📜

๑. สงฺคหวารวณฺณนา

เอวํ อเนกเภทวิภตฺเต เนตฺติปฺปกรเณ ยทิทํ วุตฺตํ ‘‘สงฺคหวิภาควารวเสน ทุวิธ’’นฺติ, ตตฺถ สงฺคหวาโร อาทิ. ตสฺสาปิ ‘‘ยํ โลโก ปูชยเต’’ติ อยํ คาถา อาทิ. ตตฺถ นฺติ อนิยมโต อุปโยคนิทฺเทโส, ตสฺส ‘‘ตสฺสา’’ติ อิมินา นิยมนํ เวทิตพฺพํ. โลโกติ กตฺตุนิทฺเทโส. ปูชยเตติ กิริยานิทฺเทโส. สโลกปาโลติ กตฺตุวิเสสนํ. สทาติ กาลนิทฺเทโส. นมสฺสติ จาติ อุปจเยน กิริยานิทฺเทโส . ตสฺสาติ สามินิทฺเทโส. เอตนฺติ ปจฺจตฺตนิทฺเทโส. สาสนวรนฺติ ปจฺจตฺตนิทฺเทเสน นิทฺทิฏฺธมฺมนิทสฺสนํ. วิทูหีติ กรณวจเนน กตฺตุนิทฺเทโส. เยฺยนฺติ กมฺมวาจกกิริยานิทฺเทโส. นรวรสฺสาติ ‘‘ตสฺสา’’ติ นิยเมตฺวา ทสฺสิตสฺส สรูปโต ทสฺสนํ.

ตตฺถ โลกิยนฺติ เอตฺถ ปุฺาปุฺานิ ตพฺพิปาโก จาติ โลโก, ปชา, สตฺตนิกาโยติ อตฺโถ. โลก-สทฺโท หิ ชาติสทฺทตาย สามฺวเสน นิรวเสสโต สตฺเต สงฺคณฺหาติ. กิฺจาปิ หิ โลกสทฺโท สงฺขารภาชเนสุปิ ทิฏฺปฺปโยโค, ปูชนกิริยาโยคฺยภูตตาวเสน ปน สตฺตโลกวจโน เอว อิธ คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. ปูชยเตติ มานยติ, อปจายตีติ อตฺโถ.

โลกํ ปาเลนฺตีติ โลกปาลา, จตฺตาโร มหาราชาโน. โลกิยา ปน อินฺทยมวรุณกุเวรา โลกปาลาติ วทนฺติ. สห โลกปาเลหีติ สโลกปาโล, ‘‘โลโก’’ติ อิมินา ตุลฺยาธิกรณํ. อถ วา อิสฺสริยาธิปจฺเจน ตํตํสตฺตโลกสฺส ปาลนโต รกฺขณโต ขตฺติยจตุมหาราชสกฺกสุยามสนฺตุสิตสุนิมฺมิตปรนิมฺมิตวสวตฺติมหาพฺรหฺมาทโย โลกปาลา. เตหิ สห ตํตํสตฺตนิกาโย สโลกปาโล โลโกติ วุตฺโต. อถ วา ‘‘ทฺเวเม, ภิกฺขเว, สุกฺกา ธมฺมา โลกํ ปาเลนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๙; อิติวุ. ๔๒) วจนโต หิโรตฺตปฺปธมฺมา โลกปาลา. เตหิ สมนฺนาคโต โลโก สโลกปาโล. หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺนา หิ ปาปครหิโน สปฺปุริสา ธมฺมจฺฉนฺทวนฺตตาย ภควติ ปูชานมกฺการปรา โหนฺตีติ.

สทาติ สพฺพกาลํ รตฺติฺเจว ทิวา จ, สทาติ วา ภควโต ธรมานกาเล ตโต ปรฺจ. อถ วา สทาติ อภินีหารโต ปฏฺาย ยาว สาสนนฺตรธานา, ตโต ปรมฺปิ วา. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ มหาโพธิสตฺตา โพธิยา นิยตตาย พุทฺธงฺกุรภูตา สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนียา เจว วนฺทนียา จ โหนฺติ. ยถาห ภควา สุเมธภูโต –

‘‘ทีปงฺกโร โลกวิทู, อาหุตีนํ ปฏิคฺคโห;

มม กมฺมํ ปกิตฺเตตฺวา, ทกฺขิณํ ปาทมุทฺธริ.

