📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

จูฬนิทฺเทสปาฬิ

ปารายนวคฺโค

วตฺถุคาถา

.

โกสลานํ ปุรา รมฺมา, อคมา ทกฺขิณาปถํ;

อากิฺจฺํ ปตฺถยาโน, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคู.

.

โส อสฺสกสฺส วิสเย, มฬกสฺส [อฬกสฺส (สุ. นิ. ๙๘๓) มุฬกสฺส (สฺยา.), มูฬฺหกสฺส (ก.)] สมาสเน [สมาสนฺเน (ก.)];

วสิ โคธาวรีกูเล, อุฺเฉน จ ผเลน จ.

.

ตสฺเสว [ตํเยว (ก.) อฏฺกถา โอโลเกตพฺพา] อุปนิสฺสาย, คาโม จ วิปุโล อหุ;

ตโต ชาเตน อาเยน, มหายฺมกปฺปยิ.

.

มหายฺํ ยชิตฺวาน, ปุน ปาวิสิ อสฺสมํ;

ตสฺมึ ปฏิปวิฏฺมฺหิ, อฺโ อาคฺฉิ พฺราหฺมโณ.

.

อุคฺฆฏฺฏปาโท ตสิโต [ตสฺสิโต (ก.)], ปงฺกทนฺโต รชสฺสิโร;

โส จ นํ อุปสงฺกมฺม, สตานิ ปฺจ ยาจติ.

.

ตเมนํ พาวรี ทิสฺวา, อาสเนน นิมนฺตยิ;

สุขฺจ กุสลํ ปุจฺฉิ, อิทํ วจนมพฺรวิ [วจนมพฺรุวิ (สี.)].

.

‘‘ยํ โข มม เทยฺยธมฺมํ, สพฺพํ วิสชฺชิตํ มยา;

อนุชานาหิ เม พฺรหฺเม, นตฺถิ ปฺจสตานิ เม’’.

.

‘‘สเจ เม ยาจมานสฺส, ภวํ นานุปทสฺสติ [ปเทสฺสติ (ก.)];

สตฺตเม ทิวเส ตุยฺหํ, มุทฺธา ผลตุ สตฺตธา’’.

.

อภิสงฺขริตฺวา กุหโก, เภรวํ โส อกิตฺตยิ;

ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, พาวรี ทุกฺขิโต อหุ.

๑๐.

อุสฺสุสฺสติ อนาหาโร, โสกสลฺลสมปฺปิโต;

อโถปิ เอวํ จิตฺตสฺส, ฌาเน น รมตี มโน.

๑๑.

อุตฺรสฺตํ ทุกฺขิตํ ทิสฺวา, เทวตา อตฺถกามินี;

พาวรึ อุปสงฺกมฺม, อิทํ วจนมพฺรวิ.

๑๒.

‘‘น โส มุทฺธํ ปชานาติ, กุหโก โส ธนตฺถิโก;

มุทฺธนิ มุทฺธปาเต [มุทฺธนิมฺมุทฺธปาเต (ก.)] วา, าณํ ตสฺส น วิชฺชติ’’.

๑๓.

‘‘โภตี [โภติ (ก.)] จรหิ ชานาติ, ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉิตา;

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ [มุทฺธาติปาตฺจ (ก.)], ตํ สุโณม วโจ ตว’’.

๑๔.

‘‘อหมฺเปตํ น ชานามิ, าณํ เมตฺถ น วิชฺชติ;

มุทฺธนิ มุทฺธาธิปาเต จ, ชินานฺเหตฺถ [ชนานฺเหตฺถ (ก.)] ทสฺสนํ’’.

๑๕.

‘‘อถ โก จรหิ [โย จรติ (ก.)] ชานาติ, อสฺมึ ปถวิมณฺฑเล [ปุถวิมณฺฑเล (สี.)];

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, ตํ เม อกฺขาหิ เทวเต’’.

๑๖.

‘‘ปุรา กปิลวตฺถุมฺหา, นิกฺขนฺโต โลกนายโก;

อปจฺโจ โอกฺกากราชสฺส, สกฺยปุตฺโต ปภงฺกโร.

๑๗.

‘‘โส หิ พฺราหฺมณ สมฺพุทฺโธ, สพฺพธมฺมาน ปารคู;

สพฺพาภิฺาพลปฺปตฺโต [ผลปฺปตฺโต (ก.)], สพฺพธมฺเมสุ จกฺขุมา;

สพฺพกมฺมกฺขยํ ปตฺโต, วิมุตฺโต อุปธิกฺขเย.

๑๘.

‘‘พุทฺโธ โส ภควา โลเก, ธมฺมํ เทเสติ จกฺขุมา;

ตํ ตฺวํ คนฺตฺวาน ปุจฺฉสฺสุ, โส เต ตํ พฺยากริสฺสติ’’.

๑๙.

สมฺพุทฺโธติ วโจ สุตฺวา, อุทคฺโค พาวรี อหุ;

โสกสฺส ตนุโก อาสิ, ปีติฺจ วิปุลํ ลภิ.

๒๐.

โส พาวรี อตฺตมโน อุทคฺโค, ตํ เทวตํ ปุจฺฉติ เวทชาโต;

‘‘กตมมฺหิ คาเม นิคมมฺหิ วา ปน, กตมมฺหิ วา ชนปเท โลกนาโถ;

ยตฺถ คนฺตฺวาน ปสฺเสมุ, สมฺพุทฺธํ ทฺวิปทุตฺตมํ’’.

๒๑.

‘‘สาวตฺถิยํ โกสลมนฺทิเร ชิโน, ปหูตปฺโ วรภูริเมธโส;

โส สกฺยปุตฺโต วิธุโร อนาสโว, มุทฺธาธิปาตสฺส วิทู นราสโภ’’.

๒๒.

ตโต อามนฺตยี สิสฺเส, พฺราหฺมเณ มนฺตปารคู [ปารเค (สฺยา.)];

‘‘เอถ มาณวา อกฺขิสฺสํ, สุณาถ วจนํ มม.

๒๓.

‘‘ยสฺเสโส ทุลฺลโภ โลเก, ปาตุภาโว อภิณฺหโส;

สฺวาชฺช โลกมฺหิ อุปฺปนฺโน, สมฺพุทฺโธ อิติ วิสฺสุโต;

ขิปฺปํ คนฺตฺวาน สาวตฺถึ, ปสฺสวฺโห ทฺวิปทุตฺตมํ’’.

๒๔.

‘‘กถํ จรหิ ชาเนมุ, ทิสฺวา พุทฺโธติ พฺราหฺมณ;

อชานตํ โน ปพฺรูหิ, ยถา ชาเนมุ ตํ มยํ’’.

๒๕.

‘‘อาคตานิ หิ มนฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;

ทฺวตฺตึสานิ จ พฺยากฺขาตา, สมตฺตา อนุปุพฺพโส.

๒๖.

‘‘ยสฺเสเต โหนฺติ คตฺเตสุ, มหาปุริสลกฺขณา;

ทฺเวเยว ตสฺส คติโย, ตติยา หิ น วิชฺชติ.

๒๗.

‘‘สเจ อคารํ อาวสติ, วิเชยฺย ปถวึ อิมํ;

อทณฺเฑน อสตฺเถน, ธมฺเมน อนุสาสติ.

๒๘.

‘‘สเจ จ โส ปพฺพชติ, อคารา อนคาริยํ;

วิวฏฺฏจฺฉโท [วิวตฺตจฺฉทฺโท (สี.)] สมฺพุทฺโธ, อรหา ภวติ อนุตฺตโร.

๒๙.

‘‘ชาตึ โคตฺตฺจ ลกฺขณํ, มนฺเต สิสฺเส ปุนาปเร;

มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, มนสาเยว ปุจฺฉถ.

๓๐.

‘‘อนาวรณทสฺสาวี, ยทิ พุทฺโธ ภวิสฺสติ;

มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, วาจาย วิสชฺชิสฺสติ’’ [วิสฺสชิสฺสติ (ก.)].

๓๑.

พาวริสฺส วโจ สุตฺวา, สิสฺสา โสฬส พฺราหฺมณา;

อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู.

๓๒.

โธตโก อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก;

โตเทยฺย-กปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต.

๓๓.

ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;

โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.

๓๔.

ปจฺเจกคณิโน สพฺเพ, สพฺพโลกสฺส วิสฺสุตา;

ฌายี ฌานรตา ธีรา, ปุพฺพวาสนวาสิตา.

๓๕.

พาวรึ อภิวาเทตฺวา, กตฺวา จ นํ ปทกฺขิณํ;

ชฏาชินธรา สพฺเพ, ปกฺกามุํ อุตฺตรามุขา.

๓๖.

มฬกสฺส ปติฏฺานํ, ปุรมาหิสฺสตึ [ปุรมาหิยติ (ก.)] ตทา [สทา (ก.)];

อุชฺเชนิฺจาปิ โคนทฺธํ, เวทิสํ วนสวฺหยํ.

๓๗.

โกสมฺพิฺจาปิ สาเกตํ, สาวตฺถิฺจ ปุรุตฺตมํ;

เสตพฺยํ กปิลวตฺถุํ, กุสินารฺจ มนฺทิรํ.

๓๘.

ปาวฺจ โภคนครํ, เวสาลึ มาคธํ ปุรํ;

ปาสาณกํ เจติยฺจ, รมณียํ มโนรมํ.

๓๙.

ตสิโตวุทกํ สีตํ, มหาลาภํว วาณิโช;

ฉายํ ฆมฺมาภิตตฺโตว ตุริตา ปพฺพตมารุหุํ.

๔๐.

ภควา ตมฺหิ สมเย, ภิกฺขุสงฺฆปุรกฺขโต;

ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสติ, สีโหว นทตี วเน.

๔๑.

อชิโต อทฺทส พุทฺธํ, ปีตรํสึว [ชิตรํสึ สีตรํสึ (ก.), วีตรํสึ (สี. สฺยา.)] ภาณุมํ;

จนฺทํ ยถา ปนฺนรเส, ปริปูรํ [ปาริปูรึ (สี. สฺยา.)] อุปาคตํ.

๔๒.

อถสฺส คตฺเต ทิสฺวาน, ปริปูรฺจ พฺยฺชนํ;

เอกมนฺตํ ิโต หฏฺโ, มโนปฺเห อปุจฺฉถ.

๔๓.

‘‘อาทิสฺส ชมฺมนํ พฺรูหิ, โคตฺตํ พฺรูหิ สลกฺขณํ;

มนฺเตสุ ปารมึ พฺรูหิ, กติ วาเจติ พฺราหฺมโณ’’.

๔๔.

‘‘วีสํ วสฺสสตํ อายุ, โส จ โคตฺเตน พาวรี;

ตีณิสฺส ลกฺขณา คตฺเต, ติณฺณํ เวทาน ปารคู.

๔๕.

‘‘ลกฺขเณ อิติหาเส จ, สนิฆณฺฑุสเกฏุเภ;

ปฺจสตานิ วาเจติ, สธมฺเม ปารมึ คโต’’.

๔๖.

‘‘ลกฺขณานํ ปวิจยํ, พาวริสฺส นรุตฺตม;

ตณฺหจฺฉิท [กงฺขจฺฉิท (ก.)] ปกาเสหิ, มา โน กงฺขายิตํ อหุ’’.

๔๗.

‘‘มุขํ ชิวฺหาย ฉาเทติ, อุณฺณสฺส ภมุกนฺตเร;

โกโสหิตํ วตฺถคุยฺหํ, เอวํ ชานาหิ มาณว’’.

๔๘.

ปุจฺฉฺหิ กิฺจิ อสุณนฺโต, สุตฺวา ปฺเห วิยากเต;

วิจินฺเตติ ชโน สพฺโพ, เวทชาโต กตฺชลี.

๔๙.

‘‘โก นุ เทโว วา พฺรหฺมา วา, อินฺโท วาปิ สุชมฺปติ;

มนสา ปุจฺฉิเต ปฺเห, กเมตํ ปฏิภาสติ.

๕๐.

‘‘มุทฺธํ มุทฺธาธิปาตฺจ, พาวรี ปริปุจฺฉติ;

ตํ พฺยากโรหิ ภควา, กงฺขํ วินย โน อิเส’’.

๕๑.

‘‘อวิชฺชา มุทฺธาติ ชานาหิ, วิชฺชา มุทฺธาธิปาตินี;

สทฺธาสติสมาธีหิ, ฉนฺทวีริเยน สํยุตา’’.

๕๒.

ตโต เวเทน มหตา, สนฺถมฺเภตฺวาน มาณโว;

เอกํสํ อชินํ กตฺวา, ปาเทสุ สิรสา ปติ.

๕๓.

‘‘พาวรี พฺราหฺมโณ โภโต, สห สิสฺเสหิ มาริส;

อุทคฺคจิตฺโต สุมโน, ปาเท วนฺทติ จกฺขุม’’.

๕๔.

‘‘สุขิโต พาวรี โหตุ, สห สิสฺเสหิ พฺราหฺมโณ;

ตฺวฺจาปิ สุขิโต โหหิ, จิรํ ชีวาหิ มาณว.

๕๕.

‘‘พาวริสฺส จ ตุยฺหํ วา, สพฺเพสํ สพฺพสํสยํ;

กตาวกาสา ปุจฺฉวฺโห, ยํ กิฺจิ มนสิจฺฉถ’’.

๕๖.

สมฺพุทฺเธน กโตกาโส, นิสีทิตฺวาน ปฺชลี;

อชิโต ปมํ ปฺหํ, ตตฺถ ปุจฺฉิ ตถาคตํ.

วตฺถุคาถา นิฏฺิตา.

๑. อชิตมาณวปุจฺฉา

๕๗.

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;

กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ, กึสุ ตสฺส มหพฺภยํ’’.

๕๘.

‘‘อวิชฺชาย นิวุโต โลโก, [อชิตาติ ภควา]

เววิจฺฉา ปมาทา นปฺปกาสติ;

ชปฺปาภิเลปนํ พฺรูมิ, ทุกฺขมสฺส มหพฺภยํ’’.

๕๙.

‘‘สวนฺติ สพฺพธิ โสตา, [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

โสตานํ กึ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูหิ, เกน โสตา ปิธิยฺยเร’’.

๖๐.

‘‘ยานิ โสตานิ โลกสฺมึ, [อชิตาติ ภควา]

สติ เตสํ นิวารณํ;

โสตานํ สํวรํ พฺรูมิ, ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’.

๖๑.

‘‘ปฺา เจว สติ จาปิ [สตี เจว (สี.)], [อิจฺจายสฺมา อชิโต]

นามรูปฺจ มาริส;

เอตํ เม ปุฏฺโ ปพฺรูหิ, กตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.

๖๒.

‘‘ยเมตํ ปฺหํ อปุจฺฉิ, อชิต ตํ วทามิ เต;

ยตฺถ นามฺจ รูปฺจ, อเสสํ อุปรุชฺฌติ;

วิฺาณสฺส นิโรเธน, เอตฺเถตํ อุปรุชฺฌติ’’.

๖๓.

‘‘เย จ สงฺขาตธมฺมาเส, เย จ เสขา [เสกฺขา (ก.)] ปุถู อิธ;

เตสํ เม นิปโก อิริยํ, ปุฏฺโ ปพฺรูหิ มาริส’’.

๖๔.

‘‘กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย, มนสานาวิโล สิยา;

กุสโล สพฺพธมฺมานํ, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ.

อชิตมาณวปุจฺฉา ปมา.

๒. ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา

๖๕.

‘‘โกธ สนฺตุสิโต โลเก, [อิจฺจายสฺมา ติสฺสเมตฺเตยฺโย]

กสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา;

โก อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ [น ปิมฺปติ (พหูสุ)];

กํ พฺรูสิ มหาปุริโสติ, โก อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติ [สิพฺพนิมจฺจคา (สี. สฺยา.)].

๖๖.

‘‘กาเมสุ พฺรหฺมจริยวา, [เมตฺเตยฺยาติ ภควา]

วีตตณฺโห สทา สโต;

สงฺขาย นิพฺพุโต ภิกฺขุ, ตสฺส โน สนฺติ อิฺชิตา.

๖๗.

‘‘โส อุภนฺตมภิฺาย, มชฺเฌ มนฺตา น ลิปฺปติ;

ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โส อิธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติ.

ติสฺสเมตฺเตยฺยมาณวปุจฺฉา ทุติยา.

๓. ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา

๖๘.

‘‘อเนชํ มูลทสฺสาวึ, [อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก]

อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;

กึ นิสฺสิตา อิสโย มนุชา, ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ’’.

๖๙.

‘‘เย เกจิเม อิสโย มนุชา, [ปุณฺณกาติ ภควา]

ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, อาสีสมานา ปุณฺณก อิตฺถตฺตํ;

ชรํ สิตา ยฺมกปฺปยึสุ’’.

๗๐.

‘‘เย เกจิเม อิสโย มนุชา, [อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก]

ขตฺติยา พฺราหฺมณา เทวตานํ;

ยฺมกปฺปยึสุ ปุถูธ โลเก, กจฺจิสุ เต ภควา ยฺปเถ อปฺปมตฺตา;

อตารุํ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ’’.

๗๑.

‘‘อาสีสนฺติ โถมยนฺติ, อภิชปฺปนฺติ ชุหนฺติ; [ปุณฺณกาติ ภควา]

กามาภิชปฺปนฺติ ปฏิจฺจ ลาภํ, เต ยาชโยคา ภวราครตฺตา;

นาตรึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.

๗๒.

‘‘เต เจ นาตรึสุ ยาชโยคา, [อิจฺจายสฺมา ปุณฺณโก]

ยฺเหิ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก, อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ’’.

๗๓.

‘‘สงฺขาย โลกสฺมิ ปโรปรานิ, [ปุณฺณกาติ ภควา]

ยสฺสิฺชิตํ นตฺถิ กุหิฺจิ โลเก;

สนฺโต วิธูโม อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.

ปุณฺณกมาณวปุจฺฉา ตติยา.

๔. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา

๗๔.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ, [อิจฺจายสฺมา เมตฺตคู]

มฺามิ ตํ เวทคุํ ภาวิตตฺตํ;

กุโต นุ ทุกฺขา สมุทาคตา อิเม, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา’’.

๗๕.

‘‘ทุกฺขสฺส เว มํ ปภวํ อปุจฺฉสิ, [เมตฺตคูติ ภควา]

ตํ เต ปวกฺขามิ ยถา ปชานํ;

อุปธินิทานา ปภวนฺติ ทุกฺขา, เย เกจิ โลกสฺมิมเนกรูปา.

๗๖.

‘‘โย เว อวิทฺวา อุปธึ กโรติ, ปุนปฺปุนํ ทุกฺขมุเปติ มนฺโท;

ตสฺมา ปชานํ อุปธึ น กยิรา, ทุกฺขสฺส ชาติปฺปภวานุปสฺสี’’.

๗๗.

‘‘ยํ ตํ อปุจฺฉิมฺห อกิตฺตยี โน, อฺํ ตํ ปุจฺฉาม ตทิงฺฆ พฺรูหิ;

‘กถํ นุ ธีรา วิตรนฺติ โอฆํ, ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ’;

ตํ เม มุนิ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๗๘.

‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต ธมฺมํ, [เมตฺตคูติ ภควา]

ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๗๙.

‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ ธมฺมมุตฺตมํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๘๐.

‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, [เมตฺตคูติ ภควา]

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

เอเตสุ นนฺทิฺจ นิเวสนฺจ, ปนุชฺช วิฺาณํ ภเว น ติฏฺเ.

๘๑.

‘‘เอวํวิหารี สโต อปฺปมตฺโต, ภิกฺขุ จรํ หิตฺวา มมายิตานิ;

ชาตึ ชรํ โสกปริทฺทวฺจ, อิเธว วิทฺวา ปชเหยฺย ทุกฺขํ’’.

๘๒.

‘‘เอตาภินนฺทามิ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;

อทฺธา หิ ภควา ปหาสิ ทุกฺขํ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม.

๘๓.

‘‘เต จาปิ นูนปฺปชเหยฺยุ ทุกฺขํ, เย ตฺวํ มุนิ อฏฺิตํ โอวเทยฺย;

ตํ ตํ นมสฺสามิ สเมจฺจ นาค, อปฺเปว มํ ภควา อฏฺิตํ โอวเทยฺย’’.

๘๔.

‘‘ยํ พฺราหฺมณํ เวทคุมาภิชฺา, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺตํ;

อทฺธา หิ โส โอฆมิมํ อตาริ, ติณฺโณ จ ปารํ อขิโล อกงฺโข.

๘๕.

‘‘วิทฺวา จ โย เวทคู นโร อิธ, ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช;

โส วีตตณฺโห อนีโฆ นิราโส, อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมี’’ติ.

เมตฺตคูมาณวปุจฺฉา จตุตฺถี.

๕. โธตกมาณวปุจฺฉา

๘๖.

‘‘ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ, [อิจฺจายสฺมา โธตโก]

วาจาภิกงฺขามิ มเหสิ ตุยฺหํ;

ตว สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.

๘๗.

‘‘เตนหาตปฺปํ กโรหิ, [โธตกาติ ภควา]

อิเธว นิปโก สโต;

อิโต สุตฺวาน นิคฺโฆสํ, สิกฺเข นิพฺพานมตฺตโน’’.

๘๘.

‘‘ปสฺสามหํ เทวมนุสฺสโลเก, อกิฺจนํ พฺราหฺมณมิริยมานํ;

ตํ ตํ นมสฺสามิ สมนฺตจกฺขุ, ปมุฺจ มํ สกฺก กถํกถาหิ’’.

๘๙.

‘‘นาหํ สหิสฺสามิ ปโมจนาย, กถํกถึ โธตก กฺจิ โลเก;

ธมฺมฺจ เสฏฺํ อภิชานมาโน [อาชานมาโน (สี. สฺยา. ปี.)], เอวํ ตุวํ โอฆมิมํ ตเรสิ’’.

๙๐.

‘‘อนุสาส พฺรหฺเม กรุณายมาโน, วิเวกธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ยถาหํ อากาโสว อพฺยาปชฺชมาโน, อิเธว สนฺโต อสิโต จเรยฺยํ’’.

๙๑.

‘‘กิตฺตยิสฺสามิ เต สนฺตึ, [โธตกาติ ภควา]

ทิฏฺเ ธมฺเม อนีติหํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๙๒.

‘‘ตฺจาหํ อภินนฺทามิ, มเหสิ สนฺติมุตฺตมํ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๙๓.

‘‘ยํ กิฺจิ สมฺปชานาสิ, [โธตกาติ ภควา]

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

เอตํ วิทิตฺวา สงฺโคติ โลเก, ภวาภวาย มากาสิ ตณฺห’’นฺติ.

โธตกมาณวปุจฺฉา ปฺจมี.

๖. อุปสีวมาณวปุจฺฉา

๙๔.

‘‘เอโก อหํ สกฺก มหนฺตโมฆํ, [อิจฺจายสฺมา อุปสีโว]

อนิสฺสิโต โน วิสหามิ ตาริตุํ;

อารมฺมณํ พฺรูหิ สมนฺตจกฺขุ, ยํ นิสฺสิโต โอฆมิมํ ตเรยฺยํ’’.

๙๕.

‘‘อากิฺจฺํ เปกฺขมาโน สติมา, [อุปสีวาติ ภควา]

นตฺถีติ นิสฺสาย ตรสฺสุ โอฆํ;

กาเม ปหาย วิรโต กถาหิ, ตณฺหกฺขยํ นตฺตมหาภิปสฺส’’.

๙๖.

‘‘สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค, [อิจฺจายสฺมา อุปสีโว]

อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;

สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต [ธิมุตฺโต (ก.)], ติฏฺเ นุ โส ตตฺถ อนานุยายี’’ [อนานุวายี (สฺยา. ก.)].

๙๗.

‘‘สพฺเพสุ กาเมสุ โย วีตราโค, [อุปสีวาติ ภควา]

อากิฺจฺํ นิสฺสิโต หิตฺวา มฺํ;

สฺาวิโมกฺเข ปรเม วิมุตฺโต, ติฏฺเยฺย โส ตตฺถ อนานุยายี’’.

๙๘.

‘‘ติฏฺเ เจ โส ตตฺถ อนานุยายี, ปูคมฺปิ วสฺสานํ สมนฺตจกฺขุ;

ตตฺเถว โส สีติสิยา วิมุตฺโต, จเวถ วิฺาณํ ตถาวิธสฺส’’.

๙๙.

‘‘อจฺจิ ยถา วาตเวเคน ขิตฺตา, [อุปสีวาติ ภควา]

อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ;

เอวํ มุนี นามกายา วิมุตฺโต, อตฺถํ ปเลติ น อุเปติ สงฺขํ’’.

๑๐๐.

‘‘อตฺถงฺคโต โส อุท วา โส นตฺถิ, อุทาหุ เว สสฺสติยา อโรโค;

ตํ เม มุนี สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๑๐๑.

‘‘อตฺถงฺคตสฺส น ปมาณมตฺถิ, [อุปสีวาติ ภควา]

เยน นํ วชฺชุํ ตํ ตสฺส นตฺถิ;

สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สมูหเตสุ, สมูหตา วาทปถาปิ สพฺเพ’’ติ.

อุปสีวมาณวปุจฺฉา ฉฏฺี.

๗. นนฺทมาณวปุจฺฉา

๑๐๒.

‘‘สนฺติ โลเก มุนโย, [อิจฺจายสฺมา นนฺโท]

ชนา วทนฺติ ตยิทํ กถํสุ;

าณูปปนฺนํ มุนิ โน วทนฺติ, อุทาหุ เว ชีวิเตนูปปนฺนํ’’.

๑๐๓.

‘‘น ทิฏฺิยา น สุติยา น าเณน, มุนีธ นนฺท กุสลา วทนฺติ;

วิเสนิกตฺวา อนีฆา นิราสา, จรนฺติ เย เต มุนโยติ พฺรูมิ’’.

๑๐๔.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, [อิจฺจายสฺมา นนฺโท]

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ,

อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

กจฺจิสฺสุ เต ภควา ตตฺถ ยตา จรนฺตา,

อตารุ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส;

ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ’’.

๑๐๕.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, [นนฺทาติ ภควา]

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

กิฺจาปิ เต ตตฺถ ยตา จรนฺติ, นาตรึสุ ชาติชรนฺติ พฺรูมิ’’.

๑๐๖.

‘‘เย เกจิเม สมณพฺราหฺมณาเส, [อิจฺจายสฺมา นนฺโท]

ทิฏฺสฺสุเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ;

สีลพฺพเตนาปิ วทนฺติ สุทฺธึ, อเนกรูเปน วทนฺติ สุทฺธึ;

เต เจ มุนิ พฺรูสิ อโนฆติณฺเณ, อถ โก จรหิ เทวมนุสฺสโลเก;

อตาริ ชาติฺจ ชรฺจ มาริส, ปุจฺฉามิ ตํ ภควา พฺรูหิ เมตํ’’.

๑๐๗.

‘‘นาหํ สพฺเพ สมณพฺราหฺมณาเส, [นนฺทาติ ภควา]

ชาติชราย นิวุตาติ พฺรูมิ;

เย สีธ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;

อเนกรูปมฺปิ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;

เต เว นรา โอฆติณฺณาติ พฺรูมิ’’.

๑๐๘.

‘‘เอตาภินนฺทามิ วโจ มเหสิโน, สุกิตฺติตํ โคตมนูปธีกํ;

เย สีธ ทิฏฺํ ว สุตํ มุตํ วา, สีลพฺพตํ วาปิ ปหาย สพฺพํ;

อเนกรูปมฺปิ ปหาย สพฺพํ, ตณฺหํ ปริฺาย อนาสวาเส;

อหมฺปิ เต โอฆติณฺณาติ พฺรูมี’’ติ.

นนฺทมาณวปุจฺฉา สตฺตมา.

๘. เหมกมาณวปุจฺฉา

๑๐๙.

‘‘เย เม ปุพฺเพ วิยากํสุ, [อิจฺจายสฺมา เหมโก]

หุรํ โคตมสาสนา;

อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ, สพฺพํ ตํ อิติหีติหํ;

สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ, นาหํ ตตฺถ อภิรมึ.

๑๑๐.

‘‘ตฺวฺจ เม ธมฺมมกฺขาหิ, ตณฺหานิคฺฆาตนํ มุนิ;

ยํ วิทิตฺวา สโต จรํ, ตเร โลเก วิสตฺติกํ’’.

๑๑๑.

‘‘อิธ ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ, ปิยรูเปสุ เหมก;

ฉนฺทราควิโนทนํ, นิพฺพานปทมจฺจุตํ.

๑๑๒.

‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;

อุปสนฺตา จ เต สทา, ติณฺณา โลเก วิสตฺติก’’นฺติ.

เหมกมาณวปุจฺฉา อฏฺมา.

๙. โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา

๑๑๓.

‘‘ยสฺมึ กามา น วสนฺติ, [อิจฺจายสฺมา โตเทยฺโย]

ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;

กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโส’’.

๑๑๔.

‘‘ยสฺมึ กามา น วสนฺติ, [โตเทยฺยาติ ภควา]

ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ;

กถํกถา จ โย ติณฺโณ, วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร’’.

๑๑๕.

‘‘นิราสโส โส อุท อาสสาโน [อาสยาโน (ก.)], ปฺาณวา โส อุท ปฺกปฺปี;

มุนึ อหํ สกฺก ยถา วิชฺํ, ตํ เม วิยาจิกฺข สมนฺตจกฺขุ’’.

๑๑๖.

‘‘นิราสโส โส น จ อาสสาโน, ปฺาณวา โส น จ ปฺกปฺปี;

เอวมฺปิ โตเทยฺย มุนึ วิชาน, อกิฺจนํ กามภเว อสตฺต’’นฺติ.

โตเทยฺยมาณวปุจฺฉา นวมา.

๑๐. กปฺปมาณวปุจฺฉา

๑๑๗.

‘‘มชฺเฌ สรสฺมึ ติฏฺตํ, [อิจฺจายสฺมา กปฺโป]

โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;

ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูหิ มาริส;

ตฺวฺจ เม ทีปมกฺขาหิ, ยถายิทํ นาปรํ สิยา’’.

๑๑๘.

‘‘มชฺเฌ สรสฺมึ ติฏฺตํ, [กปฺปาติ ภควา]

โอเฆ ชาเต มหพฺภเย;

ชรามจฺจุปเรตานํ, ทีปํ ปพฺรูมิ กปฺป เต.

๑๑๙.

‘‘อกิฺจนํ อนาทานํ, เอตํ ทีปํ อนาปรํ;

นิพฺพานํ อิติ นํ พฺรูมิ, ชรามจฺจุปริกฺขยํ.

๑๒๐.

‘‘เอตทฺาย เย สตา, ทิฏฺธมฺมาภินิพฺพุตา;

น เต มารวสานุคา, น เต มารสฺส ปฏฺคู’’ติ [ปทฺธคู (สี.)].

กปฺปมาณวปุจฺฉา ทสมา.

๑๑. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา

๑๒๑.

‘‘สุตฺวานหํ วีรมกามกามึ, [อิจฺจายสฺมา ชตุกณฺณิ]

โอฆาติคํ ปุฏฺุมกามมาคมํ;

สนฺติปทํ พฺรูหิ สหชเนตฺต, ยถาตจฺฉํ ภควา พฺรูหิ เมตํ.

๑๒๒.

‘‘ภควา หิ กาเม อภิภุยฺย อิริยติ, อาทิจฺโจว ปถวึ เตชี เตชสา;

ปริตฺตปฺสฺส เม ภูริปฺ, อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๒๓.

‘‘กาเมสุ วินย เคธํ, [ชตุกณฺณีติ ภควา]

เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต;

อุคฺคหิตํ นิรตฺตํ วา, มา เต วิชฺชิตฺถ กิฺจนํ.

๑๒๔.

‘‘ยํ ปุพฺเพ ตํ วิโสเสหิ, ปจฺฉา เต มาหุ กิฺจนํ;

มชฺเฌ เจ โน คเหสฺสสิ, อุปสนฺโต จริสฺสสิ.

๑๒๕.

‘‘สพฺพโส นามรูปสฺมึ, วีตเคธสฺส พฺราหฺมณ;

อาสวาสฺส น วิชฺชนฺติ, เยหิ มจฺจุวสํ วเช’’ติ.

ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉา เอกาทสมา.

๑๒. ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา

๑๒๖.

‘‘โอกฺชหํ ตณฺหจฺฉิทํ อเนชํ, [อิจฺจายสฺมา ภทฺราวุโธ]

นนฺทิฺชหํ โอฆติณฺณํ วิมุตฺตํ;

กปฺปฺชหํ อภิยาเจ สุเมธํ, สุตฺวาน นาคสฺส อปนมิสฺสนฺติ อิโต.

๑๒๗.

‘‘นานาชนา ชนปเทหิ สงฺคตา,

ตว วีร วากฺยํ อภิกงฺขมานา;

เตสํ ตุวํ สาธุ วิยากโรหิ, ตถา หิ เต วิทิโต เอส ธมฺโม’’.

๑๒๘.

‘‘อาทานตณฺหํ วินเยถ สพฺพํ, [ภทฺราวุธาติ ภควา]

อุทฺธํ อโธ ติริยฺจาปิ มชฺเฌ;

ยํ ยฺหิ โลกสฺมิมุปาทิยนฺติ, เตเนว มาโร อนฺเวติ ชนฺตุํ.

๑๒๙.

‘‘ตสฺมา ปชานํ น อุปาทิเยถ, ภิกฺขุ สโต กิฺจนํ สพฺพโลเก;

อาทานสตฺเต อิติ เปกฺขมาโน, ปชํ อิมํ มจฺจุเธยฺเย วิสตฺต’’นฺติ.

ภทฺราวุธมาณวปุจฺฉา ทฺวาทสมา.

๑๓. อุทยมาณวปุจฺฉา

๑๓๐.

‘‘ฌายึ วิรชมาสีนํ, [อิจฺจายสฺมา อุทโย]

กตกิจฺจํ อนาสวํ;

ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;

อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูหิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.

๑๓๑.

‘‘ปหานํ กามจฺฉนฺทานํ, [อุทยาติ ภควา]

โทมนสฺสาน จูภยํ;

ถินสฺส จ ปนูทนํ, กุกฺกุจฺจานํ นิวารณํ.

๑๓๒.

‘‘อุเปกฺขาสติสํสุทฺธํ , ธมฺมตกฺกปุเรชวํ;

อฺาวิโมกฺขํ ปพฺรูมิ, อวิชฺชาย ปเภทนํ’’.

๑๓๓.

‘‘กึสุ สํโยชโน โลโก, กึสุ ตสฺส วิจารณํ;

กิสฺสสฺส วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.

๑๓๔.

‘‘นนฺทิสํโยชโน โลโก, วิตกฺกสฺส วิจารณํ;

ตณฺหาย วิปฺปหาเนน, นิพฺพานํ อิติ วุจฺจติ’’.

๑๓๕.

‘‘กถํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌติ;

ภควนฺตํ ปุฏฺุมาคมฺม, ตํ สุโณม วโจ ตว’’.

๑๓๖.

‘‘อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, เวทนํ นาภินนฺทโต;

เอวํ สตสฺส จรโต, วิฺาณํ อุปรุชฺฌตี’’ติ.

อุทยมาณวปุจฺฉา เตรสมา.

๑๔. โปสาลมาณวปุจฺฉา

๑๓๗.

‘‘โย อตีตํ อาทิสติ, [อิจฺจายสฺมา โปสาโล]

อเนโช ฉินฺนสํสโย;

ปารคุํ สพฺพธมฺมานํ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ.

๑๓๘.

‘‘วิภูตรูปสฺิสฺส, สพฺพกายปฺปหายิโน;

อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ, นตฺถิ กิฺจีติ ปสฺสโต;

าณํ สกฺกานุปุจฺฉามิ, กถํ เนยฺโย ตถาวิโธ’’.

๑๓๙.

‘‘วิฺาณฏฺิติโย สพฺพา, [โปสาลาติ ภควา]

อภิชานํ ตถาคโต;

ติฏฺนฺตเมนํ ชานาติ, วิมุตฺตํ ตปฺปรายณํ.

๑๔๐.

‘‘อากิฺจฺสมฺภวํ ตฺวา, นนฺที สํโยชนํ อิติ;

เอวเมตํ อภิฺาย, ตโต ตตฺถ วิปสฺสติ;

เอตํ [เอวํ (สฺยา. ก.)] าณํ ตถํ ตสฺส, พฺราหฺมณสฺส วุสีมโต’’ติ.

โปสาลมาณวปุจฺฉา จุทฺทสมา.

๑๕. โมฆราชมาณวปุจฺฉา

๑๔๑.

‘‘ทฺวาหํ สกฺกํ อปุจฺฉิสฺสํ, [อิจฺจายสฺมา โมฆราชา]

น เม พฺยากาสิ จกฺขุมา;

ยาวตติยฺจ เทวีสิ, พฺยากโรตีติ เม สุตํ.

๑๔๒.

‘‘อยํ โลโก ปโร โลโก, พฺรหฺมโลโก สเทวโก;

ทิฏฺึ เต นาภิชานาติ, โคตมสฺส ยสสฺสิโน.

๑๔๓.

‘‘เอวํ อภิกฺกนฺตทสฺสาวึ, อตฺถิ ปฺเหน อาคมํ;

กถํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสติ’’.

๑๔๔.

‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;

อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา;

เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ.

โมฆราชมาณวปุจฺฉา ปนฺนรสมา.

๑๖. ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา

๑๔๕.

‘‘ชิณฺโณหมสฺมิ อพโล วีตวณฺโณ, [อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย]

เนตฺตา น สุทฺธา สวนํ น ผาสุ;

มาหํ นสฺสํ โมมุโห อนฺตราว, อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ;

ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๔๖.

‘‘ทิสฺวาน รูเปสุ วิหฺมาเน, [ปิงฺคิยาติ ภควา]

รุปฺปนฺติ รูเปสุ ชนา ปมตฺตา;

ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต, ชหสฺสุ รูปํ อปุนพฺภวาย’’.

๑๔๗.

‘‘ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส, อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา อิมาโย;

น ตุยฺหํ อทิฏฺํ อสุตํ อมุตํ [อสุตํ อมุตํ วา (สี.), อสุตามุตํ วา (สฺยา.), อสุตํ’มุตํ วา (ปี.)], อโถ อวิฺาตํ กิฺจนมตฺถิ [กฺจิ มตฺถิ (สฺยา.), กิฺจิ นตฺถิ (ปี.), กิฺจินมตฺถิ (ก.)] โลเก;

อาจิกฺข ธมฺมํ ยมหํ วิชฺํ, ชาติชราย อิธ วิปฺปหานํ’’.

๑๔๘.

‘‘ตณฺหาธิปนฺเน มนุเช เปกฺขมาโน, [ปิงฺคิยาติ ภควา]

สนฺตาปชาเต ชรสา ปเรเต;

ตสฺมา ตุวํ ปิงฺคิย อปฺปมตฺโต, ชหสฺสุ ตณฺหํ อปุนพฺภวายา’’ติ.

ปิงฺคิยมาณวปุจฺฉา โสฬสมา.

๑๗. ปารายนตฺถุติคาถา

อิทมโวจ ภควา มคเธสุ วิหรนฺโต ปาสาณเก เจติเย, ปริจารกโสฬสานํ [ปริจารกโสฬสนฺนํ (สฺยา. ก.)] พฺราหฺมณานํ อชฺฌิฏฺโ ปุฏฺโ ปุฏฺโ ปฺหํ [ปฺเห (สี. ปี.)] พฺยากาสิ. เอกเมกสฺส เจปิ ปฺหสฺส อตฺถมฺาย ธมฺมมฺาย ธมฺมานุธมฺมํ ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉยฺเยว ชรามรณสฺส ปารํ. ‘‘ปารงฺคมนียา อิเม ธมฺมา’’ติ – ตสฺมา อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส ปารายนนฺเตว [ปารายณํตฺเวว (สี. อฏฺ.)] อธิวจนํ.

๑๔๙.

อชิโต ติสฺสเมตฺเตยฺโย, ปุณฺณโก อถ เมตฺตคู;

โธตโก อุปสีโว จ, นนฺโท จ อถ เหมโก.

๑๕๐.

โตเทยฺยกปฺปา ทุภโย, ชตุกณฺณี จ ปณฺฑิโต;

ภทฺราวุโธ อุทโย จ, โปสาโล จาปิ พฺราหฺมโณ;

โมฆราชา จ เมธาวี, ปิงฺคิโย จ มหาอิสิ.

๑๕๑.

เอเต พุทฺธํ อุปาคจฺฉุํ, สมฺปนฺนจรณํ อิสึ;

ปุจฺฉนฺตา นิปุเณ ปฺเห, พุทฺธเสฏฺํ อุปาคมุํ.

๑๕๒.

เตสํ พุทฺโธ ปพฺยากาสิ, ปฺเห ปุฏฺโ ยถาตถํ;

ปฺหานํ เวยฺยากรเณน, โตเสสิ พฺราหฺมเณ มุนิ.

๑๕๓.

เต โตสิตา จกฺขุมตา, พุทฺเธนาทิจฺจพนฺธุนา;

พฺรหฺมจริยมจรึสุ, วรปฺสฺส สนฺติเก.

๑๕๔.

เอกเมกสฺส ปฺหสฺส, ยถา พุทฺเธน เทสิตํ;

ตถา โย ปฏิปชฺเชยฺย, คจฺเฉ ปารํ อปารโต.

๑๕๕.

อปารา ปารํ คจฺเฉยฺย, ภาเวนฺโต มคฺคมุตฺตมํ;

มคฺโค โส ปารํ คมนาย, ตสฺมา ปารายนํ อิติ.

๑๘. ปารายนานุคีติคาถา

๑๕๖.

‘‘ปารายนมนุคายิสฺสํ , [อิจฺจายสฺมา ปิงฺคิโย]

ยถาทฺทกฺขิ ตถากฺขาสิ, วิมโล ภูริเมธโส;

นิกฺกาโม นิพฺพโน [นิพฺพุโต (สฺยา.)] นาโค, กิสฺส เหตุ มุสา ภเณ.

๑๕๗.

‘‘ปหีนมลโมหสฺส, มานมกฺขปฺปหายิโน;

หนฺทาหํ กิตฺตยิสฺสามิ, คิรํ วณฺณูปสฺหิตํ.

๑๕๘.

‘‘ตโมนุโท พุทฺโธ สมนฺตจกฺขุ, โลกนฺตคู สพฺพภวาติวตฺโต;

อนาสโว สพฺพทุกฺขปฺปหีโน, สจฺจวฺหโย พฺรหฺเม อุปาสิโต เม.

๑๕๙.

‘‘ทิโช ยถา กุพฺพนกํ ปหาย, พหุปฺผลํ กานนมาวเสยฺย;

เอวมฺปหํ อปฺปทสฺเส ปหาย, มโหทธึ หํโสริว อชฺฌปตฺโต.

๑๖๐.

‘‘เยเม ปุพฺเพ วิยากํสุ, หุรํ โคตมสาสนา;

อิจฺจาสิ อิติ ภวิสฺสติ;

สพฺพํ ตํ อิติหีติหํ, สพฺพํ ตํ ตกฺกวฑฺฒนํ.

๑๖๑.

‘‘เอโก ตมนุทาสิโน, ชุติมา โส ปภงฺกโร;

โคตโม ภูริปฺาโณ, โคตโม ภูริเมธโส.

๑๖๒.

‘‘โย เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.

๑๖๓.

‘‘กึ นุ ตมฺหา วิปฺปวสสิ, มุหุตฺตมปิ ปิงฺคิย;

โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.

๑๖๔.

‘‘โย เต ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ’’.

๑๖๕.

‘‘นาหํ ตมฺหา วิปฺปวสามิ, มุหุตฺตมปิ พฺราหฺมณ;

โคตมา ภูริปฺาณา, โคตมา ภูริเมธสา.

๑๖๖.

‘‘โย เม ธมฺมมเทเสสิ, สนฺทิฏฺิกมกาลิกํ;

ตณฺหกฺขยมนีติกํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ.

๑๖๗.

‘‘ปสฺสามิ นํ มนสา จกฺขุนาว, รตฺตินฺทิวํ พฺราหฺมณ อปฺปมตฺโต.

นมสฺสมาโน วิวเสมิ รตฺตึ, เตเนว มฺามิ อวิปฺปวาสํ.

๑๖๘.

‘‘สทฺธา จ ปีติ จ มโน สติ จ,

นาเปนฺติเม โคตมสาสนมฺหา;

ยํ ยํ ทิสํ วชติ ภูริปฺโ, ส เตน เตเนว นโตหมสฺมิ.

๑๖๙.

‘‘ชิณฺณสฺส เม ทุพฺพลถามกสฺส, เตเนว กาโย น ปเลติ ตตฺถ;

สงฺกปฺปยนฺตาย [สํกปฺปยตฺตาย (สี.)] วชามิ นิจฺจํ, มโน หิ เม พฺราหฺมณ เตน ยุตฺโต.

๑๗๐.

‘‘ปงฺเก สยาโน ปริผนฺทมาโน, ทีปา ทีปํ อุปลฺลวึ;

อถทฺทสาสึ สมฺพุทฺธํ, โอฆติณฺณมนาสวํ.

๑๗๑.

‘‘ยถา อหู วกฺกลิ มุตฺตสทฺโธ, ภทฺราวุโธ อาฬวิโคตโม จ;

เอวเมว ตฺวมฺปิ ปมุฺจสฺสุ สทฺธํ, คมิสฺสสิ ตฺวํ ปิงฺคิย มจฺจุเธยฺยสฺส ปารํ’’ [มจฺจุเธยฺยปารํ (สี.)].

๑๗๒.

‘‘เอส ภิยฺโย ปสีทามิ, สุตฺวาน มุนิโน วโจ;

วิวฏฺฏจฺฉโท สมฺพุทฺโธ, อขิโล ปฏิภานวา.

๑๗๓.

‘‘อธิเทเว อภิฺาย, สพฺพํ เวทิ ปโรปรํ;

ปฺหานนฺตกโร สตฺถา, กงฺขีนํ ปฏิชานตํ.

๑๗๔.

‘‘อสํหีรํ อสํกุปฺปํ, ยสฺส นตฺถิ อุปมา กฺวจิ;

อทฺธา คมิสฺสามิ น เมตฺถ กงฺขา, เอวํ มํ ธาเรหิ อธิมุตฺตจิตฺต’’นฺติ [อชิตมาณวปุจฺฉาย ปฏฺาย ยาวปารายนานุคีติคาตาปริโยสานา สฺยา. … โปตฺถเก นตฺถิ].

ปารายนานุคีติคาถา นิฏฺิตา.