📜
สาสนปฏฺานวารวณฺณนา
๘๙. สงฺคหวาราทีสูติ สงฺคหวารอุทฺเทสนิทฺเทสวาเรสุ. สรูปโต น ทสฺสิตํ, อตฺถโต ปน ทสฺสิตเมวาติ อธิปฺปาโย. ตเมว หิ อตฺถโต ทสฺสนตฺถํ อุทาหรณภาเวน นิกฺขิปติ, ยถา มูลปเทหิ ปฏฺานํ นิทฺธาเรตพฺพนฺติ. ‘‘อฺมฺสงฺคโห’’ติ อิทํ มูลปทปฏฺานานํ อฺมฺโต นิทฺธาเรตพฺพตาย การณวจนํ ‘‘สติ อนุปฺปเวเส ตโต วินิคฺคาโม สิยา’’ติ. ปฏฺานนฺติ เอตฺถ ป-อิติ อุปสคฺคปทํ, ตํ ปน ‘‘วิภตฺเตสุ ธมฺเมสุ ยํ เสฏฺํ, ตทุปาคมุ’’นฺติอาทีสุ วิย ปการตฺถโชตกนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกาเรหิ าน’’นฺติอาทีสุ วิย ปการตฺถโชตกนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกาเรหิ าน’’นฺติ อาห. อิธาติ อิมสฺมึ เนตฺติปฺปกรเณ. ตสฺสาติ เทสนาสงฺขาตสฺส ปริยตฺติสาสนสฺส. ตถาภาวทีปนนฺติ เวเนยฺยชฺฌาสยานุรูเปน ปวตฺติตตฺตา สํกิเลสภาคิยตาทิปฺปกาเรหิ ิตภาเวน ทีเปตพฺพตฺตา ‘‘ทีปิสฺสตีติ ทีปน’’นฺติ กตฺวา. ปติฏฺหนฺติ อธิสีลสิกฺขาทโย สมุทายรูเปน คหิตา. เอเตหิ สํกิเลสธมฺมาทีหิ, สํกิเลสธมฺมาทีนํ อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปวตฺตนุปายตา อนุปุพฺพิกถาย สามุกฺกํสิกาย ธมฺมเทสนาย ทีเปตพฺพา. เตสนฺติ สํกิเลสธมฺมาทีนํ. ปุน เตสนฺติ สุตฺตานิ สนฺธายาห.
โคฏฺาติ วชา. ปฏฺิตคาโวติ คตคาโว. อาคตฏฺานสฺมินฺติ สีหนาทสุตฺตํ (ม. นิ. ๑.๑๕๖) วทติ. ปวตฺตคมนตฺตา เอตฺถาติ วจนเสโส. อถ วา คจฺฉติ เอตฺถาติ คมนํ, เทสนาาณสฺส นิสฺสงฺควเสน ปวตฺตคมนเทสภาวโต ปฏฺานํ นามาติ อตฺโถ. โวมิสฺสาติ ‘‘สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจา’’ติอาทินา ทุกติกจตุกฺกภาเวน มิสฺสิตา.
สํกิเลสภาเว ¶ าเปตพฺเพ ปวตฺตํ, ตํ วิสยํ กตฺวา เทสิตนฺติ อตฺโถ, อตฺถมตฺตวจนฺเจตํ ¶ , สํกิเลสภาเค ภวนฺติ สทฺทนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘สํกิเลสภาคิก’’นฺติปิ ปาโ, ตสฺส สํกิเลสภาโค เอตสฺส อตฺถิ, สํกิเลสภาเค วา นิยุตฺตํ, สํกิเลสภาคสฺส วา ปโพธนสีลํ สํกิเลสภาคิกํ, ตเทว สํกิเลสภาคิยนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปทาลนํ สมุจฺฉินฺทนํ, ปทาลนสนฺนิสฺสยตา เจตฺถ ปทาลนคฺคหเณน คหิตาติ ทฏฺพฺพํ. อเสกฺเขติ อเสกฺขธมฺเม. เตสํ โวมิสฺสกนยวเสนาติ เตสํ สํกิเลสภาคิยาทีนํ จตุนฺนํ ปฏิกฺเขปาปฏิกฺเขปโวมิสฺสกนยวเสน.
‘‘ตานิ ปน ฉ ทุกา’’ติอาทินา ปทานํ คหณปริจฺเฉทโต ววตฺถาปนตํ วตฺวา ปรโต ‘‘สาธารณานิ กตานี’’ติ ปทสฺส อตฺถสํวณฺณนาย สยเมว สรูปโต ทสฺเสสฺสติ. ‘‘อนุทฺธรเณ การณํ นตฺถี’ติ วตฺวา อุทฺธรเณ ปน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตถา หิ วกฺขตี’’ติอาทินา ปาฬิมาหริ. โวทานํ นาม สํกิเลสโต โหติ สํกิลิฏฺสฺเสว โวทานสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ยสฺมา โวทานํ ตทงฺคาทิวเสน สํกิเลสโต วิสุชฺฌนํ, ตสฺมา ‘‘ตํ ปน อตฺถโต วาสนาภาคิยาทิ เอว โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตทงฺควิกฺขมฺภเนหิ โวทานํ วาสนาภาคิยาทิวเสน โหติ, สมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสทฺธีหิ โวทานํ นิพฺเพธภาคิยวเสน, อเสกฺขภาคิยวเสน โวทานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา เอว เวทิตพฺพํ. ยายํ เทสนา ราคาทิภาคินี สิยา, สา สํกิเลสภาคิยา. ยายํ เทสนา จาคาทิภาคินี สิยา, สา วาสนาภาคิยา. ยา ปน อาปตฺติวิจฺเฉทนี สาวเสสํ, อนวเสสฺจ, สา นิพฺเพธภาคิยา, อเสกฺขภาคิยา จ.
‘‘ตณฺหาสํกิเลสภาคิยํ สุตฺต’’นฺติอาทินา ปมเมว สํกิเลสภาคสฺส ทสฺสิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สํกิเลโส ติวิโธ…เป… วิสยทสฺสนตฺถํ อารทฺธ’’นฺติ. ภวราโค ภวปตฺถนา. อุปฺปชฺชตีติ น วิคจฺฉติ. ตตฺร ตตฺร ภเวติ ยทิ วา กามภเว, ยทิ วา รูปภเว, ยทิ วา อรูปภเว. ปทนฺตรสํโยชนวเสนาติ ทุกนเยเนว ปทนฺตเรน โยชนวเสน. มิสฺสิตานิ กตานีติ สํสฏฺานิ กตานิ.
เอกกจตุกฺกวเสน ทสฺสิตพฺพานิ ปทานิ เอว คเหตฺวา อาวุตฺตินยทสฺสนวเสน มิสฺเสตฺวา อวสิฏฺทุกวเสน, ติกจตุกฺกวเสน จ อิตเร อฏฺ ปฏฺานภาคา ทสฺสิตาติ อาห ‘‘ตานิเยว ยถาวุตฺตานิ อฏฺ สุตฺตานี’’ติอาทิ ¶ . จตฺตาโร เอกกาเยว ปาฬิยํ อาทิโต ทสฺสิตา. ฉทุกา ปาฬิยํ อาคตา จตฺตาโร, อฏฺกถายํ ทฺเวติ. จตฺตาโร ติกา ปาฬิยํ อาคตา ทฺเว, อฏฺกถายํ ทฺเวติ. ทฺเว จตุกฺกา ปน อฏฺกถายเมว อาคตา. ‘‘ปาฬิยํ อนาคตา’’ติ อิทํ สรูปโต ¶ อนาคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ, นยโต ปน อาคตภาโว ทสฺสิโต เอว. เย ปเนตฺถ ปาฬิยํ อนาคตา, เตสํ อุทาหรณานิ ปรโต ทสฺสยิสฺสาม.
โสฬสหีติ โสฬสวิเธหิ. น หิ ตานิ สุตฺตานิ โสฬเสว, อถ โข โสฬสปฺปการานีติ มูลคณนํ เปตฺวา การณสุตฺตลทฺเธน สงฺขารคพฺเภน ตทนุรูโป โย คณนวิตฺถาโร, ตสฺส ปตฺถรณวิธิ ปฏฺานนโย. อิมินา…เป… นตฺถีติ ยถาวุตฺตปฏฺานวินิมุตฺโต ปริยตฺติสาสนปฺปเทโส น วิชฺชติ ยถารหํ ตํตํปฏฺานภาเวน ปวตฺตตฺตาติ ทสฺเสติ. ยทิ สุตฺตเคยฺยาทิ นววิธํ ปริยตฺติสาสนํ ยถาวุตฺตปฏฺานวเสเนว ปวตฺตํ, ตตฺถ กถมิธ อนิทสฺสิตานํ คาถาทีนํ สํกิเลสภาคิยาทิภาโว คเหตพฺโพติ ปฺหํ สนฺธาย ‘‘คาถาย คาถา อนุมินิตพฺพา’’ติอาทิปาฬิ ปวตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘กถํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ อยํ คาถา วิยาติ ‘‘กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, อุทฺธํ อโธ สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, ยสฺส เสลูปมํ จิตฺต’’นฺติอาทินา อิธ อุทาหฏคาถา วิย. คาถาติ อฺาปิ เตปิฏเก พุทฺธวจเน อาคตา อิธ อนุทาหฏา. สํวณฺณนากาเล สมฺมุขีภาเวน ‘‘อยํ คาถา วิยา’’ติ วุตฺตา ยา กาจิ คาถา ‘‘สํกิเลสภาคิยา’’ติ วา ‘‘สํกิเลสวาสนานิพฺเพธอเสกฺขภาคิยา’’ติ วา อนุมินิตพฺพา นยคฺคาเหน าเปตพฺพาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘สํกิเลส…เป… ชานิตพฺพาติ อตฺโถ’’ติ. วา-สทฺโท หิ อิธ อวุตฺตวิกปฺปนตฺโถ. เสสปเทสูติ เวยฺยากรณสุตฺตปเทสุ.
๙๐. อริยานํ ธมฺมนฺติ จาริตฺตวาริตฺตเภทํ สีลาจารํ. เอกนฺตกรณียสฺส อกรณมฺปิ วีติกฺกโม เอว.
อวิชฺชาทิเก สํกิเลสธมฺเม ตทงฺคาทิวเสน ธุนาตีติ โธนา วุจฺจติ ปฺา. ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชนปฺาติ ปน ปกรเณน อวจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ. ตํ อติกฺกมิตฺวา จรนฺโตติ ปจฺจยานํ อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยปริโภเค อาทีนวํ อปสฺสนฺโต อิณปริโภควเสน ปริภฺุชนฺโต น ปริมุจฺจติ นิรยาทิทุกฺขโต, วฏฺฏทุกฺขโต จ.
กุกฺกุชนกํ ¶ นาม กทลิยา ปุปฺผนาฬิ. ปราภวายาติ วินาสาย. ตถาติ ยถา ผลปากนฺตา กทลี, เอวํ เวฬุนฬาปิ โอสธิชาติกตฺตาติ อุปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท. เตนาห ‘‘ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬ’’นฺติ.
สุเขตฺเตปีติ ¶ ปิ-สทฺเทน โก ปน วาโท อูสราทิโทสทุฏฺเสุ เขตฺเตสูติ ทสฺเสติ. ‘‘ฉกณ…เป… อตฺโถ’’ติ เอเตน ยถาวุตฺตอภิสงฺขรณาภาเวน พีชโทสทุฏฺนฺติ ทสฺเสติ.
๙๑. สชฺชิตนฺติ สฺชิตํ. อปริกฺขเตติ ปฏิปกฺเขหิ ธมฺเมหิ อวิกฺขมฺภิเต อโรเค.
ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ‘‘กึ สุตํ มยา, กึ วา สุณามี’’ติ กุสลํ คเวสี จรติ, สา ธมฺโมชปฺา กิสฺสวา นาม. ทุพฺภาสิตาติ ทุฏฺุ ภาสิตา, อิสฺสามจฺฉริยโทสาทีหิ ทุฏฺา วา ภาสิตา.
๙๒. วิจินาตีติ วิเสสโต จินาติ ปสวติ.
วิคตภูตาติ วิคตสจฺจ. เตนาห ‘‘อลีกวาที’’ติ.
อวชาตปุตฺตาติ ลามกปุตฺต. ภควโต สาสเน ปพฺพชิตฺวา นิหีนวุตฺติตํ สนฺธาย วทติ. เนรยิโกติ นิรเย นิพฺพตฺตนโก. ปาปกมฺมิโน ปปตนฺติ เอตฺถาติ ปปตํ, นรกํ.
ตณฺหาทีนํ สภาวเภทโตติ ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตานํ ตณฺหายนวิปรีตทสฺสนทุฏฺจริตตาสงฺขาตสภาววิภาคโต. อวตฺถาเภทโตติ ตณฺหาย ฉนฺทเปมโลภราคนนฺทีปิปาสามุจฺฉาทโย, ทิฏฺิยา คาหปรามาสมิจฺฉาภินิเวสวิสุกวิปฺผนฺทิตวิปรีตทสฺสนาทโย, ทุจฺจริตสฺส ติรจฺฉานเปตฺติวิสยอสุรโยนิคามิตาทโย อวตฺถาวิเสสา. จ-สทฺเทน เตสํ กามตณฺหาทิรูปตณฺหาทิอตฺตานุทิฏฺาทิสสฺสตคาหาทิกายทุจฺจริตาทิ- ปาณาติปาตาทิปฺปการเภโท สงฺคยฺหติ.
๙๓. วิปุลนฺติ อุฬารํ, เตลาทีหิ เจว ธนธฺาทีหิ จ ปหูตสนฺนิจยนฺติ อตฺโถ. สมฺพาธาติ ชนสํมทฺทสงฺฆฏา.
ทณฺเฑน น หึสตีติ เอตฺถ วุตฺตํ ยํ ทณฺฑนิธานํ, ตํ วฏฺฏวิวฏฺฏนิสฺสิตํ. ตทุภยสฺสาปิ ผลํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส ปุคฺคโล’’ติอาทิมาห.
๙๔. กิฺจติ ¶ ตํสมงฺคินํ วิมทฺทตีติ กิฺจนํ, ราคาทิ, ปลิพุนฺธติ กุสลปฺปวตฺตึ นิวาเรตีติ ¶ ปลิโพโธ, ราคาทิเยว, กิฺจนเมว ปลิโพโธ กิฺจนปลิโพโธ. อถ วา กิฺจนฺจ ปลิโพโธ จ กิฺจนปลิโพโธ, อามิสกิฺจิกฺขฺจ ราคาทิสํกิเลโส จาติ อตฺโถ.
วิเสสิตนฺติ วิโลมํ, วิสมํ กิริยนฺติ อตฺโถ. ราชภณฺฑนฺติ โอโรเธ สนฺธาย วทนฺติ.
ยาจโยโคติ ยาจนโยโค, ยาจกานํ มโนรถปริปูรณโต. เตนาห ‘‘ยาจิตพฺพยุตฺโต’’ติ. ทานยุตฺโตติ สตตํ ทานกิริยาสมงฺคี. ทานสํวิภาครโตติ เอตฺถ ทานํ นาม อตฺถิกานํ ยถาธิปฺปายปฏิยตฺตปริจฺจาโค, สํวิภาโค อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพโต อปฺปมตฺตกโตปิ สํวิภชนํ. อิเมหิ โข…เป… โหตีติ เอตฺถ โหติสทฺเทน ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ ปทํ สมฺพนฺธิตพฺพํ, น ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปนฺโน…เป… โหตี’’ติ วุตฺตํ. เตหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโม หิ อิธ วิธียติ, น โสตาปนฺนภาโว, เตน โสตาปนฺนลกฺขณเมเต ธมฺมา, น โสตาปนฺนภาวลกฺขณนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิ ‘‘โสตาปนฺเนน…เป… ลพฺภมานตํ ทสฺเสตี’’ติ วุตฺตํ.
๙๕. ลปติ กเถติ เอเตนาติ ลปนํ, โอฏฺํ.
๙๗. มุทิโตติ ทิพฺพสมฺปตฺติยา ปมุทิโต.
๙๙. กิฺจาปิ อุทตารีติ ตรณกิริยา อตีตภาเวน วุตฺตา, ตรณเมว ปน คเหตฺวา อาห ‘‘โอฆตรณสฺส อริยมคฺคกิจฺจตฺตา’’ติ. เอวํ วิปฺปมุตฺโต, วิมุตฺโตติ จ เอตฺถ มุจฺจนกิริยายปิ วตฺตพฺพํ.
๑๐๐. ปาตุ-สทฺทปุพฺพโก ภวนฺติ-สทฺโท สิยา อุปฺปาทปริยาโย สิยา อาวิภาวปริยาโยติ ‘‘ปาตุภวนฺตี’’ติ ปทสฺส ‘‘อุปฺปชฺชนฺติ, ปกาเสนฺติ จา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ปาตุภูตธมฺมสฺสาติ อุปฺปนฺนโพธิปกฺขิยธมฺมสฺส, วิภูตจตุสจฺจธมฺมสฺส วา. โน กลฺโลติ น ยุตฺโต. สเหตุธมฺมนฺติ เอตฺถ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมาว คหิตา, น ปจฺจยธมฺมาติ? นยิทเมวํ ทฏฺพฺพํ ปจฺจยธมฺมานมฺปิ ปจฺจยุปฺปนฺนภาวานติวตฺตนโต. อถ วา สเหตุธมฺมนฺติ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺโม ปธานภาเวน วุตฺโต, ปจฺจยธมฺโม ปน คุณภาเวนาติ เอวเมตฺถ อุภเยสํ วุตฺตภาโว เวทิตพฺโพ.
อารฺกนฺติ ¶ ¶ อารฺกงฺคสมนฺนาคตํ. อฺาโตติ ปริจยวเสน น าโต, อสํสฏฺโติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘นิจฺจนโว’’ติ.
พฺยาปาทวิหึสาวิตกฺกวิรเห เวริปริสงฺกาย อภาเว อกิตฺติปริมุตฺตีติ เอวมาทีหิปิ การเณหิ โกธปฺปหาเนน สุขํ สุปติ. โกธปริฬาหาภาโว ปน ปากฏตโรติ อาห ‘‘โกธ…เป… สยตี’’ติ. วิสมูลสฺสาติ เอตฺถ วิสสริกฺขตาย ‘‘วิส’’นฺติ ทุกฺขํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ทุกฺขวิปากสฺสา’’ติ. สุขนฺติ เจตสิกสุขํ. อกฺกุฏฺสฺส ปจฺจกฺโกสิตฺวา จ ปจฺจกฺโกสนเหตุ อุปฺปชฺชตีติ โยชนา.
๑๐๑. สลฺลุพฺพาหนํ สลฺลุทฺธรณํ.
วิสยเภเทน, ปวตฺติอาการเภเทน จ อเนกเภทตฺตา กามสฺาย วุตฺตํ ‘‘ยาย กายจี’’ติ.
ทานมุเขนาติ ทาเนน มุขภูเตน, ทานํ ปมุขํ กตฺวาติ อตฺโถ.
‘‘อริยมคฺคสมฺปาปนวเสนา’’ติ อิมินา อนุกมฺปานุทฺทยานํ เอกนฺตานวชฺชตเมว วิภาเวติ. ‘‘อนุกมฺปา’’ติ ปทสฺสตฺถวิวรณํ ‘‘กรุณายนา’’ติ, อิตรสฺส ‘‘เมตฺตายนา’’ติ.
