📜
๒. คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๗. ทุติเย ¶ ¶ – สตฺโตติ ลคฺโค. คุหายนฺติ กาเย. กาโย หิ ราคาทีนํ วาฬานํ วสโนกาสโต ‘‘คุหา’’ติ วุจฺจติ. พหุนาภิฉนฺโนติ พหุนา ราคาทิกิเลสชาเตน อภิจฺฉนฺโน. เอเตน อชฺฌตฺตพนฺธนํ วุตฺตํ. ติฏฺนฺติ ราคาทิวเสน ติฏฺนฺโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺโหติ โมหนํ วุจฺจติ กามคุโณ. เอตฺถ หิ เทวมนุสฺสา มุยฺหนฺติ เตสุ อชฺโฌคาฬฺหา หุตฺวา; เอเตน พาหิรพนฺธนํ วุตฺตํ. ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ โสติ โส ตถารูโป นโร ติวิธาปิ กายวิเวกาทิวิเวกา ทูเร ¶ , อนาสนฺเน. กึการณา? กามา หิ โลเก น หิ สุปฺปหายาติ ยสฺมา โลเก กามา สุปฺปหายา น โหนฺติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ.
สตฺโตติ หิ โข วุตฺตนฺติ ‘‘สตฺโต, นโร, มานโว’’ติ เอวมาทินา นเยน กถิโตเยว. คุหา ตาว วตฺตพฺพาติ คุหา ตาว กเถตพฺพา. กาโยติ วาติอาทีสุ อยํ ตาว ปทโยชนา – กาโย อิติ วา คุหา อิติ วา…เป… กุมฺโภ อิติ วาติ. ตตฺถ กาโยติ ‘‘กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย’’ติอาทินา เหฏฺา สติปฏฺานกถายํ วุตฺโตเยว. ราคาทิวาฬานํ วสโนกาสฏฺเน คุหา, ‘‘ปฏิจฺฉาทนฏฺเนา’’ติปิ เอเก. ‘‘ทูรงฺคมํ เอกจรํ, อสรีรํ คุหาสย’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๗) วิย. ราคาทีหิ ฌาปนฏฺเน เทโห ‘‘เต หิตฺวา มานุสํ เทห’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๓๒ โถกํ วิสทิสํ) วิย. ปมตฺตกรณฏฺเน สนฺเทโห ‘‘ภิชฺชติ ปูติสนฺเทโห, มรณนฺตฺหิ ชีวิต’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. สํสาเร ¶ สฺจรณฏฺเน นาวา ‘‘สิฺจ ภิกฺขุ อิมํ นาวํ, สิตฺตา เต ลหุเมสฺสตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๓๖๙) วิย. อิริยาปถสฺส อตฺถิภาวฏฺเน รโถ ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร, ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) วิย. อจฺจุคฺคตฏฺเน ธโช ‘‘ธโช รถสฺส ปฺาณ’’นฺติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๘๔๑) วิย.
กิมิกุลานํ อาวาสภาเวน วมฺมิโก ‘‘วมฺมิโกติ โข, ภิกฺขุ, อิมสฺเสตํ จาตุมหาภูติกสฺส ¶ กายสฺส อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๑) วิย. ยเถว หิ พาหิรโก วมฺมิโก, วมติ วนฺตโก วนฺตุสฺสโย วนฺตสิเนหสมฺพทฺโธติ จตูหิ การเณหิ ‘‘วมฺมิโก’’ติ วุจฺจติ. โส หิ อหินกุลอุนฺทูรฆรโคฬิกาทโย นานปฺปกาเร ปาณเก วมตีติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตโกติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วมิตฺวา มุขตุณฺฑเกหิ อุกฺขิตฺตปํสุจุณฺเณน กฏิปฺปมาเณนปิ โปริสปฺปมาเณนปิ อุสฺสิโตติ วมฺมิโก. อุปจิกาหิ วนฺตเขฬสิเนเหน อาพทฺธตาย สตฺตสตฺตาหํ เทเว วสฺสนฺเตปิ น วิปฺปกิรียติ, นิทาเฆปิ ตโต ปํสุมุฏฺึ คเหตฺวา ¶ ตสฺมึ มุฏฺินา ปีฬิยมาเน สิเนโห นิกฺขมติ, เอวํ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติ วมฺมิโก. เอวมยํ กาโยปิ ‘‘อกฺขิมฺหา อคฺคิคูถโก’’ติอาทินา นเยน นานปฺปการํ อสุจิกลิมลํ วมตีติ วมฺมิโก. พุทฺธปจฺเจกพุทฺธขีณาสวา อิมสฺมึ อตฺตภาเว นิกนฺติปริยาทาเนน อตฺตภาวํ ฉฑฺเฑตฺวา คตาติ อริเยหิ วนฺตโกติปิ วมฺมิโก. เยหิ จายํ ตีหิ อฏฺิสเตหิ อุสฺสิโต นหารุสมฺพทฺโธ มํสาวเลปโน อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ ฉวิรฺชิโต สตฺเต วฺเจติ, ตํ สพฺพํ อริเยหิ วนฺตเมวาติ วนฺตุสฺสโยติปิ วมฺมิโก. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ, จิตฺตมสฺส วิธาวตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) เอวํ ตณฺหาย ชนิตตฺตา อริเยหิ วนฺเตเนว ตณฺหาสิเนเหน สมฺพทฺโธ อยนฺติ วนฺตสิเนเหน สมฺพทฺโธติปิ วมฺมิโก. ยถา จ วมฺมิกสฺส อนฺโต นานปฺปการา ปาณกา ตตฺเถว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ ¶ กโรนฺติ, คิลานา สยนฺติ, มตา นิปตนฺติ. อิติ โส เตสํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหติ. เอวํ ขตฺติยมหาสาลาทีนมฺปิ กาโย ‘‘อยํ โคปิตรกฺขิโต มณฺฑิตปสาทิโต มหานุภาวานํ กาโย’’ติ อจินฺเตตฺวา ฉวินิสฺสิตา ปาณา จมฺมนิสฺสิตา ปาณา มํสนิสฺสิตา ปาณา นหารุนิสฺสิตา ปาณา อฏฺินิสฺสิตา ปาณา อฏฺิมิฺชนิสฺสิตา ปาณาติ เอวํ กุลคณนาย อสีติมตฺตานิ กิมิกุลสหสฺสานิ อนฺโตกายสฺมึเยว ชายนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ, เคลฺเน อาตุริตานิ สยนฺติ, มตามตา นิปตนฺติ. อิติ อยมฺปิ เตสํ ปาณานํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหตีติ ‘‘วมฺมิโก’’ติ สงฺขํ คโต.
มนาปามนาปปตนฏฺเน นครํ ‘‘สกฺกายนคร’’นฺติอาทีสุ วิย. โรคาทีนํ นีฬภาเวน กุลาวกภาเวน นีฬํ ‘‘โรคนีฬํ ปภงฺคุร’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๑๔๘) วิย. ปฏิสนฺธิยา นิวาสเคหฏฺเน กุฏิ ‘‘ปฺจทฺวารายํ กุฏิกายํ ปสกฺกิยา’’ติอาทีสุ (เถรคา. ๑๒๕) วิย. ปูติภาเวน คณฺโฑ ‘‘โรโคติ ภิกฺขเว, คณฺโฑติ ภิกฺขเว, สลฺโลติ ภิกฺขเว, กายสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๑๕) วิย. ภิชฺชนฏฺเน กุมฺโภ ‘‘กุมฺภูปมํ กายมิมํ วิทิตฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๔๐) วิย. กายสฺเสตํ อธิวจนนฺติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ จตุมหาภูตมยสฺส กุจฺฉิตธมฺมานํ อายสฺส อธิวจนํ, กถนนฺติ อตฺโถ. คุหายนฺติ สรีรสฺมึ ¶ ¶ . สตฺโตติ อลฺลีโน. วิสตฺโตติ วณฺณราคาทิวเสน วิวิโธ อลฺลีโน. สณฺานราควเสน อาสตฺโต. ตตฺเถว ¶ ‘‘สุภํ สุข’’นฺติ คหณวเสน ลคฺโค. อตฺตคฺคหณวเสน ลคฺคิโต. ปลิพุทฺโธติ ผสฺสราควเสน อมฺุจิตฺวา ิโต. ภิตฺติขิเลติ ภิตฺติยํ อาโกฏิตขาณุเก. นาคทนฺเตติ ตเถว หตฺถิทนฺตสทิเส วงฺกทณฺฑเก. สตฺตนฺติ ภิตฺติขิเล ลคฺคํ. วิสตฺตนฺติ นาคทนฺเต ลคฺคํ. อาสตฺตนฺติ จีวรวํเส ลคฺคํ. ลคฺคนฺติ จีวรรชฺชุยา ลคฺคํ. ลคฺคิตนฺติ ปีปาเท ลคฺคํ. ปลิพุทฺธนฺติ มฺจปาเท ลคฺคนฺติ เอวมาทินา นเยน โยเชตพฺพํ.
ลคฺคนาธิวจนนฺติ วิเสเสน อลฺลียนกถนํ. ฉนฺโนติ วุตฺตปฺปกาเรหิ กิเลเสหิ ฉาทิโต. ปุนปฺปุนํ อุปฺปตฺติวเสน อุปรูปริ ฉนฺโนติ อุจฺฉนฺโน. อาวุโตติ อาวริโต. นิวุโตติ วาริโต. โอผุโตติ อวตฺถริตฺวา ฉาทิโต. ปิหิโตติ ภาชเนน อุกฺขลิมุขํ วิย ปลิคุณฺิโต. ปฏิจฺฉนฺโนติ อาวโฏ. ปฏิกุชฺชิโตติ อโธมุขํ ปิโต. ตตฺถ ติณปณฺณาทีหิ ฉาทิตํ วิย ฉนฺโน. อุจฺฉนฺโน นทึ อาวรณเสตุ วิย. อาวุโต ชนสฺจรณมคฺคาวรณํ วิย.
วินิพทฺโธ มานวเสนาติ นานาวิเธน มานาติมานวเสน นานาวิเธ อารมฺมเณ พทฺโธ หุตฺวา ติฏฺติ. ปรามฏฺโ ทิฏฺิวเสนาติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺีนํ วเสน ปรามฏฺโ อามสิตฺวา คหิโต. วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจวเสนาติ อารมฺมเณ อสนฺติฏฺนวเสน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺโต อุปคโต. อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉาวเสนาติ รตนตฺตยาทีสุ กงฺขาสงฺขาตาย วิจิกิจฺฉาย วเสน สนฺนิฏฺานํ อปฺปตฺโต. ถามคโต อนุสยวเสนาติ ทุนฺนีหรณอปฺปหีนานุสยวเสน ถิรภาวํ ปตฺโต อุปคโต หุตฺวา ติฏฺติ.
รูปูปยนฺติ ตณฺหาทิฏฺูปยวเสน รูปํ อุปคนฺตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺตีติ ตสฺมึ อารมฺมเณ รูปารมฺมณํ วิฺาณํ ติฏฺนฺตํ ติฏฺติ. รูปารมฺมณํ ¶ รูปปติฏฺนฺติ รูปเมว อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา รูปเมว ปติฏฺํ กตฺวา. นนฺทูปเสจนนฺติ สปฺปีติกตณฺโหทเกน อาสิตฺตํ วิฺาณํ. วุทฺธินฺติ วุทฺธิภาวํ. วิรูฬฺหินฺติ ชวนวเสน อุปริโต วิรูฬฺหิภาวํ. เวปุลฺลนฺติ ตทารมฺมณวเสน เวปุลฺลํ.
อตฺถิ ¶ ราโคติอาทีนิ โลภสฺเสว นามานิ. โส หิ รฺชนวเสน ราโค, นนฺทนวเสน นนฺที, ตณฺหายนวเสน ตณฺหาติ วุจฺจติ. ปติฏฺิตํ ตตฺถ วิฺาณํ วิรูฬฺหนฺติ กมฺมํ ชวาเปตฺวา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนสมตฺถตาย ปติฏฺิตฺเจว วิรูฬฺหฺจ. ยตฺถาติ เตภูมกวฏฺเฏ ภุมฺมํ. สพฺพตฺถ วา ปุริมปเท เอตํ ภุมฺมํ. อตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธีติ อิทํ อิมสฺมึ วิปากวฏฺเฏ ิตสฺส อายตึ ¶ วฏฺฏเหตุเก สงฺขาเร สนฺธาย วุตฺตํ. ยตฺถ อตฺถิ อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺตีติ ยสฺมึ าเน อายตึ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ อตฺถิ. ตตฺถ ปุริมสุตฺตํ รูปาทิอารมฺมณลคฺคนวเสน วุตฺตํ, ทุติยสุตฺตํ ตเทวารมฺมณํ อภินนฺทนวเสน วุตฺตํ, ตติยํ วิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตํ, จตุตฺถํ จตุพฺพิธอาหารวเสน, กุสลากุสลวิฺาณปติฏฺานวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ.
เยภุยฺเยนาติ ปาเยน. มุยฺหนฺตีติ โมหํ อาปชฺชนฺติ. สมฺมุยฺหนฺตีติ วิเสเสน มุยฺหนฺติ. สมฺปมุยฺหนฺตีติ สพฺพากาเรน มุยฺหนฺติ. อถ วา รูปารมฺมณํ ปฏิจฺจ มุยฺหนฺติ, สทฺทารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺมุยฺหนฺติ, มุตารมฺมณํ ปฏิจฺจ สมฺปมุยฺหนฺติ. อวิชฺชาย อนฺธีกตาติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณาย อวิชฺชาย อนฺธีกตา. ‘‘คตา’’ติ วา ปาโ, อนฺธภาวํ อุปคตาติ อตฺโถ. ปคาฬฺโหติ ปวิฏฺโ. โอคาฬฺโหติ เหฏฺาภาคํ ปวิฏฺโ. อชฺโฌคาฬฺโหติ อธิโอคาหิตฺวา อวตฺถริตฺวา วิเสเสน ปวิฏฺโ นิมุคฺโคติ อโธมุขํ หุตฺวา ปวิฏฺโ. อถ วา ทสฺสนสํสคฺเคน ¶ โอคาฬฺโห. สวนสํสคฺเคน อชฺโฌคาฬฺโห. วจนสํสคฺเคน นิมุคฺโค. สปฺปุริสสํสคฺควิรหิโต วา โอคาฬฺโห. สทฺธมฺมเสวนวิรหิโต วา อชฺโฌคาฬฺโห. ธมฺมานุธมฺมปฏิปตฺติวิรหิโต วา นิมุคฺโค.
วิเวกาติ วิวิตฺติ, วิวิจฺจนํ วา วิเวโก. ตโยติ คณนปริจฺเฉโท. กายวิเวโกติ กาเยน วิวิตฺติ, วินา อปสกฺกนํ. จิตฺตวิเวกาทีสุปิ เอเสว นโย. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน. สํสาเร ภยํ อิกฺขนโต ภิกฺขุ. วิวิตฺตนฺติ สฺุํ, อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสนฺติ อตฺโถ. เอตเทว หิ สนฺธาย วิภงฺเค ‘‘วิวิตฺตนฺติ สนฺติเก เจปิ เสนาสนํ โหติ, ตฺจ อนากิณฺณํ คหฏฺเหิ ปพฺพชิเตหิ, เตน ตํ วิวิตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๒๖) วุตฺตํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ, มฺจปีาทีนเมตมธิวจนํ. เตนาห –
‘‘เสนาสนนฺติ ¶ มฺโจปิ เสนาสนํ, ปีมฺปิ… ภิสิปิ… พิพฺโพหนมฺปิ… วิหาโรปิ… อฑฺฒโยโคปิ… ปาสาโทปิ… อฏฺโฏปิ… มาโฬปิ… เลณมฺปิ… คุหาปิ… รุกฺขมูลมฺปิ… เวฬุคุมฺโพปิ… ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, สพฺพเมตํ เสนาสน’’นฺติ (วิภ. ๕๒๗).
อปิ จ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหาติ อิทํ วิหารเสนาสนํ นาม. มฺโจ ปีํ ภิสิ พิพฺโพหนนฺติ อิทํ มฺจปีเสนาสนํ นาม. จิมิลิกา จมฺมขณฺโฑ ติณสนฺถาโร ปณฺณสนฺถาโรติ อิทํ สนฺถตเสนาสนํ นาม. ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺติ, อิทํ โอกาสเสนาสนํ ¶ นามาติ เอวํ จตุพฺพิธํ เสนาสนํ โหติ. ตํ สพฺพมฺปิ เสนาสนคฺคหเณน คหิตเมว.
อิธ ปนสฺส สกุณสทิสสฺส จาตุทฺทิสสฺส ภิกฺขุโน อนุจฺฉวิกเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺํ รุกฺขมูล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) อิทํ ภิกฺขุนีนํ วเสน อาคตํ. ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) อิทํ ¶ ปน อิมสฺส ภิกฺขุโน อนุรูปํ. ตสฺส ลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค ธุตงฺคนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๓๑) วุตฺตํ. รุกฺขมูลนฺติ ยํกิฺจิ สนฺตจฺฉายํ วิวิตฺตํ รุกฺขมูลํ. ปพฺพตนฺติ เสลํ. ตตฺถ หิ อุทกโสณฺฑีสุ อุทกกิจฺจํ กตฺวา สีตาย รุกฺขจฺฉายาย นิสินฺนสฺส นานาทิสาสุ ขายมานาสุ สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทาริตํ, อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ. ยํ ‘‘นทีตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกฺุช’’นฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสา วาลุกา โหติ, มตฺถเก มณิวิตานํ วิย วนคหนํ, มณิขนฺธสทิสํ อุทกํ สนฺทติ. เอวรูปํ กนฺทรํ โอรุยฺห ปานียํ ปิวิตฺวา คตฺตานิ สีตานิ กตฺวา วาลุกํ อุสฺสาเปตฺวา ปํสุกูลจีวรํ ปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานํ อนฺตรํ, เอกสฺมึเยว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. สุสานลกฺขณํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๓๔) วุตฺตํ.
วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวาห ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ (วิภ. ๕๓๑). อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ ¶ กตฺวา วสติ. ปลาลปฺุชนฺติ ปลาลราสึ. มหาปลาลปฺุชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสินฺนา สมณธมฺมํ กโรนฺติ. สพฺพเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กาเยน วิวิตฺโต วิหรตี’’ติอาทิ. เอโก จงฺกมํ อธิฏฺาติ ปวตฺตยตีติ วุตฺตํ โหติ. อิริยตีติ อิริยาปถํ วตฺตยติ. วตฺตตีติ อิริยาปถวุตฺตึ อุปฺปาเทติ. ปาเลตีติ อิริยาปถํ รกฺขติ. ยเปตีติ ยปยติ. ยาเปตีติ ยาปยติ.
ปมํ ¶ ฌานํ สมาปนฺนสฺสาติ กุสลชฺฌานสมงฺคิสฺส. นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ อุปจาเรน นีวรเณหิ วิวิตฺตมฺปิ สมานํ อนฺโตอปฺปนายํ สุฏฺุ วิวิตฺตํ นาม โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรเณหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. เอเสว นโย วิตกฺกวิจารปีติสุขทุกฺเขหิ ¶ ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ สมาปนฺนานนฺติ. รูปสฺายาติ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสนฺนํ รูปาวจรชฺฌานานํ สฺาย. ปฏิฆสฺายาติ จกฺขุรูปาทิสงฺฆฏฺฏเนน อุปฺปนฺนาย กุสลากุสลวิปากวเสน ทฺวิปฺจวิฺาณสงฺขาตาย ปฏิฆสฺาย จ. นานตฺตสฺายาติ นานารมฺมเณ ปวตฺตาย จตุจตฺตาลีสกามาวจรสฺาย จ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ สฺุํ โหติ.
อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺสาติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสํ อนนฺตํ อากาสานนฺตํ, อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ, ตํ อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส เทวานํ เทวายตนมิวาติ อากาสานฺจายตนํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาสารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส กุสลกิริยฌานํ สมาปนฺนสฺส. รูปสฺายาติ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานโต เจว ตทารมฺมณโต จ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ ‘‘รูป’’นฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุปิ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูเป สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส ¶ เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตาย กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสวิธาย ¶ ฌานสงฺขาตาย รูปสฺาย. เอตาย จ ปถวีกสิณาทิวเสน อฏฺวิธาย อารมฺมณสงฺขาตาย รูปสฺาย.
ปฏิฆสฺายาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา ปฏิฆสฺา? รูปสฺา สทฺทสฺา คนฺธสฺา รสสฺา โผฏฺพฺพสฺา, อิมา วุจฺจนฺติ ปฏิฆสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๓). ตา กุสลวิปากา ปฺจ อกุสลวิปากา ปฺจาติ เอตาย ปฏิฆสฺาย.
นานตฺตสฺายาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตาย สฺาย, นานตฺตาย วา สฺาย. ยถาห – ‘‘ตตฺถ กตมา นานตฺตสฺา? อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุสมงฺคิสฺส วา มโนวิฺาณธาตุสมงฺคิสฺส วา สฺา สฺชานนา สฺชานิตตฺตํ, อิมา วุจฺจนฺติ นานตฺตสฺาโย’’ติ (วิภ. ๖๐๔) เอวํ วิภงฺเค วิภชิตฺวา วุตฺตา. ตา อิธ อธิปฺเปตา. อสมาปนฺนสฺส มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุสงฺคหิตา สฺา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ. ยสฺมา เจสา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา ¶ , เอกาทส กามาวจรกิริยสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺํ อสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา, ตาย นานตฺตสฺาย.
จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺาปฏิฆสฺานานตฺตสฺาสงฺขาตาหิ สฺาหิ ฌานจิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ วินา โหติ อปสกฺกนํ โหติ. วิฺาณฺจายตนนฺติ เอตเทว วิฺาณํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ วิฺาณฺจายตนํ, อากาเส ปวตฺตวิฺาณารมฺมณสฺส ฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วุตฺตปฺปการาย อากาสานฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหติ.
อากิฺจฺายตนนฺติ ¶ เอตฺถ ปน นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนมสฺสาติ อากิฺจฺายตนํ, อากาเส ¶ ปวตฺติตวิฺาณาปคมารมฺมณฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตํ อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส ตาย วิฺาณฺจายตนสฺาย จิตฺตํ วิวิตฺตํ.
เนวสฺานาสฺายตนนฺติ เอตฺถ ปน ยาย สฺาย ภาวโต ตํ ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วุจฺจติ, ยถาปฏิปนฺนสฺส สา สฺา โหติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ วิภงฺเค (วิภ. ๖๒๐) ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ อุทฺธริตฺวา ตฺเว ‘‘อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิ กโรติ, สงฺขาราวเสสสมาปตฺตึ ภาเวติ, เตน วุจฺจติ เนวสฺีนาสฺี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สนฺตโต มนสิ กโรตีติ ‘‘สนฺโตวตายํ สมาปตฺติ, ยตฺร หิ นาม นตฺถิภาวมฺปิ อารมฺมณํ กริตฺวา วสตี’’ติ เอวํ สนฺตารมฺมณตาย นํ ‘‘สนฺตา’’ติ มนสิ กโรติ. ตํ เนวสฺานาสฺายตนํ อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ตาย อากิฺจฺายตนสฺาย ฌานจิตฺตํ สฺุํ โหติ.
โสตาปนฺนสฺสาติ โสตาปตฺติผลํ ปตฺตสฺส. สกฺกายทิฏฺิยาติ วีสติวตฺถุกาย สกฺกายทิฏฺิยา. วิจิกิจฺฉายาติ อฏฺสุ าเนสุ กงฺขาย. สีลพฺพตปรามาสาติ ‘‘สีเลน สุทฺธิ, วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสิตฺวา อุปฺปชฺชนกทิฏฺิ. ทิฏฺานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยกา ทิฏฺานุสยา. ตถา วิจิกิจฺฉานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ สกฺกายทิฏฺิอาทีหิ เอกโต ¶ ิเตหิ จ. อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺติ จาติ กิเลสา, เตหิ สกฺกายทิฏฺิยาทิกิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สฺุํ โหติ. เอตฺถ ‘‘ตเทกฏฺ’’นฺติ ทุวิธํ เอกฏฺํ ปหาเนกฏฺํ สหเชกฏฺฺจ. อปายคมนียา หิ กิเลสา ยาว โสตาปตฺติมคฺเคน น ปหียนฺติ, ตาว ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห เอกสฺมึ ปุคฺคเล ิตาติ ปหาเนกฏฺา. ทสสุ หิ กิเลเสสุ อิธ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา ¶ เอว อาคตา. อนุสเยสุ ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยา อาคตา. เสสา ปน อปายคมนีโย โลโภ โทโส โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อฏฺ กิเลสา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาหิ สห ปหาเนกฏฺา หุตฺวา ทฺวีหิ อนุสเยหิ สทฺธึ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ. ราคโทสโมหปมุเขสุ วา ทิยฑฺเฒสุ กิเลสสหสฺเสสุ โสตาปตฺติมคฺเคน ทิฏฺิยา ปหียมานาย ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉา ปหีนา, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสเยหิ สห อปายคมนียา สพฺพกิเลสา ปหาเนกฏฺวเสน ปหียนฺติ. สหเชกฏฺา ¶ ปน ทิฏฺิยา สห วิจิกิจฺฉาย จ สห เอเกกสฺมึ จิตฺเต ิตา อวเสสกิเลสา.
โสตาปตฺติมคฺเคน หิ จตฺตาริ ทิฏฺิสหคตานิ วิจิกิจฺฉาสหคตฺจาติ ปฺจ จิตฺตานิ ปหียนฺติ. ตตฺถ ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตอสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, ทฺวีสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺตสสงฺขาริกจิตฺเตสุ ปหียมาเนสุ เตหิ สหชาโต โลโภ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ, วิจิกิจฺฉาสหคตจิตฺเต ปหียมาเน เตน สหชาโต โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม กิเลสา สหเชกฏฺวเสน ปหียนฺติ. เตหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ โหตีติ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ สฺุํ โหตีติ อตฺโถ.
สกทาคามิสฺส โอฬาริกา กามราคสฺโชนาติ โอฬาริกภูตา กายทฺวาเร วีติกฺกมสฺส ปจฺจยภาเวน ถูลภูตา เมถุนราคสงฺขาตา สฺโชนา. โส หิ กามภเว สฺโเชตีติ ‘‘สฺโชน’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิฆสฺโชนาติ พฺยาปาทสฺโชนา. โส หิ อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ‘‘ปฏิฆ’’นฺติ วุจฺจติ. เต เอว ถามคตฏฺเน สนฺตาเน อนุเสนฺตีติ อนุสยา. อณุสหคตาติ สุขุมภูตา กามราคสฺโชนา ปฏิฆสฺโชนา อณุสหคตา กามราคานุสยา ปฏิฆานุสยาติ อปฺปหีนฏฺเน สนฺตาเน อนุสยนวเสน สุขุมภูตา กามราคปฏิฆานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ วุตฺตตฺเถหิ ทุวิเธกฏฺเหิ กิเลเสหิ จิตฺตํ วิวิตฺตํ สฺุํ โหติ.
อรหโตติ ¶ กิเลสารีนํ หตตฺตา ‘‘อรหา’’ติ ลทฺธนามสฺส. รูปราคาติ รูปภเว ฉนฺทราคา ¶ . อรูปราคาติ อรูปภเว ฉนฺทราคา. มานาติ อรหตฺตมคฺควชฺฌา มานา เอว. ตถา อุทฺธจฺจอวิชฺชามานานุสยาทโย อรหตฺตมคฺควชฺฌา. เอเตสุ อุณฺณติลกฺขโณ มาโน. อวูปสมลกฺขณํ อุทฺธจฺจํ. อนฺธภาวลกฺขณา อวิชฺชา. รูปราคอรูปราควเสน ปวตฺตา ภวราคานุสยา. ตเทกฏฺเหิ จาติ เตหิ เอกโต ิเตหิ ¶ จ กิเลเสหิ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหีติ อชฺฌตฺตจิตฺตสนฺตาเน อกุสลกฺขนฺเธ อุปาทาย ‘‘พหิทฺธา’’ติ สงฺขํ คเตหิ อชฺฌตฺตํ มฺุจิตฺวา พหิทฺธา ปวตฺเตหิ สพฺพสงฺขารนิมิตฺเตหิ มคฺคจิตฺตํ วิวิจฺจติ วินา โหติ อปสกฺกติ, ผลจิตฺตํ วิวิตฺตํ วิยุตฺตํ อปสกฺกิตํ โหติ.
ตตฺถ กิเลสปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยา จาติ ทฺวิธา อนุสยานํ อภาโว เวทิตพฺโพ. กิเลสปฏิปาฏิยา หิ กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตติยมคฺเคน อภาโว โหติ, มานานุสยสฺส จตุตฺถมคฺเคน, ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ ปมมคฺเคน, ภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ จตุตฺถมคฺเคเนว. มคฺคปฏิปาฏิยา ปน ปมมคฺเคน ทิฏฺานุสยวิจิกิจฺฉานุสยานํ อภาโว โหติ, ทุติยมคฺเคน กามราคานุสยปฏิฆานุสยานํ ตนุภาโว, ตติยมคฺเคน สพฺพโส อภาโว, จตุตฺถมคฺเคน มานานุสยภวราคานุสยาวิชฺชานุสยานํ อภาโว โหติ. จิตฺตวิเวโกติ มหคฺคตโลกุตฺตรจิตฺตานํ กิเลเสหิ สฺุภาโว, ตุจฺฉภาโวติ อตฺโถ.
อุปธิวิเวโกติ กิเลสกฺขนฺธอภิสงฺขารสงฺขาตานํ อุปธีนํ สฺุภาโว. อุปธึ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘อุปธิ วุจฺจนฺติ กิเลสา จา’’ติอาทิมาห. ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ อุปตาเปนฺติ วิพาเธนฺตีติ กิเลสา จ. อุปาทานโคจรา รูปาทโย ปฺจกฺขนฺธา จ. อุปาทานสมฺภูตา ปฺุาปฺุอาเนฺชาภิสงฺขารา จ. อมตนฺติ นตฺถิ เอตสฺส มรณสงฺขาตํ มตนฺติ อมตํ, กิเลสวิสปฏิปกฺขตฺตา อคทนฺติปิ อมตํ. สํสารโยนิคติอุปปตฺติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สํสิพฺพติ วินตีติ ตณฺหา ‘‘วาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ ตตฺถ นตฺถีติ นิพฺพานํ. วิเวกฏฺกายานนฺติ ¶ คณสงฺคณิกาย อปคตสรีรานํ. เนกฺขมฺมาภิรตานนฺติ เนกฺขมฺเม กามาทิโต นิกฺขนฺเต ปมชฺฌานาทิเก อภิรตานํ ตนฺนินฺนานํ. ปรมโวทานปฺปตฺตานนฺติ อุตฺตมปริสุทฺธภาวผลํ ปาปุณิตฺวา ิตานํ. ‘‘อุปกฺกิเลสาภาเวน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, กิเลเสหิ มุตฺตภาเวน ปรมโวทานปฺปตฺตานํ. วิกฺขมฺภนปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตานํ, สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปรมโวทานปฺปตฺตาน’’นฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. นิรูปธีนนฺติ วิคตูปธีนํ. วิสงฺขารคตานนฺติ สงฺขารารมฺมณํ จชิตฺวา วิคตสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณวเสน อุปคตานํ. วิสงฺขารคตํ จิตฺตนฺติ เอตฺถปิ หิ นิพฺพานเมว ‘‘วิสงฺขาร’’นฺติ วุตฺตํ.
วิทูเรติ ¶ ¶ วิวิเธ ทูเร. สุวิทูเรติ สุฏฺุ วิทูเร. น สนฺติเกติ น สมีเป. น สามนฺตาติ น เอกปสฺเส. อนาสนฺเนติ อนจฺจนฺตสมีเป. วิเวกฏฺเติ อติทูเร, วิคเตติ อตฺโถ. ตาทิโสติ ตํสทิโส. ตสฺสณฺิโตติ เตน อากาเรน ิโต. ตปฺปกาโรติ เตน ปกาเรน ิโต. ตปฺปฏิภาโคติ ตํโกฏฺาสิโก. อถ วา ‘‘อตฺตภาวคุหาย ลคฺคภาเวน ตาทิโส. กิเลเสหิ ฉนฺนภาเวน ตสฺสณฺิโต. โมหนสฺมึ ปคาฬฺหภาเวน ตปฺปกาโร. ตีหิ วิเวเกหิ ทูรภาเวน ตปฺปฏิภาโคติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
ทุปฺปหายาติ สุเขน ปหาตพฺพา น โหนฺติ. ทุจฺจชฺชาติ สุเขน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุปฺปริจฺจชฺชาติ สพฺพากาเรน ชหิตุํ น สกฺกา. ทุนฺนิมฺมทยาติ นิมฺมทํ อมทํ กาตุํ น สกฺกา. ทุพฺพินิเวยาติ วินิเวนํ โมจนํ กาตุํ น สกฺกา. ทุตฺตราติ อุตฺตริตฺวา อติกฺกนฺตุํ น สกฺกา. ทุปฺปตราติ วิเสเสตฺวา ตริตุํ น สกฺกา. ทุสฺสมติกฺกมาติ ทุกฺเขน อติกฺกมิตพฺพา. ทุพฺพินิวตฺตาติ นิวตฺเตตุํ ทุกฺขา. อถ ¶ วา ‘‘ปกติวเสน ทุปฺปริจฺจชฺชา. โคณปตาสํ วิย ทุนฺนิมฺมทยา. นาคปาสํ วิย ทุพฺพินิเวยา. คิมฺหสมเย มรุกนฺตารํ วิย ทุตฺตรา ทุปฺปตรา. พฺยคฺฆปริคฺคหิตา อฏวี วิย ทุสฺสมติกฺกมา. สมุทฺทวีจิ วิย ทุพฺพินิวตฺตาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
๘. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ปุน ตถาวิธานํ สตฺตานํ ธมฺมตํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘อิจฺฉานิทานา’’ติอาทิคาถมาห. ตตฺถ อิจฺฉานิทานาติ ตณฺหาเหตุกา. ภวสาตพทฺธาติ สุขเวทนาทิมฺหิ ภวสาเตน พทฺธา. เต ทุปฺปมฺุจาติ เต ภวสาตวตฺถุภูตา ธมฺมา. เต วา ตตฺถ พทฺธา อิจฺฉานิทานา สตฺตา ทุปฺปโมจยา. น หิ อฺโมกฺขาติ อฺเ จ โมเจตุํ น สกฺโกนฺติ. การณวจนํ วา เอตํ. เต สตฺตา ทุปฺปมฺุจา. กสฺมา? ยสฺมา อฺเน โมเจตพฺพา น โหนฺติ. ยทิ สตฺตา มฺุเจยฺยุํ, สเกน ถาเมน มฺุเจยฺยุนฺติ อยมสฺส อตฺโถ. ปจฺฉา ปุเร วาปิ อเปกฺขมานาติ อนาคเต อตีเต วา กาเม อเปกฺขมานา. อิเม ว กาเม ปุริเม ว ชปฺปนฺติ อิเม วา ปจฺจุปฺปนฺเน กาเม ปุริเม วา ทุวิเธปิ อตีตานาคเต พลวตณฺหาย ปตฺถยมานา. อิเมสฺจ ทฺวินฺนํ ปทานํ ‘‘เต ทุปฺปมฺุจา น หิ อฺโมกฺขา’’ติ ¶ อิมินาว สห สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิตรถา อเปกฺขมานา ชปฺปํ กึ กโรนฺติ, กึ วา กตาติ น ปฺาเยยฺยุํ.
ภวสาตพทฺธาติ ภเว สาตํ ภวสาตํ, เตน ภวสาเตน สุขสฺสาเทน พทฺธา หุตฺวา ิตา. ตํ ภาเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอกํ ภวสาตํ – สุขา เวทนา’’ติอาทิมาห. โยพฺพนภาโว โยพฺพฺํ. อโรคภาโว ¶ อาโรคฺยํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตภาโว ชีวิตํ. ลาโภติ ¶ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาโภ. ยโสติ ปริวาโร. ปสํสาติ กิตฺติ. สุขนฺติ กายิกเจตสิกํ สุขํ. มนาปิกา รูปาติ มนวฑฺฒนกา รูปา. เสเสสุปิ เอเสว นโย.
จกฺขุสมฺปทาติ จกฺขุสฺส สมฺปทา. ‘‘มยฺหํ จกฺขุ สมฺปนฺนํ มณิวิมาเน อุคฺฆาฏิตสีหปฺชรํ วิย ขายตี’’ติ อุปฺปนฺนํ สุขสฺสาทํ สนฺธาย ‘‘จกฺขุสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. โสตสมฺปทาทีสุปิ เอเสว นโย. สุขาย เวทนาย สาตพทฺธา…เป… วิพทฺธาติ วิวิธากาเรน พทฺธา. อาพทฺธาติ วิเสเสน อาทิโต พทฺธา. ลคฺคาติ อารมฺมเณน สทฺธึ อปฺปิตา. ลคฺคิตาติ นาคทนฺเต ผาณิตวารโก วิย ลคฺคิตา. ยเมตฺถ จ อวุตฺตํ, ตํ สตฺโต วิสตฺโตติอาทิมฺหิ วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ.
น หิ อฺโมกฺขาติ น ปเรหิ โมกฺขา. เต วา ภวสาตวตฺถู ทุปฺปมฺุจาติ ภเว สุขสฺสาทวตฺถุภูตา ธมฺมา เต มฺุจิตุํ ทุกฺขา. สตฺตา วา เอตฺโต ทุมฺโมจยาติ สตฺตา เอว วา เอตสฺมา ภวสาตวตฺถุโต โมเจตุํ ทุกฺขา.
ทุรุทฺธราติ อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุทฺธราติ สมนฺตโต ฉินฺนตเฏ นรกาวาเฏ ปติโต วิย อุทฺธํ กตฺวา อุทฺธริตุํ ทุกฺขา. ทุพฺพุฏฺาปยาติ อุฏฺาเปตุํ ทุกฺขา. ทุสฺสมุฏฺาปยาติ สุขุมอตฺตภาวํ ปถวิยํ ปติฏฺาปนํ วิย อุสฺสาเปตุํ อติวิย ทุกฺขา.
เต อตฺตนา ปลิปปลิปนฺนาติ คมฺภีรกทฺทเม ยาว สีสโต นิมุคฺคา น สกฺโกนฺติ. ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริตุนฺติ อปรํ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ. โส วต จุนฺทาติ โสติ วตฺตพฺพาการปุคฺคลนิทฺเทโส. ตสฺส ‘‘โย’’ติ อิมํ อุทฺเทสวจนํ อาหริตฺวา โย อตฺตนา ปลิปปลิปนฺโน, โส วต ¶ , จุนฺท, ปรํ ปลิปปลิปนฺนํ อุทฺธริสฺสตีติ. เอวํ เสสปเทสุ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปลิปปลิปนฺโนติ คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค วุจฺจติ. ยถา, จุนฺท, โกจิ ปุริโส ยาว ¶ สีสโต คมฺภีรกทฺทเม นิมุคฺโค, ปรมฺปิ ตเถว นิมุคฺคํ หตฺเถ วา สีเส วา คเหตฺวา อุทฺธริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. น หิ ตํ การณมตฺถิ, เยน โส ตํ อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺาเปยฺยาติ. อทนฺโต อวินีโต อปรินิพฺพุโตติ เอตฺถ ปน อนิพฺพิเสวนตาย อทนฺโต. อสิกฺขิตวินยตาย อวินีโต. อนิพฺพุตกิเลสตาย อปรินิพฺพุโตติ เวทิตพฺโพ. โส ตาทิโส ปรํ ทเมสฺสติ นิพฺพิเสวนํ กริสฺสติ, วิเนสฺสติ ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขาเปสฺสติ. ปรินิพฺพาเปสฺสติ ตสฺส กิเลเส นิพฺพาเปสฺสติ.
นตฺถฺโ ¶ โกจีติ อฺโ โกจิ ปุคฺคโล โมเจตุํ สมตฺโถ นตฺถิ. สเกน ถาเมนาติ อตฺตโน าณถาเมน. พเลนาติ าณพเลน. วีริเยนาติ าณสมฺปยุตฺตเจตสิกวีริเยน. ปุริสปรกฺกเมนาติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมเนน มหนฺตวีริเยน.
นาหํ สหิสฺสามีติ อหํ น สหิสฺสามิ น สกฺโกมิ, น วายมิสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. ปโมจนายาติ ปโมเจตุํ. กถํกถินฺติ สกงฺขํ. โธตกาติ อาลปนํ. ตเรสีติ ตเรยฺยาสิ.
‘‘อตฺตนา หิ กตํ ปาปํ, อตฺตนา สํกิลิสฺสติ;
อตฺตนา อกตํ ปาปํ, อตฺตนาว วิสุชฺฌติ;
สุทฺธี อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ, นาฺโ อฺํ วิโสธเย’’ติ. (ธ. ป. ๑๖๕; กถา. ๗๔๓) –
เอตฺถายมตฺโถ – เยน อตฺตนา อกุสลํ กมฺมํ กตํ โหติ, โส จตูสุ อปาเยสุ ทุกฺขํ อนุภวนฺโต อตฺตนาว สํกิลิสฺสติ. เยน ปน อตฺตนา อกตํ ปาปํ, โส สุคติฺเจว อคติฺจ คจฺฉนฺโต อตฺตนาว วิสุชฺฌติ. กุสลกมฺมสงฺขาตา สุทฺธิ อกุสลกมฺมสงฺขาตา จ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ การกสตฺตานํ อตฺตนิเยว วิปจฺจติ. อฺโ ปุคฺคโล อฺํ ปุคฺคลํ น วิโสธเย เนว วิโสเธติ, น กิเลเสตีติ วุตฺตํ โหติ.
ติฏฺเตว นิพฺพานนฺติ อมตมหานิพฺพานํ ติฏฺติเยว. นิพฺพานคามิมคฺโคติ ปุพฺพภาควิปสฺสนาโต ปฏฺาย อริยมคฺโค. ติฏฺามหํ สมาทเปตาติ อหํ คณฺหาเปตา ปติฏฺาเปตา ติฏฺามิ. เอวํ ¶ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานาติ ¶ มยา เอวํ โอวทิยมานา เอวํ อนุสาสิยมานา. เอตฺถ อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ วทนฺโต โอวทติ นาม, อนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ อนุสาสนฺโต ‘‘อยโสปิ เต ภวิสฺสตี’’ติอาทิวเสน อนาคตํ ทสฺเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สมฺมุขา วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปรมฺมุขา ทูตสาสนํ วา เปเสนฺโต อนุสาสติ นาม. สกึ วทนฺโตปิ โอวทติ นาม, ปุนปฺปุนํ วทนฺโต อนุสาสติ นาม. โอวทนฺโต เอว วา อนุสาสติ นาม. อปฺเปกจฺเจติ อปิ เอกจฺเจ, เอเกติ อตฺโถ. อจฺจนฺตนิฏฺํ นิพฺพานํ อาราเธนฺตีติ ขยวยสงฺขาตํ อนฺตํ อตีตนฺติ อจฺจนฺตํ, อจฺจนฺตฺจ ตํ สพฺพสงฺขารานํ อปฺปวตฺติฏฺานตฺตา นิฏฺฺจาติ อจฺจนฺตนิฏฺํ, เอกนฺตนิฏฺํ, สตตนิฏฺนฺติ อตฺโถ. ตํ อจฺจนฺตนิพฺพานํ อาราเธนฺติ สมฺปาเทนฺติ. นาราเธนฺตีติ น สมฺปาเทนฺติ, น ปฏิลภนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ กฺยาหนฺติ เอเตสุ กึ อหํ, กึ กโรมีติ อตฺโถ. มคฺคกฺขายีติ ปฏิปทามคฺคกฺขายี ¶ . อาจิกฺขติ กเถติ. อตฺตนา ปฏิปชฺชมานา มฺุเจยฺยุนฺติ ปฏิปชฺชนฺตา มยํ มฺุเจยฺยุํ.
อตีตํ อุปาทายาติ อตีตํ ปฏิจฺจ. กถํ ปุเร อเปกฺขํ กโรตีติ เกน ปกาเรน อิกฺขํ โอโลกนํ กโรติ. เอวํรูโป อโหสินฺติ ทีฆรสฺสอณุกถูลาทิวเสน เอวํชาติโก เอวรูโป อภวึ. ตตฺถ นนฺทึ สมนฺนาเนตีติ ตสฺมึ รูปารมฺมเณ ตณฺหํ สมฺมา อานยติ อุปเนติ. เวทนาทีสุปิ เอเสว นโย.
‘‘อิติ เม จกฺขู’’ติอาทโย วตฺถุอารมฺมณวเสน ตณฺหุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห. อิติ รูปาตีติ เอวํ รูปา อิติ. ตตฺถ ฉนฺทราคปฏิพทฺธนฺติ เตสุ จกฺขุรูเปสุ ทุพฺพลสงฺขาโต ฉนฺโท จ พลวสงฺขาโต ราโค จ, เตน ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธํ อลฺลีนํ. วิฺาณนฺติ ชวนจิตฺตํ. ฉนฺทราคปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺสาติ ตสฺส ชวนวิฺาณสฺส ฉนฺทราเคน พทฺธภาวา. ตทภินนฺทตีติ ตํ อารมฺมณํ ตณฺหาวเสน อภินนฺทติ.
ยานิสฺส ¶ ตานีติ ยานิ อสฺส ตานิ. ปุพฺเพติ อตีเต. สทฺธินฺติ เอกโต. หสิตลปิตกีฬิตานีติ ทนฺตวิทํสาทิหสิตานิ จ, วจีเภทํ กตฺวา ลปิตานิ จ, กายขิฑฺฑาทิกีฬิตานิ จ. ตทสฺสาเทตีติ ตํ อสฺสาทยติ อสฺสาทํ วินฺทติ สาทิยติ. ตํ นิกาเมตีติ ตํ นิกามยติ ปจฺจาสีสติ. วิตฺตึ อาปชฺชตีติ ตุฏฺึ ปาปุณาติ.
สิยนฺติ ¶ ภเวยฺยํ. อปฺปฏิลทฺธสฺส ปฏิลาภายาติ อปฺปตฺตสฺส ปาปุณนตฺถาย. จิตฺตํ ปณิทหตีติ จิตฺตํ เปติ. เจตโส ปณิธานปจฺจยาติ จิตฺตสฺส ปนการณา.
สีเลน วาติ ปฺจสีลาทิสีเลน วา. วเตน วาติ ธุตงฺคสมาทาเนน วา. ตเปน วาติ วีริยสมาทาเนน วา. พฺรหฺมจริเยน วาติ เมถุนวิรติยา วา. เทโว วาติ มหานุภาโว เทวราชา วา. เทวฺตโร วาติ เตสํ อฺตโร วา.
ชปฺปนฺตาติ คุณวเสน กเถนฺตา. ปชปฺปนฺตาติ ปกาเรน กเถนฺตา. อภิชปฺปนฺตาติ วิเสเสน กเถนฺตา, อุปสคฺควเสน วา วฑฺฒิตํ.
๙. เอวํ ปมคาถาย ‘‘ทูเร วิเวกา หิ ตถาวิโธ’’ติ สาเธตฺวา ทุติยคาถาย จ ตถาวิธานํ ¶ ธมฺมตํ อาวิ กตฺวา อิทานิ เตสํ ปาปกรณํ อาวิ กโรนฺโต ‘‘กาเมสุ คิทฺธา’’ติ คาถมาห.
ตสฺสตฺโถ – เต สตฺตา กาเมสุ ปริโภคตณฺหาย คิทฺธา, ปริเยสนาทิมนุยุตฺตตฺตา ปสุตา, สมฺโมหมาปนฺนตฺตา ปมูฬฺหา, อวคมนตาย มจฺฉริยตาย พุทฺธาทีนํ วจนํ อนาทิยตาย จ อวทานิยา, กายวิสมาทิมฺหิ วิสเม นิวิฏฺา, อนฺตกาเล มรณทุกฺขูปนีตา, ‘‘กึสุ ภวิสฺสาม อิโต จุตาเส’’ติ ปริเทวยนฺตีติ.
คิทฺธาติ กามราเคน คิทฺธา. คธิตาติ สงฺกปฺปราเคน ปจฺจาสีสมานา หุตฺวา คธิตา. มุจฺฉิตาติ กามตณฺหาย มุจฺฉาปเรตา. อชฺโฌสนฺนาติ กามนนฺทิยา อธิโอสนฺนา อชฺโฌตฺถฏา. ลคฺคาติ กามสิเนเหน อลฺลีนา. ลคฺคิตาติ กามปริฬาเหน เอกีภูตา. ปลิพุทฺธาติ กามสฺาย อาวฏฺฏิตา. อถ วา ‘‘ทิฏฺิทสฺสเน คิทฺธา. อภิณฺหทสฺสเน คธิตา. สํสคฺคกิริยสฺมึ ¶ มุจฺฉิตา. วิสฺสาสกิริยสฺมึ อชฺโฌสนฺนา. สิเนหวฬฺชสฺมึ ลคฺคา. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติมฺหิ ลคฺคิตา. อปราปรํ อมฺุจมานา หุตฺวา ปลิพุทฺธา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
เอสนฺตีติ ปจฺจาสีสนฺติ. คเวสนฺตีติ มคฺคยนฺติ. ปริเยสนฺตีติ สพฺพากาเรน อิจฺฉนฺติ ปตฺเถนฺติ. อถ วา ทิฏฺารมฺมเณ สุภาสุภํ อตฺถิ, นตฺถีติ เอสนฺติ. สุภาสุภารมฺมเณ ปจฺจกฺขํ กตฺวา วฬฺชนตฺถาย ปิยํ กโรนฺตา คเวสนฺติ ¶ . จิตฺตวเสน เอสนฺติ. ปโยควเสน คเวสนฺติ. กรณวเสน ปริเยสนฺติ. เต ทุวิเธ กาเม ปฏิจฺจ โอตริตฺวา จรนฺตีติ ตจฺจริตา. เต จ กาเม พหุลํ เยภุยฺเยน วฑฺเฒนฺติ ปวตฺตยนฺตีติ ตพฺพหุลา. เต จ กาเม ครุํ กตฺวา รหนฺตีติ ตคฺครุกา. เตสุ กาเมสุ นินฺนา นมิตา หุตฺวา วสนฺตีติ ตนฺนินฺนา. เตสุ กาเมสุ สนฺนินฺนา หุตฺวา วสนฺตีติ ตปฺโปณา. เตสุ กาเมสุ อวลมฺพิตา หุตฺวา เตสุเยว นมิตา วสนฺตีติ ตปฺปพฺภารา. เตสุ กาเมสุ อวตฺถริตฺวา มุจฺฉาปเรตปฺปสงฺคา หุตฺวา วทนฺตีติ ตทธิมุตฺตา. เต จ กาเม อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา วสนฺตีติ ตทธิปเตยฺยา. อถ วา ‘‘อารมฺมณสฺส อิฏฺภาเวน ตจฺจริตา. อารมฺมณสฺส กนฺตภาเวน ตพฺพหุลา. อารมฺมณสฺส มนาปภาเวน ตคฺครุกา. อารมฺมณสฺส ปิยภาเวน ตนฺนินฺนา. อารมฺมณสฺส กามุปสํหิตภาเวน ตปฺโปณา. อารมฺมณสฺส รชนียภาเวน ตปฺปพฺภารา. อารมฺมณสฺส มุจฺฉนียภาเวน ตทธิมุตฺตา. อารมฺมณสฺส พนฺธนียภาเวน ตทธิปเตยฺยา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
รูเป ¶ ปริเยสนฺตีติอาทีสุ ปริเยสนฺตีติ อลทฺธสฺส ลาภาย เอสนวเสน. ปฏิลภนฺตีติ หตฺถคตวเสน. ปริภฺุชนฺตีติ วฬฺชนวเสน วุตฺตนฺติ าตพฺพํ. กลหํ วิวาทํ กโรตีติ กลหการโก. ตสฺมึ นิยุตฺโตติ กลหปสุโต. กมฺมการกาทีสุปิ เอเสว นโย. โคจเร จรนฺโตติ เวสิยาทิโคจเร, สติปฏฺานาทิโคจเร วา ¶ จรมาโน. เตสุ นิยุตฺโต โคจรปสุโต. อารมฺมณูปนิชฺฌานวเสน ฌานํ อสฺส อตฺถีติ ฌายี. ตสฺมึ นิยุตฺโต ฌานปสุโต.
อวคจฺฉนฺตีติ อปายํ คจฺฉนฺติ. มจฺฉริโนติ สกสมฺปตฺตึ นิคุหนฺตา. วจนนฺติ กถนํ. พฺยปถนฺติ วากฺยปถํ. เทสนนฺติ วิสฺสชฺชนโอวาทํ. อนุสิฏฺินฺติ อนุสาสนึ. นาทิยนฺตีติ น คณฺหนฺติ น ครุํ กโรนฺติ. ‘‘น ปฏิสฺสนฺตี’’ติ วา ปาโ, โสเยว อตฺโถ. วตฺถุโต มจฺฉริยทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฺจ มจฺฉริยานิ อาวาสมจฺฉริย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาวาเส มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.
อาวาโส ¶ นาม สกลาราโมปิ ปริเวณมฺปิ เอโกวรโกปิ รตฺติฏฺานาทีนิปิ. เตสุ วสนฺตา สุขํ วสนฺติ, ปจฺจเย ลภนฺติ. เอโก ภิกฺขุ วตฺตสมฺปนฺนสฺเสว เปสลสฺส ภิกฺขุโน ตตฺถ อาคมนํ น อิจฺฉติ, อาคโตปิ ‘‘ขิปฺปํ คจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ, อิทํ อาวาสมจฺฉริยํ นาม. ภณฺฑนการกาทีนํ ปน ตตฺถ วาสํ อนิจฺฉโต อาวาสมจฺฉริยํ นาม น โหติ.
กุลนฺติ อุปฏฺากกุลมฺปิ าติกุลมฺปิ. ตตฺถ อฺสฺส อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต กุลมจฺฉริยํ โหติ. ปาปปุคฺคลสฺส ปน อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโตปิ มจฺฉริยํ นาม น โหติ. โส หิ เตสํ ปสาทเภทาย ปฏิปชฺชติ. ปสาทํ รกฺขิตุํ สมตฺถสฺเสว ปน ภิกฺขุโน ตตฺถ อุปสงฺกมนํ อนิจฺฉโต มจฺฉริยํ นาม โหติ.
ลาโภติ จตุปจฺจยลาโภว. ตํ อฺสฺมึ สีลวนฺเตเยว ลภนฺเต ‘‘มา ลภตู’’ติ จินฺเตนฺตสฺส ลาภมจฺฉริยํ โหติ. โย ปน สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, อปริโภคทุปฺปริโภคาทิวเสน วินาเสติ, ปูติภาวํ คจฺฉนฺตมฺปิ อฺสฺส น เทติ, ตํ ทิสฺวา ‘‘สเจ อิมํ เอส น ลเภยฺย, อฺโ สีลวา ลเภยฺย, ปริโภคํ คจฺเฉยฺยา’’ติ จินฺเตนฺตสฺส มจฺฉริยํ นาม นตฺถิ.
วณฺโณ ¶ นาม สรีรวณฺโณปิ คุณวณฺโณปิ. ตตฺถ สรีรวณฺเณ มจฺฉรี ‘‘ปโร ปาสาทิโก รูปวา’’ติ ¶ วุตฺเต ตํ น กเถตุกาโม โหติ. คุณวณฺณมจฺฉรี ปรสฺส สีเลน ธุตงฺเคน ปฏิปทาย อาจาเรน วณฺณํ น กเถตุกาโม โหติ.
ธมฺโมติ ปริยตฺติธมฺโม จ ปฏิเวธธมฺโม จ. ตตฺถ อริยสาวกา ปฏิเวธธมฺมํ น มจฺฉรายนฺติ, อตฺตนา ปฏิวิทฺธธมฺเม สเทวกสฺส โลกสฺส ปฏิเวธํ อิจฺฉนฺติ. ตํ ปน ปฏิเวธํ ‘‘ปเร ชานนฺตู’’ติ อิจฺฉนฺติ, ตนฺติธมฺเมเยว ปน ธมฺมมจฺฉริยํ นาม โหติ. เตน สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ยํ คุฬฺหํ คนฺถํ วา กถามคฺคํ วา ชานาติ, ตํ อฺเ น ชานาเปตุกาโม โหติ. โย ปน ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน ธมฺมํ วา อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม น โหติ. ตตฺถ เอกจฺโจ ปุคฺคโล โลโล โหติ, กาเลน สมโณ โหติ ¶ , กาเลน พฺราหฺมโณ, กาเลน นิคณฺโ. โย หิ ภิกฺขุ ‘‘อยํ ปุคฺคโล ปเวณิอาคตํ ตนฺตึ สณฺหํ สุขุมํ ธมฺมนฺตรํ ภินฺทิตฺวา อาลุเฬสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ปุคฺคลํ อุปปริกฺขิตฺวา ธมฺมานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘อยํ ธมฺโม สณฺโห สุขุโม, สจายํ ปุคฺคโล คณฺหิสฺสติ, อฺํ พฺยากริตฺวา อตฺตานํ อาวิ กตฺวา นสฺสิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมํ อุปปริกฺขิตฺวา ปุคฺคลานุคฺคเหน น เทติ นาม. โย ปน ‘‘สจายํ อิมํ ธมฺมํ คณฺหิสฺสติ, อมฺหากํ สมยํ ภินฺทิตุํ สมตฺโถ ภวิสฺสตี’’ติ น เทติ, อยํ ธมฺมมจฺฉรี นาม โหติ.
อิเมสุ ปฺจสุ มจฺฉริเยสุ อาวาสมจฺฉริเยน ตาว ยกฺโข วา เปโต วา หุตฺวา ตสฺเสว อาวาสสฺส สงฺการํ สีเสน อุกฺขิปิตฺวา วิจรติ. กุลมจฺฉริเยน ตสฺมึ กุเล อฺเสํ ทานมานนาทีนิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘ภินฺนํ วติทํ กุลํ มมา’’ติ จินฺตยโต โลหิตมฺปิ มุขโต อุคฺคจฺฉติ, กุจฺฉิวิเรจนมฺปิ โหติ, อนฺตานิปิ ขณฺฑาขณฺฑานิ หุตฺวา นิกฺขมนฺติ. ลาภมจฺฉริเยน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา สนฺตเก ลาเภ มจฺฉรายิตฺวา ปุคฺคลิกปริโภคํ วิย ปริภฺุชิตฺวา ยกฺโข วา เปโต วา มหาอชคโร วา หุตฺวา นิพฺพตฺตติ. สรีรวณฺณคุณวณฺณมจฺฉเรน ¶ ปน ปริยตฺติธมฺมมจฺฉริเยน จ อตฺตโนว วณฺณํ วณฺเณติ, ปเรสํ วณฺเณ ‘‘กึ วณฺโณ เอโส’’ติ ตํ ตํ โทสํ วทนฺโต ปริยตฺติธมฺมฺจ กสฺสจิ กิฺจิ อเทนฺโต ทุพฺพณฺโณ เจว เอฬมูโค จ โหติ.
อปิ จ อาวาสมจฺฉริเยน โลหเคเห ปจฺจติ, กุลมจฺฉริเยน อปฺปลาโภ โหติ, ลาภมจฺฉริเยน คูถนิรเย นิพฺพตฺตติ, วณฺณมจฺฉริเยน ภเว ภเว นิพฺพตฺตสฺส วณฺโณ นาม น โหติ, ธมฺมมจฺฉริเยน กุกฺกุฬนิรเย นิพฺพตฺตตีติ.
มจฺฉรายนวเสน ¶ มจฺฉริยํ. มจฺฉรายนากาโร มจฺฉรายนา. มจฺฉเรน อยิตสฺส มจฺเฉรสมงฺคิโน ภาโว มจฺฉรายิตตฺตํ. ‘‘มยฺหเมว โหนฺตุ, มา อฺสฺสา’’ติ สพฺพาปิ อตฺตโน สมฺปตฺติโย พฺยาเปตุํ น อิจฺฉตีติ วิวิจฺโฉ, วิวิจฺฉสฺส ภาโว เววิจฺฉํ, มุทุมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. กทริโย วุจฺจติ อนาทโร, ตสฺส ภาโว กทริยํ, ถทฺธมจฺฉริยสฺเสตํ นามํ. เตน หิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปรมฺปิ ปเรสํ ททมานํ นิวาเรติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘กทริโย ¶ ปาปสงฺกปฺโป, มิจฺฉาทิฏฺิอนาทโร;
ททมานํ นิวาเรติ, ยาจมานาน โภชน’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๒);
ยาจเก ทิสฺวา กฏุกภาเวน จิตฺตํ อฺจติ สงฺโกเจตีติ กฏุกฺจุโก, ตสฺส ภาโว กฏุกฺจุกตา. อปโร นโย – กฏุกฺจุกตา วุจฺจติ กฏจฺฉุคฺคาโห. สมติตฺติกปุณฺณาย หิ อุกฺขลิยา ภตฺตํ คณฺหนฺโต สพฺพโตภาเคน สงฺกุฏิเตน อคฺคกฏจฺฉุนา คณฺหาติ ปูเรตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ, เอวํ มจฺฉริปุคฺคลสฺส จิตฺตํ สงฺกุจติ, ตสฺมึ สงฺกุจิเต กาโยปิ ตเถว สงฺกุจติ ปฏิกุฏติ ปฏินิวฏฺฏติ น สมฺปสารียตีติ มจฺเฉรํ ‘‘กฏุกฺจุกตา’’ติ วุตฺตํ.
อคฺคหิตตฺตํ จิตฺตสฺสาติ ปเรสํ อุปการกรเณ ทานาทินา อากาเรน ยถา น สมฺปสารียติ, เอวํ อาวริตฺวา คหิตภาโว จิตฺตสฺส. ยสฺมา ปน มจฺฉริปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตกํ ปเรสํ ¶ อทาตุกาโม โหติ, ปรสนฺตกํ คณฺหิตุกาโม. ตสฺมา ‘‘อิทํ อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺติวเสนสฺส อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณตา ปรสมฺปตฺติคฺคหณลกฺขณตา จ เวทิตพฺพา.
ขนฺธมจฺฉริยมฺปิ มจฺฉริยนฺติ อตฺตโน ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตํ อุปปตฺติภวํ อฺเหิ อสาธารณํ ‘‘อจฺฉริยํ มยฺหเมว โหตุ, มา อฺสฺสา’’ติ ปวตฺตํ มจฺฉริยํ ขนฺธมจฺฉริยํ นาม. ธาตุอายตนมจฺฉริเยสุปิ เอเสว นโย. คาโหติ คาหนิจฺฉยวเสน คหณํ. อวทฺุตายาติ สพฺพฺุพุทฺธานมฺปิ กถิตํ อชานนภาเวน. ยาจกานํ อททมาโน หิ เตหิ กถิตํ น ชานาติ นาม. ชนา ปมตฺตาติ สติวิปฺปวาสา ชนา. วจนนฺติ สงฺเขปวจนํ. พฺยปฺปถนฺติ วิตฺถารวจนํ. เทสนนฺติ อุปมํ ทสฺเสตฺวา อตฺถสนฺทสฺสนวจนํ. อนุสิฏฺินฺติ ปุนปฺปุนํ สํลกฺขาปนวจนํ. อถ วา ทสฺเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. คณฺหาเปตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. โตเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ปทสฺเสตฺวา กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ปริตาปทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ วจนํ นาม. ปริฬาหทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ พฺยปฺปถํ นาม. อปายทุกฺขํ นาเสตฺวา กถนํ เทสนํ นาม. ภวทุกฺขํ นาเสตฺวา ¶ กถนํ อนุสิฏฺิ นาม. อถ วา ทุกฺขสจฺจปริฺาปฏิเวธยุตฺตํ วจนํ. สมุทยสจฺจปหานปฏิเวธยุตฺตํ พฺยปฺปถํ. นิโรธสจฺจสจฺฉิกิริยปฏิเวธยุตฺตํ เทสนํ. มคฺคสจฺจภาวนาปฏิเวธยุตฺตํ อนุสิฏฺีติ เอวมาทินา นเยน เอเก วณฺณยนฺติ.
น ¶ สุสฺสุสนฺตีติ น สุณนฺติ. น โสตํ โอทหนฺตีติ สวนตฺถํ กณฺณโสตํ น เปนฺติ. น อฺา จิตฺตํ อุปฏฺเปนฺตีติ ชานนตฺถํ จิตฺตํ น ปติฏฺเปนฺติ. อนสฺสวาติ โอวาทํ อสุณมานา. อวจนกราติ สุณมานาปิ วจนํ น กโรนฺตีติ อวจนกรา. ปฏิโลมวุตฺติโนติ ปฏาณี หุตฺวา ปวตฺตนกา ¶ . อฺเเนว มุขํ กโรนฺตีติ กโรนฺตาปิ มุขํ น เทนฺตีติ อตฺโถ.
วิสเมติ กายสุจริตาทิสมฺมตสฺส สมสฺส ปฏิปกฺขตฺตา วิสมํ, ตสฺมึ วิสเม. นิวิฏฺาติ ปวิฏฺา ทุนฺนีหรา. กายกมฺเมติ กายโต ปวตฺเต, กาเยน วา ปวตฺเต กายกมฺเม. วจีกมฺมาทีสุปิ เอเสว นโย.
ตตฺถ กายกมฺมวจีกมฺมมโนกมฺมานิ ทุจฺจริตวเสน วิภตฺตานิ, ปาณาติปาตาทโย ทสอกุสลกมฺมปถวเสน วิภตฺตาติ าตพฺพํ. อยํ ตาเวตฺถ สาธารณปทวณฺณนา, อสาธารเณสุ ปน ปาณสฺส อติปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธ ปาณฆาโตติ วุตฺตํ โหติ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิตา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต. โส คุณวิรหิเตสุ ติรจฺฉานคตาทีสุ ปาเณสุ ขุทฺทเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย, ปโยคสมตฺเตปิ วตฺถุมหนฺตตาย. คุณวนฺเตสุ มนุสฺสาทีสุ อปฺปคุเณ ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ ปน สมภาเว สติ กิเลสานํ อุปกฺกมานฺจ มุทุตาย อปฺปสาวชฺโช, ติพฺพตาย มหาสาวชฺโชติ เวทิตพฺโพ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน มรณนฺติ. ฉปฺปโยคา – สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโย ถาวโร วิชฺชามโย อิทฺธิมโยติ. อิมสฺมึ ปนตฺเถ วิตฺถาริยมาเน อติปปฺโจ โหติ, ตสฺมา นํ น วิตฺถารยิสฺสาม. อฺฺจ เอวรูปํ ¶ , อตฺถิเกหิ ปน สมนฺตปาสาทิกํ วินยฏฺกถํ (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๗๒) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ.
อทินฺนสฺส ¶ อาทานํ อทินฺนาทานํ, ปรสฺส หรณํ เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ปรปริคฺคหิตํ, ยตฺถ ปโร ยถากามการิตํ อาปชฺชนฺโต อทณฺฑารโห อนุปวชฺโช จ โหติ, ตสฺมึ ปน ปรปริคฺคหิเต ปรปริคฺคหิตสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา ¶ อทินฺนาทานํ. ตํ หีเน ปรสนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ, ปณีเต มหาสาวชฺชํ. กสฺมา? วตฺถุปณีตตาย, วตฺถุสมตฺเต สติ คุณาธิกานํ สนฺตเก วตฺถุสฺมึ มหาสาวชฺชํ. ตํ ตํ คุณาธิกํ อุปาทาย ตโต ตโต หีนคุณสฺส สนฺตเก วตฺถุสฺมึ อปฺปสาวชฺชํ.
ตสฺส ปฺจ สมฺภารา โหนฺติ – ปรปริคฺคหิตํ ปรปริคฺคหิตสฺิตา เถยฺยจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน หรณนฺติ. ฉปฺปโยคา สาหตฺถิกาทโยว. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาโร ปสยฺหาวหาโร ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร ปริกปฺปาวหาโร กุสาวหาโรติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อวหารานํ วเสน ปวตฺตนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สมนฺตปาสาทิกายํ วุตฺโต.
กาเมสุมิจฺฉาจาโรติ เอตฺถ ปน กาเมสูติ เมถุนสมาจาเรสุ. มิจฺฉาจาโรติ เอกนฺตนินฺทิโต ลามกาจาโร. ลกฺขณโต ปน อสทฺธมฺมเสวนาธิปฺปาเยน กายทฺวารปฺปวตฺตา อคมนียฏฺานวีติกฺกมเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร.
ตตฺถ อคมนียฏฺานํ นาม ปุริสานํ ตาว มาตุรกฺขิตา ปิตุรกฺขิตา มาตาปิตุรกฺขิตา ภาตุรกฺขิตา ภคินิรกฺขิตา าติรกฺขิตา โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา สารกฺขา สปริทณฺฑาติ มาตุรกฺขิตาทโย ทส, ธนกฺกีตา ฉนฺทวาสินี โภควาสินี ปฏวาสินี โอทปตฺตกินี โอภตจุมฺพฏกา ทาสี จ ภริยา กมฺมการี จ ภริยา ธชาหฏา มุหุตฺติกาติ เอตา ธนกฺกีตาทโย ทสาติ วีสติ อิตฺถิโย. อิตฺถีสุ ปน ทฺวีนฺนํ สารกฺขสปริทณฺฑานํ ทสนฺนฺจ ธนกฺกีตาทีนนฺติ ทฺวาทสนฺนํ อิตฺถีนํ อฺเ ปุริสา, อิทํ อคมนียฏฺานํ นาม.
โส ปเนส มิจฺฉาจาโร สีลาทิคุณรหิเต อคมนียฏฺาเน อปฺปสาวชฺโช, สีลาทิคุณสมฺปนฺเน มหาสาวชฺโช. ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา ¶ – อคมนียวตฺถุ ตสฺมึ เสวนจิตฺตํ เสวนปโยโค มคฺเคน มคฺคปฏิปตฺติอธิวาสนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโก เอว.
มุสาติ ¶ วิสํวาทนปุเรกฺขารสฺส อตฺถภฺชนโก วจีปโยโค กายปโยโค วา. วิสํวาทนาธิปฺปาเยน ปนสฺส ปรวิสํวาทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. อปโร นโย – มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ. วาโทติ ¶ ตสฺส ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส ตถาวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. โส ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปตาย อปฺปสาวชฺโช, มหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. อปิ จ คหฏฺานํ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย ‘‘นตฺถี’’ติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, สกฺขินา หุตฺวา อตฺถภฺชนตฺถํ วุตฺโต มหาสาวชฺโช. ปพฺพชิตานํ อปฺปกมฺปิ เตลํ วา สปฺปึ วา ลภิตฺวา หสาธิปฺปาเยน ‘‘อชฺช คาเม เตลํ นที มฺเ สนฺทตี’’ติ ปูรณกถานเยน ปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํเยว ปน ทิฏฺนฺติอาทินา นเยน วทนฺตานํ มหาสาวชฺโช.
ตสฺส จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – อตถํ วตฺถุ วิสํวาทนจิตฺตํ ตชฺโช วายาโม ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ. เอโก ปโยโค สาหตฺถิโกว. โส จ กาเยน วา กายปฏิพทฺเธน วา วาจาย วา ปรวิสํวาทกกิริยากรเณ ทฏฺพฺโพ. ตาย เจ กิริยาย ปโร ตมตฺถํ ชานาติ, อยํ กิริยสมุฏฺาปิกา เจตนากฺขเณเยว มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌติ.
ปิสุณวาจาติอาทีสุ ยาย วาจาย ยสฺส ตํ วาจํ ภาสติ, ตสฺส หทเย อตฺตโน ปิยภาวํ ปรสฺส จ สฺุภาวํ กโรติ, สา ปิสุณวาจา. ยาย ปน อตฺตานมฺปิ ปรมฺปิ ผรุสํ กโรติ, ยา วาจา สยมฺปิ ผรุสา เนว กณฺณสุขา น หทยงฺคมา, อยํ ผรุสวาจา. เยน สมฺผํ ปลปติ นิรตฺถกํ, โส สมฺผปฺปลาโป. เตสํ มูลภูตาปิ เจตนา ปิสุณวาจาทินามเมว ลภติ, สา เอว อิธ อธิปฺเปตาติ.
ตตฺถ สํกิลิฏฺจิตฺตสฺส ปเรสํ วา เภทาย อตฺตโน ปิยกมฺยตาย วา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปิสุณวาจา. สา ยสฺส เภทํ กโรติ ¶ , ตสฺส อปฺปคุณาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา.
ตสฺสา จตฺตาโร สมฺภารา โหนฺติ – ภินฺทิตพฺโพ ปโร ‘‘อิติ อิเม นานา ภวิสฺสนฺติ วินา ภวิสฺสนฺตี’’ติ เภทปุเรกฺขารตา วา, ‘‘อิติ อหํ ปิโย ภวิสฺสามิ วิสฺสาสิโก’’ติ วิยกมฺยตา วา, ตชฺโช วายาโม, ตสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ.
ปรสฺส มมฺมจฺเฉทกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เอกนฺตผรุสเจตนา ¶ ผรุสวาจา. มมฺมจฺเฉทโกปิ ¶ ปโยโค จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ. มาตาปิตโร หิ กทาจิ ปุตฺตเก เอวมฺปิ วทนฺติ ‘‘โจรา โว ขณฺฑาขณฺฑิกํ กโรนฺตู’’ติ, อุปฺปลปตฺตมฺปิ จ เนสํ อุปริ ปตนฺตํ น อิจฺฉนฺติ. อาจริยุปชฺฌายา จ กทาจิ นิสฺสิตเก เอวํ วทนฺติ ‘‘กึ อิเม อหิริกา อโนตฺตปฺปิโน จรนฺติ, นิทฺธมถ เน’’ติ. อถ จ เนสํ อาคมาธิคมสมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ. ยถา จ จิตฺตสณฺหตาย ผรุสวาจา น โหติ, เอวํ วจนสณฺหตาย อผรุสวาจาปิ น โหติ. น หิ มาราเปตุกามสฺส ‘‘อิมํ สุขํ สยาเปถา’’ติ วจนํ อผรุสวาจา โหติ, จิตฺตผรุสตาย ปเนสา ผรุสวาจาว, สา ยํ สนฺธาย ปวตฺติตา. ตสฺส อปฺปคุณตาย อปฺปสาวชฺชา, มหาคุณตาย มหาสาวชฺชา. ตสฺสา ตโย สมฺภารา – อกฺโกสิตพฺโพ ปโร กุปิตจิตฺตํ อกฺโกสนนฺติ.
อนตฺถวิฺาปิกา กายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา อกุสลเจตนา สมฺผปฺปลาโป. โส อาเสวนมนฺทตาย อปฺปสาวชฺโช, อาเสวนมหนฺตตาย มหาสาวชฺโช. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ภารตยุทฺธสีตาหรณาทินิรตฺถกกถาปุเรกฺขารตา ตถารูปีกถากถนฺจาติ.
อภิชฺฌายตีติ อภิชฺฌา, ปรภณฺฑาภิมุขี หุตฺวา ตนฺนินฺนตาย ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สา ‘‘อโห วต อิทํ มมาสฺสา’’ติ เอวํ ปรภณฺฑาภิชฺฌายนลกฺขณา. อทินฺนาทานํ วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ. ตสฺสา ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรภณฺฑํ อตฺตโน ปริณามนฺจาติ. ปรภณฺฑวตฺถุเก หิ โลเภ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท โหติ, ยาว ‘‘อโห วติทํ มมาสฺสา’’ติ อตฺตโน น ปริณาเมติ.
หิตสุขํ ¶ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท, โส ปรวินาสาย มโนปโทสลกฺขโณ. ผรุสวาจา วิย อปฺปสาวชฺโช มหาสาวชฺโช จ. ตสฺส ทฺเว สมฺภารา โหนฺติ – ปรสตฺโต จ ตสฺส จ วินาสจินฺตาติ. ปรสตฺตวตฺถุเก หิ โกเธ อุปฺปนฺเนปิ น ตาว กมฺมปถเภโท ¶ โหติ, ยาว ‘‘อโห วตายํ อุจฺฉิชฺเชยฺย วินสฺเสยฺยา’’ติ ตสฺส วินาสํ น จินฺเตสิ.
ยถาภุจฺจคหณาภาเวน มิจฺฉา ปสฺสตีติ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วิปรีตทสฺสนลกฺขณา. สมฺผปฺปลาโป วิย อปฺปสาวชฺชา มหาสาวชฺชา จ.
สฺี, อสฺี, เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺสามาติ รูปาทิวเสน กงฺขนฺติ. ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติอาทินา อตฺตานํ กงฺขนฺติ. ตตฺถ ภวิสฺสาม นุ โข. น นุ โข ภวิสฺสามาติ ตสฺส ¶ สสฺสตาการฺจ อุจฺเฉทาการฺจ นิสฺสาย อนาคเต อตฺตานํ วิชฺชมานตฺจ อวิชฺชมานตฺจ กงฺขนฺติ. กึ นุ โข ภวิสฺสามาติ ชาติลิงฺคุปปตฺติโย นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา นุ โข ภวิสฺสาม, พฺราหฺมณเวสฺสสุทฺทคหฏฺปพฺพชิตเทวมนุสฺสานํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. กถํ นุ โข ภวิสฺสามาติ สณฺานาการํ นิสฺสาย ‘‘ทีฆา นุ โข ภวิสฺสาม, รสฺสโอทาตกณฺหปมาณิกอปฺปมาณิกาทีนํ อฺตรา’’ติ กงฺขนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อิสฺสรนิมฺมานาทีนิ นิสฺสาย ‘เกน นุ โข การเณน ภวิสฺสามา’ติ เหตุโต กงฺขนฺตี’’ติ วทนฺติ. กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสาม นุ โข มยนฺติ ชาติอาทีนิ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยา หุตฺวา นุ โข พฺราหฺมณา ภวิสฺสาม…เป… เทวา หุตฺวา มนุสฺสา’’ติ อตฺตโน ปรมฺปรํ กงฺขนฺติ. สพฺพตฺเถว ปน อทฺธานนฺติ กาลาธิวจนเมตํ.
๑๐. ยสฺมา เอตเทว ตสฺมา หิ สิกฺเขถ…เป… อาหุ ธีราติ. ตตฺถ สิกฺเขถาติ ติสฺโส สิกฺขา อาวชฺเชยฺย. อิเธวาติ อิมสฺมึเยว สาสเน. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา. ติสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท. อธิสีลสิกฺขาติ อธิกํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อธิสีลํ, อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. เอส นโย อธิจิตฺตอธิปฺาสิกฺขาสุ.
กตมํ ปเนตฺถ สีลํ, กตมํ อธิสีลํ, กตมํ จิตฺตํ, กตมํ อธิจิตฺตํ, กตมา ปฺา, กตมา อธิปฺาติ? วุจฺจเต – ปฺจงฺคทสงฺคสีลํ ตาว สีลเมว ¶ . ตฺหิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ ¶ . อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺมึ สีเล พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา สมาทิยนฺติ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ.
ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน ‘‘อธิสีล’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ สูริโย วิย ปชฺโชตานํ สิเนรุ วิย ปพฺพตานํ สพฺพโลกิยสีลานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา อฺโ สตฺโต เปตุํ สกฺโกติ. พุทฺธาเยว ปน สพฺพโส กายวจีทฺวารอชฺฌาจารโสตํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ตสฺส วีติกฺกมสฺส อนุจฺฉวิกํ ตํ สีลสํวรํ ปฺเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีลํ.
กามาวจรานิ ¶ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานิ โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานิ จ เอกชฺฌํ กตฺวา จิตฺตเมวาติ เวทิตพฺพานิ. พุทฺธุปฺปาทานุปฺปาเท จสฺส ปวตฺติ, สมาทปนํ สมาทานฺจ สีเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ปน ‘‘อธิจิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อธิสีลํ วิย สีลานํ, สพฺพโลกิยจิตฺตานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ โหติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ.
‘‘อตฺถิ ทินฺนํ อตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตํ (ม. นิ. ๒.๙๔) ปน กมฺมสฺสกตาาณํ ปฺา. สา หิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺสา ปฺาย พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ, อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จ จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ, สามมฺปิ ปณฺฑิตา สตฺตา สมาทิยนฺติ. ตถา หิ องฺกุโร ทสวสฺสสหสฺสานิ มหาทานํ อทาสิ. เวลาโม เวสฺสนฺตโร อฺเ จ พหู ปณฺฑิตมนุสฺสา มหาทานานิ อทํสุ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุภวึสุ.
ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ¶ ปน ¶ วิปสฺสนาาณํ ‘‘อธิปฺา’’ติ วุจฺจติ. สา หิ อธิสีลอธิจิตฺตานิ วิย สีลจิตฺตานํ, สพฺพโลกิยปฺานํ อธิกา เจว อุตฺตมา จ, น จ วินา พุทฺธุปฺปาทา โลเก ปวตฺตติ. ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา.
อิทานิ เอเกกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กตมา อธิสีลสิกฺขา – อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรตี’’ติอาทิมาห. อิธาติ วจนํ ปุพฺพภาคกรณียสมฺปทาย สมฺปนฺนสฺส สพฺพปการสีลปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙-๑๔๐). ภิกฺขูติ ตสฺส สีลสฺส ปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส ปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวเร ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคีภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสํวรสฺส อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขโต อจวนธมฺมตาปริทีปนํ. สมาทายาติ อิทมสฺส สิกฺขาปทานํ ¶ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ อิทมสฺส สิกฺขาย สมงฺคีภาวปริทีปนํ. สิกฺขาปเทสูติ อิทมสฺส สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ.
ตตฺถ ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. สีลมสฺส อตฺถีติ สีลวาติ เอตฺถ สีลนฺติ สีลนฏฺเน สีลํ. กิมิทํ สีลนํ นาม? สมาธานํ วา, กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ. อุปธารณํ วา, กุสลานํ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน อาธารภาโวติ อตฺโถ. เอตเทว หิ เอตฺถ อตฺถทฺวยํ สทฺทลกฺขณวิทู อนุชานนฺติ. อฺเ ปน ‘‘อธิเสวนฏฺเน อาจารฏฺเน ¶ สีลนฏฺเน สิรฏฺเน สีตลฏฺเน สิวฏฺเน สีล’’นฺติ วณฺณยนฺติ.
สีลนํ ลกฺขณํ ตสฺส, ภินฺนสฺสาปิ อเนกธา;
สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺสเนกธา.
ยถา หิ นีลปีตาทิเภเทนเนกธา ภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ ลกฺขณํ นีลาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สนิทสฺสนภาวานติกฺกมนโต. ตถา สีลสฺส เจตนาทิเภเทน อเนกธา ภินฺนสฺสาปิ ยเทตํ ¶ กายกมฺมาทีนํ สมาธานวเสน, กุสลานฺจ ธมฺมานํ ปติฏฺาวเสน วุตฺตํ สีลนํ, ตเทว ลกฺขณํ เจตนาทิเภเทน ภินฺนสฺสาปิ สมาธานปติฏฺาภาวานติกฺกมนโต. เอวํ ลกฺขณสฺส ปนสฺส –
ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนตา, อนวชฺชคุโณ ตถา;
กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจติ.
ตสฺมา อิทํ สีลํ นาม กิจฺจฏฺเน รเสน ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสํ, สมฺปตฺติอตฺเถน รเสน อนวชฺชรสนฺติ เวทิตพฺพํ.
โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, ตยิทํ ตสฺส วิฺุภิ;
โอตฺตปฺปฺจ หิรี เจว, ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ.
ตฺหิทํ สีลํ ‘‘กายโสเจยฺยํ วจีโสเจยฺยํ มโนโสเจยฺย’’นฺติ เอวํ วุตฺตโสเจยฺยปจฺจุปฏฺานํ, โสเจยฺยภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ คหณภาวํ คจฺฉติ. หิโรตฺตปฺปฺจ ปน ตสฺส วิฺูหิ ปทฏฺานนฺติ วณฺณิตํ, อาสนฺนการณนฺติ อตฺโถ. หิโรตฺตปฺเป หิ สติ สีลํ อุปฺปชฺชติ ¶ เจว ติฏฺติ จ, อสติ เนว อุปฺปชฺชติ เจว น ติฏฺติ จาติ เอวํวิเธน สีเลน สีลวา โหติ. เอตํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส, วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนาทโย ¶ ธมฺมา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘กึ สีลนฺติ? เจตนา สีลํ, เจตสิกํ สีลํ, สํวโร สีลํ, อวีติกฺกโม สีล’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓๙).
ตตฺถ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วา วิรมนฺตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ วา ปูเรนฺตสฺส เจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีหิ วิรมนฺตสฺส วิรติ. อปิ จ เจตนา สีลํ นาม ปาณาติปาตาทีนิ ปชหนฺตสฺส สตฺตกมฺมปถเจตนา. เจตสิกํ สีลํ นาม ‘‘อภิชฺฌํ ปหาย วิคตาภิชฺเฌน เจตสา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๑๗) นเยน สํยุตฺตมหาวคฺเค วุตฺตา อนภิชฺฌาพฺยาปาทสมฺมาทิฏฺิธมฺมา. สํวโร สีลนฺติ เอตฺถ ปฺจวิเธน สํวโร เวทิตพฺโพ – ปาติโมกฺขสํวโร สติสํวโร าณสํวโร ขนฺติสํวโร วีริยสํวโร. ตสฺส นานากรณํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. อวีติกฺกโม สีลนฺติ สมาทินฺนสีลสฺส กายิกวาจสิโก อวีติกฺกโม. เอตฺถ จ สํวรสีลํ, อวีติกฺกมสีลนฺติ อิทเมว นิปฺปริยายโต ¶ สีลํ. เจตนาสีลํ, เจตสิกํ สีลนฺติ ปริยายโต สีลนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํ. ตฺหิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุตฺตํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวรสีเลน สมนฺนาคโต. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อาจาเรน เจว โคจเรน จ สมฺปนฺโน. อณุมตฺเตสูติ อปฺปมตฺตเกสุ. วชฺเชสูติ อกุสลธมฺเมสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสี. สมาทายาติ สมฺมา อาทิยิตฺวา. สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา สิกฺขติ. อปิ จ สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํกิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขาโกฏฺาเสสุ สิกฺขิตพฺพํ กายิกํ วา เจตสิกํ วา, ตํ สพฺพํ สมาทาย สิกฺขติ.
ขุทฺทโก สีลกฺขนฺโธติ สงฺฆาทิเสสาทิสาวเสโส สีลกฺขนฺโธ. มหนฺโตติ ปาราชิกาทินิรวเสโส. ยสฺมา ปน ปาติโมกฺขสีเลน ภิกฺขุ สาสเน ปติฏฺาติ นาม ¶ , ตสฺมา ตํ ‘‘ปติฏฺา’’ติ วุตฺตํ. ปติฏฺหติ วา เอตฺถ ภิกฺขุ, กุสลา ธมฺมา เอว วา เอตฺถ ปติฏฺหนฺตีติ ปติฏฺา. อยมตฺโถ ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒) จ, ‘‘ปติฏฺานลกฺขณํ, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ ¶ , ‘‘สีเล ปติฏฺิโต โข, มหาราช…เป… สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๙) จ อาทิสุตฺตวเสน เวทิตพฺโพ.
ตเทตํ ปุพฺพุปฺปตฺติอตฺเถน อาทิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ตสฺมาติห ตฺวํ อุตฺติย อาทิเมว วิโสเธหิ กุสเลสุ ธมฺเมสุ. โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธํ ทิฏฺิ จ อุชุกา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๘๒). ยถา หิ นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสเธติ, ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวาว นครํ มาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร อาทิโต สีลํ วิโสเธติ, ตโต อปรภาเค สมาธิวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ. ยถา วา ปน รชโก ปมํ ตีหิ ขาเรหิ วตฺถํ โธวิตฺวา ปริสุทฺเธ วตฺเถ ยทิจฺฉกํ รงฺคชาตํ อุปเนติ, ยถา วา ปน เฉโก จิตฺตกาโร รูปํ ลิขิตุกาโม อาทิโตว ภิตฺติปริกมฺมํ กโรติ, ตโต อปรภาเค รูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวเมว โยคาวจโร ¶ อาทิโตว สีลํ วิโสเธตฺวา อปรภาเค สมถวิปสฺสนาทโย ธมฺเม สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘อาที’’ติ วุตฺตํ.
ตเทตํ จรณสริกฺขตาย จรณํ. จรณาติ หิ ปาทา วุจฺจนฺติ. ยถา หิ ฉินฺนจรณสฺส ปุริสสฺส ทิสํ คมนาภิสงฺขาโร น ชายติ, ปริปุณฺณปาทสฺเสว ชายติ, เอวเมว ยสฺส สีลํ ภินฺนํ โหติ ขณฺฑํ อปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ น สมฺปชฺชติ. ยสฺส ปน ตํ อภินฺนํ โหติ อขณฺฑํ ปริปุณฺณํ, ตสฺส นิพฺพานคมนาย าณคมนํ สมฺปชฺชติ. ตสฺมา สีลํ ‘‘จรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
ตเทตํ สํยมนวเสน สํยโม. สํวรณวเสน สํวโรติ อุภเยนาปิ สีลสํยโม เจว สีลสํวโร จ กถิโต. วจนตฺโถ ปเนตฺถ สํยเมติ วีติกฺกมวิปฺผนฺทนํ ¶ , ปุคฺคลํ วา สํยเมติ วีติกฺกมวเสน ตสฺส วิปฺผนฺทิตุํ น เทตีติ สํยโม. วีติกฺกมสฺส ปเวสนทฺวารํ สํวรติ ปิทหตีติ สํวโร.
โมกฺขนฺติ อุตฺตมํ มุขภูตํ วา. ยถา หิ สตฺตานํ จตุพฺพิโธ อาหาโร มุเขน ปวิสิตฺวา องฺคมงฺคานิ ผรติ, เอวํ โยคิโนปิ จตุภูมกกุสลํ สีลมุเขน ปวิสิตฺวา อตฺถสิทฺธึ สมฺปาเทติ. เตน ‘‘โมกฺข’’นฺติ. ปมุเข สาธูติ ปาโมกฺขํ, ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ อตฺโถ. กุสลานํ ธมฺมานํ สมาปตฺติยาติ จตุภูมกกุสลานํ ปฏิลาภตฺถาย ปาโมกฺขํ ปุพฺพงฺคมํ เสฏฺํ ปธานนฺติ เวทิตพฺพํ.
วิวิจฺเจว ¶ กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจ วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ. กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ, นูนิมสฺส ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา, เยสุ สติ อิทํ น ปวตฺตติ อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย, เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.
ตตฺถ ¶ สิยา ‘‘กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’’ติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอว เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห – ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (อิติวุ. ๗๒). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ¶ ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ ปุพฺพภาเค กายวิเวกจิตฺตวิเวกวิกฺขมฺภนวิเวกา ทฏฺพฺพา. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ กายวิเวกจิตฺตวิเวกสมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสรณวิเวกา.
กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ อิธ ‘‘กตเม วตฺถุกามา มนาปิกา รูปา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ อิเธว วิภงฺเค ‘‘ฉนฺโท กาโม ราโค กาโม ฉนฺทราโค กาโม สงฺกปฺโป กาโม ราโค กาโม สงฺกปฺปราโค กาโม’’ติ เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตา อิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ.
วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ. เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ ¶ . เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ. ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส. ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ, ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ าตพฺพํ ¶ . เอส ตาว นโย ‘‘กาเมหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข ¶ .
กิเลสกามปกฺเข ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทว ‘‘กาโม’’ติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กามจฺฉนฺโท, กาโม’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ. อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา, กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔) อุปริฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ, วิทฺธํสกานิ วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายา’’ติ เปฏเก วุตฺตํ.
เอวเมตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหีติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ. อคฺคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิ จ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตอฏฺจิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ วิจาโร. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน ¶ จ ฆณฺฑาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, สุขุมฏฺเน ¶ อนุมชฺชนสภาเวน จ ฆณฺฑานุรโว วิย อนุปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส, อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค.
ทุกนิปาตฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก, วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ. อปิ จ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคฺคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก. ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก. อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก. พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชมาโน วิจาโร. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน จ ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ.
วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปิณยตีติ ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา. สา ¶ ปเนสา ขุทฺทิกาปีติ ¶ , ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ.
ตตฺถ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย, กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ, กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปตฺตา.
ผรณาปีติ ¶ อติพลวตี โหติ. ตาย หิ อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ. สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ, ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธมฺปิ สุขํ ปริปูเรติ กายิกํ เจตสิกฺจ, สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธิฺจาติ. ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคงฺคตา ผรณาปีติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ.
อิตรํ ปน สุขยตีติ สุขํ, ยสฺส อุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุขนํ วา สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ ขณติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, โสมนสฺสเวทนาเยตํ นามํ. ตํ สาตลกฺขณํ. สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ, ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขํ, ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ, เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ, วนจฺฉายปฺปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน ¶ อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ.
อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ, ตฺจสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ¶ อโลปสมาสํ กตฺวา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ปมนฺติ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, อิทํ ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. ฌานนฺติ ทุวิธํ ฌานํ อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานฺจาติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย ปถวีกสิณาทิอารมฺมณํ อุปนิชฺฌายนฺตีติ อารมฺมณูปนิชฺฌานนฺติ สงฺขฺยํ คตา. วิปสฺสนามคฺคผลานิ ปน ลกฺขณูปนิชฺฌานํ นาม. ตตฺถ วิปสฺสนา อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส อุปนิชฺฌานโต ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. วิปสฺสนาย กตกิจฺจสฺส มคฺเคน อิชฺฌนโต มคฺโค ลกฺขณูปนิชฺฌานํ, ผลํ ปน นิโรธสจฺจํ ตถลกฺขณํ อุปนิชฺฌายตีติ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ. เตสุ อิธ ปุพฺพภาเค อารมฺมณูปนิชฺฌานํ, โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ ลกฺขณูปนิชฺฌานํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา อารมฺมณูปนิชฺฌานโต จ ลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ ปจฺจนีกฌาปนโต จ ฌานนฺติ เวทิตพฺพํ.
อุปสมฺปชฺชาติ ¶ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิริยติ, วุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยนํ วุตฺตึ อภินิปฺผาเทติ.
ตํ ปเนตํ ปมชฺฌานํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ. ตตฺถ กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท ถินมิทฺธํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิจิกิจฺฉาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานวเสน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. น หิ เอเตสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตานิ ปหานงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ หิ ฌานกฺขเณ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา ปหียนฺติ, ตถาปิ เอตาเนว วิเสเสน ฌานนฺตรายกรานิ. กามจฺฉนฺเทน หิ นานาวิสยปฺปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ ¶ สมาธิยติ, กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา, ตํ น กามธาตุปฺปหานาย ปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ. พฺยาปาเทน วา อารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น นิรนฺตรํ ปวตฺตติ. ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ ฌานาธิคมสาธิกํ ปฏิปทํ นาโรหติ. อิติ วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานิ.
ยสฺมา ปน วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุปพนฺธติ, เตหิ อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวา ¶ ปีติ ปีณนํ สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ. อถสฺส เสสสมฺปยุตฺตธมฺมา เอเตหิ อภินิโรปนานุพนฺธนปีณนุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา เอกตฺตารมฺมเณ สมํ สมฺมา จ อาธิยติ. ตสฺมา วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺเนสุ หิ เอเตสุ ปฺจสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ. เตนสฺส เอตานิ ปฺจงฺคสมนฺนาคตานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน องฺคมตฺตวเสเนว จตุรงฺคินี เสนา, ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ, อฏฺงฺคิโก จ มคฺโคติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ องฺคมตฺตวเสเนว ปฺจงฺคิกนฺติ วา ปฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ วา วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.
เอตานิ จ ปฺจงฺคานิ กิฺจาปิ อุปจารกฺขเณปิ อตฺถิ, อถ โข อุปจาเร ปกติจิตฺตโต พลวตรานิ. อิธ ปน อุปจารโตปิ พลวตรานิ รูปาวจรลกฺขณปฺปตฺตานิ นิปฺผนฺนานิ. เอตฺถ หิ วิตกฺโก สุวิสเทน อากาเรน อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรปยมาโน อุปฺปชฺชติ. วิจาโร อติวิย อารมฺมณํ อนุมชฺชมาโน. ปีติสุขํ สพฺพาวนฺตมฺปิ กายํ ผรมานํ ¶ . เตเนวาห – ‘‘นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๖). จิตฺเตกคฺคตาปิ เหฏฺิมมฺหิ สมุคฺคปฏเล ¶ อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ วิย อารมฺมเณสุ ผุสิตา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อยเมเตสํ อิตเรหิ วิเสโส. ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา กิฺจาปิ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ อิมสฺมึ ปาเ น นิทฺทิฏฺา, ตถาปิ วิภงฺเค (วิภ. ๕๖๕) ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตา’’ติ เอวํ วุตฺตตฺตา องฺคเมว. เยน หิ อธิปฺปาเยน ภควตา อุทฺเทโส กโต, โสเยว เตน วิภงฺเค ปกาสิโตติ.
ติวิธกลฺยาณํ
ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนติวิธกลฺยาณตา. เตสํเยว จ อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ปาฬิ –
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ. อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ¶ ตสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ. มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’ติ.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส ¶ จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ¶ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกราสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘).
‘‘ตตฺร ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร. อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา. สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา จ เวทิตพฺพา.
กถํ ¶ ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ. วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตํ อุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ เวทิตพฺพา.
เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวูปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน ¶ พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.
เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยฺเจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ ¶ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนาว, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.
วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ, อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธ. โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ ¶ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ (วิภ. ๕๗๓) เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา นิยกชฺฌตฺตํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ, นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจโต สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.
ตตฺรายํ อตฺถโยชนา – เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหิโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส. ตสฺมา เอตํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตํ.
นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว ¶ ‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อทฺุหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย สมฺปสาทนนฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ, ตสฺมา เอโกทิภาวนฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ. ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. เอตฺถาห ‘‘นนุ จ ‘วิตกฺกวิจารานํ ¶ วูปสมา’ติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ. อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ ‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’’นฺติ? วุจฺจเต – เอวเมตํ, สิทฺโธวายมตฺโถ. น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ, นนุ อโวจุมฺห ‘‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.
อปิ ¶ จ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสฺสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา, น ปมชฺฌานมิว จ องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ, เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ. ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ ปุน วตฺตพฺพเมวาติ.
สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา สุปฺปสนฺนตฺตา จ. ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติยํ.
ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา ¶ . อุภินฺนํ ปน อนฺตรา จ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารวูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา วิราคา จ, กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ สมติกฺกมา จาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา ¶ จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว ¶ วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ ‘‘นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสา’’ติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๓๒-๑๓๓) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ, เตนายมตฺโถ วุตฺโต ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.
อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา, สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ.
อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ – ฉฬงฺคุเปกฺขา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา สงฺขารุเปกฺขา เวทนุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา ฌานุเปกฺขา ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.
ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (ม. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.
ยา ¶ ปน ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๒๔๗) เอวมาคตา สหชาตานํ ธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘กาเลน กาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิ กโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา ¶ อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนาคหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑-๗๒; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.
ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ธ. ส. ๑๖๕; ที. นิ. ๑.๒๓๒) เอวมาคตา ¶ สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.
ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท ¶ . เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย, ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.
ยถา เจตาสํ อตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ เอสา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา, ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ ¶ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺถิกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺฑเกน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กินฺตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มฺุเจยฺย’’นฺติ มฺุจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตตาสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนาเยวาติ. อาห เจตฺถ –
‘‘มชฺฌตฺตพฺรหฺมโพชฺฌงฺคฉฬงฺคฌานสุทฺธิโย;
วิปสฺสนา จ สงฺขารเวทนาวีริยํ อิติ.
‘‘วิตฺถารโต ทโสเปกฺขา-ฉมชฺฌตฺตาทิโต ตโต;
ทุเว ปฺา ตโต ทฺวีหิ, จตสฺโสว ภวนฺติมา’’ติ.
อิติ อิมาสุ อุเปกฺขาสุ ฌานุเปกฺขา อิธ อธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา, อนาโภครสา ¶ , อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา, ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห – ‘‘นนุ จายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ. ตสฺมา ตตฺราปิ ‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’ติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตา’’ติ? อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ¶ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ, วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.
สโต ¶ จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. อิติ ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.
ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ, มุฏฺสฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา. โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย – ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตมฺปิ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา, สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ. อิทฺจ อติมธุรสุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ. ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ อาห.
อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ¶ ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคีปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ¶ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? อุเปกฺขโก ¶ สติมา สุขวิหารีติ. ตํ ตติยชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.
กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒียติ. ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห. อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺโต ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ, อิทํ ตติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ตติยํ.
สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา, ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ.
กทา ปน เนสํ ปหานํ โหติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ, ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานํ, อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.
ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ… สุขินฺทฺริยํ… โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ ¶ นิรุชฺฌติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ, สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ¶ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ. อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เนสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ นาติสยนิโรโธ.
ตถา ¶ หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานูปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺกวิจาราภาเว เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว. อปฺปหีนาเยว จ ทุติยชฺฌานูปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปฺปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา, อปฺปนาปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ ‘‘เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.
เอตฺถาห – ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’’ติ? สุขคฺคหณตฺถํ. ยา หิ อยํ อทุกฺขมสุขนฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา ทุพฺพิฺเยฺยา, น สกฺกา สุเขน คเหตุํ, ตสฺมา ¶ ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา วา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส สุขคหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหาเปติ, เอวเมว ภควา สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพา เอตา สมาหรีติ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ‘‘ยํ เนว สุขํ, น ทุกฺขํ, น โสมนสฺสํ, น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.
อปิ จ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร ¶ โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ¶ …เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘). ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ‘‘ตตฺถ ปหีนา’’ติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา. ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานํ อติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส, ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จ เต สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.
อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ, สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ สุขทุกฺขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา, อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.
อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ, ยา จ ตสฺสา สติยา ¶ ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุจฺจติ. ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติ ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ เวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิ จ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.
ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ, ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา, เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมชฺฌานาทิเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ¶ อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา, ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ ¶ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ อุปฺปนฺนนฺติปิ จตุตฺถํ.
ปฺวา โหตีติ ปฺา อสฺส อตฺถีติ ปฺวา. อุทยตฺถคามินิยาติ อุทยคามินิยา เจว อตฺถคามินิยา จ. สมนฺนาคโตติ ปริปุณฺโณ. อริยายาติ นิทฺโทสาย. นิพฺเพธิกายาติ นิพฺเพธปกฺขิกาย. ทุกฺขกฺขยคามินิยาติ นิพฺพานคามินิยา. โส อิทํ ทุกฺขนฺติ เอวมาทีสุ ‘‘เอตฺตกํ ทุกฺขํ น อิโต ภิยฺโย’’ติ สพฺพมฺปิ ทุกฺขสจฺจํ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ. ตสฺส จ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺติกํ ตณฺหํ ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ. ตทุภยมฺปิ ยํ านํ ปตฺวา นิรุชฺฌติ, ตํ เตสํ อปฺปวตฺตึ ¶ นิพฺพานํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. ตสฺส จ สมฺปาปกํ อริยมคฺคํ ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ สรสลกฺขณปฏิเวเธน ยถาภูตํ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
เอวํ สรูปโต สจฺจานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กิเลสวเสน ปริยายโต ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเม อาสวา’’ติอาทิมาห. เต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เอวํ ติสฺโส สิกฺขาโย ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตาสํ ปาริปูริกฺกมํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย อาวชฺชนฺโต สิกฺเขยฺยา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – ปจฺเจกํ ปริปูเรตุํ อาวชฺชนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อาวชฺชิตฺวาปิ ‘‘อยํ นาม สิกฺขา’’ติ ชานนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ชานิตฺวา ปุนปฺปุนํ ปสฺสนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปสฺสิตฺวา ยถาทิฏฺํ ปจฺจเวกฺขนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตตฺเถว จิตฺตํ อจลํ กตฺวา ปติฏฺเปนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, ตํตํสิกฺขาสมฺปยุตฺตสทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาหิ สกสกกิจฺจํ กโรนฺโตปิ สิกฺเขยฺย, อภิฺเยฺยาภิชานนกาเลปิ ตํ ตํ กิจฺจํ กโรนฺโตปิ ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขยฺย, อธิสีลํ อาจเรยฺย, อธิจิตฺตํ สมฺมา จเรยฺย, อธิปฺํ สมาทาย วตฺเตยฺย.
อิธาติ ¶ มูลปทํ. อิมิสฺสา ทิฏฺิยาติอาทีหิ ทสหิ ปเทหิ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สพฺพฺุพุทฺธสาสนเมว กถิตํ. ตฺหิ พุทฺเธน ภควตา ทิฏฺตฺตา ทิฏฺีติ วุจฺจติ. ตสฺเสว ขมนวเสน ขนฺติ, รุจฺจนวเสน รุจิ, คหณวเสน อาทาโย, สภาวฏฺเน ธมฺโม, สิกฺขิตพฺพฏฺเน วินโย, ตทุภเยนปิ ธมฺมวินโย, ปวุตฺตวเสน ปาวจนํ, เสฏฺจริยฏฺเน พฺรหฺมจริยํ, อนุสิฏฺิทานวเสน สตฺถุสาสนนฺติ วุจฺจติ. ตสฺมา ‘‘อิมิสฺสา ทิฏฺิยา’’ติอาทีสุ อิมิสฺสา พุทฺธทิฏฺิยา อิมิสฺสา พุทฺธขนฺติยา อิมิสฺสา พุทฺธรุจิยา อิมสฺมึ พุทฺธอาทาเย อิมสฺมึ พุทฺธธมฺเม อิมสฺมึ พุทฺธวินเย.
‘‘เย ¶ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา สราคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิราคาย, สฺโคาย สํวตฺตนฺติ, โน วิสฺโคาย, อาจยาย สํวตฺตนฺติ, โน อปจยาย, มหิจฺฉตาย สํวตฺตนฺติ, โน อปฺปิจฺฉตาย, อสนฺตุฏฺิยา สํวตฺตนฺติ, โน สนฺตุฏฺิยา, สงฺคณิกาย สํวตฺตนฺติ ¶ , โน ปวิเวกาย, โกสชฺชาย สํวตฺตนฺติ, โน วีริยารมฺภาย, ทุพฺภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน สุภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เนโส ธมฺโม, เนโส วินโย, เนตํ สตฺถุสาสน’นฺติ.
‘‘เย จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… สุภรตาย สํวตฺตนฺติ, โน ทุพฺภรตายา’ติ. เอกํเสน, โคตมิ, ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖) –
เอวํ วุตฺเต อิมสฺมึ พุทฺธธมฺมวินเย อิมสฺมึ พุทฺธปาวจเน อิมสฺมึ พุทฺธพฺรหฺมจริเย อิมสฺมึ พุทฺธสาสเนติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.
อปิ เจตํ สิกฺขตฺตยสงฺขาตํ สกลํ สาสนํ ภควตา ทิฏฺตฺตา สมฺมาทิฏฺิปจฺจยตฺตา สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมตฺตา จ ทิฏฺิ. ภควโต ขมนวเสน ขนฺติ. รุจฺจนวเสน รุจิ. คหณวเสน อาทาโย. อตฺตโน การกํ อปาเยสุ อปตมานํ กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม. โสว สํกิเลสปกฺขํ วิเนตีติ วินโย. ธมฺโม จ โส วินโย จาติ ธมฺมวินโย. กุสลธมฺเมหิ วา อกุสลธมฺมานํ เอส วินโยติ ธมฺมวินโย. เตเนว วุตฺตํ –
‘‘เย ¶ จ โข ตฺวํ, โคตมิ, ธมฺเม ชาเนยฺยาสิ ‘อิเม ธมฺมา วิราคาย สํวตฺตนฺติ, โน สราคาย…เป… เอกํเสน โคตมิ ธาเรยฺยาสิ ‘เอโส ธมฺโม, เอโส วินโย, เอตํ สตฺถุสาสน’’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๕๓; จูฬว. ๔๐๖).
ธมฺเมน วา วินโย, น ทณฺฑาทีหีติ ธมฺมวินโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ, องฺกุเสหิ กสาหิ จ;
อทณฺเฑน อสตฺเถน, นาโค ทนฺโต มเหสินา’’ติ. (จูฬว. ๓๔๒; ม. นิ. ๒.๓๕๒);
ตถา ¶ –
‘‘ธมฺเมน นียมานานํ, กา อุสูยา วิชานต’’นฺติ. (มหาว. ๖๓);
ธมฺมาย วา วินโย ธมฺมวินโย. อนวชฺชธมฺมตฺถฺเหส วินโย, น ภวโภคามิสตฺถํ. เตนาห ภควา ‘‘นยิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ชนกุหนตฺถ’’นฺติ ¶ (อ. นิ. ๔.๒๕) วิตฺถาโร. ปุณฺณตฺเถโรปิ อาห ‘‘อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถํ โข, อาวุโส, ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๙). วิสิฏฺํ วา นยตีติ วินโย. ธมฺมโต วินโย ธมฺมวินโย. สํสารธมฺมโต หิ โสกาทิธมฺมโต วา เอส วิสิฏฺํ นิพฺพานํ นยติ. ธมฺมสฺส วา วินโย, น ติตฺถกรานนฺติ ธมฺมวินโย. ธมฺมภูโต หิ ภควา, ตสฺเสว วินโย.
ยสฺมา วา ธมฺมา เอว อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา ปหาตพฺพา ภาเวตพฺพา สจฺฉิกาตพฺพา จ, ตสฺมา เอส ธมฺเมสุ วินโย, น สตฺเตสุ น ชีเวสุ จาติ ธมฺมวินโย. สาตฺถสพฺยฺชนตาทีหิ อฺเสํ วจนโต ปธานํ วจนนฺติ ปวจนํ, ปวจนเมว ปาวจนํ. สพฺพจริยาหิ วิสิฏฺจริยภาเวน พฺรหฺมจริยํ. เทวมนุสฺสานํ สตฺถุภูตสฺส ภควโต สาสนนฺติ สตฺถุสาสนํ. สตฺถุภูตํ วา สาสนนฺติปิ สตฺถุสาสนํ. ‘‘โส โว มมจฺจเยน สตฺถาติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) หิ ธมฺมวินโยว สตฺถา’’ติ วุตฺโตติ เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน อิมสฺมึเยว สาสเน สพฺพปฺปการชฺฌานนิพฺพตฺตโก ภิกฺขุ ทิสฺสติ, น อฺตฺร, ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อิมิสฺสา’’ติ จ ‘‘อิมสฺมิ’’นฺติ จ อยํ นิยโม กโตติ เวทิตพฺโพ.
ชีวนฺติ ¶ เตน ตํสมฺปยุตฺตกา ธมฺมาติ ชีวิตํ. อนุปาลนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อินฺทฺริยํ. ชีวิตเมว อินฺทฺริยํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ตํ ปวตฺตสนฺตตาธิปเตยฺยํ โหติ. ลกฺขณาทีหิ ปน อตฺตนา อวินิภุตฺตานํ ธมฺมานํ อนุปาลนลกฺขณํ ชีวิตินฺทฺริยํ, เตสํ ปวตฺตนรสํ, เตสํเยว ปนปจฺจุปฏฺานํ, ยาปยิตพฺพธมฺมปทฏฺานํ. สนฺเตปิ จ อนุปาลนลกฺขณาทิมฺหิ วิธาเน อตฺถิกฺขเณเยว ตํ เต ธมฺเม อนุปาเลติ, อุทกํ วิย อุปฺปลาทีนิ. ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺเนปิ จ ธมฺเม ปาเลติ, ธาติ วิย กุมารํ, สยํปวตฺติตธมฺมสมฺพนฺเธเนว ¶ จ ปวตฺตติ, นิยามโก วิย นาวํ. น ภงฺคโต อุทฺธํ ปวตฺตยติ, อตฺตโน จ ปวตฺตยิตพฺพานฺจ อภาวา. น ภงฺคกฺขเณ เปติ, สยํ ภิชฺชมานตฺตา, ขียมาโน วิย วฏฺฏิสิเนโห ปทีปสิขํ, น จ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานุภาววิรหิตํ ¶ , ยถาวุตฺตกฺขเณ ตสฺส ตสฺส สาธนโตติ ทฏฺพฺพํ. ิติปริตฺตตาย วาติ ิติกฺขณสฺส มนฺทตาย โถกตาย. อปฺปกนฺติ มนฺทํ ลามกํ. สรสปริตฺตตาย วาติ อตฺตโน ปจฺจยภูตานํ กิจฺจานํ สมฺปตฺตีนํ วา อปฺปตาย ทุพฺพลตาย.
เตสํ ทฺวินฺนํ การณํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ิติปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถาติ เอวมาทิ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ จิตฺตสฺส นิรุชฺฌนกาเล สพฺพสฺมึ รูปารูปธมฺเม อนิรุชฺฌนฺเตปิ รูปโต อรูปสฺส ปฏฺานภาเวน อรูปชีวิตํ สนฺธาย, จุติจิตฺเตน วา สทฺธึ สพฺเพสํ รูปารูปานํ นิรุชฺฌนภาเวน ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย, จตุโวการภเว รูปสฺส อภาเวน จตุโวการภวํ สนฺธาย กถิต’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อตีเต จิตฺตกฺขเณติ อตีตจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขณสมงฺคีกาเล ตํสมงฺคีปุคฺคโล ‘‘ชีวิตฺถ’’ อิติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสตีติ อนาคตจิตฺตสฺส อนุปฺปชฺชนกฺขณสมงฺคีกาเล ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวตีติ ‘‘ชีวตี’’ติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณติ ปจฺจุปฺปนฺนจิตฺตกฺขณสมงฺคีกาเล. ชีวตีติ ‘‘อิทานิ ชีวตี’’ติ วตฺตุํ ลพฺภติ. น ชีวิตฺถาติ ‘‘ชีวิตฺถ’’อิติ วตฺตุํ น ลพฺภติ. น ชีวิสฺสตีติ ‘‘ชีวิสฺสตี’’ติปิ วตฺตุํ น ลพฺภติ.
ชีวิตํ ¶ อตฺตภาโว จ สุขทุกฺขา จาติ อยํ คาถา ปฺจโวการภวํ อมฺุจิตฺวา ลพฺภมานาย ทุกฺขาย เวทนาย คหิตตฺตา ¶ ปฺจโวการภวเมว สนฺธาย วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. กถํ? ชีวิตนฺติ ชีวิตสีเสน สงฺขารกฺขนฺโธ. อตฺตภาโวติ รูปกฺขนฺโธ. ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนา อนฺโตกริตฺวา สุขทุกฺขา จาติ เวทนากฺขนฺโธ, จิตฺตํ อิติ วิฺาณกฺขนฺโธ วุตฺโต. อิเมสํ จตุนฺนํ ขนฺธานํ กถิตตฺตาเยว ขนฺธลกฺขเณน เอกลกฺขณภาเวน ลกฺขณาการวเสน สฺากฺขนฺโธปิ กถิโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อรูปธมฺมํ มฺุจิตฺวา กมฺมสมุฏฺานาทิรูปสฺส อปฺปวตฺตนภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ อรูปปธานภาโว กถิโต โหติ. กถํ? อสฺสตฺเต รูปมฺปิ อิธุปจิตกมฺมพลํ อมฺุจิตฺวาว ปวตฺตติ, นิโรธสมาปนฺนานํ รูปมฺปิ ปมสมาปนฺนสมาปตฺติพลํ อมฺุจิตฺวาว ปวตฺตติ. เอวํ อตฺตโน อปฺปวตฺติฏฺาเนปิ รูปปวตฺตึ อตฺตโน สนฺตกเมว กตฺวา ปวตฺตนสภาวสฺส อรูปธมฺมสฺส อตฺตโน ปวตฺติฏฺาเน รูปปวตฺติยา ปธานการณภาเวน เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ จิตฺตปธานภาโว กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํ รูปปวตฺติยา ปธานภูตจิตฺตนิโรเธน รูเป ธรมาเนเยว ปวตฺตานํ นิโรโธ นาม โหตีติ อรูปธมฺมวเสน เอว ‘‘ลหุโส วตฺตเต ขโณ’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ปฺจโวการภเว จุติจิตฺตํ สนฺธาย กถิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ กถิยมาเน สุขทุกฺขา จาติ กายิกเจตสิกสุขเวทนา จ กายิกเจตสิกทุกฺขเวทนา จ จุติจิตฺตกฺขเณ อโหนฺตีปิ เอกสนฺตติวเสน จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌตีติ กถิตา. จตุโวการภวํ วา สนฺธาย กถิตาติปิ เวทิตพฺพา. กถํ ¶ ? อฺสฺมึ าเน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺธสฺส วุตฺตภาเวน อตฺตภาโวติ สฺากฺขนฺโธว คหิโต. พฺรหฺมโลเก กายิกสุขทุกฺขโทมนสฺสํ อโหนฺตมฺปิ สุขทุกฺขา จาติ เวทนาสามฺโต ลพฺภมาโน เวทนากฺขนฺโธ คหิโตติ เวทิตพฺพํ. เสสํ วุตฺตสทิสเมว. อิเมสุ จ ตีสุ วิกปฺเปสุ เกวลาติ ธุวสุขสุภอตฺตา นตฺถิ, เกวลํ เตหิ อโวมิสฺสา. ลหุโส วตฺตติ ขโณติ วุตฺตนเยน เอกจิตฺตกฺขณิกตาย ลหุโก อติปริตฺโต ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ.
เอกโต ¶ ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อปฺปวตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘จุลฺลาสีติสหสฺสานี’’ติ คาถมาห. จุลฺลาสีติสหสฺสานิ, กปฺปา ติฏฺนฺติ เย มรูติ เย เทวคณา จตุราสีติ กปฺปสหสฺสานิ อายุํ คเหตฺวา เนวสฺานาสฺายตเน ติฏฺนฺติ. ‘‘เย นรา’’ติปิ ปาฬิ. น ตฺเวว เตปิ ชีวนฺติ, ทฺวีหิ จิตฺตสโมหิตาติ เตปิ เทวา ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สโมหิตา เอกโต หุตฺวา ยุคนทฺเธน จิตฺเตน น ตุ เอว ชีวนฺติ, เอเกเนเกน จิตฺเตน ชีวนฺตีติ อตฺโถ.
อิทานิ มรณกาลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย นิรุทฺธา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ เย นิรุทฺธาติ เย ขนฺธา นิรุทฺธา อตฺถงฺคตา. มรนฺตสฺสาติ มตสฺส. ติฏฺมานสฺส วาติ ธรมานสฺส วา. สพฺเพปิ สทิสา ขนฺธาติ จุติโต อุทฺธํ นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปวตฺเต นิรุทฺธกฺขนฺธา วา ปุน ฆเฏตุํ อสกฺกุเณยฺยฏฺเน สพฺเพปิ ขนฺธา สทิสา. คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ ปุน อาคนฺตฺวา ปฏิสนฺธานาภาเวน คตา อปฺปฏิสนฺธิกาติ วุจฺจนฺติ.
อิทานิ ตีสุ กาเลสุ นิรุทฺธกฺขนฺธานํ นานตฺตํ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อนนฺตรา’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อนนฺตรา จ เย ภคฺคา, เย จ ภคฺคา อนาคตาติ เย ขนฺธา อนนฺตราตีตา หุตฺวา ¶ ภินฺนา นิรุทฺธา, เย จ อนาคตา ขนฺธา ภิชฺชิสฺสนฺติ. ตทนฺตเรติ เตสํ อนฺตเร นิรุทฺธานํ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธานํ. เวสมํ นตฺถิ ลกฺขเณติ วิสมสฺส ภาโว เวสมํ, ตํ เวสมํ นตฺถิ, เตหิ นานตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ. ลกฺขียตีติ ลกฺขณํ, ตสฺมึ ลกฺขเณ.
อิทานิ ¶ อนาคตกฺขนฺธานํ วตฺตมานกฺขนฺเธหิ อสมฺมิสฺสภาวํ กเถนฺโต ‘‘อนิพฺพตฺเตน น ชาโต’’ติ คาถมาห. อนิพฺพตฺเตน น ชาโตติ อชาเตน อปาตุภูเตน อนาคตกฺขนฺเธน น ชาโต น นิพฺพตฺโต. เอเตน อนาคตกฺขนฺธสฺส วตฺตมานกฺขนฺเธน อสมฺมิสฺสภาวํ กเถสิ. ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺเนน วตฺตมานกฺขนฺเธน ชีวติ. เอเตน เอกกฺขเณ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ น ชีวตีติ กถิตํ. จิตฺตภคฺคา มโตติ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ เอกกฺขเณ อชีวนภาเวน จิตฺตภงฺเคน มโต. ‘‘อุปริโต จิตฺตภงฺคา’’ติปิ ปาฬิ, ตํ อุชุกเมว. ปฺตฺติ ปรมตฺถิยาติ ‘‘รูปํ ชีรติ มจฺจานํ, นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖) วจนกฺกเมน ปณฺณตฺติมตฺตํ น ชีรณสภาเวน ปรมา ิติ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิยา, สภาวฏฺิติกาติ อตฺโถ. ‘‘ทตฺโต ¶ มโต, มิตฺโต มโต’’ติ ปณฺณตฺติมตฺตเมว หิ ติฏฺติ. อถ วา ปรมตฺถิยาติ ปรมตฺถิกา. ปรโม อตฺโถ เอติสฺสาติ ปรมตฺถิกา. อชฏากาโสติ ปฺตฺติยา นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ กถนํ วิย มโตติ ปฺตฺติ นตฺถิธมฺมํ ปฏิจฺจ น กถิยติ, ชีวิตินฺทฺริยภงฺคสงฺขาตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กถิยติ.
อนิธานคตา ¶ ภคฺคาติ เย ขนฺธา ภินฺนา, เต นิธานํ นิหิตํ นิจยํ น คจฺฉนฺตีติ อนิธานคตา. ปฺุโช นตฺถิ อนาคเตติ อนาคเตปิ เนสํ ปฺุชภาโว ราสิภาโว นตฺถิ. นิพฺพตฺตาเยว ติฏฺนฺตีติ ปจฺจุปฺปนฺนวเสน อุปฺปนฺนา ิติกฺขเณ วยธมฺมาว หุตฺวา ติฏฺนฺติ. กิมิว? อารคฺเค สาสปูปมาติ สูจิมุเข สาสโป วิย.
อิทานิ ขนฺธานํ ทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพตฺตาน’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ นิพฺพตฺตานํ ธมฺมานนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ. ภงฺโค เนสํ ปุรกฺขโตติ เอเตสํ เภโท ปุรโต กตฺวา ปิโต. ปโลกธมฺมาติ นสฺสนสภาวา. ปุราเณหิ อธิสฺสิตาติ ปุเร อุปฺปนฺเนหิ ขนฺเธหิ น มิสฺสิตา น สํสคฺคา.
อิทานิ ขนฺธานํ อทสฺสนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อทสฺสนโต อายนฺตี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ อทสฺสนโต อายนฺตีติ อทิสฺสมานาเยว อาคจฺฉนฺติ อุปฺปชฺชนฺติ. ภงฺคา คจฺฉนฺติทสฺสนนฺติ เภทา ภงฺคโต อุทฺธํ อทสฺสนภาวํ คจฺฉนฺติ. วิชฺชุปฺปาโทว อากาเสติ วิวฏากาเส วิชฺชุลตานิจฺฉรณํ วิย. อุปฺปชฺชนฺติ วยนฺติ จาติ ปุพฺพนฺตโต อุทฺธํ อุปฺปชฺชนฺติ จ ภิชฺชนฺติ จ, นสฺสนฺตีติ อตฺโถ. ‘‘อุเทติ อาปูรติ เวติ จนฺโท’’ติ (ชา. ๑.๕.๓) เอวมาทีสุ วิย.
เอวํ ¶ ิติปริตฺตตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สรสปริตฺตตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กถํ สรสปริตฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺสาสูปนิพนฺธํ ชีวิตนฺติ อพฺภนฺตรปวิสนนาสิกวาตปฏิพทฺธํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ปสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสิกวาโต. อสฺสาสปสฺสาโสติ ตทุภยํ. มหาภูตูปนิพนฺธนฺติ จตุสมุฏฺานิกานํ ปถวีอาปเตชวายานํ มหาภูตานํ ปฏิพทฺธํ ชีวิตํ. กพฬีการาหารูปนิพนฺธนฺติ อสิตปีตาทิกพฬีการอาหาเรน อุปนิพนฺธํ. อุสฺมูปนิพนฺธนฺติ ¶ กมฺมชเตโชธาตูปนิพนฺธํ. วิฺาณูปนิพนฺธนฺติ ภวงฺควิฺาณูปนิพนฺธํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อายุ อุสฺมา จ วิฺาณํ, ยทา กายํ ชหนฺติม’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๙๕).
อิทานิ ¶ เนสํ ทุพฺพลการณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มูลมฺปิ อิเมสํ ทุพฺพล’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มูลมฺปีติ ปติฏฺฏฺเน มูลภูตมฺปิ. อสฺสาสปสฺสาสานฺหิ กรชกาโย มูลํ. มหาภูตาทีนํ อวิชฺชากมฺมตณฺหาหารา. อิเมสนฺติ วุตฺตปฺปการานํ อสฺสาสาทีนํ ชีวิตินฺทฺริยปวตฺติการณวเสน วุตฺตานํ. เอเตสุ หิ เอเกกสฺมึ อสติ ชีวิตินฺทฺริยํ น ติฏฺติ. ทุพฺพลนฺติ อปฺปถามํ. ปุพฺพเหตูปีติ อตีตชาติยํ อิมสฺส วิปากวฏฺฏสฺส เหตุภูตา การณสงฺขาตา อวิชฺชาสงฺขารตณฺหุปาทานภวาปิ. อิเมสํ ทุพฺพลา เย ปจฺจยา เตปิ ทุพฺพลาติ เย อารมฺมณาทิสาธารณปจฺจยา. ปภาวิกาติ ปธานํ หุตฺวา อุปฺปาทิกา ภวตณฺหา. สหภูมีติ สหภวิกาปิ รูปารูปธมฺมา. สมฺปโยคาปีติ เอกโต ยุตฺตาปิ อรูปธมฺมา. สหชาปีติ สทฺธึ เอกจิตฺเต อุปฺปนฺนาปิ. ยาปิ ปโยชิกาติ จุติปฏิสนฺธิวเสน โยเชตุํ นิยุตฺตาติ ปโยชิกา, วฏฺฏมูลกา ตณฺหา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕). นิจฺจทุพฺพลาติ นิรนฺตเรน ทุพฺพลา. อนวฏฺิตาติ น อวฏฺิตา, โอตริตฺวา น ิตา. ปริปาตยนฺติ อิเมติ อิเม อฺมฺํ ปาตยนฺติ เขปยนฺติ. อฺมฺสฺสาติ อฺโ อฺสฺส, เอโก เอกสฺสาติ อตฺโถ. หิ-อิติ การณตฺเถ นิปาโต. นตฺถิ ตายิตาติ ตายโน รกฺขโก นตฺถิ. น จาปิ เปนฺติ อฺมฺนฺติ อฺเ อฺํ เปตุํ น สกฺโกนฺติ. โยปิ ¶ นิพฺพตฺตโก โส น วิชฺชตีติ โยปิ อิเมสํ อุปฺปาทโก ธมฺโม, โส อิทานิ นตฺถิ.
น จ เกนจิ โกจิ หายตีติ โกจิ เอโกปิ กสฺสจิ วเสน น ปริหายติ. คนฺธพฺพา จ อิเม หิ สพฺพโสติ สพฺเพ หิ อิเม ขนฺธา สพฺพากาเรน ภงฺคํ ปาปุณิตุํ ยุตฺตา. ปุริเมหิ ปภาวิตา อิเมติ ปุพฺพเหตุปจฺจเยหิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทิกา. เยปิ ปภาวิกาติ เยปิ อิเม วตฺตมานกา อุปฺปาทกา ปุพฺพเหตุปจฺจยา. เต ปุเร มตาติ เต วุตฺตปฺปการปจฺจยา วตฺตมานํ อปาปุณิตฺวา ปมเมว มรณํ ปตฺตา. ปุริมาปิ จ ปจฺฉิมาปิ จาติ ปุริมา ปุพฺพเหตุปจฺจยาปิ ¶ จ ปจฺฉิมา วตฺตมาเน ปจฺจยสมุปฺปนฺนา จ. อฺมฺํ น กทาจิ มทฺทสํสูติ อฺมฺํ กิสฺมิฺจิ กาเล น ทิฏฺปุพฺพา. ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.
จาตุมหาราชิกานํ เทวานนฺติ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา อิสฺสรา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. รูปาทีหิ ทิพฺพนฺติ กีฬนฺตีติ ¶ เทวา. เต สิเนรุปพฺพตสฺส เวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกาปิ, อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว เตสํ จาตุมหาราชิกานํ ชีวิตํ. อุปาทายาติ ปฏิจฺจ. ปริตฺตกนฺติ วุทฺธิปฏิเสโธ. โถกนฺติ มนฺทกาลํ, ทีฆทิวสปฏิเสโธ. ขณิกนฺติ มนฺทกาลํ, กาลนฺตรปฏิเสโธ. ลหุกนฺติ สลฺลหุกํ, อลสปฏิเสโธ. อิตรนฺติ สีฆพลวปฏิเสโธ ¶ . อนทฺธนียนฺติ กาลวเสน น อทฺธานกฺขมํ. นจิรฏฺิติกนฺติ ทิวเสน จิรํ น ติฏฺตีติ นจิรฏฺิติกํ, ทิวสปฏิเสโธ.
ตาวตึสานนฺติ เตตฺตึสชนา ตตฺถ อุปปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิ จ ตาวตึสาติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา, อตฺถิ อากาสฏฺกา, เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพสุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน นิมฺมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปเรหิ นิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.
คมนิโยติ คนฺธพฺโพ. สมฺปราโยติ ปรโลโก. โย ภิกฺขเว จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตนฺติ โย จิรํ ติฏฺมาโน, โส วสฺสสตมตฺตํ ติฏฺติ. อปฺปํ วา ภิยฺโยติ วสฺสสตโต อุปริ ติฏฺมาโน ทฺเว วสฺสสตานิ ติฏฺมาโน นาม นตฺถิ. หีเฬยฺย นนฺติ นํ ชีวิตํ อวฺาตํ กเรยฺย, ลามกโต จินฺเตยฺย. ‘‘หีเฬยฺยาน’’นฺติ จ ปนฺติ. อจฺจยนฺตีติ อติกฺกมนฺติ. อโหรตฺตาติ รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทา. อุปรุชฺฌตีติ ชีวิตินฺทฺริยํ นิรุชฺฌติ, อภาวํ อุปคจฺฉติ. อายุ ขิยฺยติ มจฺจานนฺติ สตฺตานํ อายุสงฺขาโร ขยํ ยาติ. กุนฺนทีนํว โอทกนฺติ ยถา อุทกจฺฉินฺนาย กุนฺนทิยา อุทกํ, เอวํ มจฺจานํ อายุ ขิยฺยติ. ปรมตฺถโต หิ อติปริตฺโต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตกฺขณิกมตฺโตเยว. ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ ¶ ¶ เอเกเนว เนมิปเทเสน ปวตฺตติ, ติฏฺมานมฺปิ เอเกเนว ติฏฺติ, เอวเมว เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ ¶ ตสฺมึ จิตฺเต นิรุทฺธมตฺเต สตฺโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ.
ธีราติ ธีรา อิติ. ปุน ธีราติ ปณฺฑิตา. ธิติมาติ ธิติ อสฺส อตฺถีติ ธิติมา. ธิติสมฺปนฺนาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา. ธีกตปาปาติ ครหิตปาปา. ตํเยว ปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘ธี วุจฺจติ ปฺา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปชานาตีติ ปฺา. กึ ปชานาติ? ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทินา นเยน อริยสจฺจานิ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘ปฺาปนวเสน ปฺา’’ติ วุตฺตา. กินฺติ ปฺาเปติ? ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปฺาเปติ. สาว อวิชฺชาย อภิภวนโต อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ, ทสฺสนลกฺขเณ วา อินฺทฏฺํ กาเรตีติปิ อินฺทฺริยํ, ปฺาว อินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. สา ปเนสา โอภาสนลกฺขณา, ปชานนลกฺขณา จ; ยถา หิ จตุภิตฺติเก เคเห รตฺติภาเค ทีเป ชลิเต อนฺธการํ นิรุชฺฌติ, อาโลโก ปาตุภวติ, เอวเมว โอภาสนลกฺขณา ปฺา. ปฺโภาสสโม โอภาโส นาม นตฺถิ. ปฺวโต หิ เอกปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส ทสสหสฺสิโลกธาตุ เอกาโลกา โหติ. เตนาห เถโร –
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห เตลปฺปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิทฺธํเสติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ จ รูปานิ กโรติ; เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิทฺธํเสติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, ปากฏานิ อริยสจฺจานิ กโรติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ (มิ. ป. ๒.๑.๑๕).
ยถา ปน เฉโก ภิสกฺโก อาตุรานํ สปฺปายาสปฺปายานิ โภชนาทีนิ ชานาติ, เอวํ ปฺา อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสเล เสวิตพฺพาเสวิตพฺเพ หีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคอปฺปฏิภาเค ธมฺเม ปชานาติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘ปชานาติ ปชานาตีติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปฺวาติ วุจฺจติ. กิฺจ ปชานาติ? อิทํ ทุกฺขนฺติ ปชานาตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๔๙) วิตฺถาเรตพฺพํ. เอวมสฺสา ปชานนลกฺขณตา เวทิตพฺพา.
อปโร ¶ ¶ นโย – ยถาสภาวปฏิเวธลกฺขณา ปฺา, อกฺขลิตปฏิเวธลกฺขณา วา, กุสลิสฺสาสขิตฺตอุสุปฏิเวโธ วิย. วิสโยภาสรสา, ปทีโป วิย. อสมฺโมหปจฺจุปฏฺานา, อรฺคตสุเทสโก วิย.
ขนฺธธีราติ ¶ ปฺจสุ ขนฺเธสุาณํ ปวตฺเตนฺตีติ ขนฺธธีรา. อฏฺารสสุ ธาตูสุ าณํ ปวตฺเตนฺตีติ ธาตุธีรา. เสเสสุปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เนตพฺโพ. เต ธีรา เอวมาหํสูติ เอเต ปณฺฑิตา เอวํ กถยึสุ. กเถนฺตีติ ‘‘อปฺปกํ ปริตฺตก’’นฺติ กถยนฺติ. ภณนฺตีติ ‘‘โถกํ ขณิก’’นฺติ ภาสนฺติ. ทีปยนฺตีติ ‘‘ลหุกํ อิตฺตร’’นฺติ ปติฏฺเปนฺติ. โวหรนฺตีติ ‘‘อนทฺธนิกํ นจิรฏฺิติก’’นฺติ นานาวิเธน พฺยวหรนฺติ.
๑๑. อิทานิ เย ตถา น กโรนฺติ, เตสํ พฺยสนุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปสฺสามี’’ติ คาถมาห. ตตฺถ ปสฺสามีติ มํสจกฺขุอาทีหิ เปกฺขามิ. โลเกติ อปายาทิมฺหิ. ปริผนฺทมานนฺติ อิโต จิโต จ ผนฺทมานํ. ปชํ อิมนฺติ อิมํ สตฺตกายํ. ตณฺหาคตนฺติ ตณฺหาย คตํ อภิภูตํ นิปาติตนฺติ อธิปฺปาโย. ภเวสูติ กามภวาทีสุ. หีนา นราติ หีนกมฺมนฺตา นรา. มจฺจุมุเข ลปนฺตีติ อนฺตกาเล สมฺปตฺเต มรณมุเข ปริเทวนฺติ. อวีตตณฺหาเสติ อวิคตตณฺหา. ภวาติ กามภวาทิกา. ภเวสูติ กามภวาทิเกสุ. อถ วา ภวาภเวสูติ ภวภเวสุ, ปุนปฺปุนภเวสูติ วุตฺตํ โหติ.
ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนาปิ ปสฺสามีติ ทุวิธํ มํสจกฺขุ – สสมฺภารจกฺขุ ปสาทจกฺขูติ. ตตฺถ โยยํ อกฺขิกูปเก ปติฏฺิโต เหฏฺา อกฺขิกูปกฏฺิเกน อุปริ ภมุกฏฺิเกน อุภโต อกฺขิกูเฏหิ พหิทฺธา อกฺขิโลเมหิ ปริจฺฉินฺโน อกฺขิกูปกมชฺฌา นิกฺขนฺเตน นฺหารุสุตฺตเกน มตฺถลุงฺเค อาพทฺโธ เสตกณฺหมณฺฑลวิจิตฺโต มํสปิณฺโฑ, อิทํ สสมฺภารจกฺขุ นาม. โย ปน ¶ เอตฺถ สิโต เอตฺถ ปฏิพทฺโธ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท, อิทํ ปสาทจกฺขุ นาม. อิทมธิปฺเปตํ. ตเทตํ ตสฺส สสมฺภารจกฺขุโน เสตมณฺฑลปริกฺขิตฺตสฺส กณฺหมณฺฑลสฺส มชฺเฌ อภิมุเข ิตานํ สรีรสณฺานุปฺปตฺติปเทเส ทิฏฺมณฺฑเล สตฺตสุ ¶ ปิจุปฏเลสุ อาสิตฺตเตลํ ปิจุปฏลานิ วิย สตฺตกฺขิปฏลานิ พฺยาเปตฺวา ปมาณโต อูกาสิรมตฺตํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ.
ตํ จกฺขตีติ จกฺขุ, เตน มํสจกฺขุนา ปสฺสามิ. ทิพฺพจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธนา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๔) เอวํวิเธน ทิพฺพจกฺขุนา. ปฺาจกฺขุนาติ ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาที’’ติ (ม. นิ. ๒.๓๙๕; มหาว. ๑๖) เอวํ อาคเตน ปฺาจกฺขุนา. พุทฺธจกฺขุนาติ ‘‘อทฺทสํ โข อหํ, ภิกฺขเว, พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๘๓) เอวมาคเตน พุทฺธจกฺขุนา. สมนฺตจกฺขุนาติ ‘‘สมนฺตจกฺขุ วุจฺจติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (จูฬนิ. โธตกมาณวปุจฺฉาอิทฺเทส ๓๒; โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕) เอวมาคเตน ¶ สมนฺตจกฺขุนา. ปสฺสามีติ มํสจกฺขุนา หตฺถตเล ปิตามลกํ วิย รูปคตํ มํสจกฺขุนา. ทกฺขามีติ สฺชานามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา จุตูปปาตํ. โอโลเกมีติ อวโลเกมิ ปฺาจกฺขุนา จตุสจฺจํ. นิชฺฌายามีติ จินฺเตมิ พุทฺธจกฺขุนา สทฺธาปฺจมกานิ อินฺทฺริยานิ. อุปปริกฺขามีติ สมนฺตโต อิกฺขามิ ปริเยสามิ สมนฺตจกฺขุนา ปฺจ เนยฺยปเถ.
ตณฺหาผนฺทนาย ผนฺทมานนฺติ ตณฺหาจลนาย จลมานํ. อิโต ปรํ ทิฏฺิผนฺทนาทิทิฏฺิพฺยสเนน ทุกฺเขน ผนฺทมานปริโยสานํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมว. สมฺผนฺทมานนฺติ ปุนปฺปุนํ ผนฺทมานํ. วิปฺผนฺทมานนฺติ นานาวิเธน จลมานํ. เวธมานนฺติ กมฺปมานํ. ปเวธมานนฺติ ปธาเนน กมฺปมานํ. สมฺปเวธมานนฺติ ¶ ปุนปฺปุนํ กมฺปมานํ. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ.
ตณฺหานุคตนฺติ ตณฺหาย อนุปวิฏฺํ. ตณฺหายานุสฏนฺติ ตณฺหาย อนุปตฺถฏํ. ตณฺหายาสนฺนนฺติ ตณฺหาย นิมุคฺคํ. ตณฺหาย ปาติตนฺติ ตณฺหาย ขิตฺตํ. ‘‘ปริปาติต’’นฺติ วา ปาโ. อภิภูตนฺติ ตณฺหาย มทฺทิตํ อชฺโฌตฺถฏํ. ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เขเปตฺวา คหิตจิตฺตํ. อถ วา โอเฆน คตํ วิย ตณฺหาคตํ. อุปาทิณฺณกรูปปจฺจเยหิ ปติตฺวา คตํ วิย ตณฺหานุคตํ. อุทกปิฏฺึ ฉาเทตฺวา ปตฺถฏนีลิกา อุทกปิฏฺิ วิย ตณฺหานุสฏํ. วจฺจกูเป นิมุคฺคํ วิย ตณฺหายาสนฺนํ. รุกฺขคฺคโต ปติตฺวา นรเก ปติตํ วิย ตณฺหาปาติตํ. อุปาทิณฺณกรูปํ สํโยคํ วิย ตณฺหาย อภิภูตํ. อุปาทิณฺณกรูปปริคฺคาหกสฺส อุปฺปนฺนวิปสฺสนํ วิย ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตํ. อถ วา กามจฺฉนฺเทน ตณฺหาคตํ. กามปิปาสาย ตณฺหานุคตํ. กามาสเวน ¶ ตณฺหานุสฏํ. กามปริฬาเหน ตณฺหายาสนฺนํ. กามชฺโฌสาเนน ตณฺหาย ปาติตํ. กาโมเฆน ตณฺหาย อภิภูตํ. กามุปาทาเนน ตณฺหาย ปริยาทินฺนจิตฺตนฺติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. กามภเวติ กามาวจเร. รูปภเวติ รูปาวจเร. อรูปภเวติ อรูปาวจเร. เตสํ นานตฺตํ เหฏฺา ปกาสิตํเยว.
ภวาภเวสูติ ภวาภเวติ ภโวติ กามธาตุ. อภโวติ รูปารูปธาตุ. อถ วา ภโวติ กามธาตุ รูปธาตุ. อภโวติ อรูปธาตุ. เตสุ ภวาภเวสุ. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ปุนพฺภเวติ โปโนภวิเก วิปากวฏฺเฏ. กามภเวติ กามธาตุยา. กมฺมภเวติ กมฺมวฏฺเฏ. ตตฺถ กมฺมภโว ภาวยตีติ ภโว. กามภเว ปุนพฺภเวติ กามธาตุยา อุปปตฺติภเว วิปากวฏฺเฏ. วิปากภโว ภวตีติ ภโว. รูปภวาทีสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ‘‘กามภเว รูปภเว อรูปภเว’’ติ ¶ โอกาสภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตีสุปิ ‘‘กมฺมภเว’’ติ กมฺมภวํ ¶ , ตถา ‘‘ปุนพฺภเว’’ติ อุปปตฺติภวํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปุนปฺปุนพฺภเวติ อปราปรํ อุปฺปตฺติยํ. คติยาติ ปฺจคติยา อฺตราย. อตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยาติ อตฺตภาวานํ อภินิพฺพตฺติยา. อวีตตณฺหาติ มูลปทํ. อวิคตตณฺหาติ ขณิกสมาธิ วิย ขณิกปฺปหานาภาเวน น วิคตา ตณฺหา เอเตสนฺติ อวิคตตณฺหา. อจตฺตตณฺหาติ ตทงฺคปฺปหานาภาเวน อปริจฺจตฺตตณฺหา. อวนฺตตณฺหาติ วิกฺขมฺภนปฺปหานาภาเวน น วนฺตตณฺหาติ อวนฺตตณฺหา. อมุตฺตตณฺหาติ อจฺจนฺตสมุจฺเฉทปฺปหานาภาเวน น มุตฺตตณฺหา. อปฺปหีนตณฺหาติ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานาภาเวน น ปหีนตณฺหา. อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหาติ นิสฺสรณปฺปหานาภาเวน ภเว ปติฏฺิตํ อนุสยกิเลสํ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ิตตฺตา อปฺปฏินิสฺสฏฺตณฺหา.
๑๒. อิทานิ ยสฺมา อวิคตตณฺหา เอวํ ผนฺทนฺติ จ ลปนฺติ จ, ตสฺมา ตณฺหาวินเย สมาทเปนฺโต ‘‘มมายิเต’’ติ คาถมาห. ตตฺถ มมายิเตติ ตณฺหาทิฏฺิมมตฺเตหิ ‘‘มม’’นฺติ ปริคฺคหิเต วตฺถุสฺมึ. ปสฺสถาติ โสตาเร อาลปนฺโต อาห. เอตมฺปีติ เอตมฺปิ อาทีนวํ. เสสํ ปากฏเมว.
ทฺเว มมตฺตาติ ทฺเว อาลยา. ยาวตาติ ปริจฺเฉทนิยมตฺเถ นิปาโต. ตณฺหาสงฺขาเตนาติ ตณฺหาโกฏฺาเสน, สงฺขา สงฺขาตนฺติ อตฺถโต ¶ เอกํ ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) วิย. สีมกตนฺติ อปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ มริยาทกตํ ‘‘ติโยชนปรมํ สีมํ สมฺมนฺนิตุ’’นฺติ อาทีสุ (มหาว. ๑๔๐) วิย. โอธิกตนฺติ วจนปริจฺเฉทโทสวิรหิตํ ปริจฺเฉทกตํ ¶ สีมนฺตริกรุกฺโข วิย. ปริยนฺตกตนฺติ ปริจฺเฉทกตํ. สีมนฺตริกรุกฺโข ปน ทฺวินฺนํ สาธารณํ, อยํ ปน เอกาพทฺธตาลปนฺติ วิย กตนฺติ ปริยนฺตกตํ. ปริคฺคหิตนฺติ กาลนฺตเรปิ ปรายตฺตํ มฺุจิตฺวา สพฺพากาเรน คหิตํ. มมายิตนฺติ อาลยกตํ วสฺสูปคตํ เสนาสนํ วิย. อิทํ มมนฺติ สมีเป ิตํ. เอตํ มมนฺติ ทูเร ิตํ. เอตฺตกนฺติ ปริกฺขารนิยมนํ ‘‘เอตฺตกมฺปิ นปฺปฏิภาเสยฺยา’’ติ วิย. เอตฺตาวตาติ ปริจฺเฉทตฺเถปิ นิปาตนิยมนํ ‘‘เอตฺตาวตา โข มหานามา’’ติ วิย. เกวลมฺปิ มหาปถวินฺติ สกลมฺปิ มหาปถวึ.
อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตนฺติ อฏฺุตฺตรสตํ ตณฺหาคมนวิตฺถารํ. อฏฺุตฺตรสตํ กถํ โหตีติ เจ? รูปตณฺหา…เป… ธมฺมตณฺหาติ เอวํ จกฺขุทฺวาราทีสุ ชวนวีถิยา ปวตฺตา ตณฺหา ‘‘เสฏฺิปุตฺโต, พฺราหฺมณปุตฺโต’’ติ เอวมาทีสุ ปิติโต ลทฺธนามา วิย ปิตุสทิสารมฺมเณ ภูตา. เอตฺถ ¶ จ รูปารมฺมณา รูเป ตณฺหาติ รูปตณฺหา. สา กามราคภาเวน รูปํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา กามตณฺหา. สสฺสตทิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา ภวตณฺหา. อุจฺเฉททิฏฺิสหคตราคภาเวน ‘‘รูปํ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ ปจฺเฉทํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อสฺสาเทนฺตี ปวตฺตมานา วิภวตณฺหาติ เอวํ ติวิธา โหติ. ยถา จ รูปตณฺหา, ตถา สทฺทตณฺหาทโยปีติ เอตานิ อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ. ตานิ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อฏฺารส, พหิทฺธารูปาทีสุ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส, อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ อฏฺสตํ. อชฺฌตฺติกสฺส อุปาทาย ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ วา เอวมาทีนิ อชฺฌตฺติกรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารส, พาหิรสฺสุปาทาย อิมินา ‘‘อสฺมี’’ติ โหติ, อิมินา ‘‘อิตฺถสฺมี’’ติ โหตีติ พาหิรรูปาทินิสฺสิตานิ อฏฺารสาติ ฉตฺตึส. อิติ อตีตานิ ฉตฺตึส, อนาคตานิ ฉตฺตึส, ปจฺจุปฺปนฺนานิ ฉตฺตึสาติ เอวมฺปิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ.
วีสติวตฺถุกา ¶ ¶ สกฺกายทิฏฺีติ รูปาทีนํ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอเกกมฺปิ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๐-๑๓๑) นเยน จตุธา คาหวเสน ปวตฺตานิ วตฺถูนิ กตฺวา อุปฺปนฺนา วิชฺชมานฏฺเน สติ ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย ทิฏฺีติ สกฺกายทิฏฺิ. ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา มิจฺฉาทิฏฺิ, อยาถาวทิฏฺิ วิรชฺฌิตฺวา คหณโต วา วิตถา ทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ, อนตฺถาวหตฺตา ปณฺฑิเตหิ กุจฺฉิตา ทิฏฺีติปิ มิจฺฉาทิฏฺิ. สา อโยนิโส อภินิเวสลกฺขณา, ปรามาสรสา, มิจฺฉาภินิเวสปจฺจุปฏฺานา, อริยานมทสฺสนกามตาทิปทฏฺานา, ปรมวชฺชาติ ทฏฺพฺพา. ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺีติ สสฺสโต โลโก, อสสฺสโต โลโก, อนฺตวา โลโก’’ติ อาทินยปฺปวตฺตา เอเกกํ โกฏฺาสํ ปติฏฺํ กตฺวา คหณวเสน เอวํ ปวตฺตา ทิฏฺิ ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ. ยา เอวรูปา ทิฏฺีติ ยา เอวํชาติกา ทิฏฺิ. ทิฏฺิคตนฺติ ทิฏฺีสุ คตํ. อิทํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิอนฺโตคธตฺตาติ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺิเยว ทุรติกฺกมนฏฺเน คหนํ ทิฏฺิคหนํ ติณคหนวนคหนปพฺพตคหนานิ วิย. สาสงฺกสปฺปฏิภยฏฺเน ทิฏฺิกนฺตารํ โจรกนฺตารวาฬกนฺตารนิรุทกกนฺตารทุพฺภิกฺขกนฺตารา วิย. สมฺมาทิฏฺิยา วินิวิชฺฌนฏฺเน วิโลมนฏฺเน จ ทิฏฺิวิสูกายิกํ. มิจฺฉาทสฺสนฺหิ อุปฺปชฺชมานํ สมฺมาทสฺสนํ วินิวิชฺฌติ เจว วิโลเมติ จ. กทาจิ สสฺสตสฺส, กทาจิ อุจฺเฉทสฺส คหณโต ทิฏฺิยา วิรูปํ ผนฺทิตนฺติ ทิฏฺิวิปฺผนฺทิตํ. ทิฏฺิคติโก หิ เอกสฺมึ ปติฏฺาตุํ น สกฺโกติ. กทาจิ สสฺสตํ อนุสฺสรติ, กทาจิ อุจฺเฉทํ. ทิฏฺิเยว พนฺธนฏฺเน สํโยชนนฺติ ทิฏฺิสํโยชนํ. สุสุมาราทโย ¶ วิย ปุริสํ อารมฺมณํ ทฬฺหํ คณฺหาตีติ คาโห. ปติฏฺหนโต ปติฏฺาโห. อยฺหิ ¶ พลวปวตฺติภาเวน ปติฏฺหิตฺวา คณฺหาติ. นิจฺจาทิวเสน อภินิวิสตีติ อภินิเวโส. ธมฺมสภาวํ อติกฺกมิตฺวา นิจฺจาทิวเสน ปรโต อามสตีติ ปรามาโส. อนตฺถาวหตฺตา กุจฺฉิโต มคฺโค, กุจฺฉิตานํ วา อปายานํ มคฺโคติ กุมฺมคฺโค. อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. ยถา หิ ทิสามูฬฺเหน ‘‘อยํ อสุกคามสฺส นาม ปโถ’’ติ คหิโตปิ ตํ คามํ น สมฺปาเปติ, เอวํ ทิฏฺิคติเกน ‘‘สุคติปโถ’’ติ คหิตาปิ ทิฏฺิ สุคตึ น ปาเปตีติ อยาถาวปถโต มิจฺฉาปโถ. มิจฺฉาสภาวโต มิจฺฉตฺตํ. ตตฺเถว ปริพฺภมนโต ¶ ตรนฺติ เอตฺถ พาลาติ ติตฺถํ, ติตฺถฺจ ตํ อนตฺถานฺจ อายตนนฺติ ติตฺถายตนํ, ติตฺถิยานํ วา สฺชาติเทสฏฺเน นิวาสฏฺานฏฺเน จ อายตนนฺติปิ ติตฺถายตนํ. วิปริเยสภูโต คาโห, วิปริเยสโต วา คาโหติ วิปริเยสคฺคาโห. อสภาวคาโหติ วิปรีตคฺคาโห. ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติ อาทินยปฺปวตฺตวเสน ปริวตฺเตตฺวา คาโห วิปลฺลาสคฺคาโห. อนุปายคาโห มิจฺฉาคาโห. อยาถาวกสฺมึ วตฺถุสฺมึ น สภาวสฺมึ วตฺถุสฺมึ ตถํ ยาถาวกํ สภาวนฺติ คาโห ‘‘อยาถาวกสฺมึ ยาถาวก’’นฺติ คาโห. ยาวตาติ ยตฺตกา. ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานีติ พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) อาคตานิ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ.
อจฺเฉทสํกิโนปิ ผนฺทนฺตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา ปสยฺห พลกฺกาเรน คณฺหิสฺสนฺตีติ อุปฺปนฺนสํกิโนปิ จลนฺติ. อจฺฉินฺทนฺเตปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉิชฺชนฺเตปิ. อจฺฉินฺเนปีติ วุตฺตนเยน อจฺฉินฺทิตฺวา คหิเตปิ. วิปริณามสํกิโนปีติ ปริวตฺเตตฺวา อฺถาภาเวน อาสํกิโนปิ ¶ . วิปริณามนฺเตปีติ วิปริวตฺตนกาเลปิ. วิปริณเตปีติ วิปริวตฺติเตปิ. ผนฺทนฺตีติ จลนฺติ. สมฺผนฺทนฺตีติ สพฺพากาเรน จลนฺติ. วิปฺผนฺทนฺตีติ วิวิธากาเรน ผนฺทนฺติ. เวธนฺตีติ ภยํ ทิสฺวา กมฺปนฺติ. ปเวธนฺตีติ ฉมฺภิตตฺตา ภเยน วิเสเสน กมฺปนฺติ. สมฺปเวธนฺตีติ โลมหํสนภเยน สพฺพากาเรน กมฺปนฺติ. ผนฺทมาเนติ อุปโยคพหุวจนํ. อปฺโปทเกติ มนฺโททเก. ปริตฺโตทเกติ ลุฬิโตทเก. อุทกปริยาทาเนติ ขีโณทเก. พลากาหิ วาติ วุตฺตาวเสสาหิ ปกฺขิชาตีหิ. ปริปาติยมานาติ วิหึสิยมานา ฆฏฺฏิยมานา. อุกฺขิปิยมานาติ กทฺทมนฺตรโต นีหริยมานา คิลิยมานา วา. ขชฺชมานาติ ขาทิยมานา. ผนฺทนฺติ กาเกหิ. สมฺผนฺทนฺติ กุลเลหิ. วิปฺผนฺทนฺติ พลากาหิ. เวธนฺติ ตุณฺเฑน คหิตกาเล มรณวเสน. ปเวธนฺติ วิชฺฌนกาเล. สมฺปเวธนฺติ มรณสมีเป.
ปสฺสิตฺวาติ อคุณํ ปสฺสิตฺวา. ตุลยิตฺวาติ คุณาคุณํ ตุลยิตฺวา. ตีรยิตฺวาติ คุณาคุณํ วิตฺถาเรตฺวา. วิภาวยิตฺวาติ วตฺถุหานภาคึ มฺุจิตฺวา วชฺเชตฺวา. วิภูตํ กตฺวาติ นิปฺผตฺตึ ปาเปตฺวา อาเวณิกํ กตฺวา. อถ วา สํกิณฺณโทสํ โมเจตฺวา วตฺถุวิภาคกรเณน ปสฺสิตฺวา. อปริจฺเฉทโทสํ ¶ โมเจตฺวา ปมาณกรณวเสน ตุลยิตฺวา. วตฺถุโทสํ โมเจตฺวา วิภาคกรณวเสน ตีรยิตฺวา. สมฺโมหโทสํ โมจยิตฺวา ¶ อคฺควิภาคกรณวเสน วิภาวยิตฺวา. ฆนโทสํ โมเจตฺวา ปกติวิภาคกรเณน วิภูตํ กตฺวา. ปหายาติ ปชหิตฺวา. ปฏินิสฺสชฺชิตฺวาติ นิสฺสชฺชิตฺวา. อมมายนฺโตติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อาลยํ อกโรนฺโต. อคณฺหนฺโตติ ทิฏฺิยา ปุพฺพภาเค ปฺาย ตํ น คณฺหนฺโต. อปรามสนฺโตติ วิตกฺเกน อูหนํ อกโรนฺโต. อนภินิเวสนฺโตติ นิยาโมกฺกนฺติทิฏฺิวเสน นปฺปวิสนฺโต.
อกุพฺพมาโนติ ปริคฺคาหตณฺหาวเสน อกโรนฺโต. อชนยมาโนติ โปโนภวิกตณฺหาวเสน อชนยมาโน. อสฺชนยมาโนติ ¶ วิเสเสน อสฺชนยมาโน. อนิพฺพตฺตยมาโนติ ปตฺถนาตณฺหาวเสน น นิพฺพตฺตยมาโน. อนภินิพฺพตฺตยมาโนติ สพฺพากาเรน น อภินิพฺพตฺตยมาโน. อุปสคฺควเสน วา เอตานิ ปทานิ วฑฺฒิตานิ. เอวเมตฺถ ปมคาถาย อสฺสาทํ.
๑๓. ตโต ปราหิ จตูหิ คาถาหิ อาทีนวฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายํ นิสฺสรณํ นิสฺสรณานิสํสฺจ ทสฺเสตุํ, สพฺพาหิ วา เอตาหิ กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนกฺขมฺเม อานิสํสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุโภสุ อนฺเตสู’’ติ คาถาทฺวยมาห. ตตฺถ อุโภสุ อนฺเตสูติ ผสฺสผสฺสสมุทยาทีสุ ทฺวีสุ, ทฺวีสุ ปริจฺเฉเทสุ. วิเนยฺย ฉนฺทนฺติ ฉนฺทราคํ วิเนตฺวา. ผสฺสํ ปริฺายาติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิผสฺสํ, ผสฺสานุสาเรน วา ตํสมฺปยุตฺเต สพฺเพปิ อรูปธมฺเม, เตสํ วตฺถุทฺวารารมฺมณวเสน รูปธมฺเม จาติ สกลมฺปิ นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา. อนานุคิทฺโธติ รูปาทีสุ สพฺพธมฺเมสุ อคิทฺโธ. ยทตฺตครหี ตทกุพฺพมาโนติ ยํ อตฺตนา ครหติ, ตํ อกุรุมาโน. น ลิมฺปตี ทิฏฺสุเตสุ ธีโรติ โส เอวรูโป ธิติสมฺปนฺโน ธีโร ทิฏฺเสุ จ สุเตสุ จ ธมฺเมสุ ทฺวินฺนํ เลปานํ เอเกนาปิ เลเปน น ลิมฺปติ, อากาสมิว นิรุปลิตฺโต อจฺจนฺตโวทานปฺปตฺโต โหติ.
ผสฺโส เอโก อนฺโตติ ผสฺโส เอกปริจฺเฉโท. ผุสตีติ ผสฺโส. สฺวายํ ผุสนลกฺขโณ, สงฺฆฏฺฏนรโส, สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน, อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน. อยฺหิ อรูปธมฺโมปิ สมาโน อารมฺมเณ ¶ ผุสนากาเรเนว ปวตฺตตีติ ผุสนลกฺขโณ. เอกเทเสเนว อนลฺลียมาโนปิ รูปํ วิย จกฺขุํ, สทฺโท วิย จ โสตํ จิตฺตํ อารมฺมณฺจ สงฺฆฏฺเฏตีติ สงฺฆฏฺฏนรโส, วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต วา อุปฺปนฺนตฺตา สมฺปตฺติอตฺเถนปิ รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘จตุภูมกผสฺโส ¶ โน ผุสนลกฺขโณ นาม นตฺถิ, สงฺฆฏฺฏนรโส ปน ปฺจทฺวาริโกว โหติ. ปฺจทฺวาริกสฺส หิ ผุสนลกฺขโณติปิ สงฺฆฏฺฏนรโสติปิ นามํ. มโนทฺวาริกสฺส ผุสนลกฺขโณตฺเวว นามํ, น สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ ¶ (ธ. ส. อฏฺ. ๑, กามาวจรกุสล, ธมฺมุทฺเทสกถา).
อิทฺจ วตฺวา อิทํ สุตฺตํ (มิ. ป. ๒.๓.๘) อาภตํ –
‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, ยถา เอโก เมณฺโฑ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย เมณฺโฑ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จ. ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ, ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ. ยถา เอโก ปาณิ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย ปาณิ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ. เอวํ ผุสนลกฺขโณ จ ผสฺโส สงฺฆฏฺฏนรโส จา’’ติ วิตฺถาโร.
ยถา วา ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๓๕๒, ๑๓๕๔) จกฺขุวิฺาณาทีนิ จกฺขุอาทินาเมน วุตฺตานิ, เอวมิธาปิ ตานิ จกฺขุอาทินาเมเนว วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตสฺมา ‘‘เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพ’’นฺติอาทีสุ เอวํ จกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพนฺติ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สนฺเต จิตฺตารมฺมณสงฺฆฏฺฏนโต อิมสฺมิมฺปิ สุตฺเต กิจฺจฏฺเเนว รเสน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส’’ติ สิทฺโธ โหติ. ติณฺณํ สนฺนิปาตสงฺขาตสฺส ปน อตฺตโน การณสฺส วเสน ปเวทิตตฺตา สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน. อยฺหิ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส’’ติ เอวํ การณสฺเสว วเสน ปเวทิโตติ. อิมสฺส จ สุตฺตปทสฺส ติณฺณํ สงฺคติยา ผสฺโสติ อยมตฺโถ, น สงฺคติมตฺตเมว ผสฺโส.
เอวํ ¶ ปเวทิตตฺตา ปน เตเนวากาเรน ปจฺจุปฏฺาตีติ ‘‘สนฺนิปาตปจฺจุปฏฺาโน’’ติ วุตฺโต. ผลฏฺเน ปน ปจฺจุปฏฺาเนเนส เวทนาปจฺจุปฏฺาโน นาม โหติ. เวทนํ เหส ปจฺจุปฏฺาเปติ, อุปฺปาเทตีติ อตฺโถ. อุปฺปาทยมาโน จ ยถา พหิทฺธา อุณฺหปจฺจยาปิ สมานา ลาขาสงฺขาตธาตุนิสฺสิตา อุสฺมา อตฺตโน นิสฺสเย มุทุภาวการี โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ พหิทฺธา วีตจฺจิตงฺคารสงฺขาเต อุณฺหภาเว. เอวํ วตฺถารมฺมณสงฺขาตอฺปจฺจโยปิ สมาโน จิตฺตนิสฺสิตตฺตา อตฺตโน นิสฺสยภูเต จิตฺเต เอว เอส เวทนุปฺปาทโก โหติ, น อตฺตโน ปจฺจยภูเตปิ วตฺถุมฺหิ อารมฺมเณวาติ ¶ เวทิตพฺโพ. ตชฺเชน ¶ สมนฺนาหาเรน ปน อินฺทฺริเยน จ ปริกฺขเต วิสเย อนนฺตราเยน อุปฺปชฺชนโต เอส ‘‘อาปาถคตวิสยปทฏฺาโน’’ติ วุจฺจติ.
ผสฺโส ยโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, โส ‘‘ผสฺสสมุทโย’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ (มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕). อตีตทุโก กาลวเสน วุตฺโต. เวทนาทุโก ‘‘อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒) วุตฺตตฺตา อุเปกฺขาเวทนํ สุขเมว กตฺวา สุขทุกฺขวเสน, นามรูปทุโก รูปารูปวเสน, อายตนทุโก สํสารปวตฺติวเสน, สกฺกายทุโก ปฺจกฺขนฺธวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สุขยตีติ สุขา. เวทยตีติ เวทนา. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขา. นมนลกฺขณํ นามํ. รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ. จกฺขายตนาทีนิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ. รูปายตนาทีนิ ฉ พาหิรานิ. รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา วิชฺชมานฏฺเน สกฺกาโย. อวิชฺชากมฺมตณฺหาอาหารผสฺสนามรูปา สกฺกายสมุทโย.
