📜
๕. อนุมานปฺโห
๑. พุทฺธวคฺโค
๑. ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนุปฺปชฺชมานปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ อปุพฺพํ อจริมํ ¶ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชตี’ติ. เทเสนฺตา จ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ ตถาคตา สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม เทเสนฺติ, กถยมานา จ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ กเถนฺติ, สิกฺขาเปนฺตา จ ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขาเปนฺติ, อนุสาสมานา จ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยํ อนุสาสนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสมฺปิ ตถาคตานํ เอกา เทสนา เอกา กถา เอกา สิกฺขา เอกา อนุสิฏฺิ, เกน การเณน ทฺเว ตถาคตา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ? เอเกนปิ ตาว พุทฺธุปฺปาเทน อยํ โลโก โอภาสชาโต, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ ภเวยฺย, ทฺวินฺนํ ปภาย อยํ โลโก ภิยฺโยโสมตฺตาย โอภาสชาโต ภเวยฺย, โอวทมานา จ ทฺเว ตถาคตา สุขํ โอวเทยฺยุํ, อนุสาสมานา จ สุขํ อนุสาเสยฺยุํ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหิ, ยถาหํ นิสฺสํสโย ภเวยฺย’’นฺติ.
‘‘อยํ, มหาราช, ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา, มหาราช, นาวา เอกปุริสสนฺธารณี [เอกปุริสสนฺตารณี (สี. ปี.)] ภเวยฺย, เอกสฺมึ ปุริเส อภิรูฬฺเห สา นาวา สมุปาทิกา [สมุทกา (ก.)] ภเวยฺย. อถ ทุติโย ปุริโส อาคจฺเฉยฺย ตาทิโส อายุนา วณฺเณน วเยน ปมาเณน กิสถูเลน สพฺพงฺคปจฺจงฺเคน, โส ตํ นาวํ อภิรูเหยฺย, อปิ นุ สา, มหาราช, นาวา ¶ ทฺวินฺนมฺปิ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย, โอสีเทยฺย อุทเก’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ¶ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ¶ ยาวทตฺถํ โภชนํ ภฺุเชยฺย ฉาเทนฺตํ ยาว กณฺมภิปูรยิตฺวา, โส ธาโต ปีณิโต ปริปุณฺโณ นิรนฺตโร ตนฺทิกโต อโนนมิตทณฺฑชาโต ปุนเทว ตตฺตกํ โภชนํ ภฺุเชยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส สุขิโต ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สกึ ภุตฺโตว มเรยฺยา’’ติ [ภุตฺโต วเมยฺยาติ (ก.)]. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อยํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ เอกพุทฺธธารณี, เอกสฺเสว ตถาคตสฺส คุณํ ธาเรติ, ยทิ ทุติโย พุทฺโธ อุปฺปชฺเชยฺย, นายํ ทสสหสฺสี โลกธาตุ ธาเรยฺย, จเลยฺย กมฺเปยฺย นเมยฺย โอนเมยฺย วินเมยฺย วิกิเรยฺย วิธเมยฺย วิทฺธํเสยฺย, น านมุปคจฺเฉยฺยา’’ติ.
‘‘กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลตี’’ติ? ‘‘อิธ, มหาราช, ทฺเว สกฏา รตนปริปูริตา ภเวยฺยุํ ยาว มุขสมา, เอกสฺมา สกฏโต รตนํ คเหตฺวา เอกสฺมึ สกเฏ อากิเรยฺยุํ, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สกฏํ ทฺวินฺนมฺปิ สกฏานํ รตนํ ธาเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, นาภิปิ ตสฺส ผเลยฺย, อราปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยุํ, เนมิปิ ตสฺส โอปเตยฺย, อกฺโขปิ ตสฺส ภิชฺเชยฺยา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข, มหาราช, อติรตนภาเรน สกฏํ ภิชฺชตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อติธมฺมภาเรน ปถวี จลติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, อิมํ การณํ พุทฺธพลปริทีปนาย โอสาริตํ. อฺมฺปิ ตตฺถ อภิรูปํ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ภเวยฺยุํ, ยถา, มหาราช, ทฺวินฺนํ พลวามจฺจานํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ อมจฺโจ, อมฺหากํ อมจฺโจ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา โหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เตสํ ปริสาย วิวาโท อุปฺปชฺเชยฺย ‘ตุมฺหากํ ¶ พุทฺโธ, อมฺหากํ พุทฺโธ’ติ, อุภโต ปกฺขชาตา ¶ ภเวยฺยุํ ¶ . อิทํ ตาว, มหาราช, เอกํ การณํ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ. ยทิ, มหาราช, ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เชฏฺโ พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย, ‘เสฏฺโ พุทฺโธ’ติ, ‘วิสิฏฺโ พุทฺโธ’ติ, ‘อุตฺตโม พุทฺโธ’ติ, ‘ปวโร พุทฺโธ’ติ, ‘อสโม พุทฺโธ’ติ, ‘อสมสโม พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิโม พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิภาโค พุทฺโธ’ติ, ‘อปฺปฏิปุคฺคโล พุทฺโธ’ติ ยํ วจนํ, ตํ มิจฺฉา ภเวยฺย. อิทมฺปิ โข ตฺวํ, มหาราช, การณํ อตฺถโต สมฺปฏิจฺฉ, เยน การเณน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา เอกกฺขเณ นุปฺปชฺชนฺติ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, พุทฺธานํ ภควนฺตานํ สภาวปกติ เอสายํ, เอโก เยว พุทฺโธ โลเก อุปฺปชฺชติ. กสฺมา การณา? มหนฺตตาย สพฺพฺุพุทฺธคุณานํ. อฺมฺปิ, มหาราช, ยํ โลเก มหนฺตํ, ตํ เอกํ เยว โหติ. ปถวี, มหาราช, มหนฺตี, สา เอกา เยว. สาคโร มหนฺโต, โส เอโก เยว. สิเนรุ คิริราชา มหนฺโต, โส เอโก เยว. อากาโส มหนฺโต, โส เอโก เยว. สกฺโก มหนฺโต, โส เอโก เยว. มาโร มหนฺโต, โส เอโก เยว. มหาพฺรหฺมา มหนฺโต, โส เอโก เยว. ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ มหนฺโต, โส เอโก เยว โลกสฺมึ. ยตฺถ เต อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ อฺสฺส โอกาโส น โหติ, ตสฺมา, มหาราช, ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เอโก เยว โลกสฺมึ อุปฺปชฺชตี’’ติ.
‘‘สุกถิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห โอปมฺเมหิ การเณหิ. อนิปุโณเปตํ สุตฺวา อตฺตมโน ภเวยฺย, กึ ปน มาทิโส มหาปฺโ. สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อนุปฺปชฺชมานปฺโห ปโม.
๒. โคตมิวตฺถทานปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา มาตุจฺฉาย มหาปชาปติยา โคตมิยา วสฺสิกสาฏิกาย ทียมานาย ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ ¶ สงฺโฆ จา’ติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สงฺฆรตนโต น ภาริโก น ครุโก น ทกฺขิเณยฺโย, ยํ ตถาคโต สกาย มาตุจฺฉาย สยํ ปิฺชิตํ [ปิจฺฉิตํ (สี. ปี.)] สยํ ลฺุจิตํ สยํ โปถิตํ สยํ กนฺติตํ สยํ วายิตํ วสฺสิกสาฏิกํ อตฺตโน ทียมานํ สงฺฆสฺส ทาเปสิ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, ตถาคโต สงฺฆรตนโต อุตฺตโร ภเวยฺย อธิโก วา วิสิฏฺโ วา, ‘มยิ ทินฺเน มหปฺผลํ ภวิสฺสตี’ติ น ตถาคโต มาตุจฺฉาย สยํ ปิฺชิตํ สยํ ลฺุจิตํ สยํ โปถิตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺเฆ ทาเปยฺย, ยสฺมา จ โข ภนฺเต นาคเสน ตถาคโต อตฺตานํ น ปตฺถยติ [น ปตฺถียติ (สี. ปี.)] น อุปนิสฺสยติ, ตสฺมา ตถาคโต มาตุจฺฉาย ตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺฆสฺส ทาเปสี’’ติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา มาตุจฺฉาย มหาปชาปติยา โคตมิยา วสฺสิกสาฏิกาย ทียมานาย ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ. ตํ ปน น อตฺตโน ปติมานนสฺส อวิปากตาย น อทกฺขิเณยฺยตาย, อปิ จ โข, มหาราช, หิตตฺถาย อนุกมฺปาย อนาคตมทฺธานํ สงฺโฆ มมจฺจเยน จิตฺตีกโต ภวิสฺสตีติ วิชฺชมาเน เยว คุเณ ปริกิตฺตยนฺโต เอวมาห ‘สงฺเฆ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปูชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปิตา ธรมาโน เยว อมจฺจภฏพลโทวาริกอนีกฏฺปาริสชฺชชนมชฺเฌ รฺโ สนฺติเก ปุตฺตสฺส วิชฺชมานํ เยว คุณํ ปกิตฺเตติ [ปริกิตฺเตติ (ก.)] ‘อิธ ปิโต อนาคตมทฺธานํ ชนมชฺเฌ ปูชิโต ภวิสฺสตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต หิตตฺถาย อนุกมฺปาย อนาคตมทฺธานํ สงฺโฆ มมจฺจเยน จิตฺตีกโต ภวิสฺสตีติ วิชฺชมาเน เยว คุเณ ปกิตฺตยนฺโต เอวมาห ‘สงฺเฆ ¶ โคตมิ เทหิ, สงฺเฆ เต ทินฺเน อหฺเจว ปุชิโต ภวิสฺสามิ สงฺโฆ จา’ติ.
‘‘น ¶ โข, มหาราช, ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา. ยถา, มหาราช, มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อุจฺฉาเทนฺติ ปริมทฺทนฺติ นหาเปนฺติ สมฺพาเหนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, ตาวตเกน อุจฺฉาทนปริมทฺทนนหาปนสมฺพาหนมตฺตเกน ‘ปุตฺโต มาตาปิตูหิ อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อกามกรณียา ภนฺเต ปุตฺตา มาตาปิตูนํ, ตสฺมา มาตาปิตโร ปุตฺตานํ อุจฺฉาทนปริมทฺทนนหาปนสมฺพาหนํ กโรนฺตี’’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, น ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน ¶ สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วาติ. อปิ จ ตถาคโต อกามกรณียํ กโรนฺโต มาตุจฺฉาย ตํ วสฺสิกสาฏิกํ สงฺฆสฺส ทาเปสิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส รฺโ อุปายนํ อาหเรยฺย, ตํ ราชา อุปายนํ อฺตรสฺส ภฏสฺส วา พลสฺส วา เสนาปติสฺส วา ปุโรหิตสฺส วา ทเทยฺย. อปิ นุ โข โส, มหาราช, ปุริโส ตาวตเกน อุปายนปฏิลาภมตฺตเกน รฺา อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ราชภตฺติโก, ภนฺเต, โส ปุริโส ราชูปชีวี, ตฏฺาเน เปนฺโต ราชา อุปายนํ เทตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, น ตาวตเกน วสฺสิกสาฏิกานุปฺปทานมตฺตเกน สงฺโฆ ตถาคตโต อธิโก นาม โหติ วิสิฏฺโ วา, อถ โข ตถาคตภตฺติโก ตถาคตูปชีวี. ตฏฺาเน เปนฺโต ตถาคโต สงฺฆสฺส วสฺสิกสาฏิกํ ทาเปสิ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, ตถาคตสฺส เอวํ อโหสิ ‘สภาวปฏิปูชนีโย สงฺโฆ, มม สนฺตเกน สงฺฆํ ปฏิปูเชสฺสามี’ติ สงฺฆสฺส วสฺสิกสาฏิกํ ทาเปสิ, น, มหาราช, ตถาคโต อตฺตโน เยว ปฏิปูชนํ วณฺเณติ, อถ โข เย โลเก ปฏิปูชนารหา, เตสมฺปิ ตถาคโต ปฏิปูชนํ วณฺเณติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน มชฺฌิมนิกายวรลฺฉเก ¶ ธมฺมทายาทธมฺมปริยาเย อปฺปิจฺฉปฺปฏิปตฺตึ ปกิตฺตยมาเนน ‘อสุ เยว เม ปุริโม ภิกฺขุ ปุชฺชตโร จ ปาสํสตโร จา’ติ. ‘‘นตฺถิ, มหาราช, ภเวสุ โกจิ สตฺโต ตถาคตโต ทกฺขิเณยฺโย วา ¶ อุตฺตโร วา อธิโก วา วิสิฏฺโ วา, ตถาคโตว อุตฺตโร อธิโก วิสิฏฺโ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, สํยุตฺตนิกายวเร มาณวคามิเกน เทวปุตฺเตน ภควโต ปุรโต ตฺวา เทวมนุสฺสมชฺเฌ –
‘‘‘วิปุโล ราชคหียานํ [ราชคหิกานํ (ก.) สํ. นิ. ๑.๑๑๑ ปสฺสิตพฺพํ], คิริ เสฏฺโ ปวุจฺจติ;
เสโต หิมวตํ เสฏฺโ, อาทิจฺโจ อฆคามินํ.
‘‘‘สมุทฺโท อุทธินํ เสฏฺโ, นกฺขตฺตานฺจ จนฺทิมา;
สเทวกสฺส โลกสฺส, พุทฺโธ อคฺโค ปวุจฺจตี’ติ.
‘‘ตา ¶ โข ปเนตา, มหาราช, มาณวคามิเกน เทวปุตฺเตน คาถา สุคีตา น ทุคฺคีตา, สุภาสิตา น ทุพฺภาสิตา, อนุมตา จ ภควตา, นนุ, มหาราช, เถเรนปิ สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา ภณิตํ –
‘‘‘เอโก มโนปสาโท; สรณคมนมฺชลิปณาโม วา;
อุสฺสหเต ตารยิตุํ, มารพลนิสูทเน พุทฺเธ’ติ.
‘‘ภควตา จ ภณิตํ เทวาติเทเวน ‘เอกปุคฺคโล, ภิกฺขเว, โลเก อุปฺปชฺชมาโน อุปฺปชฺชติ พหุชนหิตาย พหุชนสุขาย โลกานุกมฺปาย อตฺถาย หิตาย สุขาย เทวมนุสฺสานํ. กตโม เอกปุคฺคโล? ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… เทวมนุสฺสาน’’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
โคตมิวตฺถทานปฺโห ทุติโย.
๓. คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฏิปตฺติปฺโห
[๓] ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ วณฺเณมิ, คิหี วา ภิกฺขเว ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ¶ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, คิหี โอทาตวสโน กามโภคี ปุตฺตทารสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธาเรนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต มณิกุณฺฑล [มณิกนก (สี. ปี.)] วิจิตฺตโมฬิพทฺโธ สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ ภณฺฑุกาสาววตฺถวสโน ปรปิณฺฑมชฺฌุปคโต จตูสุ สีลกฺขนฺเธสุ สมฺมาปริปูรการี ทิยฑฺเฒสุ สิกฺขาปทสเตสุ สมาทาย วตฺตนฺโต เตรสสุ ธุตคุเณสุ อนวเสสํ วตฺตนฺโต สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ. ตตฺถ, ภนฺเต, โก วิเสโส คิหิโน วา ปพฺพชิตสฺส วา? อผลํ โหติ ตโปกมฺมํ, นิรตฺถกา ปพฺพชฺชา. วฺฌา สิกฺขาปทโคปนา, โมฆํ ธุตคุณสมาทานํ, กึ ตตฺถ ทุกฺขมนุจิณฺเณน, นนุ นาม สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตพฺพ’’นฺติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ‘คิหิโน วาหํ, ภิกฺขเว, ปพฺพชิตสฺส วา สมฺมาปฏิปตฺตึ ¶ วณฺเณมิ, คิหี วา, ภิกฺขเว, ปพฺพชิโต วา สมฺมาปฏิปนฺโน สมฺมาปฏิปตฺตาธิกรณเหตุ อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสล’’นฺติ. เอวเมตํ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโนว เสฏฺโ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, ‘ปพฺพชิโตมฺหี’ติ น สมฺมา ปฏิปชฺเชยฺย, อถ โข โส อารกาว สามฺา, อารกาว พฺรหฺมฺา, ปเคว คิหี โอทาตวสโน. คิหีปิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ, ปพฺพชิโตปิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน อาราธโก โหติ ายํ ธมฺมํ กุสลํ.
‘‘อปิ จ โข, มหาราช, ปพฺพชิโตว สามฺสฺส อิสฺสโร อธิปติ; ปพฺพชฺชา, มหาราช, พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, กามททสฺส มณิรตนสฺส น สกฺกา ธเนน อคฺโฆ ¶ ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกํ มณิรตนสฺส มูล’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหาสมุทฺเท อูมิโย น สกฺกา ปริมาณํ กาตุํ ‘เอตฺตกา มหาสมุทฺเท อูมิโย’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชฺชา พหุคุณา ¶ อเนกคุณา อปฺปมาณคุณา, น สกฺกา ปพฺพชฺชาย คุณํ ปริมาณํ กาตุํ.
‘‘ปพฺพชิตสฺส, มหาราช, ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตาย. กึ การณา? ปพฺพชิโต, มหาราช, อปฺปิจฺโฉ โหติ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย นิราลโย อนิเกโต ปริปุณฺณสีโล สลฺเลขิตาจาโร ธุตปฺปฏิปตฺติกุสโล โหติ, ตํ การณา ปพฺพชิตสฺส ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตาย. ยถา, มหาราช, นิคฺคณฺิสมสุโธตอุชุวิมลนาราโจ สุสชฺชิโต สมฺมา วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปพฺพชิตสฺส ยํ กิฺจิ กรณียํ, สพฺพํ ตํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌติ โน จิรรตฺตายา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
คิหิปพฺพชิตสมฺมาปฏิปตฺติปฺโห ตติโย.
๔. ปฏิปทาโทสปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยทา โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสิ, เนตาทิโส อฺตฺร อารมฺโภ อโหสิ นิกฺกโม กิเลสยุทฺธํ มจฺจุเสนํ วิธมนํ อาหารปริคฺคโห ทุกฺกรการิกา, เอวรูเป ปรกฺกเม กิฺจิ อสฺสาทํ อลภิตฺวา ตเมว จิตฺตํ ปริหาเปตฺวา เอวมโวจ ‘น โข ปนาหํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย อธิคจฺฉามิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ, ตโต นิพฺพินฺทิตฺวา อฺเน มเคน สพฺพฺุตํ ปตฺโต, ปุน ตาย ปฏิปทาย สาวเก อนุสาสติ สมาทเปติ.
‘‘‘อารมฺภถ ¶ นิกฺขมถ, ยฺุชถ พุทฺธสาสเน;
ธุนาถ มจฺจุโน เสนํ, นฬาคารํว กฺุชโร’ติ [สํ. นิ. ๑.๑๘๕].
‘‘เกน น โข, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ตถาคโต ยาย ปฏิปทาย อตฺตนา นิพฺพินฺโน วิรตฺตรูโป, ตตฺถ สาวเก อนุสาสติ สมาทเปตี’’ติ?
‘‘ตทาปิ ¶ , มหาราช, เอตรหิปิ สา เยว ปฏิปทา, ตํ เยว ปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตฺวา โพธิสตฺโต สพฺพฺุตํ ปตฺโต. อปิ จ, มหาราช, โพธิสตฺโต อติวีริยํ กโรนฺโต นิรวเสสโต อาหารํ อุปรุนฺธิ. ตสฺส อาหารูปโรเธน จิตฺตทุพฺพลฺยํ อุปฺปชฺชิ. โส เตน ทุพฺพลฺเยน นาสกฺขิ สพฺพฺุตํ ปาปุณิตุํ, โส มตฺตมตฺตํ กพฬีการาหารํ เสวนฺโต ตาเยว ปฏิปทาย นจิรสฺเสว สพฺพฺุตํ ปาปุณิ. โส เยว, มหาราช, ปฏิปทา สพฺเพสํ ตถาคตานํ สพฺพฺุตาณปฺปฏิลาภาย.
‘‘ยถา, มหาราช, สพฺเพสํ สตฺตานํ อาหาโร อุปตฺถมฺโภ, อาหารูปนิสฺสิตา สพฺเพ สตฺตา สุขํ อนุภวนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สา เยว ปฏิปทา สพฺเพสํ ตถาคตานํ สพฺพฺุตาณปฺปฏิลาภาย, เนโส, มหาราช, โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส, สทา ปฏิยตฺตา เยเวสา ปฏิปทา.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อทฺธานํ อติเวเคน คจฺเฉยฺย, เตน โส ปกฺขหโต วา ภเวยฺย ¶ ปีสปฺปี วา อสฺจโร ปถวิตเล. อปิ นุ โข, มหาราช, มหาปถวิยา โทโส อตฺถิ, เยน โส ปุริโส ปกฺขหโต อโหสี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต; สทา ปฏิยตฺตา, ภนฺเต, มหาปถวี, กุโต ตสฺสา โทโส? วายามสฺเสเวโส โทโส, เยน โส ปุริโส ปกฺขหโต อโหสี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เนโส โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส สทา ปฏิยตฺตา ¶ เยเวสา ปฏิปทา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส กิลิฏฺํ สาฏกํ นิวาเสยฺย, น โส ตํ โธวาเปยฺย, เนโส โทโส อุทกสฺส, สทา ปฏิยตฺตํ อุทกํ. ปุริสสฺเสเวโส โทโส. เอวเมว โข, มหาราช, เนโส โทโส อารมฺภสฺส, น นิกฺกมสฺส, น กิเลสยุทฺธสฺส, เยน ตถาคโต ตสฺมึ สมเย น ปาปุณิ สพฺพฺุตาณํ, อถ โข อาหารูปโรธสฺเสเวโส โทโส, สทา ปฏิยตฺตา เยเวสา ปฏิปทา, ตสฺมา ตถาคโต ตาเยว ปฏิปทาย สาวเก อนุสาสติ สมาทเปติ, เอวํ โข, มหาราช, สทา ¶ ปฏิยตฺตา อนวชฺชา สา ปฏิปทา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปฏิปทาโทสปฺโห จตุตฺโถ.
๕. หีนายาวตฺตนปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, มหนฺตํ อิทํ ตถาคตสาสนํ สารํ วรํ เสฏฺํ ปวรํ อนุปมํ ปริสุทฺธํ วิมลํ ปณฺฑรํ อนวชฺชํ, น ยุตฺตํ คิหึ ตาวตกํ ปพฺพเชตุํ, คิหี เยว [คิหึ เยว (สี. ปี.)] เอกสฺมึ ผเล วิเนตฺวา ยทา อปุนราวตฺตี โหติ ตทา โส ปพฺพาเชตพฺโพ. กึ การณา? อิเม ทุชฺชนา ตาว ตตฺถ สาสเน วิสุทฺเธ ปพฺพชิตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เตสํ ปจฺจาคมเนน อยํ มหาชโน เอวํ วิจินฺเตติ ‘ตุจฺฉกํ วต โภ เอตํ สมณสฺส โคตมสฺส สาสนํ ภวิสฺสติ, ยํ อิเม ปฏินิวตฺตนฺตี’ติ, อิทเมตฺถ การณ’’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ตฬาโก ภเวยฺย สมฺปุณฺณสุจิวิมลสีตลสลิโล, อถ โย โกจิ กิลิฏฺโ มลกทฺทมคโต ตํ ตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา กิลิฏฺโว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ, มหาราช, กตมํ ชโน ครเหยฺย กิลิฏฺํ วา ตฬากํ วา’’ติ? ‘‘กิลิฏฺํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ¶ ‘อยํ ตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา กิลิฏฺโว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมํ อนหายิตุกามํ ตฬาโก สยํ นหาเปสฺสติ, โก โทโส ตฬากสฺสา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช ¶ , ตถาคโต วิมุตฺติวรสลิลสมฺปุณฺณํ สทฺธมฺมวรตฬากํ มาเปสิ ‘เย เกจิ กิเลสมลกิลิฏฺา สเจตนา พุธา, เต อิธ นหายิตฺวา สพฺพกิเลเส ปวาหยิสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ตํ สทฺธมฺมวรตฬากํ คนฺตฺวา อนหายิตฺวา สกิเลโสว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ ตํ เยว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสติ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ?
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส ปรมพฺยาธิโต โรคุปฺปตฺติกุสลํ อโมฆธุวสิทฺธกมฺมํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ ทิสฺวา อติกิจฺฉาเปตฺวา สพฺยาธิโกว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ กตมํ ชโน ครเหยฺย อาตุรํ วา ภิสกฺกํ วา’’ติ? ‘‘อาตุรํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ‘อยํ โรคุปฺปตฺติกุสลํ อโมฆธุวสิทฺธกมฺมํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ ทิสฺวา อติกิจฺฉาเปตฺวา สพฺยาธิโกว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมํ อติกิจฺฉาเปนฺตํ ภิสกฺโก สยํ ติกิจฺฉิสฺสติ, โก โทโส ภิสกฺกสฺสา’’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต อนฺโตสาสนสมุคฺเค เกวลํ สกลกิเลสพฺยาธิวูปสมนสมตฺถํ อมโตสธํ ปกฺขิปิ, ‘เย เกจิ กิเลสพฺยาธิปีฬิตา สเจตนา พุธา, เต อิมํ อมโตสธํ ปิวิตฺวา สพฺพกิเลสพฺยาธึ วูปสเมสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ยํ อมโตสธํ อปิวิตฺวา สกิเลโสว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ, ตํ เยว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสติ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ?
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ฉาโต ปุริโส มหติมหาปฺุภตฺตปริเวสนํ คนฺตฺวา ตํ ภตฺตํ อภฺุชิตฺวา ฉาโตว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตตฺถ กตมํ ชโน ครเหยฺย ฉาตํ วา ปฺุภตฺตํ วา’’ติ? ‘‘ฉาตํ, ภนฺเต, ชโน ครเหยฺย ¶ ‘อยํ ขุทาปีฬิโต ปฺุภตฺตํ ปฏิลภิตฺวา อภฺุชิตฺวา ฉาโตว ปฏินิวตฺโต, กึ อิมสฺส อภฺุชนฺตสฺส โภชนํ สยํ มุขํ ปวิสิสฺสติ, โก โทโส โภชนสฺสา’’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตถาคโต อนฺโตสาสนสมุคฺเค ปรมปวรํ สนฺตํ สิวํ ปณีตํ อมตํ ปรมมธุรํ กายคตาสติโภชนํ เปสิ ‘เย เกจิ กิเลสฉาตชฺฌตฺตา ตณฺหาปเรตมานสา สเจตนา พุธา, เต อิมํ โภชนํ ภฺุชิตฺวา กามรูปารูปภเวสุ สพฺพํ ตณฺหมปเนสฺสนฺตี’ติ. ยทิ โกจิ ตํ โภชนํ อภฺุชิตฺวา ตณฺหาสิโตว ปฏินิวตฺติตฺวา หีนายาวตฺตติ, ตฺเว ชโน ครหิสฺสติ ‘อยํ ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ¶ ตตฺถ ปติฏฺํ อลภิตฺวา หีนายาวตฺโต, กึ อิมํ อปฺปฏิปชฺชนฺตํ ชินสาสนํ สยํ โพเธสฺสสิ, โก โทโส ชินสาสนสฺสา’ติ.
‘‘ยทิ, มหาราช, ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, น นามายํ ปพฺพชฺชา กิเลสปฺปหานาย วิสุทฺธิยา วา, นตฺถิ ¶ ปพฺพชฺชาย กรณียํ. ยถา, มหาราช, ปุริโส อเนกสเตน กมฺเมน ตฬากํ ขณาเปตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา เม, โภนฺโต, เกจิ สํกิลิฏฺา อิมํ ตฬากํ โอตรถ, ปวาหิตรโชชลฺลา ปริสุทฺธา วิมลมฏฺา อิมํ ตฬากํ โอตรถา’ติ. อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ ปวาหิตรโชชลฺลานํ ปริสุทฺธานํ วิมลมฏฺานํ เตน ตฬาเกน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ตฬากํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ เตน ตฬาเกนา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สภาวอิสิภตฺติโก สุตมนฺตปทธโร อตกฺกิโก โรคุปฺปตฺติกุสโล อโมฆธุวสิทฺธกมฺโม ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต สพฺพโรคูปสมเภสชฺชํ สนฺนิปาเตตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา โข, โภนฺโต ¶ , เกจิ สพฺยาธิกา มม สนฺติเก อุปคจฺฉถ, อพฺยาธิกา อโรคา มม สนฺติเก อุปคจฺฉถา’ติ. อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ อพฺยาธิกานํ อโรคานํ ปริปุณฺณานํ อุทคฺคานํ เตน ภิสกฺเกน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ภิสกฺกํ สลฺลกตฺตํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ เตน ภิสกฺเกนา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย?
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โกจิ ปุริโส อเนกถาลิปากสตํ โภชนํ ปฏิยาทาเปตฺวา ปริสาย เอวมนุสฺสาเวยฺย ‘มา เม, โภนฺโต, เกจิ ฉาตา อิมํ ปริเวสนํ อุปคจฺฉถ, สุภุตฺตา ติตฺตา สุหิตา ธาตา ปีณิตา ปริปุณฺณา อิมํ ปริเวสนํ อุปคจฺฉถา’’ติ. อปิ นุ โข มหาราช, เตสํ ภุตฺตาวีนํ ติตฺตานํ สุหิตานํ ธาตานํ ปีณิตานํ ปริปุณฺณานํ เตน โภชเนน กรณียํ ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยสฺสตฺถาย เต ตํ ปริเวสนํ อุปคจฺเฉยฺยุํ, ตํ อฺตฺเรว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ตาย ปริเวสนายา’’ติ? ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยทิ ตถาคโต คิหึ เยว เอกสฺมึ ผเล วินีตํ ปพฺพาเชยฺย, ตตฺเถว เตสํ กตํ กรณียํ, กึ เตสํ ปพฺพชฺชาย?
‘‘อปิ ¶ ¶ จ, มหาราช, เย หีนายาวตฺตนฺติ, เต ชินสาสนสฺส ปฺจ อตุลิเย คุเณ ทสฺเสนฺติ. กตเม ปฺจ? ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ, ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ, ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ, ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ, พหุสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, ปุริโส อธโน หีนชจฺโจ นิพฺพิเสโส พุทฺธิปริหีโน มหารชฺชํ ปฏิลภิตฺวา น จิรสฺเสว ปริปตติ ปริธํสติ ปริหายติ ยสโต, น สกฺโกติ อิสฺสริยํ สนฺธาเรตุํ. กึ การณํ ¶ ? มหนฺตตฺตา อิสฺสริยสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ นิพฺพิเสสา อกตปฺุา พุทฺธิปริหีนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ตํ ปพฺพชฺชํ ปวรุตฺตมํ สนฺธาเรตุํ อวิสหนฺตา น จิรสฺเสว ชินสาสนา ปริปติตฺวา ปริธํสิตฺวา ปริหายิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, น สกฺโกนฺติ ชินสาสนํ สนฺธาเรตุํ. กึ การณํ? มหนฺตตฺตา ชินสาสนภูมิยา. เอวํ ภูมิมหนฺตภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, วาริ โปกฺขรปตฺเต วิกิรติ วิธมติ วิธํเสติ, น านมุปคจฺฉติ นูปลิมฺปติ. กึ การณํ? ปริสุทฺธวิมลตฺตา ปทุมสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ สา กูฏา วงฺกา กุฏิลา วิสมทิฏฺิโน ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ปริสุทฺธวิมลนิกฺกณฺฏกปณฺฑรวรปฺปวรสาสนโต น จิรสฺเสว วิกิริตฺวา วิธมิตฺวา วิธํเสตฺวา อสณฺหิตฺวา อนุปลิมฺปิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปริสุทฺธวิมลตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ ปริสุทฺธวิมลภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท น มเตน กุณเปน สํวสติ, ยํ โหติ มหาสมุทฺเท มตํ กุณปํ, ตํ ขิปฺปเมว ตีรํ อุปเนติ ถลํ วา อุสฺสาเรติ. กึ การณํ? มหาภูตานํ ภวนตฺตา มหาสมุทฺทสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ปาปกา อสํวุตา อหิริกา อกิริยา โอสนฺนวีริยา กุสีตา กิลิฏฺา ทุชฺชนา มนุสฺสา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต น จิรสฺเสว ชินสาสนโต อรหนฺตวิมลขีณาสวมหาภูตภวนโต นิกฺขมิตฺวา อสํวสิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปาเปหิ อสํวาสิยตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ ปาเปหิ อสํวาสิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ ¶ ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, เย เกจิ อเฉกา อสิกฺขิตา อสิปฺปิโน มติวิปฺปหีนา อิสฺสาสา [อิสฺสตฺถา (สี. สฺยา. ปี.)] วาลคฺคเวธํ อวิสหนฺตา วิคฬนฺติ ปกฺกมนฺติ. กึ การณํ? สณฺหสุขุมทุปฺปฏิเวธตฺตา วาลคฺคสฺส ¶ . เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ทุปฺปฺา ชฬา ¶ เอฬมูคา มูฬฺหา ทนฺธคติกา ชนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต ตํ ปรมสณฺหสุขุมจตุสจฺจปฺปฏิเวธํ ปฏิวิชฺฌิตุํ อวิสหนฺตา ชินสาสนา วิคฬิตฺวา ปกฺกมิตฺวา น จิรสฺเสว หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? ปรมสณฺหสุขุมทุปฺปฏิเวธตาย สจฺจานํ. เอวํ ทุปฺปฏิเวธภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘กถํ พหุสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ? ยถา, มหาราช, โกจิเทว ปุริโส มหติมหายุทฺธภูมิมุปคโต ปรเสนาย ทิสาวิทิสาหิ สมนฺตา ปริวาริโต สตฺติหตฺถํ ชนมุเปนฺตํ ทิสฺวา ภีโต โอสกฺกติ ปฏินิวตฺตติ ปลายติ. กึ การณํ? พหุวิธยุทฺธมุขรกฺขณภยา. เอวเมว โข, มหาราช, เย เกจิ ปาปกา อสํวุตา อหิริกา อกิริยา อกฺขนฺตี จปลา จลิตา อิตฺตรา พาลชนา ชินสาสเน ปพฺพชนฺติ, เต พหุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริรกฺขิตุํ อวิสหนฺตา โอสกฺกิตฺวา ปฏินิวตฺติตฺวา ปลายิตฺวา น จิรสฺเสว หีนายาวตฺตนฺติ. กึ การณํ? พหุวิธสํวรรกฺขิยภาวตฺตา ชินสาสนสฺส. เอวํ พหุวิธสํวรรกฺขิยภาวํ ทสฺเสนฺติ.
‘‘ถลชุตฺตเมปิ, มหาราช, วสฺสิกาคุมฺเพ กิมิวิทฺธานิ ปุปฺผานิ โหนฺติ, ตานิ องฺกุรานิ สงฺกุฏิตานิ อนฺตรา เยว ปริปตนฺติ, น จ เตสุ ปริปติเตสุ วสฺสิกาคุมฺโพ หีฬิโต นาม โหติ. ยานิ ตตฺถ ิตานิ ปุปฺผานิ, ตานิ สมฺมา คนฺเธน ทิสาวิทิสํ อภิพฺยาเปนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เต ชินสาสเน กิมิวิทฺธานิ วสฺสิกาปุปฺผานิ วิย วณฺณคนฺธรหิตา นิพฺพณฺณาการสีลา อภพฺพา เวปุลฺลาย, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต สเทวกํ โลกํ สีลวรคนฺเธน อภิพฺยาเปนฺติ.
‘‘สาลีนมฺปิ, มหาราช, นิราตงฺกานํ ¶ โลหิตกานํ อนฺตเร กรุมฺภกํ นาม สาลิชาติ อุปฺปชฺชิตฺวา อนฺตรา เยว วินสฺสติ, น จ ตสฺสา วินฏฺตฺตา โลหิตกสาลี หีฬิตา นาม โหนฺติ. เย ตตฺถ ิตา สาลี, เต ราชูปโภคา โหนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา ¶ หีนายาวตฺตนฺติ, เต โลหิตกสาลีนมนฺตเร กรุมฺภกา วิย ชินสาสเน น วฑฺฒิตฺวา เวปุลฺลตํ น ปาปุณิตฺวา [วฑฺฒิตฺวา เวปุลฺลตํ อปาปุณิตฺวา (สี. ก.)] อนฺตรา เยว หีนายาวตฺตนฺติ, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู เต อรหตฺตสฺส อนุจฺฉวิกา โหนฺติ.
‘‘กามททสฺสาปิ ¶ , มหาราช, มณิรตนสฺส เอกเทสํ [เอกเทเส (ก.)] กกฺกสํ อุปฺปชฺชติ, น จ ตตฺถ กกฺกสุปฺปนฺนตฺตา มณิรตนํ หีฬิตํ นาม โหติ. ยํ ตตฺถ ปริสุทฺธํ มณิรตนสฺส, ตํ ชนสฺส หาสกรํ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, กกฺกสา เต ชินสาสเน ปปฏิกา, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต เทวมนุสฺสานํ หาสชนกา โหนฺติ.
‘‘ชาติสมฺปนฺนสฺสปิ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส เอกเทสํ ปูติกํ โหติ อปฺปคนฺธํ. น เตน โลหิตจนฺทนํ หีฬิตํ นาม โหติ. ยํ ตตฺถ อปูติกํ สุคนฺธํ, ตํ สมนฺตา วิธูเปติ อภิพฺยาเปติ. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา หีนายาวตฺตนฺติ, เต โลหิตจนฺทนสารนฺตเร ปูติกเทสมิว ฉฑฺฑนียา ชินสาสเน, น จ เตสํ หีนายาวตฺตเนน ชินสาสนํ หีฬิตํ นาม โหติ. เย ตตฺถ ิตา ภิกฺขู, เต สเทวกํ โลกํ สีลวรจนฺทนคนฺเธน อนุลิมฺปยนฺตี’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เตน เตน อนุจฺฉวิเกน เตน เตน สทิเสน การเณน นิรวชฺชมนุปาปิตํ ชินสาสนํ เสฏฺภาเวน ปริทีปิตํ, หีนายาวตฺตมานาปิ เต ชินสาสนสฺส เสฏฺภาวํ เยว ปริทีเปนฺตี’’ติ.
หีนายาวตฺตนปฺโห ปฺจโม.
