📜

๓. ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทโส

อถ ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทสํ วกฺขติ –

๑๕.

วทนฺติเว ทุฏฺมนาปิ เอเก,อโถปิ[อฺเปิ เต (สี.), อฺเปิ (สฺยา.)]เว สจฺจมนา วทนฺติ;

วาทฺจ ชาตํ มุนิ โน อุเปติ, ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจิ.

วทนฺติ เว ทุฏฺมนาปิ เอเกติ เต ติตฺถิยา ทุฏฺมนา วิรุทฺธมนา ปฏิวิรุทฺธมนา อาหตมนา ปจฺจาหตมนา อาฆาติตมนา ปจฺจาฆาติตมนา วทนฺติ อุปวทนฺติ ภควนฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ อภูเตนาติ – วทนฺติ เว ทุฏฺมนาปิ เอเก.

อโถปิ เว สจฺจมนา วทนฺตีติ เย เตสํ ติตฺถิยานํ สทฺทหนฺตา โอกปฺเปนฺตา อธิมุจฺจนฺตา สจฺจมนา สจฺจสฺิโน ภูตมนา ภูตสฺิโน ตถมนา ตถสฺิโน ยาถาวมนา ยาถาวสฺิโน อวิปรีตมนา อวิปรีตสฺิโน วทนฺติ อุปวทนฺติ ภควนฺตฺจ ภิกฺขุสงฺฆฺจ อภูเตนาติ – อโถปิ เว สจฺจมนา วทนฺติ.

วาทฺจ ชาตํ มุนิ โน อุเปตีติ. โส วาโท ชาโต โหติ สฺชาโต นิพฺพตฺโต อภินิพฺพตฺโต ปาตุภูโต ปรโตโฆโส อกฺโกโส อุปวาโท ภควโต จ ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ อภูเตนาติ – วาทฺจ ชาตํ. มุนิ โน อุเปตีติ. มุนีติ. โมนํ วุจฺจติ าณํ. ยา ปฺา ปชานนา อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ, เตน าเณน สมนฺนาคโต มุนิ โมนปฺปตฺโต…เป… สงฺคชาลมติจฺจ โส มุนิ. โย วาทํ อุเปติ โส ทฺวีหิ การเณหิ วาทํ อุเปติ – การโก การกตาย วาทํ อุเปติ, อถ วา วุจฺจมาโน อุปวทิยมาโน กุปฺปติ พฺยาปชฺชติ ปติฏฺิยติ โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. อการโกมฺหีติ โย วาทํ อุเปติ โส อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ วาทํ อุเปติ. มุนิ ทฺวีหิ การเณหิ วาทํ น อุเปติ – อการโก มุนิ อการกตาย วาทํ น อุเปติ, อถ วา วุจฺจมาโน อุปวทิยมาโน น กุปฺปติ น พฺยาปชฺชติ น ปติฏฺิยติ น โกปฺจ โทสฺจ อปฺปจฺจยฺจ ปาตุกโรติ. อการโกมฺหีติ มุนิ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ วาทํ น อุเปติ น อุปคจฺฉติ น คณฺหาติ น ปรามสติ น อภินิวิสตีติ – วาทฺจ ชาตํ มุนิ โน อุเปติ.

ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ. ตสฺมาติ ตสฺมา ตํการณา ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ตํนิทานํ มุนิโน อาหตจิตฺตตา ขิลชาตตาปิ นตฺถิ. ปฺจปิ เจโตขิลา นตฺถิ, ตโยปิ ขิลา นตฺถิ. ราคขิโล โทสขิโล โมหขิโล นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชติ นุปลพฺภติ, ปหีโน สมุจฺฉินฺโน วูปสนฺโต ปฏิปสฺสทฺโธ อภพฺพุปฺปตฺติโก าณคฺคินา ทฑฺโฒ. กุหิฺจีติ กุหิฺจิ กิมฺหิจิ กตฺถจิ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา อชฺฌตฺตพหิทฺธา วาติ – ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจีติ.

เตนาห ภควา –

‘‘วทนฺติ เว ทุฏฺมนาปิ เอเก, อโถปิ เว สจฺจมนา วทนฺติ;

วาทฺจ ชาตํ มุนิ โน อุเปติ, ตสฺมา มุนี นตฺถิ ขิโล กุหิฺจี’’ติ.

๑๖.

สกฺหิ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย, ฉนฺทานุนีโต รุจิยา นิวิฏฺโ;

สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโน, ยถา หิ ชาเนยฺย ตถา วเทยฺย.

สกฺหิทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺยาติ. ยํ เต ติตฺถิยา สุนฺทริปริพฺพาชิกํ หนฺตฺวา สมณานํ สกฺยปุตฺติยานํ อวณฺณํ ปกาสยิตฺวา ‘‘เอวํ เอตํ ลาภํ ยสสกฺการํ สมฺมานํ ปจฺจาหริสฺสามา’’ติ เต เอวํทิฏฺิกา เอวํขนฺติกา เอวํรุจิกา เอวํลทฺธิกา เอวํอชฺฌาสยา เอวํอธิปฺปายา, เต นาสกฺขึสุ สกํ ทิฏฺึ สกํ ขนฺตึ สกํ รุจึ สกํ ลทฺธึ สกํ อชฺฌาสยํ สกํ อธิปฺปายํ อติกฺกมิตุํ; อถ โข สฺเวว อยโส เต ปจฺจาคโตติ, เอวมฺปิ – สกฺหิ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย. อถ วา ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ โย โส เอวํวาโท, โส สกํ ทิฏฺึ สกํ ขนฺตึ สกํ รุจึ สกํ ลทฺธึ สกํ อชฺฌาสยํ สกํ อธิปฺปายํ กถํ อจฺจเยยฺย อติกฺกเมยฺย สมติกฺกเมยฺย วีติวตฺเตยฺย? ตํ กิสฺส เหตุ? ตสฺส สา ทิฏฺิ ตถา สมตฺตา สมาทินฺนา คหิตา ปรามฏฺา อภินิวิฏฺา อชฺโฌสิตา อธิมุตฺตาติ. เอวมฺปิ – สกฺหิ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย? ‘‘อสสฺสโต โลโก…เป… อนฺตวา โลโก… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ โย โส เอวํ วาโท, โส สกํ ทิฏฺึ สกํ ขนฺตึ สกํ รุจึ สกํ ลทฺธึ สกํ อชฺฌาสยํ สกํ อธิปฺปายํ กถํ อจฺจเยยฺย อติกฺกเมยฺย สมติกฺกเมยฺย วีติวตฺเตยฺย? ตํ กิสฺส เหตุ? ตสฺส สา ทิฏฺิ ตถา สมตฺตา สมาทินฺนา คหิตา ปรามฏฺา อภินิวิฏฺา อชฺโฌสิตา อธิมุตฺตาติ. เอวมฺปิ – สกฺหิ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย.

ฉนฺทานุนีโต รุจิยา นิวิฏฺโติ. ฉนฺทานุนีโตติ สกาย ทิฏฺิยา สกาย ขนฺติยา สกาย รุจิยา สกาย ลทฺธิยา ยายติ นิยฺยติ วุยฺหติ สํหรียติ. ยถา หตฺถิยาเนน วา อสฺสยาเนน วา รถยาเนน วา โคยาเนน วา อชยาเนน วา เมณฺฑยาเนน วา โอฏฺยาเนน วา ขรยาเนน วา ยายติ นิยฺยติ วุยฺหติ สํหรียติ, เอวเมว สกาย ทิฏฺิยา สกาย ขนฺติยา สกาย รุจิยา สกาย ลทฺธิยา ยายติ นิยฺยติ วุยฺหติ สํหรียตีติ – ฉนฺทานุนีโต. รุจิยา นิวิฏฺโติ สกาย ทิฏฺิยา สกาย รุจิยา สกาย ลทฺธิยา นิวิฏฺโ ปติฏฺิโต อลฺลีโน อุปคโต อชฺโฌสิโต อธิมุตฺโตติ – ฉนฺทานุนีโต รุจิยา นิวิฏฺโ.

สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโนติ. สยํ สมตฺตํ กโรติ ปริปุณฺณํ กโรติ อโนมํ กโรติ อคฺคํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ ปาโมกฺขํ อุตฺตมํ ปวรํ กโรติ. ‘‘อยํ สตฺถา สพฺพฺู’’ติ สยํ สมตฺตํ กโรติ ปริปุณฺณํ กโรติ อโนมํ กโรติ อคฺคํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ ปาโมกฺขํ อุตฺตมํ ปวรํ กโรติ. ‘‘อยํ ธมฺโม สฺวากฺขาโต…เป… อยํ คโณ สุปฺปฏิปนฺโน… อยํ ทิฏฺิ ภทฺทิกา… อยํ ปฏิปทา สุปฺตฺตา… อยํ มคฺโค นิยฺยานิโก’’ติ สยํ สมตฺตํ กโรติ ปริปุณฺณํ กโรติ อโนมํ กโรติ อคฺคํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ ปาโมกฺขํ อุตฺตมํ ปวรํ กโรติ ชเนติ สฺชเนติ นิพฺพตฺเตติ อภินิพฺพตฺเตตีติ – สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโน.

ยถา หิ ชาเนยฺย ตถา วเทยฺยาติ ยถา ชาเนยฺย, ตถา วเทยฺย กเถยฺย ภเณยฺย ทีปเยยฺย โวหเรยฺย. ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ ยถา ชาเนยฺย, ตถา วเทยฺย กเถยฺย ภเณยฺย ทีปเยยฺย โวหเรยฺย. ‘‘อสสฺสโต โลโก…เป… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ ยถา ชาเนยฺย, ตถา วเทยฺย กเถยฺย ภเณยฺย ทีปเยยฺย โวหเรยฺยาติ – ยถา หิ ชาเนยฺย ตถา วเทยฺย.

เตนาห ภควา –

‘‘สกฺหิ ทิฏฺึ กถมจฺจเยยฺย, ฉนฺทานุนีโต รุจิยา นิวิฏฺโ;

สยํ สมตฺตานิ ปกุพฺพมาโน, ยถา หิ ชาเนยฺย ตถา วเทยฺยา’’ติ.

๑๗.

โย อตฺตโน สีลวตานิ ชนฺตุ, อนานุปุฏฺโว[อนานุปุฏฺโ จ (สฺยา.)]ปเรส ปาว ปาวา (สี. สฺยา.) ;

อนริยธมฺมํ กุสลา ตมาหุ, โย อาตุมานํ สยเมว ปาว[ปาวา (สี. สฺยา.)].

โย อตฺตโน สีลวตานิ ชนฺตูติ. โยติ โย ยาทิโส ยถายุตฺโต ยถาวิหิโต ยถาปกาโร ยํานปฺปตฺโต ยํธมฺมสมนฺนาคโต ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วา คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา เทโว วา มนุสฺโส วา. สีลวตานีติ อตฺถิ สีลฺเจว วตฺจ [วตฺตฺจ (สฺยา.), เอวมุปริปิ], อตฺถิ วตํ น สีลํ. กตมํ สีลฺเจว วตฺจ? อิธ ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปนฺโน อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โย ตตฺถ สํยโม สํวโร อวีติกฺกโม, อิทํ สีลํ. ยํ สมาทานํ ตํ วตํ. สํวรฏฺเน สีลํ; สมาทานฏฺเน วตํ – อิทํ วุจฺจติ สีลฺเจว วตฺจ. กตมํ วตํ, น สีลํ? อฏฺ ธุตงฺคานิ – อารฺิกงฺคํ, ปิณฺฑปาติกงฺคํ, ปํสุกูลิกงฺคํ, เตจีวริกงฺคํ, สปทานจาริกงฺคํ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ, เนสชฺชิกงฺคํ, ยถาสนฺถติกงฺคํ – อิทํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ . วีริยสมาทานมฺปิ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ [นหารุ (สี. สฺยา.)] จ อฏฺิ จ อวสิสฺสตุ [อวสุสฺสตุ (สฺยา.)], สรีเร อุปสฺสุสฺสตุ มํสโลหิตํ. ยํ ตํ ปุริสถาเมน ปุริสพเลน ปุริสวีริเยน ปุริสปรกฺกเมน ปตฺตพฺพํ , น ตํ อปาปุณิตฺวา วีริยสฺส สณฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ – จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปํ วีริยสมาทานํ – อิทํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ.

‘‘นาสิสฺสํ น ปิวิสฺสามิ, วิหารโต น นิกฺขเม;

นปิ ปสฺสํ นิปาเตสฺสํ, ตณฺหาสลฺเล อนูหเต’’ติ.

จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปมฺปิ วีริยสมาทานํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ‘‘น ตาวาหํ อิมํ ปลฺลงฺกํ ภินฺทิสฺสามิ ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’’ติ – จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปมฺปิ วีริยสมาทานํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ‘‘น ตาวาหํ อิมมฺหา อาสนา วุฏฺหิสฺสามิ, จงฺกมา โอโรหิสฺสามิ, วิหารา นิกฺขมิสฺสามิ, อฑฺฒโยคา นิกฺขมิสฺสามิ, ปาสาทา นิกฺขมิสฺสามิ, หมฺมิยา นิกฺขมิสฺสามิ, คุหาย นิกฺขมิสฺสามิ, เลณา นิกฺขมิสฺสามิ, กุฏิยา นิกฺขมิสฺสามิ, กูฏาคารา นิกฺขมิสฺสามิ, อฏฺฏา นิกฺขมิสฺสามิ, มาฬา นิกฺขมิสฺสามิ, อุทฺทณฺฑา [อุฏฺฏณฺฑา (ก.)] นิกฺขมิสฺสามิ อุปฏฺานสาลาย นิกฺขมิสฺสามิ มณฺฑปา นิกฺขมิสฺสามิ, รุกฺขมูลา นิกฺขมิสฺสามิ ยาว เม น อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุจฺจิสฺสตี’’ติ – จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปมฺปิ วีริยสมาทานํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ‘‘อิมสฺมิฺเว ปุพฺพณฺหสมยํ อริยธมฺมํ อาหริสฺสามิ สมาหริสฺสามิ อธิคจฺฉิสฺสามิ ผสฺสยิสฺสามิ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ – จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปมฺปิ วีริยสมาทานํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ‘‘อิมสฺมิฺเว มชฺฌนฺหิกสมยํ, สายนฺหสมยํ, ปุเรภตฺตํ, ปจฺฉาภตฺตํ, ปุริมํ ยามํ, มชฺฌิมํ ยามํ, ปจฺฉิมํ ยามํ, กาเฬ, ชุณฺเห, วสฺเส, เหมนฺเต, คิมฺเห, ปุริเม วโยขนฺเธ, มชฺฌิเม วโยขนฺเธ, ปจฺฉิเม วโยขนฺเธ อริยธมฺมํ อาหริสฺสามิ สมาหริสฺสามิ อธิคจฺฉิสฺสามิ ผสฺสยิสฺสามิ สจฺฉิกริสฺสามี’’ติ – จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ ปทหติ. เอวรูปมฺปิ วีริยสมาทานํ วุจฺจติ วตํ, น สีลํ. ชนฺตูติ สตฺโต นโร มานโว [มาณโว (ก.)] โปโส ปุคฺคโล ชีโว ชาคุ ชนฺตุ อินฺทคุ มนุโชติ – โย อตฺตโน สีลวตานิ ชนฺตุ.

อนานุปุฏฺโว ปเรส ปาวาติ. ปเรสนฺติ ปเรสํ ขตฺติยานํ พฺราหฺมณานํ เวสฺสานํ สุทฺทานํ คหฏฺานํ ปพฺพชิตานํ เทวานํ มนุสฺสานํ. อนานุปุฏฺโติ อปุฏฺโ อปุจฺฉิโต อยาจิโต อนชฺเฌสิโต อปสาทิโต. ปาวาติ อตฺตโน สีลํ วา วตํ วา สีลพฺพตํ วา ปาวทติ. อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโนติ วา, วตสมฺปนฺโนติ วา, สีลพฺพตสมฺปนฺโนติ วา ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา ธเนน วา อชฺเฌเนน วา กมฺมายตเนน วา สิปฺปายตเนน วา วิชฺชาฏฺาเนน [วิชฺชฏฺาเนน (สฺยา.)] วา สุเตน วา ปฏิภาเนน [ปฏิภาเณน (สี. สฺยา. ก.)] วา อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนา, อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโตติ วา, มหากุลา ปพฺพชิโตติ วา, มหาโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา, อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา, าโต ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานนฺติ วา, ลาภิมฺหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาราน’’นฺติ วา, สุตฺตนฺติโกติ วา, วินยธโรติ วา, ธมฺมกถิโกติ วา, อารฺิโกติ วา, ปิณฺฑปาติโกติ วา, ปํสุกูลิโกติ วา, เตจีวริโกติ วา, สปทานจาริโกติ วา, ขลุปจฺฉาภตฺติโกติ วา, เนสชฺชิโกติ วา, ยถาสนฺถติโกติ วา, ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา, อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา ปาวทติ กเถติ ภณติ ทีปยติ โวหรตีติ – อนานุปุฏฺโว ปเรสํ ปาว.

อนริยธมฺมํกุสลา ตมาหูติ. กุสลาติ เย เต ขนฺธกุสลา ธาตุกุสลา อายตนกุสลา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลา สติปฏฺานกุสลา สมฺมปฺปธานกุสลา อิทฺธิปาทกุสลา อินฺทฺริยกุสลา พลกุสลา โพชฺฌงฺคกุสลา มคฺคกุสลา ผลกุสลา นิพฺพานกุสลา, เต กุสลา เอวมาหํสุ – ‘‘อนริยานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม อริยานํ; พาลานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม ปณฺฑิตานํ; อสปฺปุริสานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม สปฺปุริสาน’’นฺติ. เอวมาหํสุ เอวํ กเถนฺติ เอวํ ภณนฺติ เอวํ ทีปยนฺติ เอวํ โวหรนฺตีติ – อนริยธมฺมํ กุสลา ตมาหุ.

โยอาตุมานํ สยเมว ปาวาติ. อาตุมา วุจฺจติ อตฺตา. สยเมว ปาวาติ สยเมว อตฺตานํ ปาวทติ – ‘‘อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโนติ วา, วตสมฺปนฺโนติ วา, สีลพฺพตสมฺปนฺโนติ วา, ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา ธเนน วา อชฺเฌเนน วา กมฺมายตเนน วา สิปฺปายตเนน วา วิชฺชาฏฺาเนน วา สุเตน วา ปฏิภาเนน วา อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนา, อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโตติ วา, มหากุลา ปพฺพชิโตติ วา, มหาโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา, อุฬารโภคกุลา ปพฺพชิโตติ วา, าโต ยสสฺสี สคหฏฺปพฺพชิตานนฺติ วา, ลาภิมฺหิ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารานนฺติ วา, สุตฺตนฺติโกติ วา, วินยธโรติ วา, ธมฺมกถิโกติ วา, อารฺิโกติ วา, ปิณฺฑปาติโกติ วา, ปํสุกูลิโกติ วา, เตจีวริโกติ วา, สปทานจาริโกติ วา, ขลุปจฺฉาภตฺติโกติ วา, เนสชฺชิโกติ วา, ยถาสนฺถติโกติ วา, ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, ทุติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, ตติยสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส ลาภีติ วา, อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา, วิฺาณฺจายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา,

วิภวฺจ ภวฺจ วิปฺปหาย, วุสิตวา ขีณปุนพฺภโว ส ภิกฺขู’’ติ.

อากิฺจฺายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา, เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา’’ ปาวทติ กเถติ ภณติ ทีปยติ โวหรตีติ – โย อาตุมานํ สยเมว ปาวาติ.

เตนาห ภควา –

‘‘โย อตฺตโน สีลวตานิ ชนฺตุ, อนานุปุฏฺโว ปเรส ปาว;

อนริยธมฺมํ กุสลา ตมาหุ, โย อาตุมานํ สยเมว ปาวา’’ติ.

๑๘.

สนฺโต จ ภิกฺขุ อภินิพฺพุตตฺโต,อิติหนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโน;

ตมริยธมฺมํ กุสลา วทนฺติ, ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก.

สนฺโตจ ภิกฺขุ อภินิพฺพุตตฺโตติ. สนฺโตติ ราคสฺส สมิตตฺตา สนฺโต, โทสสฺส สมิตตฺตา สนฺโต, โมหสฺส สมิตตฺตา สนฺโต, โกธสฺส…เป… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส [ปลาสสฺส (สี. ก.)] … อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส… สพฺพกิเลสานํ… สพฺพทุจฺจริตานํ… สพฺพทรถานํ… สพฺพปริฬาหานํ… สพฺพสนฺตาปานํ… สพฺพากุสลาภิสงฺขารานํ สนฺตตฺตา สมิตตฺตา วูปสมิตตฺตา วิชฺฌาตตฺตา นิพฺพุตตฺตา วิคตตฺตา ปฏิปสฺสทฺธตฺตา สนฺโต อุปสนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต ปฏิปสฺสทฺโธติ – สนฺโต. ภิกฺขูติ สตฺตนฺนํ ธมฺมานํ ภินฺนตฺตา ภิกฺขุ – สกฺกายทิฏฺิ ภินฺนา โหติ, วิจิกิจฺฉา ภินฺนา โหติ, สีลพฺพตปรามาโส ภินฺโน โหติ, ราโค ภินฺโน โหติ, โทโส ภินฺโน โหติ, โมโห ภินฺโน โหติ, มาโน ภินฺโน โหติ . ภินฺนาสฺส โหนฺติ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สํกิเลสิกา โปโนภวิกา [โปโนพฺภวิกา (สฺยา. ก.)] สทรา ทุกฺขวิปากา อายตึ ชาติชรามรณิยา.

‘‘ปชฺเชน กเตน อตฺตนา, [สภิยาติ ภควา]

ปรินิพฺพานคโต วิติณฺณกงฺโข;

วิภวฺจ [วิภวํ (สี. ก.) สุ. นิ. ๕๑๙] ภวฺจ วิปฺปหาย,

วุสิตวา ขีณปุนพฺภโว ส ภิกฺขู’’ติ.

สนฺโต จ ภิกฺขุ อภินิพฺพุตตฺโตติ ราคสฺส นิพฺพาปิตตฺตา อภินิพฺพุตตฺโต, โทสสฺส นิพฺพาปิตตฺตา อภินิพฺพุตตฺโต, โมหสฺส นิพฺพาปิตตฺตา อภินิพฺพุตตฺโต, โกธสฺส…เป… อุปนาหสฺส… มกฺขสฺส… ปฬาสสฺส… อิสฺสาย… มจฺฉริยสฺส… มายาย… สาเยฺยสฺส… ถมฺภสฺส… สารมฺภสฺส… มานสฺส… อติมานสฺส… มทสฺส… ปมาทสฺส… สพฺพกิเลสานํ… สพฺพทุจฺจริตานํ… สพฺพทรถานํ… สพฺพปริฬาหานํ… สพฺพสนฺตาปานํ… สพฺพากุสลาภิสงฺขารานํ นิพฺพาปิตตฺตา อภินิพฺพุตตฺโตติ – สนฺโต จ ภิกฺขุ อภินิพฺพุตตฺโต.

อิติหนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโนติ. อิติหนฺติ ปทสนฺธิ ปทสํสคฺโค ปทปาริปูรี อกฺขรสมวาโย พฺยฺชนสิลิฏฺตา ปทานุปุพฺพตาเปตํ [ปทานุปุพฺพตา เมตํ (สฺยา. ก.)] – อิติหนฺติ. สีเลสุ อกตฺถมาโนติ. อิเธกจฺโจ กตฺถี โหติ วิกตฺถี. โส กตฺถติ วิกตฺถติ. อหมสฺมิ สีลสมฺปนฺโนติ วา, วตสมฺปนฺโนติ วา, สีลพฺพตสมฺปนฺโนติ วา, ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ลาภีติ วา กตฺถติ วิกตฺถติ. เอวํ น กตฺถติ น วิกตฺถติ. กตฺถนา อารโต วิรโต ปฏิวิรโต นิกฺขนฺโต นิสฺสโฏ วิปฺปมุตฺโต วิสฺุตฺโต วิมริยาทิกเตน เจตสา วิหรตีติ – อิติหนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโน.

ตมริยธมฺมํกุสลา วทนฺตีติ. กุสลาติ เย เต ขนฺธกุสลา ธาตุกุสลา อายตนกุสลา ปฏิจฺจสมุปฺปาทกุสลา สติปฏฺานกุสลา สมฺมปฺปธานกุสลา อิทฺธิปาทกุสลา อินฺทฺริยกุสลา พลกุสลา โพชฺฌงฺคกุสลา มคฺคกุสลา ผลกุสลา นิพฺพานกุสลา, เต กุสลา เอวํ วทนฺติ – ‘‘อริยานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม อนริยานํ; ปณฺฑิตานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม พาลานํ; สปฺปุริสานํ เอโส ธมฺโม, เนโส ธมฺโม อสปฺปุริสาน’’นฺติ. เอวํ วทนฺติ, อริยานํ เอวํ กเถนฺติ เอวํ ภณนฺติ เอวํ ทีปยนฺติ เอวํ โวหรนฺตีติ – ตมริยธมฺมํ กุสลา วทนฺติ.

ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเกติ. ยสฺสาติ อรหโต ขีณาสวสฺส. อุสฺสทาติ สตฺตุสฺสทา – ราคุสฺสโท, โทสุสฺสโท, โมหุสฺสโท, มานุสฺสโท, ทิฏฺุสฺสโท, กิเลสุสฺสโท, กมฺมุสฺสโท. ยสฺสิเม [ตสฺสิเม (สี. สฺยา.)] อุสฺสทา นตฺถิ น สนฺติ น วิชฺชนฺติ นุปลพฺภนฺติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฏิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา าณคฺคินา ทฑฺฒา. กุหิฺจีติ กุหิฺจิ กิมฺหิจิ กตฺถจิ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา. โลเกติ อปายโลเก มนุสฺสโลเก เทวโลเก ขนฺธโลเก ธาตุโลเก อายตนโลเกติ – ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก.

เตนาห ภควา –

‘‘สนฺโต จ ภิกฺขุ อภินิพฺพุตตฺโต, อิติหนฺติ สีเลสุ อกตฺถมาโน;

ตมริยธมฺมํ กุสลา วทนฺติ, ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก’’ติ.

๑๙.

ปกปฺปิตา สงฺขตา ยสฺส ธมฺมา,ปุรกฺขตา[ปุเรกฺขตา (สี. ก.)]สนฺติ อวีวทาตา;

ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสํ, ตํ นิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตึ.

ปกปฺปิตา สงฺขตา ยสฺส ธมฺมาติ. ปกปฺปนาติ ทฺเว ปกปฺปนา – ตณฺหาปกปฺปนา จ ทิฏฺิปกปฺปนา จ…เป… อยํ ตณฺหาปกปฺปนา…เป… อยํ ทิฏฺิปกปฺปนา. สงฺขตาติ สงฺขตา อภิสงฺขตา สณฺปิตาติปิ – สงฺขตา. อถ วา อนิจฺจา สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ขยธมฺมา วยธมฺมา วิราคธมฺมา นิโรธธมฺมาติปิ – สงฺขตา . ยสฺสาติ ทิฏฺิคติกสฺส. ธมฺมา วุจฺจนฺติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานีติ – ปกปฺปิตา สงฺขตา ยสฺส ธมฺมา.

ปุรกฺขตา สนฺติ อวีวทาตาติ. ปุรกฺขตาติ ทฺเว ปุเรกฺขารา – ตณฺหาปุเรกฺขาโร จ ทิฏฺิปุเรกฺขาโร จ…เป… อยํ ตณฺหาปุเรกฺขาโร…เป… อยํ ทิฏฺิปุเรกฺขาโร. ตสฺส ตณฺหาปุเรกฺขาโร อปฺปหีโน, ทิฏฺิปุเรกฺขาโร อปฺปฏินิสฺสฏฺโ. ตสฺส ตณฺหาปุเรกฺขารสฺส อปฺปหีนตฺตา, ทิฏฺิปุเรกฺขารสฺส อปฺปฏินิสฺสฏฺตฺตา โส ตณฺหํ วา ทิฏฺึ วา ปุรโต กตฺวา จรติ ตณฺหาธโช ตณฺหาเกตุ ตณฺหาธิปเตยฺโย, ทิฏฺิธโช ทิฏฺิเกตุ ทิฏฺาธิปเตยฺโย, ตณฺหาย วา ทิฏฺิยา วา ปริวาริโต จรตีติ – ปุรกฺขตา. สนฺตีติ สนฺติ สํวิชฺชนฺติ อตฺถิ อุปลพฺภนฺติ. อวีวทาตาติ อเววทาตา อโวทาตา อปริสุทฺธา สํกิลิฏฺา สํกิเลสิกาติ – ปุรกฺขตา สนฺติ อวีวทาตา.

ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสนฺติ. ยทตฺตนีติ ยํ อตฺตนิ. อตฺตา วุจฺจติ ทิฏฺิคตํ. อตฺตโน ทิฏฺิยา ทฺเว อานิสํเส ปสฺสติ – ทิฏฺธมฺมิกฺจ อานิสํสํ, สมฺปรายิกฺจ อานิสํสํ. กตโม ทิฏฺิยา ทิฏฺธมฺมิโก อานิสํโส? ยํทิฏฺิโก สตฺถา โหติ, ตํทิฏฺิกา สาวกา โหนฺติ. ตํทิฏฺิกํ สตฺถารํ สาวกา สกฺกโรนฺติ ครุํ กโรนฺติ [ครุกโรนฺติ (สี. สฺยา.)] มาเนนฺติ ปูเชนฺติ อปจิตึ กโรนฺติ. ลภติ จ ตโตนิทานํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ – อยํ ทิฏฺิยา ทิฏฺธมฺมิโก อานิสํโส. กตโม ทิฏฺิยา สมฺปรายิโก อานิสํโส? อยํ ทิฏฺิ อลํ นาคตฺตาย วา สุปณฺณตฺตาย วา ยกฺขตฺตาย วา อสุรตฺตาย วา คนฺธพฺพตฺตาย วา มหาราชตฺตาย วา อินฺทตฺตาย วา พฺรหฺมตฺตาย วา เทวตฺตาย วา. อยํ ทิฏฺิ สุทฺธิยา วิสุทฺธิยา ปริสุทฺธิยา, มุตฺติยา วิมุตฺติยา ปริมุตฺติยา. อิมาย ทิฏฺิยา สุชฺฌนฺติ วิสุชฺฌนฺติ ปริสุชฺฌนฺติ มุจฺจนฺติ วิมุจฺจนฺติ ปริมุจฺจนฺติ. อิมาย ทิฏฺิยา สุชฺฌิสฺสามิ วิสุชฺฌิสฺสามิ ปริสุชฺฌิสฺสามิ, มุจฺจิสฺสามิ วิมุจฺจิสฺสามิ ปริมุจฺจิสฺสามีติ อายตึ ผลปาฏิกงฺขี โหติ – อยํ ทิฏฺิยา สมฺปรายิโก อานิสํโส. อตฺตโน ทิฏฺิยา อิเม ทฺเว อานิสํเส ปสฺสติ ทกฺขติ โอโลเกติ นิชฺฌายติ อุปปริกฺขตีติ – ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสํ.

ตํนิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตินฺติ. ติสฺโส สนฺติโย – อจฺจนฺตสนฺติ, ตทงฺคสนฺติ, สมฺมุติสนฺติ. กตมา อจฺจนฺตสนฺติ? อจฺจนฺตสนฺติ วุจฺจติ อมตํ นิพฺพานํ. โย โส สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ. อยํ อจฺจนฺตสนฺติ. กตมา ตทงฺคสนฺติ? ปมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส นีวรณา สนฺตา โหนฺติ; ทุติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา สนฺตา โหนฺติ; ตติยํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ปีติ สนฺตา โหติ; จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส สุขทุกฺขา สนฺตา โหนฺติ; อากาสานฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส รูปสฺา ปฏิฆสฺา นานตฺตสฺา สนฺตา โหติ; วิฺาณฺจายตนํ สมาปนฺนสฺส อากาสานฺจายตนสฺา สนฺตา โหติ; อากิฺจฺายตนํ สมาปนฺนสฺส วิฺาณฺจายตนสฺา สนฺตา โหติ; เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนสฺส อากิฺจฺายตนสฺา สนฺตา โหติ. อยํ ตทงฺคสนฺติ. กตมา สมฺมุติสนฺติ? สมฺมุติสนฺติโย วุจฺจนฺติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ ทิฏฺิสนฺติโย. อปิ จ สมฺมุติสนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา สนฺตีติ. ตํนิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตินฺติ. กุปฺปสนฺตึ ปกุปฺปสนฺตึ เอริตสนฺตึ สเมริตสนฺตึ จลิตสนฺตึ ฆฏฺฏิตสนฺตึ กปฺปิตสนฺตึ ปกปฺปิตสนฺตึ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมํ, สนฺตึ นิสฺสิโต อสิโต อลฺลีโน อุปคโต อชฺโฌสิโต อธิมุตฺโตติ – ตํ นิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺตึ.

เตนาห ภควา –

‘‘ปกปฺปิตา สงฺขตา ยสฺส ธมฺมา, ปุรกฺขตา สนฺติ อวีวทาตา;

ยทตฺตนิ ปสฺสติ อานิสํสํ, ตํ นิสฺสิโต กุปฺปปฏิจฺจสนฺติ’’นฺติ.

๒๐.

ทิฏฺีนิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตา, ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตํ;

ตสฺมา นโร เตสุ นิเวสเนสุ, นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺมํ.

ทิฏฺีนิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตาติ. ทิฏฺีนิเวสาติ ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺินิเวสนํ. ‘‘อสสฺสโต โลโก…เป… อนฺตวา โลโก… อนนฺตวา โลโก … ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ อภินิเวสปรามาโส ทิฏฺินิเวสนนฺติ. ทิฏฺีนิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตาติ ทิฏฺินิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตา ทุรติวตฺตา ทุตฺตรา ทุปฺปตรา ทุสฺสมติกฺกมา ทุพฺพินิวตฺตาติ – [ทุพฺพีติวตฺตาติ (สี. สฺยา. ก.)] ทิฏฺีนิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตา.

ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตนฺติ. ธมฺเมสูติ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคเตสุ. นิจฺเฉยฺยาติ นิจฺฉินิตฺวา วินิจฺฉินิตฺวา วิจินิตฺวา ปวิจินิตฺวา ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา. สมุคฺคหีตนฺติ นิเวสเนสุ โอธิคฺคาโห พิลคฺคาโห วรคฺคาโห โกฏฺาสคฺคาโห อุจฺจยคฺคาโห สมุจฺจยคฺคาโห. อิทํ สจฺจํ ตจฺฉํ ตถํ ภูตํ ยาถาวํ อวิปรีตํ คหิตํ ปรามฏฺํ อภินิวิฏฺํ อชฺโฌสิตํ อธิมุตฺตนฺติ – ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตํ.

ตสฺมานโร เตสุ นิเวสเนสูติ. ตสฺมาติ ตสฺมา ตํการณา ตํเหตุ ตปฺปจฺจยา ตํนิทานํ. นโรติ สตฺโต นโร มานโว โปโส ปุคฺคโล ชีโว ชาคุ ชนฺตุ อินฺทคุ มนุโช. เตสุ นิเวสเนสูติ เตสุ ทิฏฺินิเวสเนสูติ – ตสฺมา นโร เตสุ นิเวสเนสุ.

นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺมนฺติ. นิรสฺสตีติ ทฺวีหิ การเณหิ นิรสฺสติ – ปรวิจฺฉินฺทนาย วา นิรสฺสติ, อนภิสมฺภุณนฺโต วา นิรสฺสติ. กถํ ปรวิจฺฉินฺทนาย นิรสฺสติ? ปโร วิจฺฉินฺเทติ – โส สตฺถา น สพฺพฺู, ธมฺโม น สฺวากฺขาโต, คโณ น สุปฺปฏิปนฺโน, ทิฏฺิ น ภทฺทิกา, ปฏิปทา น สุปฺตฺตา, มคฺโค น นิยฺยานิโก, นตฺเถตฺถ สุทฺธิ วา วิสุทฺธิ วา ปริสุทฺธิ วา มุตฺติ วา วิมุตฺติ วา ปริมุตฺติ วา, นตฺเถตฺถ สุชฺฌนฺติ วา วิสุชฺฌนฺติ วา ปริสุชฺฌนฺติ วา มุจฺจนฺติ วา วิมุจฺจนฺติ วา ปริมุจฺจนฺติ วา, หีนา นิหีนา โอมกา ลามกา ฉตุกฺกา [ชตุกฺกา (สี. สฺยา.)] ปริตฺตาติ – เอวํ ปโร วิจฺฉินฺเทติ. เอวํ วิจฺฉินฺทิยมาโน สตฺถารํ นิรสฺสติ , ธมฺมกฺขานํ นิรสฺสติ, คณํ นิรสฺสติ, ทิฏฺึ นิรสฺสติ, ปฏิปทํ นิรสฺสติ, มคฺคํ นิรสฺสติ. เอวํ ปรวิจฺฉินฺทนาย นิรสฺสติ. กถํ อนภิสมฺภุณนฺโต นิรสฺสติ? สีลํ อนภิสมฺภุณนฺโต สีลํ นิรสฺสติ, วตํ อนภิสมฺภุณนฺโต วตํ นิรสฺสติ, สีลพฺพตํ อนภิสมฺภุณนฺโต สีลพฺพตํ นิรสฺสติ. เอวํ อนภิสมฺภุณนฺโต นิรสฺสติ. อาทิยตี จ ธมฺมนฺติ. สตฺถารํ คณฺหาติ, ธมฺมกฺขานํ คณฺหาติ, คณํ คณฺหาติ, ทิฏฺึ คณฺหาติ, ปฏิปทํ คณฺหาติ, มคฺคํ คณฺหาติ ปรามสติ อภินิวิสตีติ – นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺมํ.

เตนาห ภควา –

‘‘ทิฏฺีนิเวสา น หิ สฺวาติวตฺตา, ธมฺเมสุ นิจฺเฉยฺย สมุคฺคหีตํ;

ตสฺมา นโร เตสุ นิเวสเนสุ, นิรสฺสตี อาทิยตี จ ธมฺม’’นฺติ.

๒๑.

โธนสฺส หิ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก,ปกปฺปิตา ทิฏฺิ ภวาภเวสุ;

มายฺจมานฺจ ปหาย โธโน, ส เกน คจฺเฉยฺย อนูปโย โส.

โธนสฺส หิ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก ปกปฺปิตา ทิฏฺิ ภวาภเวสูติ. โธโนติ. โธนา วุจฺจติ ปฺา – ยา ปฺา ปชานนา วิจโย ปวิจโย ธมฺมวิจโย สลฺลกฺขณา อุปลกฺขณา ปจฺจุปลกฺขณา ปณฺฑิจฺจํ โกสลฺลํ เนปุฺํ เวภพฺยา จินฺตา อุปปริกฺขา ภูริ เมธา ปริณายิกา วิปสฺสนา สมฺปชฺํ ปโตโท ปฺา ปฺินฺทฺริยํ ปฺาพลํ ปฺาสตฺถํ ปฺาปาสาโท ปฺาอาโลโก ปฺาโอภาโส ปฺาปชฺโชโต ปฺารตนํ อโมโห ธมฺมวิจโย สมฺมาทิฏฺิ. กึการณา โธนา วุจฺจติ ปฺา? ตาย ปฺาย กายทุจฺจริตํ ธุตฺจ โธตฺจ สนฺโธตฺจ นิทฺโธตฺจ; วจีทุจฺจริตํ… มโนทุจฺจริตํ ธุตฺจ โธตฺจ สนฺโธตฺจ นิทฺโธตฺจ; ราโค ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; โทโส…เป… โมโห… โกโธ… อุปนาโห… มกฺโข… ปฬาโส ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; อิสฺสา ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ; มจฺฉริยํ ธุตฺจ โธตฺจ สนฺโธตฺจ นิทฺโธตฺจ; มายา ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ; สาเยฺยํ ธุตฺจ โธตฺจ สนฺโธตฺจ นิทฺโธตฺจ; ถมฺโภ ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; สารมฺโภ… มาโน… อติมาโน… มโท… ปมาโท ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; สพฺเพ กิเลสา, สพฺเพ ทุจฺจริตา, สพฺเพ ทรถา, สพฺเพ ปริฬาหา, สพฺเพ สนฺตาปา, สพฺพากุสลาภิสงฺขารา ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ. ตํการณา โธนา วุจฺจติ ปฺา.

อถ วา สมฺมาทิฏฺิยา มิจฺฉาทิฏฺิ ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ; สมฺมาสงฺกปฺเปน มิจฺฉาสงฺกปฺโป ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; สมฺมาวาจาย มิจฺฉาวาจา ธุตา จ โธตา จ…เป… สมฺมากมฺมนฺเตน มิจฺฉากมฺมนฺโต ธุโต จ… สมฺมาอาชีเวน มิจฺฉาอาชีโว ธุโต จ… สมฺมาวายาเมน มิจฺฉาวายาโม ธุโต จ… สมฺมาสติยา มิจฺฉาสติ ธุตา จ… สมฺมาสมาธินา มิจฺฉาสมาธิ ธุโต จ โธโต จ สนฺโธโต จ นิทฺโธโต จ; สมฺมาาเณน มิจฺฉาาณํ ธุตํ จ… สมฺมาวิมุตฺติยา มิจฺฉาวิมุตฺติ ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ.

