📜
๑. ปาราชิกกณฺฑํ
๑. ปมปาราชิกํ
สุทินฺนภาณวารวณฺณนา
๒๔. อิโต ¶ ¶ ปรํ เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยา อวิทูเรติอาทิ เยภุยฺเยน อุตฺตานตฺถํ. ตสฺมา อนุปทวณฺณนํ ปหาย ยตฺถ ยตฺถ วตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตํ ตเทว วณฺณยิสฺสาม. กลนฺทคาโมติ กลนฺทกา วุจฺจนฺติ กาฬกา, เตสํ วเสน ลทฺธนาโม คาโม. กลนฺทปุตฺโตติ คามวเสน ลทฺธนามสฺส ราชสมฺมตสฺส จตฺตาลีสโกฏิวิภวสฺส กลนฺทเสฏฺิโน ปุตฺโต. ยสฺมา ปน ตสฺมึ คาเม อฺเปิ กลนฺทนามกา มนุสฺสา อตฺถิ, ตสฺมา กลนฺทปุตฺโตติ วตฺวา ปุน เสฏฺิปุตฺโตติ วุตฺตํ. สมฺพหุเลหีติ พหุเกหิ. สหายเกหีติ สุขทุกฺขานิ สห อายนฺติ อุปคจฺฉนฺตีติ สหายา, สหายา เอว สหายกา, เตหิ สหายเกหิ. สทฺธินฺติ เอกโต. เกนจิเทว กรณีเยนาติ เกนจิเทว ภณฺฑปฺปโยชนอุทฺธารสารณาทินา กิจฺเจน; กตฺติกนกฺขตฺตกีฬากิจฺเจนาติปิ วทนฺติ. ภควา หิ กตฺติกชุณฺหปกฺเข เวสาลึ สมฺปาปุณิ. กตฺติกนกฺขตฺตกีฬา เจตฺถ อุฬารา โหติ. ตทตฺถํ คโตติ เวทิตพฺโพ.
อทฺทส โขติ กถํ อทฺทส? โส กิร นครโต ภุตฺตปาตราสํ สุทฺธุตฺตราสงฺคํ มาลาคนฺธวิเลปนหตฺถํ พุทฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสวนตฺถฺจ นิกฺขมนฺตํ มหาชนํ ทิสฺวา ‘‘กฺว คจฺฉถา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘พุทฺธทสฺสนตฺถํ ธมฺมสวนตฺถฺจา’’ติ. เตน หิ ‘‘อหมฺปิ คจฺฉามี’’ติ คนฺตฺวา จตุพฺพิธาย ปริสาย ปริวุตํ พฺรหฺมสฺสเรน ธมฺมํ เทเสนฺตํ ภควนฺตํ อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข…เป… เทเสนฺต’’นฺติ. ทิสฺวานสฺสาติ ทิสฺวาน อสฺส. เอตทโหสีติ ปุพฺเพ กตปฺุตาย โจทิยมานสฺส ภพฺพกุลปุตฺตสฺส เอตํ อโหสิ. กึ อโหสิ? ยํนูนาหมฺปิ ธมฺมํ สุเณยฺยนฺติ ¶ . ตตฺถ ยนฺนูนาติ ปริวิตกฺกทสฺสนเมตํ. เอวํ กิรสฺส ปริวิตกฺโก อุปฺปนฺโน ‘‘ยมยํ ปริสา เอกคฺคจิตฺตา ธมฺมํ สุณาติ, อโห วตาหมฺปิ ตํ สุเณยฺย’’นฺติ.
อถ ¶ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต เยน สา ปริสาติ อิธ กสฺมา ‘‘เยน ภควา’’ติ อวตฺวา ‘‘เยน สา ปริสา’’ติ วุตฺตนฺติ เจ. ภควนฺตฺหิ ปริวาเรตฺวา อุฬารุฬารชนา มหตี ปริสา นิสินฺนา, ตตฺร น สกฺกา อิมินา ปจฺฉา อาคเตน ภควนฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา นิสีทิตุํ. ปริสาย ปน เอกสฺมึ ปเทเส สกฺกาติ โส ตํ ปริสํเยว อุปสงฺกมนฺโต. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘อถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต เยน สา ปริสา’’ติ. เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส เอตทโหสีติ น นิสินฺนมตฺตสฺเสว อโหสิ, อถ โข ภควโต สิตฺตยูปสํหิตํ โถกํ ธมฺมกถํ สุตฺวา; ตํ ปนสฺส ยสฺมา เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺเสว อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกมนฺตํ นิสินฺนสฺส โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส เอตทโหสี’’ติ. กึ อโหสีติ? ยถา ยถา โขติอาทิ.
ตตฺรายํ สงฺเขปกถา – อหํ โข เยน เยน อากาเรน ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, เตน เตน เม อุปปริกฺขโต เอวํ โหติ ยเทตํ สิตฺตยพฺรหฺมจริยํ เอกมฺปิ ทิวสํ อขณฺฑํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริปุณฺณํ จริตพฺพํ, เอกทิวสมฺปิ จ กิเลสมเลน อมลีนํ กตฺวา จริมกจิตฺตํ ปาเปตพฺพตาย เอกนฺตปริสุทฺธํ. สงฺขลิขิตํ ลิขิตสงฺขสทิสํ โธตสงฺขสปฺปฏิภาคํ จริตพฺพํ. อิทํ น สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา อคารมชฺเฌ วสนฺเตน เอกนฺตปริปุณฺณํ…เป… จริตุํ. ยํนูนาหํ เกเส จ มสฺสฺุจ โอหาเรตฺวา กสายรสปีตตาย กาสายานิ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตานํ อนุจฺฉวิกานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา ปริทหิตฺวา อคารสฺมา นิกฺขมิตฺวา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺยนฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา อคารสฺส หิตํ กสิวาณิชฺชาทิกมฺมํ อคาริยนฺติ วุจฺจติ, ตฺจ ปพฺพชฺชาย นตฺถิ; ตสฺมา ปพฺพชฺชา ‘‘อนคาริยา’’ติ าตพฺพา. ตํ อนคาริยํ ปพฺพชฺชํ. ปพฺพเชยฺยนฺติ ปริพฺพเชยฺยํ.
๒๕. อจิรวุฏฺิตาย ปริสาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ สุทินฺโน อวุฏฺิตาย ปริสาย น ภควนฺตํ ปพฺพชฺชํ ยาจิ. กสฺมา? ตตฺรสฺส ¶ พหู าติสาโลหิตา มิตฺตามจฺจา สนฺติ, เต ‘‘‘ตฺวํ มาตาปิตูนํ เอกปุตฺตโก, น ลพฺภา ตยา ปพฺพชิตุ’นฺติ พาหายมฺปิ คเหตฺวา อากฑฺเฒยฺยุํ, ตโต ปพฺพชฺชาย อนฺตราโย ภวิสฺสตี’’ติ สเหว ปริสาย อุฏฺหิตฺวา โถกํ คนฺตฺวา ปุน เกนจิ สรีรกิจฺจเลเสน นิวตฺติตฺวา ภควนฺตํ อุปสงฺกมฺม ปพฺพชฺชํ ยาจิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต อจิรวุฏฺิตาย ปริสาย…เป… ปพฺพาเชตุ มํ ภควา’’ติ.
ภควา ¶ ปน ยสฺมา ราหุลกุมารสฺส ปพฺพชิตโต ปภุติ มาตาปิตูหิ อนนฺุาตํ ปุตฺตํ น ปพฺพาเชติ, ตสฺมา นํ ปุจฺฉิ – ‘‘อนฺุาโตสิ ปน ตฺวํ สุทินฺน มาตาปิตูหิ…เป… ปพฺพชฺชายา’’ติ.
๒๖. อิโต ¶ ปรํ ปาานุสาเรเนว คนฺตฺวา ตํ กรณียํ ตีเรตฺวาติ เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – ธุรนิกฺเขเปเนว ตํ กรณียํ นิฏฺาเปตฺวาติ; น หิ ปพฺพชฺชาย ติพฺพจฺฉนฺทสฺส ภณฺฑปฺปโยชนอุทฺธารสารณาทีสุ วา นกฺขตฺตกีฬายํ วา จิตฺตํ นมติ. อมฺม ตาตาติ เอตฺถ ปน อมฺมาติ มาตรํ อาลปติ; ตาตาติ ปิตรํ. ตฺวํ โขสีติ ตฺวํ โข อสิ. เอกปุตฺตโกติ เอโกว ปุตฺตโก; อฺโ เต เชฏฺโ วา กนิฏฺโ วา นตฺถิ. เอตฺถ จ ‘‘เอกปุตฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ อนุกมฺปาวเสน ‘‘เอกปุตฺตโก’’ติ วุตฺตํ. ปิโยติ ปีติชนนโก. มนาโปติ มนวฑฺฒนโก. สุเขธิโตติ สุเขน เอธิโต; สุขสํวฑฺฒิโตติ อตฺโถ. สุขปริหโตติ สุเขน ปริหโต; ชาตกาลโต ปภุติ ธาตีหิ องฺกโต องฺกํ หริตฺวา ธาริยมาโน อสฺสกรถกาทีหิ พาลกีฬนเกหิ กีฬมาโน สาทุรสโภชนํ โภชิยมาโน สุเขน ปริหโต.
น ตฺวํ, ตาต สุทินฺน, กิฺจิ ทุกฺขสฺส ชานาสีติ ตฺวํ ตาต สุทินฺน กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ กลภาคํ ทุกฺขสฺส น ชานาสิ; อถ วา กิฺจิ ทุกฺเขน นานุโภสีติ อตฺโถ. กรณตฺเถ สามิวจนํ, อนุภวนตฺเถ จ ชานนา; อถ วา กิฺจิ ทุกฺขํ นสฺสรสีติ อตฺโถ. อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, สรณตฺเถ จ ชานนา. วิกปฺปทฺวเยปิ ปุริมปทสฺส อุตฺตรปเทน สมานวิภตฺติโลโป ทฏฺพฺโพ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรน าตพฺพํ. มรเณนปิ มยํ เต อกามกา วินา ภวิสฺสามาติ ¶ สเจปิ ตว อมฺเหสุ ชีวมาเนสุ มรณํ ภเวยฺย, เตน เต มรเณนปิ มยํ อกามกา อนิจฺฉกา น อตฺตโน รุจิยา, วินา ภวิสฺสาม; ตยา วิโยคํ วา ปาปุณิสฺสามาติ อตฺโถ. กึ ปน มยํ ตนฺติ เอวํ สนฺเต กึ ปน กึ นาม ตํ การณํ เยน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสาม; อถ วา กึ ปน มยํ ตนฺติ เกน ปน การเณน มยํ ตํ ชีวนฺตํ อนุชานิสฺสามาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๒๗. ตตฺเถวาติ ยตฺถ นํ ิตํ มาตาปิตโร นานุชานึสุ, ตตฺเถว าเน. อนนฺตรหิตายาติ เกนจิ อตฺถรเณน อนตฺถตาย.
๒๘. ปริจาเรหีติ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ตตฺถ สหายเกหิ สทฺธึ ยถาสุขํ อินฺทฺริยานิ จาเรหิ สฺจาเรหิ; อิโต จิโต จ อุปเนหีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปริจาเรหีติ ¶ คนฺธพฺพนฏนาฏกาทีนิ ปจฺจุปฏฺาเปตฺวา ¶ ตตฺถ สหายเกหิ สทฺธึ ลฬ, อุปลฬ, รม, กีฬสฺสูติปิ วุตฺตํ โหติ. กาเม ปริภฺุชนฺโตติ อตฺตโน ปุตฺตทาเรหิ สทฺธึ โภเค ภฺุชนฺโต. ปฺุานิ กโรนฺโตติ พุทฺธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ อารพฺภ ทานปฺปทานาทีนิ สุคติมคฺคโสธกานิ กุสลกมฺมานิ กโรนฺโต. ตุณฺหี อโหสีติ กถานุปฺปพนฺธวิจฺเฉทนตฺถํ นิราลาปสลฺลาโป อโหสิ. อถสฺส มาตาปิตโร ติกฺขตฺตุํ วตฺวา ปฏิวจนมฺปิ อลภมานา สหายเก ปกฺโกสาเปตฺวา ‘‘เอส โว สหายโก ปพฺพชิตุกาโม, นิวาเรถ น’’นฺติ อาหํสุ. เตปิ ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ติกฺขตฺตุํ อโวจุํ, เตสมฺปิ ตุณฺหี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา…เป… ตุณฺหี อโหสี’’ติ.
๒๙. อถสฺส สหายกานํ เอตทโหสิ – ‘‘สเจ อยํ ปพฺพชฺชํ อลภมาโน มริสฺสติ น โกจิ คุโณ ภวิสฺสติ. ปพฺพชิตํ ปน นํ มาตาปิตโรปิ กาเลน กาลํ ปสฺสิสฺสนฺติ. มยมฺปิ ปสฺสิสฺสาม. ปพฺพชฺชาปิ จ นาเมสา ภาริยา, ทิวเส ทิวเส มตฺติกาปตฺตํ คเหตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพํ. เอกเสยฺยํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ อติทุกฺกรํ. อยฺจ สุขุมาโล นาคริกชาติโย, โส ตํ จริตุํ อสกฺโกนฺโต ปุน อิเธว อาคมิสฺสติ. หนฺทสฺส ¶ มาตาปิตโร อนุชานาเปสฺสามา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. มาตาปิตโรปิ นํ อนุชานึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส สหายกา เยน สุทินฺนสฺส กลนฺทปุตฺตสฺส มาตาปิตโร…เป… อนฺุาโตสิ มาตาปิตูหิ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชฺชายา’’ติ.
๓๐. หฏฺโติ ตุฏฺโ. อุทคฺโคติ ปีติวเสน อพฺภุนฺนตกายจิตฺโต. กติปาหนฺติ กติปยานิ ทิวสานิ. พลํ คาเหตฺวาติ สปฺปายโภชนานิ ภฺุชนฺโต, อุจฺฉาทนนฺหาปนาทีหิ จ กายํ ปริหรนฺโต, กายพลํ ชเนตฺวา มาตาปิตโร วนฺทิตฺวา อสฺสุมุขํ าติปริวฏฺฏํ ปหาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป… ปพฺพาเชตุ มํ ภนฺเต ภควาติ. ภควา สมีเป ิตํ อฺตรํ ปิณฺฑจาริกํ ภิกฺขุํ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ ภิกฺขุ สุทินฺนํ ปพฺพาเชหิ เจว อุปสมฺปาเทหิ จา’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ โข โส ภิกฺขุ ภควโต ปฏิสฺสุณิตฺวา สุทินฺนํ กลนฺทปุตฺตํ ชินทตฺติยํ สทฺธิวิหาริกํ ลทฺธา ปพฺพาเชสิ เจว อุปสมฺปาเทสิ จ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อลตฺถ โข ¶ สุทินฺโน กลนฺทปุตฺโต ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปท’’นฺติ.
เอตฺถ ปน ตฺวา สพฺพอฏฺกถาสุ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ กถิตา. มยํ ปน ยถาิตปาฬิวเสเนว ขนฺธเก กถยิสฺสาม. น เกวลฺเจตํ, อฺมฺปิ ยํ ขนฺธเก วา ปริวาเร วา กเถตพฺพํ อฏฺกถาจริเยหิ วิภงฺเคกถิตํ, ตํ สพฺพํ ตตฺถ ตตฺเถว กถยิสฺสาม. เอวฺหิ กถิยมาเน ¶ ปาฬิกฺกเมเนว วณฺณนา กตา โหติ. ตโต เตน เตน วินิจฺฉเยน อตฺถิกานํ ปาฬิกฺกเมเนว อิมํ วินยสํวณฺณนํ โอโลเกตฺวา โส โส วินิจฺฉโย สุวิฺเยฺโย ภวิสฺสตีติ.
อจิรูปสมฺปนฺโนติ อจิรํ อุปสมฺปนฺโน หุตฺวา; อุปสมฺปทโต นจิรกาเลเยวาติ วุตฺตํ โหติ. เอวรูเปติ เอวํวิเธ เอวํชาติเก. ธุตคุเณติ กิเลสนิทฺธุนนเก คุเณ. สมาทาย วตฺตตีติ สมาทิยิตฺวา คณฺหิตฺวา วตฺตติ จรติ วิหรติ. อารฺิโก โหตีติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อารฺิกธุตงฺควเสน อรฺวาสิโก โหติ. ปิณฺฑปาติโกติ อติเรกลาภปฏิกฺเขเปน จุทฺทส ภตฺตานิ ปฏิกฺขิปิตฺวา ¶ ปิณฺฑปาติกธุตงฺควเสน ปิณฺฑปาติโก โหติ. ปํสุกูลิโกติ คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ปํสุกูลิกธุตงฺควเสน ปํสุกูลิโก โหติ. สปทานจาริโกติ โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปิตฺวา สปทานจาริกธุตงฺควเสน สปทานจาริโก โหติ; ฆรปฏิปาฏิยา ภิกฺขาย ปวิสติ. วชฺชิคามนฺติ วชฺชีนํ คามํ วชฺชีสุ วา คามํ.
อฑฺฒา มหทฺธนาติอาทีสุ อุปโภคปริโภคูปกรณมหนฺตตาย อฑฺฒา; เย หิ เตสํ อุปโภคา ยานิ จ อุปโภคูปกรณานิ, ตานิ มหนฺตานิ พหุลานิ สารกานีติ วุตฺตํ โหติ. นิเธตฺวา ปิตธนมหนฺตตาย มหทฺธนา. มหาโภคาติ ทิวสปริพฺพยสงฺขาตโภคมหนฺตตาย มหาโภคา. อฺเหิ อุปโภเคหิ ชาตรูปรชตสฺเสว ปหูตตาย ปหูตชาตรูปรชตา. อลงฺการภูตสฺส วิตฺตูปกรณสฺส ปีติปาโมชฺชกรณสฺส ปหูตตาย ปหูตวิตฺตูปกรณา. โวหารวเสน ปริวตฺเตนฺตสฺส ธนธฺสฺส ปหูตตาย ปหูตธนธฺาติ เวทิตพฺพา.
เสนาสนํ ¶ สํสาเมตฺวาติ เสนาสนํ ปฏิสาเมตฺวา; ยถา น วินสฺสติ ตถา นํ สุฏฺุ เปตฺวาติ อตฺโถ. สฏฺิมตฺเต ถาลิปาเกติ คณนปริจฺเฉทโต สฏฺิถาลิปาเก. เอกเมโก เจตฺถ ถาลิปาโก ทสนฺนํ ภิกฺขูนํ ภตฺตํ คณฺหาติ. ตํ สพฺพมฺปิ ฉนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ภตฺตํ โหติ. ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสูติ เอตฺถ อภิหรียตีติ อภิหาโร. กึ อภิหรียติ? ภตฺตํ. ภตฺตเมว อภิหาโร ภตฺตาภิหาโร, ตํ ภตฺตาภิหารํ. อภิหรึสูติ อภิมุขา หรึสุ. ตสฺส สนฺติกํ คเหตฺวา อาคมํสูติ อตฺโถ. เอตสฺส กึ ปมาณนฺติ? สฏฺิ ถาลิปากา. เตน วุตฺตํ – ‘‘สฏฺิมตฺเต ถาลิปาเก ภตฺตาภิหารํ อภิหรึสู’’ติ. ภิกฺขูนํ วิสฺสชฺเชตฺวาติ สยํ อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติกตฺตา สปทานจารํ จริตุกาโม ภิกฺขูนํ ปริโภคตฺถาย ปริจฺจชิตฺวา ทตฺวา. อยํ หิ อายสฺมา ‘‘ภิกฺขู จ ลาภํ ลจฺฉนฺติ อหฺจ ปิณฺฑเกน น กิลมิสฺสามี’’ติ เอตทตฺถเมว อาคโต. ตสฺมา อตฺตโน อาคมนานุรูปํ ¶ กโรนฺโต ภิกฺขูนํ วิสฺสชฺเชตฺวา สยํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ.
๓๑. าติทาสีติ ¶ าตกานํ ทาสี. อาภิโทสิกนฺติ ปาริวาสิกํ เอกรตฺตาติกฺกนฺตํ ปูติภูตํ. ตตฺรายํ ปทตฺโถ – ปูติภาวโทเสน อภิภูโตติ อภิโทโส, อภิโทโสว อาภิโทสิโก, เอกรตฺตาติกฺกนฺตสฺส วา นามสฺา เอสา, ยทิทํ อาภิโทสิโกติ, ตํ อาภิโทสิกํ. กุมฺมาสนฺติ ยวกุมฺมาสํ. ฉฑฺเฑตุกามา โหตีติ ยสฺมา อนฺตมโส ทาสกมฺมกรานมฺปิ โครูปานมฺปิ อปริโภคารโห, ตสฺมา ตํ กจวรํ วิย พหิ ฉฑฺเฑตุกามา โหติ. สเจตนฺติ สเจ เอตํ. ภคินีติ อริยโวหาเรน าติทาสึ อาลปติ. ฉฑฺฑนียธมฺมนฺติ ฉฑฺเฑตพฺพสภาวํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ภคินิ, เอตํ สเจ พหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, ตํ อิธ เม ปตฺเต อากิรา’’ติ.
กึ ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ, วิฺตฺติ วา ปยุตฺตวาจา วา น โหตีติ? น โหติ. กสฺมา? นิสฺสฏฺปริคฺคหตฺตา. ยฺหิ ฉฑฺฑนียธมฺมํ นิสฺสฏฺปริคฺคหํ, ยตฺถ สามิกา อนาลยา โหนฺติ, ตํ สพฺพํ ‘‘เทถ อาหรถ อิธ อากิรถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ตถา หิ อคฺคอริยวํสิโก อายสฺมา รฏฺปาโลปิ ‘‘ฉฑฺฑนียธมฺมํ กุมฺมาสํ อิธ เม ปตฺเต อากิรา’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๙๙) อวจ. ตสฺมา ยํ เอวรูปํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ อฺํ วา อปริคฺคหิตํ วนมูลผลเภสชฺชาทิกํ ตํ สพฺพํ ยถาสุขํ อาหราเปตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ, น กุกฺกุจฺจายิตพฺพํ. หตฺถานนฺติ ¶ ภิกฺขาคฺคหณตฺถํ ปตฺตํ อุปนามยโต มณิพนฺธโต ปภุติ ทฺวินฺนมฺปิ หตฺถานํ. ปาทานนฺติ นิวาสนนฺตโต ปฏฺาย ทฺวินฺนมฺปิ ปาทานํ. สรสฺสาติ ‘‘สเจตํ ภคินี’’ติ วาจํ นิจฺฉารยโต สรสฺส จ. นิมิตฺตํ อคฺคเหสีติ คิหิกาเล สลฺลกฺขิตปุพฺพํ อาการํ อคฺคเหสิ สฺชานิ สลฺลกฺเขสิ. สุทินฺโน หิ ภควโต ทฺวาทสเม วสฺเส ปพฺพชิโต วีสติเม วสฺเส าติกุลํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺโ สยํ ปพฺพชฺชาย อฏฺวสฺสิโก หุตฺวา; เตน นํ สา าติทาสี ทิสฺวาว น สฺชานิ, นิมิตฺตํ ปน อคฺคเหสีติ.
สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตทโวจาติ อติครุนา ปพฺพชฺชูปคเตน สามิปุตฺเตน ¶ สทฺธึ ‘‘ตฺวํ นุ โข เม, ภนฺเต, อยฺโย สุทินฺโน’’ติอาทิวจนํ วตฺตุํ อวิสหนฺตี เวเคน ฆรํ ปวิสิตฺวา สุทินฺนสฺส มาตรํ เอตํ อโวจ. ยคฺเฆติ อาโรจนตฺเถ นิปาโต. สเจ เช สจฺจนฺติ เอตฺถ เชติ อาลปเน นิปาโต. เอวฺหิ ตสฺมึ เทเส ทาสิชนํ อาลปนฺติ, ตสฺมา ‘‘ตฺวํ, โภติ ทาสิ, สเจ สจฺจํ ภณสี’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๓๒. อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ ตสฺมึ กิร เทเส ทานปตีนํ ฆเรสุ สาลา โหนฺติ, อาสนานิ เจตฺถ ปฺตฺตานิ โหนฺติ, อุปฏฺาปิตํ อุทกกฺชิยํ; ตตฺถ ปพฺพชิตา ปิณฺฑาย จริตฺวา ¶ นิสีทิตฺวา ภฺุชนฺติ. สเจ อิจฺฉนฺติ, ทานปตีนมฺปิ สนฺตกํ คณฺหนฺติ. ตสฺมา ตมฺปิ อฺตรสฺส กุลสฺส อีทิสาย สาลาย อฺตรํ กุฏฺฏมูลนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ ปพฺพชิตา กปณมนุสฺสา วิย อสารุปฺเป าเน นิสีทิตฺวา ภฺุชนฺตีติ.
อตฺถิ นาม ตาตาติ เอตฺถ อตฺถีติ วิชฺชมานตฺเถ; นามาติ ปุจฺฉนตฺเถ มฺนตฺเถ จ นิปาโต. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ ธนํ, น มยํ นิทฺธนาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชิสฺสสิ’’; ตถา ‘‘อตฺถิ นุ โข, ตาต สุทินฺน, อมฺหากํ ชีวิตํ, น มยํ มตาติ วตฺตพฺพา, เยสํ โน ตฺวํ อีทิเส าเน นิสีทิตฺวา อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชิสฺสสิ’’; ตถา ‘‘อตฺถิ มฺเ, ตาต สุทินฺน, ตว อพฺภนฺตเร สาสนํ นิสฺสาย ปฏิลทฺโธ ¶ สมณคุโณ, ยํ ตฺวํ สุโภชนรสสํวฑฺฒิโตปิ อิมํ ชิคุจฺฉเนยฺยํ อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ อมตมิว นิพฺพิกาโร ปริภฺุชิสฺสสี’’ติ.
โส ปน คหปติ ทุกฺขาภิตุนฺนตาย เอตมตฺถํ ปริปุณฺณํ กตฺวา วตฺตุมสกฺโกนฺโต ‘‘อตฺถิ นาม, ตาต สุทินฺน, อาภิโทสิกํ กุมฺมาสํ ปริภฺุชิสฺสสี’’ติ เอตฺตกเมว อโวจ. อกฺขรจินฺตกา ปเนตฺถ อิมํ ลกฺขณํ วทนฺติ – อโนกปฺปนามริสนตฺถวเสน เอตํ อตฺถินามสทฺเท อุปปเท ‘‘ปริภฺุชิสฺสสี’’ติ อนาคตวจนํ กตํ. ตสฺสายมตฺโถ – อตฺถิ นาม…เป… ปริภฺุชิสฺสสิ, อิทํ ปจฺจกฺขมฺปิ อหํ น สทฺทหามิ ¶ น มริสยามีติ. ตตายํ อาภิโทสิโกติ ตโต ตว เคหโต อยํ อาภิโทสิโก กุมฺมาโส ลทฺโธติ อตฺโถ. ตโตยนฺติปิ ปาโ. ตทายนฺติปิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. เยน สกปิตุ นิเวสนนฺติ เยน สกสฺส ปิตุ อตฺตโน ปิตุ นิเวสนนฺติ อตฺโถ; เถโร ปิตริ เปเมเนว สุพฺพโจ หุตฺวา อคมาสิ. อธิวาเสสีติ เถโร อุกฺกฏฺปิณฺฑปาติโกปิ สมาโน ‘‘สเจ เอกภตฺตมฺปิ น คเหสฺสามิ, อติวิย เนสํ โทมนสฺสํ ภวิสฺสตี’’ติ าตีนํ อนุกมฺปาย อธิวาเสสิ.
๓๓. โอปฺุชาเปตฺวาติ อุปลิมฺปาเปตฺวา. เอกํ หิรฺสฺสาติ เอตฺถ หิรฺนฺติ กหาปโณ เวทิตพฺโพ. ปุริโสติ นาติทีโฆ นาติรสฺโส มชฺฌิมปฺปมาโณ เวทิตพฺโพ. ติโรกรณียนฺติ กรณตฺเถ ภุมฺมํ; สาณิปากาเรน ปริกฺขิปิตฺวาติ อตฺโถ. อถ วา ติโร กโรนฺติ เอเตนาติ ติโรกรณียํ, ตํ ปริกฺขิปิตฺวา; สมนฺตโต กตฺวาติ อตฺโถ. เตน หีติ ยสฺมา อชฺช สุทินฺโน อาคมิสฺสติ เตน การเณน. หิ อิติ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. เตนาติ อยมฺปิ วา อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโตเยว.
๓๔. ปุพฺพณฺหสมยนฺติ ¶ เอตฺถ กิฺจาปิ ปาฬิยํ กาลาโรจนํ น วุตฺตํ, อถ โข อาโรจิเตเยว กาเล อคมาสีติ เวทิตพฺโพ. อิทํ เต ตาตาติ ทฺเว ปฺุเช ทสฺเสนฺโต อาห. มาตูติ ชเนตฺติยา. มตฺติกนฺติ มาติโต อาคตํ; อิทํ เต มาตามหิยา มาตุ อิมํ เคหํ อาคจฺฉนฺติยา ทินฺนธนนฺติ อตฺโถ. อิตฺถิกาย อิตฺถิธนนฺติ หีเฬนฺโต อาห ¶ . อิตฺถิกาย นาม อิตฺถิปริโภคานํเยว นฺหานจุณฺณาทีนํ อตฺถาย ลทฺธํ ธนํ กิตฺตกํ ภเวยฺย. ตสฺสาปิ ตาว ปริมาณํ ปสฺส. อถ วา อิทํ เต ตาต สุทินฺน มาตุ ธนํ, ตฺจ โข มตฺติกํ, น มยา ทินฺนํ, ตว มาตุเยว สนฺตกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตํ ปเนตํ น กสิยา น วณิชฺชาย สมฺภูตํ, อปิจ โข อิตฺถิกาย อิตฺถิธนํ. ยํ อิตฺถิกาย าติกุลโต สามิกกุลํ คจฺฉนฺติยา ลทฺธพฺพํ นฺหานจุณฺณาทีนํ อตฺถาย อิตฺถิธนํ, ตํ ตาว เอตฺตกนฺติ เอวเมตฺถ ¶ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อฺํ เปตฺติกํ อฺํ ปิตามหนฺติ ยํ ปน เต ปิตุ จ ปิตามหานฺจ สนฺตกํ, ตํ อฺํเยว. นิหิตฺจ ปยุตฺตฺจ อติวิย พหุ; เอตฺถ จ ปิตามหนฺติ ตทฺธิตโลปํ กตฺวา เวทิตพฺพํ. เปตามหนฺติ วา ปาโ. ลพฺภา ตาต สุทินฺน หีนายาวตฺติตฺวาติ ตาต, สุทินฺน, อุตฺตมํ อริยทฺธชํ ปพฺพชิตลิงฺคํ ปหาย หีนาย คิหิภาวาย อาวตฺติตฺวา ลพฺภา โภคา ภฺุชิตุํ, นาลพฺภา ภฺุชิตุํ, น ตฺวํ ราชภีโต ปพฺพชิโต, น อิณายิเกหิ ปลิพุทฺโธ หุตฺวาติ. ตาต น อุสฺสหามีติ เอตฺถ ปน ตาตาติ วจนํ เคหสิตเปเมน อาห, น สมณเตเชน. น อุสฺสหามีติ น สกฺโกมิ. น วิสหามีติ นปฺปโหมิ, น สมตฺโถมฺหิ.
‘‘วเทยฺยาม โข ตํ คหปตี’’ติ อิทํ ปน วจนํ สมณเตเชนาห. นาติกฑฺเฒยฺยาสีติ ยํ เต มยิ เปมํ ปติฏฺิตํ, ตํ โกธวเสน น อติกฑฺเฒยฺยาสิ; สเจ น กุชฺเฌยฺยาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตโต เสฏฺิ ‘‘ปุตฺโต เม สงฺคหํ มฺเ กตฺตุกาโม’’ติ อุทคฺคจิตฺโต อาห – ‘‘วเทหิ ตาต สุทินฺนา’’ติ. เตนหีติ อุยฺโยชนตฺเถ วิภตฺติปติรูปโก นิปาโต. ตโตนิทานนฺติ ตํนิทานํ ตํเหตุกนฺติ ปจฺจตฺตวจนสฺส โต-อาเทโส เวทิตพฺโพ; สมาเส จสฺส โลปาภาโว. ภยํ วาติ ‘‘กินฺติ เม โภเค เนว ราชาโน หเรยฺยุ’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตํ ราชาทิภยํ; จิตฺตุตฺราโสติ อตฺโถ. ฉมฺภิตตฺตนฺติ ราชูหิ วา โจเรหิ วา ‘‘ธนํ เทหี’’ติ กมฺมการณํ การิยมานสฺส กายิฺชนํ กายกมฺโป หทยมํสจลนํ. โลมหํโสติ อุปฺปนฺเน ภเย โลมานํ หํสนํ อุทฺธคฺคภาโว. อารกฺโขติ อนฺโต จ พหิ จ รตฺติฺจ ทิวา จ อารกฺขณํ.
๓๕. เตน หิ วธูติ เสฏฺิ คหปติ ธนํ ทสฺเสตฺวา ปุตฺตํ อตฺตนา คิหิภาวตฺถาย ปโลเภตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘มาตุคามสทิสํ ทานิ ปุริสานํ ¶ พนฺธนํ นตฺถี’’ติ มฺิตฺวา ตสฺส ปุราณทุติยิกํ ¶ อามนฺเตสิ – ‘‘เตน หิ วธู’’ติ. ปุราณทุติยิกนฺติ ปุราณํ ทุติยิกํ ปุพฺเพ คิหิกาเล ทุติยิกํ, เคหสิตสุขุปโภคสหายิกํ ภูตปุพฺพภริยนฺติ อตฺโถ. เตน หีติ เยน การเณน มาตุคามสทิสํ พนฺธนํ นตฺถิ. ปาเทสุ คเหตฺวาติ ¶ ปาเท คเหตฺวา; อุปโยคตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ปาเทสุ วา ตํ คเหตฺวา. ‘‘กีทิสา นาม ตา อยฺยปุตฺต อจฺฉราโย’’ติ กสฺมา เอวมาห? ตทา กิร สมฺพหุเล ขตฺติยกุมาเรปิ พฺราหฺมณกุมาเรปิ เสฏฺิปุตฺเตปิ มหาสมฺปตฺติโย ปหาย ปพฺพชนฺเต ทิสฺวา ปพฺพชฺชาคุณํ อชานนฺตา กถํ สมุฏฺาเปนฺติ – ‘‘กสฺมา เอเต ปพฺพชนฺตี’’ติ. อถฺเ วทนฺติ – ‘‘เทวจฺฉรานํ เทวนาฏกานํ การณา’’ติ. สา กถา วิตฺถาริกา อโหสิ. ตํ คเหตฺวา อยํ เอวมาหาติ. เถโร ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต น โข อหํ ภคินีติ อาห. สมุทาจรตีติ โวหรติ วเทติ. ตตฺเถว มุจฺฉิตา ปปตาติ นํ ภคินิวาเทน สมุทาจรนฺตํ ทิสฺวา ‘‘อนตฺถิโก ทานิ มยา อยํ โย มํ ปชาปตึ สมานํ อตฺตนา สทฺธึ เอกมาตุกุจฺฉิยา สยิตทาริกํ วิย มฺตี’’ติ สมุปฺปนฺนพลวโสกา หุตฺวา ตสฺมึเยว ปเทเส มุจฺฉิตา ปปตา; ปติตาติ อตฺโถ.
มา โน วิเหยิตฺถาติ มา อมฺเห ธนํ ทสฺเสตฺวา มาตุคามฺจ อุยฺโยเชตฺวา วิเหยิตฺถ; วิเหสา เหสา ปพฺพชิตานนฺติ. เตน หิ ตาต สุทินฺน พีชกมฺปิ เทหีติ เอตฺถ เตน หีติ อภิรติยํ อุยฺโยเชติ. สเจ ตฺวํ อภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรสิ, จริตฺวา อากาเส นิสีทิตฺวา ปรินิพฺพายิตา โหหิ, อมฺหากํ ปน กุลวํสพีชกํ เอกํ ปุตฺตํ เทหิ. มา โน อปุตฺตกํ สาปเตยฺยํ ลิจฺฉวโย อติหราเปสุนฺติ มยฺหิ ลิจฺฉวีนํ คณราชูนํ รชฺเช วสาม, เต เต ปิตุโน อจฺจเยน อิมํ สาปเตยฺยํ เอวํ มหนฺตํ อมฺหากํ วิภวํ อปุตฺตกํ กุลธนรกฺขเกน ปุตฺเตน วิรหิตํ อตฺตโน ราชนฺเตปุรํ อติหราเปยฺยุนฺติ, ตํ เต มา อติหราเปสุํ, มา อติหราเปนฺตูติ.
เอตํ โข เม, อมฺม, สกฺกา กาตุนฺติ กสฺมา เอวมาห? โส กิร จินฺเตสิ – ‘‘เอเตสํ สาปเตยฺยสฺส อหเมว สามี, อฺโ นตฺถิ. เต มํ สาปเตยฺยรกฺขณตฺถาย นิจฺจํ อนุพนฺธิสฺสนฺติ; เตนาหํ น ลจฺฉามิ อปฺโปสฺสุกฺโก สมณธมฺมํ กาตุํ, ปุตฺตกํ ปน ลภิตฺวา โอรมิสฺสนฺติ, ตโต ¶ อหํ ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อิมํ นยํ ปสฺสนฺโต ¶ เอวมาหาติ.
๓๖. ปุปฺผนฺติ อุตุกาเล อุปฺปนฺนโลหิตสฺส นามํ. มาตุคามสฺส หิ อุตุกาเล คพฺภปติฏฺานฏฺาเน โลหิตวณฺณา ปิฬกา สณฺหิตฺวา สตฺต ทิวสานิ วฑฺฒิตฺวา ภิชฺชนฺติ, ตโต โลหิตํ ¶ ปคฺฆรติ, ตสฺเสตํ นามํ ‘‘ปุปฺผ’’นฺติ. ตํ ปน ยาว พลวํ โหติ พหุ ปคฺฆรติ, ตาว ทินฺนาปิ ปฏิสนฺธิ น ติฏฺติ, โทเสเนว สทฺธึ ปคฺฆรติ; โทเส ปน ปคฺฆริเต สุทฺเธ วตฺถุมฺหิ ทินฺนา ปฏิสนฺธิ ขิปฺปํ ปติฏฺาติ. ปุปฺผํสา อุปฺปชฺชีติ ปุปฺผํ อสฺสา อุปฺปชฺชิ; อการโลเปน สนฺธิ ปุราณทุติยิกาย พาหายํ คเหตฺวาติ ปุราณทุติยิกาย ยา พาหา, ตตฺร นํ คเหตฺวาติ อตฺโถ.
อปฺตฺเต สิกฺขาปเทติ ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อฏฺปิเต. ภควโต กิร ปมโพธิยํ วีสติ วสฺสานิ ภิกฺขู จิตฺตํ อาราธยึสุ, น เอวรูปํ อชฺฌาจารมกํสุ. ตํ สนฺธาเยว อิทํ สุตฺตมาห – ‘‘อาราธยึสุ วต เม, ภิกฺขเว, ภิกฺขู เอกํ สมยํ จิตฺต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๒๕). อถ ภควา อชฺฌาจารํ อปสฺสนฺโต ปาราชิกํ วา สงฺฆาทิเสสํ วา น ปฺเปสิ. ตสฺมึ ตสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ อวเสเส ปฺจ ขุทฺทกาปตฺติกฺขนฺเธ เอว ปฺเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺตฺเต สิกฺขาปเท’’ติ.
อนาทีนวทสฺโสติ ยํ ภควา อิทานิ สิกฺขาปทํ ปฺเปนฺโต อาทีนวํ ทสฺเสสฺสติ, ตํ อปสฺสนฺโต อนวชฺชสฺี หุตฺวา. สเจ หิ ‘‘อยํ อิทํ น กรณียนฺติ วา มูลจฺเฉชฺชาย วา สํวตฺตตี’’ติ ชาเนยฺย, สทฺธาปพฺพชิโต กุลปุตฺโต ตโตนิทานํ ชีวิตกฺขยํ ปาปุณนฺโตปิ น กเรยฺย. เอตฺถ ปน อาทีนวํ อปสฺสนฺโต นิทฺโทสสฺี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนาทีนวทสฺโส’’ติ. ปุราณทุติยิกายาติ ภุมฺมวจนํ. อภิวิฺาเปสีติ ปวตฺเตสิ; ปวตฺตนาปิ หิ กายวิฺตฺติโจปนโต ‘‘วิฺาปนา’’ติ วุจฺจติ. ติกฺขตฺตุํ อภิวิฺาปนฺเจส คพฺภสณฺานสนฺนิฏฺานตฺถมกาสีติ เวทิตพฺโพ.
สา เตน คพฺภํ คณฺหีติ สา จ เตเนว อชฺฌาจาเรน คพฺภํ คณฺหิ, น อฺถา. กึ ปน อฺถาปิ คพฺภคฺคหณํ โหตีติ ¶ ? โหติ. กถํ? กายสํสคฺเคน ¶ , โจฬคฺคหเณน, อสุจิปาเนน, นาภิปรามสเนน, รูปทสฺสเนน, สทฺเทน, คนฺเธน. อิตฺถิโย หิ เอกจฺจา อุตุสมเย ฉนฺทราครตฺตา ปุริสานํ หตฺถคฺคาห-เวณิคฺคาห-องฺคปจฺจงฺคปรามสนํ สาทิยนฺติโยปิ คพฺภํ คณฺหนฺติ. เอวํ กายสํสคฺเคน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
อุทายิตฺเถรสฺส ปน ปุราณทุติยิกา ภิกฺขุนี ตํ อสุจึ เอกเทสํ มุเขน อคฺคเหสิ, เอกเทสํ โจฬเกเนว สทฺธึ องฺคชาเต ปกฺขิปิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิ. เอวํ โจฬคฺคหเณน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
มิคสิงฺคตาปสสฺส ¶ มาตา มิคี อุตุสมเย ตาปสสฺส ปสฺสาวฏฺานํ อาคนฺตฺวา สสมฺภวํ ปสฺสาวํ ปิวิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิตฺวา มิคสิงฺคํ วิชายิ. เอวํ อสุจิปาเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
สามสฺส ปน โพธิสตฺตสฺส มาตาปิตูนํ จกฺขุปริหานึ ตฺวา สกฺโก ปุตฺตํ ทาตุกาโม ทุกูลปณฺฑิตํ อาห – ‘‘วฏฺฏติ ตุมฺหากํ เมถุนธมฺโม’’ติ? ‘‘อนตฺถิกา มยํ เอเตน, อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตามฺหา’’ติ. ‘‘เตน หิ อิมิสฺสา อุตุสมเย องฺคุฏฺเน นาภึ ปรามเสยฺยาถา’’ติ. โส ตถา อกาสิ. สา เตน คพฺภํ คณฺหิตฺวา สามํ ตาปสทารกํ วิชายิ. เอวํ นาภิปรามสเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ. เอเตเนว นเยน มณฺฑพฺยสฺส จ จณฺฑปชฺโชตสฺส จ วตฺถุ เวทิตพฺพํ.
กถํ รูปทสฺสเนน โหติ? อิเธกจฺจา อิตฺถี อุตุสมเย ปุริสสํสคฺคํ อลภมานา ฉนฺทราควเสน อนฺโตเคหคตาว ปุริสํ อุปนิชฺฌายติ ราโชโรธา วิย, สา เตน คพฺภํ คณฺหาติ. เอวํ รูปทสฺสเนน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
พลากาสุ ปน ปุริโส นาม นตฺถิ, ตา อุตุสมเย เมฆสทฺทํ สุตฺวา คพฺภํ คณฺหนฺติ. กุกฺกุฏิโยปิ กทาจิ เอกสฺส กุกฺกุฏสฺส สทฺทํ สุตฺวา พหุกาปิ คพฺภํ คณฺหนฺติ. ตถา คาวี อุสภสฺส. เอวํ สทฺเทน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
คาวี เอว จ กทาจิ อุสภคนฺเธน คพฺภํ คณฺหนฺติ. เอวํ คนฺเธน คพฺภคฺคหณํ โหติ.
อิธ ¶ ปนายํ อชฺฌาจาเรน คพฺภํ คณฺหิ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, เอวํ ติณฺณํ สนฺนิปาตา คพฺภสฺสาวกฺกนฺติ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๘).
ภุมฺมา ¶ เทวา สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ ยสฺมา นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมํ หิสฺส ตํ ปาปํ อตฺตนา ชานาติ, ตโต อารกฺขเทวตา, อถฺาปิ ปรจิตฺตวิทุนิโย เทวตา. ตสฺมาสฺส ปรจิตฺตวิทู สกลวนสณฺฑนิสฺสิตา ภุมฺมา เทวา ตํ อชฺฌาจารํ ทิสฺวา สทฺทํ อนุสฺสาเวสุํ. ยถา อฺเปิ เทวา สุณนฺติ, ตถา นิจฺฉาเรสุํ. กินฺติ ¶ ? นิรพฺพุโท วต, โภ…เป… อาทีนโว อุปฺปาทิโตติ. ตสฺสตฺโถ เวรฺชกณฺเฑ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ สุตฺวา จาตุมหาราชิกาติ เอตฺถ ปน ภุมฺมานํ เทวานํ สทฺทํ อากาสฏฺเทวตา อสฺโสสุํ; อากาสฏฺานํ จาตุมหาราชิกาติ อยมนุกฺกโม เวทิตพฺโพ. พฺรหฺมกายิกาติ อสฺสตฺเต จ อรูปาวจเร จ เปตฺวา สพฺเพปิ พฺรหฺมาโน อสฺโสสุํ; สุตฺวา จ สทฺทมนุสฺสาเวสุนฺติ เวทิตพฺโพ. อิติห เตน ขเณนาติ เอวํ เตน สุทินฺนสฺส อชฺฌาจารกฺขเณน. เตน มุหุตฺเตนาติ อชฺฌาจารมุหุตฺเตเนว. ยาว พฺรหฺมโลกาติ ยาว อกนิฏฺพฺรหฺมโลกา. อพฺภุคฺคจฺฉีติ อภิอุคฺคจฺฉิ อพฺภุฏฺาสิ เอกโกลาหลมโหสีติ.
ปุตฺตํ วิชายีติ สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปจฺฉิมภวิกสตฺตํ ชเนสิ. พีชโกติ นามมกํสูติ น อฺํ นามํ กาตุมทํสุ, ‘‘พีชกมฺปิ เทหี’’ติ มาตามหิยา วุตฺตภาวสฺส ปากฏตฺตา ‘‘พีชโก ตฺเววสฺส นามํ โหตู’’ติ ‘‘พีชโก’’ติ นามมกํสุ. ปุตฺตสฺส ปน นามวเสเนว จ มาตาปิตูนมฺปิสฺส นามมกํสุ. เต อปเรน สมเยนาติ พีชกฺจ พีชกมาตรฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. พีชกสฺส กิร สตฺตฏฺวสฺสกาเล ตสฺส มาตา ภิกฺขุนีสุ โส จ ภิกฺขูสุ ปพฺพชิตฺวา กลฺยาณมิตฺเต อุปนิสฺสาย อรหตฺเต ปติฏฺหึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อุโภ อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉากํสู’’ติ.
๓๗. เอวํ มาตาปุตฺตานํ ปพฺพชฺชา สผลา อโหสิ. ปิตา ปน วิปฺปฏิสาราภิภูโต วิหาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมโต สุทินฺนสฺสอหุเทว กุกฺกุจฺจ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อหุเทวาติ ¶ ¶ อหุ เอว, ทกาโร ปทสนฺธิกโร. อโหสิเยวาติ อตฺโถ. กุกฺกุจฺจนฺติ อชฺฌาจารเหตุโก ปจฺฉานุตาโป. วิปฺปฏิสาโรติปิ ตสฺเสว นามํ. โส หิ วิฺูหิ อกตฺตพฺพตาย กุจฺฉิตกิริยภาวโต กุกฺกุจฺจํ. กตํ อชฺฌาจารํ นิวตฺเตตุํ อสมตฺถตาย ตํ ปฏิจฺจ วิรูปํ สรณภาวโต วิปฺปฏิสาโรติ วุจฺจติ. อลาภา วต เมติ มยฺหํ วต อลาภา; เย ฌานาทีนํ คุณานํ อลาภา นาม, เต มยฺหํ, น อฺสฺสาติ อธิปฺปาโย. น วต เม ลาภาติ เยปิ เม ปฏิลทฺธา ปพฺพชฺชสรณคมนสิกฺขาสมาทานคุณา, เตปิ เนว มยฺหํ ลาภา อชฺฌาจารมลีนตฺตา. ทุลฺลทฺธํ วต เมติ อิทํ สาสนํ ลทฺธมฺปิ เม ทุลฺลทฺธํ. น วต เม สุลทฺธนฺติ ยถา อฺเสํ กุลปุตฺตานํ, เอวํ น วต เม สุลทฺธํ. กสฺมา? ยมหํ เอวํ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย…เป… พฺรหฺมจริยํ จริตุนฺติ. พฺรหฺมจริยนฺติ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ มคฺคพฺรหฺมจริยํ. กิโส อโหสีติ ขาทิตุํ วา ภฺุชิตุํ วา อสกฺโกนฺโต ตนุโก อโหสิ อปฺปมํสโลหิโต ¶ . อุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกชาโตติ สฺชาตุปฺปณฺฑุปฺปณฺฑุกภาโว ปณฺฑุปลาสปฺปฏิภาโค. ธมนิสนฺถตคตฺโตติ ปริยาทินฺนมํสโลหิตตฺตา สิราชาเลเนว สนฺถริตคตฺโต. อนฺโตมโนติ อนุโสจนวเสน อพฺภนฺตเรเยว ิตจิตฺโต. หทยวตฺถุํ นิสฺสาย ปวตฺตนวเสน ปน สพฺเพปิ อนฺโตมนาเยว. ลีนมโนติ อุทฺเทเส ปริปุจฺฉาย กมฺมฏฺาเน อธิสีเล อธิจิตฺเต อธิปฺาย วตฺตปฏิปตฺติปูรเณ จ นิกฺขิตฺตธุโร อวิปฺผาริโก อฺทตฺถุ โกสชฺชวเสเนว ลีโน สงฺกุจิโต มโน อสฺสาติ ลีนมโน. ทุกฺขีติ เจโตทุกฺเขน ทุกฺขี. ทุมฺมโนติ โทเสน ทุฏฺมโน, วิรูปมโน วา โทมนสฺสาภิภูตตาย. ปชฺฌายีติ วิปฺปฏิสารวเสน วหจฺฉินฺโน วิย คทฺรโภ ตํ ตํ จินฺตยิ.
๓๘. สหายกา ภิกฺขูติ ตํ เอวํภูตํ คณสงฺคณิกาปปฺเจน วีตินาเมนฺตํ ทิสฺวา ยสฺส วิสฺสาสิกา กถาผาสุกา ภิกฺขู เต นํ เอตทโวจุํ. ปีณินฺทฺริโยติ ปสาทปติฏฺาโนกาสสฺส สมฺปุณฺณตฺตา ปริปุณฺณจกฺขุอาทิอินฺทฺริโย. โส ทานิ ตฺวนฺติ เอตฺถ ทานีติ นิปาโต, โส ปน ตฺวนฺติ วุตฺตํ โหติ. กจฺจิโน ตฺวนฺติ กจฺจิ นุ ตฺวํ ¶ . อนภิรโตติ อุกฺกณฺิโต; คิหิภาวํ ปตฺถยมาโนติ อตฺโถ. ตสฺมา ตเมว อนภิรตึ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห – ‘‘น โข อหํ, อาวุโส, อนภิรโต’’ติ. อธิกุสลานํ ปน ธมฺมานํ ภาวนาย อภิรโตว อหนฺติ ¶ . อตฺถิ เม ปาปกมฺมํ กตนฺติ มยา กตํ เอกํ ปาปกมฺมํ อตฺถิ อุปลพฺภติ สํวิชฺชติ, นิจฺจกาลํ อภิมุขํ วิย เม ติฏฺติ. อถ นํ ปกาเสนฺโต ‘‘ปุราณทุติยิกายา’’ติอาทิมาห.
อลฺหิ เต, อาวุโส สุทินฺน, กุกฺกุจฺจายาติ อาวุโส สุทินฺน, ตุยฺเหตํ ปาปกมฺมํ อลํ สมตฺถํ กุกฺกุจฺจาย; ปฏิพลํ กุกฺกุจฺจํ อุปฺปาเทตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยํ ตฺวนฺติ อาทิมฺหิ เยน ปาเปน ตฺวํ น สกฺขิสฺสสิ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, ตํ เต ปาปํ อลํ กุกฺกุจฺจายาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อถ นํ อนุสาสนฺตา ‘‘นนุ อาวุโส ภควตา’’ติอาทิมาหํสุ. ตตฺถ นนูติ อนุมติคฺคหณตฺเถ นิปาโต. อเนกปริยาเยนาติ อเนกการเณน. วิราคายาติ วิราคตฺถาย. โน สราคายาติ โน ราเคน รชฺชนตฺถาย. ภควตา หิ ‘‘อิมํ เม ธมฺมํ สุตฺวา สตฺตา สพฺพภวโภเคสุ วิรชฺชิสฺสนฺติ, โน รชฺชิสฺสนฺตี’’ เอตทตฺถาย ธมฺโม เทสิโตติ อธิปฺปาโย. เอส นโย สพฺพปเทสุ. อิทํ ปเนตฺถ ปริยายวจนมตฺตํ. วิสํโยคายาติ กิเลเสหิ วิสํยุชฺชนตฺถาย. โน สํโยคายาติ น สํยุชฺชนตฺถาย. อนุปาทานายาติ อคฺคหณตฺถาย. โนสอุปาทานายาติ น สงฺคหณตฺถาย.
ตตฺถ ¶ นาม ตฺวนฺติ ตสฺมึ นาม ตฺวํ. สราคาย เจเตสฺสสีติ สห ราเคน วตฺตมานาย เมถุนธมฺมาย เจเตสฺสสิ กปฺเปสฺสสิ ปกปฺเปสฺสสิ; เอตทตฺถํ วายมิสฺสสีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. ปุน ราควิราคาทีนิ นว ปทานิ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรนิพฺพานเมว สนฺธาย วุตฺตานิ. ตสฺมา ราควิราคายาติ วา มทนิมฺมทนายาติ วา วุตฺเตปิ ‘‘นิพฺพานตฺถายา’’ติ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพานฺหิ ยสฺมา ตํ อาคมฺม อารพฺภ ปฏิจฺจ ราโค วิรชฺชติ น โหติ, ตสฺมา ราควิราโคติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม มานมท-ปุริสมทาทโย มทา นิมฺมทา อมทา โหนฺติ วินสฺสนฺติ, ตสฺมา มทนิมฺมทนนฺติ วุจฺจติ. ยสฺมา ¶ จ ตํ อาคมฺม สพฺพาปิ กามปิปาสา วินยํ อพฺภตฺถํ ยาติ, ตสฺมา ปิปาสวินโยติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม ปฺจ กามคุณาลยา สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา อาลยสมุคฺฆาโตติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตํ อาคมฺม เตภูมกวฏฺฏํ อุปจฺฉิชฺชติ, ตสฺมา วฏฺฏุปจฺเฉโทติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตํ อาคมฺม สพฺพโส ตณฺหา ขยํ คจฺฉติ วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ จ, ตสฺมา ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. ยสฺมา ¶ ปเนตํ จตสฺโส โยนิโย, ปฺจ คติโย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว จ สตฺตาวาเส, อปราปรภาวาย วินนโต อาพนฺธนโต สํสิพฺพนโต วานนฺติ ลทฺธโวหาราย ตณฺหาย นิกฺขนฺตํ นิสฺสฏํ วิสํยุตฺตํ, ตสฺมา นิพฺพานนฺติ วุจฺจตีติ.
กามานํ ปหานํ อกฺขาตนฺติ วตฺถุกามานํ, กิเลสกามานฺจ ปหานํ วุตฺตํ. กามสฺานํ ปริฺาติ สพฺพาสมฺปิ กามสฺานํ าตตีรณปหานวเสน ติวิธา ปริฺา อกฺขาตา. กามปิปาสานนฺติ กาเมสุ ปาตพฺยตานํ กาเม วา ปาตุมิจฺฉานํ. กามวิตกฺกานนฺติ กามุปสฺหิตานํวิตกฺกานํ. กามปริฬาหานนฺติ ปฺจกามคุณิกราควเสน อุปฺปนฺนปริฬาหานํ อนฺโตทาหานํ. อิเมสุ ปฺจสุ าเนสุ กิเลสกฺขยกโร โลกุตฺตรมคฺโคว กถิโต. สพฺพปเมสุ ปน ตีสุ าเนสุ โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสโก มคฺโค กถิโตติ เวทิตพฺโพ.
เนตํ อาวุโสติ น เอตํ อาวุโส, ตว ปาปกมฺมํ อปฺปสนฺนานฺจ ปสาทาย เอวรูปานํ ปสาทตฺถาย น โหติ. อถ ขฺเวตนฺติ อถ โข เอตํ. อถ โข ตนฺติปิ ปาโ. อฺถตฺตายาติ ปสาทฺถาภาวาย วิปฺปฏิสาราย โหติ. เย มคฺเคน อนาคตสทฺธา, เตสํ วิปฺปฏิสารํ กโรติ – ‘‘อีทิเสปิ นาม ธมฺมวินเย มยํ ปสนฺนา, ยตฺเถวํ ทุปฺปฏิปนฺนา ภิกฺขู’’ติ. เย ปน มคฺเคนาคตสทฺธา, เตสํ สิเนรุ วิย วาเตหิ อจโล ปสาโท อีทิเสหิ วตฺถูหิ อิโต วา ทารุณตเรหิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เอกจฺจานํ อฺถตฺตายา’’ติ.
๓๙. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ ภควโต เอตํ อตฺถํ อาจิกฺขึสุ ปฏิเวทยึสุ. อาโรจยมานา ¶ จ เนว ปิยกมฺยตาย น เภทปุเรกฺขารตาย ¶ , น ตสฺสายสฺมโต อวณฺณปกาสนตฺถาย, น กลิสาสนาโรปนตฺถาย, นาปิ ‘‘อิทํ สุตฺวา ภควา อิมสฺส สาสเน ปติฏฺํ น ทสฺสติ, นิกฺกฑฺฒาเปสฺสติ น’’นฺติ มฺมานา อาโรเจสุํ. อถ โข ‘‘อิมํ สาสเน อุปฺปนฺนํ อพฺพุทํ ตฺวา ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสติ, เวลํ มริยาทํ อาณํ เปสฺสตี’’ติ อาโรเจสุํ.
เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณติ เอตฺถ สุทินฺนสฺส อชฺฌาจารวีติกฺกโม สิกฺขาปทปฺตฺติยา การณตฺตา นิทานฺเจว ปกรณฺจาติ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. การณฺหิ ยสฺมา นิเทติ อตฺตโน ผลํ ‘‘คณฺหาถ น’’นฺติ ¶ ทสฺเสนฺตํ วิย อปฺเปติ, ปกโรติ จ นํ กตฺตุํ อารภติ, กโรติเยว วา; ตสฺมา นิทานฺเจว ปกรณฺจาติ วุจฺจติ. วิครหิ พุทฺโธ ภควาติ พุทฺโธ ภควา วิครหิ นินฺทิ; ยถา ตํ วณฺณาวณฺณารหานํ วณฺณฺจ อวณฺณฺจ ภณนฺเตสุ อคฺคปุคฺคโล. น หิ ภควโต สีลวีติกฺกมกรํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ชาติยา วา โคตฺเตน วา โกลปุตฺติเยน วา คนฺเถน วา ธุตงฺเคน วา าโต ยสสฺสี อีทิสํ ปุคฺคลํ รกฺขิตุํ วฏฺฏตี’’ติ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, นาปิ เปสลํ คุณวนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส คุณํ ปฏิจฺฉาเทตุํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อถ โข ครหิตพฺพํ ครหติ เอว, ปสํสิตพฺพฺจ ปสํสติ เอว, อยฺจ ครหิตพฺโพ; ตสฺมา ตํ ตาทิลกฺขเณ ิโต อวิกมฺปมาเนน จิตฺเตน วิครหิ พุทฺโธ ภควา ‘‘อนนุจฺฉวิก’’นฺติอาทีหิ วจเนหิ.
ตตฺถายํ อตฺถวณฺณนา – ยทิทํ ตยา, โมฆปุริส, ตุจฺฉมนุสฺส กมฺมํ กตํ, ตํ สมณกรณานํ ธมฺมานํ มคฺคผลนิพฺพานสาสนานํ วา น อนุจฺฉวิกํ, เตสํ ฉวึ ฉายํ สุนฺทรภาวํ น อนฺเวติ นานุคจฺฉติ, อถ โข อารกาว เตหิ ธมฺเมหิ. อนนุจฺฉวิกตฺตา เอว จ อนนุโลมิกํ, เตสํ น อนุโลเมติ; อถ โข วิโลมํ ปจฺจนีกภาเว ิตํ. อนนุโลมิกตฺตา เอว จ อปฺปติรูปํ, ปติรูปํ สทิสํ ปฏิภาคํ น โหติ, อถ โข อสทิสํ อปฺปฏิภาคเมว. อปฺปติรูปตฺตา เอว จ อสฺสามณกํ, สมณานํ ¶ กมฺมํ น โหติ. อสฺสามณกตฺตา อกปฺปิยํ. ยฺหิ สมณกมฺมํ น โหติ, ตํ เตสํ น กปฺปติ. อกปฺปิยตฺตา อกรณียํ. น หิ สมณา ยํ น กปฺปติ, ตํ กโรนฺติ. ตฺเจตํ ตยา กตํ, ตสฺมา อนนุจฺฉวิกํ เต, โมฆปุริส, กตํ…เป… อกรณียนฺติ. กถฺหิ นามาติ เกน นาม การเณน, กึ นาม การณํ ปสฺสนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ตโต การณาภาวํ ทสฺเสนฺโต ปรโต ‘‘นนุ มยา โมฆปุริสา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ วุตฺตตฺถเมว.
อิทานิ ¶ ยสฺมา ยํ เตน ปาปกมฺมํ กตํ, ตํ วิปจฺจมานํ อติวิย ทุกฺขวิปากํ โหติ, ตสฺมาสฺส ตํ วิปากํ ทสฺเสตุํ กตาปราธํ วิย ปุตฺตํ อนุกมฺปกา มาตาปิตโร ทยาลุเกน จิตฺเตน สุทินฺนํ ปริภาสนฺโต ‘‘วรํ เต โมฆปุริสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาสุ สีฆํ เอตสฺส วิสํ อาคจฺฉตีติ อาสีวิโส. โฆรํ จณฺฑมสฺส วิสนฺติ โฆรวิโส, ตสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส. ‘‘ปกฺขิตฺต’’นฺติ เอตสฺส ‘‘วร’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ ¶ . อีทิสสฺส อาสีวิสสฺส โฆรวิสสฺส มุเข องฺคชาตํ วรํ ปกฺขิตฺตํ; สเจ ปกฺขิตฺตํ ภเวยฺย, วรํ สิยา; สุนฺทรํ สาธุ สุฏฺุ สิยาติ อตฺโถ. น ตฺเววาติ น ตุ เอว วรํ น สุนฺทรเมว น สาธุเมว น สุฏฺุเมว. เอส นโย สพฺพตฺถ. กณฺหสปฺปสฺสาติ กาฬสปฺปสฺส. องฺคารกาสุยาติ องฺคารปุณฺณกูเป, องฺคารราสิมฺหิ วา. อาทิตฺตายาติ ปทิตฺตาย คหิตอคฺคิวณฺณาย. สมฺปชฺชลิตายาติ สมนฺตโต ปชฺชลิตาย อจฺจิโย มุจฺจนฺติยา. สโชติภูตายาติ สปฺปภาย. สมนฺตโต อุฏฺิตาหิ ชาลาหิ เอกปฺปภาสมุทยภูตายาติ วุตฺตํ โหติ.
ตํ กิสฺส เหตูติ ยํ มยา วุตฺตํ ‘‘วร’’นฺติ ตํ กิสฺส เหตุ, กตเรน การเณนาติ เจ? มรณํ วา นิคจฺเฉยฺยาติ โย ตตฺถ องฺคชาตํ ปกฺขิเปยฺย, โส มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณมตฺตํ วา ทุกฺขํ. อิโตนิทานฺจ โข…เป… อุปปชฺเชยฺยาติ ยํ อิทํ มาตุคามสฺส องฺคชาเต องฺคชาตปกฺขิปนํ, อิโตนิทานํ ตสฺส การโก ปุคฺคโล นิรยํ อุปปชฺเชยฺย; เอวํ กมฺมสฺส มหาสาวชฺชตํ ปสฺสนฺโต ตํ ครหิ, น ตสฺส ทุกฺขาคมํ อิจฺฉมาโน. ตตฺถ นาม ตฺวนฺติ ตสฺมึ นาม เอวรูเป กมฺเม เอวํ ¶ มหาสาวชฺเช สมาเนปิ ตฺวํ. ยํ ตฺวนฺติ เอตฺถ ยนฺติ หีฬนตฺเถ นิปาโต. ตฺวนฺติ ตํ-สทฺทสฺส เววจนํ; ทฺวีหิปิ ยํ วา ตํ วา หีฬิตมวฺาตนฺติ วุตฺตํ โหติ. อสทฺธมฺมนฺติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺมํ; เตหิ เสวิตพฺพนฺติ อตฺโถ. คามธมฺมนฺติ คามานํ ธมฺมํ; คามวาสิกมนุสฺสานํ ธมฺมนฺติ วุตฺตํ โหติ. วสลธมฺมนฺติ ปาปธมฺเม วสนฺติ ปคฺฆรนฺตีติ วสลา, เตสํ วสลานํ หีนปุริสานํ ธมฺมํ, วสลํ วา กิเลสปคฺฆรณกํ ธมฺมํ. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺุ จ กิเลสทูสิตํ ถูลฺจ อสุขุมํ, อนิปุณนฺติ วุตฺตํ โหติ. โอทกนฺติกนฺติ อุทกกิจฺจํ อนฺติกํ อวสานํ อสฺสาติ โอทกนฺติโก, ตํ โอทกนฺติกํ. รหสฺสนฺติ รโหภวํ, ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส อุปฺปชฺชนกํ. อยฺหิ ธมฺโม ชิคุจฺฉนียตฺตา น สกฺกา อาวิ อฺเสํ ทสฺสนวิสเย กาตุํ, เตน วุตฺตํ – ‘‘รหสฺส’’นฺติ. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตินฺติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพํ, ทฺวยํ ทฺวยํ สมาปตฺตินฺติปิ ปาโ. ทยํ ทยํ สมาปตฺตินฺติปิ ปนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สมาปชฺชิสฺสสีติ เอตํ ‘‘ตตฺถ นาม ตฺว’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตนามสทฺเทน โยเชตพฺพํ ‘‘สมาปชฺชิสฺสสิ นามา’’ติ.
พหูนํ ¶ โข…เป… อาทิกตฺตา ปุพฺพงฺคโมติ สาสนํ สนฺธาย วทติ. อิมสฺมึ สาสเน ตฺวํ พหูนํ ปุคฺคลานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ อาทิกตฺตา, สพฺพปมํ ¶ กรณโต; ปุพฺพงฺคโม สพฺพปมํ เอตํ มคฺคํ ปฏิปนฺนตฺตา; ทฺวารํทโท, อุปายทสฺสโกติ วุตฺตํ โหติ. อิมฺหิ เลสํ ลทฺธา ตว อนุสิกฺขมานา พหู ปุคฺคลา นานปฺปการเก มกฺกฏิยา เมถุนปฏิเสวนาทิเก อกุสลธมฺเม กริสฺสนฺตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย.
อเนกปริยาเยนาติ อิเมหิ ‘‘อนนุจฺฉวิก’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ, พหูหิ การเณหิ. ทุพฺภรตาย…เป… โกสชฺชสฺส อวณฺณํ ภาสิตฺวาติ ทุพฺภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส อสํวรสฺส อวณฺณํ นินฺทํ ครหํ ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา หิ อสํวเร ิตสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺตา ทุพฺภรตฺเจว ทุปฺโปสตฺจ อาปชฺชติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘ทุพฺภรตา, ทุปฺโปสตา’’ติ จ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน อสํวเร ¶ ิตสฺส อตฺตา จตูสุ ปจฺจเยสุ มหิจฺฉตํ สิเนรุปฺปมาเณปิ จ ปจฺจเย ลทฺธา อสนฺตุฏฺิตํ อาปชฺชติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘มหิจฺฉตา, อสนฺตุฏฺิตา’’ติ จ วุจฺจติ. ยสฺมา จ อสํวเร ิตสฺส อตฺตา คณสงฺคณิกาย เจว กิเลสสงฺคณิกาย จ สํวตฺตติ, โกสชฺชานุคโต จ โหติ อฏฺกุสีตวตฺถุปาริปูริยา สํวตฺตติ, ตสฺมา อสํวโร ‘‘สงฺคณิกา, เจว โกสชฺชฺจา’’ติ วุจฺจติ.
สุภรตาย…เป… วีริยารมฺภสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวาติ สุภรตาทีนํ วตฺถุภูตสฺส สํวรสฺส วณฺณํ ภาสิตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา หิ อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา สุภโร โหติ สุโปโส, จตูสุ จ ปจฺจเยสุ อปฺปิจฺฉตํ นิตฺตณฺหภาวํ อาปชฺชติ, เอกเมกสฺมิฺจ ปจฺจเย ยถาลาภ-ยถาพล-ยถาสารุปฺปวเสน ติปฺปเภทาย สนฺตุฏฺิยา สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘สุภรตา เจว สุโปสตา จ อปฺปิจฺโฉ จ สนฺตุฏฺโ จา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปน อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา กิเลสสลฺเลขนตาย เจว นิทฺธุนนตาย จ สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘สลฺเลโข จ ธุโต จา’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา จ อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา กายวาจานํ อปฺปาสาทิกํ อปฺปสาทนียํ อสนฺตํ อสารุปฺปํ กายวจีทุจฺจริตํ จิตฺตสฺส อปฺปาสาทิกํ ¶ อปฺปสาทนียํ อสนฺตํ อสารุปฺปํ อกุสลวิตกฺกตฺตยฺจ อนุปคมฺม ตพฺพิปรีตสฺส กายวจีสุจริตสฺส เจว กุสลวิตกฺกตฺตยสฺส จ ปาสาทิกสฺส ปสาทนียสฺส สนฺตสฺส สารุปฺปสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘ปาสาทิโก’’ติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ¶ ปน อสํวรํ ปหาย สํวเร ิตสฺส อตฺตา สพฺพกิเลสาปจยภูตาย, วิวฏฺฏาย, อฏฺวีริยารมฺภวตฺถุปาริปูริยา จ สํวตฺตติ, ตสฺมา สํวโร ‘‘อปจโย เจว วีริยารมฺโภ จา’’ติ วุจฺจตีติ.
ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกนฺติ ตตฺถ สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ ยํ อิทานิ สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสติ, ตสฺส อนุจฺฉวิกฺเจว อนุโลมิกฺจ. โย วา อยํ สุภรตาทีหิ สํวโร วุตฺโต, ตสฺส อนุจฺฉวิกฺเจว อนุโลมิกฺจ สํวรปฺปหานปฏิสํยุตฺตํ ¶ อสุตฺตนฺตวินิพทฺธํ ปาฬิวินิมุตฺตํ โอกฺกนฺติกธมฺมเทสนํ กตฺวาติ อตฺโถ. ภควา กิร อีทิเสสุ าเนสุ ปฺจวณฺณกุสุมมาลํ กโรนฺโต วิย, รตนทามํ สชฺเชนฺโต วิย, จ เย ปฏิกฺขิปนาธิปฺปายา อสํวราภิรตา เต สมฺปรายิเกน วฏฺฏภเยน ตชฺเชนฺโต อเนกปฺปการํ อาทีนวํ ทสฺเสนฺโต, เย สิกฺขากามา สํวเร ิตา เต อปฺเปกจฺเจ อรหตฺเต ปติฏฺเปนฺโต อปฺเปกจฺเจ อนาคามิ-สกทาคามิ-โสตาปตฺติผเลสุ อุปนิสฺสยวิรหิเตปิ สคฺคมคฺเค ปติฏฺเปนฺโต ทีฆนิกายปฺปมาณมฺปิ มชฺฌิมนิกายปฺปมาณมฺปิ ธมฺมเทสนํ กโรติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขูนํ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา’’ติ.
เตน หีติ เตน สุทินฺนสฺส อชฺฌาจาเรน การณภูเตน. สิกฺขาปทนฺติ เอตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา, ปชฺชเต อิมินาติ ปทํ, สิกฺขาย ปทํ สิกฺขาปทํ; สิกฺขาย อธิคมุปาโยติ อตฺโถ. อถ วา มูลํ นิสฺสโย ปติฏฺาติ วุตฺตํ โหติ. เมถุนวิรติยา เมถุนสํวรสฺเสตํ อธิวจนํ. เมถุนสํวโร หิ ตทฺเสํ สิกฺขาสงฺขาตานํ สีลวิปสฺสนาฌานมคฺคธมฺมานํ วุตฺตตฺถวเสน ปทตฺตา อิธ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ อธิปฺเปโต. อยฺจ อตฺโถ สิกฺขาปทวิภงฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิจ ตสฺสตฺถสฺส ทีปกํ วจนมฺปิ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘สิกฺขาปทนฺติ โย ตตฺถ นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ. อถ วา ยถา ‘‘อนภิชฺฌา ธมฺมปท’’นฺติ วุตฺเต อนภิชฺฌา เอโก ธมฺมโกฏฺาโสติ อตฺโถ ¶ โหติ, เอวมิธาปิ ‘‘สิกฺขาปท’’นฺติ สิกฺขาโกฏฺาโส สิกฺขาย เอโก ปเทโสติปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ทสอตฺถวเส ปฏิจฺจาติ ทส การณวเส สิกฺขาปทปฺตฺติเหตุ อธิคมนีเย หิตวิเสเส ปฏิจฺจ อาคมฺม อารพฺภ, ทสนฺนํ หิตวิเสสานํ นิปฺผตฺตึ สมฺปสฺสมาโนติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ เต ทส อตฺถวเส ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺฆสุฏฺุตายา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆสุฏฺุตา นาม สงฺฆสฺส สุฏฺุภาโว, ‘‘สุฏฺุ เทวา’’ติ อาคตฏฺาเน วิย ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ วจนสมฺปฏิจฺฉนภาโว ¶ . โย จ ตถาคตสฺส วจนํ สมฺปฏิจฺฉติ ¶ , ตสฺส ตํ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย โหติ, ตสฺมา สงฺฆสฺส ‘‘สุฏฺุ, ภนฺเต’’ติ มม วจนสมฺปฏิจฺฉนตฺถํ ปฺเปสฺสามิ, อสมฺปฏิจฺฉเน อาทีนวํ สมฺปฏิจฺฉเน จ อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา, น พลกฺกาเรน อภิภวิตฺวาติ เอตมตฺถํ อาวิกโรนฺโต อาห – ‘‘สงฺฆสุฏฺุตายา’’ติ. สงฺฆผาสุตายาติ สงฺฆสฺส ผาสุภาวาย; สหชีวิตาย สุขวิหารตฺถายาติ อตฺโถ.
ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ ทุมฺมงฺกู นาม ทุสฺสีลปุคฺคลา; เย มงฺกุตํ อาปาทิยมานาปิ ทุกฺเขน อาปชฺชนฺติ, วีติกฺกมํ กโรนฺตา วา กตฺวา วา น ลชฺชนฺติ, เตสํ นิคฺคหตฺถาย; เต หิ สิกฺขาปเท อสติ ‘‘กึ ตุมฺเหหิ ทิฏฺํ, กึ สุตํ – กึ อมฺเหหิ กตํ; กตรสฺมึ วตฺถุสฺมึ กตมํ อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา อมฺเห นิคฺคณฺหถา’’ติ สงฺฆํ วิเหเสฺสนฺติ, สิกฺขาปเท ปน สติ เต สงฺโฆ สิกฺขาปทํ ทสฺเสตฺวา ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน นิคฺคเหสฺสติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายา’’ติ.
เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารายาติ เปสลานํ ปิยสีลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุวิหารตฺถาย. ปิยสีลา หิ ภิกฺขู กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทํ อชานนฺตา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา กิลมนฺติ, สนฺทิฏฺมานา อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ. กตฺตพฺพากตฺตพฺพํ ปน สาวชฺชานวชฺชํ เวลํ มริยาทํ ตฺวา สิกฺขตฺตยปาริปูริยา ฆฏมานา น กิลมนฺติ, สนฺทิฏฺมานา น อุพฺพาฬฺหา โหนฺติ. เตน เนสํ สิกฺขาปทปฺาปนา ผาสุวิหาราย สํวตฺตติ. โย วา ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห, สฺเวว เอเตสํ ผาสุวิหาโร. ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย หิ อุโปสโถ น ติฏฺติ ¶ , ปวารณา น ติฏฺติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ, ภิกฺขู อเนกคฺคา อุทฺเทสปริปุจฺฉากมฺมฏฺานาทีนิ อนุยฺุชิตุํ น สกฺโกนฺติ. ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ. ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺติ. เอวํ ‘‘เปสลานํ ภิกฺขูนํ ผาสุ วิหารายา’’ติ เอตฺถ ทฺวิธา อตฺโถ ¶ เวทิตพฺโพ.
ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวรายาติ ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน ตสฺมิฺเว อตฺตภาเว ปตฺตพฺพา ปาณิปฺปหาร-ทณฺฑปฺปหาร-หตฺถจฺเฉท-ปาทจฺเฉท-อกิตฺติ-อยสวิปฺปฏิสาราทโย ทุกฺขวิเสสา. อิติ อิเมสํ ทิฏฺธมฺมิกานํ อาสวานํ สํวราย ปิธานาย อาคมนมคฺคถกนายาติ อตฺโถ.
สมฺปรายิกานํ อาสวานํ ปฏิฆาตายาติ สมฺปรายิกา อาสวา นาม อสํวเร ิเตน กตปาปกมฺมมูลกา สมฺปราเย นรกาทีสุ ปตฺตพฺพา ทุกฺขวิเสสา, เตสํ ปฏิฆาตตฺถาย ¶ ปฏิปฺปสฺสมฺภนตฺถาย วูปสมตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ.
อปฺปสนฺนานํ ปสาทายาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ สติ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา วา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู ทิสฺวา วา เยปิ อปฺปสนฺนา ปณฺฑิตมนุสฺสา, เต ‘‘ยานิ วต โลเก มหาชนสฺส รชฺชน-ทุสฺสน-มุยฺหนฏฺานานิ, เตหิ อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อารกา วิรตา วิหรนฺติ, ทุกฺกรํ วต กโรนฺติ, ภาริยํ วต กโรนฺตี’’ติ ปสาทํ อาปชฺชนฺติ, วินยปิฏเก โปตฺถกํ ทิสฺวา มิจฺฉาทิฏฺิก-ติเวที พฺราหฺมโณ วิย. เตน วุตฺตํ – ‘‘อปฺปสนฺนานํ ปสาทายา’’ติ.
ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายาติ เยปิ สาสเน ปสนฺนา กุลปุตฺตา เตปิ สิกฺขาปทปฺตฺตึ ตฺวา ยถาปฺตฺตํ ปฏิปชฺชมาเน ภิกฺขู วา ทิสฺวา ‘‘อโห อยฺยา ทุกฺกรการิโน, เย ยาวชีวํ เอกภตฺตํ พฺรหฺมจริยํ วินยสํวรํ อนุปาเลนฺตี’’ติ ภิยฺโย ภิยฺโย ปสีทนฺติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปสนฺนานํ ภิยฺโยภาวายา’’ติ.
สทฺธมฺมฏฺิติยาติ ติวิโธ สทฺธมฺโม – ปริยตฺติสทฺธมฺโม, ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม, อธิคมสทฺธมฺโมติ. ตตฺถ ปิฏกตฺตยสงฺคหิตํ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ ‘‘ปริยตฺติสทฺธมฺโม’’ นาม. เตรส ธุตคุณา, จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ, ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานิ, สีลสมาธิวิปสฺสนาติ ¶ อยํ ‘‘ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม’’ นาม. จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจาติ อยํ ‘‘อธิคมสทฺธมฺโม’’ นาม. โส สพฺโพปิ ยสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา สติ ภิกฺขู สิกฺขาปทฺจ ตสฺส วิภงฺคฺจ ตทตฺถโชตนตฺถํ อฺฺจ พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺติ, ยถาปฺตฺตฺจ ปฏิปชฺชมานา ปฏิปตฺตึ ปูเรตฺวา ปฏิปตฺติยา อธิคนฺตพฺพํ ¶ โลกุตฺตรธมฺมํ อธิคจฺฉนฺติ, ตสฺมา สิกฺขาปทปฺตฺติยา จิรฏฺิติโก โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สทฺธมฺมฏฺิติยา’’ติ.
วินยานุคฺคหายาติ สิกฺขาปทปฺตฺติยา หิ สติ สํวรวินโย จ ปหานวินโย จ สมถวินโย จ ปฺตฺติวินโย จาติ จตุพฺพิโธปิ วินโย อนุคฺคหิโต โหติ อุปตฺถมฺภิโต สูปตฺถมฺภิโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘วินยานุคฺคหายา’’ติ.
สพฺพาเนว เจตานิ ปทานิ ‘‘สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ อิมินา วจเนน สทฺธึ โยเชตพฺพานิ ¶ . ตตฺรายํ ปมปจฺฉิมปทโยชนา – ‘‘สงฺฆสุฏฺุตาย สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามิ, วินยานุคฺคหาย สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ.
อปิ เจตฺถ ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆผาสุ ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ เอวํ สงฺขลิกนยํ; ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ สงฺฆผาสุ, ยํ สงฺฆสุฏฺุ ตํ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหายาติ เอวฺจ เอเกกปทมูลิกํ ทสกฺขตฺตุํ โยชนํ กตฺวา ยํ วุตฺตํ ปริวาเร (ปริ. ๓๓๔) –
‘‘อตฺถสตํ ธมฺมสตํ, ทฺเว จ นิรุตฺติสตานิ;
จตฺตาริ าณสตานิ, อตฺถวเส ปกรเณ’’ติ.
ตํ สพฺพํ เวทิตพฺพํ. ตํ ปเนตํ ยสฺมา ปริวาเรเยว อาวิ ภวิสฺสติ, ตสฺมา อิธ น วณฺณิตนฺติ.
เอวํ สิกฺขาปทปฺตฺติยา อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ตสฺมึ สิกฺขาปเท ภิกฺขูหิ กตฺตพฺพกิจฺจํ ทีเปนฺโต ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ อาห. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมํ ปน มยา อิติ สนฺทสฺสิตานิสํสํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อุทฺทิเสยฺยาถ จ ปริยาปุเณยฺยาถ จ ธาเรยฺยาถ จ อฺเสฺจ วาเจยฺยาถาติ. อติเรกานยนตฺโถ ¶ หิ เอตฺถ จ สทฺโท, เตนายมตฺโถ อานีโต โหตีติ.
อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘อิมํ สิกฺขาปท’’นฺติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺย, ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ อาห. เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ปมปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย มกฺกฏีวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ – เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตีติ. ตสฺสตฺโถ – ภควตา ภิกฺขูนํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปฺตฺตํ โหติ จ, อิทฺจ อฺํ วตฺถุ อุทปาทีติ.
ปมปฺตฺติกถา นิฏฺิตา.
สุทินฺนภาณวารํ นิฏฺิตํ.
มกฺกฏีวตฺถุกถา
๔๐. อิทานิ ¶ ¶ ยํ ตํ อฺํ วตฺถุ อุปฺปนฺนํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – มกฺกฏึ อามิเสนาติ มหาวเน ภิกฺขูนํ ขนฺติเมตฺตาทิคุณานุภาเวน นิราสงฺกจิตฺตา พหู มิคโมรกุกฺกุฏมกฺกฏาทโย ติรจฺฉานา ปธานาคารฏฺาเนสุ วิจรนฺติ. ตตฺร เอกํ มกฺกฏึ อามิเสน ยาคุภตฺตขชฺชกาทินา อุปลาเปตฺวา, สงฺคณฺหิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺสาติ ภุมฺมวจนํ. ปฏิเสวตีติ ปจุรปฏิเสวโน โหติ; ปจุรตฺเถ หิ วตฺตมานวจนํ. โส ภิกฺขูติ โส เมถุนธมฺมปฏิเสวนโก ภิกฺขุ. เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺตาติ เต ภิกฺขู อาคนฺตุกา พุทฺธทสฺสนาย อาคตา ปาโตว อาคนฺตุกภตฺตานิ ลภิตฺวา กตภตฺตกิจฺจา ภิกฺขูนํ นิวาสนฏฺานานิ ปสฺสิสฺสามาติ วิจรึสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา’’ติ. เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมีติ ติรจฺฉานคตา นาม เอกภิกฺขุนา สทฺธึ วิสฺสาสํ กตฺวา อฺเสุปิ ตาทิสฺเว จิตฺตํ อุปฺปาเทนฺติ. ตสฺมา สา มกฺกฏี เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา จ อตฺตโน วิสฺสาสิกภิกฺขุสฺเสว เตสมฺปิ ตํ วิการํ ทสฺเสสิ.
เฉปฺปนฺติ นงฺคุฏฺํ. โอฑฺฑีติ อภิมุขํ เปสิ. นิมิตฺตมฺปิ อกาสีติ เยน นิยาเมน ยาย กิริยาย เมถุนาธิปฺปายํ เต ชานนฺติ ตํ อกาสีติ อตฺโถ ¶ . โส ภิกฺขูติ ยสฺสายํ วิหาโร. เอกมนฺตํ นิลียึสูติ เอกสฺมึ โอกาเส ปฏิจฺฉนฺนา อจฺฉึสุ.
๔๑. สจฺจํ, อาวุโสติ สโหฑฺฒคฺคหิโต โจโร วิย ปจฺจกฺขํ ทิสฺวา โจทิตตฺตา ‘‘กึ วา มยา กต’’นฺติอาทีนิ วตฺตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘สจฺจํ, อาวุโส’’ติ อาห. นนุ, อาวุโส, ตเถว ตํ โหตีติ อาวุโส ยถา มนุสฺสิตฺถิยา, นนุ ติรจฺฉานคติตฺถิยาปิ ตํ สิกฺขาปทํ ตเถว โหติ. มนุสฺสิตฺถิยาปิ หิ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลเมว. ติรจฺฉานคติตฺถิยาปิ ตํ สพฺพํ ทุฏฺุลฺลเมว. โก เอตฺถ วิเสโส? อเลสฏฺาเน ตฺวํ เลสํ โอฑฺเฑสีติ.
๔๒. อนฺตมโส ติรจฺฉานคตายปิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโสติ ติรจฺฉานคตายปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิโก เยว โหตีติ ทฬฺหตรํ สิกฺขาปทมกาสิ. ทุวิธฺหิ ¶ สิกฺขาปทํ – โลกวชฺชํ, ปณฺณตฺติวชฺชฺจ. ตตฺถ ยสฺส สจิตฺตกปกฺเข จิตฺตํ อกุสลเมว โหติ, ตํ โลกวชฺชํ นาม. เสสํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตตฺถ โลกวชฺเช อนุปฺตฺติ อุปฺปชฺชมานา รุนฺธนฺตี ทฺวารํ ปิทหนฺตี โสตํ ปจฺฉินฺทมานา คาฬฺหตรํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชติ, อฺตฺร อธิมานา, อฺตฺร สุปินนฺตาติ อยํ ปน วีติกฺกมาภาวา อพฺโพหาริกตฺตา จ วุตฺตา. ปณฺณตฺติวชฺเช อกเต วีติกฺกเม อุปฺปชฺชมานา สิถิลํ กโรนฺตี โมเจนฺตี ทฺวารํ ททมานา อปราปรมฺปิ อนาปตฺตึ กุรุมานา อุปฺปชฺชติ, คณโภชนปรมฺปรโภชนาทีสุ อนุปฺตฺติโย วิย. ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติ เอวรูปา ปน กเต วีติกฺกเม อุปฺปนฺนตฺตา ปฺตฺติคติกาว โหติ. อิทํ ปน ปมสิกฺขาปทํ ยสฺมา โลกวชฺชํ, น ปณฺณตฺติวชฺชํ; ตสฺมา อยมนุปฺตฺติ รุนฺธนฺตี ¶ ทฺวารํ ปิทหนฺตี โสตํ ปจฺฉินฺทมานา คาฬฺหตรํ กโรนฺตี อุปฺปชฺชิ.
เอวํ ทฺเวปิ วตฺถูนิ สมฺปิณฺเฑตฺวา มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหตรํ กตฺวา ปมปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย วชฺชิปุตฺตกวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทสฺสนตฺถเมตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ ¶ . ตสฺสตฺโถ – ภควตา ภิกฺขูนํ อิทํ สิกฺขาปทํ เอวํ ปฺตฺตํ โหติ จ อิทฺจ อฺมฺปิ วตฺถุ อุทปาทีติ.
มกฺกฏีวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
สนฺถตภาณวาโร
วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา
๔๓-๔๔. อิทานิ ยํ ตํ อฺมฺปิ วตฺถุ อุปฺปนฺนํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺราปิ อยมนุตฺตานปทวณฺณนา – เวสาลิกาติ เวสาลิวาสิโน. วชฺชิปุตฺตกาติ วชฺชิรฏฺเ เวสาลิยํ กุลานํ ปุตฺตา. สาสเน กิร โย โย อุปทฺทโว อาทีนโว อพฺพุทมุปฺปชฺชิ, สพฺพํ ตํ วชฺชิปุตฺตเก นิสฺสาย. ตถา หิ เทวทตฺโตปิ วชฺชิปุตฺตเก ปกฺเข ลภิตฺวา สงฺฆํ ภินฺทิ. วชฺชิปุตฺตกา เอว จ วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควติ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปสุํ. อิเมปิ เตสํ เยว เอกจฺเจ เอวํ ปฺตฺเตปิ สิกฺขาปเท ¶ ยาวทตฺถํ ภฺุชึสุ…เป… เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวึสูติ.
าติพฺยสเนนปีติ เอตฺถ อสนํ พฺยสนํ วิกฺเขโป วิทฺธํสนํ วินาโสติ สพฺพเมตํ เอกตฺถํ. าตีนํ พฺยสนํ าติพฺยสนํ, เตน าติพฺยสเนน, ราชทณฺฑพฺยาธิมรณวิปฺปวาสนิมิตฺเตน ¶ าติวินาเสนาติ อตฺโถ. เอส นโย ทุติยปเทปิ. ตติยปเท ปน อาโรคฺยวินาสโก โรโค เอว โรคพฺยสนํ. โส หิ อาโรคฺยํ พฺยสติ วิกฺขิปติ วินาเสตีติ พฺยสนํ. โรโคว พฺยสนํ โรคพฺยสนํ, เตน โรคพฺยสเนน. ผุฏฺาติ อธิปนฺนา อภิภูตา สมนฺนาคตาติ อตฺโถ.
น มยํ, ภนฺเต อานนฺท, พุทฺธครหิโนติ ภนฺเต อานนฺท, มยํ น พุทฺธํ ครหาม, น พุทฺธสฺส โทสํ เทม. น ธมฺมครหิโน, น สงฺฆครหิโน. อตฺตครหิโน มยนฺติ อตฺตานเมว มยํ ครหาม, อตฺตโน โทสํ เทม. อลกฺขิกาติ นิสฺสิริกา. อปฺปปฺุาติ ปริตฺตปฺุา. วิปสฺสกา กุสลานํ ธมฺมานนฺติ เย อฏฺตึสารมฺมเณสุ วิภตฺตา กุสลา ธมฺมา, เตสํ วิปสฺสกา; ตโต ตโต อารมฺมณโต วุฏฺาย เตว ธมฺเม วิปสฺสมานาติ ¶ อตฺโถ. ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตนฺติ รตฺติยา ปุพฺพํ ปุพฺพรตฺตํ, รตฺติยา อปรํ อปรรตฺตํ, ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจาติ วุตฺตํ โหติ. โพธิปกฺขิกานนฺติ โพธิสฺส ปกฺเข ภวานํ, อรหตฺตมคฺคาณสฺส อุปการกานนฺติ อตฺโถ. ภาวนานุโยคนฺติ วฑฺฒนานุโยคํ. อนุยุตฺตา วิหเรยฺยามาติ คิหิปลิโพธํ อาวาสปลิโพธฺจ ปหาย วิวิตฺเตสุ เสนาสเนสุ ยุตฺตปยุตฺตา อนฺกิจฺจา วิหเรยฺยาม.
เอวมาวุโสติ เถโร เอเตสํ อาสยํ อชานนฺโต อิทํ เนสํ มหาคชฺชิตํ สุตฺวา ‘‘สเจ อิเม อีทิสา ภวิสฺสนฺติ, สาธู’’ติ มฺมาโน ‘‘เอวมาวุโส’’ติ สมฺปฏิจฺฉิ. อฏฺานเมตํ อนวกาโสติ อุภยมฺเปตํ การณปฏิกฺเขปวจนํ. การณฺหิ ยสฺมา ตตฺถ ตทายตฺตวุตฺติภาเวน ผลํ ติฏฺติ. ยสฺมา จสฺส ตํ โอกาโส โหติ ตทายตฺตวุตฺติภาเวน, ตสฺมา ‘‘านฺจ อวกาโส จา’’ติ วุจฺจติ, ตํ ปฏิกฺขิปนฺโต อาห – ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท ¶ , อนวกาโส’’ติ. เอตํ านํ วา โอกาโส วา นตฺถิ. ยํ ตถาคโตติ เยน ตถาคโต วชฺชีนํ วา…เป… สมูหเนยฺย, ตํ การณํ นตฺถีติ อตฺโถ. ยทิ หิ ภควา เอเตสํ ‘‘ลเภยฺยาม อุปสมฺปท’’นฺติ ยาจนฺตานํ อุปสมฺปทํ ทเทยฺย, เอวํ สนฺเต ‘‘ปาราชิโก โหติ อสํวาโส’’ติ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺย. ยสฺมา ปเนตํ น สมูหนติ, ตสฺมา ‘‘อฏฺานเมต’’นฺติอาทิมาห.
โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพติ ‘‘ยทิ หิ เอวํ อาคโต อุปสมฺปทํ ลเภยฺย, สาสเน อคารโว ภเวยฺย. สามเณรภูมิยํ ปน ิโต สคารโว จ ภวิสฺสติ, อตฺตตฺถฺจ กริสฺสตี’’ติ ตฺวา อนุกมฺปมาโน ภควา อาห – ‘‘โส อาคโต น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ. โส อาคโต อุปสมฺปาเทตพฺโพติ เอวํ อาคโต ภิกฺขุภาเว ตฺวา อวิปนฺนสีลตาย สาสเน สคารโว ¶ ภวิสฺสติ, โส สติ อุปนิสฺสเย นจิรสฺเสว อุตฺตมตฺถํ ปาปุณิสฺสตีติ ตฺวา อุปสมฺปาเทตพฺโพติ อาห.
เอวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อาคเตสุ อนุปสมฺปาเทตพฺพฺจ อุปสมฺปาเทตพฺพฺจ ทสฺเสตฺวา ตีณิปิ วตฺถูนิ สโมธาเนตฺวา ปริปุณฺณํ กตฺวา สิกฺขาปทํ ปฺเปตุกาโม ‘‘เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ วตฺวา ‘‘โย ปน ภิกฺขุ…เป… อสํวาโส’’ติ ปริปุณฺณํ สิกฺขาปทํ ปฺเปสิ.
วชฺชิปุตฺตกวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุพฺพิธวินยกถา
๔๕. อิทานิสฺส ¶ อตฺถํ วิภชนฺโต ‘‘โย ปนาติ, โย ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตสฺมึ ปน สิกฺขาปเท จ สิกฺขาปทวิภงฺเค จ สกเล จ วินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ –
จตุพฺพิธฺหิ วินยํ, มหาเถรา มหิทฺธิกา;
นีหริตฺวา ปกาเสสุํ, ธมฺมสงฺคาหกา ปุรา.
กตมํ จตุพฺพิธํ? สุตฺตํ, สุตฺตานุโลมํ, อาจริยวาทํ, อตฺตโนมตินฺติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘อาหจฺจปเทน รเสน อาจริยวํเสน อธิปฺปายา’’ติ, เอตฺถ หิ อาหจฺจปทนฺติ สุตฺตํ อธิปฺเปตํ, รโสติ สุตฺตานุโลมํ, อาจริยวํโสติ อาจริยวาโท, อธิปฺปาโยติ อตฺตโนมติ.
ตตฺถ สุตฺตํนาม สกเล วินยปิฏเก ปาฬิ.
สุตฺตานุโลมํ นาม จตฺตาโร มหาปเทสา; เย ภควตา เอวํ วุตฺตา – ‘‘ยํ, ภิกฺขเว ¶ , มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ; กปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ น กปฺปตี’ติ อปฺปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ; อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ, ตํ โว กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว ¶ , มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตํ เจ อกปฺปิยํ อนุโลเมติ, กปฺปิยํ ปฏิพาหติ; ตํ โว น กปฺปติ. ยํ, ภิกฺขเว, มยา ‘อิทํ กปฺปตี’ติ อนนฺุาตํ, ตํ เจ กปฺปิยํ อนุโลเมติ, อกปฺปิยํ ปฏิพาหติ; ตํ โว กปฺปตี’’ติ (มหาว. ๓๐๕).
อาจริยวาโท นาม ธมฺมสงฺคาหเกหิ ปฺจหิ อรหนฺตสเตหิ ปิตา ปาฬิวินิมุตฺตา โอกฺกนฺตวินิจฺฉยปฺปวตฺตา อฏฺกถาตนฺติ.
อตฺตโนมติ นาม สุตฺต-สุตฺตานุโลม-อาจริยวาเท มฺุจิตฺวา อนุมาเนน อตฺตโน อนุพุทฺธิยา นยคฺคาเหน อุปฏฺิตาการกถนํ.
อปิจ สุตฺตนฺตาภิธมฺมวินยฏฺกถาสุ อาคโต สพฺโพปิ เถรวาโท ‘‘อตฺตโนมติ’’ นาม. ตํ ปน อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถนฺเตน น ทฬฺหคฺคาหํ ¶ คเหตฺวา โวหริตพฺพํ. การณํ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺเถน ปาฬึ, ปาฬิยา จ อตฺถํ สํสนฺทิตฺวา กเถตพฺพํ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ ตตฺถ โอตรติ เจว สเมติ จ, คเหตพฺพา. สเจ เนว โอตรติ น สเมติ, น คเหตพฺพา. อยฺหิ อตฺตโนมติ นาม สพฺพทุพฺพลา. อตฺตโนมติโต อาจริยวาโท พลวตโร.
อาจริยวาโทปิ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. ตตฺถ โอตรนฺโต สเมนฺโตเยว คเหตพฺโพ, อิตโร น คเหตพฺโพ. อาจริยวาทโต หิ สุตฺตานุโลมํ พลวตรํ.
สุตฺตานุโลมมฺปิ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. ตตฺถ โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมโต หิ สุตฺตเมว พลวตรํ. สุตฺตฺหิ อปฺปฏิวตฺติยํ การกสงฺฆสทิสํ พุทฺธานํ ิตกาลสทิสํ. ตสฺมา ยทา ทฺเว ภิกฺขู สากจฺฉนฺติ, สกวาที สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปรวาที สุตฺตานุโลมํ. เตหิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา สุตฺตานุโลมํ สุตฺเต โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, น คเหตพฺพํ; สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ. อถายํ สุตฺตํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา อกตฺวา อาจริยวาโท สุตฺเต โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. อโนตรนฺโต อสเมนฺโต จ คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ; สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพํ.
อถายํ สุตฺตํ ¶ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. เตหิปิ อฺมฺํ เขปํ วา ครหํ วา ¶ อกตฺวา อตฺตโนมติ สุตฺเต โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. สุตฺตสฺมึ เยว าตพฺพํ.
อถ ปนายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, ติสฺโส สงฺคีติโย อารูฬฺหํ ปาฬิอาคตํ ปฺายติ, คเหตพฺพํ. โน เจ ตถา ปฺายติ น โอตรติ น สเมติ, พาหิรกสุตฺตํ วา โหติ สิโลโก วา อฺํ วา คารยฺหสุตฺตํ คุฬฺหเวสฺสนฺตรคุฬฺหวินยเวทลฺลาทีนํ อฺตรโต อาคตํ, น คเหตพฺพํ. สุตฺตานุโลมสฺมึเยว าตพฺพํ.
อถายํ ¶ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ. โน เจ, น คเหตพฺโพ. สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.
อถายํ สุตฺตานุโลมํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ สุตฺตานุโลเม โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. สุตฺตานุโลเมเยว าตพฺพํ.
อถ ปนายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.
อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.
อถายํ อาจริยวาทํ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อตฺตโนมตึ. อตฺตโนมติ อาจริยวาเท โอตาเรตพฺพา. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพา. โน เจ, น คเหตพฺพา. อาจริยวาเทเยว าตพฺพํ.
อถ ปนายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตํ. สุตฺตํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺพํ. อิตรํ คารยฺหสุตฺตํ น คเหตพฺพํ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ.
อถายํ ¶ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร สุตฺตานุโลมํ. สุตฺตานุโลมํ อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺพํ. โอตรนฺตํ สเมนฺตเมว คเหตพฺพํ, อิตรํ น คเหตพฺพํ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ.
อถายํ อตฺตโนมตึ คเหตฺวา กเถติ, ปโร อาจริยวาทํ. อาจริยวาโท อตฺตโนมติยํ โอตาเรตพฺโพ. สเจ โอตรติ สเมติ, คเหตพฺโพ; อิตโร คารยฺหาจริยวาโท น คเหตพฺโพ. อตฺตโนมติยเมว าตพฺพํ. อตฺตโน คหณเมว ¶ พลิยํ กาตพฺพํ. สพฺพฏฺาเนสุ จ เขโป วา ครหา วา น กาตพฺพาติ.
อถ ¶ ปนายํ ‘‘กปฺปิย’’นฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ.
อถายํ ตสฺส กปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ. กปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ปโร ตสฺส อกปฺปิยภาวสาธกํ สุตฺตโต พหุํ การณฺจ วินิจฺฉยฺจ ทสฺเสติ, อเนน อตฺตโน คหณนฺติ กตฺวา ทฬฺหํ อาทาย น าตพฺพํ. ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อกปฺปิเยว าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, ปฏิกฺขิตฺตภาโวเยว สาธุ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. วินยฺหิ ปตฺวา กปฺปิยากปฺปิยวิจารณมาคมฺม รุนฺธิตพฺพํ, คาฬฺหํ กตฺตพฺพํ, โสตํ ปจฺฉินฺทิตพฺพํ, ครุกภาเวเยว าตพฺพํ.
อถ ปนายํ ‘‘อกปฺปิย’’นฺติ คเหตฺวา กเถติ, ปโร ‘‘กปฺปิย’’นฺติ. สุตฺเต จ สุตฺตานุโลเม จ โอตาเรตพฺพํ. สเจ กปฺปิยํ โหติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. สเจ อกปฺปิยํ, อกปฺปิเย าตพฺพํ.
อถายํ พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ อกปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, ปโร การณํ น วินฺทติ, อกปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ปโร พหูหิ สุตฺตวินิจฺฉยการเณหิ กปฺปิยภาวํ ทสฺเสติ, อยํ การณํ น วินฺทติ, กปฺปิเย าตพฺพํ. อถ ทฺวินฺนมฺปิ การณจฺฉายา ทิสฺสติ, อตฺตโน คหณํ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ. ยถา จายํ กปฺปิยากปฺปิเย อกปฺปิยกปฺปิเย จ วินิจฺฉโย วุตฺโต; เอวํ อนาปตฺติอาปตฺติวาเท อาปตฺตานาปตฺติวาเท จ, ลหุกครุกาปตฺติวาเท ครุกลหุกาปตฺติวาเท จาปิ ¶ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. นามมตฺตํเยว หิ เอตฺถ นานํ, โยชนานเย นานํ นตฺถิ, ตสฺมา น วิตฺถาริตํ.
เอวํ กปฺปิยากปฺปิยาทิวินิจฺฉเย อุปฺปนฺเน โย สุตฺต-สุตฺตานุโลมอาจริยวาทอตฺตโนมตีสุ อติเรกการณํ ลภติ, ตสฺส วาเท าตพฺพํ. สพฺพโส ปน การณํ วินิจฺฉยํ อลภนฺเตน สุตฺตํ น ชหิตพฺพํ, สุตฺตสฺมึเยว าตพฺพนฺติ. เอวํ ตสฺมึ สิกฺขาปเท จ สิกฺขาปทวิภงฺเค จ สกเล จ วินยวินิจฺฉเย โกสลฺลํ ปตฺถยนฺเตน อยํ จตุพฺพิโธ วินโย ชานิตพฺโพ.
อิมฺจ ¶ ¶ ปน จตุพฺพิธํ วินยํ ตฺวาปิ วินยธเรน ปุคฺคเลน ติลกฺขณสมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตีณิ หิ วินยธรสฺส ลกฺขณานิ อิจฺฉิตพฺพานิ. กตมานิ ตีณิ? ‘‘สุตฺตฺจสฺส สฺวาคตํ โหติ สุปฺปวตฺติ สุวินิจฺฉิตํ สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโต’’ติ อิทเมกํ ลกฺขณํ. ‘‘วินเย โข ปน ิโต โหติ อสํหีโร’’ติ อิทํ ทุติยํ. ‘‘อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหติ สุมนสิกตา สูปธาริตา’’ติ อิทํ ตติยํ.
ตตฺถ สุตฺตํ นาม สกลํ วินยปิฏกํ. ตฺจสฺส สฺวาคตํ โหตีติ สุฏฺุ อาคตํ. สุปฺปวตฺตีติ สุฏฺุ ปวตฺตํ ปคุณํ วาจุคฺคตํ สุวินิจฺฉิตํ. สุตฺตโต อนุพฺยฺชนโตติ ปาฬิโต จ ปริปุจฺฉโต จ อฏฺกถาโต จ สุวินิจฺฉิตํ โหติ, กงฺขจฺเฉทํ กตฺวา อุคฺคหิตํ.
วินเย โข ปน ิโต โหตีติ วินเย ลชฺชีภาเวน ปติฏฺิโต โหติ. อลชฺชี หิ พหุสฺสุโตปิ สมาโน ลาภครุตาย ตนฺตึ วิสํวาเทตฺวา อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ ทีเปตฺวา สาสเน มหนฺตํ อุปทฺทวํ กโรติ. สงฺฆเภทมฺปิ สงฺฆราชิมฺปิ อุปฺปาเทติ. ลชฺชี ปน กุกฺกุจฺจโก สิกฺขากาโม ชีวิตเหตุปิ ตนฺตึ อวิสํวาเทตฺวา ธมฺมเมว วินยเมว จ ทีเปติ, สตฺถุสาสนํ ครุํ กตฺวา เปติ. ตถา หิ ปุพฺเพ มหาเถรา ติกฺขตฺตุํ วาจํ นิจฺฉาเรสุํ – ‘‘อนาคเต ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสติ, ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ. เอวํ โย ลชฺชี, โส วินยํ อวิชหนฺโต อโวกฺกมนฺโต ลชฺชีภาเวน วินเย ิโต โหติ สุปฺปติฏฺิโตติ. อสํหีโรติ สํหีโร นาม โย ปาฬิยํ วา อฏฺกถายํ วา เหฏฺโต วา อุปริโต วา ปทปฏิปาฏิยา วา ปุจฺฉิยมาโน วิตฺถุนติ วิปฺผนฺทติ สนฺติฏฺิตุํ น สกฺโกติ; ยํ ยํ ปเรน วุจฺจติ ตํ ตํ อนุชานาติ; สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา ปรวาทํ คณฺหาติ. โย ปน ปาฬิยํ วา อฏฺกถาย วา เหฏฺุปริเยน วา ปทปฏิปาฏิยา ¶ วา ปุจฺฉิยมาโน น วิตฺถุนติ น วิปฺผนฺทติ, เอเกกโลมํ สณฺฑาเสน คณฺหนฺโต วิย ‘‘เอวํ มยํ วทาม; เอวํ โน อาจริยา วทนฺตี’’ติ ¶ วิสฺสชฺเชติ; ยมฺหิ ปาฬิ จ ปาฬิวินิจฺฉโย จ สุวณฺณภาชเน ปกฺขิตฺตสีหวสา วิย ปริกฺขยํ ปริยาทานํ อคจฺฉนฺโต ติฏฺติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสํหีโร’’ติ.
อาจริยปรมฺปรา โข ปนสฺส สุคฺคหิตา โหตีติ เถรปรมฺปรา วํสปรมฺปรา จสฺส สุฏฺุ คหิตา โหติ. สุมนสิกตาติ สุฏฺุ มนสิกตา; อาวชฺชิตมตฺเต อุชฺชลิตปทีโป วิย โหติ. สูปธาริตาติ สุฏฺุ ¶ อุปธาริตา ปุพฺพาปรานุสนฺธิโต อตฺถโต การณโต จ อุปธาริตา; อตฺตโน มตึ ปหาย อาจริยสุทฺธิยา วตฺตา โหติ ‘‘มยฺหํ อาจริโย อสุกาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, โส อสุกสฺสา’’ติ เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา ยาว อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหีติ ปาเปตฺวา เปติ. ตโตปิ อาหริตฺวา อุปาลิตฺเถโร สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิ, ทาสกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส อุปาลิตฺเถรสฺส, โสณกตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส ทาสกตฺเถรสฺส, สิคฺควตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส โสณกตฺเถรสฺส, โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร อตฺตโน อุปชฺฌายสฺส สิคฺควตฺเถรสฺส จณฺฑวชฺชิตฺเถรสฺส จาติ. เอวํ สพฺพํ อาจริยปรมฺปรํ เถรวาทงฺคํ อาหริตฺวา อตฺตโน อาจริยํ ปาเปตฺวา เปติ. เอวํ อุคฺคหิตา หิ อาจริยปรมฺปรา สุคฺคหิตา โหติ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ปน อวสฺสํ ทฺเว ตโย ปริวฏฺฏา อุคฺคเหตพฺพา. สพฺพปจฺฉิเมน หิ นเยน ยถา อาจริโย จ อาจริยาจริโย จ ปาฬิฺจ ปริปุจฺฉฺจ วทนฺติ, ตถา าตุํ วฏฺฏติ.
อิเมหิ จ ปน ตีหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคเตน วินยธเรน วตฺถุวินิจฺฉยตฺถํ สนฺนิปติเต สงฺเฆ โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจทเกน จ จุทิตเกน จ วุตฺเต วตฺตพฺเพ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ฉ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. กตมานิ ฉ? วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ, มาติกา โอโลเกตพฺพา, ปทภาชนียํ โอโลเกตพฺพํ, ติกปริจฺเฉโท โอโลเกตพฺโพ, อนฺตราปตฺติ โอโลเกตพฺพา, อนาปตฺติ โอโลเกตพฺพาติ.
วตฺถุํ โอโลเกนฺโตปิ ¶ หิ ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพํ, น ตฺเวว นคฺเคน อาคนฺตพฺพํ; โย อาคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๕๑๗) เอวํ เอกจฺจํ อาปตฺตึ ปสฺสติ. โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
มาติกํ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติอาทินา (ปาจิ. ๒) นเยน ¶ ปฺจนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
ปทภาชนียํ ¶ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อกฺขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. เยภุยฺเยน ขยิเต สรีเร เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติอาทินา (ปารา. ๕๙ อาทโย, อตฺถโต สมานํ) นเยน สตฺตนฺนํ อาปตฺตีนํ อฺตรํ อาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ปทภาชนียโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
ติกปริจฺเฉทํ โอโลเกนฺโตปิ ติกสงฺฆาทิเสสํ วา ติกปาจิตฺติยํ วา ติกทุกฺกฏํ วา อฺตรํ วา อาปตฺตึ ติกปริจฺเฉเท ปสฺสติ, โส ตโต สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
อนฺตราปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘ปฏิลาตํ อุกฺขิปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๕) เอวํ ยา สิกฺขาปทนฺตเรสุ อนฺตราปตฺติ โหติ ตํ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
อนาปตฺตึ โอโลเกนฺโตปิ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสาทิยนฺตสฺส, อเถยฺยจิตฺตสฺส, น มรณาธิปฺปายสฺส, อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส, น โมจนาธิปฺปายสฺส, อสฺจิจฺจ, อสฺสติยา, อชานนฺตสฺสา’’ติ (ปารา. ๗๒ อาทโย) เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ สิกฺขาปเท นิทฺทิฏฺํ อนาปตฺตึ ปสฺสติ, โส ตํ สุตฺตํ อาเนตฺวา ตํ อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ.