๖. อรหนฺตเวทนาเวทิยนปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’นฺติ. กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อรหโต จิตฺตํ ยํ กายํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, ตตฺถ อรหา อนิสฺสโร อสฺสามี อวสวตฺตี’’ติ ¶ ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘น โข, ภนฺเต นาคเสน, ยุตฺตเมตํ, ยํ โส สกจิตฺตสฺส ปวตฺตมาเน กาเย อนิสฺสโร โหติ อสฺสามี อวสวตฺตี; สกุโณปิ ตาว, ภนฺเต, ยสฺมึ กุลาวเก ปฏิวสติ, ตตฺถ โส อิสฺสโร โหติ สามี วสวตฺตี’’ติ.
‘‘ทสยิเม, มหาราช, กายานุคตา ธมฺมา ภเว ภเว กายํ อนุธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ. กตเม ¶ ทส? สีตํ อุณฺหํ ชิฆจฺฉา ปิปาสา อุจฺจาโร ปสฺสาโว มิทฺธํ ชรา พฺยาธิ มรณํ. อิเม โข, มหาราช, ทส กายานุคตา ธมฺมา ภเว ภเว กายํ อนุธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, ตตฺถ อรหา อนิสฺสโร อสฺสามี อวสวตฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน อรหโต กาเย อาณา นปฺปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เย เกจิ ปถวินิสฺสิตา สตฺตา, สพฺเพ เต ปถวึ นิสฺสาย จรนฺติ วิหรนฺติ วุตฺตึ กปฺเปนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, เตสํ ปถวิยา อาณา ปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อรหโต จิตฺตํ กายํ นิสฺสาย ปวตฺตติ, น จ อรหโต กาเย อาณา ปวตฺตติ อิสฺสริยํ วา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยตี’’ติ? ‘‘อภาวิตตฺตา, มหาราช, จิตฺตสฺส ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยติ. ยถา, มหาราช, โคโณ ฉาโต ปริตสิโต อพลทุพฺพลปริตฺตกติเณสุ วา ลตาย วา อุปนิพทฺโธ อสฺส, ยทา โส โคโณ ปริกุปิโต โหติ, ตทา สห อุปนิพนฺธเนน ปกฺกมติ. เอวเมว โข, มหาราช, อภาวิตจิตฺตสฺส เวทนา อุปฺปชฺชิตฺวา จิตฺตํ ปริโกเปติ, จิตฺตํ ปริกุปิตํ กายํ อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตกํ ¶ กโรติ. อถ โข โส อภาวิตจิตฺโต ตสติ รวติ เภรวราวมภิรวติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน ปุถุชฺชโน กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ เวทนํ เวทยตี’’ติ.
‘‘กึ ปน ตํ การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติ? ‘‘อรหโต, มหาราช, จิตฺตํ ภาวิตํ โหติ สุภาวิตํ ทนฺตํ สุทนฺตํ อสฺสวํ วจนกรํ, โส ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ¶ ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อรหา เอกํ เวทนํ เวทยติ กายิกํ, น เจตสิก’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตํ นาม โลเก อจฺฉริยํ ยํ กาเย จลมาเน จิตฺตํ น จลติ, ตตฺถ เม การณํ พฺรูหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหารุกฺเข ขนฺธสาขาปลาสสมฺปนฺเน อนิลพลสมาหเต สาขา จลติ, อปิ นุ ตสฺส ขนฺโธปิ จลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อรหา ทุกฺขาย เวทนาย ผุฏฺโ สมาโน ‘อนิจฺจ’นฺติ ทฬฺหํ คณฺหาติ, สมาธิถมฺเภ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ สมาธิถมฺเภ อุปนิพนฺธนํ น เวธติ น จลติ, ิตํ โหติ อวิกฺขิตฺตํ, ตสฺส เวทนาวิการวิปฺผาเรน กาโย อาภุชติ นิพฺภุชติ สมฺปริวตฺตติ, จิตฺตํ ปน ตสฺส น เวธติ น จลติ ขนฺโธ วิย มหารุกฺขสฺสา’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, น เม เอวรูโป สพฺพกาลิโก ธมฺมปทีโป ทิฏฺปุพฺโพ’’ติ.
อรหนฺตเวทนาเวทิยนปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อภิสมยนฺตรายกรปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อิธ โย โกจิ คิหี ปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโน ภเวยฺย, โส อปเรน สมเยน ปพฺพาเชยฺย, อตฺตนาปิ โส น ชาเนยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสฺมี’ติ, นปิ ตสฺส อฺโ โกจิ อาจิกฺเขยฺย ‘คิหิปาราชิกํ อชฺฌาปนฺโนสี’ติ. โส จ ตถตฺตาย ปฏิปชฺเชยฺย, อปิ นุ ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘เกน, ภนฺเต, การเณนา’’ติ? ‘‘โย ตสฺส เหตุ ธมฺมาภิสมยาย, โส ตสฺส สมุจฺฉินฺโน, ตสฺมา ธมฺมาภิสมโย น ภวตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘ชานนฺตสฺส กุกฺกุจฺจํ โหติ, กุกฺกุจฺเจ สติ อาวรณํ โหติ, อาวเฏ จิตฺเต ธมฺมาภิสมโย น โหตี’ติ. อิมสฺส ปน อชานนฺตสฺส อกุกฺกุจฺจชาตสฺส สนฺตจิตฺตสฺส วิหรโต เกน การเณน ธมฺมาภิสมโย น โหติ, วิสเมน วิสเมเนโส ปฺโห คจฺฉติ, จินฺเตตฺวา วิสชฺเชถา’’ติ.
‘‘รุหติ ¶ , มหาราช, สุกฏฺเ สุกลเล มณฺฑเขตฺเต สารทํ สุขสยิตํ พีช’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, ตฺเว พีชํ ฆนเสลสิลาตเล รุเหยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, ตฺเว พีชํ กลเล รุหติ, กิสฺส ฆนเสเล น รุหตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, ตสฺส พีชสฺส รุหนาย ฆนเสเล เหตุ, อเหตุนา พีชํ น รุหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เยน เหตุนา ตสฺส ธมฺมาภิสมโย ภเวยฺย, โส ตสฺส เหตุ สมุจฺฉินฺโน, อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา านมุปคจฺฉนฺติ, อปิ นุ, มหาราช, เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา คคเน านมุปคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน เต เยว ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครา ปถวิยา านมุปคจฺฉนฺติ, เกน การเณน คคเน น ติฏฺนฺตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, เตสํ ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬมุคฺครานํ ปติฏฺานาย อากาเส เหตุ, อเหตุนา น ติฏฺนฺตี’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา อภิสมโย น โหตีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ถเล อคฺคิ ชลติ, อปิ นุ โข, มหาราช, โส เยว อคฺคิ อุทเก ชลตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปเนตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน โส เยว อคฺคิ ถเล ชลติ, เกน การเณน อุทเก น ชลตี’’ติ? ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต, อคฺคิสฺส ชลนาย อุทเก เหตุ, อเหตุนา น ชลตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส เตน โทเสน อภิสมยเหตุ สมุจฺฉินฺโน, เหตุสมุคฺฆาเต อเหตุนา ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ปุนเปตํ อตฺถํ จินฺเตหิ, น เม ตตฺถ จิตฺตสฺตฺติ ภวติ, อชานนฺตสฺส อสติ กุกฺกุจฺเจ อาวรณํ โหตีติ, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, วิสํ หลาหลํ อชานนฺเตน ขายิตํ ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘อปิ นุ, มหาราช, อคฺคิ อชานิตฺวา อกฺกมนฺตํ ฑหตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘อปิ ¶ นุ, มหาราช, อชานนฺตํ อาสีวิโส ฑํสิตฺวา ชีวิตํ หรตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหติ.
‘‘นนุ, มหาราช, กาลิงฺคราชา สมณโกลฺโ สตฺตรตนปริกิณฺโณ หตฺถิรตนมภิรุยฺห กุลทสฺสนาย คจฺฉนฺโต อชานนฺโตปิ นาสกฺขิ โพธิมณฺฑสฺส อุปริโต คนฺตุํ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อชานนฺเตนปิ กตํ ปาปํ อภิสมยนฺตรายกรํ โหตี’’ติ? ‘‘ชินภาสิตํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, การณํ น สกฺกา ปฏิกฺโกสิตุํ, เอโสเวตสฺส อตฺโถ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อภิสมยนฺตรายกรปฺโห สตฺตโม.
๘. ทุสฺสีลปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, คิหิทุสฺสีลสฺส จ สมณทุสฺสีลสฺส จ โก วิเสโส, กึ นานากรณํ, อุโภเปเต สมสมคติกา, อุภินฺนมฺปิ สมสโม วิปาโก โหติ, อุทาหุ กิฺจิ นานาการณํ อตฺถี’’ติ?
‘‘ทส ยิเม, มหาราช, คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา, ทสหิ จ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘กตเม ทส คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา? อิธ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล พุทฺเธ สคารโว โหติ, ธมฺเม สคารโว โหติ, สงฺเฆ สคารโว โหติ, สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว โหติ, อุทฺเทสปริปุจฺฉาย วายมติ, สวนพหุโล โหติ, ภินฺนสีโลปิ, มหาราช, ทุสฺสีโล ปริสคโต อากปฺปํ อุปฏฺเปติ, ครหภยา กายิกํ วาจสิกํ รกฺขติ, ปธานาภิมุขฺจสฺส โหติ จิตฺตํ, ภิกฺขุสามฺํ อุปคโต โหติ. กโรนฺโตปิ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล ปาปํ ปฏิจฺฉนฺนํ อาจรติ. ยถา, มหาราช, อิตฺถี สปติกา นิลียิตฺวา รหสฺเสเนว ปาปมาจรติ; เอวเมว โข, มหาราช, กโรนฺโตปิ ¶ สมณทุสฺสีโล ปาปํ ปฏิจฺฉนฺนํ อาจรติ. อิเม โข, มหาราช, ทส คุณา สมณทุสฺสีลสฺส คิหิทุสฺสีลโต วิเสเสน อติเรกา.
‘‘กตเมหิ ทสหิ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ? อนวชฺชกวจธารณตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, อิสิสามฺภณฺฑุลิงฺคธารณโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, สงฺฆสมยมนุปฺปวิฏฺตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, พุทฺธธมฺมสงฺฆสรณคตตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ปธานาสยนิเกตวาสิตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ชินสาสนธร [ชินสาสนธน (สี. ปี.)] ปริเยสนโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ปวรธมฺมเทสนโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, ธมฺมทีปคติปรายณตายปิ ทกฺขิณํ ¶ วิโสเธติ, ‘อคฺโค พุทฺโธ’ติ เอกนฺตอุชุทิฏฺิตายปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ, อุโปสถสมาทานโตปิ ทกฺขิณํ วิโสเธติ. อิเมหิ โข, มหาราช, ทสหิ การเณหิ อุตฺตรึ ทกฺขิณํ วิโสเธติ ¶ .
‘‘สุวิปนฺโนปิ หิ, มหาราช, สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ. ยถา, มหาราช, อุทกํ สุพหลมฺปิ กลลกทฺทมรโชชลฺลํ อปเนติ; เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อุณฺโหทกํ สุกุธิตมฺปิ [สุกิตมฺปิ (สี. ปี), สุขุิตมฺปิ (สฺยา.)] ชฺชลนฺตํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โภชนํ วิรสมฺปิ ขุทาทุพฺพลฺยํ อปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, สุวิปนฺโนปิ สมณทุสฺสีโล ทายกานํ ทกฺขิณํ วิโสเธติ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ตถาคเตน เทวาติเทเวน มชฺฌิมนิกายวรลฺฉเก ทกฺขิณวิภงฺเค เวยฺยากรเณ –
‘‘‘โย สีลวา ทุสฺสีเลสุ ททาติ ทานํ, ธมฺเมน ลทฺธํ สุปสนฺนจิตฺโต;
อภิสทฺทหํ กมฺมผลํ อุฬารํ, สา ทกฺขิณา ทายกโต วิสุชฺฌตี’’’ติ [ม. นิ. ๓.๓๘๒].
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, ตาวตกํ มยํ ปฺหํ อปุจฺฉิมฺห, ตํ ตฺวํ โอปมฺเมหิ การเณหิ วิภาเวนฺโต อมตมธุรํ สวนูปคํ อกาสิ. ยถา นาม, ภนฺเต, สูโท วา สูทนฺเตวาสี วา ตาวตกํ มํสํ ลภิตฺวา นานาวิเธหิ สมฺภาเรหิ สมฺปาเทตฺวา ราชูปโภคํ กโรติ; เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ตาวตกํ มยํ ปฺหํ อปุจฺฉิมฺห, ตํ ตฺวํ โอปมฺเมหิ การเณหิ วิภาเวตฺวา อมตมธุรํ สวนูปคํ อกาสี’’ติ.
ทุสฺสีลปฺโห อฏฺโม.
๙. อุทกสตฺตชีวปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อิมํ อุทกํ อคฺคิมฺหิ ตปฺปมานํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธํ, กึ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, อุทกํ ชีวติ, กึ กีฬมานํ สทฺทายติ, อุทาหุ ¶ อฺเน ปฏิปีฬิตํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, อุทกํ ชีวติ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อปิ จ, มหาราช, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเธกจฺเจ ติตฺถิยา อุทกํ ชีวตีติ สีโตทกํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อุทกํ ตาเปตฺวา เวกติกเวกติกํ ปริภฺุชนฺติ, เต ตุมฺเห ครหนฺติ ปริภวนฺติ ‘เอกินฺทฺริยํ สมณา สกฺยปุตฺติยา ชีวํ วิเหเนฺตี’ติ, ตํ เตสํ ครหํ ปริภวํ วิโนเทหิ อปเนหิ นิจฺฉาเรหี’’ติ. ‘‘น หิ, มหาราช, อุทกํ ชีวติ, นตฺถิ, มหาราช, อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อปิ จ, มหาราช, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธํ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ โสพฺภสรสริตทหตฬากกนฺทรปทรอุทปานนินฺนโปกฺขรณิคตํ วาตาตปเวคสฺส มหนฺตตาย ปริยาทิยติ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, อุทกํ ชีเวยฺย, ตตฺถาปิ อุทกํ สทฺทาเยยฺย, อิมินาปิ, มหาราช, การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’นฺติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ. ยทา ปน, มหาราช, อุทกํ ตณฺฑุเลหิ สมฺมิสฺสิตํ ภาชนคตํ โหติ ปิหิตํ อุทฺธเน อปิตํ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, อจลํ โหติ สนฺตสนฺต’’นฺติ. ‘‘ตํ เยว ปน, มหาราช, อุทกํ ภาชนคตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตฺวา อุทฺธเน ปิตํ โหติ, อปิ นุ ตตฺถ อุทกํ อจลํ โหติ สนฺตสนฺต’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ¶ ปตรติ เผณมาลี โหตีติ. กิสฺส ปน ตํ, มหาราช ¶ , ปากติกํ อุทกํ น จลติ สนฺตสนฺตํ โหติ, กิสฺส ปน อคฺคิคตํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหตี’’ติ? ‘‘ปากติกํ, ภนฺเต, อุทกํ น จลติ, อคฺคิกตํ ปน อุทกํ อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย จิจฺจิฏายติ จิฏิจิฏายติ สทฺทายติ พหุวิธ’’นฺติ. ‘‘อิมินาปิ มหาราช, การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรํ การณํ สุโณหิ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายติ. โหติ ตํ, มหาราช, อุทกํ ฆเร ฆเร อุทกวารกคตํ ปิหิต’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อปิ นุ ตํ, มหาราช, อุทกํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหตี’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต, อจลํ ตํ โหติ ปากติกํ อุทกวารกคตํ อุทก’’นฺติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ ขุพฺภติ ลุฬติ อาวิลติ อูมิชาตํ โหติ, อุทฺธมโธ ทิสาวิทิสํ คจฺฉติ, อุตฺตรติ ปตรติ เผณมาลี โหติ, อุสฺสกฺกิตฺวา โอสฺสกฺกิตฺวา [โอสฺสกฺกิตฺวา’’ติ ปทํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เวลาย ปหรติ สทฺทายติ พหุวิธ’’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, สุตปุพฺพํ เอตํ มยา ทิฏฺปุพฺพฺจ ‘มหาสมุทฺเท อุทกํ หตฺถสตมฺปิ ทฺเวปิ หตฺถสตานิ คคเน อุสฺสกฺกตี’’’ติ. ‘‘กิสฺส, มหาราช, อุทกวารกคตํ อุทกํ น จลติ น สทฺทายติ, กิสฺส ปน มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘วาตเวคสฺส มหนฺตตาย, ภนฺเต, มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายติ, อุทกวารกคตํ อุทกํ อฆฏฺฏิตํ เกหิจิ ¶ น จลติ น สทฺทายตี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, วาตเวคสฺส มหนฺตตาย มหาสมุทฺเท อุทกํ จลติ สทฺทายติ ¶ เอวเมว อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’’ติ.
‘‘นนุ, มหาราช, เภริโปกฺขรํ สุกฺขํ สุกฺเขน โคจมฺเมน โอนนฺธนฺตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’. ‘‘อปิ นุ, มหาราช, เภริยา ชีโว วา สตฺโต วา อตฺถี’’ติ. ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, เภรี สทฺทายตี’’ติ? ‘‘อิตฺถิยา วา, ภนฺเต, ปุริสสฺส วา ตชฺเชน วายาเมนา’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ตชฺเชน วายาเมน เภรี สทฺทายติ, เอวเมว อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายติ. อิมินาปิ, มหาราช ¶ , การเณน ชานาหิ ‘นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา, อคฺคิสนฺตาปเวคสฺส มหนฺตตาย อุทกํ สทฺทายตี’ติ.
‘‘มยฺหมฺปิ ตาว, มหาราช, ตว ปุจฺฉิตพฺพํ อตฺถิ, เอวเมโส ปฺโห สุวินิจฺฉิโต โหติ, กึ นุ โข, มหาราช, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายติ, อุทาหุ เอกจฺเจหิ เยว ภาชเนหิ ตปฺปมานํ สทฺทายตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายติ, เอกจฺเจหิ เยว ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทายตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ชหิโตสิ สกสมยํ, ปจฺจาคโตสิ มม วิสยํ, นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วา. ยทิ, มหาราช, สพฺเพหิปิ ภาชเนหิ อุทกํ ตปฺปมานํ สทฺทาเยยฺย, ยุตฺตมิทํ ‘อุทกํ ชีวตี’ติ วตฺตุํ. น หิ, มหาราช, อุทกํ ทฺวยํ โหติ, ยํ สทฺทายติ, ตํ ชีวติ, ยํ น สทฺทายติ, ตํ น ชีวตีติ. ยทิ, มหาราช, อุทกํ ชีเวยฺย, มหนฺตานํ หตฺถินาคานํ อุสฺสนฺนกายานํ ปภินฺนานํ โสณฺฑาย อุสฺสิฺจิตฺวา มุเข ปกฺขิปิตฺวา กุจฺฉึ ปเวสยนฺตานํ, ตมฺปิ อุทกํ เตสํ ทนฺตนฺตเร จิปฺปิยมานํ สทฺทาเยยฺย. หตฺถสติกาปิ มหานาวา ครุกา ภาริกา อเนกสตสหสฺสภารปริปูรา มหาสมุทฺเท วิจรนฺติ, ตาหิปิ จิปฺปิยมานํ อุทกํ สทฺทาเยยฺย. มหติมหนฺตาปิ มจฺฉา ¶ อเนกสตโยชนิกกายา ติมี ติมิงฺคลา ติมิรปิงฺคลา อพฺภนฺตเร นิมุคฺคา มหาสมุทฺเท นิวาสฏฺานตาย ปฏิวสนฺตา มหาอุทกธารา อาจมนฺติ ธมนฺติ จ, เตสมฺปิ ตํ ทนฺตนฺตเรปิ อุทรนฺตเรปิ จิปฺปิยมานํ อุทกํ สทฺทาเยยฺย. ยสฺมา จ โข, มหาราช, เอวรูเปหิ เอวรูเปหิ มหนฺเตหิ ปฏิปีฬเนหิ ปฏิปีฬิตํ อุทกํ น สทฺทายติ ตสฺมาปิ นตฺถิ อุทเก ชีโว วา สตฺโต วาติ, เอวเมตํ, มหาราช, ธาเรหี’’ติ.
‘‘สาธุ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, โทสาคโต ปฺโห อนุจฺฉวิกาย วิภตฺติยา วิภตฺโต, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, มหคฺฆํ มณิรตนํ เฉกํ อาจริยํ กุสลํ สิกฺขิตํ มณิการํ ปาปุณิตฺวา กิตฺตึ ลเภยฺย โถมนํ ปสํสํ, มุตฺตารตนํ วา มุตฺติกํ ทุสฺสรตนํ วา ทุสฺสิกํ, โลหิตจนฺทนํ วา คนฺธิกํ ปาปุณิตฺวา กิตฺตึ ลเภยฺย โถมนํ ปสํสํ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, โทสาคโต [เทสาคโต (สี. ปี.)] ปฺโห อนุจฺฉวิกาย วิภตฺติยา วิภตฺโต, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อุทกสตฺตชีวปฺโห นวโม.
พุทฺธวคฺโค ปโม.
อิมสฺมึ วคฺเค นว ปฺหา.
๒. นิปฺปปฺจวคฺโค
๑. นิปฺปปฺจปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ภาสิตมฺเปตํ ภควตา ‘นิปฺปปฺจารามา, ภิกฺขเว, วิหรถ นิปฺปปฺจรติโน’ติ, กตมํ ตํ นิปฺปปฺจ’’นฺติ? ‘‘โสตาปตฺติผลํ, มหาราช, นิปฺปปฺจํ, สกทาคามิผลํ นิปฺปปฺจํ, อนาคามิผลํ นิปฺปปฺจํ, อรหตฺตผลํ นิปฺปปฺจ’’นฺติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โสตาปตฺติผลํ นิปฺปปฺจํ, สกทาคามิอนาคามิอรหตฺตผลํ นิปฺปปฺจํ ¶ , กิสฺส ปน อิเม ภิกฺขู อุทฺทิสนฺติ ปริปุจฺฉนฺติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, นวกมฺเมน ปลิพุชฺฌนฺติ ทาเนน จ ปูชาย จ, นนุ เต ชินปฺปฏิกฺขิตฺตํ กมฺมํ กโรตี’’ติ?
‘‘เย เต, มหาราช, ภิกฺขู อุทฺทิสนฺติ ปริปุจฺฉนฺติ สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลํ, นวกมฺเมน ปลิพุชฺฌนฺติ ทาเนน จ ปูชาย จ, สพฺเพ เต นิปฺปปฺจสฺส ปตฺติยา กโรนฺติ. เย เต, มหาราช, สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปจ โหนฺติ. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ นิปฺปปฺจา โหนฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, เอโก ปุริโส เขตฺเต พีชํ โรเปตฺวา อตฺตโน ยถาพลวีริเยน วินา ปาการวติยา ธฺํ อุทฺธเรยฺย, เอโก ปุริโส เขตฺเต พีชํ โรเปตฺวา วนํ ปวิสิตฺวา กฏฺฺจ สาขฺจ ฉินฺทิตฺวา วติปาการํ กตฺวา ธฺํ อุทฺธเรยฺย. ยา ตตฺถ ตสฺส วติปาการปริเยสนา, สา ธฺตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปฺจา โหนฺติ, วินา วติปาการํ ปุริโส วิย ธฺุทฺธาโร. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ นิปฺปปฺจา โหนฺติ, วติปาการํ กตฺวา ปุริโส วิย ธฺุทฺธาโร.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส มหติมหนฺเต อมฺพรุกฺขมตฺถเก ผลปิณฺฑิ ภเวยฺย, อถ ตตฺถ โย โกจิ อิทฺธิมา อาคนฺตฺวา ตสฺส ผลํ หเรยฺย, โย ปน ตตฺถ อนิทฺธิมา, โส กฏฺฺจ วลฺลิฺจ ฉินฺทิตฺวา นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา ตาย ตํ รุกฺขํ อภิรุหิตฺวา ผลํ หเรยฺย. ยา ตตฺถ ¶ ตสฺส นิสฺเสณิปริเยสนา, สา ผลตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน นิปฺปปฺจา โหนฺติ, อิทฺธิมา วิย รุกฺขผลํ หรนฺโต. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิมินา ปโยเคน สจฺจานิ อภิสเมนฺติ, นิสฺเสณิยา วิย ปุริโส รุกฺขผลํ หรนฺโต ¶ .
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เอโก ปุริโส อตฺถกรณิโก เอกโก เยว สามิกํ อุปคนฺตฺวา อตฺถํ สาเธติ. เอโก ธนวา ธนวเสน ปริสํ วฑฺเฒตฺวา ปริสาย อตฺถํ สาเธติ. ยา ตตฺถ ตสฺส ปริสปริเยสนา, สา อตฺถตฺถาย. เอวเมว โข, มหาราช, เย เต สภาวปริสุทฺธา ปุพฺเพ วาสิตวาสนา, เต เอกจิตฺตกฺขเณน ฉสุ อภิฺาสุ วสิภาวํ ปาปุณนฺติ, ปุริโส วิย เอกโก อตฺถสิทฺธึ กโรนฺโต. เย ปน เต ภิกฺขู มหารชกฺขา, เต อิเมหิ ปโยเคหิ สามฺตฺถมภิสาเธนฺติ, ปริสาย วิย ปุริโส อตฺถสิทฺธึ กโรนฺโต.
‘‘อุทฺเทโสปิ, มหาราช, พหุกาโร, ปริปุจฺฉาปิ พหุการา, นวกมฺมมฺปิ พหุการํ, ทานมฺปิ พหุการํ, ปูชาปิ พหุการา เตสุ เตสุ กรณีเยสุ. ยถา, มหาราช, ปุริโส ราชูปเสวี กตาวี อมจฺจภฏพลโทวาริกอนีกฏฺปาริสชฺชชเนหิ, เต ตสฺส กรณีเย อนุปฺปตฺเต สพฺเพปิ อุปการา โหนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อุทฺเทโสปิ พหุกาโร, ปริปุจฺฉาปิ พหุการา, นวกมฺมมฺปิ พหุการํ, ทานมฺปิ พหุการํ, ปูชาปิ พหุการา เตสุ เตสุ กรณีเยสุ. ยทิ, มหาราช, สพฺเพปิ อภิชาติปริสุทฺธา ภเวยฺยุํ, อนุสาสเนน [อนุสาสเกน (สี. ปี.)] กรณียํ น ภเวยฺย. ยสฺมา จ โข, มหาราช, สวเนน กรณียํ โหติ, เถโร, มหาราช, สาริปุตฺโต อปริมิตมสงฺเขยฺยกปฺปํ อุปาทาย อุปจิตกุสลมูโล ปฺาย โกฏึ คโต, โสปิ วินา สวเนน นาสกฺขิ อาสวกฺขยํ ปาปุณิตุํ. ตสฺมา, มหาราช, พหุการํ สวนํ, ตถา อุทฺเทโสปิ ปริปุจฺฉาปิ. ตสฺมา อุทฺเทสปริปุจฺฉาปิ นิปฺปปฺจา สงฺขตา’’ติ. ‘‘สุนิชฺฌาปิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิปฺปปฺจปฺโห ปโม.
๒. ขีณาสวภาวปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘โย คิหี อรหตฺตํ ปตฺโต, ทฺเว วาสฺส คติโย ภวนฺติ อนฺา, ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. น โส ทิวโส ¶ สกฺกา อติกฺกเมตุ’นฺติ. สเจ โส, ภนฺเต นาคเสน, ตสฺมึ ทิวเส อาจริยํ วา อุปชฺฌายํ วา ปตฺตจีวรํ วา น ลเภถ, อปิ นุ โข โส อรหา สยํ วา ปพฺพเชยฺย ทิวสํ วา อติกฺกเมยฺย, อฺโ โกจิ อรหา อิทฺธิมา อาคนฺตฺวา ตํ ปพฺพาเชยฺย วา ปรินิพฺพาเยยฺย วา’’ติ? ‘‘น โส, มหาราช, อรหา สยํ ปพฺพเชยฺย, สยํ ปพฺพชนฺโต เถยฺยํ อาปชฺชติ, น จ ทิวสํ อติกฺกเมยฺย, อฺสฺส อรหนฺตสฺส อาคมนํ ภเวยฺย วา น วา ภเวยฺย, ตสฺมึ เยว ทิวเส ปรินิพฺพาเยยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อรหตฺตสฺส สนฺตภาโว วิชหิโต โหติ, เยน อธิคตสฺส ชีวิตหาโร ภวตี’’ติ.
‘‘วิสมํ, มหาราช, คิหิลิงฺคํ, วิสเม ลิงฺเค ลิงฺคทุพฺพลตาย อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. เนโส, มหาราช, โทโส อรหตฺตสฺส, คิหิลิงฺคสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ ลิงฺคทุพฺพลตา.
‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อายุปาลกํ ชีวิตรกฺขกํ วิสมโกฏฺสฺส มนฺททุพฺพลคหณิกสฺส อวิปาเกน ชีวิตํ หรติ. เนโส, มหาราช, โทโส โภชนสฺส, โกฏฺสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ อคฺคิทุพฺพลตา. เอวเมว โข, มหาราช, วิสเม ลิงฺเค ลิงฺคทุพฺพลตาย อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา. เนโส, มหาราช, โทโส อรหตฺตสฺส, คิหิลิงฺคสฺเสเวโส โทโส ยทิทํ ลิงฺคทุพฺพลตา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปริตฺตํ ติณสลากํ อุปริ ครุเก ปาสาเณ ปิเต ทุพฺพลตาย ภิชฺชิตฺวา ปตติ. เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ปตฺโต คิหี เตน ลิงฺเคน อรหตฺตํ ธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อพโล ทุพฺพโล นิหีนชจฺโจ ปริตฺตปฺุโ มหติมหารชฺชํ ลภิตฺวา ขเณน ปริปตติ ปริธํสติ โอสกฺกติ, น สกฺโกติ อิสฺสริยํ ธาเรตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ¶ ปตฺโต คิหี เตน ลิงฺเคน อรหตฺตํ ¶ ธาเรตุํ น สกฺโกติ ¶ , เตน การเณน ตสฺมึ เยว ทิวเส ปพฺพชติ วา ปรินิพฺพายติ วา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ขีณาสวภาวปฺโห ทุติโย.
๓. ขีณาสวสติสมฺโมสปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ อรหโต สติสมฺโมโส’’ติ? ‘‘วิคตสติสมฺโมสา โข, มหาราช, อรหนฺโต, นตฺถิ อรหนฺตานํ สติสมฺโมโส’’ติ. ‘‘อาปชฺเชยฺย ปน, ภนฺเต, อรหา อาปตฺติ’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘กิสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ? ‘‘กุฏิกาเร, มหาราช, สฺจริตฺเต, วิกาเล กาลสฺาย, ปวาริเต อปฺปวาริตสฺาย, อนติริตฺเต อติริตฺตสฺายา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘เย อาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, เต ทฺวีหิ การเณหิ อาปชฺชนฺติ อนาทริเยน วา อชานเนน วา’ติ. อปิ นุ โข, ภนฺเต, อรหโต อนาทริยํ โหติ, ยํ อรหา อาปตฺตึ อาปชฺชตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, อรหา อาปตฺตึ อาปชฺชติ, นตฺถิ จ อรหโต อนาทริยํ, เตน หิ อตฺถิ อรหโต สติสมฺโมโส’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, อรหโต สติสมฺโมโส, อาปตฺติฺจ อรหา อาปชฺชตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภนฺเต, การเณน มํ สฺาเปหิ, กึ ตตฺถ การณ’’นฺติ? ‘‘ทฺเวเม, มหาราช, กิเลสา โลกวชฺชํ ปณฺณตฺติวชฺชฺจาติ. กตมํ, มหาราช, โลกวชฺชํ? ทส อกุสลกมฺมปถา, อิทํ วุจฺจติ โลกวชฺชํ. กตมํ ปณฺณตฺติวชฺชํ? ยํ โลเก อตฺถิ สมณานํ อนนุจฺฉวิกํ อนนุโลมิกํ, คิหีนํ อนวชฺชํ. ตตฺถ ภควา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปติ ‘ยาวชีวํ อนติกฺกมนีย’นฺติ. วิกาลโภชนํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. ภูตคามวิโกปนํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. อุทเก หสฺสธมฺมํ, มหาราช, โลกสฺส อนวชฺชํ, ตํ ชินสาสเน วชฺชํ. อิติ เอวรูปานิ เอวรูปานิ, มหาราช ¶ , ชินสาสเน วชฺชานิ, อิทํ วุจฺจติ ปณฺณตฺติวชฺชํ.
‘‘โลกวชฺชํ ¶ อภพฺโพ ขีณาสโว ตํ อชฺฌาจริตุํ, ยํ กิเลสํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, ตํ ¶ อชานนฺโต อาปชฺเชยฺย. อวิสโย, มหาราช, เอกจฺจสฺส อรหโต สพฺพํ ชานิตุํ, น หิ ตสฺส พลํ อตฺถิ สพฺพํ ชานิตุํ. อนฺาตํ, มหาราช, อรหโต อิตฺถิปุริสานํ นามมฺปิ โคตฺตมฺปิ, มคฺโคปิ ตสฺส มหิยา อนฺาโต; วิมุตฺตึ เยว, มหาราช, เอกจฺโจ อรหา ชาเนยฺย; ฉฬภิฺโ อรหา สกวิสยํ ชาเนยฺย; สพฺพฺู, มหาราช, ตถาคโตว สพฺพํ ชานาตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ขีณาสวสติสมฺโมสปฺโห ตติโย.
๔. โลเก นตฺถิภาวปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทิสฺสนฺติ โลเก พุทฺธา, ทิสฺสนฺติ ปจฺเจกพุทฺธา, ทิสฺสนฺติ ตถาคตสฺส สาวกา, ทิสฺสนฺติ จกฺกวตฺติราชาโน, ทิสฺสนฺติ ปเทสราชาโน, ทิสฺสนฺติ เทวมนุสฺสา, ทิสฺสนฺติ สธนา, ทิสฺสนฺติ อธนา, ทิสฺสนฺติ สุคตา, ทิสฺสนฺติ ทุคฺคตา, ทิสฺสติ ปุริสสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ, ทิสฺสติ อิตฺถิยา ปุริสลิงฺคํ ปาตุภูตํ, ทิสฺสติ สุกตํ ทุกฺกตํ กมฺมํ, ทิสฺสนฺติ กลฺยาณปาปกานํ กมฺมานํ วิปากูปโภคิโน สตฺตา, อตฺถิ โลเก สตฺตา อณฺฑชา ชลาพุชา สํเสทชา โอปปาติกา, อตฺถิ สตฺตา อปทา ทฺวิปทา จตุปฺปทา พหุปฺปทา, อตฺถิ โลเก ยกฺขา รกฺขสา กุมฺภณฺฑา อสุรา ทานวา คนฺธพฺพา เปตา ปิสาจา, อตฺถิ กินฺนรา มโหรคา นาคา สุปณฺณา สิทฺธา วิชฺชาธรา, อตฺถิ หตฺถี อสฺสา คาโว มหึสา [มหิสา (สี. ปี.)] โอฏฺา คทฺรภา อชา เอฬกา มิคา สูกรา สีหา พฺยคฺฆา ทีปี อจฺฉา โกกา ตรจฺฉา โสณา สิงฺคาลา, อตฺถิ พหุวิธา สกุณา, อตฺถิ สุวณฺณํ รชตํ มุตฺตา มณิ สงฺโข สิลา ปวาฬํ โลหิตงฺโก มสารคลฺลํ เวฬุริโย วชิรํ ผลิกํ กาฬโลหํ ตมฺพโลหํ วฏฺฏโลหํ กํสโลหํ, อตฺถิ โขมํ โกเสยฺยํ กปฺปาสิกํ สาณํ ภงฺคํ กมฺพลํ, อตฺถิ สาลิ วีหิ ยโว กงฺคุ กุทฺรูโส วรโก โคธูโม ¶ มุคฺโค, มาโส ติลํ กุลตฺถํ, อตฺถิ มูลคนฺโธ สารคนฺโธ เผคฺคุคนฺโธ ตจคนฺโธ ปตฺตคนฺโธ ¶ ปุปฺผคนฺโธ ผลคนฺโธ สพฺพคนฺโธ, อตฺถิ ติณ ลตา คจฺฉ รุกฺข โอสธิ วนปฺปติ นที ปพฺพต สมุทฺท มจฺฉกจฺฉปา สพฺพํ โลเก อตฺถิ. ยํ, ภนฺเต, โลเก นตฺถิ, ตํ เม กเถหี’’ติ.
‘‘ตีณิมานิ, มหาราช, โลเก นตฺถิ. กตมานิ ตีณิ? สเจตนา วา อเจตนา วา อชรามรา ¶ โลเก นตฺถิ, สงฺขารานํ นิจฺจตา นตฺถิ, ปรมตฺเถน สตฺตูปลทฺธิ นตฺถิ, อิมานิ โข, มหาราช, ตีณิ โลเก นตฺถี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
โลเก นตฺถิภาวปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อกมฺมชาทิปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ทิสฺสนฺติ โลเก กมฺมนิพฺพตฺตา, ทิสฺสนฺติ เหตุนิพฺพตฺตา, ทิสฺสนฺติ อุตุนิพฺพตฺตา, ยํ โลเก อกมฺมชํ อเหตุชํ อนุตุชํ, ตํ เม กเถหี’’ติ. ‘‘ทฺเวเม, มหาราช, โลกสฺมึ อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา. กตเม ทฺเว? อากาโส, มหาราช, อกมฺมโช อเหตุโช อนุตุโช; นิพฺพานํ, มหาราช, อกมฺมชํ อเหตุชํ อนุตุชํ. อิเม โข, มหาราช, ทฺเว อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา’’ติ.
‘‘มา, ภนฺเต นาคเสน, ชินวจนํ มกฺเขหิ, มา อชานิตฺวา ปฺหํ พฺยากโรหี’’ติ. ‘‘กึ โข, มหาราช, อหํ วทามิ, ยํ มํ ตฺวํ เอวํ วเทสิ ‘มา, ภนฺเต นาคเสน, ชินวจนํ มกฺเขหิ, มา อชานิตฺวา ปฺหํ พฺยากโรหี’’’ติ? ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยุตฺตมิทํ ตาว วตฺตุํ ‘อากาโส อกมฺมโช อเหตุโช อนุตุโช’ติ. อเนกสเตหิ ปน, ภนฺเต นาคเสน, การเณหิ ภควตา สาวกานํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาโต, อถ จ ปน ตฺวํ เอวํ วเทสิ ‘อเหตุชํ นิพฺพาน’’’นฺติ. ‘‘สจฺจํ, มหาราช, ภควตา อเนกสเตหิ การเณหิ สาวกานํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาโต, น จ ปน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ อกฺขาโต’’ติ.
‘‘เอตฺถ มยํ, ภนฺเต นาคเสน, อนฺธการโต อนฺธการตรํ ¶ ปวิสาม, วนโต วนตรํ ปวิสาม, คหนโต คหนตรํ [คหนนฺตรโต คหนนฺตรํ (ก.)] ปวิสาม, ยตฺร หิ นาม ¶ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, ตสฺส ปน ธมฺมสฺส อุปฺปาทาย เหตุ นตฺถิ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน หิ นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ยถา ปน, ภนฺเต นาคเสน, ปุตฺตสฺส ปิตา อตฺถิ, เตน การเณน ปิตุโนปิ ปิตา อิจฺฉิตพฺโพ. ยถา อนฺเตวาสิกสฺส อาจริโย อตฺถิ, เตน การเณน อาจริยสฺสปิ อาจริโย อิจฺฉิตพฺโพ ¶ . ยถา องฺกุรสฺส พีชํ อตฺถิ, เตน การเณน พีชสฺสปิ พีชํ อิจฺฉิตพฺพํ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน การเณน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ.
‘‘ยถา รุกฺขสฺส วา ลตาย วา อคฺเค สติ เตน การเณน มชฺฌมฺปิ อตฺถิ, มูลมฺปิ อตฺถิ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, เตน การเณน นิพฺพานสฺส อุปฺปาทายปิ เหตุ อิจฺฉิตพฺโพ’’’ติ.
‘‘อนุปฺปาทนียํ, มหาราช, นิพฺพานํ, ตสฺมา น นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ อกฺขาโต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ ทสฺเสตฺวา การเณน มํ สฺาเปหิ, ยถาหํ ชาเนยฺยํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เหตุ อตฺถิ, นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ นตฺถี’’ติ.
‘‘เตน หิ, มหาราช, สกฺกจฺจํ โสตํ โอทห, สาธุกํ สุโณหิ, วกฺขามิ ตตฺถ การณํ, สกฺกุเณยฺย, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน อิโต หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ อุปคนฺตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘สกฺกุเณยฺย ปน โส, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน หิมวนฺตํ ปพฺพตราชํ อิธ อาหริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาตุํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ ทสฺเสตุํ.
‘‘สกฺกุเณยฺย, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน มหาสมุทฺทํ นาวาย อุตฺตริตฺวา ปาริมตีรํ คนฺตุ’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ? ‘‘สกฺกุเณยฺย ปน โส, มหาราช ¶ , ปุริโส ปากติเกน พเลน มหาสมุทฺทสฺส ปาริมตีรํ อิธ อาหริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย มคฺโค อกฺขาตุํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส อุปฺปาทาย เหตุ ทสฺเสตุํ. กึ การณา? อสงฺขตตฺตา ธมฺมสฺสา’’ติ.
‘‘อสงฺขตํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, อสงฺขตํ นิพฺพานํ น เกหิจิ กตํ, นิพฺพานํ, มหาราช, น วตฺตพฺพํ อุปฺปนฺนนฺติ วา อนุปฺปนฺนนฺติ วา อุปฺปาทนียนฺติ วา อตีตนฺติ วา อนาคตนฺติ วา ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา จกฺขุวิฺเยฺยนฺติ วา โสตวิฺเยฺยนฺติ วา ฆานวิฺเยฺยนฺติ วา ชิวฺหาวิฺเยฺยนฺติ วา กายวิฺเยฺยนฺติ วา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานํ น อุปฺปนฺนํ น อนุปฺปนฺนํ น อุปฺปาทนียํ น อตีตํ น อนาคตํ น ปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ น จกฺขุวิฺเยฺยํ น โสตวิฺเยฺยํ น ฆานวิฺเยฺยํ น ชิวฺหาวิฺเยฺยํ น กายวิฺเยฺยํ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺเห นตฺถิธมฺมํ นิพฺพานํ อปทิสถ ‘นตฺถิ นิพฺพาน’นฺติ. ‘‘อตฺถิ, มหาราช, นิพฺพานํ, มโนวิฺเยฺยํ นิพฺพานํ, วิสุทฺเธน มานเสน ปณีเตน อุชุเกน อนาวรเณน นิรามิเสน สมฺมาปฏิปนฺโน อริยสาวโก นิพฺพานํ ปสฺสตี’’ติ.
‘‘กีทิสํ ปน ตํ, ภนฺเต, นิพฺพานํ, ยํ ตํ โอปมฺเมหิ อาทีปนียํ การเณหิ มํ สฺาเปหิ, ยถา อตฺถิธมฺมํ โอปมฺเมหิ อาทีปนีย’’นฺติ. ‘‘อตฺถิ, มหาราช, วาโต นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘อิงฺฆ, มหาราช, วาตํ ทสฺเสหิ วณฺณโต วา สณฺานโต วา อณุํ วา ถูลํ วา ทีฆํ วา รสฺสํ วา’’ติ. ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต นาคเสน, วาโต อุปทสฺสยิตุํ, น โส วาโต หตฺถคฺคหณํ วา นิมฺมทฺทนํ วา อุเปติ, อปิ จ อตฺถิ โส วาโต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, น สกฺกา วาโต อุปทสฺสยิตุํ, เตน หิ นตฺถิ วาโต’’ติ? ‘‘ชานามหํ, ภนฺเต นาคเสน, วาโต อตฺถีติ เม หทเย อนุปวิฏฺํ, น ¶ จาหํ สกฺโกมิ วาตํ อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, น จ สกฺกา นิพฺพานํ อุปทสฺสยิตุํ วณฺเณน วา สณฺาเนน วา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, สูปทสฺสิตํ โอปมฺมํ, สุนิทฺทิฏฺํ การณํ, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ ‘อตฺถิ นิพฺพาน’’’นฺติ.
อกมฺมชาทิปฺโห ปฺจโม.
๖. กมฺมชาทิปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตเม เอตฺถ กมฺมชา, กตเม เหตุชา, กตเม อุตุชา, กตเม น กมฺมชา, น เหตุชา, น อุตุชา’’ติ? ‘‘เย เกจิ, มหาราช, สตฺตา สเจตนา, สพฺเพ เต กมฺมชา; อคฺคิ จ สพฺพานิ จ ¶ พีชชาตานิ เหตุชานิ; ปถวี จ ปพฺพตา จ อุทกฺจ วาโต จ, สพฺเพ เต อุตุชา; อากาโส จ นิพฺพานฺจ อิเม ทฺเว อกมฺมชา อเหตุชา อนุตุชา. นิพฺพานํ ปน, มหาราช, น วตฺตพฺพํ กมฺมชนฺติ วา เหตุชนฺติ วา อุตุชนฺติ วา อุปฺปนฺนนฺติ วา อนุปฺปนฺนนฺติ วา อุปฺปาทนียนฺติ วา อตีตนฺติ วา อนาคตนฺติ วา ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา จกฺขุวิฺเยฺยนฺติ วา โสตวิฺเยฺยนฺติ วา ฆานวิฺเยฺยนฺติ วา ชิวฺหาวิฺเยฺยนฺติ วา กายวิฺเยฺยนฺติ วา, อปิ จ, มหาราช, มโนวิฺเยฺยํ นิพฺพานํ, ยํ ¶ โส สมฺมาปฏิปนฺโน อริยสาวโก วิสุทฺเธน าเณน ปสฺสตี’’ติ. ‘‘รมณีโย, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห สุวินิจฺฉิโต นิสฺสํสโย เอกนฺตคโต, วิมติ อุปฺปจฺฉินฺนา, ตฺวํ คณิวรปวรมาสชฺชา’’ติ.
กมฺมชาทิปฺโห ฉฏฺโ.
๗. ยกฺขปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โลเก ยกฺขา นามา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ โลเก ยกฺขา นามา’’ติ. ‘‘จวนฺติ ปน เต, ภนฺเต, ยกฺขา ตมฺหา โยนิยา’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช, จวนฺติ เต ยกฺขา ตมฺหา โยนิยา’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, ภนฺเต นาคเสน, เตสํ มตานํ ยกฺขานํ สรีรํ น ทิสฺสติ, กุณปคนฺโธปิ ¶ น วายตี’’ติ? ‘‘ทิสฺสติ, มหาราช, มตานํ ยกฺขานํ สรีรํ, กุณปคนฺโธปิ เตสํ วายติ, มตานํ, มหาราช, ยกฺขานํ สรีรํ กีฏวณฺเณน วา ทิสฺสติ, กิมิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, กิปิลฺลิกวณฺเณน วา ทิสฺสติ, ปฏงฺควณฺเณน วา ทิสฺสติ, อหิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, วิจฺฉิกวณฺเณน วา ทิสฺสติ, สตปทิวณฺเณน วา ทิสฺสติ, ทิชวณฺเณน วา ทิสฺสติ, มิควณฺเณน วา ทิสฺสตี’’ติ. ‘‘โก หิ, ภนฺเต นาคเสน, อฺโ อิทํ ปฺหํ ปุฏฺโ วิสชฺเชยฺย อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
ยกฺขปฺโห สตฺตโม.
๘. อนวเสสสิกฺขาปทปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต อเหสุํ ติกิจฺฉกานํ ปุพฺพกา อาจริยา เสยฺยถิทํ, นารโท ธมฺมนฺตรี [ธนฺวนฺตรี (?)] องฺคิรโส กปิโล กณฺฑรคฺคิ สาโม ¶ อตุโล ปุพฺพกจฺจายโน, สพฺเพเปเต อาจริยา สกึ เยว โรคุปฺปตฺติฺจ นิทานฺจ สภาวฺจ สมุฏฺานฺจ ติกิจฺฉฺจ กิริยฺจ สิทฺธาสิทฺธฺจ สพฺพํ ตํ [สนฺตํ (ก.)] นิรวเสสํ ชานิตฺวา ‘อิมสฺมึ กาเย เอตฺตกา โรคา อุปฺปชฺชิสฺสนฺตี’ติ เอกปฺปหาเรน กลาปคฺคาหํ กริตฺวา สุตฺตํ พนฺธึสุ, อสพฺพฺุโน เอเต สพฺเพ, กิสฺส ปน ตถาคโต สพฺพฺู สมาโน อนาคตํ กิริยํ พุทฺธาเณน ชานิตฺวา ‘เอตฺตเก นาม วตฺถุสฺมึ เอตฺตกํ ¶ นาม สิกฺขาปทํ ปฺเปตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนวเสสโต สิกฺขาปทํ น ปฺเปสิ, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ อยเส ปากเฏ โทเส วิตฺถาริเก ปุถุคเต อุชฺฌายนฺเตสุ มนุสฺเสสุ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสี’’ติ?
‘‘าตเมตํ, มหาราช, ตถาคตสฺส ‘อิมสฺมึ สมเย อิเมสุ มนุสฺเสสุ สาธิกํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ ปฺเปตพฺพํ ภวิสฺสตี’ติ, อปิ จ ตถาคตสฺส เอวํ อโหสิ ‘สเจ โข อหํ สาธิกํ ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสตํ เอกปฺปหารํ ปฺเปสฺสามิ, มหาชโน สนฺตาสมาปชฺชิสฺสติ ¶ ‘พหุกํ อิธ รกฺขิตพฺพํ, ทุกฺกรํ วต โภ สมณสฺส โคตมสฺส สาสเน ปพฺพชิตุ’นฺติ, ปพฺพชิตุกามาปิ น ปพฺพชิสฺสนฺติ, วจนฺจ เม น สทฺทหิสฺสนฺติ, อสทฺทหนฺตา เต มนุสฺสา อปายคามิโน ภวิสฺสนฺน-ติ อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ธมฺมเทสนาย วิฺาเปตฺวา ปากเฏ โทเส สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, อพฺภุตํ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธานํ, ยาว มหนฺตํ ตถาคตสฺส สพฺพฺุตาณํ, เอวเมตํ, ภนฺเต นาคเสน, สุนิทฺทิฏฺโ เอโส อตฺโถ ตถาคเตน, ‘พหุกํ อิธ สิกฺขิตพฺพ’นฺติ สุตฺวา สตฺตานํ สนฺตาโส อุปฺปชฺเชยฺย, เอโกปิ ชินสาสเน น ปพฺพเชยฺย, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
อนวเสสสิกฺขาปทปฺโห อฏฺโม.
๙. สูริยตปนปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อยํ สูริโย สพฺพกาลํ กินํ ตปติ, อุทาหุ กิฺจิกาลํ มนฺทํ ตปตี’’ติ? ‘‘สพฺพกาลํ, มหาราช, สูริโย กินํ ตปติ ¶ , น กิฺจิกาลํ มนฺทํ ตปตี’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สูริโย สพฺพกาลํ กินํ ตปติ, กิสฺส ปน อปฺเปกทา สูริโย กินํ ตปติ, อปฺเปกทา มนฺทํ ตปตี’’ติ? ‘‘จตฺตาโรเม, มหาราช, สูริยสฺส โรคา, เยสํ อฺตเรน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. กตเม จตฺตาโร? อพฺภํ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. มหิกา, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. เมโฆ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. ราหุ, มหาราช, สูริยสฺส โรโค, เตน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปติ. อิเม โข, มหาราช, จตฺตาโร สูริยสฺส โรคา, เยสํ อฺตเรน โรเคน ปฏิปีฬิโต สูริโย มนฺทํ ตปตี’’ติ. ‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต ¶ นาคเสน, อพฺภุตํ, ภนฺเต ¶ นาคเสน, สูริยสฺสปิ ตาว เตโชสมฺปนฺนสฺส โรโค อุปฺปชฺชิสฺสติ, กิมงฺคํ ปน อฺเสํ สตฺตานํ, นตฺถิ, ภนฺเต, เอสา วิภตฺติ อฺสฺส อฺตฺร ตวาทิเสน พุทฺธิมตา’’ติ.
สูริยตปนปฺโห นวโม.
๑๐. กินตปนปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กิสฺส เหมนฺเต สูริโย กินํ ตปติ, โน ตถา คิมฺเห’’ติ? ‘‘คิมฺเห, มหาราช, อนุปหตํ โหติ รโชชลฺลํ, วาตกฺขุภิตา เรณู คคนานุคตา โหนฺติ, อากาเสปิ อพฺภา สุพหลา โหนฺติ, มหาวาโต จ อธิมตฺตํ วายติ, เต สพฺเพ นานากุลา สมายุตา สูริยรํสิโย ปิทหนฺติ, เตน คิมฺเห สูริโย มนฺทํ ตปติ.
‘‘เหมนฺเต ปน, มหาราช, เหฏฺา ปถวี นิพฺพุตา โหติ, อุปริ มหาเมโฆ อุปฏฺิโต โหติ, อุปสนฺตํ โหติ รโชชลฺลํ, เรณุ จ สนฺตสนฺตํ คคเน จรติ, วิคตวลาหโก จ โหติ อากาโส, วาโต ¶ จ มนฺทมนฺทํ วายติ, เอเตสํ อุปรติยา วิสุทฺธา [วิสทา (สี. ปี.)] โหนฺติ สูริยรํสิโย, อุปฆาตวิมุตฺตสฺส สูริยสฺส ตาโป อติ วิย ตปติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน สูริโย เหมนฺเต กินํ ตปติ, โน ตถา คิมฺเห’’ติ. ‘‘สพฺพีติมุตฺโต, ภนฺเต, สูริโย กินํ ตปติ, เมฆาทิสหคโต กินํ น ตปตี’’ติ.
กินตปนปฺโห ทสโม.
นิปฺปปฺจวคฺโค ทุติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค ทส ปฺหา.
๓. เวสฺสนฺตรวคฺโค
๑. เวสฺสนฺตรปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, สพฺเพว โพธิสตฺตา ปุตฺตทารํ เทนฺติ, อุทาหุ เวสฺสนฺตเรเนว รฺา ปุตฺตทารํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘สพฺเพปิ, มหาราช, โพธิสตฺตา ปุตฺตทารํ เทนฺติ, น เวสฺสนฺตเรเนว รฺา ปุตฺตทารํ ทินฺน’’นฺติ. ‘‘อปิ ¶ จ โข, ภนฺเต นาคเสน, เตสํ อนุมเตน เทนฺตี’’ติ. ‘‘ภริยา, มหาราช, อนุมตา, ทารกา ปน พาลตาย วิลปึสุ [ลาลปึสุ (สี. ปี.)], ยทิ เต อตฺถโต ชาเนยฺยุํ, เตปิ อนุโมเทยฺยุํ, น เต วิลเปยฺยุ’’นฺติ.
‘‘ทุกฺกรํ, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺเตน กตํ, ยํ โส อตฺตโน โอรเส ปิเย ปุตฺเต พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย อทาสิ.
‘‘อิทมฺปิ ทุติยํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส อตฺตโน โอรเส ปิเย ปุตฺเต พาลเก ตรุณเก ลตาย พนฺธิตฺวา เตน พฺราหฺมเณน ลตาย อนุมชฺชียนฺเต ทิสฺวา อชฺฌุเปกฺขิ.
‘‘อิทมฺปิ ตติยํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส สเกน พเลน พนฺธนา มุจฺจิตฺวา อาคเต ทารเก สารชฺชมุปคเต ปุนเทว ลตาย พนฺธิตฺวา อทาสิ.
‘‘อิทมฺปิ จตุตฺถํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ทารเก ‘อยํ โข, ตาต, ยกฺโข ขาทิตุํ เนติ อมฺเห’ติ วิลปนฺเต ‘มา ภายิตฺถา’ติ น อสฺสาเสสิ.
‘‘อิทมฺปิ ปฺจมํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ชาลิสฺส กุมารสฺส รุทมานสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา ‘อลํ, ตาต, กณฺหาชินํ นิวตฺเตหิ, อหเมว คจฺฉามิ ยกฺเขน สห, ขาทตุ มํ ยกฺโข’ติ ยาจมานสฺส เอวํ น สมฺปฏิจฺฉิ.
‘‘อิทมฺปิ ¶ ฉฏฺํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ โส ชาลิสฺส กุมารสฺส ‘ปาสาณสมํ นูน เต, ตาต, หทยํ, ยํ ตฺวํ อมฺหากํ ทุกฺขิตานํ เปกฺขมาโน นิมฺมนุสฺสเก พฺรหารฺเ ยกฺเขน นียมาเน น นิวาเรสี’ติ วิลปมานสฺส การฺุํ นากาสิ.
‘‘อิทมฺปิ ¶ สตฺตมํ ทุกฺกรโต ทุกฺกรตรํ, ยํ ตสฺส รุฬรุฬสฺส ภีมภีมสฺส นีเต ทารเก อทสฺสนํ คมิเต น ผลิ หทยํ สตธา วา สหสฺสธา วา, ปฺุกาเมน มนุเชน กึ ปรทุกฺขาปเนน, นนุ นาม สกทานํ ทาตพฺพํ โหตี’’ติ?
‘‘ทุกฺกรสฺส, มหาราช, กตตฺตา โพธิสตฺตสฺส กิตฺติสทฺโท ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา สเทวมนุสฺเสสุ อพฺภุคฺคโต, เทวา เทวภวเน ¶ ปกิตฺเตนฺติ, อสุรา อสุรภวเน ปกิตฺเตนฺติ, ครุฬา ครุฬภวเน ปกิตฺเตนฺติ, นาคา นาคภวเน ปกิตฺเตนฺติ, ยกฺขา ยกฺขภวเน ปกิตฺเตนฺติ, อนุปุพฺเพน ตสฺส กิตฺติสทฺโท ปรมฺปราย อชฺเชตรหิ อิธ อมฺหากํ สมยํ อนุปฺปตฺโต, ตํ มยํ ทานํ ปกิตฺเตนฺตา วิโกเปนฺตา นิสินฺนา สุทินฺนํ, อุทาหุ ทุทฺทินฺนนฺติ. โส โข ปนายํ, มหาราช, กิตฺติสทฺโท นิปุณานํ วิฺูนํ วิทูนํ วิภาวีนํ โพธิสตฺตานํ ทส คุเณ อนุทสฺสติ. กตเม ทส? อเคธตา นิราลยตา จาโค ปหานํ อปุนราวตฺติตา สุขุมตา มหนฺตตา ทุรนุโพธตา ทุลฺลภตา อสทิสตา พุทฺธธมฺมสฺส, โส โข ปนายํ, มหาราช, กิตฺติสทฺโท นิปุณานํ วิฺูนํ วิทูนํ วิภาวีนํ โพธิสตฺตานํ อิเม ทส คุเณ อนุทสฺสตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ปรํ ทุกฺขาเปตฺวา ทานํ เทติ, อปิ นุ ตํ ทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิก’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, กึ วตฺตพฺพ’’นฺติ. ‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ อุปทสฺเสหี’’ติ. ‘‘อิธ, มหาราช, โกจิ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา สีลวา โหติ กลฺยาณธมฺโม, โส ภเวยฺย ปกฺขหโต วา ปีสปฺปี วา อฺตรํ วา พฺยาธึ อาปนฺโน, ตเมนํ โย โกจิ ปฺุกาโม ยานํ อาโรเปตฺวา ปตฺถิตํ เทสมนุปาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตสฺส ปุริสสฺส ตโตนิทานํ กิฺจิ สุขํ นิพฺพตฺเตยฺย สคฺคสํวตฺตนิกํ ตํ กมฺม’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, กึ วตฺตพฺพํ? หตฺถิยานํ วา โส, ภนฺเต, ปุริโส ลเภยฺย อสฺสยานํ วา รถยานํ วา, ถเล ถลยานํ ชเล ชลยานํ เทเวสุ เทวยานํ มนุสฺเสสุ มนุสฺสยานํ, ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ภเว ภเว นิพฺพตฺเตยฺย, ตทนุจฺฉวิกานิ ตทนุโลมิกานิ จสฺส สุขานิ นิพฺพตฺเตยฺยุํ, สุคติโต สุคตึ คจฺเฉยฺย, เตเนว กมฺมาภิสนฺเทน อิทฺธิยานํ อภิรุยฺห ปตฺถิตํ นิพฺพานนครํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ ¶ สคฺคสํวตฺตนิกํ ¶ , ยํ โส ปุริโส พลีพทฺเท ทุกฺขาเปตฺวา เอวรูปํ สุขํ อนุภวติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, ยถา ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิกํ. อิธ, มหาราช, โย โกจิ ราชา ชนปทโต ธมฺมิกํ พลึ อุทฺธราเปตฺวา อาณาปวตฺตเนน ทานํ ทเทยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, ราชา ตโตนิทานํ กิฺจิ สุขํ อนุภเวยฺย สคฺคสํวตฺตนิกํ ตํ ทาน’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, กึ วตฺตพฺพํ, ตโตนิทานํ โส, ภนฺเต, ราชา อุตฺตรึ อเนกสตสหสฺสคุณํ ลเภยฺย. ราชูนํ อติราชา ภเวยฺย, เทวานํ อติเทโว ภเวยฺย, พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา ภเวยฺย, สมณานํ อติสมโณ ภเวยฺย, พฺราหฺมณานํ อติพฺราหฺมโณ ภเวยฺย, อรหนฺตานํ อติอรหา [อติอรหนฺโต (สฺยา. ก.)] ภเวยฺยา’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, ปรทุกฺขาปเนน ทินฺนทานํ สุขวิปากํ โหติ สคฺคสํวตฺตนิกํ, ยํ โส ราชา พลินา ชนํ ปีเฬตฺวา ทินฺนทาเนน เอวรูปํ อุตฺตรึ ยสสุขํ อนุภวตี’’ติ.
‘‘อติทานํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตเรน รฺา ทินฺนํ, ยํ โส สกํ ภริยํ ปรสฺส ภริยตฺถาย อทาสิ, สเก โอรเส ปุตฺเต พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย อทาสิ, อติทานํ นาม, ภนฺเต นาคเสน, โลเก วิทูหิ นินฺทิตํ ครหิตํ, ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, อติภาเรน สกฏสฺส อกฺโข ภิชฺชติ, อติภาเรน นาวา โอสีทติ, อติภุตฺเตน โภชนํ วิสมํ ปริณมติ, อติวสฺเสน ธฺํ วินสฺสติ, อติทาเนน โภคกฺขยํ อุเปติ, อติตาเปน ปถวี อุปฑยฺหติ, อติราเคน อุมฺมตฺตโก โหติ, อติโทเสน วชฺโฌ โหติ, อติโมเหน อนยํ อาปชฺชติ, อติโลเภน โจรคฺคหณมุปคจฺฉติ, อติภเยน นิรุชฺฌติ, อติปูเรน นที อุตฺตรติ, อติวาเตน อสนิ ปตติ, อติอคฺคินา โอทนํ อุตฺตรติ, อติสฺจรเณน น จิรํ ชีวติ. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, อติทานํ นาม โลเก วิทูหิ นินฺทิตํ ครหิตํ, อติทานํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตเรน รฺา ¶ ทินฺนํ, น ตตฺถ กิฺจิ ผลํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ.
‘‘อติทานํ, มหาราช, โลเก วิทูหิ วณฺณิตํ ถุตํ ปสตฺถํ, เย เกจิ ยาทิสํ กีทิสํ ทานํ เทนฺติ [เกจิ ยาทิสํ ตาทิสํ ทานํ เทนฺติ (สฺยา.)], อติทานทายี โลเก กิตฺตึ ปาปุณาติ. ยถา ¶ , มหาราช, อติปวรตาย ทิพฺพํ วนมูลํ คหิตมฺปิ หตฺถปาเส ิตานํ ปรชนานํ น ทสฺสยติ, อคโท อติชจฺจตาย [อติอุสภตาย (ก.)] ปีฬาย สมุคฺฆาตโก โรคานํ อนฺตกโร, อคฺคิ อติโชติตาย ฑหติ, อุทกํ อติสีตตาย นิพฺพาเปติ, ปทุมํ ปริสุทฺธตาย น อุปลิมฺปติ วาริกทฺทเมน, มณิ อติคุณตาย กามทโท, วชิรํ อติติขิณตาย วิชฺฌติ มณิมุตฺตาผลิกํ, ปถวี อติมหนฺตตาย นโรรคมิคปกฺขิชลเสลปพฺพตทุเม ธาเรติ, สมุทฺโท อติมหนฺตตาย อปริปูรโณ, สิเนรุ อติภารตาย อจโล, อากาโส อติวิตฺถารตาย อนนฺโต, สูริโย อติปฺปภตาย ติมิรํ ฆาเตติ, สีโห อติชาติตาย วิคตภโย, มลฺโล อติพลวตาย ปฏิมลฺลํ ขิปฺปํ อุกฺขิปติ ¶ , ราชา อติปฺุตาย อธิปติ, ภิกฺขุ อติสีลวนฺตตาย นาคยกฺขนรมรูหิ นมสฺสนีโย, พุทฺโธ อติอคฺคตาย [อติวิสิฏฺตาย (สฺยา.)] อนุปโม. เอวเมว โข, มหาราช, อติทานํ นาม โลเก วิทูหิ วณฺณิตํ ถุตํ ปสตฺถํ, เย เกจิ ยาทิสํ กีทิสํ ทานํ เทนฺติ, อติทานทายี โลเก กิตฺตึ ปาปุณาติ, อติทาเนน เวสฺสนฺตโร ราชา ทสสหสฺสิยา โลกธาตุยา วณฺณิโต ถุโต ปสตฺโถ มหิโต กิตฺติโต, เตเนว อติทาเนน เวสฺสนฺตโร ราชา อชฺเชตรหิ พุทฺโธ ชาโต อคฺโค สเทวเก โลเก.
‘‘อตฺถิ ปน, มหาราช, โลเก ปนียํ ทานํ, ยํ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ทส โข ปนิมานิ, ภนฺเต นาคเสน, ทานานิ, ยานิ โลเก อทานสมฺมตานิ, โย ตานิ ทานานิ เทติ, โส อปายคามี โหติ. กตมานิ ทส? มชฺชทานํ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก อทานสมฺมตํ, โย ตํ ทานํ เทติ, โส อปายคามี โหติ. สมชฺชทานํ…เป… อิตฺถิทานํ…เป… อุสภทานํ…เป… จิตฺตกมฺมทานํ…เป… สตฺถทานํ ¶ …เป… วิสทานํ…เป… สงฺขลิกทานํ…เป… กุกฺกุฏสูกรทานํ…เป… ตุลากูฏมานกูฏทานํ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก อทานสมฺมตํ โหติ, โย ตํ ทานํ เทติ, โส อปายคามี โหติ. อิมานิ โข, ภนฺเต นาคเสน, ทส ทานานิ โลเก อทานสมฺมตานิ, โย ตานิ ทานานิ เทติ, โส อปายคามี โหตี’’ติ.
‘‘นาหํ ตํ, มหาราช, อทานสมฺมตํ ปุจฺฉามิ, อิมํ ขฺวาหํ, มหาราช, ตํ ปุจฺฉามิ ‘อตฺถิ ปน, มหาราช, โลเก ปนียํ ทานํ, ยํ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพ’นฺติ. ‘‘นตฺถิ, ภนฺเต นาคเสน, โลเก ปนียํ ทานํ. ยํ ¶ ทกฺขิเณยฺเย อนุปฺปตฺเต น ทาตพฺพํ, จิตฺตปฺปสาเท อุปฺปนฺเน เกจิ ทกฺขิเณยฺยานํ โภชนํ เทนฺติ, เกจิ อจฺฉาทนํ, เกจิ สยนํ, เกจิ อาวสถํ, เกจิ อตฺถรณปาวุรณํ, เกจิ ทาสิทาสํ, เกจิ เขตฺตวตฺถุํ, เกจิ ทฺวิปทจตุปฺปทํ, เกจิ สตํ สหสฺสํ สตสหสฺสํ, เกจิ มหารชฺชํ, เกจิ ชีวิตมฺปิ เทนฺตี’’ติ. ‘‘ยทิ ปน, มหาราช, เกจิ ชีวิตมฺปิ เทนฺติ, กึ การณา เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อติพาฬฺหํ ปริปาเตสิ สุทินฺเน ปุตฺเต จ ทาเร จ?
‘‘อปิ นุ โข, มหาราช, อตฺถิ โลกปกติ โลกาจิณฺณํ, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา [อาธาเปตุํ วา (สฺยา.), อาธปิตุํ วา (ก.)] วิกฺกิณิตุํ วา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา วิกฺกิณิตุํ วา’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, ลภติ ปิตา ปุตฺตํ อิณฏฺโฏ วา อาชีวิกปกโต วา อาวปิตุํ วา วิกฺกิณิตุํ วา ¶ , เวสฺสนฺตโรปิ, มหาราช, ราชา อลภมาโน สพฺพฺุตาณํ อุปทฺทุโต ทุกฺขิโต ตสฺส ธมฺมธนสฺส ปฏิลาภาย ปุตฺตทารํ อาวเปสิ จ วิกฺกิณิ จ. อิติ, มหาราช, เวสฺสนฺตเรน รฺา อฺเสํ ทินฺนํ เยว ทินฺนํ, กตํ เยว กตํ. กิสฺส ปน ตฺวํ, มหาราช, เตน ทาเนน เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อติพาฬฺหํ อปสาเทสี’’ติ?
‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, เวสฺสนฺตรสฺส ทานปติโน ทานํ ครหามิ, อปิ จ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต นิมินิตฺวา อตฺตานํ ¶ ทาตพฺพ’’นฺติ. ‘‘เอตํ โข, มหาราช, อสพฺภิการณํ, ยํ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต อตฺตานํ ทเทยฺย, ยํ ยํ หิ ยาจนฺเต ตํ ตเทว ทาตพฺพํ, เอตํ สปฺปุริสานํ กมฺมํ. ยถา, มหาราช, โกจิ ปุริโส ปานียํ อาหราเปยฺย, ตสฺส โย โภชนํ ทเทยฺย, อปิ นุ โส, มหาราช, ปุริโส ตสฺส กิจฺจการี อสฺสา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยํ โส อาหราเปติ, ตเมว ตสฺส เทนฺโต กิจฺจการี อสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา พฺราหฺมเณ ปุตฺตทารํ ยาจนฺเต ปุตฺตทารํ เยว อทาสิ. สเจ, มหาราช, พฺราหฺมโณ เวสฺสนฺตรสฺส สรีรํ ยาเจยฺย, น โส, มหาราช, อตฺตานํ รกฺเขยฺย น กมฺเปยฺย น รชฺเชยฺย, ตสฺส ทินฺนํ ปริจฺจตฺตํ เยว สรีรํ ภเวยฺย. สเจ, มหาราช, โกจิ เวสฺสนฺตรํ ทานปตึ อุปคนฺตฺวา ยาเจยฺย ‘ทาสตฺตํ เม ¶ อุเปหี’ติ, ทินฺนํ ปริจฺจตฺตํ เยวสฺส สรีรํ ภเวยฺย, น โส ทตฺวา ตเปยฺย [เปยฺย (สี.)], รฺโ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปกฺกา มํสเปสิ พหุสาธารณา, เอวเมว โข, มหาราช, รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ. ยถา วา ปน, มหาราช, ผลิโต [ผลิโน (?)] รุกฺโข นานาทิชคณสาธารโณ, เอวเมว โข, มหาราช, รฺโ เวสฺสนฺตรสฺส กาโย พหุสาธารโณ. กึ การณา? ‘เอวาหํ ปฏิปชฺชนฺโต สมฺมาสมฺโพธึ ปาปุณิสฺสามี’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส อธโน ธนตฺถิโก ธนปริเยสนํ จรมาโน อชปถํ สงฺกุปถํ เวตฺตปถํ คจฺฉติ, ชลถลวาณิชฺชํ กโรติ, กาเยน วาจาย มนสา ธนํ อาราเธติ, ธนปฺปฏิลาภาย วายมติ. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ทานปติ อธโน พุทฺธธเนน สพฺพฺุตาณรตนปฺปฏิลาภาย ยาจกานํ ธนธฺํ ทาสิทาสํ ยานวาหนํ สกลสาปเตยฺยํ สกํ ปุตฺตทารํ อตฺตานฺจ จชิตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ เยว ปริเยสติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อมจฺโจ มุทฺทกาโม มุทฺทาธิกรณํ ¶ ยํ กิฺจิ เคเห ธนธฺํ หิรฺสุวณฺณํ, ตํ สพฺพํ ทตฺวาปิ มุทฺทปฺปฏิลาภาย วายมติ. เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ¶ ทานปติ สพฺพํ ตํ พาหิรพฺภนฺตรธนํ ทตฺวา ชีวิตมฺปิ ปเรสํ ทตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ เยว ปริเยสติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส ทานปติโน เอวํ อโหสิ ‘ยํ โส พฺราหฺมโณ ยาจติ, ตเมวาหํ ตสฺส เทนฺโต กิจฺจการี นาม โหมี’ติ, เอวํ โส ตสฺส ปุตฺตทารมทาสิ. น โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ทานปติ เทสฺสตาย พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตทารมทาสิ, น อทสฺสนกามตาย ปุตฺตทารมทาสิ, น อติพหุกา เม ปุตฺตทารา, ‘น สกฺโกมิ เต โปเสตุ’นฺติ ปุตฺตทารมทาสิ, น อุกฺกณฺิโต ‘อปฺปิยา เม’ติ นีหริตุกามตาย ปุตฺตทารมทาสิ. อถ โข สพฺพฺุตาณรตนสฺเสว ปิยตฺตา สพฺพฺุตาณสฺส การณา เวสฺสนฺตโร ราชา เอวรูปํ อตุลํ วิปุลมนุตฺตรํ ปิยํ มนาปํ ทยิตํ ปาณสมํ ปุตฺตทารทานวรํ พฺราหฺมณสฺส อทาสิ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จริยาปิฏเก –
‘‘‘น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา, มทฺที เทวี น เทสฺสิยา;
สพฺพฺุตํ ปิยํ มยฺหํ, ตสฺมา ปิเย อทาสห’นฺติ.
