📜

๙. วิปสฺสนากถา

วิปสฺสนากถาวณฺณนา

๓๖. อิทานิ วิปสฺสนาปฏิสํยุตฺตาย สติปฏฺานกถาย อนนฺตรํ วิปสฺสนาปเภทํ ทสฺเสนฺเตน กถิตาย สุตฺตนฺตปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนากถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว โสอิติ สพฺพนามตฺตา โย วา โส วา สพฺโพปิ สงฺคหิโต โหติ. วตาติ เอกํสตฺเถ นิปาโต. กฺจิ สงฺขารนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ สงฺขารํ. อนุโลมิกาย ขนฺติยาติ เอตฺถ วิปสฺสนาาณเมว โลกุตฺตรมคฺคํ อนุโลเมตีติ อนุโลมิกํ, ตเทว ขนฺติมเปกฺขิตฺวา อนุโลมิกา. สพฺพสงฺขารา ตสฺส อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ขมนฺติ รุจฺจนฺตีติ ขนฺติ. สา มุทุกา มชฺฌิมา ติกฺขาติ ติวิธา. กลาปสมฺมสนาทิกา อุทยพฺพยาณปริโยสานา มุทุกานุโลมิกา ขนฺติ. ภงฺคานุปสฺสนาทิกา สงฺขารุเปกฺขาาณปริโยสานา มชฺฌิมานุโลมิกา ขนฺติ. อนุโลมาณํ ติกฺขานุโลมิกา ขนฺติ. สมนฺนาคโตติ อุเปโต. เนตํ านํ วิชฺชตีติ ยถาวุตฺตํ เอตํ านํ เอตํ การณํ น วิชฺชติ. สมฺมตฺตนิยามนฺติ เอตฺถ ‘‘หิตสุขาวโห เม ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ อาสีสโต ตเถว สมฺภวโต อสุภาทีสุ จ อสุภนฺติอาทิอวิปรีตปฺปวตฺติสพฺภาวโต จ สมฺมา สภาโวติ สมฺมตฺโต, อนนฺตรผลทานาย อรหตฺตุปฺปตฺติยา จ นิยามภูตตฺตา นิยาโม, นิจฺฉโยติ อตฺโถ. สมฺมตฺโต จ โส นิยาโม จาติ สมฺมตฺตนิยาโม. โก โส? โลกุตฺตรมคฺโค, วิเสสโต ปน โสตาปตฺติมคฺโค. เตน หิ มคฺคนิยาเมน นิยตตฺตา ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ (ปารา. ๒๑; ที. นิ. ๑.๓๗๓) วุตฺตํ. ตํ สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสติ ปวิสิสฺสตีติ เอตํ อฏฺานนฺติ อตฺโถ. โคตฺรภุโน ปน มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตฺตา ตํ อนาทิยิตฺวา อนุโลมิกขนฺติยา อนนฺตรํ สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อถ วา อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ โคตฺรภุ วิวฏฺฏนานุปสฺสนา โหตีติ อนุโลมิกขนฺติยา เอว สงฺคหิตา โหติ. จตูสุปิ สุตฺตนฺเตสุ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอเตหิ อนุโลมิกขนฺติสมฺมตฺตนิยามจตุอริยผลวเสน จ ฉ ธมฺมาติ ฉกฺกนิปาเต (อ. นิ. ๖.๙๘, ๑๐๑) จตฺตาโร สุตฺตนฺตา วุตฺตา. กณฺหปกฺขสุกฺกปกฺขทฺวยวเสน หิ จตฺตาโร สุตฺตนฺตาว โหนฺตีติ.

๓๗. กติหากาเรหีติอาทิเก ปุจฺฉาปุพฺพงฺคเม สุตฺตนฺตนิทฺเทเส ปฺจกฺขนฺเธ อนิจฺจโตติอาทีสุ นามรูปฺจ นามรูปสฺส ปจฺจเย จ ปริคฺคเหตฺวา กลาปสมฺมสนวเสน อารทฺธวิปสฺสโก โยคาวจโร ปฺจสุ ขนฺเธสุ เอเกกํ ขนฺธํ อนิจฺจนฺติกตาย อาทิอนฺตวตาย จ อนิจฺจโต ปสฺสติ . อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตาย ทุกฺขวตฺถุตาย จ ทุกฺขโต. ปจฺจยยาปนียตาย โรคมูลตาย จ โรคโต. ทุกฺขตาสูลโยคิตาย กิเลสาสุจิปคฺฆรณตาย อุปฺปาทชราภงฺเคหิ อุทฺธุมาตปริปกฺกปภินฺนตาย จ คณฺฑโต. ปีฬาชนกตาย อนฺโตตุทนตาย ทุนฺนีหรณียตาย จ สลฺลโต. วิครหณียตาย อวฑฺฒิอาวหนตาย อฆวตฺถุตาย จ อฆโต. อเสริภาวชนกตาย อาพาธปทฏฺานตาย จ อาพาธโต. อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ปรโต. พฺยาธิชรามรเณหิ ลุชฺชนปลุชฺชนตาย ปโลกโต. อเนกพฺยสนาวหนตาย อีติโต. อวิทิตานํเยว วิปุลานํ อนตฺถานํ อาวหนโต สพฺพูปทฺทววตฺถุตาย จ อุปทฺทวโต. สพฺพภยานํ อากรตาย จ ทุกฺขวูปสมสงฺขาตสฺส ปรมสฺสาสสฺส ปฏิปกฺขภูตตาย จ ภยโต. อเนเกหิ อนตฺเถหิ อนุพทฺธตาย โทสูปสฏฺตาย อุปสคฺโค วิย อนธิวาสนารหตาย จ อุปสคฺคโต. พฺยาธิชรามรเณหิ เจว โลภาทีหิ จ โลกธมฺเมหิ ปจลิตตาย จลโต. อุปกฺกเมน เจว สรเสน จ ปภงฺคุปคมนสีลตาย ปภงฺคุโต. สพฺพาวตฺถนิปาติตาย ถิรภาวสฺส จ อภาวตาย อทฺธุวโต. อตายนตาย เจว อลพฺภเนยฺยเขมตาย จ อตาณโต. อลฺลียิตุํ อนรหตาย อลฺลีนานมฺปิ จ เลณกิจฺจาการิตาย อเลณโต. นิสฺสิตานํ ภยสารกตฺตาภาเวน อสรณโต. ยถาปริกปฺปิเตหิ ธุวสุภสุขตฺตภาเวหิ ริตฺตตาย ริตฺตโต. ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต, อปฺปกตฺตา วา. อปฺปกมฺปิ หิ โลเก ตุจฺฉนฺติ วุจฺจติ. สามินิวาสิเวทกการกาธิฏฺายกวิรหิตตาย สุฺโต. สยฺจ อสามิกภาวาทิตาย อนตฺตโต. ปวตฺติทุกฺขตาย ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตาย อาทีนวโต. อถ วา อาทีนํ วาติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อาทีนโว. กปณมนุสฺสสฺเสตํ อธิวจนํ, ขนฺธาปิ จ กปณาเยวาติ อาทีนวสทิสตาย อาทีนวโต. ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต. ทุพฺพลตาย เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จ อสารกโต. อฆเหตุตาย อฆมูลโต. มิตฺตมุขสปตฺโต วิย วิสฺสาสฆาติตาย วธกโต. วิคตภวตาย วิภวสมฺภูตตาย จ วิภวโต. อาสวปทฏฺานตาย สาสวโต. เหตุปจฺจเยหิ อภิสงฺขตตาย สงฺขตโต. มจฺจุมารกิเลสมารานํ อามิสภูตตาย มารามิสโต. ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย ชาติชราพฺยาธิมรณธมฺมโต. โสกปริเทวอุปายาสเหตุตาย โสกปริเทวอุปายาสธมฺมโต. ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสานํ วิสยธมฺมตาย สํกิเลสิกธมฺมโต ปสฺสติ. สพฺเพสุ จ อิเมสุ ‘‘ปสฺสตี’’ติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.

๓๘. ปฺจกฺขนฺเธติ สมูหโต วุตฺเตปิ เอเกกขนฺธวเสน อตฺถวณฺณนา กลาปสมฺมสนาณนิทฺเทเส วิสุํ วิสุํ อาคตตฺตา ปริโยสาเน จ วิสุํ วิสุํ ขนฺธานํ วเสน อนุปสฺสนานํ คณิตตฺตา สมูเห ปวตฺตวจนานํ อวยเวปิ ปวตฺติสมฺภวโต จ กตาติ เวทิตพฺพา, วิสุํ วิสุํ ปวตฺตสมฺมสนานํ เอกโต สงฺขิปิตฺวา วจนวเสน วา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ’’ติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๘๓) อฏฺกถาวจนสพฺภาวโต วา ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ เอกโต สมฺมสนํ วา ยุชฺชติเยวาติ. ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ นิโรโธ นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโตติอาทีนวาณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน วิปสฺสนากาเล สนฺติปทาณวเสน นิจฺจํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต. สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตีติ มคฺคกฺขเณ โอกฺกมติ, ผลกฺขเณ ปน โอกฺกนฺโต นาม โหติ. เอเสว นโย สพฺเพสุปิ นิยาโมกฺกมนปริยาเยสุ. อาโรคฺยนฺติ อาโรคฺยภูตํ. วิสลฺลนฺติ สลฺลวิรหิตํ. เอเสว นโย อีทิเสสุ. อนาพาธนฺติ อาพาธวิรหิตํ, อาพาธปฏิปกฺขภูตํ วา. เอส นโย อีทิเสสุ. อปรปฺปจฺจยนฺติ อฺปจฺจยวิรหิตํ. อุปสฺสคฺคโตติ จ อนุปสฺสคฺคนฺติ จ เกจิ สํโยคํ กตฺวา ปนฺติ. ปรมสุฺนฺติ สพฺพสงฺขารสุฺตฺตา อุตฺตมตฺตา จ ปรมสุฺํ. ปรมตฺถนฺติ สงฺขตาสงฺขตานํ อคฺคภูตตฺตา อุตฺตมตฺถํ . ลิงฺควิปลฺลาสวเสน นปุํสกวจนํ. นิพฺพานสฺส จ สุฺตฺตา อนตฺตตฺตา จ อิมสฺมึ ทฺวเย ปฏิโลมปริยาโย น วุตฺโต. อนาสวนฺติ อาสววิรหิตํ. นิรามิสนฺติ อามิสวิรหิตํ. อชาตนฺติ ชาติวิรหิตตฺตา อนุปฺปนฺนํ. อมตนฺติ ภงฺคาภาวโต มรณวิรหิตํ. มรณมฺปิ หิ นปุํสกภาววจนวเสน ‘‘มต’’นฺติ วุจฺจติ.

๓๙. เอวมิมาย ปฏิปาฏิยา วุตฺตาสุ อาการเภทภินฺนาสุ จตฺตาลีสาย อนุปสฺสนาสุ สภาวสงฺคหวเสน ตีสุเยว อนุปสฺสนาสุ เอกสงฺคหํ กโรนฺโต อนิจฺจโตติ อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทิมาห. ตาสุ ยถานุรูปํ อนิจฺจทุกฺขานตฺตตฺเต โยชนา กาตพฺพา. อวสาเน ปเนตา วิสุํ วิสุํ คณนวเสน ทสฺสิตา. คณนาสุ จ คณนปฏิปาฏิวเสน ปมํ อนตฺตานุปสฺสนา คณิตา. ตตฺถ ปฺจวีสตีติ ‘‘ปรโต ริตฺตโต ตุจฺฉโต สุฺโต อนตฺตโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจ ปฺจ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติ อนตฺตานุปสฺสนา. ปฺาสาติ ‘‘อนิจฺจโต ปโลกโต จลโต ปภงฺคุโต อทฺธุวโต วิปริณามธมฺมโต อสารกโต วิภวโต สงฺขตโต มรณธมฺมโต’’ติ เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ทส ทส กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺาสํ อนิจฺจานุปสฺสนา. สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ เสสา ‘‘ทุกฺขโต โรคโต’’ติอาทโย เอเกกสฺมึ ขนฺเธ ปฺจวีสติ ปฺจวีสติ กตฺวา ปฺจสุ ขนฺเธสุ ปฺจวีสติสตํ ทุกฺขานุปสฺสนา. ยานิ ทุกฺเข ปวุจฺจเรติ ยา อนุปสฺสนา ทุกฺเข ขนฺธปฺจเก คณนวเสน ปวุจฺจนฺติ, ตา สตํ ปฺจวีสติ เจวาติ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยานี’’ติ เจตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส ทฏฺพฺโพติ.

วิปสฺสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.