📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

ขุทฺทกนิกาเย

เนตฺติปฺปกรณ-ฏีกา

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

สํวณฺณนารมฺเภ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑ คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑ คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) รตนตฺตยวนฺทนา สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส ปภวนิสฺสยวิสุทฺธิปฏิเวทนตฺถํ, ตํ ปน ธมฺมสํวณฺณนาสุ วิฺูนํ พหุมานุปฺปาทนตฺถํ, ตํ สมฺมเทว เตสํ อุคฺคหณธารณาทิกฺกมลทฺธพฺพาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพหิตสุขนิปฺผาทนตฺถํ. อถ วา มงฺคลภาวโต, สพฺพกิริยาสุ ปุพฺพกิจฺจภาวโต, ปณฺฑิเตหิ สมฺมาจริตภาวโต, อายตึ ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนโต จ สํวณฺณนายํ รตนตฺตยปณามกิริยา. อถ วา รตนตฺตยปณามกรณํ ปูชนียปูชาปุฺวิเสสนิพฺพตฺตนตฺถํ, ตํ อตฺตโน ยถาลทฺธสมฺปตฺตินิมิตฺตสฺส กมฺมสฺส พลานุปฺปทานตฺถํ, อนฺตรา จ ตสฺส อสงฺโกจนตฺถํ, ตทุภยํ อนนฺตราเยน อฏฺกถาย ปริสมาปนตฺถํ. อิทเมว จ ปโยชนํ อาจริเยน อิธาธิปฺเปตํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วนฺทนาชนิตํ…เป… ตสฺส เตชสา’’ติ. วตฺถุตฺตยปูชา หิ นิรติสยปุฺกฺเขตฺตสมฺพุทฺธิยา อปริเมยฺยปฺปภาโว ปุฺาติสโยติ พหุวิธนฺตราเยปิ โลกสนฺนิวาเส อนฺตรายนิพนฺธนสกลสํกิเลสวิทฺธํสนาย ปโหติ, ภยาทิอุปทฺทวฺจ นิวาเรติ. ยถาห –

‘‘ปูชารเห ปูชยโต, พุทฺเธ ยทิ ว สาวเก’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๕; อป. เถร ๑.๑๐.๑) จ,

ตถา

‘‘เย, ภิกฺขเว, พุทฺเธ ปสนฺนา, อคฺเค เต ปสนฺนา, อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) จ,

ตถา –

‘‘‘พุทฺโธ’ติ กิตฺตยนฺตสฺส, กาเย ภวติ ยา ปีติ;

วรเมว หิ สา ปีติ, กสิเณนปิ ชมฺพุทีปสฺส;

‘‘‘ธมฺโม’ติ…เป… ‘สงฺโฆ’ติ…เป… ทีปสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๖; อิติวุ. อฏฺ ๙๐; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๒.๔.๓๔) จ,

ตถา –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐; ๑๑.๑๑) จ,

ตถา –

‘‘อรฺเ รุกฺขมูเล วา…เป…;

ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา, โลมหํโส น เหสฺสตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) จ;

ตตฺถ ยสฺส รตนตฺตยสฺส วนฺทนํ กตฺตุกาโม, ตสฺส คุณาติสยโยคสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘มหาการุณิก’’นฺติอาทินา คาถาตฺตยมาห. คุณาติสยโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตปฺปโยชนํ สาเธตีติ. ตตฺถ ยสฺสา สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา เนตฺติ วิเสสโต ยถานุโลมสาสนสนฺนิสฺสยา, ตสฺส จ วิจิตฺตาการปฺปวตฺติวิภาวินี. ตถา หิ สุตฺตนฺตเทสนา น วินยเทสนา วิย กรุณาปฺปธานา, นาปิ อภิธมฺมเทสนา วิย ปฺาปฺปธานา, อถ โข กรุณาปฺาปฺปธานาติ ตทุภยปฺปธานเทสนาวิเสสวิภาวนํ ตาว สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โถมนํ กาตุํ ตมฺมูลกตฺตา เสสรตนานํ ‘‘มหาการุณิกํ นาถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ กิรตีติ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑) กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาธตีติ อตฺโถ . กมฺปนํ กโรตีติ วา กรุณา, ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยเขทํ กโรตีติ อตฺโถ. กมิติ วา สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา, อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพนฺธตีติ อตฺโถ. กิริยติ ทุกฺขิเตสุ ปสาริยตีติ วา กรุณา, กรุณาย นิยุตฺโตติ การุณิโก ยถา ‘‘โทวาริโก’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๗). ยถา หิ ทฺวารฏฺานโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ ทฺวารปฏิพทฺธชีวิโก ปุริโส ทฺวารานติวตฺตวุตฺติตาย ทฺวาเร นิยุตฺโตติ ‘‘โทวาริโก’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ภควา เมตฺตาทิวเสน กรุณาวิหารโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ กรุณานติวตฺตวุตฺติตาย กรุณาย นิยุตฺโตติ ‘‘การุณิโก’’ติ วุจฺจติ. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ ยาว มหาปรินิพฺพานา โลกหิตตฺถเมว โลกนาถา ติฏฺนฺตีติ. มหนฺโต การุณิโกติ มหาการุณิโก. สติปิ ภควโต ตทฺคุณานมฺปิ วเสน มหนฺตภาเว การุณิกสทฺทสนฺนิธาเนน วุตฺตตฺตา กรุณาวเสเนเวตฺถ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘มหาเวยฺยากรโณ’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘มหาการุณิโก’’ติ อิมินา ปเทน ปุคฺคลาธิฏฺาเนน สตฺถุ มหากรุณา วุตฺตา โหติ.

อปโร นโย – อตฺถสาธนโต กรุณํ กรุณายนํ กรุณาสมฺปวตฺตนํ อรหตีติ การุณิโก. ภควโต หิ สพฺพฺุตาย อนวเสสโต สตฺตานํ หิตํ, หิตุปายฺจ ชานโต, ตตฺถ จ อกิลาสุโน หิเตสิตา สตฺถิกา, น ตถา อฺเสนฺติ. อถ วา กรุณา กรุณายนํ สีลํ ปกติ สภาโว เอตสฺสาติ การุณิโก. ภควา หิ ปถวีผสฺสาทโย วิย กกฺขฬผุสนาทิสภาวา กรุณาสภาโว สภาวภูตกรุโณติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อถ วา มหาวิสยตาย, มหานุภาวตาย, มหปฺผลตาย จ มหตี กรุณาติ มหากรุณา. ภควโต หิ กรุณา นิรวเสเสสุ สตฺเตสุ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานา จ อนฺสาธารณา ปวตฺตติ, ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทฺจ มหนฺตเมว สตฺตานํ หิตสุขํ เอกนฺตโต นิปฺผาเทติ, มหากรุณาย นิยุตฺโตติ มหาการุณิโก, ตํ มหาการุณิกํ. เสสํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. สุมาคธาทิปทานํ วิย เจตฺถ สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ อาสีสติ ปตฺเถตีติ อตฺโถ, เมตฺตายนวเสน เจตฺถ หิตสุขาสีสนํ เวทิตพฺพํ, น กรุณายนวเสน ปมปเทน วุตฺตตฺตา. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคตํ กิเลสพฺยสนํ อุปตาเปตีติ นาโถ, นาถตีติ วา นาโถ, ยาจตีติ อตฺโถ. ภควา หิ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขิตา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๗, ๘) สตฺตานํ ตํ ตํ หิตปฺปฏิปตฺตึ ยาจิตฺวาปิ มหากรุณาย สมุสฺสาหิโต เต ตตฺถ นิโยเชติ. ปรเมน วา จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต, สพฺพสตฺเต วา สีลาทิคุเณหิ อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติ, ตํ นาถํ.

