📜

๒. สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ

๑. สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา

ยํ ปาราชิกกณฺฑสฺส, สงฺคีตํ สมนนฺตรํ;

ตสฺส เตรสกสฺสายมปุพฺพปทวณฺณนา.

๒๓๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เสยฺยสโก อนภิรโต พฺรหฺมจริยํ จรตีติ เอตฺถ อายสฺมาติ ปิยวจนํ. เสยฺยสโกติ ตสฺส ภิกฺขุโน นามํ. อนภิรโตติ วิกฺขิตฺตจิตฺโต กามราคปริฬาเหน ปริฑยฺหมาโน น ปน คิหิภาวํ ปตฺถยมาโน. โส เตน กิโส โหตีติ โส เสยฺยสโก เตน อนภิรตภาเวน กิโส โหติ.

อทฺทสา โข อายสฺมา อุทายีติ เอตฺถ อุทายีติ ตสฺส เถรสฺส นามํ, อยฺหิ เสยฺยสกสฺส อุปชฺฌาโย ลาฬุทายี นาม ภนฺตมิคสปฺปฏิภาโค นิทฺทารามตาทิมนุยุตฺตานํ อฺตโร โลลภิกฺขุ. กจฺจิ โน ตฺวนฺติ กจฺจิ นุ ตฺวํ. ยาวทตฺถํ ภุฺชาติอาทีสุ ยาวตา อตฺโถติ ยาวทตฺถํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาวตา เต โภชเนน อตฺโถ ยตฺตกํ ตฺวํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ ภุฺช, ยตฺตกํ กาลํ รตฺตึ วา ทิวา วา สุปิตุํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ สุป, มตฺติกาทีหิ กายํ อุพฺพฏฺเฏตฺวา จุณฺณาทีหิ ฆํสิตฺวา ยตฺตกํ นฺหานํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ นฺหาย, อุทฺเทเสน วา ปริปุจฺฉาย วา วตฺตปฏิปตฺติยา วา กมฺมฏฺาเนน วา อตฺโถ นตฺถีติ. ยทา เต อนภิรติ อุปฺปชฺชตีติ ยสฺมึ กาเล ตว กามราควเสน อุกฺกณฺิตตา วิกฺขิตฺตจิตฺตตา อุปฺปชฺชติ. ราโค จิตฺตํ อนุทฺธํเสตีติ กามราโค จิตฺตํ ธํเสติ ปธํเสติ วิกฺขิปติ เจว มิลาเปติ จ. ตทา หตฺเถน อุปกฺกมิตฺวา อสุจึ โมเจหีติ ตสฺมึ กาเล หตฺเถน วายมิตฺวา อสุจิโมจนํ กโรหิ, เอวฺหิ เต จิตฺเตกคฺคตา ภวิสฺสติ. อิติ ตํ อุปชฺฌาโย อนุสาสิ ยถา ตํ พาโล พาลํ มโค มคํ.

๒๓๕. เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานนฺติ สติสมฺปชฺํ ปหาย นิทฺทํ โอตรนฺตานํ. ตตฺถ กิฺจาปิ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตานํ อพฺยากโต ภวงฺควาโร ปวตฺตติ, สติสมฺปชฺวาโร คฬติ, ตถาปิ สยนกาเล มนสิกาโร กาตพฺโพ. ทิวา สุปนฺเตน ยาว นฺหาตสฺส ภิกฺขุโน เกสา น สุกฺขนฺติ ตาว สุปิตฺวา วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. รตฺตึ สุปนฺเตน เอตฺตกํ นาม รตฺติภาคํ สุปิตฺวา จนฺเทน วา ตารกาย วา อิทํ นาม านํ ปตฺตกาเล วุฏฺหิสฺสามีติ สอุสฺสาเหน สุปิตพฺพํ. พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ จ ทสสุ กมฺมฏฺาเนสุ เอกํ อฺํ วา จิตฺตรุจิยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาว นิทฺทา โอกฺกมิตพฺพา. เอวํ กโรนฺโต หิ สโต สมฺปชาโน สติฺจ สมฺปชฺฺจ อวิชหิตฺวาว นิทฺทํ โอกฺกมตีติ วุจฺจติ. เต ปน ภิกฺขู พาลา โลลา ภนฺตมิคสปฺปฏิภาคา น เอวมกํสุ. เตน วุตฺตํ – ‘‘เตสํ มุฏฺสฺสตีนํ อสมฺปชานานํ นิทฺทํ โอกฺกมนฺตาน’’นฺติ.

อตฺถิ เจตฺถ เจตนา ลพฺภตีติ เอตฺถ จ สุปินนฺเต อสฺสาทเจตนา อตฺถิ อุปลพฺภติ. อตฺเถสา, ภิกฺขเว, เจตนา; สา จ โข อพฺโพหาริกาติ ภิกฺขเว เอสา อสฺสาทเจตนา อตฺถิ, สา จ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกา, อาปตฺติยา องฺคํ น โหติ. อิติ ภควา สุปินนฺเต เจตนาย อพฺโพหาริกภาวํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เอวฺจ ปน ภิกฺขเว อิมํ สิกฺขาปทํ อุทฺทิเสยฺยาถ, สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ อฺตฺร สุปินนฺตา สงฺฆาทิเสโส’’ติ สานุปฺตฺติกํ สิกฺขาปทํ ปฺาเปสิ.

๒๓๖-๒๓๗. ตตฺถ สํวิชฺชติ เจตนา อสฺสาติ สฺเจตนา, สฺเจตนาว สฺเจตนิกา, สฺเจตนา วา อสฺสา อตฺถีติ สฺเจตนิกา. ยสฺมา ปน ยสฺส สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ โหติ โส ชานนฺโต สฺชานนฺโต โหติ, สา จสฺส สุกฺกวิสฺสฏฺิ เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม โหติ, ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ชานนฺโต สฺชานนฺโต เจจฺจ อภิวิตริตฺวา วีติกฺกโม’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานนฺโตติ อุปกฺกมามีติ ชานนฺโต. สฺชานนฺโตติ สุกฺกํ โมเจมีติ สฺชานนฺโต, เตเนว อุปกฺกมชานนากาเรน สทฺธึ ชานนฺโตติ อตฺโถ. เจจฺจาติ โมจนสฺสาทเจตนาวเสน เจเตตฺวา ปกปฺเปตฺวา. อภิวิตริตฺวาติ อุปกฺกมวเสน มทฺทนฺโต นิราสงฺกจิตฺตํ เปเสตฺวา. วีติกฺกโมติ เอวํ ปวตฺตสฺส โย วีติกฺกโม อยํ สฺเจตนิกาสทฺทสฺส สิขาปฺปตฺโต อตฺโถติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ สุกฺกวิสฺสฏฺีติ เอตฺถ ยสฺส สุกฺกสฺส วิสฺสฏฺิ ตํ ตาว สงฺขฺยาโต วณฺณเภทโต จ ทสฺเสตุํ ‘‘สุกฺกนฺติ ทส สุกฺกานี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุกฺกานํ อาสยเภทโต ธาตุนานตฺตโต จ นีลาทิวณฺณเภโท เวทิตพฺโพ.

วิสฺสฏฺีติ วิสฺสคฺโค, อตฺถโต ปเนตํ านาจาวนํ โหติ, เตนาห – ‘‘วิสฺสฏฺีติ านโต จาวนา วุจฺจตี’’ติ. ตตฺถ วตฺถิสีสํ กฏิ กาโยติ ติธา สุกฺกสฺส านํ ปกปฺเปนฺติ, เอโก กิราจริโย ‘‘วตฺถิสีสํ สุกฺกสฺส าน’’นฺติ อาห. เอโก ‘‘กฏี’’ติ, เอโก ‘‘สกโล กาโย’’ติ, เตสุ ตติยสฺส ภาสิตํ สุภาสิตํ. เกสโลมนขทนฺตานฺหิ มํสวินิมุตฺตฏฺานํ อุจฺจารปสฺสาวเขฬสิงฺฆาณิกาถทฺธสุกฺขจมฺมานิ จ วชฺเชตฺวา อวเสโส ฉวิมํสโลหิตานุคโต สพฺโพปิ กาโย กายปฺปสาทภาวชีวิตินฺทฺริยาพทฺธปิตฺตานํ สมฺภวสฺส จ านเมว. ตถา หิ ราคปริยุฏฺาเนนาภิภูตานํ หตฺถีนํ อุโภหิ กณฺณจูฬิกาหิ สมฺภโว นิกฺขมติ, มหาเสนราชา จ ราคปริยุฏฺิโต สมฺภวเวคํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต สตฺเถน พาหุสีสํ ผาเลตฺวา วณมุเขน นิกฺขนฺตํ สมฺภวํ ทสฺเสสีติ.

เอตฺถ ปน ปมสฺส อาจริยสฺส วาเท โมจนสฺสาเทน นิมิตฺเต อุปกฺกมโต ยตฺตกํ เอกา ขุทฺทกมกฺขิกา ปิเวยฺย ตตฺตเก อสุจิมฺหิ วตฺถิสีสโต มุฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทุติยสฺส วาเท ตเถว กฏิโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต, ตติยสฺส วาเท ตเถว สกลกายํ สงฺโขเภตฺวา ตโต มุจฺจิตฺวา ทกโสตํ โอติณฺณมตฺเต พหิ นิกฺขนฺเต วา อนิกฺขนฺเต วา สงฺฆาทิเสโส. ทกโสโตโรหณฺเจตฺถ อธิวาเสตฺวา อนฺตรา นิวาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วุตฺตํ, านา จุตฺหิ อวสฺสํ ทกโสตํ โอตรติ. ตสฺมา านา จาวนมตฺเตเนเวตฺถ อาปตฺติ เวทิตพฺพา, สา จ โข นิมิตฺเต อุปกฺกมนฺตสฺเสว หตฺถปริกมฺมปาทปริกมฺมคตฺตปริกมฺมกรเณน สเจปิ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. อยํ สพฺพาจริยสาธารณวินิจฺฉโย.

อฺตฺร สุปินนฺตาติ เอตฺถ สุปิโน เอว สุปินนฺโต, ตํ เปตฺวา อปเนตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ตฺจ ปน สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วาติ.

ตตฺถ ปิตฺตาทีนํ โขภกรณปจฺจยโยเคน ขุภิตธาตุโก ธาตุกฺโขภโต สุปินํ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ นานาวิธํ สุปินํ ปสฺสติ – ปพฺพตา ปตนฺโต วิย, อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย, วาฬมิคหตฺถีโจราทีหิ อนุพทฺโธ วิย โหติ. อนุภูตปุพฺพโต ปสฺสนฺโต ปุพฺเพ อนุภูตปุพฺพํ อารมฺมณํ ปสฺสติ. เทวโตปสํหารโต ปสฺสนฺตสฺส เทวตา อตฺถกามตาย วา อนตฺถกามตาย วา อตฺถาย วา อนตฺถาย วา นานาวิธานิ อารมฺมณานิ อุปสํหรนฺติ, โส ตาสํ เทวตานํ อานุภาเวน ตานิ อารมฺมณานิ ปสฺสติ. ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสนฺโต ปุฺาปุฺวเสน อุปฺปชฺชิตุกามสฺส อตฺถสฺส วา อนตฺถสฺส วา ปุพฺพนิมิตฺตภูตํ สุปินํ ปสฺสติ, โพธิสตฺตสฺสมาตา วิย ปุตฺตปฏิลาภนิมิตฺตํ, โพธิสตฺโต วิย ปฺจ มหาสุปิเน (อ. นิ. ๕.๑๙๖), โกสลราชา วิย โสฬส สุปิเนติ.

ตตฺถ ยํ ธาตุกฺโขภโต อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ น ตํ สจฺจํ โหติ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ ตํ สจฺจํ วา โหติ อลีกํ วา, กุทฺธา หิ เทวตา อุปาเยน วินาเสตุกามา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปน ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โหติ. เอเตสฺจ จตุนฺนํ มูลการณานํ สํสคฺคเภทโตปิ สุปินเภโท โหติเยว.

ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธมฺปิ สุปินํ เสกฺขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ อปฺปหีนวิปลฺลาสตฺตา, อเสกฺขา ปน น ปสฺสนฺติ ปหีนวิปลฺลาสตฺตา. กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ ปฏิพุทฺโธ, อุทาหุ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธติ? กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว สุตฺโต ปสฺสติ อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ, ภวงฺคจิตฺเตน หิ สุปติ ตํ รูปนิมิตฺตาทิอารมฺมณํ ราคาทิสมฺปยุตฺตํ วา น โหติ, สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส จ อีทิสานิ จิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อถ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ วินยวิโรโธ อาปชฺชติ, ยฺหิ ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ ตํ สพฺโพหาริกจิตฺเตน ปสฺสติ, สพฺโพหาริกจิตฺเตน จ กเต วีติกฺกเม อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. สุปินํ ปสฺสนฺเตน ปน กเตปิ วีติกฺกเม เอกนฺตํ อนาปตฺติ เอว. อถ เนว สุตฺโต น ปฏิพุทฺโธ ปสฺสติ, โก นาม ปสฺสติ; เอวฺจ สติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตีติ, น อภาโว. กสฺมา ? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ. กปิมิทฺธปเรโตติ มกฺกฏนิทฺทาย ยุตฺโต. ยถา หิ มกฺกฏสฺส นิทฺทา ลหุปริวตฺตา โหติ; เอวํ ยา นิทฺทา ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา, ยสฺสา ปวตฺติยํ ปุนปฺปุนํ ภวงฺคโต อุตฺตรณํ โหติ ตาย ยุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ, เตนายํ สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ อพฺยากโตปิ. ตตฺถ สุปินนฺเต เจติยวนฺทนธมฺมสฺสวนธมฺมเทสนาทีนิ กโรนฺตสฺส กุสโล, ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส อกุสโล, ทฺวีหิ อนฺเตหิ มุตฺโต อาวชฺชนตทารมฺมณกฺขเณ อพฺยากโตติ เวทิตพฺโพ. สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺโถ, ปวตฺเต ปน อฺเหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิโต วิปากํ เทติ. กิฺจาปิ วิปากํ เทติ? อถ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกาว สุปินนฺตเจตนา. เตนาห – ‘‘เปตฺวา สุปินนฺต’’นฺติ.

สงฺฆาทิเสโสติ อิมสฺส อาปตฺตินิกายสฺส นามํ. ตสฺมา ยา อฺตฺร สุปินนฺตา สฺเจตนิกา สุกฺกวิสฺสฏฺิ , อยํ สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโยติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ . วจนตฺโถ ปเนตฺถ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโส. กึ วุตฺตํ โหติ? อิมํ อาปตฺตึ อาปชฺชิตฺวา วุฏฺาตุกามสฺส ยํ ตํ อาปตฺติวุฏฺานํ, ตสฺส อาทิมฺหิ เจว ปริวาสทานตฺถาย อาทิโต เสเส จ มชฺเฌ มานตฺตทานตฺถาย มูลาย ปฏิกสฺสเนน วา สห มานตฺตทานตฺถาย อวสาเน อพฺภานตฺถาย สงฺโฆ อิจฺฉิตพฺโพ. น เหตฺถ เอกมฺปิ กมฺมํ วินา สงฺเฆน สกฺกา กาตุนฺติ สงฺโฆ อาทิมฺหิ เจว เสเส จ อิจฺฉิตพฺโพ อสฺสาติ สงฺฆาทิเสโสติ. พฺยฺชนํ ปน อนาทิยิตฺวา อตฺถเมว ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺโฆว ตสฺสา อาปตฺติยา ปริวาสํ เทติ, มูลาย ปฏิกสฺสติ, มานตฺตํ เทติ, อพฺเภติ น สมฺพหุลา น เอกปุคฺคโล, เตน วุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิทมสฺส ปทภาชนํ –

‘‘สงฺฆาทิเสโสติ ยํ วุตฺตํ, ตํ สุโณหิ ยถาตถํ;

สงฺโฆว เทติ ปริวาสํ, มูลาย ปฏิกสฺสติ;

มานตฺตํ เทติ อพฺเภติ, เตเนตํ อิติ วุจฺจตี’’ติ. (ปริ. ๓๓๙) –

ปริวาเร วจนการณฺจ วุตฺตํ, ตตฺถ ปริวาสทานาทีนิ สมุจฺจยกฺขนฺธเก วิตฺถารโต อาคตานิ, ตตฺเถว เนสํ สํวณฺณนํ กริสฺสาม.

ตสฺเสว อาปตฺตินิกายสฺสาติ ตสฺส เอว อาปตฺติสมูหสฺส. ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ เอกาว อาปตฺติ, รูฬฺหิสทฺเทน ปน อวยเว สมูหโวหาเรน วา ‘‘นิกาโย’’ติ วุตฺโต – ‘‘เอโก เวทนากฺขนฺโธ, เอโก วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ วิย.

เอวํ อุทฺทิฏฺสิกฺขาปทํ ปทานุกฺกเมน วิภชิตฺวา อิทานิ อิมํ สุกฺกวิสฺสฏฺึ อาปชฺชนฺตสฺส อุปายฺจ กาลฺจ อธิปฺปายฺจ อธิปฺปายวตฺถุฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ หิ อชฺฌตฺตรูปาทีหิ จตูหิ ปเทหิ อุปาโย ทสฺสิโต, อชฺฌตฺตรูเป วา โมเจยฺย พหิทฺธารูเป วา อุภยตฺถ วา อากาเส วา กฏึ กมฺเปนฺโต, อิโต ปรํ อฺโ อุปาโย นตฺถิ. ตตฺถ รูเป ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเปน ฆฏฺเฏตฺวา โมเจนฺโตปิ รูเป โมเจติจฺเจว เวทิตพฺโพ. รูเป หิ สติ โส โมเจติ น รูปํ อลภิตฺวา. ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปน ปฺจหิ กาโล ทสฺสิโต. ราคูปตฺถมฺภาทิกาเลสุ หิ องฺคชาตํ กมฺมนิยํ โหติ, ยสฺส กมฺมนิยตฺเต สติ โมเจติ. อิโต ปรํ อฺโ กาโล นตฺถิ, น หิ วินา ราคูปตฺถมฺภาทีหิ ปุพฺพณฺหาทโย กาลเภทา โมจเน นิมิตฺตํ โหนฺติ.

อาโรคฺยตฺถายาติอาทีหิ ทสหิ อธิปฺปาโย ทสฺสิโต, เอวรูเปน หิ อธิปฺปายเภเทน โมเจติ น อฺถา. นีลาทีหิ ปน ทสหิ นวมสฺส อธิปฺปายสฺส วตฺถุ ทสฺสิตํ, วีมํสนฺโต หิ นีลาทีสุ อฺตรสฺส วเสน วีมํสติ น เตหิ วินิมุตฺตนฺติ.

๒๓๘. อิโต ปรํ ปน อิเมสํเยว อชฺฌตฺตรูปาทีนํ ปทานํ ปกาสนตฺถํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเปติ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเป’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ อชฺฌตฺตํ อุปาทินฺเน รูเปติ อตฺตโน หตฺถาทิเภเท รูเป. พหิทฺธา อุปาทินฺเนติ ปรสฺส ตาทิเสเยว. อนุปาทินฺเนติ ตาฬจฺฉิทฺทาทิเภเท. ตทุภเยติ อตฺตโน จ ปรสฺส จ รูเป, อุภยฆฏฺฏนวเสเนตํ วุตฺตํ. อตฺตโน รูเปน จ อนุปาทินฺนรูเปน จ เอกโต ฆฏฺฏเนปิ ลพฺภติ. อากาเส วายมนฺตสฺสาติ เกนจิ รูเปน อฆฏฺเฏตฺวา อากาเสเยว กฏิกมฺปนปยโอเคน องฺคชาตํ จาเลนฺตสฺส.

ราคูปตฺถมฺเภติ ราคสฺส พลวภาเว, ราเคน วา องฺคชาตสฺส อุปตฺถมฺเภ, ถทฺธภาเว สฺชาเตติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมนิยํ โหตีติ โมจนกมฺมกฺขมํ อชฺฌตฺตรูปาทีสุ อุปกฺกมารหํ โหติ.

อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺูปตฺถมฺเภติ อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเน องฺคชาเต อุปตฺถมฺเภ. อุจฺจาลิงฺคปาณกา นาม โลมสปาณกา โหนฺติ, เตสํ โลเมหิ ผุฏฺํ องฺคชาตํ กณฺฑุํ คเหตฺวา ถทฺธํ โหติ, ตตฺถ ยสฺมา ตานิ โลมานิ องฺคชาตํ ฑํสนฺตานิ วิย วิชฺฌนฺติ, ตสฺมา ‘‘อุจฺจาลิงฺคปาณกทฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ, อตฺถโต ปน อุจฺจาลิงฺคปาณกโลมเวธเนนาติ วุตฺตํ โหติ.

๒๓๙. อโรโค ภวิสฺสามีติ โมเจตฺวา อโรโค ภวิสฺสามิ. สุขํ เวทนํ อุปฺปาเทสฺสามีติ โมจเนน จ มุจฺจนุปฺปตฺติยา มุตฺตปจฺจยา จ ยา สุขา เวทนา โหติ, ตํ อุปฺปาเทสฺสามีติ อตฺโถ. เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติ อิทํ เม โมจิตํ กิฺจิเทว เภสชฺชํ ภวิสฺสติ. ทานํ ทสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏกิปิลฺลิกาทีนํ ทานํ ทสฺสามิ. ปุฺํ ภวิสฺสตีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ เทนฺตสฺส ปุฺํ ภวิสฺสติ. ยฺํ ยชิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ยฺํ ยชิสฺสามิ. กิฺจิ กิฺจิ มนฺตปทํ วตฺวา ทสฺสามีติ วุตฺตํ โหติ. สคฺคํ คมิสฺสามีติ โมเจตฺวา กีฏาทีนํ ทินฺนทาเนน วา ปุฺเน วา ยฺเน วา สคฺคํ คมิสฺสามิ. พีชํ ภวิสฺสตีติ กุลวํสงฺกุรสฺส ทารกสฺส พีชํ ภวิสฺสติ, ‘‘อิมินา พีเชน ปุตฺโต นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน โมเจตีติ อตฺโถ. วีมํสตฺถายาติ ชานนตฺถาย. นีลํ ภวิสฺสตีติอาทีสุ ชานิสฺสามิ ตาว กึ เม โมจิตํ นีลํ ภวิสฺสติ ปีตกาทีสุ อฺตรวณฺณนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ขิฑฺฑาธิปฺปาโยติ ขิฑฺฑาปสุโต, เตน เตน อธิปฺปาเยน กีฬนฺโต โมเจตีติ วุตฺตํ โหติ.

