📜

๔. ปฏินิทฺเทสวารวณฺณนา

๑. เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา

. อนฺวตฺถสฺตนฺติ อตฺถานุคตสฺภาวํ, ‘‘เทสนาหาโร’’ติ อยํ สฺา อนฺวตฺถา อตฺถานุคตาติ อตฺโถ.

อวุตฺตเมวาติ ปุพฺเพ อสํวณฺณิตปทเมว. ‘‘ธมฺมํ โว’’ติอาทิ (ม. นิ. ๓.๔๒๐) วจนสฺส สมฺพนฺธํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตฺถ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตปิฏกสฺส หิ พุทฺธวจนสฺส สํวณฺณนาลกฺขณํ เนตฺติปฺปกรณํ, ตฺจ ปริยตฺติธมฺมสงฺคาหเก สุตฺตปเท สํวณฺเณตพฺพภาเวน คหิเต คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘เทสนาหาเรน…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

เยสํ อสฺสาทาทีนํ วิภชนลกฺขโณ เทสนาหาโร, เต คาถาย, อิธาปิ จ อาคเต ‘‘อสฺสาทํ อาทีนว’’นฺติอาทินา อุทาหรณวเสน วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อสฺสาโท’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺสํ ‘‘อสฺสาทาทีนวตา’’ติ คาถายํ วุตฺโต กตโม อสฺสาโท. อถ วา ‘‘อสฺสาทํ อาทีนว’’นฺติอาทินา โย อิธ อสฺสาทาทีนํ อุทฺเทโส, ตตฺถ กตโม อสฺสาโทติ เจติ อตฺโถ. เอส นโย เสเสสุปิ. กมฺมกรณตฺถภินฺนสฺส วิสยวิสยิตาลกฺขณสฺส อสฺสาททฺวยสฺส นิทสฺสนตฺถํ คาถาทฺวยุทาหรณํ, ตถา กามวิปริณามลกฺขณสฺส, วฏฺฏทุกฺขลกฺขณสฺส จาติ ทุวิธสฺสาปิ อาทีนวสฺส นิทสฺสนตฺถํ ‘‘อริยมคฺโค นิพฺพาน’’นฺติ ทุวิธสฺสาปิ นิสฺสรณสฺส นิทสฺสนนิทสฺสนตฺถฺจ ทฺเว ทฺเว คาถา อุทาหฏา.

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารินฺติ (ชา. ๑.๑๐.๑๐๒-๑๐๓; เนตฺติ. ๕, ๒๖, ๓๑; เปฏโก. ๒๒) เอตฺถ ธมฺมจาริโน มคฺคผลนิพฺพาเนหิ สาติสยารกฺขา สมฺภวติ, สมฺปตฺติภวสฺสาปิ วิปริณามสงฺขารทุกฺขตาหิ ทุคฺคติภาโว อิจฺฉิโตวาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘นิสฺสรณํ อนามสิตฺวา’’ติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพานํ วา อุปนิธาย สพฺพา อุปปตฺติโย ทุคฺคตี’’ติ.

อเวกฺขสฺสูติ วิธานํ. ตสฺสา ปน อเวกฺขาย ปวตฺติอากาโร, วิสโย, กตฺตา จ ‘‘สุฺโต, โลกํ, โมฆราชา’’ติ ปทตฺตเยน วุตฺตาติ อาห – ‘‘สุฺโต…เป… อาณตฺตี’’ติ. ตตฺถ สงฺขารานํ สุฺตา อนตฺตสภาวตาย, อตฺตสุฺตาย จ สิยา. ยโต เต น วสวตฺติโน, อตฺตสารวิรหิตา จ, ยโต เต อนตฺตา, ริตฺตา, ตุจฺฉา จ อตฺตนา, ตทุภยํ ทสฺเสติ ‘‘อวสวตฺติตา’’ติอาทินา. เอวํ มจฺจุตโร สิยาติ เอวํ ปฏิปตฺติยา มจฺจุตโร ภเวยฺยาติ อตฺโถ. ปริกปฺเปตฺวา วิธิยมานสฺส มจฺจุตรณสฺส ปุพฺพภาคปฏิปทา เทสนาย ปจฺจกฺขโต สิชฺฌมานํ สาติสยํ ผลนฺติ อาห ‘‘ตสฺส ยํ…เป… ผล’’นฺติ.

. อุทาหรณวเสนาติ นิทสฺสนวเสน. ตตฺถ ‘‘ปุคฺคลวิภาเคนา’’ติ อิมินา อุคฺฆฏิตฺุอาทิปุคฺคลปโยชิโต อสฺสาทาทีสุ ภควโต เทสนาวิเสโสติ ทสฺเสติ.

ฆฏิตมตฺตนฺติ โสตทฺวารานุสาเรน มโนทฺวาริกวิฺาณสนฺตาเนน อาลมฺพิตมตฺตํ. สสฺสตาทิอาการสฺสาติ สสฺสตุจฺเฉทาการสฺส. อิทฺหิ ทฺวยํ ธมฺมเทสนาย จาเลตพฺพํ, น อนุโลมิกขนฺติ, ยถาภูตาณํ วา. เอตสฺมิฺหิ จตุกฺเก อาสยสามฺตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกา;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสฺิต’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๓๖; ที. นิ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา; สารตฺถ. ฏี. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา, เวรฺชกณฺฑวณฺณนา; วิ. วิ. ฏี. ๑.เวรฺชกณฺฑวณฺณนา);

จลนายาติ วิกฺขมฺภนาย. ปรานุวตฺติยาติ สมุจฺเฉทนาย. อุคฺฆฏิเต ชานาตีติ อุคฺฆฏิตฺูติ มูลวิภุชาทิปกฺเขเปน สทฺทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. วิปฺจิตนฺติ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย ภาวนปุํสกนิทฺเทโสติ อาห ‘‘มนฺทํ สณิก’’นฺติ. นิสฺสรณอาทีนวนิสฺสรณอสฺสาทาทีนวนิสฺสรณานํ วิภาวนา เวเนยฺยตฺตยวินยนสมตฺถา.

จตฺตาโรติ อสฺสาโท จ อาทีนโว จ อสฺสาโท อาทีนโว จ อสฺสาโท นิสฺสรณฺจาติ เอเต จตฺตาโร. ยทิ นิสฺสรณวิภาวนา เวเนยฺยวินยนสมตฺถา, กสฺมา ปฺจโม น คหิโตติ อาห ‘‘อาทีนวาวจนโต’’ติ. ยทิ หิ อุคฺฆฏิตฺุํ สนฺธาย อยํ นโย วุจฺจติ, นิสฺสรณมตฺเตน สิทฺธํ สิยา. อถ วิปฺจิตฺุํ, เนยฺยํ วา, อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ อสฺสาโท จ อาทีนโว นิสฺสรณฺจ วตฺตพฺโพ สิยา? ตถา อปฺปวตฺตตฺตา น คหิโต. เตนาห ‘‘อาทีนวาวจนโต’’ติอาทิ. เทสนนฺติ สามฺโต คหิตํ ‘‘สุตฺเตกเทสํ คาถํ วา’’ติ วิเสเสติ. ปทปรมอคฺคหณฺเจตฺถ สอุปายสฺส นิสฺสรณสฺส อนามฏฺตฺตา.

‘‘กลฺยาณ’’นฺติ อิมินา อิฏฺวิปาโก, ‘‘ปาปก’’นฺติ อนิฏฺวิปาโก อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘อยํ อสฺสาโท, อยํ อาทีนโว’’ติ. ลาภาทีนํ ปุฺผลตฺตา ตทนุโรธํ วา สนฺธาย ‘‘อยํ อสฺสาโท’’ติ วุตฺตํ. ตพฺพิปริยาเยน อลาภาทีนํ อาทีนวตา เวทิตพฺพา.

กามาติ กิเลสกามสหิตา วตฺถุกามา. วิรูปรูเปนาติ อปฺปติรูปากาเรน. มเถนฺตีติ มทฺทนฺติ. ปพฺพชิโตมฺหีติ ปพฺพชฺชํ อุปคโต อมฺหิ. อปณฺณกนฺติ อวิรชฺฌนกํ. สามฺนฺติ สมณภาโว. สมิตปาปภาโวเยว เสยฺโย สุนฺทรตโร.

ตตฺถ ‘‘กามา หิ จิตฺรา มธุรา มโนรมา’’ติ อยํ อสฺสาโท, ‘‘วิรูปรูเปน มเถนฺติ จิตฺต’’นฺติ อยํ อาทีนโว, ‘‘อปณฺณกํ สามฺ’’นฺติ อิทํ นิสฺสรณนฺติ อาห ‘‘อยํ…เป… นิสฺสรณฺจา’’ติ.

ผลาทีนํ เอกกวเสน จ ติกวเสน จ ปาฬิยํ อุทาหฏตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทุกวเสนปี’’ติ.

สุขา ปฏิปทา, ทุกฺขา ปฏิปทาติ ยา ทฺเว ปฏิปทา, ตาสุ เอเกกา ทนฺธขิปฺปาภิฺตาย ทฺเว ทฺเว โหนฺตีติ อาห ‘‘ปฏิปทาภิฺากโต วิภาโค ปฏิปทากโต โหตี’’ติ. กตปุพฺพกิจฺจสฺส ปถวีกสิณาทีสุ สพฺพปมํ ‘‘ปถวี’’ติอาทินา ปวตฺตมนสิกาโร ปมสมนฺนาหาโร. อุปจารนฺติ อุปจารชฺฌานํ. ปฏิปชฺชิตพฺพตาย ฌานมฺปิ ‘‘ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ. ตทฺา เหฏฺิมปฺโต อธิกา ปฺาติ กตฺวา ‘‘อภิฺา’’ติ วุจฺจติ.

กิเลเสติ นีวรณปฺปกาเร, ตํสหคตกิเลเส จ. องฺคปาตุภาวนฺติ วิตกฺกาทิฌานงฺคปฏิลาภํ.

อภินิวิสนฺโตติ ปฏฺเปนฺโต. รูปารูปํ ปริคฺคณฺหนฺโตติ รูปารูปธมฺเม ลกฺขณาทีหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต. ปริคฺคหิตรูปารูปสฺส มคฺคปาตุภาวทนฺธตา จ นามรูปววตฺถานาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิยา สิยาติ น รูปารูปปริคฺคหกิจฺฉตาย เอว ทุกฺขาปฏิปทตา วตฺตพฺพาติ เจ? น, นามรูปววตฺถาปนาทีนํ ปจฺจนีกกิเลสมนฺทตาย สุขสิทฺธิยมฺปิ ตถาสิทฺธวิปสฺสนาสหคตานํ อินฺทฺริยานํ มนฺทตาย มคฺคปาตุภาวโต. รูปารูปํ ปริคฺคเหตฺวาติ อกิจฺเฉนปิ ปริคฺคเหตฺวา, กิจฺเฉน ปริคฺคหิเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. เอวํ เสเสสุปิ. นามรูปํ ววตฺถาเปนฺโตติ ‘‘นามรูปมตฺตเมตํ, น อฺโ โกจิ สตฺตาทิโก’’ติ ววตฺถาปนํ กโรนฺโต. กตโร ปเนตฺถ วาโร ยุตฺตรูโปติ? โย โกจิ สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุํ, อเนกสตกฺขตฺตุนฺติ เอวมาทีสุ หิ วิกฺขมฺภนวาเรสุ สกึ, ทฺวิกฺขตฺตุฺจ วิกฺขมฺภนวาโร สุขา ปฏิปทา เอว, น ตโต อุทฺธํ สุขา ปฏิปทา โหติ, ตสฺมา ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารโต ปฏฺาย ทุกฺขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา. อปิจ กลาปสมฺมสนาวสาเน อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อุปฺปนฺนสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺส ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภเนน กิจฺฉตาวาโร ทุกฺขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา. เอตฺถ ทนฺธตฺตา ปฏิปทาย เอตสฺส อกิจฺฉตฺเตปิ ปุริมานํ กิจฺฉตฺเต ทุกฺขาปฏิปทตา วุตฺตนยาว. ยสฺส ปน สพฺพตฺถ อกิจฺฉตา, ตสฺส ปรมุกฺกํสคตา สุขา ปฏิปทา เวทิตพฺพา.

ยถา นามรูปปริคฺคหกิจฺฉตาย มคฺคปาตุภาวทนฺธตาย ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิฺา วุตฺตา, ตถา ตพฺพิปริยาเยน จตุตฺถี, ตทุภยโวมิสฺสตาวเสน ทุติยา, ตติยา จ าตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิมินา…เป… เวทิตพฺพา’’ติ. วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยานสฺส อธิปฺเปตตฺตา ‘‘วิปสฺสนาปกฺขิกา เอวา’’ติ วุตฺตํ.

เหตุปายผเลหีติ เอตฺถ ตณฺหาจริตตา, มนฺทปฺตา จ ปมาย ปฏิปทาย เหตุ, ตณฺหาจริตตา, อุทตฺถปฺตา จ ทุติยาย, ทิฏฺิจริตตา, มนฺทปฺตา จ ตติยาย, ทิฏฺิจริตตา, อุทตฺถปฺตา จ จตุตฺถิยา. อุปาโย ปน ยถากฺกมํ สติสมาธิวีริยปฺินฺทฺริยานิ , สติปฏฺานฌานสมฺมปฺปธานสจฺจานิ จ อุปนิสฺสยภูตานิ. ผลํ วฏฺฏทุกฺขโต นิยฺยานํ.

สมาธิมุเขนาติ สมาธิมุเขน ภาวนานุโยเคน. เตเนวาห ‘‘สมถปุพฺพงฺคมาย วิปสฺสนายา’’ติ. อิธาติ อิมสฺมึ เนตฺติปฺปกรเณ. วกฺขติ ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติ เสกฺขผล’’นฺติ, ‘‘ราควิราคา เจโตวิมุตฺติกามธาตุสมติกฺกม’’นฺติ จ. โสติ อนาคามี.

เตนาติ ปฏิปกฺเขน. ตโตติ ปฏิปกฺขโต. สมานาธิกรณวเสน จ เจโตวิมุตฺติสทฺทานํ สมาสํ กตฺวา ภินฺนาธิกรณวเสน วตฺตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุน ‘‘เจตโส วา’’ติอาทินา อฺปทตฺถวเสน เจโตวิมุตฺติปทานํ สมาสํ ทสฺเสติ. วิฺาณปริยาเยน เจโต-สทฺเทน วุตฺตโยชนา น สมฺภวตีติ อาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ.

หา-สทฺโท คติอตฺโถ, คติ เจตฺถ าณคติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘หาตพฺพาติ คเมตพฺพา’’ติ. เนตพฺพาติ าเปตพฺพา.

. นฺติ ปุคฺคลวิภาคํ. าณวิภาเคนาติ สุตมยาทิาณปฺปเภเทน. นิพฺพตฺตนนฺติ อุปฺปาทนํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ อุคฺฆฏิตฺุตาติอาทิปุคฺคลวิภาคภูเต เทสนาภาชเน. เทสนายนฺติ สุตฺเต. ตํ ทสฺเสตุนฺติ ตํ ปุคฺคลวิภาคํ ทสฺเสตุํ. ‘‘สฺวายํ หาโร กถํ สมฺภวตี’’ติ เกจิ ปนฺติ.

สาติ วุตฺตปฺปการธมฺมตฺถานํ วีมํสนปฺา. อธิการโตติ ‘‘สตฺถา วา ธมฺมํ เทสยตี’’ติอาทิอธิการโต. สามตฺถิยโต อุคฺฆฏิตฺุอาทิเวเนยฺยวินยนสมตฺถภาวโต. ปริยตฺติธมฺมสฺส อุปธารณนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘อธิการโต สามตฺถิยโต วา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

‘‘วีมํสาทิปริยายวตี ปมวิกปฺปวเสน, วีมํสาทิวิภาควตี ทุติยวิกปฺปวเสน, จินฺตาย เหตุภูตาย นิพฺพตฺตา จินฺตามยี’’ติ เอวมาทิวุตฺตนยานุสาเรน สกฺกา โยเชตุนฺติ อาห ‘‘เสสํ วุตฺตนยเมวา’’ติ.

สุตจินฺตามยาเณสูติ สุตมยาเณ จ จินฺตามยาเณ จ สุตจินฺตามยาเณสุ จ สุตจินฺตามยาเณสูติ เอกเทสสรูเปกเสโส เวทิตพฺโพ. จินฺตามยาเณเยว หิ ปติฏฺิตา มหาโพธิสตฺตา จริมภเว วิปสฺสนํ อารภนฺติ, อิตเร สุตจินฺตามยาเณสูติ. เตหีติ ตถา ปนฺเตหิ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อุปาทารูปํ ปริคฺคณฺหาติ, อรูปํ ปริคฺคณฺหาตี’’ติอาทินา ปฏิปทากถายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕) วุตฺตนเยน.

. ปรโต โฆโส ปจฺจยภูโต เอติสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘ปจฺจตฺตสมุฏฺิเตน จ โยนิโสมนสิกาเรนา’’ติ อิทํ อาวุตฺตินเยน ทุติยํ อาวฏฺฏตีติ เวทิตพฺพํ. เตน สาวกานํ ภาวนามยาณุปฺปตฺติ สงฺคหิตา โหติ. สาวกานเมว วา าณุปฺปตฺติ อิธาธิปฺเปตา อุคฺฆฏิตฺุอาทิวิภาคกถนโต. เอตสฺมึ ปกฺเข ปุพฺเพ วุตฺตเอกเสสนโยปิ ปฏิกฺขิตฺโต ทฏฺพฺโพ. ‘‘อาสยปโยคปโพธสฺส นิปฺผาทิตตฺตา’’ติ เอเตน ปจฺฉิมจกฺกทฺวยปริยาปนฺนานิ ปุพฺพเหตุสงฺคหานิ สุตจินฺตามยาณานิ สนฺธาย ‘‘อิมา ทฺเว ปฺา อตฺถี’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อตฺถิภาโว เจตาสํ ปฏิปกฺเขน อนุปทฺทุตตา เวทิตพฺพา. อปริกฺขตตฺตา อนภิสงฺขตตฺตา. สุตมยาณสฺสาปิ ปุริมสิทฺธสฺส.

. เทสนาปฏิปทาาณวิภาเคหีติ นิสฺสรณเทสนาทิเทสนาวิภาเคหิ, ทุกฺขาปฏิปทาทิปฏิปทาวิภาเคหิ, สุตมยาณาทิาณวิภาเคหิ.

อวสิฏฺปาริสชฺเชนาติ ขตฺติยคหปติปริสปริยาปนฺเนน. อฏฺนฺนนฺติ ขตฺติยปริสา พฺราหฺมณคหปติสมณจาตุมหาราชิกตาวตึสมารพฺรหฺมปริสาติ อิมาสํ อฏฺนฺนํ.

สมตฺเถตีติ สมตฺถํ สมฺพนฺธตฺถํ กโรติ.

ตเมว ทฺวาทสปทภาวํ ทีเปตฺวาติ สมฺพนฺโธ. ตทตฺถสฺสาติ ฉฉกฺกปริยายตฺถสฺส (ม. นิ. ๓.๔๒๐ อาทโย). สพฺพปริยตฺติธมฺมสงฺคาหกตฺตา ฉฉกฺกปริยายสฺส, ตทตฺถสฺส จ ธมฺมจกฺกปฺปวตฺเตน สุตฺเตน (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๓; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) สงฺคหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สพฺพสฺสาปิ…เป… วิภาเวนฺโต’’ติ. วิสยิภาเวน พฺยฺชนปทานํ, วิสยภาเวน อตฺถปทานํ สมฺพนฺธํ สนฺธายาห ‘‘เตสํ…เป… สมฺพนฺธภาว’’นฺติ.

ปทาวยโว อกฺขรานิ. ปทตฺโถติ ปทตฺถาวยโว. ปทตฺถคฺคหณสฺสาติ ปทตฺถาวโพธสฺส. วิเสสาธานํ วิเสสุปฺปตฺติ. วากฺยเภเทติ วากฺยวิเสเส. จิตฺตปริโตสนํ จิตฺตาราธนํ. พุทฺธินิสานํ ปฺาย เตชนํ ติกฺขภาวกรณํ. นานาวากฺยวิสยตาปิ สิทฺธา โหติ ปทาทีหิปิ สงฺกาสนสฺส สิทฺธตฺตา . เอกวากฺยวิสยตาย หิ อตฺถปทานํ สงฺกาสนาทโย ยถากฺกมํ อกฺขราทิวิสยา เอวาติ นิยโม สิยา. เอเตนาติ อตฺถปทานํ นานาวากฺยวิสยตฺเถน.

อุคฺฆฏนาทิอตฺถานีติ อุคฺฆฏนวิปฺจนนยนปฺปโยชนานิ.

๑๐. อุปติฏฺติ เอตฺถาติ อุปฏฺิตนฺติ อุปฏฺิตสทฺทสฺส อธิกรณตฺถตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปติฏฺนฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปทกฺกนฺต’’นฺติ. เตนาห ‘‘อิทํ เนส’’นฺติอาทิ. ปฏิปตฺติเทสนาคมเนหีติ ปฏิปตฺติคมนเทสนาคมเนหิ. ‘‘กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ…เป… ชรามรณสฺสา’’ติอาทินา ชรามรณโต ปฏฺาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสิตฺวา มหาคหนํ ฉินฺทิตุํ นิสานสิลายํ ผรสุํ นิเสนฺโต วิย กิเลสคหนํ ฉินฺทิตุํ โลกนาโถ าณผรสุํ เตเชนฺโต พุทฺธภาวาย เหตุสมฺปตฺติยา ปริปากคตตฺตา สพฺพฺุตฺาณาธิคมาย วิปสฺสนาคพฺภํ คณฺหาเปนฺโต อนฺตรนฺตรา นานาสมาปตฺติโย สมาปชฺชิตฺวา อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน อเนกาการโวการสงฺขาเร สมฺมสนฺโต ฉตฺตึสโกฏิสตสหสฺสมุเขน ยํ าณํ ปวตฺเตสิ, ตํ ‘‘มหาวชิราณ’’นฺติ วทนฺติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสมาปตฺติสฺจาริมหาวชิราณ’’นฺติ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๔๑) อาคตํ, ตํ เทวสิกํ วฬฺชนกสมาปตฺตีนํ ปุเรจรานุจราณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘าณวชิรโมหชาลปทาลน’’นฺติ, ตํ สห วิปสฺสนาย มคฺคาณํ เวทิตพฺพํ. เอตํ พฺรหฺมจริยนฺติ สาสนพฺรหฺมจริยํ อธิปฺเปตนฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พฺรหฺมุโน’’ติอาทิมาห.

เทสนายาติ กรณตฺเถ อิทํ กรณวจนํ. นิยุตฺโตติ เอตฺถ เหตุอตฺโถ อนฺโตนีโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิทฺธาเรตฺวา โยชิโต’’ติ อาห.

เทสนาหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารวิภงฺควณฺณนา

๑๑. ชาติลิงฺคกาลสาธนวิภตฺติสงฺขฺยาวิเสสาทิโต สทฺทโต ปทวิจโย กาตพฺโพ. ตตฺถ กริยมาโน จ ยถาสภาวนิรุตฺติยา เอว กโต สุกโต โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิทํ นามปทํ…เป… อยํ สทฺทโต ปทวิจโย’’ติ วตฺวา ‘‘โส ปนาย’’นฺติอาทิมาห. วตฺตพฺพอตฺถสํวณฺณนาติ ตํตํปทวจนียสฺส อตฺถสฺส เภทํ วตฺวา ปริยาเยหิ วิวริตฺวา กถนํ.

วิจิยมานสฺส สุตฺตปทสฺสาติ ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตสุตฺตปทสฺส. ‘‘สุตฺตนฺตรปทานิปิ ปุจฺฉาวเสเนว ปวตฺตานี’’ติ วทนฺติ ‘‘น สพฺพมฺปิ สุตฺตปท’’นฺติ. เอกสฺเสว ปทสฺส สมฺภวนฺตานํ อเนเกสํ อตฺถานํ อุทฺธาโร อตฺถุทฺธาโร. เอกสฺเสว ปน อตฺถสฺส สมฺภวนฺตานํ อเนเกสํ ปทานํ อุทฺธาโร ปทุทฺธาโร. สพฺเพ หิ สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ลพฺภมาเน สพฺเพ ปทตฺเถ. นว สุตฺตนฺเตติ สุตฺตเคยฺยาทิวเสน นวปฺปกาเร สุตฺตสฺมึ อาเนตฺวา วิจินตีติ โยชนา. อถ วา ‘‘สพฺเพ นว สุตฺตนฺเต’’ติ อิมินา ปวิจยลกฺขเณน หาเรน สุตฺตเคยฺยาทีนิ สพฺพานิปิ นวปฺปการานิ สุตฺตานิ วิจินตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘สุตฺตเคยฺยาทิเก’’ติอาทิ.

‘‘โกสลานํ ปุรา รมฺมา’’ติอาทิกา (สุ. นิ. ๙๘๒) ฉปฺาส คาถา วตฺถุคาถา. ‘‘ปารายนมนุคายิสฺส’’นฺติ (สุ. นิ. ๑๑๓๗ อาทโย) ปน อาทิกา เอกูนวีสติ คาถา อนุคีติคาถา. อิทํ นามํ กตนฺติ อิทํ ‘‘ปารายน’’นฺติ นามํ กตํ. เตนาห ‘‘ปารํ คมนียา อิเม ธมฺมา, ตสฺมา อิมสฺส ธมฺมปริยายสฺส ‘ปารายนนฺตฺเวว อธิวจน’’’นฺติ (สุ. นิ. ปารายนตฺถุติคาถา; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถา ๑๔๙ อาทโย). พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานนฺติ อิมสฺส วิจยหารวิภงฺคสฺส เทสนากาเล อายสฺมา มหากจฺจาโน อตฺตโน พุทฺธิยํ วตฺตมานํ กตฺวา เอวมาหาติ โยชนา.

เอกํสพฺยากรณสฺส อยนฺติ เอกํสพฺยากรณียา, เอกํเสน วา พฺยากาตพฺพตฺตา เอกํสพฺยากรณียา, เอกํสพฺยากรณโยคฺคาติ อตฺโถ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ปนียาติ เปตพฺพตฺตา อพฺยากรณียาติ อตฺโถ. สมยนฺตรปริจเยน นิวารณธมฺมํ ปติ สํสยปกฺขนฺโท ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วิมติจฺเฉทน’’นฺติ. ปกติยา ปน นิวารณธมฺมํ อชานนฺโต าตุกามตาย ปุจฺฉตีติ อทิฏฺโชตนาย ปุจฺฉาปิ สิยา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘โลกสฺส นิวารณาทีนิ อชานนฺเตนา’’ติ.

เอกวตฺถุปริคฺคหาติ เอกสฺส อภิเธยฺยตฺถสฺส คหณโต.

วิมุตฺติปริปาจกอินฺทฺริยานิ วิวฏฺฏปกฺเข ิตสฺส สทฺธาทโย ธมฺมา, กึ ปเนตฺถ อริยานมฺปิ อินฺทฺริยโลเกน สงฺคโห โหตีติ อาห ‘‘ปริยาปนฺนธมฺมวเสนา’’ติอาทิ.

