📜

๒๑. อสีตินิปาโต

[๕๓๓] ๑. จูฬหํสชาตกวณฺณนา

สุมุขาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ชีวิตปริจฺจาคํ อารพฺภ กเถสิ. เทวทตฺเตน หิ ตถาคตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ ปโยชิเตสุ ธนุคฺคเหสุ สพฺพปมํ เปสิเตน อาคนฺตฺวา ‘‘นาหํ, ภนฺเต, สกฺโกมิ ตํ ภควนฺตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ, มหิทฺธิโก โส ภควา มหานุภาโว’’ติ วุตฺเต เทวทตฺโต ‘‘อลํ, อาวุโส, มา ตฺวํ สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปหิ, อหเมว สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติ วตฺวา ตถาคเต คิชฺฌกูฏปพฺพตสฺส ปจฺฉิมฉายาย จงฺกมนฺเต สยํ คิชฺฌกูฏํ ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ยนฺตเวเคน มหตึ สิลํ ปวิชฺฌิ, ‘‘อิมาย สิลาย สมณํ โคตมํ ชีวิตา โวโรเปสฺสามี’’ติ. ตทา ทฺเว ปพฺพตกูฏา สมาคนฺตฺวา ตํ สิลํ สมฺปฏิจฺฉึสุ. ตโต ปปฏิกา อุปฺปติตฺวา ภควโต ปาทํ ปหริตฺวา รุหิรํ อุปฺปาเทสิ, พลวเวทนา ปวตฺตึสุ. ชีวโก ตถาคตสฺส ปาทํ สตฺถเกน ผาเลตฺวา ทุฏฺโลหิตํ วเมตฺวา ปูติมํสํ อปเนตฺวา โธวิตฺวา เภสชฺชํ อาลิมฺปิตฺวา นิโรคมกาสิ. สตฺถา ปุริมสทิสเมว ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต มหติยา พุทฺธลีลาย วิจริ.

อถ นํ ทิสฺวา เทวทตฺโต จินฺเตสิ – ‘‘สมณสฺส โคตมสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ สรีรํ ทิสฺวา โกจิ มนุสฺสภูโต อุปสงฺกมิตุํ น สกฺโกติ, รฺโ โข ปน นาฬาคิริ นาม หตฺถี จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก พุทฺธธมฺมสงฺฆคุเณ น ชานาติ, โส ตํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสตี’’ติ. โส คนฺตฺวา รฺโ ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา หตฺถาจริยํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘สมฺม, สฺเว นาฬาคิรึ มตฺตํ กตฺวา ปาโตว สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ วิสฺสชฺเชหี’’ติ อาห. เทวทตฺโตปิ นํ ‘‘อฺเสุ ทิวเสสุ หตฺถี กิตฺตกํ สุรํ ปิวตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อฏฺ ฆเฏ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ สฺเว ตฺวํ ตํ โสฬส ฆเฏ ปาเยตฺวา สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ อภิมุขํ กเรยฺยาสี’’ติ อาห. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ราชา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘สฺเว นาฬาคิรึ มตฺตํ กตฺวา นคเร วิสฺสชฺเชสฺสติ, นาครา ปาโตว สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา อนฺตรวีถึ มา ปฏิปชฺชึสู’’ติ. เทวทตฺโตปิ ราชนิเวสนา โอรุยฺห หตฺถิสาลํ คนฺตฺวา หตฺถิโคปเก อามนฺเตตฺวา ‘‘มยํ ภเณ อุจฺจฏฺานิยํ นีจฏฺาเน, นีจฏฺานิยํ วา อุจฺจฏฺาเน กาตุํ สมตฺถา, สเจ โว ยเสน อตฺโถ, สฺเว ปาโตว นาฬาคิรึ ติขิณสุราย โสฬส ฆเฏ ปาเยตฺวา สมณสฺส โคตมสฺส อาคมนเวลาย ตุตฺตโตมเรหิ วิชฺฌิตฺวา กุชฺฌาเปตฺวา หตฺถิสาลํ ภินฺทาเปตฺวา สมเณน โคตเมน ปฏิปนฺนวีถิยํ อภิมุขํ กตฺวา สมณํ โคตมํ ชีวิตกฺขยํ ปาเปถา’’ติ อาห. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ.

สา ปวตฺติ สกลนคเร วิตฺถาริกา อโหสิ. พุทฺธธมฺมสงฺฆมามกา อุปาสกา ตํ สุตฺวา สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภนฺเต, เทวทตฺโต รฺา สทฺธึ เอกโต หุตฺวา สฺเว ตุมฺเหหิ ปฏิปนฺนวีถิยํ นาฬาคิรึ วิสฺสชฺชาเปสฺสติ, สฺเว ปิณฺฑาย อปวิสิตฺวา อิเธว โหถ, มยํ วิหาเรเยว พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภิกฺขํ ทสฺสามา’’ติ วทึสุ. สตฺถาปิ ‘‘สฺเว ปิณฺฑาย น ปวิสิสฺสามี’’ติ อวตฺวาว ‘‘อหํ สฺเว นาฬาคิรึ ทเมตฺวา ปาฏิหาริยํ กตฺวา ติตฺถิเย มทฺทิตฺวา ราชคเห ปิณฺฑาย อจริตฺวาว ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต นครา นิกฺขมิตฺวา เวฬุวนเมว อาคมิสฺสามิ, ราชคหวาสิโนปิ พหูนิ ภตฺตภาชนานิ คเหตฺวา เวฬุวนเมว อาคมิสฺสนฺติ, สฺเว วิหาเรเยว ภตฺตคฺคํ ภวิสฺสตี’’ติ อิมินา การเณน เตสํ อธิวาเสสิ. เต ตถาคตสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา ภตฺตภาชนานิ อาหริตฺวา ‘‘วิหาเรเยว ทานํ ทสฺสามา’’ติ ปกฺกมึสุ.

สตฺถาปิ ปมยาเม ธมฺมํ เทเสตฺวา มชฺฌิมยาเม เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชตฺวา ปจฺฉิมยามสฺส ปมโกฏฺาเส สีหเสยฺยํ กปฺเปตฺวา ทุติยโกฏฺาเส ผลสมาปตฺติยา วีตินาเมตฺวา ตติยโกฏฺาเส มหากรุณาสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย โพธเนยฺยพนฺธเว โอโลเกนฺโต นาฬาคิริทมเน จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมยํ ทิสฺวา วิภาตาย รตฺติยา กตสรีรปฏิชคฺคโน หุตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตตฺวา , ‘‘อานนฺท, อชฺช ราชคหปริวตฺตเกสุ อฏฺารสสุ มหาวิหาเรสุ สพฺเพสมฺปิ ภิกฺขูนํ มยาสทฺธึ ราชคหํ ปวิสิตุํ อาโรเจหี’’ติ อาห. เถโร ตถา อกาสิ. สพฺเพปิ ภิกฺขู เวฬุวเน สนฺนิปตึสุ. สตฺถา มหาภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ราชคหํ ปาวิสิ. อถ หตฺถิเมณฺฑา ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชึสุ, มหนฺโต สมาคโม อโหสิ. สทฺธาสมฺปนฺนา มนุสฺสา ‘‘อชฺช กิร พุทฺธนาคสฺส ติรจฺฉานนาเคน สงฺคาโม ภวิสฺสติ, อนูปมาย พุทฺธลีลาย นาฬาคิริทมนํ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทหมฺมิยเคหจฺฉทนาทีนิ อภิรุหิตฺวา อฏฺํสุ. อสทฺธา ปน มิจฺฉาทิฏฺิกา ‘‘อยํ นาฬาคิริ จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก พุทฺธาทีนํ คุณํ น ชานาติ, โส อชฺช สมณสฺส โคตมสฺส สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ วิทฺธํเสตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปสฺสติ, อชฺช ปจฺจามิตฺตสฺส ปิฏฺึ ปสฺสิสฺสามา’’ติ ปาสาทาทีสุ อฏฺํสุ.

หตฺถีปิ ภควนฺตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา มนุสฺเส ตาเสนฺโต เคหานิ วิทฺธํเสนฺโต สกฏานิ สํจุณฺเณนฺโต โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา ปหฏฺกณฺณวาโล ปพฺพโต วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต เยน ภควา เตนาภิธาวิ. ตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, นาฬาคิริ จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก อิมํ รจฺฉํ ปฏิปนฺโน, น โข ปนายํ พุทฺธาทิคุณํ ชานาติ, ปฏิกฺกมตุ, ภนฺเต, ภควา, ปฏิกฺกมตุ สุคโต’’ติ. มา, ภิกฺขเว, ภายิตฺถ, ปฏิพโล อหํ นาฬาคิรึ ทเมตุนฺติ. อถายสฺมา สาริปุตฺโต สตฺถารํ ยาจิ – ‘‘ภนฺเต, ปิตุ อุปฺปนฺนกิจฺจํ นาม เชฏฺปุตฺตสฺส ภาโร, อหเมว ตํ ทเมมี’’ติ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘สาริปุตฺต, พุทฺธพลํ นาม อฺํ, สาวกพลํ อฺํ, ติฏฺ ตฺว’’นฺติ ปฏิพาหิ. เอวํ เยภุยฺเยน อสีติ มหาเถรา ยาจึสุ. สตฺถา สพฺเพปิ ปฏิพาหิ. อถ อายสฺมา อานนฺโท สตฺถริ พลวสิเนเหน อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อยํ หตฺถี ปมํ มํ มาเรตู’’ติ ตถาคตสฺสตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา คนฺตฺวา สตฺถุ ปุรโต อฏฺาสิ. อถ นํ สตฺถา ‘‘อเปหิ, อานนฺท, มา เม ปุรโต อฏฺาสี’’ติ อาห. ‘‘ภนฺเต, อยํ หตฺถี จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก กปฺปุฏฺานคฺคิสทิโส ปมํ มํ มาเรตฺวา ปจฺฉา ตุมฺหากํ สนฺติกํ อาคจฺฉตู’’ติ เถโร อวจ. ยาวตติยํ วุจฺจมาโนปิ ตเถว อฏฺาสิ น ปฏิกฺกมิ. อถ นํ ภควา อิทฺธิพเลน ปฏิกฺกมาเปตฺวา ภิกฺขูนํ อนฺตเร เปสิ.

ตสฺมึ ขเณ เอกา อิตฺถี นาฬาคิรึ ทิสฺวา มรณภยภีตา ปลายมานา องฺเกน คหิตํ ทารกํ หตฺถิโน จ ตถาคตสฺส จ อนฺตเร ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิ. หตฺถี ตํ อนุพนฺธิตฺวา นิวตฺติตฺวา ทารกสฺส สนฺติกํ อคมาสิ. ตทา ทารโก มหารวํ รวิ. สตฺถา นาฬาคิรึ โอทิสฺสกเมตฺตาย ผริตฺวา สุมธุรํ พฺรหฺมสฺสรํ นิจฺฉาเรตฺวา ‘‘อมฺโภ นาฬาคิริ ตํ โสฬส สุราฆเฏ ปาเยตฺวา มตฺตํ กโรนฺตา น ‘อฺํ คณฺหิสฺสตี’ติ กรึสุ, ‘มํ คณฺหิสฺสตี’ติ ปน กรึสุ, มา อการเณน ชงฺฆาโย กิลเมนฺโต วิจริ, อิโต เอหี’’ติ ปกฺโกสิ. โส สตฺถุ วจนํ สุตฺวา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ภควโต รูปสิรึ โอโลเกตฺวา ปฏิลทฺธสํเวโค พุทฺธเตเชน ปจฺฉินฺนสุรามโท โสณฺฑํ โอลมฺเพนฺโต กณฺเณ จาเลนฺโต อาคนฺตฺวา ตถาคตสฺส ปาเทสุ ปติ. อถ นํ สตฺถา, ‘‘นาฬาคิริ, ตฺวํ ติรจฺฉานหตฺถี, อหํ พุทฺธวารโณ, อิโต ปฏฺาย มา จณฺโฑ ผรุโส มนุสฺสฆาตโก ภว, สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตจิตฺตํ ปฏิลภา’’ติ วตฺวา ทกฺขิณหตฺถํ ปสาเรตฺวา กุมฺเภ ปรามสิตฺวา –

‘‘มา กุฺชร นาคมาสโท, ทุกฺโข หิ กุฺชร นาคมาสโท;

น หิ นาคหตสฺส กุฺชร, สุคติ โหติ อิโต ปรํ ยโต.

‘‘มา จ มโท มา จ ปมาโท, น หิ ปมตฺตา สุคตึ วชนฺติ เต;

ตฺวฺเว ตถา กริสฺสสิ, เยน ตฺวํ สุคตึ คมิสฺสสี’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒) –

ธมฺมํ เทเสสิ.

ตสฺส สกลสรีรํ ปีติยา นิรนฺตรํ ผุฏํ อโหสิ. สเจ กิร ติรจฺฉานคโต นาภวิสฺสา, โสตาปตฺติผลํ อธิคมิสฺสา. มนุสฺสา ตํ ปาฏิหาริยํ ทิสฺวา อุนฺนทึสุ อปฺโผฏึสุ, สฺชาตโสมนสฺสา นานาภรณานิ ขิปึสุ, ตานิ หตฺถิสฺส สรีรํ ปฏิจฺฉาทยึสุ. ตโต ปฏฺาย นาฬาคิริ ธนปาลโก นาม ชาโต. ตสฺมึ โข ปน ธนปาลกสมาคเม จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ อมตํ ปิวึสุ. สตฺถา ธนปาลกํ ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. โส โสณฺฑาย ภควโต ปาเท ปํสูนิ คเหตฺวา อุปริ มุทฺธนิ อากิริตฺวา ปฏิกุฏิโตว ปฏิกฺกมิตฺวา ทสฺสนูปจาเร ิโต ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิวตฺติตฺวา หตฺถิสาลํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาย ทนฺตสุทนฺโต หุตฺวา น กฺจิ วิเหเติ. สตฺถา นิปฺผนฺนมโนรโถ ‘‘เยหิ ยํ ธนํ ขิตฺตํ, เตสฺเว ตํ โหตู’’ติ อธิฏฺาย ‘‘อชฺช มยา มหนฺตํ ปาฏิหาริยํ กตํ, อิมสฺมึ นคเร ปิณฺฑาย จรณํ อปฺปฏิรูป’’นฺติ ติตฺถิเย มทฺทิตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ชยปฺปตฺโต วิย ขตฺติโย นครา นิกฺขมิตฺวา เวฬุวนเมว คโต. นครวาสิโน พหุํ อนฺนปานขาทนียํ อาทาย วิหารํ คนฺตฺวา มหาทานํ ปวตฺตยึสุ.

ตํ ทิวสํ สายนฺหสมเย ธมฺมสภํ ปูเรตฺวา สนฺนิสินฺนา ภิกฺขู กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อายสฺมตา อานนฺเทน ตถาคตสฺสตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, นาฬาคิรึ ทิสฺวา สตฺถารา ติกฺขตฺตุํ ปฏิพาหิยมาโนปิ นาปคโต, อโห ทุกฺกรการโก, อาวุโส, อายสฺมา อานนฺโท’’ติ. สตฺถา ‘‘อานนฺทสฺส คุณกถา ปวตฺตติ, คนฺตพฺพํ มยา เอตฺถา’’ติ คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺโตปิ มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชิเยวา’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต มหึสกรฏฺเ สาคลนคเร สาคโล นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา นครโต อวิทูเร เอกสฺมึ เนสาทคามเก อฺตโร เนสาโท ปาเสหิ สกุเณ พนฺธิตฺวา นคเร วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. นครโต จ อวิทูเร อาวฏฺฏโต ทฺวาทสโยชโน มานุสิโย นาม ปทุมสโร อโหสิ ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺโน. ตตฺถ นานปฺปกาโร สกุณสงฺโฆ โอตริ. โส เนสาโท ตตฺถ อนิยาเมน ปาเส โอฑฺเฑสิ. ตสฺมึ กาเล ธตรฏฺโ หํสราชา ฉนฺนวุติหํสสหสฺสปริวาโร จิตฺตกูฏปพฺพเต สุวณฺณคุหายํ วสติ, สุมุโข นามสฺส เสนาปติ อโหสิ. อเถกทิวสํ ตโต หํสยูถา กติปยา สุวณฺณหํสา มานุสิยํ สรํ คนฺตฺวา ปหูตโคจเร ตสฺมึ ยถาสุขํ วิจริตฺวา สุหิตา จิตฺตกูฏํ อาคนฺตฺวา ธตรฏฺสฺส อาโรเจสุํ – ‘‘มหาราช, มนุสฺสปเถ มานุสิโย นาม ปทุมสโร สมฺปนฺนโคจโร, ตตฺถ โคจรํ คณฺหิตุํ คจฺฉามา’’ติ. โส ‘‘มนุสฺสปโถ นาม สาสงฺโก สปฺปฏิภโย, มา โว รุจฺจิตฺถา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวาปิ เตหิ ปุนปฺปุนํ วุจฺจมาโน ‘‘สเจ ตุมฺหากํ รุจฺจติ, คจฺฉามา’’ติ สปริวาโร ตํ สรํ อคมาสิ. โส อากาสา โอตรนฺโต ปาทํ ปาเส ปเวเสนฺโตเยว โอตริ. อถสฺส ปาโส ปาทํ อยปฏฺฏเกน กฑฺฒนฺโต วิย อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. อถสฺส ‘‘ฉินฺทิสฺสามิ น’’นฺติ อากฑฺฒนฺตสฺส ปมวาเร จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุ ฉิชฺชิ, ปาโส อฏฺึ อาหจฺจ อฏฺาสิ, โลหิตํ ปคฺฆริ, พลวเวทนา ปวตฺตึสุ.

โส จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกา เม อุตฺรสฺตา หุตฺวา โคจรํ อคฺคณฺหิตฺวา ฉาตชฺฌตฺตาว ปลายนฺตา ทุพฺพลตาย มหาสมุทฺเท ปติสฺสนฺตี’’ติ. โส เวทนํ อธิวาเสตฺวา าตีนํ ยาวทตฺถํ จริตฺวา หํสานํ กีฬนกาเล มหนฺเตน สทฺเทน พทฺธรวํ รวิ. ตํ สุตฺวา เต หํสา มรณภยตชฺชิตา วคฺควคฺคา หุตฺวา จิตฺตกูฏาภิมุขา ปกฺกมึสุ. เตสุ ปกฺกนฺเตสุ สุมุโข หํสเสนาปติ ‘‘กจฺจิ นุ โข อิทํ ภยํ มหาราชสฺส อุปฺปนฺนํ, ชานิสฺสามิ น’’นฺติ เวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส หํสคณสฺส อนฺตเร มหาสตฺตํ อทิสฺวา มชฺฌิมหํสคณํ วิจินิ, ตตฺถปิ อทิสฺวา ปจฺฉิมหํสคณํ วิจินิ, ตตฺถปิ อทิสฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ ตสฺเสเวทํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ นิวตฺติตฺวา อาคจฺฉนฺโต มหาสตฺตํ ปาเส พทฺธํ โลหิตมกฺขิตํ ทุกฺขาตุรํ ปงฺกปิฏฺเ นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ มม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ตุมฺเห ปาสโต โมเจสฺสามี’’ติ วทนฺโต โอตริตฺวา มหาสตฺตํ อสฺสาเสนฺโตว ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิ. อถ นํ วีมํสนฺโต มหาสตฺโต ปมํ คาถมาห –

.

‘‘สุมุข อนุปจินนฺตา, ปกฺกมนฺติ วิหงฺคมา;

คจฺฉ ตุวมฺปิ มา กงฺขิ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา’’ติ.

ตตฺถ อนุปจินนฺตาติ สิเนเหน อาลยวเสน อโนโลเกนฺตา. ปกฺกมนฺตีติ เอเต ฉนฺนวุติ หํสสหสฺสา าติวิหงฺคมา มํ ฉฑฺเฑตฺวา คจฺฉนฺติ, ตฺวมฺปิ คจฺฉ, มา อิธ วาสํ อากงฺขิ, เอวฺหิ ปาเสน พทฺเธ มยิ สหายตา นาม นตฺถิ, น หิ เต อหํ อิทานิ กิฺจิ สหายกิจฺจํ กาตุํ สกฺขิสฺสามิ, กึ เต มยา นิรูปกาเรน, ปปฺจํ อกตฺวา คจฺเฉวาติ วทติ.

อิโต ปรํ –

.

‘‘คจฺเฉ วาหํ น วา คจฺเฉ, น เตน อมโร สิยํ;

สุขิตํ ตํ อุปาสิตฺวา, ทุกฺขิตํ ตํ กถํ ชเห.

.

‘‘มรณํ วา ตยา สทฺธึ, ชีวิตํ วา ตยา วินา;

ตเทว มรณํ เสยฺโย, ยฺเจ ชีเว ตยา วินา.

.

‘‘เนส ธมฺโม มหาราช, ยํ ตํ เอวํ คตํ ชเห;

ยา คติ ตุยฺหํ สา มยฺหํ, รุจฺจเต วิหคาธิป.

.

‘‘กา นุ ปาเสน พทฺธสฺส, คติ อฺา มหานสา;

สา กถํ เจตยานสฺส, มุตฺตสฺส ตว รุจฺจติ.

.

‘‘กํ วา ตฺวํ ปสฺสเส อตฺถํ, มม ตุยฺหฺจ ปกฺขิม;

าตีนํ วาวสิฏฺานํ, อุภินฺนํ ชีวิตกฺขเย.

.

‘‘ยํ น กฺจนเทปิฺฉ, อนฺเธน ตมสา คตํ;

ตาทิเส สฺจชํ ปาณํ, กมตฺถมภิโชตเย.

.

‘‘กถํ นุ ปตตํ เสฏฺ, ธมฺเม อตฺถํ น พุชฺฌสิ;

ธมฺโม อปจิโต สนฺโต, อตฺถํ ทสฺเสติ ปาณินํ.

.

‘‘โสหํ ธมฺมํ อเปกฺขาโน, ธมฺมา จตฺถํ สมุฏฺิตํ;

ภตฺติฺจ ตยิ สมฺปสฺสํ, นาวกงฺขามิ ชีวิตํ.

๑๐. ‘‘อทฺธา เอโส สตํ ธมฺโม, โย มิตฺโต มิตฺตมาปเท.

น จเช ชีวิตสฺสาปิ, เหตุธมฺมมนุสฺสรํ.

๑๑.

‘‘สฺวายํ ธมฺโม จ เต จิณฺโณ, ภตฺติ จ วิทิตา มยิ;

กามํ กรสฺสุ มยฺเหตํ, คจฺเฉวานุมโต มยา.

๑๒.

‘‘อปิ ตฺเววํ คเต กาเล, ยํ ขณฺฑํ าตินํ มยา;

ตยา ตํ พุทฺธิสมฺปนฺนํ, อสฺส ปรมสํวุตํ.

๑๓.

‘‘อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ, อริยานํ อริยวุตฺตินํ;

ปจฺจทิสฺสถ เนสาโท, อาตุรานมิวนฺตโก.

๑๔.

‘‘เต สตฺตุมภิสฺจิกฺข, ทีฆรตฺตํ หิตา ทิชา;

ตุณฺหีมาสิตฺถ อุภโย, น สฺจเลสุมาสนา.

๑๕.

‘‘ธตรฏฺเ จ ทิสฺวาน, สมุฑฺเฑนฺเต ตโต ตโต;

อภิกฺขมถ เวเคน, ทิชสตฺตุ ทิชาธิเป.

๑๖.

‘‘โส จ เวเคนภิกฺกมฺม, อาสชฺช ปรเม ทิเช;

ปจฺจกมิตฺถ เนสาโท, พทฺธา อิติ วิจินฺตยํ.

๑๗.

‘‘เอกํว พทฺธมาสีนํ, อพทฺธฺจ ปุนาปรํ;

อาสชฺช พทฺธมาสีนํ, เปกฺขมานมทีนวํ.

๑๘.

‘‘ตโต โส วิมโตเยว, ปณฺฑเร อชฺฌภาสถ;

ปวฑฺฒกาเย อาสีเน, ทิชสงฺฆคณาธิเป.

๑๙.

‘‘ยํ นุ ปาเสน มหตา, พทฺโธ น กุรุเต ทิสํ;

อถ กสฺมา อพทฺโธ ตฺวํ, พลี ปกฺขิ น คจฺฉสิ.

๒๐.

‘‘กึ นุ ตฺยายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหียสิ.

๒๑.

‘‘ราชา เม โส ทิชามิตฺต, สขา ปาณสโม จ เม;

เนว นํ วิชหิสฺสามิ, ยาว กาลสฺส ปริยายํ.

๒๒.

‘‘กถํ ปนายํ วิหงฺโค, นาทฺทส ปาสโมฑฺฑิตํ;

ปทฺเหตํ มหนฺตานํ, โพทฺธุมรหนฺติ อาปทํ.

๒๓.

‘‘ยทา ปราภโว โหติ, โปโส ชีวิตสงฺขเย;

อถ ชาลฺจ ปาสฺจ, อาสชฺชาปิ น พุชฺฌติ.

๒๔.

‘‘อปิ ตฺเวว มหาปฺ, ปาสา พหุวิธา ตตา;

คุยฺหมาสชฺช พชฺฌนฺติ, อเถวํ ชีวิตกฺขเย’’ติ. –

อิมาสํ คาถานํ สมฺพนฺโธ ปาฬินเยเนว เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ คจฺเฉ วาติ, มหาราช, อหํ อิโต คจฺเฉยฺยํ วา น วา, นาหํ เตน คมเนน วา อคมเนน วา อมโร สิยํ, อหฺหิ อิโต คโตปิ อคโตปิ มรณโต อมุตฺโตว, อิโต ปุพฺเพ ปน สุขิตํ ตํ อุปาสิตฺวา อิทานิ ทุกฺขิตํ ตํ กถํ ชเหยฺยนฺติ วทติ. มรณํ วาติ มม อคจฺฉนฺตสฺส วา ตยา สทฺธึ มรณํ ภเวยฺย, คจฺฉนฺตสฺส วา ตยา วินา ชีวิตํ. เตสุ ทฺวีสุ ยํ ตยา สทฺธึ มรณํ, ตเทว เม วรํ, ยํ ตยา วินา ชีเวยฺยํ, น เม ตํ วรนฺติ อตฺโถ. รุจฺจเตติ ยา ตว คติ นิปฺผตฺติ, สาว มยฺหํ รุจฺจติ. สา กถนฺติ สมฺม สุมุข มม ตาว ทฬฺเหน วาลปาเสน พทฺธสฺส ปรหตฺถํ คตสฺส สา คติ รุจฺจตุ, ตว ปน เจตยานสฺส สเจตนสฺส ปฺวโต มุตฺตสฺส กถํ รุจฺจติ.

ปกฺขิมาติ ปกฺขสมฺปนฺน. อุภินฺนนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ ชีวิตกฺขเย สติ ตฺวํ มม วา ตว วา อวสิฏฺาตีนํ วา กํ อตฺถํ ปสฺสสิ. ยํ นาติ เอตฺถ -กาโร อุปมาเน. กฺจนเทปิฺฉาติ กฺจนทฺเวปิฺฉ, อยเมว วา ปาโ, กฺจนสทิสอุภยปกฺขาติ อตฺโถ. ตมสาติ ตมสิ. คตนฺติ กตํ, อยเมว วา ปาโ. ปุริมสฺส -การสฺส อิมินา สมฺพนฺโธ, ‘‘น กต’’นฺติ กตํ วิยาติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ตยิ ปาณํ จชนฺเตปิ อจชนฺเตปิ มม ชีวิตสฺส อภาวา ยํ ตว ปาณสฺจชนํ, ตํ อนฺเธน ตมสิ กตํ วิย กิฺจิเทว รูปกมฺมํ อปจฺจกฺขคุณํ, ตาทิเส ตว อปจฺจกฺขคุเณ ปาณสฺจชเน ตฺวํ ปาณํ สฺจชนฺโต กมตฺถํ โชเตยฺยาสีติ.

ธมฺโม อปจิโต สนฺโตติ ธมฺโม ปูชิโต มานิโต สมาโน. อตฺถํ ทสฺเสตีติ วุทฺธึ ทสฺเสติ. อเปกฺขาโนติ อเปกฺขนฺโต. ธมฺมา จตฺถนฺติ ธมฺมโต จ อตฺถํ สมุฏฺิตํ ปสฺสนฺโต . ภตฺตินฺติ สิเนหํ. สตํ ธมฺโมติ ปณฺฑิตานํ สภาโว. โย มิตฺโตติ โย มิตฺโต อาปทาสุ มิตฺตํ น จเช, ตสฺส อจชนฺตสฺส มิตฺตสฺส เอส สภาโว นาม อทฺธา สตํ ธมฺโม. วิทิตาติ ปากฏา ชาตา. กามํ กรสฺสูติ เอตํ มม กามํ มยา อิจฺฉิตํ มม วจนํ กรสฺสุ. อปิ ตฺเววํ คเต กาเลติ อปิ ตุ เอวํ คเต กาเล มยิ อิมสฺมึ าเน ปาเสน พทฺเธ. ปรมสํวุตนฺติ ปรมปริปุณฺณํ.

อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานนฺติ ‘‘คจฺฉ, น คจฺฉามี’’ติ เอวํ กเถนฺตานํ อริยานนฺติ อาจารอริยานํ. ปจฺจทิสฺสถาติ กาสายานิ นิวาเสตฺวา รตฺตมาลํ ปิฬนฺธิตฺวา มุคฺครํ อาทาย อาคจฺฉนฺโต อทิสฺสถ. อาตุรานนฺติ คิลานานํ มจฺจุ วิย. อภิสฺจิกฺขาติ, ภิกฺขเว, เต อุโภปิ สตฺตุํ อายนฺตํ ปสฺสิตฺวา. หิตาติ ทีฆรตฺตํ อฺมฺสฺส หิตา มุทุจิตฺตา. น สฺจเลสุมาสนาติ อาสนโต น จลึสุ, ยถานิสินฺนาว อเหสุํ. สุมุโข ปน ‘‘อยํ เนสาโท อาคนฺตฺวา ปหรนฺโต มํ ปมํ ปหรตู’’ติ จินฺเตตฺวา มหาสตฺตํ ปจฺฉโต กตฺวา นิสีทิ.

ธตรฏฺเติ หํเส. สมุฑฺเฑนฺเตติ มรณภเยน อิโต จิโต จ อุปฺปตนฺเต ทิสฺวา. อาสชฺชาติ อิตเร ทฺเว ชเน อุปคนฺตฺวา. ปจฺจกมิตฺถาติ ‘‘พทฺธา, น พทฺธา’’ติ จินฺเตนฺโต อุปธาเรนฺโต อกมิตฺถ, เวคํ หาเปตฺวา สณิกํ อคมาสิ. อาสชฺช พทฺธมาสีนนฺติ พทฺธํ มหาสตฺตํ อุปคนฺตฺวา นิสินฺนํ สุมุขํ. อทีนวนฺติอาทีนวเมว หุตฺวา มหาสตฺตํ โอโลเกนฺตํ ทิสฺวา. วิมโตติ กึ นุ โข อพทฺโธ พทฺธสฺส สนฺติเก นิสินฺโน, การณํ ปุจฺฉิสฺสามีติ วิมติชาโต หุตฺวาติ อตฺโถ. ปณฺฑเรติ หํเส, อถ วา ปริสุทฺเธ นิมฺมเล, สมฺปหฏฺกฺจนวณฺเณติ อตฺโถ. ปวฑฺฒกาเยติ วฑฺฒิตกาเย มหาสรีเร. ยํ นูติ ยํ ตาว เอโส มหาปาเสน พทฺโธ. น กุรุเต ทิสนฺติ ปลายนตฺถาย เอกํ ทิสํ น ภชติ, ตํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. พลีติ พลสมฺปนฺโน หุตฺวาปิ. ปกฺขีติ ตํ อาลปติ. โอหายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. ยนฺตีติ เสสสกุณา คจฺฉนฺติ. อวหียสีติ โอหียสิ.

ทิชามิตฺตาติ ทิชานํ อมิตฺต. ยาว กาลสฺส ปริยายนฺติ ยาว มรณสฺส วาโร อาคจฺฉติ. กถํ ปนายนฺติ ตฺวํ ราชา เม โสติ วทสิ, ราชาโน จ นาม ปณฺฑิตา โหนฺติ, อิติปิ ปณฺฑิโต สมาโน เกน การเณน โอฑฺฑิตํ ปาสํ น อทฺทส. ปทํ เหตนฺติ ยสมหตฺตํ วา าณมหตฺตํ วา ปตฺตานํ อตฺตโน อาปทพุชฺฌนํ นาม ปทํ การณํ, ตสฺมา เต อาปทํ โพทฺธุมรหนฺติ. ปราภโวติ อวฑฺฒิ. อาสชฺชาปีติ อุปคนฺตฺวาปิ น พุชฺฌติ. ตตาติ วิตตา โอฑฺฑิตา. คุยฺหมาสชฺชาติ เตสุ ปาเสสุ โย คุฬฺโห ปฏิจฺฉนฺโน ปาโส, ตํ อาสชฺช พชฺฌนฺติ. อเถวนฺติ อถ เอวํ ชีวิตกฺขเย พชฺฌนฺเตวาติ อตฺโถ.

อิติ นํ โส กถาสลฺลาเปน มุทุหทยํ กตฺวา มหาสตฺตสฺส ชีวิตํ ยาจนฺโต คาถมาห –

๒๕.

‘‘อปิ นายํ ตยา สทฺธึ, สํวาสสฺส สุขุทฺรโย;

อปิ โน อนุมฺาสิ, อปิ โน ชีวิตํ ทเท’’ติ.

ตตฺถ อปิ นายนฺติ อปิ นุ อยํ. สุขุทฺรโยติ สุขผโล. อปิ โน อนุมฺาสีติ จิตฺตกูฏํ คนฺตฺวา าตเก ปสฺสิตุํ ตฺวํ อปิ โน อนุชาเนยฺยาสิ. อปิ โน ชีวิตํ ทเทติ อปิ โน อิมาย กถาย อุปฺปนฺนวิสฺสาโส น มาเรยฺยาสีติ.

โส ตสฺส มธุรกถาย พชฺฌิตฺวา คาถมาห –

๒๖.

‘‘น เจว เม ตฺวํ พทฺโธสิ, นปิ อิจฺฉามิ เต วธํ;

กามํ ขิปฺปมิโต คนฺตฺวา, ชีว ตฺวํ อนิโฆ จิร’’นฺติ.

ตโต สุมุโข จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๒๗.

‘‘เนวาหเมตมิจฺฉามิ , อฺตฺเรตสฺส ชีวิตา;

สเจ เอเกน ตุฏฺโสิ, มุฺเจตํ มฺจ ภกฺขย.

๒๘.

‘‘อาโรหปริณาเหน, ตุลฺยาสฺมา วยสา อุโภ;

น เต ลาเภน ชีวตฺถิ, เอเตน นิมินา ตุวํ.

๒๙.

‘‘ตทิงฺฆ สมเปกฺขสฺสุ, โหตุ คิทฺธิ ตวมฺหสุ;

มํ ปุพฺเพ พนฺธ ปาเสน, ปจฺฉา มุฺจ ทิชาธิปํ.

๓๐.

‘‘ตาวเทว จ เต ลาโภ, กตาสฺส ยาจนาย จ;

มิตฺติ จ ธตรฏฺเหิ, ยาวชีวาย เต สิยา’’ติ.

ตตฺถ เอตนฺติ ยํ อฺตฺร เอตสฺส ชีวิตา มม ชีวิตํ, เอตํ อหํ เนว อิจฺฉามิ. ตุลฺยาสฺมาติ สมานา โหม. นิมินา ตุวนฺติ ปริวตฺเตหิ ตฺวํ. ตวมฺหสูติ ตว อมฺเหสุ คิทฺธิ โหตุ, กึ เต เอเตน, มยิ โลภํ อุปฺปาเทหีติ วทติ. ตาวเทวาติ ตตฺตโกเยว. ยาจนาย จาติ ยา มม ยาจนา, สาว กตา อสฺสาติ อตฺโถ.

อิติ โส ตาย ธมฺมเทสนาย เตเล ปกฺขิตฺตกปฺปาสปิจุ วิย มุทุคตหทโย มหาสตฺตํ ตสฺส ทายํ กตฺวา ททนฺโต อาห –

๓๑.

‘‘ปสฺสนฺตุ โน มหาสงฺฆา, ตยา มุตฺตํ อิโต คตํ;

มิตฺตามจฺจา จ ภจฺจา จ, ปุตฺตทารา จ พนฺธวา.

๓๒.

‘‘น จ เต ตาทิสา มิตฺตา, พหูนํ อิธ วิชฺชติ;

ยถา ตฺวํ ธตรฏฺสฺส, ปาณสาธารโณ สขา.

๓๓.

‘‘โส เต สหายํ มุฺจามิ, โหตุ ราชา ตวานุโค;

กามํ ขิปฺปมิโต คนฺตฺวา, าติมชฺเฌ วิโรจถา’’ติ.

ตตฺถ โนติ นิปาตมตฺตํ. ตยา มุตฺตนฺติ อิมฺหิ ตฺวฺเว มุฺจสิ นาม, ตสฺมา อิมํ ตยา มุตฺตํ อิโต จิตฺตกูฏปพฺพตํ คตํ มหนฺตา าติสงฺฆา เอเต จ มิตฺตาทโย ปสฺสนฺตุ. เอตฺถ จ พนฺธวาติ เอกโลหิตสมฺพนฺธา. วิชฺชตีติ วิชฺชนฺติ. ปาณสาธารโณติ สาธารณปาโณ อวิภตฺตชีวิโก, ยถา ตฺวํ เอตสฺส สขา, เอตาทิสา อฺเสํ พหูนํ มิตฺตา นาม น วิชฺชนฺติ. ตวานุโคติ เอตํ ทุกฺขิตํ อาทาย ปุรโต คจฺฉนฺตสฺส ตว อยํ อนุโค โหตูติ.

เอวํ วตฺวา ปน เนสาทปุตฺโต เมตฺตจิตฺเตน มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา พนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา อาลิงฺคิตฺวา สรโต นิกฺขาเมตฺวา สรตีเร ตรุณทพฺพติณปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาเท พนฺธนปาสํ มุทุจิตฺเตน สณิกํ โมเจตฺวา ทูเร ขิปิตฺวา มหาสตฺเต พลวสิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา เมตฺตจิตฺเตน อุทกํ อาทาย โลหิตํ โธวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ. ตสฺส เมตฺตจิตฺตานุภาเวน โพธิสตฺตสฺส ปาเท สิรา สิราหิ, มํสํ มํเสน, จมฺมํ จมฺเมน ฆฏิตํ, ตาวเทว ปาโท สํรุฬฺโห สฺชาตฉวิสฺชาตโลโม อโหสิ อพทฺธปาเทน นิพฺพิเสโส. โพธิสตฺโต สุขิโต ปกติภาเวเนว นิสีทิ. อถ สุมุโข อตฺตานํ นิสฺสาย มหาสตฺตสฺส สุขิตภาวํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส เนสาทสฺส ถุติมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๔.

‘‘โส ปตีโต ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารโว;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๓๕.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิป’’นฺติ.

ตตฺถ วกฺกงฺโคติ วงฺกคีโว.

เอวํ ลุทฺทสฺส ถุตึ กตฺวา สุมุโข โพธิสตฺตํ อาห – ‘‘มหาราช, อิมินา อมฺหากํ มหาอุปกาโร กโต, อยฺหิ อมฺหากํ วจนํ อกตฺวา กีฬาหํเส โน กตฺวา อิสฺสรานํ เทนฺโต พหุํ ธนํ ลเภยฺย, มาเรตฺวา มํสํ วิกฺกิณนฺโต มูลมฺปิ ลเภถ, อตฺตโน ปน ชีวิตํ อโนโลเกตฺวา อมฺหากํ วจนํ อกริ , อิมํ รฺโ สนฺติกํ เนตฺวา สุขชีวิตํ กโรมา’’ติ. มหาสตฺโต สมฺปฏิจฺฉิ. สุมุโข อตฺตโน ภาสาย มหาสตฺเตน สทฺธึ กเถตฺวา ปุน มนุสฺสภาสาย ลุทฺทปุตฺตํ อามนฺเตตฺวา ‘‘สมฺม, ตฺวํ กิมตฺถํ ปาเส โอฑฺเฑสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ธนตฺถ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺเห อาทาย นครํ ปวิสิตฺวา รฺโ ทสฺเสหิ, พหุํ เต ธนํ ทาเปสฺสามี’’ติ วตฺวา อาห –

๓๖.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา ตฺวมปิ ลจฺฉเส;

ลาภํ ตวายํ ธตรฏฺโ, ปาปํ กิฺจิ น ทกฺขติ.

๓๗.

‘‘ขิปฺปมนฺเตปุรํ เนตฺวา, รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๓๘.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร.

๓๙. ‘‘อสํสยํ อิมํ ทิสฺวา, หํสราชํ นราธิโป.

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, พหุํ ทสฺสติ เต ธน’’นฺติ.

ตตฺถ อนุสิกฺขามีติ อนุสาสามิ. ปาปนฺติ ลามกํ. รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภติ อมฺเห อุโภปิ รฺโ ทสฺเสหิ. อยํ โพธิสตฺตสฺส ปฺาปภาวทสฺสนตฺถํ, อตฺตโน มิตฺตธมฺมสฺส อาวิภาวนตฺถํ, ลุทฺทสฺส ธนลาภตฺถํ, รฺโ สีเลสุ ปติฏฺาปนตฺถฺจาติ จตูหิ การเณหิ เอวมาห. ธตรฏฺาติ เนตฺวา จ ปน รฺโ เอวํ อาจิกฺเขยฺยาสิ, ‘‘มหาราช, อิเม ธตรฏฺกุเล ชาตา ทฺเว หํสาธิปติโน, เอเตสุ อยํ ราชา, อิตโร เสนาปตี’’ติ. อิติ นํ สิกฺขาเปสิ. ‘‘ปตีโต’’ติอาทีนิ ตีณิปิ ตุฏฺาการเววจนาเนว.

เอวํ วุตฺเต ลุทฺโท, ‘‘สามิ, มา โว ราชทสฺสนํ รุจฺจิ, ราชาโน นาม จลจิตฺตา, กีฬาหํเส วา โว กเรยฺยุํ มาราเปยฺยุํ วา’’ติ วตฺวา, ‘‘สมฺม, มา ภายิ, อหํ ตาทิสํ กกฺขฬํ ลุทฺทํ โลหิตปาณึ ธมฺมกถาย มุทุกํ กตฺวา มม ปาเทสุ ปาเตสึ, ราชาโน นาม ปุฺวนฺโต ปฺวนฺโต จ สุภาสิตทุพฺภาสิตฺู จ, ขิปฺปํ อมฺเห รฺโ ทสฺเสหี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ มา มยฺหํ กุชฺฌิตฺถ, อหํ อวสฺสํ ตุมฺหากํ รุจิยา เนมี’’ติ วตฺวา อุโภปิ กาชํ อาโรเปตฺวา ราชกุลํ คนฺตฺวา รฺโ ทสฺเสตฺวา รฺา ปุฏฺโ ยถาภูตํ อาโรเจสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๐.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, กมฺมุนา อุปปาทยิ;

ขิปฺปมนฺเตปุรํ คนฺตฺวา, รฺโ หํเส อทสฺสยิ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๔๑.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร;

๔๒.

‘‘กถํ ปนิเม วิหงฺคา, ตว หตฺถตฺตมาคตา;

กถํ ลุทฺโท มหนฺตานํ, อิสฺสเร อิธ อชฺฌคา.

๔๓.

‘‘วิหิตา สนฺติเม ปาสา, ปลฺลเลสุ ชนาธิป;

ยํ ยทายตนํ มฺเ, ทิชานํ ปาณโรธนํ.

๔๔.

‘‘ตาทิสํ ปาสมาสชฺช, หํสราชา อพชฺฌถ;

ตํ อพทฺโธ อุปาสิโน, มมายํ อชฺฌภาสถ.

๔๕.

‘‘สุทุกฺกรํ อนริเยภิ, ทหเต ภาวมุตฺตมํ;

ภตฺตุรตฺเถ ปรกฺกนฺโต, ธมฺมยุตฺโต วิหงฺคโม.

๔๖.

‘‘อตฺตนายํ จชิตฺวาน, ชีวิตํ ชีวิตารโห;

อนุตฺถุนนฺโต อาสีโน, ภตฺตุ ยาจิตฺถ ชีวิตํ.

๔๗.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ปสาทมหมชฺฌคา;

ตโต นํ ปามุจึ ปาสา, อนุฺาสึ สุเขน จ.

๔๘.

‘‘โส ปตีโต ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารโว;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๔๙.

‘‘เอวํ ลุทฺทก นนฺทสฺสุ, สห สพฺเพหิ าติภิ;

ยถาหมชฺช นนฺทามิ, มุตฺตํ ทิสฺวา ทิชาธิปํ.

๕๐.

‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยถา ตฺวมปิ ลจฺฉเส;

ลาภํ ตวายํ ธตรฏฺโ, ปาปํ กิฺจิ น ทกฺขติ.

๕๑.

‘‘ขิปฺปมนฺเตปุรํ เนตฺวา, รฺโ ทสฺเสหิ โน อุโภ;

อพทฺเธ ปกติภูเต, กาเช อุภยโต ิเต.

๕๒.

‘‘ธตรฏฺา มหาราช, หํสาธิปติโน อิเม;

อยฺหิ ราชา หํสานํ, อยํ เสนาปตีตโร.

๕๓.

‘‘อสํสยํ อิมํ ทิสฺวา, หํสราชํ นราธิโป;

ปตีโต สุมโน วิตฺโต, พหุํ ทสฺสติ เต ธนํ.

๕๔.

‘‘เอวเมตสฺส วจนา, อานีตาเม อุโภ มยา;

เอตฺเถว หิ อิเม อาสุํ, อุโภ อนุมตา มยา.

๕๕.

‘‘โสยํ เอวํ คโต ปกฺขี, ทิโช ปรมธมฺมิโก;

มาทิสสฺส หิ ลุทฺทสฺส, ชนเยยฺยาถ มทฺทวํ.

๕๖.

‘‘อุปายนฺจ เต เทว, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสํ;

สพฺพสากุณิกาคาเม, ตํ ปสฺส มนุชาธิปา’’ติ.

ตตฺถ กมฺมุนา อุปปาทยีติ ยํ โส อวจ, ตํ กโรนฺโต กายกมฺเมน สมฺปาเทสิ. คนฺตฺวาติ หํสราเชน นิสินฺนกาชโกฏึ อุจฺจตรํ, เสนาปตินา นิสินฺนกาชโกฏึ โถกํ นีจํ กตฺวา อุโภปิ เต อุกฺขิปิตฺวา ‘‘หํสราชา จ เสนาปติ จ ราชานํ ปสฺสิตุํ คจฺฉนฺติ, อุสฺสรถ อุสฺสรถา’’ติ ชนํ อุสฺสาเรนฺโต ‘‘เอวรูปา นาม โสภคฺคปฺปตฺตา สุวณฺณวณฺณา หํสราชาโน น ทิฏฺปุพฺพา’’ติ มุทุหทเยสุ มนุสฺเสสุ ปสํสนฺเตสุ ขิปฺปมนฺเตปุรํ คนฺตฺวา. อทสฺสยีติ ‘‘หํสราชาโน ตุมฺเห ทฏฺุํ อาคตา’’ติ รฺโ อาโรจาเปตฺวา เตน ตุฏฺจิตฺเตน ‘‘อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสาปิโต อภิหริตฺวา ทสฺเสสิ. หตฺถตฺตนฺติ หตฺเถสุ อาคตํ, ปตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺตานนฺติ ยสมหนฺตปฺปตฺตานํ สุวณฺณวณฺณานํ ธตรฏฺหํสานํ อิสฺสเร สามิโน กถํ ตฺวํ ลุทฺโท หุตฺวา อธิคโตติ ปุจฺฉติ. ‘‘อิสฺสรมิธมชฺฌคา’’ติปิ ปาโ, เอเตสํ อิสฺสริยํ ตฺวํ กถํ อชฺฌคาติ อตฺโถ.

วิหิตาติ โยชิตา. ยํ ยทายตนํ มฺเติ, มหาราช, ยํ ยํ สโมสรณฏฺานํ ทิชานํ ปาณโรธนํ ชีวิตกฺขยกรํ มฺามิ, ตตฺถ ตตฺถ มยา ปลฺลเลสุ ปาสา วิหิตา. ตาทิสนฺติ มานุสิยสเร ตถาวิธํ ปาณโรธนํ มยา วิหิตํ ปาสํ. นฺติ ตํ เอตํ ตตฺถ พทฺธํ. อุปาสิโนติ อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวา อุปคนฺตฺวา นิสินฺโน. มมายนฺติ มํ อยํ เสนาปติ อชฺฌภาสถ, มยา สทฺธึ กเถสิ. สุทุกฺกรนฺติ ตสฺมึ ขเณ เอส อมฺหาทิเสหิ อนริเยหิ สุทุกฺกรํ อกาสิ. กึ ตนฺติ? ทหเต ภาวมุตฺตมํ, อตฺตโน อุตฺตมํ อชฺฌาสยํ ทหติ วิทหติ ปกาเสติ. อตฺตนายนฺติ อตฺตโน อยํ. อนุตฺถุนนฺโตติ ภตฺตุคุเณ วณฺเณนฺโต ตสฺส ชีวิตํ มุฺจาติ มํ ยาจิ.

ตสฺสาติ ตสฺส ตถา ยาจนฺตสฺส. สุเขน จาติ ยถาสุเขน จิตฺตกูฏํ คนฺตฺวา าติสงฺฆํ ปสฺสถาติ จ อนุชานึ. เอตฺเถว หีติ มยา ปน อิเม ทฺเว เอตฺถ มานุสิยสเรเยว จิตฺตกูฏคมนาย อนุมตา อเหสุํ. เอวํ คโตติ เอวํ สตฺตุ หตฺถคโต. ชนเยยฺยาถ มทฺทวนฺติ อตฺตนิ เมตฺตจิตฺตํ ชเนสิ. อุปายนนฺติ ปณฺณาการํ. สพฺพสากุณิกาคาเมติ สพฺพสฺมิมฺปิ สากุณิกคาเม นาหํ อฺํ ตว เอวรูปํ เกนจิ สากุณิเกน อาภตปุพฺพํ อุปายนํ ปสฺสามิ. ตํ ปสฺสาติ ตํ มยา อาภตํ อุปายนํ ปสฺส มนุชาธิปาติ.

เอวํ โส ิตโกว สุมุขสฺส คุณํ กเถสิ. ตโต ราชา หํสรฺโ มหารหํ อาสนํ, สุมุขสฺส จ สุวณฺณภทฺทปีกํ ทาเปตฺวา เตสํ ตตฺถ นิสินฺนานํ สุวณฺณภาชเนหิ ลาชมธุผาณิตาทีนิ ทาเปตฺวา นิฏฺิเต ปานโภชนกิจฺเจ อฺชลึ ปคฺคยฺห มหาสตฺตํ ธมฺมกถํ ยาจิตฺวา สุวณฺณปีเก นิสีทิ. โส เตน ยาจิโต ปฏิสนฺถารํ ตาว อกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๕๗.

‘‘ทิสฺวา นิสินฺนํ ราชานํ, ปีเ โสวณฺณเย สุเภ;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺโค, วาจํ กณฺณสุขํ ภณํ.

๕๘.

‘‘กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.

๕๙.

‘‘กุสลฺเจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;

อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.

๖๐.

‘‘กจฺจิ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

กจฺจิ จ เต ตวตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๖๑.

‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

อโถปิ เต มมตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๖๒.

‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.

๖๓.

‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา’’ติ.

ตตฺถ ราชานนฺติ สาคลราชานํ. วกฺกงฺโคติ หํสราชา. ธมฺเมน มนุสาสสีติ ธมฺเมน อนุสาสสิ. โทโสติ อปราโธ. ตวตฺเถสูติ อุปฺปนฺเนสุ ตว ยุทฺธาทีสุ อตฺเถสุ. นาวกงฺขนฺตีติ อุรํ ทตฺวา ปริจฺจชนฺตา กิจฺจิ อตฺตโน ชีวิตํ น ปตฺเถนฺติ, ชีวิตฺจ จชิตฺวา ตเววตฺถํ กโรนฺติ. สาทิสีติ สมานชาติกา. อสฺสวาติ วจนสมฺปฏิจฺฉิกา. ปุตฺตรูปยสูเปตาติ ปุตฺเตหิ จ รูเปน จ ยเสน จ อุเปตา. ตว ฉนฺทวสานุคาติ กจฺจิ ตว อชฺฌาสยํ ตว วสํ อนุวตฺตติ, น อตฺตโน จิตฺตวเสน วตฺตตีติ ปุจฺฉติ.

เอวํ โพธิสตฺเตน ปฏิสนฺถาเร กเต ปุน ราชา เตน สทฺธึ กเถนฺโต อาห –

๖๔.

‘‘ภวนฺตํ กจฺจิ นุ มหา-สตฺตุหตฺถตฺตตํ คโต;

ทุกฺขมาปชฺชิ วิปุลํ, ตสฺมึ ปมมาปเท.

๖๕.

‘‘กจฺจิ ยนฺตาปติตฺวาน, ทณฺเฑน สมโปถยิ;

เอวเมเตสํ ชมฺมานํ, ปาติกํ ภวติ ตาวเท.

๖๖.

‘‘เขมมาสิ มหาราช, เอวมาปทิยา สติ;

น จายํ กิฺจิ รสฺมาสุ, สตฺตูว สมปชฺชถ.

๖๗.

‘‘ปจฺจคมิตฺถ เนสาโท, ปุพฺเพว อชฺฌภาสถ;

ตทายํ สุมุโขเยว, ปณฺฑิโต ปจฺจภาสถ.

๖๘.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, ปสาทมยมชฺฌคา;

ตโต มํ ปามุจี ปาสา, อนุฺาสิ สุเขน จ.

๖๙.

‘‘อิทฺจ สุมุเขเนว, เอตทตฺถาย จินฺติตํ;

โภโต สกาเสคมนํ, เอตสฺส ธนมิจฺฉตา.

๗๐.

‘‘สฺวาคตฺเจวิทํ ภวตํ, ปตีโต จสฺมิ ทสฺสนา;

เอโส จาปิ พหุํ วิตฺตํ, ลภตํ ยาวทิจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ มหาสตฺตุหตฺถตฺตตํ คโตติ มหนฺตสฺส สตฺตุโน หตฺถตฺตํ คโต. อาปติตฺวานาติ อุปธาวิตฺวา. ปาติกนฺติ ปากติกํ, อยเมว วา ปาโ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอเตสฺหิ ชมฺมานํ ตาวเทว เอวํ ปากติกํ โหติ, สกุเณ ทณฺเฑน โปเถตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺโต ธนเวตนํ ลภตีติ. กิฺจิ รสฺมาสูติ กิฺจิ อมฺเหสุ. สตฺตูวาติ สตฺตุ วิย. ปจฺจคมิตฺถาติ, มหาราช, เอส อมฺเห ทิสฺวา พทฺธาติ สฺาย โถกํ โอสกฺกิตฺถ. ปุพฺเพวาติ อยเมว ปมํ อชฺฌภาสิ. ตทาติ ตสฺมึ กาเล. เอตทตฺถายาติ เอตสฺส เนสาทปุตฺตสฺส อตฺถาย จินฺติตํ. ธนมิจฺฉตาติ เอตสฺส ธนํ อิจฺฉนฺเตน ตว สนฺติกํ อมฺหากํ อาคมนํ จินฺติตํ. สฺวาคตฺเจวิทนฺติ มา โภนฺโต จินฺตยนฺตุ, ภวตํ อิทํ อิธาคมนํ สฺวาคตเมว. ลภตนฺติ ลภตุ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ราชา อฺตรํ อมจฺจํ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ กโรมิ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมํ เนสาทํ กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กาเรตฺวา อาเนหี’’ติ วตฺวา เตน ตถา กตฺวา อานีตสฺส ตสฺส สํวจฺฉเร สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานกํ คามํ, ทฺเว วีถิโย คเหตฺวา ิตํ มหนฺตํ เคหํ, รถวรฺจ, อฺฺจ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อทาสิ. ตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต สตฺถา อาห –

๗๑.

‘‘สนฺตปฺปยิตฺวา เนสาทํ, โภเคหิ มนุชาธิโป;

อชฺฌภาสถ วกฺกงฺคํ, วาจํ กณฺณสุขํ ภณ’’นฺติ.

อถ มหาสตฺโต รฺโ ธมฺมํ เทเสสิ. โส ตสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ตุฏฺหทโย ‘‘ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กริสฺสามี’’ติ เสตจฺฉตฺตํ ทตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปนฺโต อาห –

๗๒.

‘‘ยํ ขลุ ธมฺมมาธีนํ, วโส วตฺตติ กิฺจนํ;

สพฺพตฺถิสฺสริยํ ภวตํ, ปสาสถ ยทิจฺฉถ.

๗๓.

‘‘ทานตฺถํ อุปโภตฺตุํ วา, ยํ จฺํ อุปกปฺปติ;

เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, อิสฺสริยํ วิสฺสชามิ โว’’ติ.

ตตฺถ วโส วตฺตตีติ ยตฺถ มม วโส วตฺตติ. กิฺจนนฺติ ตํ อปฺปมตฺตกมฺปิ. สพฺพตฺถิสฺสริยนฺติ สพฺพํ ภวตํเยว อิสฺสริยํ อตฺถุ. ยํ จฺํ อุปกปฺปตีติ ปุฺกามตาย ทานตฺถํ วา ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา รชฺชเมว อุปโภตฺตุํ วา ยํ วา อฺํ ตุมฺหากํ รุจฺจติ, ตํ กโรถ, เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, สทฺธึเยว เสตจฺฉตฺเตน มม สนฺตกํ อิสฺสริยํ วิสฺสชฺชามิ โวติ.

อถ มหาสตฺโต รฺา ทินฺนํ เสตจฺฉตฺตํ ปุน ตสฺเสว อทาสิ. ราชาปิ จินฺเตสิ – ‘‘หํสรฺโ ตาว เม ธมฺมกถา สุตา, ลุทฺทปุตฺเตน ปน ‘อยํ สุมุโข มุธุรกโถ’ติ อติวิย วณฺณิโต, อิมสฺสปิ ธมฺมกถํ โสสฺสามี’’ติ. โส เตน สทฺธึ สลฺลปนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๗๔.

‘‘ยถา จ มฺยายํ สุมุโข, อชฺฌภาเสยฺย ปณฺฑิโต;

กามสา พุทฺธิสมฺปนฺโน, ตํ มฺยาสฺส ปรมปฺปิย’’นฺติ.

ตตฺถ ยถาติ ยทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ จ เม อยํ สุมุโข ปณฺฑิโต พุทฺธิสมฺปนฺโน กามสา อตฺตโน รุจิยา อชฺฌภาเสยฺย, ตํ เม ปรมปฺปิยํ อสฺสาติ.

ตโต สุมุโข อาห –

๗๕.

‘‘อหํ ขลุ มหาราช, นาคราชาริวนฺตรํ;

ปฏิวตฺตุํ น สกฺโกมิ, น เม โส วินโย สิยา.

๗๖.

‘‘อมฺหากฺเจว โส เสฏฺโ, ตฺวฺจ อุตฺตมสตฺตโว;

ภูมิปาโล มนุสฺสินฺโท, ปูชา พหูหิ เหตุภิ.

๗๗.

‘‘เตสํ อุภินฺนํ ภณตํ, วตฺตมาเน วินิจฺฉเย;

นนฺตรํ ปติวตฺตพฺพํ, เปสฺเสน มนุชาธิปา’’ติ.

ตตฺถ นาคราชาริวนฺตรนฺติ เปฬาย อพฺภนฺตรํ ปวิฏฺโ นาคราชา วิย. ปฏิวตฺตุนฺติ ตุมฺหากํ ทฺวินฺนํ อนฺตเร วตฺตุํ น สกฺโกมิ. น เม โสติ สเจ วเทยฺยํ, น เม โส วินโย ภเวยฺย. อมฺหากฺเจวาติ ฉนฺนวุติยา หํสสหสฺสานํ. อุตฺตมสตฺตโวติ อุตฺตมสตฺโต. ปูชาติ อุโภ ตุมฺเห มยฺหํ พหูหิ การเณหิ ปูชารหา เจว ปสํสารหา จ. เปสฺเสนาติ เวยฺยาวจฺจกเรน เสวเกน.

ราชา ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตุฏฺหทโย ‘‘เนสาทปุตฺโต ตํ วณฺเณติ, น อฺเน ตุมฺหาทิเสน มธุรธมฺมกถิเกน นาม ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา อาห –

๗๘.

‘‘ธมฺเมน กิร เนสาโท, ปณฺฑิโต อณฺฑโช อิติ;

นเหว อกตตฺตสฺส, นโย เอตาทิโส สิยา.

๗๙.

‘‘เอวํ อคฺคปกติมา, เอวํ อุตฺตมสตฺตโว;

ยาวตตฺถิ มยา ทิฏฺา, นาฺํ ปสฺสามิ เอทิสํ.

๘๐.

‘‘ตุฏฺโสฺมิ โว ปกติยา, วากฺเยน มธุเรน จ;

เอโส จาปิ มมจฺฉนฺโท, จิรํ ปสฺเสยฺย โว อุโภ’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ สภาเวน การเณน. อกตตฺตสฺสาติ อสมฺปาทิตอตฺตภาวสฺส มิตฺตทุพฺภิสฺส. นโยติ ปฺา. อคฺคปกติมาติ อคฺคสภาโว. อุตฺตมสตฺตโวติ อุตฺตมสตฺโต. ยาวตตฺถีติ ยาวตา มยา ทิฏฺา นาม อตฺถิ. นาฺนฺติ ตสฺมึ มยา ทิฏฺฏฺาเน อฺํ เอวรูปํ น ปสฺสามิ. ตุฏฺโสฺมิ โว ปกติยาติ สมฺม หํสราช อหํ ปกติยา ปมเมว ตุมฺหากํ ทสฺสเนน ตุฏฺโ. วากฺเยนาติ อิทานิ ปน โว มธุรวจเนน ตุฏฺโสฺมิ. จิรํ ปสฺเสยฺย โวติ อิเธว วสาเปตฺวา มุหุตฺตมฺปิ อวิปฺปวาสนฺโต จิรํ ตุมฺเห ปสฺเสยฺยนฺติ เอส เม ฉนฺโทติ วทติ.

ตโต มหาสตฺโต ราชานํ ปสํสนฺโต อาห –

๘๑.

‘‘ยํ กิจฺจํ ปรเม มิตฺเต, กตมสฺมาสุ ตํ ตยา;

ปตฺตา นิสฺสํสยํ ตฺยามฺหา, ภตฺติรสฺมาสุ ยา ตว.

๘๒.

‘‘อทุฺจ นูน สุมหา, าติสงฺฆสฺส มนฺตรํ;

อทสฺสเนน อสฺมากํ, ทุกฺขํ พหูสุ ปกฺขิสุ.

๘๓.

‘‘เตสํ โสกวิฆาตาย, ตยา อนุมตา มยํ;

ตํ ปทกฺขิณโต กตฺวา, าตึ ปสฺเสมุรินฺทม.

๘๔.

‘‘อทฺธาหํ วิปุลํ ปีตึ, ภวตํ วินฺทามิ ทสฺสนา;

เอโส จาปิ มหา อตฺโถ, าติวิสฺสาสนา สิยา’’ติ.

ตตฺถ กตมสฺมาสูติ กตํ อมฺเหสุ. ปตฺตา นิสฺสํสยํ ตฺยามฺหาติ มยํ นิสฺสํสเยน ตยา ปตฺตาเยว. ภตฺติรสฺมาสุ ยา ตวาติ ยา ตว อมฺเหสุ ภตฺติ, ตาย ภตฺติยา มยํ ตยา อสํสเยน ปตฺตาเยว, น จ วิปฺปยุตฺตา, วิปฺปวุฏฺาปิ สหวาสิโนเยว นาม มยนฺติ ทีเปติ. อทุฺจ นูน สุมหาติ เอตฺจ เอกํเสเนว สุมหนฺตํ. าติสงฺฆสฺส มนฺตรนฺติ อมฺเหหิ ทฺวีหิ ชเนหิ วิรหิตสฺส มม าติสงฺฆสฺส อนฺตรํ ฉิทฺทํ. อสฺมากนฺติ อมฺหากํ ทฺวินฺนํ อทสฺสเนน พหูสุ ปกฺขีสุ ทุกฺขํ อุปฺปนฺนํ. ปสฺเสมุรินฺทมาติ ปสฺเสยฺยาม อรินฺทม. ภวตนฺติ โภโต ทสฺสเนน. เอโส จาปิ มหา อตฺโถติ ยา เอสา าติสงฺฆสงฺขาตา าติวิสฺสาสนา สิยา, เอโส จาปิ มหนฺโต อตฺโถปิ.

เอวํ วุตฺเต ราชา เตสํ คมนํ อนุชานิ. มหาสตฺโตปิ รฺโ ปฺจวิเธ ทุสฺสีลฺเย อาทีนวํ, สีเล จ อานิสํสํ กเถตฺวา ‘‘อิมํ สีลํ รกฺข, ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหิ, จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคณฺหาหี’’ติ โอวทิตฺวา จิตฺตกูฏํ อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๘๕.

‘‘อิทํ วตฺวา ธตรฏฺโ, หํสราชา นราธิปํ;

อุตฺตมํ ชวมนฺวาย, าติสงฺฆํ อุปาคมุํ.

๘๖.

‘‘เต อโรเค อนุปฺปตฺเต, ทิสฺวาน ปรเม ทิเช;

เกกาติ มกรุํ หํสา, ปุถุสทฺโท อชายถ.

๘๗.

‘‘เต ปตีตา ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารวา;

สมนฺตา ปริกิรึสุ, อณฺฑชา ลทฺธปจฺจยา’’ติ.

ตตฺถ อุปาคมุนฺติ อรุณุคฺคมนเวลายเมว ลาชมธุผาณิตาทีนิ ปริภุฺชิตฺวา รฺา จ เทวิยา จ ทฺวีหิ สุวณฺณตาลวณฺเฏหิ อุกฺขิปิตฺวา คนฺธมาลาทีหิ กตสกฺการา ตาลวณฺเฏหิ โอตริตฺวา ราชานํ ปทกฺขิณํ กตฺวา เวหาสํ อุปฺปติตฺวา รฺา อฺชลึ ปคฺคยฺห ‘‘คจฺฉถ สามิโน’’ติ วุตฺเต สีหปฺชเรน นิกฺขนฺตา อุตฺตเมน ชเวน คนฺตฺวา าติคณํ อุปาคมึสุ. ปรเมติ อุตฺตเม. เกกาติ อตฺตโน สภาเวน ‘‘เกกา’’ติ สทฺทมกํสุ. ภตฺตุคารวาติ ภตฺตริ สคารวา. ปริกิรึสูติ ภตฺตุโน มุตฺตภาเวน ตุฏฺา ตํ ภตฺตารํ สมนฺตา ปริวารยึสุ. ลทฺธปจฺจยาติ ลทฺธปติฏฺา.

เอวํ ปริวาเรตฺวา ปน เต หํสา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต สุมุขํ นิสฺสาย มุตฺตภาวํ, สาคลราชลุทฺทปุตฺเตหิ กตกมฺมฺจ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ตุฏฺโ หํสคโณ ‘‘สุมุขเสนาปติ จ ราชา จ ลุทฺทปุตฺโต จ สุขิตา นิทฺทุกฺขา จิรํ ชีวนฺตู’’ติ ถุติมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา โอสานคาถมาห –

๘๘.

‘‘เอวํ มิตฺตวตํ อตฺถา, สพฺเพ โหนฺติ ปทกฺขิณา;

หํสา ยถา ธตรฏฺา, าติสงฺฆํ อุปาคมุ’’นฺติ.

ตตฺถ มิตฺตวตนฺติ กลฺยาณมิตฺตสมฺปนฺนานํ. ปทกฺขิณาติ สุขนิปฺผตฺติโน วุฑฺฒิยุตฺตา. ธตรฏฺาติ หํสราชา สุมุโข รฺา เจว ลุทฺทปุตฺเตน จาติ ทฺวีหิ เอวํ อุโภปิ เต ธตรฏฺา กลฺยาณมิตฺตสมฺปนฺนา ยถา าติสงฺฆํ อุปาคมุํ , าติสงฺฆอุปคมนสงฺขาโต เนสํ อตฺโถ ปทกฺขิโณ ชาโต, เอวํ อฺเสมฺปิ มิตฺตวตํ อตฺถา ปทกฺขิณา โหนฺตีติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น ภิกฺขเว อิทาเนว, ปุพฺเพปานนฺโท มมตฺถาย ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา เนสาโท ฉนฺโน อโหสิ, ราชา สาริปุตฺโต , สุมุโข อานนฺโท, ฉนฺนวุติ หํสสหสฺสา พุทฺธปริสา, หํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

จูฬหํสชาตกวณฺณนา ปมา.

[๕๓๔] ๒. มหาหํสชาตกวณฺณนา

เอเต หํสา ปกฺกมนฺตีติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรนฺโต อานนฺทเถรสฺส ชีวิตปริจฺจาคเมว อารพฺภ กเถสิ. วตฺถุ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว, อิธ ปน สตฺถา อตีตํ อาหรนฺโต อิทมาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ สํยมสฺส นาม พาราณสิรฺโ เขมา นาม อคฺคมเหสี อโหสิ. ตทา โพธิสตฺโต นวุติหํสสหสฺสปริวุโต จิตฺตกูเฏ วิหาสิ. อเถกทิวสํ เขมา เทวี ปจฺจูสสมเย สุปินํ อทฺทส. สุวณฺณวณฺณา หํสา อาคนฺตฺวา ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา มธุรสฺสเรน ธมฺมกถํ กเถสุํ. เทวิยา สาธุการํ ทตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติยา ธมฺมสฺสวเนน อติตฺตาย เอว รตฺติ วิภายิ. หํสา ธมฺมํ กเถตฺวา สีหปฺชเรน นิกฺขมิตฺวา อคมํสุ. สา เวเคนุฏฺาย ‘‘ปลายมาเน หํเส คณฺหถ คณฺหถา’’ติ วตฺวา หตฺถํ ปสาเรนฺตีเยว ปพุชฺฌิ. ตสฺสา กถํ สุตฺวา ปริจาริกาโย ‘‘กุหึ หํสา’’ติ โถกํ อวหสึสุ. สา ตสฺมึ ขเณ สุปินภาวํ ตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อหํ อภูตํ น ปสฺสามิ, อทฺธา อิมสฺมึ โลเก สุวณฺณวณฺณา หํสา ภวิสฺสนฺติ, สเจ โข ปน ‘สุวณฺณหํสานํ ธมฺมํ โสตุกามามฺหี’ติ ราชานํ วกฺขามิ, ‘อมฺเหหิ สุวณฺณหํสา นาม น ทิฏฺปุพฺพา, หํสานฺจ กถา นาม อภูตาเยวา’ติ วตฺวา นิรุสฺสุกฺโก ภวิสฺสติ, ‘โทหโฬ’ติ วุตฺเต ปน เยน เกนจิ อุปาเยน ปริเยสิสฺสติ, เอวํ เม มโนรโถ สมิชฺฌิสฺสตี’’ติ. สา คิลานาลยํ ทสฺเสตฺวา ปริจาริกานํ สฺํ ทตฺวา นิปชฺชิ.

ราชา ราชาสเน นิสินฺโน ตสฺสา ทสฺสนเวลาย ตํ อทิสฺวา ‘‘กหํ, เขมา เทวี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คิลานา’’ติ สุตฺวา ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา สยเนกเทเส นิสีทิตฺวา ปิฏฺึ ปริมชฺชนฺโต ‘‘กึ เต อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว อฺํ อผาสุกํ นตฺถิ, โทหโฬ ปน เม อุปฺปนฺโน’’ติ. เตน หิ ‘‘ภณ, เทวิ, ยํ อิจฺฉสิ, ตํ สีฆํ เต อุปนาเมสฺสามี’’ติ. ‘‘มหาราช, อหเมกสฺส สุวณฺณหํสสฺส สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กตฺวา สาธุการํ ททมานา ธมฺมกถํ โสตุมิจฺฉามิ, สเจ ลภามิ, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ, ชีวิตํ เม นตฺถี’’ติ. อถ นํ ราชา ‘‘สเจ มนุสฺสโลเก อตฺถิ, ลภิสฺสสิ , มา จินฺตยี’’ติ อสฺสาเสตฺวา สิริคพฺภโต นิกฺขมฺม อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตสิ – ‘‘อมฺโภ, เขมา เทวี, ‘สุวณฺณหํสสฺส ธมฺมกถํ โสตุํ ลภนฺตี ชีวิสฺสามิ, อลภนฺติยา เม ชีวิตํ นตฺถี’ติ วทติ, อตฺถิ นุ โข สุวณฺณวณฺณา หํสา’’ติ. ‘‘เทว อมฺเหหิ เนว ทิฏฺปุพฺพา น สุตปุพฺพา’’ติ. ‘‘เก ปน ชาเนยฺยุ’’นฺติ? ‘‘พฺราหฺมณา, เทวา’’ติ. ราชา พฺราหฺมเณ ปกฺโกสาเปตฺวา สกฺการํ กตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘โหนฺติ นุ โข อาจริยา สุวณฺณวณฺณา หํสา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช อมฺหากํ มนฺเตสุมจฺฉา, กกฺกฏกา, กจฺฉปา, มิคา, โมรา, หํสาติ ฉ เอเต ติรจฺฉานคตา สุวณฺณวณฺณา โหนฺตีติ อาคตา, ตตฺถ ธตรฏฺกุลหํสา นาม ปณฺฑิตา าณสมฺปนฺนา, อิติ มนุสฺเสหิ สทฺธึ สตฺต สุวณฺณวณฺณา โหนฺตี’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา อตฺตมโน หุตฺวา ‘‘กหํ นุ โข อาจริยา ธตรฏฺหํสา วสนฺตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ชานาม, มหาราชา’’ติ วุตฺเต ‘‘อถ เก ปน ชานิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘ลุทฺทปุตฺตา’’ติ วุตฺเต สพฺเพ อตฺตโน วิชิเต ลุทฺทเก สนฺนิปาตาเปตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ตาตา, สุวณฺณวณฺณา ธตรฏฺกุลหํสา นาม กหํ วสนฺตี’’ติ? อเถโก ลุทฺโท ‘‘หิมวนฺเต กิร, เทว, จิตฺตกูฏปพฺพเตติ โน กุลปรมฺปราย กเถนฺตี’’ติ อาห. ‘‘ชานาสิ ปน เนสํ คหณูปาย’’นฺติ? ‘‘น ชานามิ, เทวา’’ติ. ‘‘เก ปน ชานิสฺสนฺตี’’ติ? พฺราหฺมณาติ. โส พฺราหฺมณปณฺฑิเต ปกฺโกสาเปตฺวา จิตฺตกูฏปพฺพเต สุวณฺณวณฺณานํ หํสานํ อตฺถิภาวํ อาโรเจตฺวา ‘‘ชานาถ นุ โข เตสํ คหณูปาย’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาราช, กึ เตหิ คนฺตฺวา คหิเตหิ, อุปาเยน เต นครสมีปํ อาเนตฺวา คเหสฺสามา’’ติ. ‘‘โก ปน อุปาโย’’ติ? ‘‘มหาราช, นครโต อวิทูเร อุตฺตเรน ติคาวุตมตฺเต ติคาวุตปฺปมาณํ เขมํ นาม สรํ การาเปตฺวา อุทกสฺส ปูเรตฺวา นานาธฺานิ โรเปตฺวา ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺนํ การาเปตฺวา เอกํ ปณฺฑิตํ เนสาทํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา มนุสฺสานํ อุปคนฺตุํ อทตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ ิเตหิ อภยํ โฆสาเปถ, ตํ สุตฺวา นานาสกุณา ทส ทิสา โอตริสฺสนฺติ, เตปิ หํสา ปรมฺปราย ตสฺส สรสฺส เขมภาวํ สุตฺวา อาคจฺฉิสฺสนฺติ, อถ เน วาลปาเสหิ พนฺธาเปตฺวา คณฺหาเปยฺยาถา’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา เตหิ วุตฺตปเทเส วุตฺตปฺปการํ สรํ การาเปตฺวา เฉกํ เนสาทํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สหสฺสํ ทาเปตฺวา ‘‘ตฺวํ อิโต ปฏฺาย อตฺตโน กมฺมํ มา กริ, ปุตฺตทารํ เต อหํ โปเสสฺสามิ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต เขมํ สรํ รกฺขนฺโต มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา จตูสุ กณฺเณสุ อภยํ โฆสาเปตฺวา อาคตาคเต สกุเณ มม อาจิกฺเขยฺยาสิ, สุวณฺณหํเสสุ อาคเตสุ มหนฺตํ สกฺการํ ลภิสฺสสี’’ติ ตมสฺสาเสตฺวา เขมํ สรํ ปฏิจฺฉาเปสิ. โส ตโต ปฏฺาย รฺา วุตฺตนเยเนว ตตฺถ ปฏิปชฺชิ, ‘‘เขมํ สรํ รกฺขตี’’ติ จสฺส ‘‘เขมเนสาโท’’ตฺเวว นามํ อุทปาทิ . ตโต ปฏฺาย จ นานปฺปการา สกุณา โอตรึสุ, ‘‘เขมํ นิพฺภยํ สร’’นฺติ ปรมฺปราโฆเสน นานาหํสา อาคมึสุ. ปมํ ตาว ติณหํสา อาคมึสุ, เตสํ โฆเสน ปณฺฑุหํสา, เตสํ โฆเสน มโนสิลาวณฺณา หํสา, เตสํ โฆเสน เสตหํสา, เตสํ โฆเสน ปากหํสา อาคมึสุ. เตสุ อาคเตสุ เขมโก รฺโ อาโรเจสิ – ‘‘เทว, ปฺจวณฺณา หํสา อาคนฺตฺวา สเร โคจรํ คณฺหนฺติ, ปากหํสานํ อาคตตฺตา อิทานิ กติปาเหเนว สุวณฺณหํสา อาคมิสฺสนฺติ, มา จินฺตยิตฺถ, เทวา’’ติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อฺเน ตตฺถ น คนฺตพฺพํ, โย คจฺฉิสฺสติ, หตฺถปาทเฉทนฺจ ฆรวิโลปฺจ ปาปุณิสฺสตี’’ติ นคร เภรึ จราเปสิ. ตโต ปฏฺาย ตตฺถ โกจิ น คจฺฉติ. จิตฺตกูฏสฺส ปนาวิทูเร กฺจนคุหายํปากหํสา วสนฺติ, เตปิ มหพฺพลา. ธตรฏฺกุเลน สทฺธึ เตสํ สรีรวณฺโณว วิเสโส. ปากหํสรฺโ ปน ธีตา สุวณฺณวณฺณา อโหสิ. โส ตํ ธตรฏฺมหิสฺสรสฺส อนุรูปาติ ตสฺส ปาทปริจาริกํ กตฺวา เปเสสิ. สา ตสฺส ปิยา อโหสิ มนาปา, เตเนว จ การเณน ตานิ ทฺเว หํสกุลานิ อฺมฺํ วิสฺสาสิกานิ ชาตานิ.

