📜
๒-๓. มิลินฺทปฺโห
๑. มหาวคฺโค
๑. ปฺตฺติปฺโห
๑. อถ ¶ ¶ ¶ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา นาคเสเนน สทฺธึ สมฺโมทิ, สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ. อายสฺมาปิ โข นาคเสโน ปฏิสมฺโมทนีเยเนว [ปฏิสมฺโมทิ, เตเนว (สี.)] มิลินฺทสฺส รฺโ จิตฺตํ อาราเธสิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘กถํ ภทนฺโต ายติ, กินฺนาโมสิ ภนฺเต’’ติ? ‘‘นาคเสโน’’ติ โข อหํ, มหาราช, ายามิ, ‘‘นาคเสโน’’ติ โข มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺติ, อปิ จ มาตาปิตโร นามํ กโรนฺติ ‘‘นาคเสโน’’ติ วา ‘‘สูรเสโน’’ติ วา ‘‘วีรเสโน’’ติ วา ‘‘สีหเสโน’’ติ วา, อปิ จ โข, มหาราช, สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ยทิทํ นาคเสโนติ, น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เอวมาห ‘‘สุณนฺตุ เม โภนฺโต ปฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ นาคเสโน เอวมาห ‘น เหตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’ติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘สเจ, ภนฺเต นาคเสน, ปุคฺคโล นูปลพฺภติ, โก จรหิ ตุมฺหากํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ เทติ, โก ตํ ปริภฺุชติ, โก สีลํ รกฺขติ, โก ภาวนมนุยฺุชติ, โก มคฺคผลนิพฺพานานิ สจฺฉิกโรติ, โก ปาณํ หนติ, โก อทินฺนํ อาทิยติ, โก กาเมสุมิจฺฉาจารํ จรติ, โก มุสา ภณติ, โก มชฺชํ ปิวติ, โก ปฺจานนฺตริยกมฺมํ ¶ กโรติ, ตสฺมา นตฺถิ กุสลํ, นตฺถิ อกุสลํ, นตฺถิ กุสลากุสลานํ กมฺมานํ กตฺตา วา กาเรตา วา, นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, สเจ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, โย ตุมฺเห มาเรติ, นตฺถิ ตสฺสาปิ ปาณาติปาโต, ตุมฺหากมฺปิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ อาจริโย, นตฺถิ อุปชฺฌาโย, นตฺถิ อุปสมฺปทา. ‘นาคเสโนติ มํ, มหาราช, สพฺรหฺมจารี สมุทาจรนฺตี’ติ ยํ วเทสิ, ‘กตโม เอตฺถ นาคเสโน ¶ ? กินฺนุ โข, ภนฺเต, เกสา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘โลมา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘นขา…เป… ทนฺตา…เป… ตโจ…เป… มํสํ…เป… นฺหารุ…เป… อฏฺิ…เป… อฏฺิมิฺชํ…เป… วกฺกํ…เป… หทยํ…เป… ยกนํ…เป… กิโลมกํ…เป… ปิหกํ…เป… ปปฺผาสํ…เป… อนฺตํ…เป… อนฺตคุณํ…เป… อุทริยํ…เป… กรีสํ…เป… ปิตฺตํ…เป… เสมฺหํ…เป… ปุพฺโพ…เป… โลหิตํ…เป… เสโท…เป… เมโท…เป… อสฺสุ…เป… วสา…เป… เขโฬ…เป… สิงฺฆาณิกา…เป… ลสิกา…เป… มุตฺตํ…เป… มตฺถเก มตฺถลุงฺคํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิมหาราชา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต, รูปํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘นหิ มหาราชา’’ติ. ‘‘เวทนา นาคเสโน’’ติ?‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘สฺา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘สงฺขารา นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘วิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อฺตฺร รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณํ นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘ตมหํ ภนฺเต, ปุจฺฉนฺโต ปุจฺฉนฺโต น ปสฺสามิ นาคเสนํ. นาคเสนสทฺโท เยว นุ โข, ภนฺเต, นาคเสโน’’ติ? ‘‘น หิ มหาราชา’’ติ. ‘‘โก ปเนตฺถ นาคเสโน, อลิกํ ตฺวํ, ภนฺเต, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ นาคเสโน’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘ตฺวํ โขสิ, มหาราช, ขตฺติยสุขุมาโล อจฺจนฺตสุขุมาโล, ตสฺส เต, มหาราช, มชฺฌนฺหิกสมยํ ตตฺตาย ภูมิยา อุณฺหาย วาลิกาย ขราย สกฺขรกถลิกาย [ขรา สกฺขรกลวาลิกา (สี. ปี.)] มทฺทิตฺวา ปาเทนาคจฺฉนฺตสฺส ปาทา รุชฺชนฺติ, กาโย กิลมติ, จิตฺตํ อุปหฺติ, ทุกฺขสหคตํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, กึ นุ โข ตฺวํ ปาเทนาคโตสิ, อุทาหุ วาหเนนา’’ติ? ‘‘นาหํ, ภนฺเต, ปาเทนาคจฺฉามิ, รเถนาหํ ¶ อาคโตสฺมี’’ติ. ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, รเถนาคโตสิ, รถํ เม อาโรเจหิ, กึ นุ โข, มหาราช, อีสา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อกฺโข รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘จกฺกานิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รถปฺชรํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รถทณฺฑโก รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยุคํ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘รสฺมิโย ¶ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ปโตทลฏฺิ รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อีสาอกฺขจกฺกรถปฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช ¶ , อฺตฺร อีสาอกฺขจกฺกรถปฺชรรถทณฺฑยุครสฺมิปโตทา รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตมหํ, มหาราช, ปุจฺฉนฺโต ปุจฺฉนฺโต น ปสฺสามิ รถํ. รถสทฺโทเยว นุ โข, มหาราช, รโถ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก ปเนตฺถ รโถ, อลิกํ, ตฺวํ มหาราช, ภาสสิ มุสาวาทํ, นตฺถิ รโถ, ตฺวํสิ, มหาราช, สกลชมฺพุทีเป อคฺคราชา, กสฺส ปน ตฺวํ ภายิตฺวา มุสาวาทํ ภาสสิ, สุณนฺตุ เม โภนฺโต ปฺจสตา โยนกา อสีติสหสฺสา จ ภิกฺขู, อยํ มิลินฺโท ราชา เอวมาห ‘รเถนาหํ อาคโตสฺมี’ติ, สเจ ตฺวํ, มหาราช, รเถนาคโต‘สิ, รถํ เม อาโรเจหี’ติ วุตฺโต สมาโน รถํ น สมฺปาเทติ, กลฺลํ นุ โข ตทภินนฺทิตุ’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ปฺจสตา โยนกา อายสฺมโต นาคเสนสฺส สาธุการํ ทตฺวา มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจุํ ‘‘อิทานิ โข ตฺวํ, มหาราช, สกฺโกนฺโต ภาสสฺสู’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, มุสา ภณามิ, อีสฺจ ปฏิจฺจ อกฺขฺจ ปฏิจฺจ จกฺกานิ จ ปฏิจฺจ รถปฺชรฺจ ปฏิจฺจ รถทณฺฑกฺจ ปฏิจฺจ ‘รโถ’ติ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตตี’’ติ.
‘‘สาธุ โข, ตฺวํ มหาราช, รถํ ชานาสิ, เอวเมว โข, มหาราช, มยฺหมฺปิ เกเส จ ปฏิจฺจ โลเม จ ปฏิจฺจ…เป… มตฺถเก มตฺถลุงฺคฺจ ¶ ปฏิจฺจ รูปฺจ ปฏิจฺจ เวทนฺจ ปฏิจฺจ สฺฺจ ปฏิจฺจ สงฺขาเร จ ปฏิจฺจ วิฺาณฺจ ปฏิจฺจ ‘นาคเสโน’ติ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามมตฺตํ ปวตฺตติ, ปรมตฺถโต ปเนตฺถ ปุคฺคโล นูปลพฺภติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, วชิราย ภิกฺขุนิยา ภควโต สมฺมุขา –
‘‘‘ยถา หิ องฺคสมฺภารา, โหติ สทฺโท รโถ อิติ;
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ, โหติ ‘‘สตฺโต’’ติ สมฺมุตี’’’ติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๑๗๑].
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานิ, ยทิ พุทฺโธ ติฏฺเยฺย สาธุการํ ทเทยฺย, สาธุ สาธุ นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานี’’ติ.
ปฺตฺติปฺโห ปโม.
๒. วสฺสคณนปฺโห
๒. ‘‘กติวสฺโสสิ ¶ ¶ ตฺวํ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ? ‘‘สตฺตวสฺโสหํ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เก เต, ภนฺเต, สตฺต, ตฺวํ วา สตฺต, คณนา วา สตฺตา’’ติ?
เตน โข ปน สมเยน มิลินฺทสฺส รฺโ สพฺพาภรณปฏิมณฺฑิตสฺส อลงฺกตปฏิยตฺตสฺส ปถวิยํ ฉายา ทิสฺสติ, อุทกมณิเก จ ฉายา ทิสฺสติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘อยํ เต, มหาราช, ฉายา ปถวิยํ อุทกมณิเก จ ทิสฺสติ, กึ ปน, มหาราช, ตฺวํ วา ราชา, ฉายา วา ราชา’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต นาคเสน, ราชา, นายํ ฉายา ราชา, มํ ปน นิสฺสาย ฉายา ปวตฺตตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, วสฺสานํ คณนา สตฺต, น ปนาหํ สตฺต, มํ ปน นิสฺสาย สตฺต ปวตฺตติ, ฉายูปมํ มหาราชา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, อติจิตฺรานิ ปฺหปฏิภานานิ วิสชฺชิตานี’’ติ.
วสฺสคณนปฺโห ทุติโย.
๓. วีมํสนปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สลฺลปิสฺสสิ มยา สทฺธิ’’นฺติ? ‘‘สเจ, ตฺวํ มหาราช, ปณฺฑิตวาทํ [ปณฺฑิตวาทา (สี. ปี.)] สลฺลปิสฺสสิ สลฺลปิสฺสามิ, สเจ ปน ราชวาทํ สลฺลปิสฺสสิ น สลฺลปิสฺสามี’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ปณฺฑิตานํ โข, มหาราช, สลฺลาเป อาเวนมฺปิ กยิรติ, นิพฺเพนมฺปิ กยิรติ, นิคฺคโหปิ กยิรติ, ปฏิกมฺมมฺปิ ¶ กยิรติ, วิสฺสาโสปิ [วิเสโสปิ (สี. ปี.)] กยิรติ, ปฏิวิสฺสาโสปิ กยิรติ, น จ เตน ปณฺฑิตา กุปฺปนฺติ, เอวํ โข, มหาราช, ปณฺฑิตา สลฺลปนฺตี’’ติ. ‘‘กถํ ปน, ภนฺเต, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติ? ‘‘ราชาโน โข, มหาราช, สลฺลาเป เอกํ วตฺถุํ ปฏิชานนฺติ, โย ตํ วตฺถุํ วิโลเมติ, ตสฺส ทณฺฑํ อาณาเปนฺติ ‘อิมสฺส ทณฺฑํ ปเณถา’ติ, เอวํ โข, มหาราช, ราชาโน สลฺลปนฺตี’’ติ. ‘‘ปณฺฑิตวาทาหํ, ภนฺเต, สลฺลปิสฺสามิ, โน ราชวาทํ, วิสฺสฏฺโ ภทนฺโต สลฺลปตุ ยถา ภิกฺขุนา วา สามเณเรน วา อุปาสเกน วา อารามิเกน ¶ วา สทฺธึ สลฺลปติ ¶ , เอวํ วิสฺสฏฺโ ภทนฺโต สลฺลปตุ มา ภายตู’’ติ. ‘‘สุฏฺุ มหาราชา’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิ.
ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. ‘‘ปุจฺฉ มหาราชา’’ติ. ‘‘ปุจฺฉิโตสิ เม ภนฺเต’’ติ. ‘‘วิสชฺชิตํ มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ตยา วิสชฺชิต’’นฺติ? ‘‘กึ ปน, มหาราช, ตยา ปุจฺฉิต’’นฺติ.
วีมํสนปฺโห ตติโย.
๔. อนนฺตกายปฺโห
๔. อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘ปณฺฑิโต โข อยํ ภิกฺขุ ปฏิพโล มยา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, พหุกานิ จ เม านานิ ปุจฺฉิตพฺพานิ ภวิสฺสนฺติ, ยาว อปุจฺฉิตานิ เยว ตานิ านานิ ภวิสฺสนฺติ, อถ สูริโย อตฺถํ คมิสฺสติ, ยํนูนาหํ สฺเว อนฺเตปุเร สลฺลเปยฺย’’นฺติ. อถ โข ราชา เทวมนฺติยํ เอตทโวจ ‘‘เตน หิ, ตฺวํ เทวมนฺติย, ภทนฺตสฺส อาโรเจยฺยาสิ ‘สฺเว อนฺเตปุเร รฺา สทฺธึ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติ. อิทํ วตฺวา มิลินฺโท ราชา อุฏฺายาสนา เถรํ นาคเสนํ อาปุจฺฉิตฺวา รถํ อภิรูหิตฺวา ‘‘นาคเสโน นาคเสโน’’ติ สชฺฌายํ กโรนฺโต ปกฺกามิ.
อถ โข เทวมนฺติโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘สฺเว อนฺเตปุเร รฺา สทฺธึ สลฺลาโป ภวิสฺสตี’’’ติ. ‘‘สุฏฺู’’ติ เถโร อพฺภานุโมทิ. อถ โข ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ สพฺพทินฺโน จ เยน มิลินฺโท ราชา เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชานํ มิลินฺทํ เอตทโวจุํ ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ภทนฺโต นาคเสโน’’ติ ¶ ? ‘‘อาม อาคจฺฉตู’’ติ. ‘‘กิตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ? ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ.
อถ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ, ทุติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ ¶ . ทุติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ. ตติยมฺปิ โข ราชา อาห ‘‘ยตฺตเก ¶ ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’ติ. ตติยมฺปิ โข สพฺพทินฺโน อาห ‘‘อาคจฺฉตุ, มหาราช, ทสหิ ภิกฺขูหิ สทฺธิ’’นฺติ. ‘‘สพฺโพ ปนายํ สกฺกาโร ปฏิยาทิโต, อหํ ภณามิ ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’ติ. อยํ, ภเณ สพฺพทินฺโน, อฺถา ภณติ, กึ นุ มยํ นปฺปฏิพลา ภิกฺขูนํ โภชนํ ทาตุ’’นฺติ? เอวํ วุตฺเต สพฺพทินฺโน มงฺกุ อโหสิ.
อถ โข เทวมนฺติโย จ อนนฺตกาโย จ มงฺกุโร จ เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมึสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจุํ ‘‘ราชา, ภนฺเต, มิลินฺโท เอวมาห ‘ยตฺตเก ภิกฺขู อิจฺฉติ, ตตฺตเกหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคจฺฉตู’’’ติ. อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย อสีติยา ภิกฺขุสหสฺเสหิ สทฺธึ สาคลํ ปาวิสิ.
อถ โข อนนฺตกาโย อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ นิสฺสาย คจฺฉนฺโต อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘นาคเสโน’ติ, กตโม เอตฺถ, นาคเสโน’’ติ? เถโร อาห ‘‘โก ปเนตฺถ ‘นาคเสโน’ติ มฺสี’’ติ? ‘‘โย โส, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร วาโต ชีโว ปวิสติ จ นิกฺขมติ จ, โส ‘นาคเสโน’ติ มฺามี’’ติ. ‘‘ยทิ ปเนโส วาโต นิกฺขมิตฺวา นปฺปวิเสยฺย, ปวิสิตฺวา น นิกฺขเมยฺย, ชีเวยฺย นุ โข โส ปุริโส’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘เย ปนิเม สงฺขธมกา สงฺขํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปนิเม วํสธมกา วํสํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปนิเม สิงฺคธมกา สิงฺคํ ธเมนฺติ, เตสํ วาโต ปุน ปวิสตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส ปน เตน น มรนฺตี’’ติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ. ‘‘เนโส ชีโว, อสฺสาสปสฺสาสา นาเมเต กายสงฺขารา’’ติ เถโร อภิธมฺมกถํ กเถสิ. อถ อนนฺตกาโย อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสีติ.
อนนฺตกายปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ปพฺพชฺชปฺโห
๕. อถ ¶ ¶ โข อายสฺมา นาคเสโน เยน มิลินฺทสฺส รฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ สปริสํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตปฺเปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา เอกเมกํ ภิกฺขุํ เอกเมเกน ทุสฺสยุเคน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ติจีวเรน อจฺฉาเทตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน ทสหิ, ภิกฺขูหิ สทฺธึ อิธ นิสีทถ, อวเสสา คจฺฉนฺตู’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ ภุตฺตาวึ โอนีตปตฺตปาณึ วิทิตฺวา อฺตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กิมฺหิ โหติ กถาสลฺลาโป’’ติ? ‘‘อตฺเถน มยํ, มหาราช, อตฺถิกา, อตฺเถ โหตุ กถาสลฺลาโป’’ติ.
ราชา อาห ‘‘กิมตฺถิยา, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชา, โก จ ตุมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ. เถโร อาห ‘‘กินฺติ, มหาราช, อิทํ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ น อุปฺปชฺเชยฺยาติ. เอตทตฺถา, มหาราช, อมฺหากํ ปพฺพชฺชา, อนุปาทา ปรินิพฺพานํ โข ปน อมฺหากํ ปรมตฺโถ’’ติ.
‘‘กึ ปน, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพ เอตทตฺถาย ¶ ปพฺพชนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, เกจิ เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เกจิ ราชาภินีตา [ราชภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ โจราภินีตา [โจรภีติตา (สี.)] ปพฺพชนฺติ, เกจิ อิณฏฺฏา ปพฺพชนฺติ, เกจิ อาชีวิกตฺถาย ปพฺพชนฺติ, เย ปน สมฺมา ปพฺพชนฺติ, เต เอตทตฺถาย ปพฺพชนฺตี’’ติ.
‘‘ตฺวํ ปน, ภนฺเต, เอตทตฺถาย ปพฺพชิโตสี’’ติ? ‘‘อหํ โข, มหาราช, ทหรโก สนฺโต ปพฺพชิโต, น ชานามิ อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชามีติ, อปิ จ โข เม เอวํ อโหสิ ‘ปณฺฑิตา อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา, เต มํ สิกฺขาเปสฺสนฺตี’ติ, สฺวาหํ เตหิ สิกฺขาปิโต ชานามิ จ ปสฺสามิ จ ‘อิมสฺส นามตฺถาย ปพฺพชฺชา’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปพฺพชฺชปฺโห ปฺจโม.
๖. ปฏิสนฺธิปฺโห
๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ มโต น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. เถโร อาห ‘‘โกจิ ปฏิสนฺทหติ, โกจิ น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘โก ปฏิสนฺทหติ, โก น ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘สกิเลโส, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, นิกฺกิเลโส น ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘ตฺวํ ปน, ภนฺเต นาคเสน, ปฏิสนฺทหิสฺสสี’’ติ? ‘‘สเจ, มหาราช, สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฏิสนฺธิปฺโห ฉฏฺโ.
๗. โยนิโสมนสิการปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, นนุ โส โยนิโส มนสิกาเรน น ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘โยนิโส จ มหาราช, มนสิกาเรน ปฺาย จ อฺเหิ จ กุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต, โยนิโส มนสิกาโร เยว ปฺา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อฺโ มนสิกาโร, อฺา ปฺา, อิเมสํ โข, มหาราช, อเชฬกโคณมหึสโอฏฺคทฺรภานมฺปิ มนสิกาโร อตฺถิ, ปฺา ปน เตสํ นตฺถี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โยนิโสมนสิการปฺโห สตฺตโม.
