📜

๓. นิทฺเทสวารวณฺณนา

. นิทฺเทสวาเร สามฺโตติ สาธารณโต. วิเสเสนาติ อสาธารณโต. ปทตฺโถติ สทฺทตฺโถ. ลกฺขณนฺติ สภาโว. กโมติ อนุปุพฺพี. เอตฺตาวตาติ เอตฺตกปฺปมาณภาโว. เหตฺวาทีติ เหตุผลภูมิอุปนิสาสภาควิสภาคลกฺขณนยา. วิเสสโต ปน ลกฺขณนฺติ สมฺพนฺโธ.

หารสงฺเขปวณฺณนา

. ยํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ นฺติ ปจฺจตฺตวจนํ, ตฺจ สุขํ, โสมนสฺสนฺติ ทฺวเยน สมานาธิกรณนฺติ กตฺวา ‘‘อสฺสาทียตีติ อสฺสาโท, สุขํ, โสมนสฺสฺจา’’ติ วุตฺตํ. สุขาทิเวทนา วิย มนาปิยรูปาทิปิ อวีตราคสฺส อสฺสาเทตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอวํ อิฏฺารมฺมณมฺปี’’ติ. ‘‘อสฺสาเทติ เอตายาติ วา อสฺสาโท, ตณฺหา’’ติ เอเตน ‘‘ย’’นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโตติ ทสฺเสติ. ตตฺรายมตฺโถ – เยน เหตุนา ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ ปฏิจฺจ อสฺสาทนียภาเวน อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ ตณฺหาสงฺขาโต อสฺสาโท อสฺสาทนกิริยาย การณนฺติ. อิติ กตฺวา อยมตฺโถ ทิฏฺาภินนฺทนาทิภาวโต วิปลฺลาเสสุปิ สมฺภวตีติ อาห ‘‘เอวํ วิปลฺลาสาปี’’ติ. อนิฏฺมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อิฏฺมฺปีติ โยเชตพฺพํ, อนวเสสา สาสวา ธมฺมา อิธ อารมฺมณคฺคหเณน คหิตาติ อาห ‘‘สพฺเพสํ เตภูมกสงฺขาราน’’นฺติ.

ทุกฺขาทุกฺขมสุขเวทนานนฺติ เอตฺถ ทุกฺขสภาวา เอว อทุกฺขมสุขา เวทนา คหิตา อนิฏฺารมฺมณสฺส อธิปฺเปตตฺตา, น สุขสภาวา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยายํ, ภนฺเต, อทุกฺขมสุขา เวทนา, สนฺตสฺมึ เอสา ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๘; สํ. นิ. ๔.๒๖๗). ‘‘สุขปริยายสพฺภาวโต’’ติ อิมินา อิฏฺตามตฺตโตปิ เลเสน สตฺตานํ อารมฺมณสฺส อสฺสาทนียตา สมฺภวตีติ ทสฺเสติ.

อาทีนโว โทสนิสฺสนฺทนตาย โทโส, สฺวายํ ปีฬนวุตฺติยา เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อาทีนโว ทุกฺขา เวทนา, ติสฺโสปิ วา ทุกฺขตา’’ติ. เอวํ โทสตฺถตํ อาทีนวสฺส ทสฺเสตฺวา อิทานิ กปณตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยโตติ ยสฺมา โทสกปณสภาวตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.

นิสฺสรตีติ วิวิตฺติ, สพฺพสงฺขารวิเวโกติ อตฺโถ. สามฺนิทฺเทเสนาติ นิสฺสรณสทฺทวจนียตาสามฺเน. ปุริมานนฺติ อสฺสาทาทีนวตานํ. อุปาโย จาติอาทีสุ -สทฺโท ปทปูรณมตฺตนฺติ กตฺวา อาห ‘‘ปจฺฉิมานฺจา’’ติ, ผลาทีนนฺติ อตฺโถ. ตทนฺโตคธเภทานนฺติ อริยมคฺคปริยาปนฺนวิเสสานํ.

กามภวาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน น รูปารูปภวา เอว คหิตา, อถ โข เต จ สฺีภวาทโย จ เอกโวการภวาทโย จ คหิตา. เตนาห ‘‘ติณฺณํ ติณฺณํ ภวาน’’นฺติ.

ยาวเทว อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถา ภควโต เทสนาติ อาห ‘‘นนุ จ…เป… นิปฺผาทียตี’’ติ. ‘‘วุตฺตเมวา’’ติ อิมินา ปุนรุตฺติโทสํ โจเทติ. อิตโร ‘‘สจฺจเมต’’นฺติ อนุชานิตฺวา ‘‘ตฺจ โข’’ติอาทินา ปริหรติ. ‘‘ปรมฺปรายา’’ติ เอเตน อชฺฌตฺตํ โยนิโสมนสิกาโร วิย น ปรโตโฆโส อาสนฺนการณํ ธมฺมาธิคมสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจตฺตํ เวทนียตฺตาติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘อกฺขาตาโร ตถาคตา, ปฏิปนฺนา ปโมกฺขนฺติ, ฌายิโน มารพนฺธนา’’ติ (ธ. ป. ๒๗๖) วุตฺตํ. ตทธิคมการณํ อริยมคฺคาธิคมการณํ สิยา. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘สมฺปตฺติภวเหตู’’ติ, เตน จริมตฺตภาวเหตุภูตํ ปุฺสมฺปตฺตึ วทติ.

‘‘อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา’’ติ อิทํ อริยมคฺคสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทาย ผลภาวสาธนํ. เยน หิ วิธินา อตฺตานุทิฏฺิสมุคฺฆาโต, มจฺจุตรณฺจ สิยา, โส ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา ปกาสิโตติ. อตฺตานุทิฏฺิสมุคฺฆาตมจฺจุตรณานํ ผลภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

‘‘ธมฺโม หเว’’ติ ปน คาถายํ โลกิยสฺส ปุฺผลสฺส วุตฺตตฺตา อาห ‘‘อิทํ ผล’’นฺติ. ยํ นิพฺพตฺเตตพฺพํ, ตํ ผลํ. ยํ นิพฺพตฺตกํ, โส อุปาโย. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. เตนาห ‘‘เอเตน นเยนา’’ติอาทิ. อุปธิสมฺปตฺตีติ อตฺตภาวโสภา.

วิสุทฺธีติ าณทสฺสนวิสุทฺธิ อธิปฺเปตาติ อาห – ‘‘เอตฺถาปิ…เป… วิฺาตุ’’นฺติ. ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทินาปิ ตเมวตฺถํ วจนนฺตเร ปากฏตรํ กโรติ.

สรูปโต อาคตานิ ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ปฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ อสฺสาทฺจ อาทีนวฺจ นิสฺสรณฺจ ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๒๖-๒๘). เอกเทเสนอาคตานิ ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต (สํ. นิ. ๒.๕๓), พหุทุกฺขา พหุปายาสา, อาทีนโว เอตฺถ ภิยฺโย (ม. นิ. ๑.๑๑๗), สงฺขารานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ นิพฺพาน’’นฺติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔; ๓.๔๑). น สรูเปน อาคตานิ ยถา สามฺผลสุตฺตาทีสุ. อตฺถวเสนาติ อสฺสาเทตพฺพาทิอตฺถวเสน. น ปปฺจิโตติ น วิตฺถาริโต.