จกฺขุสมฺผสฺโสติ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. จกฺขุโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺโส. โส ปน อตฺตนา สมฺปยุตฺตาย เวทนาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา ปจฺจโย โหติ. สุณาตีติ โสตํ. ตํ สสมฺภารโสตพิลสฺส อนฺโต ตนุตมฺพโลมาจิเต องฺคุลิเวกสณฺาเน ปเทเส โสตวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. โสตโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส โสตสมฺผสฺโส. ฆานสมฺผสฺสาทีสุปิ เอเสว นโย. ฆายตีติ ฆานํ ¶ . ตํ สสมฺภารพิลสฺส อนฺโต อชปทสณฺาเน ปเทเส ฆานวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานํ ติฏฺติ. ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา, สายนฏฺเน วา ชิวฺหา. สา สสมฺภารชิวฺหาย อติอคฺคมูลปสฺสานิ วชฺเชตฺวา อุปริมตลมชฺเฌ ภินฺนอุปฺปลทลคฺคสณฺาเน ปเทเส ชิวฺหาวิฺาณาทีนํ ¶ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมานา ติฏฺติ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย. อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ยาวตา อิมสฺมึ กาเย อุปาทิณฺณปวตฺติ นาม อตฺถิ, ตตฺถ เยภุยฺเยน กายปฺปสาโท กายวิฺาณาทีนํ ยถารหํ วตฺถุทฺวารภาวํ สาธยมาโน ติฏฺติ. มุนาตีติ มโน, วิชานาตีติ อตฺโถ. มโนติ สหาวชฺชนภวงฺคํ; มนโต ปวตฺโต สมฺผสฺโส มโนสมฺผสฺโส.
ฉพฺพิธมฺปิ ผสฺสํ ทุวิธเมว โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อธิวจนสมฺผสฺโส ปฏิฆสมฺผสฺโส’’ติ อาห ¶ . มโนทฺวาริโก อธิวจนสมฺผสฺโส. ปฺจทฺวาริโก วตฺถารมฺมณาทิปฏิเฆน อุปฺปชฺชนโต ปฏิฆสมฺผสฺโส.
สุขเวทนาย อารมฺมเณ สุขเวทนีโย. ทุกฺขเวทนาย อารมฺมเณ ทุกฺขเวทนีโย. อทุกฺขมสุขเวทนาย อารมฺมเณ อทุกฺขมสุขเวทนีโย. ตตฺถ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. สุฏฺุ วา ขนติ, ขาทติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ. ทุกฺขยตีติ ทุกฺขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ ทุกฺขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. น ทุกฺขํ น สุขนฺติ อทุกฺขมสุขํ, ม-กาโร ปทสนฺธิวเสน วุตฺโต.
กุสโลติอาทโย ชาติวเสน วุตฺตา. ตตฺถ กุสโลติ เอกวีสติกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อกุสโลติ ทฺวาทสากุสลจิตฺตสมฺปยุตฺโต. อพฺยากโตติ อวเสสวิปากกิริยาพฺยากตจิตฺตสมฺปยุตฺโต.
ปุน ภวปฺปเภทวเสน นิทฺทิสนฺโต ‘‘กามาวจโร’’ติอาทิมาห. จตุปฺาสกามาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต กามาวจโร. กามํ ปหาย รูเป อวจรตีติ รูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ปฺจทสรูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต. กามฺจ รูปฺจ ปหาย อรูเป อวจรตีติ อรูปาวจโร, กุสลาพฺยากตวเสน ทฺวาทสารูปาวจรจิตฺตสมฺปยุตฺโต.
อิทานิ ¶ อภินิเวสวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สฺุโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สฺุโตติ ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สฺุโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ.
อิทานิ วฏฺฏปริยาปนฺนอปริยาปนฺนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘โลกิโย’’ติอาทิมาห. โลโก วุจฺจติ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน วฏฺฏํ ¶ , ตสฺมึ ปริยาปนฺนภาเวน โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโย. อุตฺติณฺโณติ อุตฺตโร, โลเก อปริยาปนฺนภาเวน โลกโต อุตฺตโรติ โลกุตฺตโร. ผุสนาติ ผุสนากาโร. สมฺผุสนา สมฺผุสิตตฺตนฺติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.
เอวํ าตํ กตฺวาติ เอวํ ปากฏํ กตฺวา ชานนฺโต ตีเรติ ตีรยติ, อุปริ วตฺตพฺพากาเรน จินฺเตติ. อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวนฺตตาย จ อนิจฺจโต ตีเรติ. อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย ¶ กิเลสาสุจิปคฺฆรตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย, อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว ลาภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถาวินิปาติตาย, ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ ¶ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย, อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต. นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ¶ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ‘‘ตุจฺฉ’’นฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทก การกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สฺุโต.
สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย, ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว, กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ. ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย, เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสธมฺมโต. อวิชฺชากมฺมตณฺหาสฬายตนวเสน อุปฺปตฺติโต สมุทยโต. เตสํ อภาเวน อตฺถงฺคมโต. ผสฺเส ฉนฺทราควเสน มธุรสฺสาเทน อสฺสาทโต. ผสฺสสฺส วิปริณาเมน อาทีนวโต. อุภินฺนํ นิสฺสรเณน นิสฺสรณโต ตีเรตีติ สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ตีเรตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.
ปชหตีติ สกสนฺตานโต นีหรติ. วิโนเทตีติ ตุทติ. พฺยนฺตึ กโรตีติ วิคตนฺตํ ¶ กโรติ. อนภาวํ คเมตีติ อนุ อนุ อภาวํ คเมติ. อริยมคฺคสตฺเถน อุจฺฉินฺนํ ตณฺหาอวิชฺชามยํ มูลเมเตสนฺติ อุจฺฉินฺนมูลา. ตาลวตฺถุ วิย เนสํ วตฺถุ กตนฺติ ตาลาวตฺถุกตา. ยถา หิ ตาลรุกฺขํ สมูลํ อุทฺธริตฺวา ตสฺส วตฺถุมตฺเต ตสฺมึ ปเทเส กเต น ปุน ตสฺส ตาลสฺส อุปฺปตฺติ ปฺายติ, เอวํ อริยมคฺคสตฺเถน สมูเล รูปาทิรเส อุทฺธริตฺวา เตสํ ปุพฺเพ อุปฺปนฺนปุพฺพภาเวน วตฺถุมตฺเต จิตฺตสนฺตาเน กเต สพฺเพปิ เต ‘‘ตาลาวตฺถุกตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ยสฺเสโสติ ¶ ยสฺส ¶ ปุคฺคลสฺส เอโส เคโธ. สมุจฺฉินฺโนติ อุจฺฉินฺโน. วูปสนฺโตติ ผเลน วูปสนฺโต. ปฏิปสฺสทฺโธติ ปฏิปสฺสทฺธิปฺปหาเนน ปฏิปสฺสมฺภิโต. อุปสคฺเคน วา ปทํ วฑฺฒิตํ. อภพฺพุปฺปตฺติโกติ ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อภพฺโพ. าณคฺคินา ทฑฺโฒติ มคฺคาณคฺคินา ฌาปิโต. อถ วา วิสนิกฺขิตฺตํ ภาชเนน สห ฉฑฺฑิตํ วิย วตฺถุนา สห ปหีโน. มูลจฺฉินฺนวิสวลฺลิ วิย สมูลจฺฉินฺโนติ สมุจฺฉินฺโน. อุทฺธเน อุทกํ สิฺจิตฺวา นิพฺพาปิตองฺคารํ วิย วูปสนฺโต. นิพฺพาปิตองฺคาเร ปติตอุทกผุสิตํ วิย ปฏิปสฺสทฺโธ. องฺกุรุปฺปตฺติยา เหตุจฺฉินฺนพีชํ วิย อภพฺพุปฺปตฺติโก. อสนิปาตวิสรุกฺโข วิย าณคฺคินา ทฑฺโฒติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ.
วีตเคโธติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วิคตเคโธติ อิทํ อารมฺมเณ สาลยภาวปริจฺจชนวเสน. จตฺตเคโธติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺตเคโธติ อิทํ สนฺตติโต วินิโมจนวเสน. ปหีนเคโธติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺเคโธติ อิทํ อาทินฺนปุพฺพสฺส นิสฺสคฺคทสฺสนวเสน วุตฺตํ. วีตราโค วิคตราโค จตฺตราโคติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. ตตฺถ คิชฺฌนวเสน เคโธ. รฺชนวเสน ราโค. นิจฺฉาโตติ นิตฺตณฺโห. ‘‘นิจฺฉโท’’ติปิ ปาโ, ตณฺหาฉทนวิรหิโตติ อตฺโถ. นิพฺพุโตติ นิพฺพุตสภาโว. สีติภูโตติ สีตสภาโว. สุขปฏิสํเวทีติ กายิกเจตสิกสุขํ อนุภวนสภาโว. พฺรหฺมภูเตนาติ อุตฺตมสภาเวน. อตฺตนาติ จิตฺเตน.
กตตฺตา จาติ ปาปกมฺมานํ กตภาเวน จ. อกตตฺตา จาติ กุสลานํ อกตภาเวน จ. กตํ เม กายทุจฺจริตํ, อกตํ เม กายสุจริตนฺติอาทโย ทฺวารวเสน อวิรติวิรติวเสน กมฺมปถวเสน จ วุตฺตา. สีเลสุมฺหิ น ปริปูรการีติอาทโย จตุปาริสุทฺธิสีลวเสน. ชาคริยมนนุยุตฺโตติ ปฺจชาครณวเสน. สติสมฺปชฺเนาติ สาตฺถกาทิสมฺปชฺวเสน ¶ . จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา โลกิยโลกุตฺตรวเสน. ทุกฺขํ เม อปริฺาตนฺติอาทโย จตฺตาโร อริยสจฺจวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. เต อตฺถโต ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนยตฺตา ปากฏาเยว.
ธีโร ¶ ¶ ปณฺฑิโตติ สตฺต ปทา วุตฺตตฺถาเยว. อปิ จ ทุกฺเข อกมฺปิยฏฺเน ธีโร. สุเข อนุปฺปิลวฏฺเน ปณฺฑิโต. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ กตปริจยฏฺเน ปฺวา. อตฺตตฺถปรตฺเถ นิจฺจลฏฺเน พุทฺธิมา. คมฺภีรอุตฺตานตฺเถ อปจฺโจสกฺกนฏฺเน าณี. คุฬฺหปฏิจฺฉนฺนตฺเถ โอภาสนฏฺเน วิภาวี. นิกฺกิเลสพฺยวทานฏฺเน ตุลาสทิโสติ เมธาวี. น ลิมฺปตีติ สชาติยา น ลิมฺปติ อากาเส เลขา วิย. น ปลิมฺปตีติ วิเสเสน น ลิมฺปติ. น อุปลิมฺปตีติ สฺโโค หุตฺวาปิ น ลิมฺปติ หตฺถตเล เลขา วิย. อลิตฺโตติ สฺโโค หุตฺวาปิ น กิลิสฺสติ กาสิกวตฺเถ ปิตมณิรตนํ วิย. อปลิตฺโตติ วิเสเสน น กิลิสฺสติ มณิรตเน ปลิเวิตกาสิกวตฺถํ วิย. อนุปลิตฺโตติ อุปคนฺตฺวาปิ น อลฺลียติ โปกฺขรปตฺเต อุทกพินฺทุ วิย. นิกฺขนฺโตติ พหิ นิกฺขนฺโต พนฺธนาคารโต ปลาโต วิย. นิสฺสโฏติ ปาปปหีโน อมิตฺตสฺส ปฏิจฺฉาปิตกิลิฏฺวตฺถุ วิย. วิปฺปมุตฺโตติ สุฏฺุ มุตฺโต คยฺหูปเค วตฺถุมฺหิ รตึ นาเสตฺวา ปุน นาคมนํ วิย. วิสฺุตฺโตติ กิเลเสหิ เอกโต น ยุตฺโต พฺยาธินา มุตฺตคิลาโน วิย. วิมริยาทิกเตน เจตสาติ วิคตมริยาทกเตน จิตฺเตน, สพฺพภเวน สพฺพารมฺมเณน สพฺพกิเลเสหิ มุตฺตจิตฺเตนาติ อตฺโถ.
๑๔. สฺํ ปริฺาติ คาถาย ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ – น เกวลฺจ ผสฺสเมว, อปิ จ โข ปน กามสฺาทิเภทํ สฺํ, สฺานุสาเรน วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว นามรูปํ ตีหิ ปริฺาหิ ปริชานิตฺวา อิมาย ปฏิปทาย จตุพฺพิธมฺปิ ¶ วิตเรยฺย โอฆํ, ตโต โส ติณฺโณโฆ ตณฺหาทิฏฺิปริคฺคเหสุ ตณฺหาทิฏฺิกิเลสปฺปหาเนน อนุปลิตฺโต ขีณาสวมุนิ ราคาทิสลฺลานํ อพฺพูฬฺหตฺตา อพฺพูฬฺหสลฺโล, สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา อปฺปมตฺโต จรํ, ปุพฺพภาเค วา อปฺปมตฺโต จรนฺโต เตน อปฺปมาทจาเรน อพฺพูฬฺหสลฺโล หุตฺวา สกปรตฺตภาวาทิเภทํ นาสีสติ โลกมิมํ ปรฺจ, อฺทตฺถุ จริมจิตฺตนิโรธา นิรุปาทาโนว ชาตเวโท ปรินิพฺพาตีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ, ธมฺมเนตฺติปนเมว กโรนฺโต; น ตุ อิมาย เทสนาย มคฺคํ วา ผลํ วา อุปฺปาเทสิ, ขีณาสวสฺส เทสิตตฺตาติ.
นีลาทิเภทํ ¶ อารมฺมณํ สฺชานาตีติ สฺา. สา สฺชานนลกฺขณา ปจฺจาภิฺาณรสา. จตุภูมิกสฺา หิ โนสฺชานนลกฺขณา นาม นตฺถิ, สพฺพา สฺชานนลกฺขณาว. ยา ปเนตฺถ อภิฺาเณน สฺชานาติ, สา ปจฺจาภิฺาณรสา นาม โหติ. ตสฺสา วฑฺฒกิสฺส ทารุมฺหิ อภิฺาณํ กตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ตํ ปจฺจาภิชานนกาเล, ปุริสสฺส กาฬติลกาทิอภิฺาณํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุน เตน อภิฺาเณน ‘‘อสุโก นาม เอโส’’ติ ตสฺส ปจฺจาภิชานนกาเล, รฺโ ปิฬนฺธนโคปกภณฺฑาคาริกสฺส ¶ ตสฺมึ ตสฺมึ ปิฬนฺธเน นามปณฺณกํ พนฺธิตฺวา ‘‘อสุกํ ปิฬนฺธนํ นาม อาหรา’’ติ วุตฺเต ทีปํ ชาเลตฺวา สารคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปณฺณํ วาเจตฺวา ตสฺส ตสฺเสว ปิฬนฺธนสฺส อาหรณกาเล จ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
อปโร นโย – สพฺพสงฺคาหิกวเสน หิ สฺชานนลกฺขณา สฺา, ปุนสฺชานนปจฺจยนิมิตฺตกรณรสา ทารุอาทีสุ ตจฺฉกาทโย วิย, ยถาคหิตนิมิตฺตวเสน อภินิเวสกรณปจฺจุปฏฺานา หตฺถิทสฺสกอนฺโธ วิย, อารมฺมเณ อโนคาฬฺหวุตฺติตาย อจิรฏฺานปจฺจุปฏฺานา วา วิชฺชุ วิย, ยถาอุปฏฺิตวิสยปทฏฺานา ติณปุริสเกสุ มิคโปตกานํ ปุริสาติ อุปฺปนฺนสฺา วิย. ยา ปเนตฺถ าณสมฺปยุตฺตา โหติ, สา าณเมว อนุวตฺตติ, สสมฺภารปถวีอาทีสุ เสสธมฺมา ปถวีอาทีนิ วิยาติ เวทิตพฺพา.
กามปฏิสฺุตฺตา สฺา กามสฺา. พฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา พฺยาปาทสฺา. วิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา วิหึสาสฺา ¶ . เตสุ ทฺเว สตฺเตสุปิ สงฺขาเรสุปิ อุปฺปชฺชนฺติ. กามสฺา หิ ปิเย มนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา วิตกฺเกนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ. พฺยาปาทสฺา อปฺปิเย อมนาเป สตฺเต วา สงฺขาเร วา กุชฺฌิตฺวา โอโลกนกาลโต ปฏฺาย ยาว วินาสนา อุปฺปชฺชติ. วิหึสาสฺา สงฺขาเรสุ น อุปฺปชฺชติ. สงฺขาโร หิ ทุกฺขาเปตพฺโพ นาม นตฺถิ. ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตุ วา, อุจฺฉิชฺชนฺตุ วา, วินสฺสนฺตุ วา, มา วา อเหสุ’’นฺติ จินฺตนกาเล ปน สตฺเตสุ อุปฺปชฺชติ. เนกฺขมฺมปฏิสฺุตฺตา สฺา เนกฺขมฺมสฺา, สา อสุภปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, อสุภฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. อพฺยาปาทปฏิสฺุตฺตา สฺา อพฺยาปาทสฺา, สา เมตฺตาปุพฺพภาเค กามาวจรา โหติ, เมตฺตาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล ¶ โลกุตฺตรา. อวิหึสาปฏิสฺุตฺตา สฺา อวิหึสาสฺา, สา กรุณาปุพฺพภาเค กามาวจรา, กรุณาฌาเน รูปาวจรา, ตํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปนฺนมคฺคผลกาเล โลกุตฺตรา. ยทา อโลโภ สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา เมตฺตา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. ยทา กรุณา สีสํ โหติ, ตทา อิตเร ทฺเว ตทนฺวายิกา ภวนฺติ. รูปารมฺมณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา สฺา รูปสฺา. สทฺทสฺาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ ตสฺสาเยว อารมฺมณโต นามํ. อารมฺมณานํ วุตฺตตฺตา จกฺขุสมฺผสฺสชาทิวตฺถูนิปิ วุตฺตาเนว โหนฺติ.
ยา เอวรูปา สฺาติ อฺาปิ ‘‘ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ เอวมาทิกา เวทิตพฺพา. ตตฺถ อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺาติปิ ปริยาเยน ฉทฺวาริกาเยว ¶ . ตโย หิ อรูปิโน ขนฺธา สยํ ปิฏฺิวฏฺฏกา หุตฺวา อตฺตนา สหชาตสฺาย ‘‘อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา’’ติ นามํ กโรนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน ปฏิฆสมฺผสฺสชา สฺา นาม ปฺจทฺวาริกา สฺา, อธิวจนสมฺผสฺสชา สฺา นาม มโนทฺวาริกา สฺา. เอตา อติเรกสฺา ปริคฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.
สฺาติ ¶ สภาวนามํ. สฺชานนาติ สฺชานนากาโร. สฺชานิตตฺตนฺติ สฺชานิตภาโว.
อวิชฺโชฆนฺติ ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตํ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ อวิชฺชา. ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สฺุฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา. อนฺตวิรหิเต สํสาเร โยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ อวิชฺชา. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ อวิชฺชา. อปิ จ จกฺขุวิฺาณาทีนํ วตฺถารมฺมณานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏิจฺจสมุปฺปนฺนานฺจ ธมฺมานํ ฉาทนโตปิ อวิชฺชา, ตํ อวิชฺโชฆํ. กาโมฆวเสน อุตฺตเรยฺย. ภโวฆวเสน ปตเรยฺย. ทิฏฺโฆวเสน สมติกฺกเมยฺย. อวิชฺโชฆวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา โสตาปตฺติมคฺเคน ¶ ปหานวเสน อุตฺตเรยฺย. สกทาคามิมคฺเคน ปหานวเสน ปตเรยฺย. อนาคามิมคฺเคน ปหานวเสน สมติกฺกเมยฺย. อรหตฺตมคฺเคน ปหานวเสน วีติวตฺเตยฺย. อถ วา ‘‘ตเรยฺยาทิปฺจปทํ ตทงฺคาทิปฺจปหาเนน โยเชตพฺพ’’นฺติ เกจิ วทนฺติ.
‘‘โมนํ วุจฺจติ าณ’’นฺติ วตฺวา ตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยา ปฺา ปชานนา’’ติอาทิมาห. ตํ วุตฺตนยเมว เปตฺวา ‘‘อโมโห ธมฺมวิจโย’’ติ ปทํ. อโมโห กุสเลสุ ธมฺเมสุ อภาวนาย ปฏิปกฺโข ภาวนาเหตุ. อโมเหน อวิปรีตํ คณฺหาติ มูฬฺหสฺส วิปรีตคฺคหณโต. อโมเหน ยาถาวํ ยาถาวโต ธาเรนฺโต ยถาสภาเว ปวตฺตติ. มูฬฺโห หิ ‘‘ตจฺฉํ อตจฺฉํ, อตจฺฉฺจ ตจฺฉ’’นฺติ คณฺหาติ; ตถา อิจฺฉิตาลาภทุกฺขํ น โหติ. อมูฬฺหสฺส ‘‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’ติ เอวมาทิปจฺจเวกฺขณสมฺภวโต มรณทุกฺขํ น โหติ. สมฺโมหมรณฺหิ ทุกฺขํ, น จ ตํ อมูฬฺหสฺส โหติ. ปพฺพชิตานํ สุขสํวาโส โหติ, ติรจฺฉานโยนิยํ นิพฺพตฺติ น โหติ. โมเหน หิ นิจฺจสมฺมูฬฺหา ติรจฺฉานโยนึ อุปปชฺชนฺติ ¶ ¶ . โมหปฏิปกฺโข จ อโมโห โมหวเสน อมชฺฌตฺตภาวสฺส อภาวกโร. อโมเหน อวิหึสาสฺา ธาตุสฺา มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปชฺชนํ, ปจฺฉิมคนฺถทฺวยสฺส ปเภทนฺจ โหติ. ปจฺฉิมานิ ทฺเว สติปฏฺานานิ ตสฺเสว อานุภาเวน อิชฺฌนฺติ. อโมโห ทีฆายุกตาย ปจฺจโย โหติ. อมูฬฺโห หิ หิตาหิตํ ตฺวา อหิตํ ปริวชฺเชนฺโต หิตฺจ ปฏิเสวมาโน ทีฆายุโก โหติ, อตฺตสมฺปตฺติยา อปริหีโน โหติ. อมูฬฺโห หิ อตฺตโน หิตเมว กโรนฺโต อตฺตานํ สมฺปาเทติ. อริยวิหารสฺส ปจฺจโย โหติ, อุทาสินปกฺเขสุ นิพฺพุโต โหติ อมูฬฺหสฺส สพฺพาภิสงฺคตาย อภาวโต. อโมเหน อนตฺตทสฺสนํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห หิ ยาถาวคหณกุสโล อปริณายกํ ขนฺธปฺจกํ อปริณายกโต พุชฺฌติ. ยถา จ เอเตน อนตฺตทสฺสนํ, เอวํ อตฺตทสฺสนํ โมเหน. โก หิ นาม อตฺตสฺุตํ พุชฺฌิตฺวา ปุน สมฺโมหํ อาปชฺเชยฺยาติ.
เตน าเณน สมนฺนาคโตติ เอเตน วุตฺตปฺปกาเรน าเณน สมงฺคีภูโต เสกฺขาทโย มุนิ. โมนปฺปตฺโตติ ปฏิลทฺธาโณ มุนิภาวํ ¶ ปตฺโต. ตีณีติ คณนปริจฺเฉโท. โมเนยฺยานีติ มุนิภาวกรา โมเนยฺยกรา ปฏิปทา ธมฺมา. กายโมเนยฺยนฺติอาทีสุ วิฺตฺติกายรูปกายวเสน ปฺาเปตพฺพํ กายโมเนยฺยํ. วิฺตฺติวาจาสทฺทวาจาวเสน ปฺาเปตพฺพํ วจีโมเนยฺยํ. มโนทฺวาริกจิตฺตาทิวเสน ปฺาเปตพฺพํ มโนโมเนยฺยํ. ติวิธกายทุจฺจริตานํ ปหานนฺติ ปาณาติปาตาทิวิธานํ กายโต ปวตฺตานํ ทุฏฺุ จริตานํ ปชหนํ. กายสุจริตนฺติ กายโต ปวตฺตํ สุฏฺุ จริตํ. กายารมฺมเณ าณนฺติ กายํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตํ กายารมฺมเณ าณํ. กายปริฺาติ กายํ าตตีรณปฺปหานปริฺาหิ ชานนวเสน ปวตฺตํ าณํ. ปริฺาสหคโต มคฺโคติ อชฺฌตฺติกํ กายํ สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค ปริฺาสหคโต. กาเย ฉนฺทราคสฺส ปหานนฺติ กาเย ตณฺหาฉนฺทราคสฺส ปชหนํ. กายสงฺขารนิโรโธติ ¶ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิโรโธ อาวรโณ, จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. วจีสงฺขารนิโรโธติ วิตกฺกวิจารานํ นิโรโธ อาวรโณ, ทุติยชฺฌานสมาปตฺติสมาปชฺชนํ. จิตฺตสงฺขารนิโรโธติ สฺาเวทนานํ นิโรโธ อาวรโณ, สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนํ.
ปมคาถาย กายมุนินฺติอาทีสุ กายทุจฺจริตปฺปหานวเสน กายมุนิ. วจีทุจฺจริตปฺปหานวเสน วาจามุนิ. มโนทุจฺจริตปฺปหานวเสน มโนมุนิ. สพฺพากุสลปฺปหานวเสน อนาสวมุนิ. โมเนยฺยสมฺปนฺนนฺติ ชานิตพฺพํ ชานิตฺวา ผเล ิตตฺตา โมเนยฺยสมฺปนฺนํ. อาหุ สพฺพปฺปหายินนฺติ สพฺพกิเลเส ปชหิตฺวา ิตตฺตา สพฺพปฺปหายินํ กถยนฺติ.
ทุติยคาถาย ¶ นินฺหาตปาปกนฺติ โย อชฺฌตฺตพหิทฺธสงฺขาเต สพฺพสฺมิมฺปิ อายตเน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน อุปฺปตฺติรหานิ สพฺพปาปกานิ มคฺคาเณน นินฺหาย โธวิตฺวา ิตตฺตา นินฺหาตปาปกํ อาหูติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อคารมชฺเฌ วสนฺตา อคารมุนิโน. ปพฺพชฺชุปคตา อนคารมุนิโน. ตตฺถ เสกฺขา เสกฺขมุนิโน. อรหนฺโต อเสกฺขมุนิโน. ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน. สมฺมาสมฺพุทฺธา มุนิมุนิโน.
ปุน กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาวเสน ‘‘กตเม อคารมุนิโน’’ติ อาห. อคาริกาติ กสิโครกฺขาทิอคาริกกมฺเม นิยุตฺตา. ทิฏฺปทาติ ทิฏฺนิพฺพานา ¶ . วิฺาตสาสนาติ วิฺาตํ สิกฺขตฺตยสาสนํ เอเตสนฺติ วิฺาตสาสนา. อนคาราติ กสิโครกฺขาทิอคาริยกมฺมํ เอเตสํ นตฺถีติ ปพฺพชิตา ‘‘อนคารา’’ติ วุจฺจนฺติ. สตฺต เสกฺขาติ โสตาปนฺนาทโย สตฺต. ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ เสกฺขา. อรหนฺโต น สิกฺขนฺตีติ อเสกฺขา. ตํ ตํ การณํ ปฏิจฺจ เอกกาว อนาจริยกาว จตุสจฺจํ พุชฺฌิตวนฺโตติ ปจฺเจกพุทฺธา ปจฺเจกมุนิโน.
มุนิมุนิโน วุจฺจนฺติ ตถาคตาติ เอตฺถ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ตถาคโต – ตถา อาคโตติ ตถาคโต, ตถา คโตติ ตถาคโต, ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต, ตถธมฺเม ยาถาวโต ¶ อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต, ตถทสฺสิตาย ตถาคโต, ตถวาทิตาย ตถาคโต, ตถาการิตาย ตถาคโต, อภิภวนฏฺเน ตถาคโตติ.
กถํ ภควา ตถา อาคโตติ ตถาคโต? ยถา สพฺพโลกหิตาย อุสฺสุกฺกมาปนฺนา ปุริมกา สมฺมาสมฺพุทฺธา อาคตา. กึ วุตฺตํ โหติ? เยนาภินีหาเรน ปุริมกา ภควนฺโต อาคตา, เตเนว อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต ทานสีลเนกฺขมฺมปฺาวีริยขนฺติสจฺจาธิฏฺานเมตฺตุเปกฺขาสงฺขาตา ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรมตฺถปารมิโยติ สมตึสปารมิโย ปูเรตฺวา องฺคปริจฺจาคํ นยนธนรชฺชปุตฺตทารปริจฺจาคนฺติ อิเม ปฺจ มหาปริจฺจาเค ปริจฺจชิตฺวา ปุพฺพโยคปุพฺพจริยธมฺมกฺขานาตตฺถจริยาทโย ปูเรตฺวา พุทฺธิจริยาย โกฏึ ปตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. ยถา จ ปุริมกา ภควนฺโต จตฺตาโร สติปฏฺาเน, จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน, จตฺตาโร อิทฺธิปาเท, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺเค, อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวตฺวา ปูเรตฺวา อาคตา, ตถา อมฺหากมฺปิ ภควา อาคโต. เอวํ ตถา อาคโตติ ตถาคโต.
‘‘ยถา ¶ จ ทีปงฺกรพุทฺธอาทโย, สพฺพฺุภาวํ มุนโย อิธาคตา;
ตถา อยํ สกฺยมุนีปิ อาคโต, ตถาคโต วุจฺจติ เตน จกฺขุมา’’ติ.
กถํ ¶ ตถา คโตติ ตถาคโต? ยถา สมฺปติชาตา ปุริมกา ภควนฺโต คตา. กถฺจ เต คตา? เต หิ สมฺปติชาตา สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺาย อุตฺตราภิมุขา สตฺตปทวีติหาเรน คตา. ยถาห –
‘‘สมฺปติชาโต, อานนฺท, โพธิสตฺโต สเมหิ ปาเทหิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา อุตฺตราภิมุโข สตฺตปทวีติหาเรน คจฺฉติ, เสตมฺหิ ฉตฺเต อนุธาริยมาเน สพฺพา จ ทิสา อนุวิโลเกติ, อาสภิฺจ วาจํ ภาสติ – ‘อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส, เชฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, เสฏฺโหมสฺมิ โลกสฺส, อยมนฺติมา ชาติ, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๑; ม. นิ. ๓.๒๐๗).
ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ อเนเกสํ วิเสสาธิคมานํ ¶ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. ยฺหิ โส สมฺปติชาโต สเมหิ ปาเทหิ ปติฏฺาติ, อิทมสฺส จตุริทฺธิปาทปฏิลาภสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. อุตฺตรมุขภาโว ปนสฺส สพฺพโลกุตฺตรภาวสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. สตฺตปทวีติหาโร สตฺตโพชฺฌงฺครตนปฏิลาภสฺส. ‘‘สุวณฺณทณฺฑา วีติปตนฺติ จามรา’’ติ (สุ. นิ. ๖๙๓) เอตฺถ วุตฺตจามรุกฺเขโป ปน สพฺพติตฺถิยนิมฺมทนสฺส. เสตจฺฉตฺตธารณํ อรหตฺตวิมุตฺติวรวิมลเสตจฺฉตฺตปฏิลาภสฺส. สพฺพทิสานุวิโลกนํ สพฺพฺุตานาวรณาณปฏิลาภสฺส. อาสภิวาจาภาสนํ ปน อปฺปฏิวตฺติยวรธมฺมจกฺกปวตฺตนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตํ. ตถา อยํ ภควาปิ คโต. ตฺจสฺส คมนํ ตถํ อโหสิ อวิตถํ เตสํเยว วิเสสาธิคมานํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน. เตนาหุ โปราณา –
‘‘มุหุตฺตชาโตว ควมฺปตี ยถา, สเมหิ ปาเทหิ ผุสี วสุนฺธรํ;
โส วิกฺกมี สตฺต ปทานิ โคตโม, เสตฺจ ฉตฺตํ อนุธารยุํ มรู.
‘‘คนฺตฺวาน โส สตฺต ปทานิ โคตโม, ทิสา วิโลเกสิ สมา สมนฺตโต;
อฏฺงฺคุเปตํ คิรมพฺภุทีรยิ, สีโห ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺิโต’’ติ. (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๓๗; อิติวุ. อฏฺ. ๓๘);
อถ วา ยถา ปุริมกา ภควนฺโต, อยมฺปิ ภควา ตเถว เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทํ…เป… ปมชฺฌาเนน นีวรเณ…เป… อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ…เป… อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลเส ปหาย คโต, เอวมฺปิ ตถา คโตติ ตถาคโต.
กถํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต? ปถวีธาตุยา กกฺขฬตฺตลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, อาโปธาตุยา ปคฺฆรณลกฺขณํ, เตโชธาตุยา อุณฺหตฺตลกฺขณํ, วาโยธาตุยา วิตฺถมฺภนลกฺขณํ, อากาสธาตุยา อสมฺผุฏฺลกฺขณํ, วิฺาณธาตุยา วิชานนลกฺขณํ.
รูปสฺส ¶ รุปฺปนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, สฺาย สฺชานนลกฺขณํ, สงฺขารานํ อภิสงฺขรณลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ.
วิตกฺกสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, วิจารสฺส อนุมชฺชนลกฺขณํ, ปีติยา ผรณลกฺขณํ, สุขสฺส สาตลกฺขณํ, จิตฺเตกคฺคตาย อวิกฺเขปลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ.
สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขลกฺขณํ, วีริยินฺทฺริยสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, สตินฺทฺริยสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, สมาธินฺทฺริยสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, ปฺินฺทฺริยสฺส ปชานนลกฺขณํ.
สทฺธาพลสฺส อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยลกฺขณํ, วีริยพลสฺส โกสชฺเช, สติพลสฺส มุฏฺสฺสจฺเจ, สมาธิพลสฺส อุทฺธจฺเจ, ปฺาพลสฺส อวิชฺชาย อกมฺปิยลกฺขณํ.
สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฏฺานลกฺขณํ, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปวิจยลกฺขณํ, วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปคฺคหลกฺขณํ, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ผรณลกฺขณํ, ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปสมลกฺขณํ, สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ปฏิสงฺขานลกฺขณํ.
สมฺมาทิฏฺิยา ทสฺสนลกฺขณํ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อภินิโรปนลกฺขณํ, สมฺมาวาจาย ปริคฺคหลกฺขณํ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาอาชีวสฺส โวทานลกฺขณํ, สมฺมาวายามสฺส ¶ ปคฺคหลกฺขณํ, สมฺมาสติยา อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมาสมาธิสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ.
อวิชฺชาย ¶ อฺาณลกฺขณํ, สงฺขารานํ เจตนาลกฺขณํ, วิฺาณสฺส วิชานนลกฺขณํ, นามสฺส นมนลกฺขณํ, รูปสฺส รุปฺปนลกฺขณํ, สฬายตนสฺส อายตนลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ, เวทนาย เวทยิตลกฺขณํ, ตณฺหาย เหตุลกฺขณํ, อุปาทานสฺส คหณลกฺขณํ, ภวสฺส อายูหนลกฺขณํ, ชาติยา นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ชราย ชีรณลกฺขณํ, มรณสฺส จุติลกฺขณํ.
ธาตูนํ สฺุตลกฺขณํ, อายตนานํ อายตนลกฺขณํ, สติปฏฺานานํ อุปฏฺานลกฺขณํ, สมฺมปฺปธานานํ ปทหนลกฺขณํ, อิทฺธิปาทานํ อิชฺฌนลกฺขณํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติลกฺขณํ, พลานํ อกมฺปิยลกฺขณํ, โพชฺฌงฺคานํ นิยฺยานลกฺขณํ, มคฺคสฺส เหตุลกฺขณํ.
สจฺจานํ ตถลกฺขณํ, สมถสฺส อวิกฺเขปลกฺขณํ, วิปสฺสนาย อนุปสฺสนาลกฺขณํ, สมถวิปสฺสนานํ เอกรสลกฺขณํ, ยุคนทฺธานํ อนติวตฺตนลกฺขณํ.
สีลวิสุทฺธิยา สํวรณลกฺขณํ, จิตฺตวิสุทฺธิยา อวิกฺเขปลกฺขณํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิยา ทสฺสนลกฺขณํ, ขเย าณสฺส สมุจฺเฉทลกฺขณํ, อนุปฺปาเท าณสฺส ปสฺสทฺธิลกฺขณํ, ฉนฺทสฺส มูลลกฺขณํ.
มนสิการสฺส สมุฏฺานลกฺขณํ, ผสฺสสฺส ¶ สโมธานลกฺขณํ, เวทนาย สโมสรณลกฺขณํ, สมาธิสฺส ปมุขลกฺขณํ, สติยา อาธิปเตยฺยลกฺขณํ, ปฺาย ตตุตฺตริยลกฺขณํ, วิมุตฺติยา สารลกฺขณํ, อมโตคธสฺส นิพฺพานสฺส ปริโยสานลกฺขณํ ตถํ อวิตถํ, เอตํ ตถลกฺขณํ าณคติยา อาคโต อวิรชฺฌิตฺวา ปตฺโต อนุปฺปตฺโตติ ตถาคโต. เอวํ ตถลกฺขณํ อาคโตติ ตถาคโต.
กถํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต? ตถธมฺมา นาม จตฺตาริ อริยสจฺจานิ. ยถาห –
‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, ตถานิ อวิตถานิ อนฺถานิ. กตมานิ จตฺตาริ? ‘อิทํ ¶ ทุกฺข’นฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตํ อวิตถเมตํ อนฺถเมต’’นฺติ วิตฺถาโร (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๐).
ตานิ ¶ จ ภควา อภิสมฺพุทฺโธติ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโตติ วุจฺจติ. อภิสมฺพุทฺธตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท.
อปิ จ ชรามรณสฺส ชาติปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ…เป… สงฺขารานํ อวิชฺชาปจฺจยสมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตถา อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยฏฺโ…เป… ชาติยา ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺโ ตโถ อวิตโถ อนฺโถ. ตํ สพฺพํ ภควา อภิสมฺพุทฺโธ, ตสฺสาปิ ตถานํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา ตถาคโต. เอวํ ตถธมฺเม ยาถาวโต อภิสมฺพุทฺโธติ ตถาคโต.
กถํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต? ภควา ยํ สเทวเก โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคจฺฉนฺตํ รูปารมฺมณํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพากาเรน ชานาติ ปสฺสติ. เอวํ ชานตา ปสฺสตา จ เตน ตํ อิฏฺานิฏฺาทิวเสน วา ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ ลพฺภมานกปทวเสน วา ‘‘กตมํ ตํ รูปํ รูปายตนํ? ยํ รูปํ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย วณฺณนิภา สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ นีลํ ปีตก’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๖๑๖) นเยน อเนเกหิ นาเมหิ เตรสหิ วาเรหิ ทฺวิปฺาสาย นเยหิ วิภชฺชมานํ ตถเมว โหติ, วิตถํ นตฺถิ. เอส นโย โสตทฺวาราทีสุปิ อาปาถมาคจฺฉนฺเตสุ ¶ สทฺทาทีสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –
‘‘ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ทิฏฺํ สุตํ มุตํ วิฺาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา, ตมหํ ชานามิ…เป… ตมหํ อพฺภฺาสึ. ตํ ตถาคตสฺส วิทิตํ, ตํ ตถาคโต น อุปฏฺาสี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๔).
เอวํ ตถทสฺสิตาย ตถาคโต. ตตฺถ ตถทสฺสีอตฺเถ ตถาคโตติ ปทสมฺภโว เวทิตพฺโพ.
กถํ ตถวาทิตาย ตถาคโต? ยํ รตฺตึ ภควา โพธิมณฺเฑ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน จตุนฺนํ มารานํ มตฺถกํ มทฺทิตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ, ยฺจ รตฺตึ ยมกสาลานมนฺตเร ¶ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายิ, เอตฺถนฺตเร ปฺจจตฺตาลีสวสฺสปริมาเณ กาเล ¶ ปมโพธิยมฺปิ มชฺฌิมโพธิยมฺปิ ปจฺฉิมโพธิยมฺปิ ยํ ภควตา ภาสิตํ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… เวทลฺลํ. สพฺพํ ตํ อตฺถโต พฺยฺชนโต จ อนุปวชฺชํ อนูนมนธิกํ สพฺพาการปริปุณฺณํ ราคมทนิมฺมทนํ โทสโมหมทนิมฺมทนํ, นตฺถิ ตตฺถ วาลคฺคมตฺตมฺปิ ปกฺขลิตํ, สพฺพํ ตํ เอกมุทฺทิกาย ลฺฉิตํ วิย, เอกนาฬิยา มิตํ วิย, เอกตุลาย ตุลิตํ วิย จ ตถเมว โหติ อวิตถํ อนฺถํ. ยถาห –
‘‘ยฺจ, จุนฺท, รตฺตึ ตถาคโต อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุชฺฌติ, ยฺจ รตฺตึ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายติ, ยํ เอตสฺมึ อนฺตเร ภาสติ ลปติ นิทฺทิสติ, สพฺพํ ตํ ตเถว โหติ โน อฺถา, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๘๘).
คทอตฺโถ หิ เอตฺถ คตสทฺโท. เอวํ ตถวาทิตาย ตถาคโต.
อปิ จ อาคทนํ อาคโท, วจนนฺติ อตฺโถ. ตโถ อวิปรีโต อาคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เอวเมตสฺมึ อตฺเถ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.
กถํ ตถาการิตาย ตถาคโต? ภควโต หิ วาจาย กาโย อนุโลเมติ, กายสฺสาปิ วาจา. ตสฺมา ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที จ โหติ. เอวํภูตสฺส จสฺส ยถา วาจา ¶ , กาโยปิ ตถา คโต ปวตฺโตติ อตฺโถ. ยถา จ กาโย, วาจาปิ ตถา คตา ปวตฺตาติ ตถาคโต. เตเนวาห – ‘‘ยถาวาที, ภิกฺขเว, ตถาคโต ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. อิติ ยถาวาที ตถาการี, ยถาการี ตถาวาที. ‘ตสฺมา ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓). เอวํ ตถาการิตาย ตถาคโต.
กถํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต? อุปริ ภวคฺคํ เหฏฺา อวีจึ ปริยนฺตํ กตฺวา ติริยํ อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ สพฺพสตฺเต อภิภวติ สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ตสฺส ตุลา วา ปมาณํ วา อตฺถิ, อถ โข อตุโล อปฺปเมยฺโย อนุตฺตโร ราชาติราชา เทวานํ อติเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. เตนาห –
‘‘สเทวเก ¶ , ภิกฺขเว, โลเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย ตถาคโต อภิภู อนภิภูโต ¶ อฺทตฺถุทโส วสวตฺตี, ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).
ตตฺเถวํ ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา – อคโท วิย อคโท. โก ปเนส? เทสนาวิลาโส เจว ปฺุุสฺสโย จ. เตน เหส มหานุภาโว ภิสกฺโก ทิพฺพาคเทน สปฺเป วิย สพฺพปรปฺปวาทิโน สเทวกฺจ โลกํ อภิภวติ. อิติ สพฺพโลกาภิภวเน ตโถ อวิปรีโต เทสนาวิลาสมโย เจว ปฺุมโย จ อคโท อสฺสาติ ทการสฺส ตการํ กตฺวา ตถาคโตติ เวทิตพฺโพ. เอวํ อภิภวนฏฺเน ตถาคโต.
อปิ จ ตถาย คโตติปิ ตถาคโต, ตถํ คโตติปิ ตถาคโต. คโตติ อวคโต, อตีโต ปตฺโต ปฏิปนฺโนติ อตฺโถ. ตตฺถ สกลํ โลกํ ตีรณปริฺาย ตถาย คโต อวคโตติ ตถาคโต, โลกสมุทยํ ปหานปริฺาย ตถาย คโต อตีโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธํ สจฺฉิกิริยาย ตถาย คโต ปตฺโตติ ตถาคโต, โลกนิโรธคามินึ ปฏิปทํ ตถํ คโต ปฏิปนฺโนติ ตถาคโต. เตน ยํ วุตฺตํ ภควตา –
‘‘โลโก, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสฺมา ตถาคโต วิสํยุตฺโต. โลกสมุทโย, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกสมุทโย ตถาคตสฺส ปหีโน. โลกนิโรโธ, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺโธ, โลกนิโรโธ ตถาคตสฺส สจฺฉิกโต. โลกนิโรธคามินี ¶ ปฏิปทา, ภิกฺขเว, ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธา, โลกนิโรธคามินี ปฏิปทา ตถาคตสฺส ภาวิตา. ยํ, ภิกฺขเว, สเทวกสฺส โลกสฺส…เป… อนุวิจริตํ มนสา, สพฺพํ ตํ ตถาคเตน อภิสมฺพุทฺธํ. ตสฺมา ‘ตถาคโต’ติ วุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๒๓).
ตสฺส ¶ เอวมฺปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิทมฺปิ จ ตถาคตสฺส ตถาคตภาวทีเปน มุขมตฺตเมว. สพฺพากาเรน ปน ตถาคโตว ตถาคตสฺส ตถาคตภาวํ วณฺเณยฺย. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา ตถาคตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสํ วเสน ‘‘ตถาคตา’’ติ อาห.
อรหนฺโตติ กิเลเสหิ อารกตฺตา, อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา, ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา, ปาปกรเณ รหาภาวา ตถาคโต อรหํ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ.
‘‘โส ¶ ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;
อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโต’’.
เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ.
‘‘ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโต’’.
ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภึ ปฺุาทิอภิสงฺขารานํ ชรามรณเนมึ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรหํ.
‘‘อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, ‘อรห’นฺติ ปวุจฺจติ’’.
อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ¶ จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ, เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เย เกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา, น เต อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ, ยถาพลฺจ อฺเ เทวา จ มนุสฺสา จ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ.
‘‘ปูชาวิเสสํ ¶ สห ปจฺจเยหิ, ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก, ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมตํ’’.
ยถา จ โลเก เย เกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวเมส น กทาจิ ปาปํ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ.
‘‘ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;
รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต’’.
เอวํ ¶ สพฺพถาปิ –
‘‘อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตี’’ติ.
ยสฺมา ปน สพฺเพ พุทฺธา อรหตฺตคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘อรหนฺโต’’ติ อาห. สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถา เหส สพฺพธมฺเม สมฺมาสมฺพุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนวาห –
‘‘อภิฺเยฺยํ ¶ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณา’’ติ. (สุ. นิ. ๕๖๓; ม. นิ. ๒.๓๙๙);
อถ วา จกฺขุ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ. เอส นโย โสตฆานชิวฺหากายมเนสุ. เอเตเนว จ นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉ วิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ¶ ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺาโย, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ.
ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ ¶ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิวิทฺโธ. ยํ วา ปน กิฺจิ อตฺถิ เนยฺยํ นาม, สพฺพสฺส สมฺมา สมฺพุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกาณวเสน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. เตสํ ปน วิภาโค อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ. ยสฺมา ปน สพฺพพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธคุเณนาปิ สมสมา, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ วเสน ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ อาห.
โมเนนาติ กามฺหิ โมเนยฺยปฏิปทาสงฺขาเตน มคฺคาณโมเนน มุนิ นาม โหติ, อิธ ปน ตุณฺหีภาวํ สนฺธาย ‘‘น โมเนนา’’ติ วุตฺตํ. มูฬฺหรูโปติ ตุจฺฉรูโป. อวิทฺทสูติ ¶ อวิฺู. เอวรูโป หิ ตุณฺหีภูโตปิ มุนิ นาม น โหติ. อถ วา โมเนยฺยมุนิ นาม น โหติ, ตุจฺฉภาโว จ ปน อฺาณี จ โหตีติ อตฺโถ. โย จ ตุลํว ปคฺคยฺหาติ ยถา หิ ตุลํ คเหตฺวา ิโต อติเรกํ เจ โหติ, หรติ, อูนํ เจ โหติ, ปกฺขิปติ; เอวเมว โส อติเรกํ หรนฺโต วิย ปาปํ หรติ ปริวชฺเชติ, อูนเก ปกฺขิปนฺโต วิย กุสลํ ปริปูเรติ. เอวฺจ ปน กโรนฺโต สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนสงฺขาตํ วรํ อุตฺตมเมว อาทาย ปาปานิ อกุสลกมฺมานิ ปริวชฺเชติ ส มุนิ นามาติ อตฺโถ. เตน โส มุนีติ กสฺมา ปน โส มุนีติ เจ? ยํ เหฏฺา วุตฺตการณํ, เตน โส มุนีติ อตฺโถ. โย มุนาติ อุโภ โลเกติ โย ปุคฺคโล อิมสฺมึ ขนฺธาทิโลเก ตุลํ อาโรเปตฺวา มินนฺโต วิย ‘‘อิเม อชฺฌตฺติกา ขนฺธา, อิเม พาหิรา’’ติอาทินา นเยน อิเม ¶ อุโภ อตฺเถ มุนาติ. มุนิ เตน ปวุจฺจตีติ เตน ปน การเณน ‘‘มุนี’’ติ วุจฺจติเยวาติ อตฺโถ.
อสตฺจาติ คาถาย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ อกุสลกุสลปฺปเภโท, อสตฺจ สตฺจ ธมฺโม, ตํ ‘‘อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา’’ติ อิมสฺมึ สพฺพโลเก ปวิจยาเณน อสตฺจ สตฺจ ตฺวา ธมฺมํ. ตสฺส าตตฺตา เอว, ราคาทิเภทโต สตฺตวิธํ สงฺคํ ตณฺหาทิฏฺิเภทโต ทุวิธํ ชาลฺจ อติจฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต, โส เตน โมนสงฺขาเตน ปวิจยาเณน สมนฺนาคตตฺตา มุนิ. เทวมนุสฺเสหิ ปูชิโตติ อิทํ ปนสฺส ถุติวจนํ. โส หิ ขีณาสวมุนิตฺตา เทวมนุสฺสานํ ปูชารโห โหติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺโตติ.
สลฺลนฺติ มูลปทํ. สตฺต สลฺลานีติ คณนปริจฺเฉโท. ราคสลฺลนฺติ รฺชนฏฺเน ราโค จ ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณตาย สลฺลฺจาติ ราคสลฺลํ. โทสสลฺลาทีสุปิ เอเสว นโย. อพฺพูฬฺหสลฺโลติ มูลปทํ. อพฺพหิตสลฺโลติ นีหฏสลฺโล. อุทฺธตสลฺโลติ อุทฺธํ หฏสลฺโล อุทฺธริตสลฺโล. สมุทฺธตสลฺโลติ อุปสคฺควเสน วุตฺโต. อุปฺปาฏิตสลฺโลติ ลฺุจิตสลฺโล. สมุปฺปาฏิตสลฺโลติ อุปสคฺควเสเนว.
สกฺกจฺจการีติ ¶ ¶ ทานาทีนํ กุสลธมฺมานํ ภาวนาย ปุคฺคลสฺส วา เทยฺยธมฺมสฺส วา สกฺกจฺจกรณวเสน สกฺกจฺจการี. สตตภาวกรเณน สาตจฺจการี. อฏฺิตกรเณน อฏฺิตการี. ยถา นาม กกณฺฏโก โถกํ คนฺตฺวา โถกํ ติฏฺติ, น นิรนฺตรํ คจฺฉติ; เอวเมว โย ปุคฺคโล เอกทิวสํ ทานํ ทตฺวา ปูชํ วา กตฺวา ธมฺมํ วา สุตฺวา สมณธมฺมํ วา กตฺวา ปุน จิรสฺสํ กโรติ, ตํ น นิรนฺตรํ ปวตฺเตติ. โส ‘‘อสาตจฺจการี, อนฏฺิตการี’’ติ วุจฺจติ. อยํ เอวํ น กโรตีติ อฏฺิตการี. อโนลีนวุตฺติโกติ นิรนฺตรกรณสงฺขาตสฺส วิปฺผารสฺส ภาเวน น ลีนวุตฺติโกติ อโนลีนวุตฺติโก. อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโทติ กุสลกรเณ วีริยจฺฉนฺทสฺส อนิกฺขิตฺตภาเวน อนิกฺขิตฺตจฺฉนฺโท. อนิกฺขิตฺตธุโรติ วีริยธุรสฺส อโนโรปเนน อนิกฺขิตฺตธุโร, อโนสกฺกิตมานโสติ อตฺโถ. โย ตตฺถ ฉนฺโท จ วายาโม จาติ โย เตสุ กุสลธมฺเมสุ กตฺตุกมฺยตาธมฺมจฺฉนฺโท จ ปยตฺตสงฺขาโต วายาโม จ. อุสฺสหนวเสน ¶ อุสฺสาโห จ. อธิมตฺตุสฺสหนวเสน อุสฺโสฬฺหี จ. วายาโม เจโส ปารํ คมนฏฺเน. อุสฺสาโห เจโส ปุพฺพงฺคมนฏฺเน. อุสฺโสฬฺหี เจโส อธิมตฺตฏฺเน. อปฺปฏิวานิ จาติ อนิวตฺตนา จ. สติ จ สมฺปชฺนฺติ สรตีติ สติ. สมฺปชานาตีติ สมฺปชฺํ, สมนฺตโต ปกาเรหิ ชานาตีติ อตฺโถ. สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ อิมสฺส สมฺปชานสฺส วเสน เภโท เวทิตพฺโพ. อาตปฺปนฺติ กิเลสตาปนวีริยํ. ปธานนฺติ อุตฺตมวีริยํ. อธิฏฺานนฺติ กุสลกรเณ ปติฏฺาภาโว. อนุโยโคติ อนุยฺุชนํ. อปฺปมาโทติ นปฺปมชฺชนํ, สติยา อวิปฺปวาโส.
อิมํ โลกํ นาสีสตีติ มูลปทํ. สกตฺตภาวนฺติ อตฺตโน อตฺตภาวํ. ปรตฺตภาวนฺติ ปรโลเก อตฺตภาวํ. สกรูปเวทนาทโย อตฺตโน ปฺจกฺขนฺเธ, ปรรูปเวทนาทโย จ ปรโลเก ปฺจกฺขนฺเธ. กามธาตุนฺติ กามภวํ. รูปธาตุนฺติ รูปภวํ. อรูปธาตุนฺติ อรูปภวํ. ปุน รูปารูปวเสน ทุกํ ¶ ทสฺเสตุํ กามธาตุํ รูปธาตุํ เอกํ กตฺวา, อรูปธาตุํ เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. คตึ วาติ ปติฏฺานวเสน ปฺจคติ วุตฺตา. อุปปตฺตึ วาติ นิพฺพตฺติวเสน จตุโยนิ วุตฺตา. ปฏิสนฺธึ วาติ ติณฺณํ ภวานํ ฆฏนวเสน ปฏิสนฺธิ วุตฺตา. ภวํ วาติ กมฺมภววเสน. สํสารํ วาติ ขนฺธาทีนํ อพฺโพจฺฉินฺนวเสน. วฏฺฏํ วาติ เตภูมกวฏฺฏํ นาสีสตีติ.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
คุหฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.