📜

(๒) ยุคนทฺธวคฺโค

๑. ยุคนทฺธกถา

ยุคนทฺธกถาวณฺณนา

. อิทานิ มณฺฑเปยฺยคุณสฺส อริยมคฺคสฺส ยุคนทฺธคุณํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ยุคนทฺธกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ยสฺมา ปน ธมฺมเสนาปติ ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมราชสฺส ปรินิพฺพานสํวจฺฉเร ปรินิพฺพุโต, ตสฺมา ธมฺมราเช ธรมาเนเยว ธมฺมภณฺฑาคาริเกน เทสิตํ อิทํ สุตฺตนฺตํ ตสฺเสว สมฺมุขา สุตฺวา เอวํ เม สุตนฺติอาทิมาหาติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ ครุวจนํ สคารวสปฺปติสฺสวจนํ, อายุมาติ อตฺโถ. อานนฺโทติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. โส หิ ชายมาโนเยว กุเล อานนฺทํ ภุสํ ตุฏฺึ อกาสิ. ตสฺมาสฺส ‘‘อานนฺโท’’ติ นามํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. ตสฺส หิ นครสฺส อารามโปกฺขรณีอาทีสุ เตสุ เตสุ าเนสุ โกสมฺพรุกฺขา อุสฺสนฺนา อเหสุํ, ตสฺมา ตํ โกสมฺพีติ สงฺขํ อคมาสิ. ‘‘กุสมฺพสฺส อิสิโน อสฺสมโต อวิทูเร มาปิตตฺตา’’ติ เอเก.

โฆสิตาราเมติ โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม. โกสมฺพิยฺหิ ตโย เสฏฺิโน อเหสุํ โฆสิตเสฏฺิ กุกฺกุฏเสฏฺิ ปาวาริกเสฏฺีติ. เต ตโยปิ ‘‘โลเก พุทฺโธ อุปฺปนฺโน’’ติ สุตฺวา ปฺจหิ ปฺจหิ สกฏสเตหิ ทานูปกรณานิ คาหาเปตฺวา สาวตฺถึ คนฺตฺวา เชตวนสมีเป ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา ปฏิสนฺถารํ กตฺวา นิสินฺนา สตฺถุ ธมฺมเทสนํ สุตฺวา โสตาปตฺติผเล ปติฏฺหิตฺวา สตฺถารํ นิมนฺเตตฺวา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส อฑฺฒมาสมตฺตํ มหาทานํ ทตฺวา ภควโต ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา สกชนปทคมนตฺถํ ภควนฺตํ ยาจิตฺวา ‘‘สุฺาคาเร โข คหปตโย ตถาคตา อภิรมนฺตี’’ติ ภควตา วุตฺเต ‘‘ทินฺนา โน ภควตา ปฏิฺา’’ติ ตฺวา อติวิย ตุฏฺา ทสพลํ วนฺทิตฺวา นิกฺขนฺตา อนฺตรามคฺเค โยชเน โยชเน ภควโต นิวาสตฺถํ วิหารํ กาเรนฺตา อนุปุพฺเพน โกสมฺพึ ปตฺวา อตฺตโน อตฺตโน อาราเม มหนฺตํ ธนปริจฺจาคํ กตฺวา ภควโต วิหาเร การาปยึสุ. ตตฺถ โฆสิตเสฏฺินา การิโต โฆสิตาราโม นาม อโหสิ, กุกฺกุฏเสฏฺินา การิโต กุกฺกุฏาราโม นาม, ปาวาริกเสฏฺินา อมฺพวเน การิโต ปาวาริกมฺพวนํ นาม. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โฆสิตเสฏฺินา การิเต อาราเม’’ติ.

อาวุโส ภิกฺขโวติ เอตฺถ พุทฺธา ภควนฺโต สาวเก อาลปนฺตา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ อาลปนฺติ. สาวกา ปน ‘‘พุทฺเธหิ สทิสา มา โหมา’’ติ ‘‘อาวุโส’’ติ ปมํ วตฺวา ปจฺฉา ‘‘ภิกฺขโว’’ติ วทนฺติ. พุทฺเธหิ จ อาลปิเต ภิกฺขุสงฺโฆ ‘‘ภทนฺเต’’ติ ปฏิวจนํ เทติ, สาวเกหิ อาลปิเต ‘‘อาวุโส’’ติ.

โย หิ โกจีติ อนิยมวจนํ. เอเตน ตาทิสานํ สพฺพภิกฺขูนํ ปริยาทานํ. มม สนฺติเกติ มม สมีเป. อรหตฺตปฺปตฺตนฺติ อตฺตนา อรหตฺตสฺส ปตฺตํ. นปุํสเก ภาเว สิทฺธวจนํ. อรหตฺตํ ปตฺตนฺติ วา ปทจฺเฉโท, อตฺตนา ปตฺตํ อรหตฺตนฺติ อตฺโถ. อรหตฺตปฺปตฺตํ อตฺตานนฺติ วา ปาเสโส. จตูหิ มคฺเคหีติ อุปริ วุจฺจมาเนหิ จตูหิ ปฏิปทามคฺเคหิ, น อริยมคฺเคหิ. ‘‘จตูหิ มคฺเคหี’’ติ วิสุฺจ วุตฺตตฺตา กสฺสจิ อรหโต ปมสฺส อริยมคฺคสฺส ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคโม มคฺโค, เอกสฺส อริยมคฺคสฺส สมถปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส วิปสฺสนาปุพฺพงฺคโม, เอกสฺส ยุคนทฺธปุพฺพงฺคโมติ เอวํ จตฺตาโรปิ ปฏิปทา มคฺคา โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ. เอเตสํ วา อฺตเรนาติ เอเตสํ จตุนฺนํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกน วา, ปฏิปทามคฺเคน อรหตฺตปฺปตฺตํ พฺยากโรตีติ อตฺโถ. สุกฺขวิปสฺสกสฺส หิ อรหโต ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมํ โสตาปตฺติมคฺคํ ปตฺวา เสสมคฺคตฺตยมฺปิ สุทฺธวิปสฺสนาหิเยว ปตฺตสฺส อรหตฺตปฺปตฺติ ธมฺมุทฺธจฺจปุพฺพงฺคมมคฺคา โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหํ ปตฺวา วา อปฺปตฺวา วา สมถปุพฺพงฺคมาทีนํ ติณฺณํ ปฏิปทานํ มคฺคานํ เอเกกสฺส วเสน ปตฺตจตุมคฺคสฺส อรหโต อรหตฺตปฺปตฺติ อิตรเอเกกมคฺคปุพฺพงฺคมา โหติ. ตสฺมา อาห – ‘‘เอเตสํ วา อฺตเรนา’’ติ.

สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวตีติ สมถํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ภาเวติ, ปมํ สมาธึ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา วิปสฺสนํ ภาเวตีติ อตฺโถ. มคฺโค สฺชายตีติ ปโม โลกุตฺตรมคฺโค นิพฺพตฺตติ. โส ตํ มคฺคนฺติอาทีสุ เอกจิตฺตกฺขณิกสฺส มคฺคสฺส อาเสวนาทีนิ นาม นตฺถิ, ทุติยมคฺคาทโย ปน อุปฺปาเทนฺโต ตเมว มคฺคํ ‘‘อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺโชนานิ ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ ยาว อรหตฺตมคฺคา กเมน สพฺเพ สฺโชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ. อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตีติ จ ปุน อนุปฺปตฺติยา วิคตนฺตา โหนฺตีติ อตฺโถ.

ปุน จปรนฺติ ปุน จ อปรํ การณํ. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวตีติ วิปสฺสนํ ปุพฺพงฺคมํ ปุเรจาริกํ กตฺวา สมถํ ภาเวติ, ปมํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สมาธึ ภาเวตีติ อตฺโถ. ยุคนทฺธํ ภาเวตีติ ยุคนทฺธํ กตฺวา ภาเวติ. เอตฺถ เตเนว จิตฺเตน สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา เตเนว สงฺขาเร สมฺมสิตุํ น สกฺกา. อยํ ปน ยาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ตาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ. ยาวตา สงฺขาเร สมฺมสติ, ตาวตา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ. กถํ? ปมชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ทุติยชฺฌานํ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา ตติยชฺฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสติ. เอวํ สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ นาม.

ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหตีติ เอตฺถ มนฺทปฺานํ วิปสฺสกานํ อุปกฺกิเลสวตฺถุตฺตา วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺิเตสุ โอภาสาทีสุ ทสสุ ธมฺเมสุ ภนฺตตาวเสน อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปตฺติยา วิกฺเขปสงฺขาตํ อุทฺธจฺจํ ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตํ วิรูปคฺคหิตํ วิโรธมาปาทิตํ มานสํ จิตฺตํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ, เตน วา ธมฺมุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกตณฺหามานทิฏฺุปฺปตฺติยา วิคฺคหิตํ มานสํ โหติ. ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสนฺติ วา ปาโ. โหติ โส อาวุโส สมโยติ อิมินา มคฺคามคฺคววตฺถาเนน ตํ ธมฺมุทฺธจฺจํ ปฏิพาหิตฺวา ปุน วิปสฺสนาวีถึ ปฏิปนฺนกาลํ ทสฺเสติ. ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยสฺมึ สมเย ตํ วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา ปวตฺตํ จิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺตีติ วิปสฺสนาวีถึ ปจฺโจตริตฺวา ตสฺมึ สมเย โคจรชฺฌตฺตสงฺขาเต อารมฺมเณ สนฺติฏฺติ ปติฏฺาติ. สนฺนิสีทตีติ ตตฺเถว ปวตฺติวเสน สมฺมา นิสีทติ. เอโกทิ โหตีติ เอกคฺคํ โหติ. สมาธิยตีติ สมฺมา อาธิยติ สุฏฺุ ิตํ โหตีติ.

อยํ สุตฺตนฺตวณฺณนา.

๑. สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

. ตสฺส สุตฺตนฺตสฺส นิทฺเทสกถาย ตตฺถ ชาเต ธมฺเมติ ตสฺมึ สมาธิสฺมึ ชาเต จิตฺตเจตสิเก ธมฺเม. อนิจฺจโต อนุปสฺสนฏฺเนาติอาทินา วิปสฺสนาย เภทํ ทสฺเสติ. สมฺมาทิฏฺิ มคฺโคติ สมฺมาทิฏฺิสงฺขาโต มคฺโค. อฏฺสุ มคฺคงฺเคสุ เอเกโกปิ หิ มคฺโคติ วุจฺจติ.อาเสวตีติ โสตาปตฺติมคฺควเสน. ภาเวตีติ สกทาคามิมคฺคุปฺปาทเนน. พหุลีกโรตีติ อนาคามิอรหตฺตมคฺคุปฺปาทเนน. อิเมสํ ติณฺณํ อวตฺถาเภเทปิ สติ อาวชฺชนาทีนํ สาธารณตฺตา สทิสเมว วิสฺสชฺชนํ กตํ.

. อาโลกสฺาปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนานํ อนฺตราเปยฺยาเล อวิกฺเขปาทีนิ จ ฌาน สมาปตฺติกสิณานุสฺสติอสุภา จ ทีฆํ อสฺสาสาทีนิ จ อานนฺตริกสมาธิาณนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๘๐-๘๑) นิทฺทิฏฺตฺตา สงฺขิตฺตานิ. ตตฺถ จ อวิกฺเขปวเสนาติ ปุพฺพภาคาวิกฺเขปวเสน คเหตพฺพํ. อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสาสวเสนาติอาทิเก สุทฺธวิปสฺสนาวเสน วุตฺตจตุกฺเก ปน ตรุณวิปสฺสนากาเล วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตสมาธิปุพฺพงฺคมา พลววิปสฺสนา เวทิตพฺพา.

. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมวาเร ปมํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ อนิยเมตฺวา วิปสฺสนา วุตฺตา, ปจฺฉา รูปํ อนิจฺจโตติอาทินา อารมฺมณํ นิยเมตฺวา วุตฺตา. ตตฺถ ชาตานนฺติ ตสฺสา วิปสฺสนาย ชาตานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ. โวสคฺคารมฺมณตาติ เอตฺถ โวสคฺโค นิพฺพานํ. นิพฺพานฺหิ สงฺขตโวสคฺคโต ปริจฺจาคโต ‘‘โวสคฺโค’’ติ วุตฺโต. วิปสฺสนา จ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา จ นิพฺพานนินฺนตาย อชฺฌาสยวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิตตฺตา นิพฺพานปติฏฺา นิพฺพานารมฺมณา. ปติฏฺาปิ หิ อาลมฺพียตีติ อารมฺมณํ นาม โหติ, นิพฺพาเน ปติฏฺฏฺเเนว นิพฺพานารมฺมณา. อฺตฺถ ปาฬิยมฺปิ หิ ปติฏฺา ‘‘อารมฺมณ’’นฺติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘เสยฺยถาปิ, อาวุโส, นฬาคารํ วา ติณาคารํ วา สุกฺขํ โกฬาปํ เตโรวสฺสิกํ ปุรตฺถิมาย เจปิ ทิสาย ปุริโส อาทิตฺตาย ติณุกฺกาย อุปสงฺกเมยฺย, ลเภถ อคฺคิ โอตารํ, ลเภถ อคฺคิ อารมฺมณ’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓). ตสฺมา ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ โวสคฺคารมฺมณตาย นิพฺพานปติฏฺาภาเวน เหตุภูเตน อุปฺปาทิโต โย จิตฺตสฺส เอกคฺคตาสงฺขาโต อุปจารปฺปนาเภโท อวิกฺเขโป, โส สมาธีติ วิปสฺสนาโต ปจฺฉา อุปฺปาทิโต นิพฺเพธภาคิโย สมาธิ นิทฺทิฏฺโ โหติ. ตสฺมาเยว หิ อิติ ปมํ วิปสฺสนา, ปจฺฉา สมโถติ วุตฺตํ.

. ยุคนทฺธนิทฺเทเส ยสฺมา เหฏฺา สุตฺตนฺตวณฺณนายํ วุตฺโต ยุคนทฺธกฺกโม ปุริมทฺวยนิทฺเทสนเยเนว ปากโฏ, มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธกฺกโม ปน น ปากโฏ, ตสฺมา ปุพฺพภาเค อเนกนฺติกํ ยุคนทฺธภาวนํ อวตฺวา มคฺคกฺขเณ เอกนฺเตน ลพฺภมานยุคนทฺธภาวนเมว ทสฺเสนฺโต โสฬสหิ อากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อารมฺมณฏฺเนาติอาทีสุ สตฺตรสสุ อากาเรสุ อนฺเต อุทฺทิฏฺํ ยุคนทฺธํ มูลปเทน เอกฏฺตฺตา ตํ วิปฺปหาย เสสานํ วเสน ‘‘โสฬสหี’’ติ วุตฺตํ. อารมฺมณฏฺเนาติ อาลมฺพนฏฺเน, อารมฺมณวเสนาติ อตฺโถ. เอวํ เสเสสุปิ. โคจรฏฺเนาติ อารมฺมณฏฺเปิ สติ นิสฺสยิตพฺพฏฺานฏฺเน. ปหานฏฺเนาติ ปชหนฏฺเน. ปริจฺจาคฏฺเนาติ ปหาเนปิ สติ ปุน อนาทิยเนน ปริจฺจาคฏฺเน. วุฏฺานฏฺเนาติ อุคฺคมนฏฺเน. วิวฏฺฏนฏฺเนาติ อุคฺคมเนปิ สติ อปุนราวฏฺฏเนน นิวตฺตนฏฺเน. สนฺตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเน. ปณีตฏฺเนาติ นิพฺพุตฏฺเปิ สติ อุตฺตมฏฺเน, อตปฺปกฏฺเน วา. วิมุตฺตฏฺเนาติ พนฺธนาปคตฏฺเน. อนาสวฏฺเนาติ พนฺธนโมกฺเขปิ สติ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานาสววิรหิตฏฺเน. ตรณฏฺเนาติ อโนสีทิตฺวา ปิลวนฏฺเน, อติกฺกมนฏฺเน วา. อนิมิตฺตฏฺเนาติ สงฺขารนิมิตฺตวิรหิตฏฺเน. อปฺปณิหิตฏฺเนาติ ปณิธิวิรหิตฏฺเน. สุฺตฏฺเนาติ อภินิเวสวิรหิตฏฺเน. เอกรสฏฺเนาติ เอกกิจฺจฏฺเน. อนติวตฺตนฏฺเนาติ อฺมฺํ อนติกฺกมนฏฺเน. ยุคนทฺธฏฺเนาติ ยุคลกฏฺเน.

อุทฺธจฺจํ ปชหโต, อวิชฺชํ ปชหโตติ โยคิโน ตสฺส ตสฺส ปฏิปกฺขปฺปหานวเสน วุตฺตํ. นิโรโธ เจตฺถ นิพฺพานเมว. อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตีติ สมโถ เจ วิปสฺสนํ อติวตฺเตยฺย, ลีนปกฺขิกตฺตา สมถสฺส จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. วิปสฺสนา เจ สมถํ อติวตฺเตยฺย, อุทฺธจฺจปกฺขิกตฺตา วิปสฺสนาย จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. ตสฺมา สมโถ จ วิปสฺสนํ อนติวตฺตมาโน โกสชฺชปาตํ น กโรติ, วิปสฺสนา สมถํ อนติวตฺตมานา อุทฺธจฺจปาตํ น กโรติ. สมโถ สมํ ปวตฺตมาโน วิปสฺสนํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขติ, วิปสฺสนา สมํ ปวตฺตมานา สมถํ โกสชฺชปาตโต รกฺขติ. เอวมิเม อุโภ อฺมฺํ อนติวตฺตนกิจฺเจน เอกกิจฺจา, สมา หุตฺวา ปวตฺตมาเนน อฺมฺํ อนติวตฺตมานา อตฺถสิทฺธิกรา โหนฺติ. เตสํ มคฺคกฺขเณ ยุคนทฺธตฺตํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณ ยุคนทฺธตฺตาเยว โหติ. ปหานปริจฺจาควุฏฺานวิวฏฺฏนกรณานํ มคฺคกิจฺจวเสน วุตฺตตฺตา สกลสฺส มคฺคกิจฺจสฺส ทสฺสนตฺถํ อุทฺธจฺจสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ อวิชฺชาสหคตกิเลสา จ ขนฺธา จ นิทฺทิฏฺา. เสสานํ น ตถา วุตฺตตฺตา ปฏิปกฺขธมฺมมตฺตทสฺสนวเสน อุทฺธจฺจาวิชฺชา เอว นิทฺทิฏฺา. วิวฏฺฏโตติ นิวตฺตนฺตสฺส.

สมาธิ กามาสวา วิมุตฺโต โหตีติ สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา วุตฺตํ. ราควิราคาติ ราคสฺส วิราโค สมติกฺกโม เอติสฺสา อตฺถีติ ราควิราคา, ‘‘ราควิราคโต’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ วา. ตถา อวิชฺชาวิราคา. เจโตวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺโต สมาธิ. ปฺาวิมุตฺตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตา ปฺา. ตรโตติ ตรนฺตสฺส. สพฺพปณิธีหีติ ราคโทสโมหปณิธีหิ, สพฺพปตฺถนาหิ วา. เอวํ จุทฺทส อากาเร วิสฺสชฺชิตฺวา เอกรสฏฺฺจ อนติวตฺตนฏฺฺจ อวิภชิตฺวาว อิเมหิ โสฬสหิ อากาเรหีติ อาห. กสฺมา? เตสํ จุทฺทสนฺนํ อาการานํ เอเกกสฺส อวสาเน ‘‘เอกรสา โหนฺติ, ยุคนทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตี’’ติ นิทฺทิฏฺตฺตา เต ทฺเวปิ อาการา นิทฺทิฏฺาว โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘โสฬสหี’’ติ อาห. ยุคนทฺธฏฺโ ปน อุทฺเทเสปิ น ภณิโตเยวาติ.

๒. ธมฺมุทฺธจฺจวารนิทฺเทสวณฺณนา

. ธมฺมุทฺธจฺจวาเร อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ิตสฺส ตีหิ อนุปสฺสนาหิ ปุนปฺปุนํ สงฺขาเร วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาาเณสุ ปริปากคเตสุ ตทงฺควเสน กิเลสปฺปหาเนน ปริสุทฺธจิตฺตสฺส อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา มนสิการกฺขเณ วิปสฺสนาาณานุภาเวน ปกติยาว โอภาโส อุปฺปชฺชตีติ ปมํ ตาว อนิจฺจโต มนสิกโรโต โอภาโส กถิโต. อกุสโล วิปสฺสโก ตสฺมึ โอภาเส อุปฺปนฺเน ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูโป โอภาโส อุปฺปนฺนปุพฺโพ, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ อมคฺคํเยว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลํ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน วิปสฺสนาวีถึ วิสฺสชฺเชตฺวา วิกฺเขปมาปนฺโน วา โอภาสเมว ตณฺหาทิฏฺิมฺนาหิ มฺมาโน วา นิสีทติ. โส โข ปนายํ โอภาโส กสฺสจิ ภิกฺขุโน ปลฺลงฺกฏฺานมตฺตเมว โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ, กสฺสจิ อนฺโตคพฺภํ, กสฺสจิ พหิคพฺภมฺปิ, กสฺสจิ สกลวิหารํ, คาวุตํ อฑฺฒโยชนํ โยชนํ ทฺวิโยชนํ…เป… กสฺสจิ ปถวิตลโต ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา เอกาโลกํ กุรุมาโน. ภควโต ปน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ โอภาเสนฺโต อุทปาทิ. อยฺหิ โอภาโส จตุรงฺคสมนฺนาคเตปิ อนฺธกาเร ตํ ตํ านํ โอภาเสนฺโต อุปฺปชฺชติ.

โอภาโส ธมฺโมติ โอภาสํ อาวชฺชตีติ อยํ โอภาโส มคฺคธมฺโม ผลธมฺโมติ วา ตํ ตํ โอภาสํ มนสิ กโรติ. ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจนฺติ ตโต โอภาสโต ธมฺโมติ อาวชฺชนกรณโต วา โย อุปฺปชฺชติ วิกฺเขโป, โส อุทฺธจฺจํ นามาติ อตฺโถ. เตน อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโสติ เตน เอวํ อุปฺปชฺชมาเนน อุทฺธจฺเจน วิโรธิตจิตฺโต, เตน วา อุทฺธจฺเจน การณภูเตน ตมฺมูลกกิเลสุปฺปตฺติยา วิโรธิตจิตฺโต วิปสฺสโก วิปสฺสนาวีถึ โอกฺกมิตฺวา วิกฺเขปํ วา ตมฺมูลกกิเลเสสุ วา ิตตฺตา อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต อุปฏฺานานิ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ‘‘เตน วุจฺจติ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานโส’’ติ เอวํ อิติ-สทฺโท โยเชตพฺโพ. โหติ โส สมโยติ เอวํ อสฺสาทวเสน อุปกฺกิลิฏฺจิตฺตสฺสาปิ โยคิโน สเจ อุปปริกฺขา อุปฺปชฺชติ, โส เอวํ ปชานาติ – ‘‘วิปสฺสนา นาม สงฺขารารมฺมณา, มคฺคผลานิ นิพฺพานารมฺมณานิ, อิมานิ จ จิตฺตานิ สงฺขารารมฺมณานิ, ตสฺมา นายโมภาโส มคฺโค, อุทยพฺพยานุปสฺสนาเยว นิพฺพานสฺส โลกิโก มคฺโค’’ติ มคฺคามคฺคํ ววตฺถเปตฺวา ตํ วิกฺเขปํ ปริวชฺชยิตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ตฺวา สาธุกํ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ. เอวํ อุปปริกฺขนฺตสฺส โส สมโย โหติ. เอวํ อปสฺสนฺโต ปน ‘‘มคฺคผลปฺปตฺโตมฺหี’’ติ อธิมานิโก โหติ.

ยํ ตํ จิตฺตนฺติ ยํ ตํ วิปสฺสนาจิตฺตํ. อชฺฌตฺตเมวาติ อนิจฺจานุปสฺสนาย อารมฺมเณ โคจรชฺฌตฺเตเยว. าณํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว โยคาวจรสฺส รูปารูปธมฺเม ตุลยนฺตสฺส ตีรยนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว อวิหตเวคํ ติขิณํ สูรมติวิสทํ วิปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ. ปีติ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกา ปีติ, โอกฺกนฺติกา ปีติ, อุพฺเพคา ปีติ, ผรณา ปีตีติ อยํ ปฺจวิธา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ปีติ สกลสรีรํ ปูรยมานา อุปฺปชฺชติ. ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย กายจิตฺตานํ เนว ทรโถ, น คารวตา, น กกฺขฬตา , น อกมฺมฺตา, น เคลฺตา, น วงฺกตา โหติ. อถ โข ปนสฺส กายจิตฺตานิ ปสฺสทฺธานิ ลหูนิ มุทูนิ กมฺมฺานิ ปคุณานิ สุวิสทานิ อุชุกานิเยว โหนฺติ. โส อิเมหิ ปสฺสทฺธาทีหิ อนุคฺคหิตกายจิตฺโต ตสฺมึ สมเย อมานุสึ นาม รตึ อนุภวติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘สุฺาคารํ ปวิฏฺสฺส, สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขุโน;

อมานุสี รตี โหติ, สมฺมา ธมฺมํ วิปสฺสโต.