. เอเสวนโยติ อติเทเสน วิจิยมานวจนเสโส อติทิฏฺโ. ภาวตฺเถ โตหิ อาห ‘‘วิสฺสชฺชิตนฺติ วิสฺสชฺชนา’’ติ. สุตฺเต อาคตํ น อตฺถสํวณฺณนาวเสน อฏฺกถายํ อาคตนฺติ อธิปฺปาโย. ปุจฺฉานุรูปตา อิธ ปุพฺพาปรนฺติ จตุพฺยูหปุพฺพาปรโต อิมํ วิเสเสตฺวา ทสฺเสติ. ปุจฺฉานุสนฺธีติ ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชเนน อนุสนฺธานํ. อฏฺกถายํ ปน เหฏฺิมเทสนาย ปุจฺฉานิมิตฺตปวตฺตอุปริเทสนาย สมฺพนฺโธ ‘‘ปุจฺฉานุสนฺธี’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพาเปกฺขนฺติ ปุจฺฉิตวิสฺสชฺชิตปทาเปกฺขํ. ‘‘สุตฺตสฺสา’’ติ วา อิมินา ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนาอนุคีติโย เปตฺวา เสโส วิจยหารปทตฺโถ สงฺคหิโตติ ปทสฺสาปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. อิมสฺมึ ปกฺเข คาถายํ -สทฺโท ปทปูรณมตฺเต ทฏฺพฺโพ.

‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘อาม, จกฺขุ อนิจฺจเมวา’’ติ เอกนฺตโต วิสฺสชฺชนํ เอกํสพฺยากรณํ. ‘‘อฺินฺทฺริยํ ภาเวตพฺพํ, สจฺฉิกาตพฺพฺจา’’ติ ปุฏฺเ ‘‘มคฺคปริยาปนฺนํ ภาเวตพฺพํ, ผลปริยาปนฺนํ สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติ วิภชิตฺวา วิสฺสชฺชนํ วิภชฺชพฺยากรณํ. ‘‘อฺินฺทฺริยํ กุสล’’นฺติ ปุฏฺเ ‘‘กึ อนวชฺชฏฺโ กุสลฏฺโ, อุทาหุ สุขวิปากฏฺโ’’ติ ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ ปฏิปุจฺฉาพฺยากรณํ. ‘‘สสฺสโต อตฺตา, อสสฺสโต วา’’ติ วุตฺเต ‘‘อพฺยากตเมต’’นฺติอาทินา อวิสฺสชฺชนํ ปนํ. ‘‘กึ ปเนเต กุสลาติ วา ธมฺมาติ วา เอกตฺถา, อุทาหุ นานตฺถา’’ติ อิทํ ปุจฺฉนํ สาวเสสํ. วิสฺสชฺชนสฺส ปน สาวเสสตา เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน เทสนายํ เวทิตพฺพา. อปฺปาฏิหีรกํ สอุตฺตรํ. สปฺปาฏิหีรกํ นิรุตฺตรํ. เสสํ วิจยหารนิทฺเทเส สุวิฺเยฺยเมว.

เอตฺถ จ อสฺสาโท อสฺสาทเหตุ ยาว อาณตฺติเหตูติ เอวํ เหตูนมฺปิ อสฺสาทาทโย เวทิตพฺพา. ตตฺถ สงฺเขปโต สุขสุขปจฺจยลกฺขโณ อสฺสาโท, โส วิเสสโต สคฺคสมฺปตฺติยา ทีเปตพฺโพ. สา หิ ตสฺส อุกฺกํโส, เสสา ปเนตฺถ ภวสมฺปตฺติ ตทนฺวายิกา เวทิตพฺพา. ตสฺส เหตุ ทานมยํ, สีลมยฺจ ปุฺกิริยวตฺถุ. ทุกฺขทุกฺขปจฺจยลกฺขโณ อาทีนโว. วิปริณามสงฺขารทุกฺขตานํ ตทวโรธโต วฏฺฏทุกฺขสฺสาปิ เอตฺถ สงฺคโห. วิเสสโต ปน กามานํ โอกาโรติ ทฏฺพฺโพ, สฺวายํ สํกิเลสวตฺถุนา, อิตฺตรปจฺจุปฏฺานตาทีหิ จ วิภาเวตพฺโพ, ตสฺส เหตุ ทส อกุสลกมฺมปถา. เนกฺขมฺมํ นิสฺสรณํ, ตสฺส เหตุ ยถารหํ ตทนุจฺฉวิกา ปุพฺพภาคปฺปฏิปทา. ผลํ เทสนาผลเมว, ตสฺส เหตุ เทสนา. อุปาโย ยถาวุตฺตอุปาโยว, ตสฺส เหตุ จตฺตาริ จกฺกานิ. อาณตฺติ อุปเทโส, ตสฺส ราคคฺคิอาทีหิ โลกสฺส อาทิตฺตตา, สตฺถุ มหากรุณาโยโค จ เหตุ.

ตถา จตูสุ อริยสจฺเจสุ สมุทเยน อสฺสาโท, ทุกฺเขน อาทีนโว, มคฺคนิโรเธหิ นิสฺสรณํ, มคฺโค วา อุปาโย, ตทุปเทโส อาณตฺติ, อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ ผลํ. อิติ อนุปุพฺพกถาย สทฺธึ พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย นิทฺธารณภาเวน วิจโย เวทิตพฺโพ. ปทสฺส ปทตฺถสมฺพนฺโธ เหตุ. โส หิ ตสฺส ปวตฺตินิมิตฺตํ, ปฺหสฺส าตุกามตา, กเถกุกามตา จ. อทิฏฺโชตนาทีนฺหิ จตุนฺนํ าตุกามตา, อิตรสฺส อิตรา. วิสฺสชฺชนสฺส ปฺโห เหตุ. เอวํ เสสานมฺปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ.

. พฺยฺชนตฺถานํ ยุตฺตายุตฺตปริกฺขาติ พฺยฺชนคฺคหเณน ปทํ คหิตํ, อตฺถคฺคหเณน ปฺหาทีหิ สทฺธึ อสฺสาทาทโย คหิตา. วิจยหารปทตฺถา เอว หิ ยุตฺตายุตฺตาทิวิเสสสหิตา ยุตฺติหาราทีนํ ปทตฺถา. ตถา หิ ปทฏฺานปทฏฺานิกภาววิสิฏฺา เตเยว ปทฏฺานหารสฺส ปทตฺถา. ลกฺขณลกฺขิตพฺพตาวิสิฏฺา, นิทฺธาริตา จ ลกฺขณหารสฺส, นิพฺพจนาทิวิภาวนาวิสิฏฺา จตุพฺยูหหารสฺส, สภาคธมฺมวเสน, วิสภาคธมฺมวเสน จ อาวฏฺฏนวิสิฏฺา อาวฏฺฏหารสฺส, ภูมิวิภาคาทิวิสิฏฺา วิภตฺติหารสฺส, ปฏิปกฺขโต ปริวตฺตนวิสิฏฺา ปริวตฺตนหารสฺส, ปริยายเววจนวิสิฏฺา เววจนหารสฺส, ปภวาทิปฺาปนวิสิฏฺา ปฺตฺติหารสฺส, ขนฺธาทิมุเขหิ โอตรณวิสิฏฺา โอตรณหารสฺส, ปทปทตฺถปฺหารมฺภโสธนวิสิฏฺา โสธนหารสฺส, สามฺวิเสสนิทฺธารณวิสิฏฺา อธิฏฺานหารสฺส, ปจฺจยธมฺเมหิ ปริกฺขรณวิสิฏฺา ปริกฺขารหารสฺส, ปหาตพฺพภาเวตพฺพตานิทฺธารณวิสิฏฺา สมาโรปนหารสฺส ปทตฺถา. ‘‘พฺยฺชนสฺส สภาวนิรุตฺติตา, อตฺถสฺส สุตฺตาทีหิ อวิโลมนํ ยุตฺตภาโว’’ติ อิมินา อสภาวนิรุตฺติตา, สุตฺตาทีหิ วิโลมนฺจ อยุตฺตภาโวติ ทีเปติ, เตน ยุตฺตายุตฺตีนํ เหตุํ ทสฺเสติ.

