📜
๑. กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
ตตฺถ ¶ ¶ กามสุตฺตํ อาทิ. ตสฺมิมฺปิ ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ คาถา อาทิ. สา อุทฺเทสนิทฺเทสปฏินิทฺเทสวเสน ติธา ิตา. ‘‘กามํ กามยมานสฺสา’’ติ เอวมาทิ อุทฺเทโส. ‘‘กามาติ อุทฺทานโต ทฺเว กามา – วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จา’’ติ นิทฺเทโส. ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติ เอวมาทิ ปฏินิทฺเทโส.
๑. ตตฺถ กามนฺติ มนาปิยรูปาทิเตภูมกธมฺมสงฺขาตํ วตฺถุกามํ. กามยมานสฺสาติ อิจฺฉมานสฺส. ตสฺส เจตํ สมิชฺฌตีติ ตสฺส กามยมานสฺส สตฺตสฺส ตํ กามสงฺขาตํ วตฺถุ สมิชฺฌติ เจ, สเจ โส ตํ ลภตีติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธา ปีติมโน โหตีติ เอกํสํ ตุฏฺจิตฺโต โหติ. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. มจฺโจติ สตฺโต. ยทิจฺฉตีติ ยํ อิจฺฉติ. อิทํ ปน สงฺเขปโต ปทตฺถสมฺพนฺธมตฺตเมว, วิตฺถาโร ปน อุปริ ปาฬิยํ อาคตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา จ อิมสฺมึ, เอวํ อิโต ปรํ สพฺเพสุปีติ.
กามาติ อุทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ นิทฺทิสิตพฺพปทํ. อุทฺทานโตติ วคฺควเสน ‘‘มจฺฉุทฺทานํ กิเนยฺยา’’ติ อาทีสุ วิย. อถ วา อุปรูปริ ทานโต อุทฺทานํ, อุทฺธํ อุทฺธํ โสธนโต พฺยวทานฏฺเน โวทานํ วิย. วิตฺถารกรณภาเวน วา. กามา อิติ ปาเสสํ กตฺวา วตฺตพฺพํ. ทฺเวติ คณนปริจฺเฉโท ¶ , น เอกํ, น ตโย. วตฺถุกามา จาติ มนาปิยรูปาทิวตฺถุกามา จ. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสกามา จ. เตสุ วตฺถุกาโม ปริฺเยฺโย, กิเลสกาโม ¶ ปหาตพฺโพ. ตตฺถ วตฺถุกาโม ¶ กิเลสกาเมน ปตฺถยิตพฺโพติ กามียตีติ กาโม. กิเลสกาโม วตฺถุกามานํ ปจฺจาสีสนสฺส การณภาเวน กามียเต อเนนาติ กาโม. ตตฺถ รูปาทิกฺขนฺเธ สงฺคหิโต วตฺถุกาโม, สงฺขารกฺขนฺเธ สงฺคหิโต กิเลสกาโม. ฉหิ วิฺาเณหิ วิชานิตพฺโพ วตฺถุกาโม, มโนวิฺาเณน ชานิตพฺโพ กิเลสกาโม. กิเลสานํ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน อารมฺมณฏฺเน จ วตฺถุกาโม.
‘‘เนเต กามา ยานิ จิตฺรานิ โลเก, สงฺกปฺปราโค ปุริสสฺส กาโม;
ติฏฺนฺติ จิตฺรานิ ตเถว โลเก, อเถตฺถ ธีรา วินยนฺติ ฉนฺท’’นฺติ. (อ. นิ. ๖.๖๓);
นนฺทมาณวก- (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๖๘ อุปฺปลวณฺณตฺเถรีวตฺถุ) โสเรยฺยเสฏฺิปุตฺตาทีนํ (ธ. ป. ๔๓) วตฺถูนิ เจตฺถ นิทสฺสนํ. กิเลสกาโม ตาปนฏฺเน พาธนฏฺเน จ สยํ กาเมตีติ กาโม. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทินฺนจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตตี’’ติ จ ‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ปาณมฺปิ หนติ, อทินฺนมฺปิ อาทิยติ, ปรทารมฺปิ คจฺฉติ, มุสาปิ ภณตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๕๔) จ เอวมาทิ นิทสฺสนํ.
ตเมว ปฏินิทฺเทสวเสน วิตฺถาเรตฺวา วตฺตุกาโม – ‘‘กตเม วตฺถุกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กตเมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ปฺจวิธา หิ ปุจฺฉา, ตาสํ วิภาโค อุปริ ปาฬิยํเยว อาวิ ภวิสฺสติ. ตาสุ อยํ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ตตฺถ มนาปิกาติ มนํ อปฺปายนฺติ วทฺเธนฺตีติ มนาปา, มนาปา เอว มนาปิกา. รูปาติ กมฺมจิตฺตอุตุอาหารสมุฏฺานวเสน จตุสมุฏฺานิกา รูปารมฺมณา. รูปยนฺตีติ รูปา, วณฺณวิการํ อาปชฺชมานา หทยงฺคตภาวํ ปกาเสนฺตีติ อตฺโถ.
ตตฺถ ¶ เกนฏฺเน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘กิฺจ, ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ ¶ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติ. รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๙).
ตตฺถ ¶ รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬียติ, ภิชฺชตีติ อตฺโถ. สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํ. มหึสกรฏฺาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมว. ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติ.
อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํ. ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติ.
ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํ. เปตฺติวิสยสฺมิฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ, อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติ. ทุพฺภิกฺเข กฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณสตฺตานํ ปมาณํ นตฺถิ.
ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกฺชิกาทีสุ ปากฏํ. ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุมฺปิ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติ. ‘‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’’ติ นทึ คตานํ ชลํ วาลุกาตลํ สมฺปชฺชติ. มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ สมุทฺโท ปิฏฺิปาสาโณเยว โหติ. เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิรวนฺติ. ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํ. ตํ ปน – ‘‘กตมํ ตํ รูปํ สนิทสฺสนํ? สปฺปฏิฆ’’นฺติ อาทินา นเยน อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๕๖, ๖๕๘) วิตฺถาริตเมว.
สปฺปนฺตีติ สทฺทา, อุทาหรียนฺตีติ อตฺโถ. อุตุจิตฺตวเสน ทฺวิสมุฏฺานิกา สทฺทา. คนฺธยนฺตีติ คนฺธา, อตฺตโน วตฺถูนิ สูจยนฺตีติ อตฺโถ. รสนฺติ เต สตฺตาติ รสา, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. ผุสียนฺตีติ โผฏฺพฺพา ¶ . เอเต คนฺธาทโย จตุสมุฏฺานิกาว ¶ . เตสํ วิภาโค อภิธมฺเม (ธ. ส. ๖๒๒-๖๒๔) วิตฺถาริโตเยว.
ตเมวตฺถํ วิตฺถารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถรณา ปาวุรณา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถริตฺวา นิปชฺชิยนฺตีติ อตฺถรณา. สรีรํ เวเตฺวา ปารุปียนฺตีติ ปาวุรณา. อนฺโตชาตาทโย จตฺตาโร ทาสี จ ทาโส จ ทาสิทาสา. เขตฺตํ นาม ยสฺมึ ปุพฺพณฺณํ รุหติ. วตฺถุ นาม ยสฺมึ อปรณฺณํ รุหติ. ยตฺถ วา อุภยมฺปิ รุหติ, ตํ เขตฺตํ. ตทตฺถาย กตภูมิภาโค วตฺถุ. เขตฺตวตฺถุสีเสน เจตฺถ วาปีตฬากาทีนิปิ สงฺคหิตานิ. หิรฺนฺติ กหาปโณ. สุวณฺณนฺติ ชาตรูปํ. เตสํ คหเณน โลหมาสโก ชตุมาสโก ทารุมาสโกติ สพฺเพปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. คามนิคมราชธานิโยติ ¶ เอกกุฏิกาทิ คาโม. อาปณยุตฺโต นิคโม. เอกสฺส รฺโ อาณาปวตฺติฏฺานํ ราชธานี. รฏฺนฺติ ชนปเทกเทสํ. ชนปโทติ กาสิโกสลาทิชนปโท. โกโสติ จตุพฺพิโธ โกโส – หตฺถี อสฺโส รโถ ปตฺติ. โกฏฺาคารนฺติ ติวิธํ โกฏฺาคารํ – ธนโกฏฺาคารํ ธฺโกฏฺาคารํ วตฺถโกฏฺาคารํ. ยํ กิฺจีติ อนวเสสปริยาทานวจนํ. รชนียนฺติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน.
อิโต ปรํ ติกวเสน ทสฺเสตุํ อตีตตฺติกอชฺฌตฺตตฺติกหีนตฺติกโอกาสตฺติกสํโยคตฺติกกามาวจรตฺติกวเสน ฉตฺติเก อาห. ตตฺถ อตีตตฺติเก ตาว อตฺตโน สภาวํ อุปฺปาทาทิกฺขณํ วา ปตฺวา อติกฺกนฺตาติ อตีตา. ตทุภยมฺปิ น อาคตาติ อนาคตา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา. อิทํ ภเวน ปริจฺฉนฺนํ. ปฏิสนฺธิโต หิ ปฏฺาย อตีตภเวสุ นิพฺพตฺตา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตา โหนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ อตีตาเยว นาม. จุติโต ปฏฺาย อนาคตภเวสุ นิพฺพตฺตนกา กามา อนนฺตรภเว วา นิพฺพตฺตนฺตุ กปฺปโกฏิสตสหสฺสมตฺถเก วา, สพฺเพ ¶ อนาคตาเยว นาม. จุติปฏิสนฺธิอนฺตเร ปวตฺตา กามา ปจฺจุปฺปนฺนา นาม.
อชฺฌตฺตตฺติเก ‘‘เอวํ ปวตฺตมานา มยํ อตฺตาติ คหณํ คมิสฺสามา’’ติ อิมินา วิย อธิปฺปาเยน อตฺตานํ อธิการํ กตฺวา ปวตฺตา อตฺตโน สนฺตาเน ¶ ปวตฺตา ปาฏิปุคฺคลิกา กามา อชฺฌตฺตา กามา นาม. ตโต พหิภูตา ปน อินฺทฺริยพทฺธา วา อนินฺทฺริยพทฺธา วา พหิทฺธา นาม. ตติยปทํ ตทุภยวเสน วุตฺตํ.
หีนตฺติเก หีนาติ ลามกา. มชฺฌิมาติ หีนปณีตานํ มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. อวเสสา อุตฺตมฏฺเน ปณีตา. อปิ จ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา. เนรยิกานฺหิ กามา โกฏิปฺปตฺตา หีนา นาม. เต อุปาทาย ติรจฺฉาเนสุ นาคสุปณฺณานํ กามา ปณีตา นาม. เสสติรจฺฉานคตานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ กามา หีนา. เต อุปาทาย มเหสกฺขเปตานํ กามา ปณีตา นาม. อวเสสานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชานปทานํ กามา ปณีตา นาม. ปจฺจนฺตวาสีนํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย คามโภชกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ชนปทสามิกานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย ปเทสราชูนํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จกฺกวตฺติรฺโ ¶ กามา ปณีตา นาม. ตสฺส อมจฺจานํ กามา มชฺฌิมา นาม. ตสฺสปิ หีนา. เต อุปาทาย ภุมฺมเทวานํ กามา ปณีตา นาม. เตสํ ปริจาริกานํ เทวานํ กามา มชฺฌิมา นาม. เตสมฺปิ หีนา. เต อุปาทาย จาตุมหาราชิกานํ เทวานํ กามา ปณีตาติอาทินา นเยน ยาว อกนิฏฺเทวานํ กามา มตฺถกปฺปตฺตา ปณีตา นาม. เอวํ อุปาทายุปาทาย หีนมชฺฌิมปณีตตา เวทิตพฺพา.
โอกาสตฺติเก อาปายิกา กามาติ อวฑฺฒิสงฺขาเตสุ อปคตอเยสุ ¶ จตูสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตกามา อาปายิกา. มนุสฺเสสุ นิพฺพตฺตกามา มานุสิกา. เทเวสุ นิพฺพตฺตกามา ทิพฺพา.
สํโยคตฺติเก ปจฺจุปฏฺิตานํ กามานํ ปริภฺุชนโต เปตฺวา เนรยิเก เสสอปายสตฺตานํ มนุสฺสานํ จาตุมหาราชิเก เทเว อุปาทาย ยาว ตุสิตกายิกานฺจ เทวานํ กามา ปจฺจุปฏฺิตา กามา นาม. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามตากาเล ยถารุจิตํ อารมฺมณํ นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตีนํ เทวานํ กามา นิมฺมิตา กามา นาม. อตฺตโน อชฺฌาสยํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเต อารมฺมเณ ¶ เสวนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตีนํ กามา ปรนิมฺมิตา กามา นาม. ปริคฺคหิตาติ ‘‘มยฺหํ เอต’’นฺติ คหิตา กามา. อปริคฺคหิตาติ ตถา อปริคฺคหิตา อุตฺตรกุรุกานํ กามา. มมายิตาติ ตณฺหาวเสน ‘‘มม เอต’’นฺติ คหิตา. อมมายิตาติ วุตฺตปฏิปกฺขา.
สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๗) นเยน วุตฺเตสุ กามาวจรธมฺเมสุ ปริยาปนฺนา. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อุทฺทานโต ทฺเว กามา, วตฺถุกาโม จ กิเลสกาโม จาติ. ตตฺถ กิเลสกาโม อตฺถโต ฉนฺทราโค. วตฺถุกาโม เตภูมกํ วฏฺฏํ. กิเลสกาโม เจตฺถ กาเมตีติ กาโม. อิตโร กามียตีติ. ยสฺมึ ปน ปเทเส ทุวิโธเปโส กาโม ปวตฺติวเสน อวจรติ, โส จตุนฺนํ อปายานํ มนุสฺสานํ ฉนฺนฺจ เทวโลกานํ วเสน เอกาทสวิโธ ปเทโส กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร. ตตฺถ ปริยาปนฺนธมฺเม สนฺธาย ‘‘สพฺเพปิ กามาวจรา ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. รูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๘๙) นเยน วุตฺตานํ รูปาวจรธมฺมานํ วเสน สพฺเพปิ ธมฺมา รูปาวจรา. อรูปาวจรา ธมฺมาติ ‘‘เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๙๑) นเยน วุตฺตา สพฺเพปิ อรูปาวจรา ธมฺมา ¶ . ตตฺถ รูเป อวจรนฺตีติ รูปาวจรา. อรูเป ¶ อวจรนฺตีติ อรูปาวจรา. ตณฺหาวตฺถุกาติ ปติฏฺฏฺเน การณฏฺเน จ ตณฺหาย วตฺถุภูตา. ตณฺหารมฺมณาติ ตณฺหาปวตฺติวเสน ตณฺหาย อารมฺมณภูตา. กามนียฏฺเนาติ ปจฺจาสีสิตพฺพฏฺเน. รชนียฏฺเนาติ รฺเชตุํ ยุตฺตฏฺเน. มทนียฏฺเนาติ กุลมทาทิมทํ อุปฺปาทนียฏฺเน.
ตตฺถ ‘‘กตเม วตฺถุกามา? มนาปิกา รูปา’’ติอาทึ กตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ รชนียํ วตฺถู’’ติ ปริโยสานํ สวิฺาณกอวิฺาณกวเสน วุตฺตํ. อวเสสํ เอกจตุกฺกาทิกฉตฺติกนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอวํ วตฺถุกามํ ทสฺเสตฺวา กิเลสกามํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม กิเลสกามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ฉนฺโทติ ทุพฺพลราโค. ราโคติ ตโต พลวตโร ¶ . อุปริ ตโยปิ ราคา อิเมหิ พลวตรา. กาเมสูติ ปฺจสุ กามคุเณสุ. กามจฺฉนฺโทติ กามสงฺขาโต ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท. กามนวเสน รชฺชนวเสน จ กาโมเยว ราโค กามราโค. กามนวเสน นนฺทนวเสน จ กาโมเยว นนฺที กามนนฺที. เอวํ สพฺพตฺถ กามตฺถํ วิทิตฺวา ตณฺหายนฏฺเน กามตณฺหา. สิเนหนฏฺเน กามสฺเนโห. ปริฑยฺหนฏฺเน กามปริฬาโห. มุจฺฉนฏฺเน กามมุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺาปนฏฺเน กามชฺโฌสานํ. วฏฺฏสฺมึ โอเฆหิ โอสีทาเปตีติ กาโมโฆ. วฏฺฏสฺมึ โยเชตีติ กามโยโค. ทฬฺหวเสน ตณฺหาทิฏฺิคฺคหณํ อุปาทานํ. จิตฺตํ นีวรติ ปริโยนนฺธตีติ นีวรณํ.
อทฺทสนฺติ อทฺทกฺขึ. กามาติ อาลปนํ. เตติ ตว. มูลนฺติ ปติฏฺํ. สงฺกปฺปาติ ปริกปฺเปน. น ตํ สงฺกปฺปยิสฺสามีติ ตํ ปริกปฺปนํ น กริสฺสามิ. น โหหิสีติ น ภวิสฺสสิ.
อิจฺฉมานสฺสาติ ปจฺจาสีสนฺตสฺส. สาทิยมานสฺสาติ อสฺสาทิยมานสฺส. ปตฺถยมานสฺสาติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. ปิหยมานสฺสาติ ปาปุณิตุํ อิจฺฉํ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อภิชปฺปมานสฺสาติ ตณฺหาวเสน ติตฺตึ อุปฺปาเทนฺตสฺส. อถ ¶ วา อภิวทนฺตสฺส.
ขตฺติยสฺส วาติอาทิ จตุชฺชาติวเสน วุตฺตํ. คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ. เทวสฺส วา มนุสฺสสฺส วาติ อุปปตฺติวเสน วุตฺตํ. อิชฺฌตีติ นิปฺผชฺชติ. สมิชฺฌตีติ สมฺมา นิปฺผชฺชติ. อิชฺฌติ วิเสสรูปปฏิลาภวเสน. ลภติ ทสฺสนียรูปปฏิลาภวเสน. ปฏิลภติ ¶ ปสาทนียรูปปฏิลาภวเสน. อธิคจฺฉติ สณฺานรูปปฏิลาภวเสน. วินฺทติ ฉวิปฺปสาทรูปปฏิลาภวเสน. อถ วา ปฺุมหตฺเตน อิชฺฌติ. ชาติมหตฺเตน ลภติ. อิสฺสริยมหตฺเตน ปฏิลภติ. สุขมหตฺเตน อธิคจฺฉติ. สมฺปตฺติมหตฺเตน วินฺทตีติ.
เอกํสวจนนฺติ เอกโกฏฺาสวจนํ. ‘‘เอกํสํ จีวรํ กตฺวา (ปารา. ๓๔๙, ๓๖๗), เอกํสพฺยากรณีโย ปฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๑๒; อ. นิ. ๔.๔๒) วิย อเนกํสคหณปฏิกฺเขโป. นิสฺสํสยวจนนฺติ สํสยวิรหิตวจนํ, สนฺเทหปฏิกฺเขปวจนนฺติ อตฺโถ. นิกฺกงฺขาวจนนฺติ ‘‘กถมิทํ กถมิท’’นฺติ กงฺขาปฏิกฺเขปวจนํ. อทฺเวชฺฌวจนนฺติ ทฺวิธาภาวํ ¶ ทฺเวชฺฌํ, ตํอภาเวน อทฺเวชฺฌวจนํ. ทฺวิธาภาววิรหิตํ ‘‘อทฺเวชฺฌวจนา พุทฺธา’’ติอาทีสุ วิย วิมติปฏิกฺเขโป. อทฺเวฬฺหกวจนนฺติ ทฺวิหทยาภาเวน อทฺเวฬฺหกํ. ‘‘อิติหาส, อิติหาสา’’ติ ทฺเวฬฺหกปฏิกฺเขปวจนํ. นิโยควจนนฺติ เอกสฺมึ อตฺเถ ทฺเว น ยุชฺชนฺตีติ นิโยควจนํ ทฺวิธาปถปฏิกฺเขโป. อฺตฺถ ปน ‘‘นิโยคา อนาคตารมฺมณา นตฺถี’’ติ อาคตํ. อปณฺณกวจนนฺติ ปลาสรหิตํ สารวจนํ อวิรทฺธการณํ ‘‘อปณฺณกํ านเมเก’’ติอาทีสุ (ชา. ๑.๑.๑) วิย, อปณฺณกมณิ วิย สปฺปติฏฺวจนํ. อวตฺถาปนวจนเมตนฺติ เอตํ วจนํ โอตริตฺวา ปติฏฺิตํ สนฺติฏฺาปนํ ปนํ.
ยานิ ¶ อิมสฺมึ มหานิทฺเทเส วิภตฺตึ อาโรปิตานิ ปทานิ, ตานิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺตานิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ, นานา โหนฺตานิ จตูหิ การเณหิ นานา ภวนฺติ. อปรทีปนา ปเนตฺถ ทฺเว านานิ คจฺฉนฺติ. กถํ? ตานิ หิ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน วาติ อิเมหิ ตีหิ การเณหิ วิภตฺตึ คจฺฉนฺติ. ตตฺถ ‘‘โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตํ, โทโส ทุสฺสนา ทุสฺสิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๖) เอวํ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ เอโกว โกโธ พฺยฺชนวเสน เอวํ วิภตฺตึ ลภติ. ‘‘อิชฺฌติ สมิชฺฌติ ลภติ ปฏิลภติ คจฺฉติ อธิคจฺฉตี’’ติ เอวํ ปน อุปสคฺควเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปฺุํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา’’ติ (ธ. ส. ๑๖) เอวํ อตฺถวเสน วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.
เตสุ ปีติปทนิทฺเทเส ตาว อิมา ติสฺโส วิภตฺติโย ลพฺภนฺติ. ปีติ ปาโมชฺชนฺติ หิ พฺยฺชนวเสน วิภตฺติคมนํ โหติ. อาโมทนา ปโมทนา ปหาโสติ อุปสคฺควเสน. วิตฺติ ตุฏฺิ โอทคฺยํ อตฺตมนตาติ อตฺถวเสน. อิมินา นเยน สพฺพปทนิทฺเทเสสุ วิภตฺติคมนํ เวทิตพฺพํ.
นานา ¶ โหนฺตานิปิ นามนานตฺเตน ลกฺขณนานตฺเตน กิจฺจนานตฺเตน ปฏิกฺเขปนานตฺเตนาติ อิเมหิ จตูหิ การเณหิ นานา โหนฺติ. ตตฺถ ‘‘กตโม ตสฺมึ สมเย พฺยาปาโท โหติ? โย ตสฺมึ สมเย โทโส ทุสฺสนา’’ติ เอตฺถ พฺยาปาโทติ วา โทโสติ วา ทฺเวปิ เอเต โกโธ เอว, นาเมน ปน นานตฺตํ คตาติ เอวํ นามนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ราสฏฺเน ¶ จ ปฺจปิ ขนฺธา เอโกว ขนฺโธ โหติ. เอตฺถ ปน รูปํ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณนฺติ อิมินา ลกฺขณนานตฺเตน ปฺจกฺขนฺธา โหนฺติ. เอวํ ลกฺขณนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา – อิธ ภิกฺขุ อนุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อนุปฺปาทาย…เป… จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ¶ ปทหตี’’ติ (วิภ. ๓๙๐; ที. นิ. ๒.๔๐๒) เอกเมว วีริยํ กิจฺจนานตฺเตน จตูสุ าเนสุ อาคตํ. เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
‘‘จตฺตาโร อสทฺธมฺมา โกธครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, มกฺขครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, ลาภครุตา, น สทฺธมฺมครุตา, สกฺการครุตา, น สทฺธมฺมครุตา’’ติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๔.๔๔) ปน ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อิมานิ ปน จตฺตาริ นานตฺตานิ น ปีติยาเยว ลพฺภนฺติ, สพฺเพสุปิ ยถาลาภวเสน ลพฺภนฺติ. ปีติยา หิ ปีตีติ นามํ, จิตฺตสฺส จิตฺตนฺติ นามํ. ปีติ จ ผรณลกฺขณา, เวทนา เวทยิตลกฺขณา, สฺา สฺชานนลกฺขณา, เจตนา เจตยิตลกฺขณา, วิฺาณํ วิชานนลกฺขณํ.
ตถา ปีติ ผรณกิจฺจา, เวทนา อนุภวนกิจฺจา, สฺา สฺชานนกิจฺจา, เจตนา เจตยิตกิจฺจา, วิฺาณํ วิชานนกิจฺจนฺติ เอวํ กิจฺจนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ปฏิกฺเขปนานตฺตํ ปีติปเท นตฺถิ.
อโลภาทินิทฺเทเส ปน ‘‘อโลโภ อลุพฺภนา อลุพฺภิตตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๓๕) นเยน ¶ ลพฺภตีติ เอวํ ปฏิกฺเขปนานตฺเตน นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. เอวํ สพฺพปทนิทฺเทเสสุ ลพฺภมานวเสน จตุพฺพิธมฺปิ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
อปรทีปนา ปน ปทตฺถุติ วา โหติ ทฬฺหีกมฺมํ วาติ เอวํ ทฺเว านานิ คจฺฉติ. ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย หิ สกิเมว ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺเต เอตํ ปทํ ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๙) วุตฺเต ผุลฺลิตมณฺฑิตวิภูสิตํ นาม โหติ. ยถา หิ ทหรกุมารํ นหาเปตฺวา มโนรมํ วตฺถํ ปริทหาเปตฺวา ปุปฺผานิ ปิฬนฺธาเปตฺวา อกฺขีนิ อฺเชตฺวา อถสฺส นลาเฏ เอกเมว ¶ มโนสิลาพินฺทุํ กเรยฺย, น ตสฺส เอตฺตาวตา จิตฺตติลโก นาม โหติ, นานาวณฺเณหิ ปน ปริวาเรตฺวา พินฺทูสุ กเตสุ จิตฺตติลโก นาม โหติ. เอวํ สมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. อยํ ปทตฺถุติ นาม.
