📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

มหานิทฺเทส-อฏฺกถา

คนฺถารมฺภกถา

อวิชฺชาลงฺคึ ฆาเตนฺโต, นนฺทิราคฺจ มูลโต;

ภาเวนฺตฏฺงฺคิกํ มคฺคํ, ผุสิ โย อมตํ ปทํ.

ปาปุณิตฺวา ชิโน โพธึ, มิคทายํ วิคาหิย;

ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตฺวา, เถรํ โกณฺฑฺมาทิโต.

อฏฺารสนฺนํ โกฏีนํ, โพเธสิ ตาปโส ตหึ;

วนฺเทหํ สิรสา ตฺจ, สพฺพสตฺตานมุตฺตมํ.

ตถา ธมฺมุตฺตมฺเจว, สงฺฆฺจาปิ อนุตฺตรํ;

สํขิตฺเตน หิ โย วุตฺตํ, ธมฺมจกฺกํ วิภาคโส.

สาริปุตฺโต มหาปฺโ, สตฺถุกปฺโป ชินตฺรโช;

ธมฺมจกฺกํ วิภาเชตฺวา, มหานิทฺเทสมพฺรวิ;

ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จ.

ตํ สาริปุตฺตํ ชินราชปุตฺตํ, เถรํ ถิราเนกคุณาธิวาสํ;

ปฺาปภาวุคฺคตจารุกิตฺตึ, สุนีจวุตฺติฺจ อโถ นมิตฺวา.

ขมาทยาทิยุตฺเตน , ยุตฺตมุตฺตาทิวาทินา;

พหุสฺสุเตน เถเรน, เทเวน อภิยาจิโต.

มหาวิหารวาสีนํ , สชฺฌายมฺหิ ปติฏฺิโต;

คเหตพฺพํ คเหตฺวาน, โปราเณสุ วินิจฺฉยํ.

อโวกฺกเมนฺโต สมยํ สกฺจ, อนามสนฺโต สมยํ ปรฺจ;

ปุพฺโพปเทสฏฺกถานยฺจ, ยถานุรูปํ อุปสํหรนฺโต.

าณปฺปเภทาวหนสฺส ตสฺส, โยคีหิ เนเกหิ นิเสวิตสฺส;

อตฺถํ อปุพฺพํ อนุวณฺณยนฺโต, สุตฺตฺจ ยุตฺติฺจ อนุกฺกเมนฺโต.

อารภิสฺสํ สมาเสน, มหานิทฺเทสวณฺณนํ;

สทฺธมฺมพหุมาเนน, นาตฺตุกฺกํสนกมฺยตา.

วกฺขามหํ อฏฺกถํ ชนสฺส, หิตาย สทฺธมฺมจิรฏฺิตตฺถํ;

สกฺกจฺจ สทฺธมฺมปโชติกํ ตํ, สุณาถ ธาเรถ จ สาธุ สนฺโตติ.

ตตฺถ ‘‘ปาโ วิสิฏฺโ นิทฺเทโส, ตํนามวิเสสิโต จา’’ติ วุตฺตตฺตา ทุวิโธ ปาโ – พฺยฺชนปาโ, อตฺถปาโ จ. เตสุ พฺยฺชนปาโ อกฺขรปทพฺยฺชนอาการนิรุตฺตินิทฺเทสวเสน ฉพฺพิโธ. อตฺถปาโ สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติวเสน ฉพฺพิโธ. ตตฺถ ตีสุ ทฺวาเรสุ ปริสุทฺธปโยคภาเวน วิสุทฺธกรุณานํ จิตฺเตน ปวตฺติตเทสนา วาจาหิ อกถิตตฺตา อเทสิตตฺตา อกฺขรมิติ สฺิตา, ตํ ปารายนิกพฺราหฺมณานํ มนสา ปุจฺฉิตปฺหานํ วเสน ภควตา รตนฆเร นิสีทิตฺวา สมฺมสิตปฏฺานมหาปกรณวเสน จ อกฺขรํ นามาติ คเหตพฺพํ.