. โยนิโสมนสิการาทีติ อาทิสทฺเทน สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยาทิสาธารณํ, อสาธารณฺจ เทยฺยปฏิคฺคาหกาทึ สงฺคณฺหาติ. สมฺภวโตติ ยถารหํ ตสฺส ธมฺมสฺส อนุรูปํ. ยาว สพฺพธมฺมาติ เอตฺถ สพฺพํ นาม ปเทสสพฺพํ, น สพฺพสพฺพนฺติ. อยฺหิ สพฺพสทฺโท ยถา ปมวิกปฺเป สุตฺเต อาคตธมฺมวเสน ปเทสวิสโย, เอวํ ทุติยวิกปฺเป ปทฏฺานปทฏฺานิกนิทฺธารเณน ตํตํปกรณปริจฺฉินฺนธมฺมคฺคหณโต ปเทสวิสโย เอว, น อนวเสสธมฺมวิสโยติ. สุตฺตาคตธมฺมานํ ยานิ ปทฏฺานานิ, เตสฺจ ยานีติ เอวํ การณปรมฺปรานิทฺธารณลกฺขโณ ปทฏฺานหาโร, ปริกฺขารหาโร ปน สุตฺตาคตธมฺมานํ ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปฏิเหตุปจฺจยตาวิเสสวิภาวนลกฺขโณติ สติปิ การณวิจารณภาเว อยํ ปทฏฺานหารปริกฺขารหารานํ วิเสโส.

. ยถา ‘‘สมานาธิกรณสมานปเท’’ติอาทีสุ เอกสทฺทสฺส อตฺโถ สมานสทฺโท, เอวํ เอกรสฏฺเน ภาวนา ‘‘เอกุปฺปาทา’’ติอาทีสุ (กถา. ๔๗๓) วิย เอกลกฺขณาติ เอตฺถ เอกสทฺโท สมานตฺโถติ อาห ‘‘สมานลกฺขณา’’ติ. สํวณฺณนาวเสนาติ เอตฺถ กมฺมตฺเถ อน-สทฺโท, สํวณฺเณตพฺพตาวเสนาติ อตฺโถ. ลกฺขณาติ อุปลกฺขณา. ‘‘นานตฺตกายนานตฺตสฺิโน (ที. นิ. ๓.๓๔๑, ๓๕๗, ๓๕๙; อ. นิ. ๙.๒๔), นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติอาทีสุ สหจาริตา ทฏฺพฺพา. สฺาสหคตา หิ ธมฺมา ตตฺถ สฺาคฺคหเณน คหิตา. ‘‘ททํ มิตฺตานิ คนฺถตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๙) สมานกิจฺจตา. ปิยวจนตฺถจริยา สมานตฺตตาปิ หิ ตตฺถ มิตฺตคนฺถนกิจฺเจน สมานกิจฺจา คยฺหนฺติ สงฺคหวตฺถุภาวโต. ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานเหตุตา. ยถา หิ ผสฺโส เวทนาย, เอวํ สฺาทีนมฺปิ สหชาตาทินา ปจฺจโย โหติ เอวาติ เตปิ สมานเหตุตาย วุตฺตา เอว โหนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ (ธ. ส. ๕), ‘‘ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๙๓). เอวํ ‘‘ตณฺหาปจฺจยา อุปาทาน’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) เอวมาทิปิ อุทาหริตพฺพํ. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔) สมานผลตา ทฏฺพฺพา. ยถา หิ สงฺขารา อวิชฺชาย ผลํ, เอวํ ตณฺหุปาทาทีนมฺปีติ เตปิ ตตฺถ คหิตาว โหนฺติ. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมภวสฺมึ โมโห อวิชฺชา อายูหนา สงฺขารา นิกนฺติ ตณฺหา อุปคมนํ อุปาทาน’’นฺติ. ‘‘รูปํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ , ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) วุตฺเต ตํสมฺปยุตฺตา เวทนาทโย วุตฺตา เอว โหนฺติ สมานารมฺมณภาวโต. น หิ เตหิ วินา ตสฺส อุปฺปตฺติ อตฺถิ. เอวมาทีหีติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน อตฺถปฺปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานสามตฺถิยาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อตฺถาทิวเสนปิ หิ สุตฺเต อวุตฺตานมฺปิ วุตฺตานํ วิย นิทฺธารณํ สมฺภวตีติ. วุตฺตปฺปกาเรนาติ ‘‘วธกฏฺเน เอกลกฺขณานี’’ติอาทินา ปาฬิยํ, ‘‘สหจาริตา’’ติอาทินา อฏฺกถายฺจ วุตฺเตน ปกาเรน.

. ‘‘ผุสนฏฺเน ผสฺโส’’ติอาทินา นิทฺธาเรตฺวา วจนํ นิพฺพจนํ, ตํ ปน ปทสฺเสว, น วากฺยสฺสาติ อาห ‘‘ปทนิพฺพจน’’นฺติ. อธิปฺปายนิทานานิเปตฺถ พฺยฺชนมุเขเนว นิทฺธาเรตพฺพานิ. นิพฺพจนปุพฺพาปรสนฺธีสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘วิเสสโต พฺยฺชนทฺวาเรเนว อตฺถปริเยสนา’’ติ. ปวตฺตินิมิตฺตํ อชฺฌาสยาทิ.

. ‘‘ปทฏฺาเน’’ติ อิทํ สุตฺเต อาคตธมฺมานํ การณภูเตปิ ธมฺเม นิทฺธาเรตฺวา สภาคโต, วิสภาคโต จ อาวฏฺฏนํ กาตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น ตนฺติวเสน. ตสฺมา ปทฏฺานนิทฺธารณาย วินาปิ อาวฏฺฏนํ ยุตฺตเมวาติ สิทฺธํ โหติ. ปทสฺส วา สทฺทปวตฺติฏฺานํ ปทฏฺานํ ปทตฺโถ. เอตสฺมึ ปกฺเข ‘‘อารมฺภถ นิกฺกมถาติ (สํ. นิ. ๑.๑๘๕; เนตฺติ. ๒๙; เปฏโก. ๓๘; มิ. ป. ๕.๑.๔) วีริยสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ (เนตฺติ. ๒๙) เอตฺถ ยฺวายมารมฺภธาตุอาทิโก อตฺโถ วุตฺโต, ตํ วีริยสทฺทสฺส ปวตฺติฏฺานํ วีริยสทฺทาภิเธยฺโย อตฺโถติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. เสสกํ นามคหิตโต อิตรํ, ตํ ปน ตสฺส ปฏิปกฺขภูตํ วา สิยา, อฺํ วาติ อาห ‘‘วิสภาคตาย อคฺคหเณน วา’’ติ. สํวณฺณนาย โยเชนฺโตติ ยถาวุตฺตวิสภาคธมฺมนิทฺธารณภูเตน อตฺถกถเนน ปาฬิยํ โยเชนฺโต. เตนาห ‘‘เทสน’’นฺติ. ‘‘ปฏิปกฺเข’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ สภาคธมฺมวเสนปิ อาวฏฺฏนสฺส อิจฺฉิตตฺตา.

