📜
๗. ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา
๔๙. สตฺตเม ¶ ¶ ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺเต เมถุนมนุยุตฺตสฺสาติ เมถุนธมฺมํ สมายุตฺตสฺส. อิตีติ เอวมาห. อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ. ติสฺโสติ นามํ ตสฺส เถรสฺส. โสปิ หิ ติสฺโสติ นาเมน. เมตฺเตยฺโยติ โคตฺตํ, โคตฺตวเสเนว เอส ปากโฏ อโหสิ. ตสฺมา อฏฺุปฺปตฺติยํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๘๒๑) วุตฺตํ – ‘‘ติสฺสเมตฺเตยฺยา นาม ทฺเว สหายา’’ติ. วิฆาตนฺติ อุปฆาตํ. พฺรูหีติ อาจิกฺข. มาริสาติ ปิยวจนเมตํ, นิทฺทุกฺขาติ วุตฺตํ โหติ. สุตฺวาน ตว สาสนนฺติ ตว วจนํ สุตฺวา. วิเวเก สิกฺขิสฺสามเสติ สหายํ อารพฺภ ธมฺมเทสนํ ยาจนฺโต ภณติ, โส ปน สิกฺขิตสิกฺโขเยว.
เมถุนธมฺโม นามาติ อิทํ นิทฺทิสิตพฺพสฺส เมถุนธมฺมสฺส อุปเทสปทํ. อสทฺธมฺโมติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺโม. คามธมฺโมติ คามวาสีนํ เสวนธมฺโม. วสลธมฺโมติ วสลานํ ธมฺโม, กิเลสวสฺสนโต วา สยเมว วสโล ธมฺโมติ วสลธมฺโม. ทุฏฺุลฺโลติ ทุฏฺโ จ กิเลเสหิ ทุฏฺตฺตา, ถูโล จ อนิปุณภาวโตติ ทุฏฺุลฺโล. ยสฺมา จ ตสฺส ธมฺมสฺส ปริวารภูตํ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลํ, ตสฺมาปิ ทุฏฺุลฺโล โส เมถุนธมฺโม. โอทกนฺติโกติ อุทกํ อสฺส อนฺเต สุทฺธตฺถํ อาทิยตีติ อุทกนฺโต, อุทกนฺโตเยว โอทกนฺติโก. รโห ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส กตฺตพฺพตาย รหสฺโส. วินเย ปน ‘‘ทุฏฺุลฺลํ โอทกนฺติกํ รหสฺส’’นฺติ (ปารา. ๓๙) ปาโ. ตตฺถ ตีสุ ปเทสุ โย โสติ ปทํ ปริวตฺเตตฺวา ยํ ตนฺติ ¶ กตฺวา โยเชตพฺพํ ‘‘ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ, โส เมถุนธมฺโม, ยํ ตํ โอทกนฺติกํ โส เมถุนธมฺโม, ยํ ตํ รหสฺสํ ¶ , โส เมถุนธมฺโม’’ติ. อิธ ปน ‘‘โย โส อสทฺธมฺโม, โส เมถุนธมฺโม…เป… โย โส รหสฺโส, โส เมถุนธมฺโม’’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. ทฺวเยน ทฺวเยน สมาปชฺชิตพฺพโต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ. ตตฺถ โยชนา – ยา สา ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ, โส เมถุนธมฺโม นามาติ. กึการณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ เกน การเณน เกน ปริยาเยน เมถุนธมฺโมติ กถียติ. ตํ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภินฺนํ รตฺตาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุภินฺนํ รตฺตานนฺติ ¶ ทฺวินฺนํ อิตฺถิปุริสานํ ราเคน รฺชิตานํ. สารตฺตานนฺติ วิเสเสน สุฏฺุ รฺชิตานํ. อวสฺสุตานนฺติ กิเลเสน ตินฺตานํ. ปริยุฏฺิตานนฺติ กุสลาจารํ ปริยาทิยิตฺวา มทฺทิตฺวา ิตานํ ‘‘มคฺเค โจรา ปริยุฏฺิตา’’ติอาทีสุ วิย. ปริยาทินฺนจิตฺตานนฺติ กุสลจิตฺตํ ปริยาทิยิตฺวา เขเปตฺวา ิตจิตฺตานํ. อุภินฺนํ สทิสานนฺติ ทฺวินฺนํ กิเลเสน สทิสานํ. ธมฺโมติ สภาโว. ตํ การณาติ เตน การเณน. ตํ อุปมาย สาเธนฺโต ‘‘อุโภ กลหการกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุโภ กลหการกาติ ปุพฺพภาเค กลหการกา ทฺเว. เมถุนกาติ วุจฺจนฺตีติ สทิสาติ วุจฺจนฺติ. ภณฺฑนการกาติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ภณฺฑนํ กโรนฺตา. ภสฺสการกาติ วาจากลหํ กโรนฺตา. วิวาทการกาติ นานาวจนํ กโรนฺตา. อธิกรณการกาติ วินิจฺฉยปาปุณนวิเสสการณํ กโรนฺตา. วาทิโนติ วาทปฏิวาทิโน. สลฺลาปกาติ วาจํ กเถนฺตา เอวเมวนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ.
ยุตฺตสฺสาติ สฺุตฺตสฺส. ปยุตฺตสฺสาติ อาทเรน ยุตฺตสฺส. อายุตฺตสฺสาติ วิเสเสน ยุตฺตสฺส. สมายุตฺตสฺสาติ เอกโต ยุตฺตสฺส. ตจฺจริตสฺสาติ ตํจริตํ กโรนฺตสฺส. ตพฺพหุลสฺสาติ ตํพหุลํ กโรนฺตสฺส. ตคฺครุกสฺสาติ ตํครุํ กโรนฺตสฺส. ตนฺนินฺนสฺสาติ ตสฺมึ นตจิตฺตสฺส. ตปฺโปณสฺสาติ ตสฺมึ นตกายสฺส. ตปฺปพฺภารสฺสาติ ¶ ตสฺมึ อภิมุขกายสฺส. ตทธิมุตฺตสฺสาติ ตสฺมึ อธิหริตสฺส. ตทธิปเตยฺยสฺสาติ ตํ อธิปตึ เชฏฺกํ กตฺวา ปวตฺตสฺส.
วิฆาตนฺติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสวจนํ. วิฆาตนฺติ ปีฬนํ. อุปฆาตนฺติ สมีปํ กตฺวา ปีฬนํ. ปีฬนนฺติ ฆฏฺฏนํ. ฆฏฺฏนนฺติ ปีฬนํ. สพฺพํ อฺมฺเววจนํ. อุปทฺทวนฺติ หึสนํ. อุปสคฺคนฺติ ตตฺถ ตตฺถ อุปคนฺตฺวา ปีฬนาการํ. พฺรูหีติ กเถหิ. อาจิกฺขาติ ¶ วิสฺสชฺเชหิ. เทเสหีติ ทสฺเสหิ. ปฺเปหีติ าเปหิ. ปฏฺเปหีติ เปหิ. วิวราติ ปากฏํ กโรหิ. วิภชาติ ภาเชหิ. อุตฺตานีกโรหีติ ตีรํ ปาเปหิ. ปกาเสหีติ ปากฏํ กโรหิ.
ตุยฺหํ วจนนฺติ ตว วาจํ. พฺยปฺปถนฺติ วจนํ. เทสนนฺติ อาจิกฺขนํ. อนุสาสนนฺติ โอวาทํ. อนุสิฏฺนฺติ อนุสาสนํ. สุตฺวาติ โสเตน สุตฺวา. สุณิตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุคฺคเหตฺวาติ สมฺมา คเหตฺวา. อุปธารยิตฺวาติ อนาเสตฺวา. อุปลกฺขยิตฺวาติ สลฺลกฺเขตฺวา.
๕๐. มุสฺสเต วาปิ สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติโต ทุวิธมฺปิ สาสนํ นสฺสติ. วาปีติ ปทปูรณมตฺตํ. เอตํ ตสฺมึ อนริยนฺติ ตสฺมึ ปุคฺคเล เอตํ อนริยํ, ยทิทํ มิจฺฉาปฏิปทา. คารวาธิวจนนฺติ คุณวิสิฏฺสพฺพสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ภควาติ ¶ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุ คารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๒);
จตุพฺพิธํ วา นามํ อาวตฺถิกํ, ลิงฺคิกํ, เนมิตฺติกํ, อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ นาม โลกิยโวหาเรน ‘‘ยทิจฺฉก’’นฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ วจฺโฉ, ทมฺโม, พลีพทฺโธติ เอวมาทิ อาวตฺถิกํ, ทณฺฑี, ฉตฺตี, สิขี, กรีติ เอวมาทิ ลิงฺคิกํ, เตวิชฺโช, ฉฬภิฺโติ เอวมาทิ เนมิตฺติกํ, สิริวฑฺฒโก, ธนวฑฺฒโกติ เอวมาทิ ¶ วจนตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. อิทํ ปน ภควาติ นามํ เนมิตฺติกํ, น มหามายาย, น สุทฺโธทนมหาราเชน, น อสีติยา าติสหสฺเสหิ กตํ, น สกฺกสนฺตุสิตาทีหิ เทวตาวิเสเสหิ กตํ. วกฺขติ จ ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ…เป… ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ ภควา’’ติ (มหานิ. ๘๔).
‘‘ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;
ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโต’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔);
ตตฺถ –
‘‘วณฺณาคโม วณฺณวิปริยาโย, ทฺเว จาปเร วณฺณวิการนาสา;
ธาตูนมตฺถาติสเยน โยโค, ตทุจฺจเต ปฺจวิธํ นิรุตฺติ’’นฺติ. –
เอวํ ¶ วุตฺตนิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. ตตฺถ ‘‘นกฺขตฺตราชาริว ตารกาน’’นฺติ เอตฺถ รการาคโม วิย อวิชฺชมานสฺส อกฺขรสฺส อาคโม วณฺณาคโม นาม. ‘‘หึสนา, หึโส’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘สีโห’’ติ วิย วิชฺชมานกฺขรานํ เหฏฺุปริยวเสน ปริวตฺตนํ วณฺณวิปริยาโย นาม. ‘‘นเว ฉนฺนเก ทานํ ทิยฺยตี’’ติ เอตฺถ อการสฺส เอการาปชฺชนตา วิย อฺกฺขรสฺส อฺกฺขราปชฺชนตา วณฺณวิกาโร นาม. ‘‘ชีวนสฺส มูโต ชีวนมูโต’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ชีมูโต’’ติ วการนการานํ วินาโส วิย วิชฺชมานกฺขรวินาโส วณฺณวินาโส นาม. ‘‘ผรุสาหิ วาจาหิ ปกฺรุพฺพมาโน อาสชฺช มํ ตฺวํ วทสิ กุมารา’’ติ เอตฺถ ปกฺรุพฺพมาโนติ ปทสฺส อภิภวมาโนติ อตฺถปฏิปาทนํ วิย ตตฺถ ตตฺถ ยถาโยคํ วิเสสตฺถโยโค ธาตูนํ อตฺถาติสเยน โยโค นาม.
เอวํ ¶ นิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา สทฺทนเยน วา ปิโสทราทินิสฺสิโต ปติฏฺานีติ ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา ยสฺมา โลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิพฺพตฺตกํ ¶ ทานสีลาทิปารปฺปตฺตํ ภาคฺยมสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ภาคฺยวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจตีติ าตพฺพํ.
ยสฺมา ปน โลภโทสโมหวิปรีตมนสิการอหิริกาโนตฺตปฺปโกธูปนาหมกฺขปฬาสอิสฺสา- มจฺฉริยมายาสาเยฺยถมฺภสารมฺภมานาติมานมทปมาทตณฺหาอวิชฺชาติวิธากุสลมูลทุจฺจริต- สํกิเลสมลวิสมสฺาวิตกฺกปปฺจจตุพฺพิธวิปริเยสอาสวคนฺถโอฆโยคอคติ- ตณฺหุปฺปาทุปาทานปฺจเจโตขีลวินิพนฺธนีวรณาภินนฺทนฉวิวาทมูลตณฺหากายสตฺตานุสย- อฏฺมิจฺฉตฺตนวตณฺหามูลกทสากุสลกมฺมปถทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตอฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภสพฺพทรถ- ปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานิ, สงฺเขปโต วา ปฺจ กิเลสขนฺธอภิสงฺขารเทวปุตฺตมจฺจุมาเร อภฺชิ, ตสฺมา ภคฺคตฺตา เอเตสํ ปริสฺสยานํ ‘‘ภคฺควา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ. อาห เจตฺถ –
‘‘ภคฺคราโค ภคฺคโทโส, ภคฺคโมโห อนาสโว;
ภคฺคาสฺส ปาปกา ธมฺมา, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๖; วิสุทฺธิ. ๑.๑๔๔);
ภาคฺยวนฺตตาย จสฺส สตปฺุชลกฺขณวรสฺส รูปกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ภคฺคโทสตาย ธมฺมกายสมฺปตฺติ. ตถา โลกิยสริกฺขกานํ พหุมตภาโว ¶ , คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา, อภิคตานฺจ เนสํ กายจิตฺตทุกฺขาปนยเน ปฏิพลภาโว, อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา, โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ จ สฺโชนสมตฺถตา ทีปิตา โหติ.
ยสฺมา จ โลเก อิสฺสริยธมฺมยสสิริกามปยตฺเตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ ภคสทฺโท ปวตฺตติ, ปรมฺจสฺส สกจิตฺเต อิสฺสริยํ, อณิมาลงฺฆิมาทิกํ วา โลกิยสมฺมตํ สพฺพาการปริปูรํ อตฺถิ, ตถา โลกุตฺตโร ธมฺโม, โลกตฺตยพฺยาปโก ยถาภุจฺจคุณาธิคโต อติวิย ปริสุทฺโธ ยโส, รูปกายทสฺสนพฺยาวฏชนนยนปฺปสาทชนนสมตฺถา สพฺพาการปริปูรา สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรี, ยํ ยํ เอเตน อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ อตฺตหิตํ ปรหิตํ วา, ตสฺส ตสฺส ตเถว อภินิปฺผนฺนตฺตา ¶ อิจฺฉิติจฺฉิตตฺถนิปฺผตฺติสฺิโต กาโม, สพฺพโลกครุภาวปฺปตฺติเหตุภูโต สมฺมาวายามสงฺขาโต ปยตฺโต จ อตฺถิ, ตสฺมา อิเมหิ ภเคหิ ยุตฺตตฺตาปิ ภคา อสฺส สนฺตีติ อิมินา อตฺเถน ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ¶ ปน กุสลาทีหิ เภเทหิ สพฺพธมฺเม, ขนฺธายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหิ วา กุสลาทิธมฺเม, ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเน วา ทุกฺขมริยสจฺจํ, อายูหนนิทานสํโยคปลิโพธฏฺเน สมุทยํ, นิสฺสรณวิเวกาสงฺขตอมตฏฺเน นิโรธํ, นิยฺยานิกเหตุทสฺสนาธิปเตยฺยฏฺเน มคฺคํ วิภตฺตวา, วิภชิตฺวา วิวริตฺวา เทสิตวาติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘วิภตฺตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา จ เอส ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเร กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สฺุตปฺปณิหิตานิมิตฺตวิโมกฺเข อฺเ จ โลกิยโลกุตฺตเร อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ภชิ เสวิ พหุลมกาสิ, ตสฺมา ‘‘ภตฺตวา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปน ตีสุ ภเวสุ ตณฺหาสงฺขาตํ คมนํ อเนน วนฺตํ, ตสฺมา ‘‘ภเวสุ วนฺตคมโน’’ติ วตฺตพฺเพ ภวสทฺทโต ภการํ คมนสทฺทโต คการํ วนฺตสทฺทโต วการฺจ ทีฆํ กตฺวา อาทาย ‘‘ภควา’’ติ วุจฺจติ, ยถา โลเก ‘‘เมหนสฺส ขสฺส มาลา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘เมขลา’’ติ วุจฺจติ.
ปุน ¶ อปรมฺปิ ปริยายํ นิทฺทิสนฺโต ‘‘อปิ จ ภคฺคราโคติ ภควา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภคฺโค ราโค อสฺสาติ ภคฺคราโค. ภคฺคโทสาทีสุปิ เอเสว นโย. กณฺฑโกติ วินิวิชฺฌนฏฺเน กิเลสา เอว. ภชีติ อุทฺเทสวเสน วิภาคํ กตฺวา ภาเชสิ. วิภชีติ นิทฺเทสวเสน วิวิธา ภาเชสิ. ปวิภชีติ ปฏินิทฺเทสวเสน ปกาเรน วิภชิ. อุคฺฆฏิตฺูนํ วเสน ภชิ. วิปฺจิตฺูนํ วเสน วิภชิ. เนยฺยานํ วเสน ปวิภชิ.
ธมฺมรตนนฺติ –
‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;
อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓) –
เอวํ วณฺณิตํ ธมฺมรตนํ ติวิเธน ภาเชสิ. ภวานํ ¶ อนฺตกโรติ กามภวาทีนํ นวนฺนํ ภวานํ ปริจฺเฉทํ ปริยนฺตํ ปริวฏุมํ การโก. ภาวิตกาโยติ วฑฺฒิตกาโย. ตถา อิตเรสุปิ. ภชีติ เสวิ. อรฺวนปตฺถานีติ คามสฺส วา นครสฺส วา อินฺทขีลโต พหิ อรฺํ. วนปตฺถานิ มนุสฺสูปจาราติกฺกนฺตานิ ¶ วนสณฺฑานิ. ปนฺตานีติ ยตฺถ มนุสฺสา น กสนฺติ น วปนฺติ ทูรานิ เสนาสนานิ. เกจิ ปน ‘‘วนปตฺตานีติ ยสฺมา ยตฺถ พฺยคฺฆาทโย อตฺถิ, ตํ วนํ เต ปาลยนฺติ รกฺขนฺติ, ตสฺมา เตหิ รกฺขิตตฺตา วนปตฺตานี’’ติ วทนฺติ. เสนาสนานีติ เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนานิ. อปฺปสทฺทานีติ วจนสทฺเทน อปฺปสทฺทานิ. อปฺปนิคฺโฆสานีติ คามนครนิคฺโฆสสทฺเทน อปฺปนิคฺโฆสานิ. วิชนวาตานีติ อนฺโตสฺจรณชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตานิ. ‘‘วิชนวาทานี’’ติปิ ปาโ, ‘‘อนฺโตชนวาเทน วิรหิตานี’’ติ อตฺโถ. ‘‘วิชนปาตานี’’ติปิ ปาโ, ‘‘ชนสฺจารวิรหิตานี’’ติ อตฺโถ. มนุสฺสราหสฺเสยฺยกานีติ มนุสฺสานํ รหสฺสกรณฏฺานานิ. ปฏิสลฺลานสารุปฺปานีติ วิเวกานุรูปานิ. ภาคี วาติ ‘‘ภาโค จีวราทิโกฏฺาโส อสฺส อตฺถี’’ติ ภาคี. ‘‘ปฏิลาภวเสน อตฺถรสาทิภาโค อสฺส อตฺถี’’ติ ภาคี. อตฺถรสสฺสาติ เหตุผลสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส อตฺถรสสฺส. ธมฺมรสสฺสาติ เหตุสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส ธมฺมรสสฺส. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐). วิมุตฺติรสสฺสาติ ผลสมฺปตฺติสงฺขาตสฺส วิมุตฺติรสสฺส. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘กิจฺจสมฺปตฺติอตฺเถน, รโส นาม ปวุจฺจตี’’ติ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.๑.๒ มาติกาวณฺณนา; วิสุทฺธิ. ๑.๘).
จตุนฺนํ ¶ ฌานานนฺติ ปมชฺฌานาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ. จตุนฺนํ อปฺปมฺานนฺติ เมตฺตาทีนํ ผรณปฺปมาณวิรหิตานํ จตุนฺนํ พฺรหฺมวิหารานํ. จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนนฺติ อากาสานฺจายตนาทีนํ จตุนฺนํ อรูปชฺฌานานํ. อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานนฺติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๔๘) นเยน วุตฺตานํ อารมฺมณวิมุตฺตานํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ. อภิภายตนานนฺติ ¶ เอตฺถ อภิภูตานิ อายตนานิ เอเตสํ ฌานานนฺติ อภิภายตนานิ, ฌานานิ. อายตนานีติ อธิฏฺานฏฺเน อายตนสงฺขาตานิ กสิณารมฺมณานิ. าณุตฺตริโก หิ ปุคฺคโล วิสทาโณติ กึ เอตฺถ อารมฺมเณ สมาปชฺชิตพฺพํ, น มยิ จิตฺเตกคฺคตากรเณ ภาโร อตฺถีติ ตานิ อารมฺมณานิ อภิภวิตฺวา สมาปชฺชติ. สห นิมิตฺตุปฺปาเทเนเวตฺถ อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํ อุปฺปาทิตานิ ฌานานิ อภิภายตนานีติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อฏฺนฺนํ อภิภายตนานํ. นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนนฺติ ปุพฺพํ ปุพฺพํ อนุ อนุปุพฺพํ, อนุปุพฺพํ วิหริตพฺพโต สมาปชฺชิตพฺพโต อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺติ, อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ, ตาสํ นวนฺนํ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีนํ. ทสนฺนํ สฺาภาวนานนฺติ คิริมานนฺทสุตฺเต (อ. นิ. ๑๐.๖๐) อาคตานํ อนิจฺจสฺาทีนํ ทสนฺนํ สฺาภาวนานํ. ทสนฺนํ กสิณสมาปตฺตีนนฺติ สกลฏฺเน กสิณสงฺขาตานํ ปถวีกสิณชฺฌานาทีนํ ทสนฺนํ ฌานานํ. อานาปานสฺสติสมาธิสฺสาติ อานาปานสฺสติสมฺปยุตฺตสมาธิสฺส ¶ . อสุภสมาปตฺติยาติ อสุภชฺฌานสมาปตฺติยา. ทสนฺนํ ตถาคตพลานนฺติ ทสพลพลานํ ทสนฺนํ. จตุนฺนํ เวสารชฺชานนฺติ วิสารทภาวานํ จตุนฺนํ เวสารชฺชานํ. จตุนฺนํ ปฏิสมฺภิทานนฺติ ปฏิสมฺภิทาาณานํ จตุนฺนํ. ฉนฺนํ อภิฺาณานนฺติ อิทฺธิวิธาทีนํ ฉนฺนํ อภิฺาณานํ. ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานนฺติ ‘‘สพฺพํ กายกมฺมํ าณานุปริวตฺตี’’ติอาทินา (จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; เนตฺติ. ๑๕) นเยน อุปริ อาคตานํ ฉนฺนํ พุทฺธธมฺมานํ.
ตตฺถ จีวราทโย ภาคฺยสมฺปตฺติวเสน วุตฺตา. อตฺถรสติโก ¶ ปฏิเวธวเสน วุตฺโต. อธิสีลติโก ปฏิปตฺติวเสน. ฌานตฺติโก รูปารูปชฺฌานวเสน. วิโมกฺขตฺติโก สมาปตฺติวเสน. สฺาจตุกฺโก อุปจารปฺปนาวเสน. สติปฏฺานาทโย สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมวเสน. ตถาคตพลานนฺติอาทโย อาเวณิกธมฺมวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อิโต ¶ ปรํ ภควาติ เนตํ นามนฺติอาทิ ‘‘อตฺถมนุคตา อยํ ปฺตฺตี’’ติ าปนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สมณา ปพฺพชฺชุปคตา. พฺราหฺมณา โภวาทิโน สมิตปาปพาหิตปาปา วา. เทวตา สกฺกาทโย พฺรหฺมาโน จ. วิโมกฺขนฺติกนฺติ วิโมกฺโข อรหตฺตมคฺโค, วิโมกฺขสฺส อนฺโต อรหตฺตผลํ, ตสฺมึ วิโมกฺขนฺเต ภวํ วิโมกฺขนฺติกํ นามํ. สพฺพฺุภาโว หิ อรหตฺตมคฺเคน สิชฺฌติ, อรหตฺตผลาธิคเมน สิทฺโธ โหติ. ตสฺมา สพฺพฺุภาโว วิโมกฺขนฺเต ภโว โหติ. ตํ เนมิตฺติกมฺปิ นามํ วิโมกฺขนฺเต ภวํ นาม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตาน’’นฺติ. โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภาติ มหาโพธิรุกฺขมูเล ยถาวุตฺตกฺขเณ สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาเภน สห. สจฺฉิกา ปฺตฺตีติ อรหตฺตผลสจฺฉิกิริยาย สพฺพธมฺมสจฺฉิกิริยาย วา ชาตา ปฺตฺติ. ยทิทํ ภควาติ ยา อยํ ภควาติ ปฺตฺติ.
ทฺวีหิ การเณหีติ ทฺวีหิ โกฏฺาเสหิ. ปริยตฺติสาสนนฺติ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ. ปฏิปตฺตีติ ปฏิปชฺชติ เอตายาติ ปฏิปตฺติ. ยํ ตสฺส ปริยาปุฏนฺติ เตน ปุคฺคเลน ยํ ปริยาปุฏํ สชฺฌายิตํ กรณตฺเถ สามิวจนํ. ‘‘ปริยาปุฏฺฏ’’นฺติปิ ปาโ. สุตฺตนฺติ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา, สุตฺตนิปาเต มงฺคลสุตฺต- (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๖๑ อาทโย) รตนสุตฺต- (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย) ตุวฏกสุตฺตานิ (สุ. นิ. ๙๒๑ อาทโย), อฺมฺปิ จ สุตฺตนามกํ ตถาคตวจนํ สุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เคยฺยนฺติ สพฺพมฺปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยนฺติ เวทิตพฺพํ, วิเสเสน สํยุตฺตเก สกโลปิ สคาถาวคฺโค. เวยฺยากรณนฺติ ¶ สกลํ อภิธมฺมปิฏกํ นิคฺคาถกํ สุตฺตํ, ยฺจ อฺมฺปิ อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ พุทฺธวจนํ ¶ , ตํ ‘‘เวยฺยากรณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ. คาถาติ ธมฺมปทํ, เถรคาถา, เถรีคาถา, สุตฺตนิปาเต โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา จ ‘‘คาถา’’ติ เวทิตพฺพา. อุทานนฺติ โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา ทฺเวอสีติ สุตฺตนฺตา ‘‘อุทาน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิติวุตฺตกนฺติ ‘‘วุตฺตฺเหตํ ภควตา’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (อิติวุ. ๑ อาทโย) ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา ‘‘อิติวุตฺตก’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ชาตกนฺติ อปณฺณกชาตกาทีนิ (ชา. ๑.๑.๑) ปณฺณาสาธิกานิ ปฺจชาตกสตานิ ‘‘ชาตก’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อพฺภุตธมฺมนฺติ ‘‘จตฺตาโรเม ¶ , ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตธมฺมา อานนฺเท’’ติอาทินยปฺปวตฺตา (ที. นิ. ๒.๒๐๙; อ. นิ. ๔.๑๒๙) สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา ‘‘อพฺภุตธมฺม’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เวทลฺลนฺติ จูฬเวทลฺล- (ม. นิ. ๑.๔๖๐ อาทโย) มหาเวทลฺล- (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) สมฺมาทิฏฺิ- (ม. นิ. ๑.๘๙ อาทโย) สกฺกปฺห- (ที. นิ. ๒.๓๔๔ อาทโย) สงฺขารภาชนิยมหาปุณฺณมสุตฺตาทโย (ม. นิ. ๓.๘๕ อาทโย) สพฺเพปิ เวทฺจ ตุฏฺิฺจ ลทฺธา ลทฺธา ปุจฺฉิตสุตฺตนฺตา ‘‘เวทลฺล’’นฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ ปริยตฺติสาสนนฺติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตพฺพฏฺเน ปริยตฺติ, อนุสาสนฏฺเน สาสนนฺติ กตฺวา ปริยตฺติสาสนํ. ตมฺปิ มุสฺสตีติ ตมฺปิ ปริยตฺติสาสนํ นสฺสติ. สมฺมุสฺสตีติ อาทิโต นสฺสติ. ปริพาหิโร โหตีติ ปรมฺมุโข โหติ.
กตมํ ปฏิปตฺติสาสนนฺติ โลกุตฺตรธมฺมโต ปุพฺพภาโค ตทตฺถํ ปฏิปชฺชียตีติ ปฏิปตฺติ. สาสียนฺติ เอตฺถ เวเนยฺยาติ สาสนํ. สมฺมาปฏิปทาติอาทโย วุตฺตนยา เอว.
ปาณมฺปิ หนตีติ ชีวิตินฺทฺริยมฺปิ ฆาเตติ. อทินฺนมฺปิ อาทิยตีติ ปรปริคฺคหิตมฺปิ วตฺถุํ คณฺหาติ. สนฺธิมฺปิ ฉินฺทตีติ ฆรสนฺธิมฺปิ ฉินฺทติ. นิลฺโลปมฺปิ หรตีติ คาเม ปหริตฺวา มหาวิโลปมฺปิ กโรติ. เอกาคาริกมฺปิ ¶ กโรตีติ ปณฺณาสมตฺเตหิปิ สฏฺิมตฺเตหิปิ ปริวาเรตฺวา ชีวคฺคาหํ คเหตฺวาปิ ธนํ อาหราเปติ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรติ. ปรทารมฺปิ คจฺฉตีติ ปรทาเรสุ จาริตฺตํ อาปชฺชติ. มุสาปิ ภณตีติ อตฺถภฺชนกํ มุสาปิ วทติ. อนริยธมฺโมติ อนริยสภาโว.
๕๑. เอโก ปุพฺเพ จริตฺวานาติ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน วา คณาววสฺสคฺคฏฺเน วา ปุพฺเพ โลเก วิหริตฺวา. ยานํ ภนฺตํว ตํ โลเก, หีนมาหุ ปุถุชฺชนนฺติ ตํ วิพฺภนฺตกํ ปุคฺคลํ ยถา หตฺถิยานาทิยานํ อทนฺตํ วิสมมฺปิ อาโรหติ, อาโรหนกมฺปิ ภฺชติ, ปปาเตปิ ปปตติ, เอวํ ¶ กายทุจฺจริตาทิวิสมาโรหเนน นิรยาทีสุ, อตฺถภฺชเนน ชาติปปาตาทีสุ ปปตเนน จ ยานํ ภนฺตํว หีนํ ปุถุชฺชนฺจ อาหูติ.
ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน วาติ ปพฺพชฺชาโกฏฺาเสน วา ‘‘ปพฺพชิโต สมโณ’’ติ คณนาโรปเนน วา. คณาววสฺสคฺคฏฺเน วาติ คณสงฺคณิการามตํ วิสฺสชฺเชตฺวา วสฺสคฺคฏฺเน วา.
เอโก ¶ ปฏิกฺกมตีติ เอกโกว คามโต นิวตฺตติ. โย นิเสวตีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. อปเรน สมเยนาติ อฺสฺมึ กาเล อปรภาเค. พุทฺธนฺติ สพฺพฺุพุทฺธํ. ธมฺมนฺติ สฺวากฺขาตตาทิคุณยุตฺตํ ธมฺมํ. สงฺฆนฺติ สุปฺปฏิปนฺนตาทิคุณยุตฺตํ สงฺฆํ. สิกฺขนฺติ อธิสีลาทิสิกฺขิตพฺพํ สิกฺขํ. ปจฺจกฺขายาติ พุทฺธาทึ ปฏิกฺขิปิตฺวา. หีนายาติ หีนตฺถาย คิหิภาวาย. อาวตฺติตฺวาติ นิวตฺติตฺวา. เสวติ เอกวารํ เสวติ. นิเสวติ อเนกวิเธน เสวติ. สํเสวติ อลฺลียิตฺวา เสวติ. ปฏิเสวติ ปุนปฺปุนํ เสวติ.
ภนฺตนฺติ วิพฺภนฺตํ. อทนฺตนฺติ ทนฺตภาวํ อนุปนีตํ. อการิตนฺติ สุสิกฺขิตกิริยํ อสิกฺขาปิตํ. อวินีตนฺติ น วินีตํ อาจารสมฺปตฺติยา อสิกฺขิตํ. อุปฺปถํ คณฺหาตีติ วุตฺตปฺปการํ ยานํ อทนฺตาติยุตฺตํ ภนฺตํ วิสมมคฺคํ อุเปติ. วิสมํ ขาณุมฺปิ ปาสาณมฺปิ อภิรุหตีติ วิสมํ หุตฺวา ิตํ ขรขาณุมฺปิ ตถา ¶ ปพฺพตปาสาณมฺปิ อาโรหติ. ยานมฺปิ อาโรหนกมฺปิ ภฺชตีติ วยฺหาทิยานํ อาโรหนฺตสฺส ปาเชนฺตสฺส หตฺถปาทาทิมฺปิ ภินฺทติ. ปปาเตปิ ปปตตีติ เอกโตจฺฉินฺนปพฺภารปปาเตปิ ปาเตติ. โส วิพฺภนฺตโกติ โส ปฏิกฺกนฺตโก. ภนฺตยานปฏิภาโคติ อนวฏฺิตยานสทิโส. อุปฺปถํ คณฺหาตีติ กุสลกมฺมปถโต ปฏิกฺกมิตฺวา อปายปถภูตํ อุปฺปถํ มิจฺฉามคฺคํ อุเปติ. วิสมํ กายกมฺมํ อภิรุหตีติ สมสฺส ปฏิปกฺขํ กายทุจฺจริตสงฺขาตํ วิสมํ กายกมฺมํ อาโรหติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. นิรเย อตฺตานํ ภฺชตีติ นิรสฺสาทสงฺขาเต นิรเย อตฺตภาวํ จุณฺณวิจุณฺณํ กโรติ. มนุสฺสโลเก อตฺตานํ ภฺชตีติ วิวิธกมฺมการณวเสน ภฺชติ. เทวโลเก อตฺตานํ ภฺชตีติ ปิยวิปฺปโยคาทิทุกฺขวเสน. ชาติปปาตมฺปิ ปปตตีติ ชาติปปาเตปิ ปาเตติ. ชราปปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. มนุสฺสโลเกติ อิธ อธิปฺเปตโลกเมว ทสฺเสติ.
ปุถุชฺชนาติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. ตตฺถ ปุถุชฺชนาติ –
ปุถูนํ ¶ ชนนาทีหิ, การเณหิ ปุถุชฺชโน;
ปุถุชฺชนนฺโตคธตฺตา, ปุถุวายํ ชโน อิติ.
โส ¶ หิ ปุถูนํ นานปฺปการานํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิปิ การเณหิ ปุถุชฺชโน. ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปุถุ กิเลเส ชเนนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พหูนํ นานปฺปการานํ สกฺกายทิฏฺีนํ อวิหตตฺตา วา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ ชนิตาติ วา ปุถุชฺชนา. อวิหตเมวตฺถํ ชนสทฺโท วทติ. ปุถุ สตฺถารานํ มุขุลฺโลกิกาติ เอตฺถ ปุถู นานาชนา สตฺถุปฏิฺา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนาติ วจนตฺโถ. ปุถุ สพฺพคตีหิ อวุฏฺิตาติ เอตฺถ ชเนตพฺพา ชนยนฺติ เอตฺถาติ ชนา, คติโย. ปุถู ชนา เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. อิโต ปเร ชายนฺติ เอเตหีติ ชนา, อภิสงฺขาราทโย. เต เอเตสํ วิชฺชนฺตีติ ปุถุชฺชนา. อภิสงฺขรณาทิอตฺโถ เอว วา ชนสทฺโท ทฏฺพฺโพ. นานาสนฺตาเปหิ สนฺตปนฺตีติ ราคคฺคิอาทโย สนฺตาปา. เต เอว วา สพฺเพปิ วา กิเลสา ปริฬาหา. ปุถุ ¶ ปฺจสุ กามคุเณสูติ เอตฺถ ชายตีติ ชโน, ราโค เคโธติ เอวมาทิโก, ปุถุ ชโน เอเตสนฺติ ปุถุชฺชนา. ปุถุ ชาตา รตฺตาติ เอวํ ราคาทิอตฺโถ เอว วา ชนสทฺโท ทฏฺพฺโพ. ปลิพุทฺธาติ สมฺพทฺธา. อาวุตาติ อาวริตา. นิวุตาติ วาริตา. โอวุตาติ อุปริโต ปิหิตา. ปิหิตาติ เหฏฺาภาเคน ปิหิตา. ปฏิจฺฉนฺนาติ อปากฏา. ปฏิกุชฺชิตาติ อโธมุขคตา.
อถ วา ปุถูนํ วา คณนปถมตีตานํ อริยธมฺมปรมฺมุขานํ นีจธมฺมสมาจารานํ ชนานํ อนฺโตคธตฺตาปิ ปุถุชฺชนา. ปุถุ วา อยํ วิสุํเยว สงฺขํ คโต, วิสํสฏฺโ สีลสุตาทิคุณยุตฺเตหิ อริเยหิ ชโนติปิ ปุถุชฺชโน.
เอวํ เย เต –
‘‘ทุเว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;
อนฺโธ ปุถุชฺชโน เอโก, กลฺยาเณโก ปุถุชฺชโน’’ติ. –
ทฺเวว ปุถุชฺชนา วุตฺตา, เตสุ อนฺธปุถุชฺชโน วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๕๒. ยโส กิตฺติ จาติ ลาภสกฺกาโร ปสํสา จ. ปุพฺเพติ ปพฺพชิตภาเว. หายเต วาปิ ตสฺส สาติ ตสฺส วิพฺภนฺตกสฺส สโต โส ¶ จ ยโส สา จ กิตฺติ หายติ. เอตมฺปิ ทิสฺวาติ ¶ เอตมฺปิ ปุพฺเพ ยสกิตฺตีนํ ลาภํ ปจฺฉา จ หานึ ทิสฺวา. สิกฺเขถ เมถุนํ วิปฺปหาตเวติ ติสฺโส สิกฺขาโย สิกฺเขถ. กึ การณา? เมถุนํ วิปฺปหาตเว, เมถุนปฺปหานตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ.
กิตฺติวณฺณคโตติ ภควา กิตฺติวณฺโณ, กิตฺติสทฺทฺเจว คุณฺจ อุกฺขิปิตฺวา วทนฺโต โหตีติ อตฺโถ. จิตฺตํ นานานเยน กถนํ อสฺส อตฺถีติ จิตฺตกถี. กลฺยาณปฏิภาโนติ สุนฺทรปฺโ.
หายตีติ นิทฺเทสสฺส อุทฺเทสปทํ. ปริหายตีติ สมนฺตโต หายติ. ปริธํสตีติ อโธปถวึ ปตติ. ปริปตตีติ ¶ สมนฺตโต อปคจฺฉติ. อนฺตรธายตีติ อทสฺสนํ ยาติ. วิปฺปลุชฺชตีติ อุจฺฉิชฺชติ.
ขุทฺทโก สีลกฺขนฺโธติ ถุลฺลจฺจยาทิ. มหนฺโต สีลกฺขนฺโธติ ปาราชิกสํงฺฆาทิเสโส.
เมถุนธมฺมสฺส ปหานายาติ ตทงฺคาทิปหาเนน ปชหนตฺถาย. วูปสมายาติ มลานํ วูปสมนตฺถาย. ปฏินิสฺสคฺคายาติ ปกฺขนฺทนปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺคตฺถาย. ปฏิปสฺสทฺธิยาติ ปฏิปสฺสทฺธิสงฺขาตสฺส ผลสฺส อตฺถาย.
๕๓. โย หิ เมถุนํ น วิปฺปชหติ สงฺกปฺเปหิ…เป… ตถาวิโธ. ตตฺถ ปเรโตติ สมนฺนาคโต. ปเรสํ นิคฺโฆสนฺติ อุปชฺฌายาทีนํ นินฺทาวจนํ. มงฺกุ โหตีติ ทุมฺมโน โหติ.
กามสงฺกปฺเปนาติ กามปฏิสํยุตฺเตน วิตกฺเกน. อุปริฏฺเปิ เอเสว นโย. ผุฏฺโติ วิตกฺเกหิ ผุสิโต. ปเรโตติ อปริหีโน. สโมหิโตติ สมฺมา โอหิโต อนฺโต ปวิฏฺโ. กปโณ วิยาติ ทุคฺคตมนุสฺโส วิย. มนฺโท วิยาติ อฺาณี วิย. โมมูโห วิยาติ สมฺโมหภูโต วิย. ฌายตีติ จินฺเตติ. ปชฺฌายตีติ ภุสํ จินฺเตติ. นิชฺฌายตีติ อเนกวิเธน จินฺเตติ. อปชฺฌายตีติ ตโต อปคนฺตฺวา จินฺเตติ. อุลูโกติ อุลูกสกุโณ. รุกฺขสาขายนฺติ รุกฺเข อุฏฺิตสาขาย, วิฏเป วา. มูสิกํ มคยมาโนติ มูสิกํ คเวสมาโน, ‘‘มคฺคยมาโน’’ติปิ ปนฺติ. โกตฺถูติ สิงฺคาโล. พิฬาโรติ พพฺพุ. สนฺธิสมลสงฺกฏิเรติ ¶ ทฺวินฺนํ ฆรานํ อนฺตเร จ อุทกนิทฺธมนจิกฺขลฺลกจวรนิกฺขิปนฏฺาเน จ ถณฺฑิเล จ. วหจฺฉินฺโนติ ปิฏฺิคีวมํสจฺฉินฺโน. อิโต ปรา คาถา ปากฏสมฺพนฺธา เอว.
๕๔. ตาสุ ¶ สตฺถานีติ กายทุจฺจริตาทีนิ. ตานิ หิ อตฺตโน ปเรสฺจ เฉทนฏฺเน ‘‘สตฺถานี’’ติ วุจฺจนฺติ. เตสุ วายํ วิเสเสน ตาว อาทิโต มุสาวจนสตฺถาเนว กโรติ, ‘‘อิมินา การเณนาหํ วิพฺภนฺโต’’ติ ภณนฺโต. เตเนวาห – ‘‘เอส ขฺวสฺส มหาเคโธ ¶ , โมสวชฺชํ ปคาหตี’’ติ. ตตฺถ เอส ขฺวสฺสาติ เอส โข อสฺส. มหาเคโธติ มหาพนฺธนํ. กตโมติ เจ? ยทิทํ โมสวชฺชํ ปคาหติ, สฺวายํ มุสาวาทชฺโฌคาโห ‘‘มหาเคโธ’’ติ เวทิตพฺโพ.
ตีณิ สตฺถานีติ ตโย เฉทกา. กายทุจฺจริตํ กายสตฺถํ. วจีสตฺถาทีสุปิ เอเสว นโย. ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ กายสตฺถ’’นฺติ อาห. สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานนฺโต ตุจฺฉํ วาจํ ภาสติ. อภิรโต อหํ ภนฺเต อโหสึ ปพฺพชฺชายาติ สาสเน ปพฺพชฺชาย อนภิรติวิรหิโต อหํ อาสึ. มาตา เม โปเสตพฺพาติ มาตา มยา โปเสตพฺพา. เตนมฺหิ วิพฺภนฺโตติ ภณตีติ เตน การเณน ปฏิกฺกนฺโต อสฺมีติปิ กเถติ. ปิตา เม โปเสตพฺโพติอาทีสุปิ เอเสว นโย.
เอโส ตสฺส มหาเคโธติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส เอโส มหาพนฺโธ. มหาวนนฺติ มหนฺตํ ทุฏฺวนํ. คหนนฺติ ทุรติกฺกมํ. กนฺตาโรติ โจรกนฺตาราทิสทิโส. วิสโมติ กณฺฏกวิสโม. กุฏิโลติ วงฺกกฏกสทิโส. ปงฺโกติ ปลฺลลสทิโส. ปลิโปติ กทฺทมสทิโส. ปลิโพโธติ มหาทุกฺโข. มหาพนฺธนนฺติ มหนฺตํ ทุโมจยพนฺธนํ. ยทิทํ สมฺปชานมุสาวาโทติ โย อยํ สมฺปชานมุสาวาโท.
สภคฺคโต วาติ สภายํ ิโต วา. ปริสคฺคโต วาติ คามปริสายํ ิโต วา. าติมชฺฌคโต วาติ ทายาทานํ มชฺเฌ ิโต วา. ปูคมชฺฌคโต วาติ เสนีนํ มชฺเฌ ิโต วา. ราชกุลมชฺฌคโต วาติ ราชกุลสฺส มชฺเฌ มหาวินิจฺฉเย ิโต วา. อภินีโตติ ปุจฺฉนตฺถาย นีโต. สกฺขิปุฏฺโติ สกฺขึ กตฺวา ปุจฺฉิโต. เอหมฺโภ ปุริสาติ ¶ อาลปนเมตํ. อตฺตเหตุ วา ปรเหตุ วาติ อตฺตโน วา ปรสฺส วา หตฺถปาทาทิเหตุ วา ธนเหตุ วา. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ วาติ เอตฺถ อามิสนฺติ ลาโภ อธิปฺเปโต. กิฺจิกฺขนฺติ ยํ วา ตํ วา อปฺปมตฺตกํ, อนฺตมโส ติตฺติรวฏฺฏกสปฺปิปิณฺฑนวนีตปิณฺฑาทิมตฺตกสฺสปิ ลาภสฺส เหตูติ ¶ อตฺโถ. สมฺปชานมุสา ภาสตีติ ชานนฺโตเยว มุสาวาทํ กโรติ.
ปุน อฺํ ปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิ จ ตีหากาเรหิ มุสาวาโท โหติ, ปุพฺเพวสฺส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตีหากาเรหีติ สมฺปชานมุสาวาทสฺส องฺคภูเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปุพฺเพวสฺส ¶ โหตีติ ปุพฺพภาเคเยว อสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ. ภณนฺตสฺส โหตีติ ภณมานสฺส โหติ. ภณิตสฺส โหตีติ ภณิเต อสฺส โหติ. ยํ วตฺตพฺพํ ตสฺมึ วุตฺเต โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ภณิตสฺสาติ วุตฺตวโต นิฏฺิตวจนสฺส โหตีติ. โย เอวํ ปุพฺพภาเคปิ ชานาติ, ภณนฺโตปิ ชานาติ, ปจฺฉาปิ ชานาติ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ, โส เอวํ วทนฺโต มุสาวาทกมฺมุนา พชฺฌตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. กิฺจาปิ ทสฺสิโต, อถ โข อยเมตฺถ วิเสโส – ปุจฺฉา ตาว โหติ, ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ปุพฺพภาโค อตฺถิ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ปจฺฉาภาโค นตฺถิ. วุตฺตมตฺตเมว หิ โกจิ ปมุสฺสติ กึ ตสฺส มุสาวาโท โหติ, น โหตีติ? สา เอวํ อฏฺกถาสุ วิสฺสชฺชิตา – ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ จ, ภณนฺตสฺส ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ชานโต ปจฺฉาภาเค ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ น สกฺกา น ภวิตุํ, สเจปิ น โหติ, มุสาวาโทเยว. ปุริมเมว หิ องฺคทฺวยํ ปมาณํ. ยสฺสาปิ ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, ภณนฺโต ปน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาติ. ภณิเตปิ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ชานาติ. โส มุสาวาเทน น กาเรตพฺโพ. ปุพฺพภาโค หิ ปมาณตโร. ตสฺมึ อสติ ทวา ภณิตํ วา, รวา ภณิตํ วา โหตีติ.
เอตฺถ จ ตําณตา จ าณสโมธานฺจ ปริจฺจชิตพฺพํ. ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพาติ เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาติ, เตเนว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ จ ชานาตีติ เอวํ เอกจิตฺเตเนว ตีสุ ขเณสุ ชานาตีติ อยํ ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพา. น ¶ หิ สกฺกา เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ ชานิตุํ, ยถา น สกฺกา เตเนว อสินา โส อสิ ฉินฺทิตุนฺติ. ปุริมํ ปุริมํ ปน จิตฺตํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปมาณํ ¶ ปุพฺพภาโคว, ตสฺมึ สติ น เหสฺสติ;
เสสทฺวยนฺติ นตฺเถต, มิติ วาจา ติวงฺคิกา’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๐๐);
าณสโมธานํ ปริจฺจชิตพฺพนฺติ เอตานิ ตีณิ จิตฺตานิ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ น คเหตพฺพานิ. อิทฺหิ จิตฺตํ นาม –
‘‘อนิรุทฺธมฺหิ ปเม, น อุปฺปชฺชติ ปจฺฉิมํ;
นิรนฺตรุปฺปชฺชนโต, เอกํ วิย ปกาสตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๒๐๐);
อิโต ¶ ปรํ ปน ยฺวายํ อชานํเยว ‘‘ชานามี’’ติอาทินา นเยน สมฺปชานมุสา ภณติ, ยสฺมา โส ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ เอวํทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส หิ อตฺเถว อยํ ลทฺธิ. ตถา ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ เอวมสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ. เอวมสฺส สฺา, เอวํสภาวเมว จสฺส จิตฺตํ ‘‘อิทํ อภูต’’นฺติ. ยทา ปน มุสา วตฺตุกาโม โหติ, ตทา ตํ ทิฏฺึ วา ทิฏฺิยา สห ขนฺตึ วา ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจึ วา ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ สฺํ วา ทิฏฺิขนฺติรุจิสฺาหิ สทฺธึ ภาวํ วา วินิธาย นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อภูตํ กตฺวา ภณติ. ตสฺมา เตสมฺปิวเสน องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จ จตูหากาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ วินิธาย ทิฏฺินฺติ พลวธมฺมวินิธานวเสเนตํ วุตฺตํ. วินิธาย ขนฺตินฺติอาทีนิ ตโต ทุพฺพลทุพฺพลานํ วินิธานวเสน. วินิธาย สฺนฺติ อิทํ ปเนตฺถ สพฺพทุพฺพลธมฺมวินิธานวเสน. สฺามตฺตมฺปิ นาม อวินิธาย สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.
๕๕. มนฺโทว ปริกิสฺสตีติ ปาณวธาทีนิ กโรนฺโต ตโตนิทานฺจ ทุกฺขมนุโภนฺโต โภคปริเยสนารกฺขณานิ จ กโรนฺโต โมมูโห วิย ปริกิลิสฺสติ.
ตเมนํ ราชาโน คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺตีติ น ราชาโน กโรนฺติ, ราชาธีนปุริสา นานาวิธานิ กมฺมการณานิ กโรนฺติ. กสาหิปิ ¶ ตาเฬนฺตีติ กสาทณฺฑเกหิปิ วิตชฺเชนฺติ. เวตฺเตหีติ เวตฺตลตาหิ. อทฺธทณฺฑเกหีติ ¶ มุคฺคเรหิ, ปหารสาธนตฺถํ วา จตุหตฺถทณฺฑํ ทฺเวธา เฉตฺวา คหิตทณฺฑเกหิ. พิลงฺคถาลิกนฺติ กฺชิยอุกฺขลิกกมฺมการณํ. ตํ ¶ กโรนฺตา สีสกปาลํ อุปฺปาเฏตฺวา ตตฺตํ อโยคุฬํ สณฺฑาเสน คเหตฺวา ตตฺถ ปกฺขิปนฺติ, เตน มตฺถลุงฺคํ ปกฺกุฏฺิตฺวา อุปริ อุตฺตรติ. สงฺขมุณฺฑิกนฺติ สงฺขมุณฺฑกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุตฺตโรฏฺอุภโตกณฺณจูฬิกคลวาฏกปริจฺเฉเทน จมฺมํ ฉินฺทิตฺวา สพฺพเกเส เอกโต คณฺึ กตฺวา ทณฺฑเกน เวเตฺวา อุปฺปาเฏนฺติ, สห เกเสหิ จมฺมํ อุฏฺหติ. ตโต สีสกฏาหํ ถูลสกฺขราหิ ฆํสิตฺวา โธวนฺตา สงฺขวณฺณํ กโรนฺติ. ราหุมุขนฺติ ราหุมุขกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา สงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อนฺโตมุเข ทีปํ ชาเลนฺติ, กณฺณจูฬิกาหิ วา ปฏฺาย มุขํ นิขาทเนน ขนนฺติ, โลหิตํ ปคฺฆริตฺวา มุขํ ปูเรติ.
โชติมาลิกนฺติ สกลสรีรํ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา อาลิมฺเปนฺติ. หตฺถปชฺโชติกนฺติ หตฺเถ เตลปิโลติกาย เวเตฺวา ทีปํ วิย ปชฺชาเลนฺติ. เอรกวตฺติกนฺติ เอรกวตฺตกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา เหฏฺาคีวโต ปฏฺาย จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา โคปฺผเก ปาเตนฺติ. อถ นํ โยตฺเตหิ พนฺธิตฺวา กฑฺฒนฺติ. โส อตฺตโน จมฺมวฏฺเฏ อกฺกมิตฺวา อกฺกมิตฺวา ปตติ. จิรกวาสิกนฺติ จิรกวาสิกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา ตเถว จมฺมวฏฺเฏ กนฺติตฺวา กฏิยํ เปนฺติ, กฏิโต ปฏฺาย กนฺติตฺวา โคปฺผเกสุ เปนฺติ, อุปริเมหิ เหฏฺิมสรีรํ จิรกนิวาสนนิวตฺถํ วิย โหติ. เอเณยฺยกนฺติ เอเณยฺยกกมฺมการณํ. ตํ กโรนฺตา อุโภสุ กปฺปเรสุ จ อุโภสุ ชณฺณุเกสุ จ อยวลยานิ ทตฺวา อยสูลานิ โกฏฺเฏนฺติ, โส จตูหิ อยสูเลหิ ภูมิยํ ปติฏฺหติ. อถ นํ ปริวาเรตฺวา อคฺคึ กโรนฺติ. ‘‘เอเณยฺยโก โชติปริคฺคโห ยถา’’ติ อาคตฏฺาเนปิ อิทเมว วุตฺตํ. ตํ สนฺธิโต สนฺธิโต สูลานิ อปเนตฺวา จตูหิ อฏฺิโกฏีหิเยว เปนฺติ. เอวรูปา กมฺมการณา นาม นตฺถิ.
พฬิสมํสิกนฺติ ¶ อุภโตมุเขหิ พฬิเสหิ ปหริตฺวา จมฺมมํสนฺหารูนิ อุปฺปาเฏนฺติ. กหาปณิกนฺติ สกลสรีรํ ติณฺหาหิ วาสีหิ โกฏิโต ปฏฺาย กหาปณมตฺตํ กหาปณมตฺตํ ปาเตนฺตา โกฏฺเฏนฺติ. ขาราปตจฺฉิกนฺติ สรีรํ ¶ ตตฺถ ตตฺถ อาวุเธหิ ปหริตฺวา โกจฺเฉหิ ขารํ ฆํเสนฺติ, จมฺมมํสนฺหารูนิ ปคฺฆริตฺวา ปสวนฺติ, อฏฺิกสงฺขลิกาว ติฏฺติ. ปลิฆปริวตฺติกนฺติ เอเกน ปสฺเสน นิปชฺชาเปตฺวา กณฺณจฺฉิทฺเทน อยสูลํ โกฏฺเฏตฺวา ปถวิยา เอกาพทฺธํ กโรนฺติ. อถ นํ ปาเท คเหตฺวา อาวิฺฉนฺติ. ปลาลปีกนฺติ เฉกา การณิกา ฉวิจมฺมํ อจฺฉินฺทิตฺวา นิสทโปตกาหิ อฏฺีนิ ฉินฺทิตฺวา เกเสสุ คเหตฺวา อุกฺขิปนฺติ, มํสราสิเยว โหติ. อถ นํ เกเสเหว ปริโยนนฺธิตฺวา คณฺหนฺติ, ปลาลปีํ วิย กตฺวา ปลิเวเนฺติ. สุนเขหิปีติ กติปยานิ ทิวสานิ อาหารํ อทตฺวา ฉาตสุนเขหิ ขาทาเปนฺติ. เต มุหุตฺเตน อฏฺิสงฺขลิกเมว กโรนฺติ. เอวมฺปิ กิสฺสตีติ เอวมฺปิ วิฆาตํ ปาปุณาติ. ปริกิสฺสตีติ สพฺพภาเคน วิฆาตํ ปาปุณาติ. ปริกิลิสฺสตีติ อุปตาปํ ปาปุณาติ.
ปุน อฺํ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา กามตณฺหาย อภิภูโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กามตณฺหายาติ ปฺจกามคุณิกโลเภน. อภิภูโตติ เตน มทฺทิโต. ปริยาทินฺนจิตฺโตติ กุสลาจารํ เขเปตฺวา คหิตจิตฺโต. โภเค ปริเยสนฺโตติ ธนํ คเวสมาโน. นาวาย มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺทตีติ ตรณีสงฺขาตาย นาวาย มหนฺตํ โลณสาครํ ปวิสติ. สีตสฺส ปุรกฺขโตติ สีตํ ปุรโต กตฺวา. อุณฺหสฺส ปุรกฺขโตติ อุณฺหํ ปุรโต กตฺวา. ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ มกสา เอว. ปีฬิยมาโนติ ฑํสาทิสมฺผสฺเสหิ วิเหสิยมาโน. ขุปฺปิปาสาย มิยฺยมาโนติ ขุทฺทาปิปาสาย มรมาโน. ติคุมฺพํ คจฺฉตีติอาทีนิ มูลปทํ คจฺฉตีติปริโยสานานิ จตุวีสติ ปทานิ รฏฺนาเมน วุตฺตานิ. มรุกนฺตารํ ¶ คจฺฉตีติ วาลุกกนฺตารํ ตารกสฺาย คจฺฉติ ¶ . ชณฺณุปถนฺติ ชาณูหิ คนฺตพฺพมคฺคํ. อชปถนฺติ อเชหิ คนฺตพฺพมคฺคํ. เมณฺฑปเถปิ เอเสว นโย.
สงฺกุปถนฺติ ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา เตหิ อุคฺคมิตพฺพํ ขาณุมคฺคํ, ตํ คจฺฉนฺโต ปพฺพตปาเท ตฺวา อยสิงฺฆาฏกํ โยตฺเตน พนฺธิตฺวา อุทฺธํ ขิปิตฺวา ปพฺพเต ลคฺคาเปตฺวา โยตฺเตนารุยฺห วชิรคฺเคน โลหทณฺเฑน ปพฺพตํ วิชฺฌิตฺวา ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา ตตฺถ ตฺวา สิงฺฆาฏกํ อากฑฺฒิตฺวา ปุน อุปริ ลคฺคาเปตฺวา ตตฺถ ิโต จมฺมโยตฺตํ โอลมฺเพตฺวา ตํ อาทาย โอตริตฺวา เหฏฺิมขาณุเก พนฺธิตฺวา วามหตฺเถน โยตฺตํ คเหตฺวา ทกฺขิณหตฺเถน มุคฺครํ อาทาย โยตฺตํ ปหริตฺวา ขาณุกํ นีหริตฺวา ปุน ¶ อภิรุหติ. เอเตนุปาเยน ปพฺพตมตฺถกํ อภิรุยฺห ปรโต โอตรนฺโต ปุริมนเยเนว ปมํ ปพฺพตมตฺถเก ขาณุกํ โกฏฺเฏตฺวา จมฺมปสิพฺพเก โยตฺตํ พนฺธิตฺวา ขาณุเก เวเตฺวา สยํ อนฺโตปสิพฺพเก นิสีทิตฺวา มกฺกฏกานํ สุตฺตวิสฺสชฺชนากาเรน โยตฺตํ วินิเวเตฺวา โอตรติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ขาณุเก โกฏฺเฏตฺวา เตหิ อุคฺคมิตพฺพํ ขาณุมคฺค’’นฺติ. ฉตฺตปถนฺติ จมฺมฉตฺเตน วาตํ คาหาเปตฺวา สกุเณหิ วิย โอตริตพฺพํ มคฺคํ. วํสปถนฺติ เวณุคุมฺพเฉทนสตฺเถน ฉินฺทิตฺวา รุกฺขํ ผรสุนา โกฏฺเฏตฺวา มคฺคํ กโรนฺโต เวฬุวเน นิสฺเสณึ กตฺวา เวฬุคุมฺเพ อารุยฺห เวฬุํ ฉินฺทิตฺวา อปรสฺส เวฬุคุมฺพสฺส อุปริ ปาเตตฺวา เวฬุคุมฺพมตฺถเกเนว คนฺตพฺพํ มคฺคํ สนฺธาย ‘‘วํสปถํ คจฺฉตี’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
คเวสนฺโต น วินฺทติ, อลาภมูลกมฺปิ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทตีติ อวินฺทนมูลกมฺปิ กายิกเจตสิกํ ทุกฺขํ ปฏิลภติ.
ลทฺธาติ ลภิตฺวา. อารกฺขมูลกนฺติ รกฺขณมูลกมฺปิ. กินฺติ เม โภเคติ เกน อุปาเยน มม โภเค. เนว ราชาโน หเรยฺยุํ…เป… น อปฺปิยา ทายาทา หเรยฺยุนฺติ. โคปยโตติ มฺชูสาทีหิ โคปยนฺตสฺส. วิปฺปลุชฺชนฺตีติ วินสฺสนฺติ.
๕๖. เอตมาทีนวํ ¶ ตฺวา, มุนิ ปุพฺพาปเร อิธาติ เอตํ ‘‘ยโส กิตฺติ จ ยา ปุพฺเพ, หายเต วาปิ ตสฺส สา’’ติ อิโต ปภุติ วุตฺเต ปุพฺพาปเร อิธ อิมสฺมึ สาสเน ปุพฺพโต อปเร สมณภาวโต วิพฺภนฺตกภาเว อาทีนวํ มุนิ ตฺวา.
ทฬฺหํ กเรยฺยาติ นิทฺเทสปทสฺส อุทฺเทสปทํ. ถิรํ กเรยฺยาติ อสิถิลํ กเรยฺย. ทฬฺหํ สมาทาโน อสฺสาติ ถิรปฏิฺโ ภเวยฺย. อวฏฺิตสมาทาโนติ สนฺนิฏฺานปฏิฺโ.
๕๗. เอตํ ¶ อริยานมุตฺตมนฺติ ยทิทํ วิเวกจริยา, เอตํ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อุตฺตมํ. ตสฺมา วิเวกํเยว สิกฺเขถาติ อธิปฺปาโย. น เตน เสฏฺโ มฺเถาติ เตน จ วิเวเกน อตฺตานํ ‘‘เสฏฺโ อห’’นฺติ น มฺเยฺย, เตน มานถทฺโธ น ภเวยฺยาติ วุตฺตํ โหติ.
อุนฺนตินฺติ ¶ อุสฺสาปนํ. อุนฺนมนฺติ อุคฺคนฺตฺวา ปฏฺปนํ. มานนฺติ อหํการํ. ถามนฺติ พลกฺการํ. ถมฺภนฺติ ถทฺธกรณํ. ถทฺโธติ อมทฺทโว. ปตฺถทฺโธติ วิเสเสน อมทฺทโว. ปคฺคหิตสิโรติ อุฏฺิตสีโส. สามนฺตาติ น อารกา. อาสนฺเนติ น ทูเร. อวิทูเรติ สมีเป. อุปกฏฺเติ สนฺติเก.
๕๘. ริตฺตสฺสาติ วิวิตฺตสฺส, กายทุจฺจริตาทีหิ วิรหิตสฺส. โอฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ, กาเมสุ คธิตา ปชาติ วตฺถุกาเมสุ ลคฺคา สตฺตา ตสฺส จตุโรฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ อิณายิกา วิย อาณณฺยสฺสาติ อรหตฺตนิกูเฏน เทสนํ นิฏฺาเปสิ.
ริตฺตสฺสาติ สพฺพกิเลเสหิ ตุจฺฉสฺส. วิวิตฺตสฺสาติ สฺุสฺส. ปวิวิตฺตสฺสาติ เอกกสฺส. อิทานิ เยหิ ริตฺโต โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘กายทุจฺจริเตน ริตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ กิเลสปฏิปาฏิยา มคฺคปฏิปาฏิยาติ ทฺวิธา ริตฺตตา เวทิตพฺพา. กิเลสปฏิปาฏิยา ตาว ราโค โมโห ถมฺโภ สารมฺโภ มาโน มโทติ, อิเมหิ ฉหิ กิเลเสหิ อรหตฺตมคฺเคน ริตฺโต โหติ; โทโส โกโธ อุปนาโห ปมาโทติ, อิเมหิ จตูหิ กิเลเสหิ อนาคามิมคฺเคน ¶ ริตฺโต โหติ; อติมาโน มกฺโข ปฬาโส อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยนฺติ, อิเมหิ สตฺตหิ โสตาปตฺติมคฺเคน ริตฺโต โหติ.
มคฺคปฏิปาฏิยา ปน โสตาปตฺติมคฺเคน อติมาโน มกฺโข ปฬาโส อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยนฺติ; อิเมหิ สตฺตหิ ริตฺโต โหติ, อนาคามิมคฺเคน โทโส โกโธ อุปนาโห ปมาโทติ, อิเมหิ จตูหิ ริตฺโต โหติ; อรหตฺตมคฺเคน ราโค โมโห ถมฺโภ สารมฺโภ มาโน มโทติ, อิเมหิ ฉหิ ริตฺโต โหติ. ตีณิ ทุจฺจริตานิ สพฺพกิเลเสหีติอาทินา นเยน อวเสสาปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพา.
วตฺถุกาเม ¶ ปริชานิตฺวาติ เตภูมเก วตฺถุกาเม าตตีรณปริฺาหิ สมาปนวเสน ชานิตฺวา. กิเลสกาเม ปหายาติ ฉนฺทาทโย กิเลสกาเม ปหานปริฺาย ชหิตฺวา. พฺยนฺตึ กริตฺวาติ วิคตนฺตํ วิคตโกฏึ กริตฺวา.
กาโมฆํ ¶ ติณฺณสฺสาติ อนาคามิมคฺเคน อวสานสงฺขาตํ กาโมฆํ ตริตฺวา ิตสฺส. ภโวฆนฺติ อรหตฺตมคฺเคน. ทิฏฺโฆนฺติ โสตาปตฺติมคฺเคน. อวิชฺโชฆนฺติ อรหตฺตมคฺเคน. สพฺพํ สํสารปถนฺติ สพฺพขนฺธธาตุอายตนปฏิปาฏิสงฺขาตํ ปถํ อรหตฺตมคฺเคเนว ตริตฺวา ิตสฺส. โสตาปตฺติมคฺเคน อุตฺติณฺณสฺส. สกทาคามิมคฺเคน นิตฺติณฺณสฺส. อนาคามิมคฺเคน กามธาตุํ อติกฺกนฺตสฺส. อรหตฺตมคฺเคน สพฺพภวํ สมติกฺกนฺตสฺส. ผลสมาปตฺติวเสน วีติวตฺตสฺส. ปารํคตสฺสาติอาทีนิ นิพฺพานวเสน วุตฺตานิ. ยถา อิณายิกา อาณณฺยนฺติ ปวฑฺฒกอิณํ อาทาย วิจรนฺตา อาณณฺยํ. ปตฺเถนฺตีติ ปตฺถนํ อุปฺปาเทนฺติ. อาพาธิกา อาโรคฺยนฺติ ปิตฺตาทิโรคาตุโร เภสชฺชกิริยาย ตํโรควูปสมนตฺถํ อาโรคฺยํ. ยถา พนฺธนพทฺธาติ นกฺขตฺตทิวเส พนฺธนาคาเร พทฺธปุริสา. ยถา ทาสา ภุชิสฺสนฺติ ยสฺมา ภุชิสฺสา ปุริสา ยํ อิจฺฉนฺติ, ตํ กโรนฺติ, น นํ โกจิ พลกฺกาเรน ตโต นิวตฺเตติ, ตสฺมา ทาสา ภุชิสฺสภาวํ ปตฺเถนฺติ. ยถา กนฺตารทฺธานปกฺขนฺทาติ ยสฺมา พลวนฺโต ปุริสา หตฺถภารํ คเหตฺวา สชฺชาวุธา สปริวารา ¶ กนฺตารํ ปฏิปชฺชนฺติ, เต โจรา ทูรโตว ทิสฺวา ปลายนฺติ. เต โสตฺถินา กนฺตารํ นิตฺถริตฺวา เขมนฺตํ ปตฺวา หฏฺตุฏฺา โหนฺติ. ตสฺมา กนฺตารปกฺขนฺทา เขมนฺตภูมึ ปตฺเถนฺติ. เทสนาปริโยสาเน ติสฺโส โสตาปตฺติผลํ ปตฺวา ปจฺฉา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ.
สทฺธมฺมปชฺโชติกาย มหานิทฺเทสฏฺกถาย
ติสฺสเมตฺเตยฺยสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.