พฺยฺชนวเสน ¶ ปน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน จ ปุนปฺปุนํ ภณนเมว ทฬฺหีกมฺมํ นาม. ยถา หิ ‘‘อาวุโส’’ติ วา ‘‘ภนฺเต’’ติ วา ‘‘ยกฺโข’’ติ วา ‘‘สปฺโป’’ติ วา วุตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ‘‘อาวุโส อาวุโส, ภนฺเต ภนฺเต, ยกฺโข ยกฺโข, สปฺโป สปฺโป’’ติ วุตฺเต ปน ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหติ, เอวเมว สกึเทว ยฏฺิโกฏิยา อุปฺปีเฬนฺเตน วิย ‘‘ปีตี’’ติ วุตฺตมตฺเต ทฬฺหีกมฺมํ นาม น โหติ, ปุนปฺปุนํ พฺยฺชนวเสน อุปสคฺควเสน อตฺถวเสน ‘‘ปีติ ปาโมชฺชํ อาโมทนา ปโมทนา หาโส ปหาโส วิตฺตี’’ติ วุตฺเตเยว ทฬฺหีกมฺมํ นาม โหตีติ เอวํ อปรทีปนา ทฺเว านานิ คจฺฉติ. เอติสฺสาปิ วเสน ลพฺภมานกปทนิทฺเทเสสุ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ปีนยตีติ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา, กายจิตฺตปีณนรสา ผรณรสา วา, โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. ยา ปฺจกามคุณปฏิสฺุตฺตาติ ยา รูปาทิปฺจกามโกฏฺาสปฏิสํยุตฺตา ปีติ, สา ปีนยตีติ ปีติ, อิทํ สภาวปทํ. ปมุทิตสฺส ภาโว ปาโมชฺชํ. อาโมทนากาโร อาโมทนา. ปโมทนากาโร ปโมทนา. ยถา วา เภสชฺชานํ วา เตลานํ วา อุณฺโหทกสีโตทกานํ วา เอกโต กรณํ ‘‘โมทนา’’ติ วุจฺจติ, เอวมยมฺปิ ปีติธมฺมานํ เอกโต กรเณน โมทนา. อุปสคฺควเสน ปน มณฺเฑตฺวา ‘‘อาโมทนา ปโมทนา’’ติ วุตฺตา.
หาเสตีติ หาโส. ปหาเสตีติ ปหาโส, หฏฺปหฏฺาการานเมตํ อธิวจนํ. วิตฺตีติ วิตฺตํ, ธนสฺเสตํ ¶ นามํ. อยํ ปน โสมนสฺสปจฺจยตฺตา วิตฺติสริกฺขตาย วิตฺติ. ยถา หิ ธนิโน ธนํ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ ปีติมโตปิ ปีตึ ปฏิจฺจ โสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา ‘‘วิตฺตี’’ติ วุตฺตา. ตุฏฺีติ สภาวสณฺิตาย ปีติยา เอตํ นามํ. ปีติมา ปน ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ, อุทคฺคสฺส ภาโว โอทคฺยํ.
อตฺตโน มนตา อตฺตมนตา. อนภิรทฺธสฺส หิ มโน ทุกฺขปทฏฺานตฺตา น อตฺตโน มโน นาม โหติ, อภิรทฺธสฺส สุขปทฏฺานตฺตา อตฺตโน ¶ มโน นาม โหติ, อิติ อตฺตโน มนตา ¶ อตฺตมนตา, สกมนตา, สกมนสฺส ภาโวติ อตฺโถ. สา ปน ยสฺมา น อฺสฺส กสฺสจิ อตฺตโน มนตา, จิตฺตสฺเสว ปเนสา ภาโว เจตสิโก ธมฺโม, ตสฺมา ‘‘อตฺตมนตา จิตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตา.
จิตฺตวิจิตฺตตาย จิตฺตํ. อารมฺมณํ มินมานํ ชานาตีติ มโน. มานสนฺติ มโน เอว, ‘‘อนฺตลิกฺขจโร ปาโส, ยฺวายํ จรติ มานโส’’ติ (มหาว. ๓๓; สํ. นิ. ๑.๑๕๑) หิ เอตฺถ ปน สมฺปยุตฺตกธมฺโม ‘‘มานโส’’ติ วุตฺโต.
‘‘กถฺหิ ภควา ตุยฺหํ, สาวโก สาสเน รโต;
อปฺปตฺตมานโส เสกฺโข, กาลํกยิรา ชเน สุตา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๕๙) –
เอตฺถ อรหตฺตํ ‘‘มานส’’นฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน มโน เอว มานสํ, พฺยฺชนวเสน เหตํ ปทํ วฑฺฒิตํ.
หทยนฺติ จิตฺตํ. ‘‘จิตฺตํ วา เต ขิปิสฺสามิ, หทยํ วา เต ผาเลสฺสามี’’ติ (สุ. นิ. อาฬวกสุตฺตํ; สํ. นิ. ๑.๒๓๗; ๒๔๖) เอตฺถ อุโร ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘หทยา หทยํ มฺเ อฺาย ตจฺฉตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๓) เอตฺถ จิตฺตํ. ‘‘วกฺกํ หทย’’นฺติ (ขุ. ปา. ๓.ทฺวตึสากาโร; ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐) เอตฺถ หทยวตฺถุ. อิธ ปน จิตฺตเมว อพฺภนฺตรฏฺเน ‘‘หทย’’นฺติ วุตฺตํ. ตเมว ปริสุทฺธฏฺเน ปณฺฑรํ, ภวงฺคํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๙). ตโต นิกฺขนฺตตฺตา ปน อกุสลมฺปิ ¶ คงฺคาย นิกฺขนฺตา นที คงฺคา วิย โคธาวริโต นิกฺขนฺตา โคธาวรี วิย จ ‘‘ปณฺฑร’’นฺตฺเวว วุตฺตํ.
มโน มนายตนนฺติ อิธ ปน มโนคฺคหณํ มนสฺเสว อายตนภาวทีปนตฺถํ. เตเนตํ ทีเปติ ‘‘นยิทํ เทวายตนํ วิย มนสฺส อายตนตฺตา มนายตนํ, อถ โข มโน เอว อายตนํ มนายตน’’นฺติ. ตตฺถ ¶ นิวาสฏฺานฏฺเน อากรฏฺเน สโมสรณฏฺานฏฺเน สฺชาติเทสฏฺเน การณฏฺเน จ อายตนํ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ โลเก ‘‘อิสฺสรายตนํ, วาสุเทวายตน’’นฺติอาทีสุ นิวาสฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘สุวณฺณายตนํ, รชตายตน’’นฺติอาทีสุ อากโร. สาสเน ปน ‘‘มโนรเม อายตเน, เสวนฺติ นํ วิภงฺคมา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๕.๓๘) สโมสรณฏฺานํ. ‘‘ทกฺขิณาปโถ ¶ คุนฺนํ อายตน’’นฺติอาทีสุ สฺชาติเทโส. ‘‘ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติอายตเน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๐๒; ๕.๒๓; ม. นิ. ๓.๑๕๘) การณํ. อิธ ปน สฺชาติเทสฏฺเน สโมสรณานฏฺเน การณฏฺเนาติ ติธาปิ วฏฺฏติ.
ผสฺสาทโย หิ ธมฺมา เอตฺถ สฺชายนฺตีติ สฺชาติเทสฏฺเนปิ เอตํ อายตนํ. พหิทฺธา รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา อารมฺมณภาเวเนตฺถ โอสรนฺตีติ สโมสรณานฏฺเนปิ อายตนํ. ผสฺสาทีนํ ปน สหชาตาทิปจฺจยฏฺเน การณตฺตา การณฏฺเนปิ อายตนนฺติ เวทิตพฺพํ. ตเทว มนนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, มโน เอว อินฺทฺริยํ มนินฺทฺริยํ.
วิชานาตีติ วิฺาณํ. วิฺาณเมว ขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ. ตสฺส ราสิอาทิวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๕๑) เอตฺถ หิ ราสฏฺเน ขนฺโธ วุตฺโต. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๕๕๕) คุณฏฺเน. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑-๒๔๒) เอตฺถ ปณฺณตฺติมตฺตฏฺเน. อิธ ปน รุฬฺหิโต ขนฺโธ วุตฺโต. ราสฏฺเน หิ วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทโส เอกํ วิฺาณํ. ตสฺมา ยถา รุกฺขสฺส เอกเทสํ ฉินฺทนฺโต ‘‘รุกฺขํ ฉินฺทตี’’ติ วุจฺจติ, เอวเมว วิฺาณกฺขนฺธสฺส เอกเทสภูตํ เอกมฺปิ วิฺาณํ รูฬฺหิโต ‘‘วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ.
ตชฺชา มโนวิฺาณธาตูติ เตสํ ผสฺสาทีนํ ธมฺมานํ อนุจฺฉวิกา ¶ มโนวิฺาณธาตุ. อิมสฺมิฺหิ ปเท เอกเมว จิตฺตํ มินนฏฺเน มโน, วิชานนฏฺเน วิฺาณํ, สภาวฏฺเน นิสฺสตฺตฏฺเน ¶ วา ธาตูติ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตํ. สหคโตติ อวิชหิโต. สหชาโตติ สทฺธึ นิคฺคโต. สํสฏฺโติ สํสคฺโค หุตฺวา ิโต. สมฺปยุตฺโตติ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต. กตเมหิ ปกาเรหีติ? เอกุปฺปาทาทีหิ. นตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สมฺปยุตฺตาติ? อามนฺตา. อิติ หิ อิมสฺส ปฺหสฺส ปฏิกฺเขเป ‘‘นนุ อตฺถิ เกจิ ธมฺมา เกหิจิ ธมฺเมหิ สหคตา สหชาตา สํสฏฺา เอกุปฺปาทา เอกนิโรธา เอกวตฺถุกา เอการมฺมณา’’ติ (กถา. ๔๗๓) เอวํ เอกุปฺปาทตาทีนํ วเสน สมฺปโยคตฺโถ วุตฺโต. อิติ อิเมหิ เอกุปฺปาทตาทีหิ ¶ สมํ ปกาเรหิ ยุตฺโต สมฺปยุตฺโต. เอกุปฺปาโทติ เอกโต อุปฺปนฺโน, น วินาติ อตฺโถ. เอกนิโรโธติ เอกโต นิโรโธ. เอกวตฺถุโกติ หทยวตฺถุวเสน เอกวตฺถุโก. เอการมฺมโณติ รูปาทิวเสน เอการมฺมโณ.
เอตฺถ สหคตสทฺโท ตพฺภาเว, โวกิณฺเณ, อารมฺมเณ, นิสฺสเย, สํสฏฺเติ ปฺจสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ ชินวจเน. ‘‘ยายํ ตณฺหา โปโนภวิกา นนฺทิราคสหคตา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๒๐๓; ม. นิ. ๓.๓๗๔; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) เอตฺถ ตพฺภาเว เวทิตพฺโพ, นนฺทิราคภูตาติ อตฺโถ. ‘‘ยา, ภิกฺขเว, วีมํสา โกสชฺชสหคตา โกสชฺชสมฺปยุตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๘๓๒) เอตฺถ โวกิณฺเณ, อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนน โกสชฺเชน โวกิณฺณาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ‘‘ลาภี โหติ รูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีนํ อรูปสหคตานํ วา สมาปตฺตีน’’นฺติ (ปุ. ป. ๓-๖) เอตฺถ อารมฺมเณ, รูปารมฺมณานํ อรูปารมฺมณานนฺติ อตฺโถ. ‘‘อฏฺิกสฺาสหคตํ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๘) เอตฺถ นิสฺสเย, อฏฺิกสฺํ นิสฺสาย อฏฺิกสฺํ ภาเวตฺวา ปฏิลทฺธนฺติ อตฺโถ. ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคตํ โหติ สหชาตํ สมฺปยุตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๘) เอตฺถ สํสฏฺเ, สํมิสฺสนฺติ อตฺโถ. อิมสฺมิมฺปิ าเน สํสฏฺเ อาคโต.
สหชาตสทฺโท ¶ ‘‘สหชาตํ ปุเรชาตํ ปจฺฉาชาต’’นฺติ (ปฏฺ. ๑.๑.๔๓๕) เอตฺถ วิย สหชาเต. สํสฏฺสทฺโท ‘‘คิหีหิ สํสฏฺโ’’ติ จ, ‘‘เอวํ สํสฏฺโ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๓.๓) จาติ เอวมาทีสุ สํสคฺเค. ‘‘กิเส ถูเล วิวชฺเชตฺวา สํสฏฺา โยชิตา หยา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๗๐) เอตฺถ สทิเส.
‘‘ปุจิมนฺทปริวาโร, อมฺโพ เต ทธิวาหน;
มูลํ มูเลน สํสฏฺํ, สาขา สาขา นิเสวเร’’ติ. (ชา. ๑.๒.๗๒) –
เอตฺถ อุปจิเต. ‘‘จิตฺตสํสฏฺา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๕๙) เอตฺถ จิตฺตสมฺปยุตฺตธมฺเม ¶ . อิธ ปน โย ผลปฺปทาเน อวิโยคธมฺโม วินิพฺโภคํ อกตฺวา เอกุปฺปาทาทิธมฺโม หุตฺวา ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. ตํวิสโย. อถ วา ‘‘สหคโต’’ติ วตฺวา ปจฺฉโต ปจฺฉโต อาคตสุตฺเตน วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘สหชาโต’’ติ วุตฺตํ. เอกโต อุปฺปนฺนรูปารูปํ วิย โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สํสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ.
ขีโรทกํ วิย จ โสปิ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. วินิพฺโภคํ กาตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน หิ สหุปฺปนฺนา ธมฺมา สมฺปยุตฺตาปิ อตฺถิ ขีรเตลํ วิย. ตถา วิปฺปยุตฺตาปิ ขีรโต อปนีตํ นวนีตํ วิย. เอวํ ลกฺขณสมฺปยุตฺโต เอกุปฺปาทาทิลกฺขโณเยว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกุปฺปาโท’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ เอกุปฺปาทสหชาตานํ กึ นานตฺตํ? อุปฺปาเท อนฺตรวิรหิโต เอกุปฺปาโท. ขีรกาลมุตฺตสฺสาปิ ทธิโน มถเน มถเน ปากฏํ นวนีตํ วิย ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตวเสน เอกทิวสเมว ชาโต วิย โส น โหตีติ ทสฺเสตุํ เอกกฺขเณ นิพฺพตฺโตติ สหชาโต. เอกวตฺถุโกติ ปติฏฺฏฺเน เอกปริจฺเฉเทน เอกวตฺถุโก, ทฺวินฺนํ ¶ ภิกฺขูนํ เอกวตฺถุกตา วิย านนฺตรวิรหิโต. เอการมฺมโณติ อนิยเตการมฺมโณ น จกฺขุวิฺาณํ วิยาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
มจฺโจติ มูลปทํ. รูปาทีสุ สตฺโต ลคฺโค ลคฺคิโตติ สตฺโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สตฺโต สตฺโตติ, ภนฺเต, วุจฺจติ, กิตฺตาวตา นุ โข, ภนฺเต, ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตีติ? รูเป โข, ราธ, โย ฉนฺโท โย ราโค ยา นนฺที ยา ตณฺหา, ตตฺร สตฺโต ตตฺร วิสตฺโต, ตสฺมา ‘สตฺโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๖๑; มหานิ. ๗). สตฺตโยเคน วา สตฺโต. สุคติทุคฺคตึ นรตีติ นโร. มนุโน ปุตฺโตติ มานโว. อุปกรเณน สยํ โปสยตีติ โปโส. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ คลตีติ ปุคฺคโล. ชีวิตินฺทฺริยํ ธาเรตีติ ชีโว. จุติโต ชาตึ คจฺฉตีติ ชาคุ. ชิยตีติ ชนฺตุ. อินฺทฺริเยน คจฺฉตีติ อินฺทคุ. อถ วา อินฺทภูเตน กมฺมุนา คจฺฉตีติ อินฺทคุ. ‘‘หินฺทคู’’ติปิ ปาฬิ. หินฺทนฺติ มรณํ, ตํ คจฺฉตีติ หินฺทคุ. มนุโต ชาโตติ มนุโช. ยํ สาทิยตีติ ยํ รูปาทึ อสฺสาทิยติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิโต ปรํ วุตฺตมตฺถํ นิคเมนฺโต เตนาห ภควา –
‘‘กามํ กามยมานสฺส…เป… ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ;
อิโต ปรํ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.
๒. ตสฺส ¶ ¶ เจ กามยานสฺสาติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส กาเม อิจฺฉมานสฺส, กาเมน วา ยายมานสฺส. ฉนฺทชาตสฺสาติ ชาตตณฺหสฺส. ชนฺตุโนติ สตฺตสฺส. เต กามา ปริหายนฺตีติ เต กามา ปริหายนฺติ เจ. สลฺลวิทฺโธว รุปฺปตีติ อถ โส อโยมยาทินา สลฺเลน วิทฺโธ วิย ปีฬียติ. อิโต ปรํ วุตฺตํ วชฺเชตฺวา อวุตฺเตสุ ยํ ยํ อนุตฺตานํ, ตํ ตเทว กถยิสฺสามิ.
จกฺขุปีณนํ อารมฺมณํ ปาปุณนวเสน ยายติ คจฺฉติ ¶ . ทสฺสนียวเสน ปิยตฺตํ อารมฺมณวเสน อปฺปาเปตีติ นิยฺยติ. สวนียํ หุตฺวา กณฺณโสตปีณนํ อารมฺมณวเสน ปริกฑฺฒตีติ วุยฺหติ. สริตพฺพํ หุตฺวา จิตฺตปีณนํ อารมฺมณวเสน คเหตฺวา อุปสํหรียตีติ สํหรียติ. ยถาติ โอปมฺมตฺเถ นิปาโต. หตฺถินา ยายติ คจฺฉตีติ หตฺถิยาเนน วา, วาอิติ วิกปฺปตฺเถ. อสฺเสน ยายติ คจฺฉตีติ อสฺสยาเนน วา. โคยุตฺตํ วยฺหาทิยานํ โคยานํ, เตน โคยาเนน. อชยานาทีสุปิ เอเสว นโย. อิฏฺวเสน ชาโต สฺชาโต.
อารมฺมณปิยตฺตวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. อารมฺมณมนาปภาเวน ปาตุภูโต. อถ วา กามราควเสน ชาโต สฺชาโต. กามนนฺทิวเสน นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต. กามตณฺหาวเสน กามสิเนหวเสน กามจฺฉนฺทวเสน กามปริฬาหวเสน จ ปาตุภูโตติ เวทิตพฺโพ.
เต วา กามา ปริหายนฺตีติ เต วตฺถุกามาทโย ปริหายนฺติ วิคจฺฉนฺติ. โส วา กาเมหิ ปริหายตีติ เอโส ขตฺติยาทิปุคฺคโล วตฺถุกามาทิกาเมหิ ปริหายติ วิคจฺฉติ ‘‘ปุพฺเพว มจฺจํ วิชหนฺติ โภคา, มจฺโจ ธเน ปุพฺพตรํ ชหาตี’’ติ (ชา. ๑.๕.๒) เอวมาทีสุ วิย. กถนฺติ เกน ปกาเรน. ติฏฺนฺตสฺเสวาติ ธรนฺตสฺเสว. เต โภเคติ เต วตฺถุกามาทโย โภเค. ราชาโน วาติ ปถพฺยาทิราชาโน. หรนฺตีติ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, อปหรนฺติ วา. โจรา วาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกา. อคฺคิ วาติ ทาวคฺคิอาทิ. ทหตีติ ฌาเปติ ภสฺมํ กโรติ. อุทกํ วาติ โอฆาทิอุทกํ ¶ . วหตีติ คเหตฺวา มหาสมุทฺทํ ปาเปติ. อปฺปิยา วาติ อกนฺตา อมนาปา. ทายาทา หรนฺตีติ ทายชฺชวิรหิตา อสฺสามิกา หรนฺติ. นิหิตํ ¶ วาติ นิธานํ กตฺวา ปิตํ. นาธิคจฺฉตีติ น วินฺทติ น ปฏิลภติ, น ปสฺสตีติ อตฺโถ. ทุปฺปยุตฺตาติ วิสมปโยเคน โยชิตา กสิวาณิชฺชาทิกมฺมนฺตา. ภิชฺชนฺตีติ เภทํ ปาปุณนฺติ, น ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘ภฺชนฺติ รถํ อยานกา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๒๙๖) สมฺภโว เวทิตพฺโพ.
กุเล วา กุลงฺคาโร อุปฺปชฺชตีติ ขตฺติยาทิกุเล กุลฌาปโก กุเล อนฺติมปุริโส นิพฺพตฺตติ ¶ . ‘‘กุลงฺกโร’’ติปิ ปาฬิ. โย เต โภเค วิกิรตีติ โย เอโส กุเล ปจฺฉิมโก เต หิรฺาทิเก โภเค เขเปติ. วิธมตีติ วิโยคํ กโรติ, ทูเร ขิปติ. วิทฺธํเสตีติ นาเสติ อทสฺสนํ คเมติ. อถ วา อิตฺถิธุตฺโต หุตฺวา วิกิรติ. สุราธุตฺโต หุตฺวา วิธมติ. อกฺขธุตฺโต หุตฺวา วิทฺธํเสติ. วิกิรติ วา อุปฺปนฺนํ อายํ อชานเนน. วิธมติ วิสฺสชฺชนมุขํ อชานเนน. วิทฺธํเสติ ปิตฏฺาเน อารกฺขํ อสํวิธาเนนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.
อนิจฺจตาเยว อฏฺมีติ วินาสภาโว เอว อฏฺโม. หายนฺตีติ อทสฺสนํ ยนฺติ. ปริหายนฺตีติ น ปุน ปฺายนฺติ. ปริธํเสนฺตีติ านโต อปคจฺฉนฺติ. ปริปตนฺตีติ ปคฺฆรนฺติ. อนฺตรธายนฺตีติ อนฺตรธานํ อทสฺสนํ คจฺฉนฺติ. วิปฺปลุชฺชนฺตีติ จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อปคจฺฉนฺติ.
ติฏฺนฺเตว ¶ เต โภเคติ เตสํ ธนานํ ิตกาเล ‘‘ติฏฺนฺเต นิพฺพุเต จาปี’’ติ เอวมาทีสุ (วิ. ว. ๘๐๖) วิย. โสติ โส โภคสามิโก ปุคฺคโล. จวติ เทวโลกโต. มรติ มนุสฺสโลกโต. วิปฺปลุชฺชติ นาคสุปณฺณาทิโลกโต. อถ วา หายติ ธฺโกฏฺาคารวเสน. ปริหายติ ธนโกฏฺาคารวเสน. ปริธํสติ พลิพทฺทหตฺถิอสฺสาทิวเสน. ปริปตติ ทาสิทาสวเสน. อนฺตรธายติ ทาราภรณวเสน. นสฺสติ อุทกาทิวเสนาติ เอเก วณฺณยนฺติ.
อโยมเยนาติ กาฬโลหาทินิพฺพตฺเตน. สลฺเลนาติ กณฺเฑน. อฏฺิมเยนาติ มนุสฺสฏฺึ เปตฺวา อวเสเสน. ทนฺตมเยนาติ หตฺถิทนฺตาทินา. วิสาณมเยนาติ โควิสาณาทินา. กฏฺมเยนาติ เวฬุกฏฺาทินา. วิทฺโธติ วุตฺตปฺปการสลฺลานํ อฺตรฺตเรน ปหโฏ. รุปฺปตีติ วิกิรติ, วิการํ อาปชฺชติ. กุปฺปตีติ จลติ, โกปํ อุปฺปาเทติ. ฆฏฺฏียตีติ ¶ ฆฏฺฏิโต โหติ. ปีฬียตีติ ปีฬิโต โหติ, ลทฺธปฺปหาโร กุปฺปติ. ‘‘ตติยทิวเส สลากํ ปเวเสตฺวา โธวนกาเล ฆฏฺฏียติ. ขารปฺปทาเน ปีฬียติ. ปหารโธวเน วา รุปฺปติ. ตสฺมึ ทุกฺขุปฺปาทเน กุปฺปติ. สลากปเวสเน ปีฬียติ. ขารปฺปทาเน ฆฏฺฏียตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
พฺยาธิโตติ ลทฺธปฺปหาโร หุตฺวา ปีฬิโต. โทมนสฺสิโตติ โทมนสฺสปฺปตฺโต. วิปริณามฺถาภาวาติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา อฺถาภาวํ อุปนีเตน, อนฺโตโสสาทิ โสโก จ วาจาวิปฺปลาโป ปริเทโว จ กายปีฬนาทิ ทุกฺขฺจ จิตฺตปีฬนาทิ โทมนสฺสฺจ ภุโส อายาโส อุปายาโส จ. เอเต วุตฺตปฺปการา โสกาทโย อุปฺปชฺชนฺติ สมุทาจารํ คจฺฉนฺติ.
๓. ตติยคาถายํ ¶ สงฺเขปตฺโถ – โย ปน อิเม กาเม ตตฺถ ฉนฺทราควิกฺขมฺภเนน วา สมุจฺเฉเทน วา อตฺตโน ปาเทน สปฺปสฺส สิรํ วิย ปริวชฺเชติ, โส ภิกฺขุ สพฺพโลกํ วิปฺผาเรตฺวา ¶ ิตตฺตา โลเก วิสตฺติกาสงฺขาตํ ตณฺหํ สโต หุตฺวา สมติวตฺตตีติ.
โยติ วิภชิตพฺพํ ปทํ. โย ยาทิโสติอาทีนิ ตสฺส วิภชนปทานิ. เอตฺถ จ ยสฺมา โยติ อตฺถปทํ. ตฺจ อนิยเมน ปุคฺคลํ ทีเปติ. ตสฺมา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย-สทฺทเมว อาห. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – โยติ โย โกจีติ. ยสฺมา โย โย โกจิ นาม, โส อวสฺสํ ยถาลิงฺคยถายุตฺตยถาวิหิตยถาปฺปการยํานปตฺตยํธมฺมสมนฺนาคตวเสน เอเกนากาเรน ปฺายติ, ตสฺมา ตํ ตตฺถ าเปตุํ ตํ เภทํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาทิโสติ ลิงฺควเสน ยาทิโส วา ตาทิโส วา โหตุ, ทีโฆ วา รสฺโส วา กาโฬ วา โอทาโต วา มงฺคุรจฺฉวิ วา กิโส วา ถูโล วาติ อตฺโถ.