โย หิ ภิกฺขุ จตุพฺพิธวินยโกวิโท ติลกฺขณสมฺปนฺโน อิมานิ ฉ านานิ โอโลเกตฺวา อธิกรณํ วูปสเมสฺสติ, ตสฺส วินิจฺฉโย อปฺปฏิวตฺติโย, พุทฺเธน สยํ นิสีทิตฺวา วินิจฺฉิตสทิโส โหติ. ตํ เจวํ วินิจฺฉยกุสลํ ภิกฺขุํ โกจิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกโม ภิกฺขุ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺเฉยฺย; เตน สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา สเจ อนาปตฺติ โหติ, ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ ปน อาปตฺติ โหติ, ‘‘อาปตฺตี’’ติ วตฺตพฺพํ. สา เทสนาคามินี เจ, ‘‘เทสนาคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. วุฏฺานคามินี เจ, ‘‘วุฏฺานคามินี’’ติ วตฺตพฺพํ. อถสฺส ปาราชิกจฺฉายา ¶ ทิสฺสติ, ‘‘ปาราชิกาปตฺตี’’ติ น ตาว วตฺตพฺพํ. กสฺมา? เมถุนธมฺมวีติกฺกโม หิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวีติกฺกโม จ โอฬาริโก. อทินฺนาทานมนุสฺสวิคฺคหวีติกฺกมา ปน สุขุมา จิตฺตลหุกา. เต สุขุเมเนว อาปชฺชติ ¶ , สุขุเมน รกฺขติ, ตสฺมา วิเสเสน ตํวตฺถุกํ กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิยมาโน ‘‘อาปตฺตี’’ติ อวตฺวา สจสฺส อาจริโย ธรติ, ตโต เตน โส ภิกฺขุ ‘‘อมฺหากํ อาจริยํ ¶ ปุจฺฉา’’ติ เปเสตพฺโพ. สเจ โส ปุน อาคนฺตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ อาจริโย สุตฺตโต นยโต โอโลเกตฺวา ‘สเตกิจฺโฉ’ติ มํ อาหา’’ติ วทติ, ตโต อเนน โส ‘‘สาธุ สุฏฺุ ยํ อาจริโย ภณติ ตํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ปนสฺส อาจริโย นตฺถิ, สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโร ปน อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ – ‘‘อมฺเหหิ สห อุคฺคหิตตฺเถโร คณปาโมกฺโข, ตํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนาปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ สทฺธึ อุคฺคหิตตฺเถโรปิ นตฺถิ, อนฺเตวาสิโก ปณฺฑิโต อตฺถิ, ตสฺส สนฺติกํ เปเสตพฺโพ – ‘‘อสุกทหรํ คนฺตฺวา ปุจฺฉา’’ติ. เตนาปิ ‘‘สเตกิจฺโฉ’’ติ วินิจฺฉิเต ‘‘สาธุ สุฏฺุ ตสฺส วจนํ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. อถ ทหรสฺสาปิ ปาราชิกจฺฉายาว อุปฏฺาติ, เตนาปิ ‘‘ปาราชิโกสี’’ติ น วตฺตพฺโพ. ทุลฺลโภ หิ พุทฺธุปฺปาโท, ตโต ทุลฺลภตรา ¶ ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ – ‘‘วิวิตฺตํ โอกาสํ สมฺมชฺชิตฺวา ทิวาวิหารํ นิสีทิตฺวา สีลานิ โสเธตฺวา ทฺวตฺตึสาการํ ตาว มนสิ กโรหี’’ติ. สเจ ตสฺส อโรคํ สีลํ กมฺมฏฺานํ ฆฏยติ, สงฺขารา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อุปจารปฺปนาปฺปตฺตํ วิย จิตฺตมฺปิ เอกคฺคํ โหติ, ทิวสํ อติกฺกนฺตมฺปิ น ชานาติ. โส ทิวสาติกฺกเม อุปฏฺานํ อาคโต เอวํ วตฺตพฺโพ – ‘‘กีทิสา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ. อาโรจิตาย จิตฺตปฺปวตฺติยา วตฺตพฺโพ – ‘‘ปพฺพชฺชา นาม จิตฺตวิสุทฺธตฺถาย, อปฺปมตฺโต สมณธมฺมํ กโรหี’’ติ.
ยสฺส ปน สีลํ ภินฺนํ โหติ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ น ฆฏยติ, ปโตทาภิตุนฺนํ วิย จิตฺตํ วิกมฺปติ, วิปฺปฏิสารคฺคินา ฑยฺหติ, ตตฺตปาสาเณ นิสินฺโน วิย ตงฺขณฺเว วุฏฺาติ. โส ¶ อาคโต ‘‘กา เต จิตฺตปฺปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ. อาโรจิตาย จิตฺตปฺปวตฺติยา ‘‘นตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต. สพฺพปมฺหิ ปาปํ กโรนฺโต อตฺตนา ชานาติ, อถสฺส อารกฺขเทวตา ปรจิตฺตวิทู สมณพฺราหฺมณา อฺา จ เทวตา ชานนฺติ, ตฺวํเยว ทานิ ตว โสตฺถึ ปริเยสาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.
นิฏฺิตา จตุพฺพิธวินยกถา
วินยธรสฺส จ ลกฺขณาทิกถา.
ภิกฺขุปทภาชนียวณฺณนา
อิทานิ ¶ สิกฺขาปทวิภงฺคสฺส อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. ยํ วุตฺตํ โย ปนาติ โย ยาทิโสติอาทิ. เอตฺถ โย ปนาติ วิภชิตพฺพปทํ; โย ยาทิโสติอาทีนิ ตสฺส วิภชนปทานิ. เอตฺถ จ ยสฺมา ปนาติ นิปาตมตฺตํ; โยติ อตฺถปทํ; ตฺจ อนิยเมน ปุคฺคลํ ทีเปติ, ตสฺมา ตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต อนิยเมน ปุคฺคลทีปกํ โย สทฺทเมว อาห. ตสฺมา เอตฺถ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ – โย ปนาติ โย โยโกจีติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺมา ปน โย โยโกจิ นาม, โส อวสฺสํ ลิงฺค-ยุตฺต-ชาติ-นาม-โคตฺต-สีล-วิหาร-โคจรวเยสุ เอเกนากาเรน ปฺายติ, ตสฺมา ตํ ตถา าเปตุํ ตํ ปเภทํ ปกาเสนฺโต ‘‘ยาทิโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาทิโสติ ลิงฺควเสน ยาทิโส วา ตาทิโส วา โหตุ; ทีโฆ วา รสฺโส วา กาโฬ วา โอทาโต วา มงฺคุรจฺฉวิ วา กิโส วา ถูโล วาติ อตฺโถ. ยถายุตฺโตติ โยควเสน เยน วา เตน วา ยุตฺโต โหตุ; นวกมฺมยุตฺโต วา อุทฺเทสยุตฺโต วา วาสธุรยุตฺโต วาติ อตฺโถ. ยถาชจฺโจติ ชาติวเสน ยํชจฺโจ วา ตํชจฺโจ วา โหตุ; ขตฺติโย วา พฺราหฺมโณ วา เวสฺโส วา สุทฺโท วาติ อตฺโถ. ยถานาโมติ นามวเสน ยถานาโม วา ตถานาโม วา โหตุ; พุทฺธรกฺขิโต วา ธมฺมรกฺขิโต วา สงฺฆรกฺขิโต วาติ อตฺโถ. ยถาโคตฺโตติ โคตฺตวเสน ยถาโคตฺโต วา ตถาโคตฺโต วา เยน วา เตน วา โคตฺเตน โหตุ; กจฺจายโน วา วาสิฏฺโ วา โกสิโย วาติ อตฺโถ. ยถาสีโลติ สีเลสุ ยถาสีโล วา ตถาสีโล วา โหตุ; นวกมฺมสีโล วา อุทฺเทสสีโล วา วาสธุรสีโล วาติ อตฺโถ. ยถาวิหารีติ วิหาเรสุปิ ยถาวิหารี วา ตถาวิหารี วา โหตุ; นวกมฺมวิหารี วา อุทฺเทสวิหารี วา วาสธุรวิหารี วาติ อตฺโถ. ยถาโคจโรติ โคจเรสุปิ ยถาโคจโร วา ตถาโคจโร วา โหตุ; นวกมฺมโคจโร ¶ วา อุทฺเทสโคจโร วา วาสธุรโคจโร วาติ อตฺโถ. เถโร วาติ อาทีสุ วโยวุฑฺฒาทีสุ โย วา โส วา โหตุ; ปริปุณฺณทสวสฺสตาย เถโร วา อูนปฺจวสฺสตาย นโว วา อติเรกปฺจวสฺสตาย ¶ มชฺฌิโม วาติ อตฺโถ. อถ โข สพฺโพว อิมสฺมึ อตฺเถ เอโส วุจฺจติ ‘‘โย ปนา’’ติ.
ภิกฺขุนิทฺเทเส ภิกฺขตีติ ภิกฺขโก; ลภนฺโต วา อลภนฺโต วา อริยาย ยาจนาย ยาจตีติ อตฺโถ. พุทฺธาทีหิ อชฺฌุปคตํ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคตตฺตา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโต นาม. โย หิ โกจิ อปฺปํ วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต, โส กสิโครกฺขาทีหิ ชีวิกกปฺปนํ หิตฺวา ลิงฺคสมฺปฏิจฺฉเนเนว ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. ปรปฏิพทฺธชีวิกตฺตา วา วิหารมชฺเฌ กาชภตฺตํ ภฺุชมาโนปิ ¶ ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ; ปิณฺฑิยาโลปโภชนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชาย อุสฺสาหชาตตฺตา วา ภิกฺขาจริยํ อชฺฌุปคโตติ ภิกฺขุ. อคฺฆผสฺสวณฺณเภเทน ภินฺนํ ปฏํ ธาเรตีติ ภินฺนปฏธโร. ตตฺถ สตฺถกจฺเฉทเนน อคฺฆเภโท เวทิตพฺโพ. สหสฺสคฺฆนโกปิ หิ ปโฏ สตฺถเกน ขณฺฑาขณฺฑิกํ ฉินฺโน ภินฺนคฺโฆ โหติ. ปุริมคฺฆโต อุปฑฺฒมฺปิ น อคฺฆติ. สุตฺตสํสิพฺพเนน ผสฺสเภโท เวทิตพฺโพ. สุขสมฺผสฺโสปิ หิ ปโฏ สุตฺเตหิ สํสิพฺพิโต ภินฺนผสฺโส โหติ. ขรสมฺผสฺสตํ ปาปุณาติ. สูจิมลาทีหิ วณฺณเภโท เวทิตพฺโพ. สุปริสุทฺโธปิ หิ ปโฏ สูจิกมฺมโต ปฏฺาย สูจิมเลน, หตฺถเสทมลชลฺลิกาหิ, อวสาเน รชนกปฺปกรเณหิ จ ภินฺนวณฺโณ โหติ; ปกติวณฺณํ วิชหติ. เอวํ ตีหากาเรหิ ภินฺนปฏธารณโต ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ. คิหิวตฺถวิสภาคานํ วา กาสาวานํ ธารณมตฺเตเนว ภินฺนปฏธโรติ ภิกฺขุ.
สมฺายาติ ปฺตฺติยา โวหาเรนาติ อตฺโถ. สมฺาย เอว หิ เอกจฺโจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ปฺายติ. ตถา หิ นิมนฺตนาทิมฺหิ ภิกฺขูสุ คณิยมาเนสุ สามเณเรปิ คเหตฺวา ‘‘สตํ ภิกฺขู สหสฺสํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺติ. ปฏิฺายาติ อตฺตโน ปฏิชานเนน ปฏิฺายปิ หิ เอกจฺโจ ‘‘ภิกฺขู’’ติ ปฺายติ. ตสฺส ‘‘โก เอตฺถาติ? อหํ, อาวุโส, ภิกฺขู’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๙๖) เอวมาทีสุ สมฺภโว ทฏฺพฺโพ ¶ . อยํ ปน อานนฺทตฺเถเรน วุตฺตา ธมฺมิกา ปฏิฺา. รตฺติภาเค ปน ทุสฺสีลาปิ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺตา ‘‘โก เอตฺถา’’ติ วุตฺเต อธมฺมิกาย ปฏิฺาย อภูตาย ‘‘มยํ ภิกฺขู’’ติ วทนฺติ.
เอหิ ¶ ภิกฺขูติ เอหิ ภิกฺขุ นาม ภควโต ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ วจนมตฺเตน ภิกฺขุภาวํ เอหิภิกฺขูปสมฺปทํ ปตฺโต. ภควา หิ เอหิภิกฺขุภาวาย อุปนิสฺสยสมฺปนฺนํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา รตฺตปํสุกูลนฺตรโต สุวณฺณวณฺณํ ทกฺขิณหตฺถํ นีหริตฺวา พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรนฺโต ‘‘เอหิ, ภิกฺขุ, จร พฺรหฺมจริยํ สมฺมา ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยายา’’ติ วทติ. ตสฺส สเหว ภควโต วจเนน คิหิลิงฺคํ อนฺตรธายติ, ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ รุหติ. ภณฺฑุ กาสายวสโน โหติ. เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํเส เปตฺวา วามํสกูเฏ อาสตฺตนีลุปฺปลวณฺณมตฺติกาปตฺโต –
‘‘ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, วาสิ สูจิ จ พนฺธนํ;
ปริสฺสาวเนน อฏฺเเต, ยุตฺตโยคสฺส ภิกฺขุโน’’ติ.
เอวํ ¶ วุตฺเตหิ อฏฺหิ ปริกฺขาเรหิ สรีเร ปฏิมุกฺเกหิเยว สฏฺิวสฺสิกตฺเถโร วิย อิริยาปถสมฺปนฺโน พุทฺธาจริยโก พุทฺธุปชฺฌายโก สมฺมาสมฺพุทฺธํ วนฺทมาโนเยว ติฏฺติ. ภควา หิ ปมโพธิยํ เอกสฺมึ กาเล เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย เอว อุปสมฺปาเทติ. เอวํ อุปสมฺปนฺนานิ จ สหสฺสุปริ เอกจตฺตาลีสุตฺตรานิ ตีณิ ภิกฺขุสตานิ อเหสุํ; เสยฺยถิทํ – ปฺจ ปฺจวคฺคิยตฺเถรา, ยโส กุลปุตฺโต, ตสฺส ปริวารา จตุปณฺณาส สหายกา, ตึส ภทฺทวคฺคิยา, สหสฺสปุราณชฏิลา, สทฺธึ ทฺวีหิ อคฺคสาวเกหิ อฑฺฒเตยฺยสตา ปริพฺพาชกา, เอโก องฺคุลิมาลตฺเถโรติ. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถายํ –
‘‘ตีณิ สตํ สหสฺสฺจ, จตฺตาลีสํ ปุนาปเร;
เอโก จ เถโร สปฺปฺโ, สพฺเพ เต เอหิภิกฺขุกา’’ติ.
น เกวลฺจ เอเต เอว, อฺเปิ พหู สนฺติ. เสยฺยถิทํ – ติสตปริวาโร เสโล พฺราหฺมโณ, สหสฺสปริวาโร มหากปฺปิโน, ทสสหสฺสา ¶ กปิลวตฺถุวาสิโน กุลปุตฺตา, โสฬสสหสฺสา ปารายนิกพฺราหฺมณาติ เอวมาทโย. เต ปน วินยปิฏเก ปาฬิยํ น นิทฺทิฏฺตฺตา น วุตฺตา. อิเม ตตฺถ นิทฺทิฏฺตฺตา วุตฺตาติ.
‘‘สตฺตวีส สหสฺสานิ, ตีณิเยว สตานิ จ;
เอเตปิ สพฺเพ สงฺขาตา, สพฺเพ เต เอหิภิกฺขุกา’’ติ.
ตีหิ ¶ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโนติ ‘‘พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามี’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วาจํ ภินฺทิตฺวา วุตฺเตหิ ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปนฺโน. อยฺหิ อุปสมฺปทา นาม อฏฺวิธา – เอหิภิกฺขูปสมฺปทา, สรณคมนูปสมฺปทา, โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา, ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา, ทูเตนูปสมฺปทา, อฏฺวาจิกูปสมฺปทา, ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทาติ. ตตฺถ เอหิภิกฺขูปสมฺปทา, สรณคมนูปสมฺปทา จ วุตฺตา เอว.
โอวาทปฏิคฺคหณูปสมฺปทา นาม ‘‘ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ติพฺพํ เม หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺิตํ ภวิสฺสติ เถเรสุ นเวสุ มชฺฌิเมสุ จา’ติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ – ‘ยํ กิฺจิ ธมฺมํ โสสฺสามิ กุสลูปสํหิตํ, สพฺพํ ตํ อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพเจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสโต ธมฺมํ โสสฺสามี’ติ. เอวํ หิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพํ. ตสฺมาติห เต, กสฺสป, เอวํ สิกฺขิตพฺพํ ¶ – ‘สาตสหคตา จ เม กายคตาสติ น วิชหิสฺสตี’ติ. เอวฺหิ เต, กสฺสป, สิกฺขิตพฺพ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) อิมินา โอวาทปฏิคฺคหเณน มหากสฺสปตฺเถรสฺส อนฺุาตอุปสมฺปทา.
ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา นาม โสปากสฺส อนฺุาตอุปสมฺปทา. ภควา กิร ปุพฺพาราเม อนุจงฺกมนฺตํ โสปากสามเณรํ ‘‘‘อุทฺธุมาตกสฺา’ติ วา, โสปาก, ‘รูปสฺา’ติ วา อิเม ธมฺมา นานตฺถา นานาพฺยฺชนา ¶ , อุทาหุ เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ ทส อสุภนิสฺสิเต ปฺเห ปุจฺฉิ. โส เต พฺยากาสิ. ภควา ตสฺส สาธุการํ ทตฺวา ‘‘กติวสฺโสสิ ตฺวํ, โสปากา’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘สตฺตวสฺโสหํ, ภควา’’ติ. ‘‘โสปาก, ตฺวํ มม สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺเห พฺยากาสี’’ติ อารทฺธจิตฺโต อุปสมฺปทํ อนุชานิ. อยํ ปฺหพฺยากรณูปสมฺปทา.
ครุธมฺมปฏิคฺคหณูปสมฺปทา นาม มหาปชาปติยา อฏฺครุธมฺมสฺส ปฏิคฺคหเณน อนฺุาตอุปสมฺปทา.
ทูเตนูปสมฺปทา นาม อฑฺฒกาสิยา คณิกาย อนฺุาตอุปสมฺปทา.
อฏฺวาจิกูปสมฺปทา นาม ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุนิสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถน ภิกฺขุสงฺฆโต ตฺติจตุตฺเถนาติ อิเมหิ ทฺวีหิ กมฺเมหิ อุปสมฺปทา.
ตฺติจตุตฺถกมฺมูปสมฺปทา ¶ นาม ภิกฺขูนํ เอตรหิ อุปสมฺปทา. อิมาสุ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ‘‘ยา สา, ภิกฺขเว, มยา ตีหิ สรณคมเนหิ อุปสมฺปทา อนฺุาตา, ตํ อชฺชตคฺเค ปฏิกฺขิปามิ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อุปสมฺปาเทตุ’’นฺติ (มหาว. ๖๙) เอวํ อนฺุาตาย อิมาย อุปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ.
ภทฺโรติ อปาปโก. กลฺยาณปุถุชฺชนาทโย หิ ยาว อรหา, ตาว ภทฺเรน สีเลน สมาธินา ปฺาย วิมุตฺติยา วิมุตฺติาณทสฺสเนน จ สมนฺนาคตตฺตา ‘‘ภทฺโร ภิกฺขู’’ติ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สาโรติ เตหิเยว สีลสาราทีหิ สมนฺนาคตตฺตา นีลสมนฺนาคเมน นีโล ปโฏ วิย ‘‘สาโร ภิกฺขู’’ติ เวทิตพฺโพ. วิคตกิเลสเผคฺคุภาวโต วา ขีณาสโวว ‘‘สาโร’’ติ เวทิตพฺโพ. เสโขติ ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน สทฺธึ สตฺต ¶ อริยา ติสฺโส สิกฺขา สิกฺขนฺตีติ เสขา. เตสุ โย โกจิ ‘‘เสโข ภิกฺขู’’ติ เวทิตพฺโพ. น สิกฺขตีติ อเสโข. เสกฺขธมฺเม อติกฺกมฺม อคฺคผเล ิโต, ตโต อุตฺตริ สิกฺขิตพฺพาภาวโต ขีณาสโว ‘‘อเสโข’’ติ วุจฺจติ. สมคฺเคน สงฺเฆนาติ สพฺพนฺติเมน ปริยาเยน ปฺจวคฺคกรณีเย กมฺเม ยาวติกา ภิกฺขู กมฺมปฺปตฺตา, เตสํ อาคตตฺตา ฉนฺทารหานํ ฉนฺทสฺส อาหฏตฺตา, สมฺมุขีภูตานฺจ อปฺปฏิกฺโกสนโต เอกสฺมึ กมฺเม สมคฺคภาวํ อุปคเตน. ตฺติจตุตฺเถนาติ ¶ ตีหิ อนุสฺสาวนาหิ เอกาย จ ตฺติยา กาตพฺเพน. กมฺเมนาติ ธมฺมิเกน วินยกมฺเมน. อกุปฺเปนาติ วตฺถุ-ตฺติ-อนุสฺสาวน-สีมา-ปริสสมฺปตฺติสมฺปนฺนตฺตา อโกเปตพฺพตํ อปฺปฏิกฺโกสิตพฺพตฺจ อุปคเตน. านารเหนาติ การณารเหน สตฺถุสาสนารเหน. อุปสมฺปนฺโน นาม อุปริภาวํ สมาปนฺโน, ปตฺโตติ อตฺโถ. ภิกฺขุภาโว หิ อุปริภาโว, ตฺเจส ยถาวุตฺเตน กมฺเมน สมาปนฺนตฺตา ‘‘อุปสมฺปนฺโน’’ติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ เอกเมว อาคตํ. อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นีหริตฺวา วิตฺถารโต กเถตพฺพานีติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตานิ จ ‘‘อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา วิตฺถาเรน ขนฺธกโต ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺคโต จ ปาฬึ อาหริตฺวา กถิตานิ. ตานิ มยํ ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺเคเยว วณฺณยิสฺสาม. เอวฺหิ สติ ปมปาราชิกวณฺณนา จ ¶ น ภาริยา ภวิสฺสติ; ยถาิตาย จ ปาฬิยา วณฺณนา สุวิฺเยฺยา ภวิสฺสติ. ตานิ จ านานิ อสฺุานิ ภวิสฺสนฺติ; ตสฺมา อนุปทวณฺณนเมว กโรม.
ตตฺราติ เตสุ ‘‘ภิกฺขโก’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตสุ ภิกฺขูสุ. ยฺวายํ ภิกฺขูติ โย อยํ ภิกฺขุ. สมคฺเคน สงฺเฆน…เป… อุปสมฺปนฺโนติ อฏฺสุ อุปสมฺปทาสุ ตฺติจตุตฺเถเนว กมฺเมน อุปสมฺปนฺโน. อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปโต ภิกฺขูติ อยํ อิมสฺมึ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิโก โหตี’’ติ อตฺเถ ‘‘ภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. อิตเร ปน ‘‘ภิกฺขโก’’ติ อาทโย อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตา. เตสุ จ ‘‘ภิกฺขโก’’ติ อาทโย นิรุตฺติวเสน วุตฺตา, ‘‘สมฺาย ภิกฺขุ, ปฏิฺาย ภิกฺขู’’ติ อิเม ทฺเว อภิลาปวเสน วุตฺตา, ‘‘เอหิ ภิกฺขู’’ติ พุทฺเธน อุปชฺฌาเยน ปฏิลทฺธอุปสมฺปทาวเสน วุตฺโต. สรณคมนภิกฺขุ อนุปฺปนฺนาย กมฺมวาจาย อุปสมฺปทาวเสน วุตฺโต, ‘‘ภทฺโร’’ติอาทโย คุณวเสน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
ภิกฺขุปทภาชนียํ นิฏฺิตํ.
สิกฺขาสาชีวปทภาชนียวณฺณนา
อิทานิ ¶ ‘‘ภิกฺขูน’’นฺติ อิทํ ปทํ วิเสสตฺถาภาวโต อวิภชิตฺวาว ยํ สิกฺขฺจ สาชีวฺจ สมาปนฺนตฺตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต สิกฺขาติอาทิมาห. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพาติ สิกฺขา. ติสฺโสติ คณนปริจฺเฉโท ¶ . อธิสีลสิกฺขาติ อธิกํ อุตฺตมํ สีลนฺติ อธิสีลํ; อธิสีลฺจ ตํ สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา จาติ อธิสีลสิกฺขา. เอส นโย อธิจิตฺต-อธิปฺาสิกฺขาสุ.
กตมํ ปเนตฺถ สีลํ, กตมํ อธิสีลํ, กตมํ จิตฺตํ, กตมํ อธิจิตฺตํ, กตมา ปฺา, กตมา อธิปฺาติ? วุจฺจเต – ปฺจงฺคทสงฺคสีลํ ตาว สีลเมว. ตฺหิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺมึ สีเล พุทฺธาปิ สาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ. อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ. สามมฺปิ ปณฺฑิตา สมณพฺราหฺมณา สมาทิยนฺติ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ปน ‘‘อธิสีล’’นฺติ วุจฺจติ, ตฺหิ สูริโย วิย ปชฺโชตานํ สิเนรุ วิย ปพฺพตานํ สพฺพโลกิยสีลานํ ¶ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ ปวตฺตติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. น หิ ตํ ปฺตฺตึ อุทฺธริตฺวา อฺโ สตฺโต เปตุํ สกฺโกติ, พุทฺธาเยว ปน สพฺพโส กายวจีทฺวารอชฺฌาจารโสตํ ฉินฺทิตฺวา ตสฺส ตสฺส วีติกฺกมสฺส อนุจฺฉวิกํ ตํ สีลสํวรํ ปฺเปนฺติ. ปาติโมกฺขสํวรโตปิ จ มคฺคผลสมฺปยุตฺตเมว สีลํ อธิสีลํ, ตํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ.
กามาวจรานิ ปน อฏฺ กุสลจิตฺตานิ, โลกิยอฏฺสมาปตฺติจิตฺตานิ จ เอกชฺฌํ กตฺวา จิตฺตเมวาติ เวทิตพฺพานิ. พุทฺธุปฺปาทานุปฺปาเท จสฺส ปวตฺติ, สมาทปนํ สมาทานฺจ สีเล วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. วิปสฺสนาปาทกํ อฏฺสมาปตฺติจิตฺตํ ปน ‘‘อธิจิตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อธิสีลํ วิย สีลานํ สพฺพโลกิยจิตฺตานํ อธิกฺเจว อุตฺตมฺจ, พุทฺธุปฺปาเทเยว จ โหติ, น วินา พุทฺธุปฺปาทา. ตโตปิ จ มคฺคผลจิตฺตเมว อธิจิตฺตํ, ตํ ปน อิธ อนธิปฺเปตํ. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ.
‘‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติ (ธ. ส. ๑๓๗๑; วิภ. ๗๙๓; ม. นิ. ๓.๙๒) -อาทินยปฺปวตฺตํ ปน กมฺมสฺสกตาณํ ปฺา, สา หิ พุทฺเธ อุปฺปนฺเนปิ ¶ อนุปฺปนฺเนปิ โลเก ¶ ปวตฺตติ. อุปฺปนฺเน พุทฺเธ ตสฺสา ปฺาย พุทฺธาปิ พุทฺธสาวกาปิ มหาชนํ สมาทเปนฺติ. อนุปฺปนฺเน พุทฺเธ ปจฺเจกพุทฺธา จ กมฺมวาทิโน จ ธมฺมิกา สมณพฺราหฺมณา จกฺกวตฺตี จ มหาราชาโน มหาโพธิสตฺตา จ สมาทเปนฺติ. สามมฺปิ ปณฺฑิตา สตฺตา สมาทิยนฺติ. ตถา หิ องฺกุโร ทสวสฺสสหสฺสานิ มหาทานํ อทาสิ. เวลาโม, เวสฺสนฺตโร, อฺเ จ พหู ปณฺฑิตมนุสฺสา มหาทานานิ อทํสุ. เต ตํ กุสลํ ธมฺมํ ปริปูเรตฺวา เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สมฺปตฺตึ อนุภวึสุ. ติลกฺขณาการปริจฺเฉทกํ ปน วิปสฺสนาาณํ ‘‘อธิปฺา’’ติ วุจฺจติ. สา หิ อธิสีล-อธิจิตฺตานิ วิย สีลจิตฺตานํ สพฺพโลกิยปฺานํ อธิกา เจว อุตฺตมา จ, น จ วินา พุทฺธุปฺปาทา โลเก ปวตฺตติ. ตโตปิ จ มคฺคผลปฺาว อธิปฺา, สา ปน อิธ อนธิปฺเปตา. น หิ ตํ สมาปนฺโน ภิกฺขุ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวตีติ.
ตตฺราติ ตาสุ ตีสุ สิกฺขาสุ. ยายํ อธิสีลสิกฺขาติ ยา อยํ ปาติโมกฺขสีลสงฺขาตา อธิสีลสิกฺขา. เอตํ สาชีวํ นามาติ เอตํ สพฺพมฺปิ ¶ ภควตา วินเย ปิตํ สิกฺขาปทํ, ยสฺมา เอตฺถ นานาเทสชาติโคตฺตาทิเภทภินฺนา ภิกฺขู สห ชีวนฺติ เอกชีวิกา สภาคชีวิกา สภาควุตฺติโน โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘สาชีว’’นฺติ วุจฺจติ. ตสฺมึ สิกฺขตีติ ตํ สิกฺขาปทํ จิตฺตสฺส อธิกรณํ กตฺวา ‘‘ยถาสิกฺขาปทํ นุ โข สิกฺขามิ น สิกฺขามี’’ติ จิตฺเตน โอโลเกนฺโต สิกฺขติ. น เกวลฺจายเมตสฺมึ สาชีวสงฺขาเต สิกฺขาปเทเยว สิกฺขติ, สิกฺขายปิ สิกฺขติ, ‘‘เอตํ สาชีวํ นามา’’ติ อิมสฺส ปน อนนฺตรสฺส ปทสฺส วเสน ‘‘ตสฺมึ สิกฺขตี’’ติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ ตํ เอวํ วุตฺตํ, อถ โข อยเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ – ตสฺสา จ สิกฺขาย สิกฺขํ ปริปูเรนฺโต สิกฺขติ, ตสฺมิฺจ สิกฺขาปเท อวีติกฺกมนฺโต สิกฺขตีติ. เตน วุจฺจติ สาชีวสมาปนฺโนติ อิทมฺปิ อนนฺตรสฺส สาชีวปทสฺเสว วเสน วุตฺตํ. ยสฺมา ปน โส สิกฺขมฺปิ สมาปนฺโน, ตสฺมา สิกฺขาสมาปนฺโนติปิ อตฺถโต เวทิตพฺโพ. เอวฺหิ สติ ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตสฺส ปทสฺส ปทภาชนมฺปิ ปริปุณฺณํ ¶ โหติ.
สิกฺขาสาชีวปทภาชนียํ นิฏฺิตํ.
สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺควณฺณนา
สิกฺขํ ¶ อปฺปจฺจกฺขาย ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ สิกฺขฺจ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา ทุพฺพลภาวฺจ อปฺปกาเสตฺวา. ยสฺมา จ ทุพฺพลฺเย อาวิกเตปิ สิกฺขา อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ, สิกฺขาย ปน ปจฺจกฺขาตาย ทุพฺพลฺยํ อาวิกตเมว โหติ. ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อิมินา ปเทน น โกจิ วิเสสตฺโถ ลพฺภติ. ยถา ปน ‘‘ทิรตฺตติรตฺตํ สหเสยฺยํ กปฺเปยฺยา’’ติ วุตฺเต ทิรตฺตวจเนน น โกจิ วิเสสตฺโถ ลพฺภติ, เกวลํ โลกโวหารวเสน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย มุขารูฬฺหตาย เอตํ วุตฺตํ. เอวมิทมฺปิ โวหารวเสน พฺยฺชนสิลิฏฺตาย มุขารูฬฺหตาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยสฺมา วา ภควา สาตฺถํ สพฺยฺชนํ ธมฺมํ เทเสติ, ตสฺมา ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติ อิมินา อตฺถํ สมฺปาเทตฺวา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อิมินา พฺยฺชนํ สมฺปาเทติ. ปริวารกปทวิรหิตฺหิ เอกเมว อตฺถปทํ วุจฺจมานํ ปริวารวิรหิโต ราชา วิย, วตฺถาลงฺการวิรหิโต วิย จ ปุริโส น โสภติ; ปริวารเกน ปน อตฺถานุโลเมน สหายปเทน สทฺธึ ตํ โสภตีติ.
ยสฺมา ¶ วา สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส เอกจฺจํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ อตฺโถ โหติ, ตสฺมา ตํ สนฺธาย ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติปทสฺส อตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ อาห.
ตตฺถ สิยา ยสฺมา น สพฺพํ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ, ตสฺมา ‘‘ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวา’’ติ ปมํ วตฺวา ตสฺส อตฺถนิยมนตฺถํ ‘‘สิกฺขํ อปฺปจฺจกฺขายา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ, ตฺจ น; กสฺมา? อตฺถานุกฺกมาภาวโต. ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน, ตํ อปฺปจฺจกฺขายาติ วุจฺจมาโน อนุกฺกเมเนว อตฺโถ วุตฺโต โหติ, น อฺถา. ตสฺมา อิทเมว ปมํ วุตฺตนฺติ.
อปิจ อนุปฏิปาฏิยาปิ เอตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กถํ? ‘‘สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติ เอตฺถ ยํ สิกฺขํ สมาปนฺโน ตํ อปฺปจฺจกฺขาย ยฺจ สาชีวํ สมาปนฺโน ตตฺถ ทุพฺพลฺยํ อนาวิกตฺวาติ.
อิทานิ ¶ สิกฺขาปจฺจกฺขานทุพฺพลฺยาวิกมฺมานํ วิเสสาวิเสสํ ¶ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อตฺถิ ภิกฺขเวติอาทีนิ ทฺเว มาติกาปทานิ; ตานิ วิภชนฺโต ‘‘กถฺจ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – กถนฺติ เกน อากาเรน. ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺจาติ ทุพฺพลฺยสฺส อาวิกมฺมฺจ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. อุกฺกณฺิโตติ อนภิรติยา อิมสฺมึ สาสเน กิจฺฉชีวิกปฺปตฺโต. อถ วา อชฺช ยามิ, สฺเว ยามิ, อิโต ยามิ, เอตฺถ ยามีติ อุทฺธํ กณฺํ กตฺวา วิหรมาโน, วิกฺขิตฺโต อเนกคฺโคติ วุตฺตํ โหติ. อนภิรโตติ สาสเน อภิรติวิรหิโต.
สามฺา จวิตุกาโมติ สมณภาวโต อปคนฺตุกาโม. ภิกฺขุภาวนฺติ ภิกฺขุภาเวน. กรณตฺเถ อุปโยควจนํ. ‘‘กณฺเ อาสตฺเตน อฏฺฏีเยยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๑๖๒) ปน ยถาลกฺขณํ กรณวจเนเนว วุตฺตํ. อฏฺฏียมาโนติ อฏฺฏํ ปีฬิตํ ทุกฺขิตํ วิย อตฺตานํ อาจรมาโน; เตน วา ภิกฺขุภาเวน อฏฺโฏ กริยมาโน ปีฬิยมาโนติ อตฺโถ. หรายมาโนติ ลชฺชมาโน. ชิคุจฺฉมาโนติ อสุจึ วิย ตํ ชิคุจฺฉนฺโต. คิหิภาวํ ปตฺถยมาโนติอาทีนิ อุตฺตานตฺถานิเยว. ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยนฺติ เอตฺถ ยํนูนาติ ปริวิตกฺกทสฺสเน นิปาโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘สจาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, สาธุ วต เม สิยา’’ติ. วทติ วิฺาเปตีติ ¶ อิมมตฺถํ เอเตหิ วา อฺเหิ วา พฺยฺชเนหิ วจีเภทํ กตฺวา วทติ เจว, ยสฺส จ วทติ, ตํ วิฺาเปติ ชานาเปติ. เอวมฺปีติ อุปริมตฺถสมฺปิณฺฑนตฺโต ปิกาโร. เอวมฺปิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขา จ อปฺปจฺจกฺขาตา, อฺถาปิ.
อิทานิ ตํ อฺถาปิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมํ สิกฺขาย จ อปฺปจฺจกฺขานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ปทโต ปเนตฺถ อาทิโต ปฏฺาย ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺยํ, ธมฺมํ, สงฺฆํ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ อิมานิ จุทฺทส ปทานิ ¶ ปจฺจกฺขานากาเรน วุตฺตานิ.
คิหี อสฺสนฺติอาทีนิ ‘‘คิหี, อุปาสโก, อารามิโก, สามเณโร, ติตฺถิโย, ติตฺถิยสาวโก, อสฺสมโณ, อสกฺยปุตฺติโย อสฺส’’นฺติ อิมานิ อฏฺ ปทานิ ‘‘อสฺส’’นฺติ อิมินา ภาววิกปฺปากาเรน วุตฺตานิ. เอวํ ‘‘ยํนูนาห’’นฺติ อิมินา ปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสติ ปทานิ.
๔๖. ยถา ¶ จ เอตานิ, เอวํ ‘‘ยทิ ปนาหํ, อปาหํ, หนฺทาหํ, โหติ เม’’ติ อิเมสุ เอกเมเกน ปฏิสํยุตฺตานิ ทฺวาวีสตีติ สพฺพาเนว สตฺจ ทส จ ปทานิ โหนฺติ.
๔๗. ตโต ปรํ สริตพฺพวตฺถุทสฺสนนเยน ปวตฺตานิ ‘‘มาตรํ สรามี’’ติอาทีนิ สตฺตรส ปทานิ. ตตฺถ เขตฺตนฺติ สาลิเขตฺตาทึ. วตฺถุนฺติ ติณปณฺณสากผลาผลสมุฏฺานฏฺานํ. สิปฺปนฺติ กุมฺภการเปสการสิปฺปาทิกํ.
๔๘. ตโต ปรํ สกิฺจนสปลิโพธภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘มาตา เม อตฺถิ, สา มยา โปเสตพฺพา’’ติอาทีนิ นว ปทานิ.
๔๙. ตโต ปรํ สนิสฺสยสปฺปติฏฺภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘มาตา เม อตฺถิ, สา มํ โปเสสฺสตี’’ติอาทีนิ โสฬส ปทานิ.
๕๐. ตโต ปรํ เอกภตฺตเอกเสยฺยพฺรหฺมจริยานํ ทุกฺกรภาวทสฺสนวเสน ปวตฺตานิ ‘‘ทุกฺกร’’นฺติอาทีนิ อฏฺ ปทานิ.
ตตฺถ ¶ ทุกฺกรนฺติ เอกภตฺตาทีนํ กรเณ ทุกฺกรตํ ทสฺเสติ. น สุกรนฺติ สุกรภาวํ ปฏิกฺขิปติ. เอวํ ทุจฺจรํ น สุจรนฺติ เอตฺถ. น อุสฺสหามีติ ตตฺถ อุสฺสาหาภาวํ อสกฺกุเณยฺยตํ ทสฺเสติ. น วิสหามีติ อสยฺหตํ ทสฺเสติ. น รมามีติ รติยา อภาวํ ทสฺเสติ. นาภิรมามีติ อภิรติยา อภาวํ ทสฺเสติ. เอวํ อิมานิ จ ปฺาส, ปุริมานิ จ ทสุตฺตรสตนฺติ สฏฺิสตํ ปทานิ ทุพฺพลฺยาวิกมฺมวาเร วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๕๑. สิกฺขาปจฺจกฺขานวาเรปิ ‘‘กถฺจ ภิกฺขเว’’ติ อาทิ สพฺพํ อตฺถโต อุตฺตานเมว. ปทโต ปเนตฺถาปิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, ธมฺมํ, สงฺฆํ, สิกฺขํ, วินยํ, ปาติโมกฺขํ, อุทฺเทสํ, อุปชฺฌายํ, อาจริยํ, สทฺธิวิหาริกํ, อนฺเตวาสิกํ, สมานุปชฺฌายกํ, สมานาจริยกํ, สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ อิมานิ จุทฺทส ปทานิ สิกฺขาปจฺจกฺขานวจนสมฺพนฺเธน ปวตฺตานิ. สพฺพปเทสุ จ ‘‘วทติ วิฺาเปตี’’ติ วจนสฺส อยมตฺโถ – วจีเภทํ กตฺวา วทติ, ยสฺส จ วทติ ตํ เตเนว วจีเภเทน ‘‘อยํ สาสนํ ชหิตุกาโม สาสนโต ¶ มุจฺจิตุกาโม ภิกฺขุภาวํ จชิตุกาโม อิมํ วากฺยเภทํ กโรตี’’ติ วิฺาเปติ สาเวติ ชานาเปติ.
สเจ ¶ ปนายํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม ปทปจฺจาภฏฺํ กตฺวา ‘‘ปจฺจกฺขามิ พุทฺธ’’นฺติ วา วเทยฺย. มิลกฺขภาสาสุ วา อฺตรภาสาย ตมตฺถํ วเทยฺย. ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม อุปฺปฏิปาฏิยา ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วา ‘‘สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามี’’ติ วา วเทยฺย, เสยฺยถาปิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมวิภงฺเค ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘ทุติยํ ฌาน’’นฺติ วทติ, สเจ ยสฺส วทติ โส ‘‘อยํ ภิกฺขุภาวํ จชิตุกาโม เอตมตฺถํ วทตี’’ติ เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาติ, วิรทฺธํ นาม นตฺถิ; เขตฺตเมว โอติณฺณํ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. สกฺกตฺตา วา พฺรหฺมตฺตา วา จุตสตฺโต วิย จุโตว โหติ สาสนา.
สเจ ปน ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขิ’’นฺติ วา, ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขิสฺสามี’’ติ วา, ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติ วาติ อตีตานาคตปริกปฺปวจเนหิ วทติ, ทูตํ วา ปหิณาติ, สาสนํ วา เปเสติ, อกฺขรํ วา ฉินฺทติ, หตฺถมุทฺทาย วา ตมตฺถํ อาโรเจติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาโรจนํ ปน หตฺถมุทฺทายปิ สีสํ เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ มนุสฺสชาติกสตฺตสฺส สนฺติเก จิตฺตสมฺปยุตฺตํ วจีเภทํ ¶ กโรนฺตสฺเสว สีสํ เอติ. วจีเภทํ กตฺวา วิฺาเปนฺโตปิ จ ยทิ ‘‘อยเมว ชานาตู’’ติ เอกํ นิยเมตฺวา อาโรเจติ, ตฺจ โสเยว ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ โส น ชานาติ, อฺโ สมีเป ิโต ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ ทฺวินฺนํ ิตฏฺาเน ทฺวินฺนมฺปิ นิยเมตฺวา ‘‘เอเตสํ อาโรเจมี’’ติ วทติ, เตสุ เอกสฺมึ ชานนฺเตปิ ทฺวีสุ ชานนฺเตสุปิ ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. เอวํ สมฺพหุเลสุปิ เวทิตพฺพํ.
สเจ ปน อนภิรติยา ปีฬิโต สภาเค ภิกฺขู ปริสงฺกมาโน ‘‘โย โกจิ ชานาตู’’ติ อุจฺจสทฺทํ กโรนฺโต ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วทติ, ตฺจ อวิทูเร ิโต นวกมฺมิโก วา อฺโ วา สมยฺู ปุริโส สุตฺวา ‘‘อุกฺกณฺิโต อยํ สมโณ คิหิภาวํ ¶ ปตฺเถติ, สาสนโต จุโต’’ติ ชานาติ, ปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. ตงฺขณฺเว ปน อปุพฺพํ อจริมํ ทุชฺชานํ, สเจ อาวชฺชนสมเย ชานาติ; ยถา ปกติยา โลเก มนุสฺสา วจนํ สุตฺวา ชานนฺติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อถ อปรภาเค ‘‘กึ อิมินา วุตฺต’’นฺติ กงฺขนฺโต จิเรน ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. อิทฺหิ สิกฺขาปจฺจกฺขานฺจ อุปริ อภูตาโรจนทุฏฺุลฺลวาจา-อตฺตกามทุฏฺโทสภูตา-โรจนสิกฺขาปทานิ จ เอกปริจฺเฉทานิ. อาวชฺชนสมเย าเต เอว สีสํ เอนฺติ, ‘‘กึ อยํ ภณตี’’ติ กงฺขตา ¶ จิเรน าเต สีสํ น เอนฺติ. ยถา จายํ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ ปเท วินิจฺฉเย วุตฺโต; เอวํ สพฺพปเทสุ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา จ ยทา สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, ตทา ‘‘ยํนูนาหํ พุทฺธํ ปจฺจกฺเขยฺย’’นฺติอาทีนิ อวทตาปิ ทุพฺพลฺยํ อาวิกตเมว โหติ; ตสฺมา สพฺเพสํ ปทานํ อวสาเน วุตฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ, ภิกฺขเว, ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขา จ ปจฺจกฺขาตา’’ติ.
ตโต ปรํ คิหีติ มํ ธาเรหีติ เอตฺถ สเจปิ ‘‘คิหี ภวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คิหี โหมี’’ติ วา ‘‘คิหี ชาโตมฺหี’’ติ วา ‘‘คิหิมฺหี’’ติ วา วทติ, อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. สเจ ปน ‘‘อชฺช ปฏฺาย คิหีติ มํ ธาเรหี’’ติ วา ‘‘ชานาหี’’ติ วา ‘‘สฺชานาหี’’ติ วา ‘‘มนสิ กโรหี’’ติ วา วทติ, อริยเกน วา วทติ มิลกฺขเกน วา; เอวเมตสฺมึ อตฺเถ วุตฺเต ¶ ยสฺส วทติ, สเจ โส ชานาติ, ปจฺจกฺขาตา โหติ สิกฺขา. เอส นโย เสเสสุปิ ‘‘อุปาสโก’’ติอาทีสุ สตฺตสุ ปเทสุ. เอวํ อิมานิ จ อฏฺ, ปุริมานิ จ จุทฺทสาติ ทฺวาวีสติ ปทานิ โหนฺติ.
๕๒. อิโต ปรํ ปุริมาเนว จุทฺทส ปทานิ ‘‘อลํ เม, กินฺนุ เม, น มมตฺโถ, สุมุตฺตาห’’นฺติ อิเมหิ จตูหิ โยเชตฺวา วุตฺตานิ ฉปฺปฺาส โหนฺติ. ตตฺถ อลนฺติ โหตุ, ปริยตฺตนฺติ อตฺโถ. กึนุ เมติ กึ มยฺหํ กิจฺจํ, กึ กรณียํ, กึ สาเธตพฺพนฺติ อตฺโถ. น มมตฺโถติ นตฺถิ มม อตฺโถ. สุมุตฺตาหนฺติ สุมุตฺโต อหํ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. เอวํ อิมานิ จ ฉปฺปฺาส ปุริมานิ จ ทฺวาวีสตีติ อฏฺสตฺตติ ปทานิ สรูเปเนว ¶ วุตฺตานิ.
๕๓. ยสฺมา ปน เตสํ เววจเนหิปิ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘ยานิ วา ปนฺานิปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยานิ วา ปนฺานิปีติ ปาฬิยํ ‘‘พุทฺธ’’นฺติอาทีนิ อาคตปทานิ เปตฺวา ยานิ อฺานิ อตฺถิ. พุทฺธเววจนานิ วาติ พุทฺธสฺส วา ปริยายนามานิ…เป… อสกฺยปุตฺติยสฺส วา. ตตฺถ วณฺณปฏฺาเน อาคตํ นามสหสฺสํ อุปาลิคาถาสุ (ม. นิ. ๒.๗๖) นามสตํ อฺานิ จ คุณโต ลพฺภมานานิ นามานิ ‘‘พุทฺธเววจนานี’’ติ เวทิตพฺพานิ. สพฺพานิปิ ธมฺมสฺส นามานิ ธมฺมเววจนานีติ เวทิตพฺพานิ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อยํ ปเนตฺถ โยชนา – พุทฺธํ ปจฺจกฺขามีติ น เวววจเนน ปจฺจกฺขานํ ยถารุตเมว. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธํ ¶ ปจฺจกฺขามิ, อนนฺตพุทฺธึ, อโนมพุทฺธึ, โพธิปฺาณํ, ธีรํ, วิคตโมหํ, ปภินฺนขีลํ, วิชิตวิชยํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิพุทฺธเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ.
ธมฺมํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ, ยถารุตเมว. ‘‘สฺวากฺขาตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, สนฺทิฏฺิกํ, อกาลิกํ, เอหิปสฺสิกํ, โอปเนยฺยิกํ, ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺพํ วิฺูหิ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ. อสงฺขตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ; วิราคํ, นิโรธํ, อมตํ ธมฺมํ ปจฺจกฺขามิ, ทีฆนิกายํ ปจฺจกฺขามิ, พฺรหฺมชาลํ มชฺฌิมนิกายํ, มูลปริยายํ, สํยุตฺตนิกายํ, โอฆตรณํ, องฺคุตฺตรนิกายํ, จิตฺตปริยาทานํ, ขุทฺทกนิกายํ, ชาตกํ, อภิธมฺมํ, กุสลํ ธมฺมํ, อกุสลํ ธมฺมํ, อพฺยากตํ ธมฺมํ, สติปฏฺานํ, สมฺมปฺปธานํ, อิทฺธิปาทํ, อินฺทฺริยํ, พลํ, โพชฺฌงฺคํ, มคฺคํ, ผลํ, นิพฺพานํ ปจฺจกฺขามี’’ติ จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ เอกธมฺมกฺขนฺธสฺสปิ ¶ นามํ ธมฺมเววจนเมว. เอวํ ธมฺมเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สงฺฆํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘สุปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามิ, อุชุปฺปฏิปนฺนํ, ายปฺปฏิปนฺนํ, สามีจิปฺปฏิปนฺนํ สงฺฆํ, จตุปุริสยุคํ สงฺฆํ, อฏฺปุริสปุคฺคลํ สงฺฆํ, อาหุเนยฺยํ สงฺฆํ, ปาหุเนยฺยํ, ทกฺขิเณยฺยํ, อฺชลิกรณียํ, อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ สงฺฆํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สงฺฆเววจเนน ¶ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สิกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุสิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ, ภิกฺขุนีสิกฺขํ, อธิสีลสิกฺขํ, อธิจิตฺตสิกฺขํ, อธิปฺาสิกฺขํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สิกฺขาเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
วินยํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุวินยํ ปจฺจกฺขามิ, ภิกฺขุนีวินยํ, ปมํ ปาราชิกํ, ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ ปาราชิกํ, สงฺฆาทิเสสํ, ถุลฺลจฺจยํ, ปาจิตฺติยํ, ปาฏิเทสนียํ, ทุกฺกฏํ, ทุพฺภาสิตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิวินยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
ปาติโมกฺขํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุปาติโมกฺขํ ภิกฺขุนีปาติโมกฺขํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ ปาติโมกฺขเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ภิกฺขุปาติโมกฺขุทฺเทสํ, ภิกฺขุนีปาติโมกฺขุทฺเทสํ ¶ , ปมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ, ทุติยํ ตติยํ จตุตฺถํ ปฺจมํ ปาติโมกฺขุทฺเทสํ, สมฺมาสมฺพุทฺธุทฺเทสํ, อนนฺตพุทฺธิอุทฺเทสํ, อโนมพุทฺธิอุทฺเทสํ, โพธิปฺาณุทฺเทสํ, ธีรุทฺเทสํ, วิคตโมหุทฺเทสํ, ปภินฺนขีลุทฺเทสํ, วิชิตวิชยุทฺเทสํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวมาทิอุทฺเทสเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อุปชฺฌายํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสิ, โย มํ อุปสมฺปาเทสิ, ยสฺส มูเลนาหํ ปพฺพชิโต, ยสฺส มูเลนาหํ อุปสมฺปนฺโน, ยสฺสมูลิกา มยฺหํ ปพฺพชฺชา, ยสฺสมูลิกา มยฺหํ อุปสมฺปทา ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อุปชฺฌายเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อาจริยํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘โย มํ ปพฺพาเชสิ, โย มํ อนุสฺสาเวสิ, ยาหํ นิสฺสาย วสามิ, ยาหํ อุทฺทิสาเปมิ, ยาหํ ¶ ปริปุจฺฉามิ, โย มํ อุทฺทิสติ, โย มํ ปริปุจฺฉาเปติ ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อาจริยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สทฺธิวิหาริกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ยาหํ ปพฺพาเชสึ, ยาหํ อุปสมฺปาเทสึ, มยฺหํ มูเลน โย ปพฺพชิโต, มยฺหํ มูเลน โย อุปสมฺปนฺโน, มยฺหํมูลิกา ยสฺส ปพฺพชฺชา, มยฺหํ มูลิกา ยสฺส อุปสมฺปทา ตาหํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สทฺธิวิหาริกเววจเนน ¶ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อนฺเตวาสิกํปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ยาหํ ปพฺพาเชสึ, ยาหํ อนุสฺสาเวสึ, โย มํ นิสฺสาย วสติ, โย มํ อุทฺทิสาเปติ, โย มํ ปริปุจฺฉติ, ยสฺสาหํ อุทฺทิสามิ, ยาหํ ปริปุจฺฉาเปมิ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ อนฺเตวาสิกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สมานุปชฺฌายกํ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘มยฺหํ อุปชฺฌาโย ยํ ปพฺพาเชสิ, ยํ อุปสมฺปาเทสิ, โย ตสฺส มูเลน ปพฺพชิโต, โย ตสฺส มูเลน อุปสมฺปนฺโน, ยสฺส ตมฺมูลิกา ปพฺพชฺชา, ยสฺส ตมฺมูลิกา อุปสมฺปทา ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สมานุปชฺฌายกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สมานาจริยกํ ¶ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘มยฺหํ อาจริโย ยํ ปพฺพาเชสิ, ยํ อนุสฺสาเวสิ, โย ตํ นิสฺสาย วสติ, โย ตํ อุทฺทิสาเปติ ปริปุจฺฉติ, ยสฺส เม อาจริโย อุทฺทิสติ, ยํ ปริปุจฺฉาเปติ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สมานาจริยกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สพฺรหฺมจารึ ปจฺจกฺขามีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘เยนาหํ สทฺธึ อธิสีลํ สิกฺขามิ, อธิจิตฺตํ อธิปฺํ สิกฺขามิ ตํ ปจฺจกฺขามี’’ติ เอวํ สพฺรหฺมจาริเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
คิหีติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘อาคาริโกติ มํ ธาเรหิ, กสฺสโก, วาณิโช, โครกฺโข, โอกลฺลโก, โมฬิพทฺโธ, กามคุณิโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ คิหิเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อุปาสโกติ ¶ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ทฺเววาจิโก อุปาสโกติ มํ ธาเรหิ, เตวาจิโก อุปาสโก, พุทฺธํ สรณคมนิโก, ธมฺมํ สงฺฆํ สรณคมนิโก, ปฺจสิกฺขาปทิโก ทสสิกฺขาปทิโก อุปาสโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อุปาสกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อารามิโกติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘กปฺปิยการโกติ มํ ธาเรหิ, เวยฺยาวจฺจกโร, อปฺปหริตการโก, ยาคุภาชโก, ผลภาชโก, ขชฺชกภาชโกติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อารามิกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
สามเณโรติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘กุมารโกติ มํ ธาเรหิ, เจลฺลโก, เจฏโก, โมฬิคลฺโล, สมณุทฺเทโส’ติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ สามเณรเวจเนน ¶ สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
ติตฺถิโยติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘นิคณฺโติ มํ ธาเรหิ, อาชีวโก, ตาปโส, ปริพฺพาชโก, ปณฺฑรงฺโคติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ ติตฺถิยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
ติตฺถิยสาวโกติ ¶ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘นิคณฺสาวโกติ มํ ธาเรหิ’’ อาชีวก ตาปส ปริพฺพาชก ปณฺฑรงฺคสาวโกติ มํ ธาเรหีติ เอวํ ติตฺถิยสาวกเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อสฺสมโณติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘ทุสฺสีโลติ มํ ธาเรหิ, ปาปธมฺโม, อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร, ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต, อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ, อวสฺสุโต, กสมฺพุชาโต, โกณฺโ’ติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวํ อสฺสมณเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
อสกฺยปุตฺติโยติ มํ ธาเรหีติ น เววจเนน ปจฺจกฺขานํ. ‘‘น สมฺมาสมฺพุทฺธปุตฺโตติ มํ ธาเรหิ, น อนนฺตพุทฺธิปุตฺโต, น อโนมพุทฺธิปุตฺโต, น โพธิปฺาณปุตฺโต, น ธีรปุตฺโต, น วิคตโมหปุตฺโต, น ปภินฺนขีลปุตฺโต ¶ , น วิชิตวิชยปุตฺโตติ มํ ธาเรหี’’ติ เอวมาทิอสกฺยปุตฺติยเววจเนน สิกฺขาปจฺจกฺขานํ โหติ.
เตหิ อากาเรหิ เตหิ ลิงฺเคหิ เตหิ นิมิตฺเตหีติ เตหิ ‘‘พุทฺธเววจนานิ วา’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ พุทฺธาทีนํ เววจเนหิ. เววจนานิ หิ สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส การณตฺตา อาการานิ, พุทฺธาทีนํ สณฺานทีปนตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขานสณฺานตฺตา เอว วา ลิงฺคานิ, สิกฺขาปจฺจกฺขานสฺส สฺชานนเหตุโต มนุสฺสานํ ติลกาทีนิ วิย นิมิตฺตานีติ วุจฺจนฺติ. เอวํ โข ภิกฺขเวติ อิโต ปรํ อฺสฺส สิกฺขาปจฺจกฺขานการณสฺส อภาวโต นิยเมนฺโต อาห. อยฺเหตฺถ อตฺโถ, เอวเมว ทุพฺพลฺยาวิกมฺมฺเจว โหติ สิกฺขาปจฺจกฺขานฺจ, น อิโต ปรํ การณมตฺถีติ.
๕๔. เอวํ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณํ ทสฺเสตฺวา อปฺปจฺจกฺขาเน อสมฺโมหตฺถํ ตสฺเสว จ สิกฺขาปจฺจกฺขานลกฺขณสฺส ปุคฺคลาทิวเสน วิปตฺติทสฺสนตฺถํ ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, อปฺปจฺจกฺขาตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เยหิ อากาเรหีติอาทิ วุตฺตนยเมว. อุมฺมตฺตโกติ ยกฺขุมฺมตฺตโก วา ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา โย โกจิ วิปรีตสฺโ, โส สเจ ปจฺจกฺขาติ, อปฺปจฺจกฺขาตา ¶ โหติ สิกฺขา. อุมฺมตฺตกสฺสาติ ตาทิสสฺเสว อุมฺมตฺตกสฺส; ตาทิสสฺส หิ สนฺติเก สเจ ปกตตฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อุมฺมตฺตโก น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ สิกฺขา. ขิตฺตจิตฺโตติ ยกฺขุมฺมตฺตโก วุจฺจติ. ปุริมปเท ปน อุมฺมตฺตกสามฺเน วุตฺตํ ‘‘ยกฺขุมฺมตฺตโก วา ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา’’ติ. อุภินฺนมฺปิ วิเสโส อนาปตฺติวาเร อาวิ ภวิสฺสติ ¶ . เอวํ ขิตฺตจิตฺโต สิกฺขํ ปจฺจกฺขาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ตสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ ตมฺหิ อชานนฺเต อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ.
เวทนาฏฺโฏติ พลวติยา ทุกฺขเวทนาย ผุฏฺโ มุจฺฉาปเรโต; เตน วิลปนฺเตน ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ตสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ ตมฺหิ อชานนฺเต อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ.
เทวตาย สนฺติเกติ ภุมฺมเทวตํ อาทึ กตฺวา ยาว อกนิฏฺเทวตาย สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ. ติรจฺฉานคตสฺสาติ นาคมาณวกสฺส วา สุปณฺณมาณวกสฺส วา กินฺนร-หตฺถิ-มกฺกฏาทีนํ วา ยสฺส กสฺสจิ สนฺติเก ปจฺจกฺขาตาปิ อปฺปจฺจกฺขาตาว โหติ ¶ . ตตฺร อุมฺมตฺตกาทีนํ สนฺติเก อชานนภาเวน อปฺปจฺจกฺขาตาติ อาห. เทวตาย สนฺติเก อติขิปฺปํ ชานนภาเวน. เทวตา นาม มหาปฺา ติเหตุกปฏิสนฺธิกา อติขิปฺปํ ชานนฺติ, จิตฺตฺจ นาเมตํ ลหุปริวตฺตํ. ตสฺมา จิตฺตลหุกสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตวเสเนว ‘‘มา อติขิปฺปํ วินาโส อโหสี’’ติ เทวตาย สนฺติเก สิกฺขาปจฺจกฺขานํ ปฏิกฺขิปิ.
มนุสฺเสสุ ปน นิยโม นตฺถิ. ยสฺส กสฺสจิ สภาคสฺส วา วิสภาคสฺส วา คหฏฺสฺส วา ปพฺพชิตสฺส วา วิฺุสฺส สนฺติเก ปจฺจกฺขาตา ปจฺจกฺขาตาว โหติ. สเจ ปน โส น ชานาติ, อปฺปจฺจกฺขาตาว โหตีติ เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อริยเกนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อริยกํ นาม อริยโวหาโร, มาคธภาสา. มิลกฺขกํ นาม โย โกจิ อนริยโก อนฺธทมิฬาทิ. โส จ น ปฏิวิชานาตีติ ภาสนฺตเร วา อนภิฺตาย, พุทฺธสมเย วา อโกวิทตาย ‘‘อิทํ นาม อตฺถํ เอส ภณตี’’ติ นปฺปฏิวิชานาติ. ทวายาติ สหสา อฺํ ภณิตุกาโม สหสา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ ภณติ. รวายาติ รวาภฺเน, ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺํ ภณนฺโต. ปุริเมน ¶ โก วิเสโสติ เจ? ปุริมํ ปณฺฑิตสฺสาปิ สหสาวเสน อฺภณนํ. อิทํ ปน มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา อปกตฺุตฺตา ปกฺขลนฺตสฺส ‘‘อฺํ ภณิสฺสามี’’ติ อฺภณนํ.
อสาเวตุกาโม สาเวตีติ อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ปาฬึ วาเจติ ปริปุจฺฉติ อุคฺคณฺหาติ สชฺฌายํ กโรติ วณฺเณติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘อสาเวตุกาโม สาเวตี’’ติ. สาเวตุกาโม น สาเวตีติ ทุพฺพลภาวํ อาวิกตฺวา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺโต วจีเภทํ น กโรติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘สาเวตุกาโม ¶ น สาเวตี’’ติ. อวิฺุสฺส สาเวตีติ มหลฺลกสฺส วา โปตฺถกรูปสทิสสฺส, ครุเมธสฺส วา สมเย อโกวิทสฺส, คามทารกานํ วา อวิฺุตํ ปตฺตานํ สาเวติ. วิฺุสฺส น สาเวตีติ ปณฺฑิตสฺส าตุํ สมตฺถสฺส น สาเวติ. สพฺพโส วา ปนาติ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ เยน เยน ปริยาเยน สิกฺขา ปจฺจกฺขาตา โหติ, ตโต เอกมฺปิ วจีเภทํ กตฺวา น สาเวติ. เอวํ โขติ อปฺปจฺจกฺขานลกฺขณํ นิยเมติ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ – ‘‘เอวเมว สิกฺขา อปฺปจฺจกฺขาตา โหติ, น อฺเน การเณนา’’ติ.
สิกฺขาปจฺจกฺขานวิภงฺคํ นิฏฺิตํ.
มูลปฺตฺติวณฺณนา
๕๕. อิทานิ ¶ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสเวยฺยา’’ติอาทีนํ อตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘เมถุนธมฺโม นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เมถุนธมฺโม นามาติ อิทํ นิทฺทิสิตพฺพสฺส เมถุนธมฺมสฺส อุทฺเทสปทํ. อสทฺธมฺโมติ อสตํ นีจชนานํ ธมฺโม. คามธมฺโมติ คามวาสีนํ เสวนธมฺโม. วสลธมฺโมติ วสลานํ ธมฺโม; กิเลสวสฺสนโต วา สยเมว วสโล ธมฺโมติ วสลธมฺโม. ทุฏฺุลฺลนฺติ ทุฏฺฺุจ กิเลเสหิ ทุฏฺตฺตา, ถูลฺจ อนิปุณภาวโตติ ทุฏฺุลฺลํ. อิโต ปฏฺาย จ ตีสุ ปเทสุ ‘‘โย โส’’ติ อิทํ ปริวตฺเตตฺวา ‘‘ยํ ต’’นฺติ กตฺวา โยเชตพฺพํ – ‘‘ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ, ยํ ตํ โอทกนฺติกํ, ยํ ตํ รหสฺส’’นฺติ. เอตฺถ จ ยสฺมา ตสฺส กมฺมสฺส ปริวารภูตํ ทสฺสนมฺปิ คหณมฺปิ อามสนมฺปิ ผุสนมฺปิ ฆฏฺฏนมฺปิ ทุฏฺุลฺลํ, ตสฺมาปิ ตํ กมฺมํ ทุฏฺุลฺลํ. ยํ ตํ ทุฏฺุลฺลํ โส เมถุนธมฺโม. อุทกํ อสฺส อนฺเต สุทฺธตฺถํ อาทียตีติ อุทกนฺตํ, อุทกนฺตเมว โอทกนฺติกํ; ยํ ตํ โอทกนฺติกํ ¶ , โส เมถุนธมฺโม. รโห ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส กตฺตพฺพตาย รหสฺสํ. ยํ ตํ รหสฺสํ, โส เมถุนธมฺโมติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา.
ทฺวเยน ทฺวเยน สมาปชฺชิตพฺพโต ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ. ตตฺถ โยชนา – ‘‘ยา สา ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติ โส เมถุนธมฺโม นามา’’ติ. อิธ ปน ตํ สพฺพํ เอกชฺฌํ นิคเมนฺโต อาห ‘‘เอโส เมถุนธมฺโม นามา’’ติ. กึ การณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ? อุภินฺนํ รตฺตานํ สารตฺตานํ อวสฺสุตานํ ปริยุฏฺิตานํ อุภินฺนํ สทิสานํ ธมฺโมติ, ตํ การณา วุจฺจติ เมถุนธมฺโมติ.
ปฏิเสวติ นามาติ อิทํ ‘‘ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอตฺถ เยนากาเรน ปฏิเสเวยฺยาติ วุจฺจติ, ตสฺสาการสฺส ทสฺสนตฺถํ มาติกาปทํ. โย นิตฺเตน นิมิตฺตนฺติอาทีสุ โย ภิกฺขุ อิตฺถิยา นิมิตฺเตน ¶ อตฺตโน นิมิตฺตํ, อิตฺถิยา องฺคชาเตน อตฺตโน องฺคชาตํ สพฺพนฺติเมน ปมาเณน เอกติลพีชมตฺตมฺปิ วาเตน อสมฺผุฏฺเ อลฺโลกาเส ปเวเสติ, เอโส ปฏิเสวติ นาม; เอตฺตเกน สีลเภทํ ปาปุณาติ, ปาราชิโก โหติ.
เอตฺถ จ อิตฺถินิมิตฺเต จตฺตาริ ปสฺสานิ, เวมชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ ลพฺภนฺติ. ปุริสนิมิตฺเต จตฺตาริ ปสฺสานิ, มชฺฌํ, อุปริจาติ ฉ. ตสฺมา อิตฺถินิมิตฺเต เหฏฺา ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. อุปริโต ปเวเสนฺโตปิ, อุโภหิ ปสฺเสหิ ¶ ปเวเสนฺโตปิ จตฺตาริ านานิ มฺุจิตฺวา มชฺเฌน ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. ปุริสนิมิตฺตํ ปน เหฏฺาภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ, อุโภหิ ปสฺเสหิ ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ, มชฺเฌเนว ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ สมฺฉิตงฺคุลึ วิย มชฺฌิมปพฺพปิฏฺิยา สงฺโกเจตฺวา อุปริภาเคน ฉุปนฺตํ ปเวเสนฺโตปิ ปาราชิโก โหติ. ตตฺถ ตุลาทณฺฑสทิสํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ จตฺตาริ ปสฺสานิ, มชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ; สงฺโกเจตฺวา ปเวเสนฺตสฺสาปิ จตฺตาริ ปสฺสานิ, อุปริภาคมชฺฌฺจาติ ปฺจ านานิ – เอวํ สพฺพานิปิ ปุริสนิมิตฺเต ทส านานิ โหนฺติ.
นิมิตฺเต ชาตํ อนฏฺกายปฺปสาทํ จมฺมขีลํ วา ปิฬกํ วา ปเวเสติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. นฏฺกายปฺปสาทํ มตจมฺมํ วา สุกฺขปิฬกํ วา ปเวเสติ, อาปตฺติ ¶ ทุกฺกฏสฺส. เมถุนสฺสาเทน โลมํ วา องฺคุลิ-องฺคุฏฺพีชาทีนิ วา ปเวเสนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. อยฺจ เมถุนกถา นาม ยสฺมา ทุฏฺุลฺลา กถา อสพฺภิกถา, ตสฺมา เอตํ วา อฺํ วา วินเย อีทิสํ านํ กเถนฺเตน ปฏิกฺกูลมนสิการฺจ สมณสฺฺจ หิโรตฺตปฺปฺจ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺเธ คารวํ อุปฺปาเทตฺวา อสมการุณิกสฺส โลกนาถสฺส กรุณาคุณํ อาวชฺเชตฺวา กเถตพฺพํ. โส หิ นาม ภควา สพฺพโส กาเมหิ วินิวตฺตมานโสปิ สตฺตานุทฺทยาย โลกานุกมฺปาย สตฺเตสุ การฺุตํ ปฏิจฺจ สิกฺขาปทปฺาปนตฺถาย อีทิสํ กถํ กเถสิ. ‘‘อโห สตฺถุ กรุณาคุโณ’’ติ เอวํ โลกนาถสฺส กรุณาคุณํ อาวชฺเชตฺวา กเถตพฺพํ.
อปิจ ยทิ ภควา สพฺพากาเรน อีทิสํ กถํ น กเถยฺย, โก ชาเนยฺย ‘‘เอตฺตเกสุ
าเนสุ ปาราชิกํ, เอตฺตเกสุ ถุลฺลจฺจยํ, เอตฺตเกสุ ทุกฺกฏ’’นฺติ. ตสฺมา สุณนฺเตนปิ กเถนฺเตนปิ พีชเกน มุขํ อปิธาย ทนฺตวิทํสกํ หสมาเนน น นิสีทิตพฺพํ. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธนาปิ อีทิสํ กถิต’’นฺติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา คพฺภิเตน หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺเนน สตฺถุปฏิภาเคน หุตฺวา กเถตพฺพนฺติ.
มูลปฺตฺตํ นิฏฺิตํ.
อนุปฺตฺติวาเร ¶ – อนฺตมโสติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน. ติรจฺฉานคตายปีติ ปฏิสนฺธิวเสน ติรจฺฉาเนสุ คตายปิ. ปเคว มนุสฺสิตฺถิยาติ ปมตรํ มนุสฺสชาติกาย อิตฺถิยา. ปาราชิกวตฺถุภูตา เอว เจตฺถ ติรจฺฉานคติตฺถี ติรจฺฉานคตาติ คเหตพฺพา, น สพฺพา. ตตฺรายํ ปริจฺเฉโท –
อปทานํ อหิ มจฺฉา, ทฺวิปทานฺจ กุกฺกุฏี;
จตุปฺปทานํ มชฺชารี, วตฺถุ ปาราชิกสฺสิมาติ.
ตตฺถ ¶ อหิคฺคหเณน สพฺพาปิ อชครโคนสาทิเภทา ทีฆชาติ สงฺคหิตา. ตสฺมา ทีฆชาตีสุ ยตฺถ ติณฺณํ มคฺคานํ อฺตรสฺมึ สกฺกา ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสตุํ, สา ปาราชิกวตฺถุ. อวเสสา ทุกฺกฏวตฺถูติ เวทิตพฺพา. มจฺฉคฺคหเณน สพฺพาปิ มจฺฉกจฺฉปมณฺฑูกาทิเภทา โอทกชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ ทีฆชาติยํ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – ปตงฺคมุขมณฺฑูกา นาม โหนฺติ เตสํ มุขสณฺานํ มหนฺตํ, ฉิทฺทํ อปฺปกํ, ตตฺถ ปเวสนํ นปฺปโหติ; มุขสณฺานํ ปน วณสงฺเขปํ คจฺฉติ, ตสฺมา ตํ ถุลฺลจฺจยวตฺถูติ เวทิตพฺพํ. กุกฺกุฏิคฺคหเณน สพฺพาปิ กากกโปตาทิเภทา ปกฺขิชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ. มชฺชาริคฺคหเณน สพฺพาปิ รุกฺขสุนข-มุงฺคุส-โคธาทิเภทา จตุปฺปทชาติ สงฺคหิตา. ตตฺราปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ เวทิตพฺพํ.
ปาราชิโกติ ปราชิโต, ปราชยํ อาปนฺโน. อยฺหิ ปาราชิกสทฺโท สิกฺขาปทาปตฺติปุคฺคเลสุ วตฺตติ. ตตฺถ ‘‘อฏฺานเมตํ, อานนฺท, อนวกาโส ยํ ตถาคโต วชฺชีนํ วา วชฺชิปุตฺตกานํ วา การณา สาวกานํ ปาราชิกํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ สมูหเนยฺยา’’ติ (ปารา. ๔๓) เอวํ สิกฺขาปเท วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘อาปตฺตึ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาปนฺโน ปาราชิก’’นฺติ (ปารา. ๖๗) เอวํ อาปตฺติยํ. ‘‘น มยํ ปาราชิกา, โย อวหโฏ โส ปาราชิโก’’ติ (ปารา. ๑๕๕) เอวํ ปุคฺคเล วตฺตมาโน เวทิตพฺโพ. ‘‘ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺยา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๓๘๔) ปน ธมฺเม วตฺตตีติ วทนฺติ. ยสฺมา ปน ตตฺถ ธมฺโมติ กตฺถจิ อาปตฺติ ¶ , กตฺถจิ สิกฺขาปทเมว อธิปฺเปตํ, ตสฺมา โส วิสุํ น วตฺตพฺโพ. ตตฺถ สิกฺขาปทํ โย ตํ อติกฺกมติ, ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิก’’นฺติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ปน โย นํ อชฺฌาปชฺชติ, ตํ ปราเชติ, ตสฺมา ‘‘ปาราชิกา’’ติ ¶ วุจฺจติ. ปุคฺคโล ยสฺมา ¶ ปราชิโต ปราชยมาปนฺโน, ตสฺมา ‘‘ปาราชิโก’’ติ วุจฺจติ. เอตเมว หิ อตฺถํ สนฺธาย ปริวาเรปิ –
‘‘ปาราชิกนฺติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
จุโต ปรทฺโธ ภฏฺโ จ, สทฺธมฺมา หิ นิรงฺกโต;
สํวาโสปิ ตหึ นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. (ปริ. ๓๓๙);
อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ‘‘ตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺโต อาปตฺติฺจ อาปนฺโน ปุคฺคโล จุโต โหตีติ สพฺพํ โยเชตพฺพํ. เตน วุจฺจตีติ เยน การเณน อสฺสมโณ โหติ อสกฺยปุตฺติโย ปริภฏฺโ ฉินฺโน ปราชิโต สาสนโต, เตน วุจฺจติ. กินฺติ? ‘‘ปาราชิโก โหตี’’ติ.
สห วสนฺติ เอตฺถาติ สํวาโส, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สํวาโส นามา’’ติ วตฺวา ‘‘เอกกมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺรายํ สทฺธึ โยชนาย วณฺณนา – จตุพฺพิธมฺปิ สงฺฆกมฺมํ สีมาปริจฺฉินฺเนหิ ปกตตฺเตหิ ภิกฺขูหิ เอกโต กตฺตพฺพตฺตา เอกกมฺมํ นาม. ตถา ปฺจวิโธปิ ปาติโมกฺขุทฺเทโส เอกโต อุทฺทิสิตพฺพตฺตา เอกุทฺเทโส นาม. ปฺตฺตํ ปน สิกฺขาปทํ สพฺเพหิปิ ลชฺชีปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขตา นาม. เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา ‘‘เอโส สํวาโส นามา’’ติ อาห. โส จ วุตฺตปฺปกาโร สํวาโส เตน ปุคฺคเลน สทฺธึ นตฺถิ, เตน การเณน โส ปาราชิโก ปุคฺคโล อสํวาโสติ วุจฺจตีติ.
๕๖. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยํ ตํ ‘‘ปฏิเสเวยฺยา’’ติ เอตฺถ เยนากาเรน ปฏิเสเวยฺยาติ วุจฺจติ, ตสฺสาการสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปฏิเสวติ นามา’’ติ อิทํ มาติกาปทํ เปตฺวา ‘‘นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ องฺคชาเตน องฺคชาต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา น เกวลํ อิตฺถิยา ¶ เอว นิมิตฺตํ ปาราชิกวตฺถุ, น จ มนุสฺสิตฺถิยา เอว, สุวณฺณรชตาทิมยานฺจ อิตฺถีนมฺปิ นิมิตฺตํ วตฺถุเมว น โหติ; ตสฺมา ยํ ยํ วตฺถุ โหติ, ตํ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ติสฺโส อิตฺถิโย’’ติอาทินา นเยน เยสํ นิมิตฺตานิ วตฺถูนิ โหนฺติ, เต สตฺเต วตฺวา ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค’’ติอาทินา นเยน ตานิ วตฺถูนิ อาห.
ตตฺถ ติสฺโส อิตฺถิโย, ตโย อุภโตพฺยฺชนกา, ตโย ปณฺฑกา, ตโย ปุริสาติ ปาราชิกวตฺถูนํ ¶ นิมิตฺตานํ นิสฺสยา ทฺวาทส สตฺตา โหนฺติ. เตสุ อิตฺถิปุริสา ปากฏา เอว ¶ . ปณฺฑกอุภโตพฺยฺชนกเภโท ปพฺพชฺชาขนฺธกวณฺณนายํ ปากโฏ ภวิสฺสติ.
มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺสาติ เอตฺถ จ มนุสฺสิตฺถิยา ตีสุ มคฺเคสูติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ สพฺพตฺถ. สพฺเพ เอว เจเต มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺคา, อมนุสฺสิตฺถิยา ตโย, ติรจฺฉานคติตฺถิยา ตโยติ นว; มนุสฺสอุภโตพฺยฺชนกาทีนํ นว; มนุสฺสปณฺฑกาทีนํ ทฺเว ทฺเว กตฺวา ฉ; ตถา มนุสฺสปุริสาทีนนฺติ สมตึส มคฺคา โหนฺติ. เอเตสุ นิมิตฺตสงฺขาเตสุ ยตฺถ กตฺถจิ อตฺตโน องฺคชาตํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสตฺวา เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต ปาราชิกํ อาปชฺชติ.
ปมจตุกฺกกถาวณฺณนา
๕๗. อาปชฺชนฺโต ปน ยสฺมา เสวนจิตฺเตเนว อาปชฺชติ, น วินา เตน; ตสฺมา ตํ ลกฺขณํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘ภิกฺขุสฺส เสวนจิตฺตํ อุปฏฺิเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุสฺสาติ เมถุนเสวนกสฺส ภิกฺขุสฺส. เสวนจิตฺตํ อุปฏฺิเตติ ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, เสวนจิตฺเต ปจฺจุปฏฺิเตติ อตฺโถ. วจฺจมคฺคํ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺสาติ เยน มคฺเคน วจฺจํ นิกฺขมติ ตํ มคฺคํ อตฺตโน องฺคชาตํ ปุริสนิมิตฺตํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตสฺส. อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ อาปตฺติ ปาราชิกา อสฺส โหตีติ อตฺโถ. อถ วา อาปตฺตีติ อาปชฺชนํ โหติ. ปาราชิกสฺสาติ ปาราชิกธมฺมสฺส. เอส นโย สพฺพตฺถ.
๕๘. เอวํ เสวนจิตฺเตเนว ปเวเสนฺตสฺส อาปตฺตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา ตํ ปเวสนํ นาม น เกวลํ อตฺตูปกฺกเมเนว, ปรูปกฺกเมนาปิ โหติ ¶ . ตตฺราปิ จ สาทิยนฺตสฺเสว อาปตฺติ ปฏิเสวนจิตฺตสมงฺคิสฺส, น อิตรสฺส. ตสฺมา เย สทฺธาปพฺพชิตา กุลปุตฺตา สมฺมาปฏิปนฺนกา ปรูปกฺกเมน ปเวสเนปิ สติ น สาทิยนฺติ, เตสํ รกฺขณตฺถํ ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถิ’’นฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ปฏิปกฺขํ อตฺถยนฺติ อิจฺฉนฺตีติ ปจฺจตฺถิกา, ภิกฺขู เอว ปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา; วิสภาคานํ เวริภิกฺขูนเมตํ อธิวจนํ. มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวาติ อิสฺสาปกตา ตํ ภิกฺขุํ นาเสตุกามา อามิเสน วา อุปลาเปตฺวา มิตฺตสนฺถววเสน วา ‘‘อิทํ อมฺหากํ กิจฺจํ กโรหี’’ติ วตฺวา กฺจิ มนุสฺสิตฺถึ ¶ รตฺติภาเค ตสฺส ภิกฺขุสฺส วสโนกาสํ ¶ อาเนตฺวา. วจฺจมคฺเคน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺตีติ ตํ ภิกฺขุํ หตฺถปาทสีสาทีสุ สุคฺคหิตํ นิปฺปริปฺผนฺทํ คเหตฺวา อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคน ตสฺส ภิกฺขุโน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ; สมฺปโยเชนฺตีติ อตฺโถ.
โส เจติอาทีสุ โส เจ ภิกฺขุ วจฺจมคฺคพฺภนฺตรํ อตฺตโน องฺคชาตสฺส ปเวสนํ สาทิยติ อธิวาเสติ ตสฺมึ ขเณ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. ปวิฏฺํ สาทิยติ อธิวาเสติ, ปวิฏฺกาเล เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. ิตํ สาทิยติ อธิวาเสติ, านปฺปตฺตกาเล สุกฺกวิสฺสฏฺิสมเย เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. อุทฺธรณํ สาทิยติ อธิวาเสติ, นีหรณกาเล ปฏิเสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปติ. เอวํ จตูสุ าเนสุ สาทิยนฺโต ‘‘มม เวริสมเณหิ อิทํ กต’’นฺติ วตฺตุํ น ลภติ, ปาราชิกาปตฺติเมว อาปชฺชติ. ยถา จ อิมานิ จตฺตาริ สาทิยนฺโต อาปชฺชติ; เอวํ ปุริมํ เอกํ อสาทิยิตฺวา ตีณิ สาทิยนฺโตปิ, ทฺเว อสาทิยิตฺวา ทฺเว สาทิยนฺโตปิ, ตีณิ อสาทิยิตฺวา เอกํ สาทิยนฺโตปิ อาปชฺชติเยว. สพฺพโส ปน อสาทิยนฺโต อาสีวิสมุขํ วิย องฺคารกาสุํ วิย จ ปวิฏฺํ องฺคชาตํ มฺมาโน นาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปเวสนํ น สาทิยติ…เป… อุทฺธรณํ น สาทิยติ, อนาปตฺตี’’ติ. อิมฺหิ เอวรูปํ อารทฺธวิปสฺสกํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขํ เอกาทสหิ อคฺคีหิ สมฺปชฺชลิตานิ จ สพฺพายตนานิ อุกฺขิตฺตาสิเก วิย จ วธเก ปฺจ กามคุเณ ปสฺสนฺตํ ปุคฺคลํ รกฺขนฺโต ภควา ปจฺจตฺถิกานฺจสฺส มโนรถวิฆาตํ ¶ กโรนฺโต อิมํ ‘‘ปเวสนํ น สาทิยตี’’ติอาทิกํ จตุกฺกํ นีหริตฺวา เปสีติ.
ปมจตุกฺกกถา นิฏฺิตา.
เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถา
๕๙-๖๐. เอวํ ปมจตุกฺกํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา อิตฺถึ อาเนตฺวา น เกวลํ วจฺจมคฺเคเนว อภินิสีเทนฺติ, อถ โข ปสฺสาวมคฺเคนปิ มุเขนปิ. อิตฺถึ อาเนตฺวาปิ จ เกจิ ชาครนฺตึ อาเนนฺติ, เกจิ สุตฺตํ, เกจิ มตฺตํ, เกจิ อุมฺมตฺตํ, เกจิ ปมตฺตํ อฺวิหิตํ วิกฺขิตฺตจิตฺตนฺติ ¶ อตฺโถ. เกจิ มตํ อกฺขายิตํ, โสณสิงฺคาลาทีหิ อกฺขายิตนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. เกจิ มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตํ, เยภุยฺเยน อกฺขายิตา นาม ยสฺสา นิมิตฺเต วจฺจมคฺเค ปสฺสาวมคฺเค มุเข วา พหุตโร โอกาโส อกฺขายิโต โหติ. เกจิ มตํ เยภุยฺเยน ขายิตํ, เยภุยฺเยน ขายิตา นาม ยสฺสา วจฺจมคฺคาทิเก นิมิตฺเต พหุํ ขายิตํ ¶ โหติ, อปฺปํ อกฺขายิตํ. น เกวลฺจ มนุสฺสิตฺถิเมว อาเนนฺติ, อถ โข อมนุสฺสิตฺถิมฺปิ ติรจฺฉานคติตฺถิมฺปิ. น เกวลฺจ วุตฺตปฺปการํ อิตฺถิเมว, อุภโตพฺยฺชนกมฺปิ ปณฺฑกมฺปิ ปุริสมฺปิ อาเนนฺติ. ตสฺมา เตสํ วเสน อฺานิปิ จตุกฺกานิ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ชาครนฺติ’’นฺติอาทิมาห.
ตตฺถ ปาฬิยา อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตจตุกฺกานิ เอวํ สงฺขฺยาโต เวทิตพฺพานิ – มนุสฺสิตฺถิยา ติณฺณํ มคฺคานํ วเสน ตีณิ สุทฺธิกจตุกฺกานิ, ตีณิ ชาครนฺตีจตุกฺกานิ, ตีณิ สุตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ มตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ อุมฺมตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ ปมตฺตจตุกฺกานิ, ตีณิ มตอกฺขายิตจตุกฺกานิ, ตีณิ เยภุยฺเยน อกฺขายิตจตุกฺกานิ, ตีณิ เยภุยฺเยน ขายิตจตุกฺกานีติ สตฺตวีสติ จตุกฺกานิ. ตถา อมนุสฺสิตฺถิยา; ตถา ติรจฺฉานคติตฺถิยาติ อิตฺถิวาเร เอกาสีติ จตุกฺกานิ. ยถา จ อิตฺถิวาเร เอวํ อุภโตพฺยฺชนกวาเร. ปณฺฑกปุริสวาเรสุ ปน ทฺวินฺนํ มคฺคานํ วเสน จตุปณฺณาส จตุปณฺณาส โหนฺติ. เอวํ สพฺพานิปิ ทฺเวสตานิ, สตฺตติ จ จตุกฺกานิ โหนฺติ, ตานิ อุตฺตานตฺถานิเยว.
สพฺพวาเรสุ ¶ ปเนตฺถ ‘‘มตํ เยภุยฺเยน อกฺขายิตํ ขายิต’’นฺติ เอตสฺมึ าเน อยํ วินิจฺฉโย – ตมฺพปณฺณิทีเป กิร ทฺเว วินยธรา สมานาจริยกา เถรา อเหสุํ – อุปติสฺสตฺเถโร จ, ผุสฺสเทวตฺเถโร จ. เต มหาภเย อุปฺปนฺเน วินยปิฏกํ ปริหรนฺตา รกฺขึสุ. เตสุ อุปติสฺสตฺเถโร พฺยตฺตตโร. ตสฺสาปิ ทฺเว อนฺเตวาสิกา อเหสุํ – มหาปทุมตฺเถโร จ มหาสุมตฺเถโร จ. เตสุ มหาสุมตฺเถโร นกฺขตฺตุํ วินยปิฏกํ อสฺโสสิ, มหาปทุมตฺเถโร เตน สทฺธึ นวกฺขตฺตุํ, วิสฺุจ เอกโกว นวกฺขตฺตุนฺติ อฏฺารสกฺขตฺตุํ อสฺโสสิ; อยเมว เตสุ พฺยตฺตตโร ¶ . เตสุ มหาสุมตฺเถโร นวกฺขตฺตุํ วินยปิฏกํ สุตฺวา อาจริยํ มฺุจิตฺวา อปรคงฺคํ อคมาสิ. ตโต มหาปทุมตฺเถโร อาห – ‘‘สูโร วต, เร, เอส วินยธโร โย ธรมานกํเยว อาจริยํ มฺุจิตฺวา อฺตฺถ วสิตพฺพํ มฺติ. นนุ อาจริเย ธรมาเน วินยปิฏกฺจ อฏฺกถา จ อเนกกฺขตฺตุํ คเหตฺวาปิ น วิสฺสชฺเชตพฺพํ, นิจฺจกาลํ โสตพฺพํ, อนุสํวจฺฉรํ สชฺฌายิตพฺพ’’นฺติ.
เอวํ วินยครุกานํ ภิกฺขูนํ กาเล เอกทิวสํ อุปติสฺสตฺเถโร มหาปทุมตฺเถรปฺปมุขานํ ปฺจนฺนํ อนฺเตวาสิกสตานํ ปมปาราชิกสิกฺขาปเท อิมํ ปเทสํ วณฺเณนฺโต นิสินฺโน โหติ. ตํ อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, เยภุยฺเยน อกฺขายิเต ปาราชิกํ, เยภุยฺเยน ขายิเต ถุลฺลจฺจยํ, อุปฑฺฒกฺขายิเต เกน ภวิตพฺพ’’นฺติ? เถโร อาห – ‘‘อาวุโส, พุทฺธา นาม ปาราชิกํ ¶ ปฺเปนฺตา น สาวเสสํ กตฺวา ปฺเปนฺติ, อนวเสสํเยว กตฺวา สพฺพํ ปริยาทิยิตฺวา โสตํ ฉินฺทิตฺวา ปาราชิกวตฺถุสฺมึ ปาราชิกเมว ปฺเปนฺติ. อิทฺหิ สิกฺขาปทํ โลกวชฺชํ, น ปณฺณตฺติวชฺชํ. ตสฺมา ยทิ อุปฑฺฒกฺขายิเต ปาราชิกํ ภเวยฺย, ปฺเปยฺย สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ปาราชิกจฺฉายา ปเนตฺถ น ทิสฺสติ, ถุลฺลจฺจยเมว ทิสฺสตี’’ติ.
อปิจ มตสรีเร ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ภควา เยภุยฺเยน อกฺขายิเต เปสิ ‘‘ตโต ปรํ ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุํ. ถุลฺลจฺจยํ ปฺเปนฺโต เยภุยฺเยน ขายิเต เปสิ ‘‘ตโต ปรํ ถุลฺลจฺจยํ นตฺถี’’ติ ทสฺเสตุนฺติปิ เวทิตพฺพํ. ขายิตาขายิตฺจ นาเมตํ มตสรีรสฺมึเยว เวทิตพฺพํ, น ชีวมาเน. ชีวมาเน หิ นขปิฏฺิปฺปมาเณปิ ฉวิมํเส วา นฺหารุมฺหิ ¶ วา สติ ปาราชิกเมว โหติ. ยทิปิ นิมิตฺตํ สพฺพโส ขายิตํ ฉวิจมฺมํ นตฺถิ, นิมิตฺตสณฺานํ ปฺายติ, ปเวสนํ ชายติ, ปาราชิกเมว. นิมิตฺตสณฺานํ ปน อนวเสเสตฺวา สพฺพสฺมึ นิมิตฺเต ฉินฺทิตฺวา สมนฺตโต ตจฺเฉตฺวา อุปฺปาฏิเต วณสงฺเขปวเสน ถุลฺลจฺจยํ. นิมิตฺตโต ปติตาย มํสเปสิยา อุปกฺกมนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. มตสรีเร ปน ยทิปิ สพฺพํ สรีรํ ขายิตํ โหติ, ยทิปิ อกฺขายิตํ, ตโย ปน มคฺคา อกฺขายิตา, เตสุ อุปกฺกมนฺตสฺส ¶ ปาราชิกํ. เยภุยฺเยน อกฺขายิเต ปาราชิกเมว. อุปฑฺฒกฺขายิเต จ เยภุยฺเยน ขายิเต จ ถุลฺลจฺจยํ.
มนุสฺสานํ ชีวมานกสรีเร อกฺขินาสกณฺณจฺฉิทฺทวตฺถิโกเสสุ สตฺถกาทีหิ กตวเณ วา เมถุนราเคน ติลผลมตฺตมฺปิ องฺคชาตํ ปเวเสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยเมว. อวเสสสรีเร อุปกจฺฉกาทีสุ ทุกฺกฏํ. มเต อลฺลสรีเร ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏํ. ยทา ปน สรีรํ อุทฺธุมาตกํ โหติ กุถิตํ นีลมกฺขิกสมากิณฺณํ กิมิกุลสมากุลํ นวหิ วณมุเขหิ ปคฺคฬิตปุพฺพกุณปภาเวน อุปคนฺตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ, ตทา ปาราชิกวตฺถฺุจ ถุลฺลจฺจยวตฺถฺุจ วิชหติ; ตาทิเส สรีเร ยตฺถ กตฺถจิ อุปกฺกมโต ทุกฺกฏเมว. ติรจฺฉานคตานํ หตฺถิ-อสฺส-โคณ-คทฺรภ-โอฏฺมหึสาทีนํ นาสาย ถุลฺลจฺจยํ. วตฺถิโกเส ถุลฺลจฺจยเมว. สพฺเพสมฺปิ ติรจฺฉานคตานํ อกฺขิกณฺณวเณสุ ทุกฺกฏํ, อวเสสสรีเรปิ ทุกฺกฏเมว. มตานํ อลฺลสรีเร ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ, ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏํ.
กุถิตกุณเป ปน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. กายสํสคฺคราเคน วา เมถุนราเคน วา ชีวมานกปุริสสฺส วตฺถิโกสํ อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ทุกฺกฏํ. เมถุนราเคน ¶ อิตฺถิยา อปฺปเวเสนฺโต นิมิตฺเตน นิมิตฺตํ ฉุปติ, ถุลฺลจฺจยํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘อิตฺถินิมิตฺตํ เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ ถุลฺลจฺจย’’นฺติ วุตฺตํ. จมฺมกฺขนฺธเก ‘‘ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อจิรวติยา นทิยา คาวีนํ ตรนฺตีนํ วิสาเณสุปิ คณฺหนฺติ, กณฺเณสุปิ คณฺหนฺติ, คีวายปิ คณฺหนฺติ, เฉปฺปายปิ คณฺหนฺติ, ปิฏฺิมฺปิ อภิรุหนฺติ, รตฺตจิตฺตาปิ องฺคชาตํ ฉุปนฺตี’’ติ (มหาว. ๒๕๒) อิมิสฺสา อฏฺุปฺปตฺติยา อวิเสเสน วุตฺตํ – ‘‘น จ, ภิกฺขเว, รตฺตจิตฺเตน องฺคชาตํ ฉุปิตพฺพํ, โย ฉุเปยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ ¶ (มหาว. ๒๕๒). ตํ สพฺพมฺปิ สํสนฺทิตฺวา ยถา น วิรุชฺฌติ ตถา คเหตพฺพํ. กถฺจ ¶ น วิรุชฺฌติ? ยํ ตาว มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เมถุนราเคน มุเขน ฉุปตี’’ติ. ตตฺร กิร นิมิตฺตมุขํ มุขนฺติ อธิปฺเปตํ. ‘‘เมถุนราเคนา’’ติ จ วุตฺตตฺตาปิ อยเมว ตตฺถ อธิปฺปาโยติ เวทิตพฺโพ. น หิ อิตฺถินิมิตฺเต ปกติมุเขน เมถุนุปกฺกโม โหติ. ขนฺธเกปิ เย ปิฏฺึ อภิรุหนฺตา เมถุนราเคน องฺคชาเตน องฺคชาตํ ฉุปึสุ, เต สนฺธาย ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิตรถา หิ ทุกฺกฏํ สิยา. เกจิ ปนาหุ ‘‘ขนฺธเกปิ มุเขเนว ฉุปนํ สนฺธาย โอฬาริกตฺตา กมฺมสฺส ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. อฏฺกถายมฺปิ ตํ สนฺธายภาสิตํ คเหตฺวาว เมถุนราเคน มุเขน ฉุปติ ถุลฺลจฺจยนฺติ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา อุโภสุ วินิจฺฉเยสุ โย ยุตฺตตโร โส คเหตพฺโพ. วินยฺู ปน ปุริมํ ปสํสนฺติ. กายสํสคฺคราเคน ปน ปกติมุเขน วา นิมิตฺตมุเขน วา อิตฺถินิมิตฺตํ ฉุปนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. ติรจฺฉานคติตฺถิยา ปสฺสาวมคฺคํ นิมิตฺตมุเขน ฉุปนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว ถุลฺลจฺจยํ. กายสํสคฺคราเคน ทุกฺกฏนฺติ.
เอกูนสตฺตติทฺวิสตจตุกฺกกถา นิฏฺิตา.
สนฺถตจตุกฺกเภทกถา
๖๑-๖๒. เอวํ ภควา ปฏิปนฺนกสฺส ภิกฺขุโน รกฺขณตฺถํ สตฺตติทฺวิสตจตุกฺกานิ นีหริตฺวา ‘‘อิทานิ เย อนาคเต ปาปภิกฺขู ‘สนฺถตํ อิมํ น กิฺจิ อุปาทินฺนกํ อุปาทินฺนเกน ผุสติ, โก เอตฺถ โทโส’ติ สฺจิจฺจ เลสํ โอฑฺเฑสฺสนฺติ, เตสํ สาสเน ปติฏฺา เอว น ภวิสฺสตี’’ติ ทิสฺวา เตสุ สตฺตติทฺวิสตจตุกฺเกสุ เอกเมกํ จตุกฺกํ จตูหิ สนฺถตาทิเภเทหิ ภินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา มนุสฺสิตฺถึ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก อาเนตฺวา วจฺจมคฺเคน ปสฺสาวมคฺเคน มุเขน องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺติ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสาติอาทิมาห.
ตตฺถ สนฺถตาย อสนฺถตสฺสาติอาทีสุ สนฺถตาย อิตฺถิยา วจฺจมคฺเคน ปสฺสาวมคฺเคน มุเขน ¶ อสนฺถตสฺส ภิกฺขุสฺส องฺคชาตํ อภินิสีเทนฺตีติ อิมินา ¶ นเยน โยชนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ สนฺถตา นาม ยสฺสา ตีสุ ¶ มคฺเคสุ โย โกจิ มคฺโค ปลิเวเตฺวา วา อนฺโต วา ปเวเสตฺวา เยน เกนจิ วตฺเถน วา ปณฺเณน วา วากปฏฺเฏน วา จมฺเมน วา ติปุสีสาทีนํ ปฏฺเฏน วา ปฏิจฺฉนฺโน. สนฺถโต นาม ยสฺส องฺคชาตํ เตสํเยว วตฺถาทีนํ เยน เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนํ. ตตฺถ อุปาทินฺนเกน วา อนุปาทินฺนกํ ฆฏฺฏิยตุ, อนุปาทินฺนเกน วา อุปาทินฺนกํ, อนุปาทินฺนเกน วา อนุปาทินฺนกํ, อุปาทินฺนเกน วา อุปาทินฺนกํ, สเจ ยตฺตเก ปวิฏฺเ ปาราชิกํ โหตีติ วุตฺตํ, ตตฺตกํ ปวิสติ, สพฺพตฺถ สาทิยนฺตสฺส ปาราชิกกฺเขตฺเต ปาราชิกํ; ถุลฺลจฺจยกฺเขตฺเต ถุลฺลจฺจยํ, ทุกฺกฏกฺเขตฺเต ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ อิตฺถินิมิตฺตํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ ปุริสนิมิตฺตํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุํ ปเวเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ อุภยํ ขาณุํ กตฺวา สนฺถตํ, ขาณุนา ขาณุํ ฆฏฺเฏนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. สเจ อิตฺถินิมิตฺเต เวฬุนฬปพฺพาทีนํ กิฺจิ ปกฺขิตฺตํ, ตสฺส เหฏฺาภาคํ เจปิ ผุสนฺโต ติลผลมตฺตํ ปเวเสติ, ปาราชิกํ. อุปริภาคํ เจปิ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอกปสฺสํ เจปิ ผุสนฺโต ปเวเสติ, ปาราชิกํ. จตฺตาริปิ ปสฺสานิ อผุสนฺโต ปเวเสตฺวา ตสฺส ตลํ เจปิ ผุสติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปสฺเสสุ วา ตเล วา อผุสนฺโต อากาสคตเมว กตฺวา ปเวเสตฺวา นีหรติ, ทุกฺกฏํ. พหิทฺธา ขาณุเก ผุสติ ทุกฺกฏเมว. ยถา จ อิตฺถินิมิตฺเต วุตฺตํ, เอวํ สพฺพตฺถ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ.
สนฺถตจตุกฺกเภทกถา นิฏฺิตา.
ภิกฺขุปจฺจตฺถิกจตุกฺกเภทวณฺณนา
๖๓-๖๔. เอวํ สนฺถตจตุกฺกเภทํ วตฺวา อิทานิ ยสฺมา น เกวลํ มนุสฺสิตฺถิอาทิเก ภิกฺขุสฺส เอว สนฺติเก อาเนนฺติ. อถ โข ภิกฺขุมฺปิ ตาสํ สนฺติเก อาเนนฺติ, ตสฺมา ตปฺปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา ภิกฺขุํ มนุสฺสิตฺถิยา สนฺติเก’’ติ อาทินา นเยน สพฺพานิ ตานิ จตุกฺกานิ ปุนปิ นีหริตฺวา ทสฺเสสิ. เตสุ วินิจฺฉโย วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
ภิกฺขุปจฺจตฺถิกวเสน จตุกฺกเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
ราชปจฺจตฺถิกาทิจตุกฺกเภทกถา
๖๕. ยสฺมา ¶ ¶ ¶ ปน น ภิกฺขุปจฺจตฺถิกา เอว เอวํ กโรนฺติ, ราชปจฺจตฺถิกาทโยปิ กโรนฺติ. ตสฺมา ตมฺปิ ปเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ราชปจฺจตฺถิกา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ราชาโน เอว ปจฺจตฺถิกา ราชปจฺจตฺถิกา. เต จ สยํ อาเนนฺตาปิ อฺเหิ อาณาเปนฺตาปิ อาเนนฺติเยวาติ เวทิตพฺพา. โจรา เอว ปจฺจตฺถิกา โจรปจฺจตฺถิกา. ธุตฺตาติ เมถุนุปสํหิตขิฑฺฑาปสุตา นาคริกเกราฏิยปุริสา, อิตฺถิธุตฺตสุราธุตฺตาทโย วา; ธุตฺตา เอว ปจฺจตฺถิกา ธุตฺตปจฺจตฺถิกา. คนฺธนฺติ หทยํ วุจฺจติ, ตํ อุปฺปาเฏนฺตีติ อุปฺปลคนฺธา, อุปฺปลคนฺธา เอว ปจฺจตฺถิกา อุปฺปลคนฺธปจฺจตฺถิกา. เอเต กิร น กสิวณิชฺชาทีหิ ชีวนฺติ, ปนฺถฆาตคามฆาตาทีนิ กตฺวา ปุตฺตทารํ โปเสนฺติ. เต กมฺมสิทฺธึ ปตฺถยมานา เทวตานํ อายาเจตฺวา ตาสํ พลิกมฺมตฺถํ มนุสฺสานํ หทยํ อุปฺปาเฏนฺติ. สพฺพกาเล จ มนุสฺสา ทุลฺลภา. ภิกฺขู ปน อรฺเ วิหรนฺตา สุลภา โหนฺติ. เต สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ คเหตฺวา ‘‘สีลวโต วโธ นาม ภาริโย โหตี’’ติ มฺมานา ตสฺส สีลวินาสนตฺถํ มนุสฺสิตฺถิอาทิเก วา อาเนนฺติ; ตํ วา ตตฺถ เนนฺติ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภิกฺขุปจฺจตฺถิกวาเร วุตฺตนเยเนว จ อิเมสุ จตูสุปิ วาเรสุ จตุกฺกานิ เวทิตพฺพานิ. ปาฬิยํ ปน สํขิตฺเตน วุตฺตานิ.
สพฺพากาเรน จตุกฺกเภทกถา นิฏฺิตา.
อาปตฺตานาปตฺติวารวณฺณนา
๖๖. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘มนุสฺสิตฺถิยา ตโย มคฺเค เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺสา’’ติอาทิ, เอตฺถ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘มคฺเคน มคฺค’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ มคฺเคน มคฺคนฺติ อิตฺถิยา ตีสุ มคฺเคสุ อฺตเรน มคฺเคน อตฺตโน องฺคชาตํ ปเวเสติ อถ วา สมฺภินฺเนสุ ทฺวีสุ มคฺเคสุ ปสฺสาวมคฺเคน วจฺจมคฺคํ วจฺจมคฺเคน วา ปสฺสาวมคฺคํ ปเวเสติ. มคฺเคน อมคฺคนฺติ ปสฺสาวาทิมคฺเคน ปเวเสตฺวา ตสฺส สามนฺตา วเณน นีหรติ. อมคฺเคน มคฺคนฺติ มคฺคสามนฺเตน วเณน ¶ ปเวเสตฺวา มคฺเคน นีหรติ. อมคฺเคน อมคฺคนฺติ ทฺวีสุ สมฺภินฺนวเณสุ เอเกน วเณน ปเวเสตฺวา ทุติเยน นีหรติ. อิมสฺส ¶ สุตฺตสฺส อนุโลมวเสน สพฺพตฺถ วณสงฺเขเป ถุลฺลจฺจยํ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ยํ ปรโต วกฺขติ ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ, ตตฺถ อสมฺโมหตฺถํ ¶ ‘‘ภิกฺขุ สุตฺตภิกฺขุมฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺรายํ อธิปฺปาโย – โย ปฏิพุทฺโธ สาทิยติ โส ‘‘สุตฺตมฺหิ มยิ เอโส วิปฺปฏิปชฺชิ, นาหํ ชานามี’’ติ น มุจฺจติ. อุโภ นาเสตพฺพาติ เจตฺถ ทฺเวปิ ลิงฺคนาสเนน นาเสตพฺพา. ตตฺร ทูสกสฺส ปฏิฺากรณํ นตฺถิ, ทูสิโต ปุจฺฉิตฺวา ปฏิฺาย นาเสตพฺโพ. สเจ น สาทิยติ, น นาเสตพฺโพ. เอส นโย สามเณรวาเรปิ.
เอวํ ตตฺถ ตตฺถ ตํ ตํ อาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อชานนฺโต นาม โย มหานิทฺทํ โอกฺกนฺโต ปเรน กตํ อุปกฺกมมฺปิ น ชานาติ เวสาลิยํ มหาวเน ทิวาวิหารคโต ภิกฺขุ วิย. เอวรูปสฺส อนาปตฺติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘‘นาหํ ภควา ชานามี’ติ; ‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อชานนฺตสฺสา’’’ติ (ปารา. ๗๕). อสาทิยนฺโต นาม โย ชานิตฺวาปิ น สาทิยติ, ตตฺเถว สหสา วุฏฺิตภิกฺขุ วิย. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘‘นาหํ ภควา สาทิยิ’นฺติ. ‘อนาปตฺติ, ภิกฺขุ, อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ.
อุมฺมตฺตโก นาม ปิตฺตุมฺมตฺตโก. ทุวิธฺหิ ปิตฺตํ – พทฺธปิตฺตํ, อพทฺธปิตฺตฺจาติ. ตตฺถ อพทฺธปิตฺตํ โลหิตํ วิย สพฺพงฺคคตํ, ตมฺหิ กุปิเต สตฺตานํ กณฺฑุกจฺฉุสรีรกมฺปาทีนิ โหนฺติ. ตานิ เภสชฺชกิริยาย วูปสมนฺติ. พทฺธปิตฺตํ ปน ปิตฺตโกสเก ิตํ. ตมฺหิ กุปิเต สตฺตา อุมฺมตฺตกา โหนฺติ วิปลฺลตฺถสฺา หิโรตฺตปฺปํ ฉฑฺเฑตฺวา อสารุปฺปาจารํ จรนฺติ. ลหุกครุกานิ สิกฺขาปทานิ มทฺทนฺตาปิ น ชานนฺติ. เภสชฺชกิริยายปิ อเตกิจฺฉา โหนฺติ. เอวรูปสฺส อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ.
ขิตฺตจิตฺโต นาม วิสฺสฏฺจิตฺโต ยกฺขุมฺมตฺตโก วุจฺจติ. ยกฺขา กิร เภรวานิ วา อารมฺมณานิ ทสฺเสตฺวา มุเขน หตฺถํ ปเวเสตฺวา ¶ หทยรูปํ วา มทฺทนฺตา สตฺเต วิกฺขิตฺตจิตฺเต วิปลฺลตฺถสฺเ กโรนฺติ. เอวรูปสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส อนาปตฺติ. เตสํ ปน อุภินฺนํ อยํ วิเสโส – ปิตฺตุมฺมตฺตโก นิจฺจเมว อุมฺมตฺตโก โหติ, ปกติสฺํ น ลภติ. ยกฺขุมฺมตฺตโก ¶ อนฺตรนฺตรา ปกติสฺํ ปฏิลภตีติ. อิธ ปน ปิตฺตุมฺมตฺตโก วา โหตุ ยกฺขุมฺมตฺตโก วา, โย สพฺพโส มุฏฺสฺสติ กิฺจิ น ชานาติ, อคฺคิมฺปิ สุวณฺณมฺปิ คูถมฺปิ จนฺทนมฺปิ เอกสทิสํ มทฺทนฺโตว วิจรติ, เอวรูปสฺส อนาปตฺติ. อนฺตรนฺตรา สฺํ ปฏิลภิตฺวา ตฺวา กโรนฺตสฺส ปน อาปตฺติเยว.
เวทนาฏฺโฏ ¶ นาม โย อธิมตฺตาย ทุกฺขเวทนาย อาตุโร กิฺจิ น ชานาติ, เอวรูปสฺส อนาปตฺติ.
อาทิกมฺมิโก นาม โย ตสฺมึ ตสฺมึ กมฺเม อาทิภูโต. อิธ ปน สุทินฺนตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ. อวเสสานํ มกฺกฏีสมณวชฺชิปุตฺตกาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกิณฺณกกถา
อิมสฺมึ ปน สิกฺขาปเท โกสลฺลตฺถํ อิทํ ปกิณฺณกํเวทิตพฺพํ –
‘‘สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;
โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จา’’ติ.
ตตฺถ ‘‘สมุฏฺาน’’นฺติ สพฺพสงฺคาหกวเสน ฉ สิกฺขาปทสมุฏฺานานิ. ตานิ ปริวาเร อาวิ ภวิสฺสนฺติ. สมาสโต ปน สิกฺขาปทํ นาม – อตฺถิ ฉสมุฏฺานํ, อตฺถิ จตุสมุฏฺานํ, อตฺถิ ติสมุฏฺานํ, อตฺถิ กถินสมุฏฺานํ, อตฺถิ เอฬกโลมสมุฏฺานํ, อตฺถิ ธุรนิกฺเขปาทิสมุฏฺานนฺติ.
ตตฺราปิ กิฺจิ กิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ อกิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ สิยา กิริยโต, สิยา อกิริยโต สมุฏฺาติ, กิฺจิ สิยา กิริยโต สิยา กิริยากิริยโต สมุฏฺาติ.
ตตฺราปิ อตฺถิ สฺาวิโมกฺขํ, อตฺถิ โนสฺาวิโมกฺขํ. ตตฺถ ยํ จิตฺตงฺคํ ลภติเยว, ตํ สฺาวิโมกฺขํ; อิตรํ โนสฺาวิโมกฺขํ.
ปุน ¶ อตฺถิ สจิตฺตกํ, อตฺถิ อจิตฺตกํ. ยํ สเหว จิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ สจิตฺตกํ; ยํ วินาปิ จิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ อจิตฺตกํ ¶ . ตํ สพฺพมฺปิ โลกวชฺชํ ปณฺณตฺติวชฺชนฺติ ทุวิธํ. เตสํ ลกฺขณํ วุตฺตเมว.
กมฺมกุสลเวทนาวเสนาปิ ¶ เจตฺถ อตฺถิ สิกฺขาปทํ กายกมฺมํ, อตฺถิ วจีกมฺมํ. ตตฺถ ยํ กายทฺวาริกํ, ตํ กายกมฺมํ; ยํ วจีทฺวาริกํ, ตํ วจีกมฺมนฺติ เวทิตพฺพํ. อตฺถิ ปน สิกฺขาปทํ กุสลํ, อตฺถิ อกุสลํ, อตฺถิ อพฺยากตํ. ทฺวตฺตึเสว หิ อาปตฺติสมอุฏฺาปกจิตฺตานิ – อฏฺ กามาวจรกุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, ทส กามาวจรกิริยจิตฺตานิ, กุสลโต จ กิริยโต จ ทฺเว อภิฺาจิตฺตานีติ. เตสุ ยํ กุสลจิตฺเตน อาปชฺชติ, ตํ กุสลํ; อิตเรหิ อิตรํ. อตฺถิ จ สิกฺขาปทํ ติเวทนํ, อตฺถิ ทฺวิเวทนํ, อตฺถิ เอกเวทนํ. ตตฺถ ยํ อาปชฺชนฺโต ตีสุ เวทนาสุ อฺตรเวทนาสมงฺคี หุตฺวา อาปชฺชติ, ตํ ติเวทนํ; ยํ อาปชฺชนฺโต สุขสมงฺคี วา อุเปกฺขาสมงฺคี วา อาปชฺชติ, ตํ ทฺวิเวทนํ; ยํ อาปชฺชนฺโต ทุกฺขเวทนาสมงฺคีเยว อาปชฺชติ, ตํ เอกเวทนนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ –
‘‘สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;
โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จา’’ติ.
อิมํ ปกิณฺณกํ วิทิตฺวา เตสุ สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ สมุฏฺานโต เอกสมุฏฺานํ. องฺควเสน ทุกสมุฏฺานํ, กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยสมุฏฺานฺจ กโรนฺโตเยว หิ เอตํ อาปชฺชติ. เมถุนปฏิสํยุตฺตาย กามสฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ. ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ. เมถุนจิตฺเตเนว นํ อาปชฺชติ, น วินา จิตฺเตนาติ สจิตฺตกํ. ราควเสเนว อาปชฺชิตพฺพโต โลกวชฺชํ. กายทฺวาเรเนว สมุฏฺานโต กายกมฺมํ. จิตฺตํ ปเนตฺถ องฺคมตฺตํ โหติ, น ตสฺส วเสน กมฺมภาโว ลพฺภติ. โลภจิตฺเตน อาปชฺชิตพฺพโต อกุสลจิตฺตํ. สุขสมงฺคี วา อุเปกฺขาสมงฺคี วา ตํ อาปชฺชตีติ ทฺวิเวทนนฺติ เวทิตพฺพํ. สพฺพฺเจตํ อาปตฺติยํ ยุชฺชติ. สิกฺขาปทสีเสน ปน สพฺพอฏฺกถาสุเทสนา อารูฬฺหา, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ.
ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
มกฺกฏี ¶ ¶ วชฺชิปุตฺตา จ…เป… วุฑฺฒปพฺพชิโต มิโคติ อิทํ กึ? อิมา วินีตวตฺถูนํ ภควตา สยํ วินิจฺฉิตานํ เตสํ เตสํ วตฺถูนํ อุทฺทานคาถา นาม. ตานิ วตฺถูนิ ‘‘สุขํ วินยธรา ¶ อุคฺคณฺหิสฺสนฺตี’’ติ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปิตานิ. วตฺถุคาถา ปน ธรมาเนเยว ภควติ อุปาลิตฺเถเรน ปิตา ‘‘อิมินา ลกฺขเณน อายตึ วินยธรา วินยํ วินิจฺฉินิสฺสนฺตี’’ติ. ตสฺมา เอตฺถ วุตฺตลกฺขณํ สาธุกํ สลฺลกฺเขตฺวา ปมสิกฺขาปทํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. ทุติยาทีนฺจ วินีตวตฺถูสุ วุตฺตลกฺขเณน ทุติยาทีนิ. วินีตวตฺถูนิ หิ สิปฺปิกานํ ปฏิจฺฉนฺนกรูปานิ วิย วินยธรานํ ปฏิจฺฉนฺนกวตฺถูนิ โหนฺตีติ.