อถ วา อปริปุณฺณํ ปทํ อกฺขรมิติ คเหตพฺพํ ‘‘สฏฺิวสฺสสหสฺสานี’’ติ เอวมาทีสุ (เป. ว. ๘๐๒; ชา. ๑.๔.๕๔; เนตฺติ. ๑๒๐) วิย. เอตฺถ หิ การ การ โสการาทีนิ อกฺขรมิติ, เอกกฺขรํ วา ปทํ อกฺขรมิติ เอเก. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) วิภตฺยนฺตํ อตฺถโชตกํ อกฺขรปิณฺฑํ ปทํ. ‘‘นามฺจ รูปฺจา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๐๙; สุ. นิ. ๘๗๘; มหานิ. ๑๐๗; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๖; เนตฺติ. ๔๕) พหุอกฺขเรหิ ยุตฺตํ ปทํ นาม. สํขิตฺเตน วุตฺตํ ปทํ วิภาเวติ. ปเทน อภิหิตํ พฺยฺชยติ พฺยตฺตํ ปากฏํ กโรตีติ พฺยฺชนํ, วากฺยเมว. ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ สงฺเขเปน กถิตมตฺถํ. ‘‘กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ. วีริยจิตฺตวีมํสสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๓๑; สํ. นิ. ๕.๘๑๓; ที. นิ. ๓.๓๐๖; อ. นิ. ๔.๒๗๖) ปากฏกรณภาเวน พฺยฺชนํ นาม. พฺยฺชนวิภาคปกาโส อากาโร. ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺโท? โย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา กตฺตุกมฺยตา’’ติ เอวมาทีสุ (วิภ. ๔๓๓) กถิตพฺยฺชนํ อเนกวิเธน วิภาคกรณํ อากาโร นาม. อาการาภิหิตสฺส นิพฺพจนํ นิรุตฺติ. ‘‘ผสฺโส, เวทนา’’ติ เอวมาทีสุ (ธ. ส. ๑) อากาเรน กถิตํ ‘‘ผุสตีติ ผสฺโส. เวทิยตีติ เวทนา’’ติ นีหริตฺวา วจนํ นิรุตฺติ นาม. นิพฺพจนวิตฺถาโร นิสฺเสสโต เทโสติ นิทฺเทโส, เวทิยตีติ เวทนาติ นิพฺพจนลทฺธปทํ ‘‘สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา, สุขยตีติ สุขา, ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา, เนว ทุกฺขยติ น สุขยตีติ อทุกฺขมสุขา’’ติ อตฺถวิตฺถาโร นิรวเสเสน กถิตตฺตา นิทฺเทโส นาม.

เอวํ ฉพฺพิธานิ พฺยฺชนปทานิ ชานิตฺวา จ ฉสุ อตฺถปเทสุ สงฺเขปโต กาสนา ทีปนา สงฺกาสนา, ‘‘มฺมาโน โข, ภิกฺขุ, พนฺโธ มารสฺส อมฺมาโน มุตฺโต ปาปิมโต’’ติ เอวมาทีสุ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา สงฺกาสนา นาม. เอโส ปน เถโร ‘‘พุทฺเธน ภควตา เอวํ สงฺเขปํ กตฺวา วุตฺตมตฺถํ ‘อฺาตํ ภควา, อฺาตํ สุคตา’’’ติ กเถตุํ สมตฺโถ ปฏิวิชฺฌิ.

อุปริ วตฺตพฺพมตฺถํ อาทิโต กาสนา ทีปนา ปกาสนา, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) ปจฺฉา กถิตพฺพมตฺถํ ปมวจเนน ทีปนา ปกาสนา นาม. เอวํ ปมํ ทีปิตํ อตฺถํ ปุน ปากฏํ กตฺวา ทีปเนน ‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อาทิตฺตํ? จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ, รูปา อาทิตฺตา’’ติ เอวมาทีสุ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘) กถิเตสุ ‘‘ติกฺขินฺทฺริโย สงฺเขเปน วุตฺตํ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ กถิตตฺตา ทฺเว อตฺถปทานิ ติกฺขินฺทฺริยสฺส อุปการวเสน วุตฺตานิ.

สํขิตฺตสฺส วิตฺถาราภิธานํ สกึ วุตฺตสฺส จ ปุนปิ อภิธานํ วิวรณํ, ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ๑) สงฺเขเปน นิกฺขิตฺตสฺส. ‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) นิทฺเทสวเสน วิตฺถารณํ วิตฺถารวเสน ปุน กถนํ วิวรณํ นาม.

ตํ วิภาคกรณํ วิภชนํ, ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ (ธ. ส. ๑) วิวริเต กุสเล ธมฺเม ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ, เวทนา โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) วิภาคกรณํ วิภชนํ นาม. วิวรสฺส วิตฺถาราภิธาเนน วิภตฺตสฺส จ อุปมาภิธาเนน ปฏิปาทนํ อุตฺตานีกรณํ, วิวรเณน วิวริตตฺถสฺส ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ? โย ตสฺมึ สมเย ผสฺโส ผุสนา สมฺผุสนา’’ติ (ธ. ส. ๒) อติวิวริตฺวา กถนฺจ วิภชเนน วิภตฺตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี นิจฺจมฺมา, เอวเมว ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, ผสฺสาหาโร ทฏฺพฺโพติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๖๓) เอวมาทิอุปมากถนฺจ อุตฺตานีกรณํ นาม. ธมฺมํ สุณนฺตานํ ธมฺมเทสเนน จิตฺตสฺส อเนกวิเธน โสมนสฺสอุปฺปาทนฺจ อติขิณพุทฺธีนํ อเนกวิเธน าณสฺส ติขิณภาวกรณฺจ ปฺตฺติ นาม, เตสํ สุณนฺตานํ ตํจิตฺตโตสเนน ตํจิตฺตนิสามเนน จ ปฺายตีติ ปฺตฺติ. ตตฺถ ภควา อกฺขเรหิ สงฺกาสยติ, ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวรติ, อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกโรติ, นิทฺเทเสหิ ปฺาปยตีติ. กึ วุตฺตํ โหติ? พุทฺธา ภควนฺโต เอกจฺเจ เวเนยฺเย เอกสฺมึ เทสเน อกฺขเรหิ อตฺถสงฺกาสนํ กโรนฺติ…เป… นิทฺเทเสหิ อตฺถปฺาปนํ กโรนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.

อถ วา อกฺขเรหิ สงฺกาสยิตฺวา ปเทหิ ปกาสยติ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชติ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาปยติ . กึ วุตฺตํ โหติ? เอวรูเปน ธมฺมเทสเนน เอกจฺเจสุ าเนสุ เอกจฺจานํ เวเนยฺยานํ วินยตีติ.

อถ วา อกฺขเรหิ อุคฺฆาฏยิตฺวา ปเทหิ ปกาเสนฺโต วินยติ อุคฺฆฏิตฺุํ, พฺยฺชเนหิ วิวริตฺวา อากาเรหิ วิภชนฺโต วินยติ วิปฺจิตฺุํ, นิรุตฺตีหิ อุตฺตานีกตฺวา นิทฺเทเสหิ ปฺาเปนฺโต วินยติ เนยฺยํ. อิติ เวเนยฺยวเสนปิ โยเชตพฺพเมว.

