเรตฺวา นคเร ‘‘กุสราชสฺส อาณา’’ติ เภรึ จราเปสิ. สกลชมฺพุทีปตเล ราชาโน เยสํ ธีตโร อตฺถิ, เต กุสรฺโ ธีตโร ปหิณึสุ . เยสํ ปุตฺตา อตฺถิ, เต เตน สทฺธึ มิตฺตภาวํ อากงฺขนฺตา ปุตฺเต อุปฏฺาเก กตฺวา ปหิณึสุ. โพธิสตฺตสฺส นาฏกปริวาโร มหา อโหสิ, มหนฺเตน ยเสน รชฺชํ กาเรสิ. โส ปภาวตึ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, สาปิ ตํ ทิวา ปสฺสิตุํ น ลภติ, อุภินฺนํ รตฺติทสฺสนเมว โหติ. ตตฺถ ปภาวติยา สรีรปฺปภาปิ อพฺโพหาริกา อโหสิ. โพธิสตฺโต สิริคพฺภโต รตฺตึเยว นิกฺขมติ.

โส กติปาหจฺจเยน ปภาวตึ ทิวา ทฏฺุกาโม มาตุยา อาโรเจสิ. สา ‘‘มา เต ตาต, รุจฺจิ, ยาว เอกํ ปุตฺตํ ลภสิ, ตาว อาคเมหี’’ติ, ปฏิกฺขิปิ. โส ปุนปฺปุนํ ยาจิเยว. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิเมณฺฑเวเสน ติฏฺ, อหํ ตํ ตตฺถ อาเนสฺสามิ, อถ นํ อกฺขีนิ ปูเรตฺวา โอโลเกยฺยาสิ, มา จ อตฺตานํ ชานาเปหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา หตฺถิสาลํ อคมาสิ. อถสฺส มาตา หตฺถิสาลํ อลงฺการาเปตฺวา ปภาวตึ ‘‘เอหิ สามิกสฺส หตฺถิโน ปสฺสามา’’ติ ตตฺถ เนตฺวา ‘‘อยํ หตฺถี อสุโก นาม, อยํ หตฺถี อสุโก นามา’’ติ ตสฺสา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ตํ ราชา มาตุ ปจฺฉโต คจฺฉนฺตึ ทิสฺวา หตฺถิโคปกเวเสน หตฺถิฉกณปิณฺเฑน ปิฏฺิยํ ปหริ. สา กุทฺธา ‘‘รฺโ กเถตฺวา เต หตฺถํ ฉินฺทาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา เทวึ อุชฺฌาเปสิ. ราชมาตา ‘‘มา อมฺม กุชฺฌี’’ติ สุณิสํ สฺาเปตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชิ. ปุนปิ ราชา ตํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา อสฺสสาลาย อสฺสโคปกเวเสน ตํ ทิสฺวา ตเถว อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหริ. ตทาปิ ตํ กุทฺธํ สสฺสุ สฺาเปสิ.

ปุเนกทิวเส ปภาวตี มหาสตฺตํ ปสฺสิตุกามา หุตฺวา สสฺสุยา อาโรเจตฺวา ‘‘อลํ มา เต รุจฺจี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตาปิ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘เตน หิ สฺเว มม ปุตฺโต นครํ ปทกฺขิณํ กริสฺสติ, ตฺวํ สีหปฺชรํ วิวริตฺวา ตํ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุนทิวเส นครํ อลงฺการาเปตฺวา ชยมฺปติกุมารํ ราชเวสํ คาหาเปตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา โพธิสตฺตํ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปตฺวา นครํ ปทกฺขิณํ การาเปสิ. สา ปภาวตึ อาทาย สีหปฺชเร ตฺวา ‘‘ปสฺส ตว สามิกสฺส สิริโสภคฺค’’นฺติ อาห. สา ‘‘อนุจฺฉวิโก เม สามิโก ลทฺโธ’’ติ อตฺตมนา อโหสิ. ตํ ทิวสํ ปน มหาสตฺโต หตฺถิเมณฺฑเวเสน ชยมฺปติสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา ยถาธิปฺปาเยน ปภาวตึ โอโลเกนฺโต หตฺถวิการาทิวเสน จิตฺตรุจิยา เกฬึ ทสฺเสสิ. หตฺถิมฺหิ อติกฺกนฺเต ราชมาตา ปภาวตึ ปุจฺฉิ – ‘‘ทิฏฺโ เต, อมฺม, สามิโก’’ติ. ‘‘อาม อยฺเย, ปจฺฉิมาสเน ปนสฺส นิสินฺโน หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย ทุพฺพินีโต, มยฺหํ หตฺถวิการาทีนิ ทสฺเสสิ, กสฺมา เอวรูปํ อลกฺขิกํ รฺโ ปจฺฉิมาสเน นิสีทาเปสุํ, นีหราเปหิ น’’นฺติ? ‘‘อมฺม, รฺโ ปจฺฉิมาสเน รกฺขา นาม อิจฺฉิตพฺพา’’ติ.

สา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ หตฺถิเมณฺโฑ อติวิย นิพฺภโย, ราชานํ ‘ราชา’ติปิ น มฺติ, กึ นุ โข เอโสว กุสราชา, อทฺธา หิ เอโส อติวิย วิรูโป เอว ภวิสฺสติ, เตเนว มํ น ทสฺเสนฺตี’’ติ. สา ขุชฺชํ กณฺณมูเล อาห – ‘‘อมฺม, คจฺฉ ตาว ชานาหิ, กึ ปุริมาสเน นิสินฺนโก ราชา, อุทาหุ ปจฺฉิมาสเน’’ติ? ‘‘กถํ ปนาหํ ชานิสฺสามี’’ติ. ‘‘สเจ หิ โส ราชา ภวิสฺสติ, ปมตรํ หตฺถิปิฏฺิโต โอตริสฺสติ, อิมาย สฺาย ชานาหี’’ติ. สา คนฺตฺวา เอกมนฺเต ิตา ปมํ มหาสตฺตํ โอตรนฺตํ อทฺทส, ปจฺฉา ชยมฺปติกุมารํ. มหาสตฺโตปิ อิโต จิโต จ โอโลเกนฺโต ขุชฺชํ ทิสฺวา ‘‘อิมินา นาม การเณน เอสา อาคตา ภวิสฺสตี’’ติ ตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘อิมํ อนฺตรํ ปภาวติยา มา กเถหี’’ติ ทฬฺหํ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. สา คนฺตฺวา ‘‘ปุริมาสเน นิสินฺโน ปมํ โอตรี’’ติ อาห. ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สทฺทหิ.

มหาสตฺโตปิ ปุน ทฏฺุกาโม หุตฺวา มาตรํ ยาจิ. สา ปฏิกฺขิปิตุํ อสกฺโกนฺตี ‘‘เตน หิ อฺาตกเวเสน อุยฺยานํ คจฺฉาหี’’ติ อาห. โส อุยฺยานํ คนฺตฺวา โปกฺขรณิยํ คลปฺปมาณํ อุทกํ ปวิสิตฺวา ปทุมินิปตฺเตน สีสํ ฉาเทตฺวา ปุปฺผิตปทุเมน มุขํ อาวริตฺวา อฏฺาสิ. มาตาปิสฺส ปภาวตึ อุยฺยานํ เนตฺวา สายนฺหสมเย ‘‘อิเม รุกฺเข ปสฺส, สกุเณ ปสฺส, มิเค ปสฺสา’’ติ ปโลภยมานา โปกฺขรณีตีรํ ปายาสิ. สา ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนํ โปกฺขรณึ ทิสฺวา นฺหายิตุกามา ปริจาริกาหิ สทฺธึ โปกฺขรณึ โอตริตฺวา กีฬนฺตี ตํ ปทุมํ ทิสฺวา วิจินิตุกามา หตฺถํ ปสาเรสิ. อถ นํ ราชา ปทุมินิปตฺตํ อปเนตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา’’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺหิ. สา ตสฺส มุขํ ทิสฺวา ‘‘ยกฺโข มํ คณฺหี’’ติ วิรวิตฺวา ตตฺเถว วิสฺิตํ ปตฺตา. อถสฺสา ราชา หตฺถํ มุฺจิ. สา สฺํ ปฏิลภิตฺวา ‘‘กุสราชา กิร มํ หตฺเถ คณฺหิ, อิมินาวาหํ หตฺถิสาลาย หตฺถิฉกณปิณฺเฑน, อสฺสสาลาย อสฺสฉกณปิณฺเฑน ปหฏา, อยเมว มํ หตฺถิสฺส ปจฺฉิมาสเน นิสีทิตฺวา อุปฺปณฺเฑสิ, กึ เม เอวรูเปน ทุมฺมุเขน ปตินา, อิมํ ชหิตฺวา อหํ ชีวนฺตี อฺํ ปตึ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อตฺตนา สทฺธึ อาคเต อมจฺเจ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘มม ยานวาหนํ สชฺชํ กโรถ, อชฺเชว คมิสฺสามี’’ติ อาหํ . เต รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา จินฺเตสิ – ‘‘สเจ คนฺตุํ น ลภิสฺสติ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, คจฺฉตุ ปุน ตํ อตฺตโน พเลน อาเนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อถสฺสา คมนํ อนุชานิ. สา ปิตุนครเมว อคมาสิ.

มหาสตฺโตปิ อุยฺยานโต นครํ ปวิสิตฺวา อลงฺกตปาสาทํ อภิรุหิ. โพธิสตฺตฺหิ สา ปุพฺพปตฺถนาวเสน น อิจฺฉิ, โสปิ ปุพฺพกมฺมวเสเนว วิรูโป อโหสิ. อตีเต กิร พาราณสิยํ ทฺวารคาเม อุปริมวีถิยา จ เหฏฺิมวีถิยา จ ทฺเว กุลานิ วสึสุ. เอกสฺส กุลสฺส ทฺเว ปุตฺตา อเหสุํ. เอกสฺส เอกาว ธีตา อโหสิ. ทฺวีสุ ปุตฺเตสุ โพธิสตฺโต กนิฏฺโ. ตํ กุมาริกํ เชฏฺกสฺส อทํสุ. กนิฏฺโ อทารภรโณ ภาตุ สนฺติเกเยว วสิ. อเถกทิวสํ ตสฺมึ ฆเร อติรสกปูเว ปจึสุ. โพธิสตฺโต อรฺํ คโต โหติ. ตสฺส ปูวํ เปตฺวา อวเสเส ภาเชตฺวา ขาทึสุ. ตสฺมึ ขเณ ปจฺเจกพุทฺโธ ภิกฺขาย ฆรทฺวารํ อคมาสิ. โพธิสตฺตสฺส ภาตุชายา ‘‘จูฬปติโน อฺํ ปูวํ ปจิสฺสามี’’ติ ตํ คเหตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส อทาสิ. โสปิ ตํ ขณฺเว อรฺโต อาคจฺฉิ. อถ นํ สา อาห – ‘‘สามิ, จิตฺตํ ปสาเทหิ, ตว โกฏฺาโส ปจฺเจกพุทฺธสฺส ทินฺโน’’ติ. โส ‘‘ตว โกฏฺาสํ ขาทิตฺวา มม โกฏฺาสํ เทสิ, อหํ กึ ขาทิสฺสามี’’ติ กุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺธํ อนุคนฺตฺวา ปตฺตโต ปูวํ คณฺหิ. สา มาตุ ฆรํ คนฺตฺวา นววิลีนํ จมฺปกปุปฺผวณฺณํ สปฺปึ อาหริตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺตํ ปูเรสิ, ตํ โอภาสํ มุฺจิ. สา ตํ ทิสฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมินา ทานพเลน นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺาเน เม สรีรํ โอภาสชาตํ โหตุ, อุตฺตมรูปธรา จ ภเวยฺยํ, อิมินา จ เม อสปฺปุริเสน สทฺธึ เอกฏฺาเน วาโส มา อโหสี’’ติ. อิติ สา อิมิสฺสา ปุพฺพปตฺถนาย วเสน ตํ น อิจฺฉิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปูว ตสฺมึ สปฺปิปตฺเต โอสีทาเปตฺวา ปตฺถนํ ปฏฺเปสิ – ‘‘ภนฺเต, อิมํ โยชนสเต วสนฺติมฺปิ อาเนตฺวา มม ปาทปริจาริกํ กาตุํ สมตฺโถ ภเวยฺย’’นฺติ. ตตฺถ ยํ โส กุทฺโธ คนฺตฺวา ปูวํ คณฺหิ, ตสฺส ปุพฺพกมฺมสฺส วเสน วิรูโป อโหสิ, ปุพฺพปตฺถนาย สา จ ตํ น อิจฺฉีติ.

โส ปภาวติยา คตาย โสกปฺปตฺโต อโหสิ, นานากาเรหิ ปริจารยมานาปิ นํ เสสิตฺถิโย โอโลกาเปตุมฺปิ นาสกฺขึสุ, , ปภาวติรหิตมสฺส สกลมฺปิ นิเวสนํ ตุจฺฉํ วิย ขายิ. โส ‘‘อิทานิ สาคลนครํ ปตฺตา ภวิสฺสตี’’ติ ปจฺจูสสมเย มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา, ‘‘อมฺม, อหํ ปภาวตึ อาเนสฺสามิ, ตุมฺเห รชฺชํ อนุสาสถา’’ติ วทนฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘อิทํ เต รฏฺํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

อิทํ เต รชฺชํ อนุสาส อมฺม, คจฺฉามหํ ยตฺถ ปิยา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ สโยคฺคนฺติ หตฺถิโยคฺคาทิสหิตํ. สกายุรนฺติ สปฺจราชกกุธภณฺฑํ. อนุสาส, อมฺมาติ โส กิร ปุริสสฺส รชฺชํ ทตฺวา ปุน คณฺหนํ นาม น ยุตฺตนฺติ ปิตุ วา ภาตุ วา อนิยฺยาเทตฺวา มาตุ นิยฺยาเทนฺโต เอวมาห.

สา ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘เตน หิ, ตาต, อปฺปมตฺโต ภเวยฺยาสิ, มาตุคาโม นาม อปริสุทฺธหทโย’’ติ วตฺวา นานคฺครสโภชนสฺส สุวณฺณกโรฏึ ปูเรตฺวา ‘‘อิทํ อนฺตรามคฺเค ภุฺเชยฺยาสี’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชสิ. โส ตํ อาทาย มาตรํ วนฺทิตฺวา ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ‘‘ชีวนฺโต ปุน ตุมฺเห ปสฺสิสฺสามี’’ติ วตฺวา สิริคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปฺจาวุธํ สนฺนยฺหิตฺวา ภตฺตกโรฏิยา สทฺธึ กหาปณสหสฺสํ ปสิพฺพเก กตฺวา โกกนุทฺจ วีณํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา มหพฺพโล มหาถาโม ยาว มชฺฌนฺหิกา ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา ภตฺตํ ภุฺชิตฺวา เสสทิวสภาเคน ปุน ปณฺณาส โยชนานิ คนฺตฺวา เอกาเหเนว โยชนสติกํ มคฺคํ เขเปตฺวา สายนฺหสมเย นฺหตฺวา สาคลนครํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ปวิฏฺมตฺเตเยว ตสฺส เตเชน ปภาวตี สยนปิฏฺเ สณฺาตุํ อสกฺโกนฺตี โอตริตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชิ. โพธิสตฺตํ กิลนฺตินฺทฺริยํ วีถิยา คจฺฉนฺตํ อฺตรา อิตฺถี ทิสฺวา ปกฺโกสาเปตฺวา นิสีทาเปตฺวา ปาเท โธวาเปตฺวา สยนํ ทาเปสิ. โส กิลนฺตกาโย นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกมิ.

อถ สา ตสฺมึ นิทฺทมุปคเต ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา ตํ ปโพเธตฺวา ภตฺตํ โภเชสิ. โส ตุฏฺโ ตสฺสา สทฺธึ ภตฺตกโรฏิยา กหาปณสหสฺสํ อทาสิ. โส ปฺจาวุธํ ตตฺเถว เปตฺวา ‘‘คนฺตพฺพฏฺานํ เม อตฺถี’’ติ วตฺวา วีณํ อาทาย หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา ‘‘อชฺช เม อิธ วสิตุํ เทถ, คนฺธพฺพํ โว กริสฺสามี’’ติ วตฺวา หตฺถิโคปเกหิ อนุฺาโต เอกมนฺเต นิปชฺชิตฺวา โถกํ นิทฺทายิตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธทรโถ อุฏฺาย วีณํ มุฺจิตฺวา ‘‘สาคลนครวาสิโน อิมํ สทฺทํ สุณนฺตู’’ติ วีณํ วาเทนฺโต คายิ. ปภาวตี ภูมิยํ นิปนฺนา ตํ สทฺทํ สุตฺวาว ‘‘อยํ น อฺสฺส วีณาสทฺโท, นิสฺสํสยํ กุสราชา มมตฺถาย อาคโต’’ติ อฺาสิ. มทฺทราชาปิ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อติวิย มธุรํ วาเทติ, สฺเว เอตํ ปกฺโกสาเปตฺวา มม คนฺธพฺพํ กาเรสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.

โพธิสตฺโต ‘‘น สกฺกา อิธ วสมาเนน ปภาวตี ทฏฺุํ, อฏฺานเมต’’นฺติ ปาโตว นิกฺขมิตฺวา สายํ ภุตฺตเคเหเยว ปาตราสํ ภุฺชิตฺวา วีณํ เปตฺวา ราชกุมฺภการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา เอกทิวเสเนว ฆรํ มตฺติกาย ปูเรตฺวา ‘‘ภาชนานิ กโรมิ อาจริยา’’ติ วตฺวา, ‘‘อาม, กาโรหี’’ติ วุตฺเต เอกํ มตฺติกาปิณฺฑํ จกฺเก เปตฺวา จกฺกํ อาวิฺฉิ, สกึ อาวิทฺธเมว ยาว มชฺฌนฺหิกาติกฺกมา ภมิเยว. โส นานาวณฺณานิ ขุทฺทกมหนฺตานิ ภาชนานิ กตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ภาชนํ กโรนฺโต นานารูปานิ สมุฏฺาเปสิ. โพธิสตฺตานฺหิ อธิปฺปาโย นาม สมิชฺฌติ, ‘‘ตานิ รูปานิ ปภาวตีเยว ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสิ. โส สพฺพภาชนานิ สุกฺขาเปตฺวา ปจิตฺวา เคหํ ปูเรสิ. กุมฺภกาโร นานาภาชนานิ คเหตฺวา ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา กตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน กตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม เทวา’’ติ. ‘‘น เต โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ภาชนานิ กโรตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทาเปตฺวา ‘‘นานาวณฺณานิ อิมานิ ขุทฺทกภาชนานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห.

โส ตานิ ตาสํ สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘อิมานิ โว กีฬนตฺถาย ขุทฺทกภาชนานี’’ติ อาห. ตา สพฺพา อาคมึสุ. กุมฺภกาโร มหาสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตภาชนเมว ตสฺสา อทาสิ. สา จ ภาชนํ คเหตฺวา ตตฺถ อตฺตโน จ มหาสตฺตสฺส จ ขุชฺชาย จ รูปํ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ น อฺเน กตํ, กุสราเชเนว กต’’นฺติ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิตฺวา ‘‘อิมินา มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, อิจฺฉนฺตานํ เทหี’’ติ อาห. อถสฺสา ภคินิโย กุทฺธภาวํ ตฺวา ‘‘ขุทฺทกภาชนํ กุสรฺา กตนฺติ มฺสิ, อิทํ เตน น กตํ, กุมฺภกาเรเนว กตํ, คณฺหาหิ น’’นฺติ อวหสึสุ. สา เตน กตภาวํ ตสฺส จ อาคตภาวํ ตาสํ น กเถสิ. กุมฺภกาโร สหสฺสํ โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ‘‘ตาต, ราชา เต ตุฏฺโ, อิโต กิร ปฏฺาย ราชธีตานํ ภาชนานิ กเรยฺยาสิ, อหํ ตาสํ หริสฺสามี’’ติ อาห.