อเถกทิวสํ โพธิสตฺตสฺส ปริวารหํสา ปากหํเส ปุจฺฉึสุ – ‘‘ตุมฺเห อิเมสุ ทิวเสสุ กหํ โคจรํ คณฺหถา’’ติ? ‘‘มยํ พาราณสิโต อวิทูเร เขมสเร โคจรํ คณฺหาม, ตุมฺเห ปน กุหึ อาหิณฺฑถา’’ติ. ‘‘อสุกํ นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺมา เขมสรํ น คจฺฉถ, โส หิ สโร รมณีโย นานาสกุณสมากิณฺโณ ปฺจวณฺณปทุมสฺฉนฺโน นานาธฺผลสมฺปนฺโน นานปฺปการภมรคณนิกูชิโต จตูสุ กณฺเณสุ นิจฺจํ ปวตฺตอภยโฆสโน, โกจิ นํ อุปสงฺกมิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, ปเคว อฺํ อุปทฺทวํ กาตุํ, เอวรูโป โส สโร’’ติ เขมสรํ วณฺณยึสุ. เต เตสํ วจนํ สุตฺวา ‘‘พาราณสิยา สมีเป กิร เอวรูโป เขโม นาม สโร อตฺถิ, ปากหํสา ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺหนฺติ, ตุมฺเหปิ ธตรฏฺมหิสฺสรสฺส อาโรเจถ, สเจ อนุชานาติ, มยมฺปิ ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คณฺเหยฺยามา’’ติ สุมุขสฺส กเถสุํ. สุมุโข รฺโ อาโรเจสิ. โส จินฺเตสิ – ‘‘มนุสฺสา นาม พหุมายา ขรมนฺตา อุปายกุสลา, ภวิตพฺพเมตฺถ การเณน, เอตฺตกํ กาลํ เอโส สโร นตฺถิ, อิทานิ อมฺหากํ คหณตฺถาย กโต ภวิสฺสตี’’ติ. โส สุมุขํ อาห – ‘‘มา โว ตตฺถ คมนํ รุจฺจถ, น โส สโร เตหิ สุธมฺมตาย กโต, อมฺหากํ คหณตฺถาเยว กโต, มนุสฺสา นาม พหุมายา ขรมนฺตา อุปายกุสลา, ตุมฺเห สเกเยว โคจเร จรถา’’ติ .

สุวณฺณหํสา ‘‘เขมํ สรํ คนฺตุกามมฺหา’’ติ ทุติยมฺปิ ตติยมฺปิ สุมุขสฺส อาโรเจสุํ. โส เตสํ ตตฺถ คนฺตุกามตํ มหาสตฺตสฺส อาโรเจสิ. อถ มหาสตฺโต ‘‘มม าตกา มํ นิสฺสาย มา กิลมนฺตุ, เตน หิ คจฺฉามา’’ติ นวุติหํสสหสฺสปริวุโต ตตฺถ คนฺตฺวา โคจรํ คเหตฺวา หํสกีฬํ กีฬิตฺวา จิตฺตกูฏเมว ปจฺจาคมิ. เขมโก เตสํ โคจรํ จริตฺวา คตกาเล คนฺตฺวา เตสํ อาคตภาวํ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา, ‘‘สมฺม เขมก, เอกํ วา ทฺเว วา หํเส คณฺหิตุํ วายม, มหนฺตํ เต ยสํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา จาฏิปฺชเร นิสีทิตฺวา หํสานํ จรณฏฺานํ วีมํสิ. โพธิสตฺตา นาม นิลฺโลลุปฺปจาริโน โหนฺติ, ตสฺมา มหาสตฺโต โอติณฺณฏฺานโต ปฏฺาย สปทานํ สาลึ ขาทนฺโต อคมาสิ. เสสา อิโต จิโต จ ขาทนฺตา วิจรึสุ.

อถ ลุทฺทปุตฺโต ‘‘อยํ หํโส นิลฺโลลุปฺปจารี, อิมํ พนฺธิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จินฺเตตฺวา ปุนทิวเส หํเสสุ สรํ อโนติณฺเณสุเยว จาฏิปฺชเร นิสินฺโน ตํ านํ คนฺตฺวา อวิทูเร ปฺชเร อตฺตานํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต อจฺฉิ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต นวุติหํสสหสฺสปุรกฺขโต หิยฺโย โอติณฺณฏฺาเนเยว โอตริตฺวา โอธิยํ นิสีทิตฺวา สาลึ ขาทนฺโต ปายาสิ. เนสาโท ปฺชรฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต ตสฺส รูปโสภคฺคปฺปตฺตํ อตฺตภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ หํโส สกฏนาภิปฺปมาณสรีโร สุวณฺณวณฺโณ, ตีหิ รตฺตราชีหิ คีวายํ ปริกฺขิตฺโต, ติสฺโส ราชิโย คเลน โอตริตฺวา อุรนฺตเรน คตา, ติสฺโส ปจฺฉาภาเคน นิพฺพิชฺฌิตฺวา คตา, รตฺตกมฺพลสุตฺตสิกฺกาย ปิตกฺจนกฺขนฺโธ วิย อติโรจติ, อิมินา เอเตสํ รฺา ภวิตพฺพํ, อิมเมว คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตสิ. หํสราชาปิ พหุํ โคจรํ จริตฺวา ชลกีฬํ กีฬิตฺวา หํสคณปริวุโต จิตฺตกูฏเมว อคมาสิ. อิมินา นิยาเมเนว ปฺจ ทิวเส โคจรํ คณฺหิ. ฉฏฺเ ทิวเส เขมโก กาฬอสฺสวาลมยํ ทฬฺหํ มหารชฺชุํ วฏฺฏิตฺวา ยฏฺิยา ปาสํ กตฺวา ‘‘สฺเว หํสราชา อิมสฺมึ โอกาเส โอตริสฺสตี’’ติ ตถโต ตฺวา อนฺโตอุทเก ยฏฺิปาสํ โอฑฺฑิ.

ปุนทิวเส หํสราชา โอตรนฺโต ปาทํ ปาเส ปเวสนฺโตเยว โอตริ. อถสฺส ปาโส ปาทํ อยปฏฺฏเกน กฑฺฒนฺโต วิย อาพนฺธิตฺวา คณฺหิ. โส ‘‘ฉินฺทิสฺสามิ น’’นฺติ เวคํ ชเนตฺวา กฑฺฒิตฺวา ปาเตสิ. ปมวาเร สุวณฺณวณฺณํ จมฺมํ ฉิชฺชิ, ทุติยวาเร กมฺพลวณฺณํ มํสํ ฉิชฺชิ, ตติยวาเร นฺหารุ ฉิชฺชิ, จตุตฺถวาเร ปน ‘‘ปาทา ฉิชฺเชยฺยุํ, รฺโ ปน หีนงฺคตา นาม อนนุจฺฉวิกา’’ติ น วายามํ อกาสิ, พลวเวทนา จ ปวตฺตึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ พทฺธรวํ รวิสฺสามิ, าตกา เม ตฺรสฺตา หุตฺวา โคจรํ อคฺคเหตฺวา ฉาตชฺฌตฺตาว ปลายนฺตา ทุพฺพลตฺตา สมุทฺเท ปติสฺสนฺตี’’ติ. โส เวทนํ อธิวาเสตฺวา ปาสวเส วตฺเตตฺวา สาลึ ขาทนฺโต วิย หุตฺวา เตสํ ยาวทตฺถํ จริตฺวา หํสกีฬํ กีฬนกาเล มหนฺเตน สทฺเทน พทฺธรวํ รวิ. ตํ สุตฺวา หํสา มรณภยตชฺชิตา วคฺควคฺคา จิตฺตกูฏาภิมุขา ปุริมนเยเนว ปกฺกมึสุ.

สุมุโขปิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว จินฺเตตฺวา วิจินิตฺวา ตีสุปิ โกฏฺาเสสุ มหาสตฺตํ อทิสฺวา ‘‘อทฺธา ตสฺเสเวทํ ภยํ อุปฺปนฺน’’นฺติ นิวตฺติตฺวา อาคโต มหาสตฺตํ ปาเสน พทฺธํ โลหิตมกฺขิตํ ทุกฺขาตุรํ ปงฺกปิฏฺเ นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘มา ภายิ, มหาราช, อหํ มม ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ตุมฺเห โมเจสฺสามี’’ติ วทนฺโต โอตริตฺวา มหาสตฺตํ อสฺสาเสนฺโต ปงฺกปิฏฺเ นิสีทิ. มหาสตฺโต ‘‘นวุติหํสสหสฺเสสุ มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายนฺเตสุ อยํ สุมุโข เอกโกว อาคโต, กึ นุ โข ลุทฺทปุตฺตสฺส อาคตกาเล มํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลายิสฺสติ, อุทาหุ โน’’ติ วีมํสนวเสน โลหิตมกฺขิโต ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺโตเยว ติสฺโส คาถา อภาสิ –

๘๙.

‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;

หริตฺตจ เหมวณฺณ, กามํ สุมุข ปกฺกม.

๙๐.

‘‘โอหาย มํ าติคณา, เอกํ ปาสวสํ คตํ;

อนเปกฺขมานา คจฺฉนฺติ, กึ เอโก อวหียสิ.

๙๑.

‘‘ปเตว ปตตํ เสฏฺ, นตฺถิ พทฺเธ สหายตา;

มา อนีฆาย หาเปสิ, กามํ สุมุข ปกฺกมา’’ติ.

ตตฺถ ภยเมริตาติ ภเยน เอริตา ภยฏฺฏิตา ภยจลิตา. ตติยปเท ‘‘หรี’’ติปิ ‘‘เหม’’นฺติปิ สุวณฺณสฺเสว นามํ. โส จ หริตฺตจตาย เหมวณฺโณ, เตน ตํ เอวํ อาลปติ. สุมุขาติ สุนฺทรมุข. อนเปกฺขมานาติ ตว าตกา มํ อโนโลเกนฺตา นิราลยา หุตฺวา. ปเตวาติ อุปฺปตาหิเยว. มา อนีฆายาติ อิโต คนฺตฺวา ปตฺตพฺพาย นิทุกฺขภาวาย วีริยํ มา หาเปสิ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อยํ หํสราชา มม ปิยมิตฺตภาวํ น ชานาติ, อนุปฺปิยภาณี มิตฺโตติ มํ สลฺลกฺเขติ, สิเนหภาวมสฺส ทสฺเสสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา จตสฺโส คาถา อภาสิ –

๙๒.

‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตปิ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;

ชีวิตํ มรณํ วา เม, ตยา สทฺธึ ภวิสฺสติ.

๙๓.

‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตปิ, ธตรฏฺ ตุวํ ชเห;

น มํ อนริยสํยุตฺเต, กมฺเม โยเชตุมรหสิ.

๙๔.

‘‘สกุมาโร สขาตฺยสฺมิ, สจิตฺเต จสฺมิ เต ิโต;

าโต เสนาปตี ตฺยาหํ, หํสานํ ปวรุตฺตม.

๙๕.

‘‘กถํ อหํ วิกตฺติสฺสํ, าติมชฺเฌ อิโต คโต;

ตํ หิตฺวา ปตตํ เสฏฺ, กึ เต วกฺขามิโต คโต;

อิธ ปาณํ จชิสฺสามิ, นานริยํ กตฺตุมุสฺสเห’’ติ.

ตตฺถ นาหนฺติ อหํ, มหาราช, กายิกเจตสิเกน ทุกฺเขน ผุฏฺโปิ ตํ น ชหามิ. อนริยสํยุตฺเตติ มิตฺตทุพฺภีหิ อหิริเกหิ กตฺตพฺพตาย อนริยภาเวน สํยุตฺเต. กมฺเมติ ตํ ชหิตฺวา ปกฺกมนกมฺเม. สกุมาโรติ สมานกุมาโร, เอกทิวเสเนว ปฏิสนฺธึ คเหตฺวา เอกทิวเส อณฺฑโกสํ ปทาเลตฺวา เอกโต วฑฺฒิตกุมาโรติ อตฺโถ. สขาตฺยสฺมีติ อหํ เต ทกฺขิณกฺขิสโม ปิยสหาโย. สจิตฺเตติ ตว สเก จิตฺเต อหํ ิโต ตว วเส วตฺตามิ, ตยิ ชีวนฺเต ชีวามิ, น ชีวนฺเต น ชีวามีติ อตฺโถ. ‘‘สํจิตฺเต’’ติปิ ปาโ, ตว จิตฺเต อหํ สณฺิโต สุฏฺุ ิโตติ อตฺโถ. าโตติ สพฺพหํสานํ อนฺตเร ปฺาโต. วิกตฺติสฺสนฺติ ‘‘กุหึ หํสราชา’’ติ ปุจฺฉิโต อหํ กินฺติ กเถสฺสามิ. กึ เต วกฺขามีติ เต ตว ปวตฺตึ ปุจฺฉนฺเต หํสคเณ กึ วกฺขามิ.

เอวํ สุมุเขน จตูหิ คาถาหิ สีหนาเท นทิเต ตสฺส คุณํ ปกาเสนฺโต มหาสตฺโต อาห –

๙๖.

‘‘เอโส หิ ธมฺโม สุมุข, ยํ ตฺวํ อริยปเถ ิโต;

โย ภตฺตารํ สขารํ มํ, น ปริจฺจตฺตุมุสฺสเห.

๙๗.

‘‘ตฺหิ เม เปกฺขมานสฺส, ภยํ น ตฺเวว ชายติ;

อธิคจฺฉสิ ตฺวํ มยฺหํ, เอวํภูตสฺส ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ เอโส ธมฺโมติ เอส โปราณกปณฺฑิตานํ สภาโว. ภตฺตารํ สขารํ มนฺติ สามิกฺจ สหายฺจ มํ. ภยนฺติ จิตฺตุตฺราโส มยฺหํ น ชายติ, จิตฺตกูฏปพฺพเต หํสคณมชฺเฌ ิโต วิย โหมิ. มยฺหนฺติ มม ชีวิตํ ตฺวํ ลภาเปสฺสสิ.

เอวํ เตสํ กเถนฺตานฺเว ลุทฺทปุตฺโต สรปริยนฺเต ิโต หํเส ตีหิ ขนฺเธหิ ปลายนฺเต ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข’’ติ ปาสฏฺานํ โอโลเกนฺโต โพธิสตฺตํ ปาสยฏฺิยํ โอลมฺพนฺตํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส กจฺฉํ ทฬฺหํ พนฺธิตฺวา มุคฺครํ คเหตฺวา กปฺปุฏฺานคฺคิ วิย อวตฺถรมาโน ปณฺหิยา อกฺกนฺตกลเล อุปริสีเสน คนฺตฺวา ปุรโต ปตนฺเต เวเคน อุปสงฺกมิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๙๘.

‘‘อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ, อริยานํ อริยวุตฺตินํ;

ทณฺฑมาทาย เนสาโท, อาปตี ตุริโต ภุสํ.

๙๙.

‘‘ตมาปตนฺตํ ทิสฺวาน, สุมุโข อติพฺรูหยิ;

อฏฺาสิ ปุรโต รฺโ, หํโส วิสฺสาสยํ พฺยถํ.

๑๐๐.

‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฏฺ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;

อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสฺหิตํ;

เตน ปริยาปทาเนน, ขิปฺปํ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ อริยวุตฺตินนฺติ อริยาจาเร วตฺตมานานํ. ภุสนฺติ ทฬฺหํ พลวํ. อติพฺรูหยีติ อนนฺตรคาถาย อาคตํ ‘‘มา ภายี’’ติ วจนํ วทนฺโต อติพฺรูเหสิ มหาสทฺทํ นิจฺฉาเรสิ. อฏฺาสีติ สเจ เนสาโท ราชานํ ปหริสฺสติ, อหํ ปหารํ สมฺปฏิจฺฉิสฺสามีติ ชีวิตํ ปริจฺจชิตฺวา ปุรโต อฏฺาสิ. วิสฺสาสยนฺติ วิสฺสาเสนฺโต อสฺสาเสนฺโต. พฺยถนฺติ พฺยถิตํ ภีตํ ราชานํ ‘‘มา ภายี’’ติ อิมินา วจเนน วิสฺสาเสนฺโต. ตาทิสาติ ตุมฺหาทิสา าณวีริยสมฺปนฺนา. โยคนฺติ าณวีริยโยคํ. ยุตฺตนฺติ อนุจฺฉวิกํ. ธมฺมูปสฺหิตนฺติ การณนิสฺสิตํ. เตน ปริยาปทาเนนาติ เตน มยา ปยุตฺเตน โยเคน ปริสุทฺเธน. ปโมกฺขสีติ มุจฺจิสฺสสิ.

เอวํ สุมุโข มหาสตฺตํ อสฺสาเสตฺวา ลุทฺทปุตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา มธุรํ มานุสึ วาจํ นิจฺฉาเรนฺโต, ‘‘สมฺม, ตฺวํ โกนาโมสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สุวณฺณวณฺณหํสราช, อหํ เขมโก นามา’’ติ วุตฺเต, ‘‘สมฺม เขมก, ‘ตยา โอฑฺฑิตวาลปาเส โย วา โส วา หํโส พทฺโธ’ติ สฺํ มา กริ, นวุติยา หํสสหสฺสานํ ปวโร ธตรฏฺหํสราชา เต ปาเส พทฺโธ, าณสีลาจารสมฺปนฺโน สงฺคาหกปกฺเข ิโต, น ตํ มาเรตุํ ยุตฺโต, อหํ ตว อิมินา กตฺตพฺพกิจฺจํ กริสฺสามิ, อยมฺปิ สุวณฺณวณฺโณ, อหมฺปิ ตเถว, อหํ เอตสฺสตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชิสฺสามิ, สเจ ตฺวํ เอตสฺส ปตฺตานิ คณฺหิตุกาโมสิ, มม ปตฺตานิ คณฺห, อโถปิ จมฺมมํสนฺหารุอฏฺีนมฺตรํ คณฺหิตุกาโมสิ, มเมว สรีรโต คณฺห, อถ นํ กีฬาหํสํ กาตุกาโมสิ, มฺเว กร, ชีวนฺตเมว วิกฺกิณิตฺวา สเจ ธนํ อุปฺปาเทตุกาโมสิ, มํ ชีวนฺตเมว วิกฺกิณิตฺวา ธนํ อุปฺปาเทหิ, มา เอตํ าณาทิคุณสํยุตฺตํ หํสราชานํ อวธิ, สเจ หิ นํ วธิสฺสสิ, นิรยาทีหิ น มุจฺจิสฺสสี’’ติ ตํ นิรยาทิภเยน สนฺตชฺเชตฺวา อตฺตโน มธุรกถํ คณฺหาเปตฺวา ปุน โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ อสฺสาเสนฺโต อฏฺาสิ. เนสาโท ตสฺส กถํ สุตฺวา ‘‘อยํ ติรจฺฉานคโต สมาโน มนุสฺเสหิปิ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ เอวรูปํ มิตฺตธมฺมํ กโรติ, มนุสฺสาปิ เอวํ มิตฺตธมฺเม าตุํ น สกฺโกนฺติ, อโห เอส าณสมฺปนฺโน มธุรกโถ ธมฺมิโก’’ติ สกลสรีรํ ปีติโสมนสฺสปริปุณฺณํ กตฺวา ปหฏฺโลโม ทณฺฑํ ฉฑฺเฑตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปติฏฺเปตฺวา สูริยํ นมสฺสนฺโต วิย สุมุขสฺส คุณํ กิตฺเตนฺโต อฏฺาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๐๑.

‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สุมุขสฺส สุภาสิตํ;

ปหฏฺโลโม เนสาโท, อฺชลิสฺส ปณามยิ.

๑๐๒.

‘‘น เม สุตํ วา ทิฏฺํ วา, ภาสนฺโต มานุสึ ทิโช;

อริยํ พฺรุวาโน วกฺกงฺโค, จชนฺโต มานุสึ คิรํ.

๑๐๓.

‘‘กึ นุ ตายํ ทิโช โหติ, มุตฺโต พทฺธํ อุปาสสิ;

โอหาย สกุณา ยนฺติ, กึ เอโก อวหียสี’’ติ.

ตตฺถ อฺชลิสฺส ปณามยีติ อฺชลึ อสฺส อุปนามยิ, ‘‘น เม’’ติ คาถายสฺส ถุตึ กโรติ. ตตฺถ มานุสินฺติ มนุสฺสวาจํ. อริยนฺติ สุนฺทรํ นิทฺโทสํ. จชนฺโตติ วิสฺสชฺเชนฺโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม, ตฺวํ ทิโช สมาโน อชฺช มยา สทฺธึ มานุสึ วาจํ ภาสนฺโต นิทฺโทสํ พฺรุวาโน มานุสึ คิรํ จชนฺโต ปจฺจกฺขโต ทิฏฺโ, อิโต ปุพฺเพ ปน อิทํ อจฺฉริยํ มยา เนว สุตํ น ทิฏฺนฺติ. กึ นุ ตายนฺติ ยํ เอตํ ตฺวํ อุปาสสิ, กึ นุ เต อยํ โหติ.

เอวํ ตุฏฺจิตฺเตน เนสาเทน ปุฏฺโ สุมุโข ‘‘อยํ มุทุโก ชาโต, อิทานิสฺส ภิยฺโยโสมตฺตาย มุทุภาวตฺถํ มม คุณํ ทสฺเสสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๑๐๔.

‘‘ราชา เม โส ทิชามิตฺต, เสนาปจฺจสฺส การยึ;

ตมาปเท ปริจฺจตุํ, นุสฺสเห วิหคาธิปํ.

๑๐๕.

‘‘มหาคณาย ภตฺตา เม, มา เอโก พฺยสนํ อคา;

ตถา ตํ สมฺม เนสาท, ภตฺตายํ อภิโต รเม’’ติ.

ตตฺถ นุสฺสเหติ น สมตฺโถมฺหิ. มหาคณายาติ มหโต หํสคณสฺส. มา เอโกติ มาทิเส เสวเก วิชฺชมาเน มา เอกโก พฺยสนํ อคา. ตถา ตนฺติ ยถา อหํ วทามิ, ตเถว ตํ. สมฺมาติ วยสฺส. ภตฺตายํ อภิโต รเมติ ภตฺตา อยํ มม, อหมสฺส อภิโต รเม สนฺติเก รมามิ น อุกฺกณฺามีติ.

เนสาโท ตํ ตสฺส ธมฺมนิสฺสิตํ มธุรกถํ สุตฺวา โสมนสฺสปฺปตฺโต ปหฏฺโลโม ‘‘สจาหํ เอตํ สีลาทิคุณสํยุตฺตํ หํสราชานํ วธิสฺสามิ, จตูหิ อปาเยหิ น มุจฺจิสฺสามิ, ราชา มํ ยทิจฺฉติ, ตํ กโรตุ, อหเมตํ สุมุขสฺส ทายํ กตฺวา วิสฺสชฺเชสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๐๖.

‘‘อริยวตฺตสิ วกฺกงฺค, โย ปิณฺฑมปจายสิ;

จชามิ เต ตํ ภตฺตารํ, คจฺฉถูโภ ยถาสุข’’นฺติ.

ตตฺถ อริยวตฺตสีติ มิตฺตธมฺมรกฺขณสงฺขาเตน อาจารอริยานํ วตฺเตน สมนฺนาคโตสิ. ปิณฺฑมปจายสีติ ภตฺตุ สนฺติกา ลทฺธํ ปิณฺฑํ เสนาปติฏฺานํ ปูเชสิ. คจฺฉถูโภติ ทฺเวปิ ชนา อสฺสุมุเข าติสงฺเฆ หาสยมานา ยถาสุขํ คจฺฉถาติ.

เอวํ วตฺวา เนสาโท มุทุจิตฺเตน มหาสตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยฏฺึ โอนาเมตฺวา ปงฺกปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาสยฏฺิยา โมเจตฺวา ตํ อุกฺขิปิตฺวา สรโต นีหริตฺวา ตรุณทพฺพติณปิฏฺเ นิสีทาเปตฺวา ปาเท พทฺธปาสํ สณิกํ โมเจตฺวา มหาสตฺเต พลวสิเนหํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา เมตฺตจิตฺเตน อุทกํ อาทาย โลหิตํ โธวิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริมชฺชิ, อถสฺส เมตฺตานุภาเวน สิราย สิรา, มํเสน มํสํ, จมฺเมน จมฺมํ ฆฏิตํ, ปาโท ปากติโก อโหสิ, อิตเรน นิพฺพิเสโส. โพธิสตฺโต สุขปฺปตฺโต หุตฺวา ปกติภาเวน นิสีทิ. สุมุโข อตฺตานํ นิสฺสาย รฺโ สุขิตภาวํ ทิสฺวา สฺชาตโสมนสฺโส จินฺเตสิ – ‘‘อิมินา อมฺหากํ มหาอุปกาโร กโต, อมฺเหหิ เอตสฺส กโต อุปกาโร นาม นตฺถิ, สเจ เอส ราชราชมหามตฺตานํ อตฺถาย อมฺเห คณฺหิ, เตสํ สนฺติกํ เนตฺวา พหุํ ธนํ ลภิสฺสติ, สเจ อตฺตโน อตฺถาย คณฺหิ, อมฺเห วิกฺกิณิตฺวา ธนํ ลภิสฺสเตว, ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ. อถ นํ อุปการํ กาตุกามตาย ปุจฺฉนฺโต อาห –

๑๐๗.

‘‘สเจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;

ปฏิคฺคณฺหาม เต สมฺม, เอตํ อภยทกฺขิณํ.

๑๐๘.

‘‘โน เจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;

อนิสฺสโร มุฺจมมฺเห, เถยฺยํ กยิราสิ ลุทฺทกา’’ติ.

ตตฺถ สเจติ, สมฺม เนสาท, สเจ ตยา อตฺตโน ปโยเคน อตฺตโน อตฺถาย หํสานฺเจว เสสปกฺขีนฺจ ปาโส โอหิโต. อนิสฺสโรติ อนิสฺสโร หุตฺวา อมฺเห มุฺจนฺโต เยนาสิ อาณตฺโต, ตสฺสสนฺตกํ คณฺหนฺโต เถยฺยํ กยิราสิ.

ตํ สุตฺวา เนสาโท ‘‘นาหํ ตุมฺเห อตฺตโน อตฺถาย คณฺหึ, พาราณสิรฺา ปน สํยเมน คณฺหาปิโตมฺหี’’ติ วตฺวา เทวิยา ทิฏฺสุปินกาลโต ปฏฺาย ยาว รฺา เตสํ อาคตภาวํ สุตฺวา, ‘‘สมฺม เขมก, เอกํ วา ทฺเว วา หํเส คณฺหิตุํ วายม, มหนฺตํ เต ยสํ ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ปริพฺพยํ ทตฺวา อุยฺโยชิตภาโว, ตาว สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อิมินา เนสาเทน อตฺตโน ชีวิตํ อคเณตฺวา อมฺเห วิสฺสชฺเชนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, สเจ มยํ อิโต จิตฺตกูฏํ คมิสฺสาม, เนว ธตรฏฺรฺโ ปฺานุภาโว, น มยฺหํ มิตฺตธมฺโม ปากโฏ ภวิสฺสติ, น ลุทฺทปุตฺโต มหนฺตํ ยสํ ลจฺฉติ, น ราชา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺหิสฺสติ, น เทวิยา มโนรโถ มตฺถกํ ปาปุณิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา , ‘‘สมฺม, เอวํ สนฺเต อมฺเห วิสฺสชฺเชตุํ น ลภสิ, รฺโ โน ทสฺเสหิ, โส อมฺเห ยถารุจึ กริสฺสตี’’ติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต คาถมาห –

๑๐๙.

‘‘ยสฺส ตฺวํ ภตโก รฺโ, กามํ ตสฺเสว ปาปย;

ตตฺถ สํยมโน ราชา, ยถาภิฺํ กริสฺสตี’’ติ.

ตตฺถ ตสฺเสวาติ ตสฺเสว สนฺติกํ เนหิ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ราชนิเวสเน. ยถาภิฺนฺติ ยถาธิปฺปายํ ยถารุจึ.

ตํ สุตฺวา เนสาโท ‘‘มา โว ภทฺทนฺเต ราชทสฺสนํ รุจฺจิตฺถ, ราชาโน นาม สปฺปฏิภยา, กีฬาหํเส วา โว กเรยฺยุํ มาเรยฺยุํ วา’’ติ อาห. อถ นํ สุมุโข, ‘‘สมฺม ลุทฺทก มา อมฺหากํ จินฺตยิ, อหํ ตาทิสสฺส กกฺขฬสฺส ธมฺมกถาย มทฺทวํ ชเนสึ, รฺโ กึ น ชเนสฺสามิ, ราชาโน หิ ปณฺฑิตา สุภาสิตทุพฺภาสิตฺุ, ขิปฺปํ โน รฺโ สนฺติกํ เนหิ, นยนฺโต จ มา พนฺธเนน นยิ, ปุปฺผปฺชเร ปน นิสีทาเปตฺวา เนหิ, ปุปฺผปฺชรํ กโรนฺโต ธตรฏฺสฺส มหนฺตํ เสตปทุมสฺฉนฺนํ, มม ขุทฺทกํ รตฺตปทุมสฺฉนฺนํ กตฺวา ธตรฏฺํ ปุรโต, มมํ ปจฺฉโต นีจตรํ กตฺวา อาทาย ขิปฺปํ เนตฺวา รฺโ ทสฺเสหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สุมุโข ราชานํ ทิสฺวา มม มหนฺตํ ยสํ ทาตุกาโม ภวิสฺสตี’’ติ สฺชาตโสมนสฺโส มุทูหิ ลตาหิ ปฺชเร กตฺวา ปทุเมหิ ฉาเทตฺวา วุตฺตนเยเนว เต คเหตฺวา อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๐.

‘‘อิจฺเจวํ วุตฺโต เนสาโท, เหมวณฺเณ หริตฺตเจ;

อุโภ หตฺเถหิ สงฺคยฺห, ปฺชเร อชฺฌโวทหิ.

๑๑๑.

‘‘เต ปฺชรคเต ปกฺขี, อุโภ ภสฺสรวณฺณิเน;

สุมุขํ ธตรฏฺฺจ, ลุทฺโท อาทาย ปกฺกมี’’ติ.

ตตฺถ อชฺฌโวทหีติ โอทหิ เปสิ. ภสฺสรวณฺณิเนติ ปภาสมฺปนฺนวณฺเณ.

เอวํ ลุทฺทสฺส เต อาทาย ปกฺกมนกาเล ธตรฏฺโ ปากหํสราชธีตรํ อตฺตโน ภริยํ สริตฺวา สุมุขํ อามนฺเตตฺวา กิเลสวเสน วิลปิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๑๒.

‘‘หรียมาโน ธตรฏฺโ, สุมุขํ เอตทพฺรวิ;

พาฬฺหํ ภายามิ สุมุข, สามาย ลกฺขณูรุยา;

อสฺมากํ วธมฺาย, อถตฺตานํ วธิสฺสติ.

๑๑๓.

‘‘ปากหํสา จ สุมุข, สุเหมา เหมสุตฺตจา;

โกฺจี สมุทฺทตีเรว, กปณา นูน รุจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ภายามีติ มรณโต ภายามิ. สามายาติ สุวณฺณวณฺณาย. ลกฺขณูรุยาติ ลกฺขณสมฺปนฺนอูรุยา. วจมฺายาติ วธํ ชานิตฺวา ‘‘มม ปิยสามิโก มาริโต’’ติ สฺี หุตฺวา. วธิสฺสตีติ กึ เม ปิยสามิเก มเต ชีวิเตนาติ มริสฺสติ. ปากหํสาติ ปากหํสราชธีตา. สุเหมาติ เอวํนามิกา. เหมสุตฺตจาติ เหมสทิสสุนฺทรตจา. รุจฺฉตีติ ยถา โลณิสงฺขาตํ สมุทฺทํ โอตริตฺวา มเต ปติมฺหิ โกฺจี สกุณิกา กปณา โรทติ, เอวํ นูน สา โรทิสฺสตีติ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘อยํ หํสราชา อฺเ โอวทิตุํ ยุตฺโต มาตุคามํ นิสฺสาย กิเลสวเสน วิลปติ, อุทกสฺส อาทิตฺตกาโล วิย วติยา อุฏฺาย เกทารขาทนกาโล วิย จ ชาโต, ยํนูนาหํ อตฺตโน พเลน มาตุคามสฺส โทสํ ปกาเสตฺวา เอตํ สฺาเปยฺย’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๑๔.

‘‘เอวํ มหนฺโต โลกสฺส, อปฺปเมยฺโย มหาคณี;

เอกิตฺถิมนุโสเจยฺย, นยิทํ ปฺวตามิว.

๑๑๕.

‘‘วาโตว คนฺธมาเทติ, อุภยํ เฉกปาปกํ;

พาโล อามกปกฺกํว, โลโล อนฺโธว อามิสํ.

๑๑๖.

‘‘อวินิจฺฉยฺุ อตฺเถสุ, มนฺโทว ปฏิภาสิ มํ;

กิจฺจากิจฺจํ น ชานาสิ, สมฺปตฺโต กาลปริยายํ.

๑๑๗.

‘‘อฑฺฒุมฺมตฺโต อุทีเรสิ, โย เสยฺยา มฺสิตฺถิโย;

พหุสาธารณา เหตา, โสณฺฑานํว สุราฆรํ.

๑๑๘.

‘‘มายา เจตา มรีจี จ, โสกา โรคา จุปทฺทวา;

ขรา จ พนฺธนา เจตา, มจฺจุปาสา คุหาสยา;

ตาสุ โย วิสฺสเส โปโส, โส นเรสุ นราธโม’’ติ.

ตตฺถ มหนฺโตติ มหนฺโต สมาโน. โลกสฺสาติ หํสโลกสฺส. อปฺปเมยฺโยติ คุเณหิ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺโย. มหาคณีติ มหนฺเตน คเณน สมนฺนาคโต คณสตฺถา. เอกิตฺถินฺติ ยํ เอวรูโป ภวํ เอกํ อิตฺถึ อนุโสเจยฺย, อิทํ อนุโสจนํ น ปฺวตํ อิว, เตนาหํ อชฺช ตํ พาโลติ มฺามีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

อาเทตีติ คณฺหาติ. เฉกปาปกนฺติ สุนฺทราสุนฺทรํ. อามกปกฺกติ อามกฺจ ปกฺกฺจ. โลโลติ รสโลโล. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ยถา นาม วาโต ปทุมสราทีนิ ปหริตฺวา สุคนฺธมฺปิ สงฺการฏฺานาทีนิ ปหริตฺวา ทุคฺคนฺธมฺปีติ อุภยํ เฉกปาปกํ คนฺธํ อาทิยติ, ยถา จ พาโล กุมารโก อมฺพชมฺพูนํ เหฏฺา นิสินฺโน หตฺถํ ปสาเรตฺวา ปติตปติตํ อามกมฺปิ ปกฺกมฺปิ ผลํ คเหตฺวา ขาทติ, ยถา จ รสโลโล อนฺโธ ภตฺเต อุปนีเต ยํกิฺจิ สมกฺขิกมฺปิ นิมฺมกฺขิกมฺปิ อามิสํ อาทิยติ, เอวํ อิตฺถิโย นาม กิเลสวเสน อฑฺฒมฺปิ ทุคฺคตมฺปิ กุลีนมฺปิ อกุลีนมฺปิ อภิรูปมฺปิ วิรูปมฺปิ คณฺหนฺติ ภชนฺติ, ตาทิสานํ ปาปธมฺมานํ อิตฺถีนํ กึการณา วิปฺปลปสิ, มหาราชาติ.

อตฺเถสูติ การณาการเณสุ. มนฺโทติ อนฺธพาโล. ปฏิภาสิ มนฺติ มม อุปฏฺาสิ. กาลปริยายนฺติ เอวรูปํ มรณกาลํ ปตฺโต ‘‘อิมสฺมึ กาเล อิทํ กตฺตพฺพํ, อิทํ นกตฺตพฺพํ, อิทํ วตฺตพฺพํ, อิทํ น วตฺตพฺพ’’นฺติ น ชานาสิ เทวาติ. อฑฺฒุมฺมตฺโตติ อฑฺฒุมฺมตฺตโก มฺเ หุตฺวา. อุทีเรสีติ ยถา สุรํ ปิวิตฺวา นาติมตฺโต ปุริโส ยํ วา ตํ วา ปลปติ, เอวํ ปลปสีติ อตฺโถ. เสยฺยาติ วรา อุตฺตมา.

‘‘มายา จา’’ติอาทีสุ, เทว, อิตฺถิโย นาเมตา วฺจนฏฺเน มายา, อคยฺหุปคฏฺเน มรีจี, โสกาทีนํ ปจฺจยตฺตา โสกา, โรคา, อเนกปฺปการา อุปทฺทวา, โกธาทีหิ ถทฺธภาเวเนว ขรา. ตา หิ นิสฺสาย อนฺทุพนฺธนาทีหิ พนฺธนโต พนฺธนา เจตา, อิตฺถิโย นาม สรีรคุหาสยวเสเนว มจฺจุ นาม เอตา, เทวาติ. ‘‘กามเหตุ, กามนิทานํ, กามาธิกรณํ, กามานเมว เหตุ ราชาโน โจรํ คเหตฺวา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๘-๑๖๙) สุตฺเตนเปส อตฺโถ ทีเปตพฺโพ.

ตโต ธตรฏฺโ มาตุคาเม ปฏิพทฺธจิตฺตตาย ‘‘ตฺวํ มาตุคามสฺส คุณํ น ชานาสิ, ปณฺฑิตา เอว เอตํ ชานนฺติ, น เหตา ครหิตพฺพา’’ติ ทีเปนฺโต อาห –

๑๑๙.

‘‘ยํ วุทฺเธหิ อุปฺาตํ, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;

มหาภูติตฺถิโย นาม, โลกสฺมึ อุทปชฺชิสุํ.

๑๒๐.

‘‘ขิฑฺฑา ปณิหิตา ตฺยาสุ, รติ ตฺยาสุ ปติฏฺิตา;

พีชานิ ตฺยาสุ รูหนฺติ, ยทิทํ สตฺตา ปชายเร;

ตาสุ โก นิพฺพิเท โปโส, ปาณมาสชฺช ปาณิภิ.

๑๒๑.

‘‘ตฺวเมว นฺโ สุมุข, ถีนํ อตฺเถสุ ยุฺชสิ;

ตสฺส ตฺยชฺช ภเย ชาเต, ภีเต น ชายเต มติ.

๑๒๒.

‘‘สพฺโพ หิ สํสยํ ปตฺโต, ภยํ ภีรู ติติกฺขติ;

ปณฺฑิตา จ มหนฺตาโน, อตฺเถ ยุฺชนฺติ ทุยฺยุเช.

๑๒๓.

‘‘เอตทตฺถาย ราชาโน, สูรมิจฺฉนฺติ มนฺตินํ;

ปฏิพาหติ ยํ สูโร, อาปทํ อตฺตปริยายํ.

๑๒๔.

‘‘มา โน อชฺช วิกนฺตึสุ, รฺโ สูทา มหานเส;

ตถา หิ วณฺโณ ปตฺตานํ, ผลํ เวฬุํว ตํ วธิ.

๑๒๕.

‘‘มุตฺโตปิ น อิจฺฉิ อุฑฺเฑตุํ, สยํ พนฺธํ อุปาคมิ;

โสปชฺช สํสยํ ปตฺโต, อตฺถํ คณฺหาหิ มา มุข’’นฺติ.

ตตฺถ นฺติ ยํ มาตุคามสงฺขาตํ วตฺถุ ปฺาวุทฺเธหิ าตํ, เตสเมว ปากฏํ, น พาลานํ. มหาภูตาติ มหาคุณา มหานิสํสา. อุทปชฺชิสุนฺติ ปมกปฺปิกกาเล อิตฺถิลิงฺคสฺเสว ปมํ ปาตุภูตตฺตา ปมํ นิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ตฺยาสูติ สุมุข ตาสุ อิตฺถีสุ กายวจีขิฑฺฑา จ ปณิหิตา โอหิตา ปิตา, กามคุณรติ จ ปติฏฺิตา. พีชานีติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวกจกฺกวตฺติอาทิพีชานิ ตาสุ รุหนฺติ. ยทิทนฺติ เย เอเต สพฺเพปิ สตฺตา. ปชายเรติ สพฺเพ ตาสฺเว กุจฺฉิมฺหิ สํวทฺธาติ ทีเปติ. นิพฺพิเทติ นิพฺพินฺเทยฺย. ปาณมาสชฺช ปาณิภีติ อตฺตโน ปาเณหิปิ ตาสํ ปาณํ อาสาเทตฺวา อตฺตโน ชีวิตํ จชนฺโตปิ ตา ลภิตฺวา โก นิพฺพินฺเทยฺยาติ อตฺโถ.

นฺโติ น อฺโ, สุมุข, มยา จิตฺตกูฏตเล หํสคณมชฺเฌ นิสินฺเนน ตํ อทิสฺวา ‘‘กหํ นุ สุมุโข’’ติ วุตฺเต ‘‘เอส มาตุคามํ คเหตฺวา กฺจนคุหายํ อุตฺตมรตึ อนุโภตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ ตฺวเมว ถีนํ อตฺเถสุ ยุฺชสิ ยุตฺตปยุตฺโต โหสิ, น อฺโติ อตฺโถ. ตสฺส ตฺยชฺชาติ ตสฺส เต อชฺช มรณภเย ชาเต อิมินา ภีเตน มรณภเยน ภีโต มฺเ, อยํ มาตุคามสฺส โทสทสฺสเน นิปุณา มติ ชายเตติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

สพฺโพ หีติ โย หิ โกจิ. สํสยํ ปตฺโตติ ชีวิตสํสยปฺปตฺโต. ภีรูติ ภีรู หุตฺวาปิ ภยํ อธิวาเสติ. มหนฺตาโนติ เย ปน ปณฺฑิตา จ โหนฺติ มหนฺเต จ าเน ิตา มหนฺตาโน, เต ทุยฺยุเช อตฺเถ ยุฺชนฺติ ฆเฏนฺติ วายมนฺติ, ตสฺมา ‘‘มา ภายิ, ธีโร โหหี’’ติ ตํ อุสฺสาเหนฺโต เอวมาห. อาปทนฺติ สามิโน อาคตํ อาปทํ เอส สูโร ปฏิพาหติ, เอตทตฺถาย สูรํ มนฺตินํ อิจฺฉนฺติ. อตฺตปริยายนฺติ อตฺตโน ปริตฺตาณมฺปิ จ กาตุํ สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย.

วิกนฺตึสูติ ฉินฺทึสุ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม สุมุข, ตฺวํ มยา อตฺตโน อนนฺตเร าเน ปิโต, ตสฺมา ยถา อชฺช รฺโ สูทา อมฺเห มํสตฺถาย น วิกนฺตึสุ, ตถา กโรหิ, ตาทิโส หิ อมฺหากํ ปตฺตวณฺโณ. ตํ วธีติ สฺวายํ วณฺโณ ยถา นาม เวฬุํ นิสฺสาย ชาตํ ผลํ เวฬุเมว วธติ, ตถา มา ตํ วธิ, ตฺจ มฺจ มา วธีติ อธิปฺปาเยเนวมาห.

มุตฺโตปีติ ยถาสุขํ จิตฺตกูฏปพฺพตํ คจฺฉาติ เอวํ ลุทฺทปุตฺเตน มยา สทฺธึ มุตฺโต วิสฺสชฺชิโต สมาโนปิ อุฑฺฑิตุํ น อิจฺฉิ. สยนฺติ ราชานํ ทฏฺุกาโม หุตฺวา สยเมว พนฺธํ อุปคโตติ เอวมิทํ อมฺหากํ ภยํ ตํ นิสฺสาย อาคตํ. โสปชฺชาติ โสปิ อชฺช ชีวิตสํสยํ ปตฺโต. อตฺถํ คณฺหาหิ มา มุขนฺติ อิทานิ อมฺหากํ มุฺจนการณํ คณฺห, ยถา มุจฺจาม, ตถา วายม, ‘‘วาโตว คนฺธมาเทตี’’ติอาทีนิ วทนฺโต อิตฺถิครหตฺถาย มุขํ มา ปสารยิ.

เอวํ มหาสตฺโต มาตุคามํ วณฺเณตฺวา สุมุขํ อปฺปฏิภาณํ กตฺวา ตสฺส อนตฺตมนภาวํ วิทิตฺวา อิทานิ นํ ปคฺคณฺหนฺโต คาถมาห –

๑๒๖.

‘‘โส ตํ โยคํ ปยุฺชสฺสุ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ;

ตว ปริยาปทาเนน, มม ปาเณสนํ จรา’’ติ.

ตตฺถ โสติ, สมฺม สุมุข, โส ตฺวํ. ตํ โยคนฺติ ยํ ปุพฺเพ ‘‘อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิต’’นฺติ อวจาสิ, ตํ อิทานิ ปยุฺชสฺสุ. ตว ปริยาปทาเนนาติ ตว เตน โยเคน ปริสุทฺเธน. ‘‘ปริโยทาเตนา’’ติปิ ปาโ, ปริตฺตาเณนาติ อตฺโถ, ตยา กตตฺตา ตว สนฺตเกน ปริตฺตาเณน มม ชีวิตปริเยสนํ จราติ อธิปฺปาโย.

อถ สุมุโข ‘‘อยํ อติวิย มรณภยภีโต มม าณพลํ น ชานาติ, ราชานํ ทิสฺวา โถกํ กถํ ลภิตฺวา ชานิสฺสามิ, อสฺสาเสสฺสามิ ตาว น’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๒๗.

‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฏฺ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;

อหํ โยคํ ปยุฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ;

มม ปริยาปทาเนน, ขิปฺปํ ปาสา ปโมกฺขสี’’ติ.

ตตฺถ ปาสาติ ทุกฺขปาสโต.

อิติ เตสํ สกุณภาสาย กเถนฺตานํ ลุทฺทปุตฺโต น กิฺจิ อฺาสิ, เกวลํ ปน เต กาเชนาทาย พาราณสึ ปาวิสิ. อจฺฉริยพฺภุตชาเตน อฺชลินา มหาชเนน อนุคฺคจฺฉมาโน โส ราชทฺวารํ ปตฺวา อตฺตโน อาคตภาวํ รฺโ อาโรจาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๘.

‘‘โส ลุทฺโท หํสกาเชน, ราชทฺวารํ อุปาคมิ;

ปฏิเวเทถ มํ รฺโ, ธตรฏฺายมาคโต’’ติ.

ตตฺถ ปฏิเวเทถ มนฺติ เขมโก อาคโตติ เอวํ มํ รฺโ นิเวเทถ. ธตรฏฺายนฺติ อยํ ธตรฏฺโ อาคโตติ ปฏิเวเทถ.

โทวาริโก คนฺตฺวา ปฏิเวเทสิ. ราชา สฺชาตโสมนสฺโส ‘‘ขิปฺปํ อาคจฺฉตู’’ติ วตฺวา อมจฺจคณปริวุโต สมุสฺสิตเสตจฺฉตฺเต ราชปลฺลงฺเก นิสินฺโน เขมกํ หํสกาชํ อาทาย มหาตลํ อภิรุฬฺหํ ทิสฺวา สุวณฺณวณฺเณ หํเส โอโลเกตฺวา ‘‘สมฺปุณฺโณ เม มโนรโถ’’ติ ตสฺส กตฺตพฺพกิจฺจํ อมจฺเจ อาณาเปสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๒๙.

‘‘เต ทิสฺวา ปุฺสงฺกาเส, อุโภ ลกฺขณสมฺมเต;

ขลุ สํยมโน ราชา, อมจฺเจ อชฺฌภาสถ.

๑๓๐.

‘‘เทถ ลุทฺทสฺส วตฺถานิ, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

กามํกโร หิรฺสฺส, ยาวนฺโต เอส อิจฺฉตี’’ติ.

ตตฺถ ปุฺสงฺกาเสติ อตฺตโน ปุฺสทิเส. ลกฺขณสมฺมเตติ เสฏฺสมฺมเต อภิฺาเต. ขลูติ นิปาโต, ตสฺส ‘‘เต ขลุ ทิสฺวา’’ติ ปุริมปเทน สมฺพนฺโธ. ‘‘เทถา’’ติอาทีนิ ราชา ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อาห. ตตฺถ กามํกโร หิรฺสฺสาติ หิรฺํ อสฺส กามกิริยา อตฺถุ. ยาวนฺโตติ ยตฺตกํ เอส อิจฺฉติ, ตตฺตกํ หิรฺมสฺส เทถาติ อตฺโถ.

เอวํ ปสนฺนาการํ กาเรตฺวา ปีติโสมนสฺสาสมุสฺสหิโต ‘‘คจฺฉถ นํ อลงฺกริตฺวา อาเนถา’’ติ อาห. อถ นํ อมจฺจา ราชนิเวสนา โอตาเรตฺวา กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กตฺวา รฺโ ทสฺเสสุํ. อถสฺส ราชา สํวจฺฉเร สตสหสฺสุฏฺานเก ทฺวาทส คาเม อาชฺยุตฺตํ รถํ อลงฺกตมหาเคหฺจาติ มหนฺตํ ยสํ ทาเปสิ. โส มหนฺตํ ยสํ ลภิตฺวา อตฺตโน กมฺมํ ปกาเสตุํ ‘‘น เต, เทว, มยา โย วา โส วา หํโส อานีโต, อยํ ปน นวุติยา หํสสหสฺสานํ ราชา ธตรฏฺโ นาม, อยํ เสนาปติ สุมุโข นามา’’ติ อาห . อถ นํ ราชา ‘‘กถํ เต, สมฺม, เอเต คหิตา’’ติ ปุจฺฉิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๓๑.

‘‘ทิสฺวา ลุทฺทํ ปสนฺนตฺตํ, กาสิราชา ตทพฺรวิ;

ยทฺยายํ สมฺม เขมก, ปุณฺณา หํเสหิ ติฏฺติ.

๑๓๒.

‘‘กถํ รุจิมชฺฌคตํ, ปาสหตฺโถ อุปาคมิ;

โอกิณฺณํ าติสงฺเฆหิ, นิมฺมชฺฌิมํ กถํ คหี’’ติ.

ตตฺถ ปสนฺนตฺตนฺติ ปสนฺนภาวํ โสมนสฺสปฺปตฺตํ. ยทฺยายนฺติ, สมฺม เขมก, ยทิ อยํ อมฺหากํ โปกฺขรณี นวุติหํสสหสฺเสหิ ปุณฺณา ติฏฺติ. กถํ รุจิมชฺฌคตนฺติ เอวํ สนฺเต ตฺวํ เตสํ รุจีนํ ปิยทสฺสนานํ หํสานํ มชฺฌคตํ เอตํ าติสงฺเฆหิ โอกิณฺณํ. นิมฺมชฺฌิมนฺติ เนว มชฺฌิมํ เนว กนิฏฺํ อุตฺตมํ หํสราชานํ กถํ ปาสหตฺโถ อุปาคมิ กถํ คณฺหีติ.

โส ตสฺส กเถนฺโต อาห –

๑๓๓.

‘‘อชฺช เม สตฺตมา รตฺติ, อทนานิ อุปาสโต;

ปทเมตสฺส อนฺเวสํ, อปฺปมตฺโต ฆฏสฺสิโต.

๑๓๔.

‘‘อถสฺส ปทมทฺทกฺขึ, จรโต อทเนสนํ;

ตตฺถาหํ โอทหึ ปาสํ, เอวํ ตํ ทิชมคฺคหิ’’นฺติ.

ตตฺถ อทนานีติ อาทานานิ, โคจรคฺคหณฏฺานานีติ อตฺโถ, อยเมว วา ปาโ. อุปาสโตติ อุปคจฺฉนฺตสฺส. ปทนฺติ โคจรภูมิยํ อกฺกนฺตปทํ. ฆฏสฺสิโตติ จาฏิปฺชเร นิสฺสิโต หุตฺวา. อถสฺสาติ อถ ฉฏฺเ ทิวเส เอตสฺส อทเนสนํ จรนฺตสฺส ปทํ อทฺทกฺขึ. เอวํ ตนฺติ เอวํ ตํ ทิชํ อคฺคหินฺติ สพฺพํ คหิโตปายํ อาจิกฺขิ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘อยํ ทฺวาเร ตฺวา ปฏิเวเทนฺโตปิ ธตรฏฺสฺเสวาคมนํ ปฏิเวเทสิ, อิทานิปิ เอตํ เอกเมว คณฺหินฺติ วทติ, กึ นุ โข เอตฺถ การณ’’นฺติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๑๓๕.

‘‘ลุทฺท ทฺเว อิเม สกุณา, อถ เอโกติ ภาสสิ;

จิตฺตํ นุ เต วิปริยตฺตํ, อทุ กึ นุ ชิคีสสี’’ติ.

ตตฺถ วิปริยตฺตนฺติ วิปลฺลตฺถํ. อทุ กึ นุ ชิคีสสีติ อุทาหุ กึ นุ จินฺเตสิ, กึ อิตรํ คเหตฺวา อฺสฺส ทาตุกาโม หุตฺวา จินฺเตสีติ ปุจฺฉติ.

ตโต ลุทฺโท ‘‘น เม, เทว, จิตฺตํ วิปลฺลตฺถํ, นาปิ อหํ อิตรํ อฺสฺส ทาตุกาโม, อปิจ โข ปน มยา โอหิเต ปาเส เอโกว พทฺโธ’’ติ อาวิ กโรนฺโต อาห –

๑๓๖.

‘‘ยสฺส โลหิตกา ตาลา, ตปนียนิภา สุภา;

อุรํ สํหจฺจ ติฏฺนฺติ, โส เม พนฺธํ อุปาคมิ.

๑๓๗.

‘‘อถายํ ภสฺสโร ปกฺขี, อพทฺโธ พทฺธมาตุรํ;

อริยํ พฺรุวาโน อฏฺาสิ, จชนฺโต มานุสึ คิร’’นฺติ.

ตตฺถ โลหิตกาติ รตฺตวณฺณา. ลาตาติ ราชิโย. อุรํ สํหจฺจาติ อุรํ อาหจฺจ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาราช, ยสฺเสตา รตฺตสุวณฺณสปฺปฏิภาคา ติสฺโส โลหิตกา ราชิโย คีวํ ปริกฺขิปิตฺวา อุรํ อาหจฺจ ติฏฺนฺติ, โส เอโกว มม ปาเส พนฺธํ อุปาคโตติ. ภสฺสโรติ ปริสุทฺโธ ปภาสมฺปนฺโน. อาตุรนฺติ คิลานํ ทุกฺขิตํ อฏฺาสีติ.

อถ ธตรฏฺสฺส พทฺธภาวํ ตฺวา นิวตฺติตฺวา เอตํ สมสฺสาเสตฺวา มมาคมนกาเล จ ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อากาเสเยว มยา สทฺธึ มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา มนุสฺสภาสาย ธตรฏฺสฺส คุณํ กเถนฺโต อฏฺาสิ, มม หทยํ มุทุกํ กตฺวา ปุน เอตสฺเสว ปุรโต อฏฺาสิ. อถาหํ, เทว, สุมุขสฺส สุภาสิตํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ธตรฏฺํ วิสฺสชฺเชสึ, อิติ ธตรฏฺสฺส ปาสโต โมกฺโข, อิเม หํเส อาทาย มม อิธาคมนฺจ สุมุเขเนว กตนฺติ. เอวํ โส สุมุขสฺส คุณกถํ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ราชา สุมุขสฺส ธมฺมกถํ โสตุกาโม อโหสิ. ลุทฺทปุตฺตสฺส สกฺการํ กโรนฺตสฺเสว สูริโย อตฺถงฺคโต, ทีปา ปชฺชลิตา, พหู ขตฺติยาทโย สนฺนิปติตา, เขมา เทวีปิ วิวิธนาฏกปริวารา รฺโ ทกฺขิณปสฺเส นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ราชา สุมุขํ กถาเปตุกาโม คาถมาห –

๑๓๘.

‘‘อถ กึ ทานิ สุมุข, หนุํ สํหจฺจ ติฏฺสิ;

อทุ เม ปริสํ ปตฺโต, ภยา ภีโต น ภาสสี’’ติ.

ตตฺถ หนุํ สํหจฺจาติ มธุรกโถ กิร ตฺวํ, อถ กสฺมา อิทานิ มุขํ ปิธาย ติฏฺสิ. อทูติ กจฺจิ. ภยา ภีโตติ ปริสสารชฺชภเยน ภีโต หุตฺวา.

ตํ สุตฺวา สุมุโข อภีตภาวํ ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๑๓๙.

‘‘นาหํ กาสิปติ ภีโต, โอคยฺห ปริสํ ตว;

นาหํ ภยา น ภาสิสฺสํ, วากฺยํ อตฺถสฺมึ ตาทิเส’’ติ.

ตตฺถ ตาทิเสติ อปิจ โข ปน ตถารูเป อตฺเถ อุปฺปนฺเน วากฺยํ ภาสิสฺสามีติ วจโนกาสํ โอโลเกนฺโต นิสินฺโนมฺหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา ตสฺส กถํ วฑฺเฒตุกามตาย ปริหาสํ กโรนฺโต อาห –

๑๔๐.

‘‘น เต อภิสรํ ปสฺเส, น รเถ นปิ ปตฺติเก;

นาสฺส จมฺมํว กีฏํ วา, วมฺมิเต จ ธนุคฺคเห.

๑๔๑.

‘‘น หิรฺํ สุวณฺณํ วา, นครํ วา สุมาปิตํ;

โอกิณฺณปริขํ ทุคฺคํ, ทฬฺหมฏฺฏาลโกฏฺกํ;

ยตฺถ ปวิฏฺโ สุมุข, ภายิตพฺพํ น ภายสี’’ติ.

ตตฺถ อภิสรนฺติ รกฺขณตฺถาย ปริวาเรตฺวา ิตํ อาวุธหตฺถํ ปริสํ เต น ปสฺสามิ. นาสฺสาติ เอตฺถ อสฺสาติ นิปาตมตฺตํ. จมฺมนฺติ สรปริตฺตาณจมฺมํ. กีฏนฺติ กีฏํ จาฏิกปาลาทิ วุจฺจติ. จาฏิกปาลหตฺถาปิ เต สนฺติเก นตฺถีติ ทีเปติ. วมฺมิเตติ จมฺมสนฺนทฺเธ. น หิรฺนฺติ ยํ นิสฺสาย น ภายสิ, ตํ หิรฺมฺปิ เต น ปสฺสามิ.

เอวํ รฺา ‘‘กึ เต อภายนการณ’’นฺติ วุตฺเต ตํ กเถนฺโต อาห –

๑๔๒.

‘‘น เม อภิสเรนตฺโถ, นคเรน ธเนน วา;

อปเถน ปถํ ยาม, อนฺตลิกฺเขจรา มยํ.

๑๔๓.

‘‘สุตา จ ปณฺฑิตา ตฺยมฺหา, นิปุณา จตฺถจินฺตกา;

ภาเสมตฺถวตึ วาจํ, สจฺเจ จสฺส ปติฏฺิโต.

๑๔๔.

‘‘กิฺจ ตุยฺหํ อสจฺจสฺส, อนริยสฺส กริสฺสติ;

มุสาวาทิสฺส ลุทฺทสฺส, ภณิตมฺปิ สุภาสิต’’นฺติ.

ตตฺถ อภิสเรนาติ อารกฺขปริวาเรน. อตฺโถติ เอเตน มม กิจฺจํ นตฺถิ. กสฺมา? ยสฺมา อปเถน ตุมฺหาทิสานํ อมคฺเคน ปถํ มาเปตฺวา ยาม, อากาสจาริโน มยนฺติ. ปณฺฑิตา ตฺยมฺหาติ ปณฺฑิตาติ ตยา สุตามฺหา, เตเนว การเณน อมฺหากํ สนฺติกา ธมฺมํ โสตุกาโม กิร โน คาหาเปสิ. สจฺเจ จสฺสาติ สเจ ปน ตฺวํ สจฺเจ ปติฏฺิโต อสฺส, อตฺถวตึ การณนิสฺสิตํ วาจํ ภาเสยฺยาม. อสจฺจสฺสาติ วจีสจฺจรหิตสฺส ตว สุภาสิตํ มุณฺฑสฺส ทนฺตสูจิ วิย กึ กริสฺสติ.

ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘กสฺมา มํ มุสาวาที อนริโยติ วทสิ, กึ มยา กต’’นฺติ อาห. อถ นํ สุมุโข ‘‘เตน หิ, มหาราช, สุณาหี’’ติ วตฺวา อาห –

๑๔๕.

‘‘ตํ พฺราหฺมณานํ วจนา, อิมํ เขมมการยิ;

อภยฺจ ตยา ฆุฏฺํ, อิมาโย ทสธา ทิสา.

๑๔๖.

‘‘โอคยฺห เต โปกฺขรณึ, วิปฺปสนฺโนทกํ สุจึ;

ปหูตํ จาทนํ ตตฺถ, อหึสา เจตฺถ ปกฺขินํ.

๑๔๗.

‘‘อิทํ สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, อาคตมฺห ตวนฺติเก;

เต เต พทฺธสฺม ปาเสน, เอตํ เต ภาสิตํ มุสา.

๑๔๘.

‘‘มุสาวาทํ ปุรกฺขตฺวา, อิจฺฉาโลภฺจ ปาปกํ;

อุโภสนฺธิมติกฺกมฺม, อสาตํ อุปปชฺชตี’’ติ.

ตตฺถ นฺติ ตฺวํ. เขมนฺติ เอวํนามิกํ โปกฺขรณึ. ฆุฏฺนฺติ จตูสุ กณฺเณสุ ตฺวา โฆสาปิตํ. ทสธาติ อิมาสุ ทสธา ิตาสุ ทิสาสุ ตยา อภยํ ฆุฏฺํ. โอคยฺหาติ โอคาเหตฺวา อาคตานํ สนฺติกา. ปหูตํ จาทนนฺติ ปหูตฺจ ปทุมปุปฺผสาลิอาทิกํ อทนํ. อิทํ สุตฺวานาติ เตสํ ตํ โปกฺขรณึ โอคาเหตฺวา อาคตานํ สนฺติกา อิทํ อภยํ สุตฺวา ตวนฺติเก ตว สมีเป ตยา การิตโปกฺขรณึ อาคตามฺหาติ อตฺโถ. เต เตติ เต มยํ ตว ปาเสน พทฺธา. ปุรกฺขตฺวาติ ปุรโต กตฺวา . อิจฺฉาโลภนฺติ อิจฺฉาสงฺขาตํ ปาปกํ โลภํ. อุโภสนฺธินฺติ อุภยํ เทวโลเก จ มนุสฺสโลเก จ ปฏิสนฺธึ อิเม ปาปธมฺเม ปุรโต กตฺวา จรนฺโต ปุคฺคโล สุคติปฏิสนฺธึ อติกฺกมิตฺวา อสาตํ นิรยํ อุปปชฺชตีติ.

เอวํ ปริสมชฺเฌเยว ราชานํ ลชฺชาเปสิ. อถ นํ ราชา ‘‘นาหํ, สุมุข, ตุมฺเห มาเรตฺวา มํสํ ขาทิตุกาโม คณฺหาเปสึ, ปณฺฑิตภาวํ ปน โว สุตฺวา สุภาสิตํ โสตุกาโม คณฺหาเปสิ’’นฺติ ปกาเสนฺโต อาห –

๑๔๙.

‘‘นาปรชฺฌาม สุมุข, นปิ โลภาว มคฺคหึ;

สุตา จ ปณฺฑิตาตฺยตฺถ, นิปุณา อตฺถจินฺตกา.

๑๕๐.

‘‘อปฺเปวตฺถวตึ วาจํ, พฺยาหเรยฺยุํ อิธาคตา;

ตถา ตํ สมฺม เนสาโท, วุตฺโต สุมุข มคฺคหี’’ติ.

ตตฺถ นาปรชฺฌามาติ มาเรนฺโต อปรชฺฌติ นาม, มยํ น มาเรม. โลภาว มคฺคหินฺติ มํสํ ขาทิตุกาโม หุตฺวา โลภาว ตุมฺเห นาหํ อคฺคหึ. ปณฺฑิตาตฺยตฺถาติ ปณฺฑิตาติ สุตา อตฺถ. อตฺถจินฺตกาติ ปฏิจฺฉนฺนานํ อตฺถานํ จินฺตกา. อตฺถวตินฺติ การณนิสฺสิตํ. ตถาติ เตน การเณน. วุตฺโตติ มยา วุตฺโต หุตฺวา. สุมุข, มคฺคหีติ, สุมุขาติ อาลปติ, -กาโร ปทสนฺธิกโร. อคฺคหีติ ธมฺมํ เทเสตุํ ตุมฺเห คณฺหิ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘สุภาสิตํ โสตุกาเมน อยุตฺตํ เต กตํ, มหาราชา’’ติ วตฺวา อาห –

๑๕๑.

‘‘เนว ภีตา กาสิปติ, อุปนีตสฺมึ ชีวิเต;

ภาเสมตฺถวตึ วาจํ, สมฺปตฺตา กาลปริยายํ.

๑๕๒.

‘‘โย มิเคน มิคํ หนฺติ, ปกฺขึ วา ปน ปกฺขินา;

สุเตน วา สุตํ กิณฺยา, กึ อนริยตรํ ตโต.

๑๕๓.

‘‘โย จาริยรุทํ ภาเส, อนริยธมฺมวสฺสิโต;

อุโภ โส ธํสเต โลกา, อิธ เจว ปรตฺถ จ.

๑๕๔.

‘‘น มชฺเชถ ยสํ ปตฺโต, น พฺยาเธ ปตฺตสํสยํ;

วายเมเถว กิจฺเจสุ, สํวเร วิวรานิ จ.

๑๕๕.

‘‘เย วุทฺธา อพฺภติกฺกนฺตา, สมฺปตฺตา กาลปริยายํ;

อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, เอวํเต ติทิวํ คตา.

๑๕๖.

‘‘อิทํ สุตฺวา กาสิปติ, ธมฺมมตฺตนิ ปาลย;

ธตรฏฺฺจ มุฺจาหิ, หํสานํ ปวรุตฺตม’’นฺติ.

ตตฺถ อุปนีตสฺมินฺติ มรณสนฺติกํ อุปนีเต. กาลปริยายนฺติ มรณกาลวารํ สมฺปตฺตา สมานา น ภาสิสฺสาม. น หิ ธมฺมกถิกํ พนฺธิตฺวา มรณภเยน ตชฺเชตฺวา ธมฺมํ สุณนฺติ, อยุตฺตํ เต กตนฺติ. มิเคนาติ สุฏฺุ สิกฺขาปิเตน ทีปกมิเคน. หนฺตีติ หนติ. ปกฺขินาติ ทีปกปกฺขินา. สุเตนาติ เขมํ นิพฺภยนฺติ วิสฺสุเตน ทีปกมิคปกฺขิสทิเสน ปทุมสเรน. สุตนฺติ ‘‘ปณฺฑิโต จิตฺรกถี’’ติ เอวํ สุตํ ธมฺมกถิกํ. กิณฺยาติ ‘‘ธมฺมํ โสสฺสามี’’ติ ปาสพนฺธเนน โย กิเณยฺย หึเสยฺย พาเธยฺย. ตโตติ เตสํ กิริยโต อุตฺตริ อฺํ อนริยตรํ นาม กิมตฺถิ.

อริยรุทนฺติ มุเขน อริยวจนํ สุนฺทรวจนํ ภาสติ. อนริยธมฺมวสฺสิโตติ กมฺเมน อนริยธมฺมํ อวสฺสิโต. อุโภติ เทวโลกา จ มนุสฺสโลกา จาติ อุภยมฺหา. อิธ เจวาติ อิธ อุปฺปนฺโนปิ ปรตฺถ อุปฺปนฺโนปิ เอวรูโป ทฺวีหิ สุคติโลเกหิ ธํสิตฺวา นิรยเมว อุปปชฺชติ. ปตฺตสํสยนฺติ ชีวิตสํสยมาปนฺนมฺปิ ทุกฺขํ ปตฺวา น กิลเมยฺย. สํวเร วิวรานิ จาติ อตฺตโน ฉิทฺทานิ ทฺวารานิ สํวเรยฺย ปิทเหยฺย. วุทฺธาติ คุณวุทฺธา ปณฺฑิตา. อพฺภติกฺกนฺตาติ อิมํ มนุสฺสโลกํ อติกฺกนฺตา. กาลปริยายนฺติ มรณกาลปริยายํ ปตฺตา หุตฺวา. เอวํเตติ เอวํ เอเต. อิทนฺติ อิทํ มยา วุตฺตํ อตฺถนิสฺสิตํ วจนํ. ธมฺมนฺติ ปเวณิยธมฺมมฺปิ สุจริตธมฺมมฺปิ.

ตํ สุตฺวา ราชา อาห –

๑๕๗.

‘‘อาหรนฺตุทกํ ปชฺชํ, อาสนฺจ มหารหํ;

ปฺชรโต ปโมกฺขามิ, ธตรฏฺํ ยสสฺสินํ.

๑๕๘.

‘‘ตฺจ เสนาปตึ ธีรํ, นิปุณํ อตฺถจินฺตกํ;

โย สุเข สุขิโต รฺโ, ทุกฺขิเต โหติ ทุกฺขิโต.

๑๕๙.

‘‘เอทิโส โข อรหติ, ปิณฺฑมสฺนาตุ ภตฺตุโน;

ยถายํ สุมุโข รฺโ, ปาณสาธารโณ สขา’’ติ.

ตตฺถ อุทกนฺติ ปาทโธวนํ. ปชฺชนฺติ ปาทพฺภฺชนํ. สุเขติ สุขมฺหิ สติ.

รฺโ วจนํ สุตฺวา เตสํ อาสนานิ อาหริตฺวา ตตฺถ นิสินฺนานํ คนฺโธทเกน ปาเท โธวิตฺวา สตปาเกน เตเลน อพฺภฺชึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๐.

‘‘ปีฺจ สพฺพโสวณฺณํ, อฏฺปาทํ มโนรมํ;

มฏฺํ กาสิกมตฺถนฺนํ, ธตรฏฺโ อุปาวิสิ.

๑๖๑.

‘‘โกจฺฉฺจ สพฺพโสวณฺณํ, เวยฺยคฺฆปริสิพฺพิตํ;

สุมุโข อชฺฌุปาเวกฺขิ, ธตรฏฺสฺสนนฺตรา.

๑๖๒.

‘‘เตสํ กฺจนปตฺตหิ, ปุถู อาทาย กาสิโย;

หํสานํ อภิหาเรสุ, อคฺครฺโ ปวาสิต’’นฺติ.

ตตฺถ มฏฺนฺติ กรณปรินิฏฺิตํ. กาสิกมตฺถนฺนนฺติ กาสิกวตฺเถน อตฺถตํ. โกจฺฉนฺติ มชฺเฌ สํขิตฺตํ. เวยฺยคฺฆปริสิพฺพิตนฺติ พฺยคฺฆจมฺมปริสิพฺพิตํ มงฺคลทิวเส อคฺคมเหสิยา นิสินฺนปีํ. กฺจนปตฺเตหีติ สุวณฺณภาชเนหิ. ปุถูติ พหู ชนา. กาสิโยติ กาสิรฏฺวาสิโน. อภิหาเรสุนฺติ อุปนาเมสุํ. อคฺครฺโ ปวาสิตนฺติ อฏฺสตปลสุวณฺณปาติปริกฺขิตฺตํ หํสรฺโ ปณฺณาการตฺถาย กาสิรฺา เปสิตํ นานคฺครสโภชนํ.

เอวํ อุปนีเต ปน ตสฺมึ กาสิราชา เตสํ สมฺปคฺคหตฺถํ สยํ สุวณฺณปาตึ คเหตฺวา อุปนาเมสิ. เต ตโต มธุลาเช ขาทิตฺวา มธุโรทกฺจ ปิวึสุ. อถ มหาสตฺโต รฺโ อภิหารฺจ ปสาทฺจ ทิสฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๖๓.

‘‘ทิสฺวา อภิหฏํ อคฺคํ, กาสิราเชน เปสิตํ;

กุสโล ขตฺตธมฺมานํ, ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตรา.

๑๖๔.

‘‘กจฺจินฺนุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;

กจฺจิ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสสิ.

๑๖๕.

‘‘กุสลฺเจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;

อโถ รฏฺมิทํ ผีตํ, ธมฺเมน มนุสาสหํ.

๑๖๖.

‘‘กจฺจิ โภโต อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

กจฺจิ จ เต ตวตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๑๖๗.

‘‘อโถปิ เม อมจฺเจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;

อโถปิ เต มมตฺเถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ.

๑๖๘.

‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา.

๑๖๙.

‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;

ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา.

๑๗๐.

‘‘กจฺจิ รฏฺํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;

อสาหเสน ธมฺเมน, สเมน มนุสาสสิ.

๑๗๑.

‘‘อโถ รฏฺํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;

อสาหเสน ธมฺเมน, สเมน มนุสาสหํ.

๑๗๒.

‘‘กจฺจิ สนฺโต อปจิตา, อสนฺโต ปริวชฺชิตา;

โน เจ ธมฺมํ นิรํกตฺวา, อธมฺมมนุวตฺตสิ.

๑๗๓.

‘‘สนฺโต จ เม อปจิตา, อสนฺโต ปริวชฺชิตา;

ธมฺมเมวานุวตฺตามิ, อธมฺโม เม นิรํกโต.

๑๗๔.

‘‘กจฺจิ นานาคตํ ทีฆํ, สมเวกฺขสิ ขตฺติย;

กจฺจิมตฺโต มทนีเย, ปรโลกํ น สนฺตสิ.

๑๗๕.

‘‘นาหํ อนาคตํ ทีฆํ, สมเวกฺขามิ ปกฺขิม;

ิโต ทสสุ ธมฺเมสุ, ปรโลกํ น สนฺตเส.

๑๗๖.

‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;

อกฺโกธํ อวิหึสฺจ, ขนฺติฺจ อวิโรธนํ.

๑๗๗.

‘‘อิจฺเจเต กุสเล ธมฺเม, ิเต ปสฺสามิ อตฺตนิ;

ตโต เม ชายเต ปีติ, สามนสฺสฺจนปฺปกํ.

๑๗๘.