‘‘ตสฺมา, มหาราช, เวสฺสตโร ราชา ปุตฺตทานํ [ปุตฺตทารํ (ก.)] ทตฺวา ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา นิปชฺชิ. ตสฺส อติเปเมน ทุกฺขิตสฺส พลวโสโก อุปฺปชฺชิ, หทยวตฺถุ อุณฺหมโหสิ. นาสิกาย อปฺปโหนฺติยา มุเขน อุณฺเห อสฺสาสปสฺสาเส วิสฺสชฺเชสิ, อสฺสูนิ ปริวตฺติตฺวา โลหิตพินฺทูนิ หุตฺวา เนตฺเตหิ นิกฺขมึสุ. เอวเมว โข, มหาราช, ทุกฺเขน เวสฺสนฺตโร ราชา พฺราหฺมณสฺส ปุตฺตทารมทาสิ ‘มา เม ทานปโถ ปริหายี’ติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ทารเก อทาสิ. กตเม ทฺเว? ทานปโถ จ เม อปริหีโน ภวิสฺสติ, ทุกฺขิเต จ เม ปุตฺตเก วนมูลผเลหิ อิโตนิทานํ อยฺยโก โมเจสฺสตีติ. ชานาติ ¶ หิ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ‘น เม ทารกา สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ, อิเม จ ทารเก อยฺยโก นิกฺกิณิสฺสติ, เอวํ อมฺหากมฺปิ คมนํ ภวิสฺสตี’ติ. อิเม โข, มหาราช, ทฺเว อตฺถวเส ปฏิจฺจ พฺราหฺมณสฺส ทฺเว ทารเก อทาสิ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ชานาติ ‘อยํ โข พฺราหฺมโณ ชิณฺโณ วุฑฺโฒ มหลฺลโก ¶ ทุพฺพโล ภคฺโค ทณฺฑปรายโณ ขีณายุโก ปริตฺตปฺุโ, เนโส สมตฺโถ อิเม ทารเก ทาสโภเคน ภฺุชิตุ’นฺติ. สกฺกุเณยฺย ปน, มหาราช, ปุริโส ปากติเกน พเลน อิเม จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว คเหตฺวา เปฬาย วา สมุคฺเค วา ปกฺขิปิตฺวา นิปฺปเภ กตฺวา ถาลกปริโภเคน [ปทีปปริโภเคน (สฺยา.)] ปริภฺุชิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อิมสฺมึ โลเก จนฺทิมสูริยปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, รฺโ จกฺกวตฺติสฺส มณิรตนํ สุภํ ชาติมนฺตํ อฏฺํสํ สุปริกมฺมกตํ จตุหตฺถายามํ สกฏนาภิปริณาหํ น สกฺกา เกนจิ ปิโลติกาย ¶ เวเตฺวา เปฬาย ปกฺขิปิตฺวา สตฺถกนิสานปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก จกฺกวตฺติรฺโ มณิรตนปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, ติธา ปภินฺโน สพฺพเสโต สตฺตปฺปติฏฺิโต อฏฺรตนุพฺเพโธ นวรตนายามปริณาโห ปาสาทิโก ทสฺสนีโย อุโปสโถ นาคราชา น สกฺกา เกนจิ สุปฺเปน วา สราเวน วา ปิทหิตุํ, โควจฺฉโก วิย วจฺฉกสาลาย ปกฺขิปิตฺวา ปริหริตุํ ¶ วา, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก อุโปสถนาคราชปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท ทีฆปุถุลวิตฺถิณฺโณ คมฺภีโร อปฺปเมยฺโย ทุรุตฺตโร อปริโยคาฬฺโห อนาวโฏ น สกฺกา เกนจิ สพฺพตฺถ ปิทหิตฺวา เอกติตฺเถน ปริโภคํ กาตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก มหาสมุทฺทปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, หิมวนฺโต ปพฺพตราชา ปฺจโยชนสตํ อจฺจุคฺคโต นเภ ติสหสฺสโยชนายามวิตฺถาโร จตุราสีติกูฏสหสฺสปฺปฏิมณฺฑิโต ปฺจนฺนํ มหานทีสตานํ ¶ ปภโว มหาภูตคณาลโย นานาวิธคนฺธธโร ทิพฺโพสธสตสมลงฺกโต นเภ วลาหโก วิย อจฺจุคฺคโต ทิสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โลเก หิมวนฺตปพฺพตราชปฺปฏิภาคสฺส เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, รตฺตนฺธการติมิสายํ อุปริปพฺพตคฺเค ชลมาโน มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สุวิทูเรปิ ปฺายติ, เอวเมว โข, มหาราช, เวสฺสนฺตโร ราชา ปพฺพตคฺเค ชลมาโน ¶ มหาอคฺคิกฺขนฺโธ วิย สุวิทูเรปิ ปากโฏ ปฺายติ, ตสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, เยน การเณน เวสฺสนฺตรสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. ยถา, มหาราช, หิมวนฺเต ปพฺพเต นาคปุปฺผสมเย อุชุวาเต วายนฺเต ทส ทฺวาทส โยชนานิ ปุปฺผคนฺโธ วายติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, เวสฺสนฺตรสฺส รฺโ อปิ โยชนสหสฺเสหิปิ ยาว อกนิฏฺภวนํ เอตฺถนฺตเร สุราสุรครุฬคนฺธพฺพยกฺขรกฺขสมโหรคกินฺนรอินฺทภวเนสุ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต, สีลวรคนฺโธ จสฺส สมฺปวายติ, เตน ตสฺส ทารกา น สกฺกา เกนจิ ทาสโภเคน ภฺุชิตุํ. อนุสิฏฺโ, มหาราช, ชาลี กุมาโร ปิตรา เวสฺสนฺตเรน รฺา ‘อยฺยโก เต, ตาต, ตุมฺเห พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา นิกฺกิณนฺโต ตํ นิกฺขสหสฺสํ ทตฺวา นิกฺกิณาตุ, กณฺหาชินํ นิกฺกิณนฺโต ทาสสตํ ทาสิสตํ หตฺถิสตํ อสฺสสตํ เธนุสตํ อุสภสตํ นิกฺขสตนฺติ สพฺพสตํ ทตฺวา นิกฺกิณาตุ, ยทิ เต, ตาต, อยฺยโก ตุมฺเห พฺราหฺมณสฺส หตฺถโต อาณาย พลสา มุธา คณฺหาติ, มา ตุมฺเห อยฺยกสฺส วจนํ กริตฺถ, พฺราหฺมณสฺเสว อนุยายิโน โหถา’ติ, เอวมนุสาสิตฺวา ปุตฺเต เปเสสิ, ตโต ชาลีกุมาโร คนฺตฺวา อยฺยเกน ปุฏฺโ กเถสิ –
‘‘‘สหสฺสคฺฆํ หิ มํ ตาต, พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา;
อโถ กณฺหาชินํ กฺํ, หตฺถีนฺจ สเตน จา’’’ติ.
‘‘สุนิพฺเพิโต, ภนฺเต นาคเสน, ปฺโห; สุภินฺนํ ทิฏฺิชาลํ; สุมทฺทิโต ปรวาโท; สกสมโย สุทีปิโต; พฺยฺชนํ สุปริโสธิตํ; สุวิภตฺโต อตฺโถ; เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เวสฺสนฺตรปฺโห ปโม.
๒. ทุกฺกรการิกปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, สพฺเพว โพธิสตฺตา ทุกฺกรการิกํ กโรนฺติ, อุทาหุ โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช ¶ , สพฺเพสํ โพธิสตฺตานํ ทุกฺกรการิกา, โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยทิ เอวํ อยุตฺตํ, ยํ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหตี’’ติ. ‘‘จตูหิ ¶ , มหาราช, าเนหิ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหติ. กตเมหิ จตูหิ? กุลเวมตฺตตา ปธานเวมตฺตตา [อทฺธานเวมตฺตตา (สี. สฺยา. ปี.)] อายุเวมตฺตตา ปมาณเวมตฺตตาติ. อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ าเนหิ โพธิสตฺตานํ โพธิสตฺเตหิ เวมตฺตตา โหติ. สพฺเพสมฺปิ, มหาราช, พุทฺธานํ รูเป สีเล สมาธิมฺหิ ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเน จตุเวสารชฺเช ทสตถาคตพเล ฉอสาธารณาเณ จุทฺทสพุทฺธาเณ อฏฺารสพุทฺธธมฺเม เกวเล จ พุทฺธคุเณ [พุทฺธธมฺเม (สี. ปี.)] นตฺถิ เวมตฺตตา, สพฺเพปิ พุทฺธา พุทฺธธมฺเมหิ สมสมา’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพปิ พุทฺธา พุทฺธธมฺเมหิ สมสมา, เกน การเณน โคตเมเนว โพธิสตฺเตน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ? ‘‘อปริปกฺเก, มหาราช, าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา โคตโม โพธิสตฺโต เนกฺขมฺมมภินิกฺขนฺโต อปริปกฺกํ าณํ ปริปาจยมาเนน ทุกฺกรการิกา กตา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน โพธิสตฺโต อปริปกฺเก าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขนฺโต, นนุ นาม าณํ ปริปาเจตฺวา ปริปกฺเก าเณ นิกฺขมิตพฺพ’’นฺติ?
‘‘โพธิสตฺโต, มหาราช, วิปรีตํ อิตฺถาคารํ ทิสฺวา วิปฺปฏิสารี อโหสิ, ตสฺส วิปฺปฏิสาริสฺส อรติ อุปฺปชฺชิ, อรติจิตฺตํ อุปฺปนฺนํ ทิสฺวา อฺตโร มารกายิโก เทวปุตฺโต ‘อยํ โข กาโล อรติจิตฺตสฺส วิโนทนายา’ติ เวหาเส ตฺวา อิทํ วจนมพฺรวิ –
‘‘มาริส, มา โข ตฺวํ อุกฺกณฺิโต อโหสิ, อิโต เต สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุภวิสฺสติ สหสฺสารํ สเนมิกํ สนาภิกํ สพฺพาการปริปูรํ, ปถวิคตานิ จ เต ¶ รตนานิ อากาสฏฺานิ จ สยเมว อุปคจฺฉิสฺสนฺติ, ทฺวิสหสฺสปริตฺตทีปปริวาเรสุ จตูสุ มหาทีเปสุ เอกมุเขน อาณา ปวตฺติสฺสติ, ปโรสหสฺสฺจ เต ปุตฺตา ภวิสฺสนฺติ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนา ¶ , เตหิ ปุตฺเตหิ ปริกิณฺโณ สตฺตรตนสมนฺนาคโต จตุทฺทีปมนุสาสิสฺสสี’ติ.
‘‘ยถา นาม ทิวสสนฺตตฺตํ อโยสูลํ สพฺพตฺถ ¶ อุปฑหนฺตํ กณฺณโสตํ ปวิเสยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส ตํ วจนํ กณฺณโสตํ ปวิสิตฺถ, อิติ โส ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชิ.
‘‘ยถา ปน, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ ชลมาโน อฺเน กฏฺเน อุปฑหิโต ภิยฺโยโสมตฺตาย ชเลยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺโต ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหาปถวี ปกติตินฺตา นิพฺพตฺตหริตสทฺทลา อาสิตฺโตทกา จิกฺขลฺลชาตา ปุนเทว มหาเมเฆ อภิวุฏฺเ ภิยฺโยโสมตฺตาย จิกฺขลฺลตรา อสฺส, เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺโต ปกติยาว อุกฺกณฺิโต ตสฺสา เทวตาย วจเนน ภิยฺโยโสมตฺตาย อุพฺพิชฺชิ สํวิชฺชิ สํเวคมาปชฺชี’’ติ.
‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺตสฺส ยทิ สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, ปฏินิวตฺเตยฺย โพธิสตฺโต ทิพฺเพ จกฺกรตเน นิพฺพตฺเต’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, สตฺตเม ทิวเส โพธิสตฺตสฺส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, อปิ จ ปโลภนตฺถาย ตาย เทวตาย มุสา ภณิตํ, ยทิปิ, มหาราช, สตฺตเม ทิวเส ทิพฺพํ จกฺกรตนํ นิพฺพตฺเตยฺย, โพธิสตฺโต น นิวตฺเตยฺย. กึ การณํ? ‘อนิจฺจ’นฺติ, มหาราช, โพธิสตฺโต ทฬฺหํ อคฺคเหสิ, ‘ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ ทฬฺหํ อคฺคเหสิ, อุปาทานกฺขยํ ปตฺโต.
‘‘ยถา, มหาราช, อโนตตฺตทหโต อุทกํ คงฺคํ นทึ ปวิสติ, คงฺคาย นทิยา มหาสมุทฺทํ ปวิสติ, มหาสมุทฺทโต ปาตาลมุขํ ปวิสติ, อปิ นุ, มหาราช, ตํ อุทกํ ปาตาลมุขคตํ ปฏินิวตฺติตฺวา มหาสมุทฺทํ ปวิเสยฺย, มหาสมุทฺทโต คงฺคํ นทึ ปวิเสยฺย, คงฺคาย นทิยา ปุน อโนตตฺตํ ¶ ปวิเสยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โพธิสตฺเตน กปฺปานํ สตสหสฺสํ จตุโร จ อสงฺขฺเยยฺเย กุสลํ ปริปาจิตํ อิมสฺส ภวสฺส ¶ การณา, โสยํ อนฺติมภโว อนุปฺปตฺโต ¶ ปริปกฺกํ โพธิาณํ ฉหิ วสฺเสหิ พุทฺโธ ภวิสฺสติ สพฺพฺู โลเก อคฺคปุคฺคโล, อปิ นุ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต จกฺกรตนการณา [จกฺกรตนสฺส การณา (สี. สฺยา. ปี.)] ปฏินิวตฺเตยฺยา’’ติ [ปรินิวตฺเตยฺยาติ (สี. ปี. ก.)]? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ.
‘‘อปิ จ, มหาราช, มหาปถวี ปริวตฺเตยฺย สกานนา สปพฺพตา, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ. อาโรเหยฺยปิ เจ, มหาราช, คงฺคาย อุทกํ ปฏิโสตํ, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; วิสุสฺเสยฺยปิ เจ, มหาราช, มหาสมุทฺโท อปริมิตชลธโร โคปเท อุทกํ วิย, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; ผเลยฺยปิ เจ, มหาราช, สิเนรุปพฺพตราชา สตธา วา สหสฺสธา วา, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; ปเตยฺยุมฺปิ เจ, มหาราช, จนฺทิมสูริยา สตารกา เลฑฺฑุ วิย ฉมายํ, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ; สํวตฺเตยฺยปิ เจ, มหาราช, อากาโส กิลฺชมิว, นตฺเวว โพธิสตฺโต ปฏินิวตฺเตยฺย อปตฺวา สมฺมาสมฺโพธึ. กึ การณา? ปทาลิตตฺตา สพฺพพนฺธนาน’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กติ โลเก พนฺธนานี’’ติ? ‘‘ทส โข ปนิมานิ, มหาราช, โลเก พนฺธนานิ, เยหิ พนฺธเนหิ พทฺธา สตฺตา น นิกฺขมนฺติ, นิกฺขมิตฺวาปิ ปฏินิวตฺตนฺติ. กตมานิ ทส? มาตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปิตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ภริยา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปุตฺตา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, าตี, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, มิตฺตํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ธนํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ลาภสกฺกาโร, มหาราช ¶ , โลเก พนฺธนํ, อิสฺสริยํ, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, ปฺจ กามคุณา, มหาราช, โลเก พนฺธนํ, อิมานิ โข มหาราช ทส โลเก พนฺธนานิ, เยหิ พนฺธเนหิ พทฺธา สตฺตา น นิกฺขมนฺติ, นิกฺขมิตฺวาปิ ปฏินิวตฺตนฺติ, ตานิ ทส พนฺธนานิ โพธิสตฺตสฺส ฉินฺนานิ ปทาลิตานิ, ตสฺมา, มหาราช, โพธิสตฺโต น ปฏินิวตฺตตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยทิ โพธิสตฺโต อุปฺปนฺเน อรติจิตฺเต เทวตาย วจเนน อปริปกฺเก าเณ อปริปกฺกาย โพธิยา เนกฺขมฺมมภินิกฺขนฺโต, กึ ¶ ตสฺส ทุกฺกรการิกาย กตาย, นนุ นาม สพฺพภกฺเขน ภวิตพฺพํ าณปริปากํ อาคมยมาเนนา’’ติ?
‘‘ทส โข ปนิเม, มหาราช, ปุคฺคลา โลกสฺมึ โอฺาตา อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. กตเม ทส? อิตฺถี, มหาราช, วิธวา โลกสฺมึ โอฺาตา ¶ อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. ทุพฺพโล, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อมิตฺตาติ, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… มหคฺฆโส, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อครุกุลวาสิโก, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ปาปมิตฺโต, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ธนหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… อาจารหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… กมฺมหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล…เป… ปโยคหีโน, มหาราช, ปุคฺคโล โลกสฺมึ โอฺาโต อวฺาโต หีฬิโต ขีฬิโต ครหิโต ปริภูโต อจิตฺตีกโต. อิเม โข, มหาราช, ทส ปุคฺคลา โลกสฺมึ โอฺาตา อวฺาตา หีฬิตา ขีฬิตา ครหิตา ปริภูตา อจิตฺตีกตา. อิมานิ โข, มหาราช, ทส านานิ อนุสฺสรมานสฺส โพธิสตฺตสฺส เอวํ สฺา อุปฺปชฺชิ ‘มาหํ กมฺมหีโน อสฺสํ ปโยคหีโน ครหิโต เทวมนุสฺสานํ, ยํนูนาหํ กมฺมสฺสามี อสฺสํ กมฺมครุ กมฺมาธิปเตยฺโย กมฺมสีโล กมฺมโธรยฺโห กมฺมนิเกตวา อปฺปมตฺโต วิหเรยฺย’นฺติ, เอวํ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต าณํ ปริปาเจนฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ กโรนฺโต เอวมาห ¶ ‘น โข ปนาหํ อิมาย กฏุกาย ทุกฺกรการิกาย อธิคจฺฉามิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อลมริยาณทสฺสนวิเสสํ, สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ. อปิ นุ ตสฺมึ สมเย โพธิสตฺตสฺส มคฺคํ อารพฺภ สติสมฺโมโส อโหสี’’ติ?
‘‘ปฺจวีสติ โข ปนิเม, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรณา ธมฺมา, เยหิ ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. กตเม ปฺจวีสติ? โกโธ, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรโณ ธมฺโม, เยน ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย, อุปนาโห…เป… มกฺโข…เป… ปฬาโส…เป… อิสฺสา…เป… มจฺฉริยํ…เป… มายา…เป… สาเยฺยํ…เป… ถมฺโภ…เป… สารมฺโภ…เป… มาโน…เป… อติมาโน ¶ …เป… มโท…เป… ปมาโท…เป… ถินมิทฺธํ…เป… ตนฺทิ [นนฺที (ปี. ก.)] …เป… อาลสฺยํ…เป… ปาปมิตฺตตา…เป… รูปา…เป… สทฺทา…เป… คนฺธา…เป… รสา…เป… โผฏฺพฺพา…เป… ขุทาปิปาสา…เป… อรติ, มหาราช, จิตฺตทุพฺพลีกรโณ ธมฺโม, เยน ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. อิเม โข, มหาราช, ปฺจวีสติ จิตฺตทุพฺพลีกรณา ธมฺมา, เยหิ ทุพฺพลีกตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย.
โพธิสตฺตสฺส ¶ โข, มหาราช, ขุทาปิปาสา [ขุทาปิปาสา (สี. ปี. ก.)] กายํ ปริยาทิยึสุ, กาเย ปริยาทินฺเน จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. สตสหสฺสํ, มหาราช, กปฺปานํ [กปฺเป (ก.)] จตุโร จ อสงฺขฺเยยฺเย กปฺเป โพธิสตฺโต จตุนฺนํ เยว อริยสจฺจานํ อภิสมยํ อนฺเวสิ ตาสุ ตาสุ ชาตีสุ, กึ ปนสฺส ปจฺฉิเม ภเว อภิสมยชาติยํ มคฺคํ อารพฺภ สติสมฺโมโส เหสฺสติ? อปิ จ, มหาราช, โพธิสตฺตสฺส สฺามตฺตํ อุปฺปชฺชิ ‘สิยา นุ โข อฺโ มคฺโค โพธายา’ติ. ปุพฺเพ โข, มหาราช, โพธิสตฺโต เอกมาสิโก สมาโน ปิตุ สกฺกสฺส กมฺมนฺเต สีตาย ชมฺพุจฺฉายาย สิริสยเน ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺโน วิวิจฺเจว กาเมหิ วิจิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช ¶ วิหาสิ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหาสี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, าณํ ปริปาเจนฺโต โพธิสตฺโต ทุกฺกรการิกํ อกาสี’’ติ.
ทุกฺกรการิกปฺโห ทุติโย.
๓. กุสลากุสลพลวตรปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ อธิมตฺตํ พลวตรํ กุสลํ วา อกุสลํ วา’’ติ? ‘‘กุสลํ, มหาราช, อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติ. ‘‘นาหํ, ภนฺเต นาคเสน, ตํ วจนํ สมฺปฏิจฺฉามิ ‘กุสลํ อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา อกุสล’นฺติ, ทิสฺสนฺติ, ภนฺเต นาคเสน, อิธ ปาณาติปาติโน อทินฺนาทายิโน กาเมสุมิจฺฉาจาริโน มุสาวาทิโน คามฆาติกา ปนฺถทูสกา เนกติกา วฺจนิกา, สพฺเพ เต ตาวตเกน ปาเปน ลภนฺติ หตฺถจฺเฉทํ ปาทจฺเฉทํ หตฺถปาทจฺเฉทํ กณฺณจฺเฉทํ นาสจฺเฉทํ กณฺณนาสจฺเฉทํ ¶ พิลงฺคถาลิกํ สงฺขมุณฺฑิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณิกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีกํ ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิฺจนํ สุนเขหิปิ ขาทาปนํ ชีวสูลาโรปนํ อสินาปิ สีสจฺเฉทํ, เกจิ รตฺตึ ปาปํ กตฺวา รตฺตึ เยว วิปากํ อนุภวนฺติ, เกจิ รตฺตึ กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา ทิวา เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทิวา กตฺวา รตฺตึ เยว อนุภวนฺติ, เกจิ ทฺเว ตโย ทิวเส วีติวตฺเต อนุภวนฺติ, สพฺเพปิ เต ทิฏฺเว ธมฺเม วิปากํ อนุภวนฺติ. อตฺถิ ปน, ภนฺเต นาคเสน, โกจิ เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา จตุนฺนํ วา ปฺจนฺนํ วา ทสนฺนํ วา สตสฺส วา สหสฺสสฺส ¶ วา สตสหสฺสสฺส วา สปริวารํ ทานํ ทตฺวา ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา อนุภวิตา สีเลน วา อุโปสถกมฺเมน วา’’ติ?
‘‘อตฺถิ, มหาราช ¶ , จตฺตาโร ปุริสา ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม เตเนว สรีรเทเหน ติทสปุเร สมนุปฺปตฺตา’’ติ [ยสมนุปตฺตาติ (สี. ปี.)]. ‘‘โก จ โก จ ภนฺเต’’ติ? ‘‘มนฺธาตา, มหาราช, ราชา, นิมิ ราชา, สาธีโน ราชา, คุตฺติโล จ คนฺธพฺโพ’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อเนเกหิ ตํ ภวสหสฺเสหิ อนฺตริตํ, ทฺวินฺนมฺเปตํ อมฺหากํ [ทีปิตํ, อมฺหากมฺเปตํ (ก.)] ปโรกฺขํ, ยทิ สมตฺโถสิ วตฺตมานเก ภเว ภควโต ธรมานกาเล กเถหี’’ติ? ‘‘วตฺตมานเกปิ, มหาราช, ภเว ปุณฺณโก ทาโส เถรสฺส สาริปุตฺตสฺส โภชนํ ทตฺวา ตทเหว เสฏฺิฏฺานํ อชฺฌุปคโต, โส เอตรหิ ปุณฺณโก เสฏฺีติ ปฺายิ, โคปาลมาตา เทวี อตฺตโน เกเส วิกฺกิณิตฺวา ลทฺเธหิ อฏฺหิ กหาปเณหิ เถรสฺส มหากจฺจายนสฺส อตฺตฏฺมกสฺส ปิณฺฑปาตํ ทตฺวา ตทเหว รฺโ จนฺทปชฺโชตสฺส [อุเทนสฺส (สี. ปี.)] อคฺคมเหสิฏฺานํ ปตฺตา. สุปฺปิยา อุปาสิกา อฺตรสฺส คิลานภิกฺขุโน อตฺตโน อูรุมํเสน ปฏิจฺฉาทนียํ ทตฺวา ทุติยทิวเส เยว รูฬฺหวณา สฺฉวี [สจฺฉวี (สี. ปี.)] อโรคา ชาตา. มลฺลิกา เทวี ภควโต อาภิโทสิกํ กุมฺมาสปิณฺฑํ ทตฺวา ตทเหว รฺโ โกสลสฺส อคฺคมเหสี ชาตา. สุมโน มาลากาโร อฏฺหิ สุมนปุปฺผมุฏฺีหิ ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว มหาสมฺปตฺตึ ปตฺโต. เอกสาฏโก ¶ พฺราหฺมโณ อุตฺตรสาฏเกน ภควนฺตํ ปูเชตฺวา ตํ ทิวสํ เยว สพฺพฏฺกํ ลภิ, สพฺเพเปเต, มหาราช, ทิฏฺธมฺมิกํ โภคฺจ ยสฺจ อนุภวึสู’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, วิจินิตฺวา ปริเยสิตฺวา ฉ ชเน เยว อทฺทสาสี’’ติ. ‘‘อาม, มหาราชา’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํ. อหฺหิ, ภนฺเต นาคเสน, เอกทิวสํ เยว ทสปิ ปุริเส ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเต, วีสมฺปิ ตึสมฺปิ จตฺตาลีสมฺปิ ปฺาสมฺปิ ปุริสสตมฺปิ ¶ ปุริสสหสฺสมฺปิ ปสฺสามิ ปาปสฺส กมฺมสฺส วิปาเกน สูเลสุ อาโรเปนฺเต. นนฺทกุลสฺส, ภนฺเต นาคเสน, ภทฺทสาโล นาม เสนาปติปุตฺโต อโหสิ. เตน จ รฺา จนฺทคุตฺเตน สงฺคาโม สมุปพฺยูฬฺโห อโหสิ. ตสฺมึ โข ปน, ภนฺเต นาคเสน, สงฺคาเม อุภโต พลกาเย อสีติกพนฺธรูปานิ อเหสุํ, เอกสฺมึ กิร สีสกพนฺเธ ปริปาเต [ปริปุณฺเณ (สพฺพตฺถ)] เอกํ กพนฺธรูปํ อุฏฺหติ, สพฺเพเปเต ¶ ปาปสฺเสว กมฺมสฺส วิปาเกน อนยพฺยสนํ อาปนฺนา. อิมินาปิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน ภณามิ อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติ.
‘‘สุยฺยติ, ภนฺเต นาคเสน, อิมสฺมึ พุทฺธสาสเน โกสเลน รฺา อสทิสทานํ ทินฺน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, สุยฺยตี’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา ตํ อสทิสํ ทานํ ทตฺวา ตโตนิทานํ กฺจิ ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา ปฏิลภี’’ติ [ปฏิลภตีติ (ก.)]? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, โกสลราชา เอวรูปํ อนุตฺตรํ ทานํ ทตฺวาปิ น ลภิ [น ลภติ (ก.)] ตโตนิทานํ กฺจิ ทิฏฺธมฺมิกํ โภคํ วา ยสํ วา สุขํ วา, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกุสลํ เยว อธิมตฺตํ พลวตรํ, โน ตถา กุสล’’นฺติ.
‘‘ปริตฺตตฺตา, มหาราช, อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมติ, อุปมายปิ, มหาราช, เอตํ อุปปริกฺขิตพฺพํ. ยถา, มหาราช, อปรนฺเต ชนปเท กุมุทภณฺฑิกา นาม ธฺชาติ มาสลูนา [มาสปูรา (ก.)] อนฺโตเคหคตา โหติ, สาลโย ฉปฺปฺจมาเสหิ ปริณมนฺติ ¶ , กึ ปเนตฺถ, มหาราช, อนฺตรํ โก วิเสโส กุมุทภณฺฑิกาย จ สาลีนฺจา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, กุมุทภณฺฑิกาย, วิปุลตฺตา จ สาลีนํ. สาลโย, ภนฺเต นาคเสน, ราชารหา ราชโภชนํ, กุมุทภณฺฑิกา ทาสกมฺมกรานํ โภชน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว ¶ โข, มหาราช, ปริตฺตตฺตา อกุสลํ ขิปฺปํ ปริณมติ, วิปุลตฺตา กุสลํ ทีเฆน กาเลน ปริณมตี’’ติ.
‘‘ยํ ตตฺถ, ภนฺเต นาคเสน, ขิปฺปํ ปริณมติ, ตํ นาม โลเก อธิมตฺตํ พลวตรํ, ตสฺมา อกุสลํ พลวตรํ, โน ตถา กุสลํ. ยถา นาม, ภนฺเต นาคเสน, โย โกจิ โยโธ มหติมหายุทฺธํ ปวิสิตฺวา ปฏิสตฺตุํ อุปกจฺฉเก คเหตฺวา อากฑฺฒิตฺวา ขิปฺปตรํ สามิโน อุปเนยฺย, โส โยโธ โลเก สมตฺโถ สูโร นาม. โย จ ภิสกฺโก ขิปฺปํ สลฺลํ อุทฺธรติ โรคมปเนติ, โส ภิสกฺโก เฉโก นาม. โย คณโก สีฆสีฆํ คเณตฺวา ขิปฺปํ ทสฺสยติ, โส คณโก เฉโก นาม. โย มลฺโล ขิปฺปํ ปฏิมลฺลํ อุกฺขิปิตฺวา อุตฺตานกํ ปาเตติ, โส มลฺโล สมตฺโถ สูโร นาม. เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยํ ขิปฺปํ ปริณมติ กุสลํ วา อกุสลํ วา, ตํ โลเก อธิมตฺตํ พลวตร’’นฺติ.
‘‘อุภยมฺปิ ตํ, มหาราช, กมฺมํ สมฺปรายเวทนียเมว, อปิ จ โข อกุสลํ สาวชฺชตาย ขเณน ทิฏฺธมฺมเวทนียํ โหติ, ปุพฺพเกหิ, มหาราช, ขตฺติเยหิ ปิโต เอโส นิยโม ¶ ‘โย ปาณํ หนติ, โส ทณฺฑารโห…เป… โย อทินฺนํ อาทิยติ…เป… โย ปรทารํ คจฺฉติ…เป… โย มุสา ภณติ…เป… โย คามํ ฆาเตติ…เป… โย ปนฺถํ ทูเสติ…เป… โย นิกตึ กโรติ…เป… โย วฺจนํ กโรติ, โส ทณฺฑารโห วธิตพฺโพ เฉตฺตพฺโพ เภตฺตพฺโพ หนฺตพฺโพ’ติ. ตํ เต อุปาทาย วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ทณฺเฑนฺติ วเธนฺติ ฉินฺทนฺติ ภินฺทนฺติ หนนฺติ จ, อปิ นุ, มหาราช, อตฺถิ เกหิจิ ปิโต นิยโม ‘โย ทานํ วา เทติ, สีลํ วา รกฺขติ, อุโปสถกมฺมํ วา กโรติ, ตสฺส ธนํ วา ยสํ วา ทาตพฺพ’นฺติ; อปิ นุ ตํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา เทนฺติ, โจรสฺส กตกมฺมสฺส วธพนฺธนํ วิยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ, มหาราช, ทายกานํ วิจินิตฺวา วิจินิตฺวา ธนํ วา ยสํ วา ทเทยฺยุํ, กุสลมฺปิ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ¶ ภเวยฺย, ยสฺมา จ โข, มหาราช, ทายเก น วิจินนฺติ ‘ธนํ วา ยสํ วา ทสฺสามา’ติ, ตสฺมา กุสลํ น ทิฏฺธมฺมเวทนียํ. อิมินา, มหาราช, การเณน อกุสลํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ, สมฺปราเยว ¶ โส อธิมตฺตํ พลวตรํ เวทนํ เวทยตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ตวาทิเสน พุทฺธิมนฺเตน วินา เนโส ปฺโห สุนิพฺเพิโย, โลกิกํ, ภนฺเต นาคเสน, โลกุตฺตเรน วิฺาปิต’’นฺติ.
กุสลากุสลพลวตรปฺโห ตติโย.
๔. ปุพฺพเปตาทิสปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิเม ทายกา ทานํ ทตฺวา ปุพฺพเปตานํ อาทิสนฺติ [อุทฺทิสนฺติ (ก. สี.)] ‘อิทํ เตสํ ปาปุณาตู’ติ, อปิ นุ เต กิฺจิ ตโตนิทานํ วิปากํ ปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘เกจิ, มหาราช, ปฏิลภนฺติ, เกจิ นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ. ‘‘เก, ภนฺเต, ปฏิลภนฺติ, เก นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘นิรยูปปนฺนา, มหาราช, นปฺปฏิลภนฺติ, สคฺคคตา นปฺปฏิลภนฺติ, ติรจฺฉานโยนิคตา นปฺปฏิลภนฺติ, จตุนฺนํ เปตานํ ตโย เปตา นปฺปฏิลภนฺติ วนฺตาสิกา ขุปฺปิปาสิโน นิชฺฌามตณฺหิกา, ลภนฺติ เปตา ปรทตฺตูปชีวิโน, เตปิ สรมานา เยว ลภนฺตี’’ติ.
‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, ทายกานํ ทานํ วิโสสิตํ [วิโสตํ (สี. ปี.)] โหติ อผลํ, เยสํ อุทฺทิสฺส กตํ ยทิ เต นปฺปฏิลภนฺตี’’ติ? ‘‘น หิ ตํ, มหาราช, ทานํ อผลํ โหติ อวิปากํ, ทายกา ¶ เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติ. ‘‘เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘อิธ, มหาราช, เกจิ มนุสฺสา มจฺฉมํสสุราภตฺตขชฺชกานิ ปฏิยาเทตฺวา าติกุลํ คจฺฉนฺติ, ยทิ เต าตกา ตํ อุปายนํ น สมฺปฏิจฺเฉยฺยุํ, อปิ นุ ตํ อุปายนํ วิโสสิตํ คจฺเฉยฺย วินสฺเสยฺย วา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, สามิกานํ เยว ตํ โหตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติ. ยถา ปน ¶ , มหาราช, ปุริโส คพฺภํ ปวิฏฺโ อสติ ปุรโต นิกฺขมนมุเข เกน นิกฺขเมยฺยา’’ติ. ‘‘ปวิฏฺเเนว ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺตี’’ติ. ‘‘โหตุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามิ, ทายกา เยว ตสฺส ผลํ อนุภวนฺติ, น มยํ ตํ การณํ วิโลเมมาติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ยทิ อิเมสํ ทายกานํ ทินฺนทานํ ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาติ, เต จ ตสฺส วิปากํ อนุภวนฺติ. เตน หิ โย ปาณาติปาตี ลุทฺโท โลหิตปาณี ปทุฏฺมนสงฺกปฺโป มนุสฺเส ฆาเตตฺวา ทารุณํ กมฺมํ กตฺวา ปุพฺพเปตานํ อาทิเสยฺย ‘อิมสฺส เม กมฺมสฺส วิปาโก ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาตู’ติ, อปิ นุ ตสฺส วิปาโก ปุพฺพเปตานํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โก ตตฺถ เหตุ กึ การณํ, เยน กุสลํ ปาปุณาติ อกุสลํ น ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘เนโส, มหาราช, ปฺโห ปุจฺฉิตพฺโพ, มา จ ตฺวํ, มหาราช, ‘วิสชฺชโก อตฺถี’ติ อปุจฺฉิตพฺพํ ปุจฺฉิ, ‘กิสฺส อากาโส นิราลมฺโพ, กิสฺส คงฺคา อุทฺธมฺมุขา น สนฺทติ, กิสฺส อิเม มนุสฺสา จ ทิชา จ ทฺวิปทา มิคา จตุปฺปทา’ติ ตมฺปิ มํ ตฺวํ ปุจฺฉิสฺสสี’’ติ. ‘‘นาหํ ตํ, ภนฺเต นาคเสน, วิเหสาเปกฺโข ปุจฺฉามิ, อปิ จ นิพฺพาหนตฺถาย [นิพฺพานตฺถาย (ก.)] สนฺเทหสฺส ปุจฺฉามิ, พหู มนุสฺสา โลเก วามคามิโน [ปาปคาหิโน (สฺยา.)] วิจกฺขุกา, ‘กินฺติ เต โอตารํ น ลเภยฺยุ’นฺติ เอวาหํ ตํ ปุจฺฉามี’’ติ. ‘‘น สกฺกา, มหาราช, สห อกเตน อนนุมเตน สห ปาปํ กมฺมํ สํวิภชิตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, มนุสฺสา อุทกนิพฺพาหเนน อุทกํ สุวิทูรมฺปิ หรนฺติ, อปิ นุ, มหาราช, สกฺกา ฆนมหาเสลปพฺพโต [ปพฺพตโต (ก.)] นิพฺพาหเนน ยถิจฺฉิตํ หริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. ยถา วา ปน, มหาราช, สกฺกา เตเลน ปทีโป ชาเลตุํ, อปิ นุ, มหาราช, สกฺกา อุทเกน ปทีโป ¶ ชาเลตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา ¶ กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. ยถา วา ปน, มหาราช, กสฺสกา ตฬากโต อุทกํ นีหริตฺวา ธฺํ ปริปาเจนฺติ, อปิ นุ โข, มหาราช, สกฺกา มหาสมุทฺทโต อุทกํ นีหริตฺวา ธฺํ ปริปาเจตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน สกฺกา กุสลํ สํวิภชิตุํ, น สกฺกา อกุสลํ สํวิภชิตุํ. การเณน มํ สฺาเปหิ, นาหํ อนฺโธ อนาโลโก ¶ สุตฺวา เวทิสฺสามี’’ติ. ‘‘อกุสลํ, มหาราช, โถกํ, กุสลํ พหุกํ, โถกตฺตา อกุสลํ กตฺตารํ เยว ปริยาทิยติ, พหุกตฺตา กุสลํ สเทวกํ โลกํ อชฺโฌตฺถรตี’’ติ. ‘‘โอปมฺมํ กโรหี’’ติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปริตฺตํ เอกํ อุทกพินฺทุ ปถวิยํ นิปเตยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, อุทกพินฺทุ ทสปิ ทฺวาทสปิ โยชนานิ อชฺโฌตฺถเรยฺยา’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยตฺถ ตํ อุทกพินฺทุ นิปติตํ, ตตฺเถว ปริยาทิยตี’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, อุทกพินฺทุสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ปริตฺตํ อกุสลํ ปริตฺตตฺตา กตฺตารํ เยว ปริยาทิยติ, น สกฺกา สํวิภชิตุํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหติมหาเมโฆ อภิวสฺเสยฺย ตปฺปยนฺโต ธรณิตลํ, อปิ นุ โข โส, มหาราช, มหาเมโฆ สมนฺตโต โอตฺถเรยฺยา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, ปูรยิตฺวา โส มหาเมโฆ โสพฺภสร สริตสาขากนฺทรปทรทหตฬาก [มาติกาตฬาก (ก.)] อุทปานโปกฺขรณิโย ทสปิ ทฺวาทสปิ โยชนานิ อชฺโฌตฺถเรยฺยา’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘มหนฺตตฺตา, ภนฺเต, เมฆสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, กุสลํ พหุกํ, พหุกตฺตา สกฺกา เทวมนุสฺเสหิปิ สํวิภชิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เกน การเณน อกุสลํ โถกํ กุสลํ ¶ พหุตร’’นฺติ? ‘‘อิธ, มหาราช, โย โกจิ ทานํ เทติ, สีลํ สมาทิยติ, อุโปสถกมฺมํ กโรติ, โส หฏฺโ ปหฏฺโ หสิโต ปมุทิโต ปสนฺนมานโส เวทชาโต โหติ, ตสฺส อปราปรํ ปีติ อุปฺปชฺชติ, ปีติมนสฺส ภิยฺโย ภิยฺโย กุสลํ ปวฑฺฒติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทปาเน พหุสลิลสมฺปุณฺเณ เอเกน เทเสน อุทกํ ปวิเสยฺย, เอเกน นิกฺขเมยฺย, นิกฺขมนฺเตปิ อปราปรํ อุปฺปชฺชติ, น สกฺกา โหติ ขยํ ปาเปตุํ. เอวเมว โข ¶ , มหาราช, กุสลํ ภิยฺโย ภิยฺโย ปวฑฺฒติ. วสฺสสเตปิ เจ, มหาราช, ปุริโส กตํ กุสลํ อาวชฺเชยฺย, อาวชฺชิเต อาวชฺชิเต ภิยฺโย ภิยฺโย กุสลํ ปวฑฺฒติ. ตสฺส ตํ กุสลํ สกฺกา โหติ ยถิจฺฉเกหิ สทฺธึ สํวิภชิตุํ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน กุสลํ พหุตรํ.
‘‘อกุสลํ ¶ ปน, มหาราช, กโรนฺโต ปจฺฉา วิปฺปฏิสารี โหติ, วิปฺปฏิสาริโน จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสารียติ โสจติ ตปฺปติ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ. ยถา, มหาราช, สุกฺขาย นทิยา มหาปุฬินาย อุนฺนตาวนตาย กุฏิลสงฺกุฏิลาย อุปริโต ปริตฺตํ อุทกํ อาคจฺฉนฺตํ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ. เอวเมว โข, มหาราช, อกุสลํ กโรนฺตสฺส จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวตฺตติ น สมฺปสารียติ โสจติ ตปฺปติ หายติ ขียติ น ปริวฑฺฒติ ตตฺเถว ปริยาทิยติ, อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกุสลํ โถก’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ปุพฺพเปตาทิสปฺโห จตุตฺโถ.
๕. สุปินปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อิมสฺมึ โลเก นรนาริโย สุปินํ ปสฺสนฺติ กลฺยาณมฺปิ ปาปกมฺปิ, ทิฏฺปุพฺพมฺปิ อทิฏฺปุพฺพมฺปิ, กตปุพฺพมฺปิ อกตปุพฺพมฺปิ, เขมมฺปิ ¶ สภยมฺปิ, ทูเรปิ สนฺติเกปิ, พหุวิธานิปิ อเนกวณฺณสหสฺสานิ ทิสฺสนฺติ, กิฺเจตํ สุปินํ นาม, โก เจตํ ปสฺสตี’’ติ? ‘‘นิมิตฺตเมตํ, มหาราช, สุปินํ นาม, ยํ จิตฺตสฺส อาปาต [อาปาถ (สี. ปี.)] มุปคจฺฉติ. ฉยิเม, มหาราช, สุปินํ ปสฺสนฺติ, วาติโก สุปินํ ปสฺสติ, ปิตฺติโก สุปินํ ปสฺสติ, เสมฺหิโก สุปินํ ปสฺสติ, เทวตูปสํหารโต สุปินํ ปสฺสติ, สมุทาจิณฺณโต สุปินํ ปสฺสติ, ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, ตตฺร, มหาราช, ยํ ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, ตํ เยว สจฺจํ, อวเสสํ มิจฺฉา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย ปุพฺพนิมิตฺตโต สุปินํ ปสฺสติ, กึ ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, ตํ วา นิมิตฺตํ จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ, อฺโ วา อาคนฺตฺวา ตสฺส ¶ อาโรเจตี’’ติ? ‘‘น, มหาราช, ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ อาคนฺตฺวา ตสฺส อาโรเจติ, อถ โข ตํ เยว นิมิตฺตํ จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ. ยถา, มหาราช, อาทาโส น สยํ กุหิฺจิ คนฺตฺวา ฉายํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ ¶ ฉายํ อาเนตฺวา อาทาสํ อาโรเปติ [อาโรเจติ (ก.)], อถ โข ยโต กุโตจิ ฉายา อาคนฺตฺวา อาทาสสฺส อาปาตมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, น ตสฺส จิตฺตํ สยํ คนฺตฺวา ตํ นิมิตฺตํ วิจินาติ, นาปิ อฺโ โกจิ อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อถ โข ยโต กุโตจิ นิมิตฺตํ อาคนฺตฺวา จิตฺตสฺส อาปาตมุปคจฺฉตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ยํ ตํ จิตฺตํ สุปินํ ปสฺสติ, อปิ นุ ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ? ‘‘น หิ, มหาราช, ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํวิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ, นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน อฺเสํ กเถติ, ตโต เต อตฺถํ กเถนฺตี’’ติ.
‘‘อิงฺฆ, ภนฺเต นาคเสน, การณํ เม ทสฺเสหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, สรีเร ติลกา ปีฬกา ททฺทูนิ อุฏฺหนฺติ ลาภาย วา อลาภาย วา, ยสาย วา อยสาย วา, นินฺทาย ¶ วา ปสํสาย วา, สุขาย วา ทุกฺขาย วา, อปิ นุ ตา, มหาราช, ปีฬกา ชานิตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ ‘อิมํ นาม มยํ อตฺถํ นิปฺผาเทสฺสามา’’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต, ยาทิเส ตา โอกาเส ปีฬกา สมฺภวนฺติ, ตตฺถ ตา ปีฬกา ทิสฺวา เนมิตฺตกา พฺยากโรนฺติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสตี’’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, ยํ ตํ จิตฺตํ สุปินํ ปสฺสติ, น ตํ จิตฺตํ ชานาติ ‘เอวํ นาม วิปาโก ภวิสฺสติ เขมํ วา ภยํ วา’ติ, นิมิตฺเต ปน อุปฺปนฺเน อฺเสํ กเถติ, ตโต เต อตฺถํ กเถนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โย สุปินํ ปสฺสติ, โส นิทฺทายนฺโต, อุทาหุ ชาครนฺโต [ชคฺคนฺโต (สี. ปี.)] ปสฺสตี’’ติ? ‘‘โย โส, มหาราช, สุปินํ ปสฺสติ, น โส นิทฺทายนฺโต ปสฺสติ, นาปิ ชาครนฺโต ปสฺสติ. อปิ จ โอกฺกนฺเต มิทฺเธ อสมฺปตฺเต ภวงฺเค เอตฺถนฺตเร สุปินํ ปสฺสติ. มิทฺธสมารูฬฺหสฺส, มหาราช, จิตฺตํ ภวงฺคคตํ โหติ, ภวงฺคคตํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺตํ จิตฺตํ สุขทุกฺขํ นปฺปชานาติ, อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส สุปิโน น โหติ, ปวตฺตมาเน จิตฺเต สุปินํ ปสฺสติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ติมิเร อนฺธกาเร อปฺปภาเส สุปริสุทฺเธปิ อาทาเส ฉายา น ทิสฺสติ ¶ , เอวเมว โข, มหาราช, มิทฺธสมารูฬฺเห จิตฺเต ภวงฺคคเต ติฏฺมาเนปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, อปฺปวตฺเต จิตฺเต สุปินํ น ปสฺสติ ¶ . ยถา, มหาราช, อาทาโส, เอวํ สรีรํ ทฏฺพฺพํ; ยถา อนฺธกาโร, เอวํ มิทฺธํ ทฏฺพฺพํ; ยถา อาโลโก, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, มหิโกตฺถฏสฺส สูริยสฺส ปภา น ทิสฺสติ สนฺตา เยว สูริยรสฺมิ อปฺปวตฺตา โหติ, อปฺปวตฺตาย สูริยรสฺมิยา อาโลโก น โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, มิทฺธสมารูฬฺหสฺส จิตฺตํ ภวงฺคคตํ โหติ, ภวงฺคคตํ จิตฺตํ นปฺปวตฺตติ, อปฺปวตฺเต จิตฺเต สุปินํ น ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, สูริโย, เอวํ สรีรํ ทฏฺพฺพํ; ยถา มหิโกตฺถรณํ, เอวํ มิทฺธํ ¶ ทฏฺพฺพํ; ยถา สูริยรสฺมิ, เอวํ จิตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ทฺวินฺนํ, มหาราช, สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, มิทฺธสมารูฬฺหสฺส ภวงฺคคตสฺส สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, นิโรธสมาปนฺนสฺส สนฺเตปิ สรีเร จิตฺตํ อปฺปวตฺตํ โหติ, ชาครนฺตสฺส, มหาราช, จิตฺตํ โลลํ โหติ วิวฏํ ปากฏํ อนิพทฺธํ, เอวรูปสฺส จิตฺเต นิมิตฺตํ อาปาตํ น อุเปติ. ยถา, มหาราช, ปุริสํ วิวฏํ ปากฏํ อกิริยํ อรหสฺสํ รหสฺสกามา ปริวชฺเชนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาครนฺตสฺส ทิพฺโพ อตฺโถ อาปาตํ น อุเปติ, ตสฺมา ชาครนฺโต สุปินํ น ปสฺสติ. ยถา วา ปน, มหาราช, ภิกฺขุํ ภินฺนาชีวํ อนาจารํ ปาปมิตฺตํ ทุสฺสีลํ กุสีตํ หีนวีริยํ กุสลา โพธิปกฺขิยา ธมฺมา อาปาตํ น อุเปนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาครนฺตสฺส ทิพฺโพ อตฺโถ อาปาตํ น อุเปติ, ตสฺมา ชาครนฺโต สุปินํ น ปสฺสตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ มิทฺธสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาน’’นฺติ? ‘‘อาม, มหาราช, อตฺถิ มิทฺธสฺส อาทิมชฺฌปริโยสาน’’นฺติ. ‘‘กตมํ อาทิ, กตมํ มชฺฌํ, กตมํ ปริโยสาน’’นฺติ? ‘‘โย, มหาราช, กายสฺส โอนาโห ปริโยนาโห ทุพฺพลฺยํ มนฺทตา อกมฺมฺตา กายสฺส, อยํ มิทฺธสฺส อาทิ; โย, มหาราช, กปินิทฺทาปเรโต โวกิณฺณกํ ชคฺคติ [โวกิณฺณตํ คจฺฉติ (นิสฺย)], อิทํ มิทฺธสฺส มชฺฌํ; ภวงฺคคติ ปริโยสนํ. มชฺฌูปคโต, มหาราช, กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, โกจิ ยตจารี สมาหิตจิตฺโต ิตธมฺโม อจลพุทฺธิ ปหีนโกตูหลสทฺทํ วนมชฺโฌคาหิตฺวา สุขุมํ อตฺถํ จินฺตยติ, น จ โส ตตฺถ มิทฺธํ โอกฺกมติ, โส ตตฺถ สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต สุขุมํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวเมว โข, มหาราช, ชาคโร น มิทฺธสมาปนฺโน ¶ , มชฺฌูปคโต กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ¶ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, โกตูหลสทฺโท, เอวํ ชาครํ ทฏฺพฺพํ; ยถา วิวิตฺตํ วนํ, เอวํ กปินิทฺทาปเรโต ทฏฺพฺโพ ¶ ; ยถา โส โกตูหลสทฺทํ โอหาย มิทฺธํ วิวชฺเชตฺวา มชฺฌตฺตภูโต สุขุมํ อตฺถํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวํ ชาคโร น มิทฺธสมาปนฺโน กปินิทฺทาปเรโต สุปินํ ปสฺสตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
สุปินปฺโห ปฺจโม.
๖. อกาลมรณปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต สตฺตา มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺติ, อุทาหุ อกาเลปิ มรนฺตี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, มหาราช, กาเลปิ มรณํ, อตฺถิ อกาเลปิ มรณ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เก กาเล มรนฺติ, เก อกาเล มรนฺตี’’ติ? ‘‘ทิฏฺปุพฺพา ปน, มหาราช, ตยา อมฺพรุกฺขา วา ชมฺพุรุกฺขา วา, อฺสฺมา วา ปน ผลรุกฺขา ผลานิ ปตนฺตานิ อามานิ จ ปกฺกานิ จา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยานิ ตานิ, มหาราช, ผลานิ รุกฺขโต ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ กาเล เยว ปตนฺติ, อุทาหุ อกาเลปี’’ติ? ‘‘ยานิ ตานิ, ภนฺเต นาคเสน, ผลานิ ปริปกฺกานิ วิลีนานิ ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ กาเล ปตนฺติ. ยานิ ปน ตานิ อวเสสานิ ผลานิ เตสุ กานิจิ กิมิวิทฺธานิ ปตนฺติ, กานิจิ ลคุฬหตานิ [สกุณปหตา (สฺยา.), ลกุฏหตานิ (สี. ปี. ก.)] ปตนฺติ, กานิจิ วาตปฺปหตานิ ปตนฺติ, กานิจิ อนฺโตปูติกานิ หุตฺวา ปตนฺติ, สพฺพานิ ตานิ อกาเล ปตนฺตี’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เย เต ชราเวคหตา มรนฺติ, เต เยว กาเล มรนฺติ, อวเสสา เกจิ กมฺมปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เกจิ คติปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เกจิ กิริยปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต กมฺมปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต คติปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต กิริยปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, เยปิ เต ชราเวคปฺปฏิพาฬฺหา มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺติ, โยปิ มาตุกุจฺฉิคโต มรติ, โส ตสฺส กาโล, กาเล เยว โส มรติ. โยปิ วิชาตฆเร มรติ, โส ตสฺส กาโล ¶ , โสปิ กาเล เยว มรติ. โยปิ มาสิโก ¶ มรติ…เป… โยปิ วสฺสสติโก มรติ, โส ตสฺส กาโล, กาเล เยว โส มรติ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, อกาเล มรณํ นาม น โหติ, เย เกจิ มรนฺติ, สพฺเพ เต กาเล เยว มรนฺตี’’ติ.
‘‘สตฺติเม ¶ , มหาราช, วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรนฺติ. กตเม สตฺต? ชิฆจฺฉิโต, มหาราช, โภชนํ อลภมาโน อุปหตพฺภนฺตโร วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, ปิปาสิโต, มหาราช, ปานียํ อลภมาโน ปริสุกฺขหทโย วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อหินา ทฏฺโ, มหาราช, วิสเวคาภิหโต ติกิจฺฉกํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, วิสมาสิโต, มหาราช, ฑยฺหนฺเตสุ องฺคปจฺจงฺเคสุ อคทํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อคฺคิคโต, มหาราช, ฌายมาโน นิพฺพาปนํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อุทกคโต, มหาราช, ปติฏฺํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, สตฺติหโต, มหาราช, อาพาธิโก ภิสกฺกํ อลภมาโน วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรติ, อิเม โข, มหาราช, สตฺต วิชฺชมาเนปิ อุตฺตรึ อายุสฺมึ อกาเล มรนฺติ. ตตฺราปาหํ, มหาราช, เอกํเสน วทามิ.
‘‘อฏฺวิเธน, มหาราช, สตฺตานํ กาลงฺกิริยา โหติ, วาตสมุฏฺาเนน ปิตฺตสมุฏฺาเนน เสมฺหสมุฏฺาเนน สนฺนิปาติเกน อุตุวิปริณาเมน วิสมปริหาเรน โอปกฺกมิเกน กมฺมวิปาเกน, มหาราช, สตฺตานํ กาลงฺกิริยา โหติ. ตตฺร, มหาราช, ยทิทํ กมฺมวิปาเกน กาลงฺกิริยา, สา เยว ตตฺถ สามยิกา [สามายิกา (ก.)] กาลงฺกิริยา, อวเสสา อสามยิกา กาลงฺกิริยาติ. ภวติ จ –
‘‘‘ชิฆจฺฉาย ปิปาสาย, อหิทฏฺา [อหิทฏฺโ (สี.), อหินา ทฏฺโ (ปี.)] วิเสน จ;
อคฺคิอุทกสตฺตีหิ, อกาเล ตตฺถ มียติ;
วาตปิตฺเตน ¶ เสมฺเหน, สนฺนิปาเตนุตูหิ จ;
วิสโมปกฺกมกมฺเมหิ, อกาเล ตตฺถ มียตี’ติ.
‘‘เกจิ ¶ , มหาราช, สตฺตา ปุพฺเพ กเตน เตน เตน อกุสลกมฺมวิปาเกน มรนฺติ. อิธ, มหาราช, โย ปุพฺเพ ปเร ชิฆจฺฉาย มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ชิฆจฺฉาย ปริปีฬิโต ฉาโต ปริกิลนฺโต สุกฺขมิลาตหทโย พุภุกฺขิโต [สุกฺขิโต (สี. ปี. ก.)] วิสุกฺขิโต ฌายนฺโต อพฺภนฺตรํ ปริฑยฺหนฺโต ชิฆจฺฉาย เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร ปิปาสาย มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ เปโต หุตฺวา นิชฺฌามตณฺหิโก ¶ สมาโน ลูโข กิโส ปริสุกฺขิตหทโย ปิปาสาย เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อหินา ฑํสาเปตฺวา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ อชครมุเขเนว อชครมุขํ กณฺหสปฺปมุเขเนว กณฺหสปฺปมุขํ ปริวตฺติตฺวา เตหิ ขายิตขายิโต อหีหิ ทฏฺโ เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร วิสํ ทตฺวา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ฑยฺหนฺเตหิ องฺคปจฺจงฺเคหิ ภิชฺชมาเนน สรีเรน กุณปคนฺธํ วายนฺโต วิเสเนว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อคฺคินา มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ องฺคารปพฺพเตเนว องฺคารปพฺพตํ ยมวิสเยเนว ยมวิสยํ ปริวตฺติตฺวา ทฑฺฒวิทฑฺฒคตฺโต อคฺคินา เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มลลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร อุทเกน มาเรติ, โส พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ หตวิลุตฺตภคฺคทุพฺพลคตฺโต ขุพฺภิตจิตฺโต [ขุภิตจิตฺโต (สี. ปี.)] อุทเกเนว [อุทเก เยว (พหูสุ)] มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ.
‘‘โย ปุพฺเพ ปเร สตฺติยา มาเรติ, โส ¶ พหูนิ วสฺสสตสหสฺสานิ ฉินฺนภินฺนโกฏฺฏิตวิโกฏฺฏิโต สตฺติมุขสมาหโต สตฺติยา เยว มรติ ทหโรปิ มชฺฌิโมปิ มหลฺลโกปิ, อิทมฺปิ ตสฺส สามยิกมรณํ’’.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อกาเล มรณํ อตฺถีติ ยํ วเทติ, อิงฺฆ เม ตฺวํ ตตฺถ การณํ อติทิสาติ’’. ‘‘ยถา, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ อาทินฺนติณกฏฺสาขาปลาโส ปริยาทินฺนภกฺโข อุปาทานสงฺขยา นิพฺพายติ, โส อคฺคิ วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย นิพฺพุโต นามา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, มหติมหาอคฺคิกฺขนฺโธ อาทินฺนติณกฏฺสาขาปลาโส อสฺส, ตํ อปริยาทินฺเน เยว ติณกฏฺสาขาปลาเส มหติมหาเมโฆ อภิปฺปวสฺสิตฺวา นิพฺพาเปยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, มหาอคฺคิกฺขนฺโธ สมเย นิพฺพุโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม อคฺคิกฺขนฺโธ ปุริมเกน อคฺคิกฺขนฺเธน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, เมเฆน ปฏิปีฬิโต โส อคฺคิกฺขนฺโธ อสมเย นิพฺพุโต’’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา ปิตฺตสมุฏฺาเนน วา เสมฺหสมุฏฺาเนน วา สนฺนิปาติเกน วา อุตุปริณามเชน วา วิสมปริหารเชน วา โอปกฺกมิเกน วา ชิฆจฺฉาย วา ปิปาสาย วา สปฺปทฏฺเน วา วิสมาสิเตน วา อคฺคินา วา อุทเกน วา สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถิ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, คคเน มหติมหาวลาหโก อุฏฺหิตฺวา นินฺนฺจ ถลฺจ ปริปูรยนฺโต อภิวสฺสติ, โส วุจฺจติ ‘เมโฆ อนีติโก อนุปทฺทโว วสฺสตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา ¶ อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, คคเน มหติมหาวลาหโก อุฏฺหิตฺวา อนฺตราเยว มหตา วาเตน อพฺภตฺถํ คจฺเฉยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, มหาวลาหโก สมเย วิคโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม วลาหโก ปุริเมน วลาหเกน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, วาเตน ปฏิปีฬิโต โส วลาหโก อสมยปฺปตฺโต เยว วิคโต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, พลวา อาสีวิโส กุปิโต กิฺจิเทว ปุริสํ ฑํเสยฺย, ตสฺส ตํ วิสํ อนีติกํ อนุปทฺทวํ มรณํ ปาเปยฺย, ตํ วิสํ วุจฺจติ ‘อนีติกมนุปทฺทวํ โกฏิคต’นฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ชีวิตโกฏิคโต สามยิกํ มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, พลวตา อาสีวิเสน ทฏฺสฺส อนฺตราเยว อาหิตุณฺฑิโก อคทํ ทตฺวา อวิสํ กเรยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, วิสํ สมเย วิคตํ นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตํ, มหาราช, ปจฺฉิมํ วิสํ ปุริมเกน วิเสน สมสมคติกํ นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อคเทน ปฏิปีฬิตํ วิสํ อโกฏิคตํ เยว วิคต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิสฺสาโส สรํ ปาเตยฺย, สเจ ¶ โส สโร ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คจฺฉติ, โส สโร วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นามา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ จิรํ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อิสฺสาโส สรํ ปาเตยฺย, ตสฺส ตํ สรํ ตสฺมึ เยว ขเณ โกจิ คณฺเหยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, สโร ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน โส, มหาราช, ปจฺฉิโม สโร ปุริมเกน สเรน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, คหเณน ตสฺส สรสฺส ¶ คมนํ อุปจฺฉินฺน’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โย โกจิ โลหมยํ ภาชนํ อาโกเฏยฺย, ตสฺส อาโกฏเนน สทฺโท นิพฺพตฺติตฺวา ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คจฺฉติ, โส สทฺโท วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นามา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปาคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, โย โกจิ โลหมยํ ภาชนํ อาโกเฏยฺย, ตสฺส อาโกฏเนน สทฺโท นิพฺพตฺเตยฺย, นิพฺพตฺเต สทฺเท อทูรคเต โกจิ อามเสยฺย, สห อามสเนน สทฺโท นิรุชฺเฌยฺย ¶ , อปิ นุ โข โส, มหาราช, สทฺโท ยถาคติคมนปถมตฺถกํ คโต นาม โหตี’’ติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน, มหาราช, ปจฺฉิโม สทฺโท ปุริมเกน สทฺเทน สมสมคติโก นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อามสเนน โส สทฺโท อุปรโต’’ติ ¶ . ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ มหาราช การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เขตฺเต สุวิรูฬฺหํ ธฺพีชํ สมฺมา ปวตฺตมาเนน วสฺเสน โอตตวิตตอากิณฺณพหุผลํ หุตฺวา [อุฏฺิตอากิณฺณพหุผลํ ภวิตฺวา (สฺยา.)] สสฺสุฏฺานสมยํ ปาปุณาติ, ตํ ธฺํ วุจฺจติ ‘อนีติกมนุปทฺทวํ สมยสมฺปตฺตํ นาม โหตี’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ พหูนิ ทิวสสหสฺสานิ ชีวิตฺวา ชราชิณฺโณ อายุกฺขยา อนีติโก อนุปทฺทโว มรติ, โส วุจฺจติ ‘อนีติโก อนุปทฺทโว สมเย มรณมุปคโต’ติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, เขตฺเต สุวิรูฬฺหํ ธฺพีชํ อุทเกน วิกลํ มเรยฺย, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, ธฺํ อสมยสมฺปตฺตํ นาม โหตี’’ติ? ‘‘น ¶ หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน ตํ, มหาราช, ปจฺฉิมํ ธฺํ ปุริมเกน ธฺเน สมสมคติกํ นาโหสี’’ติ? ‘‘อาคนฺตุเกน, ภนฺเต, อุณฺเหน ปฏิปีฬิตํ ตํ ธฺํ มต’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ปน ตยา, มหาราช, ‘สมฺปนฺนตรุณสสฺสํ กิมโย อุฏฺหิตฺวา สมูลํ นาเสนฺตี’’’ติ? ‘‘สุตปุพฺพฺเจว ตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ทิฏฺปุพฺพฺจา’’ติ. ‘‘กึ นุ โข ตํ, มหาราช, สสฺสํ กาเล นฏฺํ, อุทาหุ อกาเล นฏฺ’’นฺติ? ‘‘อกาเล, ภนฺเต, ยทิ โข ตํ, ภนฺเต, สสฺสํ กิมโย น ขาเทยฺยุํ, สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, อาคนฺตุเกน อุปฆาเตน สสฺสํ วินสฺสติ, นิรุปฆาตํ สสฺสํ สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา…เป… สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา มรติ. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถีติ.
‘‘สุตปุพฺพํ ¶ ปน ตยา, มหาราช, ‘สมฺปนฺเน สสฺเส ผลภารนมิเต มฺจริตปตฺเต กรกวสฺสํ นาม วสฺสชาติ นิปติตฺวา วินาเสติ อผลํ กโรตี’ติ? ‘‘สุตปุพฺพฺเจว ตํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ ทิฏฺปุพฺพฺจา’’ติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สสฺสํ กาเล นฏฺํ, อุทาหุ อกาเล นฏฺ’’นฺติ? ‘‘อกาเล, ภนฺเต, ยทิ โข ตํ, ภนฺเต, สสฺสํ กรกวสฺสํ น วสฺเสยฺย สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุเณยฺยา’’ติ. ‘‘กึ ปน, มหาราช, อาคนฺตุเกน อุปฆาเตน สสฺสํ วินสฺสติ, นิรุปฆาตํ สสฺสํ สสฺสุทฺธรณสมยํ ปาปุณาตี’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ อกาเล มรติ, โส อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต วาตสมุฏฺาเนน วา ปิตฺตสมุฏฺาเนน วา เสมฺหสมุฏฺาเนน วา สนฺนิปาติเกน วา อุตุปริณามเชน วา วิสมปริหารเชน วา โอปกฺกมิเกน วา ชิฆจฺฉาย วา ปิปาสาย วา สปฺปทฏฺเน วา วิสมาสิเตน วา อคฺคินา วา อุทเกน วา สตฺติเวคปฺปฏิปีฬิโต วา อกาเล มรติ. ยทิ ปน อาคนฺตุเกน โรเคน ปฏิปีฬิโต น ภเวยฺย, สมเยว มรณํ ปาปุเณยฺย. อิทเมตฺถ, มหาราช, การณํ, เยน การเณน อกาเล มรณํ อตฺถี’’ติ.
‘‘อจฺฉริยํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อพฺภุตํ ภนฺเต นาคเสน, สุทสฺสิตํ การณํ, สุทสฺสิตํ โอปมฺมํ อกาเล มรณสฺส ปริทีปนาย, ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ อุตฺตานีกตํ ปากฏํ กตํ วิภูตํ กตํ, อจิตฺตวิกฺขิตฺตโกปิ, ภนฺเต นาคเสน, มนุโช เอกเมเกนปิ ตาว โอปมฺเมน นิฏฺํ คจฺเฉยฺย ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ ¶ , กึ ปน มนุโช สเจตโน? ปโมปมฺเมเนวาหํ, ภนฺเต, สฺตฺโต ‘อตฺถิ อกาเล มรณ’นฺติ, อปิ จ อปราปรํ นิพฺพาหนํ โสตุกาโม น สมฺปฏิจฺฉิ’’นฺติ.
อกาลมรณปฺโห ฉฏฺโ.
๗. เจติยปาฏิหาริยปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, สพฺเพสํ ปรินิพฺพุตานํ เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, อุทาหุ เอกจฺจานํ เยว โหตี’’ติ? ‘‘เอกจฺจานํ, มหาราช, โหติ, เอกจฺจานํ น โหตี’’ติ. ‘‘กตเมสํ, ภนฺเต, โหติ, กตเมสํ น โหตี’’ติ? ‘‘ติณฺณนฺนํ, มหาราช, อฺตรสฺส อธิฏฺานา ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ. กตเมสํ ติณฺณนฺนํ? อิธ, มหาราช, อรหา เทวมนุสฺสานํ อนุกมฺปาย ¶ ติฏฺนฺโตว อธิฏฺาติ ‘เอวํนาม เจติเย ปาฏิหีรํ โหตู’ติ, ตสฺส อธิฏฺานวเสน เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, เอวํ อรหโต อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เทวตา มนุสฺสานํ อนุกมฺปาย ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ ทสฺเสนฺติ ‘อิมินา ปาฏิหีเรน สทฺธมฺโม นิจฺจสมฺปคฺคหิโต ภวิสฺสติ, มนุสฺสา จ ปสนฺนา กุสเลน อภิวฑฺฒิสฺสนฺตี’ติ, เอวํ เทวตานํ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิตฺถี วา ปุริโส วา สทฺโธ ปสนฺโน ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี พุทฺธิสมฺปนฺโน โยนิโส จินฺตยิตฺวา คนฺธํ วา มาลํ วา ทุสฺสํ วา อฺตรํ วา กิฺจิ อธิฏฺหิตฺวา เจติเย อุกฺขิปติ ‘เอวํนาม โหตู’ติ, ตสฺสปิ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ, เอวํ มนุสฺสานํ อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘อิเมสํ ¶ โข, มหาราช, ติณฺณนฺนํ อฺตรสฺส อธิฏฺานวเสน ปรินิพฺพุตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ โหติ.
‘‘ยทิ, มหาราช, เตสํ อธิฏฺานํ น โหติ, ขีณาสวสฺสปิ ฉฬภิฺสฺส เจโตวสิปฺปตฺตสฺส เจติเย ปาฏิหีรํ น โหติ, อสติปิ ¶ , มหาราช, ปาฏิหีเร จริตํ ทิสฺวา สุปริสุทฺธํ โอกปฺเปตพฺพํ นิฏฺํ คนฺตพฺพํ สทฺทหิตพฺพํ ‘สุปรินิพฺพุโต อยํ พุทฺธปุตฺโต’’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เจติยปาฏิหาริยปฺโห สตฺตโม.
๘. ธมฺมาภิสมยปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ เยว ธมฺมาภิสมโย โหติ, อุทาหุ กสฺสจิ น โหตี’’ติ? ‘‘กสฺสจิ, มหาราช, โหติ, กสฺสจิ น โหตี’’ติ. ‘‘กสฺส ภนฺเต โหติ, กสฺส น โหตี’’ติ? ‘‘ติรจฺฉานคตสฺส, มหาราช, สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย ¶ น โหติ, เปตฺติวิสยูปปนฺนสฺส…เป… มิจฺฉาทิฏฺิกสฺส…เป… กุหกสฺส…เป… มาตุฆาตกสฺส…เป… ปิตุฆาตกสฺส…เป… อรหนฺตฆาตกสฺส…เป… สงฺฆเภทกสฺส…เป… โลหิตุปฺปาทกสฺส…เป… เถยฺยสํวาสกสฺส…เป… ติตฺถิยปกฺกนฺตสฺส…เป… ภิกฺขุนิทูสกสฺส…เป… เตรสนฺนํ ครุกาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปชฺชิตฺวา อวุฏฺิตสฺส…เป… ปณฺฑกสฺส…เป… อุภโตพฺยฺชนกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ…เป… โยปิ มนุสฺสทหรโก อูนกสตฺตวสฺสิโก, ตสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ. อิเมสํ โข, มหาราช, โสฬสนฺนํ ปุคฺคลานํ สุปฺปฏิปนฺนานมฺปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, เย เต ปนฺนรส ปุคฺคลา วิรุทฺธา เยว, เตสํ ธมฺมาภิสมโย โหตุ วา มา วา โหตุ, อถ เกน การเณน มนุสฺสทหรกสฺส อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ? เอตฺถ ตาว ปฺโห ภวติ ‘นนุ นาม ทหรกสฺส น ราโค โหติ, น โทโส โหติ, น โมโห โหติ, น มาโน โหติ, น มิจฺฉาทิฏฺิ โหติ, น อรติ โหติ, น กามวิตกฺโก โหติ, อมิสฺสิโต กิเลเสหิ, โส นาม ทหรโก ยุตฺโต จ ปตฺโต จ อรหติ จ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวเธน ปฏิวิชฺฌิตุ’’’นฺติ.
‘‘ตฺเเวตฺถ ¶ , มหาราช, การณํ, เยนาหํ การเณน ภณามิ ¶ ‘อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’ติ. ยทิ, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิโก รชนีเย รชฺเชยฺย, ทุสฺสนีเย ทุสฺเสยฺย, โมหนีเย มุยฺเหยฺย, มทนีเย มชฺเชยฺย, ทิฏฺึ วิชาเนยฺย, รติฺจ อรติฺจ วิชาเนยฺย, กุสลากุสลํ วิตกฺเกยฺย, ภเวยฺย ตสฺส ธมฺมาภิสมโย, อปิ จ, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ครุกา ภาริกา วิปุลา มหตี. อูนกสตฺตวสฺสิโก, มหาราช, เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ ครุกํ ภาริกํ วิปุลํ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ.
‘‘ยถา, มหาราช, สิเนรุปพฺพตราชา ครุโก ภาริโก วิปุโล มหนฺโต, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, ปุริโส อตฺตโน ปากติเกน ถามพลวีริเยน สกฺกุเณยฺย สิเนรุปพฺพตราชานํ อุทฺธริตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘ทุพฺพลตฺตา, ภนฺเต, ปุริสสฺส, มหนฺตตฺตา สิเนรุปพฺพตราชสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ¶ ครุกา ภาริกา วิปุลา มหตี. อูนกสตฺตวสฺสิโก เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺเตน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ ครุกํ ภาริกํ วิปุลํ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อยํ มหาปถวี ทีฆา อายตา ปุถุลา วิตฺถตา วิสาลา วิตฺถิณฺณา วิปุลา มหนฺตา, อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, มหาปถวึ สกฺกา ปริตฺตเกน อุทกพินฺทุเกน เตเมตฺวา อุทกจิกฺขลฺลํ กาตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, อุทกพินฺทุสฺส, มหนฺตตฺตา มหาปถวิยา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ¶ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ ทีฆา อายตา ปุถุลา วิตฺถตา วิสาลา วิตฺถิณฺณา วิปุลา มหนฺตา. อูนกสตฺตวสฺสิโก เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ¶ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อพลทุพฺพลปริตฺตอปฺปโถกมนฺทคฺคิ ภเวยฺย, อปิ นุ โข, มหาราช, ตาวตเกน มนฺเทน อคฺคินา สกฺกา สเทวเก โลเก อนฺธการํ วิธมิตฺวา อาโลกํ ทสฺเสตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน มหาราชา’’ติ? ‘‘มนฺทตฺตา, ภนฺเต, อคฺคิสฺส, โลกสฺส มหนฺตตฺตา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, มหตา จ อวิชฺชนฺธกาเรน ปิหิตํ. ตสฺมา ทุกฺกรํ าณาโลกํ ทสฺสยิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อาตุโร กิโส อณุปริมิตกาโย สาลกกิมิ หตฺถินาคํ ติธา ปภินฺนํ นวายตํ ติวิตฺถตํ ทสปริณาหํ อฏฺรตนิกํ สกฏฺานมุปคตํ ทิสฺวา คิลิตุํ ปริกฑฺเฒยฺย, อปิ นุ โข โส, มหาราช, สาลกกิมิ สกฺกุเณยฺย ตํ หตฺถินาคํ คิลิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เกน การเณน, มหาราชา’’ติ? ‘‘ปริตฺตตฺตา, ภนฺเต, สาลกกิมิสฺส, มหนฺตตฺตา หตฺถินาคสฺสา’’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส จิตฺตํ อพลํ ทุพฺพลํ ปริตฺตํ อปฺปํ โถกํ มนฺทํ อวิภูตํ, มหตี อสงฺขตา นิพฺพานธาตุ. โส เตน ทุพฺพเลน จิตฺเตน ปริตฺตเกน มนฺเทน อวิภูเตน น สกฺโกติ มหตึ อสงฺขตํ นิพฺพานธาตุํ ¶ ปฏิวิชฺฌิตุํ, เตน การเณน อูนกสตฺตวสฺสิกสฺส สุปฺปฏิปนฺนสฺสาปิ ธมฺมาภิสมโย น โหตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
ธมฺมาภิสมยปฺโห อฏฺโม.
๙. เอกนฺตสุขนิพฺพานปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, กึ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, อุทาหุ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘เอกนฺตสุขํ, มหาราช, นิพฺพานํ, ทุกฺเขน อมิสฺส’’นฺติ.
‘‘น มยํ ตํ, ภนฺเต นาคเสน, วจนํ สทฺทหาม ‘เอกนฺตสุขํ นิพฺพาน’นฺติ, เอวเมตฺถ มยํ, ภนฺเต นาคเสน, ปจฺเจม ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’นฺติ, การณฺเจตฺถ อุปลภาม ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’นฺติ. กตมํ เอตฺถ การณํ ¶ ? เย เต, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เตสํ ทิสฺสติ กายสฺส จ จิตฺตสฺส จ อาตาโป ปริตาโป านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารปริคฺคโห มิทฺธสฺส จ อุปโรโธ อายตนานฺจ ปฏิปีฬนํ ธนธฺปิยาติมิตฺตปฺปชหนํ. เย เกจิ โลเก สุขิตา สุขสมปฺปิตา, เต สพฺเพปิ ปฺจหิ กามคุเณหิ อายตเน รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกพหุวิธสุภนิมิตฺเตน รูเปน จกฺขุํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกคีตวาทิตพหุวิธสุภนิมิตฺเตน สทฺเทน โสตํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกปุปฺผผลปตฺตตจมูลสารพหุวิธสุภนิมิตฺเตน คนฺเธน ฆานํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกขชฺชโภชฺชเลยฺยเปยฺยสายนียพหุวิธสุภนิมิตฺเตน รเสน ชิวฺหํ รเมนฺติ พฺรุเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกสณฺหสุขุมมุทุมทฺทวพหุวิธสุภนิมิตฺเตน ผสฺเสน กายํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ, มนาปิกมนาปิกกลฺยาณปาปกสุภาสุภพหุวิธวิตกฺกมนสิกาเรน มนํ รเมนฺติ พฺรูเหนฺติ. ตุมฺเห ตํ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายมโนพฺรูหนํ หนถ อุปหนถ, ฉินฺทถ อุปจฺฉินฺทถ, รุนฺธถ อุปรุนฺธถ. เตน กาโยปิ ปริตปติ, จิตฺตมฺปิ ปริตปติ, กาเย ปริตตฺเต กายิกทุกฺขเวทนํ เวทิยติ, จิตฺเต ปริตตฺเต เจตสิกทุกฺขเวทนํ เวทยติ. นนุ มาคณฺฑิโยปิ [มาคนฺทิโยปิ (สี. ปี.)] ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ ครหมาโน เอวมาห ¶ ‘ภูนหุ [ภูตหจฺโจ (ปี.), ภูนหจฺโจ (ก.)] สมโณ โคตโม’ติ. อิทเมตฺถ การณํ, เยนาหํ การเณน พฺรูมิ ‘นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺส’’’นฺติ.
‘‘น หิ, มหาราช, นิพฺพานํ ทุกฺเขน มิสฺสํ, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ. ยํ ปน ตฺวํ, มหาราช ¶ , พฺรูสิ ‘นิพฺพานํ ทุกฺข’นฺติ, เนตํ ทุกฺขํ นิพฺพานํ นาม, นิพฺพานสฺส ปน สจฺฉิกิริยาย ปุพฺพภาโค เอโส, นิพฺพานปริเยสนํ เอตํ, เอกนฺตสุขํ เยว, มหาราช, นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เอตฺถ การณํ วทามิ. อตฺถิ, มหาราช, ราชูนํ รชฺชสุขํ นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถิ ราชูนํ รชฺชสุข’’นฺติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, รชฺชสุขํ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, ราชาโน ปจฺจนฺเต กุปิเต เตสํ ปจฺจนฺตนิสฺสิตานํ ปฏิเสธาย อมจฺเจหิ ปริณายเกหิ ภเฏหิ พลตฺเถหิ ปริวุตา ปวาสํ คนฺตฺวา ฑํสมกสวาตาตปปฏิปีฬิตา สมวิสเม ปริธาวนฺติ, มหายุทฺธฺจ กโรนฺติ, ชีวิตสํสยฺจ ปาปุณนฺตี’’ติ? ‘‘เนตํ, ภนฺเต นาคเสน, รชฺชสุขํ นาม, รชฺชสุขสฺส ปริเยสนาย ปุพฺพภาโค เอโส, ทุกฺเขน, ภนฺเต นาคเสน, ราชาโน ¶ รชฺชํ ปริเยสิตฺวา รชฺชสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ, ภนฺเต นาคเสน, รชฺชสุขํ ทุกฺเขน อมิสฺสํ, อฺํ ตํ รชฺชสุขํ, อฺํ ทุกฺข’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เย ปน ตํ นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เต กายฺจ จิตฺตฺจ อาตาเปตฺวา านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารํ ปริคฺคเหตฺวา มิทฺธํ อุปรุนฺธิตฺวา อายตนานิ ปฏิปีเฬตฺวา กายฺจ ชีวิตฺจ ปริจฺจชิตฺวา ทุกฺเขน นิพฺพานํ ปริเยสิตฺวา เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ อนุภวนฺติ, นิหตปจฺจามิตฺตา วิย ราชาโน รชฺชสุขํ. เอวํ, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ นิพฺพานํ, อฺํ ทุกฺขนฺติ.
‘‘อปรมฺปิ ¶ , มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ ทุกฺขํ, อฺํ นิพฺพานนฺติ. อตฺถิ, มหาราช, อาจริยานํ สิปฺปวนฺตานํ สิปฺปสุขํ นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถิ อาจริยานํ สิปฺปวนฺตานํ สิปฺปสุข’’นฺติ. ‘‘อปิ นุ โข ตํ, มหาราช, สิปฺปสุขํ ทุกฺเขน มิสฺส’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กิสฺส ปน เต, มหาราช, อาจริยา [อิทํ ปทํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] อาจริยานํ อภิวาทนปจฺจุฏฺาเนน อุทกาหรณฆรสมฺมชฺชนทนฺตกฏฺมุโขทกานุปฺปทาเนน อุจฺฉิฏฺปฏิคฺคหณอุจฺฉาทนนหาปนปาทปริกมฺเมน สกจิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา ปรจิตฺตานุวตฺตเนน ทุกฺขเสยฺยาย วิสมโภชเนน กายํ อาตาเปนฺตี’’ติ? ‘‘เนตํ, ภนฺเต นาคเสน, สิปฺปสุขํ นาม, สิปฺปปริเยสนาย ปุพฺพภาโค เอโส, ทุกฺเขน, ภนฺเต นาคเสน, อาจริยา สิปฺปํ ปริเยสิตฺวา สิปฺปสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ, ภนฺเต นาคเสน, สิปฺปสุขํ ทุกฺเขน อมิสฺสํ, อฺํ ตํ สิปฺปสุขํ, อฺํ ทุกฺข’’นฺติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ. เย ปน ตํ นิพฺพานํ ปริเยสนฺติ, เต กายฺจ จิตฺตฺจ อาตาเปตฺวา านจงฺกมนิสชฺชาสยนาหารํ ปริคฺคเหตฺวา มิทฺธํ อุปรุนฺธิตฺวา อายตนานิ ปฏิปีเฬตฺวา กายฺจ ชีวิตฺจ ปริจฺจชิตฺวา ทุกฺเขน นิพฺพานํ ปริเยสิตฺวา ¶ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ อนุภวนฺติ, อาจริยา วิย สิปฺปสุขํ. เอวํ, มหาราช, เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น ทุกฺเขน มิสฺสํ, อฺํ ทุกฺขํ, อฺํ นิพฺพาน’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
เอกนฺตสุขนิพฺพานปฺโห นวโม.
๑๐. นิพฺพานรูปสณฺานปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นิพฺพานํ นิพฺพาน’นฺติ ยํ วเทสิ, สกฺกา ปน ตสฺส นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา ¶ วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ? ‘‘อปฺปฏิภาคํ, มหาราช, นิพฺพานํ, น สกฺกา นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘เอตมฺปาหํ, ภนฺเต นาคเสน, น สมฺปฏิจฺฉามิ, ยํ อตฺถิธมฺมสฺส นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อปฺาปนํ, การเณน มํ สฺาเปหี’’ติ. ‘‘โหตุ, มหาราช, การเณน ตํ สฺาเปสฺสามิ. อตฺถิ, มหาราช, มหาสมุทฺโท นามา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺเถโส มหาสมุทฺโท’’ติ. ‘‘สเจ ตํ, มหาราช, โกจิ เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิตฺตกํ, มหาราช, มหาสมุทฺเท อุทกํ, กติ ปน เต สตฺตา, เย มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’ติ, เอวํ ปุฏฺโ ตฺวํ, มหาราช, กินฺติ ตสฺส พฺยากเรยฺยาสี’’ติ? ‘‘สเจ มํ, ภนฺเต, โกจิ เอวํ ปุจฺเฉยฺย ‘กิตฺตกํ, มหาราช, มหาสมุทฺเท อุทกํ, กติ ปน เต สตฺตา, เย มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’ติ, ตมหํ, ภนฺเต, เอวํ วเทยฺยํ ‘อปุจฺฉิตพฺพํ มํ ตฺวํ อมฺโภ ปุริส ปุจฺฉสิ, เนสา ปุจฺฉา เกนจิ ปุจฺฉิตพฺพา, ปนีโย เอโส ปฺโห. อวิภตฺโต โลกกฺขายิเกหิ มหาสมุทฺโท, น สกฺกา มหาสมุทฺเท อุทกํ ปริมินิตุํ สตฺตา วา เย ตตฺถ วาสมุปคตาติ เอวาหํ ภนฺเต ตสฺส ปฏิวจนํ ทเทยฺย’’’นฺติ.
‘‘กิสฺส ปน, ตฺวํ มหาราช, อตฺถิธมฺเม มหาสมุทฺเท เอวํ ปฏิวจนํ ทเทยฺยาสิ, นนุ วิคเณตฺวา [มินิตฺวา (ก.)] ตสฺส อาจิกฺขิตพฺพํ ‘เอตฺตกํ มหาสมุทฺเท อุทกํ, เอตฺตกา จ สตฺตา มหาสมุทฺเท ปฏิวสนฺตี’’ติ? ‘‘น สกฺกา, ภนฺเต, อวิสโย เอโส ปฺโห’’ติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, อตฺถิธมฺเม เยว มหาสมุทฺเท น สกฺกา อุทกํ ปริคเณตุํ [ปริมินิตุํ (ก.)] สตฺตา วา เย ตตฺถ วาสมุปคตา, เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา ¶ การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ, วิคเณยฺย, มหาราช, อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต มหาสมุทฺเท อุทกํ ตตฺราสเย ¶ จ สตฺเต, น ตฺเวว โส อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต สกฺกุเณยฺย นิพฺพานสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ.
‘‘อปรมฺปิ, มหาราช, อุตฺตรึ การณํ สุโณหิ, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุนฺติ. อตฺถิ, มหาราช, เทเวสุ อรูปกายิกา นาม เทวา’’ติ. ‘‘อาม, ภนฺเต, สุยฺยติ ‘อตฺถิ เทเวสุ อรูปกายิกา นาม เทวา’’’ติ. ‘‘สกฺกา ปน, มหาราช, เตสํ อรูปกายิกานํ เทวานํ รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ? ‘‘น หิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ, มหาราช, นตฺถิ อรูปกายิกา เทวา’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, อรูปกายิกา เทวา, น จ สกฺกา เตสํ รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อตฺถิสตฺตานํ เยว อรูปกายิกานํ เทวานํ น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิธมฺมสฺเสว นิพฺพานสฺส น สกฺกา รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โหตุ เอกนฺตสุขํ นิพฺพานํ, น จ สกฺกา ตสฺส รูปํ วา สณฺานํ วา วยํ วา ปมาณํ วา โอปมฺเมน วา การเณน วา เหตุนา วา นเยน วา อุปทสฺสยิตุํ. อตฺถิ ปน, ภนฺเต, นิพฺพานสฺส คุณํ อฺเหิ อนุปวิฏฺํ กิฺจิ โอปมฺมนิทสฺสนมตฺต’’นฺติ? ‘‘สรูปโต, มหาราช, นตฺถิ, คุณโต ปน สกฺกา กิฺจิ โอปมฺมนิทสฺสนมตฺตํ ¶ อุปทสฺสยิตุ’’นฺติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ยถาหํ ลภามิ นิพฺพานสฺส คุณโตปิ เอกเทสปริทีปนมตฺตํ, ตถา สีฆํ พฺรูหิ, นิพฺพาเปหิ เม หทยปริฬาหํ วินย สีตลมธุรวจนมาลุเตนา’’ติ.
‘‘ปทุมสฺส, มหาราช, เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ, อุทกสฺส ทฺเว คุณา, อคทสฺส ตโย ¶ คุณา, มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา, โภชนสฺส ปฺจ คุณา, อากาสสฺส ทส คุณา, มณิรตนสฺส ตโย คุณา ¶ , โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา, สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา, คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’ติ ยํ วเทสิ, กตโม ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพกิเลเสหิ อนุปลิตฺตํ. อยํ, มหาราช, ปทุมสฺส เอโก คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุทกํ สีตลํ ปริฬาหนิพฺพาปนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สีตลํ สพฺพกิเลสปริฬาหนิพฺพาปนํ. อยํ, มหาราช, อุทกสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อุทกํ กิลนฺตตสิตปิปาสิตฆมฺมาภิตตฺตานํ ชนปสุปชานํ ปิปาสาวินยนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กามตณฺหาภวตณฺหาวิภวตณฺหาปิปาสาวินยนํ. อยํ, มหาราช, อุทกสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, อุทกสฺส ทฺเว คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ ¶ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อคโท วิสปีฬิตานํ สตฺตานํ ปฏิสรณํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กิเลสวิสปีฬิตานํ สตฺตานํ ปฏิสรณํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อคโท โรคานํ อนฺตกโร, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพทุกฺขานํ อนฺตกรํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, อคโท อมตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อมตํ. อยํ, มหาราช, อคทสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, อคทสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท สฺุโ สพฺพกุณเปหิ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , นิพฺพานํ สฺุํ สพฺพกิเลสกุณเปหิ. อยํ, มหาราช ¶ , มหาสมุทฺทสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺโต อโนรปาโร, น ปริปูรติ สพฺพสวนฺตีหิ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ มหนฺตํ อโนรปารํ, น ปูรติ สพฺพสตฺเตหิ. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺตานํ ภูตานํ อาวาโส, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ มหนฺตานํ อรหนฺตานํ วิมลขีณาสวพลปฺปตฺตวสีภูตมหาภูตานํ อาวาโส. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท อปริมิตวิวิธวิปุลวีจิปุปฺผสํกุสุมิโต, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อปริมิตวิวิธวิปุลปริสุทฺธวิชฺชาวิมุตฺติปุปฺผสํกุสุมิตํ. อยํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส จตฺตาโร คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อายุธารณํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ ชรามรณนาสนโต อายุธารณํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ พลวฑฺฒนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ อิทฺธิพลวฑฺฒนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ วณฺณชนนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ คุณวณฺณชนนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ ทรถวูปสมนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ สพฺพกิเลสทรถวูปสมนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปฏิวิโนทนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ สพฺพสตฺตานํ สพฺพทุกฺขชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปฏิวิโนทนํ. อยํ, มหาราช, โภชนสฺส ปฺจโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, โภชนสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อากาโส น ชายติ, น ชียติ, น มียติ, น จวติ, น อุปฺปชฺชติ, ทุปฺปสโห, อโจราหรโณ, อนิสฺสิโต, วิหคคมโน, นิราวรโณ, อนนฺโต. เอวเมว ¶ โข, มหาราช, นิพฺพานํ น ชายติ, น ชียติ ¶ , น มียติ, น จวติ, น อุปฺปชฺชติ, ทุปฺปสหํ, อโจราหรณํ, อนิสฺสิตํ, อริยคมนํ, นิราวรณํ, อนนฺตํ. อิเม โข, มหาราช, อากาสสฺส ทส คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มณิรตนํ กามททํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ กามททํ. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ หาสกรํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ หาสกรํ. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ อุชฺโชตตฺตกรํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อุชฺโชตตฺตกรํ [อุชฺโชตตฺถกรํ (สี. ปี.), อุชฺโชติตตฺถกรํ (สฺยา.)]. อยํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, มณิรตนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ ทุลฺลภํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ ทุลฺลภํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ อสมสุคนฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อสมสุคนฺธํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนํ สชฺชนปสตฺถํ [สพฺพชนปสตฺถํ (สฺยา.)], เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อริยสชฺชนปสตฺถํ. อยํ, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, โลหิตจนฺทนสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ วณฺณสมฺปนฺโน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ คุณวณฺณสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ คนฺธสมฺปนฺโน, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สีลคนฺธสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺปิมณฺโฑ รสสมฺปนฺโน, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, นิพฺพานํ รสสมฺปนฺนํ. อยํ, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. อิเม โข, มหาราช, สปฺปิมณฺฑสฺส ตโย คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’ติ ยํ วเทสิ, กตเม คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, คิริสิขรํ อจฺจุคฺคตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อจฺจุคตํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ อจลํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อจลํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ทุติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ ทุรธิโรหํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ ทุรธิโรหํ สพฺพกิเลสานํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ตติโย คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ สพฺพพีชานํ อวิรูหนํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ สพฺพกิเลสานํ อวิรูหนํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส จตุตฺโถ คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ. ปุน จปรํ, มหาราช, คิริสิขรํ อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตํ, เอวเมว โข, มหาราช, นิพฺพานํ อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตํ. อยํ, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปฺจโม คุโณ นิพฺพานํ อนุปวิฏฺโ ¶ . อิเม โข, มหาราช, คิริสิขรสฺส ปฺจ คุณา นิพฺพานํ อนุปวิฏฺา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานรูปสณฺานปฺโห ทสโม.
๑๑. นิพฺพานสจฺฉิกรณปฺโห
๑๑. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ตุมฺเห ภณถ ‘นิพฺพานํ น อตีตํ, น อนาคตํ, น ปจฺจุปฺปนฺนํ, น อุปฺปนฺนํ น อนุปฺปนฺนํ น อุปฺปาทนีย’นฺติ. อิธ, ภนฺเต นาคเสน, โย โกจิ สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, อุทาหุ อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘โย โกจิ, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ, โส น อุปฺปนฺนํ สจฺฉิกโรติ, น อุปฺปาเทตฺวา สจฺฉิกโรติ, อปิ จ, มหาราช, อตฺเถสา นิพฺพานธาตุ, ยํ โส สมฺมาปฏิปนฺโน สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘มา, ภนฺเต นาคเสน, อิมํ ปฺหํ ปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา ทีเปหิ, วิวฏํ ปากฏํ กตฺวา ทีเปหิ ¶ ฉนฺทชาโต อุสฺสาหชาโต, ยํ เต สิกฺขิตํ, ตํ สพฺพํ เอตฺเถวากิราหิ, เอตฺถายํ ชโน สมฺมูฬฺโห วิมติชาโต สํสยปกฺขนฺโท, ภินฺเทตํ อนฺโตโทสสลฺล’’นฺติ. ‘‘อตฺเถสา, มหาราช, นิพฺพานธาตุ สนฺตา สุขา ปณีตา, ตํ สมฺมาปฏิปนฺโน ชินานุสิฏฺิยา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต ปฺาย สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, อนฺเตวาสิโก อาจริยานุสิฏฺิยา วิชฺชํ ปฺาย สจฺฉิกโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน ชินานุสิฏฺิยา ปฺาย นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘กถํ ปน ตํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพนฺติ? อนีติโต นิรุปทฺทวโต อภยโต เขมโต สนฺตโต สุขโต สาตโต ปณีตโต สุจิโต สีตลโต ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส พหุกฏฺปฺุเชน ชลิตกฏฺิเตน อคฺคินา ทยฺหมาโน วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา นิรคฺคิโกกาสํ ¶ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตติวิธคฺคิสนฺตาปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, อคฺคิ, เอวํ ติวิธคฺคิ ทฏฺพฺโพ; ยถา อคฺคิคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา นิรคฺคิโกกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส อหิกุกฺกุรมนุสฺสกุณปสรีรวฬฺชโกฏฺาสราสิคโต กุณปชฏาชฏิตนฺตรมนุปวิฏฺโ วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา นิกฺกุณโปกาสํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสกุณปํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, กุณปํ, เอวํ ปฺจ กามคุณา ทฏฺพฺพา; ยถา กุณปคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา นิกฺกุณโปกาโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ปุริโส ภีโต ตสิโต กมฺปิโต วิปรีตวิพฺภนฺตจิตฺโต วายาเมน ตโต มฺุจิตฺวา ทฬฺหํ ถิรํ อจลํ อภยฏฺานํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตภยสนฺตาสํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, ภยํ, เอวํ ชาติชราพฺยาธิมรณํ ปฏิจฺจ อปราปรํ ปวตฺตภยํ ทฏฺพฺพํ; ยถา ภีโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา อภยฏฺานํ, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ยถา ¶ วา ปน, มหาราช, ปุริโส กิลิฏฺมลินกลลกทฺทมเทเส ปติโต วายาเมน ตํ กลลกทฺทมํ อปวาเหตฺวา ปริสุทฺธวิมลเทสมุปคนฺตฺวา ตตฺถ ปรมสุขํ ลเภยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โย สมฺมาปฏิปนฺโน, โส โยนิโส มนสิกาเรน พฺยปคตกิเลสมลกทฺทมํ ปรมสุขํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, กลลํ, เอวํ ลาภสกฺการสิโลโก ¶ ทฏฺพฺโพ; ยถา กลลคโต ปุริโส, เอวํ สมฺมาปฏิปนฺโน ทฏฺพฺโพ; ยถา ปริสุทฺธวิมลเทโส, เอวํ นิพฺพานํ ทฏฺพฺพํ.
‘‘ตฺจ ปน นิพฺพานํ สมฺมาปฏิปนฺโน กินฺติ สจฺฉิกโรติ? โย โส, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน, โส สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติ. ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาตึ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธึ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ. โส ตตฺถ กิฺจิ น คยฺหูปคํ ปสฺสติ. ยถา, มหาราช, ปุริโส ทิวสสนฺตตฺเต อโยคุเฬ ชลิเต ตตฺเต กิเต อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปเทสํ ปสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โย สงฺขารานํ ปวตฺตํ สมฺมสติ, โส ปวตฺตํ สมฺมสมาโน ตตฺถ ชาตึ ปสฺสติ ชรํ ปสฺสติ พฺยาธึ ปสฺสติ มรณํ ปสฺสติ, น ตตฺถ กิฺจิ สุขํ สาตํ ปสฺสติ อาทิโตปิ มชฺฌโตปิ ปริโยสานโตปิ. โส ตตฺถ [อิทํ ปททฺวยํ สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] น กิฺจิ คยฺหูปคํ ปสฺสติ, ตสฺส คยฺหูปคํ ¶ อปสฺสนฺตสฺส จิตฺเต อรติ สณฺาติ, กายสฺมึ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส ชลิตชาลํ มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ ปวิเสยฺย, โส ตตฺถ อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต อคฺคิมฺหิ นิพฺพินฺเทยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, ตสฺส คยฺหูปคํ อปสฺสนฺตสฺส จิตฺเต อรติ สณฺาติ, กายสฺมึ ฑาโห โอกฺกมติ, โส อตาโณ อสรโณ อสรณีภูโต ภเวสุ นิพฺพินฺทติ.
‘‘ตสฺส ปวตฺเต ภยทสฺสาวิสฺส เอวํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ ‘สนฺตตฺตํ โข ปเนตํ ปวตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ พหุทุกฺขํ พหูปายาสํ, ยทิ โกจิ ลเภถ อปฺปวตฺตํ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’นฺติ. อิติ เหตํ [หิตํ (สี.), หิ อิทํ (ปี.)] ตสฺส อปฺปวตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ¶ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)]‘ปฏิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติ.
‘‘ยถา, มหาราช, ปุริโส วิปฺปนฏฺโ วิเทสปกฺขนฺโท นิพฺพาหนมคฺคํ ทิสฺวา ตตฺถ ปกฺขนฺทติ ¶ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)] ‘ปฏิลทฺโธ เม นิพฺพาหนมคฺโค’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, ปวตฺเต ภยทสฺสาวิสฺส อปฺปวตฺเต จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ ปสีทติ ปหํสยติ ตุสยติ [ปหํสียติ กุหียติ (สี. ปี.)] ‘ปฏิลทฺธํ โข เม นิสฺสรณ’นฺติ.
‘‘โส อปฺปวตฺตตฺถาย มคฺคํ อายูหติ คเวสติ ภาเวติ พหุลีกโรติ, ตสฺส ตทตฺถํ สติ สนฺติฏฺติ, ตทตฺถํ วีริยํ สนฺติฏฺติ, ตทตฺถํ ปีติ สนฺติฏฺติ, ตสฺส ตํ จิตฺตํ อปราปรํ มนสิกโรโต ปวตฺตํ สมติกฺกมิตฺวา อปฺปวตฺตํ โอกฺกมติ, อปฺปวตฺตมนุปฺปตฺโต, มหาราช, สมฺมาปฏิปนฺโน ‘นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’ติ วุจฺจตี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เอวเมตํ ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานสจฺฉิกรณปฺโห เอกาทสโม.
๑๒. นิพฺพานสนฺนิหิตปฺโห
๑๒. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, อตฺถิ โส ปเทโส ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา, ยตฺถ นิพฺพานํ สนฺนิหิต’’นฺติ? ‘‘นตฺถิ, มหาราช, โส ปเทโส ปุรตฺถิมาย วา ทิสาย ทกฺขิณาย วา ทิสาย ปจฺฉิมาย วา ทิสาย อุตฺตราย วา ทิสาย อุทฺธํ วา อโธ วา ติริยํ วา, ยตฺถ นิพฺพานํ สนฺนิหิต’’นฺติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส, เตน หิ นตฺถิ นิพฺพานํ? เยสฺจ ตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, เตสมฺปิ สจฺฉิกิริยา มิจฺฉา, การณํ ตตฺถ วกฺขามิ, ยถา, ภนฺเต นาคเสน, มหิยา ธฺุฏฺานํ เขตฺตํ อตฺถิ, คนฺธุฏฺานํ ปุปฺผํ อตฺถิ, ปุปฺผุฏฺานํ คุมฺโพ อตฺถิ, ผลุฏฺานํ รุกฺโข อตฺถิ, รตนุฏฺานํ อากโร อตฺถิ, ตตฺถ โย โกจิ ยํ ยํ อิจฺฉติ, โส ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ตํ หรติ, เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ ¶ นิพฺพานํ อตฺถิ, ตสฺส นิพฺพานสฺส อุฏฺาโนกาโสปิ อิจฺฉิตพฺโพ, ยสฺมา จ โข, ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส อุฏฺาโนกาโส นตฺถิ, ตสฺมา นตฺถิ นิพฺพานนฺติ พฺรูมิ, เยสฺจ นิพฺพานํ สจฺฉิกตํ, เตสมฺปิ สจฺฉิกิริยา มิจฺฉา’’ติ.
‘‘นตฺถิ ¶ , มหาราช, นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส, อตฺถิ เจตํ นิพฺพานํ, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา ปน, มหาราช, อตฺถิ อคฺคิ นาม, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, ทฺเว กฏฺานิ สงฺฆฏฺเฏนฺโต อคฺคึ อธิคจฺฉติ. เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อตฺถิ สตฺต รตนานิ นาม. เสยฺยถิทํ, จกฺกรตนํ หตฺถิรตนํ อสฺสรตนํ มณิรตนํ อิตฺถิรตนํ คหปติรตนํ ปริณายกรตนํ. น จ เตสํ รตนานํ สนฺนิหิโตกาโส อตฺถิ, ขตฺติยสฺส ปน สมฺมาปฏิปนฺนสฺส ปฏิปตฺติพเลน ตานิ รตนานิ อุปคจฺฉนฺติ. เอวเมว โข, มหาราช, อตฺถิ นิพฺพานํ, นตฺถิ ตสฺส สนฺนิหิโตกาโส, สมฺมาปฏิปนฺโน โยนิโส มนสิกาเรน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, นิพฺพานสฺส สนฺนิหิโตกาโส มา โหตุ, อตฺถิ ปน ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘อาม, มหาราช ¶ , อตฺถิ ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ.
‘‘กตมํ ปน, ภนฺเต, ตํ านํ, ยตฺถ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตี’’ติ? ‘‘สีลํ, มหาราช, านํ, สีเล ปติฏฺิโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต สกฺกยวเนปิ จีนวิลาเตปิ อลสนฺเทปิ นิคุมฺเพปิ [นิกุมฺเพปิ (สี. สฺยา. ปี.)] กาสิโกสเลปิ กสฺมีเรปิ คนฺธาเรปิ นคมุทฺธนิปิ พฺรหฺมโลเกปิ ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ยถา, มหาราช, โย โกจิ จกฺขุมา ¶ ปุริโส สกยวเนปิ จีนวิลาเตปิ อลสนฺเทปิ นิคุมฺเพปิ กาสิโกสเลปิ กสฺมีเรปิ คนฺธาเรปิ นคมุทฺธนิปิ พฺรหฺมโลเกปิ ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต อากาสํ ปสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, สีเล ปติฏฺิโต โยนิโส มนสิกโรนฺโต สกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิโต สมฺมาปฏิปนฺโน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, สกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิตสฺส ปุพฺพทิสา อตฺถิ, เอวเมว โข, มหาราช, สีเล ปติฏฺิตสฺส โยนิโส มนสิกโรนฺตสฺส สกฺกยวเนปิ…เป… ยตฺถ กตฺถจิปิ ิตสฺส สมฺมาปฏิปนฺนสฺส อตฺถิ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, เทสิตํ ตยา นิพฺพานํ, เทสิตา นิพฺพานสจฺฉิกิริยา, ปริกฺขตา สีลคุณา, ทสฺสิตา สมฺมาปฏิปตฺติ, อุสฺสาปิโต ธมฺมทฺธโช, สณฺปิตา ¶ ธมฺมเนตฺติ, อวฺโฌ สุปฺปยุตฺตานํ สมฺมาปโยโค, เอวเมตํ คณิวรปวร ตถา สมฺปฏิจฺฉามี’’ติ.
นิพฺพานสนฺนิหิตปฺโห ทฺวาทสโม.
เวสฺสนฺตรวคฺโค ตติโย.
อิมสฺมึ วคฺเค ทฺวาทส ปฺหา.
๔. อนุมานวคฺโค
๑. อนุมานปฺโห
๑. อถ ¶ ¶ ¶ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา าตุกาโม โสตุกาโม ธาเรตุกาโม าณาโลกํ ทฏฺุกาโม อฺาณํ ภินฺทิตุกาโม าณาโลกํ อุปฺปาเทตุกาโม อวิชฺชนฺธการํ นาเสตุกาโม อธิมตฺตํ ธิติฺจ อุสฺสาหฺจ สติฺจ สมฺปชฺฺจ อุปฏฺเปตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, กึ ปน พุทฺโธ ตยา ทิฏฺโ’’ติ. ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘กึ ปน เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘น หิ, มหาราชา’’ติ. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, น กิร ตยา พุทฺโธ ทิฏฺโ, นาปิ กิร เต อาจริเยหิ พุทฺโธ ทิฏฺโ, เตน หิ, ภนฺเต นาคเสน, นตฺถิ พุทฺโธ, น เหตฺถ พุทฺโธ ปฺายตี’’ติ.
‘‘อตฺถิ ปน เต, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา, เย เต ตว ขตฺติยวํสสฺส ปุพฺพงฺคมา’’ติ? ‘‘อาม, ภนฺเต. โก สํสโย, อตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา, เย มม ขตฺติยวํสสฺส ปุพฺพงฺคมา’’ติ. ‘‘ทิฏฺปุพฺพา ตยา, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘เย ปน ตํ, มหาราช, อนุสาสนฺติ ปุโรหิตา เสนาปติโน อกฺขทสฺสา มหามตฺตา, เตหิ ปุพฺพกา ขตฺติยา ทิฏฺปุพฺพา’’ติ? ‘‘น หิ ภนฺเต’’ติ. ‘‘ยทิ ปน เต, มหาราช, ปุพฺพกา ขตฺติยา น ทิฏฺา, นาปิ กิร เต อนุสาสเกหิ ปุพฺพกา ขตฺติยา ทิฏฺา, เตน หิ นตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา, น เหตฺถ ปุพฺพกา ขตฺติยา ปฺายนฺตี’’ติ.
‘‘ทิสฺสนฺติ, ภนฺเต นาคเสน, ปุพฺพกานํ ขตฺติยานํ อนุภูตานิ ปริโภคภณฺฑานิ. เสยฺยถิทํ, เสตจฺฉตฺตํ ¶ อุณฺหีสํ ปาทุกา วาลพีชนี ขคฺครตนํ มหารหานิ จ สยนานิ. เยหิ มยํ ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม ‘อตฺถิ ปุพฺพกา ขตฺติยา’ติ. ‘‘เอวเมว โข, มหาราช, มยมฺเปตํ ¶ ภควนฺตํ ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม. อตฺถิ ตํ การณํ, เยน มยํ การเณน ชาเนยฺยาม สทฺทเหยฺยาม ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ. กตมํ ตํ การณํ? อตฺถิ โข, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อนุภูตานิ ปริโภคภณฺฑานิ. เสยฺยถิทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ¶ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เยหิ สเทวโก โลโก ชานาติ สทฺทหติ ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ. อิมินา, มหาราช, การเณน อิมินา เหตุนา อิมินา นเยน อิมินา อนุมาเนน าตพฺโพ ‘อตฺถิ โส ภควา’ติ.
‘‘‘พหู ชเน ตารยิตฺวา, นิพฺพุโต อุปธิกฺขเย;
อนุมาเนน าตพฺพํ, อตฺถิ โส ทฺวิปทุตฺตโม’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, โอปมฺมํ กโรหี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, นครวฑฺฒกี นครํ มาเปตุกาโม ปมํ ตาว สมํ อนุนฺนตมโนนตํ อสกฺขรปาสาณํ นิรุปทฺทวมนวชฺชํ รมณียํ ภูมิภาคํ อนุวิโลเกตฺวา ยํ ตตฺถ วิสมํ, ตํ สมํ การาเปตฺวา ขาณุกณฺฏกํ วิโสธาเปตฺวา ตตฺถ นครํ มาเปยฺย โสภนํ วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ อุกฺกิณฺณปริขาปาการํ ทฬฺหโคปุรฏฺฏาลโกฏฺฏกํ ปุถุจจฺจรจตุกฺกสนฺธิสิงฺฆาฏกํ สุจิสมตลราชมคฺคํ สุวิภตฺตอนฺตราปณํ อารามุยฺยานตฬากโปกฺขรณิอุทปานสมฺปนฺนํ พหุวิธเทวฏฺานปฺปฏิมณฺฑิตํ สพฺพโทสวิรหิตํ, โส ตสฺมึ นคเร สพฺพถา เวปุลฺลตฺตํ ปตฺเต อฺํ เทสํ อุปคจฺเฉยฺย, อถ ตํ นครํ อปเรน สมเยน อิทฺธํ ภเวยฺย ผีตํ สุภิกฺขํ ¶ เขมํ สมิทฺธํ สิวํ อนีติกํ นิรุปทฺทวํ นานาชนสมากุลํ, ปุถู ขตฺติยา พฺราหฺมณา เวสฺสา สุทฺทา หตฺถาโรหา อสฺสาโรหา รถิกา ปตฺติกา ธนุคฺคหา ถรุคฺคหา เจลกา จลกา ปิณฺฑทายกา อุคฺคา ราชปุตฺตา ปกฺขนฺทิโน มหานาคา สูรา วมฺมิโน โยธิโน ทาสิกปุตฺตา ภฏิปุตฺตา [ทาสปุตฺตา ภฏฺฏิปุตฺตา (สี. ปี.)] มลฺลกา คณกา อาฬาริกา สูทา กปฺปกา นหาปกา จุนฺทา มาลาการา สุวณฺณการา สชฺฌุการา สีสการา ติปุการา โลหการา วฏฺฏการา อโยการา มณิการา เปสการา กุมฺภการา เวณุการา โลณการา จมฺมการา รถการา ทนฺตการา รชฺชุการา โกจฺฉการา สุตฺตการา วิลีวการา ธนุการา ชิยการา อุสุการา จิตฺตการา รงฺคการา รชกา ตนฺตวายา ตุนฺนวายา เหรฺิกา ทุสฺสิกา คนฺธิกา ติณหารกา กฏฺหารกา ภตกา ปณฺณิกา ผลิกา [ผลฺลิกา (สี. ปี.)] มูลิกา โอทนิกา ปูวิกา มจฺฉิกา มํสิกา มชฺชิกา นฏกา นจฺจกา ลงฺฆกา อินฺทชาลิกา เวตาลิกา มลฺลา ¶ ฉวฑาหกา ปุปฺผฉฑฺฑกา เวนา เนสาทา คณิกา ลาสิกา กุมฺภทาสิโย สกฺกยวนจีนวิลาตา อุชฺเชนกา ภารุกจฺฉกา กาสิโกสลา ปรนฺตกา มาคธกา สาเกตกา โสเรยฺยกา [โสรฏฺกา (สี. ปี.)] ปาเวยฺยกา โกฏุมฺพรมาถุรกา อลสนฺทกสฺมีรคนฺธารา ตํ นครํ วาสาย ¶ อุปคตา นานาวิสยิโน ชนา นวํ สุวิภตฺตํ อโทสมนวชฺชํ รมณียํ ตํ นครํ ปสฺสิตฺวา อนุมาเนน ชานนฺติ ‘เฉโก วต โภ โส นครวฑฺฒกี, โย อิมสฺส นครสฺส มาเปตา’ติ. เอวเมว โข, มหาราช, โส ภควา อสโม อสมสโม อปฺปฏิสโม อสทิโส อตุโล อสงฺขฺเยโย อปฺปเมยฺโย อปริเมยฺโย อมิตคุโณ คุณปารมิปฺปตฺโต อนนฺตธิติ อนนฺตเตโช อนนฺตวีริโย อนนฺตพโล พุทฺธพลปารมึ คโต ¶ สเสนมารํ ปราเชตฺวา ทิฏฺิชาลํ ปทาเลตฺวา อวิชฺชํ เขเปตฺวา วิชฺชํ อุปฺปาเทตฺวา ธมฺมุกฺกํ ธารยิตฺวา สพฺพฺุตํ ปาปุณิตฺวา วิชิตสงฺคาโม ธมฺมนครํ มาเปสิ.
‘‘ภควโต โข, มหาราช, ธมฺมนครํ สีลปาการํ หิริปริขํ าณทฺวารโกฏฺกํ วีริยอฏฺฏาลกํ สทฺธาเอสิกํ สติโทวาริกํ ปฺาปาสาทํ สุตฺตนฺตจจฺจรํ อภิธมฺมสิงฺฆาฏกํ วินยวินิจฺฉยํ สติปฏฺานวีถิกํ, ตสฺส โข ปน, มหาราช, สติปฏฺานวีถิยํ เอวรูปา อาปณา ปสาริตา โหนฺติ. เสยฺยถีทํ, ปุปฺผาปณํ คนฺธาปณํ ผลาปณํ อคทาปณํ โอสธาปณํ อมตาปณํ รตนาปณํ สพฺพาปณ’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต ปุปฺผาปณ’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ โข ปน, มหาราช, เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน อารมฺมณวิภตฺติโย อกฺขาตา. เสยฺยถีทํ, อนิจฺจสฺา ทุกฺขสฺา อนตฺตสฺา อสุภสฺา อาทีนวสฺา ปหานสฺา วิราคสฺา นิโรธสฺา สพฺพโลเก อนภิรติสฺา สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจสฺา อานาปานสฺสติ อุทฺธุมาตกสฺา วินีลกสฺา วิปุพฺพกสฺา วิจฺฉิทฺทกสฺา วิกฺขายิตกสฺา วิกฺขิตฺตกสฺา หตวิกฺขิตฺตกสฺา โลหิตกสฺา ปุฬวกสฺา อฏฺิกสฺา เมตฺตาสฺา กรุณาสฺา มุทิตาสฺา อุเปกฺขาสฺา มรณานุสฺสติ กายคตาสติ, อิเม โข, มหาราช, พุทฺเธน ภควตา อารมฺมณวิภตฺติโย อกฺขาตา. ตตฺถ โย โกจิ ชรามรณา มุจฺจิตุกาโม, โส เตสุ อฺตรํ ¶ อารมฺมณํ คณฺหาติ, เตน อารมฺมเณน ราคา วิมุจฺจติ, โทสา วิมุจฺจติ, โมหา วิมุจฺจติ, มานโต วิมุจฺจติ, ทิฏฺิโต วิมุจฺจติ, สํสารํ ตรติ, ตณฺหาโสตํ นิวาเรติ, ติวิธํ มลํ วิโสเธติ, สพฺพกิเลเส อุปหนฺตฺวา อมลํ วิรชํ สุทฺธํ ปณฺฑรํ อชาตึ ¶ อชรํ อมรํ สุขํ สีติภูตํ อภยํ นครุตฺตมํ นิพฺพานนครํ ปวิสิตฺวา อรหตฺเต จิตฺตํ วิโมเจติ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต ปุปฺผาปณ’นฺติ.
‘‘‘กมฺมมูลํ ¶ คเหตฺวาน, อาปณํ อุปคจฺฉถ;
อารมฺมณํ กิณิตฺวาน, ตโต มุจฺจถ มุตฺติยา’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธาปณ’’นฺติ? ‘‘อตฺถิ โข ปน, มหาราช, เตน ภควตา สีลวิภตฺติโย อกฺขาตา, เยน สีลคนฺเธน อนุลิตฺตา ภควโต ปุตฺตา สเทวกํ โลกํ สีลคนฺเธน ธูเปนฺติ สมฺปธูเปนฺติ, ทิสมฺปิ อนุทิสมฺปิ อนุวาตมฺปิ ปฏิวาตมฺปิ วายนฺติ อติวายนฺติ, ผริตฺวา ติฏฺนฺติ. กตมา ตา สีลวิภตฺติโย? สรณสีลํ ปฺจงฺคสีลํ อฏฺงฺคสีลํ ทสงฺคสีลํ ปฺจุทฺเทสปริยาปนฺนํ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต คนฺธาปณ’นฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘น ปุปฺผคนฺโธ ปฏิวาตเมติ, น จนฺทนํ ตคฺครมลฺลิกา วา;
สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมติ, สพฺพา ทิสา สปฺปุริโส ปวายติ [ปวาติ (สี. ปี.) ธ. ป. ๕๔ ปสฺสิตพฺพํ].
‘‘‘จนฺทนํ ตครํ วาปิ, อุปฺปลํ อถ วสฺสิกี;
เอเตสํ คนฺธชาตานํ, สีลคนฺโธ อนุตฺตโร.
‘‘‘อปฺปมตฺโต อยํ คนฺโธ, ยฺวายํ ตครจนฺทนํ;
โย จ สีลวตํ คนฺโธ, วาติ เทเวสุ อุตฺตโม’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต ผลาปณ’’นฺติ? ‘‘ผลานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ. เสยฺยถีทํ, โสตาปตฺติผลํ สกทาคามิผลํ อนาคามิผลํ อรหตฺตผลํ สฺุตผลสมาปตฺติ อนิมิตฺตผลสมาปตฺติ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺติ ¶ . ตตฺถ โย โกจิ ยํ ¶ ผลํ อิจฺฉติ, โส กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตํ ผลํ กิณาติ. ยทิ โสตาปตฺติผลํ, ยทิ สกทาคามิผลํ, ยทิ อนาคามิผลํ, ยทิ อรหตฺตผลํ, ยทิ สฺุตผลสมาปตฺตึ, ยทิ อนิมิตฺตผลสมาปตฺตึ, ยทิ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺตึ. ยถา, มหาราช, กสฺสจิ ปุริสสฺส ธุวผโล อมฺโพ ภเวยฺย, โส น ตาว ตโต ผลานิ ปาเตติ, ยาว กยิกา น อาคจฺฉนฺติ, อนุปฺปตฺเต ปน กยิเก มูลํ คเหตฺวา เอวํ อาจิกฺขติ ‘อมฺโภ ปุริส เอโส โข ธุวผโล อมฺโพ, ตโต ยํ อิจฺฉสิ, เอตฺตกํ ผลํ คณฺหาหิ สลาฏุกํ วา โทวิลํ วา เกสิกํ วา อามํ วา ปกฺกํ วา’ติ, โส เตน อตฺตนา ทินฺนมูเลน ยทิ สลาฏุกํ อิจฺฉติ, สลาฏุกํ คณฺหาติ, ยทิ โทวิลํ อิจฺฉติ, โทวิลํ คณฺหาติ, ยทิ เกสิกํ อิจฺฉติ, เกสิกํ คณฺหาติ, ยทิ ¶ อามกํ อิจฺฉติ, อามกํ คณฺหาติ, ยทิ ปกฺกํ อิจฺฉติ, ปกฺกํ คณฺหาติ. เอวเมว โข, มหาราช, โย ยํ ผลํ อิจฺฉติ, โส กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตํ ผลํ คณฺหาติ, ยทิ โสตาปตฺติผลํ…เป… ยทิ อปฺปณิหิตผลสมาปตฺตึ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต ผลาปณ’นฺติ.
‘‘‘กมฺมมูลํ ชนา ทตฺวา, คณฺหนฺติ อมตมฺผลํ;
เตน เต สุขิตา โหนฺติ, เย กีตา อมตปฺผล’’’นฺติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต อคทาปณ’’นฺติ? ‘‘อคทานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ อคเทหิ โส ภควา สเทวกํ โลกํ กิเลสวิสโต ปริโมเจติ. กตมานิ ปน ตานิ อคทานิ? ยานิมานิ, มหาราช, ภควตา จตฺตาริ อริยสจฺจานิ อกฺขาตานิ. เสยฺยถีทํ, ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ทุกฺขสมุทยํ อริยสจฺจํ ทุกฺขนิโรธํ อริยสจฺจํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ, ตตฺถ เย เกจิ อฺาเปกฺขา จตุสจฺจํ ธมฺมํ สุณนฺติ, เต ชาติยา ปริมุจฺจนฺติ ¶ , ชราย ปริมุจฺจนฺติ, มรณา ปริมุจฺจนฺติ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจนฺติ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต อคทาปณ’นฺติ.
‘‘‘เย เกจิ อคทา โลเก [โลเก อคทา (ปี.)], วิสานํ ปฏิพาหกา;
ธมฺมาคทสมํ นตฺถิ, เอตํ ปิวถ ภิกฺขโว’’’ติ.
‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต โอสธาปณ’’นฺติ? ‘‘โอสธานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ โอสเธหิ โส ภควา เทวมนุสฺเส ติกิจฺฉติ. เสยฺยถีทํ, จตฺตาโร สติปฏฺานา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, เอเตหิ โอสเธหิ ภควา มิจฺฉาทิฏฺึ วิเรเจติ, มิจฺฉาสงฺกปฺปํ วิเรเจติ, มิจฺฉาวาจํ วิเรเจติ, มิจฺฉากมฺมนฺตํ วิเรเจติ, มิจฺฉาอาชีวํ วิเรเจติ, มิจฺฉาวายามํ วิเรเจติ, มิจฺฉาสตึ วิเรเจติ, มิจฺฉาสมาธึ วิเรเจติ, โลภวมนํ กาเรติ, โทสวมนํ กาเรติ, โมหวมนํ กาเรติ, มานวมนํ กาเรติ, ทิฏฺิวมนํ กาเรติ, วิจิกิจฺฉาวมนํ กาเรติ, อุทฺธจฺจวมนํ กาเรติ, ถินมิทฺธวมนํ กาเรติ, อหิริกาโนตฺตปฺปวมนํ กาเรติ, สพฺพกิเลสวมนํ กาเรติ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต โอสธาปณ’นฺติ.
‘‘‘เย ¶ เกจิ โอสธา โลเก, วิชฺชนฺติ วิวิธา พหู;
ธมฺโมสธสมํ นตฺถิ, เอตํ ปิวถ ภิกฺขโว.
‘‘‘ธมฺโมสธํ ปิวิตฺวาน, อชรามรณา สิยุํ;
ภาวยิตฺวา จ ปสฺสิตฺวา, นิพฺพุตา อุปธิกฺขเย’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต อมตาปณ’’นฺติ? ‘‘อมตํ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตํ, เยน อมเตน โส ภควา สเทวกํ โลกํ อภิสิฺจิ ¶ , เยน อมเตน อภิสิตฺตา เทวมนุสฺสา ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจึสุ. กตมํ ตํ อมตํ? ยทิทํ กายคตาสติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘อมตํ เต, ภิกฺขเว, ปริภฺุชนฺติ, เย กายคตาสตึ ปริภฺุชนฺตี’ติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต อมตาปณ’นฺติ.
‘‘‘พฺยาธิตํ ชนตํ ทิสฺวา, อมตาปณํ ปสารยิ;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, อมตํ อาเทถ ภิกฺขโว’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต รตนาปณ’’นฺติ? ‘‘รตนานิ โข, มหาราช, ภควตา อกฺขาตานิ, เยหิ รตเนหิ วิภูสิตา ภควโต ปุตฺตา สเทวกํ โลกํ วิโรจนฺติ โอภาเสนฺติ ปภาเสนฺติ ชลนฺติ ปชฺชลนฺติ อุทฺธํ อโธ ติริยํ อาโลกํ ทสฺเสนฺติ. กตมานิ ตานิ ¶ รตนานิ? สีลรตนํ สมาธิรตนํ ปฺารตนํ วิมุตฺติรตนํ วิมุตฺติาณทสฺสนรตนํ ปฏิสมฺภิทารตนํ โพชฺฌงฺครตนํ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต สีลรตนํ? ปาติโมกฺขสํวรสีลํ อินฺทฺริยสํวรสีลํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ จูฬสีลํ มชฺฌิมสีลํ มหาสีลํ มคฺคสีลํ ผลสีลํ. สีลรตเนน โข, มหาราช, วิภูสิตสฺส ปุคฺคลสฺส สเทวโก โลโก สมารโก สพฺรหฺมโก สสฺสมณพฺราหฺมณี ปชา ปิหยติ ปตฺเถติ, สีลรตนปิฬนฺโธ โข, มหาราช, ภิกฺขุ ทิสมฺปิ อนุทิสมฺปิ อุทฺธมฺปิ อโธปิ ติริยมฺปิ วิโรจติ อติวิโรจติ [อติโรจติ (สี. ปี.)], เหฏฺโต อวีจึ อุปริโต ภวคฺคํ อุปาทาย เอตฺถนฺตเร สพฺพรตนานิ อติกฺกมิตฺวา [อติสยิตฺวา (สี. ปี.)] อภิภวิตฺวา อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, เอวรูปานิ โข, มหาราช, สีลรตนานิ ภควโต รตนาปเณ ปสาริตานิ, อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต สีลรตน’นฺติ.
‘‘‘เอวรูปานิ ¶ ¶ สีลานิ, สนฺติ พุทฺธสฺส อาปเณ;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, รตนํ โว ปิฬนฺธถา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต สมาธิรตนํ? สวิตกฺกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธิ, อวิตกฺกอวิจาโร สมาธิ, สฺุโต สมาธิ, อนิมิตฺโต สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิ. สมาธิรตนํ โข, มหาราช, ปิฬนฺธสฺส ภิกฺขุโน เย เต กามวิตกฺกพฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกมานุทฺธจฺจทิฏฺิวิจิกิจฺฉากิเลสวตฺถูนิ วิวิธานิ จ กุวิตกฺกานิ, เต สพฺเพ สมาธึ อาสชฺช วิกิรนฺติ วิธมนฺติ วิทฺธํสนฺติ น สณฺนฺติ [น สณฺหนฺติ (สี.)] น อุปลิมฺปนฺติ [น อุปลิปฺปนฺติ (สี. ปี.)]. ยถา, มหาราช, วาริ โปกฺขรปตฺเต วิกิรติ วิธมติ วิทฺธํสติ น สณฺาติ น อุปลิมฺปติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริสุทฺธตฺตา ปทุมสฺส. เอวเมว โข, มหาราช, สมาธิรตนํ ปิฬนฺธสฺส ภิกฺขุโน เย เต กามวิตกฺกพฺยาปาทวิตกฺกวิหึสาวิตกฺกมานุทฺธจฺจ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉากิเลสวตฺถูนิ วิวิธานิ จ กุวิตกฺกานิ, เต สพฺเพ สมาธึ อาสชฺช วิกิรนฺติ วิธมนฺติ วิทฺธํสนฺติ น สณฺนฺติ น อุปลิมฺปนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ปริสุทฺธตฺตา สมาธิสฺส. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต สมาธิรตน’นฺติ, เอวรูปานิ โข, มหาราช, สมาธิรตนานิ ภควโต รตนาปเณ ปสาริตานิ.
‘‘‘สมาธิรตนมาลสฺส ¶ , กุวิตกฺกา น ชายเร;
น จ วิกฺขิปเต จิตฺตํ, เอตํ ตุมฺเห ปิฬนฺธถา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต ปฺารตนํ? ยาย, มหาราช, ปฺาย อริยสาวโก ‘อิทํ กุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ อกุสล’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ สาวชฺชํ, อิทํ อนวชฺชํ, อิทํ เสวิตพฺพํ, อิทํ น เสวิตพฺพํ, อิทํ หีนํ, อิทํ ปณีตํ, อิทํ กณฺหํ, อิทํ ¶ สุกฺกํ, อิทํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาค’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ วุจฺจติ มหาราช ‘ภควโต ปฺารตน’นฺติ.
‘‘‘ปฺารตนมาลสฺส, น จิรํ วตฺตเต ภโว;
ขิปฺปํ ผสฺเสติ [ผุสฺเสติ (สฺยา.), ปสฺสติ (ก.)] อมตํ, น จ โส โรจเต ภเว’ติ.
‘‘กตมํ ¶ , มหาราช, ภควโต วิมุตฺติรตนํ’’? ‘‘วิมุตฺติรตนํ [วิมุตฺติรตนนฺติ (สี. ปี.)] โข, มหาราช, อรหตฺตํ วุจฺจติ, อรหตฺตํ ปตฺโต โข, มหาราช, ภิกฺขุ ‘วิมุตฺติรตนํ ปิฬนฺโธ’ติ วุจฺจติ. ยถา, มหาราช, ปุริโส มุตฺตากลาปมณิกลาปปวาฬกลาปาภรณปฺปฏิมณฺฑิโต [ปวาฬาภรณปฏิปณฺฑิโต (สี. ปี.)] อคลุตครตาลีสกโลหิตจนฺทนานุลิตฺตคตฺโต นาคปุนฺนาคสาลสลฬจมฺปกยูถิกาติมุตฺตกปาฏลุปฺปลวสฺสิกมลฺลิกาวิจิตฺโต เสสชเน อติกฺกมิตฺวา วิโรจติ อติวิโรจติ โอภาสติ ปภาสติ สมฺปภาสติ ชลติ ปชฺชลติ อภิภวติ อชฺโฌตฺถรติ มาลาคนฺธรตนาภรเณหิ, เอวเมว โข, มหาราช, อรหตฺตํ ปตฺโต ขีณาสโว วิมุตฺติรตนปิฬนฺโธ อุปาทายุปาทาย วิมุตฺตานํ ภิกฺขูนํ อติกฺกมิตฺวา สมติกฺกมิตฺวา วิโรจติ อติวิโรจติ โอภาสติ ปภาสติ สมฺปภาสติ ชลติ ปชฺชลติ อภิภวติ อชฺโฌตฺถรติ วิมุตฺติยา. ตํ กิสฺส เหตุ? อคฺคํ, มหาราช, เอตํ ปิฬนฺธนํ สพฺพปิฬนฺธนานํ, ยทิทํ วิมุตฺติปิฬนฺธนํ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต วิมุตฺติรตน’นฺติ.
‘‘‘มณิมาลาธรํ เคห, ชโน [เคหํ, ชโน (ก.)] สามึ อุทิกฺขติ;
วิมุตฺติรตนมาลนฺตุ, อุทิกฺขนฺติ สเทวกา’ติ.
‘‘กตมํ ¶ มหาราช, ภควโต วิมุตฺติาณทสฺสนรตนํ? ปจฺจเวกฺขณาณํ, มหาราช, ภควโต วิมุตฺติาณทสฺสนรตนนฺติ ¶ วุจฺจติ, เยน าเณน อริยสาวโก มคฺคผลนิพฺพานานิ ปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลเส จ ปจฺจเวกฺขติ.
‘‘‘เย าเณน พุชฺฌนฺติ, อริยา กตกิจฺจตํ;
ตํ าณรตนํ ลทฺธุํ, วายเมถ ชิโนรสา’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต ปฏิสมฺภิทารตนํ? จตสฺโส โข, มหาราช, ปฏิสมฺภิทาโย อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ. อิเมหิ โข, มหาราช, จตูหิ ปฏิสมฺภิทารตเนหิ สมลงฺกโต ภิกฺขุ ยํ ยํ ปริสํ อุปสงฺกมติ, ยทิ ขตฺติยปริสํ, ยทิ พฺราหฺมณปริสํ, ยทิ คหปติปริสํ, ยทิ สมณปริสํ, วิสารโท อุปสงฺกมติ อมงฺกุภูโต อภีรุ อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี วิคตโลมหํโส ปริสํ อุปสงฺกมติ.
‘‘ยถา, มหาราช, โยโธ สงฺคามสูโร สนฺนทฺธปฺจาวุโธ อจฺฉมฺภิโต [อสมฺภีโต (สี. ปี.)] สงฺคามํ โอตรติ, ‘สเจ ¶ อมิตฺตา ทูเร ภวิสฺสนฺติ อุสุนา ปาตยิสฺสามิ, ตโต โอรโต ภวิสฺสนฺติ สตฺติยา ปหริสฺสามิ, ตโต โอรโต ภวิสฺสนฺติ กณเยน ปหริสฺสามิ, อุปคตํ สนฺตํ มณฺฑลคฺเคน ทฺวิธา ฉินฺทิสฺสามิ, กายูปคตํ ฉุริกาย วินิวิชฺฌิสฺสามี’ติ [วิชฺฌิสฺสามีติ (สี.)], เอวเมว โข, มหาราช, จตุปฏิสมฺภิทารตนมณฺฑิโต ภิกฺขุ อจฺฉมฺภิโต ปริสํ อุปสงฺกมติ. โย โกจิ มํ อตฺถปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส อตฺเถน อตฺถํ กถยิสฺสามิ, การเณน การณํ กถยิสฺสามิ, เหตุนา เหตุํ กถยิสฺสามิ, นเยน นยํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณน.
‘‘โย โกจิ มํ ธมฺมปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส ธมฺเมน ธมฺมํ กถยิสฺสามิ, อมเตน อมตํ กถยิสฺสามิ, อสงฺขเตน อสงฺขตํ กถยิสฺสามิ, นิพฺพาเนน นิพฺพานํ กถยิสฺสามิ, สฺุเตน สฺุตํ กถยิสฺสามิ ¶ , อนิมิตฺเตน อนิมิตฺตํ กถยิสฺสามิ, อปฺปณิหิเตน อปฺปณิหิตํ กถยิสฺสามิ, อเนเชน อเนชํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหาเวยฺยากรเณน.
‘‘โย ¶ โกจิ มํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส นิรุตฺติยา นิรุตฺตึ กถยิสฺสามิ, ปเทน ปทํ กถยิสฺสามิ, อนุปเทน อนุปทํ กถยิสฺสามิ, อกฺขเรน อกฺขรํ กถยิสฺสามิ, สนฺธิยา สนฺธึ กถยิสฺสามิ, พฺยฺชเนน พฺยฺชนํ กถยิสฺสามิ, อนุพฺยฺชเนน อนุพฺยฺชนํ กถยิสฺสามิ, วณฺเณน วณฺณํ กถยิสฺสามิ, สเรน สรํ กถยิสฺสามิ, ปฺตฺติยา ปฺตฺตึ กถยิสฺสามิ, โวหาเรน โวหารํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณน.
‘‘โย โกจิ มํ ปฏิภานปฏิสมฺภิเท ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสติ, ตสฺส ปฏิภาเนน ปฏิภานํ กถยิสฺสามิ, โอปมฺเมน โอปมฺมํ กถยิสฺสามิ, ลกฺขเณน ลกฺขณํ กถยิสฺสามิ, รเสน รสํ กถยิสฺสามิ, นิสฺสํสยํ กริสฺสามิ, วิมตึ วิเวเจสฺสามิ, โตสยิสฺสามิ ปฺหเวยฺยากรเณนาติ, อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต ปฏิสมฺภิทารตน’นฺติ.
‘‘‘ปฏิสมฺภิทา กิณิตฺวาน, าเณน ผสฺสเยยฺย โย;
อจฺฉมฺภิโต อนุพฺพิคฺโค, อติโรจติ สเทวเก’ติ.
‘‘กตมํ, มหาราช, ภควโต โพชฺฌงฺครตนํ? สตฺติเม, มหาราช, โพชฺฌงฺคา, สติสมฺโพชฺฌงฺโค ¶ ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค วีริยสมฺโพชฺฌงฺโค ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค สมาธิสมฺโพชฺฌงฺโค อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโค. อิเมหิ โข, มหาราช, สตฺตหิ โพชฺฌงฺครตเนหิ ปฏิมณฺฑิโต ภิกฺขุ สพฺพํ ตมํ อภิภุยฺย สเทวกํ โลกํ โอภาเสติ ปภาเสติ อาโลกํ ชเนติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต โพชฺฌงฺครตน’นฺติ.
‘‘‘โพชฺฌงฺครตนมาลสฺส ¶ , อุฏฺหนฺติ [อุปฏฺหนฺติ (ก.), อุทิกฺขนฺติ (สฺยา.)] สเทวกา;
กมฺเมน ตํ กิณิตฺวาน, รตนํ โว ปิฬนฺธถา’’’ติ.
‘‘ภนฺเต นาคเสน, กตมํ พุทฺธสฺส ภควโต สพฺพาปณ’’นฺติ? ‘‘สพฺพาปณํ โข, มหาราช, ภควโต นวงฺคํ พุทฺธวจนํ สารีริกานิ ปาริโภคิกานิ เจติยานิ สงฺฆรตนฺจ. สพฺพาปเณ, มหาราช, ภควตา ชาติสมฺปตฺติ ปสาริตา, โภคสมฺปตฺติ ปสาริตา, อายุสมฺปตฺติ ปสาริตา, อาโรคฺยสมฺปตฺติ ปสาริตา, วณฺณสมฺปตฺติ ปสาริตา, ปฺาสมฺปตฺติ ปสาริตา, มานุสิกสมฺปตฺติ ปสาริตา, ทิพฺพสมฺปตฺติ ปสาริตา, นิพฺพานสมฺปตฺติ ¶ ปสาริตา. ตตฺถ เย ตํ ตํ สมฺปตฺตึ อิจฺฉนฺติ, เต กมฺมมูลํ ทตฺวา ปตฺถิตปตฺถิตํ สมฺปตฺตึ กิณนฺติ, เกจิ สีลสมาทาเนน กิณนฺติ, เกจิ อุโปสถกมฺเมน กิณนฺติ, อปฺปมตฺตเกนปิ กมฺมมูเลน อุปาทายุปาทาย สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ. ยถา, มหาราช, อาปณิกสฺส อาปเณ ติลมุคฺคมาเส ปริตฺตเกนปิ ตณฺฑุลมุคฺคมาเสน อปฺปเกนปิ มูเลน อุปาทายุปาทาย คณฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, ภควโต สพฺพาปเณ อปฺปมตฺตเกนปิ กมฺมมูเลน อุปาทายุปาทาย สมฺปตฺติโย ปฏิลภนฺติ. อิทํ วุจฺจติ, มหาราช, ‘ภควโต สพฺพาปณ’นฺติ.
‘‘‘อายุ อโรคตา วณฺณํ, สคฺคํ อุจฺจากุลีนตา;
อสงฺขตฺจ อมตํ, อตฺถิ สพฺพาปเณ ชิเน.
‘‘‘อปฺเปน พหุเกนาปิ, กมฺมมูเลน คยฺหติ;
กิณิตฺวา สทฺธามูเลน, สมิทฺธา โหถ ภิกฺขโว’ติ.
‘‘ภควโต โข, มหาราช, ธมฺมนคเร เอวรูปา ชนา ปฏิวสนฺติ, สุตฺตนฺติกา เวนยิกา อาภิธมฺมิกา ธมฺมกถิกา ชาตกภาณกา ทีฆภาณกา มชฺฌิมภาณกา สํยุตฺตภาณกา ¶ องฺคุตฺตรภาณกา ขุทฺทกภาณกา สีลสมฺปนฺนา สมาธิสมฺปนฺนา ปฺาสมฺปนฺนา โพชฺฌงฺคภาวนารตา วิปสฺสกา สทตฺถมนุยุตฺตา อารฺิกา รุกฺขมูลิกา อพฺโภกาสิกา ปลาลปฺุชิกา โสสานิกา ¶ เนสชฺชิกา ปฏิปนฺนกา ผลฏฺา เสกฺขา ผลสมงฺคิโน โสตาปนฺนา สกทาคามิโน อนาคามิโน อรหนฺโต เตวิชฺชา ฉฬภิฺา อิทฺธิมนฺโต ปฺาย ปารมึคตา สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺควรฌานวิโมกฺขรู ปารูปสนฺตสุขสมาปตฺติกุสลา, เตหิ อรหนฺเตหิ อากุลํ สมากุลํ อากิณฺณํ สมากิณฺณํ นฬวนสรวนมิว ธมฺมนครํ อโหสิ. ภวตีห –
‘‘‘วีตราคา วีตโทสา, วีตโมหา อนาสวา;
วีตตณฺหา อนาทานา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อารฺิกา ธุตธรา, ฌายิโน ลูขจีวรา;
วิเวกาภิรตา ธีรา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘เนสชฺชิกา สนฺถติกา, อโถปิ านจงฺกมา;
ปํสุกูลธรา สพฺเพ, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ติจีวรธรา ¶ สนฺตา, จมฺมขณฺฑจตุตฺถกา;
รตา เอกาสเน วิฺู, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อปฺปิจฺฉา นิปกา ธีรา, อปฺปาหารา อโลลุปา;
ลาภาลาเภน สนฺตุฏฺา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ฌายี ฌานรตา ธีรา, สนฺตจิตฺตา สมาหิตา;
อากิฺจฺํ ปตฺถยานา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘ปฏิปนฺนา ผลฏฺา จ, เสกฺขา ผลสมงฺคิโน;
อาสีสกา [อาสึสกา (สี. ปี.)] อุตฺตมตฺถํ, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘โสตาปนฺนา จ วิมลา, สกทาคามิโน จ เย;
อนาคามี จ อรหนฺโต, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘สติปฏฺานกุสลา ¶ , โพชฺฌงฺคภาวนารตา;
วิปสฺสกา ธมฺมธรา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อิทฺธิปาเทสุ ¶ กุสลา, สมาธิภาวนารตา;
สมฺมปฺปธานานุยุตฺตา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘อภิฺาปารมิปฺปตฺตา, เปตฺติเก โคจเร รตา;
อนฺตลิกฺขมฺหิ จรณา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘โอกฺขิตฺตจกฺขู มิตภาณี, คุตฺตทฺวารา สุสํวุตา;
สุทนฺตา อุตฺตเม ทมฺเม [ธมฺเม (สี. ปี.)], ธมฺมนคเร วสนฺติ เต.
‘‘‘เตวิชฺชา ฉฬภิฺา จ, อิทฺธิยา ปารมึ คตา;
ปฺาย ปารมิปฺปตฺตา, ธมฺมนคเร วสนฺติ เต’ติ.
‘‘เย โข เต, มหาราช, ภิกฺขู อปริมิตาณวรธรา อสงฺคา อตุลคุณา [อตุลิยคุณา (สี. ปี. ก.)] อตุลยสา อตุลพลา อตุลเตชา ธมฺมจกฺกานุปฺปวตฺตกา ปฺาปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมเสนาปติโน’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู อิทฺธิมนฺโต อธิคตปฺปฏิสมฺภิทาปตฺตเวสารชฺชา คคนจรา ทุราสทา ทุปฺปสหา อนาลมฺพจรา สสาครมหิธรปถวิกมฺปโก จนฺทสูริยปริมชฺชกา วิกุพฺพนาธิฏฺานาภินีหารกุสลา อิทฺธิยา ¶ ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ปุโรหิตา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธุตงฺคมนุคตา อปฺปิจฺฉา สนฺตุฏฺา วิฺตฺติมเนสนชิคุจฺฉกา ปิณฺฑาย สปทานจาริโน ภมราว คนฺธมนุฆายิตฺวา ปวิสนฺติ วิวิตฺตกานนํ, กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขา อรหตฺตมนุปฺปตฺตา ธุตงฺคคุเณ อคฺคนิกฺขิตฺตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘อกฺขทสฺสา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ปริสุทฺธา วิมลา นิกฺกิเลสา จุตูปปาตกุสลา ทิพฺพจกฺขุมฺหิ ¶ ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘นครโชตกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู พหุสฺสุตา ¶ อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา สิถิลธนิตทีฆรสฺสครุกลหุกกฺขรปริจฺเฉทกุสลา นวงฺคสาสนธรา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมรกฺขา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู วินยฺู วินยโกวิทา านาฏฺานกุสลา [นิทานปนกุสลา (สี. ปี.), นิทานวตฺถุกุสลา (สฺยา.)] อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกสเตกิจฺฉอเตกิจฺฉวุฏฺานเทสนานิคฺคห- ปฏิกมฺมโอสารณนิสฺสารณปฏิสารณกุสลา วินเย ปารมึ คตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘รูปรกฺขา’ติ [รูปทกฺขาติ (สี. สฺยา. ปี.)] วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู วิมุตฺติวรกุสุมมาลพทฺธา วรปวรมหคฺฆเสฏฺภาวมนุปฺปตฺตา พหุชนกนฺตมภิปตฺถิตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ปุปฺผาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู จตุสจฺจาภิสมยปฺปฏิวิทฺธา ทิฏฺสจฺจา วิฺาตสาสนา จตูสุ สามฺผเลสุ ติณฺณวิจิกิจฺฉา ปฏิลทฺธผลสุขา อฺเสมฺปิ ปฏิปนฺนานํ เต ผเล สํวิภชนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ผลาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ¶ ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู สีลสํวรคนฺธมนุลิตฺตา [สีลวรสุคนฺธมนุลิตฺตา (สี. ปี.)] อเนกวิธพหุคุณธรา กิเลสมลทุคฺคนฺธวิธมกา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘คนฺธาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธมฺมกามา ปิยสมุทาหารา อภิธมฺเม อภิวินเย อุฬารปาโมชฺชา อรฺคตาปิ รุกฺขมูลคตาปิ สฺุาคารคตาปิ ธมฺมวรรสํ ปิวนฺติ, กาเยน วาจาย มนสา ธมฺมวรรสโมคาฬฺหา อธิมตฺตปฏิภานา ธมฺเมสุ ธมฺเมสนปฺปฏิปนฺนา อิโต วา ตโต วา ยตฺถ ยตฺถ อปฺปิจฺฉกถา สนฺตุฏฺิกถา ปวิเวกกถา อสํสคฺคกถา วีริยารมฺภกถา สีลกถา สมาธิกถา ¶ ปฺากถา วิมุตฺติกถา วิมุตฺติาณทสฺสนกถา ¶ , ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ตํ กถารสํ ปิวนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘โสณฺฑา ปิปาสา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ชาคริยานุโยคมนุยุตฺตา นิสชฺชฏฺานจงฺกเมหิ รตฺตินฺทิวํ วีตินาเมนฺติ, ภาวนานุโยคมนุยุตฺตา กิเลสปฏิพาหนาย สทตฺถปฺปสุตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘นครคุตฺติกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู นวงฺคํ พุทฺธวจนํ อตฺถโต จ พฺยฺชนโต จ นยโต จ การณโต จ เหตุโต จ อุทาหรณโต จ วาเจนฺติ อนุวาเจนฺติ ภาสนฺติ อนุภาสนฺติ, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมาปณิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู ธมฺมรตนโภเคน อาคมปริยตฺติสุตโภเคน โภคิโน ธนิโน นิทฺทิฏฺสรพฺยฺชนลกฺขณปฺปฏิเวธา วิฺู ผรณา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘ธมฺมเสฏฺิโน’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เย ปน เต, มหาราช, ภิกฺขู อุฬารเทสนาปฏิเวธา ปริจิณฺณารมฺมณวิภตฺตินิทฺเทสา สิกฺขาคุณปารมิปฺปตฺตา, เอวรูปา โข, มหาราช, ภิกฺขู ภควโต ธมฺมนคเร ‘วิสฺสุตธมฺมิกา’ติ วุจฺจนฺติ.
‘‘เอวํ สุวิภตฺตํ โข, มหาราช, ภควโต ธมฺมนครํ เอวํ สุมาปิตํ เอวํ สุวิหิตํ เอวํ สุปริปูริตํ เอวํ สุววตฺถาปิตํ เอวํ สุรกฺขิตํ เอวํ สุโคปิตํ เอวํ ¶ ทุปฺปสยฺหํ ปจฺจตฺถิเกหิ ปจฺจามิตฺเตหิ, อิมินา, มหาราช, การเณน อิมินา เหตุนา อิมินา นเยน อิมินา อนุมาเนน าตพฺพํ อตฺถิ โส ภควาติ.
‘‘‘ยถาปิ นครํ ทิสฺวา, สุวิภตฺตํ มโนรมํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, วฑฺฒกิสฺส มหตฺตนํ.
‘‘‘ตเถว โลกนาถสฺส, ทิสฺวา ธมฺมปุรํ วรํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, อตฺถิ โส ภควา อิติ.
‘‘‘อนุมาเนน ¶ ¶ ชานนฺติ, อูมึ ทิสฺวาน สาคเร;
ยถายํ ทิสฺสเต อูมิ, มหนฺโต โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘ตถา พุทฺธํ โสกนุทํ, สพฺพตฺถมปราชิตํ;
ตณฺหกฺขยมนุปฺปตฺตํ, ภวสํสารโมจนํ.
‘‘‘อนุมาเนน าตพฺพํ, อูมึ ทิสฺวา สเทวเก;
ยถา ธมฺมูมิวิปฺผาโร, อคฺโค พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘‘อนุมาเนน ชานนฺติ, ทิสฺวา อจฺจุคฺคตํ คิรึ;
ยถา อจฺจุคฺคโต เอโส, หิมวา โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘ตถา ทิสฺวา ธมฺมคิรึ, สีตีภูตํ นิรูปธึ;
อจฺจุคฺคตํ ภควโต, อจลํ สุปฺปติฏฺิตํ.
‘‘‘อนุมาเนน าตพฺพํ, ทิสฺวาน ธมฺมปพฺพตํ;
ตถา หิ โส มหาวีโร, อคฺโค พุทฺโธ ภวิสฺสติ.
‘‘‘ยถาปิ คชราชสฺส, ปทํ ทิสฺวาน มานุสา;
อนุมาเนน ชานนฺติ, มหา เอโส คโช อิติ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธนาคสฺส, ปทํ ทิสฺวา วิภาวิโน;
อนุมาเนน ชานนฺติ, อุฬาโร โส ภวิสฺสติ.
‘‘‘อนุมาเนน ชานนฺติ, ภีเต ทิสฺวาน กุมฺมิเค;
มิคราชสฺส สทฺเทน, ภีตาเม กุมฺมิคา อิติ.
‘‘‘ตเถว ติตฺถิเย ทิสฺวา, วิตฺถเต ภีตมานเส;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมราเชน คชฺชิตํ.
‘‘‘นิพฺพุตํ ¶ ¶ ปถวึ ทิสฺวา, หริตปตฺตํ มโหทิกํ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, มหาเมเฆน นิพฺพุตํ.
‘‘‘ตเถวิมํ ชนํ ทิสฺวา, อาโมทิตปโมทิตํ;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมเมเฆน ตปฺปิตํ.
‘‘‘ลคฺคํ ทิสฺวา ภุสํ ปงฺกํ, กลลทฺทคตํ มหึ;
อนุมาเนน ชานนฺติ, วาริกฺขนฺโธ มหา คโต.
‘‘‘ตเถวิมํ ชนํ ทิสฺวา, รชปงฺกสโมหิตํ;
วหิตํ ธมฺมนทิยา, วิสฏฺํ ธมฺมสาคเร.
‘‘‘ธมฺมามตคตํ ทิสฺวา, สเทวกมิมํ มหึ;
อนุมาเนน าตพฺพํ, ธมฺมกฺขนฺโธ มหา คโต.
‘‘‘อนุมาเนน ¶ ชานนฺติ, ฆายิตฺวา คนฺธมุตฺตมํ;
ยถายํ วายเต คนฺโธ, เหสฺสนฺติ ปุปฺผิตา ทุมา.
‘‘‘ตเถวายํ สีลคนฺโธ, ปวายติ สเทวเก;
อนุมาเนน าตพฺพํ, อตฺถิ พุทฺโธ อนุตฺตโร’ติ.
‘‘เอวรูเปน โข, มหาราช, การณสเตน การณสหสฺเสน เหตุสเตน เหตุสหสฺเสน นยสเตน นยสหสฺเสน โอปมฺมสเตน โอปมฺมสหสฺเสน สกฺกา พุทฺธพลํ อุปทสฺสยิตุํ. ยถา, มหาราช, ทกฺโข มาลากาโร นานาปุปฺผราสิมฺหา อาจริยานุสิฏฺิยา ปจฺจตฺตปุริสกาเรน วิจิตฺตํ มาลาคุณราสึ กเรยฺย, เอวเมว โข, มหาราช, โส ภควา วิจิตฺตปุปฺผราสิ วิย อนนฺตคุโณ อปฺปเมยฺยคุโณ, อหเมตรหิ ชินสาสเน มาลากาโร วิย ปุปฺผคนฺถโก ปุพฺพกานํ อาจริยานํ มคฺเคนปิ มยฺหํ พุทฺธิพเลนปิ อสงฺขฺเยยฺเยนปิ การเณน อนุมาเนน พุทฺธพลํ ทีปยิสฺสามิ, ตฺวํ ปเนตฺถ ฉนฺทํ ชเนหิ สวนายา’’ติ.
‘‘ทุกฺกรํ ¶ , ภนฺเต นาคเสน, อฺเสํ เอวรูเปน การเณน อนุมาเนน พุทฺธพลํ อุปทสฺสยิตุํ, นิพฺพุโตสฺมิ, ภนฺเต นาคเสน, ตุมฺหากํ ปรมวิจิตฺเตน ปฺหเวยฺยากรเณนา’’ติ.
อนุมานปฺโห ปโม.
๒. ธุตงฺคปฺโห
‘‘ปสฺสตารฺเก ¶ ¶ ภิกฺขู, อชฺโฌคาฬฺเห ธุเต คุเณ;
ปุน ปสฺสติ คิหี ราชา, อนาคามิผเล ิเต.
‘‘อุโภปิ เต วิโลเกตฺวา, อุปฺปชฺชิ สํสโย มหา;
พุชฺเฌยฺย เจ คิหี ธมฺเม, ธุตงฺคํ นิปฺผลํ สิยา.
‘‘ปรวาทิวาทมถนํ, นิปุณํ ปิฏกตฺตเย;
หนฺท ปุจฺเฉ กถิเสฏฺํ, โส เม กงฺขํ วิเนสฺสตี’’ติ.
อถ โข มิลินฺโท ราชา เยนายสฺมา นาคเสโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข มิลินฺโท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ ‘‘ภนฺเต นาคเสน, อตฺถิ โกจิ คิหี อคาริโก กามโภคี ปุตฺตทารสมฺพาธสยนํ อชฺฌาวสนฺโต กาสิกจนฺทนํ ปจฺจนุโภนฺโต มาลาคนฺธวิเลปนํ ธารยนฺโต ชาตรูปรชตํ สาทิยนฺโต มณิมุตฺตากฺจนวิจิตฺตโมฬิพทฺโธ เยน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกต’’นฺติ?
‘‘น, มหาราช, เอกฺเว สตํ น ทฺเว สตานิ น ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ สตานิ น สหสฺสํ น สตสหสฺสํ น โกฏิสตํ น โกฏิสหสฺสํ น โกฏิสตสหสฺสํ, ติฏฺตุ มหาราช ทสนฺนํ วีสติยา สตสฺส สหสฺสสฺส อภิสมโย, กตเมน เต ปริยาเยน อนุโยคํ ทมฺมี’’ติ.
‘‘ตฺวเมเวตํ พฺรูหี’’ติ. ‘‘เตนหิ เต, มหาราช, กถยิสฺสามิ สเตน วา สหสฺเสน วา สตสหสฺเสน ¶ วา โกฏิยา วา โกฏิสเตน วา โกฏิสหสฺเสน วา โกฏิสตสหสฺเสน วา, ยา กาจิ นวงฺเค พุทฺธวจเน สลฺเลขิตาจารปฺปฏิปตฺติธุตวรงฺคคุณนิสฺสิตา ¶ [ธุตวรงฺคคุณนิสฺสิตา (สี. สฺยา. ปี.)] ถา, ตา สพฺพา อิธ สโมสริสฺสนฺติ. ยถา, มหาราช, นินฺนุนฺนตสมวิสมถลาถลเทสภาเค อภิวุฏฺํ อุทกํ, สพฺพํ ตํ ตโต วินิคฬิตฺวา มโหทธึ สาครํ สโมสรติ, เอวเมว โข, มหาราช, สมฺปาทเก สติ ยา กาจิ นวงฺเค พุทฺธวจเน สลฺเลขิตาจารปฺปฏิปตฺติธุตงฺคคุณธรนิสฺสิตา กถา, ตา สพฺพา อิธ สโมสริสฺสนฺติ.
‘‘มยฺหมฺเปตฺถ ¶ , มหาราช, ปริพฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปนํ สโมสริสฺสติ, เตเนโส อตฺโถ สุวิภตฺโต วิจิตฺโต ปริปุณฺโณ ปริสุทฺโธ สมานีโต ภวิสฺสติ. ยถา, มหาราช, กุสโล เลขาจริโย อนุสิฏฺโ เลขํ โอสาเรนฺโต อตฺตโน พฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปเนน เลขํ ปริปูเรติ, เอวํ สา เลขา สมตฺตา ปริปุณฺณา อนูนิกา ภวิสฺสติ. เอวเมว มยฺหมฺเปตฺถ ปริพฺยตฺตตาย พุทฺธิยา การณปริทีปนํ สโมสริสฺสติ, เตเนโส อตฺโถ สุวิภตฺโต วิจิตฺโต ปริปุณฺโณ ปริสุทฺโธ สมานีโต ภวิสฺสติ.
‘‘นคเร, มหาราช, สาวตฺถิยา ปฺจโกฏิมตฺตา อริยสาวกา ภควโต อุปาสกอุปาสิกาโย สตฺตปณฺณาสสหสฺสานิ ตีณิ จ สตสหสฺสานิ อนาคามิผเล ปติฏฺิตา, เต สพฺเพปิ คิหี เยว, น ปพฺพชิตา. ปุน ตตฺเถว กณฺฑมฺพมูเล ยมกปาฏิหาริเย วีสติ ปาณโกฏิโย อภิสมึสุ, ปุน จูฬราหุโลวาเท [มหาราหุโลวาเท (สี. ปี.)], มหามงฺคลสุตฺตนฺเต, สมจิตฺตปริยาเย, ปราภวสุตฺตนฺเต, ปุราเภทสุตฺตนฺเต, กลหวิวาทสุตฺตนฺเต, จูฬพฺยูหสุตฺตนฺเต, มหาพฺยูหสุตฺตนฺเต, ตุวฏกสุตฺตนฺเต, สาริปุตฺตสุตฺตนฺเต คณนปถมตีตานํ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ.
‘‘นคเร ราชคเห ปฺาสสหสฺสานิ ตีณิ จ สตสหสฺสานิ อริยสาวกา ภควโต อุปาสกอุปาสิกาโย, ปุน ตตฺเถว ธนปาลหตฺถินาคทมเน นวุติ ปาณโกฏิโย, ปารายนสมาคเม ปาสาณกเจติเย จุทฺทส ปาณโกฏิโย, ปุน อินฺทสาลคุหายํ อสีติ เทวตาโกฏิโย, ปุน พาราณสิยํ อิสิปตเน ¶ มิคทาเย ปเม ธมฺมเทสเน อฏฺารส พฺรหฺมโกฏิโย อปริมาณา จ เทวตาโย, ปุน ตาวตึสภวเน ปณฺฑุกมฺพลสิลายํ อภิธมฺมเทสนาย อสีติ เทวตาโกฏิโย, เทโวโรหเณ สงฺกสฺสนครทฺวาเร โลกวิวรณปาฏิหาริเย ปสนฺนานํ นรมรูนํ ตึส โกฏิโย อภิสมึสุ.
ปุน สกฺเกสุ กปิลวตฺถุสฺมึ นิคฺโรธาราเม พุทฺธวํสเทสนาย มหาสมยสุตฺตนฺตเทสนาย จ คณนปถมตีตานํ ¶ เทวตานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ ¶ . ปุน สุมนมาลาการสมาคเม, ครหทินฺนสมาคเม, อานนฺทเสฏฺิสมาคเม, ชมฺพุกาชีวกสมาคเม, มณฺฑุกเทวปุตฺตสมาคเม, มฏฺกุณฺฑลิเทวปุตฺตสมาคเม, สุลสานครโสภินิสมาคเม, สิริมานครโสภินิสมาคเม, เปสการธีตุสมาคเม, จูฬสุภทฺทาสมาคเม, สาเกตพฺราหฺมณสฺส อาฬาหนทสฺสนสมาคเม, สูนาปรนฺตกสมาคเม, สกฺกปฺหสมาคเม, ติโรกุฏฺฏสมาคเม [ติโรกุฑฺฑสมาคเม (สี. ปี.)], รตนสุตฺตสมาคเม ปจฺเจกํ จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ, ยาวตา, มหาราช, ภควา โลเก อฏฺาสิ, ตาว ตีสุ มณฺฑเลสุ โสฬสสุ มหาชนปเทสุ ยตฺถ ยตฺถ ภควา วิหาสิ, ตตฺถ ตตฺถ เยภุยฺเยน ทฺเว ตโย จตฺตาโร ปฺจ สตํ สหสฺสํ สตสหสฺสํ เทวา จ มนุสฺสา จ สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกรึสุ. เย เต, มหาราช, เทวา คิหี เยว, น เต ปพฺพชิตา, เอตานิ เจว, มหาราช, อฺานิ จ อเนกานิ เทวตาโกฏิสตสหสฺสานิ คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกรึสู’’ติ.
‘‘ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, อถ อิมานิ ธุตงฺคานิ กิมตฺถํ สาเธนฺติ, เตน การเณน ธุตงฺคานิ ¶ อกิจฺจกรานิ โหนฺติ. ยทิ, ภนฺเต นาคเสน, วินา มนฺโตสเธหิ พฺยาธโย วูปสมนฺติ, กึ วมนวิเรจนาทินา สรีรทุพฺพลกรเณน? ยทิ มุฏฺีหิ ปฏิสตฺตุนิคฺคโห ภวติ, กึ อสิสตฺติสรธนุโกทณฺฑลคุฬมุคฺคเรหิ? ยทิ คณฺิกุฏิลสุสิรกณฺฏลตาสาขา อาลมฺพิตฺวา รุกฺขมภิรูหนํ ภวติ, กึ ทีฆทฬฺหนิสฺเสณิปริเยสเนน? ยทิ ถณฺฑิลเสยฺยาย ธาตุสมตา ภวติ, กึ สุขสมฺผสฺสมหติมหาสิริสยนปริเยสเนน? ยทิ เอกโก สาสงฺกสปฺปฏิภยวิสมกนฺตารตรณสมตฺโถ ภวติ, กึ สนฺนทฺธสชฺชมหติมหาสตฺถปริเยสเนน? ยทิ นทิสรํ พาหุนา ตริตุํ สมตฺโถ ภวติ, กึ ธุวเสตุนาวาปริเยสเนน? ยทิ สกสนฺตเกน ฆาสจฺฉาทนํ กาตุํ ปโหติ, กึ ปรูปเสวนปิยสมุลฺลาปปจฺฉาปุเรธาวเนน? ยทิ อขาตตฬาเก อุทกํ ลภติ, กึ อุทปานตฬากโปกฺขรณิขณเนน? เอวเมว โข, ภนฺเต นาคเสน, ยทิ คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, กึ ธุตคุณวรสมาทิยเนนา’’ติ?
‘‘อฏฺวีสติ ¶ โข ปนิเม, มหาราช, ธุตงฺคคุณา ยถาภุจฺจคุณา, เยหิ คุเณหิ ธุตงฺคานิ สพฺพพุทฺธานํ ปิหยิตานิ ปตฺถิตานิ. กตเม อฏฺวีสติ? อิธ, มหาราช, ธุตงฺคํ สุทฺธาชีวํ สุขผลํ อนวชฺชํ น ปรทุกฺขาปนํ อภยํ อสมฺปีฬนํ เอกนฺตวฑฺฒิกํ อปริหานิยํ อมายํ อารกฺขา ปตฺถิตททํ สพฺพสตฺตทมนํ สํวรหิตํ ปติรูปํ อนิสฺสิตํ วิปฺปมุตฺตํ ราคกฺขยํ โทสกฺขยํ ¶ โมหกฺขยํ มานปฺปหานํ กุวิตกฺกจฺเฉทนํ กงฺขาวิตรณํ โกสชฺชวิทฺธํสนํ อรติปฺปหานํ ขมนํ อตุลํ อปฺปมาณํ สพฺพทุกฺขกฺขยคมนํ, อิเม โข, มหาราช, อฏฺวีสติ ธุตงฺคคุณา ยถาภุจฺจคุณา เยหิ คุเณหิ ¶ ธุตงฺคานิ สพฺพพุทฺธานํ ปิหยิตานิ ปตฺถิตานิ.
‘‘เย โข เต, มหาราช, ธุตคุเณ สมฺมา อุปเสวนฺติ, เต อฏฺารสหิ คุเณหิ สมุเปตา ภวนฺติ. กตเมหิ อฏฺารสหิ? อาจาโร เตสํ สุวิสุทฺโธ โหติ, ปฏิปทา สุปูริตา โหติ, กายิกํ วาจสิกํ สุรกฺขิตํ โหติ, มโนสมาจาโร สุวิสุทฺโธ โหติ, วีริยํ สุปคฺคหิตํ โหติ, ภยํ วูปสมฺมติ, อตฺตานุทิฏฺิพฺยปคตา โหติ, อาฆาโต อุปรโต โหติ, เมตฺตา อุปฏฺิตา โหติ, อาหาโร ปริฺาโต โหติ, สพฺพสตฺตานํ ครุกโต โหติ, โภชเน มตฺตฺู โหติ, ชาคริยมนุยุตฺโต โหติ, อนิเกโต โหติ, ยตฺถ ผาสุ ตตฺถ วิหารี โหติ, ปาปเชคุจฺฉี โหติ, วิเวการาโม โหติ, สตตํ อปฺปมตฺโต โหติ, เย เต, มหาราช, ธุตคุเณ สมฺมา อุปเสวนฺติ, เต อิเมหิ อฏฺารสหิ คุเณหิ สมุเปตา ภวนฺติ.
‘‘ทส อิเม, มหาราช, ปุคฺคลา ธุตคุณารหา. กตเม ทส? สทฺโธ โหติ หิริมา ธิติมา อกุโห อตฺถวสี อโลโล สิกฺขากาโม ทฬฺหสมาทาโน อนุชฺฌานพหุโล เมตฺตาวิหารี, อิเม โข, มหาราช, ทส ปุคฺคลา ธุตคุณารหา.
‘‘เย เต, มหาราช, คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, สพฺเพ เต ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺถ จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, กุสโล อิสฺสาโส อนฺเตวาสิเก ปมํ ตาว อุปาสนสาลายํ จาปเภทจาปาโรปนคฺคหณมุฏฺิปฺปฏิปีฬนองฺคุลิวินามนปาทปนสรคฺคหณสนฺนหนอากฑฺฒน สทฺธารณลกฺขนิยมนขิปเน ติณปุริสกฉกณ [ขณก (สี. ปี.)] ติณปลาลมตฺติกาปฺุชผลกลกฺขเวเธ อนุสิกฺขาเปตฺวา รฺโ สนฺติเก อุปาสนํ อาราธยิตฺวา อาชฺรถคชตุรงฺคธนธฺหิรฺสุวณฺณทาสิทาสภริยคามวรํ ลภติ ¶ , เอวเมว โข, มหาราช, เย เต คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, เต สพฺเพ ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺเถว จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ. น, มหาราช, ธุตคุเณสุ ปุพฺพาเสวนํ วินา ¶ เอกิสฺสา เยว ชาติยา อรหตฺตํ สจฺฉิกิริยา โหติ, อุตฺตเมน ปน วีริเยน อุตฺตมาย ปฏิปตฺติยา ตถารูเปน อาจริเยน กลฺยาณมิตฺเตน อรหตฺตํ สจฺฉิกิริยา โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ภิสกฺโก สลฺลกตฺโต อาจริยํ ธเนน วา วตฺตปฺปฏิปตฺติยา วา อาราเธตฺวา สตฺตคฺคหณเฉทนเลขนเวธนสลฺลุทฺธรณวณโธวนโสสนเภสชฺชานุลิมฺปนวมน วิเรจนานุวาสนกิริยมนุสิกฺขิตฺวา วิชฺชาสุ กตสิกฺโข กตูปาสโน กตหตฺโถ อาตุเร อุปสงฺกมติ ติกิจฺฉาย, เอวเมว โข, มหาราช, เย เต คิหี อคาริกา กามโภคิโน สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, เต สพฺเพ ปุริมาสุ ชาตีสุ เตรสสุ ธุตคุเณสุ กตูปาสนา กตภูมิกมฺมา, เต ตตฺเถว จารฺจ ปฏิปตฺติฺจ โสธยิตฺวา อชฺเชตรหิ คิหี เยว สนฺตา สนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, น, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย โหติ.
‘‘ยถา, มหาราช, อุทกสฺส อเสจเนน พีชานํ อวิรูหนํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อกตกุสลานํ อกตกลฺยาณานํ สุคติคมนํ น โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุเณหิ อวิสุทฺธานํ ธมฺมาภิสมโย น โหติ.
‘‘ปถวิสมํ ¶ , มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปติฏฺานฏฺเน. อาโปสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสมลโธวนฏฺเน. เตโชสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสวนชฺฌาปนฏฺเน ¶ . วาโยสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสมลรโชปวาหนฏฺเน. อคทสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสพฺยาธิวูปสมนฏฺเน. อมตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพกิเลสวิสนาสนฏฺเน. เขตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพสามฺคุณสสฺสวิรูหนฏฺเน. มโนหรสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปตฺถิติจฺฉิตสพฺพสมฺปตฺติวรททฏฺเน. นาวาสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สํสารมหณฺณวปารคมนฏฺเน. ภีรุตฺตาณสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ชรามรณภีตานํ อสฺสาสกรณฏฺเน. มาตุสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสทุกฺขปฺปฏิปีฬิตานํ อนุคฺคาหกฏฺเน. ปิตุสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กุสลวฑฺฒิกามานํ สพฺพสามฺคุณชนกฏฺเน. มิตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพสามฺคุณปริเยสนอวิสํวาทกฏฺเน. ปทุมสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ¶ สพฺพกิเลสมเลหิ อนุปลิตฺตฏฺเน. จตุชฺชาติยวรคนฺธสมํ ¶ , มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสทุคฺคนฺธปฏิวิโนทนฏฺเน. คิริราชวรสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ อฏฺโลกธมฺมวาเตหิ อกมฺปิยฏฺเน. อากาสสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพตฺถ คหณาปคตอุรุวิสฏวิตฺถตมหนฺตฏฺเน. นทีสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสมลปวาหนฏฺเน. สุเทสกสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ชาติกนฺตารกิเลสวนคหนนิตฺถรณฏฺเน. มหาสตฺถวาหสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สพฺพภยสฺุเขมอภยวรปวรนิพฺพานนครสมฺปาปนฏฺเน ¶ . สุมชฺชิตวิมลาทาสสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ สงฺขารานํ สภาวทสฺสนฏฺเน. ผลกสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสลคุฬสรสตฺติปฏิพาหนฏฺเน. ฉตฺตสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ กิเลสวสฺสติวิธคฺคิสนฺตาปาตปปฏิพาหนฏฺเน. จนฺทสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ ปิหยิตปตฺถิตฏฺเน. สูริยสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ โมหตมติมิรนาสนฏฺเน. สาครสมํ, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ อเนกวิธสามฺคุณวรรตนุฏฺานฏฺเน, อปริมิตอสงฺขฺเยยฺยอปฺปเมยฺยฏฺเน จ. เอวํ โข, มหาราช, ธุตคุณํ วิสุทฺธิกามานํ พหูปการํ สพฺพทรถปริฬาหนุทํ อรตินุทํ ภยนุทํ ภวนุทํ ขีลนุทํ มลนุทํ โสกนุทํ ทุกฺขนุทํ ราคนุทํ โทสนุทํ โมหนุทํ มานนุทํ ทิฏฺินุทํ สพฺพากุสลธมฺมนุทํ ยสาวหํ หิตาวหํ สุขาวหํ ผาสุกรํ ปีติกรํ โยคกฺเขมกรํ อนวชฺชํ อิฏฺสุขวิปากํ คุณราสิคุณปฺุชํ อปริมิตอสงฺขฺเยยฺย อปฺปเมยฺยคุณํ วรํ ปวรํ อคฺคํ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, มนุสฺสา อุปตฺถมฺภวเสน โภชนํ อุปเสวนฺติ, หิตวเสน เภสชฺชํ อุปเสวนฺติ, อุปการวเสน มิตฺตํ อุปเสวนฺติ, ตารณวเสน นาวํ อุปเสวนฺติ, สุคนฺธวเสน มาลาคนฺธํ อุปเสวนฺติ, อภยวเสน ภีรุตฺตาณํ อุปเสวนฺติ, ปติฏฺาวเสน [ปติฏฺานวเสน (ก.)] ปถวึ อุปเสวนฺติ, สิปฺปวเสน อาจริยํ อุปเสวนฺติ, ยสวเสน ราชานํ อุปเสวนฺติ, กามททวเสน มณิรตนํ อุปเสวนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, สพฺพสามฺคุณททวเสน อริยา ธุตคุณํ อุปเสวนฺติ.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, อุทกํ พีชวิรูหนาย, อคฺคิ ¶ ฌาปนาย, อาหาโร พลาหรณาย, ลตา พนฺธนาย, สตฺถํ เฉทนาย, ปานียํ ปิปาสาวินยนาย, นิธิ อสฺสาสกรณาย, นาวา ตีรสมฺปาปนาย, เภสชฺชํ พฺยาธิวูปสมนาย, ยานํ สุขคมนาย, ภีรุตฺตาณํ ภยวิโนทนาย, ราชา อารกฺขตฺถาย, ผลกํ ทณฺฑเลฑฺฑุลคุฬสรสตฺติปฏิพาหนาย, อาจริโย อนุสาสนาย, มาตา โปสนาย, อาทาโส โอโลกนาย, อลงฺกาโร โสภนาย, วตฺถํ ปฏิจฺฉาทนาย, นิสฺเสณี อาโรหนาย, ตุลา วิสมวิกฺเขปนาย [นิกฺเขปนาย (สี. ปี.)], มนฺตํ ปริชปฺปนาย, อาวุธํ ตชฺชนียปฏิพาหนาย ¶ , ปทีโป อนฺธการวิธมนาย, วาโต ปริฬาหนิพฺพาปนาย, สิปฺปํ วุตฺตินิปฺผาทนาย, อคทํ ชีวิตรกฺขณาย, อากโร รตนุปฺปาทนาย, รตนํ อลงฺกราย, อาณา อนติกฺกมนาย, อิสฺสริยํ วสวตฺตนาย, เอวเมว โข, มหาราช, ธุตคุณํ สามฺพีชวิรูหนาย, กิเลสมลฌาปนาย, อิทฺธิพลาหรณาย, สติสํวรนิพนฺธนาย, วิมติวิจิกิจฺฉาสมุจฺเฉทนาย, ตณฺหาปิปาสาวินยนาย, อภิสมยอสฺสาสกรณาย, จตุโรฆนิตฺถรณาย, กิเลสพฺยาธิวูปสมาย, นิพฺพานสุขปฺปฏิลาภาย, ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสภยวิโนทนาย, สามฺคุณปริรกฺขณาย, อรติกุวิตกฺกปฏิพาหนาย, สกลสามฺตฺถานุสาสนาย, สพฺพสามฺคุณโปสนาย, สมถวิปสฺสนามคฺคผลนิพฺพานทสฺสนาย, สกลโลกถุตโถมิตมหติมหาโสภนกรณาย, สพฺพาปายปิทหนาย, สามฺตฺถเสลสิขรมุทฺธนิ อภิรูหนาย, วงฺกกุฏิลวิสมจิตฺตวิกฺเขปนาย [จิตฺตนิกฺเขปนาย (สี. ปี.)], เสวิตพฺพาเสวิตพฺพธมฺเม สาธุสชฺฌายกรณาย, สพฺพกิเลสปฏิสตฺตุตชฺชนาย ¶ , อวิชฺชนฺธการวิธมนาย, ติวิธคฺคิสนฺตาปปริฬาหนิพฺพาปนาย, สณฺหสุขุมสนฺตสมาปตฺตินิปฺผาทนาย, สกลสามฺคุณปริรกฺขณาย, โพชฺฌงฺควรรตนุปฺปาทนาย, โยคิชนาลงฺกรณาย, อนวชฺชนิปุณสุขุมสนฺติสุขมนติกฺกมนาย ¶ , สกลสามฺอริยธมฺมวสวตฺตนาย. อิติ, มหาราช, อิเมสํ คุณานํ อธิคมาย ยทิทํ เอกเมกํ ธุตคุณํ, เอวํ, มหาราช, อตุลิยํ ธุตคุณํ อปฺปเมยฺยํ อสมํ อปฺปฏิสมํ อปฺปฏิภาคํ อปฺปฏิเสฏฺํ อุตฺตรํ เสฏฺํ วิสิฏฺํ อธิกํ อายตํ ปุถุลํ วิสฏํ วิตฺถตํ ครุกํ ภาริยํ มหนฺตํ.
‘‘โย โข, มหาราช, ปุคฺคโล ปาปิจฺโฉ อิจฺฉาปกโต กุหโก ลุทฺโธ โอทริโก ลาภกาโม ยสกาโม กิตฺติกาโม อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป ธุตงฺคํ [ตธุคุณํ (ก.) เอวมุปริปิ] สมาทิยติ, โส ทิคุณํ ทณฺฑมาปชฺชติ, สพฺพคุณฆาตมาปชฺชติ, ทิฏฺธมฺมิกํ หีฬนํ ขีฬนํ ครหนํ อุปฺปณฺฑนํ ขิปนํ อสมฺโภคํ นิสฺสารณํ นิจฺฉุภนํ ปวาหนํ ปพฺพาชนํ ปฏิลภติ, สมฺปราเยปิ สตโยชนิเก อวีจิมหานิรเย อุณฺหกิตตตฺตสนฺตตฺตอจฺจิชาลามาลเก อเนกวสฺสโกฏิสตสหสฺสานิ อุทฺธมโธ ติริยํ เผณุทฺเทหกํ สมฺปริวตฺตกํ ปจฺจติ, ตโต มุจฺจิตฺวา [มุจฺจิตฺวา (สี. ปี.)] กิสผรุสกาฬงฺคปจฺจงฺโค สูนุทฺธุมาตสุสิรุตฺตมงฺโค [สูนุทฺธุมาตสูจิมุขปมาณสุสิรุตฺตมงฺโค (สี. ปี.)] ฉาโต ปิปาสิโต วิสมภีมรูปวณฺโณ ภคฺคกณฺณโสโต อุมฺมีลิตนิมีลิตเนตฺตนยโน อรุคตฺตปกฺกคตฺโต ปุฬวากิณฺณสพฺพกาโย วาตมุเข ชลมาโน วิย อคฺคิกฺขนฺโธ อนฺโต ชลมาโน ปชฺชลมาโน อตาโณ อสรโณ อารุณฺณรุณฺณการฺุรวํ ปริเทวมาโน นิชฺฌามตณฺหิโก สมณมหาเปโต หุตฺวา อาหิณฺฑมาโน มหิยา อฏฺฏสฺสรํ กโรติ.
‘‘ยถา ¶ , มหาราช, โกจิ อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป หีโน กุชาติโก ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิฺจติ, โส ลภติ หตฺถจฺเฉทํ ปาทจฺเฉทํ หตฺถปาทจฺเฉทํ กณฺณจฺเฉทํ นาสจฺเฉทํ กณฺณนาสจฺเฉทํ ¶ พิลงฺคถาลิกํ สงฺขมุณฺฑิกํ ราหุมุขํ โชติมาลิกํ หตฺถปชฺโชติกํ เอรกวตฺติกํ จีรกวาสิกํ เอเณยฺยกํ พฬิสมํสิกํ กหาปณกํ ขาราปตจฺฉิกํ ปลิฆปริวตฺติกํ ปลาลปีกํ ตตฺเตน เตเลน ¶ โอสิฺจนํ สุนเขหิ ขาทาปนํ ชีวสูลาโรปนํ อสินา สีสจฺเฉทํ อเนกวิหิตมฺปิ กมฺมการณํ อนุภวติ. กึ การณา? อยุตฺโต อปฺปตฺโต อนนุจฺฉวิโก อนรโห อปฺปติรูโป หีโน กุชาติโก มหนฺเต อิสฺสริเย าเน อตฺตานํ เปสิ, เวลํ ฆาเตสิ, เอวเมว โข, มหาราช, โย โกจิ ปุคฺคโล ปาปิจฺโฉ…เป… มหิยา อฏฺฏสฺสรํ กโรติ.
‘‘โย ปน, มหาราช, ปุคฺคโล ยุตฺโต ปตฺโต อนุจฺฉวิโก อรโห ปติรูโป อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต อสโ อมาโย อโนทริโก อลาภกาโม อยสกาโม อกิตฺติกาโม สทฺโธ สทฺธาปพฺพชิโต ชรามรณา มุจฺจิตุกาโม ‘สาสนํ ปคฺคณฺหิสฺสามี’ติ ธุตงฺคํ สมาทิยติ, โส ทิคุณํ ปูชํ อรหติ เทวานฺจ ปิโย โหติ มนาโป ปิหยิโต ปตฺถิโต, ชาติสุมนมลฺลิกาทีนํ วิย ปุปฺผํ นหาตานุลิตฺตสฺส, ชิฆจฺฉิตสฺส วิย ปณีตโภชนํ, ปิปาสิตสฺส วิย สีตลวิมลสุรภิปานียํ, วิสคตสฺส วิย โอสธวรํ, สีฆคมนกามสฺส วิย อาชฺรถวรุตฺตมํ, อตฺถกามสฺส วิย มโนหรมณิรตนํ, อภิสิฺจิตุกามสฺส วิย ปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺตํ, ธมฺมกามสฺส วิย อรหตฺตผลาธิคมมนุตฺตรํ. ตสฺส จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานิ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉติ, สมถวิปสฺสนา อธิคจฺฉติ, อธิคมปฺปฏิปตฺติ ปริณมติ, จตฺตาริ สามฺผลานิ ¶ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ติสฺโส วิชฺชา ฉฬภิฺา เกวโล จ สมณธมฺโม สพฺเพ ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ, วิมุตฺติปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺเตน อภิสิฺจติ.
‘‘ยถา, มหาราช, รฺโ ขตฺติยสฺส อภิชาตกุลกุลีนสฺส ขตฺติยาภิเสเกน อภิสิตฺตสฺส ปริจรนฺติ สรฏฺเนคมชานปทภฏพลา [พลตฺถา (สี. ปี.)] อฏฺตฺตึสา จ ราชปริสา นฏนจฺจกา มุขมงฺคลิกา โสตฺถิวาจกา สมณพฺราหฺมณสพฺพปาสณฺฑคณา อภิคจฺฉนฺติ, ยํ กิฺจิ ปถวิยา ปฏฺฏนรตนากรนครสุงฺกฏฺานเวรชฺชกเฉชฺชเภชฺชชนมนุสาสนํ สพฺพตฺถ สามิโก ภวติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โย โกจิ ปุคฺคโล ยุตฺโต ปตฺโต…เป… วิมุตฺติปณฺฑรวิมลเสตจฺฉตฺเตน อภิสิฺจติ.
‘‘เตรสิมานิ ¶ , มหาราช, ธุตงฺคานิ, เยหิ สุทฺธิกโต นิพฺพานมหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา พหุวิธํ ธมฺมกีฬมภิกีฬติ, รูปารูปอฏฺสมาปตฺติโย วฬฺเชติ, อิทฺธิวิธํ ทิพฺพโสตธาตุํ ปรจิตฺตวิชานนํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตึ ทิพฺพจกฺขุํ สพฺพาสวกฺขยฺจ ปาปุณาติ. กตเม เตรส? ปํสุกูลิกงฺคํ เตจีวริกงฺคํ ปิณฺฑปาติกงฺคํ สปทานจาริกงฺคํ เอกาสนิกงฺคํ ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ อารฺิกงฺคํ รุกฺขมูลิกงฺคํ อพฺโภกาสิกงฺคํ โสสานิกงฺคํ ยถาสนฺถติกงฺคํ เนสชฺชิกงฺคํ, อิเมหิ โข, มหาราช, เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ เกวลํ สามฺํ ปฏิลภติ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, สธโน นาวิโก ปฏฺฏเน สุฏฺุ กตสุงฺโก มหาสมุทฺทํ ปวิสิตฺวา วงฺคํ ตกฺโกลํ จีนํ โสวีรํ สุรฏฺํ อลสนฺทํ โกลปฏฺฏนํ สุวณฺณภูมึ คจฺฉติ อฺมฺปิ ยํ กิฺจิ นาวาสฺจรณํ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ¶ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ เกวลํ สามฺํ ปฏิลภติ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, กสฺสโก ปมํ เขตฺตโทสํ ติณกฏฺปาสาณํ อปเนตฺวา กสิตฺวา วปิตฺวา สมฺมา อุทกํ ปเวเสตฺวา รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ลวนมทฺทเนน พหุธฺโก โหติ, ตสฺสาเธยฺยา ภวนฺติ เย เกจิ อธนา กปณา ทลิทฺทา ทุคฺคตชนา, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ…เป… เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา วา ปน, มหาราช, ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต อภิชาตกุลีโน เฉชฺชเภชฺชชนมนุสาสเน อิสฺสโร โหติ วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, เกวลา จ มหาปถวี ตสฺสาเธยฺยา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ ชินสาสนวเร อิสฺสโร โหติ วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, เกวลา จ สมณคุณา ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ.
‘‘นนุ ¶ , มหาราช, เถโร อุปเสโน วงฺคนฺตปุตฺโต สลฺเลขธุตคุเณ ปริปูรการิตาย อนาทิยิตฺวา ¶ สาวตฺถิยา สงฺฆสฺส กติกํ สปริโส นรทมฺมสารถึ ปฏิสลฺลานคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, ภควา จ ตํ สุวินีตํ ปริสํ โอโลเกตฺวา หฏฺตุฏฺโ ปมุทิโต อุทคฺโค ปริสาย สทฺธึ สลฺลาปํ สลฺลปิตฺวา อสมฺภินฺเนน พฺรหฺมสฺสเรน เอตทโวจ ‘ปาสาทิกา โข ปน ตฺยายํ อุปเสน ปริสา, กตํ ตฺวํ อุปเสน ปริสํ วิเนสี’ติ. โสปิ สพฺพฺุนา ทสพเลน เทวาติเทเวน ปุฏฺโ ยถาภูตสภาวคุณวเสน ภควนฺตํ เอตทโวจ –
‘‘โย โกจิ มํ, ภนฺเต, อุปสงฺกมิตฺวา ปพฺพชฺชํ วา นิสฺสยํ วา ยาจติ, ตมหํ ¶ เอวํ วทามิ ‘‘อหํ โข อาวุโส อารฺิโก ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก เตจีวริโก. สเจ ตฺวมฺปิ อารฺิโก ภวิสฺสสิ ปิณฺฑปาติโก ปํสุกูลิโก เตจีวริโก, เอวาหํ ตํ ปพฺพาเชสฺสามิ นิสฺสยํ ทสฺสามี’’ติ, สเจ โส เม, ภนฺเต, ปฏิสฺสุณิตฺวา นนฺทติ โอรมติ, เอวาหํ ตํ ปพฺพาเชมิ นิสฺสยํ เทมิ, สเจ น นนฺทติ น โอรมติ, น ตํ ปพฺพาเชมิ, น นิสฺสยํ เทมิ, เอวาหํ, ภนฺเต, ปริสํ วิเนมี’’ติ. เอวํ โข [เอวมฺปิ (ก.)], มหาราช, ธุตคุณวรสมาทิณฺโณ ชินสาสนวเร อิสฺสโร โหติ. วสวตฺตี สามิโก อิจฺฉากรโณ, ตสฺสาเธยฺยา โหนฺติ เกวลา สนฺตา สุขา สมาปตฺติโย.
‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อภิวุทฺธปริสุทฺธอุทิจฺจชาติปฺปภวํ สินิทฺธํ มุทุ โลภนียํ สุคนฺธํ ปิยํ ปตฺถิตํ ปสตฺถํ ชลกทฺทมมนุปลิตฺตํ อณุปตฺตเกสรกณฺณิกาภิมณฺฑิตํ ภมรคณเสวิตํ สีตลสลิลสํวทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ ปุพฺเพ อาเสวิเตหิ นิเสวิเตหิ จิณฺเณหิ ปริจิณฺเณหิ จริเตหิ อุปจริเตหิ ปริปูริเตหิ อริยสาวโก ตึสคุณวเรหิ สมุเปโต โหติ.
‘‘กตเมหิ ตึสคุณวเรหิ? สินิทฺธมุทุมทฺทวเมตฺตจิตฺโต โหติ, ฆาติตหตวิหตกิเลโส โหติ, หตนิหตมานทพฺโพ โหติ, อจลทฬฺหนิวิฏฺนิพฺเพมติกสทฺโธ โหติ, ปริปุณฺณปีณิตปหฏฺโลภนียสนฺตสุขสมาปตฺติลาภี โหติ, สีลวรปวรอสมสุจิคนฺธปริภาวิโต โหติ, เทวมนุสฺสานํ ปิโย โหติ มนาโป, ขีณาสวอริยวรปุคฺคลปตฺถิโต, เทวมนุสฺสานํ วนฺทิตปูชิโต, พุธวิพุธปณฺฑิตชนานํ ถุตถวิตโถมิตปสตฺโถ ¶ , อิธ วา หุรํ วา โลเกน อนุปลิตฺโต, อปฺปโถกวชฺเชปิ [อปฺปสาวชฺเชปิ (ก.)] ภยทสฺสาวี, วิปุลวรสมฺปตฺติกามานํ มคฺคผลวรตฺถสาธโน, อายาจิตวิปุลปณีตปจฺจยภาคี, อนิเกตสยโน, ฌานชฺโฌสิตตปฺปวรวิหารี ¶ , วิชฏิตกิเลสชาลวตฺถุ, ภินฺนภคฺคสงฺกุฏิตสฺฉินฺนคตินีวรโณ, อกุปฺปธมฺโม, อภินีตวาโส, อนวชฺชโภคี ¶ , คติวิมุตฺโต, อุตฺติณฺณสพฺพวิจิกิจฺโฉ, วิมุตฺติชฺโฌสิตตฺโถ [วิมุตฺติชฺฌาสิตตฺโต (สี. ปี.)], ทิฏฺธมฺโม, อจลทฬฺหภีรุตฺตาณมุปคโต, สมุจฺฉินฺนานุสโย, สพฺพาสวกฺขยํ ปตฺโต, สนฺตสุขสมาปตฺติวิหารพหุโล, สพฺพสมณคุณสมุเปโต, อิเมหิ ตึสคุณวเรหิ สมุเปโต โหติ.
‘‘นนุ, มหาราช, เถโร สาริปุตฺโต ทสสหสฺสิโลกธาตุยา อคฺคปุริโส เปตฺวา ทสพลํ โลกาจริยํ, โสปิ อปริมิตมสงฺขฺเยยฺยกปฺเป สมาจิตกุสลมูโล [สมาจิณฺณกุสลมูโล (ก.)] พฺราหฺมณกุลกุลีโน มนาปิกํ กามรตึ อเนกสตสงฺขํ ธนวรฺจ โอหาย ชินสาสเน ปพฺพชิตฺวา อิเมหิ เตรสหิ ธุตคุเณหิ กายวจีจิตฺตํ ทมยิตฺวา อชฺเชตรหิ อนนฺตคุณสมนฺนาคโต โคตมสฺส ภควโต สาสนวเร ธมฺมจกฺกมนุปฺปวตฺตโก ชาโต. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน เอกงฺคุตฺตรนิกายวรลฺฉเก –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกปุคฺคลมฺปิ สมนุปสฺสามิ, โย เอวํ ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตติ, ยถยิทํ ภิกฺขเว, สาริปุตฺโต, สาริปุตฺโต. ภิกฺขเว, ตถาคเตน อนุตฺตรํ ธมฺมจกฺกํ ปวตฺติตํ สมฺมเทว อนุปฺปวตฺเตตี’’’ติ.
‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, ยํ กิฺจิ นวงฺคํ พุทฺธวจนํ, ยา จ โลกุตฺตรา กิริยา, ยา จ โลเก อธิคมวิปุลวรสมฺปตฺติโย, สพฺพํ ตํ เตรสสุ ธุตคุเณสุ สโมธาโนปคต’’ [สโมธาเนตพฺพํ (ก.)] นฺติ.
ธุตงฺคปฺโห ทุติโย.
อนุมานวคฺโค จตุตฺโถ.