‘‘ยโต ยโต สมฺมสติ, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;

ลภตี ปีติปาโมชฺชํ, อมตํ ตํ วิชานต’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๗๓-๔) –

เอวมสฺส อิมํ อมานุสึ รตึ สาธยมานา ลหุตาทีหิ สหิตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา กายจิตฺตปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ. สุขํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สกลสรีรํ อภิสนฺทยมานํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ สุขํ อุปฺปชฺชติ. อธิโมกฺโข อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย จิตฺตเจตสิกานํ อติสยปสาทภูตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สทฺธา อุปฺปชฺชติ. ปคฺคโห อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย อสิถิลมนจฺจารทฺธํ สุปคฺคหิตํ วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตํ วีริยํ อุปฺปชฺชติ. อุปฏฺานํ อุปฺปชฺชตีติ ตสฺเสว ตสฺมึ สมเย สูปฏฺิตา สุปฺปติฏฺิตา นิขาตา อจลา ปพฺพตราชสทิสา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ อุปฺปชฺชติ. โส ยํ ยํ านํ อาวชฺชติ สมนฺนาหรติ มนสิ กโรติ ปจฺจเวกฺขติ, ตํ ตํ านมสฺส โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลโก วิย สติยา อุปฏฺาติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔).

อุเปกฺขาติ วิปสฺสนุเปกฺขา เจว อาวชฺชนุเปกฺขา จ. ตสฺมิฺหิ สมเย สพฺพสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตภูตา วิปสฺสนุเปกฺขาปิ พลวตี อุปฺปชฺชติ, มโนทฺวาเร อาวชฺชนุเปกฺขาปิ. สา หิสฺส ตํ ตํ านํ อาวชฺชนฺตสฺส วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิว ปตฺตปุเฏ ปกฺขนฺทตตฺตนาราโจ วิย จ สูรา ติขิณา หุตฺวา วหติ . เอวฺหิ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๔) วุตฺตํ. วิปสฺสนุเปกฺขาติ เจตฺถ ‘‘วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา’’ติ อาจริยา วทนฺติ. วิปสฺสนาาเณ หิ คยฺหมาเน ‘‘าณํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิปสฺสนาาณสฺส อาคตตฺตา ปุนรุตฺติโทโส โหติ. ตติยชฺฌานวณฺณนายฺจ ‘‘สงฺขารุเปกฺขาวิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ อตฺถโต เอกีภาโว. ปฺา เอว หิ สา, กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วุจฺจมานาย ปุนรุตฺติโทโส จ น โหติ, ตติยชฺฌานวณฺณนาย จ สเมติ. ยสฺมา จ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ‘‘าณํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺาน’’นฺติ ปฺินฺทฺริยสทฺธินฺทฺริยวีริยินฺทฺริยสตินฺทฺริยานิ นิทฺทิฏฺานิ, สมาธินฺทฺริยํ ปน อนิทฺทิฏฺํ โหติ, ยุคนทฺธวเสนาปิ จ สมาธินฺทฺริยํ นิทฺทิสิตพฺพเมว โหติ, ตสฺมา สมปฺปวตฺโต สมาธิ ปุน สมาธาเน พฺยาปารปฺปหานกรเณน ‘‘อุเปกฺขา’’ติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

นิกนฺติอุปฺปชฺชตีติ เอวํ โอภาสาทิปฏิมณฺฑิตาย วิปสฺสนาย อาลยํ กุรุมานา สุขุมา สนฺตาการา นิกนฺติ อุปฺปชฺชติ, ยา กิเลโสติ ปริคฺคเหตุมฺปิ น สกฺกา โหติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เอเตสุปิ อฺตรสฺมึ อุปฺปนฺเน โยคาวจโร ‘‘น จ วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูปํ าณํ อุปฺปนฺนปุพฺพํ, เอวรูปา ปีติ ปสฺสทฺธิ สุขํ อธิโมกฺโข ปคฺคโห อุปฏฺานํ อุเปกฺขา นิกนฺติ อุปฺปนฺนปุพฺพา, อทฺธา มคฺคํ ปตฺโตมฺหิ, ผลํ ปตฺโตมฺหี’’ติ อมคฺคเมว ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลเมว ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหาติ. ตสฺส อมคฺคํ ‘‘มคฺโค’’ติ, อผลฺจ ‘‘ผล’’นฺติ คณฺหโต วิปสฺสนาวีถิ อุกฺกนฺตา โหติ. โส อตฺตโน มูลกมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิกนฺติเมว อสฺสาเทนฺโต นิสีทติ. เอตฺถ จ โอภาสาทโย อุปกฺกิเลสวตฺถุตาย อุปกฺกิเลสาติ วุตฺตา, น อกุสลตฺตา. นิกนฺติ ปน อุปกฺกิเลโส เจว อุปกฺกิเลสวตฺถุ จ. วตฺถุวเสเนว เจเต ทส, คาหวเสน ปน สมตึส โหนฺติ. กถํ? ‘‘มม โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต หิ ทิฏฺิคฺคาโห โหติ, ‘‘มนาโป วต โอภาโส อุปฺปนฺโน’’ติ คณฺหโต มานคฺคาโห, โอภาสํ อสฺสาทยโต ตณฺหาคฺคาโห. อิติ โอภาเส ทิฏฺิมานตณฺหาวเสน ตโย คาหา. ตถา เสเสสุปีติ เอวํ คาหวเสน สมตึส อุปกฺกิเลสา โหนฺติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต, อนตฺตโต มนสิกโรโตติ วาเรสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเกกอนุปสฺสนาวเสน เหตฺถ เอเกกสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา, น เอกสฺเสว.

ตีสุ อนุปสฺสนาสุ. เอวํ อเภทโต วิปสฺสนาวเสน อุปกฺกิเลเส ทสฺเสตฺวา ปุน เภทวเสน ทสฺเสนฺโต รูปํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ชรามรณํ อนิจฺจโต อุปฏฺานนฺติ ชรามรณสฺส อนิจฺจโต อุปฏฺานํ.

. ยสฺมา ปุพฺเพ วุตฺตานํ สมตึสาย อุปกฺกิเลสานํ วเสน อกุสโล อพฺยตฺโต โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกมฺปติ, โอภาสาทีสุ เอเกกํ ‘‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต โอภาเส เจว าเณ จาติอาทิคาถาทฺวยมาห. ตตฺถ วิกมฺปตีติ โอภาสาทิเก อารมฺมเณ นานากิเลสวเสน วิวิธา กมฺปติ เวธติ. เยหิ จิตฺตํ ปเวธตีติ เยหิ ปสฺสทฺธิสุเขหิ จิตฺตํ นานากิเลสวเสน นานปฺปกาเรน เวธติ กมฺปติ. ตสฺมา ปสฺสทฺธิยา สุเข เจว โยคาวจโร วิกมฺปตีติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อุเปกฺขาวชฺชนาย เจวาติ อุเปกฺขาสงฺขาตาย อาวชฺชนาย เจว วิกมฺปติ, อาวชฺชนุเปกฺขาย เจว วิกมฺปตีติ อตฺโถ. วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๗๓๖) ปน ‘‘อุเปกฺขาวชฺชนายฺจา’’ติ วุตฺตํ. อุเปกฺขาย จาติ เหฏฺา วุตฺตปฺปการาย อุเปกฺขาย จ วิกมฺปติ, นิกนฺติยา จ วิกมฺปตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขานํ นิทฺทิฏฺตฺตา เหฏฺา ‘‘อุเปกฺขา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตฏฺาเน จ อุภยถา อตฺโถ วุตฺโต. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ จ เอเกกิสฺสาเยว อาวชฺชนุเปกฺขาย สพฺภาวโต เอเกกาเยว อนุปสฺสนา อนิจฺจํ อนิจฺจํ, ทุกฺขํ ทุกฺขํ, อนตฺตา อนตฺตาติ ปุนปฺปุนํ ภาวียตีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน กุสโล ปณฺฑิโต พฺยตฺโต พุทฺธิสมฺปนฺโน โยคาวจโร โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ‘‘อยํ โข เม โอภาโส อุปฺปนฺโน, โส โข ปนายํ อนิจฺโจ สงฺขโต ปฏิจฺจสมุปฺปนฺโน ขยธมฺโม วยธมฺโม วิราคธมฺโม นิโรธธมฺโม’’ติ อิติ วา นํ ปฺาย ปริจฺฉินฺทติ อุปปริกฺขติ. อถ วา ปนสฺส เอวํ โหติ – สเจ โอภาโส อตฺตา ภเวยฺย, ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนตฺตาว ปนายํ ‘‘อตฺตา’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อวสวตฺตนฏฺเน อนตฺตาติ ปสฺสนฺโต ทิฏฺึ อุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส นิจฺโจ ภเวยฺย, ‘‘นิจฺโจ’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. อนิจฺโจว ปนายํ ‘‘นิจฺโจ’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ หุตฺวา อภาวฏฺเน อนิจฺโจติ ปสฺสนฺโต มานํ สมุคฺฆาเฏติ. สเจ โอภาโส สุโข ภเวยฺย, ‘‘สุโข’’ติ คเหตุํ วฏฺเฏยฺย. ทุกฺโขว ปนายํ ‘‘สุโข’’ติ คหิโต. ตสฺมายํ อุปฺปาทวยปฏิปีฬนฏฺเน ทุกฺโขติ ปสฺสนฺโต นิกนฺตึ ปริยาทิยติ. ยถา จ โอภาเส, เอวํ เสเสสุปิ.

เอวํ อุปปริกฺขิตฺวา โอภาสํ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. าณํ…เป… นิกนฺตึ ‘‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสติ. เอวํ สมนุปสฺสนฺโต โอภาสาทีสุ น กมฺปติ น เวธติ. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อิมานิ ทส านานีติ คาถมาห. ตตฺถ ทส านานีติ โอภาสาทีนิ. ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ยสฺส อุปกฺกิเลสวิมุตฺตาย ปฺาย ปริจิตานิ ปุนปฺปุนํ ผุฏฺานิ ปริภาวิตานิ. ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหตีติ โส ปฺาย ปริจิตทสฏฺาโน โยคาวจโร ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส ธมฺมุทฺธจฺจสฺส ยถาสภาวปฏิเวเธน เฉโก โหติ. น จ สมฺโมห คจฺฉตีติ ธมฺมุทฺธจฺจกุสลตฺตาเยว ตณฺหามานทิฏฺุคฺฆาฏวเสน สมฺโมหฺจ น คจฺฉติ.

อิทานิ ปุพฺเพ วุตฺตเมว วิธึ อปเรน ปริยาเยน วิภาเวตฺวา ทสฺเสนฺโต วิกฺขิปติ เจว กิลิสฺสติ จาติอาทิคาถมาห. ตตฺถ มนฺทปฺโ โยคาวจโร โอภาสาทีสุ วิกฺเขปฺจ อวเสสกิเลสุปฺปตฺติฺจ ปาปุณาติ. มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขปเมว ปาปุณาติ, นาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ, โส อธิมานิโก โหติ. ติกฺขปฺโ วิกฺเขปํ ปาปุณิตฺวาปิ ตํ อธิมานํ ปหาย วิปสฺสนํ อารภติ. อติติกฺขปฺโ น วิกฺเขปํ ปาปุณาติ, น จาวเสสกิเลสุปฺปตฺตึ. วิกฺขิปฺปติ เจวาติ เตสุ มนฺทปฺโ ธมฺมุทฺธจฺจสงฺขาตํ วิกฺเขปฺเจว ปาปุณียติ. กิลิสฺสติ จาติ ตณฺหามานทิฏฺิกิเลเสหิ กิเลสียติ จ, อุปตาปียติ วิพาธียตีติ อตฺโถ. จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส มนฺทปฺสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา กิเลเสสุเยว านโต ปฏิปกฺขาวิหตตฺตา จวติ, ปริปตตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ มชฺฌิมปฺโ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา ปริหายตีติ ตสฺส มชฺฌิมปฺสฺส อธิมานิกตฺตา วิปสฺสนารมฺภาภาเวน วิปสฺสนา ปริหายติ, นปฺปวตฺตตีติ อตฺโถ. วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตีติ ติกฺขปฺโปิ วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, กิเลเสหิ น กิลิสฺสติ. ภาวนา น ปริหายตีติ ตสฺส ติกฺขปฺสฺส สนฺเตปิ วิกฺเขเป ตํ อธิมานวิกฺเขปํ ปหาย วิปสฺสนารมฺภสพฺภาเวน วิปสฺสนาภาวนา น ปริหายติ, ปวตฺตตีติ อตฺโถ. น จ วิกฺขิปเต จิตฺตํ น กิลิสฺสตีติ อติติกฺขปฺสฺส จิตฺตํ น วิกฺเขเปน วิกฺขิปติ, น จ กิเลเสหิ กิลิสฺสติ. น จวติ จิตฺตภาวนาติ ตสฺส วิปสฺสนาจิตฺตภาวนา น จวติ, วิกฺเขปกิเลสาภาเวน ยถาาเน ติฏฺตีติ อตฺโถ.

อิเมหิ จตูหิ าเนหีติอาทีสุ อิทานิ วุตฺเตหิ อิเมหิ จตูหิ าเนหิ เหตุภูเตหิ, กรณภูเตหิ วา โอภาสาทิเก ทส าเน จิตฺตสฺส สงฺเขเปน จ วิกฺเขเปน จ วิคฺคหิตํ มานสํ วิกฺเขปกิเลสุปฺปตฺติวิรหิโต จตุตฺโถ กุสโล มหาปฺโ โยคาวจโร มนฺทปฺาทีนํ ติณฺณํ โยคาวจรานํ มานสํ เอวฺจ เอวฺจ โหตีติ นานปฺปการโต ชานาตีติ สมฺพนฺธโต อตฺถวณฺณนา เวทิตพฺพา. สงฺเขโปติ เจตฺถ วิกฺเขปสฺส เจว กิเลสานฺจ อุปฺปตฺติวเสน จิตฺตสฺส ลีนภาโว เวทิตพฺโพ. วิกฺเขโปติ ‘‘วิกฺขิปติ น กิลิสฺสตี’’ติ ทฺวีสุ าเนสุ วุตฺตวิกฺเขปวเสน จิตฺตสฺส อุทฺธตภาโว เวทิตพฺโพติ.

ยุคนทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สจฺจกถา

สจฺจกถาวณฺณนา

. อิทานิ ยุคนทฺธคุณสฺส อริยมคฺคสฺส วเสน สจฺจฏฺํ สจฺจปฏิเวธวิเสสํ สจฺจลกฺขณาทิวิธานฺจ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สจฺจกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว ตถานีติ ยถาสภาววเสน ตจฺฉานิ. ยถาสภาวภูตาเนว หิ ธมฺมชาตานิ สจฺจฏฺเน สจฺจานิ. สจฺจฏฺโ ปมาณนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺโต. อวิตถานีติ วุตฺตสภาเว วิปริยายวิรหิตานิ. น หิ สจฺจานิ อสจฺจานิ นาม โหนฺติ. อนฺถานีติ อฺสภาววิรหิตานิ. น หิ อสจฺจานิ สจฺจานิ นาม โหนฺติ. อิทํ ทุกฺขนฺติ, ภิกฺขเว, ตถเมตนฺติ ภิกฺขเว, อิทํ ทุกฺขนฺติ ยํ วุจฺจติ, เอตํ ยถาสภาวตฺตา ตถํ. ทุกฺขเมว หิ ทุกฺขํ. วุตฺตสภาเว วิปริยายาภาวโต อวิตถํ. น หิ ทุกฺขํ อทุกฺขํ นาม โหติ. อฺสภาววิรหิตตฺตา อนฺถํ. น หิ ทุกฺขํ สมุทยาทิสภาวํ โหติ. สมุทยาทีสุปิ เอเสว นโย.

๑. ปมสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

ตถฏฺเนาติ ยถาสภาวฏฺเน. ปีฬนฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถาเยว.

. เอกปฺปฏิเวธานีติ เอเกน มคฺคาเณน ปฏิเวโธ, เอกโต วา ปฏิเวโธ เอเตสนฺติ เอกปฺปฏิเวธานิ. อนตฺตฏฺเนาติ จตุนฺนมฺปิ สจฺจานํ อตฺตวิรหิตตฺตา อนตฺตฏฺเน. วุตฺตฺเหตํ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗) – ปรมตฺถโต หิ สพฺพาเนว สจฺจานิ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สุฺานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนตํ วุจฺจติ –

‘‘ทุกฺขเมว หิ, น โกจิ ทุกฺขิโต, การโก น, กิริยาว วิชฺชติ;

อตฺถิ นิพฺพุติ, น นิพฺพุโต ปุมา, มคฺคมตฺถิ, คมโก น วิชฺชตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);

อถ วา –

‘‘ธุวสุภสุขตฺตสุฺํ, ปุริมทฺวยมตฺตสุฺมมตปทํ;

ธุวสุขอตฺตวิรหิโต, มคฺโค อิติ สุฺตา เตสู’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๗);

สจฺจฏฺเนาติ อวิสํวาทกฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพฏฺเน. เอกสงฺคหิตานีติ ตถฏฺาทินา เอเกเกเนว อตฺเถน สงฺคหิตานิ, เอกคณนํ คตานีติ อตฺโถ. ยํ เอกสงฺคหิตํ, ตํ เอกตฺตนฺติ ยสฺมา เอเกน สงฺคหิตํ, ตสฺมา เอกตฺตนฺติ อตฺโถ. สจฺจานํ พหุตฺเตปิ เอกตฺตมเปกฺขิตฺวา เอกวจนํ กตํ. เอกตฺตํ เอเกน าเณน ปฏิวิชฺฌตีติ ปุพฺพภาเค จตุนฺนํ สจฺจานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิโต มคฺคกฺขเณ เอเกน มคฺคาเณน ตถฏฺาทิตํตํเอกตฺตํ ปฏิวิชฺฌติ. กถํ? นิโรธสจฺจสฺส ตถฏฺาทิเก เอกตฺเต ปฏิวิทฺเธ เสสสจฺจานมฺปิ ตถฏฺาทิกํ เอกตฺตํ ปฏิวิทฺธเมว โหติ. ยถา ปุพฺพภาเค ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นานตฺเตกตฺตํ สฺวาวตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา ิตสฺส มคฺควุฏฺานกาเล อนิจฺจโต วา ทุกฺขโต วา อนตฺตโต วา วุฏฺหนฺตสฺส เอกสฺมิมฺปิ ขนฺเธ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺเ เสสขนฺธาปิ อนิจฺจาทิโต ทิฏฺาว โหนฺติ, เอวมิทนฺติ ทฏฺพฺพํ. ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺโ ตถฏฺโติ ทุกฺขสจฺจสฺส ปีฬนฏฺาทิโก จตุพฺพิโธ อตฺโถ สภาวฏฺเน ตถฏฺโ. เสสสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. โสเยว จตุพฺพิโธ อตฺโถ อตฺตาภาวโต อนตฺตฏฺโ. วุตฺตสภาเว อวิสํวาทกโต สจฺจฏฺโ. มคฺคกฺขเณ ปฏิวิชฺฌิตพฺพโต ปฏิเวธฏฺโ วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

๑๐. ยํ อนิจฺจนฺติอาทิ สามฺลกฺขณปุพฺพงฺคมํ กตฺวา ทสฺสิตํ. ตตฺถ ยํ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตํ อนิจฺจนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคา คหิตา. ตานิ หิ ตีณิ สจฺจานิ อนิจฺจานิ เจว อนิจฺจตฺตา ทุกฺขานิ จ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ, ตํ อนตฺตาติ ตานิเยว ตีณิ คหิตานิ. ยํ อนิจฺจฺจ ทุกฺขฺจ อนตฺตา จาติ เตหิ ตีหิ สห นิโรธสจฺจฺจ สงฺคหิตํ. จตฺตาริปิ หิ อนตฺตาเยว. ตํ ตถนฺติ ตํ สจฺจจตุกฺกํ สภาวภูตํ. ตํ สจฺจนฺติ ตเทว สจฺจจตุกฺกํ ยถาสภาเว อวิสํวาทกํ. นวหากาเรหีติอาทีสุ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๓; สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต อภิฺฏฺเน, ทุกฺขสฺส ปริฺฏฺเ, สมุทยสฺส ปหานฏฺเ, มคฺคสฺส ภาวนฏฺเ, นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยฏฺเ อาเวนิเกปิ อิธ จตูสุปิ สจฺเจสุ าตปริฺาสพฺภาวโต ปริฺฏฺเน, จตุสจฺจทสฺสเนน ปหานสพฺภาวโต ปหานฏฺเน, จตุสจฺจภาวนาสพฺภาวโต ภาวนฏฺเน, จตุนฺนํ สจฺจานํ สจฺฉิกิริยสพฺภาวโต สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ นิทฺทิฏฺนฺติ เวทิตพฺพํ. นวหากาเรหิ ตถฏฺเนาติอาทีสุ ปมํ วุตฺตนเยเนว โยชนา กาตพฺพา.

๑๑. ทฺวาทสหิ อากาเรหีติอาทีสุ ตถฏฺาทโย าณกถายํ วุตฺตตฺถา. เอเตสํ นิทฺเทเสปิ วุตฺตนเยเนว โยชนา เวทิตพฺพา.

๑๒. สจฺจานํ กติ ลกฺขณานีติอาทีสุ อุปริ วตฺตพฺพานิ ฉ ลกฺขณานิ สงฺขตาสงฺขตวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ทฺเว ลกฺขณานีติ อาห. ตตฺถ สงฺขตลกฺขณฺจ อสงฺขตลกฺขณฺจาติ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อสงฺขตสฺส อสงฺขตลกฺขณานิ น อุปฺปาโท ปฺายติ, น วโย ปฺายติ, น ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) เอวํ วุตฺตํ สงฺขตสฺส สงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ อสงฺขตสฺส อสงฺขตมิติ ลกฺขณฺจ. สงฺขตํ ปน น ลกฺขณํ, ลกฺขณํ น สงฺขตํ. น จ สงฺขตํ วินา ลกฺขณํ ปฺาเปตุํ สกฺกา, นปิ ลกฺขณํ วินา สงฺขตํ. ลกฺขเณน ปน สงฺขตํ ปากฏํ โหติ.

ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ฉ ลกฺขณานีติ อาห. สงฺขตานํ สจฺจานนฺติ ทุกฺขสมุทยมคฺคสจฺจานํ. ตานิ หิ ปจฺจเยหิ สงฺคมฺม กตตฺตา สงฺขตานิ. อุปฺปาโทติ ชาติ. ปฺายตีติ ชานียติ. วโยติ ภงฺโค. ิตานํ อฺถตฺตนฺติ ิติปฺปตฺตานํ อฺถาภาโว ชรา. ติณฺณํ สงฺขตสจฺจานํ นิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ วุตฺตํ, เตสํเยว ปน อุปฺปาทสฺส, ชราย ภงฺคสฺส จ อนิปฺผนฺนตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตนิสฺสิตตฺตา อุปฺปาทวยฺถตฺตํ น ปฺายตีติ น วตฺตพฺพํ. สงฺขตวิการตฺตา ปน สงฺขตนฺติ วตฺตพฺพํ. ทุกฺขสมุทยานํ อุปฺปาทชราภงฺคา สจฺจปริยาปนฺนา, มคฺคสจฺจสฺส อุปฺปาทชราภงฺคา น สจฺจปริยาปนฺนาติ วทนฺติ. ตตฺถ ‘‘สงฺขตานํ อุปฺปาทกฺขเณ สงฺขตาปิ อุปฺปาทลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, อุปฺปาเท วีติวตฺเต สงฺขตาปิ ชราลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายติ, ภงฺคกฺขเณ สงฺขตาปิ ชราปิ ภงฺคลกฺขณมฺปิ กาลสงฺขาโต ตสฺส ขโณปิ ปฺายตี’’ติ ขนฺธกวคฺคฏฺกถายํ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๓.๓๗-๓๘) วุตฺตํ. อสงฺขตสฺส สจฺจสฺสาติ นิโรธสจฺจสฺส. ตฺหิ ปจฺจเยหิ สมาคมฺม อกตตฺตา สยเมว นิปฺผนฺนนฺติ อสงฺขตํ. ิตสฺสาติ นิจฺจตฺตา ิตสฺส, น านปฺปตฺตตฺตา. ปุน ตเทว ลกฺขณทฺวยํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ทฺวาทส ลกฺขณานีติ อาห.