. นามวเสนาติ สาธารณนามวเสน. ปาฬิยํ ปน ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตานํ สตฺตานํ, อนิยตานฺจ สตฺตานํ ทสฺสนปหาตพฺพา กิเลสา สาธารณา’’ติอาคตตฺตา (เนตฺติ. ๓๔) ‘‘ทสฺสนปหาตพฺพาทินามวเสนา’’ติ วุตฺตํ. วตฺถุวเสนาติ สตฺตสนฺตานวเสน. โส หิ ธมฺมานํ ปวตฺติฏฺานตาย อิธ ‘‘วตฺถู’’ติ อธิปฺเปโต. เตนาห – ‘‘ปุถุชฺชนสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ กามราคพฺยาปาทา สาธารณา’’ติอาทิ (เนตฺติ. ๓๔). วุตฺตวิปริยาเยนาติ นามโต, วตฺถุโต จ อาเวณิกตาย. ตํตํมคฺคผลฏฺานฺหิ ตํตํมคฺคผลฏฺตา, ภพฺพานํ ภพฺพตา, อภพฺพานํ อภพฺพตา อสาธารณา.

. ‘‘ภาวิเต’’ติ อิทํ ภาวนากิริยาย อุปลกฺขณํ, น เอตฺถ กาลวจนิจฺฉาติ อาห ‘‘ภาเวตพฺเพติ อตฺโถ’’ติ. ภาวนา เจตฺถ อาเสวนาติ, กุสลสทฺโทปิ อนวชฺชฏฺโติ เวทิตพฺโพ . ปฏิปกฺขโตติ วิปกฺขโต. วิสทิสูทาหรเณน พฺยติเรกโต ยถาธิปฺเปตธมฺมปฺปติฏฺานา เหสา.

๑๐. ปทตฺถสฺสาติ ปทาภิเธยฺยสฺส อตฺถสฺส, สภาวธมฺมสฺส วา.

๑๑.

นิกฺเขโป เทสนา. ปภโว สมุทโย.

๑๒. ‘‘อวุตฺตานมฺปิ สงฺคโห’’ติ อิมินา อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ -สทฺโทติ ทสฺเสติ.

๑๓. ‘‘คาถารุฬฺเห’’ติ อิมินา ปาฬิอาคโตว ปฺโห เวทิตพฺโพ, น อิตโรติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘พุทฺธาทีหิ พฺยากเต’’ติ. ตสฺส อตฺถสฺสาติ อารทฺธสฺส อตฺถสฺส, เตน อารมฺภโสธนสฺส วิสยมาห. เอตฺถ จ อตฺถทฺวาเรเนว ปทปุจฺฉาโสธนมฺปิ กรียตีติ ปุน ‘‘ตสฺส อตฺถสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อถ วา วิสฺสชฺชิตมฺหีติ วิสฺสชฺชเน. วิสฺสชฺชนโสธเนน หิ ปฺหาโสธนํ. ปฺเหติ ปุจฺฉายํ. คาถายนฺติ อุปลกฺขณํ, เตน คาถายํ, สุตฺตเคยฺยาทีสุ จาติ วุตฺตํ โหติ. ยมารพฺภาติ ยํ สีลาทิมารพฺภ คาถาทีสุ เทสิตํ, ตสฺมึ อารมฺเภติ อตฺโถ. ปุจฺฉิตาติ ปุจฺฉาการินี, ‘‘กา เอตฺถ ปทสุทฺธิ, กา ปฺหาสุทฺธิ, กา อารมฺภสุทฺธี’’ติ เอวํ ปุจฺฉาการินี ปุจฺฉํ กตฺวา ปวตฺติตา สุทฺธาสุทฺธปริกฺขาติ โยชนา.

๑๔. น วิกปฺปยิตพฺพาติ ยถา โลเก ‘‘ชาติ สามฺํ, เภโท สามฺํ, สมฺพนฺโธ สามฺ’’นฺติอาทินา สามฺํ ชาติอาทึ, ตพฺพิธุรฺจ วิเสสํ วิกปฺเปนฺติ ปริกปฺเปนฺติ, เอวํ น วิกปฺปยิตพฺพาติ อตฺโถ. ยทา โย กาลวิเสโส ‘‘สฺเว’’ติ ลทฺธโวหาโร, ตทา โส ตํทิวสาติกฺกเม ‘‘อชฺชา’’ติ, ปุน ตํทิวสาติกฺกเม ‘‘หิยฺโย’’ติ โวหรียตีติ อนวฏฺิตสภาวา เอเต กาลวิเสสา. ทิสายปิ ‘‘เอกํ อวธึ อเปกฺขิตฺวา ปุรตฺถิมา ทิสา, ตโต อฺํ อเปกฺขิตฺวา ปจฺฉิมา นาม โหตี’’ติอาทินา อนวฏฺิตสภาวตา เวทิตพฺพา. ชาติอาทิอเปกฺขายาติ ชาติอาทิทุกฺขวิเสสาเปกฺขาย. สจฺจาเปกฺขายาติ สจฺจสามฺาเปกฺขาย. ‘‘ตณฺหา’’ติ วุจฺจมานํ กามตณฺหาทิอเปกฺขาย สามฺมฺปิ สมานํ สจฺจาเปกฺขาย วิเสโส โหตีติ เอวมาทึ สนฺธายาห ‘‘เอส นโย สมุทยาทีสุปี’’ติ.

๑๖. เอตฺถาติ เอตสฺมึ พุทฺธวจเน. เตนาห ‘‘สิกฺขตฺตยสงฺขาตสฺสา’’ติอาทิ. ยถารุตํ ยถากถิตํ สทฺทโต อธิคตํ นิทฺธาริตํ, น อตฺถปฺปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานาทิปฺปมาณนฺตราธิคตํ . ‘‘อตฺถโต ทสฺสิตา’’ติ อิทํ ยสฺมึ สุตฺเต ภาวนาว กถิตา, น ปหานํ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ.

นยสงฺเขปวณฺณนา

๑๗. ตณฺหาวิชฺชาหิ กรณภูตาหิ. สํกิเลโส ปกฺโข เอตสฺสาติ สํกิเลสปกฺโข, สํกิเลสปกฺขิโก สุตฺตตฺโถ, ตสฺส นยนลกฺขโณติ โยชนา. โวทานปกฺขสฺส สุตฺตตฺถสฺสาติ สมฺพนฺโธ. วุฏฺานคามินิยา, พลววิปสฺสนาย จ ทุกฺขาทีสุ ปริฺเยฺยตาทีนิ มคฺคานุคุโณ คหณากาโร อนุคาหณนโย. ยทิ เอวํ กถํ นโยติ อาห ‘‘ตสฺส ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘นยโวหาโร’’ติ อิมินา นยาธิฏฺานํ นโยติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.