ยถายุตฺโตติ โยควเสน เยน วา เตน วา ยุตฺโต โหตุ, นวกมฺมยุตฺโต วา อุทฺเทสยุตฺโต วา วาสธุรยุตฺโต วาติ อตฺโถ. ยถาวิหิโตติ ยถาปิโต นวกมฺมาธิฏฺายิกาทิวเสน. ยถาปกาโรติ ยถาปกาเรน ปติฏฺิโต ปทีปนายกาทิวเสน. ยํานปฺปตฺโตติ ¶ ยํ านนฺตรํ ปตฺโต เสนาปติเสฏฺิฏฺานาทิวเสน. ยํธมฺมสมนฺนาคโตติ เยน ธมฺเมน อุปาคโต ธุตงฺคาทิวเสน.
วิกฺขมฺภนโต วาติ อุปจารปฺปนาสมาธีติ กิเลสานํ ทูรีกรณโต วา ฆฏปฺปหาเรน เสวาลานํ วิย. สมุจฺเฉทโต วาติ ปุน อปฺปวตฺตึ กตฺวา อจฺจนฺตโต มคฺเคน กิเลสานํ อุจฺฉินฺนมูลโต ปหานวเสน สมุจฺเฉทโต วา. อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ.
พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ ฉ ปทานิ มรณสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, อุปสมานุสฺสตึ ภาเวนฺโตปีติ ¶ อิมานิ จ อุปจารชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. อานาปานสฺสตึ ภาเวนฺโตปิ, กายคตาสตึ ภาเวนฺโตปิ, ปมํ ฌานํ ภาเวนฺโตปีติอาทีนิ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ภาเวนฺโตปีติ ปริโยสานานิ อปฺปนาชฺฌานวเสน วุตฺตานิ. ตตฺถ อฏฺิกงฺกลูปมา กามาติ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อฏฺิกงฺกลํ อุปมา เอเตสํ กามานนฺติ อฏฺิกงฺกลูปมา กามา. อปฺปสฺสาทฏฺเนาติ ‘‘อปฺปํ ปริตฺตํ สุขสฺสาทํ อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’’ติ ทสฺสนฏฺเน. ปสฺสนฺโตติ ‘‘ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ าณจกฺขุนา ปสฺสนฺโต. ปริวชฺเชตีติ ทูรงฺคเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘เสยฺยถาปิ ¶ , คหปติ, กุกฺกุโร ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรโต โคฆาตกสูนํ ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส, ตเมนํ ทกฺโข โคฆาตโก วา โคฆาตกนฺเตวาสี วา อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ อุปสุมฺเภยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อปิ นุ โข โส กุกฺกุโร อมฺหํ อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ ปเลหนฺโต ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยํ ปฏิวิเนยฺยา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ’’? ‘‘อทฺุหิ, ภนฺเต, อฏฺิกงฺกลํ สุนิกฺกนฺตํ นิกฺกนฺตํ นิมฺมํสํ โลหิตมกฺขิตํ, ยาวเทว ปน โส กุกฺกุโร กิลมถสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อฏฺิกงฺกลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา ¶ , ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา, ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสุปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๒).
คิชฺฌาทีหิ สาธารณา มํสเปสิ อุปมา เอเตสนฺติ มํสเปสูปมา. พหูนํ สาธารณฏฺเน พหุสาธารณา. อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อุปมา เอเตสนฺติ ติณุกฺกูปมา. อนุทหนฏฺเนาติ หตฺถาทิฌาปนฏฺเน. สาธิกโปริสปฺปมาณา ¶ วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ องฺคารานํ ปูรา องฺคารกาสุ อุปมา เอเตสนฺติ องฺคารกาสูปมา. มหาปริฬาหฏฺเนาติ มหนฺตปริตาปนฏฺเน. อารามรามเณยฺยาทิกํ สุปินํ อุปมา เอเตสนฺติ สุปินกูปมา. อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเนาติ อปฺปตฺวา, น อุปคนฺตฺวา ติฏฺนฏฺเน. ยาจิเตน ลทฺธํ ยานาทิภณฺฑํ อุปมา เอเตสนฺติ ยาจิตกูปมา. ตาวกาลิกฏฺเนาติ อนิพนฺธนฏฺเน. สมฺปนฺนผลรุกฺโข อุปมา เอเตสนฺติ รุกฺขผลูปมา. สมฺภฺชนปริภฺชนฏฺเนาติ สาขาภฺชนฏฺเน เจว สมนฺตโต ภฺชิตฺวา รุกฺขปาตนฏฺเน จ. อสิ จ สูนา จ อุปมา เอเตสนฺติ อสิสูนูปมา. อธิกุฏฺฏนฏฺเนาติ ฉินฺทนฏฺเน. สตฺติสูลํ อุปมา เอเตสนฺติ สตฺติสูลูปมา. วินิวิชฺฌนฏฺเนาติ นิปเตตฺวา คมนฏฺเน. ภยชนนฏฺเน สปฺปสิรํ อุปมา เอเตสนฺติ สปฺปสิรูปมา. สปฺปฏิภยฏฺเนาติ สห อภิมุเข ภยฏฺเน. ทุกฺขชนนํ อคฺคิกฺขนฺธํ อุปมา เอเตสนฺติ อคฺคิกฺขนฺธูปมา. มหาภิตาปนฏฺเนาติ มหนฺตอภิตาปกายปีฬาอุปฺปาทนฏฺเนาติ กามํ ปริวชฺเชตีติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘เสยฺยถาปิ, คหปติ, คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา มํสเปสึ อาทาย อุฑฺฑีเยยฺย, ตเมนํ คิชฺฌาปิ กงฺกาปิ กุลลาปิ อนุปติตฺวา อนุปติตฺวา วิตจฺเฉยฺยุํ วิสฺสชฺเชยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ โส คิชฺโฌ วา กงฺโก วา กุลโล วา ตํ มํสเปสึ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย ¶ , มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก ¶ อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘มํสเปสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ อาทาย ปฏิวาตํ คจฺเฉยฺย. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, สเจ ¶ โส ปุริโส ตํ อาทิตฺตํ ติณุกฺกํ น ขิปฺปเมว ปฏินิสฺสชฺเชยฺย, ตสฺส สา อาทิตฺตา ติณุกฺกา หตฺถํ วา ทเหยฺย, พาหุํ วา ทเหยฺย, อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ทเหยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ติณุกฺกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, องฺคารกาสุ สาธิกโปริสา ปูรา องฺคารานํ วีตจฺจิกานํ วีตธูมานํ. อถ ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ชีวิตุกาโม อมริตุกาโม สุขกาโม ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโล, ตเมนํ ทฺเว พลวนฺโต ปุริสา นานาพาหาสุ คเหตฺวา องฺคารกาสุํ อุปกฑฺเฒยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ คหปติ, อปิ นุ โส ปุริโส อิติ จิติ เจว กายํ สนฺนาเมยฺยา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘วิทิตฺหิ, ภนฺเต, ตสฺส ปุริสสฺส ‘อิมฺจ อหํ องฺคารกาสุํ ปปติสฺสามิ, ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺฉิสฺสามิ มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข คหปติ อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘องฺคารกาสูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส สุปินกํ ปสฺเสยฺย อารามรามเณยฺยกํ วนรามเณยฺยกํ ภูมิรามเณยฺยกํ โปกฺขรณิรามเณยฺยกํ, โส ปฏิพุทฺโธ น กิฺจิ ปฏิปสฺเสยฺย. เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘สุปินกูปมา กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, ปุริโส ยาจิตกํ โภคํ ยาจิตฺวา ยานํ วา โปริเสยฺยํ ปวรมณิกุณฺฑลํ. โส เตหิ ยาจิตเกหิ โภเคหิ ปุรกฺขโต ¶ ปริวุโต อนฺตราปณํ ปฏิปชฺเชยฺย. ตเมนํ ชโน ทิสฺวา เอวํ วเทยฺย ‘โภคี วต โภ ปุริโส, เอวํ กิร โภ โภคิโน โภคานิ ภฺุชนฺตี’ติ. ตเมนํ สามิกา ยตฺถ ยตฺเถว ตานิ ปสฺเสยฺยุํ, ตตฺถ ตตฺเถว ตานิ หเรยฺยุํ. ตํ กึ มฺสิ, คหปติ, อลํ นุ โข ตสฺส ปุริสสฺส อฺถตฺตายา’’ติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘ตํ กิสฺสเหตุ’’? ‘‘สามิโน หิ, ภนฺเต, ตานิ หรนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘ยาจิตกูปมา ¶ กามา วุตฺตา ภควตา…เป… ตเมวูเปกฺขํ ภาเวติ. เสยฺยถาปิ, คหปติ, คามสฺส วา นิคมสฺส วา อวิทูเร ติพฺโพ วนสณฺโฑ, ตตฺรสฺส รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ. น จสฺสุ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ. อถ ปุริโส ¶ อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, ชานามิ โข ปนาหํ รุกฺขํ อาโรปิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ? โส ตํ รุกฺขํ อาโรหิตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺย, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ผลตฺถิโก ผลคเวสี ผลปริเยสนํ จรมาโน ติณฺหํ กุารึ อาทาย. โส ตํ วนสณฺฑํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตํ รุกฺขํ ปสฺเสยฺย สมฺปนฺนผลฺจ อุปปนฺนผลฺจ. ตสฺส เอวมสฺส ‘อยํ โข รุกฺโข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จ, นตฺถิ จ กานิจิ ผลานิ ภูมิยํ ปติตานิ, น โข ปนาหํ ชานามิ รุกฺขํ อาโรหิตุํ. ยํนูนาหํ อิมํ รุกฺขํ มูลโต เฉตฺวา ยาวทตฺถฺจ ขาเทยฺยํ, อุจฺฉงฺคฺจ ปูเรยฺย’นฺติ. โส ตํ รุกฺขํ มูลโตว ฉินฺเทยฺย. ตํ กึ มฺสิ ¶ , คหปติ, อมุโก โส ปุริโส ปมํ รุกฺขํ อารูฬฺโห, สเจ โส น ขิปฺปเมว โอโรเหยฺย, ตสฺส โส รุกฺโข ปปตนฺโต หตฺถํ วา ภฺเชยฺย ปาทํ วา ภฺเชยฺย อฺตรํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ ภฺเชยฺย, โส ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย, มรณมตฺตํ วา ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’. ‘‘เอวเมว โข, คหปติ, อริยสาวโก อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘รุกฺขผลูปมา กามา วุตฺตา ภควตา พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย’ติ. เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ยายํ อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา, ตํ อภินิวชฺเชตฺวา ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา. ยตฺถ สพฺพโส โลกามิสูปาทานา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. ตเมวูเปกฺขํ ภาเวตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๓-๔๘).
เอวํ ¶ อฏฺิกงฺกลาทิกอคฺคิกฺขนฺธูปมปริโยสานโต วิปสฺสนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อุปจารสมาธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุทฺธานุสฺสตึ ภาเวนฺโต’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติ เอว อนุสฺสติ. ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว จ ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติปิ อนุสฺสติ. พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ. อรหตาทิพุทฺธคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ, ตํ พุทฺธานุสฺสตึ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต พฺยูเหนฺโต. ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ, สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ, สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ¶ สีลานุสฺสติ, อตฺตโน อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ, อตฺตโน มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ, เทวตา สกฺขิฏฺาเน ¶ เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อานาปาเน อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ อานาปานสฺสติ, อานาปานนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ มรณสฺสติ, เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทสงฺขาตมรณารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.
กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ ปฏิกฺกูลานํ อายตฺตา อากรตฺตา กาโยติ สงฺขํ คเต สรีเร คตา ปวตฺตา สติ กายคตาสติ, ตาทิสํ วา กายํ คตา สติ ‘‘กายคตสตี’’ติ วตฺตพฺเพ รสฺสํ อกตฺวา ‘‘กายคตาสตี’’ติ วุตฺตํ. เกสาทิเกสุ กายโกฏฺาเสสุ ปฏิกฺกูลนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อุปสมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ. อุปสมานุสฺสติ, สพฺพทุกฺขูปสมารมฺมณาย สติยา เอตํ อธิวจนํ.
วิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ปมชฺฌานํ ภาเวนฺโต. ปีติสุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ทุติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. สุขจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ ตติยชฺฌานํ ภาเวนฺโต. อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาสมฺปยุตฺตํ จตุตฺถชฺฌานํ ภาเวนฺโต…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ ภาเวนฺโตปิ กาเม ปริวชฺเชตีติ.
วิกฺขมฺภนปฺปหานํ ¶ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉเทน กามานํ ปหานํ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโตปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺคโสตสฺส อาปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โสตาปตฺติยา มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. อปายคมนีเย กาเมติ เยหิ อปายํ คจฺฉนฺติ, เต อปายคมนีเย กาเม สมุจฺเฉทโต โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวนฺโต ปริวชฺเชติ. ปฏิสนฺธิวเสน สกึเยว อิมํ โลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. โอฬาริเกติ ปริฬาหปฺปตฺเต. ปฏิสนฺธิวเสเนว กามภวํ นาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค. ตํ มคฺคํ ภาเวนฺโต. อนุสหคเตติ สุขุมภาวปฺปตฺเต. กิเลเสหิ อารกตฺตา, กิเลสารีนํ หตตฺตา, สํสารจกฺกสฺส อรานํ หตตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา ¶ จ อรหํ, อรหโต ภาโว อรหตฺตํ. กึ ตํ? อรหตฺตผลํ. อรหตฺตสฺส มคฺโค อรหตฺตมคฺโค. ตํ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวนฺโต. สพฺเพน สพฺพนฺติ สพฺเพนากาเรน สพฺพํ. สพฺพถา สพฺพนฺติ สพฺพปฺปกาเรน สพฺพํ. อเสสํ นิสฺเสสนฺติ นิรวเสสํ คนฺธมตฺตมฺปิ อฏฺเปตฺวา. อถ วา สพฺเพน ¶ สพฺพํ มูลวเสน. สพฺพถา สพฺพํ อาการนิปฺปเทสวเสน. อเสสํ นิสฺเสสํ ภาวนานิปฺปเทสวเสน. ตถา ปุริเมน ทุจฺจริตาภาเวน. ทุติเยน ปริยุฏฺานาภาเวน. ตติเยน อนุสยาภาเวน เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
สปฺโป วุจฺจติ อหีติ โย โกจิ สรนฺโต คจฺฉติ. เกนฏฺเนาติ เกน อตฺเถน. สํสปฺปนฺโต คจฺฉตีติ ยสฺมา สมฺมา สํสรนฺโต คจฺฉตีติ สปฺโป. ภุชนฺโตติ วงฺกวงฺโก หุตฺวา. ปนฺนสิโรติ นิปนฺนสีโส หุตฺวา. สิเรน สุปตีติ สีสํ โภคนฺตเร กตฺวา สุปนภาเวน สิรสา สุปตีติ สรีสโป. พิเล สยตีติ พิลาสโย. ‘‘พิลสโย’’ติปิ ปาฬิ, ตํ สุนฺทรํ. คุหายํ เสตีติ คุหาสโย. ทาา ตสฺส อาวุโธติ ตสฺส สปฺปสฺส ทุเว ทาา ปหรณสตฺถสงฺขาโต อาวุโธ. วิสํ ตสฺส โฆรนฺติ ตสฺส สปฺปสฺส พฺยาปกสงฺขาตํ วิสํ ทารุณํ กกฺขฬํ. ชิวฺหา ตสฺส ทุวิธาติ ตสฺส สปฺปสฺส ทฺเวธา ชิวฺหา. ทฺวีหิ ชิวฺหาหิ รสํ สายตีติ ทุวิธาหิ ชิวฺหาหิ รสํ ชานาติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยตีติ. ชีวิตุํ กามยตีติ ชีวิตุกาโม. อมริตุํ กามยตีติ อมริตุกาโม. สุขํ กามยตีติ สุขกาโม. ทุกฺขปฺปฏิกฺกูโลติ ทุกฺขํ ¶ อนิจฺฉมาโน. ปาเทนาติ อตฺตโน ปาเทน. สปฺปสิรนฺติ สปฺปสฺส สีสํ. วชฺเชยฺยาติ ทูรโต วชฺเชยฺย. วิวชฺเชยฺยาติ ตสฺส ปมาเณน. ปริวชฺเชยฺยาติ สมนฺตโต. อภินิวชฺเชยฺยาติ จตุตฺถปฺปมาเณน. อถ วา ปุริเมน สีสโต. ทุติยตติเยน ทฺวีหิ ปสฺเสหิ. จตุตฺเถน ปจฺฉโต. ‘‘กาเม ปน อปฺปตฺตสฺส ปริเยสนมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน วชฺเชยฺย. ปตฺตสฺส อารกฺขมูลทุกฺขวตฺถุภาเวน ¶ วิวชฺเชยฺย. อฺาณปริฬาหทุกฺขวตฺถุภาเวน ปริวชฺเชยฺย. วินาสมุเข ปิยวิปฺปโยคทุกฺขวตฺถุภาเวน อภินิวชฺเชยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
รฺชนวเสน ราโค. พลวรฺชนฏฺเน สาราโค. วิสเย สตฺตานํ อนุ อนุ นยนโต อนุนโย. อนุรุชฺฌตีติ อนุโรโธ, กาเมตีติ อตฺโถ. ยตฺถ กตฺถจิ ภเว สตฺตา เอตาย นนฺทนฺตีติ นนฺที, สยํ วา นนฺทตีติ นนฺที. นนฺที จ สา รฺชนฏฺเน ราโค จาติ นนฺทิราโค. ตตฺถ เอกสฺมึ อารมฺมเณ สกึ อุปฺปนฺนา ตณฺหา นนฺที, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชมานา นนฺทิราโคติ วุจฺจติ. จิตฺตสฺส สาราโคติ โย เหฏฺา ‘‘พลวรฺชนฏฺเน สาราโค’’ติ วุตฺโต, โส น สตฺตสฺส, จิตฺตสฺเสว สาราโคติ อตฺโถ.
อิจฺฉนฺติ เอตาย อารมฺมณานีติ อิจฺฉา. พหลกิเลสภาเวน มุจฺฉนฺติ เอตาย ปาณิโนติ มุจฺฉา. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา คหณวเสน อชฺโฌสานํ. อิมินา สตฺตา คิชฺฌนฺติ เคธํ อาปชฺชนฺตีติ เคโธ. พหลฏฺเน วา เคโธ. ‘‘เคธํ วา ปน ปวนสณฺฑ’’นฺติ หิ พหลฏฺเเนว วุตฺตํ ¶ . อนนฺตรปทํ อุปสคฺควเสน วฑฺฒิตํ, สพฺพโตภาเคน วา เคโธติ ปลิเคโธ. สชฺชนฺติ เอเตนาติ สงฺโค. ลคฺคนฏฺเน วา สงฺโค. โอสีทนฏฺเน ปงฺโก. อากฑฺฒนวเสน เอชา. ‘‘เอชา อิมํ ปุริสํ ปริกฑฺฒติ ตสฺส ตสฺเสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยา’’ติ หิ วุตฺตํ. วฺจนฏฺเน มายา. วฏฺฏสฺมึ สตฺตานํ ชนนฏฺเน ชนิกา. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕) หิ วุตฺตํ. วฏฺฏสฺมึ สตฺเต ทุกฺเขน สํโยชยมานา ชเนตีติ สฺชนนี. ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี. อยฺหิ วฏฺฏสฺมึ สตฺเต จุติปฏิสนฺธิวเสน สิพฺพติ ฆเฏติ ตุนฺนกาโร วิย ปิโลติกาย ปิโลติกํ, ตสฺมา ‘‘ฆฏนฏฺเน สิพฺพินี’’ติ วุตฺตา. อเนกปฺปการํ ¶ วิสยชาลํ ตณฺหาวิปฺผนฺทิตนิเวสสงฺขาตํ วา ชาลมสฺสา อตฺถีติ ชาลินี.
อากฑฺฒนฏฺเน ¶ สีฆโสตา สริตา วิยาติ สริตา. อลฺลฏฺเน วา สริตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สริตานิ สิเนหิตานิ จ โสมนสฺสานิ ภวนฺติ ชนฺตุโน’’ติ (ธ. ป. ๓๔๑). อลฺลานิ เจว สินิทฺธานิ จาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. อนยพฺยสนาปาทนฏฺเน กุมฺมานุพนฺธสุตฺตกํ วิยาติ สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘สุตฺตนฺติ โข, ภิกฺขเว, นนฺทิราคสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๙). รูปาทีสุ วิตฺถตฏฺเน วิสตา. ตสฺส ตสฺส ปฏิลาภตฺถาย สตฺเต อายูหาเปตีติ อายูหินี. อุกฺกณฺิตุํ อปทานโต สหายฏฺเน ทุติยา. อยฺหิ สตฺตานํ วฏฺฏสฺมึ อุกฺกณฺิตุํ น เทติ, คตคตฏฺาเน ปิยสหาโย วิย อภิรมาเปติ. เตเนว วุตฺตํ –
‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธานสํสรํ;
อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตตี’’ติ. (อิติวุ. ๑๕; อ. นิ. ๔.๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปายายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗);
ปณิธานกวเสน ปณิธิ. ภวเนตฺตีติ ภวรชฺชุ. เอตาย หิ สตฺตา รชฺชุยา คีวายํ พทฺธา โคณา วิย อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ นิยฺยนฺติ. ตํ ตํ อารมฺมณํ วนติ ภชติ อลฺลียตีติ วนํ, วนติ ยาจตีติ วา วนํ. วนโถติ พฺยฺชเนน ปทํ วฑฺฒิตํ. อนตฺถทุกฺขานํ วา สมุฏฺาปนฏฺเน คหนฏฺเน จ วนํ วิยาติ วนํ. พลวตณฺหาเยตํ นามํ. คหนตรฏฺเน ปน ตโต พลวตรา วนโถ นาม. เตน วุตฺตํ –
‘‘วนํ ฉินฺทถ มา รุกฺขํ, วนโต ชายเต ภยํ;
เฉตฺวา วนฺจ วนถฺจ, นิพฺพนา โหถ ภิกฺขโว’’ติ. (ธ. ป. ๒๘๓);
สนฺถวนวเสน ¶ ¶ สนฺถโว, สํสคฺโคติ อตฺโถ. โส ทุวิโธ – ตณฺหาสนฺถโว มิตฺตสนฺถโว จ. เตสุ อิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต. สิเนหวเสน สฺเนโห. อาลยกรณวเสน กมฺปมานา อเปกฺขตีติ อเปกฺขา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อิมานิ เต เทว จตุราสีติ นครสหสฺสานิ กุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ, เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๖๖). อาลยํ กโรหีติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุ, าตกฏฺเน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธุ. นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเนปิ สตฺตานํ ตณฺหาสโม พนฺธุ นาม นตฺถิ. อารมฺมณานํ ¶ อสนโต อาสา. อชฺโฌตฺถรณโต เจว ติตฺตึ อนุคนฺตฺวาว ปริภฺุชนโต จาติ อตฺโถ. อาสีสนวเสน อาสีสนา. อาสีสิตสฺส ภาโว อาสีสิตตฺตํ.
อิทานิ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาสีสนวเสน อาสาติ อาสาย อตฺถํ คเหตฺวา รูเป อาสา รูปาสา. เอวํ นวปิ ปทานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ปฺจ ปฺจกามคุณวเสน วุตฺตานิ, ปริกฺขารโลภวเสน ฉฏฺํ. ตํ วิเสสโต ปพฺพชิตานํ, ตโต ปรานิ ตีณิ อติตฺติยวตฺถุวเสน คหฏฺานํ. น หิ เตสํ ธนปุตฺตชีวิเตหิ อฺํ ปิยตรํ อตฺถิ. ‘‘อิทํ มยฺหํ, อิทํ มยฺห’’นฺติ วา ‘‘อสุเกน เม อิทํ ทินฺนํ, อิทํ ทินฺน’’นฺติ วา เอวํ สตฺเต ชปฺปาเปตีติ ชปฺปา. ปรโต ทฺเว ปทานิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ, ตโต ปรํ อฺเนากาเรน วิภชิตุํ อารทฺธตฺตา ปุน ‘‘ชปฺปา’’ติ วุตฺตํ. ชปฺปนากาโร ชปฺปนา. ชปฺปิตสฺส ภาโว ชปฺปิตตฺตํ. ปุนปฺปุนํ วิสเย ลุมฺปติ อากฑฺฒตีติ โลลุโป, โลลุปสฺส ภาโว โลลุปฺปํ. โลลุปฺปนากาโร โลลุปฺปายนา. โลลุปฺปสมงฺคิโน ภาโว โลลุปฺปายิตตฺตํ.
ปุจฺฉฺชิกตาติ ¶ ยาย ตณฺหาย ลาภฏฺาเนสุ ปุจฺฉํ จาลยมานา สุนขา วิย กมฺปมานา วิจรนฺติ, ตํ ตสฺสา กมฺปนตณฺหาย นามํ. สาธุ มนาปมนาเป วิสเย กาเมตีติ สาธุกาโม, ตสฺส ภาโว สาธุกมฺยตา. มาตามาตุจฺฉาติอาทิเก อยุตฺตฏฺาเน ราโคติ อธมฺมราโค. ยุตฺตฏฺาเนปิ พลวา หุตฺวา อุปฺปนฺโน โลโภ วิสมโลโภ. ‘‘ราโค วิสม’’นฺติอาทิวจนโต (วิภ. ๙๒๔) วา ยุตฺตฏฺาเน วา อยุตฺตฏฺาเน วา อุปฺปนฺโน ฉนฺทราโค อธมฺมฏฺเน อธมฺมราโค. วิสมฏฺเน วิสมโลโภติ เวทิตพฺโพ. อารมฺมณานํ นิกามนวเสน นิกนฺติ. นิกามนากาโร นิกามนา. ปตฺถยนวเสน ปตฺถนา. ปิหายนวเสน ปิหนา. สุฏฺุ ปตฺถนา สมฺปตฺถนา. ปฺจสุ กามคุเณสุ ตณฺหา กามตณฺหา. รูปารูปภเวสุ ตณฺหา ภวตณฺหา. อุจฺเฉทสงฺขาเต วิภเว ตณฺหา วิภวตณฺหา. สุทฺเธ รูปภวสฺมึเยว ตณฺหา รูปตณฺหา. อรูปภเว ตณฺหา อรูปตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ¶ ราโค, นิโรเธ ตณฺหา นิโรธตณฺหา. รูเป ตณฺหา รูปตณฺหา. สทฺเท ตณฺหา สทฺทตณฺหา. คนฺธตณฺหาทีสุปิ เอเสว นโย. โอฆาทโย วุตฺตตฺถาว.