จตุนฺนํสจฺจานํ กติ กุสลาติอาทีสุ อพฺยากตนฺติ วิปากาพฺยากตํ กิริยาพฺยากตํ รูปาพฺยากตํ นิพฺพานาพฺยากตนฺติ จตูสุ อพฺยากเตสุ นิพฺพานาพฺยากตํ. จตฺตาริปิ หิ กุสลากุสลลกฺขเณน น พฺยากตตฺตา อพฺยากตานิ. สิยา กุสลนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรกุสลานํ วเสน กุสลมฺปิ ภเวยฺย. สิยา อกุสลนฺติ ตณฺหํ เปตฺวา เสสากุสลวเสน. สิยา อพฺยากตนฺติ กามาวจรรูปาวจรารูปาวจรวิปากกิริยานํ รูปานฺจ วเสน. สิยา ตีณิ สจฺจานีติอาทีสุ สงฺคหิตานีติ คณิตานิ. วตฺถุวเสนาติ อกุสลกุสลาพฺยากตทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคสงฺขาตวตฺถุวเสน. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อกุสลนฺติ เปตฺวา ตณฺหํ อวเสสํ อกุสลํ. อกุสลฏฺเน ทฺเว สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ อิมานิ ทฺเว ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, อกุสลสจฺจํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอกสจฺจํ ทฺวีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ อกุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขสมุทยสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ กุสลนฺติ เตภูมกํ กุสลํ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, กุสลสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ กุสลสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขมคฺคสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ยํ ทุกฺขสจฺจํ อพฺยากตนฺติ เตภูมกวิปากกิริยา รูปฺจ. อิมานิ ทฺเว ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน เอกสจฺเจน สงฺคหิตานิ, เอกํ อพฺยากตสจฺจํ นาม โหติ. เอกํ อพฺยากตสจฺจํ ทฺวีหิ ทุกฺขนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. ตีณิ สจฺจานิ เอกสจฺเจน สงฺคหิตานีติ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺจานิ เอเกน อกุสลกุสลาพฺยากตภูเตน ทุกฺขสจฺเจน สงฺคหิตานิ. เอกํ สจฺจํ ตีหิ สจฺเจหิ สงฺคหิตนฺติ เอกํ ทุกฺขสจฺจํ วิสุํ อกุสลกุสลอพฺยากตภูเตหิ สมุทยมคฺคนิโรธสจฺเจหิ สงฺคหิตํ. เกจิ ปน ‘‘ทุกฺขสมุทยสจฺจานิ อกุสลฏฺเน สมุทยสจฺเจน สงฺคหิตานิ, ทุกฺขมคฺคสจฺจานิ กุสลฏฺเน มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น ทสฺสนฏฺเน. ทุกฺขนิโรธสจฺจานิ อพฺยากตฏฺเน นิโรธสจฺเจน สงฺคหิตานิ, น อสงฺขตฏฺเนา’’ติ วณฺณยนฺติ.

๒. ทุติยสุตฺตนฺตปาฬิวณฺณนา

๑๓. ปุน อฺสฺส สุตฺตนฺตสฺส อตฺถวเสน สจฺจปฺปฏิเวธํ นิทฺทิสิตุกาโม ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเวติอาทิกํ สุตฺตนฺตํ อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ตตฺถ ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธาติ ภิกฺขเว, มม สมฺโพธิโต สพฺพฺุตฺาณโต ปุพฺเพ. อนภิสมฺพุทฺธสฺสาติ สพฺพธมฺเม อปฺปฏิวิทฺธสฺส. โพธิสตฺตสฺเสว สโตติ โพธิสตฺตภูตสฺเสว. เอตทโหสีติ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส เอตํ ปริวิตกฺกิตํ อโหสิ. อสฺสาโทติ อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท. อาทีนโวติ โทโส . นิสฺสรณนฺติ อปคมนํ. สุขนฺติ สุขยตีติ สุขํ, ยสฺสุปฺปชฺชติ, ตํ สุขิตํ กโรตีติ อตฺโถ. โสมนสฺสนฺติ ปีติโสมนสฺสโยคโต โสภนํ มโน อสฺสาติ สุมโน, สุมนสฺส ภาโว โสมนสฺสํ , สุขเมว ปีติโยคโต วิเสสิตํ. อนิจฺจนฺติ อทฺธุวํ. ทุกฺขนฺติ ทุกฺขวตฺถุตฺตา สงฺขารทุกฺขตฺตา จ ทุกฺขํ. วิปริณามธมฺมนฺติ อวสี หุตฺวา ชราภงฺควเสน ปริวตฺตนปกติกํ. เอเตน อนตฺตภาโว วุตฺโต โหติ. ฉนฺทราควินโยติ ฉนฺทสงฺขาตสฺส ราคสฺส สํวรณํ, น วณฺณราคสฺส. ฉนฺทราคปฺปหานนฺติ ตสฺเสว ฉนฺทราคสฺส ปชหนํ.

ยาวกีวฺจาติอาทีสุ ยาว อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ…เป… ยถาภูตํ นาพฺภฺาสึ น อธิเกน าเณน ปฏิวิชฺฌึ, ตาว อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อนุตฺตรํ สพฺพฺุภาวํ อภิสมฺพุทฺโธ อภิสเมตาวี อรหนฺติ เนวาหํ ปจฺจฺาสึ เนว ปฏิฺํ อกาสินฺติ สมฺพนฺธโต อตฺโถ. กีวฺจาติ นิปาตมตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา, ยทา วา. อถาติ อนนฺตรํ. าณฺจ ปน เม ทสฺสนํ อุทปาทีติ ทสฺสนกิจฺจกรเณน ทสฺสนสงฺขาตํ ปจฺจเวกฺขณาณฺจ เม อุปฺปชฺชิ. อกุปฺปาติ โกเปตุํ จาเลตุํ อสกฺกุเณยฺยา. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลวิมุตฺติ. เอตาย เอว ผลปจฺจเวกฺขณาย มคฺคนิพฺพานปจฺจเวกฺขณาปิ วุตฺตาว โหนฺติ. อยมนฺติมา ชาตีติ อยํ ปจฺฉิมา ขนฺธปฺปวตฺติ. นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ อิทานิ ปุน อุปฺปตฺติ นตฺถิ. เอเตน ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณา วุตฺตา. อรหโต หิ อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณา น โหติ.

๓. ทุติยสุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๑๔. สจฺจปฺปฏิเวธาณโยชนกฺกเม จ อยํ รูปสฺส อสฺสาโทติ ปหานปฺปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ ตณฺหาสมฺปยุตฺโต รูปสฺส อสฺสาโท’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ สมุทยปฺปหานสงฺขาโต สมุทยสจฺจปฺปฏิเวโธ. สมุทยสจฺจนฺติ สมุทยสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อริยสจฺจารมฺมณาณมฺปิ หิ ‘‘เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต จตูสุ อริยสจฺเจสุ สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ. อยํ รูปสฺส อาทีนโวติ ปริฺาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อยํ รูปสฺส อาทีนโว’’ติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ ทุกฺขปริฺาสงฺขาโต ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวโธ. ทุกฺขสจฺจนฺติ ทุกฺขสจฺจปฺปฏิเวธาณํ. อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณนฺติ สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธติ ปุพฺพภาเค ‘‘อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ ตฺวา มคฺคกฺขเณ นิโรธสจฺฉิกิริยาสงฺขาโต นิโรธสจฺจปฺปฏิเวโธ. นิโรธสจฺจนฺติ นิโรธสจฺจารมฺมณํ นิโรธสจฺจปฺปฏิเวธาณํ . ยา อิเมสุ ตีสุ าเนสูติ อิเมสุ ยถาวุตฺเตสุ ตีสุ สมุทยทุกฺขนิโรเธสุ ปฏิเวธวเสน ปวตฺตา ยา ทิฏฺิ โย สงฺกปฺโปติ โยชนา. ภาวนาปฏิเวโธติ อยํ มคฺคภาวนาสงฺขาโต มคฺคสจฺจปฺปฏิเวโธ. มคฺคสจฺจนฺติ มคฺคสจฺจปฺปฏิเวธาณํ.

๑๕. ปุน อปเรน ปริยาเยน สจฺจานิ จ สจฺจปฺปฏิเวธฺจ ทสฺเสนฺโต สจฺจนฺติ กติหากาเรหิ สจฺจนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ สพฺพฺุโพธิสตฺตา โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนา ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘กึ นุ โข’’ติ เอสนฺติ, ตถา เอสนฺตา จ ชรามรณาทิกสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ชาติอาทิกํ สมุทยสจฺจํ ‘‘ปจฺจโย’’ติ ววตฺถเปนฺโต ปริคฺคณฺหนฺติ, ตสฺมา สา จ เอสนา โส จ ปริคฺคโห สจฺจานํ เอสนตฺตา ปริคฺคหตฺตา จ ‘‘สจฺจ’’นฺติ กตฺวา เอสนฏฺเน ปริคฺคหฏฺเนาติ วุตฺตํ. อยฺจ วิธิ ปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติเยว, สาวกานํ ปน อนุสฺสววเสน ปจฺจยปริคฺคเห ลพฺภติ. ปฏิเวธฏฺเนาติ ปุพฺพภาเค ตถา เอสิตานํ ปริคฺคหิตานฺจ มคฺคกฺขเณ เอกปฏิเวธฏฺเน.

กึนิทานนฺติอาทีสุ นิทานาทีนิ สพฺพานิ การณเววจนานิ. การณฺหิ ยสฺมา ผลํ นิเทติ ‘‘หนฺท นํ คณฺหถา’’ติ อปฺเปติ วิย, ตสฺมา ‘‘นิทาน’’นฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา ผลํ ตโต สมุเทติ, ชายติ, ปภวติ; ตสฺมา สมุทโย, ชาติ, ปภโวติ วุจฺจติ. อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ – กึ นิทานํ เอตสฺสาติ กึนิทานํ. โก สมุทโย เอตสฺสาติ กึสมุทยํ. กา ชาติ เอตสฺสาติ กึชาติกํ. โก ปภโว เอตสฺสาติ กึปภวํ. ยสฺมา ปน ตสฺส ชาติ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน นิทานฺเจว สมุทโย จ ชาติ จ ปภโว จ, ตสฺมา ชาตินิทานนฺติอาทิมาห. ชรามรณนฺติ ทุกฺขสจฺจํ. ชรามรณสมุทยนฺติ ตสฺส ปจฺจยํ สมุทยสจฺจํ. ชรามรณนิโรธนฺติ นิโรธสจฺจํ. ชรามรณนิโรธคามินึ ปฏิปทนฺติ มคฺคสจฺจํ. อิมินาว นเยน สพฺพปเทสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๑๖. นิโรธปฺปชานนาติ อารมฺมณกรเณน นิโรธสฺส ปชานนา. ชาติ สิยา ทุกฺขสจฺจํ, สิยา สมุทยสจฺจนฺติ ภวปจฺจยา ปฺายนฏฺเน ทุกฺขสจฺจํ , ชรามรณสฺส ปจฺจยฏฺเน สมุทยสจฺจํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อวิชฺชา สิยา ทุกฺขสจฺจนฺติ ปน อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทยฏฺเนาติ.

สจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โพชฺฌงฺคกถา

โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา

๑๗. อิทานิ สจฺจปฺปฏิเวธสิทฺธํ โพชฺฌงฺควิเสสํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย โพชฺฌงฺคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โพชฺฌงฺคาติ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. กึ วุตฺตํ โหติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๘๒) – ยา หิ อยํ ธมฺมสามคฺคี, ยาย โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขตฺตกิลมถานุโยคอุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวสาทีนํ อเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยวีริยปีติปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสงฺขาตาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌตีติ กตฺวา โพธีติ วุจฺจติ, พุชฺฌตีติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย วุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ. ยถาห – ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อภิสมฺพุทฺโธ’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘; ที. นิ. ๓.๑๔๓). ตสฺสา ธมฺมสามคฺคีสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคาทโย วิย. โยเปส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก โพธีติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติปิ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. เตนาหุ อฏฺกถาจริยา ‘‘พุชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา’’ติ. สติสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ อตฺโถ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺโต.

โพชฺฌงฺคตฺถนิทฺเทเส โพธาย สํวตฺตนฺตีติ พุชฺฌนตฺถาย สํวตฺตนฺติ. กสฺส พุชฺฌนตฺถาย? มคฺคผเลหิ นิพฺพานสฺส ปจฺจเวกฺขณาย กตกิจฺจสฺส พุชฺฌนตฺถาย, มคฺเคน วา กิเลสนิทฺทาโต ปพุชฺฌนตฺถาย ผเลน ปพุทฺธภาวตฺถายาปีติ วุตฺตํ โหติ. พลววิปสฺสนายปิ โพชฺฌงฺคา โพธาย สํวตฺตนฺติ . ตสฺมา อยํ วิปสฺสนามคฺคผลโพชฺฌงฺคานํ สาธารณตฺโถ. ตีสุปิ หิ าเนสุ โพธาย นิพฺพานปฏิเวธาย สํวตฺตนฺติ. เอเตน โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคาติอาทีหิ ปฺจหิ จตุกฺเกหิ วุตฺตานํ โพชฺฌงฺคานํ อุปฺปตฺติฏฺานํ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตํ. อปิ จ พุชฺฌนฺตีติ โพชฺฌงฺคานํ สกิจฺจกรเณ สมตฺถภาวทสฺสนตฺถํ กตฺตุนิทฺเทโส . พุชฺฌนฏฺเนาติ สกิจฺจกรณสมตฺถตฺเตปิ สติ กตฺตุโน อภาวทสฺสนตฺถํ ภาวนิทฺเทโส. โพเธนฺตีติ โพชฺฌงฺคภาวนาย พุชฺฌนฺตานํ โยคีนํ ปโยชกตฺตา โพชฺฌงฺคานํ เหตุกตฺตุนิทฺเทโส. โพธนฏฺเนาติ ปมํ วุตฺตนเยเนว ปโยชกเหตุกตฺตุนา ภาวนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิยา องฺคา โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. โพธิปกฺขิยฏฺเนาติ พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ ลทฺธนามสฺส โยคิสฺส ปกฺเข ภวตฺตา. อยเมเตสํ โยคิโน อุปการกตฺตนิทฺเทโส. เอเตหิ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหติ. พุทฺธิลภนฏฺเนาติอาทิเก ฉกฺเก พุทฺธิลภนฏฺเนาติ โยคาวจเรน พุทฺธิยา ปาปุณนฏฺเน. โรปนฏฺเนาติ สตฺตานํ ปติฏฺาปนฏฺเน . ปาปนฏฺเนาติ ปติฏฺาปิตาย นิฏฺาปนฏฺเน. อิเม วิปสฺสนาโพชฺฌงฺคา ปติ-อภิ-สํ-อิติ ตีหิ อุปสคฺเคหิ วิเสสิตา มคฺคผลโพชฺฌงฺคาติ วทนฺติ. สพฺเพสมฺปิ ธมฺมโวหาเรน นิทฺทิฏฺานํ โพชฺฌงฺคานํ โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ.

มูลมูลกาทิทสกวณฺณนา

๑๘. มูลฏฺเนาติอาทิเก มูลมูลเก ทสเก มูลฏฺเนาติ วิปสฺสนาทีสุ ปุริมา ปุริมา โพชฺฌงฺคา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ โพชฺฌงฺคานฺจ สหชาตธมฺมานฺจ อฺมฺฺจ มูลฏฺเน. มูลจริยฏฺเนาติ มูลํ หุตฺวา จริยา ปวตฺติ มูลจริยา. เตน มูลจริยฏฺเน, มูลํ หุตฺวา ปวตฺตนฏฺเนาติ อตฺโถ. มูลปริคฺคหฏฺเนาติ เต เอว โพชฺฌงฺคา อาทิโต ปภุติ อุปฺปาทนตฺถาย ปริคยฺหมานตฺตา ปริคฺคหา, มูลานิเยว ปริคฺคหา มูลปริคฺคหา. เตน มูลปริคฺคหฏฺเน. เต เอว อฺมฺํ ปริวารวเสน ปริวารฏฺเน. ภาวนาปาริปูริวเสน ปริปูรณฏฺเน. นิฏฺํ ปาปุณนวเสน ปริปากฏฺเน. เต เอว มูลานิ จ ฉพฺพิธา ปเภทภินฺนตฺตา ปฏิสมฺภิทา จาติ มูลปฏิสมฺภิทา. เตน มูลปฏิสมฺภิทฏฺเน. มูลปฏิสมฺภิทาปาปนฏฺเนาติ โพชฺฌงฺคภาวนานุยุตฺตสฺส โยคิโน ตํ มูลปฏิสมฺภิทํ ปาปนฏฺเน . ตสฺเสว โยคิโน ตสฺสา มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวฏฺเน. เสเสสุปิ อีทิเสสุ ปุคฺคลโวหาเรสุ โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคาติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. มูลปฏิสมฺภิทาย วสีภาวปฺปตฺตานมฺปีติ อีทิเสสุปิ นิฏฺาวจเนสุ ผลโพชฺฌงฺคาติ เวทิตพฺพํ. วสีภาวํ ปตฺตานนฺติปิ ปาโ.

มูลมูลกทสกํ นิฏฺิตํ.

เสเสสุปิ เหตุมูลกาทีสุ นวสุ ทสเกสุ อิมินาว นเยน สาธารณวจนานํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ . อสาธารเณสุ ปน ยถาวุตฺตา เอว โพชฺฌงฺคา ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ ชนกตฺตา เหตู นาม โหนฺติ. อุปตฺถมฺภกตฺตา ปจฺจยา นาม. เต เอว ตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิวิสุทฺธิภูตตฺตา วิสุทฺธิ นาม. วชฺชวิรหิตตฺตา อนวชฺชา นาม. ‘‘สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา เนกฺขมฺม’’นฺติ วจนโต เนกฺขมฺมํ นาม. กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา ตทงฺควิมุตฺติอาทิวเสน วิมุตฺติ นาม. มคฺคผลโพชฺฌงฺคา วิสยีภูเตหิ อาสเวหิ วิรหิตตฺตา อนาสวา. ติวิธาปิ โพชฺฌงฺคา กิเลเสหิ สุฺตฺตา ตทงฺควิเวกาทิวเสน วิเวกา. วิปสฺสนามคฺคโพชฺฌงฺคา ปริจฺจาคโวสคฺคตฺตา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา จ โวสคฺคา. ผลโพชฺฌงฺคา ปกฺขนฺทนโวสคฺคตฺตา โวสคฺคา.

๑๙. มูลฏฺํพุชฺฌนฺตีติอาทโย เอเกกปทวเสน นิทฺทิฏฺา นว ทสกา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. วสีภาวปฺปตฺตานนฺติ ปทํ ปน วตฺตมานวจนาภาเวน น โยชิตํ. ปริคฺคหฏฺาทโย อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตตฺถา.

๒๐. ปุน เถโร อตฺตนา เทสิตํ สุตฺตนฺตํ อุทฺทิสิตฺวา ตสฺส นิทฺเทสวเสน โพชฺฌงฺควิธึ ทสฺเสตุกาโม เอกํ สมยนฺติอาทิกํ นิทานํ วตฺวา สุตฺตนฺตํ ตาว อุทฺทิสิ. อตฺตนา เทสิตสุตฺตตฺตา เอว เจตฺถ เอวํ เม สุตนฺติ น วุตฺตํ. อายสฺมา สาริปุตฺโตติ ปเนตฺถ เทสกพฺยตฺติภาวตฺถํ อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา วุตฺตํ. อีทิสฺหิ วจนํ โลเก คนฺเถสุ ปยุชฺชนฺติ. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ สกลํ ปุพฺพณฺหสมยํ. อจฺจนฺตสํโยคตฺเถ อุปโยควจนํ. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. สติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจเม โหตีติ สติสมฺโพชฺฌงฺโคติ เอวฺเจ มยฺหํ โหติ. อปฺปมาโณติ เม โหตีติ อปฺปมาโณติ เอวํ เม โหติ. สุสมารทฺโธติ เม โหตีติ สุฏฺุ ปริปุณฺโณติ เอวํ เม โหติ. ติฏฺนฺตนฺติ นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺติวเสน ติฏฺนฺตํ. จวตีติ นิพฺพานารมฺมณโต อปคจฺฉติ. เสสโพชฺฌงฺเคสุปิ เอเสว นโย.

ราชมหามตฺตสฺสาติ รฺโ มหาอมจฺจสฺส, มหติยา วา โภคมตฺตาย โภคปฺปมาเณน สมนฺนาคตสฺส. นานารตฺตานนฺติ นานารงฺครตฺตานํ, ปูรณตฺเถ สามิวจนํ, นานารตฺเตหีติ อตฺโถ. ทุสฺสกรณฺฑโกติ ทุสฺสเปฬา. ทุสฺสยุคนฺติ วตฺถยุคลํ. ปารุปิตุนฺติ อจฺฉาเทตุํ. อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต เถรสฺส ผลโพชฺฌงฺคา กถิตา. ยทา หิ เถโร สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชติ, ตทา อิตเร ตทนฺวยา โหนฺติ. ยทา ธมฺมวิจยาทีสุ อฺตรํ, ตทา เสสาปิ ตทนฺวยา โหนฺตีติ เอวํ ผลสมาปตฺติยา อตฺตโน จิณฺณวสีภาวํ ทสฺเสนฺโต เถโร อิมํ สุตฺตนฺตํ กเถสีติ.

สุตฺตนฺตนิทฺเทสวณฺณนา

๒๑. กถํสติสมฺโพชฺฌงฺโค อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺคํ สีสํ กตฺวา ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส อฺเสุ โพชฺฌงฺเคสุ วิชฺชมาเนสุ เอวํ อยํ สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส กถํ โส สติสมฺโพชฺฌงฺโค โหตีติ อตฺโถ. ยาวตา นิโรธูปฏฺาตีติ ยตฺตเกน กาเลน นิโรโธ อุปฏฺาติ, ยตฺตเก กาเล อารมฺมณโต นิพฺพานํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ยาวตา อจฺจีติ ยตฺตเกน ปริมาเณน ชาลา. กถํ อปฺปมาโณ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ น อปฺปมาเณปิ สติสมฺโพชฺฌงฺเค วิชฺชมาเน เอวํ อยํ อปฺปมาโณ โหตีติ อิติ เจ ปวตฺตสฺส โส อปฺปมาโณ สติสมฺโพชฺฌงฺโค กถํ โหตีติ อตฺโถ. ปมาณพทฺธาติ กิเลสา จ ปริยุฏฺานา จ โปโนภวิกสงฺขารา จ ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. ‘‘ราโคปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๙) วจนโต ราคาทโย ยสฺส อุปฺปชฺชนฺติ, ‘‘อยํ เอตฺตโก’’ติ ตสฺส ปมาณกรณโต ปมาณํ นาม. ตสฺมึ ปมาเณ พทฺธา ปฏิพทฺธา อายตฺตาติ กิเลสาทโย ปมาณพทฺธา นาม โหนฺติ. กิเลสาติ อนุสยภูตา, ปริยุฏฺานาติ สมุทาจารปฺปตฺตกิเลสา. สงฺขารา โปโนภวิกาติ ปุนปฺปุนํ ภวกรณํ ปุนภโว, ปุนภโว สีลเมเตสนฺติ โปนภวิกา, โปนภวิกา เอว โปโนภวิกา. กุสลากุสลกมฺมสงฺขาตา สงฺขารา. อปฺปมาโณติ วุตฺตปฺปการสฺส ปมาณสฺส อภาเวน อปฺปมาโณ. มคฺคผลานมฺปิ อปฺปมาณตฺตา ตโต วิเสสนตฺถํ อจลฏฺเน อสงฺขตฏฺเนาติ วุตฺตํ. ภงฺคาภาวโต อจโล, ปจฺจยาภาวโต อสงฺขโต. โย หิ อจโล อสงฺขโต จ, โส อติวิย ปมาณวิรหิโต โหติ.

กถํ สุสมารทฺโธ อิติ เจ โหตีติ โพชฺฌงฺโคติ อนนฺตรํ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. วิสมาติ สยฺจ วิสมตฺตา, วิสมสฺส จ ภาวสฺส เหตุตฺตา วิสมา. สมธมฺโมติ สนฺตฏฺเน ปณีตฏฺเน สโม ธมฺโม. ปมาณาภาวโต สนฺโต. ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) วจนโต สพฺพธมฺมุตฺตมฏฺเน ปณีโต. ตสฺมึ สมธมฺโมติ วุตฺเต สุสเม อารทฺโธ สุสมารทฺโธ. อาวชฺชิตตฺตาติ ผลสมาปตฺติยา ปวตฺตกาลํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุปฺปาทาทิสงฺขาเต นิพฺพาเน มโนทฺวาราวชฺชนสฺส อุปฺปนฺนตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. ติฏฺตีติ ปวตฺตติ. อุปฺปาทาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เสสโพชฺฌงฺคมูลเกสุปิ วาเรสุ เอเสว นโย.

โพชฺฌงฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. เมตฺตากถา

เมตฺตากถาวณฺณนา

๒๒. อิทานิ โพชฺฌงฺคกถานนฺตรํ กถิตาย โพชฺฌงฺคกถาคติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย เมตฺตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว อาเสวิตายาติ อาทเรน เสวิตาย. ภาวิตายาติ วฑฺฒิตาย. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานีกตายาติ ยุตฺตยานสทิสาย กตาย. วตฺถุกตายาติ ปติฏฺานฏฺเน วตฺถุ วิย กตาย. อนุฏฺิตายาติ ปจฺจุปฏฺิตาย. ปริจิตายาติ สมนฺตโต จิตาย อุปจิตาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมารทฺธาย สุกตาย . อานิสํสาติ คุณา. ปาฏิกงฺขาติ ปฏิกงฺขิตพฺพา อิจฺฉิตพฺพา. สุขํ สุปตีติ ยถา เสสชนา สมฺปริวตฺตมานา กากจฺฉมานา ทุกฺขํ สุปนฺติ, เอวํ อสุปิตฺวา สุขํ สุปติ. นิทฺทํ โอกฺกนฺโตปิ สมาปตฺตึ สมาปนฺโน วิย โหติ. สุขํ ปฏิพุชฺฌตีติ ยถา อฺเ นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺติ, เอวํ อปฏิพุชฺฌิตฺวา วิกสมานมิว ปทุมํ สุขํ นิพฺพิการํ ปฏิพุชฺฌติ. น ปาปกํ สุปินํ ปสฺสตีติ สุปินํ ปสฺสนฺโตปิ ภทฺทกเมว สุปินํ ปสฺสติ. เจติยํ วนฺทนฺโต วิย ปูชํ กโรนฺโต วิย ธมฺมํ สุณนฺโต วิย จ โหติ. ยถา ปนฺเ อตฺตานํ โจเรหิ ปริวาริตํ วิย วาเฬหิ อุปทฺทุตํ วิย ปปาเต ปตนฺตํ วิย จ ปสฺสนฺติ, น เอวํ ปาปกํ สุปินํ ปสฺสติ. มนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ อุเร อามุตฺตมุตฺตาหาโร วิย สีเส ปิฬนฺธมาลา วิย จ มนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป. อมนุสฺสานํ ปิโย โหตีติ ยเถว จ มนุสฺสานํ, เอวํ อมนุสฺสานมฺปิ ปิโย โหติ. เทวตา รกฺขนฺตีติ ปุตฺตมิว มาตาปิตโร เทวตา รกฺขนฺติ. นาสฺส อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา กมตีติ เมตฺตาวิหาริสฺส กาเย อคฺคิ วา วิสํ วา สตฺถํ วา น กมติ น ปวิสติ, นาสฺส กายํ วิโกเปตีติ วุตฺตํ โหติ. ตุวฏํ จิตฺตํ สมาธิยตีติ เมตฺตาวิหาริโน ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ, นตฺถิ ตสฺส ทนฺธายิตตฺตํ. มุขวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ พนฺธนา ปมุตฺตตาลปกฺกํ วิย จสฺส วิปฺปสนฺนวณฺณํ มุขํ โหติ. อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรตีติ เมตฺตาวิหาริโน สมฺโมหมรณํ นาม นตฺถิ, อสมฺมูฬฺโห นิทฺทํ โอกฺกมนฺโต วิย กาลํ กโรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ เมตฺตาสมาปตฺติโต อุตฺตรึ อรหตฺตํ อธิคนฺตุํ อสกฺโกนฺโต อิโต จวิตฺวา สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย พฺรหฺมโลกูปโค โหตีติ พฺรหฺมโลกํ อุปปชฺชตีติ อตฺโถ.

เมตฺตานิทฺเทเส อโนธิโส ผรณาติ โอธิ มริยาทา, น โอธิ อโนธิ. ตโต อโนธิโส, อโนธิโตติ อตฺโถ, นิปฺปเทสโต ผุสนาติ วุตฺตํ โหติ. โอธิโสติ ปเทสวเสน. ทิสาผรณาติ ทิสาสุ ผรณา. สพฺเพติ อนวเสสปริยาทานํ. สตฺตาติปทสฺส อตฺโถ าณกถามาติกาวณฺณนายํ วุตฺโต, รุฬฺหีสทฺเทน ปน วีตราเคสุปิ อยํ โวหาโร วตฺตติ วิลีวมเยปิ พีชนิวิเสเส ตาลวณฺฏโวหาโร วิย. อเวราติ เวรรหิตา. อพฺยาปชฺชาติ พฺยาปาทรหิตา. อนีฆาติ นิทฺทุกฺขา. อนิคฺฆาติปิ ปาโ. สุขี อตฺตานํปริหรนฺตูติ สุขิตา หุตฺวา อตฺตภาวํ วตฺตยนฺตุ. ‘‘อเวรา’’ติ จ สกสนฺตาเน จ ปเร ปฏิจฺจ, ปรสนฺตาเน จ อิตเร ปฏิจฺจ เวราภาโว ทสฺสิโต, ‘‘อพฺยาปชฺชา’’ติอาทีสุ เวราภาวา ตมฺมูลกพฺยาปาทาภาโว, ‘‘อนีฆา’’ติ พฺยาปาทาภาวา ตมฺมูลกทุกฺขาภาโว, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ ทุกฺขาภาวาสุเขน อตฺตภาวปริหรณํ ทสฺสิตนฺติ เอวเมตฺถ วจนสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพติ. อิเมสุ จ ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทีสุ จตูสุปิ วจเนสุ ยํ ยํ ปากฏํ โหติ, ตสฺส ตสฺส วเสน เมตฺตาย ผรติ.

ปาณาติอาทีสุ ปาณนตาย ปาณา, อสฺสาสปสฺสาสายตฺตวุตฺติตายาติ อตฺโถ. ภูตตฺตา ภูตา, อภินิพฺพตฺตาติ อตฺโถ. ปุํ วุจฺจติ นิรโย, ตํ ปุํ คลนฺติ คจฺฉนฺตีติ ปุคฺคลา. อตฺตภาโว วุจฺจติ สรีรํ, ขนฺธปฺจกเมว วา, ตํ อุปาทาย ปฺตฺติมตฺตสพฺภาวโต, ตสฺมึ อตฺตภาเว ปริยาปนฺนา ปริจฺฉินฺนา อนฺโตคธาติ อตฺตภาวปริยาปนฺนา. ยถา จ สตฺตาติ วจนํ, เอวํ เสสานิปิ รุฬฺหีวเสน อาโรเปตฺวา สพฺพาเนตานิ สพฺพสตฺตเววจนานีติ เวทิตพฺพานิ. กามฺจ อฺานิปิ ‘‘สพฺเพ ชนฺตู สพฺเพ ชีวา’’ติอาทีนิ สพฺพสตฺตเววจนานิ อตฺถิ, ปากฏวเสน ปน อิมาเนว ปฺจ คเหตฺวา ‘‘ปฺจหากาเรหิ อโนธิโส ผรณา เมตฺตาเจโตวิมุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. เย ปน ‘‘สตฺตา ปาณา’’ติอาทีนํ น เกวลํ วจนมตฺตโตว, อถ โข อตฺถโตปิ นานตฺตเมว อิจฺเฉยฺยุํ, เตสํ อโนธิโส ผรณา วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ตถา อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อิเมสุ ปฺจสุ อากาเรสุ อฺตรวเสน อโนธิโส เมตฺตาย ผรติ.

โอธิโส ผรเณ ปน อิตฺถิโย ปุริสาติ ลิงฺควเสน วุตฺตํ, อริยา อนริยาติ อริยปุถุชฺชนวเสน, เทวามนุสฺสา วินิปาติกาติ อุปปตฺติวเสน. ทิสาผรเณปิ ทิสาวิภาคํ อกตฺวา สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทินา นเยน ผรณโต อโนธิโส ผรณา โหติ, สพฺพทิสาสุ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน ผรณโต โอธิโส ผรณา.

ยสฺมา ปน อยํ ติวิธาปิ เมตฺตาผรณา อปฺปนาปตฺตจิตฺตสฺส วเสน วุตฺตา, ตสฺมา ตีสุ วาเรสุ อปฺปนา คเหตพฺพา. อโนธิโส ผรเณ ตาว ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘อพฺยาปชฺชา โหนฺตู’’ติ เอกา ‘‘อนีฆา โหนฺตู’’ติ เอกา, ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ เอกา. ตานิปิ หิ จตฺตาริ หิโตปสํหารวเสเนว วุตฺตานิ. หิโตปสํหารลกฺขณา หิ เมตฺตา. อิติ ‘‘สตฺตา’’ติอาทีสุ ปฺจสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ อปฺปนานํ วเสน วีสติ อปฺปนา โหนฺติ, โอธิโส ผรเณ ‘‘สพฺพา อิตฺถิโย’’ติอาทีสุ สตฺตสุ อากาเรสุ จตสฺสนฺนํ จตสฺสนฺนํ วเสน อฏฺวีสติ อปฺปนา. ทิสาผรเณ ปน ‘‘สพฺเพ ปุรตฺถิมาย ทิสาย สตฺตา’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย วีสติ วีสติ กตฺวา ทฺเว สตานิ, ‘‘สพฺพา ปุรตฺถิมาย ทิสาย อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน เอกเมกิสฺสา ทิสาย อฏฺวีสติ อฏฺวีสติ กตฺวา อสีติ ทฺเว สตานีติ จตฺตาริ สตานิ อสีติ จ อปฺปนา. อิติ สพฺพานิปิ อิธ วุตฺตานิ อฏฺวีสาธิกานิ ปฺจ อปฺปนาสตานิ โหนฺติ. ยถา จ เมตฺตาย ติวิเธน ผรณา วุตฺตา, ตถา กรุณามุทิตาอุเปกฺขานมฺปิ วุตฺตาว โหตีติ เวทิตพฺพํ.

๑. อินฺทฺริยวารวณฺณนา

๒๓. อถ เมตฺตูปสํหาราการํ อินฺทฺริยาทิปริภาวนฺจ ทสฺเสตุํ สพฺเพสํ สตฺตานํ ปีฬนํ วชฺเชตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปีฬนนฺติ อพฺภนฺตรโต สรีรปีฬนํ. อุปฆาตนฺติ พาหิรโต สรีโรปฆาตํ. สนฺตาปนฺติ ยถา ตถา วา จิตฺตสนฺตาปนํ. ปริยาทานนฺติ ปกติยา ชีวิตาทิปริกฺขยํ. วิเหสนฺติ ปรโต ชีวิตวิเหนํ. วชฺเชตฺวาติ ปีฬนาทีสุ เอเกกํ อตฺตโน จิตฺเตเนว อปเนตฺวา. อิมานิ ปีฬนาทีนิ ปฺจ ปทานิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขวิวชฺชนวเสน วุตฺตานิ, อปีฬนายาติอาทีนิ เมตฺโตปสํหารวเสน. อปีฬนายาติ อปีฬนากาเรน, สพฺเพ สตฺเต เมตฺตายตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. มา เวริโน มา ทุกฺขิโน มา ทุกฺขิตตฺตาติ อิมานิปิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารสฺส ปฏิปกฺขปฏิกฺเขปวจนานิ. มา-วจนสฺส มา โหนฺตูติ อตฺโถ. อเวริโน สุขิโน สุขิตตฺตาติ อิมานิ ตีณิ เมตฺโตปสํหารวจนานิ. ‘‘อพฺยาปชฺชา อนีฆา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ‘‘สุขิโน’’ติ วจเนน สงฺคหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สุขิตตฺตาติ ตสฺเสว สุขสฺส นิจฺจปฺปวตฺติทสฺสนํ. ‘‘สุขิตตฺตา’’ติ จ ‘‘สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตู’’ติ จ อตฺถโต เอกํ. ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทีหิ วา อพฺยาปชฺชานีฆวจนานิ สงฺคหิตานิ. อฏฺหากาเรหีติ ‘‘อปีฬนายา’’ติอาทโย ปฺจ เมตฺโตปสํหาราการา ‘‘อเวริโน โหนฺตู’’ติอาทโย ตโย เมตฺโตปสํหาราการาติ อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ. เมตฺตายตีติ สินิยฺหติ. ตํ ธมฺมํ เจตยตีติ ตํ หิโตปสํหารํ เจตยติ อภิสนฺทหติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. สพฺพพฺยาปาทปริยุฏฺาเนหิวิมุจฺจตีติ เมตฺตาย ปฏิปกฺขภูเตหิ สพฺเพหิ พฺยาปาทสมุทาจาเรหิ วิกฺขมฺภนโต วิมุจฺจติ. เมตฺตา จ เจโต จ วิมุตฺติ จาติ เอกาเยว เมตฺตา ติธา วณฺณิตา.

อเวริโน เขมิโน สุขิโนติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ ปุพฺเพ วุตฺเต อากาเร สงฺเขเปน สงฺคเหตฺวา วุตฺตานิ. สทฺธาย อธิมุจฺจตีติอาทินา นเยน วุตฺตานิ ปฺจินฺทฺริยานิ เมตฺตาย สมฺปยุตฺตานิเยว. อาเสวนาติอาทีสุ ฉสุ วาเรสุ อาเสวียติ เอเตหิ เมตฺตาติ อาเสวนา. ตถา ภาวนา พหุลีกมฺมํ. อลงฺการาติ วิภูสนา. สฺวาลงฺกตาติ สุฏฺุ อลงฺกตา ภูสิตา. ปริกฺขาราติ สมฺภารา. สุปริกฺขตาติ สุฏฺุ สมฺภตา. ปริวาราติ รกฺขนฏฺเน. ปุน อาเสวนาทีนิ อฏฺวีสติ ปทานิ เมตฺตาย วณฺณภณนตฺถํ วุตฺตานิ. ตตฺถ ปาริปูรีติ ปริปุณฺณภาวา. สหคตาติ เมตฺตาย สหคตา. ตถา สหชาตาทโย. ปกฺขนฺทนาติ เมตฺตาย ปวิสนา, ปกฺขนฺทติ เอเตหิ เมตฺตาติ วา ปกฺขนฺทนา. ตถา สํสีทนาทโย. เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนาติ เอสา เมตฺตา สนฺตาติ เอเตหิ ผสฺสนา โหตีติ เอตํ สนฺตนฺติ ผสฺสนา ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๑.๑๘๘ อาทโย) วิย นปุํสกวจนํ. สฺวาธิฏฺิตาติ สุฏฺุ ปติฏฺิตา. สุสมุคฺคตาติ สุฏฺุ สมุสฺสิตา. สุวิมุตฺตาติ อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจนีเกหิ สุฏฺุ วิมุตฺตา. นิพฺพตฺเตนฺตีติ เมตฺตาสมฺปยุตฺตา หุตฺวา เมตฺตํ นิพฺพตฺเตนฺติ. โชเตนฺตีติ ปากฏํ กโรนฺติ. ปตาเปนฺตีติ วิโรเจนฺติ.

๒-๔. พลาทิวารตฺตยวณฺณนา

๒๔-๒๗. อินฺทฺริยวาเร วุตฺตนเยเนว พลวาโรปิ เวทิตพฺโพ. โพชฺฌงฺคมคฺคงฺควารา ปริยาเยน วุตฺตา, น ยถาลกฺขณวเสน. มคฺคงฺควาเร สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา เมตฺตาย ปุพฺพภาควเสน วุตฺตา, น อปฺปนาวเสน. น หิ เอเต เมตฺตาย สห ภวนฺติ. สพฺเพสํ ปาณานนฺติอาทีนํ เสสวารานมฺปิ สตฺตวาเร วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เมตฺตาภาวนาวิธานํ ปน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐ อาทโย) คเหตพฺพนฺติ.

เมตฺตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วิราคกถา

วิราคกถาวณฺณนา

๒๘. อิทานิ มคฺคปโยชนปริโยสานาย เมตฺตากถาย อนนฺตรํ กถิตาย วิราคสงฺขาตมคฺคปุพฺพงฺคมาย วิราคกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ปมํ ตาว ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (มหาว ๒๓) วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ สุตฺตนฺตปทานํ อตฺถํ นิทฺทิสิตุกาเมน วิราโค มคฺโค, วิมุตฺติ ผลนฺติ อุทฺเทโส ปิโต. ตตฺถ ปมํ วจนตฺถํ ตาว นิทฺทิสิตุกาโม กถํ วิราโค มคฺโคติอาทิมาห. ตตฺถ วิรชฺชตีติ วิรตฺตา โหติ. เสสานิ มคฺคาณนิทฺเทเส วุตฺตตฺถานิ. วิราโคติ ยสฺมา สมฺมาทิฏฺิ วิรชฺชติ, ตสฺมา วิราโค นามาติ อตฺโถ . โส จ วิราโค ยสฺมา วิราคารมฺมโณ…เป… วิราเค ปติฏฺิโต, ตสฺมา จ วิราโคติ เอวํ ‘‘วิราคารมฺมโณ’’ติอาทีนํ ปฺจนฺนํ วจนานํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ วิราคารมฺมโณติ นิพฺพานารมฺมโณ. วิราคโคจโรติ นิพฺพานวิสโย. วิราเค สมุทาคโตติ นิพฺพาเน สมุปฺปนฺโน. วิราเค ิโตติ ปวตฺติวเสน นิพฺพาเน ิโต. วิราเค ปติฏฺิโตติ อนิวตฺตนวเสน นิพฺพาเน ปติฏฺิโต.

นิพฺพานฺจ วิราโคติ นิพฺพานํ วิราคเหตุตฺตา วิราโค. นิพฺพานารมฺมณตาชาตาติ นิพฺพานารมฺมเณ ชาตา, นิพฺพานารมฺมณภาเวน วา ชาตา. เต มคฺคสมฺปยุตฺตา สพฺเพว ผสฺสาทโย ธมฺมา วิรชฺชนฏฺเน วิราคา โหนฺตีติ วิราคา นาม โหนฺติ. สหชาตานีติ สมฺมาทิฏฺิสหชาตานิ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนิ สตฺต มคฺคงฺคานิ. วิราคํ คจฺฉนฺตีติ วิราโค มคฺโคติ วิราคํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา คจฺฉนฺตีติ วิราคารมฺมณตฺตา วิราโค นาม, มคฺคนฏฺเน มคฺโค นาม โหตีติ อตฺโถ. เอเกกมฺปิ มคฺคงฺคํ มคฺโคติ นามํ ลภติ. อิติ เอเกกสฺส องฺคสฺส มคฺคตฺเต วุตฺเต สมฺมาทิฏฺิยาปิ มคฺคตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมาเยว จ เอเตน มคฺเคนาติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ คเหตฺวา วุตฺตํ. พุทฺธา จาติ ปจฺเจกพุทฺธาปิ สงฺคหิตา. เตปิ หิ ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, พุทฺธา ตถาคโต จ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปจฺเจกพุทฺโธ จา’’ติ (อ. นิ. ๒.๕๗) วุตฺตตฺตา พุทฺธาเยว . อคตนฺติ อนมตคฺเค สํสาเร อคตปุพฺพํ. ทิสนฺติ สกลายปฏิปตฺติยา ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อภิสนฺทหียตีติ ทิสา, สพฺพพุทฺเธหิ วา ปรมํ สุขนฺติ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ กถียตีติ ทิสา , สพฺพทุกฺขํ วา ทิสฺสนฺติ วิสฺสชฺเชนฺติ อุชฺฌนฺติ เอตายาติ ทิสา. ตํ ทิสํ. อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ กึ วุตฺตํ โหติ? โย โส อฏฺงฺคิโก ธมฺมสมูโห, โส เอเตน นิพฺพานํ คจฺฉนฺตีติ คมนฏฺเน มคฺโค นามาติ วุตฺตํ โหติ. ปุถุสมณพฺราหฺมณานํ ปรปฺปวาทานนฺติ วิสุํ วิสุํ สมณานํ พฺราหฺมณานฺจ อิโต อฺลทฺธิกานํ. อคฺโคติ เตสํ เสสมคฺคานํ วิสิฏฺโ. เสฏฺโติ เสสมคฺคโต อติวิย ปสํสนีโย. โมกฺโขติ มุเข สาธุ, เสสมคฺคานํ อภิมุเข อยเมว สาธูติ อตฺโถ. อุตฺตโมติ เสสมคฺเค อติวิย อุตฺติณฺโณ. ปวโรติ เสสมคฺคโต นานปฺปกาเรหิ สํภชนีโย. อิตีติ การณตฺเถ นิปาโต. ตสฺมา ภควตา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. วุตฺตฺหิ ภควตา –

‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๓);

ตํ อิธ วิจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘มคฺคานํ อฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ติ วุตฺตํ. เสสวาเรสุปิ อิมินา จ นเยน เหฏฺา วุตฺตนเยน จ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ทสฺสนวิราโคติอาทีสุ ทสฺสนสงฺขาโต วิราโค ทสฺสนวิราโค. อินฺทฺริยฏฺโต พลสฺส วิสิฏฺตฺตา อิธ อินฺทฺริยโต พลํ ปมํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาธิปเตยฺยฏฺเน อินฺทฺริยานีติอาทิ อินฺทฺริยาทีนํ อตฺถวิภาวนา, น วิราคสฺส. ตถฏฺเน สจฺจาติ สจฺจาณํ เวทิตพฺพํ. สีลวิสุทฺธีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีวา. จิตฺตวิสุทฺธีติ สมฺมาสมาธิ. ทิฏฺิวิสุทฺธีติ สมฺมาทิฏฺิสงฺกปฺปา. วิมุตฺตฏฺเนาติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ มุตฺตฏฺเน. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิ. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. อมโตคธํ นิพฺพานํ ปริโยสานฏฺเน มคฺโคติ มคฺคผลปจฺจเวกฺขณาหิ มคฺคียตีติ มคฺโค.

อิมสฺมึ วิราคนิทฺเทเส วุตฺตา ธมฺมา สพฺเพปิ มคฺคกฺขเณเยว. วิมุตฺตินิทฺเทเส ผลกฺขเณ. ตสฺมา ฉนฺทมนสิการาปิ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา.

๒๙. วิราคนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว วิมุตฺตินิทฺเทเสปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ผลํ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, นิพฺพานํ นิสฺสรณวิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ. ‘‘สหชาตานิ สตฺตงฺคานี’’ติอาทีนิ วจนานิ อิธ น ลพฺภนฺตีติ น วุตฺตานิ. สยํ ผลวิมุตฺตตฺตา ปริจฺจาคฏฺเน วิมุตฺตีติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.

วิราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปฏิสมฺภิทากถา

๑. ธมฺมจกฺกปวตฺตนวารวณฺณนา

๓๐. อิทานิ วิราคสงฺขาตมคฺควเสน สิทฺธํ ปฏิสมฺภิทาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย ปฏิสมฺภิทากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว พาราณสิยนฺติ พาราณสา นาม นที, พาราณสาย อวิทูเร ภวา นครี พาราณสี. ตสฺสํ พาราณสิยํ. อิสิปตเน มิคทาเยติ อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน เอวํลทฺธนาเม มิคานํ อภยทานทินฺนฏฺานตฺตา มิคทายสงฺขาเต อาราเม. ตตฺถ หิ อุปฺปนฺนุปฺปนฺนา สพฺพฺุอิสโย ปตนฺติ, ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนตฺถํ นิสีทนฺตีติ อตฺโถ. นนฺทมูลกปพฺภารโต สตฺตาหจฺจเยน นิโรธสมาปตฺติโต วุฏฺิตา อโนตตฺตทเห กตมุขโธวนกิจฺจา อากาเสน อาคนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธอิสโยเปตฺถ สโมสรณวเสน ปตนฺติ , อุโปสถตฺถฺจ อนุโปสถตฺถฺจ สนฺนิปตนฺติ, คนฺธมาทนํ ปฏิคจฺฉนฺตา จ ตโต จ อุปฺปตนฺตีติปิ อิมินา อิสีนํ ปตนุปฺปตนวเสน ตํ ‘‘อิสิปตน’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘อิสิปทน’’นฺติปิ ปาโ. ปฺจวคฺคิเยติ –

‘‘โกณฺฑฺโ ภทฺทิโย วปฺโป, มหานาโม จ อสฺสชิ;

เอเต ปฺจ มหาเถรา, ปฺจวคฺคาติ วุจฺจเร’’ติ. –

เอวํ วุตฺตานํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขูนํ วคฺโค ปฺจวคฺโค. ตสฺมึ ปฺจวคฺเค ภวา ตํปริยาปนฺนตฺตาติ ปฺจวคฺคิยา, เต ปฺจวคฺคิเย. ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ทีปงฺกรทสพลสฺส ปาทมูเล กตาภินีหารโต ปฏฺาย ปารมิโย ปูเรนฺโต อนุปุพฺเพน ปจฺฉิมภวํ ปตฺวา ปจฺฉิมภเว จ กตาภินิกฺขมโน อนุปุพฺเพน โพธิมณฺฑํ ปตฺวา ตตฺถ อปราชิตปลฺลงฺเก นิสินฺโน มารพลํ ภินฺทิตฺวา ปมยาเม ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสริตฺวา มชฺฌิมยาเม ทิพฺพจกฺขุํ วิโสเธตฺวา ปจฺฉิมยามาวสาเน ทสสหสฺสิโลกธาตุํ อุนฺนาเทนฺโต สมฺปกมฺเปนฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺวา สตฺต สตฺตาหานิ โพธิมณฺเฑ วีตินาเมตฺวา มหาพฺรหฺมุนา อายาจิตธมฺมเทสนา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา โลกานุคฺคเหน พาราณสึ คนฺตฺวา ปฺจวคฺคิเย ภิกฺขู สฺาเปตฺวา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺเตตุกาโม อามนฺเตสิ.

ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตาติ ทฺเวเม, ภิกฺขเว, โกฏฺาสา. อิมสฺส ปน วจนสฺส สมุทาหาเรน สมุทาหารนิคฺโฆโส เหฏฺา อวีจึ อุปริ ภวคฺคํ ปตฺวา ทสสหสฺสึ โลกธาตุํ ปตฺถริตฺวา อฏฺาสิ, ตสฺมึเยว สมเย อฏฺารสโกฏิสงฺขา พฺรหฺมาโน สมาคจฺฉึสุ. ปจฺฉิมทิสาย สูริโย อตฺถงฺคเมติ, ปุรตฺถิมาย ทิสาย อุตฺตราสาฬฺหนกฺขตฺเตน ยุตฺโต ปุณฺณจนฺโท อุคฺคจฺฉติ. ตสฺมึ สมเย ภควา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตํ อารภนฺโต ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, อนฺตา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปพฺพชิเตนาติ คิหิสํโยชนํ วตฺถุกามํ เฉตฺวา ปพฺพชิเตน. น เสวิตพฺพาติ น วลฺเชตพฺพา. ปพฺพชิตานํเยว วิเสสโต ปฏิปตฺติยา ภาชนภูตตฺตา ‘‘ปพฺพชิเตน น เสวิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. โย จายํ กาเมสุ กามสุขลฺลิกานุโยโคติ โย จ อยํ วตฺถุกาเมสุ กิเลสกามสุขสฺส, กิเลสกามสุขนิสฺสยสฺส วา อนุโยโค. หีโนติ ลามโก. คมฺโมติ คามวาสีนํ สนฺตโก. โปถุชฺชนิโกติ ปุถุชฺชเนน อนฺธพาลชเนน อาจิณฺโณ. อนริโยติ น อริโย. อถ วา น วิสุทฺธานํ อุตฺตมานํ อริยานํ สนฺตโก. อนตฺถสํหิโตติ น อตฺถสํหิโต, สุขาวหการณํ อนิสฺสิโตติ อตฺโถ. อตฺตกิลมถานุโยโคติ อตฺตโน กิลมถสฺส อนุโยโค , อตฺตโน ทุกฺขกรณนฺติ อตฺโถ. ทุกฺโขติ กณฺฏกาปสฺสยเสยฺยาทีหิ อตฺตมารเณหิ ทุกฺขาวโห. ตปสฺสีหิ ‘‘อุตฺตมํ ตโป’’ติ คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถํ อิธ ‘‘หีโน’’ติ น วุตฺตํ, ปพฺพชิตานํ ธมฺมตฺตา ‘‘คมฺโม’’ติ จ, คิหีหิ อสาธารณตฺตา ‘‘โปถุชฺชนิโก’’ติ จ น วุตฺตํ. ตตฺถ ปน เกหิจิ ปพฺพชิตปฏิฺเหิ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาเทหิ ‘‘ยโต โข, โภ , อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข, โภ, อยํ อตฺตา ทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๙๔) คหิตตฺตา เตสํ จิตฺตานุรกฺขนตฺถฺจ ปจฺจุปฺปนฺเน สุขตฺตา จ ตสฺส ธมฺมสมาทานสฺส ‘‘ทุกฺโข’’ติ น วุตฺตํ. กามสุขลฺลิกานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ตณฺหาทิฏฺิสํกิลิฏฺสุขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ตณฺหาทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, อตฺตกิลมถานุโยโค ปจฺจุปฺปนฺเน ทิฏฺิสํกิลิฏฺทุกฺขตฺตา อายติฺจ ทุกฺขวิปากตฺตา ตทนุยุตฺตานํ ทิฏฺิพนฺธนพทฺธตฺตา จ น เสวิตพฺโพ, เอเต โขติ เต เอเต. อนุปคมฺมาติ น อุปคนฺตฺวา. มชฺฌิมาติ สํกิลิฏฺสุขทุกฺขานํ อภาวา มชฺเฌ ภวาติ มชฺฌิมา. สา เอว นิพฺพานํ ปฏิปชฺชนฺติ เอตายาติ ปฏิปทา. อภิสมฺพุทฺธาติ ปฏิวิทฺธา. จกฺขุกรณีติอาทีสุ ปฺาจกฺขุํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. าณกรณีติ ตสฺเสว เววจนํ. อุปสมายาติ กิเลสูปสมาย. อภิฺายาติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อภิชานนตฺถาย. สมฺโพธายาติ เตสํเยว สมฺพุชฺฌนตฺถาย. นิพฺพานายาติ นิพฺพานสจฺฉิกิริยตฺถาย. อถ วา ทสฺสนมคฺคาณํ กโรตีติ จกฺขุกรณี. ภาวนามคฺคาณํ กโรตีติ าณกรณี. สพฺพกิเลสานํ อุปสมาย. สพฺพธมฺมานํ อภิฺาย. อรหตฺตผลสมฺโพธาย. กิเลสานฺจ ขนฺธานฺจ นิพฺพานาย. สจฺจกถา อภิฺเยฺยนิทฺเทเส วุตฺตา.

เอวํ ภควา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา อตฺตนิ กตพหุมานานํ เตสํ อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ สุตฺวา ปฏิปตฺติยา พหุมานาโรปเนน ปฏิปตฺติยํ ตฺวา สจฺจปฺปฏิเวธํ ปสฺสนฺโต อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ เม, ภิกฺขเวติอาทินา อตฺตโน ปฏิเวธกฺกมํ ทสฺเสสิ. ตตฺถ อนนุสฺสุเตสูติ น อนุสฺสุเตสุ, ปรํ อนุคนฺตฺวา อสฺสุเตสูติ อตฺโถ. จกฺขูติอาทีนํ อตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อิทํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ทสฺสนปฏิเวโธ เสขภูมิยํ. ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ภาวนาปฏิเวโธ เสขภูมิยํเยว. ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิตนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ ปจฺจเวกฺขณา อเสขภูมิยํ.

ติปริวฏฺฏนฺติ สจฺจาณกิจฺจาณกตาณสงฺขาตานํ ติณฺณํ ปริวฏฺฏานํ วเสน ตโย ปริวฏฺฏา อสฺสาติ ติปริวฏฺฏํ. เอตฺถ หิ ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทํ ทุกฺขสมุทยํ , อิทํ ทุกฺขนิโรธํ, อิทํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ เอวํ จตูสุ สจฺเจสุ ยถาภูตาณํ สจฺจาณํ นาม. เตสุเยว ‘‘ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ ภาเวตพฺพ’’นฺติ เอวํ กตฺตพฺพกิจฺจชานนาณํ กิจฺจาณํ นาม. ‘‘ปริฺาตํ ปหีนํ สจฺฉิกตํ ภาวิต’’นฺติ เอวํ ตสฺส กิจฺจสฺส กตภาวชานนาณํ กตาณํ นาม. ทฺวาทสาการนฺติ เตสํเยว เอเกกสฺมึ สจฺเจ ติณฺณํ ติณฺณํ อาการานํ วเสน ทฺวาทส อาการา อสฺสาติ ทฺวาทสาการํ. าณทสฺสนนฺติ เอเตสํ ติปริวฏฺฏานํ ทฺวาทสนฺนํ อาการานํ วเสน อุปฺปนฺนํ าณสงฺขาตํ ทสฺสนํ. อตฺตมนาติ สกมนา. สตฺตานฺหิ สุขกามตฺตา ทุกฺขปฏิกูลตฺตา ปีติโสมนสฺสยุตฺตมโน สกมโน นาม, ปีติโสมนสฺเสหิ อตฺตมนา คหิตมนา พฺยาปิตมนาติ วา อตฺโถ. อภินนฺทุนฺติ อภิมุขา หุตฺวา นนฺทึสุ. เวยฺยากรเณติ สุตฺตนฺเต. นิคฺคาถโก หิ สุตฺตนฺโต เกวลํ อตฺถสฺส พฺยากรณโต เวยฺยากรณํ นาม. ภฺมาเนติ กถิยมาเน. วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ กตํ, ภณิเตติ อตฺโถ. วิรชนฺติ วิคตราคาทิรชํ. วีตมลนฺติ วิคตราคาทิมลํ. ราคาทโย หิ อชฺโฌตฺถรณฏฺเน รโช นาม, ทูสนฏฺเน มลํ นาม. ธมฺมจกฺขุนฺติ กตฺถจิ ปมมคฺคาณํ, กตฺถจิ อาทีนิ ตีณิ มคฺคาณานิ, กตฺถจิ จตุตฺถมคฺคาณมฺปิ . อิธ ปน ปมมคฺคาณเมว. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ วิปสฺสนาวเสน เอวํ ปวตฺตสฺส ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทีติ อตฺโถ.

ธมฺมจกฺเกติ ปฏิเวธาเณ จ เทสนาาเณ จ. โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺนสฺส หิ ภควโต จตูสุ สจฺเจสุ ทฺวาทสาการํ ปฏิเวธาณมฺปิ อิสิปตเน นิสินฺนสฺส ทฺวาทสาการเมว สจฺจเทสนาย ปวตฺตกเทสนาาณมฺปิ ธมฺมจกฺกํ นาม. อุภยมฺปิ เหตํ ทสพลสฺส ปวตฺตาณเมว. ตํ อิมาย เทสนาย ปกาเสนฺเตน ภควตา ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ นาม. ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถโร อฏฺารสหิ พฺรหฺมโกฏีหิ สทฺธึ โสตาปตฺติผเล น ปติฏฺาติ, ตาว ภควา ปวตฺเตติ นาม, ปติฏฺิเต ปน ปวตฺติตํ นาม. ตํ สนฺธาย ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ.

ภุมฺมาเทวาติ ภูมฏฺกา เทวา. สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ ทตฺวา เอตํ ภควตาติอาทีนิ วทนฺตา สทฺทํ อนุสฺสาวยึสุ. อปฺปฏิวตฺติยนฺติ ‘‘นยิทํ ตถา’’ติ ปฏิโลมํ วตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. สนฺนิปติตา เจตฺถ เทวพฺรหฺมาโน เทสนาปริโยสาเน เอกปฺปหาเรเนว สาธุการํ อทํสุ, สนฺนิปาตํ อนาคตา ปน ภุมฺมเทวาทโย เตสํ เตสํ สทฺทํ สุตฺวา สาธุการมทํสูติ เวทิตพฺพํ. เตสุ ปน ปพฺพตรุกฺขาทีสุ นิพฺพตฺตา ภุมฺมเทวา. เต จาตุมหาราชิกปริยาปนฺนา โหนฺตาปิ อิธ วิสุํ กตฺวา วุตฺตา. จาตุมหาราชิกาติ จ ธตรฏฺวิรูฬฺหกวิรูปกฺขกุเวรสงฺขาตา จตุมหาราชา เทวตา เอเตสนฺติ จาตุมหาราชิกา. เต สิเนรุเวมชฺเฌ โหนฺติ. เตสุ ปพฺพตฏฺกาปิ อตฺถิ อากาสฏฺกาปิ. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา. ขิฑฺฑาปโทสิกา มโนปโทสิกา สีตวลาหกา อุณฺหวลาหกา จนฺทิมา เทวปุตฺโต สูริโย เทวปุตฺโตติ เอเต สพฺเพปิ จาตุมหาราชิกเทวโลกฏฺา เอว. เตตฺตึส ชนา ตตฺถ อุปฺปนฺนาติ ตาวตึสา. อปิจ ‘‘ตาวตึสา’’ติ เตสํ เทวานํ นามเมวาติปิ วุตฺตํ. เตปิ อตฺถิ ปพฺพตฏฺกา อตฺถิ อากาสฏฺกา. เตสํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ ปตฺตา, ตถา ยามาทีนํ. เอกเทวโลเกปิ หิ เทวานํ ปรมฺปรา จกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺตา นาม นตฺถิ. ทิพฺพํ สุขํ ยาตา ปยาตา สมฺปตฺตาติ ยามา. ตุฏฺา ปหฏฺาติ ตุสิตา. ปกติปฏิยตฺตารมฺมณโต อติเรเกน รมิตุกามกาเล ยถารุจิเต โภเค นิมฺมินิตฺวา นิมฺมินิตฺวา รมนฺตีติ นิมฺมานรตี. จิตฺตาจารํ ตฺวา ปรนิมฺมิเตสุ โภเคสุ วสํ วตฺเตนฺตีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺตี. พฺรหฺมกาเย พฺรหฺมฆฏาย นิยุตฺตาติ พฺรหฺมกายิกา. สพฺเพปิ ปฺจโวการพฺรหฺมาโน คหิตา.

เตน ขเณนาติ วจนํ วิเสเสตฺวา เตน มุหุตฺเตนาติ วุตฺตํ. มุหุตฺตสงฺขาเตน ขเณน, น ปรมตฺถขเณนาติ วุตฺตํ โหติ. ยาว พฺรหฺมโลกาติ พฺรหฺมโลกํ อนฺโตกตฺวา. สทฺโทติ สาธุการสทฺโท. ทสสหสฺสีติ ทสสหสฺสจกฺกวาฬวตี. สงฺกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี สุฏฺุ กมฺปิ. สมฺปกมฺปีติ อุทฺธํ อุคฺคจฺฉนฺตี อโธ โอกฺกมนฺตี สุฏฺุ ปกมฺปิ. สมฺปเวธีติ จตุทิสา คจฺฉนฺตี สุฏฺุ ปเวธิ. สมฺพุทฺธภาวาย มาตุกุจฺฉึ โอกฺกมนฺเต จ โพธิสตฺเต ตโต นิกฺขมนฺเต จ มหาปถวี ปุฺเตเชน อกมฺปิตฺถ, อภิสมฺโพธิยํ ปฏิเวธาณเตเชน. ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตเน เทสนาาณเตเชน สาธุการํ ทาตุกามา วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ, อายุสงฺขาโรสฺสชฺชเน มหาปรินิพฺพาเน จ การุฺเน จิตฺตสงฺโขภํ อสหมานา วิย ปถวี เทวตานุภาเวน อกมฺปิตฺถ. อปฺปมาโณติ วุทฺธปฺปมาโณ. อุฬาโรติ เอตฺถ ‘‘อุฬารานิ อุฬารานิ ขาทนียานิ ขาทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๖๖) มธุรํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย วตฺถโภคาย จิตฺตํ น นมตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๒๐) ปณีตํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. ‘‘อุฬาราย ขลุ ภวํ วจฺฉายโน สมณํ โคตมํ ปสํสาย ปสํสตี’’ติอาทีสุ เสฏฺํ อุฬารนฺติ วุตฺตํ. อิธ ปน ‘‘วิปุโล อุฬาโร’’ติ วุตฺโต. โอภาโสติ เทสนาาณานุภาเวน จ เทวตานุภาเวน จ ชาตโอภาโส. โลเกติ จกฺกวาฬสฺส ทสสหสฺสิยํเยว. อติกฺกมฺเมว เทวานํ เทวานุภาวนฺติ เทวานํ อยมานุภาโว – นิวตฺถวตฺถปฺปภา ทฺวาทส โยชนานิ ผรติ, ตถา สรีรสฺส อลงฺการสฺส วิมานสฺส จ. ตํ เทวานํ เทวานุภาวํ อติกฺกมิตฺวาเยวาติ อตฺโถ. อุทานนฺติ โสมนสฺสาณมยิกํ อุทาหารํ. อุทาเนสีติ อุทาหริ. อฺาสิ วต, โภ โกณฺฑฺโติ อิมสฺสปิ อุทานสฺส อุทาหรณโฆโส ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริตฺวา อฏฺาสิ. อฺาสิโกณฺฑฺโติ ภุสํ าตโกณฺฑฺโติ อตฺโถ.

จกฺขุอาทีนํ นิทฺเทเส ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ เอกเมว าณํ ยถาวุตฺตสฺส เนยฺยสฺส จกฺขุ วิย ทสฺสนกิจฺจกรเณน จกฺขุ. าณกิจฺจกรเณน าณํ. นานปฺปการโต ชานนกิจฺจกรเณน ปฺา. อนวเสสปฏิเวธกรเณน วิชฺชา. สพฺพถา โอภาสกิจฺจกรเณน อาโลโก นามาติ อตฺโถ. จกฺขุํ ธมฺโมติอาทีสุปิ เอกํเยว าณํ กิจฺจนานตฺเตน ปฺจธา วณฺณิตํ. อารมฺมณาติ อุปตฺถมฺภนฏฺเน. โคจราติ วิสยฏฺเน. ทสฺสนฏฺเนาติอาทีสุ าณกิจฺจํ ปฺจธา วุตฺตํ. อิมินา นเยน ตีสุ วาเรสุ เอเกกสฺมึ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปนฺนรส ธมฺมา, ปนฺนรส อตฺถา, ทฺวีสุ ปนฺนรสเกสุ ตึส นิรุตฺติโย, ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปนฺนรสสุ อตฺเถสุ ตึสาย นิรุตฺตีสูติ สฏฺิ าณานิ เวทิตพฺพานิ. เสสอริยสจฺเจสุปิ เอเสว นโย. จตูสุ อริยสจฺเจสุ เอเกกสฺมึ อริยสจฺเจ ปนฺนรสนฺนํ ปนฺนรสนฺนํ ธมฺมานํ อตฺถานฺจ วเสน สฏฺิ ธมฺมา, สฏฺิ อตฺถา, สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ จ วีสสตํ นิรุตฺติโย, วีสาธิกํ สตนฺติ อตฺโถ. สฏฺิยา ธมฺเมสุ สฏฺิยา อตฺเถสุ วีสุตฺตรสเต นิรุตฺตีสูติ เอวํ จตฺตารีสฺจ ทฺเว จ าณสตานิ.

๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา

๓๑-๓๒. สติปฏฺานสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม อิทฺธิปาทสุตฺตนฺตปุพฺพงฺคเม จ ปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส อิมินาว นเยน อตฺโถ จ คณนา จ เวทิตพฺพา.

๔-๘. สตฺตโพธิสตฺตวาราทิวณฺณนา

๓๓-๓๗. สตฺตนฺนํ โพธิสตฺตานํ สุตฺตนฺเตสุ เอเกกสฺมึเยว สมุทเย จกฺขาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส ธมฺมา, สมุทเย ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจ, นิโรเธ ปฺจาติ ทส อตฺถา, เตสํ วเสน วีสติ นิรุตฺติโย จตฺตารีสํ าณานิ. สตฺต เอกโต กตฺวา วุตฺตคณนา สุวิฺเยฺยา เอว. สพฺพฺุตฺาณวเสน วุตฺตปฏิสมฺภิทานิทฺเทเส เอเกกมูลเกสุ ‘‘าโต ทิฏฺโ วิทิโต สจฺฉิกโต ผสฺสิโต ปฺายา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๑) อิเมสุ ปฺจสุ วจเนสุ เอเกกสฺมึเยว จกฺขาทโย ปฺจ, ทสฺสนฏฺาทโย ปฺจาติ ปฺจปฺจกานํ วเสน ปฺจวีสติ ธมฺมา, ปฺจวีสติ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. ปฺจ เอกโต กตฺวา วุตฺตวาเรปิ ปฺจกฺขตฺตุํ ปฺจ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจวีสสตํ ธมฺมา, ปฺจวีสสตํ อตฺถา, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย, ตทฺทิคุณานิ าณานิ เยฺยานิ. อฑฺฒเตยฺยานีติ เจตฺถ ทฺเว สตานิ จ ปฺาสฺจ. ขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมินาว นเยน สจฺจวารปฏิสมฺภิทาวาเร จ ธมฺมาทิคณนา เวทิตพฺพา.

๙. ฉพุทฺธธมฺมวารวณฺณนา

๓๘. พุทฺธธมฺมวาเร ทิยฑฺฒสตนฺติ ฉกฺขตฺตุํ ปฺจวีสติ สตฺจ ปฺาสฺจ โหนฺติ, ตทฺทิคุณา นิรุตฺติโย ตทฺทิคุณานิ าณานิ. ปฏิสมฺภิทาธิกรเณติ ปฏิสมฺภิทาธิกาเร. อฑฺฒนวธมฺมสตานีติ ปมํ วุตฺเตสุ จตูสุ สจฺเจสุ สฏฺิ, จตูสุ สติปฏฺาเนสุ สฏฺิ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ สฏฺิ, สตฺตโพธิสตฺตเวยฺยากรเณสุ สตฺตติ, อภิฺฏฺาทีสุ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ขนฺธฏฺาทีสุ ปฺจสุ ปฺจวีสสตํ, ปุน จตูสุ อริยสจฺเจสุ สตํ, จตูสุ ปฏิสมฺภิทาสุ สตํ, ฉสุ พุทฺธธมฺเมสุ ทิยฑฺฒสตนฺติ เอวํ อฏฺสตานิ จ ปฺาสฺจ ธมฺมา โหนฺติ. เอวํ อตฺถาปิ ตตฺตกา เอว โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ วีสสตํ นิรุตฺติโย, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ จตฺตารีสสตํ นิรุตฺติโย, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ อฑฺฒเตยฺยานิ อฑฺฒเตยฺยานิ นิรุตฺติสตานิ, อริยสจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ ทฺเว ทฺเว นิรุตฺติสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ตีณิ นิรุตฺติสตานีติ เอวํ นิรุตฺติสหสฺสฺจ สตฺตนิรุตฺติสตานิ จ โหนฺติ. เอวเมว สจฺจาทีสุ ตีสุ าเนสุ จตฺตารีสาธิกานิ ทฺเว ทฺเว าณสตานิ, สตฺตสุ เวยฺยากรเณสุ อสีติอธิกานิ ทฺเว าณสตานิ, อภิฺฏฺาทีสุ ขนฺธฏฺาทีสุ จ ปฺจปฺจาณสตานิ , สจฺเจสุ ปฏิสมฺภิทาสุ จ จตฺตาริ จตฺตาริ าณสตานิ, พุทฺธธมฺเมสุ ฉ าณสตานีติ เอวํ ตีณิ จ าณสหสฺสานิ จตฺตาริ จ าณสตานิ โหนฺตีติ.

ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมจกฺกกถา

๑. สจฺจวารวณฺณนา

๓๙. ปุน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตนฺตเมว ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กถิตาย ธมฺมจกฺกกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ ทุกฺขวตฺถุกาติ เอกาภิสมยวเสน ทุกฺขํ วตฺถุ เอเตสนฺติ ทุกฺขวตฺถุกา. ตเทว ทุกฺขํ วิเสเสตฺวา สจฺจวตฺถุกาติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจํ อารมฺมณํ อุปตฺถมฺโภ เอเตสนฺติ สจฺจารมฺมณา. สจฺจํ โคจโร วิสโย เอเตสนฺติ สจฺจโคจรา. สจฺจสงฺคหิตาติ มคฺคสจฺเจน สงฺคหิตา. สจฺจปริยาปนฺนาติ มคฺคสจฺจายตฺตา. สจฺเจ สมุทาคตาติ ทุกฺขปริชานเนน ทุกฺขสจฺเจ สมุปฺปนฺนา. ตถา ตตฺเถว ิตา ปติฏฺิตา จ.

