📜

ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทโส

ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑. ปมวคฺควณฺณนา

๑๒๑. อิโต ปรํ ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนาย โอกาโส อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ ‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑ’’นฺติ อิโต ปรํ อติเรกปทมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ตตฺถ สพฺเพสูติ อนวเสเสสุ. ภูเตสูติ สตฺเตสุ. เอตฺถ ภูเตสูติ กิฺจาปิ ภูตสทฺโท ‘‘ภูตสฺมึ ปาจิตฺติย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ปาจิ. ๖๙) วิชฺชมาเน, ‘‘ภูตมิทํ, สาริปุตฺต, สมนุปสฺสสี’’ติ เอวมาทีสุ ขนฺธปฺจเก, ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขุ, มหาภูตา เหตู’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๓.๘๖) จตุพฺพิเธ ปถวีธาตฺวาทิรูเป, ‘‘โย จ กาลฆโส ภูโต’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๑.๒.๑๙๐) ขีณาสเว, ‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสย’’นฺติ เอวมาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๒๐) สพฺพสตฺเต, ‘‘ภูตคามปาตพฺยตายา’’ติ เอวมาทีสุ (ปาจิ. ๙๐) รุกฺขาทิเก, ‘‘ภูตํ ภูตโต ปชานาตี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓) จาตุมหาราชิกานํ เหฏฺา สตฺตนิกายํ อุปาทาย วตฺตติ. อิธ ปน อวิเสสโต ปถวีปพฺพตาทีสุ ชาตา สตฺตา ภูตาติ เวทิตพฺพา. เตสุ ภูเตสุ. นิธายาติ นิกฺขิปิตฺวา.

ทณฺฑนฺติ กายวจีมโนทณฺฑํ, กายทุจฺจริตาทีนเมตํ อธิวจนํ. กายทุจฺจริตฺหิ ทณฺฑยตีติ ทณฺโฑ, พาเธติ อนยพฺยสนํ ปาเปตีติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ วจีทุจฺจริตฺจ มโนทุจฺจริตฺจ. ปหรณทณฺโฑ เอว วา ทณฺโฑ, ตํ นิธายาติปิ วุตฺตํ โหติ. อวิเหยนฺติ อวิเหยนฺโต. อฺตรมฺปีติ ยํ กิฺจิ เอกมฺปิ. เตสมฺปีติ เตสํ สพฺพภูตานํ. น ปุตฺตมิจฺเฉยฺยาติ อตฺรโช เขตฺตโช ทินฺนโก อนฺเตวาสิโกติ อิเมสุ จตูสุ ปุตฺเตสุ ยํ กิฺจิ ปุตฺตํ น อิจฺเฉยฺย. กุโต สหายนฺติ สหายํ ปน อิจฺเฉยฺยาติ กุโต เอว เอตํ.

เอโกติ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน เอโก, อทุติยฏฺเน เอโก, ตณฺหาปหานฏฺเน เอโก, เอกนฺตวิคตกิเลโสติ เอโก, เอโก ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอโก. สมณสหสฺสสฺสปิ หิ มชฺเฌ วตฺตมาโน คิหิสฺโชนสฺส ฉินฺนตฺตา เอโก, เอวํ ปพฺพชฺชาสงฺขาเตน เอโก . เอโก ติฏฺติ, เอโก คจฺฉติ, เอโก นิสีทติ, เอโก เสยฺยํ กปฺเปติ, เอโก อิริยติ วตฺตตีติ เอโก. เอวํ อทุติยฏฺเน เอโก.

‘‘ตณฺหาทุติโย ปุริโส, ทีฆมทฺธาน สํสรํ;

อิตฺถภาวฺถาภาวํ, สํสารํ นาติวตฺตติ.

‘‘เอวมาทีนวํ ตฺวา, ตณฺหํ ทุกฺขสฺส สมฺภวํ;

วีตตณฺโห อนาทาโน, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ. (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส ๑๐๗) –

เอวํ ตณฺหาปหานฏฺเน เอโก. สพฺพกิเลสาสฺส ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายตึ อนุปฺปาทธมฺมาติ เอวํ เอกนฺตวิคตกิเลโสติ เอโก. อนาจริยโก หุตฺวา สยมฺภู สามฺเว ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอวํ เอโก ปจฺเจกสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธติ เอโก.

จเรติ ยา อิมา อฏฺ จริยาโย. เสยฺยถิทํ – ยา ปณิธิสมฺปนฺนานํ จตูสุ อิริยาปเถสุ อิริยาปถจริยา, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารานํ อชฺฌตฺติกายตเนสุ อายตนจริยา, อปฺปมาทวิหารีนํ จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สติจริยา, อธิจิตฺตมนุยุตฺตานํ จตูสุ ฌาเนสุ สมาธิจริยา, พุทฺธิสมฺปนฺนานํ จตูสุ อริยสจฺเจสุ าณจริยา, สมฺมา ปฏิปนฺนานํ จตูสุ อริยมคฺเคสุ มคฺคจริยา, อธิคตผลานํ จตูสุ สามฺผเลสุ ปฏิปตฺติจริยา, ติณฺณํ พุทฺธานํ สพฺพสตฺเตสุ โลกตฺถจริยา, ตตฺถ ปเทสโต ปจฺเจกพุทฺธสาวกานนฺติ. ยถาห – ‘‘จริยาติ อฏฺ จริยาโย ยา อิริยาปถจริยา’’ติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑; ปฏิ. ม. ๑.๑๙๗; ๓.๒๘) วิตฺถาโร. ตาหิ จริยาหิ สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อถ วา ยา อิมา ‘‘อธิมุจฺจนฺโต สทฺธาย จรติ, ปคฺคณฺหนฺโต วีริเยน จรติ, อุปฏฺหนฺโต สติยา จรติ, อวิกฺขิตฺโต สมาธินา จรติ, ปชานนฺโต ปฺาย จรติ, วิชานนฺโต วิฺาเณน จรติ, เอวํ ปฏิปนฺนสฺส กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ อายตนจริยาย จรติ, เอวํ ปฏิปนฺโน วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิเสสจริยาย จรตี’’ติ (จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๑; ปฏิ. ม. ๑.๑๙๗; ๓.๒๙) เอวํ อปราปิ อฏฺ จริยา วุตฺตา. ตาหิ สมนฺนาคโต ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ขคฺควิสาณกปฺโปติ ขคฺควิสาโณ นาม ขคฺคมิคสิงฺคํ.

กปฺป -สทฺโท ปนายํ อภิสทฺทหนโวหารกาลปฺตฺติจฺเฉทวิกปฺปเลสสมนฺตภาวสทิสาทิอเนกตฺโถ. ตถา หิสฺส ‘‘โอกปฺปนียเมตํ โภโต โคตมสฺส. ยถา ตํ อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) อภิสทฺทหนตฺโถ. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหิ สมณกปฺเปหิ ผลํ ปริภุฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๒๕๐) โวหาโร. ‘‘เยน สุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) กาโล. ‘‘อิจฺจายสฺมา กปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (สุ. นิ. ๑๐๙๘; จูฬนิ. กปฺปมาณวปุจฺฉา ๑๑๗, กปฺปมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๑) ปฺตฺติ. ‘‘อลงฺกโต กปฺปิตเกสมสฺสู’’ติ เอวมาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๓๖๘) เฉทนํ. ‘‘กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโป’’ติ เอวมาทีสุ (จูฬว. ๔๔๖) วิกปฺโป. ‘‘อตฺถิ กปฺโป นิปชฺชิตุ’’นฺติ เอวมาทีสุ (อ. นิ. ๘.๘๐) เลโส. ‘‘เกวลกปฺปํ เวฬุวนํ โอภาเสตฺวา’’ติ เอวมาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๙๔) สมนฺตภาโว. ‘‘สตฺถุกปฺเปน วต กิร, โภ, สาวเกน สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺหา’’ติ เอวมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๖๐) สทิโส, ปฏิภาโคติ อตฺโถ. อิธ ปนสฺส สทิโส ปฏิภาโคติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ขคฺควิสาณสทิโสติ วุตฺตํ โหติ. อยํ ตาเวตฺถ ปทโต อตฺถวณฺณนา.

อธิปฺปายานุสนฺธิโต ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – ยฺวายํ วุตฺตปฺปกาโร ทณฺโฑ ภูเตสุ ปวตฺติยมาโน อหิโต โหติ, ตํ เตสุ อปฺปวตฺติยมาเนสุ ตปฺปฏิปกฺขภูตาย เมตฺตาย หิตูปสํหาเรน จ สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ, นิหิตทณฺฑตฺตา เอว จ ยถา อนิหิตทณฺฑา สตฺตา ภูตานิ ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา วิเหเนฺติ, ตถา อวิเหยํ, อฺตรมฺปิ เตสํ อิมํ เมตฺตากมฺมฏฺานมาคมฺม ยเทว ตตฺถ เวทนาคตํ สฺาสงฺขารวิฺาณคตํ ตฺจ ตทนุสาเรเนว ตทฺฺจ สงฺขารคตํ วิปสฺสิตฺวา อิมํ ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหี’’ติ อยํ ตาว อธิปฺปาโย.

อยํ ปน อนุสนฺธิ – เอวํ วุตฺเต เต อมจฺจา อาหํสุ – ‘‘อิทานิ, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉถา’’ติ? ตโต เตน ‘‘ปุพฺพปจฺเจกสมฺพุทฺธา กตฺถ วสนฺตี’’ติ อาวชฺเชตฺวา ตฺวา ‘‘คนฺธมาทนปพฺพเต’’ติ วุตฺเต ปุนาหํสุ – ‘‘อมฺเห ทานิ, ภนฺเต, ปชหถ, น อิจฺฉถา’’ติ. อถ ปจฺเจกพุทฺโธ อาห – ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺยา’’ติ สพฺพํ. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – อหํ อิทานิ อตฺรชาทีสุ ยํ กิฺจิ ปุตฺตมฺปิ น อิจฺเฉยฺยํ, กุโต ปน ตุมฺหาทิสํ สหายํ. ตสฺมา ตุมฺเหสุปิ โย มยา สทฺธึ คนฺตุกาโม มาทิโส วา โหตุํ อิจฺฉติ, โส เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป. อถ วา เตหิ ‘‘อมฺเห ทานิ, ภนฺเต, ปชหถ, น อิจฺฉถา’’ติ วุตฺเต โส ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺย, กุโต สหาย’’นฺติ วตฺวา อตฺตโน ยถาวุตฺเตนฏฺเน เอกจริยาย คุณํ ทิสฺวา ปมุทิโต ปีติโสมนสฺสชาโต อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๕).

ตตฺถ ตสาติ วิปาสกิริยา. ถาวราติ ขีณาสวา. ภยเภรวาติ ขุทฺทานุขุทฺทกา จิตฺตุตฺราสา. นิธายาติ ฉฑฺเฑตฺวา. นิทหิตฺวาติ เปตฺวา. โอโรปยิตฺวาติ อโธกริตฺวา. สโมโรปยิตฺวาติ อโธคตํ วิสฺสชฺเชตฺวา. นิกฺขิปิตฺวาติ ตโต อปเนตฺวา. ปฏิปฺปสฺสมฺภิตฺวาติ สนฺนิสีทาเปตฺวา.

อาลปนนฺติ อาทิโต ลปนํ. สลฺลปนนฺติ สมฺมา ลปนํ. อุลฺลปนนฺติ อุทฺธํ กตฺวา ลปนํ. สมุลฺลปนนฺติ ปุนปฺปุนํ อุทฺธํ กตฺวา ลปนํ.

อิริยาปถจริยาติ อิริยาปถานํ จริยา, ปวตฺตนนฺติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อายตนจริยา ปน อายตเนสุ สติสมฺปชฺานํ จริยา. ปตฺตีติ ผลานิ. ตานิ หิ ปาปุณียนฺตีติ ‘‘ปตฺตี’’ติ วุตฺตานิ. สตฺตโลกสฺส ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกา อตฺถา โลกตฺถาติ อยํ วิเสโส.

อิทานิ ตาสํ จริยานํ ภูมึ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตูสุ อิริยาปเถสู’’ติอาทิมาห . สติปฏฺาเนสูติ อารมฺมณสติปฏฺาเนสุปิ วุจฺจมาเนสุ สติโต อนฺานิ, โวหารวเสน ปน อฺานิ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อริยสจฺเจสูติ ปุพฺพภาเค โลกิยสจฺจาเณน วิสุํ วิสุํ สจฺจปริคฺคหวเสน วุตฺตํ. อริยมคฺเคสุ สามฺผเลสูติ จ โวหารวเสเนว วุตฺตํ. ปเทสโตติ โลกตฺถจริยาย เอกเทเส. นิปฺปเทสโต หิ โลกตฺถจริยํ พุทฺธา เอว กโรนฺติ. ปุน ตา เอว จริยาโย การกปุคฺคลวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘ปณิธิสมฺปนฺนาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปณิธิสมฺปนฺนา นาม อิริยาปถานํ สนฺตตฺตา อิริยาปถาว ิติยา สมฺปนฺนา อกมฺปิตอิริยาปถา ภิกฺขุภาวานุรูเปน สนฺเตน อิริยาปเถน สมฺปนฺนา.

อินฺทฺริเยสุคุตฺตทฺวารานนฺติ จกฺขาทีสุ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อตฺตโน อตฺตโน วิสเย ปวตฺตํ เอเกกทฺวารวเสน คุตฺตํ ทฺวารํ เอเตสนฺติ คุตฺตทฺวารา, เตสํ คุตฺตทฺวารานํ. ทฺวารนฺติ เจตฺถ อุปฺปตฺติทฺวารวเสน จกฺขาทโย เอว. อปฺปมาทวิหารีนนฺติ สีลาทีสุ อปฺปมาทวิหารวตํ. อธิจิตฺตมนุยุตฺตานนฺติ วิปสฺสนาย ปาทกภาเวน อธิจิตฺตสงฺขาตํ สมาธึ อนุยุตฺตานํ. พุทฺธิสมฺปนฺนานนฺติ นามรูปววตฺถานํ อาทึ กตฺวา ยาว โคตฺรภุ, ตาว ปวตฺเตน าเณน สมฺปนฺนานํ . สมฺมา ปฏิปนฺนานนฺติ จตุมคฺคกฺขเณ. อธิคตผลานนฺติ จตุผลกฺขเณ. ตถาคตานนฺติ ตถา อาคตานํ. อรหนฺตานนฺติ ทูรกิเลสานํ. สมฺมาสมฺพุทฺธานนฺติ สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมพุทฺธานํ. อิเมสํ ปทานํ อตฺโถ เหฏฺา ปกาสิโต เอว.

ปเทสโต ปจฺเจกพุทฺธานนฺติ ปจฺเจกสมฺพุทฺธานํ เอกเทสโต. สาวกานนฺติ สาวกานมฺปิ เอกเทสโต. อธิมุจฺจนฺโตติ อธิโมกฺขํ กโรนฺโต. สทฺธาย จรตีติ สทฺธาวเสน ปวตฺตติ. ปคฺคณฺหนฺโตติ จตุสมฺมปฺปธานวีริเยน ปทหนฺโต. อุปฏฺเปนฺโตติ สติยา อารมฺมณํ อุปฏฺเปนฺโต. อวิกฺเขปํ กโรนฺโตติ สมาธิวเสน วิกฺเขปํ อกโรนฺโต. ปชานนฺโตติ จตุสจฺจชานนปฺาย ปกาเรน ชานนฺโต. วิชานนฺโตติ อินฺทฺริยสมฺปยุตฺตชวนปุพฺพงฺคเมน อาวชฺชนวิฺาเณน อารมฺมณํ วิชานนฺโต. วิฺาณจริยายาติ อาวชฺชนวิฺาณจริยาวเสน. เอวํ ปฏิปนฺนสฺสาติ สหาวชฺชนาย อินฺทฺริยจริยาย ปฏิปนฺนสฺส. กุสลา ธมฺมา อายาเปนฺตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตา กุสลา ธมฺมา ภุสํ ยาเปนฺติ, ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อายตนจริยายาติ กุสลานํ ธมฺมานํ ภุสํ ยตนจริยาย, ปวตฺตนจริยายาติ วุตฺตํ โหติ. วิเสสมธิคจฺฉตีติ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวเสน วิเสสํ อธิคจฺฉติ.

ทสฺสนจริยา จ สมฺมาทิฏฺิยาติอาทีสุ สมฺมา ปสฺสติ, สมฺมา วา ตาย ปสฺสนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา ทิฏฺีติ สมฺมาทิฏฺิ, ตสฺสา สมฺมาทิฏฺิยา นิพฺพานปจฺจกฺขกรเณน ทสฺสนจริยา. สมฺมา สงฺกปฺเปติ, สมฺมา วา เตน สงฺกปฺเปนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา สงฺกปฺโปติ สมฺมาสงฺกปฺโป. ตสฺส อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนจริยา. สมฺมา วทติ, สมฺมา วา ตาย วทนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา วาจาติ สมฺมาวาจา, มิจฺฉาวาจาวิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺสา จตุพฺพิธวจีสํวรปริคฺคหจริยา. สมฺมา กโรติ, สมฺมา วา เตน กโรนฺติ, ปสฏฺํ สุนฺทรํ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมํ, สมฺมากมฺมเมว สมฺมากมฺมนฺโต, มิจฺฉากมฺมนฺตวิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺส ติวิธกายสํวรสมุฏฺานจริยา. สมฺมา อาชีวติ, สมฺมา วา เตน อาชีวนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา อาชีโวติ สมฺมาอาชีโว, มิจฺฉาอาชีววิรติยา เอตํ นามํ. ตสฺส โวทานจริยา ปริสุทฺธจริยา. สมฺมา วายมติ, สมฺมา วา เตน วายมนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา วายาโมติ สมฺมาวายาโม, ตสฺส ปคฺคหจริยา. สมฺมา สรติ, สมฺมา วา ตาย สรนฺติ, ปสฏฺา สุนฺทรา วา สตีติ สมฺมาสติ, ตสฺสา อุปฏฺานจริยา. สมฺมา สมาธิยติ, สมฺมา วา เตน สมาธิยนฺติ, ปสฏฺโ สุนฺทโร วา สมาธีติ สมฺมาสมาธิ, ตสฺส อวิกฺเขปจริยา.

ตกฺกปฺโปติ เตน กปฺโป, เอวรูโปติ อตฺโถ. ตสฺสทิโสติ เตน สทิโส, ‘‘ตสฺสทิโก’’ติ วา ปาโ. ตปฺปฏิภาโคติ เตน ปฏิภาโค ตปฺปฏิภาโค, เอทิโสติ อตฺโถ. สาทุรสํ อติกฺกนฺตํ โลณํ อติโลณํ. โลณกปฺโปติ โลณสทิโสติ วุจฺจติ. อติติตฺตกนฺติ อติกฺกนฺตติตฺตกํ, ปุจิมนฺทาทิกปฺโป ติตฺตกสทิโสติ วุจฺจติ. อติมธุรนฺติ ขีรปายาสาทิกํ. หิมกปฺโปติ หิโมทกสทิโส. สตฺถุกปฺโปติ สตฺถุนา พุทฺเธน สทิโส. เอวเมวาติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนํ.

ตตฺรายํ เอตสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส สงฺเขเปน วิปสฺสนาอาจิกฺขนวิธึ ทสฺเสตฺวา คมิสฺสาม. ตตฺถ นามรูปปริคฺคหํ กาตุกาโม ปจฺเจกโพธิสตฺโต รูปารูปอฏฺสมาปตฺตีสุ ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ จ ตํสมฺปยุตฺเต จ ผสฺสาทโย ธมฺเม ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานวเสน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพมฺเปตํ อารมฺมณาภิมุขํ นมนโต นมนฏฺเน นาม’’นฺติ ววตฺถเปติ. ตโต ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสนฺโต ‘‘หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตตี’’ติ ปสฺสติ. ปุน วตฺถุสฺส ปจฺจยภูตานิ จ อุปาทารูปานิ จ ปสฺสิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปริคฺคณฺหาติ. ปุน ตทุภยํ ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺติ เอวํ สงฺเขปโต นามรูปํ ววตฺถเปติ. สมถยานิกวเสเนตํ วุตฺตํ. วิปสฺสนายานิโก ปน จตุธาตุววตฺถานมุเขน ภูตุปาทายรูปานิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘สพฺพมฺเปตํ รุปฺปนโต รูป’’นฺติ ปสฺสติ. ตโต เอวํ ปริจฺฉินฺนรูปสฺส จกฺขาทีนิ นิสฺสาย ปวตฺตมานา อรูปธมฺมา อาปาถมาคจฺฉนฺติ. ตโต สพฺเพปิ เต อรูปธมฺเม นมนลกฺขเณน เอกโต กตฺวา ‘‘อิทํ นาม’’นฺติ ปสฺสติ, โส ‘‘อิทํ นามํ, อิทํ รูป’’นฺติ ทฺเวธา ววตฺถเปติ. เอวํ ววตฺถเปตฺวา ‘‘นามรูปโต อุทฺธํ อฺโ สตฺโต วา ปุคฺคโล วา เทโว วา พฺรหฺมา วา นตฺถี’’ติ ปสฺสติ.

ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;

เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺมุติ. (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; มิ. ป. ๒.๑.๑; กถา. ๒๓๓);

เอวเมว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ สนฺเตสุ ‘‘สตฺโต ปุคฺคโล’’ติ โวหารมตฺตํ โหตีติ เอวมาทินา นเยน นามรูปานํ ยาถาวทสฺสนสงฺขาเตน ทิฏฺิวิสุทฺธิภูเตน าเณน นามรูปํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ตสฺส ปจฺจยมฺปิ ปริคฺคณฺหนฺโต วุตฺตนเยน นามรูปํ ปริคฺคเหตฺวา ‘‘โก นุ โข อิมสฺส เหตู’’ติ ปริเยสนฺโต อเหตุวาทวิสมเหตุวาเทสุ โทสํ ทิสฺวา โรคํ ทิสฺวา ตสฺส นิทานํ สมุฏฺานมฺปิ ปริเยสนฺโต เวชฺโช วิย ตสฺส เหตุฺจ ปจฺจยฺจ ปริเยสนฺโต อวิชฺชา ตณฺหา อุปาทานํ กมฺมนฺติ อิเม จตฺตาโร ธมฺเม นามรูปสฺส อุปฺปาทปจฺจยตฺตา ‘‘เหตู’’ติ . อาหารํ อุปตฺถมฺภนปจฺจยตฺตา ‘‘ปจฺจโย’’ติ จ ปสฺสติ. อิมสฺส หิ กายสฺส อวิชฺชาทโย ตโย ธมฺมา มาตา วิย ทารกสฺส อุปนิสฺสยา โหนฺติ, กมฺมํ ปิตา วิย ปุตฺตสฺส ชนกํ, อาหาโร ธาติ วิย ทารกสฺส สนฺธารโกติ. เอวํ รูปกายสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กตฺวา ปุน ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕) นเยน นามกายสฺสปิ ปจฺจยํ ปริคฺคณฺหาติ, เอวํ ปริคฺคณฺหนฺโต ‘‘อตีตานาคตาปิ ธมฺมา เอวเมว วตฺตนฺตี’’ติ สนฺนิฏฺานํ กโรติ.

ตสฺส ยา สา ปุพฺพนฺตํ อารพฺภ ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธานํ, น นุ โข อโหสึ, กึ นุ โข, กถํ นุ โข, กึ หุตฺวา กึ อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติ ปฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา.

ยาปิ อปรนฺตํ อารพฺภ ‘‘ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธานํ, น นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ นุ โข ภวิสฺสามิ, กถํ นุ โข ภวิสฺสามิ, กึ หุตฺวา กึ ภวิสฺสามิ นุ โข อหํ อนาคตมทฺธาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ปฺจวิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา.

ยาปิ เอตรหิ วา ปน ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํกถี โหติ ‘‘อหํ นุ โขสฺมิ, โน นุ โขสฺมิ, กึ นุ โขสฺมิ, กถํ นุ โขสฺมิ, อยํ นุ โข สตฺโต กุโต อาคโต, โส กุหึ คามี ภวิสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) ฉพฺพิธา วิจิกิจฺฉา วุตฺตา, สา สพฺพาปิ ปหิยฺยติ. เอวํ ปจฺจยปริคฺคหเณน ตีสุ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตริตฺวา ิตํ าณํ ‘‘กงฺขาวิตรณวิสุทฺธี’’ติปิ ‘‘ธมฺมฏฺิติาณ’’นฺติปิ ‘‘ยถาภูตาณ’’นฺติปิ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติปิ วุจฺจติ.

เอตฺถ ปน ติสฺโส หิ โลกิยปริฺา าตปริฺา ตีรณปริฺา ปหานปริฺาติ. ตตฺถ ‘‘รุปฺปนลกฺขณํ รูปํ, เวทยิตลกฺขณา เวทนา’’ติ เอวํ เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺตา ปฺา าตปริฺา นาม. ‘‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา’’ติอาทินา ปน นเยน เตสํเยว ธมฺมานํ สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาปฺา ตีรณปริฺา นาม. เตสุ เอว ปน ธมฺเมสุ นิจฺจสฺาทิปชหนวเสน ปวตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาว ปฺา ปหานปริฺา นาม.

ตตฺถ สงฺขารปริจฺเฉทโต ปฏฺาย ยาว ปจฺจยปริคฺคหา าตปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ธมฺมานํ ปจฺจตฺตลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย ยาว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ตีรณปริฺาย ภูมิ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร สามฺลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจํ โหติ. ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย อุปริ ปหานปริฺาย ภูมิ. ตโต จ ปฏฺาย หิ อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ, ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ, นิพฺพินฺทนฺโต นนฺทึ, วิรชฺชนฺโต ราคํ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ, ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหตีติ เอวํ นิจฺจสฺาทิปหานสาธิกานํ สตฺตนฺนํ อนุปสฺสนานํ อาธิปจฺจํ. อิติ อิมาสุ ตีสุ ปริฺาสุ สงฺขารปริจฺเฉทสฺส เจว ปจฺจยปริคฺคหสฺส จ สาธิตตฺตา อิมินา โยคินา าตปริฺาว อธิคตา.

ปุน ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา…เป… ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ รูปํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา. ยา กาจิ เวทนา… สฺา… เย เกจิ สงฺขารา … ยํ กิฺจิ วิฺาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิฺาณํ หุตฺวา อภาวโต อนิจฺจํ, อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขํ, อวสวตฺติตฺตา อนตฺตา’’ติ เอวมาทินา (สํ. นิ. ๓.๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๔๘) นเยน กลาปสมฺมสนํ กโรติ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา’’ติ.

เอวํ สงฺขาเร อนิจฺจทุกฺขานตฺตวเสน กลาปสมฺมสนํ กตฺวา ปุน สงฺขารานํ อุทยพฺพยเมว ปสฺสติ. กถํ ? ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, ตณฺหากมฺมอาหารสมุทยา รูปสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐). เอวํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจยายตฺตตาทสฺสเนน รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. เอวํ ปฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ, ตณฺหากมฺมอาหารนิโรธา รูปนิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยนิโรธทสฺสเนน รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสตีติ เอวํ ปฺจหากาเรหิ รูปกฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ.

ตถา ‘‘อวิชฺชาสมุทยา เวทนาสมุทโย, ตณฺหากมฺมผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยายตฺตตาทสฺสเนน เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ, นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส อุทยํ ปสฺสติ. ‘‘อวิชฺชานิโรธา เวทนานิโรโธ, ตณฺหากมฺมผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) ปจฺจยนิโรธทสฺสเนน เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ, วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ เวทนากฺขนฺธสฺส วยํ ปสฺสติ. เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ.

อยํ ปน วิเสโส – วิฺาณกฺขนฺธสฺส ผสฺสฏฺาเน ‘‘นามรูปสมุทยา, นามรูปนิโรธา’’ติ โยเชตพฺพํ. เอวํ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปจฺจยสมุทยวเสน จ นิพฺพตฺติลกฺขณวเสน จ ปจฺจยนิโรธวเสน จ วิปริณามลกฺขณวเสน จ อุทยพฺพยทสฺสเนน จ ทส ทส กตฺวา ปฺาส ลกฺขณานิ วุตฺตานิ. เตสํ วเสน ‘‘เอวมฺปิ รูปสฺส อุทโย, เอวมฺปิ รูปสฺส วโย’’ติ ปจฺจยโต เจว ขณโต จ วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรติ.

ตสฺเสวํ กโรโต ‘‘อิติ กิร อิเม ธมฺมา อหุตฺวา สมฺโภนฺติ, หุตฺวา ปฏิเวนฺตี’’ติ าณํ วิสทํ โหติ. ‘‘เอวํ กิร อิเม ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺตี’’ติ นิจฺจนวา หุตฺวา สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. น เกวลฺจ นิจฺจนวา, สูริยุคฺคมเน อุสฺสาวพินฺทุ วิย อุทกพุพฺพุโฬ วิย อุทเก ทณฺฑราชิ วิย อารคฺเค สาสโป วิย วิชฺชุปฺปาโท วิย จ ปริตฺตฏฺายิโน, มายามรีจิสุปินาลาตจกฺกคนฺธพฺพนครเผณกทลิอาทโย วิย อสารา นิสฺสารา วิย หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตฺตาวตา จ ปน อเนน ‘‘วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนฺจ วยํ อุเปตี’’ติ อิมินา อากาเรน สมฺมสนปฺาย ลกฺขณานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนํ นาม ปมํ ตรุณวิปสฺสนาาณํ อธิคตํ โหติ. ยสฺสาธิคมา ‘‘อารทฺธวิปสฺสโก’’ติ สงฺขํ คจฺฉติ.

อถสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส กุลปุตฺตสฺส โอภาโส าณํ ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺตีติ ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺถ โอภาโส นาม วิปสฺสนกฺขเณ าณสฺส พลวตฺตา โลหิตํ สนฺนิสีทติ, เตน จ จิตฺโตภาโส นิพฺพตฺตติ. ตํ ทิสฺวา อกุสโล โยคี ‘‘มคฺโค เม ปตฺโต’’ติ ตเมว โอภาสํ อสฺสาเทติ. าณมฺปิ วิปสฺสนาาณเมว. ตํ สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส สุทฺธํ ปสนฺนํ หุตฺวา ปวตฺตติ. ตํ ทิสฺวา ปุพฺเพ วิย ‘‘มคฺโค’’ติ อสฺสาเทติ. ปีติปิ วิปสฺสนาปีติ เอว. ตสฺส หิ ตสฺมึ ขเณ ปฺจวิธา ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธีติ วิปสฺสนาปสฺสทฺธิ. ตสฺมึ สมเย เนว กายจิตฺตานํ ทรโถ, น คารวํ, น กกฺขฬตา, น อกมฺมฺตา, น เคลฺตา, น วงฺกตา โหติ. สุขมฺปิ วิปสฺสนาสุขเมว. ตสฺส กิร ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ อติปณีตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ.

อธิโมกฺโข นาม วิปสฺสนกฺขเณ ปวตฺตา สทฺธา. ตสฺมิฺหิ ขเณ จิตฺตเจตสิกานํ อติวิย ปสาทภูตา พลวตี สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห นาม วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ. ตสฺมิฺหิ ขเณ อสิถิลํ อนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานนฺติ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ. ตสฺมิฺหิ ขเณ สุปฏฺิตา สติ อุปฺปชฺชติ. อุเปกฺขา ทุวิธา วิปสฺสนาวชฺชนวเสน. ตสฺมิฺหิ ขเณ สพฺพสงฺขารคหเณ มชฺฌตฺตภูตํ วิปสฺสนุเปกฺขาสงฺขาตํ าณํ พลวนฺตํ หุตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนุเปกฺขา จ. สา จ ตํ ตํ านํ อาวชฺชนฺตสฺส สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ. นิกนฺตีติ วิปสฺสนานิกนฺติ. โอภาสาทีสุ หิ อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ. เอตฺถ โอภาสาทโย กิเลสวตฺถุตาย ‘‘อุปกฺกิเลสา’’ติ วุตฺตา น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว กิเลสวตฺถุ จ.

ปณฺฑิโต ปน ภิกฺขุ โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ วิกฺเขปํ อคจฺฉนฺโต ‘‘โอภาสาทโย ธมฺมา น มคฺโค, อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน วีถิปฏิปนฺนํ วิปสฺสนาาณํ มคฺโค’’ติ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ววตฺถเปติ. ตสฺเสวํ ‘‘อยํ มคฺโค, อยํ น มคฺโค’’ติ ตฺวา ิตํ าณํ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุจฺจติ. อิโต ปฏฺาย อฏฺนฺนํ วิปสฺสนาาณานํ วเสน สิขาปตฺตวิปสฺสนาาณํ นวมฺจ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ อยํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม โหติ. อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อิมานิ อฏฺ าณานิ นาม. นวมํ สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ อนุโลมสฺเสตํ นามํ.

ตสฺมา ตํ สมฺปาเทตุกาเมน อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยาณํ อาทึกตฺวา เอเตสุ าเณสุ โยโค กรณีโย. อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺส หิ อนิจฺจลกฺขณํ ยถาภูตํ อุปฏฺาติ, อุทยพฺพยปฏิปีฬนํ ปสฺสโต ทุกฺขลกฺขณฺจ, ‘‘ทุกฺขเมว หิ สมฺโภติ, ทุกฺขํ ติฏฺติ เวติ จา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๑; กถา. ๒๓๓) ปสฺสโต อนตฺตลกฺขณฺจ.

เอตฺถ จ อนิจฺจํ อนิจฺจลกฺขณํ ทุกฺขํ ทุกฺขลกฺขณํ อนตฺตา อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา, หุตฺวา อภาวโต วา. อฺถตฺตํ นาม ชรา. อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ, หุตฺวา อภาวสงฺขาโต วา อาการวิกาโร. ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหํ ปฏิปีฬนโต. อภิณฺหํ ปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ. ‘‘ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕-๑๖) วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต . อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ. อิมานิ ตีณิปิ ลกฺขณานิ อุทยพฺพยํ ปสฺสนฺตสฺเสว อารมฺมณานิ โหนฺติ.

ปุนปิ โส รูปารูปธมฺเม ‘‘เอวํ อนิจฺจา’’ติอาทินา วิปสฺสติ, ตสฺส สงฺขารา ลหุํ ลหุํ อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ, ตโต อุปฺปาทํ วา ิตึ วา ปวตฺตํ วา นิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ อกตฺวา เตสํ ขยวยนิโรเธ เอว สติ สนฺติฏฺติ, อิทํ ภงฺคาณํ นาม. อิมสฺส อุปฺปาทโต ปฏฺาย อยํ โยคี ‘‘ยถา อิเม สงฺขารา ภิชฺชนฺติ นิรุชฺฌนฺติ, เอวํ อตีเตปิ สงฺขารคตํ ภิชฺชิ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสตี’’ติ นิโรธเมว ปสฺสนฺโต ติฏฺติ. ตสฺส ภงฺคานุปสฺสนาาณํ อาเสวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิ คติฏฺิติ สตฺตาวาเสสุ ปเภทกา สงฺขารา ชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เอตํ ภยตุปฏฺานาณํ นาม.

ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส สพฺเพ ภวาทโย อาทิตฺตองฺคารํ วิย สมุสฺสิตขคฺโค วิย ปจฺจตฺถิโก อปฺปฏิสรณา สาทีนวา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. อิทํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นาม. ตสฺส เอวํ สงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺตสฺส ภวาทีสุปิ สงฺขารานํ อาทีนวตฺตา สงฺขาเรสุ อุกฺกณฺนา อนภิรติ อุปฺปชฺชติ, อิทํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ นาม.

สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺนฺตสฺส ตสฺมา สงฺขารคตา มุฺจิตุกามตา นิสฺสริตุกามตา โหติ. อิทํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ นาม. ปุน ตสฺมา สงฺขารคตา มุฺจิตุํ ปน เต เอว สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ตีรณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นาม.

โส เอวํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต เตสุ อนตฺตลกฺขณสฺส สุทิฏฺตฺตา ‘‘อตฺตา’’ติ วา ‘‘อตฺตนิย’’นฺติ วา อคณฺหนฺโต สงฺขาเรสุ ภยฺจ นนฺทิฺจ ปหาย สงฺขาเรสุ อุทาสีโน โหติ มชฺฌตฺโต, ‘‘อห’’นฺติ วา ‘‘มม’’นฺติ วา น คณฺหาติ, ตีสุ ภเวสุ อุเปกฺขโก, อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม.

ตํ ปเนส เจ สนฺติปทํ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, สพฺพสงฺขารปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานนินฺนํ ปกฺขนฺทํ โหติ. โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วา ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา ติวิธานุปสฺสนาวเสน สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติ. เอวํ ติฏฺมานฺจ เอตํ ติวิธวิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ. ติสฺโส หิ อนุปสฺสนา ‘‘ตีณิ วิโมกฺขมุขานี’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวํ อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ, ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ, อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล สุฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ.

เอตฺถ จ อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค. โส หิ อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต, กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโต, สุฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต สุฺโตติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ อธิคตสงฺขารุเปกฺขสฺส กุลปุตฺตสฺส วิปสฺสนา สิขาปฺปตฺตา โหติ. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาติ เอตเทว. อสฺส ตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อาเสวนฺตสฺส ติกฺขตรา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ‘‘อิทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ สงฺขาเร ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุเปกฺขาย กถิตนเยเนว อนิจฺจาทิอากาเรน มนสิกริตฺวา อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, ตเถว มนสิกโรโต ปมํ ชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยํ ปริกมฺมนฺติ วุจฺจติ, ตทนนฺตรํ ตเทว ทุติยชวนจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยํ อุปจารนฺติ วุจฺจติ, ตทนนฺตรมฺปิ ตเทว อุปฺปชฺชติ ตติยํ ชวนจิตฺตํ. ยํ อนุโลมนฺติ วุจฺจติ, อิทํ เตสํ ปาฏิเอกฺกํ นาม.

อวิเสเสน ปน ติวิธมฺเปตํ ‘‘อาเสวน’’นฺติปิ ‘‘ปริกมฺม’’นฺติปิ ‘‘อุปจาร’’นฺติปิ ‘‘อนุโลม’’นฺติปิ วุจฺจติ. อิทํ ปน อนุโลมาณํ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ โหติ, นิปฺปริยาเยน ปน โคตฺรภุาณเมว วิปสฺสนาย ปริโยสานนฺติ วุจฺจติ. ตโต ปรํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ อติกฺกมมานํ อริยโคตฺตํ โอกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปมสมนฺนาหารภูตํ อปุนราวฏฺฏกํ โคตฺรภุาณํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ปน าณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ าณทสฺสนวิสุทฺธิฺจ น ภชติ. อนฺตรา อพฺโพหาริกเมว โหติ. วิปสฺสนาโสเต ปติตตฺตา ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธี’’ติ วา ‘‘วิปสฺสนา’’ติ วา สงฺขํ คจฺฉติ. นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา โคตฺรภุาเณ นิรุทฺเธ เตน ทินฺนสฺาย นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ทิฏฺิสํโยชนํ สีลพฺพตปรามาสสํโยชนํ วิจิกิจฺฉาสํโยชนนฺติ ตีณิ สํโยชนานิ วิทฺธํเสนฺโต โสตาปตฺติมคฺโค อุปฺปชฺชติ, ตทนนฺตรํ ตสฺเสว วิปากภูตานิ ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ อนนฺตรวิปากตฺตา โลกุตฺตรกุสลานํ, ผลปริโยสาเน ปนสฺส อุปฺปนฺนภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณตฺถาย มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘เม อยํ อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม กิเลสา อวสิฏฺา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยวชฺฌกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. อวสาเน จ ‘‘อยํ ธมฺโม มยา ปฏิวิทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ. ตถา สกทาคามิอนาคามิผลาวสาเน. อรหตฺตผลาวสาเน อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถิ. เอวํ สพฺพานิปิ เอกูนวีสติปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ.

เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา โส โยคาวจโร ตสฺมึเยว อาสเน นิสินฺโน วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวํ กโรนฺโต ทุติยมคฺคํ ปาปุณาติ, ตทนนฺตรํ วุตฺตนเยเนว ผลฺจ. ตโต วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต ตติยมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. ตโต ตสฺมึเยวาสเน วุตฺตนเยน วิปสฺสิตฺวา รูปราคารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานํ กโรนฺโต จตุตฺถมคฺคํ ปาปุณาติ, วุตฺตนเยน ผลฺจ. เอตฺตาวตา เจส โหติ อรหา มหาขีณาสโว ปจฺเจกพุทฺโธ. อิติ อิเมสุ จตูสุ มคฺเคสุ าณํ าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.

เอตฺตาวตา ‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ อวิเหยํ อฺตรมฺปิ เตส’’นฺติ เอเตน ปาติโมกฺขสํวราทิสีลสฺส วุตฺตตฺตา สีลวิสุทฺธิ. ‘‘น ปุตฺตมิจฺเฉยฺย กุโต สหาย’’นฺติ เอเตน ปฏิฆานุนยวิวชฺชนวเสน เมตฺตาทีนํ วุตฺตตฺตา จิตฺตวิสุทฺธิ. ‘‘เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ อิมินา ปน นามรูปปริคฺคหาทีนํ วุตฺตตฺตา ทิฏฺิวิสุทฺธิ กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ าณทสฺสนวิสุทฺธีติ สตฺต วิสุทฺธิโย วุตฺตา โหนฺติ. อยเมตฺถ มุขมตฺตนิทสฺสนํ, วิตฺถารํ ปน อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคํ (วิสุทฺธิ. ๒.๖๖๒, ๖๗๘, ๖๙๒, ๗๓๗, ๘๐๖ อาทโย) โอโลเกตฺวา คเหตพฺพํ. เอตฺตาวตา เจโส ปจฺเจกพุทฺโธ –

‘‘จาตุทฺทิโส อปฺปฏิโฆ จ โหติ, สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน;

ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภี, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๔๒; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) –

ปสํสิยาทิภาวํ อาปชฺชิตฺวา คนฺธมาทนปพฺพตํ อุปโสภยมาโน วิหาสินฺติ เอวํ สพฺพตฺถ.

ปมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๒. ทุติเย สํสคฺคชาตสฺสาติ ชาตสํสคฺคสฺส. ตตฺถ ทสฺสนสวนกายสมุลฺลปนสมฺโภควเสน ปฺจวิโธ สํสคฺโค. ตตฺถ อฺมฺํ ทิสฺวา จกฺขุวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺนราโค ทสฺสนสํสคฺโค นาม. ตตฺถ สีหฬทีเป กาฬทีฆวาปีคาเม ปิณฺฑาย จรนฺตํ กลฺยาณวิหารวาสึ ทหรภิกฺขุํ ทิสฺวา ปฏิพทฺธจิตฺตา เกนจิ อุปาเยน ตํ อลภิตฺวา กาลกตา กุฏุมฺพิยธีตา ตสฺสา นิวาสนโจฬกฺขณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘เอวรูปาย วตฺถธารินิยา นาม สทฺธึ สํวาสํ นาลตฺถ’’นฺติ หทยํ ผาเลตฺวา กาลกโต โส เอว จ ทหโร นิทสฺสนํ.

ปเรหิ ปน กถิยมานํ รูปาทิสมฺปตฺตึ อตฺตนา วา หสิตลปิตคีตสทฺทํ สุตฺวา โสตวิฺาณวีถิวเสน อุปฺปนฺโน ราโค สวนสํสคฺโค นาม. ตตฺราปิ คิริคามวาสีกมฺมารธีตาย ปฺจหิ กุมารีหิ สทฺธึ ปทุมสฺสรํ คนฺตฺวา นฺหายิตฺวา มาลํ สีเส อาโรเปตฺวา อุจฺจาสทฺเทน คายนฺติยา อากาเสน คจฺฉนฺโต สทฺทํ สุตฺวา กามราเคน ฌานา ปริหายิตฺวา อนยพฺยสนํ ปตฺโต ปฺจคฺคฬเลณวาสี ติสฺสทหโร นิทสฺสนํ.

อฺมฺํ องฺคปรามสเนน อุปฺปนฺนราโค กายสํสคฺโค นาม. ธมฺมคายนทหรภิกฺขุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. มหาวิหาเร กิร ทหรภิกฺขุ ธมฺมํ ภาสติ, ตตฺถ มหาชเน อาคเต ราชาปิ อคมาสิ สทฺธึ อนฺเตปุเรน. ตโต ราชธีตาย ตสฺส รูปฺจ สทฺทฺจ อาคมฺม พลวราโค อุปฺปนฺโน ตสฺส จ ทหรสฺสาปิ. ตํ ทิสฺวา ราชา สลฺลกฺเขตฺวา สาณิปากาเรน ปริกฺขิปาเปสิ, เต อฺมฺํ ปรามสิตฺวา อาลิงฺคิสุ. ปุน สาณิปาการํ อปเนตฺวา ปสฺสนฺตา ทฺเวปิ กาลกเตเยว อทฺทสํสูติ.

อฺมฺํ อาลปนสมุลฺลปเน อุปฺปนฺนราโค ปน สมุลฺลปนสํสคฺโค นาม. ภิกฺขุภิกฺขุนีหิ สทฺธึ ปริโภคกรเณ อุปฺปนฺนราโค สมฺโภคสํสคฺโค นาม. ทฺวีสุปิ จ เอเตสุ มริจวฏฺฏิวิหาเร ภิกฺขุ จ ภิกฺขุนี จ นิทสฺสนํ. มริจวฏฺฏิมหาวิหารมเห กิร ทุฏฺคามณิ อภยมหาราชา มหาทานํ ปฏิยาเทตฺวา อุภโตสงฺฆํ ปริวิสติ. ตตฺถ อุณฺหยาคุยา ทินฺนาย สงฺฆนวกสามเณรี อนาธารกสฺส สตฺตวสฺสิกสงฺฆนวกสามเณรสฺส ทนฺตวลยํ ทตฺวา สมุลฺลาปํ อกาสิ, เต อุโภปิ อุปสมฺปชฺชิตฺวา สฏฺิวสฺสา หุตฺวา ปรตีรํ คตา อฺมฺํ สมุลฺลาเปน ปุพฺพสฺํ ปฏิลภิตฺวา ตาวเทว ชาตสิเนหา สิกฺขาปทานิ วีติกฺกมิตฺวา ปาราชิกา อเหสุนฺติ.

เอวํ ปฺจวิเธ สํสคฺเค เยน เกนจิ สํสคฺเคน ชาตสํสคฺคสฺส ภวนฺติ สฺเนหา, ปุริมราคปจฺจยา พลวราโค อุปฺปชฺชติ. ตโต สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหตีติ ตเมว สฺเนหํ อนุคจฺฉนฺตํ สนฺทิฏฺิกสมฺปรายิกโสกปริเทวาทินานปฺปการกํ ทุกฺขมิทํ ปโหติ นิพฺพตฺตติ ภวติ ชายติ. อปเร ปน ‘‘อารมฺมเณ จิตฺตโวสคฺโค สํสคฺโค’’ติ ภณนฺติ. ตโต สฺเนโห สฺเนหทุกฺขนฺติ.

เอวมตฺถปฺปเภทํ อิมํ อฑฺฒคาถํ วตฺวา โส ปจฺเจกพุทฺโธ อาห – ‘‘สฺวาหํ ยมิทํ สฺเนหนฺวยํ โสกาทิทุกฺขํ ปโหติ, ตสฺส ทุกฺขสฺส มูลํ ขนนฺโต ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโต’’ติ. เอวํ วุตฺเต เต อมจฺจา อาหํสุ – ‘‘อมฺเหหิ ทานิ, ภนฺเต, กึ กตฺตพฺพ’’นฺติ? ตโต โส อาห – ‘‘ตุมฺเห วา อฺเ วา โย อิมมฺหา ทุกฺขา มุจฺจิตุกาโม, โส สพฺโพปิ อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ. เอตฺถ จ ยํ ตํ ‘‘สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหตี’’ติ วุตฺตํ, ตเทว สนฺธาย ‘‘อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา ยถาวุตฺเตน สํสคฺเคน สํสคฺคชาตสฺส ภวนฺติ สฺเนหา, สฺเนหนฺวยํ ทุกฺขมิทํ ปโหติ, เอวํ ยถาภูตํ อาทีนวํ สฺเนหชํ เปกฺขมาโน อหํ อธิคโตติ เอวมฺปิ อภิสมฺพนฺธิตฺวา จตุตฺถปาโท ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อุทานวเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ตโต ปรํ สพฺพํ ปุริมคาถาย วุตฺตสทิสเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๖).

นิทฺเทเส อนุปฺปาเทตีติ รูปสฺมึ อนุพฺยฺชนํ ทิสฺวา อลฺลียติ. อนุพนฺธตีติ รูปสฺมึ สฺเนหวเสน พนฺธติ. ภวนฺตีติ โหนฺติ. ชายนฺตีติ อุปฺปชฺชนฺติ. นิพฺพตฺตนฺตีติ วตฺตนฺติ. ปาตุภวนฺตีติ ปากฏา โหนฺติ. สมฺภวนฺติ สฺชายนฺติ อภินิพฺพตฺตนฺตีติ ตีณิ อุปสคฺเคน วฑฺฒิตานิ. อิโต ปรํ อฏฺกวคฺเค (มหานิ. ๑ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

ทุติยคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๓. ตติเย เมตฺตายนวเสน มิตฺตา. สุหทภาเวน สุหชฺชา. เกจิ หิ เอกนฺตหิตกามตาย มิตฺตาว โหนฺติ, น สุหชฺชา. เกจิ คมนาคมนฏฺานนิสชฺชาสมุลฺลาปาทีสุ หทยสุขชนเนน สุหชฺชาว โหนฺติ, น มิตฺตา. เกจิ ตทุภยวเสน สุหชฺชา เจว มิตฺตา จ. เต ทุวิธา โหนฺติ อคาริยา จ อนคาริยา จ. ตตฺถ อคาริยา ติวิธา โหนฺติ อุปการา สมานสุขทุกฺขา อนุกมฺปกาติ. อนคาริยา วิเสเสน อตฺถกฺขายิโน . เอวํ เต จตูหิ จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา โหนฺติ.

ยถาห –

‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อุปกาโร มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปมตฺตํ รกฺขติ, ปมตฺตสฺส สาปเตยฺยํ รกฺขติ, ภีตสฺส สรณํ โหติ, อุปฺปนฺเนสุ กิจฺจกรณีเยสุ ตทฺทิคุณํ โภคํ อนุปฺปเทติ (ที. นิ. ๓.๒๖๑).

ตถา –

‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ สมานสุขทุกฺโข มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. คุยฺหมสฺส อาจิกฺขติ, คุยฺหมสฺส ปริคูหติ, อาปทาสุ น วิชหติ, ชีวิตมฺปิสฺส อตฺถาย ปริจฺจตฺตํ โหติ (ที. นิ. ๓.๒๖๒).

ตถา –

‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อนุกมฺปโก มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. อภเวนสฺส น นนฺทติ, ภเวนสฺส นนฺทติ, อวณฺณํ ภณมานํ นิวาเรติ, วณฺณํ ภณมานํ ปสํสติ (ที. นิ. ๓.๒๖๔).

ตถา

‘‘จตูหิ โข, คหปติปุตฺต, าเนหิ อตฺถกฺขายี มิตฺโต สุหโท เวทิตพฺโพ. ปาปา นิวาเรติ, กลฺยาเณ นิเวเสติ, อสฺสุตํ สาเวติ, สคฺคสฺส มคฺคํ อาจิกฺขตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๖๓).

เตสุ อิธ อคาริยา อธิปฺเปตา, อตฺถโต ปน สพฺเพปิ ยุชฺชนฺติ. เต มิตฺเต สุหชฺเช. อนุกมฺปมาโนติ อนุทยมาโน, เตสํ สุขํ อุปสํหริตุกาโม ทุกฺขํ อปหริตุกาโม.

หาเปติอตฺถนฺติ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถวเสน ติวิธํ, ตถา อตฺตตฺถปรตฺถอุภยตฺถวเสนาปิ ติวิธํ อตฺถํ ลทฺธวินาสเนน อลทฺธานุปฺปาทเนนาติ ทฺวิธาปิ หาเปติ วินาเสติ. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ ‘‘อหํ อิมํ วินา น ชีวามิ, เอโส เม คติ, เอโส เม ปรายณ’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ นีเจ าเน เปนฺโตปิ ปฏิพทฺธจิตฺโต โหติ. ‘‘อิเม มํ วินา น ชีวนฺติ, อหํ เตสํ คติ, อหํ เตสํ ปรายณ’’นฺติ เอวํ อตฺตานํ อุจฺเจ าเน เปนฺโตปิ ปฏิพทฺธจิตฺโต โหติ. อิธ ปน เอวํ ปฏิพทฺธจิตฺโต อธิปฺเปโต.

เอตํ ภยนฺติ เอตํ อตฺถหาปนภยํ, อตฺตโน สมาปตฺติหานึ สนฺธาย ภณติ. สนฺถเวติ ติวิโธ สนฺถโว ตณฺหาทิฏฺิมิตฺตสนฺถววเสน. ตตฺถ อฏฺสตปฺปเภทาปิ ตณฺหา ตณฺหาสนฺถโว, ทฺวาสฏฺิปฺปเภทาปิ ทิฏฺิ ทิฏฺิสนฺถโว, ปฏิพทฺธจิตฺตตาย มิตฺตานุกมฺปนา มิตฺตสนฺถโว. โส อิธ อธิปฺเปโต . เตน หิสฺส สมาปตฺติ ปริหีนา. เตนาห – ‘‘เอตํ ภยํ สนฺถเว เปกฺขมาโน’’ติ. เสสํ ปุพฺพสทิสเมวาติ เวทิตพฺพํ. นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๗; อป. อฏฺ. ๑.๑.๙๓-๙๔).

ตติยคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๔. จตุตฺเถ วํโสติ เวฬุ. วิสาโลติ วิตฺถิณฺโณ. -กาโร อวธารณตฺโถ, เอวกาโร วา อยํ. สนฺธิวเสเนตฺถ เอ-กาโร นฏฺโ. ตสฺส ปรปเทน สมฺพนฺโธ, ตํ ปจฺฉา โยเชสฺสาม. ยถาติ ปฏิภาเค. วิสตฺโตติ ลคฺโค ชฏิโต สํสิพฺพิโต. ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จาติ ปุตฺตธีตุภริยาสุ. ยา อเปกฺขาติ ยา ตณฺหา โย สฺเนโห . วํสกฺกฬีโรว อสชฺชมาโนติ วํสกฬีโร วิย อลคฺคมาโน. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา วํโส วิสาโล วิสตฺโต เอว โหติ, ปุตฺเตสุ จ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา, สาปิ เอวํ ตานิ วตฺถูนิ สํสิพฺพิตฺวา ิตตฺตา วิสตฺตา เอว. สฺวาหํ ตาย อเปกฺขาย อเปกฺขวา วิสาโล วํโส วิย วิสตฺโตติ เอวํ อเปกฺขาย อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ อเปกฺขํ มคฺคาเณน ฉินฺทนฺโต อยํ วํสกฬีโรว รูปาทีสุ วา ทิฏฺาทีสุ วา ลาภาทีสุ วา กามภวาทีสุ วา ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อสชฺชมาโน ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิมายปิ นิทฺเทเส อติเรกํ นตฺถิ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๘).

จตุตฺถคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๕. ปฺจเม มิโคติ สพฺเพสํ อารฺิกจตุปฺปทานํ เอว เอตํ อธิวจนํ. อิธ ปน ปสทมิโค อธิปฺเปโต. อรฺมฺหีติ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา อวเสสํ อรฺํ, อิธ ปน อุยฺยานํ อธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘อุยฺยานมฺหี’’ติ วุตฺตํ โหติ. ยถาติ ปฏิภาเค. อพทฺโธติ รชฺชุพนฺธนาทีสุ เยน เกนจิ อพทฺโธ. เอเตน วิสฺสฏฺจริยํ ทีเปติ. เยนิจฺฉกํ คจฺฉติ โคจรายาติ เยน ทิสาภาเคน คนฺตุํ อิจฺฉติ, เตน โคจรตฺถํ คจฺฉติ. ตสฺมา ตตฺถ ยตฺตกํ อิจฺฉติ คนฺตุํ, ตตฺตกํ คจฺฉติ. ยํ อิจฺฉติ ขาทิตุํ, ตํ ขาทตีติ ทีเปติ. วิฺู นโรติ ปณฺฑิตปุริโส. เสริตนฺติ สจฺฉนฺทวุตฺติตํ อปรายตฺตภาวํ. เปกฺขมาโนติ ปฺาจกฺขุนา โอโลกยมาโน. อถ วา ธมฺมเสริตํ ปุคฺคลเสริตฺจ. โลกุตฺตรธมฺมา หิ กิเลสวสํ อคมนโต เสริโน เตหิ สมนฺนาคตา ปุคฺคลา จ, เตสํ ภาวนิทฺเทโส เสริตํ เปกฺขมาโนติ. กึ วุตฺตํ โหติ? มิโค อรฺมฺหิ ยถา อพทฺโธ, เยนิจฺฉกํ คจฺฉติ โคจราย. กทา นุ โข อหมฺปิ ตณฺหาพนฺธนํ ฉินฺทิตฺวา เอวํ คจฺเฉยฺยนฺติ อิติ เม ตุมฺเหหิ อิโต จิโต จ ปริวาเรตฺวา ิเตหิ พทฺธสฺส เยนิจฺฉกํ คนฺตุํ อลภนฺตสฺส ตสฺมึ เยนิจฺฉกคมนาภาเว อาทีนวํ เยนิจฺฉกคมเน อานิสํสํ ทิสฺวา อนุกฺกเมน สมถวิปสฺสนาปาริปูรึ อคมึ. ตโต ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหิ. ตสฺมา อฺโปิ วิฺู นโร เสริตํ เปกฺขมาโน, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙ อาทโย).

ปฺจมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๖. ฉฏฺเ อยํ ปิณฺฑตฺโถ – สหายมชฺเฌ ิตสฺส ทิวาเสยฺยสงฺขาเต วาเส จ มหาอุปฏฺานสงฺขาเต าเน จ อุยฺยานคมนสงฺขาเต คมเน จ ชนปทจาริกสงฺขาตาย จาริกาย จ ‘‘อิทํ เม สุณ, อิทํ เม เทหี’’ติอาทินา นเยน ตถา ตถา อามนฺตนา โหติ, ตสฺมา อหํ ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพิชฺชิตฺวา ยายํ อริยชนเสวิตา อเนกานิสํสา เอกนฺตสุขา, เอวํ สนฺเตปิ โลภาภิภูเตหิ สพฺพกาปุริเสหิ อนภิชฺฌิตา อปตฺถิตา ปพฺพชฺชา, ตํ อนภิชฺฌิตํ ปเรสํ อวสวตฺตเนน ภพฺพปุคฺคลวเสเนว จ เสริตํ เปกฺขมาโน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อนุกฺกเมน ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตติ. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๓๙-๔๒).

ฉฏฺคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๗. สตฺตเม ขิฑฺฑาติ กีฬนา. สา ทุวิธา โหติ กายิกา จ วาจสิกา จ. ตตฺถ กายิกา นาม หตฺถีหิปิ กีฬนฺติ, อสฺเสหิปิ รเถหิปิ ธนูหิปิ ถรูหิปีติ เอวมาทิ. วาจสิกา นาม คีตํ สิโลกภณนํ มุขเภริกนฺติ เอวมาทิ. รตีติ ปฺจกามคุณรติ. วิปุลนฺติ ยาว อฏฺิมิฺชํ อาหจฺจ าเนน สกลตฺตภาวพฺยาปกํ. เสสํ ปากฏเมว. อนุสนฺธิโยชนาปิ เจตฺถ สํสคฺคคาถาย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๑).

สตฺตมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๘. อฏฺเม จาตุทฺทิโสติ จตูสุ ทิสาสุ ยถาสุขวิหารี, ‘‘เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; อ. นิ. ๔.๑๒๕; วิภ. ๖๔๓; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) วา นเยน พฺรหฺมวิหารภาวนาผริตา จตสฺโส ทิสา อสฺส สนฺตีติปิ จาตุทฺทิโส. ตาสุ ทิสาสุ กตฺถจิ สตฺเต วา สงฺขาเร วา ภเยน น ปฏิหฺตีติ อปฺปฏิโฆ. สนฺตุสฺสมาโนติ ทฺวาทสวิธสฺส สนฺโตสสฺส วเสน สนฺตุสฺสโก. อิตรีตเรนาติ อุจฺจาวเจน ปจฺจเยน. ปริสฺสยานํ สหิตา อฉมฺภีติ เอตฺถ ปริสฺสยนฺติ กายจิตฺตานิ, ปริหาเปนฺติ วา เตสํ สมฺปตฺตึ, ตานิ วา ปฏิจฺจ สยนฺตีติ ปริสฺสยา, พาหิรานํ สีหพฺยคฺฆาทีนํ อพฺภนฺตรานฺจ กามจฺฉนฺทาทีนํ กายจิตฺตุปทฺทวานํ เอตํ อธิวจนํ. เต ปริสฺสเย อธิวาสนขนฺติยา จ วีริยาทีหิ จ ธมฺเมหิ สหตีติ ปริสฺสยานํ สหิตา. ถทฺธภาวกรภยาภาเวน อฉมฺภี. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา เต จตฺตาโร สมณา, เอวํ อิตรีตเรน ปจฺจเยน สนฺตุสฺสมาโน เอตฺถ ปฏิปตฺติปทฏฺาเน สนฺโตเส ิโต จตูสุ ทิสาสุ เมตฺตาทิภาวนาย จาตุทฺทิโส, สตฺตสงฺขาเรสุ ปฏิหนนกรภยาภาเวน อปฺปฏิโฆ จ โหติ. โส จาตุทฺทิสตฺตา วุตฺตปฺปการานํ ปริสฺสยานํ สหิตา, อปฺปฏิฆตฺตา อฉมฺภี จ โหตีติ เอตํ ปฏิปตฺติคุณํ ทิสฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา ปจฺเจกสมฺโพธึ อธิคโตมฺหีติ.

อถ วา เต สมณา วิย สนฺตุสฺสมาโน อิตรีตเรน วุตฺตนเยเนว จาตุทฺทิโส โหตีติ ตฺวา เอวํ จาตุทฺทิสภาวํ ปตฺถยนฺโต โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา อธิคโตมฺหิ. ตสฺมา อฺโปิ อีทิสํ านํ ปตฺถยมาโน จาตุทฺทิสตาย ปริสฺสยานํ สหิตา อปฺปฏิฆตาย จ อฉมฺภี หุตฺวา เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๒).

นิทฺเทเส เมตฺตาติ อตฺถโต ตาว มิชฺชตีติ เมตฺตา, สิเนหตีติ อตฺโถ. มิตฺเต วา ภวา, มิตฺตสฺส วา เอสา ปวตฺตีติปิ เมตฺตา. เมตฺตาสหคเตนาติ เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกํ ทิสํ ปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ทิสาสุ ยํ กิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถฺจาติ อตฺโถ.

อิติ อุทฺธนฺติ เอเตเนว จ นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปิ เอวเมว. ตตฺถ จ อโธติ เหฏฺา. ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑเล อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมอุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตานิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, ‘‘อยํ ปรสตฺโต’’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ.

อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ตถา-สทฺโท อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ. นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ จ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหาเนน อพฺยาปชฺชํ. นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๔). กรุณา เหฏฺา วุตฺตตฺถาเยว. โมทนฺติ ตาย ตํสมงฺคิโน, สยํ วา โมทติ, โมทนมตฺตเมว วา สาติ มุทิตา. ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิพฺยาปาทปฺปหาเนน มชฺฌตฺตภาวูปคมเนน จ อุเปกฺขตีติ อุเปกฺขา.

ลกฺขณาทิโต ปเนตฺถ หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณา เมตฺตา, หิตูปสํหารรสา , อาฆาตวินยปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา. พฺยาปาทูปสโม เอติสฺสา สมฺปตฺติ, สิเนหสมฺภโว วิปตฺติ. ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา กรุณา, ปรทุกฺขาสหนรสา, อวิหึสาปจฺจุปฏฺานา, ทุกฺขาภิภูตานํ อนาถภาวทสฺสนปทฏฺานา. วิหึสูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, โสกสมฺภโว วิปตฺติ. ปโมทลกฺขณา มุทิตา, อนิสฺสายนรสา, อรติวิฆาตปจฺจุปฏฺานา, สตฺตานํ สมฺปตฺติทสฺสนปทฏฺานา. อรติวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, ปหานสมฺภโว วิปตฺติ. สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการปฺปวตฺติลกฺขณา อุเปกฺขา, สตฺเตสุ สมภาวทสฺสนรสา, ปฏิฆานุนยวูปสมปจฺจุปฏฺานา , ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺติ, ทุกฺขโต วา มุจฺจิสฺสนฺติ, ปตฺตสมฺปตฺติโต วา น ปริหายิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺสกตาทสฺสนปทฏฺานา. ปฏิฆานุนยวูปสโม ตสฺสา สมฺปตฺติ, เคหสฺสิตาย อฺาณุเปกฺขาย สมฺภโว วิปตฺติ.

ตตฺถ สนฺตุฏฺโ โหตีติ ปจฺจยสนฺโตสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. อิตรีตเรน จีวเรนาติ น ถูลสุขุมลูขปณีตถิรชิณฺณานํ เยน เกนจิ จีวเรน, อถ โข ยถาลทฺธานํ อิตรีตเรน เยน เกนจิ สนฺตุฏฺโ โหตีติ อตฺโถ. จีวรสฺมิฺหิ ตโย สนฺโตสา – ยถาลาภสนฺโตโส, ยถาพลสนฺโตโส, ยถาสารุปฺปสนฺโตโสติ. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ อิเม ตโย สนฺโตเส สนฺธาย ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน จีวเรน. ยถาลทฺธาทีสุ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺโ โหตี’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ จีวรํ ชานิตพฺพํ, จีวรเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปํสุกูลํ ชานิตพฺพํ, จีวรสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ จีวรํ ชานิตพฺพนฺติ โขมาทีนิ ฉ จีวรานิ ทุกูลาทีนิ ฉ อนุโลมจีวรานิปิ ชานิตพฺพานิ. อิมานิ ทฺวาทส กปฺปิยจีวรานิ. กุสจีรํ วากจีรํ ผลกจีรํ เกสกมฺพลํ วาฬกมฺพลํ โปตฺถโก จมฺมํ อุลูกปกฺขํ รุกฺขทุสฺสํ ลตาทุสฺสํ เอรกทุสฺสํ กทลิทุสฺสํ เวฬุทุสฺสนฺติ เอวมาทีนิ ปน อกปฺปิยจีวรานิ.

จีวรเขตฺตนฺติ ‘‘สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วา’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชนโต ฉ เขตฺตานิ, อฏฺนฺนฺจ มาติกานํ วเสน อฏฺ เขตฺตานิ ชานิตพฺพานิ.

ปํสุกูลนฺติ โสสานิกํ ปาปณิกํ รถิยํ สงฺการกูฏํ โสตฺถิยํ สินานํ ติตฺถํ คตปจฺจาคตํ อคฺคิฑฑฺฒํ โคขายิตํ อุปจิกาขายิตํ อุนฺทูรขายิตํ อนฺตจฺฉินฺนํ ทสจฺฉินฺนํ ธชาหฏํ ถูปํ สมณจีวรํ สามุทฺทิยํ อาภิเสกิยํ ปนฺถิกํ วาตาหฏํ อิทฺธิมยํ เทวทตฺติยนฺติ เตวีสติ ปํสุกูลานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ โสตฺถิยนฺติ คพฺภมลหรณํ. คตปจฺจาคตนฺติ มตกสรีรํ ปารุปิตฺวา สุสานํ เนตฺวา อานีตจีวรํ. ธชาหฏนฺติ ธชํ อุสฺสาเปตฺวา ตโต อานีตํ. ถูปนฺติ วมฺมิเก ปูชิตจีวรํ. สามุทฺทิยนฺติ สมุทฺทวีจีหิ ถลํ ปาปิตํ. ปนฺถิกนฺติ ปนฺถํ คจฺฉนฺเตหิ โจรภเยน ปาสาเณหิ โกฏฺเฏตฺวา ปารุตจีวรํ. อิทฺธิมยนฺติ เอหิภิกฺขุจีวรํ. เสสํ ปากฏเมว.

จีวรสนฺโตโสติ วีสติ จีวรสนฺโตสา – จีวเร วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุทกสนฺโตโส โธวนสนฺโตโส กรณสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส สุตฺตสนฺโตโส สิพฺพนสนฺโตโส รชนสนฺโตโส กปฺปสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ. ตตฺถ สาทกภิกฺขุโน เตมาสํ นิพทฺธวาสํ วสิตฺวา เอกมาสมตฺตํ วิตกฺกิตุํ วฏฺฏติ. โส หิ ปวาเรตฺวา จีวรมาเส จีวรํ กโรติ. ปํสุกูลิโก อทฺธมาเสเนว กโรติ. อิทํ มาสทฺธมาสมตฺตํ วิตกฺกนํ วิตกฺกสนฺโตโส. จีวรตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปน ‘‘กตฺถ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสเนว คมนํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺตสฺส ปน เยน วา เตน วา สทฺธึ อปริเยสิตฺวา ลชฺชึ เปสลภิกฺขุํ คเหตฺวา ปริเยสนํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. เอวํ ปริเยสนฺตสฺส อาหริยมานํ จีวรํ ทูรโตว ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ ภวิสฺสติ, เอตํ อมนาป’’นฺติ เอวํ อวิตกฺเกตฺวา ถูลสุขุมาทีสุ ยถาลทฺเธเนว สนฺตุสฺสนํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. เอวํ ลทฺธํ คณฺหนฺตสฺสาปิ ‘‘เอตฺตกํ ทุปฏฺฏสฺส ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ เอกปฏฺฏสฺสา’’ติ อตฺตโน ปโหนกมตฺเตเนว สนฺตุสฺสนํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. จีวรํ ปริเยสนฺตสฺส ปน ‘‘อสุกสฺส ฆรทฺวาเร มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา จรณํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม.

ลูขปณีเตสุ เยน เกนจิ ยาเปตุํ สกฺโกนฺตสฺส ยถาลทฺเธเนว ยาปนํ ยถาลาภสนฺโตโส นาม. อตฺตโน ถามํ ชานิตฺวา เยน ยาเปตุํ สกฺโกติ, เตน ยาปนํ ยถาพลสนฺโตโส นาม. มนาปํ อฺสฺส ทตฺวา อตฺตนา เยน เกนจิ ยาปนํ ยถาสารุปฺปสนฺโตโส นาม. ‘‘กตฺถ อุทกํ มนาปํ, กตฺถ อมนาป’’นฺติ อวิจาเรตฺวา เยน เกนจิ โธวนุปเคน อุทเกน โธวนํ อุทกสนฺโตโส นาม. ตถา ปณฺฑุมตฺติกเครุกปูติปณฺณรสกิลิฏฺานิ ปน อุทกานิ วชฺเชตุํ วฏฺฏติ. โธวนฺตสฺส ปน มุคฺคราทีหิ อปหริตฺวา หตฺเถหิ มทฺทิตฺวา โธวนํ โธวนสนฺโตโส นาม. ตถา อสุชฺฌนฺตํ ปณฺณานิ ปกฺขิปิตฺวา ตาปิตอุทเกนาปิ โธวิตุํ วฏฺฏติ. เอวํ โธวิตฺวา กโรนฺตสฺส ‘‘อิทํ ถูลํ, อิทํ สุขุม’’นฺติ อโกเปตฺวา ปโหนกนีหาเรเนว กรณํ กรณสนฺโตโส นาม. ติมณฺฑลปฏิจฺฉาทนมตฺตสฺเสว กรณํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. จีวรกรณตฺถาย ปน ‘‘มนาปํ สุตฺตํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ อวิจาเรตฺวา รถิกาทีสุ วา เทวฏฺาเน วา อาหริตฺวา ปาทมูเล วา ปิตํ ยํ กิฺจิเทว สุตฺตํ คเหตฺวา กรณํ สุตฺตสนฺโตโส นาม.

กุสิพนฺธนกาเล ปน องฺคุลิมตฺเต สตฺตวาเร น วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส หิ โย ภิกฺขุ สหาโย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโทปิ นตฺถิ. ติวงฺคุลมตฺเต ปน สตฺตวาเร วิชฺฌิตพฺพํ. เอวํ กโรนฺตสฺส มคฺคปฏิปนฺเนนาปิ สหาเยน ภวิตพฺพํ. โย น โหติ, ตสฺส วตฺตเภโท. อยํ สิพฺพนสนฺโตโส นาม. รชนฺเตน ปน กาฬกจฺฉกาทีนิ ปริเยสนฺเตน น รชิตพฺพํ, โสมวกฺกลาทีสุ ยํ ลภติ, เตน รชิตพฺพํ. อลภนฺเตน ปน มนุสฺเสหิ อรฺเ วากํ คเหตฺวา ฉฑฺฑิตรชนํ วา ภิกฺขูหิ ปจิตฺวา ฉฑฺฑิตกสฏํ วา คเหตฺวา รชิตพฺพํ. อยํ รชนสนฺโตโส นาม. นีลกทฺทมกาฬสาเมสุ ยํ กิฺจิ คเหตฺวา หตฺถิปิฏฺเ นิสินฺนสฺส ปฺายมานกปฺปกรณํ กปฺปสนฺโตโส นาม.

หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนมตฺตวเสน ปริภุฺชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. ทุสฺสํ ปน ลภิตฺวา สุตฺตํ วา สูจึ วา การกํ วา อลภนฺเตน เปตุํ วฏฺฏติ, ลภนฺเตน น วฏฺฏติ. กตมฺปิ เจ อนฺเตวาสิกาทีนํ ทาตุกาโม โหติ, เต จ อสนฺนิหิตา, ยาว อาคมนา เปตุํ วฏฺฏติ, อาคตมตฺเตสุ เตสุ ทาตพฺพํ. ทาตุํ อสกฺโกนฺเตน อธิฏฺาตพฺพํ. อฺสฺมึ จีวเร สติ ปจฺจตฺถรณมฺปิ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ. อนธิฏฺิตเมว หิ สนฺนิธิ โหติ. อธิฏฺิตํ น โหตีติ มหาสีวตฺเถโร อาห. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. วิสฺสชฺเชนฺเตน ปน มุขํ โอโลเกตฺวา น ทาตพฺพํ, สารณียธมฺเม ตฺวาว วิสฺสชฺเชตพฺพนฺติ อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.

จีวรปฏิสํยุตฺตานิ ธุตงฺคานิ นาม ปํสุกูลิกงฺคฺเจว เตจีวริกงฺคฺจ. อิติ จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ทฺเว ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต จีวรสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.

วณฺณวาทีติ เอโก สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ น กเถติ. เอโก น สนฺตุฏฺโ โหติ, สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ . เอโก เนว สนฺตุฏฺโ โหติ, น สนฺโตสสฺส วณฺณํ กเถติ. เอโก สนฺตุฏฺโ จ โหติ, สนฺโตสสฺส จ วณฺณํ กเถติ. ตถารูโป โส ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที’’ติ วุตฺตํ.

อเนสนนฺติ ทูเตยฺยปหิณคมนานุโยคปฺปเภทํ นานปฺปการํ อเนสนํ. อปฺปติรูปนฺติ อยุตฺตํ. อลทฺธา จาติ อลภิตฺวา. ยถา เอกจฺโจ ‘‘กถํ นุ โข จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ปุฺวนฺเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ เอกโต หุตฺวา โกหฺํ กโรนฺโต อุตฺตสติ ปริตสฺสติ, ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ เอวํ อลทฺธา จ จีวรํ น ปริตสฺสติ. ลทฺธาจาติ ธมฺเมน สเมน ลภิตฺวา. อธิคโตติ วิคตโลภคิทฺโธ. อมุจฺฉิโตติ อธิมตฺตตณฺหาย มุจฺฉนํ อนาปนฺโน. อนชฺฌาปนฺโนติ ตณฺหาย อโนตฺถโฏ อปริโยนทฺโธ. อาทีนวทสฺสาวีติ อเนสนาปตฺติยฺจ คธิตปริโภเค จ อาทีนวํ ปสฺสมาโน. นิสฺสรณปฺโติ ‘‘ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) วุตฺตํ นิสฺสรณเมว ปชานนฺโต.

อิตรีตรจีวรสนฺตุฏฺิยาติ เยน เกนจิ จีวเรน สนฺตุฏฺิยา. เนวตฺตานุกฺกํเสตีติ ยถา ปนิเธกจฺโจ ‘‘อหํ ปํสุกูลิโก, มยา อุปสมฺปทมาเฬเยว ปํสุกูลิกงฺคํ คหิตํ, โก มยา สทิโส อตฺถี’’ติ อตฺตุกฺกํสนํ กโรติ. เอวํ โส อตฺตุกฺกํสนํ น กโรติ. น ปรํ วมฺเภตีติ ‘‘อิเม ปนฺเ ภิกฺขู น ปํสุกูลิกาติ วา ปํสุกูลิกมตฺตมฺปิ เอเตสํ นตฺถี’’ติ วา เอวํ ปรํ น วมฺเภติ. โย หิ ตตฺถ ทกฺโขติ โย ตสฺมึ จีวรสนฺโตเส วณฺณวาที. ตาสุ วา ทกฺโข เฉโก พฺยตฺโต. อนลโสติ สาตจฺจกิริยาย อาลสิยวิรหิโต. สมฺปชาโน ปติสฺสโตติ สมฺปชานปฺาย เจว สติยา จ ยุตฺโต. อริยวํเส ิโตติ อริยวํเส ปติฏฺิโต.

อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตนาติ เยน เกนจิ ปิณฺฑปาเตน. เอตฺถปิ ปิณฺฑปาโต ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, ปิณฺฑปาตสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตํ ธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาโตติ โอทโน กุมฺมาโส สตฺตุ มจฺโฉ มํสํ ขีรํ ทธิ สปฺปิ นวนีตํ เตลํ มธุ ผาณิตํ ยาคุ ขาทนียํ สายนียํ เลหนียนฺติ โสฬส ปิณฺฑปาตา.

ปิณฺฑปาตเขตฺตนฺติ สงฺฆภตฺตํ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ อาคนฺตุกภตฺตํ คมิกภตฺตํ คิลานภตฺตํ คิลานุปฏฺากภตฺตํ ธุรภตฺตํ กุฏิภตฺตํ วารภตฺตํ วิหารภตฺตนฺติ ปนฺนรส ปิณฺฑปาตเขตฺตานิ.

ปิณฺฑปาตสนฺโตโสติ ปิณฺฑปาเต วิตกฺกสนฺโตโส คมนสนฺโตโส ปริเยสนสนฺโตโส ปฏิลาภสนฺโตโส ปฏิคฺคหณสนฺโตโส มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส ยถาลาภสนฺโตโส ยถาพลสนฺโตโส ยถาสารุปฺปสนฺโตโส อุปการสนฺโตโส ปริมาณสนฺโตโส ปริโภคสนฺโตโส สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส วิสฺสชฺชนสนฺโตโสติ ปนฺนรส สนฺโตสา. ตตฺถ สาทโก ภิกฺขุ มุขํ โธวิตฺวา วิตกฺเกติ. ปิณฺฑปาติเกน ปน คเณน สทฺธึ จรตา สายํ เถรุปฏฺานกาเล ‘‘สฺเว กตฺถ ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ ‘‘อสุกคาเม, ภนฺเต’’ติ เอตฺตกํ จินฺเตตฺวา ตโต ปฏฺาย น วิตกฺเกตพฺพํ. เอกจาริเกน วิตกฺกมาฬเก ตฺวา วิตกฺเกตพฺพํ. ตโต ปฏฺาย วิตกฺเกนฺโต ปน อริยวํสา จุโต โหติ ปริพาหิโร. อยํ วิตกฺกสนฺโตโส นาม. ปิณฺฑาย ปวิสนฺเตน ปน ‘‘กุหึ ลภิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตพฺพํ. อยํ คมนสนฺโตโส นาม. ปริเยสนฺเตน ยํ วา ตํ วา อคฺคเหตฺวา ลชฺชึ เปสลเมว คเหตฺวา ปริเยสิตพฺพํ. อยํ ปริเยสนสนฺโตโส นาม. ทูรโตว อาหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ มนาปํ, เอตํ อมนาป’’นฺติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. อยํ ปฏิลาภสนฺโตโส นาม. ‘‘อิทํ มนาปํ คณฺหิสฺสามิ, อิทํ อมนาปํ น คณฺหิสฺสามี’’ติ อจินฺเตตฺวา ยํ กิฺจิ ยาปนมตฺตํ คเหตพฺพเมว. อยํ ปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม.

เอตฺถ ปน เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโก อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม พหุ, ทายโกปิ พหุทาตุกาโม, ปมาเณเนว คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโมปิ น พหุ, ทายโกปิ อปฺปํ ทาตุกาโม, อปฺปํ คเหตพฺพํ. เทยฺยธมฺโม น พหุ, ทายโก ปน พหุทาตุกาโม, ปมาเณน คเหตพฺพํ. ปฏิคฺคหณสฺมิฺหิ มตฺตํ อชานนฺโต มนุสฺสานํ ปสาทํ มกฺเขติ, สทฺธาเทยฺยํ วินิปาเตติ, สาสนํ น กโรติ. วิชาตมาตุยาปิสฺส จิตฺตํ คเหตุํ น สกฺโกติ. อิติ มตฺตํ ชานิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ อยํ มตฺตปฏิคฺคหณสนฺโตโส นาม. อฑฺฒกุลานิเยว อคนฺตฺวา ทฺวารปฏิปาฏิยา คนฺตพฺพํ. อยํ โลลุปฺปวิวชฺชนสนฺโตโส นาม. ยถาลาภสนฺโตสาทโย จีวเร วุตฺตนยา เอว.

ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชิตฺวา ‘‘สมณธมฺมํ อนุปาเลสฺสามี’’ติ เอวํ อุปการํ ตฺวา ปริภุฺชนํ อุปการสนฺโตโส นาม. ปตฺตํ ปูเรตฺวา อานีตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพํ. อนุปสมฺปนฺเน สติ เตน คาหาเปตพฺพํ, อสติ อาหราเปตฺวา ปฏิคฺคหณปริมาณมตฺตํ คเหตพฺพํ. อยํ ปริมาณสนฺโตโส นาม. ชิฆจฺฉาย ปฏิวิโนทนํ ‘‘น อิทเมตฺถ นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ ปริภุฺชนํ ปริโภคสนฺโตโส นาม. นิทหิตฺวา น ปริภุฺชิตพฺพํ. อยํ สนฺนิธิปริวชฺชนสนฺโตโส นาม. มุขํ อโนโลเกตฺวา สารณียธมฺเม ิเตน วิสฺสชฺเชตพฺพํ. อยํ วิสฺสชฺชนสนฺโตโส นาม.

ปิณฺฑปาตปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคนฺติ. อิติ ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต ปิณฺฑปาตสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ. วณฺณวาทีติอาทีนิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.

เสนาสนานีติ อิธ เสนาสนํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนเขตฺตํ ชานิตพฺพํ, เสนาสนสนฺโตโส ชานิตพฺโพ, เสนาสนปฏิสํยุตฺตธุตงฺคํ ชานิตพฺพํ. ตตฺถ เสนาสนนฺติ มฺโจ ปีํ ภิสิ พิมฺโพหนํ วิหาโร อฑฺฒโยโค ปาสาโท หมฺมิยํ คุหา เลณํ อฏฺโฏ มาโฬ เวฬุคุมฺโพ รุกฺขมูลํ ยตฺถ วา ปน ภิกฺขู ปฏิกฺกมนฺตีติ อิมานิ ปนฺนรส เสนาสนานิ.

เสนาสนเขตฺตนฺติ สงฺฆโต วา คณโต วา าติโต วา มิตฺตโต วา อตฺตโน วา ธเนน ปํสุกูลํ วาติ ฉ เขตฺตานิ.

เสนาสนสนฺโตโสติ เสนาสเน วิตกฺกสนฺโตสาทโย ปนฺนรส สนฺโตสา. เต ปิณฺฑปาเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เสนาสนปฏิสํยุตฺตานิ ปน ปฺจ ธุตงฺคานิ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคนฺติ. อิติ เสนาสนสนฺโตสํ มหาอริยวํสํ ปูรยมาโน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อิมานิ ปฺจ ธุตงฺคานิ โคเปติ, อิมานิ โคเปนฺโต เสนาสนสนฺโตสมหาอริยวํสวเสน สนฺตุฏฺโ โหติ.

อิติ อายสฺมา ธมฺมเสนาปติ สาริปุตฺตตฺเถโร ปถวึ ปตฺถรมาโน วิย สาครกุจฺฉึ ปูรยมาโน วิย อากาสํ วิตฺถารยมาโน วิย จ ปมํ จีวรสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา จนฺทํ อุฏฺาเปนฺโต วิย สูริยํ อุลฺลงฺเฆนฺโต วิย จ ทุติยปิณฺฑปาตสนฺโตสํ กเถตฺวา สิเนรุํ อุกฺขิเปนฺโต วิย ตติยํ เสนาสนสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตฺวา อิทานิ คิลานปจฺจยสนฺโตสํ อริยวํสํ กเถตุํ ‘‘สนฺตุฏฺโ โหติ อิตรีตเรน คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรนา’’ติอาทิมาห. ตํ ปิณฺฑปาตคติกเมว. ตตฺถ ยถาลาภยถาพลยถาสารุปฺปสนฺโตเสเนว สนฺตุสฺสิตพฺพํ. ภาวนารามอริยวํโส ปน อิธ อนาคโต, เนสชฺชิกงฺคํ ภาวนารามอริยวํสํ ภชติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘). วุตฺตมฺปิ เจตํ –

‘‘ปฺจ เสนาสเน วุตฺตา, ปฺจ อาหารนิสฺสิตา;

เอโก วีริยสํยุตฺโต, ทฺเว จ จีวรนิสฺสิตา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๙; อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘);

โปราเณ อคฺคฺเ อริยวํเส ิโตติ เอตฺถ โปราเณติ น อธุนุปฺปตฺติเก. อคฺคฺเติ อคฺเคหิ ชานิตพฺเพ. อริยวํเสติ อริยานํ วํเส. ยถา หิ ขตฺติยวํโส พฺราหฺมณวํโส เวสฺสวํโส สุทฺทวํโส สมณวํโส กุลวํโส ราชวํโส, เอวมยมฺปิ อฏฺโม อริยวํโส, อริยตนฺติ อริยปเวณิ นาม โหติ. โส โข ปนายํ วํโส อิเมสํ วํสานํ มูลคนฺธาทีนํ กาลานุสาริคนฺธาทโย วิย อคฺคมกฺขายติ. เก ปน เต อริยา, เยสํ เอโส วํโสติ? อริยา วุจฺจนฺติ พุทฺธา จ ปจฺเจกพุทฺธา จ ตถาคตสาวกา จ, เอเตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อิโต ปุพฺเพ หิ สตสหสฺสกปฺปาธิกานํ จตุนฺนํ อสงฺขฺเยยฺยานํ มตฺถเก ตณฺหงฺกโร เมธงฺกโร สรณงฺกโร ทีปงฺกโรติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เต อริยา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. เตสํ พุทฺธานํ ปรินิพฺพานโต อปรภาเค อสงฺขฺเยยฺยํ อติกฺกมิตฺวา โกณฺฑฺโ นาม พุทฺโธ อุปฺปนฺโน…เป… อิมสฺมึ กปฺเป กกุสนฺโธ โกณาคมโน กสฺสโป อมฺหากํ ภควา โคตโมติ จตฺตาโร พุทฺธา อุปฺปนฺนา, เตสํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส. อปิ จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ อริยานํ วํโสติ อริยวํโส, ตสฺมึ อริยวํเส (อ. นิ. อฏฺ. ๒.๔.๒๘). ิโตติ ปติฏฺิโต. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อฏฺมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๒๙. นวเม อยํ โยชนา – ทุสฺสงฺคหา ปพฺพชิตาปิ เอเก, เย อสนฺโตสาภิภูตา, ตถาวิธา เอว จ อโถ คหฏฺา ฆรมาวสนฺตา. เอตมหํ ทุสฺสงฺคหภาวํ ชิคุจฺฉนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ. เสสํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ.

นิทฺเทเส อนสฺสวาติ วจนํ อสฺสวนกา. อวจนกราติ ทุพฺพจา. ปฏิโลมวุตฺติโนติ ปจฺจนีกํ กถนสีลา, ปฏิมลฺลา หุตฺวา ปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. อฺเเนว มุขํ กโรนฺตีติ โอวาททายเก ทิสฺวา มุขํ ปริวตฺเตตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ โอโลเกนฺติ. อพฺยาวโฏ หุตฺวาติ อวาวโฏ หุตฺวา. อนเปกฺโข หุตฺวาติ อนลฺลีโน หุตฺวา.

นวมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

๑๓๐. ทสเม โอโรปยิตฺวาติ อปเนตฺวา. คิหิพฺยฺชนานีติ เกสมสฺสุโอทาตวตฺถาลงฺการมาลาคนฺธวิเลปนอิตฺถิปุตฺตทาสิทาสาทีนิ. เอตานิ คิหิภาวํ พฺยฺชยนฺติ, ตสฺมา ‘‘คิหิพฺยฺชนานี’’ติ วุจฺจนฺติ. สฺฉินฺนปตฺโตติ ปติตปตฺโต. เฉตฺวานาติ มคฺคาเณน ฉินฺทิตฺวา. วีโรติ มคฺควีริยสมนฺนาคโต. คิหิพนฺธนานีติ กามพนฺธนานิ. กามา หิ คิหีนํ พนฺธนานิ. อยํ ตาว ปทตฺโถ.

อยํ ปน อธิปฺปาโย – ‘‘อโห วตาหมฺปิ โอโรปยิตฺวา คิหิพฺยฺชนานิ สฺฉินฺนปตฺโต ยถา โกวิฬาโร ภเวยฺย’’นฺติ เอวฺหิ จินฺตยมาโน วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๔). เสสํ ปุริมนเยเนว ชานิตพฺพํ.

นิทฺเทเส สาราสนฺจาติ สารํ อาสนํ. ฉินฺนานีติ คฬิตานิ. สฺฉินฺนานีติ นิปณฺณานิ. ปติตานีติ วณฺฏโต มุตฺตานิ. ปริปติตานีติ ภูมิยํ ปติตานิ.

ทสมคาถานิทฺเทสวณฺณนา.

ปมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยวคฺควณฺณนา

๑๓๑-๒. ทุติยวคฺคสฺส ปมทฺวเย นิปกนฺติ ปกตินิปุณํ ปณฺฑิตํ กสิณปริกมฺมาทีสุ กุสลํ. สาธุวิหารินฺติ อปฺปนาวิหาเรน วา อุปจาเรน วา สมนฺนาคตํ. ธีรนฺติ ธิติสมฺปนฺนํ. ตตฺถ นิปกตฺเตน ธิติสมฺปทา วุตฺตา. อิธ ปน ธิติสมฺปนฺนเมวาติ อตฺโถ. ธิติ นาม อสิถิลปรกฺกมตา, ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๔; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖) เอวํ ปวตฺตวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. อปิ จ ธิกฺกตปาโปติปิ ธีโร. ราชาว รฏฺํ วิชิตํ ปหายาติ ยถา ปฏิราชา ‘‘วิชิตํ รฏฺํ อนตฺถาวห’’นฺติ ตฺวา รชฺชํ ปหาย เอโก จรติ เอวํ พาลสหายํ ปหาย เอโก จเร. อถ วา ราชาว รฏฺนฺติ ยถา สุตโสโม ราชา วิชิตํ รฏฺํ ปหาย เอโก จริ, ยถา จ มหาชนโก เอวํ เอโกว จเรติ อยมฺปิ เอตสฺสตฺโถ. เสสํ วุตฺตานุสาเรน สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๕-๔๖). นิทฺเทเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ.

ปมทฺวยํ.

๑๓๓. ตติยคาถา ปทตฺถโต อุตฺตานา เอว. เกวลฺจ ปน สหายสมฺปทนฺติ เอตฺถ อเสกฺเขหิ สีลาทิกฺขนฺเธหิ สมฺปนฺนา สหายา เอว ‘‘สหายสมฺปทา’’ติ เวทิตพฺพา. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ยา อยํ วุตฺตา สหายสมฺปทา, ตํ สหายสมฺปทํ อทฺธา ปสํสาม, เอกํเสเนว โถเมมาติ วุตฺตํ โหติ. กถํ? เสฏฺา สมาเสวิตพฺพา สหายาติ. กสฺมา? อตฺตโน สีลาทีหิ เสฏฺเ เสวมานสฺส สีลาทโย ธมฺมา อนุปฺปนฺนา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา วุทฺธึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณนฺติ. สเม เสวมานสฺส อฺมฺสมธารเณน กุกฺกุจฺจวิโนทเนน จ ลทฺธา น ปริหายนฺติ . เอเต ปน สหายเก เสฏฺเ จ สเม จ อลทฺธา กุหนาทิมิจฺฉาชีวํ วชฺเชตฺวา ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนํ โภชนํ ภุฺชนฺโต ตตฺถ จ ปฏิฆานุนยํ อนุปฺปาเทนฺโต อนวชฺชโภชี หุตฺวา อตฺถกาโม กุลปุตฺโต เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป. อหมฺปิ หิ เอวํ จรนฺโต อิมํ สมฺปตฺตึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๗). นิทฺเทโส วุตฺตนโย เอว.

ตติยํ.

๑๓๔. จตุตฺเถ ทิสฺวาติ โอโลเกตฺวา. สุวณฺณสฺสาติ กฺจนสฺส. ‘‘วลยานี’’ติ ปาเสโส. สาวเสสปาโ หิ อยํ อตฺโถ. ปภสฺสรานีติ ปภาสนสีลานิ, ชุติมนฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ อุตฺตานปทตฺถเมว. อยํ ปน โยชนา – ทิสฺวา ภุชสฺมึ สุวณฺณสฺส วลยานิ ‘‘คณวาเส สติ สงฺฆฏฺฏนา, เอกวาเส สติ อฆฏฺฏนา’’ติ เอวํ จินฺเตนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๘). นูปุรานีติ วลยานิ. ‘‘นิยุรา’’ติ เกจิ วทนฺติ. ฆฏฺเฏนฺตีติ อฺมฺํ หนนฺติ.

จตุตฺถํ.

๑๓๕. ปฺจมคาถา ปทตฺถโต อุตฺตานา เอว. อยํ ปน เอตฺถ อธิปฺปาโย – ยฺวายํ เอเตน ทุตีเยน กุมาเรน สีตุณฺหาทีนิ นิเวเทนฺเตน สหวาเสน ตํ สฺาเปนฺตสฺส มม วาจาภิลาโป, ตสฺมึ สิเนหวเสน อภิสชฺชนา วา ชาตา. สเจ อหํ อิมํ น ปริจฺจชามิ, ตโต อายติมฺปิ ตเถว เหสฺสติ. ยถา อิทานิ, เอวํ ทุตีเยน สห มมสฺส, วาจาภิลาโป อภิสชฺชนา วา. อุภยมฺปิ เจตํ อนฺตรายกรํ วิเสสาธิคมสฺสาติ เอตํ ภยํ อายตึ เปกฺขมาโน ตํ ฉฑฺเฑตฺวา โยนิโส ปฏิปชฺชิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๔๙). เสสํ วุตฺตนยเมว.

ปฺจมํ.

๑๓๖. ฉฏฺเ กามาติ ทฺเว กามา วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ. ตตฺถ วตฺถุกามา มนาปิยา รูปาทโย ธมฺมา, กิเลสกามา ฉนฺทาทโย สพฺเพปิ ราคปฺปเภทา. อิธ ปน วตฺถุกามา อธิปฺเปตา . รูปาทิอเนกปฺปกาเรน จิตฺรา. โลกสฺสาทวเสน มธุรา. พาลปุถุชฺชนานํ มนํ รเมนฺตีติ มโนรมา. วิรูปรูเปนาติ วิรูเปน รูเปน, อเนกวิเธน สภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. เต หิ รูปาทิวเสน จิตฺรา, รูปาทีสุปิ นีลาทิวเสน วิวิธรูปา. เอวํ เตน วิรูปรูเปน ตถา ตถา อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา มเถนฺติ จิตฺตํ, ปพฺพชฺชาย อภิรมิตุํ น เทนฺตีติ. เสสเมตฺถ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ ทฺวีหิ ตีหิ วา ปเทหิ โยเชตฺวา ปุริมคาถาสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๐).

กามคุณาติ กามยิตพฺพฏฺเน กามา. พนฺธนฏฺเน คุณา. ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อหตานํ วตฺถานํ ทิคุณํ สงฺฆาฏิ’’นฺติ (มหาว. ๓๔๘) เอตฺถ ปฏลฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย, วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๔) เอตฺถ ราสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘สตคุณา ทกฺขิณา ปาฏิกงฺขิตพฺพา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๗๙) เอตฺถ อานิสํสฏฺโ คุณฏฺโ. ‘‘อนฺตํ อนฺตคุณํ (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺตึสาการ), กยิรา มาลาคุเณ พหู’’ติ เอตฺถ พนฺธนฏฺโ คุณฏฺโ. อิธาปิ เอเสว อธิปฺเปโต, เตน วุตฺตํ – ‘‘พนฺธนฏฺเน คุณา’’ติ. จกฺขุวิฺเยฺยาติ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสิตพฺพา. เอเตนุปาเยน โสตวิฺเยฺยาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิฏฺาติ ปริยิฏฺา วา โหนฺตุ, มา วา, อิฏฺารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. กนฺตาติ กามนียา. มนาปาติ มนวฑฺฒนกา. ปิยรูปาติ ปิยชาติกา. กามูปสํหิตาติ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมาเนน กาเมน อุปสํหิตา. รชนียาติ รชฺชนิยา, ราคุปฺปตฺติการณภูตาติ อตฺโถ.

ยทิ มุทฺทายาติอาทีสุ มุทฺทาติ องฺคุลิปพฺเพสุ สฺํ เปตฺวา หตฺถมุทฺทา. คณนาติ อจฺฉิทฺทคณนา. สงฺขานนฺติ ปิณฺฑคณนา. ยาย เขตฺตํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิธ เอตฺตกา วีหี ภวิสฺสนฺติ’’, รุกฺขํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิธ เอตฺตกานิ ผลานิ ภวิสฺสนฺติ’’, อากาสํ โอโลเกตฺวา ‘‘อิเม อากาเส สกุณา เอตฺตกา นาม ภวิสฺสนฺตี’’ติ ชานนฺติ. กสีติ กสิกมฺมํ. วณิชฺชาติ ชงฺฆวณิชฺชถลวณิชฺชาทิวณิปฺปโถ. โครกฺขนฺติ อตฺตโน วา ปเรสํ วา คาโว รกฺขิตฺวา ปฺจโครสวิกฺกเยน ชีวนกมฺมํ. อิสฺสตฺโถ วุจฺจติ อาวุธํ คเหตฺวา อุปฏฺานกมฺมํ. ราชโปริสนฺติ วินา อาวุเธน ราชกมฺมํ กตฺวา ราชุปฏฺานํ. สิปฺปฺตรนฺติ คหิตาวเสสหตฺถิอสฺสสิปฺปาทิ.

สีตสฺส ปุรกฺขโตติ ลกฺขํ วิย สรสฺส สีตสฺส ปุรโต ิโต, สีเตน พาธิยมาโนติ อตฺโถ. อุณฺเหปิ เอเสว นโย. ฑํสาทีสุ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. มกสาติ สพฺพมกฺขิกา. สรีสปาติ เย เกจิ สริตฺวา คจฺฉนฺติ. ริสฺสมาโนติ ปีฬิยมาโน รุปฺปมาโน ฆฏฺฏิยมาโน. มียมาโนติ มรมาโน. อยํ, ภิกฺขเวติ ภิกฺขเว, อยํ มุทฺทาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ อาคมฺม สีตาทิปจฺจโย อาพาโธ. กามานํ อาทีนโวติ กาเมสุ อุปทฺทโว, อุปสคฺโคติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺิโกติ ปจฺจกฺโข สามํ ปสฺสิตพฺโพ. ทุกฺขกฺขนฺโธติ ทุกฺขราสิ. กามเหตูติอาทีสุ ปจฺจยฏฺเน กามา อสฺส เหตูติ กามเหตุ. มูลฏฺเน กามา นิทานมสฺสาติ กามนิทาโน. ลิงฺควิปลฺลาเสน ปน ‘‘กามนิทาน’’นฺติ วุตฺโต. การณฏฺเน กามา อธิกรณํ อสฺสาติ กามาธิกรโณ. ลิงฺควิปลฺลาเสเนว ปน ‘‘กามาธิกรณ’’นฺติ วุตฺโต. กามานเมว เหตูติ อิทํ นิยมวจนํ กามปจฺจยา อุปฺปชฺชติเยวาติ อตฺโถ.

อุฏฺหโตติ อาชีวสมุฏฺาปกวีริเยน อุฏฺหนฺตสฺส. ฆฏโตติ ตํ วีริยํ ปุพฺเพนาปรํ ฆเฏนฺตสฺส. วายมโตติ วายามํ ปรกฺกมํ ปโยคํ กโรนฺตสฺส. นาภินิปฺผชฺชนฺตีติ น นิปฺผชฺชนฺติ, หตฺถํ นาภิรุหนฺติ. โสจตีติ จิตฺเต อุปฺปนฺนพลวโสเกน โสจติ. กิลมตีติ กาเย อุปฺปนฺนทุกฺเขน กิลมติ. ปริเทวตีติ วาจาย ปริเทวติ. อุรตฺตาฬินฺติ อุรํ ตาเฬตฺวา. กนฺทตีติ โรทติ. สมฺโมหํ อาปชฺชตีติ วิสฺี วิย สมฺมูฬฺโห โหติ. โมฆนฺติ ตุจฺฉํ. อผโลติ นิปฺผโล.

อารกฺขาธิกรณนฺติ อารกฺขการณา. กินฺติ เมติ เกน นุ โข เม อุปาเยน. ยมฺปิ เมติ ยมฺปิ มยฺหํ กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา อุปฺปาทิตํ ธนํ อโหสิ. ตมฺปิ โน นตฺถีติ ตมฺปิ อมฺหากํ อิทานิ นตฺถิ.

ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, กามเหตูติอาทินาปิ การณํ ทสฺเสตฺวาว อาทีนวํ ทีเปติ. ตตฺถ กามเหตูติ กามปจฺจยา ราชาโนปิ ราชูหิ วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามนิทานนฺติ ภาวนปุํสกํ, กาเม นิทานํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามาธิกรณนฺติปิ ภาวนปุํสกเมว, กาเม อธิกรณํ กตฺวา วิวทนฺตีติ อตฺโถ. กามานเมว เหตูติ คามนิคมเสนาปติปุโรหิตฏฺานนฺตราทีนํ กามานํเยว เหตุ วิวทนฺตีติ อตฺโถ. อุปกฺกมนฺตีติ ปหรนฺติ.

อสิจมฺมนฺติ อสิฺเจว เขฏกผลกาทีนิ จ.

ธนุกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวาติ ธนุํ คเหตฺวา สรกลาปํ สนฺนยฺหิตฺวา. อุภโตพฺยูฬฺหนฺติ อุภโตราสิภูตํ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ปวิสนฺติ. อุสูสูติ กณฺเฑสุ. วิชฺโชตลนฺเตสูติ ปริวตฺตมาเนสุ. เต ตตฺถาติ เต ตสฺมึ สงฺคาเม.

อทฺทาวเลปนาอุปการิโยติ เจตฺถ มนุสฺสา ปาการปาทํ อสฺสขุรสณฺาเนน อิฏฺกาหิ จินิตฺวา อุปริ สุธาย ลิมฺปนฺติ. เอวํ กตปาการปาทา ‘‘อุปการิโย’’ติ วุจฺจนฺติ. ตา ตินฺเตน กลเลน สิตฺตา อทฺทาวเลปนา นาม โหนฺติ. ปกฺขนฺทนฺตีติ ตาสํ เหฏฺา ติขิณอยสูลรุกฺขสูลาทีหิ วิชฺฌิยมานา ปาการสฺส ปิจฺฉิลฺลภาเวน อาโรหิตุํ อสกฺโกนฺตาปิ อุปธาวนฺติเยว. ฉกณกายาติ กุถิตโคมเยน. อภิวคฺเคนาติ สตทนฺเตน. ตํ อฏฺทนฺตากาเรน กตฺวา ‘‘นครทฺวารํ ภินฺทิตฺวา ปวิสิสฺสามา’’ติ อาคเต อุปริทฺวาเร ิตา ตสฺส พนฺธนโยตฺตานิ ฉินฺทิตฺวา เตน อภิวคฺเคน โอมทฺทนฺติ.

สนฺธิมฺปิ ฉินฺทนฺตีติ ฆรสนฺธิมฺปิ. นิลฺโลปนฺติ คาเม ปหริตฺวา มหาวิโลปํ กโรนฺติ. เอกาคาริกนฺติ ปณฺณาสมตฺตาปิ สฏฺิมตฺตาปิ ปริวาเรตฺวา ชีวคฺคาหํ คเหตฺวา ธนํ อาหราเปนฺติ. ปริปนฺเถปิ ติฏฺนฺตีติ ปนฺถทูหนกมฺมํ กโรนฺติ. อฑฺฒทณฺฑเกหีติ มุคฺคเรหิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๖๙). เสสํ วุตฺตตฺถเมว.

ฉฏฺํ.

๑๓๗. สตฺตเม เอตีติ อีติ, อาคนฺตุกานํ อกุสลภาคิยานํ พฺยสนเหตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ตสฺมา กามคุณาปิ เอเต อเนกพฺยสนาวหฏฺเน ทฬฺหสนฺนิปาตฏฺเน จ อีติ. คณฺโฑปิ อสุจึ ปคฺฆรติ, อุทฺธุมาตปริปกฺกปริภินฺโน โหติ. ตสฺมา เอเต กิเลสา อสุจิปคฺฆรณโต อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปริภินฺนภาวโต จ คณฺโฑ. อุปทฺทวตีติ อุปทฺทโว, อนตฺถํ ชเนนฺโต อภิภวติ อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺโถ, ราคคณฺฑาทีนเมตํ อธิวจนํ. ตสฺมา กามคุณาเปเต อวิทิตนิพฺพานตฺถาวหเหตุตาย สพฺพุปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทโว. ยสฺมา ปเนเต กิเลสาตุรภาวํ ชเนนฺตา สีลสงฺขาตมาโรคฺยํ โลลุปฺปํ วา อุปฺปาเทนฺตา ปากติกเมว อาโรคฺยํ วิลุมฺปนฺติ, ตสฺมา อิมินา อาโรคฺยวิลุมฺปนฏฺเน โรโค. อพฺภนฺตรมนุปวิฏฺฏฺเน ปน อนฺโตตุทนฏฺเน ทุนฺนีหรณียฏฺเน จ สลฺลํ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกภยาวหนโต ภยํ. เมตนฺติ เอตํ เสสเมตฺถ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๑).

กามราครตฺตายนฺติ กามราเคน รตฺโต อยํ. ฉนฺทราควินิพทฺโธติ ฉนฺทราเคน สฺเนเหน พทฺโธ. ทิฏฺธมฺมิกาปิ คพฺภาติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว วตฺตมานสฬายตนคพฺภา. สมฺปรายิกาปิ คพฺภาติ ปรโลเกปิ สฬายตนคพฺภา. น ปริมุจฺจตีติ ปริมุจฺจิตุํ น สกฺโกติ. โอติณฺโณ สาตรูเปนาติ มธุรสภาเวน ราเคน โอติณฺโณ โอคาหิโต. ปลิปถนฺติ กามกลลมคฺคํ. ทุคฺคนฺติ ทุคฺคมํ.

สตฺตมํ.

๑๓๘. อฏฺเม สีตํ ทุพฺพิธํ อพฺภนฺตรธาตุกฺโขภปจฺจยฺจ พาหิรธาตุกฺโขภปจฺจยฺจ. ตถา อุณฺหํ. ตตฺถ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. สรีสเปติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สริตฺวา คจฺฉนฺติ. เสสํ ปากฏเมว. นิคมนมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

อฏฺมํ.

๑๓๙. นวมคาถา ปทตฺถโต ปากฏา เอว. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปายโยชนา – สา จ โข ยุตฺติวเสน, น อนุสฺสววเสน. ยถา อยํ หตฺถี มนุสฺสกนฺเตสุ สีเลสุ ทนฺตตฺตา อทนฺตภูมึ นาคจฺฉตีติ วา, สรีรมหนฺตตาย วา นาโค. เอวํ กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อริยกนฺเตสุ สีเลสุ ทนฺตตฺตา อทนฺตภูมึ นาคมเนน, อาคุํ อกรเณน, ปุน อิตฺถตฺตํ อนาคมเนน จ คุณสรีรมหนฺตตาย วา นาโค ภเวยฺยํ. ยถา เจส ยูถานิ วิวชฺชยิตฺวา เอกจริยสุเขน ยถาภิรนฺตํ วิหเร อรฺเ, เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ คณํ วิวชฺชยิตฺวา เอกตฺตาภิรติสุเขน ฌานสุเขน ยถาภิรนฺตํ อรฺเ อตฺตโน ยถา ยถา สุขํ, ตถา ตถา ยตฺตกํ วา อิจฺฉามิ, ตตฺตกํ อรฺเ นิวาสํ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป เอโก จเรยฺยนฺติ อตฺโถ. ยถา เจส สุสณฺิตกฺขนฺธมหนฺตตาย สฺชาตกฺขนฺโธ, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ อเสกฺขสีลกฺขนฺธมหนฺตตาย สฺชาตกฺขนฺโธ ภเวยฺยํ. ยถา เจส ปทุมสทิสคตฺตตาย วา, ปทุมกุเล อุปฺปนฺนตาย วา ปทุมี, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ ปทุมสทิสโพชฺฌงฺคมหนฺตตาย วา, อริยชาติปทุเม อุปฺปนฺนตาย วา ปทุมี ภเวยฺยํ. ยถา เจส ถามพลชวาทีหิ อุฬาโร, กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ เอวํ ปริสุทฺธกายสมาจารตาทีหิ สีลสมาธินิพฺเพธิกปฺาทีหิ วา อุฬาโร ภเวยฺยนฺติ เอวํ จินฺเตนฺโต วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ปจฺเจกโพธึ อธิคโตมฺหีติ.

นวมํ.

๑๔๐. ทสเม อฏฺานตนฺติ อฏฺานํ ตํ, อการณํ ตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนุนาสิกสฺส โลโป กโต ‘‘อริยสจฺจาน ทสฺสน’’นฺติอาทีสุ (ขุ. ปา. ๕.๑๑; สุ. นิ. ๒๗๐) วิย. สงฺคณิการตสฺสาติ คณาภิรตสฺส. นฺติ การณวจนเมตํ ‘‘ยํ หิรียติ หิรียิตพฺเพนา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๐) วิย. ผสฺสเยติ อธิคจฺเฉ. สามยิกํ วิมุตฺตินฺติ โลกิยสมาปตฺตึ. สา หิ อปฺปิตปฺปิตสมเย เอว ปจฺจนีเกหิ วิมุจฺจนโต ‘‘สามยิกา วิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ตํ สามยิกํ วิมุตฺตึ. ‘‘อฏฺานํ ตํ, น ตํ การณํ วิชฺชติ สงฺคณิการตสฺส, เยน การเณน ผสฺสเย อิติ เอตํ อาทิจฺจพนฺธุสฺส ปจฺเจกพุทฺธสฺส วโจ นิสมฺม สงฺคณิการตึ ปหาย โยนิโส ปฏิปชฺชนฺโต อธิคโตมฺหี’’ติ อาห. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๑๐).

นิทฺเทเส เนกฺขมฺมสุขนฺติ ปพฺพชฺชาสุขํ. ปวิเวกสุขนฺติ กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สุขํ. อุปสมสุขนฺติ กิเลสุปสมํ ผลสมาปตฺติสุขํ. สมฺโพธิสุขนฺติ มคฺคสุขํ. นิกามลาภีติ อตฺตโน รุจิวเสน ยถากามลาภี. อกิจฺฉลาภีติ อทุกฺขลาภี. อกสิรลาภีติ วิปุลลาภี. อสามยิกนฺติ โลกุตฺตรํ. อกุปฺปนฺติ กุปฺปวิรหิตํ อจลิตํ โลกุตฺตรมคฺคํ.

ทสมํ.

ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยวคฺควณฺณนา

๑๔๑. ตติยวคฺคสฺส ปเม ทิฏฺีวิสูกานีติ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิคตานิ. ตานิ หิ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา วิสูกฏฺเน วิชฺฌนฏฺเน วิโลมฏฺเน จ วิสูกานิ. เอวํ ทิฏฺิยา วิสูกานีติ ทิฏฺิวิสูกานิ, ทิฏฺิโย เอว วา วิสูกานิ ทิฏฺิวิสูกานิ. อุปาติวตฺโตติ ทสฺสนมคฺเคน อติกฺกนฺโต. ปตฺโต นิยามนฺติ อวินิปาตธมฺมตาย สมฺโพธิปรายนตาย จ นิยตภาวํ อธิคโต, สมฺมตฺตนิยามสงฺขาตํ วา ปมมคฺคนฺติ. เอตฺตาวตา ปมมคฺคกิจฺจนิปฺผตฺติ จ ตสฺส ปฏิลาโภ จ วุตฺโต. อิทานิ ปฏิลทฺธมคฺโคติ อิมินา เสสมคฺคปฏิลาภํ ทสฺเสติ. อุปฺปนฺนาโณมฺหีติ อุปฺปนฺนปจฺเจกโพธิาโณ อมฺหิ. เอเตน ผลํ ทสฺเสติ. อนฺเนยฺโยติ อฺเหิ ‘‘อิทํ สจฺจํ อิทํ สจฺจ’’นฺติ นเนตพฺโพ. เอเตน สยมฺภุตํ ทีเปติ. ปตฺเต วา ปจฺเจกโพธิาเณ อฺเนยฺยตาย อภาวา สยํวสิตํ. สมถวิปสฺสนาย วา ทิฏฺิวิสูกานิ อุปาติวตฺโต, อาทิมคฺเคน ปตฺโต นิยามํ, เสเสหิ ปฏิลทฺธมคฺโค, ผลาเณน อุปฺปนฺนาโณ, ตํ สพฺพํ อตฺตนาว อธิคโตติ อนฺเนยฺโย. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๔; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๑๑).

น ปรเนยฺโยติ น อฺเหิ เนตพฺโพ. น ปรปฺปตฺติโยติ ปจฺจกฺขธมฺมตฺตา น อฺเหิ สทฺทหาเปตพฺโพ. น ปรปฺปจฺจโยติ น อสฺส ปโร ปจฺจโย, น ปรสฺส สทฺธาย วตฺตตีติ น ปรปฺปจฺจโย. น ปรปฏิพทฺธคูติ น อฺเสํ ปฏิพทฺธาณคมโน.

ปมํ.

๑๔๒. ทุติเย นิลฺโลลุโปติ อโลลุโป. โย หิ รสตณฺหาภิภูโต โหติ, โส ภุสํ ลุปฺปติ ปุนปฺปุนฺจ ลุปฺปติ, เตน ‘‘โลลุโป’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา เอส ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห ‘‘นิลฺโลลุโป’’ติ. นิกฺกุโหติ เอตฺถ กิฺจาปิ ยสฺส ติวิธกุหนวตฺถุ นตฺถิ, โส ‘‘นิกฺกุโห’’ติ วุจฺจติ, อิมิสฺสา ปน คาถาย มนุฺโภชนาทีสุ วิมฺหยมนาปชฺชนโต นิกฺกุโหติ อยมธิปฺปาโย. นิปฺปิปาโสติ เอตฺถ ปาตุมิจฺฉา ปิปาสา, ตสฺสา อภาเวน นิปฺปิปาโส, สาทุรสโลเภน โภตฺตุกมฺยตาวิรหิโตติ อตฺโถ. นิมฺมกฺโขติ เอตฺถ ปรคุณวินาสนลกฺขโณ มกฺโข, ตสฺส อภาเวน นิมฺมกฺโข. อตฺตโน คหฏฺกาเล สูทสฺส คุณมกฺขนาภาวํ สนฺธาย อาห. นิทฺธนฺตกสาวโมโหติ เอตฺถ ราคาทโย ตโย กายทุจฺจริตาทีนิ จ ตีณีติ ฉ ธมฺมา ยถาสมฺภวํ อปฺปสนฺนฏฺเน สกภาวํ วิชหาเปตฺวา ปรภาวํ คณฺหาปนฏฺเน กสฏฏฺเน จ ‘‘กสาวา’’ติ เวทิตพฺพา. ยถาห –

‘‘ตตฺถ กตเม ตโย กสาวา? ราคกสาโว โทสกสาโว โมหกสาโว, อิเม ตโย กสาวา. ตตฺถ กตเม อปเรปิ ตโย กสาวา? กายกสาโว วจีกสาโว มโนกสาโว’’ติ (วิภ. ๙๒๔).

เตสุ โมหํ เปตฺวา ปฺจนฺนํ กสาวานํ เตสฺจ สพฺเพสํ มูลภูตสฺส โมหสฺส นิทฺธนฺตตฺตา นิทฺธนฺตกสาวโมโห, ติณฺณํ เอว วา กายวจีมโนกสาวานํ โมหสฺส จ นิทฺธนฺตตฺตา นิทฺธนฺตกสาวโมโห. อิตเรสุ นิลฺโลลุปตาทีหิ ราคกสาวสฺส, นิมฺมกฺขตาย โทสกสาวสฺส นิทฺธนฺตภาโว สิทฺโธ เอว. นิราสโสติ นิตฺตณฺโห. สพฺพโลเกติ สกลโลเก, ตีสุ ภเวสุ ทฺวาทสสุ วา อายตเนสุ ภววิภวตณฺหาวิรหิโต หุตฺวาติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ . อถ วา ตโยปิ ปาเท วตฺวา เอโก จเรติ เอโก จริตุํ สกฺกุเณยฺยาติ เอวมฺปิ เอตฺถ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๙๖).

ทุติยํ.

๑๔๓. ตติเย อยํ สงฺเขปตฺโถ – ยฺวายํ ทสวตฺถุกาย ปาปทิฏฺิยา สมนฺนาคตตฺตา ปาโป. ปเรสมฺปิ อนตฺถํ ทสฺเสตีติ อนตฺถทสฺสี. กายทุจฺจริตาทิมฺหิ จ วิสเม นิวิฏฺโ. ตํ อตฺถกาโม กุลปุตฺโต ปาปํ สหายํ ปริวชฺชเยถ, อนตฺถทสฺสึ วิสเม นิวิฏฺํ. สยํ น เสเวติ อตฺตโน วเสน ตํ น เสเวยฺย. ยทิ ปน ปรวโส โหติ, กึ สกฺกา กาตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปสุตนฺติ ปสฏํ, ทิฏฺิวเสน ตตฺถ ตตฺถ ลคฺคนฺติ อตฺโถ. ปมตฺตนฺติ กามคุเณสุ โวสฺสฏฺจิตฺตํ, กุสลภาวนารหิตํ วา. ตํ เอวรูปํ น เสเว น ภเช น ปยิรุปาเส, อฺทตฺถุ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ.

นิทฺเทเส สยํ น เสเวยฺยาติ สามํ น อุปสงฺกเมยฺย. สามํ น เสเวยฺยาติ จิตฺเตนปิ น อุปสงฺกเมยฺย. น เสเวยฺยาติ น ภเชยฺย. นิเสเวยฺยาติ สมีปมฺปิ น คจฺเฉยฺย. น สํเสเวยฺยาติ ทูเร ภเวยฺย. น ปริสํเสเวยฺยาติ ปฏิกฺกเมยฺย.

ตติยํ.

๑๔๔. จตุตฺเถ อยํ สงฺเขปตฺโถ – พหุสฺสุตนฺติ ทุวิโธ พหุสฺสุโต ตีสุ ปิฏเกสุ อตฺถโต นิขิโล ปริยตฺติพหุสฺสุโต จ มคฺคผลวิชฺชาภิฺานํ ปฏิวิทฺธตฺตา ปฏิเวธพหุสฺสุโต จ. อาคตาคโม ธมฺมธโร. อุฬาเรหิ ปน กายวจีมโนกมฺเมหิ สมนฺนาคโต อุฬาโร. ยุตฺตปฏิภาโน จ มุตฺตปฏิภาโน จ ยุตฺตมุตฺตปฏิภาโน จ ปฏิภานวา. ปริยตฺติปริปุจฺฉาธิคมวเสน วา ติธา ปฏิภานวา เวทิตพฺโพ. ยสฺส หิ ปริยตฺติ ปฏิภาติ, โส ปริยตฺติปฏิภานวา. ยสฺส อตฺถฺจ ายฺจ ลกฺขณฺจ านาฏฺานฺจ ปริปุจฺฉนฺตสฺส ปริปุจฺฉา ปฏิภาติ, โส ปริปุจฺฉาปฏิภานวา. เยน มคฺคาทโย ปฏิวิทฺธา โหนฺติ, โส อธิคมปฏิภานวา. ตํ เอวรูปํ พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ ภเชถ, มิตฺตํ อุฬารํ ปฏิภานวนฺตํ. ตโต ตสฺสานุภาเวน อตฺตตฺถปรตฺถอุภยตฺถเภทโต วา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺถเภทโต วา อเนกปฺปการานิ อฺาย อตฺถานิ, ตโต ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) กงฺขาฏฺาเนสุ วิเนยฺย กงฺขํ วิจิกิจฺฉํ วิเนตฺวา วินาเสตฺวา เอวํ กตสพฺพกิจฺโจ เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๘).

จตุตฺถํ.

๑๔๕. ปฺจเม ขิฑฺฑารติ จ ปุพฺเพ วุตฺตาว. กามสุขนฺติ วตฺถุกามสุขํ. วตฺถุกามาปิ หิ สุขสฺส วิสยาทิภาเวน สุขนฺติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘อตฺถิ รูปํ สุขํ สุขานุปติต’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๖๐). เอวเมตํ ขิฑฺฑํ รตึ กามสุขฺจ อิมสฺมึ โอกาสโลเก อนลงฺกริตฺวา อลนฺติ อกตฺวา ‘‘เอตํ ตปฺปก’’นฺติ วา ‘‘สารภูต’’นฺติ วา เอวํ อคฺคเหตฺวา. อนเปกฺขมาโนติ เตน อนลงฺกรเณน อนเปกฺขนสีโล อปิหาลุโก นิตฺตณฺโห. วิภูสฏฺานาวิรโต สจฺจวาที เอโก จเรติ. ตตฺถ วิภูสา ทุวิธา อคาริกวิภูสา จ อนคาริกวิภูสา จ. ตตฺถ อคาริกวิภูสา สากฏเวนมาลาคนฺธาทิ, อนคาริกวิภูสา จ ปตฺตมณฺฑนาทิ. วิภูสา เอว วิภูสฏฺานํ, ตสฺมา วิภูสฏฺานา ติวิธายปิ วิรติยา วิรโต. อวิตถวจนโต สจฺจวาทีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๕๙).

ปฺจมํ.

๑๔๖. ฉฏฺเ ธนานีติ มุตฺตามณิเวฬุริยสงฺขสิลาปวาฬรชตชาตรูปาทีนิ รตนานิ. ธฺานีติ สาลิวีหิยวโคธุมกงฺกุวรกกุทฺรูสกปฺปเภทานิ สตฺต เสสาปรณฺณานิ จ. พนฺธวานีติ าติพนฺธุ, โคตฺตพนฺธุ, มิตฺตพนฺธุ, สิปฺปพนฺธุวเสน จตุพฺพิธพนฺธเว. ยโถธิกานีติ สกสกโอธิวเสน ิตานิเยว. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๐).

ฉฏฺํ.

๑๔๗. สตฺตเม สงฺโค เอโสติ อตฺตโน อุปโภคํ นิทฺทิสติ. โส หิ สชฺชนฺติ ตตฺถ ปาณิโน กทฺทเม ปวิฏฺโ หตฺถี วิยาติ สงฺโค. ปริตฺตเมตฺถ โสขฺยนฺติ เอตฺถ ปฺจกามคุณูปโภคกาเล วิปรีตสฺาย อุปฺปาเทตพฺพโต กามาวจรธมฺมปริยาปนฺนโต วา ลามกฏฺเน โสขฺยํ ปริตฺตํ, วิชฺชุปฺปภาย โอภาสิตนจฺจทสฺสนสุขํ วิย อิตฺตรํ, ตาวกาลิกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปสฺสาโท ทุกฺขเมตฺถ ภิยฺโยติ เอตฺถ จ ยฺวายํ ‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ กามานํ อสฺสาโท’’ติ วุตฺโต, โส ยมิทํ ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, กามานํ อาทีนโว, อิธ, ภิกฺขเว, กุลปุตฺโต เยน สิปฺปฏฺาเนน ชีวิกํ กปฺเปติ ยทิ มุทฺทาย ยทิ คณนายา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๖๒) เอวมาทินา นเยเนตฺถ ทุกฺขํ วุตฺตํ, ตํ อุปนิธาย อปฺโปทกพินฺทุมตฺโต โหติ, อถ โข ทุกฺขเมว ภิยฺโย พหุ, จตูสุ สมุทฺเทสุ อุทกสทิโส โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺปสฺสาโท ทุกฺขเมตฺถ ภิยฺโย’’ติ. คโฬ เอโสติ อสฺสาทํ ทสฺเสตฺวา อากฑฺฒนวเสน พฬิโส วิย เอโส, ยทิทํ ปฺจ กามคุณา. อิติ ตฺวา มติมาติ เอวํ ตฺวา พุทฺธิมา ปณฺฑิโต ปุริโส สพฺพมฺเปตํ ปหาย เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโปติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๑).

สตฺตมํ.

๑๔๘. อฏฺมคาถาย ทุติยปาเท ชาลนฺติ สุตฺตมยํ วุจฺจติ. อมฺพูติ อุทกํ, ตตฺถ จรตีติ อมฺพุจารี, มจฺฉสฺเสตํ อธิวจนํ. สลิเล อมฺพุจารี สลิลมฺพุจารี. ตสฺมึ นทีสลิเล ชาลํ เภตฺวา คตอมฺพุจารีวาติ วุตฺตํ โหติ. ตติยปาเท ทฑฺฒนฺติ ทฑฺฒฏฺานํ วุจฺจติ. ยถา อคฺคิ ทฑฺฒฏฺานํ ปุน น นิวตฺตติ, น ตตฺถ ภิยฺโย อาคจฺฉติ, เอวํ มคฺคาณคฺคินา ทฑฺฒํ กามคุณฏฺานํ อนิวตฺตมาโน, ตตฺถ ภิยฺโย อนาคจฺฉนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

สํโยชนานีติ ยสฺส สํวิชฺชนฺติ, ตํ ปุคฺคลํ วฏฺฏสฺมึ สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ. อิมานิ ปน สํโยชนานิ กิเลสปฏิปาฏิยาปิ อาหริตุํ วฏฺฏติ มคฺคปฏิปาฏิยาปิ. กามราคปฏิฆสํโยชนานิ อนาคามิมคฺเคน ปหียนฺติ, มานสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา โสตาปตฺติมคฺเคน, ภวราคสํโยชนํ อรหตฺตมคฺเคน, อิสฺสามจฺฉริยานิ โสตาปตฺติมคฺเคน, อวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคน. มคฺคปฏิปาฏิยา ทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสอิสฺสามจฺฉริยา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, กามราคปฏิฆา อนาคามิมคฺเคน, มานภวราคอวิชฺชา อรหตฺตมคฺเคนาติ. ภินฺทิตฺวาติ เภทํ ปาเปตฺวา. ปภินฺทิตฺวาติ ฉินฺทํ กตฺวา. ทาลยิตฺวาติ ผาเลตฺวา. ปทาลยิตฺวาติ หีเรตฺวา. สมฺปทาลยิตฺวาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺฒิตํ.

อฏฺมํ.

๑๔๙. นวเม โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺาขิตฺตจกฺขุ, สตฺต คีวฏฺีนิ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา ปริวชฺชนปหาตพฺพทสฺสนตฺถํ ยุคมตฺตํ เปกฺขมาโนติ วุตฺตํ โหติ. น ตุ หนุกฏฺินา หทยฏฺึ สงฺฆฏฺเฏนฺโต. เอวฺหิ โอกฺขิตฺตจกฺขุตา น สมณสารูปฺปา โหติ. น จ ปาทโลโลติ เอกสฺส ทุติโย ทฺวินฺนํ ตติโยติ เอวํ คณมชฺฌํ, ปวิสิตุกามตาย กณฺฑูยมานปาโท วิย อภวนฺโต, ทีฆจาริกอนวฏฺิตจาริกวิรโต วา. คุตฺตินฺทฺริโยติ ฉสุ อินฺทฺริเยสุ อิธ มนินฺทฺริยสฺส วิสุํ วุตฺตตฺตา วุตฺตาวเสสวเสน โคปิตินฺทฺริโย. รกฺขิตมานสาโนติ มานสํเยว มานสานํ, ตํ รกฺขิตมสฺสาติ รกฺขิตมานสาโน. ยถา กิเลเสติ น วิลุปฺปติ, เอวํ รกฺขิตจิตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อนวสฺสุโตติ อิมาย ปฏิปตฺติยา เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ กิเลสอนฺวาสฺสววิรหิโต. อปริฑยฺหมาโนติ เอวํ อนฺวาสฺสววิรหิตา เอว กิเลสคฺคีหิ อปริฑยฺหมาโน, พหิทฺธา วา อนวสฺสุโต, อชฺฌตฺตํ อปริฑยฺหมาโน. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๓).

จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ การณวเสน ‘‘จกฺขู’’ติ ลทฺธโวหาเรน รูปทสฺสนสมตฺเถน จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวา. โปราณา ปนาหุ –

‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา, จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา, ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺฏเน ปน ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตน ปสฺสติ. อีทิสี ปเนสา ‘ธนุนา วิชฺฌตี’ติอาทีสุ วิย สสมฺภารกถา นาม โหติ, ตสฺมา จกฺขุวิฺาเณน รูปํ ทิสฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๕; ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒).

นิมิตฺตคฺคาหีติ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วา สุภนิมิตฺตาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ ฉนฺทราควเสน คณฺหาติ, ทิฏฺมตฺตวเสน น สณฺาติ. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ กิเลสานํ อนุพฺยฺชนโต ปากฏภาวกรณโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ ลทฺธโวหารํ หตฺถปาทหสิตลปิตวิโลกิตาทิเภทํ อาการํ คณฺหาติ.

ยตฺวาธิกรณเมนนฺติอาทิมฺหิ ยํการณา ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ. เอตํ ปุคฺคลํ สติกวาเฏน จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ อปิหิตจกฺขุทฺวารํ หุตฺวา วิหรนฺตํ เอเต อภิชฺฌาทโย ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ. ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถาย น ปฏิปชฺชติ. เอวํภูโตเยว จ ‘‘น รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยํ. น จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตี’’ติปิ วุจฺจติ.

ตตฺถ กิฺจาปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโร วา อสํวโร วา นตฺถิ. น หิ จกฺขุปสาทํ นิสฺสาย สติ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อุปฺปชฺชติ, อปิ จ ยทา รูปารมฺมณํ จกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, ตทา ภวงฺเค ทฺวิกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ กิริยมโนธาตุ อาวชฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตโต จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺจํ ตโต วิปากมโนธาตุ สมฺปฏิจฺฉนกิจฺจํ ตโต วิปากาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ สนฺตีรณกิจฺจํ ตโต กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ โวฏฺปนกิจฺจํ สาธยมานา อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, ตทนนฺตรํ ชวนํ ชวติ. ตตฺราปิ เนว ภวงฺคสมเย, น อาวชฺชนาทีนํ อฺตรสมเย สํวโร วา อสํวโร วา อตฺถิ, ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วา มุฏฺสฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา อกฺขนฺติ วา โกสชฺชํ วา อุปฺปชฺชติ, อสํวโร โหติ. เอวํ โหนฺโต ปน โส จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโรติ วุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺมึ สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ยถา กึ? ยถา นคเร จตูสุ ทฺวาเรสุ อสํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆรทฺวารโกฏฺกคพฺภาทโย สุสํวุตา, ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ อรกฺขิตํ อโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรน หิ ปวิสิตฺวา โจรา ยทิจฺฉนฺติ, ตํ หเรยฺยุํ. เอวเมว ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปีติ.

จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติอาทีสุ น นิมิตฺตคฺคาหี โหตีติ ฉนฺทราควเสน วุตฺตปฺปการํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ. เอวํ เสสปทานิปิ วุตฺตปฏิกฺเขเปน เวทิตพฺพานิ. ยถา จ เหฏฺา ‘‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปี’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ตสฺมึ สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ยถา กึ? ยถา นครทฺวาเรสุ สํวุเตสุ กิฺจาปิ อนฺโตฆราทโย อสํวุตา โหนฺติ. ตถาปิ อนฺโตนคเร สพฺพํ ภณฺฑํ สุรกฺขิตํ สุโคปิตเมว โหติ. นครทฺวาเรสุ ปิหิเตสุ โจรานํ ปเวโส นตฺถิ. เอวเมว ชวเน สีลาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ทฺวารมฺปิ คุตฺตํ โหติ ภวงฺคมฺปิ อาวชฺชนาทีนิ วีถิจิตฺตานิปิ. ตสฺมา ชวนกฺขเณ อุปฺปชฺชมาโนปิ จกฺขุนฺทฺริเย สํวโรติ วุตฺโต (ธ. ส. อฏฺ. ๑๓๕๒; วิสุทฺธิ. ๑.๑๕).

อวสฺสุตปริยายฺจาติ กิเลเสหิ ตินฺตการณฺจ. อนวสฺสุตปริยายฺจาติ กิเลเสหิ อตินฺตการณฺจ.

ปิยรูเปรูเปติ อิฏฺชาติเก รูปารมฺมเณ. อปฺปิยรูเป รูเปติ อนิฏฺสภาเว รูปารมฺมเณ. พฺยาปชฺชตีติ โทสวเสน ปูติภาวมาปชฺชติ. โอตารนฺติ ฉิทฺทํ อนฺตรํ. อารมฺมณนฺติ ปจฺจยํ.

อธิภํสูติ มทฺทํสุ. น อธิโภสีติ น มทฺทิ. พหลมตฺติกาติ ปุนปฺปุนํ ทานวเสน อุทฺธมายิกา พหลมตฺติกา. อทฺทาวเลปนาติ อสุกฺขมตฺติกทานา. เสสเมตฺถ อุตฺตานํ.

นวมํ.

๑๕๐. ทสเม กาสายวตฺโถ อภินิกฺขมิตฺวาติ อิมสฺส ปาทสฺส เคหา อภินิกฺขมิตฺวา กาสายวตฺโถ หุตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนเยเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตนฺติ.

ทสมํ.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถวคฺควณฺณนา

๑๕๑. จตุตฺถวคฺคสฺส ปเม รเสสูติ อมฺพิลมธุรติตฺตกกฏุกโลณิกขาริกกสาวาทิเภเทสุ สายนีเยสุ. เคธํ อกรนฺติ คิทฺธึ อกโรนฺโต, ตณฺหํ อนุปฺปาเทนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อโลโลติ ‘‘อิทํ สายิสฺสามิ, อิทํ สายิสฺสามี’’ติ เอวํ รสวิเสเสสุ อนากุโล. อนฺโปสีติ โปเสตพฺพกสทฺธิวิหาริกาทิวิรหิโต, กายสนฺธารณมตฺเตน สนฺตุฏฺโติ วุตฺตํ โหติ. ยถา วา ปุพฺเพ อุยฺยาเน รเสสุ เคธกรณโลโล หุตฺวา อฺโปสี อาสึ, เอวํ อหุตฺวา ยาย ตณฺหาย โลโล หุตฺวา รเสสุ เคธํ กโรติ, ตํ ตณฺหํ หิตฺวา อายตึ ตณฺหามูลกสฺส อฺสฺส อตฺตภาวสฺส อนิพฺพตฺตเนน อนฺโปสีติ ทสฺเสติ. อถ วา อตฺถภฺชนกฏฺเน กิเลสา ‘‘อฺเ’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโปสเนน อนฺโปสีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สปทานจารีติ อโวกฺกมฺมจารี อนุปุพฺพจารี, ฆรปฏิปาฏึ อฉฑฺเฑตฺวา อฑฺฒกุลฺจ ทลิทฺทกุลฺจ นิรนฺตรํ ปิณฺฑาย ปวิสมาโนติ อตฺโถ. กุเล กุเล อปฺปฏิพทฺธจิตฺโตติ ขตฺติยกุลาทีสุ ยตฺถ กตฺถจิ กิเลสวเสน อลคฺคจิตฺโต, จนฺทูปโม นิจฺจนวโก หุตฺวาติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๑).

ปมํ.

๑๕๒. ทุติเย อาวรณานีติ นีวรณาเนว, ตานิ อตฺถโต อุรคสุตฺเต (สุ. นิ. ๑ อาทโย) วุตฺตานิ. ตานิ ปน ยสฺมา อพฺภาทโย วิย จนฺทํ สูริยํ วา เจโต อาวรนฺติ, ตสฺมา ‘‘อาวรณานิ เจตโส’’ติ วุตฺตานิ. ตานิ อุปจาเรน วา อปฺปนาย วา ปหาย. อุปกฺกิเลเสติ อุปคมฺม จิตฺตํ วิพาเธนฺเต อกุสเล ธมฺเม, วตฺโถปมาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๐ อาทโย) วุตฺเต อภิชฺฌาทโย วา. พฺยปนุชฺชาติ ปนุทิตฺวา วินาเสตฺวา, วิปสฺสนามคฺเคน ปชหิตฺวาติ อตฺโถ . สพฺเพติ อนวเสเส. เอวํ สมถวิปสฺสนาสมฺปนฺโน ปมมคฺเคน ทิฏฺินิสฺสยสฺส ปหีนตฺตา อนิสฺสิโต. เสสมคฺเคหิ เฉตฺวา เตธาตุกคตํ สิเนหโทสํ, ตณฺหาราคนฺติ วุตฺตํ โหติ. สิเนโห เอว หิ คุณปฏิปกฺขโต สิเนหโทโสติ วุตฺโต. เสสํ วุตฺตนยเมว (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๖).

ทุติยํ.

๑๕๓. ตติเย วิปิฏฺิกตฺวานาติ ปิฏฺิโต กตฺวา, ฉฑฺเฑตฺวา ชหิตฺวาติ อตฺโถ. สุขํ ทุขฺจาติ กายิกํ สาตาสาตํ. โสมนสฺสโทมนสฺสนฺติ เจตสิกํ สาตาสาตํ. อุเปกฺขนฺติ จตุตฺถชฺฌานุเปกฺขํ. สมถนฺติ จตุตฺถชฺฌานสมถเมว. วิสุทฺธนฺติ ปฺจนีวรณวิตกฺกวิจารปีติสุขสงฺขาเตหิ นวหิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา อติสุทฺธํ, นิทฺธนฺตสุวณฺณมิว วิคตูปกฺกิเลสนฺติ อตฺโถ.

อยํ ปน โยชนา – วิปิฏฺิกตฺวาน สุขํ ทุกฺขฺจ ปุพฺเพว, ปมชฺฌานูปจารภูมิยํเยว ทุกฺขํ, ตติยชฺฌานูปจารภูมิยฺจ สุขนฺติ อธิปฺปาโย. ปุน อาทิโต วุตฺตํ -การํ ปรโต เนตฺวา ‘‘โสมนสฺสํ โทมนสฺสฺจ วิปิฏฺิกตฺวาน ปุพฺเพวา’’ติ อธิกาโร. เตน โสมนสฺสํ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร, โทมนสฺสฺจ ทุติยชฺฌานูปจาเรเยวาติ ทีเปติ. เอตานิ หิ เอเตสํ ปริยายโต ปหานฏฺานานิ. นิปฺปริยายโต ปน ทุกฺขสฺส ปมชฺฌานํ, โทมนสฺสสฺส ทุติยชฺฌานํ, สุขสฺส ตติยชฺฌานํ, โสมนสฺสสฺส จตุตฺถชฺฌานํ ปหานฏฺานํ. ยถาห – ‘‘ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐). ตํ สพฺพํ เหฏฺา วุตฺตนเยน คเหตพฺพํ. ปรโต ปุพฺเพวาติ ตีสุ ปมชฺฌานทีสุ ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ วิปิฏฺิกตฺวา เอตฺเถว จ จตุตฺถชฺฌาเน โสมนสฺสํ วิปิฏฺิกตฺวา อิมาย ปฏิปทาย ลทฺธานุเปกฺขํ สมถํ วิสุทฺธํ เอโก จเร อิติ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๗; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๓).

ตติยํ.

๑๕๔. จตุตฺเถ อารทฺธํ วีริยํ อสฺสาติ อารทฺธวิริโย. เอเตน อตฺตโน วีริยารมฺภํ อาทิวีริยํ ทสฺเสติ. ปรมตฺโถ วุจฺจติ นิพฺพานํ, ตตฺถ ปตฺติยา ปรมตฺถปตฺติยา. เอเตน วีริยารมฺเภน ปตฺตพฺพผลํ ทสฺเสติ. อลีนจิตฺโตติ เอเตน วีริยุปตฺถมฺภานํ จิตฺตเจตสิกานํ อลีนตํ ทสฺเสติ. อกุสีตวุตฺตีติ เอเตน านาสนจงฺกมาทีสุ กายสฺส อนวสีทนํ. ทฬฺหนิกฺกโมติ เอเตน ‘‘กามํ ตโจ จ นฺหารุ จา’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๘๔; สํ. นิ. ๒.๒๒; อ. นิ. ๒.๕; มหานิ. ๑๙๖) เอวํ ปวตฺตํ ปทหนวีริยํ ทสฺเสติ. ยํ ตํ อนุปุพฺพสิกฺขาทีสุ ปทหนฺโต ‘‘กาเยน เจว ปรมตฺถสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ นํ อติวิชฺฌ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. อถ วา เอเตน มคฺคสมฺปยุตฺตวีริยํ ทสฺเสติ. ตฺหิ ทฬฺหฺจ ภาวนาปาริปูริคตตฺตา, นิกฺกโม จ สพฺพโส ปฏิปกฺขา นิกฺขนฺตตฺตา, ตสฺมา ตํสมงฺคีปุคฺคโลปิ ทฬฺโห นิกฺกโม อสฺสาติ ‘‘ทฬฺหนิกฺกโม’’ติ วุจฺจติ. ถามพลูปปนฺโนติ มคฺคกฺขเณ กายถาเมน าณพเลน จ อุปปนฺโน. อถ วา ถามภูเตน พเลน อุปปนฺโนติ ถามพลูปปนฺโน, ถิราณพลูปปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ตสฺส วีริยสฺส วิปสฺสนาาณสมฺปโยคํ ทีเปนฺโต โยนิโส ปทหนภาวํ สาเธติ. ปุพฺพภาคมชฺฌิมอุกฺกฏฺวีริยวเสน วา ตโยปิ ปาทา โยเชตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๘).

จตุตฺถํ.

๑๕๕. ปฺจเม ปฏิสลฺลานนฺติ เตหิ เตหิ สตฺตสงฺขาเรหิ ปฏินิวตฺติตฺวา สลฺลีนํ, เอกตฺตเสวิตา เอกีภาโว กายวิเวโกติ อตฺโถ. ฌานนฺติ ปจฺจนีกฌาปนโต อารมฺมณลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ จิตฺตวิเวโก วุจฺจติ. ตตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย นีวรณาทิปจฺจนีกฌาปนโต กสิณาทิอารมฺมณูปนิชฺฌานโต จ ‘‘ฌาน’’นฺติ วุจฺจติ. วิปสฺสนามคฺคผลานิ สตฺตสฺาทิปจฺจนีกฌาปนโต ลกฺขณูปนิชฺฌานโต จ ‘‘ฌาน’’นฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน อารมฺมณูปนิชฺฌานเมว อธิปฺเปตํ . เอวเมตํ ปฏิสลฺลานฺจ ฌานฺจ อริฺจมาโนติ อชหมาโน อนิสฺสชฺชมาโน. ธมฺเมสูติ วิปสฺสนุปเคสุ ปฺจกฺขนฺธาทิธมฺเมสุ. นิจฺจนฺติ สตตํ สมิตํ อพฺโพกิณฺณํ. อนุธมฺมจารีติ เต ธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตมาเนน อนุคตํ วิปสฺสนาธมฺมํ จรมาโน. อถ วา ธมฺเมสูติ เอตฺถ ธมฺมาติ นว โลกุตฺตรธมฺมา, เตสํ ธมฺมานํ อนุโลโม ธมฺโมติ อนุธมฺโม, วิปสฺสนาเยตํ อธิวจนํ. ตตฺถ ‘‘ธมฺมานํ นิจฺจํ อนุธมฺมจารี’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธสุขตฺถํ วิภตฺติพฺยตฺตเยน ‘‘ธมฺเมสู’’ติ วุตฺตํ สิยา. อาทีนวํ สมฺมสิตา ภเวสูติ ตาย อนุธมฺมจาริตาสงฺขาตาย วิปสฺสนาย อนิจฺจาการาทิโทสํ ตีสุ ภเวสุ สมนุปสฺสนฺโต เอวํ อิมาย กายวิเวกจิตฺตวิเวกํ อริฺจมาโน สิขาปฺปตฺตวิปสฺสนาสงฺขาตาย ปฏิปทาย อธิคโตติ วตฺตพฺโพ เอโก จเรติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๖๙; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๕).

ปฺจมํ.

๑๕๖. ฉฏฺเ ตณฺหกฺขยนฺติ นิพฺพานํ, เอวํ ทิฏฺาทีนวาย ตณฺหาย เอว อปฺปวตฺตึ. อปฺปมตฺโตติ สาตจฺจการี. อเนฬมูโคติ อลาลามุโข. อถ วา อเนโฬ จ อมูโค จ, ปณฺฑิโต พฺยตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. หิตสุขสมฺปาปกํ สุตมสฺส อตฺถีติ สุตวา, อาคมสมฺปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. สตีมาติ จิรกตาทีนํ อนุสฺสริตา. สงฺขาตธมฺโมติ ธมฺมูปปริกฺขาย ปริฺาตธมฺโม. นิยโตติ อริยมคฺเคน นิยามํ ปตฺโต. ปธานวาติ สมฺมปฺปธานวีริยสมฺปนฺโน. อุปฺปฏิปาฏิยา เอส ปาโ โยเชตพฺโพ. เอวเมเตหิ อปฺปมาทาทีหิ สมนฺนาคโต นิยามสมฺปาปเกน ปธาเนน ปธานวา, เตน ปธาเนน ปตฺตนิยามตฺตา นิยโต, ตโต อรหตฺตปฺปตฺติยา สงฺขาตธมฺโม. อรหา หิ ปุน สงฺขาตพฺพาภาวโต ‘‘สงฺขาตธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสกฺขา ปุถู อิธา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๑; สุ. นิ. ๑๐๔๔; จูฬนิ. อชิตมาณวปุจฺฉา ๖๓, อชิตมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๗; เนตฺติ. ๑๔; เปฏโก. ๔๕). เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๐).

ฉฏฺํ.

๑๕๗. สตฺตเม สีโหติ จตฺตาโร สีหา – ติณสีโห, ปณฺฑุสีโห, กาฬสีโห, เกสรสีโหติ. เตสํ เกสรสีโห อคฺคมกฺขายติ, เอโส อิธ อธิปฺเปโต. วาโต ปุรตฺถิมาทิวเสน อเนกวิโธ. ปทุมํ รตฺตเสตาทิวเสน. เตสุ โย โกจิ วาโต ยํ กิฺจิ ปทุมํ วฏฺฏติเยว. ตตฺถ ยสฺมา สนฺตาโส อตฺตสิเนเหน โหติ, อตฺตสิเนโห จ ตณฺหาเลโป, โสปิ ทิฏฺิสมฺปยุตฺเตน วา ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตน วา โลเภน โหติ, โสปิ จ ตณฺหาเยว. สชฺชนํ ปน ตตฺถ อุปปริกฺขาวิรหิตสฺส โมเหน โหติ, โมโห จ อวิชฺชา. ตตฺถ สมเถน ตณฺหาย ปหานํ โหติ, วิปสฺสนาย อวิชฺชาย. ตสฺมา สมเถน อตฺตสิเนหํ ปหาย สีโห วิย สทฺเทสุ อนิจฺจทุกฺขาทีสุอสนฺตสนฺโต, วิปสฺสนาย โมหํ ปหาย วาโตว ชาลมฺหิ ขนฺธายตนาทีสุ อสชฺชมาโน, สมเถเนว โลภํ, โลภสมฺปยุตฺตํ เอว ทิฏฺิฺจ ปหาย, ปทุมํว โตเยน สพฺพภวโภคโลเภน อลิปฺปมาโน.

เอตฺถ จ สมถสฺส สีลํ ปทฏฺานํ, สมโถ สมาธิ, วิปสฺสนา ปฺาติ เอวํ เตสุ ทฺวีสุ ธมฺเมสุ สิทฺเธสุ ตโยปิ ขนฺธา สิทฺธา โหนฺติ. ตตฺถ สีลกฺขนฺเธน สุรโต โหติ, โส สีโหว สทฺเธสุ อาฆาตวตฺถูสุ อกุชฺฌิตุกามตาย น สนฺตสติ, ปฺากฺขนฺเธน ปฏิวิทฺธสภาโว วาโตว ชาลมฺหิ ขนฺธาทิธมฺมเภเท น สชฺชติ, สมาธิกฺขนฺเธน วีตราโค ปทุมํว โตเยน ราเคน น ลิปฺปติ. เอวํ สมถวิปสฺสนาหิ สีลสมาธิปฺากฺขนฺเธหิ จ ยถาสมฺภวํ อวิชฺชาตณฺหานํ, ติณฺณฺจ อกุสลมูลานํ ปหานวเสน อสนฺตสนฺโต อสชฺชมาโน อลิปฺปมาโน จ เวทิตพฺโพ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๑; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๒๗).

สตฺตมํ.

๑๕๘. อฏฺเม สหนา จ หนนา จ สีฆชวตฺตา จ สีโห. เกสรสีโหว อิธ อธิปฺเปโต. ทาา พลมสฺส อตฺถีติ ทาพลี. ปสยฺห อภิภุยฺยาติ อุภยํ จารีสทฺเทน สห โยเชตพฺพํ ปสยฺหจารี อภิภุยฺยจารีติ. ตตฺถ ปสยฺห นิคฺคยฺห ปวาเหตฺวา จรเณน ปสยฺหจารี . อภิภวิตฺวา สนฺตาเสตฺวา วสีกตฺวา จรเณน อภิภุยฺหจารี. สฺวายํ กายพเลน ปสยฺหจารี, เตชสา อภิภุยฺยจารี. ตตฺถ สเจ โกจิ วเทยฺย ‘‘กึ ปสยฺห อภิภุยฺยจารี’’ติ. ตโต มิคานนฺติ สามิวจนํ อุปโยคตฺเถ กตฺวา ‘‘มิเค ปสยฺห อภิภุยฺยจารี’’ติ ปฏิวตฺตพฺพํ. ปนฺตานีติ ทูรานิ. เสนาสนานีติ วสนฏฺานานิ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ น วิตฺถาริตํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๒).

อฏฺมํ.

๑๕๙. นวเม ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา ภวนฺตู’’ติอาทินา นเยน หิตสุขูปนยนกามตา เมตฺตา. ‘‘อโห วต อิมมฺหา ทุกฺขา วิมุจฺเจยฺยุ’’นฺติอาทินา นเยน อหิตทุกฺขาปนยนกามตา กรุณา. ‘‘โมทนฺติ วต โภนฺโต สตฺตา, โมทนฺติ สาธุ สุฏฺู’’ติอาทินา นเยน หิตสุขาวิปฺปโยคกามตา มุทิตา. ‘‘ปฺายิสฺสนฺติ สเกน กมฺเมนา’’ติ สุขทุกฺเขสุ อชฺฌุเปกฺขนตา อุเปกฺขา. คาถาพนฺธสุขตฺถํ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา เมตฺตํ วตฺวา อุเปกฺขา วุตฺตา, มุทิตา จ ปจฺฉา. วิมุตฺตินฺติ จตสฺโสปิ หิ วิมุตฺตี. เอตา อตฺตโน ปจฺจนีกธมฺเมหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติโย. เตน วุตฺตํ – ‘‘เมตฺตํ อุเปกฺขํ กรุณํ วิมุตฺตึ, อาเสวมาโน มุทิตฺจ กาเล’’ติ.

ตตฺถ อาเสวมาโนติ ติสฺโส ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน ภาวยมาโน, อุเปกฺขํ จตุตฺถชฺฌานวเสน ภาวยมาโน. กาเลติ เมตฺตํ อาเสวิตฺวา ตโต วุฏฺาย กรุณํ, ตโต วุฏฺาย มุทิตํ, ตโต อิตรโต วา นิปฺปีติกชฺฌานโต วุฏฺาย อุเปกฺขํ อาเสวมาโนว ‘‘กาเล อาเสวมาโน’’ติ วุจฺจติ, อาเสวิตุํ ผาสุกาเล วา. สพฺเพน โลเกน อวิรุชฺฌมาโนติ ทสสุ ทิสาสุ สพฺเพน สตฺตโลเกน อวิรุชฺฌมาโน. เมตฺตาทีนฺหิ ภาวิตตฺตา สตฺตา อปฺปฏิกฺกูลา โหนฺติ, สตฺเตสุปิ วิโรธภูโต ปฏิโฆ วูปสมฺมติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สพฺเพน โลเกน อวิรุชฺฌมาโน’’ติ. เสสํ วุตฺตสทิสเมวาติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๓).

นวมํ.

๑๖๐. ทสเม สํโยชนานีติ ทส สํโยชนานิ, ตานิ จ เตน เตน มคฺเคน สนฺทาลยิตฺวาน. อสนฺตสํ ชีวิตสงฺขยมฺหีติ ชีวิตสงฺขโย วุจฺจติ จุติจิตฺตสฺส ปริเภโท, ตสฺมิฺจ ชีวิตสงฺขเย ชีวิตนิกนฺติยา ปหีนตฺตา อสนฺตสนฺติ. เอตฺตาวตา สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุํ อตฺตโน ทสฺเสตฺวา คาถาปริโยสาเน อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายีติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๔).

ทสมํ.

๑๖๑. เอกาทสเม ภชนฺตีติ สรีเรน อลฺลียิตฺวา ปยิรุปาสนฺติ. เสวนฺตีติ อฺชลิกมฺมาทีหิ กึการปฏิสฺสาวิตาย จ ปริจรนฺติ. การณํ อตฺโถ เอเตสนฺติ การณตฺถา, ภชนาย เสวนาย จ นาฺํ การณมตฺถิ, อตฺโถ เอว เตสํ การณํ, อตฺถเหตุ เสวนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. นิกฺการณา ทุลฺลภา อชฺช มิตฺตาติ ‘‘อิโต กิฺจิ ลจฺฉามา’’ติ เอวํ อตฺตปฏิลาภการเณน นิกฺการณา, เกวลํ –

‘‘อุปกาโร จ โย มิตฺโต, สุเข ทุกฺเข จ โย สขา;

อตฺถกฺขายี จ โย มิตฺโต, โย จ มิตฺตานุกมฺปโก’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๑; ที. นิ. ๓.๒๖๕) –

เอวํ วุตฺเตน อริเยน มิตฺตภาเวน สมนฺนาคตา ทุลฺลภา อชฺช มิตฺตา. อตฺตนิ ิตา เอเตสํ ปฺา, อตฺตานํเยว โอโลเกนฺติ, น อฺนฺติ อตฺตฏฺปฺา. ‘‘ทิฏฺตฺถปฺา’’ติ อยมฺปิ กิร โปราณปาโ . สมฺปติ ทิฏฺเเยว อตฺเถ เอเตสํ ปฺา, อายตึ น เปกฺขนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. อสุจีติ อสุจินา อนริเยน กายวจีมโนกมฺเมน สมนฺนาคตาติ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยํ อนฺตรนฺตรา อติวิตฺถารภเยน น วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ปาานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๗๕; อป. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๑). เอกาทสมํ.

จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถาย

ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถา

โย โส สุคตปุตฺตานํ, อธิปติภูเตน หิตรตินา;

เถเรน ถิรคุณวตา, สุวิภตฺโต มหานิทฺเทโส.

ตสฺสตฺถวณฺณนา ยา, ปุพฺพฏฺกถานยํ ตถา;

ยุตฺตึ นิสฺสาย มยารทฺธา, นิฏฺานมุปคตา เอสา.

ยํ ปุรํ ปุรุตฺตมํ, อนุราธปุรวฺหยํ;

โย ตสฺส ทกฺขิเณ ภาเค, มหาวิหาโร ปติฏฺิโต.

โย ตสฺส ติลโก ภูโต, มหาถูโป สิลุจฺจโย;

ยํ ตสฺส ปจฺฉิเม ภาเค, เลโข กถิกสฺิโต.

กิตฺติเสโนติ นาเมน, สชีโว ราชสมฺมโต;

สุจิจาริตฺตสมฺปนฺโน, เลโข กุสลกมฺมิโก.

สีตจฺฉายตรุเปตํ, สลิลาสยสมฺปทํ;

จารุปาการสฺจิตํ, ปริเวณมการยิ.

อุปเสโน มหาเถโร, มหาปริเวณวาสิโย;

ตสฺสาทาสิ ปริเวณํ, เลโข กุสลกมฺมิโก.

วสนฺเตเนตฺถ เถเรน, ถิรสีเลน ตาทินา;

อุปเสนวฺหเยน สา, กตา สทฺธมฺมโชติกา.

รฺโ สิรินิวาสสฺส, สิริสงฺฆสฺส โพธิโน;

ฉพฺพีสติมฺหิ วสฺสมฺหิ, นิฏฺิตา นิทฺเทสวณฺณนา.

สมยํ อนุโลเมนฺตี, เถรานํ เถรวํสทีปานํ;

นิฏฺํ คตา ยถายํ, อฏฺกถา โลกหิตชนนี.

สทฺธมฺมํ อนุโลเมนฺตา, อตฺตหิตํ ปรหิตฺจ สาเธนฺตา;

นิฏฺํ คจฺฉนฺตุ ตถา, มโนรถา สพฺพสตฺตานํ.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกาย, อฏฺกถาเยตฺถ คณิตกุสเลหิ;

คณิตา ตุ ภาณวารา, เยฺยาติเรกจตฺตาริสา.

อานุฏฺุเภน อสฺสา, ฉนฺโท พทฺเธน คณิยมานา ตุ;

อติเรกทสสหสฺส-สงฺขา คาถาติ วิฺเยฺยา.

สาสนจิรฏฺิตตฺถํ, โลกหิตตฺถฺจ สาทเรน มยา;

ปุฺํ อิมํ รจยตา, ยํ ปตฺตมนปฺปกํ วิปุลํ.

ปุฺเน เตน โลโก, สทฺธมฺมรสายนํ ทสพลสฺส;

อุปภุฺชิตฺวา วิมลํ, ปปฺโปตุ สุขํ สุเขเนวาติ.

สทฺธมฺมปฺปชฺโชติกา นาม

จูฬนิทฺเทส-อฏฺกถา นิฏฺิตา.