📜
๔. สุทฺธฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๒๓. จตุตฺเถ ¶ ¶ สุทฺธฏฺเก ปมคาถาย ตาวตฺโถ – น, ภิกฺขเว, เอวรูเปน ทสฺสเนน สุทฺธิ โหติ, อปิ จ โข กิเลสมลีนตฺตา อสุทฺธํ, กิเลสโรคานํ อธิคมา สโรคเมว จนฺทาภํ พฺราหฺมณํ, อฺํ วา เอวรูปํ ทิสฺวา ทิฏฺิคติโก พาโล อภิชานาติ ‘‘ปสฺสามิ สุทฺธํ ปรมํ อโรคํ, เตน จ ทิฏฺิสงฺขาเตน ทสฺสเนน สํสุทฺธิ นรสฺส โหตี’’ติ, โส เอวํ อภิชานนฺโต ตํ ทสฺสนํ ‘‘ปรม’’นฺติ ตฺวา ตสฺมึ ทสฺสเน สุทฺธานุปสฺสี สมาโน ตํ ทสฺสนํ ‘‘มคฺคาณ’’นฺติ ปจฺเจติ. ตํ ปน มคฺคาณํ น โหติ.
ปรมํ อาโรคฺยปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ นิพฺยาธึ ปาปุณิตฺวา ิตํ. ตาณปฺปตฺตนฺติ ตถา ปาลนปฺปตฺตํ. เลณปฺปตฺตนฺติ นิลียนปฺปตฺตํ.สรณปฺปตฺตนฺติ ปติฏฺาปตฺตํ, ทุกฺขนาสนํ วา ปตฺตํ. อภยปฺปตฺตนฺติ นิพฺภยภาวปฺปตฺตํ. อจฺจุตปฺปตฺตนฺติ นิจฺจลภาวํ ปตฺตํ. อมตปฺปตฺตนฺติ อมตํ มหานิพฺพานํ ปตฺตํ. นิพฺพานปฺปตฺตนฺติ วานวิรหิตํ ปตฺตํ.
อภิชานนฺโตติ ¶ วิเสเสน ชานนฺโต. อาชานนฺโตติ อาชานมาโน. วิชานนฺโตติ อเนกวิเธน ชานมาโน. ปฏิวิชานนฺโตติ ตํ ตํ ปฏิจฺจ วิชานมาโน. ปฏิวิชฺฌนฺโตติ หทเย กุรุมาโน.
จกฺขุวิฺาณํ รูปทสฺสเนนาติ จกฺขุวิฺาเณน รูปทสฺสนํ. าณนฺติ ปจฺเจตีติ ปฺา อิติ สทฺทหติ. มคฺโคติ ปจฺเจตีติ ‘‘อุปาโย’’ติ สทฺทหติ. ปโถติ สฺจาโร. นียานนฺติ คเหตฺวา ยาตีติ นียานํ. ‘‘นิยฺยาน’’นฺติ วา ปาโ.
๒๔. ‘‘ทิฏฺเน ¶ เจ สุทฺธี’’ติ ทุติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – เตน รูปทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺเน ยทิ กิเลสสุทฺธิ นรสฺส โหติ, เตน วา าเณน โส ยทิ ชาติอาทิทุกฺขํ ปชหาติ, เอวํ สนฺเต ¶ อริยมคฺคโต อฺเน อสุทฺธิมคฺเคเนว โส สุชฺฌติ, ราคาทีหิ อุปธีหิ สอุปธิโก เอว สมาโน สุชฺฌตีติ วตฺตพฺพตํ อาปนฺโน โหติ, น จ เอวํวิโธ สุชฺฌติ. ตสฺมา ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทานํ, สา นํ ทิฏฺิเยว ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิโก อย’’นฺติ กเถติ, ทิฏฺิอนุรูปํ ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติอาทินา นเยน ตถา ตถา วทตีติ.
ราเคน สห วตฺตตีติ สราโค, ราควาติ อตฺโถ. สโทโสติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
๒๕. น พฺราหฺมโณติ ตติยคาถา. ตสฺสตฺโถ – โย ปน พาหิตปาปตฺตา พฺราหฺมโณ โหติ, โส มคฺเคน อธิคตาสวกฺขโย ขีณาสวพฺราหฺมโณ อริยมคฺคาณโต อฺเน อภิมงฺคลสมฺมตรูปสงฺขาเต ทิฏฺเ, ตถาวิธสทฺทสงฺขาเต สุเต, อวีติกฺกมสงฺขาเต สีเล, หตฺถิวตาทิเภเท วเต, ปถวิอาทิเภเท มุเต จ อุปฺปนฺเนน มิจฺฉาาเณน สุทฺธึ น อาหาติ. เสสมสฺส พฺราหฺมณสฺส วณฺณภณนาย วุตฺตํ. โส หิ เตธาตุกปฺุเ สพฺพสฺมิฺจ ปาเป อนูปลิตฺโต, กสฺมา? ตสฺส ปหีนตฺตา ตสฺส อตฺตทิฏฺิยา, ยสฺส กสฺสจิ วา คหณสฺส ปหีนตฺตา อตฺตฺชโห, ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ อกรณโต ‘‘นยิธ ปกุพฺพมาโน’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา นํ เอวํ ปสํสนฺโต อาห. สพฺพสฺเสว จสฺส ปุริมปาเทน สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ – ปฺุเ จ ปาเป จ อนูปลิตฺโต อตฺตฺชโห ¶ นยิธ ปกุพฺพมาโน น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหาติ. นาติ ปฏิกฺเขโปติ น อิติ ปฏิเสโธ.
พาหิตฺวา สพฺพปาปกานีติ คาถายตฺโถ – โย จตุตฺถมคฺเคน พาหิตฺวา สพฺพปาปกานิ ิตตฺโต ิโตอิจฺเจว วุตฺตํ โหติ. พาหิตปาปตฺตา เอว จ วิมโล วิมลภาวํ พฺรหฺมภาวํ เสฏฺภาวํ ปตฺโต, ปฏินิสฺสฏฺสมาธิวิกฺเขปกรกิเลสมเลน ¶ อคฺคมคฺคผลสมาธินา สาธุสมาหิโต, สํสารเหตุสมติกฺกเมน สํสารมติจฺจ ปรินิฏฺิตกิจฺจตาย เกวลีติ จ, ตณฺหาทิฏฺีหิ อนิสฺสิตตฺตา อนิสฺสิโตติ จ, โลกธมฺเมหิ นิพฺพิการตฺตา ตาทีติ จ ปวุจฺจติ. เอวํ ถุติรโห ส พฺรหฺมา โส พฺราหฺมโณติ.
อฺตฺร สติปฏฺาเนหีติ จตฺตาโร สติปฏฺาเน มฺุจิตฺวา. สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย.
สนฺเตเก สมณพฺราหฺมณาติ เอกจฺเจ โลกสงฺเกเตน ‘‘สมณพฺราหฺมณา’’ติ ลทฺธโวหารา สํวิชฺชนฺติ. ทิฏฺสุทฺธิกาติ ทิฏฺเน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. เต เอกจฺจานํ รูปานํ ทสฺสนนฺติ เอเต ทิฏฺสุทฺธิกา ¶ เอเตสํ รูปารมฺมณานํ โอโลกนํ. มงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อิทฺธิการณํ พุทฺธิการณํ สพฺพสมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. อมงฺคลํ ปจฺเจนฺตีติ อนิทฺธิการณํ น พุทฺธิการณํ น สมฺปตฺติการณํ ปติฏฺาเปนฺติ. เต กาลโต วุฏฺหิตฺวาติ เอเต ทิฏฺาทิมงฺคลิกา ปุเรตรเมว อุฏฺหิตฺวา. อภิมงฺคลคตานีติ วิเสเสน วุฑฺฒิการณคตานิ. รูปานิ ปสฺสนฺตีติ นานาวิธานิ รูปารมฺมณานิ ทกฺขนฺติ. จาฏกสกุณนฺติ เอวํนามกํ. ผุสฺสเวฬุวลฏฺินฺติ ผุสฺสนกฺขตฺเตน อุปฺปนฺนํ ตรุณเพฬุวลฏฺึ. คพฺภินิตฺถินฺติ สคพฺภํ อิตฺถึ. กุมารกํ ขนฺเธ อาโรเปตฺวา คจฺฉนฺตนฺติ ตรุณทารกํ อํเส อุสฺสาเปตฺวา คจฺฉมานํ. ปุณฺณฆฏนฺติ อุทกปุณฺณฆฏํ. โรหิตมจฺฉนฺติ รตฺตโรหิตมจฺฉํ. อาชฺรถนฺติ สินฺธวยุตฺตรถํ. อุสภนฺติ มงฺคลอุสภํ. โคกปิลนฺติ กปิลคาวึ.