๔๐. อิทานิ ‘‘ปวตฺติเต จ ภควตา ธมฺมจกฺเก’’ติ วุตฺตํ ธมฺมจกฺกํ นิทฺทิสิตุกาโม ธมฺมจกฺกนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ทุวิธํ ธมฺมจกฺกํ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ เทสนาธมฺมจกฺกฺจ. ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ โพธิปลฺลงฺเก, เทสนาธมฺมจกฺกํ อิสิปตเน. ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ปฏิเวธธมฺมจกฺกํ วุตฺตํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ เทสนาธมฺมจกฺกํ. กถํ? ภควา หิ โพธิปลฺลงฺเก นิสินฺโน มคฺคกฺขเณ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ, โสเยว จ ธมฺโม กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกํ วิยาติ จกฺกฺจ. ธมฺมํ ปวตฺเตนฺโตเยว ภควา ตํ จกฺกํ ปวตฺเตติ นาม. เอเตน ธมฺโมเยว จกฺกนฺติ กมฺมธารยสมาสตา วุตฺตา โหติ. อิสิปตเน นิสินฺโน ภควา ธมฺมเทสนกฺขเณ เวเนยฺยสนฺตาเน กิเลสสตฺตุฆาตาย ปวตฺตนโต ปหรณจกฺกสทิสํ เทสนาจกฺกฺจ ปวตฺเตติ, เวเนยฺยสนฺตาเน อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคาทิเภทํ ธมฺมจกฺกฺจ ปวตฺเตติ. เอเตน ธมฺโม จ จกฺกฺจ ธมฺมจกฺกนฺติ ทฺวนฺทสมาสตา วุตฺตา โหติ. ยสฺมา ปน ปวตฺตเก สติ ปวตฺตนา นาม โหติ, ตสฺมา สพฺพตฺถาปิ ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ วุตฺตํ, ปวตฺตนฏฺเน ปน ‘‘จกฺก’’นฺติ วุตฺตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺกนฺติอาทีนิ เทสนาธมฺมจกฺกเมว สนฺธาย วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ตตฺถ ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ยถาสภาวตฺตา ธมฺเมน ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมจริยาย ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน ธมฺมตฺถาย ปวตฺตํ จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺเม ิโตติอาทีหิ ภควโต ธมฺมภูตตา ธมฺมสฺสามิตา จ วุตฺตา โหติ. ยถาห – ‘‘โส หาวุโส, ภควา ชานํ ชานาติ ปสฺสํ ปสฺสติ จกฺขุภูโต าณภูโต ธมฺมภูโต พฺรหฺมภูโต วตฺตา ปวตฺตา อตฺถสฺส นินฺเนตา อมตสฺส ทาตา ธมฺมสฺสามี ตถาคโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๓). ตสฺมา เตหิ ธมฺมสฺส จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ิโตติ วิสยีภาเวน ิโต. ปติฏฺิโตติ อจลภาเวน ปติฏฺิโต. วสิปฺปตฺโตติ อิสฺสรภาวํ ปตฺโต. ปารมิปฺปตฺโตติ โกฏิปฺปตฺโต. เวสารชฺชปฺปตฺโตติ วิสารทภาวํ ปตฺโต. ธมฺเม ปติฏฺาเปนฺโตติอาทีหิ เวเนยฺยสนฺตานมเปกฺขิตฺวา วุตฺเตหิ ปน วจเนหิ ธมฺมสฺสามิตาย จ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติหอาทีหิ ธมฺมตฺถาย จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ ธมฺมํ สกฺการาทิวเสน ปวตฺเตติ, โส ธมฺมตฺถํ ปวตฺเตติ. ธมฺมํ สกฺกโรนฺโตติ ยถา กโต โส ธมฺโม สุกโต โหติ, เอวเมว นํ กโรนฺโต. ธมฺมํ ครุํ กโรนฺโตติ ตสฺมึ คารวุปฺปตฺติยา ตํ ครุํ กโรนฺโต. ธมฺมํ มาเนนฺโตติ ธมฺมํ ปิยฺจ ภาวนียฺจ กตฺวา วิหรนฺโต. ธมฺมํ ปูเชนฺโตติ ตํ อปทิสิตฺวา เทสนาปฏิปตฺติปูชาย ปูชํ กโรนฺโต. ธมฺมํ อปจายมาโนติ ตสฺเสว ธมฺมสฺส สกฺการครุกาเรหิ นีจวุตฺติตํ กโรนฺโต. ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตูติ ตํ ธมฺมํ ธชมิว ปุรกฺขตฺวา เกตุมิว จ อุกฺขิปิตฺวา ปวตฺติยา ธมฺมทฺธโช ธมฺมเกตุ จ หุตฺวาติ อตฺโถ. ธมฺมาธิปเตยฺโยติ ธมฺมาธิปติโต อาคโต ภาวนาธมฺมวเสเนว จ สพฺพกิริยานํ กรเณน ธมฺมาธิปเตยฺโย หุตฺวา. ตํ โข ปน ธมฺมจกฺกํ อปฺปฏิวตฺติยนฺติ เกนจิ นิวตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปฺปฏิหตปวตฺติตา วุตฺตา. ตสฺมา โส ธมฺโม ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺโม, ตํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ เวเนยฺยสนฺตาเน มคฺคสมฺปยุตฺตสทฺธินฺทฺริยุปฺปาทเนน ตํ สทฺธินฺทฺริยํ ธมฺมํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอเสว นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. วิปสฺสนา จ วิชฺชา จ มคฺคาณเมว. อนุปฺปาเท าณนฺติ อรหตฺตผเล าณํ. ตมฺปิ เวเนยฺยสนฺตาเน ปวตฺเตติเยว, นิพฺพานฺจ ปฏิเวธํ กโรนฺโต ปวตฺเตติเยว นาม.

สมุทยวาราทีสุ สมุทยวตฺถุกา นิโรธวตฺถุกา มคฺควตฺถุกาติ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตา. เอตฺถาปิ วุตฺตสทิสํ ปมํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

๒-๓. สติปฏฺานวาราทิวณฺณนา

๔๑-๔๒. สติปฏฺานอิทฺธิปาทปุพฺพงฺคมวาราปิ มคฺคกฺขณวเสน วุตฺตา. เตปิ ตตฺถ ตตฺถ วิเสสปทํ ทสฺเสตฺวา สงฺขิตฺตาติ.

ธมฺมจกฺกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. โลกุตฺตรกถา

โลกุตฺตรกถาวณฺณนา

๔๓. อิทานิ โลกุตฺตรธมฺมวติยา ธมฺมจกฺกกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ โลกุตฺตรปทสฺส อตฺโถ นิทฺเทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติ. จตฺตาโร สติปฏฺานาติอาทโย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา ยถาโยคํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตา. เต พุชฺฌนฏฺเน โพธีติ เอวํลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นาม. ปกฺเข ภวตฺตาติ อุปการภาเว ิตตฺตา. เตสุ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต อุปฏฺานํ, สติเยว อุปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺส อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สติปฏฺานาติ วุจฺจติ. ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปปวตฺตวิรหิตโต ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกฏฺเน เสฏฺภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วาติ สมฺมปฺปธานํ. วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. ตยิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจํ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ กุสลานํ อุปฺปตฺติฏฺิติกิจฺจํ สาธยตีติ จตุพฺพิธํ โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจติ. นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนฏฺเน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธิ, ตสฺสา สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพงฺคมฏฺเน ผลภูตาย ปุพฺพภาคการณฏฺเน จ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. โส ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาวเสน จตุพฺพิโธว โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ วุจฺจติ. อสฺสทฺธิยโกสชฺชปมาทวิกฺเขปสมฺโมหานํ อภิภวนโต อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อสฺสทฺธิยาทีหิ อนภิภวนียโต อกมฺปิยฏฺเน พลํ. ตทุภยมฺปิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปฺาวเสน ปฺจวิธํ โหติ. ตสฺมา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานีติ วุจฺจนฺติ. พุชฺฌนกสตฺตสฺส ปน องฺคภาเวน สติอาทโย สตฺต ธมฺมา โพชฺฌงฺคา, นิยฺยานฏฺเน จ สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มคฺคงฺคา โหนฺติ. เตน วุจฺจติ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ.

อิติ อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา ธมฺมา ปุพฺพภาเค โลกิยวิปสฺสนาย วตฺตมานาย จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต จ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺเม ปริคฺคณฺหโต จ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. อิติ อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ‘‘ยถา ปฏิปนฺนสฺส ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ, น ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ, เอวํ เม เอตํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตสฺส อนุปฺปาทาย วายมนกาเล ปมํ สมฺมปฺปธานํ, อตฺตโน สมุทาจารปฺปตฺตมกุสลํ ทิสฺวา ตสฺส ปหานาย วายมนกาเล ทุติยํ, อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส ตติยํ, อุปฺปนฺนํ ยถา น ปริหายติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ. ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล วีมํสิทฺธิปาโท. มิจฺฉาวาจาย วิรมณกาเล สมฺมาวาจา , มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาชีวา วิรมณกาเล สมฺมาชีโวติ เอวํ นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. จตุมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ, ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺตึส ลพฺภนฺติ. เอวํ เอกจิตฺเต ลพฺภมาเนสุ เจเตสุ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายาทีสุ สุภสฺาทิปหานกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว จ วีริยํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทาทิกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ วุจฺจติ. เสเสสุ หาปนวฑฺฒนํ นตฺถิ.

อปิจ เตสุ –

นว เอกวิธา เอโก, ทฺเวธาถ จตุปฺจธา;

อฏฺธา นวธา เจว, อิติ ฉทฺธา ภวนฺติ เต.

นวเอกวิธาติ ฉนฺโท จิตฺตํ ปีติ ปสฺสทฺธิ อุเปกฺขา สงฺกปฺโป วาจา กมฺมนฺโต อาชีโวติ อิเม นว ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสน เอกวิธาว โหนฺติ, อฺโกฏฺาสํ น ภชนฺติ. เอโก ทฺเวธาติ สทฺธา อินฺทฺริยพลวเสน ทฺเวธา ิตา. อถ จตุปฺจธาติ อถฺโ เอโก จตุธา, อฺโ ปฺจธา ิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ สมาธิ เอโก อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน จตุธา ิโต, ปฺา เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทโกฏฺาสสฺส จ วเสน ปฺจธา. อฏฺธา นวธา เจวาติ อปโร เอโก อฏฺธา, เอโก นวธา ิโตติ อตฺโถ. จตุสติปฏฺานอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน สติ อฏฺธา ิตา, จตุสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน วีริยํ นวธาติ. เอวํ –

จุทฺทเสว อสมฺภินฺนา, โหนฺเตเต โพธิปกฺขิยา;

โกฏฺาสโต สตฺตวิธา, สตฺตตึส ปเภทโต.

สกิจฺจนิปฺผาทนโต, สรูเปน จ วุตฺติโต;

สพฺเพว อริยมคฺคสฺส, สมฺภเว สมฺภวนฺติ เต.

เอวํ มคฺคผลสมฺปยุตฺเต สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม ทสฺเสตฺวา ปุน เต มคฺคผเลสุ สงฺขิปิตฺวา จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานีติ อาห. สมณภาโว สามฺํ, จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํ. สามฺานํ ผลานิ สามฺผลานิ. นิพฺพานํ ปน สพฺเพหิ อสมฺมิสฺสเมว. อิติ วิตฺถารโต สตฺตตึสโพธิปกฺขิยจตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน ฉจตฺตาลีส โลกุตฺตรธมฺมา, ตโต สงฺเขเปน จตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน นว โลกุตฺตรธมฺมา, ตโตปิ สงฺเขเปน มคฺคผลนิพฺพานานํ วเสน ตโย โลกุตฺตรธมฺมาติ เวทิตพฺพํ. สติปฏฺานาทีนํ มคฺคผลานฺจ โลกุตฺตรตฺเต วุตฺเต ตํสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนมฺปิ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมว โหติ. ปธานธมฺมวเสน ปน สติปฏฺานาทโยว วุตฺตา. อภิธมฺเม (ธ. ส. ๒๗๗ อาทโย, ๕๐๕ อาทโย) จ โลกุตฺตรธมฺมนิทฺเทเส มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนํ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมวาติ.

โลกํ ตรนฺตีติ โลกํ อติกฺกมนฺติ. สพฺพมิธ อีทิสํ วตฺตมานกาลวจนํ จตฺตาโร อริยมคฺเค สนฺธาย วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺโค หิ อปายโลกํ ตรติ, สกทาคามิมคฺโค กามาวจรโลเกกเทสํ ตรติ, อนาคามิมคฺโค กามาวจรโลกํ ตรติ, อรหตฺตมคฺโค รูปารูปาวจรโลกํ ตรติ. โลกา อุตฺตรนฺตีติ โลกา อุคฺคจฺฉนฺติ. โลกโตติ จ โลกมฺหาติ จ ตเทว นิสฺสกฺกวจนํ วิเสเสตฺวา ทสฺสิตํ. โลกํ สมติกฺกมนฺตีติ ปมํ วุตฺตตฺถเมว. ตตฺถ อุปสคฺคตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อิธ สห อุปสคฺคตฺเถน วุตฺตํ. โลกํ สมติกฺกนฺตาติ ยถาวุตฺตํ โลกํ สมฺมา อติกฺกนฺตา. สพฺพมิธ อีทิสํ อตีตกาลวจนํ ผลนิพฺพานานิ สนฺธาย วุตฺตํ, โสตาปตฺติผลาทีนิ หิ ยถาวุตฺตํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตานิ, สทา นิพฺพานํ สพฺพโลกํ อติกฺกมิตฺวา ิตํ. โลเกน อติเรกาติ โลกโต อธิกภูตา. อิทํ สพฺเพปิ โลกุตฺตรธมฺเม สนฺธาย วุตฺตํ. นิสฺสรนฺตีติ นิคฺคจฺฉนฺติ. นิสฺสฏาติ นิคฺคตา. โลเก น ติฏฺนฺตีติอาทีนิ อฏฺารส วจนานิ สพฺพโลกุตฺตเรสุปิ ยุชฺชนฺติ. น ติฏฺนฺตีติ โลเก อปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํ. โลเก น ลิมฺปนฺตีติ ขนฺธสนฺตาเน วตฺตมานาปิ ตสฺมึ น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. โลเกน น ลิมฺปนฺตีติ อกตปฏิเวธานํ เกนจิ จิตฺเตน, กตปฏิเวธานํ อกุสเลน อปฺปมตฺเตนปิ จิตฺเตน น ลิมฺปนฺตีติ อตฺโถ. อสํลิตฺตา อนุปลิตฺตาติ อุปสคฺเคน วิเสสิตํ.

วิปฺปมุตฺตาติ อลิตฺตตฺตเมว นานาพฺยฺชเนน วิเสสิตํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน วา อลิตฺตา, เต ตตฺถ เตน วา วิปฺปมุตฺตา โหนฺติ. โลกา วิปฺปมุตฺตาติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกวเสน วุตฺตานิ. วิสฺุตฺตาติ วิปฺปมุตฺตตฺตวิเสสนํ. เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน ยโต วิปฺปมุตฺตา, เต ตตฺถ เตน ตโต วิสฺุตฺตา นาม โหนฺติ. โลกา สุชฺฌนฺตีติ โลกมลํ โธวิตฺวา โลกา สุชฺฌนฺติ. วิสุชฺฌนฺตีติ ตเทว อุปสคฺเคน วิเสสิตํ. วุฏฺหนฺตีติ อุฏฺิตา โหนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ นิวฏฺฏนฺติ. น สชฺชนฺตีติ น ลคฺคนฺติ. น คยฺหนฺตีติ น คณฺหียนฺติ. น พชฺฌนฺตีติ น พาธียนฺติ. สมุจฺฉินฺทนฺตีติ อปฺปวตฺตึ กโรนฺติ. ยถา จ โลกํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ, ตเถว ‘‘โลกา วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตเมว โหติ. ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺตีติ นิโรเธนฺติ. อปถาติอาทีนิ จตฺตาริ สพฺเพสุปิ โลกุตฺตเรสุ ยุชฺชนฺติ. อปถาติ อมคฺคา. อคตีติ อปฺปติฏฺา. อวิสยาติ อนายตฺตา. อสาธารณาติ อสมานา. วมนฺตีติ อุคฺคิลนฺติ. น ปจฺจาวมนฺตีติ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน วุตฺตํ, วนฺตํ ปุน น อทนฺตีติ อตฺโถ. เอเตน วนฺตสฺส สุวนฺตภาโว วุตฺโต โหติ. อนนฺตรทุกตฺตเยปิ เอเสว นโย. วิสีเนนฺตีติ วิกิรนฺติ วิมุจฺจนฺติ, น พนฺธนฺตีติ อตฺโถ. น อุสฺสีเนนฺตีติ น วิกิรนฺติ น วิมุจฺจนฺติ. ‘‘วิสิเนนฺตี’’ติ ‘‘น อุสฺสิเนนฺตี’’ติ รสฺสํ กตฺวา ปาโ สุนฺทโร. วิธูเปนฺตีติ นิพฺพาเปนฺติ. สํธูเปนฺตีติ น อุชฺชลนฺติ. โลกํ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฏฺนฺตีติ สพฺเพปิ โลกุตฺตรา ธมฺมา โลกํ สมฺมา อติกฺกมิตฺวา อภิภวิตฺวา จ ติฏฺนฺตีติ โลกุตฺตรา. สพฺเพหิปิ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ ปกาเรหิ โลกุตฺตรานํ โลกโต อุตฺตรภาโว อธิกภาโว จ วุตฺโต โหตีติ.

โลกุตฺตรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. พลกถา

พลกถาวณฺณนา

๔๔. อิทานิ โลกุตฺตรกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาวติยา สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย พลกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อาทิโต สุตฺตนฺตวเสน ปฺจ พลานิ ทสฺเสตฺวา ตทฺานิปิ พลานิ ทสฺเสตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ พลานีติอาทิมาห. สพฺพานิปิ ตํตํปฏิปกฺเขหิ อกมฺปิยฏฺเน พลานิ นาม โหนฺติ. หิริพลนฺติอาทีสุ ปาปโต หิรียนฺติ เอตายาติ หิรี, ลชฺชาเยตํ นามํ. ปาปโต โอตฺตปฺปนฺติ เอเตนาติ โอตฺตปฺปํ, ปาปโต อุพฺเพคสฺเสตํ นามํ. อชฺฌตฺตสมุฏฺานา หิรี, พหิทฺธาสมุฏฺานํ โอตฺตปฺปํ. อตฺตาธิปติ หิรี, โลกาธิปติ โอตฺตปฺปํ . ลชฺชาสภาวสณฺิตา หิรี, ภยสภาวสณฺิตํ โอตฺตปฺปํ. สปฺปติสฺสวลกฺขณา หิรี, วชฺชภีรุกภยทสฺสาวิลกฺขณํ โอตฺตปฺปํ. สา เอว หิรี อหิริเกน น กมฺปตีติ หิริพลํ. ตเทว โอตฺตปฺปํ อโนตฺตปฺเปน น กมฺปตีติ โอตฺตปฺปพลํ. อปฺปฏิสงฺขาเนน น กมฺปตีติ ปฏิสงฺขานพลํ. อุปปริกฺขณปฺาเยตํ นามํ. วีริยสีเสน สตฺต โพชฺฌงฺเค ภาเวนฺตสฺส อุปฺปนฺนพลํ ภาวนาพลํ. ตถาปวตฺตานํ จตุนฺนํ ขนฺธานเมตํ นามํ. ปริสุทฺธานิ สีลาทีนิ อนวชฺชพลํ. จตฺตาริ สงฺคหวตฺถูนิ สงฺคหพลํ. สงฺคเห พลนฺติปิ ปาโ. ทุกฺขมานํ อธิวาสนํ ขนฺติพลํ. ธมฺมกถาย ปเรสํ โตสนํ ปฺตฺติพลํ. อธิตสฺส อตฺถสฺส อธิคมาปนํ นิชฺฌตฺติพลํ. กุสเลสุ พหุภาโว อิสฺสริยพลํ. กุสเลสุ ยถารุจิ ปติฏฺานํ อธิฏฺานพลํ. หิริพลาทีนํ อตฺโถ มาติกาปเทสุ พฺยฺชนวเสน วิเสสโต ยุชฺชมานํ คเหตฺวา วุตฺโต. สมถพลํ วิปสฺสนาพลนฺติ พลปฺปตฺตา สมถวิปสฺสนา เอว.

มาติกานิทฺเทเส อสฺสทฺธิเย น กมฺปตีติ สทฺธาพลนฺติ มูลพลฏฺํ วตฺวา ตเมว อปเรหิ นวหิ ปริยาเยหิ วิเสเสตฺวา ทสฺเสสิ. โย หิ ธมฺโม อกมฺปิโย พลปฺปตฺโต โหติ, โส สหชาเต อุปตฺถมฺเภติ, อตฺตโน ปฏิปกฺเข กิเลเส ปริยาทิยติ, ปฏิเวธสฺส อาทิภูตํ สีลํ ทิฏฺิฺจ วิโสเธติ, จิตฺตํ อารมฺมเณ ปติฏฺาเปติ, จิตฺตํ ปภสฺสรํ กโรนฺโต โวทาเปติ, วสึ ปาเปนฺโต วิเสสํ อธิคมาเปติ, ตโต อุตฺตรึ ปาเปนฺโต อุตฺตริปฏิเวธํ กาเรติ, กเมน อริยมคฺคํ ปาเปตฺวา สจฺจาภิสมยํ กาเรติ, ผลปฺปตฺติยา นิโรเธ ปติฏฺาเปติ. ตสฺมา นวธา พลฏฺโ วิเสสิโต. เอส นโย วีริยพลาทีสุ จตูสุ.

กามจฺฉนฺทํ หิรียตีติ เนกฺขมฺมยุตฺโต โยคี เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺทโต หิรียติ. โอตฺตปฺเปปิ เอเสว นโย. เอเตหิ สพฺพากุสเลหิปิ หิรียนา โอตฺตปฺปนา วุตฺตาเยว โหนฺติ. พฺยาปาทนฺติอาทีนมฺปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปฏิสงฺขาตีติ อสมฺโมหวเสน อาทีนวโต อุปปริกฺขติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. วชฺชนฺติ ราคาทิวชฺชํ. สงฺคณฺหาตีติ พนฺธติ. ขมตีติ ตสฺส โยคิสฺส ขมติ รุจฺจติ. ปฺาเปตีติ โตเสติ. นิชฺฌาเปตีติ จินฺตาเปติ. วสํ วตฺเตตีติ จิตฺเต ปหุ หุตฺวา จิตฺตํ อตฺตโน วสํ กตฺวา ปวตฺเตติ. อธิฏฺาตีติ วิทหติ. ภาวนาพลาทีนิ สพฺพานิปิ เนกฺขมฺมาทีนิเยว. มาติกาวณฺณนาย อฺถา วุตฺโต, อตฺโถ ปน พฺยฺชนวเสเนว ปากฏตฺตา อิธ น วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ. สมถพลํ วิปสฺสนาพลฺจ วิตฺถารโต นิทฺทิสิตฺวา อวสาเน อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ อวิชฺชาสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปตีติอาทิ จ สมถพลวิปสฺสนาพลานํ ลกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ.

เสขาเสขพเลสุ สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ เสขปุคฺคโล สมฺมาทิฏฺึ สิกฺขตีติ เสโข, สา สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส เสขสฺส พลนฺติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตา อเสขพลนฺติ อเสขปุคฺคโล ตตฺถ สมฺมาทิฏฺิยา สิกฺขิตตฺตา น สิกฺขตีติ อเสโข, สาเยว สมฺมาทิฏฺิ ตสฺส อเสขสฺส พลนฺติ อเสขพลํ. เอเสว นโย สมฺมาสงฺกปฺปาทีสุ. สมฺมาาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ตมฺปิ หิ โลกิกมฺปิ โหนฺตํ เสขสฺส ปวตฺตตฺตา เสขพลํ, อเสขสฺส ปวตฺตตฺตา อเสขพลนฺติ วุตฺตํ. สมฺมาวิมุตฺตีติ อฏฺ มคฺคงฺคานิ เปตฺวา เสสา ผลสมฺปยุตฺตา ธมฺมา . เกจิ ปน ‘‘เปตฺวา โลกุตฺตรวิมุตฺตึ อวเสสา วิมุตฺติโย สมฺมาวิมุตฺตี’’ติ วทนฺติ. ตสฺส เสขาเสขพลตฺตํ วุตฺตนยเมว.

ขีณาสวพเลสุ สพฺพานิปิ าณพลานิ. ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโนติ กรณตฺเถ สามิวจนํ, ขีณาสเวน ภิกฺขุนาติ อตฺโถ. อนิจฺจโตติ หุตฺวา อภาวากาเรน อนิจฺจโต. ยถาภูตนฺติ ยถาสภาวโต. ปฺายาติ สหวิปสฺสนาย มคฺคปฺาย. อนิจฺจโต สุทิฏฺา ทุกฺขโต อนตฺตโต สุทิฏฺา โหนฺติ ตมฺมูลกตฺตา. นฺติ ภาวนปุํสกวจนํ, เยน การเณนาติ วา อตฺโถ. อาคมฺมาติ ปฏิจฺจ. ปฏิชานาตีติ สมฺปฏิจฺฉติ ปฏิฺํ กโรติ. องฺคารกาสูปมาติ มหาภิตาปฏฺเน องฺคารกาสุยา อุปมิตา. กามาติ วตฺถุกามา จ กิเลสกามา จ.