โส ‘‘อิธาปิ วสนฺเตน น สกฺกา ปภาวตี ทฏฺุ’’นฺติ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชุปฏฺากสฺส นฬการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส อนฺเตวาสิโก หุตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย ตาลวณฺฏํ กตฺวา ตตฺเถว เสตจฺฉตฺตฺจ อาปานภูมิฺจ วตฺถํ คเหตฺวา ิตํ ปภาวติฺจาติ นานารูปานิ ทสฺเสสิ. นฬกาโร ตฺจ อฺฺจ เตน กตภณฺฑกํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ กตานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปุริมนเยเนว สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ นฬการภณฺฑานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ ตาลวณฺฏํ ตสฺสาเยว อทาสิ. ตตฺรปิ รูปานิ อฺโ ชโน น ปสฺสติ, ปภาวตี ปน ทิสฺวา กุสรฺา กตภาวํ ตฺวา ‘‘คณฺหิตุกามา คณฺหนฺตู’’ติ กุทฺธา ภูมิยํ ขิปิ . อถ นํ เสสา อวหสึสุ. นฬกาโร สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ราชมาลาการสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคนฺตฺวา นานาวิธํ มาลาวิกตึ คนฺถิตฺวา ปภาวติยา อตฺถาย นานารูปวิจิตฺรํ เอกํ จุมฺพฏกํ อกาสิ. มาลากาโร ตํ สพฺพํ อาทาย ราชกุลํ อคมาสิ. ราชา ทิสฺวา ‘‘เกนิมานิ คนฺถิตานี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มยา, เทวา’’ติ. ‘‘อหํ ตยา คนฺถิตานิ ชานามิ, กเถหิ, เกน คนฺถิตานี’’ติ? ‘‘อนฺเตวาสิเกน เม , เทวา’’ติ. ‘‘น โส อนฺเตวาสี, อาจริโย เต โส, ตฺวํ ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ สิกฺข, อิโต ปฏฺาย จ โส มม ธีตานํ ปุปฺผานิ คนฺถตุ, อิมฺจสฺส สหสฺสํ เทหี’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิมานิ ปุปฺผานิ มม ธีตานํ เทหี’’ติ อาห. โสปิ โพธิสตฺเตน ปภาวติยา อตฺถาย กตํ จุมฺพฏกํ ตสฺสาเยว อทาสิ. สา ตตฺถ อตฺตโน จ รฺโ จ รูเปหิ สทฺธึ นานารูปานิ ทิสฺวา เตน กตภาวํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ภูมิยํ ขิปิ. เสสา ภคินิโย ตํ ตเถว อวหสึสุ. มาลากาโรปิ สหสฺสํ อาหริตฺวา โพธิสตฺตสฺส ทตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ.

โส ‘‘อิทมฺปิ มยฺหํ อวสนฏฺาน’’นฺติ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา รฺโ สูทสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อนฺเตวาสิกภาวํ อุปคจฺฉิ. อเถกทิวสํ สูโท รฺโ โภชนวิกตึ หรนฺโต อตฺตโน อตฺถาย ปจิตุํ โพธิสตฺตสฺส อฏฺิมํสํ อทาสิ. โส ตํ ตถา สมฺปาเทสิ, ยถาสฺส คนฺโธ สกลนครํ อวตฺถริ. ราชา ตํ ฆายิตฺวา ‘‘กึ เต มหานเส อฺมฺปิ มํสํ ปจสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘นตฺถิ, เทว, อปิจ โข ปน เม อนฺเตวาสิกสฺส อฏฺิมํสํ ปจนตฺถาย ทินฺนํ, ตสฺเสว โส คนฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ. ราชา อาหราเปตฺวา ตโต โถกํ ชิวฺหคฺเค เปสิ, ตาวเทว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ โขเภนฺตํ ผริ. ราชา รสตณฺหาย พชฺฌิตฺวา สหสฺสํ ทตฺวา ‘‘อิโต ปฏฺาย ตว อนฺเตวาสินา มม จ ธีตานฺจ เม ภตฺตํ ปจาเปตฺวา ตฺวํ มยฺหํ อาหร, โส เม ธีตานํ หรตู’’ติ อาห. สูโท คนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ มตฺถกํ ปตฺโต, อิทานิ ปนาหํ ปภาวตึ ทฏฺุํ ลภิสฺสามี’’ติ ตุฏฺโ ตํ สหสฺสํ ตสฺเสว ทตฺวา ปุนทิวเส ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา รฺโ ภตฺตภาชนานิ เปเสตฺวา ราชธีตานํ ภตฺตกาชํ สยํ คเหตฺวา ปภาวติยา วสนปาสาทํ อภิรุหิ. สา ตํ ภตฺตกาชํ อาทาย ปาสาทํ อภิรุหนฺตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อตฺตโน อนนุจฺฉวิกํ ทาสกมฺมกเรหิ กตฺตพฺพํ กโรติ. สเจ ปนาหํ กติปาหํ ตุณฺหี ภวิสฺสามิ, ‘อิทานิ มํ เอสา โรจตี’ติ สฺี หุตฺวา กตฺถจิ อคนฺตฺวา มํ โอโลเกนฺโต อิเธว วสิสฺสติ, อิทาเนว ตํ อกฺโกสิตฺวา ปริภาสิตฺวา มุหุตฺตมฺปิ อิธ วสิตุํ อทตฺวา ปลาเปสฺสามี’’ติ. สา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ กตฺวา เอกํ หตฺถํ กวาเฏ ลคฺเคตฺวา เอเกน หตฺเถน อคฺคฬํ อุปฺปีเฬตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

.

‘‘อนุชฺชุภูเตน หรํ มหนฺตํ, ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล;

ปฏิคจฺฉ ตฺวํ ขิปฺปํ กุสาวตึ กุส, นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, ตฺวํ ภตฺตการโก หุตฺวา อุชุเกน จิตฺเตน โยปิ เต สีสํ ภินฺเทยฺย, ตสฺสเปตํ กมฺมํ น กโรสิ, อนุชุภูเตน ปน จิตฺเตน มมตฺถาย เอตํ มหนฺตํ กาชํ หรนฺโต ทิวา จ รตฺโต จ นิสีถกาเล จ มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภวิสฺสสิ, กึ เต เตน อนุภูเตน ทุกฺเขน, ตฺวํ อตฺตโน นครํ กุสาวติเมว ปฏิคจฺฉ, อฺํ อตฺตนา สทิสึ อติรสกปูวสณฺานมุขึ ยกฺขินึ อคฺคมเหสึ กตฺวา รชฺชํ กาเรหีติ. นิจฺฉามิ ทุพฺพณฺณมหํ วสนฺตนฺติ อหํ ปน ตํ ทุพฺพณฺณํ ทุสฺสณฺิตํ อิธ วสนฺตํ น อิจฺฉามีติ.

โส ‘‘ปภาวติยา เม สนฺติกา กถา ลทฺธา’’ติ ตุฏฺจิตฺโต ติสฺโส คาถา อภาสิ –

.

‘‘นาหํ คมิสฺสามิ อิโต กุสาวตึ, ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว;

รมามิ มทฺทสฺส นิเกตรมฺเม, หิตฺวาน รฏฺํ ตว ทสฺสเน รโต.

.

‘‘ปภาวตี วณฺณปโลภิโต ตว, สมฺมูฬฺหรูโป วิจรามิ เมทินึ;

ทิสํ น ชานามิ กุโตมฺหิ อาคโต, ตยมฺหิ มตฺโต มิคมนฺทโลจเน.

.

‘‘สุวณฺณจีรวสเน, ชาตรูปสุเมขเล;

สุสฺโสณิ ตว กามา หิ, นาหํ รชฺเชน มตฺถิโก’’ติ.

ตตฺถ รมามีติ อภิรมามิ น อุกฺกณฺามิ. สมฺมูฬฺหรูโปติ กิเลสสมฺมูฬฺโห หุตฺวา. ตยมฺหิ มตฺโตติ ตยิ มตฺโตมฺหิ, ตยา วา มตฺโตมฺหิ. สุวณฺณจีรวสเนติ สุวณฺณขจิตวตฺถวสเน. นาหํ รชฺเชน มตฺถิโกติ น อหํ รชฺเชน อตฺถิโก.

เอวํ วุตฺเต สา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ เอตํ ‘วิปฺปฏิสารี ภวิสฺสตี’ติ ปริภาสามิ, อยํ ปน รชฺชิตฺวาว กเถติ, สเจ โข ปน มํ ‘อหํ กุสราชา’ติ วตฺวา หตฺเถ คณฺเหยฺย, โก ตํ นิวาเรยฺย, โกจิ โน อิมํ กถํ สุเณยฺยา’’ติ ทฺวารํ ถเกตฺวา สูจึ ทตฺวา อนฺโต อฏฺาสิ. โสปิ ภตฺตกาชํ อาหริตฺวา ภตฺตํ วฑฺเฒตฺวา ราชธีตโร โภเชสิ. ปภาวตี ‘‘คจฺฉ กุสราเชน ปกฺกภตฺตํ อาหรา’’ติ ขุชฺชํ เปเสสิ. สา อาหริตฺวา ‘‘ภุฺชาหี’’ติ อาห. นาหํ เตน ปกฺกภตฺตํ ภุฺชามิ, ตฺวํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ลทฺธนิวาปํ คเหตฺวา ภตฺตํ ปจิตฺวา อาหร, กุสรฺโ อาคตภาวฺจ มา กสฺสจิ อาโรเจสีติ. ขุชฺชา ตโต ปฏฺาย ตสฺสา โกฏฺาสํ อาหริตฺวา สยํ ภุฺชติ, อตฺตโน โกฏฺาสํ ตสฺสา อุปเนติ. กุสราชาปิ ตโต ปฏฺาย ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘อตฺถิ นุ โข ปภาวติยา มยิ สิเนโห, อุทาหุ นตฺถิ, วีมํสิสฺสามิ น’’นฺติ. โส ปน ราชธีตโร โภเชตฺวา ภตฺตกาชํ อาทาย นิกฺขนฺโต ตสฺสา คพฺภทฺวาเร ปาสาทตลํ ปาเทน ปหริตฺวา ภาชนานิ ฆฏฺเฏตฺวา นิตฺถุนิตฺวา วิสฺี หุตฺวา วิย อวกุชฺโช ปติ. สา ตสฺส นิตฺถุนิตสทฺเทน ทฺวารํ วิวริตฺวา ตํ ภตฺตกาเชน โอตฺถตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย รตฺตินฺทิวํ ทุกฺขํ อนุโภติ, สุขุมาลตาย ภตฺตกาเชน อวตฺถโต ปตติ, ชีวติ นุ โข, โน วา’’ติ. สา คพฺภโต นิกฺขมิตฺวา ตสฺส นาสวาตํ อุปธาเรตุํ คีวํ ปสาเรตฺวา มุขํ โอโลเกสิ. โส มุขปูรํ เขฬํ คเหตฺวา ตสฺสา สรีเร ปาเตสิ. สา ตํ ปริภาสิตฺวา คพฺภํ ปวิสิตฺวา ทฺวารํ อฑฺฒวิวฏํ ถเกตฺวา ิตา คาถมาห –

.

‘‘อพฺภูติ ตสฺส โภ โหติ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉติ;

อกามํ ราช กาเมสิ, อกนฺตํ กนฺตุมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ อพฺภูตีติ อภูติ, อวุฑฺฒีติ อตฺโถ.

โส ปน ปฏิพทฺธจิตฺตตาย อกฺโกสิยมาโนปิ ปริภาสิยมาโนปิ วิปฺปฏิสารํ อนุปฺปาเทตฺวาว อนนฺตรํ คาถมาห –

.

‘‘อกามํ วา สกามํ วา, โย นโร ลภเต ปิยํ;

ลาภเมตฺถ ปสํสาม, อลาโภ ตตฺถ ปาปโก’’ติ.

สาปิ ตสฺมึ เอวํ กเถนฺเตปิ อโนสกฺกิตฺวา ถทฺธตรวจนํ วตฺวา ปลาเปตุกามา อิตรํ คาถมาห –

.

‘‘ปาสาณสารํ ขณสิ, กณิการสฺส ทารุนา;

วาตํ ชาเลน พาเธสิ, โย อนิจฺฉนฺตมิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กณิการสฺส ทารุนาติ กณิการกฏฺเน. พาเธสีติ พนฺธสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

.

‘‘ปาสาโณ นูน เต หทเย, โอหิโต มุทุลกฺขเณ;

โย เต สาตํ น วินฺทามิ, ติโรชนปทาคโต.

๑๐.

‘‘ยทา มํ ภกุฏึ กตฺวา, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

อาฬาริโก ตทา โหมิ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร.

๑๑.

‘‘ยทา อุมฺหยมานา มํ, ราชปุตฺตี อุทิกฺขติ;

นาฬาริโก ตทา โหมิ, ราชา โหมิ ตทา กุโส’’ติ.

ตตฺถ มุทุลกฺขเณติ มุทุนา อิตฺถิลกฺขเณน สมนฺนาคเต. โยติ โย อหํ ติโรรฏฺา อาคโต ตว สนฺติเก วสนฺโต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ สาตํ น ลภามิ, โส เอวํ มฺามิ, มยิ สิเนหุปฺปตฺตินิวารณาย นูน ตว หทเย ปาสาโณ ปิโต. ภกุฏึ กตฺวาติ โกธวเสน วลิวิสมํ นลาฏํ กตฺวา. อาฬาริโกติ ภตฺตการโก. ตสฺมึ ขเณ อหํ มทฺทรฺโ อนฺเตปุเร ภตฺตการกทาโส วิย โหมีติ วทติ. อุมฺหยมานาติ ปหฏฺาการํ ทสฺเสตฺวา หสมานา. ราชา โหมีติ ตสฺมึ ขเณ อหํ กุสาวตีนคเร รชฺชํ กาเรนฺโต ราชา วิย โหมิ, กสฺมาสิ เอวํ ผรุสา, อิโต ปฏฺาย มา เอวรูปํ กริ, ภทฺเทติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ อติวิย อลฺลียิตฺวา กเถติ, มุสาวาทํ กตฺวา อุปาเยน นํ อิโต ปลาเปสฺสามี’’ติ คาถมาห –

๑๒.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, เนมิตฺตานํ ภวิสฺสติ;

เนว เม ตฺวํ ปตี อสฺส, กามํ ฉินฺทนฺตุ สตฺตธา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, มยา ‘‘อยํ กุสราชา มยฺหํ ปติ ภวิสฺสติ, น ภวิสฺสตี’’ติ พหู นิมิตฺตปากา ปุจฺฉิตา, เต ‘‘กามํ กิร มํ สตฺตธา ฉินฺทนฺตุ, เนว เม ตฺวํ ปติ ภวิสฺสสี’’ติ วทึสูติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตํ ปฏิพาหนฺโต ‘‘ภทฺเท, มยาปิ อตฺตโน รฏฺเ เนมิตฺตกา ปุจฺฉิตา, เต ‘อฺตฺร สีหสฺสรกุสราชโต ตว ปติ นาม อฺโ นตฺถี’ติ พฺยากรึสุ, อหมฺปิ อตฺตโน าณพลนิมิตฺเตน เอวเมว กเถสิ’’นฺติ วตฺวา อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๓.

‘‘สเจ หิ วจนํ สจฺจํ, อฺเสํ ยทิ วา มม;

เนว ตุยฺหํ ปตี อตฺถิ, อฺโ สีหสฺสรา กุสา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ยทิ หิ อฺเสํ เนมิตฺตานํ วจนํ สจฺจํ, ยทิ วา มม วจนํ สจฺจํ, ตว อฺโ ปติ นาม นตฺถีติ.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘น สกฺกา อิมํ ลชฺชาเปตุํ วา ปลาเปตุํ วา, กึ เม อิมินา’’ติ ทฺวารํ ปิธาย อตฺตานํ น ทสฺเสสิ. โสปิ กาชํ คเหตฺวา โอตริ, ตโต ปฏฺาย ตํ ทฏฺุํ น ลภติ, ภตฺตการกกมฺมํ กโรนฺโต อติวิย กิลมติ , ภุตฺตปาตราโส ทารูนิ ผาเลติ, ภาชนานิ โธวติ, กาเชน อุทกํ อาหรติ, สยนฺโต อมฺพณปิฏฺเ สยติ, ปาโต วุฏฺาย ยาคุอาทีนิ ปจติ หรติ โภเชติ, นนฺทิราคํ นิสฺสาย อติทุกฺขํ อนุโภติ. โส เอกทิวสํ ภตฺตเคหทฺวาเรน คจฺฉนฺตึ ขุชฺชํ ทิสฺวา ปกฺโกสิ. สา ปภาวติยา ภเยน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุํ อวิสหนฺตี ตุริตตุริตา วิย คจฺฉติ. อถ นํ เวเคน อุปคนฺตฺวา ‘‘ขุชฺเช’’ติ อาห.

สา นิวตฺติตฺวา ิตา ‘‘โก เอโส’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ สทฺทํ น สุณามี’’ติ อาห. อถ นํ ‘‘ขุชฺเช ตฺวมฺปิ สามินีปิ เต อุโภปิ อติวิย ถทฺธา, เอตฺตกํ กาลํ ตุมฺหากํ สนฺติเก วสนฺโต อาโรคฺยสาสนมตฺตมฺปิ น ลภามิ, เทยฺยธมฺมํ ปน กึ ทสฺสถ, ติฏฺตุ ตาเวตํ, อปิ เม ปภาวตึ มุทุกํ กตฺวา ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ อาห . สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ ‘‘สเจ เม ตํ ทสฺเสตุํ สกฺขิสฺสสิ, ขุชฺชภาวํ เต อุชุกํ กตฺวา คีเวยฺยกํ ทสฺสามี’’ติ ปโลเภนฺโต ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๑๔.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, โอโลเกยฺย ปภาวตี.

๑๕.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อาลเปยฺย ปภาวตี.

๑๖.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, อุมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๗.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปมฺหาเยยฺย ปภาวตี.

๑๘.

‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กาเรสฺสํ, ปตฺวา ขุชฺเช กุสาวตึ;

สเจ มํ นาคนาสูรู, ปาณีหิ อุปสมฺผุเส’’ติ.

ตตฺถ เนกฺขํ คีวํ เตติ ตว คีเวยฺยํ สพฺพสุวณฺณมยเมว กาเรสฺสามีติ อตฺโถ. ‘‘เนกฺขํ คีวํ เต กริสฺสามี’’ติปิ ปาโ, ตว คีวาย เนกฺขมยํ ปิฬนฺธนํ ปิฬนฺเธสฺสามีติ อตฺโถ. โอโลเกยฺยาติ สเจ ตว วจเนน มํ ปภาวตี โอโลเกยฺย, สเจ มํ ตาย โอโลกาเปตุํ สกฺขิสฺสสีติ อตฺโถ. ‘‘อาลเปยฺยา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ ปน อุมฺหาเยยฺยาติ มนฺทหสิตวเสน ปริหาเสยฺย. ปมฺหาเยยฺยาติ มหาหสิตวเสน ปริหาเสยฺย.

สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห, เทว, กติปาหจฺจเยน นํ ตุมฺหากํ วเส กริสฺสามิ, ปสฺสถ เม ปรกฺกม’’นฺติ วตฺวา ตํ กรณียํ ตีเรตฺวา ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺสา วสนคพฺภํ โสเธนฺตี วิย ปหรณโยคฺคํ เลฑฺฑุขณฺฑมฺปิ อเสเสตฺวา อนฺตมโส ปาทุกาปิ นีหริตฺวา สกลคพฺภํ สมฺมชฺชิตฺวา คพฺภทฺวาเร อุมฺมารํ อนฺตรํ กตฺวา อุจฺจาสนํ ปฺเปตฺวา ปภาวติยา เอกํ นีจปีกํ อตฺถริตฺวา ‘‘เอหิ, อมฺม, สีเส เต อูกา วิจินิสฺสามี’’ติ ตํ ตตฺถ ปีเก นิสีทาเปตฺวา อตฺตโน อูรุอนฺตเร ตสฺสา สีสํ เปตฺวา โถกํ กณฺฑุยิตฺวา ‘‘อโห อิมิสฺสา สีเส พหู อูกา’’ติ สกสีสโต อูกา คเหตฺวา ตสฺสา หตฺเถ เปตฺวา ‘‘ปสฺส กิตฺตกา เต สีเส อูกา’’ติ ปิยกถํ กเถตฺวา มหาสตฺตสฺส คุณํ กเถนฺตี คาถมาห –

๑๙.

‘‘น หิ นูนายํ ราชปุตฺตี, กุเส สาตมฺปิ วินฺทติ;

อาฬาริเก ภเต โปเส, เวตเนน อนตฺถิเก’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – เอกํเสน อยํ ราชปุตฺตี ปุพฺเพ กุสาวตีนคเร กุสนรินฺทสฺส สนฺติเก มาลาคนฺธวิเลปนวตฺถาลงฺการวเสน อปฺปมตฺตกมฺปิ สาตํ น วินฺทติ น ลภติ, ตมฺพูลมตฺตมฺปิ เอเตน เอติสฺสา ทินฺนปุพฺพํ น ภวิสฺสติ. กึการณา? อิตฺถิโย นาม เอกทิวสมฺปิ องฺกํ อวตฺถริตฺวา นิปนฺนสามิกมฺหิ หทยํ ภินฺทิตุํ น สกฺโกนฺติ, อยํ ปน อาฬาริเก ภเต โปเส อาฬาริกตฺตฺจ ภตกตฺตฺจ อุปคเต เอตสฺมึ ปุริเส มูเลนปิ อนตฺถิเก เกวลํ ตํเยว นิสฺสาย รชฺชํ ปหาย อาคนฺตฺวา เอวํ ทุกฺขํ อนุภวนฺเต ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ น กโรติ, สเจปิ เต, อมฺม, ตสฺมึ สิเนโห นตฺถิ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา มํ นิสฺสาย กิลมตีติ ตสฺส กิฺจิเทว ทาตุํ อรหสีติ.

สา ตํ สุตฺวา ขุชฺชาย กุชฺฌิ. อถ นํ ขุชฺชา คีวายํ คเหตฺวา อนฺโตคพฺเภ ขิปิตฺวา สยํ พหิ หุตฺวา ทฺวารํ ปิธาย อาวิฺฉนรชฺชุมฺหิ โอลมฺพนฺตี อฏฺาสิ. ปภาวตี ตํ คเหตุํ อสกฺโกนฺตี ทฺวารมูเล ตฺวา อกฺโกสนฺตี อิตรํ คาถมาห –

๒๐.

‘‘น หิ นูนายํ สา ขุชฺชา, ลภติ ชิวฺหาย เฉทนํ;

สุนิสิเตน สตฺเถน, เอวํ ทุพฺภาสิตํ ภณ’’นฺติ.

ตตฺถ สุนิสิเตนาติ สุฏฺุ นิสิเตน ติขิณสตฺเถน. เอวํ ทุพฺภาสิตนฺติ เอวํ อโสตพฺพยุตฺตกํ ทุพฺภาสิตํ ภณนฺตี.

อถ ขุชฺชา อาวิฺจนรชฺชุํ คเหตฺวา ิตาว ‘‘นิปฺปฺเ ทุพฺพินีเต ตว รูปํ กึ กริสฺสติ, กึ มยํ ตว รูปํ ขาทิตฺวา ยาเปสฺสามา’’ติ วตฺวา เตรสหิ คาถาหิ โพธิสตฺตสฺส คุณํ ปกาเสนฺตี ขุชฺชาคชฺชิตํ นาม คชฺชิ –

๒๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหายโสติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหทฺธโนติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหพฺพโลติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๔.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหารฏฺโติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๕.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มหาราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๖.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สีหสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๗.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

วคฺคุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๘.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

พินฺทุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๒๙.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มฺชุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๐.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

มธุสฺสโรติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๑.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

สตสิปฺโปติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๒.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

ขตฺติโยติปิ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิยํ.

๓๓.

‘‘มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน ปภาวติ;

กุสราชาติ กตฺวาน, กรสฺสุ รุจิเร ปิย’’นฺติ.

ตตฺถ มา นํ รูเปน ปาเมสิ, อาโรเหน, ปภาวตีติ อเร ปภาวติ, มา ตฺวํ เอตํ กุสนรินฺทํ อตฺตโน รูเปน อาโรหปริณาเหน ปมินิ, เอวํ ปมาณํ คณฺหิ. มหายโสติ มหานุภาโว โสติ เอวํ หทเย กตฺวาน รุจิเร ปิยทสฺสเน กรสฺสุ ตสฺส ปิยํ. อานุภาโวเยว หิสฺส รูปนฺติ วทติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อปิ จ มหายโสติ มหาปริวาโร. มหทฺธโนติ มหาโภโค. มหพฺพโลติ มหาถาโม. มหารฏฺโติ วิปุลรฏฺโ. มหาราชาติ สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา. สีหสฺสโรติ สีหสทฺทสมานสทฺโท. วคฺคุสฺสโรติ ลีลายุตฺตสฺสโร. พินฺทุสฺสโรติ สมฺปิณฺฑิตฆนสฺสโร. มฺชุสฺสโรติ สุนฺทรสฺสโร. มธุสฺสโรติ มธุรยุตฺตสฺสโร. สตสิปฺโปติ ปเรสํ สนฺติเก อสิกฺขิตฺวา อตฺตโน พเลเนว นิปฺผนฺนอเนกสตสิปฺโป. ขตฺติโยติ โอกฺกากปเวณิยํ ชาโต อสมฺภินฺนขตฺติโย. กุสราชาติ สกฺกทตฺติยกุสติณสมานนาโม ราชา. เอวรูโป หิ อฺโ ราชา นาม นตฺถีติ ชานิตฺวา เอตสฺส ปิยํ กโรหีติ ขุชฺชา เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตสฺส คุณํ กเถสิ.

ปภาวตี ตสฺสา วจนํ สุตฺวา ‘‘ขุชฺเช อติวิย คชฺชสิ, หตฺเถน ปาปุณนฺตี สสามิกภาวํ เต ชานาเปสฺสามี’’ติ ขุชฺชํ ตชฺเชสิ. สาปิ ตํ ‘‘อหํ ตํ รกฺขมานา ปิตุโน เต กุสราชสฺส อาคตภาวํ นาโรเจสึ, โหตุ, อชฺช รฺโ อาโรเจสฺสามี’’ติ มหนฺเตน สทฺเทน ภายาเปสิ. สาปิ ‘‘โกจิเทว สุเณยฺยา’’ติ ขุชฺชํ สฺาเปสิ. โพธิสตฺโตปิ ตํ ปสฺสิตุํ อลภนฺโต สตฺต มาเส ทุพฺโภชเนน ทุกฺขเสยฺยาย กิลมนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘โก เม เอตาย อตฺโถ, สตฺต มาเส วสนฺโต เอตํ ปสฺสิตุมฺปิ น ลภามิ, อติวิย กกฺขฬา สาหสิกา, คนฺตฺวา มาตาปิตโร ปสฺสิสฺสามี’’ติ. ตสฺมึ ขเณ สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตสฺส อุกฺกณฺิตภาวํ ตฺวา ‘‘ราชา สตฺต มาเส ปภาวตึ ทฏฺุมฺปิ น ลภิ, ลภนาการมสฺส กริสฺสามี’’ติ มทฺทรฺโ ทูเต กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ ทูตํ ปาเหนฺโต ‘‘ปภาวตี, กุสราชํ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา, อาคจฺฉนฺตุ ปภาวตึ คณฺหนฺตู’’ติ เอเกกสฺส วิสุํ วิสุํ สาสนํ ปหิณิ. เต มหาปริวาเรน คนฺตฺวา นครํ ปตฺวา อฺมฺสฺส อาคตการณํ น ชานนฺติ. เต ‘‘ตฺวํ กสฺมา อาคโต, ตฺวํ กสฺมา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา กุชฺฌิตฺวา ‘‘เอกํ กิร ธีตรํ สตฺตนฺนํ ทสฺสติ, ปสฺสถสฺส อนาจารํ, อุปฺปณฺเฑติ โน, คณฺหถ น’’นฺติ ‘‘สพฺเพสมฺปิ อมฺหากํ ปภาวตึ เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ สาสนานิ ปหิณิตฺวา นครํ ปริวารยึสุ. มทฺทราชา สาสนํ สุตฺวา ภีตตสิโต อมจฺเจ อามนฺเตตฺวา ‘‘กึ กโรมา’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ อมจฺจา ‘‘เทว , สตฺตปิ ราชาโน ปภาวตึ นิสฺสาย อาคตา, ‘สเจ น ทสฺสติ, ปาการํ ภินฺทิตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา ตํ คณฺหิสฺสามา’ติ วทนฺติ, ปากาเร อภินฺเนเยว เตสํ ปภาวตึ เปเสสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาหํสุ –

๓๔.

‘‘เอเต นาคา อุปตฺถทฺธา, สพฺเพ ติฏฺนฺติ วมฺมิตา;

ปุรา มทฺทนฺติ ปาการํ, อาเนนฺเตตํ ปภาวติ’’นฺติ.

ตตฺถ อุปตฺถทฺธาติ อติถทฺธา ทปฺปิตา. อาเนนฺเตตํ ปภาวตินฺติ อาเนนฺตุ เอตํ ปภาวตินฺติ สาสนานิ ปหิณึสุ. ตสฺมา ยาว เอเต นาคา ปาการํ น มทฺทนฺติ, ตาว เนสํ ปภาวตึ เปเสหิ, มหาราชาติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ เอกสฺส ปภาวตึ เปเสสฺสามิ, เสสา ยุทฺธํ กริสฺสนฺติ, น สกฺกา เอกสฺส ทาตุํ, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา อาคตา อาคมนสฺส ผลํ ลภตุ, วธิตฺวาน นํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ขตฺติยานํ เปเสสฺสามี’’ติ วทนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๓๕.

‘‘สตฺต พิเล กริตฺวาน, อหเมตํ ปภาวตึ;

ขตฺติยานํ ปทสฺสามิ, เย มํ หนฺตุํ อิธาคตา’’ติ.

ตสฺส สา กถา สกลนิเวสเน ปากฏา อโหสิ. ปริจาริกา คนฺตฺวา ‘‘ราชา กิร ตํ สตฺต ขณฺฑานิ กตฺวา สตฺตนฺนํ ราชูนํ เปเสสฺสตี’’ติ ปภาวติยา อาโรเจสุํ. สา มรณภยภีตา อาสนา วุฏฺาย ภคินีหิ ปริวุตา มาตุ สิริคพฺภํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๖.

‘‘อวุฏฺหิ ราชปุตฺตี, สามา โกเสยฺยวาสินี;

อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ, ทาสีคณปุรกฺขตา’’ติ.

ตตฺถ สามาติ สุวณฺณวณฺณา. โกเสยฺยวาสินีติ สุวณฺณขจิตโกเสยฺยนิวสนา.

สา มาตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา มาตรํ วนฺทิตฺวา ปริเทวมานา อาห –

๓๗.

‘‘ตํ นูน กกฺกูปนิเสวิตํ มุขํ, อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตํ;

สุภํ สุเนตฺตํ วิรชํ อนงฺคณํ, ฉุทฺธํ วเน สฺสติ ขตฺติเยหิ.

๓๘.

‘‘เต นูน เม อสิเต เวลฺลิตคฺเค, เกเส มุทู จนฺทนสารลิตฺเต;

สมากุเล สีวถิกาย มชฺเฌ, ปาเทหิ คิชฺฌา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๓๙.

‘‘ตา นูน เม ตมฺพนขา สุโลมา, พาหา มุทู จนฺทนสารลิตฺตา;

ฉินฺนา วเน อุชฺฌิตา ขตฺติเยหิ, คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามํ.

๔๐.

‘‘เต นูน ตาลูปนิเภ อลมฺเพ, นิเสวิเต กาสิกจนฺทเนน;

ถเนสุ เม ลมฺพิสฺสติ สิงฺคาโล, มาตูว ปุตฺโต ตรุโณ ตนูโช.

๔๑.

‘‘ตํ นูน โสณึ ปุถุลํ สุโกฏฺฏิตํ, นิเสวิตํ กฺจนเมขลาหิ;

ฉินฺนํ วเน ขตฺติเยหี อวตฺถํ, สิงฺคาลสงฺฆา ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ.

๔๒.

‘‘โสณา ธงฺกา สิงฺคาลา จ, เย จฺเ สนฺติ ทาิโน;

อชรา นูน เหสฺสนฺติ, ภกฺขยิตฺวา ปภาวตึ.

๔๓.

‘‘สเจ มํสานิ หรึสุ, ขตฺติยา ทูรคามิโน;

อฏฺีนิ อมฺม ยาจิตฺวา, อนุปเถ ทหาถ นํ.

๔๔.

‘‘เขตฺตานิ อมฺม กาเรตฺวา, กณิกาเรตฺถ โรปย;

ยทา เต ปุปฺผิตา อสฺสุ, เหมนฺตานํ หิมจฺจเย;

สเรยฺยาถ มมํ อมฺม, เอวํวณฺณา ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กกฺกูปนิเสวิตนฺติล กกฺกูปนิเสวิตนฺติ สาสปกกฺกโลณกกฺกมตฺติกกกฺกติลกกฺกหลิทฺทิกกฺกมุขจุณฺณเกหิ อิเมหิ ปฺจหิ กกฺเกหิ อุปนิเสวิตํ. อาทาสทนฺตาถรุปจฺจเวกฺขิตนฺติ ทนฺตมยถรุมฺหิ อาทาเส ปจฺจเวกฺขิตํ ตตฺถ โอโลเกตฺวา มณฺฑิตํ. สุภนฺติ สุภมุขํ. วิรชนฺติ วิคตรชํ นิมฺมลํ. อนงฺคณนฺติ คณฺฑปิฬกาทิโทสรหิตํ. ฉุทฺธนฺติ อมฺม เอวรูปํ มม มุขํ อทฺธา อิทานิ ขตฺติเยหิ ฉฑฺฑิตํ วเน อรฺเ สฺสตีติ ปริเทวติ. อสิเตติ กาฬเก. เวลฺลิตคฺเคติ อุนฺนตคฺเค. สีวถิกายาติ สุสานมฺหิ. ปริกฑฺฒิสฺสนฺตีติ เอวรูเป มม เกเส มนุสฺสมํสขาทกา คิชฺฌา ปาเทหิ ปหริตฺวา นูน ปริกฑฺฒิสฺสนฺติ. คยฺห ธงฺโก คจฺฉติ เยนกามนฺติ อมฺม มม เอวรูปํ พาหํ นูน ธงฺโก คเหตฺวา ลุฺชิตฺวา ขาทนฺโต เยนกามํ คจฺฉิสฺสติ.

ตาลูปนิเภติ สุวณฺณตาลผลสทิเส. กาสิกจนฺทเนนาติ สุขุมจนฺทเนน นิเสวิเต. ถเนสุ เมติ อมฺม มม สุสาเน ปติตาย เอวรูเป ถเน ทิสฺวา มุเขน ฑํสิตฺวา เตสุ เม ถเนสุ อตฺตโน ตนุโช มาตุ ตรุณปุตฺโต วิย นูน สิงฺคาโล ลมฺพิสฺสติ. โสณินฺติ กฏึ. สุโกฏฺฏิตนฺติ โคหนุเกน ปหริตฺวา สุวฑฺฒิตํ. อวตฺถนฺติ ฉฑฺฑิตํ. ภกฺขยิตฺวาติ อมฺม เอเต เอตฺตกา นูน มม มํสํ ขาทิตฺวา อชรา ภวิสฺสนฺติ.

สเจ มํสานิ หรึสูติ อมฺม สเจ เต ขตฺติยา มยึ ปฏิพทฺธจิตฺตา มม มํสานิ หเรยฺยุํ, อถ ตุมฺเห อฏฺีนิ ยาจิตฺวา อนุปเถ ทหาถนํ, ชงฺฆมคฺคมหามคฺคานํ อนฺตเร ทเหยฺยาถาติ วทติ. เขตฺตานีติ อมฺม มม ฌาปิตฏฺาเน มาลาทิวตฺถูนิ กาเรตฺวา เอตฺถ เอเตสุ เขตฺเตสุ กณิการรุกฺเข โรปย. หิมจฺจเยติ หิมปาตาติกฺกเม ผคฺคุณมาเส. สเรยฺยาถาติ เตสํ ปุปฺผานํ สุวณฺณจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา อูรูสุ เปตฺวา มม ธีตา ปภาวตี เอวํวณฺณาติ สเรยฺยาถ.

อิติ สา มรณภยตชฺชิตา มาตุ สนฺติเก วิลปิ. มทฺทราชาปิ ‘‘ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ คเหตฺวา โจรฆาตโก อิเธว อาคจฺฉตู’’ติ อาณาเปสิ. ตสฺส อาคมนํ สกลราชเคเห ปากฏํ อโหสิ. อถสฺส อาคตภาวํ สุตฺวา ปภาวติยา มาตา อุฏฺายาสนา โสกสมปฺปิตา รฺโ สนฺติกํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๕.

‘‘ตสฺสา มาตา อุทฏฺาสิ, ขตฺติยา เทววณฺณินี;

ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร’’ติ.

ตตฺถ อุทฏฺาสีติ อาสนา อุฏฺาย รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา อฏฺาสิ. ทิสฺวา อสิฺจ สูนฺจาติ อนฺเตปุรมฺหิ อลงฺกตมหาตเล รฺโ ปุรโต นิกฺขิตฺตํ ผรสุฺจ คณฺฑิกฺจ ทิสฺวา วิลปนฺตี คาถมาห –

๔๖.

‘‘อิมินา นูน อสินา, สุสฺํ ตนุมชฺฌิมํ;

ธีตรํ มทฺท หนฺตฺวาน, ขตฺติยานํ ปทสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ อสินาติ ผรสุํ สนฺธายาห. โส หิ อิมสฺมึ าเน อสิ นาม ชาโต. สุสฺํ ตนุมชฺฌิมนฺติ สุฏฺุ สฺาตํ ตนุมชฺฌิมํ.

อถ นํ ราชา สฺาเปนฺโต อาห – ‘‘เทวิ, กึ กเถสิ, ตว ธีตา สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชานํ ‘วิรูโป’ติ ฉฑฺเฑตฺวา คตมคฺเค ปทวลฺเช อวินฏฺเเยว มจฺจุํ นลาเฏนาทาย อาคตา, อิทานิ อตฺตโน รูปํ นิสฺสาย อีทิสํ ผลํ ลภตู’’ติ. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ธีตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วิลปนฺตี อาห –

๔๗.