๖๗. ตตฺถ ปุริมานิ ทฺเว วตฺถูนิ อนุปฺตฺติยํเยว วุตฺตตฺถานิ. ตติเย วตฺถุมฺหิ คิหิลิงฺเคนาติ คิหิเวเสน โอทาตวตฺโถ หุตฺวา. จตุตฺเถ นตฺถิ กิฺจิ วตฺตพฺพํ. ตโต ปเรสุ สตฺตสุ วตฺถูสุ กุสจีรนฺติ กุเส คนฺเถตฺวา กตจีรํ. วากจีรํ นาม ตาปสานํ วกฺกลํ. ผลกจีรํ นาม ผลกสณฺานานิ ผลกานิ สิพฺพิตฺวา กตจีรํ. เกสกมฺพโลติ เกเสหิ ตนฺเต วายิตฺวา กตกมฺพโล. วาลกมฺพโลติ จมรวาเลหิ วายิตฺวา กตกมฺพโล. อุลูกปกฺขิกนฺติ อุลูกสกุณสฺส ปกฺเขหิ กตนิวาสนํ. อชินกฺขิปนฺติ สโลมํ สขุรํ อชินมิคจมฺมํ. ทฺวาทสเม วตฺถุมฺหิ สารตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน สารตฺโต; ตํ ราคํ ตฺวา ภควา ‘‘อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ อาห.
๖๘. เตรสเม วตฺถุมฺหิ อุปฺปลวณฺณาติ สา เถรี สาวตฺถิยํ เสฏฺิธีตา สตสหสฺสกปฺเป อภินีหารสมฺปนฺนา. ตสฺสา ปกติยาปิ อติทสฺสนียา นีลุปฺปลวณฺณา กายจฺฉวิ, อพฺภนฺตเร ปน ¶ กิเลสสนฺตาปสฺส อภาเวน อติวิย วิโรจติ. สา ตาเยว วณฺณโปกฺขรตาย ‘‘อุปฺปลวณฺณา’’ติ นามํ ลภิ. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ คิหิกาลโต ปฏฺาย รตฺตจิตฺโต; โส กิร ตสฺสา าติทารโก โหติ. อถ โขติ อนนฺตรตฺเถ นิปาโต; มฺจเก นิสินฺนานนฺตรเมวาติ วุตฺตํ โหติ. ทิวา พาหิรโต อาคนฺตฺวา ทฺวารํ ปิธาย นิสินฺนานฺหิ ปมํ อนฺธการํ โหติ. โส ยาวสฺสา ตํ อนฺธการํ น นสฺสติ, ตาวเทว ¶ เอวมกาสีติ อตฺโถ. ทูเสสีติ ปธํเสสิ. เถรี ปน อนวชฺชา อตฺตโน สมณสฺํ ปจฺจุปฏฺเปตฺวา อสาทิยนฺตี นิสีทิ อสทฺธมฺมาธิปฺปาเยน ปรามฏฺา อคฺคิกฺขนฺธ-สิลาถมฺภ-ขทิรสารขาณุกา วิย. โสปิ อตฺตโน มโนรถํ ปูเรตฺวา คโต. ตสฺสา เถริยา ทสฺสนปถํ วิชหนฺตสฺเสว อยํ มหาปถวี สิเนรุปพฺพตํ ธาเรตุํ สมตฺถาปิ ตํ ปาปปุริสํ พฺยามมตฺตกเฬวรํ ธาเรตุํ อสกฺโกนฺตี วิย ภิชฺชิตฺวา วิวรมทาสิ. โส ตงฺขณฺเว อวีจิชาลานํ อินฺธนภาวํ อคมาสิ. ภควา ตํ สุตฺวา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, อสาทิยนฺติยา’’ติ วตฺวา เถรึ สนฺธาย ธมฺมปเท อิมํ คาถํ อภาสิ –
‘‘วาริ ¶ โปกฺขรปตฺเตว, อารคฺเคริว สาสโป;
โย น ลิมฺปติ กาเมสุ, ตมหํ พฺรูมิ พฺราหฺมณ’’นฺติ. (ธ. ป. ๔๐๑);
๖๙. จุทฺทสเม วตฺถุมฺหิ อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตนฺติ รตฺติภาเค นิทฺทํ โอกฺกนฺตสฺส ปุริสสณฺานํ มสฺสุทาิกาทิ สพฺพํ อนฺตรหิตํ อิตฺถิสณฺานํ อุปฺปนฺนํ. ตเมว อุปชฺฌํ ตเมว อุปสมฺปทนฺติ ปุพฺเพ คหิตอุปชฺฌายเมว ปุพฺเพ กตอุปสมฺปทเมว อนุชานามิ. ปุน อุปชฺฌา น คเหตพฺพา; อุปสมฺปทา น กาตพฺพาติ อตฺโถ. ตานิเยว ¶ วสฺสานีติ ภิกฺขุอุปสมฺปทโต ปภุติ ยาว วสฺสคณนา, ตํเยว วสฺสคณนํ อนุชานามิ. น อิโต ปฏฺาย วสฺสคณนา กาตพฺพาติ อตฺโถ. ภิกฺขุนีหิ สงฺคมิตุนฺติ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สงฺคมิตุํ สงฺคนฺตุํ สมงฺคี ภวิตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อปฺปติรูปํ ทานิสฺสา ภิกฺขูนํ มชฺเฌ วสิตุํ, ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ วสตูติ. ยา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สาธารณาติ ยา เทสนาคามินิโย วา วุฏฺานคามินิโย วา อาปตฺติโย ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สาธารณา. ตา อาปตฺติโย ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฏฺาตุนฺติ ตา สพฺพาปิ ภิกฺขุนีหิ กาตพฺพํ วินยกมฺมํ กตฺวา ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก วุฏฺาตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ. ตาหิ อาปตฺตีหิ อนาปตฺตีติ ยา ปน ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีหิ อสาธารณา สุกฺกวิสฺสฏฺิ-อาทิกา อาปตฺติโย, ตาหิ อนาปตฺติ. ลิงฺคปริวตฺตเนน ตา อาปตฺติโย วุฏฺิตาว โหนฺติ. ปุน ปกติลิงฺเค อุปฺปนฺเนปิ ตาหิ อาปตฺตีหิ ตสฺส อนาปตฺติเยวาติ อยํ ตาเวตฺถ ปาฬิวินิจฺฉโย.
อยํ ¶ ปน ปาฬิมุตฺโต โอกฺกนฺติกวินิจฺฉโย – อิเมสุ ตาว ทฺวีสุ ลิงฺเคสุ ปุริสลิงฺคํ อุตฺตมํ, อิตฺถิลิงฺคํ หีนํ; ตสฺมา ปุริสลิงฺคํ พลวอกุสเลน อนฺตรธายติ. อิตฺถิลิงฺคํ ทุพฺพลกุสเลน ปติฏฺาติ. อิตฺถิลิงฺคํ ปน อนฺตรธายนฺตํ ทุพฺพลอกุสเลน อนฺตรธายติ. ปุริสลิงฺคํ พลวกุสเลน ปติฏฺาติ. เอวํ อุภยมฺปิ อกุสเลน อนฺตรธายติ, กุสเลน ปฏิลพฺภติ.
ตตฺถ สเจ ทฺวินฺนํ ภิกฺขูนํ เอกโต สชฺฌายํ วา ธมฺมสากจฺฉํ วา กตฺวา เอกาคาเร นิปชฺชิตฺวา นิทฺทํ โอกฺกนฺตานํ เอกสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภวติ, อุภินฺนมฺปิ สหเสยฺยาปตฺติ โหติ. โส เจ ปฏิพุชฺฌิตฺวา อตฺตโน ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ทุกฺขี ทุมฺมโน รตฺติภาเคเยว อิตรสฺส อาโรเจยฺย, เตน สมสฺสาเสตพฺโพ – ‘‘โหตุ, มา จินฺตยิตฺถ. วฏฺฏสฺเสเวโส โทโส. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ทฺวารํ ทินฺนํ, ภิกฺขุ วา โหตุ ภิกฺขุนี วา, อนาวโฏ ธมฺโม ¶ อวาริโต สคฺคมคฺโค’’ติ. สมสฺสาเสตฺวา จ เอวํ วตฺตพฺพํ – ‘‘ตุมฺเหหิ ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตุํ วฏฺฏติ. อตฺถิ ¶ โว กาจิ สนฺทิฏฺา ภิกฺขุนิโย’’ติ. สจสฺสา โหนฺติ ตาทิสา ภิกฺขุนิโย อตฺถีติ, โน เจ โหนฺติ นตฺถีติ วตฺวา โส ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ – ‘‘มม สงฺคหํ กโรถ; อิทานิ มํ ปมํ ภิกฺขุนุปสฺสยํ เนถา’’ติ. เตน ภิกฺขุนา ตํ คเหตฺวา ตสฺสา วา สนฺทิฏฺานํ อตฺตโน วา สนฺทิฏฺานํ ภิกฺขุนีนํ สนฺติกํ คนฺตพฺพํ. คจฺฉนฺเตน จ น เอกเกน คนฺตพฺพํ. จตูหิ ปฺจหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ โชติกฺจ กตฺตรทณฺฑฺจ คเหตฺวา สํวิทหนํ ปริโมเจตฺวา ‘‘มยํ อสุกํ นาม านํ คจฺฉามา’’ติ คนฺตพฺพํ. สเจ พหิคาเม ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค คามนฺตร-นทีปาร-รตฺติวิปฺปวาส-คณโอหียนาปตฺตีหิ อนาปตฺติ. ภิกฺขุนุปสฺสยํ คนฺตฺวา ตา ภิกฺขุนิโย วตฺตพฺพา – ‘‘อสุกํ นาม ภิกฺขุํ ชานาถา’’ติ? ‘‘อาม, อยฺยา’’ติ. ‘‘ตสฺส อิตฺถิลิงฺคํ ปาตุภูตํ, สงฺคหํ ทานิสฺส กโรถา’’ติ. ตา เจ ‘‘สาธุ, อยฺยา, อิทานิ มยมฺปิ สชฺฌายิสฺสาม, ธมฺมํ โสสฺสาม, คจฺฉถ ตุมฺเห’’ติ วตฺวา สงฺคหํ กโรนฺติ, อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อฺตฺถ น คนฺตพฺพํ. คจฺฉติ เจ, คามนฺตร-นทีปาร-รตฺติวิปฺปวาส-คณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ. สเจ ปน ลชฺชินิโย โหนฺติ, น สงฺคาหิกาโย; อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจปิ อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ; ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อฺตฺถ คนฺตุํ ลพฺภติ. สเจ ลชฺชินิโย จ สงฺคาหิกา ¶ จ, าติกา น โหนฺติ, อาสนฺนคาเม ปน อฺา าติกาโย โหนฺติ ปฏิชคฺคนิกา, ตาสมฺปิ สนฺติกํ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. คนฺตฺวา สเจ ภิกฺขุภาเวปิ นิสฺสยปฏิปนฺโน, ปติรูปาย ภิกฺขุนิยา สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. มาติกา วา วินโย วา อุคฺคหิโต สุคฺคหิโต, ปุน อุคฺคณฺหนการณํ นตฺถิ. สเจ ภิกฺขุภาเว ปริสาวจโร, ตสฺส สนฺติเกเยว อุปสมฺปนฺนา สูปสมฺปนฺนา. อฺสฺส ¶ สนฺติเก นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปุพฺเพ ตํ นิสฺสาย วสนฺเตหิปิ อฺสฺส สนฺติเกเยว นิสฺสโย คเหตพฺโพ. ปริปุณฺณวสฺสสามเณเรนาปิ อฺสฺส สนฺติเกเยว อุปชฺฌา คเหตพฺพา.
ยํ ปนสฺส ภิกฺขุภาเว อธิฏฺิตํ ติจีวรฺจ ปตฺโต จ, ตํ อธิฏฺานํ วิชหติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. สงฺกจฺจิกา จ อุทกสาฏิกา จ คเหตพฺพา. ยํ อติเรกจีวรํ วา อติเรกปตฺโต วา วินยกมฺมํ กตฺวา ปิโต โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ วินยกมฺมํ วิชหติ, ปุน กาตพฺพํ. ปฏิคฺคหิตเตลมธุผาณิตาทีนิปิ ปฏิคฺคหณํ วิชหนฺติ. สเจ ปฏิคฺคหณโต สตฺตเม ทิวเส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปุน ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ วฏฺฏติ. ยํ ปน ภิกฺขุกาเล อฺสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ ปฏิคฺคหิตํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ น วิชหติ. ยํ อุภินฺนํ สาธารณํ อวิภชิตฺวา ปิตํ, ตํ ปกตตฺโต รกฺขติ. ยํ ปน วิภตฺตํ เอตสฺเสว สนฺตกํ, ตํ ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ปริวาเร –
‘‘เตลํ ¶ มธุํ ผาณิตฺจาปิ สปฺปึ;
สามํ คเหตฺวาน นิกฺขิเปยฺย;
อวีติวตฺเต สตฺตาเห;
สติ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตสฺส อาปตฺติ;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);
อิทฺหิ ลิงฺคปริวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฏิคฺคหณํ นาม ลิงฺคปริวตฺตเนน, กาลํกิริยาย, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน, หีนายาวตฺตเนน, อนุปสมฺปนฺนสฺส ทาเนน, อนเปกฺขวิสฺสชฺชเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน จ วิชหติ. ตสฺมา สเจปิ หรีตกขณฺฑมฺปิ ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตมตฺถิ, สพฺพมสฺส ปฏิคฺคหณํ วิชหติ. ภิกฺขุวิหาเร ปน ยํกิฺจิสฺสา สนฺตกํ ปฏิคฺคเหตฺวา วา อปฺปฏิคฺคเหตฺวา ¶ วา ปิตํ, สพฺพสฺส สาว อิสฺสรา, อาหราเปตฺวา คเหตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ ถาวรํ ตสฺสา สนฺตกํ เสนาสนํ วา อุปโรปกา วา, เต ยสฺสิจฺฉติ ตสฺส ทาตพฺพา. เตรสสุ สมฺมุตีสุ ¶ ยา ภิกฺขุกาเล ลทฺธา สมฺมุติ, สพฺพา สา ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปุริมิกาย เสนาสนคฺคาโห ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปจฺฉิมิกาย เสนาสเน คหิเต ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนิสงฺโฆ จสฺสา อุปฺปนฺนํ ลาภํ ทาตุกาโม โหติ, อปโลเกตฺวา ทาตพฺโพ. สเจ ภิกฺขุนีหิ สาธารณาย ปฏิจฺฉนฺนาย อาปตฺติยา ปริวสนฺตสฺส ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปริวตฺตติ, ปุน ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตสฺส ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ อกุสลวิปาเก ปริกฺขีเณ ปกฺขมานตฺตกาเล ปุนเทว ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺเณ ปกฺขมานตฺเต ปริวตฺตติ, ภิกฺขูหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพนฺติ.
อนนฺตเร ภิกฺขุนิยา ลิงฺคปริวตฺตนวตฺถุมฺหิ อิธ วุตฺตนเยเนว สพฺโพ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สเจปิ ภิกฺขุนิกาเล อาปนฺนา สฺจริตฺตาปตฺติ ปฏิจฺฉนฺนา โหติ, ปริวาสทานํ นตฺถิ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ ปกฺขมานตฺตํ จรนฺติยา ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, น เตนตฺโถ, ฉารตฺตํ มานตฺตเมว ทาตพฺพํ. สเจ จิณฺณมานตฺตาย ปริวตฺตติ, ปุน มานตฺตํ อทตฺวา ภิกฺขูหิ อพฺเภตพฺโพ. อถ ภิกฺขูหิ มานตฺเต อทินฺเน ปุน ลิงฺคํ ปริวตฺตติ, ภิกฺขุนีหิ ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. อถ ฉารตฺตํ มานตฺตํ จรนฺตสฺส ปุน ปริวตฺตติ, ปกฺขมานตฺตเมว ทาตพฺพํ. จิณฺณมานตฺตสฺส ปน ลิงฺคปริวตฺเต ชาเต ภิกฺขุนีหิ อพฺภานกมฺมํ กาตพฺพํ ¶ . ปุน ปริวตฺเต จ ลิงฺเค ภิกฺขุนิภาเว ิตายปิ ยา อาปตฺติโย ปุพฺเพ ปฏิปฺปสฺสทฺธา, ตา สุปฺปฏิปฺปสฺสทฺธา เอวาติ.
๗๐. อิโต ปรานิ ‘‘มาตุยา เมถุนํ ธมฺม’’นฺติอาทีนิ จตฺตาริ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถานิเยว.
๗๑. มุทุปิฏฺิกวตฺถุมฺหิ โส กิร ภิกฺขุ นฏปุพฺพโก. ตสฺส สิปฺปโกสลฺลตฺถํ ปริกมฺมกตา ¶ ปิฏฺิ มุทุกา อโหสิ. ตสฺมา เอวํ กาตุํ อสกฺขิ.
ลมฺพีวตฺถุมฺหิ ¶ ตสฺส ภิกฺขุสฺส องฺคชาตํ ทีฆํ โหติ ลมฺพติ, ตสฺมา ลมฺพีติ วุตฺโต.
อิโต ปรานิ ทฺเว วณวตฺถูนิ อุตฺตานาเนว. เลปจิตฺตวตฺถุมฺหิ เลปจิตฺตํ นาม จิตฺตกมฺมรูปํ.
ทารุธีตลิกวตฺถุมฺหิ ทารุธีตลิกา นาม กฏฺรูปํ. ยถา จ อิเมสุ ทฺวีสุ เอวํ อฺเสุปิ ทนฺตรูป-โปตฺถกรูป-โลหรูปาทีสุ อนุปาทินฺนเกสุ อิตฺถิรูเปสุ นิมิตฺเต เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. กายสํสคฺคราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ ตเถว ทุกฺกฏํ. โมจนราเคน ปน อุปกฺกมนฺตสฺส มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุตฺเต ถุลฺลจฺจยนฺติ.
๗๒. สุนฺทรวตฺถุมฺหิ อยํ สุนฺทโร นาม ราชคเห กุลทารโก สทฺธาย ปพฺพชิโต; อตฺตภาวสฺส อภิรูปตาย ‘‘สุนฺทโร’’ติ นามํ ลภิ. ตํ รถิกาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา สมุปฺปนฺนฉนฺทราคา สา อิตฺถี อิมํ วิปฺปการํ อกาสิ. เถโร ปน อนาคามี. ตสฺมา โส น สาทิยิ. อฺเสํ ปน อวิสโย เอโส.
อิโต ปเรสุ จตูสุ วตฺถูสุ เต ภิกฺขู ชฬา ทุมฺเมธา มาตุคามสฺส วจนํ คเหตฺวา ตถา กตฺวา ปจฺฉา กุกฺกุจฺจายึสุ.
๗๓. อกฺขายิตาทีนิ ตีณิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ทฺวีสุ ฉินฺนสีสวตฺถูสุ อยํ วินิจฺฉโย – วฏฺฏกเต มุเข วิวเฏ องฺคชาตํ ปเวเสนฺโต สเจ เหฏฺา วา อุปริ วา อุภยปสฺเสหิ วา ฉุปนฺตํ ปเวเสติ, ปาราชิกํ. จตูหิปิ ปสฺเสหิ อฉุปนฺตํ ปเวเสตฺวา อพฺภนฺตเร ตาลุกํ ฉุปติ, ปาราชิกเมว. จตฺตาริ ปสฺสานิ ตาลุกฺจ อฉุปนฺโต อากาสคตเมว ¶ กตฺวา ปเวเสติ จ นีหรติ จ, ทุกฺกฏํ. ยทิ ปน ทนฺตา สุผุสิตา, อนฺโตมุเข โอกาโส นตฺถิ, ทนฺตา จ พหิ โอฏฺมํเสน ปฏิจฺฉนฺนา, ตตฺถ วาเตน อสมฺผุฏฺํ อลฺโลกาสํ ติลผลมตฺตมฺปิ ปเวเสนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อุปฺปาฏิเต ปน โอฏฺมํเส ทนฺเตสุเยว อุปกฺกมนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. โยปิ ทนฺโต พหิ นิกฺขมิตฺวา ติฏฺติ ¶ , น สกฺกา โอฏฺเหิ ปิทหิตุํ. ตตฺถ อุปกฺกมนฺเตปิ พหิ นิกฺขนฺตชิวฺหาย อุปกฺกมนฺเตปิ ถุลฺลจฺจยเมว. ชีวมานกสรีเรปิ พหิ นิกฺขนฺตชิวฺหาย ถุลฺลจฺจยเมว. ยทิ ปน พหิชิวฺหาย ปลิเวเตฺวา อนฺโตมุขํ ปเวเสติ, ปาราชิกเมว. อุปริคีวาย ¶ ฉินฺนสีสสฺสปิ อโธภาเคน องฺคชาตํ ปเวเสตฺวา ตาลุกํ ฉุปนฺตสฺส ปาราชิกเมว.
อฏฺิกวตฺถุมฺหิ สุสานํ คจฺฉนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. อฏฺิกานิ สงฺกฑฺฒนฺตสฺสาปิ, นิมิตฺเต เมถุนราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ, กายสํสคฺคราเคน อุปกฺกมนฺตสฺสาปิ, มุจฺจตุ วา มา วา, ทุกฺกฏเมว. โมจนราเคน ปน อุปกฺกมนฺตสฺส มุจฺจนฺเต สงฺฆาทิเสโส, อมุจฺจนฺเต ถุลฺลจฺจยเมว.
นาคีวตฺถุมฺหิ นาคมาณวิกา วา โหตุ กินฺนรีอาทีนํ วา อฺตรา, สพฺพตฺถ ปาราชิกํ.
ยกฺขีวตฺถุมฺหิ สพฺพาปิ เทวตา ยกฺขีเยว.
เปตีวตฺถุมฺหิ นิชฺฌามตณฺหิกาทิเปติโย อลฺลียิตุมฺปิ น สกฺกา. วิมานเปติโย ปน อตฺถิ; ยาสํ กาฬปกฺเข อกุสลํ วิปจฺจติ, ชุณฺหปกฺเข เทวตา วิย สมฺปตฺตึ อนุโภนฺติ. เอวรูปาย เปติยา วา ยกฺขิยา วา สเจ ทสฺสน-คหณ-อามสน-ผุสน-ฆฏฺฏนานิ ปฺายนฺติ, ปาราชิกํ. อถาปิ ทสฺสนํ นตฺถิ, อิตรานิ ปฺายนฺติ, ปาราชิกเมว. อถ ทสฺสนคหณานิ น ปฺายนฺติ, อามสนผุสนฆฏฺฏเนหิ ปฺายมาเนหิ ตํ ปุคฺคลํ วิสฺํ กตฺวา อตฺตโน มโนรถํ ปูเรตฺวา คจฺฉติ, อยํ อวิสโย นาม. ตสฺมา เอตฺถ อวิสยตฺตา อนาปตฺติ. ปณฺฑกวตฺถุ ปากฏเมว.
อุปหตินฺทฺริยวตฺถุมฺหิ อุปหตินฺทฺริโยติ อุปหตกายปฺปสาโท ขาณุกณฺฏกมิว สุขํ วา ทุกฺขํ วา น เวทยติ. อเวทยนฺตสฺสาปิ เสวนจิตฺตวเสน อาปตฺติ.
ฉุปิตมตฺตวตฺถุสฺมึ ¶ โย ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิสฺสามี’’ติ มาตุคามํ ¶ คณฺหิตฺวา เมถุเน วิรชฺชิตฺวา วิปฺปฏิสารี โหติ, ทุกฺกฏเมวสฺส โหติ. เมถุนธมฺมสฺส หิ ปุพฺพปโยคา หตฺถคฺคาหาทโย ยาว สีสํ น ปาปุณาติ, ตาว ทุกฺกเฏ ติฏฺนฺติ. สีเส ปตฺเต ปาราชิกํ โหติ. ปมปาราชิกสฺส หิ ทุกฺกฏเมว สามนฺตํ. อิตเรสํ ติณฺณํ ถุลฺลจฺจยํ. อยํ ปน ภิกฺขุ เมถุนธมฺเม วิรชฺชิตฺวา กายสํสคฺคํ สาทิยีติ เวทิตพฺโพ. เตนาห ภควา – ‘‘อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ.
๗๔. ภทฺทิยวตฺถุสฺมึ ¶ ภทฺทิยํ นาม ตํ นครํ. ชาติยาวนํ นาม ชาติปุปฺผคุมฺพานํ อุสฺสนฺนตาย เอวํ ลทฺธนามํ; ตํ ตสฺส นครสฺส อุปจาเร วนํ โหติ. โส ตตฺถ นิปนฺโน เตน วาตุปตฺถมฺเภน มหานิทฺทํ โอกฺกมิ. เอกรสํ ภวงฺคเมว วตฺตติ. กิลินฺนํ ปสฺสิตฺวาติ อสุจิกิลิฏฺํ ปสฺสิตฺวา.
๗๕. อิโต ปรานิ สาทิยนปฏิสํยุตฺตานิ จตฺตาริ วตฺถูนิ, อชานนวตฺถุ จาติ ปฺจ อุตฺตานตฺถาเนว.
๗๖. ทฺวีสุ อสาทิยนวตฺถูสุ สหสา วุฏฺาสีติ อาสีวิเสน ทฏฺโ วิย อคฺคินา ทฑฺโฒ วิย จ ตุริตํ วุฏฺาสิ. อกฺกมิตฺวา ปวตฺเตสีติ อปฺปมตฺโต ภิกฺขุ อารทฺธวิปสฺสโก อุปฏฺิตสฺสติ ขิปฺปํ วุฏฺหนฺโตว อกฺกมิตฺวา ภูมิยํ วฏฺเฏนฺโต ปริวฏฺเฏนฺโต วิเหเนฺโต ปาเตสิ. ปุถุชฺชนกลฺยาณเกน หิ เอวรูเปสุ าเนสุ จิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ. อยฺจ เตสํ อฺตโร สงฺคามสีสโยโธ ภิกฺขุ.
๗๗. ทฺวารํ วิวริตฺวา นิปนฺนวตฺถุมฺหิ ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตนาติ ทิวา นิปชฺชนฺเตน. ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุนฺติ ทฺวารํ ปิทหิตฺวา นิปชฺชิตุํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ ปาฬิยํ ‘‘อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ น วุตฺตา. วิวริตฺวา นิปนฺนโทเสน ปน อุปฺปนฺเน วตฺถุสฺมึ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทิวา ปฏิสลฺลียนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวา ปฏิสลฺลียิตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อสํวริตฺวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ภควโต หิ อธิปฺปายํ ตฺวา อุปาลิตฺเถราทีหิ อฏฺกถา ปิตา. ‘‘อตฺถาปตฺติ ทิวา อาปชฺชติ โน รตฺติ’’นฺติ (ปริ. ๓๒๓) อิมินาปิ เจตํ สิทฺธํ.
กีทิสํ ¶ ปน ทฺวารํ สํวริตพฺพํ, กีทิสํ น สํวริตพฺพํ? รุกฺขปทรเวฬุปทรกิลฺชปณฺณาทีนํ ¶ เยน เกนจิ กวาฏํ กตฺวา เหฏฺา อุทุกฺขเล อุปริ อุตฺตรปาสเก จ ปเวเสตฺวา กตํ ปริวตฺตกทฺวารเมว สํวริตพฺพํ. อฺํ โครูปานํ วเชสุ วิย รุกฺขสูจิกณฺฏกทฺวารํ, คามถกนกํ จกฺกลกยุตฺตทฺวารํ, ผลเกสุ วา กิฏิกาสุ วา ทฺเว ตีณิ จกฺกลกานิ โยเชตฺวา กตํ สํสรณกิฏิกทฺวารํ, อาปเณสุ วิย กตํ อุคฺฆาฏนกิฏิกทฺวารํ, ทฺวีสุ ตีสุ าเนสุ เวณุสลากา โคปฺเผตฺวา ปณฺณกุฏีสุ กตํ สลากหตฺถกทฺวารํ, ทุสฺสสาณิทฺวารนฺติ เอวรูปํ ทฺวารํ น สํวริตพฺพํ. ปตฺตหตฺถสฺส กวาฏปฺปณามเน ปน ¶ เอกํ ทุสฺสสาณิทฺวารเมว อนาปตฺติกรํ, อวเสสานิ ปณาเมนฺตสฺส อาปตฺติ. ทิวา ปฏิสลฺลียนฺตสฺส ปน ปริวตฺตกทฺวารเมว อาปตฺติกรํ, เสสานิ สํวริตฺวา วา อสํวริตฺวา วา นิปนฺนสฺส อาปตฺติ นตฺถิ. สํวริตฺวา ปน นิปชฺชิตพฺพํ, เอตํ วตฺตํ.
ปริวตฺตกทฺวารํ ปน กิตฺตเกน สํวุตํ โหติ? สูจิฆฏิกาทีสุ ทินฺนาสุ สํวุตเมว โหติ. อปิจ โข สูจิมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ. ฆฏิกมตฺเตปิ ทินฺเน วฏฺฏติ. ทฺวารพาหํ ผุสิตฺวา ปิหิตมตฺเตปิ วฏฺฏติ. อีสกํ อผุสิเตปิ วฏฺฏติ. สพฺพนฺติเมน วิธินา ยาวตา สีสํ นปฺปวิสติ ตาวตา อผุสิเตปิ วฏฺฏตีติ. สเจ พหูนํ วฬฺชนฏฺานํ โหติ, ภิกฺขุํ วา สามเณรํ วา ‘‘ทฺวารํ, อาวุโส, ชคฺคาหี’’ติ วตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. อถ ภิกฺขู จีวรกมฺมํ วา อฺํ วา กิฺจิ กโรนฺตา นิสินฺนา โหนฺติ, ‘‘เอเต ทฺวารํ ชคฺคิสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ กตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘อุปาสกมฺปิ อาปุจฺฉิตฺวา วา, ‘เอส ชคฺคิสฺสตี’ติ อาโภคํ กตฺวา วา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. เกวลํ ภิกฺขุนึ วา มาตุคามํ วา อาปุจฺฉิตุํ น วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อถ ทฺวารสฺส ¶ อุทุกฺขลํ วา อุตฺตรปาสโก วา ภินฺโน วา โหติ อฏฺปิโต วา, สํวริตุํ น สกฺโกติ, นวกมฺมตฺถํ วา ปน อิฏฺกปฺุโช วา มตฺติกาทีนํ วา ราสิ อนฺโตทฺวาเร กโต โหติ, อฏฺฏํ วา พนฺธนฺติ, ยถา สํวริตุํ น สกฺโกติ; เอวรูเป อนฺตราเย สติ อสํวริตฺวาปิ นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน กวาฏํ นตฺถิ, ลทฺธกปฺปเมว. อุปริ สยนฺเตน นิสฺเสณึ อาโรเปตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ นิสฺเสณิมตฺถเก ถกนกํ โหติ, ถเกตฺวาปิ นิปชฺชิตพฺพํ. คพฺเภ นิปชฺชนฺเตน คพฺภทฺวารํ วา ปมุขทฺวารํ วา ยํกิฺจิ สํวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ เอกกุฏฺฏเก เคเห ทฺวีสุ ปสฺเสสุ ทฺวารานิ กตฺวา วฬฺชนฺติ, ทฺเวปิ ทฺวารานิ ชคฺคิตพฺพานิ.
ติภูมเกปิ ปาสาเท ทฺวารํ ชคฺคิตพฺพเมว. สเจ ภิกฺขาจารา ปฏิกฺกมฺม โลหปาสาทสทิสํ ปาสาทํ พหู ภิกฺขู ทิวาวิหารตฺถํ ปวิสนฺติ, สงฺฆตฺเถเรน ทฺวารปาลสฺส ‘‘ทฺวารํ ชคฺคาหี’’ติ วตฺวา วา ‘‘ทฺวารชคฺคนํ เอตสฺส ภาโร’’ติ อาโภคํ กตฺวา วา ปวิสิตฺวา นิปชฺชิตพฺพํ ¶ . ยาว สงฺฆนวเกน เอวเมว กตฺตพฺพํ. ปุเร ปวิสนฺตานํ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม ปจฺฉิมานํ ภาโร’’ติ เอวํ อาโภคํ กาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อนาปุจฺฉา วา อาโภคํ วา อกตฺวา อนฺโตคพฺเภ วา อสํวุตทฺวาเร พหิ วา นิปชฺชนฺตานํ อาปตฺติ. คพฺเภ วา พหิ วา นิปชฺชนกาเลปิ ‘‘ทฺวารชคฺคนํ นาม มหาทฺวาเร ทฺวารปาลสฺส ภาโร’’ติ ¶ อาโภคํ กตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏติเยว. โลหปาสาทาทีสุ อากาสตเล นิปชฺชนฺเตนาปิ ทฺวารํ สํวริตพฺพเมว.
อยฺเหตฺถ สงฺเขโป – อิทํ ทิวาปฏิสลฺลียนํ เยน เกนจิ ปริกฺขิตฺเต สทฺวารพนฺเธ าเน กถิตํ. ตสฺมา อพฺโภกาเส วา รุกฺขมูเล วา มณฺฑเป วา ยตฺถ กตฺถจิ สทฺวารพนฺเธ นิปชฺชนฺเตน ทฺวารํ สํวริตฺวาว นิปชฺชิตพฺพํ. สเจ มหาปริเวณํ โหติ, มหาโพธิยงฺคณโลหปาสาทงฺคณสทิสํ พหูนํ โอสรณฏฺานํ, ยตฺถ ทฺวารํ สํวุตมฺปิ สํวุตฏฺาเน น ติฏฺติ, ทฺวารํ อลภนฺตา ปาการํ อารุหิตฺวาปิ วิจรนฺติ, ตตฺถ สํวรณกิจฺจํ นตฺถิ. รตฺตึ ทฺวารํ ¶ วิวริตฺวา นิปนฺโน อรุเณ อุคฺคเต อุฏฺหติ, อนาปตฺติ. สเจ ปพุชฺฌิตฺวา ปุน สุปติ, อาปตฺติ. โย ปน ‘‘อรุเณ อุคฺคเต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวาว ทฺวารํ อสํวริตฺวา รตฺตึ นิปชฺชติ, ยถาปริจฺเฉทเมว จ น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอวํ นิปชฺชนฺโต อนาทริยทุกฺกฏาปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ.
โย ปน พหุเทว รตฺตึ ชคฺคิตฺวา อทฺธานํ วา คนฺตฺวา ทิวา กิลนฺตรูโป มฺเจ นิสินฺโน ปาเท ภูมิโต อโมเจตฺวาว นิทฺทาวเสน นิปชฺชติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สเจ โอกฺกนฺตนิทฺโท อชานนฺโตปิ ปาเท มฺจกํ อาโรเปติ, อาปตฺติเยว. นิสีทิตฺวา อปสฺสาย สุปนฺตสฺส อนาปตฺติ. โยปิ จ ‘‘นิทฺทํ วิโนเทสฺสามี’’ติ จงฺกมนฺโต ปติตฺวา สหสาว วุฏฺาติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. โย ปน ปติตฺวา ตตฺเถว สยติ, น วุฏฺาติ, ตสฺส อาปตฺติ.
โก มุจฺจติ, โก น มุจฺจตีติ? มหาปจฺจริยํ ตาว ‘‘เอกภงฺเคน นิปนฺนโกเยว มุจฺจติ. ปาเท ปน ภูมิโต โมเจตฺวา นิปนฺโน ยกฺขคหิตโกปิ วิสฺีภูโตปิ น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน ‘‘พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโตว มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โย จงฺกมนฺโต มุจฺจิตฺวา ปติโต ตตฺเถว สุปติ, ตสฺสาปิ อวิสยตฺตา อาปตฺติ น ทิสฺสติ. อาจริยา ปน เอวํ น กถยนฺติ. ตสฺมา อาปตฺติเยวาติ มหาปทุมตฺเถเรน วุตฺตํ. ทฺเว ปน ชนา อาปตฺติโต มุจฺจนฺติเยว, โย จ ยกฺขคหิตโก, โย จ พนฺธิตฺวา นิปชฺชาปิโต’’ติ.
๗๘. ภารุกจฺฉกวตฺถุมฺหิ ¶ ¶ อนาปตฺติ สุปินนฺเตนาติ ยสฺมา สุปินนฺเต อวิสยตฺตา เอวํ โหติ, ตสฺมา อุปาลิตฺเถโร ภควตา อวินิจฺฉิตปุพฺพมฺปิ อิมํ วตฺถุํ นยคฺคาเหน วินิจฺฉินิ. ภควาปิ จ สุตฺวา ‘‘สุกถิตํ, ภิกฺขเว, อุปาลินา; อปเท ปทํ กโรนฺโต วิย, อากาเส ปทํ ทสฺเสนฺโต วิย อุปาลิ อิมํ ปฺหํ กเถสี’’ติ วตฺวา เถรํ เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ, ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ วินยธรานํ ยทิทํ อุปาลี’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๘). อิโต ปรานิ ¶ สุปพฺพาทีนิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๘๐. ภิกฺขุนีสมฺปโยชนาทีสุ เต ลิจฺฉวิกุมารกา ขิฑฺฑาปสุตา อตฺตโน อนาจาเรน เอวํ อกํสุ. ตโต ปฏฺาย จ ลิจฺฉวีนํ วินาโส เอว อุทปาทิ.
๘๒. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถุมฺหิ ทสฺสนํ อคมาสีติ อนุกมฺปาย ‘‘ตํ ทกฺขิสฺสามี’’ติ เคหํ อคมาสิ. อถสฺส สา อตฺตโน จ ทารกานฺจ นานปฺปกาเรหิ อนาถภาวํ สํวณฺเณสิ. อนเปกฺขฺจ นํ ตฺวา กุปิตา ‘‘เอหิ วิพฺภมาหี’’ติ พลกฺกาเรน อคฺคเหสิ. โส อตฺตานํ โมเจตุํ ปฏิกฺกมนฺโต ชราทุพฺพลตาย อุตฺตาโน ปริปติ. ตโต สา อตฺตโน มนํ อกาสิ. โส ปน ภิกฺขุ อนาคามี สมุจฺฉินฺนกามราโค ตสฺมา น สาทิยีติ.
๘๓. มิคโปตกวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
วินีตวตฺถุ นิฏฺิตํ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตตฺริทํ สมนฺตปาสาทิกาย สมนฺตปาสาทิกตฺตสฺมึ –
อาจริยปรมฺปรโต, นิทานวตฺถุปฺปเภททีปนโต;
ปรสมยวิวชฺชนโต, สกสมยวิสุทฺธิโต เจว.
พฺยฺชนปริโสธนโต, ปทตฺถโต ปาฬิโยชนกฺกมโต;
สิกฺขาปทนิจฺฉยโต, วิภงฺคนยเภททสฺสนโต.
สมฺปสฺสตํ ¶ ¶ น ทิสฺสติ, กิฺจิ อปาสาทิกํ ยโต เอตฺถ;
วิฺูนมยํ ตสฺมา, สมนฺตปาสาทิกาตฺเวว.
สํวณฺณนา ปวตฺตา, วินยสฺส วิเนยฺยทมนกุสเลน;
วุตฺตสฺส โลกนาเถน, โลกมนุกมฺปมาเนนาติ.
ปมปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยปาราชิกํ
ทุติยํ ¶ อทุติเยน, ยํ ชิเนน ปกาสิตํ;
ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.
ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;
ตํ สพฺพํ วชฺชยิตฺวาน, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
ธนิยวตฺถุวณฺณนา
๘๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ ตตฺถ ราชคเหติ เอวํนามเก นคเร, ตฺหิ มนฺธาตุ-มหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘ราชคห’’นฺติ วุจฺจติ. อฺเเปตฺถ ปกาเร วณฺณยนฺติ. กึ เตหิ! นามเมตํ ตสฺส นครสฺส. ตํ ปเนตํ พุทฺธกาเล จ จกฺกวตฺติกาเล จ นครํ โหติ. เสสกาเล สฺุํ โหติ ยกฺขปริคฺคหิตํ, เตสํ วสนฺตวนํ หุตฺวา ติฏฺติ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสนฏฺานมาห – คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตติ. โส จ คิชฺฌา ตสฺส กูเฏสุ วสึสุ, คิชฺฌสทิสานิ วา ตสฺส กูฏานิ; ตสฺมา คิชฺฌกูโฏติ วุจฺจตีติ เวทิตพฺโพ.
สมฺพหุลาติ วินยปริยาเยน ตโย ชนา สมฺพหุลาติ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ สงฺโฆ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ตโย ตโย เอว, ตโต ปฏฺาย สมฺพหุลา. อิธ ปน เต สุตฺตนฺตปริยาเยน สมฺพหุลาติ ¶ เวทิตพฺพา. สนฺทิฏฺาติ นาติวิสฺสาสิกา น ทฬฺหมิตฺตา; ตตฺถ ตตฺถ สงฺคมฺม ทิฏฺตฺตา หิ เต สนฺทิฏฺาติ วุจฺจนฺติ. สมฺภตฺตาติ อติวิสฺสาสิกา ทฬฺหมิตฺตา; เต ¶ หิ สุฏฺุ ภตฺตา ¶ ภชมานา เอกสมฺโภคปริโภคาติ กตฺวา ‘‘สมฺภตฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ. อิสิคิลิปสฺเสติ อิสิคิลิ นาม ปพฺพโต, ตสฺส ปสฺเส. ปุพฺเพ กิร ปฺจสตมตฺตา ปจฺเจกพุทฺธา กาสิโกสลาทีสุ ชนปเทสุ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ตสฺมึ ปพฺพเต สนฺนิปติตฺวา สมาปตฺติยา วีตินาเมนฺติ. มนุสฺสา เต ปวิสนฺเตว ปสฺสนฺติ น นิกฺขมนฺเต. ตโต อาหํสุ – ‘‘อยํ ปพฺพโต อิเม อิสโย คิลตี’’ติ. ตทุปาทาย ตสฺส ‘‘อิสิคิลิ’’ตฺเวว สมฺา อุทปาทิ, ตสฺส ปสฺเส ปพฺพตปาเท.
ติณกุฏิโย กริตฺวาติ ติณจฺฉทนา สทฺวารพนฺธา กุฏิโย กตฺวา. วสฺสํ อุปคจฺฉนฺเตน หิ นาลกปฏิปทํ ปฏิปนฺเนนาปิ ปฺจนฺนํ ฉทนานํ อฺตเรน ฉนฺเนเยว สทฺวารพนฺเธ เสนาสเน อุปคนฺตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. โย อุปคจฺเฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๔). ตสฺมา วสฺสกาเล สเจ เสนาสนํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ ลภติ, หตฺถกมฺมํ ปริเยสิตฺวาปิ กาตพฺพํ. หตฺถกมฺมํ อลภนฺเตน สามมฺปิ กาตพฺพํ. น ตฺเวว อเสนาสนิเกน วสฺสํ อุปคนฺตพฺพํ. อยมนุธมฺมตา. ตสฺมา เต ภิกฺขู ติณกุฏิโย กริตฺวา รตฺติฏฺานทิวาฏฺานาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กติกวตฺตานิ จ ขนฺธกวตฺตานิ จ อธิฏฺาย ตีสุ สิกฺขาสุ สิกฺขมานา วสฺสํ อุปคจฺฉึสุ.
อายสฺมาปิ ธนิโยติ น เกวลํ เต เถราว อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส อาทิกมฺมิโก อายสฺมา ธนิโยปิ. กุมฺภการปุตฺโตติ กุมฺภการสฺส ปุตฺโต; ตสฺส หิ นามํ ธนิโย, ปิตา กุมฺภกาโร, เตน วุตฺตํ – ‘‘ธนิโย กุมฺภการปุตฺโต’’ติ. วสฺสํ อุปคจฺฉีติ เตหิ เถเรหิ สทฺธึ เอกฏฺาเนเยว ติณกุฏิกํ กริตฺวา วสฺสํ อุปคจฺฉิ. วสฺสํวุตฺถาติ ปุริมิกาย อุปคตา มหาปวารณาย ปวาริตา ปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ‘‘วุตฺถวสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวํ ¶ วสฺสํวุตฺถา หุตฺวา.
ติณกุฏิโย ภินฺทิตฺวาติ น ทณฺฑมุคฺคราทีหิ จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา, วตฺตสีเสน ปน ติณฺจ ทารุวลฺลิ-อาทีนิ จ โอโรเปตฺวาติ อตฺโถ. เยน หิ วิหารปจฺจนฺเต กุฏิ กตา โหติ, เตน สเจ อาวาสิกา ภิกฺขู โหนฺติ, เต อาปุจฺฉิตพฺพา. ‘‘สเจ อิมํ กุฏึ ปฏิชคฺคิตฺวา โกจิ วสิตุํ อุสฺสหติ, ตสฺส เทถา’’ติ วตฺวา ปกฺกมิตพฺพํ. เยน อรฺเ วา กตา โหติ ¶ , ปฏิชคฺคนกํ วา น ลภติ, เตน ‘‘อฺเสมฺปิ ปริโภคํ ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิสาเมตฺวา คนฺตพฺพํ. เต ปน ภิกฺขู อรฺเ กุฏิโย กตฺวา ปฏิชคฺคนกํ อลภนฺตา ติณฺจ กฏฺฺจ ปฏิสาเมตฺวา สงฺโคเปตฺวาติ อตฺโถ. ยถา จ ปิตํ ตํ อุปจิกาหิ น ขชฺชติ ¶ , อโนวสฺสกฺจ โหติ, ตถา เปตฺวา ‘‘อิทํ านํ อาคนฺตฺวา วสิตุกามานํ สพฺรหฺมจารีนํ อุปการาย ภวิสฺสตี’’ติ คมิยวตฺตํ ปูเรตฺวา.
ชนปทจาริกํ ปกฺกมึสูติ อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุกูลํ ชนปทํ อคมํสุ. อายสฺมา ปน ธนิโย กุมฺภการปุตฺโต ตตฺเถว วสฺสํ วสีติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว. ยาวตติยกนฺติ ยาวตติยวารํ. อนวโยติ อนุอวโย, สนฺธิวเสน อุการโลโป. อนุ อนุ อวโย, ยํ ยํ กุมฺภกาเรหิ กตฺตพฺพํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ อนูโน ปริปุณฺณสิปฺโปติ อตฺโถ. สเกติ อตฺตโน สนฺตเก. อาจริยเกติ อาจริยกมฺเม. กุมฺภการกมฺเมติ กุมฺภการานํ กมฺเม; กุมฺภกาเรหิ กตฺตพฺพกมฺเมติ อตฺโถ. เอเตน สกํ อาจริยกํ สรูปโต ทสฺสิตํ โหติ. ปริโยทาตสิปฺโปติ ปริสุทฺธสิปฺโป. อนวยตฺเตปิ สติ อฺเหิ อสทิสสิปฺโปติ วุตฺตํ โหติ.
สพฺพมตฺติกามยนฺติ ปิฏฺสงฺฆาฏกกวาฏสูจิฆฏิกวาตปานกวาฏมตฺตํ เปตฺวา อวเสสํ ภิตฺติฉทนิฏฺกถมฺภาทิเภทํ สพฺพํ เคหสมฺภารํ มตฺติกามยเมว กตฺวาติ อตฺโถ. ติณฺจ กฏฺฺจ โคมยฺจ สงฺกฑฺฒิตฺวา ตํ กุฏิกํ ปจีติ ตํ สพฺพมตฺติกามยํ กตฺวา ปาณิกาย ฆํสิตฺวา สุกฺขาเปตฺวา เตลตมฺพมตฺติกาย ปริมชฺชิตฺวา อนฺโต จ พหิ จ ติณาทีหิ ปูเรตฺวา ยถา ปกฺกา สุปกฺกา โหติ, เอวํ ปจิ. เอวํ ปกฺกา จ ปน สา อโหสิ กุฏิกา ¶ . อภิรูปาติ สุรูปา. ปาสาทิกาติ ปสาทชนิกา. โลหิติกาติ โลหิตวณฺณา. กิงฺกณิกสทฺโทติ กิงฺกณิกชาลสฺส สทฺโท. ยถา กิร นานารตเนหิ กตสฺส กิงฺกณิกชาลสฺส สทฺโท โหติ, เอวํ ตสฺสา กุฏิกาย วาตปานนฺตริกาทีหิ ปวิฏฺเน วาเตน สมาหตาย สทฺโท อโหสิ. เอเตนสฺสา อนฺโต จ พหิ จ สุปกฺกภาโว ทสฺสิโต โหติ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘กิงฺกณิกา’’ติ กํสภาชนํ, ตสฺมา ยถา อภิหตสฺส กํสภาชนสฺส สทฺโท, เอวมสฺสา วาตปฺปหตาย สทฺโท อโหสี’’ติ วุตฺตํ.
๘๕. กึ ¶ เอตํ, ภิกฺขเวติ เอตฺถ ชานนฺโตว ภควา กถาสมุฏฺาปนตฺถํ ปุจฺฉิ. ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ สพฺพมตฺติกามยาย กุฏิกาย กรณภาวํ อาทิโต ปฏฺาย ภควโต อาโรเจสุํ. กถฺหิ นาม โส, ภิกฺขเว…เป… กุฏิกํ กริสฺสตีติ อิทํ อตีตตฺเถ อนาคตวจนํ; อกาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺส ลกฺขณํ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ. น หิ นาม, ภิกฺขเว, ตสฺส โมฆปุริสสฺส ปาเณสุ อนุทฺทยา อนุกมฺปา อวิเหสา ภวิสฺสตีติ เอตฺถ อนุทฺทยาติ อนุรกฺขณา; เอเตน เมตฺตาปุพฺพภาคํ ทสฺเสติ. อนุกมฺปาติ ปรทุกฺเขน จิตฺตกมฺปนา. อวิเหสาติ อวิหึสนา; เอเตหิ กรุณาปุพฺพภาคํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘ภิกฺขเว ¶ , ตสฺส โมฆปุริสสฺส ปถวีขณนจิกฺขลฺลมทฺทนอคฺคิทาเนสุ พหู ขุทฺทานุขุทฺทเก ปาเณ พฺยาพาเธนฺตสฺส วินาเสนฺตสฺส เตสุ ปาเณสุ เมตฺตากรุณานํ ปุพฺพภาคมตฺตาปิ อนุทฺทยา อนุกมฺปา อวิเหสา น หิ นาม ภวิสฺสติ อปฺปมตฺตกาปิ นาม น ภวิสฺสตี’’ติ. มา ปจฺฉิมา ชนตา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชีติ ปจฺฉิโม ชนสมูโห ปาเณสุ ปาตพฺยภาวํ มา อาปชฺชิ. ‘‘พุทฺธกาเลปิ ภิกฺขูหิ เอวํ กตํ, อีทิเสสุ าเนสุ ปาณาติปาตํ กโรนฺตานํ นตฺถิ โทโส’’ติ มฺิตฺวา อิมสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชมานา ปจฺฉิมา ชนตา มา ปาเณสุ ปาตพฺเย ฆํสิตพฺเพ เอวํ มฺีติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ¶ ธนิยํ ครหิตฺวา น จ, ภิกฺขเว, สพฺพมตฺติกามยา กุฏิกา กาตพฺพาติ อายตึ ตาทิสาย กุฏิกาย กรณํ ปฏิกฺขิปิ; ปฏิกฺขิปิตฺวา จ ‘‘โย กเรยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ สพฺพมตฺติกามยกุฏิกากรเณ อาปตฺตึ เปสิ. ตสฺมา โยปิ ปถวีขณนาทินา ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อนาปชฺชนฺโต ตาทิสํ กุฏิกํ กโรติ, โสปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปถวีขณนาทีหิ ปน ปาเณสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺโต ยํ ยํ วตฺถุํ วีติกฺกมติ, ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตเมว อาปตฺตึ อาปชฺชติ. ธนิยตฺเถรสฺส อาทิกมฺมิกตฺตา อนาปตฺติ. เสสานํ สิกฺขาปทํ อติกฺกมิตฺวา กโรนฺตานมฺปิ กตํ ลภิตฺวา ตตฺถ วสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏเมว. ทพฺพสมฺภารมิสฺสกา ปน ยถา วา ตถา วา มิสฺสา โหตุ, วฏฺฏติ. สุทฺธมตฺติกามยาว น วฏฺฏติ. สาปิ อิฏฺกาหิ คิฺชกาวสถสงฺเขเปน กตา วฏฺฏติ. เอวํ ภนฺเตติ โข…เป… ตํ กุฏึ ภินฺทึสูติ ภควโต วจนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา กฏฺเหิ จ ปาสาเณหิ จ ตํ กุฏิกํ วิกิรนฺตา ภินฺทึสุ.
อถ ¶ โข อายสฺมา ธนิโยติอาทิมฺหิ อยํ สงฺเขปตฺโถ – ธนิโย เอกปสฺเส ทิวาวิหารํ นิสินฺโน เตน สทฺเทน อาคนฺตฺวา เต ภิกฺขู ‘‘กิสฺส เม ตุมฺเห, อาวุโส, กุฏึ ภินฺทถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ภควา เภทาเปตี’’ติ สุตฺวา สุพฺพจตาย สมฺปฏิจฺฉิ.
กสฺมา ปน ภควา อิมินา อติมหนฺเตน อุสฺสาเหน อตฺตโน วสนตฺถํ กตํ กุฏิกํ เภทาเปสิ, นนุ เอตสฺเสตฺถ วยกมฺมมฺปิ อตฺถีติ? กิฺจาปิ อตฺถิ, อถ โข นํ ภควา อกปฺปิยาติ ภินฺทาเปสิ, ติตฺถิยธโชติ ภินฺทาเปสิ. อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. อฏฺกถายํ ปน อฺานิปิ การณานิ วุตฺตานิ – สตฺตานุทฺทยาย, ปตฺตจีวรคุตฺตตฺถาย, เสนาสนพาหุลฺลปอเสธนายาติอาทีนิ. ตสฺมา อิทานิปิ โย ภิกฺขุ พหุสฺสุโต วินยฺู อฺํ ภิกฺขุํ อกปฺปิยํ ปริกฺขารํ คเหตฺวา วิจรนฺตํ ทิสฺวา ตํ ฉินฺทาเปยฺย วา ภินฺทาเปยฺย วา อนุปวชฺโช ¶ , โส เนว โจเทตพฺโพ น สาเรตพฺโพ; น ตํ ลพฺภา วตฺตุํ ‘‘มม ปริกฺขาโร ตยา นาสิโต, ตํ เม เทหี’’ติ.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย
ตตฺรายํ ¶ ปาฬิมุตฺตโก กปฺปิยากปฺปิยปริกฺขารวินิจฺฉโย – เกจิ ตาลปณฺณจฺฉตฺตํ อนฺโต วา พหิ วา ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน สิพฺพนฺตา วณฺณมฏฺํ กโรนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ. เอกวณฺเณน ปน นีเลน วา ปีตเกน วา เยน เกนจิ สุตฺเตน อนฺโต วา พหิ วา สิพฺพิตุํ ฉตฺตทณฺฑคฺคาหกํ สลากปฺชรํ วา วินนฺธิตุํ วฏฺฏติ. ตฺจ โข ถิรกรณตฺถํ, น วณฺณมฏฺตฺถาย. ฉตฺตปณฺณเกสุ มกรทนฺตกํ วา อฑฺฒจนฺทกํ วา ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ. ฉตฺตทณฺเฑ เคหถมฺเภสุ วิย ฆฏโก วา วาฬรูปกํ วา น วฏฺฏติ. สเจปิ สพฺพตฺถ อารคฺเคน เลขา ทินฺนา โหติ, สาปิ น วฏฺฏติ. ฆฏกมฺปิ วาฬรูปมฺปิ ภินฺทิตฺวา ธาเรตพฺพํ. เลขาปิ ฆํสิตฺวา วา อปเนตพฺพา, สุตฺตเกน วา ทณฺโฑ เวเตพฺโพ. ทณฺฑพุนฺเท ปน อหิจฺฉตฺตกสณฺานํ วฏฺฏติ. วาตปฺปหาเรน อจลนตฺถํ ฉตฺตมณฺฑลิกํ รชฺชุเกหิ คาเหตฺวา ทณฺเฑ พนฺธนฺติ, ตสฺมึ พนฺธนฏฺาเน วลยมิว อุกฺกิริตฺวา เลขํ เปนฺติ, สา วฏฺฏติ.
จีวรมณฺฑนตฺถาย นานาสุตฺตเกหิ สตปทีสทิสํ สิพฺพนฺตา อาคนฺตุกปฏฺฏํ เปนฺติ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ สูจิกมฺมวิการํ กโรนฺติ, ปฏฺฏมุเข วา ปริยนฺเต ¶ วา เวณึ วา สงฺขลิกํ วา, เอวมาทิ สพฺพํ น วฏฺฏติ, ปกติสูจิกมฺมเมว วฏฺฏติ. คณฺิกปฏฺฏกฺจ ปาสกปฏฺฏฺจ อฏฺโกณมฺปิ โสฬสโกณมฺปิ กโรนฺติ, ตตฺถ อคฺฆิยคยมุคฺคราทีนิ ทสฺเสนฺติ, กกฺกฏกฺขีนิ อุกฺกิรนฺติ, สพฺพํ น วฏฺฏติ, จตุโกณเมว วฏฺฏติ. โกณสุตฺตปิฬกา จ จีวเร รตฺเต ทุวิฺเยฺยรูปา วฏฺฏนฺติ. กฺชิกปิฏฺขลิอาทีสุ จีวรํ ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. จีวรกมฺมกาเล ปน หตฺถมลสูจิมลาทีนํ โธวนตฺถํ กิลิฏฺกาเล จ โธวนตฺถํ วฏฺฏติ. คนฺธํ วา ลาขํ วา เตลํ ¶ วา รชเน ปกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ.
จีวรํ รชิตฺวา สงฺเขน วา มณินา วา เยน เกนจิ น ฆฏฺเฏตพฺพํ. ภูมิยํ ชาณุกานิ นิหนฺตฺวา หตฺเถหิ คเหตฺวา โทณิยมฺปิ น ฆํสิตพฺพํ. โทณิยํ วา ผลเก วา เปตฺวา อนฺเต คาหาเปตฺวา หตฺเถหิ ปหริตุํ ปน วฏฺฏติ; ตมฺปิ มุฏฺินา น กาตพฺพํ. โปราณกตฺเถรา ปน โทณิยมฺปิ น เปสุํ. เอโก คเหตฺวา ติฏฺติ; อปโร หตฺเถ กตฺวา หตฺเถน ปหรติ. จีวรสฺส กณฺณสุตฺตกํ น วฏฺฏติ, รชิตกาเล ฉินฺทิตพฺพํ. ยํ ปน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณสุตฺตก’’นฺติ ¶ (มหาว. ๓๔๔) เอวํ อนฺุาตํ, ตํ อนุวาเต ปาสกํ กตฺวา พนฺธิตพฺพํ รชนกาเล ลคฺคนตฺถาย. คณฺิเกปิ โสภากรณตฺถํ เลขา วา ปิฬกา วา น วฏฺฏติ, นาเสตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
ปตฺเต วา ถาลเก วา อารคฺเคน เลขํ กโรนฺติ, อนฺโต วา พหิ วา น วฏฺฏติ. ปตฺตํ ภมํ อาโรเปตฺวา มชฺชิตฺวา ปจนฺติ – ‘‘มณิวณฺณํ กริสฺสามา’’ติ, น วฏฺฏติ; เตลวณฺโณ ปน วฏฺฏติ. ปตฺตมณฺฑเล ภิตฺติกมฺมํ น วฏฺฏติ, มกรทนฺตกํ ปน วฏฺฏติ.
ธมกรณฉตฺตกสฺส อุปริ วา เหฏฺา วา ธมกรณกุจฺฉิยํ วา เลขา น วฏฺฏติ, ฉตฺตมุขวฏฺฏิยํ ปนสฺส เลขา วฏฺฏติ.
กายพนฺธนสฺส โสภนตฺถํ ตหึ ตหึ ทิคุณํ สุตฺตํ โกฏฺเฏนฺติ, กกฺกฏจฺฉีนิ อุฏฺเปนฺติ, น วฏฺฏติ. อุโภสุ ปน อนฺเตสุ ทสามุขสฺส ถิรภาวาย ทิคุณํ โกฏฺเฏตุํ วฏฺฏติ. ทสามุเข ปน ฆฏกํ วา มกรมุขํ วา เทฑฺฑุภสีสํ วา ยํกิฺจิ วิการรูปํ กาตุํ น วฏฺฏติ. ตตฺถ ตตฺถ อจฺฉีนิ ทสฺเสตฺวา มาลากมฺมลตากมฺมาทีนิ วา กตฺวา โกฏฺฏิตกายพนฺธนมฺปิ น วฏฺฏติ. อุชุกเมว ปน มจฺฉกณฺฏกํ วา ขชฺชุริปตฺตกํ วา มฏฺปฏฺฏิกํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตุํ ¶ วฏฺฏติ. กายพนฺธนสฺส ทสา เอกา วฏฺฏติ, ทฺเว ตีณิ จตฺตาริปิ วฏฺฏนฺติ; ตโต ¶ ปรํ น วฏฺฏนฺติ. รชฺชุกกายพนฺธนํ เอกเมว วฏฺฏติ. ปามงฺคสณฺานํ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. ทสา ปน ปามงฺคสณฺานาปิ วฏฺฏติ. พหุรชฺชุเก เอกโต กตฺวา เอเกน นิรนฺตรํ เวเตฺวา กตํ พหุรชฺชุกนฺติ น วตฺตพฺพํ, ตํ วฏฺฏติ.
กายพนฺธนวิเธ อฏฺมงฺคลาทิกํ ยํกิฺจิ วิการรูปํ น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. วิธกสฺส อุโภสุ อนฺเตสุ ถิรกรณตฺถาย ฆฏกํ กโรนฺติ, อยมฺปิ วฏฺฏติ.
อฺชนิยํ อิตฺถิปุริสจตุปฺปทสกุณรูปํ วา มาลากมฺม-ลตากมฺมมกรทนฺตก-โคมุตฺตกอฑฺฒจนฺทกาทิเภทํ วา วิการรูปํ น วฏฺฏติ. ฆํสิตฺวา วา ฉินฺทิตฺวา วา ยถา วา น ปฺายติ, ตถา สุตฺเตน เวเตฺวา วฬฺเชตพฺพา. อุชุกเมว ปน จตุรํสา วา อฏฺํสา วา โสฬสํสา วา อฺชนี วฏฺฏติ. เหฏฺโต ปิสฺสา ทฺเว วา ติสฺโส วา วฏฺฏเลขาโย วฏฺฏนฺติ. คีวายมฺปิสฺสา ปิธานกพนฺธนตฺถํ เอกา วฏฺฏเลขา วฏฺฏติ.
อฺชนิสลากายปิ ¶ วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. อฺชนิตฺถวิกายมฺปิ ยํกิฺจิ นานาวณฺเณน สุตฺเตน วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ. เอเสว นโย กฺุจิกาโกสเกปิ. กฺุจิกาย วณฺณมฏฺกมฺมํ น วฏฺฏติ, ตถา สิปาฏิกายํ. เอกวณฺณสุตฺเตน ปเนตฺถ เยน เกนจิ สิพฺพิตุํ วฏฺฏติ.
อารกณฺฏเกปิ วฏฺฏมณิกํ วา อฺํ วา วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ. คีวายํ ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. ปิปฺผลิเกปิ มณิกํ วา ปิฬกํ วา ยํกิฺจิ อุฏฺเปตุํ น วฏฺฏติ. ทณฺฑเก ปน ปริจฺเฉทเลขา วฏฺฏติ. นขจฺเฉทนํ วลิตกํเยว กโรนฺติ, ตสฺมา ตํ วฏฺฏติ. อุตฺตรารณิยํ วา อธรารณิยํ วา อรณิธนุเก วา ¶ อุปริเปลฺลนทณฺฑเก วา มาลากมฺมาทิกํ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เปลฺลนทณฺฑกสฺส ปน เวมชฺเฌ มณฺฑลํ โหติ, ตตฺถ ปริจฺเฉทเลขามตฺตํ วฏฺฏติ. สูจิสณฺฑาสํ กโรนฺติ, เยน สูจึ ฑํสาเปตฺวา ฆํสนฺติ, ตตฺถ มกรมุขาทิกํ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, สูจิฑํสนตฺถํ ปน มุขมตฺตํ โหติ, ตํ วฏฺฏติ.
ทนฺตกฏฺจฺเฉทนวาสิยมฺปิ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, อุชุกเมว กปฺปิยโลเหน อุโภสุ วา ปสฺเสสุ จตุรํสํ วา อฏฺํสํ วา พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. กตฺตรทณฺเฑปิ ยํกิฺจิ วณฺณมฏฺํ น วฏฺฏติ, เหฏฺา เอกา วา ทฺเว วา วฏฺฏเลขา อุปริ อหิจฺฉตฺตกมกุฬมตฺตฺจ วฏฺฏติ.
เตลภาชเนสุ ¶ วิสาเณ วา นาฬิยํ วา อลาพุเก วา อามณฺฑสารเก วา เปตฺวา อิตฺถิรูปํ ปุริสรูปฺจ อวเสสํ สพฺพมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.
มฺจปีเ ภิสิพิมฺโพหเน ภูมตฺถรเณ ปาทปฺุฉเน จงฺกมนภิสิยา สมฺมฺุชนิยํ กจวรฉฑฺฑนเก รชนโทณิกาย ปานียอุฬุงฺเก ปานียฆเฏ ปาทกถลิกาย ผลกปีเก วลยาธารเก ทณฺฑาธารเกปตฺตปิธาเน ตาลวณฺเฏ วีชเนติ – เอเตสุ สพฺพํ มาลากมฺมาทิวณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ. เสนาสเน ปน ทฺวารกวาฏวาตปานกวาฏาทีสุ สพฺพรตนมยมฺปิ วณฺณมฏฺกมฺมํ วฏฺฏติ.
เสนาสเน กิฺจิ ปฏิเสเธตพฺพํ นตฺถิ, อฺตฺร วิรุทฺธเสนาสนา. วิรุทฺธเสนาสนํ นาม อฺเสํ สีมาย ราชวลฺลเภหิ กตเสนาสนํ วุจฺจติ, ตสฺมา เย ตาทิสํ เสนาสนํ กโรนฺติ, เต วตฺตพฺพา – ‘‘มา อมฺหากํ สีมาย เสนาสนํ กโรถา’’ติ. อนาทิยิตฺวา กโรนฺติเยว, ปุนปิ วตฺตพฺพา – ‘‘มา เอวํ อกตฺถ, มา อมฺหากํ อุโปสถปวารณานํ อนฺตรายมกตฺถ, มา สามคฺคึ ¶ ภินฺทิตฺถ, ตุมฺหากํ เสนาสนํ กตมฺปิ กตฏฺาเน น สฺสตี’’ติ. สเจ พลกฺกาเรน กโรนฺติเยว, ยทา เตสํ ลชฺชิปริสา อุสฺสนฺนา โหติ, สกฺกา ¶ จ โหติ ลทฺธุํ ธมฺมิโก วินิจฺฉโย, ตทา เตสํ เปเสตพฺพํ – ‘‘ตุมฺหากํ อาวาสํ หรถา’’ติ. สเจ ยาว ตติยํ เปสิเต หรนฺติ, สาธุ; โน เจ หรนฺติ, เปตฺวา โพธิฺจ เจติยฺจ อวเสสเสนาสนานิ ภินฺทิตพฺพานิ, โน จ โข อปริโภคํ กโรนฺเตหิ, ปฏิปาฏิยา ปน ฉทน-โคปานสี-อิฏฺกาทีนิ อปเนตฺวา เตสํ เปเสตพฺพํ – ‘‘ตุมฺหากํ ทพฺพสมฺภาเร หรถา’’ติ. สเจ หรนฺติ, สาธุ; โน เจ หรนฺติ, อถ เตสุ ทพฺพสมฺภาเรสุ หิมวสฺสวาตาตปาทีหิ ปูติภูเตสุ วา โจเรหิ วา หเฏสุ อคฺคินา วา ทฑฺเฒสุ สีมสามิกา ภิกฺขู อนุปวชฺชา, น ลพฺภา โจเทตุํ ‘‘ตุมฺเหหิ อมฺหากํ ทพฺพสมฺภารา นาสิตา’’ติ วา ‘‘ตุมฺหากํ คีวา’’ติ วา. ยํ ปน สีมสามิเกหิ ภิกฺขูหิ กตํ, ตํ สุกตเมว โหตีติ.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย นิฏฺิโต.
๘๖. เอวํ ภินฺนาย ปน กุฏิกาย ธนิยสฺส ปริวิตกฺกฺจ ปุน กุฏิกรณตฺถาย อุสฺสาหฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข อายสฺมโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ¶ ทารุคเห คณโกติ รฺโ ทารุภณฺฑาคาเร ทารุโคปโก. เทวคหทารูนีติ เทเวน คหิตทารูนิ. ราชปฏิคฺคหิตภูตานิ ทารูนีติ อตฺโถ. นครปฏิสงฺขาริกานีติ นครสฺส ปฏิสงฺขารูปกรณานิ. อาปทตฺถาย นิกฺขิตฺตานีติ อคฺคิทาเหน วา ปุราณภาเวน วา ปฏิราชูปรุนฺธนาทินา วา โคปุรฏฺฏาลกราชนฺเตปุรหตฺถิสาลาทีนํ วิปตฺติ อาปทาติ วุจฺจติ. ตทตฺถํ นิกฺขิตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. ขณฺฑาขณฺฑิกํ เฉทาเปตฺวาติ อตฺตโน กุฏิยา ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา กิฺจิ อคฺเค กิฺจิ มชฺเฌ กิฺจิ มูเล ขณฺฑาขณฺฑํ กโรนฺโต เฉทาเปสิ.
๘๗. วสฺสกาโรติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส นามํ. มคธมหามตฺโตติ มคธรฏฺเ มหามตฺโต, มหติยา อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคโต, มคธรฺโ วา มหามตฺโต; มหาอมจฺโจติ วุตฺตํ โหติ. อนุสฺายมาโนติ ตตฺถ ตตฺถ คนฺตฺวา ปจฺจเวกฺขมาโน. ภเณติ อิสฺสรานํ นีจฏฺานิกปุริสาลปนํ. พนฺธํ อาณาเปสีติ พฺราหฺมโณ ปกติยาปิ ¶ ตสฺมึ อิสฺสาปกโตว. โส รฺโ ‘‘อาณาเปหี’’ติ วจนํ สุตฺวา ยสฺมา ‘‘ปกฺโกสาเปหี’’ติ รฺโ น วุตฺตํ, ตสฺมา ‘‘นํ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ พนฺธํ กตฺวา อาณาเปสฺสามี’’ติ พนฺธํ อาณาเปสิ. อทฺทส โข อายสฺมา ธนิโยติ กถํ อทฺทส? โส กิร อตฺตนา เลเสน ทารูนํ หฏภาวํ ตฺวา ‘‘นิสฺสํสยํ เอส ทารูนํ การณา ราชกุลโต วธํ วา พนฺธํ วา ปาปุณิสฺสติ, ตทา นํ อหเมว โมเจสฺสามี’’ติ ¶ นิจฺจกาลํ ตสฺส ปวตฺตึ สุณนฺโตเยว วิจรติ. ตสฺมา ตขณฺเว คนฺตฺวา อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข อายสฺมา ธนิโย’’ติ. ทารูนํ กิจฺจาติ ทารูนํ การณา. ปุราหํ หฺามีติ อหํ ปุรา หฺามิ; ยาว อหํ น หฺามิ, ตาว ตฺวํ เอยฺยาสีติ อตฺโถ.
๘๘. อิงฺฆ, ภนฺเต, สราเปหีติ เอตฺถ อิงฺฆาติ โจทนตฺเถ นิปาโต. ปมาภิสิตฺโตติ อภิสิตฺโต หุตฺวา ปมํ. เอวรูปึ วาจํ ภาสิตาติ ‘‘ทินฺนฺเว สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกํ ปริภฺุชนฺตู’’ติ อิมํ เอวรูปึ วาจํ อภิสิตฺโต หุตฺวา ปมเมว ยํ ตฺวํ อภาสิ, ตํ สยเมว ภาสิตฺวา อิทานิ สรสิ, น สรสีติ วุตฺตํ โหติ. ราชาโน กิร อภิสิตฺตมตฺตาเยว ธมฺมเภรึ จราเปนฺติ – ‘‘ทินฺนฺเว สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกํ ปริภฺุชนฺตู’’ติ ตํ สนฺธาย เอส วทติ. เตสํ มยา สนฺธาย ภาสิตนฺติ ¶ เตสํ อปฺปมตฺตเกปิ กุกฺกุจฺจายนฺตานํ สมิตพาหิตปาปานํ สมณพฺราหฺมณานํ ติณกฏฺโทกหรณํ สนฺธาย มยา เอตํ ภาสิตํ; น ตุมฺหาทิสานนฺติ อธิปฺปาโย. ตฺจ โข อรฺเ อปริคฺคหิตนฺติ ตฺจ ติณกฏฺโทกํ ยํ อรฺเ อปริคฺคหิตํ โหติ; เอตํ สนฺธาย มยา ภาสิตนฺติ ทีเปติ.
โลเมน ตฺวํ มุตฺโตสีติ เอตฺถ โลมมิว โลมํ, กึ ปน ตํ? ปพฺพชฺชาลิงฺคํ. กึ วุตฺตํ โหติ? ยถา นาม ธุตฺตา ‘‘มํสํ ขาทิสฺสามา’’ติ มหคฺฆโลมํ เอฬกํ คณฺเหยฺยุํ. ตเมนํ อฺโ วิฺุปุริโส ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส เอฬกสฺส มํสํ กหาปณมตฺตํ ¶ อคฺฆติ. โลมานิ ปน โลมวาเร โลมวาเร อเนเก กหาปเณ อคฺฆนฺตี’’ติ ทฺเว อโลมเก เอฬเก ทตฺวา คณฺเหยฺย. เอวํ โส เอฬโก วิฺุปุริสมาคมฺม โลเมน มุจฺเจยฺย. เอวเมว ตฺวํ อิมสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา วธพนฺธนารโห. ยสฺมา ปน อรหทฺธโช สพฺภิ อวชฺฌรูโป, ตฺวฺจ สาสเน ปพฺพชิตตฺตา ยํ ปพฺพชฺชาลิงฺคภูตํ อรหทฺธชํ ธาเรสิ. ตสฺมา ตฺวํ อิมินา ปพฺพชฺชาลิงฺคโลเมน เอฬโก วิย วิฺุปุริสมาคมฺม มุตฺโตสีติ.
มนุสฺสา อุชฺฌายนฺตีติ รฺโ ปริสติ ภาสมานสฺส สมฺมุขา จ ปรมฺมุขา จ สุตฺวา ตตฺถ ตตฺถ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ, อวชฺฌายนฺติ, อวชานนฺตา ตํ ฌายนฺติ โอโลเกนฺติ ลามกโต วา จินฺเตนฺตีติ อตฺโถ. ขิยฺยนฺตีติ ตสฺส อวณฺณํ กเถนฺติ ปกาเสนฺติ. วิปาเจนฺตีติ วิตฺถาริกํ กโรนฺติ, สพฺพตฺถ ปตฺถรนฺติ; อยฺจ อตฺโถ สทฺทสตฺถานุสาเรน เวทิตพฺโพ. อยํ ปเนตฺถ โยชนา – ‘‘อลชฺชิโน อิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา’’ติอาทีนิ จินฺเตนฺตา อุชฺฌายนฺติ. ‘‘นตฺถิ อิเมสํ สามฺ’’นฺติอาทีนิ ภณนฺตา ขิยฺยนฺติ. ‘‘อปคตา อิเม สามฺา’’ติอาทีนิ ตตฺถ ตตฺถ วิตฺถาเรนฺตา วิปาเจนฺตีติ. เอเตน นเยน อิเมสํ ปทานํ อิโต ¶ ปรมฺปิ ตตฺถ ตตฺถ อาคตปทานุรูเปน โยชนา เวทิตพฺพา. พฺรหฺมจาริโนติ เสฏฺจาริโน. สามฺนฺติ สมณภาโว. พฺรหฺมฺนฺติ เสฏฺภาโว. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
รฺโ ทารูนีติอาทิมฺหิ ‘‘อทินฺนํ อาทิยิสฺสตี’’ติ อยํ อุชฺฌายนตฺโถ. ยํ ปเนตํ อทินฺนํ อาทิยิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รฺโ ทารูนี’’ติ วุตฺตํ. อิติ วจนเภเท อสมฺมุยฺหนฺเตหิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปุราณโวหาริโก ¶ มหามตฺโตติ ภิกฺขุภาวโต ปุราเณ คิหิกาเล วินิจฺฉยโวหาเร นิยุตฺตตฺตา ‘‘โวหาริโก’’ติ สงฺขํ คโต มหาอมจฺโจ.
อถ โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจาติ ภควา สามํเยว โลกโวหารมฺปิ ชานาติ, อตีตพุทฺธานํ ปฺตฺติมฺปิ ชานาติ – ‘‘ปุพฺเพปิ พุทฺธา เอตฺตเกน ปาราชิกํ ปฺเปนฺติ, เอตฺตเกน ถุลฺลจฺจยํ, เอตฺตเกน ทุกฺกฏ’’นฺติ. เอวํ สนฺเตปิ สเจ อฺเหิ โลกโวหารวิฺูหิ ¶ สทฺธึ อสํสนฺทิตฺวา ปาทมตฺเตน ปาราชิกํ ปฺเปยฺย, เตนสฺส สิยุํ วตฺตาโร ‘‘สีลสํวโร นาม เอกภิกฺขุสฺสปิ อปฺปเมยฺโย อสงฺขฺเยยฺโย มหาปถวี-สมุทฺท-อากาสานิ วิย อติวิตฺถิณฺโณ, กถฺหิ นาม ภควา ปาทมตฺตเกน นาเสสี’’ติ! ตโต ตถาคตสฺส าณพลํ อชานนฺตา สิกฺขาปทํ โกเปยฺยุํ, ปฺตฺตมฺปิ สิกฺขาปทํ ยถาาเน น ติฏฺเยฺย. โลกโวหารวิฺูหิ ปน สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺตฺเต โส อุปวาโท น โหติ. อฺทตฺถุ เอวํ วตฺตาโร โหนฺติ – ‘‘อิเมหิ นาม อคาริกาปิ ปาทมตฺเตน โจรํ หนนฺติปิ พนฺธนฺติปิ ปพฺพาเชนฺติปิ. กสฺมา ภควา ปพฺพชิตํ น นาเสสฺสติ; เยน ปรสนฺตกํ ติณสลากมตฺตมฺปิ น คเหตพฺพ’’นฺติ! ตถาคตสฺส จ าณพลํ ชานิสฺสนฺติ. ปฺตฺตมฺปิ จ สิกฺขาปทํ อกุปฺปํ ภวิสฺสติ, ยถาาเน สฺสติ. ตสฺมา โลกโวหารวิฺูหิ สทฺธึ สํสนฺทิตฺวา ปฺเปตุกาโม สพฺพาวนฺตํ ปริสํ อนุวิโลเกนฺโต อถ โข ภควา อวิทูเร นิสินฺนํ ทิสฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ ‘‘กิตฺตเกน โข ภิกฺขุ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร โจรํ คเหตฺวา หนติ วา พนฺธติ วา ปพฺพาเชติ วา’’ติ.
ตตฺถ มาคโธติ มคธานํ อิสฺสโร. เสนิโยติ เสนาย สมฺปนฺโน. พิมฺพิสาโรติ ตสฺส นามํ. ปพฺพาเชติ วาติ รฏฺโต นิกฺขาเมติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว. ปฺจมาสโก ปาโทติ ตทา ราชคเห วีสติมาสโก กหาปโณ โหติ, ตสฺมา ปฺจมาสโก ปาโท. เอเตน ลกฺขเณน สพฺพชนปเทสุ กหาปณสฺส จตุตฺโถ ภาโค ‘‘ปาโท’’ติ เวทิตพฺโพ. โส จ โข โปราณสฺส นีลกหาปณสฺส วเสน, น อิตเรสํ รุทฺรทามกาทีนํ. เตน หิ ปาเทน อตีตพุทฺธาปิ ปาราชิกํ ปฺเปสุํ, อนาคตาปิ ปฺเปสฺสนฺติ. สพฺพพุทฺธานฺหิ ปาราชิกวตฺถุมฺหิ วา ปาราชิเก วา นานตฺตํ ¶ นตฺถิ. อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกวตฺถูนิ ¶ . อิมาเนว จตฺตาริ ปาราชิกานิ. อิโต อูนํ วา อติเรกํ วา นตฺถิ. ตสฺมา ภควาปิ ธนิยํ ¶ วิครหิตฺวา ปาเทเนว ทุติยปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาต’’นฺติอาทิมาห.
เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ทุติยปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย รชกภณฺฑิกวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถเมตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ. ตสฺสตฺโถ จ อนุปฺตฺติสมฺพนฺโธ จ ปมปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ยถา จ อิธ, เอวํ อิโต ปเรสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ. ยํ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ตํ สพฺพํ วชฺเชตฺวา อุปรูปริ อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสาม. ยทิ หิ ยํ ยํ วุตฺตนยํ, ตํ ตํ ปุนปิ วณฺณยิสฺสาม, กทา วณฺณนาย อนฺตํ คมิสฺสาม! ตสฺมา ยํ ยํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตํ ตํ สพฺพํ สาธุกํ อุปสลฺลกฺเขตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อตฺโถ จ โยชนา จ เวทิตพฺพา. อปุพฺพํ ปน ยํกิฺจิ อนุตฺตานตฺถํ, ตํ สพฺพํ มยเมว วณฺณยิสฺสาม.
ธนิยวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙๐. รชกตฺถรณํ คนฺตฺวาติ รชกติตฺถํ คนฺตฺวา; ตฺหิ ยสฺมา ตตฺถ รชกา วตฺถานิ อตฺถรนฺติ, ตสฺมา รชกตฺถรณนฺติ วุจฺจติ. รชกภณฺฑิกนฺติ รชกานํ ภณฺฑิกํ; รชกา สายนฺหสมเย นครํ ปวิสนฺตา พหูนิ วตฺถานิ เอเกกํ ภณฺฑิกํ พนฺธนฺติ. ตโต เอกํ ภณฺฑิกํ เตสํ ปมาเทน อปสฺสนฺตานํ อวหริตฺวา เถเนตฺวาติ อตฺโถ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๙๒. คาโมนามาติ เอวมาทิ ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ เอตฺถ วุตฺตสฺส คามสฺส จ อรฺสฺส จ ปเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมึ คาเม เอกา เอว กุฏิ, เอกํ เคหํ เสยฺยถาปิ มลยชนปเท; อยํ เอกกุฏิโก คาโม นาม. เอเตน นเยน อปเรปิ เวทิตพฺพา. อมนุสฺโสนาม โย สพฺพโส วา มนุสฺสานํ อภาเวน ยกฺขปริคฺคหภูโต; ยโต วา มนุสฺสา เกนจิ การเณน ปุนปิ อาคนฺตุกามา เอว อปกฺกนฺตา. ปริกฺขิตฺโตนาม อิฏฺกปาการํ อาทึ กตฺวา อนฺตมโส กณฺฏกสาขาหิปิ ปริกฺขิตฺโต. โคนิสาทินิวิฏฺโนาม วีถิสนฺนิเวสาทิวเสน อนิวิสิตฺวา ยถา คาโว ตตฺถ ตตฺถ ทฺเว ตโย นิสีทนฺติ, เอวํ ¶ ตตฺถ ตตฺถ ¶ ¶ ทฺเว ตีณิ ฆรานิ กตฺวา นิวิฏฺโ. สตฺโถติ ชงฺฆสตฺถสกฏสตฺถาทีสุ โย โกจิ. อิมสฺมิฺจ สิกฺขาปเท นิคโมปิ นครมฺปิ คามคฺคหเณเนว คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
คามูปจาโรติอาทิ อรฺปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อินฺทขีเล ิตสฺสาติ ยสฺส คามสฺส อนุราธปุรสฺเสว ทฺเว อินฺทขีลา, ตสฺส อพฺภนฺตริเม อินฺทขีเล ิตสฺส; ตสฺส หิ พาหิโร อินฺทขีโล อาภิธมฺมิกนเยน อรฺสงฺเขปํ คจฺฉติ. ยสฺส ปน เอโก, ตสฺส คามทฺวารพาหานํ เวมชฺเฌ ิตสฺส. ยตฺราปิ หิ อินฺทขีโล นตฺถิ, ตตฺร คามทฺวารพาหานํ เวมชฺฌเมว ‘‘อินฺทขีโล’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘คามทฺวารพาหานํ เวมชฺเฌ ิตสฺสา’’ติ. มชฺฌิมสฺสาติ ถามมชฺฌิมสฺส, โน ปมาณมชฺฌิมสฺส, เนว อปฺปถามสฺส, น มหาถามสฺส; มชฺฌิมถามสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. เลฑฺฑุปาโตติ ยถา มาตุคาโม กาเก อุฑฺฑาเปนฺโต อุชุกเมว หตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา เลฑฺฑุํ ขิปติ, ยถา จ อุทกุกฺเขเป อุทกํ ขิปนฺติ, เอวํ อขิปิตฺวา ยถา ตรุณมนุสฺสา อตฺตโน พลํ ทสฺเสนฺตา พาหํ ปสาเรตฺวา เลฑฺฑุํ ขิปนฺติ, เอวํ ขิตฺตสฺส เลฑฺฑุสฺส ปตนฏฺานํ. ปติโต ปน ลุิตฺวา ยตฺถ คจฺฉติ, ตํ น คเหตพฺพํ.
อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโตติ เอตฺถ ปน นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺาเน ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส สุปฺปปาโต วา มุสลปาโต วา ฆรูปจาโร นาม. ตสฺมึ ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาโต คามูปจาโรติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยมฺปิ ตาทิสเมว. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘ฆรํ นาม, ฆรูปจาโร นาม, คาโม นาม, คามูปจาโร นามา’’ติ มาติกํ เปตฺวา นิพฺพโกสสฺส อุทกปาตฏฺานพฺภนฺตรํ ฆรํ นาม. ยํ ปน ทฺวาเร ิโต มาตุคาโม ภาชนโธวนอุทกํ ฉฑฺเฑติ, ตสฺส ปตนฏฺานฺจ มาตุคาเมเนว อนฺโตเคเห ิเตน ปกติยา พหิ ขิตฺตสฺส สุปฺปสฺส ¶ วา สมฺมฺุชนิยา วา ปตนฏฺานฺจ, ฆรสฺส ปุรโต ทฺวีสุ โกเณสุ สมฺพนฺธิตฺวา มชฺเฌ รุกฺขสูจิทฺวารํ เปตฺวา โครูปานํ ปเวสนนิวารณตฺถํ กตปริกฺเขโป จ อยํ สพฺโพปิ ฆรูปจาโร นาม. ตสฺมึ ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาตพฺภนฺตรํ คาโม นาม. ตโต อฺสฺส เลฑฺฑุปาตสฺส อพฺภนฺตรํ คามูปจาโร ¶ นามาติ วุตฺตํ. อิทเมตฺถ ปมาณํ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถ โย โย อฏฺกถาวาโท วา เถรวาโท วา ปจฺฉา วุจฺจติ โส ปมาณโต ทฏฺพฺโพ.
ยฺเจตํ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตํ ปาฬิยา วิรุทฺธมิว ทิสฺสติ. ปาฬิยฺหิ – ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน ตํ เลฑฺฑุปาตํ คามสงฺเขปํ กตฺวา ตโต ปรํ คามูปจาโร วุตฺโตติ? วุจฺจเต – สจฺจเมว ปาฬิยํ วุตฺตํ ¶ , อธิปฺปาโย ปเนตฺถ เวทิตพฺโพ. โส จ อฏฺกถาจริยานเมว วิทิโต. ตสฺมา ยถา ‘‘ฆรูปจาเร ิตสฺสา’’ติ เอตฺถ ฆรูปจารลกฺขณํ ปาฬิยํ อวุตฺตมฺปิ อฏฺกถายํ วุตฺตวเสน คหิตํ. เอวํ เสสมฺปิ คเหตพฺพํ.
ตตฺรายํ นโย – อิธ คาโม นาม ทุวิโธ โหติ – ปริกฺขิตฺโต จ อปริกฺขิตฺโต จ. ตตฺร ปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขโปเยว ปริจฺเฉโท. ตสฺมา ตสฺส วิสุํ ปริจฺเฉทํ อวตฺวา ‘‘คามูปจาโร นาม ปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส อินฺทขีเล ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ ปาฬิยํ วุตฺตํ. อปริกฺขิตฺตสฺส ปน คามสฺส คามปริจฺเฉโท วตฺตพฺโพ. ตสฺมา ตสฺส คามปริจฺเฉททสฺสนตฺถํ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส คามสฺส ฆรูปจาเร ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ วุตฺตํ. คามปริจฺเฉเท จ ทสฺสิเต คามูปจารลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สกฺกา าตุนฺติ ปุน ‘‘ตตฺถ ิตสฺส มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส เลฑฺฑุปาโต’’ติ น วุตฺตํ. โย ปน ฆรูปจาเร ิตสฺส เลฑฺฑุปาตํเยว ‘‘คามูปจาโร’’ติ วทติ, ตสฺส ฆรูปจาโร คาโมติ อาปชฺชติ. ตโต ฆรํ, ฆรูปจาโร, คาโม ¶ , คามูปจาโรติ เอส วิภาโค สงฺกรียติ. อสงฺกรโต เจตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ วิกาเล คามปฺปเวสนาทีสุ. ตสฺมา ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา วุตฺตนเยเนเวตฺถ คาโม จ คามูปจาโร จ เวทิตพฺโพ. โยปิ จ คาโม ปุพฺเพ มหา หุตฺวา ปจฺฉา กุเลสุ นฏฺเสุ อปฺปโก โหติ, โส ฆรูปจารโต เลฑฺฑุปาเตเนว ปริจฺฉินฺทิตพฺโพ. ปุริมปริจฺเฉโท ปนสฺส ปริกฺขิตฺตสฺสาปิ อปริกฺขิตฺตสฺสาปิ อปฺปมาณเมวาติ.
อรฺํ นาม เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจาติ อิมํ ยถาวุตฺตลกฺขณํ คามฺจ คามูปจารฺจ เปตฺวา อิมสฺมึ อทินฺนาทานสิกฺขาปเท อวเสสํ ‘‘อรฺํ’’ ¶ นามาติ เวทิตพฺพํ. อภิธมฺเม ปน ‘‘อรฺนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) วุตฺตํ. อารฺกสิกฺขาปเท ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) วุตฺตํ. ตํ อินฺทขีลโต ปฏฺาย อาโรปิเตน อาจริยธนุนา ปฺจธนุสตปฺปมาณนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ภควตา ‘‘คามา วา อรฺา วา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ วิภชนฺเตน ‘‘ฆรํ, ฆรูปจาโร, คาโม, คามูปจาโร อรฺ’’นฺติ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสนิเสธนตฺถํ ปฺจ โกฏฺาสา ทสฺสิตา. ตสฺมา ฆเร วา ฆรูปจาเร วา คาเม วา คามูปจาเร วา อรฺเ วา ปาทคฺฆนกโต ปฏฺาย สสฺสามิกํ ภณฺฑํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกเมวาติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ ‘‘อทินฺนํ เถยฺยสงฺขาตํ อาทิเยยฺยา’’ติอาทีนํ อตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘อทินฺนํ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทินฺนนฺติ ทนฺตโปนสิกฺขาปเท อตฺตโน สนฺตกมฺปิ อปฺปฏิคฺคหิตกํ กปฺปิยํ อชฺโฌหรณียํ วุจฺจติ. อิธ ปน ยํกิฺจิ ปรปริคฺคหิตํ สสฺสามิกํ ภณฺฑํ, ตเทตํ เตหิ สามิเกหิ กาเยน วา วาจาย วา น ทินฺนนฺติ อทินฺนํ. อตฺตโน หตฺถโต วา ยถาิตฏฺานโต วา น นิสฺสฏฺนฺติ อนิสฺสฏฺํ. ยถาาเน ิตมฺปิ อนเปกฺขตาย น ปริจฺจตฺตนฺติ อปริจฺจตฺตํ. อารกฺขสํวิธาเนน รกฺขิตตฺตา รกฺขิตํ. มฺชูสาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา โคปิตตฺตา โคปิตํ. ‘‘มม อิท’’นฺติ ตณฺหามมตฺเตน มมายิตตฺตา มมายิตํ. ตาหิ อปริจฺจาครกฺขณโคปนาหิ ¶ เตหิ ภณฺฑสามิเกหิ ปเรหิ ปริคฺคหิตนฺติ ปรปริคฺคหิตํ. เอตํ อทินฺนํ นาม.
เถยฺยสงฺขาตนฺติ เอตฺถ เถโนติ โจโร, เถนสฺส ภาโว เถยฺยํ; อวหรณจิตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ‘‘สงฺขา, สงฺขาต’’นฺติ อตฺถโต เอกํ; โกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ, ‘‘สฺานิทานา หิ ปปฺจสงฺขา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๘๐) วิย. เถยฺยฺจ ตํ สงฺขาตฺจาติ เถยฺยสงฺขาตํ, เถยฺยจิตฺตสงฺขาโต เอโก จิตฺตโกฏฺาโสติ อตฺโถ. กรณตฺเถ เจตํ ปจฺจตฺตวจนํ, ตสฺมา เถยฺยสงฺขาเตนาติ อตฺถโต ทฏฺพฺพํ. โย จ เถยฺยสงฺขาเตน อาทิยติ, โส ยสฺมา เถยฺยจิตฺโต โหติ, ตสฺมา พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ เถยฺยจิตฺโต อวหรณจิตฺโตติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อาทิเยยฺย ¶ , หเรยฺย, อวหเรยฺย, อิริยาปถํ วิโกเปยฺย, านา จาเวยฺย, สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยาติ เอตฺถ ปน ปมปทํ อภิโยควเสน วุตฺตํ, ทุติยปทํ อฺเสํ ภณฺฑํ หรนฺตสฺส คจฺฉโต วเสน, ตติยปทํ อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน, จตุตฺถํ สวิฺาณกวเสน, ปฺจมํ ถเล นิกฺขิตฺตาทิวเสน, ฉฏฺํ ปริกปฺปวเสน วา สุงฺกฆาตวเสน วา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. โยชนา ปเนตฺถ เอกภณฺฑวเสนปิ นานาภณฺฑวเสนปิ โหติ. เอกภณฺฑวเสน จ สวิฺาณเกเนว ลพฺภติ, นานาภณฺฑวเสน สวิฺาณกาวิฺาณกมิสฺสเกน.
ตตฺถ นานาภณฺฑวเสน ตาว เอวํ เวทิตพฺพํ – อาทิเยยฺยาติ อารามํ อภิยฺุชติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ภวิสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.
หเรยฺยาติ ¶ อฺสฺส ภณฺฑํ หรนฺโต สีเส ภารํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ขนฺธํ โอโรเปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.
อวหเรยฺยาติ อุปนิกฺขิตฺตํ ภณฺฑํ ‘‘เทหิ เม ภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจมาโน ‘‘นาหํ คณฺหามี’’ติ ภณติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. สามิกสฺส วิมตึ อุปฺปาเทติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส ¶ .
อิริยาปถํวิโกเปยฺยาติ ‘‘สหภณฺฑหารกํ เนสฺสามี’’ติ ปมํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ สงฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.
านา จาเวยฺยาติ ถลฏฺํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. านา จาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส.
สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยาติ ปริกปฺปิตฏฺานํ ปมํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺส. อถ วา ปมํ ปาทํ สุงฺกฆาตํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ – อยเมตฺถ นานาภณฺฑวเสน โยชนา.
เอกภณฺฑวเสน ¶ ปน สสฺสามิกํ ทาสํ วา ติรจฺฉานํ วา ยถาวุตฺเตน อภิโยคาทินา นเยน อาทิยติ วา หรติ วา อวหรติ วา อิริยาปถํ วา วิโกเปติ, านา วา จาเวติ, ปริจฺเฉทํ วา อติกฺกาเมติ – อยเมตฺถ เอกภณฺฑวเสน โยชนา.
ปฺจวีสติอวหารกถา
อปิจ อิมานิ ฉ ปทานิ วณฺเณนฺเตน ปฺจ ปฺจเก สโมธาเนตฺวา ปฺจวีสติ อวหารา ทสฺเสตพฺพา. เอวํ วณฺณยตา หิ อิทํ อทินฺนาทานปาราชิกํ สุวณฺณิตํ โหติ. อิมสฺมิฺจ าเน สพฺพอฏฺกถา อากุลา ลุฬิตา ทุวิฺเยฺยวินิจฺฉยา. ตถา หิ สพฺพอฏฺกถาสุ ยานิ ตานิ ปาฬิยํ ‘‘ปฺจหากาเรหิ อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส อาปตฺติ ปาราชิกสฺส, ปรปริคฺคหิตฺจ โหตี’’ติอาทินา นเยน อวหารงฺคานิ วุตฺตานิ, ตานิปิ คเหตฺวา กตฺถจิ เอกํ ปฺจกํ ทสฺสิตํ, กตฺถจิ ‘‘ฉหากาเรหี’’ติ อาคเตหิ สทฺธึ ทฺเว ปฺจกานิ ¶ ทสฺสิตานิ. เอตานิ จ ปฺจกานิ น โหนฺติ. ยตฺถ หิ เอเกเกน ปเทน อวหาโร สิชฺฌติ, ตํ ปฺจกํ นาม วุจฺจติ. เอตฺถ ปน สพฺเพหิปิ ปเทหิ เอโกเยว อวหาโร. ยานิ จ ตตฺถ ลพฺภมานานิเยว ปฺจกานิ ทสฺสิตานิ, เตสมฺปิ น สพฺเพสํ อตฺโถ ปกาสิโต. เอวมิมสฺมึ าเน สพฺพอฏฺกถา อากุลา ลุฬิตา ทุวิฺเยฺยวินิจฺฉยา. ตสฺมา ปฺจ ปฺจเกสโมธาเนตฺวา ทสฺสิยมานา อิเม ปฺจวีสติ อวหารา สาธุกํ สลฺลกฺเขตพฺพา.
ปฺจ ปฺจกานิ นาม – นานาภณฺฑปฺจกํ, เอกภณฺฑปฺจกํ, สาหตฺถิกปฺจกํ, ปุพฺพปโยคปฺจกํ ¶ , เถยฺยาวหารปฺจกนฺติ. ตตฺถ นานาภณฺฑปฺจกฺจ เอกภณฺฑปฺจกฺจ ‘‘อาทิเยยฺย, หเรยฺย, อวหเรยฺย, อิริยาปถํ วิโกเปยฺย, านา จาเวยฺยา’’ติ อิเมสํ ปทานํ วเสน ลพฺภนฺติ. ตานิ ปุพฺเพ โยเชตฺวา ทสฺสิตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. ยํ ปเนตํ ‘‘สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ ฉฏฺํ ปทํ, ตํ ปริกปฺปาวหารสฺส จ นิสฺสคฺคิยาวหารสฺส จ สาธารณํ. ตสฺมา ตํ ตติยปฺจเมสุ ปฺจเกสุ ลพฺภมานปทวเสน โยเชตพฺพํ. วุตฺตํ นานาภณฺฑปฺจกฺจ เอกภณฺฑปฺจกฺจ.
กตมํ สาหตฺถิกปฺจกํ? ปฺจ อวหารา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, อตฺถสาธโก, ธุรนิกฺเขโปติ. ตตฺถ สาหตฺถิโก นาม ปรสฺส ภณฺฑํ สหตฺถา อวหรติ. อาณตฺติโก นาม ‘‘อสุกสฺส ภณฺฑํ ¶ อวหรา’’ติ อฺํ อาณาเปติ. นิสฺสคฺคิโย นาม อนฺโตสุงฺกฆาเต ิโต พหิสุงฺกฆาตํ ปาเตติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ, อิมินา จ สทฺธึ ‘‘สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ อิทํ ปทโยชนํ ลภติ. อตฺถสาธโก นาม ‘‘อสุกํ นาม ภณฺฑํ ยทา สกฺโกสิ, ตทา อวหรา’’ติ อาณาเปติ. ตตฺถ สเจ ปโร อนนฺตรายิโก หุตฺวา ตํ อวหรติ, อาณาปโก อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก โหติ, อวหารโก ปน อวหฏกาเล. อยํ อตฺถสาธโก. ธุรนิกฺเขโป ปน อุปนิกฺขิตฺตภณฺฑวเสน เวทิตพฺโพ. อิทํ สาหตฺถิกปฺจกํ.
กตมํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ? อปเรปิ ปฺจ อวหารา – ปุพฺพปโยโค, สหปโยโค, สํวิทาวหาโร, สงฺเกตกมฺมํ, นิมิตฺตกมฺมนฺติ. ตตฺถ อาณตฺติวเสน ปุพฺพปโยโค เวทิตพฺโพ. านา จาวนวเสน สหปโยโค. อิตเร ปน ตโย ปาฬิยํ (ปารา. ๑๑๘-๑๒๐) อาคตนเยเนว เวทิตพฺพาติ. อิทํ ปุพฺพปโยคปฺจกํ.
กตมํ เถยฺยาวหารปฺจกํ? อปเรปิ ปฺจ อวหารา – เถยฺยาวหาโร, ปสยฺหาวหาโร, ปริกปฺปาวหาโร ¶ , ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร, กุสาวหาโรติ. เต ปฺจปิ ‘‘อฺตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส จีวเร ภาชิยมาเน เถยฺยจิตฺโต กุสํ สงฺกาเมตฺวา จีวรํ อคฺคเหสี’’ติ (ปารา. ๑๓๘) เอตสฺมึ กุสสงฺกามนวตฺถุสฺมึ วณฺณยิสฺสาม. อิทํ เถยฺยาวหารปฺจกํ. เอวมิมานิ ปฺจ ปฺจกานิ สโมธาเนตฺวา อิเม ปฺจวีสติ อวหารา เวทิตพฺพา.
อิเมสุ จ ปน ปฺจสุ ปฺจเกสุ กุสเลน วินยธเรน โอติณฺณํ วตฺถุํ สหสา อวินิจฺฉินิตฺวาว ¶ ปฺจ านานิ โอโลเกตพฺพานิ. ยานิ สนฺธาย โปราณา อาหุ –
‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจ, อคฺฆํ ปริโภคปฺจมํ;
ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ’’ติ.
ตตฺถ วตฺถุนฺติ ภณฺฑํ; อวหารเกน หิ ‘‘มยา อิทํ นาม อวหฏ’’นฺติ วุตฺเตปิ อาปตฺตึ อนาโรเปตฺวาว ตํ ภณฺฑํ สสฺสามิกํ วา อสฺสามิกํ วาติ อุปปริกฺขิตพฺพํ. สสฺสามิเกปิ สามิกานํ สาลยภาโว วา นิราลยภาโว วา อุปปริกฺขิตพฺโพ. สเจ เตสํ สาลยกาเล อวหฏํ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา อาปตฺติ กาตพฺพา. สเจ นิราลยกาเล ¶ , น ปาราชิเกน กาเรตพฺโพ. ภณฺฑสามิเกสุ ปน ภณฺฑํ อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑํ ทาตพฺพํ. อยเมตฺถ สามีจิ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – ภาติยราชกาเล กิร มหาเจติยปูชาย ทกฺขิณทิสโต เอโก ภิกฺขุ สตฺตหตฺถํ ปณฺฑุกาสาวํ อํเส กริตฺวา เจติยงฺคณํ ปาวิสิ; ตงฺขณเมว จ ราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ อาคโต. ตตฺถ อุสฺสารณาย วตฺตมานาย มหาชนสมฺมทฺโท อโหสิ. อถ โส ภิกฺขุ ชนสมฺมทฺทปีฬิโต อํสโต ปตนฺตํ กาสาวํ อทิสฺวาว นิกฺขนฺโต; นิกฺขมิตฺวา จ กาสาวํ อปสฺสนฺโต ‘‘โก อีทิเส ชนสมฺมทฺเท กาสาวํ ลจฺฉติ, น ทานิ ตํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คโต. อถฺโ ภิกฺขุ ปจฺฉา อาคจฺฉนฺโต ตํ กาสาวํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา ปุน วิปฺปฏิสารี หุตฺวา ‘‘อสฺสมโณ ทานิมฺหิ, วิพฺภมิสฺสามี’’ติ จิตฺเต อุปฺปนฺเนปิ ‘‘วินยธเร ปุจฺฉิตฺวา สฺสามี’’ติ จินฺเตสิ.
เตน จ สมเยน จูฬสุมนตฺเถโร นาม สพฺพปริยตฺติธโร วินยาจริยปาโมกฺโข มหาวิหาเร ปฏิวสติ. โส ภิกฺขุ เถรํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อตฺตโน กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิ. เถโร เตน ภฏฺเ ¶ ชนกาเย ปจฺฉา อาคนฺตฺวา คหิตภาวํ ตฺวา ‘‘อตฺถิ ทานิ เอตฺถ โอกาโส’’ติ จินฺเตตฺวา อาห – ‘‘สเจ กาสาวสามิกํ ภิกฺขุํ อาเนยฺยาสิ, สกฺกา ¶ ภเวยฺย ตว ปติฏฺา กาตุ’’นฺติ. ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ตํ ทกฺขิสฺสามี’’ติ? ‘‘ตหึ ตหึ คนฺตฺวา โอโลเกหี’’ติ. โส ปฺจปิ มหาวิหาเร โอโลเกตฺวา เนว อทฺทกฺขิ. ตโต นํ เถโร ปุจฺฉิ – ‘‘กตราย ทิสาย พหู ภิกฺขู อาคจฺฉนฺตี’’ติ? ‘‘ทกฺขิณทิสาย, ภนฺเต’’ติ. ‘‘เตน หิ กาสาวํ ทีฆโต จ ติริยฺจ มินิตฺวา เปหิ. เปตฺวา ทกฺขิณทิสาย วิหารปฏิปาฏิยา วิจินิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อาเนหี’’ติ. โส ตถา กตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา เถรสฺส สนฺติกํ อาเนสิ. เถโร ปุจฺฉิ – ‘‘ตเวทํ กาสาว’’นฺติ? ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กุหึ เต ปาติต’’นฺติ? โส สพฺพํ อาจิกฺขิ. เถโร ปน เตน กตํ ธุรนิกฺเขปํ สุตฺวา อิตรํ ปุจฺฉิ – ‘‘ตยา อิทํ กุหึ ทิสฺวา คหิต’’นฺติ? โสปิ สพฺพํ อาโรเจสิ. ตโต นํ เถโร อาห – ‘‘สเจ เต สุทฺธจิตฺเตน คหิตํ อภวิสฺส, อนาปตฺติเยว เต อสฺส. เถยฺยจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปนฺโนสิ. ตํ เทเสตฺวา อนาปตฺติโก โหหิ. อิทฺจ กาสาวํ อตฺตโน ¶ สนฺตกํ กตฺวา เอตสฺเสว ภิกฺขุโน เทหี’’ติ. โส ภิกฺขุ อมเตเนว อภิสิตฺโต ปรมสฺสาสปฺปตฺโต อโหสีติ. เอวํ วตฺถุ โอโลเกตพฺพํ.
กาโลติ อวหารกาโล. ตเทว หิ ภณฺฑํ กทาจิ สมคฺฆํ โหติ, กทาจิ มหคฺฆํ. ตสฺมา ตํ ภณฺฑํ ยสฺมึ กาเล อวหฏํ, ตสฺมึเยว กาเล โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. เอวํ กาโล โอโลเกตพฺโพ.
เทโสติ อวหารเทโส. ตฺหิ ภณฺฑํ ยสฺมึ เทเส อวหฏํ, ตสฺมึเยว เทเส โย ตสฺส อคฺโฆ โหติ, เตน อคฺเฆน อาปตฺติ กาเรตพฺพา. ภณฺฑุฏฺานเทเส หิ ภณฺฑํ สมคฺฆํ โหติ, อฺตฺถ มหคฺฆํ.
อิมสฺสาปิ จ อตฺถสฺส ทีปนตฺถมิทํ วตฺถุ – อนฺตรสมุทฺเท กิร เอโก ภิกฺขุ สุสณฺานํ นาฬิเกรํ ลภิตฺวา ภมํ อาโรเปตฺวา สงฺขถาลกสทิสํ มโนรมํ ปานียถาลกํ กตฺวา ตตฺเถว เปตฺวา เจติยคิรึ อคมาสิ. อถฺโ ภิกฺขุ อนฺตรสมุทฺทํ คนฺตฺวา ตสฺมึ วิหาเร ปฏิวสนฺโต ตํ ถาลกํ ทิสฺวา เถยฺยจิตฺเตน คเหตฺวา เจติยคิริเมว อาคโต. ตสฺส ตตฺถ ยาคุํ ปิวนฺตสฺส ตํ ¶ ถาลกํ ทิสฺวา ถาลกสามิโก ภิกฺขุ อาห – ‘‘กุโต เต อิทํ ลทฺธ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺทโต เม อานีต’’นฺติ. โส ตํ ‘‘เนตํ ตว สนฺตกํ, เถยฺยาย เต คหิต’’นฺติ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิ. ตตฺถ จ วินิจฺฉยํ อลภิตฺวา มหาวิหารํ อคมึสุ. ตตฺถ เภรึ ปหราเปตฺวา มหาเจติยสมีเป สนฺนิปาตํ กตฺวา วินิจฺฉยํ อารภึสุ. วินยธรตฺเถรา อวหารํ สฺาเปสุํ.
ตสฺมิฺจ ¶ สนฺนิปาเต อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร นาม วินยกุสโล โหติ. โส เอวมาห – ‘‘อิมินา อิทํ ถาลกํ กุหึ อวหฏ’’นฺติ? ‘‘อนฺตรสมุทฺเท อวหฏ’’นฺติ. ‘‘ตตฺริทํ กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘น กิฺจิ อคฺฆติ. ตตฺร หิ นาฬิเกรํ ภินฺทิตฺวา มิฺชํ ขาทิตฺวา กปาลํ ฉฑฺเฑนฺติ, ทารุอตฺถํ ปน ผรตี’’ติ. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เอตฺถ หตฺถกมฺมํ กึ อคฺฆตี’’ติ? ‘‘มาสกํ วา อูนมาสกํ วา’’ติ. ‘‘อตฺถิ ปน กตฺถจิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน มาสเกน วา อูนมาสเกน วา ปาราชิกํ ปฺตฺต’’นฺติ. เอวํ วุตฺเต ‘‘สาธุ! สาธุ! สุกถิตํ สุวินิจฺฉิต’’นฺติ เอกสาธุกาโร อโหสิ. เตน จ สมเยน ภาติยราชาปิ เจติยวนฺทนตฺถํ นครโต นิกฺขมนฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สพฺพํ ปฏิปาฏิยา สุตฺวา นคเร เภรึ จราเปสิ – ‘‘มยิ สนฺเต ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขูนีนมฺปิ ¶ คิหีนมฺปิ อธิกรณํ อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถเรน วินิจฺฉิตํ สุวินิจฺฉิตํ, ตสฺส วินิจฺฉเย อติฏฺมานํ ราชาณาย เปมี’’ติ. เอวํ เทโส โอโลเกตพฺโพ.
อคฺโฆติ ภณฺฑคฺโฆ. นวภณฺฑสฺส หิ โย อคฺโฆ โหติ, โส ปจฺฉา ปริหายติ; ยถา นวโธโต ปตฺโต อฏฺ วา ทส วา อคฺฆติ, โส ปจฺฉา ภินฺโน วา ฉิทฺโท วา อาณิคณฺิกาหโต วา อปฺปคฺโฆ โหติ ตสฺมา น สพฺพทา ภณฺฑํ ปกติอคฺเฆเนว กาตพฺพนฺติ. เอวํ อคฺโฆ โอโลเกตพฺโพ.
ปริโภโคติ ภณฺฑปริโภโค. ปริโภเคนาปิ หิ วาสิอาทิภณฺฑสฺส อคฺโฆ ปริหายติ. ตสฺมา เอวํ อุปปริกฺขิตพฺพํ, สเจ โกจิ กสฺสจิ ปาทคฺฆนกํ วาสึ หรติ, ตตฺร วาสิสามิโก ปุจฺฉิตพฺโพ ¶ – ‘‘ตยา อยํ วาสิ กิตฺตเกน กีตา’’ติ? ‘‘ปาเทน, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ปน เต กิณิตฺวาว ปิตา, อุทาหุ ตํ วฬฺเชสี’’ติ? สเจ วทติ ‘‘เอกทิวสํ เม ทนฺตกฏฺํ วา รชนฉลฺลึ วา ปตฺตปจนกทารุํ วา ฉินฺนํ, ฆํสิตฺวา วา นิสิตา’’ติ. อถสฺสา โปราโณ อคฺโฆ ภฏฺโติ เวทิตพฺโพ. ยถา จ วาสิยา เอวํ อฺชนิยา วา อฺชนิสลากาย วา กฺุจิกาย วา ปลาเลน วา ถุเสหิ วา อิฏฺกจุณฺเณน วา เอกวารํ ฆํสิตฺวา โธวนมตฺเตนาปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ติปุมณฺฑลสฺส มกรทนฺตจฺเฉทเนนาปิ ปริมชฺชิตมตฺเตนาปิ, อุทกสาฏิกาย สกึ นิวาสนปารุปเนนาปิ ปริโภคสีเสน อํเส วา สีเส วา ปนมตฺเตนาปิ, ตณฺฑุลาทีนํ ปปฺโผฏเนนาปิ ตโต เอกํ วา ทฺเว วา อปนยเนนาปิ, อนฺตมโส เอกํ ปาสาณสกฺขรํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนาปิ, สปฺปิเตลาทีนํ ภาชนนฺตรปอวตฺตเนนาปิ, อนฺตมโส ตโต มกฺขิกํ วา กิปิลฺลิกํ วา อุทฺธริตฺวา ฉฑฺฑิตมตฺเตนาปิ, คุฬปิณฺฑกสฺส มธุรภาวชานนตฺถํ นเขน วิชฺฌิตฺวา อณุมตฺตํ คหิตมตฺเตนาปิ อคฺโฆ ภสฺสติ. ตสฺมา ¶ ยํกิฺจิ ปาทคฺฆนกํ วุตฺตนเยเนว สามิเกหิ ปริโภเคน อูนํ กตํ โหติ, น ตํ อวหโฏ ภิกฺขุ ปาราชิเกน กาตพฺโพ. เอวํ ปริโภโค โอโลเกตพฺโพ. เอวํ อิมานิ ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ, อาปตฺตึ วา อนาปตฺตึ วา ครุกํ วา ลหุกํ วา อาปตฺตึ ยถาาเน เปยฺยาติ.
นิฏฺิโต ‘‘อาทิเยยฺย…เป… สงฺเกตํ วีตินาเมยฺยา’’ติ.
อิเมสํ ปทานํ วินิจฺฉโย.