๑๐๒. ปกติอาทีติ อาทิสทฺเทน อณุอิสฺสรปชาปติปุริสกาลาธิฏฺายการิอาทิเก สงฺคณฺหาติ.
กาเมสูติ กามคุเณสุ รูปาทิวิสเยสุ.
พหลกิเลสตายาติ พหุลกิเลสภาเวน. ปุพฺพเหตุมนฺทตายาติ วิวฏฺฏูปนิสฺสยสฺส กุสลสฺส อกตตฺตา.
จิตฺตวูปสมภาวนายาติ จิตฺตวูปสมกรภาวนาย สมถวิปสฺสนาย.
ปริสฺสยา ¶ สีลาทิปริปูรณสฺส ปริพนฺธภูตา กิเลสา เอว. อนริยา ปฺาสีสํ อุกฺขิปิตฺวา าตุเมว น สกฺโกนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘าณสิเรน อโธสิรา หุตฺวา’’ติ.
๑๐๓. ภควโต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ วสนโยคฺยภาโว, เตหิ นิวุตฺถภาโว จ ตสฺส สาติสโย วณฺโณติ วุตฺตํ ‘‘ปมคาถาย เชตวนสฺส วณฺณํ กเถตฺวา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘คาเม ¶ วา ยทิ วารฺเ, นินฺเน วา ยทิ วา ถเล;
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ, ตํ ภูมิรามเณยฺยก’’นฺติ. (ธ. ป. ๙๘; เถรคา. ๙๙๑);
อิธ ธมฺมสทฺโท สมาธิปริยาโย ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๑๓; ม. นิ. ๓.๑๙๘; สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิยาติ อาห ‘‘ธมฺโมติ สมาธี’’ติ สมาธิปกฺขิกา ธมฺมา สติวายามา.
นานุคจฺเฉยฺยาติ นานุตเสยฺย. อนุตสนเมว หิ ตณฺหาทิฏฺีหิ อนุคมนํ. ปฏิวิปสฺเสยฺยาติ วิปสฺสนาสมฺมสนมาห. ยมกโต, หิ ขณิกโต, ปฏิปาฏิโต จ สมฺมสนํ วิปสฺสนายปิ สมฺมสนโต ปฏิวิปสฺสนา นาม. สา หิ วิปสฺสนาย ทิฏฺิอุคฺฆาฏนมานสมุคฺฆาฏนนิกนฺติปริยาทานเหตุตาย วิเสสโต ปฏิปกฺเขน อสํหีรอสํกุปฺปนเหตุภูตา ปริพฺรูหนา โหติ. ‘‘ปุนปฺปุนํ…เป… อปฺเปนฺโต’’ติ เอเตน นิพฺพานารมฺมณธมฺมานุพฺรูหนํ ยถา ‘‘พฺรูเหตา สฺุาคาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๔) ทสฺเสติ.
ยํ กิฺจิ อปทิสิตฺวา ปฏิฺาทานํ สงฺคโร. โส ปน อตฺตโน กิจฺจวิเสสํ อปทิสิตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน วา กาลาคมนํ อปทิสิตฺวา กิฺจิกฺขานุปฺปทาเนน วา ปฏิพาหกรณํ อปทิสิตฺวา พลคฺคโพธวเสน วา สิยาติ ตสฺส มิตฺตกรณาทิปริยายตํ สนฺธายาห ‘‘สงฺคโรติ…เป… นาม’’นฺติ. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตาติ เอวํ อนิจฺจสฺามุเขน ติยทฺธเกสุ สงฺขาเรสุ อปฺปมาทปฺปฏิปตฺติยา ปฏิปนฺนตฺตา.
ทิพฺพจกฺขุ สุวิสุทฺธนฺติ สาวเสสา เทสนาติ อาห ‘‘ยํ สจฺฉิกโรตี’’ติ. รูปายตนฺเหตฺถ อธิปฺเปตํ.
๑๐๔. อนฺตนฺติ ¶ สงฺขารานํ ปาริมนฺตภูตํ. เวทานนฺติ มคฺคาณเวทานเมว. อรหตฺตาธิคเมน อนฺตํ ปริโยสานํ คตตฺตา. กมฺมวิปากวฏฺฏานํ, กิเลสวฏฺฏสฺสาปิ จ อุสฺสเทน อุปจเยน อุสฺสทา, ราคาทโย.
สุกฺโกภาสตาย สุกฺกา, อภิวิสิฏฺคฺคหา. สพฺพานิ วา ตารกรูปานิ สุกฺกา. วินฺทตีติ อุปลภติ, ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ.
‘‘อชฺฌตฺตํ วิปสฺสนาภินิเวโส โหตี’’ติ อิทํ ‘‘สเกสุ ธมฺเมสู’’ติ ปารคุภาวสฺส วิเสสิตตฺตา วุตฺตํ, ตฺจ โข อภินิเวเสเนว เทสิตํ. ‘‘สพฺพํ ¶ , ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖; ปฏิ. ม. ๑.๓) วุตฺตํ. ปารคุตา จ เตสํ ขนฺธานํ ปริฺาภิสมยวเสน โหติ. ตโต จ เนสํ เหตุภูตสมุทเย, ตทปฺปวตฺติลกฺขเณ นิโรเธ, นิโรธคามินิยา ปฏิปทาย จ ปหานสจฺฉิกิริยาภาวนาภิสมยปาริปูริวเสน อิตรสจฺเจสุปิ ปารคุภาโว วุตฺโต เอว โหติ. สพฺพโส หิ สกอตฺตภาวโพเธนปิ จตุสจฺจาภิสมโย โหติเยว. วุตฺตฺเหตํ ‘‘อิมสฺมึเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ, โลกสมุทยฺจา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕). อถ วา สเกสุ ธมฺเมสูติ อตฺตโน ธมฺเมสุ. อตฺตธมฺมา นาม อตฺถกามสฺส กุลปุตฺตสฺส สีลาทิธมฺมา. สีลสมาธิปฺาทโย หิ โวทานธมฺมา เอกนฺตหิตสุขสมฺปาทนโต ปุริสสฺส สกธมฺมา นาม, น อนตฺถาวหา สํกิเลสธมฺมา วิย ปรธมฺมา. เตสํ สีลาทีนํ ปาริปูริยา ปารํ ปริยนฺตํ คโตติ ปารคู. ‘‘อกฺกุล ปกฺกุล’’อิติ เอวํ วิหึสนกปโยคํ. อชกลาเปน (อุทา. ๗) หิ ตทา ภควนฺตํ ภีสาเปตุกาเมน กตํ ยกฺขคชฺชิตํ ‘‘อกฺกุล ปกฺกุล’’ อิติ อิมินา อากาเรน สตฺตานํ โสตปถํ อคมาสิ, ตสฺมา ตํ ‘‘อกฺกุลํ ปกฺกุลกรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
นาภินนฺทตีติ ‘‘อยํ มํ ทฏฺุํ อาคตา’’ติ น ตุสฺสติ. ยสฺมา ปน ‘‘ภควโต ภาสิตํ อภินนฺที’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๘๘) วิย สมฺปฏิจฺฉนตฺโถปิ อภินนฺทสทฺโท โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จิตฺเตน น สมฺปฏิจฺฉตี’’ติ. น โสจตีติ ‘‘มยา อสมฺโมทิตา คจฺฉตี’’ติ น จิตฺตสนฺตาปํ อาปชฺชติ. ‘‘สงฺคา สงฺคามชึ มุตฺต’’นฺติ อิทํ อภินนฺทโสจนานํ อภาวสฺส การณวจนํ.
เตนาติ อุทเก นฺหาเนน. เตเนวาห ‘‘น อุทเกน สุจี โหตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ – อุทกุมฺมุชฺชนาทินา เนว สตฺตานํ สุจิ ปาปโต สุทฺธิ นาม โหตีติ. อุทกุมฺมุชฺชนาทีนิ หิ อิธ ¶ อุตฺตรปทโลเปน ‘‘อุทก’’นฺติ วุตฺตํ. อุทเกนาติ วา อุมฺมุชฺชนาทิกิริยาสาธนภูเตน อุทเกน สตฺตานํ สุจิ ปาปสุทฺธิ น โหตีติ. อถ วา สุจิเตน ยถาวุตฺเตน อุทเกน ปาปมลโต สุทฺโธ นาม สตฺโต น โหตีติ. ยทิ สิยา, สพฺเพสเมว มจฺฉพนฺธานํ ปาปสุทฺธิ สิยา. เตนาห ‘‘พหฺเวตฺถ นฺหายตี ชโน’’ติ. มาตุฆาตาทิปาปกมฺมการีนํ, อฺเสฺจ โคมหึสาทีนํ อุทกํ โอโรหนฺตานํ อนฺตมโส มจฺฉกจฺฉเป อุปาทาย สพฺเพสมฺปิ ปาปสุทฺธิ สิยา ¶ , น ปเนวํ โหติ. กสฺมา? นฺหานียปาปเหตูนํ อปฺปฏิปกฺขภาวโต. ยฺหิ ยํ วินาเสติ, โส ตสฺส ปฏิปกฺโข. ยถา อาโลโก อนฺธการสฺส, วิชฺชา อวิชฺชาย, น เอวํ นฺหานํ ปาปสฺส, ตสฺมา นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ ‘‘น อุทเกน สุจี โหตี’’ติ. เยน ปน สุจิ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยมฺหิ สจฺจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สจฺจนฺติ วจีสจฺจฺจ วิรติสจฺจฺจ. อถ วา สจฺจนฺติ าณสจฺจฺเจว ปรมตฺถสจฺจฺจ. ธมฺโมติ เสโส อริยธมฺโม. สจฺจสฺส ปเนตฺถ วิสุํ คหณํ ตสฺส พหุการตาทสฺสนตฺถํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.
ชาติพลนิเสธกนฺติ ชาติมตฺตพฺราหฺมณานํ โภวาทิกานํ ปฏิเสธกํ. ชาติวาทสฺส วา นิเสธกํ, ‘‘น ชจฺจา พฺราหฺมโณ โหตี’’ติ (สุ. นิ. ๖๕๕) หิ วุตฺตํ. เถโร หิ ตถาวาเทน เต อนิคฺคณฺหนฺโตปิ นิคฺคณฺหนฺโต วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ.
๑๐๕. วิมุตฺติยนฺติ อนุปาทิเสสนิพฺพานธาตุยํ.
สวาสนนฺติ เอตฺถ ขีณาสวสฺสาปิ อขีณาสวสทิสกายวจีปโยคเหตุภูตา สนฺตาเน กิเลสภาวนา วาสนา นาม อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๑๕; ธ. ป. อฏฺ. ๒.ปิลินฺทวจฺฉตฺเถรวตฺถุ) วสลโวหาโร วิย, สห วาสนายาติ สวาสนํ, ภาวนปุํสกฺเจตํ ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. ยถาวุตฺตวาสนมฺปิ อเสเสตฺวาติ อตฺโถ. กุมฺมคฺคปริหรณวเสน มคฺคสมฺปฏิปตฺตีติ มคฺเค กุสโล อมคฺเคปิ กุสโล เอว โหติ. ภควา ปน สพฺพฺุตาย สพฺพตฺเถว กุสโลติ อาห ‘‘มคฺเค จ อมคฺเค จ โกวิโท’’ติ.
๑๐๖. ตเมน ยุตฺโตติ ยถาวุตฺตตโม ตสฺส อตฺถีติ ตโม, ปุคฺคโล. อปฺปกาสภาเวน ิตา ขนฺธาว ตโม. อาโลกภูโตติ ชาติคุณาโลโก, ปากฏคุโณติ อตฺโถ.
กิเลสมยํ ¶ พนฺธนํ ‘‘ทฬฺห’’นฺติ วทนฺติ. ยโต สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตา พุทฺธาว นํ ฉินฺทนฺติ, น อฺเ.
ทุจฺเฉทนตฺเถน ¶ สติปิ ทฬฺหภาเว สิถิลวุตฺติตํ ตสฺส ทีเปตุํ ‘‘พนฺธนภาวมฺปี’’ติอาทิมาห. เตน ‘‘อโห สุขุมตรํ โข, ภิกฺขเว, มารพนฺธน’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๐๗. ยทิปิ เจตนา กุสลากุสลสาธารณา, อปฺุาภิสงฺขาโร อิธาธิปฺเปโตติ ตสฺส วเสน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อกุสลเจตนาวเสน เจเตตี’’ติ อาห. เจตนํ อภิสนฺทหนํ, จิตฺตสฺส พฺยาปาราปตฺติภาเวน ปวตฺตีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน เจตนา ยทา วิฺตฺตึ สมุฏฺาเปติ, ตทา ทิคุณุสฺสาหาทิคุณวายามา วิย หุตฺวา ปากฏํ ปโยคํ นิปฺผาเทติ, ตสฺมา ‘‘ปกปฺเปตี’’ติ วุตฺตา. ปากฏปฺปโยคกปฺปนฺเหตฺถ ปกปฺปนํ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘ตเมว ปกปฺเปตี’’ติ. ปจฺจยฏฺโ อิธ อารมฺมณตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘ปวตฺติยา ปจฺจโย โหตี’’ติ.
๑๐๘. ยถา ชลสมุทฺทสฺส วีจิสมุฏฺานวเสน ลพฺภมาโน เวโค ‘‘วีจิมโย’’ติ วุจฺจติ, เอวํ จกฺขุสมุทฺทสฺสาปิ รูปาวภาสนวเสน ลพฺภมาโน เวโค ‘‘รูปมโย’’ติ วุตฺโต. เอเสว นโย เสเสสุปิ. อาวิฺฉนโตติ อากฑฺฒนโต, อากฑฺฒนฺเจตฺถ สนฺตานสฺส ตนฺนินฺนภาวเหตุตาย ทฏฺพฺพํ.
สมุทนํ กิเลสเตมนํ, อวสฺสวเหตุตา, กิเลสานํ อูมิอาทิสทิสตา สมาวฏฺฏเนน สตฺตานํ อนตฺถาวหตาย เวทิตพฺพา. อุปรูปริเวคุปฺปตฺติยา อุปคตสฺส อุฏฺาตุํ อปฺปทาเนน, คุณสารวินาสเนน จ โกธุปนาหาทีนํ อูมิอาทิสทิสตา ทฏฺพฺพา.
อภิมุโข นนฺทตีติ ตทารมฺมณํ สุขํ โสมนสฺสํ สาทิยนฺโต สมฺปฏิจฺฉติ. อภิวทตีติ ตณฺหาภินิเวสวเสน อภินิวิสฺส วทติ. ตฺหิสฺส อภินิเวสํ ทีเปตุํ ‘‘อโห สุข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อชฺโฌสานํ อธิมุจฺจนภูตาย ตณฺหาย ตณฺหาวตฺถุกสฺส อนุปวิสิตฺวา อาเวณิกตากรณนฺติ อาห ‘‘อชฺโฌสาย ติฏฺตีติ คิลิตฺวา ปรินิฏฺเปตฺวา’’ติ.
๑๐๙. ‘‘กสฺมา’’ติอาทินา สนฺตาปทุกฺขานํ อสุปฺปติการตํ อาห ‘‘เยน วา ปกาเรนา’’ติ. เยนาติ เยน วา กามชฺโฌสานทิฏฺิชฺโฌสานภูเตน มิจฺฉาภินิเวสปฺปกาเรน. คหฏฺปพฺพชิตา ตถารูปํ กตฺวา ¶ อตฺตโน วฑฺฒิฺจ มฺนฺติ. อวฑฺฒิ เอว ปน โหติ ตสฺส ปการสฺส ¶ วฑฺฒิยํ อนุปายภาวโต จ อุปายภาวโต จ อวฑฺฒิยํ. ตถาปีติ ตตฺถ ตตฺถ อิจฺฉาวิฆาตํ ปาปุณนฺโตปิ. ยสฺมา อิโต พาหิรกา สพฺเพน สพฺพํ ภวนิสฺสรณํ อปฺปชานนฺโต มนฺทกิเลสํ ทีฆายุกํ สุขพหุลํ เอกจฺจํ ภวํ เตเนว มนฺทกิเลสาทิภาเวน ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ สมนุปสฺสนฺติ, ตสฺมา ภเวน ภววิปฺปโมกฺขํ วทนฺตีติ.
ภวทิฏฺิสหคตา ตณฺหา ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปน ภวตณฺหาติ วุตฺตาติ อาห ‘‘ภวตณฺหาติอาทีสุ วิยา’’ติ.
ยตฺถาติ ยสฺมึ ภเว.
ตโต เอวาติ ภูตรติยา เอว. อฺมฺฺหิ สตฺตานํ ฉนฺทราโค พลวา โหติ. อนวเสสโตติ อนวเสเสน, น กิฺจิ เสเสตฺวา.
สํสารโสตสฺส อนุกูลภาเวน คจฺฉตีติ อนุโสตคามี. ตสฺเสว ปฏิกฺกูลวเสน นิพฺพิทานุปสฺสนาทีหิ ปวตฺตตีติ ปฏิโสตคามี, อจลปฺปสาทาทิสมนฺนาคเมน ิตสภาโวติ อตฺโถ.
๑๑๐. ‘‘ปลพฺภติ, นิขชฺชตี’’ติอาทีสุ วิย อุปสคฺโค ปทวฑฺฒนมตฺตนฺติ อาห ‘‘อภิชาติโกติ ชาติโย’’ติ. กณฺหธมฺมสมนฺนาคตตฺตา วา กณฺโห. ปมวเยปิ มชฺฌิมวเยปิ ปาปสมงฺคี หุตฺวา ิโต กณฺหธมฺเม อภิชายติ, ปจฺฉาปิ ปาปํ ปสวตีติ อตฺโถ. สุกฺโกติ วา เอตฺถ วุตฺตวิปริยาเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
๑๑๑. ปุริมสฺมินฺติ ปุริมสฺมึ ปเท. วิสเย ภุมฺมํ ตตฺถ เทยฺยธมฺมสฺส ปติฏฺาปนโต. ทุติเย อธิกรเณ, ตทธิกรณฺหิ นิพฺพานนฺติ. คหฏฺปพฺพชิตกิจฺเจสุ วา วิสิฏฺธมฺมทสฺสนตฺถํ ปจฺจยทานารหตฺตานํ สมธุรตานิทฺเทโส. อถ วา เยน เยน ปน วตฺถุนาติ รูปารูปนิโรธาทินา ตณฺหาวตฺถุนา. อมราวิกฺเขปวตฺถุอาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สุภสุขาทิมิจฺฉาภินิเวสวตฺถุํ สงฺคณฺหาติ. ยถา วา ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตานํ วเสน สํกิเลสภาคิยสฺส สุตฺตสฺส วิภาโค, เอวํ สมถวิปสฺสนาสุจริตวเสน ตณฺหาโวทานภาคิยาทิสุตฺตวิภาโคติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘ตณฺหา…เป… นิทฺทิสิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ.
อิทํ ¶ ¶ เอวํ ปวตฺตนฺติ ยถา ทุจินฺติตาทิวเสน พาโล โหติ ปุคฺคโล, เอวํ ตสฺส ทุจินฺติตจินฺติตาทิภาวนาวเสน ปวตฺตํ อิทํ สํกิเลสภาคิยํ นาม สุตฺตนฺติ ปุพฺเพ สํกิเลสธมฺมวิภาเคน วุตฺตํ อิทานิ สามฺโต สงฺคเหตฺวา วทติ. อิทํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตนฺติ เอตฺถาปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
กิเลสฏฺาเนหีติ กิเลสานํ ปวตฺติฏฺาเนหิ. กิเลสาวตฺถาหีติ กิเลสานํ ปวตฺติอาการวิเสเสหิ. กามราคาทีหิ สํยุชฺชติ กามราคาทิเหตุ กมฺมวิปากาทินา. สติปิ เตสํ กาลนฺตรวุตฺติยํ สํยุตฺโต นาม โหติ, ยโต กามราคาทโย ‘‘สํโยชน’’นฺติ วุจฺจนฺติ. อุปาทิยตีติ ทฬฺหํ คณฺหาติ ปวตฺเตติ. เสสํ วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺตา จ สํวณฺณิตํ.
๑๑๒. อุทาหรณวเสนาติ นิทสฺสนวเสน, เอกเทสทสฺสนวเสนาติ อตฺโถ. สกลสฺส หิ ปริยตฺติสาสนสฺส โสฬสหิ ปฏฺานภาเคหิ คหิตตฺตา. ยถา ตเทกเทสานํ โสฬสนฺนมฺปิ ปฏฺานภาคานํ คหณํ อุทาหรณมตฺตํ, เตสํ ปน โสฬสนฺนํ เอกเทสคฺคหณํ อุทาหรณนฺติ กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกเทสทสฺสนวเสนาติ อตฺโถ’’ติ. กสฺมา ปเนตฺถ ปาฬิยํ ปฏฺานสฺส เอกเทโสว อุทาหโฏ, น อวเสโสติ? นยนิทสฺสนตฺถํ. อิมินา นเยน อวเสโสปิ ปฏฺานภาโว เวทิตพฺโพติ.
ตตฺถ ‘‘อปฺปมฺปิ เจ สํหิต ภาสมาโน…เป… ส ภาควา สามฺสฺส โหตี’’ติ (ธ. ป. ๒๐) อิทํ วาสนาภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. เอตฺถ หิ ‘‘อปฺปมฺปิ เจ สํหิต ภาสมาโน’’ติ อิทํ วาสนาภาคิยํ, ‘‘ส ภาควา สามฺสฺส โหตี’’ติ อิทํ อเสกฺขภาคิยํ.
ตถา มฆเทวสุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘ภูตปุพฺพํ, อานนฺท, อิมิสฺสาเยว มิถิลายํ มฆเทโว นาม ราชา อโหสิ ธมฺมิโก ธมฺมราชา ธมฺเม ิโต มหาธมฺมราชา, ธมฺมํ จรติ พฺราหฺมณคหปติเกสุ เนคเมสุ เจว ชนปเทสุ จ, อุโปสถฺจ อุปวสติ จาตุทฺทสึ, ปฺจทสึ, อฏฺมิฺจ ปกฺขสฺสา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๓๐๘), อิทํ วาสนาภาคิยํ. ‘‘อิทํ โข ปนานนฺท, เอตรหิ มยา กลฺยาณํ วตฺตํ นีหริตํ เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย ¶ อภิฺาย สมฺโพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๘๙) อิทํ อเสกฺขภาคิยํ. ‘‘ปมาทํ อปฺปมาเทน, ยทา นุทติ ปณฺฑิโต’’ติ (ธ. ป. ๒๘) อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ. ‘‘ปฺาปาสาท…เป… อเวกฺขตี’’ติ (ธ. ป. ๒๘) อิทํ อเสกฺขภาคิยนฺติ อิทํ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ.
ตถา ¶ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓) สุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อินฺทฺริยานิ. กตมานิ ตีณีติ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริย’’นฺติ อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ, ‘‘อฺาตาวินฺทฺริย’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๔๙๓) อิทํ อเสกฺขภาคิยํ.
รฏฺปาลสุตฺตํ (ม. นิ. ๒.๒๙๓ อาทโย) สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. ตตฺถ หิ ‘‘อูโน โลโก อติตฺโต ตณฺหาทาโส’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๓๐๖) สํกิเลโส วิภตฺโต, ‘‘เอโก วูปกฏฺโ’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๒๙๙) อเสกฺขธมฺมา, อิตเรน วาสนาธมฺมาติ.
‘‘ธมฺเม จ เย อริยปเวทิเต รตา, อนุตฺตโร เต วจสา มนสา กมฺมุนา จ;
เต สนฺติโสรจฺจสมาธิสณฺิตา, สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ. (สุ. นิ. ๓๓๒);
อิทํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ. เอตฺถ หิ ‘‘ธมฺเม จ เย อริยปเวทิเต รตา’’ติ อยํ วาสนา, ‘‘อนุตฺตรา…เป… สณฺิตา’’ติ อยํ นิพฺเพโธ, ‘‘สุตสฺส ปฺาย จ สารมชฺฌคู’’ติ อเสกฺขธมฺมา.
ตถา ‘‘สทฺโธ สุตวา นิยามทสฺสี’’ติ คาถา (สุ. นิ. ๓๗๓). ตตฺถ หิ ‘‘สทฺโธ สุตวา’’ติ วาสนา, ‘‘นิยามทสฺสี วคฺคคเตสุ น วคฺคสาริ ธีโร, โลภํ โทสํ วิเนยฺย ปฏิฆ’’นฺติ นิพฺเพโธ, ‘‘สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺยา’’ติ อเสกฺขธมฺมา.
สพฺพาสวสํวโร ปริสฺสยาทีนํ วเสน สพฺพภาคิยํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ สํกิเลสธมฺมา, โลกิยสุจริตธมฺมา, เสกฺขธมฺมา, อเสกฺขธมฺมา จ วิภตฺตา. อสพฺพภาคิยํ ปน ‘‘ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติอาทิกํ (ม. นิ. ๑.๒๐๓) อุทกาทิอนุวาทนวจนํ ¶ เวทิตพฺพํ. เอวเมตสฺมึ โสฬสวิเธ สาสนปฏฺาเน เอเต ตณฺหาทิวเสน ตโย ¶ สํกิเลสภาคา, โวทานาทิวเสน ตโย วาสนาภาคา, เสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ วเสน ตโย นิพฺเพธภาคา, อเสกฺขานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอว วเสน ตโย อเสกฺขภาคา, เตสํ วเสน มูลปฏฺานานิ เอว ทฺวาทส โหนฺติ. ตานิ ปน วิตฺถารนเยน วิภชิยมานานิ ฉนฺนวุตาธิกานิ จตฺตาริ สหสฺสานิ โหนฺติ. ยถาทสฺสนํ ปเนตานิ อุทฺธริตพฺพานิ. ตานิ ปน ยสฺมา สงฺคหโต กามตณฺหาทิวเสน ตโย ตณฺหาสํกิเลสภาคา, สสฺสตุจฺเฉทวเสน ทฺเว ทิฏฺิสํกิเลสภาคา, กายทุจฺจริตาทิวเสน ตโย ทุจฺจริตสํกิเลสภาคาติ อฏฺ สํกิเลสภาคา. ธมฺมามิสาภยทานวเสน ติวิธํ ทานมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, กายสุจริตาทิวเสน ติวิธํ สีลมยํ ปฺุกิริยวตฺถุ, สมถวิปสฺสนาวเสน ทุวิธํ ภาวนามยํ ปฺุกิริยวตฺถูติ อฏฺเว วาสนาภาคา.
สทฺธานุสารี สทฺธาวิมุตฺโต ธมฺมานุสารี ทิฏฺิปฺปตฺโต กายสกฺขีติ (ปุ. ป. มาติกา ๗.๓๒-๓๖; ปุ. ป. ๒๖-๓๐) ปฺจนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺเจกํ ตโย สีลาทิกฺขนฺธาติ ปนฺนรส นิพฺเพธภาคา, สฺุตานิมิตฺตาปณิหิตเภทา ปฺาวิมุตฺตานํ ตโย อคฺคผลธมฺมา, เตสุ ปจฺเจกํ ตโย ตโย สีลาทิกฺขนฺธา, ตถา อุภโตภาควิมุตฺตานนฺติ อฏฺารส, สิกฺขิตพฺพาภาวสามฺเน อสงฺขตธาตุํ ปกฺขิปิตฺวา เอกูนวีสติ อเสกฺขภาคา, อิติ ปุริมานิ เอกตึส, อิมานิ เอกูนวีสตีติ สมปฺาส สํกิเลสภาคิยาทิธมฺมา โหนฺติ. ตสฺมา อิเมสํ สมปฺาสาย สํกิเลสภาคิยาทิธมฺมานํ วเสน สมปฺาส สุตฺตานิ โหนฺติ.
ยสฺมา จ เต ปฺาวิมุตฺตา อุภโตภาควิมุตฺตวิภาคํ อกตฺวา อสงฺขตาย ธาตุยา อคฺคหเณน นิปฺปริยาเยน อเสกฺขภาคาภาวโต นเวว อเสกฺขภาคาติ สมจตฺตาลีส โหนฺติ, ตสฺมา เปฏเก ‘‘จตฺตารีสาย อากาเรหิ ปริเยสิตพฺพํ, ปฺาสาย อากาเรหิ สาสนปฏฺานํ นิทฺทิฏฺ’’นฺติ (เปฏโก. ๒๑) จ วุตฺตํ. สงฺคหโต เอว ปน ปุพฺเพ วุตฺตวิตฺถารนเยน โสฬส โหนฺติ, ปุน ติวิธสํกิเลสภาคิยาทิวเสน ทฺวาทส โหนฺติ, ปุน ตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตสํกิเลสตณฺหาทิฏฺิทุจฺจริตโวทานภาเวน ฉ โหนฺติ, ปุน สํกิเลสภาคิยํ วาสนาภาคิยํ ทสฺสนภาคิยํ ¶ วาสนาภาคิยํ อเสกฺขภาคิยนฺติ ปฺจ โหนฺติ, ปุน มูลปฏฺานวเสน จตฺตาริ โหนฺติ, ปุถุชฺชนภาคิยเสกฺขภาคิยอเสกฺขภาคิยภาเวน ตีณิ โหนฺติ, ปุน สํกิเลสภาคิยโวทานภาคิยภาเวน ทฺเว เอว โหนฺติ. ปฏฺานภาเวน ปน เอกวิธเมว, อิติ ปฏฺานภาเวน เอกวิธมฺปิ สํกิเลสโวทานภาคิยภาเวน ทุวิธนฺติ วิภาคโต ยาว ฉนฺนวุตาธิกํ จตุสหสฺสปฺปเภทํ โหติ, ตาว เนตพฺพํ. เอวเมตํ ปฏฺานํ สงฺคหโต, วิภาคโต จ เวทิตพฺพํ.
อิมสฺสาปิ ปฏฺานวิภาคสฺส, น ปุริมสฺเสวาติ อธิปฺปาโย. โลกิกํ อสฺสตฺถีติ, โลกิกสหจรณโต วา โลกิยํ, สุตฺตํ ปเทเสนาติ เอกเทเสน. สพฺพปเทสูติ ตํตํติกานํ ตติยปเทสุ. พุทฺธาทีนนฺติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ. ธมฺโม ปเนตฺถ พุทฺธาทิคฺคหเณน เวทิตพฺโพ, อาทิสทฺเทน วา.
ปริณมตีติ ¶ ปริปจฺจติ. ธรนฺตีติ ปพนฺธวเสน ปวตฺตนฺติ. นฺติ ปาปกมฺมํ. เตติ กุสลาภินิพฺพตฺตกฺขนฺธา. รกฺขนฺติ วิปากทานโต วิปจฺจิตุํ โอกาสํ น เทนฺตีติ อตฺโถ. อยฺจ อตฺโถ อุปปชฺชเวทนีเยสุ ยุชฺชติ, อิตรสฺมิมฺปิ ยถารหํ ลพฺภเตว. เตนาห ‘‘ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว’’ติ.
๑๑๓. อตฺตโน อนวชฺชสุขาวหํ ปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชนฺโต ปรมตฺถโต อตฺตกาโม นามาติ อาห ‘‘อตฺตโน สุขกาโม’’ติ. สุขานุพนฺธฺหิ สุขํ กาเมนฺโต สุขเมว กาเมตีติ จ สุขกาโมติ.
วิตฺถตฏฺเนาติ สุวิปฺผารทิฏฺีนํ ปวตฺตนฏฺานตาสงฺขาเตน วิตฺถารฏฺเน.
๑๑๔. ทิฏฺเ ทุกฺขาทิธมฺเมติ ภาเวนภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ, ทุกฺขาทิธมฺเม ทิฏฺเ าเตติ อตฺโถ.
‘‘อุทฺธ’’นฺติอาทิ กาลเทสานํ อนวเสสปริยาทานนฺติ อาห ‘‘อุทฺธนฺติ อนาคตํ, อุปริ จา’’ติอาทิ. คมเนนาติ จุตูปปาตคมเนน.
๑๑๕. นครทฺวารถิรกรณตฺถนฺติ นครสฺส ทฺวารพาหถิรกรณตฺถํ. คมฺภีรเนมตายาติ ‘‘เนมํ’’วุจฺจติ นิขาตถมฺภาทีนํ ปถวึ อนุปวิสิตฺวา ิตปฺปเทโส ¶ , คมฺภีรํ เนมํ เอตสฺสาติ คมฺภีรเนโม, ตสฺส ภาโว คมฺภีรเนมตา, ตาย. กมฺปนํ ยถาิตสฺส อิโต จิโต จ สฺโจปนํ, จาลนํ ิตฏฺานโต จาวนํ. อชฺโฌคาเหตฺวาติ อวิปรีตสภาวาภิสมยวเสน อนุปวิสิตฺวา, อนุปวิฏฺโ วิย หุตฺวาติ อตฺโถ.
สํโยชนานํ ปชหนวเสนาติ คาถาย วจนเสสํ อาเนตฺวา ทสฺเสติ. อถ วา ปหาตพฺพสฺส ปหาเนน วินา น ภาวนาสิทฺธีติ อตฺถสิทฺธํ ปหาตพฺพปหานํ อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธาติ ปททฺวเยน โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ พหิทฺธาติ โอรมฺภาคิยอุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ วิสํโยคคหิโตติ อิมมตฺถํ ปาฬิยา สมตฺเถตุํ ‘‘เตนาห สพฺพโลเก’’ติ วุตฺตํ.
อโลภสีเสนาติ อโลเภน ปุพฺพงฺคเมน, ยโต โยคาวจโร ‘‘เนกฺขมฺมจฺฉนฺโท’’ติ วุจฺจติ. อสุภสฺา ราคปฺปฏิปกฺขตาย ‘‘วิเสสโต อโลภปฺปธานา’’ติ วุตฺตา, ทสาสุภวเสน ¶ วา. อธิคตชฺฌานาทีนีติ อาทิสทฺเทน วิปสฺสนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. วิหึสารติราคานํ พฺยาปาทเหตุกโต จตฺตาโรปิ พฺรหฺมวิหารา อพฺยาปาทปธานาติ อาห ‘‘จตุ…เป… อพฺยาปาโท ธมฺมปท’’นฺติ. อธิคตานิ ฌานาทีนีติ โยชนา. ทสานุสฺสติ…เป… อธิคตานิ สมฺมาสติ ธมฺมปทํ สติสีเสน เตสํ อธิคนฺตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. อานาปานภาวนายํ สมาธิปิ ปธาโน, น สติ เอวาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ทสกสิณ…เป… สมฺมาสมาธิ ธมฺมปท’’นฺติ วุตฺตํ. จตุธาตุววตฺถานวเสน อธิคตานมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
๑๑๖. อุปลกฺขณการณานีติ สฺชานนนิมิตฺตานิ.
ปาปเมว ปาปิโยติ อาห ‘‘ปาปํ โหตี’’ติ, ‘‘ปาปิโย’’ติ จ ลิงฺควิปลฺลาสวเสน วุตฺตํ. เอกวจเน พหุวจนนฺติ เอกวจเน วตฺตพฺเพ พหุวจนํ วุตฺตํ.
๑๑๗. โอลียนตณฺหาภินิเวสวเสนาติ ภวตณฺหาภวทิฏฺิวเสน. ตา หิ ภเวสุ สตฺเต อลฺลียาเปนฺติ. อติธาวนาภินิเวสวเสนาติ อุจฺเฉททิฏฺิวเสน. สา หิ อวฏฺฏุปจฺเฉทเมว วฏฺฏุปจฺเฉทํ กตฺวา อภินิวิสนโต อติธาวนาภินิเวโส นาม. โอลียนฺตีติ สมฺมาปฏิปตฺติโต สงฺโกจํ อาปชฺชนฺติ. อภิธาวนฺตีติ สมฺมาปฏิปตฺตึ อติกฺกมนฺติ.
เตสฺจาติ ¶ เตสํ อุภินฺนํ อภินิเวสานํ, ตทฺเสฺจ สพฺพมฺิตานํ.
๑๑๘. อิทํ อิฏฺวิปากํ อนิฏฺวิปากนฺติ อิทํ อิฏฺวิปากสงฺขาตํ อนิฏฺวิปากสงฺขาตํ ผลํ.
‘‘อกงฺขโต น ชาเนยฺยุ’’นฺติ เอเตน ‘‘อากงฺขโต’’ติ อิมินา ปเทน สทฺธึ สมฺพนฺธทสฺสนมุเขน ‘‘น ชฺา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ ทสฺเสติ.
น อุปลพฺภตีติ นตฺถีติ อตฺโถ.
๑๒๐. ตานีติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตานิ. ปตฺถรณากาโรเยว เหส, ยทิทํ ฉายานํ ¶ โวลมฺพนํ. เอวํ โหตีติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทิปฺปกาเรน วิปฺปฏิสาโร โหติ.
๑๒๒. เอสเกหีติ คเวสเกหิ สปรสนฺตาเน สมฺปาทเกหิ. ทุกฺขุทฺรยนฺติ ทุกฺขผลํ. ตีหิ การเณหีติ กายวาจาจิตฺเตหิ. ตานิ หิ ตํตํสํวรานํ ทฺวารภาเวน การณานีติ วุตฺตานิ. ตีหิ าเนหีติ วา ตีหิ อุปฺปตฺติฏฺาเนหิ. ปิหิตนฺติ ปิธายกํ.
‘‘อุฏฺานฏฺานสงฺขาต’’นฺติ อิทํ ปาสาณภาวสามฺํ คเหตฺวา วุตฺตํ.
๑๒๓. รชมิสฺสกนฺติ ปุปฺผรชมิสฺสกํ. ตสฺสาติ ตสฺส เสกฺขาเสกฺขมุนิโน. มหิจฺฉาทีนํ วิย คาเม จรณปฺปจฺจยา คามวาสีนํ สทฺธาหานิ วา โภคหานิ วา น โหติ, อถ โข อุปรูปริ วุทฺธิเยว โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปากติกเมว โหตี’’ติ อาห. อชฺฌตฺติกกมฺมฏฺานนฺติ จตุสจฺจกมฺมฏฺานํ.
เตนาติ กุสเลน กายวจีกมฺเมน. ถิรภาโว ถามํ นามาติ ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ถามวาติ ิติมา’’ติ อาห.
อตฺตสํนิสฺสยํ เปมํ อตฺตาติ คเหตฺวา ‘‘อตฺตสม’’นฺติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อตฺตเปเมน สมํ เปมํ นตฺถี’’ติ. ภควโต วิปสฺสนาาโณภาสปฺปวตฺตึ สนฺธายาห ‘‘ปฺา ปน…เป… สกฺโกตี’’ติ. สพฺพฺุตฺาณํ, ปน อภิฺาาณานิ จ อนนฺตาปริมาณํ โลกธาตุํ โอภาเสนฺติ.
๑๒๔. กิสฺส ภีตาติ เกน การเณน ภีตา.
เปตฺวาติ ¶ ปวตฺเตตฺวา. วจนีโย ยาจกานนฺติ โยชนา, ยาจิตพฺพยุตฺโตติ อตฺโถ. ยฺอุปกฺขโรติ ยฺโปกรณํ. ‘‘เอเตสุ ธมฺเมสุ ิโต จตูสู’’ติ วุตฺตํ จตุกฺกํ ววตฺถเปตุํ ‘‘สทฺโธติ เอกํ องฺค’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
คาถายํ วุตฺตธมฺเม ทฺเว ทฺเว เอกํ กตฺวา องฺคกรณํ ทุกนโย.
ชาติธมฺมนฺติ ¶ ปวตฺติธมฺมํ สนฺธาย วทติ.
๑๒๕. สจฺเจกเทสโต สจฺจสมุทาโย อนวเสสปริยาทานโต วิสิฏฺโติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปรมตฺถสจฺจํ วา โหตู’’ติ อาห. จตุโร ปทาติ จตฺตาริ ปทานิ, ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ, จตฺตาโร ธมฺมโกฏฺาสาติ อตฺโถ. เกวลํ สตฺตวิภาคทสฺสนตฺถเมว จตุปทคฺคหณํ, น อธิคตธมฺมานุรูปตาย.
นิมฺมทาติ น มทา.
‘‘สจฺจวาที ชิโน โรโม’’ติปิ ปาโ. ตตฺถ โรโมติ ทิฏฺิราครตฺตานํ ติตฺถิยานํ, ติตฺถกรานฺจ อธมฺมวาทีนํ ราควิปรีตธมฺมเทสนโต ภยชนโก, อธมฺมวาทีนํ วา ตตฺถ อาทีนวทสฺสเนน ภายิตพฺโพ, อปฺปหีนาสํวรานํ วา ทุรุปสงฺกมนโต ทุราสโทติ อตฺโถ.
สจฺโจ จ โส ธมฺโม จาติ สจฺจธมฺโม. เตนาห ‘‘เอกนฺตนิสฺสรณภาเวนา’’ติอาทิ.
เอกายนภาวนฺติ เอกมคฺคภาวํ, อฺมคฺคภาวนฺติ อตฺโถ.
ทสฺสนภาคิยํ ภาวนาภาคิยนฺติ นิพฺเพธภาคิยเมว ทฺวิธา วิภชิตฺวา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สํกิเลสภาคิยาทีหิ จตูหิ ปเทหี’’ติ. เสสตฺติกานนฺติ สตฺตาธิฏฺานตฺติกาทีนํ อฏฺนฺนํ ติกานํ. เสสปทานฺจาติ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจาติอาทิมิสฺสกปทานฺจ. จ-สทฺเทน สํกิเลสภาคิยาทิปทานิ จ สงฺคณฺหาติ. โลกิยตฺติกสฺเสว หิ ‘‘เสสปทานี’’ติ วุตฺเตหิ มิสฺสกปเทหิ เอวํ สํสนฺทเน นยทสฺสนํ, อิตเรสํ ปน ติกานํ สํกิเลสภาคิยาทิปเทหิ เจว เสสปเทหิ จ สํสนฺทเน อิทํ นยทสฺสนนฺติ ‘‘วุตฺตนยานุสาเรน สุวิฺเยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. สมติกฺกมนนฺติ ปหานํ. สติปิ วาสนาภาคิยสํกิเลสภาคิยธมฺมานํ โลกิยภาเว ¶ ปุริเมหิ ปน ปจฺฉิมา ปหาตพฺพา ตทงฺควเสน, วิกฺขมฺภนวเสน จ. เอวํ ปชหนสมตฺถตาย ปหานนฺติ วุตฺตํ ‘‘วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยสฺส สมติกฺกมาย โหตี’’ติ. สํกิเลสธมฺมานํ สมติกฺกเมน อธิคนฺตพฺพา โวทานธมฺมา วิยาติ โยชนา. ภาวนา นาม ติวิธา ฌานภาวนา, วิปสฺสนาภาวนา, มคฺคภาวนาติ. ตาสุ มคฺคภาวนาย คหิตาย วิปสฺสนาภาวนา คหิตา เอว โหตีติ ตํ อนามสิตฺวา อิตรา ทฺเว เอว คหิตา. ตถาปิ ‘‘ภาวนาภาคิยสฺส สุตฺตสฺส ปฏินิสฺสคฺคายา’’ติ วุตฺเต กึ สพฺเพน สพฺพํ อเสกฺขสฺส ฌานภาวนาปิ ¶ ปฏินิสฺสฏฺาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ปาฬิยํ ‘‘อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถ’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อเสกฺขธมฺเมสุ อุปฺปนฺเนสุ มคฺคภาวนากิจฺจํ นาม นตฺถี’’ติ วตฺวา ‘‘ฌานภาวนาปิ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถา เอวา’’ติ อาห.
เอกํ เอว ภวพีชํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ เอกพีชํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ เอกพีชี. สนฺธาวิตฺวา สมาคนฺตฺวา, นิพฺพตฺตนวเสน อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ. สํสริตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. กุลํ กุลํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. ปุริมปเท อนุนาสิกโลปํ อกตฺวา นิทฺเทโส.
เตสํ โสตาปนฺนานํ. เอตํ ปเภทนฺติ เอกพีชิอาทิวิภาคํ. ปุริมภวสิทฺธํ วิวฏฺฏูปนิสฺสยปฺุกมฺมํ อิธ ปุพฺพเหตุ นาม. โย ‘‘กตปฺุตา’’ติ วุจฺจติ, โส ปมมคฺเค สาธิเต จริตตฺถตาย วิปกฺกวิปากํ วิย กมฺมํ อุปริมมคฺคานํ อุปนิสฺสโย น สิยาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อุปริ…เป… อาปชฺชตี’’ติ. ติณฺณํ มคฺคานํ นิรตฺถกตา อาปชฺชติ ปมมคฺเคเนว เตหิ กาตพฺพกิจฺจสฺส สาธิตตฺตา. ปมมคฺเค…เป… อาปชฺชตีติ อนุปฺปนฺนสฺส อตฺถกิริยาสมฺภวโต. เอวํ ติณฺณํ วาทานํ ยุตฺติอภาวํ ทสฺเสตฺวา จตุตฺถวาโท เอเวตฺถ ยุตฺโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิปสฺสนา…เป… ยุชฺชตี’’ติ. ‘‘สเจ หี’’ติอาทินา ตํ ยุตฺตึ วิภาเวติ. วิมุตฺติปริปาจนียานํ ธมฺมานํ ปริปกฺกตาย อินฺทฺริยานํ ติกฺขตาย าณสฺส วิสทตาย วิปสฺสนาย พลวภาโว เวทิตพฺโพ. โส หิ โวมิสฺสกนเยน สํสรณโก อิธาธิปฺเปโต ‘‘เทเว เจว มานุเส จ สนฺธาวิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา. อิธ กามภเว ิโต อิธฏฺโก. มนุสฺสเทวโลกูปปชฺชนโต โอกาเรน โวกิณฺโณ. อริยสาวกสฺส ตํตํสตฺตนิกายุปปตฺติ ตสฺส ตสฺส โสธนสทิสํ กิเลสมลาทิอนตฺถาปนยนโตติ ¶ อาห ‘‘ฉ เทวโลเก โสเธตฺวา’’ติ. ‘‘อกนิฏฺเ ตฺวา’’ติ เอเตน เหฏฺาพฺรหฺมโลกโสธนํ วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ.
สทฺธํ ธุรํ กตฺวาติ สทฺธํ ธุรํ เชฏฺกํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา. สทฺธาย อนุสฺสติ ปฏิปตฺติ, สทฺธํ วา ปุพฺพภาคิยํ อนุสฺสติ, สทฺธาย วา อนุสรณสีโลติ สทฺธานุสารี. ธมฺมานุสารีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ธมฺโมติ ปเนตฺถ ปฺา เวทิตพฺพา. สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ยทิปิ สพฺพถา อวิมุตฺโต, สทฺธามตฺเตน ปน วิมุตฺโตติ อตฺโถ. สทฺธาย วา อธิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. วุตฺตนเยนาติ อุปริมคฺควิปสฺสนาย พลวมนฺทมนฺทตรภาเวน. ทิฏฺิยา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิโรธปฺปตฺโตติ อตฺโถ. ทิฏฺนฺตํ วา ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต, ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรปฺปวตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ปมผลโต ปฏฺาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฏฺิปฺปตฺตาติ. อิทนฺติ ยถาวุตฺตโสตาปนฺนานํ สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตตาวจนํ ¶ . อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานนฺติ จตสฺโส รูปาวจรสมาปตฺติโย, จตสฺโส อรูปาวจรสมาปตฺติโยติ อฏฺ วิโมกฺขา, เตสํ.
ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี, ผุฏฺานํ อนฺโต ผุฏฺนฺโต, ผุฏฺานํ อรูปชฺฌานานํ อนนฺตโร กาโลติ อธิปฺปาโย. อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ, ผุฏฺานนฺตรกาลเมว สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรตีติ วุตฺตํ โหติ, ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย วา ภาวนปุํสกนฺติ เอตํ ทฏฺพฺพํ. โย หิ อรูปชฺฌาเนน รูปกายโต, นามกาเยกเทสโต จ วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน วิมุตฺโต, เตน นิโรธสงฺขาโต วิโมกฺโข อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ, น กาเยน สจฺฉิกโต, นิโรธํ ปน อารมฺมณํ กตฺวา เอกจฺเจสุ อาสเวสุ เขปิเตสุ เตน โส สจฺฉิกโต โหติ. ตสฺมา โส สจฺฉิกาตพฺพํ นิโรธํ ยถาอาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉิกโรตีติ ‘‘กายสกฺขี’’ติ วุจฺจติ, น ตุ วิมุตฺโต เอกจฺจานํ เอว อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตา.
อเภเทนาติ อนฺตราปรินิพฺพายิอาทิเภเทน วินา. ‘‘อเภเทนา’’ติ จ อิทํ ‘‘สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตกายสกฺขิโน’’ติ อิธาปิ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. ยเถว หิ อนฺตราปรินิพฺพายิอาทิเภทานามสเนเนว เอโก อนาคามี ¶ โหติ, เอวํ ยถาวุตฺตเภทอามสเนเนว สทฺธาวิมุตฺโต, ทิฏฺิปฺปตฺโต, กายสกฺขีติ ตโย อนาคามิโน โหนฺติ. อยฺจ อนาคามิโน ตาทิสมวตฺถาเภทํ คเหตฺวา คณนา กตาติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อวิหาทีสู’’ติอาทิ สุวิฺเยฺยเมว.
ปฺาย เอว วิมุตฺโต, น เจโตวิมุตฺติภูเตน สาติสเยน สมาธินาปีติ ปฺาวิมุตฺโต. อุภโตภาควิมุตฺโตติ อุโภหิ ภาเคหิ อุภโตภาคโต วิมุตฺโต. กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมุจฺฉินฺเนหิ รูปกายนามกายโต วิมุตฺโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิกฺขมฺภน…เป… วิมุตฺโต นามา’’ติ อาห. อรูปสมาปตฺติยา รูปกายโต, อคฺคมคฺเคน อรูปกายโต วิมุตฺตํ. ยถาห –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา, เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๒).
ยํ ¶ ปน มหานิทานสุตฺเต ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ที. นิ. ๒.๑๒๙) นิโรธสมาปตฺติอนฺเต อฏฺ วิโมกฺเข วตฺวา –
‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อิเม อฏฺ วิโมกฺเข อนุโลมมฺปิ สมาปชฺชติ…เป… อยํ วุจฺจตานนฺท, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต, อิมาย จ, อานนฺท, อุภโตภาควิมุตฺติยา อฺา อุภโตภาควิมุตฺติ อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถี’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๓๐) –
วุตฺตํ, ตํ อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา อารุปฺปสมาปตฺตีสุ เอกายปิ รูปกาโย วิกฺขมฺภิโต เอว นาม โหติ, ตสฺมา จตุนฺนํ อารุปฺปสมาปตฺตีนํ, นิโรธสมาปตฺติยา จ ลาภีนํ วเสน ปฺจ อุภโตภาควิมุตฺตา เวทิตพฺพา. เอส นโย กายสกฺขิมฺหิปิ. อฏฺวิโมกฺเขกเทเสปิ หิ อฏฺวิโมกฺขสมฺา ยถา ‘‘โลเก สตฺตา’’ติ.
เตรสสุ สีเสสุ ปลิโพธสีสาทีนิ, ปวตฺตสีสฺจ ปริยาทิยิตพฺพานิ, อธิโมกฺขสีสาทีนิ ปริยาทกานิ, โคจรสีสํ ปริยาทกผลํ. ตฺหิ ¶ วิสยชฺฌตฺตํ ผลํ, วิโมกฺโข ปริยาทกสฺส มคฺคสฺส, ผลสฺส จ อารมฺมณํ. สงฺขารสีสํ สงฺขารวิเวกภูโต นิโรโธติ ปริยาทิยิตพฺพานํ, ปริยาทกผลานฺจ สห วิสยสํสิทฺธิทสฺสเนน สมสีสิภาวํ ทสฺเสตุํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๘๗) เตรส สีสานิ วุตฺตานิ. อิธ ปน ‘‘ยสฺส ปุคฺคลสฺส อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจา’’ติ (ปุ. ป. ๑๖) ปุคฺคลปฺตฺติยํ อาคตตฺตา เตสุ กิเลสปวตฺตสีสานํ เอว วเสน โยชนํ กโรนฺโต ‘‘กิเลสสีส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปวตฺตสีสมฺปิ มคฺโค ปวตฺติโต วุฏฺหนฺโต จุติโต อุทฺธํ อปฺปวตฺติกรเณน ยทิปิ ปริยาทิยติ, ยาว ปน จุติ, ตาว ปวตฺติสมฺภวโต ‘‘ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยตี’’ติ อาห.
กิเลสปริยาทาเนน อตฺตโน อนนฺตรํ วิย นิปฺผาเทตพฺพา, ปจฺจเวกฺขณวารา จ กิเลสปริยาทานสฺเสว วาราติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. ‘‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๘; สํ. นิ. ๓.๑๒, ๑๔) หิ วจนโต ปจฺจเวกฺขณปริสมาปเนน กิเลสปริยาทานํ สมาปิตํ นาม โหติ. ตํ ปน ปริสมาปนํ ยทิ จุติจิตฺเตน โหติ, เตเนว ชีวิตปริสมาปนฺจ โหตีติ อิมาย วารจุติสมตาย กิเลสปริยาทานชีวิตปริยาทานานํ อปุพฺพาจริมตา ¶ โหตีติ อาห ‘‘วารสมตายา’’ติ. ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายโตติ เอตฺถ ปรินิพฺพานจิตฺตเมว ภงฺโคตฺตรณภาเวน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
จริตนฺติ จริตา กายวจีมนปฺปวตฺติ. เอตฺถ จ เยน ราคาธิกภาเวน ปุคฺคโล ‘‘ราคจริโต’’ติ ลกฺขียติ, ตยิทํ ลกฺขณํ. เตนาห ‘‘ราคชฺฌาสโย ราคาธิโกติ อตฺโถ’’ติ, เตน อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน ถามคตสฺส ราคสฺส พลภาโว ลกฺขียตีติ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโย เสเสสุปิ.
สีลวนฺเตหีติ อาทิสทฺทสฺส โลปํ กตฺวา นิทฺเทโส กโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สีลวนฺตาทีหี’’ติ. อาทิสทฺเทน ทายกาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
อารมฺมณภูตา ¶ เยฺยนฺติ อารมฺมณภูตาว เยฺยํ.
ปุถุชฺชนภูมิอาทีสูติ ปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺขภูมีสุ. ตตฺถ ปุถุชฺชนภูมิวเสน สํวโร, เสกฺขภูมิวเสน ปหานภาวนา, อเสกฺขภูมิวเสน สจฺฉิกิริยา, ปุถุชฺชนภูมิเสกฺขภูมิวเสน วา ยถารหํ สํวรปหานภาวนา. ปุพฺพภาคิยา หิ สํวรปหานภาวนา ปุถุชฺชนสฺส สมฺภวนฺติ, อิตรา เสกฺขสฺส, อเสกฺขภูมิวเสน สจฺฉิกิริยา. นยโต ทสฺสิตนฺติ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปตี’’ติอาทินา (มหาว. ๓๐๕) นยทสฺสนวเสน ปกาสิตํ. สราคาทิสํวตฺตนนฺติ สราคาทิภาวาย สํวตฺตนํ.
อฺมฺํ สํสคฺคโตติ ‘‘สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจา’’ติอาทินา สํกิเลสภาคิยาทีนํ ปทานํ อฺมฺสํสคฺคโต. อเนกวิโธติ ทฺวาทสวิโธ ยาว ทฺวานวุตาธิกจตุสหสฺสวิโธปิ อเนกปฺปกาโร. โลกิยสตฺตาธิฏฺานาทิสํสคฺคโตติ อาทิสทฺเทน โลกิยํ าณํ, โลกุตฺตรํ าณํ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ าณํ, โลกิยํ เยฺยํ, โลกุตฺตรํ เยฺยํ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ เยฺยํ, โลกิยํ าณฺจ เยฺยฺจ, โลกุตฺตรํ าณฺจ เยฺยฺจ, โลกิยฺจ โลกุตฺตรฺจ าณฺจ เยฺยฺจาติอาทิโก สมฺภวนฺโต ปฏฺานเภโท สงฺคหิโต. อุภยตฺถาติ สํกิเลสภาคิยาทิเก, โลกิยาทิเก จ. ยถารหนฺติ โย โย สํสคฺควเสน โยชนํ อรหติ, โส โส ธมฺโม. สมฺภวาวิโรเธเนว หิ โยชนา. น หิ ‘‘โลกิยํ นิพฺเพธภาคิย’’นฺติอาทินา โยชนา สมฺภวติ.
ตีสุ ¶ ปิฏเกสุ ลพฺภมานสฺสาติ ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺเห เตปิฏเก พุทฺธวจเน อุปลพฺภมานสฺส วิชฺชมานสฺส, เอเตน น เกวลํ สงฺคโห เอว ยถาวุตฺตเภทานํ ปฏฺานภาคานํ นิทฺธารณาย การณํ, อถ โข ปาฬิยํ ทสฺสนฺจาติ วิภาเวติ. เตนาห ‘‘ยํ ทิสฺสติ ตาสุ ตาสุ ภูมีสู’’ติ. ‘‘เตเนว หี’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส ปาานุคมํ ทสฺเสติ.
สาสนปฏฺานวารวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนกถาวณฺณนา
สทฺธมฺมาวตรฏฺาเนติ ¶ เทสนฺตรโต อาคนฺตฺวา สทฺธมฺมสฺส อวตรโณกาสภูเต สทฺธมฺมสฺสวนธารณปริจยปริปุจฺฉามนสิการพหุลานํ นิวาสฏฺานตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อตฺตโน วา สนฺตาเน ปริยตฺติสทฺธมฺมสฺส อนุปฺปเวสนฏฺานตาย เอวํ วุตฺตํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.
เนตฺติอฏฺกถาย ลีนตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.
เนตฺติปฺปกรณ-ฏีกา นิฏฺิตา.