ปลาลปฺุชนฺติ ถุสราสึ. ตกฺกฆฏนฺติ โคตกฺกาทิปูริตจาฏึ. ริตฺตฆฏนฺติ ¶ ตุจฺฉฆฏํ. นฏนฺติ นฏกาทึ. ‘‘ธุตฺตกิริย’’นฺติ เอเก. นคฺคสมณกนฺติ นิจฺโจฬสมณํ ¶ . ขรนฺติ คทฺรภํ. ขรยานนฺติ คทฺรภยุตฺตํ วยฺหาทิกํ. เอกยุตฺตยานนฺติ เอเกน วาหเนน สํยุตฺตํ ยานํ. กาณนฺติ เอกกฺขิอุภยกฺขิกาณํ. กุณินฺติ หตฺถกุณึ. ขฺชนฺติ ขฺชปาทํ ติริยคตปาทํ. ปกฺขหตนฺติ ปีสปฺปึ. ชิณฺณกนฺติ ชราชิณฺณํ. พฺยาธิกนฺติ พฺยาธิปีฬิตํ. มตนฺติ กาลงฺกตํ.
สุตสุทฺธิกาติ โสตวิฺาเณน สุเตน สุทฺธึ อิจฺฉมานา. สทฺทานํ สวนนฺติ สทฺทารมฺมณานํ สวนํ. วฑฺฒาติ วาติอาทโย โลเก ปวตฺตสทฺทมตฺตานิ คเหตฺวา วุตฺตา. อมงฺคลํ ปน ‘‘กาโณ’’ติอาทินา เตน เตน นาเมน วุตฺตสทฺทาเยว. ‘‘ฉินฺท’’นฺติ วาติ หตฺถปาทาทิจฺฉินฺนนฺติ วา. ‘‘ภินฺท’’นฺติ วาติ สีสาทิภินฺนนฺติ วา. ‘‘ทฑฺฒ’’นฺติ วาติ อคฺคินา ฌาปิตนฺติ วา. ‘‘นฏฺ’’นฺติ วาติ โจราทีหิ วินาสิตนฺติ วา. ‘‘นตฺถี’’ติ วาติ น วิชฺชตีติ วา.
สีลสุทฺธิกาติ สีเลน วิสุทฺธึ อิจฺฉนกา. สีลมตฺเตนาติ สํวรณมตฺเตน. สํยมมตฺเตนาติ อุปรมมตฺเตน. สํวรมตฺเตนาติ ทฺวารถกนมตฺเตน. อวีติกฺกมมตฺเตนาติ น อติกฺกมิตมตฺเตน. สมโณ มุณฺฑิกาปุตฺโตติ มาติโต ลทฺธนามํ. สมฺปนฺนกุสลนฺติ ปริปุณฺณกุสลํ. ปรมกุสลนฺติ อุตฺตมกุสลํ. อุตฺตมปตฺติปฺปตฺตนฺติ อุตฺตมํ อรหตฺตํ ปาปุณิตพฺพตํ ปตฺวา ิตํ. อโยชฺชนฺติ ปราเชตุํ อสกฺกุเณยฺยํ สมณํ.
วตสุทฺธิกาติ สมาทาเนน วเตน สุทฺธึ อิจฺฉนกา. หตฺถิวติกา วาติ สมาทินฺนํ หตฺถิวตํ ¶ เอเตสํ อตฺถีติ หตฺถิวติกา, สพฺพหตฺถิกิริยํ กโรนฺตีติ อตฺโถ. กถํ? ‘‘อชฺช ¶ ปฏฺาย หตฺถีหิ กาตพฺพํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ อุปฺปนฺนจิตฺตา หตฺถีนํ คมนาการํ ติฏฺนาการํ นิสีทนาการํ สยนาการํ อุจฺจารปสฺสาวกรณาการํ, อฺเ หตฺถี ทิสฺวา โสณฺฑํ อุสฺสาเปตฺวา คมนาการฺจ สพฺพํ กโรนฺตีติ หตฺถิวติกา. อสฺสวติกาทีสุปิ ลพฺภมานวเสน ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. เตสุ อวสาเน ทิสาวติกา วาติ ปุรตฺถิมาทิทิสานํ นมสฺสนวเสน สมาทินฺนทิสาวติกา, เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ สมณพฺราหฺมณานํ วตสมาทานํ สมฺปชฺชมานํ หตฺถิอาทีนํ สหพฺยตํ อุปเนติ. สเจ โข ปนสฺส มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ ‘‘อิมินาหํ สีลวตสมาทานพฺรหฺมจริเยน เทโว วา เทวฺตโร วา โหมี’’ติ จินฺตยนฺตสฺส นิรยติรจฺฉานโยนีนํ อฺตโร โหตีติ าตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา (ม. นิ. ๒.๗๙) –
‘‘อิธ ¶ , ปุณฺณ, เอกจฺโจ กุกฺกุรวตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวติ ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ. โส กุกฺกุรวตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรสีลํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรจิตฺตํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ, กุกฺกุรากปฺปํ ภาเวตฺวา ปริปุณฺณํ อพฺโพกิณฺณํ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปปชฺชติ. สเจ โข ปนสฺส เอวํทิฏฺิ โหติ ‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’ติ, สาสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิสฺส โข อหํ, ปุณฺณ, ทฺวินฺนํ คตีนํ อฺตรํ คตึ วทามิ นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา. อิติ โข, ปุณฺณ, สมฺปชฺชมานํ กุกฺกุรวตํ กุกฺกุรานํ สหพฺยตํ อุปเนติ, วิปชฺชมานํ นิรย’’นฺติ.
คนฺธพฺพวติกาทโย คนฺธพฺพาทีนํ สหพฺยตํ อุปคจฺฉนฺตีติ อตฺโถ น คเหตพฺโพ, มิจฺฉาทิฏฺิยา คหิตตฺตา นิรยติรจฺฉานโยนิเมว อุปคจฺฉนฺตีติ คเหตพฺโพ.
มุตสุทฺธิกาติ ¶ ผุสิเตน สุทฺธิกา. ปถวึ อามสนฺตีติ สสมฺภาริกํ มหาปถวึ กาเยน ผุสนฺติ. หริตนฺติ อลฺลนีลสทฺทลํ. โคมยนฺติ ควาทิโคมยํ. กจฺฉปนฺติ อฏฺิกจฺฉปาทิอเนกวิธํ. ผาลํ อกฺกมนฺตีติ อยผาลํ มทฺทนฺติ. ติลวาหนฺติ ติลสกฏํ ติลราสึ วา. ผุสฺสติลํ ขาทนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ ติลํ ขาทนฺติ. ผุสฺสเตลํ มกฺเขนฺตีติ ตถารูปํ ติลเตลํ สรีรพฺภฺชนํ กโรนฺติ. ทนฺตกฏฺนฺติ ทนฺตโปณํ. มตฺติกาย นฺหายนฺตีติ กุงฺกุฏฺาทิกาย ¶ สณฺหมตฺติกาย สรีรํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา นฺหายนฺติ. สาฏกํ นิวาเสนฺตีติ มงฺคลปฏิสํยุตฺตํ วตฺถํ ปริทหนฺติ. เวนํ เวเนฺตีติ สีสเวนํ ปตฺตุณฺณาทิปฏํ สีเส เปนฺติ ปฏิมุจฺจนฺติ.
เตธาตุกํ กุสลาภิสงฺขารนฺติ กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตูสุ ปฏิสนฺธิทายกํ โกสลฺลสมฺภูตํ ปจฺจยาภิสงฺขารํ. สพฺพํ อกุสลนฺติ ทฺวาทสวิธํ อโกสลฺลสมฺภูตํ อกุสลํ. ยโตติ ยทา. เต ทสวิโธ ¶ ปฺุาภิสงฺขาโร จ, ทฺวาทสวิโธ อปฺุาภิสงฺขาโร จ, จตุพฺพิโธ อาเนฺชาภิสงฺขาโร จ ยถานุรูปํ สมุจฺเฉทปฺปหาเนน ปหีนา โหนฺติ. อตฺตทิฏฺิชโหติ ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ คหิตทิฏฺึ ชโห. คาหํ ชโหติ ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มานสมฺปยุตฺตคหณํ ชโห. ปุน อตฺตฺชโหติ ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาคหณวเสน จ ทิฏฺิคหณวเสน จ ปรามสิตฺวา คหิตํ, ปรโต อามฏฺฺจ, ตสฺมึ อภินิวิฏฺฺจ, พลวตณฺหาวเสน คิลิตฺวา อชฺโฌสิตฺจ, พลวมุจฺฉิตฺจ. สพฺพํ ตํ จตฺตํ โหตีติอาทโย วุตฺตนยาเยว.
