📜

๖. ชราสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๓๙. ฉฏฺเ ชราสุตฺเต อปฺปํ วต ชีวิตํ อิทนฺติ อิทํ วต มนุสฺสานํ ชีวิตํ อปฺปกํ ปริตฺตํ ิติปริตฺตตาย สรสปริตฺตตายาติ คุหฏฺกสุตฺเตปิ วุตฺตนยเมตํ. โอรํ วสฺสสตาปิ มิยฺยตีติ วสฺสสตา โอรํ กลลาทิกาเลปิ มิยฺยติ. อติจฺจาติ วสฺสสตํ อติกฺกมิตฺวา. ชรสาปิ มิยฺยตีติ ชราย มิยฺยติ. อิโต ปรํ คุหฏฺกสุตฺตวณฺณนาย วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ.

อปฺปนฺติ มนฺทํ. คมนีโย สมฺปราโยติ ปรโลโก คนฺตพฺโพ. กลลกาเลปีติ เอตฺถ กลลกาลํ นาม ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตีหิ ชาติอุณฺณํสูหิ กตสุตฺตคฺเค ิตเตลพินฺทุปฺปมาณํ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนกลลํ โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;

เอวํ วณฺณปฺปฏิภาคํ, กลลํ สมฺปวุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕; วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา);

ตสฺมึ กลลกาเลปิ. จวตีติ ชีวิตํ คฬติ. มรตีติ ชีวิตวิโยคํ อาปชฺชติ. อนฺตรธายตีติ อทสฺสนํ ปาปุณาติ. วิปฺปลุชฺชตีติ ฉิชฺชติ. ‘‘อณฺฑชโยนิยา จวติ. ชลาพุชโยนิยา มรติ. สํเสทชโยนิยา อนฺตรธายติ. โอปปาติกโยนิยา วิปฺปลุชฺชตี’’ติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. อพฺพุทกาเลปีติ อพฺพุทํ นาม กลลโต สตฺตาหจฺจเยน มํสโธวนอุทกวณฺณํ โหติ, กลลนฺติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สตฺตาหํ กลลํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;

วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, อพฺพุทํ นาม ชายตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);

ตสฺมึ อพฺพุทกาเลปิ. เปสิกาเลปีติ ตสฺมาปิ อพฺพุทา สตฺตาหจฺจเยน วิลีนติปุสทิสา เปสิ นาม สฺชายติ. สา มริจผาณิเตน ทีเปตพฺพา. คามทาริกา หิ สุปกฺกานิ มริจานิ คเหตฺวา สาฏกนฺเต ภณฺฑิกํ กตฺวา ปีเฬตฺวา มณฺฑํ อาทาย กปาเล ปกฺขิปิตฺวา อาตเป เปนฺติ, ตํ สุกฺขมานํ สพฺพภาเคหิ มุจฺจติ. เอวรูปา เปสิ โหติ, อพฺพุทนฺติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สตฺตาหํ อพฺพุทํ โหติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;

วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, เปสิ นาม ปชายตี’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);

ตสฺมึ เปสิกาเลปิ. ฆนกาเลปีติ ตโตปิ เปสิโต สตฺตาหจฺจเยน กุกฺกุฏณฺฑสณฺาโน ฆโน นาม มํสปิณฺโฑ นิพฺพตฺตติ, เปสีติ นามํ อนฺตรธายติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘สตฺตาหํ เปสิ ภวติ, ปริปกฺกํ สมูหตํ;

วิวฏฺฏมานํ ตพฺภาวํ, ฆโนติ นาม ชายติ.

‘‘ยถา กุกฺกุฏิยา อณฺฑํ, สมนฺตา ปริมณฺฑลํ;

เอวํ ฆนสฺส สณฺานํ, นิพฺพตฺตํ กมฺมปจฺจยา’’ติ. (สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);

ตสฺมึ ฆนกาเลปิ. ปสาขกาเลปีติ ปฺจเม สตฺตาเห ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนํ หตฺถปาทานํ สีสสฺส จตฺถาย ปฺจ ปีฬกา ชายนฺติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘ปฺจเม, ภิกฺขเว, สตฺตาเห ปฺจ ปีฬกา สณฺหนฺติ กมฺมโต’’ติ. ตสฺมึ ปสาขกาเลปิ. ตโต ปรํ ฉฏฺสตฺตมาทีนิ สตฺตาหานิ อติกฺกมฺม เทสนํ สงฺขิปิตฺวา ทฺวาจตฺตาลีสสตฺตาเห ปริณตกาเล เกสโลมนขาทีนํ อุปฺปตฺติกาลฺจ. ตสฺส จ นาภิโต อุฏฺิโต นาโฬ มาตุ อุทรปฏเลน เอกาพทฺโธ โหติ, โส อุปฺปลทณฺฑโก วิย ฉิทฺโท, เตน อาหารรโส สํสริตฺวา อาหารสมุฏฺานรูปํ สมุฏฺาเปติ. เอวํ โส ทสมาเส ยาเปติ, ตํ สพฺพํ อวตฺวา ‘‘สูติฆเร’’ติ อาห. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘เกสา โลมา นขานิ จ’’;

‘‘ยฺจสฺส ภุฺชตี มาตา, อนฺนํ ปานฺจ โภชนํ;

เตน โส ตตฺถ ยาเปติ, มาตุกุจฺฉิคโต นโร’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓๕; กถา. ๖๙๒);

ตตฺถ สูติฆเรติ สูติกฆเร, วิชายนฆเรติ อตฺโถ. ‘‘สูติกาฆเร’’ติ วา ปาโ, สูติกายาติ ปทจฺเฉโท. อทฺธมาสิโกปีติ ชาตทิวสโต ปฏฺาย อทฺธมาโส เอตสฺส อตฺถีติ อทฺธมาสิโก. ทฺเวมาสิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาตทิวสโต ปฏฺาย เอกํ สํวจฺฉรํ เอตสฺส อตฺถีติ สํวจฺฉริโก. อุปริ ทฺเววสฺสิกาทีสุปิ เอเสว นโย.