กาฬปกฺขจาตุทฺทสีฆนวนสณฺฑเมฆปฏลจฺฉาทนอฑฺฒรตฺตีนํ วเสน จตุรงฺคสมนฺนาคเตน. วิวิจฺฉาติ วิจิกิจฺฉาย. เตนาห ‘‘วิจิกิจฺฉาเหตู’’ติ. ทุกฺขมสฺส มหพฺภยนฺติ เอตฺถ วุตฺตํ ‘‘อสฺสา’’ติ ปทํ ‘‘ชปฺปาภิเลปนํ อสฺส พฺรูมี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชปฺปา ตณฺหา อสฺส โลกสฺสา’’ติ อาห. ‘‘สพฺพสตฺตาน’’นฺติอาทินา, ‘‘สพฺพโสวา’’ติอาทินา จ อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ สาติสยํ อวิชฺชาย นีวรณภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘ทูเร สนฺโต ปกาสนฺติ (ธ. ป. ๓๐๔; เนตฺติ. ๑๑), รตฺโต อตฺถํ น ชานาตี’’ติ (เนตฺติ. ๑๑, ๒๗) คาถาทฺวเยนาปิ อนุคีติวิจยํ ทสฺเสตีติ โยเชตพฺพํ.

รูปาวจราติ รูปาวจรสตฺตา. วิปริณามทุกฺขตาย มุจฺจนสฺส การณวจนนฺติ สมฺพนฺโธ. ยโต วฏฺฏทุกฺขโต มุจฺจนํ. ตํ วฏฺฏทุกฺขํ อนวเสสปริยาทานวเสน สงฺขารทุกฺขตาคหเณน.

เอกาธารนฺติ เอกวตฺถุ อธิฏฺานํ. นิวารณํ วิกฺขมฺภนํ ปิธานํ สมุจฺเฉโทติ อตฺถทฺวยสฺส ปุจฺฉิตตฺตา ‘‘อเนกาธารํ ทสฺเสตุ’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘นิวารณสงฺขาตํ สํวรํ…เป… ปิธิยฺยนฺติ ปจฺฉิชฺชนฺตี’’ติ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๔๑; จูฬนิ. อฏฺ. ๓). ตสฺสตฺโถ ‘‘นิวารณสงฺขาตํ วิกฺขมฺภนํ, สํวรํ, ปิธานฺจ กเถหี’’ติ.

‘‘โวทาน’’นฺติ อิมินา โสตานํ วิกฺขมฺภนวิสุทฺธิ, ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ อิมินา สมุจฺเฉทวิสุทฺธิ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ปุจฺฉาย ทุวิธตฺถวิสยตํ วิวริตุํ ‘เอว’นฺติอาทิ วุตฺต’’นฺติ. ตถา จาห ‘‘โวทายติ…เป… อริยมคฺโค’’ติ.

ทิฏฺิมานาวิชฺชาโสตาปิ ตณฺหาโสตานุคาติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน อนุโรธวเสนา’’ติ. อุปจารวเสนาติ นิสฺสิตุปจารวเสน. สพฺพสฺมาติ จกฺขุโต ยาว มนโตติ สพฺพสฺมา ทฺวารโต. สพฺพปฺปกาเรนาตฺติ ตณฺหายนมิจฺฉาภินิเวสนอุนฺนมนาทิปฺปกาเรน.

ตเมว สตินฺติ ยายํ สติ ปุพฺพภาเค โสตานํ วิกฺขมฺภนวเสน วุตฺตา, ตเมว สตึ. มคฺคกฺขเณ โสตานํ สํวรํ ปิธานํ พฺรูมิ. ยสฺมา ปน ปิธายิกาปิ สติ มคฺคกฺขเณ ปฺานุคา, ปฺากิจฺจเมเวตฺถ อธิกํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฺาเยเต ปิธียเร’’ติ.

สํวรปิธานานนฺติ เอตฺถ สํวรสทฺเทน นิวารณํ วุตฺตํ.

ยสฺมึ ยสฺมึ อริยมคฺเค อนธิคเต ยํ ยํ อภิสงฺขารวิฺาณํ อุปฺปชฺชนารหํ, ตสฺมึ ตสฺมึ อธิคเต ตํ ตํ วิฺาณํ อนุปฺปาทนิโรเธน นิรุชฺฌติ สทฺธึ อตฺตนา สมฺปยุตฺตนามรูเปนาติ อาห ‘‘ตสฺส ตสฺส วิฺาณสฺส นิโรเธน สเหวา’’ติ. อนุปฺปาทนิโรโธ หิ เอตฺถ ‘‘นิโรโธ’’ติ อธิปฺเปโต อนุปาทิเสสนิพฺพานสฺส อธิปฺเปตตฺตาติ. อนุสนฺธียติ เอเตนาติ อนุสนฺธิ, อิธ ปุจฺฉิยมาโน อตฺโถ.

สหวิสเยน ทสฺเสตุนฺติ เอตฺถ สจฺจานิ เอว วิสโย. ปหาตพฺพสภาวํ สมุทยสจฺจํ, ตสฺส วิสโย ทุกฺขสจฺจํ. ‘‘สํโยชนิเยสุ, ภิกฺขเว, ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน วิหรโต ตณฺหา ปวฑฺฒตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๕๓, ๕๗) หิ วุตฺตํ. ปหายกสภาวํ มคฺคสจฺจํ, ตสฺส วิสโย นิโรธสจฺจนฺติ อาห ‘‘สห วิสเยน…เป… สจฺเจสู’’ติ. กามฺเจตฺถ ‘‘สมุทโย ทฺวีสุ ภูมีสุ ปหียตี’’ติ อารทฺธํ, ‘‘ทสฺสเนน ตีณิ สํโยชนานิ ปหียนฺติ, ภาวนาย สตฺต สํโยชนานิ ปหียนฺตี’’ติ ปน วิภาควจนเมว วตฺตนฺติ อาห ‘‘ปหายกวิภาคมุเขน ปหาตพฺพวิภาคํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.

นิรวเสสกามราคพฺยาปาทา ตติยมคฺเคน ปหียนฺติ, อิตเร จตุตฺถมคฺเคนาติ วุตฺตํ ‘‘อิตเรหิ ปน นิรวเสส’’นฺติ. ตตฺถาติ กมฺมวิปากวฏฺฏปฺปเภเทน เตธาตุเก ภวตฺตเย. สํโยชนวเสนาติ สพฺพทา โยชนวเสน พนฺธนวเสน.

๑๒. อคฺคผลาณตาย เอกมฺปิ สมานํ ตนฺนิมิตฺตสฺส ขยานุปฺปาทารมฺมณสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส วเสน ผลโวหาเรน ทฺเว นามานิ ลภติ.

โสมนสฺสนามลาโภ อิมินา อารมฺมณสงฺเกเตนาติ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ขเย…เป… สมฺายา’’ติ อาห.

๑๓. ตคฺคหเณเนวาติ ผสฺสปฺจมกปฺจรูปินฺทฺริยคฺคหเณเนว. สหจรณาทินาติ สหชาตาทิอนนฺตราทิปจฺจยภาเวน เจว นิสฺสยารมฺมณาทินา จ. ‘‘สมฺปยุตฺต’’นฺติ อิมินา สหิตตา อวิสิฏฺตา อิธาธิปฺเปตาติ อาห ‘‘อวิภาเคน คหณียภาวํ สนฺธายา’’ติ.

กถํ สมาธินฺทฺริยํ อุปฺปาเทตีติ อาห ‘‘สติคฺคหเณน เจตฺถ ปริยุฏฺานปฺปหานํ อิธาธิปฺเปต’’นฺติ. น หิ สมาธินา ปริยุฏฺานปฺปหานํ สมฺภวติ.

ปทหติ เอเตนาติ ปธานํ, วีริยํ. เตติ วีริยสงฺขารา. เอกรเสนาติ ยถา อินฺทฺริยานิ เอกรสานิ โหนฺติ, เอวํ เอกรสภาเวน สรณโต ปวตฺตนโต. ตถา ปวตฺติยา เอว สุฏฺุ วต วีริยํ วาเหสีติ โยคินา สงฺกปฺเปตพฺพโต ตทุปควีริยวาหนฏฺเน ‘‘สมฺปหํสนา’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เอวํ เม…เป… เหตุภาวโต’’ติ.

อิทฺธิสทฺทสฺส ปโม กตฺตุอตฺโถ, ทุติโย กรณตฺโถ วุตฺโต, ปาทสทฺทสฺส เอโก กรณตฺโถ เอว. ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธี วุตฺตา, น จ อิชฺฌนฺติ. ปชฺชิตพฺพา จ อิทฺธี ปชฺชนกรเณน ปาเทน สมานาธิกรณา น โหนฺตีติ ‘‘ปเมน อตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท’’ติ กถํ สกฺกา วตฺตุํ, ตถา อิทฺธิกิริยากรเณน สาเธตพฺพา พุทฺธิสงฺขาตา อิทฺธิ ปชฺชนกิริยากรเณน ปชฺชิตพฺพาติ ทฺวินฺนํ กรณานํ น สมานาธิกรณตา สมฺภวตีติ ‘‘ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท’’ติ กถํ สกฺกา วตฺตุนฺติ เจ? สกฺกา, ปาทสฺส อิชฺฌมานโกฏฺาส อิชฺฌนกรณูปายภาวโต. อถ วา ‘‘ปเมน อตฺเถน อิทฺธิยา ปาโท, ทุติเยน อตฺเถน อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท’’ติ เอวํ โยชนโต. กถํ? อนนฺตรตฺโถ ปจฺจาสตฺติาเยน อิธ ปโมติ อธิปฺเปโต, ตโต ปุริโม ทุติโยติ.

‘‘ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธิ’’นฺติอาทิ (วิภ. ๔๓๒) วจนโต ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ เอตฺถาปิ ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ อธิปติสทฺทโลปํ กตฺวา สมาโส วุตฺโตติ วิฺายติ. อธิปติสทฺทตฺถทสฺสนวเสเนว ปน ‘‘ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธี’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๔๓๑) วุตฺตํ, ตสฺมา อิธาปิ ฉนฺทาธิปติ สมาธิ ฉนฺทสมาธีติ เวทิตพฺโพ. ตํ ปน ฉนฺทํ วุตฺตนเยน สทฺธาสีเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธาธิปเตยฺยา จิตฺเตกคฺคตา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘อิทํ ปธาน’’นฺติ วา วีริยํ วุตฺตํ. วีริยสทฺทาเปกฺขาสหิตํ เอกวจเนน วตฺวา จตุพฺพิธสฺสปิ วีริยสฺส อธิปฺเปตตฺตา นิพฺพตฺเตตพฺพธมฺมวิภาเคน จ ‘‘อิเม สงฺขารา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปธานภูตา สงฺขาราติ เอวํ สมาโส เวทิตพฺโพ. สงฺขตสงฺขาราทินิวตฺตนตฺถฺเจตฺถ ปธานคฺคหณํ. อถ วา ตํ ตํ วิเสสํ สงฺขโรตีติ สงฺขาโร, สพฺพมฺปิ วีริยํ. ตตฺถ จตุกิจฺจสาธกโต อฺสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปธานคฺคหณนฺติ ปธานภูตา เสฏฺภูตาติ อตฺโถ.

วีริยิทฺธิปาทนิทฺเทเส ‘‘วีริยสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคต’’นฺติ (วิภ. ๔๓๕) ทฺวิกฺขตฺตุํ วีริยํ อาคตํ. ตตฺถ ปุริมํ สมาธิวิเสสนํ ‘‘วีริยาธิปติ สมาธิ วีริยสมาธี’’ติ, ทุติยํ สมนฺนาคมงฺคทสฺสนตฺถํ. ทฺเว เอว หิ สพฺพตฺถ สมนฺนาคมงฺคานิ สมาธิ, ปธานสงฺขาโร จ. ฉนฺทาทโย สมาธิวิเสสนานิ. ปธานสงฺขาโร ปน ปธานวจเนเนว วิเสสิโต, น ฉนฺทาทีหีติ น อิธ วีริยาธิปติตา ปธานสงฺขารสฺส วุตฺตา โหติ. วีริยฺจ สมาธึ วิเสเสตฺวา ิตเมว สมนฺนาคมงฺควเสน ปธานสงฺขารวจเนน วุตฺตนฺติ นาปิ ทฺวีหิ วีริเยหิ สมนฺนาคโม วุตฺโต โหติ. ยสฺมา ปน ฉนฺทาทีหิ วิสิฏฺโ สมาธิ ตถา วิสิฏฺเเนว เตน สมฺปยุตฺโต ปธานสงฺขาโร, เสสธมฺมา จ, ตสฺมา สมาธิวิเสสนานํ วเสน ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา’’ติ วุตฺตา. วิเสสนภาโว จ ฉนฺทาทีนํ ตํตํอปสฺสยนวเสน โหตีติ ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาทนฺติ เอตฺถ นิสฺสยตฺเถปิ ปาทสทฺเทน อุปายตฺเถน ฉนฺทาทีนํ อิทฺธิปาทตา วุตฺตา โหติ. ตถา หิ อภิธมฺเม อุตฺตรจูฬภาชนีเย ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา (วิภ. ๔๕๗) ฉนฺทาทีนเมว อิทฺธิปาทตา วุตฺตา. ปฺหาปุจฺฉเก จ ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา – อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธี’’ติ (วิภ. ๔๖๒) อารภิตฺวาปิ ปุน ฉนฺทาทีนํเยว กุสลาทิภาโว วิภตฺโต. อุปายิทฺธิปาททสฺสนตฺถเมว หิ นิสฺสยิทฺธิปาททสฺสนํ กตํ. อฺถา จตุพฺพิธตาว น โหตีติ. อยเมตฺถ ปาฬิวเสน อตฺถวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.

ตทงฺคสมุจฺเฉทนิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตตฺตํ วตฺวา ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตสฺส อวจนํ ‘‘ฉนฺทสมาธิ…เป… อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติ (วิภ. ๔๓๒) ภาเวตพฺพานํ อิทฺธิปาทานํ วุตฺตตฺตา. ภาวิติทฺธิปาทสฺส หิ สจฺฉิกาตพฺพา ผลปริยาปนฺนา อิทฺธิปาทาติ.

โวสฺสคฺคสทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ, ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ โวสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ยถาวุตฺเตน ปกาเรนาติ ตทงฺคสมุจฺเฉทปฺปกาเรน, ตนฺนินฺนภาวารมฺมณปฺปกาเรน จ. ปริณมนฺตํ วิปสฺสนกฺขเณ.

๑๔. ปุพฺพภาคปฺายาติ เอกาวชฺชนนานาวชฺชนวีถีสุ ปวตฺตอุปจารปฺาย. อธิคมปฺายาติ อปฺปนาปฺาย. ปุน ปุพฺพภาคปฺายาติ นานาวชฺชนุปจารปฺาย, ปฏิสนฺธิปฺาย วา. อุปจารปฺายาติ เอกาวชฺชเน, สพฺพตฺถ วา ปวตฺตอุปจารปฺาย.

ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนวิจโยปีติ ยถาวุตฺตาย ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนวิจโยปิ. วุตฺตนยานุสาเรนาติ อทิฏฺโชตนา, วิมติจฺเฉทนา จาติ เหฏฺา วุตฺตนยานุคมเนน.

๑๕. เสเขอเสเขติ เสกฺเข อริยปุคฺคเล, อเสกฺเข อริยปุคฺคเล. วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมปฺปหาเนติ วิปสฺสนํ ปุเรจาริกํ กตฺวา ปวตฺตกิเลสปฺปหาเน, ปหานาภิสมเยติ อตฺโถ.

‘‘ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ปาฬึ ทสฺเสตฺวา ปุน ‘‘ยํ อนิจฺเจ ทุกฺเข อนตฺตนี’’ติ วจนํ เอวมฺเปตฺถ ปนฺตีติ ทสฺเสตุํ.

เสสสํกิเลสโวทานธมฺมาติ เคธโต อวสิฏฺสํกิเลสธมฺมา จ สพฺพโวทานธมฺมา จ. อภาเวนาติ อภาวเนน อภาวกรเณน.

ปโยคปรกฺกมนฺติ ภุสํ โยโค ปโยโค, ปโยโคว ปรกฺกโม ปโยคปรกฺกโม, จิตฺตํ. อุกฺขิปตีติ โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อเทนฺโต กุสลปกฺเข อุทฺธํ ขิเปนฺโต วิย ปวตฺตติ. ปธานวีริยนฺติ อกุสลานํ อนุปฺปาทนฏฺเน อุตฺตมวีริยํ. โยเชตพฺพานีติ ‘‘อาเสวมาโน วายมตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพานิ. อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานนฺติ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตาสมุคฺฆาฏิตุปฺปนฺนานํ.

๑๖. ‘‘อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยานี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ปมมคฺเค สทฺธาทโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. อินฺทฺริยคฺคหณฺจ ปาฬิยํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ.

อสุภานุปสฺสนา กายานุปสฺสนาสติปฏฺานนฺติ อาห ‘‘สติปฏฺานภาวนาย สุนิคฺคหิโต กามวิตกฺโก’’ติ. สมาธิ อุปฺปชฺชมาโน กามวิตกฺกมฺปิ นิคฺคเหตฺวา เอว อุปฺปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนวชฺชสุขปทฏฺาเนนา’’ติอาทิมาห. ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสุ อารทฺธวีริโย’’ติอาทินา ธมฺมจฺฉนฺทโต อุปฺปชฺชมาโน วีริยจฺฉนฺโท ขนฺตึ ปริพฺรูเหตีติ ทสฺเสติ. อนวชฺชธมฺมานํ อุปการกธมฺมาเสวนํ วิย อนุปการกธมฺมปริวชฺชนมฺปิ ปฺานิเสวเนเนว โหตีติ อาห ‘‘สมาธิอาทีน’’นฺติอาทิ.

๑๗. สพฺพธมฺมาธิฏฺานํ เทสนํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วิภชิตุํ ‘‘โลโก นามา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพธมฺมานนฺติ…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ อาห. มหคฺคตธมฺเมสุ านํ ตํสมฺปาทนาว. ตถา เสเสสุ. วฑฺฒิยมาเนสูติ ยถา วิมุตฺตึ ปริปาจยนฺติ, เอวํ พฺรูหิยมาเนสุ.

ทสฺสนปริฺาติ รูปารูปธมฺมานํ สลกฺขณโต, ปจฺจยโต จ ปริชานนา. เตนาห ‘‘าตปริฺา’’ติ. ปฏิปกฺขวิธมเนน สทฺธึ ลกฺขณตฺตยวิภาวนา อิธ ‘‘ภาวนาปริฺา’’ติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ภาวนา…เป… ปริฺา จา’’ติ . ทสฺสนตฺถา ปริฺา ทสฺสนปริฺา, ภาวนตฺถา ปริฺา ภาวนาปริฺาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กกฺขฬผุสนาทีติ กกฺขฬาทิผุสนาทิ. อภิชานิตฺวาติ อภิฺาย ปฺาย ชานิตฺวา, ิตสฺส อภิชานนเหตุ วาติ อตฺโถ. อตฺโถติ ผลํ. นโยติ วุตฺตนโย.

‘‘ยํ อสงฺขต’’นฺติปิ ปนฺติ. จตุนยโกวิโทติ เอกตฺตนานตฺตาทินยจตุกฺเก นิปุโณ. เทสนายุตฺติกุสโลติ ธมฺมานํ เทสนาวิธิมฺหิ กุสโล.

สทิสี กาตพฺพา สํสนฺทนวเสนาติ อธิปฺปาโย. อาเนตพฺพา ‘‘อยํ เทสนา อิมาย เทสนาย เอวํ สํสนฺทตี’’ติ. อตฺถโต อเปตนฺติ อยุตฺตตฺถํ. อสมฺพนฺธตฺถนฺติ อฺมฺํ อสมฺพนฺธปทตฺถํ. นนุ ปฏฺานวิจาโร นยวิจาโร วิย หาเรหิ อสมฺมิสฺโส วิจารณนฺตโรติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. อิธ นิกฺขิตฺโตติ อิธ สุตฺตวิจเย สุตฺตตฺถวิจารภาวโต นิกฺขิตฺโต, เอเตน วา ปฏฺานสฺส หารนฺโตคธภาวทสฺสเนเนว มูลปทานํ วิย ปฏฺานสฺส ปทตฺถนฺตราภาโว ทสฺสิโตติ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺส สุตฺตสฺสาติ สํวณฺณิยมานสุตฺตํ สนฺธายาห. กสฺมึ วา ปเทติ สํวณฺณิยมานํ คาถํ สนฺธายาห. ตพฺพิจเยนาติ ปุจฺฉาทิวิจเยน, อสฺสาทาทิวิจเยน จ.

วิจยหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๑๘. เอวเมตสฺส สุตฺตสฺส อตฺโถ น คเหตพฺโพ, เอวํ ปน คเหตพฺโพติ อคฺคเหตพฺพคเหตพฺพานํ อตฺถานํ วิชหนคฺคหณตฺถาย ยุตฺตายุตฺติวิจารณายํ วชฺเชตพฺเพสุ ตาว ปมํ ปฏิปตฺตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตถากาเรน คยฺหมานา สุตฺตตฺถา วิสโย’’ติ ยถา ‘‘วามํ มุฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘; วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔; สํ. นิ. ฏี. ๑.๑.๒๑๓). วชฺเชตพฺพภาวโต หิ สุตฺตปเทหิ สุตฺตตฺเถ วิเวจิเต คเหตพฺพภาโว จ อวสิฏฺโ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เมตฺตาวิหารสฺส สโต พฺยาปาโท จิตฺตํ ปริยาทาย สฺสตี’ติ น ยุชฺชติ เทสนา, ‘พฺยาปาโท ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉตี’ติ ยุชฺชติ เทสนา’’ติ (เนตฺติ. ๒๑).

ยุตฺตินิทฺธารเณน อยถาสภาวโต วิเวจิตฺวา ยถาสภาวโต ธมฺมสฺส คหณการณานิ กเถนฺโต ‘‘มหนฺตา อปทิสิตพฺพา เอเตสนฺติ มหาปเทสา’’ติ อิมมตฺถมาห ‘‘พุทฺธาทโย’’ติอาทินา. ปติฏฺานานีติ ปติฏฺานสาธนานิ. เสเสสูติ สงฺฆาปเทสาทีสุ. ปมตฺโถ เอว หิ อิธ ปาฬิ อาคโต, วินิจฺฉยเน การณํ มหาปเทโสติ อธิปฺปาโย. สุตฺโตตรณาทีติ อาทิสทฺเทน สุตฺตาโนตรณาทิปิ สงฺคยฺหติ. สุตฺโตตรณวินยสนฺทสฺสนานิ หิ เกนจิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส ‘‘ธมฺโม’’ติ วินิจฺฉยเน การณํ. สุตฺตาโนตรณวินยาสนฺทสฺสนานิ ‘‘อธมฺโม’’ติ. ยทิ เอวนฺติ ยทิ ยถาภตสฺส คนฺถสฺส สุตฺตวินเยหิ สํสนฺทนํ ‘‘ธมฺโม’’ติ, อสํสนฺทนํ ‘‘อธมฺโม’’ติ วินิจฺฉยการณํ, เอวํ สนฺเตติ อตฺโถ. สมฺปทียติ าปียติ ธมฺโม เอเตหีติ สมฺปทายา, อกฺขาตาโร.

วินียนฺติ ราคาทโย เอเตนาติ วินโย, การณํ. เตนาห ‘‘ราคาทิวูปสมนิมิตฺต’’นฺติ. กึ ปน ตํ? สาธิฏฺานสมถวิปสฺสนาทิธมฺมา. เย ปรโต ‘‘เตจตฺตาลีสํ โพธงฺคมา ธมฺมา’’ติ (เนตฺติ. ๒๔) วกฺขติ.

วินยมหาปเทสา กปฺปิยานุโลมโต อนุโลมกปฺปิยํ นาม, ตํสทิสตาย สุตฺตนฺตมหาปเทสาปิ อนุโลมกปฺปิยนฺติ อฏฺกถาโวหาโร. เตน วุตฺตํ ‘‘ยํ อนุโลมกปฺปิยนฺติ วุจฺจตี’’ติ.

ยทิปิ ตตฺถ ตตฺถ ปวตฺตา ภควโต ปกิณฺณกเทสนา อฏฺกถา, สา ปน ธมฺมสงฺคาหเกหิ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถสํวณฺณนานุรูเปน วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา อาจริยวาโท นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘อาจริยวาโท นาม อฏฺกถา’’ติ. ติสฺโสปิ สงฺคีติโย อารุฬฺโห เอว หิ พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ สีหฬภาสาย ปิโต. อตฺตโนมติ เถรวาโท. สเมนฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ยถา ปาฬิยา สํสนฺทติ , เอวํ มหาปเทสโต อตฺถา อุทฺธริตพฺพาติ ทสฺเสติ. ปมาทปาวเสน อาจริยวาทสฺส กทาจิ ปาฬิยา อสํสนฺทนาปิ สิยา, โส น คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สุตฺเตน สเมนฺโต เอว คเหตพฺโพ’’ติ.

จตูหิ มหาปเทเสหิ ยุชฺชตีติ จตูหิ มหาปเทเสหิ น วิรุชฺฌติ. อิทานิ ตํ อวิรุชฺฌนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยน เยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุตฺโตตรณาทิ เอว เหตฺถ การณํ. ตสฺส จ อเนกาการตาย ‘‘ปกาเรนา’’ติ วุตฺโต. สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต สํวณฺณนาวเสน คเหตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. อาภเตนาติ อานีเตน. สุตฺตโตติ สุตฺตนฺตรโต. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – เกนจิ ปสงฺเคน สุตฺตนฺตรโต อุทฺธริตฺวา อานีเตน สุตฺตปเทน สุตฺโตตรณาทินา, การณปฺปกาเรน จ จตุมหาปเทสาวิโรเธน สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต สํวณฺณนาวเสน อตฺถชาตํ คเหตพฺพนฺติ. เตนาห ‘‘เตน…เป… กาตพฺพา’’ติ. ตตฺถ ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ ยุตฺตินิทฺธารณวเสน อยํ ยุตฺติหาโร โยเชตพฺโพ. อถ วา ยุตฺติหารโยชนา กาตพฺพาติ อิมินา หาเรน วกฺขมานนเยน ยุตฺติคเวสนํ กตฺวา ตาย ยุตฺติยา สพฺพหารโยชนา กาตพฺพาติ อตฺโถ. ลกฺขณฺเหตํ ยุตฺติคเวสนาย, ยทิทํ ยุตฺติหาโร. เตนาห ‘‘สพฺเพสํ หารานํ, ยา ภูมี, โย จ โคจโร เตสํ. ‘‘ยุตฺตายุตฺตปริกฺขา’’ติ (เนตฺติ. ๔), ‘‘อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ (เนตฺติ. ๒๐) จ.

๑๙. ยทิ วา สพฺพานิ ปทานิ เอกํ อตฺถํ อภิวทนฺตีติ โยชนา.

๒๐. ชรายํ ิตสฺส อฺถตฺตนฺติ ิตสฺส ยํ อฺถตฺตํ อฺถาภาโว, อยํ ชรา นาม. ขณิกมรณํ ขณิกนิโรโธ. สมุจฺเฉทมรณํ ขีณาสวานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ.

เกวลสฺสาติ ชราย อมิสฺสสฺส. อฺาว ชรา, อฺํ มรณนฺติ ‘‘ปฏิฺาตสฺส เกวลสฺส มรณสฺส ทิฏฺตฺตา’’ติ เหตุ. ยถา ตํ เทวานนฺติ สทิสูทาหรณํ, วิสทิสูทาหรณํ ปน อิทฺธิปาทาทโย, อนฺวยพฺยติเรกา คเหตฺวา โยเชตพฺพา.