๘. มนสิการลกฺขณปฺโห
๘. ราชา ¶ อาห ‘‘กึลกฺขโณ, ภนฺเต นาคเสน, มนสิกาโร, กึลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘อูหนลกฺขโณ โข, มหาราช, มนสิกาโร, เฉทนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กถํ อูหนลกฺขโณ มนสิกาโร, กถํ เฉทนลกฺขณา ปฺา, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ชานาสิ, ตฺวํ มหาราช, ยวลาวเก’’ติ. ‘‘อาม ¶ , ภนฺเต, ชานามี’’ติ ¶ . ‘‘กถํ, มหาราช, ยวลาวกา ยวํ ลุนนฺตี’’ติ? ‘‘วาเมน, ภนฺเต, หตฺเถน ยวกลาปํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ทาตฺตํ คเหตฺวา ทาตฺเตน ฉินฺทนฺตี’’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ยวลาวโก วาเมน หตฺเถน ยวกลาปํ คเหตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน ทาตฺตํ คเหตฺวา ยวํ ฉินฺทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร มนสิกาเรน มานสํ คเหตฺวา ปฺาย กิเลเส ฉินฺทติ, เอวํ โข, มหาราช, อูหนลกฺขโณ มนสิกาโร, เอวํ เฉทนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
มนสิการลกฺขณปฺโห อฏฺโม.
๙. สีลลกฺขณปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘อฺเหิ จ กุสเลหิ ธมฺเมหี’ติ, กตเม เต กุสลา ธมฺมา’’ติ? ‘‘สีลํ, มหาราช, สทฺธา วีริยํ สติ สมาธิ, อิเม เต กุสลา ธมฺมา’’ติ. ‘‘กึลกฺขณํ, ภนฺเต, สีล’’นฺติ? ‘‘ปติฏฺานลกฺขณํ, มหาราช, สีลํ สพฺเพสํ กุสลานํ ธมฺมานํ, อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทฌานวิโมกฺขส- มาธิสมาปตฺตีนํ สีลํ ปติฏฺํ, สีเล ปติฏฺิโต โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ, สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช ¶ , เย เกจิ พีชคามภูตคามา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย ปถวิยํ ปติฏฺาย วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ พลกรณียา กมฺมนฺตา กยิรนฺติ, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย ปถวิยํ ปติฏฺาย กยิรนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ¶ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ ¶ .
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ นครฏฺานํ โสธาเปตฺวา ขาณุกณฺฏกํ อปกฑฺฒาเปตฺวา ภูมึ สมํ การาเปตฺวา ตโต อปรภาเค วีถิจตุกฺกสิงฺฆาฏกาทิปริจฺเฉเทน วิภชิตฺวา นครํ มาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริย’’นฺติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ลงฺฆโก สิปฺปํ ทสฺเสตุกาโม ปถวึ ขณาเปตฺวา สกฺขรกถลํ อปกฑฺฒาเปตฺวา ภูมึ สมํ การาเปตฺวา มุทุกาย ภูมิยา สิปฺปํ ทสฺเสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร สีลํ นิสฺสาย สีเล ปติฏฺาย ปฺจินฺทฺริยานิ ภาเวติ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา –
‘‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’นฺติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๓].
‘‘‘อยํ ปติฏฺา ธรณีว ปาณินํ, อิทฺจ มูลํ กุสลาภิวุฑฺฒิยา;
มุขฺจิทํ สพฺพชินานุสาสเน, โย สีลกฺขนฺโธ วรปาติโมกฺขิโย’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สีลลกฺขณปฺโห นวโม.
๑๐. สมฺปสาทนลกฺขณสทฺธาปฺโห
๑๐. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สทฺธา’’ติ? ‘‘สมฺปสาทนลกฺขณา จ, มหาราช, สทฺธา, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ? ‘‘สทฺธา โข, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ ¶ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ ¶ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ราชา จกฺกวตฺตี จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน ปริตฺตํ อุทกํ ตเรยฺย, ตํ อุทกํ หตฺถีหิ จ อสฺเสหิ จ รเถหิ จ ปตฺตีหิ จ ขุภิตํ ภเวยฺย อาวิลํ ลุฬิตํ กลลีภูตํ. อุตฺติณฺโณ จ ราชา จกฺกวตฺตี มนุสฺเส อาณาเปยฺย ‘ปานียํ, ภเณ, อาหรถ, ปิวิสฺสามี’ติ, รฺโ จ อุทกปฺปสาทโก มณิ ภเวยฺย. ‘เอวํ เทวา’ติ โข เต มนุสฺสา รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปฏิสฺสุตฺวา ตํ อุทกปฺปสาทกํ มณึ อุทเก ปกฺขิเปยฺยุํ, ตสฺมึ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต สงฺขเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ. ตโต รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปานียํ อุปนาเมยฺยุํ ‘ปิวตุ, เทว, ปานีย’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ยถา เต มนุสฺสา, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, ยถา สงฺขเสวาลปณกํ กทฺทโม จ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา อุทกปฺปสาทโก มณิ, เอวํ สทฺธา ทฏฺพฺพา, ยถา อุทกปฺปสาทเก มณิมฺหิ อุทเก ปกฺขิตฺตมตฺเต สงฺขเสวาลปณกํ วิคจฺเฉยฺย, กทฺทโม จ สนฺนิสีเทยฺย, อจฺฉํ ภเวยฺย อุทกํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวเมว โข, มหาราช, สทฺธา อุปฺปชฺชมานา นีวรเณ วิกฺขมฺเภติ, วินีวรณํ จิตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เอวํ โข, มหาราช, สมฺปสาทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมฺปสาทนลกฺขณสทฺธาปฺโห ทสโม.
๑๑. สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณสทฺธาปฺโห
๑๑. ‘‘กถํ ¶ , ภนฺเต, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ,? ‘‘ยถา, มหาราช, โยคาวจโร อฺเสํ จิตฺตํ วิมุตฺตํ ปสฺสิตฺวา โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา สมฺปกฺขนฺทติ โยคํ กโรติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อุปริปพฺพเต มหาเมโฆ ¶ อภิปฺปวสฺเสยฺย, ตํ อุทกํ ยถานินฺนํ ปวตฺตมานํ ปพฺพตกนฺทรปทรสาขา ปริปูเรตฺวา นทึ ปริปูเรยฺย, สา อุภโต กูลานิ สํวิสฺสนฺทนฺตี คจฺเฉยฺย, อถ มหาชนกาโย อาคนฺตฺวา ตสฺสา นทิยา อุตฺตานตํ วา คมฺภีรตํ วา อชานนฺโต ภีโต วิตฺถโต ตีเร ติฏฺเยฺย, อถฺตโร ปุริโส อาคนฺตฺวา อตฺตโน ถามฺจ พลฺจ สมฺปสฺสนฺโต คาฬฺหํ กจฺฉํ พนฺธิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ตเรยฺย, ตํ ติณฺณํ ปสฺสิตฺวา มหาชนกาโยปิ ตเรยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, โยคาวจโร อฺเสํ จิตฺตํ วิมุตฺตํ ปสฺสิตฺวา โสตาปตฺติผเล วา สกทาคามิผเล วา อนาคามิผเล วา อรหตฺเต วา สมฺปกฺขนฺทติ โยคํ กโรติ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยาย. เอวํ โข, มหาราช, สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณา สทฺธาติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘สทฺธาย ตรตี โอฆํ, อปฺปมาเทน อณฺณวํ;
วีริเยน ทุกฺขมจฺเจติ, ปฺาย ปริสุชฺฌตี’’’ติ [ปสฺส สํ. นิ. ๑.๒๔๖].
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมฺปกฺขนฺทนลกฺขณสทฺธาปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. วีริยลกฺขณปฺโห
๑๒. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณํ วีริย’’นฺติ? ‘‘อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ, มหาราช, วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส เคเห ปตนฺเต อฺเน ทารุนา อุปตฺถมฺเภยฺย, อุปตฺถมฺภิตํ สนฺตํ เอวํ ตํ เคหํ น ปเตยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปริตฺตกํ เสนํ มหตี เสนา ภฺเชยฺย, ตโต ราชา อฺมฺํ อนุสฺสาเรยฺย อนุเปเสยฺย อตฺตโน ¶ ปริตฺตกาย เสนาย พลํ อนุปทํ ทเทยฺย, ตาย สทฺธึ ปริตฺตกา เสนา มหตึ เสนํ ภฺเชยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, อุปตฺถมฺภนลกฺขณํ วีริยํ, วีริยูปตฺถมฺภิตา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา น ปริหายนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา – ‘วีริยวา โข, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ, กุสลํ ภาเวติ. สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ. สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วีริยลกฺขณปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. สติลกฺขณปฺโห
๑๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘อปิลาปนลกฺขณา, มหาราช, สติ, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘สติ, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชหีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคธมฺเม อปิลาเปติ ‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺตี’ติ. ตโต โยคาวจโร เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ. ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ อภชิตฺตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ภณฺฑาคาริโก ราชานํ จกฺกวตฺตึ สายํ ปาตํ ยสํ สราเปติ ‘เอตฺตกา, เทว, เต หตฺถี, เอตฺตกา อสฺสา, เอตฺตกา รถา, เอตฺตกา ปตฺตี, เอตฺตกํ หิรฺํ, เอตฺตกํ สุวณฺณํ, เอตฺตกํ สาปเตยฺยํ, ตํ เทโว สรตู’ติ รฺโ สาปเตยฺยํ อปิลาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา กุสลากุสลสาวชฺชานวชฺชหีนปฺปณีตกณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคธมฺเม อปิลาเปติ ‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, อิเม จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, อิเม จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, อิมานิ ปฺจินฺทฺริยานิ, อิมานิ ปฺจ พลานิ, อิเม สตฺต โพชฺฌงฺคา, อยํ อริโย ¶ อฏฺงฺคิโก มคฺโค, อยํ สมโถ, อยํ วิปสฺสนา, อยํ วิชฺชา, อยํ วิมุตฺตี’ติ. ตโต โยคาวจโร เสวิตพฺเพ ธมฺเม เสวติ, อเสวิตพฺเพ ธมฺเม น เสวติ. ภชิตพฺเพ ธมฺเม ภชติ, อภชิตพฺเพ ธมฺเม น ภชติ. เอวํ โข, มหาราช, อปิลาปนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ? ‘‘สติ, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา, อิเม ธมฺมา ¶ อหิตา. อิเม ธมฺมา อุปการา, อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ. ตโต โยคาวจโร อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ, หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. อนุปกาเร ธมฺเม อปนุเทติ, อุปกาเร ธมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส ปริณายกรตนํ รฺโ หิตาหิเต ชานาติ ‘อิเม รฺโ หิตา, อิเม อหิตา. อิเม อุปการา, อิเม อนุปการา’ติ. ตโต อหิเต อปนุเทติ, หิเต อุปคฺคณฺหาติ. อนุปกาเร อปนุเทติ, อุปกาเร อุปคฺคณฺหาติ. เอวเมว โข, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชมานา หิตาหิตานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเวติ ‘อิเม ธมฺมา หิตา, อิเม ธมฺมา อหิตา. อิเม ธมฺมา อุปการา, อิเม ธมฺมา อนุปการา’ติ. ตโต โยคาวจโร อหิเต ธมฺเม อปนุเทติ, หิเต ธมฺเม อุปคฺคณฺหา’ติ. อนุปกาเร ธมฺเม อปนุเทติ, อุปกาเร ทมฺเม อุปคฺคณฺหาติ. เอวํ โข, มหาราช, อุปคฺคณฺหนลกฺขณา สติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สติลกฺขณปฺโห เตรสโม.
๑๔. สมาธิปฺโห
๑๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ สมาธี’’ติ? ‘‘ปมุขลกฺขโณ, มหาราช, สมาธิ, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา สมาธิปพฺภารา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กูฏาคารสฺส ยา ยาจิ โคปานสิโย, สพฺพา ตา กูฏงฺคมา โหนฺติ กูฏนินฺนา กูฏสโมสรณา, กูฏํ ตาสํ อคฺคมกฺขายติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา สมาธิปพฺภาราติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิ ราชา จตุรงฺคินิยา เสนาย สทฺธึ สงฺคามํ โอตเรยฺย, สพฺพาว เสนา หตฺถี จ อสฺสา จ รถา จ ปตฺตี จ ตปฺปมุขา [ตมฺปมุขา (สฺยา. ก.)] ภเวยฺยุํ ตนฺนินฺนา ตปฺโปณา ตปฺปพฺภารา ตํ เยว อนุปริยาเยยฺยุํ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ กุสลา ธมฺมา, สพฺเพ เต สมาธิปมุขา โหนฺติ สมาธินินฺนา สมาธิโปณา ¶ สมาธิปพฺภารา. เอวํ โข, มหาราช, ปมุขลกฺขโณ สมาธิ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘‘สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ, สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมาธิปฺโห จุทฺทสโม.
๑๕. ปฺาลกฺขณปฺโห
๑๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘ปุพฺเพว โข, มหาราช, มยา วุตฺตํ ‘เฉทนลกฺขณา ปฺา’ติ, อปิ จ โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ? ‘‘ปฺา, มหาราช, อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิธเมติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, อริยสจฺจานิ ปากฏานิ กโรติ. ตโต โยคาวจโร ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา สมฺมปฺปฺาย ปสฺสตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อนฺธกาเร เคเห ปทีปํ ปเวเสยฺย, ปวิฏฺโ ปทีโป อนฺธการํ วิธเมติ, โอภาสํ ชเนติ, อาโลกํ วิทํเสติ, รูปานิ ปากฏานิ กโรติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา ¶ อุปฺปชฺชมานา อวิชฺชนฺธการํ วิธเมติ, วิชฺโชภาสํ ชเนติ, าณาโลกํ วิทํเสติ, อริยสจฺจานิ ปากฏานิ กโรติ. ตโต โยคาวจโร ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ. เอวํ โข, มหาราช, โอภาสนลกฺขณา ปฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺาลกฺขณปฺโห ปนฺนรสโม.
๑๖. นานาธมฺมานํ เอกกิจฺจอภินิปฺผาทนปฺโห
๑๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เสนา นานา สนฺตา หตฺถี จ อสฺสา จ รถา จ ปตฺตี ¶ จ เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, สงฺคาเม ปรเสนํ อภิวิชินนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อิเม ธมฺมา นานา สนฺตา เอกํ อตฺถํ อภินิปฺผาเทนฺติ, กิเลเส หนนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นานาธมฺมานํ เอกกิจฺจอภินิปฺผาทนปฺโห โสฬสโม.
มหาวคฺโค ปโม.
อิมสฺมึ วคฺเค โสฬส ปฺหา.
๒. อทฺธานวคฺโค
๑. ธมฺมสนฺตติปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อุปฺปชฺชติ, โส เอว โส, อุทาหุ อฺโ’’ติ? เถโร อาห ‘‘น จ โส, น จ อฺโ’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ทหโร ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อโหสิ, โส เยว ตฺวํ เอตรหิ มหนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อฺโ โส ทหโร ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก อโหสิ, อฺโ อหํ เอตรหิ มหนฺโต’’ติ. ‘‘เอวํ สนฺเต โข, มหาราช, มาตาติปิ น ภวิสฺสติ, ปิตาติปิ น ภวิสฺสติ, อาจริโยติปิ น ภวิสฺสติ, สิปฺปวาติปิ น ภวิสฺสติ, สีลวาติปิ น ภวิสฺสติ, ปฺวาติปิ น ภวิสฺสติ. กึ นุ โข, มหาราช, อฺา เอว กลลสฺส มาตา, อฺา อพฺพุทสฺส มาตา, อฺา เปสิยา มาตา, อฺา ฆนสฺส มาตา, อฺา ขุทฺทกสฺส มาตา, อฺา มหนฺตสฺส มาตา, อฺโ สิปฺปํ สิกฺขติ, อฺโ สิกฺขิโต ภวติ, อฺโ ปาปกมฺมํ กโรติ, อฺสฺส หตฺถปาทา ฉิชฺชนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต. ตฺวํ ปน, ภนฺเต, เอวํ วุตฺเต กึ วเทยฺยาสี’’ติ? เถโร อาห ‘‘อหฺเว โข, มหาราช, ทหโร อโหสึ ตรุโณ มนฺโท อุตฺตานเสยฺยโก, อหฺเว เอตรหิ มหนฺโต, อิมเมว กายํ นิสฺสาย สพฺเพ เต เอกสงฺคหิตา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปํ ปทีเปยฺย, กึ โส สพฺพรตฺตึ ปทีเปยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สพฺพรตฺตึ ปทีเปยฺยา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ยา ปุริเม ยาเม อจฺจิ, สา มชฺฌิเม ยาเม อจฺจี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยา มชฺฌิเม ยาเม อจฺจิ, สา ปจฺฉิเม ยาเม อจฺจี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อฺโ โส อโหสิ ปุริเม ยาเม ปทีโป, อฺโ มชฺฌิเม ยาเม ปทีโป, อฺโ ¶ ปจฺฉิเม ยาเม ปทีโป’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต, ตํ เยว นิสฺสาย สพฺพรตฺตึ ปทีปิโต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมสนฺตติ สนฺทหติ, อฺโ อุปฺปชฺชติ, อฺโ นิรุชฺฌติ, อปุพฺพํ อจริมํ วิย สนฺทหติ, เตน น จ โส, น จ อฺโ, ปุริมวิฺาเณ ปจฺฉิมวิฺาณํ สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ขีรํ ¶ ทุยฺหมานํ กาลนฺตเรน ทธิ ปริวตฺเตยฺย, ทธิโต นวนีตํ, นวนีตโต ฆตํ ปริวตฺเตยฺย, โย นุ โข, มหาราช, เอวํ วเทยฺย ‘ยํ เยว ขีรํ ตํ เยว ทธิ, ยํ เยว ทธิ ตํ เยว นวนีตํ, ยํ เยว นวนีตํ ตํ เยว ฆต’นฺติ, สมฺมา นุ โข โส, มหาราช, วทมาโน วเทยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต, ตํเยว นิสฺสาย สมฺภูต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมสนฺตติ สนฺทหติ, อฺโ อุปฺปชฺชติ, อฺโ นิรุชฺฌติ, อปุพฺพํ อจริมํ วิย สนฺทหติ, เตน น จ โส, น จ อฺโ, ปุริมวิฺาเณ ปจฺฉิมวิฺาณํ สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ธมฺมสนฺตติปฺโห ปโม.
๒. ปฏิสนฺทหนปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย น ปฏิสนฺทหติ, ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, ชานาตี’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย, มหาราช, ปฏิสนฺทหนาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก กสิตฺวา จ วปิตฺวา จ ธฺาคารํ ปริปูเรยฺย. โส อปเรน สมเยน เนว กสฺเสยฺย น วปฺเปยฺย, ยถาสมฺภตฺจ ธฺํ ปริภฺุเชยฺย วา วิสชฺเชยฺย วา ยถา ปจฺจยํ วา กเรยฺย, ชาเนยฺย โส, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก ‘น เม ธฺาคารํ ปริปูเรสฺสตี’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘กถํ ¶ ชาเนยฺยา’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย ธฺาคารสฺส ปริปูรณาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ ‘น เม ธฺาคารํ ปริปูเรสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย เหตุ โย ปจฺจโย ปฏิสนฺทหนาย, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา ชานาติ โส ‘น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฏิสนฺทหนปฺโห ทุติโย.