อตฺถโต ปเนตฺถ กตโม พฺยฺชนปาโ, กตโม อตฺถปาโติ? พุทฺธานํ ภควนฺตานํ ธมฺมํ เทเสนฺตานํ โย อตฺถาวคมโก สวิฺตฺติกสทฺโท, โส พฺยฺชนปาโ . โย เตน อภิสเมตพฺโพ ลกฺขณรสาทิสหิโต ธมฺโม, โส อตฺถปาโติ เวทิตพฺโพ. ปุนปิ สนฺธายภาสิโต พฺยฺชนภาสิโต สาวเสสปาโ อนวเสสปาโ นีโต เนยฺโยติ ฉพฺพิโธ ปาโ. ตตฺถ อเนกตฺถวตฺตา สนฺธายภาสิโต ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา, ราชาโน ทฺเว จ ขตฺติเย’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๒๙๔). เอกตฺถวตฺตา พฺยฺชนภาสิโต ‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ เอวมาทิ (ธ. ป. ๑.๒; เนตฺติ. ๘๙, ๙๒; เปฏโก. ๑๔). สาวเสโส ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺต’’นฺติ เอวมาทิ (มหาว. ๕๔; สํ. นิ. ๔.๒๘). วิปรีโต อนวเสโส ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ เอวมาทิ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทโส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). ยถา วจนํ, ตถา อวคนฺตพฺโพ นีโต ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ เอวมาทิ. ยุตฺติยา อนุสฺสริตพฺโพ เนยฺโย ‘‘เอกปุคฺคโล ภิกฺขเว’’ติ เอวมาทิ (อ. นิ. ๑.๑๗๐).

อตฺโถ ปน อเนกปฺปกาโร ปาตฺโถ สภาวตฺโถ ายตฺโถ ปาานุรูโป นปาานุรูโป สาวเสสตฺโถ นิรวเสสตฺโถ นีตตฺโถ เนยฺยตฺโถ อิจฺจาทิ. ตตฺถ โย อปฺปสฺสตฺถสฺส าปนตฺถมุจฺจาริยเต, โส ปาตฺโถ ‘‘สาตฺถํ สพฺยฺชน’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑; ที. นิ. ๑.๑๙๐) วิย. รูปารูปธมฺมานํ ลกฺขณรสาทิสภาวตฺโถ ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวตี’’ติอาทีสุ (วิภ. ๔๘๕; สํ. นิ. ๕.๓) วิย. โย ายมาโน หิตาย สํวตฺตติ, โส าตุํ อรหตีติ ายตฺโถ – ‘‘อตฺถวาที ธมฺมวาที’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๙, ๑๙๔; ๓.๒๓๘; ม. นิ. ๑.๔๑๑) วิย. ยถาปาํ ภาสิโต ปาานุรูโป ‘‘จกฺขุ , ภิกฺขเว, ปุราณกมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๑๔๖) ภควตา วุตฺตํ. ตสฺมา จกฺขุมปิ กมฺมนฺติ. พฺยฺชนจฺฉายาย อตฺถํ ปฏิพาหยมาเนน วุตฺโต อตฺโถ นปาานุรูโป, โส ปาโต อนนุฺาโต อกตปฏิกฺเขโป วิยุตฺโต. โส จ สงฺคเหตพฺพมฺปิ อสงฺคเหตฺวา, ปริวชฺเชตพฺพมฺปิ วา กิฺจิ อปริวชฺเชตฺวา ปริเสสํ กตฺวา วุตฺโต สาวเสสตฺโถ ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ (สํ. นิ. ๔.๖๐; มหานิ. ๑๐๗). สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส, สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๒๙) วิย. วิปรีโต นิรวเสสตฺโถ ‘‘สนฺธาวิตํ สํสริตํ มมฺเจว ตุมฺหากฺจ (ที. นิ. ๒.๑๕๕; มหาว. ๒๘๗; เนตฺติ. ๑๑๔). ตตฺร, ภิกฺขเว, โก มนฺตา โก สทฺธาตา…เป… อฺตฺร ทิฏฺปเทหี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๖) วิย. สทฺทวเสเนว เวทิตพฺโพ นีตตฺโถ ‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๑๕๑, ๑๖๕; มหาว. ๓๓) วิย. สมฺมุติวเสน เวทิตพฺโพ เนยฺยตฺโถ ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, วลาหกูปมา ปุคฺคลา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๐๑-๑๐๒) วิย. เอวมิธ ปาฺจ อตฺถฺจ วิวริตฺวา ิโต อสํหีโร ภวติ ปรวาทีหิ ทีฆรตฺตํ ติตฺถวาเสน.

อิติ อสํหีรภาเวน ยาว อาคมาธิคมสมฺปทํ, ตาว วตฺตุํ สกฺโกติ. สงฺเขปวิตฺถารนเยน เหตุทาหรณาทีหิ อวโพธยิตุํ สมตฺโถ. เอวํวิโธ อตฺตานฺจ ปรฺจ โสเธตุํ สมตฺถภาเวน ทุสฺสีลฺยทิฏฺิมลวิรหิตตฺตา สุจิ. ทุสฺสีโล หิ อตฺตานํ อุปหนติ, เตน นาเทยฺยวาโจ จ ภวติ สพฺโยหารมาโน อิธ นิจฺจาตุโร เวชฺโชว. ทุทฺทิฏฺิ ปรํ อุปหนติ, นาวสฺสโย จ ภวติ วาฬคหากุโล อิว กมลสณฺโฑ. อุภยวิปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อนุปาสนีโย ภวติ คูถคตมิว ฉวาลาตํ คูถคโต วิย จ กณฺหสปฺโป. อุภยสมฺปนฺโน ปน สพฺพถาปิ อุปาสนีโย เสวิตพฺโพ จ วิฺูหิ, นิรุปทฺทโว อิว รตนากโร, เอวํ ภูโต เอวํ อมจฺฉโร อหีนาจริยมุฏฺิ. สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมติสงฺขาตานฺจ จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เตสํ วเสน พฺยาขฺยาโต.

‘‘เอกํสวจนํ เอกํ, วิภชฺชวจนํ ปทํ;

ตติยํ ปฏิปุจฺเฉยฺย, จตุตฺถํ ปน าปเย’’ติ.

เอเตสํ วา อปริจฺจาคี. ตโต เอว โสตูนํ หิเต นิยุตฺตตฺตา เนสํ อวโพธนํ ปติ อกิลาสุ ภวตีติ. อาห เจตฺถ –

‘‘ปาตฺถวิทสํหีโร, วตฺตา สุจิ อมจฺฉโร;

จตุนฺนํ อปริจฺจาคี, เทสกสฺส หิตานฺวิโต’’ติ.

เอตฺถ เทสกสฺสาติ เทสโก อสฺส, ภเวยฺยาติ อตฺโถ. หิตานฺวิโตติ หิเต อนุคโต หิตจิตฺโต. โส เอโส สุจิตฺตา ปิโย, จตุนฺนํ อปริจฺจาคิตฺตา ครุ, อสํหีรตฺตา ภาวนีโย, เทสกตฺตา วตฺตา, หิตานฺวิตตฺตา วจนกฺขโม, ปาตฺถวิทตฺตา คมฺภีรกถํ กตฺตา, อมจฺฉรตฺตา น จาฏฺาเน นิโยชโก อิติ –

‘‘ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;

คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จาฏฺาเน นิโยชโก’’ติ. (อ. นิ. ๗.๓๗; เนตฺติ. ๑๑๓);

‘‘อภิหิโต เทสโก โส, ตาว ทานิ อภิธียเต’’.

ตตฺถ ธมฺมครุตฺตา กถํ น ปริภวติ, อาจริยครุตฺตา กถิกํ น ปริภวติ, สทฺธาปฺาทิคุณปฏิมณฺฑิตตฺตา อตฺตานํ น ปริภวติ, อสามายาวิตฺตา อมตาภิมุขตฺตา จ อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ภวติ, สุเมธตฺตา โยนิโส มนสิ กโรตีติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปฺจหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต สุณนฺโต สทฺธมฺมํ ภพฺโพ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตํ. กตเมหิ ปฺจหิ? น กถํ ปริโภติ, น กถิกํ ปริโภติ, น อตฺตานํ ปริโภติ, อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ธมฺมํ สุณาติ เอกคฺคจิตฺโต, โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๕๑).

ตํลกฺขณปฺปตฺตตฺตา ภาวนํ ภชตีติ. อาห เจตฺถ –

‘‘ธมฺมาจริยครุ สทฺธาปฺาทิคุณมณฺฑิโต;

อสามายาวิกสฺส, สุเมโธ อมตาภิมุโข’’. –

อิติ วตฺตา จ โสตา จ.