‘‘สุมุโข จ อจินฺเตตฺวา, วิสชฺชิ ผรุสํ คิรํ;

ภาวโทสมนฺาย, อสฺมากายํ วิหงฺคโม.

๑๗๙.

‘‘โส กุทฺโธ ผรุสํ วาจํ, นิจฺฉาเรสิ อโยนิโส;

ยานสฺเมสุ น วิชฺชนฺติ, นยิทํ ปฺวตามิวา’’ติ.

ตตฺถ ทิสฺวาติ ตํ พหุํ อคฺคปานโภชนํ ทิสฺวา. เปสิตนฺติ อาหราเปตฺวา อุปนีตํ. ขตฺตธมฺมานนฺติ ปมการเณสุ ปฏิสนฺถารธมฺมานํ. ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตราติ ตสฺมึ กาเล ‘‘กจฺจิ นุ, โภโต’’ติ อนุปฏิปาฏิยา ปุจฺฉิ. ตา ปเนตา ฉ คาถา เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. อนุปฺปีฬนฺติ กจฺจิ รฏฺวาสิโน ยนฺเต อุจฺฉุํ วิย น ปีเฬสีติ ปุจฺฉติ. อกุโตจิอุปทฺทวนฺติ กุโตจิ อนุปทฺทวํ. ธมฺเมน สเมน มนุสาสสีติ กจฺจิ ตว รฏฺํ ธมฺเมน สเมน อนุสาสสิ. สนฺโตติ สีลาทิคุณสํยุตฺตา สปฺปุริสา. นิรํกตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. นานาคตํ ทีฆนฺติ อนาคตํ อตฺตโน ชีวิตปวตฺตึ ‘‘กจฺจิ ทีฆ’’นฺติ น สมเวกฺขสิ, อายุสงฺขารานํ ปริตฺตภาวํ ชานาสีติ ปุจฺฉติ. มทนีเยติ มทารเห รูปาทิอารมฺมเณ. น สนฺตสีติ น ภายสิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กจฺจิ รูปาทีสุ กามคุเณสุ อมตฺโต อปฺปมตฺโต หุตฺวา ทานาทีนํ กุสลานํ กตตฺตา ปรโลกํ น ภายสีติ.

ทสสูติ ทสสุ ราชธมฺเมสุ. ทานาทีสุ ทสวตฺถุกา เจตนา ทานํ, ปฺจสีลทสสีลานิ สีลํ, เทยฺยธมฺมจาโค ปริจฺจาโค, อุชุภาโว อชฺชวํ, มุทุภาโว มทฺทวํ, อุโปสถกมฺมํ ตโป, เมตฺตาปุพฺพภาโค อกฺโกโธ, กรุณาปุพฺพภาโค อวิหึสา, อธิวาสนา ขนฺติ, อวิโรโธ อวิโรธนํ. อจินฺเตตฺวาติ มม อิมํ คุณสมฺปตฺตึ อจินฺเตตฺวา. ภาวโทสนฺติ จิตฺตโทสํ. อนฺายาติ อชานิตฺวา. อสฺมากฺหิ จิตฺตโทโส นาม นตฺถิ, ยเมส ชาเนยฺย, ตํ อชานิตฺวาว ผรุสํ กกฺขฬํ คิรํ วิสฺสชฺเชสิ. อโยนิโสติ อนุปาเยน. ยานสฺเมสูติ ยานิ วชฺชานิ อมฺเหสุ น วิชฺชนฺติ, ตานิ วทติ. นยิทนฺติ ตสฺมาสฺส อิทํ วจนํ ปฺวตํ อิว น โหติ, เตเนส มม น ปณฺฑิโต วิย อุปฏฺาติ.

ตํ สุตฺวา สุมุโข ‘‘มยา คุณสมฺปนฺโนว ราชา อปสาทิโต, โส เม กุทฺโธ, ขมาเปสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห –

๑๘๐.

‘‘อตฺถิ เม ตํ อติสารํ, เวเคน มนุชาธิป;

ธตรฏฺเ จ พทฺธสฺมึ, ทุกฺขํ เม วิปุลํ อหุ.

๑๘๑.

‘‘ตฺวํ โน ปิตาว ปุตฺตานํ, ภูตานํ ธรณีริว;

อสฺมากํ อธิปนฺนานํ, ขมสฺสุ ราชกุฺชรา’’ติ.

ตตฺถ อติสารนฺติ ปกฺขลิตํ. เวเคนาติ อหํ เอตํ กถํ กเถนฺโต เวเคน สหสา กเถสึ. ทุกฺขนฺติ เจตสิกํ ทุกฺขํ มม วิปุลํ อโหสิ, ตสฺมา โกธวเสน ยํ มยา วุตฺตํ, ตํ เม ขมถ, มหาราชาติ. ปุตฺตานนฺติ ตฺวํ อมฺหากํ ปุตฺตานํ ปิตา วิย. ธรณีริวาติ ปาณภูตานํ ปติฏฺา ปถวี วิย ตฺวํ อมฺหากํ อวสฺสโย. อธิปนฺนานนฺติ โทเสน อปราเธน อชฺโฌตฺถฏานํ ขมสฺสูติ อิทํ โส อาสนา โอรุยฺห ปกฺเขหิ อฺชลึ กตฺวา อาห.

อถ นํ ราชา อาลิงฺคิตฺวา อาทาย สุวณฺณปีเ นิสีทาเปตฺวา อจฺจยเทสนํ ปฏิคฺคณฺหนฺโต อาห –

๑๘๒.

‘‘เอตํ เต อนุโมทาม, ยํ ภาวํ น นิคูหสิ;

ขิลํ ปภินฺทสิ ปกฺขิ, อุชุโกสิ วิหงฺคมา’’ติ.

ตตฺถ อนุโมทามาติ เอตํ เต โทสํ ขมาม. นฺติ ยสฺมา ตฺวํ อตฺตโน จิตฺตปฏิจฺฉนฺนภาวํ น นิคูหสิ. ขิลนฺติ จิตฺตขิลํ จิตฺตขาณุกํ.

อิทฺจ ปน วตฺวา ราชา มหาสตฺตสฺส ธมฺมกถาย สุมุขสฺส จ อุชุภาเว ปสีทิตฺวา ‘‘ปสนฺเนน นาม ปสนฺนากาโร กาตพฺโพ’’ติ อุภินฺนมฺปิ เตสํ อตฺตโน รชฺชสิรึ นิยฺยาเทนฺโต อาห –

๑๘๓.

‘‘ยํ กิฺจิ รตนํ อตฺถิ, กาสิราชนิเวสเน;

รชตํ ชาตรูปฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหู.

๑๘๔.

‘‘มณโย สงฺขมุตฺตา จ, วตฺถกํ หริจนฺทนํ;

อชินํ ทนฺตภณฺฑฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหุํ;

เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, อิสฺสรํ วิสฺสชามิ โว’’ติ.

ตตฺถ มุตฺตาติ วิทฺธาวิทฺธมุตฺตา. มณโยติ มณิภณฺฑกานิ. สงฺขมุตฺตา จาติ ทกฺขิณาวฏฺฏสงฺขรตนฺจ อามลกวฏฺฏมุตฺตรตนฺจ. วตฺถกนฺติ สุขุมกาสิกวตฺถานิ. อชินนฺติ อชินมิคจมฺมํ. โลหํ กาฬายสนฺติ ตมฺพโลหฺจ กาฬโลหฺจ. อิสฺสรนฺติ กฺจนมาเลน เสตจฺฉตฺเตน สทฺธึ ทฺวาทสโยชนิเก พาราณสินคเร รชฺชํ.

เอวฺจ ปน วตฺวา อุโภปิ เต เสตจฺฉตฺเตน ปูเชตฺวา รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปสิ. อถ มหาสตฺโต รฺา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๑๘๕.

‘‘อทฺธา อปจิตา ตฺยมฺหา, สกฺกตา จ รเถสภ;

ธมฺเมสุ วตฺตมานานํ, ตฺวํ โน อาจริโย ภว.

๑๘๖.

‘‘อาจริย มนุฺาตา, ตยา อนุมตา มยํ;

ตํ ปทกฺขิณโต กตฺวา, าตึ ปสฺเสมุรินฺทมา’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมสูติ กุสลกมฺมปถธมฺเมสุ. อาจริโยติ ตฺวํ อมฺเหหิ พฺยตฺตตโร, ตสฺมา โน อาจริโย โหติ, อปิจ ทสนฺนํ ราชธมฺมานํ กถิตตฺตา สุมุขสฺส โทสํ ทสฺเสตฺวา อจฺจยปฏิคฺคหณสฺส กตตฺตาปิ ตฺวํ อมฺหากํ อาจริโยว, ตสฺมา อิทานิปิ โน อาจารสิกฺขาปเนน อาจริโย ภวาติ อาห. ปสฺเสมุรินฺทมาติ ปสฺเสมุ อรินฺทม.

โส เตสํ คมนํ อนุชานิ, โพธิสตฺตสฺสปิ ธมฺมํ กเถนฺตสฺเสว อรุณํ อุฏฺหิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๗.

‘‘สพฺพรตฺตึ จินฺตยิตฺวา, มนฺตยิตฺวา ยถากถํ;

กาสิราชา อนุฺาสิ, หํสานํ ปวรุตฺตม’’นฺติ.

ตตฺถ ยถากถนฺติ ยํกิฺจิ อตฺถํ เตหิ สทฺธึ จินฺเตตพฺพํ มนฺเตตพฺพฺจ, สพฺพํ ตํ จินฺเตตฺวา จ มนฺเตตฺวา จาติ อตฺโถ. อนุฺาสีติ คจฺฉถาติ อนุฺาสิ.

เอวํ เตน อนุฺาโต โพธิสตฺโต ราชานํ ‘‘อปฺปมตฺโต ธมฺเมน รชฺชํ กาเรหี’’ติ โอวทิตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ราชา เตสํ กฺจนภาชเนหิ มธุลาชฺจ มธุโรทกฺจ อุปนาเมตฺวา นิฏฺิตาหารกิจฺเจ คนฺธมาลาทีหิ ปูเชตฺวา โพธิสตฺตํ สุวณฺณจงฺโกฏเกน สยํ อุกฺขิปิ, เขมา เทวี สุมุขํ อุกฺขิปิ. อถ เน สีหปฺชรํ อุคฺฆาเฏตฺวา สูริยุคฺคมนเวลาย ‘‘คจฺฉถ สามิโน’’ติ วิสฺสชฺเชสุํ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๘.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

เปกฺขโต กาสิราชสฺส, ภวนา เต วิคาหิสุ’’นฺติ.

ตตฺถ วิคาหิสุนฺติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ.

เตสุ มหาสตฺโต สุวณฺณจงฺโกฏกโต อุปฺปติตฺวา อากาเส ตฺวา ‘‘มา จินฺทยิ, มหาราช, อปฺปมตฺโต อมฺหากํ โอวาเท วตฺเตยฺยาสี’’ติ ราชานํ สมสฺสาเสตฺวา สุมุขํ อาทาย จิตฺตกูฏเมว คโต. ตานิปิ โข นวุติ หํสสหสฺสานิ กฺจนคุหโต นิกฺขมิตฺวา ปพฺพตตเล นิสินฺนานิ เต อาคจฺฉนฺเต ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปริวาเรสุํ. เต าติคณปริวุตา จิตฺตกูฏตลํ ปวิสึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๘๙.

‘‘เต อโรเค อนุปฺปตฺเต, ทิสฺวาน ปรเม ทิเช;

เกกาติ มกรุํ หํสา, ปุถุสทฺโท อชายถ.

๑๙๐.

‘‘เต ปตีตา ปมุตฺเตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารวา;

สมนฺตา ปริกิรึสุ, อณฺฑชา ลทฺธปจฺจยา’’ติ.

เอวํ ปริวาเรตฺวา จ ปน เต หํสา ‘‘กถํ มุตฺโตสิ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉึสุ. มหาสตฺโต สุมุขํ นิสฺสาย มุตฺตภาวํ สํยมราชลุทฺทปุตฺเตหิ กตกมฺมฺจ กเถสิ. ตํ สุตฺวา ตุฏฺา หํสคณา ‘‘สุมุโข เสนาปติ จ ราชา จ ลุทฺทปุตฺโต จ สุขิตา นิทฺทุกฺขา จิรํ ชีวนฺตู’’ติ อาหํสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๑๙๑.

‘‘เอวํ มิตฺตวตํ อตฺถา, สพฺเพ โหนฺติ ปทกฺขิณา;

หํสา ยถา ธตรฏฺา, าติสงฺฆมุปาคมุ’’นฺติ.

ตํ จูฬหํสชาตเก วุตฺตตฺถเมว.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพปิ อานนฺโท มมตฺถาย อตฺตโน ชีวิตํ ปริจฺจชี’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา ลุทฺทปุตฺโต ฉนฺโน อโหสิ, เขมา เทวี, เขมา ภิกฺขุนี, ราชา สาริปุตฺโต, สุมุโข อานนฺโท, เสสปริสา พุทฺธปริสา, ธตรฏฺหํสราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาหํสชาตกวณฺณนา ทุติยา.

[๕๓๕] ๓. สุธาโภชนชาตกวณฺณนา

เนว กิณามิ นปิ วิกฺกิณามีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต เอกํ ทานชฺฌาสยํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิ. โส กิร สาวตฺถิยํ เอโก กุลปุตฺโต หุตฺวา สตฺถุ ธมฺมกถํ สุตฺวา ปสนฺนจิตฺโต ปพฺพชิตฺวา สีเลสุ ปริปูรการี ธุตงฺคคุณสมนฺนาคโต สพฺรหฺมจารีสุ ปวตฺตเมตฺตจิตฺโต ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ พุทฺธธมฺมสงฺฆุปฏฺาเน อปฺปมตฺโต อาจารสมฺปนฺโน ทานชฺฌาสโย อโหสิ. สารณียธมฺมปูรโก อตฺตนา ลทฺธํ ปฏิคฺคาหเกสุ วิชฺชมาเนสุ ฉินฺนภตฺโต หุตฺวาปิ เทติเยว, ตสฺมา ตสฺส ทานชฺฌาสยทานาภิรตภาโว ภิกฺขุสงฺเฆ ปากโฏ อโหสิ. อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ, ‘‘อาวุโส, อสุโก นาม ภิกฺขุ ทานชฺฌาสโย ทานาภิรโต อตฺตนา ลทฺธํ ปสตมตฺตปานียมฺปิ โลภํ ฉินฺทิตฺวา สพฺรหฺมจารีนํ เทติ, โพธิสตฺตสฺเสวสฺส อชฺฌาสโย’’ติ. สตฺถา ตํ กถํ ทิพฺพาย โสตธาตุยา สุตฺวา คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อยํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปุพฺเพ อทานสีโล มจฺฉรี ติณคฺเคน เตลพินฺทุมฺปิ อทาตา อโหสิ, อถ นํ อหํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ วณฺเณตฺวา ทาเน ปติฏฺาเปสึ, โส ‘ปสตมตฺตํ อุทกมฺปิ ลภิตฺวา อทตฺวา น ปิวิสฺสามี’ติ มม สนฺติเก วรํ อคฺคเหสิ, ตสฺส ผเลน ทานชฺฌาสโย ทานาภิรโต ชาโต’’ติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺเต รชฺชํ กาเรนฺเต เอโก คหปติ อฑฺโฒ อโหสิ อสีติโกฏิวิภโว. อถสฺส ราชา เสฏฺิฏฺานํ อทาสิ . โส ราชปูชิโต นาครชานปทปูชิโต หุตฺวา เอกทิวสํ อตฺตโน สมฺปตฺตึ โอโลเกตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อยํ ยโส มยา อตีตภเว เนว นิทฺทายนฺเตน, น กายทุจฺจริตาทีนิ กโรนฺเตน ลทฺโธ, สุจริตานิ ปน ปูเรตฺวา ลทฺโธ, อนาคเตปิ มยา มม ปติฏฺํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. โส รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, มม ฆเร อสีติโกฏิธนํ อตฺถิ, ตํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา ‘‘น มยฺหํ ตว ธเนนตฺโถ, พหุํ เม ธนํ, อิโตปิ ยทิจฺฉสิ, ตํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘กึ นุ, เทว, มม ธนํ ทาตุํ ลภามี’’ติ อาห. อถ รฺา ‘‘ยถารุจิ กโรหี’’ติ วุตฺเต จตูสุ นครทฺวาเรสุ นครมชฺเฌ นิเวสนทฺวาเร จาติ ฉ ทานสาลาโย กาเรตฺวา เทวสิกํ ฉสตสหสฺสปริจฺจาคํ กโรนฺโต มหาทานํ ปวตฺเตสิ. โส ยาวชีวํ ทานํ ทตฺวา ‘‘อิมํ มม ทานวํสํ มา อุปจฺฉินฺทถา’’ติ ปุตฺเต อนุสาสิตฺวา ชีวิตปริโยสาเน สกฺโก หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ปุตฺโตปิสฺส ตเถว ทานํ ทตฺวา จนฺโท หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต มาตลิ หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต ปฺจสิโข หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปน ปุตฺโต ฉฏฺโ เสฏฺิฏฺานํ ลทฺธา มจฺฉริยโกสิโย นาม อโหสิ อสีติโกฏิวิภโวเยว. โส ‘‘มม ปิตุปิตามหา พาลา อเหสุํ, ทุกฺเขน สมฺภตํ ธนํ ฉฑฺเฑสุํ, อหํ ปน ธนํ รกฺขิสฺสามิ, กสฺสจิ กิฺจิ น ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ทานสาลา วิทฺธํเสตฺวา อคฺคินา ฌาเปตฺวา ถทฺธมจฺฉรี อโหสิ.

อถสฺส เคหทฺวาเร ยาจกา สนฺนิปติตฺวา พาหา ปคฺคยฺห, ‘‘มหาเสฏฺิ, มา อตฺตโน ปิตุปิตามหานํ ทานวํสํ นาสยิ, ทานํ เทหี’’ติ มหาสทฺเทน ปริเทวึสุ. ตํ สุตฺวา มหาชโน ‘‘มจฺฉริยโกสิเยน อตฺตโน ทานวํโส อุปจฺฉินฺโน’’ติ ตํ ครหิ. โส ลชฺชิโต นิเวสนทฺวาเร ยาจกานํ อาคตาคตฏฺานํ นิวาเรตุํ อารกฺขํ เปสิ. เต นิปฺปจฺจยา หุตฺวา ปุน ตสฺส เคหทฺวารํ น โอโลเกสุํ. โส ตโต ปฏฺาย ธนเมว สํหรติ, เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ, น ปุตฺตทาราทีนํ เทติ, กฺชิกพิลงฺคทุติยํ สกุณฺฑกภตฺตํ ภุฺชติ, มูลผลมตฺตตนฺตานิ ถูลวตฺถานิ นิวาเสติ, ปณฺณฉตฺตํ มตฺถเก ธาเรตฺวา ชรคฺโคณยุตฺเตน ชชฺชรรถเกน ยาติ. อิติ ตสฺส อสปฺปุริสสฺส ตตฺตกํ ธนํ สุนเขน ลทฺธํ นาฬิเกรํ วิย อโหสิ.

โส เอกทิวสํ ราชูปฏฺานํ คจฺฉนฺโต ‘‘อนุเสฏฺึ อาทาย คมิสฺสามี’’ติ ตสฺส เคหํ อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ อนุเสฏฺิ ปุตฺตธีตาทีหิ ปริวุโต นวสปฺปิปกฺกมธุสกฺขรจุณฺเณหิ สงฺขตํ ปายาสํ ภุฺชมาโน นิสินฺโน โหติ. โส มจฺฉริยโกสิยํ ทิสฺวา อาสนา วุฏฺาย ‘‘เอหิ, มหาเสฏฺิ, อิมสฺมึ ปลฺลงฺเก นิสีท, ปายาสํ ภุฺชิสฺสามา’’ติ อาห. ตสฺส ปายาสํ ทิสฺวาว มุเข เขฬา อุปฺปชฺชิ, ภุฺชิตุกาโม อโหสิ, เอวํ ปน จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ภุฺชิสฺสามิ, อนุเสฏฺิโน มม เคหํ อาคตกาเล ปฏิสกฺกาโร กาตพฺโพ ภวิสฺสติ, เอวํ เม ธนํ นสฺสิสฺสติ, น ภุฺชิสฺสามี’’ติ. อถ ปุนปฺปุนํ ยาจิยมาโนปิ ‘‘อิทานิ เม ภุตฺตํ, สุหิโตสฺมี’’ติ น อิจฺฉิ. อนุเสฏฺิมฺหิ ภุฺชนฺเต ปน โอโลเกนฺโต มุเข สฺชายมาเนน เขเฬน นิสีทิตฺวา ตสฺส ภตฺตกิจฺจาวสาเน เตน สทฺธึ ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ราชานํ ปสฺสิตฺวา ราชนิเวสนโต โอตริตฺวา อตฺตโน เคหํ อนุปฺปตฺโต ปายาสตณฺหาย ปีฬิยมาโน จินฺเตสิ – ‘‘สจาหํ ‘ปายาสํ ภุฺชิตุกาโมมฺหี’ติ วกฺขามิ, มหาชโน ภุฺชิตุกาโม ภวิสฺสติ, พหู ตณฺฑุลาทโย นสฺสิสฺสนฺติ, น กสฺสจิ กเถสฺสามี’’ติ. โส รตฺตินฺทิวํ ปายาสเมว จินฺเตนฺโต วีตินาเมตฺวาปิ ธนนาสนภเยน กสฺสจิ อกเถตฺวาว ปิปาสํ อธิวาเสสิ, อนุกฺกเมน อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโต อโหสิ. เอวํ สนฺเตปิ ธนนาสนภเยน อกเถนฺโต อปรภาเค ทุพฺพโล หุตฺวา สยนํ อุปคูหิตฺวา นิปชฺชิ.

อถ นํ ภริยา อุปคนฺตฺวา หตฺเถน ปิฏฺึ ปริมชฺชมานา ‘‘กึ เต, สามิ, อผาสุก’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ตเวว สรีเร อผาสุกํ กโรหิ, มม อผาสุกํ นตฺถี’’ติ. ‘‘สามิ, อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตสิ, กึ นุ เต กาจิ จินฺตา อตฺถิ, อุทาหุ ราชา เต กุปิโต, อทุ ปุตฺเตหิ อวมาโน กโต, อถ วา ปน กาจิ ตณฺหา อุปฺปนฺนา’’ติ? ‘‘อาม, ตณฺหา เม อุปฺปนฺนา’’ติ. ‘‘กเถหิ, สามี’’ติ? ‘‘กเถสฺสามิ, สกฺขิสฺสสิ นํ รกฺขิตุ’’นฺติ. ‘‘รกฺขิตพฺพยุตฺตกา เจ, รกฺขิสฺสามี’’ติ. เอวมฺปิ ธนนาสนภเยน กเถตุํ น อุสฺสหิ. ตาย ปุนปฺปุนํ ปีฬิยมาโน กเถสิ – ‘‘ภทฺเท, อหํ เอกทิวสํ อนุเสฏฺึ นวสปฺปิมธุสกฺขรจุณฺเณหิ สงฺขตํ ปายาสํ ภุฺชนฺตํ ทิสฺวา ตโต ปฏฺาย ตาทิสํ ปายาสํ ภุฺชิตุกาโม ชาโต’’ติ. ‘‘อสปฺปุริส, กึ ตฺวํ ทุคฺคโต, สกลมาราณสิวาสีนํ ปโหนกํ ปายาสํ ปจิสฺสามี’’ติ. อถสฺส สีเส ทณฺเฑน ปหรณกาโล วิย อโหสิ. โส ตสฺสา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ชานามหํ ตว มหทฺธนภาวํ, สเจ เต กุลฆรา อาภตํ อตฺถิ, ปายาสํ ปจิตฺวา นาครานํ เทหี’’ติ อาห. ‘‘เตน หิ เอกวีถิวาสีนํ ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตหิ, อตฺตโน ปน สนฺตกํ ขาทนฺตู’’ติ? ‘‘เตน หิ อิโต จิโต จ สตฺตสตฺตฆรวาสีนํ ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตหี’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมสฺมึ เคเห ปริชนสฺสา’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตนา’’ติ? ‘‘เตน หิ พนฺธุชนสฺเสว ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘กึ เต เอเตนา’’ติ? ‘‘เตน หิ ตุยฺหฺจ มยฺหฺจ ปจามิ สามี’’ติ. ‘‘กาสิ ตฺวํ, น ตุยฺหํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เตน หิ เอกสฺเสว เต ปโหนกํ กตฺวา ปจามี’’ติ. ‘‘มยฺหฺจ ตฺวํ มา ปจิ, เคเห ปน ปจนฺเต พหู ปจฺจาสีสนฺติ, มยฺหํ ปน ปตฺถํ ตณฺฑุลานํ จตุภาคํ ขีรสฺส อจฺฉรํ สกฺขราย กรณฺฑกํ สปฺปิสฺส กรณฺฑกํ มธุสฺส เอกฺจ ปจนภาชนํ เทหิ, อหํ อรฺํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปจิตฺวา ภุฺชามี’’ติ. สา ตถา อกาสิ. โส ตํ สพฺพํ เจฏเกน คาหาเปตฺวา ‘‘คจฺฉ อสุกฏฺาเน ติฏฺาหี’’ติ ตํ ปุรโต เปเสตฺวา เอกโกว โอคุณฺิกํ กตฺวา อฺาตกเวเสน ตตฺถ คนฺตฺวา นทีตีเร เอกสฺมึ คจฺฉมูเล อุทฺธนํ กาเรตฺวา ทารุทกํ อาหราเปตฺวา ‘‘ตฺวํ คนฺตฺวา เอกสฺมึ มคฺเค ตฺวา กฺจิเทว ทิสฺวา มม สฺํ ทเทยฺยาสิ, มยา ปกฺโกสิตกาเลว อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ ตํ เปเสตฺวา อคฺคึ กตฺวา ปายาสํ ปจิ.

ตสฺมึ ขเณ สกฺโก เทวราชา ทสสหสฺสโยชนํ อลงฺกตเทวนครํ, สฏฺิโยชนํ สุวณฺณวีถึ, โยชนสหสฺสุพฺเพธํ เวชยนฺตํ, ปฺจโยชนสติกํ สุธมฺมสภํ, สฏฺิโยชนํ ปณฺฑุกมฺพลสิลาสนํ, ปฺจโยชนาวฏฺฏํ กฺจนมาลเสตจฺฉตฺตํ, อฑฺฒเตยฺยโกฏิสงฺขา เทวจฺฉรา, อลงฺกตปฏิยตฺตํ อตฺตภาวนฺติ อิมํ อตฺตโน สิรึ โอโลเกตฺวา ‘‘กึ นุ โข กตฺวา มยา อยํ ยโส ลทฺโธ’’ติ จินฺเตตฺวา พาราณสิยํ เสฏฺิภูเตน ปวตฺติตํ ทานํ อทฺทส. ตโต ‘‘มม ปุตฺตาทโย กุหึ นิพฺพตฺตา’’ติ โอโลเกนฺโต ‘‘ปุตฺโต เม จนฺโท เทวปุตฺโต หุตฺวา นิพฺพตฺติ, ตสฺส ปุตฺโต สูริโย, ตสฺส ปุตฺโต, มาตลิ, ตสฺส ปุตฺโต, ปฺจสิโข’’ติ สพฺเพสํ นิพฺพตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ปฺจสิขสฺส ปุตฺโต กีทิโส’’ติ โอโลเกนฺโต อตฺตโน วํสสฺส อุปจฺฉินฺนภาวํ ปสฺสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อยํ อสปฺปุริโส มจฺฉรี หุตฺวา เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ , น ปเรสํ เทติ, มม วํโส เตน อุปจฺฉินฺโน, กาลํ กตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสติ, โอวาทมสฺส ทตฺวา มม วํสํ ปติฏฺาเปตฺวา เอตสฺส อิมสฺมึ เทวนคเร นิพฺพตฺตนาการํ กริสฺสามี’’ติ. โส จนฺทาทโย ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอถ มนุสฺสปถํ คมิสฺสาม, มจฺฉริยโกสิเยน อมฺหากํ วํโส อุปจฺฉินฺโน , ทานสาลา ฌาปิตา, เนว อตฺตนา ปริภุฺชติ, น ปเรสํ เทติ, อิทานิ ปน ปายาสํ ภุฺชิตุกาโม หุตฺวา ‘ฆเร ปจฺจนฺเต อฺสฺสปิ ปายาโส ทาตพฺโพ ภวิสฺสตี’ติ อรฺํ ปวิสิตฺวา เอกโกว ปจติ, เอตํ ทเมตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา อาคมิสฺสาม, อปิจ โข ปน อมฺเหหิ สพฺเพหิ เอกโต ยาจิยมาโน ตตฺเถว มเรยฺย. มม ปมํ คนฺตฺวา ปายาสํ ยาจิตฺวา นิสินฺนกาเล ตุมฺเห พฺราหฺมณวณฺเณน ปฏิปาฏิยา อาคนฺตฺวา ยาเจยฺยาถา’’ติ วตฺวา สยํ ตาว พฺราหฺมณวณฺเณน ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘โภ, กตโร พาราณสิคมนมคฺโค’’ติ ปุจฺฉิ. อถ นํ มจฺฉริยโกสิโย ‘‘กึ อุมฺมตฺตโกสิ, พาราณสิมคฺคมฺปิ น ชานาสิ, กึ อิโต เอสิ, เอตฺโต ยาหี’’ติ อาห.

สกฺโก ตสฺส วจนํ สุตฺวา อสุณนฺโต วิย ‘‘กึ กเถสี’’ติ ตํ อุปคจฺฉเตว. โสปิ, ‘‘อเร , พธิร พฺราหฺมณ, กึ อิโต เอสิ, ปุรโต ยาหี’’ติ วิรวิ. อถ นํ สกฺโก, ‘‘โภ, กสฺมา วิรวสิ, ธูโม ปฺายติ, อคฺคิ ปฺายติ, ปายาโส ปจฺจติ, พฺราหฺมณานํ นิมนฺตนฏฺาเนน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ พฺราหฺมณานํ โภชนกาเล โถกํ ลภิสฺสามิ, กึ มํ นิจฺฉุภสี’’ติ วตฺวา ‘‘นตฺเถตฺถ พฺราหฺมณานํ นิมนฺตนํ, ปุรโต ยาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘เตน หิ กสฺมา กุชฺฌสิ, ตว โภชนกาเล โถกํ ลภิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘อหํ เต เอกสิตฺถมฺปิ น ทสฺสามิ, โถกํ อิทํ มม ยาปนมตฺตเมว, มยาปิ เจตํ ยาจิตฺวาว ลทฺธํ, ตฺวํ อฺโต อาหารํ ปริเยสาหี’’ติ วตฺวา ภริยํ ยาจิตฺวา ลทฺธภาวํ สนฺธาเยว วตฺวา คาถมาห –

๑๙๒.

‘‘เนว กิณามิ นปิ วิกฺกิณามิ, น จาปิ เม สนฺนิจโย จ อตฺถิ;

สุกิจฺฉรูปํ วติทํ ปริตฺตํ, ปตฺโถทโน นาลมยํ ทุวินฺน’’นฺติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘อหมฺปิ เต มธุรสทฺเทน เอกํ สิโลกํ กเถสฺสามิ, ตํ สุณาหี’’ติ วตฺวา ‘‘น เม ตว สิโลเกน อตฺโถ’’ติ ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๓.

‘‘อปฺปมฺหา อปฺปกํ ทชฺชา, อนุมชฺฌโต มชฺฌกํ;

พหุมฺหา พหุกํ ทชฺชา, อทานํ นูปปชฺชติ.

๑๙๔.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตตฺถ อนุมชฺฌโต มชฺฌกนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ มชฺเฌ เฉตฺวา ทฺเว โกฏฺาเส กริตฺวา เอกํ โกฏฺาสํ ทตฺวา ตโต อวเสสโต อนุมชฺฌโตปิ ปุน มชฺเฌ เฉตฺวา เอโก โกฏฺาโส ทาตพฺโพเยว. อทานํ นูปปชฺชตีติ อปฺปํ วา พหุํ วา ทินฺนํ โหตุ, อทานํ นาม น โหติ, ตมฺปิ ทานเมว มหปฺผลเมว.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘มนาปํ เต, พฺราหฺมณ, กถิตํ, ปายาเส ปกฺเก โถกํ ลภิสฺสสิ, นิสีทาหี’’ติ อาห. สกฺโก เอกมนฺเต นิสีทิ. ตสฺมึ นิสินฺเน จนฺโท เตเนว นิยาเมน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๕.

‘‘โมฆฺจสฺส หุตํ โหติ, โมฆฺจาปิ สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เอโก ภุฺชติ โภชนํ.

๑๙๖.

ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตตฺถ สมีหิตนฺติ ธนุปฺปาทนวีริยํ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา สกฺกสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต สูริโย เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๑๙๗.

‘‘สจฺจฺจสฺส หุตํ โหติ, สจฺจฺจาปิ สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เนโก ภุฺชติ โภชนํ.

๑๙๘.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. โส คนฺตฺวา จนฺทสฺส สนฺติเก นิสีทิ. อถ นํ มาตลิ เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว อิมา คาถา อภาสิ –

๑๙๙.

‘‘สรฺจ ชุหติ โปโส, พหุกาย คยาย จ;

โทเณ ติมฺพรุติตฺถสฺมึ, สีฆโสเต มหาวเห.

๒๐๐.

‘‘อตฺร จสฺส หุตํ โหติ, อตฺร จสฺส สมีหิตํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เนโก ภุฺชติ โภชนํ.

๒๐๑.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

ตาสํ อตฺโถ – โย ปุริโส ‘‘นาคยกฺขาทีนํ พลิกมฺมํ กโรมี’’ติ สมุทฺทโสณฺฑิโปกฺขรณีอาทีสุ ยํ กิฺจิ สรฺจ อุปคนฺตฺวา ชุหติ, ตตฺถ พลิกมฺมํ กโรติ , ตถา พหุกาย นทิยา คยาย โปกฺขรณิยา โทณนามเก จ ติมฺพรุนามเก จ ติตฺเถ สีฆโสเต มหนฺเต วาริวเห. อตฺร จสฺสาติ ยทิ อตฺราปิ เอเตสุ สราทีสุ อสฺส ปุริสสฺส หุตฺเจว สมีหิตฺจ โหติ, สผลํ สุขุทฺรยํ สมฺปชฺชติ. อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ เนโก ภุฺชติ โภชนํ, เอตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, เตน ตํ วทามิ – โกสิย, ทานานิ จ เทหิ, สยฺจ ภุฺช, อริยานํ ทานาภิรตานํ พุทฺธาทีนํ มคฺคํ อภิรุห. น หิ เอกาสี เอโกว ภุฺชมาโน สุขํ นาม ลภตีติ.

โส ตสฺสปิ วจนํ สุตฺวา ปพฺพตกูเฏน โอตฺถโฏ วิย กิจฺเฉน กสิเรน ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. มาตลิ คนฺตฺวา สูริยสฺส สนฺติเก นิสีทิ. ตโต ปฺจสิโข เตเนว นเยน อุปสงฺกมิตฺวา ตเถว กถํ ปวตฺเตตฺวา ตสฺส วาเรนฺตสฺเสว คาถาทฺวยมาห –

๒๐๒.

‘‘พฬิสฺหิ โส นิคิลติ, ทีฆสุตฺตํ สพนฺธนํ;

อติถิสฺมึ โย นิสินฺนสฺมึ, เอโก ภุฺชติ โภชนํ.

๒๐๓.

‘‘ตํ ตํ วทามิ โกสิย, เทหิ ทานานิ ภุฺช จ;

อริยมคฺคํ สมารุห, เนกาสี ลภเต สุข’’นฺติ.

มจฺฉริยโกสิโย ตํ สุตฺวา ทุกฺขเวทโน นิตฺถุนนฺโต ‘‘เตน หิ นิสีท, โถกํ ลภิสฺสสี’’ติ อาห. ปฺจสิโข คนฺตฺวา มาตลิสฺส สนฺติเก นิสีทิ. อิติ เตสุ ปฺจสุ พฺราหฺมเณสุ นิสินฺนมตฺเตสฺเวว ปายาโส ปจฺจิ. อถ นํ โกสิโย อุทฺธนา โอตาเรตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ ปตฺตานิ อาหรถา’’ติ อาห. เต อนุฏฺาย ยถานิสินฺนาว หตฺเถ ปสาเรตฺวา หิมวนฺตโต มาลุวปตฺตานิ อาหรึสุ. โกสิโย ตานิ ทิสฺวา ‘‘ตุมฺหากํ เอเตสุ ปตฺเตสุ ทาตพฺพปายาโส นตฺถิ, ขทิราทีนํ ปตฺตานิ อาหรถา’’ติ อาห. เต ตานิปิ อาหรึสุ. เอเกกํ ปตฺตํ โยธผลกปฺปมาณํ อโหสิ. โส สพฺเพสํ ทพฺพิยา ปายาสํ อทาสิ, สพฺพนฺติมสฺส ทานกาเลปิ อุกฺขลิยา อูนํ น ปฺายิ, ปฺจนฺนมฺปิ ทตฺวา สยํ อุกฺขลึ คเหตฺวา นิสีทิ. ตสฺมึ ขเณ ปฺจสิโข อุฏฺาย อตฺตภาวํ วิชหิตฺวา สุนโข หุตฺวา เตสํ ปุรโต ปสฺสาวํ กโรนฺโต อคมาสิ. พฺราหฺมณา อตฺตโน ปายาสํ ปตฺเตน ปิทหึสุ. โกสิยสฺส หตฺถปิฏฺเ ปสฺสาวพินฺทุ ปติ. พฺราหฺมณา กุณฺฑิกาหิ อุทกํ คเหตฺวา ปายาสํ อพฺภุกิริตฺวา ภุฺชมานา วิย อเหสุํ. โกสิโย ‘‘มยฺหมฺปิ อุทกํ เทถ, หตฺถํ โธวิตฺวา ภุฺชิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ตว อุทกํ อาหริตฺวา หตฺถํ โธวา’’ติ. ‘‘มยา ตุมฺหากํ ปายาโส ทินฺโน, มยฺหํ โถกํ อุทกํ เทถา’’ติ. ‘‘มยํ ปิณฺฑปฏิปิณฺฑกมฺมํ นาม น กโรมา’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมํ อุกฺขลึ โอโลเกถ, หตฺถํ โธวิตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ นทึ โอตริ. ตสฺมึ ขเณ สุนโข อุกฺขลึ ปสฺสาวสฺส ปูเรสิ. โส ตํ ปสฺสาวํ กโรนฺตํ ทิสฺวา มหนฺตํ ทณฺฑมาทาย ตํ ตชฺเชนฺโต อาคจฺฉิ. โส อสฺสาชานียมตฺโต หุตฺวา ตํ อนุพนฺธนฺโต นานาวณฺโณ อโหสิ, กาโฬปิ โหติ เสโตปิ สุวณฺณวณฺโณปิ กพโรปิ อุจฺโจปิ นีโจปิ, เอวํ นานาวณฺโณ หุตฺวา มจฺฉริยโกสิยํ อนุพนฺธิ. โส มรณภยภีโต พฺราหฺมเณ อุปสงฺกมิ. เตปิ อุปฺปติตฺวา อากาเส ิตา. โส เตสํ ตํ อิทฺธึ ทิสฺวา คาถมาห –

๒๐๔.

‘‘อุฬารวณฺณา วต พฺราหฺมณา อิเม, อยฺจ โว สุนโข กิสฺส เหตุ;

อุจฺจาวจํ วณฺณนิภํ วิกุพฺพติ, อกฺขาถ โน พฺราหฺมณา เก นุ ตุมฺเห’’ติ.

ตํ สุตฺวา สกฺโก เทวราชา –

๒๐๕.

‘‘จนฺโท จ สูริโย จ อุโภ อิธาคตา, อยํ ปน มาตลิ เทวสารถิ;

สกฺโกหมสฺมิ ติทสานมินฺโท; เอโส จ โข ปฺจสิโขติ วุจฺจตี’’ติ.

คาถํ วตฺวา ตสฺส ยสํ วณฺเณนฺโต คาถมาห –

๒๐๖.

‘‘ปาณิสฺสรา มุทิงฺคา จ, มุรชาลมฺพรานิ จ;

สุตฺตเมนํ ปโพเธนฺติ, ปฏิพุทฺโธ จ นนฺทตี’’ติ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา ‘‘สกฺก, เอวรูปํ ทิพฺพสมฺปตฺตึ กินฺติ กตฺวา ลภสี’’ติ ปุจฺฉิ. สกฺโก ‘‘อทานสีลา ตาว ปาปธมฺมา มจฺฉริโน เทวโลกํ น คจฺฉนฺติ, นิรเย นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ ทสฺเสนฺโต –

๒๐๗.

‘‘เย เกจิเม มจฺฉริโน กทริยา, ปริภาสกา สมณพฺราหฺมณานํ;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา นิรยํ วชนฺตี’’ติ. –

อิมํ คาถํ วตฺวา ธมฺเม ิตานํ เทวโลกปฏิลาภํ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๒๐๘.

‘‘เย เกจิเม สุคฺคติมาสมานา, ธมฺเม ิตา สํยเม สํวิภาเค;

อิเธว นิกฺขิปฺป สรีรเทหํ, กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺตี’’ติ.

ตตฺถ อาสมานาติ อาสีสนฺตา. เย เกจิ สุคตึ อาสีสนฺติ, สพฺเพ เต สํยมสงฺขาเต ทสสีลธมฺเม สํวิภาคสงฺขาเต ทานธมฺเม จ ิตา หุตฺวา อิธ สรีรสงฺขาตํ เทหํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส กายสฺส เภทา สุคตึ วชนฺตีติ อตฺโถ.

เอวํ วตฺวา จ ปน, ‘‘โกสิย, น มยํ ตว สนฺติเก ปายาสตฺถาย อาคตา, การุฺเน ปน ตํ อนุกมฺปมานา อาคตามฺหา’’ติ ตสฺส ปกาเสตุํ อาห –

๒๐๙.

‘‘ตฺวํ โนสิ าติ ปุริมาสุ ชาติสุ, โส มจฺฉรี โรสโก ปาปธมฺโม;

ตเวว อตฺถาย อิธาคตมฺหา, มา ปาปธมฺโม นิรยํ คมิตฺถา’’ติ.

ตตฺถ โสติ โส ตฺวํ. มา ปาปธมฺโมติ อยํ อมฺหากํ าติ ปาปธมฺโม มา นิรยํ อคมาติ เอตทตฺถํ อาคตมฺหาติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา โกสิโย ‘‘อตฺถกามา กิร เม, เอเต มํ นิรยา อุทฺธริตฺวา สคฺเค ปติฏฺาเปตุกามา’’ติ ตุฏฺจิตฺโต อาห –

๒๑๐.

‘‘อทฺธา มํ โว หิตกามา, ยํ มํ สมนุสาสถ;

โสหํ ตถา กริสฺสามิ, สพฺพํ วุตฺตํ หิเตสิภิ.

๒๑๑.

‘‘เอสาหมชฺเชว อุปรมามิ, น จาหํ กิฺจิ กเรยฺย ปาปํ;

จาปิ เม กิฺจิ อเทยฺยมตฺถิ, น จาปิทตฺวา อุทกํ ปิวามิ.

๒๑๒.

‘‘เอวฺจ เม ททโต สพฺพกาลํ, โภคา อิเม วาสว ขียิสฺสนฺติ;

ตโต อหํ ปพฺพชิสฺสามิ สกฺก, หิตฺวาน กามานิ ยโถธิกานี’’ติ.

ตตฺถ นฺติ มม. โวติ ตุมฺเห. ยํ มนฺติ เยน มํ สมนุสาสถ, เตน เม ตุมฺเห หิตกามา. ตถาติ ยถา วทถ, ตเถว กริสฺสามิ. อุปรมามีติ มจฺฉริภาวโต อุปรมามิ. อเทยฺยมตฺถีติ อิโต ปฏฺาย จ มม อาโลปโต อุปฑฺฒมฺปิ อเทยฺยํ นาม นตฺถิ, น จาปิทตฺวาติ อุทกปสตมฺปิ จาหํ ลภิตฺวา อทตฺวา น ปิวิสฺสามิ. ขียิสฺสนฺตีติ วิกฺขียิสฺสนฺติ. ยโถธิกานีติ วตฺถุกามกิเลสกามวเสน ยถาิตโกฏฺาสานิเยว.

สกฺโก มจฺฉริยโกสิยํ ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทานผลํ ชานาเปตฺวา ธมฺมเทสนาย ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา สทฺธึ เตหิ เทวนครเมว คโต. มจฺฉริยโกสิโยปิ นครํ ปวิสิตฺวา ราชานํ อนุชานาเปตฺวา ‘‘คหิตคหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา คณฺหนฺตู’’ติ ยาจกานํ ธนํ ทตฺวา ตสฺมึ ขีเณ นิกฺขมฺม หิมวนฺตโต ทกฺขิณปสฺเส คงฺคาย เจว เอกสฺส จ ชาตสฺสรสฺส อนฺตเร ปณฺณสาลํ กตฺวา ปพฺพชิตฺวา วนมูลผลาหาโร ตตฺถ จิรํ วิหาสิ, ชรํ ปาปุณิ. ตทา สกฺกสฺส อาสา สทฺธา สิรี หิรีติ จตสฺโส ธีตโร โหนฺติ. ตา พหุํ ทิพฺพคนฺธมาลํ อาทาย อุทกกีฬนตฺถาย อโนตตฺตทหํ คนฺตฺวา ตตฺถ กีฬิตฺวา มโนสิลาตเล นิสีทึสุ. ตสฺมึ ขเณ นารโท นาม พฺราหฺมณตาปโส ตาวตึสภวนํ ทิวาวิหารตฺถาย คนฺตฺวา นนฺทนวนจิตฺตลตาวเนสุ ทิวาวิหารํ กตฺวา ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผํ ฉตฺตํ วิย ฉายตฺถาย ธารยมาโน มโนสิลาตลมตฺถเกน อตฺตโน วสนฏฺานํ กฺจนคุหํ คจฺฉติ. อถ ตา ตสฺส หตฺเถ ตํ ปุปฺผํ ทิสฺวา ยาจึสุ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๑๓.

‘‘นคุตฺตเม คิริวเร คนฺธมาทเน, โมทนฺติ ตา เทววราภิปาลิตา;

อถาคมา อิสิวโร สพฺพโลกคู, สุปุปฺผิตํ ทุมวรสาขมาทิย.

๒๑๔.

‘‘สุจึ สุคนฺธํ ติทเสหิ สกฺกตํ, ปุปฺผุตฺตมํ อมรวเรหิ เสวิตํ;

อลทฺธ มจฺเจหิว ทานเวหิ วา, อฺตฺร เทเวหิ ตทารหํ หิทํ.

๒๑๕.

‘‘ตโต จตสฺโส กนกตฺตจูปมา, อุฏฺาย นาริโย ปมทาธิปา มุนึ;

อาสา จ สทฺธา จ สิรี ตโต หิรี, อิจฺจพฺรวุํ นารทเทว พฺราหฺมณํ.

๒๑๖.

‘‘สเจ อนุทฺทิฏฺํ ตยา มหามุนิ, ปุปฺผํ อิมํ ปาริฉตฺตสฺส พฺรมฺเห;

ททาหิ โน สพฺพา คติ เต อิชฺฌตุ, ตุวมฺปิ โน โหหิ ยเถว วาสโว.

๒๑๗.

‘‘ตํ ยาจมานาภิสเมกฺข นารโท, อิจฺจพฺรวี สํกลหํ อุทีรยิ;

น มยฺหมตฺถตฺถิ อิเมหิ โกจิ นํ, ยาเยว โว เสยฺยสิ สา ปิฬนฺธถา’’ติ.

ตตฺถ คิริวเรติ ปุริมสฺส เววจนํ. เทววราภิปาลิตาติ สกฺเกน รกฺขิตา. สพฺพโลกคูติ เทวโลเก จ มนุสฺสโลเก จ สพฺพตฺถ คมนสมตฺโถ. ทุมวรสาขมาทิยาติ สาขาย ชาตตฺตา ทุมวรสาขนฺติ ลทฺธนามํ ปุปฺผํ คเหตฺวา. สกฺกตนฺติ กตสกฺการํ. อมรวเรหีติ สกฺกํ สนฺธาย วุตฺตํ. อฺตฺร เทเวหีติ เปตฺวา เทเว จ อิทฺธิมนฺเต จ อฺเหิ มนุสฺเสหิ วา ยกฺขาทีหิ วา อลทฺธํ. ตทารหํ หิทนฺติ เตสํเยว หิ ตํ อรหํ อนุจฺฉวิกํ. กนกตฺตจูปมาติ กนกูปมา ตจา. อุฏฺายาติ อยฺโย มาลาคนฺธวิเลปนาทิปฏิวิรโต ปุปฺผํ น ปิฬนฺธิสฺสติ, เอกสฺมึ ปเทเส ฉฑฺเฑสฺสติ, เอถ ตํ ยาจิตฺวา ปุปฺผํ ปิฬนฺธิสฺสามาติ หตฺเถ ปสาเรตฺวา ยาจมานา เอกปฺปหาเรเนว อุฏฺหิตฺวา. ปมทาธิปาติ ปมทานํ อุตฺตมา. มุนินฺติ อิสึ.

อนุทฺทิฏฺนฺติ ‘‘อสุกสฺส นาม ทสฺสามี’’ติ น อุทฺทิฏฺํ. สพฺพา คติ เต อิชฺฌตูติ สพฺพา เต จิตฺตคติ อิชฺฌตุ, ปตฺถิตปตฺถิตสฺส ลาภี โหหีติ ตสฺส ถุลิมงฺคลํ วทนฺติ. ยเถว วาสโวติ ยถา อมฺหากํ ปิตา วาสโว อิจฺฉิติจฺฉิตํ เทติ, ตเถว โน ตฺวมฺปิ โหหีติ. นฺติ ตํ ปุปฺผํ. อภิสเมกฺขาติ ทิสฺวา. สํกลหนฺติ นานาคาหํ กลหวฑฺฒนํ กถํ อุทีรยิ. อิเมหีติ อิเมหิ ปุปฺเผหิ นาม มยฺหํ อตฺโถ นตฺถิ, ปฏิวิรโต อหํ มาลาธารณโตติ ทีเปติ. ยาเยว โว เสยฺยสีติ ยา ตุมฺหากํ อนฺตเร เชฏฺิกา. สา ปิฬนฺธถาติ สา เอตํ ปิฬนฺธตูติ อตฺโถ.

ตา จตสฺโสปิ ตสฺส วจนํ สุตฺวา คาถมาหํสุ –

๒๑๘.

‘‘ตฺวํ โนตฺตเมวาภิสเมกฺข นารท, ยสฺสิจฺฉสิ ตสฺสา อนุปฺปเวจฺฉสุ;

ยสฺสา หิ โน นารท ตฺวํ ปทสฺสสิ, สาเยว โน เหหิติ เสฏฺสมฺมตา’’ติ.

ตตฺถ ตฺวํ โนตฺตเมวาติ อุตฺตมมหามุนิ ตฺวเมว โน อุปธาเรหิ. ตาสํ วจนํ สุตฺวา นารโท ตา อาลปนฺโต คาถมาห –

๒๑๙.

‘‘อกลฺลเมตํ วจนํ สุคตฺเต, โก พฺราหฺมโณ สํกลหํ อุทีรเย;

คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ, สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธเม’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ภทฺเท สุคตฺเต, อิทํ ตุมฺเหหิ วุตฺตํ วจนํ มม อยุตฺตํ, เอวฺหิ สติ มยา ตุมฺเหสุ เอกํ เสฏฺํ, เสสา หีนา กโรนฺเตน กลโห วฑฺฒิโต ภวิสฺสติ, โก พาหิตปาโป พฺราหฺมโณ กลหํ อุทีรเย วฑฺเฒยฺย. เอวรูปสฺส หิ กลหวฑฺฒนํ นาม อยุตฺตํ, ตสฺมา อิโต คตฺวา อตฺตโน ปิตรํ ภูตาธิปํ สกฺกเมว ปุจฺฉถ, สเจ อตฺตโน อุตฺตมํ อธมฺจ น ชานาถาติ.

ตโต สตฺถา คาถมาห –

๒๒๐.

‘‘ตา นารเทน ปรมปฺปโกปิตา, อุทีริตา วณฺณมเทน มตฺตา;

สกาเส คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, ปุจฺฉึสุ ภูตาธิปํ กา นุ เสยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ ปรมปฺปโกปิตาติ ปุปฺผํ อททนฺเตน อติวิย โกปิตา ตสฺส กุปิตา หุตฺวา. อุทีริตาติ ‘‘ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถา’’ติ วุตฺตา. สหสฺสจกฺขุโนติ สกฺกสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา. กา นูติ อมฺหากํ อนฺตเร กตมา อุตฺตมาติ ปุจฺฉึสุ.

เอวํ ปุจฺฉิตฺวา ิตา –

๒๒๑.

‘‘ตา ทิสฺวา อายตฺตมนา ปุรินฺทโท, อิจฺจพฺรวี เทววโร กตฺชลี;

สพฺพาว โว โหถ สุคตฺเต สาทิสี, โกเนว ภทฺเท กลหํ อุทีรยี’’ติ.

ตตฺถ ตา ทิสฺวาติ, ภิกฺขเว, จตสฺโสปิ อตฺตโน สนฺติกํ อาคตา ทิสฺวา. อายตฺตมนาติ อุสฺสุกฺกมนา พฺยาวฏจิตฺตา. กตฺชลีติ นมสฺสมานาหิ เทวตาหิ ปคฺคหิตฺชลี. สาทิสีติ สพฺพาว ตุมฺเห สาทิสิโย. โก เนวาติ โก นุ เอวํ. กลหํ อุทีรยีติ อิทํ นานาคาหํ วิคฺคหํ กเถสิ วฑฺเฒสิ.

อถสฺส ตา กถยมานา คาถมาหํสุ –

๒๒๒.

‘‘โย สพฺพโลกจฺจริโต มหามุนิ, ธมฺเม ิโต นารโท สจฺจนิกฺกโม;

โส โนพฺรวิ คิริวเร คนฺธมาทเน, คนฺตฺวาน ภูตาธิปเมว ปุจฺฉถ;

สเจ น ชานาถ อิธุตฺตมาธม’’นฺติ.

ตตฺถ สจฺจนิกฺกโมติ ตถปรกฺกโม.

ตํ สุตฺวา สกฺโก ‘‘อิมา จตสฺโสปิ มยฺหํ ธีตโรว, สจาหํ ‘เอตาสุ เอกา คุณสมฺปนฺนา อุตฺตมา’ติ วกฺขามิ, เสสา กุชฺฌิสฺสนฺติ, น สกฺกา อยํ อฑฺโฑ วินิจฺฉินิตุํ, อิมา หิมวนฺเต โกสิยตาปสสฺส สนฺติกํ เปเสสามิ, โส เอตาสํ อฑฺฑํ วินิจฺฉินิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อฑฺฑํ น วินิจฺฉินิสฺสามิ, หิมวนฺเต โกสิโย นาม ตาปโส อตฺถิ, ตสฺสาหํ อตฺตโน สุธาโภชนํ เปเสสฺสามิ, โส ปรสฺส อทตฺวา น ภุฺชติ, ททนฺโต จ วิจินิตฺวา คุณวนฺตานํ เทติ, ยา ตุมฺเหสุ ตสฺส หตฺถโต ภตฺตํ ลภิสฺสติ, สา อุตฺตมา ภวิสฺสตี’’ติ อาจิกฺขนฺโต คาถมาห –

๒๒๓.

‘‘อสุ พฺรหารฺจโร มหามุนิ, นาทตฺวา ภตฺตํ วรคตฺเต ภุฺชติ;

วิเจยฺย ทานานิ ททาติ โกสิโย,

ยสฺสา หิ โส ทสฺสติ สาว เสยฺยสี’’ติ.

ตตฺถ พฺรหารฺธโรติ มหาอรฺวาสี.

อิติ โส ตาปสสฺส สนฺติกํ เปเสตฺวา มาตลึ ปกฺโกสาเปตฺวา ตสฺส สนฺติกํ เปเสนฺโต อนนฺตรํ คาถมาห –

๒๒๔.

‘‘อสู หิ โย สมฺมติ ทกฺขิณํ ทิสํ, คงฺคาย ตีเร หิมวนฺตปสฺสนิ;

ส โกสิโย ทุลฺลภปานโภชโน, ตสฺส สุธํ ปาปย เทวสารถี’’ติ.

ตตฺถ สมฺมตีติ วสติ. ทกฺขิณนฺติ หิมวนฺตสฺส ทกฺขิณาย ทิสาย. ปสฺสนีติ ปสฺเส.

ตโต สตฺถา อาห –

๒๒๕.

‘‘ส มาตลี เทววเรน เปสิโต, สหสฺสยุตฺตํ อภิรุยฺห สนฺทนํ;

สุขิปฺปเมว อุปคมฺม อสฺสมํ, อทิสฺสมาโน มุนิโน สุธํ อทา’’ติ.

ตตฺถ อทิสฺสมาโนติ, ภิกฺขเว, โส มาตลิ เทวราชสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อสฺสมํ คนฺตฺวา อทิสฺสมานกาโย หุตฺวา ตสฺส สุธํ อทาสิ, ททมาโน จ รตฺตึ ปธานมนุยุฺชิตฺวา ปจฺจูสสมเย อคฺคึ ปริจริตฺวา วิภาตาย รตฺติยา อุเทนฺตํ สูริยํ นมสฺสมานสฺส ิตสฺส ตสฺส หตฺเถ สุธาโภชนปาตึ เปสิ.

โกสิโย ตํ คเหตฺวา ิตโกว คาถาทฺวยมาห –

๒๒๖.

‘‘อุทคฺคิหุตฺตํ อุปติฏฺโต หิ เม, ปภงฺกรํ โลกตโมนุทุตฺตมํ;

สพฺพานิ ภูตานิ อธิจฺจ วาสโว;

โก เนว เม ปาณิสุ กึ สุโธทหิ.

๒๒๗.

‘‘สงฺขูปมํ เสตมตุลฺยทสฺสนํ, สุจึ สุคนฺธํ ปิยรูปมพฺภุตํ;

อทิฏฺปุพฺพํ มม ชาตุ จกฺขุภิ, กา เทวตา ปาณิสุ กึ สุโธทหี’’ติ.

ตตฺถ อุทคฺคิหุตฺตนฺติ อุทกอคฺคิหุตฺตํ ปริจริตฺวา อคฺคิสาลโต นิกฺขมฺม ปณฺณสาลทฺวาเร ตฺวา ปภงฺกรํ โลกตโมนุทํ อุตฺตมํ อาทิจฺจํ อุปติฏฺโต มม สพฺพานิ ภูตานิ อธิจฺจ อติกฺกมิตฺวา วตฺตมาโน วาสโว นุ โข เอวํ มม ปาณีสุ กึ สุธํ กึ นาเมตํ โอทหิ. ‘‘สงฺขูปม’’นฺติอาทีหิ ิตโกว สุธํ วณฺเณติ.

ตโต มาตลิ อาห –

๒๒๘.

‘‘อหํ มหินฺเทน มเหสิ เปสิโต, สุธาภิหาสึ ตุริโต มหามุนิ;

ชานาสิ มํ มาตลิ เทวสารถิ, ภุฺชสฺสุ ภตฺตุตฺตม มาภิวารยิ.

๒๒๙.

‘‘ภุตฺตา จ สา ทฺวาทส หนฺติ ปาปเก, ขุทํ ปิปาสํ อรตึ ทรกฺลมํ;

โกธูปนาหฺจ วิวาทเปสุณํ, สีตุณฺห ตนฺทิฺจ รสุตฺตมํ อิท’’นฺติ.

ตตฺถ สุธาภิหาสินฺติ อิมํ สุธาโภชนํ ตุยฺหํ อภิหรึ. ชานาสีติ ชานาหิ มํ ตฺวํ, อหํ มาตลิ นาม เทวสารถีติ อตฺโถ. มาภิวารยีติ น ภุฺชามีติ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ภุฺช มา ปปฺจ กริ. ปาปเกติ อยฺหิ สุธา ภุตฺตา ทฺวาทส ปาปธมฺเม หนติ. ขุทนฺติ ปมํ ตาว ฉาตภาวํ หนติ, ทุติยํ ปานียปิปาสํ, ตติยํ อุกฺกณฺิตํ, จตุตฺถํ กายทรถํ, ปฺจมํ กิลนฺตภาวํ, ฉฏฺํ โกธํ, สตฺตมํ อุปนาหํ, อฏฺมํ วิวาทํ, นวมํ เปสุณํ, ทสมํ สีตํ, เอกาทสมํ อุณฺหํ, ทฺวาทสมํ ตนฺทึ อาลสิยภาวํ, อิทํ รสุตฺตมํ อุตฺตมรสํ สุธาโภชนํ อิเม ทฺวาทส ปาปธมฺเม หนติ.

ตํ สุตฺวา โกสิโย อตฺตโน วตสมาทานํ อาวิกโรนฺโต –

๒๓๐.

‘‘น กปฺปตี มาตลิ มยฺห ภุฺชิตุํ, ปุพฺเพ อทตฺวา อิติ เม วตุตฺตมํ;

น จาปิ เอกาสฺนมริยปูชิตํ, อสํวิภาคี จ สุขํ น วินฺทตี’’ติ. –

คาถํ วตฺวา, ‘‘ภนฺเต, ตุมฺเหหิ ปรสฺส อทตฺวา โภชเน กํ โทสํ ทิสฺวา อิทํ วตํ สมาทินฺน’’นฺติ มาตลินา ปุฏฺโ อาห –

๒๓๑.

‘‘ถีฆาตกา เย จิเม ปารทาริกา, มิตฺตทฺทุโน เย จ สปนฺติ สุพฺพเต;

สพฺเพ จ เต มจฺฉริปฺจมาธมา, ตสฺมา อทตฺวา อุทกมฺปิ นาสฺนิเย.

๒๓๒.

‘‘โสหิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ปน, ทสฺสามิ ทานํ วิทุสมฺปวณฺณิตํ;

สทฺธา วทฺู อิธ วีตมจฺฉรา, ภวนฺติ เหเต สุจิสจฺจสมฺมตา’’ติ.

ตตฺถ ปุพฺเพติ ปมํ อทตฺวา, อถ วา อิติ เม ปุพฺเพ วตุตฺตมํ อิทํ ปุพฺเพว มยา วตํ สมาทินฺนนฺติ ทสฺเสติ. น จาปิ เอกาสฺนมริยปูชิตนฺติ เอกกสฺส อสนํ น อริเยหิ พุทฺธาทีหิ ปูชิตํ. สุขนฺติ ทิพฺพมานุสิกํ สุขํ น ลภติ. ถีฆาตกาติ อิตฺถิฆาตกา. เย จิเมติ เย จ อิเม. สปนฺตีติ อกฺโกสนฺติ. สุพฺพเตติ ธมฺมิกสมณพฺราหฺมเณ. มจฺฉริปฺจมาติ มจฺฉรี ปฺจโม เอเตสนฺติ มจฺฉริปฺจมา. อธมาติ อิเม ปฺจ อธมา นาม. ตสฺมาติ ยสฺมา อหํ ปฺจมอธมภาวภเยน อทตฺวา อุทกมฺปิ นาสฺนิเย ปริภุฺชิสฺสามีติ อิมํ วตํ สมาทิยึ. โสหิตฺถิยา วาติ โส อหํ อิตฺถิยา วา. วิทุสมฺปวณฺณิตนฺติ วิทูหิ ปณฺฑิเตหิ พุทฺธาทีหิ วณฺณิตํ. สุจิสจฺจสมฺมตาติ เอเต โอกปฺปนิยสทฺธาย สมนฺนาคตา วทฺู วีตมจฺฉรา ปุริสา สุจี เจว อุตฺตมสมฺมตา จ โหนฺตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา มาตลิ ทิสฺสมานกาเยน อฏฺาสิ. ตสฺมึ ขเณ ตา จตสฺโส เทวกฺาโย จตุทฺทิสํ อฏฺํสุ, สิรี ปาจีนทิสาย อฏฺาสิ, อาสา ทกฺขิณทิสาย, สทฺธา ปจฺฉิมทิสาย, หิรี อุตฺตรทิสาย. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๓๓.

‘‘อโต มตา เทววเรน เปสิตา, กฺา จตสฺโส กนกตฺตจูปมา;

อาสา จ สทฺธา จ สิรี ตโต หิรี, ตํ อสฺสมํ อาคมุ ยตฺถ โกสิโย.

๒๓๔.

‘‘ตา ทิสฺวา สพฺโพ ปรมปฺปโมทิโต, สุเภน วณฺเณน สิขาริวคฺคิโน;

กฺา จตสฺโส จตุโร จตุทฺทิสา, อิจฺจพฺรวี มาตลิโน จ สมฺมุขา.

๒๓๕.

‘‘ปุริมํ ทิสํ กา ตฺวํ ปภาสิ เทวเต, อลงฺกตา ตารวราว โอสธี;

ปุจฺฉามิ ตํ กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวตา.

๒๓๖.

‘‘สิราห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชย.

๒๓๗.

‘‘ยสฺสาหมิจฺฉามิ สุธํ มหามุนิ, โส สพฺพกาเมหิ นโร ปโมทติ;

สิรีติ มํ ชานหิ ชูหตุตฺตม, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ อโตติ ตโต. มตาติ อนุมตา, อถ เทววเรน อนุมตา เจว เปสิตา จาติ อตฺโถ. สพฺโพ ปรมปฺปโมทิโตติ อนวเสโส หุตฺวา อติปโมทิโต. ‘‘สาม’’นฺติปิ ปาโ, ตา เทวตา สามํ ทิสฺวาติ อตฺโถ. จตุโรติ จตุรา. อยเมว วา ปาโ, จาตุริเยน สมนฺนาคตาติ อตฺโถ. ตารวราติ ตารกานํ วรา. กฺจนเวลฺลิวิคฺคเหติ กฺจนรูปสทิสสรีเร. สิราหาติ สิรี อหํ. ตวนฺติมาคตาติ ตว สนฺติกํ อาคตา. ภาชยาติ ยถา มํ สุธา ภชติ, ตถา กโรหิ, สุธํ เม เทหีติ อตฺโถ. ชานหีติ ชาน. ชูหตุตฺตมาติ อคฺคึ ชุหนฺตานํ อุตฺตม.

ตํ สุตฺวา โกสิโย อาห –

๒๓๘.

‘‘สิปฺเปน วิชฺชาจรเณน พุทฺธิยา, นรา อุเปตา ปคุณา สกมฺมุนา;

ตยา วิหีนา น ลภนฺติ กิฺจนํ, ตยิทํ น สาธุ ยทิทํ ตยา กตํ.

๒๓๙.

‘‘ปสฺสามิ โปสํ อลสํ มหคฺฆสํ, สุทุกฺกุลีนมฺปิ อรูปิมํ นรํ;

ตยานุคุตฺโต สิริ ชาติมามปิ, เปเสติ ทาสํ วิย โภควา สุขี.

๒๔๐.

‘‘ตํ ตํ อสจฺจํ อวิภชฺชเสวินึ, ชานามิ มูฬฺหํ วิทุรานุปาตินึ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ สิปฺเปนาติ หตฺถิอสฺสรถธนุสิปฺปาทินา. วิชฺชาจรเณนาติ เวทตฺตยสงฺขาตาย วิชฺชาย เจว สีเลน จ. ปคุณา สกมฺมุนาติ อตฺตโน ปุริสกาเรน ปธานคุณสมนฺนาคตา. กิฺจนนฺติ กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ ยสํ วา สุขํ วา น ลภนฺติ. ยทิทนฺติ ยํ เอตํ อิสฺสริยตฺถาย สิปฺปานิ อุคฺคณฺหิตฺวา จรนฺตานํ ตยา เวกลฺลํ กตํ, ตํ เต น สาธุ. อรูปิมนฺติ วิรูปํ. ตยานุคุตฺโตติ ตยา อนุรกฺขิโต. ชาติมามปีติ ชาติสมฺปนฺนมฺปิ สิปฺปวิชฺชาจรณพุทฺธิกมฺเมหิ สมฺปนฺนมฺปิ. เปเสตีติ เปสนการกํ กโรติ. ตํ ตนฺติ ตสฺมา ตํ. อสจฺจนฺติ สภาวสงฺขาเต สจฺเจ อวตฺตนตาย อสจฺจํ อุตฺตมภาวรหิตํ. อวิภชฺชเสวินินฺติ อวิภชิตฺวา ยุตฺตายุตฺตํ อชานิตฺวา สิปฺปาทิสมฺปนฺเนปิ อิตเรปิ เสวมานํ. วิทุรานุปาตินินฺติ ปณฺฑิตานุปาตินึ ปณฺฑิเต ปาเตตฺวา โปเถตฺวา วิเหเตฺวา จรมานํ. กุโต สุธาติ ตาทิสาย นิคฺคุณาย กุโต สุธาโภชนํ, น เม รุจฺจสิ, คจฺฉ มา อิธ ติฏฺาติ.

สา เตน ปฏิกฺขิตฺตา ตตฺเถวนฺตรธายิ. ตโต โส อาสาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต อาห –

๒๔๑.

‘‘กา สุกฺกทาา ปฏิมุกฺกกุณฺฑลา, จิตฺตงฺคทา กมฺพุวิมฏฺธารินี;

โอสิตฺตวณฺณํ ปริทยฺห โสภสิ, กุสคฺคิรตฺตํ อปิฬยฺห มฺชรึ.

๒๔๒.

‘‘มิคีว ภนฺตา สรจาปธารินา, วิราธิตา มนฺทมิว อุทิกฺขสิ;

โก เต ทุตีโย อิท มนฺทโลจเน, น ภายสิ เอกิกา กานเน วเน’’ติ.

ตตฺถ จิตฺตงฺคทาติ จิตฺเรหิ องฺคเทหิ สมนฺนาคตา. กมฺพุวิมฏฺธารินีติ กรณปรินิฏฺิเตน วิมฏฺสุวณฺณาลงฺการธารินี. โอสิตฺตวณฺณนฺติ อวสิตฺตอุทกธารวณฺณํ ทิพฺพทุกูลํ. ปริทยฺหาติ นิวาเสตฺวา เจว ปารุปิตฺวา จ. กุสคฺคิรตฺตนฺติ กุสติณคฺคิสิขาวณฺณํ. อปิฬยฺห มฺชรินฺติ สปลฺลวํ อโสกกณฺณิกํ กณฺเณ ปิฬนฺธิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สรจาปธารินาติ ลุทฺเทน. วิราธิตาติ วิรทฺธปหารา. มนฺทมิวาติ ยถา สา มิคี ภีตา วนนฺตเร ตฺวา ตํ มนฺทํ มนฺทํ โอโลเกติ, เอวํ โอโลเกสิ.

ตโต อาสา อาห –

๒๔๓.

‘‘น เม ทุตีโย อิธ มตฺถิ โกสิย, มสกฺกสารปฺปภวมฺหิ เทวตา;

อาสา สุธาสาย ตวนฺติมาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ มสกฺกสารปฺปภวาติ ตาวตึสภวเน สมฺภวา.

ตํ สุตฺวา โกสิโย ‘‘ตฺวํ กิร โย เต รุจฺจติ, ตสฺส อาสาผลนิปฺผาทเนน อาสํ เทสิ, โย เต น รุจฺจติ, ตสฺส น เทสิ, นตฺถิ ตยา สมา ปตฺถิตตฺถวินาสิกา’’ติ ทีเปนฺโต อาห –

๒๔๔.

‘‘อาสาย ยนฺติ วาณิชา ธเนสิโน, นาวํ สมารุยฺห ปเรนฺติ อณฺณเว;

เต ตตฺถ สีทนฺติ อโถปิ เอกทา, ชีนาธนา เอนฺติ วินฏฺปาภตา.

๒๔๕.

‘‘อาสาย เขตฺตานิ กสนฺติ กสฺสกา, วปนฺติ พีชานิ กโรนฺตุปายโส;

อีตีนิปาเตน อวุฏฺิตาย วา, น กิฺจิ วินฺทนฺติ ตโต ผลาคมํ.

๒๔๖.

‘‘อถตฺตการานิ กโรนฺติ ภตฺตุสุ, อาสํ ปุรกฺขตฺวา นรา สุเขสิโน;

เต ภตฺตุรตฺถา อติคาฬฺหิตา ปุน, ทิสา ปนสฺสนฺติ อลทฺธ กิฺจนํ.

๒๔๗.

‘‘หิตฺวาน ธฺฺจ ธนฺจ าตเก, อาสาย สคฺคาธิมนา สุเขสิโน;

ตปนฺติ ลูขมฺปิ ตปํ จิรนฺตรํ, กุมคฺคมารุยฺห ปเรนฺติ ทุคฺคตึ.

๒๔๘.

‘‘อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา อิเม, อาเส สุธาสํ วินยสฺสุ อตฺตนิ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ปเรนฺตีติ ปกฺขนฺทนฺติ. ชีนาธนาติ ชีนธนา. อิติ ตว วเสน เอเก สมฺปชฺชนฺติ เอเก วิปชฺชนฺติ, นตฺถิ ตยา สทิสา ปาปธมฺมาติ วทติ. กโรนฺตุปายโสติ ตํ ตํ กิจฺจํ อุปาเยน กโรนฺติ. อีตีนิปาเตนาติ วิสมวาตมูสิกสลภสุกปาณกเสตฏฺิกโรคาทีนํ สสฺสุปทฺทวานํ อฺตรนิปาเตน วา. ตโตติ ตโต สสฺสโต เต กิฺจิ ผลํ น วินฺทนฺติ, เตสมฺปิ อาสจฺเฉทนกมฺมํ ตฺวเมว กโรสีติ วทติ. อถตฺตการานีติ ยุทฺธภูมีสุ ปุริสกาเร. อาสํ ปุรกฺขตฺวาติ อิสฺสริยาสํ ปุรโต กตฺวา. ภตฺตุรตฺถาติ สามิโน อตฺถาย. อติคาฬิตาติ ปจฺจตฺถิเกหิ อติปีฬิตา วิลุตฺตสาปเตยฺยา ทฺธสฺตเสนวาหนา หุตฺวา. ปนสฺสนฺตีติ ปลายนฺติ. อลทฺธ กิฺจนนฺติ กิฺจิ อิสฺสริยํ อลภิตฺวา . อิติ เอเตสมฺปิ อิสฺสริยาลาภํ ตฺวเมว กโรสีติ วทติ. สคฺคาธิมนาติ สคฺคํ อธิคนฺตุมนา. ลูขนฺติ นิโรชํ ปฺจตปาทิกํ กายกิลมถํ. จิรนฺตรนฺติ จิรกาลํ. อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา อิเมติ เอวํ อิเม สตฺตา สคฺคาสาย ทุคฺคตึ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา ตฺวํ อาสา นาม วิสํวาทิกสมฺมตา วิสํวาทิกาติ สงฺขํ คตา. อาเสติ ตํ อาลปติ.

สาปิ เตน ปฏิกฺขิตฺตา อนฺตรธายิ. ตโต สทฺธาย สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถมาห –

๒๔๙.

‘‘ททฺทลฺลมานา ยสสา ยสสฺสินี, ชิฆฺนามวฺหยนํ ทิสํ ปติ;

ปุจฺฉามิ ตํ กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ เทวเต’’ติ.

ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ ชลมานา. ชิฆฺนามวฺหยนนฺติ อปราติ จ ปจฺฉิมาติ จ เอวํ ชิฆฺเน ลามเกน นาเมน วุจฺจมานํ ทิสํ ปติ ททฺทลฺลมานา ติฏฺสิ.

ตโต สา คาถมาห –

๒๕๐.

‘‘สทฺธาห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติ มาคตา, ตํ มํ สุธาย วรปฺ ภาชยา’’ติ.

ตตฺถ สทฺธาติ ยสฺส กสฺสจิ วจนปตฺติยายนา สาวชฺชาปิ โหติ อนวชฺชาปิ. ปูชิตาติ อนวชฺชโกฏฺาสวเสน ปูชิตา. อปาปสตฺตูปนิเสวินีติ อนวชฺชสทฺธาย จ เอกนฺตปตฺติยายนุสภาวาร ปเรสุปิ ปตฺติยายนวิทหนสมตฺถาย เทวตาเยตํ นามํ.

อถํ นํ โกสิโย ‘‘อิเม สตฺตา ยสฺส กสฺสจิ วจนํ สทฺทหิตฺวา ตํ ตํ กโรนฺตา กตฺตพฺพโต อกตฺตพฺพเมว พหุตรํ กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ตยา การิตํ นาม โหตี’’ติ วตฺวา เอวมาห –

๒๕๑.