๓. าณปฺาปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยสฺส าณํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปฺา อุปฺปนฺนา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยสฺส าณํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ปฺา อุปฺปนฺนา’’ติ. ‘‘กึ, ภนฺเต, ยฺเว ¶ าณํ สา เยว ปฺา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยฺเว าณํ สา เยว ปฺา’’ติ. ‘‘ยสฺส ปน, ภนฺเต, ตฺเว าณํ สา เยว ปฺา อุปฺปนฺนา, กึ สมฺมุยฺเหยฺย โส, อุทาหุ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘กตฺถจิ, มหาราช, สมฺมุยฺเหยฺย, กตฺถจิ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กุหึ, ภนฺเต, สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘อฺาตปุพฺเพสุ วา, มหาราช, สิปฺปฏฺาเนสุ, อคตปุพฺพาย วา ทิสาย, อสฺสุตปุพฺพาย วา นามปฺตฺติยา สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘กุหึ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘ยํ โข ปน, มหาราช, ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตหึ น สมฺมุยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘โมโห ปนสฺส, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘โมโห โข, มหาราช, าเณ อุปฺปนฺนมตฺเต ตตฺเถว นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อนฺธการเคเห ปทีปํ อาโรเปยฺย, ตโต อนฺธกาโร นิรุชฺเฌยฺย, อาโลโก ปาตุภเวยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, าเณ อุปฺปนฺนมตฺเต โมโห ตตฺเถว นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ปฺา ปน, ภนฺเต, กุหึ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘ปฺาปิ โข, มหาราช, สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’ติ, ตสฺส โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โย โกจิ ปุริโส รตฺตึ เลขํ เปเสตุกาโม เลขกํ ปกฺโกสาเปตฺวา ปทีปํ อาโรเปตฺวา เลขํ ลิขาเปยฺย, ลิขิเต ปน เลเข ปทีปํ วิชฺฌาเปยฺย, วิชฺฌาปิเตปิ ปทีเป เลขํ น วินสฺเสยฺย. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุรตฺถิเมสุ ชนปเทสุ ¶ มนุสฺสา อนุฆรํ ปฺจ ปฺจ อุทกฆฏกานิ เปนฺติ อาลิมฺปนํ วิชฺฌาเปตุํ, ฆเร ปทิตฺเต ตานิ ปฺจ อุทกฆฏกานิ ฆรสฺสูปริ ขิปนฺติ, ตโต อคฺคิ วิชฺฌายติ, กึ นุ โข, มหาราช, เตสํ มนุสฺสานํ เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ ฆเฏหิ ฆฏกิจฺจํ กริสฺสามา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ ฆเฏหิ, กึ เตหิ ฆเฏหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจ อุทกฆฏกานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. ยถา เต มนุสฺสา, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา อคฺคิ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา ปฺจหิ อุทกฆฏเกหิ อคฺคิ วิชฺฌาปียติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา วิชฺฌาปิยนฺติ, วิชฺฌาปิตาปิ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เวชฺโช ปฺจมูลเภสชฺชานิ คเหตฺวา คิลานกํ อุปสงฺกมิตฺวา ตานิ ปฺจมูลเภสชฺชานิ ปิสิตฺวา [ปึสิตฺวา (สี. ปี.)] คิลานกํ ปาเยยฺย, เตหิ จ โทสา นิทฺธเมยฺยุํ, กึ นุ โข, มหาราช, ตสฺส เวชฺชสฺส เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหิ เภสชฺชกิจฺจํ กริสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหิ, กึ เตหิ ปฺจมูลเภสชฺเชหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจมูลเภสชฺชานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ, ยถา เวชฺโช, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา พฺยาธิ, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา พฺยาธิโต ปุริโส, เอวํ ปุถุชฺชโน ทฏฺพฺโพ. ยถา ปฺจมูลเภสชฺเชหิ คิลานสฺส โทสา นิทฺธนฺตา, โทเส นิทฺธนฺเต คิลาโน อโรโค โหติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา นิทฺธมียนฺติ, นิทฺธมิตา จ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ ¶ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ¶ ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, สงฺคามาวจโร โยโธ ปฺจ กณฺฑานิ คเหตฺวา สงฺคามํ โอตเรยฺย ปรเสนํ วิเชตุํ, โส สงฺคามคโต ตานิ ปฺจ กณฺฑานิ ขิเปยฺย, เตหิ จ ปรเสนา ภิชฺเชยฺย ¶ , กึ นุ โข, มหาราช, ตสฺส สงฺคามาวจรสฺส โยธสฺส เอวํ โหติ ‘ปุน เตหิ กณฺเฑหิ กณฺฑกิจฺจํ กริสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อลํ เตหิ กณฺเฑหิ, กึ เตหิ กณฺเฑหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปฺจ กณฺฑานิ, เอวํ ปฺจินฺทฺริยานิ ทฏฺพฺพานิ สทฺธินฺทฺริยํ วีริยินฺทฺริยํ สตินฺทฺริยํ สมาธินฺทฺริยํ ปฺินฺทฺริยํ. ยถา, มหาราช, สงฺคามาวจโร โยโธ, เอวํ โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ. ยถา ปรเสนา, เอวํ กิเลสา ทฏฺพฺพา. ยถา ปฺจหิ กณฺเฑหิ ปรเสนา ภิชฺชติ, เอวํ ปฺจินฺทฺริเยหิ กิเลสา ภิชฺชนฺติ, ภคฺคา จ กิเลสา น ปุน สมฺภวนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, ปฺา สกิจฺจยํ กตฺวา ตตฺเถว นิรุชฺฌติ, ยํ ปน ตาย ปฺาย กตํ ‘อนิจฺจ’นฺติ วา ‘ทุกฺข’นฺติ วา ‘อนตฺตา’ติ วา, ตํ น นิรุชฺฌตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
าณปฺาปฺโห ตติโย.
๔. ปฏิสนฺทหนปุคฺคลเวทิยนปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ปฏิสนฺทหติ, เวเทติ โส กิฺจิ ทุกฺขํ เวทน’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘กิฺจิ เวเทติ, กิฺจิ น เวเทตี’’ติ. ‘‘กึ เวเทติ, กึ น เวเทตี’’ติ? ‘‘กายิกํ, มหาราช, เวทนํ เวเทติ, เจตสิกํ เวทนํ น เวเทตี’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต, กายิกํ เวทนํ เวเทติ, กถํ เจตสิกํ เวทนํ น เวเทตี’’ติ? ‘‘โย เหตุ โย ปจฺจโย กายิกาย ทุกฺขเวทนาย อุปฺปตฺติยา, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อนุปรมา กายิกํ ทุกฺขเวทนํ เวเทติ, โย เหตุ โย ปจฺจโย เจตสิกาย ทุกฺขเวทนาย อุปฺปตฺติยา, ตสฺส เหตุสฺส ตสฺส ปจฺจยสฺส อุปรมา เจตสิกํ ทุกฺขเวทนํ น เวเทติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โส เอกํ เวทนํ เวเทติ กายิกํ น เจตสิก’’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, โย ทุกฺขํ เวทนํ เวเทติ, กสฺมา โส น ปรินิพฺพายตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, อรหโต อนุนโย วา ปฏิโฆ วา, น จ อรหนฺโต อปกฺกํ ปาเตนฺติ ปริปากํ อาคเมนฺติ ปณฺฑิตา. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘นาภินนฺทามิ ¶ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, นิพฺพิสํ ภตโก ยถา.
‘‘‘นาภินนฺทามิ มรณํ, นาภินนฺทามิ ชีวิตํ;
กาลฺจ ปฏิกงฺขามิ, สมฺปชาโน ปติสฺสโต’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ [ปสฺส เถรคา. ๖๕๔].
ปฏิสนฺทหนปุคฺคลเวทิยนปฺโห จตุตฺโถ.
๕. เวทนาปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สุขา เวทนา กุสลา วา อกุสลา วา อพฺยากตา วา’’ติ? ‘‘สิยา, มหาราช, กุสลา, สิยา อกุสลา, สิยา อพฺยากตา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต, กุสลา น ทุกฺขา, ยทิ ทุกฺขา น กุสลา, กุสลํ ทุกฺขนฺติ นุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิธ ปุริสสฺส หตฺเถ ตตฺตํ อโยคุฬํ นิกฺขิเปยฺย, ทุติเย หตฺเถ สีตํ หิมปิณฺฑํ นิกฺขิเปยฺย, กึ นุ โข, มหาราช, อุโภปิ เต ทเหยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อุโภปิ เต ทเหยฺยุ’’นฺติ. ‘‘กึ นุ โข, เต มหาราช, อุโภปิ อุณฺหา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, อุโภปิ สีตลา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘อาชานาหิ นิคฺคหํ ยทิ ตตฺตํ ทหติ, น จ เต อุโภปิ อุณฺหา, เตน นุปฺปชฺชติ. ยทิ สีตลํ ทหติ, น จ เต อุโภปิ สีตลา, เตน นุปฺปชฺชติ. กิสฺส ปน เต, มหาราช, อุโภปิ ทหนฺติ, น จ เต อุโภปิ อุณฺหา, น จ เต อุโภปิ สีตลา? เอกํ อุณฺหํ, เอกํ สีตลํ, อุโภปิ เต ทหนฺติ, เตน นุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ, สาธุ อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ. ตโต เถโร อภิธมฺมสํยุตฺตาย กถาย ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ –
‘‘ฉยิมานิ ¶ , มหาราช, เคหนิสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตานิ โสมนสฺสานิ, ฉ เคหนิสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตานิ โทมนสฺสานิ, ฉ เคหนิสฺสิตา อุเปกฺขา, ฉ เนกฺขมฺมนิสฺสิตา อุเปกฺขาติ, อิมานิ ฉ ¶ ฉกฺกานิ, อตีตาปิ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, อนาคตาปิ ¶ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, ปจฺจุปฺปนฺนาปิ ฉตฺตึสวิธา เวทนา, ตเทกชฺฌํ อภิสฺุหิตฺวา อภิสมฺปิณฺเฑตฺวา อฏฺสตํ เวทนา โหนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทนาปฺโห ปฺจโม.
๖. นามรูปเอกตฺตนานตฺตปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โก ปฏิสนฺทหตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘นามรูปํ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘กึ อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหตี’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, อิมินา ปน, มหาราช, นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหตี’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต, น อิมํ เยว นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, นนุ โส มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ยทิ น ปฏิสนฺทเหยฺย, มุตฺโต ภเวยฺย ปาปเกหิ กมฺเมหิ. ยสฺมา จ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส อมฺพํ อวหเรยฺย, ตเมนํ อมฺพสามิโก คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺย ‘อิมินา เทว ปุริเสน มยฺหํ อมฺพา อวหฏา’ติ, โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, เทว, อิมสฺส อมฺเพ อวหรามิ, อฺเ เต อมฺพา, เย อิมินา โรปิตา, อฺเ เต อมฺพา, เย มยา อวหฏา, นาหํ ทณฺฑปฺปตฺโต’ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, ปุริมํ, ภนฺเต, อมฺพํ อปฺปจฺจกฺขาย ปจฺฉิเมน อมฺเพน โส ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส สาลึ อวหเรยฺย…เป… อุจฺฉุํ อวหเรยฺย…เป… ¶ ยถา มหาราช โกจิ ปุริโส เหมนฺตกาเล อคฺคึ ชาเลตฺวา วิสิพฺเพตฺวา ¶ [วิสีเวตฺวา (สี. ปี.)] อวิชฺฌาเปตฺวา ปกฺกเมยฺย, อถ โข โส อคฺคิ อฺตรสฺส ปุริสสฺส เขตฺตํ ฑเหยฺย [อุปฑเหยฺย (ก.)], ตเมนํ เขตฺตสามิโก คเหตฺวา รฺโ ทสฺเสยฺย ‘อิมินา, เทว, ปุริเสน มยฺหํ เขตฺตํ ทฑฺฒ’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, เทว, อิมสฺส เขตฺตํ ฌาเปมิ, อฺโ โส อคฺคิ, โย มยา อวิชฺฌาปิโต, อฺโ โส อคฺคิ, เยนิมสฺส เขตฺตํ ทฑฺฒํ, นาหํ ทณฺฑปฺปตฺโต’ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, ปุริมํ, ภนฺเต, อคฺคึ อปฺปจฺจกฺขาย ปจฺฉิเมน อคฺคินา โส ปุริโส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา ปาปกํ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปํ อาทาย ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา ภฺุเชยฺย, ปทีโป ฌายมาโน ติณํ ฌาเปยฺย, ติณํ ฌายมานํ ฆรํ ฌาเปยฺย, ฆรํ ฌายมานํ คามํ ฌาเปยฺย, คามชโน ตํ ปุริสํ คเหตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘กิสฺส ตฺวํ, โภ ปุริส, คามํ ฌาเปสี’ติ, โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ, โภ, คามํ ฌาเปมิ, อฺโ โส ปทีปคฺคิ, ยสฺสาหํ อาโลเกน ภฺุชึ, อฺโ โส อคฺคิ, เยน คาโม ฌาปิโต’ติ, เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ, กสฺส ตฺวํ, มหาราช, อฏฺฏํ [อตฺถํ (สี. ปี.)] ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘คามชนสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เอว โส อคฺคิ นิพฺพตฺโต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา น มุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ทหรึ ทาริกํ วาเรตฺวา สุงฺกํ ทตฺวา ปกฺกเมยฺย. สา อปเรน ¶ สมเยน มหตี อสฺส วยปฺปตฺตา, ตโต อฺโ ปุริโส สุงฺกํ ทตฺวา วิวาหํ กเรยฺย, อิตโร อาคนฺตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘กิสฺส ปน เม ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ภริยํ เนสี’ติ? โส เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ ตว ภริยํ เนมิ, อฺา สา ทาริกา ทหรี ตรุณี, ยา ¶ ตยา วาริตา จ ทินฺนสุงฺกา จ, อฺายํ ทาริกา มหตี วยปฺปตฺตา มยา วาริตา จ ทินฺนสุงฺกา จา’ติ, เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ. กสฺส ตฺวํ, มหาราช, อฏฺฏํ ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘ปุริมสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ ¶ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เยว สา มหตี นิพฺพตฺตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา นปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส โคปาลกสฺส หตฺถโต ขีรฆฏํ กิณิตฺวา ตสฺเสว หตฺเถ นิกฺขิปิตฺวา ปกฺกเมยฺย ‘สฺเว คเหตฺวา คมิสฺสามี’ติ, ตํ อปรชฺชุ ทธิ สมฺปชฺเชยฺย. โส อาคนฺตฺวา เอวํ วเทยฺย ‘เทหิ เม ขีรฆฏ’นฺติ. โส ทธึ ทสฺเสยฺย. อิตโร เอวํ วเทยฺย ‘นาหํ ตว หตฺถโต ทธึ กิณามิ, เทหิ เม ขีรฆฏ’นฺติ. โส เอวํ วเทยฺย ‘อชานโต เต ขีรํ ทธิภูต’นฺติ เต วิวทมานา ตว สนฺติเก อาคจฺเฉยฺยุํ, กสฺส ตฺวํ มหาราช, อฏฺฏํ ธาเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘โคปาลกสฺส ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ การณา’’ติ? ‘‘กิฺจาปิ โส เอวํ วเทยฺย, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ อฺํ มารณนฺติกํ นามรูปํ, อฺํ ปฏิสนฺธิสฺมึ นามรูปํ, อปิ จ ตโต เยว ตํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นามรูปเอกตฺตนานตฺตปฺโห ฉฏฺโ.
๗. เถรปฏิสนฺทหนาปฏิสนฺทหนปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตฺวํ ปน ปฏิสนฺทหิสฺสสี’’ติ? ‘‘อลํ, มหาราช, กึ เต เตน ปุจฺฉิเตน, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ ‘สเจ, มหาราช, สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ ¶ , ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ, น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อธิการํ กเรยฺย. ราชา ตุฏฺโ อธิการํ ทเทยฺย, โส เตน อธิกาเรน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, โส ¶ เจ ชนสฺส อาโรเจยฺย ‘น เม ราชา กิฺจิ ปฏิกโรตี’ ติ. กึ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ยุตฺตการี ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช ¶ , กึ เต เตน ปุจฺฉิเตน, นนุ มยา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ ‘สเจ สอุปาทาโน ภวิสฺสามิ, ปฏิสนฺทหิสฺสามิ, สเจ อนุปาทาโน ภวิสฺสามิ, น ปฏิสนฺทหิสฺสามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เถรปฏิสนฺทหนาปฏิสนฺทหนปฺโห สตฺตโม.
๘. นามรูปปฏิสนฺทหนปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘นามรูป’นฺติ, ตตฺถ กตมํ นามํ, กตมํ รูป’’นฺติ. ‘‘ยํ ตตฺถ, มหาราช, โอฬาริกํ, เอตํ รูปํ, เย ตตฺถ สุขุมา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เอตํ นาม’’นฺติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน นามํ เยว น ปฏิสนฺทหติ, รูปํ เยว วา’’ติ? ‘‘อฺมฺูปนิสฺสิตา, มหาราช, เอเต ธมฺมา เอกโตว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุฏิยา กลลํ น ภเวยฺย, อณฺฑมฺปิ น ภเวยฺย, ยฺจ ตตฺถ กลลํ, ยฺจ อณฺฑํ, อุโภเปเต อฺมฺูปนิสฺสิตา, เอกโตว เนสํ อุปฺปตฺติ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตตฺถ นามํ น ภเวยฺย, รูปมฺปิ น ภเวยฺย, ยฺเจว ตตฺถ นามํ, ยฺเจว รูปํ, อุโภเปเต อฺมฺูปนิสฺสิตา, เอกโตว เนสํ อุปฺปตฺติ โหติ. เอวเมตํ ทีฆมทฺธานํ สนฺธาวิต’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นามรูปปฏิสนฺทหนปฺโห อฏฺโม.
๙. อทฺธานปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ทีฆมทฺธาน’นฺติ, กิเมตํ อทฺธานํ นามา’’ติ ¶ ? ‘‘อตีโต, มหาราช, อทฺธา, อนาคโต อทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺเพ อทฺธา อตฺถี’’ติ? ‘‘โกจิ, มหาราช ¶ , อทฺธา อตฺถิ, โกจิ นตฺถี’’ติ. ‘‘กตโม ปน, ภนฺเต, อตฺถิ, กตโม ¶ นตฺถี’’ติ? ‘‘เย เต, มหาราช, สงฺขารา อตีตา วิคตา นิรุทฺธา วิปริณตา, โส อทฺธา นตฺถิ, เย ธมฺมา วิปากา, เย จ วิปากธมฺมธมฺมา, เย จ อฺตฺร ปฏิสนฺธึ เทนฺติ, โส อทฺธา อตฺถิ. เย สตฺตา กาลงฺกตา อฺตฺร อุปฺปนฺนา, โส จ อทฺธา อตฺถิ. เย สตฺตา กาลงฺกตา อฺตฺร อนุปฺปนฺนา, โส อทฺธา นตฺถิ. เย จ สตฺตา ปรินิพฺพุตา, โส จ อทฺธา นตฺถิ ปรินิพฺพุตตฺตา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อทฺธานปฺโห นวโม.
อทฺธานวคฺโค ทุติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค นว ปฺหา.
๓. วิจารวคฺโค
๑. อทฺธานมูลปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตีตสฺส อทฺธานสฺส กึ มูลํ, อนาคตสฺส อทฺธานสฺส กึ มูลํ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส อทฺธานสฺส กึ มูล’’นฺติ? ‘‘อตีตสฺส จ, มหาราช, อทฺธานสฺส อนาคตสฺส จ อทฺธานสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ อทฺธานสฺส อวิชฺชา มูลํ. อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ. เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อทฺธานสฺส [ทุกฺขกฺขนฺธสฺส อทฺธานสฺส (สี.)] ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อทฺธานมูลปฺโห ปโม.
๒. ปุริมโกฏิปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, ตสฺส โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส ปริตฺตํ [ปริปกฺกํ (ก.)] พีชํ ปถวิยํ นิกฺขิเปยฺย, ตโต องฺกุโร อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตฺวา ผลํ ทเทยฺย. ตโต พีชํ ¶ คเหตฺวา ปุน โรเปยฺย, ตโตปิ องฺกุโร อุฏฺหิตฺวา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชิตฺวา ¶ ผลํ ทเทยฺย. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุฏิยา อณฺฑํ ภเวยฺย, อณฺฑโต กุกฺกุฏี กุกฺกุฏิยา อณฺฑนฺติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. เถโร ปถวิยา จกฺกํ ลิขิตฺวา มิลินฺทํ ราชานํ เอตทโวจ ‘‘อตฺถิ, มหาราช, อิมสฺส จกฺกสฺส อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมานิ จกฺกานิ วุตฺตานิ ภควตา ‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา กมฺมํ, กมฺมโต ปุน จกฺขุํ ชายตี’ติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘‘โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา กมฺมํ, กมฺมโต ปุน มโน ชายตี’ติ. เอวเมติสฺสา สนฺตติยา อตฺถิ อนฺโต’’ติ? ‘‘นตฺถิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อทฺธานสฺสาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปุริมโกฏิปฺโห ทุติโย.
๓. โกฏิปฺายนปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, กตมา จ สา ปุริมา โกฏี’’ติ? ‘‘โย โข, มหาราช, อตีโต อทฺธา, เอสา ปุริมา โกฏี’’ติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’ติ, กึ ปน, ภนฺเต ¶ , สพฺพาปิ ปุริมา โกฏิ น ปฺายตี’’ติ? ‘‘กาจิ, มหาราช, ปฺายติ, กาจิ น ปฺายตี’’ติ. ‘‘กตมา, ภนฺเต, ปฺายติ, กตมา น ปฺายตี’’ติ? ‘‘อิโต ปุพฺเพ, มหาราช, สพฺเพน สพฺพํ สพฺพถา สพฺพํ อวิชฺชา นาโหสีติ เอสา ปุริมา โกฏิ น ปฺายติ, ยํ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิวิคจฺฉติ, เอสป ปุริมา โกฏิ ปฺายตี’’ติ ¶ .
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ อหุตฺวา สมฺโภติ, หุตฺวา ปฏิวิคจฺฉติ, นนุ ตํ อุภโต ฉินฺนํ อตฺถํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘ยทิ, มหาราช, อุภโต ฉินฺนํ อตฺถํ คจฺฉติ, อุภโต ¶ ฉินฺนา สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, สาปิ สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ.’’นาหํ, ภนฺเต, เอตํ ปุจฺฉามิ โกฏิโต สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ? ‘‘อาม สกฺกา วฑฺเฒตุ’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. เถโร ตสฺส รุกฺขูปมํ อกาสิ, ขนฺธา จ เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส พีชานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โกฏิปฺายนปฺโห ตติโย.
๔. สงฺขารชายมานปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย ชายนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ สงฺขารา, เย ชายนฺตี’’ติ. ‘‘กตเม เต, ภนฺเต’’ติ? ‘‘จกฺขุสฺมิฺจ โข, มหาราช, สติ รูเปสุ จ จกฺขุวิฺาณํ โหติ, จกฺขุวิฺาเณ สติ จกฺขุสมฺผสฺโส โหติ, จกฺขุสมฺผสฺเส สติ เวทนา โหติ, เวทนาย สติ ตณฺหา โหติ, ตณฺหาย สติ อุปาทานํ โหติ, อุปาทาเน สติ ภโว โหติ, ภเว สติ ชาติ โหติ, ชาติยา สติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ. จกฺขุสฺมิฺจ โข, มหาราช, อสติ รูเปสุ จ อสติ จกฺขุวิฺาณํ น โหติ, จกฺขุวิฺาเณ อสติ จกฺขุสมฺผสฺโส น โหติ, จกฺขุสมฺผสฺเส อสติ เวทนา น โหติ, เวทนาย อสติ ตณฺหา น โหติ, ตณฺหาย อสติ อุปาทานํ น โหติ, อุปาทาเน อสติ ¶ ภโว น โหติ, ภเว อสติ ชาติ น โหติ, ชาติยา อสติ ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา น โหนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สงฺขารชายมานปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ภวนฺตสงฺขารชายมานปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข, มหาราช, สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อิทํ เคหํ อภวนฺตํ ชาตํ, ยตฺถ ตฺวํ ¶ นิสินฺโนสี’’ติ? ‘‘นตฺถิ กิฺจิ, ภนฺเต, อิธ อภวนฺตํ ชาตํ, ภวนฺตํ เยว ชาตํ, อิมานิ โข, ภนฺเต, ทารูนิ วเน อเหสุํ, อยฺจ มตฺติกา ปถวิยํ อโหสิ, อิตฺถีนฺจ ปุริสานฺจ ตชฺเชน วายาเมน เอวมิทํ เคหํ นิพฺพตฺต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ พีชคามภูตคามา ปถวิยํ นิกฺขิตฺตา อนุปุพฺเพน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชมานา ปุปฺผานิ จ ผลานิ จ ทเทยฺยุํ, น เต รุกฺขา อภวนฺตา ชาตา, ภวนฺตา เยว เต รุกฺขา ชาตา. เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว เต สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺภกาโร ปถวิยา มตฺติกํ อุทฺธริตฺวา นานาภาชนานิ กโรติ, น ตานิ ภาชนานิ อภวนฺตานิ ชาตานิ, ภวนฺตานิ เยว ชาตานิ. เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วีณาย ปตฺตํ น สิยา, จมฺมํ น สิยา, โทณิ น สิยา, ทณฺโฑ น สิยา, อุปวีโณ น สิยา, ตนฺติโย น สิยุํ, โกโณ น สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม น สิยา, ชาเยยฺย สทฺโท’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, วีณาย ปตฺตํ สิยา, จมฺมํ สิยา, โทณิ สิยา, ทณฺโฑ สิยา, อุปวีโณ สิยา, ตนฺติโย สิยุํ, โกโณ สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม สิยา, ชาเยยฺย สทฺโท’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อรณิ น สิยา, อรณิโปตโก น สิยา, อรณิโยตฺตกํ น สิยา, อุตฺตรารณิ น ¶ สิยา, โจฬกํ น สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม น สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, อรณิ สิยา, อรณิโปตโก สิยา, อรณิโยตฺตกํ สิยา, อุตฺตรารณิ สิยา, โจฬกํ สิยา, ปุริสสฺส จ ตชฺโช วายาโม สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต ¶ , ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มณิ น สิยา, อาตโป น สิยา, โคมยํ น สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, มณิ สิยา, อาตโป สิยา, โคมยํ สิยา, ชาเยยฺย โส อคฺคี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อาทาโส น สิยา, อาภา น สิยา, มุขํ น สิยา, ชาเยยฺย อตฺตา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยโต จ โข, มหาราช, อาทาโส สิยา, อาภา สิยา, มุขํ สิยา, ชาเยยฺย อตฺตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นตฺถิ เกจิ สงฺขารา, เย อภวนฺตา ชายนฺติ, ภวนฺตา เยว โข สงฺขารา ชายนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภวนฺตสงฺขารชายมานปฺโห ปฺจโม.
๖. เวทคูปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ? ‘‘โก ปเนส, มหาราช, เวทคู นามา’’ติ? ‘‘โย, ภนฺเต, อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ ¶ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน ปสฺเสยฺยาม. เอวเมว โข, ภนฺเต, อยํ อพฺภนฺตเร ชีโว เยน เยน ทฺวาเรน อิจฺฉติ ปสฺสิตุํ, เตน เตน ทฺวาเรน ปสฺสตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ปฺจทฺวารํ, มหาราช, ภณิสฺสามิ, ตํ สุโณหิ, สาธุกํ มนสิกโรหิ, ยทิ อพฺภนฺตเร ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ยถา มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา เยน เยน วาตปาเนน อิจฺเฉยฺยาม ปสฺสิตุํ, เตน เตน วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปุรตฺถิเมนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ปจฺฉิเมนปิ ¶ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, อุตฺตเรนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, ทกฺขิเณนปิ วาตปาเนน รูปํ เยว ปสฺเสยฺยาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวน โสเตนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, กาเยนปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ, มนสาปิ รูปํ เยว ปสฺสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ฆาเนนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, ชิวฺหายปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, กาเยนปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ, มนสาปิ สทฺโท เยว โสตพฺโพ; จกฺขุนาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, โสเตนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, ชิวฺหายปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, กาเยนปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ, มนสาปิ คนฺโธ เยว ฆายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, โสเตนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, ฆาเนนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, กาเยนปิ รโส เยว สายิตพฺโพ, มนสาปิ รโส เยว สายิตพฺโพ; จกฺขุนาปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, โสเตนปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ฆาเนนปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ โผฏฺพฺพํ เยว ¶ ผุสิตพฺพํ, มนสาปิ โผฏฺพฺพํ เยว ผุสิตพฺพํ; จกฺขุนาปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, โสเตนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ฆาเนนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, ชิวฺหายปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพํ, กาเยนปิ ธมฺมํ เยว วิชานิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, มยํ อิธ ปาสาเท นิสินฺนา อิเมสุ ชาลวาตปาเนสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน พหิมุขา สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺสาม, เอวเมเตน อพฺภนฺตเร ชีเวนาปิ จกฺขุทฺวาเรสุ อุคฺฆาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺสิตพฺพํ, โสเตสุ อุคฺฆาฏิเตสุ…เป… ฆาเน ¶ อุคฺฆาฏิเต…เป… ชิวฺหาย อุคฺฆาฏิตาย…เป… กาเย อุคฺฆาฏิเต มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ สทฺโท โสตพฺโพ, คนฺโธ ฆายิตพฺโพ, รโส สายิตพฺโพ, โผฏฺพฺโพ ผุสิตพฺโพ’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ ¶ .
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก ติฏฺเยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน นิกฺขมิตฺวา พหิทฺวารโกฏฺเก ิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติ. ‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา ตว ปุรโต ติฏฺเยฺย, ชานาสิ ตฺวํ, มหาราช, ‘อยํ ทินฺโน อนฺโต ปวิสิตฺวา มม ปุรโต ิโต’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อพฺภนฺตเร โส ชีโว ชิวฺหาย รเส นิกฺขิตฺเต ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘เต รเส อนฺโต ปวิฏฺเ ชาเนยฺย อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ. ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ.
‘‘น โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริมํ, ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มธุฆฏสตํ อาหราเปตฺวา มธุโทณึ ปูราเปตฺวา ปุริสสฺส มุขํ ปิทหิตฺวา [ปิทหิตฺวาว (ก.)] มธุโทณิยา ปกฺขิเปยฺย, ชาเนยฺย, มหาราช, โส ปุริโส มธุํ สมฺปนฺนํ วา น สมฺปนฺนํ วา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ. ‘‘น หิ ตสฺส, ภนฺเต, มุเข มธุ ปวิฏฺ’’นฺติ.
‘‘น ¶ โข เต, มหาราช, ยุชฺชติ ปุริเมน วา ปจฺฉิมํ, ปจฺฉิเมน วา ปุริม’’นฺติ. ‘‘นาหํ ปฏิพโล ตยา วาทินา สทฺธึ สลฺลปิตุํ; สาธุ, ภนฺเต, อตฺถํ ชปฺเปหี’’ติ.
เถโร อภิธมฺมสํยุตฺตาย กถาย ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ – ‘‘อิธ, มหาราช, จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา เอกคฺคตา ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภติ, โสตฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณํ, ตํสหชาตา ผสฺโส เวทนา สฺา เจตนา เอกคฺคตา ¶ ชีวิตินฺทฺริยํ มนสิกาโรติ ¶ เอวเมเต ธมฺมา ปจฺจยโต ชายนฺติ, น เหตฺถ เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทคูปฺโห ฉฏฺโ.
๗. จกฺขุวิฺาณาทิปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ปมํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณํ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ? ‘‘ปมํ, มหาราช, จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหี’’ติ.
‘‘กถํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘นินฺนตฺตา จ, มหาราช, ทฺวารตฺตา จ จิณฺณตฺตา จ สมุทาจริตตฺตา จา’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, นินฺนตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เทเว วสฺสนฺเต กตเมน อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, นินฺนํ, เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘อถาปเรน สมเยน เทโว วสฺเสยฺย, กตเมน ตํ อุทกํ คจฺเฉยฺยา’’ติ. ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริมํ อุทกํ คตํ, ตมฺปิ เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุํ โข, มหาราช, ปุริมํ อุทกํ ปจฺฉิมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิมํ วา อุทกํ ปุริมํ อุทกํ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป ¶ เตสํ อฺมฺเหิ, นินฺนตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, นินฺนตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ ¶ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, นินฺนตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, ทฺวารตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? อเปปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, รฺโ ปจฺจนฺติมํ นครํ อสฺส ทฬฺหปาการโตรณํ เอกทฺวารํ, ตโต ปุริโส นิกฺขมิตุกาโม ภเวยฺย, กตเมน นิกฺขเมยฺยา’’ติ? ‘‘ทฺวาเรน, ภนฺเต, นิกฺขเมยฺยา’’ติ. ‘‘อถาปโร ปุริโส นิกฺขมิตุกาโม ภเวยฺย, กตเมน โส นิกฺขเมยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริโม ปุริโส นิกฺขนฺโต, โสปิ เตน นิกฺขเมยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ปุริโม ปุริโส ปจฺฉิมํ ปุริสํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิโม วา ปุริโส ปุริมํ ปุริสํ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, ทฺวารตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทฺวารตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ ¶ , ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, ทฺวารตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, จิณฺณตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ?โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ปมํ เอกํ สกฏํ คจฺเฉยฺย, อถ ทุติยํ สกฏํ กตเมน คจฺเฉยฺยา’’ติ? ‘‘เยน, ภนฺเต, ปุริมํ สกฏํ คตํ, ตมฺปิ เตน คจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, มหาราช, ปุริมํ สกฏํ ปจฺฉิมํ สกฏํ อาณาเปติ ‘เยนาหํ คจฺฉามิ, ตฺวมฺปิ เตน คจฺฉาหี’ติ, ปจฺฉิมํ วา ¶ สกฏํ ปุริมํ สกฏํ ¶ อาณาเปติ ‘เยน ตฺวํ คจฺฉิสฺสสิ, อหมฺปิ เตน คจฺฉิสฺสามี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, จิณฺณตฺตา คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, จิณฺณตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, จิณฺณตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สมุทาจริตตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ? โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มุทฺทาคณนาสงฺขฺยาเลขาสิปฺปฏฺาเนสุ อาทิกมฺมิกสฺส ทนฺธายนา ภวติ, อถาปเรน สมเยน นิสมฺมกิริยาย สมุทาจริตตฺตา อทนฺธายนา ภวติ. เอวเมว โข, มหาราช, สมุทาจริตตฺตา ยตฺถ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชติ, น จกฺขุวิฺาณํ มโนวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถาหํ อุปฺปชฺชามิ, ตฺวมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชาหี’ติ, นาปิ มโนวิฺาณํ จกฺขุวิฺาณํ อาณาเปติ ‘ยตฺถ ตฺวํ อุปฺปชฺชิสฺสสิ, อหมฺปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชิสฺสามี’ติ, อนาลาโป เตสํ อฺมฺเหิ, สมุทาจริตตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ โสตวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตีติ…เป… ยตฺถ ฆานวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ…เป… ยตฺถ ชิวฺหาวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ ¶ …เป… ยตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ มโนวิฺาณมฺปิ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ปมํ กายวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณํ, อุทาหุ มโนวิฺาณํ ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา กายวิฺาณ’’นฺติ? ‘‘กายวิฺาณํ, มหาราช, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา มโนวิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน,…เป… อนาลาโป ¶ เตสํ อฺมฺเหิ, สมุทาจริตตฺตา อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
จกฺขุวิฺาณาทิปฺโห สตฺตโม.
๘. ผสฺสลกฺขณปฺโห
๘. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยตฺถ มโนวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ผสฺโสปิ เวทนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยตฺถ มโนวิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, ผสฺโสปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, เวทนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, สฺาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, เจตนาปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, วิตกฺโกปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, วิจาโรปิ ตตฺถ อุปฺปชฺชติ, สพฺเพปิ ผสฺสปฺปมุขา ธมฺมา ตตฺถ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ ผสฺโส’’ติ? ‘‘ผุสนลกฺขโณ, มหาราช, ผสฺโส’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว เมณฺฑา ยุชฺเฌยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก เมณฺโฑ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ ยถา ทุติโย เมณฺโฑ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว ปาณี วชฺเชยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก ¶ ปาณิ, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย ปาณิ, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, ทฺเว สมฺมา วชฺเชยฺยุํ, เตสุ ยถา เอโก สมฺโม, เอวํ จกฺขุ ทฏฺพฺพํ. ยถา ทุติโย สมฺโม, เอวํ รูปํ ทฏฺพฺพํ. ยถา เตสํ สนฺนิปาโต, เอวํ ผสฺโส ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ผสฺสลกฺขณปฺโห อฏฺโม.
๙. เวทนาลกฺขณปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา เวทนา’’ติ? ‘‘เวทยิตลกฺขณา, มหาราช, เวทนา อนุภวนลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อธิการํ กเรยฺย, ตสฺส ราชา ตุฏฺโ อธิการํ ทเทยฺย, โส เตน อธิกาเรน ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, ตสฺส เอวมสฺส ‘มยา โข ปุพฺเพ รฺโ อธิกาโร กโต, ตสฺส เม ราชา ¶ ตุฏฺโ อธิการํ อทาสิ, สฺวาหํ ตโตนิทานํ อิมํ เอวรูปํ เวทนํ เวทยามี’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ¶ ปุริโส กุสลํ กมฺมํ กตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย, โส จ ตตฺถ ทิพฺเพหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคิภูโต ปริจเรยฺย, ตสฺส เอวมสฺส ‘สฺวาหํ โข ปุพฺเพ กุสลํ กมฺมํ อกาสึ, โสหํ ตโตนิทานํ อิมํ เอวรูปํ เวทนํ เวทยามี’ติ, เอวํ โข, มหาราช, เวทยิตลกฺขณา เวทนา อนุภวนลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทนาลกฺขณปฺโห นวโม.
๑๐. สฺาลกฺขณปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา สฺา’’ติ? ‘‘สฺชานนลกฺขณา, มหาราช, สฺา. กึ สฺชานาติ? นีลมฺปิ สฺชานาติ, ปีตมฺปิ สฺชานาติ, โลหิตมฺปิ สฺชานาติ, โอทาตมฺปิ สฺชานาติ, มฺชิฏฺมฺปิ [มฺเชฏฺมฺปิ (สี. ปี.)] สฺชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, สฺชานนลกฺขณา สฺา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ภณฺฑาคาริโก ภณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา นีลปีตโลหิโตทาตมฺชิฏฺานิ [มฺเชฏฺานิ (สี. ปี.)] ราชโภคานิ รูปานิ ปสฺสิตฺวา สฺชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, สฺชานนลกฺขณา สฺา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สฺาลกฺขณปฺโห ทสโม.
๑๑. เจตนาลกฺขณปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณา เจตนา’’ติ? ‘‘เจตยิตลกฺขณา, มหาราช, เจตนา อภิสงฺขรณลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส วิสํ อภิสงฺขริตฺวา อตฺตนา จ ปิเวยฺย, ปเร จ ปาเยยฺย, โส อตฺตนาปิ ทุกฺขิโต ภเวยฺย, ปเรปิ ทุกฺขิตา ภเวยฺยุํ. เอวเมว โข, มหาราช, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อกุสลํ กมฺมํ เจตนาย เจตยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย. เยปิ ตสฺส อนุสิกฺขนฺติ ¶ , เตปิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตํ เอกชฺฌํ อภิสงฺขริตฺวา อตฺตนา จ ปิเวยฺย, ปเร จ ปาเยยฺย, โส อตฺตนา สุขิโต ภเวยฺย, ปเรปิ สุขิตา ภเวยฺยุํ. เอวเมว ¶ โข, มหาราช, อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กุสลํ กมฺมํ เจตนาย เจตยิตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติ. เยปิ ตสฺส อนุสิกฺขนฺติ, เตปิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ. เอวํ โข, มหาราช, เจตยิตลกฺขณา เจตนา อภิสงฺขรณลกฺขณา จา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เจตนาลกฺขณปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. วิฺาณลกฺขณปฺโห
๑๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขณํ วิฺาณ’’นฺติ? ‘‘วิชานนลกฺขณํ, มหาราช, วิฺาณ’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครคุตฺติโก มชฺเฌ นครสิงฺฆาฏเก นิสินฺโน ปสฺเสยฺย ปุรตฺถิมทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย ทกฺขิณทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย ปจฺฉิมทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ, ปสฺเสยฺย อุตฺตรทิสโต ปุริสํ อาคจฺฉนฺตํ. เอวเมว โข, มหาราช, ยฺจ ปุริโส จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. ยฺจ ชิวฺหาย รสํ สายติ, ตํ วิฺาเณน ¶ วิชานาติ. ยฺจ กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ, ยฺจ มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, ตํ วิฺาเณน วิชานาติ. เอวํ โข, มหาราช, วิชานนลกฺขณํ วิฺาณ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิฺาณลกฺขณปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. วิตกฺกลกฺขณปฺโห
๑๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ วิตกฺโก’’ติ? ‘‘อปฺปนาลกฺขโณ มหาราช, วิตกฺโก’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วฑฺฒกี สุปริกมฺมกตํ ทารุํ สนฺธิสฺมึ อปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, อปฺปนาลกฺขโณ วิตกฺโก’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิตกฺกลกฺขณปฺโห เตรสโม.
๑๔. วิจารลกฺขณปฺโห
๑๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึลกฺขโณ วิจาโร’’ติ? ‘‘อนุมชฺชนลกฺขโณ, มหาราช, วิจาโร’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กํสถาลํ อาโกฏิตํ ปจฺฉา อนุรวติ ¶ อนุสนฺทหติ [อนุสทฺทายติ (ก.)], ยถา, มหาราช, อาโกฏนา, เอวํ วิตกฺโก ทฏฺพฺโพ. ยถา อนุรวนา [อนุมชฺชนา (ก.)], เอวํ วิจาโร ทฏฺพฺโพ’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิจารลกฺขณปฺโห จุทฺทสโม.
วิจารวคฺโค ตติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค จุทฺทส ปฺหา.
๔. นิพฺพานวคฺโค
๑. ผสฺสาทิวินิพฺภุชนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’ติ’’? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ สูโท อรสํ วา รสํ วา [ยูสํ วา รสํ วา (สี. สฺยา. ปี.)] กเรยฺย, โส ตตฺถ ทธิมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, โลณมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, สิงฺคิเวรมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, ชีรกมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, มริจมฺปิ ปกฺขิเปยฺย, อฺานิปิ ปการานิ ปกฺขิเปยฺย, ตเมนํ ราชา เอวํ วเทยฺย, ‘ทธิสฺส เม รสํ อาหร, โลณสฺส เม รสํ อาหร, สิงฺคิเวรสฺส เม รสํ อาหร, ชีรกสฺส เม รสํ อาหร, มริจสฺส เม รสํ อาหร, สพฺเพสํ เม ปกฺขิตฺตานํ รสํ อาหรา’ติ. สกฺกา นุ โข, มหาราช, เตสํ รสานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา รสํ อาหริตุํ อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกฺกา เตสํ รสานํ เอกโตภาวคตานํ ¶ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา รสํ อาหริตุํ อมฺพิลตฺตํ วา ลวณตฺตํ วา ติตฺตกตฺตํ วา กฏุกตฺตํ วา กสายตฺตํ วา มธุรตฺตํ วา, อปิ จ โข ปน สเกน สเกน ลกฺขเณน อุปฏฺหนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น สกฺกา อิเมสํ ธมฺมานํ เอกโตภาวคตานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปฺาเปตุํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ วิฺาณํ, อยํ วิตกฺโก, อยํ วิจาโร’ติ, อปิ จ โข ปน สเกน สเกน ลกฺขเณน อุปฏฺหนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ผสฺสาทิวินิพฺภุชนปฺโห ปโม.
๒. นาคเสนปฺโห
๒. เถโร ¶ อาห ‘‘โลณํ, มหาราช, จกฺขุวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, จกฺขุวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘สุฏฺุ โข, มหาราช, ชานาหี’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, ชิวฺหาวิฺเยฺย’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, ชิวฺหาวิฺเยฺย’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาติ’’.
‘‘ยทิ, ภนฺเต, สพฺพํ โลณํ ชิวฺหาย วิชานาติ, กิสฺส ปน ตํ สกเฏหิ พลีพทฺทา [พลิพทฺทา (สี. ปี.)] อาหรนฺติ, นนุ โลณเมว อาหริตพฺพ’’นฺติ? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, โลณเมว อาหริตุํ เอกโตภาวคตา เอเต ธมฺมา โคจรนานตฺตคตา โลณํ ครุภาโว จาติ. สกฺกา ปน, มหาราช, โลณํ ตุลาย ตุลยิตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สกฺกา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, มหาราช, โลณํ ตุลาย ตุลยิตุํ, ครุภาโว ตุลาย ตุลิยตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นาคเสนปฺโห ทุติโย.
๓. ปฺจายตนกมฺมนิพฺพตฺตปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยานิมานิ ปฺจายตนานิ, กึ นุ ตานิ นานากมฺเมหิ นิพฺพตฺตานิ, อุทาหุ เอเกน กมฺเมนา’’ติ? ‘‘นานากมฺเมหิ, มหาราช, นิพฺพตฺตานิ, น เอเกน กมฺเมนา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เอกสฺมึ เขตฺเต นานาพีชานิ วปฺเปยฺยุํ ¶ , เตสํ นานาพีชานํ นานาผลานิ นิพฺพตฺเตยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, นิพฺพตฺเตยฺยุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยานิ ยานิ ปฺจายตนานิ, ตานิ ตานิ นานากมฺเมหิ นิพฺพตฺตานิ, น เอเกน กมฺเมนา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺจายตนกมฺมนิพฺพตฺตปฺโห ตติโย.
๔. กมฺมนานากรณปฺโห
๔. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน มนุสฺสา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อปฺปายุกา, อฺเ ทีฆายุกา, อฺเ พหฺวาพาธา อฺเ อปฺปาพาธา, อฺเ ทุพฺพณฺณา, อฺเ วณฺณวนฺโต, อฺเ อปฺเปสกฺขา, อฺเ มเหสกฺขา, อฺเ อปฺปโภคา, อฺเ มหาโภคา, อฺเ นีจกุลีนา, อฺเ มหากุลีนา, อฺเ ทุปฺปฺา, อฺเ ปฺวนฺโต’’ติ?
เถโร อาห ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, รุกฺขา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อมฺพิลา, อฺเ ลวณา, อฺเ ติตฺตกา, อฺเ กฏุกา, อฺเ กสาวา, อฺเ มธุรา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, พีชานํ นานากรเณนา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมานํ นานากรเณน มนุสฺสา น สพฺเพ สมกา, อฺเ อปฺปายุกา, อฺเ ทีฆายุกา, อฺเ พหฺวาพาธา, อฺเ อปฺปาพาธา, อฺเ ทุพฺพณฺณา, อฺเ วณฺณวนฺโต, อฺเ อปฺเปสกฺขา, อฺเ มเหสกฺขา, อฺเ อปฺปโภคา, อฺเ มหาโภคา, อฺเ นีจกุลีนา, อฺเ มหากุลีนา, อฺเ ทุปฺปฺา, อฺเ ปฺวนฺโต. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา – ‘กมฺมสฺสกา, มาณว, สตฺตา กมฺมทายาทา กมฺมโยนี กมฺมพนฺธู กมฺมปฺปฏิสรณา, กมฺมํ สตฺเต วิภชติ ยทิทํ หีนปฺปณีตตายา’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กมฺมนานากรณปฺโห จตุตฺโถ.
๕. วายามกรณปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘กินฺติ อิมํ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ นุปฺปชฺเชยฺยา’ติ ¶ . เอตทตฺถา, มหาราช, อมฺหากํ ปพฺพชฺชา’’ติ. ‘‘กึ ปฏิกจฺเจว วายมิเตน, นนุ สมฺปตฺเต กาเล วายมิตพฺพ’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘สมฺปตฺเต กาเล, มหาราช, วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ปิปาสิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ อุทปานํ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยฺยาสิ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล ¶ วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ พุภุกฺขิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ เขตฺตํ กสาเปยฺยาสิ, สาลึ โรปาเปยฺยาสิ, ธฺํ อติหราเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภฺุชิสฺสามี’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวตีติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา เต สงฺคาโม ปจฺจุปฏฺิโต ภเวยฺย, ตทา ตฺวํ ปริขํ ขณาเปยฺยาสิ, ปาการํ การาเปยฺยาสิ, โคปุรํ การาเปยฺยาสิ, อฏฺฏาลกํ การาเปยฺยาสิ, ธฺํ อติหราเปยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ หตฺถิสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, อสฺสสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, รถสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, ธนุสฺมึ สิกฺเขยฺยาสิ, ถรุสฺมึ สิกฺเขยฺยาสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปตฺเต กาเล วายาโม อกิจฺจกโร ภวติ, ปฏิกจฺเจว วายาโม กิจฺจกโร ภวติ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา –
‘‘‘ปฏิกจฺเจว ตํ กยิรา, ยํ ชฺา หิตมตฺตโน;
น สากฏิกจินฺตาย, มนฺตา ธีโร ปรกฺกเม.
‘‘‘ยถา ¶ สากฏิโก มฏฺํ [นาม (สี. ปี. ก.) สํ. นิ. ๑.๑๐๓], สมํ หิตฺวา มหาปถํ;
วิสมํ มคฺคมารุยฺห, อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายติ.
‘‘‘เอวํ ¶ ธมฺมา อปกฺกมฺม, อธมฺมมนุวตฺติย;
มนฺโท มจฺจุ มุขํ ปตฺโต, อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายตี’’’ติ [โสจตีติ (สพฺพตฺถ)].
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วายามกรณปฺโห ปฺจโม.
๖. เนรยิกคฺคิอุณฺหภาวปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ปากติกอคฺคิโต เนรยิโก อคฺคิ มหาภิตาปตโร โหติ, ขุทฺทโกปิ ปาสาโณ ¶ ปากติเก อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺโต ทิวสมฺปิ ปจฺจมาโน [ธมมาโน (สี. ปี.)] น วิลยํ คจฺฉติ, กูฏาคารมตฺโตปิ ปาสาโณ เนรยิกคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺโต ขเณน วิลยํ คจฺฉตี’ติ, เอตํ วจนํ น สทฺทหามิ, เอวฺจ ปน วเทถ ‘เย จ ตตฺถ อุปฺปนฺนา สตฺตา, เต อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺตี’ติ, ตมฺปิ วจนํ น สทฺทหามี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ มกรินิโยปิ สุสุมารินิโยปิ กจฺฉปินิโยปิ โมรินิโยปิ กโปตินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ ปาสาณานิ สกฺขราโย จ ขาทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ, โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘โส น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหตี’’’ติ.
‘‘ภิยฺโย ¶ โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ สีหินิโยปิ พฺยคฺฆินิโยปิ ทีปินิโยปิ กุกฺกุรินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ อฏฺิกานิ มํสานิ ขาทนฺตีติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ ¶ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ, โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยา ตา สนฺติ โยนกสุขุมาลินิโยปิ ขตฺติยสุขุมาลินิโยปิ พฺราหฺมณสุขุมาลินิโยปิ คหปติสุขุมาลินิโยปิ, กึนุ ตา กกฺขฬานิ ขชฺชกานิ มํสานิ ขาทนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ขาทนฺตี’’ติ. ‘‘กึ ปน ตานิ ตาสํ กุจฺฉิยํ โกฏฺพฺภนฺตรคตานิ วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, วิลยํ คจฺฉนฺตี’’ติ. ‘‘โย ¶ ปน ตาสํ กุจฺฉิยํ คพฺโภ โสปิ วิลยํ คจฺฉตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ. ‘‘มฺามิ, ภนฺเต, กมฺมาธิกเตน น วิลยํ คจฺฉตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กมฺมาธิกเตน เนรยิกา สตฺตา อเนกานิปิ วสฺสสหสฺสานิ นิรเย ปจฺจมานา น วิลยํ คจฺฉนฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา – ‘‘โส น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เนรยิกคฺคิอุณฺหภาวปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ปถวิสนฺธารกปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘อยํ มหา ปถวี อุทเก ปติฏฺิตา, อุทกํ วาเต ปติฏฺิตํ, วาโต อากาเส ปติฏฺิโต’ติ, เอตมฺปิ วจนํ น สทฺทหามี’’ติ. เถโร ธมฺมกรเกน [ธมฺมกรเณน (ก.)] อุทกํ คเหตฺวา ราชานํ มิลินฺทํ สฺาเปสิ ‘‘ยถา, มหาราช, อิมํ อุทกํ วาเตน อาธาริตํ, เอวํ ตมฺปิ อุทกํ วาเตน อาธาริต’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปถวิสนฺธารกปฺโห สตฺตโม.
๘. นิโรธนิพฺพานปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต ¶ , นาคเสน, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘สพฺเพ พาลปุถุชฺชนา โข, มหาราช, อชฺฌตฺติกพาหิเร อายตเน อภินนฺทนฺติ อภิวทนฺติ อชฺโฌสาย ติฏฺนฺติ, เต เตน โสเตน วุยฺหนฺติ, น ปริมุจฺจนฺติ ชาติยา ชราย มรเณน โสเกน ปริเทเวน ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหิ น ปริมุจฺจนฺติ ทุกฺขสฺมาติ วทามิ. สุตวา จ โข, มหาราช, อริยสาวโก อชฺฌตฺติกพาหิเร อายตเน ¶ นาภินนฺทติ นาภิวทติ นาชฺโฌสาย ติฏฺติ, ตสฺส ตํ อนภินนฺทโต อนภิวทโต อนชฺโฌสาย ติฏฺโต ตณฺหา นิรุชฺฌติ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ, อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติ, เอวํ โข, มหาราช, นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิโรธนิพฺพานปฺโห อฏฺโม.
๙. นิพฺพานลภนปฺโห
๙. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพว ลภนฺติ นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘น โข, มหาราช, สพฺเพว ลภนฺติ นิพฺพานํ, อปิ จ โข, มหาราช, โย สมฺมา ปฏิปนฺโน อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิชานาติ, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริชานาติ, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปชหติ, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวติ, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกโรติ, โส ลภติ นิพฺพาน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิพฺพานลภนปฺโห นวโม.
๑๐. นิพฺพานสุขชานนปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย น ลภติ นิพฺพานํ, ชานาติ โส ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย น ลภติ นิพฺพานํ, ชานาติ โส ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อลภนฺโต ชานาติ ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เยสํ นจฺฉินฺนา หตฺถปาทา ¶ , ชาเนยฺยุํ เต, มหาราช, ‘ทุกฺขํ หตฺถปาทจฺเฉทน’’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยุ’’นฺติ. ‘‘กถํ ชาเนยฺยุ’’นฺติ? ‘‘อฺเสํ, ภนฺเต, ฉินฺนหตฺถปาทานํ ปริเทวิตสทฺทํ สุตฺวา ชานนฺติ ‘ทุกฺขํ หตฺถปาทจฺเฉทน’’’นฺติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยสํ ทิฏฺํ นิพฺพานํ, เตสํ สทฺทํ สุตฺวา ชานาติ ‘สุขํ นิพฺพาน’’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
นิพฺพานสุขชานนปฺโห ทสโม.
นิพฺพานวคฺโค จตุตฺโถ.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๕. พุทฺธวคฺโค
๑. พุทฺธสฺส อตฺถินตฺถิภาวปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ตยา ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘อถ เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ พุทฺโธ’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, หิมวติ อูหา นที ตยา ทิฏฺา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ เต ปิตรา อูหา นที ทิฏฺา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ อูหา นที’’ติ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, กิฺจาปิ มยา อูหา นที น ทิฏฺา, ปิตราปิ เม อูหา นที น ทิฏฺา, อปิ จ อตฺถิ อูหา นที’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กิฺจาปิ มยา ภควา น ทิฏฺโ, อาจริเยหิปิ เม ภควา น ทิฏฺโ, อปิ จ อตฺถิ ภควา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อตฺถินตฺถิภาวปฺโห ปโม.
๒. พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ อนุตฺตโร’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อนุตฺตโร’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อทิฏฺปุพฺพํ ชานาสิ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, เยหิ อทิฏฺปุพฺโพ มหาสมุทฺโท, ชาเนยฺยุํ เต, มหาราช, มหนฺโต โข มหาสมุทฺโท คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุปฺปริโยคาโห, ยตฺถิมา ปฺจ มหานทิโย สตตํ สมิตํ อปฺเปนฺติ, เสยฺยถิทํ, คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหี, เนว ตสฺส อูนตฺตํ วา ปูรตฺตํ วา ปฺายตี’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สาวเก มหนฺเต ปรินิพฺพุเต ¶ ปสฺสิตฺวา ชานามิ ‘ภควา อนุตฺตโร’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวปฺโห ทุติโย.
๓. พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวชานนปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา ชานิตุํ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา ชานิตุํ ‘ภควา อนุตฺตโร’’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา ชานิตุํ ‘พุทฺโธ อนุตฺตโร’’’ติ. ‘‘ภูตปุพฺพํ, มหาราช, ติสฺสตฺเถโร นาม เลขาจริโย อโหสิ, พหูนิ วสฺสานิ อพฺภตีตานิ กาลงฺกตสฺส กถํ โส ายตี’’ติ. ‘‘เลเขน ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย ธมฺมํ ปสฺสติ, โส ภควนฺตํ ปสฺสติ, ธมฺโม หิ, มหาราช, ภควตา เทสิโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธสฺส อนุตฺตรภาวชานนปฺโห ตติโย.
๔. ธมฺมทิฏฺปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ธมฺโม ตยา ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘พุทฺธเนตฺติยา โข, มหาราช, พุทฺธปฺตฺติยา ยาวชีวํ สาวเกหิ วตฺติตพฺพ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ธมฺมทิฏฺปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อสงฺกมนปฏิสนฺทหนปฺโห
๕. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จ, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปทีปโต ปทีปํ ปทีเปยฺย, กึนุ โข โส, มหาราช, ปทีโป ปทีปมฺหา สงฺกนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, ทหรโก สนฺโต สิโลกาจริยสฺส สนฺติเก กิฺจิ สิโลกํ คหิต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส สิโลโก อาจริยมฺหา สงฺกนฺโต’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น จ สงฺกมติ ปฏิสนฺทหติ จาติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสงฺกมนปฏิสนฺทหนปฺโห ปฺจโม.
๖. เวทคูปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เวทคู อุปลพฺภตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ปรมตฺเถน โข, มหาราช, เวทคู นุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
เวทคูปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อฺกายสงฺกมนปฺโห
๗. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ สตฺโต โย อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ สงฺกมตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อิมมฺหา กายา อฺํ กายํ สงฺกมนฺโต นตฺถิ, นนุ มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ยทิ น ปฏิสนฺทเหยฺย, มุตฺโต ภวิสฺสติ ปาปเกหิ กมฺเมหีติ, ยสฺมา จ โข, มหาราช, ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส อฺตรสฺส ปุริสสฺส อมฺพํ อวหเรยฺย, กึ โส ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘น โข โส, มหาราช, ตานิ อมฺพานิ อวหริ, ยานิ เตน โรปิตานิ, กสฺมา ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘ตานิ, ภนฺเต, อมฺพานิ นิสฺสาย ชาตานิ, ตสฺมา ทณฺฑปฺปตฺโต ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กโรติ โสภนํ วา อโสภนํ ¶ วา, เตน กมฺเมน อฺํ นามรูปํ ปฏิสนฺทหติ, ตสฺมา น ปริมุตฺโต ปาปเกหิ กมฺเมหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อฺกายสงฺกมนปฺโห สตฺตโม.
๘. กมฺมผลอตฺถิภาวปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิมินา นามรูเปน กมฺมํ กตํ กุสลํ วา อกุสลํ วา, กุหึ ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’ติ? ‘‘อนุพนฺเธยฺยุํ โข, มหาราช, ตานิ กมฺมานิ ฉายาว อนปายินี’’ติ [อนุปายินีติ (ก.)]. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต, ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ? ‘‘น สกฺกา, มหาราช, ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยานิมานิ รุกฺขานิ อนิพฺพตฺตผลานิ, สกฺกา เตสํ ผลานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ ผลานิ ติฏฺนฺตี’’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อพฺโพจฺฉินฺนาย สนฺตติยา น สกฺกา ตานิ กมฺมานิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา ตานิ กมฺมานิ ติฏฺนฺตี’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กมฺมผลอตฺถิภาวปฺโห อฏฺโม.
๙. อุปฺปชฺชติชานนปฺโห
๙. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อุปฺปชฺชติ, ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, โย อุปฺปชฺชติ ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก คหปติโก พีชานิ ปถวิยํ นิกฺขิปิตฺวา สมฺมา เทเว วสฺสนฺเต ชานาติ ‘ธฺํ ¶ นิพฺพตฺติสฺสตี’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชาเนยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อุปฺปชฺชติ, ชานาติ โส ‘อุปฺปชฺชิสฺสามี’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อุปฺปชฺชติชานนปฺโห นวโม.
๑๐. พุทฺธนิทสฺสนปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ อตฺถี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา อตฺถี’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ นิทสฺเสตุํ อิธวา อิธวา’’ติ? ‘‘ปรินิพฺพุโต, มหาราช, ภควา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา, น สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, มหโต อคฺคิกฺขนฺธสฺส ชลมานสฺส ยา อจฺจิ อตฺถงฺคตา, สกฺกา สา อจฺจิ ทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นิรุทฺธา สา อจฺจิ อปฺปฺตฺตึ คตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพุโต อตฺถงฺคโต, น สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ ‘อิธ วา อิธ วา’ ติ, ธมฺมกาเยน ปน โข, มหาราช, สกฺกา ภควา นิทสฺเสตุํ. ธมฺโม หิ, มหาราช, ภควตา เทสิโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธนิทสฺสนปฺโห ทสโม.
พุทฺธวคฺโค ปฺจโม.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๖. สติวคฺโค
๑. กายปิยายนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย’’ติ? ‘‘น โข, มหาราช, ปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, เกลายถ มมายถา’’ติ? ‘‘กึ ปน เต, มหาราช, กทาจิ กรหจิ สงฺคามคตสฺส กณฺฑปฺปหาโร โหตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, โหตี’’ติ. ‘‘กึนุ โข ¶ , มหาราช, โส วโณ อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ปิโย เต วโณ, เตน อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ? ‘‘น เม, ภนฺเต, ปิโย วโณ, อปิ จ มํสสฺส รุหนตฺถาย อาเลเปน จ อาลิมฺปียติ เตเลน จ มกฺขียติ สุขุเมน จ โจฬปฏฺเฏน ปลิเวียตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อปฺปิโย ปพฺพชิตานํ กาโย, อถ จ ปพฺพชิตา อนชฺโฌสิตา กายํ ปริหรนฺติ พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย. อปิ จ โข, มหาราช, วณูปโม กาโย วุตฺโต ภควตา, เตน ปพฺพชิตา วณมิว กายํ ปริหรนฺติ อนชฺโฌสิตา. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช ภควตา –
‘‘‘อลฺลจมฺมปฏิจฺฉนฺโน, นวทฺวาโร มหาวโณ;
สมนฺตโต ปคฺฆรติ, อสุจิปูติคนฺธิโย’’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
กายปิยายนปฺโห ปโม.
๒. สพฺพฺูภาวปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา ¶ สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, สาวกานํ อนุปุพฺเพน สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต ¶ มหาราช, โกจิ เวชฺโช, โย อิมิสฺสํ ปถวิยํ สพฺพเภสชฺชานิ ชานาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส เวชฺโช คิลานกํ สมฺปตฺเต กาเล เภสชฺชํ ปาเยติ, อุทาหุ อสมฺปตฺเต กาเล’’ติ? ‘‘สมฺปตฺเต กาเล, ภนฺเต, คิลานกํ เภสชฺชํ ปาเยติ, โน อสมฺปตฺเต กาเล’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา สพฺพฺู สพฺพทสฺสาวี น อสมฺปตฺเต กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ, สมฺปตฺเต กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปติ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สพฺพฺูภาวปฺโห ทุติโย.
๓. มหาปุริสลกฺขณปฺโห
๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ’’ติ.
‘‘กึ ปนสฺส, ภนฺเต, มาตาปิตโรปิ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ? ‘‘โน จสฺส, มหาราช, มาตาปิตโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ.
‘‘เอวํ สนฺเต โข, ภนฺเต นาคเสน, น อุปฺปชฺชติ พุทฺโธ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภติ, อปิ จ มาตุสทิโส วา ปุตฺโต โหติ มาตุปกฺโข วา, ปิตุสทิโส วา ปุตฺโต โหติ ปิตุปกฺโข วา’’ติ. เถโร อาห ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, กิฺจิ ปทุมํ สตปตฺต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘ตสฺส ปน กุหึ สมฺภโว’’ติ? ‘‘กทฺทเม ชายติ อุทเก อาสียตี’’ติ ¶ . ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ปทุมํ กทฺทเมน สทิสํ วณฺเณน วา คนฺเธน วา รเสน วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อถ อุทเกน วา ¶ คนฺเธน วา รเสน วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ภควา ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิโต สุวณฺณวณฺโณ กฺจนสนฺนิภตฺตโจ พฺยามปฺปโภ, โน จสฺส มาตาปิตโร ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตา อสีติยา จ อนุพฺยฺชเนหิ ปริรฺชิตา สุวณฺณวณฺณา กฺจนสนฺนิภตฺตจา พฺยามปฺปภา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
มหาปุริสลกฺขณปฺโห ตติโย.
๔. ภควโต พฺรหฺมจาริปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ พฺรหฺมจารี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, ภควา พฺรหฺมจารี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺโธ พฺรหฺมุโน สิสฺโส’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, หตฺถิปาโมกฺโข’’ติ? ‘‘อตฺถิ ¶ , ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, โส หตฺถี กทาจิ กรหจิ โกฺจนาทํ นทตีติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, นทตี’’ติ ‘‘เตน หิ, มหาราช, โส หตฺถี โกฺจสกุณสฺส สิสฺโส’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, พฺรหฺมา สพุทฺธิโก อพุทฺธิโก’’ติ? ‘‘สพุทฺธิโก, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, พฺรหฺมา ภควโต สิสฺโส’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภควโต พฺรหฺมจาริปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ภควโต อุปสมฺปทาปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อุปสมฺปทา สุนฺทรา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อุปสมฺปทา สุนฺทรา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, ภนฺเต, พุทฺธสฺส อุปสมฺปทา, อุทาหุ นตฺถี’’ติ? ‘‘อุปสมฺปนฺโน โข, มหาราช ¶ , ภควา โพธิรุกฺขมูเล สห สพฺพฺุตาเณน, นตฺถิ ภควโต อุปสมฺปทา อฺเหิ ทินฺนา, ยถา สาวกานํ, มหาราช, ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ภควโต อุปสมฺปทาปฺโห ปฺจโม.
๖. อสฺสุเภสชฺชาเภสชฺชปฺโห
๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย จ มาตริ มตาย โรทติ, โย จ ธมฺมเปเมน โรทติ, อุภินฺนํ เตสํ โรทนฺตานํ กสฺส อสฺสุ เภสชฺชํ, กสฺส น เภสชฺช’’นฺติ? ‘‘เอกสฺส โข, มหาราช, อสฺสุ ราคโทสโมเหหิ สมลํ อุณฺหํ, เอกสฺส ปีติโสมนสฺเสน วิมลํ สีตลํ. ยํ โข, มหาราช, สีตลํ, ตํ เภสชฺชํ, ยํ อุณฺหํ, ตํ น เภสชฺช’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสฺสุเภสชฺชาเภสชฺชปฺโห ฉฏฺโ.
๗. สราควีตราคนานากรณปฺโห
๗. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ นานากรณํ สราคสฺส จ วีตราคสฺส จา’’ติ? ‘‘เอโก โข, มหาราช, อชฺโฌสิโต, เอโก อนชฺโฌสิโต’’ติ. ‘‘กึ เอตํ, ภนฺเต, อชฺโฌสิโต อนชฺโฌสิโต นามา’’ติ? ‘‘เอโก โข, มหาราช, อตฺถิโก, เอโก อนตฺถิโก’’ติ. ‘‘ปสฺสามหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ โย จ สราโค, โย จ วีตราโค, สพฺโพเปโส โสภนํ เยว อิจฺฉติ ขาทนียํ วา โภชนียํ วา, น โกจิ ปาปกํ อิจฺฉตี’’ติ. ‘‘อวีตราโค โข, มหาราช, รสปฏิสํเวที จ รสราคปฏิสํเวที จ โภชนํ ภฺุชติ, วีตราโค ปน รสปฏิสํเวที ¶ โภชนํ ภฺุชติ, โน จ โข รสราคปฏิสํเวที’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สราควีตราคนานากรณปฺโห สตฺตโม.
๘. ปฺาปติฏฺานปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปฺา กุหึ ปฏิวสตี’’ติ? ‘‘น กตฺถจิ มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ ปฺา’’ติ. ‘‘วาโต, มหาราช, กุหึ ปฏิวสตี’’ติ? ‘‘น กตฺถจิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ วาโต’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปฺาปติฏฺานปฺโห อฏฺโม.
๙. สํสารปฺโห
๙. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ปเนตํ พฺรูสิ ‘สํสาโร’ติ, กตโม โส สํสาโร’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ชาโต อิเธว มรติ, อิธ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, ตหึ ชาโต ตหึ เยว มรติ, ตหึ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, เอวํ โข, มหาราช, สํสาโร โหตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส ปกฺกํ อมฺพํ ขาทิตฺวา อฏฺึ โรเปยฺย, ตโต มหนฺโต อมฺพรุกฺโข นิพฺพตฺติตฺวา ผลานิ ทเทยฺย, อถ โส ปุริโส ตโตปิ ปกฺกํ อมฺพํ ขาทิตฺวา อฏฺึ โรเปยฺย, ตโตปิ มหนฺโต อมฺพรุกฺโข นิพฺพตฺติตฺวา ผลานิ ทเทยฺย, เอวเมเตสํ รุกฺขานํ โกฏิ น ปฺายติ, เอวเมว โข, มหาราช, อิธ ชาโต อิเธว มรติ, อิธ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, ตหึ ชาโต ตหึ เยว มรติ, ตหึ มโต อฺตฺร อุปฺปชฺชติ, เอวํ โข, มหาราช, สํสาโร โหตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สํสารปฺโห นวโม.
๑๐. จิรกตสรณปฺโห
๑๐. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน อตีตํ จิรกตํ สรตี’’ติ? ‘‘สติยา, มหาราชา’’ติ. ‘‘นนุ, ภนฺเต นาคเสน, จิตฺเตน สรติ โน สติยา’’ติ? ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, กิฺจิเทว กรณียํ กตฺวา ปมุฏฺ’’นฺติ? ‘‘อาม ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, ตฺวํ มหาราช, ตสฺมึ สมเย อจิตฺตโก อโหสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สติ ตสฺมึ สมเย นาโหสี’’ติ. ‘‘อถ กสฺมา, ตฺวํ มหาราช, เอวมาห ‘จิตฺเตน สรติ, โน สติยา’’’ติ?
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
จิรกตสรณปฺโห ทสโม.
๑๑. อภิชานนฺตสติปฺโห
๑๑. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺพา สติ อภิชานนฺตี อุปฺปชฺชติ ¶ , อุทาหุ กฏุมิกาว สตี’’ติ? ‘‘อภิชานนฺตีปิ, มหาราช, กฏุมิกาปิ สตี’’ติ. ‘‘เอวฺหิ โข, ภนฺเต นาคเสน, สพฺพา สติ อภิชานนฺตี, นตฺถิ กฏุมิกา สตี’’ติ? ‘‘ยทิ นตฺถิ, มหาราช, กฏุมิกา สติ, นตฺถิ กิฺจิ สิปฺปิกานํ กมฺมายตเนหิ วา สิปฺปายตเนหิ วา วิชฺชาฏฺาเนหิ วา กรณียํ, นิรตฺถกา อาจริยา, ยสฺมา จ โข, มหาราช, อตฺถิ กฏุมิกา สติ, ตสฺมา อตฺถิ กมฺมายตเนหิ วา สิปฺปายตเนหิ วา วิชฺชาฏฺาเนหิ วา กรณียํ, อตฺโถ จ อาจริเยหี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อภิชานนฺตสติปฺโห เอกาทสโม.
สติวคฺโค ฉฏฺโ.
อิมสฺมึ วคฺเค เอกาทส ปฺหา.
๗. อรูปธมฺมววตฺตนวคฺโค
๑. สติอุปฺปชฺชนปฺโห
๑. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กติหากาเรหิ สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ? ‘‘สตฺตรสหากาเรหิ, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ. ‘‘กตเมหิ สตฺตรสหากาเรหี’’ติ? ‘‘อภิชานโตปิ, มหาราช, สติ อุปฺปชฺชติ, กฏุมิกายปิ สติ อุปฺปชฺชติ, โอฬาริกวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, หิตวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อหิตวิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, สภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, วิสภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, กถาภิฺาณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ลกฺขณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, สารณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, มุทฺทาโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, คณนาโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ธารณโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, ภาวนโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, โปตฺถกนิพนฺธนโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อุปนิกฺเขปโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ, อนุภูตโตปิ สติ อุปฺปชฺชตีติ.
‘‘กถํ อภิชานโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยถา, มหาราช, อายสฺมา จ อานนฺโท ขุชฺชุตฺตรา จ อุปาสิกา, เย วา ปน อฺเปิ ¶ เกจิ ชาติสฺสรา ชาตึ สรนฺติ, เอวํ อภิชานโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ กฏุมิกาย สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก, ปเร จ ตํ สราปนตฺถํ นิพนฺธนฺติ, เอวํ กฏุมิกาย สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ โอฬาริกวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยทา รชฺเช วา อภิสิตฺโต โหติ, โสตาปตฺติผลํ วา ปตฺโต โหติ, เอวํ โอฬาริกวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ หิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยมฺหิ สุขาปิโต, ‘อมุกสฺมึ เอวํ สุขาปิโต’ติ สรติ, เอวํ หิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อหิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ยมฺหิ ทุกฺขาปิโต, ‘อมุกสฺมึ เอวํ ทุกฺขาปิโต’ติ สรติ, เอวํ อหิตวิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ สภาคนิมิตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ? สทิสํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา มาตรํ วา ปิตรํ วา ภาตรํ วา ภคินึ วา สรติ, โอฏฺํ วา โคณํ วา คทฺรภํ วา ทิสฺวา อฺํ ตาทิสํ โอฏฺํ วา โคณํ วา คทฺรภํ วา สรติ, เอวํ สภาคนิมิตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ วิสภาคนิมตฺตโต สติ อุปฺปชฺชติ? อสุกสฺส นาม วณฺโณ เอทิโส, สทฺโท เอทิโส, คนฺโธ เอทิโส, รโส เอทิโส, โผฏฺพฺโพ เอทิโสติ สรติ, เอวมฺปิ วิสภาคนิมิตฺตโตปิ สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ กถาภิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก โหติ, ตํ ปเร สราเปนฺติ, เตน โส สรติ, เอวํ กถาภิฺาณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ลกฺขณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา พลีพทฺทานํ องฺเคน ชานาติ, ลกฺขเณน ชานาติ, เอวํ ลกฺขณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ สารณโต สติ อุปฺปชฺชติ? โย ปกติยา มุฏฺสฺสติโก โหติ, โย ตํ ‘สราหิ โภ, สราหิ โภ’ติ ปุนปฺปุนํ สราเปติ, เอวํ สารณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ มุทฺทาโต สติ อุปฺปชฺชติ? ลิปิยา สิกฺขิตตฺตา ชานาติ ‘อิมสฺส อกฺขรสฺส อนนฺตรํ อิมํ อกฺขรํ กาตพฺพ’นฺติ เอวํ มุทฺทาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ คณนาโต สติ อุปฺปชฺชติ? คณนาย สิกฺขิตตฺตา คณกา พหุมฺปิ คเณนฺติ, เอวํ คณนาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ¶ ธารณโต สติ อุปฺปชฺชติ? ธารณาย สิกฺขิตตฺตา ธารณกา พหุมฺปิ ธาเรนฺติ ¶ , เอวํ ธารณโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ ภาวนาโต สติ อุปฺปชฺชติ? อิธ ภิกฺขุ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เสยฺยถีทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, เอวํ ภาวนาโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ โปตฺถกนิพนฺธนโต สติ อุปฺปชฺชติ? ราชาโน อนุสาสนิยํ อสฺสรนฺตา [อนุสฺสรนฺตา (สพฺพตฺถ)] เอตํ โปตฺถกํ อาหรถาติ, เตน โปตฺถเกน อนุสฺสรนฺติ, เอวํ โปตฺถกนิพนฺธนโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อุปนิกฺเขปโต สติ อุปฺปชฺชติ? อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ทิสฺวา สรติ, เอวํ อุปนิกฺเขปโต สติ อุปฺปชฺชติ.
‘‘กถํ อนุภูตโต สติ อุปฺปชฺชติ? ทิฏฺตฺตา รูปํ สรติ, สุตตฺตา สทฺทํ สรติ, ฆายิตตฺตา คนฺธํ สรติ, สายิตตฺตา รสํ สรติ, ผุฏฺตฺตา โผฏฺพฺพํ ¶ สรติ, วิฺาตตฺตา ธมฺมํ สรติ, เอวํ อนุภูตโต สติ อุปฺปชฺชติ. อิเมหิ โข, มหาราช, สตฺตรสหากาเรหิ สติ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สติอุปฺปชฺชนปฺโห ปโม.
๒. พุทฺธคุณสติปฏิลาภปฺโห
๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอตํ ภณถ ‘โย วสฺสสตํ อกุสลํ กเรยฺย, มรณกาเล จ เอกํ พุทฺธคุณํ สตึ ปฏิลเภยฺย, โส เทเวสุ อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตํ น สทฺทหามิ, เอวฺจ ปน วเทถ ‘เอเตน ปาณาติปาเตน นิรเย อุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตมฺปิ น สทฺทหามี’’ติ.
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ขุทฺทโกปิ ปาสาโณ วินา นาวาย อุทเก อุปฺปิลเวยฺยา’’ติ ¶ . ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, วาหสตมฺปิ ปาสาณานํ นาวาย อาโรปิตํ อุทเก อุปฺปิลเวยฺยา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นาวา, เอวํ กุสลานิ กมฺมานิ ทฏฺพฺพานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พุทฺธคุณสติปฏิลาภปฺโห ทุติโย.
๓. ทุกฺขปฺปหานวายมปฺโห
๓. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ ตุมฺเห อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ¶ ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ ตุมฺเห น อตีตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น อนาคตสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, น ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส ปหานาย วายมถ, อถ กิมตฺถาย วายมถา’’ติ. เถโร อาห ‘กินฺติ, มหาราช, อิทฺจ ทุกฺขํ นิรุชฺเฌยฺย, อฺฺจ ทุกฺขํ นุปฺปชฺเชยฺยา’ติ เอตทตฺถาย วายมามา’’ติ.
‘‘อตฺถิ ¶ ปน เต, ภนฺเต นาคเสน, อนาคตํ ทุกฺข’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ [กถา. ๘๒๘, ๘๒๙ ปสฺสิตพฺพํ], มหาราชา’’ติ ‘‘ตุมฺเห โข, ภนฺเต นาคเสน, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ทุกฺขานํ ปหานาย วายมถา’’ติ? ‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, เกจิ ปฏิราชาโน ปจฺจตฺถิกา ปจฺจามิตฺตา ปจฺจุปฏฺิตา โหนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘กึนุ โข, มหาราช, ตทา ตุมฺเห ปริขํ ขณาเปยฺยาถ, ปาการํ จินาเปยฺยาถ โคปุรํ การาเปยฺยาถ, อฏฺฏาลกํ การาเปยฺยาถ, ธฺํ อติหราเปยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กึ ตุมฺเห, มหาราช, ตทา หตฺถิสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, อสฺสสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, รถสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, ธนุสฺมึ สิกฺเขยฺยาถ, ถรุสฺมึ สิกฺเขยฺยาถา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ สิกฺขิตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, ภยานํ ปฏิพาหนตฺถายา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ อนาคตํ ภย’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘ตุมฺเห จ โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ภยานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหีติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ ปิปาสิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ อุทปานํ ขณาเปยฺยาสิ, โปกฺขรณึ ขณาเปยฺยาสิ, ตฬากํ ขณาเปยฺยาสิ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ? ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, ปิปาสานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา ปิปาสา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตุมฺเห โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา ¶ , เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ ปิปาสานํ ปฏิพาหนตฺถาย ตํ ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ยทา ตฺวํ พุภุกฺขิโต ภเวยฺยาสิ, ตทา ตฺวํ เขตฺตํ กสาเปยฺยาสิ, สาลึ วปาเปยฺยาสิ ‘ภตฺตํ ภฺุชิสฺสามี’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ปฏิกจฺเจว ตํ ปฏิยตฺตํ โหตี’’ติ. ‘‘กิสฺสตฺถายา’’ติ. ‘‘อนาคตานํ, ภนฺเต, พุภุกฺขานํ ปฏิพาหนตฺถายา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, อนาคตา พุภุกฺขา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ตุมฺเห ¶ โข, มหาราช, อติปณฺฑิตา, เย ตุมฺเห อสนฺตานํ อนาคตานํ พุภุกฺขานํ ปฏิพาหนตฺถาย ปฏิยาเทถา’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทุกฺขปฺปหานวายมปฺโห ตติโย.
๔. พฺรหฺมโลกปฺโห
๔. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กีวทูโร อิโต พฺรหฺมโลโก’’ติ? ‘‘ทูโร โข, มหาราช, อิโต พฺรหฺมโลโก กูฏาคารมตฺตา สิลา ตมฺหา ปติตา อโหรตฺเตน อฏฺจตฺตาลีสโยชนสหสฺสานิ ภสฺสมานา จตูหิ มาเสหิ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺยา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘เสยฺยถาปิ พลวา ปุริโส สมิฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย ¶ , ปสาริตํ วา พาหํ สมิฺเชยฺย, เอวเมว อิทฺธิมา ภิกฺขุ เจโตวสิปฺปตฺโต ชมฺพุทีเป อนฺตรหิโต พฺรหฺมโลเก ปาตุภเวยฺยา’ติ เอตํ วจนํ น สทฺทหามิ, เอวํ อติสีฆํ ตาว พหูนิ โยชนสตานิ คจฺฉิสฺสตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘กุหึ ปน, มหาราช, ตว ชาตภูมี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อลสนฺโท นาม ทีโป, ตตฺถาหํ ชาโต’’ติ. ‘‘กีว ทูโร, มหาราช, อิโต อลสนฺโท โหตี’’ติ? ‘‘ทฺวิมตฺตานิ, ภนฺเต, โยชนสตานี’’ติ. ‘‘อภิชานาสิ นุ ตฺวํ, มหาราช, ตตฺถ กิฺจิเทว กรณียํ กริตฺวา สริตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สรามี’’ติ. ‘‘ลหุํ โข ตฺวํ, มหาราช, คโตสิ ทฺวิมตฺตานิ โยชนสตานี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
พฺรหฺมโลกปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ทฺวินฺนํ โลกุปฺปนฺนานํ สมกภาวปฺโห
๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, โก จิรตรํ โก สีฆตร’’นฺติ? ‘‘สมกํ, มหาราชา’’ติ.
‘‘โอปมฺมํ ¶ กโรหี’’ติ. ‘‘กุหึ ปน, มหาราช, ตว ¶ ชาตนคร’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, กลสิคาโม นาม, ตตฺถาหํ ชาโต’’ติ. ‘‘กีว ทูโร, มหาราช, อิโต กลสิคาโม โหตี’’ติ. ‘‘ทฺวิมตฺตานิ, ภนฺเต, โยชนสตานี’’ติ. ‘‘กีว ทูรํ, มหาราช, อิโต กสฺมีรํ โหตี’’ติ? ‘‘ทฺวาทส, ภนฺเต, โยชนานี’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ตฺวํ มหาราช, กลสิคามํ จินฺเตหี’’ติ. ‘‘จินฺติโต, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ตฺวํ มหาราช, กสฺมีรํ จินฺเตหี’’ติ. ‘‘จินฺติตํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กตมํ นุ โข, มหาราช, จิเรน จินฺติตํ, กตมํ สีฆตร’’นฺติ? ‘‘สมกํ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, สมกํ เยว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘ภิยฺโย โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ทฺเว สกุณา อากาเสน คจฺเฉยฺยุํ ¶ , เตสุ เอโก อุจฺเจ รุกฺเข นิสีเทยฺย, เอโก นีเจ รุกฺเข นิสีเทยฺย, เตสํ สมกํ ปติฏฺิตานํ กตมสฺส ฉายา ปมตรํ ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺย, กตมสฺส ฉายา จิเรน ปถวิยํ ปติฏฺเหยฺยา’’ติ? ‘‘สมกํ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อิธ กาลงฺกโต พฺรหฺมโลเก อุปฺปชฺเชยฺย, โย จ อิธ กาลงฺกโต กสฺมีเร อุปฺปชฺเชยฺย, สมกํ เยว อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทฺวินฺนํ โลกุปฺปนฺนานํ สมกภาวปฺโห ปฺจโม.
๖. โพชฺฌงฺคปฺโห
๖. ราชา อาห ‘‘กติ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โพชฺฌงฺคา’’ติ? ‘‘สตฺต โข, มหาราช, โพชฺฌงฺคา’’ติ. ‘‘กติหิ ปน, ภนฺเต, โพชฺฌงฺเคหิ พุชฺฌตี’’ติ? ‘‘เอเกน โข, มหาราช, โพชฺฌงฺเคน พุชฺฌติ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคนา’’ติ. ‘‘อถ กิสฺส นุ โข, ภนฺเต, วุจฺจนฺติ ‘สตฺต โพชฺฌงฺคา’’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, อสิ โกสิยา ปกฺขิตฺโต อคฺคหิโต หตฺเถน อุสฺสหติ เฉชฺชํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺเคน วินา ฉหิ โพชฺฌงฺเคหิ น พุชฺฌตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
โพชฺฌงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ปาปปฺุานํ อปฺปานปฺปภาวปฺโห
๗. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตรํ นุ โข พหุตรํ ปฺุํ วา อปฺุํ วา’’ติ? ‘‘ปฺุํ โข, มหาราช ¶ , พหุตรํ, อปฺุํ โถก’’นฺติ. ‘‘เกน การเณนา’’ติ? ‘‘อปฺุํ โข, มหาราช, กโรนฺโต วิปฺปฏิสารี โหติ ‘ปาปกมฺมํ มยา กต’นฺติ, เตน ปาปํ น ¶ วฑฺฒติ. ปฺุํ โข, มหาราช, กโรนฺโต อวิปฺปฏิสารี โหติ, อวิปฺปฏิสาริโน ปาโมชฺชํ ชายติ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ, เตน การเณน ปฺุํ วฑฺฒติ. ปุริโส โข, มหาราช, ฉินฺนหตฺถปาโท ภควโต เอกํ อุปฺปลหตฺถํ ทตฺวา เอกนวุติกปฺปานิ วินิปาตํ น คจฺฉิสฺสติ. อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ภณามิ ‘ปฺุํ พหุตรํ, อปฺุํ โถก’’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ปาปปฺุานํ อปฺปานปฺปภาวปฺโห สตฺตโม.
๘. ชานนฺตาชานนฺตปาปกรณปฺโห
๘. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, โย อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, กสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘โย โข, มหาราช, อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, โย อมฺหากํ ราชปุตฺโต วา ราชมหามตฺโต วา อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตํ มยํ ทิคุณํ ทณฺเฑมา’’ติ? ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, ตตฺตํ อโยคุฬํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ เอโก ชานนฺโต คณฺเหยฺย, เอโก อชานนฺโต คณฺเหยฺย, กตโม [กสฺส (ก.)] พลวตรํ ฑยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘โย โข, ภนฺเต, อชานนฺโต คณฺเหยฺย, โส [ตสฺส (ปี. ก.)] พลวตรํ ฑยฺเหยฺยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย อชานนฺโต ปาปกมฺมํ กโรติ, ตสฺส พหุตรํ อปฺุ’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ชานนฺตาชานนฺตปาปกรณปฺโห อฏฺโม.
๙. อุตฺตรกุรุกาทิคมนปฺโห
๙. ราชา ¶ ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ, โย อิมินา สรีเรน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ทีป’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, โย อิมินา จาตุมฺมหาภูติเกน กาเยน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ทีป’’นฺติ.
‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, อิมินา จาตุมฺมหาภูติเกน กาเยน อุตฺตรกุรุํ วา คจฺเฉยฺย, พฺรหฺมโลกํ วา, อฺํ วา ปน ¶ ทีป’’นฺติ? ‘‘อภิชานาสิ นุ, ตฺวํ มหาราช, อิมิสฺสา ปถวิยา วิทตฺถึ วา รตนํ วา ลงฺฆิตา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อภิชานามิ ‘อหํ, ภนฺเต นาคเสน, อฏฺปิ รตนิโย ลงฺเฆมี’’’ติ. ‘‘กถํ, ตฺวํ มหาราช, อฏฺปิ รตนิโย ลงฺเฆสี’’ติ? ‘‘อหฺหิ, ภนฺเต, จิตฺตํ อุปฺปาเทมิ ‘เอตฺถ นิปติสฺสามี’ติ สห จิตฺตุปฺปาเทน กาโย เม ลหุโก โหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิทฺธิมา ภิกฺขุ เจโตวสิปฺปตฺโต กายํ จิตฺเต สมาโรเปตฺวา จิตฺตวเสน เวหาสํ คจฺฉตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อุตฺตรกุรุกาทิคมนปฺโห นวโม.
๑๐. ทีฆฏฺิปฺโห
๑๐. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘อฏฺิกานิ ทีฆานิ โยชนสติกานิปี’ติ, รุกฺโขปิ ตาว นตฺถิ โยชนสติโก, กุโต ปน อฏฺิกานิ ทีฆานิ โยชนสติกานิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ?
‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, สุตํ เต ‘มหาสมุทฺเท ปฺจโยชนสติกาปิ มจฺฉา อตฺถี’’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุต’’นฺติ. ‘‘นนุ มหาราช, ปฺจโยชนสติกสฺส มจฺฉสฺส อฏฺิกานิ ทีฆานิ ภวิสฺสนฺติ โยชนสติกานิปี’’ติ?
‘‘กลฺโลสิ ¶ , ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
ทีฆฏฺิปฺโห ทสโม.
๑๑. อสฺสาสปสฺสาสนิโรธปฺโห
๑๑. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห เอวํ ภณถ ‘สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’นฺติ. ‘‘กถํ, ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา อสฺสาสปสฺสาเส นิโรเธตุ’’นฺติ. ‘‘ตํ กึ มฺสิ, มหาราช, สุตปุพฺโพ เต โกจิ กากจฺฉมาโน’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, สุตปุพฺโพ’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, โส สทฺโท กาเย นมิเต วิรเมยฺยา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, วิรเมยฺยา’’ติ. ‘‘โส หิ นาม, มหาราช, สทฺโท อภาวิตกายสฺส อภาวิตสีลสฺส อภาวิตจิตฺตสฺส อภาวิตปฺสฺส กาเย นมิเต วิรมิสฺสติ, กึ ปน ภาวิตกายสฺส ภาวิตสีลสฺส ภาวิตจิตฺตสฺส ภาวิตปฺสฺส จตุตฺถชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสา น นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
อสฺสาสปสฺสาสนิโรธปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. สมุทฺทปฺโห
๑๒. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สมุทฺโท สมุทฺโท’ติ วุจฺจติ, เกน การเณน อุทกํ ‘สมุทฺโท’ติ วุจฺจตี’’ติ? เถโร ¶ อาห ‘‘ยตฺตกํ, มหาราช, อุทกํ, ตตฺตกํ โลณํ. ยตฺตกํ โลณํ, ตตฺตกํ อุทกํ. ตสฺมา ‘สมุทฺโท’ติ วุจฺจตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมุทฺทปฺโห ทฺวาทสโม.
๑๓. สมุทฺทเอกรสปฺโห
๑๓. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน สมุทฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ? ‘‘จิรสณฺิตตฺตา โข, มหาราช, อุทกสฺส สมุทฺโท เอกรโส โลณรโส’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สมุทฺทเอกรสปฺโห เตรสโม.
๑๔. สุขุมปฺโห
๑๔. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สกฺกา สพฺพํ สุขุมํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สกฺกา สพฺพํ สุขุมํ ฉินฺทิตุ’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, สพฺพํ สุขุม’’นฺติ? ‘‘ธมฺโม โข, มหาราช, สพฺพสุขุโม, น โข, มหาราช, ธมฺมา สพฺเพ สุขุมา, ‘สุขุม’นฺติ วา ‘ถูล’นฺติ วา ธมฺมานเมตมธิวจนํ. ยํ กิฺจิ ฉินฺทิตพฺพํ, สพฺพํ ตํ ปฺาย ฉินฺทติ, นตฺถิ ทุติยํ ปฺาย เฉทน’’นฺติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
สุขุมปฺโห จุทฺทสโม.
๑๕. วิฺาณนานตฺถปฺโห
๑๕. ราชา อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘วิฺาณ’นฺติ วา ‘ปฺา’ติ วา ‘ภูตสฺมึ ชีโว’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา เจว นานาพฺยฺชนา จ, อุทาหุ เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ ¶ ? ‘‘วิชานนลกฺขณํ, มหาราช, วิฺาณํ, ปชานนลกฺขณา ปฺา, ภูตสฺมึ ชีโว นุปลพฺภตี’’ติ. ‘‘ยทิ ชีโว นุปลพฺภติ, อถ โก จรหิ จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ สุณาติ, ฆาเนน คนฺธํ ฆายติ, ชิวฺหาย รสํ สายติ, กาเยน โผฏฺพฺพํ ผุสติ, มนสา ธมฺมํ วิชานาตี’’ติ? เถโร อาห ‘‘ยทิ ชีโว จกฺขุนา รูปํ ปสฺสติ…เป… มนสา ธมฺมํ วิชานาติ, โส ชีโว จกฺขุทฺวาเรสุ อุปฺปาฏิเตสุ มหนฺเตน อากาเสน พหิมุโข สุฏฺุตรํ รูปํ ปสฺเสยฺย, โสเตสุ อุปฺปาฏิเตสุ, ฆาเน อุปฺปาฏิเต, ชิวฺหาย อุปฺปาฏิตาย, กาเย อุปฺปาฏิเต มหนฺเตน อากาเสน สุฏฺุตรํ สทฺทํ สุเณยฺย, คนฺธํ ฆาเยยฺย, รสํ สาเยยฺย, โผฏฺพฺพํ ผุเสยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ ¶ , ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ภูตสฺมึ ชีโว นุปลพฺภตี’’ติ.
‘‘กลฺโลสิ, ภนฺเต นาคเสนา’’ติ.
วิฺาณนานตฺถปฺโห ปนฺนรสโม.
๑๖. อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปฺโห
๑๖. ราชา ¶ อาห ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทุกฺกรํ นุ โข ภควตา กต’’นฺติ? เถโร อาห ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กต’’นฺติ. ‘‘กึ ปน, ภนฺเต นาคเสน, ภควตา ทุกฺกรํ กต’’นฺติ. ‘‘ทุกฺกรํ, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ อกฺขาตํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติ.
‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส นาวาย มหาสมุทฺทํ อชฺโฌคาเหตฺวา หตฺถปุเฏน อุทกํ คเหตฺวา ชิวฺหาย สายิตฺวา ชาเนยฺย นุ โข, มหาราช, โส ปุริโส ‘‘อิทํ คงฺคาย อุทกํ, อิทํ ยมุนาย อุทกํ, อิทํ อจิรวติยา อุทกํ, อิทํ สรภุยา อุทกํ, อิทํ มหิยา อุทก’’’นฺติ? ‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต, ชานิตุ’’นฺติ. ‘‘อิโต ทุกฺกรตรํ โข, มหาราช, ภควตา กตํ อิเมสํ อรูปีนํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ เอการมฺมเณ วตฺตมานานํ ววตฺถานํ ¶ อกฺขาตํ ‘อยํ ผสฺโส, อยํ เวทนา, อยํ สฺา, อยํ เจตนา, อิทํ จิตฺต’’’นฺติ. ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ ราชา อพฺภานุโมทีติ.
อรูปธมฺมววตฺถานทุกฺกรปฺโห โสฬสโม.
อรูปธมฺมววตฺถานวคฺโค สตฺตโม.
อิมสฺมึ วคฺเค โสฬส ปฺหา.
มิลินฺทปฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา
เถโร ¶ ¶ อาห ‘‘ชานาสิ โข, มหาราช, สมฺปติ กา เวลา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ชานามิ ‘สมฺปติ ปโม ยาโม อติกฺกนฺโต, มชฺฌิโม ยาโม ปวตฺตติ, อุกฺกา ปทีปียนฺติ, จตฺตาริ ปฏากานิ อาณตฺตานิ คมิสฺสนฺติ ภณฺฑโต ราชเทยฺยานี’’’ติ.
โยนกา เอวมาหํสุ ‘‘กลฺโลสิ, มหาราช, ปณฺฑิโต เถโร’’ติ. ‘‘อาม, ภเณ, ปณฺฑิโต เถโร, เอทิโส อาจริโย ภเวยฺย มาทิโส จ ¶ อนฺเตวาสี, นจิรสฺเสว ปณฺฑิโต ธมฺมํ อาชาเนยฺยา’’ติ. ตสฺส ปฺหเวยฺยากรเณน ตุฏฺโ ราชา เถรํ นาคเสนํ สตสหสฺสคฺฆนเกน กมฺพเลน อจฺฉาเทตฺวา ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อชฺชตคฺเค เต อฏฺสตํ ภตฺตํ ปฺเปมิ, ยํ กิฺจิ อนฺเตปุเร กปฺปิยํ, เตน จ ปวาเรมี’’ติ อาห. อลํ มหาราช ชีวามี’’ติ. ‘‘ชานามิ, ภนฺเต นาคเสน, ชีวสิ, อปิ จ อตฺตานฺจ รกฺข, มมฺจ รกฺขาหี’’ติ. ‘‘กถํ อตฺตานํ รกฺขสิ, ‘นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ ปสาเทติ, น จ กิฺจิ อลภี’ติ ปราปวาโท [ปรปฺปวาโท (ก.)] อาคจฺเฉยฺยาติ, เอวํ อตฺตานํ รกฺข. กถํ มมํ รกฺขสิ, ‘มิลินฺโท ราชา ปสนฺโน ปสนฺนาการํ น กโรตี’ติ ปราปวาโท อาคจฺเฉยฺยาติ, เอวํ มมํ รกฺขาหี’’ติ. ‘‘ตถา โหตุ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, สีโห มิคราชา สุวณฺณปฺชเร ปกฺขิตฺโตปิ พหิมุโข เยว โหติ, เอวเมว โข อหํ, ภนฺเต, กิฺจาปิ อคารํ อชฺฌาวสามิ พหิมุโข เยว ปน อจฺฉามิ. สเจ อหํ, ภนฺเต, อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพเชยฺยํ, น จิรํ ชีเวยฺยํ, พหู เม ปจฺจตฺถิกา’’ติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทสฺส รฺโ ปฺหํ วิสชฺเชตฺวา อุฏฺายาสนา สงฺฆารามํ อคมาสิ. อจิรปกฺกนฺเต จ อายสฺมนฺเต นาคเสเน มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘กึ มยา ปุจฺฉิตํ, กึ ภทนฺเตน นาคเสเนน วิสชฺชิต’’นฺติ? อถ โข มิลินฺทสฺส รฺโ เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทนฺเตน นาคเสเนน สุวิสชฺชิต’’นฺติ. อายสฺมโตปิ นาคเสนสฺส สงฺฆารามคตสฺส เอตทโหสิ ‘‘กึ มิลินฺเทน ¶ รฺา ปุจฺฉิตํ, กึ มยา ¶ วิสชฺชิต’’นฺติ. อถ โข อายสฺมโต นาคเสนสฺส เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มิลินฺเทน รฺา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’นฺติ.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิลินฺทสฺส รฺโ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปฺตฺเต อาสเน นิสีทิ. อถ โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ ¶ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ –
‘‘มา โข ภทนฺตสฺส เอวํ อโหสิ ‘นาคเสโน มยา ปฺหํ ปุจฺฉิโต’ติ เตเนว โสมนสฺเสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กึ มยา ปุจฺฉิตํ, กึ ภทนฺเตน วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทนฺเตน สุวิสชฺชิต’’’นฺติ.
เถโรปิ เอวมาห – ‘‘มา โข มหาราชสฺส เอวํ อโหสิ ‘มิลินฺทสฺส รฺโ มยา ปฺโห วิสชฺชิโต’ติ เตเนว โสมนสฺเสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส มยฺหํ, มหาราช, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กึ มิลินฺเทน รฺา ปุจฺฉิตํ, กึ มยา วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มิลินฺเทน รฺา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’’นฺติ อิติห เต มหานาคา อฺมฺสฺส สุภาสิตํ สมนุโมทึสูติ.
มิลินฺทปฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา นิฏฺิตา.
เมณฺฑกปฺหารมฺภกถา
อฏฺมนฺตปริวชฺชนียฏฺานานิ
ภสฺสปฺปวาโท ¶ ¶ ¶ [ภสฺสปฺปเวที (สี. ปี.)] เวตณฺฑี, อติพุทฺธิ วิจกฺขโณ;
มิลินฺโท าณเภทาย, นาคเสนมุปาคมิ.
วสนฺโต ตสฺส ฉายาย, ปริปุจฺฉํ ปุนปฺปุนํ;
ปภินฺนพุทฺธิ หุตฺวาน, โสปิ อาสิ ติเปฏโก.
นวงฺคํ อนุมชฺชนฺโต, รตฺติภาเค รโหคโต;
อทฺทกฺขิ เมณฺฑเก ปฺเห, ทุนฺนิเวเ สนิคฺคเห.
‘‘ปริยายภาสิตํ อตฺถิ, อตฺถิ สนฺธายภาสิตํ;
สภาวภาสิตํ อตฺถิ, ธมฺมราชสฺส สาสเน.
‘‘เตสมตฺถํ อวิฺาย, เมณฺฑเก ชินภาสิเต;
อนาคตมฺหิ อทฺธาเน, วิคฺคโห ตตฺถ เหสฺสติ.
‘‘หนฺท กถึ ปสาเทตฺวา, เฉชฺชาเปสฺสามิ เมณฺฑเก;
ตสฺส นิทฺทิฏฺมคฺเคน, นิทฺทิสิสฺสนฺตฺยนาคเต’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา ปภาตาย รตฺติยา อุทฺธสฺเต [อุฏฺิเต (สฺยา.), อุคฺคเต (สี. ปี.)] อรุเณ สีสํ นฺหตฺวา สิรสิ อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺเน สมฺมาสมฺพุทฺเธ อนุสฺสริตฺวา อฏฺ วตฺตปทานิ สมาทิยิ ‘‘อิโต เม อนาคตานิ สตฺต ทิวสานิ อฏฺ คุเณ สมาทิยิตฺวา ตโป จริตพฺโพ ภวิสฺสติ ¶ , โสหํ จิณฺณตโป สมาโน อาจริยํ อาราเธตฺวา เมณฺฑเก ปฺเห ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ. อถ โข มิลินฺโท ราชา ปกติทุสฺสยุคํ อปเนตฺวา อาภรณานิ จ โอมฺุจิตฺวา กาสาวํ นิวาเสตฺวา มุณฺฑกปฏิสีสกํ สีเส ปฏิมฺุจิตฺวา มุนิภาวมุปคนฺตฺวา อฏฺ คุเณ สมาทิยิ ‘‘อิมํ สตฺตาหํ มยา น ราชตฺโถ อนุสาสิตพฺโพ, น ราคูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, น โทสูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, น โมหูปสฺหิตํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพํ, ทาสกมฺมกรโปริเส ชเนปิ นิวาตวุตฺตินา ภวิตพฺพํ, กายิกํ ¶ วาจสิกํ ¶ อนุรกฺขิตพฺพํ, ฉปิ อายตนานิ นิรวเสสโต อนุรกฺขิตพฺพานิ, เมตฺตาภาวนาย มานสํ ปกฺขิปิตพฺพ’’นฺติ. อิเม อฏฺ คุเณ สมาทิยิตฺวา เตสฺเวว อฏฺสุ คุเณสุ มานสํ ปติฏฺเปตฺวา พหิ อนิกฺขมิตฺวา สตฺตาหํ วีตินาเมตฺวา อฏฺเม ทิวเส ปภาตาย รตฺติยา ปเคว ปาตราสํ กตฺวา โอกฺขิตฺตจกฺขุ มิตภาณี สุสณฺิเตน อิริยาปเถน อวิกฺขิตฺเตน จิตฺเตน หฏฺเน อุทคฺเคน วิปฺปสนฺเนน เถรํ นาคเสนํ อุปสงฺกมิตฺวา เถรสฺส ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ิโต อิทมโวจ –
‘‘อตฺถิ เม, ภนฺเต นาคเสน, โกจิ อตฺโถ ตุมฺเหหิ สทฺธึ มนฺตยิตพฺโพ, น ตตฺถ อฺโ โกจิ ตติโย อิจฺฉิตพฺโพ, สฺุเ โอกาเส ปวิวิตฺเต อรฺเ อฏฺงฺคุปาคเต สมณสารุปฺเป. ตตฺถ โส ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ ภวิสฺสติ, ตตฺถ เม คุยฺหํ น กาตพฺพํ น รหสฺสกํ, อรหามหํ รหสฺสกํ สุณิตุํ สุมนฺตเน อุปคเต, อุปมายปิ โส อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ, ยถา กึ วิย, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, มหาปถวี นิกฺเขปํ อรหติ นิกฺเขเป อุปคเต. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, อรหามหํ รหสฺสกํ สุณิตุํ สุมนฺตเน อุปคเต’’ติ. ครุนา สห ปวิวิตฺตปวนํ ปวิสิตฺวา อิทมโวจ – ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิธ ปุริเสน มนฺตยิตุกาเมน อฏฺ านานิ ปริวชฺชยิตพฺพานิ ภวนฺติ, น เตสุ าเนสุ วิฺู ปุริโส อตฺถํ มนฺเตติ, มนฺติโตปิ อตฺโถ ปริปตติ น สมฺภวติ. กตมานิ อฏฺ านานิ? วิสมฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, สภยํ ปริวชฺชนียํ, อติวาตฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, เทวฏฺานํ ปริวชฺชนียํ, ปนฺโถ ปริวชฺชนีโย, สงฺคาโม [สงฺกโม (สี. ปี.)] ปริวชฺชนีโย, อุทกติตฺถํ ปริวชฺชนียํ. อิมานิ อฏฺ านานิ ปริวชฺชนียานี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘โก โทโส วิสมฏฺาเน, สภเย, อติวาเต, ปฏิจฺฉนฺเน, เทวฏฺาเน, ปนฺเถ, สงฺคาเม, อุทกติตฺเถ’’ติ? ‘‘วิสเม, ภนฺเต ¶ นาคเสน, มนฺติโต อตฺโถ วิกิรติ วิธมติ ปคฺฆรติ น สมฺภวติ, สภเย มโน สนฺตสฺสติ, สนฺตสฺสิโต น สมฺมา อตฺถํ สมนุปสฺสติ, อติวาเต สทฺโท อวิภูโต โหติ, ปฏิจฺฉนฺเน อุปสฺสุตึ ติฏฺนฺติ, เทวฏฺาเน ¶ มนฺติโต อตฺโถ ครุกํ ¶ ปริณมติ, ปนฺเถ มนฺติโต อตฺโถ ตุจฺโฉ ภวติ, สงฺคาเม จฺจโล ภวติ, อุทกติตฺเถ ปากโฏ ภวติ. ภวตีห –
‘‘‘วิสมํ สภยํ อติวาโต, ปฏิจฺฉนฺนํ เทวนิสฺสิตํ;
ปนฺโถ จ สงฺคาโม ติตฺถํ, อฏฺเเต ปริวชฺชิยา’’’ติ.
อฏฺ มนฺตนสฺส ปริวชฺชนียฏฺานานิ.
อฏฺมนฺตวินาสกปุคฺคลา
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อฏฺิเม ปุคฺคลา มนฺติยมานา มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทนฺติ. กตเม อฏฺ? ราคจริโต โทสจริโต โมหจริโต มานจริโต ลุทฺโธ อลโส เอกจินฺตี พาโลติ. อิเม อฏฺ ปุคฺคลา มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทนฺตี’’ติ.
เถโร อาห ‘‘เตสํ โก โทโส’’ติ? ‘‘ราคจริโต, ภนฺเต นาคเสน, ราควเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, โทสจริโต โทสวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, โมหจริโต โมหวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, มานจริโต มานวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, ลุทฺโธ โลภวเสน มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, อลโส อลสตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, เอกจินฺตี เอกจินฺติตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ, พาโล พาลตาย มนฺติตํ อตฺถํ พฺยาปาเทติ. ภวตีห –
‘‘‘รตฺโต ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ, มานี ลุทฺโธ ตถาลโส;
เอกจินฺตี จ พาโล จ, เอเต อตฺถวินาสกา’’’ติ.
อฏฺ มนฺตวินาสกปุคฺคลา.
นวคุยฺหมนฺตวิธํสกํ
‘‘ภนฺเต นาคเสน, นวิเม ปุคฺคลา มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรนฺติ น ธาเรนฺติ. กตเม นว? ราคจริโต ¶ โทสจริโต โมหจริโต ภีรุโก อามิสครุโก อิตฺถี โสณฺโฑ ปณฺฑโก ทารโก’’ติ.
เถโร อาห ‘‘เตสํ โก โทโส’’ติ? ‘‘ราคจริโต, ภนฺเต นาคเสน, ราควเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โทสจริโต, ภนฺเต ¶ , โทสวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, มูฬฺโห โมหวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ¶ ธาเรติ, ภีรุโก ภยวเสน มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อามิสครุโก อามิสเหตุ มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, อิตฺถี ปฺาย อิตฺตรตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, โสณฺฑิโก สุราโลลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ปณฺฑโก อเนกํสิกตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ, ทารโก จปลตาย มนฺติตํ คุยฺหํ วิวรติ น ธาเรติ. ภวตีห –
‘‘‘รตฺโต ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ, ภีรุ อามิสครุโก [อามิสจกฺขุโก (สี. ปี.)];
อิตฺถี โสณฺโฑ ปณฺฑโก จ, นวโม ภวติ ทารโก.
‘‘นเวเต ปุคฺคลา โลเก, อิตฺตรา จลิตา จลา;
เอเตหิ มนฺติตํ คุยฺหํ, ขิปฺปํ ภวติ ปากฏ’’’นฺติ.
นว คุยฺหมนฺตวิธํสกา ปุคฺคลา.
อฏฺ ปฺาปฏิลาภการณํ
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อฏฺหิ การเณหิ พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ. กตเมหิ อฏฺหิ? วยปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ยสปริณาเมน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปริปุจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ติตฺถสํวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, โยนิโส มนสิกาเรน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สากจฺฉาย พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, สฺเนหูปเสวเนน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ, ปติรูปเทสวาเสน พุทฺธิ ปริณมติ ปริปากํ คจฺฉติ. ภวตีห –
‘‘‘วเยน ¶ ยสปุจฺฉาหิ, ติตฺถวาเสน โยนิโส;
สากจฺฉา สฺเนหสํเสวา, ปติรูปวเสน จ.
‘‘เอตานิ อฏฺ านานิ, พุทฺธิวิสทการณา;
เยสํ เอตานิ สมฺโภนฺติ, เตสํ พุทฺธิ ปภิชฺชตี’’’ติ.
อฏฺ ปฺาปฏิลาภการณานิ.
อาจริยคุณํ
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อยํ ภูมิภาโค อฏฺ มนฺตโทสวิวชฺชิโต, อหฺจ โลเก ปรโม มนฺติสหาโย [มนฺตสหาโย (สี.)], คุยฺหมนุรกฺขี จาหํ ยาวาหํ ชีวิสฺสามิ ตาว คุยฺหมนุรกฺขิสฺสามิ, อฏฺหิ จ เม การเณหิ พุทฺธิ ปริณามํ คตา, ทุลฺลโภ เอตรหิ มาทิโส อนฺเตวาสี, สมฺมา ¶ ปฏิปนฺเน อนฺเตวาสิเก เย อาจริยานํ ปฺจวีสติ อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ อาจริเยน สมฺมา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. กตเม ปฺจวีสติ คุณา?
‘‘อิธ, ภนฺเต นาคเสน, อาจริเยน อนฺเตวาสิมฺหิ สตตํ สมิตํ อารกฺขา อุปฏฺเปตพฺพา, อเสวนเสวนา ชานิตพฺพา, ปมตฺตาปฺปมตฺตา ชานิตพฺพา, เสยฺยวกาโส ชานิตพฺโพ, เคลฺํ ชานิตพฺพํ, โภชนสฺส [โภชนียํ (สฺยา.)] ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, วิเสโส ชานิตพฺโพ, ปตฺตคตํ สํวิภชิตพฺพํ, อสฺสาสิตพฺโพ ‘มา ภายิ, อตฺโถ เต อภิกฺกมตี’ติ, ‘อิมินา ปุคฺคเลน ปฏิจรตี’ติ [ปฏิจราหีติ (ก.)] ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, คาเม ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, วิหาเร ปฏิจาโร ชานิตพฺโพ, น เตน หาโส ทโว กาตพฺโพ [น เตน สห สลฺลาโป กาตพฺโพ (สี. ปี.)], เตน สห อาลาโป กาตพฺโพ, ฉิทฺทํ ทิสฺวา อธิวาเสตพฺพํ, สกฺกจฺจการินา ภวิตพฺพํ, อขณฺฑการินา ภวิตพฺพํ, อรหสฺสการินา ภวิตพฺพํ, นิรวเสสการินา ภวิตพฺพํ, ‘ชเนมิมํ [ชาเนมิมํ (สฺยา.)] สิปฺเปสู’ติ ชนกจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, ‘กถํ อยํ น ปริหาเยยฺยา’ติ วฑฺฒิจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, ‘พลวํ อิมํ กโรมิ สิกฺขาพเลนา’ติ จิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, เมตฺตจิตฺตํ อุปฏฺเปตพฺพํ, อาปทาสุ น วิชหิตพฺพํ, กรณีเย นปฺปมชฺชิตพฺพํ, ขลิเต ธมฺเมน ปคฺคเหตพฺโพติ. อิเม โข, ภนฺเต, ปฺจวีสติ อาจริยสฺส อาจริยคุณา, เตหิ คุเณหิ มยิ สมฺมา ปฏิปชฺชสฺสุ, สํสโย เม, ภนฺเต, อุปฺปนฺโน, อตฺถิ เมณฺฑกปฺหา ชินภาสิตา ¶ , อนาคเต อทฺธาเน ตตฺถ วิคฺคโห อุปฺปชฺชิสฺสติ, อนาคเต จ อทฺธาเน ทุลฺลภา ภวิสฺสนฺติ ตุมฺหาทิสา พุทฺธิมนฺโต, เตสุ เม ปฺเหสุ จกฺขุํ เทหิ ปรวาทานํ นิคฺคหายา’’ติ.
อุปาสกคุณํ
เถโร ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ทส อุปาสกสฺส อุปาสกคุเณ ปริทีเปสิ. ‘‘ทส อิเม, มหาราช, อุปาสกสฺส อุปาสกคุณา. กตเม ทส ¶ , อิธ, มหาราช, อุปาสโก สงฺเฆน สมานสุขทุกฺโข โหติ, ธมฺมาธิปเตยฺโย โหติ, ยถาพลํ สํวิภาครโต โหติ, ชินสาสนปริหานึ ทิสฺวา อภิวฑฺฒิยา วายมติ. สมฺมาทิฏฺิโก โหติ, อปคตโกตูหลมงฺคลิโก ชีวิตเหตุปิ น อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิสติ, กายิกวาจสิกฺจสฺส รกฺขิตํ โหติ, สมคฺคาราโม โหติ สมคฺครโต, อนุสูยโก โหติ, น จ กุหนวเสน ¶ สาสเน จรติ, พุทฺธํ สรณํ คโต โหติ, ธมฺมํ สรณํ คโต โหติ, สงฺฆํ สรณํ คโต โหติ. อิเม โข, มหาราช, ทส อุปาสกสฺส อุปาสกคุณา, เต สพฺเพ คุณา ตยิ สํวิชฺชนฺติ, ตํ เต ยุตฺตํ ปตฺตํ อนุจฺฉวิกํ ปติรูปํ ยํ ตฺวํ ชินสาสนปริหานึ ทิสฺวา อภิวฑฺฒึ อิจฺฉสิ, กโรมิ เต โอกาสํ, ปุจฺฉ มํ ตฺวํ ยถาสุข’’นฺติ.
เมณฺฑกปฺหารมฺภกถา นิฏฺิตา.