เอวํ วุตฺตปฺปการํ พฺยฺชนฺจ อตฺถฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โย อติอคฺคํ กตฺวา กถิตตฺตา มหาสมุทฺทมหาปถวี วิย มหา จ โส นิทฺเทโส จาติ มหานิทฺเทโส, ตํ มหานิทฺเทสํ วณฺณยิสฺสามิ.

ตเทตํ มหานิทฺเทสํ อตฺถสมฺปนฺนํ พฺยฺชนสมฺปนฺนํ คมฺภีรํ คมฺภีรตฺถํ โลกุตฺตรปฺปกาสกํ สุฺตปฺปฏิสํยุตฺตํ ปฏิปตฺติมคฺคผลวิเสสสาธนํ ปฏิปตฺติปฏิปกฺขปฏิเสธนํ โยคาวจรานํ าณวรรตนากรภูตํ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมกถาวิลาสวิเสสเหตุภูตํ สํสารภีรุกานํ ทุกฺขนิสฺสรณตทุปายทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ ตปฺปฏิปกฺขนาสนตฺถฺจ คมฺภีรตฺถานฺจ อเนเกสํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถวิวรเณน สุชนหทยปริโตสชนนตฺถํ, ตถาคเตน อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตสพฺพฺุตฺาณมหาทีโปภาเสน สกลชนวิตฺถตมหากรุณาสิเนเหน เวเนยฺยชนหทยคตกิเลสนฺธการวิธมนตฺถํ สมุชฺชลิตสฺส สทฺธมฺมมหาปทีปสฺส ตทธิปฺปายวิกาสนสิเนหปริเสเกน ปฺจวสฺสสหสฺสมติจิรสมุชฺชลนมิจฺฉตา โลกานุกมฺปเกน สตฺถุกปฺเปน ธมฺมราชสฺส ธมฺมเสนาปตินา อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ สุตฺวา อายสฺมา อานนฺโท ปมมหาสงฺคีติกาเล ยถาสุตเมว สงฺคหํ อาโรเปสิ.

โส ปเนส วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺโน, ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจสุ มหานิกาเยสุ ขุทฺทกมหานิกายปริยาปนฺโน, สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สตฺถุสาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ คาถงฺคเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิโต.

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเวสหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –

ธมฺมภณฺฑาคาริกตฺเถเรน ปฺจสุ าเนสุ เอตทคฺคํ อาโรปิเตน ปฏิฺาตานํ จตุราสีติยา ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานํ ภิกฺขุโต คหิเตสุ ทฺวีสุ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ อเนกสตธมฺมกฺขนฺธสงฺคหิโต. ตสฺส ทฺเว วคฺคา อฏฺกวคฺโค ปารายนวคฺโค ขคฺควิสาณสุตฺตฺจ, เอเกกสฺมึ วคฺเค โสฬส โสฬส กตฺวา ขคฺควิสาณสุตฺตฺจาติ เตตฺตึส สุตฺตานิ กามสุตฺตาทิขคฺควิสาณสุตฺตปริโยสานานิ . เอวํ อเนกธา ววตฺถาปิตสฺส อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส อนุปุพฺพปทตฺถวณฺณนํ กริสฺสามิ. อยฺหิ มหานิทฺเทโส ปาโต อตฺถโต จ อุทฺทิสนฺเตน นิทฺทิสนฺเตน จ สกฺกจฺจํ อุทฺทิสิตพฺโพ นิทฺทิสิตพฺโพ จ, อุคฺคณฺหนฺเตนาปิ สกฺกจฺจํ อุคฺคณฺหิตพฺโพ ธาเรตพฺโพ จ. ตํ กิสฺส เหตุ? คมฺภีรตฺตา อิมสฺส มหานิทฺเทสสฺส โลกหิตาย โลเก จิรฏฺิตตฺถนฺติ.

๑. อฏฺกวคฺโค