‘‘น เม อกาสิ วจนํ, อตฺถกามาย ปุตฺติเก;

สาชฺช โลหิตสฺฉนฺนา, คจฺฉสิ ยมสาธนํ.

๔๘.

‘‘เอวมาปชฺชตี โปโส, ปาปิยฺจ นิคจฺฉติ;

โย เว หิตานํ วจนํ, น กโรติ อตฺถทสฺสินํ.

๔๙.

‘‘สเจ จ อชฺช ธาเรสิ, กุมารํ จารุทสฺสนํ;

กุเสน ชาตํ ขตฺติยํ, สุวณฺณมณิเมขลํ;

ปูชิตํ าติสงฺเฆหิ, น คจฺฉสิ ยมกฺขยํ.

๕๐.

‘‘ยตฺถสฺสุ เภรี นทติ, กุฺชโร จ นิกูชติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๑.

‘‘อสฺโส จ สิสติ ทฺวาเร, กุมาโร อุปโรทติ;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต.

๕๒.

‘‘มยูรโกฺจาภิรุเท, โกกิลาภินิกูชิเต;

ขตฺติยานํ กุเล ภทฺเท, กินฺนุ สุขตรํ ตโต’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺติเกติ ตํ อาลปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อมฺม, อิธ กึ กริสฺสสิ, สามิกสฺส สนฺติกํ คจฺฉ, มา รูปมเทน มชฺชีติ เอวํ ยาจนฺติยาปิ เม วจนํ น อกาสิ, สา ตฺวํ อชฺช โลหิตสฺฉนฺนา คจฺฉสิ ยมสาธนํ, มจฺจุราชสฺส ภวนํ คมิสฺสสีติ. ปาปิยฺจาติ อิโต ปาปตรฺจ นิคจฺฉติ. สเจ จ อชฺช ธาเรสีติ, อมฺม, สเจ ตฺวํ จิตฺตสฺส วสํ อคนฺตฺวา กุสนรินฺทํ ปฏิจฺจ ลทฺธํ อตฺตโน รูเปน สทิสํ จารุทสฺสนํ กุมารํ อชฺช ธารยิสฺสสิ. ยมกฺขยนฺติ เอวํ สนฺเต ยมนิเวสนํ น คจฺเฉยฺยาสิ. ตโต ยมฺหิ ขตฺติยกุเล อยํ วิภูติ, ตมฺหา นานาเภริสทฺเทน เจว มตฺตวารณโกฺจนาเทน จ นินฺนาทิตา กุสาวตีราชกุลา กึ นุ สุขตรํ ทิสฺวา อิธาคตาสีติ อตฺโถ. สิสตีติ หสติ. กุมาโรติ สุสิกฺขิโต คนฺธพฺพกุมาโร. อุปโรทตีติ นานาตูริยานิ คเหตฺวา อุปหารํ กโรติ. โกกิลาภินิกูชิเตติ กุสราชกุเล สายํ ปาโต ปวตฺตนจฺจคีตวาทิตูปหารํ ปฏิปฺผรนฺตี วิย โกกิเลหิ อภินิกูชิเต.

อิติ สาปิ เอตฺตกาหิ คาถาหิ ตาย สทฺธึ สลฺลปิตฺวา ‘‘สเจ อชฺช กุสนรินฺโท อิธ อสฺส, อิเม สตฺต ราชาโน ปลาเปตฺวา มม ธีตรํ ทุกฺขา ปโมเจตฺวา อาทาย คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๓.

‘‘กหํ นุ โข สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย โน ทุกฺขา ปโมจเย’’ติ.

ตตฺถ โสฬารปฺาโณติ อุฬารปฺโ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตุ กุสสฺส วณฺณํ ภณนฺติยา มุขํ นปฺปโหติ, อาจิกฺขิสฺสามิ ตาวสฺสา ตสฺส อิเธว อาฬาริกกมฺมํ กตฺวา วสนภาว’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๔.

‘‘อิเธว โส สตฺตุมทฺทโน, ปรรฏฺปฺปมทฺทโน;

กุโส โสฬารปฺาโณ, โย เต สพฺเพ วธิสฺสตี’’ติ.

อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ มรณภยภีตา วิปฺปลปตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๕๕.

‘‘อุมฺมตฺติกา นุ ภณสิ, อนฺธพาลา ปภาสสิ;

กุโส เจ อาคโต อสฺส, กึ น ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

ตตฺถ อนฺธพาลาติ สมฺมูฬฺหา อฺาณา หุตฺวา. กึ น ชาเนมูติ เกน การเณน ตํ น ชาเนยฺยาม. โส หิ อนฺตรามคฺเค ิโตว อมฺหากํ สาสนํ เปเสยฺย, สมุสฺสิตทฺธชา จตุรงฺคินีเสนา ปฺาเยถ, ตฺวํ ปน มรณภเยน กเถสีติ.

สา เอวํ วุตฺเต ‘‘น เม มาตา สทฺทหติ, ตสฺส อิธาคนฺตฺวา สตฺต มาเส วสนภาวํ น ชานาติ, ทสฺเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา มาตรํ หตฺเถ คเหตฺวา สีหปฺชรํ วิวริตฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ทสฺเสนฺตี คาถมาห –

๕๖.

‘‘เอโส อาฬาริโก โปโส, กุมารีปุรมนฺตเร;

ทฬฺหํ กตฺวาน สํเวลฺลึ, กุมฺภึ โธวติ โอณโต’’ติ.

ตตฺถ กุมารีปุรมนฺตเรติ วาตปาเน ิตา ตว ธีตานํ กุมารีนํ วสนฏฺานนฺตเร นํ โอโลเกหิ. สํเวลฺลินฺติ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา กุมฺภึ โธวติ.

โส กิร ตทา ‘‘อชฺช เม มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสติ, อทฺธา มรณภยตชฺชิตา, ปภาวตี, มม อาคตภาวํ กเถสฺสติ, ภาชนานิ โธวิตฺวา ปฏิสาเมสฺสามี’’ติ อุทกํ อาหริตฺวา ภาชนานิ โธวิตุํ อารภิ. อถ นํ มาตา ปริภาสนฺตี คาถมาห –

๕๗.

‘‘เวณี ตฺวมสิ จณฺฑาลี, อทูสิ กุลคนฺธินี;

กถํ มทฺทกุเล ชาตา, ทาสํ กยิราสิ กามุก’’นฺติ.

ตตฺถ เวณีติ ตจฺฉิกา. อทูสิ กุลคนฺธินีติ อุทาหุ ตฺวํ กุลทูสิกา. กามุกนฺติ กถํ นาม ตฺวํ เอวรูเป กุเล ชาตา อตฺตโน สามิกํ ทาสํ กเรยฺยาสีติ.

ตโต ปภาวตี ‘‘มม มาตา อิมสฺส มํ นิสฺสาย เอวํ วสนภาวํ น ชานาติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา อิตรํ คาถมาห –

๕๘.

‘‘นมฺหิ เวณี น จณฺฑาลี, น จมฺหิ กุลคนฺธินี;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

ตตฺถ โอกฺกากปุตฺโตติ, อมฺม, เอส โอกฺกากปุตฺโต, ตฺวํ ปน ‘‘ทาโส’’ติ มฺสิ, กสฺมา นํ อหํ ‘‘ทาโส’’ติ กเถสฺสามีติ.

อิทานิสฺส ยสํ วณฺเณนฺตี อาห –

๕๙.

‘‘โย พฺราหฺมณสหสฺสานิ, สทา โภเชติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๐.

ยสฺส นาคสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๑.

‘‘ยสฺส อสฺสสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๒.

‘‘ยสฺส รถสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ;

ยสฺส อุสภสหสฺสานิ, สทา โยเชนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสิ.

๖๓.

‘‘ยสฺส เธนุสหสฺสานิ, สทา ทุหนฺติ วีสตึ;

โอกฺกากปุตฺโต ภทฺทนฺเต, ตฺวํ นุ ทาโสติ มฺสี’’ติ.

เอวํ ตาย ปฺจหิ คาถาหิ มหาสตฺตสฺส ยโส วณฺณิโต. อถสฺสา มาตา ‘‘อยํ อสมฺภิตา กถํ กเถติ, อทฺธา เอวเมต’’นฺติ สทฺทหิตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. โส เวเคน ปภาวติยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร, อมฺม, กุสราชา อิธาคโต’’ติ. ‘‘อาม ตาต, อชฺชสฺส สตฺต มาสา อติกฺกนฺตา ตว ธีตานํ อาฬาริกตฺตํ กโรนฺตสฺสา’’ติ. โส ตสฺสา อสทฺทหนฺโต ขุชฺชํ ปุจฺฉิตฺวา ยถาภูตํ สุตฺวา ธีตรํ ครหนฺโต คาถมาห –

๖๔.

‘‘ตคฺฆ เต ทุกฺกฏํ พาเล, ยํ ขตฺติยํ มหพฺพลํ;

นาคํ มณฺฑูกวณฺเณน, น ตํ อกฺขาสิธาคต’’นฺติ.

ตตฺถ ตคฺฆาติ เอกํเสเนว.

โส ธีตรํ ครหิตฺวา เวเคน ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กตปฏิสนฺถาโร อฺชลึ ปคฺคยฺห อตฺตโน อจฺจยํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๖๕.

‘‘อปราธํ มหาราช, ตฺวํ โน ขม รเถสภ;

ยํ ตํ อฺาตเวเสน, นาฺาสิมฺหา อิธาคต’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สจาหํ ผรุสํ วกฺขามิ, อิเธวสฺส หทยํ ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภาชนนฺตเร ิโตว อิตรํ คาถมาห –

๖๖.

‘‘มาทิสสฺส น ตํ ฉนฺนํ, โยหํ อาฬาริโก ภเว;

ตฺวฺเว เม ปสีทสฺสุ, นตฺถิ เต เทว ทุกฺกฏ’’นฺติ.

ราชา ตสฺส สนฺติกา ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ปภาวตึ ปกฺโกสาเปตฺวา ขมาปนตฺถาย เปเสตุํ คาถมาห –

๖๗.

‘‘คจฺฉ พาเล ขมาเปหิ, กุสราชํ มหพฺพลํ;

ขมาปิโต กุโส ราชา, โส เต ทสฺสติ ชีวิต’’นฺติ.

สา ปิตุ วจนํ สุตฺวา ภคินีหิ เจว ปริจาริกาหิ จ ปริวุตา ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. โสปิ กมฺมการเวเสน ิโตว ตสฺสา อตฺตโน สนฺติกํ อาคมนํ ตฺวา ‘‘อชฺช ปภาวติยา มานํ ภินฺทิตฺวา ปาทมูเล นํ กลเล นิปชฺชาเปสฺสามี’’ติ สพฺพํ อตฺตนา อาภตํ อุทกํ ฉฑฺเฑตฺวา ขลมณฺฑลมตฺตํ านํ มทฺทิตฺวา เอกกลลํ อกาสิ. สา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา กลลปิฏฺเ นิปนฺนา ตํ ขมาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๖๘.

‘‘ปิตุสฺส วจนํ สุตฺวา, เทววณฺณี ปภาวตี;

สิรสา อคฺคหี ปาเท, กุสราชํ มหพฺพล’’นฺติ.

ตตฺถ สิรสาติ สิรสา นิปติตฺวา กุสราชานํ ปาเท อคฺคเหสีติ.

คเหตฺวา จ ปน นํ ขมาเปนฺตี ติสฺโส คาถาโย อภาสิ –

๖๙.

‘‘ยามา รตฺโย อติกฺกนฺตา, ตามา เทว ตยา วินา;

วนฺเท เต สิรสา ปาเท, มา เม กุชฺฌ รเถสภ.

๗๐.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, มหาราช สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๑.

‘‘เอวํ เจ ยาจมานาย, วจนํ เม น กาหสิ;

อิทานิ มํ ตาโต หนฺตฺวา, ขตฺติยานํ ปทสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ รตฺโยติ รตฺติโย. ตามาติ ตา อิมา สพฺพาปิ ตยา วินา อติกฺกนฺตา. สพฺพํ เต ปฏิชานามีติ, มหาราช, เอตฺตกํ กาลํ มยา ตว อปฺปิยเมว กตํ, อิทํ เต อหํ สพฺพํ ปฏิชานามิ, อปรมฺปิ สุโณหิ เม, อิโต ปฏฺายาหํ ปุน ตุยฺหํ อปฺปิยํ น กริสฺสามิ. เอวํ เจติ สเจ เอวํ ยาจมานาย มม ตฺวํ วจนํ น กริสฺสสีติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘สจาหํ ‘อิมํ ตฺวฺเจว ชานิสฺสสี’ติ วกฺขามิ, หทยมสฺสา ผลิสฺสติ, อสฺสาเสสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –

๗๒.

‘‘เอวํ เต ยาจมานาย, กึ น กาหามิ เต วโจ;

วิกุทฺโธ ตฺยสฺมิ กลฺยาณิ, มา ตฺวํ ภายิ ปภาวติ.

๗๓.

‘‘สพฺพํ เต ปฏิชานามิ, ราชปุตฺติ สุโณหิ เม;

น จาปิ อปฺปิยํ ตุยฺหํ, กเรยฺยามิ อหํ ปุน.

๗๔.

‘‘ตว กามา หิ สุสฺโสณิ, ปหุ ทุกฺขํ ติติกฺขิสํ;

พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา, นยิตุํ ตํ ปภาวตี’’ติ.

ตตฺถ กึ น กาหามีติ กึการณา ตว วจนํ น กริสฺสามิ. วิกุทฺโธ ตฺยสฺมีติ วิกุทฺโธ นิกฺโกโป เต อสฺมึ. สพฺพํ เตติ วิกุทฺธภาวฺจ อิทานิ อปฺปิยกรณฺจ อุภยํ เต อิทํ สพฺพเมว ปฏิชานามิ. ตว กามาติ ตว กาเมน ตํ อิจฺฉมาโน. ติติกฺขิสนฺติ อธิวาเสมิ. พหุํ มทฺทกุลํ หนฺตฺวา นยิตุํ ตนฺติ พหุมทฺทราชกุลํ หนิตฺวา พลกฺกาเรน ตํ เนตุํ สมตฺโถติ.

อถ โส สกฺกสฺส เทวรฺโ ปริจาริกํ วิย ตํ อตฺตโน ปริจาริกํ ทิสฺวา ขตฺติยมานํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘มยิ กิร ธรมาเนเยว มม ภริยํ อฺเ คเหตฺวา คมิสฺสนฺตี’’ติ สีโห วิย ราชงฺคเณ วิชมฺภมาโน ‘‘สกลนครวาสิโน เม อาคตภาวํ ชานนฺตู’’ติ วคฺคนฺโต นทนฺโต เสเฬนฺโต อปฺโผเฏนฺโต ‘‘อิทานิ เต ชีวคฺคาหํ คเหสฺสามิ, รถาทโย เม โยเชนฺตู’’ติ อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๕.

‘‘โยชยนฺตุ รเถ อสฺเส, นานาจิตฺเต สมาหิเต;

อถ ทกฺขถ เม เวคํ, วิธมนฺตสฺส สตฺตโว’’ติ.

ตตฺถ นานาจิตฺเตติ นานาลงฺการวิจิตฺเต. สมาหิเตติ อสฺเส สนฺธาย วุตฺตํ, สุสิกฺขิเต นิพฺพิเสวเนติ อตฺโถ. อถ ทกฺขถ เม เวคนฺติ อถ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถาติ.

สตฺตูนํ คณฺหนํ นาม มยฺหํ ภาโร, คจฺฉ ตฺวํ นฺหตฺวา อลงฺกริตฺวา ปาสาทํ อารุหาติ ตํ อุยฺโยเชสิ. มทฺทราชาปิสฺส ปริหารกรณตฺถํ อมจฺเจ ปหิณิ. เต ตสฺส มหานสทฺวาเรเยว สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา กปฺปเก อุปฏฺเปสุํ. โส กตมสฺสุกมฺโม สีสํนฺหาโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต อมจฺจาทีหิ ปริวุโต ‘‘ปาสาทํ อภิรุหิสฺสามี’’ติ ทิสา วิโลเกตฺวา อปฺโผเฏสิ. โอโลกิตโอโลกิตฏฺานํ วิกมฺปิ. โส ‘‘อิทานิ เม ปรกฺกมํ ปสฺสิสฺสถา’’ติ อาห. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๖.

‘‘ตฺจ ตตฺถ อุทิกฺขึสุ, รฺโ มทฺทสฺสนฺเตปุเร;

วิชมฺภมานํ สีหํว, โผเฏนฺตํ ทิคุณํ ภุช’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ตฺจ ตตฺถ วิชมฺภนฺตํ อปฺโผเฏนฺตํ รฺโ อนฺเตปุเร วาตปานานิ วิวริตฺวา อิตฺถิโย อุทิกฺขึสูติ.

อถสฺส มทฺทราชา กตอาเนฺชการณํ อลงฺกตวรวารณํ เปเสสิ. โส สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺตํ หตฺถิกฺขนฺธํ อารุยฺห ‘‘ปภาวตึ อาเนถา’’ติ ตมฺปิ ปจฺฉโต นิสีทาเปตฺวา จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขมิตฺวา ปรเสนํ โอโลเกตฺวา ‘‘อหํ กุสราชา, ชีวิตตฺถิกา อุเรน นิปชฺชนฺตู’’ติ ติกฺขตฺตุํ สีหนาทํ นทิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๗๗.

‘‘หตฺถิกฺขนฺธฺจ อารุยฺห, อาโรเปตฺวา ปภาวตึ;

สงฺคามํ โอตริตฺวาน, สีหนาทํ นที กุโส.

๗๘.

‘‘ตสฺส ตํ นทโต สุตฺวา, สีหสฺเสวิตเร มิคา;

ขตฺติยา วิปลายึสุ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๗๙.

‘‘หตฺถาโรหา อนีกฏฺา, รถิกา ปตฺติการกา;

อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺติ, กุสสทฺทภยฏฺฏิตา.

๘๐.

‘‘ตสฺมึ สงฺคามสีสสฺมึ, ปสฺสิตฺวา หฏฺมานโส;

กุสสฺส รฺโ เทวินฺโท, อทา เวโรจนํ มณึ.

๘๑.

‘‘โส ตํ วิชฺฌิตฺวา สงฺคามํ, ลทฺธา เวโรจนํ มณึ;

หตฺถิกฺขนฺธคโต ราชา, ปาเวกฺขิ นครํ ปุรํ.

๘๒.

‘‘ชีวคฺคาหํ คเหตฺวาน, พนฺธิตฺวา สตฺต ขตฺติเย;

สสุรสฺสูปนาเมสิ, อิเม เต เทว สตฺตโว.

๘๓.

‘‘สพฺเพว เต วสํ คตา, อมิตฺตา วิหตา ตว;

กามํ กโรหิ เต ตยา, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ วิปลายึสูติ สตึ ปจฺจุปฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺตา วิปลฺลตฺถจิตฺตา ภิชฺชึสุ. กุสสทฺทภยฏฺฏิตาติ กุสรฺโ สทฺทํ นิสฺสาย ชาเตน ภเยน อุปทฺทุตา มูฬฺหจิตฺตา. อฺมฺสฺส ฉินฺทนฺตีติ อฺมฺํ ฉินฺทนฺติ มทฺทนฺติ. ‘‘ภินฺทึสู’’ติปิ ปาโ. ตสฺมินฺติ เอวํ โพธิสตฺตสฺส สทฺทสวเนเนว สงฺคาเม ภินฺเน ตสฺมึ สงฺคามสีเส ตํ มหาสตฺตสฺส ปรกฺกมํ ปสฺสิตฺวา ตุฏฺหทโย สกฺโก เวโรจนํ นาม มณิกฺขนฺธํ ตสฺส อทาสิ. นครํ ปุรนฺติ นครสงฺขาตํ ปุรํ. พนฺธิตฺวาติ เตสฺเว อุตฺตริ สาฏเกน ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา. กามํ กโรหิ เต ตยาติ ตฺวํ อตฺตโน กามํ อิจฺฉํ รุจึ กโรหิ, เอเต หิ ตยา ทาสา กตาเยวาติ.

ราชา อาห –

๘๔.

‘‘ตุยฺเหว สตฺตโว เอเต, น หิ เต มยฺห สตฺตโว;

ตฺวฺเว โน มหาราช, มุฺจ วา เต หนสฺสุ วา’’ติ.

ตตฺถ ตฺวฺเว โนติ, มหาราช, ตฺวํเยว อมฺหากํ อิสฺสโรติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต ‘‘กึ อิเมหิ มาริเตหิ, มา เตสํ อาคมนํ นิรตฺถกํ โหตุ, ปภาวติยา กนิฏฺา สตฺต มทฺทราชธีตโร อตฺถิ, ตา เนสํ ทาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๘๕.

‘‘อิมา เต ธีตโร สตฺต, เทวกฺูปมา สุภา;

ททาหิ เนสํ เอเกกํ, โหนฺตุ ชามาตโร ตวา’’ติ.

อถ นํ ราชา อาห –

๘๖.

‘‘อมฺหากฺเจว ตาสฺจ, ตฺวํ โน สพฺเพสมิสฺสโร;

ตฺวฺเว โน มหาราช, เทหิ เนสํ ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ โน สพฺเพสนฺติ, มหาราช กุสนรินฺท, กึ วเทสิ, ตฺวฺเว เอเตสฺจ สตฺตนฺนํ ราชูนํ มมฺจ อิมาสฺจ สพฺเพสํ โน อิสฺสโร. ยทิจฺฉสีติ ยทิ อิจฺฉสิ, ยสฺส วา ยํ ทาตุํ อิจฺฉสิ, ตสฺส ตํ เทหีติ.

เอวํ วุตฺเต โส ตา สพฺพาปิ อลงฺการาเปตฺวา เอเกกสฺส รฺโ เอเกกํ อทาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา ปฺจ คาถาโย อภาสิ –

๘๗.

‘‘เอกเมกสฺส เอเกกํ, อทา สีหสฺสโร กุโส;

ขตฺติยานํ ตทา เตสํ, รฺโ มทฺทสฺส ธีตโร.

๘๘.

‘‘ปีณิตา เตน ลาเภน, ตุฏฺา สีหสฺสเร กุเส;

สกรฏฺานิ ปายึสุ, ขตฺติยา สตฺต ตาวเท.

๘๙.

‘‘ปภาวติฺจ อาทาย, มณึ เวโรจนํ สุภํ;

กุสาวตึ กุโส ราชา, อคมาสิ มหพฺพโล.

๙๐.

‘‘ตฺยสฺสุ เอกรเถ ยนฺตา, ปวิสนฺตา กุสาวตึ;

สมานา วณฺณรูเปน, นาฺมฺาติโรจิสุํ.

๙๑.

‘‘มาตา ปุตฺเตน สํคจฺฉิ, อุภโย จ ชยมฺปตี;

สมคฺคา เต ตทา อาสุํ, ผีตํ ธรณิมาวสุ’’นฺติ.

ตตฺถ ปีณิตาติ สนฺตปฺปิตา. ปายึสูติ อิทานิ อปฺปมตฺตา ภเวยฺยาถาติ กุสนรินฺเทน โอวทิตา อคมํสุ. อคมาสีติ กติปาหํ วสิตฺวา ‘‘อมฺหากํ รฏฺํ คมิสฺสามา’’ติ สสุรํ อาปุจฺฉิตฺวา คโต. เอกรเถ ยนฺตาติ ทฺเวปิ เอกรถํ อภิรุยฺห คจฺฉนฺตา. สมานา วณฺณรูเปนาติ วณฺเณน จ รูเปน จ สมานา หุตฺวา. นาฺมฺาติโรจิสุนฺติ เอโก เอกํ นาติกฺกมิ. มณิรตนานุภาเวน กิร มหาสตฺโต อภิรูโป อโหสิ สุวณฺณวณฺโณ โสภคฺคปฺปตฺโต, โส กิร ปุพฺเพ ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปิณฺฑปาตนิสฺสนฺเทน พุทฺธปฏิมากรณนิสฺสนฺเทน จ เอวํ เตชวนฺโต อโหสิ. สํคจฺฉีติ อถสฺส มาตา มหาสตฺตสฺส อาคมนํ สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา มหาสตฺตสฺส พหุํ ปณฺณาการํ อาทาย ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา สมาคจฺฉิ. โสปิ มาตรา สทฺธึเยว นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา สตฺตาหํ ฉณกีฬํ กีฬิตฺวา อลงฺกตปาสาทตลํ อภิรุหิ. เตปิ อุโภ ชยมฺปติกา สมคฺคา อเหสุํ, ตโต ปฏฺาย ยาวชีวํ สมคฺคา สมฺโมทมานา ผีตํ ธรณึ อชฺฌาวสึสูติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ อเหสุํ, กนิฏฺโ อานนฺโท, ขุชฺชา ขุชฺชุตฺตรา, ปภาวตี ราหุลมาตา, ปริสา พุทฺธปริสา, กุสราชา ปน อหเมว อโหสินฺติ.

กุสชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๒] ๒. โสณนนฺทชาตกวณฺณนา

เทวตา นุสิ คนฺธพฺโพติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต มาตุโปสกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ สามชาตเก (ชา. ๒.๒๒.๒๙๖ อาทโย) วตฺถุสทิสํ. ตทา ปน สตฺถา ‘‘มา, ภิกฺขเว, อิมํ ภิกฺขุํ อุชฺฌายิตฺถ, โปราณกปณฺฑิตา สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ ลภมานาปิ ตํ อคฺคเหตฺวา มาตาปิตโร โปสึสุเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสี พฺรหฺมวฑฺฒนํ นาม นครํ อโหสิ. ตตฺถ มโนโช นาม ราชา รชฺชํ กาเรสิ. ตตฺถ อฺตโร อสีติโกฏิวิภโว พฺราหฺมณมหาสาโล อปุตฺตโก อโหสิ. ตสฺส พฺราหฺมณี เตเนว ‘‘โภติ ปุตฺตํ ปตฺเถหี’’ติ วุตฺตา ปตฺเถสิ. อถ โพธิสตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสา กุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ชาตสฺส จสฺส ‘‘โสณกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. ตสฺส ปทสา คมนกาเล อฺโปิ สตฺโต พฺรหฺมโลกา จวิตฺวา ตสฺสาเยว กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ, ตสฺส ชาตสฺส ‘‘นนฺทกุมาโร’’ติ นามํ กรึสุ. เตสํ อุคฺคหิตเวทานํ สพฺพสิปฺเปสุ นิปฺผตฺตึ ปตฺตานํ วยปฺปตฺตานํ รูปสมฺปทํ ทิสฺวา พฺราหฺมโณ พฺราหฺมณึ อามนฺเตตฺวา ‘‘โภติ ปุตฺตํ โสณกุมารํ ฆรพนฺธเนน พนฺธิสฺสามา’’ติ อาห. สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปุตฺตสฺส ตมตฺถํ อาจิกฺขิ . โส ‘‘อลํ, อมฺม, มยฺหํ ฆราวาเสน, อหํ ยาวชีวํ ตุมฺเห ปฏิชคฺคิตฺวา ตุมฺหากํ อจฺจเยน หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิสฺสามี’’ติ อาห. สา พฺราหฺมณสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสิ.

เต ปุนปฺปุนํ กเถนฺตาปิ ตสฺส จิตฺตํ อลภิตฺวา นนฺทกุมารํ อามนฺเตตฺวา ‘‘ตาต, เตน หิ ตฺวํ กุฏุมฺพํ ปฏิปชฺชาหี’’ติ วตฺวา ‘‘นาหํ ภาตรา ฉฑฺฑิตเขฬํ สีเสน อุกฺขิปามิ, อหมฺปิ ตุมฺหากํ อจฺจเยน ภาตราว สทฺธึ ปพฺพชิสฺสามี’’ติ วุตฺเต เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘อิเม ทฺเว เอวํ ตรุณาว กาเม ปชหนฺติ, กิมงฺคํ ปน มยํ, สพฺเพเยว ปพฺพชิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘ตาตา , กึ โว อมฺหากํ อจฺจเยน ปพฺพชฺชาย, อิทาเนว สพฺเพ มยํ ปพฺพชิสฺสามา’’ติ รฺโ อาโรเจตฺวา สพฺพํ ธนํ ทานมุเข วิสฺสชฺเชตฺวา ทาสชนํ ภุชิสฺสํ กตฺวา าตีนํ ทาตพฺพยุตฺตกํ ทตฺวา จตฺตาโรปิ ชนา พฺรหฺมวฑฺฒนนครา นิกฺขมิตฺวา หิมวนฺตปเทเส ปฺจปทุมสฺฉนฺนํ สรํ นิสฺสาย รมณีเย วนสณฺเฑ อสฺสมํ มาเปตฺวา ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ วสึสุ. อุโภปิ ภาตโร มาตาปิตโร ปฏิชคฺคึสุ, เตสํ ปาโตว ทนฺตกฏฺฺจ มุขโธวนฺจ ทตฺวา ปณฺณสาลฺจ ปริเวณฺจ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา อรฺโต มธุรผลาผลานิ อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปนฺติ, อุณฺเหน วา สีเตน วา วารินา นฺหาเปนฺติ, ชฏา โสเธนฺติ, ปาทปริกมฺมาทีนิ เตสํ กโรนฺติ.

เอวํ อทฺธาเน คเต นนฺทปณฺฑิโต ‘‘มยา อาภตผลาผลาเนว ปมํ มาตาปิตโร ขาทาเปสฺสามี’’ติ ปุรโต คนฺตฺวา หิยฺโย จ ปรหิยฺโย จ คหิตฏฺานโต ยานิ วา ตานิ วา ปาโตว อาหริตฺวา มาตาปิตโร ขาทาเปสิ. เต ตานิ ขาทิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา อุโปสถิกา ภวนฺติ. โสณปณฺฑิโต ปน ทูรํ คนฺตฺวา มธุรมธุรานิ สุปกฺกสุปกฺกานิ อาหริตฺวา อุปนาเมสิ. อถ นํ, ‘‘ตาต, กนิฏฺเน เต อาภตานิ มยํ ปาโตว ขาทิตฺวา อุโปสถิกา ชาตา, น อิทานิ โน อตฺโถ’’ติ วทนฺติ. อิติ ตสฺส ผลาผลานิ ปริโภคํ น ลภนฺติ วินสฺสนฺติ, ปุนทิวเสสุปิ ตเถวาติ . เอวํ โส ปฺจาภิฺตาย ทูรํ คนฺตฺวาปิ อาหรติ, เต ปน น ขาทนฺติ.

อถ มหาสตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘มาตาปิตโร เม สุขุมาลา, นนฺโท จ ยานิ วา ตานิ วา อปกฺกทุปฺปกฺกานิ ผลาผลานิ อาหริตฺวา ขาทาเปติ, เอวํ สนฺเต อิเม น จีรํ ปวตฺติสฺสนฺติ, วาเรสฺสามิ น’’นฺติ. อถ นํ โส อามนฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, อิโต ปฏฺาย ผลาผลํ อาหริตฺวา มมาคมนํ ปฏิมาเนหิ, อุโภปิ เอกโตว ขาทาเปสฺสามา’’ติ อาห. โส เอวํ วุตฺเตปิ อตฺตโน ปุฺํ ปจฺจาสีสนฺโต น ตสฺส วจนมกาสิ. มหาสตฺโต ‘‘นนฺโท มม วจนํ อกโรนฺโต อยุตฺตํ กโรติ, ปลาเปสฺสามิ นํ, ตโต เอกโกว มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘นนฺท, ตฺวํ อโนวาทโก ปณฺฑิตานํ วจนํ น กโรสิ, อหํ เชฏฺโ, มาตาปิตโร มเมว ภาโร, อหเมว เนสํ ปฏิชคฺคิสฺสามิ, ตฺวํ อิธ วสิตุํ น ลจฺฉสิ, อฺตฺถ ยาหี’’ติ ตสฺส อจฺฉรํ ปหริ.

โส เตน ปลาปิโต ตสฺส สนฺติเก าตุํ อสกฺโกนฺโต ตํ วนฺทิตฺวา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา อตฺตโน ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา กสิณํ โอโลเกตฺวา ตํ ทิวสเมว ปฺจ อภิฺาโย อฏฺ สมาปตฺติโย นิพฺพตฺเตตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ สีเนรุปาทโต รตนวาลุกา อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอกิริตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตฺวา มม ภาตุ ปณฺณสาลาย ปริเวเณ โอสิฺจิตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ, สเจ เม ภาตรํ เทวตานํ วเสน ขมาเปยฺยํ, จตฺตาโร จ มหาราชาโน สกฺกฺจ อาเนตฺวา ภาตรํ ขมาเปตุํ ปโหมิ, เอวมฺปิ น โสภิสฺสติ , สกลชมฺพุทีเป มโนชํ อคฺคราชานํ อาทึ กตฺวา ราชาโน อาเนตฺวา ขมาเปสฺสามิ, เอวํ สนฺเต มม ภาตุ คุโณ สกลชมฺพุทีเป อวตฺถริตฺวา คมิสฺสติ, จนฺทิมสูริโย วิย ปฺายิสฺสตี’’ติ. โส ตาวเทว อิทฺธิยา คนฺตฺวา พฺรหฺมวฑฺฒนนคเร ตสฺส รฺโ นิเวสนทฺวาเร โอตริตฺวา ิโต ‘‘เอโก กิร โว ตาปโส ทฏฺุกาโม’’ติ รฺโ อาโรจาเปสิ. ราชา ‘‘กึ ปพฺพชิตสฺส มยา ทิฏฺเน, อาหารตฺถาย อาคโต ภวิสฺสตี’’ติ ภตฺตํ ปหิณิ, โส ภตฺตํ น อิจฺฉิ. ตณฺฑุลํ ปหิณิ, ตณฺฑุลํ น อิจฺฉิ. วตฺถานิ ปหิณิ, วตฺถานิ น อิจฺฉิ. ตมฺพูลํ ปหิณิ, ตมฺพูลํ น อิจฺฉิ. อถสฺส สนฺติเก ทูตํ เปเสสิ, ‘‘กิมตฺถํ อาคโตสี’’ติ. โส ทูเตน ปุฏฺโ ‘‘ราชานํ อุปฏฺหิตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ราชา ตํ สุตฺวา ‘‘พหู มม อุปฏฺากา, อตฺตโนว ตาปสธมฺมํ กโรตู’’ติ เปเสสิ. โส ตํ สุตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อตฺตโน พเลน สกลชมฺพุทีเป รชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสามี’’ติ อาห.

ตํ สุตฺวา ราชา จินฺเตสิ – ‘‘ปพฺพชิตา นาม ปณฺฑิตา, กิฺจิ อุปายํ ชานิสฺสนฺตี’’ติ ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา อาสเน นิสีทาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเห กิร มยฺหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ คเหตฺวา ทสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม มหาราชา’’ติ. ‘‘กถํ คณฺหิสฺสถา’’ติ? ‘‘มหาราช, อนฺตมโส ขุทฺทกมกฺขิกาย ปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ กสฺสจิ อนุปฺปาเทตฺวา ตว ธนจฺเฉทํ อกตฺวา อตฺตโน อิทฺธิยาว คเหตฺวา ทสฺสามิ, อปิจ เกวลํ ปปฺจํ อกตฺวา อชฺเชว นิกฺขมิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา เสนงฺคปริวุโต นครา นิกฺขมิ. สเจ เสนาย อุณฺหํ โหติ, นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อิทฺธิยา ฉายํ กตฺวา สีตํ กโรติ, เทเว วสฺสนฺเต เสนาย อุปริ วสฺสิตุํ น เทติ, สีตํ วา อุณฺหํ วา วาเรติ, มคฺเค ขาณุกณฺฏกาทโย สพฺพปริสฺสเย อนฺตรธาเปติ, มคฺคํ กสิณมณฺฑลํ วิย สมํ กตฺวา สยํ อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน เสนาย ปริวุโต คจฺฉติ.

เอวํ เสนํ อาทาย ปมํ โกสลรฏฺํ คนฺตฺวา นครสฺสาวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา ‘‘ยุทฺธํ วา โน เทตุ เสตจฺฉตฺตํ วา’’ติ โกสลรฺโ ทูตํ ปาเหสิ. โส กุชฺฌิตฺวา ‘‘กึ อหํ น ราชา’’ติ ‘‘ยุทฺธํ ทมฺมี’’ติ เสนาย ปุรกฺขโต นิกฺขมิ. ทฺเว เสนา ยุชฺฌิตุํ อารภึสุ . นนฺทปณฺฑิโต ทฺวินฺนมฺปิ อนฺตเร อตฺตโน นิสีทนํ อชินจมฺมํ มหนฺตํ กตฺวา ปสาเรตฺวา ทฺวีหิปิ เสนาหิ ขิตฺตสเร จมฺเมเนว สมฺปฏิจฺฉิ. เอกเสนายปิ โกจิ กณฺเฑน วิทฺโธ นาม นตฺถิ, หตฺถคตานํ ปน กณฺฑานํ ขเยน ทฺเวปิ เสนา นิรุสฺสาหา อฏฺํสุ. นนฺทปณฺฑิโต มโนชราชสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราชา’’ติ อสฺสาเสตฺวา โกสลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘มหาราช, มา ภายิ, นตฺถิ เต ปริปนฺโถ, ตว รชฺชํ ตเวว ภวิสฺสติ, เกวลํ มโนชรฺโ วสวตฺตี โหหี’’ติ อาห. โส ตสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อถ นํ มโนชสฺส สนฺติกํ เนตฺวา ‘‘มหาราช, โกสลราชา เต วเส วตฺตติ, อิมสฺส รชฺชํ อิมสฺเสว โหตู’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ทฺเว เสนา อาทาย องฺครฏฺํ คนฺตฺวา องฺคํ คเหตฺวา ตโต มคธรฏฺนฺติ เอเตนุปาเยน สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อตฺตโน วเส วตฺเตตฺวา ตโต เตหิ ปริวุโต พฺรหฺมวฑฺฒนนครเมว คโต. รชฺชํ คณฺหนฺโต ปเนส สตฺตนฺนํ สํวจฺฉรานํ อุปริ สตฺตทิวสาธิเกหิ สตฺตมาเสหิ คณฺหิ. โส เอเกกราชธานิโต นานปฺปการํ ขชฺชโภชนํ อาหราเปตฺวา เอกสตราชาโน คเหตฺวา เตหิ สทฺธึ สตฺตาหํ มหาปานํ ปิวิ.

นนฺทปณฺฑิโต ‘‘ยาว ราชา สตฺตาหํ อิสฺสริยสุขํ อนุโภติ, ตาวสฺส อตฺตานํ น ทสฺเสสฺสามี’’ติ อุตฺตรกุรุมฺหิ ปิณฺฑาย จริตฺวา หิมวนฺเต กฺจนคุหาทฺวาเร สตฺตาหํ วสิ. มโนโชปิ สตฺตเม ทิวเส อตฺตโน มหนฺตํ สิริวิภวํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ ยโส น มยฺหํ มาตาปิตูหิ, น อฺเหิ ทินฺโน, นนฺทตาปสํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน, ตํ โข ปน เม อปสฺสนฺตสฺส อชฺช สตฺตโม ทิวโส, กหํ นุ โข เม ยสทายโก’’ติ นนฺทปณฺฑิตํ สริ. โส ตสฺส อนุสฺสรณภาวํ ตฺวา อาคนฺตฺวา ปุรโต อากาเส อฏฺาสิ. ราชา ตํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อิมสฺส ตาปสสฺส เทวตาภาวํ วา มนุสฺสภาวํ วา น ชานามิ, สเจ เอส มนุสฺโส ภเวยฺย, สกลชมฺพุทีปรชฺชํ เอตสฺเสว ทสฺสามิ. อถ เทโว, สกฺการมสฺส กริสฺสามี’’ติ. โส ตํ วีมํสนฺโต ปมํ คาถมาห –

๙๒.

‘‘เทวตา นุติ คนฺธพฺโพ, อทุ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา สภาวเมว กเถนฺโต ทุติยํ คาถมาห –

๙๓.

‘‘นาปิ เทโว น คนฺธพฺโพ, นาปิ สกฺโก ปุรินฺทโท;

มนุสฺสภูโต อิทฺธิมา, เอวํ ชานาหิ ภารธา’’ติ.

ตตฺถ ภารธาติ รฏฺภารธาริตาย นํ เอวํ อาลปติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘มนุสฺสภูโต กิรายํ มยฺหํ เอวํ พหุปกาโร, มหนฺเตน ยเสน นํ สนฺตปฺเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๙๔.

‘‘กตรูปมิทํ โภโต, เวยฺยาวจฺจํ อนปฺปกํ;

เทวมฺหิ วสฺสมานมฺหิ, อโนวสฺสํ ภวํ อกา.

๙๕.

‘‘ตโต วาตาตเป โฆเร, สีตจฺฉายํ ภวํ อกา;

ตโต อมิตฺตมชฺเฌสุ, สรตาณํ ภวํ อกา.

๙๖.

‘‘ตโต ผีตานิ รฏฺานิ, วสิโน เต ภวํ อกา;

ตโต เอกสตํ ขตฺเย, อนุยนฺเต ภวํ อกา.

๙๗.

‘‘ปตีตาสฺสุ มยํ โภโต, วท ตํ ภฺชมิจฺฉสิ;

หตฺถิยานํ อสฺสรถํ, นาริโย จ อลงฺกตา;

นิเวสนานิ รมฺมานิ, มยํ โภโต ททามเส.

๙๘.

‘‘อถ วงฺเค วา มคเธ, มยํ โภโต ททามเส;

อถ วา อสฺสกาวนฺตี, สุมนา ทมฺม เต มยํ.

๙๙.

‘‘อุปฑฺฒํ วาปิ รชฺชสฺส, มยํ โภโต ททามเส;

สเจ เต อตฺโถ รชฺเชน, อนุสาส ยทิจฺฉสี’’ติ.

ตตฺถ กตรูปมิทนฺติ กตสภาวํ. เวยฺยาวจฺจนฺติ กายเวยฺยาวติกกมฺมํ. อโนวสฺสนฺติ อวสฺสํ, ยถา เทโว น วสฺสติ , ตถา กตนฺติ อตฺโถ. สีตจฺฉายนฺติ สีตลํ ฉายํ. วสิโน เตติ เต รฏฺวาสิโน อมฺหากํ วสวตฺติโน. ขตฺเยติ ขตฺติเย, อฏฺกถายํ ปน อยเมว ปาโ. ปตีตาสฺสุมยนฺติ ตุฏฺา มยํ. วท ตํ ภฺชมิจฺฉสีติ ภฺชนฺติ รตนสฺเสตํ นามํ, วรํ เต ททามิ, ยํ รตนํ อิจฺฉสิ, ตํ วเทหีติ อตฺโถ. ‘‘หตฺถิยาน’’นฺติอาทีหิ สรูปโต ตํ ตํ รตนํ ทสฺเสติ. อสฺสกาวนฺตีอสฺสกรฏฺํ วา อวนฺติรฏฺํ วา. รชฺเชนาติ สเจปิ เต สกลชมฺพุทีปรชฺเชน อตฺโถ, ตมฺปิ เต ทตฺวา อหํ ผลกาวุธหตฺโถ ตุมฺหากํ รถสฺส ปุรโต คมิสฺสามีติ ทีเปติ. ยทิจฺฉสีติ เอเตสุ มยา วุตฺตปฺปกาเรสุ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ อนุสาส อาณาเปหีติ.

ตํ สุตฺวา นนฺทปณฺฑิโต อตฺตโน อธิปฺปายํ อาวิกโรนฺโต อาห –

๑๐๐.

‘‘น เม อตฺโถปิ รชฺเชน, นคเรน ธเนน วา;

อโถปิ ชนปเทน, อตฺโถ มยฺหํ น วิชฺชตี’’ติ.

‘‘สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, เอกํ เม วจนํ กโรหี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๑๐๑.

‘‘โภโตว รฏฺเ วิชิเต, อรฺเ อตฺถิ อสฺสโม;

ปิตา มยฺหํ ชเนตฺตี จ, อุโภ สมฺมนฺติ อสฺสเม.

๑๐๒.

‘‘เตสาหํ ปุพฺพาจริเยสุ, ปุฺํ น ลภามิ กาตเว;

ภวนฺตํ อชฺฌาวรํ กตฺวา, โสณํ ยาเจมุ สํวร’’นฺติ.

ตตฺถ รฏฺเติ รชฺเช. วิชิเตติ อาณาปวตฺติฏฺาเน. อสฺสโมติ หิมวนฺตารฺเ เอโก อสฺสโม อตฺถิ. สมฺมนฺตีติ ตสฺมึ อสฺสเม วสนฺติ. เตสาหนฺติ เตสุ อหํ. กาตเวติ วตฺตปฏิวตฺตผลาผลาหรณสงฺขาตํ ปุฺํ กาตุํ น ลภามิ, ภาตา เม โสณปณฺฑิโต นาม มเมกสฺมึ อปราเธ มา อิธ วสีติ มํ ปลาเปสิ. อชฺฌาวรนฺติ อธิอาวรํ เต มยํ ภวนฺตํ สปริวารํ กตฺวา โสณปณฺฑิตํ สํวรํ ยาเจมุ, อายตึ สํวรํ ยาจามาติ อตฺโถ. ‘‘ยาเจมิมํ วร’’นฺติปิ ปาโ, มยํ ตยา สทฺธึ โสณํ ยาเจยฺยาม ขมาเปยฺยาม, อิมํ วรํ ตว สนฺติกา คณฺหามีติ อตฺโถ.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๓.

‘‘กโรมิ เต ตํ วจนํ, ยํ มํ ภณสิ พฺราหฺมณ;

เอตฺจ โข โน อกฺขาหิ, กีวนฺโต โหนฺตุ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ กโรมีติ อหํ สกลชมฺพุทีปรชฺชํ ททมาโน เอตฺตกํ กึ น กริสฺสามิ, กโรมีติ วทติ. กีวนฺโตติ กิตฺตกา.

นนฺทปณฺฑิโต อาห –

๑๐๔.

‘‘ปโรสตํ ชานปทา, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

อิเม จ ขตฺติยา สพฺเพ, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

ภวฺจ ราชา มโนโช, อลํ เหสฺสนฺติ ยาจกา’’ติ.

ตตฺถ ชานปทาติ คหปตี. มหาสาลา จ พฺราหฺมณาติ สารปฺปตฺตา พฺราหฺมณา จ ปโรสตาเยว. อลํ เหสฺสนฺตีติ ปริยตฺตา ภวิสฺสนฺติ. ยาจกาติ มมตฺถาย โสณปณฺฑิตสฺส ขมาปกา.

อถ นํ ราชา อาห –

๑๐๕.

‘‘หตฺถี อสฺเส จ โยเชนฺตุ, รถํ สนฺนยฺห สารถิ;

อาพนฺธนานิ คณฺหาถ, ปาทาสุสฺสารยทฺธเช;

อสฺสมํ ตํ คมิสฺสามิ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ.

ตตฺถ โยเชนฺตูติ หตฺถาโรหา หตฺถี, อสฺสาโรหา จ อสฺเส กปฺเปนฺตุ. รถํ สนฺนยฺห สารถีติ สมฺมสารถิ ตฺวมฺปิ รถํ สนฺนยฺห. อาพนฺธนานีติ หตฺถิอสฺสรเถสุ อาพนฺธิตพฺพานิ ภณฺฑานิ จ คณฺหถ. ปาทาสุสฺสารยทฺธเชติ รเถ ปิตธชปาทาสุ ธเช อุสฺสารยนฺตุ อุสฺสาเปนฺตุ. โกสิโยติ ยสฺมึ อสฺสเม โกสิยโคตฺโต วสตีติ.

๑๐๖.

‘‘ตโต จ ราชา ปายาสิ, เสนาย จตุรงฺคินี;

อคมา อสฺสมํ รมฺมํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ. – อยํ อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ตโต จาติ, ภิกฺขเว, เอวํ วตฺวา ตโต โส ราชา เอกสตขตฺติเย คเหตฺวา มหติยา เสนาย ปริวุโต นนฺทปณฺฑิตํ ปุรโต กตฺวา นครา นิกฺขมิ. จตุรงฺคีนีติ จตุรงฺคินิยา เสนาย อคมาสิ, อนฺตรมคฺเค วตฺตมาโนปิ อวสฺสํ คามิตาย เอวํ วุตฺโต. จตุวีสติอกฺโขภณิสงฺขาเตน พลกาเยน สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส นนฺทปณฺฑิโต อิทฺธานุภาเวน อฏฺุสภวิตฺถตํ มคฺคํ สมํ มาเปตฺวา อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสีทิตฺวา เสนาย ปริวุโต อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺเธ นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตน รฺา สทฺธึ ธมฺมยุตฺตกถํ กเถนฺโต สีตอุณฺหาทิปริสฺสเย วาเรนฺโต อคมาสิ.

อถสฺส อสฺสมํ ปาปุณนทิวเส โสณปณฺฑิโต ‘‘มม กนิฏฺสฺส อติเรกสตฺตมาสสตฺตทิวสาธิกานิ สตฺต วสฺสานิ นิกฺขนฺตสฺสา’’ติ อาวชฺเชตฺวา ‘‘กหํ นุ โข โส เอตรหี’’ติ ทิพฺเพน จกฺขุนา โอโลเกนฺโต ‘‘จตุวีสติอกฺโขภณิปริวาเรน สทฺธึ เอกสตราชาโน คเหตฺวา มมฺเว ขมาเปตุํ อาคจฺฉตี’’ติ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อิเมหิ ราชูหิ เจว ปริสาหิ จ มม กนิฏฺสฺส พหูนิ ปาฏิหาริยานิ ทิฏฺานิ, มมานุภาวํ อชานิตฺวา ‘อยํ กูฏชฏิโล อตฺตโน ปมาณํ น ชานาติ, อมฺหากํ อยฺเยน สทฺธึ ปโยเชสี’ติ มํ วมฺเภนฺตา กเถนฺตา อวีจิปรายณา ภเวยฺยุํ, อิทฺธิปาฏิหาริยํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ. โส จตุรงฺคุลมตฺเตน อํสํ อผุสนฺตํ อากาเส กาชํ เปตฺวา อโนตตฺตโต อุทกํ อาหริตุํ รฺโ อวิทูเร อากาเสน ปายาสิ. นนฺทปณฺฑิโต ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา อตฺตานํ ทสฺเสตุํ อวิสหนฺโต นิสินฺนฏฺาเนเยว อนฺตรธายิตฺวา ปลายิตฺวา หิมวนฺตํ ปาวิสิ. มโนชราชา ปน ตํ รมณีเยน อิสิเวเสน ตถา อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา คาถมาห –

๑๐๗.

‘‘กสฺส กาทมฺพโย กาโช, เวหาสํ จตุรงฺคุลํ;

อํสํ อสมฺผุสํ เอติ, อุทหาราย คจฺฉโต’’ติ.

ตตฺถ กาทมฺพโยติ กทมฺพรุกฺขมโย. อํสํ อสมฺผุสํ เอตีติ อํสํ อสมฺผุสนฺโต สยเมว อาคจฺฉติ. อุทหารายาติ อุทกํ อาหริตุํ คจฺฉนฺตสฺส กสฺส เอส กาโช เอวํ เอติ, โก นาม ตฺวํ, กุโต วา อาคจฺฉสีติ.

เอวํ วุตฺเต มหาสตฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๐๘.

‘‘อหํ โสโณ มหาราช, ตาปโส สหิตพฺพโต;

ภรามิ มาตาปิตโร, รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต.

๑๐๙.

‘‘วเน ผลฺจ มูลฺจ, อาหริตฺวา ทิสมฺปติ;

โปเสมิ มาตาปิตโร, ปุพฺเพ กตมนุสฺสร’’นฺติ.

ตตฺถ สหิตพฺพโตติ สหิตวโต สีลาจารสมฺปนฺโน เอโก ตาปโส อหนฺติ วทติ. ภรามีติ โปเสมิ. อตนฺทิโตติ อนลโส หุตฺวา. ปุพฺเพ กตมนุสฺสรนฺติ เตหิ ปุพฺเพ กตํ มยฺหํ คุณํ อนุสฺสรนฺโตติ.

ตํ สุตฺวา ราชา เตน สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺตุกาโม อนนฺตรํ คาถมาห –

๑๑๐.

‘‘อิจฺฉาม อสฺสมํ คนฺตุํ, ยตฺถ สมฺมติ โกสิโย;

มคฺคํ โน โสณ อกฺขาหิ, เยน คจฺเฉมุ อสฺสม’’นฺติ.

ตตฺถ อสฺสมนฺติ ตุมฺหากํ อสฺสมปทํ.

อถ มหาสตฺโต อตฺตโน อานุภาเวน อสฺสมปทคามิมคฺคํ มาเปตฺวา คาถมาห –

๑๑๑.

‘‘อยํ เอกปที ราช, เยเนตํ เมฆสนฺนิภํ;

โกวิฬาเรหิ สฺฉนฺนํ, เอตฺถ สมฺมติ โกสิโย’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – มหาราช, อยํ เอกปทิโก ชงฺฆมคฺโค, อิมินา คจฺฉถ, เยน ทิสาภาเคน เอตํ เมฆวณฺณํ สุปุปฺผิตโกวิฬารสฺฉนฺนํ วนํ ทิสฺสติ, เอตฺถ มม ปิตา โกสิยโคตฺโต วสติ, เอตสฺส โส อสฺสโมติ.

๑๑๒.

‘‘อิทํ วตฺวาน ปกฺกามิ, ตรมาโน มหาอิสิ;

เวหาเส อนฺตลิกฺขสฺมึ, อนุสาสิตฺวาน ขตฺติเย.

๑๑๓.

‘‘อสฺสมํ ปริมชฺชิตฺวา, ปฺาเปตฺวาน อาสนํ;

ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา, ปิตรํ ปติโพธยิ.

๑๑๔.

‘‘อิเม อายนฺติ ราชาโน, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, นิสีท ตฺวํ มหาอิเส.

๑๑๕.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ตรมาโน มหาอิสิ;

อสฺสมา นิกฺขมิตฺวาน, สทฺวารมฺหิ อุปาวิสี’’ติ. – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

ตตฺถ ปกฺกามีติ อโนตตฺตํ อคมาสิ. อสฺสมํ ปริมชฺชิตฺวาติ, ภิกฺขเว, โส อิสิ เวเคน อโนตตฺตํ คนฺตฺวา ปานียํ อาทาย เตสุ ราชูสุ อสฺสมํ อสมฺปตฺเตสุเยว อาคนฺตฺวา ปานียฆเฏ ปานียมาฬเก เปตฺวา ‘‘มหาชโน ปิวิสฺสตี’’ติ วนกุสุเมหิ วาเสตฺวา สมฺมชฺชนึ อาทาย อสฺสมํ สมฺมชฺชิตฺวา ปณฺณสาลทฺวาเร ปิตุ อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปวิสิตฺวา ปิตรํ ชานาเปสีติ อตฺโถ. อุปาวิสีติ อุจฺจาสเน นิสีทิ.

โพธิสตฺตสฺส มาตา ปน ตสฺส ปจฺฉโต นีจฏฺาเน เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโต นีจาสเน นิสีทิ. นนฺทปณฺฑิโตปิ โพธิสตฺตสฺส อโนตตฺตโต ปานียํ อาทาย อสฺสมํ อาคตกาเล รฺโ สนฺติกํ อาคนฺตฺวา อสฺสมสฺส อวิทูเร ขนฺธาวารํ นิวาเสสิ. อถ ราชา นฺหตฺวา สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต เอกสตราชปริวุโต นนฺทปณฺฑิตํ คเหตฺวา มหนฺเตน สิริโสภคฺเคน โพธิสตฺตํ ขมาเปตุํ อสฺสมํ ปาวิสิ. อถ นํ ตถา อาคจฺฉนฺตํ โพธิสตฺตสฺส ปิตา ทิสฺวา โพธิสตฺตํ ปุจฺฉิ, โสปิสฺส อาจิกฺขิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๖.

‘‘ตฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ, ชลนฺตํริว เตชสา;

ขตฺยสงฺฆปริพฺยูฬฺหํ, โกสิโย เอตทพฺรวิ.

๑๑๗.

‘‘กสฺส เภรี มุทิงฺคา จ, สงฺขา ปณวทินฺทิมา;

ปุรโต ปฏิปนฺนานิ, หาสยนฺตา รเถสภํ.

๑๑๘.

‘‘กสฺส กฺจนปฏฺเฏน, ปุถุนา วิชฺชุวณฺณินา;

ยุวา กลาปสนฺนทฺโธ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๑๙.

‘‘อุกฺกามุขปหฏฺํว , ขทิรงฺคารสนฺนิภํ;

มุขฺจ รุจิรา ภาติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๐.

‘‘กสฺส ปคฺคหิตํ ฉตฺตํ, สสลากํ มโนรมํ;

อาทิจฺจรํสาวรณํ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๑.

‘‘กสฺส องฺคํ ปริคฺคยฺห, วาลพีชนิมุตฺตมํ;

จรนฺติ วรปุฺสฺส, หตฺถิกฺขนฺเธน อายโต.

๑๒๒.

‘‘กสฺส เสตานิ ฉตฺตานิ, อาชานียา จ วมฺมิตา;

สมนฺตา ปริกีเรนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๓.

‘‘กสฺส เอกสตํ ขตฺยา, อนุยนฺตา ยสสฺสิโน;

สมนฺตานุปริยนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๔.

‘‘หตฺถิอสฺสรถปตฺติ, เสนา จ จตุรงฺคินี;

สมนฺตานุปริยนฺติ, โก เอติ สิริยา ชลํ.

๑๒๕.

‘‘กสฺเสสา มหตี เสนา, ปิฏฺิโต อนุวตฺตติ;

อกฺโขภณี อปริยนฺตา, สาครสฺเสว อูมิโย.

๑๒๖.