อิทานิ ¶ ยทิทํ ‘‘ยถารูเป อทินฺนาทาเน’’ติอาทีนิ วิภชนฺเตน ‘‘ยถารูปํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยถารูปนฺติ ยถาชาติกํ. ตํ ปน ยสฺมา ปาทโต ปฏฺาย โหติ, ตสฺมา ‘‘ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา’’ติ อาห. ตตฺถ ปาเทน กหาปณสฺส จตุตฺถภาคํ อกปฺปิยภณฺฑเมว ทสฺเสติ. ปาทารเหน ¶ ปาทคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑํ. อติเรกปาเทน อุภยมฺปิ. เอตฺตาวตา สพฺพากาเรน ทุติยปาราชิกปฺปโหนกวตฺถุ ทสฺสิตํ โหติ.
ปถพฺยา ราชาติ สกลปถวิยา ราชา ทีปจกฺกวตฺตี อโสกสทิโส, โย วา ปนฺโปิ เอกทีเป ราชา, สีหฬราชสทิโส. ปเทสราชาติ เอกทีปสฺส ปเทสิสฺสโร, พิมฺพิสาร-ปเสนทิ-อาทโย วิย. มณฺฑลิกา นาม เย ทีปปเทเสปิ เอกเมกํ มณฺฑลํ ภฺุชนฺติ. อนฺตรโภคิกา นาม ทฺวินฺนํ ราชูนํ อนฺตรา กติปยคามสามิกา. อกฺขทสฺสาติ ธมฺมวินิจฺฉนกา, เต ธมฺมสภายํ นิสีทิตฺวา อปราธานุรูปํ โจรานํ หตฺถปาทจฺเฉชฺชาทึ อนุสาสนฺติ. เย ปน านนฺตรปฺปตฺตา อมจฺจา วา ราชกุมารา วา กตาปราธา โหนฺติ, เต รฺโ อาโรเจนฺติ, ครุกํ านํ สยํ น วินิจฺฉินนฺติ. มหามตฺตาติ านนฺตรปฺปตฺตา มหาอมจฺจา; เตปิ ตตฺถ ตตฺถ คาเม วา นิคเม วา นิสีทิตฺวา ราชกิจฺจํ กโรนฺติ. เย วา ปนาติ อฺเปิ เย ราชกุลนิสฺสิตา วา สกิสฺสริยนิสฺสิตา วา หุตฺวา เฉชฺชเภชฺชํ อนุสาสนฺติ, สพฺเพปิ เต อิมสฺมึ อตฺเถ ‘‘ราชาโน’’ติ ทสฺเสติ.
หเนยฺยุนฺติ โปเถยฺยฺุเจว ฉินฺเทยฺยฺุจ. ปพฺพาเชยฺยุนฺติ นีหเรยฺยุํ. โจโรสีติ เอวมาทีนิ จ วตฺวา ปริภาเสยฺยุํ; เตเนวาห – ‘‘ปริภาโส เอโส’’ติ. ปุริมํ อุปาทายาติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา ปาราชิกํ อาปตฺตึ อาปนฺนํ ปุคฺคลํ อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานปทตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
๙๓. เอวํ ¶ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยํ ตํ อาทิเยยฺยาติอาทีหิ ฉหิ ปเทหิ สงฺเขปโต อาทานํ ทสฺเสตฺวา สงฺเขปโตเอว ‘‘ปาทํ วา ปาทารหํ วา อติเรกปาทํ วา’’ติ อาทาตพฺพภณฺฑํ ทสฺสิตํ, ตํ ยตฺถ ยตฺถ ิตํ, ยถา ยถา อาทานํ คจฺฉติ, อนาคเต ¶ ปาปภิกฺขูนํ เลโสกาสนิรุนฺธนตฺถํ ตถา ตถา วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ภูมฏฺํ ¶ ถลฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา ‘‘ภูมฏฺํ นาม ภณฺฑํ ภูมิยํ นิกฺขิตฺตํ โหตี’’ติอาทินา นเยน ตสฺส วิภงฺคํ อาห.
ปฺจวีสติอวหารกถา นิฏฺิตา.
ภูมฏฺกถา
๙๔. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนาย สทฺธึ วินิจฺฉยกถา. นิขาตนฺติ ภูมิยํ ขณิตฺวา ปิตํ. ปฏิจฺฉนฺนนฺติ ปํสุอิฏฺกาทีหิ ปฏิจฺฉนฺนํ. ภูมฏฺํ ภณฺฑํ…เป… คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ตํ เอวํ นิขณิตฺวา วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา วา ปิตตฺตา ภูมิยํ ิตํ ภณฺฑํ โย ภิกฺขุ เกนจิเทว อุปาเยน ตฺวา ‘‘อาหริสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺโต หุตฺวา รตฺติภาเค อุฏฺาย คจฺฉติ, โส ภณฺฑฏฺานํ อปฺปตฺวาปิ สพฺพกายวจีวิกาเรสุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กถํ? โส หิ ตสฺส อาหรณตฺถาย อุฏฺหนฺโต ยํ ยํ องฺคปจฺจงฺคํ ผนฺทาเปติ, สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว. นิวาสนปารุปนํ สณฺเปติ, หตฺถวาเร หตฺถวาเร ทุกฺกฏํ. ‘‘มหนฺตํ นิธานํ น สกฺกา เอเกน อาหริตุํ, ทุติยํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ กสฺสจิ สหายสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม ทฺวารํ วิวรติ, ปทวาเร จ หตฺถวาเร จ ทุกฺกฏํ. ทฺวารปิทหเน ปน อฺสฺมึ วา คมนสฺส อนุปกาเร อนาปตฺติ. ตสฺส นิปนฺโนกาสํ คนฺตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามา’’ติ ปกฺโกสติ, ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา ‘‘เอหิ คจฺฉามา’’ติ วทติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. โส ตสฺส วจเนน อุฏฺหติ, ตสฺสาปิ ทุกฺกฏํ. อุฏฺหิตฺวา ตสฺส สนฺติกํ คนฺตุกาโม นิวาสนปารุปนํ สณฺเปติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ตสฺส สมีปํ คจฺฉติ, หตฺถวารปทวาเรสุ สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. โส ตํ ปุจฺฉติ ‘‘อสุโก จ อสุโก จ กุหึ, อสุกฺจ อสุกฺจ ปกฺโกสาหี’’ติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. สพฺเพ สมาคเต ทิสฺวา ‘‘มยา อสุกสฺมึ นาม าเน เอวรูโป นิธิ อุปลทฺโธ, คจฺฉาม ตํ คเหตฺวา ปฺุานิ จ กริสฺสาม, สุขฺจ ชีวิสฺสามา’’ติ วทติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏเมว.
เอวํ ลทฺธสหาโย กุทาลํ ปริเยสติ. สเจ ปนสฺส อตฺตโน กุทาโล อตฺถิ, ‘‘ตํ อาหริสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺโต จ คณฺหนฺโต จ อาหรนฺโต จ สพฺพตฺถ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ ¶ . สเจ นตฺถิ, อฺํ ¶ ภิกฺขุํ วา คหฏฺํ วา คนฺตฺวา ยาจติ, ยาจนฺโต จ สเจ ‘‘กุทาลํ เม เทหิ, กุทาเลน เม อตฺโถ ¶ , กิฺจิ กาตพฺพมตฺถิ, ตํ กตฺวา ปจฺจาหริสฺสามี’’ติ มุสา อภณนฺโต ยาจติ, วาจาย วาจาย ทุกฺกฏํ. สเจ ‘‘มาติกา โสเธตพฺพา อตฺถิ, วิหาเร ภูมิกมฺมํ กาตพฺพํ อตฺถี’’ติ มุสาปิ ภณติ, ยํ ยํ วจนํ มุสา, ตตฺถ ตตฺถ ปาจิตฺติยํ. มหาอฏฺกถายํ ปน สจฺเจปิ อลิเกปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ, ตํ ปมาทลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏํ นาม อตฺถิ. สเจ ปน กุทาลสฺส ทณฺโฑ นตฺถิ, ‘‘ทณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ, ตทตฺถาย คจฺฉติ, คนฺตฺวา สุกฺขกฏฺํ ฉินฺทติ ตจฺฉติ อาโกเฏติ, สพฺพตฺถ หตฺถวารปทวาเรสุ ทุกฺกฏํ. อลฺลรุกฺขํ ฉินฺทติ, ปาจิตฺติยํ. ตโต ปรํ สพฺพปโยเคสุ ทุกฺกฏํ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน มหาปจฺจริยฺจ ตตฺถ ชาตกกฏฺลตาเฉทนตฺถํ วาสิผรสุํ ปริเยสนฺตานมฺปิ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. สเจ ปน เตสํ เอวํ โหติ ‘‘วาสิผรสุกุทาเล ยาจนฺตา อาสงฺกิตา ภวิสฺสาม, โลหํ สมุฏฺาเปตฺวา กโรมา’’ติ. ตโต อรฺํ คนฺตฺวา โลหพีชตฺถํ ปถวึ ขณนฺติ, อกปฺปิยปถวึ ขณนฺตานํ ทุกฺกเฏหิ สทฺธึ ปาจิตฺติยานีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏา น มุจฺจติ. กปฺปิยปถวึ ขณนฺตานํ ทุกฺกฏานิเยว. พีชํ ปน คเหตฺวา ตโต ปรํ สพฺพกิริยาสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ.
ปิฏกปริเยสเนปิ หตฺถวารปทวาเรสุ วุตฺตนเยเนว ทุกฺกฏํ. มุสาวาเท ปาจิตฺติยํ. ปิฏกํ กาตุกามตาย วลฺลิจฺเฉทเน ปาจิตฺติยนฺติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. คจฺฉติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปริยิฏฺสหายกุทาลปิฏโก นิธิฏฺานํ คจฺฉติ, ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. สเจ ปน คจฺฉนฺโต ‘‘อิมํ นิธึ ลทฺธา พุทฺธปูชํ วา ธมฺมปูชํ วา สงฺฆภตฺตํ วา กริสฺสามี’’ติ กุสลํ อุปฺปาเทติ, กุสลจิตฺเตน คมเน อนาปตฺติ. กสฺมา? ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ ¶ วา…เป… คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ อเถยฺยจิตฺตสฺส อนาปตฺติ. มคฺคโต โอกฺกมฺม นิธานฏฺานํ คมนตฺถาย มคฺคํ กโรนฺโต ภูตคามํ ฉินฺทติ, ปาจิตฺติยํ. สุกฺขกฏฺํ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏํ.
ตตฺถชาตกนฺติ จิรนิหิตาย กุมฺภิยา อุปริ ชาตกํ. กฏฺํ วา ลตํ วาติ น เกวลํ กฏฺลตเมว, ยํกิฺจิ อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ติณรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว โหติ.
อฏฺวิธํ ¶ เหตํ ทุกฺกฏํ นาม อิมสฺมึ าเน สโมธาเนตฺวา เถเรหิ ทสฺสิตํ – ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ ¶ , สหปโยคทุกฺกฏํ, อนามาสทุกฺกฏํ, ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ, วินยทุกฺกฏํ, าตทุกฺกฏํ, ตฺติทุกฺกฏํ, ปฏิสฺสวทุกฺกฏนฺติ. ตตฺถ ‘‘เถยฺยจิตฺโต ทุติยํ วา กุทาลํ วา ปิฏกํ วา ปริเยสติ คจฺฉติ วา, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ ปุพฺพปโยคทุกฺกฏํ นาม. เอตฺถ หิ ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, ปาจิตฺติยฏฺาเน ปาจิตฺติยเมว โหติ. ‘‘ตตฺถชาตกํ กฏฺํ วา ลตํ วา ฉินฺทติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิทํ สหปโยคทุกฺกฏํ นาม. เอตฺถ ปน ปาจิตฺติยวตฺถุ จ ทุกฺกฏวตฺถุ จ ทุกฺกฏฏฺาเนเยว ติฏฺติ. กสฺมา? อวหารสฺส สหปโยคตฺตาติ. ยํ ปน ทสวิธํ รตนํ, สตฺตวิธํ ธฺํ, สพฺพฺจ อาวุธภณฺฑาทึ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ อนามาสทุกฺกฏํ นาม. ยํ กทลินาฬิเกราทีนํ ตตฺถชาตกผลานิ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ ทุรุปจิณฺณทุกฺกฏํ นาม. ยํ ปน ปิณฺฑาย จรนฺตสฺส ปตฺเต รเช ปติเต ปตฺตํ อปฺปฏิคฺคเหตฺวา อโธวิตฺวา วา ตตฺถ ภิกฺขํ คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ วุตฺตํ, อิทํ วินยทุกฺกฏํ นาม. ‘‘สุตฺวา น วทนฺติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปารา. ๔๑๙) อิทํ าตทุกฺกฏํ นาม. ยํ เอกาทสสุ สมนุภาสนาสุ ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏ’’นฺติ (ปารา. ๔๑๔) วุตฺตํ, อิทํ ตฺติทุกฺกฏํ นาม. ‘‘ตสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ปุริมิกา จ น ปฺายติ, ปฏิสฺสเว จ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๒๐๗) อิทํ ปฏิสฺสวทุกฺกฏํ นาม. อิทํ ปน สหปโยคทุกฺกฏํ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ยํกิฺจิ อลฺลํ วา สุกฺขํ วา ติณรุกฺขลตาทึ ฉินฺทนฺตสฺส สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว โหตี’’ติ.
สเจ ปนสฺส ตตฺถชาตเก ติณรุกฺขลตาทิมฺหิ ฉินฺเนปิ ¶ ลชฺชิธมฺโม โอกฺกมติ, สํวโร อุปฺปชฺชติ, เฉทนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวา สอุสฺสาโหว ปํสุํ ขณติ, เฉทนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ขณนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. อกปฺปิยปถวึ ขณนฺโตปิ หิ อิธ สหปโยคตฺตา ทุกฺกฏเมว อาปชฺชติ. สเจ ปนสฺส สพฺพทิสาสุ ขณิตฺวา กุมฺภิมูลํ ปตฺตสฺสาปิ ลชฺชิธมฺโม โอกฺกมติ, ขณนปจฺจยา ทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ.
พฺยูหติ วาติ อถ ปน สอุสฺสาโหว ปํสุํ วิยูหติ, เอกปสฺเส ราสึ กโรติ, ขณนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, วิยูหนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. ตฺจ ปํสุํ ตตฺถ ตตฺถ ปฺุชํ กโรนฺโต ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ ปน ราสึ กตฺวาปิ ธุรนิกฺเขปํ กโรติ, ลชฺชิธมฺมํ อาปชฺชติ ¶ , วิยูหนทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อุทฺธรติ วาติ อถ ปน สอุสฺสาโหว ปํสุํ อุทฺธริตฺวา พหิ ปาเตติ, วิยูหนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อุทฺธรณทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. ปํสุํ ปน กุทาเลน วา หตฺเถหิ วา ปจฺฉิยา วา ตหึ ตหึ ปาเตนฺโต ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. สเจ ปน สพฺพํ ปํสุํ นีหริตฺวา กุมฺภึ ถลฏฺํ กตฺวาปิ ลชฺชิธมฺมํ ¶ อาปชฺชติ, อุทฺธรณทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ ปน สอุสฺสาโหว กุมฺภึ อามสติ, อุทฺธรณทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, อามสนทุกฺกเฏ ปติฏฺาติ. อามสิตฺวาปิ จ ลชฺชิธมฺมํ อาปชฺชนฺโต อามสนทุกฺกฏํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. อถ สอุสฺสาโหว กุมฺภึ ผนฺทาเปติ, อามสนทุกฺกฏํ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ‘‘ผนฺทาเปติ, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ วุตฺตถุลฺลจฺจเย ปติฏฺาติ.
ตตฺรายํ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยานํ ทฺวินฺนมฺปิ วจนตฺโถ – ปมํ ตาเวตฺถ ทุฏฺุ กตํ สตฺถารา วุตฺตกิจฺจํ วิราเธตฺวา กตนฺติ ทุกฺกฏํ. อถ วา ทุฏฺํ กตํ, วิรูปา สา กิริยา ภิกฺขุกิริยานํ มชฺเฌ น โสภตีติ เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘ทุกฺกฏํ อิติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
อปรทฺธํ วิรทฺธฺจ, ขลิตํ ยฺจ ทุกฺกฏํ.
‘‘ยํ มนุสฺโส กเร ปาปํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห;
ทุกฺกฏนฺติ ปเวเทนฺติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);
อิตรํ ¶ ปน ถูลตฺตา, อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘สมฺปราเย จ ทุคฺคติ’’ (สํ. นิ. ๑.๔๙), ‘‘ยํ โหติ กฏุกปฺผล’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๖; เนตฺติ. ๙๑) วิย เจตฺถ สํโยคภาโว เวทิตพฺโพ. เอกสฺส สนฺติเก เทเสตพฺเพสุ หิ อจฺจเยสุ เตน สโม ถูโล อจฺจโย นตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ถูลตฺตา อจฺจยตฺตา จ ถุลฺลจฺจย’’นฺติ. วุตฺตฺเจตํ –
‘‘ถุลฺลจฺจยนฺติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;
เอกสฺส มูเล โย เทเสติ, โย จ ตํ ปฏิคฺคณฺหติ;
อจฺจโย เตน สโม นตฺถิ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙);
ผนฺทาเปนฺตสฺส ¶ จ ปโยเค ปโยเค ถุลฺลจฺจยํ. ผนฺทาเปตฺวาปิ จ ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺโต ถุลฺลจฺจยํ เทเสตฺวา มุจฺจติ. สหปโยคโต ปฏฺาเยว เจตฺถ ปุริมา ปุริมา อาปตฺติ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สหปโยคํ ปน อกตฺวา ลชฺชิธมฺมํ โอกฺกนฺเตน ยา ปุพฺพปโยเค ทุกฺกฏปาจิตฺติยา อาปนฺนา, สพฺพา ตา เทเสตพฺพา. สหปโยเค จ ตตฺถชาตกจฺเฉทเน พหุกานิปิ ทุกฺกฏานิ ปํสุขณนํ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. เอกํ ขณนทุกฺกฏเมว โหติ. ขณเน ¶ พหุกานิปิ วิยูหนํ, วิยูหเน พหุกานิปิ อุทฺธรณํ, อุทฺธรเณ พหุกานิปิ อามสนํ, อามสเน พหุกานิปิ ผนฺทาปนํ ปตฺวา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ปํสุขณนาทีสุ จ ลชฺชิธมฺเม อุปฺปนฺเน พหุกาปิ อาปตฺติโย โหนฺตุ, เอกเมว เทเสตฺวา มุจฺจตีติ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. ปุริมาปตฺติปฏิปฺปสฺสทฺธิ จ นาเมสา ‘‘ตฺติยา ทุกฺกฏํ, ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ (ปารา. ๔๑๔) เอวํ อนุสาวนาสุตฺเตสุเยว อาคตา. อิธ ปน ทุติยปาราชิเก อฏฺกถาจริยปฺปมาเณน คเหตพฺพาติ.
านาจาเวติ, อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ โย ปน ผนฺทาเปตฺวาปิ ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมิตฺวาว ตํ กุมฺภึ านโต อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ จาเวติ, ปาราชิกเมว อาปชฺชตีติ อตฺโถ. านา จาวนฺเจตฺถ ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺพํ. กถํ? กุมฺภึ มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺโต อิมินา อนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ¶ ปาริมนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตเถว คเหตฺวา ปรโต เปลฺเลนฺโต ปาริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อิมินา อนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วามโต วา ทกฺขิณโต วา อปนาเมนฺโต วามนฺเตน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทกฺขิณนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ทกฺขิณนฺเตน วา ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ วามนฺเตน อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุทฺธํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ ภูมิโต โมเจติ, ปาราชิกํ. ขณิตฺวา เหฏฺโต โอสีเทนฺโต พุนฺเทน ผุฏฺโกาสํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ มุขวฏฺฏิยา อติกฺกาเมติ, ปาราชิกนฺติ เอวํ เอกฏฺาเน ิตาย กุมฺภิยา. ยทิ ปน กุมฺภิมุขวฏฺฏิยา ปาสํ กตฺวา โลหขาณุํ วา ขทิรสาราทิขาณุํ วา ปถวิยํ อาโกเฏตฺวา ตตฺถ สงฺขลิกาย พนฺธิตฺวา เปนฺติ, เอกิสฺสา ทิสาย เอกาย สงฺขลิกาย พทฺธาย ทฺเว านานิ ลพฺภนฺติ, ทฺวีสุ ตีสุ จตูสุ ทิสาสุ จตูหิ สงฺขลิกาหิ พทฺธาย ปฺจ านานิ ลพฺภนฺติ.
ตตฺถ ¶ เอกขาณุเก พทฺธกุมฺภิยา ปมํ ขาณุกํ วา อุทฺธรติ, สงฺขลิกํ วา ฉินฺทติ, ถุลฺลจฺจยํ. ตโต กุมฺภึ ยถาวุตฺตนเยน เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, ปาราชิกํ. อถ ปมํ กุมฺภึ อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ตโต ขาณุกํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, สงฺขลิกํ วา ฉินฺทติ, ปาราชิกํ. เอเตน อุปาเยน ทฺวีสุ ตีสุ จตูสุ ขาณุเกสุ พทฺธกุมฺภิยาปิ ปจฺฉิเม านาจาวเน ปาราชิกํ. เสเสสุ ถุลฺลจฺจยํ เวทิตพฺพํ.
สเจ ขาณุ นตฺถิ, สงฺขลิกาย อคฺเค วลยํ กตฺวา ตตฺถชาตเก มูเล ปเวสิตํ โหติ, ปมํ กุมฺภึ อุทฺธริตฺวา ปจฺฉา มูลํ เฉตฺวา วลยํ นีหรติ, ปาราชิกํ. อถ มูลํ อจฺเฉตฺวา วลยํ ¶ อิโต จิโต จ สาเรติ, รกฺขติ. สเจ ปน มูลโต อนีหริตฺวาปิ หตฺเถน คเหตฺวา อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. อยเมตฺถ วิเสโส. เสสํ วุตฺตนยเมว.
เกจิ ¶ ปน นิมิตฺตตฺถาย กุมฺภิมตฺถเก นิคฺโรธรุกฺขาทีนิ โรเปนฺติ, มูลานิ กุมฺภึ วินนฺธิตฺวา ิตานิ โหนฺติ, ‘‘มูลานิ ฉินฺทิตฺวา กุมฺภึ คเหสฺสามี’’ติ ฉินฺทนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ฉินฺทิตฺวา โอกาสํ กตฺวา กุมฺภึ เกสคฺคมตฺตมฺปิ านา จาเวติ, ปาราชิกํ. มูลานิ ฉินฺทโตว ลุิตฺวา กุมฺภี นินฺนฏฺานํ คตา, รกฺขติ ตาว. คตฏฺานโต อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. สเจ ฉินฺเนสุ มูเลสุ เอกมูลมตฺเตน กุมฺภี ติฏฺติ, โส จ ตํ ‘‘อิมสฺมึ มูเล ฉินฺเน ปติสฺสตี’’ติ ฉินฺทติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ ปน เอกมูเลเนว ปาเส พทฺธสูกโร วิย ิตา โหติ, อฺํ กิฺจิ ลคฺคนกํ นตฺถิ, ตสฺมิมฺปิ มูเล ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ กุมฺภิมตฺถเก มหาปาสาโณ ปิโต โหติ, ตํ ทณฺเฑน อุกฺขิปิตฺวา อปเนตุกาโม กุมฺภิมตฺถเก ชาตรุกฺขํ ฉินฺทติ, ทุกฺกฏํ. ตสฺสา สมีเป ชาตกํ เฉตฺวา อาหรติ, อตตฺถชาตกตฺตา ตํ ฉินฺทโต ปาจิตฺติยํ.
อตฺตโน ภาชนนฺติ สเจ ปน กุมฺภึ อุทฺธริตุํ อสกฺโกนฺโต กุมฺภิคตภณฺฑคฺคหณตฺถํ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา อนฺโตกุมฺภิยํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. ปริจฺเฉโท เจตฺถ ปาราชิกนิยมนตฺถํ วุตฺโต. เถยฺยจิตฺเตน ปน อูนปฺจมาสกมฺปิ อามสนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติเยว.
ผนฺทาเปตีติ ¶ เอตฺถ ยาว เอกาพทฺธํ กตฺวา อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสติ, ตาว ผนฺทาเปตีติ วุจฺจติ. อปิ จ อิโต จิโต จ อปพฺยูหนฺโตปิ ผนฺทาเปติเยว, โส ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ยทา ปน เอกาพทฺธภาโว ฉินฺโน, กุมฺภิคตํ กุมฺภิยเมว, ภาชนคตมฺปิ ภาชเนเยว โหติ, ตทา อตฺตโน ภาชนคตํ นาม โหติ. เอวํ กตฺวา กุมฺภิโต อนีหเตปิ จ ภาชเน ปาราชิกํ อาปชฺชติ.
มุฏฺึ วา ฉินฺทตีติ เอตฺถ ยถา องฺคุลนฺตเรหิ นิกฺขนฺตกหาปณา กุมฺภิคเต กหาปเณ น สมฺผุสนฺติ, เอวํ มุฏฺึ กโรนฺโต มุฏฺึ ฉินฺทติ นาม; โสปิ ปาราชิกํ อาปชฺชติ.
สุตฺตารูฬฺหนฺติ สุตฺเต อารูฬฺหํ; สุตฺเตน อาวุตสฺสาปิ สุตฺตมยสฺสาปิ เอตํ อธิวจนํ ¶ . ปามงฺคาทีนิหิ โสวณฺณมยานิปิ โหนฺติ รูปิยมยานิปิ สุตฺตมยานิปิ, มุตฺตาวลิอาทโยปิ เอตฺเถว ¶ สงฺคหํ คตา. เวนนฺติ สีสเวนปโฏ วุจฺจติ. เอเตสุ ยํกิฺจิ เถยฺยจิตฺโต อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปามงฺคาทีนิ โกฏิยํ คเหตฺวา อากาสฏฺํ อกโรนฺโต อุจฺจาเรติ, ถุลฺลจฺจยํ.
ฆํสนฺโต นีหรตีติ เอตฺถ ปน ปริปุณฺณาย กุมฺภิยา อุปริ สมติตฺติกํ กุมฺภึ กตฺวา ปิตํ วา เอกํ โกฏึ พุนฺเท เอกํ โกฏึ มุขวฏฺฏิยํ กตฺวา ปิตํ วา ฆํสนฺตสฺส นีหรโต ถุลฺลจฺจยํ. กุมฺภิมุขา โมเจนฺตสฺส ปาราชิกํ. ยํ ปน อุปฑฺฒกุมฺภิยํ วา ริตฺตกุมฺภิยํ วา ปิตํ, ตสฺส อตฺตโน ผุฏฺโกาโสว านํ, น สกลา กุมฺภี, ตสฺมา ตํ ฆํสนฺตสฺสาปิ นีหรโต ปติฏฺิโตกาสโต เกสคฺคมตฺเต มุตฺเต ปาราชิกเมว. กุมฺภิยา ปน ปริปุณฺณาย วา อูนาย วา อุชุกเมว อุทฺธรนฺตสฺส เหฏฺิมโกฏิยา ปติฏฺิโตกาสา มุตฺตมตฺเตว ปาราชิกํ. อนฺโตกุมฺภิยํ ปิตํ ยํกิฺจิ ปาราชิกปฺปโหนกํ ภณฺฑํ สกลกุมฺภิยํ จาเรนฺตสฺส, ปามงฺคาทิฺจ ฆํสิตฺวา นีหรนฺตสฺส ยาว มุขวฏฺฏึ นาติกฺกมติ, ตาว ถุลฺลจฺจยเมว. ตสฺส หิ สพฺพาปิ กุมฺภี านนฺติ สงฺเขปมหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘ปิตฏฺานเมว านํ, น สกลา กุมฺภี. ตสฺมา ยถาิตฏฺานโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ โมเจนฺตสฺส ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปมาณํ. อิตรํ ปน อากาสคตํ อกโรนฺตสฺส จีวรวํเส ปิตจีวรเวนกนเยน วุตฺตํ, ตํ น คเหตพฺพํ. วินยวินิจฺฉเย หิ อาคเต ครุเก าตพฺพํ, เอสา วินยธมฺมตา. อปิจ ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ ¶ วา กโรติ, มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ วจนโต เปตํ เวทิตพฺพํ. ยถา อนฺโตกุมฺภิยํ ิตสฺส น สพฺพา กุมฺภี านนฺติ.
สปฺปิอาทีสุ ยํกิฺจิ ปิวโต เอกปโยเคน ปีตมตฺเต ¶ ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน อยํ วิภาโค ทสฺสิโต – ‘‘มุขํ อนปเนตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปิวโต สเจ ปรคลคตํ ปาทํ น อคฺฆติ, มุขคเตน สทฺธึ อคฺฆติ, รกฺขติ ตาว. กณฺเน ปน ปริจฺฉินฺนกาเลเยว ปาราชิกํ โหติ. สเจปิ โอฏฺเหิ ปริจฺฉินฺทนฺโต โอฏฺเ ปิทหติ, ปาราชิกเมว. อุปฺปลทณฺฑเวฬุนาฬินฬนาฬิอาทีหิ ปิวนฺตสฺสาปิ สเจ ปรคลคตเมว ปาทํ อคฺฆติ, ปาราชิกํ. สเจ สห มุขคเตน อคฺฆติ, น ตาว ปาราชิกํ โหติ. อุปฺปลทณฺฑาทิคเตน สทฺธึ เอกาพทฺธภาวํ โกเปตฺวา โอฏฺเหิ ปริจฺฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ อุปฺปลทณฺฑาทิคเตน สทฺธึ อคฺฆติ, อุปฺปลทณฺฑาทีนํ พุนฺเท องฺคุลิยาปิ ปิหิตมตฺเต ปาราชิกํ. ปาทคฺฆนเก ปรคลํ อปฺปวิฏฺเ อุปฺปลทณฺฑาทีสุ จ มุเข จ อติเรกปาทารหมฺปิ เอกาพทฺธํ หุตฺวา ติฏฺติ, รกฺขติเยวา’’ติ. ตํ สพฺพมฺปิ ยสฺมา ‘‘อตฺตโน ภาชนคตํ วา กโรติ ¶ , มุฏฺึ วา ฉินฺทตี’’ติ อิมํ นยํ ภชติ, ตสฺมา สุทสฺสิตเมว. เอส ตาว เอกาพทฺเธ นโย.
สเจ ปน หตฺเถน วา ปตฺเตน วา ถาลกาทินา วา เกนจิ ภาชเนน คเหตฺวา ปิวติ, ยมฺหิ ปโยเค ปาทคฺฆนกํ ปูเรติ, ตมฺหิ คเต ปาราชิกํ. อถ มหคฺฆํ โหติ, สิปฺปิกายปิ เอกปโยเคเนว ปาทคฺฆนกํ คเหตุํ สกฺกา โหติ, เอกุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. ภาชนํ ปน นิมุชฺชาเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส ยาว เอกาพทฺธํ โหติ, ตาว รกฺขติ. มุขวฏฺฏิปริจฺเฉเทน วา อุทฺธาเรน วา ปาราชิกํ. ยทา ปน สปฺปึ วา เตลํ วา อจฺฉํ เตลสทิสเมว มธุผาณิตํ วา กุมฺภึ อาวิฺเฉตฺวา อตฺตโน ภาชเน ปเวเสติ, ตทา เตสํ อจฺฉตาย เอกาพทฺธตา นตฺถีติ ปาทคฺฆนเก มุขวฏฺฏิโต คฬิตมตฺเต ปาราชิกํ.
ปจิตฺวา ปิตํ ปน มธุผาณิตํ สิเลโส วิย จิกฺกนํ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนโยคฺคํ โหติ, อุปฺปนฺเน กุกฺกุจฺเจ เอกาพทฺธเมว หุตฺวา ปฏินีหริตุํ ¶ สกฺโกติ, เอตํ มุขวฏฺฏิยา นิกฺขมิตฺวา ภาชเน ปวิฏฺมฺปิ พาหิเรน สทฺธึ เอกาพทฺธตฺตา รกฺขติ, มุขวฏฺฏิโต ฉินฺนมตฺเต ปน ปาราชิกํ. โยปิ เถยฺยจิตฺเตน ¶ ปรสฺส กุมฺภิยา ปาทคฺฆนกํ สปฺปึ วา เตลํ วา อวสฺสปิวนกํ ยํกิฺจิ ทุกูลสาฏกํ วา จมฺมขณฺฑาทีนํ วา อฺตรํ ปกฺขิปติ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.
ริตฺตกุมฺภิยา ‘‘อิทานิ เตลํ อากิริสฺสนฺตี’’ติ ตฺวา ยํกิฺจิ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต ปกฺขิปติ, ตํ เจ ตตฺถ เตเล อากิณฺเณ ปฺจมาสกอคฺฆนกํ ปิวติ, ปีตมตฺเต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตํ ปน ตตฺเถว สุกฺขตฬาเก สุกฺขมาติกาย อุชุกรณวินิจฺฉเยน วิรุชฺฌติ, อวหารลกฺขณฺเจตฺถ น ปฺายติ, ตสฺมา น คเหตพฺพํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ตสฺส อุทฺธาเร ปาราชิกํ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ.
ปรสฺส ริตฺตกุมฺภิยา สงฺโคปนตฺถาย ภณฺฑํ เปตฺวา ตตฺถ เตเล อากิณฺเณ ‘‘สเจ อยํ ชานิสฺสติ, มํ ปลิพุชฺฌิสฺสตี’’ติ ภีโต ปาทคฺฆนกํ เตลํ ปีตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. สุทฺธจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปเร อาหราเปนฺเต ภณฺฑเทยฺยํ. ภณฺฑเทยฺยํ นาม ยํ ปรสฺส นฏฺํ, ตสฺส มูลํ วา ตเทว วา ภณฺฑํ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. โน เจ เทติ, สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. สเจ ปรสฺส กุมฺภิยา อฺโ สปฺปึ วา เตลํ วา อากิรติ, ตตฺร จายํ เถยฺยจิตฺเตน เตลปิวนกํ ภณฺฑํ ปกฺขิปติ, วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. อตฺตโน ริตฺตกุมฺภิยา ¶ ปรสฺส สปฺปึ วา เตลํ วา อากิรณภาวํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน ภณฺฑํ นิกฺขิปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สุทฺธจิตฺโต นิกฺขิปิตฺวา ปจฺฉา เถยฺยจิตฺเตน อุทฺธรติ, ปาราชิกเมว. สุทฺธจิตฺโตว อุทฺธรติ, เนว อวหาโร, น คีวา; มหาปจฺจริยํ ปน อนาปตฺติมตฺตเมว วุตฺตํ. ‘‘‘กิสฺส มม กุมฺภิยํ เตลํ อากิรสี’ติ กุปิโต อตฺตโน ภณฺฑํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑติ, โน ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เถยฺยจิตฺเตน มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา กุมฺภึ อาวิฺฉติ ¶ เตลํ คเฬตุกาโม, ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. เถยฺยจิตฺเตเนว ชชฺชรํ กโรติ ‘‘สวิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ ปาทคฺฆนเก สวิตฺวา คเต ปาราชิกํ. เถยฺยจิตฺเตเนว ฉิทฺทํ กโรติ โอมฏฺํ วา อุมฺมฏฺํ วา เวมฏฺํ วา, อิทํ ปน สมฺโมหฏฺานํ; ตสฺมา สุฏฺุ สลฺเลกฺเขตพฺพํ. อยฺเหตฺถ วินิจฺฉโย – โอมฏฺํ นาม อโธมุขฉิทฺทํ; อุมฺมฏฺํ นาม อุทฺธํมุขฉิทฺทํ; เวมฏฺํ นาม อุฬุงฺกสฺเสว อุชุคตฉิทฺทํ. ตตฺร โอมฏฺสฺส พหิ ปฏฺาย กตสฺส อพฺภนฺตรนฺตโต ปาทคฺฆนเก เตเล คฬิเต พหิ อนิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา ตโต คฬิตมตฺตเมว พหิคตํ นาม ¶ โหติ, น กุมฺภิคตสงฺขฺยํ ลภติ. อนฺโต ปฏฺาย กตสฺส พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. อุมฺมฏฺสฺส ยถา ตถา วา กตสฺส พาหิรนฺตโต ปาทคฺฆนเก คฬิเต ปาราชิกํ. ตฺหิ ยาว พาหิรนฺตโต น คฬติ, ตาว กุมฺภิคตเมว โหติ. ‘‘เวมฏฺสฺส จ กปาลมชฺฌโต คฬิตวเสน กาเรตพฺโพ’’ติ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ ปน อนฺโต จ พหิ จ ปฏฺาย มชฺเฌ เปตฺวา กตฉิทฺเท ตฬากสฺส จ มริยาทเภเทน สเมติ. อนฺโต ปฏฺาย กเต ปน พาหิรนฺเตน, พหิ ปฏฺาย กเต อพฺภนฺตรนฺเตน กาเรตพฺโพติ อิทเมตฺถ ยุตฺตํ. โย ปน ‘‘วฏฺฏิตฺวา คจฺฉิสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน กุมฺภิยา อาธารกํ วา อุปตฺถมฺภนเลฑฺฑุเก วา อปเนติ, วฏฺฏิตฺวา คตาย ปาราชิกํ. เตลากิรณภาวํ ปน ตฺวา ริตฺตกุมฺภิยา ชชฺชรภาเว วา ฉิทฺเทสุ วา กเตสุ ปจฺฉา นิกฺขนฺตเตลปฺปมาเณน ภณฺฑเทยฺยํ โหติ. อฏฺกถาสุ ปน กตฺถจิ ปาราชิกนฺติปิ ลิขิตํ, ตํ ปมาทลิขิตํ.
ปริปุณฺณาย กุมฺภิยา อุปริ กถลํ วา ปาสาณํ วา ‘‘ปติตฺวา ภินฺทิสฺสติ, ตโต เตลํ ปคฺฆริสฺสตี’’ติ เถยฺยจิตฺเตน ทุพฺพนฺธํ วา กโรติ, ทุฏฺปิตํ วา เปติ, อวสฺสปตนกํ ตถา กโรนฺตสฺส กตมตฺเต ปาราชิกํ. ริตฺตกุมฺภิยา อุปริ กโรติ, ตํ ปจฺฉา ปุณฺณกาเล ปติตฺวา ภินฺทติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อีทิเสสุ หิ าเนสุ ภณฺฑสฺส นตฺถิกาเล ¶ กตปโยคตฺตา อาทิโตว ปาราชิกํ น โหติ. ภณฺฑวินาสทฺวารสฺส ปน กตตฺตา ภณฺฑเทยฺยํ โหติ. อาหราเปนฺเตสุ อททโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน ปาราชิกํ.
เถยฺยจิตฺเตน มาติกํ อุชุกํ กโรติ ‘‘วฏฺฏิตฺวา วา คมิสฺสติ, เวลํ วา อุตฺตราเปสฺสตี’’ติ ¶ ; วฏฺฏิตฺวา วา คจฺฉตุ, เวลํ วา อุตฺตรตุ, อุชุกรณกาเล ปาราชิกํ. อีทิสา หิ ปโยคา ปุพฺพปโยคาวหาเร สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. สุกฺขมาติกาย อุชุกตาย ปจฺฉา อุทเก อาคเต วฏฺฏิตฺวา วา คจฺฉตุ, เวลํ วา อุตฺตรตุ, ภณฺฑเทยฺยํ. กสฺมา? านา จาวนปโยคสฺส อภาวา. ตสฺส ลกฺขณํ นาวฏฺเ อาวิ ภวิสฺสติ.
ตตฺเถว ภินฺทติ วาติอาทีสุ อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘ภินฺทติ วาติ มุคฺคเรน โปเถตฺวา ภินฺทติ. ฉฑฺเฑติ วาติ อุทกํ วา วาลิกํ วา อากิริตฺวา อุตฺตราเปติ. ฌาเปติ วาติ ทารูนิ อาหริตฺวา ฌาเปติ. อปริโภคํ ¶ วา กโรตีติ อขาทิตพฺพํ วา อปาตพฺพํ วา กโรติ; อุจฺจารํ วา ปสฺสาวํ วา วิสํ วา อุจฺฉิฏฺํ วา กุณปํ วา ปาเตสิ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ านาจาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏํ, พุทฺธวิสโย นาเมโส. กิฺจาปิ ทุกฺกฏํ, อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺย’’นฺติ. ตตฺถ ปุริมทฺวยํ น สเมติ. ตฺหิ กุมฺภิชชฺชรกรเณน จ มาติกาอุชุกรเณน จ สทฺธึ เอกลกฺขณํ. ปจฺฉิมํ ปน ทฺวยํ านา อจาเวนฺเตนาปิ สกฺกา กาตุํ. ตสฺมา เอตฺถ เอวํ วินิจฺฉยํ วทนฺติ – ‘‘อฏฺกถายํ กิร ‘านา จาวนสฺส นตฺถิตาย ทุกฺกฏ’นฺติ อิทํ ปจฺฉิมทฺวยํ สนฺธาย วุตฺตํ. านา จาวนํ อกโรนฺโตเยว หิ เถยฺยจิตฺเตน วา วินาเสตุกามตาย วา ฌาเปยฺยปิ, อปริโภคมฺปิ กเรยฺย. ปุริมทฺวเย ปน วุตฺตนเยน ภินฺทนฺตสฺส วา ฉฑฺเฑนฺตสฺส วา านา จาวนํ อตฺถิ, ตสฺมา ตถา กโรนฺตสฺส วินาเสตุกามตาย ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิก’’นฺติ. ปาฬิยํ ‘‘ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อยุตฺตนฺติ เจ? น; อฺถา คเหตพฺพตฺถโต. ปาฬิยฺหิ เถยฺยจิตฺตปกฺเข ‘‘ภินฺทติ วาติ ¶ อุทเกน สมฺภินฺทติ, ฉฑฺเฑติ วาติ ตตฺถ วมติ วา ปสฺสาวํ วา ฉฑฺเฑตี’’ติ เอวเมเก วทนฺติ.
อยํ ปเนตฺถ สาโร – วินีตวตฺถุมฺหิ ติณชฺฌาปโก วิย านา อจาเวตุกาโมว เกวลํ ภินฺทติ, ภินฺนตฺตา ปน เตลาทีนิ นิกฺขมนฺติ, ยํ วา ปเนตฺถ ปตฺถินฺนํ, ตํ เอกาพทฺธเมว ติฏฺติ. อฉฑฺเฑตุกาโมเยว จ เกวลํ ตตฺถ อุทกวาลิกาทีนิ อากิรติ, อากิณฺณตฺตา ปน เตลํ ฉฑฺฑียติ. ตสฺมา โวหารวเสน ‘‘ภินฺทติ วา ฉฑฺเฑติ วา’’ติ วุจฺจตีติ. เอวเมเตสํ ปทานํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. นาเสตุกามตาปกฺเข ปน อิตรถาปิ ยุชฺชติ. เอวฺหิ กถิยมาเน ปาฬิ จ อฏฺกถา จ ปุพฺพาปเรน สํสนฺทิตฺวา กถิตา โหนฺติ. เอตฺตาวตาปิ จ สนฺโตสํ อกตฺวา อาจริเย ปยิรุปาสิตฺวา วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
ภูมฏฺกถา นิฏฺิตา.
ถลฏฺกถา
๙๕. ถลฏฺเ ¶ ถเล นิกฺขิตฺตนฺติ ภูมิตเล วา ปาสาณตลปพฺพตตลาทีสุ วา ยตฺถ กตฺถจิ ปฏิจฺฉนฺเน วา อปฺปฏิจฺฉนฺเน วา ปิตํ ถลฏฺนฺติ ¶ เวทิตพฺพํ. ตํ สเจ ราสิกตํ โหติ, อนฺโตกุมฺภิยํ ภาชนคตกรณมุฏฺิจฺเฉทนวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ เอกาพทฺธํ สิเลสนิยฺยาสาทิ ปกฺกมธุผาณิตวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ ครุกํ โหติ ภารพทฺธํ โลหปิณฺฑิ-คุฬปิณฺฑิ-เตลมธุฆฏาทิ วา, กุมฺภิยํ านาจาวนวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. สงฺขลิกพทฺธสฺส จ านเภโท สลฺลกฺเขตพฺโพ. ปตฺถริตฺวา ปิตํ ปน ปาวารตฺถรณสาฏกาทึ อุชุกํ คเหตฺวา อากฑฺฒติ, ปาริมนฺเต โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. เอวํ สพฺพทิสาสุ สลฺลกฺเขตพฺพํ. เวเตฺวา อุทฺธรติ, เกสคฺคมตฺตํ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.
ถลฏฺกถา นิฏฺิตา.
อากาสฏฺกถา
๙๖. อากาสฏฺเ ¶ โมรสฺส ฉหิ อากาเรหิ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ – ปุรโต มุขตุณฺฑเกน, ปจฺฉโต กลาปคฺเคน, อุภยปสฺเสสุ ปกฺขปริยนฺเตหิ, อโธ ปาทนขสิขาย, อุทฺธํ สิขคฺเคนาติ. ภิกฺขุ ‘‘สสฺสามิกํ อากาสฏฺํ โมรํ คเหสฺสามี’’ติ ปุรโต วา ติฏฺติ, หตฺถํ วา ปสาเรติ, โมโร อากาเสเยว ปกฺเข จาเรติ, วาตํ คาหาเปตฺวา คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ติฏฺติ. ตสฺส ภิกฺขุโน ทุกฺกฏํ. ตํ อผนฺเทนฺโต หตฺเถน อามสติ, ทุกฺกฏเมว. านา อจาเวนฺโต ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา วา อคฺคเหตฺวา วา มุขตุณฺฑเกน ผุฏฺโกาสํ กลาปคฺคํ, กลาปคฺเคน วา ผุฏฺโกาสํ มุขตุณฺฑกํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตถา วามปกฺขปริยนฺเตน ผุฏฺโกาสํ ทกฺขิณปกฺขปริยนฺตํ, ทกฺขิณปกฺขปริยนฺเตน วา ผุฏฺโกาสํ วามปกฺขปริยนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ตถา ปาทนขสิขาย ผุฏฺโกาสํ สิขคฺคํ, สิขคฺเคน วา ผุฏฺโกาสํ ปาทนขสิขํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ.
อากาเสน คจฺฉนฺโต โมโร สีสาทีสุ ยสฺมึ องฺเค นิลียติ, ตํ ตสฺส านํ. ตสฺมา ตํ หตฺเถ นิลีนํ อิโต จิโต จ กโรนฺโตปิ ผนฺทาเปติเยว, ยทิ ปน อิตเรน หตฺเถน คเหตฺวา านา จาเวติ, ปาราชิกํ ¶ . อิตรํ หตฺถํ อุปเนติ, โมโร สยเมว อุฑฺเฑตฺวา ตตฺถ นิลียติ, อนาปตฺติ ¶ . องฺเค นิลีนภาวํ ตฺวา เถยฺยจิตฺเตน เอกํ ปทวารํ คจฺฉติ, ถุลฺลจฺจยํ. ทุติเย ปาราชิกํ.
ภูมิยํ ิตโมโร ทฺวินฺนํ วา ปาทานํ กลาปสฺส จ วเสน ตีณิ านานิ ลภติ. ตํ อุกฺขิปนฺตสฺส ยาว เอกมฺปิ านํ ปถวึ ผุสติ, ตาว ถุลฺลจฺจยํ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปถวิยา โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. ปฺชเร ิตํ สห ปฺชเรน อุทฺธรติ, ปาราชิกํ. ยทิ ปน ปาทํ น อคฺฆติ, สพฺพตฺถ อคฺฆวเสน กาตพฺพํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ จรนฺตํ โมรํ เถยฺยจิตฺเตน ปทสา พหิวตฺถุํ นีหรนฺโต ทฺวารปริจฺเฉทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วเช ิตพลีพทฺทสฺส หิ วโช วิย อนฺโตวตฺถุ ตสฺส านํ. หตฺเถน ปน คเหตฺวา อนฺโตวตฺถุสฺมิมฺปิ อากาสคตํ กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. อนฺโตคาเม จรนฺตมฺปิ คามปริกฺเขปํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ ¶ . สยเมว นิกฺขมิตฺวา คามูปจาเร วา วตฺถูปจาเร วา จรนฺตํ ปน เถยฺยจิตฺโต กฏฺเน วา กถลาย วา อุตฺราเสตฺวา อฏวิมุขํ กโรติ, โมโร อุฑฺเฑตฺวา อนฺโตคาเม วา อนฺโตวตฺถุมฺหิ วา ฉทนปิฏฺเ วา นิลียติ, รกฺขติ. สเจ ปน อฏวิมุเข อุฑฺเฑติ วา คจฺฉติ วา ‘‘อฏวึ ปเวเสตฺวา คเหสฺสามี’’ติ ปริกปฺเป อสติ ปถวิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุฑฺฑิตมตฺเต วา ทุติยปทวาเร วา ปาราชิกํ. กสฺมา? ยสฺมา คามโต นิกฺขนฺตสฺส ิตฏฺานเมว านํ โหติ. กปิฺชราทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
สาฏกํ วาติ วาตเวคุกฺขิตฺตํ ปถวิตเล ปตฺถริตฺวา ปิตมิว อากาเสน คจฺฉนฺตํ ขลิพทฺธํ สาฏกํ อภิมุขาคตํ หตฺเถน เอกสฺมึ อนฺเต คณฺหาติ, อิโต จิโต จ านํ อวิโกเปนฺโตเยว คมนุปจฺเฉเท ทุกฺกฏํ. านาจาวนํ อกโรนฺโต จาเลติ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. านปริจฺเฉโท จสฺส โมรสฺเสว ฉหิ อากาเรหิ เวทิตพฺโพ.
อพทฺธสาฏโก ปน เอกสฺมึ อนฺเต คหิตมตฺเตว ทุติเยนนฺเตน ปติตฺวา ภูมิยํ ปติฏฺาติ, ตสฺส ทฺเว านานิ โหนฺติ – หตฺโถ เจว ภูมิ จ. ตํ ยถาคหิตเมว ปมํ คหิโตกาสปฺปเทสโต จาเลติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ภูมิโต ทุติยหตฺเถน วา ปาเทน วา อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. ปมํ ¶ วา ภูมิโต อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา คหิโตกาสปฺปเทสโต จาเวติ, ปาราชิกํ. คหณํ วา อมฺุจนฺโต อุชุกเมว หตฺถํ โอนาเมตฺวา ภูมิคตํ กตฺวา เตเนว หตฺเถน อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. เวเนปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
หิรฺํ ¶ วา สุวณฺณํ วา ฉิชฺชมานนฺติ มนุสฺสานํ อลงฺกโรนฺตานํ คีเวยฺยกาทิปิฬนฺธนํ วา สุวณฺณสลากํ ฉินฺทนฺตานํ สุวณฺณการานํ สุวณฺณขณฺฑํ วา ฉิชฺชมานํ ปตติ, ตฺเจ ภิกฺขุ อากาเสน อาคจฺฉนฺตํ เถยฺยจิตฺโต หตฺเถน คณฺหาติ, คหณเมว านํ. คหิตปฺปเทสโต ¶ หตฺถํ อปเนติ, ปาราชิกํ. จีวเร ปติตํ หตฺเถน อุกฺขิปติ, ปาราชิกํ. อนุทฺธริตฺวาว ยาติ, ทุติเย ปทวาเร ปาราชิกํ. ปตฺเต ปติเตปิ เอเสว นโย. สีเส วา มุเข วา ปาเท วา ปติฏฺิตํ หตฺเถน คณฺหาติ, ปาราชิกํ. อคฺคเหตฺวาว ยาติ, ทุติเย ปทวาเร ปาราชิกํ. ยตฺถ กตฺถจิ ปตติ, ตสฺส ปติโตกาโสว านํ, น สพฺพํ องฺคปจฺจงฺคํ ปตฺตจีวรํ วาติ.
อากาสฏฺกถา นิฏฺิตา.
เวหาสฏฺกถา
๙๗. เวหาสฏฺเ มฺจปีาทีสุ ปิตํ ภณฺฑํ อามาสํ วา โหตุ อนามาสํ วา, เถยฺยจิตฺเตน อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. มฺจปีเสุ ปิตภณฺเฑสุ ปเนตฺถ ถลฏฺเ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – สเจ ขลิยา พทฺธสาฏโก มฺเจ วา ปีเ วา ปตฺถโฏ มชฺเฌน มฺจตลํ น ผุสติ, มฺจปาเทว ผุสติ, เตสํ วเสน านํ เวทิตพฺพํ. ปาทานํ อุปริ ผุฏฺโกาสเมว หิ อติกฺกมิตมตฺเตน ตตฺถ ปาราชิกํ โหติ. สห มฺจปีเหิ หรนฺตสฺส ปน มฺจปีปาทานํ ปติฏฺิโตกาสวเสน านํ เวทิตพฺพํ.
จีวรวํเส วาติ จีวรปนตฺถาย พนฺธิตฺวา ปิเต วํเส วา กฏฺทณฺฑเก วา. ตตฺถ สํหริตฺวา ปารโต อนฺตํ โอรโต โภคํ กตฺวา ปิตจีวรสฺส ปติฏฺิโตกาเสน ผุฏฺโกาโสว านํ, น สพฺโพ จีวรวํโส. ตสฺมา เถยฺยจิตฺเตน ตํ โภเค คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปารโต วํเส ปติฏฺิโตกาสํ โอรโต จีวเรน วํสสฺส ผุฏฺปฺปเทสํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ¶ เอกทฺวงฺคุลมตฺตากฑฺฒเนเนว ปาราชิกํ. อนฺเต คเหตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ตตฺเถว ปน จีวรวํเส วามโต วา ทกฺขิณโต วา สาเรนฺตสฺส วามนฺเตน ทกฺขิณนฺตฏฺานํ ทกฺขิณนฺเตน วา วามนฺตฏฺานํ อติกฺกนฺตมตฺเต ทสทฺวาทสงฺคุลมตฺตสารเณเนว ปาราชิกํ. อุทฺธํ อุกฺขิปนฺตสฺส เกสคฺคมตฺตุกฺขิปเนน ปาราชิกํ. จีวรวํสํ ¶ ผุสนฺตํ วา อผุสนฺตํ วา รชฺชุเกน พนฺธิตฺวา ปิตจีวรํ โมเจนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มุตฺเต ปาราชิกํ. มุตฺตมตฺตเมว หิ ตํ ‘‘านา จุต’’นฺติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. วํเส เวเตฺวา ปิตํ นิพฺเพเนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, นิพฺเพิตมตฺเต ปาราชิกํ. วลยํ กตฺวา ปิเต วลยํ ฉินฺทติ วา โมเจติ วา เอกํ วา วํสโกฏึ โมเจตฺวา นีหรติ, ถุลฺลจฺจยํ ¶ . ฉินฺนมตฺเต มุตฺตมตฺเต นีหฏมตฺเต จ ปาราชิกํ. ตถา อกตฺวาว จีวรวํเส อิโต จิโต จ สาเรติ, รกฺขติ ตาว. วลยสฺส หิ สพฺโพปิ จีวรวํโส านํ. กสฺมา? ตตฺถ สํสรณธมฺมตาย. ยทา ปน นํ หตฺเถน คเหตฺวา อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. ปสาเรตฺวา ปิตสฺส ปติฏฺิโตกาเสน ผุฏฺโกาโสว านํ. ตตฺถ สํหริตฺวา ปิเต วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ยํ ปน เอเกนนฺเตน ภูมึ ผุสิตฺวา ิตํ โหติ, ตสฺส จีวรวํเส จ ภูมิยฺจ ปติฏฺิโตกาสวเสน ทฺเว านานิ. ตตฺถ ภูมิยํ เอเกนนฺเตน ปติฏฺิเต อพทฺธสาฏเก วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จีวรรชฺชุยาปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
องฺกุสเก ลคฺเคตฺวา ปิตภณฺฑํ ปน เภสชฺชฆโฏ วา เภสชฺชตฺถวิกา วา สเจ ภิตฺตึ วา ภูมึ วา อผุสิตฺวา ปิตํ ลคฺคนกํ ฆํสนฺตสฺส นีหรโต องฺกุสโกฏิโต นิกฺขนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ลคฺคนกํ พทฺธํ โหติ, พุนฺเทน อุกฺขิปิตฺวา อากาสคตํ กโรนฺตสฺส องฺกุสโกฏิโต อนิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. ภิตฺตินิสฺสิตํ โหติ, ปมํ องฺกุสโกฏิโต นีหรติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ภิตฺตึ โมเจติ, ปาราชิกํ. ปมํ ภิตฺตึ โมเจตฺวา ปจฺฉา องฺกุสโต นีหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ภาริยํ ภณฺฑํ นีหริตุํ อสกฺโกนฺโต สยํ ภิตฺตินิสฺสิตํ กตฺวา องฺกุสโต นีหรติ, ปุน ภิตฺตึ อโมเจตฺวาปิ องฺกุสโต นีหฏมตฺเตเยว ปาราชิกํ. อตฺตนา กตฏฺานฺหิ านํ น โหติ. ภูมึ ผุสิตฺวา ิตสฺส ปน ทฺเว เอว านานิ. ตตฺถ วุตฺโตเยว วินิจฺฉโย ¶ . ยํ ¶ ปน สิกฺกาย ปกฺขิปิตฺวา ลคฺคิตํ โหติ, ตํ สิกฺกาโต นีหรนฺตสฺสาปิ สห สิกฺกาย องฺกุสโต นีหรนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ. ภิตฺติภูมิสนฺนิสฺสิตวเสน เจตฺถ านเภโทปิ เวทิตพฺโพ.
ภิตฺติขีโลติ อุชุกํ กตฺวา ภิตฺติยํ อาโกฏิโต วา ตตฺถชาตโก เอว วา; นาคทนฺโต ปน วงฺโก อาโกฏิโต เอว. เตสุ ลคฺเคตฺวา ปิตํ องฺกุสเก วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉินิตพฺพํ. ทฺวีสุ ตีสุ ปน ปฏิปาฏิยา ิเตสุ อาโรเปตฺวา ปิตํ กุนฺตํ วา ภินฺทิวาลํ วา อคฺเค วา พุนฺเท วา คเหตฺวา อากฑฺฒติ, เอกเมกสฺส ผุฏฺโกาสมตฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ผุฏฺโกาสมตฺตเมว หิ เตสํ านํ โหติ, น สพฺเพ ขีลา วา นาคทนฺตา วา. ภิตฺติอภิมุโข ตฺวา มชฺเฌ คเหตฺวา อากฑฺฒติ, โอริมนฺเตน ผุฏฺโกาสํ ปาริมนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปรโต เปลฺเลนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. หตฺเถน คเหตฺวา อุชุกํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ. ภิตฺตึ นิสฺสาย ปิตํ ภิตฺตึ ฆํสนฺโต อากฑฺฒติ, อคฺเคน ผุฏฺโกาสํ พุนฺทํ, พุนฺเทน วา ผุฏฺโกาสํ อคฺคํ อติกฺกาเมนฺตสฺส ปาราชิกํ ¶ . ภิตฺติอภิมุโข ตฺวา อากฑฺฒนฺโต เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปรนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุชุกํ อุกฺขิปนฺโต เกสคฺคมตฺตํ อากาสคตํ กโรติ, ปาราชิกํ.
รุกฺเข วา ลคฺคิตนฺติ ตาลรุกฺขาทีสุ อาโรเปตฺวา ลคฺคิเต องฺกุสกาทีสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺถชาตกํ ปน ตาลปิณฺฑึ จาเลนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ยสฺมึ ผเล ปาราชิกวตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปิณฺฑึ ฉินฺทติ, ปาราชิกํ. อคฺเคน ปณฺณนฺตรํ อาโรเปตฺวา ปิตา ทฺเว านานิ ลภติ – ปิตฏฺานฺจ วณฺฏฏฺานฺจ; ตตฺถ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. โย ปน ‘‘ฉินฺนมตฺตา ปตมานา สทฺทํ กเรยฺยา’’ติ ภเยน สยํ อคฺเคน ปณฺณนฺตรํ อาโรเปตฺวา ฉินฺทติ, ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ ¶ . อตฺตนา กตฏฺานฺหิ านํ น โหติ. เอเตน อุปาเยน สพฺพรุกฺขานํ ปุปฺผผเลสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ปตฺตาธารเกปีติ เอตฺถ รุกฺขาธารโก วา โหตุ วลยาธารโก วา ทณฺฑาธารโก วา ยํกิฺจิ ปตฺตฏฺปนกํ ปจฺฉิกาปิ โหตุ ปตฺตาธารโก ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตตฺถ ปิตปตฺตสฺส ปตฺเตน ผุฏฺโกาโส เอว ¶ านํ. ตตฺถ รุกฺขาธารเก ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉโท โหติ. ตตฺถ ิตํ ปตฺตํ มุขวฏฺฏิยํ คเหตฺวา จตูสุ ทิสาสุ ยโต กุโตจิ กฑฺฒนฺโต เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปรนฺตํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ อุกฺขิปโต ปาราชิกํ. สหาธารเกน หรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโยติ.
เวหาสฏฺกถา นิฏฺิตา.
อุทกฏฺกถา
๙๘. อุทกฏฺเ – อุทเก นิกฺขิตฺตํ โหตีติ ราชภยาทิภีเตหิ อุทเกน อวินสฺสนธมฺเมสุ ตมฺพโลหภาชนาทีสุ สุปฺปฏิจฺฉนฺนํ กตฺวา โปกฺขรณีอาทีสุ อสนฺทนเก อุทเก นิกฺขิตฺตํ. ตสฺส ปติฏฺิโตกาโสเยว านํ, น สพฺพํ อุทกํ. คจฺฉติ วา อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อคมฺภีเร อุทเก ปทสา คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. คมฺภีเร หตฺเถหิ วา ปาเทหิ วา ปโยคํ กโรนฺตสฺส หตฺถวาเรหิ วา ปทวาเรหิ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอเสว นโย กุมฺภิคหณตฺถํ นิมุชฺชนุมฺมุชฺชเนสุ. สเจ ปน อนฺตรา กิฺจิ อุทกสปฺปํ วา วาฬมจฺฉํ วา ทิสฺวา ภีโต ปลายติ, อนาปตฺติ. อามสนาทีสุ ภูมิคตาย กุมฺภิยา วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ ¶ . อยํ ปน วิเสโส – ตตฺถ ภูมึ ขณิตฺวา กฑฺฒติ, อิธ กทฺทเม โอสาเรติ. เอวํ ฉหากาเรหิ านปริจฺเฉโท โหติ.
อุปฺปลาทีสุ ยสฺมึ ปุปฺเผ วตฺถุํ ปูเรติ, ตสฺมึ ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. อุปฺปลชาติกานฺเจตฺถ ยาว เอกสฺมิมฺปิ ปสฺเส วาโก น ฉิชฺชติ, ตาว รกฺขติ. ปทุมชาติกานํ ปน ทณฺเฑ ฉินฺเน อพฺภนฺตเร สุตฺตํ อจฺฉินฺนมฺปิ น รกฺขติ. สามิเกหิ ฉินฺทิตฺวา ปิตานิ อุปฺปลาทีนิ โหนฺติ, ยํ วตฺถุํ ปูเรติ, ตสฺมึ อุทฺธเฏ ¶ ปาราชิกํ. หตฺถกพทฺธานิ โหนฺติ, ยสฺมึ หตฺถเก วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ อุทฺธเฏ ปาราชิกํ. ภารพทฺธานิ โหนฺติ, ตํ ภารํ ฉนฺนํ อาการานํ เยน เกนจิ อากาเรน านา จาเวนฺตสฺส ภูมฏฺกุมฺภิยํ วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ทีฆนาฬานิ อุปฺปลาทีนิ โหนฺติ, ปุปฺเผสุ วา นาเฬสุ วา ¶ เวณึ กตฺวา อุทกปิฏฺเ รชฺชุเกสุ ติณานิ สนฺถริตฺวา เปนฺติ วา พนฺธนฺติ วา, เตสํ ทีฆโต ปุปฺผคฺเคน จ นาฬนฺเตน จ ติริยํ ปริยนฺเตหิ เหฏฺา ปติฏฺิโตกาเสน อุทฺธํ อุปริ ิตสฺส ปิฏฺิยาติ ฉหากาเรหิ านา จาวนปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
โยปิ อุทกปิฏฺิยํ ปิตปุปฺผกลาปํ อุทกํ จาเลตฺวา วีจึ อุฏฺาเปตฺวา เกสคฺคมตฺตมฺปิ ยถาิตฏฺานโต จาเวติ, ปาราชิกํ. อถ ปน ปริกปฺเปติ ‘‘เอตฺถ คตํ คเหสฺสามี’’ติ, รกฺขติ ตาว; คตฏฺาเน ปน อุทฺธรโต ปาราชิกํ. อุทกโต อจฺจุคฺคตสฺส ปุปฺผสฺส สกลมุทกํ านํ, ตํ อุปฺปาเฏตฺวา อุชุกํ อุทฺธรนฺตสฺส นาฬนฺเต เกสคฺคมตฺตํ อุทกโต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ปุปฺเผ คเหตฺวา อปนาเมตฺวา อากฑฺฒนฺโต อุปฺปาเฏติ, น อุทกํ านํ, อุปฺปาฏิตมตฺเต ปาราชิกํ. กลาปพทฺธานิ ปุปฺผานิ อุทกฏฺาเน วา รุกฺเข วา คจฺเฉ วา พนฺธิตฺวา เปนฺติ, พนฺธนํ อโมเจตฺวา อิโต จิโต จ กโรนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, พนฺธเน มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ปมํ พนฺธนํ โมเจตฺวา ปจฺฉา หรติ, เอตฺถ ฉหากาเรหิ านปริจฺเฉโทติ อิทํ อุภยํ มหาปจฺจริยาทีสุ วุตฺตํ. ปทุมินิยํ ปุปฺผานิ สห ปทุมินึยา คณฺหิตุกามสฺส ปุปฺผนาเฬหิ จ ปตฺตนาเฬหิ จ ผุฏฺอุทกวเสน อุทฺธฺเจว ติริยฺจ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตํ ปนสฺส ปทุมินึ อนุปฺปาเฏตฺวา ปุปฺผานิ วา ปตฺตานิ วา อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. อุปฺปาฏิตมตฺเต ปาราชิกํ.
ปุปฺผปตฺตนาเฬ านโต อจาเวตฺวาปิ ปมํ ปทุมินึ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ปุปฺผปตฺตนาเฬสุ านา จาวิเตสุ ปาราชิกํ. อุปฺปาฏิตาย ปทุมินิยา ปุปฺผํ คณฺหนฺโต ปน ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา ¶ กาเรตพฺโพ. พหิ ปิเต ราสิกตกลาปพทฺธภารพทฺธปุปฺเผปิ เอเสว นโย. ภิสํ ¶ วา มุฬาลํ วา เยน วตฺถุ ปูรติ, ตํ อุปฺปาเฏนฺตสฺส ปาราชิกํ. กทฺทเม ผุฏฺโกาสวเสน เจตฺถ านํ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. ตานิ อุปฺปาเฏนฺตสฺส สุขุมมฺปิ มูลํ อจฺฉินฺนํ โหติ, รกฺขติ ตาว. ภิสปพฺเพ ชาตํ ปตฺตํ วา ปุปฺผํ วา โหติ, ตมฺปิ รกฺขตีติ มหาอฏฺกถายเมว วุตฺตํ. ภิสคณฺิมฺหิ ปน กณฺฏโก โหติ โยพฺพนปฺปตฺตานํ มุขปิฬกา วิย, อยํ อทีฆตฺตา น รกฺขติ. เสสํ อุปฺปลาทีสุ วุตฺตนยเมว.
มจฺฉกจฺฉปานํ ¶ สสฺสามิกานํ วาปิอาทีสุ สกลมุทกํ านํ. ตสฺมา โย ปฏิชคฺคนฏฺาเน สสฺสามิกํ มจฺฉํ พฬิเสน วา ชาเลน วา กุมเนน วา หตฺเถน วา คณฺหาติ, ตสฺส เยน มจฺเฉน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุทกโต อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิกํ. โกจิ มจฺโฉ คยฺหมาโน อิโต จิโต จ ธาวติ, อากาสํ วา อุปฺปตติ, ตีเร วา ปตติ, อากาเส วา ิตํ ตีเร วา ปติตํ คณฺหโตปิ ปาราชิกเมว. กจฺฉปมฺปิ พหิ โคจรตฺถํ คตํ คณฺหโต เอเสว นโย. อุทกฏฺํ ปน อุทกา โมจยโต ปาราชิกํ.
เตสุ เตสุ ปน ชนปเทสุ สพฺพสาธารณสฺส มหาตฬากสฺส นิทฺธมนตุมฺพํ นิสฺสาย สพฺพสาธารณเมว กุนฺนทีสทิสํ อุทกวาหกํ ขณนฺติ. ตโต ขุทฺทกมาติกาโย นีหริตฺวา มาติกาโกฏิยํ อตฺตโน อตฺตโน วฬฺชนตฺถาย อาวาเฏ ขณนฺติ. เตสํ ปน ยทา อุทเกน อตฺโถ โหติ, ตทา อาวาเฏ ขุทฺทกมาติกาโย อุทกวาหกฺจ โสเธตฺวา นิทฺธมนตุมฺพํ อุคฺฆาเฏนฺติ. ตโต อุทเกน สทฺธึ มจฺฉา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน อาวาเฏ ปตฺวา วสนฺติ. ตตฺถ ตฬาเก จ อุทกวาหเกสุ จ มจฺเฉ คณฺหนฺเต น วาเรนฺติ. ขุทฺทกาสุ ปน อตฺตโน อตฺตโน มาติกาสุ ¶ อุทกอาวาเฏสุ จ ปวิฏฺมจฺเฉ คณฺหิตุํ น เทนฺติ, วาเรนฺติ; ตตฺถ โย ตฬาเก วา นิทฺธมนตุมฺเพ วา อุทกวาหเก วา มจฺเฉ คณฺหาติ, อวหาเรน โส น กาเรตพฺโพ. ขุทฺทกมาติกาสุ ปน อาวาเฏสุ วา ปวิฏฺํ คณฺหนฺโต คหิตสฺส อคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ. สเจ ตโต คยฺหมาโน มจฺโฉ อากาเส วา อุปฺปตติ, ตีเร วา ปตติ, ตํ อากาสฏฺํ วา ตีรฏฺํ วา อุทกวินิมุตฺตํ คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? ยสฺมา อตฺตโน ปริคฺคหฏฺาเน ิตสฺเสว เต สามิกา. เอวรูปา หิ ตตฺถ กติกา. กจฺฉเปปิ เอเสว นโย.
สเจ ปน มจฺโฉ คยฺหมาโน อาวาฏโต ขุทฺทกมาติกํ อารุหติ, ตตฺถ นํ คณฺหโตปิ อวหาโรเยว. ขุทฺทกมาติกาโต ปน อุทกวาหกํ, ตโต จ ตฬากํ อารูฬฺหํ คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ. โย อาวาฏโต ภตฺตสิตฺเถหิ ปโลเภตฺวา มาติกํ อาโรเปตฺวา คณฺหาติ, อวหาโรว. ตโต ปน ปโลเภตฺวา อุทกวาหกํ อาโรเปตฺวา คณฺหนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. เกจิ ปน ¶ กุโตจิเทว สพฺพสาธารณฏฺานโต ¶ มจฺเฉ อาเนตฺวา ปจฺฉิมวตฺถุภาเค อุทกาวาเฏ ขิปิตฺวา โปเสตฺวา ทิวเส ทิวเส ทฺเว ตีณิ อุตฺตริภงฺคตฺถาย มาเรนฺติ. เอวรูปํ มจฺฉํ อุทเก วา อากาเส วา ตีเร วา ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ คณฺหโต อวหาโร เอว. กจฺฉเปปิ เอเสว นโย.
นิทาฆกาเล ปน นทิยา โสเต ปจฺฉินฺเน กตฺถจิ นินฺนฏฺาเน อุทกํ ติฏฺติ, ตตฺถ มนุสฺสา มจฺฉานํ วินาสาย มทนผลวสาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา คจฺฉนฺติ, มจฺฉา ตานิ ขาทนฺตา มริตฺวา อุตฺตานา อุทเก ปฺลวนฺตา ติฏฺนฺติ. โย ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘ยาว สามิกา นาคจฺฉนฺติ, ตาวิเม มจฺเฉ คณฺหิสฺสามี’’ติ คณฺหาติ, อคฺฆวเสน กาเรตพฺโพ. ปํสุกูลสฺาย คณฺหโต อวหาโร นตฺถิ, อาหราเปนฺเต ปน ภณฺฑเทยฺยํ. มจฺฉวิสํ ปกฺขิปิตฺวา คตมนุสฺสา ภาชนานิ อาหริตฺวา ปูเรตฺวา คจฺฉนฺติ, ยาว ‘‘ปุนปิ อาคจฺฉิสฺสามา’’ติ สาลยา โหนฺติ, ตาว เต สสฺสามิกมจฺฉาว. ยทา ปน เต ‘‘อลํ อมฺหาก’’นฺติ นิราลยา ปกฺกมนฺติ, ตโต ปฏฺาย เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ปํสุกูลสฺิสฺส อนาปตฺติ. ยถา จ มจฺฉกจฺฉเปสุ, เอวํ สพฺพายปิ ¶ โอทกชาติยา วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
อุทกฏฺกถา นิฏฺิตา.
นาวฏฺกถา
๙๙. นาวฏฺเ – ปมํ ตาว นาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นาวา นาม ยาย ตรตี’’ติ อาห. ตสฺมา อิธ อนฺตมโส รชนโทณิกาปิ เวณุกลาปโกปิ ‘‘นาวา’’ตฺเวว เวทิตพฺโพ. สีมาสมฺมนฺนเน ปน ธุวนาวา อนฺโต ขณิตฺวา วา ผลเกหิ พนฺธิตฺวา วา กตา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ติณฺณํ วาหนิกา เอว วฏฺฏติ. อิธ ปน เอกสฺสปิ วาหนิกา ‘‘นาวา’’ ตฺเวว วุจฺจติ. นาวาย นิกฺขิตฺตนฺติ ยํกิฺจิ อินฺทฺริยพทฺธํ วา อนินฺทฺริยพทฺธํ วา; ตสฺส อวหารลกฺขณํ ถลฏฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. นาวํ อวหริสฺสามีติอาทิมฺหิ จ ทุติยปริเยสนคมนอามสนผนฺทาปนานิ วุตฺตนยาเนว. พนฺธนํ โมเจตีติ เอตฺถ ปน ยา พนฺธเน มุตฺตมตฺเต านา น จวติ, ตสฺสา พนฺธนํ ยาว ¶ น มุตฺตํ โหติ, ตาว ทุกฺกฏํ. มุตฺเต ปน ถุลฺลจฺจยมฺปิ ปาราชิกมฺปิ โหติ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – จณฺฑโสเต พนฺธิตฺวา ปิตนาวาย เอกํ านํ พนฺธนเมว ¶ , ตสฺมึ มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตตฺถ ยุตฺติ ปุพฺเพ วุตฺตา เอว. วิปฺปนฏฺา นาวา ปน ยํ ยํ อุทกปฺปเทสํ ผริตฺวา ิตา โหติ, สฺวาสฺสา านํ. ตสฺมา ตํ อุทฺธํ วา อุจฺจาเรนฺตสฺส, อโธ วา โอปิลาเปนฺตสฺส, จตูสุ วา ทิสาสุ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกาเมนฺตสฺส อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. นิจฺจเล อุทเก อพนฺธนํ อตฺตโน ธมฺมตาย ิตนาวํ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา วามทกฺขิณปสฺสโต วา กฑฺฒนฺตสฺส เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปเรน อุทเก ปติฏฺิตนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ อุทกโต โมจิเต อโธ นาวาตเลน ผุฏฺโกาสํ มุขวฏฺฏึ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตีเร พนฺธิตฺวา นิจฺจเล ¶ อุทเก ปิตนาวาย พนฺธนฺจ ิโตกาโส จาติ ทฺเว านานิ. ตํ ปมํ พนฺธนา โมเจติ, ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ฉนฺนํ อาการานํ อฺตเรน านา จาเวติ, ปาราชิกํ. ปมํ านา จาเวตฺวา ปจฺฉา พนฺธนโมจเนปิ เอเสว นโย. ถเล อุสฺสาเทตฺวา อุกฺกุชฺชิตฺวา ปิตนาวาย ผุฏฺโกาโสว านํ. ตสฺสา ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
นิกฺกุชฺชิตฺวา ปิตนาวาย ปน มุขวฏฺฏิยา ผุฏฺโกาโสว านํ, ตสฺสาปิ ปฺจหากาเรหิ านปริจฺเฉทํ ตฺวา ยโต กุโตจิ ผุฏฺโกาสํ อุทฺธฺจ เกสคฺคมตฺตํ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ถเล ปน อุสฺสาเทตฺวา ทฺวินฺนํ ทารุฆฏิกานํ อุปริ ปิตนาวาย ทารุฆฏิกานํ ผุฏฺโกาโสเยว านํ, ตสฺมา ตตฺถ มฺจปาทมตฺถเกสุเยว ปตฺถฏพทฺธสาฏเก นาคทนฺเตสุ ปิตภินฺทิวาเล จ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
โยตฺตพทฺธาย ปน นาวาย สฏฺิสตฺตติพฺยามปฺปมาณํ โยตฺตํ อโมเจตฺวาว อากฑฺฒิตฺวา
ปถวิลคฺคํ กตฺวา สห โยตฺเตน ถเล ปิตาย นาวาย ¶ น ผุฏฺโกาสมตฺตเมว านํ. อถ โข โยตฺตโกฏิโต ปฏฺาย ยาว นาวาย ปถวิยํ ปติฏฺิโตกาสสฺส ปจฺฉิมนฺโต ตาว ทีฆโต, ติริยํ ปน นาวาย จ โยตฺตสฺส จ ปถวิยํ ปติฏฺิตปริยนฺตปฺปมาณํ านนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ ทีฆโต วา ติริยโต วา กฑฺฒนฺตสฺส เอเกนนฺเตน ผุฏฺโกาสํ อปเรน ปถวิยํ ปติฏฺิตนฺเตน อติกฺกนฺตมตฺเต, อุทฺธํ เกสคฺคมตฺตํ สห โยตฺเตน ปถวิโต โมจิเต ปาราชิกํ. โย ปน ติตฺเถ ิตนาวํ อารุหิตฺวา เถยฺยจิตฺโต อริตฺเตน วา ผิเยน วา ปาเชติ, ปาราชิกํ. สเจ ปน ฉตฺตํ วา ปณาเมตฺวา จีวรํ วา ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา หตฺเถหิ อุกฺขิปิตฺวา ลงฺการสทิสํ กตฺวา วาตํ คณฺหาเปติ, พลวา จ วาโต อาคมฺม นาวํ หรติ, วาเตเนว สา หฏา โหติ; ปุคฺคลสฺส นตฺถิ อวหาโร. ปโยโค อตฺถิ, โส ปน านา จาวนปโยโค ¶ น โหติ. ยทิ ปน ตํ นาวํ เอวํ คจฺฉนฺตึ ปกติคมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อฺํ ทิสาภาคํ เนติ, ปาราชิกํ. สยเมว ยํกิฺจิ ¶ คามติตฺถํ สมฺปตฺตํ านา อจาเวนฺโตว วิกฺกิณิตฺวา คจฺฉติ, เนว อตฺถิ อวหาโร. ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหตีติ.
นาวฏฺกถา นิฏฺิตา.
ยานฏฺกถา
๑๐๐. ยานฏฺเ – ยานํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ยานํ นาม วยฺห’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ สพฺพปลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา กตํ วยฺหํ. อุโภสุ ปสฺเสสุ สุวณฺณรชตาทิมยา โคปานสิโย ทตฺวา ครุฬปกฺขกนเยน กตา สนฺทมานิกา. รโถ จ สกฏฺจ ปากฏเมว. เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ สวิฺาณกํ วา อวิฺาณกํ วา ราสิอาทิวเสน ปิตํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺเตน านา จาเวนฺตสฺส นาวฏฺเ จ ถลฏฺเ จ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – ยานฏฺํ ตณฺฑุลาทิภณฺฑํ ปิฏเกน คณฺหโต ปิฏเก อนุกฺขิตฺเตปิ ปิฏกํ อปหริตฺวา ตณฺฑุลาทีนํ เอกาพทฺธภาเว วิโกปิเต ปาราชิกํ. ถลฏฺาทีสุปิ อยํ นโย ลพฺภติ. ยานํ ¶ อวหริสฺสามีติอาทิมฺหิ ทุติยปริเยสนาทีนิ วุตฺตนยาเนว. านา จาเวตีติ เอตฺถ ปน ทุกยุตฺตสฺส ยานสฺส ทฺวินฺนํ โคณานํ อฏฺ ปาทา, ทฺเว จ จกฺกานีติ ทส านานิ. ตํ เถยฺยจิตฺตสฺส ธุเร นิสีทิตฺวา ปาชยโต โคณานํ ปาทุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกานํ ปน ปถวิยํ ปติฏฺิตปฺปเทสโต เกสคฺคมตฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. สเจ ปน โคณา ‘‘นายํ อมฺหากํ สามิโก’’ติ ตฺวา ธุรํ ฉฑฺเฑตฺวา อากฑฺฒนฺตา ติฏฺนฺติ วา ผนฺทนฺติ วา, รกฺขติ ตาว. โคเณ ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ธุรํ อาโรเปตฺวา ทฬฺหํ โยเชตฺวา ปาจเนน วิชฺฌิตฺวา ปาเชนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว เตสํ ปาทุทฺธาเร ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกาติกฺกเม ปาราชิกํ.
สเจปิ สกทฺทเม มคฺเค เอกํ จกฺกํ กทฺทเม ลคฺคํ โหติ, ทุติยํ จกฺกํ โคณา ปริวตฺเตนฺตา ปวตฺเตนฺติ, เอกสฺส ิตตฺตา น ตาว อวหาโร โหติ ¶ . โคเณ ปน ปุน อุชุกํ ปฏิปาเทตฺวา ปาเชนฺตสฺส ิตจกฺเก เกสคฺคมตฺตํ ผุฏฺโกาสํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. จตุยุตฺตกสฺส ปน อฏฺารส านานิ, อฏฺยุตฺตกสฺส จตุตฺตึสาติ – เอเตนุปาเยน ยุตฺตยานสฺส านเภโท เวทิตพฺโพ.
ยํ ปน อยุตฺตกํ ธุเร เอกาย ปจฺฉโต จ ทฺวีหิ อุปตฺถมฺภินีหิ อุปตฺถมฺเภตฺวา ปิตํ, ตสฺส ติณฺณํ อุปตฺถมฺภินีนํ จกฺกานฺจ วเสน ปฺจ านานิ. สเจ ธุเร อุปตฺถมฺภินี เหฏฺาภาเค ¶ กปฺปกตา โหติ, ฉ านานิ. ปจฺฉโต ปน อนุปตฺถมฺเภตฺวา ธุเร อุปตฺถมฺภิตสฺเสว อุปตฺถมฺภินีวเสน ตีณิ วา จตฺตาริ วา านานิ. ธุเรน ผลกสฺส วา ทารุกสฺส วา อุปริ ปิตสฺส ตีณิ านานิ. ตถา ปถวิยํ ปิตสฺส. ตํ ธุรํกฑฺฒิตฺวา วา อุกฺขิปิตฺวา วา ปุรโต จ ปจฺฉโต จ านา จาเวนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. จกฺกานํ ปติฏฺิตฏฺาเน เกสคฺคมตฺตํ อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. จกฺกานิ อปเนตฺวา ทฺวีหิ อกฺขสีเสหิ ทารูนํ อุปริ ปิตสฺส ทฺเว านานิ. ตํ กฑฺฒนฺโต วา อุกฺขิปนฺโต วา ผุฏฺโกาสํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ภูมิยํ ปิตสฺส ธุเรน จ จตูหิ จ อกฺขุทฺธีหิ ปติฏฺิตวเสน ปฺจ านานิ. ตํ ธุเร คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํ ปจฺฉิมนฺเตหิ ปุริมนฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. อุทฺธีสุ คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํ ปุริมนฺเตหิ ปจฺฉิมนฺเต อติกฺกนฺเต ปาราชิกํ. ปสฺเส คเหตฺวา กฑฺฒโต อุทฺธีนํเยว ติริยํ ปติฏฺิตฏฺานสฺส อติกฺกเมน ปาราชิกํ. มชฺเฌ คเหตฺวา อุกฺขิปโต เกสคฺคมตฺตํ ปถวิโต ¶ มุตฺเต ปาราชิกํ. อถ อุทฺธิขาณุกา น โหนฺติ, สมเมว พาหํ กตฺวา มชฺเฌ วิชฺฌิตฺวา อกฺขสีสานิ ปเวสิตานิ โหนฺติ, ตํ เหฏฺิมตลสฺส สมนฺตา สพฺพํ ปถวึ ผุสิตฺวา ติฏฺติ. ตตฺถ จตูสุ ทิสาสุ อุทฺธฺจ ผุฏฺฏฺานาติกฺกมวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ภูมิยํ นาภิยา ปิตจกฺกสฺส เอกเมว านํ, ตสฺส ปฺจหากาเรหิ ปริจฺเฉโท. เนมิปสฺเสน จ นาภิยา จ ผุสิตฺวา ิตสฺส ทฺเว านานิ. เนมิยา อุฏฺิตภาคํ ปาเทน อกฺกมิตฺวา ภูมิยํ ผุสาเปตฺวา อเรสุ ¶ วา เนมิยา วา คเหตฺวา อุกฺขิปนฺตสฺส อตฺตนา กตฏฺานํ านํ น โหติ, ตสฺมา ตสฺมึ ิเตปิ อวเสสฏฺาเน อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ.
ภิตฺตึ นิสฺสาย ปิตจกฺกสฺสาปิ ทฺเว านานิ. ตตฺถ ปมํ ภิตฺติโต โมเจนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ปจฺฉา ปถวิโต เกสคฺคมตฺตุทฺธาเร ปาราชิกํ. ปมํ ภูมิโต โมเจนฺตสฺส ปน สเจ ภิตฺติยํ ปติฏฺิตฏฺานํ น กุปฺปติ, เอเสว นโย. อถ อเรสุ คเหตฺวา เหฏฺา กฑฺฒนฺตสฺส ภิตฺตึ ผุสิตฺวา ิโตกาสสฺส อุปริโม อนฺโต เหฏฺิมํ อติกฺกมติ, ปาราชิกํ. มคฺคปฺปฏิปนฺเน ยาเน ยานสามิโก เกนจิเทว กรณีเยน โอโรหิตฺวา มคฺคา โอกฺกนฺโต โหติ, อถฺโ ภิกฺขุ ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺโต อารกฺขสฺุํ ปสฺสิตฺวา, ‘‘ยานํ อวหริสฺสามี’’ติ อาโรหติ, ตสฺส ปโยคํ วินาเยว โคณา คเหตฺวา ปกฺกนฺตา, อวหาโร นตฺถิ. เสสํ นาวายํ วุตฺตสทิสนฺติ.
ยานฏฺกถา นิฏฺิตา.
ภารฏฺกถา
๑๐๑. อิโต ¶ ปรํ ภาโรเยว ภารฏฺํ. โส สีสภาราทิวเสน จตุธา ทสฺสิโต. ตตฺถ สีสภาราทีสุ อสมฺโมหตฺถํ สีสาทีนํ ปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สีสสฺส ตาว ปุริมคเล คลวาฏโก, ปิฏฺิคเล เกสฺจิ เกสนฺเต อาวฏฺโฏ โหติ, คลสฺเสว อุโภสุ ปสฺเสสุ เกสฺจิ เกสา โอรุยฺห ชายนฺติ, เย กณฺณจูฬิกาติ วุจฺจนฺติ, เตสํ อโธภาโค จาติ อยํ เหฏฺิมปริจฺเฉโท, ตโต อุปริ สีสํ. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร สีสภาโร นาม.
อุโภสุ ¶ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ ปฏฺาย เหฏฺา, กปฺปเรหิ ปฏฺาย อุปริ, ปิฏฺิคลาวตฺตโต จ คลวาฏกโต จ ปฏฺาย เหฏฺา, ปิฏฺิเวมชฺฌาวตฺตโต จ อุรปริจฺเฉทมชฺเฌ หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย อุปริ ขนฺโธ. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร ขนฺธภาโร นาม.
ปิฏฺิเวมชฺฌาวตฺตโต ปน หทยอาวาฏโต จ ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ปาทนขสิขา, อยํ กฏิปริจฺเฉโท. เอตฺถนฺตเร สมนฺตโต สรีเร ิตภาโร กฏิภาโร นาม.
กปฺปรโต ปฏฺาย ปน เหฏฺา ยาว หตฺถนขสิขา, อยํ โอลมฺพกปริจฺเฉโท. เอตฺถนฺตเร ิตภาโร โอลมฺพโก นาม.
อิทานิ สีเส ภารนฺติอาทีสุ อยํ อปุพฺพวินิจฺฉโย ¶ – โย ภิกฺขุ ‘‘อิทํ คเหตฺวา เอตฺถ ยาหี’’ติ สามิเกหิ อนาณตฺโต สยเมว ‘‘มยฺหํ อิทํ นาม เทถ, อหํ โว ภณฺฑํ วหามี’’ติ เตสํ ภณฺฑํ สีเสน อาทาย คจฺฉนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ตํ ภณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ยถาวุตฺตสีสปริจฺเฉทํ อนติกฺกาเมนฺโตว อิโต จิโต จ ฆํสนฺโต สาเรติปิ ปจฺจาสาเรติปิ, ถุลฺลจฺจยํ. ขนฺธํ โอโรปิตมตฺเต กิฺจาปิ สามิกานํ ‘‘วหตู’’ติ จิตฺตํ อตฺถิ, เตหิ ปน อนาณตฺตตฺตา ปาราชิกํ. ขนฺธํ ปน อโนโรเปตฺวาปิ สีสโต เกสคฺคมตฺตํ โมเจนฺตสฺส ปาราชิกํ. ยมกภารสฺส ปน เอโก ภาโร สีเส ปติฏฺาติ, เอโก ปิฏฺิยํ, ตตฺถ ทฺวินฺนํ านานํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน สุทฺธสีสภาราทีนํเยว วเสน เทสนา อารทฺธา. โย จายํ สีสภาเร วุตฺโต, ขนฺธภาราทีสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
หตฺเถภารนฺติ เอตฺถ ปน หตฺเถน คหิตตฺตา โอลมฺพโก ‘‘หตฺเถ ภาโร’’ติ วุตฺโต.
โส ปมํเยว ภูมิโต วา คหิโต โหตุ, สุทฺธจิตฺเตน สีสาทีหิ วา, ‘‘หตฺเถ ภาโร’’ ตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ ¶ . ตํ เถยฺยจิตฺเตน ตาทิสํ คหนฏฺานํ ทิสฺวา ภูมิยํ วา คจฺฉาทีสุ วา นิกฺขิปนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ภูมิโต คณฺหาตีติ เอตฺถ ปน เตสํ ภารานํ ยํกิฺจิ ปาตราสาทิการณา สุทฺธจิตฺเตน ภูมิยํ นิกฺขิปิตฺวา ปุน เถยฺยจิตฺเตน เกสคฺคมตฺตํ อุทฺธรนฺตสฺส ปาราชิกนฺติ.
ภารฏฺกถา นิฏฺิตา.
อารามฏฺกถา
๑๐๒. อารามฏฺเปิ ¶ – อารามํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อาราโม นาม ปุปฺผาราโม ผลาราโม’’ติ อาห. เตสุ วสฺสิกาทีนํ ปุปฺผนโก ปุปฺผาราโม. อมฺพผลาทีนํ ผลนโก ผลาราโม. อาราเม จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตสฺส วินิจฺฉโย ภูมฏฺาทีสุ วุตฺตนโย เอว.
ตตฺถชาตเก ปน มูลนฺติ อุสีรหิริเวราทิกํ ยํกิฺจิ มูลํ, ตํ อุปฺปาเฏตฺวา วา อุปฺปาฏิตํ วา คณฺหนฺตสฺส เยน มูเลน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ คหิเต ¶ ปาราชิกํ. กนฺโทปิ มูเลเนว สงฺคหิโต. อุปฺปาเฏนฺตสฺส เจตฺถ อปฺปมตฺตเกปิ อจฺฉินฺเน ถุลฺลจฺจยเมว. ตตฺถ วินิจฺฉโย ภิเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ตจนฺติ เภสชฺชตฺถาย วา รชนตฺถาย วา อุปโยคคมนูปคํ ยํกิฺจิ รุกฺขตฺตจํ; ตํ อุปฺปาเฏตฺวา วา อุปฺปาฏิตํ วา คณฺหนฺตสฺส มูเล วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ปุปฺผนฺติ วสฺสิกมลฺลิกาทิกํ ยํกิฺจิ ปุปฺผํ, ตํ โอจินิตฺวา วา โอจินิตํ วา คณฺหนฺตสฺส อุปฺปลปทุเมสุ วุตฺตนเยน ปาราชิกํ. ปุปฺผานมฺปิ หิ วณฺฏํ วา พนฺธนํ วา อจฺฉินฺนํ รกฺขติ. วณฺฏพฺภนฺตเร ปน เกสฺจิ สูจิกา โหติ, สา น รกฺขติ. ผลนฺติ อมฺพผลตาลผลาทิกํ ยํกิฺจิ, ตํ รุกฺขโต คณฺหนฺตสฺส วินิจฺฉโย รุกฺเข ลคฺคิตกถายํ วุตฺโต. อปเนตฺวา ปิตํ ภูมฏฺาทิสงฺคหิตเมว.
อารามํ อภิยฺุชตีติ ปรสนฺตกํ ‘‘มม สนฺตโก อย’’นฺติ มุสา ภณิตฺวา อภิยฺุชติ, อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. สามิกสฺส วิมตึอุปฺปาเทตีติ วินิจฺฉยกุสลตาย พลวนิสฺสิตาทิภาเวน วา อารามสามิกสฺส สํสยํ ชเนติ. กถํ? ตฺหิ ตถา วินิจฺฉยปฺปสุตํ ทิสฺวา สามิโก จินฺเตติ – ‘‘สกฺขิสฺสามิ นุ โข อหํ อิมํ อารามํ อตฺตโน กาตุํ, น สกฺขิสฺสามิ นุ โข’’ติ. เอวํ ตสฺส วิมติ อุปฺปชฺชมานา เตน อุปฺปาทิตา โหติ, ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ.
ธุรํ ¶ นิกฺขิปตีติ ยทา ปน สามิโก ‘‘อยํ ถทฺโธ กกฺขโฬ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายมฺปิ เม กเรยฺย, อลํ ทานิ มยฺหํ อิมินา อาราเมนา’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, อภิยฺุชโก ปาราชิกํ อาปชฺชติ. สเจ สยมฺปิ กตธุรนิกฺเขโป โหติ, อถ จ ปน สามิเกน ธุเร นิกฺขิตฺเตปิ อภิยฺุชโก ธุรํ อนิกฺขิปิตฺวาว ‘‘อิมํ สุฏฺุ ปีเฬตฺวา มม อาณาปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา กิงฺการปฺปฏิสฺสาวิภาเว ¶ นํ เปตฺวา ทสฺสามี’’ติ ทาตพฺพภาเว สอุสฺสาโห โหติ, รกฺขติ ตาว. อถาปิ อภิยฺุชโก ‘‘อจฺฉินฺทิตฺวา ¶ น ทานิ นํ อิมสฺส ทสฺสามี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, สามิโก ปน น ธุรํ นิกฺขิปติ, ปกฺขํ ปริเยสติ, กาลํ อาคเมติ, ‘‘ลชฺชิปริสํ ตาว ลภามิ, ปจฺฉา ชานิสฺสามี’’ติ ปุน คหเณเยว สอุสฺสาโห โหติ, รกฺขติเยว. ยทา ปน โสปิ ‘‘น ทสฺสามี’’ติ, สามิโกปิ ‘‘น ลจฺฉามี’’ติ – เอวํ อุโภปิ ธุรํ นิกฺขิปนฺติ, ตทา อภิยฺุชกสฺส ปาราชิกํ. อถ ปน อภิยฺุชิตฺวา วินิจฺฉยํ กุรุมาโน อนิฏฺิเต วินิจฺฉเย สามิเกนปิ ธุรนิกฺเขเป อกเต อตฺตโน อสฺสามิกภาวํ ชานนฺโตเยว ตโต กิฺจิ ปุปฺผํ วา ผลํ วา คณฺหาติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ.
ธมฺมํ จรนฺโตติ ภิกฺขุสงฺเฆ วา ราชกุเล วา วินิจฺฉยํ กโรนฺโต. สามิกํ ปราเชตีติ วินิจฺฉยิกานํ อุกฺโกจํ ทตฺวา กูฏสกฺขึ โอตาเรตฺวา อารามสามิกํ ชินาตีติ อตฺโถ. อาปตฺติ ปาราชิกสฺสาติ น เกวลํ ตสฺเสว, สฺจิจฺจ ตสฺส อตฺถสาธเน ปวตฺตานํ กูฏวินิจฺฉยิกานมฺปิ กูฏสกฺขีนมฺปิ สพฺเพสํ ปาราชิกํ. เอตฺถ จ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขปวเสเนว ปราชโย เวทิตพฺโพ. อนิกฺขิตฺตธุโร หิ อปราชิโตว โหติ. ธมฺมํ จรนฺโต ปรชฺชตีติ สเจปิ ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนน วินิจฺฉยสฺส ปวตฺตตฺตา สยํ ปราชยํ ปาปุณาติ; เอวมฺปิ มุสาวาเทน สามิกานํ ปีฬากรณปจฺจยา ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชตีติ.
อารามฏฺกถา นิฏฺิตา.
วิหารฏฺกถา
๑๐๓. วิหารฏฺเปิ – จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ วุตฺตนยเมว. อภิโยเคปิ เจตฺถ จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ภิกฺขูนํ ทินฺนํ วิหารํ วา ปริเวณํ วา อาวาสํ วา มหนฺตมฺปิ ขุทฺทกมฺปิ อภิยฺุชโต อภิโยโค น รุหติ. อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิตุมฺปิ น สกฺโกติ. กสฺมา? สพฺเพสํ ธุรนิกฺเขปาภาวโต. น เหตฺถ สพฺเพ จาตุทฺทิสา ภิกฺขู ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺตีติ ¶ . ทีฆภาณกาทิเภทสฺส ปน คณสฺส เอกปุคฺคลสฺส วา สนฺตกํ อภิยฺุชิตฺวา คณฺหนฺโต สกฺโกติ ¶ เต ธุรํ นิกฺขิปาเปตุํ. ตสฺมา ตตฺถ อาราเม วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ.
วิหารฏฺกถา นิฏฺิตา.
เขตฺตฏฺกถา
๑๐๔. เขตฺตฏฺเปิ ¶ – เขตฺตํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เขตฺตํ นาม ยตฺถ ปุพฺพณฺณํ วา อปรณฺณํ วา ชายตี’’ติ อาห. ตตฺถ ปุพฺพณฺณนฺติ สาลิอาทีนิ สตฺต ธฺานิ; อปรณฺณนฺติ มุคฺคมาสาทีนิ; อุจฺฉุเขตฺตาทิกมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิตํ. อิธาปิ จตูหิ าเนหิ นิกฺขิตฺตํ วุตฺตนยเมว. ตตฺถชาตเก ปน สาลิสีสาทีนิ นิรุมฺภิตฺวา วา เอกเมกํ หตฺเถเนว ฉินฺทิตฺวา วา อสิเตน ลายิตฺวา วา พหูนิ เอกโต อุปฺปาเฏตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส ยสฺมึ พีเช วา สีเส วา มุฏฺิยํ วา มุคฺคมาสาทิผเล วา วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ พนฺธนา โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. อจฺฉิชฺชมาโน ปน ทณฺฑโก วา วาโก วา ตโจ วา อปฺปมตฺตโกปิ รกฺขติ.
วีหินาฬํ ทีฆมฺปิ โหติ, ยาว อนฺโตนาฬโต วีหิสีสทณฺฑโก น นิกฺขมติ, ตาว รกฺขติ. เกสคฺคมตฺตมฺปิ นาฬโต ทณฺฑกสฺส เหฏฺิมตเล นิกฺขนฺเต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อสิเตน ลายิตฺวา คณฺหโต ปน มุฏฺิคเตสุ เหฏฺา ฉินฺเนสุปิ สเจ สีสานิ ชฏิตานิ, รกฺขนฺติ ตาว. วิชเฏตฺวา ปน เกสคฺคมตฺตมฺปิ อุกฺขิปโต สเจ วตฺถุ ปูรติ, ปาราชิกํ. สามิเกหิ ปน ลายิตฺวา ปิตํ สภุสํ วา อภุสํ วา กตฺวา คณฺหโต เยน วตฺถุ ปูรติ, ตสฺมึ คหิเต ปาราชิกํ. สเจ ปริกปฺเปติ ‘‘อิทํ มทฺทิตฺวา ปปฺโผเฏตฺวา สารเมว คณฺหิสฺสามี’’ติ รกฺขติ ตาว. มทฺทนปปฺโผฏเนสุ านา จาเวนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ นตฺถิ, ปจฺฉา ภาชนคเต กตมตฺเต ปาราชิกํ. อภิโยโค ปเนตฺถ วุตฺตนโย เอว.
ขีลสงฺกมนาทีสุ ปถวี นาม อนคฺฆา. ตสฺมา สเจ เอเกเนว ขีเลน อิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปถวิปฺปเทสํ สามิกานํ ปสฺสนฺตานํ วา อปสฺสนฺตานํ วา อตฺตโน สนฺตกํ กโรติ, ตสฺมึ ขีเล นามํ ฉินฺทิตฺวา วา อจฺฉินฺทิตฺวา วา สงฺกามิตมตฺเต ตสฺส จ, เย จสฺส เอกจฺฉนฺทา, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. สเจ ปน ¶ ทฺวีหิ ขีเลหิ คเหตพฺพํ โหติ, ปเม ขีเล ถุลฺลจฺจยํ; ทุติเย ปาราชิกํ. สเจ ตีหิ คเหตพฺพํ โหติ, ปเม ทุกฺกฏํ, ทุติเย ถุลฺลจฺจยํ, ตติเย ปาราชิกํ. เอวํ พหุเกสุปิ อวสาเน ทฺเว เปตฺวา ปุริเมหิ ทุกฺกฏํ, อวสาเน ¶ ¶ ทฺวินฺนํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน. เอวํ สพฺพตฺถ.
รชฺชุํ วาติ ‘‘มม สนฺตกํ อิท’’นฺติ าเปตุกาโม รชฺชุํ วา ปสาเรติ, ยฏฺึ วา ปาเตติ, ทุกฺกฏํ. ‘‘อิทานิ ทฺวีหิ ปโยเคหิ อตฺตโน สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ เตสํ ปเม ถุลฺลจฺจยํ, ทุติเย ปาราชิกํ.
วตึ วาติ ปรสฺส เขตฺตํ ปริกฺเขปวเสน อตฺตโน กาตุกาโม ทารูนิ นิขณติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอกสฺมึ อนาคเต ถุลฺลจฺจยํ, ตสฺมึ อาคเต ปาราชิกํ. สเจ ตตฺตเกน อสกฺโกนฺโต สาขาปริวาเรเนว อตฺตโน กาตุํ สกฺโกติ, สาขาปาตเนปิ เอเสว นโย. เอวํ เยน เยน ปริกฺขิปิตฺวา อตฺตโน กาตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ ตตฺถ ปมปโยเคหิ ทุกฺกฏํ. อวสาเน ทฺวินฺนํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.
มริยาทํ วาติ ปรสฺส เขตฺตํ ‘‘มม อิท’’นฺติ าเปตุกาโม อตฺตโน เขตฺตมริยาทํ
เกทารปาฬึ ยถา ปรสฺส เขตฺตํ อติกฺกมติ, เอวํ สงฺกาเมติ, ปํสุมตฺติกาทีหิ วา วฑฺเฒตฺวา วิตฺถตํ กโรติ, อกตํ วา ปน ปติฏฺาเปติ, ปุริมปโยเคหิ ทุกฺกฏํ. ทฺวินฺนํ ปจฺฉิมานํ เอเกน ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรน ปาราชิกนฺติ.
เขตฺตฏฺกถา นิฏฺิตา.
วตฺถุฏฺกถา
๑๐๕. วตฺถุฏฺเปิ – วตฺถุํ ตาว ทสฺเสนฺโต วตฺถุ นาม ‘‘อารามวตฺถุ วิหารวตฺถู’’ติ อาห. ตตฺถ พีชํ วา อุปโรปเก วา อโรเปตฺวาว เกวลํ ภูมึ โสเธตฺวา ติณฺณํ ปาการานํ เยน เกนจิ ปริกฺขิปิตฺวา วา อปริกฺขิปิตฺวา วา ปุปฺผารามาทีนํ อตฺถาย ปิโต ภูมิภาโค อารามวตฺถุ นาม. เอเตเนว นเยน เอกวิหารปริเวณอาวาสานํ อตฺถาย ปิโต ภูมิภาโค วิหารวตฺถุ นาม. โยปิ ปุพฺเพ อาราโม ¶ จ วิหาโร จ หุตฺวา ปจฺฉา วินสฺสิตฺวา ภูมิมตฺโต ิโต, อารามวิหารกิจฺจํ น กโรติ, โสปิ อารามวิหารวตฺถุสงฺคเหเนว สงฺคหิโต. วินิจฺฉโย ปเนตฺถ เขตฺตฏฺเ วุตฺตสทิโสเยวาติ.
วตฺถุฏฺกถา นิฏฺิตา.
๑๐๖. คามฏฺเ ¶ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว.
อรฺฏฺกถา
๑๐๗. อรฺฏฺเ ¶ – อรฺํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อรฺํ นาม ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหติ, ตํ อรฺ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ยสฺมา อรฺํ นาม มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตมฺปิ อตฺถิ, อปริคฺคหิตมฺปิ; อิธ ปน ยํ ปริคฺคหิตํ สารกฺขํ, ยโต น วินา มูเลน กฏฺลตาทีนิ คเหตุํ ลพฺภนฺติ, ตํ อธิปฺเปตํ. ตสฺมา ‘‘ยํ มนุสฺสานํ ปริคฺคหิตํ โหตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อรฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เตน อิมมตฺถํ ทสฺเสติ – ‘‘น ปริคฺคหิตภาโว อรฺสฺส ลกฺขณํ. ยํ ปน อตฺตโน อรฺลกฺขเณน อรฺํ มนุสฺสานฺจ ปริคฺคหิตํ, ตํ อิมสฺมึ อตฺเถ อรฺ’’นฺติ. ตตฺถ วินิจฺฉโย อารามฏฺาทีสุ วุตฺตสทิโส.
ตตฺถชาตเกสุ ปเนตฺถ เอกสฺมิมฺปิ มหคฺฆรุกฺเข ฉินฺนมตฺเต ปาราชิกํ. ลตํ วาติ เอตฺถ จ เวตฺโตปิ ลตาปิ ลตา เอว; ตตฺถ โย เวตฺโต วา ลตา วา ทีฆา โหติ, มหารุกฺเข จ คจฺเฉ จ วินิวิชฺฌิตฺวา วา เวเตฺวา วา คตา, สา มูเล ฉินฺนาปิ อวหารํ น ชเนติ อคฺเค ฉินฺนาปิ, ยทา ปน อคฺเคปิ มูเลปิ ฉินฺนา โหติ, ตทา อวหารํ ชเนติ. สเจ ปน เวเตฺวา ิตา โหติ, เวเตฺวา ิตา ปน รุกฺขโต โมจิตมตฺตา อวหารํ ชเนติ.
ติณํวาติ เอตฺถ ติณํ วา โหตุ ปณฺณํ วา, สพฺพํ ติณคฺคหเณเนว คหิตํ; ตํ เคหจฺฉทนาทีนมตฺถาย ปเรหิ ฉินฺนํ วา อตฺตนา ฉินฺทิตฺวา วา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. น เกวลฺจ ติณปณฺณเมว, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ วากฉลฺลิ อาทิ, ยตฺถ สามิกา สาลยา, ตํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ตจฺเฉตฺวา ปิโต อทฺธคโตปิ รุกฺโข น คเหตพฺโพ. โย ปน อคฺเค จ มูเล จ ฉินฺโน โหติ, สาขาปิสฺส ปูติกา ¶ ชาตา, ฉลฺลิโยปิ คฬิตา, ‘‘อยํ สามิเกหิ ฉฑฺฑิโต’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. ลกฺขณจฺฉินฺนสฺสาปิ ยทา ลกฺขณํ ฉลฺลิยา ปริโยนทฺธํ โหติ, ตทา คเหตุํ วฏฺฏติ. เคหาทีนํ อตฺถาย รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา ยทา ตานิ กตานิ อชฺฌาวุตฺถานิ จ โหนฺติ, ทารูนิปิ อรฺเ วสฺเสน จ อาตเปน จ วินสฺสนฺติ, อีทิสานิปิ ทิสฺวา ‘‘ฉฑฺฑิตานี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. กสฺมา? ยสฺมา อรฺสามิกา เอเตสํ อนิสฺสรา. เยหิ อรฺสามิกานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา ¶ ฉินฺนานิ, เต เอว อิสฺสรา, เตหิ จ ตานิ ฉฑฺฑิตานิ, นิราลยา ตตฺถ ชาตาติ.
โยปิ ¶ ภิกฺขุ ปมํเยว อรฺปาลานํ เทยฺยธมฺมํ ทตฺวา อรฺํ ปวิสิตฺวา ยถารุจิเต รุกฺเข คาหาเปติ, ตสฺส เตสํ อารกฺขฏฺานํ อคนฺตฺวาปิ ยถารุจิเตน มคฺเคน คนฺตุํ วฏฺฏติ. อถาปิ ปวิสนฺโต อทตฺวา ‘‘นิกฺขมนฺโต ทสฺสามี’’ติ รุกฺเข คาหาเปตฺวา นิกฺขมนฺโต เตสํ ทาตพฺพํ ทตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ เอว. อถาปิ อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ‘‘ทสฺสามี’’ติ, ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต ทาตพฺพเมว. สเจ โกจิ อตฺตโน ธนํ ทตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส คนฺตุํ เทถา’’ติ วทติ, ลทฺธกปฺปเมว, คนฺตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ อิสฺสรชาติโก ธนํ อทตฺวาว ‘‘ภิกฺขูนํ ภาคํ มา คณฺหถา’’ติ วาเรติ, อรฺปาลา จ ‘‘มยํ ภิกฺขูนํ ตาปสานฺจ ภาคํ อคณฺหนฺตา กุโต ลจฺฉาม, เทถ, ภนฺเต’’ติ วทนฺติ, ทาตพฺพเมว.
โย ปน อรฺปาเลสุ นิทฺทายนฺเตสุ วา กีฬาปสุเตสุ วา กตฺถจิ ปกฺกนฺเตสุ วา อาคนฺตฺวา ‘‘กุหึ อรฺปาลา’’ติ ปกฺโกสิตฺวาปิ อทิสฺวา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. โยปิ อารกฺขฏฺานํ ปตฺวา กมฺมฏฺานาทีนิ มนสิกโรนฺโต วา อฺวิหิโต วา อสฺสติยา อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ยสฺสาปิ ตํ านํ ปตฺตสฺส โจโร วา หตฺถี วา วาฬมิโค วา มหาเมโฆ วา วุฏฺหติ, โส จ ตมฺหา อุปทฺทวา มุจฺจิตุกมฺยตาย สหสา ตํ านํ อติกฺกมติ, รกฺขติ ตาว, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. อิทํ ปน อรฺเ อารกฺขฏฺานํ นาม สุงฺกฆาตโตปิ ครุกตรํ. สุงฺกฆาตสฺส หิ ปริจฺเฉทํ อโนกฺกมิตฺวา ทูรโตว ปริหรนฺโต ทุกฺกฏเมว อาปชฺชติ. อิทํ ปน เถยฺยจิตฺเตน ปริหรนฺตสฺส อากาเสน คจฺฉโตปิ ปาราชิกเมว. ตสฺมา เอตฺถ อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพนฺติ.
อรฺฏฺกถา นิฏฺิตา.
อุทกกถา
๑๐๘. อุทเก ¶ ปน – ภาชนคตนฺติ อุทกทุลฺลภกาเล อุทกมณิกาทีสุ ภาชเนสุ สงฺโคเปตฺวา ปิตํ; ตํ ยสฺมึ ภาชเน ปิตํ โหติ, ตํ ภาชนํ อาวิฺฉิตฺวา วา ฉิทฺทํ กตฺวา วา ตตฺถ โปกฺขรณีตฬาเกสุ จ อตฺตโน ภาชนํ ปเวเสตฺวา ¶ คณฺหนฺตสฺส สปฺปิเตเลสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
มริยาทจฺเฉทเน ปน ตตฺถ ชาตกภูตคาเมน สทฺธิมฺปิ มริยาทํ ฉินฺทนฺตสฺส อทินฺนาทานปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ตฺจ ปน ปหาเร ปหาเร โหติ. อนฺโตตฺวา พหิมุโข ฉินฺทนฺโต พหิ อนฺเตน กาเรตพฺโพ. พหิ ตฺวา อนฺโตมุโข ฉินฺทนฺโต ¶ อนฺโตอนฺเตน กาเรตพฺโพ. อนฺโต จ พหิ จ ฉินฺทิตฺวา มชฺเฌ เปตฺวา ตํ ฉินฺทนฺโต มชฺเฌน กาเรตพฺโพ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว ปกฺโกสติ, คามทารเกหิ วา ปกฺโกสาเปติ, ตา อาคนฺตฺวา ขุเรหิ มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา คาโว อุทเก ปเวเสติ, คามทารเกหิ วา ปเวสาเปติ, ตาหิ อุฏฺาปิตวีจิโย มริยาทํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. คามทารเก วา ‘‘อุทเก กีฬถา’’ติ วทติ, กีฬนฺเต วา อุตฺราเสติ, เตหิ อุฏฺาปิตวีจิโยปิ มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ. อนฺโตอุทเก ชาตรุกฺขํ ฉินฺทติ, อฺเน วา ฉินฺทาเปติ, เตนปิ ปตนฺเตน อุฏฺาปิตวีจิโย มริยาทํ ฉินฺทิตฺวา คจฺฉนฺติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา ตฬากรกฺขณตฺถาย ตฬากโต นิพฺพหนอุทกํ วา นิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อฺโต คจฺฉนฺตํ วา อุทกํ ยถา เอตฺถ ปวิสติ, เอวํ ปาฬึ วา พนฺธติ, มาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ตสฺส อุปริภาเค ิตํ อตฺตโน ตฬากํ วา ภินฺทติ, อุสฺสนฺนํ อุทกํ มริยาทํ คเหตฺวา คจฺฉติ, เตเนว ฉินฺนา โหติ. สพฺพตฺถ นิกฺขนฺตอุทกคฺฆานุรูเปน อวหาเรน กาเรตพฺโพ.
นิทฺธมนปนาฬึ อุคฺฆาเฏตฺวา นีหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. สเจ ปน เตน มริยาทาย ทุพฺพลาย กตาย อตฺตโน ธมฺมตาย อาคนฺตฺวา วา อนาณตฺเตหิ คามทารเกหิ อาโรปิตา วา คาวิโย ขุเรหิ มริยาทํ ภินฺทนฺติ, อตฺตโนเยว ธมฺมตาย อนาณตฺเตหิ วา คามทารเกหิ อุทเก ปเวสิตา วีจิโย อุฏฺาเปนฺติ, คามทารกา วา สยเมว ปวิสิตฺวา กีฬนฺตา อุฏฺาเปนฺติ อนฺโตอุทเก วา รุกฺโข อฺเน ฉิชฺชมาโน ¶ ปติตฺวา อุฏฺาเปติ, อุฏฺาปิตา วีจิโย มริยาทํ ฉินฺทนฺติ, สเจปิ มริยาทํ ทุพฺพลํ กตฺวา สุกฺขตฬากสฺส อุทกนิพฺพหนฏฺานํ ¶ วา อุทกนิทฺธมนตุมฺพํ วา ปิทหติ, อฺโต คมนมคฺเค วา ปาฬึ พนฺธติ, สุกฺขมาติกํ วา อุชุกํ กโรติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเ อุทกํ อาคนฺตฺวา มริยาทํ ภินฺทติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยํ.
โย ปน นิทาเฆ สุกฺขวาปิยา มริยาทํ ยาว ตลํ ปาเปตฺวา ฉินฺทติ, ปจฺฉา เทเว วุฏฺเ อาคตาคตํ อุทกํ ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ยตฺตกํ ตปฺปจฺจยา สสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ตโต ปาทมตฺตคฺฆนกมฺปิ อเทนฺโต สามิกานํ ธุรนิกฺเขเปน อสฺสมโณ โหติ.
ยํ ปน สพฺพสาธารณํ ตฬากํ โหติ; ตฬาเก อุทกสฺส สพฺเพปิ มนุสฺสา อิสฺสรา. เหฏฺโต ปนสฺส สสฺสานิ กโรนฺติ, สสฺสปาลนตฺถํ ตฬากโต มหามาติกา นิกฺขมิตฺวา เขตฺตมชฺเฌน ยาติ, สาปิ สทา สนฺทนกาเล สพฺพสาธารณา. ตโต ปน ขุทฺทกมาติกา นีหริตฺวา ¶ อตฺตโน อตฺตโน เกทาเรสุ อุทกํ ปเวเสนฺติ. ตํ อฺเสํ คเหตุํ น เทนฺติ. นิทาฆสมเยว อุทเก มนฺทีภูเต วาเรน อุทกํ เทนฺติ, โย อุทกวาเร สมฺปตฺเต น ลภติ, ตสฺส สสฺสานิ มิลายนฺติ; ตสฺมา อฺเสํ วาเร อฺโ คเหตุํ น ลภติ. ตตฺถ โย ภิกฺขุ ปเรสํ ขุทฺทกมาติกาโต วา เกทารโต วา อุทกํ เถยฺยจิตฺเตน อตฺตโน วา ปรสฺส วา มาติกํ วา เกทารํ วา ปเวเสติ, อฏวิมุขํ วา วาเหติ, อวหาโร วสฺส โหติ.
โยปิ ‘‘จิเรน เม อุทกวาโร ภวิสฺสติ, อิทฺจ สสฺสํ มิลายตี’’ติ ปเรสํ เกทาเร
ปวิสนฺตสฺส อุทกสฺส ปวิสนมคฺคํ ปิทหิตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสติ, อวหาโร เอว. สเจ ปน ตฬากโต อนิคฺคเต ปเรสํ มาติกามุขํ อสมฺปตฺเตว อุทเก สุกฺขมาติกํเยว ยถา อาคจฺฉนฺตํ อุทกํ อฺเสํ เกทาเร อปฺปวิสิตฺวา อตฺตโนเยว เกทารํ ปวิสติ, เอวํ ตตฺถ ตตฺถ พนฺธติ. อนิกฺขนฺเต พทฺธา สุพทฺธา, นิกฺขนฺเต พทฺธา, ภณฺฑเทยฺยํ. ตฬากํ คนฺตฺวา สยเมว นิทฺธมนปนาฬึ อุคฺฆาเฏตฺวา อตฺตโน เกทารํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ นตฺถิ ¶ อวหาโร. กสฺมา? ตฬากํ นิสฺสาย เขตฺตสฺส กตตฺตา. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘อวหาโร’’ติ วุตฺตํ. ตํ ¶ ‘‘วตฺถุํ กาลฺจ เทสฺจา’’ติ อิมินา ลกฺขเณน น สเมติ. ตสฺมา มหาอฏฺกถายํ วุตฺตเมว ยุตฺตนฺติ.
อุทกกถา นิฏฺิตา.
ทนฺตโปนกถา
๑๐๙. ทนฺตโปณํ อารามฏฺกวินิจฺฉเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส – โย สงฺฆสฺส เวตนภโต หุตฺวา เทวสิกํ วา ปกฺขมาสวาเรน วา ทนฺตกฏฺํ อาหรติ, โส ตํ อาหริตฺวา ฉินฺทิตฺวาปิ ยาว ภิกฺขุสงฺฆํ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ, ตาว ตสฺเสว โหติ. ตสฺมา ตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ตตฺถชาตกํ ปน ครุภณฺฑํ, ตมฺปิ ภิกฺขุสงฺเฆน รกฺขิตโคปิตํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอเสว นโย คณปุคฺคลคิหิมนุสฺสสนฺตเกปิ ฉินฺนเก อจฺฉินฺนเก จ. เตสํ อารามุยฺยานภูมีสุ ชาตํ สามเณรา วาเรน ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทนฺตกฏฺํ อาหรนฺตา อาจริยุปชฺฌายานมฺปิ อาหรนฺติ, ตํ ยาว ฉินฺทิตฺวา สงฺฆํ น ปฏิจฺฉาเปนฺติ, ตาว สพฺพํ เตสํเยว โหติ. ตสฺมา ตมฺปิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. ยทา ปน เต ฉินฺทิตฺวา สงฺฆสฺส ปฏิจฺฉาเปตฺวา ทนฺตกฏฺมาฬเก นิกฺขิปนฺติ, ‘‘ยถาสุขํ ภิกฺขุสงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ; ตโต ปฏฺาย อวหาโร นตฺถิ, วตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ. โย หิ เทวสิกํ สงฺฆมชฺเฌ โอสรติ, เตน ทิวเส ทิวเส เอกเมว ทนฺตกฏฺํ คเหตพฺพํ. โย ปน ¶ เทวสิกํ น โอสรติ, ปธานฆเร วสิตฺวา ธมฺมสวเน วา อุโปสถคฺเค วา ทิสฺสติ, เตน ปมาณํ สลฺลกฺเขตฺวา จตฺตาริ ปฺจทนฺตกฏฺานิ อตฺตโน วสนฏฺาเน เปตฺวา ขาทิตพฺพานิ. เตสุ ขีเณสุ สเจ ปุนปิ ทนฺตกฏฺมาฬเก พหูนิ โหนฺติเยว, ปุนปิ อาหริตฺวา ขาทิตพฺพานิ. ยทิ ปน ปมาณํ อสลฺลกฺเขตฺวา อาหรติ, เตสุ อกฺขีเณสุเยว มาฬเก ขียนฺติ, ตโต เกจิ เถรา ‘‘เยหิ คหิตานิ, เต ปฏิอาหรนฺตู’’ติ วเทยฺยุํ, เกจิ ‘‘ขาทนฺตุ, ปุน สามเณรา อาหริสฺสนฺตี’’ติ, ตสฺมา วิวาทปริหรณตฺถํ ¶ ปมาณํ สลฺลกฺเขตพฺพํ. คหเณ ปน โทโส นตฺถิ. มคฺคํ คจฺฉนฺเตนาปิ เอกํ วา ทฺเว วา ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา คนฺตพฺพนฺติ.
ทนฺตโปนกถา นิฏฺิตา.
วนปฺปติกถา
๑๑๐. วนสฺส ¶ ปตีติ วนปฺปติ; วนเชฏฺกรุกฺขสฺเสตํ อธิวจนํ. อิธ ปน สพฺโพปิ มนุสฺเสหิ ปริคฺคหิตรุกฺโข อธิปฺเปโต อมฺพลพุชปนสาทิโก. ยตฺถ วา ปน มริจวลฺลิอาทีนิ อาโรเปนฺติ, โส ฉิชฺชมาโน สเจ เอกายปิ ฉลฺลิยา วา วาเกน วา สกลิกาย วา เผคฺคุนา วา สมฺพทฺโธว หุตฺวา ภูมิยํ ปตติ, รกฺขติ ตาว.
โย ปน ฉินฺโนปิ วลฺลีหิ วา สามนฺตรุกฺขสาขาหิ วา สมฺพทฺโธ สนฺธาริตตฺตา อุชุกเมว ติฏฺติ, ปตนฺโต วา ภูมึ น ปาปุณาติ, นตฺถิ ตตฺถ ปริหาโร, อวหาโร เอว โหติ. โยปิ กกเจน ฉินฺโน อจฺฉินฺโน วิย หุตฺวา ตเถว ติฏฺติ, ตสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
โย ปน รุกฺขํ ทุพฺพลํ กตฺวา ปจฺฉา จาเลตฺวา ปาเตติ, อฺเน วา จาลาเปติ; อฺํ วาสฺส สนฺติเก รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อชฺโฌตฺถรติ, ปเรน วา อชฺโฌตฺถราเปติ; มกฺกเฏ วา ปริปาเตตฺวา ตตฺถ อาโรเปติ, อฺเน วา อาโรปาเปติ; วคฺคุลิโย วา ตตฺถ อาโรเปติ, ปเรน วา อาโรปาเปติ; ตา ตํ รุกฺขํ ปาเตนฺติ, ตสฺเสว อวหาโร.
สเจ ปน เตน รุกฺเข ทุพฺพเล กเต อฺโ อนาณตฺโต เอว ตํ จาเลตฺวา ปาเตติ,
รุกฺเขน วา อชฺโฌตฺถรติ, อตฺตโน ธมฺมตาย มกฺกฏา วา วคฺคุลิโย วา อาโรหนฺติ, ปโร วา อนาณตฺโต อาโรเปติ, สยํ วา เอส วาตมุขํ โสเธติ, พลววาโต อาคนฺตฺวา รุกฺขํ ปาเตติ; สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยํ. วาตมุขโสธนํ ปเนตฺถ อสมฺปตฺเต วาเต สุกฺขมาติกาย อุชุกรณาทีหิ ¶ สเมติ, โน อฺถา. รุกฺขํ อาวิชฺฌิตฺวา สตฺเถน วา อาโกเฏติ, อคฺคึ วา เทติ, มณฺฑุกกณฺฏกํ วา วิสํ วา อาโกเฏติ, เยน โส มรติ, สพฺพตฺถ ภณฺฑเทยฺยเมวาติ.
วนปฺปติกถา นิฏฺิตา.
หรณกกถา
๑๑๑. หรณเก ¶ ¶ – อฺสฺส หรณกํ ภณฺฑํ เถยฺยจิตฺโต อามสตีติ ปรํ สีสภาราทีหิ ภณฺฑํ อาทาย คจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘เอตํ หริสฺสามี’’ติ เวเคน คนฺตฺวา อามสติ, เอตฺตาวตา อสฺส ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปตีติ อากฑฺฒนวิกฑฺฒนํ กโรติ, สามิโก น มฺุจติ, เตนสฺส ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวตีติ อากฑฺฒิตฺวา สามิกสฺส หตฺถโต โมเจติ, เตนสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน ตํ ภณฺฑสามิโก อุฏฺหิตฺวา โปเถตฺวา ปุน ตํ ภณฺฑํ โมจาเปตฺวา คณฺเหยฺย, ภิกฺขุ ปมคฺคหเณเนว ปาราชิโก. สีสโต วา กณฺณโต วา คีวโต วา หตฺถโต วา อลงฺการํ ฉินฺทิตฺวา วา โมเจตฺวา วา คณฺหนฺตสฺส สีสาทีหิ โมจิตมตฺเต ปาราชิกํ. หตฺเถ ปน วลยํ วา กฏกํ วา อนีหริตฺวา อคฺคพาหํ ฆํสนฺโตว อปราปรํ วา สาเรติ, อากาสคตํ วา กโรติ, รกฺขติ ตาว. รุกฺขมูลจีวรวํเสสุ วลยมิว น ปาราชิกํ ชเนติ. กสฺมา? สวิฺาณกตฺตา. สวิฺาณกโกฏฺาสคตฺหิ ยาว ตโต น นีหฏํ, ตาว ตตฺเถว โหติ. เอเสว นโย องฺคุลิมุทฺทิกปาทกฏกกฏูปคปิฬนฺธเนสุ.
โย ปน ปรสฺส นิวตฺถสาฏกํ อจฺฉินฺทติ, ปโร จ สลชฺชิตาย สหสา น มฺุจติ, เอเกนนฺเตน โจโร กฑฺฒติ, เอเกนนฺเตน ปโร, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. อถาปิ ตํ กฑฺฒนฺตสฺส ฉิชฺชิตฺวา เอกเทโส หตฺถคโต โหติ, โส จ ปาทํ อคฺฆติ ปาราชิกเมว. สหภณฺฑหารกนฺติ ‘‘สภณฺฑหารกํ ภณฺฑํ เนสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘อิโต ยาหี’’ติ ภณฺฑหารกํ ตชฺเชติ, โส ภีโต โจเรน อธิปฺเปตทิสาภิมุโข หุตฺวา เอกํ ปาทํ สงฺกาเมติ, โจรสฺส ถุลฺลจฺจยํ; ทุติเย ปาราชิกํ. ปาตาเปตีติ อถาปิ โจโร ภณฺฑหารกสฺส หตฺเถ อาวุธํ ทิสฺวา สาสงฺโก หุตฺวา ปาตาเปตฺวา คเหตุกาโม เอกมนฺตํ ปฏิกฺกมฺม สนฺตชฺเชตฺวา ปาตาเปติ, ปรสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.
ปาตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติอาทิ ปน ปริกปฺปวเสน ¶ วุตฺตํ. โย หิ ภณฺฑํ ปาตาเปตฺวา ‘‘ยํ มม รุจฺจติ, ตํ คเหสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา ปาตาเปติ, ตสฺส ปาตาปเน จ อามสเน ¶ จ ทุกฺกฏํ, ผนฺทาปเน ถุลฺลจฺจยํ. ปาทคฺฆนกสฺส านา จาวเน ปาราชิกํ. ตํ ปจฺฉา ปฏิปาติยมานสฺส มฺุจโตปิ นตฺถิเยว สมณภาโว. โยปิ ภณฺฑหารกํ ¶ อติกฺกมนฺตํ ทิสฺวา อนุพนฺธนฺโต ‘‘ติฏฺ, ติฏฺ, ภณฺฑํ ปาเตหี’’ติ วตฺวา ปาตาเปติ, ตสฺสาปิ เตน หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.
โย ปน ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วทติ, ‘‘ปาเตหี’’ติ น วทติ; อิตโร จ ตํ โอโลเกตฺวา ‘‘สเจ เอส มํ ปาปุเณยฺย, ฆาเตยฺยาปิ ม’’ นฺติ สาลโยว หุตฺวา ตํ ภณฺฑํ คหนฏฺาเน ปกฺขิปิตฺวา ‘‘ปุน นิวตฺติตฺวา คเหสฺสามี’’ติ ปกฺกมติ, ปาตนปจฺจยา ปาราชิกํ นตฺถิ. อาคนฺตฺวา ปน เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. อถ ปนสฺส เอวํ โหติ – ‘‘มยา ปาตาเปนฺเตเนว อิทํ มม สนฺตกํ กต’’นฺติ ตโต นํ สกสฺาย คณฺหาติ; คหเณ รกฺขติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ‘‘เทหี’’ติ วุตฺเต อเทนฺตสฺส สามิกานํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ‘‘โส อิมํ ฉฑฺเฑตฺวา คโต, อนชฺฌาวุตฺถกํ ทานิ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย คณฺหโตปิ เอเสว นโย. อถ ปน สามิโก ‘‘ติฏฺ ติฏฺา’’ติ วุตฺตมตฺเตเนว โอโลเกนฺโต ตํ ทิสฺวา ‘‘น ทานิ อิทํ มยฺห’’นฺติ ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา นิราลโย ฉฑฺเฑตฺวา ปลายติ, ตํ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเร ทุกฺกฏํ. อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ, อเทนฺตสฺส ปาราชิกํ. กสฺมา? ตสฺส ปโยเคน ฉฑฺฑิตตฺตาติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. อฺเสุ ปน วิจารณา เอว นตฺถิ. ปุริมนเยเนว สกสฺาย วา ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺเตปิ อยเมว วินิจฺฉโยติ.
หรณกกถา นิฏฺิตา.
อุปนิธิกถา
๑๑๒. อุปนิธิมฺหิ – นาหํ คณฺหามีติ สมฺปชานมุสาวาเทปิ อทินฺนาทานสฺส ปโยคตฺตา ทุกฺกฏํ. ‘‘กึ ตุมฺเห ภณถ? เนวิทํ มยฺหํ อนุรูปํ, น ตุมฺหาก’’นฺติอาทีนิ วทนฺตสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ‘‘รโห มยา เอตสฺส หตฺเถ ปิตํ, น ¶ อฺโ โกจิ ชานาติ, ‘ทสฺสติ นุ โข เม โน’’’ติ สามิโก วิมตึ อุปฺปาเทติ, ภิกฺขุสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺส ผรุสาทิภาวํ ทิสฺวา สามิโก ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, ตตฺร สจายํ ภิกฺขุ ‘‘กิลเมตฺวา นํ ทสฺสามี’’ติ ทาเน สอุสฺสาโห, รกฺขติ ตาว. สเจปิ โส ทาเน นิรุสฺสาโห, ภณฺฑสฺสามิโก ปน คหเณ สอุสฺสาโห ¶ , รกฺขเตว. ยทิ ปน โส ทาเน นิรุสฺสาโห ภณฺฑสามิโกปิ ‘‘น มยฺหํ ทสฺสตี’’ติ ธุรํ นิกฺขิปติ, เอวํ อุภินฺนํ ธุรนิกฺเขเปน ภิกฺขุโน ปาราชิกํ ¶ . ยทิปิ มุเขน ‘‘ทสฺสามี’’ติ วทติ, จิตฺเตน ปน อทาตุกาโม, เอวมฺปิ สามิกสฺส ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ. ตํ ปน อุปนิธิ นาม สงฺโคปนตฺถาย อตฺตโน หตฺเถ ปเรหิ ปิตภณฺฑํ, อคุตฺตเทสโต านา จาเวตฺวา คุตฺตฏฺาเน ปนตฺถาย หรโต อนาปตฺติ. เถยฺยจิตฺเตนปิ านา จาเวนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. กสฺมา? อตฺตโน หตฺเถ นิกฺขิตฺตตฺตา, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชโตปิ เอเสว นโย. ตาวกาลิกคฺคหเณปิ ตเถว. ธมฺมํ จรนฺโตติอาทิ วุตฺตนยเมว. อยํ ตาว ปาฬิวณฺณนา.
ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย ปเนตฺถ ปตฺตจตุกฺกาทิวเสน เอวํ วุตฺโต – เอโก กิร ภิกฺขุ ปรสฺส มหคฺเฆ ปตฺเต โลภํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ หริตุกาโม ปิตฏฺานมสฺส สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา อตฺตโนปิ ปตฺตํ ตสฺเสว สนฺติเก เปสิ. โส ปจฺจูสสมเย อาคนฺตฺวา ธมฺมํ วาจาเปตฺวา นิทฺทายมานํ มหาเถรมาห – ‘‘วนฺทามิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โก เอโส’’ติ? ‘‘อหํ, ภนฺเต, อาคนฺตุกภิกฺขุ, กาลสฺเสวมฺหิ คนฺตุกาโม, อสุกสฺมิฺจ เม าเน อีทิเสน นาม อํสพทฺธเกน อีทิสาย ปตฺตตฺถวิกาย ปตฺโต ปิโต. สาธาหํ, ภนฺเต, ตํ ลเภยฺย’’นฺติ เถโร ปวิสิตฺวา ตํ คณฺหิ. อุทฺธาเรเยว โจรสฺส ปาราชิกํ. สเจ อาคนฺตฺวา ‘‘โกสิ ตฺวํ อเวลาย อาคโต’’ติ ¶ วุตฺโต ภีโต ปลายติ, ปาราชิกํ ปตฺวาว ปลายติ. เถรสฺส ปน สุทฺธจิตฺตตฺตา อนาปตฺติ. เถโร ‘‘ตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อฺํ คณฺหิ, เอเสว นโย. อยํ ปน อฺํ ตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชติ, มนุสฺสวิคฺคเห อาณตฺตสทิสวตฺถุสฺมึ วิย. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ปทวาเรน กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ, ตํ อตาทิสเมว คณฺหนฺเต ยุชฺชติ.
ตํ มฺมาโน อตฺตโน ปตฺตํ คณฺหิตฺวา อทาสิ, โจรสฺส สามิเกน ทินฺนตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ. ตํ มฺมาโน โจรสฺเสว ปตฺตํ คณฺหิตฺวา อทาสิ, อิธาปิ โจรสฺส อตฺตโน สนฺตกตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏเมว. สพฺพตฺถ เถรสฺส อนาปตฺติ.
อปโร ¶ ‘‘ปตฺตํ โจเรสฺสามี’’ติ ตเถว นิทฺทายมานํ เถรํ วนฺทิ. ‘‘โก อย’’นฺติ จ วุตฺเต ‘อหํ, ภนฺเต, คิลานภิกฺขุ, เอกํ ตาว เม ปตฺตํ เทถ, คามทฺวารํ คนฺตฺวา เภสชฺชํ อาหริสฺสามี’’ติ. เถโร ‘‘อิธ คิลาโน นตฺถิ, โจโร อยํ ภวิสฺสตี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อิมํ หรตู’’ติ อตฺตโน เวริภิกฺขุสฺส ปตฺตํ นีหริตฺวา อทาสิ, ทฺวินฺนมฺปิ อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. ‘‘เวริภิกฺขุสฺส ปตฺโต’’ติ สฺาย อฺสฺส ปตฺตํ อุทฺธรนฺเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ‘‘เวริสฺสาย’’นฺติ สฺาย โจรสฺเสว ปตฺตํ อุทฺธริตฺวา เทติ, วุตฺตนเยเนว เถรสฺส ปาราชิกํ, โจรสฺส ¶ ทุกฺกฏํ. อถ ‘‘เวริสฺสาย’’นฺติ มฺมาโน อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วุตฺตนเยเนว อุภินฺนมฺปิ ทุกฺกฏํ.
เอโก มหาเถโร อุปฏฺากํ ทหรภิกฺขุํ ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามา’’ติ อาห. ทหโร คเหตฺวา เถรสฺส ปจฺฉโต ปจฺฉโต คจฺฉนฺโต เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สเจ สีเส ภารํ ขนฺเธ กโรติ, ปาราชิกํ นตฺถิ. กสฺมา? อาณตฺติยา คหิตตฺตา. สเจ ปน มคฺคโต โอกฺกมฺม อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. อถ นิวตฺติตฺวา วิหาราภิมุโข ปลายิตฺวา วิหารํ ปวิสิตฺวา คจฺฉติ, อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. อถาปิ มหาเถรสฺส นิวาสนปริวตฺตนฏฺานโต คามาภิมุโข ปลายติ, คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. ยทิ ปน อุโภปิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ภฺุชิตฺวา วา ¶ คเหตฺวา วา นิกฺขมนฺติ, เถโร จ ปุนปิ ตํ วทติ – ‘‘ปตฺตจีวรํ คณฺห, วิหารํ คมิสฺสามา’’ติ. ตตฺร เจ โส ปุริมนเยเนว เถยฺยจิตฺเตน สีเส ภารํ ขนฺเธ กโรติ, รกฺขติ ตาว. อฏวึ ปวิสติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. นิวตฺติตฺวา คามาภิมุโข เอว ปลายติ, คามูปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. ปุรโต วิหาราภิมุโข ปลายิตฺวา วิหาเร อฏฺตฺวา อนิสีทิตฺวา อวูปสนฺเตเนว เถยฺยจิตฺเตน คจฺฉติ, อุปจาราติกฺกเม ปาราชิกํ. โย ปน อนาณตฺโต คณฺหาติ, ตสฺส สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุปิ ปาราชิกํ. เสสํ ปุริมสทิสเมว.
โย ปน ‘‘อสุกํ นาม วิหารํ คนฺตฺวา จีวรํ โธวิตฺวา รชิตฺวา วา เอหี’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺสปิ อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ ปาราชิกํ นตฺถิ. มคฺคา โอกฺกมเน ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ตํ วิหารํ คนฺตฺวา ตตฺเถว วสนฺโต ¶ เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชนฺโต ชีราเปติ, โจรา วา ตสฺส ตํ หรนฺติ, อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ตโต นิกฺขมิตฺวา อาคจฺฉโตปิ เอเสว นโย.
โย ปน อนาณตฺโต เถเรน นิมิตฺเต วา กเต สยเมว วา กิลิฏฺํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เทถ, ภนฺเต, จีวรํ; อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา รชิตฺวา อาหริสฺสามี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ; ตสฺส อนฺตรามคฺเค เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส ภารํ ขนฺเธ กรณาทีสุ ปาราชิกํ. กสฺมา? อนาณตฺติยา คหิตตฺตา. มคฺคา โอกฺกมโตปิ ปฏินิวตฺติตฺวา ตเมว วิหารํ อาคนฺตฺวา วิหารสีมํ อติกฺกมโตปิ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. ตตฺถ คนฺตฺวา รชิตฺวา ปจฺจาคจฺฉโตปิ เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน เอเสว นโย. สเจ ปน ยตฺถ คโต, ตตฺถ วา อนฺตรามคฺเค วิหาเร วา ตเมว วิหารํ ปจฺจาคนฺตฺวา ตสฺส เอกปสฺเส วา อุปจารสีมํ อนติกฺกมิตฺวา วสนฺโต เถยฺยจิตฺเตน ¶ ปริภฺุชนฺโต ชีราเปติ, โจรา วา ตสฺส ตํ หรนฺติ, ยถา วา ตถา วา นสฺสติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อุปจารสีมํ อติกฺกมโต ปน ปาราชิกํ.
โย ปน เถเรน นิมิตฺเต กยิรมาเน ‘‘เทถ, ภนฺเต, อหํ รชิตฺวา ¶ อาหริสฺสามี’’ติ วตฺวา ‘‘กตฺถ คนฺตฺวา, ภนฺเต, รชามี’’ติ ปุจฺฉติ. เถโร จ นํ ‘‘ยตฺถ อิจฺฉสิ, ตตฺถ คนฺตฺวา รชาหี’’ติ วทติ, อยํ ‘‘วิสฺสฏฺทูโต’’ นาม. เถยฺยจิตฺเตน ปลายนฺโตปิ น อวหาเรน กาเรตพฺโพ. เถยฺยจิตฺเตน ปน ปลายโตปิ ปริโภเคน วา อฺถา วา นาสยโตปิ ภณฺฑเทยฺยเมว โหติ. ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส หตฺเถ กิฺจิ ปริกฺขารํ ปหิณติ – ‘‘อสุกวิหาเร อสุกภิกฺขุสฺส เทหี’’ติ, ตสฺส เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน สพฺพฏฺาเนสุ ‘‘อสุกํ นาม วิหารํ คนฺตฺวา จีวรํ โธวิตฺวา รชิตฺวา วา เอหี’’ติ เอตฺถ วุตฺตสทิโส วินิจฺฉโย.
อปโร ภิกฺขุํ ปหิณิตุกาโม นิมิตฺตํ กโรติ – ‘‘โก นุ โข คเหตฺวา คมิสฺสตี’’ติ, ตตฺร เจ เอโก – ‘‘เทถ, ภนฺเต, อหํ คเหตฺวา คมิสฺสามี’’ติ คเหตฺวา คจฺฉติ, ตสฺส เถยฺยจิตฺเต อุปฺปนฺเน สพฺพฏฺาเนสุ ‘‘เทถ, ภนฺเต, จีวรํ, อสุกํ นาม คามํ คนฺตฺวา รชิตฺวา อาหริสฺสามี’’ติ เอตฺถ วุตฺตสทิโส วินิจฺฉโย. เถเรน จีวรตฺถาย วตฺถํ ลภิตฺวา อุปฏฺากกุเล ปิตํ โหติ. อถสฺส อนฺเตวาสิโก วตฺถํ หริตุกาโม ตตฺร คนฺตฺวา ‘‘ตํ กิร วตฺถํ เทถา’’ติ เถเรน เปสิโต วิย วทติ; ตสฺส วจนํ สทฺทหิตฺวา อุปาสเกน ปิตํ อุปาสิกา วา, อุปาสิกาย ปิตํ ¶ อุปาสโก วา อฺโ วา, โกจิ นีหริตฺวา เทติ, อุทฺธาเรเยวสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน เถรสฺส อุปฏฺาเกหิ ‘‘อิมํ เถรสฺส ทสฺสามา’’ติ อตฺตโน วตฺถํ ปิตํ โหติ. อถสฺส อนฺเตวาสิโก ตํ หริตุกาโม ตตฺถ คนฺตฺวา ‘‘เถรสฺส กิร วตฺถํ ทาตุกามตฺถ, ตํ เทถา’’ติ วทติ. เต จสฺส สทฺทหิตฺวา ‘‘มยํ, ภนฺเต, โภเชตฺวา ทสฺสามาติ ปยิมฺห, หนฺท คณฺหาหี’’ติ เทนฺติ. สามิเกหิ ทินฺนตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ, อสุทฺธจิตฺเตน ปน คหิตตฺตา ทุกฺกฏํ, ภณฺฑเทยฺยฺจ โหติ.
ภิกฺขุ ภิกฺขุสฺส วตฺวา คามํ คจฺฉติ, ‘‘อิตฺถนฺนาโม มม วสฺสาวาสิกํ ทสฺสติ, ตํ คเหตฺวา เปยฺยาสี’’ติ. ‘‘สาธู’’ติ โส ภิกฺขุ เตน ทินฺนํ มหคฺฆสาฏกํ อตฺตนา ลทฺเธน อปฺปคฺฆสาฏเกน สทฺธึ เปตฺวา เตน อาคเตน อตฺตโน มหคฺฆสาฏกสฺส ลทฺธภาวํ ตฺวา วา อตฺวา วา ‘‘เทหิ เม วสฺสาวาสิก’’นฺติ วุตฺโต ‘‘ตว ถูลสาฏโก ลทฺโธ, มยฺหํ ปน สาฏโก มหคฺโฆ, ทฺเวปิ อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ปิตา, ปวิสิตฺวา ¶ คณฺหาหี’’ติ วทติ. เตน ปวิสิตฺวา ถูลสาฏเก คหิเต อิตรสฺส อิตรํ คณฺหโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. อถาปิ ตสฺส สาฏเก ¶ อตฺตโน นามํ อตฺตโน จ สาฏเก ตสฺส นามํ ลิขิตฺวา ‘‘คจฺฉ นามํ วาเจตฺวา คณฺหาหี’’ติ วทติ, ตตฺราปิ เอเสว นโย. โย ปน อตฺตนา จ เตน จ ลทฺธสาฏเก เอกโต เปตฺวา ตํ เอวํ วทติ – ‘‘ตยา จ มยา จ ลทฺธสาฏกา ทฺเวปิ อนฺโตคพฺเภ ปิตา, คจฺฉ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ วิจินิตฺวา คณฺหาหี’’ติ. โส จ ลชฺชาย อาวาสิเกน ลทฺธํ ถูลสาฏกเมว คณฺเหยฺย, ตตฺราวาสิกสฺส วิจินิตฺวา คหิตาวเสสํ อิตรํ คณฺหโต อนาปตฺติ. อาคนฺตุโก ภิกฺขุ อาวาสิกานํ จีวรกมฺมํ กโรนฺตานํ สมีเป ปตฺตจีวรํ เปตฺวา ‘‘เอเต สงฺโคเปสฺสนฺตี’’ติ มฺมาโน นฺหายิตุํ วา อฺตฺร วา คจฺฉติ. สเจ นํ อาวาสิกา สงฺโคเปนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, นฏฺเ คีวา น โหติ. สเจปิ โส ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อิตเร จ สกิจฺจปฺปสุตตฺตา น ชานนฺติ, เอเสว นโย. อถาปิ เต ‘‘อิทํ, ภนฺเต, เปถา’’ติ วุตฺตา ‘‘มยํ พฺยาวฏา’’ติ ปฏิกฺขิปนฺติ, อิตโร จ ‘‘อวสฺสํ เปสฺสนฺตี’’ติ อนาทิยิตฺวา คจฺฉติ, เอเสว นโย. สเจ ปน เตน ยาจิตา วา อยาจิตา วา ‘‘มยํ เปสฺสาม, ตฺวํ คจฺฉา’’ติ วทนฺติ; ตํ สงฺโคปิตพฺพํ. โน เจ สงฺโคเปนฺติ, นฏฺเ คีวา. กสฺมา? สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.
โย ¶ ภิกฺขุ ภณฺฑาคาริโก หุตฺวา ปจฺจูสสมเย เอว ภิกฺขูนํ ปตฺตจีวรานิ เหฏฺาปาสาทํ โอโรเปตฺวา ทฺวารํ อปิทหิตฺวา เตสมฺปิ อนาโรเจตฺวาว ทูเร ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ; ตานิ เจ โจรา หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. โย ปน ภิกฺขูหิ ‘‘โอโรเปถ, ภนฺเต, ปตฺตจีวรานิ; กาโล สลากคฺคหณสฺสา’’ติ วุตฺโต ‘‘สมาคตตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, สมาคตมฺหา’’ติ วุตฺเต ปตฺตจีวรานิ นีหริตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ภณฺฑาคารทฺวารํ พนฺธิตฺวา ‘‘ตุมฺเห ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา เหฏฺาปาสาททฺวารํ ปฏิชคฺคิตฺวา คจฺเฉยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ. ตตฺร เจโก อลสชาติโก ภิกฺขุ ภิกฺขูสุ คเตสุ ปจฺฉา อกฺขีนิ ปฺุฉนฺโต อุฏฺหิตฺวา ¶ อุทกฏฺานํ มุขโธวนตฺถํ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา โจรา ตสฺส ปตฺตจีวรํ หรนฺติ, สุหฏํ. ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ.
สเจปิ โกจิ ภณฺฑาคาริกสฺส อนาโรเจตฺวาว ภณฺฑาคาเร อตฺตโน ปริกฺขารํ เปติ, ตสฺมิมฺปิ นฏฺเ ภณฺฑาคาริกสฺส คีวา น โหติ. สเจ ปน ภณฺฑาคาริโก ตํ ทิสฺวา ‘‘อฏฺาเน ปิต’’นฺติ คเหตฺวา เปติ, นฏฺเ ตสฺส คีวา. สเจปิ ปิตภิกฺขุนา ‘‘มยา, ภนฺเต, อีทิโส นาม ปริกฺขาโร ปิโต, อุปธาเรยฺยาถา’’ติ วุตฺโต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉติ, ทุนฺนิกฺขิตฺตํ วา มฺมาโน อฺสฺมึ าเน เปติ, ตสฺเสว คีวา. ‘‘นาหํ ชานามี’’ติ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส ปน นตฺถิ คีวา. โยปิ ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสว เปติ, ภณฺฑาคาริกฺจ น สมฺปฏิจฺฉาเปติ ¶ , นฏฺํ สุนฏฺเมว. สเจ ตํ ภณฺฑาคาริโก อฺตฺร เปติ, นฏฺเ คีวา. สเจ ภณฺฑาคารํ สุคุตฺตํ, สพฺโพ สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส จ ปริกฺขาโร ตตฺเถว ปียติ, ภณฺฑาคาริโก จ พาโล อพฺยตฺโต ทฺวารํ วิวริตฺวา ธมฺมกถํ วา โสตุํ, อฺํ วา กิฺจิ กาตุํ กตฺถจิ คจฺฉติ, ตํ ขณํ ทิสฺวา ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคารโต นิกฺขมิตฺวา พหิ จงฺกมนฺตสฺส วา ทฺวารํ วิวริตฺวา สรีรํ อุตุํ คาหาเปนฺตสฺส วา ตตฺเถว สมณธมฺมานุโยเคน นิสินฺนสฺส วา ตตฺเถว นิสีทิตฺวา เกนจิ กมฺเมน พฺยาวฏสฺส วา อุจฺจารปสฺสาวปีฬิตสฺสาปิ ตโต ตตฺเถว อุปจาเร วิชฺชมาเน พหิ คจฺฉโต วา อฺเน วา เกนจิ อากาเรน ปมตฺตสฺส สโต ทฺวารํ วิวริตฺวา วา วิวฏเมว ปวิสิตฺวา วา สนฺธึ ฉินฺทิตฺวา วา ยตฺตกํ ตสฺส ปมาทปจฺจยา โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. อุณฺหสมเย ปน วาตปานํ วิวริตฺวา นิปชฺชิตุํ วฏฺฏตีติ วทนฺติ. อุจฺจารปีฬิตสฺส ปน ¶ ตสฺมึ อุปจาเร อสติ อฺตฺถ คจฺฉนฺตสฺส คิลานปกฺเข ิตตฺตา อวิสโย; ตสฺมา คีวา น โหติ.
โย ปน อนฺโต อุณฺหปีฬิโต ทฺวารํ สุคุตฺตํ กตฺวา พหิ นิกฺขมติ, โจรา จ นํ คเหตฺวา ‘‘ทฺวารํ วิวรา’’ติ วทนฺติ, ยาว ตติยํ น วิวริตพฺพํ. ยทิ ปน เต โจรา ‘‘สเจ น วิวรสิ, ตฺจ มาเรสฺสาม, ทฺวารฺจ ภินฺทิตฺวา ปริกฺขารํ ¶ หริสฺสามา’’ติ ผรสุอาทีนิ อุกฺขิปนฺติ. ‘‘มยิ จ มเต สงฺฆสฺส จ เสนาสเน วินฏฺเ คุโณ นตฺถี’’ติ วิวริตุํ วฏฺฏติ. อิธาปิ อวิสยตฺตา คีวา นตฺถีติ วทนฺติ. สเจ โกจิ อาคนฺตุโก กฺุจิกํ วา เทติ, ทฺวารํ วา วิวรติ, ยตฺตกํ โจรา หรนฺติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. สงฺเฆน ภณฺฑาคารคุตฺตตฺถาย สูจิยนฺตกฺจ กฺุจิกมุทฺทิกา จ โยเชตฺวา ทินฺนา โหติ, ภณฺฑาคาริโก ฆฏิกมตฺตํ ทตฺวา นิปชฺชติ, โจรา วิวริตฺวา ปริกฺขารํ หรนฺติ, ตสฺเสว คีวา. สูจิยนฺตกฺจ กฺุจิกมุทฺทิกฺจ โยเชตฺวา นิปนฺนํ ปเนตํ สเจ โจรา อาคนฺตฺวา ‘‘วิวรา’’ติ วทนฺติ, ตตฺถ ปุริมนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอวํ คุตฺตํ กตฺวา นิปนฺเน ปน สเจ ภิตฺตึ วา ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา อุมงฺเคน วา ปวิสิตฺวา หรนฺติ, น ตสฺส คีวา. สเจ ภณฺฑาคาเร อฺเปิ เถรา วสนฺติ, วิวเฏ ทฺวาเร อตฺตโน อตฺตโน ปริกฺขารํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ภณฺฑาคาริโก เตสุ คเตสุ ทฺวารํ น ชคฺคติ, สเจ ตตฺถ กิฺจิ อวหรียติ, ภณฺฑาคาริกสฺส อิสฺสรตาย ภณฺฑาคาริกสฺเสว คีวา. เถเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อยํ ตตฺถ สามีจิ.
ยทิ ภณฺฑาคาริโก ‘‘ตุมฺเห พหิ ตฺวาว ตุมฺหากํ ปริกฺขารํ คณฺหถ, มา ปวิสิตฺถา’’ติ วทติ, เตสฺจ เอโก โลลมหาเถโร สามเณเรหิ เจว อุปฏฺาเกหิ จ สทฺธึ ภณฺฑาคารํ ¶ ปวิสิตฺวา นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยตฺตกํ ภณฺฑํ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺส คีวา. ภณฺฑาคาริเกน ปน อวเสสตฺเถเรหิ จ สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. อถ ภณฺฑาคาริโกว โลลสามเณเร จ อุปฏฺาเก จ คเหตฺวา ภณฺฑาคาเร นิสีทติ เจว นิปชฺชติ จ, ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ ตสฺเสว คีวา. ตสฺมา ภณฺฑาคาริเกเนว ตตฺถ วสิตพฺพํ. อวเสเสหิ อปฺเปว รุกฺขมูเล วสิตพฺพํ, น จ ภณฺฑาคาเรติ.
เย ¶ ปน อตฺตโน อตฺตโน สภาคภิกฺขูนํ วสนคพฺเภสุ ปริกฺขารํ เปนฺติ, ปริกฺขาเร นฏฺเ เยหิ ปิโต, เตสํเยว คีวา. อิตเรหิ ปน สหาเยหิ ภวิตพฺพํ. ยทิ ปน สงฺโฆ ภณฺฑาคาริกสฺส วิหาเรเยว ยาคุภตฺตํ ทาเปติ, โส จ ภิกฺขาจารตฺถาย คามํ คจฺฉติ, นฏฺํ ตสฺเสว ¶ คีวา. ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺเตหิ อติเรกจีวรรกฺขณตฺถาย ปิตวิหารวาริกสฺสาปิ ยาคุภตฺตํ วา นิวาปํ วา ลภมานสฺเสว ภิกฺขาจารํ คจฺฉโต ยํ ตตฺถ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. น เกวลฺจ เอตฺตกเมว, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย ยํ ตสฺส ปมาทปฺปจฺจยา นสฺสติ, สพฺพํ คีวา.
สเจ วิหาโร มหา โหติ, อฺํ ปเทสํ รกฺขิตุํ คจฺฉนฺตสฺส อฺสฺมึ ปเทเส นิกฺขิตฺตํ หรนฺติ, อวิสยตฺตา คีวา น โหติ. อีทิเส ปน วิหาเร เวมชฺเฌ สพฺเพสํ โอสรณฏฺาเน ปริกฺขาเร เปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. วิหารวาริกา วา ทฺเว ตโย เปตพฺพา. สเจ เตสํ อปฺปมตฺตานํ อิโต จิโต จ รกฺขตํเยว กิฺจิ นสฺสติ, คีวา น โหติ. วิหารวาริเก พนฺธิตฺวา หริตภณฺฑมฺปิ โจรานํ ปฏิปถํ คเตสุ อฺเน มคฺเคน หริตภณฺฑมฺปิ น เตสํ คีวา. สเจ วิหารวาริกานํ วิหาเร ทาตพฺพํ ยาคุภตฺตํ วา นิวาโป วา น โหติ, เตหิ ปตฺตพฺพลาภโต อติเรกา ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา, เตสํ ปโหนกภตฺตสลากา จ เปตุํ วฏฺฏติ. นิพทฺธํ กตฺวา ปน น เปตพฺพา, มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ, ‘‘วิหารวาริกาเยว อมฺหากํ ภตฺตํ ภฺุชนฺตี’’ติ. ตสฺมา ปริวตฺเตตฺวา เปตพฺพา. สเจ เตสํ สภาคา สลากภตฺตานิ อาหริตฺวา เทนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ; โน เจ เทนฺติ, วารํ คาหาเปตฺวา นีหราเปตพฺพานิ. สเจ วิหารวาริโก ทฺเว ติสฺโส ยาคุสลากา, จตฺตาริ ปฺจ สลากภตฺตานิ จ ลภมาโนว ภิกฺขาจารํ คจฺฉติ, ภณฺฑาคาริกสฺส วิย สพฺพํ นฏฺํ คีวา โหติ. สเจ สงฺฆสฺส วิหารปาลานํ ทาตพฺพํ ภตฺตํ วา นิวาโป วา นตฺถิ, ภิกฺขู วิหารวารํ คเหตฺวา อตฺตโน อตฺตโน นิสฺสิตเก ชคฺเคนฺติ, สมฺปตฺตวารํ อคฺคเหตุํ น ลภนฺติ, ยถา อฺเ ภิกฺขู กโรนฺติ, ตเถว กาตพฺพํ. ภิกฺขูหิ ปน อสหายกสฺส วา อตฺตทุติยสฺส วา ยสฺส สภาโค ภิกฺขุ ภตฺตํ อาเนตฺวา ทาตา นตฺถิ, เอวรูปสฺส วาโร น ปาเปตพฺโพ.
ยมฺปิ ¶ ¶ ปากวตฺตตฺถาย วิหาเร เปนฺติ, ตํ คเหตฺวา อุปชีวนฺเตน าตพฺพํ. โย ตํ น อุปชีวติ ¶ , โส วารํ น คาหาเปตพฺโพ. ผลาผลตฺถายปิ วิหาเร ภิกฺขุํ เปนฺติ, ชคฺคิตฺวา โคเปตฺวา ผลวาเรน ภาเชตฺวา ขาทนฺติ. โย ตานิ ขาทติ, เตน าตพฺพํ. อนุปชีวนฺโต น คาหาเปตพฺโพ. เสนาสนมฺจปีปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถายปิ เปนฺติ, อาวาเส วสนฺเตน าตพฺพํ. อพฺโภกาสิโก ปน รุกฺขมูลิโก วา น คาหาเปตพฺโพ.
เอโก นวโก โหติ, พหุสฺสุโต ปน พหูนํ ธมฺมํ วาเจติ, ปริปุจฺฉํ เทติ, ปาฬึ วณฺเณติ, ธมฺมกถํ กเถติ, สงฺฆสฺส ภารํ นิตฺถรติ, อยํ ลาภํ ปริภฺุชนฺโตปิ อาวาเส วสนฺโตปิ วารํ น คาเหตพฺโพ. ‘‘ปุริสวิเสโส นาม าตพฺโพ’’ติ วทนฺติ.
อุโปสถาคารปฏิมาฆรชคฺคกสฺส ปน ทิคุณํ ยาคุภตฺตํ เทวสิกํ ตณฺฑุลนาฬิ สํวจฺฉเร ติจีวรํ, ทสวีสคฺฆนกํ กปฺปิยภณฺฑฺจ ทาตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺส ตํ ลภมานสฺเสว ปมาเทน ตตฺถ กิฺจิ นสฺสติ, สพฺพํ คีวา. พนฺธิตฺวา พลกฺกาเรน อจฺฉินฺนํ ปน น คีวา. ตตฺถ เจติยสฺส วา สงฺฆสฺส วา สนฺตเกน เจติยสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ วฏฺฏติ. เจติยสฺส สนฺตเกน สงฺฆสฺส สนฺตกํ รกฺขาเปตุํ น วฏฺฏติ. ยํ ปน เจติยสฺส สนฺตเกน สทฺธึ สงฺฆสฺส สนฺตกํ ปิตํ โหติ, ตํ เจติยสนฺตเก รกฺขาปิเต รกฺขิตเมว โหตีติ เอวํ วฏฺฏติ. ปกฺขวาเรน อุโปสถาคาราทีนิ รกฺขโตปิ ปมาทวเสน นฏฺํ คีวาเยวาติ.
อุปนิธิกถา นิฏฺิตา.
สุงฺกฆาตกถา
๑๑๓. สุงฺกํ ตโต หนนฺตีติ สุงฺกฆาตํ; สุงฺกฏฺานสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺหิ ยสฺมา ตโต สุงฺการหํ ภณฺฑํ สุงฺกํ อทตฺวา นีหรนฺตา รฺโ สุงฺกํ หนนฺติ วินาเสนฺติ, ตสฺมา สุงฺกฆาตนฺติ วุตฺตํ. ตตฺร ปวิสิตฺวาติ ตตฺร ปพฺพตขณฺฑาทีสุ รฺา ปริจฺเฉทํ กตฺวา ปิเต สุงฺกฏฺาเน ปวิสิตฺวา. ราชคฺคํ ภณฺฑนฺติ ราชารหํ ภณฺฑํ; ยโต รฺโ ปฺจมาสกํ ¶ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ สุงฺกํ ทาตพฺพํ โหติ, ตํ ภณฺฑนฺติ อตฺโถ. ราชกนฺติปิ ¶ ปาโ, อยเมวตฺโถ. เถยฺยจิตฺโตติ ‘‘อิโต รฺโ สุงฺกํ น ทสฺสามี’’ติ เถยฺยจิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา ตํ ภณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ปิตฏฺานโต คเหตฺวา ถวิกาย วา ปกฺขิปติ, ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน วา ¶ อูรุนา สทฺธึ พนฺธติ, ถุลฺลจฺจยํ. สุงฺกฏฺาเนน ปริจฺฉินฺนตฺตา านาจาวนํ น โหติ. สุงฺกฏฺานปริจฺเฉทํ ทุติยํ ปาทํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ.
พหิสุงฺกฆาตํ ปาเตตีติ ราชปุริสานํ อฺวิหิตภาวํ ปสฺสิตฺวา อนฺโต ิโตว พหิ ปตนตฺถาย ขิปติ. ตฺเจ อวสฺสํ ปตนกํ, หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ. ตฺเจ รุกฺเข วา ขาณุมฺหิ วา ปฏิหตํ พลววาตเวคุกฺขิตฺตํ วา หุตฺวา ปุน อนฺโตเยว ปตติ, รกฺขติ. ปุน คณฺหิตฺวา ขิปติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. ภูมิยํ ปติตฺวา วฏฺฏนฺตํ ปุน อนฺโต ปวิสติ, ปาราชิกเมว. กุรุนฺทีสงฺเขปฏฺกถาสุ ปน ‘‘สเจ พหิ ปติตํ ตฺวา วฏฺฏนฺตํ ปวิสติ, ปาราชิกํ. สเจ อติฏฺมานํเยว วฏฺฏิตฺวา ปวิสติ รกฺขตี’’ติ วุตฺตํ.
อนฺโต ตฺวา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา วฏฺเฏติ, อฺเน วา วฏฺฏาเปติ, สเจ อฏฺตฺวา วฏฺฏมานํ คตํ, ปาราชิกํ. อนฺโต ตฺวา พหิ คจฺฉนฺตํ รกฺขติ, ‘‘วฏฺฏิตฺวา คมิสฺสตี’’ติ วา ‘‘อฺโ นํ วฏฺเฏสฺสตี’’ติ วา อนฺโต ปิตํ ปจฺฉา สยํ วา วฏฺฏมานํ อฺเน วา วฏฺฏิตํ พหิ คจฺฉติ, รกฺขติเยว. สุทฺธจิตฺเตน ปิเต ปน ตถา คจฺฉนฺเต วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ทฺเว ปุฏเก เอกาพทฺเธ กตฺวา สุงฺกฏฺานสีมนฺตเร เปติ, กิฺจาปิ พหิปุฏเก สุงฺกํ ปาทํ อคฺฆติ, เตน สทฺธึ เอกาพทฺธตาย ปน อนฺโต ปุฏโก รกฺขติ. สเจ ปน ปริวตฺเตตฺวา อพฺภนฺตริมํ พหิ เปติ, ปาราชิกํ. กาเชปิ เอกพทฺธํ กตฺวา ปิเต เอเสว นโย. สเจ ปน อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, ปาราชิกํ.
คจฺฉนฺเต ยาเน วา อสฺสปิฏฺิอาทีสุ วา เปติ ‘‘พหิ นีหริสฺสตี’’ติ นีหเฏปิ อวหาโร นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยมฺปิ น โหติ. กสฺมา? ‘‘อตฺร ปวิฏฺสฺส ¶ สุงฺกํ คณฺหนฺตู’’ติ วุตฺตตฺตา อิทฺจ สุงฺกฏฺานสฺส พหิ ิตํ, น จ เตน นีตํ, ตสฺมา เนว ภณฺฑเทยฺยํ น ปาราชิกํ.
ิตยานาทีสุ ปิเต วินา ตสฺส ปโยคํ คเตสุ เถยฺยจิตฺเตปิ สติ เนวตฺถิ อวหาโร. ยทิ ปน เปตฺวา ยานาทีนิ ปาเชนฺโต อติกฺกาเมติ ¶ , หตฺถิสุตฺตาทีสุ วา กตปริจยตฺตา ปุรโต ตฺวา ‘‘เอหิ, เร’’ติ ปกฺโกสติ, สีมาติกฺกเม ปาราชิกํ. เอฬกโลมสิกฺขาปเท อิมสฺมึ าเน อฺํ หราเปติ, อนาปตฺติ, อิธ ปาราชิกํ. ตตฺร อฺสฺส ยาเน วา ภณฺเฑ วา อชานนฺตสฺส ปกฺขิปิตฺวา ติโยชนํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺตีติ ปาจิตฺติยํ. อิธ อนาปตฺติ.
สุงฺกฏฺาเน ¶ สุงฺกํ ทตฺวาว คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอโก อาโภคํ กตฺวา คจฺฉติ ‘‘สเจ ‘สุงฺกํ เทหี’ติ วกฺขนฺติ, ทสฺสามิ; โน เจ วกฺขนฺติ, คมิสฺสามี’’ติ. ตํ ทิสฺวา เอโก สุงฺกิโก ‘‘เอโส ภิกฺขุ คจฺฉติ, คณฺหถ นํ สุงฺก’’นฺติ วทติ, อปโร ‘‘กุโต ปพฺพชิตสฺส สุงฺกํ, คจฺฉตู’’ติ วทติ, ลทฺธกปฺปํ โหติ, คนฺตพฺพํ. ‘‘ภิกฺขูนํ สุงฺกํ อทตฺวา คนฺตุํ น วฏฺฏติ, คณฺห อุปาสกา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘ภิกฺขุสฺส สุงฺกํ คณฺหนฺเตหิ ปตฺตจีวรํ คเหตพฺพํ ภวิสฺสติ, กึ เตน, คจฺฉตู’’ติ วุตฺเตปิ ลทฺธกปฺปเมว. สเจปิ สุงฺกิกา นิทฺทายนฺติ วา, ชูตํ วา กีฬนฺติ, ยตฺถ กตฺถจิ วา คตา, อยฺจ ‘‘กุหึ สุงฺกิกา’’ติ ปกฺโกสิตฺวาปิ น ปสฺสติ, ลทฺธกปฺปเมว. สเจปิ สุงฺกฏฺานํ ปตฺวา อฺวิหิโต, กิฺจิ จินฺเตนฺโต วา สชฺฌายนฺโต วา มนสิการํ อนุยฺุชนฺโต วา โจรหตฺถิสีหพฺยคฺฆาทีหิ สหสา วุฏฺาย สมนุพทฺโธ วา, มหาเมฆํ อุฏฺิตํ ทิสฺวา ปุรโต สาลํ ปวิสิตุกาโม วา หุตฺวา ตํ านํ อติกฺกมติ, ลทฺธกปฺปเมว.
สุงฺกํปริหรตีติ เอตฺถ อุปจารํ โอกฺกมิตฺวา กิฺจาปิ ปริหรติ, อวหาโรเยวาติ
กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํปน ‘‘‘ปริหรนฺตํ ราชปุริสา วิเหเนฺตี’ติ เกวลํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา อุปจารํ ¶ โอกฺกมิตฺวา ปริหรโต ทุกฺกฏํ, อโนกฺกมิตฺวา ปริหรโต อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปาฬิยา สเมติ. เอตฺถ ทฺวีหิ เลฑฺฑุปาเตหิ อุปจาโร ปริจฺฉินฺทิตพฺโพติ.
สุงฺกฆาตกถา นิฏฺิตา.
ปาณกถา
๑๑๔. อิโต ปรสฺมึ เอกํเสน อวหารปฺปโหนกปาณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสปาโณ’’ติ อาห. ตมฺปิ ภุชิสฺสํ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. โยปิ ¶ ภุชิสฺโส มาตรา วา ปิตรา วา อาปิโต โหติ, อตฺตนา วา อตฺตโน อุปริ กตฺวา ปฺาสํ วา สฏฺึ วา อคฺคเหสิ, ตมฺปิ หรนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ; ธนํ ปน คตฏฺาเน วฑฺฒติ. อนฺโตชาตก-ธนกฺกีต-กรมรานีตปฺปเภทํ ปน ทาสํเยว หรนฺตสฺส อวหาโร โหติ. ตเมว หิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘ปาโณ นาม มนุสฺสปาโณ วุจฺจตี’’ติ. เอตฺถ จ เคหทาสิยา กุจฺฉิมฺหิ ทาสสฺส ชาโต อนฺโตชาตโก, ธเนน กีโต ธนกฺกีโต, ปรเทสโต ปหริตฺวา อาเนตฺวา ทาสพฺยํ อุปคมิโต กรมรานีโตติ เวทิตพฺโพ. เอวรูปํ ปาณํ ‘‘หริสฺสามี’’ติ อามสติ, ทุกฺกฏํ. หตฺเถ วา ปาเท วา คเหตฺวา อุกฺขิปนฺโต ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. อุกฺขิปิตฺวา ปลายิตุกาโม เกสคฺคมตฺตมฺปิ ิตฏฺานโต อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา กฑฺฒติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ.
ปทสา ¶ เนสฺสามีติ ตชฺเชนฺโต วา ปหรนฺโต วา ‘‘อิโต คจฺฉาหี’’ติ วทติ, เตน วุตฺตทิสาภาคํ คจฺฉนฺตสฺส ทุติยปทวาเรน ปาราชิกํ. เยปิ เตน สทฺธึ เอกจฺฉนฺทา โหนฺติ, สพฺเพสํ เอกกฺขเณ ปาราชิกํ. ภิกฺขุ ทาสํ ทิสฺวา สุขทุกฺขํ ปุจฺฉิตฺวา วา อปุจฺฉิตฺวา วา ‘‘คจฺฉ, ปลายิตฺวา สุขํ ชีวา’’ติ วทติ, โส เจ ปลายติ, ทุติยปทวาเร ปาราชิกํ. ตํ อตฺตโน สมีปํ อาคตํ อฺโ ‘‘ปลายา’’ติ วทติ, สเจ ภิกฺขุสตํ ปฏิปาฏิยา อตฺตโน สมีปมาคตํ วทติ, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. โย ปน เวคสา ปลายนฺตํเยว ‘‘ปลาย, ยาว ตํ ¶ สามิกา น คณฺหนฺตี’’ติ ภณติ, อนาปตฺติ ปาราชิกสฺส. สเจ ปน สณิกํ คจฺฉนฺตํ ภณติ, โส จ ตสฺส วจเนน สีฆํ คจฺฉติ, ปาราชิกํ. ปลายิตฺวา อฺํ คามํ วา เทสํ วา คตํ ทิสฺวา ตโตปิ ปลาเปนฺตสฺส ปาราชิกเมว.
อทินฺนาทานํ นาม ปริยาเยน มุจฺจติ. โย หิ เอวํ วทติ – ‘‘ตฺวํ อิธ กึ กโรสิ,
กึ เต ปลายิตุํ น วฏฺฏตีติ วา, กึ กตฺถจิ คนฺตฺวา สุขํ ชีวิตุํ น วฏฺฏตีติ วา, ทาสทาสิโย ปลายิตฺวา อมุกํ นาม ปเทสํ คนฺตฺวา สุขํ ชีวนฺตี’’ติ วา, โส จ ตสฺส วจนํ สุตฺวา ปลายติ, อวหาโร นตฺถิ. โยปิ ‘‘มยํ อมุกํ นาม ปเทสํ คจฺฉาม, ตตฺราคตา สุขํ ชีวนฺติ, อมฺเหหิ จ สทฺธึ คจฺฉนฺตานํ อนฺตรามคฺเคปิ ปาเถยฺยาทีหิ กิลมโถ นตฺถี’’ติ วตฺวา สุขํ อตฺตนา สทฺธึ อาคจฺฉนฺตํ คเหตฺวา คจฺฉติ ¶ มคฺคคมนวเสน, น เถยฺยจิตฺเตน; เนวตฺถิ อวหาโร. อนฺตรามคฺเค จ โจเรสุ อุฏฺิเตสุ ‘‘อเร! โจรา อุฏฺิตา, เวเคน ปลาย, เอหิ ยาหี’’ติ วทนฺตสฺสาปิ โจรนฺตราย โมจนตฺถาย วุตฺตตฺตา อวหารํ น วทนฺตีติ.
ปาณกถา นิฏฺิตา.
อปทกถา
อปเทสุ อหิ นาม สสฺสามิโก อหิตุณฺฑิกาทีหิ คหิตสปฺโป; ยํ กีฬาเปนฺตา
อฑฺฒมฺปิ ปาทมฺปิ กหาปณมฺปิ ลภนฺติ, มฺุจนฺตาปิ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา คเหตฺวาว มฺุจนฺติ. เต กสฺสจิ ภิกฺขุโน นิสินฺโนกาสํ คนฺตฺวา สปฺปกรณฺฑํ เปตฺวา นิทฺทายนฺติ วา, กตฺถจิ วา คจฺฉนฺติ, ตตฺร เจ โส ภิกฺขุ เถยฺยจิตฺเตน ตํ กรณฺฑํ อามสติ, ทุกฺกฏํ. ผนฺทาเปติ, ถุลฺลจฺจยํ. านา จาเวติ, ปาราชิกํ. สเจ ปน กรณฺฑกํ อุคฺฆาเฏตฺวา สปฺปํ คีวาย คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อุทฺธรติ, ถุลฺลจฺจยํ. อุชุกํ กตฺวา อุทฺธรนฺตสฺส กรณฺฑตลโต สปฺปสฺส นงฺคุฏฺเ เกสคฺคมตฺเต มุตฺเต ปาราชิกํ. ฆํสิตฺวา กฑฺฒนฺตสฺส นงฺคุฏฺเ มุขวฏฺฏิโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ ¶ . กรณฺฑมุขํ อีสกํ วิวริตฺวา ปหารํ วา ทตฺวา ‘‘เอหิ, เร’’ติ นาเมน ปกฺโกสิตฺวา นิกฺขาเมติ, ปาราชิกํ ¶ . ตเถว วิวริตฺวา มณฺฑูกสทฺทํ วา มูสิกสทฺทํ วา ลาชาวิกิรณํ วา กตฺวา นาเมน ปกฺโกสติ, อจฺฉรํ วา ปหรติ, เอวํ นิกฺขนฺเตปิ ปาราชิกํ. มุขํ อวิวริตฺวาปิ เอวํ กเต ฉาโต สปฺโป สีเสน กรณฺฑปุฏํ อาหจฺจ โอกาสํ กตฺวา ปลายติ, ปาราชิกเมว. สเจ ปน มุเข วิวริเต สยเมว สปฺโป นิกฺขมิตฺวา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถาปิ มุขํ วิวริตฺวา วา อวิวริตฺวา วา เกวลํ มณฺฑูกมูสิกสทฺทํ ลาชาวิกิรณเมว จ กโรติ, น นามํ คเหตฺวา ปกฺโกสติ, น อจฺฉรํ วา ปหรติ, สปฺโป จ ฉาตตฺตา ‘‘มณฺฑูกาทีนิ ขาทิสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. มจฺโฉ เกวลํ อิธ อปทคฺคหเณน อาคโต. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อุทกฏฺเ วุตฺตเมวาติ.
อปทกถา นิฏฺิตา.
ทฺวิปทกถา
๑๑๕. ทฺวิปเทสุ ¶ – เย อวหริตุํ สกฺกา, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘มนุสฺสา ปกฺขชาตา’’ติ อาห. เทวตา ปน อวหริตุํ น สกฺกา. ปกฺขา ชาตา เอเตสนฺติ ปกฺขชาตา. เต โลมปกฺขา จมฺมปกฺขา อฏฺิปกฺขาติ ติวิธา. ตตฺถ โมรกุกฺกุฏาทโย โลมปกฺขา, วคฺคุลิอาทโย จมฺมปกฺขา, ภมราทโย อฏฺิปกฺขาติ เวทิตพฺพา. เต สพฺเพปิ มนุสฺสา จ ปกฺขชาตา จ เกวลํ อิธ ทฺวิปทคฺคหเณน อาคตา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อากาสฏฺเ จ ปาเณ จ วุตฺตนยเมวาติ.
ทฺวิปทกถา นิฏฺิตา.
จตุปฺปทกถา
๑๑๖. จตุปฺปเทสุ – ปสุกาติ ปาฬิยํ อาคตาวเสสา สพฺพา จตุปฺปทชาตีติ เวทิตพฺพา. หตฺถิอาทโย ปากฏาเยว. ตตฺถ เถยฺยจิตฺเตน หตฺถึ อามสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ผนฺทาเปนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ. โย ปน มหาพโล พลมเทน ตรุณํ ภิงฺกจฺฉาปํ นาภิมูเล สีเสน อุจฺจาเรตฺวา คณฺหนฺโต จตฺตาโร ปาเท, โสณฺฑํ จ ภูมิโต เกสคฺคมตฺตมฺปิ โมเจติ, ปาราชิกํ. หตฺถี ปน โกจิ หตฺถิสาลายํ พนฺธิตฺวา ปิโต ¶ โหติ, โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ, โกจิ อนฺโตวตฺถุมฺหิ ¶ ติฏฺติ, โกจิ ราชงฺคเณ ติฏฺติ, ตตฺถ หตฺถิสาลายํ คีวาย พนฺธิตฺวา ปิตสฺส คีวาพนฺธนฺจ จตฺตาโร จ ปาทาติ ปฺจ านานิ โหนฺติ. คีวาย จ เอกสฺมิฺจ ปาเท อยสงฺขลิกาย พทฺธสฺส ฉ านานิ. คีวาย จ ทฺวีสุ จ ปาเทสุ พทฺธสฺส สตฺต านานิ. เตสํ วเสน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ. อพทฺธสฺส สกลา หตฺถิสาลา านํ. ตโต อติกฺกมเน, ปาราชิกํ. อนฺโตวตฺถุมฺหิ ิตสฺส สกลํ อนฺโตวตฺถุเมว านํ. ตสฺส วตฺถุทฺวาราติกฺกมเน ปาราชิกํ. ราชงฺคเณ ิตสฺส สกลนครํ านํ. ตสฺส นครทฺวาราติกฺกมเน ปาราชิกํ. พหินคเร ิตสฺส ิตฏฺานเมว านํ. ตํ หรนฺโต ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. นิปนฺนสฺส เอกเมว านํ. ตํ เถยฺยจิตฺเตน อุฏฺาเปนฺตสฺส อุฏฺิตมตฺเต ปาราชิกํ. อสฺเสปิ อยเมว วินิจฺฉโย. สเจ ปน โส จตูสุ ปาเทสุ พทฺโธ โหติ, อฏฺ านานิ เวทิตพฺพานิ. เอส นโย โอฏฺเปิ.
โคโณปิ ¶ โกจิ เคเห พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ. โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ, โกจิ ปน วเช พนฺธิตฺวา ปิโต โหติ, โกจิ อพทฺโธว ติฏฺติ. ตตฺถ เคเห พนฺธิตฺวา ปิตสฺส จตฺตาโร ปาทา, พนฺธนฺจาติ ปฺจ านานิ; อพทฺธสฺส สกลํ เคหํ. วเชปิ พทฺธสฺส ปฺจ านานิ. อพทฺธสฺส สกโล วโช. ตํ วชทฺวารํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. วชํ ภินฺทิตฺวา หรนฺโต ขณฺฑทฺวารํ อติกฺกาเมติ, ปาราชิกํ. ทฺวารํ วา วิวริตฺวา วชํ วา ภินฺทิตฺวา พหิ ิโต นาเมน ปกฺโกสิตฺวา นิกฺขาเมติ, ปาราชิกํ. สาขาภงฺคํ ทสฺเสตฺวา ปกฺโกสนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ทฺวารํ อวิวริตฺวา วชํ อภินฺทิตฺวา สาขาภงฺคํ จาเลตฺวา ปกฺโกสติ, โคโณ ฉาตตาย วชํ ลงฺเฆตฺวา นิกฺขมติ, ปาราชิกเมว. สเจ ปน ทฺวาเร วิวริเต วเช วา ภินฺเน สยเมว นิกฺขมติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ทฺวารํ วิวริตฺวา วา อวิวริตฺวา วา วชมฺปิ ภินฺทิตฺวา วา อภินฺทิตฺวา วา เกวลํ สาขาภงฺคํ ¶ จาเลติ, น ปกฺโกสติ, โคโณ ฉาตตาย ปทสา วา ลงฺเฆตฺวา วา นิกฺขมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. เอโก มชฺเฌ คาเม พทฺโธ ิโต, เอโก นิปนฺโน. ิตโคณสฺส ปฺจ านานิ โหนฺติ, นิปนฺนสฺส ทฺเว านานิ; เตสํ วเสน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ.
โย ปน นิปนฺนํ อนุฏฺาเปตฺวา ตตฺเถว ฆาเตติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สุปริกฺขิตฺเต ปน ทฺวารยุตฺเต คาเม ิตโคณสฺส สกลคาโม านํ. อปริกฺขิตฺเต ิตสฺส วา จรนฺตสฺส วา ปาเทหิ อกฺกนฺตฏฺานเมว านํ คทฺรภปสุกาสุปิ อยเมว วินิจฺฉโยติ.
จตุปฺปทกถา นิฏฺิตา.
พหุปฺปทกถา
๑๑๗. พหุปฺปเทสุ ¶ – สเจ เอกาย สตปทิยา วตฺถุ ปูรติ, ตํ ปทสา เนนฺตสฺส นวนวุติ ถุลฺลจฺจยานิ, เอกํ ปาราชิกํ. เสสํ วุตฺตนยเมวาติ.
พหุปฺปทกถา นิฏฺิตา.
โอจรกกถา
๑๑๘. โอจรตีติ ¶ โอจรโก, ตตฺถ ตตฺถ อนฺโต อนุปวิสตีติ วุตฺตํ โหติ. โอจริตฺวาติ สลฺลกฺเขตฺวา, อุปธาเรตฺวาติ อตฺโถ. อาจิกฺขตีติ ปรกุเลสุ วา วิหาราทีสุ วา ทุฏฺปิตํ อสํวิหิตารกฺขํ ภณฺฑํ อฺสฺส โจรกมฺมํ กาตุํ ปฏิพลสฺส อาโรเจติ. อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺสาติ อวสฺสํ หาริเย ภณฺเฑ โอจรกสฺส อาณตฺติกฺขเณ อิตรสฺส านาจาวเนติ เอวํ อาปตฺติ อุภินฺนํ ปาราชิกสฺส. โย ปน ‘‘ปุริโส เคเห นตฺถิ, ภณฺฑํ อสุกสฺมึ นาม ปเทเส ปิตํ อสํวิหิตารกฺขํ, ทฺวารํ อสํวุตํ, คตมตฺเตเนว สกฺกา หริตุํ, นตฺถิ นาม โกจิ ปุริสการูปชีวี, โย ตํ คนฺตฺวา หเรยฺยา’’ติอาทินา นเยน ปริยายกถํ กโรติ, ตฺจ สุตฺวา อฺโ ‘‘อหํ ทานิ หริสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา หรติ, ตสฺส านาจาวเน ปาราชิกํ, อิตรสฺส ปน อนาปตฺติ. ปริยาเยน หิ อทินฺนาทานโต มุจฺจตีติ.
โอจรกกถา นิฏฺิตา.
โอณิรกฺขกถา
โอณึ รกฺขตีติ โอณิรกฺโข. โย ปเรน อตฺตโน วสนฏฺาเน อาภตํ ภณฺฑํ ‘‘อิทํ
ตาว, ภนฺเต, มุหุตฺตํ โอโลเกถ, ยาว อหํ อิทํ นาม กิจฺจํ กตฺวา อาคจฺฉามี’’ติ วุตฺโต ¶ รกฺขติ, ตสฺเสตํ อธิวจนํ. เตเนวาห – ‘‘โอณิรกฺโข นาม อาหฏํ ภณฺฑํ โคเปนฺโต’’ติ. ตตฺถ โอณิรกฺโข เยภุยฺเยน พนฺธิตฺวา ลคฺเคตฺวา ปิตภณฺฑํ อโมเจตฺวาว เหฏฺา ปสิพฺพกํ วา ปุฏกํ วา ฉินฺทิตฺวา กิฺจิมตฺตํ คเหตฺวา สิพฺพนาทึ ปุน ปากติกํ กโรติ, ‘‘เอวํ คณฺหิสฺสามี’’ติ อามสนาทีนิ กโรนฺตสฺส อนุรุปา อาปตฺติโย เวทิตพฺพาติ.
โอณิรกฺขกถา นิฏฺิตา.
สํวิทาวหารกถา
สํวิธาย ¶ ¶ อวหาโร สํวิทาวหาโร; อฺมฺสฺตฺติยา กตาวหาโรติ วุตฺตํ โหติ. สํวิทหิตฺวาติ เอกจฺฉนฺทตาย เอกชฺฌาสยตาย สมฺมนฺตยิตฺวาติ อตฺโถ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สมฺพหุลา ภิกฺขู ‘‘อสุกํ นาม เคหํ คนฺตฺวา, ฉทนํ วา ภินฺทิตฺวา, สนฺธึ วา ฉินฺทิตฺวา ภณฺฑํ หริสฺสามา’’ติ สํวิทหิตฺวา คจฺฉนฺติ. เตสุ เอโก ภณฺฑํ อวหรติ. ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. ปริวาเรปิ เจตํ วุตฺตํ –
‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย, ครุภณฺฑํ อวาหรุํ;
ตโย ปาราชิกา, เอโก น ปาราชิโก;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);
ตสฺสายํ อตฺโถ – จตฺตาโร ชนา อาจริยนฺเตวาสิกา ฉมาสกํ ครุภณฺฑํ อาหริตุกามา ชาตา. ตตฺถ อาจริโย ‘‘ตฺวํ เอกํ มาสกํ หร, ตฺวํ เอกํ, ตฺวํ เอกํ, อหํ ตโย หริสฺสามี’’ติ อาห. อนฺเตวาสิเกสุ ปน ปโม ‘‘ตุมฺเห, ภนฺเต, ตโย หรถ, ตฺวํ เอกํ หร, ตฺวํ เอกํ, อหํ เอกํ หริสฺสามี’’ติ อาห. อิตเรปิ ทฺเว เอวเมว อาหํสุ. ตตฺถ อนฺเตวาสิเกสุ เอกเมกสฺส เอเกโก มาสโก สาหตฺถิโก โหติ, เตน เนสํ ทุกฺกฏาปตฺติโย; ปฺจ อาณตฺติกา, เตหิ ติณฺณมฺปิ ปาราชิกํ. อาจริยสฺส ปน ตโย สาหตฺถิกา, เตหิสฺส ถุลฺลจฺจยํ. ตโย อาณตฺติกา, เตหิปิ ถุลฺลจฺจยเมว. อิมสฺมิฺหิ อทินฺนาทานสิกฺขาปเท สาหตฺถิกํ วา อาณตฺติกสฺส, อาณตฺติกํ วา สาหตฺถิกสฺส ¶ องฺคํ น โหติ. สาหตฺถิกํ ปน สาหตฺถิเกเนว กาเรตพฺพํ, อาณตฺติกํ อาณตฺติเกเนว. เตน วุตฺตํ – ‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย…เป… ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ.
อปิจ สํวิทาวหาเร อสมฺโมหตฺถํ ‘‘เอกภณฺฑํ เอกฏฺานํ, เอกภณฺฑํ นานาานํ; นานาภณฺฑํ เอกฏฺานํ, นานาภณฺฑํ นานาาน’’นฺติ อิทมฺปิ จตุกฺกํ อตฺถโต สลฺลกฺเขตพฺพํ. ตตฺถ เอกภณฺฑํ เอกฏฺานนฺติ เอกกุลสฺส อาปณผลเก ปฺจมาสกํ ภณฺฑํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา ภิกฺขู เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉตํ อาหรา’’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. เอกภณฺฑํ ¶ นานาานนฺติ เอกกุลสฺส ปฺจสุ อาปณผลเกสุ เอเกกมาสกํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉเต อาหรา’’ติ, ปฺจมสฺส มาสกสฺส อุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. นานาภณฺฑํ เอกฏฺานนฺติ พหูนํ สนฺตกํ ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ ภณฺฑํ ¶ เอกสฺมึ าเน ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉตํ อาหรา’’ติ, ตสฺสุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกํ. นานาภณฺฑํ นานาานนฺติ ปฺจนฺนํ กุลานํ ปฺจสุ อาปณผลเกสุ เอเกกมาสกํ ทุฏฺปิตํ ทิสฺวา สมฺพหุลา เอกํ อาณาเปนฺติ ‘‘คจฺเฉเต อาหรา’’ติ, ปฺจมสฺส มาสกสฺส อุทฺธาเร สพฺเพสํ ปาราชิกนฺติ.
สํวิทาวหารกถา นิฏฺิตา.
สงฺเกตกมฺมกถา
๑๑๙. สงฺเกตกมฺมนฺติ สฺชานนกมฺมํ; กาลปริจฺเฉทวเสน สฺาณกรณนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ‘‘ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต อชฺช วา ปุเรภตฺตํ อวหรตุ, สฺเว วา, อนาคเต วา สํวจฺฉเร, นตฺถิ วิสงฺเกโต; อุภินฺนมฺปิ โอจรเก วุตฺตนเยเนว ปาราชิกํ. สเจ ปน ‘‘อชฺช ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต สฺเว ปุเรภตฺตํ อวหรติ, ‘‘อชฺชา’’ติ นิยามิตํ ตํ สงฺเกตํ อติกฺกมฺม ปจฺฉา อวหฏํ โหติ. สเจ ‘‘สฺเว ปุเรภตฺตํ อวหรา’’ติ วุตฺเต อชฺช ปุเรภตฺตํ อวหรติ ¶ , ‘‘สฺเว’’ติ นิยามิตํ ตํ สงฺเกตํ อปฺปตฺวา ปุเร อวหฏํ โหติ; เอวํ อวหรนฺตสฺส อวหารกสฺเสว ปาราชิกํ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. ‘‘สฺเว ปุเรภตฺต’’นฺติ วุตฺเต ตทเหว วา สฺเว ปจฺฉาภตฺตํ วา หรนฺโตปิ ตํ สงฺเกตํ ปุเร จ ปจฺฉา จ หรตีติ เวทิตพฺโพ. เอส นโย ปจฺฉาภตฺตรตฺตินฺทิเวสุปิ. ปุริมยาม-มชฺฌิมยาม-ปจฺฉิมยาม-กาฬชุณฺห-มาส-อุตุ-สํวจฺฉราทิวเสนาปิ เจตฺถ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา. ‘‘ปุเรภตฺตํ หรา’’ติ วุตฺเต ‘‘ปุเรภตฺตเมว หริสฺสามี’’ติ วายมนฺตสฺส ปจฺฉาภตฺตํ โหติ; เอตฺถ กถนฺติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ปุเรภตฺตปโยโคว เอโส, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุจฺจตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กาลปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตตฺตา วิสงฺเกตํ, ตสฺมา มูลฏฺโ มุจฺจตี’’ติ.
สงฺเกตกมฺมกถา นิฏฺิตา.
นิมิตฺตกมฺมกถา
๑๒๐. นิมิตฺตกมฺมนฺติ ¶ สฺุปฺปาทนตฺถํ กสฺสจิ นิมิตฺตสฺส กรณํ, ตํ ‘‘อกฺขึ วา นิขณิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ติธา วุตฺตํ. อฺมฺปิ ปเนตฺถ หตฺถลงฺฆน-ปาณิปฺปหารองฺคุลิโผฏน-คีวุนฺนามน-อุกฺกาสนาทิอเนกปฺปการํ ¶ สงฺคเหตพฺพํ. เสสเมตฺถ สงฺเกตกมฺเม วุตฺตนยเมวาติ.
นิมิตฺตกมฺมกถา นิฏฺิตา.
อาณตฺติกถา
๑๒๑. อิทานิ เอเตสฺเวว สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺเมสุ อสมฺโมหตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ โส ตํ มฺมาโน ตนฺติ โส อวหารโก ยํ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตํ, ตํ เอตนฺติ มฺมาโน ตเมว อวหรติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. โส ตํ มฺมาโน อฺนฺติ ยํ อวหราติ วุตฺตํ, ตํ เอตนฺติ มฺมาโน อฺํ ตสฺมึเยว าเน ปิตํ อวหรติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. อฺํ มฺมาโน ตนฺติ อาณาปเกน นิมิตฺตสฺํ กตฺวา วุตฺตภณฺฑํ อปฺปคฺฆํ, อิทํ อฺํ ตสฺเสว สมีเป ปิตํ สารภณฺฑนฺติ เอวํ อฺํ มฺมาโน ตเมว อวหรติ, อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. อฺํ มฺมาโน อฺนฺติ ปุริมนเยเนว อิทํ อฺํ ตสฺเสว สมีเป ปิตํ สารภณฺฑนฺติ ¶ มฺติ, ตฺเจ อฺเมว โหติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ.
อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติอาทีสุ เอโก อาจริโย ตโย พุทฺธรกฺขิต-ธมฺมรกฺขิต-สงฺฆรกฺขิตนามกา อนฺเตวาสิกา ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตีติ อาจริโย กิฺจิ ภณฺฑํ กตฺถจิ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส หรณตฺถาย พุทฺธรกฺขิตํ อาณาเปติ. อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติ คจฺฉ ตฺวํ, พุทฺธรกฺขิต, เอตมตฺถํ ธมฺมรกฺขิตสฺส ปาวท. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตูติ ธมฺมรกฺขิโตปิ สงฺฆรกฺขิตสฺส ปาวทตุ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตูติ เอวํ ตยา อาณตฺเตน ธมฺมรกฺขิเตน อาณตฺโต สงฺฆรกฺขิโต อิตฺถนฺนามํ ภณฺฑํ อวหรตุ, โส หิ อมฺเหสุ วีรชาติโก ปฏิพโล อิมสฺมึ กมฺเมติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. สเจ ปน สา อาณตฺติ ยถาธิปฺปายํ ¶ คจฺฉติ, ยํ ปรโต ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, อาณตฺติกฺขเณ ตเทว โหติ. อถ ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, ยํ ปรโต ‘‘สพฺเพสํ อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตโต อิมสฺส ตงฺขเณเยว ปาราชิกํ โหตีติ อยํ ยุตฺติ สพฺพตฺถ เวทิตพฺพา.
โส อิตรสฺส อาโรเจตีติ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส, ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิตสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวํ วทติ – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ภณฺฑํ อวหร, ตฺวํ กิร อมฺเหสุ จ วีรปุริโส’’’ติ ¶ อาโรเจติ, เอวํ เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. อวหารโก ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘สาธุ หริสฺสามี’’ติ สงฺฆรกฺขิโต สมฺปฏิจฺฉติ. มูลฏฺสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิตมตฺเต อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโตติ. โส ตํ ภณฺฑนฺติ โส เจ สงฺฆรกฺขิโต ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ ชนานํ ปาราชิกํ. น เกวลฺจ จตุนฺนํ, เอเตน อุปาเยน วิสงฺเกตํ อกตฺวา ปรมฺปราย อาณาเปนฺตํ สมณสตํ สมณสหสฺสํ วา โหตุ, สพฺเพสํ ปาราชิกเมว.
ทุติยวาเร – โส อฺํ อาณาเปตีติ โส อาจริเยน อาณตฺโต พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตํ อทิสฺวา วา อวตฺตุกาโม วา หุตฺวา สงฺฆรกฺขิตเมว อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวมาห – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ภณฺฑํ อวหรา’’’ติ อาณาเปติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อาณตฺติยา ตาว พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคณฺหาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน สมฺปฏิจฺฉิเต มูลฏฺสฺเสว ¶ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. สเจ ปน โส ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาณาปกสฺส จ พุทฺธรกฺขิตสฺส, อวหารกสฺส จ สงฺฆรกฺขิตสฺสาติ อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. มูลฏฺสฺส ปน อาจริยสฺส วิสงฺเกตตฺตา ปาราชิเกน อนาปตฺติ. ธมฺมรกฺขิตสฺส อชานนตาย สพฺเพน สพฺพํ อนาปตฺติ. พุทฺธรกฺขิโต ปน ทฺวินฺนํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา อตฺตนา นฏฺโ.
อิโต ปเรสุ จตูสุ อาณตฺติวาเรสุ ปเม ตาว โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉตีติ ภณฺฑฏฺานํ คนฺตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อารกฺขํ ทิสฺวา อวหริตุํ อสกฺโกนฺโต อาคจฺฉติ. ยทา สกฺโกสิ, ตทาติ กึ อชฺเชว อวหฏํ โหติ? คจฺฉ ยทา สกฺโกสิ ตทา นํ อวหราติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน ตํ ภณฺฑํ อวสฺสํ หาริยํ โหติ, อตฺถสาธกเจตนา นาม มคฺคานนฺตรผลสทิสา, ตสฺมา ¶ อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก. สเจปิ อวหารโก สฏฺิวสฺสาติกฺกเมน ตํ ภณฺฑํ อวหรติ, อาณาปโก จ อนฺตราเยว กาลํ วา กโรติ, หีนาย วา อาวตฺตติ; อสฺสมโณว หุตฺวา กาลํ วา กริสฺสติ, หีนาย วา อาวตฺติสฺสติ, อวหารกสฺส ปน อวหารกฺขเณเยว ปาราชิกํ.
ทุติยวาเร – ยสฺมา ตํ สณิกํ วา ภณนฺโต ตสฺส วา พธิรตาย ‘‘มา อวหรี’’ติ
เอตํ วจนํ น สาเวติ, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุตฺโต. ตติยวาเร – ปน สาวิตตฺตา มุตฺโต. จตุตฺถวาเร ¶ – เตน จ สาวิตตฺตา, อิตเรน จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โอรตตฺตา อุโภปิ มุตฺตาติ.
อาณตฺติกถา นิฏฺิตา.
อาปตฺติเภทํ
๑๒๒. อิทานิ ตตฺถ ตตฺถ านา จาวนวเสน วุตฺตสฺส อทินฺนาทานสฺส องฺคํ วตฺถุเภเทน จ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปฺจหิ อากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปฺจหิ อากาเรหีติ ปฺจหิ การเณหิ; ปฺจหิ องฺเคหีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ – อทินฺนํ อาทิยนฺตสฺส ‘‘ปรปริคฺคหิตฺจ โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺเตหิ ปฺจหากาเรหิ ปาราชิกํ โหติ, น ตโต อูเนหีติ. ตตฺริเม ปฺจ อาการา – ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺิตา ¶ , ปริกฺขารสฺส ครุกภาโว, เถยฺยจิตฺตํ, านาจาวนนฺติ. อิโต ปเรหิ ปน ทฺวีหิ วาเรหิ ลหุเก ปริกฺขาเร วตฺถุเภเทน ถุลฺลจฺจยฺจ ทุกฺกฏฺจ ทสฺสิตํ.
๑๒๕. ‘‘ฉหากาเรหี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตวารตฺตเย ปน น สกสฺิตา, น วิสฺสาสคฺคาหิตา, น ตาวกาลิกตา, ปริกฺขารสฺส ครุกภาโว, เถยฺยจิตฺตํ, านาจาวนนฺติ เอวํ ฉ อาการา เวทิตพฺพา. วตฺถุเภเทน ปเนตฺถาปิ ปมวาเร ปาราชิกํ. ทุติยตติเยสุ ถุลฺลจฺจยทุกฺกฏานิ วุตฺตานิ. ตโต ปเรสุ ปน ตีสุ วาเรสุ วิชฺชมาเนปิ วตฺถุเภเท วตฺถุสฺส ปเรหิ อปริคฺคหิตตฺตา ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ. ตตฺร ยเทตํ ‘‘น ¶ จ ปรปริคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อนชฺฌาวุตฺถกํ วา โหตุ ฉฑฺฑิตํ ฉินฺนมูลกํ อสฺสามิกวตฺถุ, อตฺตโน สนฺตกํ วา, อุภยมฺปิ ‘‘น จ ปรปริคฺคหิต’’นฺตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ยสฺมา ปเนตฺถ ปรปริคฺคหิตสฺา จ อตฺถิ, เถยฺยจิตฺเตน จ คหิตํ, ตสฺมา อนาปตฺติ น วุตฺตาติ.
อาปตฺติเภทํ นิฏฺิตํ.
อนาปตฺติเภทํ
๑๓๑. เอวํ วตฺถุวเสน จ จิตฺตวเสน จ อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ สสฺิสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สสฺิสฺสาติ สกสฺิสฺส, ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ¶ อิทํ ภณฺฑ’’นฺติ เอวํ สสฺิสฺส ปรภณฺฑมฺปิ คณฺหโต คหเณ อนาปตฺติ, คหิตํ ปน ปุน ทาตพฺพํ. สเจ สามิเกหิ ‘‘เทหี’’ติ วุตฺโต น เทติ, เตสํ ธุรนิกฺเขเป ปาราชิกํ.
วิสฺสาสคฺคาเหติ วิสฺสาสคฺคหเณปิ อนาปตฺติ. วิสฺสาสคฺคาหลกฺขณํ ปน อิมินา สุตฺเตน ชานิตพฺพํ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคตสฺส วิสฺสาสํ คเหตุํ – สนฺทิฏฺโ จ โหติ, สมฺภตฺโต จ, อาลปิโต จ, ชีวติ จ, คหิเต จ อตฺตมโน’’ติ (มหาว. ๓๕๖). ตตฺถ สนฺทิฏฺโติ ทิฏฺมตฺตกมิตฺโต, สมฺภตฺโตติ ทฬฺหมิตฺโต, อาลปิโตติ ‘‘มม สนฺตกํ ยํ อิจฺฉสิ, ตํ คณฺเหยฺยาสิ, อาปุจฺฉิตฺวา คหเณ การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺโต. ชีวตีติ อนุฏฺานเสยฺยาย สยิโตปิ ยาว ¶ ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทํ น ปาปุณาติ. คหิเต จ อตฺตมโนติ คหิเต ตุฏฺจิตฺโต โหติ, เอวรูปสฺส สนฺตกํ ‘‘คหิเต เม อตฺตมโน ภวิสฺสตี’’ติ ชานนฺเตน คเหตุํ วฏฺฏติ. อนวเสสปริยาทานวเสน เจตานิ ปฺจงฺคานิ วุตฺตานิ. วิสฺสาสคฺคาโห ปน ตีหิ องฺเคหิ รุหติ – สนฺทิฏฺโ, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน; สมฺภตฺโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโน; อาลปิโต, ชีวติ, คหิเต อตฺตมโนติ.
โย ปน น ชีวติ, น จ คหิเต อตฺตมโน โหติ; ตสฺส สนฺตกํ วิสฺสาสคฺคาเหน คหิตมฺปิ ปุน ทาตพฺพํ. ททมาเนน จ มตกธนํ ตาว เย ตสฺส ธเน อิสฺสรา คหฏฺา วา ปพฺพชิตา วา, เตสํ ทาตพฺพํ. อนตฺตมนสฺส สนฺตกํ ตสฺเสว ทาตพฺพํ. โย ปน ปมํเยว ‘‘สุฏฺุ กตํ ตยา มม สนฺตกํ คณฺหนฺเตนา’’ติ วจีเภเทน วา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน วา อนุโมทิตฺวา ปจฺฉา ¶ เกนจิ การเณน กุปิโต, ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โยปิ อทาตุกาโม จิตฺเตน ปน อธิวาเสติ, น กิฺจิ วทติ, โสปิ ปุน ปจฺจาหราเปตุํ น ลภติ. โย ปน ‘‘มยา ตุมฺหากํ สนฺตกํ คหิตํ วา ปริภุตฺตํ วา’’ติ วุตฺเต ‘‘คหิตํ วา โหตุ ปริภุตฺตํ วา, มยา ปน ตํ เกนจิเทว กรณีเยน ปิตํ, ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทติ. อยํ ปจฺจาหราเปตุํ ลภติ.
ตาวกาลิเกติ ‘‘ปฏิทสฺสามิ ปฏิกริสฺสามี’’ติ เอวํ คณฺหนฺตสฺส ตาวกาลิเกปิ คหเณ อนาปตฺติ. คหิตํ ปน สเจ ภณฺฑสามิโก ปุคฺคโล วา คโณ วา ‘‘ตุยฺเหเวตํ โหตู’’ติ อนุชานาติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อนุชานาติ, อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ. สงฺฆสนฺตกํ ปน ปฏิทาตุเมว วฏฺฏติ.
เปตปริคฺคเหติ เอตฺถ ปน เปตฺติวิสเย อุปปนฺนาปิ กาลํ กตฺวา ตสฺมึเยว อตฺตภาเว นิพฺพตฺตาปิ ¶ จาตุมหาราชิกาทโย เทวาปิ สพฺเพ ‘‘เปตา’’ ตฺเวว สงฺขฺยํ คตา, เตสํ ปริคฺคเห อนาปตฺติ. สเจปิ หิ สกฺโก เทวราชา อาปณํ ปสาเรตฺวา นิสินฺโน โหติ, ทิพฺพจกฺขุโก จ ภิกฺขุ ตํ ตฺวา อตฺตโน จีวรตฺถาย สตสหสฺสคฺฆนกมฺปิ สาฏกํ ¶ ตสฺส ‘‘มา คณฺห, มา คณฺหา’’ติ วทนฺตสฺสาปิ คเหตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ. เทวตา ปน อุทฺทิสฺส พลิกมฺมํ กโรนฺเตหิ รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตสาฏเก วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
ติรจฺฉานคตปริคฺคเหติ ติรจฺฉานคตานมฺปิ ปริคฺคเห อนาปตฺติ. สเจปิ หิ นาคราชา วา สุปณฺณมาณวโก วา มนุสฺสรูเปน อาปณํ ปสาเรติ, ตโต จสฺส สนฺตกํ โกจิ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว คเหตฺวา คจฺฉติ, วฏฺฏติ. สีโห วา พฺยคฺโฆ วา มิคมหึสาทโย วธิตฺวา ขาทนฺโต ชิฆจฺฉาปีฬิโต อาทิโตว น วาเรตพฺโพ. อนตฺถมฺปิ หิ กเรยฺย. ยทิ ปน โถเก ขายิเต วาเรตุํ สกฺโกติ, วาเรตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ. เสนาทโยปิ อามิสํ คเหตฺวา คจฺฉนฺเต ปาตาเปตฺวา คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.
ปํสุกูลสฺิสฺสาติ อสฺสามิกํ ‘‘อิทํ ปํสุกูล’’นฺติ เอวํสฺิสฺสาปิ คหเณ อนาปตฺติ. สเจ ปน ตํ สสฺสามิกํ โหติ, อาหราเปนฺเต ทาตพฺพํ ¶ . อุมฺมตฺตกสฺสาติ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการสฺส อุมฺมตฺตกสฺสาปิ อนาปตฺติ. อาทิกมฺมิกสฺสาติ อิธ ธนิโย อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ. อวเสสานํ ปน รชกภณฺฑิกาทิโจรานํ ฉพฺพคฺคิยาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.
อนาปตฺติเภทํ นิฏฺิตํ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปกิณฺณกกถา
สมุฏฺานฺจ กิริยา, อโถ สฺา สจิตฺตกํ;
โลกวชฺชฺจ กมฺมฺจ, กุสลํ เวทนาย จาติ.
อิมสฺมึ ปน ปกิณฺณเก อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – สาหตฺถิกํ กายโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อาณตฺติกํ วาจโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, สาหตฺถิกาณตฺติกํ กายโต จ วาจโต จ จิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยาสมุฏฺานฺจ, กโรนฺโตเยว หิ เอตํ อาปชฺชติ น อกโรนฺโต. ‘‘อทินฺนํ อาทิยามี’’ติ สฺาย อภาเวน มุจฺจนโต สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ ¶ , โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ตุฏฺโ วา ภีโต วา มชฺฌตฺโต วา ตํ อาปชฺชตีติ ติเวทนนฺติ สพฺพํ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
ปกิณฺณกกถา นิฏฺิตา.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๓๒. วินีตวตฺถุกถาสุ ¶ ฉพฺพคฺคิยวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตเมว.
ทุติยวตฺถุมฺหิ – จิตฺตํ นาม ปุถุชฺชนานํ ราคาทิวเสน ปกตึ วิชหิตฺวา ธาวติ สนฺธาวติ วิธาวติ. สเจ ภควา กายวจีทฺวารเภทํ วินาปิ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน อาปตฺตึ ปฺเปยฺย, โก สกฺกุเณยฺย อนาปตฺติกํ อตฺตานํ กาตุํ! เตนาห – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ จิตฺตุปฺปาเท’’ติ. จิตฺตวสิเกน ปน น ภวิตพฺพํ, ปฏิสงฺขานพเลน จิตฺตํ นิวาเรตพฺพเมวาติ.
๑๓๓-๔. อามสน-ผนฺทาปน-านาจาวนวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. ตโต ปรานิ จ เถยฺยจิตฺโต ภูมิโต อคฺคเหสีติ วตฺถุปริโยสานานิ.
๑๓๕. นิรุตฺติปถวตฺถุสฺมึ ๑.๓๒๙ อาทิยีติ คณฺหิ, ‘‘โจโรสิ ตฺว’’นฺติ ปรามสิ. อิตโร ปน ‘‘เกน อวหฏ’’นฺติ วุตฺเต ‘‘มยา อวหฏ’’นฺติ ปุจฺฉาสภาเคน ปฏิฺํ อทาสิ. ยทิ หิ อิตเรน ‘‘เกน คหิตํ, เกน อปนีตํ, เกน ปิต’’นฺติ วุตฺตํ อภวิสฺส, อถ อยมฺปิ ‘‘มยา คหิตํ, อปนีตํ, ปิต’’นฺติ วา วเทยฺย. มุขํ นาม ภฺุชนตฺถาย จ กถนตฺถาย จ กตํ, เถยฺยจิตฺตํ ปน วินา อวหาโร นตฺถิ. เตนาห ภควา – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ นิรุตฺติปเถ’’ติ. โวหารวจนมตฺเต อนาปตฺตีติ อตฺโถ. ตโต ปรํ เวนวตฺถุ ปริโยสานํ สพฺพํ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๓๗. อภินฺนสรีรวตฺถุสฺมึ อธิวตฺโถติ สาฏกตณฺหาย ตสฺมึเยว สรีเร นิพฺพตฺโต. อนาทิยนฺโตติ ตสฺส วจนํ อคณฺหนฺโต, อาทรํ วา อกโรนฺโต. ตํ สรีรํ อุฏฺหิตฺวาติ เปโต อตฺตโน อานุภาเวน ตํ สรีรํ อุฏฺาเปสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตํ สรีรํ อุฏฺหิตฺวา’’ติ. ทฺวารํ ถเกสีติ ภิกฺขุสฺส สุสานสมีเปเยว วิหาโร, ตสฺมา ภีรุกชาติโก ภิกฺขุ ขิปฺปเมว ตตฺถ ปวิสิตฺวา ¶ ทฺวารํ ถเกสิ. ตตฺเถว ปริปตีติ ทฺวาเร ถกิเต เปโต สาฏเก นิราลโย หุตฺวา ตํ สรีรํ ปหาย ยถากมฺมํ คโต, ตสฺมา ตํ สรีรํ ตตฺเถว ปริปติ, ปติตนฺติ วุตฺตํ โหติ.
อภินฺเน สรีเรติ อพฺภุณฺเห อลฺลสรีเร ปํสุกูลํ น คเหตพฺพํ, คณฺหนฺตสฺส เอวรูปา อุปทฺทวา โหนฺติ, ทุกฺกฏฺจ อาปชฺชติ. ภินฺเน ปน ¶ คเหตุํ วฏฺฏติ. กิตฺตาวตา ปน ภินฺนํ โหติ? กาก-กุลล-โสณ-สิงฺคาลาทีหิ มุขตุณฺฑเกน วา ทาาย วา อีสกํ ผาลิตมตฺเตนาปิ. ยสฺส ปน ปตโต ฆํสเนน ฉวิมตฺตํ ฉินฺนํ โหติ, จมฺมํ อจฺฉินฺนํ, เอตํ อภินฺนเมว; จมฺเม ปน ฉินฺเน ภินฺนํ. ยสฺสาปิ สชีวกาเลเยว ปภินฺนา คณฺฑกุฏฺปิฬกา วา วโณ วา โหติ, อิทมฺปิ ภินฺนํ. ตติยทิวสโต ปภุติ อุทฺธุมาตกาทิภาเวน กุณปภาวํ อุปคตมฺปิ ภินฺนเมว. สพฺเพน สพฺพํ ปน อภินฺเนปิ สุสานโคปเกหิ วา อฺเหิ วา มนุสฺเสหิ คาหาเปตุํ วฏฺฏติ. โน เจ อฺํ ลภติ, สตฺถเกน วา เกนจิ วา วณํ กตฺวา คเหตพฺพํ. วิสภาคสรีเร ปน สตึ อุปฏฺเปตฺวา สมณสฺํ อุปฺปาเทตฺวา สีเส วา หตฺถปาทปิฏฺิยํ วา วณํ กตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
กุสสงฺกามนวตฺถุกถา
๑๓๘. ตทนนฺตเร ¶ วตฺถุสฺมึ กุสํ สงฺกาเมตฺวา จีวรํ อคฺคเหสีติ ปุพฺเพ ‘‘อาทิเยยฺยา’’ติ อิมสฺส ปทสฺส อตฺถวณฺณนายํ นามมตฺเตน ทสฺสิเตสุ เถยฺยาวหาร-ปสยฺหาวหาร-ปริกปฺปาวหารปอจฺฉนฺนาวหาร-กุสาวหาเรสุ กุสาวหาเรน อวหรีติ อตฺโถ.
อิเมสํ ปน อวหารานํ เอวํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ – โย หิ โกจิ สสฺสามิกํ ภณฺฑํ รตฺติภาเค วา ทิวสภาเค วา สนฺธิจฺเฉทาทีนิ กตฺวา อทิสฺสมาโน อวหรติ, กูฏมานกูฏกหาปณาทีหิ วา วฺเจตฺวา คณฺหาติ, ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ‘‘เถยฺยาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.
โย ปน ปเร ปสยฺห พลสา อภิภุยฺย, อถ วา ปน สนฺตชฺเชตฺวา ภยํ ทสฺเสตฺวา เตสํ สนฺตกํ คณฺหาติ, ปนฺถฆาต-คามฆาตาทีนิ กโรนฺตา ทามริกโจรา วิย โกธวเสน ปรฆรวิโลปํ กโรนฺตา อตฺตโน ปตฺตพลิโต จ อธิกํ พลกฺกาเรน คณฺหนฺตา ราช-ราชมหามตฺตาทโย วิย; ตสฺเสวํ คณฺหโต อวหาโร ‘‘ปสยฺหาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.
ปริกปฺเปตฺวา ¶ คณฺหโต ปน อวหาโร ‘‘ปริกปฺปาวหาโร’’ติ วุจฺจติ, โส ภณฺฑปริกปฺป-โอกาสปริกปฺปวเสน ทุวิโธ ¶ . ตตฺรายํ ภณฺฑปริกปฺโป – อิเธกจฺโจ สาฏกตฺถิโก อนฺโตคพฺภํ ปวิสิตฺวา ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ สุตฺตํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปตฺวา อนฺธกาเร ปสิพฺพกํ คณฺหาติ, สาฏโก เจ ตตฺร โหติ, อุทฺธาเรเยว ปาราชิกํ. สุตฺตํ เจ โหติ, รกฺขติ. พหิ นีหริตฺวา มฺุจิตฺวา ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวา ปุน อาหริตฺวา ยถาาเน เปติ, รกฺขติเยว. ‘‘สุตฺต’’นฺติ ตฺวาปิ ‘‘ยํ ลทฺธํ, ตํ คเหตพฺพ’’นฺติ คจฺฉติ, ปทวาเรน กาเรตพฺโพ. ภูมิยํ เปตฺวา คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘โจโร, โจโร’’ติ สามิเกหิ ปริยุฏฺิโต ฉฑฺเฑตฺวา ปลายติ, รกฺขติ. สามิกา ตํ ทิสฺวา คณฺหนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. อฺโ เจ โกจิ คณฺหาติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถ นิวตฺเตสุ สามิเกสุ สยเมว ตํ ทิสฺวา ‘‘ปเคเวตํ มยา นีหฏํ, มม ทานิ สนฺตก’’นฺติ คณฺหาติ, รกฺขติ; ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. ‘‘สเจ สุตฺตํ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ สาฏโก, น คณฺหิสฺสามิ. สเจ ¶ สปฺปิ ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามิ; สเจ เตลํ, น คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.
มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘สาฏกตฺถิโกปิ สาฏกปสิพฺพกเมว คเหตฺวา นิกฺขนฺโต พหิ ตฺวา มฺุจิตฺวา ‘สาฏโก อย’นฺติ ทิสฺวา คจฺฉนฺโต ปทุทฺธาเรเนว กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติ ปริกปฺปิตตฺตา ปริกปฺโป ทิสฺสติ, ทิสฺวา หฏตฺตา ปริกปฺปาวหาโร น ทิสฺสติ. มหาอฏฺกถายํ ปน ยํ ปริกปฺปิตํ ตํ อทิฏฺํ ปริกปฺปิตภาเว ิตํเยว อุทฺธรนฺตสฺส อวหาโร วุตฺโต, ตสฺมา ตตฺถ ปริกปฺปาวหาโร ทิสฺสติ. ‘‘ตํ มฺมาโน ตํ อวหรี’’ติ ปาฬิยา จ สเมตีติ. ตตฺถ ยฺวายํ ‘‘สเจ สาฏโก ภวิสฺสติ, คณฺหิสฺสามี’’ติอาทินา นเยน ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ‘‘ภณฺฑปริกปฺโป’’ นาม.
โอกาสปริกปฺโป ปน เอวํ เวทิตพฺโพ – อิเธกจฺโจ โลลภิกฺขุ ปรปริเวณํ วา กุลฆรํ วา อรฺเ กมฺมนฺตสาลํ วา ปวิสิตฺวา ตตฺถ กถาสลฺลาเปน นิสินฺโน กิฺจิ โลภเนยฺยํ ปริกฺขารํ โอโลเกติ, โอโลเกนฺโต จ ปน ทิสฺวา ทฺวารปมุขเหฏฺาปาสาทปริเวณทฺวารโกฏฺกรุกฺขมูลาทิวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ¶ ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา วิจรนฺโต วิย เอเตสํเยว ทสฺสามิ; โน เจ ปสฺสิสฺสนฺติ, หริสฺสามี’’ติ ปริกปฺเปติ. ตสฺส ตํ อาทาย ปริกปฺปิตปริจฺเฉทํ อติกฺกนฺตมตฺเต ปาราชิกํ. สเจ อุปจารสีมํ ปริกปฺเปติ, ตทภิมุโขว คจฺฉนฺโต กมฺมฏฺานาทีนิ มนสิ กโรนฺโต วา อฺวิหิโต วา อสติยา อุปจารสีมํ อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยํ. อถาปิสฺส ตํ านํ ปตฺตสฺส โจโร วา หตฺถี วา วาฬมิโค ¶ วา มหาเมโฆ วา วุฏฺหติ, โส จ ตมฺหา อุปทฺทวา มุจฺจิตุกมฺยตาย สหสา ตํ านํ อติกฺกมติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ยสฺมา มูเลว เถยฺยจิตฺเตน คหิตํ, ตสฺมา น รกฺขติ, อวหาโรเยวา’’ติ วทนฺติ. อยํ ตาว มหาอฏฺกถานโย. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘สเจปิ โส อนฺโตปริจฺเฉเท หตฺถึ วา อสฺสํ วา อภิรุหิตฺวา ตํ เนว ปาเชติ, น ปาชาเปติ; ปริจฺเฉเท อติกฺกนฺเตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ, ภณฺฑเทยฺยเมวา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺร ยฺวายํ ‘‘สเจ มํ เอตฺถนฺตเร ปสฺสิสฺสนฺติ, ทฏฺุกามตาย คเหตฺวา ¶ วิจรนฺโต วิย เอเตสํเยว ทสฺสามี’’ติ ปวตฺโต ปริกปฺโป, อยํ ‘‘โอกาสปริกปฺโป’’ นาม.
เอวมิเมสํ ทฺวินฺนมฺปิ ปริกปฺปานํ วเสน ปริกปฺเปตฺวา คณฺหโต อวหาโร ‘‘ปริกปฺปาวหาโร’’ติ เวทิตพฺโพ.
ปฏิจฺฉาเทตฺวา ปน อวหรณํ ปฏิจฺฉนฺนาวหาโร. โส เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ มนุสฺสานํ อุยฺยานาทีสุ กีฬนฺตานํ วา ปวิสนฺตานํ วา โอมฺุจิตฺวา ปิตํ อลงฺการภณฺฑํ ทิสฺวา ‘‘สเจ โอนมิตฺวา คเหสฺสามิ, ‘กึ สมโณ คณฺหาตี’ติ มํ ชานิตฺวา วิเหเยฺยุ’’นฺติ ปํสุนา วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทติ – ‘‘ปจฺฉา คณฺหิสฺสามี’’ติ, ตสฺส เอตฺตาวตา อุทฺธาโร นตฺถีติ น ตาว อวหาโร โหติ. ยทา ปน เต มนุสฺสา อนฺโตคามํ ปวิสิตุกามา ตํ ภณฺฑกํ วิจินนฺตาปิ อปสฺสิตฺวา ‘‘อิทานิ อนฺธกาโร, สฺเว ชานิสฺสามา’’ติ สาลยา เอว คตา โหนฺติ. อถสฺส ตํ อุทฺธรโต อุทฺธาเร ปาราชิกํ. ‘‘ปฏิจฺฉนฺนกาเลเยว ¶ ตํ มม สนฺตก’’นฺติ สกสฺาย วา ‘‘คตา ทานิ เต, ฉฑฺฑิตภณฺฑํ อิท’’นฺติ ปํสุกูลสฺาย วา คณฺหนฺตสฺส ปน ภณฺฑเทยฺยํ. เตสุ ทุติยทิวเส อาคนฺตฺวา วิจินิตฺวา อทิสฺวา ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา คเตสุปิ คหิตํ ภณฺฑเทยฺยเมว. กสฺมา? ยสฺมา ตสฺส ปโยเคน เตหิ น ทิฏฺํ, โย ปน ตถารูปํ ภณฺฑํ ทิสฺวา ยถาาเน ิตํเยว อปฺปฏิจฺฉาเทตฺวา เถยฺยจิตฺโต ปาเทน อกฺกมิตฺวา กทฺทเม วา วาลิกาย วา ปเวเสติ, ตสฺส ปเวสิตมตฺเตเยว ปาราชิกํ.
กุสํ สงฺกาเมตฺวา ปน อวหรณํ ‘‘กุสาวหาโร’’ติ วุจฺจติ. โสปิ เอวํ เวทิตพฺโพ – โย ภิกฺขุ กุสํ ปาเตตฺวา จีวเร ภาชิยมาเน อตฺตโน โกฏฺาสสฺส สมีเป ิตํ อปฺปคฺฆตรํ วา มหคฺฆตรํ วา สมสมํ วา อคฺเฆน ปรสฺส โกฏฺาสํ หริตุกาโม อตฺตโน โกฏฺาเส ปติตํ กุสทณฺฑกํ ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตตุกาโม อุทฺธรติ, รกฺขติ ตาว. ปรสฺส โกฏฺาเส ปาเตติ, รกฺขเตว. ยทา ปน ตสฺมึ ปติเต ปรสฺส โกฏฺาสโต ปรสฺส กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ, อุทฺธฏมตฺเต ปาราชิโก โหติ. สเจ ปมตรํ ปรโกฏฺาสโต กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ อตฺตโน โกฏฺาเส ¶ ปาเตตุกามตาย อุทฺธาเร รกฺขติ ¶ , ปาตเน รกฺขติ. อตฺตโน โกฏฺาสโต ปน อตฺตโน กุสทณฺฑกํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเรเยว รกฺขติ. ตํ อุทฺธริตฺวา ปรโกฏฺาเส ปาเตนฺตสฺส หตฺถโต มุตฺตมตฺเต ปาราชิกํ.
สเจ ปน ทฺวีสุปิ โกฏฺาเสสุ ปติตทณฺฑเก อทสฺสนํ คเมติ, ตโต อวเสสภิกฺขูสุ คเตสุ อิตโร ‘‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, ทณฺฑโก น ปฺายตี’ติ. ‘มยฺหมฺปิ, อาวุโส, น ปฺายตี’ติ. ‘กตโม ปน, ภนฺเต, มยฺหํ ภาโค’ติ? ‘อยํ ตุยฺหํ ภาโค’’’ติ อตฺตโน ภาคํ ทสฺเสติ, ตสฺมึ วิวทิตฺวา วา อวิวทิตฺวา วา ตํ คณฺหิตฺวา คเต อิตโร ตสฺส ภาคํ อุทฺธรติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สเจปิ เตน ‘‘อหํ มม ภาคํ ตุยฺหํ น เทมิ, ตฺวํ ปน อตฺตโน ภาคํ ตฺวา คณฺหา’’ติ วุตฺเต ‘‘นายํ มมา’’ติ ชานนฺโตปิ ตสฺเสว ภาคํ คณฺหาติ, อุทฺธาเร ปาราชิกํ. สเจ ปน อิตโร ‘‘อยํ ตุยฺหํ ภาโค, อยํ มยฺหํ ภาโคติ กึ อิมินา วิวาเทนา’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘มยฺหํ วา ปตฺโต โหตุ, ตุมฺหากํ วา, โย วรภาโค ตํ ตุมฺเห ¶ คณฺหถา’’ติ วทติ, ทินฺนกํ นาม คหิตํ โหติ, นตฺเถตฺถ อวหาโร. สเจปิ โส วิวาทภีรุโก ภิกฺขุ ‘‘ยํ ตุยฺหํ รุจฺจติ, ตํ คณฺหา’’ติ วุตฺโต อตฺตโน ปตฺตํ วรภาคํ เปตฺวา ลามกํเยว คเหตฺวา คจฺฉติ, ตโต อิตรสฺส วิจินิตาวเสสํ คณฺหนฺตสฺสาปิ อวหาโร นตฺเถวาติ.
อฏฺกถาสุปน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ าเน กุสสงฺกามนวเสน จีวรภาชนียเมว เอกํ อาคตํ, จตุนฺนมฺปิ ปน ปจฺจยานํ อุปฺปตฺติฺจ ภาชนียฺจ นีหริตฺวา ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ เอวฺจ วตฺวา จีวรกฺขนฺธเก‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา สีเวยฺยกํ ทุสฺสยุคํ; ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คหปติจีวรํ อนุชานาตู’’ติ (มหาว. ๓๓๗) อิทํ ชีวกวตฺถุํ อาทึ กตฺวา อุปฺปนฺนจีวรกถา, เสนาสนกฺขนฺธเก ‘‘เตน โข ปน สมเยน ราชคหํ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, มนุสฺสา น สกฺโกนฺติ สงฺฆภตฺตํ กาตุํ, อิจฺฉนฺติ อุทฺเทสภตฺตํ นิมนฺตนํ สลากภตฺตํ ปกฺขิกํ อุโปสถิกํ ปาฏิปทิกํ กาตุ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๕) อิทํ สุตฺตมาทึ กตฺวา ปิณฺฑปาตกถา, เสนาสนกฺขนฺธเกเยว ‘‘เตน โข ปน สมเยน สตฺตรสวคฺคิยา ภิกฺขู อฺตรํ ปจฺจนฺติมํ มหาวิหารํ ปฏิสงฺขโรนฺติ – ‘อิธ มยํ วสฺสํ วสิสฺสามา’ติ. อทฺทสํสุ โข ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สตฺตรสวคฺคิเย ภิกฺขู วิหารํ ปฏิสงฺขโรนฺเต’’ติ (จูฬว. ๓๑๖) อิทํ ฉพฺพคฺคิยวตฺถุํ อาทึ กตฺวา อาคตเสนาสนกถา, ตทวสาเน จ สปฺปิอาทิเภสชฺชกถา วิตฺถาเรน ¶ กถิตา. มยํ ปน ตํ สพฺพํ อาคตาคตฏฺาเนเยว กถยิสฺสาม; เอวํ กถเน การณํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว.
กุสสงฺกามนวตฺถุกถา นิฏฺิตา.
๑๓๙. อิโต ¶ ปรํ ชนฺตาฆรวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๔๐. ปฺจสุ วิฆาสวตฺถูสุ เต ภิกฺขู อนุปสมฺปนฺเนน กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปริภฺุชึสุ. วิฆาสํ ปน คณฺหนฺเตน ขาทิตาวเสสํ ฉฑฺฑิตํ คเหตพฺพํ. ยทิ สกฺโกติ ขาทนฺเต ¶ ฉฑฺฑาเปตฺวา คณฺหิตุํ, เอตมฺปิ วฏฺฏติ. อตฺตคุตฺตตฺถาย ปน ปรานุทฺทยตาย จ น คเหตพฺพํ.
๑๔๑. โอทนขาทนียปูวอุจฺฉุติมฺพรูสกภาชนียวตฺถูสุ อปรสฺส ภาคํ เทหีติ อสนฺตํ ปุคฺคลํ อาห. อมูลกํ อคฺคเหสีติ สามิเกสุ เทนฺเตสุ เอวํ อคฺคเหสิ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสาติ สามิเกหิ ทินฺนํ อคฺคเหสิ; เตนสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. อาปตฺติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺสาติ โย ปนาเนน สมฺปชานมุสาวาโท วุตฺโต, ตสฺมึ ปาจิตฺติยํ อาห; ปรโต เตกฏุลยาคุวตฺถุมฺหิ วิย. คหเณ ปน อยํ วินิจฺฉโย – สงฺฆสฺส สนฺตกํ สมฺมเตน วา อาณตฺเตหิ วา อารามิกาทีหิ ทิยฺยมานํ, คิหีนฺจ สนฺตกํ สามิเกน วา อาณตฺเตน วา ทิยฺยมานํ ‘‘อปรสฺส ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยํ. อฺเน ทิยฺยมานํ คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อสมฺมเตน วา อนาณตฺเตน วา ทิยฺยมาเน ‘‘อปรมฺปิ ภาคํ เทหี’’ติ วตฺวา วา กูฏวสฺสานิ คเณตฺวา วา คณฺหนฺโต ปตฺตจตุกฺเก วิย ตสฺสุทฺธาเรเยว ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. อิตเรหิ ทิยฺยมานํ เอวํ คณฺหโต ภณฺฑเทยฺยํ. สามิเกน ปน ‘‘อิมสฺส เทหี’’ติ ทาปิตํ วา สยํ ทินฺนํ วา สุทินฺนนฺติ อยเมตฺถ สพฺพอฏฺกถาวินิจฺฉยโต สาโร.
๑๔๒-๓. โอทนิยฆราทิวตฺถูสุ – โอทนิยฆรํ นาม วิกฺกายิกภตฺตปจนฆรํ. สูนฆรํ นาม วิกฺกายิกมํสปจนฆรํ. ปูวฆรํ นาม วิกฺกายิกขชฺชกปจนฆรํ. เสสเมตฺถ, ปริกฺขารวตฺถูสุ จ ปากฏเมว.
๑๔๔. ปีวตฺถุสฺมึ ¶ – โส ภิกฺขุ ปริกปฺเปตฺวา ‘‘เอตํ านํ สมฺปตฺตํ คณฺหิสฺสามี’’ติ สงฺกาเมสิ. เตนสฺส สงฺกามเน อวหาโร นตฺถิ. สงฺกาเมตฺวา ปน ปริกปฺปิโตกาสโต คหเณ ปาราชิกํ วุตฺตํ. เอวํ หรนฺโต จ ยทิ ปีเก เถยฺยจิตฺตํ นตฺถิ, ถวิกํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. อถ ¶ ปีเกปิ อตฺถิ, อุโภ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ. ภิสิอาทีนิ ตีณิ วตฺถูนิ ปากฏาเนว.
๑๔๖. วิสฺสาสคฺคาหาทีสุ ¶ ตีสุ วตฺถูสุ คหเณ อนาปตฺติ, อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ. ปิณฺฑาย ปวิฏฺสฺส ปฏิวิโส อนฺโตอุปจารสีมายํ ิตสฺเสว คเหตุํ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ทายกา ‘‘พหิอุปจารฏฺานมฺปิ ภนฺเต, ภาคํ คณฺหถ, อาคนฺตฺวา ปริภฺุชิสฺสนฺตี’’ติ วทนฺติ, เอวํ อนฺโตคามฏฺานมฺปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
๑๔๘-๙. สตฺตสุ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ ปํสุกูลสฺาย คหเณ อนาปตฺติ, อาหราเปนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปริโภเค ปาราชิกํ. ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – สามิกาปิ สาลยา, โจราปิ สาลยา, ปํสุกูลสฺาย ขาทนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อุทฺธาเรเยว อวหาโร, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. สามิกา สาลยา, โจรา นิราลยา, เอเสว นโย. สามิกา นิราลยา, โจรา สาลยา; ‘‘ปุน คณฺหิสฺสามา’’ติ กิสฺมิฺจิเทว คหนฏฺาเน ขิปิตฺวา คตา, เอเสว นโย. อุโภปิ นิราลยา, ปํสุกูลสฺาย ขาทโต อนาปตฺติ, เถยฺยจิตฺเตน ทุกฺกฏํ.
สงฺฆสฺส อมฺพาทีสุ ปน สงฺฆาราเม ชาตํ วา โหตุ, อาเนตฺวา ทินฺนํ วา ปฺจมาสกํ วา อติเรกปฺจมาสกํ วา อคฺฆนกํ อวหรนฺตสฺส ปาราชิกํ. ปจฺจนฺเต โจรุปทฺทเวน คาเมสุ วุฏฺหนฺเตสุ ภิกฺขูปิ วิหาเร ฉฑฺเฑตฺวา ‘‘ปุน อาวสนฺเต ชนปเท อาคมิสฺสามา’’ติ สอุสฺสาหาว คจฺฉนฺติ. ภิกฺขู ตาทิสํ วิหารํ ปตฺวา อมฺพปกฺกาทีนิ ‘‘ฉฑฺฑิตกานี’’ติ ปํสุกูลสฺาย ปริภฺุชนฺติ, อนาปตฺติ; เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชโต อวหาโร โหติ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ.
มหาปจฺจริยํ ¶ ปน สงฺเขปฏฺกถายฺจ อวิเสเสน วุตฺตํ – ‘‘ฉฑฺฑิตวิหาเร ปน ผลาผลํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชโต ปาราชิกํ. กสฺมา? อาคตานาคตานํ สนฺตกตฺตา’’ติ. คณสนฺตเก ปน ปุคฺคลิเก จ สอุสฺสาหมตฺตเมว ปมาณํ. สเจ ปน ตโต อมฺพปกฺกาทึ กุลสงฺคหณตฺถาย เทติ, กุลทูสกทุกฺกฏํ. เถยฺยจิตฺเตน เทนฺโต อคฺเฆน กาเรตพฺโพ. สงฺฆิเกปิ เอเสว นโย. เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ กุลสงฺคหณตฺถาย ¶ ททโต ทุกฺกฏํ, อิสฺสรวตาย ถุลฺลจฺจยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. โน เจ วตฺถุ ปโหติ, อคฺเฆน กาเรตพฺโพ. พหิ อุปจารสีมาย นิสีทิตฺวา อิสฺสรวตาย ปริภฺุชโต คีวา. ฆณฺฏึ ปหริตฺวา กาลํ โฆเสตฺวา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ ขาทิตํ สุขาทิตํ. ฆณฺฏึ อปหริตฺวา กาลเมว โฆเสตฺวา, ฆณฺฏิเมว ปหริตฺวา กาลํ อโฆเสตฺวา, ฆณฺฏิมฺปิ อปหริตฺวา กาลมฺปิ อโฆเสตฺวา อฺเสํ นตฺถิภาวํ ตฺวา ‘‘มยฺหํ ปาปุณาตี’’ติ ขาทิตมฺปิ สุขาทิตเมว. ปุปฺผารามวตฺถุทฺวยํ ปากฏเมว.
๑๕๐. วุตฺตวาทกวตฺถุตฺตเย ¶ วุตฺโต วชฺเชมีติ ตยา วุตฺโต หุตฺวา ‘‘ตว วจเนน วทามี’’ติ อตฺโถ. อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสาติ สามิเกหิ ทินฺนตฺตา อนาปตฺติ. น จ, ภิกฺขเว, ‘‘วุตฺโต วชฺเชมี’’ติ วตฺตพฺโพติ ‘‘อหํ ตยา วุตฺโต หุตฺวา ตว วจเนน วทามี’’ติ เอวํ อฺโ ภิกฺขุ อฺเน ภิกฺขุนา น วตฺตพฺโพติ อตฺโถ. ปริจฺเฉทํ ปน กตฺวา ‘‘อิตฺถนฺนามํ ตว วจเนน คณฺหิสฺสามี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. วุตฺโต วชฺเชหีติ มยา วุตฺโต หุตฺวา มม วจเนน วเทหีติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อิเมสุปิ จ ทฺวีสุ วตฺถูสุ ปริจฺเฉทํ กตฺวา วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอตฺตาวตา หิ อุปารมฺภา มุตฺโต โหตีติ.
๑๕๑-๒. มณิวตฺถุตฺตยสฺส มชฺฌิเม วตฺถุสฺมึ – นาหํ อกลฺลโกติ นาหํ คิลาโนติ อตฺโถ. เสสํ ปากฏเมว.
๑๕๓. สูกรวตฺถุทฺวเย – กิฺจาปิ ปมสฺส ภิกฺขุโน ฉาตชฺฌตฺตํ ทิสฺวา การฺุเน โมจิตตฺตา อนาปตฺติ. สามิเกสุ ปน อสมฺปฏิจฺฉนฺเตสุ ภณฺฑเทยฺยํ, ตาว มหนฺโต วา มตสูกโร อาหริตฺวา ทาตพฺโพ, ตทคฺฆนกํ วา ภณฺฑํ. สเจ ปาสสามิเก กุหิฺจิปิ น ปสฺสติ, ปาสสามนฺตา ตทคฺฆนกํ สาฏกํ วา กาสาวํ วา ถาลกํ วา ยถา เต อาคตา ¶ ปสฺสนฺติ, อีทิเส าเน เปตฺวาว คนฺตพฺพํ, เถยฺยจิตฺเตน ปน โมเจนฺตสฺส ปาราชิกเมว. เอตฺถ จ โกจิ สูกโร ปาสํ ปาเทน กฑฺฒิตฺวา ฉินฺนมตฺเต ปาเส านาจาวนธมฺเมน าเนน ิโต โหติ จณฺฑโสเต พทฺธนาวา ¶ วิย. โกจิ อตฺตโน ธมฺมตาย ิโต, โกจิ นิปนฺโน, โกจิ กูฏปาเสน พทฺโธ โหติ. กูฏปาโส นาม ยสฺส อนฺเต ธนุกํ วา องฺกุสโก วา อฺโ วา โกจิ ทณฺฑโก พทฺโธ โหติ, โย ตตฺถ ตตฺถ รุกฺขาทีสุ ลคฺคิตฺวา สูกรสฺส คมนํ นิวาเรติ. ตตฺร ปาสํ กฑฺฒิตฺวา ิตสฺส เอกเมว านํ ปาสพนฺธนํ, โส หิ ปาเส มุตฺตมตฺเต วา ฉินฺนมตฺเต วา ปลายติ. อตฺตโน ธมฺมตาย ิตสฺส พนฺธนฺจ จตฺตาโร จ ปาทาติ ปฺจ านานิ. นิปนฺนสฺส พนฺธนฺจ สยนฺจาติ ทฺเว านานิ. กูฏปาสพทฺธสฺส ยตฺถ ยตฺถ คจฺฉติ, ตํ ตเทว านํ. ตสฺมา ตํ ตโต ตโต โมเจนฺตา ทสปิ วีสติปิ สตมฺปิ ภิกฺขู ปาราชิกํ อาปชฺชนฺติ. ตตฺถ ตตฺถ อาคตํ ทิสฺวา เอกเมว ทาสํ ปลาเปนฺโต วิย.
ปุริมานํ ปน ติณฺณํ จตุปฺปทกถายํ วุตฺตนเยน ผนฺทาปนานาจาวนานิ เวทิตพฺพานิ. สุนขทฏฺํ สูกรํ วิสฺสชฺชาเปนฺตสฺสาปิ การฺุาธิปฺปาเยน ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. ปาสฏฺานํ ปน สุนขสมีปํ วา อสมฺปตฺตํ ปฏิปถํ คนฺตฺวา ปมเมว ปลาเปนฺตสฺส อวหาโร นตฺถิ. โยปิ พทฺธสูกรสฺส ฆาสฺจ ปานียฺจ ทตฺวา พลํ คาหาเปตฺวา อุกฺกุฏฺึ กโรติ – ‘‘อุตฺรสฺโต ¶ ปลายิสฺสตี’’ติ; โส เจ ปลายติ, ปาราชิกํ. ปาสํ ทุพฺพลํ กตฺวา อุกฺกุฏฺิสทฺเทน ปลาเปนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย.
โย ปน ฆาสฺจ ปานียฺจ ทตฺวา คจฺฉติ, ‘‘พลํ คเหตฺวา ปลายิสฺสตี’’ติ; โส เจ ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยํ. ปาสํ ทุพฺพลํ กตฺวา คจฺฉนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. ปาสสนฺติเก สตฺถํ วา อคฺคึ วา เปติ ‘‘ฉินฺเน วา ทฑฺเฒ วา ปลายิสฺสตี’’ติ. สูกโร ปาสํ จาเลนฺโต ฉินฺเน วา ทฑฺเฒ วา ปลายติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ปาสํ ยฏฺิยา สห ปาเตติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ ¶ , ภณฺฑเทยฺยํ. สูกโร อทูหลปาสาเณหิ อกฺกนฺโต โหติ, ตํ ปลาเปตุกามสฺส อทูหลํ การฺุเน อุกฺขิปโต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. สเจ อุกฺขิตฺตมตฺเต อคนฺตฺวา ปจฺฉา คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. อุกฺขิปิตฺวา ปิตํ อทูหลํ ¶ ปาเตติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. โอปาเต ปติตสูกรมฺปิ การฺุเน อุทฺธรโต ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. โอปาตํ ปูเรตฺวา นาเสติ, ปจฺฉา สูกโร ตํ มทฺทนฺโต คจฺฉติ, ภณฺฑเทยฺยํ. สูเล วิทฺธํ การฺุเน อุทฺธรติ, ภณฺฑเทยฺยํ, เถยฺยจิตฺเตน ปาราชิกํ. สูลํ อุทฺธริตฺวา ฉฑฺเฑติ, ภณฺฑเทยฺยํ.
วิหารภูมิยํ ปน ปาเส วา อทูหลํ วา โอฑฺเฑนฺตา วาเรตพฺพา – ‘‘มิครูปานํ ปฏิสรณฏฺานเมตํ, มา อิธ เอวํ กโรถา’’ติ. สเจ ‘‘หราเปถ, ภนฺเต’’ติ วทนฺติ, หราเปตุํ วฏฺฏติ. อถ สยํ หรนฺติ, สุนฺทรเมว. อถ เนว หรนฺติ, น หริตุํ เทนฺติ, รกฺขํ ยาจิตฺวา หราเปตุํ วฏฺฏติ. มนุสฺสา สสฺสรกฺขณกาเล เขตฺเตสุ ปาเส จ อทูหลปาสาณาทีนิ จ กโรนฺติ – ‘‘มํสํ ขาทนฺตา สสฺสานิ รกฺขิสฺสามา’’ติ. วีติวตฺเต สสฺสกาเล เตสุ อนาลเยสุ ปกฺกนฺเตสุ ตตฺถ พทฺธํ วา ปติตํ วา โมเจตุํ วฏฺฏตีติ.
มิควตฺถุทฺวเยปิ สูกรวตฺถูสุ วุตฺตสทิโสเยว วินิจฺฉโย.
มจฺฉวตฺถุทฺวเยปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – กุมีนมุขํ วิวริตฺวา วา ปจฺฉาปุฏกํ มฺุจิตฺวา วา ปสฺเสน ฉิทฺทํ กตฺวา วา กุมีนโต มจฺเฉ โปเถตฺวา ปลาเปนฺตสฺส ปาราชิกํ. ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสตฺวา เอวํ ปลาเปนฺตสฺสาปิ ปาราชิกํ. สห กุมีเนน อุทฺธรโตปิ ปาราชิกํ. เกวลํ กุมีนมุขํ วิวรติ, ปจฺฉาปุฏกํ มฺุจติ, ฉิทฺทํ วา กโรติ, มจฺฉา ปน อตฺตโน ธมฺมตาย ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยํ. เอวํ กตฺวา ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสติ, มจฺฉา โคจรตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. มุขํ อวิวริตฺวา ปจฺฉาปุฏกํ อมฺุจิตฺวา ¶ ปสฺเสน ฉิทฺทํ อกตฺวา เกวลํ ภตฺตสิตฺถานิ ทสฺเสติ, มจฺฉา ปน ฉาตชฺฌตฺตา สีเสน ปหริตฺวา โอกาสํ กตฺวา โคจรตฺถาย นิกฺขมิตฺวา ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ตุจฺฉกุมีนสฺส มุขํ วา วิวรติ, ปจฺฉาปุฏกํ วา มฺุจติ, ฉิทฺทํ วา กโรติ, อาคตาคตา มจฺฉา ทฺวารํ ปตฺตา ¶ ปุฏกฉิทฺเทหิ ปลายนฺติ, ภณฺฑเทยฺยเมว. ตุจฺฉกุมีนํ คเหตฺวา คุมฺเพ ขิปติ, ภณฺฑเทยฺยเมวาติ. ยาเน ภณฺฑํ ปีเ ถวิกาย สทิสํ.
มํสเปสิวตฺถุมฺหิ ¶ – สเจ อากาเส คณฺหาติ, คหิตฏฺานเมว านํ. ตํ ฉหากาเรหิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา านาจาวนํ เวทิตพฺพํ. เสสเมตฺถ ทารุโคปาลกรชกสาฏกวตฺถูสุ จ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ วุตฺตนเยน วินิจฺฉินิตพฺพํ.
๑๕๕. กุมฺภิวตฺถุสฺมึ – โย สปฺปิเตลาทีนิ อปาทคฺฆนกานิ คเหตฺวา ‘‘น ปุน เอวํ กริสฺสามี’’ติ สํวเร ตฺวา ทุติยทิวสาทีสุปิ ปุน จิตฺเต อุปฺปนฺเน เอวเมว ธุรนิกฺเขปํ กตฺวา ปริภฺุชนฺโต สพฺพมฺปิ ตํ ปริภฺุชติ, เนวตฺถิ ปาราชิกํ. ทุกฺกฏํ วา ถุลฺลจฺจยํ วา อาปชฺชติ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. อยมฺปิ ภิกฺขุ เอวเมวมกาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ ปาราชิกสฺสา’’ติ. ธุรนิกฺเขปํ ปน อกตฺวา ‘‘ทิวเส ทิวเส ปริภฺุชิสฺสามี’’ติ โถกํ โถกมฺปิ ปริภฺุชโต ยสฺมึ ทิวเส ปาทคฺฆนกํ ปูรติ, ตสฺมึ ปาราชิกํ.
สํวิทาวหารวตฺถูนิ สํวิทาวหาเร, มุฏฺิวตฺถูนิ โอทนิยฆราทิวตฺถูสุ ทฺเว วิฆาสวตฺถูนิ อมฺพโจรกาทิวตฺถูสุ วุตฺตวินิจฺฉยนเยน เวทิตพฺพานิ. ทฺเว ติณวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.
๑๕๖. อมฺพภาชาปนาทิวตฺถูสุ เต ภิกฺขู เอกํ คามกาวาสํ ปริจฺฉินฺนภิกฺขุกํ อคมํสุ. ตตฺถ ภิกฺขู ผลาผลํ ปริภฺุชมานาปิ เตสุ อาคเตสุ ‘‘เถรานํ ผลานิ เทถา’’ติ กปฺปิยการเก น อโวจุํ. อถ เต ภิกฺขู ‘‘กึ สงฺฆิกํ อมฺหากํ น ปาปุณาตี’’ติ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาชาเปตฺวา เตสมฺปิ วสฺสคฺเคน ภาคํ ทตฺวา อตฺตนาปิ ปริภฺุชึสุ. เตน เนสํ ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปริโภคตฺถายา’’ติ อาห. ตสฺมา อิทานิปิ ยตฺถ อาวาสิกา อาคนฺตุกานํ น เทนฺติ, ผลวาเร จ สมฺปตฺเต อฺเสํ อตฺถิภาวํ ทิสฺวา โจริกาย อตฺตนาว ขาทนฺติ, ตตฺถ อาคนฺตุเกหิ ¶ ฆณฺฏึ ปหริตฺวา ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
ยตฺถ ปน อาวาสิกา รุกฺเข รกฺขิตฺวา ผลวาเร สมฺปตฺเต ภาเชตฺวา ขาทนฺติ, จตูสุ ปจฺจเยสุ ¶ สมฺมา อุปเนนฺติ, อนิสฺสรา ตตฺถ อาคนฺตุกา. เยปิ รุกฺขา จีวรตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺนา, เตสุปิ อาคนฺตุกา อนิสฺสรา. เอเสว นโย เสสปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺเนสุปิ.
เย ¶ ปน ตถา อนิยมิตา, อาวาสิกา จ เต รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา โจริกาย ปริภฺุชนฺติ, น เตสุ อาวาสิกานํ กติกาย าตพฺพํ. เย ผลปริโภคตฺถาย ทินฺนา, อาวาสิกาปิ เน รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา สมฺมา อุปเนนฺติ, เตสุเยว เตสํ กติกาย าตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน วุตฺตํ – ‘‘จตุนฺนํ ปจฺจยานํ นิยเมตฺวา ทินฺนํ เถยฺยจิตฺเตน ปริภฺุชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. ปริโภควเสเนว ตํ ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ภณฺฑเทยฺยํ. ยํ ปเนตฺถ เสนาสนตฺถาย นิยมิตํ, ตํ ปริโภควเสเนว ภาเชตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยฺจ ภณฺฑเทยฺยฺจา’’ติ.
โอทิสฺส จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน กิลมนฺติ, จีวรํ ปน สุลภํ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ปิณฺฑปาเตปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. เสนาสเนน คิลานปจฺจเยน วา กิลมนฺเตสุ สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลกนกมฺมํ กตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. โอทิสฺส ปิณฺฑปาตตฺถาย คิลานปจฺจยตฺถาย จ ทินฺเนปิ เอเสว นโย. โอทิสฺส เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน ครุภณฺฑํ โหติ, ตํ รกฺขิตฺวา โคเปตฺวา ตทตฺถเมว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ทุพฺภิกฺขํ โหติ, ภิกฺขู ปิณฺฑปาเตน น ยาเปนฺติ. เอตฺถ ราชโรคโจรภยาทีหิ อฺตฺถ คจฺฉนฺตานํ วิหารา ปลุชฺชนฺติ, ตาลนาฬิเกราทิเก วินาเสนฺติ, เสนาสนปจฺจยํ ปน นิสฺสาย ยาเปตุํ สกฺกา โหติ. เอวรูเป กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ เสนาสนชคฺคนตฺถาย ปริโภโค ภควตา อนฺุาโต. ตสฺมา เอกํ วา ทฺเว วา วรเสนาสนานิ เปตฺวา อิตรานิ ลามกโกฏิยา ปิณฺฑปาตตฺถาย วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ. มูลวตฺถุจฺเฉทํ ปน กตฺวา น อุปเนตพฺพํ ¶ .
โย ปน อาราโม จตุปฺปจฺจยตฺถาย นิยเมตฺวา ทินฺโน, ตตฺถ อปโลกนกมฺมํ น กาตพฺพํ. เยน ปน ปจฺจเยน อูนํ, ตทตฺถํ อุปเนตุํ วฏฺฏติ. อาราโม ชคฺคิตพฺโพ, เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตุํ วฏฺฏติ. เย ปน เวตนํ ลภิตฺวา อาราเมเยว เคหํ กตฺวา วสนฺตา รกฺขนฺติ, เต เจ อาคตานํ ภิกฺขูนํ นาฬิเกรํ วา ตาลปกฺกํ วา เทนฺติ, ยํ เตสํ สงฺเฆน อนฺุาตํ โหติ – ‘‘ทิวเส ทิวเส เอตฺตกํ นาม ขาทถา’’ติ ตเทว เต ทาตุํ ลภนฺติ; ตโต อุตฺตริ เตสํ ททนฺตานมฺปิ คเหตุํ น วฏฺฏติ.
โย ¶ ¶ ปน อารามํ เกณิยา คเหตฺวา สงฺฆสฺส จตุปฺปจฺจยตฺถาย กปฺปิยภณฺฑเมว เทติ, อยํ พหุกมฺปิ ทาตุํ ลภติ. เจติยสฺส ปทีปตฺถาย วา ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณตฺถาย วา ทินฺโน อาราโมปิ ปฏิชคฺคิตพฺโพ; เวตนํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺโพ. เวตนฺจ ปเนตฺถ เจติยสนฺตกมฺปิ สงฺฆสนฺตกมฺปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. เอตมฺปิ อารามํ เวตเนน ตตฺเถว วสิตฺวา รกฺขนฺตานฺจ เกณิยา คเหตฺวา กปฺปิยภณฺฑทายกานฺจ ตตฺถ ชาตกผลทานํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ.
อมฺพปาลกาทิวตฺถูสุ – อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, โคปกสฺส ทาเนติ เอตฺถ กตรํ ปน โคปกทานํ วฏฺฏติ, กตรํ น วฏฺฏตีติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ยํ โคปกสฺส ปริจฺฉินฺทิตฺวา ทินฺนํ โหติ – ‘เอตฺตกํ ทิวเส ทิวเส คณฺหา’ติ ตเทว วฏฺฏติ; ตโต อุตฺตริ น วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กึ โคปกานํ ปณฺณํ อาโรเปตฺวา นิมิตฺตสฺํ วา กตฺวา ทินฺนํ อตฺถิ, เอเตสํ หตฺเถ วิสฺสฏฺกสฺส เอเต อิสฺสรา, ตสฺมา ยํ เต เทนฺติ ตํ พหุกมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ. กุรุนฺทฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ – ‘‘มนุสฺสานํ อารามํ วา อฺํ วา ผลาผลํ ทารกา รกฺขนฺติ, เตหิ ทินฺนํ วฏฺฏติ ¶ . อาหราเปตฺวา ปน น คเหตพฺพํ. สงฺฆิเก ปน เจติยสนฺตเก จ เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺเสว ทานํ วฏฺฏติ. เวตเนน รกฺขนฺตสฺส อตฺตโน ภาคมตฺตํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยํ คิหีนํ อารามรกฺขกา ภิกฺขูนํ เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปน อารามโคปกา ยํ อตฺตโน ภติยา ขณฺเฑตฺวา เทนฺติ, เอตํ วฏฺฏติ. โยปิ อุปฑฺฒารามํ วา เกจิเทว รุกฺเข วา ภตึ ลภิตฺวา รกฺขติ, ตสฺสาปิ อตฺตโน ปตฺตรุกฺขโตเยว ทาตุํ วฏฺฏติ. เกณิยา คเหตฺวา รกฺขนฺตสฺส ปน สพฺพมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. เอตํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนโต นานํ, อตฺถโต เอกเมว; ตสฺมา อธิปฺปายํ ตฺวา คเหตพฺพํ.
ทารุวตฺถุมฺหิ – ตาวกาลิโก อหํ ภควาติ ตาวกาลิกจิตฺโต อหํ ภควาติ วตฺตุกาเมน วุตฺตํ, ตาวกาลิกจิตฺโตติ ‘‘ปุน อาหริตฺวา ทสฺสามี’’ติ เอวํจิตฺโต อหนฺติ วุตฺตํ โหติ. ภควา ‘‘ตาวกาลิเก อนาปตฺตี’’ติ อาห.
อยํ ปเนตฺถ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉโย – สเจ สงฺโฆ สงฺฆิกํ กมฺมํ กาเรติ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา, ตโต อาปุจฺฉิตฺวา ตาวกาลิกํ หริตพฺพํ. โย ปน สงฺฆิโก ทพฺพสมฺภาโร อคุตฺโต เทเว วสฺสนฺเต ¶ เตเมติ, อาตเปน สุกฺขติ, ตํ สพฺพมฺปิ อาหริตฺวา อตฺตโน อาวาเส กาตุํ วฏฺฏติ. สงฺโฆ อาหราเปนฺโต อฺเน วา ทพฺพสมฺภาเรน มูเลน วา สฺาเปตพฺโพ. น สกฺกา เจ โหติ สฺาเปตุํ, ‘‘สงฺฆิเกน, ภนฺเต, กตํ สงฺฆิกปริโภเคน วฬฺชถา’’ติ วตฺตพฺพํ. เสนาสนสฺส ปน อยเมว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจปิ ปาสาณตฺถมฺโภ วา รุกฺขตฺถมฺโภ วา ¶ กวาฏํ วา วาตปานํ วา นปฺปโหติ, สงฺฆิกํ ตาวกาลิกํ อาหริตฺวา ปากติกํ กาตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย อฺเสุปิ ทพฺพสมฺภาเรสูติ.
อุทกวตฺถุสฺมึ – ยทา ¶ อุทกํ ทุลฺลภํ โหติ, โยชนโตปิ อฑฺฒโยชนโตปิ อาหรียติ, เอวรูเป ปริคฺคหิตอุทเก อวหาโร. ยโตปิ อาหริมโต วา โปกฺขรณีอาทีสุ ิตโต วา เกวลํ ยาคุภตฺตํ สมฺปาเทนฺติ, ปานียปริโภคฺจ กโรนฺติ, น อฺํ มหาปริโภคํ, ตมฺปิ เถยฺยจิตฺเตน คณฺหโต อวหาโร. ยโต ปน เอกํ วา ทฺเว วา ฆเฏ คเหตฺวา อาสนํ โธวิตุํ, โพธิรุกฺเข สิฺจิตุํ อุทกปูชํ กาตุํ, รชนํ ปจิตุํ ลพฺภติ, ตตฺถ สงฺฆสฺส กติกวเสเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อติเรกํ คณฺหนฺโต, มตฺติกาทีนิ วา เถยฺยจิตฺเตน ปกฺขิปนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ.
สเจ อาวาสิกา กติกวตฺตํ ทฬฺหํ กโรนฺติ, อฺเสํ ภณฺฑกํ โธวิตุํ วา รชิตุํ วา น เทนฺติ, อตฺตนา ปน อฺเสํ อปสฺสนฺตานํ คเหตฺวา สพฺพํ กโรนฺติ, เตสํ กติกาย น าตพฺพํ. ยตฺตกํ เต โธวนฺติ, ตตฺตกํ โธวิตพฺพํ. สเจ สงฺฆสฺส ทฺเว ติสฺโส โปกฺขรณิโย วา อุทกโสณฺฑิโย วา โหนฺติ, กติกา จ กตา ‘‘เอตฺถ นฺหายิตพฺพํ, อิโต ปานียํ คเหตพฺพํ, อิธ สพฺพปริโภโค กาตพฺโพ’’ติ. กติกวตฺเตเนว สพฺพํ กาตพฺพํ. ยตฺถ กติกา นตฺถิ, ตตฺถ สพฺพปริโภโค วฏฺฏตีติ.
มตฺติกาวตฺถุสฺมึ – ยตฺถ มตฺติกา ทุลฺลภา โหติ, นานปฺปการา วา วณฺณมตฺติกา อาหริตฺวา ปิตา, ตตฺถ โถกาปิ ปฺจมาสกํ อคฺฆติ, ตสฺมา ปาราชิกํ. สงฺฆิเก ปน กมฺเม เจติยกมฺเม จ นิฏฺิเต สงฺฆํ อาปุจฺฉิตฺวา วา ตาวกาลิกํ วา คเหตุํ วฏฺฏติ. สุธายปิ จิตฺตกมฺมวณฺเณสุปิ เอเสว นโย.
ติณวตฺถูสุ ¶ – ฌาปิตติเณ านาจาวนสฺส อภาวา ทุกฺกฏํ, ภณฺฑเทยฺยํ ปน โหติ. สงฺโฆ ติณวตฺถุํ ชคฺคิตฺวา สงฺฆิกํ อาวาสํ ฉาเทติ, ปุน กทาจิ ชคฺคิตุํ น สกฺโกติ, อถฺโ เอโก ภิกฺขุ วตฺตสีเสน ชคฺคติ, สงฺฆสฺเสเวตํ. โน เจ ชคฺคติ, สงฺเฆเนโก ¶ ภิกฺขุ วตฺตพฺโพ ‘‘ชคฺคิตฺวา เทหี’’ติ. โส เจ ภาคํ อิจฺฉติ, ภาคํ ทตฺวาปิ ชคฺคาเปตพฺพํ. สเจ ภาคํ วฑฺเฒติ, ทาตพฺพเมว. วฑฺเฒติเยว, ‘‘คจฺฉ ชคฺคิตฺวา สพฺพํ คเหตฺวา อตฺตโน สนฺตกํ เสนาสนํ ฉาเทหี’’ติ วตฺตพฺโพ. กสฺมา? นฏฺเ อตฺโถ นตฺถิ. ททนฺเตหิ ปน สวตฺถุกํ น ทาตพฺพํ ¶ , ครุภณฺฑํ โหติ; ติณมตฺตํ ปน ทาตพฺพํ. ตสฺมึ เจ ชคฺคิตฺวา อตฺตโน เสนาสนํ ฉาเทนฺเต ปุน สงฺโฆ ชคฺคิตุํ ปโหติ, ‘‘ตฺวํ มา ชคฺคิ, สงฺโฆ ชคฺคิสฺสตี’’ติ วตฺตพฺโพติ.
มฺจาทีนิ สตฺต วตฺถูนิ ปากฏาเนว. ปาฬิยํ ปน อนาคตมฺปิ ปาสาณตฺถมฺภํ วา รุกฺขตฺถมฺภํ วา อฺํ วา กิฺจิ ปาทคฺฆนกํ หรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. ปธานฆราทีสุ ฉฑฺฑิตปติตานํ ปริเวณาทีนํ กุฏฺฏมฺปิ ปาการมฺปิ ภินฺทิตฺวา อิฏฺกาทีนิ อวหรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. กสฺมา? สงฺฆิกํ นาม กทาจิ อชฺฌาวสนฺติ, กทาจิ น อชฺฌาวสนฺติ. ปจฺจนฺเต โจรภเยน ชนปเท วุฏฺหนฺเต ฉฑฺฑิตวิหาราทีสุ กิฺจิ ปริกฺขารํ หรนฺตสฺสาปิ เอเสว นโย. เย ปน ตโต ตาวกาลิกํ หรนฺติ, ปุน อาวสิเตสุ จ วิหาเรสุ ภิกฺขู อาหราเปนฺติ, ทาตพฺพํ. สเจปิ ตโต อาหริตฺวา เสนาสนํ กตํ โหติ, ตํ วา ตทคฺฆนกํ วา ทาตพฺพเมว. ‘‘ปุน อาวสิสฺสามา’’ติ อาลยํ อจฺฉินฺทิตฺวา วุฏฺิเตสุ ชนปเทสุ คณสนฺตกํ วา ปุคฺคลิกํ วา คหิตํ โหติ; เต เจ อนุชานนฺติ, ปฏิกมฺเมน กิจฺจํ นตฺถิ. สงฺฆิกํ ปน ครุภณฺฑํ, ตสฺมา ปฏิกมฺมํ กตฺตพฺพเมว.
๑๕๗. วิหารปริโภควตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว.
อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตาวกาลิกํ หริตุนฺติ เอตฺถ โย ภิกฺขุ สงฺฆิกํ มฺจํ วา ปีํ วา ตาวกาลิกํ หริตฺวา อตฺตโน ผาสุกฏฺาเน เอกมฺปิ ทฺเวปิ มาเส สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชติ, อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ เทติ, นปฺปฏิพาหติ ¶ , ตสฺส ตสฺมึ นฏฺเปิ ชิณฺเณปิ โจราวหเฏปิ คีวา น โหติ. วสิตฺวา ปน คจฺฉนฺเตน ยถาาเน เปตพฺพํ. โย ปน ปุคฺคลิกปริโภเคน ปริภฺุชติ, อาคตาคตานํ วุฑฺฒตรานํ น ¶ เทติ, ตสฺมึ นฏฺเ ตสฺส คีวา โหติ. อฺํ ปน อาวาสํ หริตฺวา ปริภฺุชนฺเตน สเจ ตตฺถ วุฑฺฒตโร อาคนฺตฺวา วุฏฺาเปติ, ‘‘มยา อิทํ อสุกาวาสโต นาม อาหฏํ, คจฺฉามิ, นํ ปากติกํ กโรมี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส ภิกฺขุ ‘‘อหํ ปากติกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ตสฺส ภารํ กตฺวาปิ คนฺตุํ วฏฺฏตีติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ.
จมฺปาวตฺถุมฺหิ – เตกฏุลยาคูติ ติลตณฺฑุลมุคฺเคหิ วา ติลตณฺฑุลมาเสหิ วา ติลตณฺฑุลกุลตฺเถหิ วา ติลตณฺฑุเลหิ สทฺธึ ยํกิฺจิ เอกํ อปรณฺณํ ปกฺขิปิตฺวา ตีหิ กตา, เอตํ กิร อิเมหิ ตีหิ จตุภาคอุทกสมฺภินฺเน ขีเร สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ โยเชตฺวา กโรนฺติ.
ราชคหวตฺถุมฺหิ ¶ – มธุโคฬโกติ อติรสกปูโว วุจฺจติ; ‘‘มธุสีสก’’นฺติปิ วทนฺติ. เสสเมตฺถ วตฺถุทฺวเยปิ โอทนภาชนียวตฺถุสฺมึ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๑๕๘. อชฺชุกวตฺถุสฺมึ – เอตทโวจาติ คิลาโน หุตฺวา อโวจ. อายสฺมา อุปาลิ อายสฺมโต อชฺชุกสฺส ปกฺโขติ น อคติคมนวเสน ปกฺโข, อปิ จ โข อนาปตฺติสฺิตาย ลชฺชีอนุคฺคเหน วินยานุคฺคเหน จ เถโร ปกฺโขติ เวทิตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
๑๕๙. พาราณสีวตฺถุสฺมึ – โจเรหิ อุปทฺทุตนฺติ โจเรหิ วิลุตฺตํ. อิทฺธิยา อาเนตฺวา ปาสาเท เปสีติ เถโร กิร ตํ กุลํ โสกสลฺลสมปฺปิตํ อาวฏฺฏนฺตํ วิวฏฺฏนฺตํ ทิสฺวา ตสฺส กุลสฺส อนุกมฺปาย ปสาทานุรกฺขณตฺถาย ธมฺมานุคฺคเหน อตฺตโน อิทฺธิยา ‘‘เตสํเยว ปาสาทํ ทารกานํ สมีเป โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ทารกา ‘‘อมฺหากํ ปาสาโท’’ติ สฺชานิตฺวา อภิรุหึสุ. ตโต เถโร อิทฺธึ ปฏิสํหริ, ปาสาโทปิ ¶ สกฏฺาเนเยว อฏฺาสิ. โวหารวเสน ปน วุตฺตํ ‘‘เต ทารเก อิทฺธิยา อาเนตฺวา ปาสาเท เปสี’’ติ. อิทฺธิวิสเยติ อีทิสาย อธิฏฺานิทฺธิยา อนาปตฺติ. วิกุพฺพนิทฺธิ ปน น วฏฺฏติ.
๑๖๐-๑. อวสาเน วตฺถุทฺวยํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ทุติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตตฺรายํ ¶ อนุสาสนี –
ทุติยํ อทุติเยน, ยํ ชิเนน ปกาสิตํ;
ปราชิตกิเลเสน, ปาราชิกมิทํ อิธ.
สิกฺขาปทํ สมํ เตน, อฺํ กิฺจิ น วิชฺชติ;
อเนกนยโวกิณฺณํ, คมฺภีรตฺถวินิจฺฉยํ.
ตสฺมา วตฺถุมฺหิ โอติณฺเณ, ภิกฺขุนา วินยฺุนา;
วินยานุคฺคเหเนตฺถ, กโรนฺเตน วินิจฺฉยํ.
ปาฬึ ¶ อฏฺกถฺเจว, สาธิปฺปายมเสสโต;
โอคยฺห อปฺปมตฺเตน, กรณีโย วินิจฺฉโย.
อาปตฺติทสฺสนุสฺสาโห, น กตฺตพฺโพ กุทาจนํ;
ปสฺสิสฺสามิ อนาปตฺติ-มิติ กยิราถ มานสํ.
ปสฺสิตฺวาปิ จ อาปตฺตึ, อวตฺวาว ปุนปฺปุนํ;
วีมํสิตฺวาถ วิฺูหิ, สํสนฺทิตฺวา จ ตํ วเท.
กปฺปิเยปิ จ วตฺถุสฺมึ, จิตฺตสฺส ลหุวตฺติโน;
วเสน สามฺคุณา, จวนฺตีธ ปุถุชฺชนา.
ตสฺมา ปรปริกฺขารํ, อาสีวิสมิโวรคํ;
อคฺคึ วิย จ สมฺปสฺสํ, นามเสยฺย วิจกฺขโณติ.
ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถาย
ปโม ภาโค นิฏฺิโต.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วินยปิฏเก
ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา (ทุติโย ภาโค)
๓. ตติยปาราชิกํ
ตติยํ ¶ ¶ ¶ ตีหิ สุทฺเธน, ยํ พุทฺเธน วิภาวิตํ;
ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.
ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;
ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
ปมปฺตฺตินิทานวณฺณนา
๑๖๒. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ เอตฺถ เวสาลิยนฺติ เอวํนามเก อิตฺถิลิงฺควเสน ปวตฺตโวหาเร นคเร. ตฺหิ นครํ ติกฺขตฺตุํ ปาการปริกฺเขปวฑฺฒเนน วิสาลีภูตตฺตา ‘‘เวสาลี’’ติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ จ นครํ สพฺพฺุตปฺปตฺเตเยว สมฺมาสมฺพุทฺเธ สพฺพากาเรน เวปุลฺลํ ปตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ โคจรคามํ ทสฺเสตฺวา นิวาสฏฺาน มาห – ‘‘มหาวเน กูฏาคารสาลาย’’นฺติ. ตตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตํ อโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ. อิทํ ตาทิสํ น โหติ, สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ ¶ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโต กตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉทเนน กตา สพฺพาการสมฺปนฺนา พุทฺธสฺส ภควโต คนฺธกุฏิ เวทิตพฺพา.
อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถตีติ อเนเกหิ การเณหิ อสุภาการสนฺทสฺสนปฺปวตฺตํ กายวิจฺฉนฺทนิยกถํ กเถติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป. ¶ … มุตฺต’’นฺติ. กึ วุตฺตํ โหติ? ภิกฺขเว, อิมสฺมึ พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา จนฺทนํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทีนิ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ. อถ โข ปรมทุคฺคนฺธํ เชคุจฺฉํ อสฺสิรีกทสฺสนํ เกสโลมาทินานปฺปการํ อสุจึเยว ปสฺสติ. ตสฺมา น เอตฺถ ฉนฺโท วา ราโค วา กรณีโย. เยปิ หิ อุตฺตมงฺเค สิรสฺมึ ชาตา เกสา นาม, เตปิ อสุภา เจว อสุจิโน จ ปฏิกฺกูลา จ. โส จ เนสํ อสุภาสุจิปฏิกฺกูลภาโว วณฺณโตปิ สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปีติ ปฺจหิ การเณหิ เวทิตพฺโพ. เอวํ โลมาทีนนฺติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๑๘๒) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อิติ ภควา เอกเมกสฺมึ โกฏฺาเส ปฺจปฺจปฺปเภเทน อเนกปริยาเยน อสุภกถํ กเถติ.
อสุภาย วณฺณํ ภาสตีติ อุทฺธุมาตกาทิวเสน อสุภมาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปทภาชนีเยน ตํ วิภชนฺโต วณฺเณนฺโต สํวณฺเณนฺโต อสุภาย วณฺณํ ภาสติ. อสุภภาวนาย วณฺณํ ภาสตีติ ยา อยํ เกสาทีสุ วา อุทฺธุมาตกาทีสุ วา อชฺฌตฺตพหิทฺธาวตฺถูสุ อสุภาการํ คเหตฺวา ปวตฺตสฺส จิตฺตสฺส ภาวนา วฑฺฒนา ผาติกมฺมํ, ตสฺสา อสุภภาวนาย อานิสํสํ ทสฺเสนฺโต วณฺณํ ภาสติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภภาวนาภิยุตฺโต, ภิกฺขเว ¶ , ภิกฺขุ เกสาทีสุ วา วตฺถูสุ อุทฺธุมาตกาทีสุ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ ¶ ปฏิลภติ. โส ตํ ปมชฺฌานสงฺขาตํ จิตฺตมฺชูสํ นิสฺสาย วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อุตฺตมตฺถํ อรหตฺตํ ปาปุณาตี’’ติ.
ตตฺริมานิ ¶ ปมสฺส ฌานสฺส ทส ลกฺขณานิ – ปาริปนฺถิกโต จิตฺตวิสุทฺธิ, มชฺฌิมสฺส สมาธินิมิตฺตสฺส ปฏิปตฺติ, ตตฺถ จิตฺตปกฺขนฺทนํ, วิสุทฺธสฺส จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, สมถปฺปฏิปนฺนสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, เอกตฺตุปฏฺานสฺส อชฺฌุเปกฺขนํ, ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ตทุปควีริยวาหนฏฺเน อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนาติ.
ตตฺรายํ ปาฬิ – ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – โย ตสฺส ปริปนฺโถ ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ – วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฺปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ ¶ , ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ’.
‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ – ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ ¶ . เตน วุจฺจติ – ‘ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. ‘‘เอวํ ติวิธตฺตคตํ จิตฺตํ ติวิธกลฺยาณกํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ¶ วิตกฺกสมฺปนฺนฺเจว โหติ วิจารสมฺปนฺนฺจ ปีติสมฺปนฺนฺจ สุขสมฺปนฺนฺจ จิตฺตสฺส อธิฏฺานสมฺปนฺนฺจ สทฺธาสมฺปนฺนฺจ วีริยสมฺปนฺนฺจ สติสมฺปนฺนฺจ สมาธิสมฺปนฺนฺจ ปฺาสมฺปนฺนฺจา’’ติ (ปฏิ. โร. ๑.๑๕๘).
อาทิสฺส อาทิสฺส อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสตีติ ‘‘เอวมฺปิ อิตฺถมฺปี’’ติ ปุนปฺปุนํ ววตฺถานํ กตฺวา อาทิสนฺโต อสุภสมาปตฺติยา วณฺณํ ภาสติ, อานิสํสํ กเถติ, คุณํ ปริกิตฺเตติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘อสุภสฺาปริจิเตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, กุกฺกุฏปตฺตํ วา นฺหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียติ; เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อสุภสฺาปริจิเตน ภิกฺขุโน ¶ เจตสา พหุลํ วิหรโต เมถุนธมฺมสมาปตฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุฏติ ปฏิวฏฺฏติ, น สมฺปสารียตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๔๙).
อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุนฺติ อหํ ภิกฺขเว เอกํ อทฺธมาสํ ปฏิสลฺลียิตุํ นิลียิตุํ เอโกว หุตฺวา วิหริตุํ อิจฺฉามีติ อตฺโถ. นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนาติ โย อตฺตนา ปยุตฺตวาจํ อกตฺวา มมตฺถาย สทฺเธสุ กุเลสุ ปฏิยตฺตํ ปิณฺฑปาตํ นีหริตฺวา มยฺหํ อุปนาเมติ, ตํ ปิณฺฑปาตนีหารกํ เอกํ ภิกฺขุํ เปตฺวา นมฺหิ อฺเน เกนจิ ภิกฺขุนา วา คหฏฺเน วา อุปสงฺกมิตพฺโพติ.
กสฺมา ปน เอวมาหาติ? อตีเต กิร ปฺจสตา มิคลุทฺทกา มหตีหิ ทณฺฑวาคุราหิ อรฺํ ปริกฺขิปิตฺวา หฏฺตุฏฺา เอกโตเยว ยาวชีวํ มิคปกฺขิฆาตกมฺเมน ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นิรเย อุปปนฺนา; เต ตตฺถ ปจฺจิตฺวา ปุพฺเพ กเตน เกนจิเทว กุสลกมฺเมน มนุสฺเสสุ อุปปนฺนา กลฺยาณูปนิสฺสยวเสน สพฺเพปิ ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชฺจ อุปสมฺปทฺจ ลภึสุ; เตสํ ตโต มูลากุสลกมฺมโต อวิปกฺกวิปากา อปราปรเจตนา ตสฺมึ อทฺธมาสพฺภนฺตเร อตฺตูปกฺกเมน จ ปรูปกฺกเมน จ ชีวตุปจฺเฉทาย โอกาสมกาสิ, ตํ ภควา อทฺทส. กมฺมวิปาโก นาม น สกฺกา เกนจิ ปฏิพาหิตุํ. เตสุ จ ภิกฺขูสุ ปุถุชฺชนาปิ อตฺถิ โสตาปนฺนสกทาคามีอนาคามีขีณาสวาปิ. ตตฺถ ขีณาสวา อปฺปฏิสนฺธิกา, อิตเร อริยสาวกา ¶ นิยตคติกา สุคติปรายณา, ปุถุชฺชนานํ ปน คติ อนิยตา. อถ ภควา จินฺเตสิ ¶ – ‘‘อิเม อตฺตภาเว ฉนฺทราเคน มรณภยภีตา น สกฺขิสฺสนฺติ คตึ วิโสเธตุํ, หนฺท เนสํ ฉนฺทราคปฺปหานาย อสุภกถํ กเถมิ. ตํ สุตฺวา อตฺตภาเว วิคตจฺฉนฺทราคตาย คติวิโสธนํ กตฺวา สคฺเค ปฏิสนฺธึ คณฺหิสฺสนฺติ. เอวํ เนสํ มม สนฺติเก ปพฺพชฺชา สาตฺถิกา ¶ ภวิสฺสตี’’ติ.
ตโต เตสํ อนุคฺคหาย อสุภกถํ กเถสิ กมฺมฏฺานสีเสน, โน มรณวณฺณสํวณฺณนาธิปฺปาเยน. กเถตฺวา จ ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ มํ อิมํ อทฺธมาสํ ภิกฺขู ปสฺสิสฺสนฺติ, ‘อชฺช เอโก ภิกฺขุ มโต, อชฺช ทฺเว…เป… อชฺช ทสา’ติ อาคนฺตฺวา อาคนฺตฺวา อาโรเจสฺสนฺติ. อยฺจ กมฺมวิปาโก น สกฺกา มยา วา อฺเน วา ปฏิพาหิตุํ. สฺวาหํ ตํ สุตฺวาปิ กึ กริสฺสามิ? กึ เม อนตฺถเกน อนยพฺยสเนน สุเตน? หนฺทาหํ ภิกฺขูนํ อทสฺสนํ อุปคจฺฉามี’’ติ. ตสฺมา เอวมาห – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภิกฺขเว, อทฺธมาสํ ปติสลฺลียิตุํ; นมฺหิ เกนจิ อุปสงฺกมิตพฺโพ อฺตฺร เอเกน ปิณฺฑปาตนีหารเกนา’’ติ.
อปเร ปนาหุ – ‘‘ปรูปวาทวิวชฺชนตฺถํ เอวํ วตฺวา ปฏิสลฺลีโน’’ติ. ปเร กิร ภควนฺตํ อุปวทิสฺสนฺติ – ‘‘อยํ ‘สพฺพฺู, อหํ สทฺธมฺมวรจกฺกวตฺตี’ติ ปฏิชานมาโน อตฺตโนปิ สาวเก อฺมฺํ ฆาเตนฺเต นิวาเรตุํ น สกฺโกติ. กิมฺํ สกฺขิสฺสตี’’ติ? ตตฺถ ปณฺฑิตา วกฺขนฺติ – ‘‘ภควา ปฏิสลฺลานมนุยุตฺโต นยิมํ ปวตฺตึ ชานาติ, โกจิสฺส อาโรจยิตาปิ นตฺถิ, สเจ ชาเนยฺย อทฺธา นิวาเรยฺยา’’ติ. อิทํ ปน อิจฺฉามตฺตํ, ปมเมเวตฺถ การณํ. นาสฺสุธาติ เอตฺถ ‘‘อสฺสุธา’’ติ ปทปูรณมตฺเต อวธารณตฺเถ วา นิปาโต; เนว โกจิ ภควนฺตํ อุปสงฺกมตีติ อตฺโถ.
อเนเกหิ วณฺณสณฺานาทีหิ การเณหิ โวกาโร อสฺสาติ อเนกาการโวกาโร; อเนกาการโวกิณฺโณ อเนกการณสมฺมิสฺโสติ วุตฺตํ โหติ. โก โส? อสุภภาวนานุโยโค, ตํ อเนกาการโวการํ อสุภภาวนานุโยคํ อนุยุตฺตา วิหรนฺตีติ ยุตฺตปยุตฺตา วิหรนฺติ. อฏฺฏียนฺตีติ สเกน กาเยน อฏฺฏา ทุกฺขิตา โหนฺติ ¶ . หรายนฺตีติ ลชฺชนฺติ. ชิคุจฺฉนฺตีติ สฺชาตชิคุจฺฉา โหนฺติ. ทหโรติ ตรุโณ. ยุวาติ โยพฺพเนน สมนฺนาคโต. มณฺฑนกชาติโกติ มณฺฑนกปกติโก. สีสํนฺหาโตติ ¶ สีเสน สทฺธึ นฺหาโต. ทหโร ยุวาติ เจตฺถ ทหรวจเนน ปมโยพฺพนภาวํ ทสฺเสติ. ปมโยพฺพเน หิ สตฺตา วิเสเสน มณฺฑนกชาติกา โหนฺติ. สีสํนฺหาโตติ อิมินา มณฺฑนานุโยคกาลํ. ยุวาปิ หิ กิฺจิ กมฺมํ กตฺวา สํกิลิฏฺสรีโร น ¶ มณฺฑนานุยุตฺโต โหติ; สีสํนฺหาโต ปน โส มณฺฑนเมวานุยฺุชติ. อหิกุณปาทีนิ ทฏฺุมฺปิ น อิจฺฉติ. โส ตสฺมึ ขเณ อหิกุณเปน วา กุกฺกุรกุณเปน วา มนุสฺสกุณเปน วา กณฺเ อาสตฺเตน เกนจิเทว ปจฺจตฺถิเกน อาเนตฺวา กณฺเ พทฺเธน ปฏิมุกฺเกน ยถา อฏฺฏีเยยฺย หราเยยฺย ชิคุจฺเฉยฺย; เอวเมว เต ภิกฺขู สเกน กาเยน อฏฺฏียนฺตา หรายนฺตา ชิคุจฺฉนฺตา โส วิย ปุริโส ตํ กุณปํ วิคตจฺฉนฺทราคตาย อตฺตโน กายํ ปริจฺจชิตุกามา หุตฺวา สตฺถํ อาทาย อตฺตนาปิ อตฺตานํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ. ‘‘ตฺวํ มํ ชีวิตา โวโรเปหิ; อหํ ต’’นฺติ เอวํ อฺมฺมฺปิ ชีวิตา โวโรเปนฺติ.
มิคลณฺฑิกมฺปิ สมณกุตฺตกนฺติ มิคลณฺฑิโกติ ตสฺส นามํ; สมณกุตฺตโกติ สมณเวสธารโก. โส กิร สิขามตฺตํ เปตฺวา สีสํ มุณฺเฑตฺวา เอกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา เอกํ อํเส กตฺวา วิหารํเยว อุปนิสฺสาย วิฆาสาทภาเวน ชีวติ. ตมฺปิ มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทนฺติ. สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต. โนติ อุปโยคพหุวจนํ, สาธุ อาวุโส อมฺเห ชีวิตา โวโรเปหีติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ อริยา เนว ปาณาติปาตํ กรึสุ น สมาทเปสุํ, น สมนฺุา อเหสุํ. ปุถุชฺชนา ปน สพฺพมกํสุ. โลหิตกนฺติ โลหิตมกฺขิตํ. เยน วคฺคุมุทานทีติ วคฺคุมตา โลกสฺส ปฺุสมฺมตา นที. โสปิ กิร ‘‘ตํ ปาปํ ตตฺถ ปวาเหสฺสามี’’ติ สฺาย คโต, นทิยา อานุภาเวน อปฺปมตฺตกมฺปิ ปาปํ ปหีนํ นาม นตฺถิ.
๑๖๓. อหุเทว กุกฺกุจฺจนฺติ เตสุ กิร ภิกฺขูสุ เกนจิปิ กายวิกาโร วา ¶ วจีวิกาโร วา น กโต, สพฺเพ สตา สมฺปชานา ทกฺขิเณน ปสฺเสน นิปชฺชึสุ. ตํ อนุสฺสรโต ตสฺส กุกฺกุจฺจํ อโหสิเยว. อหุ วิปฺปฏิสาโรติ ตสฺเสว กุกฺกุจฺจสฺส สภาวนิยมนตฺถเมตํ วุตฺตํ ¶ . วิปฺปฏิสารกุกฺกุจฺจํ อโหสิ, น วินยกุกฺกุจฺจนฺติ. อลาภา วต เมติอาทิ กุกฺกุจฺจสฺส ปวตฺติอาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ อลาภา วต เมติ อายตึ ทานิ มม หิตสุขลาภา นาม นตฺถีติ อนุตฺถุนาติ. ‘‘น วต เม ลาภา’’ติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘ลาภา เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา, น วต เม ลาภาติ. ทุลฺลทฺธํ วต เมติ กุสลานุภาเวน ลทฺธมฺปิ อิทํ มนุสฺสตฺตํ ทุลฺลทฺธํ วต เม. น วต เม สุลทฺธนฺติอิมินา ปน ตเมวตฺถํ ทฬฺหํ กโรติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – สเจปิ โกจิ ‘‘สุลทฺธํ เต’’ติ วเทยฺย, ตํ มิจฺฉา; น วต เม สุลทฺธนฺติ. อปฺุํ ปสุตนฺติ อปฺุํ อุปจิตํ ชนิตํ วา. กสฺมาติ เจ? โยหํ ภิกฺขู…เป… โวโรเปสินฺติ ¶ . ตสฺสตฺโถ – โย อหํ สีลวนฺเต ตาย เอว สีลวนฺตตาย กลฺยาณธมฺเม อุตฺตมธมฺเม เสฏฺธมฺเม ภิกฺขู ชีวิตา โวโรเปสินฺติ.
อฺตรา มารกายิกาติ นามวเสน อปากฏา เอกา ภุมฺมเทวตา มิจฺฉาทิฏฺิกา มารปกฺขิกา มารสฺสนุวตฺติกา ‘‘เอวมยํ มารเธยฺยํ มารวิสยํ นาติกฺกมิสฺสตี’’ติ จินฺเตตฺวา สพฺพาภรณวิภูสิตา หุตฺวา อตฺตโน อานุภาวํ ทสฺสยมานา อภิชฺชมาเน อุทเก ปถวีตเล จงฺกมมานา วิย อาคนฺตฺวา มิคลณฺฑิกํ สมณกุตฺตกํ เอตทโวจ. สาธุ สาธูติ สมฺปหํสนตฺเถ นิปาโต; ตสฺมา เอว ทฺวิวจนํ ¶ กตํ. อติณฺเณ ตาเรสีติ สํสารโต อติณฺเณ อิมินา ชีวิตาโวโรปเนน ตาเรสิ ปริโมเจสีติ. อยํ กิร เอติสฺสา เทวตาย พาลาย ทุมฺเมธาย ลทฺธิ ‘‘เย น มตา, เต สํสารโต น มุตฺตา. เย มตา, เต มุตฺตา’’ติ. ตสฺมา สํสารโมจกมิลกฺขา วิย เอวํลทฺธิกา หุตฺวา ตมฺปิ ตตฺถ นิโยเชนฺตี เอวมาห. อถ โข มิคลณฺฑิโก สมณกุตฺตโก ตาว ภุสํ อุปฺปนฺนวิปฺปฏิสาโรปิ ตํ เทวตาย อานุภาวํ ทิสฺวา ‘‘อยํ เทวตา เอวมาห – อทฺธา อิมินา อตฺเถน เอวเมว ภวิตพฺพ’’นฺติ นิฏฺํ คนฺตฺวา ‘‘ลาภา กิร เม’’ติอาทีนิ ปริกิตฺตยนฺโต. วิหาเรน วิหารํ ปริเวเณน ปริเวณํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วเทตีติ ตํ ตํ วิหารฺจ ปริเวณฺจ อุปสงฺกมิตฺวา ทฺวารํ วิวริตฺวา อนฺโต ปวิสิตฺวา ภิกฺขู เอวํ วทติ – ‘‘โก อติณฺโณ, กํ ตาเรมี’’ติ?
โหติเยว ¶ ภยนฺติ มรณํ ปฏิจฺจ จิตฺตุตฺราโส โหติ. โหติ ฉมฺภิตตฺตนฺติ หทยมํสํ อาทึ กตฺวา ตสฺมา สรีรจลนํ โหติ; อติภเยน ถทฺธสรีรตฺตนฺติปิ เอเก, ถมฺภิตตฺตฺหิ ฉมฺภิตตฺตนฺติ วุจฺจติ. โลมหํโสติ อุทฺธํิตโลมตา, ขีณาสวา ปน สตฺตสฺุตาย สุทิฏฺตฺตา มรณกสตฺตเมว น ปสฺสนฺติ, ตสฺมา เตสํ สพฺพมฺเปตํ นาโหสีติ เวทิตพฺพํ. เอกมฺปิ ภิกฺขุํ ทฺเวปิ…เป… สฏฺิมฺปิ ภิกฺขู เอกาเหน ชีวิตา โวโรเปสีติ เอวํ คณนวเสน สพฺพานิปิ ตานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ชีวิตา โวโรเปสิ.
๑๖๔. ปฏิสลฺลานา วุฏฺิโตติ เตสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ ชีวิตกฺขยปตฺตภาวํ ตฺวา ตโต เอกีภาวโต วุฏฺิโต ชานนฺโตปิ อชานนฺโต วิย กถาสมุฏฺาปนตฺถํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ. กึ นุ โข อานนฺท ตนุภูโต วิย ภิกฺขุสงฺโฆติ อานนฺท อิโต ปุพฺเพ พหู ภิกฺขู เอกโต อุปฏฺานํ อาคจฺฉนฺติ, อุทฺเทสํ ปริปุจฺฉํ คณฺหนฺติ สชฺฌายนฺติ, เอกปชฺโชโต วิย อาราโม ทิสฺสติ, อิทานิ ปน อทฺธมาสมตฺตสฺส อจฺจเยน ¶ ตนุภูโต วิย ตนุโก มนฺโท ¶ อปฺปโก วิรฬวิรโฬ วิย ชาโต ภิกฺขุสงฺโฆ. กินฺนุ โข การณํ, กึ ทิสาสุ ปกฺกนฺตา ภิกฺขูติ?
อถายสฺมา อานนฺโท กมฺมวิปาเกน เตสํ ชีวิตกฺขยปฺปตฺตึ อสลฺลกฺเขนฺโต อสุภกมฺมฏฺานานุโยคปจฺจยา ปน สลฺลกฺเขนฺโต ‘‘ตถา หิ ปน ภนฺเต ภควา’’ติอาทึ วตฺวา ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา อฺํ กมฺมฏฺานํ ยาจนฺโต ‘‘สาธุ ภนฺเต ภควา’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – สาธุ ภนฺเต ภควา อฺํ การณํ อาจิกฺขตุ, เยน ภิกฺขุสงฺโฆ อรหตฺเต ปติฏฺเหยฺย; มหาสมุทฺทํ โอโรหณติตฺถานิ วิย หิ อฺานิปิ ทสานุสฺสติทสกสิณจตุธาตุววตฺถานพฺรหฺมวิหารานาปานสติปฺปเภทานิ พหูนิ นิพฺพาโนโรหณกมฺมฏฺานานิ สนฺติ. เตสุ ภควา ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อฺตรํ กมฺมฏฺานํ อาจิกฺขตูติ อธิปฺปาโย.
อถ ภควา ตถา กาตุกาโม เถรํ อุยฺโยเชนฺโต ‘‘เตนหานนฺทา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวสาลึ อุปนิสฺสายาติ เวสาลึ อุปนิสฺสาย สมนฺตา คาวุเตปิ อทฺธโยชเนปิ ยาวติกา ภิกฺขู วิหรนฺติ ¶ , เต สพฺเพ สนฺนิปาเตหีติ อตฺโถ. เต สพฺเพ อุปฏฺานสาลายํ สนฺนิปาเตตฺวาติ อตฺตนา คนฺตุํ ยุตฺตฏฺานํ สยํ คนฺตฺวา อฺตฺถ ทหรภิกฺขู ปหิณิตฺวา มุหุตฺเตเนว อนวเสเส ภิกฺขู อุปฏฺานสาลายํ สมูหํ กตฺวา. ยสฺส ทานิ ภนฺเต ภควา กาลํ มฺตีติ เอตฺถ อยมธิปฺปาโย – ภควา ภิกฺขุสงฺโฆ สนฺนิปติโต เอส กาโล ภิกฺขูนํ ธมฺมกถํ กาตุํ, อนุสาสนึ ทาตุํ, อิทานิ ยสฺส ตุมฺเห กาลํ ชานาถ, ตํ กตฺตพฺพนฺติ.
อานาปานสฺสติสมาธิกถา
๑๖๕. อถ โข ภควา…เป… ภิกฺขู อามนฺเตสิ – อยมฺปิ โข ภิกฺขเวติ อามนฺเตตฺวา จ ปน ภิกฺขูนํ อรหตฺตปฺปตฺติยา ปุพฺเพ อาจิกฺขิตอสุภกมฺมฏฺานโต อฺํ ปริยายํ ¶ อาจิกฺขนฺโต ‘‘อานาปานสฺสติสมาธี’’ติ อาห.
อิทานิ ยสฺมา ภควตา ภิกฺขูนํ สนฺตปณีตกมฺมฏฺานทสฺสนตฺถเมว อยํ ปาฬิ วุตฺตา, ตสฺมา อปริหาเปตฺวา อตฺถโยชนากฺกมํ เอตฺถ วณฺณนํ กริสฺสามิ. ตตฺร ‘‘อยมฺปิ โข ภิกฺขเว’’ติ อิมสฺส ตาว ปทสฺส อยํ โยชนา – ภิกฺขเว น เกวลํ อสุภภาวนาเยว กิเลสปฺปหานาย สํวตฺตติ, อปิจ อยมฺปิ โข อานาปานสฺสติสมาธิ…เป… วูปสเมตีติ.
อยํ ¶ ปเนตฺถ อตฺถวณฺณนา – อานาปานสฺสตีติ อสฺสาสปสฺสาสปริคฺคาหิกา สติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘อานนฺติ อสฺสาโส, โน ปสฺสาโส. อปานนฺติ ปสฺสาโส, โน อสฺสาโส. อสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ, ปสฺสาสวเสน อุปฏฺานํ สติ. โย อสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาติ, โย ปสฺสสติ ตสฺสุปฏฺาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐).
สมาธีติ ตาย อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ อุปฺปนฺนา จิตฺเตกคฺคตา; สมาธิสีเสน จายํ เทสนา, น สติสีเสน. ตสฺมา อานาปานสฺสติยา ยุตฺโต สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ, อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต จ. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ ¶ กโต. สนฺโต เจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว, อุภยตฺถ เอวสทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปฺปณีโต วา, อปิจ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต ปฏิเวธสงฺขาตองฺคสนฺตตายปิ อารมฺมณปฺปณีตตายปิ ปณีโต อติตฺติกโร องฺคปฺปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.
อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ¶ ปาเฏกฺโก อาเวณิโก, นตฺเถตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา อาทิมนสิการโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ปน อเสจนโกติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต สภาเวเนว มธุโรติ วทนฺติ. เอวมยํ อเสจนโก จ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฺปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ.
อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ, นิพฺเพธภาคิยตฺตา วา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุฑฺฒิปฺปโต สมุจฺฉินฺทติ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติปิ อตฺโถ.
เสยฺยถาปีติ ¶ โอปมฺมนิทสฺสนเมตํ. คิมฺหานํ ปจฺฉิเม มาเสติ อาสาฬฺหมาเส. อูหตํ รโชชลฺลนฺติ อทฺธมาเส วาตาตปสุกฺขาย โคมหึสาทิปาทปฺปหารสมฺภินฺนาย ปถวิยา อุทฺธํ หตํ อูหตํ อากาเส สมุฏฺิตํ รชฺจ เรณฺุจ. มหา อกาลเมโฆติ สพฺพํ นภํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อุฏฺิโต อาสาฬฺหชุณฺหปกฺเข สกลํ อทฺธมาสํ วสฺสนกเมโฆ. โส หิ อสมฺปตฺเต วสฺสกาเล อุปฺปนฺนตฺตา อกาลเมโฆติ อิธาธิปฺเปโต. านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตีติ ขเณเนว ¶ อทสฺสนํ เนติ, ปถวิยํ สนฺนิสีทาเปติ. เอวเมว โขติ โอปมฺมสมฺปฏิปาทนเมตํ. ตโต ปรํ วุตฺตนยเมว.
อิทานิ กถํ ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ เอตฺถ กถนฺติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนํ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา. ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาย ปุฏฺธมฺมนิทสฺสนํ ¶ . เอส นโย ทุติยปเทปิ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – ภิกฺขเว เกนปกาเรน เกนากาเรน เกน วิธินา ภาวิโต อานาปานสฺสติสมาธิ เกนปกาเรน พหุลีกโต สนฺโต เจว…เป… วูปสเมตีติ.
อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘อิธ ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขูติ ภิกฺขเว อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺเหตฺถ อิธสทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙). เตน วุตฺตํ – ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อรฺคโต วา…เป… สฺุาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ. กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย. อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา; เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา…เป… สฺุาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ ¶ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถา ¶ ¶ ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมฺมํ นโร อิธ;
พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
เอวมสฺเสตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมอาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปน’’นฺติ.
อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ สมฺปาเทตุํ, สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว จ ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ สมฺปาปุณิตุํ, ตสฺมาสฺส อนุรูปํเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ; เอวเมว โยคาวจรสฺส อนุรูปเสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพนฺติ อุปทิสติ. ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุตฺเตน โยคินา กเมน อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ. อยํ ปน ภิกฺขุ ‘‘ทีปิสทิโส’’ติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย ¶ นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ; เอวเมวายํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลฺจ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถาปิ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหตี มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (มิ. ป. ๖.๑.๕);
เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ¶ อรฺคโต วาติ อรฺนฺติ ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) จ ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๓) จ เอวํ วุตฺตลกฺขเณสุ อรฺเสุ อนุรูปํ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโต วาติ รุกฺขสมีปํ คโต. สฺุาคารคโต วาติ สฺุํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนคโตปิ สฺุาคารคโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตมิริยาปถํ อุปทิสนฺโต ‘‘นิสีทตี’’ติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา’’ติอาทิมาห.
ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ อาพนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมํ สรีรํ ¶ อุชุกํ เปตฺวา, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปฺปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ. วุฑฺฒึ ผาตึ อุปคจฺฉติ.
ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. อถ วา ‘‘ปรี’’ติ ปริคฺคหฏฺโ; ‘‘มุข’’นฺติ นิยฺยานฏฺโ; ‘‘สตี’’ติ อุปฏฺานฏฺโ; เตน วุจฺจติ – ‘‘ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ. เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔-๑๖๕) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป – ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ. โส สโตว อสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโตเอว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ¶ เยหากาเรหิ สโตการี โหติ, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต’’ติอาทิมาห. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ – ‘‘โส สโตว อสฺสสติ, สโต ปสฺสสตี’’ติ เอตสฺเสว วิภงฺเค –
‘‘พาตฺตึสาย ¶ อากาเรหิ สโตการี โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสน ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโตการี โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๕).
ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺเตนฺโต. ‘‘อสฺสาโส’’ติ พหิ นิกฺขมนวาโต. ‘‘ปสฺสาโส’’ติ อนฺโต ปวิสนวาโต. สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา อาคตํ.
ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ ¶ คพฺภเสยฺยกานํ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล ปมํ อพฺภนฺตรวาโต พหิ นิกฺขมติ. ปจฺฉา พาหิรวาโต สุขุมํ รชํ คเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสนฺโต ตาลุํ อาหจฺจ นิพฺพายติ. เอวํ ตาว อสฺสาสปสฺสาสา เวทิตพฺพา. ยา ปน เตสํ ทีฆรสฺสตา, สา อทฺธานวเสน เวทิตพฺพา. ยถา หิ โอกาสทฺธานํ ผริตฺวา ิตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ‘‘ทีฆมุทกํ ทีฆา วาลิกา, รสฺสมุทกํ รสฺสา วาลิกา’’ติ วุจฺจติ. เอวํ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา หตฺถิสรีเร อหิสรีเร จ เตสํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวา สณิกเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘ทีฆา’’ติ วุจฺจนฺติ. สุนขสสาทีนํ อตฺตภาวสงฺขาตํ รสฺสํ อทฺธานํ สีฆํ ปูเรตฺวา สีฆเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา ‘‘รสฺสา’’ติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺเสสุ ปน เกจิ หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลทฺธานวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ. เกจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ. ตสฺมา เตสํ กาลวเสน ทีฆมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ เต ทีฆา. อิตฺตรมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ‘‘รสฺสา’’ติ เวทิตพฺพา. ตตฺรายํ ภิกฺขุ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ทีฆํ อสฺสสามิ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ. เอวํ ปชานโต จสฺส เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘กถํ ทีฆํ อสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ อสฺสสามี’ติ ปชานาติ, ทีฆํ ปสฺสสนฺโต ‘ทีฆํ ปสฺสสามี’ติ ¶ ปชานาติ? ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ¶ อสฺสสติ, ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉนฺโท ¶ อุปฺปชฺชติ; ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ, ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ; ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ, ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ…เป… ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺาติ. อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย; อุปฏฺานํ สติ; อนุปสฺสนา าณํ; กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ; สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๖).
เอเสว นโย รสฺสปเทปิ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘ยถา เอตฺถ ‘ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต’ติ วุตฺตํ; เอวมิธ ‘รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสตี’’ติ อาคตํ. ตสฺมา ตสฺส วเสน ยาว ‘‘เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ ตาว โยเชตพฺพํ. เอวมยํ อทฺธานวเสน อิตฺตรวเสน จ อิเมหากาเรหิ อสฺสาสปสฺสาเส ปชานนฺโต ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ‘‘ทีฆํ อสฺสสามี’’ติ ปชานาติ…เป… รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต ‘‘รสฺสํ ปสฺสสามี’’ติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ.
เอวํ ¶ ปชานโต จสฺส –
‘‘ทีโฆ รสฺโส จ อสฺสาโส;
ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;
จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ;
นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโน’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๙; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ¶ ¶ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘อสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ; ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขตีติ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ อสฺสาสกาเย ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. โส มชฺฌเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพมฺปิ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, น กตฺถจิ กิลมติ. ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร; อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ; อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา; อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ. อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเย เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว จ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ; อิโต ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ ‘‘อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติ’’จฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อาการสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามี’’ติอาทินา ¶ นเยน อนาคตวจนวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.
ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต ¶ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
ตตฺเรวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ. โอฬาริกานํ กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต ¶ อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา โหนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา. เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ…เป… วิเจตพฺพาการปฺปตฺตา โหนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;
อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๐; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานูปจาเร สุขุโม; ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน จ ตติยชฺฌานูปจาเร จ ¶ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ ¶ มตํ.
มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานูปจาเร สุขุโม’’ติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานูปจาเรปิ สุขุมตรํ อิจฺฉนฺติ. สพฺเพสํเยว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานูปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานูปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.
วิปสฺสนายํ ¶ ปน อปริคฺคเห ปวตฺโต กายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ปจฺฉิเมน ปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา.
ปฏิสมฺภิทายํ ปนสฺส สทฺธึ โจทนาโสธนาหิ เอวมตฺโถ วุตฺโต – ‘‘กถํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขติ? กตเม กายสงฺขารา? ทีฆํ อสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ. ทีฆํ ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา…เป… รสฺสํ อสฺสาสา…เป… รสฺสํ ปสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสา… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฺปฏิพทฺธา กายสงฺขารา, เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ.
ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส อานมนา วินมนา สนฺนมนา ¶ ปณมนา อิฺชนา ผนฺทนา จลนา กมฺปนา ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ ¶ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ ยา กายสฺส น อานมนา น วินมนา น สนฺนมนา น ปณมนา อนิฺชนา อผนฺทนา อจลนา อกมฺปนา, สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
อิติ ¶ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา น น โหติ, น จ นํ ตํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
ยถา กถํ วิย? เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต ปมํ โอฬาริกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ; เอวเมว ปมํ โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, โอฬาริกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, สุขุมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา ¶ สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ น วิกฺเขปํ คจฺฉติ.
เอวํ ¶ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารนฺติ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย, อุปฏฺานํ สติ, อนุปสฺสนา าณํ. กาโย อุปฏฺานํ โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ, ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ – ‘‘กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนาติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑).
อยํ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ, อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ, ตสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานสฺสติจตุตฺถชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ¶ ปาปุณิตุกาเมน พุทฺธปุตฺเตน ยํ กาตพฺพํ ตํ สพฺพํ อิเธว ตาว อาทิกมฺมิกสฺส กุลปุตฺตสฺส วเสน อาทิโต ปภุติ เอวํ เวทิตพฺพํ. จตุพฺพิธํ ตาว สีลํ วิโสเธตพฺพํ. ตตฺถ ติวิธา วิโสธนา – อนาปชฺชนํ, อาปนฺนวุฏฺานํ, กิเลเสหิ จ อปฺปติปีฬนํ. เอวํ วิสุทฺธสีลสฺส หิ ภาวนา สมฺปชฺชติ. ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตํ โพธิยงฺคณวตฺตํ อุปชฺฌายวตฺตํ อาจริยวตฺตํ ชนฺตาฆรวตฺตํ อุโปสถาคารวตฺตํ ทฺเวอสีติ ขนฺธกวตฺตานิ จุทฺทสวิธํ มหาวตฺตนฺติ อิเมสํ วเสน อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. โย หิ ‘‘อหํ สีลํ รกฺขามิ, กึ อาภิสมาจาริเกน กมฺม’’นฺติ วเทยฺย, ตสฺส สีลํ ปริปูเรสฺสตีติ เนตํ ¶ านํ วิชฺชติ. อาภิสมาจาริกวตฺเต ปน ปริปูเร สีลํ ปริปูรติ, สีเล ปริปูเร สมาธิ คพฺภํ คณฺหาติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาภิสมาจาริกํ ธมฺมํ อปริปูเรตฺวา ‘สีลานิ ปริปูเรสฺสตี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๒๑) วิตฺถาเรตพฺพํ. ตสฺมา เตน ยมฺปิทํ เจติยงฺคณวตฺตาทิ อาภิสมาจาริกสีลํ วุจฺจติ, ตมฺปิ สาธุกํ ปริปูเรตพฺพํ. ตโต –
‘‘อาวาโส ¶ จ กุลํ ลาโภ, คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;
อทฺธานํ าติ อาพาโธ, คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสา’’ติ.
เอวํ วุตฺเตสุ ทสสุ ปลิโพเธสุ โย ปลิโพโธ อตฺถิ, โส อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ.
เอวํ อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตมฺปิ ทุวิธํ โหติ – สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานฺจ ปาริหาริยกมฺมฏฺานฺจ. ตตฺถ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ นาม ภิกฺขุสงฺฆาทีสุ เมตฺตา มรณสฺสติ จ อสุภสฺาติปิ เอเก. กมฺมฏฺานิเกน หิ ภิกฺขุนา ปมํ ตาว ปริจฺฉินฺทิตฺวา สีมฏฺกภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตา ภาเวตพฺพา; ตโต สีมฏฺกเทวตาสุ, ตโต โคจรคาเม อิสฺสรชเน, ตโต ตตฺถ มนุสฺเส อุปาทาย สพฺพสตฺเตสุ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาย สหวาสีนํ มุทุจิตฺตตํ ชเนติ, อถสฺส สุขสํวาสตา โหติ. สีมฏฺกเทวตาสุ เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตาหิ เทวตาหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุสํวิหิตารกฺโข โหติ. โคจรคาเม อิสฺสรชเน เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตสนฺตาเนหิ อิสฺสเรหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุรกฺขิตปริกฺขาโร โหติ. ตตฺถ มนุสฺเสสุ เมตฺตาย ปสาทิตจิตฺเตหิ เตหิ อปริภูโต หุตฺวา วิจรติ. สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจาโร โหติ.
มรณสฺสติยา ปน ‘‘อวสฺสํ มริตพฺพ’’นฺติ จินฺเตนฺโต อเนสนํ ปหาย อุปรูปริวฑฺฒมานสํเวโค ¶ ¶ อโนลีนวุตฺติโก โหติ. อสุภสฺาย ทิพฺเพสุปิ อารมฺมเณสุ ตณฺหา นุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตํ ตยํ เอวํ พหูปการตฺตา ‘‘สพฺพตฺถ อตฺถยิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพ’’นฺติ กตฺวา อธิปฺเปตสฺส จ โยคานุโยคกมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตา ‘‘สพฺพตฺถกกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ.
อฏฺตึสารมฺมเณสุ ปน ยํ ยสฺส จริตานุกูลํ, ตํ ตสฺส นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตา ยถาวุตฺเตเนว นเยน ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติปิ วุจฺจติ. อิธ ปน อิทเมว อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ‘‘ปาริหาริยกมฺมฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน สีลวิโสธนกถํ ปลิโพธุปจฺเฉทกถฺจ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.
เอวํ วิสุทฺธสีเลน ปน อุปจฺฉินฺนปลิโพเธน จ อิทํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺเตน อิมินาว กมฺมฏฺาเนน จตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส พุทฺธปุตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. ตํ อลภนฺเตน อนาคามิสฺส, ตมฺปิ ¶ อลภนฺเตน สกทาคามิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน โสตาปนฺนสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน อานาปานจตุตฺถชฺฌานลาภิสฺส, ตมฺปิ อลภนฺเตน ปาฬิยา อฏฺกถาย จ อสมฺมูฬฺหสฺส วินิจฺฉยาจริยสฺส สนฺติเก อุคฺคเหตพฺพํ. อรหนฺตาทโย หิ อตฺตนา อธิคตมคฺคเมว อาจิกฺขนฺติ. อยํ ปน คหนปเทเส มหาหตฺถิปถํ นีหรนฺโต วิย สพฺพตฺถ อสมฺมูฬฺโห สปฺปายาสปฺปายํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กเถติ.
ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – เตน ภิกฺขุนา สลฺลหุกวุตฺตินา วินยาจารสมฺปนฺเนน วุตฺตปฺปการมาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา วตฺตปฏิปตฺติยา อาราธิตจิตฺตสฺส ตสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. ตตฺริเม ปฺจ สนฺธโย ¶ – อุคฺคโห, ปริปุจฺฉา, อุปฏฺานํ, อปฺปนา, ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ ‘‘อุคฺคโห’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ, ‘‘ปริปุจฺฉา’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนา, ‘‘อุปฏฺานํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ, ‘‘อปฺปนา’’ นาม กมฺมฏฺานปฺปนา, ‘‘ลกฺขณํ’’ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ. ‘‘เอวํลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเติ; ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุกาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา สเจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, ตตฺเถว วสิตพฺพํ. โน เจ ตตฺถ สปฺปายํ โหติ, อาจริยํ อาปุจฺฉิตฺวา สเจ มนฺทปฺโ โยชนปรมํ คนฺตฺวา, สเจ ติกฺขปฺโ ทูรมฺปิ คนฺตฺวา อฏฺารสเสนาสนโทสวิวชฺชิตํ, ปฺจเสนาสนงฺคสมนฺนาคตํ เสนาสนํ อุปคมฺม ตตฺถ วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน ¶ กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อสมฺมุสฺสนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถาโร ปน อิมํ กถามคฺคํ อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) คเหตพฺโพ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิกาตพฺพ’’นฺติ ตตฺรายํ มนสิการวิธิ –
‘‘คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;
วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๒๓; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
‘‘คณนา’’ติ ¶ คณนาเยว. ‘‘อนุพนฺธนา’’ติ อนุวหนา. ‘‘ผุสนา’’ติ ผุฏฺฏฺานํ. ‘‘ปนา’’ติ อปฺปนา. ‘‘สลฺลกฺขณา’’ติ ¶ วิปสฺสนา. ‘‘วิวฏฺฏนา’’ติ มคฺโค. ‘‘ปาริสุทฺธี’’ติ ผลํ. ‘‘เตสฺจ ปฏิปสฺสนา’’ติ ปจฺจเวกฺขณา. ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิกกุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฏฺานํ มนสิกาตพฺพํ. คเณนฺเตน จ ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ, ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ, อนฺตเร ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ, สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนํ อุปริ เนนฺตสฺส คณนานิสฺสิโตว จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ. ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.
คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ. ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ตํ ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอส นโย ‘‘ทฺเว ทฺเว’’ติอาทีสุ. เอวเมว อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ ตํ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ อาทึกตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺเสวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.
อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ ¶ . เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารํ ปตฺตํ ปตฺตํเยว คาวํ ‘‘เอโก ทฺเว’’ติ สกฺขรํ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ ¶ นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปฺุโช ปฺุโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว. เอวมิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโต เตน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคฺคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ¶ , เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ, เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ… นว… ทสา’’ติ สีฆํ สีฆํ คเณตพฺพเมว. คณนาปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนาพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ อริตฺตูปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาปนมิว.
ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรปฺปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ ‘‘นิรนฺตรํ ปวตฺตตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโตปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ วิย โหติ, พหินิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อนฺโต ¶ จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.
กีว จิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิ วิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สณฺปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.
เอวํ คณนาย มนสิกตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิกาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ; ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. พหินิกฺขมนวาตสฺส หิ นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ ปริโยสานํ. อพฺภนฺตรปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาภิ ปริโยสานํ. ตฺจสฺส อนุคจฺฉโต วิกฺเขปคตํ จิตฺตํ สารทฺธาย เจว โหติ อิฺชนาย จ. ยถาห –
‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน ¶ กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๗).
ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน น อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน มนสิกาตพฺพํ. อปิจ โข ผุสนาวเสน จ ปนาวเสน จ มนสิกาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน ¶ วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ. ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ. ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต อปฺปนาวเสน จ ¶ จิตฺตํ เปนฺโต ‘‘อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถายํ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริโกปมาหิ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตกกโจปมาย จ เวทิตพฺโพ.
ตตฺรายํ ปงฺคุโฬปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว โทลตฺถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. เอวเมวายํ ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนตฺถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺถ จ จิตฺตํ เปนฺโต ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ. อยํ ปงฺคุโฬปมา.
อยํ ปน โทวาริโกปมา – ‘‘เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’ติ น วีมํสติ, น หิ ตสฺส เต ภารา. ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ; เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโต ปวิฏฺวาตา จ พหิ นิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ. อยํ โทวาริโกปมา.
กกโจปมา ปน อาทิโตปภุติ เอวํ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ ¶ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙);
กถํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณํ น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ ¶ ? เสยฺยถาปิ รุกฺโข สเม ¶ ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต, ตเมนํ ปุริโส กกเจน ฉินฺเทยฺย, รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ.
ยถา รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต; เอวํ อุปนิพนฺธนนิมิตฺตํ. ยถา กกจทนฺตา; เอวํ อสฺสาสปสฺสาสา. ยถา รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, เอวเมว ภิกฺขุ นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา สตึ อุปฏฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ, น อาคเต วา คเต วา อสฺสาสปสฺสาเส มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา อสฺสาสปสฺสาสา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
ปธานนฺติ กตมํ ปธานํ? อารทฺธวีริยสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ โหติ – อิทํ ปธานํ. กตโม ปโยโค? อารทฺธวีริยสฺส อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมฺมนฺติ – อยํ ปโยโค. กตโม วิเสโส? อารทฺธวีริยสฺส สํโยชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺติ – อยํ วิเสโส. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
‘‘อานาปานสฺสตี ¶ ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;
อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;
โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐);
อยํ กกโจปมา. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ นจิเรเนว นิมิตฺตฺจ ¶ อุปฺปชฺชติ, อวเสสชฺฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ ¶ วิย โหติ. ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ, วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ. อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ, น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ; เอวเมว คณนาวเสน มนสิการกาลโตปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.
ตสฺส โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. กถํ? ยถา ปุริโส มหติยา โลหสลากาย กํสตาฬํ อาโกเฏยฺย, เอกปฺปหาเรน มหาสทฺโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส โอฬาริกสทฺทารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺเตยฺย, นิรุทฺเธ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรสุขุมตมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตเตว; เอวนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑) วิตฺถาโร.
ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ ¶ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ. เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ น เตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา คนฺตพฺพํ. กึ กาตพฺพํ? ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา น วุฏฺาตพฺพํ, อิริยาปถํ ¶ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.
ตตฺรายํ อาหรณูปาโย. เตน หิ ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺหนภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ – ‘‘อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ, กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส วา นตฺถี’’ติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขตา ‘‘อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ มตานํ จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ รูปารูปภวสมงฺคีนํ นิโรธสมาปนฺนาน’’นฺติ ¶ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ – ‘‘นนุ ตฺวํ, ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมอาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน, อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสเนว จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสา ปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ, รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ ปฏฺเปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒). กิฺจาปิ หิ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ, อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานเมว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว ¶ โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.
ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา, สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ; เอวเมว มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.
ยถา ปน กสฺสโก กสึ กสิตฺวา พลิพทฺเท มฺุจิตฺวา โคจราภิมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลิพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑติ. อถ ¶ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา. อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ; เอวเมว เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ¶ ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวฺหิสฺส มนสิกโรโต นจิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ, นิปาตติตฺเถ วิย โคณา. ตโต เตน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุน กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพํ; ตสฺเสวมนุยฺุชโต นจิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ ¶ ; อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย, กปฺปาสปิจุ วิย, วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.
อยํ ปน อฏฺกถาวินิจฺฉโย – อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย, มณิคุฬิกา วิย, มุตฺตาคุฬิกา วิย จ กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย, สารทารุสูจิ วิย จ กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย, กุสุมทามํ วิย, ธูมสิขา วิย จ กสฺสจิ วิตฺถต มกฺกฏกสุตฺตํ วิย, วลาหกปฏลํ วิย, ปทุมปุปฺผํ วิย, รถจกฺกํ วิย, จนฺทมณฺฑลํ วิย, สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ. ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริตรุกฺโข วิยา’’ติ. เตสฺหิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปฺปภวํ ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ อฺเมว อสฺสาสารมฺมณํ จิตฺตํ, อฺํ ปสฺสาสารมฺมณํ, อฺํ นิมิตฺตารมฺมณํ ยสฺส หิ อิเม ตโย ธมฺมา นตฺถิ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ เนว อปฺปนํ น อุปจารํ ปาปุณาติ. ยสฺส ปนิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ, ตสฺเสว กมฺมฏฺานํ อปฺปนฺจ อุปจารฺจ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ ¶ ¶ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนานุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๑);
เอวํ ¶ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ – ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน ‘‘เอตํ นิมิตฺต’’นฺติ วา ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วา น วตฺตพฺพํ. ‘‘เอวํ โหติ, อาวุโส’’ติ วตฺวา ปน ‘‘ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหี’’ติ วตฺตพฺโพ. ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ หิ วุตฺเต โวสานํ อาปชฺเชยฺย; ‘‘น นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺเต นิราโส วิสีเทยฺย. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ อวตฺวา มนสิกาเรเยว นิโยเชตพฺโพติ. เอวํ ตาว ทีฆภาณกา. มชฺฌิมภาณกา ปนาหุ – ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสาติ วตฺตพฺโพ’’ติ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ. เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;
ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๓๒; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);
ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ กิเลสา สนฺนิสินฺนาว สติ อุปฏฺิตาเยว, จิตฺตํ สมาหิตเมว. อิทฺหิ ทฺวีหากาเรหิ จิตฺตํ สมาหิตํ นาม โหหิ – อุปจารภูมิยํ วา นีวรณปฺปหาเนน, ปฏิลาภภูมิยํ วา องฺคปาตุภาเวน. ตตฺถ ‘‘อุปจารภูมี’’ติ อุปจารสมาธิ; ‘‘ปฏิลาภภูมี’’ติ อปฺปนาสมาธิ. เตสํ กึ นานากรณํ? อุปจารสมาธิ กุสลวีถิยํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ, อปฺปนาสมาธิ ทิวสภาเค อปฺเปตฺวา นิสินฺนสฺส ทิวสภาคมฺปิ กุสลวีถิยํ ชวติ, น ภวงฺคํ โอตรติ. อิเมสุ ทฺวีสุ สมาธีสุ นิมิตฺตปาตุภาเวน อุปจารสมาธินา สมาหิตํ จิตฺตํ โหติ ¶ . อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิกาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อปฺปมตฺเตน รกฺขิตพฺพํ; รกฺขิตํ หิสฺส ผลทํ โหติ.
‘‘นิมิตฺตํ รกฺขโต ลทฺธ, ปริหานิ น วิชฺชติ;
อารกฺขมฺหิ อสนฺตมฺหิ, ลทฺธํ ลทฺธํ วินสฺสตี’’ติ.
ตตฺรายํ ¶ รกฺขณูปาโย – เตน ภิกฺขุนา อาวาโส, โคจโร, ภสฺสํ, ปุคฺคโล, โภชนํ, อุตุ, อิริยาปโถติ อิมานิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน ปุนปฺปุนํ ตํ นิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ.
เอวํ ¶ สปฺปายเสวเนน นิมิตฺตํ ถิรํ กตฺวา วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, นิมิตฺตกุสลตา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สปคฺคเหตพฺพ ตสฺมึ สมเย จิตฺตปคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตนิคฺคณฺหนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย สมฺปหํเสตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตสมฺปหํสนา, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตอชฺฌุเปกฺขนา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนา, สมาหิตปุคฺคลเสวนา, ตทธิมุตฺตตาติ อิมานิ ทส อปฺปนาโกสลฺลานิ อวิชหนฺเตน โยโค กรณีโย.
ตสฺเสวํ อนุยุตฺตสฺส วิหรโต อิทานิ อปฺปนา อุปฺปชฺชิสฺสตีติ ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา นิมิตฺตารมฺมณํ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมิฺจ นิรุทฺเธ ตเทวารมฺมณํ คเหตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ, เยสํ ปมํ ปริกมฺมํ, ทุติยํ อุปจารํ, ตติยํ อนุโลมํ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ ¶ , ปฺจมํ อปฺปนาจิตฺตํ. ปมํ วา ปริกมฺมฺเจว อุปจารฺจ, ทุติยํ อนุโลมํ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตนฺติ วุจฺจติ. จตุตฺถเมว หิ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อาสนฺนภวงฺคปาตตฺตา.
อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ปนาห – ‘‘อาเสวนปจฺจเยน กุสลา ธมฺมา พลวนฺโต โหนฺติ; ตสฺมา ฉฏฺํ สตฺตมํ วา อปฺเปตี’’ติ. ตํ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺพภาคจิตฺตานิ กามาวจรานิ โหนฺติ, อปฺปนาจิตฺตํ ปน รูปาวจรํ. เอวมเนน ปฺจงฺควิปฺปหีนํ, ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ, ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ, ติวิธกลฺยาณํ, ปมชฺฌานํ อธิคตํ โหติ. โส ตสฺมึเยวารมฺมเณ วิตกฺกาทโย วูปสเมตฺวา ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาปุณาติ. เอตฺตาวตา จ ปนาวเสน ภาวนาย ปริโยสานปฺปตฺโต โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขปกถา. วิตฺถาโร ปน อิจฺฉนฺเตน วิสุทฺธิมคฺคโต คเหตพฺโพ.
เอวํ ปตฺตจตุตฺถชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ อาวชฺชนสมาปชฺชนอธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณสงฺขาเตหิ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา อรูปปุพฺพงฺคมํ วา รูปํ, รูปปุพฺพงฺคมํ วา อรูปนฺติ รูปารูปํ ¶ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานงฺคานิ ปริคฺคเหตฺวา เตสํ นิสฺสยํ หทยวตฺถุํ ตํ นิสฺสยานิ จ ภูตานิ เตสฺจ นิสฺสยํ สกลมฺปิ ¶ กรชกายํ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ฌานงฺคานิ อรูปํ, วตฺถาทีนิ รูป’’นฺติ รูปารูปํ ววตฺถเปติ.
อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา เกสาทีสุ โกฏฺาเสสุ ปถวีธาตุอาทิวเสน จตฺตาริ ภูตานิ ตํนิสฺสิตรูปานิ จ ปริคฺคเหตฺวา ยถาปริคฺคหิตรูปารมฺมณํ ยถาปริคฺคหิตรูปวตฺถุทฺวารารมฺมณํ วา สสมฺปยุตฺตธมฺมํ ¶ วิฺาณฺจ ปสฺสติ. ตโต ‘‘ภูตาทีนิ รูปํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ วิฺาณํ อรูป’’นฺติ ววตฺถเปติ.
อถ วา สมาปตฺติโต วุฏฺหิตฺวา อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ; เอวเมว กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปํ, จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ อรูปนฺติ ววตฺถเปติ.
เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ, ปริเยสนฺโต จ ตํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ. วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปฏิปทาาณํ ‘‘มคฺโค’’ติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน ภยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกมํ จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส ปริยนฺตปฺปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา จ สมตฺตา โหตีติ.
อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.
อิตเรสุ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ; ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เนสํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปีติปฺปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ – อารมฺมณโต ¶ จ อสมฺโมหโต จ.
กถํ ¶ ¶ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา.
กถํ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ, ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ –
‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… รสฺสํ อสฺสาสวเสน… รสฺสํ ปสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที อสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฺปฏิสํเวที ปสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ, ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. อาวชฺชโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ ชานโต… ปสฺสโต… ปจฺจเวกฺขโต… จิตฺตํ อธิฏฺหโต… สทฺธาย อธิมุจฺจโต… วีริยํ ปคฺคณฺหโต… สตึ อุปฏฺาปยโต… จิตฺตํ สมาทหโต… ปฺาย ปชานโต… อภิฺเยฺยํ อภิชานโต… ปริฺเยฺยํ ปริชานโต… ปหาตพฺพํ ปชหโต… ภาเวตพฺพํ ภาวยโต… สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอวํ สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒).
เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทํ ปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ. ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํเวทิตา จตุนฺนมฺปิ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. ‘‘จิตฺตสงฺขาโร’’ติ เวทนาทโย ทฺเว ขนฺธา. สุขปฺปฏิสํเวทิปเท เจตฺถ วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ ‘‘สุขนฺติ ทฺเว สุขานิ – กายิกฺจ สุขํ เจตสิกฺจา’’ติ ¶ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตํ. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา. สุขปเท สรูเปเนว เวทนา ¶ . ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต ¶ สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ. เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ – สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.
กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ, โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตาย ปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ; เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตกปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา; เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
วิโมจยํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต. ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ¶ ฌานสมฺปยุตฺตกจิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุตฺตํ ¶ – ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ, อนิจฺจตา เวทิตพฺพา, อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา ¶ , อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. ‘‘อนิจฺจตา’’ติ เตสฺเว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ หุตฺวา อภาโว วา นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ อตฺโถ. ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา’’ติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ อนุปสฺสนา; ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี’’ติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต; ตสฺมา เอวํ ภูโต อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ, ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา – ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ‘‘ขยวิราโค’’ติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค; ‘‘อจฺจนฺตวิราโค’’ติ นิพฺพานํ; ‘‘วิราคานุปสฺสนา’’ติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.
ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา – ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา; วิปสฺสนามคฺคานเมตํ อธิวจนํ. วิปสฺสนา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน ¶ จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสโค จาติ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมาณานํ อนุอนุ ปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธาย ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต จ ปสฺสสนฺโต จ ปฏินิสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ภาวิโตติ เอวํ โสฬสหิ อากาเรหิ ภาวิโต. เสสํ วุตฺตนยเมว.
อานาปานสฺสติสมาธิกถา นิฏฺิตา.
๑๖๗. อถ ¶ โข ภควาติอาทิมฺหิ ปน อยํ สงฺเขปตฺโถ. เอวํ ภควา อานาปานสฺสติสมาธิกถาย ภิกฺขู สมสฺสาเสตฺวา อถ ยํ ตํ ตติยปาราชิกปฺตฺติยา นิทานฺเจว ¶ ปกรณฺจ อุปฺปนฺนํ ภิกฺขูนํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนํ, เอตสฺมึ นิทาเน เอตสฺมึ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาเตตฺวา ปฏิปุจฺฉิตฺวา วิครหิตฺวา จ ยสฺมา ตตฺถ อตฺตนา อตฺตานํ ชีวิตา โวโรปนํ มิคลณฺฑิเกน จ โวโรปาปนํ ปาราชิกวตฺถุ น โหติ; ตสฺมา ตํ เปตฺวา ปาราชิกสฺส วตฺถุภูตํ อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปนเมว คเหตฺวา ปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติอาทิมาห. อริยปุคฺคลมิสฺสกตฺตา ปเนตฺถ ‘‘โมฆปุริสา’’ติ อวตฺวา ‘‘เต ภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ.
เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา ตติยปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺตฺตตฺถาย มรณวณฺณสํวณฺณนวตฺถุ อุทปาทิ, ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๑๖๘. ตตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตาติ ฉนฺทราเคน ปฏิพทฺธจิตฺตา; สารตฺตา อเปกฺขวนฺโตติ อตฺโถ. มรณวณฺณํ สํวณฺเณมาติ ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา มรณสฺส ¶ คุณํ วณฺเณม; อานิสํสํ ทสฺเสมาติ. กตกลฺยาโณติอาทีสุ อยํ ปทตฺโถ – กลฺยาณํ สุจิกมฺมํ กตํ ตยาติ ตฺวํ โข อสิ กตกลฺยาโณ. ตถา กุสลํ อนวชฺชกมฺมํ กตํ ตยาติ กตกุสโล. มรณกาเล สมฺปตฺเต ยา สตฺตานํ อุปฺปชฺชติ ภยสงฺขาตา ภีรุตา, ตโต ตายนํ รกฺขณกมฺมํ กตํ ตยาติ กตภีรุตฺตาโณ ปาปํ. ลามกกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตปาโป. ลุทฺทํ ทารุณํ ทุสฺสีลฺยกมฺมํ อกตํ ตยาติ อกตลุทฺโท. กิพฺพิสํ สาหสิกกมฺมํ โลภาทิกิเลสุสฺสทํ อกตํ ตยาติ อกตกิพฺพิโส. กสฺมา อิทํ วุจฺจติ? ยสฺมา สพฺพปฺปการมฺปิ กตํ ตยา กลฺยาณํ, อกตํ ตยา ปาปํ; เตน ตํ วทาม – ‘‘กึ ตุยฺหํ อิมินา โรคาภิภูตตฺตา ลามเกน ปาปเกน ทุกฺขพหุลตฺตา ทุชฺชีวิเตน’’. มตํ เต ชีวิตา เสยฺโยติ ตว มรณํ ชีวิตา สุนฺทรตรํ. กสฺมา? ยสฺมา อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต กตกาโล หุตฺวา กาลํ กตฺวา มริตฺวาติ อตฺโถ. กายสฺส เภทา…เป… อุปปชฺชิสฺสสิ. เอวํ อุปปนฺโน จ ตตฺถ ทิพฺเพหิ เทวโลเก ¶ อุปฺปนฺเนหิ ปฺจหิ กามคุเณหิ มนาปิยรูปาทิเกหิ ปฺจหิ วตฺถุกามโกฏฺาเสหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจริสฺสสิ สมฺปยุตฺโต สโมธานคโต หุตฺวา อิโต จิโต จ จริสฺสสิ, วิจริสฺสสิ อภิรมิสฺสสิ วาติ อตฺโถ.
๑๖๙. อสปฺปายานีติ อหิตานิ อวุฑฺฒิกรานิ ยานิ ขิปฺปเมว ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๗๒. สฺจิจฺจาติ ¶ อยํ ‘‘สฺจิจฺจ มนุสฺสวิคฺคห’’นฺติ มาติกาย วุตฺตสฺส สฺจิจฺจปทสฺส อุทฺธาโร. ตตฺถ สนฺติ อุปสคฺโค, เตน สทฺธึ อุสฺสุกฺกวจนเมตํ สฺจิจฺจาติ ¶ ; ตสฺส สฺเจเตตฺวา สุฏฺุ เจเตตฺวาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน โย สฺจิจฺจ โวโรเปติ, โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, ตฺจสฺส โวโรปนํ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ ‘‘ปาโณ’’ติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ ‘‘ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สฺชานนฺโต; เตเนว ปาณชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ วธกเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺจิจฺจสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.
อิทานิ ‘‘มนุสฺสวิคฺคหํ ชีวิตา โวโรเปยฺยา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ มนุสฺสตฺตภาวํ อาทิโต ปฏฺาย ทสฺเสตุํ ‘‘มนุสฺสวิคฺคโห นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คพฺภเสยฺยกานํ วเสน สพฺพสุขุมอตฺตภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ยํ มาตุกุจฺฉิสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ. ปมํ จิตฺตนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ. อุปฺปนฺนนฺติ ชาตํ. ปมํ วิฺาณํ ปาตุภูตนฺติ อิทํ ตสฺเสว เววจนํ. ‘‘มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปมํ จิตฺต’’นฺติ วจเนน เจตฺถ สกลาปิ ปฺจโวการปฏิสนฺธิ ทสฺสิตา โหติ. ตสฺมา ตฺจ ปมํ จิตฺตํ ตํสมฺปยุตฺตา จ ตโย อรูปกฺขนฺธา เตน สห นิพฺพตฺตฺจ กลลรูปนฺติ อยํ สพฺพปโม มนุสฺสวิคฺคโห. ตตฺถ ‘‘กลลรูป’’นฺติ อิตฺถิปุริสานํ กายวตฺถุภาวทสกวเสน ¶ สมตึส รูปานิ, นปุํสกานํ กายวตฺถุทสกวเสน วีสติ. ตตฺถ อิตฺถิปุริสานํ กลลรูปํ ชาติอุณฺณาย เอเกน อํสุนา อุทฺธฏเตลพินฺทุมตฺตํ โหติ อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ. วุตฺตฺเจตํ อฏฺกถายํ –
‘‘ติลเตลสฺส ยถา พินฺทุ, สปฺปิมณฺโฑ อนาวิโล;
เอวํวณฺณปฺปฏิภาคํ กลลนฺติ ปวุจฺจตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๖ ปกิณฺณกกถา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๒๓๕);
เอวํ ปริตฺตกํ วตฺถุํ อาทึ กตฺวา ปกติยา วีสวสฺสสตายุกสฺส สตฺตสฺส ยาว มรณกาลา เอตฺถนฺตเร อนุปุพฺเพน ¶ วุฑฺฒิปฺปตฺโต อตฺตภาโว เอโส มนุสฺสวิคฺคโห นาม.
ชีวิตา ¶ โวโรเปยฺยาติ กลลกาเลปิ ตาปนมทฺทเนหิ วา เภสชฺชสมฺปทาเนน วา ตโต วา อุทฺธมฺปิ ตทนุรูเปน อุปกฺกเมน ชีวิตา วิโยเชยฺยาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ชีวิตา โวโรปนํ นาม อตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทนเมว โหติ, ตสฺมา เอตสฺส ปทภาชเน ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธติ สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปเวณิฆฏนํ อุปจฺฉินฺทนฺโต อุปโรเธนฺโต จ ‘‘ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉินฺทติ อุปโรเธตี’’ติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติปเทน ทสฺสิโต. วิโกเปตีติ วิโยเชติ.
ตตฺถ ทุวิธํ ชีวิตินฺทฺริยํ – รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อรูปชีวิตินฺทฺริยฺจ. เตสุ อรูปชีวิตินฺทฺริเย อุปกฺกโม นตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. รูปชีวิตินฺทฺริเย ปน อตฺถิ, ตํ โวโรเปตุํ สกฺกา. ตํ ปน โวโรเปนฺโต อรูปชีวิตินฺทฺริยมฺปิ โวโรเปติ. เตเนว หิ สทฺธึ ตํ นิรุชฺฌติ ตทายตฺตวุตฺติโต. ตํ ปน โวโรเปนฺโต กึ อตีตํ โวโรเปติ, อนาคตํ, ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? เนว อตีตํ, น อนาคตํ, เตสุ หิ เอกํ นิรุทฺธํ เอกํ อนุปฺปนฺนนฺติ อุภปมฺปิ อสนฺตํ, อสนฺตตฺตา อุปกฺกโม นตฺถิ, อุปกฺกมสฺส นตฺถิตาย เอกมฺปิ โวโรเปตุํ น สกฺกา. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ, น ชีวติ; น ชีวิสฺสติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิสฺสติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ ชีวติ, น ชีวิตฺถ; น ชีวิสฺสตี’’ติ (มหานิ. ๑๐).
ตสฺมา ¶ ยตฺถ ชีวติ ตตฺถ อุปกฺกโม ยุตฺโตติ ปจฺจุปฺปนฺนํ โวโรเปติ.
ปจฺจุปฺปนฺนฺจ นาเมตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ติวิธํ. ตตฺถ ‘‘ขณปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคิ, ตํ โวโรเปตุํ น สกฺกา. กสฺมา? สยเมว นิรุชฺฌนโต. ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม สตฺตฏฺชวนวารมตฺตํ สภาคสนฺตติวเสน ปวตฺติตฺวา นิรุชฺฌนกํ, ยาว วา อุณฺหโต อาคนฺตฺวา โอวรกํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนสฺส อนฺธการํ โหติ, สีตโต วา อาคนฺตฺวา โอวรเก นิสินฺนสฺส ยาว วิสภาคอุตุปาตุภาเวน ปุริมโก อุตุ นปฺปฏิปฺปสฺสมฺภติ, เอตฺถนฺตเร ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ วุจฺจติ ¶ . ปฏิสนฺธิโต ปน ยาว จุติ, เอตํ ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ’’ นาม. ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา. กถํ? ตสฺมิฺหิ อุปกฺกเม กเต ลทฺธุปกฺกมํ ชีวิตนวกํ นิรุชฺฌมานํ ทุพฺพลสฺส ปริหีนเวคสฺส สนฺตานสฺส ปจฺจโย โหติ. ตโต สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ วา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ วา ยถาปริจฺฉินฺนํ กาลํ อปตฺวา อนฺตราว นิรุชฺฌติ ¶ . เอวํ ตทุภยมฺปิ โวโรเปตุํ สกฺกา, ตสฺมา ตเทว สนฺธาย ‘‘สนฺตตึ วิโกเปตี’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิมสฺส ปนตฺถสฺส อาวิภาวตฺถํ ปาโณ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาโต เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาติ เวทิตพฺโพ, ปาณาติปาตสฺส ปโยโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ‘‘ปาโณ’’ติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ชีวิตินฺทฺริยฺหิ อติปาเตนฺโต ‘‘ปาณํ อติปาเตตี’’ติ วุจฺจติ ตํ วุตฺตปฺปการเมว. ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ ยาย เจตนาย ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกํ ปโยคํ สมุฏฺาเปติ, สา วธกเจตนา ‘‘ปาณาติปาโต’’ติ วุจฺจติ. ‘‘ปาณาติปาตี’’ติ วุตฺตเจตนาสมงฺคิ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. ‘‘ปาณาติปาตสฺส ปโยโค’’ติ ปาณาติปาตสฺส ฉปโยคา – สาหตฺถิโก, อาณตฺติโก, นิสฺสคฺคิโย, ถาวโร, วิชฺชามโย, อิทฺธิมโยติ.
ตตฺถ ‘‘สาหตฺถิโก’’ติ สยํ มาเรนฺตสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา ปหรณํ. ‘‘อาณตฺติโก’’ติ อฺํ อาณาเปนฺตสฺส ‘‘เอวํ วิชฺฌิตฺวา วา ปหริตฺวา วา มาเรหี’’ติ อาณาปนํ. ‘‘นิสฺสคฺคิโย’’ติ ทูเร ิตํ มาเรตุกามสฺส กาเยน วา กายปฺปฏิพทฺเธน วา อุสุสตฺติยนฺตปาสาณาทีนํ นิสฺสชฺชนํ. ‘‘ถาวโร’’ติ อสฺจาริเมน อุปกรเณน มาเรตุกามสฺส โอปาตอปสฺเสนอุปนิกฺขิปนํ เภสชฺชสํวิธานํ. เต จตฺตาโรปิ ปรโต ปาฬิวณฺณนายเมว วิตฺถารโต อาวิภวิสฺสนฺติ.
วิชฺชามยอิทฺธิมยา ¶ ปน ปาฬิยํ อนาคตา. เต เอวํ เวทิตพฺพา. สงฺเขปโต หิ มารณตฺถํ วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโค. อฏฺกถาสุ ¶ ปน ‘‘กตโม วิชฺชามโย ปโยโค? อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ; นคเร วา รุทฺเธ สงฺคาเม วา ปจฺจุปฏฺิเต ปฏิเสนาย ปจฺจตฺถิเกสุ ปจฺจามิตฺเตสุ อีตึ อุปฺปาเทนฺติ, อุปทฺทวํ อุปฺปาเทนฺติ, โรคํ อุปฺปาเทนฺติ, ปชฺชรกํ อุปฺปาเทนฺติ, สูจิกํ กโรนฺติ, วิสูจิกํ กโรนฺติ, ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺติ. เอวํ อาถพฺพณิกา อาถพฺพณํ ปโยเชนฺติ. วิชฺชาธารา วิชฺชํ ปริวตฺเตตฺวา นคเร วา รุทฺเธ…เป… ปกฺขนฺทิยํ กโรนฺตี’’ติ เอวํ วิชฺชามยํ ปโยคํ ทสฺเสตฺวา อาถพฺพณิเกหิ จ วิชฺชาธเรหิ จ มาริตานํ พหูนิ วตฺถูนิ วุตฺตานิ, กึ เตหิ! อิทฺเหตฺถ ลกฺขณํ มารณาย วิชฺชาปริชปฺปนํ วิชฺชามโย ปโยโคติ.
กมฺมวิปากชาย อิทฺธิยา ปโยชนํ อิทฺธิมโย ปโยโค. กมฺมวิปากชิทฺธิ จ นาเมสา นาคานํ นาคิทฺธิ, สุปณฺณานํ สุปณฺณิทฺธิ, ยกฺขานํ ยกฺขิทฺธิ, เทวานํ เทวิทฺธิ, ราชูนํ ราชิทฺธีติ ¶ พหุวิธา. ตตฺถ ทิฏฺทฏฺผุฏฺวิสานํ นาคานํ ทิสฺวา ฑํสิตฺวา ผุสิตฺวา จ ปรูปฆาตกรเณ ‘‘นาคิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. สุปณฺณานํ มหาสมุทฺทโต ทฺวตฺติพฺยามสตปฺปมาณนาคุทฺธรเณ ‘‘สุปณฺณิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. ยกฺขา ปน เนว อาคจฺฉนฺตา น ปหรนฺตา ทิสฺสนฺติ, เตหิ ปหฏสตฺตา ปน ตสฺมึเยว าเน มรนฺติ, ตตฺร เตสํ ‘‘ยกฺขิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพา. เวสฺสวณสฺส โสตาปนฺนกาลโต ปุพฺเพ นยนาวุเธน โอโลกิตกุมฺภณฺฑานํ มรเณ อฺเสฺจ เทวานํ ยถาสกํ อิทฺธานุภาเว ‘‘เทวิทฺธิ’’ เวทิตพฺพา. รฺโ จกฺกวตฺติสฺส สปริสสฺส อากาสคมนาทีสุ, อโสกสฺส เหฏฺา อุปริ จ โยชเน อาณาปวตฺตนาทีสุ, ปิตุรฺโ จ สีหฬนรินฺทสฺส ทาาโกฏเนน จูฬสุมนกุฏุมฺพิยสฺสมรเณ ¶ ‘‘ราชิทฺธิ’’ ทฏฺพฺพาติ.
เกจิ ปน ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิทฺธิมา เจโตวสิปฺปตฺโต อฺิสฺสา กุจฺฉิคตํ คพฺภํ ปาปเกน มนสาอนุเปกฺขิตา โหติ ‘อโห วตายํ กุจฺฉิคโต คพฺโภ น โสตฺถินา อภินิกฺขเมยฺยา’ติ. เอวมฺปิ ภิกฺขเว กุลุมฺพสฺส อุปฆาโต โหตี’’ติ อาทิกานิ สุตฺตานิ ทสฺเสตฺวา ภาวนามยิทฺธิยาปิ ปรูปฆาตกมฺมํ วทนฺติ; สห ปรูปฆาตกรเณน จ อาทิตฺตฆรูปริขิตฺตสฺส ¶ อุทกฆฏสฺส เภทนมิว อิทฺธิวินาสฺจ อิจฺฉนฺติ; ตํ เตสํ อิจฺฉามตฺตเมว. กสฺมา? ยสฺมา กุสลเวทนาวิตกฺกปริตฺตตฺติเกหิ น สเมติ. กถํ? อยฺหิ ภาวนามยิทฺธิ นาม กุสลตฺติเก กุสลา เจว อพฺยากตา จ, ปาณาติปาโต อกุสโล. เวทนาตฺติเก อทุกฺขมสุขสมฺปยุตฺตา ปาณาติปาโต ทุกฺขสมฺปยุตฺโต. วิตกฺกตฺติเก อวิตกฺกาวิจารา, ปาณาติปาโต สวิตกฺกสวิจาโร. ปริตฺตตฺติเก มหคฺคตา, ปาณาติปาโต ปริตฺโตติ.
สตฺถหารกํ วาสฺส ปริเยเสยฺยาติ เอตฺถ หรตีติ หารกํ. กึ หรติ? ชีวิตํ. อถ วา หริตพฺพนฺติ หารกํ; อุปนิกฺขิปิตพฺพนฺติ อตฺโถ. สตฺถฺจ ตํ หารกฺจาติ สตฺถหารกํ. อสฺสาติ มนุสฺสวิคฺคหสฺส. ปริเยเสยฺยาติ ยถา ลภติ ตถา กเรยฺย; อุปนิกฺขิเปยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน ถาวรปฺปโยคํ ทสฺเสติ. อิตรถา หิ ปริยิฏฺมตฺเตเนว ปาราชิโก ภเวยฺย; น เจตํ ยุตฺตํ. ปาฬิยํ ปน สพฺพํ พฺยฺชนํ อนาทิยิตฺวา ยํ เอตฺถ ถาวรปฺปโยคสงฺคหิตํ สตฺถํ, ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘อสึ วา…เป… รชฺชุํ วา’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ.
ตตฺถ สตฺถนฺติ วุตฺตาวเสสํ ยํกิฺจิ สมุขํ เวทิตพฺพํ. ลคุฬปาสาณวิสรชฺชูนฺจ ชีวิตวินาสนภาวโต สตฺถสงฺคโห เวทิตพฺโพ. มรณวณฺณํวาติ เอตฺถ ยสฺมา ‘‘กึ ตุยฺหิมินา ¶ ปาปเกน ทุชฺชีวิเตน, โย ตฺวํ น ลภสิ ปณีตานิ โภชนานิ ภฺุชิตุ’’นฺติอาทินา ¶ นเยน ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสนฺโตปิ ‘‘ตฺวํ โขสิ อุปาสก กตกลฺยาโณ…เป… อกตํ ตยา ปาปํ, มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย, อิโต ตฺวํ กาลงฺกโต ปริจริสฺสสิ อจฺฉราปริวุโต นนฺทนวเน สุขปฺปตฺโต วิหริสฺสสี’’ติอาทินา นเยน มรเณ วณฺณํ ภณนฺโตปิ มรณวณฺณเมว สํวณฺเณติ. ตสฺมา ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปทภาชนํ วุตฺตํ – ‘‘ชีวิเต อาทีนวํ ทสฺเสติ, มรเณ วณฺณํ ภณตี’’ติ.
มรณาย วา สมาทเปยฺยาติ มรณตฺถาย อุปายํ คาหาเปยฺย. สตฺถํ วา อาหราติ อาทีสุ จ ยมฺปิ น วุตฺตํ ‘‘โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วา ปปตา’’ติอาทิ, ตํ สพฺพํ ปรโต วุตฺตนยตฺตา อตฺถโต วุตฺตเมวาติ เวทิตพฺพํ. น หิ สกฺกา สพฺพํ สรูเปเนว วตฺตุํ.
อิติ ¶ จิตฺตมโนติ อิติจิตฺโต อิติมโน; ‘‘มตํ เต ชีวิตา เสยฺโย’’ติ เอตฺถ วุตฺตมรณจิตฺโต มรณมโนติ อตฺโถ. ยสฺมา ปเนตฺถ มโน จิตฺตสทฺทสฺส อตฺถทีปนตฺถํ วุตฺโต, อตฺถโต ปเนตํ อุภยมฺปิ เอกเมว, ตสฺมา ตสฺส อตฺถโต อเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ จิตฺตํ ตํ มโน, ยํ มโน ตํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อิติสทฺทํ ปน อุทฺธริตฺวาปิ น ตาว อตฺโถ วุตฺโต. จิตฺตสงฺกปฺโปติ อิมสฺมึ ปเท อธิการวเสน อิติสทฺโท อาหริตพฺโพ. อิทฺหิ ‘‘อิติจิตฺตสงฺกปฺโป’’ติ เอวํ อวุตฺตมฺปิ อธิการโต วุตฺตเมว โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิสฺส ตเมวอตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มรณสฺี’’ติอาทิมาห. ยสฺมา เจตฺถ ‘‘สงฺกปฺโป’’ติ นยิทํ วิตกฺกสฺส นามํ. อถ โข สํวิทหนมตฺตสฺเสตํ อธิวจนํ. ตฺจ สํวิทหนํ อิมสฺมึ อตฺเถ สฺาเจตนาธิปฺปาเยหิ สงฺคหํ คจฺฉติ. ตสฺมา จิตฺโต นานปฺปการโก สงฺกปฺโป อสฺสาติ จิตฺตสงฺกปฺโปติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิสฺส ปทภาชนมฺปิ ¶ สฺาเจตนาธิปฺปายวเสน วุตฺตํ. เอตฺถ จ ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ วิตกฺโก เวทิตพฺโพ.
อุจฺจาวเจหิ อากาเรหีติ มหนฺตามหนฺเตหิ อุปาเยหิ. ตตฺถ มรณวณฺณสํวณฺณเน ตาว ชีวิเต อาทีนวทสฺสนวเสน อวจาการตา มรเณ วณฺณภณนวเสน อุจฺจาการตา เวทิตพฺพา. สมาทปเน ปน มุฏฺิชาณุนิปฺโผฏนาทีหิ มรณสมาทปนวเสน อุจฺจาการตา, เอกโต ภฺุชนฺตสฺส นเข วิสํ ปกฺขิปิตฺวา มรณาทิสมาทปนวเสน อวจาการตา เวทิตพฺพา.
โสพฺเภ วา นรเก วา ปปาเต วาติ เอตฺถ โสพฺโภ นาม สมนฺตโต ฉินฺนตโฏ คมฺภีโร อาวาโฏ. นรโก นาม ตตฺถ ตตฺถ ผลนฺติยา ภูมิยา สยเมว นิพฺพตฺตา มหาทรี, ยตฺถ หตฺถีปิ ปตนฺติ, โจราปิ นิลีนา ติฏฺนฺติ. ปปาโตติ ปพฺพตนฺตเร วา ถลนฺตเร วา เอกโต ฉินฺโน ¶ โหติ. ปุริเม อุปาทายาติ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺวา อทินฺนฺจ อาทิยิตฺวา ปาราชิกํ อาปตฺตึ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
๑๗๔. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ สงฺเขเปเนว มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺสิตํ, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺพากาเรเนว ¶ ภิกฺขู นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานมฺปิ โอกาโส โหติ, ตสฺมา ภิกฺขูนฺจ สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ อนาคเต จ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสปฏิพาหนตฺถํ ปุน ‘‘สามํ อธิฏฺายา’’ติอาทินา นเยน มาติกํ เปตฺวา วิตฺถารโต มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สามนฺติ สยํ หนตี’’ติอาทิมาห.
ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนาย สทฺธึ วินิจฺฉยกถา – กาเยนาติ หตฺเถน วา ปาเทน วา มุฏฺินา วา ชาณุนา วา เยน เกนจิ องฺคปจฺจงฺเคน. กายปฏิพทฺเธนาติ กายโต อโมจิเตน อสิอาทินา ปหรเณน. นิสฺสคฺคิเยนาติ กายโต จ กายปฏิพทฺธโต จ โมจิเตน อุสุสตฺติอาทินา. เอตฺตาวตา สาหตฺถิโก ¶ จ นิสฺสคฺคิโย จาติ ทฺเว ปโยคา วุตฺตา โหนฺติ.
ตตฺถ เอกเมโก อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสเภทโต ทุวิโธ. ตตฺถ อุทฺเทสิเก ยํ อุทฺทิสฺส ปหรติ, ตสฺเสว มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. ‘‘โย โกจิ มรตู’’ติ เอวํ อนุทฺเทสิเก ปหารปฺปจฺจยา ยสฺส กสฺสจิ มรเณน กมฺมุนา พชฺฌติ. อุภยถาปิ จ ปหริตมตฺเต วา มรตุ ปจฺฉา วา เตเนว โรเคน, ปหริตมตฺเตเยว กมฺมุนา พชฺฌติ. มรณาธิปฺปาเยน จ ปหารํ ทตฺวา เตน อมตสฺส ปุน อฺจิตฺเตน ปหาเร ทินฺเน ปจฺฉาปิ ยทิ ปมปฺปหาเรเนว มรติ, ตทา เอว กมฺมุนา พทฺโธ. อถ ทุติยปฺปหาเรน มรติ, นตฺถิ ปาณาติปาโต. อุภเยหิ มเตปิ ปมปฺปหาเรเนว กมฺมุนา พทฺโธ. อุภเยหิ อมเต เนวตฺถิ ปาณาติปาโต. เอส นโย พหูหิปิ เอกสฺส ปหาเร ทินฺเน. ตตฺราปิ หิ ยสฺส ปหาเรน มรติ, ตสฺเสว กมฺมุนา พทฺโธ โหตีติ.
กมฺมาปตฺติพฺยตฺติภาวตฺถฺเจตฺถ เอฬกจตุกฺกมฺปิ เวทิตพฺพํ. โย หิ เอฬกํ เอกสฺมึ าเน นิปนฺนํ อุปธาเรติ ‘‘รตฺตึ อาคนฺตฺวา วธิสฺสามี’’ติ. เอฬกสฺส จ นิปนฺโนกาเส ตสฺส มาตา วา ปิตา วา อรหา วา ปณฺฑุกาสาวํ ปารุปิตฺวา นิปนฺโน โหติ. โส รตฺติภาเค อาคนฺตฺวา ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา มาเรติ. ‘‘อิมํ วตฺถุํ มาเรมี’’ติ เจตนาย อตฺถิภาวโต ฆาตโก จ โหติ, อนนฺตริยกมฺมฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ ¶ . อฺโ โกจิ อาคนฺตุโก นิปนฺโน โหติ ¶ , ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ, อานนฺตริยํ น ผุสติ. ยกฺโข วา เปโต วา นิปนฺโน โหติ, ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ ตํ มาเรติ ฆาตโกว โหติ, น จานนฺตริยํ ผุสติ, น จ ปาราชิกํ อาปชฺชติ, ถุลฺลจฺจยํ ปน โหติ. อฺโ โกจิ นิปนฺโน นตฺถิ, เอฬโกว โหติ ตํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, ปาจิตฺติยฺจ อาปชฺชติ. ‘‘มาตาปิตุอรหนฺตานํ อฺตรํ ¶ มาเรมี’’ติ เตสํเยว อฺตรํ มาเรติ, ฆาตโก จ โหติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิกฺจ อาปชฺชติ. ‘‘เตสํ อฺตรํ มาเรสฺสามี’’ติ อฺํ อาคนฺตุกํ มาเรติ, ยกฺขํ วา เปตํ วา มาเรติ, เอฬกํ วา มาเรติ, ปุพฺเพ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิธ ปน เจตนา ทารุณา โหตีติ.
อฺานิปิ เอตฺถ ปลาลปฺุชาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. โย หิ ‘‘โลหิตกํ อสึ วา สตฺตึ วา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ปลาลปฺุเช ปเวเสนฺโต ตตฺถ นิปนฺนํ มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา อาคนฺตุกปุริสํ วา ยกฺขํ วา เปตํ วา ติรจฺฉานคตํ วา มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ฆาตโก’’ติ วุจฺจติ, วธกเจตนาย ปน อภาวโต เนว กมฺมํ ผุสติ, น อาปตฺตึ อาปชฺชติ. โย ปน เอวํ ปเวเสนฺโต สรีรสมฺผสฺสํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘สตฺโต มฺเ อพฺภนฺตรคโต มรตู’’ติ ปเวเสตฺวา มาเรติ, ตสฺส เตสํ วตฺถูนํ อนุรูเปน กมฺมพทฺโธ จ อาปตฺติ จ เวทิตพฺพา. เอส นโย ตตฺถ นิทหนตฺถํ ปเวเสนฺตสฺสาปิ วนปฺปคุมฺพาทีสุ ขิปนฺตสฺสาปิ.
โยปิ ‘‘โจรํ มาเรมี’’ติ โจรเวเสน คจฺฉนฺตํ ปิตรํ มาเรติ, อานนฺตริยฺจ ผุสติ, ปาราชิโก จ โหติ. โย ปน ปรเสนาย อฺฺจ โยธํ ปิตรฺจ กมฺมํ กโรนฺเต ทิสฺวา โยธสฺส อุสุํ ขิปติ, ‘‘เอตํ วิชฺฌิตฺวา มม ปิตรํ วิชฺฌิสฺสตี’’ติ ยถาธิปฺปายํ คเต ปิตุฆาตโก โหติ. ‘‘โยเธ วิทฺเธ มม ปิตา ปลายิสฺสตี’’ติ ขิปติ, อุสุ อยถาธิปฺปายํ คนฺตฺวา ปิตรํ มาเรติ, โวหารวเสน ‘‘ปิตุฆาตโก’’ติ วุจฺจติ; อานนฺตริยํ ปน นตฺถีติ.
อธิฏฺหิตฺวาติ สมีเป ตฺวา. อาณาเปตีติ อุทฺทิสฺส วา อนุทฺทิสฺส วา อาณาเปติ. ตตฺถ ปรเสนาย ปจฺจุปฏฺิตาย อนุทฺทิสฺเสว ‘‘เอวํ วิชฺฌ ¶ , เอวํ ปหร, เอวํ ฆาเตหี’’ติ อาณตฺเต ยตฺตเก อาณตฺโต ฆาเตติ, ตตฺตกา อุภินฺนํ ปาณาติปาตา. สเจ ตตฺถ อาณาปกสฺส มาตาปิตโร โหนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ ผุสติ. สเจ อาณตฺตสฺเสว มาตาปิตโร, โสว อานนฺตริยํ ผุสติ. สเจ ¶ อรหา โหติ, อุโภปิ อานนฺตริยํ ผุสนฺติ. อุทฺทิสิตฺวา ปน ‘‘เอตํ ทีฆํ รสฺสํ รตฺตกฺจุกํ นีลกฺจุกํ หตฺถิกฺขนฺเธ นิสินฺนํ มชฺเฌ นิสินฺนํ วิชฺฌ ปหร ฆาเตหี’’ติ ¶ อาณตฺเต สเจ โส ตเมว ฆาเตติ, อุภินฺนมฺปิ ปาณาติปาโต; อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ จ อานนฺตริยํ. สเจ อฺํ มาเรติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ ปาณาติปาโต. เอเตน อาณตฺติโก ปโยโค วุตฺโต โหติ. ตตฺถ –
วตฺถุํ กาลฺจ โอกาสํ, อาวุธํ อิริยาปถํ;
ตุลยิตฺวา ปฺจ านานิ, ธาเรยฺยตฺถํ วิจกฺขโณ.
อปโร นโย –
วตฺถุ กาโล จ โอกาโส, อาวุธํ อิริยาปโถ;
กิริยาวิเสโสติ อิเม, ฉ อาณตฺตินิยามกา.
ตตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ มาเรตพฺโพ สตฺโต. ‘‘กาโล’’ติ ปุพฺพณฺหสายนฺหาทิกาโล จ โยพฺพนถาวริยาทิกาโล จ. ‘‘โอกาโส’’ติ คาโม วา วนํ วา เคหทฺวารํ วา เคหมชฺฌํ วา รถิกา วา สิงฺฆาฏกํ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อาวุธ’’นฺติ อสิ วา อุสุ วา สตฺติ วาติ เอวมาทิ. ‘‘อิริยาปโถ’’ติ มาเรตพฺพสฺส คมนํ วา นิสชฺชา วาติ เอวมาทิ. ‘‘กิริยาวิเสโส’’ติ วิชฺฌนํ วา เฉทนํ วา เภทนํ วา สงฺขมุณฺฑกํ วาติ เอวมาทิ.
ยทิ หิ วตฺถุํ วิสํวาเทตฺวา ‘‘ยํ มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ตโต อฺํ มาเรติ, ‘‘ปุรโต ปหริตฺวา มาเรหี’’ติ วา อาณตฺโต ปจฺฉโต วา ปสฺสโต วา อฺสฺมึ วา ปเทเส ปหริตฺวา มาเรติ. อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ; อาณตฺตสฺเสว กมฺมพนฺโธ. อถ วตฺถุํ อวิสํวาเทตฺวา ยถาณตฺติยา มาเรติ, อาณาปกสฺส อาณตฺติกฺขเณ อาณตฺตสฺส จ มารณกฺขเณติ อุภเยสมฺปิ กมฺมพนฺโธ. วตฺถุวิเสเสน ปเนตฺถ กมฺมวิเสโส จ อาปตฺติวิเสโส จ โหตีติ. เอวํ ตาว วตฺถุมฺหิ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
กาเล ¶ ปน โย ‘‘อชฺช สฺเว’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘ปุพฺพณฺเห มาเรหี’’ติ อาณตฺโต ¶ ยทา กทาจิ ปุพฺพณฺเห มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อชฺช ปุพฺพณฺเห’’ติ วุตฺโต มชฺฌนฺเห วา สายนฺเห วา สฺเว วา ปุพฺพณฺเห มาเรติ. วิสงฺเกโต โหติ, อาณาปกสฺส นตฺถิ กมฺมพนฺโธ. ปุพฺพณฺเห มาเรตุํ วายมนฺตสฺส มชฺฌนฺเห ชาเตปิ เอเสว นโย. เอเตน นเยน สพฺพกาลปฺปเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
โอกาเสปิ ¶ โย ‘‘เอตํ คาเม ิตํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณตฺโต ตํ ยตฺถ กตฺถจิ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘คาเมเยวา’’ติ นิยเมตฺวา อาณตฺโต วเน มาเรติ, ตถา ‘‘วเน’’ติ อาณตฺโต คาเม มาเรติ. ‘‘อนฺโตเคหทฺวาเร’’ติ อาณตฺโต เคหมชฺเฌ มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺโพกาสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
อาวุเธปิ โย ‘‘อสินา วา อุสุนา วา’’ติ อนิยเมตฺวา ‘‘อาวุเธน มาเรหี’’ติ อาณตฺโต เยน เกนจิ อาวุเธน มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘อสินา’’ติ วุตฺโต อุสุนา, ‘‘อิมินา วา อสินา’’ติ วุตฺโต อฺเน อสินา มาเรติ. เอตสฺเสว วา อสิสฺส ‘‘อิมาย ธาราย มาเรหี’’ติ วุตฺโต อิตราย วา ธาราย ตเลน วา ตุณฺเฑน วา ถรุนา วา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพอาวุธเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
อิริยาปเถ ปน โย ‘‘เอตํ คจฺฉนฺตํ มาเรหี’’ติ วทติ, อาณตฺโต จ นํ สเจ คจฺฉนฺตํ มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. ‘‘คจฺฉนฺตเมว มาเรหี’’ติ วุตฺโต ปน สเจ นิสินฺนํ มาเรติ. ‘‘นิสินฺนเมว วา มาเรหี’’ติ วุตฺโต คจฺฉนฺตํ มาเรติ, วิสงฺเกโต โหติ. เอเตน นเยน สพฺพอิริยาปถเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
กิริยาวิเสเสปิ โย ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต วิชฺฌิตฺวาว มาเรติ, นตฺถิ วิสงฺเกโต. โย ปน ‘‘วิชฺฌิตฺวา มาเรหี’’ติ วุตฺโต ฉินฺทิตฺวา มาเรติ, วิสงฺเกโต. เอเตน นเยน สพฺพกิริยาวิเสสเภเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตตา เวทิตพฺพา.
โย ปน ลิงฺควเสน ‘‘ทีฆํ รสฺสํ กาฬํ โอทาตํ กิสํ ถูลํ มาเรหี’’ติ อนิยเมตฺวา อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ยํกิฺจิ ตาทิสํ ¶ มาเรติ, นตฺถิ ¶ วิสงฺเกโต อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อถ ปน โส อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อาณตฺโต จ ‘‘อยเมว อีทิโส’’ติ อาณาปกเมว มาเรติ, อาณาปกสฺส ทุกฺกฏํ, วธกสฺส ปาราชิกํ. อาณาปโก อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปติ, อิตโร อฺํ ตาทิสํ มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว ปาราชิกํ. กสฺมา? โอกาสสฺส อนิยมิตตฺตา. สเจ ปน อตฺตานํ สนฺธาย อาณาเปนฺโตปิ โอกาสํ นิยเมติ, ‘‘อสุกสฺมึ นาม รตฺติฏฺาเน วา ทิวาฏฺาเน วา เถราสเน วา นวาสเน วา มชฺฌิมาสเน วา นิสินฺนํ เอวรูปํ นาม มาเรหี’’ติ. ตตฺถ จ อฺโ นิสินฺโน โหติ, สเจ อาณตฺโต ตํ มาเรติ, เนว วธโก มุจฺจติ น อาณาปโก. กสฺมา? โอกาสสฺส นิยมิตตฺตา. สเจ ปน นิยมิโตกาสโต ¶ อฺตฺร มาเรติ, อาณาปโก มุจฺจตีติ อยํ นโย มหาอฏฺกถายํ สุฏฺุ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺโต. ตสฺมา เอตฺถ น อนาทริยํ กาตพฺพนฺติ.
อธิฏฺายาติ มาติกาวเสน อาณตฺติกปโยคกถา นิฏฺิตา.
อิทานิ เย ทูเตนาติ อิมสฺส มาติกาปทสฺส นิทฺเทสทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตี’’ติอาทโย จตฺตาโร วารา วุตฺตา. เตสุ โส ตํ มฺมาโนติ โส อาณตฺโต โย อาณาปเกน ‘‘อิตฺถนฺนาโม’’ติ อกฺขาโต, ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. ตํ มฺมาโน อฺนฺติ ‘‘ยํ ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วุตฺโต ตํ มฺมาโน อฺํ ตาทิสํ ชีวิตา โวโรเปติ, มูลฏฺสฺส อนาปตฺติ. อฺํ มฺมาโน ตนฺติ โย อาณาปเกน วุตฺโต, ตสฺส พลวสหายํ สมีเป ิตํ ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส พเลนายํ คชฺชติ, อิมํ ตาว ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ ปหรนฺโต อิตรเมว ปริวตฺติตฺวา ตสฺมึ าเน ิตํ ‘‘สหาโย’’ติ มฺมาโน ชีวิตา โวโรเปติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ มฺมาโน อฺนฺติ ปุริมนเยเนว ‘‘อิมํ ตาวสฺส สหายํ ชีวิตา โวโรเปมี’’ติ สหายเมว โวโรเปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ.
ทูตปรมฺปราปทสฺส นิทฺเทสวาเร อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติอาทีสุ เอโก อาจริโย ตโย พุทฺธรกฺขิตธมฺมรกฺขิตสงฺฆรกฺขิตนามกา อนฺเตวาสิกา ¶ ทฏฺพฺพา. ตตฺถ ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อาณาเปตีติ อาจริโย กฺจิ ปุคฺคลํ ¶ มาราเปตุกาโม ตมตฺถํ อาจิกฺขิตฺวา พุทฺธรกฺขิตํ อาณาเปติ. อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทาติ คจฺฉ ตฺวํ, พุทฺธรกฺขิต, เอตมตฺถํ ธมฺมรกฺขิตสฺส ปาวท. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามสฺส ปาวทตูติ ธมฺมรกฺขิโตปิ สงฺฆรกฺขิตสฺส ปาวทตุ. อิตฺถนฺนาโม อิตฺถนฺนามํ ชีวิตา โวโรเปตูติ เอวํ ตยา อาณตฺเตน ธมฺมรกฺขิเตน อาณตฺโต สงฺฆรกฺขิโต อิตฺถนฺนามํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปตุ; โส หิ อมฺเหสุ วีรชาติโก ปฏิพโล อิมสฺมึ กมฺเมติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ อาณาเปนฺตสฺส อาจริยสฺส ตาว ทุกฺกฏํ. โส อิตรสฺส อาโรเจตีติ พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตสฺส, ธมฺมรกฺขิโต จ สงฺฆรกฺขิตสฺส ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวํ วทติ – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’ติ. ตฺวํ กิร อมฺเหสุ วีรปุริโส’’ติ อาโรเจติ; เอวํ เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. วธโก ปฏิคฺคณฺหาตีติ ‘‘สาธุ โวโรเปสฺสามี’’ติ สงฺฆรกฺขิโต สมฺปฏิจฺฉติ. มูลฏฺสฺส อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน ปฏิคฺคหิตมตฺเต อาจริยสฺส ถุลฺลจฺจยํ. มหาชโน หิ เตน ปาเป นิโยชิโตติ. โส ตนฺติ โส เจ สงฺฆรกฺขิโต ตํ ปุคฺคลํ ชีวิตา โวโรเปติ, สพฺเพสํ จตุนฺนมฺปิ ชนานํ ปาราชิกํ. น เกวลฺจ ¶ จตุนฺนํ, เอเตนูปาเยน วิสงฺเกตํ อกตฺวา ปรมฺปราย อาณาเปนฺตํ สมณสตํ สมณสหสฺสํ วา โหตุ สพฺเพสํ ปาราชิกเมว.
วิสกฺกิยทูตปทนิทฺเทเส โส อฺํ อาณาเปตีติ โส อาจริเยน อาณตฺโต พุทฺธรกฺขิโต ธมฺมรกฺขิตํ อทิสฺวา วา อวตฺตุกาโม วา หุตฺวา สงฺฆรกฺขิตเมว อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาจริโย เอวมาห – ‘อิตฺถนฺนามํ กิร ชีวิตา โวโรเปหี’’ติ วิสงฺเกตํ กโรนฺโต อาณาเปติ. วิสงฺเกตกรเณเนว หิ เอส ‘‘วิสกฺกิยทูโต’’ติ วุจฺจติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ อาณตฺติยา ตาว พุทฺธรกฺขิตสฺส ทุกฺกฏํ. ปฏิคฺคณฺหาติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สงฺฆรกฺขิเตน สมฺปฏิจฺฉิเต มูลฏฺสฺเสว ¶ ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ สนฺเต ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติเยว น สิยา, สฺจริตฺต ปฏิคฺคหณมรณาภินนฺทเนสุปิ จ อาปตฺติ โหติ, มรณปฏิคฺคหเณ กถํ น สิยา ตสฺมา ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺเสเวตํ ทุกฺกฏํ. เตเนเวตฺถ ‘‘มูลฏฺสฺสา’’ติ น วุตฺตํ. ปุริมนเยปิ เจตํ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส เวทิตพฺพเมว; โอกาสาภาเวน ปน น วุตฺตํ. ตสฺมา โย โย ¶ ปฏิคฺคณฺหาติ, ตสฺส ตสฺส ตปฺปจฺจยา อาปตฺติเยวาติ อยเมตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ. ยถา เจตฺถ เอวํ อทินฺนาทาเนปีติ.
สเจ ปน โส ตํ ชีวิตา โวโรเปติ, อาณาปกสฺส จ พุทฺธรกฺขิตสฺส โวโรปกสฺส จ สงฺฆรกฺขิตสฺสาติ อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. มูลฏฺสฺส ปน อาจริยสฺส วิสงฺเกตตฺตา ปาราชิเกน อนาปตฺติ. ธมฺมรกฺขิตสฺส อชานนตาย สพฺเพน สพฺพํ อนาปตฺติ. พุทฺธรกฺขิโต ปน ทฺวินฺนํ โสตฺถิภาวํ กตฺวา อตฺตนา นฏฺโติ.
คตปจฺจาคตทูตนิทฺเทเส – โส คนฺตฺวา ปุน ปจฺจาคจฺฉตีติ ตสฺส ชีวิตา โวโรเปตพฺพสฺส สมีปํ คนฺตฺวา สุสํวิหิตารกฺขตฺตา ตํ ชีวิตา โวโรเปตุํ อสกฺโกนฺโต อาคจฺฉติ. ยทา สกฺโกสิ ตทาติ กึ อชฺเชว มาริโต มาริโต โหติ, คจฺฉ ยทา สกฺโกสิ, ตทา นํ ชีวิตา โวโรเปหีติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปุน อาณตฺติยาปิ ทุกฺกฏเมว โหติ. สเจ ปน โส อวสฺสํ ชีวิตา โวโรเปตพฺโพ โหติ, อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา, ตสฺมา อยํ อาณตฺติกฺขเณเยว ปาราชิโก. สเจปิ วธโก สฏฺิวสฺสาติกฺกเมน ตํ วธติ, อาณาปโก จ อนฺตราว กาลงฺกโรติ, หีนาย วา อาวตฺตติ, อสฺสมโณว หุตฺวา กาลฺจ กริสฺสติ, หีนาย วา อาวตฺติสฺสติ. สเจ อาณาปโก คิหิกาเล มาตรํ วา ปิตรํ วา อรหนฺตํ วา สนฺธาย เอวํ อาณาเปตฺวา ปพฺพชติ, ตสฺมึ ปพฺพชิเต อาณตฺโต ตํ มาเรติ, อาณาปโก คิหิกาเลเยว มาตุฆาตโก ปิตุฆาตโก อรหนฺตฆาตโก วา โหติ, ตสฺมา เนวสฺส ปพฺพชฺชา ¶ , น อุปสมฺปทา รุหติ. สเจปิ มาเรตพฺพปุคฺคโล อาณตฺติกฺขเณ ปุถุชฺชโน, ยทา ¶ ปน นํ อาณตฺโต มาเรติ ตทา อรหา โหติ, อาณตฺตโต วา ปหารํ ลภิตฺวา ทุกฺขมูลิกํ สทฺธํ นิสฺสาย วิปสฺสนฺโต อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนวาพาเธน กาลํกโรติ, อาณาปโก อาณตฺติกฺขเณเยว อรหนฺตฆาตโก. วธโก ปน สพฺพตฺถ อุปกฺกมกรณกฺขเณเยว ปาราชิโกติ.
อิทานิ เย สพฺเพสุเยว อิเมสุ ทูตวเสน วุตฺตมาติกาปเทสุ สงฺเกตวิสงฺเกตทสฺสนตฺถํ
วุตฺตา ตโย วารา, เตสุ ปมวาเร ตาว – ยสฺมา ตํ สณิกํ วา ภณนฺโต ตสฺส วา พธิรตาย ‘‘มา ฆาเตหี’’ติ ¶ เอตํ วจนํ น สาเวติ, ตสฺมา มูลฏฺโ น มุตฺโต. ทุติยวาเร – สาวิตตฺตา มุตฺโต. ตติยวาเร ปน เตน จ สาวิตตฺตา อิตเรน จ ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โอรตตฺตา อุโภปิ มุตฺตาติ.
ทูตกถา นิฏฺิตา.
๑๗๕. อรโห รโหสฺีนิทฺเทสาทีสุ อรโหติ สมฺมุเข. รโหติ ปรมฺมุเข. ตตฺถ โย อุปฏฺานกาเล เวริภิกฺขุมฺหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ อาคนฺตฺวา ปุรโต นิสินฺเนเยว อนฺธการโทเสน ตสฺส อาคตภาวํ อชานนฺโต ‘‘อโห วต อิตฺถนฺนาโม หโต อสฺส, โจราปิ นาม ตํ น หนนฺติ, สปฺโป วา น ฑํสติ, น สตฺถํ วา วิสํ วา อาหรตี’’ติ ตสฺส มรณํ อภินนฺทนฺโต อีทิสานิ วจนานิ อุลฺลปติ, อยํ อรโห รโหสฺี อุลฺลปติ นาม. สมฺมุเขว ตสฺมึ ปรมฺมุขสฺีติ อตฺโถ. โย ปน ตํ ปุรโต นิสินฺนํ ทิสฺวา ปุน อุปฏฺานํ กตฺวา คเตหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ คเตปิ ตสฺมึ ‘‘อิเธว โส นิสินฺโน’’ติ สฺี หุตฺวา ปุริมนเยเนว อุลฺลปติ, อยํ รโห อรโหสฺี อุลฺลปติ นาม. เอเตเนวุปาเยน อรโห อรโหสฺี จ รโห รโหสฺี จ เวทิตพฺโพ. จตุนฺนมฺปิ จ เอเตสํ วาจาย วาจาย ทุกฺกฏนฺติ เวทิตพฺพํ.
อิทานิ ¶ มรณวณฺณสํวณฺณนาย วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ ปฺจสุ กาเยน สํวณฺณนาทิมาติกานิทฺเทเสสุ – กาเยน วิการํ กโรตีติ ยถา โส ชานาติ ‘‘สตฺถํ วา อาหริตฺวา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา โสพฺภาทีสุ วา ปปติตฺวา โย มรติ โส กิร ธนํ วา ลภติ, ยสํ วา ลภติ, สคฺคํ วา คจฺฉตีติ อยมตฺโถ เอเตน วุตฺโต’’ติ ตถา หตฺถมุทฺทาทีหิ ทสฺเสติ. วาจาย ภณตีติ ตเมวตฺถํ วากฺยเภทํ กตฺวา ภณติ. ตติยวาโร อุภยวเสน วุตฺโต. สพฺพตฺถ สํวณฺณนาย ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ สํวณฺณกสฺส ¶ ถุลฺลจฺจยํ. ยํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนา กตา, ตสฺมึ มเต สํวณฺณนกฺขเณเยว สํวณฺณกสฺส ปาราชิกํ. โส ตํ น ชานาติ อฺโ ตฺวา ‘‘ลทฺโธ วต เม สุขุปฺปตฺติอุปาโย’’ติ ตาย สํวณฺณนาย มรติ, อนาปตฺติ. ทฺวินฺนํ อุทฺทิสฺส สํวณฺณนาย กตาย เอโก ตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. ทฺเวปิ มรนฺติ, ปาราชิกฺจ อกุสลราสิ จ. เอส นโย สมฺพหุเลสุ. อนุทฺทิสฺส ¶ มรณํ สํวณฺเณนฺโต อาหิณฺฑติ, โย โย ตํ สํวณฺณนํ ตฺวา มรติ, สพฺโพ เตน มาริโต โหติ.
ทูเตน สํวณฺณนายํ ‘‘อสุกํ นาม เคหํ วา คามํ วา คนฺตฺวา อิตฺถนฺนามสฺส เอวํ มรณวณฺณํ สํวณฺเณหี’’ติ สาสเน อาโรจิตมตฺเต ทุกฺกฏํ. ยสฺสตฺถาย ปหิโต ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา มูลฏฺสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ทูโต ‘‘าโต ทานิ อยํ สคฺคมคฺโค’’ติ ตสฺส อนาโรเจตฺวา อตฺตโน าติสฺส วา สาโลหิตสฺส วา อาโรเจติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ทูโต ตเถว จินฺเตตฺวา สยํ สํวณฺณนาย วุตฺตํ กตฺวา มรติ, วิสงฺเกโตว. อนุทฺทิสฺส ปน สาสเน อาโรจิเต ยตฺตกา ทูตสฺส สํวณฺณนาย มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. สเจ มาตาปิตโร มรนฺติ, อานนฺตริยมฺปิ โหติ.
๑๗๖. เลขาสํวณฺณนาย – เลขํ ฉินฺทตีติ ปณฺเณ วา โปตฺถเก วา อกฺขรานิ ลิขติ – ‘‘โย สตฺถํ วา อาหริตฺวา ปปาเต วา ปปติตฺวา อฺเหิ วา อคฺคิปฺปเวสนอุทกปฺปเวสนาทีหิ อุปาเยหิ ¶ มรติ, โส อิทฺจิทฺจ ลภตี’’ติ วา ‘‘ตสฺส ธมฺโม โหตี’’ติ วาติ. เอตฺถาปิ ทุกฺกฏถุลฺลจฺจยา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. อุทฺทิสฺส ลิขิเต ปน ยํ อุทฺทิสฺส ลิขิตํ ตสฺเสว มรเณน ปาราชิกํ. พหู อุทฺทิสฺส ลิขิเต ยตฺตกา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. มาตาปิตูนํ มรเณน อานนฺตริยํ. อนุทฺทิสฺส ลิขิเตปิ เอเสว นโย. ‘‘พหู มรนฺตี’’ติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ ฌาเปตฺวา วา ยถา วา อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตถา กตฺวา มุจฺจติ. สเจ โส ปรสฺส โปตฺถโก โหติ, อุทฺทิสฺส ลิขิโต วา โหติ อนุทฺทิสฺส ลิขิโต วา, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. สเจ มูเลน กีโต โหติ, โปตฺถกสฺสามิกานํ โปตฺถกํ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ สมฺพหุลา ‘‘มรณวณฺณํ ลิขิสฺสามา’’ติ เอกชฺฌาสยา หุตฺวา เอโก ตาลรุกฺขํ อาโรหิตฺวา ปณฺณํ ฉินฺทติ, เอโก อาหรติ, เอโก โปตฺถกํ กโรติ, เอโก ลิขติ, เอโก สเจ กณฺฏกเลขา โหติ, มสึ มกฺเขติ, มสึ มกฺเขตฺวา ตํ โปตฺถกํ สชฺเชตฺวา สพฺเพว ¶ สภายํ วา อาปเณ วา ยตฺถ วา ปน เลขาทสฺสนโกตูหลกา พหู สนฺนิปตนฺติ, ตตฺถ เปนฺติ. ตํ วาเจตฺวา สเจปิ เอโก มรติ, สพฺเพสํ ปาราชิกํ. สเจ พหุกา มรนฺติ, วุตฺตสทิโสว นโย. วิปฺปฏิสาเร ¶ ปน อุปฺปนฺเน ตํ โปตฺถกํ สเจปิ มฺชูสายํ โคเปนฺติ, อฺโ จ ตํ ทิสฺวา นีหริตฺวา ปุน พหูนํ ทสฺเสติ, เนว มุจฺจนฺติ. ติฏฺตุ มฺชูสา, สเจปิ ตํ โปตฺถกํ นทิยํ วา สมุทฺเท วา ขิปนฺติ วา โธวนฺติ วา ขณฺฑาขณฺฑํ วา ฉินฺทนฺติ, อคฺคิมฺหิ วา ฌาเปนฺติ, ยาว สงฺฆฏฺฏิเตปิ ทุทฺโธเต วา ทุชฺฌาปิเต วา ปตฺเต อกฺขรานิ ปฺายนฺติ, ตาว น มุจฺจนฺติ. ยถา ปน อกฺขรานิ น ปฺายนฺติ ตเถว กเต มุจฺจนฺตีติ.
อิทานิ ¶ ถาวรปโยคสฺส วิภาคทสฺสนตฺถํ วุตฺเตสุ โอปาตาทิมาติกานิทฺเทเสสุ มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส โอปาตํ ขนตีติ ‘‘อิตฺถนฺนาโม ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ กฺจิ มนุสฺสํ อุทฺทิสิตฺวา ยตฺถ โส เอกโต วิจรติ, ตตฺถ อาวาฏํ ขนติ, ขนนฺตสฺส ตาว สเจปิ ชาตปถวิยา ขนติ, ปาณาติปาตสฺส ปโยคตฺตา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ยํ อุทฺทิสฺส ขนติ, ตสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. อฺสฺมึ ปติตฺวา มเต อนาปตฺติ. สเจ อนุทฺทิสฺส ‘‘โย โกจิ มริสฺสตี’’ติ ขโต โหติ, ยตฺตกา ปติตฺวา มรนฺติ, ตตฺตกา ปาณาติปาตา. อานนฺตริยวตฺถูสุ จ อานนฺตริยํ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.
พหู ตตฺถ เจตนา; กตมาย ปาราชิกํ โหตีติ? มหาอฏฺกถายํ ตาว วุตฺตํ – ‘‘อาวาฏํ คมฺภีรโต จ อายามวิตฺถารโต จ ขนิตฺวา ปมาเณ เปตฺวา ตจฺเฉตฺวา ปฺุฉิตฺวา ปํสุปจฺฉึ อุทฺธรนฺตสฺส สนฺนิฏฺาปิกา อตฺถสาธกเจตนา มคฺคานนฺตรผลสทิสา. สเจปิ วสฺสสตสฺส อจฺจเยน ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺโต โหติ, สนฺนิฏฺาปกเจตนายเมว ปาราชิก’’นฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน สงฺเขปฏฺกถายฺจ – ‘‘อิมสฺมึ อาวาเฏ ปติตฺวา มริสฺสตีติ เอกสฺมิมฺปิ กุทฺทาลปฺปหาเร ทินฺเน สเจ โกจิ ตตฺถ ปกฺขลิโต ปติตฺวา มรติ, ปาราชิกเมว. สุตฺตนฺติกตฺเถรา ปน สนฺนิฏฺาปกเจตนํ คณฺหนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
เอโก ¶ ‘‘โอปาตํ ขนิตฺวา อสุกํ นาม อาเนตฺวา อิธ ปาเตตฺวา มาเรหี’’ติ อฺํ อาณาเปติ, โส ตํ ปาเตตฺวา มาเรติ, อุภินฺนํ ปาราชิกํ. อฺํ ปาเตตฺวา มาเรติ, สยํ ปติตฺวา มรติ, อฺโ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มรติ, สพฺพตฺถ วิสงฺเกโต โหติ, มูลฏฺโ มุจฺจติ. ‘‘อสุโก อสุกํ อาเนตฺวา อิธ มาเรสฺสตี’’ติ ขเตปิ เอเสว นโย. มริตุกามา อิธ มริสฺสนฺตีติ ขนติ, เอกสฺส มรเณ ปาราชิกํ. พหุนฺนํ มรเณ อกุสลราสิ ¶ , มาตาปิตูนํ มรเณ อานนฺตริยํ, ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยวตฺถูสุ ถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ.
‘‘เย เกจิ มาเรตุกามา, เต อิธ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ ¶ , เอกสฺมึ มเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, อานนฺตริยาทิวตฺถูสุ อานนฺตริยาทีนิ. อิเธว อรหนฺตาปิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. ปุริมนเย ปน ‘‘เตสํ มริตุกามตาย ปตนํ นตฺถี’’ติ เต น สงฺคยฺหนฺติ. ทฺวีสุปิ นเยสุ อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเต วิสงฺเกโต. ‘‘เย เกจิ อตฺตโน เวริเก เอตฺถ ปาเตตฺวา มาเรสฺสนฺตี’’ติ ขนติ, ตตฺถ จ เวริกา เวริเก ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, เอกสฺมึ มาริเต ปาราชิกํ, พหูสุ อกุสลราสิ, มาตริ วา ปิตริ วา อรหนฺเต วา เวริเกหิ อาเนตฺวา ตตฺถ มาริเต อานนฺตริยํ. อตฺตโน ธมฺมตาย ปติตฺวา มเตสุ วิสงฺเกโต.
โย ปน ‘‘มริตุกามา วา อมริตุกามา วา มาเรตุกามา วา อมาเรตุกามา วา เย เกจิ เอตฺถ ปติตา วา ปาติตา วา มริสฺสนฺตี’’ติ สพฺพถาปิ อนุทฺทิสฺเสว ขนติ. โย โย มรติ ตสฺส ตสฺส มรเณน ยถานุรูปํ กมฺมฺจ ผุสติ, อาปตฺติฺจ อาปชฺชติ. สเจ คพฺภินี ปติตฺวา สคพฺภา มรติ, ทฺเว ปาณาติปาตา. คพฺโภเยว วินสฺสติ, เอโก. คพฺโภ น วินสฺสติ, มาตา มรติ, เอโกเยว. โจเรหิ อนุพทฺโธ ปติตฺวา มรติ, โอปาตขนกสฺเสว ปาราชิกํ. โจรา ตตฺถ ปาเตตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. ตตฺถ ปติตํ พหิ นีหริตฺวา มาเรนฺติ, ปาราชิกเมว. กสฺมา? โอปาเต ปติตปฺปโยเคน คหิตตฺตา. โอปาตโต นิกฺขมิตฺวา เตเนว อาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. พหูนิ วสฺสานิ อติกฺกมิตฺวา ปุน กุปิเตน เตเนวาพาเธน มรติ, ปาราชิกเมว. โอปาเต ปตนปฺปจฺจยา อุปฺปนฺนโรเคน คิลานสฺเสว อฺโ โรโค อุปฺปชฺชติ, โอปาตโรโค พลวตโร ¶ โหติ, เตน มเตปิ โอปาตขณโก น มุจฺจติ. สเจ ปจฺฉา อุปฺปนฺนโรโค พลวา โหติ, เตน มเต มุจฺจติ. อุโภหิ มเต น มุจฺจติ. โอปาเต โอปปาติกมนุสฺโส นิพฺพตฺติตฺวา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺโต มรติ, ปาราชิกเมว. มนุสฺสํ อุทฺทิสฺส ขเต ยกฺขาทีสุ ปติตฺวา มเตสุ อนาปตฺติ. ยกฺขาทโย ¶ อุทฺทิสฺส ขเต มนุสฺสาทีสุ มรนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ยกฺขาทโย อุทฺทิสฺส ขนนฺตสฺส ปน ขนเนปิ เตสํ ทุกฺขุปฺปตฺติยมฺปิ ทุกฺกฏเมว. มรเณ วตฺถุวเสน ถุลฺลจฺจยํ วา ปาจิตฺติยํ วา. อนุทฺทิสฺส ขเต โอปาเต ยกฺขรูเปน วา เปตรูเปน วา ปตติ, ติรจฺฉานรูเปน มรติ, ปตนรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ถุลฺลจฺจยนฺติ อุปติสฺสตฺเถโร. มรณรูปํ ปมาณํ, ตสฺมา ปาจิตฺติยนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร. ติรจฺฉานรูเปน ปติตฺวา ยกฺขเปตรูเปน มเตปิ เอเสว นโย.
โอปาตขนโก โอปาตํ อฺสฺส วิกฺกิณาติ วา มุธา วา เทติ, โย โย ปติตฺวา มรติ, ตปฺปจฺจยา ตสฺเสว อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. เยน ลทฺโธ โส นิทฺโทโส. อถ โสปิ ‘‘เอวํ ¶ ปติตา อุตฺตริตุํ อสกฺโกนฺตา นสฺสิสฺสนฺติ, สุอุทฺธรา วา น ภวิสฺสนฺตี’’ติ ตํ โอปาตํ คมฺภีรตรํ วา อุตฺตานตรํ วา ทีฆตรํ วา รสฺสตรํ วา วิตฺถตตรํ วา สมฺพาธตรํ วา กโรติ, อุภินฺนมฺปิ อาปตฺติ จ กมฺมพนฺโธ จ. พหู มรนฺตีติ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน โอปาตํ ปํสุนา ปูเรติ, สเจ โกจิ ปํสุมฺหิ ปติตฺวา มรติ, ปูเรตฺวาปิ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. เทเว วสฺสนฺเต กทฺทโม โหติ, ตตฺถ ลคฺคิตฺวา มเตปิ. รุกฺโข วา ปตนฺโต วาโต วา วสฺโสทกํ วา ปํสุํ หรติ, กนฺทมูลตฺถํ วา ปถวึ ขนนฺตา ตตฺถ อาวาฏํ กโรนฺติ. ตตฺถ สเจ โกจิ ลคฺคิตฺวา วา ปติตฺวา วา มรติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ตสฺมึ ปน โอกาเส มหนฺตํ ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา กาเรตฺวา เจติยํ วา ปติฏฺาเปตฺวา โพธึ วา โรเปตฺวา อาวาสํ วา สกฏมคฺคํ วา กาเรตฺวา มุจฺจติ. ยทาปิ ถิรํ กตฺวา ปูริเต โอปาเต รุกฺขาทีนํ มูลานิ มูเลหิ สํสิพฺพิตานิ โหนฺติ ¶ , ชาตปถวี ชาตา, ตทาปิ มุจฺจติ. สเจปิ นที อาคนฺตฺวา โอปาตํ หรติ, เอวมฺปิ มุจฺจตีติ. อยํ ตาว โอปาตกถา.
โอปาตสฺเสว ปน อนุโลเมสุ ปาสาทีสุปิ โย ตาว ปาสํ โอฑฺเฑติ ‘‘เอตฺถ พชฺฌิตฺวา สตฺตา มริสฺสนฺตี’’ติ อวสฺสํ พชฺฌนกสตฺตานํ วเสน ¶ หตฺถา มุตฺตมตฺเต ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยานิ เวทิตพฺพานิ. อุทฺทิสฺส กเต ยํ อุทฺทิสฺส โอฑฺฑิโต, ตโต อฺเสํ พนฺธเน อนาปตฺติ. ปาเส มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพนฺโธ. สเจ เยน ลทฺโธ โส อุคฺคลิตํ วา ปาสํ สณฺเปติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา สมฺมุเข ปเวเสติ, ถทฺธตรํ วา ปาสยฏฺึ เปติ, ทฬฺหตรํ วา ปาสรชฺชุํ พนฺธติ, ถิรตรํ วา ขาณุกํ วา อาโกเฏติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสํ อุคฺคลาเปตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา ปุน อฺเ สณฺเปนฺติ, พทฺธา พทฺธา มรนฺติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ.
สเจ ปน เตน ปาสยฏฺิ สยํ อกตา โหติ, คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. ตตฺถชาตกยฏฺึ ฉินฺทิตฺวา มุจฺจติ. สยํ กตยฏฺึ ปน โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. ยทิ หิ ตํ อฺโ คณฺหิตฺวา ปาสํ สณฺเปติ, ตปฺปจฺจยา มรนฺเตสุ มูลฏฺโ น มุจฺจติ. สเจ ตํ ฌาเปตฺวา อลาตํ กตฺวา ฉฑฺเฑติ, เตน อลาเตน ปหารํ ลทฺธา มรนฺเตสุปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ, ปาสรชฺชุมฺปิ อฺเหิ จ วฏฺฏิตํ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุเก ลภิตฺวา สยํ วฏฺฏิตํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา วาเก ลภิตฺวา วฏฺฏิตํ หีรํ หีรํ กตฺวา มุจฺจติ. อรฺโต ปน สยํ วาเก อาหริตฺวา วฏฺฏิตํ โคเปนฺโตปิ น มุจฺจติ. สพฺพโส ปน ฌาเปตฺวา วา นาเสตฺวา วา มุจฺจติ.
อทูหลํ ¶ สชฺเชนฺโต จตูสุ ปาเทสุ อทูหลมฺจํ เปตฺวา ปาสาเณ อาโรเปติ, ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต ¶ มุตฺตมตฺเต อวสฺสํ อชฺโฌตฺถริตพฺพกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสกานุทฺทิสฺสกานุรูเปน ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อทูหเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ปติตํ วา อุกฺขิปติ, อฺเปิ ปาสาเณ อาโรเปตฺวา ครุกตรํ วา กโรติ, ปสฺเสน วา คจฺฉนฺเต ทิสฺวา วตึ กตฺวา อทูหเล ปเวเสติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจปิ วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อทูหลํ ปาเตตฺวา คจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา อฺโ สณฺเปติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปาสาเณ ปน คหิตฏฺาเน เปตฺวา อทูหลปาเท จ ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.
สูลํ โรเปนฺตสฺสาปิ สพฺพสชฺชํ กตฺวา หตฺถโต มุตฺตมตฺเต สูลมุเข ปติตฺวา อวสฺสํ มรณกสตฺตานํ วเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทีนิ ¶ เวทิตพฺพานิ. สูเล มูเลน วา มุธา วา ทินฺเนปิ มูลฏฺสฺเสว กมฺมพทฺโธ. สเจ เยน ลทฺธํ โส ‘‘เอกปฺปหาเรเนว มริสฺสนฺตี’’ติ ติขิณตรํ วา กโรติ, ‘‘ทุกฺขํ มริสฺสนฺตี’’ติ กุณฺตรํ วา กโรติ, ‘‘อุจฺจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา นีจตรํ วา ‘‘นีจ’’นฺติ สลฺลกฺเขตฺวา อุจฺจตรํ วา ปุน โรเปติ, วงฺกํ วา อุชุกํ อติอุชุกํ วา อีสกํ โปณํ กโรติ, อุโภปิ น มุจฺจนฺติ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อฺสฺมึ าเน เปติ, ตํ เจ มารณตฺถาย อาทิโต ปภุติ ปริเยสิตฺวา กตํ โหติ, มูลฏฺโ น มุจฺจติ. อปริเยสิตฺวา ปน กตเมว ลภิตฺวา โรปิเต มูลฏฺโ มุจฺจติ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน ปาสยฏฺิยํ วุตฺตนเยน คหิตฏฺาเน วา เปตฺวา ฌาเปตฺวา วา มุจฺจติ.
๑๗๗. อปสฺเสเน สตฺถํ วาติ เอตฺถ อปสฺเสนํ นาม นิจฺจปริโภโค มฺโจ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา ทิวาฏฺาเน นิสีทนฺตสฺส อปสฺเสนกตฺถมฺโภ วา ตตฺถชาตกรุกฺโข วา จงฺกเม อปสฺสาย ติฏฺนฺตสฺส อาลมฺพนรุกฺโข วา อาลมฺพนผลกํ วา สพฺพมฺเปตํ อปสฺสยนียฏฺเน อปสฺเสนํ ¶ นาม; ตสฺมึ อปสฺเสเน ยถา อปสฺสยนฺตํ วิชฺฌติ วา ฉินฺทติ วา ตถา กตฺวา วาสิผรสุสตฺติอารกณฺฏกาทีนํ อฺตรํ สตฺถํ เปติ, ทุกฺกฏํ. ธุวปริโภคฏฺาเน นิราสงฺกสฺส นิสีทโต วา นิปชฺชโต วา อปสฺสยนฺตสฺส วา สตฺถสมฺผสฺสปจฺจยา ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณน ปาราชิกํ. ตํ เจ อฺโปิ ตสฺส เวริภิกฺขุ วิหารจาริกํ จรนฺโต ทิสฺวา ‘‘อิมสฺส มฺเ มรณตฺถาย อิทํ นิขิตฺตํ, สาธุ สุฏฺุ มรตู’’ติ อภินนฺทนฺโต คจฺฉติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน โสปิ ตตฺถ ‘‘เอวํ กเต สุกตํ ภวิสฺสตี’’ติ ติขิณตราทิกรเณน กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. สเจ ปน ‘‘อฏฺาเน ิต’’นฺติ อุทฺธริตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ ตทตฺถเมว กตฺวา ปิเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ. ปากติกํ ลภิตฺวา ปิตํ โหติ, มุจฺจติ. ตํ อปเนตฺวา อฺํ ติขิณตรํ เปติ มูลฏฺโ มุจฺจเตว.
วิสมกฺขเนปิ ยาว มรณาภินนฺทเน ทุกฺกฏํ ตาว เอเสว นโย. สเจ ปน โสปิ ขุทฺทกํ วิสมณฺฑลนฺติ สลฺลกฺเขตฺวา มหนฺตตรํ วา กโรติ ¶ , มหนฺตํ วา ‘‘อติเรกํ โหตี’’ติ ขุทฺทกํ กโรติ, ตนุกํ วา พหลํ; พหลํ วา ตนุกํ กโรติ, อคฺคินา ตาเปตฺวา เหฏฺา วา อุปริ วา สฺจาเรติ, ตสฺสาปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ อาเน ิต’’นฺติ สพฺพเมว ตจฺเฉตฺวา ปฺุฉิตฺวา อฺสฺมึ าเน เปติ, อตฺตนา เภสชฺชานิ โยเชตฺวา กเต มูลฏฺโ น มุจฺจติ ¶ , อตฺตนา อกเต มุจฺจติ. สเจ ปน โส ‘‘อิทํ วิสํ อติปริตฺต’’นฺติ อฺมฺปิ อาเนตฺวา ปกฺขิปติ, ยสฺส วิเสน มรติ, ตสฺส ปาราชิกํ. สเจ อุภินฺนมฺปิ สนฺตเกน มรติ, อุภินฺนมฺปิ ปาราชิกํ. ‘‘อิทํ วิสํ นิพฺพิส’’นฺติ ตํ อปเนตฺวา อตฺตโน วิสเมว เปติ, ตสฺเสว ปาราชิกํ มูลฏฺโ มุจฺจติ.
ทุพฺพลํ วา กโรตีติ ¶ มฺจปีํ อฏนิยา เหฏฺาภาเค ฉินฺทิตฺวา วิทเลหิ วา รชฺชุเกหิ วา เยหิ วีตํ โหติ, เต วา ฉินฺทิตฺวา อปฺปาวเสสเมว กตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ ‘‘เอตฺถ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ. อปสฺเสนผลกาทีนมฺปิ จงฺกเม อาลมฺพนรุกฺขผลกปริโยสานานํ ปรภาคํ ฉินฺทิตฺวา เหฏฺา อาวุธํ นิกฺขิปติ, โสพฺภาทีสุ มฺจํ วา ปีํ วา อปสฺเสนผลกํ วา อาเนตฺวา เปติ, ยถา ตตฺถ นิสินฺนมตฺโต วา อปสฺสิตมตฺโต วา ปตติ, โสพฺภาทีสุ วา สฺจรณเสตุ โหติ, ตํ ทุพฺพลํ กโรติ; เอวํ กโรนฺตสฺส กรเณ ทุกฺกฏํ. อิตรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. ภิกฺขุํ อาเนตฺวา โสพฺภาทีนํ ตเฏ เปติ ‘‘ทิสฺวา ภเยน กมฺเปนฺโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ ทุกฺกฏํ. โส ตตฺเถว ปตติ, ทุกฺขุปฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สยํ วา ปาเตติ, อฺเน วา ปาตาเปติ, อฺโ อวุตฺโต วา อตฺตโน ธมฺมตาย ปาเตติ, อมนุสฺโส ปาเตติ, วาตปฺปหาเรน ปตติ, อตฺตโน ธมฺมตาย ปตตฺติ, สพฺพตฺถ มรเณ ปาราชิกํ. กสฺมา? ตสฺส ปโยเคน โสพฺภาทิตเฏ ิตตฺตา.
อุปนิกฺขิปนํ นาม สมีเป นิกฺขิปนํ. ตตฺถ ‘‘โย อิมินา อสินา มโต โส ธนํ วา ลภตี’’ติอาทินา นเยน มรณวณฺณํ วา สํวณฺเณตฺวา ‘‘อิมินา มรณตฺถิกา มรนฺตุ, มารณตฺถิกา มาเรนฺตู’’ติ วา วตฺวา อสึ อุปนิกฺขิปติ, ตสฺส อุปนิกฺขิปเน ทุกฺกฏํ. มริตุกาโม วา เตน อตฺตานํ ปหรตุ ¶ , มาเรตุกาโม วา อฺํ ปหรตุ, อุภยถาปิ ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยา ¶ อุปนิกฺเขปกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. อนุทฺทิสฺส นิกฺขิตฺเต พหูนํ มรเณ อกุสลราสิ. ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ. วิปฺปฏิสาเร อุปฺปนฺเน อสึ คหิตฏฺาเน เปตฺวา มุจฺจติ. กิณิตฺวา คหิโต โหติ, อสิสฺสามิกานํ อสึ, เยสํ หตฺถโต มูลํ คหิตํ, เตสํ มูลํ ทตฺวา มุจฺจติ. สเจ โลหปิณฺฑึ วา ผาลํ วา กุทาลํ วา คเหตฺวา อสิ การาปิโต โหติ, ยํ ภณฺฑํ คเหตฺวา การิโต, ตเทว กตฺวา มุจฺจติ. สเจ กุทาลํ คเหตฺวา ¶ การิตํ วินาเสตฺวา ผาลํ กโรติ, ผาเลน ปหารํ ลภิตฺวา มรนฺเตสุปิ ปาณาติปาตโต น มุจฺจติ. สเจ ปน โลหํ สมุฏฺาเปตฺวา อุปนิกฺขิปนตฺถเมว การิโต โหติ, อเรน ฆํสิตฺวา จุณฺณวิจุณฺณํ กตฺวา วิปฺปกิณฺเณ มุจฺจติ. สเจปิ สํวณฺณนาโปตฺถโก วิย พหูหิ เอกชฺฌาสเยหิ กโต โหติ, โปตฺถเก วุตฺตนเยเนว กมฺมพนฺธวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เอส นโย สตฺติเภณฺฑีสุ. ลคุเฬ ปาสยฏฺิสทิโส วินิจฺฉโย. ตถา ปาสาเณ. สตฺเถ อสิสทิโสว. วิสํ วาติ วิสํ อุปนิกฺขิปนฺตสฺส วตฺถุวเสน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสานุรูปโต ปาราชิกาทิวตฺถูสุ ปาราชิกาทีนิ เวทิตพฺพานิ. กิณิตฺวา ปิเต ปุริมนเยน ปฏิปากติกํ กตฺวา มุจฺจติ. สยํ เภสชฺเชหิ โยชิเต อวิสํ กตฺวา มุจฺจติ. รชฺชุยา ปาสรชฺชุสทิโสว วินิจฺฉโย.
เภสชฺเช – โย ภิกฺขุ เวริภิกฺขุสฺส ปชฺชรเก วา วิสภาคโรเค วา อุปฺปนฺเน อสปฺปายานิปิ สปฺปิอาทีนิ สปฺปายานีติ มรณาธิปฺปาโย เทติ, อฺํ วา กิฺจิ กนฺทมูลผลํ ตสฺส เอวํ เภสชฺชทาเน ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ทุกฺขุปฺปตฺติยํ มรเณ จ ถุลฺลจฺจยปาราชิกานิ, อานนฺตริยวตฺถุมฺหิ อานนฺตริยนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๗๘. รูปูปหาเร – อุปสํหรตีติ ปรํ วา อมนาปรูปํ ตสฺส สมีเป เปติ, อตฺตนา วา ยกฺขเปตาทิเวสํ คเหตฺวา ติฏฺติ, ตสฺส อุปสํหารมตฺเต ทุกฺกฏํ. ปรสฺส ตํ รูปํ ทิสฺวา ภยุปฺปตฺติยํ ถุลฺลจฺจยํ, มรเณ ปาราชิกํ. สเจ ปน ตเทว รูปํ เอกจฺจสฺส มนาปํ โหติ, อลาภเกน จ สุสฺสิตฺวา มรติ, วิสงฺเกโต. มนาปิเยปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ปน วิเสเสน ¶ อิตฺถีนํ ปุริสรูปํ ปุริสานฺจ อิตฺถิรูปํ มนาปํ ตํ อลงฺกริตฺวา อุปสํหรติ, ทิฏฺมตฺตกเมว กโรติ, อติจิรํ ปสฺสิตุมฺปิ น เทติ, อิตโร อลาภเกน สุสฺสิตฺวา มรติ, ปาราชิกํ. สเจ อุตฺตสิตฺวา มรติ ¶ , วิสงฺเกโต. อถ ปน อุตฺตสิตฺวา วา อลาภเกน วาติ อวิจาเรตฺวา ‘‘เกวลํ ปสฺสิตฺวา มริสฺสตี’’ติ อุปสํหรติ, อุตฺตสิตฺวา วา สุสฺสิตฺวา วา มเต ปาราชิกเมว. เอเตเนวูปาเยน สทฺทูปหาราทโยปิ เวทิตพฺพา. เกวลฺเหตฺถ อมนุสฺสสทฺทาทโย อุตฺราสชนกา อมนาปสทฺทา, ปุริสานํ อิตฺถิสทฺทมธุรคนฺธพฺพสทฺทาทโย จิตฺตสฺสาทกรา มนาปสทฺทา. หิมวนฺเต วิสรุกฺขานํ มูลาทิคนฺธา กุณปคนฺธา จ อมนาปคนฺธา, กาฬานุสารีมูลคนฺธาทโย มนาปคนฺธา ¶ . ปฏิกูลมูลรสาทโย อมนาปรสา, อปฺปฏิกูลมูลรสาทโย มนาปรสา. วิสผสฺสมหากจฺฉุผสฺสาทโย อมนาปโผฏฺพฺพา, จีนปฏหํสปุปฺผตูลิกผสฺสาทโย มนาปโผฏฺพฺพาติ เวทิตพฺพา.
ธมฺมูปหาเร – ธมฺโมติ เทสนาธมฺโม เวทิตพฺโพ. เทสนาวเสน วา นิรเย จ สคฺเค จ วิปตฺติสมฺปตฺติเภทํ ธมฺมารมฺมณเมว. เนรยิกสฺสาติ ภินฺนสํวรสฺส กตปาปสฺส นิรเย นิพฺพตฺตนารหสฺส สตฺตสฺส ปฺจวิธพนฺธนกมฺมกรณาทินิรยกถํ กเถติ. ตํ เจ สุตฺวา โส อุตฺตสิตฺวา มรติ, กถิกสฺส ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ. ‘‘อิทํ สุตฺวา เอวรูปํ ปาปํ น กริสฺสติ โอรมิสฺสติ วิรมิสฺสตี’’ติ นิรยกถํ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อุตฺตสิตฺวา มรติ, อนาปตฺติ. สคฺคกถนฺติ เทวนาฏกาทีนํ นนฺทนวนาทีนฺจ สมฺปตฺติกถํ; ตํ สุตฺวา อิตโร สคฺคาธิมุตฺโต สีฆํ ตํ สมฺปตฺตึ ปาปุณิตุกาโม สตฺถาหรณวิสขาทนอาหารุปจฺเฉท-อสฺสาสปสฺสาสสนฺนิรุนฺธนาทีหิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทติ, กถิกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, มรติ ปาราชิกํ. สเจ ปน โส สุตฺวาปิ ยาวตายุกํ ตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย มรติ, อนาปตฺติ ¶ . ‘‘อิมํ สุตฺวา ปฺุานิ กริสฺสตี’’ติ กเถติ, ตํ สุตฺวา อิตโร อธิมุตฺโต กาลํกโรติ, อนาปตฺติ.
๑๗๙. อาจิกฺขนายํ – ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘ภนฺเต กถํ มโต ธนํ วา ลภติ สคฺเค วา อุปปชฺชตี’’ติ เอวํ ปุจฺฉิโต ภณติ.
อนุสาสนิยํ – อปุฏฺโติ เอวํ อปุจฺฉิโต สามฺเว ภณติ.
สงฺเกตกมฺมนิมิตฺตกมฺมานิ ¶ อทินฺนาทานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ.
เอวํ นานปฺปการโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อสฺจิจฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสฺจิจฺจาติ ‘‘อิมินา อุปกฺกเมน อิมํ มาเรมี’’ติ อเจเตตฺวา. เอวฺหิ อเจเตตฺวา กเตน อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อสฺจิจฺจา’’ติ. อชานนฺตสฺสาติ ‘‘อิมินา อยํ มริสฺสตี’’ติ อชานนฺตสฺส อุปกฺกเมน ปเร มเตปิ อนาปตฺติ, วกฺขติ จ วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ อชานนฺตสฺสา’’ติ. นมรณาธิปฺปายสฺสาติ มรณํ อนิจฺฉนฺตสฺส. เยน หิ อุปกฺกเมน ปโร มรติ, เตน อุปกฺกเมน ตสฺมึ มาริเตปิ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ. วกฺขติ ¶ จ ‘‘อนาปตฺติ ภิกฺขุ นมรณาธิปฺปายสฺสา’’ติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา อฺมฺํ ชีวิตา โวโรปิตภิกฺขู, เตสํ อนาปตฺติ. อวเสสานํ มรณวณฺณสํวณฺณนกาทีนํ อาปตฺติเยวาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ – อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ; กายจิตฺตโต จ วาจาจิตฺตโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนํ. สเจปิ หิ สิริสยนํ อารูฬฺโห รชฺชสมฺปตฺติสุขํ อนุภวนฺโต ราชา ‘‘โจโร เทว อานีโต’’ติ วุตฺเต ‘‘คจฺฉถ นํ มาเรถา’’ติ หสมาโนว ภณติ, โทมนสฺสจิตฺเตเนว ภณตีติ เวทิตพฺโพ. สุขโวกิณฺณตฺตา ¶ ปน อนุปฺปพนฺธาภาวา จ ทุชฺชานเมตํ ปุถุชฺชเนหีติ.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๑๘๐. วินีตวตฺถุกถาสุ ปมวตฺถุสฺมึ – การฺุเนาติ เต ภิกฺขู ตสฺส มหนฺตํ เคลฺทุกฺขํ ทิสฺวา การฺุํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘สีลวา ตฺวํ กตกุสโล, กสฺมา มียมาโน ภายสิ, นนุ สีลวโต สคฺโค นาม มรณมตฺตปฏิพทฺโธเยวา’’ติ เอวํ มรณตฺถิกาว หุตฺวา มรณตฺถิกภาวํ อชานนฺตา มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุํ. โสปิ ภิกฺขุ เตสํ สํวณฺณนาย ¶ อาหารุปจฺเฉทํ กตฺวา อนฺตราว กาลมกาสิ. ตสฺมา อาปตฺตึ อาปนฺนา. โวหารวเสน ปน วุตฺตํ ‘‘การฺุเน มรณวณฺณํ สํวณฺเณสุ’’นฺติ. ตสฺมา อิทานิปิ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนา คิลานสฺส ภิกฺขุโน เอวํ มรณวณฺโณ น สํวณฺเณตพฺโพ. สเจ หิ ตสฺส สํวณฺณนํ สุตฺวา อาหารูปจฺเฉทาทินา อุปกฺกเมน เอกชวนวาราวเสเสปิ อายุสฺมึ อนฺตรา กาลํกโรติ, อิมินาว มาริโต โหติ. อิมินา ปน นเยน อนุสิฏฺิ ทาตพฺพา – ‘‘สีลวโต นาม อนจฺฉริยา มคฺคผลุปฺปตฺติ, ตสฺมา วิหาราทีสุ อาสตฺตึ อกตฺวา พุทฺธคตํ ธมฺมคตํ สงฺฆคตํ กายคตฺจ สตึ อุปฏฺเปตฺวา มนสิกาเร อปฺปมาโท กาตพฺโพ’’ติ. มรณวณฺเณ จ สํวณฺณิเตปิ โย ตาย สํวณฺณนาย กฺจิ อุปกฺกมํ อกตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย ยถายุนา ยถานุสนฺธินาว มรติ, ตปฺปจฺจยา สํวณฺณโก อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพติ.
ทุติยวตฺถุสฺมึ – น จ ภิกฺขเว อปฺปฏิเวกฺขิตฺวาติ เอตฺถ กีทิสํ อาสนํ ปฏิเวกฺขิตพฺพํ ¶ , กีทิสํ น ปฏิเวกฺขิตพฺพํ? ยํ สุทฺธํ อาสนเมว โหติ อปจฺจตฺถรณกํ, ยฺจ อาคนฺตฺวา ิตานํ ปสฺสตํเยว อตฺถรียติ, ตํ นปจฺจเวกฺขิตพฺพํ ¶ , นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. ยมฺปิ มนุสฺสา สยํ หตฺเถน อกฺกมิตฺวา ‘‘อิธ ภนฺเต นิสีทถา’’ติ เทนฺติ, ตสฺมิมฺปิ วฏฺฏติ. สเจปิ ปมเมวาคนฺตฺวา นิสินฺนา ปจฺฉา อุทฺธํ วา อโธ วา สงฺกมนฺติ, ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยมฺปิ ตนุเกน วตฺเถน ยถา ตลํ ทิสฺสติ, เอวํ ปฏิจฺฉนฺนํ โหติ, ตสฺมิมฺปิ ปจฺจเวกฺขณกิจฺจํ นตฺถิ. ยํ ปน ปฏิกจฺเจว ปาวารโกชวาทีหิ อตฺถตํ โหติ, ตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา นิสีทิตพฺพํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ฆนสาฏเกนาปิ อตฺถเต ยสฺมึ วลิ น ปฺายติ, ตํ นปฺปฏิเวกฺขิตพฺพนฺติ วุตฺตํ.
มุสลวตฺถุสฺมึ – อสฺจิจฺโจติ อวธกเจตโน วิรทฺธปโยโค หิ โส. เตนาห ‘‘อสฺจิจฺโจ อห’’นฺติ. อุทุกฺขลวตฺถุ อุตฺตานเมว. วุฑฺฒปพฺพชิตวตฺถูสุปมวตฺถุสฺมึ ‘‘ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปฏิพนฺธํ มา อกาสี’’ติ ปณาเมสิ. ทุติยวตฺถุสฺมึ – สงฺฆมชฺเฌปิ คณมชฺเฌปิ ‘‘มหลฺลกตฺเถรสฺส ปุตฺโต’’ติ วุจฺจมาโน เตน วจเนน อฏฺฏียมาโน ‘‘มรตุ อย’’นฺติ ปณาเมสิ. ตติยวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ทุกฺขุปฺปาทเนน ถุลฺลจฺจยํ.
๑๘๑. ตโต ¶ ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. วิสคตปิณฺฑปาตวตฺถุสฺมึ – สาราณียธมฺมปูรโก โส ภิกฺขุ อคฺคปิณฺฑํ สพฺรหฺมจารีนํ ทตฺวาว ภฺุชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อคฺคการิกํ อทาสี’’ติ. อคฺคการิกนฺติ อคฺคกิริยํ; ปมํ ลทฺธปิณฺฑปาตํ อคฺคคฺคํ วา ปณีตปณีตํ ปิณฺฑปาตนฺติ อตฺโถ. ยา ปน ตสฺส ทานสงฺขาตา อคฺคกิริยา, สา น สกฺกา ทาตุํ, ปิณฺฑปาตฺหิ โส เถราสนโต ¶ ปฏฺาย อทาสิ. เต ภิกฺขูติ เต เถราสนโต ปฏฺาย ปริภุตฺตปิณฺฑปาตา ภิกฺขู; เต กิร สพฺเพปิ กาลมกํสุ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว. อสฺสทฺเธสุ ปน มิจฺฉาทิฏฺิเกสุ กุเลสุ สกฺกจฺจํ ปณีตโภชนํ ลภิตฺวา อนุปปริกฺขิตฺวา เนว อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพํ, น ปเรสํ ทาตพฺพํ. ยมฺปิ อาภิโทสิกํ ภตฺตํ วา ขชฺชกํ วา ตโต ลภติ, ตมฺปิ น ปริภฺุชิตพฺพํ. อปิหิตวตฺถุมฺปิ หิ สปฺปวิจฺฉิกาทีหิ อธิสยิตํ ฉฑฺฑนียธมฺมํ ตานิ กุลานิ เทนฺติ. คนฺธหลิทฺทาทิมกฺขิโตปิ ตโต ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. สรีเร โรคฏฺานานิ ปฺุฉิตฺวา ปิตภตฺตมฺปิ หิ ตานิ ทาตพฺพํ มฺนฺตีติ.
วีมํสนวตฺถุสฺมึ – วีมํสมาโน ทฺเว วีมํสติ – ‘‘สกฺโกติ นุ โข อิมํ มาเรตุํ โน’’ติ วิสํ วา วีมํสติ, ‘‘มเรยฺย นุ โข อยํ อิมํ วิสํ ขาทิตฺวา โน’’ติ ปุคฺคลํ วา. อุภยถาปิ วีมํสาธิปฺปาเยน ทินฺเน มรตุ วา มา วา ถุลฺลจฺจยํ. ‘‘อิทํ วิสํ เอตํ มาเรตู’’ติ วา ¶ ‘‘อิทํ วิสํ ขาทิตฺวา อยํ มรตู’’ติ วา เอวํ ทินฺเน ปน สเจ มรติ, ปาราชิกํ; โน เจ, ถุลฺลจฺจยํ.
๑๘๒-๓. อิโต ปรานิ ตีณิ สิลาวตฺถูนิ ตีณิ อิฏฺกวาสิโคปานสีวตฺถูนิ จ อุตฺตานตฺถาเนว. น เกวลฺจ สิลาทีนํเยว วเสน อยํ อาปตฺตานาปตฺติเภโท โหติ, ทณฺฑมุคฺครนิขาทนเวมาทีนมฺปิ วเสน โหติเยว, ตสฺมา ปาฬิยํ อนาคตมฺปิ อาคตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อฏฺฏกวตฺถูสุ – อฏฺฏโกติ เวหาสมฺโจ วุจฺจติ; ยํ เสตกมฺมมาลากมฺมลตากมฺมาทีนํ อตฺถาย พนฺธนฺติ. ตตฺถ อาวุโส อตฺรฏฺิโต พนฺธาหีติ มรณาธิปฺปาโย ยตฺร ิโต ปติตฺวา ขาณุนา วา ภิชฺเชยฺย, โสพฺภปปาตาทีสุ วา มเรยฺย ¶ , ตาทิสํ านํ สนฺธายาห. เอตฺถ จ โกจิ อุปริานํ นิยาเมติ ‘‘อิโต ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ เหฏฺา านํ ‘‘อิธ ปติตฺวา มริสฺสตี’’ติ, โกจิ อุภยมฺปิ ‘‘อิโต อิธ ปติตฺวา ¶ มริสฺสตี’’ติ. ตตฺร โย อุปริ นิยมิตฏฺานา อปติตฺวา อฺโต ปตติ, เหฏฺา นิยมิตฏฺาเน วา อปติตฺวา อฺตฺถ ปตติ, อุภยนิยาเม วา ยํกิฺจิ เอกํ วิราเธตฺวา ปตติ, ตสฺมึ มเต วิสงฺเกตตฺตา อนาปตฺติ. วิหารจฺฉาทนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
อนภิรติวตฺถุสฺมึ – โส กิร ภิกฺขุ กามวิตกฺกาทีนํ สมุทาจารํ ทิสฺวา นิวาเรตุํ อสกฺโกนฺโต สาสเน อนภิรโต คิหิภาวาภิมุโข ชาโต. ตโต จินฺเตสิ – ‘‘ยาว สีลเภทํ น ปาปุณามิ ตาว มริสฺสามี’’ติ. อถ ตํ ปพฺพตํ อภิรุหิตฺวา ปปาเต ปปตนฺโต อฺตรํ วิลีวการํ โอตฺถริตฺวา มาเรสิ. วิลีวการนฺติ เวณุการํ. น จ ภิกฺขเว อตฺตานํ ปาเตตพฺพนฺติ น อตฺตา ปาเตตพฺโพ. วิภตฺติพฺยตฺตเยน ปเนตํ วุตฺตํ. เอตฺถ จ น เกวลํ น ปาเตตพฺพํ, อฺเนปิ เยน เกนจิ อุปกฺกเมน อนฺตมโส อาหารุปจฺเฉเทนปิ น มาเรตพฺโพ. โยปิ หิ คิลาโน วิชฺชมาเน เภสชฺเช จ อุปฏฺาเกสุ จ มริตุกาโม อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, ทุกฺกฏเมว. ยสฺส ปน มหาอาพาโธ จิรานุพทฺโธ, ภิกฺขู อุปฏฺหนฺตา กิลมนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ ‘‘กทา นุ โข คิลานโต มุจฺจิสฺสามา’’ติ อฏฺฏียนฺติ. สเจ โส ‘‘อยํ อตฺตภาโว ปฏิชคฺคิยมาโนปิ น ติฏฺติ, ภิกฺขู จ กิลมนฺตี’’ติ อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, เภสชฺชํ น เสวติ วฏฺฏติ. โย ปน ‘‘อยํ โรโค ขโร, อายุสงฺขารา น ติฏฺนฺติ, อยฺจ เม วิเสสาธิคโม หตฺถปฺปตฺโต วิย ทิสฺสตี’’ติ อุปจฺฉินฺทติ วฏฺฏติเยว. อคิลานสฺสาปิ อุปฺปนฺนสํเวคสฺส ‘‘อาหารปริเยสนํ นาม ปปฺโจ, กมฺมฏฺานเมว อนุยฺุชิสฺสามี’’ติ กมฺมฏฺานสีเสน ¶ อุปจฺฉินฺทนฺตสฺส วฏฺฏติ. วิเสสาธิคมํ พฺยากริตฺวา อาหารํ อุปจฺฉินฺทติ, น วฏฺฏติ. สภาคานฺหิ ¶ ลชฺชีภิกฺขูนํ กเถตุํ วฏฺฏติ.
สิลาวตฺถุสฺมึ – ทวายาติ ทเวน หสฺเสน; ขิฑฺฑายาติ อตฺโถ. สิลาติ ปาสาโณ; น เกวลฺจ ปาสาโณ, อฺมฺปิ ยํกิฺจิ ทารุขณฺฑํ วา อิฏฺกาขณฺฑํ วา หตฺเถน วา ยนฺเตน วา ปวิชฺฌิตุํ น วฏฺฏติ. เจติยาทีนํ อตฺถาย ปาสาณาทโย หสนฺตา หสนฺตา ปวฏฺเฏนฺติปิ ขิปนฺติปิ อุกฺขิปนฺติปิ กมฺมสมโยติ วฏฺฏติ. อฺมฺปิ อีทิสํ นวกมฺมํ วา กโรนฺตา ภณฺฑกํ วา โธวนฺตา รุกฺขํ วา โธวนทณฺฑกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ปวิชฺฌนฺติ, วฏฺฏติ. ภตฺตวิสฺสคฺคกาลาทีสุ กาเก วา โสเณ วา กฏฺํ วา กถลํ วา ขิปิตฺวา ปลาเปติ, วฏฺฏติ.
๑๘๔. เสทนาทิวตฺถูนิ ¶ สพฺพาเนว อุตฺตานตฺถานิ. เอตฺถ จ อหํ กุกฺกุจฺจโกติ น คิลานุปฏฺานํ น กาตพฺพํ, หิตกามตาย สพฺพํ คิลานสฺส พลาพลฺจ รุจิฺจ สปฺปายาสปฺปายฺจ อุปลกฺเขตฺวา กาตพฺพํ.
๑๘๕. ชารคพฺภินิวตฺถุสฺมึ – ปวุตฺถปติกาติ ปวาสํ คตปติกา. คพฺภปาตนนฺติ เยน ปริภุตฺเตน คพฺโภ ปตติ, ตาทิสํ เภสชฺชํ. ทฺเว ปชาปติกวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. คพฺภมทฺทนวตฺถุสฺมึ – ‘‘มทฺทิตฺวา ปาเตหี’’ติ วุตฺเต อฺเน มทฺทาเปตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตํ. ‘‘มทฺทาเปตฺวา ปาตาเปหี’’ติ วุตฺเตปิ สยํ มทฺทิตฺวา ปาเตติ, วิสงฺเกตเมว. มนุสฺสวิคฺคเห ปริยาโย นาม นตฺถิ. ตสฺมา ‘‘คพฺโภ นาม มทฺทิเต ปตตี’’ติ วุตฺเต สา สยํ วา มทฺทตุ, อฺเน วา มทฺทาเปตฺวา ปาเตตุ, วิสงฺเกโต นตฺถิ; ปาราชิกเมว ตาปนวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย.
วฺฌิตฺถิวตฺถุสฺมึ – วฺฌิตฺถี นาม ยา คพฺภํ น คณฺหาติ. คพฺภํ อคณฺหนกอิตฺถี นาม นตฺถิ, ยสฺสา ปน คหิโตปิ คพฺโภ น สณฺาติ, ตํเยว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อุตุสมเย กิร สพฺพิตฺถิโย คพฺภํ คณฺหนฺติ. ยา ปนายํ ‘‘วฺฌา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสา กุจฺฉิยํ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ¶ อกุสลวิปาโก สมฺปาปุณาติ. เต ปริตฺตกุสลวิปาเกน คหิตปฏิสนฺธิกา อกุสลวิปาเกน อธิภูตา วินสฺสนฺติ. อภินวปฏิสนฺธิยํเยว หิ กมฺมานุภาเวน ทฺวีหากาเรหิ คพฺโภ น สณฺาติ – วาเตน วา ปาณเกหิ วา. วาโต โสเสตฺวา อนฺตรธาเปติ, ปาณกา ขาทิตฺวา. ตสฺส ปน วาตสฺส ปาณกานํ วา ปฏิฆาตาย เภสชฺเช กเต คพฺโภ สณฺเหยฺย; โส ภิกฺขุ ตํ อกตฺวา อฺํ ขรเภสชฺชํ อทาสิ. เตน สา กาลมกาสิ. ภควา เภสชฺชสฺส กฏตฺตา ทุกฺกฏํ ปฺาเปสิ.
ทุติยวตฺถุสฺมิมฺปิ ¶ เอเสว นโย. ตสฺมา อาคตาคตสฺส ปรชนสฺส เภสชฺชํ น กาตพฺพํ, กโรนฺโต ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ กาตพฺพํ ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส สามเณริยาติ. สมสีลสทฺธาปฺานฺหิ เอเตสํ ตีสุ สิกฺขาสุ ยุตฺตานํ เภสชฺชํ อกาตุํ น ลพฺภติ, กโรนฺเตน จ สเจ เตสํ อตฺถิ, เตสํ สนฺตกํ คเหตฺวา โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ กาตพฺพํ. สเจ อตฺตโนปิ นตฺถิ, ภิกฺขาจารวตฺเตน วา าตกปวาริตฏฺานโต วา ปริเยสิตพฺพํ. อลภนฺเตน คิลานสฺส อตฺถาย อกตวิฺตฺติยาปิ อาหริตฺวา กาตพฺพํ.
อปเรสมฺปิ ¶ ปฺจนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – มาตุ, ปิตุ, ตทุปฏฺากานํ, อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส, ปณฺฑุปลาสสฺสาติ. ปณฺฑุปลาโส นาม โย ปพฺพชฺชาเปกฺโข ยาว ปตฺตจีวรํ ปฏิยาทิยติ ตาว วิหาเร วสติ. เตสุ สเจ มาตาปิตโร อิสฺสรา โหนฺติ, น ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน รชฺเชปิ ิตา ปจฺจาสีสนฺติ, อกาตุํ น วฏฺฏติ. เภสชฺชํ ปจฺจาสีสนฺตานํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ, โยเชตุํ อชานนฺตานํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สพฺเพสํ อตฺถาย สหธมฺมิเกสุ วุตฺตนเยเนว ปริเยสิตพฺพํ. สเจ ปน มาตรํ วิหาเร อาเนตฺวา ชคฺคติ, สพฺพํ ปริกมฺมํ อนามสนฺเตน กาตพฺพํ. ขาทนียํ โภชนียํ สหตฺถา ทาตพฺพํ. ปิตา ปน ยถา สามเณโร เอวํ สหตฺเถน นฺหาปนสมฺพาหนาทีนิ ¶ กตฺวา อุปฏฺาตพฺโพ. เย จ มาตาปิตโร อุปฏฺหนฺติ ปฏิชคฺคนฺติ, เตสมฺปิ เอวเมว กาตพฺพํ. เวยฺยาวจฺจกโร นาม โย เวตนํ คเหตฺวา อรฺเ ทารูนิ วา ฉินฺทติ, อฺํ วา กิฺจิ กมฺมํ กโรติ, ตสฺส โรเค อุปฺปนฺเน ยาว าตกา น ปสฺสนฺติ ตาว เภสชฺชํ กาตพฺพํ. โย ปน ภิกฺขุนิสฺสิตโกว หุตฺวา สพฺพกมฺมานิ กโรติ, ตสฺส เภสชฺชํ กาตพฺพเมว. ปณฺฑุปลาเสปิ สามเณเร วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
อปเรสมฺปิ ทสนฺนํ กาตุํ วฏฺฏติ – เชฏฺภาตุ, กนิฏฺภาตุ, เชฏฺภคินิยา, กนิฏฺภคินิยา, จูฬมาตุยา, มหามาตุยา, จูฬปิตุโน, มหาปิตุโน, ปิตุจฺฉาย, มาตุลสฺสาติ. เตสํ ปน สพฺเพสมฺปิ กโรนฺเตน เตสํเยว สนฺตกํ เภสชฺชํ คเหตฺวา เกวลํ โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปน นปฺปโหนฺติ, ยาจนฺติ จ ‘‘เทถ โน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปฏิทสฺสามา’’ติ ตาวกาลิกํ ทาตพฺพํ. สเจปิ น ยาจนฺติ, ‘‘อมฺหากํ เภสชฺชํ อตฺถิ, ตาวกาลิกํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา วา ‘‘ยทา เนสํ ภวิสฺสติ ตทา ทสฺสนฺตี’’ติ อาโภคํ วา กตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ ปฏิเทนฺติ, คเหตพฺพํ, โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพา. เอเต ทส าตเก เปตฺวา อฺเสํ น กาตพฺพํ.
เอเตสํ ¶ ปุตฺตปรมฺปราย ปน ยาว สตฺตโม กุลปริวฏฺโฏ ตาว จตฺตาโร ปจฺจเย อาหราเปนฺตสฺส อกตวิฺตฺติ วา เภสชฺชํ กโรนฺตสฺส เวชฺชกมฺมํ วา กุลทูสกาปตฺติ วา น โหติ. สเจ ภาตุชายา ภคินิสามิโก วา คิลานา โหนฺติ, าตกา เจ, เตสมฺปิ วฏฺฏติ. อฺาตกา เจ, ภาตุ จ ภคินิยา จ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ ชคฺคนฏฺาเน เทถา’’ติ. อถ วา เตสํ ปุตฺตานํ กตฺวา ทาตพฺพํ, ‘‘ตุมฺหากํ มาตาปิตูนํ ¶ เทถา’’ติ. เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
เตสํ อตฺถาย จ สามเณเรหิ อรฺโต เภสชฺชํ อาหราเปนฺเตน าติสามเณเรหิ วา อาหราเปตพฺพํ. อตฺตโน อตฺถาย วา อาหราเปตฺวา ¶ ทาตพฺพํ. เตหิปิ ‘‘อุปชฺฌายสฺส อาหรามา’’ติ วตฺตสีเสน อาหริตพฺพํ. อุปชฺฌายสฺส มาตาปิตโร คิลานา วิหารํ อาคจฺฉนฺติ, อุปชฺฌาโย จ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สทฺธิวิหาริเกน อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ เภสชฺชํ ทาตพฺพํ. โน เจ อตฺถิ, อตฺตโน เภสชฺชํ อุปชฺฌายสฺส ปริจฺจชิตฺวา ทาตพฺพํ. อตฺตโนปิ อสนฺเต วุตฺตนเยน ปริเยสิตฺวา อุปชฺฌายสฺส สนฺตกํ กตฺวา ทาตพฺพํ. อุปชฺฌาเยนปิ สทฺธิวิหาริกสฺส มาตาปิตูสุ เอวเมว ปฏิปชฺชิตพฺพํ. เอส นโย อาจริยนฺเตวาสิเกสุปิ. อฺโปิ โย อาคนฺตุโก วา โจโร วา ยุทฺธปราชิโต อิสฺสโร วา าตเกหิ ปริจฺจตฺโต กปโณ วา คมิยมนุสฺโส วา คิลาโน หุตฺวา วิหารํ ปวิสติ, สพฺเพสํ อปจฺจาสีสนฺเตน เภสชฺชํ กาตพฺพํ.
สทฺธํ กุลํ โหติ จตูหิ ปจฺจเยหิ อุปฏฺายกํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส มาตาปิตุฏฺานิยํ, ตตฺร เจ โกจิ คิลาโน โหติ, ตสฺสตฺถาย วิสฺสาเสน ‘‘เภสชฺชํ กตฺวา ภนฺเต เทถา’’ติ วทนฺติ, เนว ทาตพฺพํ น กาตพฺพํ. อถ ปน กปฺปิยํ ตฺวา เอวํ ปุจฺฉนฺติ – ‘‘ภนฺเต, อสุกสฺส นาม โรคสฺส กึ เภสชฺชํ กโรนฺตี’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ คเหตฺวา กโรนฺตี’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ภนฺเต, มยฺหํ มาตา คิลานา, เภสชฺชํ ตาว อาจิกฺขถา’’ติ เอวํ ปุจฺฉิเต ปน น อาจิกฺขิตพฺพํ. อฺมฺํ ปน กถา กาตพฺพา – ‘‘อาวุโส, อสุกสฺส นาม ภิกฺขุโน อิมสฺมึ โรเค กึ เภสชฺชํ กรึสู’’ติ? ‘‘อิทฺจิทฺจ ภนฺเต’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร มาตุ เภสชฺชํ กโรติ, วฏฺฏเตว.
มหาปทุมตฺเถโรปิ กิร วสภรฺโ เทวิยา โรเค อุปฺปนฺเน เอกาย อิตฺถิยา อาคนฺตฺวา ปุจฺฉิโต ‘‘น ชานามี’’ติ อวตฺวา เอวเมว ภิกฺขูหิ สทฺธึ สมุลฺลเปสิ. ตํ สุตฺวา ตสฺสา เภสชฺชมกํสุ. วูปสนฺเต จ โรเค ติจีวเรน ตีหิ จ กหาปณสเตหิ สทฺธึ เภสชฺชจงฺโกฏกํ ปูเรตฺวา ¶ อาหริตฺวา ¶ เถรสฺส ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ภนฺเต, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ อาหํสุ. เถโร ‘‘อาจริยภาโค นามาย’’นฺติ กปฺปิยวเสน คาหาเปตฺวา ปุปฺผปูชํ อกาสิ. เอวํ ตาว เภสชฺเช ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปริตฺเต ¶ ปน ‘‘คิลานสฺส ปริตฺตํ กโรถ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต น กาตพฺพํ, ‘‘ภณถา’’ติ วุตฺเต ปน กาตพฺพํ. สเจ ปิสฺส เอวํ โหติ ‘‘มนุสฺสา นาม น ชานนฺติ, อกยิรมาเน วิปฺปฏิสาริโน ภวิสฺสนฺตี’’ติ กาตพฺพํ; ‘‘ปริตฺโตทกํ ปริตฺตสุตฺตํ กตฺวา เทถา’’ติ วุตฺเตน ปน เตสํเยว อุทกํ หตฺเถน จาเลตฺวา สุตฺตํ ปริมชฺเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ วิหารโต อุทกํ อตฺตโน สนฺตกํ วา สุตฺตํ เทติ, ทุกฺกฏํ. มนุสฺสา อุทกฺจ สุตฺตฺจ คเหตฺวา นิสีทิตฺวา ‘‘ปริตฺตํ ภณถา’’ติ วทนฺติ, กาตพฺพํ. โน เจ ชานนฺติ, อาจิกฺขิตพฺพํ. ภิกฺขูนํ นิสินฺนานํ ปาเทสุ อุทกํ อากิริตฺวา สุตฺตฺจ เปตฺวา คจฺฉนฺติ ‘‘ปริตฺตํ กโรถ, ปริตฺตํ ภณถา’’ติ น ปาทา อปเนตพฺพา. มนุสฺสา หิ วิปฺปฏิสาริโน โหนฺติ. อนฺโตคาเม คิลานสฺสตฺถาย วิหารํ เปเสนฺติ, ‘‘ปริตฺตํ ภณนฺตู’’ติ ภณิตพฺพํ. อนฺโตคาเม ราชเคหาทีสุ โรเค วา อุปทฺทเว วา อุปฺปนฺเน ปกฺโกสาเปตฺวา ภณาเปนฺติ, อาฏานาฏิยสุตฺตาทีนิ ภณิตพฺพานิ. ‘‘อาคนฺตฺวา คิลานสฺส สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตุ. ราชนฺเตปุเร วา อมจฺจเคเห วา อาคนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ เทนฺตุ, ธมฺมํ กเถนฺตู’’ติ เปสิเตปิ คนฺตฺวา สิกฺขาปทานิ ทาตพฺพานิ, ธมฺโม กเถตพฺโพ. ‘‘มตานํ ปริวารตฺถํ อาคจฺฉนฺตู’’ติ ปกฺโกสนฺติ, น คนฺตพฺพํ. สีวถิกทสฺสเน อสุภทสฺสเน จ มรณสฺสตึ ปฏิลภิสฺสามีติ กมฺมฏฺานสีเสน คนฺตุํ วฏฺฏติ. เอวํ ปริตฺเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปิณฺฑปาเต ปน – อนามฏฺปิณฺฑปาโต กสฺส ทาตพฺโพ, กสฺส น ทาตพฺโพ? มาตาปิตุนํ ตาว ทาตพฺโพ. สเจปิ กหาปณคฺฆนโก โหติ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ นตฺถิ. มาตาปิตุอุปฏฺากานํ เวยฺยาวจฺจกรสฺส ปณฺฑุปลาสสฺสาติ ¶ เอเตสมฺปิ ทาตพฺโพ. ตตฺถ ปณฺฑุปลาสสฺส ถาลเก ปกฺขิปิตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ. ตํ เปตฺวา อฺเสํ อาคาริกานํ มาตาปิตุนมฺปิ น วฏฺฏติ. ปพฺพชิตปริโภโค หิ อาคาริกานํ เจติยฏฺานิโย. อปิจ อนามฏฺปิณฺฑปาโต นาเมส สมฺปตฺตสฺส ทามริกโจรสฺสาปิ อิสฺสรสฺสาปิ ทาตพฺโพ. กสฺมา? เต หิ อทียมาเนปิ ‘‘น เทนฺตี’’ติ อามสิตฺวา ทียมาเนปิ ‘‘อุจฺฉิฏฺกํ เทนฺตี’’ติ กุชฺฌนฺติ. กุทฺธา ชีวิตาปิ โวโรเปนฺติ, สาสนสฺสาปิ อนฺตรายํ กโรนฺติ. รชฺชํ ¶ ปตฺถยมานสฺส วิจรโต โจรนาคสฺส วตฺถุ เจตฺถ กเถตพฺพํ. เอวํ ปิณฺฑปาเต ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
ปฏิสนฺถาโร ปน กสฺส กาตพฺโพ, กสฺส น กาตพฺโพ? ปฏิสนฺถาโร นาม วิหารํ สมฺปตฺตสฺส ¶ ยสฺส กสฺสจิ อาคนฺตุกสฺส วา ทลิทฺทสฺส วา โจรสฺส วา อิสฺสรสฺส วา กาตพฺโพเยว. กถํ? อาคนฺตุกํ ตาว ขีณปริพฺพยํ วิหารํ สมฺปตฺตํ ทิสฺวา ปานียํ ทาตพฺพํ, ปาทมกฺขนเตลํ ทาตพฺพํ. กาเล อาคตสฺส ยาคุภตฺตํ, วิกาเล อาคตสฺส สเจ ตณฺฑุลา อตฺถิ; ตณฺฑุลา ทาตพฺพา. อเวลายํ สมฺปตฺโต ‘‘คจฺฉาหี’’ติ น วตฺตพฺโพ. สยนฏฺานํ ทาตพฺพํ. สพฺพํ อปจฺจาสีสนฺเตเนว กาตพฺพํ. ‘‘มนุสฺสา นาม จตุปจฺจยทายกา เอวํ สงฺคเห กยิรมาเน ปุนปฺปุนํ ปสีทิตฺวา อุปการํ กริสฺสนฺตี’’ติ จิตฺตํ น อุปฺปาเทตพฺพํ. โจรานํ ปน สงฺฆิกมฺปิ ทาตพฺพํ.
ปฏิสนฺถารานิสํสทีปนตฺถฺจ โจรนาควตฺถุ, ภาตรา สทฺธึ ชมฺพุทีปคตสฺส มหานาครฺโ วตฺถุ, ปิตุราชสฺส รชฺเช จตุนฺนํ อมจฺจานํ วตฺถุ, อภยโจรวตฺถูติ เอวมาทีนิ พหูนิ ¶ วตฺถูนิ มหาอฏฺกถายํ วิตฺถารโต วุตฺตานิ.
ตตฺรายํ เอกวตฺถุทีปนา – สีหฬทีเป กิร อภโย นาม โจโร ปฺจสตปริวาโร เอกสฺมึ าเน ขนฺธาวารํ พนฺธิตฺวา สมนฺตา ติโยชนํ อุพฺพาเสตฺวา วสติ. อนุราธปุรวาสิโน กทมฺพนทึ น อุตฺตรนฺติ, เจติยคิริมคฺเค ชนสฺจาโร อุปจฺฉินฺโน. อเถกทิวสํ โจโร ‘‘เจติยคิรึ วิลุมฺปิสฺสามี’’ติ อคมาสิ. อารามิกา ทิสฺวา ทีฆภาณกอภยตฺเถรสฺส อาโรเจสุํ. เถโร ‘‘สปฺปิผาณิตาทีนิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิ. ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต’’ติ. ‘‘โจรานํ เทถ, ตณฺฑุลา อตฺถี’’ติ? ‘‘อตฺถิ, ภนฺเต, สงฺฆสฺสตฺถาย อาหฏา ตณฺฑุลา จ ปตฺตสากฺจ โครโส จา’’ติ. ‘‘ภตฺตํ สมฺปาเทตฺวา โจรานํ เทถา’’ติ. อารามิกา ตถา กรึสุ. โจรา ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา ‘‘เกนายํ ปฏิสนฺถาโร กโต’’ติ ปุจฺฉึสุ. ‘‘อมฺหากํ อยฺเยน อภยตฺเถเรนา’’ติ. โจรา เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา อาหํสุ – ‘‘มยํ สงฺฆสฺส จ เจติยสฺส ¶ จ สนฺตกํ อจฺฉินฺทิตฺวา คเหสฺสามาติ อาคตา, ตุมฺหากํ ปน อิมินา ปฏิสนฺถาเรนมฺห ปสนฺนา, อชฺช ปฏฺาย วิหาเร ธมฺมิกา รกฺขา อมฺหากํ อายตฺตา โหตุ, นาครา อาคนฺตฺวา ทานํ เทนฺตุ, เจติยํ วนฺทนฺตู’’ติ. ตโต ปฏฺาย จ นาคเร ทานํ ทาตุํ อาคจฺฉนฺเต นทีตีเรเยว ปจฺจุคฺคนฺตฺวา รกฺขนฺตา วิหารํ เนนฺติ, วิหาเรปิ ทานํ เทนฺตานํ รกฺขํ กตฺวา ติฏฺนฺติ. เตปิ ภิกฺขูนํ ภุตฺตาวเสสํ โจรานํ เทนฺติ. คมนกาเลปิ เต โจรา นทีตีรํ ปาเปตฺวา นิวตฺตนฺติ.
อเถกทิวสํ ภิกฺขุสงฺเฆ ขียนกกถา อุปฺปนฺนา ‘‘เถโร อิสฺสรวตาย สงฺฆสฺส สนฺตกํ โจรานํ อทาสี’’ติ. เถโร สนฺนิปาตํ การาเปตฺวา อาห – ‘‘โจรา สงฺฆสฺส ปกติวฏฺฏฺจ เจติยสนฺตกฺจ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหิสฺสามา’’ติ อาคมึสุ. อถ เนสํ มยา เอวํ น หริสฺสนฺตีติ ¶ เอตฺตโก นาม ปฏิสนฺถาโร กโต, ตํ สพฺพมฺปิ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถ. เตน การเณน อวิลุตฺตํ ภณฺฑํ เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา อคฺฆาเปถาติ. ตโต สพฺพมฺปิ เถเรน ทินฺนกํ เจติยฆเร เอกํ วรโปตฺถกจิตฺตตฺถรณํ ¶ น อคฺฆติ. ตโต อาหํสุ – ‘‘เถเรน กตปฏิสนฺถาโร สุกโต โจเทตุํ วา สาเรตุํ วา น ลพฺภา, คีวา วา อวหาโร วา นตฺถี’’ติ. เอวํ มหานิสํโส ปฏิสนฺถาโรติ สลฺลกฺเขตฺวา กตฺตพฺโพ ปณฺฑิเตน ภิกฺขุนาติ.
๑๘๗. องฺคุลิปโตทกวตฺถุสฺมึ – อุตฺตนฺโตติ กิลมนฺโต. อนสฺสาสโกติ นิรสฺสาโส. อิมสฺมึ ปน วตฺถุสฺมึ ยาย อาปตฺติยา ภวิตพฺพํ สา ‘‘ขุทฺทเกสุ นิทิฏฺา’’ติ อิธ น วุตฺตา.
ตทนนฺตเร วตฺถุสฺมึ – โอตฺถริตฺวาติ อกฺกมิตฺวา. โส กิร เตหิ อากฑฺฒิยมาโน ปติโต. เอโก ตสฺส อุทรํ อภิรุหิตฺวา นิสีทิ. เสสาปิ ปนฺนรส ชนา ปถวิยํ อชฺโฌตฺถริตฺวา อทูหลปาสาณา วิย มิคํ มาเรสุํ. ยสฺมา ปน เต กมฺมาธิปฺปายา, น มรณาธิปฺปายา; ตสฺมา ปาราชิกํ น วุตฺตํ.
ภูตเวชฺชกวตฺถุสฺมึ – ยกฺขํ มาเรสีติ ภูตวิชฺชากปากา ยกฺขคหิตํ โมเจตุกามา ยกฺขํ อาวาเหตฺวา มฺุจาติ วทนฺติ. โน เจ มฺุจติ, ปิฏฺเน วา มตฺติกาย วา รูปํ กตฺวา หตฺถปาทาทีนิ ฉินฺทนฺติ, ยํ ยํ ตสฺส ฉิชฺชติ ตํ ตํ ยกฺขสฺส ฉินฺนเมว โหติ. สีเส ฉินฺเน ยกฺโขปิ มรติ ¶ . เอวํ โสปิ มาเรสิ; ตสฺมา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. น เกวลฺจ ยกฺขเมว, โยปิ หิ สกฺกํ เทวราชํ มาเรยฺย, โสปิ ถุลฺลจฺจยเมว อาปชฺชติ.
วาฬยกฺขวตฺถุสฺมึ – วาฬยกฺขวิหารนฺติ ยสฺมึ วิหาเร วาโฬ จณฺโฑ ยกฺโข วสติ, ตํ วิหารํ. โย หิ เอวรูปํ วิหารํ อชานนฺโต เกวลํ วสนตฺถาย เปเสติ, อนาปตฺติ. โย มรณาธิปฺปาโย เปเสติ, โส อิตรสฺส มรเณน ปาราชิกํ, อมรเณน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. ยถา จ วาฬยกฺขวิหารํ; เอวํ ยตฺถ วาฬสีหพฺยคฺฆาทิมิคา วา อชครกณฺหสปฺปาทโย ทีฆชาติกา วา วสนฺติ, ตํ วาฬวิหารํ เปเสนฺตสฺสาปิ อาปตฺตานาปตฺติเภโท ¶ เวทิตพฺโพ. อยํ ปาฬิมุตฺตกนโย. ยถา จ ภิกฺขุํ วาฬยกฺขวิหารํ เปเสนฺตสฺส; เอวํ วาฬยกฺขมฺปิ ภิกฺขุสนฺติกํ เปเสนฺตสฺส อาปตฺตานาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ. เอเสว นโย วาฬกนฺตาราทิวตฺถูสุปิ. เกวลฺเหตฺถ ยสฺมึ กนฺตาเร วาฬมิคา วา ทีฆชาติกา วา อตฺถิ, โส วาฬกนฺตาโร. ยสฺมึ โจรา อตฺถิ, โส โจรกนฺตาโรติ เอวํ ปทตฺถมตฺตเมว นานํ. มนุสฺสวิคฺคหปาราชิกฺจ นาเมตํ สณฺหํ, ปริยายกถาย น มุจฺจติ; ตสฺมา โย วเทยฺย ‘‘อสุกสฺมึ นาม โอกาเส โจโร นิสินฺโน ¶ , โย ตสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา อาหรติ, โส ราชโต สกฺการวิเสสํ ลภตี’’ติ. ตสฺส เจตํ วจนํ สุตฺวา โกจิ นํ คนฺตฺวา มาเรติ, อยํ ปาราชิโก โหตีติ.
๑๘๘. ตํ มฺมาโนติ อาทีสุ โส กิร ภิกฺขุ อตฺตโน เวริภิกฺขุํ มาเรตุกาโม จินฺเตสิ – ‘‘อิมํ เม ทิวา มาเรนฺตสฺส น สุกรํ ภเวยฺย โสตฺถินา คนฺตุํ, รตฺตึ นํ มาเรสฺสามี’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา รตฺตึ อาคมฺม พหูนํ สยิตฏฺาเน ตํ มฺมาโน ตเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. อปโร ตํ มฺมาโน อฺํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน ตํ, อปโร อฺํ ตสฺเสว สหายํ มฺมาโน อฺํ ตสฺส สหายเมว ชีวิตา โวโรเปสิ. สพฺเพสมฺปิ ปาราชิกเมว.
อมนุสฺสคหิตวตฺถูสุ ปเม วตฺถุสฺมึ ‘‘ยกฺขํ ปลาเปสฺสามี’’ติ ปหารํ อทาสิ, อิตโร ‘‘น ทานายํ วิรชฺฌิตุํ สมตฺโถ, มาเรสฺสามิ น’’นฺติ ¶ . เอตฺถ จ นมรณาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ วุตฺตาติ. น เอตฺตเกเนว อมนุสฺสคหิตสฺส ปหาโร ทาตพฺโพ, ตาลปณฺณํ ปน ปริตฺตสุตฺตํ วา หตฺเถ วา ปาเท วา พนฺธิตพฺพํ, รตนสุตฺตาทีนิ ปริตฺตานิ ภณิตพฺพานิ, ‘‘มา สีลวนฺตํ ภิกฺขุํ วิเหเหี’’ติ ธมฺมกถา กาตพฺพาติ. สคฺคกถาทีนิ อุตฺตานตฺถานิ. ยฺเหตฺถ วตฺตพฺพํ ตํ วุตฺตเมว.
๑๘๙. รุกฺขจฺเฉทนวตฺถุ อฏฺฏพนฺธนวตฺถุสทิสํ. อยํ ปน วิเสโส – โย รุกฺเขน โอตฺถโตปิ น มรติ ¶ , สกฺกา จ โหติ เอเกน ปสฺเสน รุกฺขํ เฉตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา นิกฺขมิตุํ, หตฺเถ จสฺส วาสิ วา กุารี วา อตฺถิ, เตน อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ รุกฺโข วา ฉินฺทิตพฺโพ, น ปถวี วา ขณิตพฺพา. กสฺมา? เอวํ กโรนฺโต หิ ปาจิตฺติยํ อาปชฺชติ, พุทฺธสฺส อาณํ ภฺชติ, น ชีวิตปริยนฺตํ สีลํ กโรติ. ตสฺมา อปิ ชีวิตํ ปริจฺจชิตพฺพํ, น จ สีลนฺติ ปริคฺคเหตฺวา น เอวํ กาตพฺพํ. อฺสฺส ปน ภิกฺขุโน รุกฺขํ วา ฉินฺทิตฺวา ปถวึ วา ขนิตฺวา ตํ นีหริตุํ วฏฺฏติ. สเจ อุทุกฺขลยนฺตเกน รุกฺขํ ปวฏฺเฏตฺวา นีหริตพฺโพ โหติ, ตํเยว รุกฺขํ ฉินฺทิตฺวา อุทุกฺขลํ คเหตพฺพนฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. อฺมฺปิ ฉินฺทิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏตีติ มหาปทุมตฺเถโร. โสพฺภาทีสุ ปติตสฺสาปิ นิสฺเสณึ พนฺธิตฺวา อุตฺตารเณ เอเสว นโย. อตฺตนา ภูตคามํ ฉินฺทิตฺวา นิสฺเสณี น กาตพฺพา, อฺเสํ กตฺวา อุทฺธริตุํ วฏฺฏตีติ.