๑๘. พาธกาทิภาวโตติ พาธกปภวสนฺตินิยฺยานภาวโต. อฺถาภาวาภาเวนาติ อพาธกอปฺปภวอสนฺติ อนิยฺยานภาวาภาเวน. สจฺจสภาวตฺตาติ อมุสาสภาวตฺตา. อวิสํวาทนโตติ อริยสภาวาทิภาวสฺส น วิสํวาทนโต เอกนฺติกตฺตาติ อตฺโถ.

๑๙. สํกิลิฏฺธมฺมาติ สํกิเลสสมนฺนาคตา ธมฺมา สทฺธมฺมนยโกวิทาติ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิธมฺมนยกุสลา, เอกตฺตาทินยกุสลา วา.

๒๐. อตฺถวิสฺสชฺชเนสูติ ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) สุตฺเต กตปฺหวิสฺสชฺชเนสุ เจว อฏฺกถาย กตอตฺถสํวณฺณนาสุ จ. ‘‘โวทานิยา’’ติ อิมินา อนวชฺชธมฺมา อิธ กุสลาติ อธิปฺเปตา, น สุขวิปากาติ ทสฺเสติ. ตสฺส ตสฺส อตฺถนยสฺส โยชนตฺถํ มนสา โวโลกยเตติ โยชนา.

๒๑. ยทิ กรณภูตํ, กถํ ตสฺส อตฺถนฺตราภาโวติ อาห ‘‘เยน หี’’ติอาทิ. ทิสาภูตธมฺมานํ โวโลกยนสมานยนภาวโต โวหารภูโต, กมฺมภูโต จ นโย, น นนฺทิยาวฏฺฏาทโย วิย อตฺถภูโตติ ‘‘โวหารนโย, กมฺมนโย’’ติ จ วุจฺจติ.

ทฺวาทสปทวณฺณนา

๒๓. อปริโยสิเต ปเทติ อุจฺจารณเวลายํ ปเท อสมตฺเต, วิปฺปกเตติ อตฺโถ. ปริโยสิเต หิ ‘‘ปท’’นฺตฺเว สมฺา สิยา, น ‘‘อกฺขร’’นฺติ อธิปฺปาโย. ปทสฺส เววจนตาย อตฺถวเสน ปริยายํ ขรนฺตํ สฺจรนฺตํ วิย โหติ, น เอวํ วณฺโณ อเววจนตฺตาติ อาห ปริยายวเสน อกฺขรณโต’’ติ. น หิ วณฺณสฺส ปริยาโย วิชฺชตี’’ติ อิทํ อการาทิวณฺณวิเสสํ สนฺธาย วทติ, น วณฺณสามฺํ. ตสฺส หิ วณฺโณ อกฺขรนฺติ ปริยาโย วุตฺโต เอวาติ.

อกฺขรสทฺทสฺส อตฺถํ วตฺวา ตปฺปสงฺเคน วณฺณสทฺทสฺสปิ วตฺตุํ ‘‘เกนฏฺเน วณฺโณ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ นนุ ปเทน, วากฺเยน วา อตฺโถ สํวณฺณียติ, น อกฺขเรนาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘วณฺโณ เอว หี’’ติอาทิ. ปทาทิภาเวนาติ ปทวากฺยภาเวน. ยถาสมฺพนฺธนฺติ ยถาสงฺเกตํ. อยํ-สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโก, อยํ อตฺโถ อิมสฺส สทฺทสฺส วจนีโยติ ยถาคหิตสงฺเกตานุรูปํ สทฺทตฺถานํ วาจกวจนียภาโว. อถ วา ยฺวายํ สทฺทตฺถานํ อฺมฺํ อวินาภาโว, โส สมฺพนฺโธ. ตทนุรูปํ เอกกฺขรํ นามปทํ ‘‘มา เอวํ มฺสี’’ติอาทีสุ มา-การาทิ. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. เต หิ อภิธมฺมเทสนํ ‘‘มนสาเทสนา’’ติ วทนฺติ, ยโต ราหุลาจริโย ‘‘วิสุทฺธกรุณานํ มนสาเทสนา วาจาย อกฺขรณโต อกฺขรสฺิตา’’ติ อาห.

สตฺวปฺปธานนฺติ ทฺรพฺยปฺปธานํ. นามปเท หิ ทฺรพฺยมาวิภูตรูปํ, กิริยา อนาวิภูตรูปา ยถา ‘‘ผสฺโส’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๒๖; สํ. นิ. ๒.๑, ๓๙; มหาว. ๑; วิภ. ๒๒๕; อุทา. ๑; เนตฺติ. ๒๔). อาขฺยาตปเท ปน กิริยา อาวิภูตรูปา, ทฺรพฺยมนาวิภูตรูปํ ยถา ‘‘ผุสตี’’ติ. เตน เนสํ สตฺวกิริยาปฺปธานตา วุตฺตา. กิริยาวิเสสคฺคหณนิมิตฺตนฺติ กิริยาวิเสสาวโพธเหตุ กิริยาวิเสสทีปนโต, ยถา ‘‘จิรปฺปวาสิ’’นฺติ (ธ. ป. ๒๑๙) เอตฺถ -สทฺโท วสนกิริยาย วิโยควิสิฏฺตํ ทีเปติ. ‘‘เอวํ มนสิ กโรถ, มา เอวํ มนสากตฺถา’’ติอาทีสุ กิริยาวิเสสสฺส โชตโก เอวํ-สทฺโท. ‘‘เอวํสีลา (ที. นิ. ๓.๑๔๒) เอวํธมฺมา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓. ๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) สตฺววิเสสสฺส. เอวํ เสสนิปาตปทานมฺปีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘กิริยาย…เป… นิปาตปท’’นฺติ.

สงฺเขปโต วุตฺตํ, กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘ปทาภิหิต’’นฺติ. อถ วา สงฺเขปโต วุตฺตํ, โย อกฺขเรหิ สงฺกาสิโตติ วุจฺจติ. ปทาภิหิตํ ปเทหิ กถิตํ, โย ปเทหิ ปกาสิโตติ วุจฺจติ. ตทุภยํ, ยทิ ปทสมุทาโย วากฺยํ, ตสฺส โก ปริจฺเฉโท. ยาวตา อธิปฺเปตตฺถปริโยสานํ, ตาวตา เอกวากฺยนฺติปิ วทนฺติ, พหูเปตฺถ ปกาเร วณฺเณนฺติ. กึ เตหิ, สาขฺยาตํ สาพฺยยํ สการกํ สวิเสสนํ ‘‘วากฺย’’นฺติ ทฏฺพฺพํ. นนุ จ ปเทนปิ อตฺโถ พฺยฺชียตีติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ปทมตฺตสวเนปิ หี’’ติอาทิ. อากาเรสุ วากฺยวิภาเคสุ อภิหิตํ กถิตํ นิพฺพจนํ อาการาภิหิตํ นิพฺพจนํ. ‘‘อภิหิตนฺติ จ ปาฬิอาคต’’นฺติ วทนฺติ.