‘‘เย ตตฺถาสุํ ชินปุตฺตา, ปทกฺขิณมกํสุ มํ;

เทวา มนุสฺสา อสุรา จ, อภิวาเทตฺวาน ปกฺกมุ’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๗๕-๗๖);

นมสฺสติ จาติ เกจิ เกสฺจิ ปูชาสกฺการาทีนิ กโรนฺตาปิ เตสํ อปากฏคุณตาย นมกฺการํ น กโรนฺติ, น เอวํ ภควโต, ยถาภูตอพฺภุคฺคตกิตฺติสทฺทตาย ปน ภควนฺตํ สเทวโก โลโก ปูชยติ เจว นมสฺสติ จาติ อตฺโถ. ‘‘สทา นรมนุสฺโส’’ติ เกจิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. ตสฺสาติ ยํ สเทวโก โลโก ปูชยติ เจว นมสฺสติ จ, ตสฺส. เอตนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานํ สามฺเน ทสฺเสติ. สาสนวรนฺติ ตํ สรูปโต ทสฺเสติ. ตตฺถ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺเต สาสติ วิเนติ เอเตนาติ สาสนํ, ตเทว เอกนฺตนิยฺยานฏฺเน อนฺสาธารณคุณตาย จ อุตฺตมฏฺเน ตํตํอภิปตฺถิตสมิทฺธิเหตุตาย ปณฺฑิเตหิ วริตพฺพโต วา วรํ, สาสนเมว วรนฺติ สาสนวรํ. วิทูหีติ ยถาสภาวโต กมฺมกมฺมผลานิ กุสลาทิเภเท จ ธมฺเม วิทนฺตีติ วิทู, ปณฺฑิตมนุสฺสา, เตหิ. าตพฺพํ, าณมรหตีติ วา เยฺยํ. นรวรสฺสาติ ปุริสวรสฺส, อคฺคปุคฺคลสฺสาติ อตฺโถ.

อิทํ วุตฺตํ โหติ – โย อนฺสาธารณมหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิคุณวิเสสโยเคน สเทวเกน โลเกน ปูชนีโย นมสฺสนีโย จ ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, ตสฺส โลเก อุตฺตมปุคฺคลสฺส เอตํ อิทานิ อมฺเหหิ วิภชิตพฺพหารนยปฏฺานวิจารณวิสยภูตํ สาสนํ อาทิกลฺยาณตาทิคุณสมฺปตฺติยา วรํ อคฺคํ อุตฺตมํ นิปุณาณโคจรตาย ปณฺฑิตเวทนียเมวาติ. ภควโต หิ วจนํ เอกคาถามตฺตมฺปิ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทขนฺธายตนธาตินฺทฺริยสติปฏฺานาทิสภาวธมฺมนิทฺธารณกฺขมตาย โสฬสหารปฺจนยโสฬสอฏฺวีสติวิธปฏฺานวิจารโยคฺยภาเวน จ ปรมคมฺภีรํ อตฺถโต อคาธปารํ สณฺหสุขุมาณวิสยเมวาติ. เตเนวาห – ‘‘ปฺวนฺตสฺสายํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม ทุปฺปฺสฺสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๘; อ. นิ. ๘.๓๐). อถ วา ภควโต สาสนํ ปริฺากฺกเมน ลกฺขณาวโพธปฺปฏิปตฺติยา สุฺตมุขาทีหิ โอคาหิตพฺพตฺตา อวิฺูนํ สุปินนฺเตนปิ น วิสโย โหตีติ อาห – ‘‘วิทูหิ เยฺย’’นฺติ. ตถา จ วุตฺตํ – ‘‘เอตุ วิฺู ปุริโส’’ติอาทิ.