วิเวกนินฺนนฺติ ผลสมาปตฺติวเสน อุปธิวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ. ตโย หิ วิเวกา – กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก อุปธิวิเวโกติ. กายวิเวโก จ วิเวกฏฺกายานํ เนกฺขมฺมาภิรตานํ. จิตฺตวิเวโก จ อธิจิตฺตมนุยุตฺตานํ. อุปธิวิเวโก จ นิรุปธีนํ ปุคฺคลานํ วิสงฺขารคตานํ, นิสฺสรณวิเวกสงฺขาตนิพฺพานนินฺนํ วา. ปฺจ หิ วิเวกา – วิกฺขมฺภนวิเวโก ตทงฺควิเวโก สมุจฺเฉทวิเวโก ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวโก นิสฺสรณวิเวโกติ. วิเวกนินฺนนฺติ วิเวเก นินฺนํ. วิเวกโปณนฺติ วิเวเก นตํ. วิเวกปพฺภารนฺติ วิเวกสีสภารํ. ทฺเวปิ ปุริมสฺเสว เววจนานิ. วิเวกฏฺนฺติ กิเลเสหิ วชฺชิตํ, ทูรีภูตํ วา. เนกฺขมฺมาภิรตนฺติ นิพฺพาเน อภิรตํ, ปพฺพชฺชาย อภิรตํ วา. พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนฺตีภูตํ, เอกเทเสนาปิ อนลฺลีนํ วิปฺปมุตฺตํ วิสํสฏฺํ. สพฺพโสติ สพฺพถา. อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหีติ สํโยควเสน อาสวานํ การณภูเตหิ กิเลสธมฺเมหีติ อตฺโถ. อถ วา พฺยนฺตีภูตนฺติ วิคตนิกนฺติภูตํ, นิตฺตณฺหนฺติ อตฺโถ. กุโต? สพฺพโส อาสวฏฺานิเยหิ ธมฺเมหิ สพฺเพหิ เตภูมกธมฺเมหีติ อตฺโถ. อิธ ทสหิ ขีณาสวพเลหิ ขีณาสวสฺส โลกิยโลกุตฺตโร มคฺโค กถิโต. ‘‘อนิจฺจโต สพฺเพ สงฺขารา’’ติ ทุกฺขปริฺาพลํ, ‘‘องฺคารกาสูปมา กามา’’ติ สมุทยปหานพลํ, ‘‘วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหตี’’ติ นิโรธสจฺฉิกิริยาพลํ, ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติอาทิ สตฺตวิธํ มคฺคภาวนาพลนฺติปิ วทนฺติ. ทส อิทฺธิพลานิ อิทฺธิกถาย อาวิ ภวิสฺสนฺติ.

ตถาคตพลนิทฺเทเส ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ. ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปุฺุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตพลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตพลํ – กายพลํ าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –

‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;

คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒);

อิมานิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาฬาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาฬาวกสฺส หตฺถิโน พลํ. ยํ ทสนฺนํ กาฬาวกานํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส พลํ. ยํ ทสนฺนํ คงฺเคยฺยานํ, ตํ เอกสฺส ปณฺฑรสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปณฺฑรานํ , ตํ เอกสฺส ตมฺพสฺส. ยํ ทสนฺนํ ตมฺพานํ, ตํ เอกสฺส ปิงฺคลสฺส. ยํ ทสนฺนํ ปิงฺคลานํ, ตํ เอกสฺส คนฺธหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส มงฺคลหตฺถิโน. ยํ ทสนฺนํ มงฺคลหตฺถีนํ, ตํ เอกสฺส เหมวตสฺส. ยํ ทสนฺนํ เหมวตานํ, ตํ เอกสฺส อุโปสถสฺส. ยํ ทสนฺนํ อุโปสถานํ, ตํ เอกสฺส ฉทฺทนฺตสฺส. ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ, ตํ เอกสฺส ตถาคตสฺส พลํ. นารายนสงฺฆาตพลนฺติปิ อิทเมว วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถิโน คณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสสฺส, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ.

าณพลํ ปน อิธ ตาว อฺตฺถ จ ปาฬิยํ อาคตเมว ทสพลาณํ, มชฺฌิเม (ม. นิ. ๑.๑๕๐) อาคตํ จตุเวสารชฺชาณํ, อฏฺสุ ปริสาสุ อกมฺปนาณํ, จตุโยนิปริจฺเฉทกาณํ, ปฺจคติปริจฺเฉทกาณํ, สํยุตฺตเก (สํ. นิ. ๒.๓๓-๓๔) อาคตานิ เตสตฺตติ าณานิ, สตฺตสตฺตติ าณานีติ เอวมฺานิปิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ. เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.

านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. ตํ ภควา เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านนฺติ, เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ น เหตู น ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ อฏฺานนฺติ ปชานนฺโต านฺจ านโต อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาติ. ยมฺปีติ เยน าเณน. อิทมฺปีติ อิทมฺปิ านาฏฺานาณํ, ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ เสสปเทสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.

อาสภํานนฺติ เสฏฺฏฺานํ อุตฺตมฏฺานํ, อาสภา วา ปุพฺพพุทฺธา, เตสํ านนฺติ อตฺโถ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, สพฺพควเสฏฺโ สพฺพปริสฺสยสโห เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อสนฺตสนีโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อวฏฺานํ. อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ ทสหิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต จตูหิ เวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ ปจฺจตฺถิเกน ปจฺจามิตฺเตน อกมฺปิโย อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ติฏฺมาโน จ ตํ อาสภํ านํ ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ, อตฺตนิ อาโรเปติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘).

ปริสาสูติ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมานํ วเสน อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อฉมฺภิตนาทํ นทติ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน (ม. นิ. ๑.๑๔๖ อาทโย; ที. นิ. ๑.๓๘๑ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต หนนโต จ สีโหติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโต โลกธมฺมานํ สหนโต ปรปฺปวาทานํ หนนโต สีโหติ วุจฺจติ. เอวํ วุตฺตสฺส สีหสฺส นาทํ สีหนาทํ. ตตฺถ ยถา สีโห สีหพเลน สมนฺนาคโต สพฺพตฺถ วิสารโท วิคตโลมหํโส สีหนาทํ นทติ, เอวํ ตถาคตสีโหปิ ตถาคตพเลหิ สมนฺนาคโต อฏฺสุ ปริสาสุ วิสารโท วิคตโลมหํโส ‘‘อิติ รูป’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๗๘) นเยน นานาวิธเทสนาวิลาสสมฺปนฺนํ สีหนาทํ นทติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปริสาสุ สีหนาทํ นทตี’’ติ.

พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตีติ เอตฺถ พฺรหฺมนฺติ เสฏฺํ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺกสทฺโท ปนายํ –

สมฺปตฺติยํ ลกฺขเณ จ, รถงฺเค อิริยาปเถ;

ทาเน รตนธมฺมูร, จกฺกาทีสุ จ ทิสฺสติ;

ธมฺมจกฺเก อิธ มโต, ตมฺปิ ทฺเวธา วิภาวเย.

‘‘จตฺตาริมานิ , ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) หิ อยํ สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘เหฏฺา ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานิ โหนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๕) เอตฺถ ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘ททํ ภุฺช มา จ ปมาโท , จกฺกํ วตฺตย โกสลาธิปา’’ติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๔๓) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิวิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. อิธ ปนายํ ธมฺมจกฺเก มโต.

ตํ ปเนตํ ธมฺมจกฺกํ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ เทสนาาณํ. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ อุปฺปชฺชมานํ อุปฺปนฺนนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ อภินิกฺขมนโต ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ตุสิตภวนโต วา ยาว โพธิปลฺลงฺเก อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. ทีปงฺกรทสพลโต วา ปฏฺาย ยาว อรหตฺตมคฺคา อุปฺปชฺชมานํ นาม, ผลกฺขเณ อุปฺปนฺนํ นาม. เทสนาาณมฺปิ ปวตฺตมานํ ปวตฺตนฺติ ทุวิธํ. ตฺหิ ยาว อฺาตโกณฺฑฺตฺเถรสฺส อรหตฺตมคฺคา ปวตฺตมานํ นาม, ผลกฺขเณ ปวตฺตํ นาม. ตตฺถ ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, เทสนาาณํ โลกิยํ. อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ, พุทฺธานํเยว โอรสาณํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติ.

กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลกมฺมานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุโต จ. ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส านํ. กมฺมํ เหตุ.

สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ เอกเมว ปาณํ ฆาเตนฺเตสุ อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินีติ อิมินา นเยน เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ กุสลากุสลเจตนาสงฺขาตานํ ปฏิปตฺตีนํ อวิปรีตโต สภาวํ ชานาติ.

อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ, กามธาตุอาทีหิ วา ธาตูหิ พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสํเยว ธาตูนํ วิลกฺขณตฺตา นานปฺปการธาตุํ . โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ อวิปรีตโต สภาวํ ปฏิวิชฺฌติ.

นานาธิมุตฺติกตนฺติ หีนปณีตาทิอธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ.

ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ เวเนยฺยวเสน ภควตา ทฺเวธา วุตฺตํ. อิธาปิ ภควตา วุตฺตนเยเนว วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ.

ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙) อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนฺจ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ เยน การเณน ฌานาทีหิ วุฏฺหนฺติ, ตํ การณํ. ตํ ปน ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺานํ, ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘) เอวํ วุตฺตํ ปคุณชฺฌานฺเจว ภวงฺคผลสมาปตฺติโย จ. เหฏฺิมํ เหฏฺิมฺหิ ปคุณชฺฌานํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส ปทฏฺานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ. ภวงฺเคน ปน สพฺพชฺฌาเนหิ วุฏฺานํ โหติ, นิโรธสมาปตฺติโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺานํ โหติ. ตํ สนฺธาย ‘‘ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ.

ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยาณานิ เหฏฺา ปกาสิตาเนว.

ตตฺถ อาสวานํ ขยาติ อรหตฺตมคฺเคน สพฺพกิเลสานํ ขยา. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตินฺติ เอตฺถ เจโตวจเนน อรหตฺตผลสมฺปยุตฺโต สมาธิ, ปฺาวจเนน ตํสมฺปยุตฺตา จ ปฺา วุตฺตา. ตตฺถ จ สมาธิ ราคโต วิมุตฺตตฺตา เจโตวิมุตฺติ, ปฺา อวิชฺชาย วิมุตฺตตฺตา ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โย หิสฺส, ภิกฺขเว, สมาธิ, ตทสฺส สมาธินฺทฺริยํ. ยา หิสฺส, ภิกฺขเว, ปฺา, ตทสฺส ปฺินฺทฺริยํ. อิติ โข, ภิกฺขเว, ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ อวิชฺชาวิราคา ปฺาวิมุตฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๖; ๕๒๐). อปิเจตฺถ สมถพลํ เจโตวิมุตฺติ, วิปสฺสนาพลํ ปฺาวิมุตฺตีติ เวทิตพฺพํ. ทิฏฺเว ธมฺเมติ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว. สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวาติ อธิกาย ปฺาย อตฺตนาเยว ปจฺจกฺขํ กตฺวา, อปรปฺปจฺจเยน ตฺวาติ อตฺโถ. อุปสมฺปชฺชาติ อธิคนฺตฺวา, นิปฺผาเทตฺวา วา. อิเมสํ ปน ทสนฺนํ ทสพลาณานํ วิตฺถาโร อภิธมฺเม (วิภ. ๘๐๙ อาทโย) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ ปรวาทิกถา โหติ – ทสพลาณํ นาม ปาฏิเยกฺกํ าณํ นตฺถิ, สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโทติ. น ตํ ตถา ทฏฺพฺพํ. อฺเมว หิ ทสพลาณํ, อฺํ สพฺพฺุตฺาณํ. ทสพลาณฺหิ สกสกกิจฺจเมว ชานาติ, สพฺพฺุตฺาณํ ตมฺปิ, ตโต อวเสสมฺปิ ชานาติ. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ ธาตุนานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว. สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ, ตโต อุตฺตริฺจ ปชานาติ. เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตฺหิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ น สกฺโกติ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ.

อปิจ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ทสพลาณํ นาเมตํ สวิตกฺกสวิจารํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกาวิจารํ กามาวจรํ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ โลกิยํ โลกุตฺตร’’นฺติ. ชานนฺโต ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ สวิตกฺกสวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘ตโต ปรานิ ทฺเว อวิตกฺกอวิจารานี’’ติ วกฺขติ. ‘‘อาสวกฺขยาณํ สิยา สวิตกฺกสวิจารํ, สิยา อวิตกฺกวิจารมตฺตํ, สิยา อวิตกฺกอวิจาร’’นฺติ วกฺขติ. ตถา ‘‘ปฏิปาฏิยา สตฺต กามาวจรานิ, ตโต ปรานิ ทฺเว รูปาวจรานิ, ตโต อวสาเน เอกํ โลกุตฺตร’’นฺติ วกฺขติ. ‘‘สพฺพฺุตฺาณํ ปน สวิตกฺกสวิจารเมว กามาวจรเมว โลกิยเมวา’’ติ วกฺขติ.

เอวเมตฺถ อปุพฺพตฺถานุวณฺณนํ ตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตถาคโต ปมํเยว านาฏฺานาเณน เวเนยฺยสตฺตานํ อาสวกฺขยาธิคมสฺส เจว อนธิคมสฺส จ านาฏฺานภูตํ กิเลสาวรณาภาวํ ปสฺสติ โลกิยสมฺมาทิฏฺิฏฺานทสฺสนโต นิยตมิจฺฉาทิฏฺิฏฺานาภาวทสฺสนโต จ. อถ เนสํ กมฺมวิปากาเณน วิปากาวรณาภาวํ ปสฺสติ ติเหตุกปฏิสนฺธิทสฺสนโต. สพฺพตฺถคามินิปฏิปทาาเณน กมฺมาวรณาภาวํ ปสฺสติ อานนฺตริกกมฺมาภาวทสฺสนโต. เอวํ อนาวรณานํ อเนกธาตุนานาธาตุาเณน อนุกูลธมฺมเทสนตฺถํ จริยาวิเสสํ ปสฺสติ ธาตุเวมตฺตทสฺสนโต. อถ เนสํ นานาธิมุตฺติกตาาเณน อธิมุตฺตึ ปสฺสติ ปโยคํ อนาทิยิตฺวาปิ อธิมุตฺติวเสน ธมฺมเทสนตฺถํ . อเถวํ ทิฏฺอธิมุตฺตีนํ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ธมฺมํ เทเสตุํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาเณน อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ปสฺสติ สทฺธาทีนํ ติกฺขมุทุภาวทสฺสนโต. เอวํ ปริฺาตินฺทฺริยปโรปริยตฺตาปิ ปเนเต สเจ ทูเร โหนฺติ, อถ ฌานาทิาเณน ฌานาทีสุ วสีภูตตฺตา อิทฺธิวิเสเสน ขิปฺปํ อุปคจฺฉติ. อุปคนฺตฺวา จ เนสํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน ปุพฺพชาติวิภาวนํ ทิพฺพจกฺขานุภาวโต ปตฺตพฺเพน เจโตปริยาเณน สมฺปติ จิตฺตวิเสสํ ปสฺสนฺโต อาสวกฺขยาณานุภาเวน อาสวกฺขยคามินิยา ปฏิปทาย วิคตสมฺโมหตฺตา อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสติ. ตสฺมา อิมินานุกฺกเมน อิมานิ ทส พลานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานีติ.

๔๕. อิทานิ สพฺพพลานิ ลกฺขณโต นิทฺทิสิตุกาโม เกนฏฺเน สทฺธาพลนฺติอาทินา นเยน ปุจฺฉํ กตฺวา อสฺสทฺธิเย อกมฺปิยฏฺเนาติอาทินา นเยน วิสฺสชฺชนํ อกาสิ. ตตฺถ หิรียตีติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา. ภาวนาพลาทีสุ อธิฏฺานพลปริยนฺเตสุ ‘‘ตตฺถา’’ติ จ, ‘‘เตนา’’ติ จ, ‘‘ต’’นฺติ จ เนกฺขมฺมาทิกเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน จิตฺตํ เอกคฺคนฺติ เตน สมาธินา จิตฺตํ เอกคฺคํ โหตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ชาเตติ ตตฺถ สมเถ สมฺปโยควเสน ชาเต, ตสฺมึ วา วิปสฺสนารมฺมณํ หุตฺวา ชาเต. ตตฺถ สิกฺขตีติ ตตฺถ เสขพเล เสโข สิกฺขตีติ เสขพลนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ สิกฺขิตตฺตาติ ตตฺถ อเสขพเล อเสขสฺส สิกฺขิตตฺตา อเสขพลํ. เตน อาสวา ขีณาติ เตน โลกิยโลกุตฺตเรน าเณน อาสวา ขีณาติ ตํ าณํ ขีณาสวพลํ . โลกิเยนาปิ หิ าเณน อาสวา ขีณา นาม วิปสฺสนาย อภาเว โลกุตฺตรมคฺคาภาวโต. เอวํ ขีณาสวสฺส พลนฺติ ขีณาสวพลํ. ตสฺส อิชฺฌตีติ อิทฺธิพลนฺติ ตสฺส อิทฺธิมโต อิชฺฌตีติ อิทฺธิเยว พลํ อิทฺธิพลํ. อปฺปเมยฺยฏฺเนาติ ยสฺมา สาวกา านาฏฺานาทีนิ เอกเทเสน ชานนฺติ, สพฺพากาเรน ปชานนํเยว สนฺธาย ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตีสุ วิชฺชาสุ ‘‘ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ น วุตฺตํ, อฺตฺถ ปน วุตฺตตฺตา ตาสุปิ วุตฺตเมว โหติ. อฺตฺถาติ เสเสสุ สตฺตสุ าณพเลสุ จ อภิธมฺเม (วิภ. ๗๖๐) จ ทสสุปิ พเลสุ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ปน สพฺพถาปิ สาวเกหิ อสาธารณเมว. ตสฺมา ทสปิ พลานิ สาวเกหิ อสาธารณานีติ. อธิมตฺตฏฺเน อตุลิยฏฺเน อปฺปเมยฺยานิ, ตสฺมาเยว จ ‘‘อปฺปเมยฺยฏฺเน ตถาคตพล’’นฺติ วุตฺตนฺติ.

พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สุฺกถา

สุฺกถาวณฺณนา

๔๖. อิทานิ โลกุตฺตรพลปริโยสานาย พลกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรสุฺตาปริโยสานาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย สุฺตากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. สุตฺตนฺเต ตาว อถาติ วจโนปาทาเน นิปาโต. เอเตน อายสฺมาติอาทิวจนสฺส อุปาทานํ กตํ โหติ. โขติ ปทปูรณตฺเถ นิปาโต. เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ภุมฺมตฺเถ กรณวจนํ. ตสฺมา ยตฺถ ภควา, ตตฺถ อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เยน วา การเณน ภควา เทวมนุสฺเสหิ อุปสงฺกมิตพฺโพ, เตเนว การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เกน จ การเณน ภควา อุปสงฺกมิตพฺโพ? นานปฺปการคุณวิเสสาธิคมาธิปฺปาเยน, สาทุผลูปโภคาธิปฺปาเยน ทิชคเณหิ นิจฺจผลิตมหารุกฺโข วิย, เตน การเณน อุปสงฺกมีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อุปสงฺกมีติ จ คโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปสงฺกมิตฺวาติ อุปสงฺกมนปริโยสานทีปนํ. อถ วา เอวฺจ คโต ตโต อาสนฺนตรํ านํ ภควโต สมีปสงฺขาตํ คนฺตฺวาติปิ วุตฺตํ โหติ.

อภิวาเทตฺวาติ ปฺจปติฏฺิเตน วนฺทิตฺวา. อิทานิ เยนฏฺเน โลเก อคฺคปุคฺคลสฺส อุปฏฺานํ อาคโต, ตํ ปุจฺฉิตุกาโม ทสนขสโมธานสมุชฺชลํ อฺชลึ สิรสิ ปติฏฺเปตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. เอกมนฺตนฺติ จ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ตสฺมา ยถา นิสินฺโน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหติ, ตถา นิสีทีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภุมฺมตฺเถ วา เอตํ อุปโยควจนํ. นิสีทีติ นิสชฺชํ กปฺเปสิ. ปณฺฑิตา หิ เทวมนุสฺสา ครุฏฺานียํ อุปสงฺกมิตฺวา อาสนกุสลตาย เอกมนฺตํ นิสีทนฺติ, อยฺจ เถโร เตสํ อฺตโร, ตสฺมา เอกมนฺตํ นิสีทิ.

กถํ นิสินฺโน ปน เอกมนฺตํ นิสินฺโน โหตีติ? ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา. เสยฺยถิทํ – อติทูรํ อจฺจาสนฺนํ อุปริวาตํ อุนฺนตปฺปเทสํ อติสมฺมุขํ อติปจฺฉาติ. อติทูเร นิสินฺโน หิ สเจ กเถตุกาโม โหติ, อุจฺจาสทฺเทน กเถตพฺพํ โหติ. อจฺจาสนฺเน นิสินฺโน สงฺฆฏฺฏนํ กโรติ. อุปริวาเต นิสินฺโน สรีรคนฺเธน พาธติ. อุนฺนตปฺปเทเส นิสินฺโน อคารวํ ปกาเสติ. อติสมฺมุขา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ทฏฺพฺพํ โหติ. อติปจฺฉา นิสินฺโน สเจ ทฏฺุกาโม โหติ, คีวํ ปสาเรตฺวา ทฏฺพฺพํ โหติ. ตสฺมา อยมฺปิ เอเต ฉ นิสชฺชโทเส วชฺเชตฺวา นิสีทิ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติ. เอตทโวจาติ เอตํ อโวจ.

สุฺโ โลโก สุฺโ โลโกติ, ภนฺเต, วุจฺจตีติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺเนหิ เตหิ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘สุฺโ โลโก สุฺโ โลโก’’ติ กถียตีติ อตฺโถ. ตหึ ตหึ ตาทิสานํ วจนานํ พหุกตฺตา เตสํ สพฺเพสํ สงฺคณฺหนตฺถํ อาเมฑิตวจนํ กตํ. เอวฺหิ วุตฺเต สพฺพานิ ตานิ วจนานิ สงฺคหิตานิ โหนฺติ. กิตฺตาวตาติ กิตฺตเกน ปริมาเณน. นุ-อิติ สํสยตฺเถ นิปาโต. สุฺํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วาติ ‘‘การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํ โลกปริกปฺปิเตน อตฺตนา จ อตฺตาภาวโตเยว อตฺตโน สนฺตเกน ปริกฺขาเรน จ สุฺํ. สพฺพํ จกฺขาทิ โลกิยํ ธมฺมชาตํ, ตํเยว ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก นาม. ยสฺมา จ อตฺตา จ เอตฺถ นตฺถิ, อตฺตนิยฺจ เอตฺถ นตฺถิ, ตสฺมา สุฺโ โลโกติ วุจฺจตีติ อตฺโถ. โลกุตฺตโรปิ จ ธมฺโม อตฺตตฺตนิเยหิ สุฺโ เอว, ปุจฺฉานุรูเปน ปน โลกิโยว ธมฺโม วุตฺโต. สุฺโติ จ ธมฺโม นตฺถีติ วุตฺตํ น โหติ, ตสฺมึ ธมฺเม อตฺตตฺตนิยสารสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. โลเก จ ‘‘สุฺํ ฆรํ, สุฺโ ฆโฏ’’ติ วุตฺเต ฆรสฺส ฆฏสฺส จ นตฺถิภาโว วุตฺโต น โหติ, ตสฺมึ ฆเร ฆเฏ จ อฺสฺส นตฺถิภาโว วุตฺโต โหติ. ภควตา จ ‘‘อิติ ยฺหิ โข ตตฺถ น โหติ, เตน ตํ สุฺํ สมนุปสฺสติ. ยํ ปน ตตฺถ อวสิฏฺํ โหติ, ตํ สนฺตํ อิทมตฺถีติ ปชานาตี’’ติ อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. ตถา ายคนฺเถ จ สทฺทคนฺเถ จ อยเมว อตฺโถ. อิติ อิมสฺมึ สุตฺตนฺเต อนตฺตลกฺขณเมว กถิตํ.

๔๗. สุตฺตนฺตนิทฺเทเส สุฺสุฺนฺติอาทีนิ ปฺจวีสติ มาติกาปทานิ สุฺสมฺพนฺเธน อุทฺทิสิตฺวา เตสํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ มาติกาย ตาว สุฺสงฺขาตํ สุฺํ, น อฺเน อุปปเทน วิเสสิตนฺติ สุฺสุฺํ. อสุกนฺติ อนิทฺทิฏฺตฺตา เจตฺถ สุฺตฺตเมว วา อเปกฺขิตฺวา นปุํสกวจนํ กตํ. เอวํ เสเสสุปิ. สงฺขาโรเยว เสสสงฺขาเรหิ สุฺโติ สงฺขารสุฺํ. ชราภงฺควเสน วิรูโป ปริณาโม วิปริณาโม, เตน วิปริณาเมน สุฺํ วิปริณามสุฺํ. อคฺคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิเยหิ, สพฺพสงฺขาเรหิ วา สุฺฺจาติ อคฺคสุฺํ. ลกฺขณเมว เสสลกฺขเณหิ สุฺนฺติ ลกฺขณสุฺํ. เนกฺขมฺมาทินา วิกฺขมฺภเนน สุฺํ. วิกฺขมฺภนสุฺํ. ตทงฺคสุฺาทีสุปิ จตูสุ เอเสว นโย. อชฺฌตฺตฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ อชฺฌตฺตสุฺํ. พหิทฺธา จ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ พหิทฺธาสุฺํ. ตทุภยํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺนฺติ ทุภโตสุฺํ. สมาโน ภาโค เอตสฺสาติ สภาคํ, สภาคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ สภาคสุฺํ, สทิสสุฺนฺติ อตฺโถ. วิคตํ สภาคํ วิสภาคํ, วิสภาคฺจ ตํ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺฺจาติ วิสภาคสุฺํ, วิสทิสสุฺนฺติ อตฺโถ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ สภาคสุฺํ วิสภาคสุฺํ นิสฺสรณสุฺานนฺตรํ ลิขิตํ. เนกฺขมฺมาทิเอสนา กามจฺฉนฺทาทินา สุฺาติ เอสนาสุฺํ. ปริคฺคหสุฺาทีสุ ตีสุปิ เอเสว นโย. เอการมฺมเณ ปติฏฺิตตฺตา นานารมฺมณวิกฺเขปาภาวโต เอกตฺตฺจ ตํ นานตฺเตน สุฺฺจาติ เอกตฺตสุฺํ. ตพฺพิปรีเตน นานตฺตฺจ ตํ เอกตฺเตน สุฺฺจาติ นานตฺตสุฺํ. เนกฺขมฺมาทิขนฺติ กามจฺฉนฺทาทินา สุฺาติ ขนฺติสุฺํ. อธิฏฺานสุฺเ ปริโยคาหนสุฺเ จ เอเสว นโย. ปริโยคหนสุฺนฺติปิ ปาโ. สมฺปชานสฺสาติ สมฺปชฺเน สมนฺนาคตสฺส ปรินิพฺพายนฺตสฺส อรหโต. ปวตฺตปริยาทานนฺติ อนุปาทาปรินิพฺพานํ. สพฺพสุฺตานนฺติ สพฺพสุฺานํ. ปรมตฺถสุฺนฺติ สพฺพสงฺขาราภาวโต อุตฺตมตฺถภูตํ สุฺํ.

๔๘. มาติกานิทฺเทเส นิจฺเจน วาติ ภงฺคํ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมานสฺส กสฺสจิ นิจฺจสฺส อภาวโต นิจฺเจน จ สุฺํ. ธุเวน วาติ วิชฺชมานกาเลปิ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย ถิรสฺส กสฺสจิ อภาวโต ธุเวน จ สุฺํ. สสฺสเตน วาติ อพฺโพจฺฉินฺนสฺส สพฺพกาเล วิชฺชมานสฺส กสฺสจิ อภาวโต สสฺสเตน จ สุฺํ. อวิปริณามธมฺเมน วาติ ชราภงฺควเสน อวิปริณามปกติกสฺส กสฺสจิ อภาวโต อวิปริณามธมฺเมน จ สุฺํ. สุตฺตนฺเต อตฺตสุฺตาย เอว วุตฺตายปิ นิจฺจสุฺตฺจ สุขสุฺตฺจ ทสฺเสตุํ อิธ นิจฺเจน วาติอาทีนิปิ วุตฺตานิ. อนิจฺจสฺเสว หิ ปีฬาโยเคน ทุกฺขตฺตา นิจฺจสุฺตาย วุตฺตาย สุขสุฺตาปิ วุตฺตาว โหติ. รูปาทโย ปเนตฺถ ฉ วิสยา, จกฺขุวิฺาณาทีนิ ฉ วิฺาณานิ, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนาทโย ฉ เวทนา ฉ สงฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

ปุฺาภิสงฺขาโรติอาทีสุ ปุนาติ อตฺตโน การกํ, ปูเรติ จสฺส อชฺฌาสยํ, ปุชฺชฺจ ภวํ นิพฺพตฺเตตีติ ปุฺํ, อภิสงฺขโรติ วิปากํ กฏตฺตารูปฺจาติ อภิสงฺขาโร, ปุฺํ อภิสงฺขาโร ปุฺาภิสงฺขาโร. ปุฺปฏิปกฺขโต อปุฺํ อภิสงฺขาโร อปุฺาภิสงฺขาโร. น อิฺชํ อเนฺชํ, อเนฺชํ ภวํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ปุฺาภิสงฺขาโร ทานสีลภาวนาวเสน ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนาติ เตรส เจตนา โหนฺติ, อปุฺาภิสงฺขาโร ปาณาติปาตาทิวเสน ปวตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อาเนฺชาภิสงฺขาโร ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา จตสฺโส อรูปาวจรเจตนาติ ตโยปิ สงฺขารา เอกูนตึส เจตนา โหนฺติ. กายสงฺขาโรติอาทีสุ กายโต วา ปวตฺโต, กายสฺส วา สงฺขาโรติ กายสงฺขาโร. วจีสงฺขารจิตฺตสงฺขาเรสุปิ เอเสว นโย. อยํ ติโก กมฺมายูหนกฺขเณ ปุฺาภิสงฺขาราทีนํ ทฺวารโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ วุตฺโต. กายวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา หิ กายทฺวารโต ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ทฺวาทส อกุสลเจตนา, อภิฺาเจตนา จาติ เอกวีสติ เจตนา กายสงฺขาโร นาม, ตา เอว จ วจีวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปตฺวา วจีทฺวารโต ปวตฺตา วจีสงฺขาโร นาม, มโนทฺวาเร ปวตฺตา ปน สพฺพาปิ เอกูนตึส เจตนา จิตฺตสงฺขาโร นาม. อตีตา สงฺขาราติอาทีสุ สพฺเพปิ สงฺขตธมฺมา สกกฺขณํ ปตฺวา นิรุทฺธา อตีตา สงฺขารา, สกกฺขณํ อปฺปตฺตา อนาคตา สงฺขารา, สกกฺขณํ ปตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนา สงฺขาราติ.

วิปริณามสุฺเ ปจฺจุปฺปนฺนํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส ตสฺส วิปริณาโม สุเขน วตฺตุํ สกฺกาติ ปมํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมา ทสฺสิตา. ตตฺถ ชาตํ รูปนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ รูปํ. สภาเวน สุฺนฺติ เอตฺถ สยํ ภาโว สภาโว, สยเมว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. สโต วา ภาโว สภาโว, อตฺตโตเยว อุปฺปาโทติ อตฺโถ. ปจฺจยายตฺตวุตฺติตฺตา ปจฺจยํ วินา สยเมว ภาโว, อตฺตโต เอว วา ภาโว เอตสฺมึ นตฺถีติ สภาเวน สุฺํ, สยเมว ภาเวน, อตฺตโต เอว วา ภาเวน สุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สกสฺส ภาโว สภาโว. ปถวีธาตุอาทีสุ หิ อเนเกสุ รูปารูปธมฺเมสุ เอเกโก ธมฺโม ปรํ อุปาทาย สโก นาม. ภาโวติ จ ธมฺมปริยายวจนเมตํ. เอกสฺส จ ธมฺมสฺส อฺโ ภาวสงฺขาโต ธมฺโม นตฺถิ, ตสฺมา สกสฺส อฺเน ภาเวน สุฺํ, สโก อฺเน ภาเวน สุฺโติ อตฺโถ. เตน เอกสฺส ธมฺมสฺส เอกสภาวตา วุตฺตา โหติ. อถ วา สภาเวน สุฺนฺติ สุฺสภาเวเนว สุฺํ. กึ วุตฺตํ โหติ? สุฺสุฺตาย เอว สุฺํ, น อฺาหิ ปริยายสุฺตาหิ สุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ.

สเจ ปน เกจิ วเทยฺยุํ ‘‘สโก ภาโว สภาโว, เตน สภาเวน สุฺ’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภาโวติ ธมฺโม, โส ปรํ อุปาทาย สปเทน วิเสสิโต สภาโว นาม โหติ. ธมฺมสฺส กสฺสจิ อวิชฺชมานตฺตา ‘‘ชาตํ รูปํ สภาเวน สุฺ’’นฺติ รูปสฺส อวิชฺชมานตา วุตฺตา โหตีติ. เอวํ สติ ‘‘ชาตํ รูป’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. น หิ อุปฺปาทรหิตํ ชาตํ นาม โหติ. นิพฺพานฺหิ อุปฺปาทรหิตํ, ตํ ชาตํ นาม น โหติ, ชาติชรามรณานิ จ อุปฺปาทรหิตานิ ชาตานิ นาม น โหนฺติ. เตเนเวตฺถ ‘‘ชาตา ชาติ สภาเวน สุฺา , ชาตํ ชรามรณํ สภาเวน สุฺ’’นฺติ เอวํ อนุทฺธริตฺวา ภวเมว อวสานํ กตฺวา นิทฺทิฏฺํ. ยทิ อุปฺปาทรหิตสฺสาปิ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ ยุชฺเชยฺย, ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย. ยสฺมา อุปฺปาทรหิเตสุ ชาติชรามรเณสุ ‘‘ชาต’’นฺติวจนํ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘สภาเวน สุฺํ อวิชฺชมาน’’นฺติ วจนํ อวิชฺชมานสฺส อุปฺปาทรหิตตฺตา ‘‘ชาต’’นฺติวจเนน วิรุชฺฌติ. อวิชฺชมานสฺส จ ‘‘สุฺ’’นฺติวจนํ เหฏฺา วุตฺเตน โลกวจเนน จ ภควโต วจเนน จ ายสทฺทคนฺถวจเนน จ วิรุชฺฌติ, อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ วิรุชฺฌติ, ตสฺมา ตํ วจนํ กจวรมิว ฉฑฺฑิตพฺพํ. ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามิ. ยํ, ภิกฺขเว, นตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ นตฺถีติ วทามิ. กิฺจ, ภิกฺขเว, อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, ยมหํ อตฺถีติ วทามิ? รูปํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ อตฺถิสมฺมตํ โลเก ปณฺฑิตานํ, อหมฺปิ ตํ อตฺถีติ วทามี’’ติอาทีหิ (สํ. นิ. ๓.๙๔) อเนเกหิ พุทฺธวจนปฺปมาเณหิ อเนกาหิ จ ยุตฺตีหิ ธมฺมา สกกฺขเณ วิชฺชมานา เอวาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

วิคตํ รูปนฺติ อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคํ ปตฺวา นิรุทฺธํ อตีตํ รูปํ. วิปริณตฺเจว สุฺฺจาติ ชราภงฺควเสน วิรูปํ ปริณามํ ปตฺตฺจ วตฺตมานสฺเสว วิปริณามสพฺภาวโต อตีตสฺส วิปริณามาภาวโต เตน วิปริณาเมน สุฺฺจาติ อตฺโถ. ชาตา เวทนาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ชาติชรามรณํ ปน อนิปฺผนฺนตฺตา สกภาเวน อนุปลพฺภนียโต อิธ น ยุชฺชติ, ตสฺมา ‘‘ชาตา ชาติ, ชาตํ ชรามรณ’’นฺติอาทิเก ทฺเว นเย ปหาย ภวาทิกเมว นยํ ปริโยสานํ กตฺวา ปิตํ.

อคฺคนฺติ อคฺเค ภวํ. เสฏฺนฺติ อติวิย ปสํสนียํ. วิสิฏฺนฺติ อติสยภูตํ. วิเสฏฺนฺติปิ ปาโ. ติธาปิ ปสตฺถํ นิพฺพานํ สมฺมาปฏิปทาย ปฏิปชฺชิตพฺพโต ปทํ นาม. ยทิทนฺติ ยํ อิทํ. อิทานิ วตฺตพฺพํ นิพฺพานํ นิทสฺเสติ. ยสฺมา นิพฺพานํ อาคมฺม สพฺพสงฺขารานํ สมโถ โหติ, ขนฺธูปธิกิเลสูปธิอภิสงฺขารูปธิกามคุณูปธิสงฺขาตานํ อุปธีนํ ปฏินิสฺสคฺโค โหติ, ตณฺหานํ ขโย วิราโค นิโรโธ จ โหติ, ตสฺมา สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโคตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. นิพฺพานนฺติ สภาวลกฺขเณน นิคมิตํ.

ลกฺขเณสุ หิ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, พาโล ทุจฺจินฺติตจินฺตี จ โหติ ทุพฺภาสิตภาสี จ ทุกฺกฏกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ พาลสฺส พาลลกฺขณานิ พาลนิมิตฺตานิ พาลาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๔๖) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ พาลสฺส พาโลติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ พาลลกฺขณํ. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานิ. กตมานิ ตีณิ? อิธ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต สุจินฺติตจินฺตี จ โหติ สุภาสิตภาสี จ สุกตกมฺมการี จ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิตลกฺขณานิ ปณฺฑิตนิมิตฺตานิ ปณฺฑิตาปทานานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๓; ม. นิ. ๓.๒๕๓) วุตฺตํ. ปณฺฑิเตหิ ปณฺฑิตสฺส ปณฺฑิโตติ สลฺลกฺขณโต ติวิธํ ปณฺฑิตลกฺขณํ.

‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานิ. กตมานิ ตีณิ? อุปฺปาโท ปฺายติ, วโย ปฺายติ, ิตสฺส อฺถตฺตํ ปฺายติ. อิมานิ โข, ภิกฺขเว, ตีณิ สงฺขตสฺส สงฺขตลกฺขณานี’’ติ (อ. นิ. ๓.๔๗-๔๘) วุตฺตํ. อุปฺปาโท เอว สงฺขตมิติ ลกฺขณนฺติ สงฺขตลกฺขณํ. เอวมิตรทฺวเยปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิมินา อุปฺปาทกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ิติกฺขเณ เสสทฺวินฺนํ, ภงฺคกฺขเณ จ เสสทฺวินฺนํ อภาโว ทสฺสิโต. ยํ ปเนตฺถ เปยฺยาลมุเขน ชาติยา จ ชรามรณสฺส จ อุปฺปาทาทิลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ วิปริณามสุฺตาย ชาติชรามรณานิ หิตฺวา ภวปริโยสานสฺเสว นยสฺส วจเนน จ อุปฺปาทาทีนํ อุปฺปาทาทิอวจนสมเยน จ วิรุชฺฌติ. ลกฺขณโสเต ปติตตฺตา ปน โสตปติตํ กตฺวา ลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา จ อภิธมฺเม (ธ. ส. ๕๖๒-๕๖๕) อเหตุกวิปากมโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ สงฺคหวาเร ลพฺภมานมฺปิ ฌานงฺคํ ปฺจวิฺาณโสเต ปติตฺวา คตนฺติ น อุทฺธฏนฺติ วุตฺตํ, เอวมิธาปิ โสตปติตตา เวทิตพฺพา. อถ วา ชาติชรามรณวนฺตานํ สงฺขารานํ อุปฺปาทาทโย ‘‘ชาติชรามรณํ อนิจฺจโต’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; ๒.๔) วิย เตสํ วิย กตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เนกฺขมฺเมนกามจฺฉนฺโท วิกฺขมฺภิโต เจว สุฺโ จาติ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺเมน วิกฺขมฺภิโต เจว เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เตเนว วิกฺขมฺภนสงฺขาเตน เนกฺขมฺเมน สุฺโ จ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตทงฺคปฺปหานสมุจฺเฉทปฺปหาเนสุปิ เจตฺถ ตทงฺควเสน จ สมุจฺเฉทวเสน จ ปหีนํ ทูรีกตเมว โหตีติ อิมินา ทูรีกรณฏฺเน วิกฺขมฺภนํ วุตฺตํ.

เนกฺขมฺเมนกามจฺฉนฺโท ตทงฺคสุฺโติ เนกฺขมฺเมน ปหีโน กามจฺฉนฺโท เตน เนกฺขมฺมสงฺขาเตน องฺเคน สุฺโ. อถ วา โย โกจิ กามจฺฉนฺโท เนกฺขมฺมสฺส ตตฺถ อภาวโต เนกฺขมฺเมน เตน องฺเคน สุฺโ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา กาตพฺพา. ตสฺส ตสฺส องฺคสฺส ตตฺถ ตตฺถ อภาวมตฺเตเนว เจตฺถ อุปจารปฺปนาฌานวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ ตทงฺคสุฺตา นิทฺทิฏฺา. ปหานทีปกสฺส วจนสฺส อภาเวน ปน วิวฏฺฏนานุปสฺสนํเยว ปริโยสานํ กตฺวา วิปสฺสนา นิทฺทิฏฺา, จตฺตาโร มคฺคา น นิทฺทิฏฺา. เนกฺขมฺเมน กามจฺฉนฺโท สมุจฺฉินฺโน เจว สุฺโ จาติอาทีสุ วิกฺขมฺภเน วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนวเสน ปหีนานิปิ เจตฺถ สมุทาจาราภาวโต สมุจฺฉินฺนานิ นาม โหนฺตีติ อิมินา ปริยาเยน สมุจฺเฉโท วุตฺโต, ตํตํสมุจฺเฉทกิจฺจสาธนวเสน วา มคฺคสมฺปยุตฺตเนกฺขมฺมาทิวเสน วุตฺตนฺติปิ เวทิตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสุฺเสุ จ อิธ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปหาเนสุ ปเนตฺถ ปฏิปฺปสฺสทฺธิมตฺตตฺตํ นิสฺสฏมตฺตตฺตฺจ คเหตฺวา วุตฺตํ. ปฺจสุปิ เอเตสุ สุฺเสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณนาเมน วุตฺตานิ. อชฺฌตฺตนฺติ อชฺฌตฺตภูตํ. พหิทฺธาติ พหิทฺธาภูตํ. ทุภโตสุฺนฺติ อุภยสุฺํ. ปจฺจตฺตาทีสุปิ หิ โต-อิติวจนํ โหติเยว.

ฉ อชฺฌตฺติกายตนาทีนิ ฉอชฺฌตฺติกายตนาทีนํ ภาเวน สภาคานิ. ปเรหิ วิสภาคานิ. วิฺาณกายาติอาทีสุ เจตฺถ กายวจเนน วิฺาณาทีนิเยว วุตฺตานิ. เนกฺขมฺเมสนาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ตทตฺถิเกหิ วิฺูหิ เอสียนฺตีติ เอสนา. อถ วา ปุพฺพภาเค เนกฺขมฺมาทีนํ เอสนาปิ กามจฺฉนฺทาทีหิ สุฺา, กึ ปน เนกฺขมฺมาทีนีติปิ วุตฺตํ โหติ? ปริคฺคหาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ปุพฺพภาเค เอสิตานิ อปรภาเค ปริคฺคยฺหนฺตีติ ปริคฺคโหติ, ปริคฺคหิตานิ ปตฺติวเสน ปฏิลพฺภนฺตีติ ปฏิลาโภติ, ปฏิลทฺธานิ าณวเสน ปฏิวิชฺฌียนฺตีติ ปฏิเวโธติ จ วุตฺตานิ. เอกตฺตสุฺฺจ นานตฺตสุฺฺจ สกึเยว ปุจฺฉิตฺวา เอกตฺตสุฺํ วิสฺสชฺเชตฺวา นานตฺตสุฺํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว สกึ นิคมนํ กตํ. กสฺมา น วิสฺสชฺชิตนฺติ เจ? วุตฺตปริยาเยเนเวตฺถ โยชนา ายตีติ น วิสฺสชฺชิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – เนกฺขมฺมํ เอกตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, กามจฺฉนฺโท นานตฺตํ, เนกฺขมฺเมกตฺเตน สุฺนฺติ. เอวํ เสเสสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา.

ขนฺติอาทีสุ เนกฺขมฺมาทีนิเยว ขมนโต รุจฺจนโต ขนฺตีติ, โรจิตานิเยว ปวิสิตฺวา ติฏฺนโต อธิฏฺานนฺติ, ปวิสิตฺวา ิตานํ ยถารุจิเมว เสวนโต ปริโยคาหนนฺติ จ วุตฺตานิ. อิธสมฺปชาโนติอาทิโก ปรมตฺถสุฺนิทฺเทโส ปรินิพฺพานาณนิทฺเทเส วณฺณิโตเยว.

อิเมสุ จ สพฺเพสุ สุฺเสุ สงฺขารสุฺํ วิปริณามสุฺํ ลกฺขณสุฺฺจ ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ อฺมฺอสมฺมิสฺสตาทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน อกุสลปกฺขิกานํ กุสลปกฺขิเกน สุฺตา วุตฺตา, เตน อกุสเล อาทีนวทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ ปน กุสลปกฺขิกานํ อกุสลปกฺขิเกน สุฺตา วุตฺตา, เตน กุสเล อานิสํสทสฺสนตฺถํ. ยตฺถ อตฺตตฺตนิยาทีหิ สุฺตา วุตฺตา, ตํ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพิทาชนนตฺถํ. อคฺคสุฺํ ปรมตฺถสุฺฺจ นิพฺพาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

เตสุ อคฺคสุฺฺจ ปรมตฺถสุฺฺจาติ ทฺเว สุฺานิ อตฺถโต เอกเมว นิพฺพานํ อคฺคปรมตฺถวเสน สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวเสน จ ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตํ. ตานิ ทฺเว อตฺตตฺตนิยสุฺโต สงฺขารสุฺโต จ สภาคานิ. ‘‘สุฺสุฺํ อชฺฌตฺตสุฺํ พหิทฺธาสุฺํ ทุภโตสุฺํ สภาคสุฺํ วิสภาคสุฺ’’นฺติ อิมานิ ฉ สุฺานิ สุฺสุฺเมว โหติ. อชฺฌตฺตาทิเภทโต ปน ฉธา วุตฺตานิ. ตานิ ฉ จ อตฺตตฺตนิยาทิสุฺโต สภาคานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสุฺานิ, วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณสุฺานิ, เอสนาปริคฺคหปฏิลาภปฏิเวธสุฺานิ, เอกตฺตนานตฺตสุฺานิ, ขนฺติอธิฏฺานปริโยคาหนสุฺานิ จาติ สตฺตรส สุฺานิ อตฺตนิ อวิชฺชมาเนหิ เตหิ เตหิ ธมฺเมหิ สุฺตฺตา อวิชฺชมานานํ วเสน วิสุํ วิสุํ วุตฺตานิ. สงฺขารวิปริณามลกฺขณสุฺานิ ปน อิตเรน อิตเรน อสมฺมิสฺสวเสน สภาคานิ, วิกฺขมฺภนาทีนิ ปฺจ กุสลปกฺเขน สุฺตฺตา สภาคานิ, เอสนาทีนิ จตฺตาริ, ขนฺติอาทีนิ จ ตีณิ อกุสลปกฺเขน สุฺตฺตา สภาคานิ, เอกตฺตนานตฺตสุฺานิ อฺมฺปฏิปกฺขวเสน สภาคานิ.

สพฺเพ ธมฺมา สมาเสน, ติธา ทฺเวธา ตเถกธา;

สุฺาติ สุฺตฺถวิทู, วณฺณยนฺตีธ สาสเน.

กถํ? สพฺเพ ตาว โลกิยา ธมฺมา ธุวสุภสุขอตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุภสุขอตฺตสุฺา. มคฺคผลธมฺมา ธุวสุขตฺตวิรหิตตฺตา ธุวสุขตฺตสุฺา. อนิจฺจตฺตาเยว สุเขน สุฺา. อนาสวตฺตา น สุเภน สุฺา. นิพฺพานธมฺโม อตฺตสฺเสว อภาวโต อตฺตสุฺโ. โลกิยโลกุตฺตรา ปน สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมา สตฺตสฺส กสฺสจิ อภาวโต สตฺตสุฺา. อสงฺขโต นิพฺพานธมฺโม เตสํ สงฺขารานมฺปิ อภาวโต สงฺขารสุฺโ. สงฺขตาสงฺขตา ปน สพฺเพปิ ธมฺมา อตฺตสงฺขาตสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต อตฺตสุฺาติ.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺคอฏฺกถาย

สุฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ยุคนทฺธวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ มชฺฌิมวคฺคสฺส อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา.