📜
๓. อภิสมยกถา
อภิสมยกถาวณฺณนา
อิทานิ ¶ อิทฺธิกถานนฺตรํ ปรมิทฺธิภูตํ อภิสมยํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย อภิสมยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ อภิสมโยติ สจฺจานํ อภิมุเขน สมาคโม, ปฏิเวโธติ อตฺโถ. เกน ¶ อภิสเมตีติ กึ วุตฺตํ โหติ? ‘‘เอวํ มหตฺถิโย โข, ภิกฺขเว, ธมฺมาภิสมโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๗๔) สุตฺตปเทสุ โย โส อภิสมโยติ วุตฺโต, ตสฺมึ อภิสมเย วตฺตมาเน อภิสเมตา ปุคฺคโล เกน ธมฺเมน สจฺจานิ อภิสเมติ, อภิมุโข หุตฺวา สมาคจฺฉติ, ปฏิวิชฺฌตีติ วุตฺตํ โหตีติ. อยํ ตาว โจทกสฺส ปุจฺฉา. จิตฺเตน อภิสเมตีติ จิตฺตํ วินา อภิสมยาภาวโต ตถา วิสฺสชฺชนํ. หฺจีติอาทิ ปุน โจทนา. หฺจิ ยทีติ อตฺโถ. ‘‘จิตฺเตนา’’ติ วุตฺตตฺตา เตน หิ อฺาณี อภิสเมตีติ อาห. น อฺาณี อภิสเมตีติ จิตฺตมตฺเตเนว อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. าเณน อภิสเมตีติ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ ‘‘าเณนา’’ติ วุตฺตตฺตา อฺาณี อจิตฺตโกติ โจทนา. น อจิตฺตโก อภิสเมตีติ อจิตฺตกสฺส อภิสมยาภาวโต ปฏิกฺเขโป. จิตฺเตน จาติอาทิ ปฏิฺา. ปุน หฺจีติอาทิ สพฺพจิตฺตาณสาธารณวเสน โจทนา. เสสโจทนาวิสฺสชฺชเนสุปิ เอเสว นโย.
ปรโต ¶ ปน กมฺมสฺสกตจิตฺเตน จ าเณน จาติ กมฺมสฺสกา สตฺตาติ เอวํ กมฺมสฺสกตาย ปวตฺตจิตฺเตน จ าเณน จ. สจฺจานุโลมิกจิตฺเตน จ าเณน จาติ สจฺจปฏิเวธสฺส อนุกูลตฺตา สจฺจานุโลมิกสงฺขาเตน วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตจิตฺเตน จ วิปสฺสนาาเณน จ. กถนฺติ ยถา อภิสมโย โหติ, ตถา กเถตุกมฺยตา ปุจฺฉา. อุปฺปาทาธิปเตยฺยนฺติ ยสฺมา จิตฺตสฺส อุปฺปาเท อสติ เจตสิกานํ อุปฺปาโท นตฺถิ. อารมฺมณคฺคหณฺหิ จิตฺตํ เตน สห อุปฺปชฺชมานา เจตสิกา กถํ อารมฺมเณ อคฺคหิเต อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ. อภิธมฺเมปิ จิตฺตุปฺปาเทเนว เจตสิกา วิภตฺตา, ตสฺมา มคฺคาณสฺส อุปฺปาเท อธิปติภูตํ จิตฺตนฺติ อตฺโถ. าณสฺสาติ มคฺคาณสฺส. เหตุ ปจฺจโย จาติ ชนโก จ อุปตฺถมฺภโก ¶ จ. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน าเณน สมฺปยุตฺตํ. นิโรธโคจรนฺติ นิพฺพานารมฺมณํ. ทสฺสนาธิปเตยฺยนฺติ เสสานํ ทสฺสนกิจฺจาภาวา นิพฺพานทสฺสเน อธิปติภูตํ. จิตฺตสฺสาติ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. ตํสมฺปยุตฺตนฺติ เตน จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ.
ยสฺมา เอตมฺปิ ปริยายํ, น เกวลํ จิตฺตาเณหิเยว อภิสมโย, อถ โข สพฺเพปิ มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สจฺจาภิสมยกิจฺจสาธนวเสน ¶ อภิสมโย นาม โหนฺติ, ตสฺมา ตมฺปิ ปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กึ นุ เอตฺตโกเยว อภิสมโยติ ปุจฺฉิตฺวา น หีติ ตํ วจนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณติอาทิมาห. ทสฺสนาภิสมโยติ ทสฺสนภูโต อภิสมโย. เอส นโย เสเสสุปิ. สจฺจาติ สจฺจาณานิ. มคฺคาณเมว นิพฺพานานุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนา. วิโมกฺโขติ มคฺควิโมกฺโข. วิชฺชาติ มคฺคาณเมว. วิมุตฺตีติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติ. นิพฺพานํ อภิสมียตีติ อภิสมโย, เสสา อภิสเมนฺติ เอเตหีติ อภิสมยา.
ปุน มคฺคผลวเสน อภิสมยํ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสตุํ กึ นูติอาทิมาห. ผลกฺขเณ ปเนตฺถ ยสฺมา สมุจฺเฉทนฏฺเน ขเย าณํ น ลพฺภติ, ตสฺมา ปฏิปฺปสฺสทฺธฏฺเน อนุปฺปาเท าณนฺติ วุตฺตํ. เสสํ ปน ยถานุรูปํ เวทิตพฺพนฺติ. อิทานิ ยสฺมา กิเลสปฺปหาเน สติ อภิสมโย โหติ, อภิสมเย จ สติ กิเลสปฺปหานํ โหติ, ตสฺมา โจทนาปุพฺพงฺคมํ กิเลสปฺปหานํ ทสฺเสตุกาโม ยฺวายนฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยฺวายนฺติ โย อยํ มคฺคฏฺโ อริยปุคฺคโล. เอวมาทิกานิ ปเนตฺถ จตฺตาริ วจนานิ โจทกสฺส ปุจฺฉา. ปุน ¶ อตีเต กิเลเส ปชหตีติ อิทํ โจทนาย โอกาสทานตฺถํ วิสฺสชฺชนํ. ขีณนฺติ ภงฺควเสน ขีณํ. นิรุทฺธนฺติ สนฺตานวเสน ปุนปฺปุนํ อนุปฺปตฺติยา นิรุทฺธํ. วิคตนฺติ วตฺตมานกฺขณโต อปคตํ. วิคเมตีติ อปคมยติ. อตฺถงฺคตนฺติ อภาวํ คตํ. อตฺถงฺคเมตีติ อภาวํ คมยติ. ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตฺวา น อตีเต กิเลเส ปชหตีติ ปฏิกฺขิตฺตํ. อนาคตโจทนาย อชาตนฺติ ชาตึ อปฺปตฺตํ. อนิพฺพตฺตนฺติ สภาวํ อปฺปตฺตํ. อนุปฺปนฺนนฺติ อุปฺปาทโต ปภุติ อุทฺธํ น ปฏิปนฺนํ. อปาตุภูตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนภาเวน จิตฺตสฺส อปาตุภูตํ. อตีตานาคเต ปชหโต ปหาตพฺพานํ นตฺถิตาย อผโล วายาโม อาปชฺชตีติ ตทุภยมฺปิ ปฏิกฺขิตฺตํ. รตฺโต ราคํ ปชหตีติ วตฺตมาเนน ราเคน รตฺโต ตเมว ราคํ ปชหติ. วตฺตมานกิเลเสสุปิ เอเสว นโย. ถามคโตติ ถิรสภาวํ คโต. กณฺหสุกฺกาติ อกุสลา จ กุสลา จ ธมฺมา ยุคนทฺธา สมเมว วตฺตนฺตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. สํกิเลสิกาติ เอวํ สํกิเลสานํ สมฺปยุตฺตภาเว สติ สํกิเลเส นิยุตฺตา มคฺคภาวนา โหตีติ อาปชฺชตีติ อตฺโถ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺเน ปชหโต วายาเมน สทฺธึ ปหาตพฺพานํ ¶ ¶ อตฺถิตาย สํกิเลสิกา จ มคฺคภาวนา โหติ, วายาโม จ อผโล โหติ. น หิ ปจฺจุปฺปนฺนานํ กิเลสานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตตา นาม อตฺถีติ.
น หีติ จตุธา วุตฺตสฺส วจนสฺส ปฏิกฺเขโป. อตฺถีติ ปฏิชานนํ. ยถา กถํ วิยาติ อตฺถิภาวสฺส อุทาหรณทสฺสนตฺถํ ปุจฺฉา. ยถา อตฺถิ, ตํ เกน ปกาเรน วิย อตฺถิ, กึ วิย อตฺถีติ อตฺโถ. เสยฺยถาปีติ ยถา นาม. ตรุณรุกฺโขติ ผลทายกภาวทีปนตฺถํ ตรุณคฺคหณํ. อชาตผโลติ ผลทายกตฺเตปิ สติ ผลคฺคหณโต ปุเรกาลคฺคหณํ. ตเมนนฺติ ตํ รุกฺขํ. เอนนฺติ นิปาตมตฺตํ, ตํ เอตนฺติ วา อตฺโถ. มูลํ ฉินฺเทยฺยาติ มูลโต ฉินฺเทยฺย. อชาตผลาติ อชาตานิ ผลานิ. เอวเมวนฺติ เอวํ เอวํ. อุปฺปาโท ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนาติ จตูหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนขนฺธสนฺตานเมว วุตฺตํ. ยสฺมิฺหิ ขนฺธสนฺตาเน ยํ ยํ มคฺคาณํ อุปฺปชฺชติ, เตน เตน มคฺคาเณน ปหาตพฺพานํ กิเลสานํ ตํ ขนฺธสนฺตานํ อพีชํ โหติ, ตสฺส อพีชภูตตฺตา ตปฺปจฺจยา เต เต กิเลสา อนุปฺปนฺนา เอว น อุปฺปชฺชนฺติ. อาทีนวํ ทิสฺวาติ อนิจฺจาทิโต อาทีนวํ ทิสฺวา. อนุปฺปาโทติอาทีหิ จตูหิ นิพฺพานเมว วุตฺตํ. จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ มคฺคสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. เหตุนิโรธา ทุกฺขนิโรโธติ กิเลสานํ พีชภูตสฺส สนฺตานสฺส อนุปฺปาทนิโรธา อนาคตกฺขนฺธภูตสฺส ทุกฺขสฺส เหตุภูตานํ กิเลสานํ ¶ อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ ทุกฺขสฺส เหตุภูตกิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรธา ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ. เอวํ กิเลสปฺปหานยุตฺติสพฺภาวโต เอว อตฺถิ มคฺคภาวนาติอาทิมาห. อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๓๒) ปน ‘‘เอเตน กึ ทีปิตํ โหติ? ภูมิลทฺธานํ กิเลสานํ ปหานํ ทีปิตํ โหติ. ภูมิลทฺธา ปน กึ อตีตา อนาคตา, อุทาหุ ปจฺจุปฺปนฺนาติ? ภูมิลทฺธุปฺปนฺนาเยว นามา’’ติ วตฺวา กถิตกิเลสปฺปหานสฺส วิตฺถารกถา สุตมยาณกถาย มคฺคสจฺจนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา, อิธ ปน มคฺคาเณน ปหาตพฺพา กิเลสาเยว อธิปฺเปตาติ.
อภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.