‘‘ราชาภิราชา มโนโช, อินฺโทว ชยตํ ปติ;

นนฺทสฺสชฺฌาวรํ เอติ, อสฺสมํ พฺรหฺมจารินํ.

๑๒๗.

‘‘ตสฺเสสา มหตี เสนา, ปิฏฺิโต อนุวตฺตติ;

อกฺโขภณี อปริยนฺตา, สาครสฺเสว อูมิโย’’ติ.

ตตฺถ ชลนฺตํริวาติ ชลนฺตํ วิย. ปฏิปนฺนานีติ เอตานิ ตูริยานิ กสฺส ปุรโต อาคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ. หาสยนฺตาติ โตเสนฺตา. กฺจนปฏฺเฏนาติ, ตาต, กสฺส กฺจนมเยน วิชฺชุวณฺเณน อุณฺหีสปฏฺเฏน นลาฏนฺโต ปริกฺขิตฺโตติ ปุจฺฉติ. ยุวาติ ตรุโณ. กลาปสนฺนทฺโธติ สนฺนทฺธสรตูณีโร. อุกฺกามุขปหฏฺํ วาติ กมฺมารานํ อุทฺธเน ปหฏฺํ สุวณฺณํ วิย. ขทิรงฺคารสนฺนิภนฺติ วีตจฺจิตขทิรงฺคารวณฺณํ. อาทิจฺจรํสาวรณนฺติอาทิจฺจรํสีนํ อาวรณํ. องฺคํ ปริคฺคยฺหาติ องฺคํ ปริคฺคเหตฺวา, สรีรํ ปริกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. วาลพีชนิมุตฺตมนฺติ วาลพีชนึ อุตฺตมํ . จรนฺตีติ สฺจรนฺติ. ฉตฺตานีติ อาชานียปิฏฺเ นิสินฺนานํ ธาริตฉตฺตานิ. ปริกีเรนฺตีติ ตสฺส สมนฺตา สพฺพทิสาภาเคสุ ปริกีรยนฺติ. จตุรงฺคินีติ เอเตหิ หตฺถิอาทีหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา. อกฺโขภณีติ โขเภตุํ น สกฺกา. สาครสฺเสวาติ สาครสฺส อูมิโย วิย อปริยนฺตา. ราชาภิราชาติ เอกสตราชูนํ ปูชิโต, เตสํ วา อธิโก ราชาติ ราชาภิราชา. ชยตํ ปตีติ ชยปฺปตฺตานํ ตาวตึสานํ เชฏฺโก. อชฺฌาวรนฺติ มมํ ขมาปนตฺถาย นนฺทสฺส ปริสภาวํ อุปคนฺตฺวา เอติ.

สตฺถา อาห –

๑๒๘.

‘‘อนุลิตฺตา จนฺทเนน, กาสิกุตฺตมธาริโน;

สพฺเพ ปฺชลิกา หุตฺวา, อิสีนํ อชฺฌุปาคมุ’’นฺติ.

ตตฺถ อิสีนํ อชฺฌุปาคมุนฺติ, ภิกฺขเว, สพฺเพปิ เต ราชาโน สุรภิจนฺทเนน อนุลิตฺตา อุตฺตมกาสิกวตฺถธาริโน สิรสิ ปติฏฺาปิตอฺชลี หุตฺวา อิสีนํ สนฺติกํ อุปคตา.

ตโต มโนโช ราชา ตํ วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๑๒๙.

‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ อุฺเฉน ยาเปถ, กจฺจิ มูลผลา พหู.

๑๓๐.

‘‘กจฺจิ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;

วเน วาฬมิคากิณฺเณ, กจฺจิ หึสา น วิชฺชตี’’ติ.

ตโต ปรํ อุภินฺนํ เตสํ วจนปฏิวจนวเสน กถิตคาถา โหนฺติ –

๑๓๑.

‘‘กุสลฺเจว โน ราช, อโถ ราช อนามยํ;

อโถ อุฺเฉน ยาเปม, อโถ มูลผลา พหู.

๑๓๒.

‘‘อโถ ฑํสา มกสา จ, อปฺปเมว สรีสปา;

วเน วาฬมิคากิณฺเณ, หึสา มยฺหํ น วิชฺชติ.

๑๓๓.

‘‘พหูนิ วสฺสปูคานิ, อสฺสเม สมฺมตํ อิธ;

นาภิชานามิ อุปฺปนฺนํ, อาพาธํ อมโนรมํ.

๑๓๔.

‘‘สฺวาคตํ เต มหาราช, อโถ เต อทุราคตํ;

อิสฺสโรสิ อนุปฺปตฺโต, ยํ อิธตฺถิ ปเวทย.

๑๓๕.

‘‘ตินฺทุกานิ ปิยาลานิ, มธุเก กาสุมาริโย;

ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ, ภุฺช ราช วรํ วรํ.

๑๓๖.

‘‘อิทมฺปิ ปานียํ สีตํ, อาภตํ คิริคพฺภรา;

ตโต ปิว มหาราช, สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ.

๑๓๗.

‘‘ปฏิคฺคหิตํ ยํ ทินฺนํ, สพฺพสฺส อคฺฆิยํ กตํ;

นนฺทสฺสาปิ นิสาเมถ, วจนํ โส ปวกฺขติ.

๑๓๘.

‘‘อชฺฌาวรมฺหา นนฺทสฺส, โภโต สนฺติกมาคตา;

สุณาตุ ภวํ วจนํ, นนฺทสฺส ปริสาย จา’’ติ.

อิมา เยภุยฺเยน ปากฏสมฺพนฺธาเยว, ยํ ปเนตฺถ อปากฏํ, ตเทว วกฺขาม. ปเวทยาติ ยํ อิมสฺมึ าเน ตว อภิรุจิตํ อตฺถิ, ตํ โน กเถหีติ วทติ. ขุทฺทกปฺปานีติ เอตานิ นานารุกฺขผลานิ ขุทฺทกมธุปฏิภาคานิ มธุรานิ. วรํ วรนฺติ อิโต อุตฺตมุตฺตมํ คเหตฺวา ภุฺช. คิริคพฺภราติ อโนตตฺตโต. สพฺพสฺส อคฺฆิยนฺติ เยน มยํ อาปุจฺฉิตา, ตํ อมฺเหหิ ปฏิคฺคหิตํ นาม ตุมฺเหหิ จ ทินฺนเมว นาม, เอตฺตาวตา อิมสฺส ชนสฺส สพฺพสฺส อคฺฆิยํ ตุมฺเหหิ กตํ. นนฺทสฺสาปีติ อมฺหากํ ตาว สพฺพํ กตํ, อิทานิ ปน นนฺทปณฺฑิโต กิฺจิ วตฺตุกาโม , ตสฺสปิ ตาว วจนํ สุณาถ. อชฺฌาวรมฺหาติ มยฺหิ น อฺเน กมฺเมน อาคตา, นนฺทสฺส ปน ปริสา หุตฺวา ตุมฺหากํ ขมาปนตฺถาย อาคตาติ วทติ. ภวนฺติ ภวํ โสณปณฺฑิโต สุณาตุ.

เอวํ วุตฺเต นนฺทปณฺฑิโต อุฏฺายาสนา มาตาปิตโร จ ภาตรฺจ วนฺทิตฺวา สกปริสาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๑๓๙.

‘‘ปโรสตํ ชานปทา, มหาสาลา จ พฺราหฺมณา;

อิเม จ ขตฺติยา สพฺเพ, อภิชาตา ยสสฺสิโน;

ภวฺจ ราชา มโนโช, อนุมฺนฺตุ เม วโจ.

๑๔๐.

‘‘เย จ สนฺติ สมีตาโร, ยกฺขานิ อิธ มสฺสเม;

อรฺเ ภูตภพฺยานิ, สุณนฺตุ วจนํ มม.

๑๔๑.

‘‘นโม กตฺวาน ภูตานํ, อิสึ วกฺขามิ สุพฺพตํ;

โส ตฺยาหํ ทกฺขิณา พาหุ, ตว โกสิย สมฺมโต.

๑๔๒.

‘‘ปิตรํ เม ชเนตฺติฺจ, ภตฺตุกามสฺส เม สโต;

วีร ปุฺมิทํ านํ, มา มํ โกสิย วารย.

๑๔๓.

‘‘สพฺภิ เหตํ อุปฺาตํ, มเมตํ อุปนิสฺสช;

อุฏฺานปาริจริยาย, ทีฆรตฺตํ ตยา กตํ;

ธาตาปิตูสุ ปุฺานิ, มม โลกทโท ภว.

๑๔๔.

‘‘ตเถว สนฺติ มนุชา, ธมฺเม ธมฺมปทํ วิทู;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, ยถา ชานาสิ ตฺวํ อิเส.

๑๔๕.

‘‘อุฏฺานปาริจริยาย, มาตาปิตุสุขาวหํ;

ตํ มํ ปุฺา นิวาเรติ, อริยมคฺคาวโร นโร’’ติ.

ตตฺถ อนุมฺนฺตูติ อนุพุชฺฌนฺตุ, สาธุกํ สุตฺวา ปจฺจกฺขํ กโรนฺตูติ อตฺโถ. สมีตาโรติ สมาคตา. อรฺเ ภูตภพฺยานีติ อสฺมึ หิมวนฺตารฺเ ยานิ ภูตานิ เจว วุฑฺฒิมริยาทปฺปตฺตานิ ภพฺยานิ จ ตรุณเทวตานิ, ตานิปิ สพฺพานิ มม วจนํ สุณนฺตูติ อตฺโถ. ‘‘นโม กตฺวานา’’ติ อิทํ โส ปริสาย สฺํ ทตฺวา ตสฺมึ วนสณฺเฑ นิพฺพตฺตเทวตานํ นมกฺการํ กตฺวา อาห. ตสฺสตฺโถ – อชฺช พหูหิ เทวตาหิ มม ภาติกสฺส ธมฺมกถาสวนตฺถํ อาคตาหิ ภวิตพฺพํ, อหํ โว นมกฺกาโร, ตุมฺเหปิ มยฺหํ สหายา โหถาติ. โส เทวตานํ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ปริสํ ชานาเปตฺวา ‘‘อิสึ วกฺขามี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิสินฺติ โสณปณฺฑิตํ สนฺธาย วทติ. สมฺมโตติ ภาตโร นาม องฺคสมา โหนฺติ, ตสฺมา โส เต อหํ ทกฺขิณา พาหูติ สมฺมโต. เตน เม ขมิตุํ อรหถาติ ทีเปติ.

วีราติ วีริยวนฺต มหาปรกฺกม. ปุฺมิทํ านนฺติ อิทํ มาตาปิตุอุปฏฺานํ นาม ปุฺํ สคฺคสํวตฺตนิกการณํ, ตํ กโรนฺตํ มํ มา วารยาติ วทติ. สพฺภิ เหตนฺติ เอตฺหิ มาตาปิตุอุปฏฺานํ นาม ปณฺฑิเตหิ อุปฺาตํ อุปคนฺตฺวา าตฺเจว วณฺณิตฺจ. มเมตํ อุปนิสฺสชาติ อิทํ ตฺวํ มยฺหํ นิสฺสช วิสฺสชฺเชหิ เทหิ. อุฏฺานปาริจริยายาติ อุฏฺาเนน จ ปาริจริยาย จ. กตนฺติ ทีฆรตฺตํ ตยา กุสลํ กตํ. ปุฺานีติ อิทานิ อหํ มาตาปิตูสุ ปุฺานิ กตฺตุกาโม. มม โลกทโทติ ตสฺส มม ตฺวํ สคฺคโลกทโท โหติ, อหฺหิ เตสํ วตฺตํ อุปฏฺานํ กตฺวา เทวโลเก อปริมาณํ ยสํ ลภิสฺสามิ, ตสฺส เม ตฺวํ ทายโก โหหีติ วทติ.

ตเถวาติ ยถา ตฺวํ ชานาสิ, ตเถว อฺเปิ มนุชา อิมิสฺสํ ปริสายํ สนฺติ, เต นานปฺปกาเร ธมฺเม อิทํ เชฏฺาปจายิกภาวสงฺขาตํ ธมฺมโกฏฺาสํ วทนฺติ. กินฺติ? มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺสาติ. สุขาวหนฺติ อุฏฺาเนน จ ปาริจริยาย จ มาตาปิตูนํ สุขาวหํ. ตํ มนฺติ ตํ มํ เอวํ สมฺมาปฏิปนฺนมฺปิ ภาตา โสณปณฺฑิโต ตมฺหา ปุฺา อภิวาเรติ. อริยมคฺคาวโรติ โส เอวํ วาเรนฺโต อยํ นโร มม ปิยทสฺสนตาย อริยสงฺขาตสฺส เวทโลกสฺส มคฺคาวรโณ นาม โหตีติ.

เอวํ นนฺทปณฺฑิเตน วุตฺเต มหาสตฺโต ‘‘อิมสฺส ตาว ตุมฺเหหิ วจนํ สุตํ, อิทานิ มมปิ สุณาถา’’ติ สาเวนฺโต อาห –

๑๔๖.

‘‘สุณนฺตุ โภนฺโต วจนํ, ภาตุรชฺฌาวรา มม;

กุลวํสํ มหาราช, โปราณํ ปริหาปยํ;

อธมฺมจารี เชฏฺเสุ, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๔๗.

‘‘เย จ ธมฺมสฺส กุสลา, โปราณสฺส ทิสมฺปติ;

จาริตฺเตน จ สมฺปนฺนา, น เต คจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

๑๔๘.

‘‘มาตา ปิตา จ ภาตา จ, ภคินี าติ พนฺธวา;

สพฺเพ เชฏฺสฺส เต ภารา, เอวํ ชานาหิ ภารธ.

๑๔๙.

‘‘อาทิยิตฺวา ครุํ ภารํ, นาวิโก วิย อุสฺสเห;

ธมฺมฺจ นปฺปมชฺชามิ, เชฏฺโ จสฺมิ รเถสภา’’ติ.

ตตฺถ ภาตุรชฺฌาวราติ มม ภาตุ ปริสา หุตฺวา อาคตา โภนฺโต สพฺเพปิ ราชาโน มมปิ ตาว วจนํ สุณนฺตุ. ปริหาปยนฺติ ปริหาเปนฺโต. ธมฺมสฺสาติ เชฏฺาปจายนธมฺมสฺส ปเวณีธมฺมสฺส. กุสลาติ เฉกา. จาริตฺเตน จาติ อาจารสีเลน สมฺปนฺนา. ภาราติ สพฺเพ เอเต เชฏฺเน วหิตพฺพา ปฏิชคฺคิตพฺพาติ ตสฺส ภารา นาม. นาวิโก วิยาติ ยถา นาวาย ครุํ ภารํ อาทิยิตฺวา สมุทฺทมชฺเฌ นาวํ โสตฺถินา เนตุํ นาวิโก อุสฺสเหติ วายมติ, สห นาวาย สพฺพภณฺฑฺจ ชโน จ ตสฺเสว ภาโร โหติ, ตถา มเมว สพฺเพ าตกา ภาโรติ , อหฺจ เต อุสฺสหามิ ปฏิชคฺคิตุํ สกฺโกมิ, ตฺจ เชฏฺาปจายนธมฺมํ นปฺปมชฺชามิ, น เกวลฺจ เอเตสฺเว, สกลสฺสปิ โลกสฺส เชฏฺโ จ อสฺมิ, ตสฺมา อหเมว สทฺธึ นนฺเทน ปฏิชคฺคิตุํ ยุตฺโตติ.

ตํ สุตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน อตฺตมนา หุตฺวา ‘‘เชฏฺภาติกสฺส กิร อวเสสา ภาราติ อชฺช อมฺเหหิ าต’’นฺติ นนฺทปณฺฑิตํ ปหาย มหาสตฺตํ สนฺนิสฺสิตา หุตฺวา ตสฺส ถุตึ กโรนฺตา ทฺเว คาถา อภาสึสุ –

๑๕๐.

‘‘อธิคมา ตเม าณํ, ชาลํว ชาตเวทโต;

เอวเมว โน ภวํ ธมฺมํ, โกสิโย ปวิทํสยิ.

๑๕๑.

‘‘ยถา อุทยมาทิจฺโจ, วาสุเทโว ปภงฺกโร;

ปาณีนํ ปวิทํเสติ, รูปํ กลฺยาณปาปกํ;

เอวเมว โน ภวํ ธมฺมํ, โกสิโย ปวิทํสยี’’ติ.

ตตฺถ อธิคมาติ มยํ อิโต ปุพฺเพ เชฏฺาปจายนธมฺมปฏิจฺฉาทเก ตเม วตฺตมานา น ชานาม, อชฺช ชาตเวทโต ชาลํว าณํ อธิคตา. เอวเมว โนติ ยถา มหนฺธกาเร ปพฺพตมตฺถเก ชลิโต ชาตเวโท สมนฺตา อาโลกํ ผรนฺโต รูปานิ ทสฺเสติ, ตถา โน ภวํ โกสิยโคตฺโต ธมฺมํ ปวิทํสยีติ อตฺโถ. วาสุเทโวติ วสุเทโว วสุโชตโน, ธนปกาสโนติ อตฺโถ.

อิติ มหาสตฺโต เอตฺตกํ กาลํ นนฺทปณฺฑิตสฺส ปาฏิหาริยานิ ทิสฺวา ตสฺมึ ปสนฺนจิตฺเต เต ราชาโน าณพเลน ตสฺมึ ปสาทํ ภินฺทิตฺวา อตฺตโน กถํ คาหาเปตฺวา สพฺเพว อตฺตโน มุขํ อุลฺโลกิเต อกาสิ. อถ นนฺทปณฺฑิโต ‘‘ภาตา เม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ธมฺมกถิโก สพฺเพปิเม ราชาโน ภินฺทิตฺวา อตฺตโน ปกฺเข กริ, เปตฺวา อิมํ อฺโ มยฺหํ ปฏิสรณํ นตฺถิ, อิมเมว ยาจิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๕๒.

‘‘เอวํ เม ยาจมานสฺส, อฺชลึ นาวพุชฺฌถ;

ตว พทฺธจโร เหสฺสํ, วุฏฺิโต ปริจารโก’’ติ.

ตสฺสตฺถา – สเจ ตุมฺเห มม เอวํ ยาจมานสฺส ขมาปนตฺถาย ปคฺคหิตํ อฺชลึ นาวพุชฺฌถ น ปฏิคฺคณฺหถ, ตุมฺเหว มาตาปิตโร อุปฏฺหถ, อหํ ปน ตุมฺหากํ พทฺธจโร เวยฺยาวจฺจกโร เหสฺสํ, รตฺตินฺทิวํ อนลสภาเวน วุฏฺิโต ปริจารโก อหํ ตุมฺเห ปฏิชคฺคิสฺสามีติ.

มหาสตฺตสฺส ปกติยาปิ นนฺทปณฺฑิเต โทโส วา เวรํ วา นตฺถิ, อติถทฺธํ วจนํ กเถนฺตสฺส ปนสฺส มานหาปนตฺถํ นิคฺคหวเสน ตถา กตฺวา อิทานิสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺจิตฺโต ตสฺมึ ปสาทํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘อิทานิ เต ขมามิ, มาตาปิตโร จ ปฏิชคฺคิตุํ ลภิสฺสสี’’ติ ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๕๓.

‘‘อทฺธา นนฺท วิชานาสิ, สทฺธมฺมํ สพฺภิ เทสิตํ;

อริโย อริยสมาจาโร, พาฬฺหํ ตฺวํ มม รุจฺจสิ.

๑๕๔.

‘‘ภวนฺตํ วทามิ โภติฺจ, สุณาถ วจนํ มม;

นายํ ภาโร ภารมโต, อหุ มยฺหํ กุทาจนํ.

๑๕๕.

‘‘ตํ มํ อุปฏฺิตํ สนฺตํ, มาตาปิตุ สุขาวหํ;

นนฺโท อชฺฌาวรํ กตฺวา, อุปฏฺานาย ยาจติ.

๑๕๖.

‘‘โย เว อิจฺฉติ กาเมน, สนฺตานํ พฺรหฺมจารินํ;

นนฺทํ โว วรถ เอโก, กํ นนฺโท อุปติฏฺตู’’ติ.

ตตฺถ อริโยติ สุนฺทโร. อริยสมาจาโรติ สุนฺทรสมาจาโรปิ ชาโต. พาฬฺหนฺติ อิทานิ ตฺวํ มม อติวิย รุจฺจสิ. สุณาถาติ อมฺม ตาตา ตุมฺเห มม วจนํ สุณาถ. นายํ ภาโรติ อยํ ตุมฺหากํ ปฏิชคฺคนภาโร น กทาจิ มม ภารมโต อหุ. ตํ มนฺติ ตํ ภาโรติ อมฺิตฺวาว มํ ตุมฺเห อุปฏฺิตํ สมานํ. อุปฏฺานาย ยาจตีติ ตุมฺเห อุปฏฺาตุํ มํ ยาจติ. โย เว อิจฺฉตีติ มยฺหฺหิ ตฺวํ เม มาตรํ วา ปิตรํ วา อุปฏฺหาติ วตฺตุํ น ยุตฺตํ, ตุมฺหากํ ปน สนฺตานํ พฺรหฺมจารีนํ โย เอโก อิจฺฉติ, ตํ วทามิ กาเมน นนฺทํ โว วรถ, ตํ มม กนิฏฺํ นนฺทํ โรเจถ, ตุมฺเหสุ กํ เอส อุปฏฺาตุ, อุโภปิ หิ มยํ ตุมฺหากํ ปุตฺตาเยวาติ.

อถสฺส มาตา อาสนา วุฏฺาย, ‘‘ตาต โสณปณฺฑิต, จิรปฺปวุตฺโถ เต กนิฏฺโ, เอวํ จิราคตมฺปิ ตํ ยาจิตุํ น วิสหามิ, มยฺหิ ตํ นิสฺสิตา, อิทานิ ปน ตยา อนุฺาตา อหํ เอตํ พฺรหฺมจารินํ พาหาหิ อุปคูหิตฺวา สีเส อุปสิงฺฆายิตุํ ลเภยฺย’’นฺติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺตี คาถมาห –

๑๕๗.

‘‘ตยา ตาต อนุฺาตา, โสณ ตํ นิสฺสิตา มยํ;

อุปฆาตุํ ลเภ นนฺทํ, มุทฺธนิ พฺรหฺมจาริน’’นฺติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ, อมฺม, อนุชานามิ, ตฺวํ คจฺฉ, ปุตฺตํ นนฺทํ อาลิงฺคิตฺวา สีเส ฆายิตฺวา จุมฺพิตฺวา ตว หทเย โสกํ นิพฺพาเปหี’’ติ อาห. สา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา นนฺทปณฺฑิตํ ปริสมชฺเฌเยว อาลิงฺคิตฺวา สีสํ ฆายิตฺวา จุมฺพิตฺวา หทเย โสกํ นิพฺพาเปตฺวา มหาสตฺเตน สทฺธึ สลฺลปนฺตี อาห –

๑๕๘.

‘‘อสฺสตฺถสฺเสว ตรุณํ, ปวาฬํ มาลุเตริตํ;

จิรสฺสํ นนฺทํ ทิสฺวาน, หทยํ เม ปเวธติ.

๑๕๙.

‘‘ยทา สุตฺตาปิ สุปิเน, นนฺทํ ปสฺสามิ อาคตํ;

อุทคฺคา สุมนา โหมิ, นนฺโท โน อาคโต อยํ.

๑๖๐.

‘‘ยทา จ ปฏิพุชฺฌิตฺวา, นนฺทํ ปสฺสามิ นาคตํ;

ภิยฺโย อาวิสตี โสโก, โทมนสฺสฺจนปฺปกํ.

๑๖๑.

‘‘สาหํ อชฺช จิรสฺสมฺปิ, นนฺทํ ปสฺสามิ อาคตํ;

ภตฺตุจฺจ มยฺหฺจ ปิโย, นนฺโท โน ปาวิสี ฆรํ.

๑๖๒.

‘‘ปิตุปิ นนฺโท สุปฺปิโย, ยํ นนฺโท นปฺปวเส ฆรา;

ลภตู ตาต นนฺโท ตํ, มํ นนฺโท อุปติฏฺตู’’ติ.

ตตฺถ มาลุเตริตนฺติ ยถา วาตาหตํ อสฺสตฺถสฺส ปลฺลวํ กมฺปติ, เอวํ จิรสฺสํ นนฺทํ ทิสฺวา อชฺช มม หทยํ กมฺปตีติ วทติ. สุตฺตาติ, ตาต โสณ, ยทาหํ สุตฺตาปิ สุปิเน นนฺทํ อาคตํ ปสฺสามิ, ตทาปิ อุทคฺคา โหมิ. ภตฺตุจฺจาติ สามิกสฺส จ เม มยฺหฺจ ปิโย. นนฺโท โน ปาวิสี ฆรนฺติ, ตาต, ปุตฺโต โน นนฺโท ปณฺณสาลํ ปวิสตุ. นฺติ ยสฺมา ปิตุปิ สุฏฺุ ปิโย, ตสฺมา ปุน อิมมฺหา ฆรา น วิปฺปวเสยฺย. นนฺโทนฺติ, ตาต, นนฺโท ยํ อิจฺฉติ, ตํ ลภตุ. มํ นนฺโทติ, ตาต โสณ, ตว ปิตรํ ตฺวํ อุปฏฺห, มํ นนฺโท อุปฏฺาตุ.

มหาสตฺโต ‘‘เอวํ โหตู’’ติ มาตุ วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘นนฺท, ตยา เชฏฺกโกฏฺาโส ลทฺโธ, มาตา นาม อติคุณการิกา, อปฺปมตฺโต หุตฺวา ปฏิชคฺเคยฺยาสี’’ติ โอวทิตฺวา มาตุ คุณํ ปกาเสนฺโต ทฺเว คาถา อภาสิ –

๑๖๓.

‘‘อนุกมฺปิกา ปติฏฺา จ, ปุพฺเพ รสทที จ โน;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, มาตา ตํ วรเต อิเส.

๑๖๔.

‘‘ปุพฺเพ รสทที โคตฺตี, มาตา ปุฺูปสํหิตา;

มคฺโค สคฺคสฺส โลกสฺส, มาตา ตํ วรเต อิเส’’ติ.

ตตฺถ อนุกมฺปิกาติ มุทุหทยา. ปุพฺเพ รสททีติ ปมเมว อตฺตโน ขีรสงฺขาตสฺส รสสฺส ทายิกา. มาตา ตนฺติ มม มาตา มํ น อิจฺฉติ, ตํ วรติ อิจฺฉติ. โคตฺตีติ โคปายิกา. ปุฺูปสํหิตาติ ปุฺูปนิสฺสิตา ปุฺทายิกา.

เอวํ มหาสตฺโต ทฺวีหิ คาถาหิ มาตุ คุณํ กเถตฺวา ปุนาคนฺตฺวา ตสฺสา อาสเน นิสินฺนกาเล ‘‘นนฺท, ตฺวํ ทุกฺกรการิกํ มาตรํ ลภสิ, อุโภปิ มยํ มาตรา ทุกฺเขน สํวฑฺฒิตา, ตํ อิทานิ ตฺวํ อปฺปมตฺโต ปฏิชคฺคาหิ, อมธุรานิ ผลาผลานิ มา ขาทาเปหี’’ติ วตฺวา ปริสมชฺเฌเยว มาตุ ทุกฺกรการิกตํ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๖๕.

‘‘อากงฺขมานา ปุตฺตผลํ, เทวตาย นมสฺสติ;

นกฺขตฺตานิ จ ปุจฺฉติ, อุตุสํวจฺฉรานิ จ.

๑๖๖.

‘‘ตสฺสา อุตุมฺหิ นฺหาตาย, โหติ คพฺภสฺส โวกฺกโม;

เตน โทหฬินี โหติ, สุหทา เตน วุจฺจติ.

๑๖๗.

‘‘สํวจฺฉรํ วา อูนํ วา, ปริหริตฺวา วิชายติ;

เตน สา ชนยนฺตีติ, ชเนตฺติ เตน วุจฺจติ.

๑๖๘.

‘‘ถนขีเรน คีเตน, องฺคปาวุรเณน จ;

โรทนฺตํ ปุตฺตํ โตเสติ, โตเสนฺตี เตน วุจฺจติ.

๑๖๙.

‘‘ตโต วาตาตเป โฆเร, มมํ กตฺวา อุทิกฺขติ;

ทารกํ อปฺปชานนฺตํ, โปเสนฺตี เตน วุจฺจติ.

๑๗๐.

‘‘ยฺจ มาตุธนํ โหติ, ยฺจ โหติ ปิตุทฺธนํ;

อุภยมฺเปตสฺส โคเปติ, อปิ ปุตฺตสฺส โน สิยา.

๑๗๑.

‘‘เอวํ ปุตฺต อทุํ ปุตฺต, อิติ มาตา วิหฺติ;

ปมตฺตํ ปรทาเรสุ, นิสีเถ ปตฺตโยพฺพเน;

สายํ ปุตฺตํ อนายนฺตํ, อิติ มาตา วิหฺติ.

๑๗๒.

‘‘เอวํ กิจฺฉา ภโต โปโส, มาตุ อปริจารโก;

มาตริ มิจฺฉา จริตฺวาน, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๗๓.

‘‘เอวํ กิจฺฉา ภโต โปโส, ปิตุ อปริจารโก;

ปิตริ มิจฺฉา จริตฺวาน, นิรยํ โสปปชฺชติ.

๑๗๔.

‘‘ธนาปิ ธนกามานํ, นสฺสติ อิติ เม สุตํ;

มาตรํ อปริจริตฺวาน, กิจฺฉํ วา โส นิคจฺฉติ.

๑๗๕.

‘‘ธนาปิ ธนกามานํ, นสฺสติ อิติ เม สุตํ;

ปิตรํ อปริจริตฺวาน, กิจฺฉํ วา โส นิคจฺฉติ.

๑๗๖.

‘‘อานนฺโท จ ปโมโท จ, สทา หสิตกีฬิตํ;

มาตรํ ปริจริตฺวาน, ลพฺภเมตํ วิชานโต.

๑๗๗.

‘‘อานนฺโท จ ปโมโท จ, สทา หสิตกีฬิตํ;

ปิตรํ ปริจริตฺวาน, ลพฺภเมตํ วิชานโต.

๑๗๘.

‘‘ทานฺจ ปิยวาจา จ, อตฺถจริยา จ ยา อิธ;

สมานตฺตตา จ ธมฺเมสุ, ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ;

เอเต โข สงฺคหา โลเก, รถสฺสาณีว ยายโต.

๑๗๙.

‘‘เอเต จ สงฺคหา นาสฺสุ, น มาตา ปุตฺตการณา;

ลเภถ มานํ ปูชํ วา, ปิตา วา ปุตฺตการณา.

๑๘๐.

‘‘ยสฺมา จ สงฺคหา เอเต, สมฺมเปกฺขนฺติ ปณฺฑิตา;

ตสฺมา มหตฺตํ ปปฺโปนฺติ, ปาสํสา จ ภวนฺติ เต.

๑๘๑.

‘‘พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร, ปุพฺพาจริยาติ วุจฺจเร;

อาหุเนยฺยา จ ปุตฺตานํ, ปชาย อนุกมฺปกา.

๑๘๒.

‘‘ตสฺมา หิ เน นมสฺเสยฺย, สกฺกเรยฺย จ ปณฺฑิโต;

อนฺเนน อโถ ปาเนน, วตฺเถน สยเนน จ;

อุจฺฉาทเนน นฺหาปเนน, ปาทานํ โธวเนน จ.

๑๘๓.

‘‘ตาย นํ ปาริจริยาย, มาตาปิตูสุ ปณฺฑิตา;

อิเธว นํ ปสํสนฺติ, เปจฺจ สคฺเค ปโมทตี’’ติ.

ตตฺถ ปุตฺตผลนฺติ ปุตฺตสงฺขาตํ ผลํ. เทวตาย นมสฺสตีติ ‘‘ปุตฺโต เม อุปฺปชฺชตู’’ติ เทวตาย นมกฺการํ กโรติ อายาจติ. ปุจฺฉตีติ ‘‘กตเรน นกฺขตฺเตน ชาโต ปุตฺโต ทีฆายุโก โหติ, กตเรน อปฺปายุโก’’ติ เอวํ นกฺขตฺตานิ จ ปุจฺฉติ. อุตุสํวจฺฉรานิ จาติ ‘‘ฉนฺนํ อุตูนํ กตรสฺมึ อุตุมฺหิ ชาโต ทีฆายุโก โหติ, กตรสฺมึ อุตุมฺหิ อปฺปายุโก, กติวสฺสาย วา มาตุยา ชาโต ปุตฺโต ทีฆายุโก โหติ, กติวสฺสาย อปฺปายุโก’’ติ เอวํ อุตุสํวจฺฉรานิ จ ปุจฺฉติ. อุตุมฺหิ นฺหาตายาติ ปุปฺเผ อุปฺปนฺเน อุตุมฺหิ นฺหาตาย. โวกฺกโมติ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภาวกฺกนฺติ โหติ, กุจฺฉิยํ คพฺโภ ปติฏฺาติ. เตนาติ เตน คพฺเภน สา โทหฬินี โหติ. เตนาติ ตทา ตสฺสา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตปชาย สิเนโห อุปฺปชฺชติ, เตน การเณน ‘‘สุหทา’’ติ วุจฺจติ. เตนาติ เตน การเณน สา ‘‘ชนยนฺตี’’ติ จ ‘‘ชเนตฺตี’’ติ จ วุจฺจติ.

องฺคปาวุรเณน จาติ ถนนฺตเร นิปชฺชาเปตฺวา สรีรสมฺผสฺสํ ผราเปนฺตี องฺคสงฺขาเตเนว ปาวุรเณน. โตเสนฺตีติ สฺาเปนฺตี หาเสนฺตี. มมํ กตฺวา อุทิกฺขตีติ ‘‘ปุตฺตสฺส เม อุปริ วาโต ปหรติ, อาตโป ผรตี’’ติ เอวํ มมํการํ กตฺวา สินิทฺเธน หทเยน อุทิกฺขติ. อุภยมฺเปตสฺสาติ อุภยมฺปิ เอตํ ธนํ เอตสฺส ปุตฺตสฺส อตฺถาย อฺเสํ อทสฺเสตฺวา สารคพฺภาทีสุ มาตา โคเปติ. เอวํ ปุตฺต, อทุํ ปุตฺตาติ ‘‘อนฺธพาล ปุตฺต, เอวํ ราชกุลาทีสุ อปฺปมตฺโต โหหิ, อทุฺจ กมฺมํ มา กโรหี’’ติ สิกฺขาเปนฺตี อิติ มาตา วิหฺติ กิลมติ. ปตฺตโยพฺพเนติ ปุตฺเต ปตฺตโยพฺพเน ตํ ปุตฺตํ นิสีเถ ปรทาเรสุ ปมตฺตํ สายํ อนาคจฺฉนฺตํ ตฺวา อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ มคฺคํ โอโลเกนฺตี วิหฺติ กิลมติ.

กิจฺฉา ภโตติ กิจฺเฉน ภโต ปฏิชคฺคิโต. มิจฺฉา จริตฺวานาติ มาตรํ อปฏิชคฺคิตฺวา. ธนาปีติ ธนมฺปิ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ธนกามานํ อุปฺปนฺนํ ธนมฺปิ มาตรํ อปฏิชคฺคนฺตานํ นสฺสตีติ เม สุตนฺติ. กิจฺฉํ วา โสติ อิติ ธนํ วา ตสฺส นสฺสติ, ทุกฺขํ วาโส ปุริโส นิคจฺฉติ. ลพฺภเมตนฺติ เอตํ อิธโลเก จ ปรโลเก จ อานนฺทาทิสุขํ มาตรํ ปริจริตฺวา วิชานโต ปณฺฑิตสฺส ลพฺภํ, สกฺกา ลทฺธุํ ตาทิเสนาติ อตฺโถ.

ทานฺจาติ มาตาปิตูนํ ทานํ ทาตพฺพํ, ปิยวจนํ ภณิตพฺพํ, อุปฺปนฺนกิจฺจสาธนวเสน อตฺโถ จริตพฺโพ. ธมฺเมสูติ เชฏฺาปจายนธมฺเมสุ ตตฺถ ตตฺถ ปริสมชฺเฌ วา รโหคตานํ วา อภิวาทนาทิวเสน สมานตฺตตา กาตพฺพา, น รโห อภิวาทนาทีนิ กตฺวา ปริสติ น กาตพฺพานิ, สพฺพตฺถ สมาเนเนว ภวิตพฺพํ. เอเต จ สงฺคหา นาสฺสูติ สเจ เอเต จตฺตาโร สงฺคหา น ภเวยฺยุํ. สมฺมเปกฺขนฺตีติ สมฺมา นเยน การเณน เปกฺขนฺติ. มหตฺตนฺติ เสฏฺตฺตํ. พฺรหฺมาติ ปุตฺตานํ พฺรหฺมสมา อุตฺตมา เสฏฺา. ปุพฺพาจริยาติ ปมาจริยา. อาหุเนยฺยาติ อาหุนปฏิคฺคาหกา ยสฺส กสฺสจิ สกฺการสฺส อนุจฺฉวิกา. อนฺเนน อโถติ อนฺเนน เจว อตฺโถ ปาเนน จ. เปจฺจาติ กาลกิริยาย ปริโยสาเน อิโต คนฺตฺวา สคฺเค ปโมทตีติ.

เอวํ มหสตฺโต สิเนรุํ ปวฏฺเฏนฺโต วิย ธมฺมเทสนํ นิฏฺาเปสิ. ตํ สุตฺวา สพฺเพปิ เต ราชาโน พลกายา จ ปสีทึสุ. อถ เน ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ‘‘ทานาทีสุ อปฺปมตฺตา โหถา’’ติ โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. สพฺเพปิ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา อายุปริโยสาเน เทวนครํ ปูรยึสุ. โสณปณฺฑิตนนฺทปณฺฑิตาปิ ยาวตายุกํ มาตาปิตโร ปริจริตฺวา พฺรหฺมโลกปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มาตุโปสกภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิ. ตทา มาตาปิตโร มาหาราชกุลานิ อเหสุํ, นนฺทปณฺฑิโต อานนฺโท , มโนชราชา สาริปุตฺโต, เอกสตราชาโน อสีติมหาเถรา เจว อฺตรเถรา จ, จตุวีสติ อกฺโขภณิโย พุทฺธปริสา, โสณปณฺฑิโต ปน อหเมว อโหสินฺติ.

โสณนนฺทชาตกวณฺณนา ทุติยา.

ชาตกุทฺทานํ –

อถ สตฺตติมมฺหิ นิปาตวเร, สภาวนฺตุ กุสาวติราชวโร;

อถ โสณสุนนฺทวโร จ ปุน, อภิวาสิตสตฺตติมมฺหิ สุเตติ.

สตฺตตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.