าตพฺพนฺติ เยฺยํ, อตีตาทิเภทภินฺนํ สพฺพํ สงฺขตํ, อสงฺขตฺจ. สงฺครณฏฺเน สาคโร, ปติตปติตานํ อตฺตโน ปุถุลคมฺภีรภาเวหิ สํสีทนํ นิมฺมุชฺชนํ กโรตีติ อตฺโถ. สํ-สทฺทสฺส เจตฺถ ‘‘สาภาโว, สาราโค’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๘๙, ๓๙๑) วิย นิรุตฺตินเยน ทฏฺพฺโพ. สงฺครณฏฺเนาติ วา สงฺครกรณฏฺเน, ิตธมฺมตาย ‘‘อยํ เม มริยาทา, อิมํ เวลํ นาติกฺกมามี’’ติ โลเกน สงฺครํ สงฺเกตํ กโรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถ. สงฺครณํ วา สมนฺตโต คลนํ สนฺทนํ อุทเกน กโรตีติ สาคโร. กปฺปวุฏฺานกาเล หิ มหาสมุทฺโท อิโต จิโต จ ปคฺฆริตฺวา สกลํ โลกธาตุํ เอโกฆํ กโรตีติ. โลกิยา ปน วทนฺติ ‘‘สาครสฺส รฺโ ปุตฺเตหิ สาคเรหิ นิพฺพตฺติโต ขโตติ สาคโร, ปุรตฺถิโม สมุทฺทปฺปเทโส, ตํสมฺพนฺธตาย รุฬฺหิวเสน สพฺโพปิ สมุทฺโท ตถา โวหรียตี’’ติ. สาครสทิสตฺตา สาคโร, เยฺยเมว สาคโรติ เยฺยสาคโร. สทิสตา เจตฺถ ปุถุลทุตฺตรคมฺภีรานาทิกาลิกตาหิ เวทิตพฺพา, นิหีนํ เจตโมปมฺมํ. ตถา หิ เยฺยสฺเสว สาติสยา ปุถุลตา อปริมาณโลกธาตุพฺยาปนโต, สพฺพฺุตฺาณสฺเสว ตรณียตาย ทุตฺตรตา, คมฺภีรตา, อาทิโกฏิรหิตา จ ปวตฺติ, น อิตรสฺส ปริจฺฉินฺนเทสตฺตา พาหิรกวีตราเคหิปิ อิตฺตเรน ขเณน อติกฺกมิตพฺพตฺตา, ปริมิตคมฺภีรตฺตา, ปริมิตกาลตฺตา จ. เยฺยสาครสฺส ปารํ ปริยนฺตํ คโตติ เยฺยสาครปารคู, ตํ เยฺยสาครปารคุํ.

คมนฺเจตฺถ าณคมนเมว, น อิตรํ เยฺยคฺคหณโต, ตํ ปน าณํ ทุวิธํ สมฺมสนปฏิเวธเภทโต, ตถา เหตุผลเภทโต. ตตฺถ ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๕๗; สํ. นิ. ๒.๔, ๑๐; เปฏโก. ๒๓) กรุณายนวเสเนว อภินิวิสิตฺวา อเนกาการโวกาเร สงฺขาเร สมฺมสนฺตํ ภควโต สมฺมสนาณํ ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุเขน เยฺยสาครํ อชฺโฌคาเหตฺวา ตสฺส ปารํ ปริยนฺตํ อคมาสิ, ยํ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปฏิเวธาณํ ปน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ อาสวกฺขยาณํ, อาสวกฺขยาณปทฏฺานฺจ สพฺพฺุตฺาณํ, ยํ ‘‘มหาโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปารคมนฺจ ตสฺส กิจฺจสิทฺธิยา, สมตฺถตาย จ เวทิตพฺพํ. ตถา ยถาวุตฺตํ สมฺมสนาณํ เหตุ, อิตรํ ผลํ. สห สมฺมสนาเณน วา อาสวกฺขยาณํ เหตุ, สพฺพฺุตฺาณํ ผลํ ตทานิสํสภาวโตติ เวทิตพฺพํ.

วนฺเทติ นมามิ, อภิตฺถวามิ วา. สณฺหฏฺเน นิปุณา, อนุปจิตาณสมฺภารานํ อคาธฏฺเน คมฺภีรา, เอกตฺตาทิเภทโต นนฺทิยาวฏฺฏาทิวิภาคโต จ วิจิตฺรา วิสิฏฺา นานาวิธา นยา เอติสฺสาติ นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยา, นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยา เทสนา อสฺสาติ นิปุณคมฺภีรวิจิตฺรนยเทสโน, ตํ นิปุณ…เป… เทสนํ. นยตีติ วา นโย, ปาฬิคติ, สา จ วุตฺตนเยน อตฺถโต นิปุณา, อตฺถโต พฺยฺชนโต จ คมฺภีรา, สงฺเขปวิตฺถารานุโลมาทิปฺปวตฺติยา นานาวิธตาย วิจิตฺรา. ตถา หิ ปฺตฺติอนุปฺตฺติอาทิวเสน, สํกิเลสภาคิยาทิโลกิยาทิตทุภยโวมิสฺสตาทิวเสน, กุสลาทิขนฺธาทิสงฺคหาทิสมยวิมุตฺตาทิปนาทิกุสลมูลาทิติกปฏฺานาทิวเสน จ อเนกวิธา ปาฬิคตีติ.

ตตฺถ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ทฺวีหากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา อตฺตหิตสมฺปตฺติโต, ปรหิตปฺปฏิปตฺติโต จ. เตสุ อตฺตหิตสมฺปตฺติ อนาวรณาณาธิคมโต, สวาสนานํ สพฺเพสํ กิเลสานํ อจฺจนฺตปฺปหานโต จ เวทิตพฺพา, ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ลาภสกฺการาทินิรเปกฺขจิตฺตสฺส สพฺพทุกฺขนิยฺยานิกธมฺมเทสนโต, ปฏิวิรุทฺเธสุปิ นิจฺจํ หิตชฺฌาสยาณปริปากกาลาคมนโต จ เวทิตพฺพา. สา ปเนตฺถ ปโยคโต, อาสยโต จ ทุวิธา, ปรหิตปฺปฏิปตฺติ, ยถาวุตฺตเภทา ทุวิธา จ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปกาสิตา โหติ. กถํ? ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ อิมินา อาสยโต , ‘‘นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ อิมินา ปโยคโต, ‘‘นาถ’’นฺติ อิมินา ปน อุภยถาปิ ภควโต ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ปกาสิตา กรุณากิจฺจทีปนโต, ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ อิมินา สาติสยํ อตฺตหิตสมฺปตฺติ ปรมุกฺกํสคตาณกิจฺจทีปนโต.

อถ วา ตีหากาเรหิ ภควโต โถมนา เวทิตพฺพา เหตุโต, ผลโต, อุปการโต จ. ตตฺถ เหตุ มหากรุณา, สา ปน ปมปเทน สรูเปเนว ทสฺสิตา. ผลํ จตุพฺพิธํ าณสมฺปทา ปหานสมฺปทา อานุภาวสมฺปทา รูปกายสมฺปทา จาติ. ตาสุ ปธานภูตา าณปหานสมฺปทา ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ อิมินา ปเทน ปกาสิตา. ปธาเน หิ ทสฺสิเต อวินาภาวโต อิตรมฺปิ ทฺวยํ ทสฺสิตเมว โหติ. น หิ พุทฺธานํ อานุภาวรูปกายสมฺปตฺตีหิ วินา กทาจิปิ ธมฺมกายสิรี วตฺตตีติ. อุปกาโร อนนฺตรํ อพาหิรํ กตฺวา ติวิธยานมุเขน วิมุตฺติธมฺมเทสนา, สา ‘‘นาถํ, นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ ปททฺวเยน ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

