📜
๕. ปรมฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๓๑. ปฺจเม ¶ ¶ ปรมฏฺกสุตฺเต ปรมนฺติ ทิฏฺีสุ ปริพฺพสาโนติ อิทํ ปรมนฺติ คเหตฺวา สกาย สกาย ทิฏฺิยา วสมาโน. ยทุตฺตรึ กุรุเตติ ยํ อตฺตโน สตฺถาราทึ เสฏฺํ กโรติ. หีนาติ อฺเ ตโต สพฺพมาหาติ ตํ อตฺตโน สตฺถาราทึ เปตฺวา ตโต อฺเ สพฺเพ ‘‘หีนา อิเม’’ติ อาห. ตสฺมา วิวาทานิ อวีติวตฺโตติ เตน การเณน โส ทิฏฺิกลเห อวีติวตฺโตว โหติ.
วสนฺตีติ ปมุปฺปนฺนทิฏฺิวเสน วสนฺติ. ปวสนฺตีติ ปวิสิตฺวา วสนฺติ. อาวสนฺตีติ วิเสเสน วสนฺติ. ปริวสนฺตีติ สพฺพภาเคน วสนฺติ. ตํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘ยถา อาคาริกา วา’’ติอาทิมาห. อาคาริกา วาติ ฆรสามิกา. ฆเรสุ วสนฺตีติ อตฺตโน ฆเรสุ อาสงฺกวิรหิตา หุตฺวา นิวสนฺติ. สาปตฺติกา วาติ อาปตฺติพหุลา. สกิเลสา วาติ ¶ ราคาทิกิเลสพหุลา. อุตฺตรึ กโรตีติ อติเรกํ กโรติ. อยํ สตฺถา สพฺพฺูติ ‘อยํ อมฺหากํ สตฺถา สพฺพํ ชานาติ’.
สพฺเพ ปรปฺปวาเท ขิปตีติ สพฺพา ปรลทฺธิโย ฉฑฺเฑติ. อุกฺขิปตีติ นีหรติ. ปริกฺขิปตีติ ปรมฺมุเข กโรติ. ทิฏฺิเมธคานีติ ทิฏฺิวิเหสกานิ.
๓๒. ทุติยคาถายตฺโถ – เอวํ อวีติวตฺโต จ ยํ ทิฏฺเ สุเต สีลวเต มุเตติ เอเตสุ จตูสุ วตฺถูสุ อุปฺปนฺนทิฏฺิสงฺขาเต อตฺตนิ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ อานิสํสํ ปสฺสติ, ตเทว โส ตตฺถ สกาย ทิฏฺิยา อานิสํสํ ‘‘อิทํ เสฏฺ’’นฺติ อภินิวิสิตฺวา อฺํ สพฺพํ ปรสตฺถาราทิกํ นิหีนโต ปสฺสติ.
ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ ทฺเว คุเณ โอโลเกติ. ทิฏฺธมฺมิกฺจาติ ¶ ทิฏฺเ ปจฺจกฺเข อตฺตภาเว ¶ วิปจฺจนกรณํ. สมฺปรายิกฺจาติ ปรโลเก ปฏิลภิตพฺพคุณฺจ. ยํทิฏฺิโก สตฺถาติ ยํลทฺธิโก ติตฺถายตนสามิโก. อลํ นาคตฺตาย วาติ นาคราชภาวาย วา ปริยตฺตํ. สุปณฺณตฺตาทีสุปิ เอเสว นโย. เทวตฺตาย วาติ สมฺมุติเทวาทิภาวาย. อายตึ ผลปาฏิกงฺขี โหตีติ อนาคเต วิปากผลํ ปตฺถยาโน โหติ. ทิฏฺสุทฺธิยาปิ ทฺเว อานิสํเส ปสฺสตีติ จกฺขุวิฺาเณน ทิฏฺรูปายตนสฺส วเสน สุทฺธิยา เหตุตฺตาปิ อตฺตโน คหิตคหเณน ทฺเว คุเณ โอโลเกติ. สุตสุทฺธิยาทีสุปิ เอเสว นโย.
๓๓. ตติยคาถายตฺโถ – เอวํ ปสฺสโต จ ยํ อตฺตโน สตฺถาราทึ นิสฺสิโต อฺํ ปรสตฺถาราทึ หีนํ ปสฺสติ, ตํ ปน ทสฺสนํ คนฺถเมว กุสลา วทนฺติ, พนฺธนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา เอตเทว, ตสฺมา หิ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ ภิกฺขุ น นิสฺสเยยฺย, นาภินิเวเสยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
กุสลาติ ขนฺธาทิชานเน เฉกา. ขนฺธกุสลาติ รูปาทีสุ ปฺจสุ ขนฺเธสุ กุสลา. ธาตุอายตนปฏิจฺจสมุปฺปาทสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคผลนิพฺพาเนสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ มคฺคกุสลาติ จตูสุ มคฺเคสุ. ผลกุสลาติ จตูสุ ผเลสุ. นิพฺพานกุสลาติ ทุวิเธ นิพฺพาเน เฉกา. เต กุสลาติ เต เอเตสุ วุตฺตปฺปกาเรสุ ¶ เฉกา. เอวํ วทนฺตีติ เอวํ กเถนฺติ. คนฺโถ เอโสติ ปสฺสโต จ อตฺตโน สตฺถาราทินิสฺสิตฺจ อฺํ ปรสตฺถาราทึ หีนโต ทสฺสนฺจ คนฺโถ พนฺธโน เอโสติ วทนฺติ. ลคฺคนํ เอตนฺติ เอตํ วุตฺตปฺปการํ นาคทนฺเต ลคฺคิตํ วิย อโธลมฺพนํ. พนฺธนํ เอตนฺติ นิจฺฉินฺทิตุํ ทุกฺขฏฺเน สงฺขลิกาทิพนฺธนํ ¶ วิย เอตํ พนฺธนํ. ปลิโพโธ เอโสติ สํสารโต นิกฺขมิตุํ อปฺปทานฏฺเน เอโส ปลิโพโธ.
๓๔. จตุตฺถคาถายตฺโถ – น เกวลํ ทิฏฺสุตาทีสุ น นิสฺสเยยฺย, อปิจ โข ปน อสฺชาตํ อุปรูปริ ทิฏฺิมฺปิ โลกสฺมึ น กปฺปเยยฺย, น ชเนยฺยาติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสํ? าเณน วา สีลวเตน วาปิ, สมาปตฺติาณาทิาเณน วา สีลวเตน วา ยา กปฺปิยติ, เอตํ ทิฏฺึ น กปฺเปยฺย. น เกวลฺจ ทิฏฺึ น กปฺปเยยฺย, อปิจ โข ปน มาเนนปิ ชาติอาทีหิ วตฺถูหิ สโมติ อตฺตานมนูปเนยฺย, หีโน น มฺเถ วิเสสิ วาปีติ.
อฏฺสมาปตฺติาเณน วาติ ปมชฺฌานาทีนํ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ สมฺปยุตฺตปฺาย วา. ปฺจาภิฺาาเณน วาติ โลกิยานํ ปฺจนฺนํ อภิฺานํ สมฺปยุตฺตปฺาย วา. มิจฺฉาาเณน วาติ ¶ วิปรีตสภาเวน ปวตฺตาย ปฺาย อมุตฺเต มุตฺตํ ปสฺสาติ เอวํ อุปฺปนฺเนน มิจฺฉาาเณน วา.
๓๕. ปฺจมคาถายตฺโถ – เอวฺหิ ทิฏฺึ อกปฺเปนฺโต อมฺมาโน จ อตฺตํ ปหาย อนุปาทิยาโน ยํ ปุพฺเพ คหิตํ, ตํ ปหาย ปรํ อคฺคณฺหนฺโต ตสฺมิมฺปิ วุตฺตปฺปกาเร าเณ ทุวิธํ นิสฺสยํ โน กโรติ, อกโรนฺโต จ ส เว วิยตฺเตสุ นานาทิฏฺิวเสน ภินฺเนสุ สตฺเตสุ น วคฺคสารี ฉนฺทาทิวเสน อคจฺฉนธมฺโม หุตฺวา ทฺวาสฏฺิยา ทิฏฺีสุ กิฺจิ ทิฏฺึ น ปจฺเจติ, น ปจฺจาคจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ.
จตูหิ อุปาทาเนหีติ กามุปาทานาทีหิ จตูหิ ภุสํ คหเณหิ ส เว วิยตฺเตสูติ โส ปุคฺคโล นิจฺฉิเตสุ. ภินฺเนสูติ ทฺวิธา ภินฺเนสุ.
๓๖. อิทานิ โย โส อิมาย คาถาย วุตฺโต ขีณาสโว, ตสฺส วณฺณภณนตฺถํ ‘‘ยสฺสูภยนฺเต’’ติอาทิกา ติสฺโส คาถาโย อาห. ตตฺถ ปมคาถาย ยสฺสูภยนฺเตติ ปุพฺเพ วุตฺเต ผสฺสาทิเภเท. ปณิธีติ ¶ ตณฺหา. ภวาภวายาติ ปุนปฺปุนภวาย ¶ . อิธ วา หุรํ วาติ สกตฺตภาวาทิเภเท อิธ วา ปรตฺตภาวาทิเภเท ปรตฺถ วา.
ผสฺโส เอโก อนฺโตติ จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก เอโก โกฏฺาโส. ผสฺสสมุทโยติ วตฺถารมฺมโณ. ยโต สมุเทติ อุปฺปชฺชติ, โส สมุทโย. ทุติโย อนฺโตติ ทุติโย โกฏฺาโส. อตีตนฺติ อติ อิตํ อตีตํ, อติกฺกนฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนาคตนฺติ น อาคตํ, อนุปฺปนฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สุขา เวทนาทโย วิสภาควเสน. นามรูปทุกํ นมนรุปฺปนวเสน. อชฺฌตฺติกาทโย อชฺฌตฺตพาหิรวเสน. สกฺกายาทโย ขนฺธปฺจกานํ ปวตฺติสมุทยวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
สกตฺตภาโวติ อตฺตโน อตฺตภาโว. ปรตฺตภาโวติ ปรสฺส อตฺตภาโว.
๓๗. ทุติยคาถาย ทิฏฺเ วาติ ทิฏฺสุทฺธิยา วา. เอส นโย สุตาทีสุ. สฺาติ สฺาสมุฏฺาปิกา ทิฏฺิ.
อปรามสนฺตนฺติ ¶ ตณฺหามานทิฏฺีหิ น ปรามสนฺตํ. อนภินิเวสนฺตนฺติ เตเหว อนภินิวิสนฺตํ.
‘‘วินิพทฺโธ’’ติ วาติ มาเนน วินิพทฺโธติ วา. ‘‘ปรามฏฺโ’’ติ วาติ ปรโต นิจฺจสุขสุภาทีหิ ปรามฏฺโติ วา. วิกฺเขปคโตติ อุทฺธจฺจวเสน. อนิฏฺงฺคโตติ วิจิกิจฺฉาวเสน. ถามคโตติ อนุสยวเสน. คติยาติ คนฺตพฺพวเสน.
๓๘. ตติยคาถาย ธมฺมาปิ เตสํ น ปฏิจฺฉิตาเสติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตธมฺมาปิ เตสํ ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (อุทา. ๕๔) เอวํ น ปฏิจฺฉิตา. ปารงฺคโต น ปจฺเจติ ตาทีติ นิพฺพานปารํ คโต เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส ปุน นาคจฺฉติ ปฺจหิ จ อากาเรหิ ตาที โหตีติ. เสสํ ปากฏเมว.
วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺีติ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๓๒) นเยน เอเกกสฺมึ ขนฺเธ จตูหิ จตูหิ อากาเรหิ ปฺจกฺขนฺเธ ปติฏฺํ กตฺวา ปวตฺตา วิชฺชมาเน กาเย ทิฏฺิ. ทสวตฺถุกา ¶ มิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘นตฺถิ ¶ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ธ. ส. ๑๒๒๑) ทิฏฺิ. อนฺตคฺคาหิกาทิฏฺีติ ‘‘สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๓.๒๗) เอเกกํ อนฺตํ อตฺถีติ คเหตฺวา ปวตฺตา ทิฏฺิ. ยา เอวรูปา ทิฏฺีติ อิทานิ วุจฺจมานานํ เอกูนวีสปทานํ สาธารณํ มูลปทํ. ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคตํ; ยา ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺิคหนนฺติ สพฺเพสํ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. ยา อยาถาวทสฺสนฏฺเน ทิฏฺิ, ตเทว ทิฏฺีสุ คตํ ทสฺสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิยา อนฺโตคตตฺตาติ ทิฏฺิคตํ. เหฏฺาปิสฺส อตฺโถ วุตฺโตเยว.
ทฺวินฺนํ อนฺตานํ เอกนฺตคตตฺตาติปิ ทิฏฺิคตํ. ตตฺถ สสฺสโตติ นิจฺโจ. โลโกติ อตฺตา. ‘‘อิธ สรีรํเยว นสฺสติ, อตฺตา ปน อิธ ปรตฺถ จ โสเยวา’’ติ มฺนฺติ. โส หิ สามฺเว อาโลเกตีติ กตฺวา โลโกติ มฺติ. อสสฺสโตติ อนิจฺโจ. อตฺตา สรีเรเนว สห นสฺสตีติ มฺนฺติ. อนฺตวาติ ปริตฺเต กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ปริตฺตกสิณารมฺมณํ เจตนํ ‘‘สปริยนฺโต อตฺตา’’ติ มฺนฺติ. อนนฺต วาติ น อนฺตวา อปฺปมาเณ กสิเณ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ อปฺปมาณกสิณารมฺมณํ เจตนํ ‘‘อปริยนฺโต อตฺตา’’ติ มฺนฺติ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีโว จ สรีรฺจ ตํเยว. ชีโวติ อตฺตา, ลิงฺควิปลฺลาเสน นปุํสกวจนํ กตํ. สรีรนฺติ ราสฏฺเน ขนฺธปฺจกํ. อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อฺโ ชีโว อฺํ ขนฺธปฺจกํ ¶ . โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธา อิเธว วินสฺสนฺติ, สตฺโต มรณโต ปรํ โหติ วิชฺชติ น นสฺสติ, ตถาคโตติ เจตํ สตฺตาธิวจนนฺติ. เกจิ ปน ‘‘ตถาคโตติ อรหา’’ติ วทนฺติ. อิเม น โหตีติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ ขนฺธาปิ อิเธว นสฺสนฺติ ¶ , ตถาคโต จ มรณโต ปรํ น โหติ อุจฺฉิชฺชติ. อิเม โหตีติ ปกฺเข โทสํ ทิสฺวา เอวํ คณฺหนฺติ. โหติ จ น จ โหตีติ อิเม เอเกกปกฺขปริคฺคเห โทสํ ทิสฺวา อุภยปกฺขํ คณฺหนฺติ. เนว โหติ น น โหตีติ อิเม อุภยปกฺขปริคฺคเห อุภยโทสาปตฺตึ ทิสฺวา ‘‘โหติ จ น โหตี’’ติ จ ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ จ อมราวิกฺเขปปกฺขํ คณฺหนฺติ.
อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถานโย (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๑๓) – ‘‘สสฺสโต โลโก’’ติ วาติอาทีหิ ทสหากาเรหิ ทิฏฺิปเภโทว วุตฺโต. ตตฺถ สสฺสโตโลโกติ ¶ จ ขนฺธปฺจกํ โลโกติ คเหตฺวา ‘‘อยํ โลโก นิจฺโจ ธุโว สพฺพกาลิโก’’ติ คณฺหนฺตสฺส สสฺสตนฺติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อสสฺสโตติ ตเมว โลกํ ‘‘อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสตี’’ติ คณฺหนฺตสฺส อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. อนฺตวาติ ปริตฺตกสิณลาภิโน สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน ‘‘อนฺตวา’’ติ จ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิปิ โหติ อุจฺเฉททิฏฺิปิ. วิปุลกสิณลาภิโน ปน ตสฺมึ กสิเณ สมาปนฺนสฺส อนฺโตสมาปตฺติยํ ปวตฺติตรูปารูปธมฺเม ‘‘โลโก’’ติ จ กสิณปริจฺเฉทนฺเตน จ ‘‘อนนฺโต’’ติ คณฺหนฺตสฺส ‘‘อนนฺตวา โลโก’’ติ คหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. สา สสฺสตทิฏฺิ โหติ, อุจฺเฉททิฏฺิปิ. ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ เภทนธมฺมสฺส สรีรสฺเสว ‘‘ชีว’’นฺติ คหิตตฺตา ‘‘สรีเร อุจฺฉิชฺชมาเน ชีวมฺปิ อุจฺฉิชฺชตี’’ติ อุจฺเฉทคฺคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. ทุติยปเทน สรีรโต อฺสฺส ชีวสฺส คหิตตฺตา ‘‘สรีเร จ อุจฺฉิชฺชมาเนปิ ชีวํ น อุจฺฉิชฺชตี’’ติ สสฺสตคหณาการปฺปวตฺตา ทิฏฺิ. โหติ ตถาคโตติอาทีสุ ‘‘สตฺโต ตถาคโต นาม, โส ปรํ มรณา โหตี’’ติ คณฺหโต ปมา สสฺสตทิฏฺิ. ‘‘น โหตี’’ติ คณฺหโต ทุติยา อุจฺเฉททิฏฺิ. ‘‘โหติ จ น จ โหตี’’ติ คณฺหโต ตติยา เอกจฺจสสฺสตทิฏฺิ. ‘‘เนว โหติ น น โหตี’’ติ คณฺหโต จตุตฺถา อมราวิกฺเขปทิฏฺีติ วุตฺตปฺปการา ทสวิธา ทิฏฺิ. ยถาโยคํ ภวทิฏฺิ จ วิภวทิฏฺิ จาติ ทฺวิธา โหติ. ตาสุ เอกาปิ เตสํ ขีณาสวานํ น ปฏิจฺฉิตาติ อตฺโถ.
เย กิเลสาติ เย กิเลสา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหีนา, เต กิเลเส ¶ . น ปุเนตีติ น ปุน เอติ ¶ . น ปจฺเจตีติ ปุน นิพฺพตฺเตตฺวา น ปฏิเอติ, น ปจฺจาคจฺฉตีติ ปจฺจภเว นาคจฺฉติ. ปฺจหากาเรหิ ตาทีติ ปฺจหิ การเณหิ โกฏฺาเสหิ วา สทิโส. อิฏฺานิฏฺเ ตาทีติ อิฏฺารมฺมเณ จ อนิฏฺารมฺมเณ จ อนุนยปฏิฆํ มฺุจิตฺวา ิตตฺตา ทฺวีสุ สทิโส. จตฺตาวีติ กิเลเส จชิตวา. ติณฺณาวีติ สํสารํ อติกฺกมิตวา. มุตฺตาวีติ ราคาทิโต มุตฺตวา. ตํนิทฺเทสา ตาทีติ เตน เตน สีลสทฺธาทินา นิทฺทิสิตฺวา นิทฺทิสิตฺวา กเถตพฺพโต สทิโส.
ตํ ¶ ปฺจวิธํ วิตฺถาเรตฺวา กเถตุกาโม ‘‘กถํ อรหา อิฏฺานิฏฺเ ตาที’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ลาเภปีติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ ลาเภปิ. อลาเภปีติ เตสํ อลาเภปิ. ยเสปีติ ปริวาเรปิ. อยเสปีติ ปริวารวิปตฺติยาปิ. ปสํสายปีติ วณฺณภณนายปิ. นินฺทายปีติ ครหายปิ. สุเขปีติ กายิกสุเขปิ. ทุกฺเขปีติ กายิกทุกฺเขปิ. เอกฺเจ พาหํ คนฺเธน ลิมฺเปยฺยุนฺติ สเจ เอกํ พาหํ จตุชาติยคนฺเธน เลปํ อุปรูปริ ทเทยฺยุํ. วาสิยา ตจฺเฉยฺยุนฺติ ยทิ เอกํ พาหํ วฑฺฒกี วาสิยา ตจฺเฉตฺวา ตจฺเฉตฺวา ตนุํ กเรยฺยุํ. อมุสฺมึ นตฺถิ ราโคติ อมุสฺมึ คนฺธเลปเน สิเนโห นตฺถิ น สํวิชฺชติ. อมุสฺมึ นตฺถิ ปฏิฆนฺติ อมุสฺมึ วาสิยา ตจฺฉเน ปฏิหนนสงฺขาตํ ปฏิฆํ โกปํ นตฺถิ น สํวิชฺชติ. อนุนยปฏิฆวิปฺปหีโนติ สิเนหฺจ โกปฺจ ปชหิตฺวา ิโต. อุคฺฆาตินิฆาติวีติวตฺโตติ อนุนยวเสน อนุคฺคหฺจ ปฏิฆวเสน นิคฺคหฺจ อติกฺกมิตฺวา ิโต. อนุโรธวิโรธสมติกฺกนฺโตติ อนุนยฺจ ปฏิฆฺจ สมฺมา อติกฺกนฺโต.
สีเล สตีติ สีเล สํวิชฺชมาเน. สีลวาติ สีลสมฺปนฺโน. เตน นิทฺเทสํ กถนํ ลภตีติ ตาที. สทฺธาย สติ สทฺโธติ เอวมาทีสุปิ เอเสว นโย.
สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ปรมฏฺกสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.