📜

๒. สาสนปฏฺานทุติยภูมิ

๑๓. ตตฺถ กตมํ สาสนปฺปฏฺานํ? สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ, วาสนา ภาคิยํ สุตฺตํ, นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ, อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ, สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ, สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ, วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ. อาณตฺติ, ผลํ, อุปาโย, อาณตฺติ จ ผลฺจ, ผลฺจ อุปาโย จ, อาณตฺติ จ ผลฺจ อุปาโย จ. อสฺสาโท, อาทีนโว, นิสฺสรณํ, อสฺสาโท จ อาทีนโว จ, อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ, อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ, อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ. โลกิกํ, โลกุตฺตรํ, โลกิกฺจ โลกุตฺตรฺจ. กมฺมํ, วิปาโก, กมฺมฺจ วิปาโก จ. นิทฺทิฏฺํ, อนิทฺทิฏฺํ, นิทฺทิฏฺฺจ อนิทฺทิฏฺฺจ. าณํ, เยฺยํ, าณฺจ เยฺยฺจ. ทสฺสนํ, ภาวนา, ทสฺสนฺจ ภาวนา จ. วิปากกมฺมํ, น วิปากกมฺมํ, เนววิปากนวิปากกมฺมํ . สกวจนํ, ปรวจนํ, สกวจนฺจ ปรวจนฺจ. สตฺตาธิฏฺานํ, ธมฺมาธิฏฺานํ, สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ. ถโว, สกวจนาธิฏฺานํ, ปรวจนาธิฏฺานํ, สกวจนาธิฏฺานฺจ ปรวจนาธิฏฺานฺจ. กิริยํ, ผลํ, กิริยฺจ ผลฺจ. อนุฺาตํ, ปฏิกฺขิตฺตํ, อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ. อิมานิ ฉ ปฏิกฺขิตฺตานิ.

๑๔. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยํ สุตฺตํ?

กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ตณฺหาฉทนฉาทิตา;

ปมตฺตพนฺธุนา พทฺธา, มจฺฉาว กุมินามุเข;

ชรามรณมนฺเวนฺติ, วจฺโฉ ขีรปโกว [ขีรูปโกว (ก.) ปสฺส อุทา. ๖๔] มาตรํ.

ปฺจิเม, ภิกฺขเว, นีวรณา.

ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ?

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มโนเสฏฺา มโนมยา;

มนสา เจ ปสนฺเนน, ภาสติ วา กโรติ วา;

ตโต นํ สุขมนฺเวติ, ฉายาว อนปายินี.

สํยุตฺตเก สุตฺตํ.

มหานามสฺส สกฺกสฺส อิทํ ภควา สกฺยานํ กปิลวตฺถุมฺหิ นคเร นยวิตฺถาเรน สทฺธาสีลปริภาวิตํ สุตฺตํ ภาวฺเน ปริภาวิตํ ตํ นาม ปจฺฉิเม กาเล.

ตตฺถ กตมํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ?

อุทฺธํ อโธ [อุทา. ๖๑] สพฺพธิ วิปฺปมุตฺโต, อยํ อหสฺมีติ อนานุปสฺสี;

เอวํ วิมุตฺโต อุทตาริ โอฆํ, อติณฺณปุพฺพํ อปุนพฺภวาย.

สีลานิ นุ โข ภวนฺติ กิมตฺถิยานิ อานนฺโท ปุจฺฉติ สตฺถารํ.

ตตฺถ กตมํ อเสกฺขภาคิยํ สุตฺตํ?

‘‘ยสฺส เสลูปมํ จิตฺตํ, ิตํ นานุปกมฺปติ;

วิรตฺตํ รชนีเยสุ, โกปเนยฺเย [โกปนีเย (ก.) ปสฺส อุทา. ๓๔] น กุปฺปติ;

ยสฺเสวํ ภาวิตํ จิตฺตํ, กุโต ตํ ทุกฺขเมสฺสตี’’ติ.

สาริปุตฺโต นาม ภควา เถรฺตโร โส มํ อาสชฺช อปฺปฏินิสฺสชฺช จาริกํ ปกฺกมติ, สาริปุตฺตสฺส พฺยากรณํ กาตพฺพํ. ยสฺส นูน ภควา กายคตา สติ อภาวิตา อสฺส อพหุลีกตา วิตฺถาเรน กาตพฺพํ.

๑๕. ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ วาสนาภาคิยฺจ?

ฉนฺนมติวสฺสติ [อุทา. ๔๕], วิวฏํ นาติวสฺสติ;

ตสฺมา ฉนฺนํ วิวเรถ, เอวํ ตํ นาติวสฺสติ.

ฉนฺนมติวสฺสตีติ สํกิเลโส. วิวฏํ นาติวสฺสตีติ วาสนา. ตโม ตมปรายโนติ วิตฺถาเรน. ตตฺถ โย จ ตโม โย จ ตมปรายโน, อยํ สํกิเลโส. โย จ โชติ โย จ โชติปรายโน, อยํ วาสนา.

ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ?

น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, ยทายสํ ทารุชปพฺพชฺจ [ทารุชํ ปพฺพชฺจ (ปี.) ธ. ป. ๓๔๕; สํ. นิ. ๑.๑๒๑];

สารตฺตรตฺตา มณิกุณฺฑเลสุ, ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา.

น ตํ ทฬฺหํ พนฺธนมาหุ ธีรา, ยทา ปุตฺเตสุ ทาเรสุ จ ยา อเปกฺขา, อยํ สํกิเลโส. เอตมฺปิ เฉตฺวา ปริพฺพชนฺติ ธีรา อนเปกฺขิโน สพฺพกาเม ปหายาติ, อยํ นิพฺเพโธ. ยํ เจตยิตํ ปกปฺปิตํ ยา จ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ โหติ. อิเมหิ จตูหิ ปเทหิ สํกิเลโส. ปจฺฉิมเกหิ จตูหิ นิพฺเพโธ.

ตตฺถ กตมํ สํกิเลสภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ อเสกฺขภาคิยฺจ สุตฺตํ?

อยํ โลโก สนฺตาปชาโต, ผสฺสปเรโต โรคํ [โรทํ (ปี.) ปสฺส อุทา. ๓๐] วทติ อตฺตโต;

เยน เยน หิ มฺนฺติ, ตโต ตํ โหติ อฺถา.

อฺถาภาวี ภวสตฺโต โลโก, ภวปเรโต ภวเมวาภินนฺทติ;

ยทภินนฺทติ ตํ ภยํ, ยสฺส ภายติ ตํ ทุกฺขํ;

ภววิปฺปหานาย โข ปนิทํ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ.

เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิปฺปโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพเต ‘‘อวิปฺปมุตฺตา ภวสฺมา’’ติ วทามิ. เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ, สพฺเพเต ‘‘อนิสฺสฏา ภวสฺมา’’ติ วทามิ. อุปธึ หิ ปฏิจฺจ ทุกฺขมิทํ สมฺโภติ, สพฺพุปาทานกฺขยา นตฺถิ ทุกฺขสฺส สมฺภโว, โลกมิมํ ปสฺส, ปุถู อวิชฺชาย ปเรตา ภูตา ภูตรตา ภวา อปริมุตฺตา. เย หิ เกจิ ภวา สพฺพธิ สพฺพตฺถตาย สพฺเพเต ภวา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมาติ.

‘‘เอวเมตํ ยถาภูตํ, สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต;

ภวตณฺหา ปหียติ, วิภวํ นาภินนฺทติ;

สพฺพโส ตณฺหานํ ขยา, อเสสวิราคนิโรโธ นิพฺพานํ.

‘‘ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน, อนุปาทา ปุนพฺภโว น โหติ;

อภิภูโต มาโร วิชิตสงฺคาโม, อุเปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาที’’ติ.

อยํ โลโก สนฺตาปชาโต ยาว ทุกฺขนฺติ ยํ ตณฺหา สํกิเลโส.

ยํ ปุนคฺคหณํ เย หิ เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา ภเวน ภวสฺส วิโมกฺขมาหํสุ, สพฺเพเต ‘‘อวิมุตฺตา ภวสฺมา’’ติ วทามิ. เย วา ปน เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา วิภเวน ภวสฺส นิสฺสรณมาหํสุ ‘‘อนิสฺสฏา ภวสฺมา’’ติ วทามิ. อยํ ทิฏฺิสํกิเลโส, ตํ ทิฏฺิสํกิเลโส จ ตณฺหาสํกิเลโส จ, อุภยเมตํ สํกิเลโส. ยํ ปุนคฺคหณํ ภววิปฺปหานาย พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ, ยาว สพฺพโส อุปาทานกฺขยา สมฺภวา, อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ. ตสฺส นิพฺพุตสฺส ภิกฺขุโน ยาว อุปจฺจคา สพฺพภวานิ ตาทีติ อิทํ อเสกฺขภาคิยํ. จตฺตาโร ปุคฺคลา อนุโสตคามี สํกิเลโส ิตตฺโต จ ปฏิโสตคามี จ นิพฺเพโธ. ถเล ติฏฺตีติ อเสกฺขภูมิ.

๑๖. ตตฺถ กตมํ วาสนาภาคิยฺจ นิพฺเพธภาคิยฺจ สุตฺตํ?

‘‘ททโต [อุทา. ๗๕; ที. นิ. ๒.๑๙๗] ปุฺํ ปวฑฺฒติ, สํยมโต เวรํ น จียติ;

กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ, ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ.