ยทา ชิณฺโณ โหตีติ ยสฺมึ กาเล ชราชิณฺโณ ภวติ ชชฺชรีภูโต. วุทฺโธติ วโยวุทฺโธ. มหลฺลโกติ ชาติมหลฺลโก. อทฺธคโตติ ตโย อทฺเธ อติกฺกนฺโต. วโยอนุปฺปตฺโตติ ตติยํ วยํ อนุปฺปตฺโต. ขณฺฑทนฺโตติ อนฺตรนฺตรา ปติตา ทนฺตา ผาลิตา จ ชรานุภาเวน ขณฺฑา ทนฺตา ชาตา อสฺสาติ ขณฺฑทนฺโต. ปลิตเกโสติ ปณฺฑรเกโส. วิลูนนฺติ ลุฺจิตฺวา คหิตเกสา วิย ขลฺลาฏสีโส . ขลิตสิโรติ มหาขลฺลาฏสีโส. วลินนฺติ สฺชาตวลิ. ติลกาหตคตฺโตติ เสตติลกกาฬติลเกหิ วิกิณฺณสรีโร. โภคฺโคติ ภคฺโค, อิมินาปิสฺส วงฺกภาวํ ทีเปติ. ทณฺฑปรายโณติ ทณฺฑปฏิสฺสรโณ ทณฺฑทุติโย. โส ชรายปีติ โส ปุคฺคโล ชรายปิ อภิภูโต มรติ. นตฺถิ มรณมฺหา โมกฺโขติ มรณโต มุฺจนุปาโย นตฺถิ นุปลพฺภติ.

ผลานมิว ปกฺกานํ, ปาโต ปตนโต ภยนฺติ ปริปากคตานํ สิถิลวณฺฏานํ ปนสผลาทิปกฺกานํ ปจฺจูสกาเล อวสฺสํ ปติสฺสนฺตีติ ผลสามิกานํ ภายมานานํ วิย. เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยนฺติ เอวเมว อุปฺปนฺนานํ สตฺตานํ มจฺจุสงฺขาตมรณโต สตตํ กาลํ ภยํ.

ยถาปิกุมฺภการสฺสาติ ยถา นาม มตฺติกาภาชนํ กโรนฺตสฺส. กตํ มตฺติกภาชนนฺติ (สุ. นิ. ๕๘๒) เตน นิฏฺาปิตภาชนํ. สพฺพํ เภทนปริยนฺตนฺติ ปกฺกาปกฺกํ สพฺพํ เภทนํ ภิชฺชปริยนฺตํ อวสานํ อสฺสาติ เภทนปริยนฺตํ. เอวํ มจฺจาน ชีวิตนฺติ เอวเมว สตฺตานํ อายุสงฺขารํ.

ทหราจ มหนฺตา จาติ ตรุณา จ มหลฺลกา จ. เย พาลา เย จ ปณฺฑิตาติ เย จ อสฺสาสปสฺสาสายตฺตา ชีวิตา พาลา เย จ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา พุทฺธาทโย. สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺตีติ เอเต วุตฺตปฺปการา ทหราทโย สพฺเพ มจฺจุโน อิสฺสริยํ อุปคจฺฉนฺติ.

เตสํ มจฺจุปเรตานนฺติ เอเตสํ มจฺจุนา ปริวาริตานํ. คจฺฉตํ ปรโลกโตติ อิโต มนุสฺสโลกโต ปรโลกํ คจฺฉนฺตานํ. น ปิตา ตายเต ปุตฺตนฺติ ปิตา ปุตฺตํ น รกฺขติ. าตี วา ปน าตเกติ มาตาปิติปกฺขิกา าตี วา เตเยว าตเก รกฺขิตุํ น สกฺโกนฺติ.

เปกฺขตฺเว าตีนนฺติ วุตฺตวิธานํเยว าตีนํ เปกฺขนฺตานํเยว โอโลเกนฺตานํเยว. ปสฺส ลาลปฺปตํ ปุถูติ ปสฺสาติ อาลปนํ. ลาลปนฺตานํ วิลปนฺตานํ ปุถูนํ นานปฺปการานํ. เอกเมโกว มจฺจานํ, โควชฺโฌ วิย นิยฺยตีติ สตฺตานํ เอกเมโก วธาย นิยฺยมานโคโณ วิย มรณาย นิยฺยติ ปาปุณียติ. เอวมพฺภาหโต โลโกติ เอวเมว สตฺตโลโก ภุสํ อาหโต. มจฺจุนา จ ชราย จาติ มรเณน จ ชราย จ อภิภูโต.

๔๐. มมายิเตติ มมายิตวตฺถุการณา. วินาภาวํ สนฺตเมวิทนฺติ สนฺตํ วิชฺชมานํ วินาภาวเมว อิทํ, น สกฺกา อวินาภาเวน ภวิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ.