อถ วา อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สพฺเพ กิเลสา, สพฺเพ ทุจฺจริตา, สพฺเพ ทรถา, สพฺเพ ปริฬาหา, สพฺเพ สนฺตาปา, สพฺพากุสลาภิสงฺขารา ธุตา จ โธตา จ สนฺโธตา จ นิทฺโธตา จ. อรหา อิเมหิ โธเนยฺเยหิ ธมฺเมหิ อุเปโต สมุเปโต อุปคโต สมุปคโต อุปปนฺโน สมุปปนฺโน สมนฺนาคโต; ตสฺมา อรหา โธโน. โส ธุตราโค ธุตปาโป ธุตกิเลโส ธุตปริฬาโหติ – โธโน. กุหิฺจีติ กุหิฺจิ กิมฺหิจิ กตฺถจิ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา. โลเกติ อปายโลเก…เป… อายตนโลเก.

ปกปฺปิตาติ ทฺเว ปกปฺปนา – ตณฺหาปกปฺปนา จ ทิฏฺิปกปฺปนา จ…เป… อยํ ตณฺหาปกปฺปนา…เป… อยํ ทิฏฺิปกปฺปนา. ภวาภเวสูติ ภวาภเว กมฺมภเว ปุนพฺภเว กามภเว, กมฺมภเว กามภเว ปุนพฺภเว รูปภเว, กมฺมภเว รูปภเว ปุนพฺภเว อรูปภเว, กมฺมภเว อรูปภเว ปุนพฺภเว ปุนปฺปุนภเว ปุนปฺปุนคติยา ปุนปฺปุนอุปปตฺติยา ปุนปฺปุนปฏิสนฺธิยา ปุนปฺปุนอตฺตภาวาภินิพฺพตฺติยา. โธนสฺส หิ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก ปกปฺปิตา ทิฏฺิ ภวาภเวสูติ โธนสฺส กุหิฺจิ โลเก ภวาภเวสุ จ กปฺปิตา ปกปฺปิตา อภิสงฺขตา สณฺปิตา ทิฏฺิ นตฺถิ น สนฺติ น สํวิชฺชติ นุปลพฺภติ, ปหีนา สมุจฺฉินฺนา วูปสนฺตา ปฏิปสฺสทฺธา อภพฺพุปฺปตฺติกา าณคฺคินา ทฑฺฒาติ – โธนสฺส หิ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก ปกปฺปิตา ทิฏฺิ ภวาภเวสุ.

มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโนติ. มายา วุจฺจติ วฺจนิกา จริยา. อิเธกจฺโจ กาเยน ทุจฺจริตํ จริตฺวา, วาจาย ทุจฺจริตํ จริตฺวา, มนสา ทุจฺจริตํ จริตฺวา ตสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ ปาปิกํ อิจฺฉํ ปณิทหติ – ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ อิจฺฉติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ สงฺกปฺเปติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ วาจํ ภาสติ, ‘‘มา มํ ชฺา’’ติ กาเยน ปรกฺกมติ. ยา เอวรูปา มายา มายาวิตา อจฺจสรา วฺจนา นิกติ นิกิรณา ปริหรณา คูหนา ปริคูหนา ฉาทนา ปริจฺฉาทนา อนุตฺตานิกมฺมํ อนาวิกมฺมํ โวจฺฉาทนา ปาปกิริยา, อยํ วุจฺจติ มายา.

มาโนติ เอกวิเธน มาโน – ยา จิตฺตสฺส อุนฺนติ [อุณฺณติ (สฺยา. ก.)]. ทุวิเธน มาโน – อตฺตุกฺกํสนมาโน, ปรวมฺภนมาโน. ติวิเธน มาโน – ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติ มาโน, ‘‘สทิโสหมสฺมี’’ติ มาโน, ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ มาโน. จตุพฺพิเธน มาโน – ลาเภน มานํ ชเนติ, ยเสน มานํ ชเนติ, ปสํสาย มานํ ชเนติ, สุเขน มานํ ชเนติ. ปฺจวิเธน มาโน – ‘‘ลาภิมฺหิ มนาปิกานํ รูปาน’’นฺติ มานํ ชเนติ, ‘‘ลาภิมฺหิ มนาปิกานํ สทฺทานํ…เป… คนฺธานํ… รสานํ… โผฏฺพฺพาน’’นฺติ มานํ ชเนติ. ฉพฺพิเธน มาโน – จกฺขุสมฺปทาย มานํ ชเนติ, โสตสมฺปทาย… ฆานสมฺปทาย… ชิวฺหาสมฺปทาย… กายสมฺปทาย… มโนสมฺปทาย มานํ ชเนติ. สตฺตวิเธน มาโน – มาโน, อติมาโน, มานาติมาโน, โอมาโน, อธิมาโน, อสฺมิมาโน, มิจฺฉามาโน. อฏฺวิเธน มาโน – ลาเภน มานํ ชเนติ, อลาเภน โอมานํ ชเนติ, ยเสน มานํ ชเนติ, อยเสน โอมานํ ชเนติ, ปสํสาย มานํ ชเนติ, นินฺทาย โอมานํ ชเนติ, สุเขน มานํ ชเนติ, ทุกฺเขน โอมานํ ชเนติ. นววิเธน มาโน – เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, เสยฺยสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน , สทิสสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, สทิสสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส เสยฺโยหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส สทิโสหมสฺมีติ มาโน, หีนสฺส หีโนหมสฺมีติ มาโน. ทสวิเธน มาโน – อิเธกจฺโจ มานํ ชเนติ ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา วณฺณโปกฺขรตาย วา ธเนน วา อชฺเฌเนน วา กมฺมายตเนน วา สิปฺปายตเนน วา วิชฺชาฏฺาเนน วา สุเตน วา ปฏิภาเนน วา อฺตรฺตเรน วา วตฺถุนา. โย เอวรูโป มาโน มฺนา มฺิตตฺตํ อุนฺนติ อุนฺนาโม [อุณฺณโม (สฺยา. ก.)] ธโช สมฺปคฺคาโห เกตุกมฺยตา จิตฺตสฺส – อยํ วุจฺจติ มาโน. มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโนติ. โธโน มายฺจ มานฺจ ปหาย ปชหิตฺวา วิโนเทตฺวา พฺยนฺตึ กริตฺวา อนภาวํ คเมตฺวาติ – มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโน.

ส เกน คจฺเฉยฺย อนูปโย โสติ. อุปยาติ ทฺเว อุปยา – ตณฺหูปโย จ ทิฏฺูปโย จ…เป… อยํ ตณฺหูปโย…เป… อยํ ทิฏฺูปโย. ตสฺส ตณฺหูปโย ปหีโน , ทิฏฺูปโย ปฏินิสฺสฏฺโ. ตณฺหูปยสฺส ปหีนตฺตา, ทิฏฺูปยสฺส ปฏินิสฺสฏฺตฺตา อนูปโย ปุคฺคโล เกน ราเคน คจฺเฉยฺย, เกน โทเสน คจฺเฉยฺย, เกน โมเหน คจฺเฉยฺย, เกน มาเนน คจฺเฉยฺย, กาย ทิฏฺิยา คจฺเฉยฺย, เกน อุทฺธจฺเจน คจฺเฉยฺย, กาย วิจิกิจฺฉาย คจฺเฉยฺย, เกหิ อนุสเยหิ คจฺเฉยฺย – รตฺโตติ วา ทุฏฺโติ วา มูฬฺโหติ วา วินิพทฺโธติ วา ปรามฏฺโติ วา วิกฺเขปคโตติ วา อนิฏฺงฺคโตติ วา ถามคโตติ วา. เต อภิสงฺขารา ปหีนา. อภิสงฺขารานํ ปหีนตฺตา คติโย เกน คจฺเฉยฺย – เนรยิโกติ วา ติรจฺฉานโยนิโกติ วา เปตฺติวิสยิโกติ วา มนุสฺโสติ วา เทโวติ วา รูปีติ วา อรูปีติ วา สฺีติ วา อสฺีติ วา เนวสฺีนาสฺีติ วา. โส เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย นตฺถิ การณํ นตฺถิ, เยน คจฺเฉยฺยาติ – ส เกน คจฺเฉยฺย อนูปโย โส.

เตนาห ภควา –

‘‘โธนสฺส หิ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก, ปกปฺปิตา ทิฏฺิ ภวาภเวสุ;

มายฺจ มานฺจ ปหาย โธโน, ส เกน คจฺเฉยฺย อนูปโย โส’’ติ.

๒๒.

อุปโย หิ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทํ,อนูปยํ เกน กถํ วเทยฺย;

อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถิ, อโธสิ โส ทิฏฺิมิเธว สพฺพํ.

อุปโยหิ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทนฺติ. อุปยาติ ทฺเว อุปยา – ตณฺหูปโย จ ทิฏฺูปโย จ…เป… อยํ ตณฺหูปโย…เป… อยํ ทิฏฺูปโย. ตสฺส ตณฺหูปโย อปฺปหีโน, ทิฏฺูปโย อปฺปฏินิสฺสฏฺโ. ตณฺหูปยสฺส อปฺปหีนตฺตา , ทิฏฺูปยสฺส อปฺปฏินิสฺสฏฺตฺตา ธมฺเมสุ วาทํ อุเปติ – รตฺโตติ วา ทุฏฺโติ วา มูฬฺโหติ วา วินิพทฺโธติ วา ปรามฏฺโติ วา วิกฺเขปคโตติ วา อนิฏฺงฺคโตติ วา ถามคโตติ วา. เต อภิสงฺขารา อปฺปหีนา. อภิสงฺขารานํ อปฺปหีนตฺตา คติยา วาทํ อุเปติ. เนรยิโกติ วา ติรจฺฉานโยนิโกติ วา เปตฺติวิสยิโกติ วา มนุสฺโสติ วา เทโวติ วา รูปีติ วา อรูปีติ วา สฺีติ วา อสฺีติ วา เนวสฺีนาสฺีติ วา วาทํ อุเปติ อุปคจฺฉติ คณฺหาติ ปรามสติ อภินิวิสตีติ – อุปโย หิ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทํ.

อนูปยํเกน กถํ วเทยฺยาติ. อุปยาติ ทฺเว อุปยา – ตณฺหูปโย จ ทิฏฺูปโย จ…เป… อยํ ตณฺหูปโย…เป… อยํ ทิฏฺูปโย. ตสฺส ตณฺหูปโย ปหีโน, ทิฏฺูปโย ปฏินิสฺสฏฺโ. ตณฺหูปยสฺส ปหีนตฺตา, ทิฏฺูปยสฺส ปฏินิสฺสฏฺตฺตา อนูปยํ ปุคฺคลํ เกน ราเคน วเทยฺย, เกน โทเสน วเทยฺย, เกน โมเหน วเทยฺย, เกน มาเนน วเทยฺย, กาย ทิฏฺิยา วเทยฺย, เกน อุทฺธจฺเจน วเทยฺย, กาย วิจิกิจฺฉาย วเทยฺย, เกหิ อนุสเยหิ วเทยฺย – รตฺโตติ วา ทุฏฺโติ วา มูฬฺโหติ วา วินิพทฺโธติ วา ปรามฏฺโติ วา วิกฺเขปคโตติ วา อนิฏฺงฺคโตติ วา ถามคโตติ วา. เต อภิสงฺขารา ปหีนา. อภิสงฺขารานํ ปหีนตฺตา คติโย เกน วเทยฺย – เนรยิโกติ วา…เป… เนวสฺีนาสฺีติ วา. โส เหตุ นตฺถิ, ปจฺจโย นตฺถิ, การณํ นตฺถิ, เยน วเทยฺย กเถยฺย ภเณยฺย ทีปเยยฺย โวหเรยฺยาติ – อนูปยํ เกน กถํ วเทยฺย.

อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถีติ. อตฺตาติ อตฺตานุทิฏฺิ นตฺถิ. นิรตฺตาติ อุจฺเฉททิฏฺิ นตฺถิ. อตฺตาติ คหิตํ นตฺถิ. นิรตฺตาติ มุฺจิตพฺพํ นตฺถิ. ยสฺสตฺถิ คหิตํ, ตสฺสตฺถิ มุฺจิตพฺพํ; ยสฺสตฺถิ มุฺจิตพฺพํ, ตสฺสตฺถิ คหิตํ. คหณํ มุฺจนา สมติกฺกนฺโต อรหา พุทฺธิปริหานิวีติวตฺโต. โส วุฏฺวาโส จิณฺณจรโณ คตทฺโธ คตทิโส ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโวติ – อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถิ.

อโธสิโส ทิฏฺิมิเธว สพฺพนฺติ ตสฺส ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ ปหีนานิ สมุจฺฉินฺนานิ วูปสนฺตานิ ปฏิปสฺสทฺธานิ อภพฺพุปฺปตฺติกานิ าณคฺคินา ทฑฺฒานิ. โส สพฺพทิฏฺิคตํ อิเธว อโธสิ ธุนิ สนฺธุนิ นิทฺธุนิ ปชหิ วิโนเทสิ พฺยนฺตึ อกาสิ อนภาวํ คเมสีติ – อโธสิ โส ทิฏฺิมิเธว สพฺพํ.

เตนาห ภควา –

‘‘อุปโย หิ ธมฺเมสุ อุเปติ วาทํ, อนูปยํ เกน กถํ วเทยฺย;

อตฺตา นิรตฺตา น หิ ตสฺส อตฺถิ, อโธสิ โส ทิฏฺิมิเธว สพฺพ’’นฺติ.

ทุฏฺฏฺกสุตฺตนิทฺเทโส ตติโย.