‘‘ทานํ ทมํ จาคมโถปิ สํยมํ, อาทาย สทฺธาย กโรนฺติ เหกทา;

เถยฺยํ มุสา กูฏมโถปิ เปสุณํ, กโรนฺติ เหเก ปุน วิจฺจุตา ตยา.

๒๕๒.

‘‘ภริยาสุ โปโส สทิสีสุ เปกฺขวา, สีลูปปนฺนาสุ ปติพฺพตาสุปิ;

วิเนตฺวาน ฉนฺทํ กุลิตฺถิราสุปิ, กโรติ สทฺธํ ปุน กุมฺภทาสิยา.

๒๕๓.

‘‘ตฺวเมว สทฺเธ ปรทารเสวินี, ปาปํ กโรสิ กุสลมฺปิ ริฺจสิ;

น ตาทิสี อรหติ อาสนูทกํ, กุโต สุธา คจฺฉ น มยฺห รุจฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ทานนฺติ ทสวตฺถุกํ ปุฺเจตนํ. ทมนฺติ อินฺทฺริยทมนํ. จาคนฺติ เทยฺยธมฺมปริจฺจาคํ. สํยมนฺติ สีลํ. อาทาย สทฺธายาติ ‘‘เอตานิ ทานาทีนิ มหานิสํสานิ กตฺตพฺพานี’’ติ วทตํ วจนํ สทฺธาย อาทิยิตฺวาปิ กโรนฺติ เอกทา. กูฏนฺติ ตุลากูฏาทิกํ วา คามกูฏาทิกํ กมฺมํ วา. กโรนฺติ เหเกติ เอเก มนุสฺสา เอวรูเปสุ นาม กาเลสุ อิเมสฺจ อตฺถาย เถยฺยาทีนิ กตฺตพฺพานีติ เกสฺจิ วจนํ สทฺทหิตฺวา เอตานิปิ กโรนฺติ. ปุน วิจฺจุตา ตยาติ ปุน ตยา วิสุตฺตา สาวชฺชทุกฺขวิปากาเนตานิ น กตฺตพฺพานีติ วทตํ วจนํ อปตฺติยายิตฺวาปิ กโรนฺติ. อิติ ตว วเสน สาวชฺชมฺปิ อนวชฺชมฺปิ กเรยฺยาสิ วทติ.

สทิสีสูติ ชาติโคตฺตสีลาทีหิ สทิสีสุ. เปกฺขวาติ เปกฺขา วุจฺจติ ตณฺหา, สตณฺโหติ อตฺโถ. ฉนฺทนฺติ ฉนฺทราคํ. กโรติ สทฺธนฺติ กุมฺภทาสิยาปิ วจเน สทฺธํ กโรติ, ตสฺสา ‘‘อหํ ตุมฺหากํ อิทํ นาม อุปการํ กริสฺสามี’’ติ วทนฺติยา ปตฺติยายิตฺวา กุลิตฺถิโยปิ ฉฑฺเฑตฺวา ตเมว ปฏิเสวติ, อสุกา นาม ตุมฺเหสุ ปฏิพทฺธจิตฺตาติ กุมฺภทาสิยาปิ วจเน สทฺธํ กตฺวาว ปรทารํ เสวติ. ตฺวเมว สทฺเธ ปรทารเสวินีติ ยสฺมา ตํ ตํ ปตฺติยายิตฺวา ตว วเสน ปรทารํ เสวนฺติ ปาปํ กโรนฺติ กุสลํ ชหนฺติ, ตสฺมา ตฺวเมว ปรทารเสวินี ตฺวํ ปาปานิ กโรสิ, กุสลมฺปิ ริฺจสิ, นตฺถิ ตยา สมา โลกวินาสิกา ปาปธมฺมา, คจฺฉ น เม รุจฺจสีติ.

สา ตตฺเถว อนฺตรธายิ. โกสิโยปิ อุตฺตรโต ิตาย หิริยา สทฺธึ สลฺลปนฺโต คาถาทฺวยมาห –

๒๕๔.

‘‘ชิฆฺรตฺตึ อรุณสฺมิมูหเต, ยา ทิสฺสติ อุตฺตมรูปวณฺณินี;

ตถูปมา มํ ปฏิภาสิ เทวเต, อาจิกฺข เม ตฺวํ กตมาสิ อจฺฉรา.

๒๕๕.

‘‘กาฬา นิทาเฆริว อคฺคิชาริว, อนิเลริตา โลหิตปตฺตมาลินี;

กา ติฏฺสิ มนฺทมิคาวโลกยํ, ภาเสสมานาว คิรํ น มุฺจสี’’ติ.

ตตฺถ ชิฆฺรตฺตินฺติ ปจฺฉิมรตฺตึ, รตฺติปริโยสาเนติ อตฺโถ. อูหเตติ อรุเณ อุคฺคเต. ยาติ ยา ปุรตฺถิมา ทิสา รตฺตสุวณฺณตาย อุปฺปมรูปธรา หุตฺวา ทิสฺสติ. กาฬา นิทาเฆริวาติ นิทาฆสมเย กาฬวลฺลิ วิย. อคฺคิชาริวาติ อคฺคิชาลา อิว, สาปิ นิชฺฌามเขตฺเตสุ ตรุณอุฏฺิตกาฬวลฺลิ วิยาติ อตฺโถ. โลหิตปตฺตมาลินีติ โลหิตวณฺเณหิ ปตฺเตหิ ปริวุตา. กา ติฏฺสีติ ยถา สา ตรุณกาฬวลฺลิ วาเตริตา วิลาสมานา โสภมานา ติฏฺติ, เอวํ กา นาม ตฺวํ ติฏฺสิ. ภาเสสมานาวาติ มยา สทฺธึ ภาสิตุกามา วิย โหสิ, น จ คิรํ มุฺจสิ.

ตโต สา คาถมาห –

๒๕๖.

‘‘หิราห เทวี มนุเชหิ ปูชิตา, อปาปสตฺตูปนิเสวินี สทา;

สุธาวิวาเทน ตวนฺติมาคตา, สาหํ น สกฺโกมิ สุธมฺปิ ยาจิตุํ;

โกปีนรูปา วิย ยาจนิตฺถิยา’’ติ.

ตตฺถ หิราหนฺติ หิรี อหํ. สุธมฺปีติ สา อหํ สุธาโภชนํ ตํ ยาจิตุมฺปิ น สกฺโกมิ. กึการณา? โกปีนรูปา วิย ยาจนิตฺถิยา, ยสฺมา อิตฺถิยา ยาจนา นาม โกปีนรูปา วิย รหสฺสงฺควิวรณสทิสา โหติ, นิลฺลชฺชา วิย โหตีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ตาปโส ทฺเว คาถา อภาสิ –

๒๕๗.

‘‘ธมฺเมน าเยน สุคตฺเต ลจฺฉสิ, เอโส หิ ธมฺโม น หิ ยาจนา สุธา.

ตํ ตํ อยาจนฺติมหํ นิมนฺตเย, สุธาย ยฺจิจฺฉสิ ตมฺปิ ทมฺมิ เต.

๒๕๘.

‘‘สา ตฺวํ มยา อชฺช สกมฺหิ อสฺสเม, นิมนฺติตา กฺจนเวลฺลิวิคฺคเห;

ตุวฺหิ เม สพฺพรเสหิ ปูชิยา, ตํ ปูชยิตฺวาน สุธมฺปิ อสฺนิเย’’ติ.

ตตฺถ ธมฺเมนาติ สภาเวน. าเยนาติ การเณน. น หิ ยาจนา สุธาติ น หิ ยาจนาย สุธา ลพฺภติ, เตเนว การเณน อิตรา ติสฺโส นลภึสุ. ตํ ตนฺติ ตสฺมา ตํ. ยฺจิจฺฉสีติ น เกวลํ นิมนฺเตมิเยว, ยฺจ สุธํ อิจฺฉสิ, ตมฺปิ ทมฺมิ เต. กฺจนเวลฺลิวิคฺคเหติ กฺจนราสิสสฺสิริกสรีเร. ปูชิยาติ น เกวลํ สุธาย, อฺเหิปิ สพฺพรเสหิ ตฺวํ มยา ปูเชตพฺพยุตฺตกาว. อสฺนิเยติ ตํ ปูเชตฺวา สเจ สุธาย อวเสสํ ภวิสฺสติ, อหมฺปิ ภุฺชิสฺสามิ.

ตโต อปรา อภิสมฺพุทฺธคาถา –

๒๕๙.

‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อทฺธา หิริ รมฺมํ ปาวิสิ ยสฺสมํ;

อุทกวนฺตํ ผลมริยปูชิตํ, อปาปสตฺตูปนิเสวิตํ สทา.

๒๖๐.

‘‘รุกฺขคฺคหานา พหุเกตฺถ ปุปฺผิตา, อมฺพา ปิยาลา ปนสา จ กึสุกา;

โสภฺชนา โลทฺทมโถปิ ปทฺธกา, เกกา จ ภงฺคา ติลกา สุปุปฺผิตา.

๒๖๑.

‘‘สาลา กเรรี พหุเกตฺถ ชมฺพุโย, อสฺสตฺถนิคฺโรธมธุกเวตสา;

อุทฺทาลกา ปาฏลิ สินฺทุวารกา, มนุฺคนฺธา มุจลินฺทเกตกา.

๒๖๒.

‘‘หเรณุกา เวฬุกา เกณุ ตินฺทุกา, สามากนีวารมโถปิ จีนกา;

โมจา กทลี พหุเกตฺถ สาลิโย, ปวีหโย อาภูชิโน จ ตณฺฑุลา.

๒๖๓.

‘‘ตสฺเสวุตฺตรปสฺเสน, ชาตา โปกฺขรณี สิวา;

อกกฺกสา อปพฺภารา, สาธุ อปฺปฏิคนฺธิกา.

๒๖๔.

‘‘ตตฺถ มจฺฉา สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;

สิงฺคู สวงฺกา สํกุลา, สตวงฺกา จ โรหิตา;

อาฬิคคฺครกากิณฺณา, ปาีนา กากมจฺฉกา.

๒๖๕.

‘‘ตตฺถ ปกฺขี สนฺนิรตา, เขมิโน พหุโภชนา;

หํสา โกฺจา มยูรา จ, จกฺกวากา จ กุกฺกุหา;

กุณาลกา พหู จิตฺรา, สิขณฺฑี ชีวชีวกา.

๒๖๖.

‘‘ตตฺถ ปานาย มายนฺติ, นานา มิคคณา พหู;

สีหา พฺยคฺฆา วราหา จ, อจฺฉโกกตรจฺฉโย.

๒๖๗.

‘‘ปลาสาทา ควชา จ, มหึสา โรหิตา รุรู;

เอเณยฺยา จ วราหา จ, คณิโน นีกสูกรา;

กทลิมิคา พหุเกตฺถ, พิฬารา สสกณฺณิกา.

๒๖๘.

‘‘ฉมาคิรี ปุปฺผวิจิตฺรสนฺถตา, ทิชาภิฆุฏฺา ทิชสงฺฆเสวิตา’’ติ.

ตตฺถ ชุตีมตาติ อานุภาวสมฺปนฺเนน. ปาวิสิ ยสฺสมนฺติ ปาวิสิ อสฺสมํ, -กาโร พฺยฺชนสนฺธิกโร. อุทกวนฺตนฺติ เตสุ เตสุ าเนสุ อุทกสมฺปนฺนํ. ผลนฺติ อเนกผลสมฺปนฺนํ. อริยปูชิตนฺติ นีวรณโทสรหิเตหิ ฌานลาภีหิ อริเยหิ ปูชิตํ ปสตฺถํ. รุกฺขคฺคหานาติ ปุปฺผูปคผลูปครุกฺขคหนา. โสภฺชนาติ สิคฺคุรุกฺขา. โลทฺทมโถปิ ปทฺธกาติ โลทฺทรุกฺขา จ ปทุมรุกฺขา จ. เกกา จ ภงฺคาติ เอวํนามกา รุกฺขา เอว. กเรรีติ กเรริรุกฺขา. อุทฺทาลกาติ วาตฆาตกา. มุจลินฺทเกตกาติ มุจลินฺทา จ ปฺจวิธเกตกา จ. หเรณุกาติ อปรณฺณชาติ. เวฬุกาติ วํสเภทกา. เกณูติ อรฺมาสา. ตินฺทุกาติ ติมฺพรุรุกฺขา. จีนกาติ ขุทฺทกราชมาสา. โมจาติ อฏฺิกกทลิโย. สาลิโยติ นานปฺปการา ชาตสฺสรํ อุปนิสฺสาย ชาตา สาลิโย. ปวีหโยติ นานปฺปการา วีหโย. อาภูชิโนติ ภุชปตฺตา. ตณฺฑุลาติ นิกฺกุณฺฑกถุสานิ สยํชาตตณฺฑุลสีสานิ.

ตสฺเสวาติ, ภิกฺขเว, ตสฺเสว อสฺสมสฺส อุตฺตรทิสาภาเค. โปกฺขรณีติ ปฺจวิธปทุมสฺฉนฺนา ชาตสฺสรโปกฺขรณี. อกกฺกสาติ มจฺฉสิปฺปิกเสวาลาทิกกฺกสรหิตา. อปพฺภาราติ อจฺฉินฺนตฏา สมติตฺถา. อปฺปฏิคนฺธิกาติ อปฏิกฺกูลคนฺเธน อุทเกน สมนฺนาคตา. ตตฺถาติ ตสฺสา โปกฺขรณิยา. เขมิโนติ อภยา. ‘‘สิงฺคู’’ติอาทีนิ เตสํ มจฺฉานํ นามานิ. กุณาลกาติ โกกิลา. จิตฺราติ จิตฺรปตฺตา. สิขณฺฑีติ อุฏฺิตสิขา โมรา, อฺเปิ วา มตฺถเก ชาตสิขา ปกฺขิโน. ปานาย มายนฺตีติ ปานาย อายนฺติ. ปลาสาทาติ ขคฺคา. ควชาติ ควยา. คณิโนติ โคกณฺณา. กณฺณิกาติ กณฺณิกมิคา. ฉมาคิรีติ ภูมิสมปตฺถฏา ปิฏฺิปาสาณา. ปุปฺผวิจิตฺรสนฺถตาติ วิจิตฺรปุปฺผสนฺถตา. ทิชาภิฆุฏฺาติ มธุรสฺสเรหิ ทิเชหิ อภิฆุฏฺา. เอวรูปา ตตฺถ ภูมิปพฺพตาติ เอวํ ภควา โกสิยสฺส อสฺสมํ วณฺเณติ.

อิทานิ หิริเทวิยา ตตฺถ ปวิสนาทีนิ ทสฺเสตุํ อาห –

๒๖๙.

‘‘สา สุตฺตจา นีลทุมาภิลมฺพิตา, วิชฺชู มหาเมฆริวานุปชฺชถ;

ตสฺสา สุสมฺพนฺธสิรํ กุสามยํ, สุจึ สุคนฺธํ อชินูปเสวิตํ;

อตฺริจฺจ โกจฺฉํ หิริเมตทพฺรวิ, นิสีท กลฺยาณิ สุขยิทมาสนํ.

๒๗๐.

‘‘ตสฺสา ตทา โกจฺฉคตาย โกสิโย, ยทิจฺฉมานาย ชฏาชินนฺธโร;

นเวหิ ปตฺเตหิ สยํ สหูทกํ, สุธาภิหาสี ตุริโต มหามุนิ.

๒๗๑.

‘‘สา ตํ ปฏิคฺคยฺห อุโภหิ ปาณิภิ, อิจฺจพฺรวิ อตฺตมนา ชฏาธรํ;

หนฺทาหํ เอตรหิ ปูชิตา ตยา, คจฺเฉยฺยํ พฺรหฺเม ติทิวํ ชิตาวินี.

๒๗๒.

‘‘สา โกสิเยนานุมตา ชุตีมตา, อุทีริตา วณฺณมเทน มตฺตา;

สกาเส คนฺตฺวาน สหสฺสจกฺขุโน, อยํ สุธา วาสว เทหิ เม ชยํ.

๒๗๓.

‘‘ตเมน สกฺโกปิ ตทา อปูชยิ, สหินฺทเทวา สุรกฺมุตฺตมํ;

สา ปฺชลี เทวมนุสฺสปูชิตา, นวมฺหิ โกจฺฉมฺหิ ยทา อุปาวิสี’’ติ.

ตตฺถ สุตฺตจาติ สุจฺฉวี. นีลทุมาภิลมฺพิตาติ นีเลสุ ทุเมสุ อภิลมฺพิตา หุตฺวา, ตํ ตํ นีลทุมสาขํ ปรามสนฺตีติ อตฺโถ. มหาเมฆริวาติ เตน นิมนฺติตา มหาเมฆวิชฺชุ วิย ตสฺส ตํ อสฺสมํ ปาวิสิ. ตสฺสาติ ตสฺสา หิริยา. สุสมฺพนฺธสิรนฺติ สุฏฺุ สมฺพนฺธสีสํ. กุสามยนฺติ อุสีราทิมิสฺสกกุสติณมยํ. สุคนฺธนฺติ อุสีเรน เจว อฺเน สุคนฺธติเณน จ มิสฺสกตฺตา สุคนฺธํ. อชินูปเสวิตนฺติ อุปริอตฺถเตน อชินจมฺเมน อุปเสวิตํ. อตฺริจฺจ โกจฺฉนฺติ เอวรูปํ โกจฺฉาสนํ ปณฺณสาลทฺวาเร อตฺถริตฺวา. สุขยิทมาสนนฺติ สุขํ นิสีท อิทมาสนํ.

นฺติ ยาวทตฺถํ. อิจฺฉมานายาติ สุธํ อิจฺฉนฺติยา. นเวหิ ปตฺเตหีติ ตงฺขณฺเว โปกฺขรณิโต อาภเตหิ อลฺลปทุมินิปตฺเตหิ. สยนฺติ สหตฺเถน. สหูทกนฺติ ทกฺขิโณทกสหิตํ. สุธาภิหาสีติ สุธํ อภิหริ. ตุริโตติ โสมนสฺสเวเคน ตุริโต. หนฺทาติ ววสฺสคฺคตฺเถ นิปาโต. ชิตาวินีติ วิชยปฺปตฺตา หุตฺวา.

อนุมตาติ อิทานิ ยถารุจึ คจฺฉาติ อนุฺาตา. อุทีริตาติ ติทสปุรํ คนฺตฺวา สกฺกสฺส สนฺติเก อยํ สุธาติ อุทีรยิ. สุรกฺนฺติ เทวธีตรํ. อุตฺตมนฺติ ปวรํ. สา ปฺชลี เทวมนุสฺสปูชิตาติ ปฺชลี เทเวหิ จ มนุสฺเสหิ จ ปูชิตา. ยทาติ ยทา นิสีทนตฺถาย สกฺเกน ทาปิเต นเว กฺจนปีสงฺขาเต โกจฺเฉ สา อุปาวิสิ, ตทา นํ ตตฺถ นิสินฺนํ สกฺโก จ เสสเทวตา จ ปาริจฺฉตฺตกปุปฺผาทีหิ ปูชยึสุ.

เอวํ สกฺโก ตํ ปูเชตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘เกน นุ โข การเณน โกสิโย เสสานํ อทตฺวา อิมิสฺสาว สุธํ อทาสี’’ติ. โส ตสฺส การณสฺส ชานนตฺถาย ปุน มาตลึ เปเสสิ. ตมตฺถํ อาวิ กโรนฺโต สตฺถา อาห –

๒๗๔.

‘‘ตเมว สํสี ปุนเทว มาตลึ, สหสฺสเนตฺโต ติทสานมินฺโท;

คนฺตฺวาน วากฺยํ มม พฺรูหิ โกสิยํ, อาสาย สทฺธา สิริยา จ โกสิย;

หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนา’’ติ.

ตตฺถ สํสีติ อภาสิ. วากฺยํ มมาติ มม วากฺยํ โกสิยํ พฺรูหิ. อาสาย สทฺธา สิริยา จาติ อาสาโต จ สทฺธาโต จ สิริโต จ หิรีเยว เกน เหตุนา สุธมลตฺถาติ.

โส ตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา เวชยนฺตรถมารุยฺห อคมาสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๒๗๕.

‘‘ตํ สุปฺลวตฺถํ อุทตารยี รถํ, ททฺทลฺลมานํ อุปการิยสาทิสํ;

ชมฺโพนทีสํ ตปเนยฺยสนฺนิภํ, อลงฺกตํ กฺจนจิตฺตสนฺนิภํ.

๒๗๖.

‘‘สุวณฺณจนฺเทตฺถ พหู นิปาติตา, หตฺถี ควาสฺสา กิกิพฺยคฺฆทีปิโย;

เอเณยฺยกา ลงฺฆมเยตฺถ ปกฺขิโน, มิเคตฺถ เวฬุริยมยา ยุธา ยุตา.

๒๗๗.

‘‘ตตฺถสฺสราชหรโย อโยชยุํ, ทสสตานิ สุสุนาคสาทิเส;

อลงฺกเต กฺจนชาลุรจฺฉเท, อาเวฬิเน สทฺทคเม อสงฺคิเต.

๒๗๘.

‘‘ตํ ยานเสฏฺํ อภิรุยฺห มาตลิ, ทิสา อิมาโย อภินาทยิตฺถ;

นภฺจ เสลฺจ วนปฺปตินิฺจ, สสาครํ ปพฺยถยิตฺถ เมทินึ.

๒๗๙.

‘‘ส ขิปฺปเมว อุปคมฺม อสฺสมํ, ปาวารเมกํสกโต กตฺชลี;

พหุสฺสุตํ วุทฺธํ วินีตวนฺตํ, อิจฺจพฺรวิ มาตลิ เทวพฺราหฺมณํ.

๒๘๐.

‘‘อินฺทสฺส วากฺยํ นิสาเมหิ โกสิย, ทูโต อหํ ปุจฺฉติ ตํ ปุรินฺทโท;

อาสาย สทฺธา สิริยา จ โกสิย, หิรี สุธํ เกน มลตฺถ เหตุนา’’ติ.

ตตฺถ ตํ สุปฺลวตฺถนฺติ ตํ เวชยนฺตรถํ สุเขน ปฺลวนตฺถํ. อุทตารยีติ อุตฺตาเรสิ อุกฺขิปิตฺวา คมนสชฺชมกาสิ. อุปการิยสาทิสนฺติ อุปกรณภณฺเฑหิ สทิสํ, ยถา ตสฺส อคฺคิสิขาย สมานวณฺณานิ อุปกรณานิ ชลนฺติ, ตเถว ชลิตนฺติ อตฺโถ. ชมฺโพนทีสนฺติ ชมฺพุนทสงฺขาตํ รตฺตสุวณฺณมยํ อีสํ. กฺจนจิตฺตสนฺนิภนฺติ, กฺจนมเยน สตฺตรตนวิจิตฺเตน อฏฺมงฺคเลน สมนฺนาคตํ. สุวณฺณจนฺเทตฺถาติ สุวณฺณมยา จนฺทกา เอตฺถ รเถ. หตฺถีติ สุวณฺณรชตมณิมยา หตฺถี. ควาทีสุปิ เอเสว นโย. ลงฺฆมเยตฺถ ปกฺขิโนติ เอตฺถ รเถ ลงฺฆมยา นานารตนมยา ปกฺขิคณาปิ ปฏิปาฏิยา ิตา. ยุธา ยุตาติ อตฺตโน อตฺตโน ยุเธน สทฺธึ ยุตฺตา หุตฺวา ทสฺสิตา.

อสฺสราชหรโยติ หริวณฺณมโนมยอสฺสราชาโน. สุสุนาคสาทิเสติ พลสมฺปตฺติยา ตรุณนาคสทิเส. กฺจนชาลุรจฺฉเทติ กฺจนชาลมเยน อุรจฺฉทาลงฺกาเรน สมนฺนาคเต. อาเวฬิเนติ อาเวฬสงฺขาเตหิ กณฺณาลงฺกาเรหิ ยุตฺเต. สทฺทคเมติ ปโตทปฺปหารํ วินา สทฺทมตฺเตเนว คมนสีเล. อสงฺคีเตติ นิสฺสงฺเค สีฆชเว เอวรูเป อสฺสราเช ตตฺถ โยเชสุนฺติ อตฺโถ.

อภินาทยิตฺถาติ ยานสทฺเทน เอกนินฺนาทํ อกาสิ. วนปฺปตินิฺจาติ วนปฺปตินี จ วนสณฺเฑ จาติ อตฺโถ. ปพฺยถยิตฺถาติ กมฺปยิตฺถ. ตตฺถ อากาสฏฺกวิมานกมฺปเนน นภกมฺปนํ เวทิตพฺพํ. ปาวารเมกํสกโตติ เอกํสกตปาวารทิพฺพวตฺโถ. วุทฺธนฺติ คุณวุทฺธํ. วินีตวนฺตนฺติ วินีเตน อาจารวตฺเตน สมนฺนาคตํ. อิจฺจพฺรวีติ รถํ อากาเส เปตฺวา โอตริตฺวา เอวํ อพฺรวิ. เทวพฺราหฺมณนฺติ เทวสมํ พฺราหฺมณํ.

โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา คาถมาห –

๒๘๑.

‘‘อนฺธา สิรี มํ ปฏิภาติ มาตลิ, สทฺธา อนิจฺจา ปน เทวสารถิ.

อาสา วิสํวาทิกสมฺมตา หิ เม, หิรี จ อริยมฺหิ คุเณ ปติฏฺิตา’’ติ.

ตตฺถ อนฺธาติ สิปฺปาทิสมฺปนฺเนปิ อสมฺปนฺเนปิ ภชนโต ‘‘อนฺธา’’ติ มํ ปฏิภาติ. อนิจฺจาติ สทฺธา ปน ตํ ตํ วตฺถุํ ปหาย อฺสฺมึ อฺสฺมึ อุปฺปชฺชนโต หุตฺวา อภาวากาเรน ‘‘อนิจฺจา’’ติ มํ ปฏิภาติ. วิสํวาทิกสมฺมตาติ อาสา ปน ยสฺมา ธนตฺถิกา นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทิตฺวา วินฏฺปาภตา เอนฺติ, ตสฺมา ‘‘วิสํวาทิกา’’ติ มํ ปฏิภาติ. อริยมฺหิ คุเณติ หิรี ปน หิโรตฺตปฺปสภาวสงฺขาเต ปริสุทฺเธ อริยคุเณ ปติฏฺิตาติ.

อิทานิ ตสฺสา คุณํ วณฺเณนฺโต อาห –

๒๘๒.

‘‘กุมาริโย ยาจิมา โคตฺตรกฺขิตา, ชิณฺณา จ ยา ยา จ สภตฺตุอิตฺถิโย;

ตา ฉนฺทราคํ ปุริเสสุ อุคฺคตํ, หิริยา นิวาเรนฺติ สจิตฺตมตฺตโน.

๒๘๓.

‘‘สงฺคามสีเส สรสตฺติสํยุเต, ปราชิตานํ ปตตํ ปลายินํ;

หิริยา นิวตฺตนฺติ ชหิตฺว ชีวิตํ, เต สมฺปฏิจฺฉนฺติ ปุนา หิรีมนา.

๒๘๔.

‘‘เวลา ยถา สาครเวควารินี, หิราย หิ ปาปชนํ นิวารินี;

ตํ สพฺพโลเก หิริมริยปูชิตํ, อินฺทสฺส ตํ เวทย เทวสารถี’’ติ.

ตตฺถ ชิณฺณาติ วิธวา. สภตฺตูติ สสามิกา ตรุณิตฺถิโย. อตฺตโนติ ตา สพฺพาปิ ปรปุริเสสุ อตฺตโน ฉนฺทราคํ อุคฺคตํ วิทิตฺวา ‘‘อยุตฺตเมตํ อมฺหาก’’นฺติ หิริยา สจิตฺตํ นิวาเรนฺติ, ปาปกมฺมํ น กโรนฺติ. ปตตํ ปลายินนฺติ ปตนฺตานฺจ ปลายนฺตานฺจ อนฺตเร. ชหิตฺว ชีวิตนฺติ เย หิริมนฺโต โหนฺติ, เต อตฺตโน ชีวิตํ จชิตฺวา หิริยา นิวตฺตนฺติ, เอวํ นิวตฺตา จ ปน เต หิรีมนา ปุน อตฺตโน สามิกํ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อมิตฺตหตฺถโต โมเจตฺวา คณฺหนฺติ. ปาปชนํ นิวารินีติ ปาปโต ชนํ นิวารินี, อยเมว วา ปาโ . นฺติ ตํ หิรึ. อริยปูชิตนฺติ อริเยหิ พุทฺธาทีหิ ปูชิตํ. อินฺทสฺส ตํ เวทยาติ ยสฺมา เอวํ มหาคุณา อริยปูชิตาเวสา, ตสฺมา ตํ เอวํ อุตฺตมา นาเมสาติ อินฺทสฺส กเถหีติ.

ตํ สุตฺวา มาตลิ คาถมาห –

๒๘๕.

‘‘โก เต อิมํ โกสิย ทิฏฺิโมทหิ, พฺรหฺมา มหินฺโท อถ วา ปชาปติ;

หิราย เทเวสุ หิ เสฏฺสมฺมตา, ธีตา มหินฺทสฺส มเหสิ ชายถา’’ติ.

ตตฺถ ทิฏฺินฺติ ‘‘หิรี นาม มหาคุณา อริยปูชิตา’’ติ ลทฺธึ. โอทหีติ หทเย ปเวเสสิ. เสฏฺสมฺมตาติ ตว สนฺติเก สุธาย ลทฺธกาลโต ปฏฺาย อินฺทสฺส สนฺติเก กฺจนาสนํ ลภิตฺวา สพฺพเทวตาหิ ปูชิยมานา อุตฺตมสมฺมตา ชายถ.

เอวํ ตสฺมึ กเถนฺเตเยว โกสิยสฺส ตงฺขณฺเว จวนธมฺโม ชาโต. อถ นํ, มาตลิ, ‘‘โกสิย อายุสงฺขาโร เต โอสฺสฏฺโ, จวนธมฺโมปิ เต สมฺปตฺโต, กึ เต มนุสฺสโลเกน, เทวโลกํ คจฺฉามา’’ติ ตตฺถ เนตุกาโม หุตฺวา คาถมาห –

๒๘๖.

‘‘หนฺเทหิ ทานิ ติทิวํ อปกฺกม, รถํ สมารุยฺห มมายิตํ อิมํ;

อินฺโท จ ตํ อินฺทสโคตฺต กงฺขติ, อชฺเชว ตฺวํ อินฺทสหพฺยตํ วชา’’ติ.

ตตฺถ มมายิตนฺติ ปิยํ มนาปํ. อินฺทสโคตฺตาติ ปุริมภเว อินฺเทน สมานโคตฺต. กงฺขตีติ ตวาคมนํ อิจฺฉนฺโต กงฺขติ.

อิติ ตสฺมึ โกสิเยน สทฺธึ กเถนฺเตเยว โกสิโย จวิตฺวา โอปปาติโก เทวปุตฺโต หุตฺวา อารุยฺห ทิพฺพรเถ อฏฺาสิ. อถ นํ, มาตลิ, สกฺกสฺส สนฺติกํ เนสิ. สกฺโก ตํ ทิสฺวาว ตุฏฺมานโส อตฺตโน ธีตรํ หิริเทวึ ตสฺส อคฺคมเหสึ กตฺวา อทาสิ, อปริมาณมสฺส อิสฺสริยํ อโหสิ. ตมตฺถํ วิทิตฺวา ‘‘อโนมสตฺตานํ กมฺมํ นาม เอวํ วิสุชฺฌตี’’ติ สตฺถา โอสานคาถมาห –

๒๘๗.

‘‘เอวํ วิสุชฺฌนฺติ อปาปกมฺมิโน, อโถ สุจิณฺณสฺส ผลํ น นสฺสติ;

เย เกจิ มทฺทกฺขุ สุธาย โภชนํ, สพฺเพว เต อินฺทสหพฺยตํ คตา’’ติ.

ตตฺถ อปาปกมฺมิโนติ อปาปกมฺมา สตฺตา เอวํ วิสุชฺฌนฺติ เย เกจิ มทฺทกฺขูติ เย เกจิ สตฺตา ตสฺมึ หิมวนฺตปเทเส ตทา โกสิเยน หิริยา ทียมานํ สุธาโภชนํ อทฺทสํสุ. สพฺเพว เตติ เต สพฺเพปิ ตํ ทานํ อนุโมทิตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตฺวา อินฺทสหพฺยตํ คตาติ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุพฺเพเปตํ อทานาภิรตํ ถทฺธมจฺฉริยํ สมานํ อหํ ทเมสึเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา หิรี เทวตา อุปฺปลวณฺณา อโหสิ, โกสิโย ทานปติ ภิกฺขุ, ปฺจสิโข อนุรุทฺโธ, มาตลิ อานนฺโท, สูริโย กสฺสโป, จนฺโท โมคฺคลฺลาโน, นารโท สาริปุตฺโต, สกฺโก อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

สุธาโภชนชาตกวณฺณนา ตติยา.

[๕๓๖] ๔. กุณาลชาตกวณฺณนา

เอวมกฺขายตีติ อิทํ สตฺถา กุณาลทเห วิหรนฺโต อนภิรติปีฬิเต ปฺจสเต ภิกฺขู อารพฺภ กเถสิ. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – สากิยโกลิยา กิร กปิลวตฺถุนครสฺส จ โกลิยนครสฺส จ อนฺตเร โรหิณึ นาม นทึ เอเกเนวาวรเณน พนฺธาเปตฺวา สสฺสานิ กาเรนฺติ. อถ เชฏฺมูลมาเส สสฺเสสุ มิลายนฺเตสุ อุภยนครวาสีนมฺปิ กมฺมการา สนฺนิปตึสุ. ตตฺถ โกลิยนครวาสิโน วทึสุ – ‘‘อิทํ อุทกํ อุภยโต นีหริยมานํ เนว ตุมฺหากํ, น อมฺหากํ ปโหสฺสติ, อมฺหากํ ปน สสฺสํ เอกอุทเกเนว นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. กปิลวตฺถุวาสิโน วทึสุ – ‘‘ตุมฺเหสุ โกฏฺเ ปูเรตฺวา ิเตสุ มยํ รตฺตสุวณฺณนีลมณิกาฬกหาปเณ คเหตฺวา น สกฺขิสฺสาม ปจฺฉิปสิพฺพกาทิหตฺถา ตุมฺหากํ ฆรทฺวาเร วิจริตุํ, อมฺหากมฺปิ สสฺสํ เอเกเนว อุทเกน นิปฺผชฺชิสฺสติ, อิทํ อุทกํ อมฺหากํ เทถา’’ติ. ‘‘น มยํ ทสฺสามา’’ติ? ‘‘มยมฺปิ น ทสฺสามา’’ติ. เอวํ กลหํ วฑฺเฒตฺวา เอโก อุฏฺาย เอกสฺส ปหารํ อทาสิ, โสปิ อฺสฺสาติ เอวํ อฺมฺํ ปหริตฺวา ราชกุลานํ ชาตึ ฆฏฺเฏตฺวา กลหํ ปวตฺเตสุํ.

โกลิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห กปิลวตฺถุวาสิเก สากิยทารเก คเหตฺวา คชฺชถ , เย โสณสิงฺคาลาทโย วิย อตฺตโน ภคินีหิ สทฺธึ วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิอสฺสาทโย วา ผลกาวุธานิ วา อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? สากิยกมฺมการา วทนฺติ – ‘‘ตุมฺเห ทานิ กุฏฺิโน ทารเก คเหตฺวา คชฺชถ, เย อนาถา นิคฺคติกา ติรจฺฉานา วิย โกลรุกฺเข วสึสุ, เอเตสํ หตฺถิอสฺสาทโย วา ผลกาวุธานิ วา อมฺหากํ กึ กริสฺสนฺตี’’ติ? เต คนฺตฺวา ตสฺมึ กมฺเม นิยุตฺตอมจฺจานํ กเถสุํ, อมจฺจา ราชกุลานํ กเถสุํ. ตโต สากิยา ‘‘ภคินีหิ สทฺธึ สํวาสิกานํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. โกลิยาปิ ‘‘โกลรุกฺขวาสีนํ ถามฺจ พลฺจ ทสฺเสสฺสามา’’ติ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสุ. อปเร ปนาจริยา ‘‘สากิยโกลิยานํ ทาสีสุ อุทกตฺถาย นทึ คนฺตฺวา จุมฺพฏานิ ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา สุขกถาย สนฺนิสินฺนาสุ เอกิสฺสา จุมฺพฏํ เอกา สกสฺาย คณฺหิ, ตํ นิสฺสาย ‘มม จุมฺพฏํ, ตว จุมฺพฏ’นฺติ กลเห ปวตฺเต กเมน อุภยนครวาสิโน ทาสกมฺมการา เจว เสวกคามโภชกามจฺจอุปราชาโน จาติ สพฺเพ ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมึสู’’ติ วทนฺติ. อิมมฺหา ปน นยา ปุริมนโยว พหูสุ อฏฺกถาสุ อาคโต, ยุตฺตรูโป จาติ สฺเวว คเหตพฺโพ.

เต ปน สายนฺหสมเย ยุทฺธสชฺชา นิกฺขมิสฺสนฺตีติ ตสฺมึ สมเย ภควา สาวตฺถิยํ วิหรนฺโต ปจฺจูสสมเย โลกํ โวโลเกนฺโต อิเม เอวํ ยุทฺธสชฺเช นิกฺขนฺเต อทฺทส, ทิสฺวา จ ‘‘มยิ คเต เอส กลโห วูปสมิสฺสติ นุ โข, โน’’ติ อุปธาเรนฺโต ‘‘อหเมตฺถ คนฺตฺวา กลหวูปสมตฺถํ ตีณิ ชาตกานิ กเถสฺสามิ, ตโต กลโห วูปสมิสฺสติ, อถ สามคฺคิทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถตฺวา อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย) เทเสสฺสามิ, เทสนํ สุตฺวา อุภยนครวาสิโน อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ กุมารสตานิ ทสฺสนฺติ, อหํ เต ปพฺพาเชสฺสามิ, มหนฺโต สมาคโม ภวิสฺสตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา ปาโตว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา สาวตฺถิยํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต สายนฺหสมเย คนฺธกุฏิโต นิกฺขมิตฺวา กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย ทฺวินฺนํ เสนานํ อนฺตเร อากาเส ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา เตสํ สํเวคชนนตฺถํ ทิวา อนฺธการํ กาตุํ เกสรํสิโย วิสฺสชฺเชนฺโต นิสีทิ. อถ เนสํ สํวิคฺคมานสานํ อตฺตานํ ทสฺเสนฺโต ฉพฺพณฺณา พุทฺธรํสิโย วิสฺสชฺเชสิ. กปิลวตฺถุวาสิโนปิ ภควนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ าติเสฏฺโ สตฺถา อาคโต, ทิฏฺโ นุ โข เตน อมฺหากํ กลหกรณภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘น โข ปน สกฺกา สตฺถริ อาคเต อมฺเหหิ ปรสฺส สรีเร สตฺถํ ปาเตตุํ, โกลิยนครวาสิโน อมฺเห หนนฺตุ วา พชฺฌนฺตุ วา’’ติ อาวุธานิ ฉฑฺเฑสุํ. โกลิยนครวาสิโนปิ ตเถว อกํสุ.

อถ ภควา โอตริตฺวา รมณีเย ปเทเส วาลุกปุลิเน ปฺตฺตวรพุทฺธาสเน นิสีทิ อโนปมาย พุทฺธสิริยา วิโรจมาโน. เตปิ ราชาโน ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา นิสีทึสุ. อถ เน สตฺถา ชานนฺโตว ‘‘กสฺมา อาคตตฺถ, มหาราชา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เนว, ภนฺเต, นทิทสฺสนตฺถาย, น กีฬนตฺถาย, อปิจ โข ปน อิมสฺมึ าเน สงฺคามํ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา อาคตมฺหา’’ติ. ‘‘กึ นิสฺสาย โว กลโห, มหาราชา’’ติ? ‘‘อุทกํ นิสฺสาย ภนฺเต’’ติ. ‘‘อุทกํ กึ อคฺฆติ มหาราชา’’ติ? ‘‘อปฺปคฺฆํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปถวี นาม กึ อคฺฆติ, มหาราชา’’ติ? ‘‘อนคฺฆา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ขตฺติยา กึ อคฺฆนฺติ, มหาราชา’’ติ? ‘‘ขตฺติยา นาม อนคฺฆา, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปฺปคฺฆํ อุทกํ นิสฺสาย กสฺมา อนคฺเฆ ขตฺติเย นาเสถ, มหาราช, กลหสฺมิฺหิ อสฺสาโท นาม นตฺถิ, กลหวเสน หิ มหาราชา เอกาย รุกฺขเทวตาย กาฬสีเหน สทฺธึ พทฺธาฆาโต สกลมฺปิ อิมํ กปฺปํ อนุปฺปตฺโตเยวา’’ติ วตฺวา ผนฺทนชาตกํ (ชา. ๑.๑๓.๑๔ อาทโย) กเถสิ. ตโต ‘‘ปรปตฺติเยน นาม มหาราชา น ภวิตพฺพํ, ปรปตฺติยา หิ หุตฺวา เอกสฺส สสสฺส กถาย ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต หิมวนฺเต จตุปฺปทคณา มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทิโน อเหสุํ, ตสฺมา ปรปตฺติเยน น ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ททฺทรชาตกํ (ชา. ๑.๒๔๓-๔๔; ๑.๔.๑๓-๑๖; ๑.๙.๑๐๕ อาทโย) กเถสิ. ตโต ‘‘กทาจิ มหาราชา ทุพฺพโลปิ มหพฺพลสฺส รนฺธํ ปสฺสติ, กทาจิ มหพฺพโลปิ ทุพฺพลสฺส รนฺธํ ปสฺสติ, ลฏุกิกาปิ หิ สกุณิกา หตฺถินาคํ ฆาเตสี’’ติ วตฺวา ลฏุกิกชาตกํ (ชา. ๑.๕.๓๙ อาทโย) กเถสิ. เอวํ กลหวูปสมนตฺถาย ตีณิ ชาตกานิ กเถตฺวา สามคฺคิปริทีปนตฺถาย ทฺเว ชาตกานิ กเถสิ. ‘‘สมคฺคานฺหิ มหาราชา โกจิ โอตารํ นาม ปสฺสิตุํ น สกฺโกตี’’ติ วตฺวา รุกฺขธมฺมชาตกํ (ชา. ๑.๑.๗๔) กเถสิ. ตโต ‘‘สมคฺคานํ มหาราชา โกจิ วิวรํ ปสฺสิตุํ นาสกฺขิ, ยทา ปน อฺมฺํ วิวาทมกํสุ, อถ เน เอโก เนสาทปุตฺโต ชีวิตกฺขยํ ปาเปตฺวา อาทาย คโต, วิวาเท อสฺสาโท นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา วฏฺฏกชาตกํ (ชา. ๑.๑.๓๕, ๑๑๘; ๑.๖.๑๒๘-๑๓๓) กเถสิ. เอวํ อิมานิ ปฺจ ชาตกานิ กเถตฺวา อวสาเน อตฺตทณฺฑสุตฺตํ (สุ. นิ. ๙๔๑ อาทโย) กเถสิ.

อถ ราชาโน ปสนฺนา ‘‘สเจ สตฺถา นาคมิสฺส, มยํ อฺมฺํ วธิตฺวา โลหิตนทึ ปวตฺตยิสฺสาม, สตฺถารํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ. สเจ ปน สตฺถา อคารํ อชฺฌาวสิสฺส, ทฺวิสหสฺสทีปปริวารํ จตุมหาทีปรชฺชํ หตฺถคตํ อภวิสฺส, อติเรกสหสฺสํ โข ปนสฺส ปุตฺตา อภวิสฺสํสุ, ตโต ขตฺติยปริวาโรว อวิจริสฺส, ตํ โข ปเนส สมฺปตฺตึ ปหาย นิกฺขมิตฺวา สมฺโพธึ ปตฺโต, อิทานิปิ ขตฺติยปริวาโรว วิจรตู’’ติ อุภยนครวาสิโน อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ กุมารสตานิ อทํสุ. ภควา เต ปพฺพาเชตฺวา มหาวนํ อคมาสิ. ปุนทิวสโต ปฏฺาย เตหิ ปริวุโต เอกทา กปิลวตฺถุนคเร เอกทา โกลิยนคเรติ ทฺวีสุ นคเรสุ ปิณฺฑาย จรติ. อุภยนครวาสิโน มหาสกฺการํ กรึสุ. เตสํ ครุคารเวน น อตฺตโน รุจิยา ปพฺพชิตานํ อนภิรติ อุปฺปชฺชิ. ปุราณทุติยิกาโยปิ เนสํ อนภิรติชนนตฺถาย ตํ ตํ วตฺวา สาสนํ เปเสสุํ. เต อติเรกตรํ อุกฺกณฺึสุ. ภควา อาวชฺเชนฺโต เตสํ อนภิรตภาวํ ตฺวา ‘‘อิเม ภิกฺขู มาทิเสน พุทฺเธน สทฺธึ เอกโต วสนฺตา อุกฺกณฺนฺติ, กถํ รูปา นุ โข เตสํ ธมฺมกถา สปฺปายา’’ติ อุปธาเรนฺโต กุณาลธมฺมเทสนํ ปสฺสิ. อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ อิเม ภิกฺขู หิมวนฺตํ เนตฺวา กุณาลกถาย เนสํ มาตุคามโทสํ ปกาเสตฺวา อนภิรตึ หริตฺวา โสตาปตฺติมคฺคํ ทสฺสามี’’ติ.

โส ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย กปิลวตฺถุํ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺโต ภตฺตกิจฺจเวลายเมว เต ปฺจสเต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ทิฏฺปุพฺโพ โว, ภิกฺขเว, รมณีโย หิมวนฺตปเทโส’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘โนเหตํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘คจฺฉิสฺสถ ปน หิมวนฺตจาริก’’นฺติ? ‘‘ภนฺเต, อนิทฺธิมนฺโต มยํ กถํ คมิสฺสามา’’ติ. ‘‘สเจ ปน โว โกจิ คเหตฺวา คจฺเฉยฺย, คจฺเฉยฺยาถา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. สตฺถา สพฺเพปิ เต อตฺตโน อิทฺธิยา คเหตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตํ คนฺตฺวา คคนตเล ิโตว รมณีเย หิมวนฺตปเทเส กฺจนปพฺพตํ รชตปพฺพตํ มณิปพฺพตํ หิงฺคุลิกปพฺพตํ อฺชนปพฺพตํ สานุปพฺพตํ ผลิกปพฺพตนฺติ นานาวิเธ ปพฺพเต, ปฺจ มหานทิโย, กณฺณมุณฺฑกํ รถการํ สีหปปาตํ ฉทฺทนฺตํ ติยคฺคฬํ อโนตตฺตํ กุณาลทหนฺติ สตฺต ทเห ทสฺเสสิ. หิมวนฺโต จ นาม มหา ปฺจโยชนสตุพฺเพโธ ติโยชนสหสฺสวิตฺถโต, ตสฺส อิมํ รมณียํ เอกเทสํ อตฺตโน อานุภาเวน ทสฺเสสิ. ตตฺถ กตนิวาสานิ สีหพฺยคฺฆหตฺถิกุลาทีนิ จตุปฺปทานิปิ เอกเทสโต ทสฺเสสิ. ตตฺถ อารามรามเณยฺยกาทีนิ ปุปฺผูปคผลูปเค รุกฺเข นานาวิเธ สกุณสงฺเฆ ชลชถลชปุปฺผานิ หิมวนฺตสฺส ปุรตฺถิมปสฺเส สุวณฺณตลํ, ปุจฺฉิมปสฺเส หิงฺคุลตลํ ทสฺเสสิ. อิเมสํ รามเณยฺยกานํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย เตสํ ภิกฺขูนํ ปุราณทุติยิกาสุ ฉนฺทราโค ปหีโน.

อถ สตฺถา เต ภิกฺขู คเหตฺวา อากาสโต โอตริตฺวา หิมวนฺตปจฺฉิมปสฺเส สฏฺิโยชนิเก มโนสิลาตเล สตฺตโยชนิกสฺส กปฺปฏฺิกสาลรุกฺขสฺส เหฏฺา ติโยชนิกาย มโนสิลาตลาย เตหิ ภิกฺขูหิ ปริวุโต ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชนฺโต อณฺณวกุจฺฉึ โขเภตฺวา ชลมาโน สูริโย วิย นิสีทิตฺวา มธุรสฺสรํ นิจฺฉาเรนฺโต เต ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขเว, อิมสฺมึ หิมวนฺเต ตุมฺเหหิ อทิฏฺปุพฺพํ ปุจฺฉถา’’ติ. ตสฺมึ ขเณ ทฺเว จิตฺรโกกิลา อุโภสุ โกฏีสุ ทณฺฑกํ มุเขน ฑํสิตฺวา มชฺเฌ อตฺตโน สามิกํ นิสีทาเปตฺวา อฏฺ จิตฺรโกกิลา ปุรโต, อฏฺ ปจฺฉโต, อฏฺ วามโต, อฏฺ ทกฺขิณโต, อฏฺ เหฏฺา, อฏฺ อุปริ ฉายํ กตฺวา เอวํ จิตฺรโกกิลํ ปริวาเรตฺวา อากาเสนาคจฺฉนฺติ. อถ เต ภิกฺขู ตํ สกุณสงฺฆํ ทิสฺวา สตฺถารํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘เก นาเมเต, ภนฺเต สกุณา’’ติ? ‘‘ภิกฺขเว, เอส มม โปราณโก วํโส, มยา ปิตา ปเวณี, มํ ตาว ปุพฺเพ เอวํ ปริจรึสุ, ตทา ปเนส สกุณคโณ มหา อโหสิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ ทิชกฺาสหสฺสานิ มํ ปริจรึสุ. อนุปุพฺเพน ปริหายิตฺวา อิทานิ เอตฺตโก ชาโต’’ติ. ‘‘กถํ เอวรูเป ปน, ภนฺเต, วนสณฺเฑ เอตา ทิชกฺาโย ตุมฺเห ปริจรึสู’’ติ? อถ เนสํ สตฺถา ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สุณาถา’’ติ สตึ อุปฏฺาเปตฺวา อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘เอวมกฺขายติ เอวมนุสูยติ, สพฺโพสธธรณิธเร เนกปุปฺผมาลฺยวิตเต คชควชมหึสรุรุจมรปสทขคฺคโคกณฺณสีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉโกกตรจฺฉอุทฺทารกทลิ- มิคพิฬารสสกณฺณิกานุจริเต อากิณฺณเนลมณฺฑลมหาวราหนาคกุลกเรณุสงฺฆาธิวุฏฺเ อิสฺสมิคสาขมิคสรภมิคเอณีมิควาตมิคปสทมิคปุริสาลุกิมฺปุริสยกฺขรกฺข- สนิเสวิเต อมชฺชวมฺชรีธรปหฏฺปุปฺผผุสิตคฺคาเนกปาทปคณวิตเก กุรรจโกรวารณมยูรปรภตชีวฺชีวกเจลาวกภิงฺการกรวีกมตฺตวิหงฺคคณสตตสมฺปฆุฏฺเ อฺชนมโนสิลาหริตาลหิงฺคุลกเหมรชตกนกาเนกธาตุ- สตวินทฺธปฏิมณฺฑิตปเทเส เอวรูเป ขลุ, โภ, รมฺเม วนสณฺเฑ กุณาโล นาม สกุโณ ปฏิวสติ อติวิย จิตฺโต อติวิย จิตฺตปตฺตจฺฉทโน’’.

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, กุณาลสฺส สกุณสฺส อฑฺฒุฑฺฒานิ อิตฺถิสหสฺสานิ ปริจาริกา ทิชกฺาโย, อถ ขลุ, โภ, ทฺเว ทิชกฺาโย กฏฺํ มุเขน ฑํสิตฺวา ตํ กุณาลํ สกุณํ มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อุฑฺเฑนฺติมา นํ กุณาลํ สกุณํ อทฺธานปริยายปเถ กิลมโถ อุพฺพาเหตฺถา’’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย เหฏฺโต เหฏฺโต อุฑฺเฑนฺติ ‘สจายํ กุณาโล สกุโณ อาสนา ปริปติสฺสติ, มยํ ตํ ปกฺเขหิ ปฏิคฺคเหสฺสามา’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย อุปรูปริ อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ อาตโป ปริตาเปสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย อุภโตปสฺเสน อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา วาโต วา อุสฺสาโว วา อุปปฺผุสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ปุรโต ปุรโต อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฏฺหารกา วา วนกมฺมิกา วา กฏฺเน วา กเลน วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา สกฺขราหิ วา ปหารํ อทํสุ, มายํ กุณาโล สกุโณ คจฺเฉหิ วา ลตาหิ วา รุกฺเขหิ วา สาขาหิ วา ถมฺเภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวนฺเตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคเมสี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุฑฺเฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย ‘มายํ กุณาโล สกุโณ อาสเน ปริยุกฺกณฺี’ติ.

‘‘ปฺจสตา ทิชกฺาโย ทิโสทิสํ อุฑฺเฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย ‘มายํ กุณาโล สกุโณ ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ตา ทิชกฺาโย ตํ กุณาลํ สกุณํ อาราเมเนว อารามํ, อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ, นทีติตฺเถเนว นทีติตฺถํ, ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ, อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ, ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ, ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ, นาฬิเกรสฺจาริเยเนว นาฬิเกรสฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสมฺโภนฺติ รติตฺถาย.

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตาหิ ทิชกฺาหิ ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห เอวํ อปสาเทติ ‘นสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย, วินสฺสถ ตุมฺเห วสิลิโย โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’’’ ติ.

ตตฺรายํ อตฺถวณฺณนา – ภิกฺขเว, โส วนสณฺโฑ เอวํ อกฺขายติ เอวฺจ อนุสูยติ. กินฺติ? สพฺโพสธธรณิธเรติ วิตฺถาโร. ตตฺถ สพฺโพสธธรณิธเรติ มูลตจปตฺตปุปฺผาทิสพฺโพสธธราย ธรณิยา สมนฺนาคเตติ อตฺโถ, สพฺโพสธยุตฺโต วา ธรณิธโร. โส หิ ปเทโส สพฺโพสธธรณิธโรติ เอวมกฺขายติ เอวฺจ อนุสูยติ, ตสฺมึ วนสณฺเฑติ วุตฺตํ โหติ. เสสปทโยชนายปิ เอเสว นโย. เนกปุปฺผมาลฺยวิตเตติ อเนเกหิ ผลตฺถาย อุปฺปนฺนปุปฺเผหิ เจว ปิฬนฺธนมาลฺเยหิ จ วิตเต. รุรูติ สุวณฺณวณฺณา มิคา. อุทฺทาราติ อุทฺทา. พิฬาราติ มหาพิฬารา. เนลมณฺฑลํ วุจฺจติ ตรุณภิงฺกจฺฉาปมณฺฑลํ. มหาวราหาติ มหาหตฺถิโน, อากิณฺณเนลมณฺฑลมหาวราเหน โคจริยาทิเภเทน ทสวิเธน นาคกุเลน เจว กเรณุสงฺเฆน จ อธิวุฏฺเติ อตฺโถ. อิสฺสมิคาติ กาฬสีหา. วาตมิคาติ มหาวาตมิคา. ปสทมิคาติ จิตฺรมิคา. ปุริสาลูติ วฬวามุขยกฺขินิโย. กิมฺปุริสาติ เทวกินฺนรจนฺทกินฺนรทุมกินฺนรทณฺฑมาณวกโกนฺติ- สกุณกณฺณปาวุรณาทิเภทา กินฺนรา. อมชฺชวมฺชรีธรปหฏฺปุปฺผผุสิตคฺคาเนกปาทปคณวิตเตติ มกุลธเรหิ เจว มฺชรีธเรหิ จ สุปุปฺผิเตหิ จ อคฺคมตฺตปุปฺผิเตหิ จ อเนเกหิ ปาทปคเณหิ วิตเต. วารณา นาม หตฺถิลิงฺคสกุณา. เจลาวกาติปิ เอเต สกุณาเยว. เหมฺจ กนกฺจาติ ทฺเว สุวณฺณชาติโย. เอเตหิ อฺชนาทีหิ อเนกธาตุสเตหิ อเนเกหิ วณฺณธาตุราสีหิ วินทฺธปฏิมณฺฑิตปเทเส. โภติ ธมฺมาลปนมตฺตเมตํ. จิตฺโตติ มุขตุณฺฑเกปิ เหฏฺาอุทรภาเคปิ จิตฺโรว.

อฑฺฒุฑฺฒานีติ อฑฺฒจตุตฺถานิ, ตีณิ สหสฺสานิ ปฺเจว สตานีติ อตฺโถ. อทฺธานปริยายปเถติ อทฺธานสงฺขาเต คมนมคฺเค. อุพฺพาเหตฺถาติ พาธยิตฺถ. อุปปฺผุสีติ อุปคนฺตฺวา ผุสิ. ปหารํ อทํสูติ เอตฺถ ‘‘มา น’’นฺติ ปทสฺส สามิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สงฺคเมสีติ สมาคจฺฉิ. สณฺหาหีติ มฏฺาหิ. สขิลาหีติ ปิยาหิ. มฺชูหีติ สขิลาหิ. มธุราหีติ มธุรสฺสราหิ. สมุทาจรนฺติโยติ คนฺธพฺพกรณวเสน ปริจรนฺติโย. อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลนฺติ อเนเกหิ รุกฺเขหิ วิวิธวิกติผลํ. อาราเมเนว อารามนฺติ ปุปฺผารามาทีสุ อฺตเรน อาราเมเนว อฺตรํ อารามํ เนนฺตีติ อตฺโถ. อุยฺยานาทีสุปิ เอเสว นโย. นาฬิเกรสฺจาริเยเนวาติ นาฬิเกรวเนเนว อฺํ นาฬิเกรวนํ. อติสมฺโภนฺตีติ เอวํ เนตฺวา ตตฺถ นํ ขิปฺปฺเว รติตฺถาย ปาปุณนฺติ.

ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโหติ สกลทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห. อปสาเทตีติ ตา กิร ตํ เอวํ ทิวสํ ปริจริตฺวา นิวาสรุกฺเข โอตาเรตฺวา ปริวาเรตฺวา รุกฺขสาขาสุ นิสีทิตฺวา ‘‘อปฺเปว นาม มธุรวจนํ ลเภยฺยามา’’ติ ปตฺถยนฺติโย อิมินา อุยฺโยชิตกาเล อตฺตโน วสนฏฺานํ คมิสฺสามาติ วสนฺติ. กุณาลราชา ปน ตา อุยฺโยเชนฺโต ‘‘นสฺสถา’’ติอาทิวจเนหิ อปสาเทติ. ตตฺถ นสฺสถาติ คจฺฉถ. วินสฺสถาติ สพฺพโตภาเคน นสฺสถ. เคเห ธนธฺาทีนํ นาสเนน โจริโย, พหุมายตาย ธุตฺติโย, นฏฺสฺสติตาย อสติโย, อนวฏฺิตจิตฺตตาย ลหุจิตฺตาโย, กตวินาสเนน มิตฺตทุพฺภิตาย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโยติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, อหํ ติรจฺฉานคโตปิ อิตฺถีนํ อกตฺุตํ พหุมายตํ อนาจารตํ ทุสฺสีลตฺจ ชานามิ, ตทาปาหํ ตาสํ วเส อวตฺติตฺวา ตา เอว อตฺตโน วเส วตฺเตมี’’ติ อิมาย กถาย เตสํ ภิกฺขูนํ อนภิรตึ หริตฺวา สตฺถา ตุณฺหี อโหสิ. ตสฺมึ ขเณ ทฺเว กาฬโกกิลา สามิกํ ทณฺฑเกน อุกฺขิปิตฺวา เหฏฺาภาคาทีสุ จตสฺโส จตสฺโส หุตฺวา ตํ ปเทสํ อาคมึสุ. เต ภิกฺขู ตาปิ ทิสฺวา สตฺถารํ ปุจฺฉึสุ. สตฺถา ‘‘ปุพฺเพ, ภิกฺขเว, มม สหาโย ปุณฺณมุโข นาม ผุสฺสโกกิโล อโหสิ, ตสฺสายํ วํโส’’ติ วตฺวา ปุริมนเยเนว เตหิ ภิกฺขูหิ ปุจฺฉิโต อาห –

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปุรตฺถิมทิสาภาเค สุสุขุมสุนิปุณคิริปฺปภวหริตุปยนฺติโย’’ติ.

ตตฺถ สุฏฺุ สุขุมสณฺหสลิลตาย สุสุขุมสุนิปุณา, คิริ เอตาสํ ปภโวติ คิริปฺปภวา , หิมวนฺตโต สนฺทมานหริตติณมิสฺสโอฆตาย หริตา, กุณาลทหํ อุปคมเนน อุปยนฺติโยติ สุสุขุมสุนิปุณคิริปฺปภวหริตุปยนฺติโย, เอวรูปา นทิโย ยสฺมึ สนฺทนฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยํ กุณาลทหํ ตา อุปยนฺติ, ตตฺถ ปุปฺผานิ วณฺเณนฺโต อาห –

‘‘อุปฺปลปทุมกุมุทนลินสตปตฺตโสคนฺธิกมนฺทาลกสมฺปติวิรุฬฺหสุจิคนฺธมนุฺมาวกปฺปเทเส’’ติ.

ตตฺถ อุปฺปลนฺติ นีลุปฺปลํ. นลินนฺติ เสตปทุมํ. สตปตฺตนฺติ ปริปุณฺณสตปตฺตปทุมํ. สมฺปตีติ เอเตหิ สมฺปติวิรุฬฺเหหิ อภินวชาเตหิ สุจิคนฺเธน เจว มนุฺเน จ หทยพนฺธนสมตฺถตาย มาวเกน จ ปเทเสน สมนฺนาคเตติ อตฺโถ.

อิทานิ ตสฺมึ ทเห รุกฺขาทโย วณฺเณนฺโต อาห –

‘‘กุรวกมุจลินฺทเกตกเวทิสวฺชุลปุนฺนาคพกุลติลกปิยกหสนสาลสฬล- จมฺปกอโสกนาครุกฺขติรีฏิภุชปตฺตโลทฺทจนฺทโนฆวเน กาฬาครุปทฺมกปิยงฺคุเทวทารุกโจจคหเน กกุธกุฏชองฺโกลกจฺจิการกณิการกณฺณิการ- กนเวรโกรณฺฑกโกวิฬารกึสุกโยธิกวนมลฺลิกมนงฺคณมนวชฺชภณฺฑิสุรุจิร- ภคินิมาลามลฺยธเร ชาติสุมนมธุคนฺธิกธนุตกฺการิตาลีสตครมุสีรโกฏฺกจฺฉวิตเต อติมุตฺตกสํกุสุมิตลตาวิตตปฏิมณฺฑิตปฺปเทเส หํสปิลวกาทมฺพการณฺฑวาภินทิเต วิชฺชาธรสิทฺธสมณตาปสคณาธิวุฏฺเ วรเทวยกฺขรกฺขสทานวคนฺธพฺพกินฺนรมโหรคานุจิณฺณปฺปเทเส – เอวรูเป ขลุ, โภ, รมฺเม วนสณฺเฑ ปุณฺณมุโข นาม ผุสฺสโกกิโล ปติวสติ อติวิย มธุรคิโร วิลาสิตนยโน มตฺตกฺโข.

‘‘ตสฺเสว ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อฑฺฒุฑฺฒานิ อิตฺถิสตานิ ปริจาริกา ทิชกฺาโย. อถ ขลุ, โภ, ทฺเว ทิชกฺาโย กฏฺํ มุเขน ฑํสิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ มชฺเฌ นิสีทาเปตฺวา อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อทฺธานปริยายปเถ กิลมโถ อุพฺพาเหตฺถา’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย เหฏฺโต เหฏฺโต อุฑฺเฑนฺติ ‘สจายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล สกุโณ อาสนา ปริปติสฺสติ, มยํ ตํ ปกฺเขหิ ปฏิคฺคเหสฺสามา’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย อุปรูปริ อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาตโป ปริตาเปสี’ติ.

‘‘ปฺาส ปฺาส ทิชกฺาโย อุภโตปสฺเสน อุฑฺเฑนฺติ ‘มานํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา วาโต วา อุสฺสาโว วา อุปปฺผุสี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ปุรโต ปุรโต อุฑฺเฑนฺติ ‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฏฺหารกา วา วนกมฺมิกา วา กฏฺเน วา กลาย วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา สกฺขราหิ วา ปหารมทํสุ, มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล คจฺเฉหิ วา ลตาหิ วา รุกฺเขหิ วา สาขาหิ วา ถมฺเภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวนฺเตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคเมสี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุฑฺเฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย ‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อาสเน ปริยุกฺกณฺี’ติ.

‘‘ปฺาส ทิชกฺาโย ทิโสทิสํ อุฑฺเฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย ‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ตา ทิชกฺาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาราเมเนว อารามํ, อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ, นทีติตฺเถเนว นทีติตฺถํ, ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ, อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ, ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ, ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ, นาฬิเกรสฺจาริเยเนว นาฬิเกรสฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสมฺโภนฺติ รติตฺถาย.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตาหิ ทิชกฺาหิ ทิวสํ ปริพฺยูฬฺโห เอวํ ปสํสติ ‘สาธุ สาธุ, ภคินิโย, เอตํ โข ภคินิโย ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลธีตานํ, ยํ ตุมฺเห ภตฺตารํ ปริจเรยฺยาถา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิ. อทฺทสํสุ โข กุณาลสฺส สกุณสฺส ปริจาริกา ทิชกฺาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจุํ – ‘อยํ, สมฺม ปุณฺณมุข, กุณาโล สกุโณ อติวิย ผรุโส อติวิย ผรุสวาโจ, อปฺเปว นาม ตวมฺปิ อาคมฺม ปิยวาจํ ลเภยฺยามา’ติ. ‘อปฺเปว นาม ภคินิโย’ติ วตฺวา เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา กุณาเลน สกุเณน สทฺธึ ปฏิสมฺโมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตํ กุณาลํ สกุณํ เอตทโวจ – ‘กิสฺส ตฺวํ, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ สุชาตานํ กุลธีตานํ สมฺมาปฏิปนฺนานํ มิจฺฉาปฏิปนฺโนสิ, อมนาปภาณีนมฺปิ กิร, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ มนาปภาณินา ภวิตพฺพํ, กิมงฺคํ ปน มนาปภาณีน’นฺติ.

‘‘เอวํ วุตฺเต กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอวํ อปสาเทสิ – ‘นสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, วินสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, โก นุ ตยา วิยตฺโต ชายาชิเนนา’ติ. เอวํ อปสาทิโต จ ปน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตโตเยว ปฏินิวตฺติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อปเรน สมเยน นจิรสฺเสว ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ, โลหิตปกฺขนฺทิกา พาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา. อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส ปริจาริกานํ ทิชกฺานํ เอตทโหสิ – ‘อาพาธิโก โข อยํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล, อปฺเปว นาม อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ เอกํ อทุติยํ โอหาย เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมึสุ. อทฺทสา โข กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกฺาโย ทูรโตว อาคจฺฉนฺติโย, ทิสฺวาน ตา ทิชกฺาโย เอตทโวจ – ‘กหํ ปน ตุมฺหํ วสลิโย ภตฺตา’ติ. ‘อาพาธิโก โข, สมฺม กุณาล, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อปฺเปว นาม ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺยา’ติ. เอวํ วุตฺเต กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกฺาโย เอวํ อปสาเทสิ – ‘นสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย, วินสฺสถ ตุมฺเห วสลิโย โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฏิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’ติ วตฺวา เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจ – ‘หํ, สมฺม, ปุณฺณมุขา’ติ. ‘หํ, สมฺม, กุณาลา’ติ.

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ปกฺเขหิ จ มุขตุณฺฑเกน จ ปริคฺคเหตฺวา วุฏฺาเปตฺวา นานาเภสชฺชานิ ปายาเปสิ. อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส โส อาพาโธ ปฏิปฺปสฺสมฺภี’’ติ.

ตตฺถ ปิยกาติ เสตปุปฺผา. หสนาติ -กาโร สนฺธิกโร, อสนาเยว. ติรีฏีติ เอกา รุกฺขชาติ. จนฺทนาติ รตฺตสุรภิจนฺทนา. โอฆวเนติ เอเตสํ โอเฆน ฆฏาย สมนฺนาคตวเน. เทวทารุกโจจคหเนติ เทวทารุรุกฺเขหิ เจว กทลีหิ จ คหเน. กจฺจิการาติ เอกา รุกฺขชาติ. กณิการาติ มหาปุปฺผา. กณฺณิการาติ ขุทฺทกปุปฺผา. กึสุกาติ วาตฆาตกา. โยธิกาติ ยูถิกา. วนมลฺลิกมนงฺคณมนวชฺชภณฺฑิสุรุจิรภคินิมาลามลฺยธเรติ มลฺลิกานฺจ อนงฺคณานํ อนวชฺชานฺจ ภณฺฑีนํ สุรุจิรานฺจ ภคินีนํ ปุปฺเผหิ มาลฺยธารยมาเน. ธนุตกฺการีติ ธนุปาฏลิ. ตาลีสาติ ตาลีสปตฺตรุกฺขา. กจฺฉวิตเตติ เอเตหิ ชาติสุมนาทีหิ วิตเต นทิกจฺฉปพฺพตกจฺเฉ. สํกุสุมิตลตาติ เตสุ เตสุ าเนสุ สุฏฺุ กุสุมิตอติมุตฺตเกหิ เจว นานาวิธลตาหิ จ วิตตปฏิมณฺฑิตปเทเส. คณาธิวุฏฺเติ เอเตสํ วิชฺชาธราทีนํ คเณหิ อธิวุฏฺเ. ปุณฺณมุโขติ มุขปริปุณฺณตาย ปุณฺณมุโข. ปเรหิ ผุฏฺตาย ผุสฺสโกกิโล. วิลาสิตนยโนติ วิลาสิตเนตฺโต. มตฺตกฺโขติ ยถา มตฺตานํ อกฺขีนิ รตฺตานิ โหนฺติ, เอวํ รตฺตกฺโข, ปมาณยุตฺตเนตฺโต วา.

ภคินิโยติ อริยโวหาเรน อาลปนํ. ปริจเรยฺยาถาติ สกลทิวสํ คเหตฺวา วิจเรยฺยาถ. อิติ โส ปิยกถํ กเถตฺวา อุยฺโยเชติ. กทาจิ ปน กุณาโล สปริวาโร ปุณฺณมุขํ ทสฺสนาย คจฺฉติ, กทาจิ ปุณฺณมุโข กุณาลสฺส สนฺติกํ อาคจฺฉติ. เตนาห ‘‘อถ ขลุ, โภ’’ติ. สมฺมาติ วยสฺส. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ อุปนิสฺสาย. ลเภยฺยามาติ กุณาลสฺส สนฺติกา ปิยวจนํ ลเภยฺยาม. อปฺเปว นามาติ อปิ นาม ลเภยฺยาถ, วกฺขามิ นนฺติ. สุชาตานนฺติ สมชาติกานํ.

นสฺสาติ ปลาย. ชมฺมาติ ลามก. วิยตฺโตติ โก นุ ตยา สทิโส อฺโ พฺยตฺโต นาม อตฺถิ. ชายาชิเนนาติ ชายาชิเตน, อยเมว วา ปาโ. เอวํ อิตฺถิปราชิเตน ตยา สทิโส โก นาม พฺยตฺโต อตฺถีติ ตํ ปุน เอวรูปสฺส วจนสฺส อภณนตฺถาย อปสาเทติ. ตโตเยวาติ ‘‘กุทฺโธ เม กุณาโล’’ติ จินฺเตตฺวา ตโตเยว ปฏินิวตฺติ, โส นิวตฺติตฺวา สปริวาโร อตฺตโน นิวาสฏฺานเมว อคมาสิ.

อปฺเปว นามาติ สํสยปริวิตกฺโก, อิมมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺย วา โน วาติ เอวํ จินฺเตตฺวา ตํ โอหาย ปกฺกมึสุ. ตุมฺหนฺติ ตุมฺหากํ. อปฺเปว นามาติ ตมฺหา อาพาธา วุฏฺเหยฺย วา โน วา, อมฺหากํ อาคตกาเล มโต ภวิสฺสติ. มยฺหิ อิทาเนว โส มริสฺสตีติ ตฺวา ตุมฺหากํ ปาทปริจาริกา ภวิตุํ อาคตา. เตนุปสงฺกมีติ อิมา อิตฺถิโย สามิกสฺส มตกาเล อาคตา ปฏิกฺกูลา ภวิสฺสามาติ ตํ ปหาย อาคตา, อหํ คนฺตฺวา มม สหายกํ ปุปฺผผลาทีนิ นานาเภสชฺชานิ สํหริตฺวา อโรคํ กริสฺสามีติ จินฺเตตฺวา นาคพโล มหาสตฺโต อากาเส อุปฺปติตฺวา เยน โส เตนุปสงฺกมิ. นฺติ นิปาโต, ‘‘ชีวสิ, สมฺมา’’ติ ปุจฺฉนฺโต เอวมาห. อิตโรปิสฺส ‘‘ชีวามี’’ติ วทนฺโต ‘‘หํ สมฺมา’’ติ อาห. ปายาเปสีติ ปาเยสิ. ปฏิปฺปสฺสมฺภีติ วูปสมีติ.

ตาปิ ทิชกฺาโย อสฺมึ อโรเค ชาเต อาคตา. กุณาโลปิ ปุณฺณมุขํ กติปาหํ ผลาผลานิ ขาทาเปตฺวา ตสฺส พลปฺปตฺตกาเล, ‘‘สมฺม, อิทานิ ตฺวํ อโรโค, อตฺตโน ปริจาริกาหิ สทฺธึ วส, อหมฺปิ อตฺตโน วสนฏฺานํ คมิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘อิมา, สมฺม, มํ พาฬฺหคิลานํ ปหาย ปลายนฺติ, น เม เอตาหิ ธุตฺตีหิ อตฺโถ’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘เตน หิ เต, สมฺม, อิตฺถีนํ ปาปภาวํ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ ปุณฺณมุขํ คเหตฺวา หิมวนฺตปสฺเส มโนสิลาตลํ เนตฺวา สตฺตโยชนิกสาลรุกฺขมูเล มโนสิลาสเน นิสีทิ. เอกสฺมึ ปสฺเส ปุณฺณมุโข สปริวาโร นิสีทิ. สกลหิมวนฺเต เทวโฆสนา จริ – ‘‘อชฺช กุณาโล สกุณราชา หิมวนฺเต มโนสิลาสเน นิสีทิตฺวา พุทฺธลีลาย ธมฺมํ เทเสสฺสติ, ตํ สุณาถา’’ติ. ปรมฺปรโฆเสน ฉ กามาวจรเทวา สุตฺวา เยภุยฺเยน ตตฺถ สนฺนิปตึสุ. พหุนาคสุปณฺณกินฺนรวิชฺชาธราทีนมฺปิ เทวตา ตมตฺถํ อุคฺโฆเสสุํ. ตทา อานนฺโท นาม คิชฺฌราชา ทสสหสฺสคิชฺฌปริวาโร คิชฺฌปพฺพเต ปฏิวสติ. โสปิ ตํ โกลาหลํ สุตฺวา ‘‘ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ สปริวาโร อาคนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. นารโทปิ ปฺจาภิฺโ ตาปโส ทสสหสฺสตาปสปริวุโต หิมวนฺตปเทเส วิหรนฺโต ตํ เทวโฆสนํ สุตฺวา ‘‘สหาโย กิร เม กุณาโล อิตฺถีนํ อคุณํ กเถสฺสติ, มหาสมาคโม ภวิสฺสติ, มยาปิ ตํ เทสนํ โสตุํ วฏฺฏตี’’ติ ตาปสทสสหสฺเสน สทฺธึ อิทฺธิยา ตตฺถ คนฺตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. พุทฺธานํ เทสนาสนฺนิปาตสทิโส มหาสมาคโม อโหสิ. อถ มหาสตฺโต ชาติสฺสราเณน อิตฺถิโทสปฏิสํยุตฺตํ อตีตภเว ทิฏฺการณํ ปุณฺณมุขํ กายสกฺขึ กตฺวา กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ คิลานวุฏฺิตํ อจิรวุฏฺิตํ เคลฺา เอตทโวจ –

‘‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กณฺหา ทฺเวปิติกา ปฺจปติกาย ฉฏฺเ ปุริเส จิตฺตํ ปฏิพนฺธนฺติยา, ยทิทํ กพนฺเธ ปีสปฺปิมฺหี’’’ติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๐.

‘‘อถชฺชุโน นกุโล ภีมเสโน, ยุธิฏฺิโล สหเทโว จ ราชา;

เอเต ปตี ปฺจ มติจฺจ นารี, อกาสิ ขุชฺชวามนเกน ปาป’นฺติ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, สจฺจตปาปี นาม สมณี สุสานมชฺเฌ วสนฺตี จตุตฺถภตฺตํ ปริณามยมานา สุราธุตฺตเกน ปาปมกาสิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กากวตี นาม เทวี สมุทฺทมชฺเฌ วสนฺตี ภริยา เวนเตยฺยสฺส นฏกุเวเรน ปาปมกาสิ.

‘‘ทิฏฺา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กุรุงฺคเทวี นาม โลมสุทฺทรี เอฬิกกุมารํ กามยมานา ฉฬงฺคกุมารธนนฺเตวาสินา ปาปมกาสิ.

‘‘เอวฺเหตํ มยา าตํ, พฺรหฺมทตฺตสฺส มาตรํ;

โอหาย โกสลราชํ, ปฺจาลจณฺเฑน ปาปมกาสิ.

๒๙๑.

‘‘เอตา จ อฺา จ อกํสุ ปาปํ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสเส นปฺปสํเส;

มหี ยถา ชคติ สมานรตฺตา, วสุนฺธรา อิตรีตราปติฏฺา;

สพฺพสหา อผนฺทนา อกุปฺปา, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโร.

๒๙๒.

‘‘สีโห ยถา โลหิตมํสโภชโน, วาฬมิโค ปฺจาวุโธ สุรุทฺโธ;

ปสยฺหขาที ปรหึสเน รโต, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโร.

‘‘น ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, เวสิโย นาริโย คมนิโย, น เหตา พนฺธกิโย นาม, วธิกาโย นาม เอตาโย, ยทิทํ เวสิโย นาริโย คมนิโย’’ติ.

‘‘โจโร วิย เวณิกตา มทิราว ทิทฺธา วาณิโช วิย วาจาสนฺถุติโย อิสฺสสิงฺคมิว วิปริวตฺตาโย อุรคมิว ทุชิวฺหาโย. โสพฺภมิว ปฏิจฺฉนฺนา ปาตาลมิว ทุปฺปูรา รกฺขสี วิย ทุตฺโตสา ยโมเวกนฺตหาริโย. สิขีริว สพฺพภกฺขา นทีริว สพฺพวาหี อนิโล วิย เยนกามํจรา เนรุ วิย อวิเสสกรา วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลิตาโยติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๓.

‘‘‘ยถา โจโร ยถา ทิทฺโธ, วาณิโชว วิกตฺถนี;

อิสฺสสิงฺคมิว ปริวตฺตา, ทุชิวฺหา อุรโค วิย.

๒๙๔.

‘‘‘โสพฺภมิว ปฏิจฺฉนฺนา, ปาตาลมิว ทุปฺปุรา;

รกฺขสี วิย ทุตฺโตสา, ยโมเวกนฺตหาริโย.

๒๙๕.

‘‘ยถา สิขี นที วาโต, เนรุนาว สมาคตา;

วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลา, นาสยนฺติ ฆเร โภคํ;

รตนนฺตกริตฺถิโย’’’ติ.

ตตฺถ คิลานวุฏฺิตนฺติ ปมํ คิลานํ ปจฺฉา วุฏฺิตํ. ทิฏฺา มยาติ อตีเต กิร พฺรหฺมทตฺโต กาสิราชา สมฺปนฺนพลวาหนตาย โกสลรชฺชํ คเหตฺวา โกสลราชานํ มาเรตฺวา ตสฺส อคฺคมเหสึ สคพฺภํ คเหตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ตํ อตฺตโน อคฺคมเหสึ อกาสิ. สา อปรภาเค ธีตรํ วิชายิ. รฺโ ปน ปกติยา ธีตา วา ปุตฺโต วา นตฺถิ, โส ตุสฺสิตฺวา, ‘‘ภทฺเท, วรํ คณฺหาหี’’ติ อาห. สา คหิตกํ กตฺวา เปสิ. ตสฺสา ปน กุมาริกาย ‘‘กณฺหา’’ติ นามํ กรึสุ. อถสฺสา วยปฺปตฺตาย มาตา ตํ อาห – ‘‘อมฺม, ปิตรา ตว วโร ทินฺโน, ตมหํ คเหตฺวา เปสึ, ตว รุจฺจนกํ วรํ คณฺหา’’ติ. สา ‘‘อมฺม, มยฺหํ อฺํ อวิชฺชมานํ นตฺถิ, ปติคฺคหณตฺถาย เม สยํ วรํ กาเรหี’’ติ กิเลสพหุลตาย หิโรตฺตปฺปํ ภินฺทิตฺวา มาตรํ อาห. สา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา ‘‘ยถารุจิตํ ปตึ คณฺหตู’’ติ วตฺวา สยํ วรํ โฆสาเปสิ. ราชงฺคเณ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา พหู ปุริสา สนฺนิปตึสุ. กณฺหา ปุปฺผสมุคฺคํ อาทาย อุตฺตรสีหปฺชเร ิตา โอโลเกนฺตี เอกมฺปิ น โรเจสิ.

ตทา ปณฺฑุราชโคตฺตโต อชฺชุโน นกุโล ภีมเสโน ยุธิฏฺิโล สหเทโวติ อิเม ปฺจ ปณฺฑุราชปุตฺตา ตกฺกสิลายํ ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคเหตฺวา ‘‘เทสจาริตฺตํ ชานิสฺสามา’’ติ วิจรนฺตา พาราณสึ ปตฺวา อนฺโตนคเร โกลาหลํ สุตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ ตฺวา ‘‘มยมฺปิ คมิสฺสามา’’ติ กฺจนรูปสมานรูปา ตตฺถ คนฺตฺวา ปฏิปาฏิยา อฏฺํสุ. กณฺหา เต ทิสฺวา ปฺจสุปิ เตสุ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ปฺจนฺนมฺปิ สีเสสุ มาลาจุมฺพฏกานิ ขิปิตฺวา, ‘‘อมฺม, อิเม ปฺจ ชเน วเรมี’’ติ อาห. สาปิ รฺโ อาโรเจสิ. ราชา วรสฺส ทินฺนตฺตา ‘‘น ลภิสฺสตี’’ติ อวตฺวา อนตฺตมโนว ‘‘กึชาติกา กสฺส ปุตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ปณฺฑุราชปุตฺตภาวํ ตฺวา เตสํ สกฺการํ กตฺวา ตํ ปาทปริจาริกํ อทาสิ.

สา สตฺตภูมิกปาสาเท เต กิเลสวเสน สงฺคณฺหิ. เอโก ปนสฺสา ปริจารโก ขุชฺโช ปีสปฺปี อตฺถิ. สา ปฺจ ราชปุตฺเต กิเลสวเสน สงฺคณฺหิตฺวา เตสํ พหิ นิกฺขนฺตกาเล โอกาสํ ลภิตฺวา กิเลเสน อนุฑยฺหมานา ขุชฺเชน สทฺธึ ปาปํ กโรติ, เตน จ สทฺธึ กเถนฺตี – ‘‘มยฺหํ ตยา สทิโส ปิโย นตฺถิ, ราชปุตฺเต มาราเปตฺวา เตสํ คลโลหิเตน ตว ปาเท มกฺขาเปสฺสามี’’ติ วทติ. อิตเรสุปิ เชฏฺภาติเกน มิสฺสีภูตกาเล – ‘‘อิเมหิ จตูหิ ตฺวเมว มยฺหํ ปิยตโร, มยา ชีวิตมฺปิ ตวตฺถาย ปริจฺจตฺตํ, มม ปิตุ อจฺจเยน ตุยฺหฺเว รชฺชํ ทาเปสฺสามี’’ติ วทติ. อิตเรหิ สทฺธึ มิสฺสีภูตกาเลปิ เอเสว นโย. เต ‘‘อยํ อมฺเห ปิยายติ, อิสฺสริยฺจ โน เอตํ นิสฺสาย ชาต’’นฺติ ตสฺสา อติวิย ตุสฺสนฺติ.

สา เอกทิวสํ อาพาธิกา อโหสิ. อถ นํ เต ปริวาเรตฺวา เอโก สีสํ สมฺพาหนฺโต นิสีทิ, เสสา เอเกกํ หตฺถฺจ ปาทฺจ. ขุชฺโช ปน ปาทมูเล นิสีทิ. สา สีสํ สมฺพาหมานสฺส เชฏฺภาติกสฺส อชฺชุนกุมารสฺส – ‘‘มยฺหํ ตยา ปิยตโร นตฺถิ, ชีวมานา ตุยฺหํ ชีวิสฺสามิ, ปิตุ อจฺจเยน ตุยฺหํ รชฺชํ ทาเปสฺสามี’’ติ สีเสน สฺํ ททมานา ตํ สงฺคณฺหิ, อิตเรสมฺปิ หตฺถปาเทหิ ตเถว สฺํ อทาสิ. ขุชฺชสฺส ปน – ‘‘ตฺวฺเว มม ปิโย, ตวตฺถาย อหํ ชีวิสฺสามี’’ติ ชิวฺหาย สฺํ อทาสิ. เต สพฺเพปิ ปุพฺเพ กถิตภาเวน ตาย สฺาย ตมตฺถํ ชานึสุ. เตสุ เสสา อตฺตโน ทินฺนสฺาเยว ชานึสุ. อชฺชุนกุมาโร ปน ตสฺสา หตฺถปาทชิวฺหาวิกาเร ทิสฺวา – ‘‘ยถา มยฺหํ, เอวํ เสสานมฺปิ อิมาย สฺา ทินฺนา ภวิสฺสติ, ขุชฺเชน จาปิ สทฺธึ เอติสฺสาย สนฺถเวน ภวิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ภาตโร คเหตฺวา พหิ นิกฺขมิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ทิฏฺา โว ปฺจปติกา มม สีสวิการํ ทสฺเสนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ทิฏฺา’’ติ. ‘‘กึการณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. ‘‘อิทํ นาเมตฺถ การณํ, ตุมฺหากํ ปน หตฺถปาเทหิ ทินฺนสฺาย การณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, ชานามา’’ติ. ‘‘อมฺหากมฺปิ เตเนว การเณน อทาสิ, ขุชฺชสฺส ชิวฺหาวิกาเรน สฺาทานสฺส การณํ ชานาถา’’ติ? ‘‘น ชานามา’’ติ. อถ เนสํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘อิมินาปิ สทฺธึ เอตาย ปาปกมฺมํ กต’’นฺติ วตฺวา เตสุ อสทฺทหนฺเตสุ ขุชฺชํ ปกฺโกสิตฺวา ปุจฺฉิ. โส สพฺพํ ปวตฺตึ กเถสิ.

เต ตสฺส วจนํ สุตฺวา ตสฺสา วิคตจฺฉนฺทราคา หุตฺวา – ‘‘อโห มาตุคาโม นาม ปาโป ทุสฺสีโล, มาทิเส นาม ชาติสมฺปนฺเน โสภคฺคปฺปตฺเต ปหาย เอวรูเปน เชคุจฺฉปฏิกูเลน ขุชฺเชน สทฺธึ ปาปกมฺมํ กโรติ, โก นาม ปณฺฑิตชาติโก เอวํ นิลฺลชฺชาหิ ปาปธมฺมาหิ อิตฺถีหิ สทฺธึ รมิสฺสตี’’ติ อเนกปริยาเยน มาตุคามํ ครหิตฺวา ‘‘อลํ โน ฆราวาเสนา’’ติ ปฺจ ชนา หิมวนฺตํ ปวิสิตฺวา ปพฺพชิตฺวา กสิณปริกมฺมํ กตฺวา อายุปริโยสาเน ยถากมฺมํ คตา. กุณาโล ปน สกุณราชา ตทา อชฺชุนกุมาโร อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ทฺเวปิติกาติ โกสลรฺโ จ กาสิรฺโ จ วเสเนตํ วุตฺตํ. ปฺจปติกายาติ ปฺจปติกา, -กาโร นิปาตมตฺโต. ปฏิพนฺธนฺติยาติ ปฏิพนฺธมานา. กพนฺเธติ ตสฺส กิร คีวา โอนมิตฺวา อุรํ อลฺลีนา, ตสฺมา ฉินฺนสีโส วิย ขายติ. ปฺจ มติจฺจาติ เอเต ปฺจ อติกฺกมิตฺวา. ขุชฺชวามนเกนาติ ขุชฺเชน วามนเกน.

อิทํ วตฺวา อปรานิปิ ทิฏฺปุพฺพานิ ทสฺเสนฺโต ปุน ‘‘ทิฏฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ทุติยวตฺถุสฺมึ ตาว อยํ วิภาวนา – อตีเต กิร พาราณสึ นิสฺสาย สจฺจตปาปี นาม เสตสมณี สุสาเน ปณฺณสาลํ กาเรตฺวา ตตฺถ วสมานา จตฺตาริ ภตฺตานิ อติกฺกมิตฺวา ภุฺชติ, สกลนคเร จนฺโท วิย สูริโย วิย จ ปากฏา อโหสิ. พาราณสิวาสิโน ขิปิตฺวาปิ ขลิตฺวาปิ ‘‘นโม สจฺจตปาปิยา’’ติ วทนฺติ. อเถกสฺมึ ฉณกาเล ปมทิวเส ตาว สุวณฺณการา คณพนฺเธน เอกสฺมึ ปเทเส มณฺฑปํ กตฺวา มจฺฉมํสสุราคนฺธมาลาทีนิ อาหริตฺวา สุราปานํ อารภึสุ. อเถโก สุวณฺณกาโร สุราปิฏฺกํ ฉฑฺเฑนฺโต – ‘‘นโม สจฺจตปาปิยา’’ติ วตฺวา เอเกน ปณฺฑิเตน – ‘‘อมฺโภ อนฺธพาล, จลจิตฺตาย อิตฺถิยา นโม กโรสิ, อโห พาโล’’ติ วุตฺเต – ‘‘สมฺม, มา เอวํ อวจ, มา นิรยสํวตฺตนิกํ กมฺมํ กรี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘ทุพฺพุทฺธิ ตุณฺหี โหหิ, สหสฺเสน อพฺภุตํ กโรหิ, อหํ เต สจฺจตปาปึ อิโต สตฺตเม ทิวเส อลงฺกตปฏิยตฺตํ อิมสฺมึเยว าเน นิสินฺโน สุราปิฏฺกํ คาหาเปตฺวา สุรํ ปิวิสฺสามิ , มาตุคาโม ธุวสีโล นาม นตฺถี’’ติ อาห. โส ‘‘น สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา เตน สทฺธึ สหสฺเสน อพฺภุตมกาสิ. โส ตํ อฺเสํ สุวณฺณการานํ อาโรเจตฺวา ปุนทิวเส ปาโตว ตาปสเวเสน สุสานํ ปวิสิตฺวา ตสฺสา วสนฏฺานสฺส อวิทูเร สูริยํ นมสฺสนฺโต อฏฺาสิ.

สา ภิกฺขาย คจฺฉมานา นํ ทิสฺวา – ‘‘มหิทฺธิโก ตาปโส ภวิสฺสติ, อหํ ตาว สุสานปสฺเส วสามิ, อยํ มชฺเฌ สุสานสฺส วสติ, ภวิตพฺพมสฺสพฺภนฺตเร สนฺตธมฺเมน, วนฺทิสฺสามิ น’’นฺติ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิ. โส เนว โอโลเกสิ น อาลปิ. ทุติยทิวเสปิ ตเถว อกาสิ. ตติยทิวเส ปน วนฺทิตกาเล อโธมุโขว ‘‘คจฺฉาหี’’ติ อาห. จตุตฺถทิวเส ‘‘กจฺจิ ภิกฺขาย น กิลมสี’’ติ ปฏิสนฺถารมกาสิ. สา ‘‘ปฏิสนฺถาโร เม ลทฺโธ’’ติ ตุฏฺา ปกฺกามิ. ปฺจมทิวเส พหุตรํ ปฏิสนฺถารํ ลภิตฺวา โถกํ นิสีทิตฺวา คตา. ฉฏฺเ ทิวเส ปน ตํ อาคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสินฺนํ – ‘‘ภคินิ, กึ นุ โข อชฺช พาราณสิยํ มหาคีตวาทิตสทฺโท’’ติ วตฺวา – ‘‘อยฺย, ตุมฺเห น ชานาถ, นคเร ฉโณ ฆุฏฺโ, ตตฺถ กีฬนฺตานํ เอส สทฺโท’’ติ วุตฺเต – ‘‘เอตฺถ นาเมโส สทฺโท’’ติ อชานนฺโต วิย หุตฺวา – ‘‘ภคินิ, กติ ภตฺตานิ อติกฺกเมสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘จตฺตาริ, อยฺย, ตุมฺเห ปน กติ อติกฺกเมถา’’ติ? ‘‘สตฺต ภคินี’’ติ. อิทํ โส มุสา อภาสิ. เทวสิกํ เหส รตฺตึ ภุฺชติ. โส ตํ ‘‘กติ เต ภคินิ วสฺสานิ ปพฺพชิตายา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตาย ‘‘ทฺวาทส วสฺสานี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ กติ วสฺสานี’’ติ วุตฺโต ‘‘อิทํ เม ฉฏฺํ วสฺส’’นฺติ อาห. อถ นํ ‘‘อตฺถิ ปน เต ภคินิ สนฺตธมฺมาธิคโม’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถิ, อยฺย, ตุมฺหากํ ปน อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ นตฺถี’’ติ วตฺวา – ‘‘ภคินิ, มยํ เนว กามสุขํ ลภาม, น เนกฺขมฺมสุขํ, กึ อมฺหากํเยว อุณฺโห นิรโย, มหาชนสฺส กิริยํ กโรม, อหํ คิหี ภวิสฺสามิ, อตฺถิ เม มาตุ สนฺตกํ ธนํ, น สกฺโกมิ ทุกฺขํ อนุภวิตุ’’นฺติ อาห. สา ตสฺส วจนํ สุตฺวา อตฺตโน จลจิตฺตตาย ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา – ‘‘อยฺย, อหมฺปิ อุกฺกณฺิตา, สเจ ปน มํ น ฉฑฺเฑสฺสถ, อหมฺปิ คิหินี ภวิสฺสามี’’ติ อาห. อถ นํ โส ‘‘เอหิ ตํ น ฉฑฺเฑสฺสามิ, ภริยา เม ภวิสฺสสี’’ติ ตํ นครํ ปเวเสตฺวา สํวสิตฺวา สุราปานมณฺฑปํ คนฺตฺวา ตาย สุราปิฏฺกํ คาหาเปตฺวา สุรํ ปิวิ. อิตโร สหสฺสํ ชิโต. สา ตํ ปฏิจฺจ ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิ. ตทา กุณาโล สุราธุตฺตโก อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺํ ปกาเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตติยวตฺถุสฺมึ อตีตกถา จตุกฺกนิปาเต กากวตีชาตกวณฺณนายํ (ชา. อฏฺ. ๓.๔.กากวตีชาตกวณฺณนา) วิตฺถาริตา. ตทา ปน กุณาโล ครุโฬ อโหสิ. ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺํ ปกาเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

จตุตฺถวตฺถุสฺมึ อตีเต พฺรหฺมทตฺโต โกสลราชานํ วธิตฺวา รชฺชํ คเหตฺวา ตสฺส อคฺคมเหสึ คพฺภินึ อาทาย พาราณสึ ปจฺจาคนฺตฺวา ตสฺสา คพฺภินิภาวํ ชานนฺโตปิ ตํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. สา ปริปกฺกคพฺภา สุวณฺณรูปกสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิตฺวา – ‘‘วุทฺธิปฺปตฺตมฺปิ นํ พาราณสิราชา ‘เอส เม ปจฺจามิตฺตสฺส ปุตฺโต, กึ อิมินา’ติ มาราเปสฺสติ, มา เม ปุตฺโต ปรหตฺเถ มรตู’’ติ จินฺเตตฺวา ธาตึ อาห – ‘‘อมฺม, อิมํ ทารกํ ปิโลติกํ อตฺถริตฺวา อามกสุสาเน นิปชฺชาเปตฺวา เอหี’’ติ. ธาตี ตถา กตฺวา นฺหตฺวา ปจฺจาคมิ. โกสลราชาปิ มริตฺวา ปุตฺตสฺส อารกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติ. ตสฺสานุภาเวน เอกสฺส เอฬกปาลกสฺส ตสฺมึ ปเทเส เอฬเก จาเรนฺตสฺส เอกา เอฬิกา ตํ กุมารํ ทิสฺวา สิเนหํ อุปฺปาเทตฺวา ขีรํ ปาเยตฺวา โถกํ จริตฺวา ปุน คนฺตฺวา ทฺเว ตโย จตฺตาโร วาเร ปาเยสิ. เอฬกปาลโก ตสฺสา กิริยํ ทิสฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา ตํ ทารกํ ทิสฺวา ปุตฺตสิเนหํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา เนตฺวา อตฺตโน ภริยาย อทาสิ. สา ปน อปุตฺติกา, เตนสฺสา ถฺํ นตฺถิ, อถ นํ เอฬิกขีรเมว ปาเยสิ. ตโต ปฏฺาย ปน เทวสิกํ ทฺเว ติสฺโส เอฬิกา มรนฺติ. เอฬกปาโล – ‘‘อิมสฺมึ ปฏิชคฺคิยมาเน สพฺพา เอฬิกา มริสฺสนฺติ, กึ โน อิมินา’’ติ ตํ เอกสฺมึ มตฺติกาภาชเน นิปชฺชาเปตฺวา อปเรน ปิทหิตฺวา มาสจุณฺเณน มุขํ นิพฺพิวรํ วิลิมฺปิตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชสิ. ตเมนํ วุยฺหมานํ เหฏฺาติตฺเถ ราชนิเวสเน ชิณฺณปฏิสงฺขารโก เอโก จณฺฑาโล สปชาปติโก มกจึ โธวนฺโต ทิสฺวาว เวเคน คนฺตฺวา อาหริตฺวา ตีเร เปตฺวา ‘‘กิเมตฺถา’’ติ วิวริตฺวา โอโลเกนฺโต ทารกํ ปสฺสิ. ภริยาปิสฺส อปุตฺติกา, ตสฺสา ตสฺมึ ปุตฺตสิเนโห นิพฺพตฺติ, อถ นํ เคหํ เนตฺวา ปฏิชคฺคิ. ตํ สตฺตฏฺวสฺสกาลโต ปฏฺาย มาตาปิตโร ราชกุลํ คจฺฉนฺตา อาทาย คจฺฉนฺติ. โสฬสวสฺสกาลโต ปน ปฏฺาย สฺเวว พหุลํ คนฺตฺวา ชิณฺณปฏิสงฺขรณํ กโรติ.

รฺโ จ อคฺคมเหสิยา กุรุงฺคเทวี นาม ธีตา อโหสิ อุตฺตมรูปธรา. สา ตสฺส ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ตสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา อฺตฺถ อนภิรตา ตสฺส กมฺมกรณฏฺานเมว อาคจฺฉติ. เตสํ อภิณฺหทสฺสเนน อฺมฺํ ปฏิพทฺธจิตฺตานํ อนฺโตราชกุเลเยว ปฏิจฺฉนฺโนกาเส อชฺฌาจาโร ปวตฺติ. คจฺฉนฺเต กาเล ปริจาริกาโย ตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา กุชฺฌิตฺวา อมจฺเจ สนฺนิปาเตตฺวา – ‘‘อิมินา จณฺฑาลปุตฺเตน อิทํ นาม กตํ, อิมสฺส กตฺตพฺพํ ชานาถา’’ติ อาห. อมจฺจา ‘‘มหาปราโธ เอส, นานาวิธกมฺมการณา กาเรตฺวา ปจฺฉา มาเรตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. ตสฺมึ ขเณ กุมารสฺส ปิตา อารกฺขเทวตา ตสฺเสว กุมารสฺส มาตุ สรีเร อธิมุจฺจิ. สา เทวตานุภาเวน ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา อาห – ‘‘มหาราช, นายํ กุมาโร จณฺฑาโล, เอส กุมาโร มม กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺโต โกสลรฺโ ปุตฺโต, อหํ ‘ปุตฺโต เม มโต’ติ ตุมฺหากํ มุสา อวจํ, อหเมตํ ‘ตุมฺหากํ ปจฺจามิตฺตสฺส ปุตฺโต’ติ ธาติยา ทตฺวา อามกสุสาเน ฉฑฺฑาเปสึ, อถ นํ เอโก เอฬกปาลโก ปฏิชคฺคิ, โส อตฺตโน เอฬิกาสุ มรนฺตีสุ นทิยา ปวาเหสิ, อถ นํ วุยฺหมานํ ตุมฺหากํ เคเห ชิณฺณปฏิสงฺขารโก จณฺฑาโล ทิสฺวา โปเสสิ, สเจ น สทฺทหถ, เต สพฺเพ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉถา’’ติ.

ราชา ธาตึ อาทึ กตฺวา สพฺเพ ปกฺโกสาเปตฺวา ปุจฺฉิตฺวา ตเถว ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘ชาติสมฺปนฺโนยํ กุมาโร’’ติ ตุฏฺโ ตํ นฺหาเปตฺวา อลงฺการาเปตฺวา ตสฺเสว ธีตรํ อทาสิ. ตสฺส ปน เอฬิกานํ มาริตตฺตา ‘‘เอฬิกกุมาโร’’ติ นามํ อกํสุ. อถสฺส ราชา สเสนวาหนํ ทตฺวา – ‘‘คจฺฉ อตฺตโน ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหา’’ติ ตํ อุยฺโยเชสิ. โสปิ กุรุงฺคเทวึ อาทาย คนฺตฺวา รชฺเช ปติฏฺาสิ. อถสฺส พาราณสิราชา ‘‘อนุคฺคหิตสิปฺโป อย’’นฺติ สิปฺปสิกฺขาปนตฺถํ ฉฬงฺคกุมารํ นาม อาจริยํ เปเสสิ. โส ตสฺส ‘‘อาจริโย เม’’ติ เสนาปติฏฺานํ อทาสิ. อปรภาเค กุรุงฺคเทวี เตน สทฺธึ อนาจารมกาสิ. เสนาปติโนปิ ปริจารโก ธนนฺเตวาสี นาม อตฺถิ. โส ตสฺส หตฺเถ กุรุงฺคเทวิยา วตฺถาลงฺการาทีนิ เปเสสิ. สา เตนปิ สทฺธึ ปาปมกาสิ. กุณาโล ตํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ทิฏฺา มยา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ โลมสุทฺทรีติ โลมราชิยา มณฺฑิตอุทรา. ฉฬงฺคกุมารธนนฺเตวาสินาติ เอฬิกกุมารกํ ปตฺถยมานาปิ ฉฬงฺคกุมารเสนาปตินา จ ตสฺเสว ปริจารเกน ธนนฺเตวาสินา จ สทฺธึ ปาปมกาสิ. เอวํ อนาจารา อิตฺถิโย ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตนาหํ ตา นปฺปสํสามีติ อิทํ มหาสตฺโต อตีตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. โส หิ ตทา ฉฬงฺคกุมาโร อโหสิ, ตสฺมา อตฺตนา ทิฏฺการณํ อาหริ.

ปฺจมวตฺถุสฺมิมฺปิ อตีเต โกสลราชา พาราณสิรชฺชํ คเหตฺวา พาราณสิรฺโ อคฺคมเหสึ คพฺภินิมฺปิ อคฺคมเหสึ กตฺวา สกนครเมว คโต . สา อปรภาเค ปุตฺตํ วิชายิ. ราชา อปุตฺตกตฺตา ตํ ปุตฺตสิเนเหน โปเสตฺวา สพฺพสิปฺปานิ สิกฺขาเปตฺวา วยปฺปตฺตํ ‘‘อตฺตโน ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ คณฺหา’’ติ เปเสสิ. โส ตตฺถ คนฺตฺวา รชฺชํ กาเรสิ. อถสฺส มาตา ‘‘ปุตฺตํ ปสฺสิตุกามามฺหี’’ติ โกสลราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา มหาปริวารา พาราณสึ คจฺฉนฺตี ทฺวินฺนํ รฏฺานํ อนฺตเร เอกสฺมึ นิคเม นิวาสํ คณฺหิ. ตตฺเถเวโก ปฺจาลจณฺโฑ นาม พฺราหฺมณกุมาโร อตฺถิ อภิรูโป. โส ตสฺสา ปณฺณาการํ อุปนาเมสิ. สา ตํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา เตน สทฺธึ ปาปกมฺมํ กตฺวา กติปาหํ ตตฺเถว วีตินาเมตฺวา พาราณสึ คนฺตฺวา ปุตฺตํ ทิสฺวา ขิปฺปํ นิวตฺติตฺวา ปุน ตสฺมึเยว นิคเม นิวาสํ คเหตฺวา กติปาหํ เตน สทฺธึ อนาจารํ จริตฺวา โกสลนครํ คตา. สา ตโต ปฏฺาย นจิรสฺเสว ตํ ตํ การณํ วตฺวา ‘‘ปุตฺตสฺส สนฺติกํ คจฺฉามี’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา คจฺฉนฺตี จ อาคจฺฉนฺตี จ ตสฺมึ นิคเม อฑฺฒมาสมตฺตํ เตน สทฺธึ อนาจารํ จริ. สมฺม ปุณฺณมุข, อิตฺถิโย นาเมตา ทุสฺสีลา มุสาวาทินิโยติ อิทมฺปิ อตีตํ ทสฺเสนฺโต มหาสตฺโต ‘‘เอวฺเหต’’นฺติอาทิมาห.

ตตฺถ พฺรหฺมทตฺตสฺส มาตรนฺติ พาราณสิรชฺชํ กาเรนฺตสฺส พฺรหฺมทตฺตกุมารสฺส มาตรํ. ตทา กิร กุณาโล ปฺจาลจณฺโฑ อโหสิ, ตสฺมา ตํ อตฺตนา าตการณํ ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

เอตา จาติ, สมฺม ปุณฺณมุข, เอตาว ปฺจ อิตฺถิโย ปาปมกํสุ, น อฺาติ สฺํ มา กริ, อถ โข เอตา จ อฺา จ พหู ปาปกมฺมการิกาติ. อิมสฺมึ าเน ตฺวา โลเก อติจารินีนํ วตฺถูนิ กเถตพฺพานิ. ชคตีติ ยถา ชคติสงฺขาตา มหี สมานรตฺตา ปฏิฆาภาเวน สพฺเพสุ สมานรตฺตา หุตฺวา สา วสุนฺธรา อิตรีตราปติฏฺา อุตฺตมานฺจ อธมานฺจ ปติฏฺา โหติ, ตถา อิตฺถิโยปิ กิเลสวเสน สพฺเพสมฺปิ อุตฺตมาธมานํ ปติฏฺา โหนฺติ. อิตฺถิโย หิ โอกาสํ ลภมานา เกนจิ สทฺธึ ปาปกํ กโรนฺติ นาม. สพฺพสหาติ ยถา จ สา สพฺพเมว สหติ น ผนฺทติ น กุปฺปติ น จลติ, ตถา อิตฺถิโย สพฺเพปิ ปุริเส โลกสฺสาทวเสน สหนฺติ. สเจ ตาสํ โกจิ ปุริโส จิตฺเต ปติฏฺิโต โหติ, ตสฺส รกฺขณตฺถํ น ผนฺทนฺติ น จลนฺติ น โกลาหลํ กโรนฺติ . ยถา จ สา น กุปฺปติ น จลติ, เอวํ อิตฺถิโยปิ เมถุนธมฺเมน น กุปฺปนฺติ น จลนฺติ, น สกฺกา เตน ปูเรตุํ.

วาฬมิโคติ ทุฏฺมิโค. ปฺจาวุโธติ มุขสฺส เจว จตุนฺนฺจ จรณานํ วเสเนตํ วุตฺตํ. สุรุทฺโธติ สุลุทฺโธ สุผรุโส. ตถิตฺถิโยติ ยถา หิ สีหสฺส มุขฺเจว จตฺตาโร จ หตฺถปาทาติ ปฺจาวุธานิ, ตถา อิตฺถีนมฺปิ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพานิ ปฺจาวุธานิ. ยถา โส อตฺตโน ภกฺขํ คณฺหนฺโต เตหิปิ ปฺจหิ คณฺหาติ, ตถา ตาปิ กิเลสภกฺขํ คณฺหมานา รูปาทีหิ อาวุเธหิ ปหริตฺวา คณฺหนฺติ. ยถา โส กกฺขโฬ ปสยฺห ขาทติ, เอวํ เอตาปิ กกฺขฬา ปสยฺห ขาทิกา. ตถา เหตา ถิรสีเลปิ ปุริเส อตฺตโน พเลน ปสยฺหการํ กตฺวา สีลวินาสํ ปาเปนฺติ. ยถา โส ปรหึสเน รโต, เอวเมตาปิ กิเลสวเสน ปรหึสเน รตา. ตาโยติ ตา เอวํ อคุณสมฺมนฺนาคตา น วิสฺสเส นโร.

คมนิโยติ คณิกาโย. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สมฺม ปุณฺณมุข, ยาเนตานิ อิตฺถีนํ ‘‘เวสิโย’’ติอาทีนิ นามานิ, น เอตานิ ตาสํ สภาวนามานิ. น เหตา เวสิโย นาม คมนิโย นาม พนฺธกิโย นาม, สภาวนามโต ปน วธิกาโย นาม เอตาโย, ยา เอตา เวสิโย นาริโย คมนิโยติ วุจฺจนฺติ. วธิกาโยติ สามิกฆาติกาโย. สฺวายมตฺโถ มหาหํสชาตเกน ทีเปตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘มายา เจตา มรีจี จ, โสกา โรคา จุปทฺทวา;

ขรา จ พนฺธนา เจตา, มจฺจุปาสา คุหาสยา;

ตาสุ โย วิสฺสเส โปโส, โส นเรสุ นราธโม’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๑๑๘);

เวณิกตาติ กตเวณิโย. ยถา หิ โมฬึ พนฺธิตฺวา อฏวิยํ ิตโจโร ธนํ วิลุมฺปติ, เอวเมตาปิ กิเลสวสํ เนตฺวา ธนํ วิลุมฺปนฺติ. มทิราว ทิทฺธาติ วิสมิสฺสกา สุรา วิย. ยถา สา วิการํ ทสฺเสติ, เอวเมตาปิ อฺเสุ ปุริเสสุ สารตฺตา กิจฺจากิจฺจํ อชานนฺติโย อฺสฺมึ กตฺตพฺเพ อฺเมว กโรนฺติโย วิการํ ทสฺเสนฺติ. วาจาสนฺถุติโยติ ยถา วาณิโช อตฺตโน ภณฺฑสฺส วณฺณเมว ภณติ, เอวเมตาปิ อตฺตโน อคุณํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา คุณเมว ปกาเสนฺติ. วิปริวตฺตาโยติ ยถา อิสฺสมิคสฺส สิงฺคํ ปริวตฺติตฺวา ิตํ, เอวํ ลหุจิตฺตตาย วิปริวตฺตาโยว โหนฺติ. อุรคมิวาติ อุรโค วิย มุสาวาทิตาย ทุชิวฺหา นาม. โสพฺภมิวาติ ยถา ปทรปฏิจฺฉนฺโน คูถกูโป, เอวํ วตฺถาลงฺการปฏิจฺฉนฺนา หุตฺวา วิจรนฺติ. ยถา จ กจวเรหิ ปฏิจฺฉนฺโน อาวาโฏ อกฺกนฺโต ปาททุกฺขํ ชเนติ, เอวเมตาปิ วิสฺสาเสน อุปเสวิยมานา. ปาตาลมิวาติ ยถา มหาสมุทฺเท ปาตาลํ ทุปฺปูรํ, เอวเมตาปิ เมถุเนน วิชายเนน อลงฺกาเรนาติ ตีหิ ทุปฺปูรา. เตเนวาห – ‘‘ติณฺณํ, ภิกฺขเว, ธมฺมานํ อติตฺโต มาตุคาโม’’ติอาทิ.

รกฺขสีวิยาติ ยถา รกฺขสี นาม มํสคิทฺธตาย ธเนน น สกฺกา โตเสตุํ, พหุมฺปิ ธนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา มํสเมว ปตฺเถติ, เอวเมตาปิ เมถุนคิทฺธตาย พหุนาปิ ธเนน น ตุสฺสนฺติ, ธนํ อคเณตฺวา เมถุนเมว ปตฺเถนฺติ. ยโมวาติ ยถา ยโม เอกนฺตหโร น กิฺจิ ปริหรติ, เอวเมตาปิ ชาติสมฺปนฺนาทีสุ น กฺจิ ปริหรนฺติ, สพฺพํ กิเลสวเสน สีลาทิวินาสํ ปาเปตฺวา ทุติยจิตฺตวาเร นิรยํ อุปเนนฺติ. สิขีริวาติ ยถา สิขี สุจิมฺปิ อสุจิมฺปิ สพฺพํ ภกฺขยติ, ตเถตาปิ หีนุตฺตเม สพฺเพ เสวนฺติ. นทีอุปมายมฺปิ เอเสว นโย. เยนกา มํจราติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ, ยตฺถ เอตาสํ กาโม โหติ, ตตฺเถว ธาวนฺติ. เนรูติ หิมวติ เอโก สุวณฺณปพฺพโต, ตํ อุปคตา กากาปิ สุวณฺณวณฺณาว โหนฺติ. ยถา โส, เอวํ เอตาปิ นิพฺพิเสสกรา อตฺตานํ อุปคตํ เอกสทิสํ กตฺวา ปสฺสนฺติ.

วิสรุกฺโขติ อมฺพสทิโส กึปกฺกรุกฺโข. โส นิจฺจเมว ผลติ, วณฺณาทิสมฺปนฺโน จ โหติ, เตน นํ นิราสงฺกา ปริภุฺชิตฺวา มรนฺติ, เอวเมว ตาปิ รูปาทิวเสน นิจฺจผลิตา รมณียา วิย ขายนฺติ. เสวิยมานา ปน ปมาทํ อุปฺปาเทตฺวา อปาเยสุ ปาเตนฺติ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อายตึ โทสํ นฺาย, โย กาเม ปฏิเสวติ;

วิปากนฺเต หนนฺติ นํ, กึปกฺกมิว ภกฺขิต’’นฺติ. (ชา. ๑.๑.๘๕);

ยถา วา วิสรุกฺโข นิจฺจผลิโต สทา อนตฺถาวโห โหติ, เอวเมตาปิ สีลาทิวินาสนวเสน. ยถา วิสรุกฺขสฺส มูลมฺปิ ตโจปิ ปตฺตมฺปิ ปุปฺผมฺปิ ผลมฺปิ วิสเมวาติ นิจฺจผโล, ตเถว ตาสํ รูปมฺปิ…เป… โผฏฺพฺพมฺปิ วิสเมวาติ วิสรุกฺโข วิย นิจฺจผลิตาโยติ.

‘‘ปนุตฺตเรตฺถา’’ติ คาถาพนฺเธน ตมตฺถํ ปากฏํ กาตุํ เอวมาห. ตตฺถ รตนนฺตกริตฺถิโยติ สามิเกหิ ทุกฺขสมฺภตานํ รตนานํ อนฺตรายกรา อิตฺถิโย เอตานิ ปเรสํ ทตฺวา อนาจารํ จรนฺติ.

อิโต ปรํ นานปฺปกาเรน อตฺตโน ธมฺมกถาวิลาสํ ทสฺเสนฺโต อาห –

‘‘จตฺตาริมานิ, สมฺม ปุณฺณมุข, ยานิ วตฺถูนิ กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺติ , ตานิ ปรกุเล น วาเสตพฺพานิ, โคณํ เธนุํ ยานํ ภริยา. จตฺตาริ เอตานิ ปณฺฑิโต ธนานิ ฆรา น วิปฺปวาสเย. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๖.

‘โคณํ เธนุฺจ ยานฺจ, ภริยํ าติกุเล น วาสเย;

ภฺชนฺติ รถํ อยานกา, อติวาเหน หนนฺติ ปุงฺควํ;

โทเหน หนนฺติ วจฺฉกํ, ภริยา าติกุเล ปทุสฺสตี’’’ติ.

‘‘ฉ อิมานิ, สมฺม ปุณฺณมุข, ยานิ วตฺถูนิ กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺติ –

๒๙๗.

‘อคุณํ ธนุ าติกุเล จ ภริยา, ปารํ นาวา อกฺขภคฺคฺจ ยานํ;

ทูเร มิตฺโต ปาปสหายโก จ, กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺตี’’’ติ.

‘‘อฏฺหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข าเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติ – ทลิทฺทตา, อาตุรตา, ชิณฺณตา, สุราโสณฺฑตา, มุทฺธตา, ปมตฺตตา, สพฺพกิจฺเจสุ อนุวตฺตนตา, สพฺพธนอนุปฺปทาเนน. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, อฏฺหิ าเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๘.

‘‘‘ทลิทฺทํ อาตุรฺจาปิ, ชิณฺณกํ สุรโสณฺฑกํ;

ปมตฺตํ มุทฺธปตฺตฺจ, สพฺพกิจฺเจสุ หาปนํ;

สพฺพกามปฺปทาเนน, อวชานาติ สามิก’’’นฺติ.

‘‘นวหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข าเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรติ – อารามคมนสีลา จ โหติ, อุยฺยานคมนสีลา จ โหติ, นทีติตฺถคมนสีลา จ โหติ, าติกุลคมนสีลา จ โหติ, ปรกุลคมนสีลา จ โหติ, อาทาสทุสฺสมณฺฑนานุโยคมนุยุตฺตสีลา จ โหติ, มชฺชปายินี จ โหติ, นิลฺโลกนสีลา จ โหติ, สทฺวารฏฺายินี จ โหติ. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, นวหิ าเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๒๙๙.

‘อารามสีลา จ อุยฺยานํ, นที าติ ปรกุลํ;

อาทาสทุสฺสมณฺฑนมนุยุตฺตา, ยา จิตฺถี มชฺชปายินี.

๓๐๐.

‘‘‘ยา จ นิลฺโลกนสีลา, ยา จ สทฺวารายินี;

นวเหเตหิ าเนหิ, ปโทสมาหรนฺติ อิตฺถิโย’’’ติ.

‘‘จตฺตาลีสาย ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, าเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติ – วิชมฺภติ, วินมติ, วิลสติ, วิลชฺชติ, นเขน นขํ ฆฏฺเฏติ, ปาเทน ปาทํ อกฺกมติ, กฏฺเน ปถวึ วิลิขติ, ทารกํ อุลฺลงฺฆติ อุลฺลงฺฆาเปติ , กีฬติ กีฬาเปติ, จุมฺพติ จุมฺพาเปติ, ภุฺชติ ภุฺชาเปติ, ททาติ, ยาจติ, กตมนุกโรติ, อุจฺจํ ภาสติ, นีจํ ภาสติ, อวิจฺจํ ภาสติ, วิวิจฺจํ ภาสติ, นจฺเจน คีเตน วาทิเตน โรทเนน วิลสิเตน วิภูสิเตน ชคฺฆติ, เปกฺขติ, กฏึ จาเลติ, คุยฺหภณฺฑกํ สฺจาเลติ, อูรุํ วิวรติ, อูรุํ ปิทหติ, ถนํ ทสฺเสติ, กจฺฉํ ทสฺเสติ, นาภึ ทสฺเสติ, อกฺขึ นิขนติ, ภมุกํ อุกฺขิปติ, โอฏฺํ อุปลิขติ, ชิวฺหํ นิลฺลาเลติ, ทุสฺสํ มุฺจติ, ทุสฺสํ ปฏิพนฺธติ, สิรสํ มุฺจติ, สิรสํ พนฺธติ. อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, จตฺตาลีสาย าเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติ.

‘‘ปฺจวีสาย ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, าเนหิ อิตฺถี ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวติ – สามิกสฺส ปวาสํ วณฺเณติ, ปวุฏฺํ น สรติ, อาคตํ นาภินนฺทติ, อวณฺณํ ตสฺส ภณติ, วณฺณํ ตสฺส น ภณติ, อนตฺถํ ตสฺส จรติ, อตฺถํ ตสฺส น จรติ, อกิจฺจํ ตสฺส กโรติ, กิจฺจํ ตสฺส น กโรติ, ปริทหิตฺวา สยติ, ปรมฺมุขี นิปชฺชติ, ปริวตฺตกชาตา โข ปน โหติ กุงฺกุมิยชาตา, ทีฆํ อสฺสสติ, ทุกฺขํ เวทยติ, อุจฺจารปสฺสาวํ อภิณฺหํ คจฺฉติ, วิโลมมาจรติ, ปรปุริสสทฺทํ สุตฺวา กณฺณโสตํ วิวรโมทหติ, นิหตโภคา โข ปน โหติ, ปฏิวิสฺสเกหิ สนฺถวํ กโรติ, นิกฺขนฺตปาทา โข ปน โหติ วิสิขานุจารินี, อติจารินี โข ปน โหติ นิจฺจํ สามิเก อคารวา ปทุฏฺมนสงฺกปฺปา, อภิณฺหํ ทฺวาเร ติฏฺติ, กจฺฉานิ องฺคานิ ถนานิ ทสฺเสติ, ทิโสทิสํ คนฺตฺวา เปกฺขติ. อิเมหิ ขลุ สมฺม ปุณฺณมุข, ปฺจวีสาย าเนหิ อิตฺถี ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวติ. ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –

๓๐๑.

‘ปวาสํ ตสฺส วณฺเณติ, คตํ ตสฺส น โสจติ;

ทิสฺวาน ปติมาคตํ นาภินนฺทติ, ภตฺตารวณฺณํ น กทาจิ ภาสติ;

เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๒.

‘อนตฺถํ ตสฺส จรติ อสฺตา, อตฺถฺจ หาเปติ อกิจฺจการินี;

ปริทหิตฺวา สยติ ปรมฺมุขี, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๓.

‘ปริวตฺตชาตา จ ภวติ กุงฺกุมี, ทีฆฺจ อสฺสสติ ทุกฺขเวทินี;

อุจฺจารปสฺสาวมภิณฺหํ คจฺฉติ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๔.

‘วิโลมมาจรติ อกิจฺจการินี, สทฺทํ นิสาเมติ ปรสฺส ภาสโต;

นิหตโภคา จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๕.

‘กิจฺเฉน ลทฺธํ กสิราภตํ ธนํ, วิตฺตํ วินาเสติ ทุกฺเขน สมฺภตํ;

ปฏิวิสฺสเกหิ จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๖.

‘นิกฺขนฺตปาทา วิสิขานุจารินี, นิจฺจฺจ สามิมฺหิ ปทุฏฺมานสา;

อติจารินี โหติ อเปตคารวา, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๗.

‘อภิกฺขณํ ติฏฺติ ทฺวารมูเล, ถนานิ กจฺฉานิ จ ทสฺสยนฺตี;

ทิโสทิสํ เปกฺขติ ภนฺตจิตฺตา, เอเต ปทุฏฺาย ภวนฺติ ลกฺขณา.

๓๐๘.

‘สพฺพา นที วงฺกคตี, สพฺเพ กฏฺมยา วนา;

สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเก.

๓๐๙.

‘สเจ ลเภถ ขณํ วา รโห วา, นิวาตกํ วาปิ ลเภถ ตาทิสํ;

สพฺพาว อิตฺถี กยิรุํ นุ ปาปํ, อฺํ อลตฺถ ปีสปฺปินาปิ สทฺธึ.

๓๑๐.

‘นรานมารามกราสุ นาริสุ, อเนกจิตฺตาสุ อนิคฺคหาสุ จ;

สพฺพตฺถ นาปีติกราปิ เจ สิยา, น วิสฺสเส ติตฺถสมา หิ นาริโย’’’ติ.

ตตฺถ โคณํ เธนุนฺติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. าติกุเล ปทุสฺสตีติ ตตฺถ สา นิพฺภยา หุตฺวา ตรุณกาลโต ปฏฺาย วิสฺสาสเกหิ ทาสาทีหิปิ สทฺธึ อนาจารํ จรติ, าตกา ตฺวาปิ นิคฺคหํ น กโรนฺติ, อตฺตโน อกิตฺตึ ปริหรมานา อชานนฺตา วิย โหนฺติ. อนตฺถจรานีติ อจริตพฺพานิ อตฺถานิ, อกิจฺจการานีติ อตฺโถ. อคุณนฺติ ชิยารหิตํ. ปาปสหายโกติ ทุมฺมิตฺโต.

ทลิทฺทตาติ ทลิทฺทตาย. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ทลิทฺโท อลงฺการาทีนํ อภาวโต กิเลเสน สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกตีติ ตํ อวชานาติ. คิลาโน วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ สงฺคณฺหิตุํ น สกฺโกติ. ชราชิณฺโณ กายิกวาจสิกขิฑฺฑารติสมตฺโถ น โหติ. สุราโสณฺโฑ ตสฺสา หตฺถปิฬนฺธนาทีนิปิ สุราฆรฺเว ปเวเสติ. มุทฺโธ อนฺธพาโล รติกุสโล น โหติ. ปมตฺโต ทาสิโสณฺโฑ หุตฺวา ฆรทาสีหิ สทฺธึ สํวสติ, ภริยํ ปน อกฺโกสติ ปริภาสติ, เตน นํ อวชานาติ. สพฺพกิจฺเจสุ อนุวตฺตนฺตํ ‘‘อยํ นิตฺเตโช, มเมว อนุวตฺตตี’’ติ ตํ อกฺโกสติ ปริภาสติ. โย ปน สพฺพํ ธนํ อนุปฺปเทติ กุฏุมฺพํ ปฏิจฺฉาเปติ, ตสฺส ภริยา สพฺพํ ธนสารํ หตฺเถ กตฺวา ตํ ทาสํ วิย อวชานาติ, อิจฺฉมานา ‘‘โก ตยา อตฺโถ’’ติ ฆรโตปิ นํ นิกฺกฑฺฒติ. มุทฺธปตฺตนฺติ มุทฺธภาวปฺปตฺตํ.

ปโทสมาหรตีติ สามิเก ปโทสํ อาหรติ ทุสฺสติ, ปาปกมฺมํ กโรตีติ อตฺโถ. อารามคมนสีลาติ สามิกํ อาปุจฺฉา วา อนาปุจฺฉา วา อภิณฺหํ ปุปฺผารามาทีสุ อฺตรํ คนฺตฺวา ตตฺถ อนาจารํ จริตฺวา ‘‘อชฺช มยา อาราเม รุกฺขเทวตาย พลิกมฺมํ กต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา พาลสามิกํ สฺาเปติ. ปณฺฑิโต ปน ‘‘อทฺธา เอสา ตตฺถ อนาจารํ จรตี’’ติ ปุน ตสฺสา คนฺตุํ น เทติ. เอวํ สพฺพปเทสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรกุลนฺติ สนฺทิฏฺสมฺภตฺตาทีนํ เคหํ. ตํ สา ‘‘อสุกกุเล เม วฑฺฒิ ปโยชิตา อตฺถิ, ตาวกาลิกํ ทินฺนกํ อตฺถิ, ตํ สาเธมี’’ติอาทีนิ วตฺวา คจฺฉติ. นิลฺโลกนสีลาติ วาตปานนฺตราทีหิ โอโลกนสีลา. สทฺวารฏฺายินีติ อตฺตโน องฺคปจฺจงฺคานิ ทสฺเสนฺตี สทฺวาเร ติฏฺติ.

อจฺจาจรตีติ อติกฺกมฺม จรติ, สามิกสฺส สนฺติเก ิตาว อฺสฺส นิมิตฺตํ ทสฺเสตีติ อตฺโถ. วิชมฺภตีติ ‘‘อหํ ตํ ทิสฺวา วิชมฺภิสฺสามิ, ตาย สฺาย โอกาสสฺส อตฺถิภาวํ วา นตฺถิภาวํ วา ชาเนยฺยาสี’’ติ ปมเมว กตสงฺเกตา วา หุตฺวา อกตสงฺเกตา วาปิ ‘‘เอวํ เอส มยิ พชฺฌิสฺสตี’’ติ สามิกสฺส ปสฺเส ิตาว วิชมฺภติ วิชมฺภนํ ทสฺเสติ. วินมตีติ กิฺจิเทว ภูมิยํ ปาเตตฺวา ตํ อุกฺขิปนฺตี วิย โอนมิตฺวา ปิฏฺึ ทสฺเสติ. วิลสตีติ คมนาทีหิ วา อิริยาปเถหิ อลงฺกาเรน วา วิลาสํ ทสฺเสติ. วิลชฺชตีติ ลชฺชนฺตี วิย วตฺเถน สรีรํ ฉาเทติ, กวาฏํ วา ภิตฺตึ วา อลฺลียติ. นเขนาติ ปาทนเขน ปาทนขํ, หตฺถนเขน หตฺถนขํ ฆฏฺเฏติ. กฏฺเนาติ ทณฺฑเกน. ทารกนฺติ อตฺตโน วา ปุตฺตํ อฺสฺส วา ปุตฺตํ คเหตฺวา อุกฺขิปติ วา อุกฺขิปาเปติ วา. กีฬตีติ สยํ วา กีฬติ, ทารกํ วา กีฬาเปติ. จุมฺพนาทีสุปิ เอเสว นโย. ททาตีติ ตสฺส กิฺจิเทว ผลํ วา ปุปฺผํ วา เทติ. ยาจตีติ ตเมว ปฏิยาจติ. อนุกโรตีติ ทารเกน กตํ กตํ อนุกโรติ. อุจฺจนฺติ มหาสทฺทวเสน วา โถมนวเสน วา อุจฺจํ. นีจนฺติ มนฺทสทฺทวเสน วา อมนาปวจเนน วา ปริภววจเนน วา นีจํ. อวิจฺจนฺติ พหุชนมชฺเฌ อปฺปฏิจฺฉนฺนํ. วิวิจฺจนฺติ รโห ปฏิจฺฉนฺนํ. นจฺเจนาติ เอเตหิ นจฺจาทีหิ นิมิตฺตํ กโรติ. ตตฺถ โรทิเตน นิมิตฺตกรเณน รตฺตึ เทเว วสฺสนฺเต วาตปาเนน หตฺถึ อาโรเปตฺวา เสฏฺิปุตฺเตน นีตาย ปุโรหิตพฺราหฺมณิยา วตฺถุ กเถตพฺพํ. ชคฺฆตีติ มหาหสิตํ หสติ, เอวมฺปิ นิมิตฺตํ กโรติ . กจฺฉนฺติ อุปกจฺฉกํ. อุปลิขตีติ ทนฺเตหิ อุปลิขติ. สิรสนฺติ เกสวฏฺฏึ. เอวํ เกสานํ โมจนพนฺธเนหิปิ ปรปุริสานํ นิมิตฺตํ กโรติ, นิยาเมตฺวา วา อนิยาเมตฺวา วา โกจิเทว สารชฺชิสฺสตีติปิ กโรติเยว.

ปทุฏฺา เวทิตพฺพา ภวตีติ อยํ มยิ ปทุฏฺา กุทฺธา, กุชฺฌิตฺวา จ ปน มิจฺฉาจารํ จรตีติ ปณฺฑิเตน เวทิตพฺพา ภวติ. ปวาสนฺติ ‘‘อสุกคาเม ปยุตฺตํ ธนํ นสฺสติ, คจฺฉ ตํ สาเธหิ, โวหารํ กโรหี’’ติอาทีนิ วตฺวา ตสฺมึ คเต อนาจารํ จริตุกามา ปวาสํ วณฺเณติ. อนตฺถนฺติ อวฑฺฒึ. อกิจฺจนฺติ อกตฺตพฺพยุตฺตกํ. ปริทหิตฺวาติ คาฬฺหํ นิวาเสตฺวา. ปริวตฺตกชาตาติ อิโต จิโต จ ปริวตฺตมานา. กุงฺกุมิยชาตาติ โกลาหลชาตา ปาทมูเล นิปนฺนา ปริจาริกา อุฏฺาเปติ, ทีปํ ชาลาเปติ, นานปฺปการํ โกลาหลํ กโรติ, ตสฺส กิเลสรตึ นาเสติ. ทุกฺขํ เวทยตีติ สีสํ เม รุชฺชตีติอาทีนิ วทติ. วิโลมมาจรตีติ อาหารํ สีตลํ อิจฺฉนฺตสฺส อุณฺหํ เทตีติอาทีนํ วเสน ปจฺจนีกวุตฺติ โหติ. นิหตโภคาติ สามิเกน ทุกฺขสมฺภตานํ โภคานํ สุราโลลตาทีหิ วินาสิกา. สนฺถวนฺติ กิเลสวเสน สนฺถวํ กโรติ. นิกฺขนฺตปาทาติ ชารสฺส อุปธารณตฺถาย นิกฺขนฺตปาทา. สามิเกติ ปติมฺหิ อคารเวน จ ปทุฏฺมานสาย จ อติจารินี โหติ.

สพฺพิตฺถิโยติ เปตฺวา วิปสฺสนาย ตนุกตกิเลสา เสสา สพฺพา อิตฺถิโย ปาปํ กเรยฺยุํ. ลภมาเนติ ลพฺภมาเน, สํวิชฺชมาเนติ อตฺโถ. นิวาตเกติ รโหมนฺตนเก ปริเภทเก. ขณํ วา รโหวาติ ปาปกรณตฺถาย โอกาสํ วา ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ วา. กยิรุํ นูติ เอตฺถ นู-ติ นิปาตมตฺตํ. อลตฺถาติ อลทฺธา. อยเมว วา ปาโ, อฺํ สมฺปนฺนปุริสํ อลภิตฺวา ปีสปฺปินาปิ ตโต ปฏิกฺกูลตเรนาปิ ปาปํ กเรยฺยุํ. อารามกราสูติ อภิรติการิกาสุ. อนิคฺคหาสูติ นิคฺคเหน วิเนตุํ อสกฺกุเณยฺยาสุ. ติตฺถสมาติ ยถา ติตฺถํ อุตฺตมาธเมสุ น กฺจิ นฺหายนฺตํ วาเรติ, ตถา เอตาปิ รโห วา ขเณ วา นิวาตเก วา สติ น กฺจิ ปฏิกฺขิปนฺติ.

ตถา หิ อตีเต พาราณสิยํ กณฺฑรี นาม ราชา อโหสิ อุตฺตมรูปธโร. ตสฺส เทวสิกํ อมจฺจา คนฺธกรณฺฑกสหสฺสํ อาหรนฺติ. เตนสฺส นิเวสเน ปริภณฺฑํ กตฺวา คนฺธกรณฺฑเก ผาเลตฺวา คนฺธทารูนิ กตฺวา อาหารํ ปจนฺติ. ภริยาปิสฺส อภิรูปา อโหสิ นาเมน กินฺนรา นาม. ปุโรหิโตปิสฺส สมวโย ปฺจาลจณฺโฑ นาม พุทฺธิสมฺปนฺโน อโหสิ. รฺโ ปน ปาสาทํ นิสฺสาย อนฺโตปากาเร ชมฺพุรุกฺโข นิพฺพตฺติ, ตสฺส สาขา ปาการมตฺถเก โอลมฺพติ. ตสฺส ฉายาย เชคุจฺโฉ ทุสฺสณฺาโน ปีสปฺปี วสติ. อเถกทิวสํ กินฺนรา เทวี วาตปาเนน โอโลเกนฺตี ตํ ทิตฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา รตฺตึ ราชานํ รติยา สงฺคณฺหิตฺวา ตสฺมึ นิทฺทํ โอกฺกนฺเต สณิกํ อุฏฺายาสนา นานคฺครสโภชนํ สุวณฺณสรเก ปกฺขิปิตฺวา อุจฺฉงฺเค กตฺวา สาฏกรชฺชุยา วาตปาเนน โอตริตฺวา ชมฺพุํ อารุยฺห สาขาย โอรุยฺห ปีสปฺปึ โภเชตฺวา ปาปํ กตฺวา อาคตมคฺเคเนว ปาสาทํ อารุยฺห คนฺเธหิ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. เอเตนุปาเยน นิพทฺธํ เตน สทฺธึ ปาปํ กโรติ. ราชา ปน น ชานาติ.

โส เอกทิวสํ นครํ ปทกฺขิณํ กตฺวา นิเวสนํ ปเวสนฺโต ชมฺพุฉายาย สยิตํ ปรมการุฺปฺปตฺตํ ปีสปฺปึ ทิสฺวา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘ปสฺเสตํ มนุสฺสเปต’’นฺติ. ‘‘อาม, ปสฺสามิ เทวา’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, สมฺม, เอวรูปํ ปฏิกฺกูลํ กาจิ อิตฺถี ฉนฺทราควเสน อุปคจฺเฉยฺยา’’ติ. ตํ กถํ สุตฺวา ปีสปฺปี มานํ ชเนตฺวา ‘‘อยํ ราชา กึ กเถติ, อตฺตโน เทวิยา มม สนฺติกํ อาคมนํ น ชานาติ มฺเ’’ติ ชมฺพุรุกฺขสฺส อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘สุณ สามิ, ชมฺพุรุกฺเข นิพฺพตฺตเทวเต, เปตฺวา ตํ อฺโ เอตํ การณํ น ชานาตี’’ติ อาห. ปุโรหิโต ตสฺส กิริยํ ทิสฺวา จินฺเตสิ – ‘‘อทฺธา รฺโ อคฺคมเหสี ชมฺพุรุกฺเขน คนฺตฺวา อิมินา สทฺธึ ปาปํ กโรตี’’ติ. โส ราชานํ ปุจฺฉิ – ‘‘มหาราช, เทวิยา เต รตฺติภาเค สรีรสมฺผสฺโส กีทิโส โหตี’’ติ? ‘‘สมฺม, อฺํ น ปสฺสามิ, มชฺฌิมยาเม ปนสฺสา สรีรํ สีตลํ โหตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, เทว, ติฏฺตุ อฺา อิตฺถี, อคฺคมเหสี เต กินฺนราเทวี อิมินา สทฺธึ ปาปํ กโรตี’’ติ. ‘‘สมฺม, กึ วเทสิ, เอวรูปา ปรมวิลาสสมฺปนฺนา กึ อิมินา ปรมเชคุจฺเฉน สทฺธึ อภิรมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เตน หิ นํ, เทว, ปริคฺคณฺหาหี’’ติ.

โส ‘‘สาธู’’ติ รตฺตึ ภุตฺตสายมาโส ตาย สทฺธึ นิปฺปชฺชิตฺวา ‘‘ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ ปกติยา นิทฺทุปคมนเวลาย นิทฺทุปคโต วิย อโหสิ. สาปิ อุฏฺาย ตเถว อกาสิ. ราชา ตสฺสา อนุปทฺเว คนฺตฺวา ชมฺพุฉายํ นิสฺสาย อฏฺาสิ. ปีสปฺปี เทวิยา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ตฺวํ อชฺช อติจิรายิตฺวา อาคตา’’ติ หตฺเถน กณฺณสงฺขลิกํ ปหริ. อถ นํ ‘‘มา มํ กุชฺฌิ, สามิ, รฺโ นิทฺทุปคมนํ โอโลเกสิ’’นฺติ วตฺวา ตสฺส เคเห ปาทปริจาริกา วิย อโหสิ. เตน ปนสฺสา ปหาเรน สีหมุขกุณฺฑลํ กณฺณโต คฬิตฺวา รฺโ ปาทมูเล ปติ. ราชา ‘‘วฏฺฏิสฺสติ เอตฺตก’’นฺติ ตํ คเหตฺวา คโต. สาปิ เตน สทฺธึ อติจริตฺวา ปุริมนิยาเมเนว คนฺตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิตุํ อารภิ. ราชา ปฏิกฺขิปิตฺวา ปุนทิวเส ‘‘กินฺนราเทวี มยา ทินฺนํ สพฺพาลงฺการํ อลงฺกริตฺวา เอตู’’ติ อาณาเปสิ. สา ‘‘สีหมุขกุณฺฑลํ เม สุวณฺณการสฺส สนฺติเก’’ติ วตฺวา นาคมิ, ปุน เปสิเต จ ปน เอกกุณฺฑลาว อาคมาสิ . ราชา ปุจฺฉิ – ‘‘กหํ เต กุณฺฑล’’นฺติ? ‘‘สุวณฺณการสฺส สนฺติเก’’ติ . สุวณฺณการํ ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘กึการณา อิมิสฺสา กุณฺฑลํ น เทสี’’ติ อาห. ‘‘นาหํ คณฺหามิ เทวา’’ติ. ราชา ตสฺสา กุชฺฌิตฺวา ‘‘ปาเป จณฺฑาลิ มาทิเสน เต สุวณฺณกาเรน ภวิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา ตํ กุณฺฑลํ ตสฺสา ปุรโถ ขิปิตฺวา ปุโรหิตํ อาห – ‘‘สมฺม, สจฺจํ ตยา วุตฺตํ, คจฺฉ สีสมสฺสา เฉทาเปหี’’ติ. โส ตํ ราชเคเหเยว เอกสฺมึ ปเทเส เปตฺวา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา – ‘‘เทว, มา กินฺนราเทวิยา กุชฺฌิตฺถ, สพฺพา อิตฺถิโย เอวรูปาเยว. สเจปิ อิตฺถีนํ ทุสฺสีลภาวํ าตุกาโมสิ, ทสฺเสสฺสามิ เต เอตาสํ ปาปกฺเจว พหุมายาภาวฺจ, เอหิ อฺาตกเวเสน ชนปทํ จรามา’’ติ อาห.

ราชา ‘‘สาธู’’ติ มาตรํ รชฺชํ ปฏิจฺฉาเปตฺวา เตน สทฺธึ จาริกํ ปกฺกามิ. เตสํ โยชนํ มคฺคํ คนฺตฺวา มหามคฺเค นิสินฺนานํเยว เอโก กุฏุมฺพิโก ปุตฺตสฺสตฺถาย มงฺคลํ กตฺวา เอกํ กุมาริกํ ปฏิจฺฉนฺนยาเน นิสีทาเปตฺวา มหนฺเตน ปริวาเรน คจฺฉติ. ตํ ทิสฺวา ปุโรหิโต ราชานํ อาห – ‘‘สเจ อิจฺฉสิ, อิมํ กุมาริกํ ตยา สทฺธึ ปาปํ กาเรตุํ สกฺกา เทวา’’ติ. ‘‘กึ กเถสิ, มหาปริวารา เอสา, น สกฺกา สมฺมา’’ติ? ปุโรหิโต ‘‘เตน หิ ปสฺส, เทวา’’ติ ปุรโต คนฺตฺวา มคฺคโต อวิทูเร สาณิยา ปริกฺขิปิตฺวา ราชานํ อนฺโตสาณิยํ กตฺวา สยํ มคฺคปสฺเส โรทนฺโต นิสีทิ. อถ นํ โส กุฏุมฺพิโก ทิสฺวา ‘‘ตาต, กสฺมา โรทสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘ภริยา เม ครุภารา, ตํ กุลฆรํ เนตุํ มคฺคปฏิปนฺโนสฺมิ, ตสฺสา อนฺตรามคฺเคเยว คพฺโภ จลิ, เอสา อนฺโตสาณิยํ กิลมติ, กาจิสฺสา อิตฺถี สนฺติเก นตฺถิ, มยาปิ ตตฺถ คนฺตุํ น สกฺกา, น ชานามิ ‘กึ ภวิสฺสตี’ติ, เอกํ อิตฺถึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘มา โรทิ, พหู เม อิตฺถิโย, เอกา คมิสฺสตี’’ติ. ‘‘เตน หิ อยเมว กุมาริกา คจฺฉตุ, เอติสฺสาปิ มงฺคลํ ภวิสฺสตี’’ติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘สจฺจํ วทติ, สุณิสายปิ เม มงฺคลเมว, อิมินา หิ นิมิตฺเตน สา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิสฺสตี’’ติ ตเมว เปเสสิ. สา ตตฺถ ปวิสิตฺวา ราชานํ ทิสฺวาว ปฏิพทฺธจิตฺตา หุตฺวา ปาปมกาสิ. ราชาปิสฺสา องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ. อถ นํ กตกิจฺจํ นิกฺขมิตฺวา อาคตํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘กึ วิชาตา’’ติ? ‘‘สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺต’’นฺติ. กุฏุมฺพิโก ตํ อาทาย ปายาสิ . ปุโรหิโตปิ รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘ทิฏฺา เต, เทว, กุมาริกาปิ เอวํ ปาปา, กิมงฺคํ ปน อฺา, อปิ ปน เต กิฺจิ ทินฺน’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘อาม, องฺคุลิมุทฺทิกา ทินฺนา’’ติ. ‘‘นาสฺสา ตํ ทสฺสามี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา ยานกํ คณฺหิตฺวา ‘‘กิเมต’’นฺติ วุตฺเต ‘‘อยํ เม พฺราหฺมณิยา อุสฺสีสเก ปิตํ มุทฺทิกํ คเหตฺวา อาคตา, เทหิ, อมฺม, มุทฺทิก’’นฺติ อาห. สา ตํ ททมานา พฺราหฺมณํ หตฺเถ นเขน วิชฺฌิตฺวา ‘‘คณฺห โจรา’’ติ อทาสิ.

เอวํ พฺราหฺมโณ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ อฺาปิ พหู อติจารินิโย รฺโ ทสฺเสตฺวา ‘‘อิธ ตาว เอตฺตกํ โหตุ, อฺตฺถ คมิสฺสาม, เทวา’’ติ อาห. ราชา ‘‘สกลชมฺพุทีเป จริเตปิ สพฺพา อิตฺถิโย เอวรูปาว ภวิสฺสนฺติ, กึ โน เอตาหิ, นิวตฺตามา’’ติ พาราณสิเมว ปจฺจาคนฺตฺวา – ‘‘มหาราช, อิตฺถิโย นาม เอวํ ปาปธมฺมา, ปกติ เอสา เอตาสํ, ขมถ, เทว, กินฺนราเทวิยา’’ติ ปุโรหิเตน ยาจิโต ขมิตฺวา ราชนิเวสนโต นํ นิกฺกฑฺฒาเปสิ, านโต ปน ตํ อปเนตฺวา อฺํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. ตฺจ ปีสปฺปึ นิกฺกฑฺฒาเปตฺวา ชมฺพุสาขํ เฉทาเปสิ. ตทา กุณาโล ปฺจาลจณฺโฑ อโหสิ. อิติ อตฺตนา ทิฏฺการณเมว อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๑.

‘‘ยํ เว ทิสฺวา กณฺฑรีกินฺนรานํ, สพฺพิตฺถิโย น รมนฺติ อคาเร;

ตํ ตาทิสํ มจฺจํ จชิตฺวา ภริยา, อฺํ ทิสฺวา ปุริสํ ปีสปฺปิ’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – ยํ เว กณฺฑริสฺส รฺโ กินฺนราย เทวิยา จาติ อิเมสํ กณฺฑริกินฺนรานํ วิราคการณํ อโหสิ, ตํ ทิสฺวา ชานิตพฺพํ – สพฺพิตฺถิโย อตฺตโน สามิกานํ น รมนฺติ อคาเร . ตถา หิ อฺํ ปีสปฺปึ ปุริสํ ทิสฺวา ตํ ราชานํ ตาทิสํ รติกุสลํ มจฺจํ จชิตฺวา ภริยา เตน มนุสฺสเปเตน สทฺธึ ปาปมกาสีติ.

อปโรปิ อตีเต พาราณสิยํ พโก นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา พาราณสิยา ปาจีนทฺวารวาสิโน เอกสฺส ทลิทฺทสฺส ปฺจปาปี นาม ธีตา อโหสิ. สา กิร ปุพฺเพปิ เอกา ทลิทฺทธีตา มตฺติกํ มทฺทิตฺวา เคเห ภิตฺตึ วิลิมฺปติ. อเถโก ปจฺเจกพุทฺโธ อตฺตโน ปพฺภารปริภณฺฑกรณตฺถํ ‘‘กหํ มตฺติกํ ลภิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘พาราณสิยํ ลทฺธุํ สกฺกา’’ติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ปตฺตหตฺโถ นครํ ปวิสิตฺวา ตสฺสา อวิทูเร อฏฺาสิ. สา กุชฺฌิตฺวา อุลฺโลเกนฺตี ปทุฏฺเน มนสา ‘‘มตฺติกมฺปิ ภิกฺขตี’’ติ อโวจ. ปจฺเจกพุทฺโธ นิจฺจโลว อโหสิ. อถ สา ปจฺเจกพุทฺธํ นิจฺจลิตํ ทิสฺวา ปุน จิตฺตํ ปสาเทตฺวา, ‘‘สมณ, มตฺติกมฺปิ น ลภสี’’ติ วตฺวา มหนฺตํ มตฺติกาปิณฺฑํ อาหริตฺวา ปตฺเต เปสิ. โส ตาย มตฺติกาย ปพฺภาเร ปริภณฺฑมกาสิ. สา นจิรสฺเสว ตโต จวิตฺวา ตสฺมึเยว นคเร พหิทฺวารคาเม ทุคฺคติตฺถิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ คณฺหิ. สา ทสมาสจฺจเยน มาตุ กุจฺฉิโต นิกฺขมิ. ตสฺสา มตฺติกาปิณฺฑผเลน สรีรํ ผสฺสสมฺปนฺนํ อโหสิ, กุชฺฌิตฺวา อุลฺโลกิตตฺตา ปน หตฺถปาทมุขอกฺขินาสานิ ปาปานิ วิรูปานิ อเหสุํ. เตน ตํ ‘‘ปฺจปาปี’’ตฺเวว สฺชานึสุ.

อเถกทิวสํ พาราณสิราชา รตฺตึ อฺาตกเวเสน นครํ ปริคฺคณฺหนฺโต ตํ ปเทสํ คโต. สาปิ คามทาริกาหิ สทฺธึ กีฬนฺตี อชานิตฺวาว ราชานํ หตฺเถ คณฺหิ. โส ตสฺสา หตฺถสมฺผสฺเสน สกภาเวน สณฺาตุํ นาสกฺขิ, ทิพฺพสมฺผสฺเสน ผุฏฺโ วิย อโหสิ. โส ผสฺสราครตฺโต ตถาวิรูปมฺปิ ตํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘กสฺส ธีตาสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ทฺวารวาสิโน’’ติ วุตฺเต อสฺสามิกภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อหํ เต สามิโก ภวิสฺสามิ, คจฺฉ มาตาปิตโร อนุชานาเปหี’’ติ อาห. สา มาตาปิตโร อุปคนฺตฺวา ‘‘เอโก, อมฺม, ปุริโส มํ อิจฺฉตี’’ติ วตฺวา ‘‘โสปิ ทุคฺคโต ภวิสฺสติ, สเจ ตาทิสมฺปิ อิจฺฉติ, สาธู’’ติ วุตฺเต คนฺตฺวา มาตาปิตูหิ อนุฺาตภาวํ อาโรเจสิ. โส ตสฺมึเยว เคเห ตาย สทฺธึ วสิตฺวา ปาโตว ราชนิเวสนํ ปาวิสิ. ตโต ปฏฺาเยว อฺาตกเวเสน นิพทฺธํ ตตฺถ คจฺฉติ, อฺํ อิตฺถึ โอโลเกตุมฺปิ น อิจฺฉติ.

อเถกทิวสํ ตสฺสา ปิตุ โลหิตปกฺขนฺทิกา อุปฺปชฺชิ. อสมฺภินฺนขีรสปฺปิมธุสกฺขรยุตฺตปายาโสว เอตสฺส เภสชฺชํ, ตํ เต ทลิทฺทตาย อุปฺปาเทตุํ น สกฺโกนฺติ . ตโต ปฺจปาปิมาตา ธีตรํ อาห – ‘‘กึ, อมฺม, ตว สามิโก ปายาสํ อุปฺปาเทตุํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ‘‘อมฺม, มม สามิเกน อมฺเหหิปิ ทุคฺคตตเรน ภวิตพฺพํ, เอวํ สนฺเตปิ ปุจฺฉิสฺสามิ นํ, มา จินฺตยี’’ติ วตฺวา ตสฺสาคมนเวลายํ ทุมฺมนา หุตฺวา นิสีทิ. อถ นํ ราชา อาคนฺตฺวา ‘‘กึ ทุมฺมนาสี’’ติ ปุจฺฉิ. สา ตมตฺถํ อาโรเจสิ. ตํ สุตฺวา ราชา ‘‘ภทฺเท อิทํ อติรสเภสชฺชํ, กุโต ลภิสฺสามี’’ติ วตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘น สกฺกา มยา นิจฺจกาลํ เอวํ จริตุํ, อนฺตรามคฺเค ปริสฺสโยปิ ทฏฺพฺโพ, สเจ โข ปน เอตํ อนฺเตปุรํ เนสฺสามิ, เอติสฺสา ผสฺสสมฺปทํ อชานนฺตา ‘อมฺหากํ ราชา ยกฺขินึ คเหตฺวา อาคโต’ติ เกฬึ กริสฺสนฺติ, สกลนครวาสิโน เอติสฺสา สมฺผสฺสํ ชานาเปตฺวา ครหํ โมเจสฺสามี’’ติ. อถ นํ ราชา – ‘‘ภทฺเท, มา จินฺตยิ, อาหริสฺสามิ เต ปิตุ ปายาส’’นฺติ วตฺวา ตาย สทฺธึ อภิรมิตฺวา ราชนิเวสนํ คนฺตฺวา ปุนทิวเส ตาทิสํ ปายาสํ ปจาเปตฺวา ปณฺณานิ อาหราเปตฺวา ทฺเว ปุเฏ กตฺวา เอกสฺมึ ปายาสํ ปกฺขิปิตฺวา เอกสฺมึ จูฬามณึ เปตฺวา พนฺธิตฺวา รตฺติภาเค คนฺตฺวา, ‘‘ภทฺเท, มยํ ทลิทฺทา, กิจฺเฉน สมฺปาทิตํ, ตว ปิตรํ ‘อชฺช อิมมฺหา ปุฏา ปายาสํ ภุฺช, สฺเว อิมมฺหา’ติ วเทยฺยาสี’’ติ อาห. สา ตถา อกาสิ. อถสฺสา ปิตา โอชสมฺปนฺนตฺตา ปายาสสฺส โถกเมว ภุฺชิตฺวา สุหิโต ชาโต. เสสํ มาตุ ทตฺวา สยมฺปิ ภุฺชิ. ตโยปิ สุหิตา อเหสุํ. จูฬามณิปุฏํ ปน ปุนทิวสตฺถาย เปสุํ.