โสจนฺตีติ จิตฺเตน โสจนํ กโรนฺติ. กิลมนฺตีติ กาเยน กิลมถํ ปาปุณนฺติ. ปริเทวนฺตีติ นานาวิธํ วาจาวิลาปํ ภณนฺติ. อุรตฺตาฬึ กนฺทนฺตีติ อุรํ ตาเฬตฺวา ตาเฬตฺวา กนฺทนฺติ. สมฺโมหํ อาปชฺชนฺตีติ สมฺโมหภาวํ ปาปุณนฺติ.

อนิจฺโจติ หุตฺวา อภาวฏฺเน. สงฺขโตติ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กโต. ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโนติ ปจฺจยสามคฺคึ ปฏิจฺจ น ปจฺจกฺขาย สห สมฺมา จ อุปฺปนฺโน. ขยธมฺโมติ ขยํ คมนสภาโว. วยธมฺโมติ วยํ คมนสภาโว, ภงฺควเสน ภงฺคคมนสภาโวติ อตฺโถ. วิราคธมฺโมติ วิรชฺชนสภาโว. นิโรธธมฺโมติ นิรุชฺฌนสภาโว. ยฺวายํ ปริคฺคโหติ โย อยํ ปริคฺคโห. ‘‘ยาย ปริคฺคโห’’ติปิ ปาโ, อยเมว ปทจฺเฉโท. นิจฺโจติ สตตกาลิโก. ธุโวติ ถิโร. สสฺสโตติ อจวโน. อวิปริณามธมฺโมติ ปกติอชหนสภาโว. สสฺสติ สมํ ตเถว สฺสตีติ จนฺทสูริยสิเนรุมหาสมุทฺทปถวีปพฺพตาทโย วิย ติฏฺเยฺย.

นานาภาโวติ ชาติยา นานาภาโว. วินาภาโวติ มรเณน วิโยคภาโว. อฺถาภาโวติ สพฺภาวโต อฺถาภาโว. ปุริมานํ ปุริมานํ ขนฺธานนฺติ อนนฺตเร ปุเร อุปฺปนฺนานํ ขนฺธานํ. วิปริณามฺถาภาวาติ ปกติภาวํ ชหิตฺวา อฺถาภาเวน. ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา ขนฺธาทโย ปวตฺตนฺติ อุปฺปชฺชนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

สพฺพํ ฆราวาสปลิโพธนฺติ สกลํ คิหิภาวชฏํ. าติมิตฺตามจฺจปลิโพธนฺติ มาตาปิตุปกฺขิกา าตี, มิตฺตา สหายา, อมจฺจา ภจฺจา. สนฺนิธิปลิโพธนฺติ นิธานชฏํ ฉินฺทิตฺวา. เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวาติ เกเส จ มสฺสูนิ จ โอโรปยิตฺวา. กาสายานิ วตฺถานีติ กสายรสปีตานิ วตฺถานิ.

๔๑. มามโกติ มม อุปาสโก ภิกฺขุ วาติ สงฺขํ คโต, พุทฺธาทีนิ วา วตฺถูนิ มมายมาโน.

เตสํ เตสํ สตฺตานนฺติ อเนเกสํ สตฺตานํ สาธารณนิทฺเทโส. ‘‘ยฺทตฺตสฺส มรณํ, โสมทตฺตสฺส มรณ’’นฺติ เอวฺหิ ทิวสมฺปิ กถิยมาเน เนว สตฺตา ปริยาทานํ คจฺฉนฺติ, น สพฺพํ อปรตฺตทีปนํ สิชฺฌติ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ น โกจิ สตฺโต อปริยาทินฺโน โหติ, น กิฺจิ อปรตฺตาทีปนํ น สิชฺฌติ. ตมฺหา ตมฺหาติ อยํ คติวเสน อเนเกสํ นิกายานํ สาธารณนิทฺเทโส. สตฺตนิกายาติ สตฺตานํ นิกายา, สตฺตฆฏา สตฺตสมูหาติ อตฺโถ. จุตีติ จวนวเสน วุตฺตํ. เอกจตุปฺจกฺขนฺธาย จุติยา สามฺวจนเมตํ. จวนตาติ ภาววจเนน ลกฺขณนิทสฺสนํ. เภโทติ จุติขนฺธานํ ภงฺคุปฺปตฺติปริทีปนํ. อนฺตรธานนฺติ ฆฏสฺส วิย ภินฺนสฺส ภินฺนานํ ขนฺธานํ เยน เกนจิ ปริยาเยน านาภาวปริทีปนํ. มจฺจุมรณนฺติ มจฺจุสงฺขาตํ มรณํ, น ขณิกมรณํ. กาโล นาม อนฺตโก, ตสฺส กิริยาติ กาลํกิริยา. เอตฺตาวตา สมฺมุติมรณํ ทีปิตํ. อิทานิ ปรมตฺเถน ทีเปตุํ ‘‘ขนฺธานํ เภโท’’ติอาทิมาห. ปรมตฺเถน หิ ขนฺธาเยว ภิชฺชนฺติ, น สตฺโต นาม โกจิ มรติ. ขนฺเธสุ ปน ภิชฺชมาเนสุ สตฺโต มรติ, ภินฺเนสุ ‘‘มโต’’ติ โวหาโร โหติ.

เอตฺถ จ จตุโวการปฺจโวการวเสน ขนฺธานํ เภโท, เอกโวการวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. จตุโวการวเสน วา ขนฺธานํ เภโท, เสสทฺวยวเสน กเฬวรสฺส นิกฺเขโป เวทิตพฺโพ. กสฺมา? กามรูปภวทฺวเยปิ รูปกายสงฺขาตสฺส กเฬวรสฺส สพฺภาวโต. ยสฺมา วา จาตุมหาราชิกาทีสุ ขนฺธา ภิชฺชนฺเตว, น กิฺจิ นิกฺขิปนฺติ, ตสฺมา เตสํ วเสน ขนฺธานํ เภโท, มนุสฺสาทีสุ กเฬวรสฺส นิกฺเขโป. เอตฺถ จ กเฬวรสฺส นิกฺเขปกรณโต มรณํ ‘‘กเฬวรสฺส นิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ. ชีวิตินฺทฺริยสฺสุปจฺเฉโทติ อิมินา อินฺทฺริยพทฺธสฺเสว มรณํ นาม โหติ, อนินฺทฺริยพทฺธสฺส มรณํ นาม นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘สสฺสํ มตํ, รุกฺโข มโต’’ติ อิทํ ปน โวหารมตฺตเมว. อตฺถโต ปน เอวรูปานิ วจนานิ สสฺสาทีนํ ขยวยภาวเมว ทีเปนฺติ. รูปคตนฺติ รูปเมว รูปคตํ. เวทนาคตนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

ตตฺถ ปุพฺเพว มจฺจนฺติ มจฺจํ วา โภคา ปุพฺเพว ปมตรฺเว วิชหนฺติ. มจฺโจ วา เต โภเค ปุพฺพตรํ ชหติ. กามกามีติ โจรราชานํ อาลปติ. อมฺโภ กาเม กามยมาน กามกามิ โภคิโน นาม โลเก อสสฺสตา, โภเคสุ วา นฏฺเสุ ชีวมานา จ อโภคิโน โหนฺติ. โภเค วา ปหาย สยํ นสฺสนฺติ, ตสฺมา อหํ มหาชนสฺส โสกกาเลปิ น โสจามีติ อตฺโถ.

วิทิตามยา สตฺตุก โลกธมฺมาติ โจรราชานํ อาลปนฺโต อาห. อมฺโภ สตฺตุก มยา ลาโภ อลาโภ ยโส อยโสติอาทโย โลกธมฺมา วิทิตา. ยเถว หิ จนฺโท อุเทติ จ ปูรติ จ ปุน จ ขียติ, ยถา จ สูริโย อนฺธการํ วิธเมนฺโต มหนฺตํ โลกปฺปเทสํ ตปิตฺวาน ปุน สายํ อตฺถํ ปเลติ อตฺถํ คจฺฉติ น ทิสฺสติ, เอวเมว โภคา อุปฺปชฺชนฺติ จ วินสฺสนฺติ จ, ตตฺถ กึ โสเกน, ตสฺมา น โสจามีติ อตฺโถ.

ตณฺหามฺนาย มฺตีติ ตณฺหาย ชนิตมานมฺนาย มฺติ. มานํ กโรติ ทิฏฺิมฺนายาติ ทิฏฺึ อุปนิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนาย มฺนาย. มานมฺนายาติ สหชาตมานมฺนาย. กิเลสมฺนายาติ วุตฺตปฺปการาย อุปตาปนฏฺเน กิเลสมฺนาย มฺติ.

กุหาติ วิมฺหาปกา. ถทฺธาติ ขาณุ วิย ถทฺธา. ลปาติ ปจฺจยนิมิตฺเตน ลปนกา.

๔๒. สงฺคตนฺติ สมาคตํ, ทิฏฺํ ผุฏฺํ วา. ปิยายิตนฺติ ปิยกตํ.

สงฺคตนฺติ สมฺมุขีภูตํ. สมาคตนฺติ สมีปํ อาคตํ. สมาหิตนฺติ เอกีภูตํ. สนฺนิปติตนฺติ ปิณฺฑิตํ. สุปินคโตติ สุปินํ ปวิฏฺโ. เสนาพฺยูหํ ปสฺสตีติ เสนาสนฺนิเวสํ ทกฺขติ. อารามรามเณยฺยกนฺติ ปุปฺผารามาทีนํ รมณียภาวํ. วนรามเณยฺยกาทีสุปิ เอเสว นโย. เปตนฺติ อิโต ปรโลกํ คตํ. กาลงฺกตนฺติ มตํ.

๔๓. นามํเยวาวสิสฺสติ, อกฺเขยฺยนฺติ สพฺพํ รูปาทิธมฺมชาตํ ปหียติ, นามมตฺตเมว ตุ อวสิสฺสติ ‘‘พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิโต’’ติ เอวํ อกฺขาตุํ กเถตุํ.

เยจกฺขุวิฺาณาภิสมฺภูตาติ เย สยํ จกฺขุวิฺาเณน อภิสมฺภูตา ราสิกตา ทิฏฺา จตุสมุฏฺานิกา รูปา. โสตวิฺาณาภิสมฺภูตาติ ปรโตโฆเสน โสตวิฺาเณน ราสิกตา สุตา ทฺวิสมุฏฺานิกา สทฺทา.

๔๔. มุนโยติ ขีณาสวมุนโย. เขมทสฺสิโนติ นิพฺพานทสฺสิโน.

โสโกติ โสกนิทฺเทเส – พฺยสตีติ พฺยสนํ, หิตสุขํ ขิปติ วิทฺธํเสตีติ อตฺโถ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, โจรโรคภยาทีหิ าติกฺขโย าติวินาโสติ อตฺโถ. เตน าติพฺยสเนน. ผุฏฺสฺสาติ อชฺโฌตฺถฏสฺส, อภิภูตสฺส สมนฺนาคตสฺสาติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – โภคานํ พฺยสนํ โภคพฺยสนํ, ราชโจราทิวเสน โภคกฺขโย โภควินาโสติ อตฺโถ. โรโคเยว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ. โรโค หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. สีลสฺส พฺยสนํ สีลพฺยสนํ, ทุสฺสิลฺยสฺเสตํ นามํ. สมฺมาทิฏฺึ วินาสยมานา อุปฺปนฺนา ทิฏฺิเยว พฺยสนํ ทิฏฺิพฺยสนํ. เอตฺถ จ ปุริมานิ ทฺเว อนิปฺผนฺนานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ นิปฺผนฺนานิ ติลกฺขณพฺภาหตานิ. ปุริมานิ จ ตีณิ เนว กุสลานิ นากุสลานิ, สีลทิฏฺิพฺยสนทฺวยํ อกุสลํ.

อฺตรฺตเรนาติ คหิเตสุ วา เยน เกนจิ อคฺคหิเตสุ วา มิตฺตามจฺจพฺยสนาทีสุ เยน เกนจิ. สมนฺนาคตสฺสาติ สมนุพนฺธสฺส อปริมุจฺจมานสฺส. อฺตรฺตเรน ทุกฺขธมฺเมนาติ เยน เกนจิ โสกทุกฺขสฺส อุปฺปตฺติเหตุนา. โสโกติ โสจนกวเสน โสโก. อิทํ เตหิ การเณหิ อุปฺปชฺชนกโสกสฺส สภาวปจฺจตฺตํ. โสจนาติ โสจนากาโร. โสจิตตฺตนฺติ โสจิตภาโว. อนฺโตโสโกติ อพฺภนฺตรโสโก. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. โส หิ อพฺภนฺตรํ สุกฺขาเปนฺโต วิย ปริสุกฺขาเปนฺโต วิย อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนฺโตโสโก อนฺโตปริโสโก’’ติ วุจฺจติ. อนฺโตทาโหติ อพฺภนฺตรทาโห. ทุติยปทํ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตํ. เจตโส ปริชฺฌายนาติ จิตฺตสฺส ฌานนากาโร. โสโก หิ อุปฺปชฺชมาโน อคฺคิ วิย จิตฺตํ ฌาเปติ ทหติ, ‘‘จิตฺตํ เม ฌามํ, น เม กิฺจิ ปฏิภาตี’’ติ วทาเปติ. ทุกฺขิโต มโน ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. อนุปวิฏฺฏฺเน โสโกว สลฺลนฺติ โสกสลฺลํ.

ปริเทวนิทฺเทเส – ‘‘มยฺหํ ธีตา, มยฺหํ ปุตฺโต’’ติ เอวํ อาทิสฺส อาทิสฺส เทวนฺติ โรทนฺติ เอเตนาติ อาเทโว. ตํ ตํ วณฺณํ ปริกิตฺเตตฺวา ปริกิตฺเตตฺวา เทวนฺติ เอเตนาติ ปริเทโว. ตโต ปรานิ ทฺเว ทฺเว ปทานิ ปุริมทฺวยสฺเสว อาการภาวนิทฺเทสวเสน วุตฺตานิ. วาจาติ วจนํ. ปลาโปติ ตุจฺฉํ นิรตฺถกวจนํ . อุปฺปฑฺฒภณิตอฺภณิตาทิวเสน วิรูโป ปลาโป วิปฺปลาโป. ลาลปฺโปติ ปุนปฺปุนํ ลปนํ. ลาลปฺปนากาโร ลาลปฺปนา. ลาลปฺปิตสฺส ภาโว ลาลปฺปิตตฺตํ. มจฺฉริยาทีนิ วุตฺตตฺถาเนว.

๔๕. สตฺตมคาถา เอวํ มรณพฺภาหเต โลเก อนุรูปปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ตตฺถ ปติลีนจรสฺสาติ ตโต ตโต ปติลีนํ จิตฺตํ กตฺวา จรนฺตสฺส. ภิกฺขุโนติ กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส วา เสกฺขสฺส วา. สามคฺคิยมาหุ ตสฺส ตํ, โย อตฺตานํ ภวเน น ทสฺสเยติ ตสฺเสตํ ปติรูปมาหุ, โย เอวํปฏิปนฺโน นิรยาทิเภเท ภวเน อตฺตานํ น ทสฺสเย. เอวฺหิ โส อิมมฺหา มรณา มุจฺเจยฺยาติ อธิปฺปาโย.

ปติลีนจรา วุจฺจนฺตีติ ตโต ตโต ลีนจิตฺตาจารา กถียนฺติ. สตฺต เสกฺขาติ อธิสีลาทีสุ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขนฺตีติ โสตาปตฺติมคฺคฏฺํ อาทึ กตฺวา ยาว อรหตฺตมคฺคฏฺา สตฺต เสกฺขา. อรหาติ ผลฏฺโ. โส นิฏฺิตจิตฺตตฺตา ปติลีโน. เสกฺขานํ ปติลีนจรณภาเว การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ การณา’’ติอาทิมาห. เต ตโต ตโตติ เต สตฺต เสกฺขา เตหิ เตหิ อารมฺมเณหิ จิตฺตํ ปติลีเนนฺตาติ อตฺตโน จิตฺตํ นิลีเนนฺตา. ปติกุเฏนฺตาติ สงฺโกเจนฺตา. ปติวฏฺเฏนฺตาติ กฏสารกํ วิย อาภุเชนฺตา. สนฺนิรุทฺธนฺตาติ สนฺนิรุชฺฌนฺตา. สนฺนิคณฺหนฺตาติ นิคฺคหํ กุรุมานา. สนฺนิวาเรนฺตาติ วารยมานา. รกฺขนฺตาติ รกฺขํ กุรุมานา. โคเปนฺตาติ จิตฺตมฺชูสาย โคปยมานา.

อิทานิ ทฺวารวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขุทฺวาเร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุทฺวาเรติ จกฺขุวิฺาณทฺวาเร. โสตทฺวาราทีสุปิ เอเสว นโย. ภิกฺขุโนติ ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส วา ภิกฺขุโน, เสกฺขสฺส วา ภิกฺขุโนติ ภิกฺขุสทฺทสฺส วจนตฺถํ อวตฺวา อิธาธิปฺเปตภิกฺขุเยว ทสฺสิโต. ตตฺถ ปุถุชฺชโน จ โส กิเลสานํ อสมุจฺฉินฺนตฺตา, กลฺยาโณ จ สีลาทิปฏิปตฺติยุตฺตตฺตาติ ปุถุชฺชนกลฺยาโณว ปุถุชฺชนกลฺยาณโก, ตสฺส ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส. อธิสีลาทีนิ สิกฺขตีติ เสกฺโข, ตสฺส เสกฺขสฺส วา โสตาปนฺนสฺส วา สกทาคามิโน วา อนาคามิโน วา.

อาสนฺติ นิสีทนฺติ เอตฺถาติ อาสนํ. ยตฺถาติ เยสุ มฺจปีาทีสุ. มฺโจติอาทีนิ อาสนสฺส ปเภทวจนานิ. มฺโจปิ หิ นิสชฺชายปิ โอกาสตฺตา อิธ อาสเนสุ วุตฺโต, โส ปน มสารกพุนฺทิกาพทฺธกุฬีรปาทกอาหจฺจปาทกานํ อฺตโร. ปีมฺปิ เตสํ อฺตรเมว. ภิสีติ อุณฺณภิสิ โจฬภิสิ วากภิสิ ติณภิสิ ปณฺณภิสีนํ อฺตรา. ตฏฺฏิกาติ ตาลปณฺณาทีหิ วินิตฺวา กตา. จมฺมขณฺโฑติ นิสชฺชารโห โย โกจิ จมฺมขณฺโฑ. ติณสนฺถาราทโย ติณาทีนิ คุมฺเพตฺวา กตา. อสปฺปายรูปทสฺสเนนาติ อสปฺปายานํ อิฏฺรูปานํ โอโลกเนน. ริตฺตนฺติ อพฺภนฺตรโต ตุจฺฉํ. วิวิตฺตนฺติ พหิทฺธาปเวสเนน สุฺํ. ปวิวิตฺตนฺติ โกจิ คหฏฺโ ตตฺถ นตฺถีติ อติเรเกน สุฺํ. อสปฺปายสทฺทสฺสวเนปิ เอเสว นโย. ปฺจหิ กามคุเณหีติ อิตฺถิรูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺเพหิ ปฺจหิ กามโกฏฺาเสหิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘รูปา สทฺทา รสา คนฺธา, โผฏฺพฺพา จ มโนรมา;

ปฺจ กามคุณา โลเก, อิตฺถิรูปสฺมึ ทิสฺสเร’’ติ. (อ. นิ. ๕.๕๕);

ภชโตติ จิตฺเตน เสวนํ กโรนฺตสฺส. สมฺภชโตติ สมฺมา เสวนฺตสฺส. เสวโตติ อุปสงฺกมนฺตสฺส. นิเสวโตติ นิสฺสยํ กตฺวา เสวนฺตสฺส. สํเสวโตติ สุฏฺุ เสวนฺตสฺส. ปฏิเสวโตติ ปุนปฺปุนํ อุปสงฺกมนฺตสฺส.

คณสามคฺคีติ สมณานํ เอกีภาโว สมคฺคภาโว. ธมฺมสามคฺคีติ สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ สมูหภาโว. อนภินิพฺพตฺติสามคฺคีติ อนิพฺพตฺตมานานํ อนุปฺปชฺชมานานํ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุตานํ อรหนฺตานํ สมูโห. สมคฺคาติ กาเยน อวิโยคา. สมฺโมทมานาติ จิตฺเตน สุฏฺุ โมทมานา ตุสฺสมานา. อวิวทมานาติ วาจาย วิวาทํ อกุรุมานา. ขีโรทกีภูตาติ ขีเรน สํสฏฺอุทกสทิสา.

เต เอกโต ปกฺขนฺทนฺตีติ เต โพธิปกฺขิยธมฺมา เอกํ อารมฺมณํ ปวิสนฺติ. ปสีทนฺตีติ ตสฺมึเยว อารมฺมเณ ปสาทมาปชฺชนฺติ. อนุปาทิเสสายาติ อุปาทิวิรหิตาย.

นิพฺพานธาตุยาติ อมตมหานิพฺพานธาตุยา. อูนตฺตํ วาติ เอตฺถ อุนภาโว อูนตฺตํ, อปริปุณฺณภาโวติ อตฺโถ. ปุณฺณตฺตํ วาติ ปริปุณฺณภาโว ปุณฺณตฺตํ, ปุณฺณภาโว วา น ปฺายติ นตฺถีติ อตฺโถ.

เนรยิกานนฺติ นิรเย นิพฺพตฺตนกกมฺมานํ อตฺถิภาเวน. นิรยํ อรหนฺตีติ เนรยิกา, เตสํ เนรยิกานํ. นิรโย ภวนนฺติ นิรโย เอว เตสํ วสนฏฺานํ ฆรํ. ติรจฺฉานโยนิกานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺเสสา สามคฺคีติ ตสฺส ขีณาสวสฺส เอสา นิพฺพานสามคฺคี. เอตํ ฉนฺนนฺติ เอตํ อนุจฺฉวิกํ. ปติรูปนฺติ สทิสํ ปฏิภาคํ, อสทิสํ อปฺปฏิภาคํ น โหติ. อนุจฺฉวิกนฺติ เอตํ สมณพฺราหฺมณานํ วา ธมฺมานํ, มคฺคผลนิพฺพานสาสนธมฺมานํ วา อนุจฺฉวิกํ. เตสํ ฉวึ ฉายํ สุนฺทรภาวํ อนฺเวติ อนุคจฺฉติ, อถ โข สนฺติกาว เตหิ ธมฺเมหิ อนุจฺฉวิกตฺตา เอว จ อนุโลมํ. เตสฺจ อนุโลเมติ, อถ โข น วิโลมํ น ปจฺจนีกภาเว ิตํ.

๔๖. อิทานิ ‘‘โย อตฺตานํ ภวเน น ทสฺสเย’’ติ เอวํ ขีณาสโว วิภาวิโต, ตสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิโต ปรา ติสฺโส คาถาโย อาห. ตตฺถ ปมคาถาย สพฺพตฺถาติ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ. น ปิยํ กุพฺพติ โนปิ อปฺปิยนฺติ นิทฺเทเส ปิยาติ จิตฺเต ปีติกรา. เต วิภาคโต ทสฺเสนฺโต ‘‘กตเม สตฺตา ปิยา, อิธ ยสฺส เต โหนฺตี’’ติ อาห. ตตฺถ ยสฺส เตติ เย อสฺส เต. โหนฺตีติ ภวนฺติ. อตฺถกามาติ วฑฺฒิกามา. หิตกามาติ สุขกามา. ผาสุกามาติ สุขวิหารกามา. โยคกฺเขมกามาติ จตูหิ โยเคหิ เขมํ นิพฺภยํ กามา. มมายตีติ มาตา. ปิยายตีติ ปิตา. ภชตีติ ภาตา. ภคินีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปุํ ตายติ รกฺขตีติ ปุตฺโต. กุลวํสํ ธาเรตีติ ธีตา. มิตฺตา สหายา. อมจฺจา ภจฺจา. าตี ปิตุปกฺขิกา. สาโลหิตา มาติปกฺขิกา. อิเม สตฺตา ปิยาติ อิเม สตฺตา ปีติชนกา. วุตฺตวิปริยาเยน อปฺปิยา เวทิตพฺพา.

๔๗. ยทิทํ ทิฏฺสุตมุเตสุ วาติ เอตฺถ ปน ยทิทํ ทิฏฺสุตํ, เอตฺถ วา มุเตสุ วา ธมฺเมสุ; เอวํ มุนิ น อุปลิมฺปตีติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.

อุทกเถโวติ อุทกสฺส เถโว. ‘‘อุทกตฺเถวโก’’ติปิ ปาโ. ปทุมปตฺเตติ ปทุมินิปตฺเต.

๔๘. โธโน น หิ เตน มฺติ, ยทิทํ ทิฏฺสุตมุเตสุ วาติ อตฺราปิ ยทิทํ ทิฏฺสุตํ, เตน วตฺถุนา น มฺติ, มุเตสุ วา ธมฺเมสุ น มฺตีติ เอวเมว สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. น หิ โส รชฺชติ, โน วิรชฺชตีติ พาลปุถุชฺชโน วิย น รชฺชติ, กลฺยาณปุถุชฺชนเสกฺขา วิย น วิรชฺชติ, ราคสฺส ขีณตฺตา ‘‘วิรตฺโต’’ตฺเวว สงฺขํ คจฺฉติ. เสสํ ปากฏเมวาติ.

ตายปฺาย กายทุจฺจริตนฺติ สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพภาคาเยว วา ปฺาย ปริคฺคเหตพฺเพ ปริคฺคณฺหนฺโต โยคี ติวิธํ กายทุจฺจริตํ สมุจฺเฉทวเสน ธุนาติ. อยฺจ ปุคฺคโล วิปนฺนธมฺมํ เทสนาธมฺเมสุ ธุนนฺเตสุ ตํธมฺมสมงฺคีปุคฺคโลปิ ธุนาติ นาม. เต จ ธมฺเม ปฺาย อตฺตโน ปวตฺติกฺขเณ ธุนิตุมารทฺโธ ธุตาติ วุจฺจติ, ยถา ภุฺชิตุมารทฺโธ ภุตฺโตติ วุจฺจติ. ลกฺขณํ ปเนตฺถ สทฺทสตฺถโต เวทิตพฺพํ. ธุตนฺติ กตฺตุสาธนํ. ธุตํ ปมมคฺเคน. โธตํ ทุติยมคฺเคน. สนฺโธตํ ตติยมคฺเคน. นิทฺโธตํ จตุตฺถมคฺเคน.