‘‘นิพฺพานํ มคฺคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖) นิพฺพจนานํ วิตฺถาโร. ตํนิทฺเทสกถนตฺตา นิทฺเทโสติ อิมมตฺถมาห ‘‘นิพฺพจนวิตฺถาโร นิรวเสสเทสนตฺตา นิทฺเทโส’’ติ. ปเทหีติ วากฺยาวยวภูเตหิ, วากฺยโต วิภชฺชมาเนหิ วา อาขฺยาตาทิปเทหิ. เตนาห ‘‘วากฺยสฺส วิภาโค’’ติ, ตถา จาห ‘‘อปริโยสิเต’’ติอาทิ. อปเร ปน ‘‘ปกติปจฺจยโลปาเทสาทิวเสน อกฺขรวิภาโค อากาโร, นิรุตฺตินเยน ปทวิภาโค นิพฺพจนํ, วากฺยวิภาโค นิทฺเทโส. วณฺณปทวากฺยานิ หิ อวิภตฺตานิ, วิภตฺตานิ จ ฉ พฺยฺชนปทานี’’ติ วทนฺติ. ฉฏฺํ วจนนฺติ ฉฏฺํ ปทํ. กาตพฺพนฺติ ‘‘อกฺขรํ ปทํ พฺยฺชนํ อากาโร ตเถว นิรุตฺติ นิทฺเทโส ฉฏฺวจน’’นฺติ คาถายํ เอวํ กตฺตพฺพํ, สํวณฺณนาวเสน วา อาการปทํ จตุตฺถํ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. สพฺโพ สทฺทโวหาโร วิภตฺเตหิ, อวิภตฺเตหิ จ อกฺขรปทวากฺเยเหว, ตทฺปฺปกาโร นตฺถีติ อาห ‘‘ยานิมานี’’ติอาทิ.

๒๔. กาสนาสทฺโท กมฺมตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘กาสียตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปเทหิ ตาว อตฺถสฺส สงฺกาสนา, ปกาสนา จ โหตุ, ปทาวธิกาปิ สํวณฺณนา อิจฺฉิตาติ อกฺขเรหิ ปน กถนฺติ อาห ‘‘อกฺขเรหิ สุยฺยมาเนหี’’ติอาทิ. ปทตฺถสมฺปฏิปตฺตีติ ปทาภิเธยฺยอตฺถาวโพโธ. ‘‘อกฺขเรหิ สงฺกาเสตี’’ติอาทินา อกฺขรกรณํ สงฺกาสนภูตํ อุคฺฆฏนกิริยํ วทนฺเตน ยถาวุตฺโต อตฺโถ สาธิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิภชนุตฺตานีกมฺมปฺตฺตีติ เอกตฺตนิทฺเทโส สมาหาโรติ อยํ ทฺวนฺทสมาโส. อุภเยนาติ ‘‘วิวรณา, วิภชนา’’ติ อิมินา ทฺวเยน. เอเตหีติ เอตฺถ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ อาห ‘‘เอเตหิ เอวา’’ติ. ‘‘สงฺกาสนา…เป… อภาวโต’’ติ อิมินา ยถาธิปฺเปตอนูนาวธารณผลํ ทสฺเสติ. อุคฺฆฏนาทีติ อาทิสทฺเทน วิปฺจนนยานิ สงฺคณฺหาติ.

๒๕. สมฺมายุตฺโตติ สมฺมา อวิปรีตํ, อนวเสสโต จ ยุตฺโต สหิโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อนูนา’’ติ. สพฺโพ หิ ปาฬิอตฺโถ อตฺถปทอตฺถนเยหิ อนวเสสโต สงฺคหิโต. เตนาห ‘‘สพฺพสฺส หี’’ติอาทิ.

๒๖. กสฺมา ปเนตฺถ มูลปทปทฏฺานานิ อสงฺคหิตานีติ? ปทตฺถนฺตราภาวโต. มูลปทานิ หิ นยานํ สมุฏฺานมตฺตตฺตา ปทฏฺานานีติ ทสฺสิโตยํ นโย. เตน วุตฺตํ ‘‘อิโต วินิมุตฺโต โกจิ เนตฺติปทตฺโถ นตฺถี’’ติ.

เนตฺติยา การณภูตาย. หารา สํวณฺเณตพฺพาติ สุตฺตสฺส อตฺถสํวณฺณนาวเสน หารา วิตฺถาเรตพฺพา. สฺวายนฺติ โส อยํ สํวณฺณนากฺกโม. เยน อนุกฺกเมน เนตฺติยํ เทสิตา, เตเนว สุตฺเต อตฺถสํวณฺณนาวเสน โยเชตพฺพาติ. เอวํ สิทฺเธติ เทสนากฺกเมเนว สิทฺเธ. อยํ อารมฺโภติ ‘‘โสฬส หารา ปม’’นฺติ เอวํ ปวตฺโต อารมฺโภ. อิมมตฺถนฺติ อิมํ วุจฺจมานนิยมสงฺขาตํ อตฺถํ.

ยทิ เทสิตกฺกเมเนว หารนยา สุตฺเต โยเชตพฺพา สิยุํ, กึ โส กโม การณนิรเปกฺโข, อุทาหุ การณสาเปกฺโขติ? กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว การณนิรเปกฺโข หารนยานํ อนุกฺกโม, อเนเก อตฺถา วุจฺจมานา อวสฺสํ เอเกน กเมน วุจฺจนฺตีติ. เอวํ สนฺเต เยน เกนจิ กเมน สุตฺเต โยเชตพฺพา สิยุํ, ตถา สติ นิยโม นิรตฺถโก สิยา. อถ การณสาเปกฺโข, กึ ตํ การณนฺติ? อิตโร การณคเวสนํ อกตฺวา อตฺโถ เอเวตฺถ คเวสิตพฺโพติ อธิปฺปาเยน ‘‘นายมนุโยโค น กตฺถจิ อนุกฺกเม นิวิสตี’’ติ วตฺวา ‘‘น ปน มยํ เทวานํปิยสฺส มโนรถวิฆาตาย เจเตมา’’ติ กมการณํ วิจาเรนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทินา เทสนาหารสฺส ตาว อาทิโต เทสนาย การณํ ปติฏฺเปติ. ตตฺถ ธมฺมเทสนาย นิสฺสโย อสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานิ, สรีรํ อาณตฺติ. ปกติยา สภาเวน. นิทฺธารเณน วินาปิ ปติฏฺาภาวโต นิสฺสยภาวโต.

‘‘ตถา หิ วกฺขตี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตํ อตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ. เอส นโย อิตเรสุปิ.

วิจยานนฺตรนฺติ วิจยหารานนฺตรํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตถา หีติ ลกฺขณหารวิภงฺเค ยุตฺตายุตฺตานํ การณปรมฺปราย ปริคฺคหิตสภาวานํ อวุตฺตานมฺปิ เอกลกฺขณตาย คหณํ วุตฺตํ.

อตฺถโต นิทฺธาริตานนฺติ อตฺถุทฺธารปุพฺพาปรานุสนฺธิอาทิอตฺถโต สุตฺตนฺตรโต อุทฺธฏานํ สํวณฺณิยมานสุตฺเต อานีตานํ ปาฬิธมฺมานํ. สทฺทโต, ปมาณนฺตรโต จ ลทฺธานํ อิธ วิจาเรตพฺพตฺตา อาห ‘‘นิรวเสสโต’’ติ. อตฺถสฺสาติ อภิเธยฺยตฺถสฺส. ธมฺมสฺสาติ สภาวธมฺมสฺส. ตตฺถ ตตฺถ ตํ อภินิโรเปตีติ ตสฺมึ ตสฺมึ อตฺเถ, ธมฺเม จ ตํ นามํ อภินิโรเปติ, ‘‘อยเมวํนาโม’’ติ โวหรติ. ‘‘อตฺถสฺส, ธมฺมสฺสา’’ติ ปททฺวเยน สามฺโต อตฺโถ, ธมฺโม จ อนวเสเสตฺวา คหิโตติ อาห ‘‘อนวเสสปริยาทาน’’นฺติ, ยโต วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ ตตฺถา’’ติ. ตถาติ ยถา อนวเสสตฺถาวโพธทีปกํ อนวเสสปริยาทานํ กตํ จตุพฺยูหปาฬิยํ, เอวํ ปุนปฺปุนํ คพฺภมุเปตีติ เอตฺถ อสทฺทวตี อตฺถา ปวตฺติวเสน ลพฺภมานา สมฺมาปฏิปตฺติ อุทฺธฏาติ อุปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท.

เตเนวาติ สุตฺตนฺตรสํสนฺทนสฺส สภาควิสภาคธมฺมนฺตราวฏฺฏนูปายภาวโต เอว. ยโตติ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนสฺส สาธารณาทิธมฺมวิภชนูปายตฺตา. ปฏิวิภตฺตสภาเวติ ปฏิภาคภาเวน วิภตฺตสภาเว.

เต ธมฺมาติ ปฏิปกฺขโต ปริวตฺติตธมฺมา. น ปริยายวิภาวนา ปฺตฺติวิภาคปริคฺคาหิกาติ อาห ‘‘ปริยา…เป… สุโพธนฺจา’’ติ.

ปุจฺฉาวิโสธนํ วิสฺสชฺชนํ. อารมฺภวิโสธนํ เทสนาย อตฺถกถนํ. ตทุภยวิจาโร ธาตาทีสุ อสมฺมุยฺหนฺตสฺเสว สมฺภวตีติ อาห ‘‘ธาตายตนา…เป… สมฺปาเทตุ’’นฺติ. สุทฺโธ อารมฺโภติอาทิปาฬินิทสฺสเนนปิ อยเมวตฺโถ อุทาหโฏติ เวทิตพฺพํ.

‘‘การณากาโร’’ติ ปทฏฺานํ สนฺธาย วทติ. ปเภทโต เทสนากาโรติ เววจนํ. นิทฺธาเรตฺวา วุจฺจมานานีติ อุทฺธริตฺวา สมาโรปิยมานานีติ อธิปฺปาโย. สุตฺตสฺส อตฺถํ ตถตฺตาวโพธายาติ สุตฺตสฺส ปทตฺถาวคมมุเขน จตุสจฺจาภิสมยาย.

เวเนยฺยตฺตยยุตฺโต อตฺถนยตฺตยูปเทโส ‘‘เวเนยฺยตฺตยปฺปโยชิโต’’ติ วุตฺโต. เวเนยฺยตฺตยฺหิ ปจฺจยสมวาเย ตทุปเทสผลํ อธิคจฺฉนฺตํ อตฺถํ ปโยเชติ นามาติ. ตทนุกฺกเมเนวาติ เตสํ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ เทสนานุกฺกเมเนว. เตติ ตโย อตฺถนยา. เตสนฺติ อุคฺฆฏิตฺุอาทีนํ. ยถา อุทฺเทสาทีนํ สงฺเขปมชฺฌิมวิตฺถารวุตฺติยา ติณฺณํ ปุคฺคลานํ อุปการตา, เอวํ เตสํ อตฺถนยานํ. ตสฺสาติ อตฺถนยตฺถสฺส. ตตฺถาติ ตสฺสํ ตสฺสํ ภูมิยํ.

สมุฏฺานํ นิทานํ. อเนกธา สทฺทนยโต, นิรุตฺตินยโต จาติ อเนกปฺปการํ. ปทตฺโถ สทฺทตฺโถ. วิธิ อนุวาโทติ อิทเมตฺถ วิธิวจนํ, อยมนุวาโทติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. สมาธาตพฺโพติ ปริหริตพฺโพ. อนุสนฺธียา อนุรูปํ นิคเมตพฺพนฺติ ยาย อนุสนฺธิยา สุตฺเต อุปริ เทสนา ปวตฺตา, ตทนุรูปํ สํวณฺณนา นิคเมตพฺพา. ปโยชนนฺติ ผลํ. ปิณฺฑตฺโถติ สงฺเขปตฺโถ. อนุสนฺธีติ ปุจฺฉานุสนฺธิอาทิอนุสนฺธิ. อุโปคฺฆาโฏติ นิทสฺสนํ. จาลนาติ โจทนา. ปจฺจุปฏฺานํ ปริหาโร.

ปกติอาทิปทาวยวํ ภินฺทิตฺวา กถนํ เภทกถา ยถา ‘‘ทิพฺพนฺตีติ เทวา’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๕๓). ปทสฺส อตฺถกถนํ ตตฺวกถา ยถา ‘‘พุทฺโธติ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก’’ติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๑). ปริยายวจนํ เววจนคฺคหณํ ยถา ‘‘ปฺา ปชานนา’’ติ (ธ. ส. ๑๖). วิจยยุตฺติจตุพฺยูหปริวตฺตนหาเรกเทสสงฺคหิตา, เววจนหารสงฺคหิตา จาติ อาห ‘‘เต อิธ กติปยหารสงฺคหิตา’’ติ.

อตฺตโน ผลํ ธาเรตีติ ธมฺโมติ เหตุโน ธมฺมภาโว เวทิตพฺโพ. าปกเหตูปิ าณกรณฏฺเน การเก ปกฺขิปิตฺวา อาห ‘‘การโก สมฺปาปโกติ ทุวิโธ’’ติ. ปุน จกฺขุพีชาทินิพฺพตฺตกเมว การณํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุน…เป… ติวิโธ’’ติอาทิมาห. ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๐๕๙-๑๐๖๐) อาคตา อโลภาทโย, โลภาทโย จ เหตุเหตุ นาม. ‘‘จตฺตาโร โข, ภิกฺขเว, มหาภูตา เหตุ, จตฺตาโร มหาภูตา ปจฺจโย รูปกฺขนฺธสฺส ปฺาปนายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๘๖) อาคโต ปจฺจยเหตุ นาม. กุสลากุสลํ กมฺมํ อตฺตโน วิปากํ ปติ อุตฺตมเหตุ นาม. จกฺขาทิพีชาทิ จกฺขุวิฺาณองฺกุราทีนํ อสาธารณเหตุ นาม. กุสลากุสลานํ สติปิ ปจฺจยธมฺมภาเว อิฏฺานิฏฺผลวิเสสเหตุภาวทสฺสนตฺถํ วิสุํ คหณํ, สทฺทมคฺคานํ ปน าปกสมฺปาปกเหตุภาวทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. องฺกุราทิกสฺส อสาธารณเหตุ พีชาทิสมานชาติยเหตุตาย สภาคเหตุ. สาธารณเหตุ ภุสสลิลาทิอสมานชาติยตาย อสภาคเหตุ. อินฺทฺริยพทฺธสนฺตานิโก อชฺฌตฺติกเหตุ, อิตโร พาหิรเหตุ. เกจิ ปน ‘‘สสนฺตานิโก อชฺฌตฺติกเหตุ, อิตโร พาหิรเหตู’’ติ วทนฺติ. ปริคฺคาหโก อุปตฺถมฺภโก. ปรมฺปรเหตุ อุปนิสฺสยปจฺจโย.

นิพฺพานสฺส อนิพฺพตฺตนิเยปิ สมุทยปฺปหานสมุทยนิโรธานํ อธิคมาธิคนฺตพฺพภาวโต นิพฺพานํ ปติ มคฺคสฺส เหตุภาโว วิย มคฺคํ ปติ นิพฺพานสฺส ผลภาโว อุปจารสิทฺโธติ อาห ‘‘ผลปริยาโย ลพฺภตี’’ติ.

ปฏิปชฺชมานภูมิ มคฺคธมฺมา. ปฏิปนฺนภูมิ ผลธมฺมา.

กิจฺจโตติ สรสโต. ลกฺขณโตติ อุปลกฺขณโต. สามฺโตติ สมานภาวโต. เตน สมานเหตุตา, สมานผลตา, สมานารมฺมณตา จ คหิตา โหตีติ. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ลกฺขณหารนิทฺเทสวณฺณนายํ วุตฺตเมว.

อปิเจตฺถ สมฺปโยควิปฺปโยควิโรธปกรณลิงฺคสทฺทนฺตรสนฺนิธานสามตฺถิยาทีนมฺปิ วเสน นยวิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สมฺปโยคโต ตาวนยวิภาโค – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘) จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตา คหิตา, ตํสมฺปโยคโต เจตสิกานมฺปิ คหิตาว โหติ อฺตฺถ เนสํ จิตฺเตน สมฺปโยคทีปนโต. อถ วา ‘‘สฺิโน’’ติ. สฺาสหิตตาวจเนน หิ เนสํ เวทนาเจตนาทิวนฺตตาปิ สมฺปโยคโต ทีปิตา โหติ.

วิปฺปโยคโต – ‘‘อเหตุกา’’ติ. เหตุสมฺปยุตฺตา หิ ธมฺมา ‘‘สเหตุกา’’ติ วุตฺตาติ ตพฺพิธุรา ธมฺมา วิปฺปโยคโต ‘‘อเหตุกา’’ติ วุตฺตาติ วิฺายติ. อถ วา ‘‘อสฺิโน’’ติ. สฺาวิปฺปยุตฺตา หิ ธมฺมปวตฺติ อิธาธิปฺเปตา, น สฺาย อภาวมตฺตนฺติ วิฺายติ.

วิโรธโต – ‘‘อฏฺมโก (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมกปาฬิ.๔๓๙), สทฺธานุสารี’’ติ (ปุ. ป. มาติกา ๗.๓๖) จ วุตฺเต ตํ สนฺตติยํ สํโยชนตฺตยปฺปหานํ วิฺายติ, ตถา ‘‘สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗) วุตฺเต ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนปฺปหานํ , ‘‘ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา’’ติ (ที. นิ. ๒.๔๐๔; ม. นิ. ๑.๑๓๗) วุตฺเต อนวเสสสํโยชนปฺปหานํ วิฺายติ.

ปกรณโต – ‘‘อพฺยากตา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. มาติกา). อธิการโต หิ กุสลากุสลภาเวน น กถิตาติ ายติ. ‘‘อุปธี หิ นรสฺส โสจนา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒, ๑๔๔) จ. พาหิรา หิ ธมฺมา อิธ ‘‘อุปธี’’ติ อธิปฺเปตาติ วิฺายติ.

ลิงฺคโต – ‘‘สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๗๙). สีตาทิคฺคหเณน หิ ลิงฺเคน ภูตุปาทายปฺปการสฺเสว ธมฺมสฺส รูปภาโว, น อิตรสฺส.

สทฺทนฺตรสนฺนิธานโต – ‘‘กายปสฺสทฺธิ, กายายตน’’นฺติ. ‘‘ยา เวทนากฺขนฺธสฺสา’’ติอาทิวจนโต หิ ปุริโม กายสทฺโท สมูหวาจี, อิตโร อายตนสทฺทสนฺนิธานโต ปสาทวาจี.

สามตฺถิยโต – ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๒๘; มหาว. ๕๔), สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺสา’’ติ (ธ. ป. ๑๒๙) จ, ตถา ‘‘สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา…เป… ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗, ๒๓๒, ๔๕๙, ๕๐๙; ๒.๓๐๙; ๓.๒๓๐; วิภ. ๖๔๒). เอตฺถ หิ สติปิ สพฺพสทฺทสฺส อนวเสสสตฺตวาจกตฺเต อาทิตฺตตา สาเปกฺขสฺเสว อตฺถสฺส วาจกตฺตา ปเทสวาจี สพฺพสทฺโท, โลกสทฺโทปิ สตฺตวาจี. สตฺตารมฺมณา หิ อปฺปมฺาติ. ตถา ‘‘มาตรํ ปิตรํ หนฺตฺวา’’ติ (ธ. ป. ๒๙๔-๒๙๕) สพฺเพน สพฺพํ หิ สปฏิกฺเขปโต, มาตุปิตุฆาตกมฺมสฺส จ มหาสาวชฺชตาปเวทนโต, อิธ จ ตทนุฺาย กตาย มาตุปิตุฏฺานิยา ตาทิสา เกจิ ปาปธมฺมา เวเนยฺยวเสน คหิตา วิฺายติ. เก ปน เตติ? ตณฺหามานา. ตณฺหา หิ ชนนี สตฺตานํ. ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริส’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗) หิ วุตฺตํ. ปิตุฏฺานิโย มาโน ตํ นิสฺสาย อตฺตสมฺปคฺคณฺหโต ‘‘อหํ อสุกสฺส รุฺโ, ราชมหามตฺตสฺส วา ปุตฺโต’’ติ ยถา. สามตฺถิยาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน เทสปกติอาทโย สงฺคยฺหนฺติ.

ลพฺภมานปทตฺถนิทฺธารณมุเขนาติ ตสฺมึ ตสฺมึ สุตฺเต ลพฺภมานอสฺสาทาทิหารปทตฺถนิทฺธารณทฺวาเรน. ยถาลกฺขณนฺติ ยํ ยํ ลกฺขณํ, ลกฺขณานุรูปํ วา ยถาลกฺขณํ. เหตุผลาทีนิ อุปธาเรตฺวา โยเชตพฺพานิ เตสํ วเสนาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ เหตุผลาทโย เย ยสฺมึ หาเร สวิเสสํ อิจฺฉิตพฺพา, เต ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

นิทฺเทสวารวณฺณนา นิฏฺิตา.