ตตฺถ (ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา) ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ เอเตน สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ ทสฺเสติ. มหากรุณาสฺโจทิตมานโส หิ ภควา สํสารปงฺกโต สตฺตานํ สมุทฺธรณตฺถํ กตาภินีหาโร อนุปุพฺเพน ปารมิโย ปูเรตฺวา อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธึ อธิคโตติ กรุณา สมฺมาสมฺโพธิยา มูลํ. ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ เอเตน ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติยา สทฺธึ สมฺมาสมฺโพธึ ทสฺเสติ. อนาวรณาณปทฏฺานฺหิ มคฺคาณํ, มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตปฺปเภทํ ปน สมฺมสนาณํ สห ปฺาปารมิยา ตสฺสา ปุพฺพภาคปฏิปทา. ตสฺสา หิ อานุภาเวน ลีนุทฺธจฺจปติฏฺานายูหนกามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสสฺสตุจฺเฉทาทิอนฺตทฺวยวิรหิตา อุกฺกํสปารมิปฺปตฺตา มชฺฌิมา ปฏิปทา ภาวนาปาริปูรึ คตา. ‘‘นาถ’’นฺติ อิมินา สมฺมาสมฺโพธิยา ผลํ ทสฺเสติ โลกตฺตยนายกภาวทีปนโต. ตถา หิ สพฺพานตฺถปริหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา, สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย อปริมิตนิรุปมภาวคุณวิเสสสมงฺคิตาย จ สพฺพสตฺตุตฺตโม ภควา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ อนุตฺตรคารวฏฺานภูตตาย จ ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจตีติ. ‘‘นิปุณ…เป… เทสน’’นฺติ อิมินา สมฺมาสมฺโพธิยา ปโยชนํ ทสฺเสติ. สํสารมโหฆโต สตฺตสนฺตารณตฺถฺหิ ภควตา สมฺมาสมฺโพธิ อภิปตฺถิตา, ตฺจ สตฺตสนฺตารณํ ยถาวุตฺตเทสนาสมฺปตฺติยา สมิชฺฌติ ตทวินาภาวโต. อิมินา ภควโต สาติสยา ปรหิตปฺปฏิปตฺติ ทสฺสิตา, อิตเรหิ อตฺตหิตสมฺปตฺตีติ ตทุภเยน อตฺตหิตาย ปฏิปนฺนาทีสุ จตูสุ ปุคฺคเลสุ ภควโต จตุตฺถปุคฺคลภาวํ ทีเปติ, เตน จ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, อุตฺตมวนฺทนียภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนกิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทีเปติ.

เอตฺถ จ ยถา ‘‘มหาการุณิก’’นฺติ อิมินา ปเทน ภควโต มหากรุณา ทสฺสิตา, เอวํ ‘‘เยฺยสาครปารคุ’’นฺติ เอเตน มหาปฺา ทสฺสิตา. เตสุ กรุณาคฺคหเณน โลกิเยสุ มหคฺคตภาวปฺปตฺตาสาธารณคุณทีปนโต ภควโต สพฺพโลกิยคุณสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติ, ปฺาคฺคหเณน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานมคฺคาณทีปนโต สพฺพโลกุตฺตรคุณสมฺปตฺติ. ตทุภยคฺคหณสิทฺโธ เอว จตฺโถ นาถสทฺเทน ปกาสียติ. กรุณาวจเนน อุปคมนํ นิรุปกฺกิเลสํ ทสฺเสติ, ปฺาวจเนน อปคมนํ. ตถา กรุณาคฺคหเณน โลกสมฺานุรูปํ ภควโต ปวตฺตึ ทสฺเสติ โลกโวหารวิสยตฺตา กรุณาย, ปฺาคฺคหเณน สมฺาย อนติธาวนํ. สภาวานวโพเธน หิ ธมฺมานํ สมฺํ อติธาวิตฺวา สตฺตาทิสมฺมสนํ โหตีติ. ตถา กรุณาคฺคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติวิหารํ ทสฺเสติ, ปฺาคฺคหเณน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณํ, จตุสจฺจาณํ, จตุปฏิสมฺภิทาาณํ, จตุเวสารชฺชาณํ. กรุณาคฺคหเณน มหากรุณาสมาปตฺติาณสฺส คหิตตฺตา เสสาสาธารณาณานิ, ฉ อภิฺา, อฏฺสุ ปริสาสุ (ม. นิ. ๑.๑๕๑, ๑๗๘) อกมฺปนาณานิ, ทส พลานิ, จุทฺทส พุทฺธาณานิ, โสฬส าณจริยา, อฏฺารส พุทฺธธมฺมา (มหานิ. ๖๙, ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕; ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕; วิภ. มูลฏี. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา; ที. นิ. ฏี. ๓.๑๔๑), จตุจตฺตาลีส าณวตฺถูนิ สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ (สํ. นิ. ๒.๓๔) เอวมาทีนํ อเนเกสํ ปฺาปฺปเภทานํ วเสน าณจารํ ทสฺเสติ.

ตถา กรุณาคฺคหเณน จรณสมฺปตฺติ, ปฺาคฺคหเณน วิชฺชาสมฺปตฺติ. กรุณาคฺคหเณน สตฺตาธิปติตา, ปฺาคฺคหเณน ธมฺมาธิปติตา. กรุณาคฺคหเณน โลกนาถภาโว, ปฺาคฺคหเณน อตฺตนาถภาโว. ตถา กรุณาคฺคหเณน ปุพฺพการิภาโว, ปฺาคฺคหเณน กตฺุตา. กรุณาคฺคหเณน อปรนฺตปตา, ปฺาคฺคหเณน อนตฺตนฺตปตา. กรุณาคฺคหเณน วา พุทฺธกรธมฺมสิทฺธิ, ปฺาคฺคหเณน พุทฺธภาวสิทฺธิ. ตถา กรุณาคฺคหเณน ปเรสํ ตารณํ, ปฺาคฺคหเณน สยํ ตารณํ. ตถา กรุณาคฺคหเณน สพฺพสตฺเตสุ อนุคฺคหจิตฺตตา, ปฺาคฺคหเณน สพฺพธมฺเมสุ วิรตฺตจิตฺตตา ทสฺสิตา โหติ. สพฺเพสฺจ พุทฺธคุณานํ กรุณา อาทิ ตํนิทานภาวโต, ปฺา ปริโยสานํ ตโต อุตฺตริ กรณียาภาวโต, อิติ อาทิปริโยสานทสฺสเนน สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ. ตถา กรุณาวจเนน สีลกฺขนฺธปุพฺพงฺคโม สมาธิกฺขนฺโธ ทสฺสิโต โหติ. กรุณานิทานฺหิ สีลํ ตโต ปาณาติปาตาทิวิรติปฺปวตฺติโต, สา จ ฌานตฺตยสมฺปโยคินีติ. ปฺาวจเนน ปฺากฺขนฺโธ. สีลฺจ สพฺพพุทฺธคุณานํ อาทิ, สมาธิ มชฺเฌ, ปฺา ปริโยสานนฺติ เอวมฺปิ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สพฺเพ พุทฺธคุณา ทสฺสิตา โหนฺติ นยโต ทสฺสิตตฺตา. เอโส เอว หิ นิรวเสสโต พุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย, ยทิทํ นยคฺคาหณํ, อฺถา โก นาม สมตฺโถ ภควโต คุเณ อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนวาห –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ, กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร, วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๓.๔๒๕; อุทา. อฏฺ. ๕๓; อป. อฏฺ. ๒.๗.๒๐; พุ. วํ. อฏฺ. ๔.๔; จริยา. อฏฺ. นิทานกถา, ปกิณฺณกกถา; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา; ม. นิ. ฏี. ๑.๑; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๑; วชิร. ฏี. คนฺถารมฺภกถา; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);

เตเนว จ อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรนาปิ พุทฺธคุณปริจฺเฉทนํ ปติ อนุยุตฺเตน ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๕) ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อปิจ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) วุตฺตํ.