กุสลธมฺเม ¶ อาวรตีติ อาวรณํ. ฉาทนวเสน ฉทนํ. สตฺเต วฏฺฏสฺมึ พนฺธตีติ พนฺธนํ. จิตฺตํ อุปหนฺตฺวา กิลิสฺสติ สํกิลิฏฺํ กโรตีติ อุปกฺกิเลโส. ถามคตฏฺเน อนุ อนุ เสตีติ อนุสโย. อุปฺปชฺชมานํ จิตฺตํ ปริยุฏฺาตีติ ปริยุฏฺานํ, อุปฺปชฺชิตุํ อปทาเนน กุสลวารํ คณฺหาตีติ อตฺโถ. ‘‘โจรา มคฺเค ปริยุฏฺึสุ, ธุตฺตา มคฺเค ปริยุฏฺึสู’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๔๓๐) หิ มคฺคํ คณฺหึสูติ อตฺโถ. เอวมิธาปิ คหณฏฺเน ปริยุฏฺานํ เวทิตพฺพํ. ปลิเวนฏฺเน ¶ ลตา วิยาติ ลตา. ‘‘ลตา อุปฺปชฺช ติฏฺตี’’ติ (ธ. ป. ๓๔๐) อาคตฏฺาเนปิ อยํ ตณฺหา ลตาติ วุตฺตา. วิวิธานิ วตฺถูนิ อิจฺฉตีติ เววิจฺฉํ. วฏฺฏทุกฺขสฺส มูลนฺติ ทุกฺขมูลํ. ตสฺเสว ทุกฺขสฺส นิทานนฺติ ทุกฺขนิทานํ. ตํ ทุกฺขํ อิโต ปภวตีติ ทุกฺขปฺปภโว. พนฺธนฏฺเน ปาโส วิยาติ ปาโส, มารสฺส ปาโส มารปาโส. ทุรุคฺคิลนฏฺเน พฬิสํ วิยาติ พฬิสํ, มารสฺส พฬิสํ มารพฬิสํ. ตณฺหาภิภูตา มารสฺส วิสยํ นาติกฺกมนฺติ, เตสํ อุปริ มาโร วสํ วตฺเตตีติ อิมินา ปริยาเยน มารสฺส วิสโยติ มารวิสโย. สนฺทนฏฺเน ตณฺหาว นที ตณฺหานที. อชฺโฌตฺถรณฏฺเน ตณฺหาว ชาลํ ตณฺหาชาลํ. ยถา สุนขา คทฺทูลพทฺธา ยทิจฺฉกํ นิยฺยนฺติ, เอวํ ตณฺหาพทฺธา สตฺตาติ ทฬฺหพนฺธนฏฺเน คทฺทูลํ วิยาติ คทฺทูลํ, ตณฺหาว คทฺทูลํ ตณฺหาคทฺทูลํ. ทุปฺปูรณฏฺเน ตณฺหาว สมุทฺโท ตณฺหาสมุทฺโท. อภิชฺฌายนฏฺเน อภิชฺฌา. ลุพฺภนฺติ เอเตน, สยํ วา ลุพฺภติ, ลุพฺภนมตฺตเมว วา ตนฺติ โลโภ. สมฺปยุตฺตกานํ อกุสลานํ ปติฏฺฏฺเน มูลํ.
วิสตฺติกาตีติ วิสตฺติกา อิติ. เกนฏฺเนาติ เกน สภาเวน. วิสตาติ วิตฺถฏา รูปาทีสุ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสฏาติ เตภูมกพฺยาปกวเสน วิสฏา. ปุริมวจนเมว ตการสฺส ฏการํ กตฺวา พฺยฺชนวิภาคํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสกฺกตีติ ปริสปฺปติ สหติ วา. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติ. โอสกฺกนํ วิปฺผนฺทนํ วา ‘‘วิสกฺกน’’นฺติปิ วทนฺติ. ‘‘กุสลากุสลานํ ปตี’’ติ เกจิ วณฺณยนฺติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ปสฺสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ ¶ สํหรติ สงฺขิปติ, วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. วิสํวาทิกาติ อนิจฺจาทึ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา ¶ , วิสํ วา ทุกฺขทุกฺขาทิภูตา เวทนา มูลํ เอติสฺสาติ วิสมูลา. ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ ¶ วิสผลา. ยาย ตณฺหาย รูปาทิกสฺส ทุกฺขสฺเสว ปริโภโค โหติ, น อมตสฺสาติ สา ‘‘วิสปริโภคา’’ติ วุตฺตา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
ตสฺสา วิสยํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘วิสาลา วา ปน สา ตณฺหา รูเป’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิสาลา วา ปนาติ มหนฺตี เอว ตณฺหายนฏฺเน ตณฺหา, รูปาทโย ปฺจ ปฺจกามคุณิกราควเสน วุตฺตา. กุเล คเณติอาทีนิ เอกาทส ปทานิ โลลุปฺปาทวเสน วุตฺตานิ. กามธาตุตฺติโก กมฺมวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, กามภวตฺติโก วิปากวฏฺฏวเสน วิภตฺโต, สฺาภวตฺติโก สฺาวเสน วิภตฺโต, เอกโวการภวตฺติโก ขนฺธวเสน วิภตฺโต. อตีตตฺติโก กาลวเสน, ทิฏฺจตุกฺโก อารมฺมณวเสน, อปายตฺติโก โอกาสวเสน, ขนฺธตฺติโก นิสฺสตฺตนิชฺชีววเสน วิภตฺโตติ าตพฺพํ. ตตฺรายํ สงฺเขเปน อตฺถทีปนา วิภาวนา จ –
‘‘ตตฺถ กตมา กามธาตุ? เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา ขนฺธธาตุอายตนา รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ, อยํ วุจฺจติ กามธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๗).
‘‘ตตฺถ กตมา รูปธาตุ? เหฏฺโต พฺรหฺมโลกํ ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต อกนิฏฺเ เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ¶ เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ รูปธาตุ’’ (ธ. ส. ๑๒๘๙).
‘‘ตตฺถ กตมา อรูปธาตุ? เหฏฺโต อากาสานฺจายตนุปเค เทเว ปริยนฺตํ กริตฺวา อุปริโต เนวสฺานาสฺายตนุปเค เทเว อนฺโตกริตฺวา ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร เอตฺถาวจรา เอตฺถ ปริยาปนฺนา สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, อยํ วุจฺจติ อรูปธาตู’’ติ (ธ. ส. ๑๒๙๑). อฏฺกถายํ ปน ‘‘กามธาตูติ กามภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. รูปธาตูติ รูปภโว, ปฺจกฺขนฺธา ลพฺภนฺติ. อรูปธาตูติ อรูปภโว, จตฺตาโร ขนฺธา ลพฺภนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
อถ ¶ วา กามราคสงฺขาเตน กาเมน ยุตฺตา ธาตุ กามธาตุ, กามสงฺขาตา วา ธาตุ กามธาตุ. กามํ ปหาย รูเปน ยุตฺตา ธาตุ รูปธาตุ, รูปสงฺขาตา วา ธาตุ รูปธาตุ. กามฺจ รูปฺจ ¶ ปหาย อรูเปน ยุตฺตา ธาตุ อรูปธาตุ, อรูปสงฺขาตา วา ธาตุ อรูปธาตุ. ตา เอว ธาตุโย ปุน ภวปริยาเยน วุตฺตา. ภวนฺตีติ หิ ภวาติ วุจฺจนฺติ. สฺาย ยุตฺโต ภโว, สฺาวตํ วา ภโว, สฺา วา เอตฺถ ภเว อตฺถีติ สฺาภโว. โส กามภโว จ อสฺาภวมุตฺโต รูปภโว จ เนวสฺานาสฺาภวมุตฺโต อรูปภโว จ โหติ.
น สฺาภโว อสฺาภโว, โส รูปภเวกเทโส. โอฬาริกตฺตาภาวโต เนวสฺา, สุขุมตฺเตน สพฺภาวโต นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, ตาย ยุตฺโต ภโว เนวสฺานาสฺาภโว. อถ วา โอฬาริกาย สฺาย อภาวา สุขุมาย จ ภาวา เนวสฺานาสฺา อสฺมึ ภเวติ เนวสฺานาสฺาภโว, โส อรูปภเวกเทโส. เอเกน รูปกฺขนฺเธน โวกิณฺโณ ภโว, เอโก วา โวกาโร, อสฺส ภวสฺสาติ เอกโวการภโว, โส อสฺาภโวว. จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ ¶ โวกิณฺโณ ภโว, จตฺตาโร วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ จตุโวการภโว, โส อรูปภโว เอว. ปฺจหิ ขนฺเธหิ โวกิณฺโณ ภโว, ปฺจ วา โวการา อสฺส ภวสฺสาติ ปฺจโวการภโว, โส กามภโว จ รูปภเวกเทโส จ โหติ. อตีตตฺติโก เหฏฺา วุตฺตนโยว. ทิฏฺนฺติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ. สุตนฺติ ทฺวิสมุฏฺานิกํ สทฺทารมฺมณํ. มุตนฺติ ผุสิตฺวา คเหตพฺพานิ จตุสมุฏฺานิกานิ คนฺธรสโผฏฺพฺพารมฺมณานิ. วิฺาตพฺพํ นาม มนสา ชานิตพฺพํ ธมฺมารมฺมณํ. เตสุ ทิฏฺสุตมุตวิฺาตพฺเพสุ ธมฺเมสุ. วิสฏา วิตฺถตาติ มหนฺตา ปตฺถฏา.
อปายโลเกติ วฑฺฒิสงฺขาตสฺส อยสฺส อภาเวน อปาโย, ตสฺมึ อปายโลเก. ขนฺธโลเกติ ราสฏฺเน รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา เอว โลโก. ธาตุโลเกติ สฺุตฏฺเน จกฺขุธาตุอาทโย อฏฺารส ธาตุโย เอว โลโก. อายตนโลเกติ อายตนาทีหิ การเณหิ ทฺวาทสายตนานิ เอว โลโก. สพฺเพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, วุตฺตปฺปกาเร โลเก วิสฏา วิตฺถฏาติ วิสตฺติกา. สโตติ สรตีติ สโต, ปุคฺคเลน สติ วุตฺตา.
ตตฺถ ¶ สรณลกฺขณา สติ. สรนฺติ ตาย, สยํ วา สรติ, สรณมตฺตเมว วา เอสาติ สติ. สา ปเนสา อปิลาปนลกฺขณา, อสมฺโมสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา, วิสยาภิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา วา, ถิรสฺาปทฏฺานา, กายาทิสติปฏฺานปทฏฺานา วา. อารมฺมเณ ทฬฺหปติฏฺิตตฺตา ปน เอสิกา วิย, จกฺขุทฺวาราทีนํ รกฺขณโต โทวาริโก วิย จ ทฏฺพฺพา.
ตสฺสา ปวตฺติฏฺานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทินา นเยน ¶ จตุพฺพิธํ สติปฏฺานมาห. ตตฺถ กาเยติ รูปกาเย. รูปกาโย หิ อิธ องฺคปจฺจงฺคานํ เกสาทีนฺจ ธมฺมานํ สมูหฏฺเน หตฺถิกายรถกายาทโย วิย ‘‘กาโย’’ติ อธิปฺเปโต. ยถา จ สมูหฏฺเน, เอวํ กุจฺฉิตานํ อายฏฺเน. กุจฺฉิตานฺหิ ปรมเชคุจฺฉานํ ¶ โส อาโยติปิ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ตตฺรายํ วจนตฺโถ – อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺตีติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย. อิติ กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย.
กายานุปสฺสนาติ กายสฺส อนุปสฺสนา, กายํ วา อนุปสฺสนา, ‘‘กาเย’’ติ จ วตฺวาปิ ปุน ‘‘กายานุปสฺสนา’’ติ ทุติยํ กายคฺคหณํ อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เตน น กาเย เวทนานุปสฺสนา จิตฺตธมฺมานุปสฺสนา วา, อถ โข กายานุปสฺสนาเยวาติ กายสงฺขาเต วตฺถุสฺมึ กายานุปสฺสนาการสฺเสว ทสฺสเนน อสมฺมิสฺสโต ววตฺถานํ ทสฺสิตํ โหติ, ตถา น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสนา. โยปิ เจตฺถ เกสโลมาทิโก ภูตุปาทายสมูหสงฺขาโต กาโย, ตตฺถาปิ น ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสนา, อถ โข รถสมฺภารานุปสฺสกสฺส วิย องฺคปจฺจงฺคสมูหานุปสฺสนา, นคราวยวานุปสฺสกสฺส วิย เกสโลมาทิสมูหานุปสฺสนา, กทลิกฺขนฺธปตฺตวฏฺฏิวินิภุชนกสฺส วิย ริตฺตมุฏฺิวินิเวกสฺส วิย จ ภูตุปาทายสมูหานุปสฺสนาเยวาติ สมูหวเสเนว กายสงฺขาตสฺส วตฺถุโน นานปฺปการโต ทสฺเสนฺเตน ฆนวินิพฺโภโค ทสฺสิโต โหติ. น เหตฺถ ยถาวุตฺตสมูหวินิมุตฺโต กาโย วา อิตฺถี วา ปุริโส ¶ วา อฺโ วา โกจิ ธมฺโม ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน ตถา ตถา สตฺตา มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยํ ปสฺสติ น ตํ ทิฏฺํ, ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสติ;
อปสฺสํ พชฺฌเต มูฬฺโห, พชฺฌมาโน น มุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๖);
ฆนวินิพฺโภคาทิทสฺสนตฺถนฺติ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ อยมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อยฺหิ เอตสฺมึ กาเย กายานุปสฺสนาเยว ¶ , น อฺธมฺมานุปสฺสนา. ยถา อนุทกภูตายปิ มรีจิยา อุทกานุปสฺสนา โหติ, น เอวํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภภูเตเยว อิมสฺมึ กาเย นิจฺจสุขตฺตสุภภาวานุปสฺสนา ¶ , อถ โข กายานุปสฺสนา อนิจฺจทุกฺขานตฺตาสุภาการสมูหานุปสฺสนาเยวาติ วุตฺตํ โหติ.
อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา…เป… โส สโตว อสฺสสตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. ๑.๑๐๗) นเยน อสฺสาสปสฺสาสาทิจุณฺณิกชาตอฏฺิกปริโยสาโน กาโย วุตฺโต, โย จ ปฏิสมฺภิทายํ สติปฏฺานกถายํ ‘‘อิเธกจฺโจ ปถวีกายํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ. อาโปกายํ. เตโชกายํ. วาโยกายํ. เกสกายํ. โลมกายํ. ฉวิกายํ. จมฺมกายํ. มํสกายํ. รุหิรกายํ. นฺหารุกายํ. อฏฺิกายํ. อฏฺิมิฺชกาย’’นฺติ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อถ วา กาเย ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา เอวํ คเหตพฺพสฺส ยสฺส กสฺสจิ อนุปสฺสนโต ตสฺส ตสฺเสว ปน เกสโลมาทิกสฺส นานาธมฺมสมูหสฺส อนุปสฺสนโต กาเย เกสาทิสมูหสงฺขาตกายานุปสฺสนาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อปิ จ ‘‘อิมสฺมึ กาเย อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๓.๓๕) อนุกฺกเมน ปฏิสมฺภิทายํ อาคตนยสฺส สพฺพสฺเสว อนิจฺจลกฺขณาทิโน อาการสมูหสงฺขาตสฺส กายสฺส อนุปสฺสนโตปิ กาเย กายานุปสฺสนาติ เอวมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อยํ ปน จตุสติปฏฺานสาธารโณ อตฺโถ.
สติปฏฺานนฺติ ¶ ตโย สติปฏฺานา สติโคจโรปิ, ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตาปิ, สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทสิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สาธุกํ มนสิ กโรถ…เป… โก จ, ภิกฺขเว, กายสฺส สมุทโย? อาหารสมุทยา กายสมุทโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ ¶ . ตถา ‘‘กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จา’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๓.๓๕). ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาติ อสฺมินฺติ ปฏฺานํ. กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, ปธานฏฺานนฺติ วา ปฏฺานํ, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ, หตฺถิฏฺานอสฺสฏฺานาทีนิ วิย.
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) เอตฺถ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตา. ตสฺสตฺโถ – ปฏฺเปตพฺพโต ปฏฺานํ, ปวตฺตยิตพฺพโตติ ¶ อตฺโถ. เกน ปฏฺเปตพฺโพติ? สติยา, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานนฺติ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติเยว ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺสตฺโถ – ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานนฺติ สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานํ. อิติ สติ จ สา ปฏฺานฺจาติปิ สติปฏฺานํ. อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ตํ สติปฏฺานํ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต. เอตฺถ จ ยํ ติธา ปฏิปนฺเนสุ สาวเกสุ สตฺถุโน ปฏิฆานุนยวีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อิมินา สุตฺเตน คเหตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –
‘‘ตโย สติปฏฺานา ยทริโย เสวติ, ยทริโย เสวมาโน สตฺถา คณมนุสาสิตุมรหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๐๔, ๓๑๑) อิติ โข ปเนตํ วุตฺตํ, กิฺเจตํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ. อิธ, ภิกฺขเว, สตฺถา สาวกานํ ธมฺมํ เทเสติ อนุกมฺปโก หิเตสี อนุกมฺปํ อุปาทาย ‘‘อิทํ โว หิตาย อิทํ โว สุขายา’’ติ. ตสฺส สาวกา ¶ น สุสฺสูสนฺติ, น โสตํ โอทหนฺติ, น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺติ, โวกฺกมฺม จ สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ ¶ , อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ, ภิกฺขเว, ปมํ สติปฏฺานํ. ยทริโย…เป… มรหติ.
‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สตฺถา…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส เอกจฺเจ สาวกา น สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. เอกจฺเจ สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… น จ โวกฺกมฺม สตฺถุ สาสนา วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต น เจว อนตฺตมโน โหติ, น จ อนตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ, น จ อตฺตมโน โหติ, น จ อตฺตมนตํ ปฏิสํเวเทติ. อนตฺตมนตา จ อตฺตมนตา จ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ทุติยํ…เป….
‘‘ปุน จปรํ…เป… อิทํ โว สุขายาติ. ตสฺส สาวกา สุสฺสูสนฺติ…เป… วตฺตนฺติ. ตตฺร, ภิกฺขเว, ตถาคโต อตฺตมโน เจว โหติ, อตฺตมนตฺจ ปฏิสํเวเทติ, อนวสฺสุโต จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน. อิทํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ตติย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๑๑).
เอวํ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตา นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตาย ตทุภยํ วีติวตฺตตา ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ ¶ วุตฺตา. พุทฺธานเมว กิร นิจฺจํ อุปฏฺิตสติตา โหติ, น ปจฺเจกพุทฺธาทีนนฺติ.
เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนาติอาทีสุ เวทนาทีนํ ปุน วจเน ปโยชนํ กายานุปสฺสนายํ วุตฺตนเยเนว ยถาโยคํ โยเชตฺวา เวทิตพฺพํ. อยมฺปิ สาธารณตฺโถ. สุขาทีสุ อเนกปฺปเภทาสุ เวทนาสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกเวทนานุปสฺสนา. สราคาทิเก โสฬสปฺปเภเท จิตฺเต วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกจิตฺตานุปสฺสนา. กายเวทนาจิตฺตานิ เปตฺวา เสสเตภูมกธมฺเมสุ วิสุํ วิสุํ อนิจฺจาทิโต เอเกกธมฺมานุปสฺสนา สติปฏฺานสุตฺตนฺเต วุตฺตนเยน นีวรณาทิธมฺมานุปสฺสนาติ. เอตฺถ จ กาเยติ เอกวจนํ, สรีรสฺส เอกตฺตา ¶ . จิตฺเตติ เอกวจนํ, จิตฺตสฺส สภาวเภทาภาวโต ชาติคฺคหเณน กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ¶ จ เวทนาทโย อนุปสฺสิตพฺพา, ตถานุปสฺสนฺโต เวทนาสุ เวทนานุปสฺสนา, จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสนา, ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสนาติ เวทิตพฺพา. กถํ เวทนา อนุปสฺสิตพฺพา? สุขา ตาว เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา เวทนา สลฺลโต, อทุกฺขมสุขา อนิจฺจโต อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห –
‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;
อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต;
ส เว สมฺมทฺทโส ภิกฺขุ, ปริชานาติ เวทนา’’ติ. (สํ. นิ. ๔.๒๕๓);
สพฺพา เอว เจตา ทุกฺขโตปิ อนุปสฺสิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙). สุขทุกฺขโตปิ จ อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห ‘‘สุขา เวทนา ิติสุขา, วิปริณามทุกฺขา. ทุกฺขา เวทนา ิติทุกฺขา, วิปริณามสุขา. อทุกฺขมสุขา เวทนา าณสุขา, อฺาณทุกฺขา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). อปิ จ อนิจฺจาทิสตฺตวิปสฺสนาวเสนาปิ อนุปสฺสิตพฺพา. จิตฺตธมฺเมสุปิ จิตฺตํ ตาว อารมฺมณาธิปติสหชาตภูมิกมฺมวิปากกิริยาทินานตฺตเภทานํ อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สราคาทิโสฬสเภทานฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพํ. ธมฺมา สลกฺขณสามฺลกฺขณานํ สฺุตธมฺมสฺส อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนานํ สนฺตาสนฺตาทีนฺจ วเสน อนุปสฺสิตพฺพา.
อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปริคฺคณฺหาติ, อฺเน เวทนํ, อฺเน จิตฺตํ, อฺเน ธมฺเม ปริคฺคณฺหาติ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ¶ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตีติ. อาทิโต หิ กายํ ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส ¶ มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ กายานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล กายานุปสฺสี นาม.
เวทนํ ปริคฺคณฺหิตฺวา จิตฺตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ธมฺเม ปริคฺคณฺหิตฺวา อาคตสฺส วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม. วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อริยมคฺคํ ปตฺตสฺส ¶ มคฺคกฺขเณ มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม, ตาย สติยา สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ธมฺมานุปสฺสี นาม, เอวํ ตาว เทสนา ปุคฺคเล ติฏฺติ, กาเย ปน ‘‘สุภ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา กายปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ กายานุปสฺสนา นาม. เวทนาย ‘‘สุข’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา เวทนาปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ เวทนานุปสฺสนา นาม. จิตฺเต ‘‘นิจฺจ’’นฺติ วิปลฺลาสปฺปหานา จิตฺตปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ จิตฺตานุปสฺสนา นาม. ธมฺเมสุ ‘‘อตฺตา’’ติ วิปลฺลาสปฺปหานา ธมฺมปริคฺคาหิกา สติ มคฺเคน สมิชฺฌตีติ ธมฺมานุปสฺสนา นาม. อิติ เอกาว มคฺคสมฺปยุตฺตา สติ จตุกิจฺจสาธกฏฺเน จตฺตาริ นามานิ ลภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺตี’’ติ.
ปุน อุปการวเสน จ อปริหีนวเสน จ คุณวเสน จ อปเร ตโย จตุกฺกา วุตฺตา. ตตฺถ อสติปริวชฺชนายาติ น สติ อสติ, สติ เอตฺถ นตฺถีติ วา อสติ, มุฏฺสฺสติยา เอตํ อธิวจนํ. ปริวชฺชนายาติ สมนฺตโต วชฺชเนน. ภตฺตนิกฺขิตฺตกากสทิเส หิ มุฏฺสติปุคฺคเล ปริวชฺชเนน อุปฏฺิตสติปุคฺคลเสวเนน านนิสชฺชาทีสุ สติสมุฏฺาปนตฺถํ นินฺนโปณปพฺภารจิตฺตตาย จ สติ อุปฺปชฺชติ. สติกรณียานํ ธมฺมานนฺติ สติยา กาตพฺพานํ ธมฺมานํ. กตตฺตาติ กตภาเวน. จตุนฺนํ มคฺคานํ กตตฺตา, ภาวิตตฺตาติ อตฺโถ. สติปริพนฺธานํ ธมฺมานํ หตตฺตาติ กามจฺฉนฺทาทีนํ นาสิตภาเวน. สตินิมิตฺตานํ ธมฺมานํ อสมฺมุฏฺตฺตาติ สติยา การณานํ กายาทิอารมฺมณานํ อนฏฺภาเวน.
สติยา ¶ สมนฺนาคตตฺตาติ สติยา สมฺมา อาคตตฺตา อปริหีนตฺตา จ. วสิตตฺตาติ วสิภาวปฺปตฺเตน. ปาคฺุตายาติ ปคุณภาเวน. อปจฺโจโรหณตายาติ อนิวตฺตนภาเวน อปจฺโจสกฺกนภาเวน.
สตฺตตฺตาติ ¶ สภาเวน วิชฺชมานตฺตา. สนฺตตฺตาติ นิพฺพุตสภาวตฺตา. สมิตตฺตาติ กิเลสานํ วูปสมิตภาวตฺตา. สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตาติ สปฺปุริสธมฺเมหิ อปริหีนตฺตา. พุทฺธานุสฺสติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยา เอว. สรณกวเสน สติ, อิทํ สติยา สภาวปทํ. ปุนปฺปุนํ สรณโต อนุสฺสรณวเสน ¶ อนุสฺสติ. อภิมุขํ คนฺตฺวา วิย สรณโต ปฏิสรณวเสน ปฏิสฺสติ. อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตมตฺตเมว. สรณากาโร สรณตา. ยสฺมา ปน สรณตาติ ติณฺณํ สรณานมฺปิ นามํ, ตสฺมา ตํ ปฏิเสเธตุํ ปุน สติคฺคหณํ กตํ. สติสงฺขาตา สรณตาติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สุตปริยตฺตสฺส ธารณภาวโต ธารณตา. อนุปวิสนสงฺขาเตน โอคาหนฏฺเน อปิลาปนภาโว อปิลาปนตา. ยถา หิ อุทเก ลาพุกฏาหาทีนิ ปลวนฺติ, น อนุปวิสนฺติ, น ตถา อารมฺมเณ สติ. อารมฺมณฺหิ เอสา อนุปวิสติ, ตสฺมา ‘‘อปิลาปนตา’’ติ วุตฺตา. จิรกตจิรภาสิตานํ น สมฺมุสฺสนภาวโต อสมฺมุสฺสนตา. อุปฏฺานลกฺขเณ โชตนลกฺขเณ จ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ, สติสงฺขาตํ อินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ. ปมาเท น กมฺปตีติ สติพลํ. ยาถาวสติ นิยฺยานสติ กุสลสตีติ สมฺมาสติ. พุชฺฌนกสฺส องฺโคติ โพชฺฌงฺโค, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค.