‘‘ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒติ, สํยมโต เวรํ น จียตี’’ติ วาสนา. ‘‘กุสโล จ ชหาติ ปาปกํ, ราคโทสโมหกฺขยา สนิพฺพุโต’’ติ นิพฺเพโธ.

โสตานุคเตสุ ธมฺเมสุ วจสา ปริจิเตสุ มนสานุเปกฺขิเตสุ ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺเธสุ ปฺจานิสํสา ปาฏิกงฺขา. อิเธกจฺจสฺส พหุสฺสุตา ธมฺมา โหนฺติ ธาตา อปมุฏฺา วจสา ปริจิตา มนสานุเปกฺขิตา ทิฏฺิยา สุปฺปฏิวิทฺธา, โส ยุฺชนฺโต ฆเฏนฺโต วายมนฺโต ทิฏฺเว ธมฺเม วิเสสํ ปปฺโปติ. โน เจ ทิฏฺเว ธมฺเม วิเสสํ ปปฺโปติ, คิลาโน ปปฺโปติ. โน เจ คิลาโน ปปฺโปติ, มรณกาลสมเย ปปฺโปติ. โน เจ มรณกาลสมเย ปปฺโปติ, เทวภูโต ปาปุณาติ. โน เจ เทวภูโต ปาปุณาติ, เตน ธมฺมราเคน ตาย ธมฺมนนฺทิยา ปจฺเจกโพธึ ปาปุณาติ.

ตตฺถายํ ทิฏฺเว ธมฺเม ปาปุณาติ, อยํ นิพฺเพโธ. ยํ สมฺปราเย ปจฺเจกโพธึ ปาปุณาติ, อยํ วาสนา. อิมานิ โสฬส สุตฺตานิ สพฺพสาสนํ อติคฺคณฺหนฺโต ติฏฺนฺติ. อิเมหิ โสฬสหิ สุตฺเตหิ นววิโธ สุตฺตนฺโต วิภตฺโต ภวติ. โส จ ปฺวโต โน ทุปฺปฺสฺส, ยุตฺตสฺส โน อยุตฺตสฺส, อกมฺมสฺส วิหาริสฺส ปกติยา โลเก สํกิเลโส จรติ. โส สํกิเลโส ติวิโธ – ตณฺหาสํกิเลโส ทิฏฺิสํกิเลโส ทุจฺจริตสํกิเลโส. ตโต สํกิเลสโต อุฏฺหนฺโต สํกิเลโส ธมฺเมสุ ปติฏฺหติ, โลกิเยสุ ปติฏฺหตีติ. ตตฺถากุสโล ทิฏฺโต สเจ ตํ สีลฺจ ทิฏฺิฺจ ปรามสติ, ตสฺส โส ตณฺหาสํกิเลโส โหติ. สเจ ปนสฺส เอวํ โหติ ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสํ [ภวิสฺสามิ (ปี.)] เทวฺตโร วา’’ติ ยสฺส โหติ มิจฺฉาทิฏฺิ, เอตสฺส มิจฺฉาทิฏฺิสํกิเลโส ภวติ. สเจ ปน สีเล ปติฏฺิโต อปรามฏฺสฺส หิ สีลวตํ โหติ, ตสฺส ตํ สีลวโต โยนิโส คหิตํ อวิปฺปฏิสารํ ชเนติ ยาว วิมุตฺติาณทสฺสนํ, ตฺจ ตสฺส ทิฏฺเว ธมฺเม กาลงฺกตสฺส วา ตมฺหิเยว วา ปน อปราปริยาเยน วา, อฺเสุ ขนฺเธสุ เอวํ สุตํ ‘‘สุจริตํ วาสนาย สํวตฺตตี’’ติ วาสนาภาคิยํ สุตฺตํ วุจฺจติ. ตตฺถ สีเลสุ ิตสฺส วินีวรณํ จิตฺตํ, ตํ ตโต สกฺกายทิฏฺิปฺปหานาย ภควา ธมฺมํ เทเสติ. โส อจฺจนฺตนิฏฺํ นิพฺพานํ ปาปุณาติ; ยทิ วา สาสนนฺตเร, อจฺจนฺตํ นิพฺพานํ ปาปุณาติ, ยทิ วา เอกาสเน ฉ อภิฺเ. ตตฺถ ทฺเว ปุคฺคลา อริยธมฺเม ปาปุณนฺติ สทฺธานุสารี จ ธมฺมานุสารี จ. ตตฺถ ธมฺมานุสารี อุคฺฆฏิตฺู, สทฺธานุสารี เนยฺโย. ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺู ทุวิโธ – โกจิ ติกฺขินฺทฺริโย โกจิ มุทินฺทฺริโย. ตตฺถ เนยฺโยปิ ทุวิโธ – โกจิ ติกฺขินฺทฺริโย โกจิ มุทินฺทฺริโย. ตตฺถ โย จ อุคฺฆฏิตฺู มุทินฺทฺริโย, โย จ เนยฺโย ติกฺขินฺทฺริโย, อิเม ปุคฺคลา อสมินฺทฺริยา โหนฺติ. ตตฺถ อิเม ปุคฺคลา สมินฺทฺริยา ปริหายนฺติ จ อุคฺฆฏิตฺุโต, วิปฺจิตฺู เนยฺยโต, อิเม มชฺฌิมา ภูมิคตา วิปฺจิตฺู โหติ. อิเม ตโย ปุคฺคลา.

๑๗. ตตฺถ จตุตฺถา ปน ปฺจมา อุคฺฆฏิตฺู วิปฺจิตฺู เนยฺโย จ, ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล อินฺทฺริยานิ ปฏิลภิตฺวา ทสฺสนภูมิยํ ิโต โสตาปตฺติผลฺจ ปาปุณาติ, เอกพีชี โหติ ปโม โสตาปนฺโน. ตตฺถ วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล อินฺทฺริยานิ ปฏิลภิตฺวา ทสฺสนภูมิยํ ิโต โสตาปตฺติผลฺจ ปาปุณาติ, โกลํโกโล จ โหติ ทุติโย โสตาปนฺโน . ตตฺถ เนยฺโย ปุคฺคโล อินฺทฺริยานิ ปฏิลภิตฺวา ทสฺสนภูมิยํ ิโต โสตาปตฺติผลฺจ ปาปุณาติ, สตฺตกฺขตฺตุปรโม จ โหติ , อยํ ตติโย โสตาปนฺโน. อิเม ตโย ปุคฺคลา อินฺทฺริยเวมตฺตตาย โสตาปตฺติผเล ิตา.

อุคฺฆฏิตฺู เอกพีชี โหติ, วิปฺจิตฺู โกลํโกโล โหติ, เนยฺโย สตฺตกฺขตฺตุปรโม โหติ. อิทํ นิพฺเพธภาคิยํ สุตฺตํ. สเจ ปน ตทุตฺตริ วายมติ, อจฺจนฺตนิฏฺํ นิพฺพานํ ปาปุณาติ. ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล โย ติกฺขินฺทฺริโย, เต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ – อนาคามิผลํ ปาปุณิตฺวา อนฺตราปรินิพฺพายี จ อุปหจฺจปรินิพฺพายี จ. ตตฺถ วิปฺจิตฺู ปุคฺคโล โย ติกฺขินฺทฺริโย, เต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ – อนาคามิผลํ ปาปุณนฺติ อสงฺขารปรินิพฺพายี จ สสงฺขารปรินิพฺพายี จ. ตตฺถ เนยฺโย อนาคามิผลํ ปาปุณนฺโต อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี โหติ, อุคฺฆฏิตฺู จ วิปฺจิตฺู จ, อินฺทฺริยนานตฺเตน อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ, อุคฺฆฏิตฺู มุทินฺทฺริโย อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี โหติ. อุคฺฆฏิตฺู จ วิปฺจิตฺู จ อินฺทฺริยนานตฺเตน อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ, ติกฺขินฺทฺริโย อนฺตราปรินิพฺพายี โหติ, อุคฺฆฏิตฺู มุทินฺทฺริโย อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ. วิปฺจิตฺู ติกฺขินฺทฺริโย อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ, วิปฺจิตฺู มุทินฺทฺริโย สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ, เนยฺโย อุปหจฺจปรินิพฺพายี โหติ, วิปฺจิตฺู ติกฺขินฺทฺริโย อสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ. วิปฺจิตฺู มุทินฺทฺริโย สสงฺขารปรินิพฺพายี โหติ, เนยฺโย อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี โหติ. อิติ ปฺจ อนาคามิโน, ฉฏฺโ สกทาคามี, ตโย จ โสตาปนฺนาติ อิเม นว เสกฺขา.

ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล ติกฺขินฺทฺริโย อรหตฺตํ ปาปุณนฺโต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ อุภโตภาควิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโต จ. ตตฺถ อุคฺฆฏิตฺู ปุคฺคโล มุทินฺทฺริโย อรหตฺตํ ปาปุณนฺโต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ, ิตกปฺปี [ิตกปฺปิ (ปี. ก.) ปสฺส ปุ. ป. ๑๗] จ ปฏิเวธนภาโว ปุคฺคโล จ ติกฺขินฺทฺริโย โส อรหตฺตํ ปาปุณนฺโต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ เจตนาภพฺโพ จ รกฺขณาภพฺโพ จ. ตตฺถ วิปฺจิตฺู มุทินฺทฺริโย อรหตฺตํ ปาปุณนฺโต ทฺเว ปุคฺคลา โหนฺติ, สเจ เจเตติ น ปรินิพฺพายี, โน เจ เจเตติ ปรินิพฺพายีติ. สเจ อนุรกฺขติ น ปรินิพฺพายี, โน เจ อนุรกฺขติ ปรินิพฺพายีติ. ตตฺถ เนยฺโย ปุคฺคโล ภาวนานุโยคมนุยุตฺโต ปริหานธมฺโม โหติ กมฺมนิยโต วา สมสีสิ วา, อิเม นว อรหนฺโต อิทํ จตุพฺพิธํ สุตฺตํ สํกิเลสภาคิยํ อเสกฺขภาคิยํ. อิเมสุ ปุคฺคเลสุ ตถาคตสฺส ทสวิธํ พลํ ปวตฺตติ.

๑๘. กตมํ ทสวิธํ? อิธ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ อปฺปวตฺติเต ธมฺมจกฺเก มเหสกฺขา เทวปุตฺตา ยาจนาย อภิยาตา [อติยาตา (ปี. ก.)] โหนฺติ ‘‘เทเสตุ สุคโต ธมฺม’’นฺติ. โส อนุตฺตเรน พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกนฺโต อทฺทสาสิ สตฺตานํ ตโย ราสีนํ สมฺมตฺตนิยโต มิจฺฉตฺตนิยโต อนิยโต. ตตฺถ สมฺมตฺตนิยโต ราสิ มิจฺฉาสตึ อาปชฺเชยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อสตฺถุโก ปรินิพฺพาเยยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, สมาปตฺตึ อาปชฺเชยฺยาติ านเมตํ วิชฺชติ. ตตฺถ มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ อริยสมาปตฺตึ ปฏิปชฺชิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อนริยมิจฺฉาปฏิปตฺตึ ปฏิปชฺชิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. ตตฺถ อนิยโต ราสิ สมฺมาปฏิปชฺชมานํ สมฺมตฺตนิยตราสึ คมิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ, มิจฺฉาปฏิปชฺชมาโน สมฺมตฺตนิยตราสึ คมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. สมฺมาปฏิปชฺชมานํ สมฺมตฺตนิยตราสึ คมิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ, มิจฺฉาปฏิปชฺชมานํ มิจฺฉตฺตนิยตราสึ คมิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. อิเม ตโย อนุตฺตเรน พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกนฺตสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เม สโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ เอตฺตวตา มํ โกจิ สหธมฺเมน ปฏิโจทิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, วีตราคสฺส เต ปฏิชานโต อขีณาสวตาย สหธมฺเมน โกจิ ปฏิโจทิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยโต ปน อิมสฺส อนิยตสฺส ราสิสฺส ธมฺมเทสนา, สา น ทิสฺสติ ตกฺกรสฺส สมฺมาทุกฺขกฺขยายาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ตถา โอวทิโต ยํ ปน เม อนิยตราสิ สาวโก ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ น สจฺฉิกริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ.

๑๙. ยํ โข มุนิ นานปฺปการสฺส นานานิรุตฺติโย เทวนาคยกฺขานํ ทเมติ ธมฺเม ววตฺถาเนน วตฺวา การณโต อฺํ ปารํ คมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ธมฺมปฏิสมฺภิทา. ยโต ปนิมา นิรุตฺติโต สตฺต สตฺต นิรุตฺติโย นาภิสมฺภุเนยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ. นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา. นิรุตฺติ โข ปน อภิสมคฺครตานํ สาวกานํ ตมตฺถมวิฺาปเยติ เนตํ านํ วิชฺชติ. อตฺถปฏิสมฺภิทา . มเหสกฺขา เทวปุตฺตา อุปสงฺกมิตฺวา ปฺเห ปุจฺฉึสุ . กายิเกน วา มานสิเกน วา ปริปีฬิตสฺส หตฺถกุณีติ วา ปาเท วา ขฺเช ทนฺธสฺส [ทนฺตสฺส (ปี. ก.)] โส อตฺโถ น ปริภาชิยตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. ยมฺหิ ตํ เตสํ โหติ ตมฺหิ อสนฺตํ ภวตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยํ หิ นาสํ เตสํ น ภวติ, ตมฺหิ นาสํ เตสํ ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. เอวํ สมุทยสฺส นิโรธาย ทส อกุสลกมฺมปถา. มาโร วา อินฺโท วา พฺรหฺมา วา ตถาคโต วา จกฺกวตฺตี วา โส วต นาม มาตุคาโม ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุริโส อสฺส ราชา จกฺกวตฺตี สกฺโก เทวานมินฺโท ภวิสฺสตีติ านเมตํ วิชฺชติ. อิติสฺส เอวรูปํ พลํ เอวรูปํ าณํ, อิทํ วุจฺจติ านาฏฺานาณํ ปมํ ตถาคตพลํ ตํ นิทฺทิสิตพฺพํ. ตีหิ ราสีหิ จตูหิ เวสารชฺเชหิ จตูหิ ปฏิสมฺภิทาหิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ปวตฺติยํ นิวตฺติยํ ภาคิยฺจ. กุสลํ กุสลวิปาเกสุ จ อุปปชฺชติ ยฺจ อิตฺถิปุริสานํ. อิทํ ปมํ พลํ ตถาคโต เอวํ ชานาติ.

เยสํ ปน สมฺมตฺตนิยโต ราสิ, นายํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา, นิพฺพานคามินีเยวายํ ปฏิปทา. ตตฺถ สิยา มิจฺฉตฺตนิยโต ราสิ, เอสาปิ น สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา. สกฺกายสมุทยคามินีเยวายํ ปฏิปทา โหตุ, อยํ ตตฺถ ตตฺถ ปฏิปตฺติยา ิโต คจฺฉติ นิพฺพานํ, คจฺฉติ อปายํ, คจฺฉติ เทวมนุสฺสสฺส. ยํ ยํ วา ปฏิปทํ ปฏิปชฺเชยฺย สพฺพตฺถ คจฺเฉยฺย, อยํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา. ยํ เอตฺถ าณํ ยถาภูตํ, อิทํ วุจฺจติ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทาาณํ ทุติยํ ตถาคตพลํ.

สา โข ปนายํ สพฺพตฺถคามินี ปฏิปทา นานาธิมุตฺตา เกจิ กาเมสุ เกจิ ทุกฺกรการิยํ เกจิ อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตา เกจิ สํสาเรน สุทฺธึ ปจฺเจนฺติ เกจิ อนชฺชาภาวนาติ. เตน เตน จริเตน วินิพนฺธานํ สตฺตานํ ยํ าณํ ยถาภูตํ นานาคตํ โลกสฺส อเนกาธิมุตฺตคตํ ยถาภูตํ ปชานาติ. อิทํ ตติยํ ตถาคตพลํ.

ตตฺถ สตฺตานํ อธิมุตฺตา ภวนฺติ อาเสวนฺติ ภาเวนฺติ พหุลีกโรนฺติ. เตสํ กมฺมุปสยานํ ตทาธิมุตฺตานํ. สา เจว ธาตุ สํวหติ. กตรา ปเนสา ธาตุ เนกฺขมฺมธาตุ พลธาตุ กาจิ สมฺปตฺติ กาจิ มิจฺฉตฺตฺจ ธาตุ อธิมุตฺตา ภวนฺติ. อฺตรา อุตฺตริ น สมนุปสฺสนฺติ. เต ตเทวฏฺานํ มยา ชรามรณสฺส อภินิวิสฺส โวหรนฺติ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ. ยถา ภควา สกฺกสฺส เทวานมินฺทสฺส ภาสิตํ. ยํ ตตฺถ ยถาภูตํ าณํ. อิทํ วุจฺจติ จตุตฺถํ ตถาคตพลํ.

ตตฺถ ยํเยว ธาตุ [ยํ ยเทว ธาตุํ (ก.)] เสฏฺนฺติ ตํ ตํ กาเยน จ วาจาย จ อารมฺภนฺติ เจตสิโก. อารมฺโภ เจตนา กมฺมํ กายิกา วาจสิกา อารมฺโภ เจตสิกตฺตา กมฺมนฺตรํ ตถาคโต เอวํ ปชานาติ ‘‘อิมินา สตฺเตน เอวํ ธาตุเกน เอวรูปํ กมฺมํ กตํ, ตํ อตีตมทฺธานํ อิมินา เหตุนา ตสฺส เอวรูโป วิปาโก วิปจฺจติ เอตรหิ วิปจฺจิสฺสติ วา อนาคตมทฺธาน’’นฺติ. เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ ปชานาติ ‘‘อยํ ปุคฺคโล เอวํธาตุโก อิทํ กมฺมํ กโรติ’’. ตณฺหาย จ ทิฏฺิยา จ อิมินา เหตุนา น ตสฺส วิปาโก ทิฏฺเเยว ธมฺเม นิพฺพตฺติสฺสติ, อุปปชฺเช วา’’ติ อปรมฺหิ วา ปริยาเย เอวํ ปชานาติ ‘‘อยํ ปุคฺคโล เอวรูปํ กมฺมํ กริสฺสติ อนาคตมทฺธานํ, อิมินา เหตุนา ตสฺส เอวรูโป วิปาโก นิพฺพตฺติสฺสติ, อิมินา เหตุนา ยานิ จตฺตาริ กมฺมฏฺานานิ อิทํ กมฺมฏฺานํ ปจฺจุปฺปนฺนสุขํ อายตึ จ สุขวิปากํ’’ …เป… อิติ อยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ เหตุโส านโส วิปากเวมตฺตตํ ปชานาติ อุจฺจาวจา หีนปณีตตา, อิทํ วุจฺจติ กมฺมวิปากาณํ ปฺจมํ ตถาคตพลํ.

ตถา สตฺตา ยํ วา กมฺมสมาทานํ สมาทิยนฺตา ตตฺถ เอวํ ปชานาติ อิมสฺส ปุคฺคลสฺส กมฺมาธิมุตฺตสฺส ราคจริตสฺส เนกฺขมฺมธาตูนํ ปาริปูรึ คจฺฉนฺติ, ตสฺส ราคานุคเต สุฺมานสฺส ปมํ ฌานํ สํกิลิสฺสติ, สเจ ปุน อุตฺตริ วายามโต ฌานโวทานคเต มานเส วิเสสภาคิยํ ปฏิปทํ อนุยุฺชิยติ. ตสฺส หิ ฌานภาคิยํเยว ปมชฺฌาเน ิตสฺส ทุติยํ ฌานํ โวทานํ คจฺฉติ, ตติยฺจ ฌานํ สมาปชฺชิตุกามสฺส โสมนสฺสินฺทฺริยํ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺติ, ตสฺส สา ปีติ อวิเสสภาคิยํ ตติยํ ฌานํ อาทิสฺส ติฏฺติ. สเจ ตสฺส นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตถาคตสฺส จตุตฺถชฺฌานํ โวทานํ คจฺฉติเยว, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส หานภาคิยา ธมฺมา, เต จ ธมฺมา ยตฺถ ปชายนฺติ เยหิ จตุตฺถชฺฌานํ โวทานํ ทิสฺสติ. เอวํ อชฺฌาสยสมาปตฺติยา ยา จตสฺโส สมาปตฺติโย ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ อฏฺ วิโมกฺขฌานานีติ จตฺตาริ ฌานานิ วิโมกฺขาติ. อฏฺ จ วิโมกฺขา ตีณิ จ วิโมกฺขมุขานิ. สมาธีติ จตฺตาโร สมาธี – ฉนฺทสมาธิ วีริยสมาธิ จิตฺตสมาธิ วีมํสาสมาธีติ. สมาปตฺติโย จตสฺโส อชฺฌาสยสมาปตฺติโย อิติ อิเมสํ ฌานานํ วิโมกฺขสมาปตฺตีติ เอวรูโป สํกิเลโส ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส. เอวํ โทสจริตสฺส. โมหจริตสฺส. ราคจริตสฺส ปุคฺคลสฺส เอวรูปํ โวทานํ อิติ ยํ เอตฺถ าณํ ยถาภูตํ อสาธารณํ สพฺพสตฺเตหิ. อิทํ วุจฺจติ ฉฏฺํ ตถาคตพลํ.

ตตฺถ ตถาคโต เอวํ ปชานาติ โลกิกา ธมฺมา โลกุตฺตรา ธมฺมา ภาวนาภาคิยํ อินฺทฺริยํ นามํ ลภนฺติ. อาธิปเตยฺยภูมึ อุปาทาย พลํ นามํ ลภนฺติ ถามคตํ มโน มนินฺทฺริยํ ตํ อุปาทาย. วีริยํ นามํ ลภนฺติ อารมฺภธาตุํ อุปาทาย. อิติสฺส เทว เอวรูปํ าณํ อิเมหิ จ ธมฺเมหิ อิเม ปุคฺคลา สมนฺนาคตาติปิ ธมฺมเทสนํ อกาสิ. อาการโต จ โวการโต จ อาสยชฺฌาสยสฺส อธิมุตฺติสมนฺนาคตานํ. อิทํ วุจฺจติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ อินฺทฺริยพลวีริยเวมตฺตตํ าณํ สตฺตมํ ตถาคตพลํ.

ตตฺถ จ ตถาคโต โลกาทีสุ จ ภูมีสุ สํโยชนานฺจ เสกฺขานํ ทฺวีหิ พเลหิ คตึ ปชานาติ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยา อตีเต สํสาเร เอตรหิ จ ปจฺจุปฺปนฺเน ทิพฺพจกฺขุนา จุตูปปาตํ อิติ อิมานิ ทฺเว พลานิ ทิพฺพจกฺขุโต อภินีหิตานิ. โส อตีตมทฺธานํ ทิพฺพสฺส จกฺขุโน โคจโร โส เอตรหิ สติ โคจโร อิติ อตฺตโน จ ปเรสํ จ ปุพฺเพนิวาสาณํ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธานํ ทิพฺเพน จกฺขุนา อิมานิ ทฺเว ตถาคตพลานิ, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวาโส, นวมํ ทิพฺพจกฺขุ.

ปุน จปรํ ตถาคโต อริยปุคฺคลานํ ฌานํ โวทานํ นิพฺเพธภาคิยํ ปชานาติ อยํ ปุคฺคโล อิมินา มคฺเคน อิมาย ปฏิปทาย อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ อิติ อตฺตโน จ อาสวานํ ขยํ าณํ ทิฏฺเกฏฺานํ จตุภูมิมุปาทาย ยาว นวนฺนํ อรหนฺตานํ อาสวกฺขโย โอธิโส เสกฺขานํ อโนธิโส อรหนฺตานํ. ตตฺถ เจโตวิมุตฺติ ทฺวีหิ อาสเวหิ อนาสวา กามาสเวน จ ภวาสเวน จ, ปฺาวิมุตฺติ ทฺวีหิ อาสเวหิ อนาสวา ทิฏฺาสเวน จ อวิชฺชาสเวน จ, อิมาสํ ทฺวินฺนํ วิมุตฺตีนํ ยถาภูตํ าณํ, อิทํ วุจฺจติ อาสวกฺขเย าณํ. ทสมํ ตถาคตพลํ.

๒๐. อิเมสุ ทสสุ พเลสุ ิโต ตถาคโต ปฺจวิธํ สาสนํ เทเสติ สํกิเลสภาคิยํ วาสนาภาคิยํ ทสฺสนภาคิยํ ภาวนาภาคิยํ อเสกฺขภาคิยํ. ตตฺถ โย ตณฺหาสํกิเลโส, อิมสฺส อโลโภ นิสฺสรณํ. โย ทิฏฺิสํกิเลโส, อิมสฺส อโมโห นิสฺสรณํ. โย ทุจฺจริตสํกิเลโส, อิมสฺส ตีณิ กุสลานิ นิสฺสรณํ. กึ นิทานํ? ตีณิ อิมานิ [ตีณิ หิ อิมานิ (ปี.)] มโนทุจฺจริตานิ – อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺิ. ตตฺถ อภิชฺฌา มโนทุจฺจริตํ กายกมฺมํ อุปฏฺเปติ, อทินฺนาทานํ สพฺพฺจ ตทุปนิพฺพทฺธํ วาจากมฺมํ อุปฏฺเปติ, มุสาวาทฺจ สพฺพวิตถํ สพฺพํ วาจมภาวํ สพฺพมกฺขํ ปลาสํ อภิชฺฌา อกุสลมูลนฺติ, สุจริเต สุจริตํ มุสาวาทา อทินฺนาทานา อภิชฺฌาย เจตนา, ตตฺถ พฺยาปาโท มโนทุจฺจริตํ กายกมฺมํ อุปฏฺเปติ, ปาณาติปาตํ สพฺพฺจ เมตํ อากฑฺฒนํ ปริกฑฺฒนํ นิพฺพทฺธํ โรจนํ วาจากมฺมํ อุปฏฺเปติ, ปิสุณวาจํ ผรุสวาจํ มิจฺฉาทิฏฺิ มโนทุจฺจริตฺจ อภิชฺฌํ พฺยาปาทํ มิจฺฉาทิฏฺึ ปโยเชติ, ตสฺส โย โกจิ มิจฺฉาทิฏฺิ จาโค ราคโช วา โทสโช วา สพฺพโส มิจฺฉาทิฏฺิ สมฺภูโต อิมินา การเณน มิจฺฉาทิฏฺึ อุปฏฺเปติ, กาเมสุมิจฺฉาจารํ วจีกมฺมํ อุปฏฺเปติ สมฺผปฺปลาปํ. อิมานิ ตีณิ ทุจฺจริตานิ อกุสลมูลานิ.

ยา อภิชฺฌา, โส โลโภ. โย พฺยาปาโท, โส โทโส. ยา มิจฺฉาทิฏฺิ, โส โมโห. ตานิ อฏฺ มิจฺฉตฺตานิ อุปฏฺเปนฺติ. เตสุ คหิเตสุ ตีสุ อกุสลมูเลสุ ทสวิธํ อกุสลมูลํ ปาริปูรึ คจฺฉติ, ตสฺส ติวิธสฺส ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส วาสนาภาคิยฺจ สุตฺตํ นิสฺสรณํ. ตตฺถ โย พหุสิโต นิทฺเทโส ยถา โลโภ โทโส โมโหปิ, ตตฺถ อสิตุํ เอตฺถ โลโภ อุสฺสโท เตน การเณน เตสุ วา ธมฺเมสุ โลโภ ปฺปิยติ. ตตฺถายํ โมโห อกุสลํ โมโห อยํ อวิชฺชา, สา จตุพฺพิธา รูเป อภินิวิฏฺา, รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, อวิชฺชาคโต รูปวนฺตํ อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ. ตตฺถ กตมํ ปทํ สกฺกายทิฏฺิยา อุจฺเฉทํ วทติ ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ นตฺถิกทิฏฺิ อธิจฺจสมุปฺปนฺนทิฏฺิ จ อฺโ จ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวทิยติ. ปจฺฉิมสฏฺิกปฺปานํ ตีณิ ปทานิ สกฺกายทิฏฺิยา สสฺสตํ ภชนฺติ ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ อกิริยฺจ ตํ ทุกฺขมิจฺฉโต อเหตุกา จ ปตนฺติ อนชฺฌาภาโว จ กมฺมานํ สพฺพฺจ มานยิ [มานติ (ปี.)]. ตตฺถ ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ สํสาเรน สุทฺธิ อาชีวกา ฉฬาสีติ ปฺเปนฺติ. ยถารูเป สกฺกายทิฏฺิยา จตุวตฺถุกา, เอวํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ วีสติวตฺถุกา สกฺกายทิฏฺิยา สสฺสตํ ภชติ. อฺาชีวกา จ สสฺสตวาทิเก จ สีลพฺพตํ ภชนฺติ ปรามสนฺติ อิมินา ภวิสฺสามิ เทโว วา เทวฺตโร วา, อยํ สีลพฺพตปรามาโส. ตตฺถ สกฺกายทิฏฺิยา โส รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’มิติ ตํ กงฺขติ วิจิกิจฺฉติ นาธิมุจฺจติ นาภิปฺปสีทติ ปุพฺพนฺเต อปรนฺเต ปุพฺพนฺตาปรนฺเต…เป… อิติ วาสนาภาคิเยสุ ิตสฺส อยํ อุปกฺกิเลโส.

๒๑. ตตฺถ สทฺธินฺทฺริเยน สพฺพํ วิจิกิจฺฉิตํ ปชหติ, ปฺินฺทฺริเยน อุทยพฺพยํ ปสฺสติ, สมาธินฺทฺริเยน จิตฺตํ เอโกทิ กโรติ วีริยินฺทฺริเยน อารภติ. โส อิเมหิ ปฺจหิ อินฺทฺริเยหิ สทฺธานุสารี อเวจฺจปฺปสาเท นิรโต อนนฺตริยํ สมาธึ อุปฺปาเทติ. อินฺทฺริเยหิ สุทฺเธหิ ธมฺมานุสารี อปฺปจฺจยตาย อนนฺตริยํ สมาธึ อุปฺปาเทติ. โส ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ. สจฺจานิ อิทํ ทสฺสนภาคิยํ สุตฺตํ. ตสฺส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ตีณิ สํโยชนานิ ทสฺสนปหาตพฺพานิ สพฺเพน สพฺพํ ปหีนานิ ทฺเว ปุคฺคลกตานิ. ตตฺถ ตีณิ อกุสลมูลานิ ภาวนาปหาตพฺพานิ อุปริกฺขิตฺตานิ ฉ ภเว นิพฺพตฺเตนฺติ. ตตฺถ เตสุ อภิชฺฌาย จ พฺยาปาเทสุ ตนุกเตสุ ฉ ภวา ปริกฺขยา มริยาทํ คจฺฉนฺติ, ทฺเว ภวา อวสิฏฺา. ตสฺส อภิชฺฌา จ พฺยาปาโท จ สพฺเพน สพฺพํ ปริกฺขีณา โหนฺติ. เอโก ภโว อวสิฏฺโ โหติ. โส จ มานวเสน นิพฺพตฺเตติ. กิฺจาปิ เอตฺถ อฺเปิ จตฺตาโร กิเลสา รูปราโค ภวราโค อวิชฺชา อุทฺธจฺจํ เกตุสฺมิมานภูตา นปฺปฏิพลา อสฺมิมานํ วินิวตฺเตตุํ, สพฺเพปิ เต อสฺมิมานสฺส ปหานํ อารภเต. ขีเณสุ น จ เตสุ อิทมุตฺตริทสฺสนภูมิยํ ปฺจสุ เสกฺขปุคฺคเลสุ ตีสุ จ ปฏิปฺปนฺนเกสุ ทฺวีสุ จ ผลฏฺเสุ ภาวนาภาคิยํ สุตฺตํ. ตทุตฺตริ อเสกฺขภาคิยสุตฺตํ, กตฺถจิ ภูมิ นิปีฬิยติ. อิทฺจ ปฺจมํ สุตฺตํ. ติณฺณํ ปุคฺคลานํ เทสิตํ ปุถุชฺชนสฺส เสกฺขสฺส อเสกฺขสฺส สํกิเลสภาคิยํ วาสนาภาคิยํ. ปุถุชฺชนสฺส ทสฺสนภาคิยํ. ภาวนาภาคิยํ ปฺจนฺนํ เสกฺขานํ. ยํ ปมนิทฺทิฏฺํ อเสกฺขภาคิยํ สพฺเพสํ อรหนฺตานํ. สา ปน ปฺจวิธา สตฺตวีสอากาเร [สตฺตวีสํ อากาเร (ปี.)] ปริเยสิตพฺพํ. เอเตสุ ตสฺส คตีนํ ตโต อุตฺตริ. ตฺจ โข สงฺเขเปน ปฺาสาย อากาเรหิ สมฺปตติ, เย ปฺาส อาการา สาสเน นิทฺทิฏฺา, เต สงฺขิปิยนฺตา ทสหิ อากาเรหิ ปตนฺติ. เย อริยสจฺจํ นิกฺเขเปน ิเต สงฺขิปิยตฺตา อฏฺสุ อากาเรสุ ปตนฺติ. จตูสุ จ สาธารเณสุ สุตฺเตสุ ยา หารสมฺปาตสฺส ภูมิ, เต สงฺขิปิยนฺตา ปฺจสุ สุตฺเตสุ ปตนฺติ. สํกิเลสภาคิเย วาสนาภาคิเย ภาวนาภาคิเย นิพฺเพธภาคิเย อเสกฺขภาคิเย จ. เต สงฺขิปิยนฺตา จตูสุ สุตฺเตสุ ปตนฺติ. สํกิเลสภาคิเย วาสนาภาคิเย นิพฺเพธภาคิเย อเสกฺขภาคิเย จ. เต สงฺขิปิยมานา ตีสุ สุตฺเตสุ ปตนฺติ, ปุถุชฺชนภาคิเย เสกฺขภาคิเย อเสกฺขภาคิเย จ. เต สงฺขิปิยนฺตา ทฺวีสุ สุตฺเตสุ ปตนฺติ นิพฺเพธภาคิเย จ ปุพฺพโยคภาคิเย จ. ยถา วุตฺตํ ภควตา ทฺเว อตฺถวเส สมฺปสฺสมานา ตถาคตา อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา ธมฺมํ เทเสนฺติ สุตฺตํ เคยฺยํ…เป… สตฺถา ปุพฺพโยคสมนฺนาคเต อปฺปกสิเรน มฺมานา วสิยนฺติ ปุพฺพโยคา จ ภวิสฺสนฺติ สนฺตานํ มฺมานาธราย. ตตฺถ ปฺาเวมตฺตตํ อตฺตโน สมนุปสฺสมาเนน อฏฺวิเธ สุตฺตสงฺเขเป, ยตฺถ ยตฺถ สกฺโกติ, ตตฺถ ตตฺถ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ โยเชตฺวา สุตฺตสฺส อตฺโถ นิทฺทิสิตพฺโพ. น หิ สติ เวทนา มโน ธาเรตฺวา สกฺกา เยน เกนจิ สุตฺตสฺส อตฺโถ ยถาภูตํ นิทฺทิสิตุํ.

ตตฺถ ปุริมกานํ สุตฺตานํ อิมา อุทฺทานคาถา

กามนฺธา ชาลสฺฉนฺนา, ปฺจ นีวรณานิ จ;

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา, มหานาโม จ สากิโย.

อุทฺธํ อโธ วิปฺปมุตฺโต, ยฺจ สีลกิมตฺถิยา;

ยสฺส เสลูปมํ จิตฺตํ, อุปติสฺส ปุจฺฉาทิกา.

ยสฺส กายคตาสติ, ฉนฺนํ ตโมปรายโณ;

น ตํ ทฬฺหํ เจตสิกํ, อยํ โลโกติอาทิกํ.

จตฺตาโร เจว ปุคฺคลา, ททโต ปุฺํ ปวฑฺฒิตํ;

โสตานุคตธมฺเมสุ, อิมา เตสํ อุทฺทานคาถา.

๒๒. ตตฺถ กตมา อาณตฺติ?

สเจ ภายถ [อุทา. ๔๔] ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

‘‘อตีเต , ราธ, รูเป อนเปกฺโข โหหี’’ติ วิตฺถาเรน กาตพฺพา. ‘‘สีลวนฺเตน , อานนฺท, ปุคฺคเลน สทา กรณียา กินฺติเม อวิปฺปฏิสาโร อสฺสา’’ติ. อยํ วุจฺจติ อาณตฺติ.

ตตฺถ กตมํ ผลํ?

ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ, ฉตฺตํ มหนฺตํ ยถ วสฺสกาเล;

เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ, น ทุคฺคตึ คจฺฉติ ธมฺมจารี.

อิทํ ผลํ.

ตตฺถ กตโม อุปาโย?

‘‘สพฺเพ ธมฺมา [ธ. ป. ๒๗๙] อนตฺตา’’ติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

‘‘สตฺตหงฺเคหิ สมนฺนาคโต โข, ภิกฺขุ, อปิ หิมวนฺตํ ปพฺพตราชานํ จาเลยฺย, โก ปน วาโท ฉวํ อวิชฺชํ สตฺตเกสุ’’ เวยฺยากรณํ กาตพฺพํ. อยํ อุปาโย.

ตตฺถ กตมา อาณตฺติ จ ผลฺจ?

สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห.

สเจ หิ ปาปกํ กมฺมํ, กโรถ วา กริสฺสถ;

น โว ทุกฺขา ปโมกฺขาตฺถิ, อุปจฺจาปิ ปลายตํ [ปลายโต (ปี.)].

ปุริมิกาย คาถาย อาณตฺติ ปจฺฉิมิกาย ผลํ. สีเล ปติฏฺาย ทฺเว ธมฺมา ภาเวตพฺพา ยา จ จิตฺตภาวนา ยา จ ปฺาภาวนา ยา จ อาณตฺติ ราควิราคา จ ผลํ.

ตตฺถ กตมํ ผลฺจ อุปาโย จ?

สีเล ปติฏฺาย [สํ. นิ. ๑.๒๓] นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏํ.

ปุริมิกาย อฑฺฒคาถาย อุปาโย, ปจฺฉิมิกาย อฑฺฒคาถาย ผลํ. นนฺทิโย [นนฺทิโก (ปี. ก.)] สกฺโก อิสิวุตฺถปุริริกามเอกรกฺเข [อิสิวุตฺต… (ปี.)] สุตฺตํ มูลโต อุปาทาย ยาว ฉสุ ธมฺเมสุ. อุตฺตริ ปฺจสุ ธมฺเมสุ ยาจโยโค [โย จ โยโค (ปี.)] กรณีโย, อยํ อุปาโย. อสหคตสฺส กามาสวาปิ จิตฺตํ มุจฺจตีติ. สพฺพาสุ ฉสุ ตีสุ. อยํ อุปาโย จ ผลฺจ.

ตตฺถ กตมา อาณตฺติ จ ผลฺจ อุปาโย จ?

สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;

อตฺตานุทิฏฺึ อุหจฺจ [อูหจฺจ (สุ. นิ. ๑๑๒๕)], เอวํ มจฺจุตโร สิยา.

‘‘สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราชา’’ติ อาณตฺติ. ‘‘สทา สโต’’ติ อุปาโย. ‘‘อตฺตานุทิฏฺึ อุหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา’’ติ ผลํ. สมาธึ, ภิกฺขเว, ภาเวถ, สมาหิโต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปํ อนิจฺจนฺติ ปชานาติ. เอวํ ปสฺสํ อริยสาวโก ปริมุจฺจติ ชาติยาปิ…เป… อุปายาเสหิปิ อิธ ตีณิปิ’’.

๒๓. ตตฺถ กตโม อสฺสาโท?

กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌติ. อยํ อสฺสาโท.

‘‘ธมฺมจริยา สมจริยา กุสลจริยา เหตูหิ, พฺราหฺมณ, เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา กายสฺส เภทา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชนฺติ’’. อยํ อสฺสาโท.

ตตฺถ กตโม อาทีนโว?

กาเมสุ เว หฺเต สพฺพา มุจฺเจว – อยํ อาทีนโว. ปเสนทิสํยุตฺตเก สุตฺเต ปพฺพโตปมา – อยํ อาทีนโว.

ตตฺถ กตมํ นิสฺสรณํ?

โย กาเม ปริวชฺเชติ, สปฺปสฺเสว ปทา สิโร;

โสมํ วิสตฺติกํ โลเก, สโต สมติวตฺตติ.

สํยุตฺตเก สุตฺตํ ปาริจฺฉตฺตโก ปณฺฑุปลาโส สนฺนิปลาโส – อิทํ นิสฺสรณํ.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ?

ยานิ [ชา. ๑.๒.๑๔๔ ทุกนิปาเต] กโรติ ปุริโส, ตานิ อตฺตนิ ปสฺสติ;

กลฺยาณการี กลฺยาณํ, ปาปการี จ ปาปกํ.

ตตฺถ ยํ ปาปการี ปจฺจนุโภติ อยํ อสฺสาโท. ลาภาลาภอฏฺเกสุ พฺยากรณํ, ตตฺถ อลาโภ อยโส นินฺทา ทุกฺขํ, อยํ อาทีนโว. ลาโภ ยโส สุขํ ปสํสา, อยํ อสฺสาโท.

ตตฺถ กตมํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ?

‘‘สุโข วิปาโก ปุฺานํ, อธิปฺปาโย จ อิชฺฌติ;

ขิปฺปฺจ ปรมํ สนฺตึ, นิพฺพานมธิคจฺฉตี’’ติ.

โย จ วิปาโก ปุฺานํ ยา จ อธิปฺปายสฺส อิชฺฌนา, อยํ อสฺสาโท. ยํ ขิปฺปฺจ ปรมํ สนฺตึ นิพฺพานมธิคจฺฉติ, อิทํ นิสฺสรณํ.

พาตฺตึสาย เจว มหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคตสฺส มหาปุริสสฺส ทฺเวเยว คติโย โหนฺติ, สเจ อคารํ อชฺฌาวสติ, ราชา โหติ จกฺกวตฺตี ยาว อภิวิชินิตฺวา อชฺฌาวสติ อยํ อสฺสาโท. สเจ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ สพฺเพน โอเฆน [โอสเธน (ปี. ก.)] นิสฺสรณํ อยํ อสฺสาโท จ นิสฺสรณฺจ.

ตตฺถ กตโม อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?

อาทานสฺส [อาทินฺนสฺส (ก.)] ภยํ ตฺวา, ชาติมรณสมฺภวํ;

อนาทาตุํ นิพฺพตฺตติ, ชาติมรณสงฺขยา.

ปุริมิกาย อฑฺฒคาถาย ชาติมรณสมฺภโว อาทีนโว. อนาทาตุํ นิพฺพตฺตติ ชาติมรณสงฺขยาติ นิสฺสรณํ.

กิจฺฉํ วตายํ โลโก อาปนฺโน ยมิทํ ชายเต จ มียเต จ. ยาว กุทสฺสุนามสฺส ทุกฺขสฺส อนฺโต ภวิสฺสติ ปรโต วาติ เอตฺถ ยา อุปริกฺขา, อยํ อาทีนโว. โย เคธํ ตฺวา อภินิกฺขมติ ยาว ปุราณกาย ราชธานิยา, อิทํ นิสฺสรณํ. อยํ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ.

ตตฺถ กตโม อสฺสาโท จ อาทีนโว จ นิสฺสรณฺจ?

กามา หิ จิตฺรา วิวิธา [มธุรา (เถรคา. ๗๘๗)] มโนรมา, วิรูปรูเปหิ มเถนฺติ จิตฺตํ;

ตสฺมา อหํ [เถรคา. ๗๘๗] ปพฺพชิโตมฺหิ ราช, อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโย.

ยํ ‘‘กามา หิ จิตฺรา วิวิธา มโนรมา’’ติ อยํ อสฺสาโท. ยํ ‘‘วิรูปรูเปหิ มเถนฺติ จิตฺต’’นฺติ อยํ อาทีนโว. ยํ อหํ อคารสฺมา ปพฺพชิโตมฺหิ ราช อปณฺณกํ สามฺเมว เสยฺโยติ อิทํ นิสฺสรณํ.

พลวํ พาโลปมสุตฺตํ ยํ อาสาย วา เวทนียํ กมฺมํ คาหติ, ตถา เจปิ ยํ ยํ ปาปกมฺมํ อนุโภติ, ตตฺถ ทุกฺขเวทนีเยน กมฺเมน อภาวิตกาเยน จ ยาว ปริตฺตเจตโส จ อาทีนวํ ทสฺเสติ สุขเวทนีเยน กมฺเมน อสฺสาเทติ. ยํ ปุราสทิโส โหติ. ภาวิตจิตฺโต ภาวิตกาโย ภาวิตปฺโ มหานาโม อปริตฺตเจตโส, อิทํ นิสฺสรณํ.

๒๔. ตตฺถ กตมํ โลกิกํ สุตฺตํ?

น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ, สชฺชุขีรํว มุจฺจติ;

ฑหนฺตํ พาลมนฺเวติ, ภสฺมจฺฉนฺโนว [ภสฺมาฉนฺโนว (ก.) ปสฺส ธ. ป. ๗๑] ปาวโก.

จตฺตาริ อคติคมนานิ, อิทํ โลกิกํ สุตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ?

‘‘ยสฺสินฺทฺริยานิ สมถงฺคตานิ [สมถํ คตานิ (ปี.) ปสฺส ธ. ป. ๙๔], อสฺสา ยถา สารถินา สุทนฺตา;

ปหีนมานสฺส อนาสวสฺส, เทวาปิ ตสฺส ปิหยนฺติ ตาทิโน’’ติ.

‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธึ เทเสสฺสามี’’ติ อิทํ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ โลกิกํ โลกุตฺตรฺจ สุตฺตํ?

สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ทยฺหมาโนว มตฺถเก;

กามราคปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.

‘‘สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, ทยฺหมาโนว มตฺถเก’’ติ โลกิกํ;

‘‘กามราคปฺปหานาย, สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช’’ติ โลกุตฺตรํ;

กพฬีกาเร อาหาเร อตฺถิ ฉนฺโทติ โลกิกํ. นตฺถิ ฉนฺโทติ โลกุตฺตรํ สุตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ กมฺมํ?

โย ปาณมติปาเตติ, มุสาวาทฺจ ภาสติ;

โลเก อทินฺนํ อาทิยติ [อาทิยิ (ก.) ปสฺส อ. นิ. ๕.๑๗๔], ปรทารฺจ คจฺฉติ.

สุราเมรยปานฺจ, โย นโร อนุยุฺชติ;

อปฺปหาย ปฺจ เวรานิ, ทุสฺสีโล อิติ วุจฺจติ.

ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, ทุจฺจริตานิ. อิทํ กมฺมํ.

ตตฺถ กตโม วิปาโก?

สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ยถารูปี วิปจฺจคา.

‘‘ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว [สํ. นิ. ๔.๑๓๕], ฉ ผสฺสายตนิกา นาม นิรยา. ทิฏฺา มยา, ภิกฺขเว, ฉ ผสฺสายตนิกา นาม สคฺคา’’. อยํ วิปาโก.

ตตฺถ กตมํ กมฺมฺจ วิปาโก จ?

อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ, ตตุฏฺาย ตเมว ขาทติ;

เอวํ อติโธนจารินํ, สานิ กมฺมานิ นยนฺติ ทุคฺคตึ.

อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ, ยาว สานิ กมฺมานีติ อิทํ กมฺมํ. นยนฺติ ทุคฺคตินฺติ วิปาโก.

จตูสุ สมฺมาปฏิปชฺชมาโน มาตริ ปิตริ ตถาคเต ตถาคตสาวเก ยา สมฺมาปฏิปตฺติ, อิทํ กมฺมํ. ยํ เทเวสุ อุปปชฺชติ, อยํ วิปาโก. อิทํ กมฺมฺจ วิปาโก จ.

๒๕. ตตฺถ กตมํ นิทฺทิฏฺํ สุตฺตํ?

เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, เอกาโร วตฺตตี [วตฺตเต (ก.) อุทา. ๖๕] รโถ;

อนีฆํ ปสฺส อายนฺตํ, ฉินฺนโสตํ อพนฺธนํ;

ยํ วา จิตฺตํ สมเณสุ, จิตฺตาคหปติ ทิสฺสติ.

เอวํ อิมาย คาถาย นิทฺทิฏฺโ อตฺโถ.

โคปาลโกปเม เอกาทส ปทานิ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ รูปฺู โหติ. ยา จ อติเรกปูชาย ปูเชตา โหตีติ. อิมานิ เอกาทส ปทานิ ยถาภาสิตานิ นิทฺทิฏฺโ อตฺโถ.

ตตฺถ กตโม อนิทฺทิฏฺโ อตฺโถ?

สุโข วิเวโก ตุฏฺสฺส, สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต;

อพฺยาปชฺชํ [อพฺยาปชฺฌํ (ปี. ก.) ปสฺส อุทา. ๑๑] สุขํ โลเก, ปาณภูเตสุ สํยโมติ.

สุขา วิราคตา โลเก, กามานํ สมติกฺกโม;

อสฺมิมานสฺส โย วินโย, เอตํ เว ปรมํ สุขนฺติ.

อิทํ อนิทฺทิฏฺํ. อฏฺ มหาปุริสวิตกฺกา. อิทํ อนิทฺทิฏฺํ.

ตตฺถ กตมํ นิทฺทิฏฺฺจ อนิทฺทิฏฺฺจ?

ปสนฺนเนตฺโต [สุ. นิ. ๕๕๕] สุมุโข, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

มชฺเฌ สมณสงฺฆสฺส, อาทิจฺโจว วิโรจสิ.

ปสนฺนเนตฺโต ยาว อาทิจฺโจว วิโรจสีติ นิทฺทิฏฺโ. ปสนฺนเนตฺโต โย ภควา กถฺจ ปน ปสนฺนเนตฺตตา, กถํ สุมุขตา, กถํ พฺรหกายตา, กถํ อุชุกตา, กถํ ปตาปวตา, กถํ วิโรจตาติ อนิทฺทิฏฺโ. เผณปิณฺโฑปมํ เวยฺยากรณํ ยถา เผณปิณฺโฑ เอวํ รูปํ ยถา ปุพฺพุโฬ เอวํ เวทนา มายา วิฺาณํ ปฺจกฺขนฺธา ปฺจหิ อุปมาหิ นิทฺทิฏฺา. เกน การเณน เผณปิณฺโฑปมํ รูปํ สพฺพฺจ จกฺขุวิฺเยฺยํ ยํ วา จตูหิ อายตเนหิ? กถํ เวทนา ปุพฺพุฬูปมา? กตรา จ สา เวทนา สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา? เอวเมสา อนิทฺทิฏฺา. เอวํ นิทฺทิฏฺฺจ อนิทฺทิฏฺฺจ.

๒๖. ตตฺถ กตมํ าณํ?

ปฺา หิ เสฏฺา โลกสฺมึ, ยายํ นิพฺเพธคามินี;

ยาย [ยายํ (ก.) ปสฺส อิติวุ. ๔๑] สมฺมา ปชานาติ, ชาติมรณสงฺขยํ.

ตีณิมานิ อินฺทฺริยานิ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ, อิทํ าณํ.

ตตฺถ กตมํ เนยฺยํ?

กาเมสุ [อุทา. ๖๓] สตฺตา กามสงฺคสตฺตา, สํโยชเน วชฺชมปสฺสมานา;

น หิ ชาตุ สํโยชนสงฺคสตฺตา, โอฆํ ตเรยฺยุํ วิปุลํ มหนฺตํ.

จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคตา กายสฺส เภทา เทเวสุ อุปฺปชฺชนฺติ. อุทาเน กาปิยํ สุตฺตํ อปณฺณกปสาทนียํ – อิทํ เนยฺยํ.

ตตฺถ กตมํ าณฺจ เนยฺยฺจ?

สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.

ยทา ปสฺสตีติ าณํ. โย สพฺพธมฺเม อนตฺตากาเรน อุปฏฺเปติ อิทํ เนยฺยํ.

จตฺตาริ อริยสจฺจานิ, ตตฺถ ตีณิ เนยฺยานิ มคฺคสจฺจํ สีลกฺขนฺโธ จ ปฺากฺขนฺโธ จ, อิทํ าณฺจ เนยฺยฺจ.

๒๗. ตตฺถ กตมํ ทสฺสนํ?

เอเสว มคฺโค [ธ. ป. ๒๗๔ ธมฺมปเท] นตฺถฺโ, ทสฺสนสฺส วิสุทฺธิยา;

เอตฺหิ ตุมฺเห ปฏิปชฺชถ, มารสฺเสตํ ปโมหนํ.

จตูหิ องฺเคหิ สมนฺนาคโต อริยสาวโก อตฺตนาว [อตฺตนาเยว (ก.) สํ. นิ. ๕.๑๐๐๓] อตฺตานํ พฺยากเรยฺย ‘‘ขีณนิรโยมฺหิ ยาว โสตาปนฺโนหมสฺมิ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ. อิทํ ทสฺสนํ.

ตตฺถ กตมา ภาวนา?

ยสฺสินฺทฺริยานิ สุภาวิตานิ, อชฺฌตฺตํ พหิทฺธา จ สพฺพโลเก;

โส ปุคฺคโล มติ จ รูปสฺี, สุโมหคตา น ชานาติ [กึสุ โมหคตานุ ชานาติ (ก.)].

จตฺตาริ ธมฺมปทานิ – อนภิชฺฌา อพฺยาปาโท สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิ. อยํ ภาวนา.

ตตฺถ กตมํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ?

วจสา มนสาถ กมฺมุนา จ, อวิรุทฺโธ สมฺมา วิทิตฺวา [วิทิตฺวาน (ก.) สุ. นิ. ๓๖๗] ธมฺมํ;

นิพฺพานปทาภิปตฺถยาโน, สมฺมา โส โลเก ปริพฺพเชยฺย.

โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกาตุกาเมน กตเม ธมฺมา มนสิกาตพฺพา, ภควา อาห ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. อิทํ ทสฺสนฺจ ภาวนา จ.

๒๘. ตตฺถ กตเม วิปากธมฺมธมฺมา?

ยานิ กโรติ ปุริโสติ วิตฺถาโร. ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, สุจริตานิ. อิเม วิปากธมฺมธมฺมา.

ตตฺถ กตเม นวิปากธมฺมธมฺมา?

รูปํ เวทยิตํ สฺา, วิฺาณํ ยา เจว เจตนา;

เนโสหมสฺมิ น เมโส อตฺตา, อิติ ทิฏฺโ วิรชฺชติ.

ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ขนฺธา – อิเม นวิปากธมฺมธมฺมา.

ตตฺถ กตโม เนววิปาโก นวิปากธมฺมธมฺโม?

‘‘เย เอวํ ปฏิปชฺชนฺติ, นยํ พุทฺเธน เทสิตํ;

เต ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติ, สตฺถุสาสนการกา’’ติ.

อิติ ยา จ สมฺมาปฏิปตฺติ โย จ นิโรโธ, อุภยเมตํ เนววิปาโก นวิปากธมฺโม. พฺรหฺมจริยํ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ, พฺรหฺมจริยผลานิ จ พฺรหฺมจริยฺจ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค พฺรหฺมจริยผลานิ โสตาปตฺติผลํ ยาว อรหตฺตํ.

๒๙. ตตฺถ กตมํ สกวจนํ?

สพฺพปาปสฺส อกรณํ, กุสลสฺส อุปสมฺปทา;

สจิตฺตปริโยทปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสนํ.

ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, วิโมกฺขมุขานิ. อิทํ สกวจนํ.

ตตฺถ กตมํ ปรวจนํ?

นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ, นตฺถิ โคณสมิตํ ธนํ;

นตฺถิ สูริยสมา อาภา, สมุทฺทปรมา สรา.

เหตุนา มาริสา โกสิยา สุภาสิเตน สงฺคามวิชโย โสปิ นาม, ภิกฺขเว, สกฺโก เทวานมินฺโท สกํ ผลํ ปริภุฺชมาโนติ วิตฺถาเรน กาตพฺพํ. อิทํ ปรวจนํ.

ตตฺถ กตมํ สกวจนฺจ ปรวจนฺจ?

‘‘ยํ ปตฺตํ ยฺจ ปตฺตพฺพํ, อุภยเมตํ รชานุกิณฺณํ;

เย เอวํวาทิโน นตฺถิ, เตสํ กาเมสุ โทโส’’ติ.

อิทํ ปรวจนํ. เย จ โข เต อุโภ อนฺเต อนุปคมฺม วฏฺฏํ เตสํ นตฺถิ ปฺาปนาย. อิทํ สกวจนํ.

‘‘นนฺทติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคมา โคหิ [โภคิโก โภเคหิ (ปี.) สํ. นิ. ๑.๑๒] ตเถว นนฺทติ;

อุปธี หิ นรสฺส นนฺทนา, น หิ โส นนฺทติ โย นิรูปธี’’ติ – ปรวจนํ.

‘‘โสจติ ปุตฺเตหิ ปุตฺติมา, โคมา โคหิ ตเถว โสจติ;

อุปธี หิ นรสฺส โสจนา, น หิ โส โสจติ โย นิรูปธี’’ติ – สกวจนํ.

อิทํ สกวจนํ ปรวจนฺจ.

๓๐. ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺานํ?

เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ เย วาปิ, สพฺเพ คมิสฺสนฺติ ปหาย เทหํ;

ตํ สพฺพชานึ กุสโล วิทิตฺวา, ธมฺเม [อาตาปิโย (อุทา. ๔๒)] ิโต พฺรหฺมจริยํ จเรยฺย.

ตโยเม, ภิกฺขเว, สตฺถาโร, ตถาคโต อรหํ เสกฺโข ปฏิปโท. อิทํ สตฺตาธิฏฺานํ.

ตตฺถ กตมํ ธมฺมาธิฏฺานํ?

ยฺจ กามสุขํ [อุทา. ๑๒] โลเก, ยฺจิทํ ทิวิยํ สุขํ;

ตณฺหกฺขยสุขสฺเสเต, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ.

สตฺติเม , ภิกฺขเว, โพชฺฌงฺคา, อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ.

ตตฺถ กตมํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ? ทุทฺทสมนฺตํ สจฺจํ ทุทฺทโส ปฏิเวโธ พาเลหิ, ชานโต ปสฺสโต นตฺถิ นนฺทีติ วทามิ. ทุทฺทสมนฺตํ สจฺจํ ทุทฺทโส ปฏิเวโธ พาเลหีติ ธมฺมาธิฏฺานํ. ชานโต ปสฺสโต นตฺถิ นนฺทีติ สตฺตาธิฏฺานํ. ทารุกฺขนฺโธปมํ คงฺคาย ตีริยา โอริมฺจ ตีรํ ปาริมฺจ ตีรํ ถเล วา [ถเลว จ (ก.) สํยุตฺตนิกาเย] น จ อุสฺสีทนํ, มชฺเฌ จ น สํสีทนํ มนุสฺสคฺคาโห จ อมนุสฺสคฺคาโห จ อนฺโตปูติภาโว จ, อิทํ ธมฺมาธิฏฺานํ. เอวํ ปน ภิกฺขุ นิพฺพานนินฺโน ภวิสฺสติ นิพฺพานปรายโณติ สตฺตาธิฏฺานํ. อิทํ สตฺตาธิฏฺานฺจ ธมฺมาธิฏฺานฺจ.

ตตฺถ กตโม ถโว?

มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, สจฺจานํ จตุโร ปทา;

วิราโค เสฏฺโ ธมฺมานํ, ทฺวิปทานฺจ จกฺขุมา.

ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อคฺคานิ – พุทฺโธ สตฺตานํ, วิราโค ธมฺมานํ, สงฺโฆ คณานํ. อยํ ถโว.

๓๑. ตตฺถ กตมํ อนุฺาตํ?

กาเยน [ธ. ป. ๓๖๑] สํวโร สาธุ, สาธุ วาจาย สํวโร;

มนสา สํวโร สาธุ, สาธุ สพฺพตฺถ สํวุโต;

สพฺพตฺถ สํวุโต ภิกฺขุ, สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ.

อิทํ ภควตา อนุฺาตํ.

ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กรณียานิ – กายสุจริตํ วจีสุจริตํ มโนสุจริตํ. อิทํ อนุฺาตํ.

ตตฺถ กตมํ ปฏิกฺขิตฺตํ?

นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ. วิตฺถาโร อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ.

ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, อกรณียานิ สยํ อภิฺาย เทสิตานิ. กตมานิ ตีณิ? กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตํ มโนทุจฺจริตํ. อิทํ ปฏิกฺขิตฺตํ.

ตตฺถ กตมํ อนุฺาตฺจ ปฏิกฺขิตฺตฺจ?

กาเยน กุสลํ กเร, อสฺส กาเยน สํวุโต;

กายทุจฺจริตํ หิตฺวา, กายสุจริตํ จเร.

ทฺวีหิ ปมปเทหิ จตุตฺเถน จ ปเทน อนุชานาติ. กายทุจฺจริตํ หิตฺวาติ ตติเยน ปเทน ปฏิกฺขิตฺตนฺติ. มหาวิภงฺโค อจิรตปานาโท.

ตตฺถิมา อุทฺทานคาถา

สเจ ภายสิ ทุกฺขสฺส, มาภินนฺทิ อนาคตํ;

วสฺสกาเล ยถา ฉตฺตํ, กุสลานิ กมตฺถเก.

สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, สมาคตํ วิจาลเย;

น โว ทุกฺขา ปโมกฺขาตฺถิ, สมโถ จ วิปสฺสนา.

กามจฺฉนฺทํ อุปาทาย, โย โส วิตกฺเกหิ ขชฺชติ;

สุภาวิตตฺเต โพชฺฌงฺเค, โส อิมํ วิชฏเย ชฏํ.

สุฺโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, สมาธิภาวิ ภาวเส;

กามํ กามยมานสฺส, ธมฺมจริยาย สุคตึ.

หฺเต สพฺพา มุจฺเจว, นิปฺโปเนฺโต จตุทฺทิสา;

โย กาเม ปริวชฺเชติ, ปาริฉตฺโตปเมว จ.

ยานิ กโรติ ปุริโส, โลกธมฺมา ปกาสิตา;

สุโข วิปาโก ปุฺานํ, ตติยํ อฺํ น วิชฺชติ.

อาทานสฺส ภยํ ตฺวา, ชายเต ชียเตปิ จ;

กามา หิ จิตฺรา วิวิธา, อถ โลณสลฺโลปมํ.

น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ, อคตีหิ จ คจฺฉติ;

ยสฺสินฺทฺริยานิ สมถงฺคตานิ, ตเถว ปฺจาณิโก.

สตฺติยา วิย โอมฏฺโ, วิฺาณฺจ ปติฏฺิตา;

โย ปาณมติปาเตติ, ตีณิ ทุจฺจริตานิ จ.

สฏฺิวสฺสสหสฺสานิ, ขณํ ลทฺธาน ทุลฺลภํ;

อยสาว มลํ สมุฏฺิตํ, จตูสุ ปฏิปตฺติสุ.

เนลงฺโค เสตปจฺฉาโท, อถ โคปาลโกปมํ;

สุโข วิเวโก ตุฏฺสฺส, วิตกฺกา จ สุเทสิตา.

เผณปิณฺโฑปมํ รูปํ, พฺรหา อุชุ ปตาปวา;

ปฺา หิ เสฏฺา โลกสฺมึ, อนฺา ตีณิ อินฺทฺริยานิ.

กาเมสุ สตฺตา กามสงฺคสตฺตา, อถ วณฺโณ รหสฺสวา;

สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ, อริยสจฺจฺจ เทสิตํ.

เอเสว มคฺโค นตฺถฺโ, โสตาปนฺโนติ พฺยากเร;

ยสฺสินฺทฺริยานิ สุภาวิตานิ, อถ ธมฺมปเทหิ จ.

วจสา มนสา เจว, ปฺจกฺขนฺธา อนิจฺจโต;

ยานิ กโรติ ปุริโส, ตีณิ สุจริตานิ จ.

รูปํ เวทยิตํ สฺา, ปฺจกฺขนฺธา ปกาสิตา;

โย เอวํ ปฏิปชฺชติ, พฺรหฺมา เจว ผลานิ จ.

สพฺพปาปสฺส อกรณํ, วิโมกฺขา ตํ หิ เทสิตา;

นตฺถิ ปุตฺตสมํ เปมํ, เทวานํ อสุราน จ.

ยํ ปตฺตํ ยฺจ ปตฺตพฺพํ, นนฺทติ โสจติ นิจฺจํ;

เย เกจิ ภูตา ภวิสฺสนฺติ, สตฺถาโร จ ปกาสิตา.

ยฺจ กามสุขํ โลเก, โพชฺฌงฺคา จ สุเทสิตา;

มคฺคานฏฺงฺคิโก เสฏฺโ, ตโย จ อคฺคปตฺติโย.

กาเยน สํวโร สาธุ, กรณียฺจ เทสิตํ;

นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ, อริยา ตีณิ จ เทสิตา.

กาเยน กุสลํ อภิรโต, วินยฺจ กามสุขํ โลเก;

โพชฺฌงฺคา จ สุเทสิตา, ทุทฺทสํ อนตํ เจว ปราปรํ จ;

เปฏโกปเทเส สาสนปฺปฏฺานํ นาม ทุติยภูมิ สมตฺตา.