ราชา นิเวสนํ คนฺตฺวา มุขํ โธวิตฺวาว ‘‘จูฬามณึ เม อาหรถา’’ติ วตฺวา ‘‘น ปสฺสาม, เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘สกลนครํ วิจินถา’’ติ อาห. เต วิจินิตฺวาปิ น ปสฺสึสุ. เตน หิ พหินคเร ทลิทฺทเคเหสุ ภตฺตปณฺณปุเฏ อุปาทาย วิจินถาติ. วิจินนฺตา ตสฺมึ ฆเฏ จูฬามณึ ทิสฺวา ตสฺสา มาตาปิตโร ‘‘โจรา’’ติ พนฺธิตฺวา นยึสุ. อถสฺสา ปิตา, ‘‘สามิ, น มยํ โจรา, อฺเนายํ มณิ อาภโต’’ติ วตฺวา ‘‘เกนา’’ติ วุตฺเต ‘‘ชามาตรา เม’’ติ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘กหํ โส’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘ธีตา เม ชานาตี’’ติ อาห. ตโต ธีตาย สทฺธึ กเถสิ – ‘‘อมฺม, สามิกํ เต ชานาสี’’ติ? ‘‘น ชานามี’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺหากํ ชีวิตํ นตฺถี’’ติ. ‘‘ตาต, โส อนฺธกาเร อาคนฺตฺวา อนฺธกาเร เอว ยาติ, เตนสฺส รูปํ น ชานามิ, หตฺถสมฺผสฺเสน ปน นํ ชานิตุํ สกฺโกมี’’ติ. โส ราชปุริสานํ อาโรเจสิ. เตปิ รฺโ อาโรเจสุํ. ราชา อชานนฺโต วิย หุตฺวา ‘‘เตน หิ ตํ อิตฺถึ ราชงฺคเณ อนฺโตสาณิยํ เปตฺวา สาณิยา หตฺถปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กตฺวา นครวาสิโน สนฺนิปาเตตฺวา หตฺถสมฺผสฺเสน โจรํ คณฺหถา’’ติ อาห. ราชปุริสา ตถา กาตุํ ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา รูปํ ทิสฺวาว วิปฺปฏิสาริโน หุตฺวา – ‘‘ธี, ธี ปิสาจี’’ติ ชิคุจฺฉิตฺวา ผุสิตุํ น อุสฺสหึสุ, อาเนตฺวา ปน นํ ราชงฺคเณ อนฺโตสาณิยํ เปตฺวา สกลนครวาสิโน สนฺนิปาเตสุํ. สา อาคตาคตสฺส ฉิทฺเทน ปสาริตหตฺถํ คเหตฺวาว ‘‘โน เอโส’’ติ วทติ. ปุริสา ตสฺสา ทิพฺพผสฺสสทิเส ผสฺเส พชฺฌิตฺวา อปคนฺตุํ น สกฺขึสุ, ‘‘สจายํ ทณฺฑารหา, ทณฺฑํ ทตฺวาปิ ทาสกมฺมการภาวํ อุปคนฺตฺวาปิ เอตํ ฆเร กริสฺสามา’’ติ จินฺตยึสุ. อถ เน ราชปุริสา ทณฺเฑหิ โกฏฺเฏตฺวา ปลาเปสุํ. อุปราชานํ อาทึ กตฺวา สพฺเพ อุมฺมตฺตกา วิย อเหสุํ.

อถ ราชา – ‘‘กจฺจิ อหํ ภเวยฺย’’นฺติ หตฺถํ ปสาเรสิ. ตํ หตฺเถ คเหตฺวาว ‘‘โจโร เม คหิโต’’ติ มหาสทฺทํ กริ. ราชา เตปิ ปุจฺฉิ – ‘‘ตุมฺเห เอตาย หตฺเถ คหิตา กึ จินฺตยิตฺถา’’ติ. เต ยถาภูตํ อาโรเจสุํ. อถ เน ราชา อาห – ‘‘อหํ เอตํ อตฺตโน เคหํ อาเนตุํ เอวํ กาเรสึ ‘เอติสฺสา ผสฺสํ อชานนฺตา มํ ปริภเวยฺยุ’นฺติ จินฺเตตฺวา, ตสฺมา มยา สพฺเพ ตุมฺเห ชานาปิตา, วทถ, โภ ทานิ, สา กสฺส เคเห ภวิตุํ ยุตฺตา’’ติ? ‘‘ตุมฺหากํ, เทวา’’ติ. อถ นํ อภิสิฺจิตฺวา อคฺคมเหสึ อกาสิ. มาตาปิตูนมฺปิสฺสา อิสฺสริยํ ทาเปสิ. ตโต ปฏฺาย จ ปน ตาย สมฺมตฺโต เนว วินิจฺฉยํ ปฏฺเปสิ, น อฺํ อิตฺถึ โอโลเกสิ. ตา ตสฺสา อนฺตรํ ปริเยสึสุ. สา เอกทิวสํ ทฺวินฺนํ ราชูนํ อคฺคมเหสิภาวสฺส สุปิเน นิมิตฺตํ ทิสฺวา รฺโ อาโรเจสิ. ราชา สุปินปาเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอวรูเป สุปิเน ทิฏฺเ กึ โหตี’’ติ ปุจฺฉิ. เต อิตราสํ อิตฺถีนํ สนฺติกา ลฺชํ คเหตฺวา – ‘‘มหาราช, เทวิยา สพฺพเสตสฺส หตฺถิโน ขนฺเธ นิสินฺนภาโว ตุมฺหากํ มรณสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ, หตฺถิขนฺธคตาย ปน จนฺทปรามสนํ ตุมฺหากํ ปจฺจามิตฺตราชานยนสฺส ปุพฺพนิมิตฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อิทานิ กึ กาตพฺพ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เทว อิมํ มาเรตุํ น สกฺกา, นาวาย ปน นํ เปตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. ราชา อาหารวตฺถาลงฺกาเรหิ สทฺธึ รตฺติภาเค นํ นาวาย เปตฺวา นทิยํ วิสฺสชฺเชสิ.

สา นทิยา วุยฺหมานา เหฏฺานทิยา นาวาย อุทกํ กีฬนฺตสฺส พาวริกรฺโ อภิมุขฏฺานํ ปตฺตา. ตสฺส เสนาปติ นาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ นาวา มยฺห’’นฺติ อาห. ราชา ‘‘นาวาย ภณฺฑํ มยฺห’’นฺติ วตฺวา อาคตาย นาวาย ตํ ทิสฺวา ‘‘กา นาม ตฺวํ ปิสาจีสทิสา’’ติ ปุจฺฉิ. สา สิตํ กตฺวา พกสฺส รฺโ อคฺคมเหสิภาวํ กเถตฺวา สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ ตสฺส กเถสิ. สา ปน ปฺจปาปีติ สกลชมฺพุทีเป ปากฏา. อถ นํ ราชา หตฺเถ คเหตฺวา อุกฺขิปิ, สห คหเณเนว ผสฺสราครตฺโต อฺาสุ อิตฺถีสุ อิตฺถิสฺํ อกตฺวา ตํ อคฺคมเหสิฏฺาเน เปสิ. สา ตสฺส ปาณสมา อโหสิ. พโก ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘นาหํ ตสฺส อคฺคมเหสึ กาตุํ ทสฺสามี’’ติ เสนํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตสฺส ปฏิติตฺเถ นิเวสนํ กตฺวา ปณฺณํ เปเสสิ – ‘‘ภริยํ วา เม เทตุ ยุทฺธํ วา’’ติ. โส ‘‘ยุทฺธํ ทสฺสามิ, น ภริย’’นฺติ วตฺวา ยุทฺธสชฺโช อโหสิ. อุภินฺนํ อมจฺจา ‘‘มาตุคามํ นิสฺสาย มรณกิจฺจํ นตฺถิ, ปุริมสามิกตฺตา เอสา พกสฺส ปาปุณาติ, นาวาย ลทฺธตฺตา พาวริกสฺส, ตสฺมา เอเกกสฺส เคเห สตฺต สตฺต ทิวสานิ โหตู’’ติ มนฺเตตฺวา ทฺเวปิ ราชาโน สฺาเปสุํ. เต อุโภปิ อตฺตมนา หุตฺวา ติตฺถปฏิติตฺเถ นครานิ มาเปตฺวา วสึสุ. สา ทฺวินฺนมฺปิ เตสํ อคฺคมเหสิตฺตํ กาเรสิ. ทฺเวปิ ตสฺสา สมฺมตฺตา อเหสุํ. สา ปน เอกสฺส ฆเร สตฺตาหํ วสิตฺวา นาวาย อิตรสฺส ฆรํ คจฺฉนฺตี นาวํ ปาเชตฺวา เนนฺเตน เอเกน มหลฺลกขุชฺชเกวฏฺเฏน สทฺธึ นทีมชฺเฌ ปาปํ กโรติ. ตทา กุณาโล สกุณราชา พโก อโหสิ, ตสฺมา อิทํ อตฺตนา ทิฏฺการณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๒.

‘‘พกสฺส จ พาวริกสฺส จ รฺโ, อจฺจนฺตกามานุคตสฺส ภริยา;

อวาจรี ปฏฺวสานุคสฺส, กํ วาปิ อิตฺถี นาติจเร ตทฺ’’นฺติ.

ตตฺถ อจฺจนฺตกามานุคตสฺสาติ อจฺจนฺตํ กามํ อนุคตสฺส. อวาจรีติ อนาจารํ จริ. ปฏฺวสานุคสฺสาติ ปฏฺสฺส อตฺตโน วสานุคตสฺส, อตฺตโน เปสนการสฺส สนฺติเกติ อตฺโถ. กรณตฺเถ วา สามิวจนํ , เตน สทฺธึ ปาปมกาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตทฺนฺติ กตรํ ตํ อฺํ ปุริสํ นาติจเรยฺยาติ อตฺโถ.

อปราปิ อตีเต พฺรหฺมทตฺตสฺส ภริยา ปิงฺคิยานี นาม อคฺคมเหสี สีหปฺชรํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตี มงฺคลอสฺสโคปกํ ทิสฺวา รฺโ นิทฺทุปคมนกาเล วาตปาเนน โอรุยฺห เตน สทฺธึ อติจริตฺวา ปุน ปาสาทํ อารุยฺห คนฺเธหิ สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา รฺา สทฺธึ นิปชฺชิ. อเถกทิวสํ ราชา ‘‘กึ นุ โข เทวิยา อฑฺฒรตฺตสมเย นิจฺจํ สรีรํ สีตํ โหติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ เอกทิวสํ นิทฺทุปคโต วิย หุตฺวา ตํ อุฏฺาย คจฺฉนฺตึ อนุคนฺตฺวา อสฺสพนฺเธน สทฺธึ อติจรนฺตึ ทิสฺวา นิวตฺติตฺวา สยนํ อภิรุหิ. สาปิ อติจริตฺวา อาคนฺตฺวา จูฬสยนเก นิปชฺชิ. ปุนทิวเส ราชา อมจฺจคณมชฺเฌเยว ตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ตํ กิจฺจํ อาวิกตฺวา ‘‘สพฺพาว อิตฺถิโย ปาปธมฺมา’’ติ ตสฺสา วธพนฺธเฉชฺชเภชฺชารหํ โทสํ ขมิตฺวา านา จาเวตฺวา อฺํ อคฺคมเหสึ อกาสิ. ตทา กุณาโล ราชา พฺรหฺมทตฺโต อโหสิ, เตน ตํ อตฺตนา ทิฏฺํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต คาถมาห –

๓๑๓.

‘‘ปิงฺคิยานี สพฺพโลกิสฺสรสฺส, รฺโ ปิยา พฺรหฺมทตฺตสฺส ภริยา;

อวาจรี ปฏฺวสานุคสฺส, ตํ วาปิ สา นาชฺฌคา กามกามินี’’ติ.

ตตฺถ ตํ วาติ สา เอวํ อติจรนฺตี ตํ วา อสฺสพนฺธํ ตํ วา อคฺคมเหสิฏฺานนฺติ อุภยมฺปิ นาชฺฌคา, อุภโต ภฏฺา อโหสิ. กามกามินีติ กาเม ปตฺถยมานา.

เอวํ ปาปธมฺมา อิตฺถิโยติ อตีตวตฺถูหิ อิตฺถีนํ โทสํ กเถตฺวา อปเรนปิ ปริยาเยน ตาสํ โทสเมว กเถนฺโต อาห –

๓๑๔.

‘‘ลุทฺธานํ ลหุจิตฺตานํ, อกตฺูน ทุพฺภินํ;

นาเทวสตฺโต ปุริโส, ถีนํ สทฺธาตุมรหติ.

๓๑๕.

‘‘น ตา ปชานนฺติ กตํ น กิจฺจํ, น มาตรํ ปิตรํ ภาตรํ วา;

อนริยา สมติกฺกนฺตธมฺมา, สสฺเสว จิตฺตสฺส วสํ วชนฺติ.

๓๑๖.

‘‘จิรานุวุฏฺมฺปิ ปิยํ มนาปํ, อนุกมฺปกํ ปาณสมมฺปิ ภตฺตุํ;

อาวาสุ กิจฺเจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสสามิ.

๓๑๗.

‘‘ถีนฺหิ จิตฺตํ ยถา วานรสฺส, กนฺนปฺปกนฺนํ ยถา รุกฺขฉายา;

จลาจลํ หทยมิตฺถิยานํ, จกฺกสฺส เนมิ วิย ปริวตฺตติ.

๓๑๘.

‘‘ยทา ตา ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;

สณฺหาหิ วาจาหิ นยนฺติ เมนํ, กมฺโพชกา ชลเชเนว อสฺสํ.

๓๑๙.

‘‘ยทา น ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;

สมนฺตโต นํ ปริวชฺชยนฺติ, ติณฺโณ นทีปารคโตว กุลฺลํ.

๓๒๐.

‘‘สิเลสูปมา สิขิริว สพฺพภกฺขา, ติกฺขมายา นทีริว สีฆโสตา;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกุลํ ปรฺจ.

๓๒๑.

‘‘น ตา เอกสฺส น ทฺวินฺนํ, อาปโณว ปสาริโต;

โย ตา มยฺหนฺติ มฺเยฺย, วาตํ ชาเลน พาธเย.

๓๒๒.

‘‘ยถา นที จ ปนฺโถ จ, ปานาคารํ สภา ปปา;

เอวํ โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชติ.

๓๒๓.

‘‘ฆตาสนสมา เอตา, กณฺหสปฺปสิรูปมา;

คาโว พหิ ติณสฺเสว, โอมสนฺติ วรํ วรํ.

๓๒๔.

‘‘ฆตาสนํ กุฺชรํ กณฺหสปฺปํ, มุทฺธาภิสิตฺตํ ปมทา จ สพฺพา;

เอเต นโร นิจฺจยโต ภเชถ, เตสํ หเว ทุพฺพิทุ สพฺพภาโว.

๓๒๕.

‘‘นจฺจนฺตวณฺณา น พหูน กนฺตา, น ทกฺขิณา ปมทา เสวิตพฺพา;

น ปรสฺส ภริยา น ธนสฺส เหตุ, เอติตฺถิโย ปฺจ น เสวิตพฺพา’’ติ.

ตตฺถ ลุทฺธานนฺติ ลุพฺภานํ. กณเวรชาตเก (ชา. ๑.๔.๖๙-๗๒) วิย พทฺธโจเรปิ สารชฺชนํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ลหุจิตฺตานนฺติ มุหุตฺตเมว ปริวตฺตนจิตฺตานํ. จูฬธนุคฺคหชาตเกน (ชา. ๑.๕.๑๒๘ อาทโย) เอตํ ทีเปตพฺพํ. อกตฺุตา ปน เอตาสํ เอกกนิปาเต ตกฺการิยชาตเกน (ชา. ๑.๑๓.๑๐๔ อาทโย) ทีเปตพฺพา. นาเทวสตฺโตติ น อเทวสตฺโต เทเวน อนาสตฺโต อยกฺขคหิตโก อภูตวิฏฺโ ปุริโส ถีนํ สีลวนฺตตํ สทฺธาตุํ นารหติ, ภูตวิฏฺโ ปน สทฺทเหยฺย. กตนฺติ อตฺตโน กตํ อุปการํ. กิจฺจนฺติ อตฺตนา กตฺตพฺพํ กิจฺจํ. น มาตรนฺติ สพฺเพปิ าตเก ฉฑฺเฑตฺวา ยสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺตา โหนฺติ, ตฺเว อนุพนฺธนโต เอเต มาตาทโย น ชานนฺติ นาม มหาปนฺถกมาตา วิย. อนริยาติ นิลฺลชฺชา. สสฺเสวาติ สกสฺส. อาวาสูติ อาปทาสุ. กิจฺเจสูติ เตสุ เตสุ กรณีเยสุ.

กนฺนปฺปกนฺนนฺติ โอติณฺโณติณฺณํ. ยถา หิ วิสเม ปเทเส รุกฺขฉายา นินฺนมฺปิโอโรหติ, ถลมฺปิ อภิรุหติ, ตถา เอตาสมฺปิ จิตฺตํ น กฺจิ อุตฺตมาธมํ วชฺเชติ. จลาจลนฺติ เอกสฺมึเยว อปติฏฺิตํ. เนมิ วิยาติ สกฏสฺส คจฺฉโต จกฺกเนมิ วิย. อาเทยฺยรูปนฺติ คเหตพฺพชาติกํ. วิตฺตนฺติ ธนํ. นยนฺตีติ อตฺตโน วสํ เนนฺติ. ชลเชนาติ ชลชาตเสวาเลน. กมฺโพชรฏฺวาสิโน กิร ยทา อฏวิโต อสฺเส คณฺหิตุกามา โหนฺติ, ตทา เอกสฺมึ าเน วตึ ปริกฺขิปิตฺวา ทฺวารํ โยเชตฺวา อสฺสานํ อุทกปานติตฺเถ เสวาลํ มธุนา มกฺเขตฺวา เสวาลสมฺพนฺธานิ ตีเร ติณานิ อาทึ กตฺวา ยาว ปริกฺเขปทฺวารา มกฺเขนฺติ, อสฺสา ปานียํ ปิวิตฺวา รสคิทฺเธน มธุนา มกฺขิตานิ ตานิ ติณานิ ขาทนฺตา อนุกฺกเมน ตํ านํ ปวิสนฺติ. อิติ ยถา เต ชลเชน ปโลเภตฺวา อสฺเส วสํ เนนฺติ, ตถา เอตาปิ ธนํ ทิสฺวา ตสฺส คหณตฺถาย สณฺหาหิ วาจาหิปิ ปุริสํ วสํ เนนฺตีติ อตฺโถ. กุลฺลนฺติ ตรณตฺถาย คหิตํ ยํ กิฺจิ.

สิเลสูปมาติ ปุริสานํ จิตฺตพนฺธเนน สิเลสสทิสา. ติกฺขมายาติ ติขิณมายา สีฆมายา. นทีริวาติ ยถา ปพฺพเตยฺยา นที สีฆโสตา, เอวํ สีฆมายาติ อตฺโถ. อาปโณวาติ ยถา จ ปสาริตาปโณ เยสํ มูลํ อตฺถิ, เตสฺเว อุปกาโร, ตเถว ตาปิ. โย ตาติ โย ปุริโส ตา อิตฺถิโย. พาธเยติ โส วาตํ ชาเลน พาเธยฺย. เวลา ตาสํ น วิชฺชตีติ ยถา เอเตสํ นทีอาทีนํ ‘‘อสุกเวลายเมว เอตฺถ คนฺตพฺพ’’นฺติ เวลา นตฺถิ, รตฺติมฺปิ ทิวาปิ อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ อุปคนฺตพฺพาเนว, อสุเกเนวาติปิ มริยาทา นตฺถิ, อตฺถิเกน อุปคนฺตพฺพาเนว, ตถา ตาสมฺปีติ อตฺโถ.

ฆตาสนสมา เอตาติ ยถา อคฺคิ อินฺธเนน น ตปฺปติ, เอวเมตาปิ กิเลสรติยา. กณฺหสปฺปสิรูปมาติ โกธนตาย อุปนาหิตาย โฆรวิสตาย ทุชิวฺหตาย มิตฺตทุพฺภิตายาติ ปฺจหิ การเณหิ กณฺหสปฺปสิรสทิสา. ตตฺถ พหุลราคตาย โฆรวิสตา, ปิสุณตาย ทุชิวฺหตา, อติจาริตาย มิตฺตทุพฺภิตา เวทิตพฺพา. คาโว พหิ ติณสฺเสวาติ ยถา คาโว ขาทิตฏฺานํ ฉฑฺเฑตฺวา พหิ มนาปมนาปสฺส ติณสฺส วรํ วรํ โอมสนฺติ ขาทนฺติ, เอวเมตาปิ นิทฺธนํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ สธนเมว ภชนฺตีติ อตฺโถ. มุทฺธาภิสิตฺตนฺติ ราชานํ. ปมทา จ สพฺพาติ สพฺพา จ อิตฺถิโย. เอเตติ เอเต ปฺจ ชเน. นิจฺจยโตติ นิจฺจสฺโต, อุปฏฺิตสฺสติ อปฺปมตฺโตว หุตฺวาติ อตฺโถ. ทุพฺพิทูติ ทุชฺชาโน. สพฺพภาโวติ อชฺฌาสโย. จิรปริจิณฺโณปิ หิ อคฺคิ ทหติ, จิรวิสฺสาสิโกปิ กุฺชโร ฆาเตติ, จิรปริจิโตปิ สปฺโป ฑํสติ, จิรวิสฺสาสิโกปิ ราชา อนตฺถกโร โหติ, เอวํ จิราจิณฺณาปิ อิตฺถิโย วิการํ ทสฺเสนฺตีติ.

นจฺจนฺตวณฺณาติ อภิรูปวตี. น พหูน กนฺตาติ อฑฺฒกาสิคณิกา วิย พหูนํ ปิยา มนาปา. น ทกฺขิณาติ นจฺจคีตกุสลา. ตถารูปา หิ พหุปตฺถิตา พหุมิตฺตา โหนฺติ, ตสฺมา น เสวิตพฺพา. น ธนสฺส เหตูติ ยา ธนเหตุเยว ภชติ, สา อปริคฺคหาปิ น เสวิตพฺพา. สา หิ ธนํ อลภมานา กุชฺฌตีติ.

เอวํ วุตฺเต มหาชโน มหาสตฺตสฺส ‘‘อโห สุกถิต’’นฺติ สาธุการมทาสิ. โสปิ เอตฺตเกหิ การเณหิ อิตฺถีนํ อคุณํ กเถตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตํ สุตฺวา อานนฺโท คิชฺฌราชา, ‘‘สมฺม กุณาล, อหมฺปิ อตฺตโน าณพเลน อิตฺถีนํ อคุณํ กเถสฺสามี’’ติ วตฺวา อคุณกถํ อารภิ. ตํ ทสฺเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, อานนฺโท คิชฺฌราชา กุณาลสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถา อภาสิ –

๓๒๖.

‘‘ปุณฺณมฺปิ เจมํ ปถวึ ธเนน, ทชฺชิตฺถิยา ปุริโส สมฺมตาย;

ลทฺธา ขณํ อติมฺเยฺย ตมฺปิ, ตาสํ วสํ อสตีนํ น คจฺเฉ.

๓๒๗.

‘‘อุฏฺาหกํ เจปิ อลีนวุตฺตึ, โกมารภตฺตารํ ปิยํ มนาปํ;

อาวาสุ กิจฺเจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสสามิ.

๓๒๘.

‘‘น วิสฺสเส ‘อิจฺฉติ ม’นฺติ โปโส, น วิสฺสเส ‘โรทติ เม สกาเส’;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรฺจ.

๓๒๙.

‘‘น วิสฺสเส สาขปุราณสนฺถตํ, น วิสฺสเส มิตฺตปุราณโจรํ;

น วิสฺสเส ราชานํ ‘สขา มม’นฺติ, น วิสฺสเส อิตฺถิ ทสนฺน มาตรํ.

๓๓๐.

‘‘น วิสฺสเส รามกราสุ นาริสุ, อจฺจนฺตสีลาสุ อสฺตาสุ;

อจฺจนฺตเปมานุคตสฺส ภริยา, น วิสฺสเส ติตฺถสมา หิ นาริโย.

๓๓๑.

‘‘หเนยฺยุํ ฉินฺเทยฺยุํ เฉทาเปยฺยุมฺปิ, กณฺเปิ เฉตฺวา รุธิรํ ปิเวยฺยุํ;

มา ทีนกามาสุ อสฺตาสุ, ภาวํ กเร คงฺคติตฺถูปมาสุ.

๓๓๒.

‘‘มุสา ตาสํ ยถา สจฺจํ, สจฺจํ ตาสํ ยถา มุสา;

คาโว พหิ ติณสฺเสว, โอมสนฺติ วรํ วรํ.

๓๓๓.

‘‘คเตเนตา ปโลเภนฺติ, เปกฺขิเตน มฺหิเตน จ;

อโถปิ ทุนฺนิวตฺเถน, มฺชุนา ภณิเตน จ.

๓๓๔.

‘‘โจริโย กถินา เหตา, วาฬา จ ลปสกฺขรา;

น ตา กิฺจิ น ชานนฺติ, ยํ มนุสฺเสสุ วฺจนํ.

๓๓๕.

‘‘อสา โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชติ;

สารตฺตา จ ปคพฺภา จ, สิขี สพฺพฆโส ยถา.

๓๓๖.

‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;

เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรฺจ.

๓๓๗.

‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;

ธนตฺตา ปฏิวลฺลนฺติ, ลตาว ทุมนิสฺสิตา.

๓๓๘.

‘‘หตฺถิพนฺธํ อสฺสพนฺธํ, โคปุริสฺจ มณฺฑลํ;

ฉวฑาหกํ ปุปฺผฉฑฺฑกํ, สธนมนุปตนฺติ นาริโย.

๓๓๙.

‘‘กุลปุตฺตมฺปิ ชหนฺติ อกิฺจนํ, ฉวกสมสทิสมฺปิ;

อนุคจฺฉนฺติ อนุปตนฺติ, ธนเหตุ หิ นาริโย’’ติ.

ตตฺถ อาทิมชฺฌกถาปริโยสานนฺติ กถาย อาทิมชฺฌปริโยสานํ. ลทฺธา ขณนฺติ โอกาสํ ลภิตฺวา. อิจฺฉติ มนฺติ มํ เอสา อิจฺฉตีติ ปุริโส อิตฺถึ น วิสฺสเสยฺย. สาขปุราณสนฺถตนฺติ หิยฺโย วา ปเร วา สนฺถตํ ปุราณสาขาสนฺถตํ น วิสฺสเส, อปปฺโผเฏตฺวา อปจฺจเวกฺขิตฺวา น ปริภุฺเชยฺย. ตตฺร หิ ทีฆชาติโก วา ปวิสิตฺวา ติฏฺเยฺเย, ปจฺจามิตฺโต วา สตฺถํ นิกฺขิเปยฺย. มิตฺตปุราณโจรนฺติ ปนฺถทูหนฏฺาเน ิตํ โจรํ ‘‘ปุราณมิตฺโต เม’’ติ น วิสฺสเสยฺย. โจรา หิ เย สฺชานนฺติ เตเยว มาเรนฺติ. สขา มมนฺติ โส หิ ขิปฺปเมว กุชฺฌติ, ตสฺมา ราชานํ ‘‘สขา เม’’ติ น วิสฺสเส. ทสนฺนมาตรนฺติ ‘‘อยํ มหลฺลิกา อิทานิ มํ น อติจริสฺสติ, อตฺตานํ รกฺขิสฺสตี’’ติ น วิสฺสเสตพฺพา. รามกราสูติ พาลานํ รติกราสุ. อจฺจนฺตสีลาสูติ อติกฺกนฺตสีลาสุ. อจฺจนฺตเปมานุคตสฺสาติ สเจปิ อจฺจนฺตํ อนุคตเปมา อสฺส, ตถาปิ ตํ น วิสฺสเส. กึการณา? ติตฺถสมา หิ นาริโยติ สมฺพนฺโธ, ติตฺถํ วิย สพฺพสาธารณาติ อตฺโถ.

หเนยฺยุนฺติ กุทฺธา วา อฺปุริสสารตฺตา วา หุตฺวา สพฺพเมตํ หนนาทึ กเรยฺยุํ. มา ทีนกามาสูติ หีนชฺฌาสยาสุ สํกิลิฏฺอาสยาสุ. ภาวนฺติ เอวรูปาสุ สิเนหํ มา กเร. คงฺคติตฺถูปมาสูติ สพฺพสาธารณฏฺเน คงฺคาติตฺถสทิสาสุ. มุสาติ มุสาวาโท ตาสํ สจฺจสทิโสว. คเตนาติอาทีสุ เปกฺขิเตน ปโลภเน อุมฺมาทนฺตีชาตกํ, (ชา. ๒.๑๘.๕๗ อาทโย) ทุนฺนิวตฺเถน นิฬินิกาชาตกํ, (ชา. ๒.๑๘.๑ อาทโย) มฺชุนา ภณิเตน ‘‘ตุวฏํ โข, อยฺยปุตฺต, อาคจฺเฉยฺยาสี’’ติ นนฺทตฺเถรสฺส วตฺถุ (อุทา. ๒๒) กเถตพฺพํ. โจริโยติ สมฺภตสฺส ธนสฺส วินาสเนน โจริโย. กถินาติ ถทฺธหทยา. วาฬาติ ทุฏฺา อปฺปเกเนว กุชฺฌนสีลา. ลปสกฺขราติ นิรตฺถกลปเนน สกฺขรา วิย มธุรา. อสาติ อสติโย ลามกา. สารตฺตาติ สพฺพทา สารตฺตา. ปคพฺภาติ กายปาคพฺภิยาทีหิ ปคพฺภา. ยถาติ ยถา สิขี สพฺพฆโส, เอวเมตาปิ สพฺพฆสา. ปฏิวลฺลนฺตีติ ปริสฺสชนฺติ อุปคูหนฺติ เวเนฺติ. ลตาวาติ ยถา ลตา รุกฺขนิสฺสิตา รุกฺขํ เวเนฺติ, เอวเมตา ปุริสํ ปริสฺสชนฺติ นาม.

หตฺถิพนฺธนฺติอาทีสุ โคปุริโส วุจฺจติ โคปาลโก. ฉวฑาหกนฺติ ฉวานํ ฑาหกํ, สุสานปาลนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปุปฺผฉฑฺฑกนฺติ วจฺจฏฺานโสธกํ. สธนนฺติ เอเตสุปิ สธนํ อนุคจฺฉนฺติเยว . อกิฺจนนฺติ อธนํ. ฉวกสมสทิสนฺติ สุนขมํสขาทจณฺฑาเลน สมํ สทิสํ, เตน นิพฺพิเสสมฺปิ ปุริสํ คจฺฉนฺติ ภชนฺติ. กสฺมา? ยสฺมา อนุปตนฺติ ธนเหตุ นาริโยติ.

เอวํ อตฺตโน าเณ ตฺวา อานนฺโท คิชฺฌราชา อิตฺถีนํ อคุณํ กเถตฺวา ตุณฺหี อโหสิ. ตสฺส วจนํ สุตฺวา นารโทปิ อตฺตโน าเณ ตฺวา ตาสํ อคุณํ กเถสิ. ตํ ทสฺเสนฺโต สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, นารโท เทวพฺราหฺมโณ อานนฺทสฺส คิชฺฌราชสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถา อภาสิ –

๓๔๐.

‘‘‘จตฺตาโรเม น ปูเรนฺติ, เต เม สุณาถ ภาสโต;

สมุทฺโท พฺราหฺมโณ ราชา, อิตฺถี จาปิ ทิชมฺปติ.

๓๔๑.

‘‘สริตา สาครํ ยนฺติ, ยา กาจิ ปถวิสฺสิตา;

ตา สมุทฺทํ น ปูเรนฺติ, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๒.

‘‘พฺราหฺมโณ จ อธียาน, เวทมกฺขานปฺจมํ;

ภิยฺโยปิ สุตมิจฺเฉยฺย, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๓.

‘‘ราชา จ ปถวึ สพฺพํ, สสมุทฺทํ สปพฺพตํ;

อชฺฌาวสํ วิชินิตฺวา, อนนฺตรตโนจิตํ;

ปารํ สมุทฺทํ ปตฺเถติ อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๔.

‘‘เอกเมกาย อิตฺถิยา, อฏฺฏฺ ปติโน สิยา;

สูรา จ พลวนฺโต จ, สพฺพกามรสาหรา;

กเรยฺย นวเม ฉนฺทํ, อูนตฺตา หิ น ปูรติ.

๓๔๕.

‘‘สพฺพิตฺถิโย สิขีริว สพฺพภกฺขา, สพฺพิตฺถิโย นทีริว สพฺพวาหี;

สพฺพิตฺถิโย กณฺฏกานํว สาขา, สพฺพิตฺถิโย ธนเหตุ วชนฺติ.

๓๔๖.

‘‘วาตฺจ ชาเลน นโร ปรามเส, โอสิฺจเย สาครเมกปาณินา;

สเกน หตฺเถน กเรยฺย โฆสํ, โย สพฺพภาวํ ปมทาสุ โอสฺสเช.

๓๔๗.

‘‘โจรีนํ พหุพุทฺธีนํ, ยาสุ สจฺจํ สุทุลฺลภํ;

ถีนํ ภาโว ทุราชาโน, มจฺฉสฺเสโวทเก คตํ.

๓๔๘.

‘‘อนลา มุทุสมฺภาสา, ทุปฺปูรา ตา นทีสมา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๔๙.

‘‘อาวฏฺฏนี มหามายา, พฺรหฺมจริยวิโกปนา;

สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเย.

๓๕๐.

‘‘ยํ เอตา อุปเสวนฺติ, ฉนฺทสา วา ธเนน วา;

ชาตเวโทว สํานํ, ขิปฺปํ อนุทหนฺติ น’’’นฺติ.

ตตฺถ ทิชมฺปตีติ ทิชเชฏฺกํ กุณาลํ อาลปติ. ‘‘สริตา’’ติอาทิ ปิตมาติกาย ภาชนตฺถํ วุตฺตํ. อูนตฺตาติ อุทกปติฏฺานสฺส มหนฺตตาย อูนา เอว. อธียานาติ สชฺฌายิตฺวา. เวทมกฺขานปฺจมนฺติ อิติหาสปฺจมํ เวทจตุกฺกํ. อูนตฺตาติ โส หิ อชฺฌาสยมหนฺตตาย สิกฺขิตพฺพสฺส น ปูรติ. อนนฺตรตโนจิตนฺติ นานารตเนหิ โอจิตํ ปริปุณฺณํ. อูนตฺตาติ โส หิ ตณฺหามหนฺตตาย น ปูรติ. สิยาติ สิยุํ, อยเมว วา ปาโ. สพฺพกามรสาหราติ สพฺเพสํ กามรสานํ อาหรกา. ‘‘นวเม’’ติ อฏฺหิ อติตฺตภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สา ปน ทสเมปิ วีสติเมปิ ตโต อุตฺตริตเรปิ ฉนฺทํ กโรเตว. อูนตฺตาติ สา หิ กามตณฺหาย มหนฺตตาย น ปูรติ. กณฺฑกานํว สาขาติ สมฺพาธมคฺเค กณฺฏกสาขสทิสา. ยถา หิ สาขา ลคฺคิตฺวา อากฑฺฒติ, เอวํ เอตาปิ รูปาทีหิ กฑฺฒนฺติ. ยถา สาขา หตฺถาทีสุ วิชฺฌิตฺวา ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, เอวํ เอตาปิ ผุฏฺมตฺตา สรีรสมฺผสฺเสน วิชฺฌิตฺวา มหาวินาสํ ปาเปนฺติ. วชนฺตีติ ปรปุริสํ วชนฺติ.

ปรามเสติ คณฺเหยฺย. โอสิฺจเยติ นฺหายิตุํ โอติณฺโณ เอเกน ปาณินา สกลสมุทฺทอุทกํ โอสิฺเจยฺย คเหตฺวา ฉฑฺเฑยฺย. สเกนาติ เอเกน อตฺตโน หตฺเถน ตเมว หตฺถํ หริตฺวา โฆสํ อุปฺปาเทยฺย. สพฺพภาวนฺติ ‘‘ตฺวเมว อิฏฺโ กนฺโต ปิโย มนาโป’’ติ วุจฺจมาโน โย ปุริโส ‘‘เอวเมต’’นฺติ สทฺทหนฺโต สพฺพํ อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปมทาสุ โอสฺสเชยฺย, โส ชาลาทีหิ วาตคฺคหณาทีนิ กเรยฺยาติ อตฺโถ. คตนฺติ คมนํ. อนลาติ ตีหิ ธมฺเมหิ อลนฺติ วจนวิรหิตา. ทุปฺปุรา ตาติ ยถา มหานที อุทเกน, เอวํ กิเลสรติยา ตา ทุปฺปูรา. สีทนฺติ นํ วิทิตฺวานาติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, อิตฺถิโย อลฺลีนา จตูสุ อปาเยสุ สีทนฺตีติ วิทิตฺวา. อาวฏฺฏนีติ ยถา อาวฏฺฏนี มหาชนสฺส หทยํ โมเหตฺวา อตฺตโน วเส วตฺเตติ, เอวเมตาปีติ อตฺโถ. วิโกปนาติ นาสนตฺเถน จ ครหตฺเถน จ พฺรหฺมจริยสฺส โกปิกา. ฉนฺทสา วาติ ปิยสํวาเสน วา. ธเนน วาติ ธนเหตุ วา. สํานนฺติ ยถา ชาตเวโท อตฺตโน านํ ยํ ยํ ปเทสํ อลฺลียติ, ตํ ตํ ทหติ, ตถา เอตาปิ ยํ ยํ ปุริสํ กิเลสวเสน อลฺลียนฺติ, ตํ ตํ อนุทหนฺติ มหาวินาสํ ปาเปนฺติ.

เอวํ นารเทน อิตฺถีนํ อคุเณ ปกาสิเต ปุน มหาสตฺโต วิเสเสตฺวา ตาสํ อคุณํ ปกาเสติ. ตํ ทสฺเสตุํ สตฺถา อาห –

‘‘อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ นารทสฺส เทวพฺราหฺมณสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อชฺฌภาสิ –

๓๕๑.

‘‘‘สลฺลเป นิสิตขคฺคปาณินา, ปณฺฑิโต อปิ ปิสาจโทสินา;

อุคฺคเตชมุรคมฺปิ อาสิเท, เอโก เอกาย ปมทาย นาลเป.

๓๕๒.

‘‘โลกจิตฺตมถนา หิ นาริโย, นจฺจคีตภณิตมฺหิตาวุธา;

พาธยนฺติ อนุปฏฺิตสฺสตึ, ทีเป รกฺขสิคโณว วาณิเช.

๓๕๓.

‘‘นตฺถิ ตาสํ วินโย น สํวโร, มชฺชมํสนิรตา อสฺตา;

ตา คิลนฺติ ปุริสสฺส ปาภตํ, สาคเรว มกรํ ติมิงฺคโล.

๓๕๔.

‘‘ปฺจกามคุณสาตโคจรา, อุทฺธตา อนิยตา อสฺตา;

โอสรนฺติ ปมทา ปมาทินํ, โลณโตยวติยํว อาปกา.

๓๕๕.

‘‘ยํ นรํ อุปลเปนฺติ นาริโย, ฉนฺทสา วา รติยา ธเนน วา;

ชาตเวทสทิสมฺปิ ตาทิสํ, ราคโทสวธิโย ทหนฺติ นํ.

๓๕๖.

‘‘อฑฺฒํ ตฺวา ปุริสํ มหทฺธนํ, โอสรนฺติ สธนํ สหตฺตนา;

รตฺตจิตฺตมติเวยนฺติ นํ, สาล มาลุวลตาว กานเน.

๓๕๗.

‘‘ตา อุเปนฺติ วิวิเธน ฉนฺทสา, จิตฺรพิมฺพมุขิโย อลงฺกตา;

อุหสนฺติ ปหสนฺติ นาริโย, สมฺพโรว สตมายโกวิทา.

๓๕๘.

‘‘ชาตรูปมณิมุตฺตภูสิตา, สกฺกตา ปติกุเลสุ นาริโย;

รกฺขิตา อติจรนฺติ สามิกํ, ทานวํว หทยนฺตรสฺสิตา.

๓๕๙.

‘‘เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ, สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต;

นารินํ วสคโต น ภาสติ, ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมา.

๓๖๐.

‘‘ยํ กเรยฺย กุปิโต ทิโส ทิสํ, ทุฏฺจิตฺโต วสมาคตํ อรึ;

เตน ภิยฺโย พฺยสนํ นิคจฺฉติ, นารินํ วสคโต อเปกฺขวา.

๓๖๑.

‘‘เกสลูนนขฉินฺนตชฺชิตา, ปาทปาณิกสทณฺฑตาฬิตา;

หีนเมวุปคตา หิ นาริโย, ตา รมนฺติ กุณเปว มกฺขิกา.

๓๖๒.

‘‘ตา กุเลสุ วิสิขนฺตเรสุ วา, ราชธานินิคเมสุ วา ปุน;

โอฑฺฑิตํ นมุจิปาสวากรํ, จกฺขุมา ปริวชฺเช สุขตฺถิโก.

๓๖๓.

‘‘โอสฺสชิตฺว กุสลํ ตโปคุณํ, โย อนริยจริตานิ มาจริ;

เทวตาหิ นิรยํ นิมิสฺสติ, เฉทคามิมณิยํว วาณิโช.

๓๖๔.

‘‘โส อิธ ครหิโต ปรตฺถ จ, ทุมฺมตี อุปหโต สกมฺมุนา;

คจฺฉตี อนิยโต คฬาคฬํ, ทุฏฺคทฺรภรโถว อุปฺปเถ.

๓๖๕.

‘‘โส อุเปติ นิรยํ ปตาปนํ, สตฺติสิมฺพลิวนฺจ อายสํ;

อาวสิตฺวา ติรจฺฉานโยนิยํ, เปตราชวิสยํ น มุฺจติ.

๓๖๖.

‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโย จ นนฺทเน, จกฺกวตฺติจริตฺจ มานุเส;

นาสยนฺติ ปมทา ปมาทินํ, ทุคฺคติฺจ ปฏิปาทยนฺติ นํ.

๓๖๗.

‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโย น ทุลฺลภา, จกฺกวตฺติจริตฺจ มานุเส;

โสณฺณพฺยมฺหนิลยา จ อจฺฉรา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา.

๓๖๘.

‘‘กามธาตุสมติกฺกมา คติ, รูปธาตุยา ภาโว น ทุลฺลโภ;

วีตราควิสยูปปตฺติ ยา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา.

๓๖๙.

‘‘สพฺพทุกฺขสมตฺติกฺกมํ สิวํ, อจฺจนฺตมจลิตํ อสงฺขตํ;

นิพฺพุเตหิ สุจิหี น ทุลฺลภํ, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา’’’ติ.

ตตฺถ สลฺลเปติ ‘‘สเจ มยา สทฺธึ สลฺลเปสฺสสิ, สีสํ เต ปาเตสฺสามี’’ติ วตฺวา ขคฺคํ อาทาย ิเตนาปิ, ‘‘สลฺลปิตมตฺเตเยว ตํ ขาทิตฺวา ชีวิตวินาสํ ปาเปสฺสามี’’ติ โทสินา หุตฺวา ิเตนาปิ ปิสาเจน สทฺธึ สลฺลเป. ‘‘อุปคตํ ฑํสิตฺวา นาเสสฺสามี’’ติ ิตํ อุคฺคเตชํ อุรคมฺปิ อาสิเท. เอโก ปน หุตฺวา รโห เอกาย ปมทาย น หิ อาลเป. โลกจิตฺตมถนาติ โลกสฺส จิตฺตฆาติกา. ทีเป รกฺขสิคโณติ ยถา ทีเป รกฺขสิคโณ มนุสฺสเวเสน วาณิเช อุปลาเปตฺวา อตฺตโน วเส คเต กตฺวา ขาทติ, เอวํ อิมาปิ ปฺจหิ กามคุเณหิ อตฺตโน วเส กตฺวา สตฺเต มหาวินาสํ ปาเปนฺตีติ อตฺโถ. วินโยติ อาจาโร. สํวโรติ มริยาโท. ปุริสสฺส ปาภตนฺติ ทุกฺขสมฺภตํ ธนํ คิลนฺติ นาเสนฺติ.

อนิยตาติ อนิยตจิตฺตา. โลณโตยวติยนฺติ โลณโตยวนฺตํ สมุทฺทนฺติ อตฺโถ. อาปกาติ อาปคา, อยเมว วา ปาโ. ยถา สมุทฺทํ นทิโย โอสรนฺติ, เอวํ ปมาทินํ ปมทาติ อตฺโถ. ฉนฺทสาติ เปเมน. รติยาติ ปฺจกามคุณรติยา. ธเนน วาติ ธนเหตุ วา. ชาตเวทสทิสนฺติ คุณสมฺปตฺติยา อคฺคิมิว ชลิตมฺปิ. ราคโทสวธิโยติ กามราคโทเสหิ วธิกา. ราคโทสคติโยติปิ ปาโ. โอสรนฺตีติ ธนคหณตฺถาย มธุรวจเนน ตํ พนฺธนฺติโย อุปคจฺฉนฺติ. สธนนฺติ สธนา. อยเมว วา ปาโ, วตฺถาลงฺการตฺถาย กิฺจิ อตฺตโน ธนํ ทตฺวาปิ โอสรนฺตีติ อตฺโถ. สหตฺตนาติ อตฺตภาเวน สทฺธึ อตฺตภาวมฺปิ ตสฺเสว ปริจฺจชนฺติโย วิย โหนฺติ. อติเวยนฺตีติ ธนคหณตฺถาย อติวิย เวเนฺติ ปีเฬนฺติ.

วิวิเธน ฉนฺทสาติ นานาวิเธน อากาเรน. จิตฺรพิมฺพมุขิโยติ อลงฺการวเสน จิตฺรสรีรา จิตฺรมุขิโย หุตฺวา. อุหสนฺตีติ มหาหสิตํ หสนฺติ. ปหสนฺตีติ มนฺทหสิตํ หสนฺติ. สมฺพโรวาติ มายาการปุริโส วิย อสุรินฺโท วิย จ . ทานวํว หทยนฺตรสฺสิตาติ ยถา ‘‘กุโต นุ อาคจฺฉถ, โภ, ตโย ชนา’’ติ กรณฺฑกชาตเก (ชา. ๑.๙.๘๗ อาทโย) หทยนฺตรนิสฺสิตา อนฺโตอุทรคตาปิ ทานวํ อติจริ, เอวํ อติจรนฺติ. อรกฺขิตา เหตาติ ทีเปติ. น ภาสตีติ น วิโรจติ หริตจโลมสกสฺสปกุสราชาโน วิย. เตนาติ ตมฺหา อมิตฺเตน กตา พฺยสนา อติเรกตรํ พฺยสนนฺติ อตฺโถ. อเปกฺขวาติ สตณฺโห.

เกสลูนนขฉินฺนตชฺชิตาติ อากฑฺฒิตฺวา ลูนเกสา นเขหิ ฉินฺนคตฺตา ตชฺชิตา ปาทาทีหิ จ ตาฬิตาว หุตฺวา. โย กิเลสวเสน เอเตปิ วิปฺปกาเร กโรติ, ตาทิสํ หีนเมว อุปคตา นาริโย รมนฺติ, น เอเต วิปฺปกาเร ปริหรนฺติ, มธุรสมาจาเร กึการณา ตา น รมนฺติ. กุณเปว มกฺขิกาติ ยสฺมา เชคุจฺฉหตฺถิกุณปาทิมฺหิ มกฺขิกา วิย ตา หีเนเยว รมนฺตีติ อตฺโถ. โอฑฺฑิตนฺติ น เอตา อิตฺถิโย นาม, อถ โข อิเมสุ าเนสุ นมุจิโน กิเลสมารสฺส มิคปกฺขิคหณตฺถํ ลุทฺทเกหิ โอฑฺฑิตํ ปาสฺจ วากรฺจาติ มฺมาโน ปฺาจกฺขุมา ปุริโส ทิพฺพมานุสิเกน สุเขน อตฺถิโก ปริวชฺเชยฺย.

โอสฺสชิตฺวาติ เทวมนุสฺเสสุ มหาสมฺปตฺติทายกํ ตโปคุณํ ฉฑฺเฑตฺวา. โยติ โย ปุริโส อนริเยสุ อปริสุทฺเธสุ กามคุเณสุ กามรติจริตานิ อาจรติ. เทวตาหิ นิรยํ นิมิสฺสตีติ โส เทวโลเกน ปริวตฺติตฺวา นิรยํ คณฺหิสฺสติ. เฉทคามิมณิยํว วาณิโชติ ยถา พาลวาณิโช สตสหสฺสคฺฆภณฺฑํ ทตฺวา เฉทคามิมณิกํ คณฺหาติ, ตถารูโป อยํ โหตีติ อตฺโถ. โสติ โส อิตฺถีนํ วสํ คโต. อนิยโตติ เอตฺตกํ นาม กาลํ อปาเยสุ ปจฺจิสฺสตีติ อนิยโต. คฬาคฬนฺติ เทวโลกา วา มนุสฺสโลกา วา คฬิตฺวา อปายเมว คจฺฉตีติ อตฺโถ. ยถา กึ? ทุฏฺคทฺรภรโถว อุปฺปเถติ, ยถา กูฏคทฺรภยุตฺตรโถ มคฺคา โอกฺกมิตฺวา อุปฺปเถเยว คจฺฉติ, ตถา. สตฺติสิมฺพลิวนนฺติ สตฺติสทิเสหิ กณฺฏเกหิ ยุตฺตํ อายสํ สิมฺพลิวนํ. เปตราชวิสยนฺติ เปตวิสยฺจ กาลกฺจิกอสุรวิสยฺจ.

ปมาทินนฺติ ปมตฺตานํ. เต หิ ปมทาสุ ปมตฺตา ตาสํ สมฺปตฺตีนํ มูลภูตํ กุสลํ น กโรนฺติ, อิติ เตสํ ปมทา สพฺพา ตา นาเสนฺติ นาม. ปฏิปาทยนฺตีติ ตถาวิธํ ปุริสํ ตา ปมาทวเสเนว อกุสลํ กาเรตฺวา ทุคฺคตึ ปฏิปาเทนฺติ นาม. โสณฺณพฺยมฺหนิลยาติ สุวณฺณมยวิมานวาสินิโย. ปมทาหนตฺถิกาติ เย ปุริสา ปมทาหิ อนตฺถิกา หุตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรนฺติ. กามธาตุสมติกฺกมาติ กามธาตุสมติกฺกมา ยา คติ. รูปธาตุยา ภาโวติ โย กามธาตุสมติกฺกมคติสงฺขาโต รูปธาตุยา ภาโว, โส เตสํ น ทุลฺลโภ. วีตราควิสยูปปตฺติ ยาติ ยา วีตราควิสเย สุทฺธาวาสโลเก อุปปตฺติ, สาปิ เตสํ น ทุลฺลภาติ อตฺโถ. อจฺจนฺตนฺติ อนฺตาตีตํ อวินาสธมฺมํ. อจลิตนฺติ กิเลเสหิ อกมฺปิตํ. นิพฺพุเตหีติ นิพฺพุตกิเลเสหิ. สุจิหีติ สุจีหิ ปริสุทฺเธหิ เอวรูปํ นิพฺพานํ น ทุลฺลภนฺติ.

เอวํ มหาสตฺโต อมตมหานิพฺพานํ ปาเปตฺวา เทสนํ นิฏฺาเปสิ. หิมวนฺเต กินฺนรมโหรคาทโย อากาเส ิตา เทวตา จ ‘‘อโห พุทฺธลีลาย กถิตา’’ติ สาธุการํ อทํสุ . อานนฺโท คิชฺฌราชา นารโท เทวพฺราหฺมโณ ปุณฺณมุโข จ ผุสฺสโกกิโล อตฺตโน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ยถาานเมว คมึสุ. มหาสตฺโตปิ สกฏฺานเมว คโต. อิตเร ปน อนฺตรนฺตรา คนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติเก โอวาทํ คเหตฺวา ตสฺมึ โอวาเท ตฺวา สคฺคปรายณา อเหสุํ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนนฺโต โอสานคาถา อภาสิ –

๓๗๐.

‘‘กุณาโลหํ ตทา อาสึ, อุทายี ผุสฺสโกกิโล;

อานนฺโท คิชฺฌราชาสิ, สาริปุตฺโต จ นารโท;

ปริสา พุทฺธปริสา, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติ.

เต ปน ภิกฺขู คมนกาเล สตฺถานุภาเวน คนฺตฺวา อาคมนกาเล อตฺตโน อตฺตโนว อานุภาเวน อาคตา. เตสํ สตฺถา มหาวเนเยว กมฺมฏฺานํ กเถสิ. สพฺเพปิ เต ตํ ทิวสเมว อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. มหาเทวตาสมาคโม อโหสิ. อถสฺส ภควา มหาสมยสุตฺตํ (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) กเถสิ.

กุณาลชาตกวณฺณนา จตุตฺถา.

[๕๓๗] ๕. มหาสุตโสมชาตกวณฺณนา

กสฺมา ตุวํ รสก เอทิสานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรนฺโต องฺคุลิมาลตฺเถรทมนํ อารพฺภ กเถสิ. ตสฺส อุปฺปตฺติ จ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ องฺคุลิมาลสุตฺตวณฺณนายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๒.๓๔ อาทโย) วุตฺตนเยน วิตฺถารโต เวทิตพฺพา. โส ปน สจฺจกิริยาย มูฬฺหคพฺภาย อิตฺถิยา โสตฺถิภาวํ กตฺวา ตโต ปฏฺาย สุลภปิณฺโฑ หุตฺวา วิเวกมนุพฺรูหนฺโต อปรภาเค อรหตฺตํ ปตฺวา อภิฺาโตว อสีติยา มหาเถรานํ อพฺภนฺตโร อโหสิ. ตสฺมึ กาเล ธมฺมสภายํ กถํ สมุฏฺาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อโห วต ภควตา ตถารูปํ ลุทฺทํ โลหิตปาณึ มหาโจรํ องฺคุลิมาลํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ทเมตฺวา นิพฺพิเสวนํ กโรนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, อโห พุทฺธา นาม ทุกฺกรการิโน’’ติ. สตฺถา คนฺธกุฏิยํ ิโตว ทิพฺพโสเตน ตํ กถํ สุตฺวา ‘‘อชฺช มม คมนํ พหุปการํ ภวิสฺสติ, มหาธมฺมเทสนา ปวตฺติสฺสตี’’ติ ตฺวา อโนปมาย พุทฺธลีลาย ธมฺมสภํ คนฺตฺวา วรปฺตฺตาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘อนจฺฉริยํ, ภิกฺขเว, อิทาเนว ปรมาภิสมฺโพธึ ปตฺเตน มยา เอตสฺส ทมนํ, สฺวาหํ ปุพฺพจริยํ จรนฺโต ปเทสาเณ ิโตปิ เอตํ ทเมสิ’’นฺติ วตฺวา เตหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริ.

อตีเต กุรุรฏฺเ อินฺทปตฺถนคเร โกรพฺโย นาม ราชา ธมฺเมน รชฺชํ กาเรสิ. ตทา โพธิสตฺโต ตสฺส อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ. ทสมาเส อติกฺกนฺเต สุวณฺณวณฺณํ ปุตฺตํ วิชายิ, สุตวิตฺตตาย ปน นํ ‘‘สุตโสโม’’ติ สฺชานึสุ. ตเมนํ ราชา วยปฺปตฺตํ นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา ทิสาปาโมกฺขสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปุคฺคหณตฺถาย ตกฺกสิลํ เปเสสิ. โส อาจริยภาคํ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตทา พาราณสิยํ กาสิรฺโ ปุตฺโต พฺรหฺมทตฺตกุมาโรปิ ตเถว วตฺวา ปิตรา เปสิโต นครา นิกฺขมิตฺวา ตเมว มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. อถ สุตโสโม มคฺคํ คนฺตฺวา นครทฺวาเร สาลาย ผลเก วิสฺสมตฺถาย นิสีทิ. พฺรหฺมทตฺตกุมาโรปิ คนฺตฺวา เตน สทฺธึ เอกผลเก นิสีทิ. อถ นํ สุตโสโม ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต ‘‘สมฺม, มคฺคกิลนฺโตสิ, กุโต อาคจฺฉสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘พาราณสิโต’’ติ วุตฺเต ‘‘กสฺส ปุตฺโตสี’’ติ วตฺวา ‘‘กาสิรฺโ ปุตฺโตมฺหี’’ติ วุตฺเต ‘‘โก นาโมสี’’ติ วตฺวา ‘‘อหํ พฺรหฺมทตฺตกุมาโร นามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เกน การเณน อิธาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิ. โส ‘‘สิปฺปุคฺคหณตฺถายา’’ติ วตฺวา ‘‘ตฺวมฺปิ มคฺคกิลนฺโตสิ, กุโต อาคจฺฉสี’’ติ เตเนว นเยน อิตรํ ปุจฺฉิ. โสปิ ตสฺส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เต อุโภปิ ‘‘มยํ ขตฺติยา, เอกาจริยสฺเสว สนฺติเก สิปฺปุคฺคหณตฺถาย คจฺฉามา’’ติ อฺมฺํ มิตฺตภาวํ กตฺวา นครํ ปวิสิตฺวา อาจริยกุลํ คนฺตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา อตฺตโน ชาติอาทึ กเถตฺวา สิปฺปุคฺคหณตฺถาย อาคตภาวํ กเถสุํ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. เต อาจริยภาคํ ทตฺวา สิปฺปํ ปฏฺเปสุํ.

น เกวลฺจ เต ทฺเวว, อฺเปิ ตทา ชมฺพุทีเป เอกสตมตฺตา ราชปุตฺตา ตสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ. สุตโสโม เตสํ เชฏฺนฺเตวาสิโก หุตฺวา สิปฺปํ อุปทิสนฺโต นจิรสฺเสว นิปฺผตฺตึ ปาปุณิ. โส อฺสฺส สนฺติกํ อคนฺตฺวา ‘‘สหาโย เม’’ติ พฺรหฺมทตฺตสฺส กุมารสฺเสว สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส ปิฏฺิอาจริโย หุตฺวา สิปฺปํ สิกฺขาเปสิ. อิตเรสมฺปิ อนุกฺกเมน สิปฺปํ นิฏฺิตํ. เต อนุโยคํ ทตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา สุตโสมํ ปริวาเรตฺวา นิกฺขมึสุ. อถ เน สุตโสโม มคฺคนฺตเร ตฺวา อุยฺโยเชนฺโต ‘‘ตุมฺเห อตฺตโน อตฺตโน ปิตูนํ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา รชฺเชสุ ปติฏฺหิสฺสถ, ปติฏฺิตา จ ปน มโมวาทํ กเรยฺยาถา’’ติ อาห. ‘‘กึ , อาจริยา’’ติ? ‘‘ปกฺขทิวเสสุ อุโปสถิกา หุตฺวา มา ฆาตํ กเรยฺยาถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉึสุ. โพธิสตฺโตปิ องฺควิชฺชาปากตฺตา ‘‘อนาคเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทตฺตกุมารํ นิสฺสาย มหาภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตฺวา เต เอวํ โอวทิตฺวา อุยฺโยเชสิ. เต สพฺเพปิ อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ คนฺตฺวา ปิตูนํ สิปฺปํ ทสฺเสตฺวา รชฺเชสุ ปติฏฺาย ปติฏฺิตภาวฺเจว โอวาเท วตฺตนภาวฺจ ชานาเปตุํ ปณฺณากาเรน สทฺธึ ปณฺณานิ ปหิณึสุ. มหาสตฺโต ตํ ปวตฺตึ สุตฺวา ‘‘อปฺปมตฺตาว โหถา’’ติ ปณฺณานิ ปฏิเปเสสิ.

เตสุ พาราณสิราชา วินา มํเสน ภตฺตํ น ภุฺชติ. อุโปสถทิวสตฺถายปิสฺส มํสํ คเหตฺวา เปสิ. อเถกทิวสํ เอวํ ปิตมํสํ ภตฺตการกสฺส ปมาเทน ราชเคเห โกเลยฺยกสุนขา ขาทึสุ. ภตฺตการโก ตํ มํสํ อทิตฺวา กหาปณมุฏฺึ อาทาย จรนฺโตปิ มํสํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สเจ อมํสกภตฺตํ อุปนาเมสฺสามิ, ชีวิตํ เม นตฺถิ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อตฺเถโส อุปาโย’’ติ วิกาเล อามกสุสานํ คนฺตฺวา มุหุตฺตมตสฺส ปุริสสฺส อูรุมํสํ อาหริตฺวา สุปกฺกํ ปจิตฺวา ภตฺตํ อุปนาเมสิ. รฺโ มํสขณฺฑํ ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตเมว สตฺต รสหรณิสหสฺสานิ ผริ, สกลสรีรํ โขเภตฺวา อฏฺาสิ. กึการณา? ปุพฺเพ จสฺส เสวนตาย. โส กิร อตีตานนฺตเร อตฺตภาเว ยกฺโข หุตฺวา พหุํ มนุสฺสมํสํ ขาทิตปุพฺโพ, เตนสฺส ตํ ปิยํ อโหสิ . โส ‘‘สจาหํ ตุณฺหีเยว ภุฺชิสฺสามิ, น เม อยํ อิมํ มํสํ กเถสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สห เขเฬน ภูมิยํ ปาเตสิ. ‘‘นิทฺโทสํ, เทว, ขาทาหี’’ติ วุตฺเต มนุสฺเส ปฏิกฺกมาเปตฺวา ‘‘อหเมตสฺส นิทฺโทสภาวํ ชานามิ, กึ นาเมตํ มํส’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘ปุริมทิวเสสุ ปริโภคมํสเมว, เทวา’’ติ. ‘‘นนุ อฺสฺมึ กาเล อยํ รโส นตฺถี’’ติ? ‘‘อชฺช สุปกฺกํ, เทวา’’ติ. ‘‘นนุ ปุพฺเพปิ เอวเมว ปจสี’’ติ. อถ นํ ตุณฺหีภูตํ ตฺวา ‘‘สภาวํ กเถหิ, โน เจ กเถสิ, ชีวิตํ เต นตฺถี’’ติ อาห. โส อภยํ ยาจิตฺวา ยถาภูตํ กเถสิ. ราชา ‘‘มา สทฺทมกาสิ, ปกติยา ปจนกมํสํ ตฺวํ ขาทิตฺวา มยฺหํ มนุสฺสมํสเมว ปจาหี’’ติ อาห. ‘‘นนุ ทุกฺกรํ, เทวา’’ติ? ‘‘มา ภายิ, น ทุกฺกร’’นฺติ. ‘‘นิพทฺธํ กุโต ลภิสฺสามิ, เทวา’’ติ? ‘‘นนุ พนฺธนาคาเร พหู มนุสฺสา’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา อกาสิ.

อปรภาเค พนฺธนาคาเร มนุสฺเสสุ ขีเณสุ ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามิ, เทวา’’ติ อาห. ‘‘อนฺตรามคฺเค สหสฺสภณฺฑิกํ ขิปิตฺวา โย ตํ คณฺหาติ, ตํ ‘โจโร’ติ คเหตฺวา มาเรหี’’ติ อาห. โส ตถา อกาสิ. อปรภาเค ราชภเยน สหสฺสภณฺฑิกํ โอโลเกนฺตมฺปิ อทิสฺวา ‘‘อิทานิ กึ กริสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘ยทา เภริเวลาย นครํ อากุลํ โหติ, ตทา ตฺวํ ปน เอกสฺมึ ฆรสนฺธิมฺหิ วา วีถิยํ วา จตุกฺเก วา ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา มํสํ คณฺหาหี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ตถา กตฺวา ถูลมํสํ อาทาย คจฺฉติ. เตสุ เตสุ าเนสุ กเฬวรานิ ทิสฺสนฺติ. มม มาตา น ปฺายติ, มม ปิตา น ปฺายติ, มม ภาตา ภคินี จ น ปฺายติ, มนุสฺสานํ ปริเทวนสทฺโท สูยติ. นาครา ภีตตสิตา ‘‘อิเม มนุสฺเส สีโห นุ โข ขาทติ, พฺยคฺโฆ นุ โข ขาทติ, ยกฺโข นุ โข ขาทตี’’ติ โอโลเกนฺตา ปหารมุขํ ทิสฺวา ‘‘เอโก มนุสฺสขาทโก โจโร อิเม ขาทตี’’ติ มฺนฺติ. มหาชนา ราชงฺคเณ สนฺนิปติตฺวา อุปกฺโกสึสุ. ราชา ‘‘กึ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘เทว อิมสฺมึ นคเร มนุสฺสขาทโก โจโร อตฺถิ, ตํ คณฺหาเปถา’’ติ อาหํสุ. ‘‘อหํ กถํ ตํ ชานิสฺสามิ, กึ อหํ นครํ รกฺขนฺโตปิ จรามี’’ติ.

มหาชนา ‘‘ราชา นคเรน อนตฺถิโก, กาฬหตฺถิเสนาปติสฺส อาจิกฺขิสฺสามา’’ติ คนฺตฺวา ตสฺส ตํ กเถตฺวา ‘‘โจรํ ปริเยสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทึสุ. โส ‘‘สาธุ สตฺตาหํ อาคเมถ, ปริเยสิตฺวา โจรํ ทสฺสามี’’ติ มหาชเน อุยฺโยเชตฺวา ปุริเส อาณาเปสิ, ‘‘ตาตา, นคเร กิร มนุสฺสขาทโก โจโร อตฺถิ, ตุมฺเห เตสุ เตสุ าเนสุ นิลียิตฺวา ตํ คณฺหถา’’ติ. เต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตโต ปฏฺาย นครํ ปริคฺคณฺหนฺติ. ภตฺตการโกปิ เอกสฺมึ ฆรสนฺธิมฺหิ สมฺปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา เอกํ อิตฺถึ มาเรตฺวา ฆนฆนมํสํ อาทาย ปจฺฉิยํ ปูเรตุํ อารภิ. อถ นํ เต ปุริสา คเหตฺวา โปเถตฺวา ปจฺฉาพาหํ พนฺธิตฺวา ‘‘คหิโต มนุสฺสขาทโก โจโร’’ติ มหาสทฺทํ กรึสุ. มหาชโน ตํ ปริวาเรสิ. อถ นํ สุฏฺุ พนฺธิตฺวา มํสปจฺฉึ คีวาย พนฺธิตฺวา อาทาย เสนาปติสฺส ทสฺเสสุํ. เสนาปติ ตํ ทิสฺวา ‘‘กึ นุ โข เอส อิมํ มํสํ ขาทติ, อุทาหุ อฺเน มํเสน มิสฺเสตฺวา วิกฺกิณาติ, อุทาหุ อฺสฺส วจเนน มาเรตี’’ติ จินฺเตตฺวา ตมตฺถํ ปุจฺฉนฺโต ปมํ คาถมาห –

๓๗๑.

‘‘กสฺมา ตุวํ รสก เอทิสานิ, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

หนาสิ อิตฺถี ปุริเส จ มูฬฺโห, มํสสฺส เหตุ อทุ ธนสฺส การณา’’ติ.

ตตฺถ รสกาติ ภตฺตการณํ อาลปติ.

อิโต ปรํ อุตฺตานสมฺพนฺธานิ วจนปฏิวจนานิ ปาฬิวเสเนว เวทิตพฺพานิ –

๓๗๒.

‘‘น อตฺตเหตู น ธนสฺส การณา, น ปุตฺตทารสฺส สหายาตินํ;

ภตฺตา จ เม ภควา ภูมิปาโล, โส ขาทติ มํสํ ภทนฺเตทิสํ.

๓๗๓.

‘‘สเจ ตุวํ ภตฺตุรตฺเถ ปยุตฺโต, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

ปาโตว อนฺเตปุรํ ปาปุณิตฺวา, ลเปยฺยาสิ เม ราชิโน สมฺมุเข ตํ.

๓๗๔.

‘‘ตถา กริสฺสามิ อหํ ภทนฺเต, ยถา ตุวํ ภาสสิ กาฬหตฺถิ;

ปาโตว อนฺเตปุรํ ปาปุณิตฺวา, วกฺขามิ เต ราชิโน สมฺมุเข ต’’นฺติ.

ตตฺถ ภควาติ คารวาธิวจนํ. สเจ ตุวนฺติ ‘‘สจฺจํ นุ โข ภณติ, อุทาหุ มรณภเยน มุสา ภณตี’’ติ วีมํสนฺโต เอวมาห. ตตฺถ สุทารุณานีติ มนุสฺสฆาตกมฺมานิ. สมฺมุเข ตนฺติ สมฺมุเข ตฺวา เอวํ วเทยฺยาสีติ. โส สมฺปฏิจฺฉนฺโต คาถมาห.

อถ นํ เสนาปติ คาฬฺหพนฺธนเมว สยาเปตฺวา วิภาตาย รตฺติยา อมจฺเจหิ จ นาคเรหิ จ สทฺธึ มนฺเตตฺวา สพฺเพสุ เอกจฺฉนฺเทสุ ชาเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ อารกฺขํ เปตฺวา นครํ หตฺถคตํ กตฺวา รสกสฺส คีวายํ มํสปจฺฉึ พนฺธิตฺวา อาทาย ราชนิเวสนํ ปายาสิ. สกลนครํ วิรวิ. ราชา หิยฺโย ภุตฺตปาตราโส สายมาสมฺปิ อลภิตฺวา ‘‘รสโก อิทานิ อาคจฺฉิสฺสติ, อิทานิ อาคจฺฉสฺสตี’’ติ นิสินฺโนว ตํ รตฺตึ วีตินาเมตฺวา ‘‘อชฺชปิ รสโก นาคจฺฉติ, นาครานฺจ มหาสทฺโท สูยติ, กึ นู โข เอต’’นฺติ วาตปาเนน โอโลเกนฺโต ตํ ตถา อานียมานํ ทิสฺวา ‘‘ปากฏํ อิทํ การณํ ชาต’’นฺติ จินฺเตตฺวา สตึ อุปฏฺเปตฺวา ปลฺลงฺเกเยว นิสีทิ. กาฬหตฺถิปิ นํ อุปสงฺกมิตฺวา อนุยุฺชิ, โสปิสฺส กเถสิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๓๗๕.

‘‘ตโต รตฺยา วิวสาเน, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

กาโฬ รสกมาทาย, ราชานํ อุปสงฺกมิ;

อุปสงฺกมฺม ราชานํ, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๓๗๖.

‘‘สจฺจํ กิร มหาราช, รสโก เปสิโต ตยา.

หนติ อิตฺถิปุริเส, ตุวํ มํสานิ ขาทสิ.

๓๗๗.

‘‘เอวเมว ตถา กาฬ, รสโก เปสิโต มยา;

มม อตฺถํ กโรนฺตสฺส, กิเมตํ ปริภาสสี’’ติ.

ตตฺถ กาฬาติ กาฬหตฺถิ. เอวเมวาติ เตน เสนาปตินา เตชวนฺเตน อนุยุตฺโต ราชา มุสา วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต เอวมาห. ตตฺถ ตถาติ อิทํ ปุริมสฺส เววจนํ. มม อตฺถนฺติ มม วุฑฺฒึ. กโรนฺตสฺสาติ กโรนฺตํ. กิเมตนฺติ กสฺมา เอตํ. ปริภาสสีติ อโห ทุกฺกรํ กโรสิ, กาฬหตฺถิ ตฺวํ นาม อฺํ โจรํ อคฺคเหตฺวา มม เปสนการกํ คณฺหาสีติ ตสฺส ภยํ ชเนนฺโต กเถสิ.

ตํ สุตฺวา เสนาปติ ‘‘อยํ สเกเนว มุเขน ปฏิชานาติ, อโห สาหสิโก, เอตฺตกํ นาม กาลํ อิเม มนุสฺสา เอเตน ขาทิตา, วาเรสฺสามิ น’’นฺติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘มหาราช, มา เอวํ กริ, มา มนุสฺสมํสํ ขาทสี’’ติ. ‘‘กาฬหตฺถิ กึ กเถสิ, นาหํ วิรมิตุํ สกฺโกมี’’ติ. ‘‘มหาราช, สเจ น วิรมิสฺสสิ, อตฺตานฺจ รฏฺฺจ นาเสสฺสสี’’ติ. ‘‘เอวํ นสฺสนฺเตปิ อหํ เนว ตโต วิรมิตุํ สกฺโกมี’’ติ. ตโต เสนาปติ ตสฺส สฺาปนตฺถาย วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสติ – อตีตสฺมิฺหิ กาเล มหาสมุทฺเท ฉ มหามจฺฉา อเหสุํ. เตสุ อานนฺโท ติมินนฺโท อชฺฌาโรโหติ อิเม ตโย มจฺฉา ปฺจโยชนสติกา, ติมิงฺคโล ติมิรปิงฺคโล มหาติมิรปิงฺคโลติ อิเม ตโย มจฺฉา สหสฺสโยชนิกา โหนฺติ. เต สพฺเพปิ ปาสาณเสวาลภกฺขา อเหสุํ. เตสุ อานนฺโท มหาสมุทฺทสฺส เอกปสฺเส วสติ. ตํ พหู มจฺฉา ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺติ, เอกทิวสํ ‘‘สพฺเพสํ ทฺวิปทจตุปฺปทานํ สตฺตานํ ราชา ปฺายติ, อมฺหากํ ราชา นตฺถิ, มยมฺเปตํ ราชานํ กริสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺเพ เอกจฺฉนฺทา หุตฺวา อานนฺทํ ราชานํ กรึสุ. เต มจฺฉา ตโต ปฏฺาย ตสฺส สายํ ปาโตว อุปฏฺานํ คจฺฉนฺติ.

อเถกทิวสํ อานนฺโท เอกสฺมึ ปพฺพเต ปาสาณเสวาลํ ขาทนฺโต อชานิตฺวา ‘‘เสวาโล’’ติ สฺาย เอกํ มจฺฉํ ขาทิ. ตสฺส ตํ มํสํ ขาทนฺตสฺส สกลสรีรํ สงฺโขเภสิ. โส ‘‘กึ นุ โข อิทํ อติวิย มธุร’’นฺติ นีหริตฺวา โอโลเกนฺโต มจฺฉมํสขณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตกํ กาลํ อชานิตฺวา น ขาทามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘สายํ ปาโตปิ มจฺฉานํ อาคนฺตฺวา คมนกาเล เอกํ ทฺเว มจฺเฉ ขาทิสฺสามิ, ปากฏํ กตฺวา ขาทิยมาเน เอโกปิ มํ น อุปสงฺกมิสฺสติ, สพฺเพ ปลายิสฺสนฺติ, ปฏิจฺฉนฺโน หุตฺวา ปจฺฉา โอสกฺกิโตสกฺกิตํ ปหริตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ ตถา กตฺวา ขาทิ. มจฺฉา ปริกฺขยํ คจฺฉนฺตา จินฺตยึสุ. ‘‘กุโต นุ โข าตีนํ ภยํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ. อเถโก ปณฺฑิโต มจฺโฉ ‘‘มยฺหํ อานนฺทสฺส กิริยา น รุจฺจติ, ปริคฺคณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ มจฺเฉสุ อุปฏฺานํ คเตสุ อานนฺทสฺส กณฺณปตฺเต ปฏิจฺฉนฺโน อฏฺาสิ. อานนฺโท มจฺเฉ อุยฺโยเชตฺวา สพฺพปจฺฉโต คจฺฉนฺตํ มจฺฉํ ขาทิ. โส ปณฺฑิตมจฺโฉ ตสฺส กิริยํ ทิสฺวา อิตเรสํ อาโรเจสิ. เต สพฺเพปิ ภีตตสิตา ปลายึสุ.