เอกายนมคฺโคติ เอกมคฺโค, อยํ มคฺโค น ทฺเวธาปถภูโตติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา เอเกน อยิตพฺโพติ เอกายโน. เอเกนาติ คณสงฺคณิกํ ปหาย วูปกฏฺเน ปวิวิตฺตจิตฺเตน. อยิตพฺโพ ปฏิปชฺชิตพฺโพ, อยนฺติ วา เอเตนาติ อยโน, สํสารโต นิพฺพานํ คจฺฉตีติ อตฺโถ ¶ . เอกสฺส อยโน เอกายโน. เอกสฺสาติ เสฏฺสฺส. สพฺพสตฺตานํ เสฏฺโว ภควา, ตสฺมา ‘‘ภควโต’’ติ วุตฺตํ โหติ. กิฺจาปิ หิ เตน อฺเปิ อยนฺติ, เอวํ สนฺเตปิ ภควโตว โส อยโน เตน อุปฺปาทิตตฺตา. ยถาห ‘‘โส หิ พฺราหฺมณ ภควา อนุปฺปนฺนสฺส มคฺคสฺส อุปฺปาเทตา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๒๑๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; ม. นิ. ๓.๗๙). อยตีติ วา อยโน, คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอกสฺมึ อยโน เอกายโน. อิมสฺมึเยว ธมฺมวินเย ปวตฺตติ, น อฺตฺถาติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘อิมสฺมึ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค อุปลพฺภตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔). เทสนาเภโทเยว เหโส, อตฺถโต ปน เอโกว. อปิ จ เอกํ อยตีติ เอกายโน. ปุพฺพภาเค นานามุขภาวนานเยน ปวตฺโตปิ อปรภาเค เอกํ นิพฺพานเมว คจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห พฺรหฺมา สหมฺปติ –
‘‘เอกายนํ ¶ ¶ ชาติขยนฺตทสฺสี, มคฺคํ ปชานาติ หิตานุกมฺปี;
เอเตน มคฺเคน ตรึสุ ปุพฺเพ, ตริสฺสนฺติ เย จ ตรนฺติ โอฆ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๕.๓๘๔, ๔๐๙);
มคฺโคติ เกนฏฺเน มคฺโค? นิพฺพานํ คมนฏฺเน, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคนียฏฺเน จ. อุเปโตติ อาสนฺนํ คโต. สมุเปโตติ ตโต อาสนฺนตรํ คโต. อุภเยนปิ สติยา อปริหีโนติ อตฺโถ. อุปคโตติ อุปคนฺตฺวา ิโต. สมุปคโตติ สมฺปยุตฺโต หุตฺวา ิโต. ‘‘อุปาคโต สมุปาคโต’’ติปิ ปาฬิ. อุภเยนาปิ สติสมีปํ อาคโตติ อตฺโถ. อุปปนฺโนติ อวิโยคาปนฺโน. สมุปปนฺโนติ ปริปุณฺโณ. สมนฺนาคโตติ อวิกโล วิชฺชมาโน. ‘‘อุเปโต สมุเปโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปวตฺตํ กถิตํ. อุปคโต สมุปคโตติ ทฺวีหิ ปเทหิ ปฏิเวโธ. อุปปนฺโน สมุปปนฺโน สมนฺนาคโตติ ตีหิ ปเทหิ ปฏิลาโภ กถิโต’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
โลเก วา สา วิสตฺติกาติ ยา เอสา อเนกปฺปกาเรน วุตฺตา วิสตฺติกา, สา ขนฺธโลเก เอว, น อฺตฺร ขนฺเธหิ ปวตฺตตีติ ¶ อตฺโถ. โลเก วา ตํ วิสตฺติกนฺติ ขนฺธโลเก เอว ปวตฺตํ เอตํ วิสตฺติกสงฺขาตํ ตณฺหํ. ตรติ กาเม ปริวชฺเชนฺโต. อุตฺตรติ กิเลเส ปชหนฺโต. ปตรติ เตสํ ปติฏฺาเหตุํ ฉินฺทนฺโต. สมติกฺกมติ สํสารํ อติกฺกมนฺโต. วีติวตฺตติ ปฏิสนฺธิอภพฺพุปฺปตฺติกํ กโรนฺโต. อถ วา ตรติ อุตฺตรติ กายานุปสฺสเนน. ปตรติ เวทนานุปสฺสเนน. สมติกฺกมติ จิตฺตานุปสฺสเนน. อถ วา ตรติ สีเลน. อุตฺตรติ สมาธินา. ปตรติ วิปสฺสนาย. สมติกฺกมติ มคฺเคน. วีติวตฺตติ ผเลนาติ เอวมาทินา โยเชตพฺพํ.
๔. จตุตฺถคาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – โย เอกํ สาลิเขตฺตาทิเขตฺตํ วา ฆรวตฺถาทิวตฺถุํ วา กหาปณสงฺขาตํ หิรฺํ วา โคอสฺสาทิเภทํ ควาสฺสํ วา อนฺโตชาตาทิทาเส วา ภตกาทิกมฺมกเร วา อิตฺถิสฺิตา ถิโย วา าติพนฺธวาทิพนฺธู วา อฺเ วา มนาปิยรูปาทิเก ปุถุกาเม ¶ อนุคิชฺฌตีติ. สาลิกฺเขตฺตนฺติ ยตฺถ สาลิโย วิรุหนฺติ. วีหิกฺเขตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. วีหีติ อวเสสวีหโย. โมทยตีติ มุคฺโค. ฆรวตฺถุนฺติ ฆรปติฏฺาปนตฺถํ กตากตภูมิภาโค. โกฏฺกวตฺถาทีสุปิ เอเสว นโย. โกฏฺโกติ ทฺวารโกฏฺาทิ. ปุเรติ ฆรสฺส ปุรโต. ปจฺฉาติ ฆรสฺส ปจฺฉโต. เอตฺถ อาราเมนฺติ จิตฺตํ โตเสนฺตีติ อาราโม, ปุปฺเผนปิ ผเลนปิ ฉายายปิ ทเกนปิ รมนฺตีติ อตฺโถ.
ปสุกาทโยติ ¶ เอฬกาทโย. อนฺโตชาตโกติ อนฺโตฆรทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ชาโต. ธนกฺกีตโกติ ธเนน กีณิตฺวา ปริวตฺเตตฺวา คหิโต. สามํ วาติ สยํ วา. ทาสพฺยนฺติ ทาสสฺส ภาโว ทาสพฺยํ, ตํ ทาสพฺยํ. อุเปตีติ อุปคจฺฉติ. อกามโก วาติ อตฺตโน อรุจิยา วา กรมรานีโต.
เต ¶ จตฺตาโร ปุนปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อามาย ทาสาปิ ภวนฺติ เหเก’’ติ อาห. อามาย ทาสาติ อนฺโตชาตทาสา. ‘‘ยตฺถ ทาโส อามชาโต ิโต ถุลฺลานิ คจฺฉตี’’ติ เอตฺถาปิ เอเตว วุตฺตา. ธเนน กีตาติ ธนทาสา. สามฺจ เอเกติ สยํ ทาสา. ภยาปณุนฺนาติ อกามทาสา. ภเยน ปณุนฺนา ขิปิตา.
ภตกาติ ภติยา ชีวนกา. กสิกมฺมาทิกมฺมํ กโรนฺตีติ กมฺมกรา. อุปชีวิโนติ สมฺมนฺตนาทินา อุปคนฺตฺวา นิสฺสยํ กตฺวา ชีวนฺตีติ อุปชีวิโน.
อิตฺถีติ ถิยติ เอติสฺสํ คพฺโภติ อิตฺถี. ปริคฺคโหติ สหายี สสฺสามิกา. มาตาปิติพนฺธวาปิ าติพนฺธุ. สโคตฺโต โคตฺตพนฺธุ. เอกาจริยกุเล วา เอกชาติมนฺตํ วา อุคฺคหิตมนฺโต มนฺตพนฺธุ. ธนุสิปฺปาทิสทฺธึ อุคฺคหิตโก สิปฺปพนฺธุ. ‘‘มิตฺตพนฺธวาติปิ พนฺธู’’ติ กตฺถจิ โปตฺถเก ปาโ ทิสฺสติ.
คิชฺฌตีติ กิเลสกาเมน ปตฺเถติ. อนุคิชฺฌตีติ อนุ อนุ คิชฺฌติ ปุนปฺปุนํ ปตฺเถติ. ปลิคิชฺฌตีติ สมนฺตโต ปตฺเถติ. ปลิพชฺฌตีติ วิเสเสน ปตฺเถติ. ‘‘โอฬาริกตฺเตน นิมิตฺตคฺคาหวเสน คิชฺฌติ, อนุคิชฺฌติ, อนุพฺยฺชนคฺคาหวเสน ปลิคิชฺฌติ, ปลิพชฺฌตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
๕. ปฺจมคาถายํ ¶ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ตํ ปุคฺคลํ อพลขฺยา กิเลสา พลียนฺติ สหนฺติ มทฺทนฺติ. สทฺธาพลาทิวิรเหน วา อพลํ ตํ ปุคฺคลํ อพลา กิเลสา พลียนฺติ, อพลตฺตา พลียนฺตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ กามคิทฺธํ กามรตฺตํ ¶ กามปริเยสนฺตฺจ สีหาทโย จ ปากฏปริสฺสยา, กายทุจฺจริตาทโย จ อปากฏปริสฺสยา มทฺทนฺติ. ตโต อปากฏปริสฺสเยหิ อภิภูตํ ตํ ปุคฺคลํ ชาติอาทิทุกฺขํ ภินฺนํ นาวํ อุทกํ วิย อนฺเวติ.
อพลาติ นตฺถิ เอเตสํ พลนฺติ อพลา, พลวิรหิตา. ทุพฺพลาติ มนฺทปโยคาพเลน กตฺตพฺพกิจฺจวิรหิตา ¶ . อปฺปพลาติ อปฺปํ ปริตฺตํ เอเตสํ พลนฺติ อปฺปพลา, ยุชฺฌิตุํ อสมตฺถา. อปฺปถามกาติ อปฺโป ปริตฺโต ถาโม เอเตสํ วายาโม อุสฺสาโหติ อปฺปถามกา. หีนา นิหีนา ปโยคหีเนน. โอมกา ถามหีเนน. ลามกา ปจฺจยหีเนน. ฉตุกฺกา อชฺฌาสยหีเนน. ปริตฺตา ปตฺติหีเนน. สหนฺตีติ มทฺทนฺติ ฆฏฺฏนํ อุปฺปาเทนฺติ. ปริสหนฺตีติ สพฺพโต มทฺทนฺติ. อภิภวนฺติ อปราปรํ อุปฺปตฺติวเสน. อชฺโฌตฺถรนฺติ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน. ปริยาทิยนฺติ สุสฺโสเสตฺวา าเนน. มทฺทนฺติ กุสลุปฺปตฺตินิวารเณน.
สทฺธาพลนฺติ สทฺทหนฺติ เอตาย, สยํ วา สทฺทหติ, สทฺทหนมตฺตเมว วา เอสาติ สทฺธา. สา สทฺทหนลกฺขณา, โอกปฺปนลกฺขณา วา, สมฺปสาทนรสา อุทกปฺปสาทกมณิ วิย. ปกฺขนฺทนรสา วา โอฆุตฺตรโณ วิย. อกาลุสิยปจฺจุปฏฺานา, อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา วา. สทฺเธยฺยวตฺถุปทฏฺานา, โสตาปตฺติยงฺคปทฏฺานา วา. สา หตฺถวิตฺตพีชานิ วิย ทฏฺพฺพา. อสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลํ. วีริยพลนฺติ วีรสฺส ภาโว วีริยํ, วีรานํ วา กมฺมํ วีริยํ, วิธินา วา นเยน อุปาเยน อีรยิตพฺพํ ปวตฺตยิตพฺพนฺติ วีริยํ. ตํ ปเนตํ อุปตฺถมฺภนลกฺขณฺจ ปคฺคหณลกฺขณฺจ วีริยํ, สหชาตานํ อุปตฺถมฺภนรสํ, อสํสีทนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ‘‘สํวิคฺโค โยนิโส ปทหตี’’ติ วจนโต (อ. นิ. ๔.๑๑๓) สํเวคปทฏฺานํ, วีริยารมฺภวตฺถุปทฏฺานํ วา. สมฺมา อารทฺธํ สพฺพสมฺปตฺตีนํ มูลนฺติ ทฏฺพฺพํ. โกสชฺเช น กมฺปตีติ วีริยพลํ. สติยา ¶ ลกฺขณาทีนิ วุตฺตาเนว.
มุฏฺสฺสจฺเจ ¶ น กมฺปตีติ สติพลํ. สหชาตานิ สมฺมา อาธียติ เปตีติ สมาธิ. โส ปาโมกฺขลกฺขโณ อวิกฺเขปลกฺขโณ วา, สหชาตานํ ธมฺมานํ อารมฺมเณ สมฺปิณฺฑนรโส นฺหานิยจุณฺณานํ อุทกํ วิย, อุปสมปจฺจุปฏฺาโน, าณปจฺจุปฏฺาโน วา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ ปสฺสตี’’ติ หิ วุตฺตํ. วิเสสโต สุขปทฏฺาโน นิวาเต ปทีปจฺจีนํ ิติ วิย เจตโส ิตีติ ทฏฺพฺโพ. อุทฺธจฺเจ น กมฺปตีติ สมาธิพลํ. ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๕) นเยน อริยสจฺจานิ. สา ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย, วิสโยภาสนรสา ปทีโป วิย, อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา อรฺคตสุเทสโก วิย. อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปฺาพลํ. หิริพลํ โอตฺตปฺปพลนฺติ อหิริเก น กมฺปตีติ หิริพลํ. อโนตฺตปฺเป น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อยํ อุภยวเสน อตฺถวณฺณนา โหติ. กายทุจฺจริตาทีหิ หิรียตีติ หิรี, ลชฺชาเยตํ อธิวจนํ. เตหิ เอว โอตฺตปฺปตีติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ อธิวจนํ.
เตสํ ¶ นานากรณทีปนตฺถํ – ‘‘สมุฏฺานํ อธิปติ, ลชฺชาทิลกฺขเณน จา’’ติ อิมํ มาติกํ เปตฺวา อยํ วิตฺถารกถา วุตฺตา – อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม. อตฺตาธิปติ หิรี นาม, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม. ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี นาม, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ นาม. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี นาม, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ นาม.
ตตฺถ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ – ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา, พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กถํ? ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ น ชาติสมฺปนฺนานํ กมฺมํ, หีนชจฺจานํ เกวฏฺฏาทีนํ อิทํ กมฺมํ, มาทิสสฺส ชาติสมฺปนฺนสฺส ¶ อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ ตาว ชาตึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกรณํ นาเมตํ ทหเรหิ กตฺตพฺพํ กมฺมํ, มาทิสสฺส วเย ิตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ วยํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ ทุพฺพลชาติกานํ กมฺมํ, มาทิสสฺส สูรภาวสมฺปนฺนสฺส ¶ อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ สูรภาวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. ตถา ‘‘ปาปกมฺมํ นาเมตํ อนฺธพาลานํ กมฺมํ, น ปณฺฑิตานํ. มาทิสสฺส ปณฺฑิตสฺส พหุสฺสุตสฺส อิทํ กมฺมํ กาตุํ น ยุตฺต’’นฺติ เอวํ พาหุสจฺจํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปาณาติปาตาทิปาปํ อกโรนฺโต หิรึ สมุฏฺาเปติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานํ หิรึ จตูหิ การเณหิ สมุฏฺาเปติ. สมุฏฺาเปตฺวา จ ปน อตฺตโน จิตฺเต หิรึ ปเวเสตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอวํ อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี นาม โหติ. กถํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม? ‘‘สเจ ตฺวํ ปาปกมฺมํ กริสฺสสิ, จตูสุ ปริสาสุ ครหปฺปตฺโต ภวิสฺสสิ –
‘‘ครหิสฺสนฺติ ตํ วิฺู, อสุจึ นาคริโก ยถา;
วชฺชิโต สีลวนฺเตหิ, กถํ ภิกฺขุ กริสฺสสี’’ติ. (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา) –
เอวํ ปจฺจเวกฺขนฺโต หิ พหิทฺธาสมุฏฺิเตน โอตฺตปฺเปน ปาปกมฺมํ น กโรติ, เอวํ พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ.
กถํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต อตฺตานํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ‘‘มาทิสสฺส ¶ สทฺธาปพฺพชิตสฺส พหุสฺสุตสฺส ธุตงฺคธรสฺส น ยุตฺตํ ปาปกมฺมํ ¶ กาตุ’’นฺติ ปาปํ น กโรติ. เอวํ อตฺตาธิปติ หิรี นาม โหติ. เตนาห ภควา ‘‘โส อตฺตานํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).
กถํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม? อิเธกจฺโจ กุลปุตฺโต โลกํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. ยถาห –
‘‘มหา โข ปนายํ โลกสนฺนิวาโส, มหนฺตสฺมึ โข ปน โลกสนฺนิวาเส สนฺติ สมณพฺราหฺมณา อิทฺธิมนฺโต ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุโน, เต ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. เตปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. เทวตาปิ โข สนฺติ อิทฺธิมนฺตินิโย ทิพฺพจกฺขุกา ปรจิตฺตวิทุนิโย, ตา ทูรโตปิ ปสฺสนฺติ, อาสนฺนาปิ ¶ น ทิสฺสนฺติ, เจตสาปิ จิตฺตํ ชานนฺติ. ตาปิ มํ เอวํ ชาเนยฺยุํ ‘ปสฺสถ โภ อิมํ กุลปุตฺตํ สทฺธาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต สมาโน โวกิณฺโณ วิหรติ ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ. โส อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘อารทฺธํ โข ปน เม วีริยํ ภวิสฺสติ อสลฺลีนํ, อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, ปสฺสทฺโธ กาโย อสารทฺโธ, สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺค’นฺติ. โส โลกํเยว อธิปตึ กริตฺวา อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธํ อตฺตานํ ปริหรตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑ กามาวจรกุสล ธมฺมุทฺเทสกถา; อ. นิ. ๓.๔๐).
เอวํ โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ นาม โหติ. ‘‘ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺป’’นฺติ เอตฺถ ปน ลชฺชาติ ลชฺชนากาโร, เตน สภาเวน สณฺิตา หิรี. ภยนฺติ อปายภยํ, เตน สภาเวน สณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. ตทุภยมฺปิ ปาปปริวชฺชเน ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ยถา นาม เอโก กุลปุตฺโต อุจฺจารปสฺสาวาทีนิ กโรนฺโต ลชฺชิตพฺพยุตฺตกํ เอกํ ทิสฺวา ลชฺชนาการปฺปตฺโต ภเวยฺย หีฬิโต, เอวเมว อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ. เอกจฺโจ อปายภยภีโต หุตฺวา ปาปกมฺมํ น กโรติ.
ตตฺริทํ ¶ โอปมฺมํ – ยถา หิ ทฺวีสุ อโยคุเฬสุ เอโก สีตโล ภเวยฺย คูถมกฺขิโต, เอโก อุณฺโห อาทิตฺโต. ตตฺถ ปณฺฑิโต สีตลํ คูถมกฺขิตตฺตา ชิคุจฺฉนฺโต น คณฺหาติ, อิตรํ ฑาหภเยน. ตตฺถ สีตลสฺส ¶ คูถมกฺขนชิคุจฺฉาย อคณฺหนํ วิย อชฺฌตฺตํ ลชฺชีธมฺมํ โอกฺกมิตฺวา ปาปสฺส อกรณํ, อุณฺหสฺส ฑาหภเยน อคณฺหนํ วิย อปายภเยน ปาปสฺส อกรณํ เวทิตพฺพํ.
‘‘สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺป’’นฺติ อิทมฺปิ ทฺวยํ ปาปปริวชฺชเน เอว ปากฏํ โหติ. เอกจฺโจ หิ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สตฺถุมหตฺตปจฺจเวกฺขณา ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณา สพฺรหฺมจาริมหตฺตปจฺจเวกฺขณาติ จตูหิ การเณหิ สปฺปติสฺสวลกฺขณํ หิรึ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. เอกจฺโจ อตฺตานุวาทภยํ ปรานุวาทภยํ ทณฺฑภยํ ทุคฺคติภยนฺติ จตูหากาเรหิ วชฺชภีรุกภาวทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ ¶ สมุฏฺาเปตฺวา ปาปํ น กโรติ. ตตฺถ ชาติมหตฺตปจฺจเวกฺขณาทีนิ เจว อตฺตานุวาทภยาทีนิ จ วิตฺถาเรตฺวา กเถตพฺพานิ. เอวํ วุตฺตํ สตฺตวิธํ พลํ ยสฺส ปุคฺคลสฺส นตฺถิ, เต กิเลสา ตํ ปุคฺคลํ สหนฺติ…เป… ปริยาทิยนฺติ มทฺทนฺตีติ.
ทฺเว ปริสฺสยาติ ปากฏาปากฏวเสน ทฺเว เอว อุปทฺทวา, น เอกํ, น ตีณิ. เต วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ปากฏปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โกกาติ เกกา. อยเมว วา ปาโ. โจราติ โจริยกมฺเมหิ ยุตฺตา. มาณวาติ สาหสิกกมฺเมหิ ยุตฺตา. กตกมฺมาติ สนฺธิจฺเฉทาทิกตโจริกกมฺมา. อกตกมฺมาติ ตํ กมฺมํ กาตุํ นิกฺขนฺตา. เอตฺถ อสฺสูติ ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. จกฺขุโรโคติ จกฺขุสฺมึ อุปฺปนฺนโรโค, รุชตีติ โรโค. จกฺขุโรโคติอาทโย วตฺถุวเสน เวทิตพฺพา. นิพฺพตฺติตปสาทานฺหิ โรโค นาม นตฺถิ. กณฺณโรโคติ พหิกณฺณโรโค. มุขโรโคติ มุเข อุปฺปนฺนโรโค. ทนฺตโรโคติ ทนฺตสูลํ. กาโสติ ขยโรโค. สาโสติ สฺวาโส อุคฺคารโรโค. ปินาโสติ พหินาสิกาย โรโค. ฑาโหติ อพฺภนฺตเร อุปฺปชฺชนโก อุณฺโห. มุจฺฉาติ ¶ สติวิสฺสชฺชนกา. ปกฺขนฺทิกาติ โลหิตปกฺขนฺทิกา อติสาโร. สูลาติ อามสูลา กุจฺฉิวาโต. วิสูจิกาติ มหนฺโต วิเรจนโก. กิลาโสติ สพโล. โสโสติ สุกฺขนโก โสสพฺยาธิ. อปมาโรติ อมนุสฺสคฺคาโห เวริยกฺขาพาโธ. ททฺทูติ ททฺทุปีฬกา. กณฺฑูติ ขุทฺทกปีฬกา. กจฺฉูติ มหากจฺฉุ. รขสาติ นเขหิ วิลิขิตฏฺาเน โรโค. ‘‘นขสา’’ติปิ ปาฬิ. วิตจฺฉิกาติ หตฺถตลปาทตเลสุ หีรํ หีรํ กตฺวา ผาเลนฺโต อุปฺปชฺชนกโรโค. โลหิตปิตฺตนฺติ โสณิตปิตฺตํ, รตฺตปิตฺตนฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. มธุเมโหติ สรีรพฺภนฺตเร อุกฺกฏฺโรโค. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อปิ จ มธุเมโห อาพาโธ อุกฺกฏฺโ’’ติ (ปาจิ. ๑๕).
อํสาติ อริสโรโค. ปีฬกาติ โลหิตปีฬกา. ภคํ ทาลยตีติ ภคนฺทลา, วจฺจมคฺคํ ผาเลตีติ อตฺโถ. ปิตฺตสมุฏฺานาติ ปิตฺเตน สมุฏฺานํ อุปฺปตฺติ เอเตสนฺติ ปิตฺตสมุฏฺานา. เต กิร ทฺวตฺตึส โหนฺติ. เสมฺหสมุฏฺานาทีสุปิ เอเสว นโย. สนฺนิปาติกาติ วาตปิตฺตเสมฺหานํ สนฺนิปาเตน ¶ เอกีภาเวน อุปฺปนฺนา. อาพาธฏฺเน อาพาธา. อุตุปริณามชาติ อุตุปริณาเมน. อจฺจุณฺหาติ สีเตน อุปฺปชฺชนกโรคา. วิสมปริหารชาติ อติฏฺานนิสชฺชาทินา วิสมปริหาเรน ชาตา. โอปกฺกมิกาติ วธพนฺธนาทินา อุปกฺกเมน ชาตา. กมฺมวิปากชาติ พลวกมฺมวิปากสมฺภูตา. สีตํ อุณฺหํ…เป… สมฺผสฺโสติ อิเม ปากฏา เอว. อิติ วาติ เอวํ วา. อิเม วุจฺจนฺตีติ นิคเมนฺโต อาห.
กตเม ปฏิจฺฉนฺนปริสฺสยาติ อปากฏา อจฺฉาทิตอุปทฺทวา ¶ กตเมติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กายทุจฺจริตนฺติ ปาณาติปาตอทินฺนาทานมิจฺฉาจารเจตนา เวทิตพฺพา. วจีทุจฺจริตนฺติ มุสาวาทปิสุณวาจาผรุสวาจาสมฺผปฺปลาปเจตนา เวทิตพฺพา. มโนทุจฺจริตนฺติ อภิชฺฌาพฺยาปาทมิจฺฉาทิฏฺิโย เวทิตพฺพา. กาเย ปวตฺตํ, กายโต วา ปวตฺตํ, ทุฏฺุ จริตํ, กิเลสปูติกตฺตา วา ทุฏฺุ จริตนฺติ กายทุจฺจริตํ. วจีมโนทุจฺจริเตสุปิ เอเสว นโย.
กามียนฺตีติ กามา, ปฺจ กามคุณา. กาเมสุ ฉนฺโท กามจฺฉนฺโท. กามยตีติ วา กาโม, กาโม เอว ฉนฺโท, กามจฺฉนฺโท น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, น ธมฺมจฺฉนฺโท วา. กามตณฺหาว เอวํนามิกา. กุสลธมฺเม นีวรตีติ นีวรณํ, กามจฺฉนฺโท เอว นีวรณํ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. เอวํ เสเสสุปิ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ อุปคจฺฉติ, พฺยาปาทยติ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ วา พฺยาปาโท. ถินนตา ถินํ. มิทฺธนตา มิทฺธํ, อนุสฺสาหสํหนนตา อสตฺติวิฆาตตา จาติ อตฺโถ. ถินฺจ มิทฺธฺจ ถินมิทฺธํ. ตตฺถ ถินํ อนุสฺสาหนลกฺขณํ, วีริยวิโนทนรสํ, สํสีทนปจฺจุปฏฺานํ. มิทฺธํ อกมฺมฺตาลกฺขณํ, โอนหนรสํ, ลีนภาวปจฺจุปฏฺานํ, ปจลายิกานิทฺทาปจฺจุปฏฺานํ วา. อุภยมฺปิ อรติตนฺทีวิชมฺภิตาทีสุ อโยนิโสมนสิการปทฏฺานนฺติ.
อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. ตํ อวูปสมลกฺขณํ วาตาภิฆาตจลชลํ วิย, อนวฏฺานรสํ วาตาภิฆาตจลธชปฏากํ วิย, ภนฺตตฺตปจฺจุปฏฺานํ ปาสาณาภิฆาตสมุทฺธตภสฺมํ วิย ¶ , เจตโส อวูปสโม อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ. จิตฺตวิกฺเขโปติ ทฏฺพฺพํ. กุจฺฉิตํ กตํ กุกตํ, ตสฺส ¶ ภาโว กุกฺกุจฺจํ. ตํ ปจฺฉานุตาปลกฺขณํ, กตากตานุโสจนรสํ, วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, กตากตปทฏฺานํ ทาสพฺยํ วิย ทฏฺพฺพํ ¶ . อุทฺธจฺจฺจ กุกฺกุจฺจฺจ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ. วิคตา จิกิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉา, สภาวํ วา วิจินนฺโต เอตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา, สา สํสยลกฺขณา, สํสปฺปนรสา, อนิจฺฉยปจฺจุปฏฺานา, อเนกํสคฺคาหปจฺจุปฏฺานา วา, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานา. ปฏิปตฺติอนฺตรายกราติ ทฏฺพฺพา.
รชฺชนลกฺขโณ ราโค. ทุสฺสนลกฺขโณ โทโส. มุยฺหนลกฺขโณ โมโห. กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ, จณฺฑิกฺกลกฺขโณ วา, อาฆาตกรณรโส, ทูสนปจฺจุปฏฺาโน. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห, เวรอปฺปฏินิสฺสชฺชนรโส, โกธานุพนฺธภาวปจฺจุปฏฺาโน. วุตฺตฺเจตํ ‘‘ปุพฺพกาลํ โกโธ, อปรกาลํ อุปนาโห’’ติอาทิ (วิภ. ๘๙๑).
ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. เตสํ วินาสนรโส, ตทจฺฉาทนปจฺจุปฏฺาโน. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส, ปรคุเณหิ อตฺตโน คุณานํ สมีกรณรโส, ปเรสํ คุณปฺปมาเณน อุปฏฺานปจฺจุปฏฺาโน.
ปรสมฺปตฺติขียนลกฺขณา อิสฺสา, ตสฺส อกฺขมนลกฺขณา วา, ตตฺถ อนภิรติรสา, ตโต วิมุขภาวปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน สมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ, อตฺตโน สมฺปตฺติยา ปเรหิ สาธารณภาวํ อกฺขมนรสํ, สงฺโกจนปจฺจุปฏฺานํ.
กตปาปปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา, ตสฺส นิคูหนรสา, ตทาวรณปจฺจุปฏฺานา. อตฺตโน อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ สาเยฺยํ, เตสํ สมุทาหรณรสํ, สรีรากาเรหิปิ เตสํ วิภูตกรณปจฺจุปฏฺานํ.
จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ ถมฺโภ, อปฺปติสฺสววุตฺติรโส, อมทฺทวปจฺจุปฏฺาโน. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ, วิปจฺจนีกตารโส, อคารวปจฺจุปฏฺาโน.
อุณฺณติลกฺขโณ มาโน, อหํการรโส, อุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน. อพฺภุณฺณติลกฺขโณ อติมาโน, อติวิย อหํการรโส, อจฺจุทฺธุมาตภาวปจฺจุปฏฺาโน.
มตฺตภาวลกฺขโณ ¶ ¶ มโท, มทคฺคหณรโส, อุมฺมาทปจฺจุปฏฺาโน ¶ . ปฺจสุ กามคุเณสุ จิตฺตสฺส โวสฺสคฺคลกฺขโณ ปมาโท, โวสฺสคฺคานุปฺปทนรโส, สติวิปฺปวาสปจฺจุปฏฺาโนติ เอวํ อิเมสํ ธมฺมานํ ลกฺขณาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ‘‘ตตฺถ กตโม โกโธ’’ติอาทินา วิภงฺเค (วิภ. ๘๙๑) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
วิเสสโต เจตฺถ อามิสคิทฺโธ อตฺตนา อลภนฺโต อฺสฺส ลาภิโน กุชฺฌติ, ตสฺส สกึ อุปฺปนฺโน โกโธ โกโธเยว. ตทุตฺตริ อุปนาโห. โส เอวํ กุทฺโธ อุปนยฺหนฺโต จ สนฺเตปิ อฺสฺส ลาภิโน คุณํ มกฺเขติ ‘‘อหมฺปิ ตาทิโส’’ติ จ ยุคคฺคาหํ คณฺหาติ. อยมสฺส มกฺโข จ ปลาโส จ, โส เอวํ มกฺขี ปลาสี ตสฺส ลาภสกฺการาทีสุ ‘‘กึ อิมสฺส อิมินา’’ติ อิสฺสติ ปทุสฺสติ, อยมสฺส อิสฺสา. สเจ ปนสฺส กาจิ สมฺปตฺติ โหติ, ตสฺสา เตน สาธารณภาวํ น สหติ, อิทมสฺส มจฺเฉรํ. ลาภเหตุ โข ปน อตฺตโน สนฺเตปิ โทเส ปฏิจฺฉาเทติ, อยมสฺส มายา. อสนฺเตปิ คุเณ ปกาเสติ, อิทมสฺส สาเยฺยํ. โส เอวํ ปฏิปนฺโน สเจ ปน ยถาธิปฺปายํ ลาภํ ลภติ, เตน ถทฺโธ โหติ อมุทุจิตฺโต ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ โอวทิตุํ อสกฺกุเณยฺโย, อยมสฺส ถมฺโภ. สเจ ปน นํ โกจิ กิฺจิ วทติ ‘‘น อิทํ เอวํ กาตพฺพ’’นฺติ, เตน สารทฺธจิตฺโต โหติ, ภากุฏิกมุโข ‘‘โก เม ตฺว’’นฺติ ปสยฺหภาณี, อยมสฺส สารมฺโภ. ตโต ถมฺเภน ‘‘อหเมว เสยฺโย’’ติ อตฺตานํ มฺนฺโต มานี โหติ. สารมฺเภน ‘‘เก อิเม’’ติ ปเร อติมฺนฺโต อติมานี, อยมสฺส มาโน จ อติมาโน จ. โส เตหิ มานาติมาเนหิ ชาติมทาทิอเนกรูปํ มทํ ชเนติ, มตฺโต สมาโน กามคุณาทิเภเทสุ วตฺถูสุ ปมชฺชติ, อยมสฺส มโท จ ปมาโท จาติ เวทิตพฺพํ.
สพฺเพ กิเลสาติ สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. อุปตาปนฏฺเน วิพาธนฏฺเน จ กิเลสา. กิเลสปูติกตฺตา ทุจฺจริตา. กิเลสทรถกรณฏฺเน ทรถา. อนฺโตฑาหาทิกรณฏฺเน ¶ ปริฬาหา. สทา ตาปนฏฺเน สนฺตาปา. อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อภิสงฺขรณฏฺเน จ สพฺเพ อกุสลาภิสงฺขารา.
เกนฏฺเนาติ ¶ เกน อตฺเถน. อภิภวนาทิติวิธํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปริสหนฺตีติ ปริสฺสยา’’ติอาทิมาห. ปริสหนฺตีติ ทุกฺขํ อุปฺปาเทนฺติ อภิภวนฺติ. ปริหานาย สํวตฺตนฺตีติ กุสลานํ ธมฺมานํ ปริจฺจชนาย สํวตฺตนฺติ. ตตฺราสยาติ ตสฺมึ สรีเร อกุสลา ธมฺมา อาสยนฺติ นิวสนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. เต ปริสฺสยาติ กายทุจฺจริตาทโย อุปทฺทวา. กุสลานํ ธมฺมานํ อนฺตรายายาติ อุปริ วตฺตพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาทิโต โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ อนฺตรธานาย อทสฺสนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. สมฺมาปฏิปทายาติ สุนฺทราย ปสฏฺาย วา ปฏิปทาย, น ¶ มิจฺฉาปฏิปทาย. อนุโลมปฏิปทายาติ อวิรุทฺธปฏิปทาย, น ปฏิโลมปฏิปทาย. อปจฺจนีกปฏิปทายาติ น ปจฺจนีกปฏิปทาย, อปจฺจตฺถิกปฏิปทาย. อนฺวตฺถปฏิปทายาติ อตฺถอนุคตาย ปฏิปทาย, อุปรูปริ วฑฺฒิตาย ปฏิปทาย. ยถา อตฺโถ, ตถา ปฏิปชฺชิตพฺพาย ปฏิปทายาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘อตฺตตฺถปฏิปทายา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ น สุนฺทรํ. ธมฺมานุธมฺมปฏิปทายาติ ธมฺโม นาม นวโลกุตฺตรธมฺโม. อนุธมฺโม นาม วิปสฺสนาทิ. ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปา ธมฺมปฏิปทา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทา, ตสฺสา ธมฺมานุธมฺมปฏิปทาย.
สีเลสุ ปริปูริการิตายาติ ปาติโมกฺขสีเลสุ ปาริปูรึ กตฺวา ิตตาย. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตายาติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๓; อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๑๘) นเยน วุตฺเตสุ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ สุโคปิตทฺวารภาวสฺส. โภชเน มตฺตฺุตายาติ ปฏิคฺคหณาทีสุ ปมาณยุตฺตตาย. อลํสาฏกาทึ มฺุจิตฺวา มิตโภชนตาย.
ชาคริยานุโยคสฺสาติ ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชาย อาวรณีเยหิ ธมฺเมหี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๖; ม. นิ. ๒.๒๔) เอวมาทินา นเยน ปฺจ ชาครณธมฺเม อนุโยคสฺส. สติสมฺปชฺสฺสาติ ¶ สพฺพกมฺมฏฺานภาวนานุยุตฺตานํ สพฺพโยคีนํ สพฺพทา อุปการกสฺส สติสมฺปชฺสฺส.
สติปฏฺานานนฺติ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺกนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต ปฏฺานํ, สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺสา อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน ¶ สุภสุขนิจฺจตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ.
จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานนฺติ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต, ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต, ปธานภาวกรณโต จาติ สมฺมปฺปธานํ, วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ จตุนฺนํ อกุสลกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติอุปฺปาทฏฺิติกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺติโต ปนสฺส จตุธา ปเภโท โหติ, เตสํ จตุนฺนํ สมฺมปฺปธานานํ.
จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานนฺติ เอตฺถ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกโก อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ ¶ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิทฺธิ. ปเมน อตฺเถน อิทฺธิเยว ปาโทติ อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท, ปาโทติ ปติฏฺา อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. เตน หิ ยสฺมา อุปรูปริวิเสสสงฺขาตํ อิทฺธึ ปชฺชนฺติ ปาปุณนฺติ, ตสฺมา ปาโทติ วุจฺจติ. เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทานํ.
สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานนฺติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ, ยา เอสา ธมฺมสามคฺคี ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา ‘‘โพธี’’ติ ¶ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทีนิ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ ¶ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. เตสํ สตฺตนฺนํ โพชฺฌงฺคานํ.
อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺสาติ อริโยติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา อริยภาวกรตฺตา อริยผลปฏิลาภกรตฺตา จ อริโย. อฏฺงฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก. สฺวายํ จตุรงฺคิกา วิย เสนา, ปฺจงฺคิกํ วิย จ ตูริยํ องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถิ. นิพฺพานํ มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค, ตสฺส อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ภาวนานุโยคสฺส. อิเมสํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ วุตฺตปฺปการานํ โลกิยโลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ. อนฺตรายายาติ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อนฺตรายาย อนฺตรธานาย โลกิยกุสลธมฺมานํ ปริจฺจาคาย.
เตสุ โลกุตฺตรกุสลธมฺมานํ อุปฺปชฺชิตุํ อปฺปทานฏฺเน ปริสฺสยา นาม. เต หิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌมานา อุปทฺทวํ นาวหนฺติ. ตตฺเถเตติ ตสฺมึ อตฺตภาเว เอเต. ปาปกาติ ลามกา. อตฺตภาวสนฺนิสฺสยาติ อตฺตภาวํ อุปนิสฺสาย อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺตภาวสนฺนิสฺสยา. ทเกติ อุทเก.
วุตฺตํ ¶ เหตนฺติ กถิตฺหิ เอตํ. สานฺเตวาสิโกติ อนฺเตวาสิกสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สานฺเตวาสิโก. สาจริยโกติ สมุทาจรณสงฺขาเตน กิเลเสน สห วสตีติ สาจริยโก.
จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ปสฺสิตฺวา. อุปริ โสเตน สทฺทํ สุตฺวาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อุปฺปชฺชนฺตีติ สมุทาจรนฺติ. สรสงฺกปฺปาติ นานารมฺมเณ สํสรณวเสน อุปฺปนฺนา ปริกปฺปา. สํโยชนิยาติ อารมฺมณภาวํ ¶ อุปคนฺตฺวา สํโยชนสมฺพนฺธเนน สํโยชนานํ หิตา. ตฺยสฺสาติ เต ปาปกา อสฺส ปุคฺคลสฺส. อนฺโต วสนฺตีติ อพฺภนฺตเร จิตฺเต นิวสนฺติ. อนฺวาสวนฺตีติ กิเลสสนฺตานํ อนุคนฺตฺวา ภุสํ สวนฺติ อนุพนฺธนฺติ. เต นนฺติ ตํ ปุคฺคลํ เอเต อกุสลา ธมฺมา. สมุทาจรนฺตีติ สมฺมา อาจรนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ.
กิลิสฺสนฏฺเน มลา. สตฺตุอตฺเถน อมิตฺตา. เวริอตฺเถน สปตฺตา. หนนฏฺเน วธกา. ปจฺจามิตฺตฏฺเน ปจฺจตฺถิกา. อถ วา มลา สูริยสฺโสปกฺกิเลสวลาหกา วิย. อมิตฺตา สูริยสฺส ธูมํ วิย. สปตฺตา ¶ สูริยสฺส หิมํ วิย. วธกา สูริยสฺส รชํ วิย. ปจฺจตฺถิกา สูริยสฺส ราหุ วิย. ‘‘มลา สุวณฺณสฺส มลํ วิย จิตฺตปฺปภานาสกา. อมิตฺตา กาฬโลหมลํ วิย จิตฺเต สินิทฺธภาวนาสกา, สปตฺตา ยุคนทฺธํ ยุชฺฌนฺตา สปตฺตา วิย จิตฺเต ปติฏฺิตธมฺมธํสกา. วธกา มนุสฺสฆาตกา วิย ธมฺมฆาตกา. ปจฺจตฺถิกา รฺา อุปคตสฺส วินาโส วิย โมกฺขมคฺคสฺส ปฏิเสธกา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
อนตฺถชนโนติ น อตฺถํ อนตฺถํ, ตํ อนตฺถํ อุปฺปาเทตีติ อนตฺถชนโน. โก โส? โลโภ. จิตฺตปฺปโกปโนติ จิตฺตสฺส ปโกปโน จลโน, กุสลํ นิวาเรตฺวา จิตฺตํ รุนฺธตีติ อตฺโถ. ภยมนฺตรโต ชาตนฺติ อพฺภนฺตเร อตฺตโน จิตฺเตเยว ชาตํ, อนตฺถชนนาทิภยเหตุ. ตํ ชโน นาวพุชฺฌตีติ ตํ ภยํ พาลมหาชโน อวคนฺตฺวา โอตริตฺวา น ชานาติ. อตฺถนฺติ ลุทฺโธ ปุคฺคโล โลกิยโลกุตฺตรอตฺถํ น ชานาติ. ธมฺมนฺติ ตสฺส เหตุํ. อนฺธตมนฺติ พหลนฺธการํ. ยนฺติ ยสฺมา, ยํ นรํ วา. สหเตติ อภิภวติ.
อชฺฌตฺตนฺติ สกสนฺตาเน. อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชมานา อหิตาย อุปฺปชฺชนฺติ ทุกฺขาย ¶ . ตทุภเยน อผาสุวิหาราย. อหิตายาติ เจตสิกทุกฺขตฺถาย. ทุกฺขายาติ กายิกทุกฺขตฺถาย. อผาสุวิหารายาติ ตทุภเยน น สุขวิหารตฺถาย. อถ วา ‘‘อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชนฺตีติ ภวงฺคจลนโต ปฏฺาย ยาว โวฏฺพฺพนา, ตาว ¶ อุปฺปชฺชมานา นาม. โวฏฺพฺพนํ ปน ปตฺวา อนิวตฺตนภาเวน อุปฺปชฺชนฺติ นามา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ตจสารํว สมฺผลนฺติ อตฺตโน ผเลน นาสิตํ ตจสารสงฺขาตํ เวฬุ วิย. อรตีติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ อุกฺกณฺิตตา. รตีติ ปฺจกามคุเณ อภิรติ. โลมหํโสติ กณฺฏกสทิโส หุตฺวา อุทฺธคฺคโลโม. อิโตนิทานาติ อยํ อตฺตภาโว นิทานํ ปจฺจโย เอเตสนฺติ อิโตนิทานา. อิโตชาติ อิโต อตฺตภาวโต ชาตา. อิโต สมุฏฺาย มโนวิตกฺกาติ ยถา ทีฆสุตฺตเกน ปาเท พทฺธํ กากํ กุมารกา ตสฺส สุตฺตสฺส ปริยนฺตํ องฺคุลึ เวเตฺวา โอสฺสชฺชนฺติ, โส ทูรํ ¶ คนฺตฺวาปิ ปุน เตสํ ปาทมูเลเยว ปตติ, เอวเมว อิโต อตฺตภาวโต สมุฏฺาย ปาปวิตกฺกา จิตฺตํ โอสฺสชฺชนฺติ.
‘‘สานฺเตวาสิโก’’ติอาทิกํ ปมสุตฺตํ กิเลเสน สหวาสํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, อนฺตรามลา’’ติอาทิกํ ทุติยํ กุสลธมฺมมลีนกรณวเสน อตฺถานตฺถสฺส อชานนวเสน จ. ‘‘ตโย โข, มหาราช, ปุริสสฺส ธมฺมา อชฺฌตฺตํ อุปฺปชฺชมานา’’ติอาทิกํ ตติยํ อตฺตโน นิสฺสยฆาตนวเสน. ‘‘ราโค จ โทโส จ อิโตนิทานา’’ติอาทิกํ จตุตฺถํ กิเลสานํ ปติฏฺาทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.
ตโต ตโต ปริสฺสยโตติ ตมฺหา ตมฺหา อุปทฺทวา. ตํ ปุคฺคลนฺติ วุตฺตปฺปการกิเลสสมงฺคีปุคฺคลํ. ทุกฺขํ อนฺเวตีติ ทุกฺขํ อนุ เอติ มาตุ ปจฺฉโต ขีรปิวโก วิย. อนุคจฺฉตีติ สมีปํ คจฺฉติ โจรฆาตโก วิย วชฺฌปฺปตฺตสฺส ¶ . อนฺวายิกํ โหตีติ สมฺปตฺตํ โหติ ธมฺมคนฺถิกาย ปริจฺเฉโท วิย. ชาติทุกฺขนฺติ ชาติสทฺทสฺส ตาว อเนเก อตฺถา ปเวทิตา. ยถา –
ภโว กุลํ นิกาโย จ, สีลํ ปฺตฺติ ลกฺขณํ;
ปสูติ สนฺธิ เจวาติ, ชาติอตฺถา ปเวทิตา.
ตถา หิสฺส ‘‘เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๒; ที. นิ. ๑.๓๑; ม. นิ. ๒.๒๕๗) ภโว อตฺโถ. ‘‘อกฺขิตฺโต อนุปกฺกุฏฺโ ชาติวาเทนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๐๓) เอตฺถ กุลํ. ‘‘อตฺถิ, วิสาเข, นิคณฺา นาม สมณชาตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอตฺถ นิกาโย. ‘‘ยโตหํ, ภคินิ, อริยาย ชาติยา ชาโต นาภิชานามี’’ติ ¶ (ม. นิ. ๒.๓๕๑) เอตฺถ อริยสีลํ. ‘‘ติริยา นาม ติณชาติ นาภิยา อุคฺคนฺตฺวา นภํ อาหจฺจ ิตา อโหสี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๙๖) เอตฺถ ปฺตฺติ. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ สงฺขตลกฺขณํ. ‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗) เอตฺถ ปสูติ. ‘‘ภวปจฺจยา ชาตี’’ติ (มหาว. ๑; อุทา. ๑; ม. นิ. ๑.๔๐๓; สํ. นิ. ๒.๕๓; วิภ. ๒๒๕; กถา. ๔๕๐) จ, ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติ (มหาว. ๑๔; วิภ. ๑๙๐; ที. นิ. ๒.๓๘๗; ม. นิ. ๒.๓๗๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) จ เอตฺถ ปริยายโต ปฏิสนฺธิกฺขโณ, นิปฺปริยายโต ปน ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตมานานํ สตฺตานํ เย เย ขนฺธา ปาตุภวนฺติ, เตสํ เตสํ ปมปาตุภาโว ชาติ นาม.
กสฺมา ¶ ปเนสา ชาติ ทุกฺขาติ เจ? อเนเกสํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต. อเนกานิ หิ ทุกฺขานิ. เสยฺยถิทํ – ทุกฺขทุกฺขํ วิปริณามทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขํ ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ.
ตตฺถ กายิกเจตสิกา ทุกฺขเวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ วุจฺจติ.
สุขเวทนา วิปริณาเมน ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต วิปริณามทุกฺขํ. อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกา สงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ.
กณฺณสูลทนฺตสูลราคชปริฬาหโทสโมหชปริฬาหาทิ ¶ กายิกเจตสิโก อาพาโธ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ อปากฏภาวโต ปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. อปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.
ทฺวตฺตึสกมฺมการณาทิสมุฏฺาโน อาพาโธ อปุจฺฉิตฺวาว ชานิตพฺพโต อุปกฺกมสฺส จ ปากฏภาวโต อปฺปฏิจฺฉนฺนทุกฺขํ. ปากฏทุกฺขนฺติปิ วุจฺจติ.
เปตฺวา ทุกฺขทุกฺขํ เสสํ ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ ชาติอาทิ สพฺพมฺปิ ตสฺส ตสฺส ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต ปริยายทุกฺขํ. ทุกฺขทุกฺขํ ปน นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ วุจฺจติ.
ตตฺรายํ ¶ ชาติ ยํ ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๔๖ อาทโย) ภควตาปิ อุปมาวเสน ปกาสิตํ อาปายิกํ ทุกฺขํ, ยฺจ สุคติยมฺปิ มนุสฺสโลเก คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส วตฺถุภาวโต ทุกฺขา.
ตตฺริทํ คพฺโภกฺกนฺติมูลกาทิเภทํ ทุกฺขํ – อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตติ, อถ โข เหฏฺา อามาสยสฺส อุปริ ปกฺกาสยสฺส อุทรปฏลปิฏฺิกณฺฏกานํ เวมชฺเฌ ปรมสมฺพาเธ ติพฺพนฺธกาเร นานากุณปคนฺธปริภาวิเต อสุจิปรมทุคฺคนฺธปวนวิจริเต อธิมตฺตเชคุจฺเฉ กุจฺฉิปฺปเทเส ปูติมจฺฉปูติกุมฺมาสจนฺทนิกาทีสุ กิมิ วิย นิพฺพตฺตติ. โส ตตฺถ นิพฺพตฺโต ทส มาเส มาตุกุจฺฉิสมฺภเวน อุสฺมนา ปุฏปากํ วิย ปจฺจมาโน ปิฏฺปิณฺฑิ วิย เสทิยมาโน สมิฺชนปสารณาทิวิรหิโต ¶ อธิมตฺตํ ทุกฺขํ ปจฺจนุโภตีติ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนวุฏฺานปริวตฺตนาทีสุ สุราธุตฺตหตฺถคโต เอฬโก วิย อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺปโปตโก วิย จ อากฑฺฒนปริกฑฺฒนโอธุนนทฺธุนนาทินา อุปกฺกเมน อธิมตฺตํ ทุกฺขํ อนุภวติ, ยฺจ มาตุ สีตุทกปานกาเล สีตนรกุปปนฺโน วิย อุณฺหยาคุภตฺตาทิอชฺโฌหรณกาเล องฺคารวุฏฺิสมฺปริกิณฺโณ วิย โลณมฺพิลาทิอชฺโฌหรณกาเล ขาราปฏิจฺฉกาทิกมฺมการณปตฺโต วิย ติพฺพํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อิทํ คพฺภปริหรณมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน เฉทนผาลนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ คพฺภวิปตฺติมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ วิชายมานาย มาตุยา กมฺมเชหิ วาเตหิ ปริวตฺเตตฺวา นรกปปาตํ วิย อติภยานกํ โยนิมคฺคํ ปฏิปาติยมานสฺส ปรมสมฺพาเธน จ โยนิมุเขน ตาฬจฺฉิคฺคเฬน วิย มหานาคสฺส นิกฑฺฒิยมานสฺส นรกสตฺตสฺส วิย จ สงฺฆาตปพฺพเตหิ วิจุณฺณิยมานสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ วิชายนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ชาตสฺส ตรุณวณสทิสสุขุมาลสรีรสฺส หตฺถคฺคหณนฺหาปนโธวนโจฬปริมชฺชนาทิกาเล สูจิมุขขุรธาราหิ วิชฺฌนผาลนสทิสํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ มาตุกุจฺฉิโต พหินิกฺขมนมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ¶ ปน ตโต ปรํ ปวตฺติยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขํ.
ยํ ปน ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส ทุกฺขํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมมูลกํ ทุกฺขนฺติ.
อิติ อิมสฺส สพฺพสฺสาปิ ทุกฺขสฺส อยํ ชาติ วตฺถุเมว โหติ, อิทํ ชาติทุกฺขํ อนฺเวติ.
ชราทุกฺขนฺติ ¶ ทุวิธา ชรา – สงฺขตลกฺขณฺจ ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโต สนฺตติยํ เอกภวปริยาปนฺโน ขนฺธปุราณภาโว จ, สา อิธ อธิปฺเปตา. สา ปเนสา ทุกฺขา สงฺขารทุกฺขภาวโต เจว ทุกฺขวตฺถุโต จ. ยํ หิทํ องฺคปจฺจงฺคสิถิลภาวโต อินฺทฺริยวิการวิรูปตา โยพฺพนวินาสพลูปฆาตสติมติวิปฺปวาสปรปริภวาทิอเนกปจฺจยํ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขมุปฺปชฺชติ, ชรา ตสฺส วตฺถุ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘องฺคานํ ¶ สิถิลภาวา, อินฺทฺริยานํ วิการโต;
โยพฺพนสฺส วินาเสน, พลสฺส อุปฆาตโต.
‘‘วิปฺปวาสา สตาทีนํ, ปุตฺตทาเรหิ อตฺตโน;
อปฺปสาทนียโต เจว, ภิยฺโย พาลตฺตปตฺติยา.
‘‘ปปฺโปติ ทุกฺขํ ยํ มจฺโจ, กายิกํ มานสํ ตถา;
สพฺพเมตํ ชราเหตุ, ยสฺมา ตสฺมา ชรา ทุขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๒; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๒);
อิทํ ชราทุกฺขํ อนฺเวตีติ สมฺพนฺโธ. พฺยาธีติ วิวิธํ ทุกฺขํ อาทหติ วิทหตีติ พฺยาธิ. พฺยาธยติ ตาปยติ กมฺปยตีติ วา พฺยาธิ.
มรณทุกฺขนฺติ เอตฺถาปิ ทุวิธํ มรณํ สงฺขตลกฺขณฺจ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ¶ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑). เอกภวปริยาปนฺนชีวิตินฺทฺริยปพนฺธวิจฺเฉโท จ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘นิจฺจํ มรณโต ภย’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๘๑; ชา. ๑.๑๑.๘๘). ตํ อิธ อธิปฺเปตํ. ชาติปจฺจยา มรณํ อุปกฺกมมรณํ สรสมรณํ อายุกฺขยมรณํ ปฺุกฺขยมรณนฺติปิ ตสฺเสว นามํ. ปุน ขณิกมรณํ สมฺมุติมรณํ สมุจฺเฉทมรณนฺติ อยมฺปิ เภโท เวทิตพฺโพ. ปวตฺเต รูปารูปธมฺมานํ เภโท ขณิกมรณํ นาม. ติสฺโส มโต ผุสฺโส มโตติ อิทํ ปรมตฺถโต สตฺตสฺส อภาวา, สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโตติ อิทมฺปิ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อภาวา สมฺมุติมรณํ นาม. ขีณาสวสฺส อปฺปฏิสนฺธิกา กาลกิริยา สมุจฺเฉทมรณํ นาม. พาหิรสมฺมุติมรณํ เปตฺวา อิตรํ สมฺมุติมรณฺจ อิธ ยถาวุตฺตปฺปพนฺธวิจฺเฉทนภาเวน สงฺคหิตํ, ทุกฺขสฺส ปน วตฺถุภาวโต ทุกฺขํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปาปสฺส ¶ ปาปกมฺมาทิ-นิมิตฺตมนุปสฺสโต;
ภทฺทสฺสาปสหนฺตสฺส, วิโยคํ ปิยวตฺถุกํ;
มียมานสฺส ยํ ทุกฺขํ, มานสํ อวิเสสโต.
‘‘สพฺเพสฺจาปิ ¶ ยํ สนฺธิ-พนฺธนจฺเฉทนาทิกํ;
วิตุชฺชมานมมฺมานํ, โหติ ทุกฺขํ สรีรชํ.
‘‘อสยฺหมปฺปติการํ, ทุกฺขสฺเสตสฺสิทํ ยโต;
มรณํ วตฺถุ เตเนตํ, ทุกฺขมิจฺเจว ภาสิต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๓; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๓);
โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสทุกฺขนฺติ เอตฺถ โสกาทีสุ โสโก นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อนฺโตนิชฺฌานลกฺขโณ จิตฺตสนฺตาโป. ทุกฺโข ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว ทุกฺขสฺส จ วตฺถุภาวโต. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘สตฺตานํ หทยํ โสโก, สลฺลํ วิย วิตุชฺชติ;
อคฺคิตตฺโตว นาราโจ, ภุสฺจ ฑหเต ปุน.
‘‘สมาวหติ ¶ จ พฺยาธิ-ชรามรณเภทนํ;
ทุกฺขมฺปิ วิวิธํ ยสฺมา, ตสฺมา ทุกฺโขติ วุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๔; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๔);
ปริเทโว นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส วจีปลาโป. ทุกฺโข ปนสฺส สํสารทุกฺขภาวโต ทุกฺขวตฺถุโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ยํ โสกสลฺลวิหโต ปริเทวมาโน, กณฺโฏฺตาลุตลโสสชมปฺปสยฺหํ;
ภิยฺโยธิมตฺตมธิคจฺฉติเยว ทุกฺขํ, ทุกฺโขติ เตน ภควา ปริเทวมาหา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๕; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๕);
ทุกฺขํ นาม กายปีฬนลกฺขณํ กายิกํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว มานสทุกฺขาวหนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ กายิกมิทํ, ทุกฺขํ ทุกฺขฺจ มานสํ ภิยฺโย;
ชนยติ ยสฺมา ตสฺมา, ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺต’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๖);
โทมนสฺสํ ¶ ¶ นาม จิตฺตปีฬนลกฺขณํ มานสํ ทุกฺขํ. ทุกฺขํ ปนสฺส ทุกฺขทุกฺขตฺตา เจว กายิกทุกฺขาวหนโต จ. เจโตทุกฺขสมปฺปิตา หิ เกเส ปกิริย กนฺทนฺติ, อุรานิ ปติปิเสนฺติ, อาวฏฺฏนฺติ, วิวฏฺฏนฺติ, ฉินฺนปปาตํ ปปตนฺติ, สตฺถํ อาหรนฺติ, วิสํ ขาทนฺติ, รชฺชุยา อุพฺพนฺธนฺติ, อคฺคึ ปวิสนฺติ, นานปฺปการํ ทุกฺขํ อนุภวนฺติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปีเฬติ ยโต จิตฺตํ, กายสฺส จ ปีฬนํ สมาวหติ;
ทุกฺขนฺติ โทมนสฺสมฺปิ, โทมนสฺสํ ตโต อหู’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๖-๑๙๗; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๗);
อุปายาโส นาม าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต โทโสเยว. สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโมติ เอเก. ทุกฺโข ปนสฺส สงฺขารทุกฺขภาวโต จิตฺตํ ปริทหนโต กายสฺส วิหนนโต จ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘จิตฺตสฺส ¶ จ ปริทหนา, กายสฺส วิหนนโต จ อธิมตฺตํ;
ยํ ทุกฺขมุปายาโส, ชเนติ ทุกฺโข ตโต วุตฺโต’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๘; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๘);
เอตฺถ จ มนฺทคฺคินา อนฺโตภาชเน ปาโก วิย โสโก, ติกฺขคฺคินา ปจฺจมานสฺส ภาชนโต พหิ นิกฺขมนํ วิย ปริเทโว, พหิ นิกฺขนฺตาวเสสสฺส นิกฺขมิตุมฺปิ อปฺปโหนฺตสฺส อนฺโตภาชเนเยว ยาว ปริกฺขยา ปาโก วิย อุปายาโส ทฏฺพฺโพ.
เนรยิกํ ทุกฺขนฺติ นิรเย ปฺจวิธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ เทวทูตสุตฺเตน ทีเปตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ชาเยถ โน เจ นรเกสุ สตฺโต, ตตฺถคฺคิทาหาทิกมปฺปสยฺหํ;
ลเภถ ทุกฺขํ นุ กุหึ ปติฏฺํ, อิจฺจาห ทุกฺขาติ มุนีธ ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
ติรจฺฉานโยนิกํ ¶ ทุกฺขนฺติ ติรจฺฉาเนสุ กสาปโตทตาฬนวิชฺฌนาทิกํ อเนกวิธํ ทุกฺขํ อนฺเวติ, ตํ พาลปณฺฑิตสุตฺตโต คเหตพฺพํ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ทุกฺขํ ¶ ติรจฺเฉสุ กสาปโตททณฺฑาภิฆาตาทิภวํ อเนกํ;
ยํ ตํ กถํ ตตฺถ ภเวยฺย ชาตึ, วินา ตหึ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
เปตฺติวิสยิกํ ทุกฺขนฺติ เปเตสุ ปน ขุปฺปิปาส วาตาตปาทินิพฺพตฺตํ ทุกฺขฺจ โลกนฺตเร ติพฺพนฺธกาเร อสยฺหสีตาทิทุกฺขฺจ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘เปเตสุ ทุกฺขํ ปน ขุปฺปิปาสาวาตาตปาทิปฺปภวํ วิจิตฺตํ;
ยสฺมา อชาตสฺส น ตตฺถ อตฺถิ, ตสฺมาปิ ทุกฺขํ มุนิ ชาติมาห.
‘‘ติพฺพนฺธกาเร ¶ จ อสยฺหสีเต, โลกนฺตเร ยํ อสุเรสุ ทุกฺขํ;
น ตํ ภเว ตตฺถ น จสฺส ชาติ, ยโต อยํ ชาติ ตโตปิ ทุกฺขา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
มานุสิกํ ทุกฺขนฺติ มนุสฺเสสุ วธพนฺธนาทิกํ ทุกฺขํ. คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘อยฺหิ สตฺโต มาตุกุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺตมาโน น อุปฺปลปทุมปุณฺฑริกาทีสุ นิพฺพตฺตตี’’ติอาทินา นเยน ยํ ชาติทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ ตาว คพฺโภกฺกนฺติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปน ‘‘โส มาตุ สหสา อุปกฺขลนคมนนิสีทนา’’ติอาทินา นเยน ยํ ติพฺพํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ คพฺเภ ิติมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. คพฺภา วุฏฺานมูลกํ ทุกฺขนฺติ ‘‘ยํ ปนสฺส มูฬฺหคพฺภาย มาตุยา มิตฺตามจฺจสุหชฺชาทีหิปิ อทสฺสนารเห ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเน’’ติอาทินา นเยน ยํ ทุกฺขํ วุตฺตํ, อิทํ ¶ มาตุกุจฺฉิโต พหิ นิกฺขนฺตมูลกํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ยฺจาปิ คูถนรเก วิย มาตุคพฺเภ,
สตฺโต วสํ จิรมโต พหิ นิกฺขมนฺจ;
ปปฺโปติ ทุกฺขมติโฆรมิทมฺปิ นตฺถิ,
ชาตึ วินา อิติปิ ชาติ อยฺหิ ทุกฺขา.
‘‘กึ ¶ ภาสิเตน พหุนา นนุ ยํ กุหิฺจิ,
อตฺถีธ กิฺจิรปิ ทุกฺขมิทํ กทาจิ;
เนวตฺถิ ชาติวิรเห ยทโต มเหสิ,
ทุกฺขาติ สพฺพปมํ อิมมาห ชาติ’’นฺติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๙๑; วิสุทฺธิ. ๒.๕๔๑);
ชาตสฺสูปนิพนฺธกํ ทุกฺขนฺติ ชาตสฺส อุปนิพนฺธนํ นฺหานเลปนขาทนปิวนาทิชคฺคนทุกฺขํ อนฺเวติ. ชาตสฺส ปราเธยฺยกํ ทุกฺขนฺติ ปรสฺส อฺสฺส อายตฺตํ อิสฺสริยทุกฺขํ อนฺเวติ. ‘‘สพฺพํ ปรวสํ ทุกฺข’’นฺติ หิ วุตฺตํ. อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ อตฺตนาว อตฺตานํ วเธนฺตสฺส อเจลกวตาทิวเสน อาตาปนปริตาปนานุโยคมนุยุตฺตสฺส โกธวเสน อภฺุชนฺตสฺส อุพฺพนฺธนฺตสฺส จ ทุกฺขํ โหติ, อิทํ อตฺตูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ปรูปกฺกมํ ทุกฺขนฺติ ยํ ปรโต วธพนฺธนาทีนิ อนุภวนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปรูปกฺกมํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. ทุกฺขทุกฺขนฺติ ¶ กายิกเจตสิกา ทุกฺขา เวทนา สภาวโต จ นามโต จ ทุกฺขตฺตา ทุกฺขทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขทุกฺขํ อนฺเวติ. สงฺขารทุกฺขนฺติ อุเปกฺขาเวทนา เจว อวเสสา จ เตภูมกสงฺขารา อุทยพฺพยปีฬิตตฺตา สงฺขารทุกฺขํ, อิทํ สงฺขารทุกฺขํ อนฺเวติ. วิปริณามทุกฺขนฺติ สุขเวทนา วิปริณามทุกฺขสฺส เหตุโต วิปริณามทุกฺขํ, อิทํ วิปริณามทุกฺขํ อนฺเวติ.
มาตุมรณนฺติ ¶ มาตุยา มรณํ. ปิตุมรณนฺติ ปิตุโน มรณํ. ภาตุมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภาตูนํ มรณํ. ภคินิมรณนฺติ เชฏฺกนิฏฺภคินีนํ มรณํ. ปุตฺตมรณนฺติ ปุตฺตานํ มรณํ. ธีตุมรณนฺติ ธีตูนํ มรณํ. าติพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ าตีนํ พฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย, าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน ผุฏฺสฺส อชฺโฌตฺถฏสฺส อภิภูตสฺส อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ, ตํ าติพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย, โภควินาโสติ อตฺโถ. วุตฺตนเยน ตํ โภคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. โรคพฺยสนนฺติ โรโค เอว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ โรคพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สีลพฺยสนํ ทุกฺขนฺติ สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสีลฺยสฺเสตํ นามํ. วุตฺตนเยน ¶ ตํ สีลพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ, วุตฺตนเยน ตํ ทิฏฺิพฺยสนํ ทุกฺขํ อนฺเวติ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ นากุสลานิ. สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.
ยถาติ โอปมฺเม. ภินฺนํ นาวนฺติ สิถิลพนฺธนํ นาวํ, ชชฺชรีภูตํ วา ปทรุคฺฆาฏิมํ วา. ทกเมสินฺติ อุทกทายึ อุทกปฺปเวสนึ. ตโต ตโต อุทกํ อนฺเวตีติ ตโต ตโต ภินฺนฏฺานโต อุทกํ ปวิสติ. ปุรโตปีติ นาวาย ปุริมภาคโตปิ. ปจฺฉโตปีติ ตสฺสา ปจฺฉิมภาคโตปิ. เหฏฺโตปีติ อโธภาคโตปิ. ปสฺสโตปีติ อุภยปสฺสโตปิ. ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน เวทิตพฺพํ.
ตสฺมา ¶ กายคตาสติอาทิภาวนาย ชนฺตุ, สทา สโต หุตฺวา วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวเสน รูปาทีสุ วตฺถุกาเมสุ สพฺพปฺปการมฺปิ กิเลสกามํ ปริวชฺเชนฺโต กามานิ ปริวชฺเชยฺย. เอวํ เต กาเม ปหาย ตปฺปหานกรมคฺเคเนว จตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ ตเรยฺย ตริตุํ สกฺกุเณยฺย. ตโต ยถา ปุริโส ครุกํ นาวํ อุทกํ สิฺจิตฺวา ลหุกาย นาวาย อปฺปกสิเรเนว ปารคู ภเวยฺย ปารํ ¶ คจฺเฉยฺย, เอวเมวํ อตฺตภาวนาวํ กิเลสูทกครุกํ สิฺจิตฺวา ลหุเกน อตฺตภาเวน ปารคู ภเวยฺย. สพฺพธมฺมปารํ นิพฺพานํ คโต ภเวยฺย, อรหตฺตปฺปตฺติยา คจฺเฉยฺย อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพาเนนาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
ตสฺมาติ ยสฺมา ชาติอาทิกํ ทุกฺขํ เอตํ ปุคฺคลํ อนฺเวติ, ตสฺมา. ตํการณา ตํเหตูติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ยสฺมา วุตฺตปฺปการทุกฺขํ เอตํ อนฺเวติ, ตํเหตุ. ยสฺมา อนฺเวติ ตปฺปจฺจยา, ยสฺมา อนฺเวติ ตํนิทานนฺติ เอวํ ปทโยชนา กาตพฺพา. เหตูติอาทีนิ การณเววจนานิ. การณฺหิ เตน ตสฺส ผลํ หิโนติ ปวตฺตตีติ เหตุ. ตํ ตํ ปฏิจฺจ ผลํ เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโย. ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ ทสฺเสนฺตํ วิย อตฺตโน ผลํ นิเทตีติ นิทานํ.
‘‘ตํการณาติ อการณนิกฺการณปฏิเสโธ. ตํเหตูติ อเหตุมหาภูตเหตุปฏิเสโธ. ตปฺปจฺจยาติ อปฺปจฺจเยน สทฺธึ อสาธารณปจฺจยปฏิเสโธ ¶ . ตํนิทานาติ อนิทาเนน สห อาคมาธิคมนิทานปฏิเสโธ’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เอตํ อาทีนวํ สมฺปสฺสมาโนติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ อุปทฺทวํ วิปสฺสนาาเณน สมฺมา ปสฺสมาโน ทกฺขมาโน.
สทาติ มูลปทํ. ปุน สทาติ อตฺถปทํ. สทาติ สพฺพทิวเส. สพฺพทาติ สพฺพสฺมึ กาเล. สพฺพกาลนฺติ ปุพฺพณฺหาทิสพฺพกาลํ. นิจฺจกาลนฺติ ทิวเส ทิวเส. ธุวกาลนฺติ อพฺโพจฺฉินฺนกาลํ. สตตนฺติ นิรนฺตรํ. สมิตนฺติ เอกีภูตํ. อพฺโพกิณฺณนฺติ อฺเน อสมฺมิสฺสํ. โปงฺขานุโปงฺขนฺติ ปฏิปาฏิยา ฆฏิตํ ‘‘โปงฺขานุโปงฺขํ อวิราธิตํ ¶ อุปฏฺาตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๑๑๕) วิย. อุทกูมิกชาตนฺติ นิพฺพตฺตอุทกอูมิตรงฺคํ วิย. อวีจีติ อวิรฬํ. สนฺตตีติ อนุปจฺฉินฺนํ. สหิตนฺติ ฆฏิตํ เอกีภูตํ วา ‘‘สหิตํ เม, อสหิตํ เต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๐๒) วิย. ผสฺสิตนฺติ ผุสิตํ ‘‘นิวาเต ผุสิตคฺคเล’’ติอาทีสุ วิย. ปุเรภตฺตํ ปจฺฉาภตฺตนฺติ ทฺเว ปทานิ ทิวากาลวิภาควเสน. ปุริมํ ยามํ มชฺฌิมํ ยามํ ปจฺฉิมํ ยามนฺติ ตีณิ รตฺติวิภาควเสน. กาเฬ ชุณฺเหติ อฑฺฒมาสวเสน. วสฺเส…เป… คิมฺเหติ ตีณิ อุตุวเสน. ปุริเม วโยขนฺเธ…เป… ปจฺฉิเม วโยขนฺเธติ ตีณิ วโยวิภาควเสน วุตฺตานีติ าตพฺพํ.
สโตติ จตูหิ การเณหิ สโต. ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ภาเวนฺโต สโต’’ติอาทีนิ ‘‘เอวํ สมุจฺเฉทโต กาเม ปริวชฺเชยฺยา’’ติ ปริโยสานานิ วุตฺตตฺถาเนว. อปิ ¶ จ สตฺตตฺตา สโตติ ตีสุ วตฺถูสุ สตฺตภาเวน วา ตโย กิเลเส ปฏิกฺกมาเปตุํ สตฺติภาเวน วา สตตฺตา สโต. สนฺตตฺตาติ กิเลโสปกฺกิเลเส ปลาเปตฺวา าเนน จ อารมฺมเณน จ ปโมเจตฺวา สนฺตตฺตา สโต. สมิตตฺตาติ อิฏฺผลทายกปฺุเน จ อนิฏฺผลทายกปาเปน จ สมิตตฺตา สโต. สนฺตธมฺมสมนฺนาคโตติ สปฺปุริสธมฺเม ภชนโต พุทฺธาทิอริยปุคฺคเล เสวนโต สนฺตธมฺมสมนฺนาคตตฺตา สโต.
วตฺถุกาเม ปริชานิตฺวาติ เอเต วุตฺตปฺปกาเร เตภูมเก วตฺถุกาเม ตีรณปริฺาย ชานิตฺวา. ปหายาติ กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ¶ ปริจฺจชิตฺวา. ปชหิตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา. กึ กจวรํ วิย ปิฏเกนาติ? น หิ, อปิ จ โข ตํ วิโนเทตฺวา ตริตฺวา วิชฺฌิตฺวา นีหริตฺวา. กึ พลิพทฺทมิว ปโตเทนาติ ¶ ? น หิ, อถ โข ตํ พฺยนฺตึ กริตฺวา วิคตนฺตํ กริตฺวา. ยถาสฺส อนฺโตปิ นาวสิสฺสติ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ, ตถา ตํ กริตฺวา. กถํ ปน ตํ ตถา กตนฺติ? อนภาวํ คเหตฺวา อนุ อภาวํ คเมตฺวา. สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ยถา สมุจฺฉินฺนา โหติ, ตถา กริตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย กามจฺฉนฺทนีวรณาทีสุ.
กาโมฆนฺติอาทีสุ ปฺจกามคุณิกราโค อวสีทนฏฺเน ‘‘กาโมโฆ’’ติ วุจฺจติ. ภโวโฆติ รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ฌานนิกนฺติ จ. ทิฏฺโโฆติ สสฺสตทิฏฺาทิสหคตา ภเว ปตฺถนาเยว, ทิฏฺโโฆ ภโวเฆ เอว สโมธานํ คจฺฉติ. อวิชฺโชโฆ จตูสุ สจฺเจสุ อฺาณํ. ตตฺถ กามคุเณ อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ กาโมโฆ สํวฑฺฒติ. มหคฺคตธมฺเม อสฺสาทโต มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน จ ภโวโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒติ. เตภูมกธมฺเมสุ จตุวิปลฺลาสปทฏฺานภาเวน อนุปฺปนฺโน จ อวิชฺโชโฆ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สํวฑฺฒตีติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตนยปจฺจนีกโต สุกฺกปกฺโข วิตฺถาเรตพฺโพ.
อปฺปณิหิตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน กาโมฆํ, อนิมิตฺตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน ภโวฆํ, สฺุตวิโมกฺขํ ปฏิปนฺโน อวิชฺโชฆฺจ ตเรยฺย. ปมมคฺควเสน ตเรยฺย, ทุติยมคฺควเสน อุตฺตเรยฺย, ตติยมคฺควเสน ปตเรยฺย, จตุตฺถมคฺควเสน สมติกฺกเมยฺย, ผลวเสน วีติวตฺเตยฺยาติ. อถ วา ‘‘กาโมฆวเสน ตเรยฺย, ภโวฆวเสน อุตฺตเรยฺย, ทิฏฺโฆวเสน ปตเรยฺย, อวิชฺโชฆวเสน สมติกฺกเมยฺย, สพฺโพฆวเสน วีติวตฺเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ครุกนฺติ น สลฺลหุกํ. ภาริกนฺติ ภารภณฺฑํ เอตฺถ ปยนฺตีติ ภาริกํ. อุทกํ สิตฺวาติ ¶ อุทกํ ¶ สิฺจิตฺวา. โอสิฺจิตฺวาติ อติเรกํ สิฺจิตฺวา. ฉฑฺเฑตฺวาติ ปาเตตฺวา. ลหุกายาติ สลฺลหุกาย. ขิปฺปนฺติ สีฆํ. ลหุนฺติ ตํขณํ. อปฺปกสิเรเนวาติ นิทุกฺเขเนว. ปารํ วุจฺจติ อมตํ นิพฺพานนฺติ สกฺกายโอรโต ปารภูตํ ปารํ. ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ ¶ กถียติ. โยโสติ โย เอโส. สพฺพสงฺขารสมโถติอาทิ สพฺพํ นิพฺพานเมว. ยสฺมา หิ ตํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารวิปฺผนฺทิตานิ สมนฺติ วูปสมนฺติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพสงฺขารสมโถ’’ติ วุจฺจติ. ยสฺมา เจตํ อาคมฺม สพฺเพ อุปธโย ปฏินิสฺสฏฺา โหนฺติ, สพฺพา ตณฺหา ขียนฺติ, สพฺเพ กิเลสรชฺชา วิรชฺชนฺติ, สพฺพํ ทุกฺขํ นิรุชฺฌติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค, ตณฺหกฺขโย, วิราโค, นิโรโธ’’ติ วุจฺจติ. ยา ปเนสา ตณฺหา ภเวน ภวํ, ผเลน วา สทฺธึ กมฺมํ วินติ สํสิพฺพตีติ กตฺวา วานนฺติ วุจฺจติ, ตโต นิกฺขนฺตํ วานโตติ นิพฺพานํ. ปารํ คจฺเฉยฺย นิมิตฺตวเสน เอกโต วุฏฺานโคตฺรภุาเณน นิพฺพานปารํ ปาปุเณยฺย. อธิคจฺเฉยฺย นิมิตฺตปวตฺเตหิ อุภโตวุฏฺานมคฺคาเณน นิพฺพานปารํ วิเสเสน ปาปุเณยฺย. ผุเสยฺย นิพฺพานารมฺมณผลจิตฺตวเสน นิพฺพานปารํ ผุเสยฺย. สจฺฉิกเรยฺย คุณวเสน ผุสิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน นิพฺพานปารํ ปจฺจกฺขํ กเรยฺย. อถ วา ‘‘ปมมคฺเคน ปารํ คจฺเฉยฺย, ทุติเยน อธิคจฺเฉยฺย, ตติเยน ผุเสยฺย, จตุตฺเถน สจฺฉิ กเรยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. โยปิ ปารํ คนฺตุกาโมติ โย โกจิ วิปสฺสนาาเณ ิโต ปุคฺคโล นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม, โสปิ อวสฺสํ ตตฺถ คมิสฺสตีติ ปารคู. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โอติณฺโณมฺหิ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหี’’ติอาทิ ¶ . ปุพฺพภาเค อชฺฌาสยวเสน วิปสฺสนาโยเคน จ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คจฺฉตีติ โยปิ มคฺคสมงฺคี นิพฺพานปารํ คจฺฉติ, โสปิ ปารคู นาม. โยปิ ปารํ คโตติ โยปิ มคฺเคน กิจฺจํ นิฏฺาเปตฺวา ผเล ิโต นิพฺพานปารงฺคโต, โสปิ ปารคู นาม.
ตํ ชินวจเนน ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เหตํ ภควตา – ติณฺโณ ปารงฺคโต ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติอาทิมาห. อภิฺาปารคูติ อธิคเตน าเณน าตปริฺาย นิพฺพานปารํ คนฺตุกาโม คจฺฉติ, คโตติ ปารคู. ปริฺาปารคูติ สพฺพธมฺมานํ ตีรณปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. ปหานปารคูติ สมุทยปกฺขิกานํ กิเลสานํ ปหานปริฺาย สมติกฺกมิตฺวา วุตฺตนเยน ปารคู. โย หิ สพฺพธมฺมํ ปริชานาติ, โส ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานาติ าตปริฺาย ตีรณปริฺาย ปหานปริฺายาติ. ตตฺถ กตมา าตปริฺา? สพฺพธมฺมํ ชานาติ ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา, อิเม พาหิรา, อิทมสฺส ลกฺขณํ, อิมานิ รสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ, อยํ ¶ าตปริฺา. กตมา ตีรณปริฺา? เอวํ าตํ กตฺวา ลพฺภมานวเสน สพฺพธมฺมํ ตีเรติ ‘‘อนิจฺจโต ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๑๒๒), อยํ ¶ ตีรณปริฺา. กตมา ปหานปริฺา? เอวํ ตีรยิตฺวา อคฺคมคฺเคน ธมฺเมสุ ฉนฺทราคํ ปชหติ, อยํ ปหานปริฺาติ. อิมา ปริฺาโย สนฺธาย ‘‘โส อภิฺาปารคู ปริฺาปารคู ปหานปารคู’’ติ อาห.
ภาวนาปารคูติ ภาวนาย โกฏึ ปตฺวา มคฺควเสน นิพฺพานปารํ คโต. สจฺฉิกิริยาปารคูติ ผลนิพฺพานวเสน สจฺฉิ กิริยาผลนิพฺพานปารํ คโต. สมาปตฺติปารคูติ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ปารํ ปตฺโต. สพฺพธมฺมานนฺติ ปฺจกฺขนฺธาทิสพฺพธมฺมานํ. สพฺพทุกฺขานนฺติ ชาติทุกฺขาทิสพฺพทุกฺขานํ. สพฺพกิเลสานนฺติ กายทุจฺจริตาทิสพฺพกิเลสานํ. อริยมคฺคานนฺติ โสตาปตฺติมคฺคาทิจตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ¶ . นิโรธสฺสาติ นิพฺพานสฺส. สพฺพสมาปตฺตีนนฺติ สพฺพาสมฺปิ อฏฺนฺนํ รูปารูปสมาปตฺตีนํ. โสติ โส อริโย. วสิปฺปตฺโตติ วสีภาวปฺปตฺโต. อถ วา กนฺตภาวํ อิสฺสริยภาวํ นิปฺผนฺนภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ ปารมีติ อวสานํ นิฏฺานํ, อุตฺตมภาวํ วา ตํ ปตฺโต. กตฺถ ปตฺโตติ อาห ‘‘อริยสฺมึ สีลสฺมิ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อริยสฺมึ สีลสฺมินฺติ นิทฺโทเส สีลสฺมึ. อริยสฺมึ สมาธิสฺมินฺติ นิทฺโทเส สมาธิสฺมึ. อริยาย ปฺายาติ นิทฺโทสาย ปฺาย. อริยาย วิมุตฺติยาติ นิทฺโทสาย ผลวิมุตฺติยา. ปุริเมน วาจากมฺมนฺตาชีวา คหิตา, ทุติเยน วายามสติสมาธโย คหิตา, ตติเยน วิตกฺกสมฺมาทิฏฺิโย คหิตา, จตุตฺเถน ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมา คหิตาติ เวทิตพฺพา.
อนฺตคโตติ มคฺเคน สงฺขารโลกนฺตํ คโต. อนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกนฺตํ ผเลน ปตฺโต. โกฏิคโตติ มคฺเคน สงฺขารโกฏึ คโต. โกฏิปฺปตฺโตติ ตเมว โกฏึ ผเลน ปตฺโต. ปริยนฺตคโตติ มคฺเคน ขนฺธายตนาทิโลกปริยนฺตํ ปริจฺเฉทํ ปริวฏุมํ กตฺวา คโต. ปริยนฺตปฺปตฺโตติ ตเมว โลกํ ผเลน ปริยนฺตํ กตฺวา ปตฺโต. โวสานคโตติ มคฺเคน อวสานํ คโต. โวสานปฺปตฺโตติ ผเลน อวสานํ ปตฺโต. ตาณคโตติ มคฺเคน ตายนํ คโต. ตาณปฺปตฺโตติ ผเลน ตายนํ ปตฺโต. เลณคโตติ มคฺเคน นิลียนํ คโต. เลณปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน นิลียนํ ปตฺโต. สรณคโตติ มคฺเคน ปติฏฺํ คโต. สรณปฺปตฺโตติ ผเลน สรณํ ปตฺโต ¶ . อภยคโตติ มคฺเคน นิพฺภยํ คโต. อภยปฺปตฺโตติ ผเลน นิพฺภยํ นิพฺพานํ ปตฺโต. อจฺจุตคโตติ จุติวิรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อจฺจุตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. อมตคโตติ มรณรหิตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. อมตปฺปตฺโตติ ตํ ผเลน ปตฺโต. นิพฺพานคโตติ ตณฺหาวานโต นิกฺขนฺตํ นิพฺพานํ มคฺเคน คโต. นิพฺพานปฺปตฺโตติ ตเมว ผเลน ปตฺโต. โส ¶ วุฏฺวาโสติ โส อรหา ทสสุ อริยวาเสสุ วสิ ปริวสิ วุฏฺโ วุฏฺาติ จ วุฏฺวาโส. จิณฺณจรโณติ สีเลน สห อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ จิณฺณวสีติ จิณฺณจรโณ. คตทฺโธติ สํสารทฺธานํ ¶ อติกฺกนฺโต. คตทิโสติ สุปินนฺเตนปิ อคตปุพฺพํ นิพฺพานทิสํ คโต. คตโกฏิโกติ อนุปาทิเสสนิพฺพานโกฏึ คโต หุตฺวา ิโต. ปาลิตพฺรหฺมจริโยติ รกฺขิตพฺรหฺมจริโย. อุตฺตมทิฏฺิปฺปตฺโตติ อุตฺตมํ สมฺมาทิฏฺึ ปตฺโต. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ อกุปฺปํ อจลนํ อรหตฺตผลํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. สจฺฉิกตนิโรโธติ นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตฺวา ิโต.
ทุกฺขํ ตสฺส ปริฺาตนฺติ ติวิธํ ทุกฺขํ เตน สมติกฺกมิตฺวา ปริจฺฉินฺนํ. อภิฺเยฺยนฺติ สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภเนน อากาเรน ชานิตพฺพํ. อภิฺาตนฺติ อธิเกน าเณน าตํ. ปริฺเยฺยนฺติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน กิจฺจสมาปนฺนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ปริชานิตพฺพํ. ปริฺาตนฺติ สมนฺตโต าตํ. ภาเวตพฺพนฺติ วฑฺเฒตพฺพํ. สจฺฉิกาตพฺพนฺติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพํ. ทุวิธา หิ สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จาติ.
อุกฺขิตฺตปลิโฆติ เอตฺถ ปลิโฆติ วฏฺฏมูลิกา อวิชฺชา. อยฺหิ ทุกฺขิปนฏฺเน ‘‘ปลิโฆ’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อุกฺขิตฺตตฺตา ‘‘อุกฺขิตฺตปลิโฆ’’ติ วุตฺโต. สํกิณฺณปริโขติ ปริขา วุจฺจติ ปุนพฺภวทายโก ภเวสุ ชายนวเสน เจว สํสรณวเสน จ ‘‘ชาติสํสาโร’’ติ ลทฺธนามานํ ปุนพฺภวกฺขนฺธานํ ปจฺจโย กมฺมาภิสงฺขาโร. โส หิ ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติกรณวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตตฺตา ‘‘ปริขา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา สํกิณฺณตฺตา วิกิณฺณตฺตา ‘‘สํกิณฺณปริโข’’ติ วุตฺโต. อพฺพูฬฺเหสิโกติ เอสิกาติ วฏฺฏมูลิกา ตณฺหา. อยฺหิ คมฺภีรานุคตฏฺเน ‘‘เอสิกา’’ติ วุจฺจติ. เตเนส ตสฺสา อพฺพูฬฺหตฺตา ลฺุจิตฺวา ฉฑฺฑิตตฺตา ‘‘อพฺพูฬฺเหสิโก’’ติ ¶ วุจฺจติ. นิรคฺคโฬติ อคฺคฬํ วุจฺจนฺติ โอรมฺภาคชนกานิ กามภเว อุปฺปตฺติปจฺจยานิ โอรมฺภาคิยานิ. เอตานิ หิ มหากวาฏํ วิย นครทฺวารํ จิตฺตํ ปิทหิตฺวา ิตตฺตา ‘‘อคฺคฬ’’นฺติ วุจฺจนฺติ ¶ . เตเนส เตสํ นิรคฺคฬตฺตา ภินฺนตฺตา ‘‘นิรคฺคโฬ’’ติ วุตฺโต. อริโยติ นิกฺกิเลโส ปริสุทฺโธ. ปนฺนทฺธโชติ ปาติตมานทฺธโช. ปนฺนภาโรติ ขนฺธภารกิเลสภารอภิสงฺขารภารปฺจกามคุณภารา ปนฺนา โอโรปิตา อสฺสาติ ปนฺนภาโร. อปิ จ อิธ มานภารสฺเสว โอโรปิตตฺตา ‘‘ปนฺนภาโร’’ติ อธิปฺเปโต. วิสํยุตฺโตติ จตูหิ โยเคหิ สพฺพกิเลเสหิ จ วิสํยุตฺโต. อิธ ปน มานโยเคเนว วิสํยุตฺตตฺตา ‘‘วิสํยุตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต.
เอตฺตาวตา เถเรน มคฺเคน กิเลเส เขเปตฺวา นิโรธสยนวรคตสฺส ขีณาสวสฺส นิพฺพานารมฺมณํ ¶ ผลสมาปตฺตึ อปฺเปตฺวา วิหรณกาโล ทสฺสิโต. ยถา หิ ทฺเว นครานิ เอกํ โจรนครํ, เอกํ เขมนครํ. อถ เอกสฺส มหาโยธสฺส เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺเชยฺย ‘‘ยาวิมํ โจรนครํ ติฏฺติ, ตาว เขมนครํ ภยโต น มุจฺจติ. โจรนครํ อนครํ กริสฺสามี’’ติ สนฺนาหํ กตฺวา ขคฺคํ คเหตฺวา โจรนครํ อุปสงฺกมิตฺวา นครทฺวาเร อุสฺสาปิเต เอสิกตฺถมฺเภ ขคฺเคน ฉินฺทิตฺวา สทฺธึ ทฺวารพาหาหิ กวาฏํ ภินฺทิตฺวา ปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ สํกิริตฺวา นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช ปาเตตฺวา นครํ อคฺคินา ฌาเปตฺวา เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาทมารุยฺห าติคณปริวุโต สุรสโภชนํ ภฺุเชยฺย. เอวํ โจรนครํ วิย สกฺกาโย, เขมนครํ วิย นิพฺพานํ, มหาโยโธ วิย โยคาวจโร. ตสฺเสวํ โหติ ‘‘ยาว สกฺกายวฏฺฏํ วฏฺฏติ, ตาว ทฺวตฺตึสกมฺมการเณหิ อฏฺนวุติโรเคหิ ปฺจวีสติมหพฺภเยหิ จ ปริมุจฺจนํ นตฺถี’’ติ. โส มหาโยโธ วิย สนฺนาหํ สีลสนฺนาหํ กตฺวา ปฺาติณฺหขคฺคํ คเหตฺวา ขคฺเคน เอสิกตฺถมฺเภ วิย อรหตฺตมคฺเคน ตณฺเหสิกํ ฉินฺทิตฺวา, โส โยโธ สทฺวารพาหกํ นครกวาฏํ วิย ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนคฺคฬํ อุคฺโฆเฏตฺวา, โส โยโธ ปลิฆํ วิย อวิชฺชาปลิฆํ อุกฺขิปิตฺวา, โส โยโธ ปาการํ ภินฺทนฺโต ปริขํ ¶ วิย กมฺมาภิสงฺขารปาการํ ภินฺทนฺโต ชาติสํสารปริขํ สํกิริตฺวา, โส โยโธ นครโสภนตฺถาย อุสฺสาปิเต ธเช วิย มานทฺธเช ¶ ปาเตตฺวา สกฺกายนครํ ฌาเปตฺวา, โส โยโธ เขมนครํ ปวิสิตฺวา อุปริปาสาเท สุรสโภชนํ ภฺุชนฺโต วิย นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา อมตนิโรธารมฺมณํ ผลสมาปตฺติสุขํ อนุภวมาโน กาลํ วีตินาเมติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (อ. นิ. ๕.๗๑) –
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อวิชฺชา ปหีนา โหติ อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมา. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุกฺขิตฺตปลิโฆ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โปโนภวิโก ชาติสํสาโร ปหีโน โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สํกิณฺณปริโข โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ตณฺหา ปหีนา โหติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อพฺพูฬฺเหสิโก โหติ.
‘‘กถฺจ ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปฺโจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ ปหีนานิ โหนฺติ…เป… เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ นิรคฺคโฬ โหติ.
‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อสฺมิมาโน ปหีโน โหติ อุจฺฉินฺนมูโล ตาลาวตฺถุกโต อนภาวํกโต อายตึ อนุปฺปาทธมฺโม. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อริโย ปนฺนทฺธโช ปนฺนภาโร วิสํยุตฺโต โหติ (อ. นิ. ๕.๗๑).
‘‘เอวํ วิมุตฺตจิตฺตํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุํ สอินฺทา เทวา สพฺรหฺมกา สปชาปติกา อนฺเวสํ นาธิคจฺฉนฺติ ‘อิทํนิสฺสิตํ ตถาคตสฺส วิฺาณ’’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๔๖).
ปฺจงฺควิปฺปหีโนติ กามจฺฉนฺทาทิปฺจงฺคานิ วิวิเธหิ อุปาเยหิ ปชหิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส ¶ , ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุโน กามจฺฉนฺโท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถินมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา ¶ โหติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปฺจงฺควิปฺปหีโน โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
ฉฬงฺคสมนฺนาคโตติ ฉนฺนํ องฺคานํ ปูเรตฺวา ฉสุ ทฺวาเรสุ รูปาทิอารมฺมเณ ปฏิฆานุนยํ วชฺเชตฺวา อุเปกฺขาวเสน สโต สมฺปชาโน หุตฺวา วิหรณวเสน ฉฬงฺคานิ ปูเรตฺวา ปริปุณฺณํ กตฺวา ิตตฺตา ‘‘ฉฬงฺคสมนฺนาคโต’’ติ วุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา, ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา, มนสา ธมฺมํ วิฺาย เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก วิหรติ สโต สมฺปชาโน. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉฬงฺคสมนฺนาคโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
เอการกฺโขติ ¶ สติอารกฺเขน เอโก อุตฺตโม อารกฺโข อสฺสาติ เอการกฺโข. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สตารกฺเขน เจตสา สมนฺนาคโต วิหรติ. เอวํ โข, อาวุโส, ภิกฺขุ เอการกฺโข โหตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐).
จตุราปสฺเสโนติ ปฺาย ปฏิเสวนปริวชฺชนวิโนทนปชหนานํ วเสน จตุนฺนํ อปสฺสยานํ อิโต จิโต จ อปริวตฺตมานานํ วเสน จตุราปสฺเสโน, เตสํ ปาปุณิตฺวา ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘กถฺจาวุโส, ภิกฺขุ จตุราปสฺเสโน โหติ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สงฺขาเยกํ ปฏิเสวติ, สงฺขาเยกํ ปริวชฺเชติ. สงฺขาเยกํ ¶ วิโนเทติ, สงฺขาเยกํ ปชหตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๔๘, ๓๖๐) นเยน วิตฺถาเรตพฺพํ.
ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจติ ‘‘อิทเมว ทสฺสนํ สจฺจํ, อิทเมว สจฺจ’’นฺติ เอวํ ปาฏิเอกฺกํ คหิตตฺตา ปจฺเจกสงฺขาตานิ ทิฏฺิสจฺจานิ ปณุนฺนานิ นิหฏานิ ปหีนานิ อสฺสาติ ปณุนฺนปจฺเจกสจฺโจ.
สมวยสฏฺเสโนติ เอตฺถ อวยาติ อนูนา. สฏฺาติ วิสฺสฏฺา. สมฺมา อวยา สฏฺา เอสนา อสฺสาติ สมวยสฏฺเสโน. สมฺมา วิสฺสฏฺสพฺพเอสโนติ อตฺโถ. เกวลีติ ¶ ปริปุณฺโณ. วุสิตวาติ วุสิตพฺรหฺมจริโย, ครุสํวาเส อริยมคฺเคปิ ทสสุ อริยวาเสสุปิ วุสิตวนฺโต. อุตฺตมปุริโสติ ขีณกิเลสตฺตา วิเสสปุริโส อาชฺปุริโส. ปรมปุริโสติ อุตฺตมปุริโส, ปรมํ วา ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา อุตฺตมํ ปตฺตพฺพํ อรหตฺตปฏิลาภํ ปตฺโต อนุตฺตรปฺุกฺเขตฺตภูโต อุตฺตมปุริโส, เตเนวตฺเถน ปรมปุริโส. อนุตฺตรํ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตุํ อมตํ ปฏิลาภํ ปตฺตตฺตา ปรมปตฺติปฺปตฺโต. อถ วา ‘‘ฆราวาเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา สาสนปวิสนวเสน อุตฺตมปุริโส. อตฺตภาเว อาทีนวํ สฺชานิตฺวา วิปสฺสนาปวิสนวเสน ปรมปุริโส. กิเลเส อาทีนวํ สฺชานิตฺวา อริยภูมนฺตรํ ปวิฏฺโ ปรมปตฺติปฺปตฺโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
เนวาจินตีติ ¶ กุสลากุสลานํ ปหีนตฺตา เตสํ วิปากํ น วฑฺเฒติ. นาปจินตีติ ผเล ิตตฺตา น วิทฺธํเสติ. อปจินิตฺวา ิโตติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปหาเน ิตตฺตา กิเลเส วิทฺธํเสตฺวา ิโต. อิโต ปรํ ตีหิปิ ปเทหิ มคฺคผลวเสเนว โยเชตพฺพํ. เนว ปชหตีติ ปหาตพฺพาภาเวน กิเลเส น ปชหติ. น อุปาทิยตีติ ตณฺหามานทิฏฺีหิ คเหตพฺพาภาวโต เตหิ น คณฺหาติ. ปชหิตฺวา ิโตติ จชิตฺวา ิโต. เนว สํสิพฺพตีติ ตณฺหาวเสน เนว สํสิพฺพติ. น อุสฺสิเนตีติ มานวเสน น อุกฺกํสติ. วิสินิตฺวา ิโตติ ตณฺหาสํสีวนํ อกตฺวา ิโตติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. เนว วิธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น นิพฺพาเปติ. น สนฺธูเปตีติ กิเลสคฺคึ น ชาลาเปติ. วิธูเปตฺวา ิโตติ ตํ นิพฺพาเปตฺวา ิโต.
อเสกฺเขน ¶ ¶ สีลกฺขนฺเธนาติ สิกฺขิตพฺพาภาเวน อเสกฺเขน วาจากมฺมนฺตาชีวสีลกฺขนฺเธน สีลราสินา สมนฺนาคตตฺตา ิโต, อปริหีนภาเวน ิโต. สมาธิกฺขนฺเธนาติ วายามสตีหิ สมฺปยุตฺเตน สมาธินา. วิมุตฺติกฺขนฺเธนาติ ผลวิมุตฺติสมฺปยุตฺตกฺขนฺเธน. วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธนาติ ปจฺจเวกฺขณาเณน. สจฺจํ สมฺปฏิปาทิยิตฺวาติ จตุอริยสจฺจํ สภาววเสน สกสนฺตาเน สมฺปาทิยิตฺวา ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิโต. เอชํ สมติกฺกมิตฺวาติ กมฺปนตณฺหํ อติกฺกมิตฺวา. กิเลสคฺคินฺติ ราคาทิกิเลสคฺคึ. ปริยาทิยิตฺวาติ เขเปตฺวา นิพฺพาเปตฺวา. อปริคมนตายาติ สํสาเร อคมนภาเวน ปุนาคมนาภาเวนาติ อตฺโถ. กฏํ สมาทายาติ ชยคฺคาหํ คเหตฺวา. มุตฺติปฏิเสวนตายาติ สพฺพกิเลเสหิ มุจฺจิตฺวา รูปาทิอารมฺมณเสวนวเสน. อถ วา สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตผลสมาปตฺติเสวนวเสน. เมตฺตาย ปาริสุทฺธิยาติ อุปกฺกิเลสมุตฺตาย ปริสุทฺธภาเว ิตาย เมตฺตาย ิโต. กรุณาทีสุปิ เอเสว นโย.
อจฺจนฺตปาริสุทฺธิยาติ อติกฺกนฺตปริสุทฺธภาเวน ปริสุทฺธิยา อนฺตํ ปาปุณิตฺวา ิโต. อตมฺมยตายาติ ตณฺหาทิฏฺิมานา ‘‘ตมฺมยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เตสํ อภาโว อตมฺมยตา, ตาย ตณฺหาทิฏฺิมานวิรหิตตาย ิโต. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘โส ตาทิโส โลกวิทู สุเมโธ, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อตมฺมโย มุนี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๐). เอตฺถาปิ ตณฺหามานทิฏฺิวิรหิโตติ อตฺโถ. วิมุตฺตตฺตาติ สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตภาเวน. สนฺตุสฺสิตตฺตาติ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺภาเวน ิโต.
ขนฺธปริยนฺเตติ ¶ เอกจตุปฺจกฺขนฺธานํ ตีหิ ปริฺคฺคีหิ ฌาเปตฺวา อนฺเต อวสาเน ิโต ¶ , นตฺถิ เอตสฺส อนฺโตติ วา ปริยนฺตํ, ตสฺมึ ปริยนฺเต. ธาตุปริยนฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – ธาตุปริยนฺเตติ อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ ปริยนฺเต. อายตนปริยนฺเตติ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ. คติปริยนฺเตติ นิรยาทิปฺจนฺนํ คตีนํ. อุปปตฺติปริยนฺเตติ สุคติทุคฺคตีสุ นิพฺพตฺติยา. ปฏิสนฺธิปริยนฺเตติ กามรูปารูปภเวสุ ปฏิสนฺธิยา ¶ . ภวปริยนฺเตติ เอกโวการจตุปฺจสฺาอสฺาเนวสฺานาสฺากามรูปอรูปภวานํ. สํสารปริยนฺเตติ ขนฺธธาตุอายตนานํ อพฺโพจฺฉินฺนปวตฺติยา. วฏฺฏปริยนฺเตติ กมฺมวิปากกิเลสวฏฺฏานํ ปริยนฺเต. อนฺติเม ภเวติ อวสาเน อุปปตฺติภเว. อนฺติเม สมุสฺสเย ิโตติ อวสาเน สมุสฺสเย สรีเร ิโต. อนฺติมเทหธโรติ อนฺติมํ อวสานเทหํ สรีรํ ธาเรตีติ อนฺติมเทหธโร. อรหาติ อารกตฺตา อรีนํ, อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา อรหา.
ตสฺสายํ ปจฺฉิมโกติ ตสฺส ขีณาสวสฺส อยํ สมุสฺสโย อตฺตภาโว อวสาโน. จริโมติ อปฺโป มนฺโท จริโม อาโลโป, จริมํ กพฬํ วิย. ปุน ปฏิสนฺธิยา นตฺถิภาวํ สนฺธาย ‘‘ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว’’ติ อาห. ชนนํ ชาติ, มรนฺติ เตนาติ มรณํ, ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนา สํสารปวตฺติ จ ตสฺส ขีณาสวสฺส ปุน นตฺถีติ วุตฺตํ คาถํ นิคเมนฺโต อาห เตนาห ภควา –
‘‘ตสฺมา ชนฺตุ…เป… นาวํ สิตฺวาว ปารคู’’ติ.
อิมสฺมึ สุตฺเต ยํ อนฺตรนฺตรา น วุตฺตํ, ตํ ปาานุสาเรน คเหตพฺพํ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
กามสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.