อปเร ปน ‘‘ตํ ตสฺส สาสนวร’’นฺติ ปนฺติ, เตสํ มเตน ยํ-สทฺโท สาสน-สทฺเทน สมานาธิกรโณติ ทฏฺพฺโพ. อิทํ วุตฺตํ โหติ ยํ สาสนวรํ สโลกปาโล โลโก ปูชยติ นมสฺสติ จ, ตํ สาสนวรํ วิทูหิ าตพฺพนฺติ. อิมสฺมิฺจ นเย โลกปาล-สทฺเทน ภควาปิ วุจฺจติ. ภควา หิ โลกคฺคตายกตฺตา นิปฺปริยาเยน โลกปาโล, ตสฺมา ‘‘ตสฺสา’’ติ โลกปาลสฺส สตฺถุโนติ อตฺโถ. สโลกปาโลติ เจตฺถ โลกปาล-สทฺโท คุณีภูโตปิ สตฺถุวิสยตฺตา สาสน-สทฺทาเปกฺขตาย สามิภาเวน สมฺพนฺธีวิเสสภูโต ปธานภูโต วิย ปฏินิทฺเทสํ อรหตีติ.

กถํ ปน สยํ ธมฺมสฺสามี ภควา ธมฺมํ ปูชยตีติ? นายํ วิโรโธ. ธมฺมครุโน หิ พุทฺธา ภควนฺโต, เต สพฺพกาลํ ธมฺมํ อปจายมานาว วิหรนฺตีติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘ยํนูนาหํ ยฺวายํ ธมฺโม มยา อภิสมฺพุทฺโธ, ตเมว ธมฺมํ สกฺกตฺวา ครุํ กตฺวา อุปนิสฺสาย วิหเรยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๗๓; อ. นิ. ๔.๒๑).

อปิ จ ภควโต ธมฺมปูชนา สตฺตสตฺตาหปฺปฏิปตฺติอาทีหิ ทีเปตพฺพา. ธมฺมสฺสามีติ จ ธมฺเมน สเทวกสฺส โลกสฺส สามีติ อตฺโถ, น ธมฺมสฺส สามีติ. เอวมฺปิ นมสฺสตีติ วจนํ น ยุชฺชติ. น หิ ภควา กฺจิ นมสฺสตีติ, เอโสปิ นิทฺโทโส. น หิ นมสฺสตีติ ปทสฺส นมกฺการํ กโรตีติ อยเมว อตฺโถ, อถ โข ครุกรเณน ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ ตปฺปพฺภาโรติ อยมฺปิ อตฺโถ ลพฺภติ. ภควา จ ธมฺมครุตาย สพฺพกาลํ ธมฺมนินฺนโปณปพฺภารภาเวน วิหรตีติ. อยฺจ อตฺโถ ‘‘เยน สุทํ สฺวาหํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗) เอวมาทีหิ สุตฺตปเทหิ ทีเปตพฺโพ. ‘‘วิทูหิ เนยฺย’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส ปณฺฑิเตหิ สปรสนฺตาเนสุ เนตพฺพํ ปาเปตพฺพนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ อตฺตสนฺตาเน ปาปนํ พุชฺฌนํ, ปรสนฺตาเน โพธนนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ ภควโต สเทวกสฺส โลกสฺส ปูชนียวนฺทนียภาโว อคฺคปุคฺคลภาโว จ วุจฺจมาโน คุณวิสิฏฺตํ ทีเปติ, สา จ คุณวิสิฏฺตา มหาโพธิยา เวทิตพฺพา. อาสวกฺขยาณปทฏฺานฺหิ สพฺพฺุตฺาณํ สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานฺจ อาสวกฺขยาณํ ‘‘มหาโพธี’’ติ วุจฺจติ. สา อวิปรีตธมฺมเทสนโต ตถาคเต สุปฺปติฏฺิตาติ วิฺายติ . น หิ สวาสนนิรวเสสกิเลสปฺปหานํ อนาวรณาณฺจ วินา ตาทิสี ธมฺมเทสนา สมฺภวติ. อิจฺจสฺส จตุเวสารชฺชโยโค. เตน ทสพลฉอสาธารณาณอฏฺารสาเวณิกพุทฺธธมฺมาทิสกลสพฺพฺุคุณปาริปูรี ปกาสิตา โหติ. เอตาทิสี จ คุณวิภูติ มหากรุณาปุพฺพงฺคมํ อภินีหารสมฺปตฺตึ ปุรสฺสรํ กตฺวา สมฺปาทิตํ สมตฺตึสปารมิสงฺขาตํ ปุฺาณสมฺภารมนฺตเรน น อุปลพฺภตีติ เหตุสมฺปทาปิ อตฺถโต วิภาวิตา โหตีติ เอวํ ภควโต ตีสุปิ อวตฺถาสุ สพฺพสตฺตานํ เอกนฺตหิตปฺปฏิลาภเหตุภูตา อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา นิรวเสสา พุทฺธคุณา อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