๒๔๐. อิทานิ ยทิทํ ‘‘อชฺฌตฺตรูเป โมเจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ ตตฺถ ยถา โมเจนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตสฺจ ปทานํ วเสน ยตฺตโก อาปตฺติเภโท โหติ, ตํ สพฺพํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌตฺตรูเป เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจติ อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ เจเตตีติ โมจนสฺสาทสมฺปยุตฺตาย เจตนาย มุจฺจตูติ เจเตติ. อุปกฺกมตีติ ตทนุรูปํ วายามํ กโรติ. มุจฺจตีติ เอวํ เจเตนฺตสฺส ตทนุรูเปน วายาเมน วายมโต สุกฺกํ านา จวติ. อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสาติ อิเมหิ ตีหิ องฺเคหิ อสฺส ปุคฺคลสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ อตฺโถ. เอส นโย พหิทฺธารูเปติอาทีสุปิ อวเสเสสุ อฏฺวีสติยา ปเทสุ.

เอตฺถ ปน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ นีหริตฺวา ทสฺเสตพฺพานิ. กถํ? อชฺฌตฺตรูเป ตาว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย นีลํ โมเจนฺตสฺส เอกา อาปตฺติ, อชฺฌตฺตรูเปเยว ราคูปตฺถมฺเภ อาโรคฺยตฺถาย ปีตาทีนํ โมจนวเสน อปรา นวาติ ทส. ยถา จ อาโรคฺยตฺถาย ทส, เอวํ สุขาทีนํ นวนฺนํ ปทานํ อตฺถาย เอเกกปเท ทส ทส กตฺวา นวุติ, อิติ อิมา จ นวุติ ปุริมา จ ทสาติ ราคูปตฺถมฺเภ ตาว สตํ. ยถา ปน ราคูปตฺถมฺเภ เอวํ วจฺจูปตฺถมฺภาทีสุปิ จตูสุ เอเกกสฺมึ อุปตฺถมฺเภ สตํ สตํ กตฺวา จตฺตาริ สตานิ, อิติ อิมานิ จตฺตาริ ปุริมฺจ เอกนฺติ อชฺฌตฺตรูเป ตาว ปฺจนฺนํ อุปตฺถมฺภานํ วเสน ปฺจ สตานิ. ยถา จ อชฺฌตฺตรูเป ปฺจ, เอวํ พหิทฺธารูเป ปฺจ, อชฺฌตฺตพหิทฺธารูเป ปฺจ, อากาเส กฏึ กมฺเปนฺตสฺส ปฺจาติ สพฺพานิปิ จตุนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ทฺเว อาปตฺติสหสฺสานิ เวทิตพฺพานิ.

อิทานิ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ตาว ทสสุ ปเทสุ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา เหฏฺา วา คเหตฺวา อุปริ คณฺหนฺตสฺส, อุปริ วา คเหตฺวา เหฏฺา คณฺหนฺตสฺส, อุภโต วา คเหตฺวา มชฺเฌ เปนฺตสฺส, มชฺเฌ วา คเหตฺวา อุภโต หรนฺตสฺส, สพฺพมูลํ วา กตฺวา คณฺหนฺตสฺส เจตนูปกฺกมโมจเน สติ วิสงฺเกโต นาม นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจา’’ติ ขณฺฑจกฺกพทฺธจกฺกาทิเภทวิจิตฺตํ ปาฬิมาห.

ตตฺถ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ เภสชฺชตฺถฺจา ติ เอวํ อาโรคฺยปทํ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวา วุตฺตเมกํ ขณฺฑจกฺกํ. สุขปทาทีนิ สพฺพปเทหิ โยเชตฺวา ยาว อตฺตโน อตฺตโน อตีตานนฺตรปทํ ตาว อาเนตฺวา วุตฺตานิ นว พทฺธจกฺกานีติ เอวํ เอเกกมูลกานิ ทส จกฺกานิ โหนฺติ, ตานิ ทุมูลกาทีหิ สทฺธึ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.

ยถา จ อาโรคฺยตฺถายาติอาทีสุ ทสสุ ปเทสุ, เอวํ นีลาทีสุปิ ‘‘นีลฺจ ปีตกฺจ เจเตติ อุปกฺกมตี’’ติอาทินา นเยน ทส จกฺกานิ วุตฺตานิ, ตานิปิ อสมฺโมหโต วิตฺถาเรตฺวา เวทิตพฺพานิ. อตฺโถ ปเนตฺถ ปากโฏเยว.

ปุน อาโรคฺยตฺถฺจ นีลฺจ อาโรคฺยตฺถฺจ สุขตฺถฺจ นีลฺจ ปีตกฺจาติ เอเกเนกํ ทฺวีหิ ทฺเว…เป… ทสหิ ทสาติ เอวํ ปุริมปเทหิ สทฺธึ ปจฺฉิมปทานิ โยเชตฺวา เอกํ มิสฺสกจกฺกํ วุตฺตํ.

อิทานิ ยสฺมา ‘‘นีลํ โมเจสฺสามี’’ติ เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส ปีตกาทีสุ มุตฺเตสุปิ ปีตกาทิวเสน เจเตตฺวา อุปกฺกมนฺตสฺส อิตเรสุ มุตฺเตสุปิ เนวตฺถิ วิสงฺเกโต , ตสฺมา เอตมฺปิ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘นีลํ โมเจสฺสามีติ เจเตติ อุปกฺกมติ ปีตกํ มุจฺจตี’’ติอาทินา นเยน จกฺกานิ วุตฺตานิ. ตโต ปรํ สพฺพปจฺฉิมปทํ นีลาทีหิ นวหิ ปเทหิ สทฺธึ โยเชตฺวา กุจฺฉิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต ปีตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน นีลปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ปิฏฺิจกฺกํ นาม วุตฺตํ. ตโต โลหิตกาทีนิ นว ปทานิ เอเกน ปีตกปเทเนว สทฺธึ โยเชตฺวา ทุติยํ ปิฏฺิจกฺกํ วุตฺตํ. เอวํ โลหิตกปทาทีหิ สทฺธึ อิตรานิ นว นว ปทานิ โยเชตฺวา อฺานิปิ อฏฺ จกฺกานิ วุตฺตานีติ เอวํ ทสคติกํ ปิฏฺิจกฺกํ เวทิตพฺพํ.

เอวํ ขณฺฑจกฺกาทีนํ อเนเกสํ จกฺกานํ วเสน วิตฺถารโต ครุกาปตฺติเมว ทสฺเสตฺวา อิทานิ องฺควเสเนว ครุกาปตฺติฺจ ลหุกาปตฺติฺจ อนาปตฺติฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘เจเตติ อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเยน อชฺฌตฺตรูปาทีสุ ราคาทิอุปตฺถมฺเภ สติ อาโรคฺยาทีนํ อตฺถาย เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมิตฺวา อสุจิโมจเน ติวงฺคสมฺปนฺนา ครุกาปตฺติ วุตฺตา. ทุติเยน นเยน เจเตนฺตสฺส อุปกฺกมนฺตสฺส จ โมจเน อสติ ทุวงฺคสมฺปนฺนา ลหุกา ถุลฺลจฺจยาปตฺติ. ‘‘เจเตติ น อุปกฺกมติ มุจฺจตี’’ติอาทีหิ ฉหิ นเยหิ อนาปตฺติ.

อยํ ปน อาปตฺตานาปตฺติเภโท สณฺโห สุขุโม, ตสฺมา สุฏฺุ สลฺลกฺเขตพฺโพ . สุฏฺุ สลฺลกฺเขตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉิเตน อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา อาจิกฺขิตพฺพา, วินยกมฺมํ วา กาตพฺพํ. อสลฺลกฺเขตฺวา กโรนฺโต หิ โรคนิทานํ อชานิตฺวา เภสชฺชํ กโรนฺโต เวชฺโช วิย วิฆาตฺจ อาปชฺชติ, น จ ตํ ปุคฺคลํ ติกิจฺฉิตุํ สมตฺโถ โหติ. ตตฺรายํ สลฺลกฺขณวิธิ – กุกฺกุจฺเจน อาคโต ภิกฺขุ ยาวตติยํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ‘‘กตเรน ปโยเคน กตเรน ราเคน อาปนฺโนสี’’ติ. สเจ ปมํ อฺํ วตฺวา ปจฺฉา อฺํ วทติ น เอกมคฺเคน กเถติ, โส วตฺตพฺโพ – ‘‘ตฺวํ น เอกมคฺเคน กเถสิ ปริหรสิ, น สกฺกา ตว วินยกมฺมํ กาตุํ คจฺฉ โสตฺถึ คเวสา’’ติ. สเจ ปน ติกฺขตฺตุมฺปิ เอกมคฺเคเนว กเถติ, ยถาภูตํ อตฺตานํ อาวิกโรติ, อถสฺส อาปตฺตานาปตฺติครุกลหุกาปตฺติวินิจฺฉยตฺถํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน เอกาทส ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา.

ตตฺริเม เอกาทส ราคา – โมจนสฺสาโท, มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺตสฺสาโท, เมถุนสฺสาโท, ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชสฺสาโท, วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ. ตตฺถ โมเจตุํ อสฺสาโท โมจนสฺสาโท, มุจฺจเน อสฺสาโท มุจฺจนสฺสาโท, มุตฺเต อสฺสาโท มุตฺตสฺสาโท, เมถุเน อสฺสาโท เมถุนสฺสาโท, ผสฺเส อสฺสาโท ผสฺสสฺสาโท, กณฺฑุวเน อสฺสาโท กณฺฑุวนสฺสาโท, ทสฺสเน อสฺสาโท ทสฺสนสฺสาโท, นิสชฺชาย อสฺสาโท นิสชฺชสฺสาโท, วาจาย อสฺสาโท วาจสฺสาโท, เคหสฺสิตํ เปมํ เคหสฺสิตเปมํ, วนภงฺคิยนฺติ ยํกิฺจิ ปุปฺผผลาทิ วนโต ภฺชิตฺวา อาหฏํ. เอตฺถ จ นวหิ ปเทหิ สมฺปยุตฺตอสฺสาทสีเสน ราโค วุตฺโต. เอเกน ปเทน สรูเปเนว, เอเกน ปเทน วตฺถุนา วุตฺโต, วนภงฺโค หิ ราคสฺส วตฺถุ น ราโคเยว.

เอเตสํ ปน ราคานํ วเสน เอวํ ปโยคา สมเวกฺขิตพฺพา – โมจนสฺสาเท โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตนฺโต เจว อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. ตเถว เจเตนฺโต จ อสฺสาเทนฺโต จ อุปกฺกมติ น มุจฺจติ ถุลฺลจฺจยํ. สเจ ปน สยนกาเล ราคปริยุฏฺิโต หุตฺวา อูรุนา วา มุฏฺินา วา องฺคชาตํ คาฬฺหํ ปีเฬตฺวา โมจนตฺถาย สอุสฺสาโหว สุปติ, สุปนฺตสฺส จสฺส อสุจิ มุจฺจติ สงฺฆาทิเสโส. สเจ ราคปริยุฏฺานํ อสุภมนสิกาเรน วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺโต สุปติ, สุปนฺตสฺส มุตฺเตปิ อนาปตฺติ.

มุจฺจนสฺสาเท อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมานํ อสฺสาเทติ น อุปกฺกมติ อนาปตฺติ. สเจ ปน มุจฺจมานํ อสฺสาเทนฺโต อุปกฺกมติ, เตน อุปกฺกเมน มุตฺเต สงฺฆาทิเสโส. อตฺตโน ธมฺมตาย มุจฺจมาเน ‘‘มา กาสาวํ วา เสนาสนํ วา ทุสฺสี’’ติ องฺคชาตํ คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คจฺฉติ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

มุตฺตสฺสาเท อตฺตโน ธมฺมตาย มุตฺเต านา จุเต อสุจิมฺหิ ปจฺฉา อสฺสาเทนฺตสฺส วินา อุปกฺกเมน มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ อสฺสาเทตฺวา ปุน โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

เมถุนสฺสาเท เมถุนราเคน มาตุคามํ คณฺหาติ, เตน ปโยเคน อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เมถุนธมฺมสฺส ปโยคตฺตา ปน ตาทิเส คหเณ ทุกฺกฏํ, สีสํ ปตฺเต ปาราชิกํ. สเจ เมถุนราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

ผสฺสสฺสาเท ทุวิโธ ผสฺโส – อชฺฌตฺติโก, พาหิโร จ. อชฺฌตฺติเก ตาว อตฺตโน นิมิตฺตํ ถทฺธํ มุทุกนฺติ ชานิสฺสามีติ วา โลลภาเวน วา กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ กีฬาเปนฺโต อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. พาหิรผสฺเส ปน กายสํสคฺคราเคน มาตุคามสฺส องฺคมงฺคานิ ปรามสโต เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กายสํสคฺคสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ กายสํสคฺคราเคน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ วิสฏฺิปจฺจยาปิ สงฺฆาทิเสโส.

กณฺฑุวนสฺสาเท ททฺทุกจฺฉุปิฬกปาณกาทีนํ อฺตรวเสน กณฺฑุวมานํ นิมิตฺตํ กณฺฑุวนสฺสาเท เนว กณฺฑุวโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กณฺฑุวนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

ทสฺสนสฺสาเท ทสฺสนสฺสาเทน ปุนปฺปุนํ มาตุคามสฺส อโนกาสํ อุปนิชฺฌายโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. มาตุคามสฺส อโนกาสุปนิชฺฌาเน ปน ทุกฺกฏํ. สเจ ทสฺสนสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

นิสชฺชสฺสาเท มาตุคาเมน สทฺธึ รโห นิสชฺชสฺสาทราเคน นิสินฺนสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. รโห นิสชฺชปจฺจยา ปน อาปนฺนาย อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ นิสชฺชสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

วาจสฺสาเท วาจสฺสาทราเคน มาตุคามํ เมถุนสนฺนิสฺสิตาหิ วาจาหิ โอภาสนฺตสฺส อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ทุฏฺุลฺลวาจาสงฺฆาทิเสสํ ปน อาปชฺชติ. สเจ วาจสฺสาเทน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

เคหสฺสิตเปเม มาตรํ วา มาตุเปเมน ภคินึ วา ภคินิเปเมน ปุนปฺปุนํ ปรามสโต เจว อาลิงฺคโต จ อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. เคหสฺสิตเปเมน ปน ผุสนปจฺจยา ทุกฺกฏํ. สเจ เคหสฺสิตเปเมน รตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส.

วนภงฺเค อิตฺถิปุริสา อฺมฺํ กิฺจิเทว ตมฺพูลคนฺธปุปฺผวาสาทิปฺปการํ ปณฺณาการํ มิตฺตสนฺถวภาวสฺส ทฬฺหภาวตฺถาย เปเสนฺติ อยํ วนภงฺโค นาม. ตฺเจ มาตุคาโม กสฺสจิ สํสฏฺวิหาริกสฺส กุลูปกภิกฺขุโน เปเสติ, ตสฺส จ ‘‘อสุกาย นาม อิทํ เปสิต’’นฺติ สารตฺตสฺส ปุนปฺปุนํ หตฺเถหิ ตํ วนภงฺคํ กีฬาปยโต อสุจิ มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ วนภงฺเค สารตฺโต ปุน อสฺสาเทตฺวา โมจนตฺถาย นิมิตฺเต อุปกฺกมิตฺวา โมเจติ, สงฺฆาทิเสโส. สเจ อุปกฺกมนฺเตปิ น มุจฺจติ, ถุลฺลจฺจยํ.

เอวเมเตสํ เอกาทสนฺนํ ราคานํ วเสน อิเม เอกาทส ปโยเค สเมเวกฺขิตฺวา อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา สลฺลกฺเขตพฺพา. สลฺลกฺเขตฺวา สเจ ครุกา โหติ ‘‘ครุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. สเจ ลหุกา โหติ ‘‘ลหุกา’’ติ อาจิกฺขิตพฺพา. ตทนุรูปฺจ วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. เอวฺหิ กตํ สุกตํ โหติ โรคนิทานํ ตฺวา เวชฺเชน กตเภสชฺชมิว, ตสฺส จ ปุคฺคลสฺส โสตฺถิภาวาย สํวตฺตติ.

๒๖๒. เจเตติ น อุปกฺกมตีติอาทีสุ โมจนสฺสาทเจตนาย เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาทปีฬิโต ‘‘อโห วต มุจฺเจยฺยา’’ติ เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. โมจนสฺสาเทน น เจเตติ, ผสฺสสฺสาเทน กณฺฑุวนสฺสาเทน วา อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. ตเถว น เจเตติ, อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺติ. กามวิตกฺกํ วิตกฺเกนฺโต โมจนตฺถาย น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, มุจฺจติ, อนาปตฺติ. สเจ ปนสฺส วิตกฺกยโตปิ น มุจฺจติ อิทํ อาคตเมว โหติ, ‘‘น เจเตติ, น อุปกฺกมติ, น มุจฺจติ, อนาปตฺตี’’ติ.

อนาปตฺติสุปินนฺเตนาติ สุตฺตสฺส สุปิเน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส วิย กายสํสคฺคาทีนิ อาปชฺชนฺตสฺส วิย สุปินนฺเตเนว การเณน ยสฺส อสุจิ มุจฺจติ, ตสฺส อนาปตฺติ. สุปิเน ปน อุปฺปนฺนาย อสฺสาทเจตนาย สจสฺส วิสโย โหติ, นิจฺจเลน ภวิตพฺพํ, น หตฺเถน นิมิตฺตํ กีฬาเปตพฺพํ, กาสาวปจฺจตฺถรณรกฺขณตฺถํ ปน หตฺถปุเฏน คเหตฺวา ชคฺคนตฺถาย อุทกฏฺานํ คนฺตุํ วฏฺฏติ.

นโมจนาธิปฺปายสฺสาติ ยสฺส เภสชฺเชน วา นิมิตฺตํ อาลิมฺปนฺตสฺส อุจฺจาราทีนิ วา กโรนฺตสฺส นโมจนาธิปฺปายสฺส มุจฺจติ, ตสฺสาปิ อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกสฺส ทุวิธสฺสาปิ อนาปตฺติ. อิธ เสยฺยสโก อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ. กิริยา, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.

๒๖๓. วินีตวตฺถูสุ สุปินวตฺถุ อนุปฺตฺติยํ วุตฺตนยเมว. อุจฺจารปสฺสาววตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

วิตกฺกวตฺถุสฺมึ กามวิตกฺกนฺติ เคหสฺสิตกามวิตกฺกํ. ตตฺถ กิฺจาปิ อนาปตฺติ วุตฺตา, อถ โข วิตกฺกคติเกน น ภวิตพฺพํ. อุณฺโหทกวตฺถูสุ ปมํ อุตฺตานเมว. ทุติเย โส ภิกฺขุ โมเจตุกาโม อุณฺโหทเกน นิมิตฺตํ ปหริตฺวา ปหริตฺวา นฺหายิ, เตนสฺส อาปตฺติ วุตฺตา. ตติเย อุปกฺกมสฺส อตฺถิตาย ถุลฺลจฺจยํ. เภสชฺชกณฺฑุวนวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๒๖๔. มคฺควตฺถูสุ ปมสฺส ถุลอูรุกสฺส มคฺคํ คจฺฉนฺตสฺส สมฺพาธฏฺาเน ฆฏฺฏนาย อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺส นโมจนาธิปฺปายตฺตา อนาปตฺติ. ทุติยสฺส ตเถว มุจฺจิ, โมจนาธิปฺปายตฺตา ปน สงฺฆาทิเสโส. ตติยสฺส น มุจฺจิ, อุปกฺกมสพฺภาวโต ปน ถุลฺลจฺจยํ. ตสฺมา มคฺคํ คจฺฉนฺเตน อุปฺปนฺเน ปริฬาเห น คนฺตพฺพํ, คมนํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อสุภาทิมนสิกาเรน จิตฺตํ วูปสเมตฺวา สุทฺธจิตฺเตน กมฺมฏฺานํ อาทาย คนฺตพฺพํ. สเจ ิโต วิโนเทตุํ น สกฺโกติ, มคฺคา โอกฺกมฺม นิสีทิตฺวา วิโนเทตฺวา กมฺมฏฺานํ อาทาย สุทฺธจิตฺเตเนว คนฺตพฺพํ.

วตฺถิวตฺถูสุ เต ภิกฺขู วตฺถึ ทฬฺหํ คเหตฺวา ปูเรตฺวา ปูเรตฺวา วิสฺสชฺเชนฺตา คามทารกา วิย ปสฺสาวมกํสุ. ชนฺตาฆรวตฺถุสฺมึ อุทรํ ตาเปนฺตสฺส โมจนาธิปฺปายสฺสาปิ อโมจนาธิปฺปายสฺสาปิ มุตฺเต อนาปตฺติเยว. ปริกมฺมํ กโรนฺตสฺส นิมิตฺตจาลนวเสน อสุจิ มุจฺจิ, ตสฺมา อาปตฺติฏฺาเน อาปตฺติ วุตฺตา.

๒๖๕. อูรุฆฏฺฏาปนวตฺถูสุ เยสํ อาปตฺติ วุตฺตา เต องฺคชาตมฺปิ ผุสาเปสุนฺติ เวทิตพฺพาติ เอวํ กุรุนฺทฏฺกถายํ วุตฺตํ. สามเณราทิวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว.

๒๖๖. กายตฺถมฺภนวตฺถุสฺมึ กายํ ถมฺเภนฺตสฺสาติ จิรํ นิสีทิตฺวา วา นิปชฺชิตฺวา วา นวกมฺมํ วา กตฺวา อาลสิยวิโมจนตฺถํ วิชมฺเภนฺตสฺส.

อุปนิชฺฌายนวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปฏสตํ นิวตฺถา โหติ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา ตฺวา ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส นิมิตฺต’’นฺติ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว. อนิวตฺถานํ คามทาริกานํ นิมิตฺตํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปน กิเมว วตฺตพฺพํ. ติรจฺฉานคตานมฺปิ นิมิตฺเต เอเสว นโย. อิโต จิโต จ อวิโลเกตฺวา ปน ทิวสมฺปิ เอกปโยเคน อุปนิชฺฌายนฺตสฺส เอกเมว ทุกฺกฏํ. อิโต จิโต จ วิโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ อุปนิชฺฌายนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. อุมฺมีลนนิมีลนวเสน ปน น กาเรตพฺโพ. สหสา อุปนิชฺฌายิตฺวา ปุน ปฏิสงฺขาย สํวเร ติฏฺโต อนาปตฺติ, ตํ สํวรํ ปหาย ปุน อุปนิชฺฌายโต ทุกฺกฏเมว.

๒๖๗. ตาฬจฺฉิทฺทาทิวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนว. นฺหานวตฺถูสุ เย อุทกโสตํ นิมิตฺเตน ปหรึสุ เตสํ อาปตฺติ วุตฺตา. อุทฺชลวตฺถูสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อุทฺชลนฺติ อุทกจิกฺขลฺโล วุจฺจติ. เอเตเนว อุปาเยน อิโต ปรานิ สพฺพาเนว อุทเก ธาวนาทิวตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ. อยํ ปน วิเสโส. ปุปฺผาวฬิยวตฺถูสุ สเจปิ นโมจนาธิปฺปายสฺส อนาปตฺติ, กีฬนปจฺจยา ปน ทุกฺกฏํ โหตีติ.

สุกฺกวิสฺสฏฺิสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๖๙. เตนสมเยน พุทฺโธ ภควาติ กายสํสคฺคสิกฺขาปทํ. ตตฺรายํ อนุตฺตานปทวณฺณนา – อรฺเ วิหรตีติ น อาเวณิเก อรฺเ, เชตวนวิหารสฺเสว ปจฺจนฺเต เอกปสฺเส. มชฺเฌ คพฺโภติ ตสฺส จ วิหารสฺส มชฺเฌ คพฺโภ โหติ. สมนฺตา ปริยาคาโรติ สมนฺตา ปนสฺส มณฺฑลมาฬปริกฺเขโป โหติ. โส กิร มชฺเฌ จตุรสฺสํ คพฺภํ กตฺวา พหิ มณฺฑลมาฬปริกฺเขเปน กโต, ยถา สกฺกา โหติ อนฺโตเยว อาวิฺฉนฺเตหิ วิจริตุํ.

สุปฺตฺตนฺติ สุฏฺ ปิตํ, ยถา ยถา ยสฺมึ ยสฺมิฺจ โอกาเส ปิตํ ปาสาทิกํ โหติ โลกรฺชกํ ตถา ตถา ตสฺมึ ตสฺมึ โอกาเส ปิตํ, วตฺตสีเสน หิ โสํ เอกกิจฺจมฺปิ น กโรติ. เอกจฺเจ วาตปาเน วิวรนฺโตติ เยสุ วิวเฏสุ อนฺธกาโร โหติ ตานิ วิวรนฺโต เยสุ วิวเฏสุ อาโลโก โหติ ตานิ ถเกนฺโต.

เอวํ วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจาติ เอวํ เตน พฺราหฺมเณน ปสํสิตฺวา วุตฺเต สา พฺราหฺมณี ‘‘ปสนฺโน อยํ พฺราหฺมโณ ปพฺพชิตุกาโม มฺเ’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา นิคูหิตพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน วิปฺปการํ ปกาเสนฺตี เกวลํ ตสฺส สทฺธาวิฆาตาเปกฺขา หุตฺวา เอตํ ‘‘กุโต ตสฺส อุฬารตฺตตา’’ติอาทิวจนมโวจ. ตตฺถ อุฬาโร อตฺตา อสฺสาติ อุฬารตฺตา, อุฬารตฺตโน ภาโว อุฏฺารตฺตตา. กุลิตฺถีหีติอาทีสุ กุลิตฺถิโย นาม ฆรสฺสามินิโย. กุลธีตโร นาม ปุริสนฺตรคตา กุลธีตโร . กุลกุมาริโย นาม อนิวิฏฺา วุจฺจนฺติ. กุลสุณฺหา นาม ปรกุลโต อานีตา กุลทารกานํ วธุโย.

๒๗๐. โอติณฺโณติ ยกฺขาทีหิ วิย สตฺตา อนฺโต อุปฺปชฺชนฺเตน ราเคน โอติณฺโณ, กูปาทีนิ วิย สตฺตา อสมเปกฺขิตฺวา รชนีเย าเน รชฺชนฺโต สยํ วา ราคํ โอติณฺโณ, ยสฺมา ปน อุภยถาปิ ราคสมงฺคิสฺเสเวตํ อธิวจนํ, ตสฺมา ‘‘โอติณฺโณ นาม สารตฺโต อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโต’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.

ตตฺถ สารตฺโตติ กายสํสคฺคราเคน สุฏฺุ รตฺโต. อเปกฺขวาติ กายสํสคฺคาเปกฺขาย อเปกฺขวา. ปฏิพทฺธจิตฺโตติ กายสํสคฺคราเคเนว ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ ปฏิพทฺธจิตฺโต. วิปริณเตนาติ ปริสุทฺธภวงฺคสนฺตติสงฺขาตํ ปกตึ วิชหิตฺวา อฺถา ปวตฺเตน, วิรูปํ วา ปริณเตน วิรูปํ ปริวตฺเตน, ยถา ปริวตฺตมานํ วิรูปํ โหติ เอวํ ปริวตฺติตฺวา ิเตนาติ อธิปฺปาโย.

๒๗๑. ยสฺมา ปเนตํ ราคาทีหิ สมฺปโยคํ นาติวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘วิปริณตนฺติ รตฺตมฺปิ จิตฺต’’นฺติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วตฺวา อนฺเต อิธาธิปฺเปตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปิจ รตฺตํ จิตฺตํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตํ วิปริณต’’นฺติ อาห.

ตทหุชาตาติ ตํทิวสํ ชาตา ชาตมตฺตา อลฺลมํสเปสิวณฺณา, เอวรูปายปิ หิ สทฺธึ กายสํสคฺเค สงฺฆาทิเสโส, เมถุนวีติกฺกเม ปาราชิกํ, รโห นิสชฺชสฺสาเท ปาจิตฺติยฺจ โหติ. ปเควาติ ปมเมว.

กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยาติ หตฺถคฺคหณาทิกายสมฺปโยคํ กายมิสฺสีภาวํ สมาปชฺเชยฺย, ยสฺมา ปเนตํ สมาปชฺชนฺตสฺส โย โส กายสํสคฺโค นาม โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ, ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมาสฺส สงฺเขปน อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนมาห.

หตฺถคฺคาหํ วาติอาทิเภทํ ปนสฺส วิตฺถาเรน อตฺถทสฺสนํ. ตตฺถ หตฺถาทีนํ วิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘หตฺโถ นาม กปฺปรํ อุปาทายา’’ติอาทิมาห ตตฺถ กปฺปรํ อุปาทายาติ ทุติยํ. มหาสนฺธึ อุปาทาย. อฺตฺถ ปน มณิพนฺธโต ปฏฺาย ยาว อคฺคนขา หตฺโถ อิธ สทฺธึ อคฺคพาหาย กปฺปรโต ปฏฺาย อธิปฺเปโต.

สุทฺธเกสา วาติ สุตฺตาทีหิ อมิสฺสา สุทฺธา เกสาเยว. เวณีติ ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา กตเกสกลาปสฺเสตํ นามํ. สุตฺตมิสฺสาติ ปฺจวณฺเณน สุตฺเตน เกเส มิสฺเสตฺวา กตา. มาลามิสฺสาติ วสฺสิกปุปฺผาทีหิ มิสฺเสตฺวา ตีหิ เกสวฏฺฏีหิ วินนฺธิตฺวา กตา, อวินทฺโธปิ วา เกวลํ ปุปฺผมิสฺสโก เกสกลาโป อิธ ‘‘เวณี’’ติ เวทิตพฺโพ. หิรฺมิสฺสาติ กหาปณมาลาย มิสฺเสตฺวา กตา. สุวณฺณมิสฺสาติ สุวณฺณจีรเกหิ วา ปามงฺคาทีหิ วา มิสฺเสตฺวา กตา. มุตฺตามิสฺสาติ มุตฺตาวลีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. มณิมิสฺสาติ สุตฺตารูฬฺเหหิ มณีหิ มิสฺเสตฺวา กตา. เอตาสุ หิ ยํกิฺจิ เวณึ คณฺหนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโสเยว. ‘‘อหํ มิสฺสกเวณึ อคฺคเหสิ’’นฺติ วทนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ. เวณิคฺคหเณน เจตฺถ เกสาปิ คหิตาว โหนฺติ, ตสฺมา โย เอกมฺปิ เกสํ คณฺหาติ ตสฺสปิ อาปตฺติเยว.

หตฺถฺจเวณิฺจ เปตฺวาติ อิธ วุตฺตลกฺขณํ หตฺถฺจ สพฺพปฺปการฺจ เวณึ เปตฺวา อวเสสํ สรีรํ ‘‘องฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. เอวํ ปริจฺฉินฺเนสุ หตฺถาทีสุ หตฺถสฺส คหณํ หตฺถคฺคาโห, เวณิยา คหณํ เวณิคฺคาโห, อวเสสสสรีรสฺส ปรามสนํ อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ, โย ตํ หตฺถคฺคาหํ วา เวณิคฺคาหํ วา อฺตรสฺส วา อฺตรสฺส วา องฺคสฺส ปรามสนํ สมาปชฺเชยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโส นาม อาปตฺตินิกาโย โหตีติ. อยํ สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.

๒๗๒. ยสฺมา ปน โย จ หตฺถคฺคาโห โย จ เวณิคฺคาโห ยฺจ อวเสสสฺส องฺคสฺส ปรามสนํ ตํ สพฺพมฺปิ เภทโต ทฺวาทสวิธํ โหติ, ตสฺมา ตํ เภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อามสนา ปรามสนา’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยฺจ วุตฺตํ ‘‘อามสนา นาม อามฏฺมตฺตา’’ติ ยฺจ ‘‘ฉุปนํ นาม ผุฏฺมตฺต’’นฺติ, อิเมสํ อยํ วิเสโส – อามสนาติ อามชฺชนา ผุฏฺโกาสํ อนติกฺกมิตฺวาปิ ตตฺเถว สงฺฆฏฺฏนา. อยฺหิ ‘‘อามฏฺมตฺตา’’ติ วุจฺจติ. ฉุปนนฺติ อสงฺฆฏฺเฏตฺวา ผุฏฺมตฺตํ.

ยมฺปิ อุมฺมสนาย จ อุลฺลงฺฆนาย จ นิทฺเทเส ‘‘อุทฺธํ อุจฺจารณา’’ติ เอกเมว ปทํ วุตฺตํ. ตตฺราปิ อยํ วิเสโส – ปมํ อตฺตโน กายสฺส อิตฺถิยา กาเย อุทฺธํ เปสนวเสน วุตฺตํ, ทุติยํ อิตฺถิยา กายํ อุกฺขิปนวเสน, เสสํ ปากฏเมว.

๒๗๓. อิทานิ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ, ตสฺส เอเตสํ ปทานํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายนฺติ โส สารตฺโต จ อิตฺถิสฺี จ ภิกฺขุ อตฺตโน กาเยน. นฺติ นิปาตมตฺตํ. อถ วา เอตํ ตสฺสา อิตฺถิยา หตฺถาทิเภทํ กายํ. อามสติ ปรามสตีติ เอเตสุ เจ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. ตตฺถ สกึ อามสโต เอกา อาปตฺติ, ปุนปฺปุนํ อามสโต ปโยเค ปโยเค สงฺฆาทิเสโส.

ปรามสนฺโตปิ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิโต จิโต จ อตฺตโน หตฺถํ วา กายํ วา สฺโจเปติ หรติ เปเสติ ทิวสมฺปิ ปรามสโต เอกาว อาปตฺติ. สเจ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปรามสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ.

โอมสนฺโตปิ สเจ กายโต อโมเจตฺวาว อิตฺถิยา มตฺถกโต ปฏฺาย ยาว ปาทปิฏฺึ โอมสติ เอกาว อาปตฺติ. สเจ ปน อุทราทีสุ ตํ ตํ านํ ปตฺวา มุฺจิตฺวา มุฺจิตฺวา โอมสติ ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุมฺมสนายปิ ปาทโต ปฏฺาย ยาว สีสํ อุมฺมสนฺตสฺส เอเสว นโย.

โอลงฺฆนาย มาตุคามํ เกเสสุ คเหตฺวา นาเมตฺวา จุมฺพนาทีสุ ยํ อชฺฌาจารํ อิจฺฉติ ตํ กตฺวา มุฺจโต เอกาว อาปตฺติ. อุฏฺิตํ ปุนปฺปุนํ นามยโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อุลฺลงฺฆนายปิ เกเสสุ วา หตฺเถสุ วา คเหตฺวา วุฏฺาปยโต เอเสว นโย.

อากฑฺฒนาย อตฺตโน อภิมุขํ อากฑฺฒนฺโต ยาว น มุฺจติ ตาว เอกาว อาปตฺติ. มุฺจิตฺวา มุฺจิตฺวา อากฑฺฒนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. ปติกฑฺฒนายปิ ปรมฺมุขํ ปิฏฺิยํ คเหตฺวา ปฏิปฺปณามยโต เอเสว นโย.

อภินิคฺคณฺหนาย หตฺเถ วา พาหาย วา ทฬฺหํ คเหตฺวา โยชนมฺปิ คจฺฉโต เอกาว อาปตฺติ. มุฺจิตฺวา ปุนปฺปุนํ คณฺหโต ปโยเค ปโยเค อาปตฺติ. อมุฺจิตฺวา ปุนปฺปุนํ ผุสโต จ อาลิงฺคโต จ ปโยเค ปโยเค อาปตฺตีติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘มูลคฺคหณเมว ปมาณํ, ตสฺมา ยาว น มุฺจติ ตาว เอกา เอว อาปตฺตี’’ติ.

อภินิปฺปีฬนาย วตฺเถน วา อาภรเณน วา สทฺธึ ปีฬยโต องฺคํ อผุสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ผุสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, เอกปโยเคน เอกา อาปตฺติ, นานาปโยเคน นานา.

คหณฉุปเนสุ อฺํ กิฺจิ วิการํ อกโรนฺโตปิ คหิตมตฺตผุฏฺมตฺเตนาปิ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

เอวเมเตสุ อามสนาทีสุ เอเกนาปิ อากาเรน อชฺฌาจารโต อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส สงฺฆาทิเสโส, เวมติกสฺส ถุลฺลจฺจยํ, ปณฺฑกปุริสติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑเก ปณฺฑกสฺิสฺส ถุลฺลจฺจยํ, เวมติกสฺส ทุกฺกฏํ. ปุริสติรจฺฉานคตอิตฺถิสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ปุริเส ปุริสสฺิสฺสาปิ เวมติกสฺสาปิ อิตฺถิปณฺฑกติรจฺฉานคตสฺิสฺสาปิ ทุกฺกฏเมว. ติรจฺฉานคเตปิ สพฺพากาเรน ทุกฺกฏเมวาติ. อิมา เอกมูลกนเย วุตฺตา อาปตฺติโย สลฺลกฺเขตฺวา อิมินาว อุปาเยน ‘‘ทฺเว อิตฺถิโย ทฺวินฺนํ อิตฺถีน’’นฺติอาทิวเสน วุตฺเต ทุมูลกนเยปิ ทิคุณา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. ยถา จ ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว สงฺฆาทิเสสา; เอวํ สมฺพหุลาสุ สมฺพหุลา เวทิตพฺพา.

โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. โย ปน สมฺพหุลานํ องฺคุลิโย วา เกเส วา เอกโต กตฺวา คณฺหาติ, โส องฺคุลิโย จ เกเส จ อคเณตฺวา อิตฺถิโย คเณตฺวา สงฺฆาทิเสเสหิ กาเรตพฺโพ. ยาสฺจ อิตฺถีนํ องฺคุลิโย วา เกสา วา มชฺฌคตา โหนฺติ, ตาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ตา หิ เตน กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, สมฺพหุลา ปน อิตฺถิโย กายปฺปฏิพทฺเธหิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหนฺโต สพฺพาสํเยว อนฺโตปริกฺเขปคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. มหาปจฺจริยํ อผุฏฺาสุ ทุกฺกฏํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยสฺมา ปาฬิยํ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺเธน อามสนํ นาม นตฺถิ, ตสฺมา สพฺพมฺปิ กายปฺปฏิพทฺธปฺปฏิพทฺธํ กายปฺปฏิพทฺเธเนว สงฺคเหตฺวา มหาอฏฺกถายฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺโต ปุริมนโยเยเวตฺถ ยุตฺตตโร ทิสฺสติ.

โย หิ หตฺเถน หตฺถํ คเหตฺวา ปฏิปาฏิยา ิตาสุ อิตฺถีสุ สมสาราโค เอกํ หตฺเถ คณฺหาติ, โส คหิติตฺถิยา วเสน เอกํ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ปุริมนเยเนว ถุลฺลจฺจเย. สเจ โส ตํ กายปฺปฏิพทฺเธ วตฺเถ วา ปุปฺเผ วา คณฺหาติ, สพฺพาสํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย อาปชฺชติ. ยเถว หิ รชฺชุวตฺถาทีหิ ปริกฺขิปนฺเตน สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ, ตถา อิธาปิ สพฺพาปิ กายปฺปฏิพทฺเธน อามฏฺา โหนฺติ. สเจ ปน ตา อิตฺถิโย อฺมฺํ วตฺถโกฏิยํ คเหตฺวา ิตา โหนฺติ, ตตฺร เจโส ปุริมนเยเนว ปมํ อิตฺถึ หตฺเถ คณฺหาติ คหิตาย วเสน สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย ทุกฺกฏานิ. สพฺพาสฺหิ ตาสํ เตน ปุริมนเยเนว กายปฏิพทฺเธน กายปฺปฏิพทฺธํ อามฏฺํ โหติ. สเจ ปน โสปิ ตํ กายปฺปฏิพทฺเธเยว คณฺหาติ ตสฺสา วเสน ถุลฺลจฺจยํ อาปชฺชติ, อิตราสํ คณนาย อนนฺตรนเยเนว ทุกฺกฏานิ.

โย ปน ฆนวตฺถนิวตฺถํ อิตฺถึ กายสํสคฺคราเคน วตฺเถ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ. วิรฬวตฺถนิวตฺถํ ฆฏฺเฏติ, ตตฺร เจ วตฺถนฺตเรหิ อิตฺถิยา วา นิกฺขนฺตโลมานิ ภิกฺขุํ ภิกฺขุโน วา ปวิฏฺโลมานิ อิตฺถึ ผุสนฺติ, อุภินฺนํ โลมานิเยว วา โลมานิ ผุสนฺติ, สงฺฆาทิเสโส. อุปาทินฺนเกน หิ กมฺมชรูเปน อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนเกนปิ เกนจิ เกสาทินา อุปาทินฺนกํ วา อนุปาทินฺนกํ วา ผุสนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติเยว.

ตตฺถ กุรุนฺทิยํ ‘‘โลมานิ คเณตฺวา สงฺฆาทิเสโส’’ติ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘โลมานิ คเณตฺวา อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ, เอกเมว สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ. สงฺฆิกมฺเจ ปน อปจฺจตฺถริตฺวา นิปนฺโน โลมานิ คเณตฺวา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ , ตเทว ยุตฺตํ. อิตฺถิวเสน หิ อยํ อาปตฺติ, น โกฏฺาสวเสนาติ.

เอตฺถาห ‘‘โย ปน ‘กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายํ คณฺหาติ, ‘กายํ คณฺหิสฺสามี’ติ กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหาติ, โส กึ อาปชฺชตี’’ติ. มหาสุมตฺเถโร ตาว ‘‘ยถาวตฺถุกเมวา’’ติ วทติ. อยํ กิรสฺส ลทฺธิ –

‘‘วตฺถุ สฺา จ ราโค จ, ผสฺสปฺปฏิวิชานนา;

ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ เตน การเย’’ติ.

เอตฺถ ‘‘วตฺถู’’ติ อิตฺถี. ‘‘สฺา’’ติ อิตฺถิสฺา. ‘‘ราโค’’ติ กายสํสคฺคราโค. ‘‘ผสฺสปฺปฏิวิชานนา’’ติ กายสํสคฺคผสฺสชานนา. ตสฺมา โย อิตฺถิยา อิตฺถิสฺี กายสํสคฺคราเคน ‘‘กายปฺปฏิพทฺธํ คเหสฺสามี’’ติ ปวตฺโตปิ กายํ ผุสติ, ครุกํ สงฺฆาทิเสสํเยว อาปชฺชติ. อิตโรปิ ถุลฺลจฺจยนฺติ มหาปทุมตฺเถโร ปนาห –

‘‘สฺาย วิราคิตมฺหิ, คหเณ จ วิราคิเต;

ยถานิทฺทิฏฺนิทฺเทเส, ครุกํ ตตฺถ น ทิสฺสตี’’ติ.

อสฺสาปายํ ลทฺธิ อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิโน หิ สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต. อิมินา จ อิตฺถิสฺา วิราคิตา กายปฺปฏิพทฺเธ กายปฺปฏิพทฺธสฺา อุปฺปาทิตา, ตํ คณฺหนฺตสฺส ปน ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ. อิมินา จ คหณมฺปิ วิราคิตํ ตํ อคฺคเหตฺวา อิตฺถี คหิตา, ตสฺมา เอตฺถ อิตฺถิสฺาย อภาวโต สงฺฆาทิเสโส น ทิสฺสติ, กายปฺปฏิพทฺธสฺส อคฺคหิตตฺตา ถุลฺลจฺจยํ น ทิสฺสติ, กายสํสคฺคราเคน ผุฏฺตฺตา ปน ทุกฺกฏํ. กายสํสคฺคราเคน หิ อิมํ นาม วตฺถุํ ผุสโต อนาปตฺตีติ นตฺถิ, ตสฺมา ทุกฺกฏเมวาติ.

อิทฺจ ปน วตฺวา อิทํ จตุกฺกมาห. ‘‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ สงฺฆาทิเสโส, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘สารตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ วิรตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏํ, ‘วิรตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติ สารตฺตํ คณฺหิ ทุกฺกฏเมวา’’ติ. กิฺจาปิ เอวมาห? อถ โข มหาสุมตฺเถรวาโทเยเวตฺถ ‘‘อิตฺถิ จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ ภิกฺขุ จ นํ อิตฺถิยา กาเยน กายปฺปฏิพทฺธํ อามสติ ปรามสติ…เป… คณฺหาติ ฉุปติ อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติ อิมาย ปาฬิยา ‘‘โย หิ เอกโต ิตา สมฺพหุลา อิตฺถิโย พาหาหิ ปริกฺขิปิตฺวา คณฺหาติ, โส ยตฺตกา อิตฺถิโย ผุฏฺา ตาสํ คณนาย สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, มชฺฌคตานํ คณนาย ถุลฺลจฺจเย’’ติอาทีหิ อฏฺกถาวินิจฺฉเยหิ จ สเมติ. ยทิ หิ สฺาทิวิราเคน วิราคิตํ นาม ภเวยฺย ‘‘ปณฺฑโก จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทีสุ วิย ‘‘กายปฺปฏิพทฺธฺจ โหติ กายสฺี จา’’ติอาทินาปิ นเยน ปาฬิยํ วิเสสํ วเทยฺย. ยสฺมา ปน โส น วุตฺโต, ตสฺมา อิตฺถิยา อิตฺถิสฺาย สติ อิตฺถึ อามสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, กายปฺปฏิพทฺธํ อามสนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยนฺติ ยถาวตฺถุกเมว ยุชฺชติ.

มหาปจฺจริยมฺปิ เจตํ วุตฺตํ – ‘‘นีลํ ปารุปิตฺวา สยิตาย กาฬิตฺถิยา กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘กายํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจยํ; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ กายํ ฆฏฺเฏติ, สงฺฆาทิเสโส; ‘นีลํ ฆฏฺเฏสฺสามี’ติ นีลํ ฆฏฺเฏติ, ถุลฺลจฺจย’’นฺติ. โยปายํ ‘‘อิตฺถี จ ปณฺฑโก จา’’ติอาทินา นเยน วตฺถุมิสฺสกนโย วุตฺโต, ตสฺมิมฺปิ วตฺถุ สฺาวิมติวเสน วุตฺตา อาปตฺติโย ปาฬิยํ อสมฺมุยฺหนฺเตน เวทิตพฺพา.