อานนฺโท ตโต ปฏฺาย มจฺฉมํสคิทฺเธน อฺํ โคจรํ น คณฺหิ. โส ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต กิลนฺโต ‘‘กหํ นุ โข อิเม คตา’’ติ เต มจฺเฉ ปริเยสนฺโต เอกํ ปพฺพตํ ทิสฺวา ‘‘มม ภเยน อิมํ ปพฺพตํ นิสฺสาย วสนฺติ มฺเ, ปพฺพตํ ปริกฺขิปิตฺวา อุปธาเรสฺสามี’’ติ นงฺคุฏฺเน จ สีเสน จ อุโภ ปสฺเส ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหิ. ตโต ‘‘สเจ อิธ วสนฺติ, ปลายิสฺสนฺตี’’ติ ปพฺพตํ ปริกฺขิปนฺตํ อตฺตโน นงฺคุฏฺํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มจฺโฉ มํ วฺเจตฺวา ปพฺพตํ นิสฺสาย วสตี’’ติ กุทฺโธ ปณฺณาสโยชนมตฺตํ สกนงฺคุฏฺขณฺฑํ อฺมจฺฉสฺาย ทฬฺหํ คเหตฺวา มุรุมุรายนฺโต ขาทิ, ทุกฺขเวทนา อุปฺปชฺชิ. โลหิตคนฺเธน มจฺฉา สนฺนิปติตฺวา ลุฺชิตฺวา ขาทนฺตา ยาว สีสา อาคมํสุ. มหาสรีรตาย ปริวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ, ปพฺพตราสิ วิย อฏฺิราสิ อโหสิ. อากาสจาริโน ตาปสปริพฺพาชกา มนุสฺสานํ กถยึสุ. สกลชมฺพุทีเป มนุสฺสา ชานึสุ. ตํ วตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต กาฬหตฺถิ อาห –

๓๗๘.

‘‘อานนฺโท สพฺพมจฺฉานํ, ขาทิตฺวา รสคิทฺธิมา;

ปริกฺขีณาย ปริสาย, อตฺตานํ ขาทิยา มโต.

๓๗๙.

‘‘เอวํ ปมตฺโต รสคารเว รตฺโต, พาโล ยที อายติ นาวพุชฺฌติ;

วิธมฺม ปุตฺเต จชิ าตเก จ, ปริวตฺติย อตฺตานฺเว ขาทติ.

๓๘๐.

‘‘อิทํ เต สุตฺวาน วิเคตุ ฉนฺโท, มา ภกฺขยี ราช มนุสฺสมํสํ;

มา ตฺวํ อิมํ เกวลํ วาริโชว, ทฺวิปทาธิป สุฺมกาสิ รฏฺ’’นฺติ.

ตตฺถ อานนฺโทติ, มหาราช, อตีตสฺมึ กาเล มหาสมุทฺเท ปฺจสตโยชนิโก อานนฺโท นาม มหามจฺโฉ สพฺเพสํ มจฺฉานํ ราชา มหาสมุทฺทสฺส เอกปสฺเส ิโต. ขาทิตฺวาติ สกชาติกานํ มจฺฉานํ รสคิทฺธิมา มจฺเฉ ขาทิตฺวา. ปริกฺขีณายาติ มจฺฉปริสาย ขยปฺปตฺตาย. อตฺตานนฺติ อฺํ โคจรํ อคฺคเหตฺวา ปพฺพตํ ปริกฺขิปนฺโต ปณฺณาสโยชนมตฺตํ อตฺตโน นงฺคุฏฺขณฺฑํ อฺมจฺฉสฺาย ขาทิตฺวา มโต มรณปฺปตฺโต หุตฺวา อิทานิ มหาสมุทฺเท ปพฺพตมตฺโต อฏฺิราสิ อโหสิ. เอวํ ปมตฺโตติ ยถา มหามจฺโฉ อานนฺโท, เอวมฺปิ ตถา ตฺวํ ตณฺหารสคิทฺธิโก หุตฺวา ปมตฺโต ปมาทภาวปฺปตฺโต.

รสคารเว รตฺโตติ มนุสฺสมํสสฺส รสคารเว รตฺโต อติรตฺตจิตฺโต โหติ. พาโลติ ยทิ พาโล ทุปฺปฺโ อายตึ อนาคเต กาเล อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ นาวพุชฺฌติ น ชานาติ. วิธมฺมาติ วิธเมตฺวา วินาเสตฺวา . ปุตฺเตติ ปุตฺตธีตโร จ. าตเก จาติ เสสาตเก จ สหาเย จ, วิธมฺม ปุตฺเต จ จชิตฺวา าตเก จาติ อตฺโถ. ปริวตฺติยาติ อฺํ อาหารํ อลภิตฺวา ชิฆจฺฉาย ปีฬิโต สกลนครํ ปริวตฺติย วิจริตฺวา มนุสฺสมํสํ อลภิตฺวา อตฺตานํ ขาทนฺโต อานนฺโท มจฺโฉ วิย อตฺตานฺเว ขาทติ.

อิทํ เต สุตฺวานาติ, มหาราช, เต ตุยฺหํ มยา อานีตํ อิทํ อุทาหรณํ สุตฺวา ฉนฺโท มนุสฺสมํสขาทนจฺฉนฺโท วิเคตุ วิคจฺฉตุ วิรมตุ. มา ภกฺขยีติ ราช มนุสฺสมํสํ มา ภกฺขยิ มา ขาทิ. มา ตฺวํ อิมํ เกวลนฺติ มหาสมุทฺทํ สุฺํ กโรนฺโต วาริโช อานนฺโท มจฺโฉ อิว, โภ ทฺวิปทาธิป, ทฺวิปทานํ มนุสฺสานํ, อิสฺสร มหาราช, ตฺวํ เกวลํ สจฺจโต อิมํ ตว กาสิรฏฺํ นครํ สุฺํ มา อกาสีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา ราชา, ‘‘โภ กาฬหตฺถิ, น ตฺวเมว อุปมํ ชานาสิ, อหมฺปิ ชานามี’’ติ มนุสฺสมํสคิทฺธตาย โปราณกวตฺถุํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห –

๓๘๑.

‘‘สุชาโต นาม นาเมน, โอรโส ตสฺส อตฺรโช;

ชมฺพุเปสิมลทฺธาน, มโต โส ตสฺส สงฺขเย.

๓๘๒.

‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

ตตฺถ สุชาโต นามาติ กาฬหตฺถิ กุฏุมฺพิโก นาเมน สุชาโต นาม, ตสฺส อตฺรโช ปุตฺโต โอรโส ชมฺพุเปสึ อลทฺธาน อลภิตฺวาน. มโตติ ยถา ตสฺสา ชมฺพุเปสิยา สงฺขเย โส กุฏุมฺพิกปุตฺโต มโต, เอวเมว อหํ รสุตฺตมํ อฺรสานํ อุตฺตมํ มนุสฺสานํ มํสํ ภุตฺวา ภุฺชิตฺวา อลทฺธา มนุสฺสมํสํ ชีวิตํ หิสฺสามีติ มฺเ มฺามิ.

อตีเต กิร พาราณสิยํ สุชาโต นาม กุฏุมฺพิโก โลณมฺพิลเสวนตฺถาย หิมวนฺตโต อาคตานิ ปฺจ อิสิสตานิ อตฺตโน อุยฺยาเน วสาเปตฺวา อุปฏฺาสิ. ฆเร จสฺส นิพทฺธํ ปฺจสตมตฺตา ภิกฺขา อโหสิ. เต ปน ตาปสา กทาจิ ชนปเทปิ ภิกฺขาย จรนฺติ, กทาจิ มหาชมฺพุเปสึ อาหริตฺวา ขาทนฺติ. เตสํ ชมฺพุเปสึ อาหริตฺวา ขาทนกาเล สุชาโต จินฺเตสิ – ‘‘อชฺช ภทฺทนฺตานํ ตโย จตฺตาโร ทิวสา อนาคจฺฉนฺตานํ, กหํ นุ โข คตา’’ติ. โส อตฺตโน ปุตฺตกํ องฺคุลิยํ คาหาเปตฺวา เตสํ ภตฺตกิจฺจกาเล ตตฺถ อคมาสิ. ตสฺมึ สมเย มหลฺลกานํ มุขวิกฺขาลนกาเล อุทกํ ทตฺวา สพฺพนวโก ชมฺพุเปสึ ขาทติ. สุชาโต ตาปเส วนฺทิตฺวา นิสินฺโน – ‘‘กึ, ภนฺเต, ขาทถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘มหาชมฺพุเปสึ, อาวุโส’’ติ. ตํ สุตฺวา กุมาโร ปิปาสํ อุปฺปาเทสิ. อถสฺส คณเชฏฺโก ตาปโส โถกํ ทาเปสิ. โส ตํ ขาทิตฺวา มธุรรเส พชฺฌิตฺวา – ‘‘ชมฺพุเปสึ เม เทถา’’ติ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. กุฏุมฺพิโก ธมฺมํ สุณนฺโต, ‘‘ปุตฺตก, มา วิรวิ, เคหํ คนฺตฺวา ขาทิสฺสสี’’ติ ตํ วฺเจตฺวา ‘‘อิมํ นิสฺสาย ภทนฺตา อุกฺกณฺเยฺยุ’’นฺติ ตํ สมสฺสาเสนฺโต อิสิคณํ อนาปุจฺฉิตฺวา เคหํ คโต. คตกาลโต ปฏฺาย จสฺส ปุตฺโต ‘‘ชมฺพุเปสึ เม เทถา’’ติ ปริเทวิ. สุชาโต ‘‘อิสโยปิ อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คโต. เต อิสโยปิ ‘‘อิธ จิรํ วสิมฺหา’’ติ หิมวนฺตเมว คตา. อาราเม อิสโย อปสฺสนฺโต ตสฺส ชมฺพุอมฺพปนสโมจาทีนํ เปสิโย มธุสกฺขรจุณฺณสํยุตฺตา อทาสิ. ตา ตสฺส ชิวฺหคฺเค ปิตมตฺตา หลาหลวิสสทิสา โหนฺติ. โส สตฺตาหํ นิราหาโร หุตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. ราชา อิทํ การณํ อาหริตฺวา ทสฺเสนฺโต เอวมาห.

ตโต กาฬหตฺถิ ‘‘อยํ ราชา อติวิย รสคิทฺโธ, อปรานิปิสฺส อุทาหรณานิ อาหริสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘มหาราช, วิรมาหี’’ติ อาห. ‘‘อหํ วิรมิตุํ น สกฺโกมี’’ติ. เทว, สเจ น วิรมิสฺสสิ, ตุวํ าติมณฺฑลโต เจว รชฺชสิริโต จ ปริหายิสฺสสิ. อตีตสฺมิฺหิ, มหาราช, อิเธว พาราณสิยํ ปฺจสีลรกฺขกํ โสตฺถิยกุลํ อโหสิ . ตสฺส กุลสฺส เอกปุตฺตโก อโหสิ. โส มาตาปิตูนํ ปิโย มนาโป อโหสิ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต ติณฺณํ เวทานํ ปารคู. โส สมวเยหิ ตรุเณหิ สทฺธึ คณพนฺธเนน วิจริ. เสสา คณพนฺธา มจฺฉมํสาทีนิ ขาทนฺตา สุรํ ปิวนฺติ. มาณโว มํสาทีนิ น ขาทติ, สุรํ น ปิวติ. เต มนฺตยึสุ – ‘‘อยํ สุราย อปิวนโต อมฺหากํ มูลํ น เทติ, อุปาเยน นํ สุรํ ปาเยสฺสามา’’ติ. เต สนฺนิปติตฺวา, ‘‘สมฺม, ฉณกีฬํ กีฬิสฺสามา’’ติ อาหํสุ. ‘‘สมฺม, ตุมฺเห สุรํ ปิวถ, อหํ สุรํ น ปิวามิ, ตุมฺเหว คจฺฉถา’’ติ. ‘‘สมฺม, ตว ปิวนตฺถาย ขีรํ คณฺหาเปสฺสามา’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ธุตฺตา อุยฺยานํ คนฺตฺวา ปทุมินิปตฺเตสุ ติขิณสุรํ พนฺธาเปตฺวา ปยึสุ. อถ เนสํ ปานกาเล มาณวสฺส ขีรํ อุปนยึสุ. อถ เอโก ธุตฺโต ‘‘โปกฺขรมธุํ, โภ, อาหรา’’ติ อาหราเปตฺวา ปทุมินิปตฺตปุฏํ เหฏฺา ฉิทฺทํ กตฺวา องฺคุลีหิ มุเข เปตฺวา อากฑฺฒิ. เอวํ อิตเรปิ อาหราเปตฺวา ปิวึสุ. มาณโว ‘‘กึ นาเมต’’นฺติ ปุจฺฉิ. ‘‘โปกฺขรมธุนามา’’ติ. ‘‘อหมฺปิ โถกํ ลภิสฺสามิ, เทถ โภนฺโต’’ติ. ตสฺสปิ ทาปยึสุ. โส โปกฺขรมธุสฺาย สุรํ ปิวิ. อถสฺส องฺคารปกฺกมํสํ อทํสุ, ตมฺปิ ขาทิ.

เอวมสฺส ปุนปฺปุนํ ปิวนฺตสฺส มตฺตกาเล ‘‘น เอตํ โปกฺขรมธุ, สุรา เอสา’’ติ วทึสุ. โส ‘‘เอตฺตกํ กาลํ เอวํ มธุรรสํ น ชานึ, อาหรถ, โภ, สุร’’นฺติ อาห. เต อาหริตฺวา ปุนปิ อทํสุ. ปิปาสา มหตี อโหสิ. อถสฺส ปุนปิ ยาจนฺตสฺส ‘‘ขีณา’’ติ วทึสุ. โส ‘‘หนฺท ตํ, โภ, อาหราเปถา’’ติ องฺคุลิมุทฺทิกํ อทาสิ, โส สกลทิวสํ เตหิ สทฺธึ ปิวิตฺวา มตฺโต รตฺตกฺโข กมฺปนฺโต วิลปนฺโต เคหํ คนฺตฺวา นิปชฺชิ. อถสฺส ปิตา สุราย ปิวิตภาวํ ตฺวา วิคเต มตฺเต, ‘‘ตาต, อยุตฺตํ เต กตํ โสตฺติยกุเล ชาเตน สุรํ ปิวนฺเตน, มา ปุน เอวํ อกาสี’’ติ อาห. ‘‘ตาต, โก มยฺหํ โทโส’’ติ. ‘‘สุราย ปิวิตภาโว’’ติ. ‘‘ตาต, กึ กเถสิ, มยา เอวรูปํ มธุรรสํ เอตฺตกํ กาลํ อลทฺธปุพฺพ’’นฺติ. พฺราหฺมโณ ปุนปฺปุนํ ยาจิ. โสปิ ‘‘น สกฺโกมิ วิรมิตุ’’นฺติ อาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘เอวํ สนฺเต อมฺหากํ กุลวํโส จ อุจฺฉิชฺชิสฺสติ, ธนฺจ วินสฺสิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๓๘๓.

‘‘มาณว อภิรูโปสิ, กุเล ชาโตสิ โสตฺถิเย;

น ตฺวํ อรหสิ ตาต, อภกฺขํ ภกฺขเยตเว’’ติ.

ตตฺถ , มาณวาติ, มาณว, ตฺวํ อภิรูโป อสิ, โสตฺถิเย กุเล ชาโตปิ อสิ. อภกฺขํ ภกฺขเยตเวติ, ตาต, ตฺวํ อภกฺขิตพฺพยุตฺตกํ ภกฺขยิตุํ น อรหสิ.

เอวฺจ ปน วตฺวา, ‘‘ตาต, วิรม, สเจ น วิรมสิ, อหํ ตํ อิโต เคหา นิกฺขาเมสฺสามิ, ตว รฏฺา ปพฺพาชนียกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อาห. มาณโว ‘‘เอวํ สนฺเตปิ อหํ สุรํ ชหิตุํ น สกฺโกมี’’ติ วตฺวา คาถาทฺวยมาห –

๓๘๔.

‘‘รสานํ อฺตรํ เอตํ, กสฺมา มํ ตฺวํ นิวารเย;

โสหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, ยตฺถ ลจฺฉามิ เอทิสํ.

๓๘๕.

‘‘โสวาหํ นิปฺปติสฺสามิ, นเต วจฺฉามิ สนฺติเก;

ยสฺส เม ทสฺสเนน ตฺวํ, นาภินนฺทสิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตตฺถ รสานนฺติ โลณมฺพิลติตฺตกกฏุกขาริกมธุรกสาวสงฺขาตานํ สตฺตนฺนํ รสานํ อฺตรํ อุตฺตมรสเมตํ มชฺชํ นาม. โสวาหนฺติ โส อหํ เอว. นิปฺปติสฺสามีติ นิกฺขมิสฺสามิ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘นาหํ สุราปานา วิรมิสฺสามิ, ยํ เต รุจฺจติ, ตํ กโรหี’’ติ อาห. อถ พฺราหฺมโณ ‘‘ตยิ อมฺเห ปริจฺจชนฺเต มยมฺปิ ตํ ปริจฺจชิสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๘๖.

‘‘อทฺธา อฺเปิ ทายาเท, ปุตฺเต ลจฺฉาม มาณว;

ตฺวฺจ ชมฺม วินสฺสสุ, ยตฺถ ปตฺตํ น ตํ สุเณ’’ติ.

ตตฺถ ยตฺถ ปตฺตนฺติ ยตฺถ คตํ ตํ ‘‘อสุกฏฺาเน นาม วสตี’’ติ น สุโณม, ตตฺถ คจฺฉาหีติ อตฺโถ.

อถ นํ วินิจฺฉยํ เนตฺวา อปุตฺตภาวํ กตฺวา นีหราเปสิ. โส อปรภาเค นิปฺปจฺจโย กปโณ ชิณฺณปิโลติกํ นิวาเสตฺวา กปาลหตฺโถ ปิณฺฑาย จรนฺโต อฺตรํ กุฏฺฏํ นิสฺสาย กาลมกาสิ. อิทํ การณํ อาหริตฺวา กาฬหตฺถิ รฺโ ทสฺเสตฺวา, ‘‘มหาราช, สเจ ตฺวํ อมฺหากํ วจนํ น กริสฺสสิ, ปพฺพาชนียกมฺมํ เต กริสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๘๗.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

ปพฺพาเชสฺสนฺติ ตํ รฏฺา, โสณฺฑํ มาณวกํ ยถา’’ติ.

ตตฺถ ทฺวิปทินฺทาติ ทฺวิปทานํ อินฺท, โภ มหาราช, เม มม วจนํ สุโณหิ ตุวํ, เอวเมว โสณฺฑํ มาณวกํ ยถา ตํ ภวนฺตํ รฏฺโต ปพฺพาเชสฺสนฺติ.

เอวํ กาฬหตฺถินา อุปมาย อาหฏายปิ ราชา ตโต วิรมิตุํ อสกฺโกนฺโต อปรมฺปิ อุทาหรณํ ทสฺเสตุํ อาห –

๓๘๘.

‘‘สุชาโต นาม นาเมน, ภาวิตตฺตาน สาวโก;

อจฺฉรํ กามยนฺโตว, น โส ภุฺชิ น โส ปิวิ.

๓๘๙.

‘‘กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเน;

เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเก.

๓๙๐.

‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มฺเ หิสฺสามิ ชีวิต’’นฺติ.

วตฺถุ เหฏฺา วุตฺตสทิสเมว.

ตตฺถ ภาวิตตฺตานาติ ภาวิตจิตฺตานํ เตสํ ปฺจนฺนํ อิสิสตานํ. อจฺฉรํ กามยนฺโตวาติ โส กิร เตสํ อิสีนํ มหาชมฺพุเปสิยา ขาทนกาเล อนาคมนํ วิทิตฺวา ‘‘กึ นุ โข การณา น อาคจฺฉนฺติ, สเจ กตฺถจิ คตา, ชานิสฺสามิ, โน เจ, อถ เนสํ สนฺติเก ธมฺมํ สุณิสฺสามี’’ติ อุยฺยานํ คนฺตฺวา อิสิคเณ วนฺทิตฺวา คณเชฏฺกสฺส สนฺติเก ธมฺมํ สุณนฺโต นิสินฺโนว สูริเย อตฺถงฺคเต อุยฺโยชิยมาโนปิ ‘‘อชฺช อิเธว วสิสฺสามี’’ติ วตฺวา อิสิคณํ วนฺทิตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. รตฺติภาเค สกฺโก เทวราชา เทวจฺฉราสงฺฆปริวุโต สทฺธึ อตฺตโน ปริจาริกาหิ อิสิคณํ วนฺทิตุํ อาคโต, สกลาราโม เอโกภาโส อโหสิ. สุชาโต ‘‘กึ นุ โข เอต’’นฺติ อุฏฺาย ปณฺณสาลฉิทฺเทน โอโลเกนฺโต สกฺกํ อิสิคณํ วนฺทิตุํ อาคตํ เทวจฺฉราปริวุตํ ทิสฺวา อจฺฉรานํ สห ทสฺสเนน ราครตฺโต อโหสิ. สกฺโก นิสีทิตฺวา ธมฺมกถํ สุตฺวา สกฏฺานเมว คโต. กุฏุมฺพิโกปิ ปุนทิวเส อิสิคณํ วนฺทิตฺวา ปุจฺฉิ – ‘‘ภนฺเต, โก นาเมส รตฺติภาเค ตุมฺหากํ วนฺทนตฺถาย อาคโต’’ติ? ‘‘สกฺโก, อาวุโส’’ติ. ‘‘ตํ ปริวาเรตฺวา นิสินฺนา กา นาเมตา’’ติ? ‘‘เทวจฺฉรา นาเมตา’’ติ. โส อิสิคณํ วนฺทิตฺวา เคหํ คนฺตฺวา คตกาลโต ปฏฺาย ‘‘อจฺฉรํ เม เทถ, อจฺฉรํ เม เทถา’’ติ วิลปิ. าตกา ปริวาเรตฺวา ‘‘ภูตาวิฏฺโ นุ โข’’ติ อจฺฉรํ ปหรึสุ. โส ‘‘นาหํ เอตํ อจฺฉรํ กเถมิ, เทวจฺฉรํ กเถมี’’ติ วตฺวา ‘‘อยํ อจฺฉรา’’ติ อลงฺกริตฺวา อานีตํ ภริยมฺปิ คณิกมฺปิ โอโลเกนฺโต ‘‘นายํ อจฺฉรา, ยกฺขินี เอสา, เทวจฺฉรํ เม เทถา’’ติ วิลปนฺโต นิราหาโร หุตฺวา ตตฺเถว ชีวิตกฺขยํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ –

‘‘อจฺฉรํ กามยนฺโตว, น โส ภุฺชิ น โส ปิวี’’ติ.

กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเนติ, สมฺม กาฬหตฺถิ, โย กุสคฺเคเนว อุทกํ คเหตฺวา ‘‘เอตฺตกํ สิยา มหาสมุทฺเท อุทก’’นฺติ เตน สทฺธึ อุปมาย มิเนยฺย, โส เกวลํ มิเนยฺเยว, กุสคฺเค ปน อุทกํ อติปริตฺตกเมว. ยถา ตํ, เอวํ มานุสกา กามา ทิพฺพกามานํ สนฺติเก, ตสฺมา โส สุชาโต อฺํ อิตฺถึ น โอโลเกสิ, อจฺฉรเมว ปตฺเถนฺโต มโต. เอวเมวาติ ยถา โส ทิพฺพกามํ อลภนฺโต ชีวิตํ ชหิ, เอวํ อหมฺปิ อุตฺตมรสํ มนุสฺสมํสํ อลภนฺโต ชีวิตํ ชหิสฺสามีติ วทติ.

ตํ สุตฺวา กาฬหตฺถิ ‘‘อยํ ราชา อติวิย รสคิทฺโธ, สฺาเปสฺสามิ น’’นฺติ สกชาติกานํ มํสํ ขาทิตฺวา อากาสจรา สุวณฺณหํสาปิ ตาว วินฏฺาติ ทสฺเสตุํ คาถาทฺวยมาห –

๓๙๑.

‘‘ยถาปิ เต ธตรฏฺา, หํสา เวหายสงฺคมา;

อภุตฺตปริโภเคน, สพฺเพ อพฺภตฺถตํ คตา.

๓๙๒.

‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

อภกฺขํ ราช ภกฺเขสิ, ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ต’’นฺติ.

ตตฺถ อภุตฺตปริโภเคนาติ อตฺตโน สมานชาติกานํ ปริโภเคน. อพฺภตฺถตํ คตาติ สพฺเพ มรณเมว ปตฺตา. อตีเต กิร จิตฺตกูเฏ สุวณฺณคุหายํ นวุติ หํสสหสฺสานิ วสนฺติ. เต วสฺสิเก จตฺตาโร มาเส น นิกฺขมนฺติ, สเจ นิกฺขเมยฺยุํ, อุทกปุณฺเณหิ ปตฺเตหิ อุปฺปติตุํ อสกฺโกนฺตา มหาสมุทฺเทเยว ปเตยฺยุํ, ตสฺมา น จ นิกฺขมนฺติ. อุปกฏฺเ ปน วสฺสกาเล ชาตสฺสรโต สยํชาตสาลิโย อาหริตฺวา คุหํ ปูเรตฺวา สาลึ ขาทนฺตา วสนฺติ. เตสํ ปน คุหํ ปวิฏฺกาเล คุหทฺวาเร เอโก รถจกฺกปฺปมาโณ อุณฺณนาภิ นาม มกฺกฏโก เอเกกสฺมึ มาเส เอเกกํ ชาลํ วินนฺธติ. ตสฺส เอเกกํ สุตฺตํ โครชฺชุปฺปมาณํ โหติ. หํสา ‘‘ตํ ชาลํ ภินฺทิสฺสตี’’ติ เอกสฺส ตรุณหํสสฺส ทฺเว โกฏฺาเส เทนฺติ. โส วิคเต เทเว ปุรโต คนฺตฺวา ตํ ชาลํ ภินฺทติ. เตน มคฺเคน เสสา คจฺฉนฺติ. อเถกสฺมึ กาเล ปฺจ มาเส วสฺโส วุฏฺโ อโหสิ. หํสา ขีณโคจรา ‘‘กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ มนฺเตตฺวา ‘‘มยํ ชีวนฺตา อณฺฑานิ ลภิสฺสามา’’ติ ปมํ อณฺฑานิ ขาทึสุ, ตโต โปตเก, ตโต ชิณฺณหํเส. ปฺจมาสจฺจเยน วสฺสํ อปคตํ. มกฺกฏโก ปฺจ ชาลานิ วินนฺธิ. หํสา สกชาติกานํ มํสํ ขาทิตฺวา อปฺปถามา ชาตา. ทฺวิคุณโกฏฺาสลาภี หํสตรุโณ ชาเล ปหริตฺวา จตฺตาริ ภินฺทิ, ปฺจมํ ฉินฺทิตุํ นาสกฺขิ, ตตฺเถว ลคฺคิ. อถสฺส สีสํ วิชฺฌิตฺวา มกฺกฏโก โลหิตํ ปิวิ. อฺโปิ อาคนฺตฺวา ชาลํ ปหริ, โสปิ ตตฺเถว ลคฺคีติ เอวํ สพฺเพสํ มกฺกฏโก โลหิตํ ปิวิ. ตทา ธตรฏฺกุลํ อุจฺฉินฺนนฺติ วทนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ อพฺภตฺถตํคตา’’ติ.

เอวเมว ตุวนฺติ ยถา เอเต หํสา อภกฺขํ สกชาติกมํสํ ขาทึสุ, ตถา ตฺวมฺปิ ขาทสิ, สกลนครํ ภยปฺปตฺตํ, วิรม, มหาราชาติ. ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ตนฺติ ยสฺมา อภกฺขํ สกชาติกมํสํ ภกฺเขสิ, ตสฺมา อิเม นครวาสิโน ตํ รฏฺา ปพฺพาชยนฺติ.

ราชา อฺมฺปิ อุปมํ วตฺตุกาโม อโหสิ. นาครา ปน อุฏฺาย, ‘‘สามิ เสนาปติ, กึ กโรสิ, กึ มนุสฺสมํสขาทกํ โจรํ คเหตฺวา วิจรสิ, สเจ น วิรมิสฺสติ, รฏฺโต นํ ปพฺพาเชหี’’ติ วตฺวา นาสฺส กเถตุํ อทํสุ. ราชา พหูนํ กถํ สุตฺวา ภีโต ปุน วตฺตุํ นาสกฺขิ. ปุนปิ นํ เสนาปติ ‘‘กึ มหาราช วิรมิตุํ สกฺขิสฺสสิ, อุทาหุ น สกฺขิสฺสสี’’ติ วตฺวา ‘‘น สกฺโกมี’’ติ วุตฺเต สพฺพํ โอโรธคณฺจ ปุตฺตธีตโร จ สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิเต ปสฺเส เปตฺวา, ‘‘มหาราช, อิเม าติมณฺฑเล เจว อมจฺจคณฺจ รชฺชสิริฺจ โอโลเกหิ, มา วินสฺสิ, วิรม มนุสฺสมํสโต’’ติ อาห. ราชา ‘‘น มยฺหํ เอเต มนุสฺสมํสโต ปิยตรา’’ติ วตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, อิมมฺหา นครา จ รฏฺา จ นิกฺขมถา’’ติ วุตฺเต, ‘‘กาฬหตฺถิ, น เม รชฺเชนตฺโถ, นครา นิกฺขมามิ, เอกํ ปน เม ขคฺคฺจ รสกฺจ ภาชนฺจ เทหี’’ติ อาห. อถสฺส ขคฺคฺจ มํสปจนภาชนฺจ ปจฺฉิฺจ อุกฺขิปาเปตฺวา รสกฺจ ทตฺวา รฏฺา ปพฺพาชนียกมฺมํ กรึสุ.

โส ขคฺคฺจ รสกฺจ อาทาย นครา นิกฺขมิตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา เอกสฺมึ นิคฺโรธมูเล วสนฏฺานํ กตฺวา ตตฺถ วสนฺโต อฏวิมคฺเค ตฺวา มนุสฺเส มาเรตฺวา อาหริตฺวา รสกสฺส เทติ. โสปิสฺส มํสํ ปจิตฺวา อุปนาเมติ. เอวํ อุโภปิ ชีวนฺติ. มนุสฺสคหณกาเล ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ วตฺวา ตสฺมึ ปกฺขนฺเต โกจิ สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺโกติ, สพฺเพ ภูมิยํ ปตนฺติ. เตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ อุทฺธํปาทํ อโธสีสํ กตฺวา อาหริตฺวา รสกสฺส เทติ. โส เอกทิวสํ อรฺเ กฺจิ มนุสฺสํ อลภิตฺวา อาคโต รสเกน ‘‘กึ เทวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อุทฺธเน อุกฺขลึ อาโรเปหี’’ติ อาห. ‘‘มํสํ กหํ, เทวา’’ติ? ‘‘ลภิสฺสามหํ มํส’’นฺติ. โส ‘‘นตฺถิ เม ทานิ ชีวิต’’นฺติ กมฺปมาโน อุทฺธเน อคฺคึ กตฺวา อุกฺขลึ อาโรเปสิ. อถ นํ โปริสาโท อสินา มาเรตฺวา มํสํ ปจิตฺวา ขาทิ. ตโต ปฏฺาย เอกโกว ชาโต สยเมว ปจิตฺวา ขาทติ. ‘‘โปริสาโท มคฺเค มคฺคปฏิปนฺเน หนตี’’ติ สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ.

ตทา เอโก สมฺปนฺนวิภโว พฺราหฺมโณ ปฺจหิ สกฏสเตหิ โวหารํ กโรนฺโต ปุพฺพนฺตโต อปรนฺตํ สฺจรติ. โส จินฺเตสิ – ‘‘โปริสาโท นาม กิร โจโร อนฺตรามคฺเค มนุสฺเส มาเรสิ, ธนํ ทตฺวา ตํ อฏวึ อติกฺกมิสฺสามี’’ติ. โส อฏวิมุขวาสีนํ มนุสฺสานํ ‘‘ตุมฺเห มํ อฏวิโต อติกฺกาเมถา’’ติ สหสฺสํ ทตฺวา เตหิ สทฺธึ มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. คจฺฉนฺโต จ พฺราหฺมโณ สพฺพสตฺถํ ปุรโต กตฺวา สยํ นฺหาตานุลิตฺโต สพฺพาลงฺการปฏิมณฺฑิโต เสตโคณยุตฺเต สุขยานเก นิสินฺโน เตหิ อฏวิวาสิกปุริเสหิ ปริวุโต สพฺพปจฺฉโต อคมาสิ. ตสฺมึ ขเณ โปริสาโท รุกฺขํ อารุยฺห ปุริเส อุปธาเรนฺโต เสสมนุสฺเสสุ ‘‘กึ อิเมสุ มยา ขาทิตพฺพํ อตฺถี’’ติ วิคตจฺฉนฺโท หุตฺวา พฺราหฺมณํ ทิฏฺกาลโต ปฏฺาย ตํ ขาทิตุกามตาย ปคฺฆริตเขโฬ อโหสิ. โส ตสฺมึ อตฺตโน สนฺติกํ อาคเต รุกฺขโต โอรุยฺห ‘‘อหํ อเร โปริสาโท’’ติ นามํ ติกฺขตฺตุํ สาเวตฺวา ขคฺคํ ปริวตฺเตนฺโต วาลุกาย เตสํ อกฺขีนิ ปูเรนฺโต วิย ปกฺขนฺทิ. เอโกปิ าตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, สพฺเพ ภูมิยํ อุเรน นิปชฺชึสุ. โส สุขยานเก นิสินฺนํ พฺราหฺมณํ ปาเท คเหตฺวา ปิฏฺิยํ อโธสีสกํ โอลมฺเพตฺวา สีสํ โคปฺผเกหิ ปหรนฺโต อุกฺขิปิตฺวา ปายาสิ.

ตทา เต ปุริสา อุฏฺาย, ‘‘โภ, ปุริสา มยํ พฺราหฺมณสฺส หตฺถโต กหาปณสหสฺสํ คณฺหิมฺหา, โก นาม อมฺหากํ ปุริสกาโร, สกฺโกนฺตา วา อสกฺโกนฺตา วา โถกํ อนุพนฺธามา’’ติ วตฺวา อนุพนฺธึสุ. โปริสาโทปิ นิวตฺติตฺวา โอโลเกนฺโต กฺจิ อทิตฺวา สณิกํ ปายาสิ. ตสฺมึ ขเณ ถามสมฺปนฺโน เอโก สูรปุริโส เวเคน ตํ ปาปุณิ. โส ตํ ทิสฺวา เอกํ วตึ ลงฺฆนฺโต ขทิรขาณุกํ อกฺกมิ, ขาณุโก ปิฏฺิปาเทน นิกฺขมิ. โลหิเตน ปคฺฆรนฺเตน ลงฺฆมาโน ยาติ. อถ นํ โส ทิสฺวา, ‘‘โภ, มยา เอส วิทฺโธ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺฉโต เอถ, คณฺหิสฺสามิ น’’นฺติ อาห. เต ทุพฺพลภาวํ ตฺวา ตํ อนุพนฺธึสุ. โส เตหิ อนุพทฺธภาวํ ตฺวา พฺราหฺมณํ วิสฺสชฺเชตฺวา อตฺตานํ โสตฺถิมกาสิ. อถ อฏวิวาสิกปุริสา พฺราหฺมณสฺส ลทฺธกาลโต ปฏฺาย ‘‘กึ อมฺหากํ โจเรนา’’ติ ตโต นิวตฺตึสุ.

โปริสาโทปิ อตฺตโน นิคฺโรธมูลํ คนฺตฺวา ปาโรหนฺตรํ ปวิสิตฺวา นิปนฺโน, ‘‘อยฺเย รุกฺขเทวเต, สเจ เม สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว วณํ ผาสุกํ กาตุํ สกฺขิสฺสสิ, สกลชมฺพุทีเป เอกสตขตฺติยานํ คลโลหิเตน ตว ขนฺธํ โธวิตฺวา อนฺเตหิ ปริกฺขิปิตฺวา ปฺจมธุรมํเสน พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อายาจนํ กริ. ตสฺส อนฺนปานมํสํ อลภนฺตสฺส สรีรํ สุสฺสิตฺวา อนฺโตสตฺตาเหเยว วโณ ผาสุโก อโหสิ. โส เทวตานุภาเวน ตสฺส ผาสุกภาวํ สลฺลกฺเขสิ. โส กติปาหํ มนุสฺสมํสํ ขาทิตฺวา พลํ คเหตฺวา จินฺเตสิ – ‘‘พหุปการา เม เทวตา, อายาจนา อสฺสา มุจฺจิสฺสามี’’ติ. โส ขคฺคํ อาทาย รุกฺขมูลโต นิกฺขมิตฺวา ‘‘ราชาโน อาเนสฺสามี’’ติ ปายาสิ. อถ นํ ปุริมภเว ยกฺขกาเล เอกโต มนุสฺสมํสขาทโก สหายกยกฺโข อนุวิจรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มม อตีตภเว สหาโย’’ติ ตฺวา, ‘‘สมฺม, มํ สฺชานาสี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘น สฺชานามี’’ติ. อถสฺส ปุริมภเว กตการณํ กเถสิ. โส ตํ สฺชานิตฺวา ปฏิสนฺถารมกาสิ. ‘‘กหํ นิพฺพตฺโตสี’’ติ ปุฏฺโ นิพฺพตฺตฏฺานฺจ รฏฺา ปพฺพาชิตการณฺจ อิทานิ วสนฏฺานฺจ ขาณุนา วิทฺธการณฺจ เทวตาย อายาจนาโมจนตฺถํ คมนการณฺจ สพฺพํ อาโรเจตฺวา ‘‘ตยาปิ มเมตํ กิจฺจํ นิตฺถริตพฺพํ, อุโภปิ คจฺฉาม, สมฺมา’’ติ อาห. ‘‘สมฺม น คจฺเฉยฺยาหํ, เอกํ ปน เม กมฺมํ อตฺถิ, อหํ โข ปน อนคฺฆํ ปทลกฺขณํ นาม เอกํ มนฺตํ ชานามิ, โส พลฺจ ชวฺจ สทฺทฺจ กโรติ, ตํ มนฺตํ คณฺหาหี’’ติ. โส ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. ยกฺโขปิสฺส ตํ ทตฺวา ปกฺกามิ.

โปริสาโท มนฺตํ อุคฺคเหตฺวา ตโต ปฏฺาย วาตชโว อติสูโร อโหสิ. โส สตฺตาหพฺภนฺตเรเยว เอกสตราชาโน อุยฺยานาทีนิ คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วาตเวเคน ปกฺขนฺทิตฺวา ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ นามํ สาเวตฺวา วคฺคนฺโต นทนฺโต ภยปฺปตฺเต กตฺวา ปาเท คเหตฺวา อโธสีสเก กตฺวา ปณฺหิยา สีสํ ปหรนฺโต วาตเวเคน เนตฺวา หตฺถตเลสุ ฉิทฺทานิ กตฺวา รชฺชุยา อาวุนิตฺวา นิคฺโรธรุกฺเข โอลมฺเพสิ อคฺคปาทงฺคุลีหิ ภูมิยํ ผุสมานาหิ. เต สพฺเพ ราชาโน วาเต ปหรนฺเต มิลาตกุรณฺฑกทามานิ วิย ปริวตฺตนฺตา โอลมฺพึสุ. ‘‘สุตโสโม ปน เม ปิฏฺิอาจริโย โหติ, สเจ คณฺหิสฺสามิ, สกลชมฺพุทีโป ตุจฺโฉ ภวิสฺสตี’’ติ ตํ น เนสิ. โส ‘‘พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อคฺคึ กตฺวา สูเล ตจฺฉนฺโต นิสีทิ. รุกฺขเทวตา ตํ กิริยํ ทิสฺวา ‘‘มยฺหํ กิเรส พลิกมฺมํ กโรติ, วณมฺปิสฺส มยา กิฺจิ ผาสุกํ กตํ นตฺถิ, อิทานิ อิเมสํ มหาวินาสํ กริสฺสติ, กึ นุ โข กตฺตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ‘‘อหํ เอตํ วาเรตุํ น สกฺขิสฺสามี’’ติ จาตุมหาราชิกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘นิวาเรถ น’’นฺติ อาห. เตหิปิ ‘‘น มยํ โปริสาทสฺส กมฺมํ นิวาเรตุํ สกฺขิสฺสามา’’ติ วุตฺเต ‘‘โก สกฺขิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สกฺโก, เทวราชา’’ติ สุตฺวา สกฺกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตมตฺถํ กเถตฺวา ‘‘นิวาเรถ น’’นฺติ อาห. โสปิ ‘‘นาหํ สกฺโกมิ นิวาเรตุํ, สมตฺถํ ปน อาจิกฺขิสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘โกนาโม’’ติ วุตฺเต ‘‘สเทวเก โลเก อฺโ นตฺถิ, กุรุรฏฺเ ปน อินฺทปตฺถนคเร โกรพฺยราชปุตฺโต สุตโสโม นาม ตํ นิพฺพิเสวนํ กตฺวา ทเมสฺสติ, ราชูนฺจ ชีวิตํ ทสฺสติ, ตฺจ มนุสฺสมํสา โอรมาเปสฺสติ, สกลชมฺพุทีเป อมตํ วิย ธมฺมํ อภิสิฺจิสฺสติ, สเจปิ ราชูนํ ชีวิตํ ทาตุกาโม, ‘สุตโสมํ อาเนตฺวา พลิกมฺมํ กาตุํ วฏฺฏตี’ติ วเทหี’’ติ อาห.

สา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ขิปฺปํ อาคนฺตฺวา ปพฺพชิตเวเสน ตสฺส อวิทูเร ปายาสิ. โส ปทสทฺเทน ‘‘ราชา นุ โข โกจิ ปลาโต ภวิสฺสตี’’ติ โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘ปพฺพชิตา นาม ขตฺติยาว, อิมํ คเหตฺวา เอกสตํ ปูเรตฺวา พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อุฏฺาย อสิหตฺโถ อนุพนฺธิ, ติโยชนํ อนุพนฺธิตฺวาปิ ตํ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ, คตฺเตหิ เสทา มุจฺจึสุ. โส จินฺเตสิ – ‘‘อหํ ปุพฺเพ หตฺถิมฺปิ อสฺสมฺปิ รถมฺปิ ธาวนฺตํ อนุพนฺธิตฺวา คณฺหามิ, อชฺช อิมํ ปพฺพชิตํ สกาย คติยา คจฺฉนฺตํ สพฺพถาเมน ธาวนฺโตปิ คณฺหิตุํ น สกฺโกมิ, กึ นุ โข การณ’’นฺติ. ตโต โส ‘‘ปพฺพชิตา นาม วจนกรา โหนฺติ, ‘ติฏฺา’ติ นํ วตฺวา ิตํ คเหสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ติฏฺ, สมณา’’ติ อาห. ‘‘อหํ ตาว ิโต, ตฺวํ ปน ธาวิตุํ วายามมกาสี’’ติ. อถ นํ, ‘‘โภ, ปพฺพชิตา นาม ชีวิตเหตุปิ อลิกํ น ภณนฺติ, ตฺวํ ปน มุสาวาทํ กเถสี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๓๙๓.

‘‘ติฏฺาหีติ มยา วุตฺโต, โส ตฺวํ คจฺฉสิ ปมฺมุโข;

อฏฺิโต ตฺวํ ิโตมฺหีติ, ลปสิ พฺรหฺมจารินิ;

อิทํ เต สมณายุตฺตํ, อสิฺจ เม มฺสิ กงฺกปตฺต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมณ, ติฏฺาหิ อิติ วจนํ มยา วุตฺโต โส ตฺวํ ปมฺมุโข ปรมฺมุโข หุตฺวา คจฺฉสิ, พฺรหฺมจารินิ อฏฺิโต สมาโน ตฺวํ ิโต อมฺหิ อิติ ลปสิ, อสิฺจ เม กงฺกปตฺตํ มฺสีติ.

ตโต เทวตา คาถาทฺวยมาห –

๓๙๔.

‘‘ิโตหมสฺมี สธมฺเมสุ ราช, น นามโคตฺตํ ปริวตฺตยามิ;

โจรฺจ โลเก อิตํ วทนฺติ;

อาปายิกํ เนรยิกํ อิโต จุตํ.

๓๙๕.

‘‘สเจ ตฺวํ สทฺทหสิ ราช, สุตํ คณฺหาหิ ขตฺติย;

เตน ยฺํ ยชิตฺวาน, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ สธมฺเมสูติ, มหาราช, อหํ สเกสุ ทสสุ กุสลกมฺมปถธมฺเมสุ ิโต อสฺมิ ภวามิ. น นามโคตฺตนฺติ ตฺวํ ปุพฺเพ ทหรกาเล พฺรหฺมทตฺโต หุตฺวา ปิตริ กาลกเต พาราณสึ รชฺชํ ลภิตฺวา พาราณสิราชา ชาโต, ตํ นามํ ชหิตฺวา โปริสาโท หุตฺวา อิทานิ กมฺมาสปาโท ชาโต, ขตฺติยกุเล ชาโตปิ อภกฺขํ มนุสฺสมํสํ ยสฺมา ภกฺเขสิ, ตสฺมา อตฺตโน นามโคตฺตํ ยถา ปริวตฺเตสิ, ตถา อหํ อตฺตโน นามโคตฺตํ น ปริวตฺตยามิ. โจรฺจาติ โลเก โจรฺจ ทสกุสลกมฺมปเถสุ อิตํ นาม วทนฺติ. อิโต จุตนฺติ อิโต จุตํ หุตฺวา อปาเย นิรเย ปติฏฺิตํ. ขตฺติย, ภูมิปาล มหาราช, ตฺวํ มม วจนํ สเจ สทฺทหสิ, สุตโสมํ คณฺหาหิ, เตน สุตโสเมน ยฺํ ยชิตฺวาน เอวํ สคฺคํ คมิสฺสสิ. โภ, โปริสาท มุสาวาทิ ตยา มยฺหํ ‘‘สกลชมฺพุทีเป ราชาโน อาเนตฺวา พหิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ ปฏิสฺสุตํ, อิทานิ เย วา เต วา ทุพฺพลราชาโน อาเนสิ, ชมฺพุทีปตเล เชฏฺกํ สุตโสมราชานํ สเจ ตฺวํ น อาเนสฺสสิ, วจนํ เต มุสา นาม โหติ, ตสฺมา สุตโสมํ คณฺหาหีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา เทวตา ปพฺพชิตเวสํ อนฺตรธาเปตฺวา สเกน วณฺเณน อากาเส ตรุณสูริโย วิย ชลมานา อฏฺาสิ. โส ตสฺสา กถํ สุตฺวา รูปฺจ โอโลเกตฺวา ‘‘กาสิ ตฺว’’นฺติ อาห. อิมสฺมึ ‘‘รุกฺเข นิพฺพตฺตเทวตา’’ติ. โส ‘‘ทิฏฺา เม อตฺตโน, เทวตา’’ติ ตุสฺสิตฺวา, ‘‘สามิ เทวราช, มา สุตโสมสฺส การณา จินฺตยิ, อตฺตโน รุกฺขํ ปวิสา’’ติ อาห. เทวตา ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว รุกฺขํ ปาวิสิ. ตสฺมึ ขเณ สูริโย อตฺถงฺคโต, จนฺโท อุคฺคโต. โปริสาโท เวทงฺคกุสโล นกฺขตฺตจารํ ชานาติ. โส นภํ โอโลเกตฺวา ‘‘สฺเว ผุสฺสนกฺขตฺตํ ภวิสฺสติ, สุตโสโม นฺหายิตุํ อุยฺยานํ คมิสฺสติ, ตตฺถ คณฺหิสฺสามิ, อารกฺโข ปนสฺส มหา ภวิสฺสติ, สมนฺตา ติโยชนํ สกลนครวาสิโน รกฺขนฺตา จริสฺสนฺติ, อสํวิหิเต อารกฺเข ปมยาเมเยว มิคาชินํ อุยฺยานํ คนฺตฺวา มงฺคลโปกฺขรณึ โอตริตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา โปกฺขรณึ โอรุยฺห ปทุมปตฺเตน สีสํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา อฏฺาสิ. ตสฺส เตเชน มจฺฉกจฺฉปาทโย โอสกฺกิตฺวา อุทกปริยนฺเต วคฺควคฺคา หุตฺวา วิจรึสุ.

กุโต ปน ลทฺโธยํ เตโชติ? ปุพฺพโยควเสน. โส หิ กสปทสพลสฺส กาเล ขีรสลากภตฺตํ ปฏฺเปสิ, เตน มหาถาโม อโหสิ. อคฺคิสาลฺจ กาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆสฺส สีตวิโนทนตฺถํ อคฺคิฺจ ทารูนิ จ ทารุจฺเฉทนวาสิฺจ ผรสุฺจ อทาสิ, เตน เตชวา อโหสิ.

เอวํ ตสฺมึ อนฺโตอุยฺยานํ คเตเยว พลวปจฺจูสสมเย สมนฺตา ติโยชนํ อารกฺขํ คณฺหึสุ. ราชาปิ ปาโตว ภุตฺตปาตราโส อลงฺกตหตฺถิกฺขนฺธวรคโต จตุรงฺคินิยา เสนาย ปริวุโต นครโต นิกฺขมิ. ตทา ตกฺกสิลโต นนฺโท นาม พฺราหฺมโณ จตสฺโส สตารหา คาถาโย อาทาย วีสติโยนชสตํ มคฺคํ อติกฺกมิตฺวา ตํ นครํ ปตฺวา ทฺวารคาเม วสิตฺวา สูริเย อุคฺคเต นครํ ปวิสนฺโต ราชานํ ปาจีนทฺวาเรน นิกฺขนฺตํ ทิสฺวา หตฺถํ ปสาเรตฺวา ชยาเปสิ. ราชา ทิสาจกฺขุโก หุตฺวา คจฺฉนฺโต อุนฺนตปฺปเทเส ิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปสาริตหตฺถํ ทิสฺวา หตฺถินา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉิ –

๓๙๖.

‘‘กิสฺมึ นุ รฏฺเ ตว ชาติภูมิ, อถ เกน อตฺเถน อิธานุปตฺโต;

อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถํ, กิมิจฺฉสี เทมิ ตยชฺช ปตฺถิต’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – โภ พฺราหฺมณ, ตว ชาติภูมิ กิสฺมึ รฏฺเ อตฺถิ นุ, เกน อตฺเถน ปโยชเนน เหตุภูเตน อิท อิมสฺมึ นคเร อนุปฺปตฺโต, โภ พฺราหฺมณ, มยา ปุจฺฉิโต โส ตฺวํ เอตมตฺถํ เอตํ ปโยชนํ เม มยฺหํ อกฺขาหิ กเถหิ, ตยา ปตฺถิตวตฺถุํ เต ตุยฺหํ อชฺช อิทานิ ททามิ, กึ วตฺถุํ อิจฺฉสีติ.

อถ นํ โส คาถมาห –

๓๙๗.

‘‘คาถา จตสฺโส ธรณีมหิสฺสร, สุคมฺภีรตฺถา วรสาครูปมา;

ตเวว อตฺถาย อิธาคโตสฺมิ, สุโณหิ คาถา ปรมตฺถสํหิตา’’ติ.

ตตฺถ ธรณีมหิสฺสราติ ภูมิปาล จตสฺโส คาถา กึ ภูตา?. สุคมฺภีรตฺถา วรสาครูปมา, ตเวว ตว เอว อตฺถาย อิธ านํ อนุปฺปตฺโต อสฺมิ ภวามิ. สุโณหีติ กสฺสปทสพเลน เทสิตา ปรมตฺถสํหิตา อิมา สตารหา คาถาโย สุโณหีติ อตฺโถ.

อิติ วตฺวา, ‘‘มหาราช, อิมา กสฺสปทสพเลน เทสิตา จตสฺโส สตารหา คาถาโย ‘‘ตุมฺเห สุตวิตฺตกา’ติ สุตฺวา ตุมฺหากํ เทเสตุํ อาคโตมฺหี’’ติ อาห. ราชา ตุฏฺมานโส หุตฺวา, ‘‘อาจริย , สุฏฺุ เต อาคตํ, มยา ปน นิวตฺติตุํ น สกฺกา, อชฺช ผุสฺสนกฺขตฺตโยเคน สีสํ นฺหายิตุํ อาคโตมฺหิ, อหํ ปุนทิวเส อาคนฺตฺวา โสสฺสามิ, ตฺวํ มา อุกฺกณฺี’’ติ วตฺวา ‘‘คจฺฉถ พฺราหฺมณสฺส อสุกเคเห สยนํ ปฺาเปตฺวา ฆาสจฺฉาทนํ สํวิทหถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปตฺวา อุยฺยานํ ปาวิสิ. ตํ อฏฺารสหตฺเถน ปากาเรน ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ. ตํ อฺมฺํ สงฺฆฏฺเฏนฺตา สมนฺตา หตฺถิโน ปริกฺขิปึสุ, ตโต อสฺสา, ตโต รถา, ตโต ธนุคฺคหา, ตโต ปตฺตีติ, สงฺขุภิตมหาสมุทฺโท วิย อุนฺนาเทนฺโต พลกาโย อโหสิ. อถ ราชา โอฬาริกานิ อาภรณานิ โอมุฺจิตฺวา มสฺสุกมฺมํ กาเรตฺวา อุพฺพฏฺฏิตสรีโร โปกฺขรณิยา อนฺโต ราชวิภเวน นฺหตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา อุทกคฺคหณสาฏเกน นิวาเสตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺส ทุสฺสคนฺธมาลาลงฺกาเร อุปนยึสุ. โปริสาโท จินฺเตสิ – ‘‘ราชา อลงฺกตกาเล ภาริโก ภวิสฺสติ, สลฺลหุกกาเลเยว นํ คณฺหิสฺสามี’’ติ. โส นทนฺโต วคฺคนฺโต อุทเก มจฺฉํ อาลุเฬนฺโต วิชฺชุลตา วิย มตฺถเก ขคฺคํ ปริพฺภเมนฺโต ‘‘อหํ อเร มนุสฺสโจโร โปริสาโท’’ติ นามํ สาเวตฺวา องฺคุลึ นลาเฏ เปตฺวา อุทกา อุตฺตริ. ตสฺส สทฺทํ สุตฺวาว หตฺถาโรหา หตฺถีหิ, อสฺสาโรหา อสฺเสหิ, รถาโรหา รเถหิ ภสฺสึสุ. พลกาโย คหิตคหิตานิ อาวุธานิ ฉฑฺเฑตฺวา อุเรน ภูมิยํ นิปชฺชิ.

โปริสาโท สุตโสมํ อุกฺขิปิตฺวา คณฺหิ, เสสราชาโน ปาเท คเหตฺวา อโธสีสเก กตฺวา ปณฺหิยา สีสํ ปหรนฺโต คจฺฉติ. โพธิสตฺตํ ปน อุปคนฺตฺวา โอนโต อุกฺขิปิตฺวา ขนฺเธ นิสีทาเปสิ. โส ‘‘ทฺวาเรน คมนํ ปปฺโจ ภวิสฺสตี’’ติ สมฺมุขฏฺาเนเยว อฏฺารสหตฺถํ ปาการํ ลงฺฆิตฺวา ปุรโต คลิตมทมตฺตวารณกุมฺเภ อกฺกมิตฺวา ปพฺพตกูฏานิ ปาเตนฺโต วิย วาตชวานํ อสฺสตรานํ ปิฏฺเ อกฺกมนฺโต ปาเตตฺวา รถธุรรถสีเสสุ อกฺกมิตฺวา ภมิกํ ภมนฺโต วิย นีลผลกานิ นิคฺโรธปตฺตานิ มทฺทนฺโต วิย เอกเวเคเนว ติโยชนมตฺตํ มคฺคํ คนฺตฺวา ‘‘อตฺถิ นุ โข โกจิ สุตโสมสฺสตฺถาย ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺโต’’ติ โอโลเกตฺวา กฺจิ อทิตฺวา สณิกํ คจฺฉนฺโต สุตโสมสฺส เกเสหิ อุทกพินฺทูนิ อตฺตโน อุเร ปติตานิ ทิสฺวา ‘‘มรณสฺส อภายนฺโต นาม นตฺถิ, สุตโสโมปิ มรณภเยน โรทติ มฺเ’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๓๙๘.

‘‘น เว รุทนฺติ มติมนฺโต สปฺา, พหุสฺสุตา เย พหุานจินฺติโน;

ทีปฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ, ยํ ปณฺฑิตา โสกนุทา ภวนฺติ.

๓๙๙.

‘‘อตฺตานํ าตี อุทาหุ ปุตฺตทารํ, ธฺํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ;

กิเมว ตฺวํ สุตโสมานุตปฺเป, โกรพฺยเสฏฺ วจนํ สุโณม เตต’’นฺติ.

ตตฺถ, โภ สุตโสม มหาราช, เย ปณฺฑิตา กึ ภูตา? มติมนฺโต อตฺถานตฺถํ การณาการณํ ชานนปฺาย สมนฺนาคตา, สปฺปฺา วิจรณปฺาย สมนฺนาคตา, พหุสฺสุตา พหุสฺสุตธรา พหุฏฺานจินฺติโน พหุการณจินฺตนสีลา, เต ปณฺฑิตา มรณภเย อุปฺปนฺเน สติ ภีตา หุตฺวา เว เอกนฺเตน น รุทนฺติ น ปริเทวนฺติ. ทีปํ หีติ, โภ สุตโสม มหาราช หิ กสฺมา ปน วทามิ, มหาสมุทฺเท ภินฺนนาวานํ วาณิชกานํ ชนานํ ปติฏฺาภูตํ มหาทีปํ อิว, เอวมฺปิ ตถา เอตํ ปณฺฑิตํ อปฺปฏิสรณานํ นรานํ ปรมํ. ยํ เยน การเณน เย ปณฺฑิตา โสกีนํ ชนานํ โสกนุทา ภวนฺติ, โภ สุตโสม มหาราช, ตฺวํ มรณภเยน ปริเทวีติ มฺเ มฺามิ. อตฺตานนฺติ, โภ สุตโสม มหาราช, อตฺตเหตุ อุทาหุ าติเหตุ ปุตฺตทารเหตุ อุทาหุ ธฺธนรชตชาตรูปเหตุ กิเมว ตฺวํ กิเมว ธมฺมชาตํ ตฺวํ อนุตปฺเป อนุตปฺเปยฺยาสิ. โกรพฺยเสฏฺ กุรุรฏฺวาสีนํ เสฏฺ อุตฺตม, โภ มหาราช, เอตํ ตว วจนํ สุโณมาติ.

สุตโสโม อาห –

๔๐๐.

‘‘เนวาหมตฺตานมนุตฺถุนามิ, น ปุตฺตทารํ น ธนํ น รฏฺํ;

สตฺจ ธมฺโม จริโต ปุราโณ, ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺสานุตปฺเป.

๔๐๑.

‘‘กโต มยา สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตตฺถ เนวาหมตฺตานมนุตฺถุนามีติ อหํ ตาว อตฺตตฺถาย เนว โรทามิ น โสจามิ, อิเมสมฺปิ ปุตฺตาทีนํ อตฺถาย น โรทามิ น โสจามิ, อปิจ โข ปน สตํ ปณฺฑิตานํ จริโต ปุราณธมฺโม อตฺถิ, ยํ สงฺครํ กตฺวา ปจฺฉา อนุตปฺปนํ นาม, ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสฺส อหํ อนุโสจามีติ อตฺโถ . สจฺจานุรกฺขีติ สจฺจํ อนุรกฺขนฺโต. โส หิ พฺราหฺมโณ ตกฺกสิลโต กสฺสปทสพเลน เทสิตา จตสฺโส สตารหา คาถาโย อาทาย อาคโต, ตสฺสาหํ อาคนฺตุกวตฺตํ กาเรตฺวา ‘‘นฺหตฺวา อาคโต สุณิสฺสามิ, ยาว มมาคมนา อาคเมหี’’ติ สงฺครํ กตฺวา อาคโต, ตฺวํ ตา คาถาโย โสตุํ อทตฺวาว มํ คณฺหิ. สเจ มํ วิสฺสชฺเชสิ, ตํ ธมฺมํ สุตฺวา สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺสามีติ วทติ.

อถ นํ โปริสาโท อาห –

๔๐๑.

‘‘เนวาหเมตํ อภิสทฺทหามิ, สุขี นโร มจฺจุมุขา ปมุตฺโต;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราวเชยฺย, โกรพฺยเสฏฺ น หิ มํ อุเปสิ.

๔๐๓.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

มธุรํ ปิยํ ชีวิตํ ลทฺธ ราช, กุโต ตุวํ เอหิสิ เม สกาส’’นฺติ.

ตตฺถ สุขีติ สุขปฺปตฺโต หุตฺวา. มจฺจุมุขา ปมุตฺโตติ มาทิสสฺส โจรสฺส หตฺถโต มุตฺตตาย มรณมุขา มุตฺโต นาม หุตฺวา อมิตฺตหตฺถํ ปุนราวเชยฺย อาคจฺเฉยฺย, อหํ เอตํ วจนํ เนว อภิสทฺทหามิ, โกรพฺยเสฏฺ ตฺวํ มม สนฺติกํ น หิ อุเปสิ. มุตฺโตติ สุตโสม ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถโต มุตฺโต. สกํ มนฺทิรนฺติ ราชธานิเคหํ คนฺตฺวา. กามกามีติ กามํ กามยมาโน. ลทฺธาติ อติวิย ปิยํ ชีวิตํ ลภิตฺวา ตุวํ เม มม สนฺติเก กุโต เกน นาม การเณน เอหิสิ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต สีโห วิย อสมฺภิโต อาห –

๔๐๔.

‘‘มตํ วเรยฺย ปริสุทฺธสีโล, น ชีวิตํ ครหิโต ปาปธมฺโม;

น หิ ตํ นรํ ตายติ ทุคฺคตีหิ, ยสฺสาปิ เหตุ อลิกํ ภเณยฺย.

๔๐๕.

‘‘สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺย, จนฺโท จ สูริโย จ ฉมา ปเตยฺยุํ;

สพฺพา จ นชฺโช ปฏิโสตํ วเชยฺยุํ, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํ.

๔๐๖.

‘‘นภํ ผเลยฺย อุทธีปิ สุสฺเส, สํวตฺตเย ภูตธรา วสุนฺธรา;

สิลุจฺจโย เมรุ สมูลมุปฺปเต, น ตฺเววหํ ราช มุสา ภเณยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ มตํ วเรยฺยาติ โปริสาท โย นโร ปริสุทฺธสีโล ชีวิตเหตุ อณุมตฺตมฺปิ ปาปํ น กโรติ, สีลสมฺปนฺโน หุตฺวา วเรยฺย ตํ มรณํ อิจฺเฉยฺย, ครหิโต ปาปธมฺโม ตํ ชีวิตํ น เสยฺโย, ทุสฺสีโล ปุคฺคโล ยสฺสาปิ เหตุ อตฺตาทิโนปิ เหตุ อลิกํ วจนํ ภเณยฺย, ตํ นรํ เอวรูปํ ทุคฺคตีหิ ตํ อลิกํ น ตายเต. สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺยาติ, สมฺม โปริสาท, ตยา สทฺธึ เอกาจริยกุเล สิกฺขิโต เอวรูโป สหายโก หุตฺวา อหํ ชีวิตเหตุ มุสา น กเถมิ, กึ น สทฺทหสิ. สเจ ปุรตฺถิมาทิเภโท วาโต อุฏฺาย มหนฺตํ คิรึ ตูลปิจุํ วิย อากาเส อาวเหยฺย, จนฺโท จ สูริโย จ อตฺตโน อตฺตโน วิมาเนน สทฺธึ ฉมา ปถวิยํ ปเตยฺยุํ, สพฺพาปิ นชฺโช ปติโสตํ วเชยฺยุํ, โภ โปริสาท , เอวรูปํ วจนํ สเจ ภเณยฺย, ตํ สทฺทหิตพฺพํ, อหํ มุสา ภเณยฺยํ อิติ วจนํ ตุยฺหํ ชเนหิ วุตฺตํ, น ตฺเวว ตํ สทฺทหิตพฺพํ.

เอวํ วุตฺเตปิ โส น สทฺทหิเยว. อถ โพธิสตฺโต ‘‘อยํ มยฺหํ น สทฺทหติ, สปเถนปิ นํ สทฺทหาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, ขนฺธโต ตาว มํ โอตาเรหิ, สปถํ กตฺวา ตํ สทฺทหาเปสฺสามี’’ติ วุตฺเต เตน โอตาเรตฺวา ภูมิยํ ปิโต สปถํ กโรนฺโต อาห –

๔๐๗.

‘‘อสิฺจ สตฺติฺจ ปรามสามิ, สปถมฺปิ เต สมฺม อหํ กโรมิ;

ตยา ปมุตฺโต อนโณ ภวิตฺวา, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม โปริสาท, สเจ อิจฺฉสิ, เอวรูเปหิ อาวุเธหิ สํวิหิตารกฺเข ขตฺติยกุเล เม นิพฺพตฺติ นาม มา โหตูติ อสิฺจ สตฺติฺจ ปรามสามิ. สเจ อฺเหิ ราชูหิ อกตฺตพฺพํ อฺํ วา ยํ อิจฺฉสิ, ตํ สปถมฺปิ เต, สมฺม, อหํ กโรมิ. ยถาหํ ตยา ปมุตฺโต คนฺตฺวา พฺราหฺมณสฺส อนโณ หุตฺวา สจฺจมนุรกฺขนฺโต ปุนราคมิสฺสามีติ.

ตโต โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสโม ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ สปถํ กโรติ, กึ เม อิมินา, เอส เอตุ วา มา วา, อหมฺปิ ขตฺติยราชา, มเมว พาหุโลหิตํ คเหตฺวา เทวตาย พลิกมฺมํ กริสฺสามิ, อยํ อติวิย กิลมตี’’ติ จินฺเตตฺวา –

๔๐๘.

‘‘โย เต กโต สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชสฺสู’’ติ.

ตตฺถ ปุนราวชสฺสูติ ปุน อาคจฺเฉยฺยาสิ.

อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สมฺม, มา จินฺตยิ, จตสฺโส สตารหา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส ปูชํ กตฺวา ปาโตวาคมิสฺสามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๐๙.

‘‘โย เม กโต สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺส’’นฺติ.

อถ นํ โปริสาโท, ‘‘มหาราช, ตุมฺเห ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ สปถํ กริตฺถ, ตํ อนุสฺสเรยฺยาถา’’ติ วตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, ตฺวํ มํ ทหรกาลโต ปฏฺาย ชานาสิ, หาเสนปิ เม มุสา น กถิตปุพฺพา, โสหํ อิทานิ รชฺเช ปติฏฺิโต ธมฺมาธมฺมํ ชานนฺโต กึ มุสา กเถสฺสามิ, สทฺทหสิ มยฺหํ , อหํ เต สฺเว พลิกมฺมํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ สทฺทหาปิโต ‘‘เตน หิ คจฺฉ, มหาราช, ตุมฺเหสุ อนาคเตสุ พลิกมฺมํ น ภวิสฺสติ, เทวตาปิ ตุมฺเหหิ วินา น สมฺปฏิจฺฉติ, มา เม พลิกมฺมสฺส อนฺตรายํ กริตฺถา’’ติ มหาสตฺตํ อุยฺโยเชสิ. โส ราหุมุขา มุตฺตจนฺโท วิย นาคพโล ถามสมฺปนฺโน ขิปฺปเมว นครํ สมฺปาปุณิ. เสนาปิสฺส ‘‘สุตโสโม ราชา ปณฺฑิโต มธุรธมฺมกถิโก เอกํ ทฺเว กถา กเถตุํ ลภนฺโต โปริสาทํ ทเมตฺวา สีหมุขา มุตฺตมตฺตวารโณ วิย อาคมิสฺสติ, ‘อิเม ราชานํ โปริสาทสฺส ทตฺวา อาคตา’ติ มหาชโน ครหิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา พหินคเรเยว ขนฺธาวารํ กตฺวา ิตา ตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘กจฺจิ, มหาราช, โปริสาเทน กิลมิโต’’ติ ปฏิสนฺถารํ กตฺวา ‘‘โปริสาเทน มยฺหํ มาตาปิตูหิปิ ทุกฺกรํ กตํ, ตถารูโป นาม จณฺโฑ สาหสิโก โปริสาโท มม ธมฺมกถํ สุตฺวา มํ วิสฺสชฺเชสี’’ติ วุตฺเต ราชานํ อลงฺกริตฺวา หตฺถิกฺขนฺธํ อาโรเปตฺวา ปริวาเรตฺวา นครํ ปาวิสิ. ตํ ทิสฺวา สพฺเพ นาครา ตุสฺสึสุ.

โสปิ ธมฺมครุตาย ธมฺมโสณฺฑตาย มาตาปิตโร อทิสฺวาว ‘‘ปจฺฉาปิ เน ปสฺสิสฺสามี’’ติ ราชนิเวสนํ ปวิสิตฺวา ราชาสเน นิสีทิตฺวา พฺราหฺมณํ ปกฺโกสาเปตฺวา มสฺสุกมฺมาทีนิสฺส อาณาเปตฺวา ตํ กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตํ วตฺถาลงฺการปฏิมณฺฑิตํ กตฺวา อาเนตฺวา ทสฺสิตกาเล สยํ ปจฺฉา นฺหตฺวา ตสฺส อตฺตโน โภชนํ ทาเปตฺวา ตสฺมึ ภุตฺเต สยํ ภุฺชิตฺวา ตํ มหารเห ปลฺลงฺเก นิสีทาเปตฺวา ธมฺมครุกตาย อสฺส คนฺธมาลาทีหิ ปูชํ กตฺวา สยํ นีเจ อาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘ตุมฺเหหิ มยฺหํ อาภตา สตารหา คาถา สุโณม อาจริยา’’ติ ยาจิ. ตมตฺถํ ทีเปนฺโต สตฺถา คาถมาห –

๔๑๐.

‘‘มุตฺโต จ โส โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวาน ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ;

สุโณมิ คาถาโย สตารหาโย, ยา เม สุตา อสฺสุ หิตาย พฺรหฺเม’’ติ.

ตตฺถ เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ.

อถ พฺราหฺมโณ โพธิสตฺเตน ยาจิตกาเล คนฺเธหิ หตฺเถ อุพฺพฏฺเฏตฺวา ปสิพฺพกา มโนรมํ โปตฺถกํ นีหริตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ คเหตฺวา ‘‘เตน หิ, มหาราช, กสฺสปทสพเลน เทสิตา ราคมทาทินิมฺมทนา อมตมหานิพฺพานสมฺปาปิกา จตสฺโส สตารหา คาถาโย สุโณหี’’ติ วตฺวา โปตฺถกํ โอโลเกนฺโต อาห –

๔๑๑.

‘‘สกิเทว สุตโสม, สพฺภิ โหติ สมาคโม;

สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุ สงฺคโม.

๔๑๒.

‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;

สตํ สทฺธมฺมมฺาย, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๔๑๓.

‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ.

๔๑๔.

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ.

ตตฺถ สกิเทวาติ เอกวารเมว. สพฺภีติ สปฺปุริเสหิ. สา นนฺติ สา สพฺภิ สปฺปุริเสหิ สงฺคติ สมาคโม เอกวารํ ปวตฺโตปิ ตํ ปุคฺคลํ ปาเลติ รกฺขติ. นาสพฺภีติ อสปฺปุริเสหิ ปน พหุ สุจิรมฺปิ กโต สงฺคโม เอกฏฺาเน นิวาโส น ปาเลติ, น ถาวโร โหตีติ อตฺโถ. สมาเสถาติ สทฺธึ นิสีเทยฺย, สพฺเพปิ อิริยาปเถ ปณฺฑิเตเหว สทฺธึ ปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ. สนฺถวนฺติ มิตฺตสนฺถวํ. สตํ สทฺธมฺมนฺติ ปณฺฑิตานํ พุทฺธาทีนํ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมสงฺขาตํ สทฺธมฺมํ. เสยฺโยติ เอตํ ธมฺมํ ตฺวา วฑฺฒิเยว โหติ, หานิ นาม นตฺถีติ อตฺโถ. ราชรถาติ ราชูนํ อาโรหนียรถา. สุจิตฺตาติ สุปริกมฺมกตา. สพฺภิ ปเวทยนฺตีติ พุทฺธาทโย สนฺโต ‘‘สพฺภี’’ติ สงฺขํ คตํ โสภนํ อุตฺตมํ นิพฺพานํ ปเวเทนฺติ โถเมนฺติ, โส นิพฺพานสงฺขาโต สตํ ธมฺโม ชรํ น อุเปติ น ชีรติ. นภนฺติ อากาโส. ทูเรติ ปถวี หิ สปฺปติฏฺา สคหณา, อากาโส นิราลมฺโพ อปฺปติฏฺโ, อิติ อุโภ เอเต เอกาพทฺธาปิ วิสํโยคฏฺเน อนุปลิตฺตฏฺเน จ ทูเร นาม โหนฺติ. ปารนฺติ โอริมตีรโต ปรตีรํ. ตทาหูติ ตํ อาหุ.

อิติ พฺราหฺมโณ จตสฺโส สตารหา คาถา กสฺสปทสพเลน เทสิตนิยาเมน เทเสตฺวา ตุณฺหี อโหสิ . ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘สปฺผลํ วต เม อาคมน’’นฺติ ตุฏฺจิตฺโต หุตฺวา ‘‘อิมา คาถา เนว สาวกภาสิตา, น อิสิภาสิตา, น เกนจิ ภาสิตา, สพฺพฺุนาว ภาสิตา, กึ นุ โข อคฺฆนฺตี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิมาสํ สกลมฺปิ จกฺกวาฬํ ยาว พฺรหฺมโลกา สตฺตรตนปุณฺณํ กตฺวา ททมาโนปิ เนว อนุจฺฉวิกํ กาตุํ สกฺโกติ, อหํ โข ปนสฺส ติโยชนสเต กุรุรฏฺเ สตฺตโยชนิเก อินฺทปตฺถนคเร รชฺชํ ทาตุํ ปโหมิ, อตฺถิ นุ ขฺวสฺส รชฺชํ กาเรตุํ ภาคฺย’’นฺติ องฺควิชฺชานุภาเวน โอโลเกนฺโต นาทฺทส. ตโต เสนาปติฏฺานาทีนิ โอโลเกนฺโต เอกคามโภชกมตฺตสฺสปิ ภาคฺยํ อทิสฺวา ธนลาภสฺส โอโลเกนฺโต โกฏิธนโต ปฏฺาย โอโลเกตฺวา จตุนฺนํเยว กหาปณสหสฺสานํ ภาคฺยํ ทิสฺวา ‘‘เอตฺตเกน นํ ปูเชสฺสามี’’ติ จตสฺโส สหสฺสตฺถวิกา ทาเปตฺวา, ‘‘อาจริย, ตุมฺเห อฺเสํ ขตฺติยานํ อิมา คาถา เทเสตฺวา กิตฺตกํ ธนํ ลภถา’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘เอเกกาย คาถาย สตํ สตํ, มหาราช, เตเนว ตา สตารหา นาม ชาตา’’ติ. อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘อาจริย, ตฺวํ อตฺตนา คเหตฺวา วิกฺเกยฺยภณฺฑสฺส อคฺฆมฺปิ น ชานาสิ , อิโต ปฏฺาย เอเกกา คาถา สหสฺสารหา นาม โหนฺตู’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๑๕.

‘‘สหสฺสิยา อิมา คาถา, นหิมา คาถา สตารหา;

จตฺตาริ ตฺวํ สหสฺสานิ, ขิปฺปํ คณฺหาหิ พฺราหฺมณา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – พฺราหฺมณ, อิมา คาถา สหสฺสิยา สหสฺสารหา, อิมา คาถา สตารหา น หิ โหนฺตุ, พฺราหฺมณ, ตฺวํ จตฺตาริ สหสฺสานิ ขิปฺปํ คณฺหาติ.

อถสฺส เอกํ สุขยานกํ ทตฺวา ‘‘พฺราหฺมณํ โสตฺถินา เคหํ สมฺปาเปถา’’ติ ปุริเส อาณาเปตฺวา ตํ อุยฺโยเชสิ. ตสฺมึ ขเณ ‘‘สุตโสมรฺา สตารหา คาถา สหสฺสารหา กตฺวา ปูชิตา สาธุ สาธู’’ติ มหาสาธุการสทฺโท อโหสิ. ตสฺส มาตาปิตโร ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ สทฺโท นาเมสา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ยถาภูตํ สุตฺวา อตฺตโน ธนโลภตาย มหาสตฺตสฺส กุชฺฌึสุ. โสปิ พฺราหฺมณํ อุยฺโยเชตฺวา เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อฏฺาสิ. อถสฺส ปิตา ‘‘กถํ, ตาต, เอวรูปสฺส สาหสิกสฺส โจรสฺส หตฺถโต มุตฺโตสี’’ติ ปฏิสนฺถารมตฺตมฺปิ อกตฺวา อตฺตโน ธนโลภตาย ‘‘สจฺจํ กิร, ตาต, ตยา จตสฺโส คาถา สุตฺวา จตฺตาริ สหสฺสานิ ทินฺนานี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺเต คาถมาห –

๔๑๖.

‘‘อาสีติยา นาวุติยา จ คาถา, สตารหา จาปิ ภเวยฺย คาถา;

ปจฺจตฺตเมว สุตโสม ชานหิ, สหสฺสิยา นาม กา อตฺถิ คาถา’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – คาถา นาม, ตาต, อาสีติยา จ นาวุติยา จ สตารหา จาปิ ภเวยฺย, ปจฺจตฺตเมว อตฺตนาว ชานาหิ, สหสฺสารหา นาม คาถา กา กสฺส สนฺติเก อตฺถีติ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘นาหํ, ตาต, ธเนน วุทฺธึ อิจฺฉามิ, สุเตน ปน อิจฺฉามี’’ติ สฺาเปนฺโต อาห –

๔๑๗.

‘‘อิจฺฉามิ โวหํ สุตวุทฺธิมตฺตโน, สนฺโตติ มํ สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;

อหํ สวนฺตีหิ มโหทธีว, น หิ ตาต ตปฺปามิ สุภาสิเตน.

๔๑๘.

‘‘อคฺคิ ยถา ติณกฏฺํ ทหนฺโต, น กปฺปตี สาคโรว นทีภิ;

เอวมฺปิ เต ปณฺฑิตา ราชเสฏฺ, สุตฺวา น ตปฺปนฺติ สุภาสิเตน.

๔๑๙.

‘‘สกสฺส ทาสสฺส ยทา สุโณมิ, คาถํ อหํ อตฺถวตึ ชนินฺท;

ตเมว สกฺกจฺจ นิสามยามิ, น หิ ตาต ธมฺเมสุ มมตฺถิ ติตฺตี’’ติ.

ตตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํ. ‘‘สนฺโต’’ติ เอเต จ มํ ภเชยฺยุํ อิติ อิจฺฉามิ. สวนฺตีหีติ นทีหิ. สกสฺสาติ ติฏฺตุ, นนฺท, พฺราหฺมโณ, ยทา อหํ อตฺตโน ทาสสฺสปิ สนฺติเก สุโณมิ, ตาต, ธมฺเมสุ มม ติตฺติ น หิ อตฺถีติ.

เอวฺจ ปน วตฺวา ‘‘มา มํ, ตาต, ธนเหตุ ปริภาสสิ, อหํ ธมฺมํ สุตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ สปถํ กตฺวา อาคโต, อิทานาหํ โปริสาทสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามิ, อิทํ เต รชฺชํ คณฺหถา’’ติ รชฺชํ นิยฺยาเทนฺโต คาถมาห –

๔๒๐.

‘‘อิทํ เต รฏฺํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

กึ กามเหตุ ปริภาสสิ มํ, คจฺฉามหํ โปริสาทสฺส ตฺเต’’ติ.

ตตฺถ ตฺเตติ สนฺติเก.

ตสฺมึ สมเย ปิตุรฺโ หทยํ อุณฺหํ อโหสิ. โส, ‘‘ตาต สุตโสม, กึ นาเมตํ กเถสิ, มยํ จตุรงฺคินิยา เสนาย โจรํ คเหสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๒๑.

‘‘อตฺตานุรกฺขาย ภวนฺติ เหเต, หตฺถาโรหา รถิกา ปตฺติกา จ;

อสฺสาโรหา เย จ ธนุคฺคหาเส, เสนํ ปยุฺชาม หนาม สตฺตุ’’นฺติ.

ตตฺถ หนามาติ สเจ เอวํ ปโยชิตา เสนา ตํ คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, อถ นํ สกลรฏฺวาสิโน คเหตฺวา คนฺตฺวา หนาม สตฺตุํ, มาเรม ตํ อมฺหากํ ปจฺจามิตฺตนฺติ อตฺโถ.

อถ นํ มาตาปิตโร อสฺสุปุณฺณมุขา โรทมานา วิลปนฺตา, ‘‘ตาต, มา คจฺฉ, คนฺตุํ น ลพฺภา’’ติ ยาจึสุ. โสฬสสหสฺสา นาฏกิตฺถิโยปิ เสสปริชโนปิ ‘‘อมฺเห อนาเถ กตฺวา กุหึ คจฺฉสิ, เทวา’’ติ ปริเทวึสุ. สกลนคเร โกจิ สกภาเวน สณฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สุตโสโม โปริสาทสฺส กิร ปฏิฺํ ทตฺวา อาคโต, อิทานิ จตสฺโส สตารหา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา ปุนปิ กิร โจรสฺส สนฺติกํ คมิสฺสตี’’ติ สกลนครํ เอกโกลาหลํ อโหสิ. โสปิ มาตาปิตูนํ วจนํ สุตฺวา คาถมาห –

๔๒๒.

‘‘สุทุกฺกรํ โปริสาโท อกาสิ, ชีวํ คเหตฺวาน อวสฺสชี มํ;

ตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรนฺโต, ทุพฺเภ อหํ ตสฺส กถํ ชนินฺทา’’ติ.

ตตฺถ ชีวํ คเหตฺวานาติ ชีวคฺคาหํ คเหตฺวา. ตํ ตาทิสนฺติ ตํ เตน กตํ ตถารูปํ. ปุพฺพกิจฺจนฺติ ปุริมํ อุปการํ. ชนินฺทาติ ปิตรํ อาลปติ.

โส มาตาปิตโร อสฺสาเสตฺวา, ‘‘อมฺม ตาตา, ตุมฺเห มยฺหํ มา จินฺตยิตฺถ, กตกลฺยาโณ อหํ, มม ฉกามสฺสคฺคิสฺสริยํ น ทุลฺลภ’’นฺติ มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา เสสชนํ อนุสาสิตฺวา ปกฺกามิ. ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห –

๔๒๓.

‘‘วนฺทิตฺวา โส ปิตรํ มาตรฺจ, อนุสาสิตฺวา เนคมฺจ พลฺจ;

สจฺจวาที สจฺจานุรกฺขมาโน, อคมาสิ โส ยตฺถ โปริสาโท’’ติ.

ตตฺถ สจฺจานุรกฺขมาโนติ สจฺจํ อนุรกฺขมาโน. อคมาสีติ ตํ รตฺตึ นิเวสเนเยว วสิตฺวา ปุนทิวเส อรุณุคฺคมนเวลาย มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อาปุจฺฉิตฺวา เสสชนํ อนุสาสิตฺวา อสฺสุมุเขน นานปฺปการํ ปริเทวนฺเตน อิตฺถาคาราทินา มหาชเนน อนุคโต นครา นิกฺขมฺม ตํ ชนํ นิวตฺเตตุํ อสกฺโกนฺโต มหามคฺเค ทณฺฑเกน ติริยํ เลขํ กฑฺฒิตฺวา ‘‘สเจ มยิ สิเนโห อตฺถิ, อิมํ มา อติกฺกมึสู’’ติ อาห. มหาชโน สีลวโต เตชวนฺตสฺส อาณํ อติกฺกมิตุํ อสกฺโกนฺโต มหาสทฺเทน ปริเทวมาโน ตํ สีหวิชมฺภิเตน คจฺฉนฺตํ โอโลเกตฺวา ตสฺมึ ทสฺสนูปจารํ อติกฺกนฺเต เอกรวํ รวนฺโต นครํ ปาวิสิ. โสปิ อาคตมคฺเคเนว ตสฺส สนฺติกํ คโต. เตน วุตฺตํ ‘‘อคมาสิ โส ยตฺถ โปริสาโท’’ติ.

ตโต โปริสาโท จินฺเตสิ – ‘‘สเจ มม สหาโย สุตโสโม อาคนฺตุกาโม, อาคจฺฉตุ, อนาคนฺตุกาโม, อนาคจฺฉตุ, รุกฺขเทวตา ยํ มยฺหํ อิจฺฉติ , ตํ กโรตุ, อิเม ราชาโน มาเรตฺวา ปฺจมธุรมํเสน พลิกมฺมํ กริสฺสามี’’ติ จิตกํ กตฺวา อคฺคึ ชาเลตฺวา ‘‘องฺคารราสิ ตาว โหตู’’ติ ตสฺส สูเล ตจฺฉนฺตสฺส นิสินฺนกาเล สุตโสโม อาคโต. อถ นํ โปริสาโท ทิสฺวา ตุฏฺจิตฺโต, ‘‘สมฺม, คนฺตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ เต กต’’นฺติ ปุจฺฉิ. มหาสตฺโต, ‘‘อาม มหาราช, กสฺสปทสพเลน เทสิตา คาถา เม สุตา, ธมฺมกถิกสฺส จ สกฺกาโร กโต, ตสฺมา คนฺตฺวา กตฺตพฺพกิจฺจํ กตํ นาม โหตี’’ติ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๔๒๔.

‘‘กโต มยา สงฺคโร พฺราหฺมเณน, รฏฺเ สเก อิสฺสริเย ิเตน;

ตํ สงฺครํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

ยชสฺสุ ยฺํ ขาท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ ยชสฺสูติ มํ มาเรตฺวา เทวตาย วา ยฺํ ยชสฺสุ, มํสํ วา เม ขาทาหีติ อตฺโถ.

ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ ราชา น ภายติ, วิคตมรณภโย หุตฺวา กเถติ, กิสฺส นุ โข เอส อานุภาโว’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อฺํ นตฺถิ, อยํ ‘กสฺสปทสพเลน เทสิตา คาถา เม สุตา’ติ วทติ, ตาสํ เอเตน อาสุภาเวน ภวิตพฺพํ, อหมฺปิ ตํ กถาเปตฺวา ตา คาถาโย โสสฺสามิ, เอวํ อหมฺปิ นิพฺภโย ภวิสฺสามี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา คาถมาห –

๔๒๕.

‘‘น หายเต ขาทิตํ มยฺหํ ปจฺฉา, จิตกา อยํ ตาว สธูมิกาว;

นิทฺธูมเก ปจิตํ สาธุปกฺกํ, สุโณมิ คาถาโย สตารหาโย’’ติ.

ตตฺถ ขาทิตนฺติ ขาทนํ. ตํ ขาทนํ มยฺหํ ปจฺฉา วา ปุเร วา น ปริหายติ, ปจฺฉาปิ หิ ตฺวํ มยา ขาทิตพฺโพว. นิทฺธูมเก ปจิตนฺติ นิทฺธูเม นิชฺฌาเล อคฺคิมฺหิ ปกฺกมํสํ สาธุปกฺกํ นาม โหติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ‘‘อยํ โปริสาโท ปาปธมฺโม, อิมํ โถกํ นิคฺคเหตฺวา ลชฺชาเปตฺวา กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๒๖.

‘‘อธมฺมิโก ตฺวํ โปริสาทกาสิ, รฏฺา จ ภฏฺโ อุทรสฺส เหตุ;

ธมฺมฺจิมา อภิวทนฺติ คาถา, ธมฺโม จ อธมฺโม จ กุหึ สเมติ.

๔๒๗.

‘‘อธมฺมิกสฺส ลุทฺทสฺส, นิจฺจํ โลหิตปาณิโน;

นตฺถิ สจฺจํ กุโต ธมฺโม, กึ สุเตน กริสฺสสี’’ติ.

ตตฺถ ธมฺมฺจิมาติ อิมา จ คาถา นวโลกุตฺตรธมฺมํ อภิวทนฺติ. กุหึ สเมตีติ กตฺถ สมาคจฺฉติ. ธมฺโม หิ สุคตึ ปาเปติ นิพฺพานํ วา, อธมฺโม ทุคฺคตึ. กุโต ธมฺโมติ วจีสจฺจมตฺตมฺปิ นตฺถิ, กุโต ธมฺโม. กึ สุเตนาติ ตฺวํ เอเตน สุเตน กึ กริสฺสสิ, มตฺติกาภาชนํ วิย หิ สีหวสาย อภาชนํ ตฺวํ ธมฺมสฺส.

โส เอวํ กถิเตปิ เนว กุชฺฌิ. กสฺมา? มหาสตฺตสฺส เมตฺตาภาวนาย มหตฺเตน. อถ นํ ‘‘กึ ปน สมฺม สุตโสม อหเมว อธมฺมิโก’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๒๘.

‘‘โย มํสเหตุ มิควํ จเรยฺย, โย วา หเน ปุริสมตฺตเหตุ;

อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, กสฺมา โน อธมฺมิกํ พฺรูสิ มํ ตฺว’’นฺติ.

ตตฺถ กสฺมา โนติ เย ชมฺพุทีปตเล ราชาโน อลงฺกตปฏิยตฺตา มหาพลปริวารา รถวรคตา มิควํ จรนฺตา ติขิเณหิ สเรหิ มิเค วิชฺฌิตฺวา มาเรนฺติ, เต อวตฺวา กสฺมา ตฺวํ มฺเว อธมฺมิกนฺติ วทติ. ยทิ เต นิทฺโทสา, อหมฺปิ นิทฺโทโส เอวาติ ทีเปติ.

ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต ตสฺส ลทฺธึ ภินฺทนฺโต คาถมาห –

๔๒๙.

‘‘ปฺจ ปฺจ น ขา ภกฺขา, ขตฺติเยน ปชานตา;

อภกฺขํ ราช ภกฺเขสิ, ตสฺมา อธมฺมิโก ตุว’’นฺติ.

ตสฺสตฺโถ – สมฺม โปริสาท, ขตฺติเยน นาม ขตฺติยธมฺมํ ชานนฺเตน ปฺจ ปฺจ หตฺถิอาทโย ทเสว สตฺตา มํสวเสน น ขา ภกฺขา น โข ขาทิตพฺพยุตฺตกา. ‘‘น โข’’ตฺเวว วา ปาโ. อปโร นโย ขตฺติเยน ขตฺติยธมฺมํ ชานนฺเตน ปฺจนเขสุ สตฺเตสุ สสโก, สลฺลโก, โคธา, กปิ กุมฺโมติ อิเม ปฺเจว สตฺตา ภกฺขิตพฺพยุตฺตกา, น อฺเ, ตฺวํ ปน อภกฺขํ มนุสฺสมํสํ ภกฺเขสิ, เตน อธมฺมิโกติ.

อิติ โส นิคฺคหํ ปตฺวา อฺํ นิสฺสรณํ อทิสฺวา อตฺตโน ปาปํ ปฏิจฺฉาเทนฺโต คาถมาห –

๔๓๐.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น ขตฺตธมฺเม กุสโลสิ ราชา’’ติ.

ตตฺถ น ขตฺตธมฺเมติ ตฺวํ ขตฺติยธมฺมสงฺขาเต นีติสตฺเถ น กุสโลสิ, อตฺตโน อตฺถานตฺถํ น ชานาสิ, อการเณเนว เต โลเก ปณฺฑิโตติ กิตฺติ ปตฺถฏา, อหํ ปน เต ปณฺฑิตภาวํ น ปสฺสามิ น ชานามิ, อติพาโลสีหิ วทติ.

อถ นํ มหาสตฺโต, ‘‘สมฺม, ขตฺติยธมฺเม กุสเลน นาม มาทิเสเนว ภวิตพฺพํ. อหฺหิ ตํ ชานามิ, น ปน ตทตฺถาย ปฏิปชฺชามี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๓๑.

‘‘เย ขตฺตธมฺเม กุสลา ภวนฺติ, ปาเยน เต เนรยิกา ภวนฺติ;

ตสฺมา อหํ ขตฺตธมฺมํ ปหาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

ยชสฺสุ ยฺํ ขาท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ กุสลาติ ตทตฺถาย ปฏิปชฺชนกุสลา. ปาเยนาติ เยภุยฺเยน เนรยิกา. เย ปน ตตฺถ น นิพฺพตฺตนฺติ, เต เสสาปาเยสุ นิพฺพตฺตนฺติ.

โปริสาโท อาห –

๔๓๒.

‘‘ปาสาทวาสา ปถวีควาสฺสา, กามิตฺถิโย กาสิกจนฺทนฺจ;

สพฺพํ ตหึ ลภสิ สามิตาย, สจฺเจน กึ ปสฺสสิ อานิสํส’’นฺติ.

ตตฺถ ปาสาทวาสาติ, สมฺม สุตโสม, ตว ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิกา ทิพฺพวิมานกปฺปา ตโย นิวาสปาสาทา. ปถวีควาสฺสาติ ปถวี จ คาโว จ อสฺสา จ พหู. กามิตฺถิโยติ กามวตฺถุภูตา อิตฺถิโย. กาสิกจนฺทนฺจาติ กาสิกวตฺถฺจ โลหิตจนฺทนฺจ. สพฺพํ ตหินฺติ เอตฺจ อฺฺจ อุปโภคปริโภคํ สพฺพํ ตฺวํ ตหึ อตฺตโน นคเร สามิตาย ลภสิ, สามี หุตฺวา ยถา อิจฺฉสิ, ตถา ปริภุฺชิตุํ ลภติ, โส ตฺวํ สพฺพเมตํ ปหาย สจฺจานุรกฺขี อิธาคจฺฉนฺโต สจฺเจน กึ อานิสํสํ ปสฺสสีติ.

โพธิสตฺโต อาห –

๔๓๓.

‘‘เย เกจิเม อตฺถิ รสา ปถพฺยา, สจฺจํ เตสํ สาทุตรํ รสานํ;

สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา จ, ตรนฺติ ชาติมรณสฺส ปาร’’นฺติ.

ตตฺถ สาทุตรนฺติ ยสฺมา สพฺเพปิ รสา สตฺตานํ สจฺจกาเลเยว ปณีตา มธุรา โหนฺติ, ตสฺมา สจฺจํ เตสํ สาทุตรํ รสานํ, ยสฺมา วา วิรติสจฺจวจีสจฺเจ ิตา ชาติมรณสงฺขาตสฺส เตภูมกวฏฺฏสฺส ปารํ อมตมหานิพฺพานํ ตรนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมาปิ ตํ สาทุตรนฺติ.

เอวมสฺส มหาสตฺโต สจฺเจ อานิสํสํ กเถสิ. ตโต โปริสาโท วิกสิตปทุมปุณฺณจนฺทสสฺสิริกเมวสฺส มุขํ โอโลเกตฺวา ‘‘อยํ สุตโสโม องฺคารจิตกํ มฺจ สูลํ ตจฺฉนฺตํ ปสฺสติ, จิตฺตุตฺราสมตฺตมฺปิสฺส นตฺถิ, กึ นุ โข เอส สตารหคาถานํ อานุภาโว, อุทาหุ สจฺจสฺส, อฺสฺเสว วา กสฺสจี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘ปุจฺฉิสฺสามิ ตาว น’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต คาถมาห –

๔๓๔.

‘‘มุตฺโต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น หิ นูน เต มรณภยํ ชนินฺท;

อลีนจิตฺโต อสิ สจฺจวาที’’ติ.

มหาสตฺโตปิสฺส อาจิกฺขนฺโต อาห –

๔๓๕.

‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยฺา ยิฏฺา เย วิปุลา ปสตฺถา;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๓๖.

‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยฺา ยิฏฺา เย วิปุลา ปสตฺถา;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๓๗.

‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฏฺิตา เม, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๓๘.

‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฏฺิตา เม, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๓๙.

‘‘าตีสุ มิตฺเตสุ กตา เม การา, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๔๐.

‘‘าตีสุ มิตฺเตสุ กตา เม การา, ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาท.

๔๔๑.

‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

วิโสธิโต ปรโลกสฺส มคฺโค, ธมฺเม ิโต โก มรณสฺส ภาเย.

๔๔๒.

‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยฺํ อท มํ โปริสาทา’’ติ.

ตตฺถ กลฺยาณาติ กลฺยาณกมฺมา. อเนกรูปาติ ทานาทิวเสน อเนกวิธา. ยฺาติ ทสวิธทานวตฺถุปริจฺจาควเสน อติวิปุลา ปณฺฑิเตหิ ปสตฺถา ยฺาปิ ยิฏฺา ปวตฺติตา. ธมฺเม ิโตติ เอวํ ธมฺเม ปติฏฺิโต มาทิโส โก นาม มรณสฺส ภาเยยฺย. อนานุตปฺปนฺติ อนานุตปฺปมาโน. ธมฺเมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถนฺติ ทสวิธํ ราชธมฺมํ อโกเปตฺวา ธมฺเมเนว มยา รชฺชํ ปสาสิตํ. การาติ าตีสุ าติกิจฺจานิ, มิตฺเตสุ จ มิตฺตกิจฺจานิ. ทานนฺติ สวตฺถุกเจตนา. พหุธาติ พหูหิ อากาเรหิ. พหูนนฺติ น ปฺจนฺนํ, น ทสนฺนํ, สตสฺสปิ สหสฺสสฺสปิ สตสหสฺสสฺสปิ ทินฺนเมว. สนฺตปฺปิตาติ คหิตคหิตภาชนานิ ปูเรตฺวา สุฏฺุ ตปฺปิตา.

ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสมมหาราชา สปฺปุริโส าณสมฺปนฺโน มธุรธมฺมกถิโก, สจาหํ เอตํ ขาเทยฺยํ, มุทฺธา เม สตฺตธา ผเลยฺย, ปถวี วา ปน เม วิวรํ ทเทยฺยา’’ติ ภีตตสิโต หุตฺวา, ‘‘สมฺม, น ตฺวํ มยา ขาทิตพฺพรูโป’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๔๓.

‘‘วิสํ ปชานํ ปุริโส อเทยฺย, อาสีวิสํ ชลิตมุคฺคเตชํ;

มุทฺธาปิ ตสฺส วิผเลยฺย สตฺตธา, โย ตาทิสํ สจฺจวาทึ อเทยฺยา’’ติ.

ตตฺถ วิสนฺติ ตตฺเถว มารณสมตฺถํ หลาหลวิสํ. ชลิตนฺติ อตฺตโน วิสเตเชน ชลิตํ เตเนว อุคฺคเตชํ อคฺคิกฺขนฺธํ วิย จรนฺตํ อาสีวิสํ วา ปน โส คีวาย คณฺเหยฺย.

อิติ โส มหาสตฺตํ ‘‘หลาหลวิสสทิโส ตฺวํ, โก ตํ ขาทิสฺสตี’’ติ วตฺวา คาถา โสตุกาโม ตํ ยาจิตฺวา เตน ธมฺมคารวชนนตฺถํ ‘‘เอวรูปานํ อนวชฺชคาถานํ ตฺวํ อภาชน’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺโตปิ ‘‘สกลชมฺพุทีเป อิมินา สทิโส ปณฺฑิโต นตฺถิ, อยํ มม หตฺถา มุจฺจิตฺวา คนฺตฺวา ตา คาถา สุตฺวา ธมฺมกถิกสฺส สกฺการํ กตฺวา นลาเฏน มจฺจุํ อาทาย ปุนาคโต, อติวิย สาธุรูปา คาถา ภวิสฺสนฺตี’’ติ สุฏฺุตรํ สฺชาตธมฺมสฺสวนาทโร หุตฺวา ตํ ยาจนฺโต คาถมาห –

๔๔๔.

‘‘สุตฺวา ธมฺมํ วิชานนฺติ, นรา กลฺยาณปาปกํ;

อปิ คาถา สุณิตฺวาน, ธมฺเม เม รมเต มโน’’ติ.

ตสฺสตฺโถ – ‘‘สมฺม สุตโสม, นรา นาม ธมฺมํ สุตฺวา กลฺยาณมฺปิ ปาปกมฺปิ ชานนฺติ, อปฺเปว นาม ตา คาถา สุตฺวา มมปิ กุสลกมฺมปถธมฺเม มโน รเมยฺยา’’ติ.

อถ มหาสตฺโต ‘‘โสตุกาโม ทานิ โปริสาโท, กเถสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘เตน หิ, สมฺม, สาธุกํ สุณาหี’’ติ ตํ โอหิตโสตํ กตฺวา นนฺทพฺราหฺมเณน กถิตนิยาเมเนว คาถานํ ถุตึ กตฺวา ฉสุ กามาวจรเทเวสุ เอกโกลาหลํ กตฺวา เทวตาสุ สาธุการํ ททมานาสุ โปริสาทสฺส ธมฺมํ กเถสิ –

๔๔๕.

‘‘สกิเทว มหาราช, สพฺภิ โหติ สมาคโม;

สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุ สงฺคโม.

๔๔๖.

‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุพฺเพถ สนฺถวํ;

สตํ สนฺธมฺมมฺาย, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย.

๔๔๗.

‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

สตฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ, สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ.

๔๔๘.

‘‘นภฺจ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตฺจ ธมฺโม อสตฺจ ราชา’’ติ.

ตสฺส เตน สุกถิตตฺตา เจว อตฺตโน ปณฺฑิตภาเวน จ ตา คาถา สพฺพฺุพุทฺธกถิตา วิยาติ จินฺเตนฺตสฺส สกลสรีรํ ปฺจวณฺณาย ปีติยา ปริปูริ, โพธิสตฺเต มุทุจิตฺตํ อโหสิ, เสตจฺฉตฺตทายกํ ปิตรํ วิย นํ อมฺิ. โส ‘‘อหํ สุตโสมสฺส ทาตพฺพํ กิฺจิ หิรฺสุวณฺณํ น ปสฺสามิ, เอเกกาย ปนสฺส คาถาย เอเกกํ วรํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา คาถมาห –

๔๔๙.

‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยฺชนา, สุภาสิตา ตุยฺห ชนินฺท สุตฺวา;

อานนฺทิ วิตฺโต สุมโน ปตีโต, จตฺตาริ เต สมฺม วเร ททามี’’ติ.

ตตฺถ อานนฺทีติ อานนฺทชาโต. เสสานิ ตสฺเสว เววจนานิ. จตฺตาโรปิ เหเต ตุฏฺาการา เอว.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘กึ นาม ตฺวํ วรํ ทสฺสสี’’ติ อปสาเทนฺโต คาถมาห –

๔๕๐.

‘‘โย นตฺตโน มรณํ พุชฺฌสิ ตุวํ, หิตาหิตํ วินิปาตฺจ สคฺคํ;

คิทฺโธ รเส ทุจฺจริเต นิวิฏฺโ, กึ ตฺวํ วรํ ทสฺสสิ ปาปธมฺม.

๔๕๑.

‘‘อหฺจ ตํ ‘เทหิ วร’นฺติ วชฺชํ, ตฺวํ จาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

สนฺทิฏฺิกํ กลหมิมํ วิวาทํ, โก ปณฺฑิโต ชานมุปพฺพเชยฺยา’’ติ.

ตตฺถ โยติ โย ตฺวํ ‘‘มรณธมฺโมหมสฺมี’’ติ อตฺตโนปิ มรณํ น พุชฺฌสิ น ชานาสิ, ปาปกมฺมเมว กโรสิ. หิตาหิตนฺติ ‘‘อิทํ เม กมฺมํ หิตํ, อิทํ อหิตํ, อิทํ วินิปาตํ เนสฺสติ, อิทํ สคฺค’’นฺติ น ชานาสิ. รเสติ มนุสฺสมํสรเส. วชฺชนฺติ วเทยฺยํ. น อวากเรยฺยาติ วาจาย ทตฺวา ‘‘เทหิ เม วร’’นฺติ วุจฺจมาโน น อวากเรยฺยาสิ น ทเทยฺยาสิ. อุปพฺพเชยฺยาติ โก อิมํ กลหํ ปณฺฑิโต อุปคจฺเฉยฺย.

ตโต โปริสาโท ‘‘นายํ มยฺหํ สทฺทหติ, สทฺทหาเปสฺสามิ น’’นฺติ คาถมาห –

๔๕๒.

‘‘น ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมวา’’ติ.

ตตฺถ อวิกมฺปมาโนติ อโนลียมาโน.

อถ มหาสตฺโต ‘‘อยํ อติวิย สูโร หุตฺวา กเถติ, กริสฺสติ เม วจนํ, วรํ คณฺหิสฺสามิ, สเจ ปน ‘‘มนุสฺสมํสํ น ขาทิตพฺพ’นฺติ ปมเมว วรํ วารยิสฺสํ, อติวิย กิลมิสฺสติ, ปมํ อฺเ ตโย วเร คเหตฺวา ปจฺฉา เอตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา อาห –

๔๕๓.

‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ, ปฺสฺส ปฺาณวตา สเมติ;

ปสฺเสยฺย ตํ วสฺสสตํ อโรคํ, เอตํ วรานํ ปมํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ อริยสฺสาติ อาจารอริยสฺส. สขฺยนฺติ สขิธมฺโม มิตฺตธมฺโม. ปฺาณวตาติ าณสมฺปนฺเนน. สเมตีติ คงฺโคทกํ วิย ยมุโนทเกน สํสนฺทติ. ธาตุโส หิ สตฺตา สํสนฺทนฺติ. ปสฺเสยฺย ตนฺติ สุตโสโม โปริสาทสฺส จิรํ ชีวิตํ อิจฺฉนฺโต วิย ปมํ อตฺตโน ชีวิตวรํ ยาจติ. ปณฺฑิตสฺส หิ ‘‘มม ชีวิตํ เทหี’’ติ วตฺตุํ อยุตฺตํ, อปิจ โส ‘มยฺหเมว เอส อาโรคฺยํ อิจฺฉตี’ติ จินฺเตตฺวา ตุสฺสิสฺสตีติ เอวมาห.

โสปิ ตํ สุตฺวาว ‘‘อยํ อิสฺสริยา ธํเสตฺวา อิทานิ มํสํ ขาทิตุกามสฺส เอวํ มหาอนตฺถกรสฺส มหาโจรสฺส มยฺหเมว ชีวิตํ อิจฺฉติ, อโห มม หิตกาโม’’ติ ตุฏฺมานโส วฺเจตฺวา วรสฺส คหิตภาวํ อชานิตฺวา ตํ วรํ ททมาโน คาถมาห –

๔๕๔.

‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ, ปฺสฺส ปฺาณวตา สเมติ;

ปสฺสาสิ มํ วสฺสสตํ อโรคํ, เอตํ วรานํ ปมํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ วรานนฺติ จตุนฺนํ วรานํ ปมํ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๔๕๕.

‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

น ตาทิเส ภูมิปตี อเทสิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ กตนามเธยฺยาติ มุทฺธนิ อภิสิตฺตตฺตาว ‘‘มุทฺธาภิสิตฺตา’’ติ กตนามเธยฺยา. น ตาทิเสติ ตาทิเส ขตฺติเย น อเทสิ มา ขาทิ.

อิติ โส ทุติยํ วรํ คณฺหนฺโต ปโรสตานํ ขตฺติยานํ ชีวิตวรํ คณฺหิ. โปริสาโทปิสฺส ททมาโน อาห –

๔๕๖.

‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

น ตาทิเส ภูมิปตี อเทมิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ ททามี’’ติ.

กึ ปน เต เตสํ สทฺทํ สุณนฺติ, น สุณนฺตีติ? น สพฺพํ สุณนฺติ. โปริสาเทน หิ รุกฺขสฺส ธูมชาลอุปทฺทวภเยน ปฏิกฺกมิตฺวา อคฺคิ กโต, อคฺคิโน จ รุกฺขสฺส จ อนฺตเร นิสีทิตฺวา มหาสตฺโต เตน สทฺธึ กเถสิ, ตสฺมา สพฺพํ อสุตฺวา อุปฑฺฒุปฑฺฒํ สุณึสุ. เต ‘‘อิทานิ สุตโสโม โปริสาทํ ทเมสฺสติ, มา ภายถา’’ติ อฺมฺํ สมสฺสาเสสุํ. ตสฺมึ ขเณ มหาสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๕๗.

‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เต คหีตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

สเก เต รฏฺเ ปฏิปาทยาหิ, เอตํ วรานํ ตติยํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ ปโรสตนฺติ อติเรกสตํ. เต คหีตาติ ตยา คหิตา. ตลาวุตาติ หตฺถตเลสุ อาวุตา.

อิติ มหาสตฺโต ตติยํ วรํ คณฺหนฺโต เตสํ ขตฺติยานํ สกรฏฺนิยฺยาตนวรํ คณฺหิ. กึการณา? โส อขาทนฺโตปิ เวรภเยน สพฺเพ เต ทาเส กตฺวา อรฺเเยว วาเสยฺย, มาเรตฺวา วา ฉฑฺเฑยฺย, ปจฺจนฺตํ เนตฺวา วา วิกฺกิเณยฺย, ตสฺมา เตสํ สกรฏฺนิยฺยาตนวรํ คณฺหิ. อิตโรปิสฺส ททมาโน อิมํ คาถมาห –

๔๕๘.

‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เม คหีตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

สเก เต รฏฺเ ปฏิปาทยามิ, เอตํ วรานํ ตติยํ ททามี’’ติ.

จตุตฺถํ ปน วรํ คณฺหนฺโต โพธิสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๕๙.

‘‘ฉิทฺทํ เต รฏฺํ พฺยถิตา ภยา หิ, ปุถู นรา เลณมนุปฺปวิฏฺา;

มนุสฺสมํสํ วิรเมหิ ราช, เอตํ วรานํ จตุตฺถํ วรามี’’ติ.

ตตฺถ ฉิทฺทนฺติ น ฆนวาสํ ตตฺถ ตตฺถ คามาทีนํ อุฏฺิตตฺตา สวิวรํ. พฺยถิตา ภยาหีติ ‘‘โปริสาโท อิทานิ อาคมิสฺสตี’’ติ ตว ภเยน กมฺปิตา. เลณมนุปฺปวิฏฺาติ ทารเก หตฺเถสุ คเหตฺวา ติณคหนาทินิลียนฏฺานํ ปวิฏฺา. มนุสฺสมํสนฺติ ทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ ปฏิกฺกูลํ มนุสฺสมํสํ ปชห. นิสฺสกฺกตฺเถ วา อุปโยคํ, มนุสฺสมํสโต วิรมาหีติ อตฺโถ.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท ปาณึ ปหริตฺวา หสนฺโต ‘‘สมฺม สุตโสม กึ นาเมตํ กเถสิ, กถาหํ ตุมฺหากํ เอตํ วรํ ทสฺสามิ, สเจ คณฺหิตุกาโม, อฺํ คณฺหาหี’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๖๐.

‘‘อทฺธา หิ โส ภกฺโข มม มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ;

โสหํ กถํ เอตฺโต อุปารเมยฺยํ, อฺํ วรานํ จตุตฺถํ วรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ วนนฺติ รชฺชํ ปหาย อิมํ วนํ ปวิฏฺโ.

อถ นํ มหาสตฺโต ‘‘ตฺวํ ‘มนุสฺสมํสสฺส ปิยตรตฺตา ตโต วิรมิตุํ น สกฺโกมี’’ติ วทสิ. โย หิ ปิยํ นิสฺสาย ปาปํ กโรติ, อยํ พาโล’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๖๑.

‘‘น เว ‘ปิยํ เม’ติ ชนินฺท ตาทิโส, อตฺตํ นิรํกจฺจ ปิยานิ เสวติ;

อตฺตาว เสยฺโย ปรมา จ เสยฺโย, ลพฺภา ปิยา โอจิตตฺเถน ปจฺฉา’’ติ.

ตตฺถ ตาทิโสติ ชนินฺท ตาทิโส ยุวา อภิรูโป มหายโส ‘‘อิทํ นาม เม ปิย’’นฺติ ปิยวตฺถุโลเภน ตตฺถ อตฺตานํ นิรํกตฺวา สพฺพสุคตีหิ เจว สุขวิเสเสหิ จ จวิตฺวา นิรเย ปาเตตฺวา น เว ปิยานิ เสวติ. ปรมา จ เสยฺโยติ ปุริสสฺส หิ ปรมา ปิยวตฺถุมฺหา อตฺตาว วรตโร. กึการณา? ลพฺภา ปิยาติ, ปิยา นาม วิสยวเสน เจว ปุฺเน จ โอจิตตฺเถน วฑฺฒิตตฺเถน ทิฏฺธมฺเม เจว ปรตฺถ จ เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ ปตฺวา สกฺกา ลทฺธุํ.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท ภยปฺปตฺโต หุตฺวา ‘‘อหํ สุตโสเมน คหิตํ วรํ วิสฺสชฺชาเปตุมฺปิ มนุสฺสมํสโต วิรมิตุมฺปิ น สกฺโกมิ, กึ นุ โข กริสฺสามี’’ติ อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ คาถมาห –

๔๖๒.

‘‘ปิยํ เม มานุสํ มํสํ, สุตโสม วิชานหิ;

นมฺหิ สกฺกา นิวาเรตุํ, อฺํ วรํ สมฺม วรสฺสู’’ติ.

ตตฺถ วิชานหีติ ตฺวมฺปิ ชานาหิ.

ตโต โพธิสตฺโต อาห –

๔๖๓.

‘‘โย เว ‘ปิยํ เม’ติ ปิยานุรกฺขี, อตฺตํ นิรํกจฺจ ปิยานิ เสวติ;

โสณฺโฑว ปิตฺวา วิสมิสฺสปานํ, เตเนว โส โหติ ทุกฺขี ปรตฺถ.

๔๖๔.

‘‘โย จีธ สงฺขาย ปิยานิ หิตฺวา, กิจฺเฉนปิ เสวติ อริยธมฺเม;

ทุกฺขิโตว ปิตฺวาน ยโถสธานิ, เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถา’’ติ.

ตตฺถ โย เวติ, สมฺม โปริสาท, โย ปุริโส ‘‘อิทํ เม ปิย’’นฺติ ปาปกิริยาย อตฺตานํ นิรํกตฺวา ปิยานิ วตฺถูนิ เสวติ, โส สุราเปเมน วิสมิสฺสํ สุรํ ปิตฺวา โสณฺโฑ วิย เตน ปาปกมฺเมน ปรตฺถ นิรยาทีสุ ทุกฺขี โหติ. สงฺขายาติ ชานิตฺวา ตุเลตฺวา. ปิยานิ หิตฺวาติ อธมฺมปฏิสํยุตฺตานิ ปิยานิ ฉฑฺเฑตฺวา.

เอวํ วุตฺเต โปริสาโท กลูนํ ปริเทวนฺโต คาถมาห –

๔๖๕.

‘‘โอหายหํ ปิตรํ มาตรฺจ, มนาปิเย กามคุเณ จ ปฺจ;

เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ททามี’’ติ.

ตตฺถ เอตสฺสาติ มนุสฺสมํสสฺส. กินฺติ มหนฺติ กินฺติ กตฺวา อหํ ตํ วรํ เทมิ.

ตโต มหาสตฺโต อิมํ คาถมาห –

๔๖๖.

‘‘น ปณฺฑิตา ทิคุณมาหุ วากฺยํ, สจฺจปฺปฏิฺาว ภวนฺติ สนฺโต;

‘วรสฺสุ สมฺม’ อิติ มํ อโวจ, อิจฺจพฺรวี ตฺวํ น หิ เต สเมตี’’ติ.

ตตฺถ ทิคุณนฺติ, สมฺม โปริสาท, ปณฺฑิตา นาม เอกํ วตฺวา ปุน ตํ วิสํวาเทนฺตา ทุติยํ วจนํ น กเถนฺติ. อิติ มํ อโวจาติ, ‘‘สมฺม สุตโสม วรสฺสุ วร’’นฺติ เอวํ มํ อภาสสิ. อิจฺจพฺรวีติ ตสฺมา ยํ ตฺวํ อิติ อพฺรวิ, ตํ เต อิทานิ น สเมติ.

โส ปุน โรทนฺโต เอว คาถมาห –

๔๖๗.

‘‘อปุฺลาภํ อยสํ อกิตฺตึ, ปาปํ พหุํ ทุจฺจริตํ กิเลสํ;

มนุสฺสมํสสฺส กเต อุปาคา, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ทเทยฺย’’นฺติ.

ตตฺถ ปาปนฺติ กมฺมปถํ อปฺปตฺตํ. ทุจฺจริตนฺติ กมฺมปถปฺปตฺตํ. กิเลสนฺติ ทุกฺขํ. มนุสฺสมํสสฺส กเตติ มนุสฺสมํสสฺส เหตุ. อุปาคาติ อุปคโตมฺหิ. ตํ เตติ ตํ ตุยฺหํ กถาหํ วรํ เทมิ, มา มํ วารยิ, อนุกมฺปํ การุฺํ มยิ กโรหิ, อฺํ วรํ คณฺหาหีติ อาห.

อถ มหาสตฺโต อาห –

๔๖๘.

‘‘น ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวา น อวากเรยฺย;

วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมวา’’ติ.

เอวํ เตน ปมํ วุตฺตคาถํ อาหริตฺวา ทสฺเสตฺวา วรทาเน อุสฺสาเหนฺโต คาถา อาห –

๔๖๙.

‘‘ปาณํ จชนฺติ สนฺโต นาปิ ธมฺมํ, สจฺจปฺปฏิฺาว ภวนฺติ สนฺโต;

ทตฺวา วรํ ขิปฺปมวากโรหิ, เอเตน สมฺปชฺช สุราชเสฏฺ.

๔๗๐.

‘‘จเช ธนํ องฺควรสฺส เหตุ, องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน;

องฺคํ ธนํ ชีวิตฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต’’ติ.

ตตฺถ ปาณนฺติ ชีวิตํ. สนฺโต นาม อปิ ชีวิตํ จชนฺติ, น ธมฺมํ. ขิปฺปมวากโรหีติ อิธ ขิปฺปํ มยฺหํ เทหีติ อตฺโถ. เอเตนาติ เอเตน ธมฺเมน เจว สจฺเจน จ สมฺปชฺช สมฺปนฺโน อุปปนฺโน โหหิ. สุราชเสฏฺาติ ตํ ปคฺคณฺหนฺโต อาลปติ. จเช ธนนฺติ, สมฺม โปริสาท, ปณฺฑิโต ปุริโส หตฺถปาทาทิมฺหิ องฺเค ฉิชฺชมาเน ตสฺส รกฺขณตฺถาย พหุมฺปิ ธนํ จเชยฺย. ธมฺมมนุสฺสรนฺโตติ องฺคธนชีวิตานิ ปริจฺจชนฺโตปิ ‘‘สตํ ธมฺมํ น วีติกฺกมิสฺสามี’’ติ เอวํ ธมฺมํ อนุสฺสรนฺโต.

เอวํ มหาสตฺโต อิเมหิ การเณหิ ตํ สจฺเจ ปติฏฺาเปตฺวา อิทานิ อตฺตโน คุรุภาวํ ทสฺเสตุํ คาถมาห –

๔๗๑.

‘‘ยสฺมา หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชฺา, เย จสฺส กงฺขํ วินยนฺติ สนฺโต;

ตํ หิสฺส ทีปฺจ ปรายณฺจ, น เตน มิตฺตึ ชิรเยถ ปฺโ’’ติ.

ตตฺถ ยสฺมาติ ยมฺหา ปุริสา. ธมฺมนฺติ กุสลากุสลโชตกํ การณํ. วิชฺาติ วิชาเนยฺย. ตํ หิสฺสาติ ตํ อาจริยกุลํ เอตสฺส ปุคฺคลสฺส ปติฏฺานฏฺเน ทีปํ, อุปฺปนฺเน ภเย คนฺตพฺพฏฺานฏฺเน ปรายณฺจ. น เตน มิตฺตินฺติ เตน อาจริยปุคฺคเลน สห โส ปณฺฑิโต เกนจิปิ การเณน มิตฺตึ น ชีรเยถ น วินาเสยฺย.

เอวฺจ ปน วตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, คุณวนฺตสฺส อาจริยสฺส วจนํ นาม ภินฺทิตุํ น วฏฺฏติ, อหฺจ ตรุณกาเลปิ ตว ปิฏฺิอาจริโย หุตฺวา พหุํ สิกฺขํ สิกฺขาเปสึ, อิทานิปิ พุทฺธลีลาย สตารหา คาถา เต กเถสึ, เตน เม วจนํ กาตุํ อรหสี’’ติ อาห. ตํ สุตฺวา โปริสาโท ‘‘อยํ สุตโสโม มยฺหํ อาจริโย เจว ปณฺฑิโต จ, วโร จสฺส มยา ทินฺโน, กึ สกฺกา กาตุํ, เอกสฺมึ อตฺตภาเว มรณํ นาม ธุวํ, มนุสฺสมํสํ น ขาทิสฺสามิ, ทสฺสามิสฺส วร’’นฺติ อสฺสุธาราหิ ปวตฺตมานาหิ อุฏฺาย สุตโสมนรินฺทสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา วรํ ททมาโน อิมํ คาถมาห –

๔๗๒.

‘‘อทฺธา หิ โส ภกฺโข มม มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิฏฺโ;

สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, เอตมฺปิ เต สมฺม วรํ ททามี’’ติ.

อถ นํ มหาสตฺโต เอวมาห – ‘‘สมฺม, สีเล ิตสฺส มรณมฺปิ วรํ, คณฺหามิ, มหาราช, ตยา ทินฺนํ วรํ, อชฺช ปฏฺาย อริยปเถ ปติฏฺิโตสิ, เอวํ สนฺเตปิ ตํ ยาจามิ, สเจ เต มยิ สิเนโห อตฺถิ, ปฺจ สีลานิ คณฺห, มหาราชา’’ติ. ‘‘สาธุ, สมฺม, เทหิ เม สีลานี’’ติ. ‘‘คณฺห มหาราชา’’ติ. โส มหาสตฺตํ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. มหาสตฺโตปิ นํ ปฺจสีเลสุ ปติฏฺาเปสิ. ตสฺมึ ขเณ ตตฺถ สนฺนิปติตา ภุมฺมา เทวา มหาสตฺเต ปีตึ ชเนตฺวา ‘‘อวีจิโต ยาว ภวคฺคา อฺโ โปริสาทํ มนุสฺสมํสโต นิวาเรตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อโห สุตโสเมน ทุกฺกรตรํ กต’’นฺติ มหนฺเตน สทฺเทน วนํ อุนฺนาเทนฺตา สาธุการํ อทํสุ. เตสํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกาติ เอวํ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ อโหสิ. รุกฺเข ลคฺคิตราชาโนปิ ตํ เทวตานํ สาธุการสทฺทํ สุณึสุ. รุกฺขเทวตาปิ สกวิมาเน ิตาว สาธุการมทาสิ. อิติ เทวตานํ สทฺโทว สูยติ, รูปํ น ทิสฺสติ. เทวตานํ สาธุการสทฺทํ สุตฺวา ราชาโน จินฺตยึสุ – ‘‘สุตโสมํ นิสฺสาย โน ชีวิตํ ลทฺธํ, ทุกฺกรํ กตํ สุตโสเมน โปริสาทํ ทเมนฺเตนา’’ติ โพธิสตฺตสฺส ถุตึ กรึสุ. โปริสาโท มหาสตฺตสฺส ปาเท วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺาสิ. อถ นํ โพธิสตฺโต – ‘‘สมฺม, ขตฺติเย โมเจหี’’ติ อาห. โส จินฺเตสิ ‘‘อหํ เอเตสํ ปจฺจามิตฺโต, เอเต มยา โมจิตา ‘คณฺหถ โน ปจฺจามิตฺต’นฺติ มํ หึเสยฺยุํ, มยา ชีวิตํ จชนฺเตนปิ น สกฺกา สุตโสมสฺส สนฺติกา คหิตํ สีลํ ภินฺทิตุํ, อิมินา สทฺธิเยว คนฺตฺวา โมเจสฺสามิ, เอวํ เม ภยํ น ภวิสฺสตี’’ติ. อถ โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา, ‘‘สุตโสม, อุโภปิ คนฺตฺวา ขตฺติเย โมเจสฺสามา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๗๓.

‘‘สตฺถา จ เม โหสิ สขา จ เมสิ, วจนมฺปิ เต สมฺม อหํ อกาสึ;

ตุวมฺปิ เม สมฺม กโรหิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ.

ตตฺถ สตฺถาติ สคฺคมคฺคสฺส เทสิตตฺตา สตฺถา จ, ตรุณกาลโต ปฏฺาย สขา จ.

อถ นํ โพธิสตฺโต อาห –

๔๗๔.

‘‘สตฺถา จ เต โหมิ สขา จ ตฺยมฺหิ, วจนมฺปิ เม สมฺม ตุวํ อกาสิ;

อหมฺปิ เต สมฺม กโรมิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ.

เอวํ วตฺวา เต อุปสงฺกมิตฺวา อาห –

๔๗๕.

‘‘กมฺมาสปาเทน วิเหิตตฺถ, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

น ชาตุ ทุพฺเภถ อิมสฺส รฺโ, สจฺจปฺปฏิฺํ เม ปฏิสฺสุณาถา’’ติ.

ตตฺถ กมฺมาสปาเทนาติ อิทํ มหาสตฺโต ‘‘อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยามา’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘ขตฺติยา นาม มานถทฺธา โหนฺติ, มุตฺตมตฺตาว ‘อิมินา มยํ วิเหิตมฺหา’ติ โปริสาทํ โปเถยฺยุมฺปิ หเนยฺยุมฺปิ, น โข ปเนส เตสุ ทุพฺภิสฺสติ, อหํ เอกโกว คนฺตฺวา ปฏิฺํ ตาว เนสํ คณฺหิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา เต หตฺถตเล อาวุนิตฺวา อคฺคปาทงฺคุลีหิ ภูมึ ผุสมานาหิ รุกฺขสาขาสุ โอลคฺคิเต วาตปฺปหรณกาเล นาคทนฺเตสุ โอลคฺคิตกุรณฺฑกทามานิ วิย สมฺปริวตฺตนฺเต อทฺทส. เตปิ ตํ ทิสฺวา ‘‘อิทานิมฺหา มยํ อโรคา’’ติ เอกปฺปหาเรเนว มหาวิรวํ รวึสุ. อถ เน มหาสตฺโต ‘‘มา ภายิตฺถา’’ติ อสฺสาเสตฺวา ‘‘มยา โปริสาโท ทมิโต, ตุมฺหากํ อภยํ คหิตํ, ตุมฺเห ปน เม วจนํ กโรถา’’ติ วตฺวา เอวมาห. ตตฺถ น ชาตูติ เอกํเสเนว น ทุพฺเภถ.

เต อาหํสุ –

๔๗๖.

‘‘กมฺมาสปาเทน วิเหิตมฺหา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

น ชาตุ ทุพฺเภม อิมสฺส รฺโ, สจฺจปฺปฏิฺํ เต ปฏิสฺสุณามา’’ติ.

ตตฺถ ปฏิสฺสุณามาติ ‘‘เอวํ ปฏิฺํ อธิวาเสม สมฺปฏิจฺฉาม, อปิจ โข ปน มยํ กิลนฺตา กเถตุํ น สกฺโกม, ตุมฺเห สพฺพสตฺตานํ สรณํ, ตุมฺเหว กเถถ, มยํ โว วจนํ สุตฺวา ปฏิฺํ ทสฺสามา’’ติ.

อถ เน โพธิสตฺโต ‘‘เตน หิ ปฏิฺํ เทถา’’ติ วตฺวา คาถมาห –

๔๗๗.

‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ,.

เอวเมว โว โหตุ อยฺจ ราชา, ตุมฺเห จ โว โหถ ยเถว ปุตฺตา’’ติ.

อถ นํ เตปิ สมฺปฏิจฺฉมานา อิมํ คาถมาหํสุ –

๔๗๘.

‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ;

เอวเมว โน โหตุ อยฺจ ราชา, มยมฺปิ เหสฺสาม ยเถว ปุตฺตา’’ติ.

ตตฺถ ตุมฺเห จ โวติ โว-กาโร นิปาตมตฺตํ.

อิติ มหาสตฺโต เตสํ ปฏิฺํ คเหตฺวา โปริสาทํ ปกฺโกสิตฺวา ‘‘เอหิ, สมฺม, ขตฺติเย โมเจหี’’ติ อาห. โส ขคฺคํ คเหตฺวา เอกสฺส รฺโ พนฺธนํ ฉินฺทิ. ราชา สตฺตาหํ นิราหาโร เวทนปฺปตฺโต สห พนฺธนเฉทา มุจฺฉิโต ภูมิยํ ปติ. ตํ ทิสฺวา มหาสตฺโต การุฺํ กตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, มา เอวํ ฉินฺที’’ติ เอกํ ราชานํ อุโภหิ หตฺเถหิ ทฬฺหํ คเหตฺวา อุเร กตฺวา ‘‘อิทานิ พนฺธนํ ฉินฺทาหี’’ติ อาห. โปริสาโท ขคฺเคน ฉินฺทิ. มหาสตฺโต ถามสมฺปนฺนตาย นํ อุเร นิปชฺชาเปตฺวา โอรสปุตฺตํ วิย มุทุจิตฺเตน โอตาเรตฺวา ภูมิยํ นิปชฺชาเปสิ. เอวํ สพฺเพปิ เต ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา วเณ โธวิตฺวา ทารกานํ กณฺณโต สุตฺตกํ วิย สณิกํ รชฺชุโย นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปุพฺพโลหิตํ โธวิตฺวา วเณ นิทฺโทเส กตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, เอกํ รุกฺขตจํ ปาสาเณ ฆํสิตฺวา อาหรา’’ติ อาหราเปตฺวา สจฺจกิริยํ กตฺวา เตสํ หตฺถตลานิ มกฺเขสิ. ตงฺขณฺเว วโณ ผาสุกํ อโหสิ. โปริสาโท ตณฺฑุลํ คเหตฺวา ตรลํ ปจิ , อุโภ ชนา ปโรสตํ ขตฺติเย ปาเยสุํ. อิติ เต สพฺเพว สนฺตปฺปิตา, สูริโย อตฺถงฺคโต. ปุนทิวเส ปาโต จ มชฺฌนฺหิเก จ สายฺจ ตรลเมว ปาเยตฺวา ตติยทิวเส สสิตฺถกยาคุํ ปาเยสุํ, ตาวตา เต อโรคา อเหสุํ.

อถ เน มหาสตฺโต ‘‘คนฺตุํ สกฺขิสฺสถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘คจฺฉามา’’ติ วุตฺเต ‘‘เอหิ, สมฺม โปริสาท, สกํ รฏฺํ คจฺฉามา’’ติ อาห. โส โรทมาโน ตสฺส ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘ตฺวํ, สมฺม, ราชาโน คเหตฺวา คจฺฉ, อหํ อิเธว วนมูลผลานิ ขาทนฺโต วสิสฺสามี’’ติ อาห. ‘‘สมฺม, อิธ กึ กริสฺสสิ, รมณียํ เต รฏฺํ, พาราณสิยํ รชฺชํ กาเรหี’’ติ. ‘‘สมฺม กึ กเถสิ, น สกฺกา มยา ตตฺถ คนฺตุํ, สกลนครวาสิโน หิ เม เวริโน, เต ‘อิมินา มยฺหํ มาตา ขาทิตา, มยฺหํ ปิตา, มยฺหํ ภาตา’ติ มํ ปริภาสิสฺสนฺติ, ‘คณฺหถ อิมํ โจร’นฺติ เอเกกทณฺเฑน วา เอเกกเลฑฺฑุนา วา มํ ชีวิตา โวโรเปสฺสนฺติ, อหฺจ ตุมฺหากํ สนฺติเก สีเลสุ ปติฏฺิโต, ชีวิตเหตุปิ น สกฺกา มยา ปรํ มาเรตุํ, ตสฺมา นาหํ คจฺฉามิ, อหํ มนุสฺสมํสโต วิรตตฺตา กิตฺตกํ ชีวิสฺสามิ, อิทานิ มม ตุมฺหากํ ทสฺสนํ นตฺถี’’ติ โรทิตฺวา ‘‘คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ อาห. อถ มหาสตฺโต ตสฺส ปิฏฺึ ปริมชฺชิตฺวา, ‘‘สมฺม โปริสาท, มา จินฺตยิ, สุตโสโม นามาหํ, มยา ตาทิโส กกฺขโฬ ผรุโส วินีโต, พาราณสิวาสิเกสุ กึ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, อหํ ตํ ตตฺถ ปติฏฺาเปสฺสามิ, อสกฺโกนฺโต อตฺตโน รชฺชํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากมฺปิ นคเร มม เวริโน อตฺถิเยวา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิมินา มม วจนํ กโรนฺเตน ทุกฺกรํ กตํ, เยน เกนจิ อุปาเยน โปราณกยเส ปติฏฺเปตพฺโพ เอส มยา’’ติ จินฺเตตฺวา ตสฺส ปโลภนตฺถาย นครสมฺปตฺตึ วณฺเณนฺโต อาห –

๔๗๙.

‘‘จตุปฺปทํ สกุณฺจาปิ มํสํ, สูเทหิ รนฺธํ สุกตํ สุนิฏฺิตํ;

สุธํว อินฺโท ปริภุฺชิยาน, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๐.

‘‘ตา ขตฺติยา เวลฺลิวิลากมชฺฌา, อลงฺกตา สมฺปริวารยิตฺวา;

อินฺทํว เทเวสุ ปโมทยึสุ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๑.

‘‘ตมฺพูปธาเน พหุโคณกมฺหิ, สุภมฺหิ สพฺพสฺสยนมฺหิ สงฺเค;

เสยฺยสฺส มชฺฌมฺหิ สุขํ สยิตฺวา

หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๒.

‘‘ปาณิสฺสรํ กุมฺภถูณํ นิสีเถ, อโถปิ เว นิปฺปุริสมฺปิ ตูริยํ;

พหุํ สุคีตฺจ สุวาทิตฺจ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ.

๔๘๓.

‘‘อุยฺยานสมฺปนฺนํ ปหูตมาลฺยํ, มิคาชินูเปตํ ปุรํ สุรมฺมํ;

หเยหิ นาเคหิ รเถหุเปตํ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรฺเ’’ติ.

ตตฺถ สุกตนฺติ นานปฺปกาเรหิ สุฏฺุ กตํ. สุนิฏฺิตนฺติ นานาสมฺภารโยชเนน สุฏฺุ นิฏฺิตํ. กเถโกติ กถํ เอโก. รมสีติ มูลผลาทีนิ ขาทนฺโต กถํ รมิสฺสสิ, ‘‘เอหิ, มหาราช, คมิสฺสามา’’ติ. เวลฺลิวิลากมชฺฌาติ เอตฺถ เวลฺลีติ ราสิ, วิลากมชฺฌาติ วิลคฺคมชฺฌา. อุตฺตตฺตฆนสุวณฺณราสิปภา เจว ตนุทีฆมชฺฌา จาติ ทสฺเสติ. เทเวสูติ เทวโลเกสุ อจฺฉรา อินฺทํ วิย รมณีเย พาราณสินคเร ปุพฺเพ ตํ ปโมทยึสุ, ตา หิตฺวา อิธ กึ กริสฺสสิ, ‘‘เอหิ, สมฺม, คจฺฉามา’’ติ. ตมฺพูปธาเนติ รตฺตูปธาเน. สพฺพสฺสยนมฺหีติ สพฺพตฺถรณตฺถเต สยเน. สงฺเคติ อเนกภูมิเก ทสฺเสตฺวา อทฺธรตฺตองฺคยุตฺเต ตตฺถ ตฺวํ ปุพฺเพ สยีติ อตฺโถ. สุขนฺติ ตาทิสสฺส สยนสฺส มชฺฌมฺหิ สุขํ สยิตฺวาน อิทานิ กถํ อรฺเ รมิสฺสสิ, ‘‘เอหิ คจฺฉาม, สมฺมา’’ติ. นิสีเถติ รตฺติภาเค. หิตฺวาติ เอวรูปํ สมฺปตฺตึ ฉฑฺเฑตฺวา. อุยฺยานสมฺปนฺนํ ปหูตมาลฺยนฺติ, มหาราช, ตว อุยฺยานสมฺปนฺนํ นานาวิธปุปฺผํ. มิคาชินูเปตํ ปุรํ สุรมฺมนฺติ ตํ อุยฺยานํ มิคาชินํ นาม นาเมน, เตน อุเปตํ ปุรมฺปิ เต สุฏฺุ รมฺมํ. หิตฺวาติ เอวรูปํ มโนรมํ นครํ ฉฑฺเฑตฺวา.

อิติ มหาสตฺโต ‘‘อปฺเปว นาเมส ปุพฺเพ อุปภุตฺตปริโภครสํ สริตฺวา คนฺตุกาโม ภเวยฺยา’’ติ ปมํ โภชเนน ปโลเภสิ, ทุติยํ กิเลเสน, ตติยํ สยเนน, จตุตฺถํ นจฺจคีตวาทิเตน, ปฺจมํ อุยฺยาเนน เจว นคเรน จาติ อิเมหิ เอตฺตเกหิ ปโลเภตฺวา ‘‘เอหิ, มหาราช, อหํ ตํ อาทาย คนฺตฺวา พาราณสิยํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉา สกรฏฺํ คมิสฺสามิ, สเจ พาราณสิรชฺชํ น ลภิสฺสสิ, อุปฑฺฒรชฺชํ เต ทสฺสามิ, กึ เต อรฺวาเสน, มม วจนํ กโรหี’’ติ อาห. โส ตสฺส วจนํ สุตฺวา คนฺตุกาโม หุตฺวา ‘‘สุตโสโม มยฺหํ อตฺถกาโม อนุกมฺปโก, ปมํ มํ กลฺยาเณ ปติฏฺาเปตฺวา ‘อิทานิ โปราณกยเสว ปติฏฺาเปสฺสามี’ติ วทติ, สกฺขิสฺสติ เจส ปติฏฺาเปตุํ, อิมินา สทฺธึเยว คนฺตุํ วฏฺฏติ, กึ เม อรฺวาเสนา’’ติ จินฺเตตฺวา ตุฏฺจิตฺโต ตสฺส คุณํ นิสฺสาย วณฺณํ กเถตุกาโม ‘‘สมฺม, สุตโสม, กลฺยาณมิตฺตสํสคฺคโต สาธุตรํ, ปาปมิตฺตสํสคฺคโต วา ปาปตรํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา อาห –

๔๘๔.

‘‘กาฬปกฺเข ยถา จนฺโท, หายเตว สุเว สุเว;

กาฬปกฺขูปโม ราช, อสตํ โหติ สมาคโม.

๔๘๕.

‘‘ยถาหํ รสกมาคมฺม, สูทํ กาปุริสาธมํ;

อกาสึ ปาปกํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ ทุคฺคตึ.

๔๘๖.

‘‘สุกฺกปกฺเข ยถา จนฺโท, วฑฺฒเตว สุเว สุเว;

สุกฺกปกฺขูปโม ราช, สตํ โหติ สมาคโม.

๔๘๗.

‘‘ยถาหํ ตุวมาคมฺม, สุตโสม วิชานหิ;

กาหามิ กุสลํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ สุคฺคตึ.

๔๘๘.

‘‘ถเล ยถา วาริ ชนินฺท วุฏฺํ, อนทฺธเนยฺยํ น จิรฏฺิตีกํ;

เอวมฺปิ โหติ อสตํ สมาคโม, อนทฺธเนยฺโย อุทกํ ถเลว.

๔๘๙.

‘‘สเร ยถา วาริ ชนินฺท วุฏฺํ, จิรฏฺิตีกํ นรวีรเสฏฺ;

เอวมฺปิ เว โหติ สตํ สมาคโม, จิรฏฺิตีโก อุทกํ สเรว.

๔๙๐.

‘‘อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม, ยาวมฺปิ ติฏฺเยฺย ตเถว โหติ;

ขิปฺปฺหิ เวติ อสตํ สมาคโม, ตสฺมา สตํ ธมฺโม อสพฺภิ อารกา’’ติ.

ตตฺถ สุเว สุเวติ ทิวเส ทิวเส. อนทฺธเนยฺยนฺติ น อทฺธานกฺขมํ. สเรติ สมุทฺเท. นรวีรเสฏฺาติ นเรสุ วีริเยน เสฏฺ. อุทกํ สเรวาติ สมุทฺเท วุฏฺอุทกํ วิย. อพฺยายิโกติ อวิคจฺฉนโก. ยาวมฺปิติฏฺเยฺยาติ ยตฺตกํ กาลํ ชีวิตํ ติฏฺเยฺย, ตตฺตกํ กาลํ ตเถว โหติ, น ชีรติ สปฺปุริเสหิ มิตฺตภาโวติ.

อิติ โปริสาโท สตฺตหิ คาถาหิ มหาสตฺตสฺเสว วณฺณํ กเถสิ. มหาสตฺโตปิ โปริสาทฺจ เต จ ราชาโน คเหตฺวา อตฺตโน ปจฺจนฺตคามํ อคมาสิ. ปจฺจนฺตคามวาสิโน มหาสตฺตํ ทิสฺวา นครํ คนฺตฺวา อมจฺจานํ อาจิกฺขึสุ. อมจฺจา พลกายํ อาทาย คนฺตฺวา ปริวารยึสุ. มหาสตฺโต เตน ปริวาเรน พาราณสิรชฺชํ อคมาสิ. อนฺตรามคฺเค ชนปทวาสิโน โพธิสตฺตสฺส ปณฺณาการํ ทตฺวา อนุคจฺฉึสุ, มหนฺโต ปริวาโร อโหสิ, เตน สทฺธึ พาราณสึ ปาปุณิ. ตทา โปริสาทสฺส ปุตฺโต ราชา โหติ, เสนาปติ กาฬหตฺถิเยว. นาครา รฺโ อาโรจยึสุ – ‘‘มหาราช, สุตโสโม กิร โปริสาทํ ทเมตฺวา อาทาย อิธาคจฺฉติ, นครมสฺส ปวิสิตุํ น ทสฺสามา’’ติ สีฆํ นครทฺวารานิ ปิทหิตฺวา อาวุธหตฺถา อฏฺํสุ. มหาสตฺโต ทฺวารานํ ปิหิตภาวํ ตฺวา โปริสาทฺจ ปโรสตฺจ ราชาโน โอหาย กติปเยหิ อมจฺเจหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ‘‘อหํ สุตโสมราชา, ทฺวารํ วิวรถา’’ติ อาห. ปุริสา คนฺตฺวา รฺโ อาโรเจสุํ. โส ‘‘ขิปฺปํ วิวรถา’’ติ วิวราเปสิ. มหาสตฺโต นครํ ปาวิสิ. ราชา จ กาฬหตฺถิ จสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กตฺวา อาทาย ปาสาทํ อาโรปยึสุ.

โส ราชปลฺลงฺเก นิสีทิตฺวา โปริสาทสฺส อคฺคมเหสึ เสสามจฺเจ จ ปกฺโกสาเปตฺวา กาฬหตฺถึ อาห – ‘‘กาฬหตฺถิ, กสฺมา รฺโ นครํ ปวิสิตุํ น เทถา’’ติ? ‘‘โส รชฺชํ กาเรนฺโต อิมสฺมึ นคเร พหู มนุสฺเส ขาทิ, ขตฺติเยหิ อกตฺตพฺพํ กริ, สกลชมฺพุทีปํ ฉิทฺทมกาสิ, เอวรูโป ปาปธมฺโม, เตน การเณนา’’ติ. ‘‘อิทานิ ‘โส เอวรูปํ กริสฺสตี’ติ มา จินฺตยิตฺถ, อหํ ตํ ทเมตฺวา สีเลสุ ปติฏฺาเปสึ, ชีวิตเหตุปิ กฺจิ น วิเหเสฺสติ, นตฺถิ โว ตโต ภยํ, เอวํ มา กริตฺถ, ปุตฺเตหิ นาม มาตาปิตโร ปฏิชคฺคิตพฺพา, มาตาปิตุโปสกา หิ สคฺคํ คจฺฉนฺติ, อิตเร นิรย’’นฺติ เอวํ โส นิจาสเน นิสินฺนสฺส ปุตฺตราชสฺส โอวาทํ ทตฺวา, ‘‘กาฬหตฺถิ, ตฺวํ รฺโ สหาโย เจว เสวโก จ, รฺาปิ มหนฺเต อิสฺสริเย ปติฏฺาปิโต, ตยาปิ รฺโ อตฺถํ จริตุํ วฏฺฏตี’’ติ เสนาปติมฺปิ อนุสาสิตฺวา, ‘‘เทวิ, ตฺวมฺปิ กุลเคหา อาคนฺตฺวา ตสฺส สนฺติเก อคฺคมเหสิฏฺานํ ปตฺวา ปุตฺตธีตาหิ วฑฺฒิปฺปตฺตา, ตยาปิ ตสฺส อตฺถํ จริตุํ วฏฺฏตี’’ติ เทวิยาปิ โอวาทํ ทตฺวา ตเมวตฺถํ มตฺถกํ ปาเปตุํ ธมฺมํ เทเสนฺโต คาถา อาห –

๔๙๑.

‘‘น โส ราชา โย อเชยฺยํ ชินาติ, น โส สขา โย สขารํ ชินาติ;

น สา ภริยา ยา ปติโน น วิเภติ, น เต ปุตฺตา เย น ภรนฺติ ชิณฺณํ.

๔๙๒.

‘‘น สา สภา ยตฺถ น สนฺติ สนฺโต, น เต สนฺโต เย น ภณนฺติ ธมฺมํ;

ราคฺจ โทสฺจ ปหาย โมหํ, ธมฺมํ ภณนฺตาว ภวนฺติ สนฺโต.

๔๙๓.

‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;

ภาสมานฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํ.

๔๙๔.

‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคณฺเห อิสินํ ธชํ;

สุภาสิตทฺธชา อิสโย, ธมฺโม หิ อิสินํ ธโช’’ติ.

ตตฺถ อเชยฺยนฺติ อเชยฺยา นาม มาตาปิตโร, เต ชินนฺโต ราชา นาม น โหติ. สเจ ตฺวมฺปิ ปิตุ สนฺตกํ รชฺชํ ลภิตฺวา ตสฺส ปฏิสตฺตุ โหสิ, อกิจฺจการี นาม ภวิสฺสสิ . สขารํ ชินาตีติ กูฏฑฺเฑน ชินาติ. สเจ ตฺวํ, กาฬหตฺถิ, รฺา สทฺธึ มิตฺตธมฺมํ น ปูเรสิ, อธมฺมฏฺโ หุตฺวา นิรเย นิพฺพตฺติสฺสสิ. น วิเภตีติ น ภายติ. สเจ ตฺวํ รฺโ น ภายสิ, ภริยาธมฺเม ิตา นาม น โหสิ, อกิจฺจการี นาม ภวิสฺสสิ. ชิณฺณนฺติ มหลฺลกํ. ตสฺมิฺหิ กาเล อภรนฺตา ปุตฺตา ปุตฺตา นาม น โหนฺติ.

สนฺโตติ ปณฺฑิตา. เย น ภณนฺติ ธมฺมนฺติ เย ปุจฺฉิตา สจฺจสภาวํ น วทนฺติ, น เต ปณฺฑิตา นาม. ธมฺมํ ภณนฺตาวาติ เอเต ราคาทโย ปหาย ปรสฺส หิตานุกมฺปกา หุตฺวา สภาวํ ภณนฺตาว ปณฺฑิตา นาม โหนฺติ. นาภาสมานนฺติ น อภาสมานํ. อมตํ ปทนฺติ อมตมหานิพฺพานํ เทเสนฺตํ ‘‘ปณฺฑิโต’’ติ ชานนฺติ, เตเนว โปริสาโท มํ ตฺวา ปสนฺนจิตฺโต จตฺตาโร วเร ทตฺวา ปฺจสุ สีเลสุ ปติฏฺิโต. ภาสเยติ ปณฺฑิโต ปุริโส ธมฺมํ ภาเสยฺย โชเตยฺย, พุทฺธาทโย อิสโย ยสฺมา ธมฺโม เอเตสํ ธโช, ตสฺมา สุภาสิตทฺธชา นาม สุภาสิตํ ปคฺคณฺหนฺติ, พาลา ปน สุภาสิตํ ปคฺคณฺหนฺตา นาม นตฺถีติ.

อิมสฺส ธมฺมกถํ สุตฺวา ราชา จ เสนาปติ จ เทวี จ ตุฏฺา ‘‘คจฺฉาม, มหาราช, อาเนมา’’ติ วตฺวา นคเร เภรึ จราเปตฺวา นาคเร สนฺนิปาเตตฺวา ‘‘ตุมฺเห มา ภายิตฺถ, ราชา กิร ธมฺเม ปติฏฺิโต, เอถ นํ อาเนมา’’ติ มหาชนํ อาทาย มหาสตฺตํ ปุรโต กตฺวา รฺโ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา กปฺปเก อุปฏฺาเปตฺวา กปฺปิตเกสมสฺสุํ นฺหาตานุลิตฺตปสาธิตํ ราชานํ รตนราสิมฺหิ เปตฺวา อภิสิฺจิตฺวา นครํ ปเวเสสุํ. โปริสาโท ราชา หุตฺวา ปโรสตานํ ขตฺติยานํ มหาสตฺตสฺส จ มหาสกฺการํ กาเรสิ. ‘‘สุตโสมนรินฺเทน กิร โปริสาทํ ทเมตฺวา รชฺเช ปติฏฺาปิโต’’ติ สกลชมฺพุทีเป มหาโกลาหลํ อุทปาทิ. อินฺทปตฺถนครวาสิโนปิ ‘‘ราชา โน อาคจฺฉตู’’ติ ทูตํ ปหิณึสุ. โส ตตฺถ มาสมตฺตํ วสิตฺวา, ‘‘สมฺม, คจฺฉามหํ, ตฺวํ อปฺปมตฺโต โหหิ, นครทฺวาเรสุ จ มชฺเฌ จาติ ปฺจ ทานสาลาโย กาเรหิ, ทส ราชธมฺเม อโกเปตฺวา อคติคมนํ ปริหรา’’ติ โปริสาทํ โอวทิ. ปโรสตาหิ ราชธานีหิ พลกาโย เยภุยฺเยน สนฺนิปติ . โส เตน พลกาเยน ปริวุโต พาราณสิโต นิกฺขมิ. โปริสาโทปิ นิกฺขมิตฺวา อุปฑฺฒปถา นิวตฺติ. มหาสตฺโต อวาหนานํ ราชูนํ วาหนานิ ทตฺวา อุยฺโยเชสิ. เตปิ ราชาโน เตน สทฺธึ สมฺโมทิตฺวา มหาสตฺตํ วนฺทนาทีนิ กตฺวา อตฺตโน อตฺตโน ชนปทํ อคมึสุ.

มหาสตฺโตปิ นครํ ปตฺวา อินฺทปตฺถนครวาสีหิ เทวนครํ วิย อลงฺกตนครํ ปวิสิตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา มธุรปฏิสนฺถารํ กตฺวา มหาตลํ อภิรุหิ. โส ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺโต จินฺเตสิ – ‘‘รุกฺขเทวตา มยฺหํ พหูปการา, พลิกมฺมลาภมสฺสา กริสฺสามี’’ติ. โส ตสฺส นิคฺโรธสฺส อวิทูเร มหนฺตํ ตฬากํ กาเรตฺวา พหูนิ กุลานิ เปเสตฺวา คามํ นิเวเสสิ. คาโม มหา อโหสิ อสีติมตฺตอาปณสหสฺสปฏิมณฺฑิโต. ตมฺปิ รุกฺขมูลํ สาขนฺตโต ปฏฺาย สมตลํ กาเรตฺวา ปริกฺขิตฺตเวทิกโตรณทฺวารยุตฺตํ อกาสิ, เทวตา อภิปฺปสีทิ. กมฺมาสปาทสฺส ทมิตฏฺาเน นิวุฏฺตฺตา ปน โส คาโม กมฺมาสทมฺมนิคโม นาม ชาโต. เตปิ สพฺเพ ราชาโน มหาสตฺตสฺส โอวาเท ตฺวา ทานาทีนิ ปุฺานิ กตฺวา อายุปริโยสาเน สคฺคํ ปูรยึสุ.

สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนวาหํ องฺคุลิมาลํ ทเมมิ, ปุพฺเพเปส มยา ทมิโตเยวา’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา โปริสาโท ราชา องฺคุลิมาโล อโหสิ, กาฬหตฺถิ สาริปุตฺโต, นนฺทพฺราหฺมโณ อานนฺโท, รุกฺขเทวตา กสฺสโป, สกฺโก อนุรุทฺโธ, เสสราชาโน พุทฺธปริสา, มาตาปิตโร มหาราชกุลานิ, สุตโสมราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติ.

มหาสุตโสมชาตกวณฺณนา ปฺจมา.

ชาตกุทฺทานํ –

สุมุโข ปน หํสวโร จ มหา, สุธโภชนิโก จ ปโร ปวโร;

สกุณาลทิชาธิปติวฺหยโน, สุตโสมวรุตฺตมสวฺหยโนติ.

อสีตินิปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจโม ภาโค นิฏฺิโต.