ทุติยนเย ปน ยสฺมา สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สผลํ อริยมคฺคสาสนํ ตสฺส อารมฺมณภูตฺจ อมตธาตุํ ตทธิคมูปายฺจ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติสาสนํ ตทตฺถปริทีปนฺจ ปริยตฺติสาสนํ ยถารหํ สจฺจาภิสมยวเสน อภิสเมนฺโต สฺวากฺขาตตาทิคุณวิเสสยุตฺตตํ มนสิกโรนฺโต สกฺกจฺจํ สวนธารณปริปุจฺฉาทีหิ ปริจยํ กโรนฺโต จ สเทวโก โลโก ปูชยติ นาม. โลกนาโถ จ สมฺมาสมฺโพธิปฺปตฺติยา เวเนยฺยานํ สกฺกจฺจํ ธมฺมเทสเนน ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ’’ (ม. นิ. ๓.๑๓๖; สํ. นิ. ๕.๒๘; เปฏโก. ๒๔), ‘‘มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ’’ (ธ. ป. ๒๗๓; กถา. ๘๗๒; เนตฺติ. ๑๒๕; เปฏโก. ๓๐), ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ’’ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔), ‘‘ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ’’ (ขุ. ปา. ๖.๔; สุ. นิ. ๒๒๗), ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๐๖; สํ. นิ. ๕.๓๖๗), ‘‘ธมฺมํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณ’’นฺติอาทีหิ (ม. นิ. ๓.๔๒๐; เนตฺติ. ๕) วจเนหิ โถมเนน จ ปูชยติ นาม. ตสฺมา สาสนวรสฺส ปูชนียภาโว อิธ วุจฺจมาโน อนวเสสโต ธมฺมคุเณ ทีเปตีติ เย อริยภาวาทโย นิยฺยานาทโย ขยวิราคาทโย มทนิมฺมทนาทโย อสงฺขตาทโย สฺวากฺขาตตาทโย อาทิกลฺยาณตาทโย จ อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ปเวทิตา อเนเก ธมฺมคุณา, เต นิรวเสสโต อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา.

ยสฺมา ปน อริยสจฺจปฺปฏิเวเธน สมุคฺฆาฏิตสมฺโมหาเยว ปรมตฺถโต ปณฺฑิตา พาลฺยาทิสมติกฺกมนโต, ตสฺมา ภาวิตโลกุตฺตรมคฺคา สจฺฉิกตสามฺผลา จ อริยปุคฺคลา วิเสสโต วิทูติ วุจฺจนฺติ. เต หิ ยถาวุตฺตสาสนวรํ อวิปรีตโต าตุํ เนตุฺจ สปรสนฺตาเน สกฺกุณนฺตีติ อฏฺอริยปุคฺคลสมูหสฺส ปรมตฺถสงฺฆสฺสาปิ อิธ คหิตตฺตา เย สุปฺปฏิปนฺนตาทโย อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ สํวณฺณิตา อริยสงฺฆคุณา, เตปิ นิรวเสสโต อิธ ปกาสิตาติ เวทิตพฺพา.