กาเยนกายปฺปฏิพทฺธวาเร ปน อิตฺถิยา อิตฺถิสฺิสฺส กายปฺปฏิพทฺธํ คณฺหโต ถุลฺลจฺจยํ, เสเส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏํ. กายปฺปฏิพทฺเธนกายวาเรปิ เอเสว นโย. กายปฺปฏิพทฺเธนกอายปฺปฏิพทฺธวาเร จ นิสฺสคฺคิเยนกายวาราทีสุ จสฺส สพฺพตฺถ ทุกฺกฏเมว.

‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี สารตฺโต จ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กาย’’นฺติอาทิวาโร ปน ภิกฺขุมฺหิ มาตุคามสฺส ราควเสน วุตฺโต. ตตฺถ อิตฺถี จ นํ ภิกฺขุสฺส กาเยน กายนฺติ ภิกฺขุมฺหิ สารตฺตา อิตฺถี ตสฺส นิสินฺโนกาสํ วา นิปนฺโนกาสํ วา คนฺตฺวา อตฺตโน กาเยน ตํ ภิกฺขุสฺส กายํ อามสติ…เป… ฉุปติ. เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เอวํ ตาย อามฏฺโ วา ฉุปิโต วา เสวนาธิปฺปาโย หุตฺวา สเจ ผสฺสปฺปฏิวิชานนตฺถํ อีสกมฺปิ กายํ จาเลติ ผนฺเทติ, สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชติ.

ทฺเวอิตฺถิโยติ เอตฺถ ทฺเว สงฺฆาทิเสเส อาปชฺชติ, อิตฺถิยา จ ปณฺฑเก จ สงฺฆาทิเสเสน สห ทุกฺกฏํ . เอเตน อุปาเยน ยาว ‘‘นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยํ อามสติ, เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ ตาว ปุริมนเยเนว อาปตฺติเภโท เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ อตฺตนา นิสฺสฏฺํ ปุปฺผํ วา ผลํ วา อิตฺถึ อตฺตโน นิสฺสคฺคิเยน ปุปฺเผน วา ผเลน วา ปหรนฺตึ ทิสฺวา กาเยน วิการํ กโรติ, องฺคุลึ วา จาเลติ, ภมุกํ วา อุกฺขิปติ, อกฺขึ วา นิขณติ, อฺํ วา เอวรูปํ วิการํ กโรติ, อยํ วุจฺจติ ‘‘กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตี’’ติ. อยมฺปิ กาเยน วายมิตตฺตา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ, ทฺวีสุ อิตฺถีสุ ทฺเว, อิตฺถีปณฺฑเกสุปิ ทฺเว เอว ทุกฺกเฏ อาปชฺชติ.

๒๗๙. เอวํ วตฺถุวเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ลกฺขณวเสน สงฺเขปโต อาปตฺติเภทฺจ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสวนาธิปฺปาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปุริมนเย อิตฺถิยา ผุฏฺโ สมาโน เสวนาธิปฺปาโย กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส. ทุติเย นเย นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย วายมิตฺวา อฉุปเน วิย จ ผสฺสสฺส อปฺปฏิวิชานนโต ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ตติเย กาเยน อวายมโต อนาปตฺติ. โย หิ เสวนาธิปฺปาโยปิ นิจฺจเลน กาเยน เกวลํ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ สาทิยติ อนุโภติ, ตสฺส จิตฺตุปฺปาทมตฺเต อาปตฺติยา อภาวโต อนาปตฺติ. จตุตฺเถ ปน นิสฺสคฺคิเยน นิสฺสคฺคิยามสเน วิย ผสฺสปฺปฏิวิชานนาปิ นตฺถิ, เกวลํ จิตฺตุปฺปาทมตฺตเมว, ตสฺมา อนาปตฺติ. โมกฺขาธิปฺปายสฺส สพฺพากาเรสุ อนาปตฺติเยว.

เอตฺถ ปน โย อิตฺถิยา คหิโต ตํ อตฺตโน สรีรา โมเจตุกาโม ปฏิปฺปณาเมติ วา ปหรติ วา อยํ กาเยน วายมติ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ตโต มุฺจิตุกาโม อุตฺตาเสตฺวา ปลาเปติ, อยํ กาเยน วายมติ น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ตาทิสํ ทีฆชาตึ กาเย อารูฬฺหํ ทิสฺวา ‘‘สณิกํ คจฺฉตุ ฆฏฺฏิยมานา อนตฺถาย สํวตฺเตยฺยา’’ติ น ฆฏฺเฏติ, อิตฺถิเมว วา องฺคํ ผุสมานํ ตฺวา ‘‘เอสา ‘อนตฺถิโก อยํ มยา’ติ สยเมว ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อชานนฺโต วิย นิจฺจโล โหติ, พลวิตฺถิยา วา คาฬฺหํ อาลิงฺคิตฺวา คหิโต ทหรภิกฺขุ ปลายิตุกาโมปิ สุฏฺุ คหิตตฺตา นิจฺจโล โหติ, อยํ น จ กาเยน วายมติ, ผสฺสํ ปฏิวิชานาติ. โย ปน อาคจฺฉนฺตึ ทิสฺวา ‘‘อาคจฺฉตุ ตาว ตโต นํ ปหริตฺวา วา ปณาเมตฺวา วา ปกฺกมิสฺสามี’’ติ นิจฺจโล โหติ, อยํ โมกฺขาธิปฺปาโย น จ กาเยน วายมติ, น จ ผสฺสํ ปฏิวิชานาตีติ เวทิตพฺโพ.

๒๘๐. อสฺจิจฺจาติ อิมินา อุปาเยน อิมํ ผุสิสฺสามีติ อเจเตตฺวา, เอวฺหิ อเจเตตฺวา ปตฺตปฺปฏิคฺคหณาทีสุ มาตุคามสฺส องฺเค ผุฏฺเปิ อนาปตฺติ.

อสติยาติ อฺวิหิโต โหติ มาตุคามํ ผุสามีติ สติ นตฺถิ, เอวํ อสติยา หตฺถปาทปสารณาทิกาเล ผุสนฺตสฺส อนาปตฺติ.

อชานนฺตสฺสาติ ทารกเวเสน ิตํ ทาริกํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺโต เกนจิเทว กรณีเยน ผุสติ, เอวํ ‘‘อิตฺถี’’ติ อชานนฺตสฺส ผุสโต อนาปตฺติ.

อสาทิยนฺตสฺสาติ กายสํสคฺคํ อสาทิยนฺตสฺส, ตสฺส พาหาปรมฺปราย นีตภิกฺขุสฺส วิย อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกาทโย วุตฺตนยาเอว. อิธ ปน อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ปมปาราชิกสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนํ, สุขมชฺฌตฺตทฺวเยนาติ.

๒๘๑. วินีตวตฺถูสุ – มาตุยา มาตุเปเมนาติ มาตุเปเมน มาตุยา กายํ อามสิ. เอส นโย ธีตุภคินิวตฺถูสุ. ตตฺถ ยสฺมา มาตา วา โหตุ ธีตา วา อิตฺถี นาม สพฺพาปิ พฺรหฺมจริยสฺส ปาริปนฺถิกาว. ตสฺมา ‘‘อยํ เม มาตา อยํ ธีตา อยํ เม ภคินี’’ติ เคหสฺสิตเปเมน อามสโตปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ.

อิมํ ปน ภควโต อาณํ อนุสฺสรนฺเตน สเจปิ นทีโสเตน วุยฺหมานํ มาตรํ ปสฺสติ เนว หตฺเถน ปรามสิตพฺพา. ปณฺฑิเตน ปน ภิกฺขุนา นาวา วา ผลกํ วา กทลิกฺขนฺโธ วา ทารุกฺขนฺโธ วา อุปสํหริตพฺโพ. ตสฺมึ อสติ กาสาวมฺปิ อุปสํหริตฺวา ปุรโต เปตพฺพํ, ‘‘เอตฺถ คณฺหาหี’’ติ ปน น วตฺตพฺพา. คหิเต ปริกฺขารํ กฑฺฒามีติ กฑฺฒนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ภายติ ปุรโต ปุรโต คนฺตฺวา ‘‘มา ภายี’’ติ สมสฺสาเสตพฺพา. สเจ ภายมานา ปุตฺตสฺส สหสา ขนฺเธ วา อภิรุหติ, หตฺเถ วา คณฺหาติ, น ‘‘อเปหิ มหลฺลิเก’’ติ นิทฺธุนิตพฺพา, ถลํ ปาเปตพฺพา. กทฺทเม ลคฺคายปิ กูเป ปติตายปิ เอเสว นโย.

ตตฺรปิ หิ โยตฺตํ วา วตฺถํ วา ปกฺขิปิตฺวา หตฺเถน คหิตภาวํ ตฺวา อุทฺธริตพฺพา, นตฺเวว อามสิตพฺพา. น เกวลฺจ มาตุคามสฺส สรีรเมว อนามาสํ, นิวาสนปาวุรณมฺปิ อาภรณภณฺฑมฺปิ ติณณฺฑุปกํ วา ตาฬปณฺณมุทฺทิกํ วา อุปาทาย อนามาสเมว, ตฺจ โข นิวาสนปารุปนํ ปิฬนฺธนตฺถาย ปิตเมว. สเจ ปน นิวาสนํ วา ปารุปนํ วา ปริวตฺเตตฺวา จีวรตฺถาย ปาทมูเล เปติ วฏฺฏติ. อาภรณภณฺเฑสุ ปน สีสปสาธนกทนฺตสูจิอาทิกปฺปิยภณฺฑํ ‘‘อิมํ ภนฺเต ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ ทิยฺยมานํ สิปาฏิกาสูจิอาทิอุปกรณตฺถาย คเหตพฺพํ. สุวณฺณรชตมุตฺตาทิมยํ ปน อนามาสเมว ทียฺยมานมฺปิ น คเหตพฺพํ. น เกวลฺจ เอตาสํ สรีรูปคเมว อนามาสํ, อิตฺถิสณฺาเนน กตํ กฏฺรูปมฺปิ ทนฺตรูปมฺปิ อยรูปมฺปิ โลหรูปมฺปิ ติปุรูปมฺปิ โปตฺถกรูปมฺปิ สพฺพรตนรูปมฺปิ อนฺตมโส ปิฏฺมยรูปมฺปิ อนามาสเมว. ปริโภคตฺถาย ปน ‘‘อิทํ ตุมฺหากํ โหตู’’ติ ลภิตฺวา เปตฺวา สพฺพรตนมยํ อวเสสํ ภินฺทิตฺวา อุปกรณารหํ อุปกรเณ ปริโภคารหํ ปริโภเค อุปเนตุํ วฏฺฏติ.

ยถา จ อิตฺถิรูปกํ; เอวํ สตฺตวิธมฺปิ ธฺํ อนามาสํ. ตสฺมา เขตฺตมชฺเฌน คจฺฉตา ตตฺถชาตกมฺปิ ธฺผลํ น อามสนฺเตน คนฺตพฺพํ. สเจ ฆรทฺวาเร วา อนฺตรามคฺเค วา ธฺํ ปสาริตํ โหติ ปสฺเสน จ มคฺโค อตฺถิ น มทฺทนฺเตน คนฺตพฺพํ. คมนมคฺเค อสติ มคฺคํ อธิฏฺาย คนฺตพฺพํ. อนฺตรฆเร ธฺสฺส อุปริ อาสนํ ปฺาเปตฺวา เทนฺติ นิสีทิตุํ วฏฺฏติ. เกจิ อาสนสาลายํ ธฺํ อากิรนฺติ, สเจ สกฺกา โหติ หราเปตุํ หราเปตพฺพํ, โน เจ เอกมนฺตํ ธฺํ อมทฺทนฺเตน ปีกํ ปฺเปตฺวา นิสีทิตพฺพํ. สเจ โอกาโส น โหติ, มนุสฺสา ธฺมชฺเฌเยว อาสนํ ปฺเปตฺวา เทนฺติ, นิสีทิตพฺพํ. ตตฺถชาตกานิ มุคฺคมาสาทีนิ อปรณฺณานิปิ ตาลปนสาทีนิ วา ผลานิ กีฬนฺเตน น อามสิตพฺพานิ. มนุสฺเสหิ ราสิกเตสุปิ เอเสว นโย. อรฺเ ปน รุกฺขโต ปติตานิ ผลานิ ‘‘อนุปสมฺปนฺนานํ ทสฺสามี’’ติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ.

มุตฺตา , มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาฬํ, รชตํ, ชาตรูปํ, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลนฺติ อิเมสุ ทสสุ รตเนสุ มุตฺตา อโธตา อนิวิทฺธา ยถาชาตาว อามสิตุํ วฏฺฏติ. เสสา อนามาสาติ วทนฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘มุตฺตา โธตาปิ อโธตาปิ อนามาสา ภณฺฑมูลตฺถาย จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, กุฏฺโรคสฺส เภสชฺชตฺถาย ปน วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อนฺตมโส ชาติผลิกํ อุปาทาย สพฺโพปิ นีลปีตาทิวณฺณเภโท มณิ โธตวิทฺธวฏฺฏิโต อนามาโส, ยถาชาโต ปน อากรมุตฺโต ปตฺตาทิภณฺฑมูลตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺโต. โสปิ มหาปจฺจริยํ ปฏิกฺขิตฺโต, ปจิตฺวา กโต กาจมณิเยเวโก วฏฺฏตีติ วุตฺโต. เวฬุริเยปิ มณิสทิโสว วินิจฺฉโย.

สงฺโข ธมนสงฺโข จ โธตวิทฺโธ จ รตนมิสฺโส อนามาโส. ปานียสงฺโข โธโตปิ อโธโตปิ อามาโสว เสสฺจ อฺชนาทิเภสชฺชตฺถายปิ ภณฺฑมูลตฺถายปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. สิลา โธตวิทฺธา รตนสํยุตฺตา มุคฺควณฺณาว อนามาสา. เสสา สตฺถกนิสานาทิอตฺถาย คณฺหิตุํ วฏฺฏติ. เอตฺถ จ รตนสํยุตฺตาติ สุวณฺเณน สทฺธึ โยเชตฺวา ปจิตฺวา กตาติ วทนฺติ. ปวาฬํ โธตวิทฺธํ อนามาสํ. เสสํ อามาสํ ภณฺฑมูลตฺถฺจ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตมฺปิ อโธตมฺปิ สพฺพํ อนามาสํ, น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

รชตํ ชาตรูปฺจ กตภณฺฑมฺปิ อกตภณฺฑมฺปิ สพฺเพน สพฺพํ พีชโต ปฏฺาย อนามาสฺจ อสมฺปฏิจฺฉิยฺจ, อุตฺตรราชปุตฺโต กิร สุวณฺณเจติยํ กาเรตฺวา มหาปทุมตฺเถรสฺส เปเสสิ. เถโร ‘‘น กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปิ. เจติยฆเร สุวณฺณปทุมสุวณฺณพุพฺพุฬกาทีนิ โหนฺติ, เอตานิปิ อนามาสานิ. เจติยฆรโคปกา ปน รูปิยฉฑฺฑกฏฺาเน ิตา, ตสฺมา เตสํ เกฬาปยิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ. กุรุนฺทิยํ ปน ตํ ปฏิกฺขิตฺตํ. สุวณฺณเจติเย กจวรเมว หริตุํ วฏฺฏตีติ เอตฺตกเมว อนุฺาตํ. อารกูฏโลหมฺปิ ชาตรูปคติกเมว อนามาสนฺติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ. เสนาสนปริโภโค ปน สพฺพกปฺปิโย, ตสฺมา ชาตรูปรชตมยา สพฺเพปิ เสนาสนปริกฺขารา อามาสา. ภิกฺขูนํ ธมฺมวินยวณฺณนฏฺาเน รตนมณฺฑเป กโรนฺติ ผลิกตฺถมฺเภ รตนทามปติมณฺฑิเต, ตตฺถ สพฺพูปกรณานิ ภิกฺขูนํ ปฏิชคฺคิตุํ วฏฺฏติ.

โลหิตงฺกมสารคลฺลา โธตวิทฺธา อนามาสา, อิตเร อามาสา, ภณฺฑมูลตฺถาย วฏฺฏนฺตีติ วุตฺตา. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘โธตาปิ อโธตาปิ สพฺพโส อนามาสา น จ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏนฺตี’’ติ วุตฺตํ.

สพฺพํ อาวุธภณฺฑํ อนามาสํ, ภณฺฑมูลตฺถาย ทียฺยมานมฺปิ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สตฺถวณิชฺชา นาม น วฏฺฏติ. สุทฺธธนุทณฺโฑปิ ธนุชิยาปิ ปโตโทปิ องฺกุโสปิ อนฺตมโส วาสิผรสุอาทีนิปิ อาวุธสงฺเขเปน กตานิ อนามาสานิ. สเจ เกนจิ วิหาเร สตฺติ วา โตมโร วา ปิโต โหติ, วิหารํ ชคฺคนฺเตน ‘‘หรนฺตู’’ติ สามิกานํ เปเสตพฺพํ. สเจ น หรนฺติ, ตํ อจาเลนฺเตน วิหาโร ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ยุทฺธภูมิยํ ปติตํ อสึ วา สตฺตึ วา โตมรํ วา ทิสฺวา ปาสาเณน วา เกนจิ วา อสึ ภินฺทิตฺวา สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ, อิตรานิปิ วิโยเชตฺวา กิฺจิ สตฺถกตฺถาย คเหตุํ วฏฺฏติ กิฺจิ กตฺตรทณฺฑาทิอตฺถาย. ‘‘อิทํ คณฺหถา’’ติ ทียฺยมานํ ปน ‘‘วินาเสตฺวา กปฺปิยภณฺฑํ กริสฺสามี’’ติ สพฺพมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.

มจฺฉชาลปกฺขิชาลาทีนิปิ ผลกชาลิกาทีนิ สรปริตฺตานานีปิ สพฺพานิ อนามาสานิ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน ชาลํ ตาว ‘‘อาสนสฺส วา เจติยสฺส วา อุปริ พนฺธิสฺสามิ, ฉตฺตํ วา เวเสฺสามี’’ติ คเหตุํ วฏฺฏติ. สรปริตฺตานํ สพฺพมฺปิ ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. ปรูปโรธนิวารณฺหิ เอตํ น อุปโรธกรนฺติ ผลกํ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสามีติ คเหตุํ วฏฺฏติ.

จมฺมวินทฺธานิ วีณาเภริอาทีนิ อนามาสานิ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘เภริสงฺฆาโฏปิ วีณาสงฺฆาโฏปิ ตุจฺฉโปกฺขรมฺปิ มุขวฏฺฏิยํ อาโรปิตจมฺมมฺปิ วีณาทณฺฑโกปิ สพฺพํ อนามาส’’นฺติ วุตฺตํ. โอนหิตุํ วา โอนหาเปตุํ วา วาเทตุํ วา วาทาเปตุํ วา น ลพฺภติเยว. เจติยงฺคเณ ปูชํ กตฺวา มนุสฺเสหิ ฉฑฺฑิตํ ทิสฺวาปิ อจาเลตฺวาว อนฺตรนฺตเร สมฺมชฺชิตพฺพํ, กจวรฉฑฺฑนกาเล ปน กจวรนิยาเมเนว หริตฺวา เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุํ วฏฺฏตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ภณฺฑมูลตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุมฺปิ วฏฺฏติ. ปริโภคตฺถาย ลพฺภมาเนสุ ปน วีณาโทณิกฺจ เภริโปกฺขรฺจ ทนฺตกฏฺภาชนํ กริสฺสาม จมฺมํ สตฺถกโกสกนฺติ เอวํ ตสฺส ตสฺส ปริกฺขารสฺส อุปกรณตฺถาย คเหตฺวา ตถา ตถา กาตุํ วฏฺฏติ.

ปุราณทุติยิกาวตฺถุ อุตฺตานเมว. ยกฺขิวตฺถุสฺมึ สเจปิ ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวิยา กายสํสคฺคํ สมาปชฺชติ ถุลฺลจฺจยเมว. ปณฺฑกวตฺถุสุตฺติตฺถิวตฺถุ จ ปากฏเมว. มติตฺถิวตฺถุสฺมึ ปาราชิกปฺปโหนกกาเล ถุลฺลจฺจยํ, ตโต ปรํ ทุกฺกฏํ. ติรจฺฉานคตวตฺถุสฺมึ นาคมาณวิกายปิ สุปณฺณมาณวิกายปิ กินฺนริยาปิ คาวิยาปิ ทุกฺกฏเมว. ทารุธีตลิกาวตฺถุสฺมึ น เกวลํ ทารุนา เอว, อนฺตมโส จิตฺตกมฺมลิขิเตปิ อิตฺถิรูเป ทุกฺกฏเมว.

๒๘๒. สมฺปีฬนวตฺถุ อุตฺตานตฺถเมว. สงฺกมวตฺถุสฺมึ เอกปทิกสงฺกโม วา โหตุ สกฏมคฺคสงฺกโม วา, จาเลสฺสามีติ ปโยเค กตมตฺเตว จาเลตุ วา มา วา, ทุกฺกฏํ. มคฺควตฺถุ ปากฏเมว. รุกฺขวตฺถุสฺมึ รุกฺโข มหนฺโต วา โหตุ มหาชมฺพุปฺปมาโณ ขุทฺทโก วา, ตํ จาเลตุํ สกฺโกตุ วา มา วา, ปโยคมตฺเตน ทุกฺกฏํ. นาวาวตฺถุสฺมิมฺปิ เอเสว นโย. รชฺชวตฺถุสฺมึ ยํ รชฺชุํ อาวิฺฉนฺโต านา จาเลตุํ สกฺโกติ, ตตฺถ ถุลฺลจฺจยํ. ยา มหารชฺชุ โหติ, อีสกมฺปิ านา น จลติ, ตตฺถ ทุกฺกฏํ. ทณฺเฑปิ เอเสว นโย. ภูมิยํ ปติตมหารุกฺโขปิ หิ ทณฺฑคฺคหเณเนว อิธ คหิโต. ปตฺตวตฺถุ ปากฏเมว. วนฺทนวตฺถุสฺมึ อิตฺถี ปาเท สมฺพาหิตฺวา วนฺทิตุกามา วาเรตพฺพา ปาทา วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพา, นิจฺจเลน วา ภวิตพฺพํ. นิจฺจลสฺส หิ จิตฺเตน สาทิยโตปิ อนาปตฺติ. อวสาเน คหณวตฺถุปากฏเมวาติ.

กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๘๓. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาทิสฺสาติ อปทิสิตฺวา. วณฺณมฺปิ ภณตีติอาทีนิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. ฉินฺนิกาติ ฉินฺนโอตฺตปฺปา. ธุตฺติกาติ สา. อหิริกาโยติ นิลฺลชฺชา . อุหสนฺตีติ สิตํ กตฺวา มนฺทหสิตํ หสนฺติ. อุลฺลปนฺตีติ ‘‘อโห อยฺโย’’ติอาทินา นเยน อุจฺจกรณึ นานาวิธํ ปโลภนกถํ กเถนฺติ. อุชฺชคฺฆนฺตีติ มหาหสิตํ หสนฺติ. อุปฺปณฺเฑนฺตีติ ‘‘ปณฺฑโก อยํ, นายํ ปุริโส’’ติอาทินา นเยน ปริหาสํ กโรนฺติ.