๑๙๐. ทายาลิมฺปนวตฺถูสุ – ทายํ อาลิมฺเปสุนฺติ วเน อคฺคึ อทํสุ. เอตฺถ ปน อุทฺทิสฺสานุทฺทิสฺสวเสน ปาราชิกานนฺตริยถุลฺลจฺจยปาจิตฺติวตฺถูนํ อนุรูปโต ปาราชิกาทีนิ อกุสลราสิภาโว ¶ จ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. ‘‘อลฺลติณวนปฺปคุมฺพาทโย ฑยฺหนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส จ ปาจิตฺติยํ. ‘‘ทพฺพูปกรณานิ วินสฺสนฺตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ขิฑฺฑาธิปฺปาเยนาปิ ทุกฺกฏนฺติ สงฺเขปฏฺกถายํ วุตฺตํ. ‘‘ยํกิฺจิ อลฺลสุกฺขํ สอินฺทฺริยานินฺทฺริยํ ฑยฺหตู’’ติ อาลิมฺเปนฺตสฺส วตฺถุวเสน ปาราชิกถุลฺลจฺจยปาจิตฺติยทุกฺกฏานิ เวทิตพฺพานิ.
ปฏคฺคิทานํ ปน ปริตฺตกรณฺจ ภควตา อนฺุาตํ, ตสฺมา อรฺเ วนกมฺมิเกหิ วา ทินฺนํ สยํ วา อุฏฺิตํ อคฺคึ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘ติณกุฏิโย มา ¶ วินสฺสนฺตู’’ติ ตสฺส อคฺคิโน ปฏิอคฺคึ ทาตุํ วฏฺฏติ, เยน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต อคฺคิ เอกโต หุตฺวา นิรุปาทาโน นิพฺพาติ. ปริตฺตมฺปิ ¶ กาตุํ วฏฺฏติ ติณกุฏิกานํ สมนฺตา ภูมิตจฺฉนํ ปริขาขณนํ วา, ยถา อาคโต อคฺคิ อุปาทานํ อลภิตฺวา นิพฺพาติ. เอตฺจ สพฺพํ อุฏฺิเตเยว อคฺคิสฺมึ กาตุํ วฏฺฏติ. อนุฏฺิเต อนุปสมฺปนฺเนหิ กปฺปิยโวหาเรน กาเรตพฺพํ. อุทเกน ปน นิพฺพาเปนฺเตหิ อปฺปาณกเมว อุทกํ อาสิฺจิตพฺพํ.
๑๙๑. อาฆาตนวตฺถุสฺมึ – ยถา เอกปฺปหารวจเน; เอวํ ‘‘ทฺวีหิ ปหาเรหี’’ติ อาทิวจเนสุปิ ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ. ‘‘ทฺวีหี’’ติ วุตฺเต จ เอเกน ปหาเรน มาริเตปิ เขตฺตเมว โอติณฺณตฺตา ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต ปน วิสงฺเกตํ. อิติ ยถาปริจฺเฉเท วา ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร วา อวิสงฺเกตํ, ปริจฺเฉทาติกฺกเม ปน สพฺพตฺถ วิสงฺเกตํ โหติ, อาณาปโก มุจฺจติ, วธกสฺเสว โทโส. ยถา จ ปหาเรสุ; เอวํ ปุริเสสุปิ ‘‘เอโก มาเรตู’’ติ วุตฺเต เอเกเนว มาริเต ปาราชิกํ, ทฺวีหิ มาริเต วิสงฺเกตํ. ‘‘ทฺเว มาเรนฺตู’’ติ วุตฺเต เอเกน วา ทฺวีหิ วา มาริเต ปาราชิกํ, ตีหิ มาริเต วิสงฺเกตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอโก สงฺคาเม เวเคน ธาวโต ปุริสสฺส สีสํ อสินา ฉินฺทติ, อสีสกํ กพนฺธํ ธาวติ, ตมฺโ ปหริตฺวา ปาเตสิ, กสฺส ปาราชิกนฺติ วุตฺเต อุปฑฺฒา เถรา ‘‘คมนูปจฺเฉทกสฺสา’’ติ อาหํสุ. อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ‘‘สีสจฺเฉทกสฺสา’’ติ. เอวรูปานิปิ วตฺถูนิ อิมสฺส วตฺถุสฺส อตฺถทีปเน วตฺตพฺพานีติ.
๑๙๒. ตกฺกวตฺถุสฺมึ – อนิยเมตฺวา ‘‘ตกฺกํ ปาเยถา’’ติ วุตฺเต ยํ วา ตํ วา ตกฺกํ ปาเยตฺวา มาริเต ปาราชิกํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘โคตกฺกํ มหึสตกฺกํ อชิกาตกฺก’’นฺติ วา, ‘‘สีตํ อุณฺหํ ธูปิตํ อธูปิต’’นฺติ วา วุตฺเต ยํ วุตฺตํ, ตโต อฺํ ปาเยตฺวา มาริเต วิสงฺเกตํ.
โลณโสวีรกวตฺถุสฺมึ ¶ – โลณโสวีรกํ นาม สพฺพรสาภิสงฺขตํ เอกํ เภสชฺชํ. ตํ กิร กโรนฺตา ¶ หรีตกามลกวิภีตกกสาเว สพฺพธฺานิ สพฺพอปรณฺณานิ สตฺตนฺนมฺปิ ธฺานํ โอทนํ กทลิผลาทีนิ สพฺพผลานิ เวตฺตเกตกขชฺชูริกฬีราทโย สพฺพกฬีเร มจฺฉมํสขณฺฑานิ อเนกานิ จ มธุผาณิตสินฺธวโลณนิกฏุกาทีนิ เภสชฺชานิ ปกฺขิปิตฺวา ¶ กุมฺภิมุขํ ลิมฺปิตฺวา เอกํ วา ทฺเว วา ตีณิ วา สํวจฺฉรานิ เปนฺติ, ตํ ปริปจฺจิตฺวา ชมฺพุรสวณฺณํ โหติ. วาตกาสกุฏฺปณฺฑุภคนฺทราทีนํ สินิทฺธโภชนํ ภุตฺตานฺจ อุตฺตรปานํ ภตฺตชีรณกเภสชฺชํ ตาทิสํ นตฺถิ. ตํ ปเนตํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ วฏฺฏติ, คิลานานํ ปากติกเมว, อคิลานานํ ปน อุทกสมฺภินฺนํ ปานปริโภเคนาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถปาราชิกํ
จตุสจฺจวิทู ¶ สตฺถา, จตุตฺถํ ยํ ปกาสยิ;
ปาราชิกํ ตสฺส ทานิ, ปตฺโต สํวณฺณนากฺกโม.
ยสฺมา ตสฺมา สุวิฺเยฺยํ, ยํ ปุพฺเพ จ ปกาสิตํ;
ตํ วชฺชยิตฺวา อสฺสาปิ, โหติ สํวณฺณนา อยํ.
วคฺคุมุทาตีริยภิกฺขุวตฺถุวณฺณนา
๑๙๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ…เป… คิหีนํ กมฺมนฺตํ อธิฏฺเมาติ คิหีนํ เขตฺเตสุ เจว อารามาทีสุ จ กตฺตพฺพกิจฺจํ อธิฏฺาม; ‘‘เอวํ กาตพฺพํ, เอวํ น กาตพฺพ’’นฺติ อาจิกฺขาม เจว อนุสาสาม จาติ วุตฺตํ โหติ. ทูเตยฺยนฺติ ทูตกมฺมํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺสาติ มนุสฺเส อุตฺติณฺณธมฺมสฺส; มนุสฺเส อติกฺกมิตฺวา พฺรหฺมตฺตํ วา นิพฺพานํ วา ปาปนกธมฺมสฺสาติ อตฺโถ. อุตฺตริมนุสฺสานํ วา เสฏฺปุริสานํ ฌายีนฺจ อริยานฺจ ธมฺมสฺส. อสุโก ภิกฺขูติอาทีสุ อตฺตนา เอวํ มนฺตยิตฺวา ปจฺฉา คิหีนํ ภาสนฺตา ‘‘พุทฺธรกฺขิโต นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี, ธมฺมรกฺขิโต ทุติยสฺสา’’ติ เอวํ นามวเสเนว วณฺณํ ภาสึสูติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เอโสเยว โข อาวุโส เสยฺโยติ กมฺมนฺตาธิฏฺานํ ทูเตยฺยหรณฺจ พหุสปตฺตํ มหาสมารมฺภํ น จ สมณสารุปฺปํ. ตโต ปน อุภยโตปิ ¶ เอโส เอว เสยฺโย ปาสํสตโร สุนฺทรตโร โย อมฺหากํ คิหีนํ อฺมฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส วณฺโณ ภาสิโต. กึ วุตฺตํ โหติ? อิริยาปถํ สณฺเปตฺวา นิสินฺนํ วา จงฺกมนฺตํ วา ปุจฺฉนฺตานํ วา อปุจฺฉนฺตานํ วา คิหีนํ ‘‘อยํ ¶ อสุโก นาม ภิกฺขุ ปมสฺส ฌานสฺส ลาภี’’ติ เอวมาทินา นเยน โย อมฺหากํ อฺเน อฺสฺส อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสฺส ¶ วณฺโณ ภาสิโต ภวิสฺสติ, เอโส เอว เสยฺโยติ. อนาคตสมฺพนฺเธ ปน อสติ น เอเตหิ โส ตสฺมึ ขเณ ภาสิโตว ยสฺมา น ยุชฺชติ, ตสฺมา อนาคตสมฺพนฺธํ กตฺวา ‘‘โย เอวํ ภาสิโต ภวิสฺสติ, โส เอว เสยฺโย’’ติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ลกฺขณํ ปน สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺพํ.
๑๙๔. วณฺณวา อเหสุนฺติ อฺโเยว เนสํ อภินโว สรีรวณฺโณ อุปฺปชฺชิ, เตน วณฺเณน วณฺณวนฺโต อเหสุํ. ปีณินฺทฺริยาติ ปฺจหิ ปสาเทหิ อภินิวิฏฺโกาสสฺส ปริปุณฺณตฺตา มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ อมิลาตภาเวน ปีณินฺทฺริยา. ปสนฺนมุขวณฺณาติ กิฺจาปิ อวิเสเสน วณฺณวนฺโต สรีรวณฺณโต ปน เนสํ มุขวณฺโณ อธิกตรํ ปสนฺโน; อจฺโฉ อนาวิโล ปริสุทฺโธติ อตฺโถ. วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณาติ เยน จ เต มหากณิการปุปฺผาทิสทิเสน วณฺเณน วณฺณวนฺโต, ตาทิโส อฺเสมฺปิ มนุสฺสานํ วณฺโณ อตฺถิ. ยถา ปน อิเมสํ; เอวํ น เตสํ ฉวิวณฺโณ วิปฺปสนฺโน. เตน วุตฺตํ – ‘‘วิปฺปสนฺนฉวิวณฺณา’’ติ. อิติห เต ภิกฺขู เนว อุทฺเทสํ น ปริปุจฺฉํ น กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺตา. อถ โข กุหกตาย อภูตคุณสํวณฺณนาย ลทฺธานิ ปณีตโภชนานิ ภฺุชิตฺวา ยถาสุขํ นิทฺทารามตํ สงฺคณิการามตฺจ อนุยฺุชนฺตา อิมํ สรีรโสภํ ปาปุณึสุ, ยถา ตํ พาลา ภนฺตมิคปฺปฏิภาคาติ.
วคฺคุมุทาตีริยาติ วคฺคุมุทาตีรวาสิโน. กจฺจิ ภิกฺขเว ขมนียนฺติ ภิกฺขเว กจฺจิ ตุมฺหากํ อิทํ จตุจกฺกํ นวทฺวารํ สรีรยนฺตํ ขมนียํ สกฺกา ขมิตุํ สหิตุํ ปริหริตุํ น กิฺจิ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตีติ. กจฺจิ ยาปนียนฺติ กจฺจิ สพฺพกิจฺเจสุ ยาเปตุํ คเมตุํ สกฺกา, น กิฺจิ อนฺตรายํ ทสฺเสตีติ. กุจฺฉิ ปริกนฺโตติ กุจฺฉิ ปริกนฺติโต วรํ ภเวยฺย; ‘‘ปริกตฺโต’’ติปิ ปาโ ยุชฺชติ. เอวํ ¶ วคฺคุมุทาตีริเย อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เตหิ กตกมฺมํ โจรกมฺมํ โหติ, ตสฺมา อายตึ อฺเสมฺปิ เอวรูปสฺส กมฺมสฺส อกรณตฺถํ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
๑๙๕. อามนฺเตตฺวา ¶ จ ปน ‘‘ปฺจิเม ภิกฺขเว มหาโจรา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สนฺโต สํวิชฺชมานาติ อตฺถิ เจว อุปลพฺภนฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตโลเก. เอวํ โหตีติ ¶ เอวํ ปุพฺพภาเค อิจฺฉา อุปฺปชฺชติ. กุทาสฺสุ นามาหนฺติ เอตฺถ สุอิติ นิปาโต; กุทา นามาติ อตฺโถ. โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน ปริสํ วฑฺเฒนฺโต ปนฺถทูหนกมฺมํ ปจฺจนฺติมคามวิโลปนฺติ เอวมาทีนิ กตฺวา เวปุลฺลปฺปตฺตปริโส หุตฺวา คาเมปิ อคาเม, ชนปเทปิ อชนปเท กโรนฺโต หนนฺโต ฆาเตนฺโต ฉินฺทนฺโต เฉทาเปนฺโต ปจนฺโต ปาเจนฺโต.
อิติ พาหิรกมหาโจรํ ทสฺเสตฺวา เตน สทิเส สาสเน ปฺจ มหาโจเร ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมว โข’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปาปภิกฺขุโนติ อฺเสุ าเนสุ มูลจฺฉินฺโน ปาราชิกปฺปตฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ วุจฺจติ. อิธ ปน ปาราชิกํ อนาปนฺโน อิจฺฉาจาเร ิโต ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ มทฺทิตฺวา วิจรนฺโต ‘‘ปาปภิกฺขู’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺสาปิ พาหิรกโจรสฺส วิย ปุพฺพภาเค เอวํ โหติ – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ…เป… ปริกฺขาราน’’นฺติ. ตตฺถ สกฺกโตติ สกฺการปฺปตฺโต. ครุกโตติ ครุการปฺปตฺโต. มานิโตติ มนสา ปิยายิโต. ปูชิโตติ จตุปจฺจยาภิหารปูชาย ปูชิโต. อปจิโตติ อปจิติปฺปตฺโต. ตตฺถ ยสฺส จตฺตาโร ปจฺจเย สกฺกริตฺวา สุฏฺุ อภิสงฺขเต ปณีตปณีเต กตฺวา เทนฺติ, โส สกฺกโต. ยสฺมึ ครุภาวํ ปจฺจุเปตฺวา เทนฺติ, โส ครุกโต. ยํ มนสา ปิยายนฺติ, โส มานิโต. ยสฺส สพฺพมฺเปตํ กโรนฺติ, โส ปูชิโต. ยสฺส อภิวาทนปจฺจุฏฺานอฺชลิกมฺมาทิวเสน ¶ ปรมนิปจฺจการํ กโรนฺติ, โส อปจิโต. อิมสฺส จ ปน สพฺพมฺปิ อิมํ โลกามิสํ ปตฺถยมานสฺส เอวํ โหติ.
โส อปเรน สมเยนาติ โส ปุพฺพภาเค เอวํ จินฺเตตฺวา อนุกฺกเมน สิกฺขาย อติพฺพคารเว อุทฺธเต อุนฺนเฬ จปเล มุขเร วิกิณฺณวาเจ มุฏฺสฺสตี อสมฺปชาเน ปากตินฺทฺริเย อาจริยุปชฺฌาเยหิ ปริจฺจตฺตเก ลาภครุเก ปาปภิกฺขู สงฺคณฺหิตฺวา อิริยาปถสณฺปนาทีนิ กุหกวตฺตานิ สิกฺขาเปตฺวา ‘‘อยํ เถโร อสุกสฺมึ นาม เสนาสเน วสฺสํ อุปคมฺม วตฺตปฏิปตฺตึ ปูรยมาโน วสฺสํ วสิตฺวา นิคฺคโต’’ติ โลกสมฺมตเสนาสนสํวณฺณนาทีหิ ¶ อุปาเยหิ โลกํ ปริปาเจตุํ ปฏิพเลหิ ชาตกาทีสุ กตปริจเยหิ สรสมฺปนฺเนหิ ปาปภิกฺขูหิ สํวณฺณิยมานคุโณ หุตฺวา สเตน วา สหสฺเสน วา ปริวุโต…เป… เภสชฺชปริกฺขารานํ. อยํ ภิกฺขเว ปโม มหาโจโรติ อยํ สนฺธิจฺเฉทาทิโจรโก วิย น เอกํ กุลํ น ทฺเว, อถ โข มหาชนํ วฺเจตฺวา จตุปจฺจยคหณโต ‘‘ปโม มหาโจโร’’ติ เวทิตพฺโพ. เย ปน สุตฺตนฺติกา วา อาภิธมฺมิกา วา วินยธรา วา ภิกฺขู ภิกฺขาจาเร อสมฺปชฺชมาเน ปาฬึ วาเจนฺตา อฏฺกถํ กเถนฺตา อนุโมทนาย ธมฺมกถาย อิริยาปถสมฺปตฺติยา จ โลกํ ปสาเทนฺตา ชนปทจาริกํ ¶ จรนฺติ สกฺกตา ครุกตา มานิตา ปูชิตา อปจิตา, เต ‘‘ตนฺติปเวณิฆฏนกา สาสนโชตกา’’ติ เวทิตพฺพา.
ตถาคตปฺปเวทิตนฺติ ตถาคเตน ปฏิวิทฺธํ ปจฺจกฺขกตํ ชานาปิตํ วา. อตฺตโน ทหตีติ ปริสมชฺเฌ ปาฬิฺจ อฏฺกถฺจ สํสนฺทิตฺวา มธุเรน สเรน ปสาทนียํ สุตฺตนฺตํ กเถตฺวา ธมฺมกถาวเสน อจฺฉริยพฺภุตชาเตน วิฺูชเนน ‘‘อโห, ภนฺเต, ปาฬิ จ อฏฺกถา จ สุปริสุทฺธา, กสฺส สนฺติเก อุคฺคณฺหิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิโต ‘‘โก อมฺหาทิเส อุคฺคหาเปตุํ สมตฺโถ’’ติ อาจริยํ อนุทฺทิสิตฺวา อตฺตนา ¶ ปฏิวิทฺธํ สยมฺภุาณาธิคตํ ธมฺมวินยํ ปเวเทติ. อยํ ตถาคเตน สตสหสฺสกปฺปาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺเขยฺยานิ ปารมิโย ปูเรตฺวา กิจฺเฉน กสิเรน ปฏิวิทฺธธมฺมตฺเถนโก ทุติโย มหาโจโร.
สุทฺธํ พฺรหฺมจารินฺติ ขีณาสวภิกฺขุํ. ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตนฺติ นิรุปกฺกิเลสํ เสฏฺจริยํ จรนฺตํ; อฺมฺปิ วา อนาคามึ อาทึ กตฺวา ยาว สีลวนฺตํ ปุถุชฺชนํ อวิปฺปฏิสาราทิวตฺถุกํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรนฺตํ. อมูลเกน อพฺรหฺมจริเยน อนุทฺธํเสตีติ ตสฺมึ ปุคฺคเล อวิชฺชมาเนน อนฺติมวตฺถุนา อนุวทติ โจเทติ; อยํ วิชฺชมานคุณมกฺขี อริยคุณตฺเถนโก ตติโย มหาโจโร.
ครุภณฺฑานิ ครุปริกฺขารานีติ ยถา อทินฺนาทาเน ‘‘จตุโร ชนา สํวิธาย ครุภณฺฑํ อวาหรุ’’นฺติ (ปริ. ๔๗๙) เอตฺถ ปฺจมาสกคฺฆนกํ ‘‘ครุภณฺฑ’’นฺติ วุจฺจติ, อิธ ปน น เอวํ. อถ โข ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานิ น วิสฺสชฺเชตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิสฺสชฺชิตานิปิ อวิสฺสชฺชิตานิ ¶ โหนฺติ. โย วิสฺสชฺเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ วจนโต อวิสฺสชฺชิตพฺพตฺตา ครุภณฺฑานิ. ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อเวภงฺคิยานิ น วิภชิตพฺพานิ สงฺเฆน วา คเณน วา ปุคฺคเลน วา. วิภตฺตานิปิ อวิภตฺตานิ โหนฺติ. โย วิภเชยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺส. กตมานิ ปฺจ? อาราโม, อารามวตฺถุ…เป… ทารุภณฺฑํ, มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติ (จูฬว. ๓๒๒) วจนโต อเวภงฺคิยตฺตา สาธารณปริกฺขารภาเวน ครุปริกฺขารานิ. อาราโม อารามวตฺถูติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ สพฺพํ ‘‘ปฺจิมานิ, ภิกฺขเว, อวิสฺสชฺชิยานี’’ติ ขนฺธเก อาคตสุตฺตวณฺณนายเมว ¶ ภณิสฺสาม. เตหิ คิหี สงฺคณฺหาตีติ ตานิ ทตฺวา ทตฺวา คิหีํ สงฺคณฺหาติ อนุคฺคณฺหาติ. อุปลาเปตีติ ‘‘อโห อมฺหากํ อยฺโย’’ติ เอวํ ลปนเก อนุพนฺธนเก สสฺเนเห กโรติ. อยํ อวิสฺสชฺชิยํ อเวภงฺคิยฺจ ¶ ครุปริกฺขารํ ตถาภาวโต เถเนตฺวา คิหิ สงฺคณฺหนโก จตุตฺโถ มหาโจโร. โส จ ปนายํ อิมํ ครุภณฺฑํ กุลสงฺคณฺหนตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต กุลทูสกทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. ปพฺพาชนียกมฺมารโห จ โหติ. ภิกฺขุสงฺฆํ อภิภวิตฺวา อิสฺสรวตาย วิสฺสชฺเชนฺโต ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ. เถยฺยจิตฺเตน วิสฺสชฺเชนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.
อยํ อคฺโค มหาโจโรติ อยํ อิเมสํ โจรานํ เชฏฺโจโร; อิมินา สทิโส โจโร นาม นตฺถิ, โย ปฺจินฺทฺริยคฺคหณาตีตํ อติสณฺหสุขุมํ โลกุตฺตรธมฺมํ เถเนติ. กึ ปน สกฺกา โลกุตฺตรธมฺโม หิรฺสุวณฺณาทีนิ วิย วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คเหตุนฺติ? น สกฺกา, เตเนวาห – ‘‘โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ. อยฺหิ อตฺตนิ อสนฺตํ ตํ ธมฺมํ เกวลํ ‘‘อตฺถิ มยฺหํ เอโส’’ติ อุลฺลปติ, น ปน สกฺโกติ านา จาเวตุํ, อตฺตนิ วา สํวิชฺชมานํ กาตุํ. อถ กสฺมา โจโรติ วุตฺโตติ? ยสฺมา ตํ อุลฺลปิตฺวา อสนฺตสมฺภาวนาย อุปฺปนฺเน ปจฺจเย คณฺหาติ. เอวฺหิ คณฺหตา เต ปจฺจยา สุขุเมน อุปาเยน วฺเจตฺวา เถเนตฺวา คหิตา โหนฺติ. เตเนวาห – ‘‘ตํ กิสฺส เหตุ? เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ. อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ – ยํ อโวจุมฺห – ‘‘อยํ อคฺโค มหาโจโร, โย อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติ ¶ . ตํ กิสฺส เหตูติ เกน การเณน เอตํ อโวจุมฺหาติ เจ. ‘‘เถยฺยาย โว ภิกฺขเว รฏฺปิณฺโฑ ภุตฺโต’’ติ ภิกฺขเว ยสฺมา โส เตน รฏฺปิณฺโฑ เถยฺยาย เถยฺยจิตฺเตน ภุตฺโต โหติ. เอตฺถ หิ โวกาโร ‘‘เย หิ โว อริยา อรฺวนปตฺถานี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๕-๓๖) วิย ¶ ปทปูรณมตฺเต นิปาโต. ตสฺมา ‘‘ตุมฺเหหิ ภุตฺโต’’ติ เอวมสฺส อตฺโถ น ทฏฺพฺโพ.
อิทานิ ตเมวตฺถํ คาถาหิ วิภูตตรํ กโรนฺโต ‘‘อฺถา สนฺต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อฺถา สนฺตนฺติ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเนากาเรน สนฺตํ. อฺถา โย ปเวทเยติ ปริสุทฺธกายสมาจาราทิเกน อฺเน อากาเรน โย ปเวเทยฺย. ‘‘ปรมปริสุทฺโธ อหํ, อตฺถิ เม อพฺภนฺตเร โลกุตฺตรธมฺโม’’ติ เอวํ ชานาเปยฺย. ปเวเทตฺวา จ ปน ตาย ปเวทนาย อุปฺปนฺนํ โภชนํ อรหา วิย ภฺุชติ. นิกจฺจ กิตวสฺเสว ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ นิกจฺจาติ วฺเจตฺวา อฺถา สนฺตํ อฺถา ทสฺเสตฺวา. อคุมฺพอคจฺฉภูตเมว สาขาปลาสปลฺลวาทิจฺฉาทเนน คุมฺพมิว คจฺฉมิว จ อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา. กิตวสฺเสวาติ วฺจกสฺส เกราฏิกสฺส คุมฺพคจฺฉสฺาย อรฺเ อาคตาคเต สกุเณ คเหตฺวา ชีวิตกปฺปกสฺส สากุณิกสฺเสว. ภุตฺตํ เถยฺเยน ตสฺส ตนฺติ ตสฺสาปิ อนรหนฺตสฺเสว สโต อรหนฺตภาวํ ทสฺเสตฺวา ลทฺธโภชนํ ภฺุชโต; ยํ ตํ ภุตฺตํ ตํ ยถา สากุณิกกิตวสฺส นิกจฺจ ¶ วฺเจตฺวา สกุณคฺคหณํ, เอวํ มนุสฺเส วฺเจตฺวา ลทฺธสฺส โภชนสฺส ภุตฺตตฺตา เถยฺเยน ภุตฺตํ นาม โหติ.
อิมํ ปน อตฺถวสํ อชานนฺตา เย เอวํ ภฺุชนฺติ, กาสาวกณฺา…เป… นิรยํ เต อุปปชฺชเร กาสาวกณฺาติ กาสาเวน เวิตกณฺา. เอตฺตกเมว อริยทฺธชธารณมตฺตํ, เสสํ สามฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐) เอวํ วุตฺตทุสฺสีลานํ เอตํ อธิวจนํ. ปาปธมฺมาติ ลามกธมฺมา. อสฺตาติ กายาทีหิ อสฺตา. ปาปาติ ลามกปุคฺคลา. ปาเปหิ กมฺเมหีติ เตหิ กรณกาเล อาทีนวํ อทิสฺวา กเตหิ ปรวฺจนาทีหิ ปาปกมฺเมหิ. นิรยํ เต อุปปชฺชเรติ นิรสฺสาทํ ทุคฺคตึ เต อุปปชฺชนฺติ; ตสฺมา เสยฺโย อโยคุโฬติ คาถา. ตสฺสตฺโถ – สจายํ ทุสฺสีโล อสฺโต อิจฺฉาจาเร ิโต ¶ กุหนาย โลกํ วฺจโก ปุคฺคโล ตตฺตํ อคฺคิสิขูปมํ อโยคุฬํ ภฺุเชยฺย ¶ อชฺโฌหเรยฺย, ตสฺส ยฺเจตํ รฏฺปิณฺฑํ ภฺุเชยฺย, ยฺเจตํ อโยคุฬํ, เตสุ ทฺวีสุ อโยคุโฬว ภุตฺโต เสยฺโย สุนฺทรตโร ปณีตตโร จ ภเวยฺย, น หิ อโยคุฬสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย สพฺพฺุตาเณนาปิ ทุชฺชานปริจฺเฉทํ ทุกฺขํ อนุภวติ. เอวํ ปฏิลทฺธสฺส ปน ตสฺส รฏฺปิณฺฑสฺส ภุตฺตตฺตา สมฺปราเย วุตฺตปฺปการํ ทุกฺขํ อนุโภติ, อยฺหิ โกฏิปฺปตฺโต มิจฺฉาชีโวติ.
เอวํ ปาปกิริยาย อนาทีนวทสฺสาวีนํ อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อถ โข ภควา วคฺคุมุทาตีริเย ภิกฺขู อเนกปริยาเยน วิครหิตฺวา ทุพฺภรตาย ทุปฺโปสตาย…เป… อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถา’’ติ จ วตฺวา จตุตฺถปาราชิกํ ปฺเปนฺโต ‘‘โย ปน ภิกฺขุ อนภิชาน’’นฺติ อาทิมาห.
เอวํ มูลจฺเฉชฺชวเสน ทฬฺหํ กตฺวา จตุตฺถปาราชิเก ปฺตฺเต อปรมฺปิ อนุปฺปฺตฺตตฺถาย อธิมานวตฺถุ อุทปาทิ. ตสฺสุปฺปตฺติทีปนตฺถํ เอตํ วุตฺตํ – ‘‘เอวฺจิทํ ภควตา ภิกฺขูนํ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ โหตี’’ติ.
อธิมานวตฺถุวณฺณนา
๑๙๖. ตตฺถ อทิฏฺเ ทิฏฺสฺิโนติ อรหตฺเต าณจกฺขุนา อทิฏฺเเยว ‘‘ทิฏฺํ อมฺเหหิ อรหตฺต’’นฺติ ทิฏฺสฺิโน หุตฺวา. เอส นโย อปฺปตฺตาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – อปฺปตฺเตติ อตฺตโน ¶ สนฺตาเน อุปฺปตฺติวเสน อปฺปตฺเต. อนธิคเตติ มคฺคภาวนาย อนธิคเต; อปฺปฏิลทฺเธติปิ อตฺโถ. อสจฺฉิกเตติ อปฺปฏิวิทฺเธ ปจฺจเวกฺขณวเสน วา อปฺปจฺจกฺขกเต. อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน; ‘‘อธิคตา มย’’นฺติ เอวํ อุปฺปนฺนมาเนนาติ อตฺโถ, อธิกมาเนน วา ถทฺธมาเนนาติ อตฺโถ. อฺํ พฺยากรึสูติ อรหตฺตํ พฺยากรึสุ; ‘‘ปตฺตํ อาวุโส อมฺเหหิ อรหตฺตํ, กตํ กรณีย’’นฺติ ภิกฺขูนํ อาโรเจสุํ. เตสํ มคฺเคน อปฺปหีนกิเลสตฺตา เกวลํ สมถวิปสฺสนาพเลน วิกฺขมฺภิตกิเลสานํ อปเรน สมเยน ตถารูปปจฺจยสมาโยเค ราคาย จิตฺตํ นมติ; ราคตฺถาย นมตีติ อตฺโถ. เอส นโย อิตเรสุ.
ตฺจ ¶ โข เอตํ อพฺโพหาริกนฺติ ตฺจ โข เอตํ เตสํ อฺพฺยากรณํ อพฺโพหาริกํ อาปตฺติปฺาปเน โวหารํ น คจฺฉติ; อาปตฺติยา องฺคํ น โหตีติ อตฺโถ.
กสฺส ¶ ปนายํ อธิมาโน อุปฺปชฺชติ, กสฺส นุปฺปชฺชตีติ? อริยสาวกสฺส ตาว นุปฺปชฺชติ โส หิ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสอวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน สฺชาตโสมนสฺโส อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺโข. ตสฺมา โสตาปนฺนาทีนํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทิวเสน อธิมาโน นุปฺปชฺชติ. ทุสฺสีลสฺส นุปฺปชฺชติ, โส หิ อริยคุณาธิคเม นิราโสว. สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตสฺส นุปฺปชฺชติ. สุปริสุทฺธสีลสฺส ปน กมฺมฏฺาเน อปฺปมตฺตสฺส นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺจยปริคฺคเหน วิติณฺณกงฺขสฺส ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส อารทฺธวิปสฺสกสฺส อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ สุทฺธสมถลาภึ วา สุทฺธวิปสฺสนาลาภึ วา อนฺตรา เปติ, โส หิ ทสปิ วีสติปิ ตึสมฺปิ วสฺสานิ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสิตฺวา ‘‘อหํ โสตาปนฺโน’’ติ วา ‘‘สกทาคามี’’ติ วา ‘‘อนาคามี’’ติ วา มฺติ. สมถวิปสฺสนาลาภึ ปน อรหตฺเตเยว เปติ. ตสฺส หิ สมาธิพเลน กิเลสา วิกฺขมฺภิตา, วิปสฺสนาพเลน สงฺขารา สุปริคฺคหิตา, ตสฺมา สฏฺิมฺปิ วสฺสานิ อสีติมฺปิ วสฺสานิ วสฺสสตมฺปิ กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, ขีณาสวสฺเสว จิตฺตจาโร โหติ. โส เอวํ ทีฆรตฺตํ กิเลสสมุทาจารํ อปสฺสนฺโต อนฺตรา อตฺวาว ‘‘อรหา อห’’นฺติ มฺตีติ.
สวิภงฺคสิกฺขาปทวณฺณนา
๑๙๗. อนภิชานนฺติ น อภิชานํ. ยสฺมา ปนายํ อนภิชานํ สมุทาจรติ, สฺวสฺส สนฺตาเน ¶ อนุปฺปนฺโน าเณน จ อสจฺฉิกโตติ อภูโต โหติ. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘อสนฺตํ อภูตํ อสํวิชฺชมาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘อชานนฺโต อปสฺสนฺโต’’ติ วุตฺตํ ¶ .
อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺมํ. อตฺตุปนายิกนฺติ อตฺตนิ ตํ อุปเนติ, อตฺตานํ วา ตตฺถ อุปเนตีติ อตฺตุปนายิโก, ตํ อตฺตุปนายิกํ; เอวํ กตฺวา สมุทาจเรยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ปทภาชเน ปน ยสฺมา อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม นาม ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สฺุาคาเร อภิรตีติ เอวํ ฌานาทโย อเนกธมฺมา วุตฺตา. ตสฺมา เตสํ สพฺเพสํ วเสน อตฺตุปนายิกภาวํ ¶ ทสฺเสนฺโต ‘‘เต วา กุสเล ธมฺเม อตฺตนิ อุปเนตี’’ติ พหุวจนนิทฺเทสํ อกาสิ. ตตฺถ ‘‘เอเต ธมฺมา มยิ สนฺทิสฺสนฺตี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตนิ อุปเนติ. ‘‘อหํ เอเตสุ สนฺทิสฺสามี’’ติ สมุทาจรนฺโต อตฺตานํ เตสุ อุปเนตีติ เวทิตพฺโพ.
อลมริยาณทสฺสนนฺติ เอตฺถ โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา ชานนฏฺเน าณํ, จกฺขุนา ทิฏฺมิว ธมฺมํ ปจฺจกฺขกรณโต ทสฺสนฏฺเน ทสฺสนนฺติ าณทสฺสนํ. อริยํ วิสุทฺธํ อุตฺตมํ าณทสฺสนนฺติ อริยาณทสฺสนํ. อลํ ปริยตฺตํ กิเลสวิทฺธํสนสมตฺถํ อริยาณทสฺสนเมตฺถ, ฌานาทิเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อลํ วา อริยาณทสฺสนมสฺสาติ อลมริยาณทสฺสโน, ตํ อลมริยาณทสฺสนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ เอวํ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ เยน าณทสฺสเนน โส อลมริยาณทสฺสโนติ วุจฺจติ. ตเทว ทสฺเสตุํ ‘‘าณนฺติ ติสฺโส วิชฺชา, ทสฺสนนฺติ ยํ าณํ ตํ ทสฺสนํ; ยํ ทสฺสนํ ตํ าณ’’นฺติ วิชฺชาสีเสน ปทภาชนํ วุตฺตํ. มหคฺคตโลกุตฺตรา ปเนตฺถ สพฺพาปิ ปฺา ‘‘าณ’’นฺติ เวทิตพฺพา.
สมุทาจเรยฺยาติ วุตฺตปฺปการเมตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา อาโรเจยฺย. อิตฺถิยา วาติอาทิ ปน อาโรเจตพฺพปุคฺคลนิทสฺสนํ. เอเตสฺหิ อาโรจิเต อาโรจิตํ โหติ น เทวมารพฺรหฺมานํ, นาปิ เปตยกฺขติรจฺฉานคตานนฺติ. อิติ ชานามิ อิติ ปสฺสามีติ สมุทาจรณาการนิทสฺสนเมตํ. ปทภาชเน ปนสฺส ‘‘ชานามหํ เอเต ธมฺเม, ปสฺสามหํ เอเต ธมฺเม’’ติ อิทํ เตสุ ฌานาทีสุ ธมฺเมสุ ชานนปสฺสนานํ ปวตฺติทีปนํ, ‘‘อตฺถิ จ เม เอเต ธมฺมา’’ติอาทิ อตฺตุปนายิกภาวทีปนํ ¶ .
๑๙๘. ตโต อปเรน สมเยนาติ อาปตฺติปฏิชานนสมยทสฺสนเมตํ. อยํ ปน อาโรจิตกฺขเณเยว ปาราชิกํ อาปชฺชติ. อาปตฺตึ ปน อาปนฺโน ยสฺมา ปเรน โจทิโต วา อโจทิโต ¶ วา ปฏิชานาติ; ตสฺมา ‘‘สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺถ สมนุคฺคาหิยมาเน ตาว – กึ เต อธิคตนฺติ อธิคมปุจฺฉา; ฌานวิโมกฺขาทีสุ, โสตาปตฺติมคฺคาทีสุ วา กึ ตยา อธิคตนฺติ. กินฺติ เต อธิคตนฺติ อุปายปุจฺฉา. อยฺหิ เอตฺถาธิปฺปาโย – กึ ตยา อนิจฺจลกฺขณํ ¶ ธุรํ กตฺวา อธิคตํ, ทุกฺขานตฺตลกฺขเณสุ อฺตรํ วา? กึ วา สมาธิวเสน อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ วิปสฺสนาวเสน? ตถา กึ รูเป อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ อรูเป? กึ วา อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา, อุทาหุ พหิทฺธาติ? กทา เต อธิคตนฺติ กาลปุจฺฉา. ปุพฺพณฺหมชฺฌนฺหิกาทีสุ กตรสฺมึ กาเลติ วุตฺตํ โหติ? กตฺถ เต อธิคตนฺติ โอกาสปุจฺฉา. กตรสฺมึ โอกาเส, กึ รตฺติฏฺาเน, ทิวาฏฺาเน, รุกฺขมูเล, มณฺฑเป, กตรสฺมึ วา วิหาเรติ วุตฺตํ โหติ. กตเม เต กิเลสา ปหีนาติ ปหีนกิเลสปุจฺฉา. กตรมคฺควชฺฌา ตว กิเลสา ปหีนาติ วุตฺตํ โหติ. กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภีติ ปฏิลทฺธธมฺมปุจฺฉา. ปมมคฺคาทีสุ กตเมสํ ธมฺมานํ ตฺวํ ลาภีติ วุตฺตํ โหติ.
ตสฺมา อิทานิ เจปิ โกจิ ภิกฺขุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมํ พฺยากเรยฺย, น โส เอตฺตาวตาว สกฺกาตพฺโพ. อิเมสุ ปน ฉสุ าเนสุ โสธนตฺถํ วตฺตพฺโพ – ‘‘กึ เต อธิคตํ, กึ ฌานํ, อุทาหุ วิโมกฺขาทีสุ อฺตร’’นฺติ? โย หิ เยน อธิคโต ธมฺโม, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อิทํ นาม เม อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กินฺติ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทีสุ กึ ธุรํ กตฺวา อฏฺตึสาย วา อารมฺมเณสุ รูปารูปอชฺฌตฺตพหิทฺธาทิเภเทสุ ¶ วา ธมฺเมสุ เกน มุเขน อภินิวิสิตฺวา’’ติ โย หิ ยสฺสาภินิเวโส, โส ตสฺส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อยํ นาม เม อภินิเวโส เอวํ มยา อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กทา เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปุพฺพณฺเห, อุทาหุ มชฺฌนฺหิกาทีสุ อฺตรสฺมึ กาเล’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตกาโล ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล อธิคตนฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตฺถ เต อธิคต’’นฺติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ทิวาฏฺาเน, อุทาหุ รตฺติฏฺานาทีสุ อฺตรสฺมึ โอกาเส’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคโตกาโส ปากโฏ โหติ. สเจ ‘‘อสุกสฺมึ นาม เม โอกาเส อธิคต’’นฺติ วทติ, ตโต ‘‘กตเม เต กิเลสา ปหีนา’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ, ‘‘กึ ปมมคฺควชฺฌา, อุทาหุ ทุติยาทิมคฺควชฺฌา’’ติ สพฺเพสฺหิ อตฺตนา อธิคตมคฺเคน ปหีนกิเลสา ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ วทติ, ตโต ‘‘กตเมสํ ตฺวํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ ปุจฺฉิตพฺโพ ¶ , ‘‘กึ โสตาปตฺติมคฺคสฺส, อุทาหุ สกทาคามิมคฺคาทีสุ อฺตรสฺสา’’ติ สพฺเพสํ หิ อตฺตนา อธิคตธมฺมา ¶ ปากฏา โหนฺติ. สเจ ‘‘อิเมสํ นามาหํ ธมฺมานํ ลาภี’’ติ วทติ, เอตฺตาวตาปิสฺส วจนํ น สทฺธาตพฺพํ, พหุสฺสุตา หิ อุคฺคหปริปุจฺฉากุสลา ภิกฺขู อิมานิ ฉ านานิ โสเธตุํ สกฺโกนฺติ.
อิมสฺส ปน ภิกฺขุโน อาคมนปฏิปทา โสเธตพฺพา. ยทิ อาคมนปฏิปทา น สุชฺฌติ, ‘‘อิมาย ปฏิปทาย โลกุตฺตรธมฺโม นาม น ลพฺภตี’’ติ อปเนตพฺโพ. ยทิ ปนสฺส อาคมนปฏิปทา สุชฺฌติ, ‘‘ทีฆรตฺตํ ตีสุ สิกฺขาสุ อปฺปมตฺโต ชาคริยมนุยุตฺโต จตูสุ ปจฺจเยสุ อลคฺโค อากาเส ปาณิสเมน เจตสา วิหรตี’’ติ ปฺายติ, ตสฺส ภิกฺขุโน พฺยากรณํ ปฏิปทาย สทฺธึ สํสนฺทติ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สทฺธึ สํสนฺทติ สเมติ; เอวเมว สุปฺตฺตา เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๙๖) วุตฺตสทิสํ โหติ.
อปิจ โข น เอตฺตเกนาปิ สกฺกาโร กาตพฺโพ. กสฺมา? เอกจฺจสฺส หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สโต ขีณาสวปฏิปตฺติสทิสา ปฏิปทา โหติ, ตสฺมา โส ภิกฺขุ เตหิ เตหิ อุปาเยหิ อุตฺตาเสตพฺโพ. ขีณาสวสฺส นาม อสนิยาปิ มตฺถเก ¶ ปตมานาย ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา น โหติ. สจสฺส ภยํ วา ฉมฺภิตตฺตํ วา โลมหํโส วา อุปฺปชฺชติ, ‘‘น ตฺวํ อรหา’’ติ อปเนตพฺโพ. สเจ ปน อภีรู อจฺฉมฺภี อนุตฺราสี หุตฺวา สีโห วิย นิสีทติ, อยํ ภิกฺขุ สมฺปนฺนเวยฺยากรโณ สมนฺตา ราชราชมหามตฺตาทีหิ เปสิตํ สกฺการํ อรหตีติ.
ปาปิจฺโฉติ ยา สา ‘‘อิเธกจฺโจ ทุสฺสีโลว สมาโน สีลวาติ มํ ชโน ชานาตูติ อิจฺฉตี’’ติอาทินา (วิภ. ๘๕๑) นเยน วุตฺตา ปาปิจฺฉา ตาย สมนฺนาคโต. อิจฺฉาปกโตติ ตาย ปาปิกาย อิจฺฉาย อปกโต อภิภูโต ปาราชิโก หุตฺวา.
วิสุทฺธาเปกฺโขติ อตฺตโน วิสุทฺธึ อเปกฺขมาโน อิจฺฉมาโน ปตฺถยมาโน. อยฺหิ ยสฺมา ปาราชิกํ อาปนฺโน, ตสฺมา ภิกฺขุภาเว ตฺวา อภพฺโพ ฌานาทีนิ อธิคนฺตุํ, ภิกฺขุภาโว หิสฺส สคฺคนฺตราโย เจว โหติ มคฺคนฺตราโย จ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สามฺํ ทุปฺปรามฏฺํ นิรยายุปกฑฺฒตี’’ติ ¶ (ธ. ป. ๓๑๑). อปรมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘สิถิโล หิ ปริพฺพาโช, ภิยฺโย อากิรเต รช’’นฺติ (ธ. ป. ๓๑๓). อิจฺจสฺส ภิกฺขุภาโว วิสุทฺธิ นาม น โหติ ¶ . ยสฺมา ปน คิหี วา อุปาสโก วา อารามิโก วา สามเณโร วา หุตฺวา ทานสรณสีลสํวราทีหิ สคฺคมคฺคํ วา ฌานวิโมกฺขาทีหิ โมกฺขมคฺคํ วา อาราเธตุํ ภพฺโพ โหติ, ตสฺมาสฺส คิหิอาทิภาโว วิสุทฺธิ นาม โหติ, ตสฺมา ตํ วิสุทฺธึ อเปกฺขนโต ‘‘วิสุทฺธาเปกฺโข’’ติ วุจฺจติ. เตเนว จสฺส ปทภาชเน ‘‘คิหี วา โหตุกาโม’’ติอาทิ วุตฺตํ.
เอวํ วเทยฺยาติ เอวํ ภเณยฺย. กถํ? ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ. ปทภาชเน ปน ‘‘เอวํ วเทยฺยา’’ติ อิทํ ปทํ อนุทฺธริตฺวาว ยถา วทนฺโต ‘‘อชานเมวํ อาวุโส อวจํ ชานามิ, อปสฺสํ ปสฺสามี’’ติ วทติ นามาติ วุจฺจติ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘นาหํ เอเต ธมฺเม ชานามี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตุจฺฉํ มุสา วิลปินฺติ อหํ วจนตฺถวิรหโต ตุจฺฉํ วฺจนาธิปฺปายโต มุสา วิลปึ, อภณินฺติ ¶ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อฺเน ปทพฺยฺชเนน อตฺถมตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
ปุริเม อุปาทายาติ ปุริมานิ ตีณิ ปาราชิกานิ อาปนฺเน ปุคฺคเล อุปาทาย. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมวาติ.
ปทภาชนียวณฺณนา
๑๙๙. เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ ยสฺมา เหฏฺา ปทภาชนียมฺหิ ‘‘ฌานํ วิโมกฺขํ สมาธิ สมาปตฺติ าณทสฺสนํ…เป… สฺุาคาเร อภิรตี’’ติ เอวํ สํขิตฺเตเนว อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม ทสฺสิโต, น วิตฺถาเรน อาปตฺตึ อาโรเปตฺวา ตนฺติ ปิตา. สงฺเขปทสฺสิเต จ อตฺเถ น สพฺเพ สพฺพากาเรน นยํ คเหตุํ สกฺโกนฺติ, ตสฺมา สพฺพากาเรน นยคฺคหณตฺถํ ปุน ตเทว ปทภาชนํ มาติกาาเน เปตฺวา วิตฺถารโต อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ ทสฺเสตฺวา อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุกาโม ‘‘ฌานนฺติ ปมํ ฌานํ, ทุติยํ ฌาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปมชฺฌานาทีหิ เมตฺตาฌานาทีนิปิ อสุภชฺฌานาทีนิปิ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานมฺปิ โลกิยชฺฌานมฺปิ โลกุตฺตรชฺฌานมฺปิ สงฺคหิตเมว. ตสฺมา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชินฺติปิ…เป… จตุตฺถํ ชฺฌานํ, เมตฺตาฌานํ, อุเปกฺขาฌานํ อสุภชฺฌานํ อานาปานสฺสติสมาธิชฺฌานํ ¶ , โลกิยชฺฌานํ, โลกุตฺตรชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติปิ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหตีติ เวทิตพฺโพ.
สุฏฺุ ¶ มุตฺโต วิวิเธหิ วา กิเลเสหิ มุตฺโตติ วิโมกฺโข. โส ปนายํ ราคโทสโมเหหิ สฺุตฺตา สฺุโต. ราคโทสโมหนิมิตฺเตหิ อนิมิตฺตตฺตา อนิมิตฺโต. ราคโทสโมหปณิธีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. จิตฺตํ สมํ อาทหติ อารมฺมเณ เปตีติ สมาธิ. อริเยหิ สมาปชฺชิตพฺพโต สมาปตฺติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ วิโมกฺขตฺติเกน จ สมาธิตฺติเกน จ อริยมคฺโคว ¶ วุตฺโต. สมาปตฺติตฺติเกน ปน ผลสมาปตฺติ. เตสุ ยํกิฺจิ เอกมฺปิ ปทํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโกว โหติ.
ติสฺโส วิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, ทิพฺพจกฺขุ, อาสวานํ ขเย าณนฺติ. ตตฺถ เอกิสฺสาปิ นามํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อิมิสฺสา วิชฺชาย ลาภีมฺหี’’ติ ภณนฺโต ปาราชิโก โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ‘ติสฺสนฺนํ วิชฺชานํ ลาภีมฺหี’ติ ภณนฺโตปิ ปาราชิโก วา’’ติ วุตฺตํ. มคฺคภาวนาปทภาชเน วุตฺตา สตฺตตึสโพธิปกฺขิยธมฺมา มคฺคสมฺปยุตฺตา โลกุตฺตราว อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา โลกุตฺตรานํ สติปฏฺานานํ สมฺมปฺปธานานํ อิทฺธิปาทานํ อินฺทฺริยานํ พลานํ โพชฺฌงฺคานํ อริยสฺส อฏฺงฺคิกสฺส มคฺคสฺส ลาภีมฺหีติ วทโต ปาราชิกนฺติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. มหาปจฺจริยาทีสุ ปน ‘‘สติปฏฺานานํ ลาภีมฺหี’ติ เอวํ เอเกกโกฏฺาสวเสนาปิ ‘กายานุปสฺสนาสติปฏฺานสฺส ลาภีมฺหี’ติ เอวํ ตตฺถ เอเกกธมฺมวเสนาปิ วทโต ปาราชิกเมวา’’ติ วุตฺตํ ตมฺปิ สเมติ. กสฺมา? มคฺคกฺขณุปฺปนฺเนเยว สนฺธาย วุตฺตตฺตา. ผลสจฺฉิกิริยายปิ เอเกกผลวเสน ปาราชิกํ เวทิตพฺพํ.
ราคสฺส ปหานนฺติอาทิตฺติเก กิเลสปฺปหานเมว วุตฺตํ. ตํ ปน ยสฺมา มคฺเคน วินา นตฺถิ, ตติยมคฺเคน หิ กามราคโทสานํ ปหานํ, จตุตฺเถน โมหสฺส, ตสฺมา ‘‘ราโค เม ปหีโน’’ติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกํ วุตฺตํ.
ราคา จิตฺตํ วินีวรณตาติอาทิตฺติเก โลกุตฺตรจิตฺตเมว วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ราคา เม จิตฺตํ วินีวรณ’’นฺติอาทีนิ วทโตปิ ปาราชิกเมว.
สฺุาคารปทภาชเน ¶ ปน ยสฺมา ฌาเนน อฆเฏตฺวา ‘‘สฺุาคาเร อภิรมามี’’ติ วจนมตฺเตน ปาราชิกํ นาธิปฺเปตํ, ตสฺมา ‘‘ปเมน ฌาเนน สฺุาคาเร อภิรตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา โย ฌาเนน ฆเฏตฺวา ‘‘อิมินา ¶ นาม ฌาเนน สฺุาคาเร อภิรมามี’’ติ วทติ, อยเมว ปาราชิโก โหตีติ เวทิตพฺโพ.
ยา ¶ จ ‘‘าณ’’นฺติ อิมสฺส ปทภาชเน อมฺพฏฺสุตฺตาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๔ อาทโย) วุตฺตาสุ อฏฺสุ วิชฺชาสุ วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธิอิทฺธิวิธทิพฺพโสตเจโตปริยาณเภทา ปฺจ วิชฺชา น อาคตา, ตาสุ เอกา วิปสฺสนาว ปาราชิกวตฺถุ น โหติ, เสสา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา. ตสฺมา ‘‘วิปสฺสนาย ลาภีมฺหี’’ติปิ ‘‘วิปสฺสนาาณสฺส ลาภีมฺหี’’ติปิ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ. ผุสฺสเทวตฺเถโร ปน ภณติ – ‘‘อิตราปิ จตสฺโส วิชฺชา าเณน อฆฏิตา ปาราชิกวตฺถู น โหนฺติ. ตสฺมา ‘มโนมยสฺส ลาภีมฺหิ, อิทฺธิวิธสฺส, ทิพฺพาย โสตธาตุยา, เจโตปริยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถี’’ติ. ตํ ตสฺส อนฺเตวาสิเกเหว ปฏิกฺขิตฺตํ – ‘‘อาจริโย น อาภิธมฺมิโก ภุมฺมนฺตรํ น ชานาติ, อภิฺา นาม จตุตฺถชฺฌานปาทโกว มหคฺคตธมฺโม, ฌาเนเนว อิชฺฌติ. ตสฺมา มโนมยสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ‘มโนมยาณสฺส ลาภีมฺหี’ติ วา ยถา วา ตถา วา วทตุ ปาราชิกเมวา’’ติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ นิพฺพานํ ปาฬิยา อนาคตํ, อถ โข ‘‘นิพฺพานํ เม ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘สจฺฉิกต’’นฺติ วา วทโต ปาราชิกเมว. กสฺมา? นิพฺพานสฺส นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรตฺตา. ตถา ‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌึ ปฏิวิทฺธานิ มยา’’ติ วทโตปิ ปาราชิกเมว. กสฺมา? สจฺจปฺปฏิเวโธติ หิ มคฺคสฺส ปริยายวจนํ. ยสฺมา ปน ‘‘ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา กามาวจรกุสลโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, กฺริยโต จตูสุ าณสมฺปยุตฺเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชนฺติ, อตฺถปฏิสมฺภิทา เอเตสุ เจว อุปฺปชฺชติ, จตูสุ มคฺเคสุ จตูสุ ผเลสุ จ อุปฺปชฺชตี’’ติ วิภงฺเค (วิภ. ๗๔๖) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา, ‘‘นิรุตฺติ…เป… ปฏิภานปฏิสมฺภิทาย ¶ ลาภีมฺหี’’ติ วา ‘‘โลกิยอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วา วุตฺเตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. ‘‘ปฏิสมฺภิทานํ ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต น ตาว สีสํ โอตรติ. ‘‘โลกุตฺตรอตฺถปฏิสมฺภิทาย ลาภีมฺหี’’ติ วุตฺเต ปน ปาราชิกํ โหติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน อตฺถปฏิสมฺภิทาปฺปตฺโตมฺหีติ อวิเสเสนาปิ วทโต ¶ ปาราชิกํ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยมฺปิ ‘‘น มุจฺจตี’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตฺตาวตา ปาราชิกํ นตฺถิ, เอตฺตาวตา สีสํ น โอตรติ, เอตฺตาวตา น ปาราชิก’’นฺติ วิจาริตตฺตา น สกฺกา อฺํ ปมาณํ กาตุนฺติ.
‘‘นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชามี’’ติ วา ‘‘ลาภีมฺหาหํ ตสฺสา’’ติ วา วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. กสฺมา? นิโรธสมาปตฺติยา เนว โลกิยตฺตา น โลกุตฺตรตฺตาติ. สเจ ปนสฺส เอวํ โหติ – ‘‘นิโรธํ นาม อนาคามี วา ขีณาสโว วา สมาปชฺชติ, เตสํ มํ อฺตโรติ ชานิสฺสตี’’ติ พฺยากโรติ, โส จ นํ ตถา ชานาติ, ปาราชิกนฺติ มหาปจฺจริสงฺเขปฏฺกถาสุ วุตฺตํ. ตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
‘‘อตีตภเว ¶ กสฺสปสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล โสตาปนฺโนมฺหี’’ติ วทโตปิ ปาราชิกํ นตฺถิ. อตีตกฺขนฺธานฺหิ ปรามฏฺตฺตา สีสํ น โอตรตีติ. สงฺเขปฏฺกถายํ ปน ‘‘อตีเต อฏฺสมาปตฺติลาภีมฺหี’’ติ วทโต ปาราชิกํ นตฺถิ, กุปฺปธมฺมตฺตา อิธ ปน ‘‘อตฺถิ อกุปฺปธมฺมตฺตาติ เกจิ วทนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ ตตฺเถว ‘‘อตีตตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺส ปาราชิกํ น โหติ, ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวํ สนฺธาย กเถนฺตสฺเสว โหตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.
สุทฺธิกวารกถาวณฺณนา
๒๐๐. เอวํ ฌานาทีนิ ทส มาติกาปทานิ วิตฺถาเรตฺวา อิทานิ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปนฺโต ยํ สมฺปชานมุสาวาทํ ภณติ, ตสฺส องฺคํ ทสฺเสตฺวา ตสฺเสว วิตฺถารสฺส วเสน จกฺกเปยฺยาลํ พนฺธนฺโต อุลฺลปนาการฺจ อาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุทฺธิกวาโร วตฺตุกามวาโร ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาโรติ ตโย มหาวารา. เตสุ ¶ สุทฺธิกวาเร ปมชฺฌานํ อาทึ กตฺวา ยาว โมหา จิตฺตํ วินีวรณปทํ, ตาว เอกเมกสฺมึ ปเท สมาปชฺชึ, สมาปชฺชามิ, สมาปนฺโน, ลาภีมฺหิ, วสีมฺหิ, สจฺฉิกตํ มยาติ อิเมสุ ฉสุ ปเทสุ เอกเมกํ ปทํ ตีหากาเรหิ, จตูหิ, ปฺจหิ, ฉหิ, สตฺตหากาเรหีติ เอวํ ปฺจกฺขตฺตุํ โยเชตฺวา สุทฺธิกนโย นาม วุตฺโต. ตโต ปมฺจ ฌานํ, ทุติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ปมชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ¶ ปทํ ฆเฏนฺเตน สพฺพปทานิ ฆเฏตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน ขณฺฑจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตฺหิ ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌานาทีหิ น โยชิตํ, ตสฺมา ‘‘ขณฺฑจกฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ตโต ทุติยฺจ ฌานํ, ตติยฺจ ฌานนฺติ เอวํ ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ปมชฺฌาเนน สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน พทฺธจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ยถา ทุติยชฺฌาเนน สทฺธึ, เอวํ ตติยชฺฌานาทีหิปิ สทฺธึ, เอกเมกํ ปทํ ฆเฏตฺวา ปุน อาเนตฺวา ทุติยชฺฌานาทีหิ สทฺธึ สมฺพนฺธิตฺวา เตเนว วิตฺถาเรน อฺานิปิ เอกูนตึส พทฺธจกฺกานิ วตฺวา เอกมูลกนโย นิฏฺาปิโต. ปาโ ปน สงฺเขเปน ทสฺสิโต, โส อสมฺมุยฺหนฺเตน วิตฺถารโต เวทิตพฺโพ.
ยถา จ เอกมูลโก, เอวํ ทุมูลกาทโยปิ สพฺพมูลกปริโยสานา จตุนฺนํ สตานํ อุปริ ปฺจตึส นยา วุตฺตา. เสยฺยถิทํ – ทฺวิมูลกา เอกูนตึส, ติมูลกา อฏฺวีส, จตุมูลกา สตฺตวีส; เอวํ ปฺจมูลกาทโยปิ เอเกกํ อูนํ กตฺวา ยาว ตึสมูลกา, ตาว เวทิตพฺพา. ปาเ ปน เตสํ นามมฺปิ สงฺขิปิตฺวา ‘‘อิทํ สพฺพมูลก’’นฺติ ตึสมูลกนโย เอโก ทสฺสิโต. ยสฺมา จ สฺุาคารปทํ ฌาเนน อฆฏิตํ สีสํ น โอตรติ, ตสฺมา ตํ อนามสิตฺวา ¶ โมหา จิตฺตํ ¶ วินีวรณปทปริโยสานาเยว สพฺพตฺถ โยชนา ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. เอวํ ปมชฺฌานาทีนิ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา ทุติยชฺฌานาทีหิ ฆเฏตฺวา วา อฆเฏตฺวา วา สมาปชฺชินฺติอาทินา นเยน อุลฺลปโต โมกฺโข นตฺถิ, ปาราชิกํ อาปชฺชติเยวาติ.
อิมสฺส อตฺถสฺส ทสฺสนวเสน วุตฺเต จ ปเนตสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อยํ สงฺเขปโต อตฺถวณฺณนา – ตีหากาเรหีติ สมฺปชานมุสาวาทสฺส องฺคภูเตหิ ตีหิ การเณหิ. ปุพฺเพวสฺส โหตีติ ปุพฺพภาเคเยว อสฺส ปุคฺคลสฺส เอวํ โหติ ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ. ภณนฺตสฺส โหตีติ ภณมานสฺส โหติ. ภณิตสฺส โหตีติ ภณิเต อสฺส โหติ, ยํ วตฺตพฺพํ ตสฺมึ วุตฺเต โหตีติ อตฺโถ. อถ วา ภณิตสฺสาติ วุตฺตวโต นิฏฺิตวจนสฺส โหตีติ. โย เอวํ ปุพฺพภาเคปิ ชานาติ, ภณนฺโตปิ ชานาติ, ปจฺฉาปิ ชานาติ, ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ โส ‘‘ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ ภณนฺโต ปาราชิกํ อาปชฺชตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ ทสฺสิโต. กิฺจาปิ ทสฺสิโต, อถ โข อยเมตฺถ วิเสโส – ปุจฺฉา ตาว โหติ ‘‘‘มุสา ภณิสฺส’นฺติ ปุพฺพภาโค อตฺถิ, ‘มุสา มยา ภณิต’นฺติ ปจฺฉาภาโค นตฺถิ, วุตฺตมตฺตเมว หิ โกจิ ปมุสฺสติ, กึ ตสฺส ปาราชิกํ โหติ, น โหตี’’ติ? สา เอวํ อฏฺกถาสุ วิสฺสชฺชิตา – ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ จ ภณนฺตสฺส ¶ ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ชานโต ปจฺฉาภาเค ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ น สกฺกา น ภวิตุํ. สเจปิ น โหติ ปาราชิกเมว. ปุริมเมว หิ องฺคทฺวยํ ปมาณํ. ยสฺสาปิ ปุพฺพภาเค ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ อาโภโค นตฺถิ, ภณนฺโต ปน ‘‘มุสา ภณามี’’ติ ชานาติ, ภณิเตปิ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ ชานาติ, โส อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ปุพฺพภาโค หิ ปมาณตโร. ตสฺมึ อสติ ทวา ภณิตํ วา รวา ภณิตํ วา โหตี’’ติ.
เอตฺถ จ ตําณตา จ าณสโมธานฺจ ปริจฺจชิตพฺพํ. ตําณตา ปริจฺจชิตพฺพาติ ¶ เยน จิตฺเตน ‘‘มุสา ภณิสฺส’’นฺติ ชานาติ, เตเนว ‘‘มุสา ภณามี’’ติ จ ‘‘มุสา มยา ภณิต’’นฺติ จ ชานาตีติ เอวํ เอกจิตฺเตเนว ตีสุ ขเณสุ ชานาตีติ อยํ ตํฺณตา ปริจฺจชิตพฺพา, น หิ สกฺกา เตเนว จิตฺเตน ตํ จิตฺตํ ชานิตุํ ยถา น สกฺกา เตเนว อสินา โส อสิ ฉินฺทิตุนฺติ. ปุริมํ ปุริมํ ปน จิตฺตํ ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส จิตฺตสฺส ตถา อุปฺปตฺติยา ปจฺจโย หุตฺวา นิรุชฺฌติ. เตเนตํ วุจฺจติ –
‘‘ปมาณํ ปุพฺพภาโคว, ตสฺมึ สติ น เหสฺสติ;
เสสทฺวยนฺติ นตฺเถต, มิติ วาจา ติวงฺคิกา’’ติ.
‘‘าณสโมธานํ ¶ ปริจฺจชิตพฺพ’’นฺติ เอตานิ ตีณิ จิตฺตานิ เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ น คเหตพฺพานิ. อิทฺหิ จิตฺตํ นาม –
อนิรุทฺธมฺหิ ปเม, น อุปฺปชฺชติ ปจฺฉิมํ;
นิรนฺตรุปฺปชฺชนโต, เอกํ วิย ปกาสติ.
อิโต ปรํ ปน ยฺวายํ ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิ’’นฺติ สมฺปชานมุสา ภณติ, ยสฺมา โส ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวํทิฏฺิโก โหติ, ตสฺส หิ อตฺเถวายํ ลทฺธิ. ตถา ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ เอวมสฺส ขมติ เจว รุจฺจติ จ. เอวํสภาวเมว จสฺส จิตฺตํ ‘‘นตฺถิ เม ปมํ ฌาน’’นฺติ. ยทา ปน มุสา วตฺตุกาโม โหติ, ตทา ตํ ทิฏฺึ วา ทิฏฺิยา สห ขนฺตึ วา ทิฏฺิขนฺตีหิ สทฺธึ รุจึ วา, ทิฏฺิขนฺติรุจีหิ สทฺธึ ภาวํ วา วินิธาย นิกฺขิปิตฺวา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อภูตํ กตฺวา ภณติ, ตสฺมา เตสมฺปิ วเสน องฺคเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตูหากาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริวาเร จ ‘‘อฏฺงฺคิโก ¶ มุสาวาโท’’ติ (ปฏิ. ๓๒๘) วุตฺตตฺตา ตตฺถ อธิปฺเปตาย สฺาย สทฺธึ อฺโปิ อิธ ‘‘อฏฺหากาเรหี’’ติ เอโก ¶ นโย โยเชตพฺโพ.
เอตฺถ จ วินิธาย ทิฏฺินฺติ พลวธมฺมวินิธานวเสเนตํ วุตฺตํ. วินิธาย ขนฺตินฺติอาทีนิ ตโต ทุพฺพลทุพฺพลานํ วินิธานวเสน. วินิธาย สฺนฺติ อิทํ ปเนตฺถ สพฺพทุพฺพลธมฺมวินิธานํ. สฺามตฺตมฺปิ นาม อวินิธาย สมฺปชานมุสา ภาสิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. ยสฺมา ปน ‘‘สมาปชฺชิสฺสามี’’ติอาทินา อนาคตวจเนน ปาราชิกํ น โหติ, ตสฺมา ‘‘สมาปชฺชิ’’นฺติอาทีนิ อตีตวตฺตมานปทาเนว ปาเ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๒๐๗. อิโต ปรํ สพฺพมฺปิ อิมสฺมึ สุทฺธิกมหาวาเร อุตฺตานตฺถเมว. น เหตฺถ ตํ อตฺถิ – ยํ อิมินา วินิจฺฉเยน น สกฺกา ภเวยฺย วิฺาตุํ, เปตฺวา กิเลสปฺปหานปทสฺส ปทภาชเน ‘‘ราโค เม จตฺโต วนฺโต’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ. สฺวายํ วุจฺจติ – เอตฺถ หิ จตฺโตติ อิทํ สกภาวปริจฺจชนวเสน วุตฺตํ. วนฺโตติ อิทํ ปุน อนาทิยนภาวทสฺสนวเสน. มุตฺโตติ อิทํ สนฺตติโต วิโมจนวเสน. ปหีโนติ อิทํ มุตฺตสฺสาปิ กฺวจิ อนวฏฺานทสฺสนวเสน. ปฏินิสฺสฏฺโติ อิทํ ปุพฺเพ อาทินฺนปุพฺพสฺส ปฏินิสฺสคฺคทสฺสนวเสน. อุกฺเขฏิโตติ อิทํ อริยมคฺเคน อุตฺตาสิตตฺตา ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน. สฺวายมตฺโถ สทฺทสตฺถโต ปริเยสิตพฺโพ ¶ . สมุกฺเขฏิโตติ อิทํ สุฏฺุ อุตฺตาเสตฺวา อณุสหคตสฺสาปิ ปุน อนลฺลียนภาวทสฺสนวเสน วุตฺตนฺติ.
สุทฺธิกวารกถา นิฏฺิตา.
วตฺตุกามวารกถา
๒๑๕. วตฺตุกามวาเรปิ ‘‘ตีหากาเรหี’’ติอาทีนํ อตฺโถ, วารเปยฺยาลปฺปเภโท จ สพฺโพ อิธ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เกวลฺหิ ยํ ‘‘มยา วิรชฺฌิตฺวา อฺํ วตฺตุกาเมน อฺํ วุตฺตํ, ตสฺมา นตฺถิ มยฺหํ อาปตฺตี’’ติ เอวํ โอกาสคเวสกานํ ปาปปุคฺคลานํ โอกาสนิเสธนตฺถํ วุตฺโต. ยเถว หิ ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติอาทีสุ สิกฺขาปจฺจกฺขานปเทสุ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา สิกฺขาปจฺจกฺขาตโกว ¶ โหติ; เอวํ ¶ ปมชฺฌานาทีสุ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปเทสุ ยํกิฺจิ เอกํ วตฺตุกาโม ตโต อฺํ ยํ วา ตํ วา วทนฺโตปิ เขตฺเต โอติณฺณตฺตา ปาราชิโกว โหติ. สเจ ยสฺส วทติ, โส ตมตฺถํ ตงฺขณฺเว ชานาติ. ชานนลกฺขณฺเจตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขาเน วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
อยํ ปน วิเสโส – สิกฺขาปจฺจกฺขานํ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น โอตรติ. อิทํ อภูตาโรจนํ หตฺถมุทฺทายปิ โอตรติ. โย หิ หตฺถวิการาทีหิปิ องฺคปจฺจงฺคโจปเนหิ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ วิฺตฺติปเถ ิตสฺส ปุคฺคลสฺส อาโรเจติ, โส จ ตมตฺถํ ชานาติ, ปาราชิโกว โหติ. อถ ปน ยสฺส อาโรเจติ, โส น ชานาติ ‘‘กิ อยํ ภณตี’’ติ, สํสยํ วา อาปชฺชติ, จิรํ วีมํสิตฺวา วา ปจฺฉา ชานาติ, อปฺปฏิวิชานนฺโต อิจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอวํ อปฺปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเต ถุลฺลจฺจยํ โหติ. โย ปน ฌานาทีนิ อตฺตโน อธิคมวเสน วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทิวเสน วา น ชานาติ, เกวลํ ฌานนฺติ วา วิโมกฺโขติ วา วจนมตฺตเมว สุตํ โหติ, โสปิ เตน วุตฺเต ‘‘ฌานํ กิร สมาปชฺชินฺติ เอส วทตี’’ติ ยทิ เอตฺตกมตฺตมฺปิ ชานาติ, ชานาติจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ. ตสฺส วุตฺเต ปาราชิกเมว. เสโส เอกสฺส วา ทฺวินฺนํ วา พหูนํ วา นิยมิตานิยมิตวเสน วิเสโส สพฺโพ สิกฺขาปจฺจกฺขานกถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ.
วตฺตุกามวารกถา นิฏฺิตา.
ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวารกถา
๒๒๐. ปจฺจยปฏิสํยุตฺตวาเรปิ ¶ – สพฺพํ วารเปยฺยาลเภทํ ปุพฺเพ อาคตปทานฺจ อตฺถํ วุตฺตนเยเนว ตฺวา ปาฬิกฺกโม ตาว เอวํ ชานิตพฺโพ. เอตฺถ หิ ‘‘โย เต วิหาเร วสิ, โย เต จีวรํ ปริภฺุชิ, โย เต ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิ, โย เต เสนาสนํ ปริภฺุชิ, โย เต คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารํ ปริภฺุชี’’ติ อิเม ปฺจ ปจฺจตฺตวจนวารา, ‘‘เยน เต วิหาโร ปริภุตฺโต’’ติอาทโย ปฺจ กรณวจนวารา, ‘‘ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหารํ อทาสี’’ติอาทโย ปฺจ อุปโยควจนวารา วุตฺตา ¶ , เตสํ วเสน อิธ วุตฺเตน สฺุาคารปเทน สทฺธึ ปุพฺเพ วุตฺเตสุ ปมชฺฌานาทีสุ สพฺพปเทสุ ¶ วารเปยฺยาลเภโท เวทิตพฺโพ. ‘‘โย เต วิหาเร, เยน เต วิหาโร, ยํ ตฺวํ อาคมฺม วิหาร’’นฺติ เอวํ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ปน ‘‘อห’’นฺติ จ อวุตฺตตฺตา ปฏิวิชานนฺตสฺส วุตฺเตปิ อิธ ถุลฺลจฺจยํ, อปฏิวิชานนฺตสฺส ทุกฺกฏนฺติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.
อนาปตฺติเภทกถา
เอวํ วิตฺถารวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนาปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาปตฺติ อธิมาเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อธิมาเนนาติ อธิคตมาเนน สมุทาจรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺสาติ โกหฺเ อิจฺฉาจาเร อตฺวา อนุลฺลปนาธิปฺปายสฺส สพฺรหฺมจารีนํ สนฺติเก อฺํ พฺยากโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย ปุพฺเพ วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อาทิกมฺมิกา วคฺคุมุทาตีริยา ภิกฺขู. เตสํ อนาปตฺตีติ.
ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ – หตฺถมุทฺทาย อาโรเจนฺตสฺส กายจิตฺตโต, วจีเภเทน อาโรเจนฺตสฺส วาจาจิตฺตโต, อุภยํ กโรนฺตสฺส กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนํ หสนฺโตปิ หิ โสมนสฺสิโก อุลฺลปติ ภายนฺโตปิ มชฺฌตฺโตปีติ.
วินีตวตฺถุวณฺณนา
๒๒๓. วินีตวตฺถูสุ – อธิมานวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว.
ทุติยวตฺถุสฺมึ ¶ – ปณิธายาติ ปตฺถนํ กตฺวา. เอวํ มํ ชโน สมฺภาเวสฺสตีติ เอวํ อรฺเ วสนฺตํ มํ ชโน อรหตฺเต วา เสกฺขภูมิยํ วา สมฺภาเวสฺสติ, ตโต โลกสฺส สกฺกโต ภวิสฺสามิ ครุกโต มานิโต ปูชิโตติ. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอวํ ปณิธาย ‘‘อรฺเ วสิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตสฺส ปทวาเร ปทวาเร ทุกฺกฏํ. ตถา อรฺเ กุฏิกรณจงฺกมนนิสีทนนิวาสนปาวุรณาทีสุ สพฺพกิจฺเจสุ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตสฺมา เอวํ ¶ อรฺเ น วสิตพฺพํ. เอวํ วสนฺโต หิ สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. โย ปน สมาทินฺนธุตงฺโค ¶ ‘‘ธุตงฺคํ รกฺขิสฺสามี’’ติ วา ‘‘คามนฺเต เม วสโต จิตฺตํ วิกฺขิปติ, อรฺํ สปฺปาย’’นฺติ จินฺเตตฺวา วา ‘‘อทฺธา อรฺเ ติณฺณํ วิเวกานํ อฺตรํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺํ ปวิสิตฺวา อรหตฺตํ อปาปุณิตฺวา น นิกฺขมิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อรฺวาโส นาม ภควตา ปสตฺโถ, มยิ จ อรฺเ วสนฺเต พหู สพฺรหฺมจาริโน คามนฺตํ หิตฺวา อารฺกา ภวิสฺสนฺตี’’ติ วา เอวํ อนวชฺชวาสํ วสิตุกาโม โหติ, เตน วสิตพฺพํ.
ตติยวตฺถุสฺมิมฺปิ – ‘‘อภิกฺกนฺตาทีนิ สณฺเปตฺวา ปิณฺฑาย จริสฺสามี’’ติ นิวาสนปารุปนกิจฺจโต ปภุติ ยาว โภชนปริโยสานํ ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. สมฺภาวนํ ลภตุ วา มา วา ทุกฺกฏเมว. ขนฺธกวตฺตเสขิยวตฺตปริปูรณตฺถํ ปน สพฺรหฺมจารีนํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนตฺถํ วา ปาสาทิเกหิ อภิกฺกมปฏิกฺกมาทีหิ ปิณฺฑาย ปวิสนฺโต อนุปวชฺโช วิฺูนนฺติ.
จตุตฺถปฺจมวตฺถูสุ – ‘‘โย เต วิหาเร วสี’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว ‘‘อห’’นฺติ อวุตฺตตฺตา ปาราชิกํ นตฺถิ. อตฺตุปนายิกเมว หิ สมุทาจรนฺตสฺส ปาราชิกํ วุตฺตํ.
ปณิธาย จงฺกมีติอาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนยาเนว.
สํโยชนวตฺถุสฺมึ – สํโยชนา ปหีนาติปิ ‘‘ทส สํโยชนา ปหีนา’’ติปิ ‘‘เอกํ สํโยชนํ ปหีน’’นฺติปิ วทโต กิเลสปฺปหานเมว อาโรจิตํ โหติ, ตสฺมา ปาราชิกํ.
๒๒๔. รโหวตฺถูสุ – รโห อุลฺลปตีติ ‘‘รโหคโต อรหา อห’’นฺติ วทติ, น มนสา จินฺติตเมว กโรติ. เตเนตฺถ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ.
วิหารวตฺถุ ¶ อุปฏฺานวตฺถุ จ วุตฺตนยเมว.
๒๒๕. น ทุกฺกรวตฺถุสฺมึ – ตสฺส ภิกฺขุโน อยํ ลทฺธิ – ‘‘อริยปุคฺคลาว ภควโต สาวกา’’ติ. เตนาห – ‘‘เย โข เต ภควโต สาวกา เต เอวํ วเทยฺยุ’’นฺติ. ยสฺมา จสฺส อยมธิปฺปาโย – ‘‘สีลวตา ¶ อารทฺธวิปสฺสเกน น ทุกฺกรํ อฺํ พฺยากาตุํ, ปฏิพโล โส อรหตฺตํ ปาปุณิตุ’’นฺติ. ตสฺมา ‘‘อนุลฺลปนาธิปฺปาโย อห’’นฺติ อาห.
วีริยวตฺถุสฺมึ ¶ อาราธนีโยติ สกฺกา อาราเธตุํ สมฺปาเทตุํ นิพฺพตฺเตตุนฺติ อตฺโถ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
มจฺจุวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ ‘‘ยสฺส วิปฺปฏิสาโร อุปฺปชฺชติ, โส ภาเยยฺย. มยฺหํ ปน อวิปฺปฏิสารวตฺถุกานิ ปริสุทฺธานิ สีลานิ, สฺวาหํ กึ มรณสฺส ภายิสฺสามี’’ติ เอตมตฺถวสํ ปฏิจฺจ ‘‘นาหํ อาวุโส มจฺจุโน ภายามี’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.
วิปฺปฏิสารวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. ตโต ปรานิ ตีณิ วตฺถูนิ วีริยวตฺถุสทิสาเนว.
เวทนาวตฺถูสุปมสฺมึ ตาว โส ภิกฺขุ ปฏิสงฺขานพเลน อธิวาสนขนฺติยํ ตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา เยน วา เตน วา อธิวาเสตุ’’นฺติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ.
ทุติเย ปน อตฺตุปนายิกํ อกตฺวา ‘‘นาวุโส สกฺกา ปุถุชฺชเนนา’’ติ ปริยาเยน วุตฺตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ.
๒๒๖. พฺราหฺมณวตฺถูสุโส กิร พฺราหฺมโณ น เกวลํ ‘‘อายนฺตุ โภนฺโต อรหนฺโต’’ติ อาห. ยํ ยํ ปนสฺส วจนํ มุขโต นิคฺคจฺฉติ, สพฺพํ ‘‘อรหนฺตานํ อาสนานิ ปฺเปถ, ปาโททกํ เทถ, อรหนฺโต ปาเท โธวนฺตู’’ติ อรหนฺตวาทปฏิสํยุตฺตํเยว. ตํ ปนสฺส ปสาทภฺํ สทฺธาจริตตฺตา อตฺตโน สทฺธาพเลน สมุสฺสาหิตสฺส วจนํ. ตสฺมา ภควา ‘‘อนาปตฺติ, ภิกฺขเว, ปสาทภฺเ’’ติ อาห. เอวํ วุจฺจมาเนน ปน ภิกฺขุนา น หฏฺตุฏฺเเนว ปจฺจยา ปริภฺุชิตพฺพา, ‘‘อรหตฺตสมฺปาปิกํ ปฏิปทํ ปริปูเรสฺสามี’’ติ เอวํ โยโค กรณีโยติ.
อฺพฺยากรณวตฺถูนิสํโยชนวตฺถุสทิสาเนว. อคารวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ คิหิภาเว อนตฺถิกตาย ¶ อนเปกฺขตาย ‘‘อภพฺโพ โข อาวุโส มาทิโส’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.
๒๒๗. อาวฏกามวตฺถุสฺมึ ¶ โส ภิกฺขุ วตฺถุกาเมสุ จ กิเลสกาเมสุ จ โลกิเยเนว อาทีนวทสฺสเนน นิรเปกฺโข. ตสฺมา ‘‘อาวฏา เม อาวุโส กามา’’ติ อาห. เตนสฺส อนาปตฺติ. เอตฺถ จ อาวฏาติ ¶ อาวาริตา นิวาริตา, ปฏิกฺขิตฺตาติ อตฺโถ.
อภิรติวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ สาสเน อนุกฺกณฺิตภาเวน อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีสุ จ อภิรตภาเวน ‘‘อภิรโต อหํ อาวุโส ปรมาย อภิรติยา’’ติ อาห, น อุลฺลปนาธิปฺปาเยน. เตนสฺส อนาปตฺติ.
ปกฺกมนวตฺถุสฺมึ โย อิมมฺหา อาวาสา ปมํ ปกฺกมิสฺสตีติ เอวํ อาวาสํ วา มณฺฑปํ วา สีมํ วา ยํกิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา กตาย กติกาย โย ‘‘มํ อรหาติ ชานนฺตู’’ติ ตมฺหา านา ปมํ ปกฺกมติ, ปาราชิโก โหติ. โย ปน อาจริยุปชฺฌายานํ วา กิจฺเจน มาตาปิตูนํ วา เกนจิเทว กรณีเยน ภิกฺขาจารตฺถํ วา อุทฺเทสปริปุจฺฉานํ วา อตฺถาย อฺเน วา ตาทิเสน กรณีเยน ตํ านํ อติกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, อนาปตฺติ. สเจปิสฺส เอวํ คตสฺส ปจฺฉา อิจฺฉาจาโร อุปฺปชฺชติ ‘‘น ทานาหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ เอวํ มํ อรหาติ สมฺภาเวสฺสนฺตี’’ติ อนาปตฺติเยว.
โยปิ เกนจิเทว กรณีเยน ตํ านํ ปตฺวา สชฺฌายมนสิการาทิวเสน อฺวิหิโต วา หุตฺวา โจราทีหิ วา อนุพทฺโธ เมฆํ วา อุฏฺิตํ ทิสฺวา อโนวสฺสกํ ปวิสิตุกาโม ตํ านํ อติกฺกมติ, อนาปตฺติ. ยาเนน วา อิทฺธิยา วา คจฺฉนฺโตปิ ปาราชิกํ นาปชฺชติ, ปทคมเนเนว อาปชฺชติ. ตมฺปิ เยหิ สห กติกา กตา, เตหิ สทฺธึ อปุพฺพํอจริมํ คจฺฉนฺโต นาปชฺชติ. เอวํ คจฺฉนฺตา หิ สพฺเพปิ อฺมฺํ รกฺขนฺติ. สเจปิ มณฺฑปรุกฺขมูลาทีสุ กิฺจิ านํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ‘‘โย เอตฺถ นิสีทติ วา จงฺกมติ วา, ตํ อรหาติ ชานิสฺสาม’’ ปุปฺผานิ วา เปตฺวา ‘‘โย อิมานิ คเหตฺวา ปูชํ กริสฺสติ, ตํ อรหาติ ชานิสฺสามา’’ติอาทินา นเยน กติกา กตา โหติ, ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน ตถา กโรนฺตสฺส ปาราชิกเมว. สเจปิ อุปาสเกน อนฺตรามคฺเค วิหาโร วา กโต โหติ, จีวราทีนิ วา ปิตานิ โหนฺติ, ‘‘เย อรหนฺโต เต อิมสฺมึ วิหาเร วสนฺตุ, จีวราทีนิ จ คณฺหนฺตู’’ติ. ตตฺราปิ อิจฺฉาจารวเสน วสนฺตสฺส วา จีวราทีนิ วา คณฺหนฺตสฺส ปาราชิกเมว ¶ . เอตํ ปน อธมฺมิกกติกวตฺตํ ¶ , ตสฺมา น กาตพฺพํ, อฺํ วา เอวรูปํ ‘‘อิมสฺมึ เตมาสพฺภนฺตเร ¶ สพฺเพว อารฺกา โหนฺตุ, ปิณฺฑปาติกงฺคาทิอวเสสธุตงฺคธรา วา อถ วา สพฺเพว ขีณาสวา โหนฺตู’’ติ เอวมาทิ. นานาเวรชฺชกา หิ ภิกฺขู สนฺนิปตนฺติ. ตตฺถ เกจิ ทุพฺพลา อปฺปถามา เอวรูปํ วตฺตํ อนุปาเลตุํ น สกฺโกนฺติ. ตสฺมา เอวรูปมฺปิ วตฺตํ น กาตพฺพํ. ‘‘อิมํ เตมาสํ สพฺเพเหว น อุทฺทิสิตพฺพํ, น ปริปุจฺฉิตพฺพํ, น ปพฺพาเชตพฺพํ, มูคพฺพตํ คณฺหิตพฺพํ, พหิ สีมฏฺสฺสาปิ สงฺฆลาโภ ทาตพฺโพ’’ติ เอวมาทิกํ ปน น กาตพฺพเมว.
๒๒๘. ลกฺขณสํยุตฺเต ยฺวายํ อายสฺมา จ ลกฺขโณติ ลกฺขณตฺเถโร วุตฺโต, เอส ชฏิลสหสฺสสฺส อพฺภนฺตเร เอหิภิกฺขูปสมฺปทาย อุปสมฺปนฺโน อาทิตฺตปริยายาวสาเน อรหตฺตปฺปตฺโต เอโก มหาสาวโกติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา ปเนส ลกฺขณสมฺปนฺเนน สพฺพาการปริปูเรน พฺรหฺมสเมน อตฺตภาเวน สมนฺนาคโต, ตสฺมา ลกฺขโณติ สงฺขํ คโต. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถโร ปน ปพฺพชิตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส อรหตฺตปฺปตฺโต ทุติโย อคฺคสาวโก.
สิตํ ปาตฺวากาสีติ มนฺทหสิตํ ปาตุอกาสิ, ปกาสยิ ทสฺเสสีติ วุตฺตํ โหติ. กึ ปน ทิสฺวา เถโร สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อุปริ ปาฬิยํ อาคตํ อฏฺิกสงฺขลิกํ เอกํ เปตโลเก นิพฺพตฺตํ สตฺตํ ทิสฺวา, ตฺจ โข ทิพฺเพน จกฺขุนา, น ปสาทจกฺขุนา. ปสาทจกฺขุสฺส หิ เอเต อตฺตภาวา น อาปาถํ อาคจฺฉนฺติ. เอวรูปํ ปน อตฺตภาวํ ทิสฺวา การฺุเ กาตพฺเพ กสฺมา สิตํ ปาตฺวากาสีติ? อตฺตโน จ พุทฺธาณสฺส จ สมฺปตฺติสมนุสฺสรณโต. ตฺหิ ทิสฺวา เถโร ‘‘อทิฏฺสจฺเจน นาม ปุคฺคเลน ปฏิลภิตพฺพา เอวรูปา อตฺตภาวา มุตฺโต อหํ, ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม’’ติ อตฺตโน จ สมฺปตฺตึ อนุสฺสริตฺวา ‘‘อโห พุทฺธสฺส ภควโต ¶ าณสมฺปตฺติ, โย ‘กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย; น จินฺเตตพฺโพ’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗) เทเสสิ, ปจฺจกฺขํ วต กตฺวา พุทฺธา เทเสนฺติ, สุปฺปฏิวิทฺธา พุทฺธานํ ธมฺมธาตู’’ติ เอวํ พุทฺธาณสมฺปตฺติฺจ สริตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสีติ. ยสฺมา ปน ขีณาสวา นาม น อการณา สิตํ ปาตุกโรนฺติ, ตสฺมา ตํ ลกฺขณตฺเถโร ปุจฺฉิ – ‘‘โก นุ โข อาวุโส โมคฺคลฺลาน เหตุ, โก ปจฺจโย สิตสฺส ปาตุกมฺมายา’’ติ. เถโร ปน ยสฺมา เยหิ อยํ อุปปตฺติ สามํ อทิฏฺา, เต ทุสฺสทฺธาปยา โหนฺติ, ตสฺมา ภควนฺตํ สกฺขึ กตฺวา พฺยากาตุกามตาย ‘‘อกาโล โข, อาวุโส’’ติอาทิมาห ¶ . ตโต ภควโต สนฺติเก ปุฏฺโ ‘‘อิธาหํ อาวุโส’’ติอาทินา นเยน พฺยากาสิ.
ตตฺถ ¶ อฏฺิกสงฺขลิกนฺติ เสตํ นิมฺมํสโลหิตํ อฏฺิสงฺฆาตํ. คิชฺฌาปิ กากาปิ กุลลาปีติ เอเตปิ ยกฺขคิชฺฌา เจว ยกฺขกากา จ ยกฺขกุลลา จ ปจฺเจตพฺพา. ปากติกานํ ปน คิชฺฌาทีนํ อาปาถมฺปิ เอตํ รูปํ นาคจฺฉติ. อนุปติตฺวา อนุปติตฺวาติ อนุพนฺธิตฺวา อนุพนฺธิตฺวา. วิตุเฑนฺตีติ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺฉนฺติ. วิตุเทนฺตีติ วา ปาโ, อสิธารูปเมหิ ติขิเณหิ โลหตุณฺเฑหิ วิชฺฌนฺตีติ อตฺโถ. สา สุทํ อฏฺฏสฺสรํ กโรตีติ เอตฺถ สุทนฺติ นิปาโต, สา อฏฺิกสงฺขลิกา อฏฺฏสฺสรํ อาตุรสฺสรํ กโรตีติ อตฺโถ. อกุสลวิปากานุภวนตฺถํ กิร โยชนปฺปมาณาปิ ตาทิสา อตฺตภาวา นิพฺพตฺตนฺติ, ปสาทุสฺสทา จ โหนฺติ ปกฺกคณฺฑสทิสา; ตสฺมา สา อฏฺิกสงฺขลิกา พลวเวทนาตุรา ตาทิสํ สรมกาสีติ. เอวฺจ ปน วตฺวา ปุน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ‘‘วฏฺฏคามิกสตฺตา นาม เอวรูปา อตฺตภาวา น มุจฺจนฺตี’’ติ สตฺเตสุ การฺุํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ ธมฺมสํเวคํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส มยฺหํ อาวุโส เอตทโหสิ; อจฺฉริยํ วต โภ’’ติอาทิมาห.
ภิกฺขู อุชฺฌายนฺตีติ เยสํ สา เปตูปปตฺติ อปฺปจฺจกฺขา, เต อุชฺฌายนฺติ ¶ . ภควา ปน เถรสฺสานุภาวํ ปกาเสนฺโต ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จกฺขุ ภูตํ ชาตํ อุปฺปนฺนํ เตสนฺติ จกฺขุภูตา; ภูตจกฺขุกา อุปฺปนฺนจกฺขุกา, จกฺขุํ อุปฺปาเทตฺวา, วิหรนฺตีติ อตฺโถ. ทุติยปเทปิ เอเสว นโย. ยตฺร หิ นามาติ เอตฺถ ยตฺราติ การณวจนํ. ตตฺรายมตฺถโยชนา; ยสฺมา นาม สาวโกปิ เอวรูปํ สฺสติ วา ทกฺขติ วา สกฺขึ วา กริสฺสติ, ตสฺมา อโวจุมฺห – ‘‘จกฺขุภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺติ, าณภูตา วต ภิกฺขเว สาวกา วิหรนฺตี’’ติ.
ปุพฺเพว เม โส ภิกฺขเว สตฺโต ทิฏฺโติ โพธิมณฺเฑ สพฺพฺุตาณปฺปฏิเวเธน อปฺปมาเณสุ จกฺกวาเฬสุ อปฺปมาเณ สตฺตนิกาเย ภวคติโยนิิตินิวาเส จ ปจฺจกฺขํ กโรนฺเตน มยา ปุพฺเพว โส สตฺโต ทิฏฺโติ วทติ.
โคฆาตโกติ ¶ คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา อฏฺิโต มํสํ โมเจตฺวา วิกฺกิณิตฺวา ชีวิกกปฺปนกสตฺโต. ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนาติ ตสฺส นานาเจตนาหิ อายูหิตสฺส อปราปริยกมฺมสฺส. ตตฺร หิ ยาย เจตนาย นรเก ปฏิสนฺธิ ชนิตา, ตสฺสา วิปาเก ปริกฺขีเณ อวเสสกมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารมฺมณํ กตฺวา ปุน เปตาทีสุ ปฏิสนฺธิ นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา สา ปฏิสนฺธิ กมฺมสภาคตาย วา อารมฺมณสภาคตาย วา ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส ¶ วิปากาวเสโส’’ติ วุจฺจติ. อยฺจ สตฺโต เอวํ อุปปนฺโน. เตนาห – ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ. ตสฺส กิร นรกา จวนกาเล นิมฺมํสกตานํ คุนฺนํ อฏฺิราสิ เอว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส ปฏิจฺฉนฺนมฺปิ ตํ กมฺมํ วิฺูนํ ปากฏํ วิย กโรนฺโต อฏฺิสงฺขลิกเปโต ชาโต.
๒๒๙. มํสเปสิวตฺถุสฺมึ ¶ โคฆาตโกติ โคมํสเปสิโย กตฺวา สุกฺขาเปตฺวา วลฺลูรวิกฺกเยน อเนกานิ วสฺสานิ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสเปสิเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสเปสิเปโต ชาโต.
มํสปิณฺฑวตฺถุสฺมึ โส สากุณิโก สกุเณ คเหตฺวา วิกฺกิณนกาเล นิปฺปกฺขจมฺเม มํสปิณฺฑมตฺเต กตฺวา วิกฺกิณนฺโต ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส นรกา จวนกาเล มํสปิณฺโฑว นิมิตฺตํ อโหสิ. โส มํสปิณฺฑเปโต ชาโต.
นิจฺฉวิวตฺถุสฺมึ ตสฺส โอรพฺภิกสฺส เอฬเก วธิตฺวา นิจฺจมฺเม กตฺวา กปฺปิตชีวิกสฺส ปุริมนเยเนว นิจฺจมฺมํ เอฬกสรีรํ นิมิตฺตมโหสิ. โส นิจฺฉวิเปโต ชาโต.
อสิโลมวตฺถุสฺมึ โส สูกริโก ทีฆรตฺตํ นิวาปปุฏฺเ สูกเร อสินา วธิตฺวา วธิตฺวา ทีฆรตฺตํ ชีวิกํ กปฺเปสิ. เตนสฺส อุกฺขิตฺตาสิกภาโวว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อสิโลมเปโต ชาโต.
สตฺติโลมวตฺถุสฺมึ โส มาควิโก เอกํ มิคฺจ สตฺติฺจ คเหตฺวา วนํ คนฺตฺวา ตสฺส มิคสฺส สมีปํ อาคตาคเต มิเค สตฺติยา วิชฺฌิตฺวา มาเรสิ, ตสฺส สตฺติยา วิชฺฌนกภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สตฺติโลมเปโต ชาโต.
อุสุโลมวตฺถุสฺมึ ¶ การณิโกติ ราชาปราธิเก อเนกาหิ การณาหิ ปีเฬตฺวา อวสาเน กณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา มารณกปุริโส. โส กิร อสุกสฺมึ ปเทเส วิทฺโธ มรตีติ ตฺวาว วิชฺฌติ. ตสฺเสวํ ชีวิกํ กปฺเปตฺวา นรเก อุปฺปนฺนสฺส ตโต ปกฺกาวเสเสน อิธูปปตฺติกาเล อุสุนา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา อุสุโลมเปโต ชาโต.
สูจิโลมวตฺถุสฺมึ สารถีติ อสฺสทมโก. โคทมโกติปิ กุรุนฺทฏฺกถายํวุตฺตํ. ตสฺส ปโตทสูจิยา วิชฺฌนภาโวเยว นิมิตฺตํ อโหสิ. ตสฺมา สูจิโลมเปโต ชาโต.
ทุติยสูจิโลมวตฺถุสฺมึ ¶ สูจโกติ เปสฺุการโก ¶ . โส กิร มนุสฺเส อฺมฺฺจ ภินฺทิ. ราชกุเล จ ‘‘อิมสฺส อิมํ นาม อตฺถิ, อิมินา อิทํ นาม กต’’นฺติ สูเจตฺวา สูเจตฺวา อนยพฺยสนํ ปาเปสิ. ตสฺมา ยถาเนน สูเจตฺวา มนุสฺสา ภินฺนา, ตถา สูจีหิ เภทนทุกฺขํ ปจฺจนุโภตุํ กมฺมเมว นิมิตฺตํ กตฺวา สูจิโลมเปโต ชาโต.
อณฺฑภาริตวตฺถุสฺมึ คามกูโฏติ วินิจฺฉยามจฺโจ. ตสฺส กมฺมสภาคตาย กุมฺภมตฺตา มหาฆฏปฺปมาณา อณฺฑา อเหสุํ. โส หิ ยสฺมา รโห ปฏิจฺฉนฺน าเน ลฺชํ คเหตฺวา กูฏวินิจฺฉเยน ปากฏํ โทสํ กโรนฺโต สามิเก อสฺสามิเก อกาสิ. ตสฺมาสฺส รหสฺสํ องฺคํ ปากฏํ นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ทณฺฑํ ปฏฺเปนฺโต ปเรสํ อสยฺหํ ภารํ อาโรเปสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺคํ อสยฺหภาโร หุตฺวา นิพฺพตฺตํ. ยสฺมา ยสฺมึ าเน ิเตน สเมน ภวิตพฺพํ, ตสฺมึ ตฺวา วิสโม อโหสิ, ตสฺมาสฺส รหสฺสงฺเค วิสมา นิสชฺชา อโหสีติ.
ปารทาริกวตฺถุสฺมึ โส สตฺโต ปรสฺส รกฺขิตํ โคปิตํ สสฺสามิกํ ผสฺสํ ผุสนฺโต มีฬฺหสุเขน กามสุเขน จิตฺตํ รมยิตฺวา กมฺมสภาคตาย คูถผสฺสํ ผุสนฺโต ทุกฺขมนุภวิตุํ ตตฺถ นิพฺพตฺโต. ทุฏฺพฺราหฺมณวตฺถุ ปากฏเมว.
๒๓๐. นิจฺฉวิตฺถิวตฺถุสฺมึ ยสฺมา มาตุคาโม นาม อตฺตโน ผสฺเส อนิสฺสโร, สา จ ตํ สามิกสฺส สนฺตกํ ผสฺสํ เถเนตฺวา ปเรสํ อภิรตึ ¶ อุปฺปาเทสิ, ตสฺมา กมฺมสภาคตาย สุขสมฺผสฺสา ธํสิตฺวา ทุกฺขสมฺผสฺสํ อนุภวิตุํ นิจฺฉวิตฺถี หุตฺวา อุปปนฺนา.
มงฺคุลิตฺถิวตฺถุสฺมึ มงฺคุลินฺติ ¶ วิรูปํ ทุทฺทสิกํ พีภจฺฉํ, สา กิร อิกฺขณิกากมฺมํ ยกฺขทาสิกมฺมํ กโรนฺตี ‘‘อิมินา จ อิมินา จ เอวํ พลิกมฺเม กเต อยํ นาม ตุมฺหากํ วฑฺฒิ ภวิสฺสตี’’ติ มหาชนสฺส คนฺธปุปฺผาทีนิ วฺจนาย คเหตฺวา มหาชนํ ทุทฺทิฏฺึ มิจฺฉาทิฏฺึ คณฺหาเปสิ, ตสฺมา ตาย กมฺมสภาคตาย คนฺธปุปฺผาทีนํ เถนิตตฺตา ทุคฺคนฺธา ทุทฺทสฺสนสฺส คาหิตตฺตา ทุทฺทสิกา วิรูปา พีภจฺฉา หุตฺวา นิพฺพตฺตา.
โอกิลินิวตฺถุสฺมึ อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินินฺติ สา กิร องฺคารจิตเก นิปนฺนา วิปฺผนฺทมานา วิปริวตฺตมานา ปจฺจติ, ตสฺมา อุปฺปกฺกา เจว โหติ ขเรน อคฺคินา ปกฺกสรีรา; โอกิลินี จ กิลินฺนสรีรา พินฺทุพินฺทูนิ หิสฺสา สรีรโต ปคฺฆรนฺติ. โอกิรินี จ องฺคารสมฺปริกิณฺณา, ตสฺสา หิ เหฏฺโตปิ กึสุกปุปฺผวณฺณา องฺคารา, อุภยปสฺเสสุปิ ¶ , อากาสโตปิสฺสา อุปริ องฺคารา ปตนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อุปฺปกฺกํ โอกิลินึ โอกิรินิ’’นฺติ. สา อิสฺสาปกตา สปตฺตึ องฺคารกฏาเหน โอกิรีติ ตสฺสา กิร กลิงฺครฺโ เอกา นาฏกินี องฺคารกฏาหํ สมีเป เปตฺวา คตฺตโต อุทกฺจ ปฺุฉติ, ปาณินา จ เสทํ กโรติ. ราชาปิ ตาย สทฺธึ กถฺจ กโรติ, ปริตุฏฺาการฺจ ทสฺเสติ. อคฺคมเหสี ตํ อสหมานา อิสฺสาปกตา หุตฺวา อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโ ตํ องฺคารกฏาหํ คเหตฺวา ตสฺสา อุปริ องฺคาเร โอกิริ. สา ตํ กมฺมํ กตฺวา ตาทิสํเยว วิปากํ ปจฺจนุภวิตุํ เปตโลเก นิพฺพตฺตา.
โจรฆาตกวตฺถุสฺมึ ¶ โส รฺโ อาณาย ทีฆรตฺตํ โจรานํ สีสานิ ฉินฺทิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต อสีสกํ กพนฺธํ หุตฺวา นิพฺพตฺติ.
ภิกฺขุวตฺถุสฺมึ ปาปภิกฺขูติ ลามกภิกฺขุ. โส กิร โลกสฺส สทฺธาเทยฺเย จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชิตฺวา กายวจีทฺวาเรหิ อสํ ยโต ภินฺนาชีโว จิตฺตเกฬึ กีฬนฺโต วิจริ. ตโต เอกํ พุทฺธนฺตรํ นิรเย ปจฺจิตฺวา เปตโลเก นิพฺพตฺตนฺโต ภิกฺขุสทิเสเนว อตฺตภาเวน นิพฺพตฺติ. ภิกฺขุนี-สิกฺขมานา-สามเณร-สามเณรีวตฺถูสุปิ อยเมว วินิจฺฉโย.
๒๓๑. ตโปทาวตฺถุสฺมึ ¶ อจฺโฉทโกติ ปสนฺโนทโก. สีโตทโกติ สีตลอุทโก. สาโตทโกติ มธุโรทโก. เสตโกติ ปริสุทฺโธ นิสฺเสวาลปณกกทฺทโม. สุปฺปติตฺโถติ สุนฺทเรหิ ติตฺเถหิ อุปปนฺโน. รมณีโยติ รติชนโก. จกฺกมตฺตานีติ รถจกฺกปฺปมาณานิ. กุถิตา สนฺทตีติ ตตฺรา สนฺตตฺตา หุตฺวา สนฺทติ. ยตายํ ภิกฺขเวติ ยโต อยํ ภิกฺขเว. โส ทโหติ โส รหโท. กุโต ปนายํ สนฺทตีติ? เวภารปพฺพตสฺส กิร เหฏฺา ภุมฺมฏฺกนาคานํ ปฺจโยชนสติกํ นาคภวนํ เทวโลกสทิสํ มณิมเยน ตเลน อารามุยฺยาเนหิ จ สมนฺนาคตํ; ตตฺถ นาคานํ กีฬนฏฺาเน โส อุทกทโห, ตโต อยํ ตโปทา สนฺทติ. ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตีติ ราชคหนครํ กิร อาวิฺเชตฺวา มหาเปตโลโก, ตตฺถ ทฺวินฺนํ มหาโลหกุมฺภินิรยานํ อนฺตเรน อยํ ตโปทา อาคจฺฉติ, ตสฺมา กุถิตา สนฺทตีติ.
ยุทฺธวตฺถุสฺมึ ¶ นนฺที จรตีติ วิชยเภรี อาหิณฺฑติ. ราชา อาวุโส ลิจฺฉวีหีติ เถโร กิร อตฺตโน ทิวาฏฺาเน จ รตฺติฏฺาเน จ นิสีทิตฺวา ‘‘ลิจฺฉวโย กตหตฺถา กตูปาสนา, ราชา จ เตหิ สทฺธึ สมฺปหารํ เทตี’’ติ อาวชฺเชนฺโต ทิพฺเพน จกฺขุนา ราชานํ ปราชิตํ ปลายมานํ อทฺทส. ตโต ภิกฺขู อามนฺเตตฺวา ‘‘ราชา อาวุโส ตุมฺหากํ อุปฏฺาโก ลิจฺฉวีหิ ปภคฺโค’’ติ ¶ อาห. สจฺจํ, ภิกฺขเว, โมคฺคลฺลาโน อาหาติ ปราชิกกาเล อาวชฺชิตฺวา ยํ ทิฏฺํ ตํ ภณนฺโต สจฺจํ อาห.
๒๓๒. นาโคคาหวตฺถุสฺมึ สปฺปินิกายาติ เอวํนามิกาย. อาเนฺชํ สมาธินฺติ อเนชํ อจลํ กายวาจาวิปฺผนฺทวิรหิตํ จตุตฺถชฺฌานสมาธึ. นาคานนฺติ หตฺถีนํ. โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ โอคยฺห โอคาเหตฺวา ปุน อุตฺตรนฺตานํ. เต กิร คมฺภีรํ อุทกํ โอตริตฺวา ตตฺถ นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ โสณฺฑาย อุทกํ คเหตฺวา อฺมฺํ อาโลเลนฺตา อุตฺตรนฺติ, เตสํ เอวํ โอคยฺห อุตฺตรนฺตานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โกฺจํ กโรนฺตานนฺติ นทีตีเร ตฺวา โสณฺฑํ มุเข ปกฺขิปิตฺวา โกฺจนาทํ กโรนฺตานํ. สทฺทํ อสฺโสสินฺติ ตํ ¶ โกฺจนาทสทฺทํ อสฺโสสึ. อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ โส จ โข อปริสุทฺโธติ อตฺถิ เอโส สมาธิ โมคฺคลฺลานสฺส, โส จ โข ปริสุทฺโธ น โหติ. เถโร กิร ปพฺพชิตโต สตฺตเม ทิวเส ตทหุอรหตฺตปฺปตฺโต อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ ปฺจหากาเรหิ อนาจิณฺณวสีภาโว ¶ สมาธิปริปนฺถเก ธมฺเม น สุฏฺุ ปริโสเธตฺวา อาวชฺชนสมาปชฺชนาธิฏฺานวุฏฺานปจฺจเวกฺขณานํ สฺามตฺตกเมว กตฺวา จตุตฺถชฺฌานํ อปฺเปตฺวา นิสินฺโน, ฌานงฺเคหิ วุฏฺาย นาคานํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อนฺโตสมาปตฺติยํ อสฺโสสิ’’นฺติ เอวํสฺี อโหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺเถโส, ภิกฺขเว, สมาธิ; โส จ โข อปริสุทฺโธ’’ติ.
โสภิตวตฺถุสฺมึ อหํ, อาวุโส, ปฺจ กปฺปสตานิ อนุสฺสรามีติ เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามีติ อาห. อิตรถา หิ อนจฺฉริยํ อริยสาวกานํ ปฏิปาฏิยา นานาวชฺชเนน ตสฺส ตสฺส อตีเต นิวาสสฺส อนุสฺสรณนฺติ น ภิกฺขู อุชฺฌาเยยฺยุํ. ยสฺมา ปเนส ‘‘เอกาวชฺชเนน อนุสฺสรามี’’ติ อาห, ตสฺมา ภิกฺขู อุชฺฌายึสุ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว ชาตีติ ยํ โสภิโต ชาตึ อนุสฺสรามีติ อาห, อตฺเถสา ชาติ โสภิตสฺส, สา จ โข เอกาเยว อนนฺตรา น อุปฺปฏิปาฏิยา อนุสฺสริตาติ อธิปฺปาโย.
กถํ ปนายํ เอตํ อนุสฺสรีติ? อยํ กิร ปฺจนฺนํ กปฺปสตานํ อุปริ ติตฺถายตเน
ปพฺพชิตฺวา อสฺสมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา อสฺภเว นิพฺพตฺติ. ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อวสาเน มนุสฺสโลเก อุปฺปนฺโน สาสเน ปพฺพชิตฺวา ติสฺโส วิชฺชา สจฺฉากาสิ. โส ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรมาโน อิมสฺมึ อตฺตภาเว ปฏิสนฺธึ ทิสฺวา ตโต ปรํ ตติเย อตฺตภาเว จุติเมว อทฺทส. อถ อุภินฺนมนฺตรา อจิตฺตกํ อตฺตภาวํ อนุสฺสริตุํ ¶ อสกฺโกนฺโต นยโต สลฺลกฺเขสิ – ‘‘อทฺธาอหํ อสฺภเว นิพฺพตฺโต’’ติ. เอวํ สลฺลกฺเขนฺเตน ปนาเนน ทุกฺกรํ กตํ, สตธา ภินฺนสฺส วาลสฺส โกฏิยา โกฏิ ปฏิวิทฺธา, อากาเส ปทํ ทสฺสิตํ. ตสฺมา นํ ภควา ¶ อิมสฺมึเยว วตฺถุสฺมึ เอตทคฺเค เปสิ – ‘‘เอตทคฺคํ ภิกฺขเว, มม สาวกานํ ภิกฺขูนํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺตานํ ยทิทํ โสภิโต’’ติ (อ. นิ. ๑.๒๑๙, ๒๒๗).
วินีตวตฺถุวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิคมนวณฺณนา
๒๓๓. อุทฺทิฏฺา ¶ โข อายสฺมนฺโต จตฺตาโร ปาราชิกา ธมฺมาติ อิทํ อิธ อุทฺทิฏฺปาราชิกปริทีปนเมว. สโมธาเนตฺวา ปน สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ. กตมานิ จตุวีสติ? ปาฬิยํ อาคตานิ ตาว ภิกฺขูนํ จตฺตาริ, ภิกฺขุนีนํ อสาธารณานิ จตฺตารีติ อฏฺ. เอกาทส อภพฺพปุคฺคลา, เตสุ ปณฺฑกติรจฺฉานคตอุภโตพฺยฺชนกา, ตโย วตฺถุวิปนฺนา อเหตุกปฏิสนฺธิกา, เตสํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโต, อภพฺพา หิ เต มคฺคปฺปฏิลาภาย วตฺถุวิปนฺนตฺตาติ. ปพฺพชฺชาปิ เนสํ ปฏิกฺขิตฺตา, ตสฺมา เตปิ ปาราชิกา. เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, มาตุฆาตโก, ปิตุฆาตโก, อรหนฺตฆาตโก, ภิกฺขุนีทูสโก, โลหิตุปฺปาทโก, สงฺฆเภทโกติ อิเม อฏฺ อตฺตโน กิริยาย วิปนฺนตฺตา อภพฺพฏฺานํ ปตฺตาติ ปาราชิกาว. เตสุ เถยฺยสํวาสโก, ติตฺถิยปกฺกนฺตโก, ภิกฺขุนีทูสโกติ อิเมสํ ติณฺณํ สคฺโค อวาริโต มคฺโค ปน วาริโตว. อิตเรสํ ปฺจนฺนํ อุภยมฺปิ วาริตํ. เต หิ อนนฺตรภเว นรเก นิพฺพตฺตนกสตฺตา. อิติ อิเม จ เอกาทส, ปุริมา จ อฏฺาติ เอกูนวีสติ. เต คิหิลิงฺเค รุจึ อุปฺปาเทตฺวา คิหินิวาสนนิวตฺถาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ วีสติ. สา หิ อชฺฌาจารวีติกฺกมํ อกตฺวาปิ เอตฺตาวตาว อสฺสมณีติ อิมานิ ตาว วีสติ ปาราชิกานิ.
อปรานิปิ – ลมฺพี, มุทุปิฏฺิโก, ปรสฺส องฺคชาตํ มุเขน คณฺหาติ, ปรสฺส องฺคชาเต อภินิสีทตีติ อิเมสํ จตุนฺนํ วเสน จตฺตาริ อนุโลมปาราชิกานีติ วทนฺติ. เอตานิ หิ ยสฺมา อุภินฺนํ ราควเสน สทิสภาวูปคตานํ ธมฺโม ‘‘เมถุนธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ตสฺมา เอเตน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ ¶ อปฺปฏิเสวิตฺวาเยว เกวลํ มคฺเคน มคฺคปฺปเวสนวเสน อาปชฺชิตพฺพตฺตา เมถุนธมฺมปาราชิกสฺส อนุโลเมนฺตีติ อนุโลมปาราชิกานีติ วุจฺจนฺติ. อิติ อิมานิ จ จตฺตาริ ¶ ปุริมานิ จ วีสตีติ สโมธาเนตฺวา สพฺพาเนว จตุวีสติ ปาราชิกานิ เวทิตพฺพานิ.
น ลภติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสนฺติ อุโปสถ-ปวารณ-ปาติโมกฺขุทฺเทส-สงฺฆกมฺมปฺปเภทํ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ยถา ปุพฺเพ คิหิกาเล อนุปสมฺปนฺนกาเล จ ปจฺฉา ปาราชิกํ อาปนฺโนปิ ตเถว อสํวาโส โหติ. นตฺถิ ตสฺส ภิกฺขูหิ สทฺธึ ¶ อุโปสถปวารณปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺฆกมฺมปฺปเภโท สํวาโสติ ภิกฺขูหิ สทฺธึ สํวาสํ น ลภติ. ตตฺถายสฺมนฺเต ปุจฺฉามีติ เตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ อายสฺมนฺเต ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา’’ติ ปุจฺฉามิ. กจฺจิตฺถาติ กจฺจิ เอตฺถ; เอเตสุ จตูสุ ปาราชิเกสุ กจฺจิ ปริสุทฺธาติ อตฺโถ. อถ วา กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธาติ กจฺจิ ปริสุทฺธา อตฺถ, ภวถาติ อตฺโถ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺิตา.