📜

๕. วิโมกฺขกถา

๑. วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา

๒๐๙. อิทานิ อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตาย วิโมกฺขกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. อยฺหิ วิโมกฺขกถา อินฺทฺริยภาวนานุยุตฺตสฺส วิโมกฺขสพฺภาวโต อินฺทฺริยกถานนฺตรํ กถิตา. ตฺจ กเถนฺโต ภควโต สมฺมุขา สุตสุตฺตนฺตเทสนาปุพฺพงฺคมํ กตฺวา กเถสิ. ตตฺถ สุตฺตนฺเต ตาว สุฺโต วิโมกฺโขติอาทีสุ สุฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค สุฺโต วิโมกฺโข. โส หิ สุฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา สุฺโต, กิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโตติ เวทิตพฺโพ.

เอโก หิ อาทิโตว อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสติ. ยสฺมา ปน น อนิจฺจโต สมฺมสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสิตพฺพเมว, ตสฺมา ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสติ. ตสฺส เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อนิจฺจโต เจ สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ นาม. สเจ ปนสฺส ทุกฺขโต อนตฺตโต สมฺมสนกาเล มคฺควุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ นาม. เอส นโย ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา วุฏฺาเนสุปิ. เอตฺถ จ โยปิ อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ, โยปิ ทุกฺขโต, โยปิ อนตฺตโต. วุฏฺานกาเล เจ อนิจฺจโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา อธิโมกฺขพหุลา โหนฺติ, สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสาริโน โหนฺติ, สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺตา. สเจ ปน ทุกฺขโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา ปสฺสทฺธิพหุลา โหนฺติ, สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, สพฺพตฺถ กายสกฺขิโน โหนฺติ. ยสฺส ปเนตฺถ อรูปชฺฌานํ ปาทกํ โหติ, โส อคฺคผเล อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ. อถ เนสํ อนตฺตโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา เวทพหุลา โหนฺติ, ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสาริโน โหนฺติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺตา, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺตาติ.

อปิจ มคฺโค นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สุฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. อิทํ สรสโต นามํ นาม. อนิจฺจานุปสฺสนาย ปน สงฺขารานํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตสสฺสตนิมิตฺตานิ ปหาย อาคตตฺตา อนิมิตฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺํ ปหาย ปณิธิปตฺถนํ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสตฺตปุคฺคลสฺํ ปหาย สงฺขาเร สุฺโต ทิฏฺตฺตา สุฺโตติ อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม. ราคาทีหิ ปน สุฺตฺตา สุฺโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ, ราคนิมิตฺตาทีนํเยว วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ อิทมสฺส สคุณโต นามํ นาม. โสยํ สุฺํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติปิ สุฺโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ นาม. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนํ ลพฺภติ, ผเล มคฺคาคมนํ. อนตฺตานุปสฺสนา หิ สุฺตา นาม, สุฺตวิปสฺสนาย มคฺโค สุฺโต, สุฺตมคฺคสฺส ผลํ สุฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม, อนิมิตฺตวิปสฺสนาย มคฺโค อนิมิตฺโต. อิทํ ปน นามํ อภิธมฺมปริยาเย น ลพฺภติ, สุตฺตนฺตปริยาเย ปน ลพฺภติ. ตตฺถ หิ โคตฺรภุาณํ อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิมิตฺตนามกํ หุตฺวา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา มคฺคสฺส นามํ เทตีติ วทนฺติ. เตน มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุตฺโต. มคฺคาคมเนน ผลํ อนิมิตฺตนฺติ ยุชฺชติเยว. ทุกฺขานุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ปณิธึ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิตา นาม, อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโค อปฺปณิหิโต, อปฺปณิหิตมคฺคสฺส ผลํ อปฺปณิหิตนฺติ เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ นาม. เอวํ สงฺขารุเปกฺขา วิโมกฺขวิเสสํ นิยเมตีติ.

เอวํ ภควตา เทสิเต ตโย มหาวตฺถุเก วิโมกฺเข อุทฺทิสิตฺวา ตํนิทฺเทสวเสเนว อปเรปิ วิโมกฺเข นิทฺทิสิตุกาโม อปิจ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ อปิจาติ อปรปริยายทสฺสนํ. กถํ เต อฏฺสฏฺิ โหนฺติ, นนุ เต ปฺจสตฺตตีติ? สจฺจํ ยถารุตวเสน ปฺจสตฺตติ. ภควตา ปน เทสิเต ตโย วิโมกฺเข เปตฺวา อฺวิโมกฺเข นิทฺทิสนโต อิเมสํ ตทวโรธโต จ อิเม ตโย น คเณตพฺพา, อชฺฌตฺตวิโมกฺขาทโย ตโยปิ วิโมกฺขา จตุธา วิตฺถารวจเนเยว อนฺโตคธตฺตา น คเณตพฺพา, ‘‘ปณิหิโต วิโมกฺโข, อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ เอตฺถ อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข ปมํ อุทฺทิฏฺเน เอกนามิกตฺตา น คเณตพฺโพ, เอวํ อิเมสุ สตฺตสุ อปนีเตสุ เสสา อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา โหนฺติ. เอวํ สนฺเต สุฺตวิโมกฺขาทโย ตโย ปุน กสฺมา อุทฺทิฏฺาติ เจ? อุทฺเทเสน สงฺคเหตฺวา เตสมฺปิ นิทฺเทสกรณตฺถํ. อชฺฌตฺตวุฏฺานาทโย ปน ตโย ปเภทํ วินา มูลราสิวเสน อุทฺทิฏฺา, ปณิหิตวิโมกฺขปฏิปกฺขวเสน ปุน อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข อุทฺทิฏฺโติ เวทิตพฺโพ.

อชฺฌตฺตวุฏฺานาทีสุ อชฺฌตฺตโต วุฏฺาตีติ อชฺฌตฺตวุฏฺาโน. อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมา. อชฺฌตฺตวุฏฺานานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ อปคมา อชฺฌตฺตวุฏฺานปฏิปฺปสฺสทฺธิ. รูปีติ อชฺฌตฺตํ เกสาทีสุ อุปฺปาทิตํ รูปชฺฌานํ รูปํ, ตํ รูปมสฺส อตฺถีติ รูปี รูปานิ ปสฺสตีติ พหิทฺธา นีลกสิณาทิรูปานิ ฌานจกฺขุนา ปสฺสติ. อิมินา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถุเกสุ กสิเณสุ ฌานปฏิลาโภ ทสฺสิโต. อชฺฌตฺตํ อรูปสฺีติ อชฺฌตฺตํ น รูปสฺี, อตฺตโน เกสาทีสุ อนุปฺปาทิตรูปาวจรชฺฌาโนติ อตฺโถ. อิมินา พหิทฺธา ปริกมฺมํ กตฺวา พหิทฺธาว ปฏิลทฺธชฺฌานตา ทสฺสิตา. สุภนฺเตว อธิมุตฺโตติ ‘‘สุภ’’มิจฺเจว อารมฺมเณ อธิมุตฺโต. ตตฺถ กิฺจาปิ อนฺโตอปฺปนายํ ‘‘สุภ’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, โย ปน อปฺปฏิกูลากาเรน สตฺตารมฺมณํ ผรนฺโต วิหรติ, โส ยสฺมา ‘‘สุภ’’นฺเตว อธิมุตฺโต โหติ, ตสฺมา เอวํ อุทฺเทโส กโตติ. อปฺปิตปฺปิตสมเย เอว วิกฺขมฺภนวิมุตฺติสพฺภาวโต สมยวิโมกฺโข. โสเยว สกิจฺจกรณวเสน อปฺปิตสมเย เอว นิยุตฺโตติ สามยิโก. สามายิโกติปิ ปาโ. โกเปตุํ ภฺชิตุํ สกฺกุเณยฺยตาย กุปฺโป. โลกํ อนติกฺกมนโต โลเก นิยุตฺโตติ โลกิโก. โลกิโยติปิ ปาโ. โลกํ อุตฺตรติ, อุตฺติณฺโณติ วา โลกุตฺตโร. อารมฺมณกรณวเสน สห อาสเวหีติ สาสโว. อารมฺมณกรณวเสน สมฺปโยควเสน จ นตฺเถตฺถ อาสวาติ อนาสโว. รูปสงฺขาเตน สห อามิเสนาติ สามิโส. สพฺพโส รูปารูปปฺปหานา นิรามิสโตปิ นิรามิสตโรติ นิรามิสา นิรามิสตโร. ปณิหิโตติ ตณฺหาวเสน ปณิหิโต ปตฺถิโต. อารมฺมณกรณวเสน สฺโชเนหิ สํยุตฺตตฺตา สฺุตฺโต. เอกตฺตวิโมกฺโขติ กิเลเสหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา เอกสภาโว วิโมกฺโข. สฺาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว วิปรีตสฺาย วิมุจฺจนโต สฺาวิโมกฺโข. ตเทว วิปสฺสนาาณํ สมฺโมหโต วิมุจฺจนวเสน าณเมว วิโมกฺโขติ าณวิโมกฺโข. สีติสิยาวิโมกฺโขติ วิปสฺสนาาณเมว สีติ ภเวยฺยาติ ปวตฺโต วิโมกฺโข สีติสิยาวิโมกฺโข . สีติสิกาวิโมกฺโขติปิ ปาโ, สีติภาวิกาย วิโมกฺโขติ ตสฺส อตฺถํ วณฺณยนฺติ. ฌานวิโมกฺโขติ อุปจารปฺปนาเภทํ โลกิยโลกุตฺตรเภทฺจ ฌานเมว วิโมกฺโข. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อนุปาทิยิตฺวา คหณํ อกตฺวา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.

วิโมกฺขุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา

๒๑๐. กตโมติอาทิเก อุทฺเทสสฺส นิทฺเทเส อิติ ปฏิสฺจิกฺขตีติ เอวํ อุปปริกฺขติ. สุฺมิทนฺติ อิทํ ขนฺธปฺจกํ สุฺํ. เกน สุฺํ? อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา. ตตฺถ อตฺเตน วาติ พาลชนปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน อภาวา เตน อตฺตนา จ สุฺํ. อตฺตนิเยน วาติ ตสฺส ปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน สนฺตเกน จ สุฺํ. อตฺตโน อภาเวเนว อตฺตนิยาภาโว. อตฺตนิยฺจ นาม นิจฺจํ วา สิยา สุขํ วา, ตทุภยมฺปิ นตฺถิ. เตน นิจฺจปฏิกฺเขเปน อนิจฺจานุปสฺสนา, สุขปฏิกฺเขเปน ทุกฺขานุปสฺสนา จ วุตฺตา โหติ. สุฺมิทํ อตฺเตน วาติ อนตฺตานุปสฺสนาเยว วุตฺตา. โสติ โส เอวํ ตีหิ อนุปสฺสนาหิ วิปสฺสมาโน ภิกฺขุ. อภินิเวสํ น กโรตีติ อนตฺตานุปสฺสนาวเสน อตฺตาภินิเวสํ น กโรติ.

นิมิตฺตํ น กโรตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน นิจฺจนิมิตฺตํ น กโรติ. ปณิธึ น กโรตีติ ทุกฺขานุปสฺสนาวเสน ปณิธึ น กโรติ. อิเม ตโย วิโมกฺขา ปริยาเยน วิปสฺสนากฺขเณ ตทงฺควเสนาปิ ลพฺภนฺติ, นิปฺปริยาเยน ปน สมุจฺเฉทวเสน มคฺคกฺขเณเยว. จตฺตาริ ฌานานิ อชฺฌตฺตํ นีวรณาทีหิ วุฏฺานโต อชฺฌตฺตวุฏฺาโน วิโมกฺโข. จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย อารมฺมเณหิ วุฏฺานโต พหิทฺธาวุฏฺาโน วิโมกฺโข. อารมฺมณมฺปิ หิ พาหิรายตนานิ วิย อิธ ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. อิเม ทฺเว วิกฺขมฺภนวิโมกฺขา, ทุภโต วุฏฺาโน ปน สมุจฺเฉทวิโมกฺโข.

นีวรเณหิ วุฏฺาตีติอาทีหิ อชฺฌตฺตวุฏฺานํ สรูปโต วุตฺตํ. รูปสฺายาติอาทีหิ กสิณาทิอารมฺมณสมติกฺกมสฺส ปากฏตฺตา ตํ อวตฺวา สุตฺตนฺเตสุ วุตฺตรูปสฺาทิสมติกฺกโม วุตฺโต. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสาติ สมาสปทํ, สกฺกายทิฏฺิยา วิจิกิจฺฉาย สีลพฺพตปรามาสาติ วิจฺเฉโท. อยเมว วา ปาโ.

๒๑๑. วิตกฺโก จาติอาทีหิ ฌานานํ สมาปตฺตีนฺจ อุปจารภูมิโย วุตฺตา. อนิจฺจานุปสฺสนาติอาทีหิ จตุนฺนํ มคฺคานํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา วุตฺตา. ปฏิลาโภวาติ ปฺจวิธวสิปฺปตฺติยา พฺยาปิโต ปตฺถโฏ ลาโภติ ปฏิลาโภ. วสิปฺปตฺติยา หิ สพฺโพ ฌานปโยโค จ สมาปตฺติปโยโค จ ปฏิปฺปสฺสทฺโธ โหติ, ตสฺมา ปฏิลาโภ ‘‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’’ติ วุตฺโต. วิปาโก ปน ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิปฺปสฺสทฺธิ โหตีติ อุชุกเมว. เกจิ ปน ‘‘อุปจารปโยคสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา ฌานสฺส สมาปตฺติยา จ ปฏิลาโภ โหติ, ตสฺมา ฌานสมาปตฺติปฏิลาโภ ‘ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิโมกฺโข’ติ วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ.

๒๑๒. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ ปวตฺตํ. ปจฺจตฺตนฺติ อตฺตานํ ปฏิจฺจ ปวตฺตํ. อุภเยนาปิ นิยกชฺฌตฺตเมว ทีเปติ นีลนิมิตฺตนฺติ นีลเมว. นีลสฺํ ปฏิลภตีติ ตสฺมึ นีลนิมิตฺเต นีลมิติสฺํ ปฏิลภติ. สุคฺคหิตํ กโรตีติ ปริกมฺมภูมิยํ สุฏฺุ อุคฺคหิตํ กโรติ. สูปธาริตํ อุปธาเรตีติ อุปจารภูมิยํ สุฏฺุ อุปธาริตํ กตฺวา อุปธาเรติ. สฺวาวตฺถิตํ อวตฺถาเปตีติ อปฺปนาภูมิยํ สุฏฺุ นิจฺฉิตํ นิจฺฉินาติ. ววตฺถาเปตีติปิ ปาโ. อชฺฌตฺตฺหิ นีลปริกมฺมํ กโรนฺโต เกเส วา ปิตฺเต วา อกฺขิตารกายํ วา กโรติ. พหิทฺธา นีลนิมิตฺเตติ นีลปุปฺผนีลวตฺถนีลธาตูนํ อฺตเร นีลกสิเณ. จิตฺตํ อุปสํหรตีติ จิตฺตํ อุปเนติ. ปีตาทีสุปิ เอเสว นโย. อาเสวตีติ ตเมว สฺํ อาทิโต เสวติ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ. พหุลีกโรตีติ ปุนปฺปุนํ กโรติ. รูปนฺติ นีลนิมิตฺตํ รูปํ. รูปสฺีติ ตสฺมึ รูเป สฺา รูปสฺา, สา อสฺส อตฺถีติ รูปสฺี. อชฺฌตฺตํ ปีตนิมิตฺตาทีสุ ปีตปริกมฺมํ กโรนฺโต เมเท วา ฉวิยา วา อกฺขีนํ ปีตฏฺาเน วา กโรติ. โลหิตปริกมฺมํ กโรนฺโต มํเส วา โลหิเต วา ชิวฺหาย วา หตฺถตลปาทตเลสุ วา อกฺขีนํ รตฺตฏฺาเน วา กโรติ. โอทาตปริกมฺมํ กโรนฺโต อฏฺิมฺหิ วา ทนฺเต วา นเข วา อกฺขีนํ เสตฏฺาเน วา กโรติ. อชฺฌตฺตํ อรูปนฺติ อชฺฌตฺตํ รูปนิมิตฺตํ นตฺถีติ อตฺโถ.

เมตฺตาสหคเตนาติ ปมทุติยตติยชฺฌานวเสน เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เจตสาติ จิตฺเตน. เอกํ ทิสนฺติ เอกํ เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทาย เอกทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตํ อิริยาปถวิหารํ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติ ยถา ปุรตฺถิมาทีสุ ยํกิฺจิ เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ วาติ อตฺโถ. อิติ อุทฺธนฺติ เอเตเนว นเยน อุปริมํ ทิสนฺติ วุตฺตํ โหติ. อโธ ติริยนฺติ อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปิ เอวเมว . ตตฺถ จ อโธติ เหฏฺา. ติริยนฺติ อนุทิสา. เอวํ สพฺพทิสาสุ อสฺสมณฺฑลิกาย อสฺสมิว เมตฺตาสหคตํ จิตฺตํ สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปีติ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณํ ทสฺสิตํ. สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตาทิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, ‘‘อยํ ปรสตฺโต’’ติ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. สพฺพวนฺตนฺติปิ ปาโ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ.

วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต ปเนตฺถ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา วา เอตฺถ โอธิโส ผรเณ วิย ปุน ตถาสทฺโท วา อิติ-สทฺโท วา น วุตฺโต, ตสฺมา ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติ วุตฺตํ, นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺตํ. วิปุเลนาติ เอตฺถ ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา. ภูมิวเสน ปน ตํ มหคฺคตํ. ตฺหิ กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาย วิปุลผลตาย ทีฆสนฺตานตาย จ มหนฺตภาวํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทวีริยจิตฺตปฺเหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ. ปคุณวเสน อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณํ. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ. โทมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ, นิทฺทุกฺขนฺติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปฏิกูลา โหนฺตีติ ภิกฺขุโน จิตฺตสฺส อปฺปฏิกูลา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เสเสสุปิ วุตฺตนเยเนว กรุณามุทิตาอุเปกฺขาวเสน โยเชตพฺพํ. กรุณาย วิเหสาปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, มุทิตาย อรติปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน.

อุเปกฺขาสหคเตนาติ จตุตฺถชฺฌานวเสน อุเปกฺขาย สมนฺนาคเตน. ราคปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรํ, เคหสิตโสมนสฺสปฺปหานโต อพฺยาปชฺชํ. สพฺพมฺปิ หิ อกุสลํ กิเลสปริฬาหโยคโต สพฺยาปชฺชเมวาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

๒๑๓. สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, สพฺพาสํ วา, อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปาวจรชฺฌานมฺปิ หิ รูปนฺติ วุจฺจติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘), ตสฺส อารมฺมณมฺปิ พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสติ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๒๒๓). ตสฺมา อิธ รูเป สฺา รูปสฺาติ เอวํ สฺาสีเสน วุตฺตรูปาวจรชฺฌานสฺเสตํ อธิวจนํ. รูปํ สฺา อสฺสาติ รูปสฺํ, รูปมสฺส นามนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวํ ปถวีกสิณาทิเภทสฺส ตทารมฺมณสฺส เจตํ อธิวจนนฺติ เวทิตพฺพํ. สมติกฺกมาติ วิราคา นิโรธา จ. กึ วุตฺตํ โหติ? เอตาสํ กุสลวิปากกิริยาวเสน ปฺจทสนฺนํ ฌานสงฺขาตานํ รูปสฺานํ, เอเตสฺจ ปถวีกสิณาทิวเสน นวนฺนํ อารมฺมณสงฺขาตานํ รูปสฺานํ สพฺพากาเรน, อนวเสสานํ วา วิราคา จ นิโรธา จ วิราคเหตุ เจว นิโรธเหตุ จ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. น หิ สกฺกา สพฺพโส อนติกฺกนฺตรูปสฺเน เอตํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุนฺติ. ยสฺมา ปน อารมฺมณสมติกฺกเมน ปตฺตพฺพา เอตา สมาปตฺติโย, น เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ ปมชฺฌานาทีนิ วิย. อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส จ สฺาสมติกฺกโม น โหติ, ตสฺมา อยํ อารมฺมณสมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กตาติ เวทิตพฺพา.

ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ รูปาทีนํ อารมฺมณานฺจ ปฏิฆาเตน อุปฺปนฺนา สฺา ปฏิฆสฺา, รูปสฺาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ตาสํ กุสลวิปากานํ ปฺจนฺนํ, อกุสลวิปากานํ ปฺจนฺนนฺติ สพฺพโส ทสนฺนมฺปิ ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา ปหานา อสมุปฺปาทา, อปฺปวตฺตึ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. กามฺเจตา ปมชฺฌานาทีนิ สมาปนฺนสฺสปิ น สนฺติ, น หิ ตสฺมึ สมเย ปฺจทฺวารวเสน จิตฺตํ ปวตฺตติ, เอวํ สนฺเตปิ อฺตฺถ ปหีนานํ สุขทุกฺขานํ จตุตฺถชฺฌาเน วิย สกฺกายทิฏฺาทีนํ ตติยมคฺเค วิย จ อิมสฺมึ ฌาเน อุสฺสาหชนนตฺถํ อิมสฺส ฌานสฺส ปสํสาวเสน เอตาสํ เอตฺถ วจนํ เวทิตพฺพํ. อถ วา กิฺจาปิ ตา รูปาวจรํ สมาปนฺนสฺส น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตาเยว จ เอตาสํ ปวตฺติ. อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. น เกวลฺจ วตฺตุํ, เอกํเสเนว เอวํ ธาเรตุมฺปิ วฏฺฏติ. ตาสฺหิ อิโต ปุพฺเพ อปฺปหีนตฺตาเยว ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส สทฺโท กณฺฏโก’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๗๒) วุตฺโต ภควตา. อิธ จ ปหีนตฺตาเยว อรูปสมาปตฺตีนํ อาเนฺชตา สนฺตวิโมกฺขตา จ วุตฺตา.

นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต วา โคจเร ปวตฺตานํ สฺานํ, นานตฺตานํ วา สฺานํ. ยสฺมา เหตา รูปสทฺทาทิเภเท นานตฺเต นานาสภาเว โคจเร ปวตฺตนฺติ, ยสฺมา เจตา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, ทฺวาทส อกุสลสฺา, เอกาทส กามาวจรกุสลวิปากสฺา, ทฺเว อกุสลวิปากสฺา, เอกาทส กามาวจรกิริยาสฺาติ เอวํ จตุจตฺตาลีสมฺปิ สฺา นานตฺตา นานาสภาวา อฺมฺวิสทิสา, ตสฺมา ‘‘นานตฺตสฺา’’ติ วุตฺตา. ตาสํ สพฺพโส นานตฺตสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา จิตฺเต จ อนุปฺปาทนา. ยสฺมา ตา นาวชฺชติ จิตฺเต จ น อุปฺปาเทติ น มนสิกโรติ น ปจฺจเวกฺขติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา เจตฺถ ปุริมา รูปสฺา ปฏิฆสฺา จ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเวปิ น วิชฺชนฺติ, ปเคว ตสฺมึ ภเว อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณกาเล, ตสฺมา ตาสํ สมติกฺกมา อตฺถงฺคมาติ ทฺเวธาปิ อภาโวเยว วุตฺโต. นานตฺตสฺาสุ ปน ยสฺมา อฏฺ กามาวจรกุสลสฺา, นว กิริยาสฺา, ทสากุสลสฺาติ อิมา สตฺตวีสติ สฺา อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺเต ภเว วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ตาสํ อมนสิการาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถาปิ หิ อิมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรนฺโต ตาสํ อมนสิการาเยว อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตา ปน มนสิกโรนฺโต อสมาปนฺโน โหตีติ. สงฺเขปโต เจตฺถ ‘‘รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติอิมินา สพฺพรูปาวจรธมฺมานํ ปหานํ วุตฺตํ. ‘‘ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอิมินา สพฺเพสํ กามาวจรจิตฺตเจตสิกานํ ปหานฺจ อมนสิกาโร จ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

อนนฺโตอากาโสติ เอตฺถ ปฺตฺติมตฺตตฺตา นาสฺส อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา ปฺายตีติ อนนฺโต, อนนฺตผรณวเสนาปิ อนนฺโต. น หิ โส โยคี เอกเทสวเสน ผรติ, สกลวเสเนว ผรติ. อากาโสติ กสิณุคฺฆาฏิมากาโส. อากาสานฺจายตนาทีนิ วุตฺตตฺถานิ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ ตํ ปตฺวา นิปฺผาเทตฺวา ตทนุรูเปน อิริยาปเถน วิหรติ. ตเทว สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ.

อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากาสานฺจํ จ ตํ ปมสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา เทวานํ เทวายตนํ วิย อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากาสานฺจายตนํ, ตถา อากาสานฺจํ จ ตํ ตสฺส ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา ‘‘กมฺโพชา อสฺสานํ อายตน’’นฺติอาทีนิ วิย สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากาสานฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ตํเยว ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ ผริตฺวา ปวตฺตํ วิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. มนสิการวเสน วา อนนฺตํ. โส หิ ตํ อากาสารมฺมณํ วิฺาณํ อนวเสสโต มนสิกโรนฺโต อนนฺตํ มนสิ กโรติ.

วิฺาณฺจายตนํสมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ วิฺาณฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิฺาณฺจํ จ ตํ ทุติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ วิฺาณฺจายตนํ, ตถา วิฺาณฺจํ จ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ วิฺาณฺจายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นตฺถิ กิฺจีติ นตฺถิ นตฺถิ, สุฺํ สุฺํ, วิวิตฺตํ วิวิตฺตนฺติ เอวํ มนสิกโรนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.

อากิฺจฺายตนํสมติกฺกมฺมาติ เอตฺถาปิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ฌานมฺปิ อากิฺจฺายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อากิฺจฺฺจ ตํ ตติยสฺส อารุปฺปชฺฌานสฺส อารมฺมณตฺตา อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ อากิฺจฺายตนํ, ตถา อากิฺจฺฺจ ตํ ตสฺเสว ฌานสฺส สฺชาติเหตุตฺตา สฺชาติเทสฏฺเน อายตนฺจาติปิ อากิฺจฺายตนํ. เอวเมตํ ฌานฺจ อารมฺมณฺจาติ อุภยมฺปิ อปฺปวตฺติกรเณน จ อมนสิกรเณน จ สมติกฺกมิตฺวาว ยสฺมา อิทํ เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหาตพฺพํ, ตสฺมา อุภยมฺเปตเมกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฺาเวทยิตนิโรธกถา เหฏฺา กถิตาว.

‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิกา สตฺต วิโมกฺขา ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺเน อารมฺมเณ อภิรติวเสน สุฏฺุ มุจฺจนฏฺเน จ วิโมกฺขา, นิโรธสมาปตฺติ ปน จิตฺตเจตสิเกหิ วิมุตฺตฏฺเน วิโมกฺโข. สมาปตฺติสมาปนฺนสมเย วิมุตฺโต โหติ, วุฏฺิตสมเย อวิมุตฺโต โหตีติ สมยวิโมกฺโข. สมุจฺเฉทวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา อริยมคฺคา, ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา สามฺผลานิ, นิสฺสรณวิมุตฺติวเสน อจฺจนฺตวิมุตฺตตฺตา นิพฺพานํ อสมยวิโมกฺโข. ตถา สามยิกาสามยิกวิโมกฺขา.

ปมาทํ อาคมฺม ปริหายตีติ กุปฺโป. ตถา น ปริหายตีติ อกุปฺโป. โลกาย สํวตฺตตีติ โลกิโย. อริยมคฺคา โลกํ อุตฺตรนฺตีติ โลกุตฺตรา, สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ โลกโต อุตฺติณฺณาติ โลกุตฺตรา. อาทิตฺตํ อโยคุฬํ มกฺขิกา วิย เตชุสฺสทํ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ อาสวา นาลมฺพนฺตีติ อนาสโว. รูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ รูปชฺฌานานิ. อรูปปฺปฏิสฺุตฺโตติ อรูปสมาปตฺติโย. ตณฺหาย อาลมฺพิโต ปณิหิโต. อนาลมฺพิโต อปฺปณิหิโต. มคฺคผลานิ เอการมฺมณตฺตา เอกนิฏฺตฺตา จ เอกตฺตวิโมกฺโข, นิพฺพานํ อทุติยตฺตา เอกตฺตวิโมกฺโข, อารมฺมณนานตฺตา วิปากนานตฺตา จ นานตฺตวิโมกฺโข.

๒๑๔. สิยาติ ภเวยฺย, ทส โหนฺตีติ จ เอโก โหตีติ จ ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ จ เอตํ วิธิวจนํ, น ปุจฺฉาวจนํ. วตฺถุวเสนาติ นิจฺจสฺาทิทสวตฺถุวเสน ทส โหนฺติ. ปริยาเยนาติ วิมุจฺจนปริยาเยน เอโก โหติ. สิยาติ กถฺจ สิยาติ ยํ วา สิยาติ วิหิตํ, ตํ กถํ สิยาติ ปุจฺฉติ. อนิจฺจานุปสฺสนาณนฺติ สมาสปทํ. อนิจฺจานุปสฺสนาาณนฺติ วา ปาโ. ตถา เสเสสุปิ. นิจฺจโต สฺายาติ นิจฺจโต ปวตฺตาย สฺาย, ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย สุขโต อตฺตโต นิมิตฺตโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. นิมิตฺตโตติ จ นิจฺจนิมิตฺตโต. นนฺทิยา สฺายาติ นนฺทิวเสน ปวตฺตาย สฺาย, นนฺทิสมฺปยุตฺตาย สฺายาติ อตฺโถ. เอส นโย ราคโต สมุทยโต อาทานโต ปณิธิโต อภินิเวสโต สฺายาติ เอตฺถาปิ. ยสฺมา ปน ขยวยวิปริณามานุปสฺสนา ติสฺโส อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ พลวภาวาย พลวปจฺจยภูตา ภงฺคานุปสฺสนาวิเสสา. ภงฺคทสฺสเนน หิ อนิจฺจานุปสฺสนา พลวตี โหติ. อนิจฺจานุปสฺสนาย จ พลวติยา ชาตาย ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) ทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาปิ พลวติโย โหนฺติ. ตสฺมา อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ วุตฺตาสุ ตาปิ ติสฺโส วุตฺตาว โหนฺติ. ยสฺมา จ สุฺตานุปสฺสนา ‘‘อภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตี’’ติ วจเนเนว สาราทานาภินิเวสสมฺโมหาภินิเวสอาลยาภินิเวสสฺโคาภินิเวสโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, อภินิเวสาภาเวเนว อปฺปฏิสงฺขาโต สฺาย มุจฺจตีติ วุตฺตเมว โหติ, ตสฺมา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาทโย ปฺจปิ อนุปสฺสนา น วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ เอตา อฏฺ อนุปสฺสนา อวตฺวา ทเสว อนุปสฺสนา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.

๒๑๕. อนิจฺจานุปสฺสนา ยถาภูตํ าณนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาเยว ยถาภูตาณํ. อุภยมฺปิ ปจฺจตฺตวจนํ. ยถาภูตาณนฺติ าณตฺโถ วุตฺโต. เอวํ เสเสสุปิ. สมฺโมหา อฺาณาติ สมฺโมหภูตา อฺาณา. มุจฺจตีติ วิโมกฺขตฺโถ วุตฺโต.

๒๑๖. อนิจฺจานุปสฺสนาอนุตฺตรํ สีติภาวาณนฺติ เอตฺถ สาสเนเยว สพฺภาวโต อุตฺตมฏฺเน อนุตฺตรํ, อนุตฺตรสฺส ปจฺจยตฺตา วา อนุตฺตรํ, สีติภาโว เอว าณํ สีติภาวาณํ. ตํ อนิจฺจานุปสฺสนาสงฺขาตํ อนุตฺตรํ สีติภาวาณํ. ‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕) เอตฺถ นิพฺพานํ อนุตฺตโร สีติภาโว นาม. อิธ ปน วิปสฺสนา อนุตฺตโร สีติภาโว. นิจฺจโต สนฺตาปปริฬาหทรถา มุจฺจตีติ เอตฺถาปิ ‘‘นิจฺจ’’นฺติ ปวตฺตกิเลสา เอว อิธ จามุตฺร จ สนฺตาปนฏฺเน สนฺตาโป, ปริทหนฏฺเน ปริฬาโห, อุณฺหฏฺเน ทรโถติ วุจฺจนฺติ.

๒๑๗. เนกฺขมฺมํ ฌายตีติ ฌานนฺติอาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺถา. เนกฺขมฺมาทีนิ เจตฺถ อฏฺ สมาปตฺติโย จ นิพฺเพธภาคิยาเนว.

๒๑๘. อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ อิธ วิปสฺสนาเยว. ‘‘เอตทตฺถา กถา, เอตทตฺถา มนฺตนา, ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข’’ติ (ปริ. ๓๖๖; อ. นิ. ๓.๖๘) เอตฺถ ปน นิพฺพานํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมกฺโข. กติหุปาทาเนหีติ กติหิ อุปาทาเนหิ. กตมา เอกุปาทานาติ กตมโต เอกุปาทานโต. อิทํ เอกุปาทานาติ อิโต เอกโต อุปาทานโต. อิทนฺติ ปุพฺพาณาเปกฺขํ วา. อุปาทานโต มุจฺจเนสุ ยสฺมา อาทิโต สงฺขารานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสิตฺวา ปสฺสิตฺวา อนิจฺจานุปสฺสนาย วิปสฺสติ, ปจฺฉา สงฺขารานํ ภงฺคเมว ปสฺสิตฺวา อนิมิตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสติ. อนิจฺจานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อนิมิตฺตานุปสฺสนา. สงฺขารานํ อุทยพฺพยทสฺสเนน จ ภงฺคทสฺสเนน จ อตฺตาภาโว ปากโฏ โหติ. เตน ทิฏฺุปาทานสฺส จ อตฺตวาทุปาทานสฺส จ ปหานํ โหติ. ทิฏฺิปฺปหาเนเนว จ ‘‘สีลพฺพเตน อตฺตา สุชฺฌตี’’ติ ทสฺสนสฺส อภาวโต สีลพฺพตุปาทานสฺส ปหานํ โหติ. ยสฺมา จ อนตฺตานุปสฺสนาย อุชุกเมว อตฺตาภาวํ ปสฺสติ, อนตฺตานุปสฺสนาวิเสโสเยว จ สุฺตานุปสฺสนา, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ ทิฏฺุปาทานาทีหิ ตีหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺติ. ทุกฺขานุปสฺสนาทีนํเยว ปน จตสฺสนฺนํ ตณฺหาย อุชุวิปจฺจนีกตฺตา อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ จตสฺสนฺนํ กามุปาทานโต มุจฺจนํ น วุตฺตํ. ยสฺมา อาทิโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต ปจฺฉา อปฺปณิหิตานุปสฺสนาย จ ‘‘สงฺขารา ทุกฺขา’’ติ ปสฺสโต สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ. ทุกฺขานุปสฺสนาวิเสโสเยว หิ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา. ยสฺมา จ สงฺขาเรสุ นิพฺพิทานุปสฺสนาย นิพฺพินฺทนฺตสฺส วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนฺตสฺส สงฺขารานํ ปตฺถนา ปหียติ, ตสฺมา อิมานิ จตฺตาริ าณานิ กามุปาทานโต มุจฺจนฺติ. ยสฺมา นิโรธานุปสฺสนาย กิเลเส นิโรเธติ, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย กิเลเส ปริจฺจชติ, ตสฺมา อิมานิ ทฺเว าณานิ จตูหิ อุปาทาเนหิ มุจฺจนฺตีติ เอวํ สภาวนานตฺเตน จ อาการนานตฺเตน จ อฏฺสฏฺิ วิโมกฺขา นิทฺทิฏฺา.

๒๑๙. อิทานิ อาทิโต อุทฺทิฏฺานํ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ ทสฺเสตฺวา วิโมกฺขมุขปุพฺพงฺคมํ อินฺทฺริยวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม ตีณิ โข ปนิมานีติอาทิมาห. ตตฺถ วิโมกฺขมุขานีติ ติณฺณํ วิโมกฺขานํ มุขานิ. โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตีติ เตธาตุกโลกโต นิยฺยานาย นิคฺคมนาย สํวตฺตนฺติ. สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตายาติ สพฺเพสํ สงฺขารานํ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ สมนุปสฺสนตาย. โลกนิยฺยานํ โหตีติ ปาเสโส. อนิจฺจานุปสฺสนา หิ อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถีติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คตึ สมนฺเนสมานา วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตีติ ปริวฏุมโต ปริยนฺตโต สมนุปสฺสติ. สพฺพสงฺขารา หิ อุทเยน ปุพฺพนฺตปริจฺฉินฺนา, วเยน อปรนฺตปริจฺฉินฺนา. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตายาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อนิมิตฺตากาเรน อุปฏฺานโต อนิมิตฺตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา จิตฺตปวิสนตาย จ โลกนิยฺยานํ โหติ. มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตาย. ทุกฺขานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํวิชฺชติ. อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย อปฺปณิหิตากาเรน อุปฏฺานโต อปฺปณิหิตสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. สพฺพธมฺเมติ นิพฺพานสฺส อวิปสฺสนุปคตฺเตปิ อนตฺตสภาวสพฺภาวโต ‘‘สพฺพสงฺขาเร’’ติ อวตฺวา ‘‘สพฺพธมฺเม’’ติ วุตฺตํ. ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ปจฺจยายตฺตตฺตา อวสตาย อวิเธยฺยตาย จ ‘‘นาหํ น มม’’นฺติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตาย. สุฺตาย จ ธาตุยาติ วิปสฺสนากฺขเณปิ นิพฺพานนินฺนตาย สุฺตากาเรน อุปฏฺานโต สุฺตาสงฺขาตาย นิพฺพานธาตุยา. อิติ อิมานิ ตีณิ วจนานิ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนานํ วเสน วุตฺตานิ. เตเนว ตทนนฺตรํ อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขยโตติ ขียนโต. ภยโตติ สภยโต. สุฺโตติ อตฺตรหิตโต.

อธิโมกฺขพหุลนฺติ อนิจฺจานุปสฺสนาย ‘‘ขณภงฺควเสน สงฺขารา ภิชฺชนฺตี’’ติ สทฺธาย ปฏิปนฺนสฺส ปจฺจกฺขโต ขณภงฺคทสฺสเนน ‘‘สจฺจํ วตาห ภควา’’ติ ภควติ สทฺธาย สทฺธาพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ปจฺจุปฺปนฺนานํ ปเทสสงฺขารานํ อนิจฺจตํ ปสฺสิตฺวา ‘‘เอวํ อนิจฺจา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา สพฺเพ สงฺขารา’’ติ อธิมุจฺจนโต อธิโมกฺขพหุลํ จิตฺตํ โหติ. ปสฺสทฺธิพหุลนฺติ ทุกฺขานุปสฺสนาย จิตฺตกฺโขภกราย ปณิธิยา ปชหนโต จิตฺตทรถาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ทุกฺขานุปสฺสนาย สํเวคชนนโต สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปทหนโต วิกฺเขปาภาเวน ปสฺสทฺธิพหุลํ จิตฺตํ โหติ. เวทพหุลนฺติ อนตฺตานุปสฺสนาย พาหิรเกหิ อทิฏฺํ คมฺภีรํ อนตฺตลกฺขณํ ปสฺสโต าณพหุลํ จิตฺตํ โหติ. อถ วา ‘‘สเทวเกน โลเกน อทิฏฺํ อนตฺตลกฺขณํ ทิฏฺ’’นฺติ ตุฏฺสฺส ตุฏฺิพหุลํ จิตฺตํ โหติ.

อธิโมกฺขพหุโล สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค อธิโมกฺโข พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา สทฺธินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค ปสฺสทฺธิพหุลสฺส ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๓; อ. นิ. ๕.๒๖) วจนโต ภาวนาปาริปูริยา ปสฺสทฺธิปจฺจยา สมาธินฺทฺริยํ โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม. เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ ปุพฺพภาเค เวโท พหุลํ ปวตฺตมาโน ภาวนาปาริปูริยา ปฺินฺทฺริยํ นาม โหติ, ตํ โส ปฏิลภติ นาม.

อาธิปเตยฺยํ โหตีติ ฉนฺทาทิเก อธิปติภูเตปิ สกิจฺจนิปฺผาทนวเสน อธิปติ โหติ ปธาโน โหติ. ภาวนายาติ ภุมฺมวจนํ, อุปรูปริ ภาวนตฺถาย วา. ตทนฺวยา โหนฺตีติ ตํ อนุคามินี ตํ อนุวตฺตินี โหนฺติ. สหชาตปจฺจยา โหนฺตีติ อุปฺปชฺชมานา จ สหอุปฺปาทนภาเวน อุปการกา โหนฺติ ปกาสสฺส ปทีโป วิย. อฺมฺปจฺจยา โหนฺตีติ อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา โหนฺติ อฺมฺูปตฺถมฺภกํ ติทณฺฑํ วิย. นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยากาเรน จ อุปการกา โหนฺติ ตรุจิตฺตกมฺมานํ ปถวีปฏาทิ วิย. สมฺปยุตฺตปจฺจยา โหนฺตีติ เอกวตฺถุกเอการมฺมณเอกุปฺปาทเอกนิโรธสงฺขาเตน สมฺปยุตฺตภาเวน อุปการกา โหนฺติ.

๒๒๐. ปฏิเวธกาเลติ มคฺคกฺขเณ สจฺจปฏิเวธกาเล. ปฺินฺทฺริยํ อาธิปเตยฺยํ โหตีติ มคฺคกฺขเณ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา สจฺจทสฺสนกิจฺจกรณวเสน จ กิเลสปฺปหานกิจฺจกรณวเสน จ ปฺินฺทฺริยเมว เชฏฺกํ โหติ. ปฏิเวธายาติ สจฺจปฏิวิชฺฌนตฺถาย. เอกรสาติ วิมุตฺติรเสน. ทสฺสนฏฺเนาติ สจฺจทสฺสนฏฺเน. เอวํ ปฏิวิชฺฌนฺโตปิ ภาเวติ, ภาเวนฺโตปิ ปฏิวิชฺฌตีติ มคฺคกฺขเณ สกึเยว ภาวนาย จ ปฏิเวธสฺส จ สพฺภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อนตฺตานุปสฺสนาย วิปสฺสนากฺขเณปิ ปฺินฺทฺริยสฺเสว อาธิปเตยฺยตฺตา ‘‘ปฏิเวธกาเลปี’’ติ อปิสทฺโท ปยุตฺโต.

๒๒๑. อนิจฺจโตมนสิกโรโต กตมินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติอาทิ อินฺทฺริยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ อธิมตฺตนฺติ อธิกํ. ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยานํ อธิมตฺตตา สงฺขารุเปกฺขาย เวทิตพฺพา. สทฺธาวิมุตฺโตติ เอตฺถ อวิเสเสตฺวา วุตฺเตปิ อุปริ วิเสเสตฺวา วุตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคํ เปตฺวา เสเสสุ สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. สทฺธาวิมุตฺโต สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โหติ, น สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺโตติปิ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตาเยว เสเสสุ สมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยาธิมตฺตตฺเตปิ สติ สทฺธาวิมุตฺโตเยว นาม โหตีติ วทนฺติ. กายสกฺขี โหตีติ อฏฺสุปิ าเนสุ กายสกฺขี นาม โหติ. ทิฏฺิปฺปตฺโต โหตีติ สทฺธาวิมุตฺเต วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺทหนฺโต จตูสุปิ ผลกฺขเณสุ วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. อุปริมคฺคตฺตยกฺขเณ สทฺธาวิมุตฺตตฺตํ อิทานิ วกฺขติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน สทฺธานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. ผุฏฺตฺตา สจฺฉิกโตติ กายสกฺขีติ สุกฺขวิปสฺสกตฺเต สติ อุปจารชฺฌานผสฺสสฺส รูปารูปชฺฌานลาภิตฺเต สติ รูปารูปชฺฌานผสฺสสฺส ผุฏฺตฺตา นิพฺพานํ สจฺฉิกโตติ กายสกฺขี, นามกาเยน วุตฺตปฺปกาเร ฌานผสฺเส จ นิพฺพาเน จ สกฺขีติ วุตฺตํ โหติ. ทิฏฺตฺตา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโตติ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สมฺปยุตฺเตน ปฺินฺทฺริเยน ปมํ นิพฺพานสฺส ทิฏฺตฺตา ปจฺฉา โสตาปตฺติผลาทิวเสน นิพฺพานํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, ปฺินฺทฺริยสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิพฺพานํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปน ธมฺมานุสาริตฺตํ ปจฺฉา วกฺขติ. สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโตติ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺคกฺขเณสุ สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโต. เอตฺถ วิมุจฺจมาโนปิ อาสํสาย ภูตวจนวเสน ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุตฺโต. ฌานผสฺสนฺติ ติวิธํ ฌานผสฺสํ. ‘‘ฌานผสฺส’’นฺติอาทีนิ ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา’’ติอาทีนิ จ ปมํ วุตฺตํ ทฺวยเมว วิเสเสตฺวา วุตฺตานิ. าตํ โหตีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถานิ. เอตฺถ จ ฌานลาภี ปุคฺคโล สมาธินฺทฺริยสฺส อนุกูลาย ทุกฺขานุปสฺสนาย เอว วุฏฺหิตฺวา มคฺคผลานิ ปาปุณาตีติ อาจริยานํ อธิปฺปาโย.

สิยาติ สิยุํ, ภเวยฺยุนฺติ อตฺโถ. ‘‘สิยา’’ติ เอตํ วิธิวจนเมว. ตโย ปุคฺคลาติ วิปสฺสนานิยเมน อินฺทฺริยนิยเมน จ วุตฺตา ตโย ปุคฺคลา. วตฺถุวเสนาติ ตีสุ อนุปสฺสนาสุ เอเกกอินฺทฺริยวตฺถุวเสน. ปริยาเยนาติ เตเนว ปริยาเยน. อิมินา วาเรน กึ ทสฺสิตํ โหติ ? เหฏฺา เอเกกิสฺสา อนุปสฺสนาย เอเกกสฺส อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ จ, กทาจิ ตีสุปิ อนุปสฺสนาสุ เอเกกสฺเสว อินฺทฺริยสฺส อาธิปจฺจํ โหตีติ จ ทสฺสิตํ โหติ. อถ วา ปุพฺพภาควิปสฺสนากฺขเณ ติสฺสนฺนมฺปิ อนุปสฺสนานํ สพฺภาวโต ตาสุ ปุพฺพภาควิปสฺสนาสุ เตสํ เตสํ อินฺทฺริยานํ อาธิปจฺจํ อเปกฺขิตฺวา มคฺคผลกฺขเณสุ สทฺธาวิมุตฺตาทีนิ นามานิ โหนฺตีติ. เอวฺหิ วุจฺจมาเน เหฏฺา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย อุปริ จ กโต อินฺทฺริยาธิปจฺจปุคฺคลนิยโม สุกโตเยว นิจฺจโลเยว จ โหติ. อนนฺตรวาเร สิยาติ อฺโเยวาติ เอวํ สิยาติ อตฺโถ. เอตฺถ ปุพฺเพ วุตฺโตเยว นิยโม.

อิทานิ มคฺคผลวเสน ปุคฺคลวิเสสํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ อนิจฺจโต มนสิกโรโต…เป… โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตีติอาทิมาห. ตตฺถ สทฺธํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉติ, สทฺธาย วา นิพฺพานํ อนุสฺสรติ อนุคจฺฉตีติ สทฺธานุสารี. สจฺฉิกตนฺติ ปจฺจกฺขกตํ. อรหตฺตนฺติ อรหตฺตผลํ. ปฺาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสฺสรติ, เตน วา ธมฺเมน นิพฺพานํ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี.

๒๒๒. ปุน อปเรหิ ปริยาเยหิ อินฺทฺริยตฺตยวิเสเสน ปุคฺคลวิเสสํ วณฺเณตุกาโม เย หิ เกจีติอาทิมาห. ตตฺถ ภาวิตา วาติ อตีเต ภาวยึสุ วา. ภาเวนฺติ วาติ ปจฺจุปฺปนฺเน. ภาวิสฺสนฺติ วาติ อนาคเต. อธิคตา วาติอาทิ เอเกกนฺติกํ ปุริมสฺส ปุริมสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตํ. ผสฺสิตา วาติ าณผุสนาย ผุสึสุ วา. วสิปฺปตฺตาติ อิสฺสรภาวํ ปตฺตา. ปารมิปฺปตฺตาติ โวสานํ ปตฺตา. เวสารชฺชปฺปตฺตาติ วิสารทภาวํ ปตฺตา. สพฺพตฺถ สทฺธาวิมุตฺตาทโย เหฏฺา วุตฺตกฺขเณสุเยว, สติปฏฺานาทโย มคฺคกฺขเณเยว. อฏฺ วิโมกฺเขติ ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘) ปฏิสมฺภิทามคฺคปฺปตฺติยา เอว ปตฺตา.

ติสฺโส สิกฺขาติ อธิสีลสิกฺขา อธิจิตฺตสิกฺขา อธิปฺาสิกฺขา มคฺคปฺปตฺตา เอว สิกฺขมานา. ทุกฺขํ ปริชานนฺตีติอาทีนิ มคฺคกฺขเณเยว. ปริฺาปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌตีติ ปริฺาปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌติ, ปริฺาย ปฏิวิชฺฌิตพฺพนฺติ วา ปริฺาปฏิเวธํ. เอวํ เสเสสุปิ. สพฺพธมฺมาทีหิ วิเสเสตฺวา อภิฺาปฏิเวธาทโย วุตฺตา. สจฺฉิกิริยาปฏิเวโธ ปน มคฺคกฺขเณเยว นิพฺพานปจฺจเวกฺขณาณสิทฺธิวเสน เวทิตพฺโพติ. เอวมิธ ปฺจ อริยปุคฺคลา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ, อุภโตภาควิมุตฺโต จ ปฺาวิมุตฺโต จาติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺา. อฺตฺถ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๗๓) ปน ‘‘โย ปน ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โส สพฺพตฺถ กายสกฺขี นาม โหติ, อรูปชฺฌานํ ปน ปตฺวา อคฺคผลํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม โหติ. โย ปน อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี โหติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต, อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. เต อิธ กายสกฺขิทิฏฺิปฺปตฺเตหิเยว สงฺคหิตา. อตฺถโต ปน อรูปชฺฌาเนน เจว อริยมคฺเคน จาติ อุภโตภาเคน วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ปชานนฺโต วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโตติ. เอตฺตาวตา อินฺทฺริยปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺติ.

๒๒๓-๒๒๖. อิทานิ วิโมกฺขปุพฺพงฺคมเมว วิโมกฺขวิเสสํ ปุคฺคลวิเสสฺจ ทสฺเสตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทิมาห. ตตฺถ ทฺเว วิโมกฺขาติ อปฺปณิหิตสุฺตวิโมกฺขา. อนิจฺจานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวา สคุณโต จ เตสํเยว ปณิธีนํ อภาวา อปฺปณิหิตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตถา ราคโทสโมเหหิ สุฺตฺตา สคุณโต จ ราคาทีหิเยว สุฺตฺตา สุฺตนฺติ ลทฺธนามํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ สุฺตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. ตสฺมา เต ทฺเว วิโมกฺขา อนิมิตฺตวิโมกฺขนฺวยา นาม โหนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคโต อนฺเปิ อฏฺนฺนํ มคฺคงฺคานํ เอเกกสฺส มคฺคงฺคสฺส วเสน สหชาตาทิปจฺจยา จ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ สุฺตานิมิตฺตวิโมกฺขา. ทุกฺขานุปสฺสนาคมนวเสน หิ อปฺปณิหิตวิโมกฺโขติ ลทฺธนาโม มคฺโค รูปนิมิตฺตาทีนํ ราคนิมิตฺตาทีนํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนฺจ อภาวา สคุณโต จ เตสํเยว นิมิตฺตานํ อภาวา อนิมิตฺตสงฺขาตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติ อารมฺมณโต จ อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ นามมฺปิ ลภติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. ปุน ทฺเว วิโมกฺขาติ อนิมิตฺตอปฺปณิหิตวิโมกฺขา. โยชนา ปเนตฺถ วุตฺตนยา เอว.

ปฏิเวธกาเลติ อินฺทฺริยานํ วุตฺตกฺกเมเนว วุตฺตํ. มคฺคกฺขณํ ปน มุฺจิตฺวา วิปสฺสนากฺขเณ วิโมกฺโข นาม นตฺถิ . ปมํ วุตฺโตเยว ปน มคฺควิโมกฺโข ‘‘ปฏิเวธกาเล’’ติ วจเนน วิเสเสตฺวา ทสฺสิโต. ‘‘โย จายํ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติอาทิกา ทฺเว วารา จ ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภตี’’ติอาทิโก วาโร จ สงฺขิตฺโต, วิโมกฺขวเสน ปน โยเชตฺวา วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ. เย หิ เกจิ เนกฺขมฺมนฺติอาทิโก วาโร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ. เอตฺตาวตา วิโมกฺขปุคฺคลวิเสสา นิทฺทิฏฺา โหนฺตีติ.

๒๒๗. ปุน วิโมกฺขมุขานิ จ วิโมกฺเข จ อเนกธา นิทฺทิสิตุกาโม อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโตติอาทิมาห. ตตฺถ ยถาภูตนฺติ ยถาสภาเวน. ชานาตีติ าเณน ชานาติ. ปสฺสตีติ เตเนว าเณน จกฺขุนา วิย ปสฺสติ. ตทนฺวเยนาติ ตทนุคมเนน, ตสฺส ปจฺจกฺขโต าเณน ทิฏฺสฺส อนุคมเนนาติ อตฺโถ. กงฺขา ปหียตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจานิจฺจกงฺขา, อิตราหิ อิตรกงฺขา. นิมิตฺตนฺติ สนฺตติฆนวินิพฺโภเคน นิจฺจสฺาย ปหีนตฺตา อารมฺมณภูตํ สงฺขารนิมิตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. เตน วุจฺจติ สมฺมาทสฺสนนฺติ เตน ยถาภูตชานเนน ตํ าณํ ‘‘สมฺมาทสฺสน’’นฺติ วุจฺจติ. ปวตฺตนฺติ ทุกฺขปฺปตฺตากาเร สุขสฺํ อุคฺฆาเฏตฺวา สุขสฺาย ปหาเนน ปณิธิสงฺขาตาย ตณฺหาย ปหีนตฺตา สุขสมฺมตมฺปิ วิปากปวตฺตํ ยถาภูตํ ชานาติ. นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจาติ นานาธาตุมนสิการสมฺภเวน สมูหฆนวินิพฺโภเคน อุภยถาปิ อตฺตสฺาย ปหีนตฺตา สงฺขารนิมิตฺตฺจ วิปากปวตฺตฺจ ยถาภูตํ ชานาติ. ยฺจ ยถาภูตํ าณนฺติอาทิตฺตยํ อิทานิ วุตฺตเมว, น อฺํ. ภยโต อุปฏฺาตีติ นิจฺจสุขอตฺตาภาวทสฺสนโต ยถากฺกมํ ตํ ตํ ภยโต อุปฏฺาติ. ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺาติอาทินา ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ ภยตุปฏฺานาณํ อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อนุโลมาณ’’นฺติ วุตฺเตสุ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาเตสุ นวสุ วิปสฺสนาาเณสุ ภยตุปฏฺานสมฺพนฺเธน อวตฺถาเภเทน ภินฺนานิ เอกฏฺานิ ตีณิ าณานิ วุตฺตานิ, น เสสานิ.

ปุน ตีสุ อนุปสฺสนาสุ อนฺเต ิตาย อนนฺตราย อนตฺตานุปสฺสนาย สมฺพนฺเธน ตาย สห สุฺตานุปสฺสนาย เอกฏฺตํ ทสฺเสตุํ ยา จ อนตฺตานุปสฺสนา ยา จ สุฺตานุปสฺสนาติอาทิมาห. อิมานิ หิ ทฺเว าณานิ อตฺถโต เอกเมว, อวตฺถาเภเทน ปน ภินฺนานิ. ยถา จ อิมานิ, ตถา อนิจฺจานุปสฺสนา จ อนิมิตฺตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ อปฺปณิหิตานุปสฺสนา จ อตฺถโต เอกเมว าณํ, เกวลํ อวตฺถาเภเทเนว ภินฺนานิ. อนตฺตานุปสฺสนาสุฺตานุปสฺสนานฺจ เอกฏฺตาย วุตฺตาย เตสํ ทฺวินฺนํ ทฺวินฺนมฺปิ าณานํ เอกลกฺขณตฺตา เอกฏฺตา วุตฺตาว โหตีติ. นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘สงฺขารนิมิตฺตํ อทฺธุวํ ตาวกาลิก’’นฺติ อนิจฺจลกฺขณวเสน ชานิตฺวา าณํ อุปฺปชฺชติ. กามฺจ น ปมํ ชานิตฺวา ปจฺฉา าณํ อุปฺปชฺชติ, โวหารวเสน ปน ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีนิ (สํ. นิ. ๔.๖๐; ม. นิ. ๑.๔๐๐; ๓.๔๒๑) วิย เอวํ วุจฺจติ. สทฺทสตฺถวิทูปิ จ ‘‘อาทิจฺจํ ปาปุณิตฺวา ตโม วิคจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย สมานกาเลปิ อิมํ ปทํ อิจฺฉนฺติ. เอกตฺตนเยน วา ปุริมฺจ ปจฺฉิมฺจ เอกํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มุฺจิตุกมฺยตาทีนํ ติณฺณํ าณานํ เอกฏฺตา เหฏฺา วุตฺตนยา เอว.

นิมิตฺตาจิตฺตํ วุฏฺาตีติ สงฺขารนิมิตฺเต โทสทสฺสเนน ตตฺถ อนลฺลีนตาย สงฺขารนิมิตฺตา จิตฺตํ วุฏฺาติ นาม. อนิมิตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทตีติ สงฺขารนิมิตฺตปฏิปกฺเขน อนิมิตฺตสงฺขาเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย จิตฺตํ ปวิสติ. เสสานุปสฺสนาทฺวเยปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. นิโรเธ นิพฺพานธาตุยาติ อิธ วุตฺเตเนว ปมานุปสฺสนาทฺวยมฺปิ วุตฺตเมว โหติ. นิโรเธติปิ ปาโ. พหิทฺธาวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติ วุฏฺานสมฺพนฺเธน โคตฺรภุาณํ วุตฺตํ. โคตฺรภู ธมฺมาติ โคตฺรภุาณเมว. อิตรถา หิ เอกฏฺตา น ยุชฺชติ. ‘‘อสงฺขตา ธมฺมา, อปฺปจฺจยา ธมฺมา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗, ๘) วิย วา จตุมคฺควเสน วา พหุวจนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยสฺมา วิโมกฺโขติ มคฺโค, มคฺโค จ ทุภโตวุฏฺาโน, ตสฺมา เตน สมฺพนฺเธน ยา จ ทุภโตวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺาติอาทิ วุตฺตํ.

๒๒๘. ปุน วิโมกฺขานํ นานากฺขณานํ เอกกฺขณปริยายํ ทสฺเสตุกาโม กติหากาเรหีติอาทิมาห. ตตฺถ อาธิปเตยฺยฏฺเนาติ เชฏฺกฏฺเน. อธิฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานฏฺเน. อภินีหารฏฺเนาติ วิปสฺสนาวีถิโต นีหรณฏฺเน. นิยฺยานฏฺเนาติ นิพฺพานุปคมนฏฺเน. อนิจฺจโต มนสิกโรโตติ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนากฺขเณเยว . อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ มคฺคกฺขเณเยว. เอส นโย เสเสสุ. จิตฺตํ อธิฏฺาตีติ จิตฺตํ อธิกํ กตฺวา าติ, จิตฺตํ ปติฏฺาเปตีติ อธิปฺปาโย. จิตฺตํ อภินีหรตีติ วิปสฺสนาวีถิโต จิตฺตํ นีหรติ. นิโรธํ นิพฺพานํ นิยฺยาตีติ นิโรธสงฺขาตํ นิพฺพานํ อุปคจฺฉตีติ เอวํ อาการนานตฺตโต จตุธา นานากฺขณตา ทสฺสิตา.

เอกกฺขณตาย สโมธานฏฺเนาติ เอกชฺฌํ สโมสรณฏฺเน. อธิคมนฏฺเนาติ วินฺทนฏฺเน. ปฏิลาภฏฺเนาติ ปาปุณนฏฺเน. ปฏิเวธฏฺเนาติ าเณน ปฏิวิชฺฌนฏฺเน. สจฺฉิกิริยฏฺเนาติ ปจฺจกฺขกรณฏฺเน. ผสฺสนฏฺเนาติ าณผุสนาย ผุสนฏฺเน. อภิสมยฏฺเนาติ อภิมุขํ สมาคมนฏฺเน. เอตฺถ ‘‘สโมธานฏฺเนา’’ติ มูลปทํ, เสสานิ อธิคมเววจนานิ. ตสฺมาเยว หิ สพฺเพสํ เอกโต วิสฺสชฺชนํ กตํ. นิมิตฺตา มุจฺจตีติ นิจฺจนิมิตฺตโต มุจฺจติ. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยโต มุจฺจตีติ ยโต นิมิตฺตโต มุจฺจติ. ตตฺถ น ปณิทหตีติ ตสฺมึ นิมิตฺเต ปตฺถนํ น กโรติ. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ นิมิตฺเต น ปณิทหติ. เตน สุฺโติ เตน นิมิตฺเตน สุฺโ. เยน สุฺโติ เยน นิมิตฺเตน สุฺโ. เตน นิมิตฺเตน อนิมิตฺโตติ อิมินา อนิมิตฺตฏฺโ วุตฺโต.

ปณิธิยา มุจฺจตีติ ปณิธิโต มุจฺจติ. ‘‘ปณิธิ มุจฺจตี’’ติ ปาโ นิสฺสกฺกตฺโถเยว. อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. ยตฺถ น ปณิทหตีติ ยสฺมึ ทุกฺเข น ปณิทหติ. เตน สุฺโติ เตน ทุกฺเขน สุฺโ. เยน สุฺโติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน สุฺโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน ทุกฺขนิมิตฺเตน. ตตฺถ น ปณิทหตีติ อิมินา อปฺปณิหิตฏฺโ วุตฺโต. อภินิเวสา มุจฺจตีติ อิมินา วิโมกฺขฏฺโ วุตฺโต. เยน สุฺโติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน สุฺโ. เยน นิมิตฺเตนาติ เยน อภินิเวสนิมิตฺเตน. ยตฺถ น ปณิทหติ, เตน สุฺโติ ยสฺมึ อภินิเวสนิมิตฺเต น ปณิทหติ, เตน อภินิเวสนิมิตฺเตน สุฺโ. อิมินา สุฺตฏฺโ วุตฺโต.

๒๒๙. ปุน อฏฺวิโมกฺขาทีนิ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ วิโมกฺโขติอาทิมาห. ตตฺถ นิจฺจโต อภินิเวสาติอาทีนิ สฺาวิโมกฺเข วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานิ. สพฺพาภินิเวเสหีติ วุตฺตปฺปกาเรหิ อภินิเวเสหิ. อิติ อภินิเวสมุจฺจนวเสน สุฺตวิโมกฺขา นาม ชาตา, เตเยว นิจฺจาทินิมิตฺตมุจฺจนวเสน อนิมิตฺตวิโมกฺขา, นิจฺจนฺติอาทิปณิธีหิ มุจฺจนวเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺขา. เอตฺถ จ ปณิธิ มุจฺจตีติ สพฺพตฺถ นิสฺสกฺกตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปณิธิยา มุจฺจตีติ วา ปาโ. ‘‘สพฺพปณิธีหิ มุจฺจตี’’ติ เจตฺถ สาธกํ. เอวํ ติสฺโส อนุปสฺสนา ตทงฺควิโมกฺขตฺตา จ สมุจฺเฉทวิโมกฺขสฺส ปจฺจยตฺตา จ ปริยาเยน วิโมกฺขาติ วุตฺตา.

๒๓๐. ตตฺถ ชาตาติ อนนฺตเร วิปสฺสนาวิโมกฺเขปิ สติ อิมิสฺสา กถาย มคฺควิโมกฺขาธิการตฺตา ตสฺมึ มคฺควิโมกฺเข ชาตาติ วุตฺตํ โหติ. อนวชฺชกุสลาติ ราคาทิวชฺชวิรหิตา กุสลา. วิจฺเฉทํ กตฺวา วา ปาโ. โพธิปกฺขิยา ธมฺมาติ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา , อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๕, ๔๓; จูฬนิ. เมตฺตคูมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๒๒; มิ. ป. ๕.๔.๑) วุตฺตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อิทํ มุขนฺติ อิทํ วุตฺตปฺปการํ ธมฺมชาตํ อารมฺมณโต นิพฺพานปเวสาย มุขตฺตา มุขํ นามาติ วุตฺตํ โหติ. เตสํ ธมฺมานนฺติ เตสํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ. อิทํ วิโมกฺขมุขนฺติ นิพฺพานํ วิกฺขมฺภนตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธินิสฺสรณวิโมกฺเขสุ นิสฺสรณวิโมกฺโขว, ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว , ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) วุตฺตตฺตา อุตฺตมฏฺเน มุขฺจาติ วิโมกฺขมุขํ. วิโมกฺขฺจ ตํ มุขฺจ วิโมกฺขมุขนฺติ กมฺมธารยสมาสวเสน อยเมว อตฺโถ วุตฺโต. วิโมกฺขฺจาติ เอตฺถ ลิงฺควิปลฺลาโส กโต. ตีณิ อกุสลมูลานีติ โลภโทสโมหา. ตีณิ ทุจฺจริตานีติ กายวจีมโนทุจฺจริตานิ. สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมาติ อกุสลมูเลหิ สมฺปยุตฺตา ทุจฺจริเตหิ สมฺปยุตฺตา จ อสมฺปยุตฺตา จ เสวิตพฺพโทมนสฺสาทีนิ เปตฺวา สพฺเพปิ อกุสลา ธมฺมา. กุสลมูลสุจริตานิ วุตฺตปฏิปกฺเขน เวทิตพฺพานิ. สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมาติ วุตฺตนเยเนว สมฺปยุตฺตา อสมฺปยุตฺตา จ วิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสยภูตา สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา. วิวฏฺฏกถา เหฏฺา วุตฺตา. วิโมกฺขวิวฏฺฏสมฺพนฺเธน ปเนตฺถ เสสวิวฏฺฏาปิ วุตฺตา. อาเสวนาติ อาทิโต เสวนา. ภาวนาติ ตสฺเสว วฑฺฒนา. พหุลีกมฺมนฺติ ตสฺเสว วสิปฺปตฺติยา ปุนปฺปุนํ กรณํ. มคฺคสฺส ปน เอกกฺขเณเยว กิจฺจสาธนวเสน อาเสวนาทีนิ เวทิตพฺพานิ. ปฏิลาโภ วา วิปาโก วาติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนวาติ.

วิโมกฺขนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฏิสมฺภิทามคฺค-อฏฺกถาย

วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.