๒๖. เอวํ ‘‘น พฺราหฺมโณ อฺโต สุทฺธิมาหา’’ติ วตฺวา อิทานิ เย ทิฏฺิคติกา อฺโต สุทฺธึ พฺรุวนฺติ, เตสํ ตสฺสา ทิฏฺิยา อนิพฺพาหกภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุริมํ ปหายา’’ติ คาถมาห. ตสฺสตฺโถ – เตหิ อฺโต สุทฺธิวาทา สมานาปิ ยสฺสา ทิฏฺิยา อปฺปหีนตฺตา คหณมฺุจนํ โหติ, ตาย ปุริมํ สตฺถาราทึ ปหาย อปรํ นิสฺสิตา, เอชาสงฺขาตาย ตณฺหาย อนุคตา อภิภูตา ราคาทิเภทํ น ตรนฺติ สงฺคํ, ตฺจ อตรนฺตา ตํ ตํ ธมฺมํ อุคฺคณฺหนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จ มกฺกโฏว สาขนฺติ.
ปุริมํ สตฺถารํ ปหายาติ ปุริมคหิตํ สตฺถุปฏิฺํ วชฺเชตฺวา. ปรํ สตฺถารํ นิสฺสิตาติ อฺํ สตฺถุปฏิฺํ นิสฺสิตา อลฺลีนา. ปุริมํ ธมฺมกฺขานํ ปหายาติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
เอชานุคาติ ตณฺหาย อนุคา. เอชานุคตาติ ตณฺหาย อนุคตา. เอชานุสฏาติ ตณฺหาย อนุสฏา ปกฺขนฺทา วา. เอชาย ปนฺนา ปติตาติ ตณฺหาย นิมุคฺคา จ นิกฺขิปิตา จ.
มกฺกโฏติ วานโร. อรฺเติ วิปิเน. ปวเนติ มหาวเน. จรมาโนติ คจฺฉมาโน. เอวเมวาติ โอปมฺมสํสนฺทนํ. ปุถูติ นานา. ปุถุทิฏฺิคตานีติ นานาวิธานิ ทิฏฺิคตานิ. คณฺหนฺติ จ มฺุจนฺติ จาติ คหณวเสน คณฺหนฺติ จ จชนวเสน มฺุจนฺติ จ. อาทิยนฺติ จ นิรสฺสชนฺติ จาติ ปลิโพธํ กโรนฺติ จ วิสฺสชฺเชนฺติ จ ขิปนฺติ จ.
๒๗. ปฺจมคาถาย ¶ จ สมฺพนฺโธ – โย จ โส ‘‘ทิฏฺี หิ นํ ปาว ตถา วทาน’’นฺติ วุตฺโต, โส สยํ สมาทายาติ. ตตฺถ สยนฺติ สามํ ¶ . สมาทายาติ คเหตฺวา. วตานีติ หตฺถิวตาทีนิ. อุจฺจาวจนฺติ อปราปรํ, หีนปณีตํ วา สตฺถารโต สตฺถาราทึ. สฺสตฺโตติ กามสฺาทีสุ ลคฺโค. วิทฺวา จ เวเทหิ สเมจฺจ ธมฺมนฺติ ปรมตฺถวิทฺวา จ อรหา จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ จตุสจฺจธมฺมํ อภิสเมจฺจาติ. เสสํ ปากฏเมว.
สามํ สมาทายาติ สยเมว คเหตฺวา. อาทายาติ อาทิยิตฺวา คณฺหิตฺวา. สมาทายาติ สมฺมา อาทาย. อาทิยิตฺวาติ ปลิโพธํ ¶ กตฺวา. สมาทิยิตฺวาติ สมฺมา ปลิโพธํ กตฺวา. คณฺหิตฺวาติ อวิสฺสชฺเชตฺวา. ปรามสิตฺวาติ ทสฺสิตฺวา. อภินิวิสิตฺวาติ ปติฏฺหิตฺวา. กามสฺาทโย วุตฺตนยา เอว.
วิทฺวาติ เมธาวี. วิชฺชาคโตติ วิชานนภาวํ คโต. าณีติ ปฺาสมฺปนฺโน. วิภาวีติ าเณน วีมํสโก. เมธาวีติ อนิจฺจาทีหิ ตุลิตาโณ. ปฺาติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาเยว. จตุสจฺจธมฺมํ วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค. โพชฺฌงฺคตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตว. วีมํสาติ จตุสจฺจธมฺมวิจินนา ปฺาว. ‘‘วีมํสา ธมฺมจินฺตนา’’ติ หิ วุตฺตา. วิปสฺสนาติ มคฺคสมฺปยุตฺตา วิวิธากาเรน ปสฺสนา ปฺาว. สมฺมาทิฏฺีติ โสภนา ปสฏฺา สุนฺทรา มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ. เตหิ เวเทหีติ เอเตเหว จตูหิ มคฺคาเณหิ. อนฺตคโตติ ชาติชรามรณสฺส ปริโยสานํ คโต. โกฏิคโตติอาทโย เหฏฺา วุตฺตนยาว. เวทานํ วา อนฺตคโตติ ชานิตพฺพานํ อวสานปฺปตฺโต. เวเทหิ วา อนฺตคโตติ จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ วฏฺฏทุกฺขสฺส ปริยนฺตภาเวน อนฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ คโต. วิทิตตฺตาติ วิทิตภาเวน ชานิตภาเวน.
เวทานิ วิเจยฺย เกวลานีติ คาถาย อยมตฺโถ – โย จตูหิ มคฺคาณเวเทหิ กิเลสกฺขยํ กโรนฺโต คโต, โส ปรมตฺถโต เวทคู นาม โหติ. โสว สพฺพสมณพฺราหฺมณานํ สตฺถสฺิตานิ เวทานิ ตาเยว มคฺคภาวนาย กิจฺจโต อนิจฺจาทิวเสน วิเจยฺย. ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน ตเมว สพฺพํ เวทมติจฺจ ยาปิ เวทปจฺจยา, อฺถา วา อุปฺปชฺชนฺติ เวทนา, ตาสุ สพฺพเวทนาสุ วีตราโค โหติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ ปตฺตินมาหุ เวทคุ’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๓๓) ปุฏฺโ ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ¶ ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห. ยสฺมา วา โย ปวิจยปฺาย เวทานิ วิเจยฺย, ตตฺถ ฉนฺทราคปฺปหาเนน สพฺพํ เวทมติจฺจ วตฺตติ. โส สตฺถสฺิตานิ เวทานิ คโต าโต อติกฺกนฺโตว โหติ. โย เวทนาสุ ¶ วีตราโค, โสปิ เวทนาสฺิตานิ เวทานิ คโต อติกฺกนฺโต ¶ , อติเวทนํ คโตติปิ เวทคู. ตสฺมา ตมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ ปตฺติน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘เวทานิ วิเจยฺย…เป… เวทคู โส’’ติ อาห.
สเมจฺจาติ าเณน สมาคนฺตฺวา. อภิสเมจฺจาติ าเณน ปฏิวิชฺฌิตฺวา. ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ. สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ สปฺปจฺจยา ธมฺมา. เต หิ สงฺขตสงฺขารา นาม. ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กรียนฺตีติ สงฺขารา, เต เอวํ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา ‘‘สงฺขตา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตา. ‘‘กมฺมนิพฺพตฺตา เตภูมกรูปารูปธมฺมา อภิสงฺขตสงฺขารา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๘๗) อฏฺกถาสุ วุตฺตา. เตปิ ‘‘อนิจฺจา วต สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๑, ๒๗๒; สํ. นิ. ๑.๑๘๖) สงฺขตสงฺขาเรสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ‘‘อวิชฺชาคโตยํ, ภิกฺขเว, ปุริสปุคฺคโล ปฺฺุเจ สงฺขารํ อภิสงฺขโรตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๕๑) อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราว อาคตา. เตภูมิกกุสลากุสลเจตนา อภิสงฺขรณกสงฺขารา นาม. ‘‘ยาวติกา อภิสงฺขารสฺส คติ, ตาวติกํ คนฺตฺวา อกฺขาหตํ มฺเ อฏฺาสี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๑๕) อาคตํ กายิกเจตสิกวีริยํ ปโยคาภิสงฺขาโร นาม. ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน ปมํ นิรุชฺฌติ วจีสงฺขาโร, ตโต กายสงฺขาโร, ตโต จิตฺตสงฺขาโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๔) อาคตา วิตกฺกวิจารา วาจํ สงฺขโรนฺตีติ วจีสงฺขารา, อสฺสาสปสฺสาสา กาเยน สงฺขรียนฺตีติ กายสงฺขารา, สฺา จ เวทนา จ จิตฺเตน สงฺขรียนฺตีติ จิตฺตสงฺขารา. อิธ ปน สงฺขตสงฺขารา อธิปฺเปตา. อนิจฺจา หุตฺวา อภาวฏฺเน. ทุกฺขา ปฏิปีฬนฏฺเน. สพฺเพ ธมฺมาติ นิพฺพานมฺปิ อนฺโตกตฺวา วุตฺตา. อนตฺตา อวสวตฺตนฏฺเน. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอตฺถ ยํ ปฏิจฺจ ผลเมติ, โส ปจฺจโย. ปฏิจฺจาติ น วินา, อปจฺจกฺขิตฺวาติ อตฺโถ. เอตีติ อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จาติ อตฺโถ. อปิจ อุปการกฏฺโ ปจฺจยฏฺโ. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย, ตสฺมา ¶ อวิชฺชาปจฺจยา. สงฺขารา สมฺภวนฺตีติ นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ สมฺภวนฺติสทฺทสฺส เสสปเทหิปิ โยชนา กาตพฺพา.
ตตฺถ ¶ กตมา อวิชฺชา? ทุกฺเข อฺาณํ, ทุกฺขสมุทเย อฺาณํ, ทุกฺขนิโรเธ อฺาณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย อฺาณํ, ปุพฺพนฺเต อฺาณํ, อปรนฺเต อฺาณํ, ปุพฺพนฺตาปรนฺเต อฺาณํ, อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาณํ. กตเม สงฺขารา? ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสงฺขาโร วจีสงฺขาโร จิตฺตสงฺขาโร, อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา ¶ อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร, กายสฺเจตนา กายสงฺขาโร, วจีสฺเจตนา วจีสงฺขาโร, มโนสฺเจตนา จิตฺตสงฺขาโร.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ? อวิชฺชาภาเว ภาวโต. ยสฺส หิ ทุกฺขาทีสุ อวิชฺชาสงฺขาตํ อฺาณํ อปฺปหีนํ โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน สํสารทุกฺขํ สุขสฺาย คเหตฺวา ตสฺเสว เหตุภูเต ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตปิ ตณฺหาปริกฺขาเร สงฺขาเร สุขเหตุโต มฺมาโน อารภติ. นิโรเธ ปน มคฺเค จ อฺาเณน ทุกฺขสฺส อนิโรธภูเตปิ คติวิเสเส ทุกฺขนิโรธสฺี หุตฺวา นิโรธสฺส จ อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ทุกฺขนิโรธํ ปตฺถยมาโน ยฺามรตปาทิมุเขน ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ.
อปิ จ โส ตาย จตูสุ สจฺเจสุ อปฺปหีนาวิชฺชตาย วิเสสโต ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณมฺปิ ปฺุผลสงฺขาตํ ทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต ตสฺส อธิคมาย กายวจีจิตฺตสงฺขารเภทํ ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ เทวจฺฉรกามโก วิย มรุปฺปปาตํ. สุขสมฺมตสฺสาปิ จ ตสฺส ปฺุผลสฺส อนฺเต มหาปริฬาหชนิกํ วิปริณามทุกฺขตํ อปฺปสฺสาทตฺจ อปสฺสนฺโตปิ ตปฺปจฺจยํ วุตฺตปฺปการเมว ปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ สลโภ วิย ทีปสิขาภินิปาตํ, มธุพินฺทุคิทฺโธ วิย จ มธุลิตฺตสตฺถธาราเลหนํ.
กามุปเสวนาทีสุ ¶ จ สวิปาเกสุ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตมฺปิ อปฺุาภิสงฺขารํ อารภติ พาโล ¶ วิย คูถกีฬนํ, มริตุกาโม วิย จ วิสขาทนํ. อารุปฺปวิปาเกสุ จาปิ สงฺขารวิปริณามทุกฺขตํ อนวพุชฺฌมาโน สสฺสตาทิวิปลฺลาเสน จิตฺตสงฺขารภูตํ อาเนฺชาภิสงฺขารํ อารภติ ทิสามูฬฺโห วิย ปิสาจนคราภิมุขมคฺคคมนํ. เอวํ ยสฺมา อวิชฺชาภาวโตว สงฺขารภาโว, น อภาวโต. ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘อิเม สงฺขารา อวิชฺชาปจฺจยา โหนฺตี’’ติ.
เอตฺถาห – คณฺหาม ตาว เอตํ ‘‘อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย’’ติ, กึ ปนายเมกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, อุทาหุ อฺเปิ ปจฺจยา สนฺตีติ? กึ ปเนตฺถ ยทิ ตาว เอกาว, เอกการณวาโท อาปชฺชติ. อถ อฺเปิ สนฺติ, ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ เอกการณนิทฺเทโส นุปปชฺชตีติ? น นุปปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา –
‘‘เอกํ ¶ น เอกโต อิธ, นาเนกมเนกโตปิ โน เอกํ;
ผลมตฺถิ อตฺถิ ปน เอก-เหตุผลทีปเน อตฺโถ’’. (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖, สงฺขารปทนิทฺเทส; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๑๐๕; วิสุทฺธิ. ๒.๖๑๗);
ภควา หิ กตฺถจิ ปธานตฺตา, กตฺถจิ ปากฏตฺตา, กตฺถจิ อสาธารณตฺตา เทสนาวิลาสสฺส จ เวเนยฺยานฺจ อนุรูปโต เอกเมว เหตุํ วา ผลํ วา ทีเปติ. ตสฺมา อยมิธ อวิชฺชา วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ วตฺถารมฺมณสหชาตธมฺมาทีสุ สงฺขารการเณสุ ‘‘อสฺสาทานุปสฺสิโน ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๒) จ, ‘‘อวิชฺชาสมุทยา อาสวสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๔) จ วจนโต อฺเสมฺปิ ตณฺหาทีนํ สงฺขารเหตูนํ เหตูติ ปธานตฺตา, ‘‘อวิทฺวา, ภิกฺขเว, อวิชฺชาคโต ปฺุาภิสงฺขารมฺปิ อภิสงฺขโรตี’’ติ ปากฏตฺตา, อสาธารณตฺตา จ สงฺขารานํ เหตุภาเวน ทีปิตาติ เวทิตพฺพา. เอเตเนว จ เอเกกเหตุผลทีปนปริหารวจเนน สพฺพตฺถ เอเกกเหตุผลทีปเน ปโยชนํ เวทิตพฺพนฺติ.
เอตฺถาห – เอวํ สนฺเตปิ เอกนฺตานิฏฺผลาย สาวชฺชาย อวิชฺชาย กถํ ปฺุาเนฺชาภิสงฺขารปจฺจยตฺตํ ยุชฺชติ? น หิ นิมฺพพีชโต อุจฺฉุ อุปฺปชฺชตีติ. กถํ น ยุชฺชิสฺสติ? โลกสฺมิฺหิ –
‘‘วิรุทฺโธ ¶ จา วิรุทฺโธ จ, สทิสาสทิโส ตถา;
ธมฺมานํ ปจฺจโย สิทฺโธ, วิปากา เอว เต จ น’’.
อิติ ¶ อยํ อวิชฺชา วิปากวเสน เอกนฺตานิฏฺผลา, สภาววเสน จ สาวชฺชาปิ สมานา สพฺเพสมฺปิ เอเตสํ ปฺุาภิสงฺขาราทีนํ ยถานุรูปํ านกิจฺจสภาววิรุทฺธาวิรุทฺธปจฺจยวเสน, สทิสาสทิสปจฺจยวเสน จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพา. อปิ จ อยํ อฺโปิ ปริยาโย –
‘‘จุตูปปาเต สํสาเร, สงฺขารานฺจ ลกฺขเณ;
โย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน-ธมฺเมสุ จ วิมุยฺหติ.
‘‘อภิสงฺขโรติ โส เอเต, สงฺขาเร ติวิเธ ยโต;
อวิชฺชา ปจฺจโย เตสํ, ติวิธานมฺปยํ ตโต.
‘‘ยถาปิ ¶ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;
เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.
‘‘สํสาเร สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;
กโรติ เอกทา ปฺุํ, อปฺุมปิ เอกทา.
‘‘ยทา จ ตฺวา โส ธมฺมํ, สจฺจานิ อภิสเมสฺสติ;
ตทา อวิชฺชูปสมา, อุปสนฺโต จริสฺสตี’’ติ.
สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติ ฉวิฺาณกายา จกฺขุวิฺาณํ โสตวิฺาณํ ฆานวิฺาณํ ชิวฺหาวิฺาณํ กายวิฺาณํ มโนวิฺาณํ. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณํ กุสลวิปากํ อกุสลวิปากนฺติ ทุวิธํ. ตถา โสตฆานชิวฺหากายวิฺาณานิ. มโนวิฺาณํ ปน ทฺเว วิปากมโนธาตุโย, ติสฺโส อเหตุกวิปากมโนวิฺาณธาตุโย, อฏฺ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ, ปฺจ รูปาวจรวิปากจิตฺตานิ, จตฺตาริ อรูปาวจรวิปากจิตฺตานีติ พาวีสติวิธํ. อิติ สพฺพานิ พาตฺตึสโลกิยวิปากวิฺาณานิ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘อิทํ วุตฺตปฺปการํ วิฺาณํ สงฺขารปจฺจยา โหตี’’ติ? อุปจิตกมฺมาภาเว วิปากาภาวโต. วิปากฺเหตํ, วิปากฺจ น อุปจิตกมฺมาภาเว อุปฺปชฺชติ, ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, สพฺเพสํ ¶ สพฺพวิปากานิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, น จ อุปฺปชฺชนฺตีติ ชานิตพฺพเมตํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อิทํ วิฺาณํ โหตี’’ติ. สพฺพเมว หิ อิทํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ทฺเวธา ปวตฺตติ ¶ . ตตฺถ ทฺเว ปฺจวิฺาณานิ, ทฺเว มโนธาตุโย, โสมนสฺสสหคตา อเหตุกมโนวิฺาณธาตูติ อิมานิ เตรส ปฺจโวการภเว ปวตฺติยํเยว ปวตฺตนฺติ. เสสานิ เอกูนวีสติ ตีสุ ภเวสุ ยถานุรูปํ ปวตฺติยมฺปิ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺตนฺติ.
‘‘ลทฺธปฺปจฺจยมิติ ธมฺม-มตฺตเมตํ ภวนฺตรมุเปติ;
นาสฺส ตโต สงฺกนฺติ, น ตโต เหตุํ วินา โหติ’’.
อิติ เหตํ ลทฺธปฺปจฺจยํ รูปารูปธมฺมมตฺตํ อุปฺปชฺชมานํ ‘‘ภวนฺตรมุเปตี’’ติ วุจฺจติ, น สตฺโต น ชีโว. ตสฺส จ นาปิ อตีตภวโต อิธ สงฺกนฺติ อตฺถิ, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อิธ ¶ ปาตุภาโว. เอตฺถ จ ปุริมํ จวนโต จุติ, ปจฺฉิมํ ภวนฺตราทิปฏิสนฺธานโต ปฏิสนฺธีติ วุจฺจติ.
เอตฺถาห – นนุ เอวํ อสงฺกนฺติปาตุภาเว สติ เย อิมสฺมึ มนุสฺสตฺตภาเว ขนฺธา, เตสํ นิรุทฺธตฺตา, ผลปจฺจยสฺส จ กมฺมสฺส ตตฺถ อคมนโต, อฺสฺส อฺโต จ ตํ ผลํ สิยา, อุปภฺุชเก จ อสติ กสฺส ตํ ผลํ สิยา, ตสฺมา น สุนฺทรมิทํ วิธานนฺติ? ตตฺริทํ วุจฺจติ –
‘‘สนฺตาเน ยํ ผลํ เอตํ, นาฺสฺส น จ อฺโต;
พีชานํ อภิสงฺขาโร, เอตสฺสตฺถสฺส สาธโก.
‘‘ผลสฺสุปฺปตฺติยา เอว, สิทฺธา ภฺุชกสมฺมุติ;
ผลุปฺปาเทน รุกฺขสฺส, ยถา ผลติ สมฺมุตี’’ติ.
โยปิ วเทยฺย ‘‘เอวํ สนฺเตปิ เอเต สงฺขารา วิชฺชมานา วา ผลสฺส ปจฺจยา สิยุํ, อวิชฺชมานา วา. ยทิ จ วิชฺชมานา, ปวตฺติกฺขเณเยว เนสํ วิปาเกน ภวิตพฺพํ. อถ อวิชฺชมานา, ปวตฺติโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ นิจฺจํ ผลาวหา สิยุ’’นฺติ. โส เอวํ วตฺตพฺโพ –
‘‘กตตฺตา ปจฺจยา เอเต, น จ นิจฺจํ ผลาวหา;
ปาฏิโภคาทิกํ ตตฺถ, เวทิตพฺพํ นิทสฺสน’’นฺติ.
วิฺาณปจฺจยา ¶ ¶ นามรูปนฺติ อิธ เวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา นามํ, จตฺตาริ มหาภูตานิ จตุนฺนฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูปํ รูปํ. อภาวกคพฺภเสยฺยกานํ อณฺฑชานฺจ ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุทสกํ กายทสกนฺติ วีสติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต เตวีสติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. สภาวกานํ ภาวทสกํ ปกฺขิปิตฺวา เตตฺตึส, โอปปาติกสตฺเตสุ พฺรหฺมกายิกาทีนํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตวตฺถุทสกานิ ชีวิตินฺทฺริยนวกฺจาติ เอกูนจตฺตาลีส รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต พาจตฺตาลีส ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. กามภเว ปน เสสโอปปาติกานํ, สํเสทชานํ วา สภาวกปริปุณฺณายตนานํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายวตฺถุภาวทสกานีติ สตฺตติ รูปรูปานิ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ เอเต ¶ เตสตฺตติ ธมฺมา ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา. เอส อุกฺกํโส, อวกํเสน ปน ตํตํทสกวิกลานํ ตสฺส ตสฺส วเสน หาเปตฺวา หาเปตฺวา ปฏิสนฺธิยํ วิฺาณปจฺจยา นามรูปสงฺขา เวทิตพฺพา. อรูปีนํ ปน ตโยว อรูปิโน ขนฺธา. อสฺีนํ รูปโต ชีวิตินฺทฺริยนวกเมวาติ. เอส ตาว ปฏิสนฺธิยํ นโย.
ปวตฺเต ปน สพฺพตฺถ รูปปวตฺติเทเส ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ ปฏิสนฺธิจิตฺเตน สห ปวตฺตอุตุโต อุตุสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ ปาตุภวติ. ปมภวงฺคโต ปภุติ จิตฺตสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกํ, สทฺทปาตุภาวกาเล อุตุโต เจว จิตฺตโต จ สทฺทนวกํ, กพฬีการาหารูปชีวีนํ อาหารสมุฏฺานํ สุทฺธฏฺกนฺติ เอวํ อาหารสมุฏฺานสฺส, สุทฺธฏฺกสฺส, อุตุจิตฺตสมุฏฺานานฺจ ทฺวินฺนํ นวกานํ วเสน ฉพฺพีสติวิธํ, เอเกกจิตฺเต ติกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ วุตฺตกมฺมสมุฏฺานฺจ สตฺตติวิธนฺติ ฉนฺนวุติวิธํ รูปํ, ตโย จ อรูปิโน ขนฺธาติ นวนวุติธมฺมา ยถาสมฺภวํ ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ เวทิตพฺพา.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ปฏิสนฺธินามรูปํ วิฺาณปจฺจยา โหตี’’ติ? สุตฺตโต ยุตฺติโต จ. สุตฺเต ¶ หิ ‘‘จิตฺตานุปริวตฺติโน ธมฺมา’’ติอาทินา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๖๒) นเยน พหุธา เวทนาทีนํ วิฺาณปจฺจยตา สิทฺธา. ยุตฺติโต ปน –
‘‘จิตฺตเชน ¶ หิ รูเปน, อิธ ทิฏฺเน สิชฺฌติ;
อทิฏฺสฺสาปิ รูปสฺส, วิฺาณํ ปจฺจโย อิตี’’ติ.
นามรูปปจฺจยา สฬายตนนฺติ นามํ วุตฺตเมว. อิธ ปน รูปํ นิยมโต จตฺตาริ มหาภูตานิ, ฉ วตฺถูนิ, ชีวิตินฺทฺริยนฺติ เอกาทสวิธํ. สฬายตนํ ปน จกฺขายตนํ โสตฆานชิวฺหากายมนายตนํ.
ตตฺถ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘นามรูปํ สฬายตนสฺส ปจฺจโย’’ติ? นามรูปภาเว ภาวโต. ตสฺส ตสฺส หิ นามสฺส รูปสฺส จ ภาเว ตํ ตํ อายตนํ โหติ, น อฺถาติ.
สฬายตนปจฺจยา ผสฺโสติ –
‘‘ฉเฬว ¶ ผสฺสา สงฺเขปา, จกฺขุสมฺผสฺสอาทโย;
วิฺาณมิว พาตฺตึส, วิตฺถาเรน ภวนฺติ เต’’.
ผสฺสปจฺจยา เวทนาติ –
‘‘ทฺวารโต เวทนา วุตฺตา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทิกา;
ฉเฬว ตา ปเภเทน, อิธ พาตฺตึส เวทนา’’.
เวทนาปจฺจยา ตณฺหาติ –
‘‘รูปตณฺหาทิเภเทน, ฉ ตณฺหา อิธ ทีปิตา;
เอเกกา ติวิธา ตตฺถ, ปวตฺตาการโต มตา.
‘‘ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;
อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา.
‘‘ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนา;
เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, อิติ วุตฺตา มเหสินา’’ติ.
ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ จตฺตาริ อุปาทานานิ กามุปาทานํ ทิฏฺุปาทานํ สีลพฺพตุปาทานํ อตฺตวาทุปาทานํ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ อิธ กมฺมภโว อธิปฺเปโต, อุปปตฺติภโว ปน ปทุทฺธารวเสน วุตฺโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภวปจฺจยา ชาติ ปฏิสนฺธิขนฺธานํ ปาตุภโว.