เอวํ สงฺเขเปน สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวิตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ ‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา หุตฺวาติ วจนเสโส. วินฺทิยํ ธมฺมานํ สลกฺขณํ, สามฺลกฺขณฺจ วินฺทตีติ วิชฺชา, โลภกฺขนฺธาทีนิ วา วิชฺฌนฏฺเน วิชฺชา, จตุนฺนํ วา อริยสจฺจานํ วิทิตกรณฏฺเน วิชฺชาติ เอวํ ตาเวตฺถ วจนตฺถโต วิชฺชา เวทิตพฺพา. ปเภทโต ปน ติสฺโสปิ วิชฺชา วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต อาคตนิยาเมเนว, อฏฺปิ วิชฺชา วิชฺชา อมฺพฏฺสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย) อาคตนิยาเมเนว. จรนฺติ เตหีติ จรณานิ, สีลสํวราทโย ปฺจทส ธมฺมา, อิติ อิมาหิ วิชฺชาหิ, อิเมหิ จ จรเณหิ สมฺปนฺนา สมฺปนฺนาคตาติ วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา.

เยนาติ เยน ธมฺเมน กรณภูเตน, เหตุภูเตน จ. ตตฺถ มคฺคธมฺมสฺส กรณตฺโถ เวทิตพฺโพ นิยฺยานกิริยาสาธกตมภาวโต, นิพฺพานธมฺมสฺส เหตุอตฺโถ อารมฺมณปจฺจยภาวโต. ปจฺจยตฺโถ หิ อยํ เหตฺวตฺโถ. ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ เหตุอตฺโถ ยุชฺชเตว ปรมฺปราย เหตุภาวโต. ผลธมฺเม ปน อุภยมฺปิ สมฺภวติ. กถํ? ‘‘ตาย สทฺธาย อวูปสนฺตายา’’ติ วจนโต มคฺเคน สมุจฺฉินฺนานํ กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานกิจฺจตาย ผลสฺส นิยฺยานานุคุณตา, นิยฺยานปริโยสานตา จาติ อิมินา ปริยาเยน สิยา กรณตฺโถ นิยฺยานกิริยาย. สกทาคามิมคฺควิปสฺสนาทีนํ ปน อุปนิสฺสยปจฺจยภาวโต สิยา เหตุอตฺโถ. เอวฺจ กตฺวา อคฺคปฺปสาทสุตฺตาทีสุ (อิติวุ. ๙๐) อคฺคาทิภาเวน อคฺคหิตาปิ ผลปริยตฺติธมฺมา ฉตฺตมาณวกวิมานาทีสุ (วิ. ว. ๘๘๖ อาทโย) สรณียภาเวน คหิตาติ เตสํ มคฺคนิพฺพานานํ วิย มหาอฏฺกถายํ สรณภาโว อุทฺธโฏ. วิเสสโต เจตฺถ มคฺคปริยาปนฺนา เอว วิชฺชาจรณธมฺมา เวทิตพฺพา. เต หิ นิปฺปริยาเยน นิยฺยานกิริยาย สาธกตมภูตา, น อิตเร. อิตเรสํ ปน นิยฺยานตฺถตาย นิยฺยานตา. ยทิ เอวํ กสฺมา ‘‘วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา หุตฺวา’’ติ วุตฺตํ, นิยฺยานสมกาลเมว หิ ยถาวุตฺตวิชฺชาจรณสมฺปตฺติสมธิคโมติ? นายํ วิโรโธ สมานกาลตาย เอว อธิปฺเปตตฺตา ยถา ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔, ๔๐๐; ๓.๔๒๑, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๓-๔๕; ๔.๖๐; กถา. ๔๖๕, ๔๖๗). สมฺปนฺนาติ วา ปทสฺส วตฺตมานกาลตฺถตา เวทิตพฺพา ‘‘อุปฺปนฺนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๗) เอตฺถ อุปฺปนฺนสทฺทสฺส วิย. เอวฺจ กตฺวา วจนเสสมนฺตเรเนว ปทโยชนา สิทฺธา โหติ. ‘‘เยนา’’ติ จ ปทํ อุภยตฺถ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘เยน ธมฺเมน วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา, เยน ธมฺเมน นิยฺยนฺตี’’ติ.

โลกโตติ ขนฺธาทิโลกโต, วฏฺฏโตติ อตฺโถ. นฺติ ตํ มคฺคนิพฺพานผลปริยตฺติเภทํ ธมฺมํ. อุตฺตมนฺติ เสฏฺํ. ตถา เหส อตฺตนา อุตฺตริตรสฺส อภาเวน ‘‘อนุตฺตโร’’ติ วุจฺจติ. ตตฺถ มคฺคสฺส นิยฺยานเหตุอาทิอตฺเถน, นิพฺพานสฺส นิสฺสรณวิเวกาทิอตฺเถน, ผลสฺส อริยสนฺตภาวาทิอตฺเถน จ เสฏฺตา เวทิตพฺพา. สฺวายมตฺโถ ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค เตสํ อคฺคมกฺขายตี’’ติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔) อาทิสุตฺตปทานุสาเรน วิภาเวตพฺโพ.

ธมฺมนฺติ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายโต, สํสารโต จ อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม. สมฺมา, สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ, สพฺพฺุตาอนาวรณาโณ สมนฺตจกฺขุ ภควา, เตน ยถา สมฺมาสมฺโพธิสมธิคเมเนว สพฺเพ พุทฺธคุณา สมฺปาปุณียนฺติ, เอวํ สมฺมเทว อาเสวนาย ภาวนาย พหุลีกิริยาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สมฺมเทว ปจฺจเวกฺขณาย สกฺกจฺจํ ธมฺมเทสนาย เวเนยฺยสนฺตาเนสุ ปติฏฺาปเนน –

‘‘อริยํ , โว ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามิ (ม. นิ. ๓.๑๓๖; เปฏโก. ๒๔). มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ (ธ. ป. ๒๗๓; เนตฺติ. ๑๗๐; เปฏโก. ๓๐). ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา, วิราโค เตสํ อคฺคมกฺขายติ (อิติวุ. ๙๐; อ. นิ. ๔.๓๔). เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา (ที. นิ. ๒.๓๗๓; ม. นิ. ๑.๑๐๖; สํ. นิ. ๕.๓๖๗, ๓๘๔). ธมฺมํ, โว ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ อาทิกลฺยาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๔๒๐; เนตฺติ. ๕) –

อาทิวจเนหิ, อภิตฺถวเนน จ ปูชิโต มานิโต อปจิโตติ สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิโต, ตํ สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิตํ ธมฺมํ วนฺเทติ สมฺพนฺโธ.

อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ยสฺส ธมฺมสฺส อธิคมเน วิชฺชาสมฺปนฺนา เจว โหนฺติ จรณสมฺปนฺนา จ, สพฺพวฏฺฏทุกฺขโต จ นิยฺยนฺติ, ตเมว อริยานํ สกลคุณสมงฺคิภาวนิมิตฺตํ, อนวเสสทุกฺขนิสฺสรณเหตุภูตฺจ อุตฺตมํ ปวรํ สทฺธึ ปริยตฺติธมฺเมน นววิธํ โลกุตฺตรธมฺมํ ภควตาปิ สมฺมาปฏิปตฺติอาทิวิธินา ปูชิตํ นมามิ, อภิตฺถวามิ วาติ.