โธโน ทิฏฺํ น มฺตีติ อรหา มํสจกฺขุนา ทิฏฺํ ทิพฺพจกฺขุนา ทิฏฺํ รูปายตนํ น มฺติ ตีหิ มฺนาหิ, กถํ? รูปายตนํ สุภสฺาย สุขสฺาย จ ปสฺสนฺโต น ตตฺถ ฉนฺทราคํ ชเนติ น ตํ อสฺสาเทติ นาภินนฺทติ, เอวํ ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ. ‘‘อิติ เม รูปํ สิยา อนาคตมทฺธาน’’นฺติ วา ปเนตฺถ นนฺทึ น สมนฺนาเนติ. รูปสมฺปทํ วา อากงฺขมาโน ทานํ น เทติ, สีลํ น สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ น กโรติ. เอวมฺปิ ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ, อตฺตโน ปน ปรสฺส จ รูปสมฺปตฺติวิปตฺตึ นิสฺสาย มานํ น ชเนติ. ‘‘อิมินาหํ เสยฺโยสฺมีติ วา, สทิโสสฺมีติ วา, หีโนสฺมีติ วา’’ติ เอวํ ทิฏฺํ มานมฺนาย น มฺติ. รูปายตนํ ปน ‘‘นิจฺจํ ธุวํ สสฺสต’’นฺติ น มฺติ. อตฺตานํ ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ น มฺติ. มงฺคลํ ‘‘อมงฺคล’’นฺติ น มฺติ. เอวํ ทิฏฺํ ทิฏฺิมฺนาย น มฺติ. ทิฏฺสฺมึ น มฺตีติ รูปสฺมึ อตฺตานํ สมนุปสฺสนนเยน อมฺนฺโต ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ยถา วา ถเน ถฺํ, เอวํ รูปสฺมึ ราคาทโยติ อมฺนฺโตปิ ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ตสฺมึเยว ปนสฺส ทิฏฺิมฺนาย อมฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ น อุปฺปาทยโต ตณฺหามานมฺนาปิ นตฺถีติ เวทิตพฺพา. เอวํ ทิฏฺสฺมึ น มฺติ. ทิฏฺโต น มฺตีติ เอตฺถ ปน ทิฏฺโตติ นิสฺสกฺกวจนํ. ตสฺมา สอุปการณสฺส อตฺตโน วา ปรสฺส วา ยถาวุตฺตปฺปเภทโต ทิฏฺโต อุปปตฺติ วา นิคฺคมนํ วา ทิฏฺโต วา อฺโ อตฺตาติ อมฺมาโน ทิฏฺโต น มฺตีติ เวทิตพฺโพ. อยมสฺส น ทิฏฺิมฺนา. ตสฺมึเยว ปนสฺส ทิฏฺิมฺนาย อมฺิเต วตฺถุสฺมึ สิเนหํ มานฺจ น อุปฺปาทยโต น ตณฺหามานมฺนาปิ เวทิตพฺพา.

ทิฏฺา เมติ น มฺตีติ เอตฺถ ปน ‘‘เอตํ มมา’’ติ ตณฺหาวเสน อมมายมาโน ทิฏฺํ ตณฺหามฺนาย น มฺติ. สุตนฺติ มํสโสเตนปิ สุตํ, ทิพฺพโสเตนปิ สุตํ, สทฺทายตนสฺเสตํ อธิวจนํ. มุตนฺติ มุตฺวา มุนิตฺวา จ คหิตํ อาหจฺจ อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานํ อารมฺมณานฺจ อฺมฺํ สํกิเลเส วิฺาตนฺติ วุตฺตํ โหติ. คนฺธรสโผฏฺพฺพายตนานํ เอตํ อธิวจนํ. วิฺาตนฺติ มนสา วิฺาตํ, เสสานํ สตฺตานํ อายตนานเมตํ อธิวจนํ, ธมฺมารมฺมณสฺส วา, อิธ ปน สกฺกายปริยาปนฺนเมว ลพฺภติ. วิตฺถาโร ปเนตฺถ ทิฏฺวาเร วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

อิทานิ ภควตา วุตฺตสุตฺตวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อสฺมีติ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺมีติ ภวามิ, นิจฺจสฺเสตํ อธิวจนํ. มฺิตเมตนฺติ ทิฏฺิกปฺปนํ เอตํ. อยมหมสฺมีติ อยํ อหํ อสฺมิ ภวามิ.

อฺตฺร สติปฏฺาเนหีติ เปตฺวา จตุสติปฏฺาเน.

สพฺเพ พาลปุถุชฺชนา รชฺชนฺตีติ สกลา อนฺธพาลา นานาชนา ลคฺคนฺติ. สตฺต เสกฺขา วิรชฺชนฺตีติ โสตาปนฺนาทโย สตฺต อริยชนา วิราคํ อาปชฺชนฺติ . อรหา เนว รชฺชติ โน วิรชฺชตีติ กิเลสานํ ปรินิพฺพาปิตตฺตา อุภยมฺปิ น กโรติ. ขยา ราคสฺสาติอาทโย ติวิธาปิ นิพฺพานเมว.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย

ชราสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.