📜

๒. อุทฺเทสวารวณฺณนา

. วิภาเคนาติ สรูปวิภาเคน. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ อทิฏฺโชตนา. ทิฏฺํ สํสนฺทียติ เอตายาติ ทิฏฺสํสนฺทนา, สํสนฺทนํ เจตฺถ สากจฺฉาวเสน วินิจฺฉยกรณํ. วิมติ ฉิชฺชติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนา. อนุมติยา ปุจฺฉา อนุมติปุจฺฉา. ‘‘ตํ กึ มฺถา’’ติ หิ กา ตุมฺหากํ อนุมตีติ อนุมติ ปุจฺฉิตา. กเถตุกมฺยตาติ กเถตุกมฺยตาย.

‘‘หรียนฺติ เอเตหี’’ติอาทินา กรณาธิกรณกตฺตุภาวกมฺมสาธนานํ วเสน หาร-สทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา สทิสกปฺปนาวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘หารา วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน คนฺถกรณาทิอตฺเถน คนฺถาทิสทฺทานํ วิย หารกรณาทิอตฺเถน หารสทฺทสิทฺธึ ทสฺเสตุํ ‘‘หารยนฺตี’’ติอาทิมาห. ‘‘หรณโต, รมณโต จา’’ติ อิมินา มโนหรา มโนรมา เจเต สํวณฺณนาวิเสสาติ ทสฺเสติ.

อุปปตฺติสาธนยุตฺตีติ ลกฺขณเหตุ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘นนุ จ อฺเปิ หารา ยุตฺติสหิตา เอวา’’ติอาทินา เทสนาหาเร วุตฺตนยานุสาเรน.

จตุนฺนํ พฺยูโห เอตฺถาติ ภินฺนาธิกรณานมฺปิ ปทานํ อฺปทตฺถสมาโส ลพฺภติ ‘‘อุรสิโลโม’’ติอาทีนํ (ที. นิ. ฏี. ๓.๕๔, ๓๐๓) วิยาติ วุตฺตํ.

เสสนฺติ ‘‘วิวจนเมว เววจน’’นฺติ เอวมาทิ.

อนุปฺปเวสียนฺตีติ อวคาหียนฺติ. สมาธียนฺตีติ ปริหรียนฺติ. วินา วิกปฺเปนาติ ชาติ สามฺํ, เภโท สามฺํ, สมฺพนฺโธ สามฺนฺติอาทินา ปทตฺถนฺตรภาววิกปฺปนมนฺตเรน.

ปทฏฺานาทิมุเขนาติ ปทฏฺานเววจนภาวนาปหานมุเขน. เกจีติ ปทฏฺานปริกฺขารอาวฏฺฏปริวตฺตนปฺตฺติโอตรเณ สนฺธาย วทติ.

. สมฺพนฺโธติ เหตุผลภาวโยโค. ตถาภูตานฺหิ ธมฺมานํ เอกสนฺตานสิทฺธตา เอกตฺตนโย. วิภาโค สติปิ เนสํ เหตุผลภาเว วิภตฺตสภาวตา. อฺโ เอว หิ เหตุ, อฺํ ผลนฺติ. พฺยาปารวิรโห นิรีหตา. น หิ เหตุผลานํ เอวํ โหติ ‘‘อหํ อิมํ นิพฺพตฺเตมิ, อิมินาหํ นิพฺพตฺโต’’ติ. อนุรูปผลตา ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปจฺจยานุกูลตา. สมูหาทึ อุปาทาย โลกสงฺเกตสิทฺธา โวหารมตฺตตา สมฺมุติสภาโว. ปถวีผสฺสาทีนํ กกฺขฬผุสนาทิลกฺขณํ ปรมตฺถสภาโว. อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – ยสฺมึ ภินฺเน, อิตราโปเห วา จิตฺเตน กเตน ตถา พุทฺธิ, อิทํ สมฺมุติสจฺจํ ยถา ฆเฏ, สสมฺภารชเล จ, ตพฺพิปริยาเยน ปรมตฺถสจฺจนฺติ. ปรมตฺถสจฺจปฺปฏิเวธายาติ นิพฺพานาธิคมาย.

อนฺโตติ อพฺภนฺตโร. ปธานาวยเวนาติ มูลภาเวน. ‘‘นนฺที ทุกฺขสฺส มูล’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๓) ตณฺหา ‘‘นนฺที’’ติ วุตฺตา. ‘‘สงฺคาเม จ นนฺทึ จรตี’’ติอาทีสุ ปโมโทติ อาห ‘‘ตณฺหาย, ปโมทสฺส วา’’ติ.

. ชาติเภทโตติ กุสลา, อกุสลาติ อิมสฺมา วิเสสา. ยุชฺชนฺตีติ เอตฺถ เหตุอตฺโถ อนฺโตนีโต เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘โยชียนฺตี’’ติ. เกหิ โยชียนฺติ? สํวณฺณนเกหีติ อธิปฺปาโย. ยุชฺชนฺตีติ วา ยุตฺตา โหนฺติ, เตหิ สมานโยคกฺขมา ตคฺคหเณเนว คหิตา โหนฺตีติ อตฺโถ ตเทกฏฺภาวโต. อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘นวหิ ปเทหี’’ติ สหโยเค กรณวจนํ, ปุริมสฺมึ กรเณ. ‘‘เอเต โข’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ โข-สทฺทสฺส ปทปูรณตา, อวธารณตฺถตา วา เวทิตพฺพา. เอเต เอวาติ เอเต ตณฺหาทโย เอว, น อิโต อฺเติ อตฺโถ. อฏฺารเสว น ตโต อุทฺธํ, อโธ วาติ. ปุริมสฺมึ ปกฺเข มูลปทนฺตราภาโว, ทุติยสฺมึ เตสํ อนูนาธิกตา ทีปิตา โหติ.

อุทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.