เอตฺถ จ ‘‘เยน โลกโต นิยฺยนฺติ, วิชฺชาจรณสมฺปนฺนา จ โหนฺตี’’ติ ปททฺวเยน ยถากฺกมํ ธมฺมสฺส ภาเวตพฺพภาโว, สจฺฉิกาตพฺพภาโว จ วุตฺโต. เตสุ ปเมน วิชฺชาสมฺปตฺติยา ธมฺมํ โถเมติ, ทุติเยน วิมุตฺติสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน ฌานสมฺปทาย, ทุติเยน วิโมกฺขสมฺปทาย. ปเมน วา สมาธิสมฺปทาย, ทุติเยน สมาปตฺติสมฺปทาย. ปเมน วา ขยาณภาเวน, ทุติเยน อนุปฺปาทาณภาเวน. อถ วา ปุริเมน วิชฺชูปมตาย, ทุติเยน วชิรูปมตาย. ปุริเมน วา วิราคสมฺปตฺติยา, ทุติเยน นิโรธสมฺปตฺติยา. ตถา ปเมน นิยฺยานภาเวน, ทุติเยน นิสฺสรณภาเวน. ปเมน วา เหตุภาเวน, ทุติเยน อสงฺขตภาเวน. ปเมน วา ทสฺสนภาเวน, ทุติเยน วิเวกภาเวน. ปเมน วา อธิปติภาเวน, ทุติเยน อมตภาเวน ธมฺมํ โถเมติ. อถ วา ปเมน นิยฺยานิกภาวทสฺสนโต สฺวากฺขาตตาย ธมฺมํ โถเมติ, ทุติเยน สจฺฉิกาตพฺพภาวโต สนฺทิฏฺิกตาย. ตถา ปุริเมน อกาลิกตาย, ปจฺฉิเมน เอหิปสฺสิกตาย. ปุริเมน วา โอปเนยฺยิกตาย, ปจฺฉิเมน ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพตาย ธมฺมํ โถเมติ.

‘‘อุตฺตม’’นฺติ จ เอเตน อฺสฺส วิสิฏฺสฺส อภาวทีปเนน ปริปุณฺณตาย ธมฺมํ โถเมติ , ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธปูชิต’’นฺติ เอเตน ปริสุทฺธตาย. สพฺพโทสาปคเมน หิสฺส ปูชนียตา. ปริสุทฺธตาย จสฺส ปหานสมฺปทา, ปริปุณฺณตาย ปภวสมฺปทา. ปหานสมฺปตฺติยา จ ภาวนาปาริปูรี อนวเสสโทสสมุคฺฆาฏนโต, ปภวสมฺปตฺติยา สจฺฉิกิริยนิพฺพตฺติ ตตุตฺตริ กรณียาภาวโต. อนฺสาธารณตาย หิ อุตฺตโมติ. ตถา ภาเวตพฺพภาเวนสฺส สห ปุพฺพภาคสีลาทีหิ เสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา, สจฺฉิกาตพฺพภาเวน สห อสงฺขตาย ธาตุยา อเสกฺขา สีลสมาธิปฺากฺขนฺธา ทสฺสิตา โหนฺตีติ.

เอวํ สงฺเขเปน สพฺพสทฺธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ สีลสมาธิปฺาวิมุตฺติยาทิคุเณหิ สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต, สมฺปนฺนสีลาทิคุโณ วา. อริยานฺหิ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลสปฺปหาเนน หตปฏิปกฺขา สุวิสุทฺธา สีลาทโย ‘‘สมฺปนฺนา’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ , น ปุถูชฺชนานํ, ยโต ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๗๔; อ. นิ. ๖.๑๐; อุทา. ๑๘) อริยสงฺโฆ โถมียติ. อถ วา สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ ปริปุณฺณสีลาทิคุโณ. อริยปุคฺคลานฺหิ อริยสจฺจปฺปฏิเวเธน สเหว ยถารหํ เสกฺขาเสกฺขา สีลาทิธมฺมกฺขนฺธา ปาริปูรึ คจฺฉนฺตีติ. ิโต มคฺคผเลสูติ มคฺเคสุ, ผเลสุ จ ิโต, มคฺคฏฺโ, ผลฏฺโ จาติ อตฺโถ. โยติ อนิยมโต อริยสงฺฆํ นิทฺทิสติ, ตสฺส ‘‘ต’’นฺติ อิมินา นิยมํ เวทิตพฺพํ.

นนุ จ อริยสงฺเฆ น สพฺเพ อริยปุคฺคลา มคฺคฏฺา, นาปิ สพฺเพ ผลฏฺาติ? สจฺจเมตํ, อวยวธมฺเมน ปน สมุทายํ นิทฺทิสนฺโต เอวมาห ยถา ‘‘สมํ จุณฺณ’’นฺติ. ยถา หิ โยคจุณฺณสฺส อวยเวสุ ลพฺภมาโน สมภาโว สมุทาเย อปทิสียติ ‘‘สมํ จุณฺณ’’นฺติ, เอวํ อริยสงฺฆสฺส อวยวภูเตสุ อริยปุคฺคเลสุ ลพฺภมาโน มคฺคฏฺผลฏฺภาโว สมุทายภูเต อริยสงฺเฆ ิโต ‘‘มคฺคผเลสู’’ติ อปทิฏฺโติ เวทิตพฺพํ.

อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต, สเทวเกน จ โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ อรณียโต อริโย, ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆ, อริโย จ โส สงฺโฆ จาติ อริยสงฺโฆ, ตํ อริยสงฺฆํ. ปุชฺชภวผลนิพฺพตฺตนโต อตฺตโน สนฺตานํ ปุนาตีติ วา ปุฺํ, ขิตฺตํ วุตฺตํ พีชํ วิรุหนฏฺานตาย ตายติ รกฺขตีติ เขตฺตํ เกทาราทิ, เขตฺตํ วิยาติ เขตฺตํ, สตฺตานํ ปุฺสฺส มหปฺผลภาวกรเณน วิรุหนฏฺานตาย เขตฺตนฺติ ปุฺกฺเขตฺตํ. อนุตฺตรํ วนฺเทติ สมฺพนฺโธ.

เอตฺถ จ ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ เอเตน อริยสงฺฆสฺส ภควโต อนุชาตปุตฺตตํ ทสฺเสติ, เตนสฺส ปภวสมฺปทา ทีปิตา โหติ. ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ เอเตน ปหานสมฺปทํ, าณสมฺปทฺจ ทสฺเสติ กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานทีปนโต, มคฺคผลาณาธิคมทีปนโต จ. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ เอเตน ปภวสมฺปทํ สพฺพสงฺฆานํ อคฺคภาวทีปนโต, สเทวเกน จ โลเกน อรณียภาวทีปนโต. ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ เอเตน โลกสฺส พหูปการตํ ทสฺเสติ อคฺคทกฺขิเณยฺยภาวทีปนโต.

ตถา ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ อิทํ อริยสงฺฆสฺส สมฺมาอุชุายสามีจิปฺปฏิปนฺนภาวทีปนํ. ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ อิทํ สติปิ สนฺตานวิภาเคน อเนกภาเว จตุปุริสยุคอฏฺปุริสปุคฺคลภาวทีปนํ. ‘‘อริยสงฺฆ’’นฺติ อิทํ อาหุเนยฺยาทิภาวทีปนํ. ‘‘ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ อิทํ โลกสฺส หิตสุขาย ปฏิปนฺนตาทีปนํ. ตถา ‘‘ิโต มคฺคผเลสู’’ติ อิทํ อริยสงฺฆสฺส โลกุตฺตรสรณคมนสพฺภาวทีปนํ, เตนสฺส ภควโต โอรสปุตฺตภาโว ทสฺสิโต โหติ. ‘‘สีลาทิคุณสมฺปนฺโน’’ติ อิมินา ปนสฺส วิหตวิธสฺตกิเลสา อนวเสสา เสกฺขาเสกฺขา สีลาทิธมฺมกฺขนฺธา ทสฺสิตา. ‘‘อริยสงฺฆํ ปุฺกฺเขตฺตํ อนุตฺตร’’นฺติ อิมินา เตสํ เตสฺเว ยถาวุตฺตคุณวิเสสานํ สุปริสุทฺธตํ ทีเปติ. เตนสฺส มหานุภาวตํ, อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาวํ, วนฺทนารหภาวํ, อตฺตโน จ วนฺทนากิริยาย เขตฺตงฺคตภาวํ ทีเปติ. สรณคมนฺจ สาวกานํ สพฺพคุณานํ อาทิ, สปุพฺพภาคปฺปฏิปทา เสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย มชฺเฌ, อเสกฺขา สีลกฺขนฺธาทโย ปริโยสานนฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณา สพฺเพ อริยสงฺฆคุณา อิมาย คาถาย ปกาสิตาติ เวทิตพฺพํ.

เอวํ คาถาตฺตเยน สงฺเขปโต สกลคุณสํกิตฺตนมุเขน รตนตฺตยสฺส ปณามํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิปจฺจการํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน ปริณาเมนฺโต ‘‘วนฺทนาชนิต’’นฺติ คาถมาห. ตตฺถ วนฺทนาชนิตนฺติ วนฺทนากาเรน นิพฺพตฺติตํ, รตนตฺตยคุณาภิตฺถวนวเสน, นิปจฺจการวเสน วา อุปฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. อิตีติ เอวํ ‘‘มหาการุณิก’’นฺติอาทิปฺปกาเรน. รติชนนฏฺเน รตนํ, พุทฺธธมฺมสงฺฆา, จิตฺตีกตาทิภาโว วา รตนฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ขุ. ปา. อฏฺ. ๖.๓; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓; สํ. นิ. ๕.๒๒๓; สุ. นิ. อฏฺ. ๑.๒๒๖; มหานิ. อฏฺ. ๕๐; ที. นิ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถา; ม. นิ. ฏี. ๑.๔; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔; อ. นิ. ฏี. ๑.๑.๔; สารตฺถ. ฏี. ๑.คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา);

จิตฺตีกตภาวาทโย จ อนฺสาธารณา พุทฺธาทีสุ เอว ลพฺภนฺติ, รตนานํ ตยํ รตนตฺตยํ, ตสฺมึ รตนตฺตเย. หตนฺตราโยติ วิธสฺตอุปทฺทโว หุตฺวาติ สมฺพนฺโธ, เอเตน อตฺตโน ปสาทสมฺปตฺติยา, รตนตฺตยสฺส จ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา ตสฺส ปุฺสฺส อตฺถสํวณฺณนาย อุปฆาตกอุปทฺทวานํ วิหนเน สมตฺถตํ ทสฺเสติ. สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ อนฺโต เจว พหิ จ, อชฺฌตฺติกพาหิรวตฺถูสูติ อตฺโถ. สพฺพตฺถาติ วา สพฺพสฺมึ กาเล, สํวณฺณนาย อาทิมชฺฌปริโยสานกาเลสูติ วุตฺตํ โหติ. หุตฺวาติ ปุพฺพกาลกิริยา, ตสฺส ‘‘กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ ยํ รตนตฺตเย วนฺทนาชนิตํ ปุฺํ, ตสฺส. เตชสาติ อานุภาเวน พเลน.

เอวํ รตนตฺตยวนฺทนาย ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เนตฺติปฺปกรณสฺส คมฺภีรตฺถตฺตา อตฺถสํวณฺณนาย ทุกฺกรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ิติ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ิตินฺติ านํ อนนฺตรธานํ อวิจฺเฉทปฺปวตฺตึ. อากงฺขมาเนนาติ อิจฺฉมาเนน ปตฺถยนฺเตน, ‘‘อโหวตายํ สทฺธมฺมเนตฺติ จิรํ ติฏฺเยฺยา’’ติ เอวํ ปตฺถยนฺเตนาติ วุตฺตํ โหติ. จิรนฺติ ทีฆกาลํ, ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณํ กาลนฺติ อตฺโถ. สทฺธมฺมเนตฺติยาติ สทฺธมฺมสงฺขาตาย เนตฺติยา. สทฺธมฺโม หิ เวเนยฺยสนฺตาเนสุ อริยคุณานํ นยนโต เนตฺติ, สทฺธมฺมสฺส วา เนตฺติ สทฺธมฺมเนตฺติ, ตสฺสา สทฺธมฺมเนตฺติยา, สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วิจาริโต เอว. เถเรนาติ ถิรคุณยุตฺเตน. อภิยาจิโตติ อาทรคารเวน ยาจิโต. อภิมุขํ วา ยาจิโต, อนุตฺตรํ กตฺวา ยาจิโตติ อตฺโถ. อุทฺทิสฺส วา ยาจิโต, ครุตรํ กตฺวา ยาจิโตติ อตฺโถ, ‘‘กโรตุ อายสฺมา เนตฺติปฺปกรณสฺส กฺจิ อตฺถสํวณฺณน’’นฺติ เอวํ เนตฺติยา อตฺถสํวณฺณนํ ปติ อชฺเฌสิโตติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ สทฺธมฺมสฺส จิรํ ิติกาเมน อชฺฌาสยสมฺปนฺเนน สาสเน ถิรคุณยุตฺเตน สพฺรหฺมจารินา อาทรคารเวน, อภิมุขํ วา ยาจิเตน เม น สกฺกา ตสฺส อภิยาจนํ ปฏิกฺขิปิตุนฺติ ทสฺเสติ ‘‘ิตึ อากงฺขมาเนนา’’ติ คาถาย.

ปทุมุตฺตรนาถสฺสาติ ปทุมุตฺตรสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ปสฺสตาติ ปุพฺเพนิวาสจกฺขุนา, สมนฺตจกฺขุนา เอว วา หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย อภินีหารํ ปสฺสนฺเตน. ตาทินาติ ตาทิภาวยุตฺเตน , สพฺพตฺถ วา นิพฺพิกาเรน, ‘‘อมฺหากํ ภควตา’’ติ วจนเสโส. ยสฺสาติ อายสฺมโต มหากจฺจานตฺเถรสฺส. ปิโตติ –

‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ สํขิตฺเตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ วิภชนฺตานํ ยทิทํ มหากจฺจาโน’’ติ (อ. นิ. ๑.๑๘๘, ๑๙๗) –

เอวํ ปิโต. สีลาทิคุณวิเสเสหิ มหนฺตา สาวกาติ มหาสาวกา (เถรคา. อฏฺ. ๒.๑๒๘๘; อ. นิ. ฏี. ๒.๓.๕๙), มหากสฺสปาทโย, เตสุ อยมายสฺมา อฺตโรติ, มหาสาวโก จ โส คุณวิเสสโยคโต อุตฺตโม จาติ มหาสาวกุตฺตโม.

ฌานาทีสุ สาติสยานํ อาวชฺชนาทิวสีภาวานํ, อริยิทฺธิวเสน ปรมสฺส จ เจโตวสีภาวสฺส อธิคตตฺตา วสิปฺปตฺโต. อตฺถาทีสุ สวิเสสเภทคตปฏิสมฺภิทาาณตฺตา ปภินฺนปฏิสมฺภิโท. ‘‘ปณฺฑิโต, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน, มหาปฺโ, ภิกฺขเว, มหากจฺจาโน’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๐๕) อเนเกสุ าเนสุ ภควตา ปสํสิตตฺตา สมฺพุทฺเธน ปสํสิโต. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุ เจว สํวณฺณิโต สํภาวิโต, วิฺูนฺจ สพฺรหฺมจาริน’’นฺติ.

อนุโมทิตาติ ‘‘สาธุ สาธุ, กจฺจาน, สาธุ โข, ตฺวํ กจฺจาน, อิมํ ธมฺมสํวณฺณนํ อภาสี’’ติ เอวํ อนุโมทิตา. เอกสฺมึ กิร สมเย อยํ มหาเถโร ชมฺพุวนสณฺเฑ วิหรนฺโต อตฺตโน สนฺติกาวจรานํ ภิกฺขูนํ อิมํ หารนยปฏิมณฺฑิตํ ปกรณํ อภาสิ. ภาสิตฺวา จ ภควโต สนฺติกํ อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสินฺโน ยถาภาสิตํ อิมํ ปกรณํ ภควโต นิเวเทสิ. ตํ สุตฺวา ภควา ‘‘สาธุ สาธู’’ติอาทินา อนุโมทิตฺวา ‘‘ตสฺมาติห, ตฺวํ กจฺจาน, อิมํ ธมฺมสํวณฺณนํ ธมฺมเนตฺติตฺเวว ธาเรหี’’ติ นามคฺคหณํ อกาสีติ วทนฺติ. เทสนาหาราทินนฺทิยาวฏฺฏนยาทิหารนยานุสาเรเนว สพฺพธมฺมสํวณฺณนานํ คติโยติ อาห ‘‘สาสนสฺส สทายตฺตา, นวงฺคสฺสตฺถวณฺณนา’’ติ.

คมฺภีราเณหีหิ คมฺภีเรหิ าเณหิ, น สทฺธามตฺตเกน, คมฺภีราเณหิ วา มหาปฺเหิ อริเยหิ. ปกรณสฺส คมฺภีรตฺถตํ, อตฺตโน จ าณสฺส นาติวิสยตํ วิทิตฺวา สํวณฺณนารมฺเภ สํสีทนฺตมฺปิ มํ สาสนคุณาทิอุปนิสฺสยสมฺปทา อุสฺสาเหสีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทินา.

‘‘ปฺจปินิกาเย โอคาเหตฺวา’’ติ อิมินา เนตฺติยา ปฺจปิ มหานิกาเย อนุปวิสิตฺวา อวฏฺานํ, เตสํ สํวณฺณนาภาวฺจ ทีเปติ. ตตฺถ ‘‘กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จา’’ติอาทิเปฏโกปเทสปาฬึ (เปฏโก. ๒๓) อาเนตฺวา อิธ เทสนาหาราทีนํ ปทตฺถวินิจฺฉโย เปฏเกน สํสนฺทนํ นาม. ‘‘ยถาพล’’นฺติ อิมินา สพฺพถา สพฺพภาเคนาปิ เนตฺติยา สํวณฺณนา มยา น สุกรา กาตุํ, อตฺตโน ปน าณพลานุรูปํ กริสฺสามีติ นิรติมานตํ ทีเปติ.

สุวิสุทฺธนฺติ สุฏฺุ วิสุทฺธํ, นิกายนฺตรลทฺธิโทเสหิ อนฺตรนฺตรา อนุปฺปเวสิเตหิ อสมฺมิสฺสนฺติ อธิปฺปาโย. อสํกิณฺณนฺติ สนิกาเยปิ ปทตฺถนฺตรปริกปฺปนาทินา อสํกิณฺณํ ตาทิสสงฺกรรหิตํ อนากุลํ สุปริจฺฉินฺนํ. วิวิเธหิ อากาเรหิ นิจฺฉิโนตีติ วินิจฺฉโย. อตฺถานํ วินิจฺฉโย อตฺถวินิจฺฉโย. คณฺิฏฺานภูเตสุ อตฺเถสุ ขิลมทฺทนากาเรน ปวตฺตา วิมติจฺเฉทกถา, นิปุโณ สุขุโม สณฺโห อตฺถวินิจฺฉโย เอตสฺสาติ นิปุณตฺถวินิจฺฉโย. อถ วา อตฺเถ วินิจฺฉิโนตีติ อตฺถวินิจฺฉโย, ยถาวุตฺตอตฺถวิสยาณํ, นิปุโณ เฉโก อตฺถวินิจฺฉโย เอตสฺสาติ นิปุณตฺถวินิจฺฉโย, ตํ นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ. สมยนฺติ สิทฺธนฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มหาวิหารวาสีนํ สิทฺธนฺโต วุตฺตนเยน สุปริสุทฺโธ, อนากุโล, สณฺหสุขุมวินิจฺฉโย จ, สิทฺธนฺตํ ตํ อวิโลเมนฺโต อนุกูลโต ตตฺถ สิทฺธํเยว ธมฺมเนตฺตึ ปกาสยนฺโต เนตฺติปฺปกรณสฺส อตฺถสํวณฺณนํ กริสฺสามีติ.

ปมาทเลขนฺติ อปรภาเค โปตฺถการุฬฺหกาเล ปมชฺชิตฺวา ลิขนวเสน ปวตฺตปฺปมาทปาํ. วชฺเชตฺวาติ อปเนตฺวา. ปาฬึ สมฺมา นิโยชยนฺติ ตํ ตํ เนตฺติปาฬึ ตตฺถ ตตฺถ อุทาหรณภาเวน อานีตสุตฺเต สมฺมเทว นิโยเชนฺโต, อตฺถสํวณฺณนาย วา ตํ ตํ อุทาหรณสุตฺตสงฺขาตํ ปาฬึ ตสฺมึ ตสฺมึ ลกฺขณภูเต เนตฺติคนฺเถ สมฺมเทว นิโยเชนฺโต. อุปเทสนฺติ เนตฺติอุปนิสํ เนตฺติหทยํ. ยฺวายํ สปฏฺานวิภาคสฺส เตตฺตึสวิธสฺส เนตฺติปทตฺถสฺส สห นิมิตฺตวิภาเคน อสงฺกรโต ววตฺถิโต วิสโย, ตํ. วิภาเวนฺโต ปกาเสนฺโต. ตสฺสา เนตฺติยา กริสฺสามิ อตฺถวณฺณนนฺติ สมฺพนฺโธ.

เอตฺถ จ ‘‘อภิยาจิโต’’ติ อิมินา อตฺถสํวณฺณนาย นิมิตฺตํ ทสฺเสติ, ‘‘ิตึ อากงฺขมาเนน จิรํ สทฺธมฺมเนตฺติยา’’ติ อิมินา ปโยชนํ, ‘‘กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ อิมินา ปิณฺฑตฺถํ. สํวณฺณิยมานา หิ ปกรณตฺถา สํวณฺณนาย ปิณฺฑตฺโถ. ‘‘ตมุปนิสฺสายา’’ติอาทินา กรณปฺปการํ.

อิทานิ สํวณฺณนาย สวเน นิโยเชนฺโต ‘‘อิติ อตฺถ’’นฺติ โอสานคาถมาห. ตตฺถ ‘‘สกฺกจฺจ’’นฺติ ปทํ อุภยตฺถ โยเชตพฺพํ ‘‘สกฺกจฺจํ วิภชนฺตสฺส, สกฺกจฺจํ นิสามยถา’’ติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานกถาวณฺณนา

วจนตฺถชานเนน วิทิตปฺปกรณตฺถสามฺตฺถสฺส ปกรณกถา วุจฺจมานา โสเภยฺยาติ เนตฺติปทตฺถปริชานนเมว อาทิมฺหิ ยุตฺตรูปนฺติ ตทตฺถํ ปุจฺฉติ ‘‘ตตฺถ เกนฏฺเน เนตฺตี’’ติ. ตตฺถ ตตฺถาติ ‘‘ตสฺสา เนตฺติยา กริสฺสามตฺถวณฺณน’’นฺติ ยทิทํ วุตฺตํ, ตสฺมึ; ยสฺสา กริสฺสามตฺถวณฺณนนฺติ ปฏิฺาตํ, สา เนตฺติ เกนฏฺเน เนตฺตีติ อตฺโถ. ตตฺถาติ วา ‘‘เนตฺติปฺปกรณสฺสา’’ติ เอตสฺมึ วจเน ยา เนตฺติ วุตฺตา, สา เกนฏฺเน เนตฺตีติ อตฺโถ. ‘‘นยนฏฺเนา’’ติ อิทํ กตฺตุกรณาธิกรณสาธนานํ สาธารณวจนนฺติ ‘‘อริยธมฺมํ นยตี’’ติ กตฺตุสาธนวเสน ตาว เนตฺติสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา อิทานิ กรณาธิกรณสาธนวเสน วตฺตุํ ‘‘นยนฺติ ตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตถา หิ วุตฺตนฺติ เนตฺติอุปเทสาธีนตฺตา เอว สุตฺตาวโพธสฺส วุตฺตํ. เปฏเก ‘‘ตสฺมา นิพฺพายิตุกาเมน สุตมเยน อตฺถา ปริเยสิตพฺพา, ตตฺถ ปริเยสนาย อยํ อนุปุพฺพี ภวติ โสฬส หารา ปฺจ นยา อฏฺารส มูลปทานี’’ติอาทิ (เปฏโก. ๓). หารนยวิจารณา วินิมุตฺโต อตฺถสํวณฺณนาวิเสโส นตฺถีติ อาห ‘‘สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนา เนตฺติอุปเทสายตฺตา’’ติ. สฺวายมตฺโถ ปรโต ปกิณฺณกกถายํ อาวิ ภวิสฺสติ. เอวํ มหาวิสยา จายํ เนตฺติ กุโต ปภวาติ อาห ‘‘สุตฺตปฺปภวา’’ติ, เอเตน เนตฺติยา ปมาณภูตตํ ทสฺเสติ. อิทฺจ สุตฺตสฺส เนตฺติสนฺนิสฺสยตาปริทีปนปรํ, น เถรปฺปภวตาปฏิกฺเขปปรํ. เถโร หิ ปฺจ มหานิกาเย โอคาเหตฺวา ตํสนฺนิสฺสเยเนว เตสํ สํวณฺณนาภูตํ อิมํ ปกรณํ อภาสิ, ตสฺมา อยเมว สํวณฺณนาธมฺโม, ยทิทํ สํวณฺเณตพฺพธมฺมสนฺนิสฺสยตา.

ปกรณปริจฺเฉทโตติ ปกรณสฺส วิภาคโต. หารวิจาราทโย หิ ตโย เนตฺติปฺปกรณสฺส วิภาคา, ปกรณภูตปริจฺเฉทโต วา. ตีณิ หิ เอตานิ ปกรณานิ ตโย อธิการา, ยทิทํ หารวิจาราทโย. ปาฬิววตฺถานโตติ ปาสนฺนิเวสโต.

‘‘สพฺโพหิ ปกรณตฺโถ’’ติอาทินา สงฺคหวารสฺส อนฺวตฺถสฺตํ ทสฺเสติ. ‘‘นนุ เจตฺถ ปฏฺานํ อสงฺคหิต’’นฺติ โจทโก พฺยภิจารมาห. อิตโร ยทิปิ สรูปโต อสงฺคหิตํ, อตฺถโต ปน สงฺคหิตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นยิทเมว’’ติอาทินา ปริหรติ. ปุน ‘‘ตถา หี’’ติอาทินา ตเมวตฺถํ ปาฬิยา ปากฏตรํ กโรติ. อตฺถนยา นนฺทิยาวฏฺฏาทโย. สงฺขารตฺติกา ปุฺาภิสงฺขาราทโย, กายสงฺขาราทโย จ. เตสุ อตฺถนยานํ อฺมฺสงฺคโห ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. อิตเร ปน กามาวจรา, รูปาวจรา จ กุสลา เจตนา ปุฺาภิสงฺขาโร, อกุสลา เจตนา อปุฺาภิสงฺขาโร, อรูปาวจรา กุสลา เจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ปุฺาภิสงฺขาโร จ อปุฺาภิสงฺขาโร จ กายทฺวารปฺปวตฺโต กายสงฺขาโร, โส เอว วจีทฺวารปฺปวตฺโต วจีสงฺขาโร, มโนทฺวารปฺปวตฺโต ปน ติวิโธปิ จิตฺตสงฺขาโร. อิติ ชาติวเสน ปุริมตฺติเก วุตฺตา เอว ธมฺมา ทฺวารวเสน ทุติยตฺติเก วุตฺตา, เต เอว จ ปุริมตฺติเกติ อฺมฺสงฺคโห เวทิตพฺโพ.

ยตฺถาติ ยสฺมึ วาเร. เปฏเกติ เปฏโกปเทเส. สมฺปตมานาติ สํวณฺณนาวเสน สนฺนิปตนฺตา. ‘‘พฺยฺชนวิธิปุถุตฺตา’’ติ อิทํ เอกสฺมึ สุตฺเต อเนเกสํ หารานํ สนฺนิปตนสฺส การณวจนํ. ตถา หิ ‘‘อเนกสามตฺถิยนิจิตา สทฺทา’’ติ อกฺขรจินฺตกา วทนฺติ.

‘‘น สรูปโต’’ติ อิมินา สงฺคหวาเร วิย อุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุปิ ปฏฺานสฺส อตฺถโต อุทฺธฏตํ ทสฺเสติ. มูลปทคฺคหเณเนว คหิตตฺตา อุทฺเทสวาเร ตาว เอวํ โหตุ, นิทฺเทสวาเร ปน กถนฺติ? ตตฺถาปิ นยคฺคหเณเนว มูลปทานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพํ. น หิ มูลปเทหิ วินา กาจิ นยโยชนา สมฺภวติ. อปเร ปน ‘‘หารนยา วิย ปฏฺานํ น สุตฺตสฺส สํวณฺณนาวิเสโส, อถ โข ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต สํกิเลสภาคิยตาทิลพฺภมานวิเสสมตฺตนฺติ น ตสฺส ปกรณสฺส ปทตฺถสงฺคโห. เอวฺจ กตฺวา เตตฺตึสาย เนตฺติปทตฺเถสุ ปฏฺานํ อสงฺคหิตํ, อุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุ จ อนุทฺธฏเมวา’’ติ วทนฺติ.

‘‘ปาฬิโต เอว วิฺายตี’’ติ วุตฺตมตฺถํ สมตฺเถนฺโต ‘‘ตถา หิ…เป… อาภต’’นฺติ อาห, เตน เถเรน ภาสิตภาโว วิย ภควตา อนุโมทิตภาโวปิ ปาฬิอนุคโต เอวาติ ทสฺเสติ. สาวกภาสิตตฺตา นิทานํ น วุตฺตนฺติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ โจเทนฺโต ‘‘สาวก…เป… ภาสิต’’นฺติ อาห. นยิทํ เอกนฺติกนฺติ จ สาวกภาสิตพุทฺธภาสิตภาโว นิทานาวจนสฺส, นิทานวจนสฺส จ อการณํ อุภยตฺถาปิ อุภยสฺส ทสฺสนโต. ตสฺมา นิทานาวจเนน เนตฺติยา อสาวกภาสิตตา น สิชฺฌตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘น จ ตาวตา ตานิ อปฺปมาณํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพ’’นฺติ.

เยเนว การเณน นิทานาวจนสฺส ปมาณภาวสาธนตา, เตเนว การเณน อิมสฺส ปกรณสฺส ปมาณภาวสิทฺธีติ ทสฺเสติ ‘‘นิทานฺจ นามา’’ติอาทินา. อิทานิ ‘‘อถ วา’’ติอาทินา เนตฺติยา นิทานาวจเนน อพฺยภิจารเหตุมาห. อยฺเหตฺถ ปโยโค น เนตฺติยา นิทานํ วตฺตพฺพํ ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนาภาวโต. ยา หิ ปาฬิยา อตฺถสํวณฺณนา น ตสฺสา นิทานวจนํ ทิฏฺํ ยถา ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส, นิทฺเทสาทีนฺจาติ.

‘‘อยํ วิภาโค’’ติอาทินา เอกวิธโต ปฏฺาย ยาว จตุราสีติสหสฺสปฺปเภทา, ตาว ยถาทสฺสิตสฺส ปกรณวิภาคสฺส ปุน ‘‘อาทินา นเยน ปกรณวิภาโค เวทิตพฺโพ’’ติ อิทํ นิคมนํ. ตตฺถ อาทินา นเยนาติ อาทิสทฺเทน อภิฺเยฺยธมฺมนิทฺเทสโต ปฺตฺติปฺเปตพฺพธมฺมวิภชนโต ติยทฺธปริยาปนฺนธมฺมวิจารโต จตุโรฆนิตฺถรณตฺถโต ปฺจาภินนฺทนาทิปฺปหานโต ฉตณฺหากายุปสมนโต สงฺคหวาราทิสตฺตวารสงฺคหโต อฏฺมิจฺฉตฺตสมุคฺฆาตทีปนโตติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.