เตหีติ ชรามรเณหิ.

‘‘ชีรณภิชฺชนสภาวา’’ติ อิมินา เลเสน ตณฺหาชรามรณานํ อนฺตฺตํ โยเชติ. ยทิปิ ‘‘อฺา ตณฺหา, อฺา ชรา, อฺํ มรณ’’นฺติ สิทฺโธวายมตฺโถ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘น อิท’’นฺติอาทิ, ตถาปิ สกฺกุเณยฺยปริหารายํ โจทนาติ อชฺฌารุฬฺหํ ตตฺถ โทสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยทิ จ ยถา ชรามรณ’’นฺติ ปาฬิปวตฺตานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ…เป… ทสฺเสตี’’ติ อาห. ภาโวติ อธิปฺปาโย. เอเตสนฺติ ตณฺหาชรามรณานํ.

‘‘อิมาย ยุตฺติยา อฺมฺเหิ การเณหิ คเวสิตพฺพ’’นฺติ จ เกจิ ปนฺติ, พฺยฺชนโตปิ คเวสิตพฺพํ, อฺตฺถ อตฺถโต อฺตฺถมฺปีติ อธิปฺปาโย. ตเมว พฺยฺชนโต อฺตฺถํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘สลฺโลติ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิเมสนฺติ สลฺลธูปายนานํ. อิจฺฉาวิปริยาเยติ อิจฺฉิตาลาเภ, อปฺปจฺจยสมวาเย วา. อิทมฺปิ สมตฺถนํ โหติ ยถาธิปฺเปตสฺส อฺตฺถสฺส พฺยติเรกทสฺสนภาวโต. ชรามรณวิปริยาเยติ ชรามรเณ อสติ. น หิ ยถาธิปฺเปตชรามรณาภาเว ตณฺหา น โหตีติ.

ทฺวิธา วุตฺตาติ ทฺวิปฺปกาเรน วุตฺตา, ทฺวิกฺขตฺตุํ วา วุตฺตา. ยํ อิทํ…เป… อารมฺมณกรณวเสน วา อภิลปนนฺติ เอวํ กิริยาปรามสนํ โยเชตพฺพนฺติ เวทิตพฺพํ. วิเสโสติ อยํ เอตาสํ อิจฺฉาตณฺหานํ ปกติสงฺขาโต วิเสโส. ‘‘ทฺวีหิ นาเมหี’’ติปิ ปาฬิ. ยทิปิ เอวนฺติ กามํ วิสยวิเสเสสุ เอวํ ยถาวุตฺตอวตฺถาวิเสเสน อิจฺฉาตณฺหานํ อตฺถิ กาจิ เภทมตฺตาติ อตฺโถ. สภาวโต ปน เภโท นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถาปี’’ติ อาห.

อิจฺฉนฺตีติ กาเมนฺติ. ตณฺหายนา ปาตุกามตา. สนฺตาปนฏฺเนาติ ปริทหนภาเวน. อากฑฺฒนฏฺเนาติ อวหรณฏฺเน. สริตานีติ ราควเสน อลฺลานิ. ตํสมฺปยุตฺตปีติวเสน สินิทฺธานิ สิเนหิตานิ. วิสตฺติกาติ วิตฺถตา รูปาทีสุ เตภูมกธมฺเมสุ พฺยาปนวเสน. วิสฏาติ ปุริมเววจนเมว ต-การสฺส ฏ-การํ กตฺวา วุตฺตํ. วิสาลาติ วิปุลา. วิสกฺกตีติ ปริสกฺกติ สหติ. รตฺโต หิ ราควตฺถุนา ปาเทน ตาฬิยมาโนปิ สหติ. ‘‘โอสกฺกนํ, วิปฺผนฺทนํ วา วิสกฺกน’’นฺติ วทนฺติ. อนิจฺจาทิกํ นิจฺจาทิโต คณฺหนฺตี วิสํวาทิกา โหติ. วิสํหรตีติ ตถา ตถา กาเมสุ อานิสํสํ ทสฺเสนฺตี วิวิเธหิ อากาเรหิ เนกฺขมฺมาภิมุขปฺปวตฺติโต จิตฺตํ สํหรติ สํขิปติ. วิสํ วา ทุกฺขํ, ตํ หรติ, วหตีติ อตฺโถ. ทุกฺขนิพฺพตฺตกสฺส กมฺมสฺส เหตุภาวโต วิสมูลา, วิสํ วา ทุกฺขาทิเภทา เวทนา มูลํ เอตายาติ วิสมูลา, ทุกฺขสมุทยตฺตา วิสํ ผลํ เอติสฺสาติ วิสผลา. รูปาทิทุกฺขสฺเสว ปริโภโค เอตาย, น อมตสฺสาติ วิสปริโภคา. สพฺพตฺถ นิรุตฺติวเสน ปทสิทฺธิ เวทิตพฺพา. โย ปเนตฺถ ปธาโน อตฺโถ, ตํ ทสฺเสตุํ ปุน ‘‘วิสตา วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สิเนหนํ เปมกรณํ. พนฺธนฏฺเนาติ สํโยชนฏฺเน. อาสีสนฏฺเนาติ อิจฺฉนฏฺเน. อภินนฺทนฏฺเนาติ อสฺสาทนฏฺเน, สมฺปฏิจฺฉนฏฺเน วา.

๒๑. อนภิรตีติ อุกฺกณฺา. าณนิพฺพิทาติ นิพฺพิทานุปสฺสนา. ยถา จ ทุกฺขู…เป… จาเรสุ ยุตฺติ วุตฺตาติ โยชนา.

สุขาปฏิปทาทนฺธาภิฺา สุขาปฏิปทาขิปฺปาภิฺา สุขาปฏิปทาทโย. โย ทุกฺขาย ปฏิปทาย วิเสสํ อธิคนฺตุํ ภพฺโพ, ตสฺส สุขาปฏิปทาโยคฺยสฺส วิย กริยมานา ธมฺมเทสนา วิเสสาวหา น โหติ, ตสฺมา สา น ยุตฺตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ราคจริโต’’ติอาทินา. ราคจริตสฺส ตถา ตถา กามานํ อาทีนวํ, โอการํ, สํกิเลสํ, เนกฺขมฺเม อานิสํสฺจ อวิภาเวตฺวา อาทิโต วิปสฺสนากถาว กริยมานา น วิเสสาวหา โหติ อาสยสฺส อโสธิตตฺตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ปาฬิยํ ‘‘วิปสฺสนา…เป… เทสนา’’ติ อาหาติ เวทิตพฺพํ. เสสปเทสุปีติ ยถา ‘‘ราคจริตสฺสา’’ติอาทินา ราคจริตโกฏฺาสวเสน ปาฬิยํ เทสนาย อยุตฺติ วุตฺตา, อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ โทสจริตโกฏฺาสาทีสุปิ ‘‘โทสจริตสฺส ปุคฺคลสฺส อสุภํ เทเสยฺยา’’ติอาทินา ปาฬิยํ อวุตฺโตปิ ยถาสมฺภวมตฺโถ นิทฺธาเรตฺวา วตฺตพฺโพ. กสฺมา ปน ยุตฺติหาเร อยุตฺตินิทฺธารณา กตาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ. เสเสสุปิ เอเสว นโยติ เสเสสุปิ โทสจริตาทิวเสน นิทฺธาริเตสุ อยุตฺติคเวสเนสุ อยเมว อุปาโย. อนุโลมปฺปหาน’’นฺติปิ ปาฬิ, โส เอวตฺโถ.

‘‘ยาวติกาาณสฺส ภูมี’’ติ เอเตน ยุตฺติหารสฺส มหาวิสยตํ ทสฺเสติ. กสฺมา ปนายํ มหาวิสโยติ? ยุตฺติวิจารภาวโต, สํวณฺเณตพฺพสฺส จ ธมฺมสฺส นานานยนิปุณาทิคุณวิเสสโยคโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ กิสฺส เหตู’’ติ อาห.

อปรภาเคติ ปจฺฉาภาเค. เมตฺตาวิหาริภาคสฺส อปริหีนตาวจนโต อโยโค วุตฺโต. เตนาห ‘‘สโต’’ติ. ยถาวุตฺตการณโต เอวาติ ปฏิปกฺขตฺตา เอว.

ปหาเนกฏฺภาวโต ทิฏฺิมฺิตสฺส. อาทีนวทสฺสเนน วิตกฺกํ ชิคุจฺฉนฺตา ทุติยชฺฌานสฺส อาสนฺนอุปจารชฺฌานธมฺมาปิ วิตกฺการมฺมณา น โหนฺติ, ปเคว ทุติยชฺฌานธมฺมาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อารมฺมณกรณตฺโถ เหตฺถ สหคตสทฺโท’’ติ.

เอวํ ยุตฺติหารลกฺขณํ อาคมโต ยุตฺตายุตฺตวิจารํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อาคมานุคตาย ยุตฺติยาปิ ตํ ทสฺเสตุํ คุณมุเขน โทสวิภชนํ วิภชนฺโต ‘‘อปิเจตฺถา’’ติอาทิมาห. ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

ยุตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๒๒. เตสํเตสนฺติ อนวเสสปริยาทานํ, เตน เย สุตฺเต วุตฺตา จ ธมฺมา, เย จ เตสํ การณภูตํ, เตสํ สพฺเพสมฺปีติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพธมฺมยาถาวอสมฺปฏิเวโธติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กตฺถ ปน โส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปิยายิตพฺพชาติยนฺติ เปมนียสภาวํ. มิจฺฉาปฏิปทาติ ปมาทาปตฺติ, มิจฺฉาภินิเวโส วา. เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ ปาณาติปาตเจตนา เวรปฺปสวนโต โทสสฺส, เอกวารํ อุปฺปนฺนาปิ ปมาทาปตฺติ, มิจฺฉาภินิเวโส วา โมหสฺส อุปฺปตฺติการณนฺติ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ นยโต นิทฺธาเรตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โทสสฺส…เป… อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. นิมิตฺตตฺถคฺคหณลกฺขณํ วณฺณสณฺานํ, อนุพฺยฺชนตฺถคฺคหณลกฺขณํ อนุพฺยฺชนนฺติ ‘‘นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคหณลกฺขณา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตตฺถ นิมิตฺตํ อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ. อนุพฺยฺชนํ หตฺถปาทหสิตกถิตาทิ. ผสฺโส ปจฺจโย เอติสฺสาติ ผสฺสปจฺจยา, ตํภาโว ผสฺสปจฺจยตา. อสฺสาเทติ เอตายาติ อสฺสาโท, ตณฺหา.

วตฺถูนิ เยฺยธมฺโมติ อาห ‘‘วตฺถุอวิปฺปฏิปตฺติ วิสยสภาวปฏิเวโธ’’ติ. อิธาธิปฺเปตํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สีลสมาธิสมฺปทาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอกเทสุปลกฺขณวเสน, วณฺณคนฺธราคิสปฺปายวเสน วา ปาฬิยํ ‘‘วินีลกวิปุพฺพกคฺคหณลกฺขณา อสุภสฺา’’ติ วตฺวา ‘‘ตสฺสา นิพฺพิทาปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ นิพฺพิทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิพฺพิทา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปริตสฺสนโต วิเสเสตุํ ‘‘าเณนา’’ติ วิเสสิตํ. ตถา ปวตฺตนฺติ นิพฺพิทนากาเรน ปวตฺตนํ.

โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺติยา วิเทหรฺโ ธีตาย รุจาย ชาติสฺสราณํ กมฺมสฺสกตฺาณสฺส การณํ อโหสิ, น ปน อสปฺปุริสูปนิสฺสยโต, อโยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตสฺส ตสฺเสว รฺโ เสนาปติโน อลาตสฺส พีชกสฺส ทาสสฺสาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมสฺส จ…เป… อุทาหริตพฺโพ’’ติ อาห. โสติ ปสาโท. อวตฺถาวิเสโสติ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนาวิลภาวลกฺขิโต อวตฺถาเภโท. อายตนคโตติ านคโต, รตนตฺตยวิสโยติ อตฺโถ. ‘‘กาโย’’ติอาทินา อวตฺถาวิเสเสน วินา สภาวสิทฺธเมว ปทฏฺานํ ทสฺเสติ.

อิมสฺมึ จ าเน ปาฬิยํ ปุพฺเพ เยสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานํ นิทฺธาริตํ, เต ธมฺมา เยสํ ธมฺมานํ ปทฏฺานานิ โหนฺติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ อารทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ. อสฺสาทมนสิกาโร อโยนิโสมนสิการลกฺขโณ วุตฺโต นิทสฺสนมตฺตอตฺโถติ เวทิตพฺโพ, เยภุยฺเยน สตฺตานํ โลภวเสน อโยนิโสมนสิการา สํวตฺตนฺตีตฺติ ทสฺสนตฺถํ วา เอวํ วุตฺตํ. อุปปตฺติ เอว โอปปจฺจยํ, ตสฺส ภาโว โอปปจฺจยิกนฺติ อาห ‘‘อุปปตฺติภวภาเวนา’’ติ. ววตฺถิตภาโวติ ววตฺถิตภาโว รูปสฺส ทสฺสนาทิปฏินิยตารมฺมณกิจฺจตา. ภวสฺส องฺคานีติ ภวสฺส การณานิ. ทุติเย องฺคานีติ อวยวา, กมฺมวฏฺฏมฺปิ วา การณงฺคภาเวน โยเชตพฺพํ.

กมฺมฏฺานสฺสาติ ภาวนาย พฺรูหนา วฑฺฒนา. เตสูติ ติตฺถฺุตาทีสุ. กลฺยาณมิตฺตสฺส สมฺมเทว ปยิรุปาสนายปีติ ตํ นิสฺสาย ลทฺเธน สพฺพาย ธมฺมสฺสวเนน ธมฺมุปสํหิตํ ปาโมชฺชํ โหตีติ ติตฺถฺุตา ปีตฺุตาย ปทฏฺานํ. เอวํ ยาย วิมุตฺติยา สติ วิมุตฺติาณทสฺสนํ โหตีติ สา ตสฺส ปทฏฺานนฺติ อยมตฺโถ ปากโฏติ อาห ‘‘ปุริมานํ…เป… สุวิฺเยฺโย เอวา’’ติ. สห อธิฏฺาเนนาติ าตปริฺาย สทฺธึ. าตปริฺา หิ ตีรณปริฺาย อธิฏฺานํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปทฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา

๒๓. ‘‘ลกฺขณหารสฺส วิสยํ ปุจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘โก ปน ตสฺส วิสโย’’ติ วุตฺเต สมานลกฺขณา อวุตฺตธมฺมา. กายานุปสฺสนาย สมารทฺธาย เวทนานุปสฺสนาทโย สุเขเนว สิชฺฌนฺตีติ ตพฺพจเนน เวทนาคตาสติอาทีนํ วุตฺตภาโว ทสฺสิโต สติปฏฺานภาเวน เอกลกฺขณตฺตาติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส สทฺธานุคฺคหิตานิ วีริยสติสมาธิปฺินฺทฺริยานิ สาธนํ, เอวํ อิตเรสมฺปีติ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ อตฺโถ อฏฺกถายเมว (เนตฺติ. อฏฺ. ๕๑) ปรโต อาคมิสฺสติ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ เอกลกฺขณตานิทฺเทเสสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรโตติ จตุพฺยูหหารวณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๐).

อสมฺมิสฺสโตติ เวทนาทโยปิ เอตฺถ สิตา เอตฺถ ปฏิสนฺธาติ กาเย เวทนาทิอนุปสฺสนาปสงฺเคปิ อาปนฺเน ตทสมฺมิสฺสโตติ อตฺโถ.

อวยวิคาหสมฺาติธาวนสาราทานาภินิเวสนิเสธนตฺถํ กายํ องฺคปจฺจงฺเคหิ, ตานิ จ เกสาทีหิ, เกสาทิเก จ ภูตุปาทายรูเปหิ วินิพฺภุชิตุํ ‘‘ตถา น กาเย’’ติอาทิมาห. ปาสาทาทินคราวยวสมูเห อวยวิวาทิโนปิ อวยวิคาหณํ กโรนฺติ. นครํ นาม โกจิ อตฺโถ อตฺถีติ ปน เกสฺจิ สมฺาติธาวนํ สิยาติ อิตฺถิปุริสาทิสมฺาติธาวเน นครนิทสฺสนํ วุตฺตํ. อฺโ โกจิ สตฺตาทิโก. ยํ ปสฺสติ อิตฺถึ, ปุริสํ วา. นนุ จกฺขุนา อิตฺถิปุริสทสฺสนํ นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ‘‘อิตฺถึ ปสฺสามิ, ปุริสํ ปสฺสามี’’ติ ปน ปวตฺตสมฺาวเสน ‘‘ยํ ปสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. มิจฺฉาทสฺสเนน วา ทิฏฺิยา ยํ ปสฺสติ, น ตํ ทิฏฺํ รูปายตนํ โหติ, รูปายตนํ วา ตํ น โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ตํ โกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ ทิฏฺํ น โหติ, ทิฏฺํ วา ยถาวุตฺตํ น โหตีติ อตฺโถ. ยํ ทิฏฺํ ตํ น ปสฺสตีติ ยํ รูปายตนํ, เกสาทิภูตุปาทายสมูหสงฺขาตํ วา ทิฏฺํ, ตํ ปฺาจกฺขุนา ภูตโต น ปสฺสตีติ อตฺโถ.

น อฺธมฺมานุปสฺสีติ น อฺสภาวานุปสฺสี, อสุภาทิโต อฺาการานุปสฺสี น โหตีติ วุตฺตํ โหติ.

ปถวีกายนฺติ เกสาทึ ปถวีธมฺมสมูหตฺตา ‘‘กาโย’’ติ วทติ, ลกฺขณปถวิเมว วา อเนกเภทภินฺนํ สกลสรีรคตํ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมานํ สมูหวเสน คเหตฺวา ‘‘กาโย’’ติ วทติ. เอวํ อฺตฺถาปิ.

อาการสมูหสงฺขาตสฺสาติ อนิจฺจตาทิอาการสมุทายปริยายสฺส.

ตีสุ ภเวสุ กิเลเสติ ภวตฺตยวิสยกิเลเส. สพฺพตฺถิกนฺติ สพฺพตฺถ ลีเน, อุทฺธเต จ จิตฺเต อิจฺฉิตพฺพตฺถา, สพฺเพ วา ลีเน, อุทฺธเต จ ภาเวตพฺพา โพชฺฌงฺคา อตฺถิกา เอตายาติ สพฺพตฺถิกา. อนฺโต สงฺโกโจติ อนฺโต โอลียนา, โกสชฺชนฺติ อตฺโถ.

๒๔. คหิเตสูติ ภาวนาคฺคหเณน คหิเตสุ, ภาวิเตสูติ อตฺโถ, วจเนน วา คหิเตสุ. ภาวนาคฺคหณทีปนตฺถตฺตา ปน วจเนน คหณสฺส ภาวนาคฺคหณเมตฺถ ปธานํ. ยสฺส สติปฏฺานา ภาวิตา, ตสฺส สมฺมปฺปธานาทโย โพธิปกฺขิยธมฺมา น ภาวิตาติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ จ สมานลกฺขณตาปเทเสน อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูรึ คจฺฉนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

วิปลฺลาสาปหียนฺติ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต. ‘‘อาหารสมุทยา กายสฺส สมุทโย, ผสฺสสมุทยา เวทนานํ สมุทโย (สํ. นิ. ๕.๔๐๘), สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑, ๓๙; ม. นิ. ๓.๑๒๖; มหาว. ๑; อุทา. ๑; วิภ. ๒๒๕) วจนโต กายาทีนํ สมุทยภูตา กพฬีการาหารผสฺสมโนสฺเจตนาวิฺาณาหารากายาทีนํ ปริชานเนน ปริฺาตา โหนฺติ ตปฺปฏิปกฺขปฺปหานโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จตฺตาโรอาหารา’’ติอาทิมาห. สพฺพตฺถาติ ‘‘อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวตี’’ติ เอวมาทีสุ.

ตตฺถ ยสฺมา ปฺจ กามคุณา สวิเสสา กาเย ลพฺภนฺตีติ วิเสเสน กาโย กามุปาทานสฺส วตฺถุ, สุขเวทนสฺสาทวเสน ปรโลกนิรเปกฺโข ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทิ (ที. นิ. ๑.๑๗๑; ม. นิ. ๑.๔๔๕; ๒.๙๔-๙๕, ๒๒๕; ๓.๙๑, ๑๑๖; สํ. นิ. ๓.๒๑๐; ธ. ส. ๑๒๒๑; วิภ. ๙๓๘) ปรามาสํ อุปฺปาเทตีติ ทิฏฺุปาทานสฺส เวทนา, จิตฺเต นิจฺจคฺคหณวเสน สสฺสตสฺส ‘‘อตฺตโน สีลาทิวเสน ปริสุทฺธปรามสนํ โหตี’’ติ สีลพฺพตุปาทานสฺส จิตฺตํ, นามรูปปริจฺเฉเทน ภูตํ ภูตโต อปสฺสนฺตสฺส ‘‘อตฺตาภินิเวโส โหตี’’ติ อตฺตวาทุปาทานสฺส ธมฺมา วตฺถุ, ตสฺมา ‘‘จตูสุ สติปฏฺาเนสุ ภาวิยมาเนสุ อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวตี’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺมา ปน วุตฺตนเยเนว กาโย กามโยคสฺส วตฺถุ, ภเวสุ สุขคฺคหณวเสน ภวสฺสาโท โหตีติ ภวโยคสฺส เวทนา, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน จิตฺเต อตฺตาภินิเวโส โหตีติ ทิฏฺิโยคสฺสจิตฺตํ, ธมฺมวินิพฺโภคสฺส ทุกฺกรตฺตา, ธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย จ ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา สมฺโมโห โหตีติ อวิชฺชาโยคสฺส ธมฺมา, วตฺถุ, ตสฺมา จตุสติปฏฺานภาวนาย เตสุ เตสํ ปหานสิทฺธิโต โยเคหิ วิสํยุตฺตตา วุตฺตา. เอเตเนว อาสเวหิ อนาสวตา, โอเฆหิ นิตฺติณฺณตา จ สํวณฺณิตา โหติ กามราคาทีนํ เอว กามโยคกามาสวกาโมฆาทิภาวโต.

วุตฺตนเยเนว กาโย อภิชฺฌากายคนฺถสฺส วตฺถุ, ‘‘ทุกฺขาย เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตา เวทนา วิเสเสน พฺยาปาทกายคนฺถสฺส วตฺถุ, จิตฺเต นิจฺจาภินิเวสวเสน สสฺสตสฺส ‘‘อตฺตโน สีเลน สุทฺธี’’ติอาทิปรามสนํ โหตีติ สีลพฺพตปรามาสสฺส จิตฺตํ วตฺถุ, สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนาภาวโต ภววิภวทิฏฺิสงฺขาโต อิทํสจฺจาภินิเวโส โหตีติ ตสฺส ธมฺมา วตฺถูติ จตุสติปฏฺานาติ โยเชตพฺพํ.

วุตฺตนเยเนว วิเสสโต กาโย ราคสลฺลสฺส วตฺถุ, เวทนา โทสสลฺลสฺส, ‘‘จิตฺตํ นิจฺจคฺคหณวเสน อตฺตาภินิเวสํ อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ทหตี’’ติ จิตฺตํ มานสลฺลสฺส, วุตฺตนเยเนว ธมฺมา โมหสลฺลสฺส วตฺถูติ จตุสติปฏฺานาติ โยเชตพฺพํ.

ยสฺมา ปน กายานุปสฺสนาทีหิ กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปริฺาเตสุ รูปเวทนาสฺาสงฺขารกฺขนฺธา ปริฺาตา โหนฺติ, จิตฺเต หิ ปริฺาเต สฺาปิ ปริฺาตาว โหติ, ตสฺมา ‘‘วิฺาณฏฺิติโย จสฺส ปริฺํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

ตถา วิเสสโต กาเย สาเปกฺขา ฉนฺทาคตึ คจฺฉตีติ กาโย ฉนฺทาคติยา วตฺถุ, วุตฺตนเยเนว เวทนา พฺยาปาทสฺส นิมิตฺตนฺติ สา โทสาคติยา วตฺถุ, สนฺตติฆนคฺคหณวเสน สราคาทิจิตฺเต สมฺโมโห โหตีติ โมหาคติยา จิตฺตํ, ธมฺมสภาวานวโพเธน ภยํ โหตีติ ภยาคติยา ธมฺมา วตฺถูติ จตุสติปฏฺานภาวนาย อคติคมนปฺปหานํ โหตีติ อาห ‘‘อคติคมเนหิ จ น อคตึ คจฺฉตี’’ติ.

‘‘อกุสลสฺส โสมนสฺสสฺส วเสนา’’ติ อิทํ ‘‘อยมฺปิ อตฺโถ สมฺภวตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ. ‘‘สุขาย เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕) ปน วจนโต สุขเวทนาคฺคหเณน ตตฺถานุสยเนน สมุทยสจฺจํ เทสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. เทสิตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ ทุกฺขทุกฺขคฺคหเณน สาติสยํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ ปกาสิตํ โหตีติ ปาฬิยํ ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจํ เทสิต’’นฺติ วุตฺตํ. สหจรณาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา นิทฺเทสวารวณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๕ อาทโย) วุตฺตํ.

ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา

๒๕. หารานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. หาเรสุ อิมสฺส จตุพฺยูหหารสฺส วิเสสโต สุตฺตสฺส พฺยฺชนวิจยภาวโตติ โยชนา. เตน วุตฺตํ ‘‘พฺยฺชน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ยายาติ นิรุตฺติยา.

ยถารหนฺติ สํวณฺณิยมาเน สุตฺเต ยํ ยํ อรหติ นิพฺพจนํ วตฺตุํ, ตํตํโลกสมฺานุโรเธเนว. ปุพฺพภาคปฏิปทา สมฺปาเทตฺวา ปจฺฉา สจฺจาภิสมยํ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘สมฺมุติ…เป… โหตี’’ติ, ตํตํปฺตฺติคฺคหณมุเขน ปรมตฺถคฺคหณํ โหตีติ เอวํ วา อิมินา สมฺพนฺโธ.

ยมิทํ อนินฺทฺริยพทฺธรูปสนฺตานํ สนฺธาย ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ อิธ วุตฺตํ. โอตรณหาเร (เนตฺติ. อฏฺ. ๔๒ อาทโย) ปนสฺส ทฺวารปฺปวตฺตผสฺสาทิธมฺเม สนฺธาย วุตฺตภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุภยมนฺตเรนาติ ผสฺสสมุทิเตสุ ธมฺเมสู’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. อฏฺกถาจริยา ปนาหุ ‘‘อนฺตเรนาติ วจนํ ปน วิกปฺปนฺตรทีปน’’นฺติ. ตสฺมา อยเมตฺถ อตฺโถ – น อิมํ โลกํ, น หุรํ โลกํ, อถ โข อุภยมนฺตเรนาติ. อปโร วิกปฺโป – อุภยมนฺตเรนาติ วา วจนํ วิกปฺปนฺตราภาวทีปนํ. ตสฺสตฺโถ – น อิมํ โลกํ, น หุรํ โลกํ นิสฺสาย ฌายติ ฌายี, อุภยมนฺตเรน ปน อฺํ านํ อตฺถีติ.

เยปิ จ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายี, สมฺภเวสี’’ติ จ อิเมสํ สุตฺตปทานํ อตฺถํ มิจฺฉา คเหตฺวา อตฺถิ เอว อนฺตราภโวติ วทนฺติ, เตปิ ยสฺมา อวิหาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนวเสสกิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนฺตีติ อนฺตราปรินิพฺพายี, น อนฺตราภวภูโตติ ปุริมสฺส สุตฺตปทสฺส อตฺโถ. ปจฺฉิมสฺส จ เย ภูตา เอว, น ปุน ภวิสฺสนฺติ, เต หิ (กถา. อนุฏี. ๕๐๗) ขีณาสวา, ปุริมปเทหิ ‘‘ภูตา’’ติ วุตฺตา. ตพฺพิปรีตตาย สมฺภวํ เอสนฺตีติ สมฺภเวสิโน. อปฺปหีนภวสํโยชนตฺตา เสกฺขา, ปุถุชฺชนา จ. จตูสุ วา โยนีสุ อณฺฑชชลาพุชสตฺตา ยาว อณฺฑโกสํ, วตฺถิโกสฺจ น ภินฺทนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม. อณฺฑโกสโต, วตฺถิโกสโต จ พหิ นิกฺขนฺตา ภูตา นาม. สํเสทชโอปปาติกา จ ปมจิตฺตกฺขเณ สมฺภเวสี นาม, ทุติยจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ภูตา นาม. เยน วา อิริยาปเถน ชายนฺติ, ยาว ตโต อฺํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สมฺภเวสี, ตโต ปรํ ภูตาติ อตฺโถ, ตสฺมา นตฺถีติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. สติ หิ อุชุเก ปาฬิอนุคเต อตฺเถ กึ อนิทฺธาริตสามตฺถิเยน อนฺตราภเวน อตฺตภาวปริกปฺปิเตน ปโยชนนฺติ.

ยํ ปน เย ‘‘สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาโว ทิฏฺโ. ยถา ตํ วีหิอาทิอวิฺาณกสนฺตาเน, เอวํ สวิฺาณกสนฺตาเนปิ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาเวน ภวิตพฺพํ. อยฺจ นโย สติ อนฺตราภเว ยุชฺชติ, นาฺถา’’ติ ยุตฺตึ วทนฺติ. เตหิ อิทฺธิมโต เจโตวสิปฺปตฺตสฺส จิตฺตานุคติกํ กายํ อธิฏฺหนฺตสฺส ขเณน พฺรหฺมโลกโต อิธูปสงฺกมเน, อิโต วา พฺรหฺมโลกคมเน ยุตฺติ วตฺตพฺพา. ยทิ สพฺพตฺเถว วิจฺฉินฺนเทเส ธมฺมานํ ปวตฺติ น อิจฺฉิตา, ยทิปิ สิยา ‘‘อิทฺธิวิสโย อจินฺเตยฺโย’’ติ, ตํ อิธาปิ สมานํ ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย’’ติ วจนโต, ตสฺมา ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. อจินฺเตยฺยสภาวา หิ สภาวธมฺมา, เต กตฺถจิ ปจฺจยวิเสเสน วิจฺฉินฺนเทเส ปาตุภวนฺติ, กตฺถจิ อวิจฺฉินฺนเทเส จ. ตถา หิ มุขโฆสาทีหิ อฺสฺมึ เทเส อาทาสปพฺพตปฺปเทสาทิเก ปฏิพิมฺพปฏิโฆสาทิกํ ปจฺจยุปฺปนฺนํ นิพฺพตฺตมานํ ทิสฺสติ, ตสฺมา น สพฺพํ สพฺพตฺถ อุปเนตพฺพนฺติ อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน ปฏิพิมฺพสฺส อุทาหรณภาวสาธนาทิโก อนฺตราภววิจาโร กถาวตฺถุปฺปกรณสฺสฏีกายํ (กถา. อนุฏี. ๕๐๗) คเหตพฺโพ.

อปเร ปน ‘‘อิธาติ กามภโว, หุรนฺติ อรูปภโว, อุภยมนฺตเรนาติ รูปภโว วุตฺโต’’ติ วทนฺติ, ‘‘อิธาติ ปจฺจยธมฺมา, หุรนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมา, อุภยมนฺตเรนาติ ปณฺณตฺติธมฺมา วุตฺตา’’ติ จ วทนฺติ, ตํ สพฺพอฏฺกถาสุ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อวสิฏฺํ รูปนฺติ อาโปธาตุอากาสธาตูหิ สทฺธึ ลกฺขณรูปานิ, โอชฺจ สนฺธายาห อนินฺทฺริยพทฺธรูปสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตสฺส ขีณาสวสฺส ตํ นิพฺพานารมฺมณํ จิตฺตํ น ชานนฺติ น ายนฺติ ‘‘ฌายมานา’’ติ วุตฺตตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

จตุพฺยูหหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา

๒๙. อกุสลานํ ธมฺมานํ วิทฺธํสนสภาวตฺตา, อกุสลานํ วา ปชหเน กุสลานํ สมฺปาทเน ปฏฺปนสภาวตฺตา อารมฺภธาตุ. ตถาภูตาติ สีลาทีหิ สมงฺคีภูตา. กามธาตุอาทิกา ติธาตุโยว เตธาตุ. ตสฺส อภิภวนโต เตธาตุอิสฺสโร มจฺจุราชา. อนาทิมติสํสาเร จิรกาลํ ลทฺธปติฏฺาปิ อจิรกาลํ ภาวิเตหิ กุสเลหิ ธมฺเมหิ สมุจฺฉินฺทนียตฺตา อพลา กิเลสาติ วุตฺตํ ‘‘อพลํ ทุพฺพล’’นฺติ. เตนาห ‘‘อพลา นํ พลียนฺตี’’ติ.

อิทํ วจนํ อยํ คาถาปาโท. สมาธิสฺส ปทฏฺานนฺติ เอตฺถ สมาธิสฺส การณํ สมตานุโยเค นิโยชนโตติ โยเชตพฺพํ. เอส นโย เสเสสุปิ. ปปฺจาติ ราคาทโยว. ตถา เจว สํวณฺณิตนฺติ เทสนาย ปทฏฺานภาเวเนว อตฺถสํวณฺณนา กตาติ อตฺโถ.

นฺติ ตํ เทสนํ. ตสฺสาติ สภาคาทิวเสน อาวฏฺฏนสฺส. ปริปกฺกาณานํ วิเสสาธิคมาย. ลาภวินิจฺฉยปริคฺคหมจฺฉริยานีติอาทีสุ ลาโภติ รูปาทิอารมฺมณปฺปฏิลาโภ. โส ปริเยสนาย สติ โหตีติ ปริเยสนาคฺคหเณน คหิโต. วินิจฺฉโยติ ‘‘เอตฺตกํ เม รูปารมฺมณตฺถาย ภวิสฺสติ, เอตฺตกํ สทฺทาทิอารมฺมณตฺถาย, เอตฺตกํ มยฺหํ, เอตฺตกํ ปรสฺส, เอตฺตกํ ปริภุฺชิสฺสามิ, เอตฺตกํ นิทหิสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺโต วิตกฺโก วินิจฺฉโย. โส ลาปิตเหตุกตฺตา ปริเยสนมูลกตาย ปริเยสนาคฺคหเณเนว คหิโต, ตถา ปริคฺคหมจฺฉริยานิ. ตตฺถ ปริคฺคโห ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคณฺหนํ. มจฺฉริยํ ‘‘มยฺเหว โหตู’’ติ ปเรหิ สาธารณภาวาสหนํ. เตเนวสฺส โปราณา เอวํ วจนตฺถํ วทนฺติ ‘‘มยฺเหวิทมจฺฉริยํ โหตุ, มา อฺเสํ อจฺฉริยํ โหตูติ ปวตฺตตฺตา มจฺฉริยนฺติ วุจฺจตี’’ติ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๑๐๓; อ. นิ. อฏฺ. ๓.๙.๒๓). ปริโภคตฺถานํ ปน วินิจฺฉยาทีนํ ปริโภคนฺโตคธตา เวทิตพฺพา. ฉนฺทราโค ทุพฺพลราโค. อชฺโฌสานํ ‘‘มม อิท’’นฺติ ตณฺหาวเสน พลวสนฺนิฏฺานนฺติ อาห ‘‘ฉนฺทราคอชฺโฌสานา ตณฺหา เอวา’’ติ. อารกฺขนิมิตฺตํ ทฺวารปิทหนมฺชูสาโคปนาทินา สุฏฺุ รกฺขณนิมิตฺตํ. ปาปานิ กโรนฺโต ปริโภคนิมิตฺตํ รตฺโต คิทฺโธ คธิโต มุจฺฉิโต หุตฺวา มิโคว ปริภุฺชนนิมิตฺตํ ปมาทํ อาปชฺชตีติ เอวํ ปริเยนารกฺขา ปริโภคนิมิตฺตํ. ปมาโท ติวิโธ ตณฺหาย วเสน กถิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ติวิโธ ตณฺหายาติ วุตฺต’’นฺติ อาห.

อวิเสเสน วุตฺตนฺติ ‘‘กตเมน อุปาทาเนน สอุปาทานา’’ติ วิภาเคน ปุจฺฉิตฺวาปิ ‘‘อวิชฺชาย จ ตณฺหาย จา’’ติ อวินิพฺภุชิตฺวา วุตฺตํ. ตณฺหฺจ อวิชฺชฺจ จตุรุปาทานํวเสนาติ กามุปาทานาทีนํ จตุนฺนํ อุปาทานานํ วเสน วิภชิตฺวา ขนฺธานํ ทุกฺขภาเวน ทุกฺขสจฺจภาเวน สห ปริฺเยฺยภาวํ, อุปาทานานํ สมุทยภาเวน สมุทยสจฺจภาเวน สห ปหาตพฺพภาวํ ทสฺเสตีติ โยชนา.

๓๐. ‘‘โย’’ติอาทินา วุตฺโต ติวิโธ ปมาโท ปริเยสติ, อารกฺขณฺจ กโรติ, ปริโภคนิมิตฺตฺจาติ สมฺพนฺโธ. ปมาโท หิ ปมชฺชนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส โภคานํ ปริเยสนาย, อารกฺขณาย จ เหตุภูโต กตฺตุภาเวน อุปจริโต, ปริโภคสฺส ปน นิมิตฺตํ. ‘‘ตปฺปฏิปกฺเขนา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ ‘‘อปฺปมาทานุโยเคนา’’ติ, เตน สมถภาวํ ทสฺเสติ . เขปนาติ ขยปาปนา. โวทานปกฺขวิสภาคธมฺมวเสนาติ โวทานปกฺโข จ โส ปมาทสฺส วิสภาคธมฺโม จาติ โวทาน…เป… ธมฺโม, สมโถ, ตสฺส วเสน.

สมเถ สตีติ อธิฏฺานภูเต ฌาเน สติ, ตํ ปาทกํ กตฺวาติ อตฺโถ. ยา ปฺาติ นามรูปปริจฺเฉทาทิวเสน ปวตฺตปฺา. เตนาห ‘‘อยํ วิปสฺสนา’’ติ. ปหีเนสูติ ปหียมาเนสุ.

โวทานปกฺขนฺติ อารมฺภธาตุอาทิโวทานปกฺขํ นิกฺขิปิตฺวา. วิสภาคธมฺมวเสนาติ ปมาทวเสเนว. สภาคธมฺมวเสนาติ ปุพฺเพ นิกฺขิตฺตสฺส อารมฺภธาตุอาทิโวทานธมฺมสฺส สมถาทิสภาคธมฺมวเสน.

ปุน อปริโยทาปนิยํ สิขาปฺปตฺตปริโยทาปนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ตํ ปน อรหตฺเตน โหตี’’ติ.

โมหสมุฏฺานตา วุตฺตา ‘‘โมโห เอว สมุฏฺาน’’นฺติ กตฺวา. อฺถา ปิสุณาวาจาย โทสสมุฏฺานตา มุสาวาทสฺส วิย โมหสมุฏฺานภาวา วตฺตพฺพา สิยา.

กมฺมปถภาวํ ปตฺตานํ, อปฺปตฺตานฺจ อกุสลธมฺมานํ ‘‘สพฺพปาป’’นฺติ ปเทน ปริคฺคหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘กมฺมปถกมฺมวิภาเคนา’’ติ.

๓๑. เสสปทานนฺติ ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติอาทีนํ (ที. นิ. ๒.๙๐; ธ. ป. ๑๘๓; เนตฺติ. ๓๐, ๕๐, ๑๑๖, ๑๒๔; เปฏโก. ๒๙) คาถาย อวสิฏฺปทานํ. ยถาธิคตนฺติ อตฺตนา อธิคตปฺปการํ, ปจฺฉา ภูมิทิสา.

อุปริยาเปนฺตีติ มนุสฺสโลกโต อุปริฏฺิมํ เทวโลกํ คเมนฺติ.

๓๒. ยถาวุตฺตสฺส ธมฺมสฺสาติ สีลสฺส จ มคฺคสฺส จ. ตณฺหาวิชฺชาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน ตเทกฏฺกิเลสา คยฺหนฺติ, เตสํ ปทฏฺานธมฺมา จ. สมถวิปสฺสนาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน สามฺผลานํ สงฺคโห. ยทคฺเคน เจตฺถ ‘‘นิโรโธ รกฺขตี’’ติ วุตฺโต, ตทคฺเคน มคฺโค รกฺขณกิริยาย กรณํ วุตฺตํ ‘‘เยน รกฺขตี’’ติ. วิสภาคธมฺมวเสน ปุริมานิ สภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน ปจฺฉิมานิ สจฺจานิ นิทฺธาริตานีติ โยเชตพฺพํ.

อาวฏฺฏหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๓. ธมฺเมสูติ ปุฺาทิทานาทิเภทภินฺเนสุ สภาวธมฺเมสุ. ตตฺถ ลพฺภมาโนติ เตสุ ยถาวุตฺเตสุ ธมฺเมสุ ลพฺภมาโน. ภูมิวิภาโคติ กามาวจราทิทสฺสนาทิภูมิปฺปเภโท. ปทฏฺานวิภาโคติ เต ปุฺาทิธมฺมา เยสํ ปทฏฺานํ, เตสํ วา เย ธมฺมา ปทฏฺานํ, ตพฺพิภาโค. เยสํ สุตฺตานนฺติ มูลปทฏฺานภูตานํ สํกิเลสภาคิยาทีนํ จตุนฺนํ สุตฺตานํ วเสน. อสงฺกรววตฺถาเนน หิ เอเตสุ สุตฺเตสุ สาติสยํ ธมฺมา วิภตฺตา นาม โหนฺติ. เตนาห ‘‘วิเสสโต’’ติ. ยทิ เอวํ กสฺมา วาสนาภาคิยนิพฺเพธภาคิยสุตฺตานิ เอเวตฺถ คหิตานีติ? นยิทเมวํ นิกฺขมนปริโยสานภาเวน อิตเรสมฺปิ คหิตตฺตา. ยโต หิ นิสฺสฏา วาสนาภาคิยา ธมฺมา, เต สํกิเลสภาคิยา. ยํปริโยสานา นิพฺเพธภาคิยา ธมฺมา, เต อเสกฺขภาคิยาติ ทฺวยคฺคหเณเนว อิตรมฺปิ ทฺวยํ คหิตเมว โหติ. เตนาห ‘‘อิเมสํ จตุนฺนํ สุตฺตานํ เทสนายา’’ติ. อิมานิ จตฺตาริ สุตฺตานีติ ปาฬิยา, วกฺขมานาย เทสนาย วา อิตรทฺวยสงฺคโห ทฏฺพฺโพ, น ปฏิกฺเขโป.

เตเนวาติ นิยมสฺส อกตตฺตา, ตโต จ เตน ตนฺนิสฺสิเตน จ พฺรหฺมจารี ภวตีติ สิทฺธํ โหติ. เอว-สทฺโท วา สมุจฺจยตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สิยา ตสฺส ปฏิกฺเขโปติ ตสฺส อฏฺสมาปตฺติพฺรหฺมจริยสฺส สิยา ปฏิกฺเขโป. เอวํ สติ สาวเสสา เทสนา สิยา.

ตทงฺคาทิปฺปหานทฺวยํ ปทฏฺานภูตํ อิธ คณนูปคํ น โหตีติ ‘‘สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานานํ วเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตถา เหตฺถ เกจิ ‘‘เตเนวา’’ติ ปนฺติ. ‘‘เตเนว พฺรหฺมจริเยนาติ ปนฺตี’’ติ อิทํ ‘‘สํวรสีเล ิโต’’ติ (เนตฺติ. ๓๓) เอตฺถ วุตฺตํ ปาฬิวิกปฺปํ สนฺธาย วทติ. ‘‘ยสฺมา…เป… วกฺขตี’’ติ อิทํ ปจฺฉิมปาสฺเสว ยุตฺตตาย การณวจนํ.

กถํ มนฺตาติ? อนิพฺเพธสภาวตฺตา มหคฺคตปุฺานํ น นิพฺเพธภาคิยสุตฺเตน สงฺคโห, วาสนาภาคิยตฺตา ปน วาสนาภาคิยสุตฺเตเนว สงฺคโหติ. ตทุปสงฺคา หิ ปจฺฉิโม เอว ปาโ ยุตฺตตโร. อิตรถา สาวเสสา เทสนา ภเวยฺย. เตนาห ‘‘น หิ…เป… เทเสตี’’ติ.

สํกิเลสภาคิยอเสกฺขภาคิยานํ ปรโต วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘วกฺขมานานํ…เป… วเสนา’’ติ. ‘‘สพฺพโต’’ติ อิทํ ปุพฺพปราเปกฺขํ. ตสฺส ปราเปกฺขตาย ‘‘สพฺพโตภาเคน เอกาทสสุ าเนสุ ปกฺขิปิตฺวา’’ติ อฏฺกถายํ โยชิตํ. ตตฺถ ปทาทิเก วิจยหารปทตฺเถ สนฺธาย ‘‘เอกาทสสุ าเนสู’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺพเปกฺขตาย ปน ‘‘สพฺพโตภาเคน เทสนาย ผเลนา’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ.

สํกิเลสภาคิยานํ ตณฺหาสํกิเลสาทินา เทสนานโย เวทิตพฺโพ. ผลํ อปายทุกฺเขน มนุสฺเสสุ โทภคฺคิเยน. อเสกฺขภาคิยานํ อเสกฺเขหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ เทสนานโย. ผลํ อคฺคผเลน จ อนุปาทิเสสาย จ นิพฺพานธาตุยา เวทิตพฺพํ. อิตเรสํ ปาฬิยํ วุตฺตเมว. กามราคพฺยาปาทอุทฺธมฺภาคิยสํโยชนคฺคหเณน สํกิเลสภาคิยานํ, วิราคคฺคหเณน อเสกฺขคฺคหเณเนว จ อเสกฺขภาคิยานํ วกฺขมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘วกฺขมานานํ…เป… วเสนา’’ติ. ปทปทตฺถวิจารยุตฺตินิทฺธารณมุเขน ธมฺมวิภตฺติอาทิวิจาโร กาตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘วิจเยน…เป… ตพฺพานี’’ติ วุตฺตนฺติ อฏฺกถายํ ‘‘วิจเยน…เป… ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ.

๓๔. เอวนฺติ อิติ. ธมฺเมติ วุตฺตสภาคธมฺเม. สาธารณาสาธารณภาเวหีติ สามฺวิเสเสน วิสิฏฺเหิ. ทฺเว ธมฺมา สาธารณาติ ทฺเว อิเม ธมฺมา เยหิ สภาคธมฺมา สาธารณา นาม โหนฺติ. กตเม ทฺเว? นามํ, วตฺถุ จ. ตตฺถ นามํ นามปฺตฺติ, ตํมุเขเนว สทฺทโต ตทตฺถาวคโม. สทฺเทน จ สามฺรูเปเนว ตถารูปสฺส อตฺถสฺส คหณํ, น วิเสสรูเปน, ตสฺมา สทฺทวจนียา อตฺถา สาธารณรูปนามายตฺตคหณียตาย นามสาธารณา วุตฺตา. วตฺถูติ ปวตฺติฏฺานํ. ยตฺถ หิ เย ธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เตสํ สพฺเพสํ เต ธมฺมา สาธารณาติ ปวตฺติฏฺานสงฺขาตานํ วตฺถูนํ สาธารณา. ยสฺมา ปนิทํ ทฺวยํ เตสํ ธมฺมานํ สาธารณภาเว ปกติภูตํ สภาวภูตํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ธมฺมาติ ทุเว ปกติโย’’ติ. เอกสนฺตติปติตตายาติ สมานสนฺตติปวตฺติยา. เตนาห ‘‘สมานวตฺถุกา’’ติ. ทสฺสนปหาตพฺพานฺหิ ยถา มิจฺฉตฺตนิยตสตฺตา ปวตฺติฏฺานํ, เอวํ อนิยตาปีติ อุภเย หิ เต สมานวตฺถุกา. เอส นโย อิตเรสุปิ. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา หิ ภินฺนสภาวาเปเต ธมฺมา ทสฺสเนน ปหาตพฺพตํ นาติวตฺตนฺตีติ เต นามสามฺตํ ปตฺตา, รูปราคาทโย จ ภาวนาย ปหาตพฺพตนฺติ อาห ‘‘ปหาเนกฏฺา นามสาธารณา’’ติ. ยถา ปน ‘‘วตฺถูนํ สาธารณา วตฺถุสาธารณา’’ติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, เอวํ ‘‘วตฺถุนา สาธารณา วตฺถุสาธารณา’’ติ อยมฺปิ อตฺโถ ลพฺภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สหเชกฏฺา วตฺถุสาธารณา’’ติ อาห. เต หิ อฺมฺํ ผุสนาทิสภาวโต ภินฺนาปิ ยสฺมึ ปวตฺตนฺติ, เตน วตฺถุนา สาธารณา นาม โหนฺติ. เอตฺถ จ ลพฺภมานมฺปิ กุสลาทินามสาธารณํ อนามสิตฺวา วตฺถุสาธารณา ตาว โยชิตาติ เวทิตพฺพา. ปฏิปกฺขาทีหีติ อาทิสทฺเทน สมานผลตาสหพฺยตาทิเก สงฺคณฺหาติ. เสสปเทสูติ ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติอาทิวากฺเยสุ. กถํ? ตตฺถ หิ ปุถุชฺชนสฺส, โสตาปนฺนสฺส จ สมฺภวโต อนาคามิโน, อรหโต จ อสมฺภวโตติอาทินา โยเชตพฺพํ.

กถํ เต โอธิโส คหิตาติ เกนากาเรน เต ‘‘สาธารณา’’ติ วุตฺตธมฺมา ภาคโส คหิตา. ‘‘อมุกสฺส, อมุกสฺส จา’’ติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. สามฺภูตา ธมฺมา สาธารณา นาม, เอวํ สนฺเต กถํ เตสํ มิจฺฉตฺตนิยตานิยตาทิวเสน วิภาเคน ปวตฺติฏฺานตา วุจฺจติ, น วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อถ วิภาเคน ตํ วตฺตพฺพํ, นนุ เต สาธารณาติ น วตฺตพฺพเมวาติ? เอวํ สาธารณาติ มิจฺฉตฺตนิยตานํ, อนิยตานนฺติ อิเมสํ อุภเยสํเยว เต ธมฺมา สาธารณา. เตนาห – ‘‘น สพฺพสตฺตานํ สาธารณตาย สาธารณา’’ติ. ‘‘ยสฺมา’’ติอาทินา ตตฺถ การณมาห, เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘เกจิ ธมฺมา เกสฺจิเทว ธมฺมานํ สาธารณา โหนฺติ, อฺเสํ อสาธารณา’’ติ. เตนาห ‘‘ปฏินิยตฺหิ เตสํ ปวตฺติฏฺาน’’นฺติ.

อิตรถาติ อนิยตปวตฺติฏฺานตาย สพฺเพสํ สาธารณา, อสาธารณา วา สิยุํ, ตถา สติ. ตถา โวหาโรติ ‘‘สาธารณา, อสาธารณา’’ติ จ อยํ โวหาโร สามฺา เอว น ภเวยฺย. เอเต เอว ธมฺมาติ ‘‘สาธารณา’’ติ วุตฺตธมฺมา เอว. เอวนฺติ ‘‘มิจฺฉตฺตนิยตาน’’นฺติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน. นิยตวิสยา ปริจฺฉินฺนปฺปวตฺติฏฺานา. ‘‘โยปี’’ติอาทิ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปากฏกรณํ. ‘‘น หี’’ติอาทินา อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ ตเมวตฺถํ วิภาเวติ. เสเสปีติ ‘‘ภาวนาปหาตพฺพา’’ติ เอวมาทิมฺหิปิ.

ปจฺจตฺตนิยโตติ ปาฏิปุคฺคลิโก. อิตรสฺสาติ อปจฺจตฺตนิยตสฺส. ตถาติ อสาธารณภาเวน. โกจิ ธมฺโม กฺจิ ธมฺมํ อุปาทาย สาธารโณปิ สมาโน ตทฺํ อุปาทาย อสาธารโณปิ โหตีติ อาห ‘‘สาธารณาวิธุรตายา’’ติ. เตนาห ‘‘ตํ ตํ อุปาทายา’’ติอาทิ. ตถา หิ ‘‘ธมฺมตา’’ติ วุตฺตปมมคฺคฏฺตา ทีปิตา, ตาทิสานํ เอว อเนเกสํ อริยานํ วเสน สาธารณาติ . ปมสฺสาติ อฏฺมกสฺส. ทุติยสฺสาติ โสตาปนฺนสฺส. ปุน อฏฺมกสฺสาติ ‘‘อฏฺมกสฺส, อนาคามิสฺส จา’’ติ เอตฺถ วุตฺตอฏฺมกสฺส. เตนาห ‘‘อนาคามิมคฺคฏฺสฺสา’’ติ. อคฺคผลฏฺโต ปฏฺาย ปฏิโลมโต คณิยมาโน ปมมคฺคฏฺโ อฏฺมโก, มคฺคฏฺตาย, ปหียมานกิเลสตาย จ สพฺเพปิ มคฺคฏฺา อฏฺมกา วิยาติ อฏฺมกา, ‘‘เอกจิตฺตกฺขณโต อุทฺธํ น ติฏฺตีติ อฏฺมโก’’ติ อปเร นิรุตฺตินเยน. ‘‘เสกฺขา’’ติ นามํ สาธารณนฺติ สมฺพนฺโธ. อิตเรสูติ ‘‘ภพฺพาภพฺพา’’ติ วุตฺเตสุ อนริเยสุ. เตนาห ปาฬิยํ ‘‘หีนุกฺกฏฺมชฺฌิมํ อุปาทายา’’ติ.

นิยามาวกฺกนฺติยาติ อวกฺกนฺตนิยามตาย. าณุตฺถรสฺสาติ าณาธิกสฺส. ตถาวิธปจฺจยสมาโยเคติ าณวิเสสปจฺจยสมวาเย. ยถา หิ าณพเลน ทนฺธาภิฺตา น โหติ, เอวํ ปฏิปทาปฏิปนฺโนปิ สุเขน วิโสสียตีติ. สา หิ สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺา ตํสมงฺคิโน าณุตฺตรตฺตา วิปสฺสนาย ปทฏฺานนฺติ วุตฺตา.

ธมฺมโต อนเปตา จินฺตา ธมฺมจินฺตา, โยนิโสมนสิกาเรน ปวตฺติตตฺตา ธมฺเมสุ จินฺตา, ธมฺโม วา าณํ, ตสฺมา ธมฺมาวหา จินฺตา ธมฺมจินฺตา, จินฺตามยาณสฺส เหตุภูตา จินฺตาติ อตฺโถ.

ปาฬิยํ สุตมยปฺาคฺคหเณน ‘‘เย เต ธมฺมา อาทิกลฺยาณา…เป… ตถารูปาสฺส ธมฺมา พหุสฺสุตา โหนฺตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๘.๒) สุตฺตปทสงฺคโห อตฺโถ ปริคฺคหิโต, ตถา โยนิโสมนสิการคฺคหเณน ‘‘โส ‘อนิจฺจ’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา วุตฺโต อุปายมนสิกาโร ปริคฺคหิโต. สมฺมาทิฏฺิคฺคหเณน ‘‘สมฺมาทิฏฺึ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติอาทินา วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิ ปริคฺคหิตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อถ โข…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ. เสสนฺติ ‘‘ธมฺมสฺวากฺขาตตา’’ติ เอวมาทิ.

ยสฺส จ ปุพฺเพ อตฺโถ น สํวณฺณิโต, ตตฺถ กลฺยาณมิตฺตตาย อายตนคโต ปสาโท, จิตฺตวูปสโม จ ผลนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สปฺปุริส…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ อาห. อตฺตสมฺมาปณิหิตตฺตา ปาปเชคุจฺฉินิพฺพิทาทิพหุโลว โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อตฺถ…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. ธมฺโม สฺวากฺขาโต อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา สพฺพสมฺปตฺติปาริปูริเหตูติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ธมฺมสฺวากฺขาตตา…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ อาห. กุสลมูลโรปนา หิ สมาปตฺติปริโยสานาติ . สงฺฆสุฏฺุตาย สงฺฆสฺส สุฏฺุภาวาย สงฺฆสฺส สปฺปติสฺสตาย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาวาย. อิตรํ สุวิฺเยฺยเมว.

วิภตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๕. สมฺมาทิฏฺิสฺส…เป… นิชฺชิณฺณา ภวตีติ เอตฺถ ยถา มคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสนตฺโถ วุตฺโต, เอวํ กมฺมสฺสกตากมฺมปถสมฺมาทิฏฺีนมฺปิ วเสน อตฺโถ ลพฺภเตว. กมฺมปถกถา เหสา. ยถาวุตฺเตนากาเรนาติ ‘‘อวิมุตฺตาว สมานา’’ติ, ‘‘อวิมุตฺติย’’นฺติ จ วุตฺตปฺปกาเรน. มิจฺฉาภินิเวสวเสนาติ อสมฺมาสมฺพุทฺธํ เอว สมฺมาสมฺพุทฺโธติ, อนิยฺยานิกํ เอว นิยฺยานิโกติ, อสนฺตํ เอว ปน สนฺตนฺติ, อนริยํ เอว อริโยติ วิปรีตาภินิเวสวเสน . มิจฺฉาธิโมกฺโขติ อยาถาวปสาโท, อยาถาวสนฺนิฏฺานํ วา. อุปฺปนฺนโมโห มิจฺฉาวิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ สมฺพนฺโธ.

๓๖. วาทานํ วา อนุวาทา วาทานุวาทา, เตสํ วาทานํ อุปาทาติ อตฺโถ. วาทานุปวตฺติโยติ วาทานํ โทสานํ อนุปวตฺติโย.

อนฺตทฺวยปริวตฺตนนฺติ กามสุขอตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตสฺส อนฺตทฺวยสฺส ปฏิปกฺขวเสน ปริวตฺตนํ.

เอเตสุปิ วาเรสูติ ‘‘นิยฺยานิโก ธมฺโม เตสํ อธมฺโม, สุโข เตสํ อธมฺโม’’ติ จ อิเมสุ วาเรสุ. วุตฺตนเยนาติ ยทิ อตฺตปริตาปนํ อตฺตโน ทุกฺขาปนํ ธมฺโม, ธมฺมสฺส ปฏิวิรุทฺโธ อธมฺโม สิยา, ทุกฺขสฺส จ สุขปฏิวิรุทฺธนฺติ ฌานมคฺคผลสุขสฺส, อนวชฺชปจฺจยปริโภคสุขสฺส จ เตสํ อธมฺมภาโว อาปชฺชตีติ เอวํ วตฺตพฺพา. ‘‘ยํ ยํ วา ปนาติอาทินา’’ติ อิทํ อวเสสปาามสนํ. เอตฺถ ยํ ยํ วา ปน ธมฺมนฺติ ยํ วา ตํ วา ธมฺมํ, กุสลํ วา อกุสลํ วา อิฏฺํ วา อนิฏฺํ วาติ วุตฺตํ โหติ. โรจยติ วา อุปคจฺฉติ วาติ จิตฺเตน โรจติ, ทิฏฺิยา อุปคจฺฉตีติ. ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโขติ ตสฺส ตสฺส รุจิตสฺส, อุปคตสฺส วา ธมฺมสฺส โย ปฏิปกฺโข นาม. สฺวสฺส อนิฏฺโต อชฺฌาปนฺโน ภวตีติ โย ธมฺโม อสฺส รุจิตสฺส, อุปคตสฺส วา ธมฺมสฺส อนิฏฺโต ปจฺจนีกโต อพฺภุปคโต โหติ, เตน ปฏิปกฺเขน เทสนาย ปริวตฺตนํ ปริวตฺตโน หาโรติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฏิปกฺขสฺส ลกฺขณํ วิภาเวตี’’ติ.

ปริวตฺตนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. เววจนหารวิภงฺควณฺณนา

๓๗. อฺมฺเหีติ อฺเหิ อฺเหิ. อายตินฺติ ปจฺจเวกฺขณกาเล. กถฺจีติ เยน เกนจิ ปกาเรน, ปมํ วุตฺเตน ปริยาเยน อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต อปเรน ปริยาเยน ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ อธิปฺปาโย. ปริยายวจนํ นิทฺทิสตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สพฺพตฺถ. ตสฺมึ ขเณติ ปริยายวจนสฺส วุตฺตกฺขเณ. วิกฺขิตฺตจิตฺตานนฺติ อารมฺมณนฺตเรหิ วิวิธขิตฺตจิตฺตานํ . อฺวิหิตานนฺติ อฺํ จินฺเตนฺตานํ. กสฺมา ปน อฺเน ปริยาเยน ตทตฺถาวโพธนํ, นนุ เตน วุตฺเต ทฬฺหีกรณํ โหตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เตเนวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตทฺเสนฺติ เตหิ วิกฺขิตฺตจิตฺตาทีหิ อฺเสํ, เยหิ ปมํ วจนํ สมฺมเทว คหิตํ. ตตฺถาติ วุตฺตวจเนเนว ปุนปฺปุนํ วจเน. อธิคตอนฺวตฺถตาย ปุนรุตฺติ ปริวชฺชนตฺถํ วิเสสนภาเวน ตาหิ ตาหิ สฺาหิปิ อยมฺปิ สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโก, อยมฺปิ สทฺโท อิมสฺสตฺถสฺส วาจโกติ ปฺาปเนหิ. เทเสตพฺพสฺส ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส อตฺตโน จิตฺเต อุปนิพนฺธนํ ปนํ. ตตฺถาติ ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทายํ. พีชาวาปนํ เหตุสมฺปาทนํ.

เอวํ ภควโต ปริยายเทสนายํ อเนกานิ ปโยชนานิ วตฺวา อิทานิ อตฺตโน สมฺมาสมฺพุทฺธตาย เอวํ ตถาคตา พุทฺธลีลาย อเนเกหิ ปริยาเยหิ ธมฺมํ เทเสนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ พหุนา’’ติอาทิมาห.

ปาฬิยํ ‘‘ปิหา นาม ยา วตฺตมานสฺส อตฺถสฺส ปตฺถนา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนวิสยตํ ทสฺเสตฺวา ปุน อนาคตวิสยตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยตรํ วา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ‘‘อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยา ตณฺหา ปิหา’’ติ อาห.

อตฺถนิปฺผตฺติปฏิปาลนาติ อิมสฺมึ วา ปเท ปิหาย เอวตฺถวเสน อนาคตปจฺจุปฺปนฺนตฺถวิสยภาวทีปนโต.

ธมฺมารมฺมเณเนว สงฺคหิตา ‘‘ธมฺมารมฺมณ’’นฺตฺเวว คหณํ คตา. จตุวีสติ ปทานีติ เอตฺถ เคหสิตโทมนสฺสูปวิจาราทีนํ จตุนฺนํ ฉกฺกานํ วเสน จตุวีส โกฏฺาสา.

๓๘. สาเยว ปตฺถนากาเรน ธมฺมนนฺทีติอาทิมาหาติ เอตฺถ อยมตฺโถ – สา เอว ปตฺถนากาเรน ปวตฺติยา อาสาทิปริยาเยน วุตฺตา ตณฺหา รูปาทิธมฺเมสุ นนฺทนฏฺเน ธมฺมนนฺที. เตสํ เอว ปิยายนฏฺเน ธมฺมเปมํ. คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา านโต ธมฺมชฺโฌสานนฺติ.

อิมินาปีติ น เกวลํ ‘‘ปฺา ปชานนา’’ติอาทิอาเวณิกปริยาเยเนว เววจนํ วตฺตพฺพํ, อถ โข อิมินา อาธิปเตยฺยาทิสาธารณปริยาเยนปิ เววจนํ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อิมินาว นเยนาติ เอเตน ปริยายวจเนน . น หิ เทสนตฺถสาธนํ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทิปาฬินยทสฺสนนฺติ ทสฺเสติ. พลนิปฺผตฺติคโตติอาทีสุ ทสสุ ตถาคตพเลสุ นิปฺผตฺตึ ปาริปูรึ คโต. สมฺโพธิปหานนฺตรายเทสนา วิเสสโจทนาสุ วิสารทภาวสงฺขาตานิ จตฺตาริ าณานิ ปตฺโต อธิคโตติ เวสารชฺชปฺปตฺโต.

โลภชฺฌาสยาทิอชฺฌาสยํ วิเสเสน อติวตฺโตติ อชฺฌาสยวีติวตฺโต. อตีตเหตุสงฺเขปาทิสงฺเขปวิรหิตตาย อสงฺเขปสงฺขาตํ นิพฺพานํ, อกุปฺปธมฺมตาย คุเณหิ วา อสงฺเขปํ อสงฺขฺเยยฺยํ คโต อุปคโตติ อสงฺเขปคโต. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อุทฺเธยฺยนฺติ อุทฺธริตพฺพํ.

ธมฺมานุสฺสติยํ เอวํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ สมฺพนฺโธ. สํสารทุกฺขโต ปาติ, สนฺเตน สุเขน รเมติ จาติ วา ปารํ.

อภูตปุพฺพตฺตาติ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา, เตนสฺส นิจฺจตํว วิภาเวติ เกนจิ เทวโตปสคฺคาทินา อนุปสชฺชนียตฺตา อนุปสฏฺตฺตา.

‘‘ทุปฺปสฺส’’นฺติปิ ปาฬิ, ทุรธิคมนฺติ อตฺโถ. คุณโสภาสุรภิภาเวนาติ คุเณหิ โสภาย, สุคนฺธิภาเวน จ.

ยถา อกฺขณเวธี ปุคฺคโล สิปฺปนิปฺผตฺติยา รตฺตนฺธการติมิสาย อจิรกฺขณาโลเกน อติสุขุมมฺปิ ทูรคตํ ลกฺขํ วิชฺฌติ, เอวํ อริยสาวโก สีลสมฺปตฺติยา อติสุขุมํ นิพฺพานํ จตุสจฺจธมฺมํ เอกปฏิเวเธเนว ปฏิวิชฺฌตีติ อาห ‘‘สิปฺปฺจ สีลํ อกฺขณเวธิตายา’’ติ. โลกิกนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ โลกุตฺตรธมฺมโอโลกนสฺสาปิ อธิฏฺานภาวโต.

เววจนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา

๓๙. ภควโต สาภาวิกธมฺมกถายาติ อตฺตโน ภาโว สภาโว, สภาเวน นิพฺพตฺตา, ตโต วา อาคตาติ สาภาวิกา, สา เอว ธมฺมกถาติ สาภาวิกธมฺมกถา, พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกธมฺมกถาติ อตฺโถ , ตาย กรณภูตาย ธมฺมเทสนาย อนฺตฺเตปิ กถาเทสนานํ อุปจารสิทฺเธน เภเทเนวํ วุตฺตํ, อวยวสมุทายวิภาเคน วา. เตนาห ‘‘กา จ ปกติกถาย เทสนา? จตฺตาริ สจฺจานี’’ติ. อิทฺหิ อตฺถสฺส เทสนาย อเภโทปจารํ กตฺวา วุตฺตํ. ตสฺสา เทสนาย ปฺาปนา. อยํ ปฺตฺติหาโรติ สงฺเขเปเนว ปฺตฺติหารสฺส สรูปมาห. สาติ ยถาวุตฺตเทสนา. ตถา ตถาติ ยถา ยถา สจฺจานิ เทเสตพฺพานิ, ตถา ตถา. กถฺเจตานิ เทเสตพฺพานิ? ปริฺเยฺยาทิปฺปกาเรน. ยถาธิปฺเปตนฺติ อธิปฺเปตานุรูปํ, โพธเนยฺยพนฺธวานํ โพธนาธิปฺปายานุกูลนฺติ อตฺโถ. อตฺถนฺติ เทเสตพฺพตฺถํ, ทุกฺขาทิอตฺถเมว วา. นิกฺขิปตีติ ปติฏฺาเปติ. ยโต ‘‘จตฺตาโร สุตฺตนิกฺเขปา’’ติอาทิ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.มูลปริยายสุตฺตวณฺณนา) อฏฺกถาสุ วุจฺจติ.

ตตฺถาติ นิกฺเขปเทสนายนฺติ อตฺโถ. มคฺคปกฺขิยาติ ทุกฺขสจฺจโต พหิกตาติ อธิปฺปาโย.

ยสฺมึ าเนติ ยสฺมึ ภวาทิสงฺขาเต าเน. ยถาวุตฺตา เทสนาติ จตุราหารปฏิพทฺธราคาทิมุเขน วฏฺฏทีปนี วุตฺตปฺปการา เทสนา.

๔๑. เตปริวฏฺฏวเสนาติ เอตฺถาปิ ‘‘สจฺเจสู’’ติ โยเชตพฺพํ. ปริฺาปฺตฺตีติ อาหาติ สมฺพนฺโธ. อชฺฌตฺตรโต, สมาหิโตติ ปททฺวเยน สมาธานวิสิฏฺํ อชฺฌตฺตรตตาภาวนํ ทีเปติ โคจรชฺฌตฺตตาทีปนโต. เกวโล หิ อชฺฌตฺตสทฺโท อชฺฌตฺตชฺฌตฺตโคจรชฺฌตฺเตสุปิ วตฺตติ. อชฺฌตฺตรตตาวิสิฏฺฺจ สมาธานํ สาติสยํ จิตฺตฏฺิตึ ทีเปตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘สมาธานวิสิฏฺสฺสา’’ติอาทินา.

อาสชฺชนฏฺเนาติ อาสงฺคนฏฺเน. ตถา ทสฺสนนฺติ อตถาภูตสฺสาปิ ภพฺพรูปสฺส วิย อตฺตโน วิทํสนํ. อลกฺขิโกติ วิลกฺขิโก.

กามานนฺติ กามาวจรธมฺมานํ. รูปานนฺติ รูปาวจรธมฺมานํ. นิสฺสรณนฺติ กามานํ รูปาวจรธมฺมา นิสฺสรณํ, เตสํ อรูปาวจรธมฺมา นิสฺสรณํ. เอวํ ตํสภาวานนฺติ สอุตฺตรสภาวานํ. ตถาติ ยถา สงฺขตธมฺมานํ นิสฺสรณภาวโต, กิเลสสมุจฺเฉทกสฺส อริยมคฺคสฺส อารมฺมณภาวโต จ อตฺเถว อสงฺขตา ธาตุ, ตถา วุจฺจมาเนนาปิ การเณน อตฺเถว อสงฺขตา ธาตูติ ทสฺเสติ. กตฺถจิ วิสเยติ อสงฺขตธาตุํ สนฺธาย วทติ. อวิปรีตตฺโถติ ภูตตฺโถ. ‘‘ยโต โข โภ อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข โภ อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหติ (ที. นิ. ๑.๙๔), สปกฏฺนิพฺพานภาวิโน’’ติ จ เอวมาทีสุ อุปจารวุตฺติสพฺภาวโต. ยถา ตํ สีหสทฺโทติ ยถา ‘‘สีโห มาณวโก’’ติอาทินา มาณวกาทีสุ อุปจารวุตฺตินา วตฺตมาโน มิคราเช ภูตตฺถวิสเย ทิฏฺโ, เอวํ นิพฺพานสทฺโทปิ กามคุณรูปชฺฌานสมงฺคิตาสุ อุปจารวุตฺติยา วตฺตมาโน กตฺถจิ วิสเย อวิปรีตตฺโถ. ยตฺถ จ วิสเย อวิปรีตตฺโถ, สา อสงฺขตา ธาตุ. หตฺถตเล สอามลกํ วิย เยฺยํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสนฺตสฺส เอกปฺปมาณสฺส สตฺถุวจนเมเวตฺถ ปมาณนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตายา’’ติอาทิมาห. ‘‘ปฏิฺาตสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิยา ปกาสนาปฺตฺตี’’ติ นิคมํ สนฺธายาหาติ.

ปฺตฺติหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา

๔๒. อินฺทฺริเยหีติ กรเณ กรณวจนํ ‘‘มคฺเคน คจฺฉตี’’ติอาทีสุ วิย, ‘‘ผรสุนา ฉินฺทตี’’ติ เอวมาทีสุ วิย จ. โอตรณาติ อนุปฺปเวสนา.

ปฺากฺขนฺเธ สงฺคณฺหนวเสน สมฺมาสงฺกปฺโป วิยาติ โยชนา. อธิจิตฺตอนุยุตฺตานํ สทฺทหนุสฺสหนุปฏฺานสมาทหเนหิ สทฺธาทีสุ อุปกโรนฺเตสุ เอว ปฺา ทสฺสนกิจฺจํ สาเธตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สทฺธา..เป… วุตฺตานี’’ติ อาห. โน จ ภวงฺคาติ เตสํ สงฺขารานํ ปวตฺติการณตาภาวํ ทสฺเสติ.

๔๓. ตถา วุตฺโตติ ‘‘นิสฺสโย’’ติ วุตฺโต. เจตนาสีเสน ตณฺหํ เอว วทติ เจตนาสหจรณโต.

รตฺตสฺสาติ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนราคสฺส. เยน ปุคฺคโล ‘‘รตฺโต’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส ราคสฺส สมฺพนฺธินี สุขา เวทนา วุตฺตา ตตฺถ ตสฺส อนุสยนโต. เตนาห ‘‘สุขาย…เป… วุตฺต’’นฺติ. เอส นโย เสเสสุปิ. เตนาห ‘‘ตถา’’ติอาทิ.

ตานิ เอว อินฺทฺริยานีติ สุขโสมนสฺสุเปกฺขินฺทฺริยานิ. ‘‘สงฺขารปริยาปนฺนานี’’ติ วจนํ สนฺธายาห ‘‘อิธ เวทนาสีเสน เจตนา วุตฺตา’’ติ. น หิ เวทนา สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนา โหติ. ตณฺหาย, ทิฏฺิยาติ จ อุปโยเค กรณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทิมาห. อิทานิ อุปโยควเสเนว ‘‘ตณฺหายา’’ติอาทีนํ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เสสธมฺมานนฺติ ตณฺหาวชฺชิตอวิสิฏฺธมฺมานํ. ตณฺหาย นิสฺสยภาเวติ ยทา ตณฺหา เตสํ นิสฺสโย โหติ.

ตณฺหาย เสสธมฺมานํ ปจฺจยภาเวติ ยทา เสสธมฺมา ตณฺหาปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘กรชกายสนฺนิสฺสิตา’’ติ อิมินา เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยนิสฺสิตาปิ คหิตา กายปฺปสฺสทฺธิภาวโต. การณภาวนฺติ ปรมฺปรเหตุภาวํ. ตณฺหาทิฏฺิอุปเยนาติ ทิฏฺิอุปเยน จ ทิฏฺิสหคตตณฺหาอุปเยน จ.

‘‘อาคตีติอิธาคติ, คตีติ เปจฺจภโว’’ติ ปททฺวเยน วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ปาฬิยํ ‘‘อาคติคตีปิ น ภวนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อิธ หุรนฺติ ทฺวารารมฺมณธมฺมา ทสฺสิตา อาสนฺนทูรภาเวหิ ทฺวารารมฺมเณหิ วินิวตฺเตตฺวา คหิตตฺตา. อิธ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมา ‘‘อุภยมนฺตเรนา’’ติ ปทสฺส อตฺถภาเวน วุตฺตา. จตุพฺยูหหาเร ปน อนินฺทฺริยพทฺธรูปธมฺมา ตถา วุตฺตา. การณภูเตน อนนฺตรปจฺจยภูเตน, อุปนิสฺสยปจฺจยภูเตน จ. เย ธมฺมา อุปาทาย ‘‘อตฺตา’’ติ สมฺา, เตสํ วิฺาณาทิธมฺมานํ อภาเวน อนุปฺปาทธมฺมตํ อาปาทิตตฺตาติ อตฺโถ. ‘‘อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถี’’ติอาทินา ปฏิโลมโต ปจฺจยภาโว ทสฺสิโตติ ทสฺเสนฺโต ปาฬิยํ ‘‘เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท’’ติ วตฺวา นนุ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทิโก ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ โจทนํ สนฺธาย ยถาวุตฺตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ทุวิโธ’’ติอาทินา โลกิยโลกุตฺตรวเสน ปฏิจฺจสมุปฺปาโท วิภตฺโต. ตทตฺถตายาติ วีตราควิมุตฺติอตฺถตาย. ตพฺภาวนฺติ โลกุตฺตรปฏิจฺจสมุปฺปาทภาวํ.

โอตรณหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. โสธนหารวิภงฺควณฺณนา

๔๕. โสเธตินามาติ ปุจฺฉิตมตฺถํ หตฺถตเล ปิตอามลกํ วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺเสนฺโต นิคฺคุมฺพํ นิชฺชฏํ กตฺวา วิวรนฺโต ตพฺพิสยอฺาณสํสยาทิมลาปนยเนน โสเธติ, เอวํ โสเธนฺโต จ ปทสฺส อตฺเถน อเภโทปจารํ กตฺวา ‘‘ปทํ โสเธติ’’จฺเจว วุจฺจติ. เตนาห ‘‘ปทํ โสเธติ นามา’’ติ. ปุจฺฉาย วิสฺสชฺชนเมเวตฺถ โสธนนฺติ อาห ‘‘ตทตฺถสฺส วิสฺสชฺชนโต’’ติ. อารภียตีติ อารมฺโภ, เทสนาย ปกาสิยมาโน อตฺโถ. เตนาห ‘‘น ตาว…เป… ปโพธิตตฺตา’’ติ. อิธ โสธนํ นาม ปฏิจฺฉนฺนรูปสฺส อตฺถสฺส เทสนานุภาเวน วิวฏภาวกรณนฺติ ตมตฺถํ อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘อฺาณปกฺขนฺทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

โสธนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา

๔๖. ธารยิตพฺพาติ อุปธาเรตพฺพา, อุปลกฺขิตพฺพาติ อตฺโถ. วุตฺตเมว ‘‘สามฺวิเสสกปฺปนาย โวหารภาเวน อนวฏฺานโต’’ติอาทินา (เนตฺติ. อฏฺ. ๑๔).

ตํ ตํ ผลนฺติ นิรยาทึ ตํ ตํ ผลํ. อฺจิตาติ คตา. โยนีติ เอกชาติ. สมานวเสน มิสฺสีภวติ เอตายาติ หิ โยนิ, อุปปตฺติ. เปจฺจาติ มริตฺวา. อุสฺสนฺนตายาติ วิตกฺกพหุลตาย. ‘‘อุสฺสนฺนตฺตา’’ติปิ วทนฺติ. สสฺสตาทีหิ วา อุสฺสนฺนตฺตา. อสุรชาติยา นิพฺพตฺตาปนโก อสุรชาตินิพฺพตฺตนโก.

สงฺขาติ ปฺา. ปฺาปธานา จ ภาวนาติ อาห ‘‘ปฏิสงฺขาย ปฏิปกฺขภาวนายา’’ติ.

๔๗. ปตฺถฏภาเวน ปถวี. สภาวธารณฏฺเน, นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน จ ธาตุ. อาปียติ, อปฺปายตีติ วา อาโป. เตชนวเสน ติกฺขตาวเสน, ทหนวเสน วา เตโช. วายนวเสน เวคคมนวเสน, สมุทีรณวเสน วา วาโย. วีสติ อาการาติ เกสาทโย วีสติ โกฏฺาสา, ปการา วา. กกฺขฬลกฺขณาธิกตาย เกสาที กกฺขฬลกฺขณา วุตฺตา.

ปาฏิเยกฺโก ปถวีธาตุโกฏฺาโสติ ปถวีโกฏฺาสมตฺโต, อตฺตสุฺธมฺมมตฺโตติ อตฺโถ. สนฺตปฺปตีติ เอตฺถ สรีรปกติมติกฺกมิตฺวา อุณฺหภาโว สนฺตาโป, สรีรทหนวเสน ปวตฺโต มหาทาโห, อยเมเตสํ วิเสโส. เยน จ ชีรียตีติ เอกาหิกาทิชราโรเคน ชรียตีติ จ อตฺโถ ยุชฺชติ. ‘‘สตวารํ ตาเปตฺวา ตาเปตฺวา อุทเก ปกฺขิปิตฺวา อุทฺธฏสปฺปิ สตโธตสปฺปี’’ติ วทนฺติ. รสรุธิรมํสเมทนฺหารุอฏฺิอฏฺิมิฺชา รสาทโย. เกจิ นฺหารุํ อปเนตฺวา สุกฺกํ สตฺตมํ ธาตุํ วทนฺติ. วิเวกนฺติ วิสุํภาวํ, วิสทิสภาวนฺติ อตฺโถ. วตฺถุสงฺขาโต หิ อาหาโร ปริณามํ คจฺฉนฺโต ปาณภกฺขคหณิปทนิย มุตฺตกรีสภาเวหิ วิย อตฺตนาปิ วิสทิสรสสงฺขาตํ วิสุํภาวํ นิพฺพตฺเตนฺโต ตพฺภาวํ คจฺฉตีติ วุจฺจติ, ตถา รสาทโยปิ รุธิราทิโกฏฺาสํ. เตนาห ‘‘รสาทิภาเวน วิเวกํ คจฺฉตี’’ติ.

สภาวลกฺขณโตติ อสุจิภาเวน ลกฺขิตพฺพโต.

๔๘. ยาถาวสรสลกฺขณนฺติ รสิตพฺโพติ รโส, ปฏิวิชฺฌิตพฺโพ สภาโว, อตฺตโน รโส สรโส, ยาถาโว สรโส, ยาถาวสรโส ยาถาวสรโส เอว ลกฺขิตพฺพตฺตา ลกฺขณนฺติ ยาถาวสรสลกฺขณํ. อถ วา ยาถาวสรสลกฺขณนฺติ อวิปรีตํ อตฺตโน ปวตฺติสงฺขาตํ กิจฺจฺเจว ปีฬนสงฺขาตํ ลกฺขณฺจ. ‘‘อิทํ กิจฺจํ, อิทํ ลกฺขณ’’นฺติ อวิชฺชาเหตุ าตุํ น สกฺโกติ, ตพฺพิสยาณุปฺปตฺตึ นิวาเรนฺตี ฉาเทตฺวา ปริโยนนฺธิตฺวา ติฏฺตีติ วุตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ชานิตุํ ปฏิวิชฺฌิตุํ น เทตี’’ติ. ตยิทมสฺสา กิจฺจนฺติ กิจฺจโต กถิตา. กถิตาติ จ วุตฺตา, ยโต จ อวิชฺชา อสมฺปฏิเวธรสาติ วุจฺจติ. ชายติ เอตฺถาติ ชาติ, อุปฺปตฺติฏฺานํ. ยทิปิ นิโรธมคฺเค อวิชฺชา อารมฺมณํ น กโรติ, เต ปน ชานิตุกามสฺส ตปฺปฏิจฺฉาทนวเสน อนิโรธมคฺเคสุ นิโรธมคฺคคฺคหณสฺส การณภาเวน ปวตฺตมานา ตตฺถ อุปฺปชฺชตีติ วุจฺจติ, เตสมฺปิ อวิชฺชาย อุปฺปตฺติฏฺานตา โหติ, อิตเรสํ อารมฺมณภาเวน จาติ.

อตฺถานตฺถนฺติ หิตาหิตํ. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘อตฺถตฺถ’’นฺติ (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖) วุตฺตํ, ตตฺถ อตฺโถ เอว อตฺถตฺโถติ อตฺถสฺส อวิปรีตตาทสฺสนตฺถํ ทุติเยน อตฺถสทฺเทน วิเสสนํ. น หิ าณํ อนตฺเถ ‘‘อตฺโถ’’ติ คณฺหาตีติ. การณาการณนฺติ เอตฺถาปิ เอวํ ทฏฺพฺพํ. อตฺถตฺถนฺติ วา อาเมฑิตวจนํ สพฺเพสํ อตฺถานํ ปากฏกรณภาวปฺปกาสนตฺถํ, ผลํ ผลนฺติ อตฺโถ, หิตปริยาเยปิ เอเสว นโย. นฺติ อตฺถานตฺถาทิกํ. อาการนฺติ อตฺถาทิการณเมว.

ปฏิวิทฺธสฺส ปุน อเวกฺขนา ปจฺจเวกฺขณา. ทุจินฺติตจินฺติตาทิลกฺขณสฺส พาลสฺส ภาโว พาลฺยํ. สมฺปชานาตีติ สมํ ปกาเรหิ ชานาติ. พลวโมโห ปโมโห. สมนฺตโต โมหนํ สมฺโมโห. ทุคฺคติคามิกมฺมสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา อวินฺทิยํ. วินฺทตีติ ลภติ. อนวชฺชธมฺมานํ วิชฺชา วิย วิเสสปจฺจโย น โหตีติ วินฺทิยํ น วินฺทติ. อยํ อวิชฺชาย เวมตฺตตาติ อยํ ‘‘ทุกฺเข อฺาณ’’นฺติอาทินา กิจฺจชาติลกฺขเณหิ วุตฺโต อวิชฺชาย อวิเสโส. วิชฺชาติอาทีนํ วุตฺตนยานสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

ปาสาณสกฺขรวาลิกาวิรหิตา ภูมิ สณฺหาติ ‘‘สณฺหฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺตกเมวกาลนฺติ ปฺจกปฺปสตานิ. วิภูตํ สมตฺติกฺกนฺตํ รูปสฺาสงฺขาตํ รูปํ เอตายาติ วิภูตรูปํ, สมาปตฺตินฺติ ปทตฺโถ. น หิ กาจิ อรูปสมาปตฺติ รูปสฺาสหคตา ปวตฺตีติ. นิโรธสมาปตฺติยํ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตตฺถ เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา วิสุํ คหิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เสสารุปฺปสมาปตฺติโย’’ติ.

ทมถํ อนุปคจฺฉนฺโต ทุฏฺสฺโส ขลุงฺกสฺโส. อุตฺตริทมถายาติ อริยมคฺคทมถาย.

อิตโรติ ทุกฺขาปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, สุขาปฏิปโท จ ขิปฺปาภิฺโ. อุภยโตภาเคหีติ รูปกายนามกายภาเคหิ. อุภยโตติ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทวิมุตฺติวเสน.

อเนโกปีติ สภาเวน อเนโกปิ. เอกสทฺทาภิเธยฺยตายาติ สามฺสทฺทาภิเธยฺยตาย.

อธิฏฺานหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา

๔๙. ‘‘หิโนตี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘การณภาวํ คจฺฉตี’’ติ อาห อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ. เอตีติ อาคจฺฉติ, อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ.

อวิชฺชายปิ เหตุภาเวติ เอตฺถ อวิชฺชา อนนฺตราย อวิชฺชาย อนนฺตรสมนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนปจฺจเยหิ, อนนฺตราย ปน สหชาตาย สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตเหตุปจฺจเยหิ, อสหชาตาย อุปนิสฺสยโกฏิยา เอว ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. อตฺตโน ผลํ กโรตีติ การณนฺติ อาห ‘‘การณภาโว จ ผลาเปกฺขายา’’ติ.

นิพฺพตฺติอตฺโถ ผลตฺโถ ผลสงฺขาโต อตฺโถ.

โย สภาโวติ ปุฺาทิอภิสงฺขารานํ โย อภิสงฺขรณสภาโว, โส เหตุ. เสสปเทสูติ วิฺาณาทิปเทสุ. ยถาวุตฺตปฺปเภโทติ ‘‘อสาธารณลกฺขโณ เหตู’’ติอาทินา วุตฺตปฺปเภโท. โย โกจิปจฺจโยติ ชนกาทิเภทํ ยํ กิฺจิ การณํ. อภิสงฺขรณโตติ ปจฺจกฺขโต, ปรมฺปราย จ นิพฺพตฺตนโต.

ปริกฺขารหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๖. สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา

๕๐. สุตฺเตน คหิเตติ สุตฺเต วุตฺเต. ปทฏฺานคฺคหณํ อธิฏฺานวิสยทสฺสนตฺถํ, เววจนคฺคหณํ อธิวจนวิภาคทสฺสนตฺถนฺติ โยชนา. วิสยาธิฏฺานภาวโตติ วิสยสงฺขาตปวตฺติฏฺานภาวโต. วนียตีติ ภชียติ. วนตีติ ภชติ เสวติ. วนุเตติ ยาจติ, ปตฺเถตีติ อตฺโถ . ปฺจ กามคุณา กามตณฺหาย การณํ โหติ อารมฺมณปจฺจยตาย. นิมิตฺตคฺคาโห อนุพฺยฺชนคฺคาหสฺส การณํ โหติ อุปนิสฺสยตายาติ เอวํ เสเสสุปิ ยถารหํ การณตา วตฺตพฺพา.

๕๑. ‘‘กาเย กายานุปสฺสี วิหราหี’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนายํ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๓) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – รูปธมฺมปริฺายาติ รูปูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย.

‘‘ทุกฺข’’นฺติ ปสฺสนฺตี สา เวทนานุปสฺสนาติ โยเชตพฺพํ. เวทนาเหตุปริฺายาติ ผสฺสปริฺาย. ‘‘เวทนาวเสนา’’ติ ปเทน อตฺตนา อุปฺปาทิตทุกฺขวเสน. เวทนาปริฺายาติ เวทนูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย. นิจฺจาภินิเวสปฏิปกฺขโต อนิจฺจานุปสฺสนายาติ อธิปฺปาโย. นิจฺจสฺานิมิตฺตสฺสาติ นิจฺจสฺาเหตุกสฺส. สฺาปริฺายาติ สฺูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย. ปมมคฺควชฺฌตฺตา อคติคมนสฺส วุตฺตํ ‘‘ทิฏฺาภินิเวสสฺส…เป… อคติคมนสฺส จา’’ติ.

สงฺขารปริฺายาติ สงฺขารูปิกวิฺาณฏฺิติปริฺาย.

สมาโรปนหารวิภงฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ หารวิภงฺควณฺณนา.

๑. เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา

‘‘เอว’’นฺติอาทิ หารสมฺปาตเทสนาย สมฺพนฺธทสฺสนํ. ตตฺถ ปุริเมน อุปมาทฺวเยน สุปริกมฺมกตมณิโกฏฺฏิมสทิสี, สุวิรจิตชมฺพุนทาภรณสทิสี จ ปาฬิ. ตตฺถ กตนานาวณฺณปุปฺผูปหารสทิสี, วิวิธรํสิชาลาสมุชฺชลพทฺธนานารตนาวลิสทิสี จ หารวิภงฺคเทสนาติ ทสฺเสติ. ปจฺฉิเมน ตสฺส ปณีตมหารเห ชฏาหิ สทฺธึ ทุกฺกรตรตํ ทีเปติ. ยายํ คาถา วุตฺตาติ โยชนา.

๕๒. ยสฺมายํ หารวิภงฺควาโร นปฺปโยเชติ ยถาวุตฺเตน การเณน, ตสฺมา สา หารวิภงฺควารสฺส อาทิมฺหิ น ปจฺจามฏฺาติ อธิปฺปาโย . หารสมฺปาตวาโร ปน ตํ ปโยเชตีติ ยสฺมา ปน หารสมฺปาตวาโร ตํ คาถํ ปโยเชติ ยถาวุตฺเตเนว การเณน, ตสฺมา ‘‘โสฬส…เป… อาหา’’ติ อาห. โยชนานยทสฺสนนฺติ โยชนาย นยทสฺสนํ.

เตนาติ ‘‘ตํ มจฺจุโน ปท’’นฺติ วจเนน. สพฺพํ วิปลฺลาสนฺติ ทฺวาทสวิธมฺปิ วิปลฺลาสํ. สามฺสฺส…เป… โวหรียติ ยตฺถ ปติฏฺิตํ สามฺํ, โส วิเสโส. อตฺถโต ปน สฺาทโย เอว รูปาทิวิสยํ วิปรีตากาเรน คณฺหนฺเต วิปลฺลาโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สฺาวิปลฺลาโส’’ติอาทิมาห.

อินฺทชาลาทิวเสน มณิอาทิอากาเรน อุปฏฺหนฺเต อุปาทานกฺขนฺธปฺจเก อหํมมาทิการณตาย นิรุตฺตินเยน ‘‘อตฺตา’’ติ วุจฺจมาโน ตํพุทฺธิโวหารปฺปวตฺตินิมิตฺตตาย อตฺตภาโว สุขาทีนํ วตฺถุตาย ‘‘อตฺตภาววตฺถู’’ติ ปวุจฺจตีติ อาห ‘‘เตหี’’ติอาทิ. เตสนฺติ อุปาทานกฺขนฺธานํ. วิปลฺลาสานํ ปวตฺติอากาโร ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติอาทิ. วิสโย กายเวทนาจิตฺตธมฺมา. อวิชฺชา จ…เป… เอว สมฺโมหปุพฺพกตฺตา สพฺพวิปลฺลาสานํ. -สทฺโท สุภสุขสฺานนฺติ เอตฺถาปิ อาเนตฺวา โยเชตพฺโพ.

ตตฺถายํ โยชนา – ‘‘อวิชฺชา จ สุภสุขสฺานํ ปจฺจโย เอว, น ตณฺหา เอว, อวิชฺชา สุภสุขสฺานฺจ ปจฺจโย, น นิจฺจอตฺตสฺานํ เอวา’’ติ. เอวํ สนฺเตปิ ปุริมานํ ทฺวินฺนํ วิปรีตสฺานํ ตณฺหา, ปจฺฉิมานํ อวิชฺชา วิเสสปจฺจโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตถาปี’’ติอาทิ. อวิชฺชาสีเสน เจตฺถ ทิฏฺิยา คหณํ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ทิฏฺินิวุตํ จิตฺต’’นฺติ , ‘‘โย ทิฏฺิวิปลฺลาโส’’ติ จ อาทิ, ยถา จ อวิชฺชาสีเสน ทิฏฺิยา คหณํ, เอวํ ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชายปิ คหณํ สิยาติ อาห ‘‘ทิฏฺิสีเสน อวิชฺชา วุตฺตา’’ติ. ตณฺหาวิชฺชาสุ สุภสุขสฺานํ ยถา ตณฺหา วิเสสปจฺจโย, น เอวํ อวิชฺชา. นิจฺจอตฺตสฺานํ ปน ยถา อวิชฺชา วิเสสปจฺจโย, น ตถา ตณฺหาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โมโห วิเสสปจฺจโย’’ติ อาห.

ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ…เป… โหตีติ อตีตํเส ตณฺหาภินิเวสสฺส พลวภาวาภาวโต. เตเนว หิ ‘‘โส อตีตํ รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ’’จฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘อภินนฺทตี’’ติ. ตณฺหาวิปลฺลาโสติ ตณฺหํ อุปนิสฺสาย ปวตฺโต วิปลฺลาโส, น หิ ตณฺหา สยํ วิปลฺลาโส. เตนาห ‘‘ตณฺหามูลโก วิปลฺลาโส’’ติ. ทิฏฺาภินนฺทนวเสนาติ ตณฺหุปนิสฺสยทิฏฺาภินนฺทนวเสน, ยโต โส ‘‘ตณฺหาวิปลฺลาโส’’ติ วุตฺโต. เอเตนาติ ‘‘โย ตณฺหาวิปลฺลาโส’’ติอาทิปาเน. โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา, อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, ปฺจ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา จ, ยถา อตฺตโน คตาย, นิพฺพานปฺปตฺติยา จ ปริกปฺปวเสน สุภสุขาการคฺคาหิโน, น เอวํ สตฺต อุจฺเฉทวาทาติ อาห ‘‘เยภุยฺเยนา’’ติ. ปฏิปกฺขวเสนปีติ วิสุทฺธิวเสนปิ. ยาว หิ อุปกฺกิเลสา, ตาว จิตฺตํ น วิสุชฺฌเตว. ยทา จ เต ปหีนา, ตทา วิสุทฺธเมว. เตนาห ‘‘น หี’’ติอาทิ. ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ ปาฬึ นิกฺขิปิตฺวา วิปลฺลาสมุเขเนว เทสนาย นิทฺธาริยมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘ยถานุสนฺธินาว คาถํ นิฏฺเปตุ’’นฺติ.

มารสฺสาติ กิเลสมารสฺส. ตสฺส หิ วเส ิโต เสสมารานํ หตฺถคโต เอวาติ. เตนาห ‘‘กิเลสมารคฺคหเณเนวา’’ติอาทิ.

มารพนฺธนนฺติ สตฺตมารปกฺเข มารสฺส พนฺธนนฺติ มารพนฺธนํ. โส หิ กิเลสพนฺธนภูเต อตฺตโน สมารกปริเส มฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺตลิ…เป… โมกฺขสี’’ติ (มหาว. ๓๓). อิตรมารปกฺเข มาโรว พนฺธนนฺติ มารพนฺธนํ. วิสงฺขาโร นิพฺพานํ.

โมหสมฺปโยคโต จิตฺตํ ‘‘มูฬฺห’’นฺติ วุตฺตนฺติ รตฺตทุฏฺานมฺปิ มูฬฺหตาย สพฺภาเว ‘‘มูฬฺห’’นฺติ วิสุํ วจนํ อาเวณิกโมหวเสน วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ทฺวินฺนํ โมมูหจิตฺตุปฺปาทานํ วเสนา’’ติ อาห. เอวนฺติ เอวํ ราคาทิอกุสลปฺปตฺติยา กุสลภณฺฑจฺเฉทนโต อรกฺขิตํ จิตฺตํ โหติ, สพฺโพปิ มิจฺฉาภินิเวโส เอตฺเถว สงฺคหํ สโมสรณํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ. สพฺเพปีติ ‘‘อรกฺขิตํ, มิจฺฉาทิฏฺิหตํ, ถินมิทฺธาภิภูต’’นฺติ ตีหิปิ ปเทหิ วุตฺตธมฺมา.

จกฺขุนาติ ทฺวาเรน. รูปนฺติ วิสภาควตฺถุสนฺนิสฺสิตํ รูปายตนํ. นิมิตฺตคฺคาหีติ ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ปุริโส’’ติ วา ‘‘สุภ’’นฺติ วา ‘‘อสุภ’’นฺติ วา ปริกปฺปิตนิมิตฺตํ คณฺหาติ, ตสฺส วา คหณสีโล. อนุพฺยฺชนคฺคาหีติ หตฺถปาทหสิตกถิตาทิปฺปเภเท กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต อนุพฺยฺชนสฺิเต อากาเร คณฺหาติ, เตสํ วา คหณสีโล. ยตฺวาธิกรณนฺติ ยํ นิมิตฺตํ, นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคหณนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. เอวํ ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ อสํวุตํ วิหรนฺต’’นฺติ, โย ‘‘นิมิตฺตคฺคาหี, อนุพฺยฺชนคฺคาหี’’ติ จ วุตฺโต ปุคฺคโล, ตเมนํ จกฺขุนฺทฺริยํ จกฺขุทฺวารํ อสํวุตํ สติกวาเฏน อปิหิตํ กตฺวา วตฺตนฺตํ, ตสฺส จ รูปสฺส อิฏฺาการคฺคหเณ อภิชฺฌา, อนิฏฺาการคฺคหเณ โทมนสฺสํ, อสมเปกฺขเน โมโห มิจฺฉาภินิเวเส มิจฺฉาทิฏฺีติ เอวํ อภิชฺฌาพฺยาปาทา, อฺเ จ ลามกฏฺเน ปาปกา อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสลา ธมฺมา อนฺวาสฺสเวยฺยุํ อนุ อนุ ปวตฺเตยฺยุํ.

ตสฺส สํวราย น ปฏิปชฺชตีติ ตสฺส จกฺขุทฺวารสฺส สํวราย สติกวาเฏน ปิทหนตฺถํ น ปฏิปชฺชติ. สา ปน อปฺปฏิปตฺติ จกฺขุนฺทฺริยสฺส อนารกฺขาสํวรสฺส อนุปฺปาโทติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น รกฺขติ…เป… อาปชฺชตี’’ติ อาห. ชวเน อุปฺปชฺชมาโนปิ หิ อสํวโร เตน ทฺวาเรน ปวตฺตนโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยาสํวโร’’ตฺเวว วุจฺจตีติ. เสสทฺวาเรสุปิ วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘ปุพฺพนฺตกปฺปนวเสน จา’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺเขปโต จ วิตฺถาโร อฺโ’’ติ กตฺวา ตํ สมุจฺจินนฺโต ‘‘ยา จ โข อิมา’’ติอาทิมาห.

ยถาวุตฺตา อกุสลา ธมฺมาติ ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทธมฺมา, เตสํ วตฺถูนิ วา. เต หิ สมุทยวชฺชา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา เนตฺติปาฬิยํ, อฏฺกถายฺจ นิทฺธาริตปฺปกาเรน. อิธาติ อิมิสฺสํ ‘‘อรกฺขิเตน จิตฺเตนา’’ติ คาถายํ.

ยทิปิ เทสนาหารสมฺปาตปาฬิยํ ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถา สรูปโต น คหิตา, อตฺถโต ปน ‘‘เตสํ ภควา ปริฺายา’’ติอาทินา คหิตา เอวาติ ตสฺสา คหิตภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘กถํ เทเสตี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสา’’ติ คาถํ อุทฺธริ.

โยนิโสมนสิกาเรน กมฺมํ กโรนฺโตติ ‘‘โส ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ โยนิโส มนสิ กโรตี’’ติอาทินา นเยน วิปสฺสนาสงฺขาเตน โยนิโสมนสิกาเรน ภาวนากมฺมํ กโรนฺโต, ภาเวนฺโตติ อตฺโถ . ยถาภูตาณนฺติ าตปริฺาย ปุพฺพภาควิปสฺสนาย ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย, อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธ’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) สมปฺาสาย อากาเรหิ. นิรยคติยํ ทุกฺขทุกฺขตา, สุคติวิเสเส พฺรหฺมโลเกกเทเส สงฺขารทุกฺขตา, อิตรตฺถ ทฺเว ติสฺโสปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถาสมฺภวํ ติวิธทุกฺขตาโยเคนา’’ติ.

เทสนาหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา

๕๓. กุสลธมฺมารมฺมณาติ กุสลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺติมตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เตสํ อารมฺมณปจฺจยตํ อิธ ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ โลกุตฺตรธมฺมานํ อธิปฺเปตตฺตา. น หิ กทาจิ อนุปาทานิยา ธมฺมา อุปาทานารมฺมณา โหนฺติ. ผลธมฺเม อุทฺทิสฺส ปวตฺตาย ตณฺหาย คหิตตฺตา ‘‘กุสล…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เทสนาหาเรติ เทสนาหารสมฺปาเต. กถํ ปน กุสลภาโวติ ‘‘กุสลา’’ติ วจนมตฺตํ คเหตฺวา โจเทติ, ตฺจ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ปหานเหตุภาโวปิสฺสา สิยา โจทเกน สมฺปฏิจฺฉิโตว. ‘‘มาโนปิ ทุวิโธ’’ติอาทินา มานสฺส จ ตสฺสา ตณฺหาย จ เสวิตพฺพภาโว อกุสลานํ ปหานาย, กุสลานํ อุปฺปตฺติยา จ ปจฺจยภาวโต.

เนกฺขมฺมสฺสิตํ โทมนสฺสํ นาม ‘‘อริยภูมึ ปาปุณิตุํ นาสกฺขิ’’นฺติ อนุโสจโต อุปฺปนฺนํ โทมนสฺสนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวนฺติ อิมินา ปาฬิยํ วุตฺตปฺปกาเรน, ปิหํ อุปฏฺเปตฺวา ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺารมฺมเณ อาปาถคเต อนิจฺจาทิวเสน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวาติ โยชนา. อิฏฺารมฺมณฺเจตฺถ ยถาวุตฺตอนุโสจนโทมนสฺสุปฺปตฺตีนํ ยถาภินิวิฏฺสฺส อารมฺมณสฺส อนิฏฺตายาติ ทสฺสนตฺถํ. ‘‘กถํ เนกฺขมฺมวเสนา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวริตุํ ‘‘วิปสฺสนาวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปสฺสนาทิวินิมุตฺตา วา ปมชฺฌานาทิวเสน วุตฺตา กุสลา ธมฺมา อิธ เนกฺขมฺมํ. อนุสฺสติคฺคหเณน อุปจารชฺฌานเมว คหิตนฺติ ‘‘ปมชฺฌานาทิวเสนา’’ติ วุตฺตํ. อาทิสทฺเทน ทุติยชฺฌานโต ปฏฺาย ยาว อคฺคผลา อุปริวิเสสา สงฺคหิตา. ยาย ปฺาวิมุตฺติยา.

อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิภาเวนาติ อุเปกฺขาชนิตสติปาริสุทฺธิสพฺภาเวน. กมฺมโยคฺคนฺติ วิปสฺสนาภาวนาทิกมฺมสฺส โยคฺคํ อนุรูปํ อนุจฺฉวิกํ. อสฺสทฺธิเยติ อสฺสทฺธิยเหตุ, ‘‘อสฺสทฺธิเยนา’’ติปิ ปนฺติ, โส เอวตฺโถ. โอภาสคตนฺติ าโณภาสคตํ. กามํ ปุพฺเพปิ ปฺา วุตฺตา, อสฺสทฺธิยาทีหิ ปน อฺเสํ กิเลสานํ วิธมนมฺปิ ปฺาย เอว โหติ, สา จ เอวํภูตาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘โอภาสคตํ กิเลสนฺธกาเร น อิฺชตี’’ติ วุตฺตํ.

โกโป โกโธ. อปฺปจฺจโย โทมนสฺสํ. อิทฺธิวิธาณาทิกา ฉ อภิฺา ปากฏา เอวาติ ‘‘ทฺเว จ วิเสเส’’ติ วุตฺตธมฺเม ทสฺเสตุํ ‘‘มโนมยิทฺธิ, วิปสฺสนาาณฺจา’’ติ อาห. องฺคณานิ ราคาทโย. อุปกฺกิเลสา อภิชฺฌาวิสมโลภาทโย. อนุโลมนํ ตเทกฏฺตา. ผนฺทนา ทุพฺพลา วิกฺเขปปฺปวตฺติ. พลวตี อนวฏฺานํ. สพฺโพ มิจฺฉาภินิเวโส อโยนิโสมนสิกาเรน โหติ, มิจฺฉาวิตกฺเกน จ. ตตฺถ อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ตปฺปริยาปนฺโน มิจฺฉาวิตกฺโก วิกฺเขปสหิโต เอวาติ วุตฺตํ ‘‘มิจฺฉาภินิเวสเหตุตาย ทิฏฺิปกฺโข’’ติ วุตฺตฺเหตํ ‘‘วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺานํ, อโยนิโส มนสิกาโรปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔).

อถ วา อิฺชนาติ ผนฺทนา, ทิฏฺปริตฺตาโส. ยถาห ‘‘ตทปิ เตสํ ภวตํ สมณพฺราหฺมณานํ อชานตํ อปสฺสตํ เวทยิตํ ตณฺหาคตานํ ปริตสฺสิตวิปฺผนฺทิตเมวา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย). อฏฺิตีติ อนวฏฺานํ, ทิฏฺิวิตกฺโก. เตน หิ ปุถุชฺชโน กาเล สสฺสตํ, กาเล อุจฺเฉทนฺติ ตํ ตํ ทิฏฺิคฺคหณํ ปกฺขนฺทนฺโต สตฺตโต ปริพฺภฏฺอนฺโธ วิย, สมุทฺเท วิสฺสฏฺวาหนิกา วิย, ยนฺเต ยุตฺตโคโณ วิย จ ตถา ตถา ปริพฺภมติ. เตนาห ‘‘ทิฏฺิโยปิ ทิฏฺิฏฺานํ, วิตกฺโกปิ ทิฏฺิฏฺาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๒๔) จ. เอตสฺมิฺจ ปกฺเข มิจฺฉาภินิเวสตาย, มิจฺฉาภินิเวสเหตุตาย จ ตสฺสา ทฺเว ปกฺขาติ เอกเทสสรูเปกเสโส กโตติ เวทิตพฺพํ.

‘‘เอว’’นฺติอาทินา ‘‘โส อุปริม’’นฺติอาทิปาฬิยํ สมฺพนฺธํ ทสฺเสติ. ปฏิฆสฺาติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฏิฆ…เป… สฺาสู’’ติ อาห. รูปาวจรสฺาติ สฺาสีเสน รูปาวจรชฺฌานานิ วทติ. นานตฺตสฺาติ นานาสภาวา, นานาสภาเว วา อารมฺมเณ สฺา. เปตฺวา ปฏิฆสฺา อวสิฏฺกามาวจรสฺา เหตา. ตา สมติกฺกมตีติ ตา รูปสฺานานตฺตสฺาโย อารมฺมเณหิ สทฺธึ สมฺมเทว อติกฺกมติ.

รูปาวจรชฺฌาโนภาโสปิ กสิณารมฺมณา. กสิณนิสฺสนฺโท หิ อารุปฺปชฺฌานุปฺปตฺติ. ทสฺสนนฺติ กสิณรูปานํ ทสฺสนํ. อภิชฺฌาพฺยาปาทปฺปหาเนน สทฺธึ วีริยารมฺโภ อุปการโก สมโถ สติปสฺสทฺธิโย ปริกฺขารงฺคตา วุตฺตา เอว. สติรหิตํ สมฺมสนํ นาม นตฺถีติ ‘‘ยา อุปฏฺิตา สติ อสมฺมุฏฺา, อยํ วิปสฺสนา’’ติ วุตฺตํ. เตน สติสีเสน วิปสฺสนา คหิตาติ ทสฺเสติ. สมฺโมสานํ ปหานมาหาติ สมฺพนฺโธ.

๕๔. ปจฺจุปฺปนฺนสุขอายติสุขวิปากกิริยนิรามิสอกาปุริสเสวิตภาเวหิ เอว เสสา ปาฬิยํ เอตสฺส สมาธิสฺส สนฺตปณีตตาทิวิเสสา วุตฺตา, เตปิ อิธ สงฺคหิตาติ เตสํ ปทานํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘องฺคสนฺตตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ องฺคสนฺตตายาติ ผลฌานงฺคานํ อุปสนฺตตาย. กิเลสทรถสนฺตตายาติ กิเลสทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิยา. ปณีโตติ อุฬาโร. เอโกทิภาเวนาติ มคฺคสมาธิสงฺขาเตน เอโกทิภาเวน. เอโกทิภาวนฺติ สมาธานํ. โลกิยสมาธิสฺส ปจฺจนีกนีวรณปมชฺฌานนิกนฺติอาทีนิ นิคฺคเหตพฺพานิ, อฺเ จ กิเลสา วาเรตพฺพา. อิมสฺส ปน อรหตฺตสมาธิสฺส ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสตฺตา น นิคฺคเหตพฺพํ, วาเรตพฺพฺจ อตฺถีติ โส มคฺคานนฺตรํ สมาปตฺติกฺขเณว อปฺปโยเคเนว อธิคตตฺตา, ิตตฺตา จ อปริหานิวเสน วา อธิคตตฺตา นสสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต.

‘‘สติเวปุลฺลปฺปตฺโต’’ติ เอเตน อปฺปวตฺตมานายปิ สติยา สติพหุลตาย สโต เอว นามาติ ทสฺเสติ. ‘‘ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสนา’’ติ เอเตน ปริจฺฉินฺนสติยา สโตติ ทสฺเสติ.

วกฺขมาเนนาติ ‘‘ปีติผรณา’’ติอาทินา อนนฺตรํ วกฺขมาเนน. ‘‘ปีติผรณตา’’ติ ปน ปาฬิ อาคตา. ตํ ‘‘ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) สมาธิองฺคภาเวน ปฺา อุทฺทิฏฺาติ กตฺวา วุตฺตํ. ตโต เอว อฏฺกถายํ ‘‘ปีติผรณตา’’ติอาทีนฺจ อตฺถสํวณฺณนา กตา. ตตฺถ ‘‘โส อิมเมว กายํ วิเวกเชน ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๒๖) นเยน ปีติยา, สุขสฺส จ ผรณํ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

สมาธิวเสน สมโถ อุทฺธโฏติ สภาววเสน สมโถ อุทฺธโฏ, น อุปการกธมฺมวเสนาติ อธิปฺปาโย.

๕๕. ราคปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺตํ. วุตฺตนยานุสาเรนาติ ‘‘สุขปณิธิอาทิสมุคฺฆาฏเนน อปฺปณิหิโต’’ติอาทินา. เอตฺถ จ สงฺขารานํ ขณภงฺคุรตํ สมฺมเทว ปสฺสนฺตสฺส น ราโค ปติฏฺํ ลภตีติ อนิจฺจานุปสฺสนา ราคจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตา, ตถา สงฺขารานํ สภาวทุกฺขตํ สมฺมเทว ปสฺสนฺตสฺส ปกติยาปิ ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขุปฺปาทนํ วเณ ขาโรทกเสกสทิสนฺติ น โทโส ปติฏฺํ ลภตีติ ทุกฺขานุปสฺสนา โทสจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตา, ตถา สงฺขาเรสุ สมฺมเทว ฆนวินิพฺโภเค กเต อตฺตสุฺตาย อุปฏฺหมานาย น โมโห ปติฏฺํ ลภตีติ อนตฺตานุปสฺสนา โมหจริตสฺส สปฺปายา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ราคปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส ‘‘อธิจิตฺตสิกฺขาย สิกฺขนฺโต’’ติ วุตฺตํ. เอส นโย อิตเรสุ. เสสเมตฺถ สุวิฺเยฺยํ.

ขนฺติพหุโล อุปฺปนฺนํ อรตึ อนภิรตึ อภิภุยฺย วิหรนฺโต สุเขน สมาธึ อธิคจฺฉตีติ ขนฺติปฺปธานตาปิ สมถปกฺขภชนสฺส การณํ วุตฺตา. อุฏฺานํ สมฺปชฺชตีติ สมฺปนฺนกายิกวีริยํ. สมฺมากมฺมนฺตวายามานํ โย กายิกาทิวิกปฺโป วุตฺโต ปาฬิยํ, โส เนสํ กายิกสฺส ปโยคสฺส สมุฏฺานวเสน เวทิตพฺโพ.

‘‘ขิปฺปาธิคโม’’ติ อิมินา มคฺคาเสวนภาวํ ทสฺเสติ. ‘‘วิปสฺสนาย วิมุตฺตาธิคโม’’ติ อิมินา วิปสฺสนานุภาเวน สมุจฺเฉทวิมุตฺติ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติ วิย สมถานุภาเวนาติ ทสฺเสติ. โลกิเยหีติ นิสฺสกฺกวจนํ. มหนฺตานนฺติ อุฬารานํ, ปณีตานนฺติ อตฺโถ.

๕๖. นฺติ วิจยหารํ. วิสํวาทนเหตูนํ โลภาทีนํ ปาปธมฺมานํ. โสเธนฺโตติ ยถา สรณาทิวิสยา อฺาณาทิสํกิเลสา น ปวตฺตนฺติ, เอวํ โสเธนฺโต. ปริปูเรนฺตาติ ยถา สีลํ อขณฺฑาทิภาเวน ปริปุณฺณํ โหติ อนูนํ, เอวํ ปริปูเรนฺตา.

‘‘ตถาปฏิปชฺชนฺโต’’ติ อิมินา สตฺถุ มหาปติการภาโว ปริปุณฺโณ ทสฺสิโตติ ปมวาเท ‘‘ทสฺสนาภูมิฺจ ภาวนาภูมิฺจา’’ติ วุตฺตํ.

ยสฺส อตฺถายาติ ยสฺส ยสฺส ปหานตฺถาย. ตถา ปฏิปนฺนสฺสาติ ยถา อสุภชฺฌานาทึ ปาทกํ กตฺวา อนาคามิมคฺคาทิอธิคโม โหติ, ตถา ปฏิปนฺนสฺส.

วธิตนฺติ ฆาติตํ.

‘‘มนุสฺสภูโต’’ติ อิทํ ปุพฺพาปราเปกฺขํ กตฺวา ‘‘ปิตา มนุสฺสภูโต ขีณาสโว’’ติ จ ตถา ‘‘มาตา มนุสฺสภูตา’’ติ โยเชตพฺพํ. เภทานุรูปสฺส สาวนํ อนุสฺสาวนํ, เภทานุรูเปน วา วจเนน วิฺาปนํ.

๕๗. มนุสฺสตฺตนฺติ มนุสฺสชาติตา. ลิงฺคสมฺปตฺตีติ ปุริสภาโว. เหตูติ มโนวจีปณิธานสิทฺธิยา สทฺธึ ปุพฺพเหตุสมฺปทา. สตฺถารทสฺสนนฺติ สตฺถุ สมฺมุขีภาโว. คุณสมฺปตฺตีติ อภิฺาสมาปตฺติลาโภ. อธิกาโรติ อตฺตโน สรีรนิรเปกฺขํ สตฺถุ อุปการกรณํ. ฉนฺทตาติ พุทฺธภาวาย ทฬฺหจฺฉนฺทตา อนิวตฺติธมฺมตา.

น อุปฺปชฺชนฺตีติ ปน อตฺถีติ ‘‘น เม อาจริโย อตฺถิ, สทิโส เม น วิชฺชตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๘๕; ๒.๓๔๑; กถา. ๔๐๕; มหาว. ๑๑; มิ. ป. ๔.๕.๑๑) อิมิสฺสา โลกธาตุยา ตฺวา วทนฺเตน ภควตา ‘‘กึ ปนาวุโส สาริปุตฺต, อตฺเถตรหิ อฺโ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา ภควโต สมสโม สมฺโพธิยนฺติ เอวํ ปุฏฺโ อหํ, ภนฺเต, ‘โน’ติ วเทยฺย’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑) วตฺวา ตสฺส การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา’’ติ (ที. นิ. ๓.๑๖๑; อ. นิ. ๑.๒๗๗) อิมํ สุตฺตํ ทสฺเสนฺเตน ธมฺมเสนาปตินาว พุทฺธเขตฺตภูตํ อิมํ โลกธาตุํ เปตฺวา อฺตฺถ อนุปฺปตฺติ วุตฺตา โหตีติ อธิปฺปาโย.

เขตฺตปริคฺคโห กโต นาม โหติ ‘‘อิทํ พุทฺธเขตฺตํ นามา’’ติ.

เอวํ านาฏฺานภาวํ คตาติ วุตฺตปฺปกาเรน านภูตา, วุตฺตนเยน วา อฺเปิ ยถารหํ านาฏฺานภาเวน ปวตฺตา. สตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตาติ อินฺทฺริยพทฺเธ ขนฺเธ สนฺธาย วทติ.

๕๘. ผลสฺสปจฺจกฺขการิตาติ ‘‘อิมสฺส กมฺมสฺส อิทํ ผล’’นฺติ ตํตํกมฺมผลาวโพโธ. อปฺปทานาภาโวติ ปจฺจยสมวาเย กมฺมสฺส เอกนฺตโต ผลุปฺปาทนํ. เตนาห ‘‘กตูปจิตาน’’นฺติ.

๕๙. อชฺโฌสิตวตฺถุนาติ ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิฏฺวตฺถุนา. รูปภวอรูปภวาทินาติ ภวตณฺหา วิย สยํ ทสฺเสติ.

ขนฺธตฺตยวเสนาติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยวเสน. ปฏิปทาวิภาเคนาติ ‘‘สพฺพตฺถคามินี’’ติ อาทิปฏิปทาย เภเทน.

ตตฺถตตฺถคามินีติ นิรยาทินิพฺพานนฺติ ทฺวีสุ คนฺธพฺพฏฺาเนสุ ตตฺถ ตตฺเถว คมนสีลา. สพฺพตฺถคามินีติ ยถาวุตฺเตสุ สพฺพฏฺาเนสุ จ คมนสีลา.

สฺชีโว กาฬสุตฺตํ สงฺฆาโต โรรุโว มหาโรรุโว ตาปโน มหาตาปโน อวีจีติ เอเต อฏฺ มหานิรยา. เอเกกสฺส จตฺตาริ จตฺตาริ ทฺวารานิ, เอเกกสฺมึ ทฺวาเร จตฺตาโร จตฺตาโร คูถนิรยาทโยติ เอวํ โสฬส อุสฺสทนิรเย วณฺเณนฺติ.

สกฺกสุยามาทิโก เชฏฺกเทวราชา. ปชาปติวรุณอีสานาทโย วิย ทุติยาทิฏฺานนฺตรการโก ปริจารโก.

กิเลสกามปกฺเขติ ‘‘สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโมติ (มหานิ. ๑) เอตฺถ วุตฺตสงฺกปฺปวเสน วุตฺตํ. โสปิ หิ วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ กิเลสตฺตสมฺภวโต กิเลสกาโม วุตฺโต, น กิเลสวตฺถุภาวโต. กามปฏิสํยุตฺโตติ กามราคสงฺขาเตน กาเมน สมฺปยุตฺโต, กามปฏิพทฺโธ วา. อฺเสุ จ กามปฏิสํยุตฺเตสุ ธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ วิตกฺเก เอว กามสทฺโท ธาตุสทฺโท นิรุฬฺโหติ เวทิตพฺโพ วิตกฺกสฺส กามสงฺกปฺปวุตฺติยา สาติสยตฺตา. เอส นโย พฺยาปาทธาตุอาทีสุ. ปรสฺส, อตฺตโน จ ทุกฺขาปนํ วิหึสา. ตํ ตุ มิจฺฉาหิ วิหึสา.

พีชาทิธาตุนานตฺตวเสน ขนฺธาทินานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ขนฺโธติ ทฺวิธาภูตคฺโค.

๖๐. อชฺฌาสยธาตูติ อชฺฌาสยสภาโว. ยถา คูถาทีนํ สภาโว เอโส ยํ คูถาทีเหว สํสนฺทติ, เอวํ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยสฺเสเวส สภาโว, ยํ ทุสฺสีลาทโย ทุสฺสีลาทิเกเหว สํสนฺทนฺติ.

สทฺธามูลกตฺตา กุสลกิริยาย วุตฺตํ ‘‘ยํ สทฺธาวเสนา’’ติอาทิ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติ (สุ. นิ. ๗๗). ยํ โลภวเสน, สทฺธาวเสน จ โทสวเสน, สทฺธาวเสน จ โมหวเสน , สทฺธาวเสน จาติ โยเชตพฺพํ. วีริยวเสนาติ สมฺมปฺปธานวีริยวเสน. ปฺาวเสนาติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิวเสน.

อกุสลสฺส กมฺมสฺส กโตกาสตาย ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา ‘‘วิปากาวรเณน นิวุต’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ ปน นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ กมฺมาวรณาทีหิปิ นิวุตตาย อิจฺฉิตตฺตา. ตถา หิ ยถา เทวทตฺตํ โกกาลิกํ สุนกฺขตฺตํ ลิจฺฉวิปุตฺตนฺติ อุทาหฏํ, ยทิปิ ภควา ปฏิเวธสฺส อฏฺานตํ ทิสฺวา นิพฺเพธภาคิยเทสนํ น เทเสติ, วาสนาภาคิยํ ปน ตถารูปสฺส เทเสติ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺจปฺปฏิเวธ’’นฺติอาทิมาห. อชาตสตฺตุอาทีนนฺติ อาทิสทฺเทน สจฺจกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตสฺสาปิ ภควา อนาคเต วาสนตฺถาย ธมฺมํ เทเสสิ. สตฺถา หิ ‘‘อนาคเต ตมฺพปณฺณิทีเป สาสนํ ปติฏฺหิสฺสตี’’ติ ตตฺถายํ กุลฆเร นิพฺพตฺโต ปพฺพชิตฺวา กาฬพุทฺธรกฺขิตตฺเถโร นาม ปภินฺนปฏิสมฺภิโท มหาขีณาสโว ภวิสฺสตีติ อิทํ ทิสฺวา ธมฺมํ เทเสสิ, โส จ ตถา อโหสีติ.

อสมฺปุณฺเณติ เอกนฺตโต วิปากทานสมตฺถตาวเสน ปาริปูรึ อนุปคเต. ทิฏฺุปนิสฺสยทิฏฺิสหคตสฺส กมฺมํ สนฺธาย ‘‘กมฺเม อสมฺปุณฺเณ’’ติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กิเลสนฺตราย มิสฺสกํ กมฺมนฺตรายํ ทสฺเสตฺวา’’ติ.

๖๑. ทิฏฺิ ปเนตฺถ ปธานภาเวน ปาฬิยํ คหิตา สีลพฺพตปรามาสสฺส อธิปฺเปตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ยถา ปุณฺณฺจ โควติกํ, อเจลฺจ กุกฺกุรวติก’’นฺติ. อสมฺปุณฺณตฺตา เอว หิ ตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานสฺส เตสํ ภควา ‘‘จตฺตาริมานิ, ปุณฺณ, กมฺมานี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๘๑) ธมฺมํ เทเสสิ. ตาย จ เทสนาย เต ตํ ทิฏฺึ ปฏินิสฺสชฺชิตฺวา สมฺมตฺเต ปติฏฺหึสุ.

๖๒. ปคุณตาย โวทานํ ปคุณโวทานํ. ตเทว ปมชฺฌานาทีหิ วุฏฺหิตฺวา ทุติยชฺฌานาทิอธิคมสฺส ปจฺจยตฺตา วุฏฺานํ นาม โหตีติ อาห ‘‘วุฏฺานํ ปคุณโวทาน’’นฺติ. ภวงฺควุฏฺานํ ภวงฺคุปฺปตฺติ. ภวงฺคจิตฺเต หิ อุปฺปนฺเน ตํสมงฺคิสมาปตฺติโต วุฏฺิโต นาม โหติ. สฺาเวทยิตอปคโม เอว อปคมวิโมกฺโข.

อิทํ วุฏฺานนฺติ อิทํ ยถาวุตฺตํ โกสลฺลํ วุฏฺานเหตุภาวโต วุฏฺานํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘โวทานมฺปิ ตมฺหา ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺาน’’นฺติ (วิภ. ๘๒๘). อิมาย ปน วุฏฺานปาฬิยา อสงฺคหิตตฺตา ‘‘นิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺานํ ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นามา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๘๒๘) วุตฺตํ. เย ปน ‘‘นิโรธโต ผลสมาปตฺติยา วุฏฺาน’’นฺติ ปาฬิยํ นตฺถีติ วเทยฺยุํ, เต ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) อิมาย ปาฬิยา ปฏิเสเธตพฺพา.

๖๓. อยํ จสฺส อาสโยติ เอตฺถ อาสยชานนาทินา เยหิ อินฺทฺริเยหิ เยหิ ปโรปเรหิ สตฺตา กลฺยาณปาปาสยาทิกา โหนฺติ, เตสํ ปชานนํ วิภาเวตีติ เวทิตพฺพํ. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยปโรปริยตฺตอาสยานุสยาณานํ วิสุํ อสาธารณตา, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนานาธิมุตฺติกตาาณานํ วิสุํ พลตา จ สิทฺธา โหติ.

ถามคโตติ เอตฺถ ถามคมนํ นาม อฺเสํ อสาธารโณ กามราคาทีนํ เอว อาเวณิโก สภาโว เวทิตพฺโพ, ยโต ‘‘ถามคโต อนุสยํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) วุตฺตํ.

อาวชฺชนมตฺเตเนว สรติ อากงฺขายตฺตวุตฺติกตฺตา. วุตฺตฺหิ ‘‘อากงฺขปฏิพทฺธํ พุทฺธสฺส ภควโต าณํ, มนสิการปฏิพทฺธํ พุทฺธสฺส ภควโต าณ’’นฺติอาทิ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). สพฺพฺุตฺาณํ วิย หิ สพฺพํ ภควโต าณํ ปริกมฺมนิรเปกฺขนฺติ.

๖๔. อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตฺตาติ เอตฺถ จิตฺตาทิ เอว อุปกฺกิเลสา, นิพฺพตฺตกสฺส วา กมฺมสฺส ปาริพนฺธกิเลสา. กสิณกมฺมปริกมฺมฌานนิพฺพตฺตนกสิณภาโว จุทฺทสวิเธน จิตฺตปริทมนํ อภิฺาภินีหาโรติ สพฺพตฺถาปิ วีริยพลสฺส พหูปการตฺตา วุตฺตํ ‘‘วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺต’’นฺติ. ทิพฺพสทิสตฺตาติ ทิพฺเพ ภวนฺติ ทิพฺพํ, ยถาวุตฺตํ ปสาทจกฺขุ, ทิพฺพํ วิยาติ ทิพฺพํ, อคฺคตํ อภิฺาณํ. ทิพฺพวิหาโร จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานิ. เตสํ วเสน นิพฺพตฺติตฺวา ปฏิลทฺธพฺพตฺตา ทิพฺพํ, เตน ทิพฺพเหตุกตฺตา ทิพฺพนฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาติ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเนน นิสฺสยปจฺจเยน นิพฺพตฺตตฺตา, เตน ทิพฺพนิสฺสิตํ ทิพฺพนฺติ ทสฺเสติ. ทิวุสทฺทํ อกฺขรจินฺตกา กีฬาทีสุ ปนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺพ’’นฺติ. ปุริมา หิ ตโย อตฺถา กีฬตฺถสฺส วเสน, อิตเร ชุติคติอตฺถวเสเนว ทสฺสิตาติ.

มนุสฺสูปจารนฺติ มนุสฺสโคจรํ. ทฏฺุํ น สกฺกา อิตฺตรขณตฺตา ขณปจฺจุปฺปนฺนสฺส. ‘‘อาสนฺนจุติกา’’ติอาทินา สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสน ‘‘จวมาเน อุปปชฺชมาเน’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา’’ติอาทินา สตฺตานํ หีนปณีตตฺตาทิภาวสฺส โมหาทิกมฺมนิทานเหตุกตํ, นิสฺสนฺทผลตฺจ ทสฺเสติ. ทิพฺพจกฺขุสฺส ปาทกํ เอเตสนฺติ ทิพฺพจกฺขุปาทกานิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺตี’’ติ. ตานิ หิสฺส ปริภณฺฑาณานิ.

สมาทียนฺตีติ สมาทานานิ, กมฺมานิ สมาทานานิ เอเตสนฺติ กมฺมสมาทานา. สมาทาตพฺพนานาวิธกมฺมาติ อตฺโถ ปุริเม อตฺเถ, ทุติเย ปน กมฺมานิ สมาทาเปนฺตีติ กมฺมสมาทานา, มิจฺฉาทิฏฺิยา กมฺมสมาทานา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เหตุอตฺเถ เจตํ กรณวจนํ.

ตํ วาจนฺติ ตํ อริยานํ อุปวทนวาจํ. ตํ จิตฺตนฺติ สมุฏฺาปกจิตฺตํ. ตํ ทิฏฺินฺติ เยน มิจฺฉาคาเหน อริเย อนุทฺธํเสติ, มิจฺฉาภินิเวสํ. อยมฺเปตฺถ อตฺโถ – ยถา นาม เหตุสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิสุทฺธํ สีลํ, สมาธิฺจ สมฺปาเทตฺวา ิตสฺส ทนฺโธ สตุปฺปาโท ขิปฺปาภิฺาย ทิฏฺเว ธมฺเม อฺา, สติ วา อุปาทิเสเส อนาคามิตา. เอวเมวํ โย อริยูปวาที ยถาวุตฺตจิตฺตทิฏฺีหิ อปกฺกมิตฺวา อปฺปติรูปํ สภาวํ ‘‘มยา, ภนฺเต, ตุมฺหากํ อุปริ วุตฺต’นฺติ อจฺจยเทสนาย เต น ขมาเปติ, โส กายสฺส เภทา นิรเย เอวาติ. เตสุ ปสนฺนจิตฺตสฺส ขมาปนฺเหตฺถ เตสํ วาจาทีนํ ปหานํ ปฏินิสฺสคฺโคว. อิโต สาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ สพฺพานตฺถวิธานโต, สพฺพหิตสุขปริธํสนโต จ.

กายสฺสเภทาติ อิธ กายสทฺโท อตฺตภาวปริยาโยติ อาห ‘‘อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา’’ติ. ตทนนฺตรนฺติ ตสฺส มรณสงฺขาตสฺส ขนฺธปริจฺจาคสฺส อนนฺตรํ. อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธตฺโถ ปรสทฺโท, อโนริมภูตวตฺถุวิสโย วา สิยา, อวธิวิเสสนมตฺตํ วา. เตสุ ปุริมํ สนฺธายาห ‘‘อภินิพฺพตฺตกฺขนฺธคฺคหเณ’’ติ, ปจฺฉิมสฺส ปน วเสน ‘‘จุติโต อุทฺธ’’นฺติ.

วุตฺตวิปริยาเยนาติ ‘‘สุฏฺุ จริตํ, โสภนํ วา จริต’’นฺติอาทินา. หนนนฺติ ฆาตนํ.

การณาการณนฺติ านาฏฺานํ. เจตนาเจตนาสมฺปยุตฺตธมฺเม นิรยาทินิพฺพานคามิปฏิปทาภูเต กมฺมนฺติ คเหตฺวา อาห ‘‘กมฺมปริจฺเฉทเมวา’’ติ. กมฺมวิปากนฺตรํ กมฺมวิปากวิเสโส กมฺมวิปากสฺส วิภาโค. อปฺเปตุํ น สกฺโกติ อฏฺมนวมพลานิ วิย, ตํสทิสํ อิทฺธิวิธาณํ วิย วิกุพฺพิตุํ, เอเตนสฺส พลสทิสตฺจ นิวาเรติ. ฌานาทิาณํ วิย วา อปฺเปตุํ , วิกุพฺพิตุฺจ. ยทิปิ หิ ฌานาทิปจฺจเวกฺขณาาณํ อิธ ฉฏฺํ พลนฺติ ตสฺส สวิตกฺกสวิจารตา วุตฺตา, ตถาปิ ฌานาทีหิ วินา ปจฺจเวกฺขณา นตฺถีติ ฌานาทิสหคตํ าณํ ตทนฺโตคธํ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. อถ วา สพฺพฺุตฺาณํ ฌานาทิกิจฺจํ วิย น สพฺพํ พลกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุฺจ น สกฺโกตี’’ติ (วิภ. มูลฏี. ๘๓๑) วุตฺตํ, น ปน กสฺสจิ พลสฺส ฌานอิทฺธิภาโวติ ทฏฺพฺพํ.

วิจยหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา

๖๕. ปฏิปกฺขปฏิพาฬฺหา กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชิตุเมว น สกฺโกนฺติ, อุปฺปนฺนาปิ สมฺมเทว อตฺตโน กิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย อนุปฺปนฺนสทิสาติ ปฏิปกฺขนิวารเณน กุสลานํ ธมฺมานํ กิจฺจกรณภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘มนจฺฉฏฺานิ…เป… ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. วิหรนฺตสฺสาติ วิหรณเหตุ. วิหรนฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, เตน รกฺขิตจิตฺตตา วุตฺตนเยน เอกนฺตโต สมฺมาสงฺกปฺปโคจรตาย จ สํวตฺตตีติ ทสฺเสติ. วุตฺตนเยนาติ มิจฺฉาสงฺกปฺปานํ อวสรํ อทตฺวา วิโสธิตเนกฺขมฺมาทิวิตกฺกตาย. อวิปรีตเมวาติ กายาทิอสุภาทิโต อาทานํ. วินิปาตภยนฺติ ทุคฺคติภยํ. สพฺโพปิ จายมตฺโถติ ‘‘สมฺมาสงฺกปฺปโคจโร สมฺมาทิฏฺิ ภวิสฺสตี’’ติอาทีสุ อตฺโถ ยุตฺติยา ยุตฺโต เอว อนรูปการณภาวโต.

ยุตฺติหารสมฺปาตวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ปทฏฺานหารสมฺปาตาทิวณฺณนา

๖๖. ยสฺมา วา สํกิเลสโต รกฺขิตจิตฺตสฺส ตีณิ สุจริตานิ ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา รกฺขิตจิตฺตสฺสาติ เอตฺถ ยายํ รกฺขิตจิตฺตตา, สา กายสุจริตาทีนํ ติณฺณํ สุจริตานํ ปทฏฺานนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อตฺตาธีนนฺติ อตฺตปราธีนํ.

ตโต เอวาติ การณคฺคหเณน ผลสฺส คหิตตฺตา เอว.

๖๘. ตตฺถอิติสทฺโทติ ‘‘ปริปาลียตี’’ติ อิติสทฺโท.

๗๓-๔. ปาฬิยํ ปฺจินฺทฺริยานิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตานีติ เอตฺถ สทฺธาวีริยสตินฺทฺริเยหิ ปาติโมกฺขาทิ ติวิธํ สีลํ คหิตํ โสเธตพฺพตฺตา. เตสนฺติ เตหิ สีลกฺขนฺโธ สงฺคหิโต. สมาธิปฺินฺทฺริเยหิ สมาธิปฺากฺขนฺธา คหิตาติ ปากโฏยมตฺโถ, ตถา เสสมฺปีติ อาห ‘‘อิโต ปเรสุ…เป… วุตฺตนยเมวา’’ติ.

๗๖. เหตุเหตุสมุปฺปนฺนปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนสงฺขาตสฺสาติ เอตฺถ เหตุปจฺจยวิภาโค เหฏฺา วุตฺโตเยว.

ปทฏฺานหารสมฺปาตาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา

อิทานิ ยสฺมา สุตฺเตสุ หารานํ โยชนานยทสฺสนตฺตา หารสมฺปาตเทสนา หารวิภงฺคเทสนา วิย น หารสรูปมตฺตทสฺสนตฺตา, ตสฺมา เปฏโกปเทเส อาคตนยานุสาเรน อปเรหิ วิปริยาเยหิ หารสมฺปาตโยชนาวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิชฺชาวิชฺชาย กุสลากุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา อโลภาโทสโลภโทสาปิ ปรมฺปรภาเวน ปวตฺตนฺติ นิทานภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉ ธมฺมา…เป… มูลานี’’ติ อาห. ยถา จ นิทานภาเวน ปุพฺพงฺคมตา, เอวํ อตฺตโน วเสวตฺตเนนาปิ ปุพฺพงฺคมตา ลพฺภเตวาติ วุตฺตํ ‘‘สาธิปติกานํ อธิปติ, สพฺพจิตฺตุปฺปาทานํ อินฺทฺริยานี’’ติ. อโลภสฺสาติ อโลภยุตฺตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส. เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทนาติ กุสลจฺฉนฺเทน. เนกฺขมฺมสทฺโท ปพฺพชฺชาทีสุ นิรุฬฺโห. วุตฺตฺหิ –

‘‘ปพฺพชฺชา ปมํ ฌานํ, นิพฺพานฺจ วิปสฺสนา;

สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา, ‘เนกฺขมฺม’นฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๙; ที. นิ. ฏี. ๒.๓๕๙; อ. นิ. ฏี. ๒.๒.๖๖) –

เตสุ อิธ กุสลา ธมฺมา อธิปฺเปตา. เตน วุตฺตํ ‘‘กุสลจฺฉนฺเทนา’’ติ. เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทน อุปนิสฺสยภูเตน, น อธิปติภูเตน. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อโลภปฺปธาโน เจ จิตฺตุปฺปาโท โหติ, เนกฺขมฺมจฺฉนฺเทน อุปนิสฺสยภูเตน มโน ตสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย.

ยทคฺเคน เตสํ ธมฺมานํ มโน ปุพฺพงฺคมํ, ตทคฺเคน เตสํ เชฏฺํ, ปธานฺจาติ วุตฺตํ ‘‘มโนเสฏฺาติ มโน เตสํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. มโนมยตา มเนน กตาทิภาโว, โส จ มนสฺส เตสํ สหชาตาทินา ปจฺจยภาโว เอวาติ วุตฺตํ ‘‘มโนมยาติ…เป… ปจฺจโย’’ติ. เต ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถทีปโก, เตเนตํ ทสฺเสติ – ยทิปิ เตสํ ธมฺมานํ ฉนฺทาทโยปิ ปจฺจยา เอว, อินฺทฺริยาทิปจฺจเยน ปน สวิเสสํ ปจฺจยภูตสฺส มนสฺเสว วเสเนว วุตฺตํ ‘‘มโนมยา’’ติ. ตตฺถ ฉนฺทสมุทานีตาติ ยถาวุตฺตเนกฺขมฺมาทิฉนฺเทน สมฺมา อุทฺธมุทฺธํ นีตา, ตโต สมุทาคตาติ อตฺโถ. ตโต เอว เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิโต สมุปฺปนฺนตฺตา อนาวิลสงฺกปฺปสมุฏฺานา. ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺเสน สหาธิฏฺานโต ผสฺสสโมธานา. ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ. อิทํ มโนกมฺมนฺติ กายงฺควาจงฺคโจปนํ อกตฺวา สทฺธาสมนฺนาคเตน ปสนฺเนน มนสา ปวตฺตํ อิทํ กุสลํ มโนกมฺมํ. ตํ ปน อนภิชฺฌาสหคตํ, อพฺยาปาทสหคตํ, สมฺมาทิฏฺิสหคตนฺติ ติวิธํ โหติ.

ภาสตีติ อวิสํวาทนาทินา วาจงฺคโจปนาวเสน ปวตฺเตนฺติยา วจีวิฺตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อตฺโถ, เตน กายทฺวารโต ปวตฺตกุสลวจีกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ ภาสตี’’ติ. สพฺพมฺปิ วจีกมฺมํ สจฺจาทิวเสน จตุพฺพิธํ. กโรตีติ อตฺตโน, ปเรสฺจ หิตาหิตานิ การณาการเณหิ กายงฺคโจปนาวเสน ปวตฺเตนฺติยา กายวิฺตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อตฺโถ, เตน วจีทฺวารโต ปวตฺตกุสลกายกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘กายวิฺตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ กโรตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา). กมฺมปถวเสน คยฺหมาเน ปาณาติปาตาทิวเสน ตํ ติวิธํ โหติ. เตนาห ‘‘อิติ ทสกุสลกมฺมปถาทสฺสิตา’’ติ. ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสนาปิ คาถาย อตฺโถ ยุชฺชติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘โส ปสนฺนจิตฺโต’’ติอาทิ. ภาสติ วา กโรติ วา เกวลํ มนสา ปวตฺตตีติ อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท. ตถา เจว สํวณฺณิตํ.

ทสวิธสฺส กุสลกมฺมสฺสาติ ทสวิธสฺส กุสลกมฺมปถกมฺมสฺส, วกฺขมานนเยน วา ทสปุฺกิริยวตฺถุสงฺขาตสฺส กุสลกมฺมสฺส. นนุ ตตฺถ ทานาทิมยํ ติวิธเมว ปุฺกิริยวตฺถุ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ, ตํ ปน อิตเรสํ ตทนฺโตคธตฺตา.

‘‘สุขมนฺเวตี’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตํ สุขานุคมํ วิตฺถาเรน ทสฺเสนฺโต ‘‘อิธสฺสุ ปุริโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ สนฺตนฺติ เอวํ ภูตํ, อปฺปหีนานุสโย หุตฺวา สุขเวทนียผสฺสสมฺภูตนฺติ อตฺโถ.

ตตฺถ ‘‘ยํ มโน’’ติอาทินา คาถาตฺถวเสน จตุสจฺจํ นิทฺธาเรติ. อาทิโต ววตฺถาปิเตสุ ขนฺธาทีสุ ขนฺธมุเขน สจฺจานํ กถิตตฺตา สตฺตานํ ภินฺนรุจิภาวโต นานานเยหิ วิปสฺสนาภูมิโกสลฺลตฺถํ, ปุพฺพาปรสมฺพนฺธทสฺสนตฺถฺจ เอวํ วุตฺตํ ‘‘เอวํ…เป… นิทฺธาเรตพฺพานี’’ติ. สจฺจมุเขน อสฺสาทาทิเก นิทฺธาเรตฺวา เทสนาหารสมฺปาตํ โยเชตุํ ‘‘ตตฺถ สมุทเยนา’’ติอาทิมาห, ตํ วุตฺตนยเมว. ยฺเหตฺถ อฺมฺปิ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํ.

มนนลกฺขเณติ มนนลกฺขณเหตุ. ‘‘มนนลกฺขเณนา’’ติ วา ปาโ. อีหาภาวโต พฺยาปาราภาวโต. เยน ปสาเทน สมนฺนาคตตฺตา มโน ‘‘ปสนฺโน’’ติ วุตฺโต, ตสฺส ปสาทสฺส กิจฺจํ มเน อาโรเปตฺวา อาห ‘‘อกาลุสิยโต, อารมฺมณสฺส โอกปฺปนโต จ ปสนฺเนนา’’ติ. ตถา สาทิยนโตติ วาจาย วตฺตพฺพํ อวตฺวาว ผสฺสสาทิยนโต อนุชานโต. ทุติเย ตถา สาทิยนโตติ กาเยน กาตพฺพํ ยถา กตํ โหติ, ตถา วาจาย สํวิธานโต. ตถา ปสุตตฺตาติ ยถา สุขมนฺเวติ, ตถา อุปจิตตฺตา เอวาติ อตฺโถ. ตโตติ ตโต การณา, มนสา ปสนฺเนน, ภาสเนน, กรเณน จ เหตุนาติ วุตฺตํ โหติ. อนฺตฺถาติ เอตสฺมึ ปน อตฺเถ. ตโตติ ตโต เอว. โย หิ ปสนฺนมโน เตน ยํ ภาสนํ, กรณฺจ, ตโต เอว นํ สุขมนฺเวตีติ วุตฺตํ โหติ. สาตภาวโตติ สาตเวทนาภาวโต. อิฏฺภาวโตติ มนาปภาวโต. กมฺมโต วิปากุปฺปตฺติผลทานสมตฺถภาเวน กมฺมสฺส นิพฺพตฺตตฺตา วิปากสฺเสว อนิพฺพตฺตตฺตาติ อาห ‘‘กตู…เป… อนฺเวตีติ วุตฺต’’นฺติ การณายตฺต วุตฺติโตติ กตภาวเหตุกตฺตา กมฺมสฺสาติ อธิปฺปาโย. อสงฺกนฺติโตติ ยสฺมึ สนฺตาเน กมฺมํ นิพฺพตฺตํ, ตทฺสนฺตานา สงฺกมนโต.

อาธิปจฺจโยคโตติ สหชาตาธิปติวเสน อาธิปจฺจยุตฺตตฺตา. สหชาตธมฺมานฺหิ ตํสมฺปยุตฺตสฺส มนสฺส วเสน ปุพฺพงฺคมตา อิธาธิปฺเปตา. ตโต เอวาติ อาธิปจฺจโยคโต เอว. มนสฺสาติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. เตสํ ธมฺมานนฺติ สมฺพนฺโธ. กุสลภาโว ยุชฺชติ ปสาทสฺส โยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา . นนุ วิภชฺชพฺยากรเณสุ เตสํ สาวกานํ สทฺธา อุปฺปชฺชตีติ? นายํ สทฺธา, ตทาการา ปน อกุสลา ธมฺมา ตถา วุจฺจนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นายํ ปสาโท’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา). สุขํ อนฺเวตีติ ยุชฺชติ กมฺมสฺส ผลทาเน สมตฺถภาวโต. ยถา หิ กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตนฺติ วุจฺจตีติ.

มโนปวิจารา อิธ เนกฺขมฺมสิตา โสมนสฺสูปวิจารา, อุเปกฺขูปวิจารา จ เวทิตพฺพา กุสลาธิการตฺตา. เต ปน ยสฺมา จิตฺตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ, นานิสฺสาย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มโน มโนปวิจารานํ ปทฏฺาน’’นฺติ. กุสลปกฺขสฺส ปทฏฺานนฺติ เอตฺถ กุสโล ตาว ผสฺโส กุสลสฺส เวทนากฺขนฺธสฺส สฺากฺขนฺธสฺส สงฺขารกฺขนฺธสฺส สหชาตาทินา ปจฺจโย โหติ. ‘‘ผุฏฺโ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วุตฺตํ. เอวํ เวทนาทีนมฺปิ เวทิตพฺพํ. สทฺธาทีนมฺปิ ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. สพฺพสฺสาติ จตุภูมกสฺส. กามาวจรา หิ กุสลา ธมฺมา ยถารหํ จตุภูมกสฺสาปิ กุสลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, เอวํ อิตรภูมกาปิ.

‘‘ปสนฺเนน มนสา ภาสตี’’ติ วุตฺตตฺตา วิเสสโต สมฺมาวาจาปจฺจยํ ภาสนํ อิธาธิปฺเปตนฺติ วุตฺตํ ‘‘ภาสตีติ สมฺมาวาจา’’ติ. ตตฺถายมธิปฺปาโย ‘‘ภาสตีติ ยมิทํ ปทํ, อิมินา สมฺมาวาจา คหิตา โหตี’’ติ. กโรตีติ สมฺมากมฺมนฺโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สุปริสุทฺเธ กายวจีกมฺเม ิตสฺส อาชีวปาริสุทฺธิ, น อิตรสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘เต สมฺมาอาชีวสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ. ตตฺถ เตติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ยสฺมา ปน อาชีวฏฺมเก สีเล ปติฏฺิตสฺส อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลธมฺมานํ ปหานานุปฺปาทนานิ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ กุสลธมฺมานํ อุปฺปาทนปาริปูริยา จ สมฺภวนฺติ, ตถา สมฺมาวายาเม ิตสฺเสว กายาทีสุ สุภสฺาทิวิทฺธํสินี สมฺมาสติ สมฺภวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺมาอาชีโว…เป…ปทฏฺาน’’นฺติ. เชฏฺกสีลํ ปาติโมกฺขสํวโร, สทฺธาสาธโน จ โสติ อาห ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฏฺาน’’นฺติ.

เตสนฺติ กายวจีกมฺมานํ. กมฺมปจฺจยตายาติ กุสลกมฺมเหตุกตาย.

ปทตฺโถ จ วุตฺตนเยนาติ ‘‘มนนโต อารมฺมณวิชานนโต’’ติอาทินา.

อยํอาวฏฺโฏติ อยํ สภาควิสภาคธมฺมาวฏฺฏนวเสน อาวฏฺโฏ. เอตฺถ หิ กุสลมูลสมฺมตฺตมคฺคาทินิทฺธารณา สภาคธมฺมาวฏฺฏนา. อวิชฺชาภวตณฺหานํ นิทฺธารณา วิสภาคธมฺมาวฏฺฏนา.

วิภตฺติหาเร ปทฏฺานภูมิวิภาคา วุตฺตนยา, สุวิฺเยฺยา จาติ ธมฺมวิภาคเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘นยิท’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘นยิทํ ยถารุตวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ สุตฺตสฺส เนยฺยตฺถตํ วตฺวา ‘‘โยหี’’ติอาทินา ตํ วิวรติ. ‘‘ทุกฺขเมว อนฺเวตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ยตฺถ กตฺถจิ หิเตสิตา กุสลเมวาติ? นยิทมีทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ, อธมฺมํ ปน ธมฺโมติ, ธมฺมฺจ ปน อธมฺโมติ ทีปเนน โลกสฺส สพฺพานตฺถพีชภูเตสุ สกลหิตสุขุปายปฏิกฺเขปเกสุ ติตฺถกเรสุ อสนฺตคุณสมฺภาวนวเสน ปวตฺตมิจฺฉาธิโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํ. โย หิ โลเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปุฺํ กาตุกามํ ปาปิกํ ทิฏฺึ นิสฺสาย ปฏิพาหติ, โสปิ คารยฺโห, กิมงฺคํ ปน อริยวินเย สมฺมาปฏิปตฺตึ ปฏิพาหนฺเตสูติ ทุกฺขผลาว ตตฺถ สมฺภาวนาปสํสา ปยิรุปาสนา. ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ, อปิจ ตุยฺเหเวตํ ปาปกํ ทิฏฺิคตํ…เป… ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๗), ‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ (สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐, ๑๘๑; อ. นิ. ๔.๓; เนตฺติ. ๙๒), สพฺพสฺสาปิ อนตฺถสฺส มูลํ พาลูปเสวนา’’ติ จ.

อิทฺหิ สุตฺตนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา…เป…ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑, ๒) ปมํ คาถํ สนฺธาย วทติ. เอตสฺสาติ สํวณฺณิยมานสุตฺตสฺส.

กิจฺจปฺตฺตีติ อธิปติปจฺจยสงฺขาตสฺส กิจฺจสฺส ปฺาปนํ. ปธานปฺตฺตีติ ปธานภาวสฺส ปฺาปนา. สหชาตปฺตฺตีติ เตสํ ธมฺมานํ มนสา สหภาวปฺาปนา.

มหาภูตาตีติ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน มหาภูตาวินาภาวี สพฺโพ รูปธมฺโม สงฺคยฺหติ.

‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ สมาสปเท ‘‘มโน’’ติ ปทํ ตทวยวมตฺตนฺติ อาห ‘‘เนว ปทสุทฺธี’’ติ. เตเนวาห ‘‘มโนปุพฺพงฺคมาติ ปทสุทฺธี’’ติ. ‘‘ฉายาว อนปายินี’’ติ อิทํ สุขานุคมสฺส อุทาหรณมตฺตํ, น ยถาธิปฺเปตตฺถปริสมาปนํ. ‘‘สุขมนฺเวตี’’ติ ปน ยถาธิปฺเปตตฺถปริสมาปนนฺติ วุตฺตํ ‘‘ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จา’’ติ.

เอกตฺตตาติ มโนปุพฺพงฺคมาทิสามฺํ สนฺธาย วทติ. เอวํ เสเสสุปิ. เวมตฺตตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทินา สามฺโต วุตฺตธมฺเม ปสาโท ธารณาย นิวตฺเตตฺวา ปสนฺนสงฺขาเต วิเสเส อวฏฺาปนโต. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ปสาโท สิเนหสภาโว, อสฺสทฺธิยํ วิย ลูขสภาวํ โทสํ วิโนเทตีติ อาห ‘‘พฺยาปาทวิกฺขมฺภนโต’’ติ. พหิทฺธาติ สทฺเธยฺยวตฺถุํ สนฺธายาห. โอกปฺปนโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา อนุปกฺขนฺทิตฺวา สทฺทหนโต.

เทยฺยธมฺมาทโยติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน สํเวคหิโรตฺตปฺปกสิณมณฺฑลาทโย สงฺคยฺหนฺติ. อิฏฺารมฺมณาทโยติ อาทิสทฺเทน อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณา, ทฺวารธมฺมา, มนสิกาโรติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตถา ผสฺโสติ ยถา เวทนาทีนํ อิฏฺารมฺมณาทโย ปจฺจโย, เอวํ ผสฺโสปีติ ปจฺจยตาสามฺเมว อุปสํหรติ ตถา-สทฺโท. เวทนาทีนนฺติ หิ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา คหิตา. วิฺาณสฺส เวทนาทโยติ นามรูปํ สนฺธาย วทติ.

‘‘สีลมยสฺส อโทโส ปทฏฺาน’’นฺติ วุตฺตํ ขนฺติปธานตฺตา สีลสฺส. อธิฏฺาตีติ อนุยุฺชติ อุปฺปาเทติ. โสติ เอวํ กุสลจิตฺตํ ภาเวนฺโต. ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทินา ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ทสฺเสนฺโต นิพฺเพธภาคิยวเสน คาถาย อตฺถํ วิจินิตฺวา สมาโรเปติ, เอวมฺปิ สกฺกา โยเชตุนฺติ วาสนาภาคิยวเสน ปทฏฺานนิทฺเทเส อุทาหรียติ.

เอวํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ คาถาย วเสน หารสมฺปาตโยชนาวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ คาถานฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘ตถา ททโต ปุฺ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภาวนามยนฺติ ปฺาภาวนามยํ.

‘‘อโลโภ กุสลมูล’’นฺติอาทิ ทานาทีนํ อโลภาทิปธานตฺตา วุตฺตํ, สพฺพตฺถ จ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เตสนฺติ ราคาทีนํ. นิสฺสรณนฺติ จ ปรินิพฺพานเมว สนฺธาย วทติ.

ปริจฺจาคสีโล อโลภชฺฌาสโย กาเมสุ อาทีนวทสฺสาวี สมฺมเทว สีลํ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘ททโต…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. อิธ โอฬาริกา นาม กิเลสา วีติกฺกมาวตฺถานํ, ตปฺปหานํ ตทงฺคปฺปหาเนน เวทิตพฺพํ. มชฺฌิมานนฺติ ปริยุฏฺานาวตฺถานํ. สุขุมานนฺติ อนุสยาวตฺถานํ. กตาวีภูมิ นฺติ ขีณาสวภูมึ.

ททโตติ มคฺคสหคเตน อโลเภน สเทวกสฺส โลกสฺส อภยทานํ ททโต. ปุฺนฺติ โลกุตฺตรกุสลํ. สํยมโตติ มคฺคปริยาปนฺเนหิ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีเวหิ ทิฏฺเกฏฺาทิสํกิเลสโต มคฺคสํยเมน สํยมนฺตสฺส. เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปํ. กุสโลติ มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา กุสโล วิจกฺขโณ. ชหาติ ปาปกนฺติ เตหิ เตหิ มคฺเคหิ ตํ ตํ ปหาตพฺพํ ปาปธมฺมํ โอธิโส ชหาติ สมุจฺฉินฺทติ. เตนาห ‘‘มคฺโค วุตฺโต’’ติ.

‘‘ททโต’’ติอาทินา ปุพฺเพ อวิภาเคน กุสลมูลานิ อุทฺธฏานีติ อิทานิ วิภาเคน ตานิ อุทฺธรนฺโต ‘‘โลกิยกุสลมูล’’นฺติอาทิมาห.

ปุถุชฺชนภูมิ เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา ปหานสฺส วิปฺปกตภาวทีปนโต. อเสกฺขภูมิ ทสฺสิตา อนุปาทาปรินิพฺพานทีปนโต.

สคฺคคามินี ปฏิปทา ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติ.

ปุฺเ กถิเต ปุฺผลมฺปิ กถิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป… เทสนมาหา’’ติ. สจฺจกมฺมฏฺาเนน วินา สํกิเลสปฺปหานํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กุสโล…เป… เทสนมาหา’’ติ.

เวรสทฺโท อทินฺนาทานาทิปาปธมฺเมสุปิ นิรุฬฺโหติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานี’’ติ. ทฺเวปิ วิมุตฺติโย เสกฺขาเสกฺขวิมุตฺติโย, สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวิมุตฺติโย จ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพุโตติ ทฺเว นิพฺพานธาตุโย’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฏฺ. ๗๖).

การณูปจาเรน, การณคฺคหเณน วา ผลํ คหิตนฺติ อาห ‘‘ทฺเว สุคติโย’’ติอาทิ. วฏฺฏวิวฏฺฏสมฺปตฺติโย อิมิสฺสา เทสนาย ผลํ, ตสฺส ทานํ สีลํ ภาวนา อุปาโย, ‘‘สมฺปตฺติทฺวยํ อิจฺฉนฺเตน ทานาทีสุ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อาณตฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ผลาทีนิ ยถารหํ เวทิตพฺพานี’’ติ.

วิจโยติ วิจยหารสมฺปาโต, โส วุจฺจตีติ อตฺโถ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ. ‘‘ติวิธมฺปิ ทานมย’’นฺติอาทินา ปทตฺถวิจยํ ทสฺเสติ, เตน อสฺสาทาทโย, อิตเร จ วิจยหารปทตฺถา อตฺถโต วิจิตา เอว โหนฺตีติ. รูปาทิอารมฺมณสฺส ปริจฺจาโค วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. สพฺโพติ สกโล อนวเสสโต กิจฺจสฺส วุตฺตตฺตา.

ทานาภิรตสฺส จาคาธิฏฺานํ ปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. วิรติสจฺเจ, วจีสจฺเจ จ ติฏฺโต สจฺจาธิฏฺานํ ปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘สํยม…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. โกสลฺลโยคโต จ ปาปปฺปหานโต จ ปฺาปาริปูรึ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘กุสโล…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ. อนวเสสราคาทีสุ ปหีเนสุ อุปสโม อุปฏฺิโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ราค…เป… ปทฏฺาน’’นฺติ.

กุสโลติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน โกสลฺลสมฺมาทิฏฺิ วุตฺตาติ อาห ‘‘กุสโล…เป… มคฺคงฺคาทิภาเวน เอกลกฺขณตฺตา’’ติ. อาทิสทฺเทน โพธิปกฺขิยภาวาทึ สงฺคณฺหาติ. เขเปตพฺพภาเวนาติ ปหาตพฺพภาเวน.

อเวรตนฺติ อสปตฺตตํ. กุสลธมฺเมหีติ อนวชฺชธมฺเมหิ, ผลนิพฺพาเนหีติ อธิปฺปาโย. ทานสฺส มหปฺผลตา, สีลาทิคุเณหิ สตฺถุ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาโว, อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อิเมสํ ปจฺจเวกฺขณา อิมสฺส ทานสฺส นิทานนฺติ อยมตฺโถ ปาฬิยํ นิรุฬฺโหว. นิพฺพจนนิทานสนฺธโย สุวิฺเยฺยาวาติ อาห ‘‘นิพฺพจนนิทานสนฺธโย วตฺตพฺพา’’ติ.

ปฏิปกฺขนิทฺเทเสน สมุทโยติ เทสนตฺถํ ปฏิปกฺขนิทฺเทสเนน นิทฺธาริโต อยํ มจฺฉริยาทิสํกิเลสปกฺขิโก สมุทโย. อโลเภน…เป… ทานาทีหีติ เยหิ อโลภาทีหิ ทานาทโย ธมฺมา สมฺภวนฺติ, ตานิ ทานาทิคฺคหเณเนว คหิตานีติ กุสลมูลานิ นิทฺธาเรติ ‘‘อิมานิ ตีณิ กุสลานี’’ติ. เตสนฺติ กุสลมูลานํ.

ภยเหตุ เทติ ปณฺณาการาทิวเสน. ราคเหตุ เทติ สภาควตฺถุสฺส. อามิสกิฺจิกฺขเหตุ เทติ ลฺชาทิวเสน. อนุกมฺปนฺโต วา กรุณาเขตฺเต. อปจยมาโน คุณเขตฺเต, อุปการเขตฺเต วา. ภยูปรโตติ ภเยน โอรโต. เตน ตถารูเปน สํยเมน เวรํ น จิยเตว. เอวํ สพฺพสฺส อกุสลสฺส ปาปโก วิปาโกติ โยชนา.

‘‘ททโต’’ติอาทินา ยถา ทานปฏิกฺเขเปน ปริวตฺตนํ ทสฺสิตํ, เอวํ ปหานปฏิกฺเขเปนปิ ปริวตฺตนํ ทสฺเสตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘อกุสโล ปน น ชหาตี’’ติ.

กมฺมผลํ สทฺทหนฺโต ทานกิริยายํ ปทหนฺโต เยน วิธินา ทานํ ทาตพฺพํ, ตตฺถ สตึ อุปฏฺเปนฺโต จิตฺตํ สมาทหนฺโต สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขโรนฺโต ทาเน สมฺมาปฏิปนฺโน โหตีติ อาห ‘‘ทานํ นาม…เป… โหตี’’ติ.

ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ปาฬิยํ สรูปโต วิฺายนฺตีติ ปทฏฺานเววจนสมาโรปนานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยํ. อฺฺจ ยเทตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํ.

หารสมฺปาตวารวณฺณนา นิฏฺิตา.