📜
๖. โอปมฺมกถาปฺโห
มาติกา
ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, กติหงฺเคหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อรหตฺตํ สจฺฉิกโรตีติ?
อิธ, มหาราช, อรหตฺตํ สจฺฉิกาตุกาเมน ภิกฺขุนา –
คทฺรภสฺส [โฆรสฺสรสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กุกฺกุฏสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ทีปิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กุมฺมสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วายสสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มกฺกฏสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
คทฺรภวคฺโค ปโม.
ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปทุมสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
พีชสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สาลกลฺยาณิกาย ¶ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นาวาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นาวาลคฺคนกสฺส [นาวาลคนกสฺส (สี. ปี.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กูปสฺส ¶ [กูปกสฺส (ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นิยามกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สมุทฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สมุทฺทวคฺโค ทุติโย.
ปถวิยา ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อาปสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เตชสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วายุสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ปพฺพตสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อากาสสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จนฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สูริยสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สกฺกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จกฺกวตฺติสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ปถวีวคฺโค ตติโย.
อุปจิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
พิฬารสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุนฺทูรสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นกุลสฺส เอกํ องฺคํ ¶ คเหตพฺพํ.
ชรสิงฺคาลสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มิคสฺส ¶ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โครูปสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
วราหสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
หตฺถิสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุปจิกาวคฺโค จตุตฺโถ.
สีหสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จกฺกวากสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เปณาหิกาย ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
อุลูกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
วคฺคุลิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สปฺปสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สีหวคฺโค ปฺจโม.
ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ถนสิตทารกสฺส [ถนปีตทารกสฺส (สฺยา.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จิตฺตกธรกุมฺมสฺส [จิตฺตกถลกุมฺมสฺส (ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปวนสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
รุกฺขสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เมฆสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มณิรตนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มาควิกสฺส ¶ ¶ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
พาฬิสิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตจฺฉกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มกฺกฏวคฺโค ฉฏฺโ.
กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กาฬายสสฺส [กาฬหํสสฺส (ก.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ฉตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เขตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อคทสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โภชนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อิสฺสาสสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กุมฺภวคฺโค สตฺตโม.
รฺโ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โทวาริกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นิสทาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ปทีปสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มยูรสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุรงฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โสณฺฑิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อินฺทขีลสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุลาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ขคฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มจฺฉสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อิณคฺคาหกสฺส ¶ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
พฺยาธิตสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
มตสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
นทิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อุสภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
มคฺคสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สุงฺกสายิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
โจรสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
สกุณคฺฆิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สุนขสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ติกิจฺฉกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
คพฺภินิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
จมริยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
กิกิยา ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กโปติกาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
เอกนยนสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
กสฺสกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ชมฺพุกสิงฺคาลิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
จงฺควารกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ทพฺพิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
อิณสาธกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
อนุวิจินกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
สารถิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
โภชกสฺส ¶ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานิ.
ตุนฺนวายสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
นาวิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
ภมรสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานีติ.
มาติกา นิฏฺิตา.
๑. คทฺรภวคฺโค
๑. คทฺรภงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘คทฺรภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, คทฺรโภ นาม สงฺการกูเฏปิ จตุกฺเกปิ สิงฺฆาฏเกปิ คามทฺวาเรปิ ถุสราสิมฺหิปิ ยตฺถ กตฺถจิ สยติ, น สยนพหุโล โหติ, เอวเมว ¶ โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ติณสนฺถาเรปิ ปณฺณสนฺถาเรปิ กฏฺมฺจเกปิ ฉมายปิ ยตฺถ กตฺถจิ จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ยตฺถ กตฺถจิ สยิตพฺพํ, น สยนพหุเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, คทฺรภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘กลิงฺครูปธานา, ภิกฺขเว, เอตรหิ มม สาวกา วิหรนฺติ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปธานสฺมิ’นฺติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินาปิ –
‘‘‘ปลฺลงฺเกน นิสินฺนสฺส, ชณฺณุเกนาภิวสฺสติ;
อลํ ผาสุวิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’’ติ.
คทฺรภงฺคปฺโห ปโม.
๒. กุกฺกุฏงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กุกฺกุฏสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุโฏ ¶ กาเลน สมเยน ปฏิสลฺลียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา นหายิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ทสฺสนาย คนฺตฺวา กาเลน สมเยน สฺุาคารํ ปวิสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ กาเลน สมเยเนว วุฏฺาติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว วุฏฺหิตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺเปตฺวา สรีรํ ปฏิชคฺคิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา ปุนเทว สฺุาคารํ ปวิสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ ปถวึ ขณิตฺวา ขณิตฺวา อชฺโฌหารํ อชฺโฌหรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา อชฺโฌหารํ อชฺโฌหริตพฺพํ ‘เนว ทวาย น มทาย ¶ น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนาย วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘กนฺตาเร ปุตฺตมํสํว, อกฺขสฺสพฺภฺชนํ ยถา;
เอวํ อาหริ อาหารํ, ยาปนตฺถมมุจฺฉิโต’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ สจกฺขุโกปิ รตฺตึ อนฺโธ โหติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนนฺเธเนว อนฺเธน วิย ภวิตพฺพํ, อรฺเปิ โคจรคาเม ปิณฺฑาย จรนฺเตนปิ รชนีเยสุ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ อนฺเธน พธิเรน มูเคน วิย ภวิตพฺพํ, น นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, นานุพฺยฺชนํ คเหตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหากจฺจายเนน –
‘จกฺขุมาสฺส ยถา อนฺโธ, โสตวา พธิโร ยถา;
ปฺวาสฺส [ชิวฺหาวสฺส (สี. ปี.)] ยถา มูโค, พลวา ทุพฺพโลริว;
อตฺตอตฺเถ [อถ อตฺเถ (สี. ปี.)] สมุปฺปนฺเน, สเยถ มตสายิก’นฺติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฏ เลฑฺฑุทณฺฑลคุฬมุคฺคเรหิ ปริปาติยนฺโตปิ สกํ เคหํ น วิชหติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จีวรกมฺมํ กโรนฺเตนปิ นวกมฺมํ กโรนฺเตนปิ วตฺตปฺปฏิวตฺตํ กโรนฺเตนปิ อุทฺทิสนฺเตนปิ อุทฺทิสาเปนฺเตนปิ โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตพฺโพ, สกํ โข ปเนตํ, มหาราช, โยคิโน เคหํ, ยทิทํ โยนิโส มนสิกาโร ¶ . อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฏสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ ¶ . ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’ติ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินาปิ –
‘‘‘ยถา สุทนฺโต มาตงฺโค, สกํ โสณฺฑํ น มทฺทติ;
ภกฺขาภกฺขํ วิชานาติ, อตฺตโน วุตฺติกปฺปนํ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺเตน, อปฺปมตฺเตน วา ปน;
ชินวจนํ น มทฺทิตพฺพํ, มนสิการวรุตฺตม’’’นฺติ.
กุกฺกุฏงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. กลนฺทกงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กลนฺทโก ปฏิสตฺตุมฺหิ โอปตนฺเต นงฺคุฏฺํ ปปฺโผเฏตฺวา มหนฺตํ กตฺวา เตเนว นงฺคุฏฺลคุเฬน ปฏิสตฺตุํ ปฏิพาหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลสสตฺตุมฺหิ โอปตนฺเต สติปฏฺานลคุฬํ ปปฺโผเฏตฺวา มหนฺตํ กตฺวา เตเนว สติปฏฺานลคุเฬน สพฺพกิเลสา ปฏิพาหิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, กลนฺทกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน จูฬปนฺถเกน –
‘ยทา กิเลสา โอปตนฺติ, สามฺคุณธํสนา;
สติปฏฺานลคุเฬน, หนฺตพฺพา เต ปุนปฺปุน’’’นฺติ.
กลนฺทกงฺคปฺโห ตติโย.
๔. ทีปินิยงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ทีปินี สกึ เยว คพฺภํ คณฺหาติ, น ปุนปฺปุนํ ปุริสํ อุเปติ? เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อายตึ ปฏิสนฺธึ อุปฺปตฺตึ คพฺภเสยฺยํ จุตึ เภทํ ขยํ วินาสํ สํสารภยํ ทุคฺคตึ วิสมํ สมฺปีฬิตํ ทิสฺวา ‘ปุนพฺภเว ¶ นปฺปฏิสนฺทหิสฺสามี’ติ โยนิโส มนสิกาโร กรณีโย. อิทํ, มหาราช, ทีปินิยา เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต ธนิยโคปาลกสุตฺเต –
‘‘‘อุสโภริว เฉตฺว พนฺธนานิ, นาโค ปูติลตํว ทาลยิตฺวา;
นาหํ ปุนุเปสฺสํ คพฺภเสยฺยํ, อถ เจ ปตฺถยสี ปวสฺส เทวา’’’ติ.
ทีปินิยงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ทีปิกงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ทีปิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ทีปิโก อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา มิเค คณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิเวกํ เสวิตพฺพํ อรฺํ รุกฺขมูลํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ สุสานํ วนปตฺถํ อพฺโภกาสํ ปลาลปฺุชํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ วิชนวาตํ มนุสฺสราหเสยฺยกํ ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ; วิเวกํ เสวมาโน หิ, มหาราช, โยคี โยคาวจโร นจิรสฺเสว ฉฬภิฺาสุ จ วสิภาวํ ปาปุณาติ. อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรหิ ธมฺมสงฺคาหเกหิ –
‘‘‘ยถาปิ ¶ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหเต [คณฺหตี (สี. ปี.)] มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ทีปิโก ยํ กิฺจิ ปสุํ วธิตฺวา วาเมน ปสฺเสน ปติตํ น ภกฺเขติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เวฬุทาเนน วา ปตฺตทาเนน วา ปุปฺผทาเนน วา ผลทาเนน วา สินานทาเนน วา มตฺติกาทาเนน วา จุณฺณทาเนน วา ทนฺตกฏฺทาเนน ¶ วา มุโขทกทาเนน วา จาตุกมฺยตาย วา มุคฺคสุปฺยตาย [มุคฺคสุปฺปตาย (สี. ปี.)] วา ปาริภฏ [ปาริภฏฺฏตาย (สี. ปี.)] ยตาย วา ชงฺฆเปสนีเยน วา เวชฺชกมฺเมน วา ทูตกมฺเมน วา ปหิณคมเนน วา ปิณฺฑปฏิปิณฺเฑน วา ทานานุปฺปทาเนน วา วตฺถุวิชฺชาย วา นกฺขตฺตวิชฺชาย วา องฺควิชฺชาย [นควิชฺชาย (ก.)] วา อฺตรฺตเรน วา พุทฺธปฺปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาชีเวน นิปฺผาทิตํ โภชนํ น ภฺุชิตพฺพํ [ปริภฺุชิตพฺพํ (สี. ปี.)] วาเมน ปสฺเสน ปติตํ ปสุํ วิย ทีปิโก. อิทํ, มหาราช, ทีปิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผารา, อุปฺปนฺนํ มธุปายสํ;
สเจ ภุตฺโต ภเวยฺยาหํ, สาชีโว ครหิโต มม.
‘‘‘ยทิปิ เม อนฺตคุณํ, นิกฺขมิตฺวา พหี จเร;
เนว ภินฺเทยฺยมาชีวํ, จชมาโนปิ ชีวิต’’’นฺติ.
ทีปิกงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. กุมฺมงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กุมฺมสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺโม อุทกจโร อุทเกเยว วาสํ กปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพปาณภูตปุคฺคลานํ หิตานุกมฺปินา เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปชฺเชน สพฺพาวนฺตํ โลกํ ผริตฺวา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ ¶ จปรํ, มหาราช, กุมฺโม อุทเก อุปฺปิลวนฺโต สีสํ อุกฺขิปิตฺวา ยทิ โกจิ ปสฺสติ, ตตฺเถว นิมุชฺชติ คาฬฺหโมคาหติ ‘มา มํ เต ปุน ปสฺเสยฺยุ’นฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลเสสุ โอปตนฺเตสุ อารมฺมณสเร นิมุชฺชิตพฺพํ คาฬฺหโมคาหิตพฺพํ ‘มา มํ กิเลสา ปุน ปสฺเสยฺยุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, กุมฺโม อุทกโต นิกฺขมิตฺวา กายํ โอตาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิสชฺชฏฺานสยนจงฺกมโต มานสํ นีหริตฺวา สมฺมปฺปธาเน มานสํ โอตาเปตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุมฺโม ปถวึ ขณิตฺวา วิวิตฺเต วาสํ กปฺเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภสกฺการสิโลกํ ปชหิตฺวา สฺุํ วิวิตฺตํ กานนํ วนปตฺถํ ปพฺพตํ กนฺทรํ คิริคุหํ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ ปวิวิตฺตโมคาหิตฺวา วิวิตฺเต เยว วาสํ อุปคนฺตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘วิวิตฺตํ อปฺปนิคฺโฆสํ, วาฬมิคนิเสวิตํ;
เสเว เสนาสนํ ภิกฺขุ, ปฏิสลฺลานการณา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุมฺโม จาริกํ จรมาโน ยทิ กฺจิ ปสฺสติ วา, สทฺทํ สุณาติ วา, โสณฺฑิปฺจมานิ องฺคานิ สเก กปาเล นิทหิตฺวา อปฺโปสฺสุกฺโก ตุณฺหีภูโต ติฏฺติ กายมนุรกฺขนฺโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพตฺถ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ อาปตนฺเตสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ สํวรกวาฏํ อนุคฺฆาเฏตฺวา มานสํ สโมทหิตฺวา สํวรํ กตฺวา สเตน สมฺปชาเนน วิหาตพฺพํ สมณธมฺมํ อนุรกฺขมาเนน. อิทํ, มหาราช, กุมฺมสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร กุมฺมูปมสุตฺตนฺเต –
‘‘‘กุมฺโมว ¶ องฺคานิ สเก กปาเล, สโมทหํ ภิกฺขุ มโนวิตกฺเก;
อนิสฺสิโต ¶ อฺมเหยาโน, ปรินิพฺพุโตนูปวเทยฺย กฺจี’’’ติ.
กุมฺมงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. วํสงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วํโส ยตฺถ วาโต, ตตฺถ อนุโลเมติ, นาฺตฺถมนุธาวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยํ พุทฺเธน ภควตา ภาสิตํ นวงฺคํ สตฺถุ สาสนํ, ตํ อนุโลมยิตฺวา กปฺปิเย อนวชฺเช ตฺวา สมณธมฺมํ เยว ปริเยสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วํสสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘นวงฺคํ พุทฺธวจนํ, อนุโลเมตฺวาน สพฺพทา;
กปฺปิเย อนวชฺชสฺมึ, ตฺวาปายํ สมุตฺตริ’’’นฺติ.
วํสงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. จาปงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จาโป สุตจฺฉิโต นมิโต [มิโต (สี. ปี. ก.)] ยาวคฺคมูลํ สมกเมว อนุนมติ นปฺปฏิตฺถมฺภติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เถรนวมชฺฌิมสมเกสุ อนุนมิตพฺพํ นปฺปฏิผริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จาปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน วิธุร [ปุณฺณก] ชาตเก –
‘‘‘จาโปวูนุทโร ¶ ธีโร, วํโส วาปิ ปกมฺปเย [จาโป วา นุน เม ธีโร, วํโสว อนุโลมยํ (สี. ปี. ก.)];
ปฏิโลมํ น วตฺเตยฺย, ส ราชวสตึ วเส’’’ติ.
จาปงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. วายสงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วายสสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วายโส อาสงฺกิตปริสงฺกิโต ยตฺตปฺปยตฺโต ¶ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาสงฺกิตปริสงฺกิเตน ยตฺตปยตฺเตน อุปฏฺิตาย สติยา สํวุเตหิ อินฺทฺริเยหิ จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายโส ยํ กิฺจิ โภชนํ ทิสฺวา าตีหิ สํวิภชิตฺวา ภฺุชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เย เต ลาภา ธมฺมิกา ธมฺมลทฺธา อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ, ตถารูเปหิ ลาเภหิ ปฏิวิภตฺตโภคินา ภวิตพฺพํ สีลวนฺเตหิ สพฺรหฺมจารีหิ. อิทํ, มหาราช, วายสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘สเจ เม อุปนาเมนฺติ, ยถาลทฺธํ ตปสฺสิโน;
สพฺเพ สํวิภชิตฺวาน, ตโต ภฺุชามิ โภชน’’’นฺติ.
วายสงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. มกฺกฏงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มกฺกฏสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มกฺกโฏ วาสมุปคจฺฉนฺโต ตถารูเป โอกาเส มหติมหารุกฺเข ปวิวิตฺเต สพฺพฏฺกสาเข [สพฺพตฺถกสาเข (สฺยา.), สพฺพฏฺสาเข (ก.)] ภีรุตฺตาเณ วาสมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน ลชฺชึ เปสลํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ วินยธรํ ปิยํ ครุภาวนียํ วตฺตารํ วจนกฺขมํ โอวาทกํ วิฺาปกํ สนฺทสฺสกํ สมาทปกํ สมุตฺเตชกํ สมฺปหํสกํ เอวรูปํ กลฺยาณมิตฺตํ อาจริยํ นิสฺสาย วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มกฺกฏสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มกฺกโฏ รุกฺเข เยว จรติ ติฏฺติ นิสีทติ, ยทิ นิทฺทํ โอกฺกมติ, ตตฺเถว รตฺตึ วาสมนุภวติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปวนาภิมุเขน ภวิตพฺพํ, ปวเน เยว านจงฺกมนิสชฺชาสยนํ ¶ นิทฺทํ โอกฺกมิตพฺพํ, ตตฺเถว สติปฏฺานมนุภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มกฺกฏสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘จงฺกมนฺโตปิ ติฏฺนฺโต, นิสชฺชาสยเนน วา;
ปวเน โสภเต ภิกฺขุ, ปวนนฺตํว วณฺณิต’’’นฺติ.
มกฺกฏงฺคปฺโห ทสโม.
คทฺรภวคฺโค ปโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
คทฺรโภ เจว [โฆรสฺสโร จ (สี. สฺยา. ปี.)] กุกฺกุโฏ, กลนฺโท ทีปินิ ทีปิโก;
กุมฺโม วํโส จ จาโป จ, วายโส อถ มกฺกโฏติ.
๒. สมุทฺทวคฺโค
๑. ลาพุลตงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ลาพุลตา ติเณ วา กฏฺเ วา ลตาย วา โสณฺฑิกาหิ อาลมฺพิตฺวา ตสฺสูปริ วฑฺฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อรหตฺเต อภิวฑฺฒิตุกาเมน มนสา อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา อรหตฺเต อภิวฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ลาพุลตาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา ลาพุลตา นาม, ติเณ กฏฺเ ลตาย วา;
อาลมฺพิตฺวา โสณฺฑิกาหิ, ตโต วฑฺฒติ อุปฺปริ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺเตน, อรหตฺตผลกามินา;
อารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา, วฑฺฒิตพฺพํ อเสกฺขผเล’’’ติ.
ลาพุลตงฺคปฺโห ปโม.
๒. ปทุมงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปทุมสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปทุมํ อุทเก ชาตํ อุทเก สํวทฺธํ อนุปลิตฺตํ อุทเกน, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุเล คเณ ลาเภ ยเส ¶ สกฺกาเร สมฺมานนาย ปริโภคปจฺจเยสุ จ สพฺพตฺถ อนุปลิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปทุมํ อุทกา อจฺจุคฺคมฺม าติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพโลกํ อภิภวิตฺวา อจฺจุคฺคมฺม โลกุตฺตรธมฺเม าตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปทุมํ อปฺปมตฺตเกนปิ อนิเลน เอริตํ จลติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปมตฺตเกสุปิ กิเลเสสุ สํยโม กรณีโย, ภยทสฺสาวินา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปทุมสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสู’ติ.
ปทุมงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. พีชงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พีชสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พีชํ อปฺปกมฺปิ สมานํ ภทฺทเก เขตฺเต วุตฺตํ เทเว สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺเต สุพหูนิ ผลานิ อนุทสฺสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยถา ปฏิปาทิตํ สีลํ เกวลํ สามฺผลมนุทสฺสติ. เอวํ สมฺมา ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, พีชสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, พีชํ สุปริโสธิเต เขตฺเต โรปิตํ ขิปฺปเมว สํวิรูหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มานสํ สุปริคฺคหิตํ สฺุาคาเร ปริโสธิตํ สติปฏฺานเขตฺตวเร ขิตฺตํ ขิปฺปเมว วิรูหติ. อิทํ, มหาราช, พีชสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ ¶ . ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘ยถาปิ ¶ เขตฺเต [ยถา เขตฺเต (สี.)] ปริสุทฺเธ, พีชฺจสฺส ปติฏฺิตํ;
วิปุลํ ตสฺส ผลํ โหติ, อปิ โตเสติ กสฺสกํ.
‘‘‘ตเถว โยคิโน จิตฺตํ, สฺุาคาเร วิโสธิตํ;
สติปฏฺานเขตฺตมฺหิ, ขิปฺปเมว วิรูหตี’’’ติ.
พีชงฺคปฺโห ตติโย.
๔. สาลกลฺยาณิกงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘สาลกลฺยาณิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สาลกลฺยาณิกา นาม อนฺโตปถวิยํ เยว อภิวฑฺฒติ หตฺถสตมฺปิ ภิยฺโยปิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตฺตาริ สามฺผลานิ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ฉฬภิฺาโย เกวลฺจ สมณธมฺมํ สฺุาคาเร เยว ปริปูรยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สาลกลฺยาณิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘สาลกลฺยาณิกา นาม, ปาทโป ธรณีรุโห;
อนฺโตปถวิยํ เยว, สตหตฺโถปิ วฑฺฒติ.
‘‘‘ยถา กาลมฺหิ สมฺปตฺเต, ปริปาเกน โส ทุโม;
อุคฺคฺฉิตฺวาน เอกาหํ, สตหตฺโถปิ วฑฺฒติ.
‘‘‘เอวเมวาหํ มหาวีร, สาลกลฺยาณิกา วิย;
อพฺภนฺตเร สฺุาคาเร, ธมฺมโต อภิวฑฺฒยิ’’’นฺติ.
สาลกลฺยาณิกงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. นาวงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นาวาย ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นาวา พหุวิธทารุสงฺฆาฏสมวาเยน พหุมฺปิ ชนํ ตารยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิวตฺตพหุวิธธมฺมสงฺฆาฏสมวาเยน สเทวโก โลโก ตารยิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวา พหุวิธอูมิตฺถนิตเวควิสฏมาวฏฺฏเวคํ ¶ สหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน พหุวิธกิเลสอูมิเวคํ ลาภสกฺการยสสิโลกปูชนวนฺทนา ปรกุเลสุ นินฺทาปสํสาสุขทุกฺขสมฺมานนวิมานนพหุวิธโทสอูมิเวคฺจ สหิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, นาวา อปริมิตมนนฺตมปารมกฺโขภิตคมฺภีเร มหติมหาโฆเส ติมิติมิงฺคลมกรมจฺฉคณากุเล มหติมหาสมุทฺเท จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ติปริวฏฺฏ ทฺวาทสาการ จตุสจฺจาภิสมยปฺปฏิเวเธ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาย ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร สจฺจสํยุตฺเต –
‘‘‘วิตกฺเกนฺตา จ โข ตุมฺเห, ภิกฺขเว, ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ วิตกฺเกยฺยาถ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ วิตกฺเกยฺยาถา’’’ติ.
นาวงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. นาวาลคฺคนกงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นาวาลคฺคนกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ¶ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ พหุอูมิชาลากุลวิกฺโขภิตสลิลตเล มหติมหาสมุทฺเท นาวํ ลคฺเคติ เปติ, น เทติ ทิสาวิทิสํ หริตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหูมิชาเล มหติมหาวิตกฺกสมฺปหาเร จิตฺตํ ลคฺเคตพฺพํ, น ทาตพฺพํ ทิสาวิทิสํ หริตุํ. อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกํ น ปฺลวติ [น ปิลวติ (สี. ปี.)] วิสีทติ, หตฺถสเตปิ อุทเก นาวํ ลคฺเคติ านมุปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภยสสกฺการมานนวนฺทนปูชนอปจิตีสุ ลาภคฺคยสคฺเคปิ ¶ น ปฺลวิตพฺพํ, สรีรยาปนมตฺตเก เยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นาวาลคฺคนกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา ¶ สมุทฺเท ลคฺคนกํ, น ปฺลวติ วิสีทติ;
ตเถว ลาภสกฺกาเร, มา ปฺลวถ วิสีทถา’’’ติ.
นาวาลคฺคนกงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. กูปงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กูโป รชฺชฺุจ วรตฺตฺจ ลงฺการฺจ ธาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สติสมฺปชฺสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ, อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเต อาโลกิเต วิโลกิเต สมิฺชิเต ปสาริเต สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณ อสิเต ปีเต ขายิเต สายิเต อุจฺจารปสฺสาวกมฺเม คเต ิเต นิสินฺเน สุตฺเต ชาคริเต ภาสิเต ตุณฺหีภาเว สมฺปชานการินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, กูปสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘สโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหเรยฺย สมฺปชาโน, อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’’ติ.
กูปงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. นิยามกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘นิยามกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นิยามโก รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺโต ยตฺตปฺปยตฺโต นาวํ สาเรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จิตฺตํ นิยามยมาเนน รตฺตินฺทิวํ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺเตน ยตฺตปฺปยตฺเตน โยนิโส มนสิกาเรน จิตฺตํ นิยาเมตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ธมฺมปเท –
‘‘‘อปฺปมาทรตา ¶ โหถ, สจิตฺตมนุรกฺขถ;
ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานํ, ปงฺเก สนฺโนว [สตฺโตว (สี. ปี.)] กฺุชโร’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, นิยามกสฺส ยํ กิฺจิ มหาสมุทฺเท กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา, สพฺพํ ตํ วิทิตํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุสลากุสลํ สาวชฺชานวชฺชํ หีนปฺปณีตํ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคํ วิชานิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, นิยามโก ยนฺเต มุทฺทิกํ เทติ ‘มา โกจิ ยนฺตํ อามสิตฺถา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จิตฺเต สํวรมุทฺทิกา ทาตพฺพา ‘มา กิฺจิ ปาปกํ อกุสลวิตกฺกํ วิตกฺเกสี’ติ, อิทํ, มหาราช, นิยามกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร ‘มา, ภิกฺขเว, ปาปเก อกุสเล วิตกฺเก วิตกฺเกยฺยาถ, เสยฺยถีทํ, กามวิตกฺกํ พฺยาปาทวิตกฺกํ วิหึสาวิตกฺก’’’นฺติ.
นิยามกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. กมฺมการงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กมฺมกาโร เอวํ จินฺตยติ ‘ภตโก อหํ อิมาย นาวาย กมฺมํ กโรมิ, อิมายาหํ นาวาย วาหสา ภตฺตเวตนํ ลภามิ, น เม ปมาโท กรณีโย, อปฺปมาเทน เม อยํ นาวา วาเหตพฺพา’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอวํ จินฺตยิตพฺพํ ‘อิมํ โข อหํ จาตุมหาภูติกํ กายํ สมฺมสนฺโต สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺโต อุปฏฺิตสฺสติ สโต สมฺปชาโน สมาหิโต เอกคฺคจิตฺโต ชาติชราพฺยาธิมรณโสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาเสหิ ปริมุจฺจิสฺสามีติ อปฺปมาโท เม กรณีโย’ติ, อิทํ, มหาราช, กมฺมการสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘กายํ ¶ อิมํ สมฺมสถ, ปริชานาถ ปุนปฺปุนํ;
กาเย สภาวํ ทิสฺวาน, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’ติ.
กมฺมการงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. สมุทฺทงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘สมุทฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มหาสมุทฺโท มเตน กุณเปน สทฺธึ น สํวสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหมานทิฏฺิมกฺขปฬาสอิสฺสามจฺฉริยมายาสาเยฺยกุฏิลวิสมทุจฺจริตกิเลสมเลหิ สทฺธึ น สํวสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สมุทฺทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มุตฺตามณิเวฬุริยสงฺขสิลาปวาฬผลิกมณิวิวิธรตนนิจยํ ธาเรนฺโต ปิทหติ, น พหิ วิกิรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มคฺคผลฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติวิปสฺสนาภิฺาวิวิธคุณรตนานิ อธิคนฺตฺวา ¶ ปิทหิตพฺพานิ, น พหิ นีหริตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, สมุทฺทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท มหนฺเตหิ มหาภูเตหิ สทฺธึ สํวสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปิจฺฉํ สนฺตุฏฺํ ธุตวาทํ สลฺเลขวุตฺตึ อาจารสมฺปนฺนํ ลชฺชึ เปสลํ ครุํ ภาวนียํ วตฺตารํ วจนกฺขมํ โจทกํ ปาปครหึ โอวาทกํ อนุสาสกํ วิฺาปกํ สนฺทสฺสกํ สมาทปกํ สมุตฺเตชกํ สมฺปหํสกํ กลฺยาณมิตฺตํ สพฺรหฺมจารึ นิสฺสาย วสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท นวสลิลสมฺปุณฺณาหิ คงฺคายมุนาอจิรวตีสรภูมหีอาทีหิ นทีสตสหสฺเสหิ อนฺตลิกฺเข สลิลธาราหิ จ ปูริโตปิ สกํ เวลํ นาติวตฺตติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ลาภสกฺการสิโลกวนฺทนมานนปูชนการณา ชีวิตเหตุปิ สฺจิจฺจ สิกฺขาปทวีติกฺกโม น กรณีโย. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ¶ จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘เสยฺยถาปิ, มหาราช [ปหาราธ (สี. ปี.)], มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติกฺกมติ, เอวเมว โข, มหาราช, ยํ มหา สาวกานํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ, ตํ มม สาวกา ชีวิตเหตุปิ นาติกฺกมนฺตี’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มหาสมุทฺโท สพฺพสวนฺตีหิ คงฺคายมุนาอจิรวตีสรภูมหีหิ อนฺตลิกฺเข อุทกธาราหิปิ น ปริปูรติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุทฺเทสปริปุจฺฉาสวนธารณวินิจฺฉยอภิธมฺมวินยคาฬฺหสุตฺตนฺตวิคฺคหปทนิกฺเขปปทสนฺธิ ปทวิภตฺตินวงฺคชินสาสนวรํ สุณนฺเตนาปิ น ตปฺปิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มหาสมุทฺทสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตโสมชาตเก –
‘‘‘อคฺคิ ยถา ติณกฏฺํ ทหนฺโต, น ตปฺปติ สาคโร วา นทีหิ;
เอวมฺปิ เจ [เอวมฺปิ เว (สฺยา.), เอวํ หิ เม (ก.) ชา. ๑ อสีตินิปาเต] ปณฺฑิตา ราชเสฏฺ, สุตฺวา น ตปฺปนฺติ สุภาสิเตนา’’’ติ.
สมุทฺทงฺคปฺโห ทสโม.สมุทฺทวคฺโค ทุติโย.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
ลาพุลตา จ ปทุมํ, พีชํ สาลกลฺยาณิกา;
นาวา จ นาวาลคฺคนํ, กูโป นิยามโก ตถา;
กมฺมกาโร สมุทฺโท จ, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๓. ปถวีวคฺโค
๑. ปถวีองฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, ‘ปถวิยา ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปถวี อิฏฺานิฏฺานิ กปฺปูราครุตครจนฺทนกุงฺกุมาทีนิ อากิรนฺเตปิ ปิตฺตเสมฺหปุพฺพรุหิรเสทเมทเขฬสิงฺฆาณิกลสิก- มุตฺตกรีสาทีนิ อากิรนฺเตปิ ตาทิสา เยว, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิฏฺานิฏฺเ ลาภาลาเภ ยสายเส นินฺทาปสํสาย สุขทุกฺเข สพฺพตฺถ ตาทินา เยว ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี มณฺฑนวิภูสนาปคตา สกคนฺธปริภาวิตา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิภูสนาปคเตน สกสีลคนฺธปริภาวิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี นิรนฺตรา อขณฺฑจฺฉิทฺทา อสุสิรา พหลา ฆนา วิตฺถิณฺณา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิรนฺตรมขณฺฑจฺฉิทฺทมสุสิรพหลฆนวิตฺถิณฺณสีเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปถวี คามนิคมนครชนปทรุกฺขปพฺพตนทีตฬากโปกฺขรณีมิคปกฺขิมนุชนรนาริคณํ ธาเรนฺตีปิ อกิลาสุ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โอวทนฺเตนปิ อนุสาสนฺเตนปิ วิฺาเปนฺเตนปิ สนฺทสฺเสนฺเตนปิ สมาทเปนฺเตนปิ สมุตฺเตเชนฺเตนปิ สมฺปหํเสนฺเตนปิ ธมฺมเทสนาสุ อกิลาสุนา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปถวี อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺตา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺเตน ปถวิสเมน เจตสา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปถวิยา ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ ¶ , มหาราช, อุปาสิกาย จูฬสุภทฺทาย สกสมเณ ปริกิตฺตยมานาย –
‘‘‘เอกฺเจ ¶ พาหํ วาสิยา, ตจฺเฉ กุปิตมานสา [กุปิตมานโส (ก.)];
เอกฺเจพาหํ คนฺเธน, อาลิมฺเปยฺย ปโมทิตา [ปโมทิโต (ก.)].
‘‘‘อมุสฺมึ ปฏิโฆ นตฺถิ, ราโค อสฺมึ น วิชฺชติ;
ปถวีสมจิตฺตา เต, ตาทิสา สมณา มมา’’’ติ.
ปถวีองฺคปฺโห ปโม.
๒. อาปงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อาปสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อาโป สุสณฺิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุทฺโธ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุหนลปนเนมิตฺตกนิปฺเปสิกตํ อปเนตฺวา สุสณฺิตมกมฺปิตมลุฬิตสภาวปริสุทฺธาจาเรน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป สีตลสภาวสณฺิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺเตสุ ขนฺติเมตฺตานุทฺทยสมฺปนฺเนน หิเตสินา อนุกมฺปเกน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อาโป อสุจึ สุจึ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คาเม วา อรฺเ วา อุปชฺฌาเย อุปชฺฌายมตฺเตสุ อาจริเย อาจริยมตฺเตสุ สพฺพตฺถ อนธิกรเณน ภวิตพฺพํ อนวเสสการินา. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อาโป พหุชนปตฺถิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปิจฺฉสนฺตุฏฺปวิวิตฺตปฏิสลฺลาเนน สตตํ สพฺพโลกมภิปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อาโป น กสฺสจิ อหิตมุปทหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปรภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทริตฺตชฺฌานอรติชนนํ กายวจีจิตฺเตหิ ¶ ปาปกํ น กรณียํ. อิทํ, มหาราช, อาปสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช, ภควตา, เทวาติเทเวน กณฺหชาตเก –
‘‘‘วรฺเจ เม อโท สกฺก, สพฺพภูตานมิสฺสร;
น มโน วา สรีรํ วา, มํ-กเต สกฺก กสฺสจิ;
กทาจิ อุปหฺเถ, เอตํ สกฺก วรํ วเร’’’ติ.
อาปงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. เตชงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เตชสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เตโช ติณกฏฺสาขาปลาสํ ฑหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เย เต อพฺภนฺตรา วา พาหิรา วา กิเลสา อิฏฺานิฏฺารมฺมณานุภวนา, สพฺเพ เต าณคฺคินา ฑหิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช นิทฺทโย อการุณิโก, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกิเลเสสุ การฺุานุทฺทยา น กาตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช สีตํ ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ วีริยสนฺตาปเตชํ อภิชเนตฺวา กิเลสา ปฏิหนฺตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เตโช อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺโต อุณฺหมภิชเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนุนยปฺปฏิฆวิปฺปมุตฺเตน เตโชสเมน เจตสา วิหริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, เตโช อนฺธการํ วิธมิตฺวา [วิธมติ (สี. ปี. ก.)] อาโลกํ ทสฺสยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อวิชฺชนฺธการํ วิธมิตฺวา าณาโลกํ ทสฺสยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เตชสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สกํ ปุตฺตํ ราหุลํ โอวทนฺเตน ¶ –
‘เตโชสมํ [ม. นิ. ๒.๑๑๙], ราหุล, ภาวนํ ภาเวหิ, เตโชสมํ หิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา? มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ น ปริยาทาย สฺสนฺตี’’’ติ.
เตชงฺคปฺโห ตติโย.
๔. วายุงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘วายุสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วายุ สุปุปฺผิตวนสณฺฑนฺตรํ อภิวายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิมุตฺติวรกุสุมปุปฺผิตารมฺมณวนนฺตเร รมิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ ธรณีรุหปาทปคเณ มถยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วนนฺตรคเตน สงฺขาเร วิจินนฺเตน กิเลสา มถยิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ อากาเส จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ โลกุตฺตรธมฺเมสุ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ คนฺธํ อนุภวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อตฺตโน สีลวรสุรภิคนฺโธ [สีลสุรภิคนฺโท (สี. ปี.)] อนุภวิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วายุ นิราลโย อนิเกตวาสี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิราลยมนิเกตมสนฺถเวน สพฺพตฺถ ¶ วิมุตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วายุสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘สนฺถวาโต ภยํ ชาตํ, นิเกตา ชายเต รโช;
อนิเกตมสนฺถวํ, เอตํ เว มุนิทสฺสน’’’นฺติ.
วายุงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. ปพฺพตงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปพฺพตสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปพฺพโต อจโล อกมฺปิโต [อกมฺปิโย (สี. ปี.)] อสมฺปเวธี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สมฺมานเน วิมานเน สกฺกาเร อสกฺกาเร ครุกาเร อครุกาเร ยเส อยเส นินฺทาย ปสํสาย สุเข ทุกฺเข อิฏฺานิฏฺเสุ สพฺพตฺถ รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพธมฺเมสุ รชนีเยสุ น รชฺชิตพฺพํ, ทุสฺสนีเยสุ น ทุสฺสิตพฺพํ, มุยฺหนีเยสุ น มุยฺหิตพฺพํ, น กมฺปิตพฺพํ น จลิตพฺพํ, ปพฺพเตน วิย อจเลน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘เสโล ¶ ยถา เอกฆโน [เอกคฺฆโน (ก.) ธ. ป. ๘๑ ธมฺมปเท], วาเตน น สมีรติ;
เอวํ นินฺทาปสํสาสุ, น สมิฺชนฺติ ปณฺฑิตา’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต ถทฺโธ น เกนจิ สํสฏฺโ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ถทฺเธน อสํสฏฺเน ภวิตพฺพํ, น เกนจิ สํสคฺโค กรณีโย. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘อสํสฏฺํ คหฏฺเหิ, อนาคาเรหิ จูภยํ;
อโนกสาริมปฺปิจฺฉํ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพเต พีชํ น วิรูหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมานเส กิเลสา น วิรูหาเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สุภูตินา –
‘‘‘ราคูปสํหิตํ ¶ จิตฺตํ, ยทา อุปฺปชฺชเต มม;
สยํว ปจฺจเวกฺขามิ [ปจฺจเวกฺขิตฺวา (สพฺพตฺถ)], เอกคฺโค [เอกโก (สพฺพตฺถ)] ตํ ทเมมหํ.
‘‘‘รชฺชเส [รชฺชสิ (สี.), รฺชสิ (ปี.)] รชนีเย จ, ทุสฺสนีเย จ ทุสฺสเส;
มุยฺหเส [มุยฺหสิ (สี.)] โมหนีเย จ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุวํ.
‘‘‘วิสุทฺธานํ ¶ อยํ วาโส, นิมฺมลานํ ตปสฺสินํ;
มา โข วิสุทฺธํ ทูเสสิ, นิกฺขมสฺสุ วนา ตุว’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อจฺจุคฺคโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าณจฺจุคฺคเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต;
ปฺาปาสาทมารุยฺห, อโสโก โสกินึ ปชํ;
ปพฺพตฏฺโว ภูมฏฺเ [ภุมฺมฏฺเ (สี. ปี.)], ธีโร พาเล อเวกฺขตี’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปพฺพโต อนุนฺนโต อโนนโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุนฺนตาวนติ น กรณียา. อิทํ, มหาราช, ปพฺพตสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, อุปาสิกาย จูฬสุภทฺทาย สกสมเณ ปริกิตฺตยมานาย –
‘‘‘ลาเภน อุนฺนโต โลโก, อลาเภน จ โอนโต;
ลาภาลาเภน เอกตฺถา [เอกฏฺา (สี. ปี.)], ตาทิสา สมณา มมา’’’ติ.
ปพฺพตงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. อากาสงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อากาสสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อากาโส สพฺพโส อคยฺโห, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ สพฺพโส กิเลเสหิ อคยฺเหน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อิสิตาปสภูตทิชคณานุสฺจริโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’ติ สงฺขาเรสุ มานสํ สฺจารยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส สนฺตาสนีโย, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน สพฺพภวปฏิสนฺธีสุ มานสํ อุพฺเพชยิตพฺพํ, อสฺสาโท น กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อนนฺโต อปฺปมาโณ อปริเมยฺโย, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนนฺตสีเลน อปริมิตาเณน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อากาโส อลคฺโค อสตฺโต อปฺปติฏฺิโต อปลิพุทฺโธ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุเล คเณ ลาเภ อาวาเส ปลิโพเธ ปจฺจเย สพฺพกิเลเสสุ จ สพฺพตฺถ อลคฺเคน ภวิตพฺพํ, อนาสตฺเตน อปฺปติฏฺิเตน อปลิพุทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อากาสสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สกํ ปุตฺตํ ราหุลํ โอวทนฺเตน – ‘เสยฺยถาปิ, ราหุล [ม. นิ. ๒.๑๑๙], อากาโส น กตฺถจิ ปติฏฺิโต, เอวเมว โข ตฺวํ, ราหุล, อากาสสมํ ภาวนํ ภาเวหิ, อากาสสมํ หิ เต, ราหุล, ภาวนํ ภาวยโต อุปฺปนฺนา มนาปามนาปา ผสฺสา จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสนฺตี’’’ติ.
อากาสงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. จนฺทงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จนฺทสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จนฺโท สุกฺกปกฺเข ¶ อุทยนฺโต อุตฺตรุตฺตรึ วฑฺฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิปตฺติยา อาคมาธิคเม ปฏิสลฺลาเน สติปฏฺาเน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตาย โภชเน มตฺตฺุตาย ชาคริยานุโยเค อุตฺตรุตฺตรึ วฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท อุฬาราธิปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุฬาเรน ฉนฺทาธิปตินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท นิสาย จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปวิวิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ตติยํ ¶ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท วิมานเกตุ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลเกตุนา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จนฺโท อายาจิตปตฺถิโต อุเทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน อายาจิตปตฺถิเตน กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, จนฺทสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร ‘จนฺทูปมา, ภิกฺขเว, กุลานิ อุปสงฺกมถ, อปกสฺเสว กายํ อปกสฺส จิตฺตํ นิจฺจนวกา กุเลสุ อปฺปคพฺภา’’’ติ [อปฺปคพฺพาติ (ก.) สํ. นิ. ๒.๑๔๖].
จนฺทงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. สูริยงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สูริยสฺส [สุริยสฺส (สี. สฺยา. ปี.)] สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สูริโย สพฺพํ อุทกํ ปริโสเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกิเลสา อนวเสสํ ปริโสเสตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สูริโย ตมนฺธการํ วิธมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพํ ราคตมํ โทสตมํ โมหตมํ มานตมํ ทิฏฺิตมํ กิเลสตมํ สพฺพํ ทุจฺจริตตมํ วิธมยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย อภิกฺขณํ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อภิกฺขณํ โยนิโส มนสิกาโร กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย รํสิมาลี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมณมาลินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย มหาชนกายํ สนฺตาเปนฺโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจารสีลคุณวตฺตปฺปฏิปตฺติยา ¶ ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺติอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาเทหิ สเทวโก โลโก สนฺตาปยิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สูริโย ราหุภยา ภีโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทุจฺจริตทุคฺคติวิสมกนฺตารวิปากวินิปาตกิเลสชาลชฏิเต ทิฏฺิสงฺฆาฏปฏิมุกฺเก กุปถปกฺขนฺเท กุมฺมคฺคปฏิปนฺเน [กุมคฺคปฏิปนฺเน (สฺยา. ก.)] สตฺเต ทิสฺวา มหตา สํเวคภเยน มานสํ สํเวเชตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส ฉฏฺํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สูริโย กลฺยาณปาปเก ทสฺเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทโลกิยโลกุตฺตรธมฺมา ทสฺเสตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สูริยสฺส สตฺตมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน วงฺคีเสน –
‘‘‘ยถาปิ สูริโย อุทยนฺโต, รูปํ ทสฺเสติ ปาณินํ;
สุจิฺจ อสุจิฺจาปิ, กลฺยาณฺจาปิ ปาปกํ.
‘‘‘ตถา ¶ ภิกฺขุ ธมฺมธโร, อวิชฺชาปิหิตํ ชนํ;
ปถํ ทสฺเสติ วิวิธํ, อาทิจฺโจวุทยํ ยถา’’’ติ.
สูริยงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. สกฺกงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สกฺกสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สกฺโก เอกนฺตสุขสมปฺปิโต, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกนฺตปวิเวกสุขาภิรเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สกฺโก เทเว ทิสฺวา ปคฺคณฺหาติ, หาสมภิชเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุสเลสุ ธมฺเมสุ อลีนมตนฺทิตํ สนฺตํ มานสํ ปคฺคเหตพฺพํ, หาสมภิชเนตพฺพํ, อุฏฺหิตพฺพํ ฆฏิตพฺพํ วายมิตพฺพํ ¶ . อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, สกฺกสฺส อนภิรติ นุปฺปชฺชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สฺุาคาเร อนภิรติ น อุปฺปาเทตพฺพา. อิทํ, มหาราช, สกฺกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สุภูตินา –
‘‘‘สาสเน เต มหาวีร, ยโต ปพฺพชิโต อหํ;
นาภิชานามิ อุปฺปนฺนํ, มานสํ กามสํหิต’’’นฺติ.
สกฺกงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. จกฺกวตฺติงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จกฺกวตฺติสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช ¶ , จกฺกวตฺตี จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ สงฺคณฺหาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตสฺสนฺนํ ปริสานํ มานสํ สงฺคเหตพฺพํ อนุคฺคเหตพฺพํ สมฺปหํเสตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส วิชิเต โจรา น อุฏฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กามราคพฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกา น อุปฺปาเทตพฺพา. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘วิตกฺกูปสเม จ โย รโต, อสุภํ ภาวยเต [ภาวยตี (สฺยา.) ธ. ป. ๓๕๐ ธมฺมปเท] สทา สโต;
เอส โข พฺยนฺติกาหิติ, เอส เฉจฺฉติ มารพนฺธน’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺตี ทิวเส ทิวเส สมุทฺทปริยนฺตํ มหาปถวึ อนุยายติ กลฺยาณปาปกานิ วิจินมาโน, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ ทิวเส ทิวเส ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ‘กึ นุ โข เม อิเมหิ ตีหิ าเนหิ ¶ อนุปวชฺชสฺส ทิวโส วีติวตฺตตี’ติ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส ¶ ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน องฺคุตฺตรนิกายวเร –
‘กถมฺภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติวตฺตนฺตีติ [วีติปตนฺตีติ (สี. ปี.)] ปพฺพชิเตน อภิณฺหํ ปจฺจเวกฺขิตพฺพ’นฺติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส อพฺภนฺตรพาหิรารกฺขา สุสํวิหิตา โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อพฺภนฺตรานํ พาหิรานํ กิเลสานํ อารกฺขาย สติโทวาริโก เปตพฺโพ. อิทํ ¶ , มหาราช, จกฺกวตฺติสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘สติโทวาริโก, ภิกฺขเว, อริยสาวโก อกุสลํ ปชหติ กุสลํ ภาเวติ, สาวชฺชํ ปชหติ, อนวชฺชํ ภาเวติ, สุทฺธมตฺตานํ ปริหรตี’’’ติ.
จกฺกวตฺติงฺคปฺโห ทสโม.
ปถวีวคฺโค ตติโย.
ตสฺสุทฺทานํ –
ปถวี อาโป จ เตโช จ, วาโย จ ปพฺพเตน จ;
อากาโส จนฺทสูริโย จ, สกฺโก จ จกฺกวตฺตินาติ.
๔. อุปจิกาวคฺโค
๑. อุปจิกงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘อุปจิกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุปจิกา อุปริ ฉทนํ กตฺวา อตฺตานํ ปิทหิตฺวา โคจราย จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลสํวรฉทนํ กตฺวา มานสํ ปิทหิตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ, สีลสํวรฉทเนน โข, มหาราช, โยคี โยคาวจโร สพฺพภยสมติกฺกนฺโต โหติ. อิทํ, มหาราช, อุปจิกาย เอกํ องฺคํ ¶ คเหตพฺพํ, ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘สีลสํวรฉทนํ, โยคี กตฺวาน มานสํ;
อนุปลิตฺโต โลเกน, ภยา จ ปริมุจฺจตี’’’ติ.
อุปจิกงฺคปฺโห ปโม.
๒. พิฬารงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พิฬารสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พิฬาโร คุหาคโตปิ สุสิรคโตปิ หมฺมิยนฺตรคโตปิ อุนฺทูรํ เยว ปริเยสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คามคเตนาปิ อรฺคเตนาปิ รุกฺขมูลคเตนาปิ สฺุาคารคเตนาปิ สตตํ สมิตํ อปฺปมตฺเตน กายคตาสติโภชนํ เยว ปริเยสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, พิฬารสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, พิฬาโร อาสนฺเน เยว โคจรํ ปริเยสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิเมสุ เยว ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อุทยพฺพยานุปสฺสินา วิหริตพฺพํ ‘อิติ รูปํ อิติ รูปสฺส สมุทโย อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม, อิติ เวทนา อิติ เวทนาย สมุทโย อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม, อิติ สฺา อิติ สฺาย สมุทโย ¶ อิติ สฺาย อตฺถงฺคโม, อิติ สงฺขารา อิติ สงฺขารานํ สมุทโย อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม, อิติ วิฺาณํ อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. อิทํ, มหาราช, พิฬารสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘น อิโต ทูเร ภวิตพฺพํ, ภวคฺคํ กึ กริสฺสติ;
ปจฺจุปฺปนฺนมฺหิ โวหาเร, สเก กายมฺหิ วินฺทถา’’’ติ.
พิฬารงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. อุนฺทูรงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุนฺทูรสฺส [อุนฺทุรสฺส (สฺยา. ก.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุนฺทูโร อิโตจิโต จ วิจรนฺโต อาหารูปาสีสโก เยว จรติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน อิโตจิโต จ วิจรนฺเตน โยนิโส มนสิการูปาสีสเกเนว ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อุนฺทูรสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘ธมฺมาสีสํ [ธมฺมสีสํ (สี. ปี.)] กริตฺวาน, วิหรนฺโต วิปสฺสโก;
อโนลีโน วิหรติ, อุปสนฺโต สทา สโต’’’ติ.
อุนฺทูรงฺคปฺโห ตติโย.
๔. วิจฺฉิกงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วิจฺฉิโก นงฺคุลาวุโธ นงฺคุลํ อุสฺสาเปตฺวา จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าณาวุเธน ภวิตพฺพํ, าณํ อุสฺสาเปตฺวา วิหริตพฺพํ ¶ . อิทํ, มหาราช, วิจฺฉิกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘าณขคฺคํ คเหตฺวาน, วิหรนฺโต วิปสฺสโก;
ปริมุจฺจติ สพฺพภยา, ทุปฺปสโห จ โส ภเว’’’ติ.
วิจฺฉิกงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. นกุลงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘นกุลสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, นกุโล อุรคมุปคจฺฉนฺโต เภสชฺเชน กายํ ปริภาเวตฺวา อุรคมุปคจฺฉติ คเหตุํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โกธาฆาตพหุลํ กลหวิคฺคหวิวาทวิโรธาภิภูตํ โลกมุปคจฺฉนฺเตน เมตฺตาเภสชฺเชน มานสํ อนุลิมฺปิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, นกุลสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ตสฺมา สกํ ปเรสมฺปิ, กาตพฺพา เมตฺตภาวนา;
เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺพํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’’นฺติ.
นกุลงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. ชรสิงฺคาลงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ชรสิงฺคาลสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ชรสิงฺคาโล โภชนํ ปฏิลภิตฺวา อชิคุจฺฉมาโน ยาวทตฺถํ อาหรยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ ปฏิลภิตฺวา อชิคุจฺฉมาเนน สรีรยาปนมตฺตเมว ปริภฺุชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชรสิงฺคาลสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหากสฺสเปน –
‘‘‘เสนาสนมฺหา โอรุยฺห, คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสึ;
ภฺุชนฺตํ ปุริสํ กุฏฺึ, สกฺกจฺจ นํ อุปฏฺหึ.
‘‘‘โส ¶ เม ปกฺเกน หตฺเถน, อาโลปํ อุปนามยิ;
อาโลปํ ปกฺขิปนฺตสฺส, องฺคุลิเปตฺถ ฉิชฺชถ.
‘‘‘กุฏฺฏมูลฺจ นิสฺสาย, อาโลปํ ตํ อภฺุชิสํ;
ภฺุชมาเน วา ภุตฺเต วา, เชคุจฺฉํ เม น วิชฺชตี’ติ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ชรสิงฺคาโล โภชนํ ปฏิลภิตฺวา น วิจินาติ ลูขํ วา ปณีตํ วาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ ปฏิลภิตฺวา น วิจินิตพฺพํ ‘ลูขํ วา ปณีตํ วา สมฺปนฺนํ วา อสมฺปนฺนํ วา’ติ, ยถาลทฺเธน สนฺตุสฺสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชรสิงฺคาลสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปเสเนน วงฺคนฺตปุตฺเตน –
‘‘‘ลูเขนปิ จ สนฺตุสฺเส, นาฺํ ปตฺเถ รสํ พหุํ;
รเสสุ อนุคิทฺธสฺส, ฌาเน น รมเต [รมตี (สี. ปี.)] มโน;
อิตรีตเรน สนฺตุฏฺโ [สนฺตุฏฺเ (สี. ปี.)], สามฺํ ปริปูรตี’’’ติ.
ชรสิงฺคาลงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. มิคงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘มิคสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มิโค ทิวา อรฺเ จรติ, รตฺตึ อพฺโภกาเส, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทิวา อรฺเ วิหริตพฺพํ, รตฺตึ อพฺโภกาเส. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ¶ ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน โลมหํสนปริยาเย –
‘โส โข อหํ, สาริปุตฺต, ยา ตา รตฺติโย สีตา เหมนฺติกา อนฺตรฏฺกา หิมปาตสมยา [อนฺตรฏฺเก หิมปาตสมเย (สี. ปี. ก.)], ตถารูปาสุ รตฺตีสุ รตฺตึ อพฺโภกาเส วิหรามิ, ทิวา วนสณฺเฑ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเส ทิวา อพฺโภกาเส วิหรามิ, รตฺตึ วนสณฺเฑ’ติ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, มิโค สตฺติมฺหิ วา สเร วา โอปตนฺเต วฺเจติ [วชฺเชติ (ก.)] ปลายติ, น กายมุปเนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลเสสุ โอปตนฺเตสุ วฺจยิตพฺพํ [วชฺชยิตพฺพํ (ก.)] ปลายิตพฺพํ, น จิตฺตมุปเนตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มิโค มนุสฺเส ทิสฺวา เยน วา เตน วา ปลายติ ‘มา มํ เต อทฺทสํสู’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ภณฺฑนกลหวิคฺคหวิวาทสีเล ทุสฺสีเล กุสีเต สงฺคณิการาเม ทิสฺวา เยน วา เตน วา ปลายิตพฺพํ ‘มา มํ เต อทฺทสํสุ, อหฺจ เต มา อทฺทส’นฺติ. อิทํ, มหาราช, มิคสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘มา เม กทาจิ ปาปิจฺโฉ, กุสีโต หีนวีริโย;
อปฺปสฺสุโต อนาจาโร, สมฺมโต [สเมโต (สี. ปี.)] อหุ กตฺถจี’’’ติ.
มิคงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. โครูปงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘โครูปสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โครูโป สกํ เคหํ น วิชหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สโก กาโย น วิชหิตพฺโพ ‘อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิกิรณวิทฺธํสนธมฺโม อยํ กาโย’ติ. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป อาทินฺนธุโร สุขทุกฺเขน ธุรํ วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาทินฺนพฺรหฺมจริเยน ¶ สุขทุกฺเขน ยาว ชีวิตปริยาทานา อาปาณโกฏิกํ พฺรหฺมจริยํ จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป ฉนฺเทน ฆายมาโน ปานียํ ปิวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาจริยุปชฺฌายานํ อนุสิฏฺิ ¶ ฉนฺเทน เปเมน ปสาเทน ฆายมาเนน ปฏิคฺคเหตพฺพา. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โครูโป เยน เกนจิ วาหิยมาโน วหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เถรนวมชฺฌิมภิกฺขูนมฺปิ คิหิอุปาสกสฺสาปิ โอวาทานุสาสนี สิรสา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, โครูปสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ตทหุ ปพฺพชิโต สนฺโต, ชาติยา สตฺตวสฺสิโก;
โสปิ มํ อนุสาเสยฺย, สมฺปฏิจฺฉามิ มตฺถเก [มุทฺธนา (สี.)].
‘‘‘ติพฺพํ ฉนฺทฺจ เปมฺจ, ตสฺมึ ทิสฺวา อุปฏฺเป;
เปยฺยาจริยฏฺาเน, สกฺกจฺจ นํ ปุนปฺปุน’’’นฺติ.
โครูปงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. วราหงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วราหสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วราโห สนฺตตฺตกิเต [สนฺตตฺตกิเน (สี. ปี.)] คิมฺหสมเย สมฺปตฺเต อุทกํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โทเสน จิตฺเต อาลุฬิตขลิตวิพฺภนฺตสนฺตตฺเต สีตลามตปณีตเมตฺตาภาวนํ อุปคนฺตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วราหสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วราโห จิกฺขลฺลมุทกมุปคนฺตฺวา นาสิกาย ปถวึ ขณิตฺวา โทณึ กตฺวา โทณิกาย สยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ มานเส กายํ นิกฺขิปิตฺวา อารมฺมณนฺตรคเตน สยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วราหสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน –
‘‘‘กาเย [กาเยน (ก.)] สภาวํ ทิสฺวาน, วิจินิตฺวา วิปสฺสโก;
เอกากิโย อทุติโย, เสติ อารมฺมณนฺตเร’’’ติ.
วราหงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. หตฺถิงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘หตฺถิสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, หตฺถี นาม จรนฺโต เยว ปถวึ ทาเลติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กายํ สมฺมสมาเนเนว สพฺเพ กิเลสา ทาเลตพฺพา. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สพฺพกาเยเนว อปโลเกติ, อุชุกํ เยว เปกฺขติ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพกาเยน อปโลกินา ¶ ภวิตพฺพํ, น ทิสาวิทิสา วิโลเกตพฺพา, น อุทฺธํ อุลฺโลเกตพฺพํ, น อโธ โอโลเกตพฺพํ, ยุคมตฺตเปกฺขินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อนิพทฺธสยโน โคจรายมนุคนฺตฺวา น ตเมว เทสํ วาสตฺถมุปคจฺฉติ, น ธุวปฺปติฏฺาลโย, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนิพทฺธสยเนน ภวิตพฺพํ, นิราลเยน ปิณฺฑาย คนฺตพฺพํ, ยทิ ปสฺสติ วิปสฺสโก มนฺุํ ปติรูปํ รุจิรเทเส ภวํ มณฺฑปํ วา รุกฺขมูลํ วา คุหํ วา ปพฺภารํ วา, ตตฺเถว วาสมุปคนฺตพฺพํ, ธุวปฺปติฏฺาลโย น กาตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี อุทกํ โอคาหิตฺวา สุจิวิมลสีตลสลิลปริปุณฺณํ กุมุทุปฺปลปทุมปุณฺฑรีกสฺฉนฺนํ มหติมหนฺตํ ¶ ปทุมสรํ โอคาหิตฺวา กีฬติ คชวรกีฬํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สุจิวิมลวิปฺปสนฺนมนาวิลธมฺมวรวาริปุณฺณํ วิมุตฺติกุสุมสฺฉนฺนํ มหาสติปฏฺานโปกฺขรณึ โอคาหิตฺวา าเณน สงฺขารา โอธุนิตพฺพา วิธุนิตพฺพา, โยคาวจรกีฬา กีฬิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, หตฺถี สโต ปาทํ อุทฺธรติ, สโต ปาทํ นิกฺขิปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ อุทฺธริตพฺพํ, สเตน สมฺปชาเนน ปาทํ นิกฺขิปิตพฺพํ, อภิกฺกมปฏิกฺกเม สมิฺชนปสารเณ สพฺพตฺถ สเตน สมฺปชาเนน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, หตฺถิสฺส ¶ ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘กาเยน สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;
มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวโร;
สพฺพตฺถ สํวุโต ลชฺชี, รกฺขิโตติ ปวุจฺจตี’’’ติ.
หตฺถิงฺคปฺโห ทสโม.อุปจิกาวคฺโค จตุตฺโถ.
ตสฺสุทฺทานํ ¶ –
อุปจิกา พิฬาโร จ, อุนฺทูโร วิจฺฉิเกน จ;
นกุโล สิงฺคาโล มิโค,
โครูโป วราโห หตฺถินา ทสาติ.
๕. สีหวคฺโค
๑. สีหงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ ¶ นาคเสน, ‘สีหสฺส สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ สตฺต องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สีโห นาม เสตวิมลปริสุทฺธปณฺฑโร, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เสตวิมลปริสุทฺธปณฺฑรจิตฺเตน พฺยปคตกุกฺกุจฺเจน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห จตุจรโณ วิกฺกนฺตจารี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จตุริทฺธิปาทจรเณน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห อภิรูปรุจิรเกสรี, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อภิรูปรุจิรสีลเกสรินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห ชีวิตปริยาทาเนปิ น กสฺสจิ โอนมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารปริยาทาเนปิ น กสฺสจิ โอนมิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห สปทานภกฺโข ยสฺมึ โอกาเส นิปตติ, ตตฺเถว ยาวทตฺถํ ภกฺขยติ, น วรมํสํ วิจินาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สปทานภกฺเขน ภวิตพฺพํ, น กุลานิ วิจินิตพฺพานิ, น ปุพฺพเคหํ หิตฺวา กุลานิ อุปสงฺกมิตพฺพานิ, น โภชนํ วิจินิตพฺพํ, ยสฺมึ โอกาเส กพฬํ อาทียติ, ตสฺมึ เยว โอกาเส ¶ ภฺุชิตพฺพํ สรีรยาปนตฺถํ [สรีรยาปนมตฺตํ (สี. ปี.)], น วรโภชนํ วิจินิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สีโห อสนฺนิธิภกฺโข, สกึ โคจรํ ภกฺขยิตฺวา น ปุน ตํ อุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อสนฺนิธิการปริโภคินา ¶ ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส ฉฏฺํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, สีโห โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสติ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิโต [อคถิโต (สี.)] อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน ปริภฺุชติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โภชนํ อลทฺธา น ปริตสฺสิตพฺพํ, ลทฺธาปิ โภชนํ อคธิเตน อมุจฺฉิเตน อนชฺโฌสนฺเนน อาทีนวทสฺสาวินา นิสฺสรณปฺเน ปริภฺุชิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สีหสฺส สตฺตมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร เถรํ มหากสฺสปํ ปริกิตฺตยมาเนน –
‘สนฺตุฏฺโยํ, ภิกฺขเว, กสฺสโป อิตรีตเรน ปิณฺฑปาเตน, อิตรีตรปิณฺฑปาตสนฺตุฏฺิยา จ วณฺณวาที, น จ ปิณฺฑปาตเหตุ อเนสนํ อปฺปติรูปํ อาปชฺชติ, อลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ น ปริตสฺสติ, ลทฺธา จ ปิณฺฑปาตํ อคธิโต อมุจฺฉิโต อนชฺโฌสนฺโน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปฺโ ปริภฺุชตี’’’ติ.
สีหงฺคปฺโห ปโม.
๒. จกฺกวากงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘จกฺกวากสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานีติ’’? ‘‘ยถา, มหาราช, จกฺกวาโก ยาว ชีวิตปริยาทานา ทุติยิกํ น วิชหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยาว ชีวิตปริยาทานา โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก เสวาลปณกภกฺโข, เตน จ สนฺตุฏฺึ อาปชฺชติ, ตาย จ สนฺตุฏฺิยา พเลน จ วณฺเณน จ น ปริหายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยถาลาภสนฺโตโส กรณีโย, ยถาลาภสนฺตุฏฺโ โข, มหาราช, โยคี โยคาวจโร น ปริหายติ สีเลน, น ปริหายติ สมาธินา, น ¶ ปริหายติ ปฺาย, น ปริหายติ วิมุตฺติยา, น ปริหายติ วิมุตฺติาณทสฺสเนน, น ปริหายติ สพฺเพหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ¶ ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, จกฺกวาโก ปาเณ น วิเหยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นิหิตทณฺเฑน นิหิตสตฺเถน ลชฺชินา ทยาปนฺเนน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, จกฺกวากสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จกฺกวากชาตเก –
‘‘‘โย น หนฺติ น ฆาเตติ, น ชินาติ น ชาปเย;
เมตฺตํโส [อหึสา (สี. ปี.)] สพฺพภูเตสุ, เวรํ ตสฺส น เกนจี’’’ติ.
จกฺกวากงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. เปณาหิกงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เปณาหิกาย ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เปณาหิกา สกปติมฺหิ อุสูยาย ฉาปเก น โปสยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สกมเน [สกมโน (ก.)] กิเลเส อุปฺปนฺเน อุสูยายิตพฺพํ, สติปฏฺาเนน สมฺมาสํวรสุสิเร ปกฺขิปิตฺวา มโนทฺวาเร กายคตาสติ ภาเวตพฺพา. อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เปณาหิกา ปวเน ทิวสํ โคจรํ จริตฺวา สายํ ปกฺขิคณํ อุเปติ อตฺตโน คุตฺติยา, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกเกน ปวิเวกํ เสวิตพฺพํ สํโยชนปริมุตฺติยา, ตตฺร รตึ อลภมาเนน อุปวาทภยปริรกฺขณาย สงฺฆํ โอสริตฺวา ¶ สงฺฆรกฺขิเตน วสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เปณาหิกาย ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, พฺรหฺมุนา สหมฺปตินา ภควโต สนฺติเก –
‘‘‘เสเวถ ¶ ปนฺตานิ เสนาสนานิ, จเรยฺย สํโยชนวิปฺปโมกฺขา;
สเจ รตึ นาธิคจฺเฉยฺย ตตฺถ, สงฺเฆ วเส รกฺขิตตฺโต สตีมา’’’ติ.
เปณาหิกงฺคปฺโห ตติโย.
๔. ฆรกโปตงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ฆรกโปโต ปรเคเห วสมาโน น เตสํ กิฺจิ ภณฺฑสฺส นิมิตฺตํ คณฺหาติ, มชฺฌตฺโต วสติ สฺาพหุโล, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปรกุลํ อุปคเตน ตสฺมึ กุเล อิตฺถีนํ วา ปุริสานํ วา มฺเจ วา ปีเ วา วตฺเถ วา อลงฺกาเร วา อุปโภเค วา ปริโภเค วา โภชนวิกตีสุ วา น นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, มชฺฌตฺเตน ภวิตพฺพํ, สมณสฺา ปจฺจุปฏฺเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ฆรกโปตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน จูฬนารทชาตเก –
‘‘‘ปวิสิตฺวา ปรกุลํ, ปานตฺถํ โภชนาย วา [ปาเนสุ โภชเนสุ วา (สี. ปี.)];
มิตํ ขาเท มิตํ ภฺุเช, น จ รูเป มนํ กเร’’’ติ.
ฆรกโปตงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อุลูกงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘อุลูกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อุลูโก กาเกหิ ปฏิวิรุทฺโธ, รตฺตึ กากสงฺฆํ คนฺตฺวา พหูปิ กาเก หนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อฺาเณน ¶ ปฏิวิรุทฺโธ กาตพฺโพ, เอเกน รโห นิสีทิตฺวา อฺาณํ สมฺปมทฺทิตพฺพํ, มูลโต ฉินฺทิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อุลูกสฺส ปมํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อุลูโก สุปฺปฏิสลฺลีโน โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฏิสลฺลานาราเมน ภวิตพฺพํ ปฏิสลฺลานรเตน. อิทํ, มหาราช, อุลูกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฏิสลฺลานาราโม ปฏิสลฺลานรโต ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’’ติ ยถา ภูถํ ปชานาติ ¶ , ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ ยถาภูตํ ปชานาตี’’’ติ.
อุลูกงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. สตปตฺตงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สตปตฺโต รวิตฺวา ปเรสํ เขมํ วา ภยํ วา อาจิกฺขติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปเรสํ ธมฺมํ เทสยมาเนน วินิปาตํ ภยโต ทสฺสยิตพฺพํ, นิพฺพานํ เขมโต ทสฺสยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สตปตฺตสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ปิณฺโฑลภารทฺวาเชน –
‘‘‘นิรเย ภยสนฺตาสํ, นิพฺพาเน วิปุลํ สุขํ;
อุภยาเนตานตฺถานิ ทสฺเสตพฺพานิ โยคินา’’’ติ.
สตปตฺตงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. วคฺคุลิงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘วคฺคุลิสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, วคฺคุลิ เคหํ ปวิสิตฺวา วิจริตฺวา นิกฺขมติ, น ตตฺถ ปลิพุทฺธติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน คามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา สปทานํ วิจริตฺวา ¶ ปฏิลทฺธลาเภน ขิปฺปเมว นิกฺขมิตพฺพํ, น ตตฺถ ปลิพุทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, วคฺคุลิสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, วคฺคุลิ ปรเคเห วสมาโน น เตสํ ปริหานึ กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กุลานิ อุปสงฺกมิตฺวา อติยาจนาย วา วิฺตฺติพหุลตาย วา กายโทสพหุลตาย วา อติภาณิตาย วา สมานสุขทุกฺขตาย วา น เตสํ โกจิ วิปฺปฏิสาโร กรณีโย, นปิ เตสํ มูลกมฺมํ ปริหาเปตพฺพํ, สพฺพถา วฑฺฒิ เยว อิจฺฉิตพฺพา. อิทํ, มหาราช, วคฺคุลิสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ¶ เทวาติเทเวน ทีฆนิกายวเร ลกฺขณสุตฺตนฺเต –
‘‘‘สทฺธาย สีเลน สุเตน พุทฺธิยา, จาเคน ธมฺเมน พหูหิ สาธุหิ;
ธเนน ธฺเน จ เขตฺตวตฺถุนา, ปุตฺเตหิ ทาเรหิ จตุปฺปเทหิ จ.
‘‘‘าตีหิ มิตฺเตหิ จ พนฺธเวหิ, พเลน วณฺเณน สุเขน จูภยํ;
กถํ น หาเยยฺยุํ ปเรติ อิจฺฉติ, อตฺถสมิทฺธิฺจ ปนาภิกงฺขตี’’’ติ.
วคฺคุลิงฺคปฺโห สตฺตโม.
๘. ชลูกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ชลูกา ยตฺถ อลฺลียติ, ตตฺเถว ทฬฺหํ อลฺลียิตฺวา รุหิรํ ปิวติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ยสฺมึ อารมฺมเณ ¶ จิตฺตํ อลฺลียติ, ตํ อารมฺมณํ วณฺณโต จ สณฺานโต จ ทิสโต จ โอกาสโต จ ปริจฺเฉทโต จ ลิงฺคโต จ นิมิตฺตโต จ ทฬฺหํ ปติฏฺาเปตฺวา เตเนวารมฺมเณน วิมุตฺติรสมเสจนกํ ปาตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ชลูกาย เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘ปริสุทฺเธน ¶ จิตฺเตน, อารมฺมเณ ปติฏฺาย;
เตน จิตฺเตน ปาตพฺพํ, วิมุตฺติรสมเสจน’’’นฺติ.
ชลูกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. สปฺปงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘สปฺปสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, สปฺโป อุเรน คจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฺาย จริตพฺพํ, ปฺาย จรมานสฺส โข, มหาราช, โยคิโน จิตฺตํ าเย จรติ, วิลกฺขณํ วิวชฺเชติ, สลกฺขณํ ภาเวติ. อิทํ, มหาราช ¶ , สปฺปสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺโป จรมาโน โอสธํ ปริวชฺเชนฺโต จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ทุจฺจริตํ ปริวชฺเชนฺเตน จริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, สปฺโป มนุสฺเส ทิสฺวา ตปฺปติ [มนุสฺสํ ทิสฺวา กมฺปติ (ก.)] โสจติ จินฺตยติ, เอวเมว โข มหาราช โยคินา โยคาวจเรน กุวิตกฺเก, วิตกฺเกตฺวา อรตึ อุปฺปาทยิตฺวา ตปฺปิตพฺพํ โสจิตพฺพํ จินฺตยิตพฺพํ ‘ปมาเทน เม ทิวโส วีตินามิโต, น โส ปุน สกฺกา ลทฺธุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, สปฺปสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา ภลฺลาฏิยชาตเก ทฺวินฺนํ กินฺนรานํ –
‘‘‘มเยกรตฺตํ ¶ [ยเมกรตฺตึ (สี. ปี.)] วิปฺปวสิมฺห ลุทฺท, อกามกา อฺมฺํ สรนฺตา;
ตเมกรตฺตํ [ตเมกรตฺตึ (สี. ปี.)] อนุตปฺปมานา, โสจาม ‘สา รตฺติ ปุน นเหสฺสตี’’’ติ.
สปฺปงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. อชครงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อชคโร มหติมหากาโย พหูปิ ทิวเส อูนูทโร ทีนตโร กุจฺฉิปูรํ อาหารํ น ลภติ, อปริปุณฺโณ เยว ยาวเทว สรีรยาปนมตฺตเกน ยาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคิโน โยคาวจรสฺส ภิกฺขาจริยปฺปสุตสฺส ปรปิณฺฑมุปคตสฺส ปรทินฺนปฺปาฏิกงฺขิสฺส สยํคาหปฺปฏิวิรตสฺส ทุลฺลภํ อุทรปริปูรํ อาหารํ, อปิ จ อตฺถวสิเกน กุลปุตฺเตน จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป อภฺุชิตฺวา อวเสสํ อุทเกน ปริปูเรตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อชครสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘อลฺลํ ¶ สุกฺขํ วา ภฺุชนฺโต, น พาฬฺหํ สุหิโต สิยา;
อูนูทโร มิตาหาโร, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.
‘‘‘จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป, อภุตฺวา อุทกํ ปิเว;
อลํ ผาสุ วิหาราย, ปหิตตฺตสฺส ภิกฺขุโน’’’ติ.
อชครงฺคปฺโห ทสโม.
สีหวคฺโค ปฺจโม.
ตสฺสุทฺทานํ –
เกสรี จกฺกวาโก จ, เปณาหิ ฆรกโปตโก;
อุลูโก สตปตฺโต จ, วคฺคุลิ จ ชลูปิกา;
สปฺโป อชคโร เจว, วคฺโค เตน ปวุจฺจตีติ.
๖. มกฺกฏกวคฺโค
๑. ปนฺถมกฺกฏกงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปนฺถมกฺกฏโก ปนฺเถ มกฺกฏชาลวิตานํ กตฺวา ยทิ ตตฺถ ชาลเก ลคฺคติ กิมิ วา มกฺขิกา วา ปฏงฺโค วา, ตํ คเหตฺวา ภกฺขยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ฉสุ ทฺวาเรสุ สติปฏฺานชาลวิตานํ กตฺวา ยทิ ตตฺถ กิเลสมกฺขิกา พชฺฌนฺติ, ตตฺเถว ฆาเตตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ปนฺถมกฺกฏกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อนุรุทฺเธน –
‘‘‘จิตฺตํ นิยเม ฉสุ ทฺวาเรสุ, สติปฏฺานวรุตฺตเม;
กิเลสา ตตฺถ ลคฺคา เจ, หนฺตพฺพา เต วิปสฺสินา’’’ติ.
ปนฺถมกฺกฏกงฺคปฺโห ปโม.
๒. ถนสฺสิตทารกงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ถนสฺสิตทารกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, ถนสฺสิตทารโก สทตฺเถ ลคฺคติ, ขีรตฺถิโก โรทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สทตฺเถ ลคฺคิตพฺพํ, สพฺพตฺถ ธมฺมาเณน ภวิตพฺพํ, อุทฺเทเส ปริปุจฺฉาย สมฺมปฺปโยเค ปวิเวเก ครุสํวาเส กลฺยาณมิตฺตเสวเน. อิทํ, มหาราช, ถนสฺสิตทารกสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ทีฆนิกายวเร ปรินิพฺพานสุตฺตนฺเต –
‘‘‘อิงฺฆํ ¶ ตุมฺเห, อานนฺท, สารตฺเถ [สทตฺเถ (สี. ปี.)] ฆฏถ, สารตฺเถ อนุยฺุชถ;
สารตฺเถ อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’’ติ.
ถนสฺสิตทารกงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. จิตฺตกธรกุมฺมงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘จิตฺตกธรกุมฺมสฺส [จิตฺตกถลกุมฺมสฺส (สี. ปี.)] เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, จิตฺตกธรกุมฺโม อุทกภยา อุทกํ ปริวชฺเชตฺวา วิจรติ, ตาย จ ปน อุทกํ ปริวชฺชนาย อายุนา น ปริหายติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปมาเท ภยทสฺสาวินา ภวิตพฺพํ, อปฺปมาเท คุณวิเสสทสฺสาวินา. ตาย จ ปน ภยทสฺสาวิตาย น ปริหายติ สามฺา, นิพฺพานสฺส สนฺติเก อุเปติ [เปติ (ก.)]. อิทํ, มหาราช, จิตฺตกธรกุมฺมสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ธมฺมปเท –
‘‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’’ติ.
จิตฺตกธรกุมฺมงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๔. ปวนงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ปวนสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ปวนํ นาม อสุจิชนํ ปฏิจฺฉาเทติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปเรสํ อปรทฺธํ ขลิตํ ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ น วิวริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ สฺุํ ปจุรชเนหิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ ¶ ราคโทสโมหมานทิฏฺิชาเลหิ สพฺเพหิ จ กิเลเสหิ สฺุเน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ วิวิตฺตํ ชนสมฺพาธรหิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปาปเกหิ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อนริเยหิ ปวิวิตฺเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, ปวนํ สนฺตํ ปริสุทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สนฺเตน ปริสุทฺเธน ภวิตพฺพํ, นิพฺพุเตน ปหีนมาเนน ปหีนมกฺเขน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ปวนํ อริยชนสํเสวิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อริยชนสํเสวิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ปวนสฺส ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สํยุตฺตนิกายวเร –
‘‘‘ปวิวิตฺเตหิ อริเยหิ, ปหิตตฺเตหิ ฌายิภิ;
นิจฺจํ อารทฺธวีริเยหิ, ปณฺฑิเตหิ สหาวเส’’’ติ.
ปวนงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. รุกฺขงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘รุกฺขสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, รุกฺโข นาม ปุปฺผผลธโร, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน วิมุตฺติปุปฺผสามฺผลธารินา ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, รุกฺโข อุปคตานมนุปฺปวิฏฺานํ ชนานํ ฉายํ เทติ, เอวเมว โข ¶ , มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุปคตานมนุปฺปวิฏฺานํ ปุคฺคลานํ อามิสปฺปฏิสนฺธาเรน วา ธมฺมปฺปฏิสนฺถาเรน วา ปฏิสนฺถริตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, รุกฺโข ฉายาเวมตฺตํ ¶ น กโรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺเตสุ เวมตฺตตา น กาตพฺพา, โจรวธกปจฺจตฺถิเกสุปิ อตฺตนิปิ สมสมา เมตฺตาภาวนา กาตพฺพา, ‘กินฺติ อิเม สตฺตา อเวรา อพฺยาปชฺชา [อพฺยาปชฺฌา (สี.)] อนีฆา สุขี อตฺตานํ ปริหเรยฺยุ’นฺติ. อิทํ, มหาราช, รุกฺขสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘วธเก ¶ เทวทตฺตมฺหิ, โจเร องฺคุลิมาลเก;
ธนปาเล ราหุเล จ, สพฺพตฺถ สมโก มุนี’’’ติ.
รุกฺขงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. เมฆงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘เมฆสฺส ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เมโฆ อุปฺปนฺนํ รโชชลฺลํ วูปสเมติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุปฺปนฺนํ กิเลสรโชชลฺลํ วูปสเมตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เมโฆ ปถวิยา อุณฺหํ นิพฺพาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เมตฺตาภาวนาย สเทวโก โลโก นิพฺพาเปตพฺโพ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เมโฆ สพฺพพีชานิ วิรุหาเปติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺตานํ สทฺธํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ สทฺธาพีชํ ตีสุ สมฺปตฺตีสุ โรเปตพฺพํ, ทิพฺพมานุสิกาสุ สุขสมฺปตฺตีสุ ยาวปรมตฺถนิพฺพานสุขสมฺปตฺติ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, เมโฆ อุตุโต สมุฏฺหิตฺวา ธรณิตลรุเห ติณรุกฺขลตาคุมฺพโอสธิวนปฺปตโย ปริรกฺขติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โยนิโส มนสิการํ นิพฺพตฺเตตฺวา เตน โยนิโส มนสิกาเรน สมณธมฺโม ปริรกฺขิตพฺโพ, โยนิโส มนสิการมูลกา สพฺเพ กุสลา ธมฺมา. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ ¶ , มหาราช, เมโฆ วสฺสมาโน นทิตฬากโปกฺขรณิโย กนฺทรปทรสรโสพฺภอุทปานานิ จ ปริปูเรติ อุทกธาราหิ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาคมปริยตฺติยา ธมฺมเมฆมภิวสฺสยิตฺวา อธิคมกามานํ มานสํ ปริปูรยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เมฆสฺส ¶ ปฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘โพธเนยฺยํ ชนํ ทิสฺวา, สตสหสฺเสปิ โยชเน;
ขเณน อุปคนฺตฺวาน, โพเธติ ตํ มหามุนี’’’ติ.
เมฆงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. มณิรตนงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘มณิรตนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มณิรตนํ เอกนฺตปริสุทฺธํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน เอกนฺตปริสุทฺธาชีเวน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ น เกนจิ สทฺธึ มิสฺสียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปาเปหิ ปาปสหาเยหิ สทฺธึ น มิสฺสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มณิรตนํ ชาติรตเนหิ โยชียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน อุตฺตมวรชาติมนฺเตหิ สทฺธึ สํวสิตพฺพํ, ปฏิปนฺนกผลฏฺเสกฺขผลสมงฺคีหิ โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิอรหนฺตเตวิชฺชฉฬภิฺสมณมณิรตเนหิ สทฺธึ สํวสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มณิรตนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’’ติ.
มณิรตนปฺโห สตฺตโม.
๘. มาควิกงฺคปฺโห
๘. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘มาควิกสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มาควิโก ¶ อปฺปมิทฺโธ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อปฺปมิทฺเธน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก มิเคสุ เยว จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมเณสุ เยว จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก กาลํ กมฺมสฺส ชานาติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฏิสลฺลานสฺส กาโล ชานิตพฺโพ ‘อยํ กาโล ปฏิสลฺลานสฺส, อยํ กาโล นิกฺขมนายา’ติ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มาควิโก มิคํ ทิสฺวา หาสมภิชเนติ ‘อิมํ ลจฺฉามี’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อารมฺมเณ อภิรมิตพฺพํ, หาสมภิชเนตพฺพํ ‘อุตฺตรึ วิเสสมธิคจฺฉิสฺสามี’ติ. อิทํ, มหาราช, มาควิกสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ มหาราช เถเรน โมฆราเชน –
‘‘‘อารมฺมเณ ¶ ลภิตฺวาน, ปหิตตฺเตน ภิกฺขุนา;
ภิยฺโย หาโส ชเนตพฺโพ, อธิคจฺฉิสฺสามิ อุตฺตริ’’’นฺติ.
มาควิกงฺคปฺโห อฏฺโม.
๙. พาฬิสิกงฺคปฺโห
๙. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘พาฬิสิกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, พาฬิสิโก พฬิเสน มจฺเฉ อุทฺธรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน าเณน อุตฺตรึ สามฺผลานิ อุทฺธริตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, พาฬิสิกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, พาฬิสิโก ปริตฺตกํ วธิตฺวา วิปุลํ ลาภมธิคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา ¶ โยคาวจเรน ปริตฺตโลกามิสมตฺตํ ปริจฺจชิตพฺพํ. โลกามิสมตฺตํ, มหาราช, ปริจฺจชิตฺวา โยคี โยคาวจโร วิปุลํ สามฺผลํ อธิคจฺฉติ. อิทํ, มหาราช, พาฬิสิกสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน ราหุเลน –
‘‘‘สฺุตฺจานิมิตฺตฺจ, วิโมกฺขฺจาปฺปณิหิตํ;
จตุโร ผเล ฉฬภิฺา, จชิตฺวา โลกามิสํ ลเภ’’’ติ.
พาฬิสิกงฺคปฺโห นวโม.
๑๐. ตจฺฉกงฺคปฺโห
๑๐. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ตจฺฉกสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ตจฺฉโก กาฬสุตฺตํ อนุโลเมตฺวา รุกฺขํ ตจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ชินสาสนมนุโลมยิตฺวา สีลปถวิยํ ¶ ปติฏฺหิตฺวา สทฺธาหตฺเถน ปฺาวาสึ คเหตฺวา กิเลสา ตจฺเฉตพฺพา. อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ตจฺฉโก เผคฺคุํ อปหริตฺวา สารมาทิยติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สสฺสตํ อุจฺเฉทํ ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรํ ตทุตฺตมํ อฺทุตฺตมํ อกตมภพฺพํ อปุริสการํ อพฺรหฺมจริยวาสํ สตฺตวินาสํ นวสตฺตปาตุภาวํ สงฺขารสสฺสตภาวํ โย กโรติ, โส ปฏิสํเวเทติ, อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวเทติ, กมฺมผลทสฺสนา จ กิริยผลทิฏฺิ จ อิติ เอวรูปานิ เจว อฺานิ จ วิวาทปถานิ อปเนตฺวา สงฺขารานํ สภาวํ ปรมสฺุตํ นิรีหนิชฺชีวตํ [นิสตฺตนิชีวตํ (ก.)] อจฺจนฺตํ สฺุตํ อาทิยิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ตจฺฉกสฺส ทุติยํ ¶ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘การณฺฑวํ ¶ นิทฺธมถ, กสมฺพุํ อปกสฺสถ;
ตโต ปลาเป วาเหถ, อสฺสมเณ สมณมานิเน.
‘‘‘นิทฺธมิตฺวาน ปาปิจฺเฉ, ปาปอาจารโคจเร;
สุทฺธา สุทฺเธหิ สํวาสํ, กปฺปยวฺโห ปติสฺสตา;
ตโต สมคฺคา นิปกา, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสถา’’’ติ.
ตจฺฉกงฺคปฺโห ทสโม.
มกฺกฏกวคฺโค ฉฏฺโ.
ตสฺสุทฺทานํ –
มกฺกโฏ ทารโก กุมฺโม, วนํ รุกฺโข จ ปฺจโม;
เมโฆ มณิ มาควิโก, พาฬิสี ตจฺฉเกน จาติ.
๗. กุมฺภวคฺโค
๑. กุมฺภงฺคปฺโห
๑. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’นฺติ ยํ วเทสิ, กตมํ ตํ เอกํ องฺคํ คเหตพฺพ’’นฺติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ น สณติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อาคเม อธิคเม ปริยตฺติยํ สามฺเ ปารมึ ปตฺวา น สณิตพฺพํ, น เตน มาโน กรณีโย, น ทพฺโพ [ทปฺโป (สี.)] ทสฺเสตพฺโพ, นิหตมาเนน นิหตทพฺเพน ภวิตพฺพํ, อุชุเกน อมุขเรน อวิกตฺถินา. อิทํ, มหาราช, กุมฺภสฺส เอกํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน สุตฺตนิปาเต –
‘‘‘ยทูนกํ ตํ สณติ, ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ;
อฑฺฒกุมฺภูปโม [ริตฺตกุมฺภูปโม (สี.)] พาโล, รหโท ปูโรว ปณฺฑิโต’’’ติ.
กุมฺภงฺคปฺโห ปโม.
๒. กาฬายสงฺคปฺโห
๒. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘กาฬายสสฺส [กาฬหํสสฺส (ก.)] ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ ¶ ? ‘‘ยถา, มหาราช, กาฬายโส สุปีโต [สุถิโต (ก.)] วมติ [วหติ (สฺยา. ก.)], เอวเมว โข, มหาราช, โยคิโน โยคาวจรสฺส มานสํ โยนิโส มนสิกาเรน [โยนิโส มนสิกาเร (สี. สฺยา. ก.)] อปีตํ วมติ. อิทํ, มหาราช, กาฬายสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กาฬายโส สกึ ปีตํ อุทกํ น วมติ, เอวเมว โข, มหาราช ¶ , โยคินา โยคาวจเรน โย สกึ อุปฺปนฺโน ปสาโท, น ปุน โส วมิตพฺโพ ‘อุฬาโร โส ภควา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สฺวากฺขาโต ธมฺโม, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ’ติ. ‘รูปํ อนิจฺจํ, เวทนา อนิจฺจา, สฺา อนิจฺจา, สงฺขารา อนิจฺจา, วิฺาณํ อนิจฺจนฺติ ยํ สกึ อุปฺปนฺนํ าณํ, น ปุน ตํ วมิตพฺพํ. อิทํ ¶ , มหาราช, กาฬายสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘ทสฺสนมฺหิ ปริโสธิโต [ปริโสธิเก (สี. ก.)] นโร, อริยธมฺเม นิยโต วิเสสคู;
นปฺปเวธติ อเนกภาคโส, สพฺพโส จ มุขภาวเมว โส’’’ติ.
กาฬายสงฺคปฺโห ทุติโย.
๓. ฉตฺตงฺคปฺโห
๓. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘ฉตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, ฉตฺตํ อุปริ มุทฺธนิ จรติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กิเลสานํ อุปริ มุทฺธนิ จเรน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ฉตฺตํ มุทฺธนุปตฺถมฺภํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน โยนิโส มนสิการุปตฺถมฺเภน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, ฉตฺตํ วาตาตปเมฆวุฏฺิโย ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน นานาวิธทิฏฺิปุถุสมณพฺราหฺมณานํ [มหาวาต (ก.)] มตวาตติวิธคฺคิสนฺตาปกิเลสวุฏฺิโย ปฏิหนฺตพฺพา ¶ . อิทํ, มหาราช, ฉตฺตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถาปิ ฉตฺตํ วิปุลํ, อจฺฉิทฺทํ ถิรสํหิตํ;
วาตาตปํ นิวาเรติ, มหตี เมฆวุฏฺิโย.
‘‘‘ตเถว ¶ พุทฺธปุตฺโตปิ, สีลฉตฺตธโร สุจิ;
กิเลสวุฏฺึ วาเรติ, สนฺตาปติวิธคฺคโย’’’ติ.
ฉตฺตงฺคปฺโห ตติโย.
๔. เขตฺตงฺคปฺโห
๔. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘เขตฺตสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, เขตฺตํ มาติกาสมฺปนฺนํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สุจริตวตฺตปฺปฏิวตฺตมาติกาสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เขตฺตํ มริยาทาสมฺปนฺนํ โหติ, ตาย จ มริยาทาย อุทกํ รกฺขิตฺวา ธฺํ ปริปาเจติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลหิริมริยาทาสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ, ตาย จ สีลหิริมริยาทาย สามฺํ รกฺขิตฺวา จตฺตาริ สามฺผลานิ คเหตพฺพานิ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, เขตฺตํ อุฏฺานสมฺปนฺนํ โหติ, กสฺสกสฺส หาสชนกํ อปฺปมฺปิ พีชํ วุตฺตํ พหุ โหติ, พหุ วุตฺตํ พหุตรํ โหติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อุฏฺานสมฺปนฺเนน วิปุลผลทายินา ภวิตพฺพํ, ทายกานํ หาสชนเกน ภวิตพฺพํ, ยถา อปฺปํ ทินฺนํ พหุ โหติ, พหุ ทินฺนํ พหุตรํ โหติ. อิทํ, มหาราช, เขตฺตสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน อุปาลินา วินยธเรน –
‘‘‘เขตฺตูปเมน ภวิตพฺพํ, อุฏฺานวิปุลทายินา;
เอส เขตฺตวโร นาม, โย ททาติ วิปุลํ ผล’’’นฺติ.
เขตฺตงฺคปฺโห จตุตฺโถ.
๕. อคทงฺคปฺโห
๕. ‘‘ภนฺเต ¶ ¶ นาคเสน, ‘อคทสฺส ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ทฺเว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ. ‘‘ยถา, มหาราช, อคเท กิมี น สณฺหนฺติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน มานเส กิเลสา น สณฺเปตพฺพา. อิทํ, มหาราช, อคทสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, อคโท ทฏฺผุฏฺทิฏฺอสิตปีตขายิตสายิตํ สพฺพํ วิสํ ปฏิหนติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ราคโทสโมหมานทิฏฺิวิสํ สพฺพํ ปฏิหนิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อคทสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘‘สงฺขารานํ สภาวตฺถํ, ทฏฺุกาเมน โยคินา;
อคเทเนว โหตพฺพํ, กิเลสวิสนาสเน’’’ติ.
อคทงฺคปฺโห ปฺจโม.
๖. โภชนงฺคปฺโห
๖. ‘‘ภนฺเต นาคเสน, ‘โภชนสฺส ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ตีณิ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อุปตฺถมฺโภ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพสตฺตานํ มคฺคุปตฺถมฺเภน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ พลํ วฑฺเฒติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปฺุวฑฺฒิยา วฑฺฒิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน ¶ จปรํ, มหาราช, โภชนํ สพฺพสตฺตานํ อภิปตฺถิตํ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สพฺพโลกาภิปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, โภชนสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน มหาโมคฺคลฺลาเนน –
‘‘‘สํยเมน ¶ นิยเมน, สีเลน ปฏิปตฺติยา;
ปตฺถิเตน ภวิตพฺพํ, สพฺพโลกสฺส โยคินา’’’ติ.
โภชนงฺคปฺโห ฉฏฺโ.
๗. อิสฺสาสงฺคปฺโห
๗. ‘‘ภนฺเต ¶ นาคเสน, ‘อิสฺสาสสฺส จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ จตฺตาริ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, อิสฺสาโส สเร ปาตยนฺโต อุโภ ปาเท ปถวิยํ ทฬฺหํ ปติฏฺาเปติ, ชณฺณุอเวกลฺลํ กโรติ, สรกลาปํ กฏิสนฺธิมฺหิ เปติ, กายํ อุปตฺถทฺธํ กโรติ, ทฺเว หตฺเถ สนฺธิฏฺานํ อาโรเปติ, มุฏฺึ ปีฬยติ, องฺคุลิโย นิรนฺตรํ กโรติ, คีวํ ปคฺคณฺหาติ, จกฺขูนิ มุขฺจ ปิทหติ, นิมิตฺตํ อุชุํ กโรติ, หาสมุปฺปาเทติ ‘วิชฺฌิสฺสามี’ติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สีลปถวิยํ วีริยปาเท ปติฏฺาเปตพฺพํ, ขนฺติโสรจฺจํ อเวกลฺลํ กาตพฺพํ, สํวเร จิตฺตํ เปตพฺพํ, สํยมนิยเม อตฺตา อุปเนตพฺโพ, อิจฺฉา มุจฺฉา ปีฬยิตพฺพา, โยนิโส มนสิกาเร จิตฺตํ นิรนฺตรํ กาตพฺพํ, วีริยํ ปคฺคเหตพฺพํ, ฉ ทฺวารา ปิทหิตพฺพา, สติ อุปฏฺเปตพฺพา, หาสมุปฺปาเทตพฺพํ ‘สพฺพกิเลเส าณนาราเจน วิชฺฌิสฺสามี’ติ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ปมํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส อาฬกํ ปริหรติ วงฺกชิมฺหกุฏิลนาราจสฺส อุชุกรณาย. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อิมสฺมึ กาเย สติปฏฺานอาฬกํ ปริหริตพฺพํ วงฺกชิมฺหกุฏิลจิตฺตสฺส อุชุกรณาย. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส ลกฺเข อุปาเสติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ. กถํ มหาราช โยคินา โยคาวจเรน อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ? อนิจฺจโต อุปาสิตพฺพํ, ทุกฺขโต อุปาสิตพฺพํ, อนตฺตโต อุปาสิตพฺพํ, โรคโต…เป… คณฺฑโต…เป… สลฺลโต…เป… อฆโต…เป… อาพาธโต…เป… ปรโต…เป… ปโลกโต…เป… อีติโต…เป… อุปทฺทวโต…เป… ภยโต…เป… อุปสคฺคโต…เป… จลโต…เป… ปภงฺคุโต…เป… อทฺธุวโต…เป… อตาณโต…เป… อเลณโต…เป… อสรณโต…เป… ริตฺตโต…เป… ตุจฺฉโต…เป… สฺุโต…เป… อาทีนวโต…เป… วิปริณามธมฺมโต…เป… อสารโต ¶ …เป… อฆมูลโต…เป… วธกโต…เป… วิภวโต…เป… สาสวโต…เป… สงฺขตโต…เป… มารามิสโต…เป… ชาติธมฺมโต…เป… ชราธมฺมโต…เป… พฺยาธิธมฺมโต…เป… มรณธมฺมโต…เป… โสกธมฺมโต…เป… ปริเทวธมฺมโต…เป… อุปายาสธมฺมโต…เป… สํกิเลสธมฺมโต…เป… เอวํ โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ¶ อิมสฺมึ กาเย อุปาสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, อิสฺสาโส สายํ ปาตํ อุปาสติ. เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน สายํ ปาตํ อารมฺมเณ อุปาสิตพฺพํ. อิทํ, มหาราช, อิสฺสาสสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํ. ภาสิตมฺเปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุตฺเตน ธมฺมเสนาปตินา –
‘‘‘ยถา อิสฺสาสโก นาม, สายํ ปาตํ อุปาสติ;
อุปาสนํ อริฺจนฺโต [น ริจฺฉนฺโต (สี. ก.)], ลภเต ภตฺตเวตนํ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุตฺโตปิ, กโรติ กายุปาสนํ;
กายุปาสนํ อริฺจนฺโต, อรหตฺตมธิคจฺฉตี’’’ติ.
อิสฺสาสงฺคปฺโห สตฺตโม.
กุมฺภวคฺโค สตฺตโม [อิโต ปรํ ราชงฺคปฺหาทิกา อฏฺตึส ปฺหา วินฏฺา, เยหิ ตา ทิฏฺา,§เตหิ โน อาโรเจตพฺพา ปุน มุทฺทาปนกาเล ปกฺขิปนตฺถายาติ (น, พุ, ส)].
ตสฺสุทฺทานํ –
กุมฺโภ จ กาฬายโส จ, ฉตฺตํ เขตฺตฺจ อคโท;
โภชเนน จ อิสฺสาโส, วุตฺตํ ทานิ วิทูหีติ.
โอปมฺมกถาปฺโห นิฏฺิโต.
นิคมนํ
อิติ ¶ ¶ ฉสุ กณฺเฑสุ พาวีสติวคฺคปติมณฺฑิเตสุ ทฺวาสฏฺิอธิกา ทฺเวสตา อิมสฺมึ โปตฺถเก อาคตา มิลินฺทปฺหา สมตฺตา, อนาคตา จ ปน ทฺวาจตฺตาลีสา โหนฺติ, อาคตา จ อนาคตา จ สพฺพา สโมธาเนตฺวา จตูหิ อธิกา ติสตปฺหา โหนฺติ, สพฺพาว มิลินฺทปฺหาติ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
รฺโ จ เถรสฺส จ ปุจฺฉาวิสชฺชนาวสาเน จตุราสีติสตสหสฺสโยชนพหลา อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อยํ มหาปถวี ฉธา กมฺปิตฺถ, วิชฺชุลฺลตา นิจฺฉรึสุ, เทวตา ทิพฺพปุปฺผวสฺสํ ปวสฺสึสุ, มหาพฺรหฺมา สาธุการมทาสิ, มหาสมุทฺทกุจฺฉิยํ เมฆตฺถนิตนิคฺโฆโส วิย มหาโฆโส อโหสิ, อิติ โส มิลินฺโท ราชา จ โอโรธคณา จ สิรสา อฺชลึ ปณาเมตฺวา วนฺทึสุ.
มิลินฺโท ¶ ราชา อติวิย ปมุทิตหทโย สุมถิตมานหทโย พุทฺธสาสเน สารมติโน รตนตฺตเย สุนิกฺกงฺโข นิคฺคุมฺโพ นิตฺถทฺโธ หุตฺวา เถรสฺส คุเณสุ ปพฺพชฺชาสุ ปฏิปทาอิริยาปเถสุ จ อติวิย ปสนฺโน วิสฺสตฺโถ นิราลโย นิหตมานตฺถมฺโภ อุทฺธฏทาโ วิย ภุชคินฺโท เอวมาห ‘‘สาธุ, ภนฺเต นาคเสน, พุทฺธวิสโย ปฺโห ตยา วิสชฺชิโต, อิมสฺมึ พุทฺธสาสเน เปตฺวา ธมฺมเสนาปตึ สาริปุตฺตตฺเถรํ อฺโ ตยา สทิโส ปฺหวิสชฺชเน นตฺถิ, ขมถ, ภนฺเต นาคเสน, มม อจฺจยํ, อุปาสกํ มํ, ภนฺเต นาคเสน, ธาเรถ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คต’’นฺติ.
ตทา ราชา สห พลกาเยหิ นาคเสนตฺเถรํ ปยิรุปาสิตฺวา มิลินฺทํ นาม วิหารํ กาเรตฺวา เถรสฺส นิยฺยาเตตฺวา จตูหิ ปจฺจเยหิ นาคเสนํ โกฏิสเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปริจริ, ปุนปิ เถรสฺส ปฺาย ปสีทิตฺวา ปุตฺตสฺส รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ, เตน วุตฺตํ –
‘‘ปฺา ปสตฺถา โลกสฺมึ, กตา สทฺธมฺมฏฺิติยา;
ปฺาย วิมตึ หนฺตฺวา, สนฺตึ ปปฺโปนฺติ ปณฺฑิตา.
ยสฺมึ ¶ ¶ ขนฺเธ ิตา ปฺา, สติ ตตฺถ อนูนกา;
ปูชา วิเสสสฺสาธาโร, อคฺโค เสฏฺโ [โส ว (ปี.)] อนุตฺตโร;
ตสฺมา หิ ปณฺฑิโต โปโส, สมฺปสฺสํ หิตมตฺตโน [อตฺถมตฺตโน (ปี.)];
ปฺวนฺตํภิปูเชยฺย, เจติยํ วิย สาทโร’’ติ [ปูชิยนฺติ (ปี.) อิโต ปรํ ติสฺโส คาถาโย สี. ปี. โปตฺถเกสุ นตฺถิ].
ลงฺกายํ โทณินคเร, วสตา โทณินามินา;
มหาเถเรน เลขิตฺวา, สุฏฺปิตํ ยถาสุตํ;
มิลินฺทราชปฺโห จ, นาคเสนวิสชฺชนํ;
มิลินฺโท หิ มหาปฺโ, นาคเสโน สุปณฺฑิโต;
อิมินา ปฺุกมฺเมน, อิโต คจฺฉามิ ตุสฺสิตํ;
เมตฺเตยฺยํนาคเต ปสฺเส, สุเณยฺยํ ธมฺมมุตฺตมนฺติ.
มิลินฺทปฺโห นิฏฺิโต.