เอวํ ปมคาถาย สาติสยํ รตนตฺตยคุณปริทีปนํ กตฺวา อิทานิ –

‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ. (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔) –

วจนโต สงฺเขปโต สิกฺขตฺตยสงฺคหํ สาสนํ, ตํ ปน สิกฺขตฺตยํ าณวิเสสวิสยภาวเภทโต อวตฺถาเภทโต จ ติวิธํ โหติ. กถํ? สุตมยาณโคจโร จ โย ‘‘ปริยตฺติสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. จินฺตามยาณโคจโร จ โย อาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺตีหิ คเหตพฺพากาโร วิมุตฺตายตนวิเสโส ‘‘ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. วิปสฺสนาาณาทิสหคโต ภาวนามยาณโคจโร จ โย ‘‘ปฏิเวธสทฺธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. เอวํ ติวิธมฺปิ สาสนํ สาสนวรนฺติ ปเทน สงฺคณฺหิตฺวา ตตฺถ ยํ ปมํ, ตํ อิตเรสํ อธิคมูปาโยติ สพฺพสาสนมูลภูตํ อตฺตโน ปกรณสฺส จ วิสยภูตํ ปริยตฺติสาสนเมว ตาว สงฺเขปโต วิภชนฺโต ‘‘ทฺวาทส ปทานี’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ ทฺวาทสาติ คณนปริจฺเฉโท. ปทานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. เตสุ พฺยฺชนปทานิ ปชฺชติ อตฺโถ เอเตหีติ ปทานิ. อตฺถปทานิ ปน ปชฺชนฺติ ายนฺตีติ ปทานิ. อุภยมฺปิ วา อุภยถา โยเชตพฺพํ พฺยฺชนปทานมฺปิ อวิปรีตํ ปฏิปชฺชิตพฺพตฺตา, อตฺถปทานํ อุตฺตริวิเสสาธิคมสฺส การณภาวโต, ตานิ ปทานิ ปรโต ปาฬิยฺเว อาวิ ภวิสฺสนฺตีติ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม. อตฺถสูจนาทิอตฺถโต สุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ สงฺคเหสุ –

‘‘อตฺถานํ สูจนโต, สุวุตฺตโต สวนโตถ สูทนโต;

สุตฺตาณา สุตฺตสภาคโต จ, ‘สุตฺต’นฺติ อกฺขาต’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา; ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา);

ตเทตํ ตตฺถ สุตฺตปิฏกวเสน อาคตํ, อิธ ปน ปิฏกตฺตยวเสน โยเชตพฺพํ. ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, ยํ ปริยตฺติสาสนนฺติ อตฺโถ. ตํ สพฺพนฺติ ตํ ‘‘สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ สกลํ พุทฺธวจนํ. พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จาติ พฺยฺชนฺเจว ตทตฺโถ จ. ยโต ‘‘ทฺวาทส ปทานิ สุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตฺถสูจนาทิโต สุตฺตํ ปริยตฺติธมฺโม, ตฺจ สพฺพํ อตฺถโต ทฺวาทส ปทานิ ฉ พฺยฺชนปทานิ เจว ฉ อตฺถปทานิ จาติ. อถ วา ยเทตํ ‘‘สาสนวร’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ สุตฺตํ, ปริยตฺติสาสนสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อตฺถโต ปน ทฺวาทส ปทานิ, พฺยฺชนตฺถปทสมุทายภาวโต. ยถาห – ‘‘พฺยฺชนฺจ อตฺโถ จา’’ติ. ตํ วิฺเยฺยํ อุภยนฺติ ยสฺมึ พฺยฺชเน อตฺเถ จ วจนวจนียภาเวน สมฺพนฺเธ สุตฺตโวหาโร, ตทุภยํ สรูปโต วิฺาตพฺพํ ตตฺถ กตมํ พฺยฺชนํ กตโม อตฺโถติ? เตเนวาห – ‘‘โก อตฺโถ พฺยฺชนํ กตม’’นฺติ.

เอวํ ‘‘สาสนวร’’นฺติ วุตฺตสฺส สุตฺตสฺส ปริยตฺติภาวํ ตสฺส จ อตฺถพฺยฺชนปทภาเวน เวทิตพฺพตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตสฺส ปวิจยุปายํ เนตฺติปฺปกรณํ ปทตฺถวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘โสฬสหารา’’ติ คาถมาห.

ตตฺถ โสฬส หารา เอติสฺสาติ โสฬสหารา. ปฺจนยา อฏฺารสมูลปทาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อถ วา โสฬส หารา โสฬสหารา. เอวํ อิตรตฺถาปิ. หารนยมูลปทานิ เอว หิ สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ ภาสิตานิ เนตฺตีติ. สาสนสฺส ปริเยฏฺีติ สาสนสฺส อตฺถปริเยสนา, ปริยตฺติสาสนสฺส อตฺถสํวณฺณนาติ อตฺโถ, สกลสฺเสว วา สาสนสฺส อตฺถวิจารณาติ อตฺโถ. ปฏิปตฺติปฏิเวเธปิ หิ เนตฺตินยานุสาเรน อธิคจฺฉนฺตีติ. มหกจฺจาเนนาติ กจฺโจติ ปุราตโน อิสิ, ตสฺส วํสาลงฺการภูโตยํ มหาเถโร ‘‘กจฺจาโน’’ติ วุจฺจติ. มหกจฺจาโนติ ปน ปูชาวจนํ, ยถา มหาโมคฺคลฺลาโนติ, ‘‘กจฺจายนโคตฺตนิทฺทิฏฺา’’ติปิ ปาโ. อยฺจ คาถา เนตฺตึ สงฺคายนฺเตหิ ปกรณตฺถสงฺคณฺหนวเสน ปิตาติ ทฏฺพฺพา. ยถา จายํ, เอวํ หารวิภงฺควาเร ตํตํหารนิทฺเทสนิคมเน ‘‘เตนาห อายสฺมา’’ติอาทิวจนํ, หาราทิสมุทายภูตายํ เนตฺติยํ พฺยฺชนตฺถสมุทาเย จ สุตฺเต กึ เกน วิจิยตีติ วิจารณายํ อาห – ‘‘หารา พฺยฺชนวิจโย’’ติอาทิ.

ตตฺถ โสฬสปิ หารา มูลปทนิทฺธารณมนฺตเรน พฺยฺชนมุเขเนว สุตฺตสฺส สํวณฺณนา โหนฺติ, น นยา วิย มูลปทสงฺขาตสภาวธมฺมนิทฺธารณมุเขนาติ เต ‘‘พฺยฺชนวิจโย สุตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตา. อตฺถนยา ปน ยถาวุตฺตอตฺถมุเขเนว สุตฺตสฺส อตฺถสมฺปฏิปตฺติยา โหนฺตีติ อาห – ‘‘นยา ตโย จ สุตฺตตฺโถ’’ติ. อยฺจ วิจารณา ปรโตปิ อาคมิสฺสติ. เกจิ ‘‘นโย จา’’ติ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. อุภยํ ปริคฺคหีตนฺติ หารา นยา จาติ เอตํ อุภยํ สุตฺตสฺส อตฺถนิทฺธารณวเสน ปริสมนฺตโต คหิตํ สพฺพถา สุตฺเต โยชิตํ. วุจฺจติ สุตฺตํ วทติ สํวณฺเณติ. กถํ? ยถาสุตฺตํ สุตฺตานุรูปํ, ยํ สุตฺตํ ยถา สํวณฺเณตพฺพํ, ตถา สํวณฺเณตีติ อตฺโถ. ยํ ยํ สุตฺตนฺติ วา ยถาสุตฺตํ, สพฺพํ สุตฺตนฺติ อตฺโถ. เนตฺตินเยน หิ สํวณฺเณตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นาม สุตฺตํ นตฺถีติ.

อิทานิ ยํ วุตฺตํ – ‘‘สาสนวรํ วิทูหิ เยฺย’’นฺติ, ตตฺถ เนตฺติสํวณฺณนาย วิสยภูตํ ปริยตฺติธมฺมเมว ปการนฺตเรน นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยา เจวา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อตฺเถสุ กตปริจฺเฉโท พฺยฺชนปฺปพนฺโธ เทสนา, โย ปาโติ วุจฺจติ. ตทตฺโถ เทสิตํ ตาย เทสนาย ปโพธิตตฺตา. ตทุภยฺจ วิมุตฺตายตนสีเสน ปริจยํ กโรนฺตานํ อนุปาทาปรินิพฺพานปริโยสานานํ สมฺปตฺตีนํ เหตุภาวโต เอกนฺเตน วิฺเยฺยํ, ตทุภยวินิมุตฺตสฺส วา เยฺยสฺส อภาวโต ตเทว ทฺวยํ วิฺเยฺยนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ยา เจว…เป… วิฺเยฺยนฺติ. ตตฺราติ ตสฺมึ วิชานเน สาเธตพฺเพ, นิปฺผาเทตพฺเพ เจตํ ภุมฺมํ. อยมานุปุพฺพีติ อยํ วกฺขมานา อนุปุพฺพิ หารนยานํ อนุกฺกโม, อนุกฺกเมน วกฺขมานา หารนยาติ อตฺโถ. นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺีติ สุตฺตาทิวเสน นวงฺคสฺส สาสนสฺส ปริเยสนา, อตฺถวิจารณาติ อตฺโถ. สามิอตฺเถ วา เอตํ ปจฺจตฺตํ นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺิยา อนุปุพฺพีติ. อถ วา อนุปุพฺพีติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถาวุตฺตวิชานเน สาเธตพฺเพ วกฺขมานาย หารนยานุปุพฺพิยา อยํ นววิธสุตฺตนฺตสฺส อตฺถปริเยสนาติ.

เอตฺถาห – กถํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทีนํ สุตฺตภาโว, สุตฺตภาเว จ เตสํ กถํ สาสนสฺส นวงฺคภาโว. ยฺจ สงฺคเหสุ วุจฺจติ ‘‘สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณ’’นฺติ, ตถา จ สติ สุตฺตงฺคเมว น สิยา. อถาปิ วิสุํ สุตฺตงฺคํ สิยา, มงฺคลสุตฺตาทีนํ (ขุ. ปา. ๕.๑ อาทโย; สุ. นิ. ๒๖๑ อาทโย) สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา, คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย, เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา, สคาถกตฺตา สคาถาวคฺคสฺส วิย, ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ. วุจฺจเต –

สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นาฺโต.

สพฺพสฺสาปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. ตถา หิ ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ (ปาจิ. ๑๒๔๒), สาวตฺถิยา สุตฺตวิภงฺเค, สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติอาทิวจนโต วินยาภิธมฺมปริยตฺติวิเสเสปิ สุตฺตโวหาโร ทิสฺสติ. ตเทกเทเสสุ ปน เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ จุณฺณิยคนฺถํ เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติ. พฺยากรณเมว เวยฺยากรณนฺติ. เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปฺหาวิสฺสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, เคยฺยาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถายุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา. สติปิ ปฺหาวิสฺสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยงฺคาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโย.

ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ สุตฺตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโตติ. นนุ จ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถา เอวาติ? น ตทวตฺถา, โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตนฺติ. ยฺจ วุตฺตํ – ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตมฺปิ น, นิรุฬฺหตฺตา. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีสุ สุตฺตภาโว, น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, กินฺตุ สุตฺตภาเวเนว. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘สุตฺตนามก’’นฺติ นามคฺคหณํ กตํ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา’’ติ, ตทปิ นตฺถิ, ยสฺมา สหตาฺเน. สห คาถาหีติ หิ สคาถกํ. สหภาโว จ นาม อตฺถโต อฺเน โหติ, น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ. โย สห คาถาหีติ วุจฺเจยฺย, น จ สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยทปิ วุตฺตํ – ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตทปิ น อฺโต. อฺา เอว หิ ตา คาถา, ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา. อโต น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺสงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปน สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ยถาวุตฺตนเยน อตฺถานํ สูจนาทิอตฺเถน สุตฺตนฺตฺเวว วุจฺจติ, ตสฺมา วุตฺตํ – ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ.

สงฺคหวารวณฺณนา นิฏฺิตา.