ตตฺถ ¶ สิยา – กถํ ปเนตํ ชานิตพฺพํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ เจ? พาหิรปจฺจยสมตฺเตปิ หีนปณีตตาทิวิเสสทสฺสนโต. พาหิรานฺหิ ชนกชนนิสุกฺกโสณิตาหาราทีนํ ปจฺจยานํ สมตฺเตปิ สตฺตานํ ยมกานมฺปิ ¶ สตํ หีนปณีตตาทิวิเสโส ทิสฺสติ. โส จ น อเหตุโก สพฺพทา จ สพฺเพสฺจ อภาวโต, น กมฺมภวโต อฺเหตุโก ตทภินิพฺพตฺตกสตฺตานํ อชฺฌตฺตสนฺตาเน อฺสฺส การณสฺส อภาวโตติ กมฺมภวเหตุโกว. กมฺมฺหิ สตฺตานํ หีนปณีตตาทิวิเสสสฺส เหตุ. เตนาห ภควา – ‘‘กมฺมํ สตฺเต ¶ วิภชติ ยทิทํ หีนปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙). ตสฺมา ชานิตพฺพเมตํ ‘‘ภโว ชาติยา ปจฺจโย’’ติ.
ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติอาทีสุ ยสฺมา อสติ ชาติยา ชรามรณฺเจว โสกาทโย จ ธมฺมา น โหนฺติ, ชาติยา ปน สติ ชรามรณฺเจว ชรามรณสงฺขาตทุกฺขธมฺมผุฏฺสฺส พาลสฺส ชรามรณาทิสมฺพนฺธา วา เตน เตน ทุกฺขธมฺเมน ผุฏฺสฺส อนภิสมฺพนฺธา วา โสกาทโย จ ธมฺมา โหนฺติ. ตสฺมา ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ. สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺมนฺติ าเณน สมาคนฺตฺวา จตุสจฺจธมฺมํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา.
เอวํ ทฺวาทสปทิกํ ปจฺจยาการปฺปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิวฏฺฏวเสน อวิชฺชาทีนํ นิโรธทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานิโรธา สงฺขารนิโรโธติ สเมจฺจ อภิสเมจฺจ ธมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชานิโรธาติ อวิชฺชาย อนุปฺปาทนิโรธา ปุน อปฺปวตฺตินิโรเธน. สงฺขารนิโรโธติ สงฺขารานํ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ เสสปเทสุปิ. อิทํ ทุกฺขนฺติอาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิเม ธมฺมา อภิฺเยฺยาติ อิเม เตภูมกา ธมฺมา สภาวลกฺขณาวโพธวเสน โสภนากาเรน, อธิเกน าเณน วา สภาวโต ชานิตพฺพา. ปริฺเยฺยาติ สามฺลกฺขณาวโพธวเสน, กิจฺจสมาปนวเสน จ พฺยาปิตฺวา ชานิตพฺพา. อิเม ธมฺมา ปหาตพฺพาติ อิเม สมุทยปกฺขิกา ธมฺมา เตน เตน คุณงฺเคน ปหาตพฺพา. ภาเวตพฺพาติ ¶ วฑฺเฒตพฺพา. สจฺฉิกาตพฺพาติ ปจฺจกฺขํ กาตพฺพา. ทุวิธา สจฺฉิกิริยา ปฏิลาภสจฺฉิกิริยา จ อารมฺมณสจฺฉิกิริยา จ. ฉนฺนํ ผสฺสายตนานนฺติ จกฺขาทีนํ ฉนฺนํ อายตนานํ. สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจาติ อุปฺปาทฺจ นิโรธฺจ.
ภูริปฺโติ ภูริ วิยาติ ภูริ, ตาย ภูริปฺาย สมนฺนาคโต ภูริปฺโ. มหาปฺโติอาทีสุ มหาปฺาทีหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.
ตตฺริทํ ¶ มหาปฺาทีนํ นานตฺตํ – กตมา มหาปฺา? มหนฺเต อตฺเถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต ธมฺเม…เป… มหนฺตา นิรุตฺติโย… มหนฺตานิ ปฏิภานานิ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สีลกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺเต สมาธิกฺขนฺเธ…เป… ปฺากฺขนฺเธ… วิมุตฺติกฺขนฺเธ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา. มหนฺตานิ านาานานิ…เป… มหาวิหารสมาปตฺติโย… มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ… มหนฺเต สติปฏฺาเน… สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ ¶ … พลานิ… โพชฺฌงฺคานิ… มหนฺเต อริยมคฺเค… มหนฺตานิ สามฺผลานิ… มหาอภิฺาโย… มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปฺา.
กตมา ปุถุปฺา? ปุถุนานาขนฺเธสุ าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา. ปุถุนานาธาตูสุ…เป… ปุถุนานาอายตเนสุ… ปุถุนานาปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ… ปุถุนานาสฺุตมนุปลพฺเภสุ… ปุถุนานาอตฺเถสุ… ธมฺเมสุ… นิรุตฺตีสุ… ปฏิภาเนสุ… ปุถุนานาสีลกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาสมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺเธสุ… ปุถุนานาานาาเนสุ… ปุถุนานาวิหารสมาปตฺตีสุ… ปุถุนานาอริยสจฺเจสุ… ปุถุนานาสติปฏฺาเนสุ… สมฺมปฺปธาเนสุ… อิทฺธิปาเทสุ… อินฺทฺริเยสุ… พเลสุ… โพชฺฌงฺเคสุ… ปุถุนานาอริยมคฺเคสุ… สามฺผเลสุ… อภิฺาสุ… ปุถุนานาชนสาธารเณ ธมฺเม สมติกฺกมฺม ปรมตฺเถ นิพฺพาเน าณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปฺา.
กตมา ¶ หาสปฺา? อิเธกจฺโจ หาสพหุโล เวทพหุโล ตุฏฺิพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลํ ปริปูเรติ. อินฺทฺริยสํวรํ ปริปูเรติ. โภชเน มตฺตฺุตํ…เป… ชาคริยานุโยคํ… สีลกฺขนฺธํ… สมาธิกฺขนฺธํ… ปฺากฺขนฺธํ… วิมุตฺติกฺขนฺธํ… วิมุตฺติาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล…เป… ปาโมชฺชพหุโล านาานํ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรตีติ หาสปฺา. หาสพหุโล อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา. สติปฏฺาเน ภาเวติ สมฺมปฺปธาเน… อิทฺธิปาเท… อินฺทฺริยานิ… พลานิ… โพชฺฌงฺเค… อริยมคฺคํ ภาเวตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล สามฺผลานิ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา, อภิฺาโย ปฏิวิชฺฌตีติ หาสปฺา, หาสพหุโล ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปฺา.
กตมา ¶ ชวนปฺา? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. ยา กาจิ เวทนา…เป… ยา กาจิ สฺา… เย เกจิ สงฺขารา… ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
รูปํ ¶ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเน, อนตฺตา อสารกฏฺเนาติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… ¶ วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา. เวทนา…เป… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ…เป… นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา…เป… วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปฺา.
กตมา ติกฺขปฺา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปฺา. อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ. อุปฺปนฺนํ พฺยาปาทวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนํ วิหึสาวิตกฺกํ… อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม… อุปฺปนฺนํ ราคํ… อุปฺปนฺนํ โทสํ… โมหํ… โกธํ… อุปนาหํ… มกฺขํ… ปฬาสํ… อิสฺสํ… มจฺฉริยํ… มายํ… สาเยฺยํ… ถมฺภํ… สารมฺภํ… มานํ… อติมานํ… มทํ… ปมาทํ… สพฺเพ กิเลเส… สพฺเพ ทุจฺจริเต… สพฺเพ อภิสงฺขาเร… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปฺา. เอกมฺหิ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทาโย, ฉ อภิฺาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปฺายาติ ติกฺขปฺา.
กตมา ¶ นิพฺเพธิกปฺา? อิเธกจฺโจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุพฺเพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา. อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ…เป… โมหกฺขนฺธํ… โกธํ… อุปนาหํ…เป… สพฺเพ ภวคามิกมฺเม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิพฺเพธิกปฺา.
๒๘. ส สพฺพธมฺเมสุ วิเสนิภูโต, ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วาติ โส ภูริปฺโ ขีณาสโว ยํ กิฺจิ ทิฏฺํ วา สุตํ วา มุตํ วา เตสุ สพฺพธมฺเมสุ มารเสนํ วินาเสตฺวา ิตภาเวน ¶ วิเสนิภูโต. ตเมว ทสฺสินฺติ ตํ เอว วิสุทฺธทสฺสึ. วิวฏํ จรนฺตนฺติ ตณฺหาฉทนาทิวิคเมน วิวฏํ หุตฺวา จรนฺตํ. เกนีธ โลกสฺมิ วิกปฺปเยยฺยาติ ¶ เกน อิธ โลเก ตณฺหากปฺเปน วา ทิฏฺิกปฺเปน วา โกจิ วิกปฺเปยฺย, เตสํ วา ปหีนตฺตา ราคาทินา ปุพฺเพ วุตฺเตนาติ.
กามา เต ปมา เสนาติอาทีสุ จตูสุ คาถาสุ อยมตฺโถ – ยสฺมา อาทิโตว อคาริยภูเต สตฺเต วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามา โมหยนฺติ, เต อภิภุยฺย อนคาริยภาวํ อุปคตานํ ปนฺเตสุ วา เสนาสเนสุ, อฺตรฺตเรสุ วา อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อรติ อุปฺปชฺชติ. วุตฺตฺเจตํ – ‘‘ปพฺพชิเตน โข, อาวุโส, อภิรติ ทุกฺกรา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๓๑). ตโต เต ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา ขุปฺปิปาสา พาเธติ, ตาย พาธิตานํ ปริเยสนตณฺหา จิตฺตํ กิลมยติ, อถ เนสํ กิลนฺตจิตฺตานํ ถินมิทฺธํ โอกฺกมติ ตโต วิเสสมนธิคจฺฉนฺตานํ ทุรภิสมฺภเวสุ อรฺวนปตฺเถสุ เสนาสเนสุ วิหรตํ อุตฺราสสฺิตา ภีรุ ชายติ, เตสํ อุสฺสงฺกิตปริสงฺกิตานํ ทีฆรตฺตํ วิเวกรสมนสฺสาทยมานานํ วิหรตํ ‘‘น สิยา นุ โข เอส มคฺโค’’ติ ปฏิปตฺติยํ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตํ วิโนเทตฺวา วิหรตํ อปฺปมตฺตเกน วิเสสาธิคเมน มานมกฺขถมฺภา ชายนฺติ, เตปิ วิโนเทตฺวา วิหรตํ ตโต อธิกตรํ วิเสสาธิคมํ นิสฺสาย ลาภสกฺการสิโลกา อุปฺปชฺชนฺติ, ลาภาทิมุจฺฉิตา ธมฺมปฏิรูปกานิ ปกาเสนฺตา มิจฺฉายสํ อธิคนฺตฺวา ตตฺถ ิตา ชาติอาทีหิ อตฺตานํ อุกฺกํเสนฺติ, ปรํ วมฺเภนฺติ. ตสฺมา กามาทีนํ ปมเสนาทิภาโว เวทิตพฺโพ.
เอวเมตํ ¶ ทสวิธํ เสนํ อุทฺทิสิตฺวา ยสฺมา สา กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา กณฺหสฺส นมุจิโน อุปการาย สํวตฺตติ, ตสฺมา นํ ‘‘ตว เสนา’’ติ นิทฺทิสนฺโต อาห – ‘‘เอสา นมุจิ เต เสนา, กณฺหสฺสาภิปฺปหารินี’’ติ. ตตฺถ อภิปฺปหารินีติ สมณพฺราหฺมณานํ ฆาตินี นิปฺโปถินี, อนฺตรายกรีติ อตฺโถ. น นํ อสูโร ชินาติ, เชตฺวาว ลภเต สุขนฺติ เอวํ ตว เสนํ อสูโร กาเย จ ชีวิเต จ สาเปกฺโข ปุริโส น ชินาติ, สูโร ปน ชินาติ, เชตฺวาว มคฺคสุขํ ผลสุขฺจ อธิคจฺฉติ.
ยโต ¶ จตูหิ อริยมคฺเคหีติ ยทา จตูหิ นิทฺโทสนิพฺพานมคฺคนสงฺขาเตหิ มคฺเคหิ. มารเสนาติ มารสฺส เสนา วจนกรา กิเลสา. ปฏิเสนิกราติ ปฏิปกฺขกรา. ชิตา จาติ ปราชยมานา หนิตา จ. ปราชิตา จาติ นิคฺคหิตา จ. ภคฺคาติ ภินฺนา. วิปฺปลุคฺคาติ จุณฺณวิจุณฺณา. ปรมฺมุขาติ วิมุขภาวํ ปาปิตา. วิเสนิภูโตติ นิกฺกิเลโส หุตฺวา ิโต.
โวทาตทสฺสินฺติ ¶ พฺยวทาตทสฺสึ. ตานิ ฉทนานีติ เอตานิ ตณฺหาทิกิเลสฉทนานิ. วิวฏานีติ ปากฏีกตานิ. วิทฺธํสิตานีติ ิตฏฺานโต อปหตานิ. อุคฺฆาฏิตานีติ อุปฺปาฏิตานิ. สมุคฺฆาฏิตานีติ วิเสเสน อุปฺปาฏิตานิ.
๒๙. น กปฺปยนฺตีติ คาถาย สมฺพนฺโธ อตฺโถ จ – กิฺจ ภิยฺโย? เต หิ ตาทิสา สนฺโต ทฺวินฺนํ กปฺปานํ ปุเรกฺขารานฺจ เกนจิ น กปฺปยนฺติ, น ปุเรกฺขโรนฺติ. ปรมตฺถํ อจฺจนฺตสุทฺธึ อธิคตตฺตา อนจฺจนฺตสุทฺธึเยว อกิริยสสฺสตทิฏฺึ ‘‘อจฺจนฺตสุทฺธี’’ติ น เต วทนฺติ. อาทานคนฺถํ คติตํ วิสชฺชาติ จตุพฺพิธมฺปิ รูปาทีนํ อาทายกตฺตา อาทานคนฺถํ อตฺตโน จิตฺตสนฺตาเน คถิตํ พทฺธํ อริยมคฺคสตฺเถน วิสฺสชฺช ฉินฺทิตฺวา. เสสํ ปากฏเมว.
อจฺจนฺตสุทฺธินฺติ อจฺจนฺตํ ปรมตฺถํ สุทฺธึ. สํสารสุทฺธินฺติ สํสารโต สุทฺธึ. อกิริยทิฏฺินฺติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ อกิริยทิฏฺึ. สสฺสตวาทนฺติ ‘‘นิจฺโจ ธุโว สสฺสโต’’ติ วจนํ. น วทนฺติ น กเถนฺติ.
คนฺถาติ ¶ นามกายํ คนฺเถนฺติ, จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. อภิชฺฌา จ สา นามกายฆฏนวเสน คนฺโถ จาติ อภิชฺฌากายคนฺโถ. หิตสุขํ พฺยาปาทยตีติ พฺยาปาโท. พฺยาปาโท จ โส วุตฺตนเยน คนฺโถ จาติ พฺยาปาโท กายคนฺโถ. สีลพฺพตปรามาโสติ ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ (ธ. ส. ๑๑๔๓, ๑๒๒๒) ปรโต อามาโส. อิทํสจฺจาภินิเวโสติ สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ ¶ (ธ. ส. ๑๑๔๔) อิมินา อากาเรน อภินิเวโส อิทํสจฺจาภินิเวโส. อตฺตโน ทิฏฺิยา ราโคติ อตฺตนา อภินิวิสิตฺวา คหิตาย ทิฏฺิยา ฉนฺทราโค. ปรวาเทสุ อาฆาโตติ ปรสฺส วจเนสุ โกโป. อปฺปจฺจโยติ อตุฏฺากาโร. อตฺตโน สีลํ วาติ อตฺตนา สมาทินฺนํ โคสีลาทิสีลํ วา. อตฺตโน ทิฏฺีติ อตฺตนา คหิตา ปรามฏฺา ทิฏฺิ. เตหิ คนฺเถหีติ เอเตหิ วุตฺเตหิ นามกายฆฏเนหิ. รูปํ อาทิยนฺตีติ จตุสมุฏฺานิกํ รูปารมฺมณํ อาทิยนฺติ คณฺหนฺติ. อุปาทิยนฺตีติ อุปคนฺตฺวา คณฺหนฺติ ตณฺหาคหเณน. ปรามสนฺติ ทิฏฺิคหเณน. อภินิวิสนฺติ มานคหเณน. วฏฺฏนฺติ เตภูมกวฏฺฏํ. คนฺเถติ พนฺธเน.
โวสชฺชิตฺวา วาติ สมฺมา วิสฺสชฺชิตฺวา วา. คถิเตติ พนฺธเน. คนฺถิเตติ คนฺถเนน คนฺถิเต. วิพนฺเธติ วิเสเสน พนฺเธ. อาพนฺเธติ อเนกวิเธน พนฺเธ. ปลิพุทฺเธติ อมฺุจิเต. พนฺธเน โปฏยิตฺวาติ ตณฺหามานทิฏฺิพนฺธนานิ ปปฺโปฏยิตฺวา. วิสชฺชาติ จชิตฺวา.
อิเม ¶ ปน จตฺตาโร คนฺเถ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ, มคฺคปฏิปาฏิยาปิ – กิเลสปฏิปาฏิยา อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคน ปหียติ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ โสตาปตฺติมคฺเคน, พฺยาปาโท กายคนฺโถ อนาคามิมคฺเคน, อภิชฺฌากายคนฺโถ อรหตฺตมคฺเคนาติ. เอเต จตฺตาโร คนฺถา ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ คนฺเถนฺติ ฆเฏนฺตีติ คนฺถา. เต จตุปฺปเภทา อภิชฺฌายนฺติ เอตาย, สยํ วา อภิชฺฌายติ, อภิชฺฌายนมตฺตเมว วา เอสาติ อภิชฺฌา. โลโภเยว ¶ นามกายํ คนฺเถติ จุติปฏิสนฺธิวเสน วฏฺฏสฺมึ ฆเฏตีติ กายคนฺโถ. พฺยาปชฺชติ เตน จิตฺตํ ปูติภาวํ คจฺฉติ, พฺยาปาทยติ ¶ วา วินยาจารรูปสมฺปตฺติหิตสุขาทีนีติ พฺยาปาโท. ‘‘อิโต พหิทฺธา สมณพฺราหฺมณานํ สีเลน สุทฺธิ วเตน สุทฺธี’’ติ ปรามสนํ สีลพฺพตปรามาโส, สพฺพฺุภาสิตมฺปิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติอาทินา อากาเรน อภินิวิสตีติ อิทํสจฺจาภินิเวโส. ยถา วยฺหํ วาติอาทึ วยฺหาทิวิสงฺขรณํ คนฺถานํ วิโยคกรเณ อุปมํ ทสฺเสนฺโต อาห.
น ชเนนฺตีติ น อุปฺปาเทนฺติ. น สฺชเนนฺตีติ น นิพฺพตฺเตนฺติ. นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ อุปสคฺควเสน ปทํ วฑฺฒิตํ. น สฺชเนนฺตีติ อุปฺปาทกฺขณํ. น นิพฺพตฺเตนฺติ นาภินิพฺพตฺเตนฺตีติ ปวตฺติกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๓๐. สีมาติโคติ คาถา เอกปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย วุตฺตา. ปุพฺพสทิโส เอว ปนสฺสา สมฺพนฺโธ, โส เอวํ อตฺถวณฺณนาย สทฺธึ เวทิตพฺโพ – กิฺจ ภิยฺโย? โส อีทิโส ภูริปฺโ จตุนฺนํ กิเลสสีมานํ อตีตตฺตา สีมาติโค, พาหิตปาปตฺตา จ พฺราหฺมโณ, อิตฺถมฺภูตสฺส จ ตสฺส นตฺถิ, ปรจิตฺตปุพฺเพนิวาสาเณหิ ตฺวา วา มํสทิพฺพจกฺขูหิ ทิสฺวา วา กิฺจิ สมุคฺคหีตํ, อภินิวิฏฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. โส จ กามราคาภาวโต น ราคราคี รูปารูปราคาภาวโต น วิราครตฺโต, ยโต เอวํวิธสฺส ตสฺส ‘‘อิทํ ปรม’’นฺติ กิฺจิ อิธ อุคฺคหีตํ นตฺถีติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
จตสฺโส สีมาโยติ จตฺตาโร ปริจฺเฉทา. ทิฏฺานุสโยติ ทิฏฺิ จ สา อปฺปหีนฏฺเน อนุสโย จาติ ทิฏฺานุสโย. วิจิกิจฺฉานุสยาทีสุปิ เอเสว นโย. เกนฏฺเน อนุสยา? อนุสยนฏฺเน. โก เอส อนุสยฏฺโ นามาติ? อปฺปหีนฏฺโ. เอเต หิ อปฺปหีนฏฺเน ตสฺส ตสฺส ¶ สนฺตาเน อนุเสนฺติ นาม, ตสฺมา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. อถาปิ สิยา – อนุสยฏฺโ นาม อปฺปหีนากาโร, อปฺปหีนากาโร จ ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ น ยุชฺชติ, ตสฺมา น อนุสยา อุปฺปชฺชนฺตีติ. ตตฺริทํ ปฏิวจนํ – อปฺปหีนากาโร อนุสโย, อนุสโยติ ปน อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา วุจฺจนฺติ. โส จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ สปฺปจฺจยฏฺเน ¶ สเหตุโก เอกนฺตากุสโล อตีโตปิ โหติ อนาคโตปิ ปจฺจุปฺปนฺโนปิ, ตสฺมา ‘‘อุปฺปชฺชตี’’ติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ตตฺริทํ ¶ ปมาณํ – ปฏิสมฺภิทายํ ตาว อภิสมยกถายํ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา อนุสยานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวสฺส อตฺถิตาย ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ วุตฺตํ. ธมฺมสงฺคณิยํ โมหสฺส ปทภาชเน (ธ. ส. ๓๙๐) ‘‘อวิชฺชานุสโย อวิชฺชาปริยุฏฺานํ, อวิชฺชาลงฺคี โมโห อกุสลมูลํ, อยํ ตสฺมึ สมเย โมโห โหตี’’ติ อกุสลจิตฺเตน สทฺธึ อวิชฺชานุสยสฺส อุปฺปนฺนภาโว วุตฺโต. กถาวตฺถุสฺมึ ‘‘อนุสยา อพฺยากตา อนุสยา อเหตุกา อนุสยา จิตฺตวิปฺปยุตฺตา’’ติ (กถา. ๖๐๕) สพฺเพ วาทา ปฏิเสธิตา. อนุสยยมเก สตฺตนฺนํ มหาวารานํ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชนวาเร ‘‘ยสฺส กามราคานุสโย อุปฺปชฺชติ ตสฺส ปฏิฆานุสโย อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘อนุเสนฺตีติ อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ ยํ วุตฺตํ, ตํ อิมินา ตนฺติปฺปมาเณน สุวุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยมฺปิ ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺโต สารมฺมโณ’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตมฺปิ สุวุตฺตเมว. อนุสโย หิ นาเมส ปรินิปฺผนฺโน จิตฺตสมฺปยุตฺโต อกุสลธมฺโมติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
ตตฺถ ทิฏฺานุสโย จตูสุ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตสุ, วิจิกิจฺฉานุสโย วิจิกิจฺฉาสหคเต, อวิชฺชานุสโย ทฺวาทสสุ อกุสลจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ; ตโยปิ อวเสสเตภูมกธมฺเมสุ อารมฺมณวเสน ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาโมหา. กามราคานุสโย เจตฺถ โลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, มนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสน อุปฺปชฺชมาโน โลโภ. ปฏิฆานุสโย โทมนสฺสสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, อมนาเปสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน โทโส. มานานุสโย ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตโลภสหคตจิตฺเตสุ สหชาตวเสน อารมฺมณวเสน จ, ทุกฺขเวทนาวชฺเชสุ อวเสสกามาวจรธมฺเมสุ รูปารูปาวจรธมฺเมสุ จ อารมฺมณวเสเนว อุปฺปชฺชมาโน มาโน. ภวราคานุสโย จตูสุ ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ อุปฺปชฺชมาโนปิ ¶ ¶ สหชาตวเสน วุตฺโต. อารมฺมณวเสเนว ปน รูปารูปาวจรธมฺเมสุ อุปฺปชฺชมาโน โลโภ วุตฺโต.
ตตฺถ ¶ ทิฏฺานุสโยติ ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ. วิจิกิจฺฉานุสโยติ อฏฺวตฺถุกา วิจิกิจฺฉา. ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ สหเชกฏฺวเสน ทิฏฺิยา วิจิกิจฺฉาย, สหเชกฏฺวเสน เอกโต ิตา. มานานุสโยติ นววิธมาโน. ปรมตฺถาเณน วา ตฺวาติ ปเรสํ จิตฺตาจารชานนปฺาย ชานิตฺวา, เจโตปริยาเณน ชานิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน วาติ อตีเต นิวุฏฺกฺขนฺธานุสฺสรณาเณน ชานิตฺวา. มํสจกฺขุนา วาติ ปกติจกฺขุนา. ทิพฺพจกฺขุนา วาติ ทิพฺพสทิเสน ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิเตน วา ทิพฺพจกฺขุนา ปสฺสิตฺวา. ราครตฺตาติ ราเคน รฺชิตา. เย ปฺจสุ กามคุเณสูติ เย ปฺจสุ รูปาทิวตฺถุกามโกฏฺาเสสุ. วิราครตฺตาติ วิราคสงฺขาตาสุ รูปารูปสมาปตฺตีสุ อติรตฺตา อลฺลีนา. ยโต กามราโค จาติ ยทา กามภเว ราโค จ. รูปารูปราเคสุปิ เอเสว นโย.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
สุทฺธฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.