๒๘๕. สารตฺโตติ ทุฏฺุลฺลวาจสฺสาทราเคน สารตฺโต. อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโตติ วุตฺตนยเมว, เกวลํ อิธ วาจสฺสาทราโค โยเชตพฺโพ. มาตุคามํ ทุฏฺุลฺลาหิ วาจาหีติ เอตฺถ อธิปฺเปตํ มาตุคามํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาตุคาโม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิฺู ปฏิพลา สุภาสิตทุพฺภาสิตํ ทุฏฺุลฺลาทุฏฺุลฺลํ อาชานิตุนฺติ ยา ปณฺฑิตา สาตฺถกนิรตฺถกกถํ อสทฺธมฺมสทฺธมฺมปฏิสํยุตฺตกถฺจ ชานิตุํ ปฏิพลา, อยํ อิธ อธิปฺเปตา. ยา ปน มหลฺลิกาปิ พาลา เอลมูคา อยํ อิธ อนธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ.

โอภาเสยฺยาติ อวภาเสยฺย นานาปฺปการกํ อสทฺธมฺมวจนํ วเทยฺย. ยสฺมา ปเนวํ โอภาสนฺตสฺส โย โส โอภาโส นาม, โส อตฺถโต อชฺฌาจาโร โหติ ราควเสน อภิภวิตฺวา สฺมเวลํ อาจาโร, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอภาเสยฺยาติ อชฺฌาจาโร วุจฺจตี’’ติ อาห. ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, ยถา ยุวา ยุวตินฺติ อตฺโถ.

ทฺเว มคฺเค อาทิสฺสาติอาทิ เยนากาเรน โอภาสโต สงฺฆาทิเสโส โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. ตตฺถ ทฺเว มคฺเคติ วจฺจมคฺคฺจ ปสฺสาวมคฺคฺจ. เสสํ อุทฺเทเส ตาว ปากฏเมว. นิทฺเทเส ปน โถเมตีติ ‘‘อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, น ตาว สีสํ เอติ. ‘‘ตว วจฺจมคฺโค จ ปสฺสาวมคฺโค จ อีทิโส เตน นาม อีทิเสน อิตฺถิลกฺขเณน สุภลกฺขเณน สมนฺนาคตาสี’’ติ วทติ, สีสํ เอติ, สงฺฆาทิเสโส. วณฺเณติ ปสํสตีติ อิมานิ ปน โถมนปทสฺเสว เววจนานิ.

ขุํเสตีติ วาจาปโตเทน ฆฏฺเฏติ. วมฺเภตีติ อปสาเทติ. ครหตีติ โทสํ เทติ. ปรโต ปน ปาฬิยา อาคเตหิ ‘‘อนิมิตฺตาสี’’ติอาทีหิ เอกาทสหิ ปเทหิ อฆฏิเต สีสํ น เอติ, ฆฏิเตปิ เตสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิเมหิ ตีหิ ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.

เทหิ เมติ ยาจนายปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ เอวํ เมถุนธมฺเมน ฆฏิเต เอว สงฺฆาทิเสโส.

กทา เต มาตา ปสีทิสฺสตีติอาทีสุ อายาจนวจเนสุปิ เอตฺตเกเนว สีสํ น เอติ, ‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสติ, กทา เต เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา ‘‘ตว มาตริ ปสนฺนาย เมถุนํ ธมฺมํ ลภิสฺสามี’’ติ วา อาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส.

กถํ ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติอาทีสุ ปุจฺฉาวจเนสุปิ เมถุนธมฺมนฺติ วุตฺเตเยว สงฺฆาทิเสโส, น อิตรถา. เอวํ กิร ตฺวํ สามิกสฺส เทสีติ ปฏิปุจฺฉาวจเนสุปิ เอเสว นโย.

อาจิกฺขนาย ปุฏฺโ ภณตีติ ‘‘กถํ ททมานา สามิกสฺส ปิยา โหตี’’ติ เอวํ ปุฏฺโ อาจิกฺขติ. เอตฺถ จ ‘‘เอวํ เทหิ เอวํ ททมานา’’ติ วุตฺเตปิ สีสํ น เอติ. ‘‘เมถุนธมฺมํ เอวํ เทหิ เอวํ อุปเนหิ เอวํ เมถุนธมฺมํ ททมานา อุปนยมานา ปิยา โหตี’’ติอาทินา ปน นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิเตเยว สงฺฆาทิเสโส. อนุสาสนีวจเนสุปิ เอเสว นโย.

อกฺโกสนิทฺเทเส – อนิมิตฺตาสีติ นิมิตฺตรหิตาสิ, กุฺจิกปณาลิมตฺตเมว ตว ทกโสตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

นิมิตฺตมตฺตาสีติ ตว อิตฺถินิมิตฺตํ อปริปุณฺณํ สฺามตฺตเมวาติ วุตฺตํ โหติ. อโลหิตาติ สุกฺขโสตา. ธุวโลหิตาติ นิจฺจโลหิตา กิลินฺนทกโสตา. ธุวโจฬาติ นิจฺจปกฺขิตฺตาณิโจฬา, สทา อาณิโจฬกํ เสวสีติ วุตฺตํ โหติ. ปคฺฆรนฺตีติ สวนฺตี; สทา เต มุตฺตํ สวตีติ วุตฺตํ โหติ. สิขรณีติ พหินิกฺขนฺตอาณิมํสา. อิตฺถิปณฺฑกาติ อนิมิตฺตาว วุจฺจติ. เวปุริสิกาติ สมสฺสุทาิกา ปุริสรูปา อิตฺถี. สมฺภินฺนาติ สมฺภินฺนวจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคา. อุภโตพฺยฺชนาติ อิตฺถินิมิตฺเตน จ ปุริสนิมิตฺเตน จาติ อุโภหิ พฺยฺชเนหิ สมนฺนาคตา.

อิเมสุ จ ปน เอกาทสสุ ปเทสุ สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสีติ อิมานิเยว ตีณิ ปทานิ สุทฺธานิ สีสํ เอนฺติ. อิติ อิมานิ จ ตีณิ ปุริมานิ จ วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺคเมถุนธมฺมปทานิ ตีณีติ ฉ ปทานิ สุทฺธานิ อาปตฺติกรานิ. เสสานิ อนิมิตฺตาติอาทีนิ ‘‘อนิมิตฺเต เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา ‘‘อนิมิตฺตาสิ เมถุนธมฺมํ เม เทหี’’ติ วา อาทินา นเยน เมถุนธมฺเมน ฆฏิตาเนว อาปตฺติกรานิ โหนฺตีติ เวทิตพฺพานิ.

๒๘๖. อิทานิ ยฺวายํ โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน โอภาสติ, ตสฺส วจฺจมคฺคปสฺสาวมคฺเค อาทิสฺส เอเตสํ วณฺณภณนาทีนํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺติเภทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตฺถี จ โหติ อิตฺถิสฺี’’ติอาทิมาห. เตสํ อตฺโถ กายสํสคฺเค วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

อยํ ปน วิเสโส – อธกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อโธ. อุพฺภชาณุมณฺฑล ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อุพฺภกฺขกนฺติ อกฺขกโต ปฏฺาย อุทฺธํ. อโธ ชาณุมณฺฑลนฺติ ชาณุมณฺฑลโต ปฏฺาย อโธ. อกฺขกํ ปน ชาณุมณฺฑลฺจ เอตฺเถว ทุกฺกฏกฺเขตฺเต สงฺคหํ คจฺฉนฺติ ภิกฺขุนิยา กายสํสคฺเค วิย. น หิ พุทฺธา ครุกาปตฺตึ สาวเสสํ ปฺเปนฺตีติ. กายปฺปฏิพทฺธนฺติ วตฺถํ วา ปุปฺผํ วา อาภรณํ วา.

๒๘๗. อตฺถปุเรกฺขารสฺสาติ อนิมิตฺตาติอาทีนํ ปทานํ อตฺถํ กเถนฺตสฺส, อฏฺกถํ วา สชฺฌายํ กโรนฺตสฺส.

ธมฺมปุเรกฺขารสฺสาติ ปาฬึ วาเจนฺตสฺส วา สชฺฌายนฺตสฺส วา. เอวํ อตฺถฺจ ธมฺมฺจ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อตฺถปุเรกฺขารสฺส จ ธมฺมปุเรกฺขารสฺส จ อนาปตฺติ.

อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺสาติ ‘‘อิทานิปิ อนิมิตฺตาสิ อุภตฺโตพฺยฺชนาสิ อปฺปมาทํ อิทานิ กเรยฺยาสิ, ยถา อายติมฺปิ เอวรูปา น โหหิสี’’ติ เอวํ อนุสิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา ภณนฺตสฺส อนุสาสนิปุเรกฺขารสฺส อนาปตฺติ. โย ปน ภิกฺขุนีนํ ปาฬึ วาเจนฺโต ปกติวาจนามคฺคํ ปหาย หสนฺโต หสนฺโต ‘‘สิขรณีสิ สมฺภินฺนาสิ อุภโตพฺยฺชนาสี’’ติ ปุนปฺปุนํ ภณติ, ตสฺส อาปตฺติเยว. อุมฺมตฺตกสฺส อนาปตฺติ. อิธ อาทิกมฺมิโก อุทายิตฺเถโร, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ติสมุฏฺานํ กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ , สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทฺวิเวทนนฺติ.

๒๘๘. วินีตวตฺถูสุ โลหิตวตฺถุสฺมึ โส ภิกฺขุ อิตฺถิยา โลหิตกํ นิมิตฺตํ สนฺธายาห – อิตรา น อฺาสิ, ตสฺมา ทุกฺกฏํ.

กกฺกสโลมนฺติ รสฺสโลเมหิ พหุโลมํ. อากิณฺณโลมนฺติ ชฏิตโลมํ. ขรโลมนฺติ ถทฺธโลมํ. ทีฆโลมนฺติ อรสฺสโลมํ. สพฺพํ อิตฺถินิมิตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตํ.

๒๘๙. วาปิตํ โข เตติ อสทฺธมฺมํ สนฺธายาห, สา อสลฺลกฺเขตฺวา โน จ โข ปฏิวุตฺตนฺติ อาห. ปฏิวุตฺตํ นาม อุทกวปฺเป พีเชหิ อปฺปติฏฺิโตกาเส ปาณเกหิ วินาสิตพีเช วา โอกาเส ปุน พีชํ ปติฏฺาเปตฺวา อุทเกน อาสิตฺตํ, ถลวปฺเป วิสมปติตานํ วา พีชานํ สมกรณตฺถาย ปุน อฏฺทนฺตเกน สมีกตํ, เตสุ อฺตรํ สนฺธาย เอสา อาห.

มคฺควตฺถุสฺมึ มคฺโค สํสีทตีติ องฺคชาตมคฺคํ สนฺธายาห. เสสํ อุตฺตานเมวาติ.

ทุฏฺุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ อตฺตกามสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กุลูปโกติ กุลปยิรุปาสนโก จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อตฺถาย กุลูปสงฺกมเน นิจฺจปฺปยุตฺโต.

จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ จีวรฺจ ปิณฺฑปาตฺจ เสนาสนฺจ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารฺจ. คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เจตฺถ ปติกรณตฺเถน ปจฺจโย, ยสฺส กสฺสจิ สปฺปายสฺเสตํ อธิวจนํ. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน อนุฺาตตฺตาติ เภสชฺชํ. คิลานปจฺจโยว เภสชฺชํ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ, ยํกิฺจิ คิลานสฺส สปฺปายํ ภิสกฺกกมฺมํ เตลมธุผาณิตาทีติ วุตฺตํ โหติ. ปริกฺขาโรติ ปน ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวาโร วุจฺจติ. ‘‘รโถ สีสปริกฺขาโร ฌานกฺโข จกฺกวีริโย’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺกาโร. ‘‘เย จิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (โร. นิ. ๑.๑.๑๙๑) สมฺภาโร. อิธ ปน สมฺภาโรปิ ปริวาโรปิ วฏฺฏติ. ตฺหิ คิลานปจฺจยเภสชฺชํ ชีวิตสฺส ปริวาโรปิ โหติ ชีวิตวินาสกาพาธุปฺปตฺติยา อนฺตรํ อทตฺวา รกฺขณโต, สมฺภาโรปิ ยถา จิรํ ปวตฺตติ เอวมสฺส การณภาวโต, ตสฺมา ปริกฺขาโรติ วุจฺจติ. เอวํ คิลานปจฺจยเภสชฺชฺจ ตํ ปริกฺขาโร จาติ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาโร, ตํ คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วสลนฺติ หีนํ ลามกํ. อถ วา วสฺสตีติ วสโล, ปคฺฆรตีติ อตฺโถ, ตํ วสลํ, อสุจิปคฺฆรณกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิฏฺุหิตฺวาติ เขฬํ ปาเตตฺวา.

กสฺสาหํ เกน หายามีติ อหํ กสฺสา อฺิสฺสา อิตฺถิยา เกน โภเคน วา อลงฺกาเรน วา รูเปน วา ปริหายามิ, กา นาม มยา อุตฺตริตราติ ทีเปติ.

๒๙๑. สนฺติเกติ อุปจาเร ตฺวา สามนฺตา อวิทูเร, ปทภาชเนปิ อยเมวอตฺโถ ทีปิโต . อตฺตกามปาริจริยายาติ เมถุนธมฺมสงฺขาเตน กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา. อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตนา วา กามิตา อิจฺฉิตาติ อตฺตกามา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตาติ อตฺโถ. อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา, ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย. วณฺณํ ภาเสยฺยาติ คุณํ อานิสํสํ ปกาเสยฺย.

ตตฺร ยสฺมา ‘‘อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป กาโม เจว เหตุ จ ปาริจริยา จ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ‘‘อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา’’ติ อิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป อธิปฺปาโย เจว ปาริจริยา จาติ อตฺโถ, เสสํ พฺยฺชนํ. ตสฺมา พฺยฺชเน อาทรํ อกตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ. ‘‘อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ วุตฺเตปิ ชานิสฺสนฺติ ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตนา อิจฺฉิตกามิตฏฺเน อตฺตกามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ.

อิทานิ ตสฺสา อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภาสนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตทคฺค’’นฺติอาทิมาห. ตํ อุทฺเทสโตปิ นิทฺเทสโตปิ อุตฺตานตฺถเมว. อยํ ปเนตฺถ ปทสมฺพนฺโธ จ อาปตฺติวินิจฺฉโย จ – เอตทคฺคํ…เป… ปริจเรยฺยาติ ยา มาทิสํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พฺรหฺมจารึ เอเตน ธมฺเมน ปริจเรยฺย, ตสฺสา เอวํ มาทิสํ ปริจรนฺติยา ยา อยํ ปาริจริยา นาม, เอตทคฺคํ ปาริจริยานนฺติ.

เมถุนุปสํหิเตน สงฺฆาทิเสโสติ เอวํ อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาสนฺโต จ เมถุนุปสํหิเตน เมถุนธมฺมปฏิสํยุตฺเตเนว วจเนน โย ภาเสยฺย, ตสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.

อิธานิ ยสฺมา เมถุนุปสํหิเตเนว ภาสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย, ตฺวมฺปิ ขตฺติยา, อรหติ ขตฺติยา ขตฺติยสฺส ทาตุํ สมชาติกตฺตา’’ติ เอวมาทีหิ วจเนหิ ปาริจริยาย วณฺณํ ภาสมานสฺสาปิ สงฺฆาทิเสโส นตฺถิ. ‘‘อหมฺปิ ขตฺติโย’’ติอาทิเก ปน พหูปิ ปริยาเย วตฺวา ‘‘อรหสิ ตฺวํ มยฺหํ เมถุนธมฺมํ ทาตุ’’นฺติ เอวํ เมถุนปฺปฏิสํยุตฺเตเนว ภาสมานสฺส สงฺฆาทิเสโสติ.

อิตฺถีจ โหตีติอาทิ ปุพฺเพ วุตฺตนยเมว. อิธ อุทายิตฺเถโร อาทิกมฺมิโก, ตสฺส อนาปตฺติ อาทิกมฺมิกสฺสาติ.

สมุฏฺานาทิ สพฺพํ ทุฏฺุลฺลวาจาสทิสํ. วินีตวตฺถูนิ อุตฺตานตฺถาเนวาติ.

อตฺตกามปาริจริยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

๒๙๖. เตนสมเยน พุทฺโธ ภควาติ สฺจริตฺตํ. ตตฺถ ปณฺฑิตาติ ปณฺฑิจฺเจน สมนฺนาคตา คติมนฺตา. พฺยตฺตาติ เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคตา, อุปาเยน สมนฺนาคตา อุปายฺู วิสารทา. เมธาวินีติ เมธาย สมนฺนาคตา, ทิฏฺํ ทิฏฺํ กโรติ. ทกฺขาติ เฉกา. อนลสาติ อุฏฺานวีริยสมฺปนฺนา. ฉนฺนาติ อนุจฺฉวิกา.

กิสฺมึ วิยาติ กิจฺฉํ วิย กิเลโส วิย, หิริ วิย อมฺหากํ โหตีติ อธิปฺปาโย. กุมาริกาย วตฺตุนฺติ ‘‘อิมํ ตุมฺเห คณฺหถา’’ติ กุมาริกาย การณา วตฺตุํ.

อาวาหาทีสุ อาวาโหติ ทารกสฺส ปรกุลโต ทาริกาย อาหรณํ. วิวาโหติ อตฺตโน ทาริกาย ปรกุลเปสนํ. วาเรยฺยนฺติ ‘‘เทถ โน ทารกสฺส ทาริก’’นฺติ ยาจนํ, ทิวสนกฺขตฺตมุหุตฺตปริจฺเฉทกรณํ วา.

๒๙๗. ปุราณคณกิยาติ เอกสฺส คณกสฺส ภริยาย, สา ตสฺมึ ชีวมาเน คณกีติ ปฺายิตฺถ, มเต ปน ปุราณคณกีติ สงฺขํ คตา. ติโรคาโมติ พหิคาโม, อฺโ คาโมติ อธิปฺปาโย. มนุสฺสาติ อุทายิสฺส อิมํ สฺจริตฺตกมฺเม ยุตฺตปยุตฺตภาวํ ชานนกมนุสฺสา.

สุณิสโภเคนาติ เยน โภเคน สุณิสา ภุฺชิตพฺพา โหติ รนฺธาปนปจาปนปอเวสนาทินา, เตน ภุฺชึสุ. ตโต อปเรน ทาสิโภเคนาติ มาสาติกฺกเม เยน โภเคน ทาสี ภุฺชิตพฺพา โหติ เขตฺตกมฺมกจวรฉฑฺฑนอุทกาหรณาทินา, เตน ภุฺชึสุ. ทุคฺคตาติ ทลิทฺทา, ยตฺถ วา คตา ทุคฺคตา โหติ ตาทิสํ กุลํ คตา. มายฺโย อิมํ กุมาริกนฺติ มา อยฺโย อิมํ กุมาริกํ. อาหารูปหาโรติ อาหาโร จ อุปหาโร จ คหณฺจ ทานฺจ, น อมฺเหหิ กิฺจิ อาหฏํ น อุปาหฏํ ตยา สทฺธึ กยวิกฺกโย โวหาโร อมฺหากํ นตฺถีติ ทีเปนฺติ. สมเณน ภวิตพฺพํ อพฺยาวเฏน, สมโณ อสฺส สุสมโณติ สมเณน นาม อีทิเสสุ กมฺเมสุ อพฺยาวเฏน อพฺยาปาเรน ภวิตพฺพํ, เอวํ ภวนฺโต หิ สมโณ สุสมโณ อสฺสาติ, เอวํ นํ อปสาเทตฺวา ‘‘คจฺฉ ตฺวํ น มยํ ตํ ชานามา’’ติ อาหํสุ.

๒๙๘. สชฺชิโตติ สพฺพูปกรณสมฺปนฺโน มณฺฑิตปสาธิโต วา.

๓๐๐. ธุตฺตาติ อิตฺถิธุตฺตา. ปริจาเรนฺตาติ มนาปิเยสุ รูปาทีสุ อิโต จิโต จ สมนฺตา อินฺทฺริยานิ จาเรนฺตา, กีฬนฺตา อภิรมนฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อพฺภุตมกํสูติ ยทิ กริสฺสติ ตฺวํ เอตฺตกํ ชิโต, ยทิ น กริสฺสติ อหํ เอตฺตกนฺติ ปณมกํสุ. ภิกฺขูนํ ปน อพฺภุตํ กาตุํ น วฏฺฏติ. โย กโรติ ปราชิเตน ทาตพฺพนฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.

กถฺหิ นาม อยฺโย อุทายี ตงฺขณิกนฺติ เอตฺถ ตงฺขโณติ อจิรกาโล วุจฺจติ. ตงฺขณิกนฺติ อจิรกาลาธิการิกํ.

๓๐๑. สฺจริตฺตํ สมาปชฺเชยฺยาติ สฺจรณภาวํ สมาปชฺเชยฺย. ยสฺมา ปน ตํ สมาปชฺชนฺเตน เกนจิ เปสิเตน กตฺถจิ คนฺตพฺพํ โหติ, ปรโต จ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ อาทิวจนโต อิธ อิตฺถิปุริสา อธิปฺเปตา, ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิตฺถิยา วา ปหิโต ปุริสสฺส สนฺติเก คจฺฉติ, ปุริเสน วา ปหิโต อิตฺถิยา สนฺติเก คจฺฉตี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. อิตฺถิยา วา ปุริสมตึ ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตินฺติ เอตฺถ อาโรเจยฺยาติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุริสสฺส มตึ อิตฺถิยา อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจตี’’ติ วุตฺตํ.

อิทานิ ยทตฺถํ ตํ เตสํ มตึ อธิปฺปายํ อชฺฌาสยํ ฉนฺทํ รุจึ อาโรเจติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชายตฺตเนติ ชายาภาเว. ชารตฺตเนติ ชารภาเว. ปุริสสฺส หิ มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน อาโรเจติ, อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรเจนฺโต ชารตฺตเน อาโรเจติ; อปิจ ปุริสสฺเสว มตึ อิตฺถิยา อาโรเจนฺโต ชายตฺตเน วา อาโรเจติ นิพทฺธภริยาภาเว, ชารตฺตเน วา มิจฺฉาจารภาเว. ยสฺมา ปเนตํ อาโรเจนฺเตน ‘‘ตฺวํ กิรสฺส ชายา ภวิสฺสสี’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ โหติ, ตสฺมา ตํ วตฺตพฺพตาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชายตฺตเน วาติ ชายา ภวิสฺสสิ, ชารตฺตเน วาติ ชารี ภวิสฺสสี’’ติ อสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. เอเตเนว จ อุปาเยน อิตฺถิยา มตึ ปุริสสฺส อาโรจเนปิ ปติ ภวิสฺสสิ, สามิโก ภวิสฺสสิ, ชาโร ภวิสฺสสีติ วตฺตพฺพตากาโร เวทิตพฺโพ.

อนฺตมโส ตงฺขณิกายปีติ สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ยา อยํ ตงฺขเณ มุหุตฺตมตฺเต ปฏิสํวสิตพฺพโต ตงฺขณิกาติ วุจฺจติ, มุหุตฺติกาติ อตฺโถ. ตสฺสาปิ ‘‘มุหุตฺติกา ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสมตึ อาโรเจนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. เอเตเนวุปาเยน ‘‘มุหุตฺติโก ภวิสฺสสี’’ติ เอวํ ปุริสสฺส อิตฺถิมตึ อาโรเจนฺโตปิ สงฺฆาทิเสสํ อาปชฺชตีติ เวทิตพฺโพ.

๓๐๓. อิทานิ ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติ เอตฺถ อธิปฺเปตา อิตฺถิโย ปเภทโต ทสฺเสตฺวา ตาสุ สฺจริตฺตวเสน อาปตฺติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทส อิตฺถิโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ มาตุรกฺขิตาติ มาตรา รกฺขิตา. ยถา ปุริเสน สํวาสํ น กปฺเปติ, เอวํ มาตรา รกฺขิตา, เตนสฺส ปทภาชเนปิ วุตฺตํ – ‘‘มาตา รกฺขติ โคเปติ อิสฺสริยํ กาเรติ วสํ วตฺเตตี’’ติ. ตตฺถ รกฺขตีติ กตฺถจิ คนฺตุํ น เทติ. โคเปตีติ ยถา อฺเ น ปสฺสนฺติ, เอวํ คุตฺตฏฺาเน เปติ. อิสฺสริยํ กาเรตีติ เสริวิหารมสฺสา นิเสเธนฺตี อภิภวิตฺวา ปวตฺตติ. วสํ วตฺเตตีติ ‘‘อิทํ กโรหิ, อิทํ มา อกาสี’’ติ เอวํ อตฺตโน วสํ ตสฺสา อุปริ วตฺเตติ. เอเตนุปาเยน ปิตุรกฺขิตาทโยปิ าตพฺพา. โคตฺตํ วา ธมฺโม วา น รกฺขติ, สโคตฺเตหิ ปน สหธมฺมิเกหิ จ เอกํ สตฺถารํ อุทฺทิสฺส ปพฺพชิเตหิ เอกคณปริยาปนฺเนหิ จ รกฺขิตา ‘‘โคตฺตรกฺขิตา ธมฺมรกฺขิตา’’ติ วุจฺจติ, ตสฺมา เตสํ ปทานํ ‘‘สโคตฺตา รกฺขนฺตี’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ.

สห อารกฺเขนาติ สารกฺขา. สห ปริทณฺเฑนาติ สปริทณฺฑา. ตาสํ นิทฺเทสา ปากฏาว. อิมาสุ ทสสุ ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนเมว ปุริสนฺตรํ คจฺฉนฺตีนํ มิจฺฉาจาโร โหติ, น อิตราสํ.

ธนกฺกีตาทีสุ อปฺเปน วา พหุนา วา ธเนน กีตา ธนกฺกีตา. ยสฺมา ปน สา น กีตมตฺตา เอว สํวาสตฺถาย ปน กีตตฺตา ภริยา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ธเนน กิณิตฺวา วาเสตีติ วุตฺตํ.

ฉนฺเทน อตฺตโน รุจิยา วสตีติ ฉนฺทวาสินี. ยสฺมา ปน สา น อตฺตโน ฉนฺทมตฺเตเนว ภริยา โหติ ปุริเสน ปน สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา, ตสฺมาสฺส นิทฺเทเส ‘‘ปิโย ปิยํ วาเสตี’’ติ วุตฺตํ.

โภเคน วสตีติ โภควาสินี. อุทุกฺขลมุสลาทิฆรูปกรณํ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ คจฺฉนฺติยา ชนปทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.

ปเฏน วสตีติ ปฏวาสินี. นิวาสนมตฺตมฺปิ ปาวุรณมตฺตมฺปิ ลภิตฺวา ภริยาภาวํ อุปคจฺฉนฺติยา ทลิทฺทิตฺถิยา เอตํ อธิวจนํ.

โอทปตฺตกินีติ อุภินฺนํ เอกิสฺสา อุทกปาติยา หตฺเถ โอตาเรตฺวา ‘‘อิทํ อุทกํ วิย สํสฏฺา อเภชฺชา โหถา’’ติ วตฺวา ปริคฺคหิตาย โวหารนามเมตํ, นิทฺเทเสปิสฺส ‘‘ตาย สห อุทกปตฺตํ อามสิตฺวา ตํ วาเสตี’’ติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ.

โอภฏํ โอโรปิตํ จุมฺพฏมสฺสาติ โอภฏจุมฺพฏา, กฏฺหาริกาทีนํ อฺตรา, ยสฺสา สีสโต จุมฺพฏํ โอโรเปตฺวา ฆเร วาเสติ, ตสฺสา เอตํ อธิวจนํ.

ทาสี จาติ อตฺตโนเยว ทาสี จ โหติ ภริยา จ.

กมฺมการี นาม เคเห ภติยา กมฺมํ กโรติ, ตาย สทฺธึ โกจิ ฆราวาสํ กปฺเปติ อตฺตโน ภริยาย อนตฺถิโก หุตฺวา. อยํ วุจฺจติ ‘‘กมฺมการี จ ภริยา จา’’ติ.

ธเชน อาหฏา ธชาหฏา, อุสฺสิตทฺธชาย เสนาย คนฺตฺวา ปรวิสยํ วิลุมฺปิตฺวา อานีตาติ วุตฺตํ โหติ, ตํ โกจิ ภริยํ กโรติ, อยํ ธชาหฏา นาม. มุหุตฺติกา วุตฺตนยาเอว, เอตาสํ ทสนฺนมฺปิ ปุริสนฺตรคมเน มิจฺฉาจาโร โหติ. ปุริสานํ ปน วีสติยาปิ เอตาสุ มิจฺฉาจาโร โหติ, ภิกฺขุโน จ สฺจริตฺตํ โหตีติ.

๓๐๕. อิทานิ ปุริโส ภิกฺขุํ ปหิณตีติอาทีสุ ปฏิคฺคณฺหาตีติ โส ภิกฺขุ ตสฺส ปุริสสฺส ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ มาตุรกฺขิตํ พฺรูหิ, โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ เอวํ วุตฺตวจนํ ‘‘สาธุ อุปาสกา’’ติ วา ‘‘โหตู’’ติ วา ‘‘อาโรเจสฺสามี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน วจีเภทํ กตฺวา วา สีสกมฺปนาทีหิ วา สมฺปฏิจฺฉติ. วีมํสตีติ เอวํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตํ สาสนํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ เตน อาโรจิเต สา อิตฺถี ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา ปฏิกฺขิปตุ วา ลชฺชาย วา ตุณฺหี โหตุ, ปุน อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ.

เอตฺตาวตา อิมาย ปฏิคฺคหณาโรจนปจฺจาหรณสงฺขาตาย ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส โหติ. สา ปน ตสฺส ภริยา โหตุ วา มา วา, อการณเมตํ. สเจ ปน โส มาตุรกฺขิตาย สนฺติกํ เปสิโต ตํ อทิสฺวา ตสฺสา มาตุยา ตํ สาสนํ อาโรเจติ, พหิทฺธา วิมฏฺํ นาม โหติ, ตสฺมา วิสงฺเกตนฺติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน มาตา วา โหตุ ปิตา วา อนฺตมโส เคหทาสีปิ อฺโ วาปิ โย โกจิ ตํ กิริยํ สมฺปาเทสฺสติ, ตสฺส วุตฺเตปิ วิมฏฺํ นาม น โหติ, ติวงฺคสมฺปตฺติกาเล อาปตฺติเยว.

นนุ ยถา ‘‘พุทฺธํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ธมฺมํ ปจฺจกฺขามี’’ติ วเทยฺย ปจฺจกฺขาตาวสฺส สิกฺขา. ยถา วา ‘‘ปมํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วตฺตุกาโม วิรชฺฌิตฺวา ‘‘ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชามี’’ติ วเทยฺย อาปนฺโนวสฺส ปาราชิกํ. เอวํสมฺปทมิทนฺติ อาห. ตํ ปเนตํ ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ, อนฺเตวาสึ วีมํสาเปตฺวา อตฺตนา ปจฺจาหรติ, อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺสา’’ติ อิมินา สเมติ, ตสฺมา สุภาสิตํ.

ยถา จ ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ วุตฺตสฺส คนฺตฺวา ตสฺสา อาโรเจตุํ สมตฺถานํ มาตาทีนมฺปิ วทโต วิสงฺเกโต นตฺถิ, เอวเมว ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ธนกฺกีตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ฉนฺทวาสินี’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตสุ ฉนฺทวาสินิอาทีสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา อวุตฺเตสุปิ ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา ชายา ปชาปติ ปุตฺตมาตา ฆรณี ฆรสามินี ภตฺตรนฺธิกา สุสฺสูสิกา ปริจาริกา’’ติเอวมาทีสุ สํวาสปริทีปเกสุ วจเนสุ อฺตรวเสน วา วทนฺตสฺสาปิ วิสงฺเกโต นตฺถิ ติวงฺคสมฺปตฺติยา อาปตฺติเยว. ‘‘มาตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติ เปสิตสฺส ปน คนฺตฺวา อฺาสุ ปิตุรกฺขิตาทีสุ อฺตรํ วทนฺตสฺส วิสงฺเกตํ. เอส นโย ‘‘ปิตุรกฺขิตํ พฺรูหี’’ติอาทีสุปิ.

เกวลฺเหตฺถ เอกมูลกทุมูลกาทิวเสน ‘‘ปุริสสฺส มาตา ภิกฺขุํ ปหิณติ, มาตุรกฺขิตาย มาตา ภิกฺขุํ ปหิณตี’’ติ เอวมาทีนํ มูลฏฺานฺจ วเสน เปยฺยาลเภโทเยว วิเสโส . โสปิ ปุพฺเพ วุตฺตนยตฺตา ปาฬิอนุสาเรเนว สกฺกา ชานิตุนฺติ นาสฺส วิภาคํ ทสฺเสตุํ อาทรํ กริมฺห.

๓๓๘. ปฏิคฺคณฺหาตีติอาทีสุ ปน ทฺวีสุ จตุกฺเกสุ ปมจตุกฺเก อาทิปเทน ติวงฺคสมฺปตฺติยา สงฺฆาทิเสโส, มชฺเฌ ทฺวีหิ ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเต เอเกน เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ. ทุติยจตุกฺเก อาทิปเทน ทุวงฺคสมฺปตฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, มชฺเฌ ทฺวีหิ เอกงฺคสมฺปตฺติยา ทุกฺกฏํ, อนฺเต เอเกน องฺคาภาวโต อนาปตฺติ. ตตฺถ ปฏิคฺคณฺหาตีติ อาณาปกสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหาติ. วีมํสตีติ ปหิตฏฺานํ คนฺตฺวา ตํ อาโรเจติ. ปจฺจาหรตีติ ปุน อาคนฺตฺวา มูลฏฺสฺส อาโรเจติ.

น ปจฺจาหรตีติ อาโรเจตฺวา เอตฺโตว ปกฺกมติ. ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสตีติ ปุริเสน ‘‘อิตฺถนฺนามํ คนฺตฺวา พฺรูหี’’ติ วุจฺจมาโน ‘‘สาธู’’ติ ตสฺส สาสนํ ปฏิคฺคณฺหิตฺวา ตํ ปมุสฺสิตฺวา วา อปฺปมุสฺสิตฺวา วา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา สนฺติกํ คนฺตฺวา กิฺจิเทว กถํ กเถนฺโต นิสีทติ, เอตฺตาวตา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ นามา’’ติ วุจฺจติ. อถ นํ สา อิตฺถี สยเมว วทติ ‘‘ตุมฺหากํ กิร อุปฏฺาโก มํ เคเห กาตุกาโม’’ติ เอวํ วตฺวา จ ‘‘อหํ ตสฺส ภริยา ภวิสฺสามี’’ติ วา ‘‘น ภวิสฺสามี’’ติ วา วทติ. โส ตสฺสา วจนํ อนภินนฺทิตฺวา อปฺปฏิกฺโกสิตฺวา ตุณฺหีภูโตว อุฏฺายาสนา ตสฺส ปุริสสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา ตํ ปวตฺตึ อาโรเจติ, เอตฺตาวตา ‘‘น วีมํสติ ปจฺจาหรติ นามา’’ติ วุจฺจติ. น วีมํสติ น ปจฺจาหรตีติ เกวลํ สาสนาโรจนกาเล ปฏิคฺคณฺหาติเยว, อิตรํ ปน ทฺวยํ น กโรติ.

น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ ปจฺจาหรตีติ โกจิ ปุริโส ภิกฺขุสฺส ิตฏฺาเน วา นิสินฺนฏฺาเน วา ตถารูปึ กถํ กเถติ, ภิกฺขุ เตน อปฺปหิโตปิ ปหิโต วิย หุตฺวา อิตฺถิยา สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘โหหิ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยา’’ติอาทินา นเยน วีมํสิตฺวา ตสฺสา รุจึ วา อรุจึ วา ปุน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจติ. เตเนว นเยน วีมํสิตฺวา อปจฺจาหรนฺโต ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ วีมํสติ น ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. เตเนว นเยน คโต อวีมํสิตฺวา ตาย สมุฏฺาปิตํ กถํ สุตฺวา ปมจตุกฺกสฺส ตติยปเท วุตฺตนเยน อาคนฺตฺวา อิมสฺส อาโรเจนฺโต ‘‘น ปฏิคฺคณฺหาติ น วีมํสติ ปจฺจาหรตี’’ติ วุจฺจติ. จตุตฺถปทํ ปากฏเมว.

สมฺพหุเล ภิกฺขู อาณาเปตีติอาทินยา ปากฏาเยว. ยถา ปน สมฺพหุลาปิ เอกวตฺถุมฺหิ อาปชฺชนฺติ, เอวํ เอกสฺสปิ สมฺพหุลวตฺถูสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย เวทิตพฺพา. กถํ? ปุริโส ภิกฺขุํ อาณาเปติ ‘‘คจฺฉ, ภนฺเต, อสุกสฺมึ นาม ปาสาเท สฏฺิมตฺตา วา สตฺตติมตฺตา วา อิตฺถิโย ิตา ตา วเทหิ, โหถ กิร อิตฺถนฺนามสฺส ภริยาโย’’ติ. โส สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตตฺถ คนฺตฺวา อาโรเจตฺวา ปุน ตํ สาสนํ ปจฺจาหรติ. ยตฺตกา อิตฺถิโย ตตฺตกา อาปตฺติโย อาปชฺชติ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเรปิ

‘‘ปทวีติหารมตฺเตน, วาจาย ภณิเตน จ;

สพฺพานิ ครุกานิ สปฺปฏิกมฺมานิ;

จตุสฏฺิ อาปตฺติโย อาปชฺเชยฺย เอกโต;

ปฺหาเมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);

อิมํ กิร อตฺถวสํ ปฏิจฺจ อยํ ปฺโห วุตฺโต. วจนสิลิฏฺตาย เจตฺถ ‘‘จตุสฏฺิ อาปตฺติโย’’ติ วุตฺตํ. เอวํ กโรนฺโต ปน สตมฺปิ สหสฺสมฺปิ อาปชฺชตีติ. ยถา จ เอเกน เปสิตสฺส เอกสฺส สมฺพหุลาสุ อิตฺถีสุ สมฺพหุลา อาปตฺติโย, เอวํ เอโก ปุริโส สมฺพหุเล ภิกฺขู เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสติ, สพฺเพสํ สงฺฆาทิเสโส. เอโก สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสติ, อิตฺถิคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา เอกํ ภิกฺขุํ เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, ปุริสคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา เอกํ สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา สมฺพหุเล เอกิสฺสา สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. สมฺพหุลา ปุริสา สมฺพหุเล ภิกฺขู สมฺพหุลานํ อิตฺถีนํ สนฺติกํ เปเสนฺติ, วตฺถุคณนาย สงฺฆาทิเสสา. เอส นโย ‘‘เอกา อิตฺถี เอกํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทีสุปิ. เอตฺถ จ สภาควิภาคตา นาม อปฺปมาณํ, มาตาปิตุนมฺปิ ปฺจสหธมฺมิกานมฺปิ สฺจริตฺตกมฺมํ กโรนฺตสฺส อาปตฺติเยว.

ปุริโสภิกฺขุํ อาณาเปติ คจฺฉ ภนฺเตติ จตุกฺกํ องฺควเสน อาปตฺติเภท ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตสฺส ปจฺฉิมปเท อนฺเตวาสี วีมํสิตฺวา พหิทฺธา ปจฺจาหรตีติ อาคนฺตฺวา อาจริยสฺส อนาโรเจตฺวา เอตฺโตว คนฺตฺวา ตสฺส ปุริสสฺส อาโรเจติ. อาปตฺติ อุภินฺนํ ถุลฺลจฺจยสฺสาติ อาจริยสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา จ วีมํสาปิตตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ, อนฺเตวาสิกสฺส วีมํสิตตฺตา จ ปจฺจาหฏตฺตา จ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. เสสํ ปากฏเมว.

๓๓๙. คจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ ปฏิคฺคณฺหาติ เจว วีมํสติ จ. อาคจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปจฺจาหรติ. คจฺฉนฺโต วิสํวาเทตีติ น ปฏิคฺคณฺหาติ. อาคจฺฉนฺโต สมฺปาเทตีติ วีมํสติ เจว ปจฺจาหรติ จ. เอวํ อุภยตฺถ ทฺวีหงฺเคหิ ถุลฺลจฺจยํ. ตติยปเท อาปตฺติ, จตุตฺเถ อนาปตฺติ.

๓๔๐. อนาปตฺติ สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา คิลานสฺส วา กรณีเยน คจฺฉติ อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกสฺสาติ เอตฺถ ภิกฺขุสงฺฆสฺส อุโปสถาคารํ วา กิฺจิ วา วิปฺปกตํ โหติ. ตตฺถ การุกานํ ภตฺตเวตนตฺถาย อุปาสโก วา อุปาสิกาย สนฺติกํ ภิกฺขุํ ปหิเณยฺย, อุํปาสิกา วา อุปาสกสฺส, เอวรูเปน สงฺฆสฺส กรณีเยน คจฺฉนฺตสฺส อนาปตฺติ. เจติยกมฺเม กยิรมาเนปิ เอเสว นโย. คิลานสฺส เภสชฺชตฺถายปิ อุปาสเกน วา อุปาสิกาย สนฺติกํ อุปาสิกาย วา อุปาสกสฺส สนฺติกํ ปหิตสฺส คจฺฉโต อนาปตฺติ. อุมฺมตฺตกอาทิกมฺมิกา วุตฺตนยา เอว.

ปทภาชนียวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ ฉสมุฏฺานํ, สีสุกฺขิปนาทินา กายวิกาเรน สาสนํ คเหตฺวา คนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย วีมํสิตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา หตฺถมุทฺทาย เอว อาโรเจนฺตสฺส กายโต สมุฏฺาติ. อาสนสาลาย นิสินฺนสฺส ‘‘อิตฺถนฺนามา อาคมิสฺสติ, ตสฺสา จิตฺตํ ชาเนยฺยาถา’’ติ เกนจิ วุตฺเต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ อาคตํ วตฺวา ตสฺสา คตาย ปุน ตสฺมึ ปุริเส อาคเต อาโรเจนฺตสฺส วาจโต สมุฏฺาติ. วาจาย ‘‘สาธู’’ติ สาสนํ คเหตฺวา อฺเน กรณีเยน ตสฺสา ฆรํ คนฺตฺวา อฺตฺถ วา คมนกาเล ตํ ทิสฺวา วจีเภเทเนว วีมํสิตฺวา ปุน อฺเเนว กรณีเยน ตโต อปกฺกมฺม กทาจิเทว ตํ ปุริสํ ทิสฺวา อาโรเจนฺตสฺสาปิ วาจโตว สมุฏฺาติ. ปณฺณตฺตึ อชานนฺตสฺส ปน ขีณาสวสฺสาปิ กายวาจโต สมุฏฺาติ. กถํ? สเจ หิสฺส มาตาปิตโร กุชฺฌิตฺวา อลํวจนียา โหนฺติ, ตฺจ ภิกฺขุํ ฆรํ อุปคตํ เถรปิตา วทติ ‘‘มาตา เต ตาต มํ มหลฺลกํ ฉฑฺเฑตฺวา าติกุลํ คตา, คจฺฉ ตํ มํ อุปฏฺาตุํ เปเสหี’’ติ. โส เจ คนฺตฺวา ตํ วตฺวา ปุน ปิตุโน ตสฺสา อาคมนํ วา อนาคมนํ วา อาโรเจติ, สงฺฆาทิเสโส. อิมานิ ตีณิ อจิตฺตกสมุฏฺานานิ.

ปณฺณตฺตึ ปน ชานิตฺวา เอเตเหว ตีหิ นเยหิ สฺจริตฺตํ สมาปชฺชโต กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. อิมานิ ตีณิ ปณฺณตฺติชานนจิตฺเตน สจิตฺตกสมุฏฺานานิ. กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, กุสลาทิวเสน เจตฺถ ตีณิ จิตฺตานิ, สุขาทิวเสน ติสฺโส เวทนาติ.

๓๔๑. วินีตวตฺถูสุ อาทิโต วตฺถุปฺจเก ปฏิคฺคหิตมตฺตตฺตา ทุกฺกฏํ.

กลหวตฺถุสฺมึ สมฺโมทนียํ อกาสีติ ตํ สฺาเปตฺวา ปุน เคหคมนียํ

อกาสิ. นาลํวจนียาติ น ปริจฺจตฺตาติ อตฺโถ. ยา หิ ยถา ยถา เยสุ เยสุ ชนปเทสุ ปริจฺจตฺตา ปริจฺจตฺตาว โหติ, ภริยาภาวํ อติกฺกมติ, อยํ ‘‘อลํวจนียา’’ติ วุจฺจติ. เอสา ปน น อลํวจนียา เกนจิเทว การเณน กลหํ กตฺวา คตา, เตเนเวตฺถ ภควา ‘‘อนาปตฺตี’’ติ อาห. ยสฺมา ปน กายสํสคฺเค ยกฺขิยา ถุลฺลจฺจยํ วุตฺตํ, ตสฺมา ทุฏฺุลฺลาทีสุปิ ยกฺขิเปติโย ถุลฺลจฺจยวตฺถุเมวาติ เวทิตพฺพา. อฏฺกถาสุ ปเนตํ น วิจาริตํ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.

สฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๔๒. เตน สมเยนาติ กุฏิการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อาฬวกาติ อาฬวิรฏฺเ ชาตา ทารกา อาฬวกา นาม, เต ปพฺพชิตกาเลปิ ‘‘อาฬวกา’’ตฺเวว ปฺายึสุ. เต สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อาฬวกา ภิกฺขู’’ติ. สฺาจิกาโยติ สยํ ยาจิตฺวา คหิตูปกรณาโย. การาเปนฺตีติ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, เต กิร สาสเน วิปสฺสนาธุรฺจ คนฺถธุรฺจาติ ทฺเวปิ ธุรานิ ฉฑฺเฑตฺวา นวกมฺมเมว ธุรํ กตฺวา ปคฺคณฺหึสุ. อสฺสามิกาโยติ อนิสฺสราโย, กาเรตา ทายเกน วิรหิตาโยติ อตฺโถ. อตฺตุทฺเทสิกาโยติ อตฺตานํ อุทฺทิสฺส อตฺตโน อตฺถาย อารทฺธาโยติ อตฺโถ. อปฺปมาณิกาโยติ ‘‘เอตฺตเกน นิฏฺํ คจฺฉิสฺสนฺตี’’ติ เอวํ อปริจฺฉินฺนปฺปมาณาโย, วุทฺธิปฺปมาณาโย วา มหนฺตปฺปมาณาโยติ อตฺโถ.

ยาจนา เอว พหุลา เอเตสํ มนฺทํ อฺํ กมฺมนฺติ ยาจนพหุลา. เอวํ วิฺตฺติพหุลา เวทิตพฺพา. อตฺถโต ปเนตฺถ นานากรณํ นตฺถิ, อเนกกฺขตฺตุํ ‘‘ปุริสํ เทถ, ปุริสตฺถกรํ เทถา’’ติ ยาจนฺตานเมตํ อธิวจนํ. ตตฺถ มูลจฺเฉชฺชาย ปุริสํ ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, สหายตฺถาย กมฺมกรณตฺถาย ‘‘ปุริสํ เทถา’’ติ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. ปุริสตฺถกรนฺติ ปุริเสน กาตพฺพํ หตฺถกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมํ นาม กิฺจิ วตฺถุ น โหติ, ตสฺมา เปตฺวา มิคลุทฺทกมจฺฉพนฺธกาทีนํ สกกมฺมํ อวเสสํ สพฺพํ กปฺปิยํ. ‘‘กึ, ภนฺเต, อาคตตฺถ เกน กมฺม’’นฺติ ปุจฺฉิเต วา อปุจฺฉิเต วา ยาจิตุํ วฏฺฏติ, วิฺตฺติปจฺจยา โทโส นตฺถิ. ตสฺมา มิคลุทฺทกาทโย สกกมฺมํ น ยาจิตพฺพา, ‘‘หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ อนิยเมตฺวาปิ น ยาจิตพฺพา; เอวํ ยาจิตา หิ เต ‘‘สาธุ, ภนฺเต’’ติ ภิกฺขู อุยฺโยเชตฺวา มิเคปิ มาเรตฺวา อาหเรยฺยุํ. นิยเมตฺวา ปน ‘‘วิหาเร กิฺจิ กตฺตพฺพํ อตฺถิ, ตตฺถ หตฺถกมฺมํ เทถา’’ติ ยาจิตพฺพา. ผาลนงฺคลาทีนิ อุปกรณานิ คเหตฺวา กสิตุํ วา วปิตุํ วา ลายิตุํ วา คจฺฉนฺตํ สกิจฺจปสุตมฺปิ กสฺสกํ วา อฺํ วา กิฺจิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏเตว. โย ปน วิฆาสาโท วา อฺโ วา โกจิ นิกฺกมฺโม นิรตฺถกกถํ กเถนฺโต นิทฺทายนฺโต วา วิหรติ, เอวรูปํ อยาจิตฺวาปิ ‘‘เอหิ เร อิทํ วา อิทํ วา กโรหี’’ติ ยทิจฺฉกํ การาเปตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมสฺส ปน สพฺพกปฺปิยภาวทีปนตฺถํ อิมํ นยํ กเถนฺติ. สเจ หิ ภิกฺขุ ปาสาทํ กาเรตุกาโม โหติ, ถมฺภตฺถาย ปาสาณโกฏฺฏกานํ ฆรํ คนฺตฺวา วตฺตพฺพํ ‘‘หตฺถกมฺมํ ลทฺธุํ วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ. กึ กาตพฺพํ, ภนฺเต,ติ? ปาสาณตฺถมฺภา อุทฺธริตฺวา ทาตพฺพาติ. สเจ เต อุทฺธริตฺวา วา เทนฺติ, อุทฺธริตฺวา นิกฺขิตฺเต อตฺตโน ถมฺเภ วา เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถาปิ วทนฺติ – ‘‘อมฺหากํ, ภนฺเต, หตฺถกมฺมํ กาตุํ ขโณ นตฺถิ, อฺํ อุทฺธราเปถ, ตสฺส มูลํ ทสฺสามา’’ติ อุทฺธราเปตฺวา ‘‘ปาสาณตฺถมฺเภ อุทฺธฏมนุสฺสานํ มูลํ เทถา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เอเตเนวุปาเยน ปาสาททารูนํ อตฺถาย วฑฺฒกีนํ สนฺติกํ อิฏฺกตฺถาย อิฏฺกวฑฺฒกีนํ ฉทนตฺถาย เคหจฺฉาทกานํ จิตฺตกมฺมตฺถาย จิตฺตการานนฺติ เยน เยน อตฺโถ โหติ, ตสฺส ตสฺส อตฺถาย เตสํ เตสํ สิปฺปการกานํ สนฺติกํ คนฺตฺวา หตฺถกมฺมํ ยาจิตุํ วฏฺฏติ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตุํ วฏฺฏติ. อรฺโต อาหราเปนฺเตน จ สพฺพํ อนชฺฌาวุตฺถกํ อาหราเปตพฺพํ.

น เกวลฺจ ปาสาทํ กาเรตุกาเมน มฺจปีปตฺตปริสฺสาวนธมกรกจีวราทีนิ การาเปตุกาเมนาปิ ทารุโลหสุตฺตาทีนิ ลภิตฺวา เต เต สิปฺปการเก อุปสงฺกมิตฺวา วุตฺตนเยเนว หตฺถกมฺมํ ยาจิตพฺพํ. หตฺถกมฺมยาจนวเสน จ มูลจฺเฉชฺชาย วา ภตฺตเวตนานุปฺปทาเนน วา ลทฺธมฺปิ สพฺพํ คเหตพฺพํ. สเจ ปน กาตุํ น อิจฺฉนฺติ, ภตฺตเวตนํ ปจฺจาสีสนฺติ, อกปฺปิยกหาปณาทิ น ทาตพฺพํ. ภิกฺขาจารวตฺเตน ตณฺฑุลาทีนิ ปริเยสิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ.

หตฺถกมฺมวเสน ปตฺตํ กาเรตฺวา ตเถว ปาเจตฺวา นวปกฺกสฺส ปตฺตสฺส ปุฺฉนเตลตฺถาย อนฺโตคามํ ปวิฏฺเน ‘‘ภิกฺขาย อาคโต’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา ยาคุยา วา ภตฺเต วา อานีเต หตฺเถน ปตฺโต ปิธาตพฺโพ. สเจ อุปาสิกา ‘‘กึ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉติ, ‘‘นวปกฺโก ปตฺโต ปุฺฉนเตเลน อตฺโถ’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ สา ‘‘เทหิ, ภนฺเต’’ติ ปตฺตํ คเหตฺวา เตเลน ปุฺฉิตฺวา ยาคุยา วา ภตฺตสฺส วา ปูเรตฺวา เทติ, วิฺตฺติ นาม น โหติ, คเหตุํ วฏฺฏตีติ.

ภิกฺขู ปเคว ปิณฺฑาย จริตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา อาสนํ อปสฺสนฺตา ติฏฺนฺติ. ตตฺร เจ อุปาสกา ภิกฺขู ิเต ทิสฺวา สยเมว อาสนานิ อาหราเปนฺติ, นิสีทิตฺวา คจฺฉนฺเตหิ อาปุจฺฉิตฺวา คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานมฺปิ นฏฺํ คีวา น โหติ, อาปุจฺฉิตฺวา คมนํ ปน วตฺตํ. สเจ ภิกฺขูหิ ‘‘อาสนานิ อาหรถา’’ติ วุตฺเตหิ อาหฏานิ โหนฺติ, อาปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ. อนาปุจฺฉา คตานํ วตฺตเภโท จ นฏฺฺจ คีวาติ. อตฺถรณโกชวาทีสุปิ เอเสว นโย.

มกฺขิกาโย พหุกา โหนฺติ, ‘‘มกฺขิกาพีชนึ อาหรถา’’ติ วตฺตพฺพํ. ปุจิมนฺทสาขาทีนิ อาหรนฺติ, กปฺปิยํ การาเปตฺวา ปฏิคฺคเหตพฺพานิ. อาสนสาลาย อุทกภาชนํ ริตฺตํ โหติ, ‘‘ธมกรณํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. ธมกรกฺหิ ริตฺตภาชเน ปกฺขิปนฺโต ภินฺเทยฺย ‘‘นทึ วา ตฬากํ วา คนฺตฺวา ปน อุทกํ อาหรา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘เคหโต อาหรา’’ติ เนว วตฺตุํ วฏฺฏติ, น อาหฏํ ปริภุฺชิตพฺพํ. อาสนสาลายํ วา อรฺเก วา ภตฺตกิจฺจํ กโรนฺเตหิ ตตฺถชาตกํ อนชฺฌาวุตฺถกํ ยํกิฺจิ อุตฺตริภงฺคารหํ ปตฺตํ วา ผลํ วา สเจ กิฺจิ กมฺมํ กโรนฺตํ อาหราเปติ, หตฺถกมฺมวเสน อาหราเปตฺวา ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ. อลชฺชีหิ ปน ภิกฺขูหิ วา สามเณเรหิ วา หตฺถกมฺมํ น กาเรตพฺพํ. อยํ ตาว ปุริสตฺถกเร นโย.

โคณํ ปน อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต อาหราเปตุํ น วฏฺฏติ, อาหราเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. าติปวาริตฏฺานโตปิ มูลจฺเฉชฺชาย ยาจิตุํ น วฏฺฏติ, ตาวกาลิกนเยน สพฺพตฺถ วฏฺฏติ. เอวํ อาหราปิตฺจ โคณํ รกฺขิตฺวา ชคฺคิตฺวา สามิกา ปฏิจฺฉาเปตพฺพา. สจสฺส ปาโท วา สิงฺคํ วา ภิชฺชติ วา นสฺสติ วา สามิกา เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, คีวา โหติ. สเจ ‘‘ตุมฺหากํเยว เทมา’’ติ วทนฺติ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. ‘‘วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปน ‘‘อารามิกานํ อาจิกฺขถ ชคฺคนตฺถายา’’ติ วตฺตพฺพํ.

‘‘สกฏํ เทถา’’ติปิ อฺาตกอปฺปวาริเต วตฺตุํ น วฏฺฏติ, วิฺตฺติเอว โหติ ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. าติปวาริตฏฺาเน ปน วฏฺฏติ, ตาวกาลิกํ วฏฺฏติ กมฺมํ กตฺวา ปุน ทาตพฺพํ. สเจ เนมิยาทีนิ ภิชฺชนฺติ ปากติกานิ กตฺวา ทาตพฺพํ. นฏฺเ คีวา โหติ. ‘‘ตุมฺหากเมว เทมา’’ติ วุตฺเต ทารุภณฺฑํ นาม สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ. เอส นโย วาสิผรสุกุารีกุทาลนิขาทเนสุ. วลฺลิอาทีสุ จ ปรปริคฺคหิเตสุ. ครุภณฺฑปฺปโหนเกสุเยว จ วลฺลิอาทีสุ วิฺตฺติ โหติ, น ตโต โอรํ.

อนชฺฌาวุตฺถกํ ปน ยํกิฺจิ อาหราเปตุํ วฏฺฏติ. รกฺขิตโคปิตฏฺาเนเยว หิ วิฺตฺติ นาม วุจฺจติ. สา ทฺวีสุ ปจฺจเยสุ สพฺเพน สพฺพํ น วฏฺฏติ, เสนาสนปจฺจเย ปน ‘‘อาหร เทหี’’ติ วิฺตฺติมตฺตเมว น วฏฺฏติ , ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติ. ตตฺถ อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา อฺํ วา ยํกิฺจิ เสนาสนํ อิจฺฉโต ‘‘อิมสฺมึ วต โอกาเส เอวรูปํ เสนาสนํ กาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วา ‘‘ยุตฺต’’นฺติ วา ‘‘อนุรูป’’นฺติ วาติอาทินา นเยน วจนํ ปริกถา นาม. ‘‘อุปาสกา ตุมฺเห กุหึ วสถา’’ติ? ‘‘ปาสาเท, ภนฺเต’’ติ. ‘‘กึ ภิกฺขูนํ ปน อุปาสกา ปาสาโท น วฏฺฏตี’’ติ เอวมาทิวจนํ โอภาโส นาม. มนุสฺเส ทิสฺวา รชฺชุํ ปสาเรติ, ขีเล อาโกฏาเปติ. ‘‘กึ อิทํ, ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อิธ อาวาสํ กริสฺสามา’’ติ เอวมาทิกรณํ ปน นิมิตฺตกมฺมํ นาม. คิลานปจฺจเย ปน วิฺตฺติปิ วฏฺฏติ, ปเคว ปริกถาทีนิ.

มนุสฺสา อุปทฺทุตา ยาจนาย อุปทฺทุตา วิฺตฺติยาติ เตสํ ภิกฺขูนํ ตาย ยาจนาย จ วิฺตฺติยา จ ปีฬิตา. อุพฺพิชฺชนฺติปีติ ‘‘กึ นุ อาหราเปสฺสนฺตี’’ติ อุพฺเพคํ อิฺชนํ จลนํ ปฏิลภนฺติ. อุตฺตสนฺติปีติ อหึ วิย ทิสฺวา สหสา ตสิตฺวา อุกฺกมนฺติ. ปลายนฺติปีติ ทูรโตว เยน วา เตน วา ปลายนฺติ. อฺเนปิ คจฺฉนฺตีติ ยํ มคฺคํ ปฏิปนฺนา ตํ ปหาย นิวตฺติตฺวา วามํ วา ทกฺขิณํ วา คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทฺวารมฺปิ ถเกนฺติ.

๓๔๔. ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเวติ อิติ ภควา เต ภิกฺขู ครหิตฺวา ตทนุรูปฺจ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ปุนปิ วิฺตฺติยา โทสํ ปากฏํ กุรุมาโน อิมินา ‘‘ภูตปุพฺพํ ภิกฺขเว’’ติอาทินา นเยน ตีณิ วตฺถูนิ ทสฺเสสิ. ตตฺถ มณิกณฺโติ โส กิร นาคราชา สพฺพกามททํ มหคฺฆํ มณึ กณฺเ ปิลนฺธิตฺวา จรติ, ตสฺมา ‘‘มณิกณฺโ’’ ตฺเวว ปฺายิตฺถ. อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสีติ โส กิร เตสํ ทฺวินฺนํ อิสีนํ กนิฏฺโ อิสิ เมตฺตาวิหารี อโหสิ, ตสฺมา นาคราชา นทิโต อุตฺตริตฺวา เทววณฺณํ นิมฺมินิตฺวา ตสฺส สนฺติเก นิสีทิตฺวา สมฺโมทนียํ กถํ กตฺวา ตํ เทววณฺณํ ปหาย สกวณฺณเมว อุปคนฺตฺวา ตํ อิสึ ปริกฺขิปิตฺวา ปสนฺนาการํ กโรนฺโต อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา ฉตฺตํ วิย ธารยมาโน มุหุตฺตํ ตฺวา ปกฺกมติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺาสี’’ติ. มณิมสฺส กณฺเ ปิลนฺธนนฺติ มณึ อสฺส กณฺเ ปิลนฺธิตํ, อามุกฺกนฺติ อตฺโถ. เอกมนฺตํ อฏฺาสีติ เตน เทววณฺเณน อาคนฺตฺวา ตาปเสน สทฺธึ สมฺโมทมาโน เอกสฺมึ ปเทเส อฏฺาสิ.

มมนฺนปานนฺติ มม อนฺนฺจ ปานฺจ. วิปุลนฺติ พหุลํ. อุฬารนฺติ ปณีตํ . อติยาจโกสีติ อติวิย ยาจโก, อสิ ปุนปฺปุนํ ยาจสีติ วุตฺตํ โหติ. สุสูติ ตรุโณ, ถามสมฺปนฺโน โยพฺพนปฺปตฺตปุริโส. สกฺขรา วุจฺจติ กาฬสิลา, ตตฺถ โธโต อสิ ‘‘สกฺขรโธโต นามา’’ติ วุจฺจติ, สกฺขรโธโต ปาณิมฺหิ อสฺสาติ สกฺขรโธตปาณิ, ปาสาเณ โธตนิสิตขคฺคหตฺโถติ อตฺโถ. ยถา โส อสิหตฺโถ ปุริโส ตาเสยฺย, เอวํ ตาเสสิ มํ เสลํ ยาจมาโน, มณึ ยาจนฺโตติ อตฺโถ.

น ตํ ยาเจติ ตํ น ยาเจยฺย. กตรํ? ยสฺส ปิยํ ชิคีเสติ ยํ อสฺส สตฺตสฺส ปิยนฺติ ชาเนยฺย.

กิมงฺคํ ปน มนุสฺสภูตานนฺติ มนุสฺสภูตานํ อมนาปาติ กิเมเวตฺถ วตฺตพฺพํ.

๓๔๕. สกุณสงฺฆสฺส สทฺเทน อุพฺพาฬฺโหติ โส กิร สกุณสงฺโฆ ปมยามฺจ ปจฺฉิมยามฺจ นิรนฺตรํ สทฺทเมว กโรติ, โส ภิกฺขุ เตน สทฺเทน ปีฬิโต หุตฺวา ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตนาห – ‘‘เยนาหํ เตนุปสงฺกมี’’ติ.

กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสีติ เอตฺถ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ วตฺตมานสมีเป ปน เอวํ วตฺตุํ ลพฺภติ. เตนาห – ‘‘กุโต จ ตฺวํ ภิกฺขุ อาคจฺฉสี’’ติ, กุโต อาคโตสีติ อตฺโถ. ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามีติ เอตฺถาปิ โส เอว นโย. อุพฺพาฬฺโหติ ปีฬิโต, อุกฺกณฺาปิโต หุตฺวาติ อตฺโถ.

โส สกุณสงฺโฆ ‘‘ภิกฺขุ ปตฺตํ ยาจตี’’ติ เอตฺถ น เต สกุณา ภิกฺขุโน วจนํ ชานนฺติ, ภควา ปน อตฺตโน อานุภาเวน ยถา ชานนฺติ ตถา อกาสิ.

๓๔๖. อปาหํ เต น ชานามีติ อปิ อหํ เต ชเน ‘‘เก วา อิเม, กสฺส วา อิเม’’ติ น ชานามิ. สงฺคมฺม ยาจนฺตีติ สมาคนฺตฺวา วคฺควคฺคา หุตฺวา ยาจนฺติ. ยาจโก อปฺปิโย โหตีติ โย ยาจติ โส อปฺปิโย โหติ. ยาจํ อททมปฺปิโยติ ยาจนฺติ ยาจิตํ วุจฺจติ, ยาจิตมตฺถํ อททนฺโตปิ อปฺปิโย โหติ. อถ วา ยาจนฺติ ยาจนฺตสฺส, อททมปฺปิโยติ อเทนฺโต อปฺปิโย โหติ. มา เม วิเทสฺสนา อหูติ มา เม อปฺปิยภาโว อหุ, อหํ วา ตว, ตฺวํ วา มม วิเทสฺโส อปฺปิโย มา อโหสีติ อตฺโถ.

๓๔๗. ทุสฺสํหรานีติ กสิโครกฺขาทีหิ อุปาเยหิ ทุกฺเขน สํหรณียานิ.

๓๔๘-๙. สฺาจิกาย ปน ภิกฺขุนาติ เอตฺถ สฺาจิกา นาม สยํ ปวตฺติตยาจนา วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘สฺาจิกายา’’ติ อตฺตโน ยาจนายาติ วุตฺตํ โหติ, สยํ ยาจิตเกหิ อุปกรเณหีติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน สา สยํยาจิตเกหิ กยิรมานา สยํ ยาจิตฺวา กยิรมานา โหติ, ตสฺมา ตํ อตฺถปริยายํ ทสฺเสตุํ ‘‘สยํ ยาจิตฺวา ปุริสมฺปี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.

อุลฺลิตฺตาติ อนฺโตลิตฺตา. อวลิตฺตาติ พหิลิตฺตา. อุลฺลิตฺตาวลิตฺตาติ อนฺตรพาหิรลิตฺตาติ วุตฺตํ โหติ.

การยมาเนนาติ อิมสฺส ปทภาชเน ‘‘การาเปนฺเตนา’’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพํ สิยา, เอวฺหิ พฺยฺชนํ สเมติ. ยสฺมา ปน สฺาจิกาย กุฏึ กโรนฺเตนาปิ อิธ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา กโรนฺโต วา โหตุ การาเปนฺโต วา อุโภเปเต ‘‘การยมาเนนา’’ติ อิมินาว ปเทน สงฺคหิตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘กโรนฺโต วา การาเปนฺโต วา’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ปน กโรนฺเตน วา การาเปนฺเตน วาติ วเทยฺย, พฺยฺชนํ วิโลมิตํ ภเวยฺย, น หิ การาเปนฺโต กโรนฺโต นาม โหติ, ตสฺมา อตฺถมตฺตเมเวตฺถ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อตฺตุทฺเทสนฺติ ‘‘มยฺหํ เอสา’’ติ เอวํ อตฺตา อุทฺเทโส อสฺสาติ อตฺตุทฺเทสา, ตํ อตฺตุทฺเทสํ. ยสฺมา ปน ยสฺสา อตฺตา อุทฺเทโส สา อตฺตโน อตฺถาย โหติ, ตสฺมา อตฺถปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺตุทฺเทสนฺติ อตฺตโน อตฺถายา’’ติ อาห. ปมาณิกา กาเรตพฺพาติ ปมาณยุตฺตา กาเรตพฺพา. ตตฺริทํ ปมาณนฺติ ตสฺสา กุฏิยา อิทํ ปมาณํ. สุคตวิทตฺถิยาติ สุคตวิทตฺถิ นาม อิทานิ มชฺฌิมสฺส ปุริสสฺส ติสฺโส วิทตฺถิโย วฑฺฒกีหตฺเถน ทิยฑฺโฒ หตฺโถ โหติ. พาหิริเมน มาเนนาติ กุฏิยา พหิกุฏฺฏมาเนน ทฺวาทส วิทตฺถิโย, มินนฺเตน ปน สพฺพปมํ ทินฺโน มหามตฺติกปริยนฺโต น คเหตพฺโพ. ถุสปิณฺฑปริยนฺเตน มินิตพฺพํ. ถุสปิณฺฑสฺสอุปริ เสตกมฺมํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ถุสปิณฺเฑน อนตฺถิโก มหามตฺติกาย เอว นิฏฺาเปติ, มหามตฺติกาว ปริจฺเฉโท.

ติริยนฺติ วิตฺถารโต. สตฺตาติ สตฺต สุคตวิทตฺถิโย. อนฺตราติ อิมสฺส ปน อยํ นิทฺเทโส , ‘‘อพฺภนฺตริเมน มาเนนา’’ติ, กุฏฺฏสฺส พหิ อนฺตํ อคฺคเหตฺวา อพฺภนฺตริเมน อนฺเตน มินิยมาเน ติริยํ สตฺต สุคตวิทตฺถิโย ปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ.

โย ปน เลสํ โอฑฺเฑนฺโต ยถาวุตฺตปฺปมาณเมว กริสฺสามีติ ทีฆโต เอกาทส วิทตฺถิโย ติริยํ อฏฺ วิทตฺถิโย, ทีฆโต วา เตรส วิทตฺถิโย ติริยํ ฉ วิทตฺถิโย กเรยฺย, น วฏฺฏติ. เอกโตภาเคน อติกฺกนฺตมฺปิ หิ ปมาณํ อติกฺกนฺตเมว โหติ. ติฏฺตุ วิทตฺถิ, เกสคฺคมตฺตมฺปิ ทีฆโต วา หาเปตฺวา ติริยํ ติริยโต วา หาเปตฺวา ทีฆํ วฑฺเฒตุํ น วฏฺฏติ, โก ปน วาโท อุภโต วฑฺฒเน? วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อายามโต วา วิตฺถารโต วา อนฺตมโส เกสคฺคมตฺตมฺปิ อติกฺกมิตฺวา กโรติ วา การาเปติ วา ปโยเค ทุกฺกฏ’’นฺติอาทิ (ปารา. ๓๕๓). ยถาวุตฺตปฺปมาณา เอว ปน วฏฺฏติ. ยา ปน ทีฆโต สฏฺิหตฺถาปิ โหติ ติริยํ ติหตฺถา วา อูนกจตุหตฺถา วา ยตฺถ ปมาณยุตฺโต มฺโจ อิโต จิโต จ น ปริวตฺตติ, อยํ กุฏีติ สงฺขฺยํ น คจฺฉติ, ตสฺมา อยมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ปจฺฉิมโกฏิยา จตุหตฺถวิตฺถารา วุตฺตา, ตโต เหฏฺา อกุฏิ. ปมาณิกาปิ ปน อเทสิตวตฺถุกา วา สารมฺภา วา อปริกฺกมนา วา น วฏฺฏติ. ปมาณิกา เทสิตวตฺถุกา อนารมฺภา สปริกฺกมนาว วฏฺฏติ. ปมาณโต อูนตรมฺปิ จตุหตฺถํ ปฺจหตฺถมฺปิ กโรนฺเตน เทสิตวตฺถุกาว กาเรตพฺพา. ปมาณาติกฺกนฺตฺจ ปน กโรนฺโต เลปปริโยสาเน ครุกํ อาปตฺตึ อาปชฺชติ.

ตตฺถ เลโป จ อเลโป จ เลโปกาโส จ อเลโปกาโส จ เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – เลโปติ ทฺเว เลปา – มตฺติกาเลโป จ สุธาเลโป จ. เปตฺวา ปน อิเม ทฺเว เลเป อวเสโส ภสฺมโคมยาทิเภโท เลโป, อเลโป. สเจปิ กลลเลโป โหติ, อลโป เอว. เลโปกาโสติ ภิตฺติโย เจว ฉทนฺจ, เปตฺวา ปน ภิตฺติจฺฉทเน อวเสโส ถมฺภตุลาปิฏฺสงฺฆาฏวาตปานธูมจฺฉิทฺทาทิ อเลปารโห โอกาโส สพฺโพปิ อเลโปกาโสติ เวทิตพฺโพ.

ภิกฺขู อภิเนตพฺพา วตฺถุเทสนายาติ ยสฺมึ าเน กุฏึ กาเรตุกาโม โหติ, ตตฺถ วตฺถุเทสนตฺถาย ภิกฺขู เนตพฺพา. เตน กุฏิการเกนาติอาทิ ปน เยน วิธินา เต ภิกฺขู อภิเนตพฺพา, ตสฺส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ กุฏิวตฺถุํ โสเธตฺวาติ น วิสมํ อรฺํ ภิกฺขู คเหตฺวา คนฺตพฺพํ , กุฏิวตฺถุํ ปน ปมเมว โสเธตฺวา สมตลํ สีมมณฺฑลสทิสํ กตฺวา ปจฺฉา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา เนตพฺพาติ ทสฺเสติ. เอวมสฺส วจนีโยติ สงฺโฆ เอวํ วตฺตพฺโพ อสฺส. ปรโต ปน ‘‘ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพา’’ติ ภิกฺขู สนฺธาย พหุวจนํ วุตฺตํ. โน เจ สพฺโพ สงฺโฆ อุสฺสหตีติ สเจ สพฺโพ สงฺโฆ น อิจฺฉติ, สชฺฌายมนสิการาทีสุ อุยฺยุตฺตา เต เต ภิกฺขู โหนฺติ. สารมฺภํ อนารมฺภนฺติ สอุปทฺทวํ อนุปทฺทวํ. สปริกฺกมนํ อปริกฺกมนนฺติ สอุปจารํ อนุปจารํ.

ปตฺตกลฺลนฺติ ปตฺโต กาโล อิมสฺส โอโลกนสฺสาติ ปตฺตกาลํ, ปตฺตกาลเมว ปตฺตกลฺลํ. อิทฺจ วตฺถุํโอโลกนตฺถาย สมฺมุติกมฺมํ อนุสาวนานเยน โอโลเกตฺวาปิ กาตุํ วฏฺฏติ. ปรโต ปน วตฺถุเทสนากมฺมํ ยถาวุตฺตาย เอว ตฺติยา จ อนุสาวนาย จ กาตพฺพํ, โอโลเกตฺวา กาตุํ น วฏฺฏติ.

๓๕๓. กิปิลฺลิกานนฺติ รตฺตกาฬปิงฺคลาทิเภทานํ ยาสํ กาสฺจิ กิปิลฺลิกานํ. กิปีลฺลกานนฺติปิ ปาโ. อาสโยติ นิพทฺธวสนฏฺานํ, ยถา จ กิปิลฺลิกานํ เอวํ อุปจิกาทีนมฺปิ นิพทฺธวสนฏฺานํเยว อาสโย เวทิตพฺโพ. ยตฺถ ปน เต โคจรตฺถาย อาคนฺตฺวา คจฺฉนฺติ, สพฺเพสมฺปิ ตาทิโส สฺจรณปฺปเทโส อวาริโต, ตสฺมา ตตฺถ อปเนตฺวา โสเธตฺวา กาตุํ วฏฺฏติ. อิมานิ ตาว ฉ านานิสตฺตานุทฺทยาย ปฏิกฺขิตฺตานิ.

หตฺถีนํ วาติ หตฺถีนํ ปน นิพทฺธวสนฏฺานมฺปิ นิพทฺธโคจรฏฺานมฺปิ น วฏฺฏติ, สีหาทีนํ อาสโย จ โคจราย ปกฺกมนฺตานํ นิพทฺธคมนมคฺโค จ น วฏฺฏติ. เอเตสํ โคจรภูมิ น คหิตา. เยสํ เกสฺจีติ อฺเสมฺปิ วาฬานํ ติรจฺฉานคตานํ . อิมานิ สตฺต านานิ สปฺปฏิภยานิ ภิกฺขูนํ อาโรคฺยตฺถาย ปฏิกฺขิตฺตานิ. เสสานิ นานาอุปทฺทเวหิ สอุปทฺทวานิ. ตตฺถ ปุพฺพณฺณนิสฺสิตนฺติ ปุพฺพณฺณํ นิสฺสิตํ สตฺตนฺนํ ธฺานํ วิรุหนกเขตฺตสามนฺตา ิตํ. เอเสว นโย อปรณฺณนิสฺสิตาทีสุปิ. เอตฺถ ปน อพฺภาฆาตนฺติ การณาฆรํ เวริฆรํ, โจรานํ มารณตฺถาย กตนฺติ กุรุนฺทิอาทีสุ.

อาฆาตนนฺติ ธมฺมคนฺธิกา วุจฺจติ. สุสานนฺติ มหาสุสานํ. สํสรณนฺติ อนิพฺพิชฺฌคมนีโย คตปจฺจาคตมคฺโค วุจฺจติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

น สกฺกา โหติ ยถายุตฺเตน สกเฏนาติ ทฺวีหิ พลิพทฺเทหิ ยุตฺเตน สกเฏน เอกํ จกฺกํ นิพฺโพทกปตนฏฺาเน เอกํ พหิ กตฺวา อาวิชฺชิตุํ น สกฺกา โหติ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘จตูหิ ยุตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. สมนฺตา นิสฺเสณิยา อนุปริคนฺตุนฺติ นิสฺเสณิยํ ตฺวา เคหํ ฉาเทนฺเตหิ น สกฺกา โหติ สมนฺตา นิสฺเสณิยา อาวิชฺชิตุํ. อิติ เอวรูเป สารมฺเภ จ อปริกฺกมเน จ าเน น กาเรตพฺพา. อนารมฺเภ ปน สปริกฺกมเน กาเรตพฺพา, ตํ วุตฺตปฏิปกฺขนเยน ปาฬิยํ อาคตเมว.

ปุน สฺาจิกา นามาติ เอวมาทิ ‘‘สารมฺเภ เจ ภิกฺขุ วตฺถุสฺมึ อปริกฺกมเน สฺาจิกาย กุฏึ กาเรยฺยา’’ติ เอวํ วุตฺตสํยาจิกาทีนํ อตฺถปฺปกาสนตฺถํ วุตฺตํ.

ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ เอวํ อเทสิตวตฺถุกํ วา ปมาณาติกฺกนฺตํ วา กุฏึ กาเรสฺสามีติ อรฺโต รุกฺขา หรณตฺถาย วาสึ วา ผรสุํ วา นิเสติ ทุกฺกฏํ, อรฺํ ปวิสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺถ อลฺลติณานิ ฉินฺทติ ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, สุกฺขานิ ฉินฺทติ ทุกฺกฏํ. รุกฺเขสุปิ เอเสว นโย. ภูมึ โสเธติ ขณติ, ปํสุํ อุทฺธรติ, จินาติ; เอวํ ยาว ปาจีรํ พนฺธติ ตาว ปุพฺพปโยโค นาม โหติ. ตสฺมึ ปุพฺพปโยเค สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกเฏน สทฺธึ ปาจิตฺติยํ, ทุกฺกฏฏฺาเน ทุกฺกฏํ, ตโต ปฏฺาย สหปโยโค นาม. ตตฺถ ถมฺเภหิ กาตพฺพาย ถมฺภํ อุสฺสาเปติ, ทุกฺกฏํ. อิฏฺกาหิ จินิตพฺพาย อิฏฺกํ อาจินาติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ ยํ ยํ อุปกรณํ โยเชติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ตจฺฉนฺตสฺส หตฺถวาเร หตฺถวาเร ตทตฺถาย คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. เอวํ กตํ ปน ทารุกุฏฺฏิกํ วา อิฏฺกกุฏฺฏิกํ วา สิลากุฏฺฏิกํ วา อนฺตมโส ปณฺณสาลมฺปิ สภิตฺติจฺฉทนํ ลิมฺปิสฺสามีติ สุธาย วา มตฺติกาย วา ลิมฺปนฺตสฺส ปโยเค ปโยเค ยาว ถุลฺลจฺจยํ น โหติ, ตาว ทุกฺกฏํ. เอตํ ปน ทุกฺกฏํ มหาเลเปเนว วฏฺฏติ, เสตรตฺตวณฺณกรเณ วา จิตฺตกมฺเม วา อนาปตฺติ.

เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเตติ โย สพฺพปจฺฉิโม เอโก เลปปิณฺโฑ, ตํ เอกํ ปิณฺฑํ อสมฺปตฺเต กุฏิกมฺเม. อิทํ วุตฺตํ โหติ, อิทานิ ทฺวีหิ ปิณฺเฑหิ นิฏฺานํ คมิสฺสตีติ เตสุ ปมปิณฺฑทาเน ถุลฺลจฺจยนฺติ.

ตสฺมึ ปิณฺเฑ อาคเตติ ยํ เอกํ ปิณฺฑํ อนาคเต กุฏิกมฺเม ถุลฺลจฺจยํ โหติ, ตสฺมึ อวสานปิณฺเฑ อาคเต ทินฺเน ปิเต เลปสฺส ฆฏิตตฺตา อาปตฺติ สงฺฆาทิเสสสฺส. เอวํ เลมฺปนฺตสฺส จ อนฺโตเลเป วา อนฺโตเลเปน สทฺธึ ภิตฺติฺจ ฉทนฺจ เอกาพทฺธํ กตฺวา ฆฏิเต พหิเลเป วา พหิเลเปน สทฺธึ ฆฏิเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ปน ทฺวารพทฺธํ วา วาตปานํ วา อฏฺเปตฺวาว มตฺติกาย ลิมฺปติ, ตสฺมิฺจ ตสฺโสกาสํ ปุน วฑฺเฒตฺวา วา อวฑฺเฒตฺวา วา ปิเต เลโป น ฆฏียติ รกฺขติ ตาว, ปุน ลิมฺปนฺตสฺส ปน ฆฏิตมตฺเต สงฺฆาทิเสโส. สเจ ตํ ปิยมานํ ปมํ ทินฺนเลเปน สทฺธึ นิรนฺตรเมว หุตฺวา ติฏฺติ, ปมเมว สงฺฆาทิเสโส. อุปจิกาโมจนตฺถํ อฏฺงฺคุลมตฺเตน อปฺปตฺตจฺฉทนํ กตฺวา ภิตฺตึ ลิมฺปติ, อนาปตฺติ. อุปจิกาโมจนตฺถเมว เหฏฺา ปาสาณกุฏฺฏํ กตฺวา ตํ อลิมฺปิตฺวา อุปริ ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏิยติ นาม, อนาปตฺติเยว.

อิฏฺกกุฏฺฏิกาย อิฏฺกาหิเยว วาตปาเน จ ธูมเนตฺตานิ จ กโรติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ปณฺณสาลํ ลิมฺปติ, เลปฆฏเนเนว อาปตฺติ. ตตฺถ อาโลกตฺถาย อฏฺงฺคุลมตฺตํ เปตฺวา ลิมฺปติ, เลโป น ฆฏียติ นาม, อนาปตฺติเยว. สเจ ‘‘วาตปานํ ลทฺธา เอตฺถ เปสฺสามี’’ติ กโรติ, วาตปาเน ปิเต เลปฆฏเนน อาปตฺติ. สเจ มตฺติกาย กุฏฺฏํ กโรติ, ฉทนเลเปน สทฺธึ ฆฏเน อาปตฺติ. เอโก เอกปิณฺฑาวเสสํ กตฺวา เปติ, อฺโ ตํ ทิสฺวา ‘‘ทุกฺกตํ อิท’’นฺติ วตฺตสีเสน ลิมฺปติ อุภินฺนมฺปิ อนาปตฺติ.

๓๕๔. ภิกฺขุ กุฏึ กโรตีติ เอวมาทีนิ ฉตฺตึส จตุกฺกานิ อาปตฺติเภททสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, ตตฺถ สารมฺภาย ทุกฺกฏํ, อปริกฺกมนาย ทุกฺกฏํ , ปมาณาติกฺกนฺตาย สงฺฆาทิเสโส, อเทสิตวตฺถุกาย สงฺฆาทิเสโส, เอเตสํ วเสน โวมิสฺสกาปตฺติโย เวทิตพฺพา.

๓๕๕. อาปตฺติ ทฺวินฺนํ สงฺฆาทิเสเสน ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทีสุ จ ทฺวีหิ สงฺฆาทิเสเสหิ สทฺธึ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานนฺติอาทินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๓๖๑. โส เจ วิปฺปกเต อาคจฺฉตีติอาทีสุ ปน อยํ อตฺถวินิจฺฉโย. โสติ สมาทิสิตฺวา ปกฺกนฺตภิกฺขุ. วิปฺปกเตติ อนิฏฺิเต กุฏิกมฺเม. อฺสฺส วา ทาตพฺพาติ อฺสฺส ปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา จชิตฺวา ทาตพฺพา. ภินฺทิตฺวา วา ปุน กาตพฺพาติ กิตฺตเกน ภินฺนา โหติ, สเจ ถมฺภา ภูมิยํ นิขาตา, อุทฺธริตพฺพา. สเจ ปาสาณานํ อุปริ ปิตา, อปเนตพฺพา. อิฏฺกจิตาย ยาว มงฺคลิฏฺกา ตาว กุฏฺฏา อปจินิตพฺพา. สงฺเขปโต ภูมิสมํ กตฺวา วินาสิตา ภินฺนา โหติ, ภูมิโต อุปริ จตุรงฺคุลมตฺเตปิ ิเต อภินฺนาว. เสสํ สพฺพจตุกฺเกสุ ปากฏเมว. น เหตฺถ อฺํ กิฺจิ อตฺถิ, ยํ ปาฬิอนุสาเรเนว ทุพฺพิฺเยฺยํ สิยา.

๓๖๓. อตฺตนา วิปฺปกตนฺติอาทีสุ ปน อตฺตนา อารทฺธํ กุฏึ. อตฺตนา ปริโยสาเปตีติ มหามตฺติกาย วา ถุสมตฺติกาย วา ยาย กตํ ปริโยสิตภาวํ ปาเปตุกาโม โหติ, ตาย อวสานปิณฺฑํ เทนฺโต ปริโยสาเปติ .

ปเรหิ ปริโยสาเปตีติ อตฺตโนว อตฺถาย ปเรหิ ปริโยสาเปติ. อตฺตนา วา หิ วิปฺปกตา โหตุ ปเรหิ วา อุภเยหิ วา, ตํ เจ อตฺตโน อตฺถาย อตฺตนา วา ปริโยสาเปติ, ปเรหิ วา ปริโยสาเปติ, อตฺตนา จ ปเรหิ จาติ ยุคนทฺธํ วา ปริโยสาเปติ, สงฺฆาทิเสโสเยวาติ อยเมตฺถ วินิจฺฉโย.

กุรุนฺทิยํปน วุตฺตํ – ‘‘ทฺเว ตโย ภิกฺขู ‘เอกโต วสิสฺสามา’ติ กโรนฺติ, รกฺขติ ตาว, อวิภตฺตตฺตา อนาปตฺติ. ‘อิทํ านํ ตว, อิทํ มมา’ติ วิภชิตฺวา กโรนฺติ อาปตฺติ. สามเณโร จ ภิกฺขุ จ เอกโต กโรนฺติ, ยาว อวิภตฺตา ตาว รกฺขติ. ปุริมนเยน วิภชิตฺวา กโรนฺติ, ภิกฺขุสฺส อาปตฺตี’’ติ.

๓๖๔. อนาปตฺติเลเณติอาทีสุ เลณํ มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. น เหตฺถ เลโป ฆฏียติ. คุหมฺปิ อิฏฺกาคุหํ วา สิลาคุหํ วา ทารุคุหํ วา ภูมิคุหํ วา มหนฺตมฺปิ กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ติณกุฏิกายาติ สตฺตภูมิโกปิ ปาสาโท ติณปณฺณจฺฉทโน ‘‘ติณกุฏิกา’’ติ วุจฺจติ. อฏฺกถาสุ ปน กุกฺกุฏจฺฉิกเคหนฺติ ฉทนํ ทณฺฑเกหิ ชาลพทฺธํ กตฺวา ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ฉาทิตกุฏิกาว วุตฺตา, ตตฺถ อนาปตฺติ. มหนฺตมฺปิ ติณจฺฉทนเคหํ กาตุํ วฏฺฏติ, อุลฺลิตฺตาทิภาโว เอว หิ กุฏิยา ลกฺขณํ, โส จ ฉทนเมว สนฺธาย วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. จงฺกมนสาลายํ ติณจุณฺณํ ปริปตติ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุมฺเผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุ’’นฺติอาทีนิ (จูฬว. ๒๖๐) เจตฺถ สาธกานิ, ตสฺมา อุภโต ปกฺขํ วา กูฏพทฺธํ วา วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ยํ ‘‘อิมํ เอตสฺส เคหสฺส ฉทน’’นฺติ ฉทนสงฺเขเปน กตํ โหติ, ตสฺส ภิตฺติเลเปน สทฺธึ เลเป ฆฏิเต อาปตฺติ. สเจ ปน อุลฺลิตฺตาวลิตฺตจฺฉทนสฺส เคหสฺส เลปรกฺขณตฺถํ อุปริ ติเณน ฉาเทนฺติ, เอตฺตาวตา ติณกุฏิ นาม น โหติ. กึ ปเนตฺถ อเทสิตวตฺถุกปฺปมาณาติกฺกนฺตปจฺจยาว อนาปตฺติ, อุทาหุ สารมฺภอปริกฺกมนปจฺจยาปีติ สพฺพตฺถาปิ อนาปตฺติ. ตถา หิ ตาทิสํ กุฏึ สนฺธาย ปริวาเร วุตฺตํ –

‘‘ภิกฺขุ สฺาจิกาย กุฏึ กโรติ;

อเทสิตวตฺถุกํ ปมาณาติกฺกนฺตํ;

สารมฺภํ อปริกฺกมนํ อนาปตฺติ;

ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๗๙);

อฺสฺสตฺถายาติ กุฏิลกฺขณปฺปตฺตมฺปิ กุฏึ อฺสฺส อุปชฺฌายสฺส วา อาจริยสฺส วา สงฺฆสฺส วา อตฺถาย กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ. ยํ ปน ‘‘อาปตฺติ การุกานํ ติณฺณํ ทุกฺกฏาน’’นฺติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตํ ยถาสมาทิฏฺาย อกรณปจฺจยา วุตฺตํ.

วาสาคารํ เปตฺวา สพฺพตฺถาติ อตฺตโน วสนตฺถาย อคารํ เปตฺวา อฺํ อุโปสถาคารํ วา ชนฺตาฆรํ วา โภชนสาลา วา อคฺคิสาลา วา ภวิสฺสตีติ กาเรติ, สพฺพตฺถ อนาปตฺติ. สเจปิสฺส โหติ ‘‘อุโปสถาคารฺจ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามิ ชนฺตาฆรฺจ โภชนสาลา จ อคฺคิสาลา จ ภวิสฺสติ, อหฺจ วสิสฺสามี’’ติ การิเตปิ อานาปตฺติเยว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วตฺวา ‘‘อตฺตโน วาสาคารตฺถาย กโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. อุมฺมตฺตกสฺส อาทิกมฺมิกานฺจ อาฬวกานํ ภิกฺขูนํ อนาปตฺติ.

สมุฏฺานาทีสุ ฉสมุฏฺานํ กิริยฺจ กิริยากิริยฺจ, อิทฺหิ วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกนฺตํ กโรโต กิริยโต สมุฏฺาติ, วตฺถุํ อเทสาเปตฺวา กโรโต กิริยากิริยโต, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.

กุฏิการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๖๕. เตน สมเยนาติ วิหารการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ โกสมฺพิยนฺติ เอวํนามเก นคเร. โฆสิตาราเมติ โฆสิตสฺส อาราเม. โฆสิตนามเกน กิร เสฏฺินา โส การิโต, ตสฺมา ‘‘โฆสิตาราโม’’ติ วุจฺจติ. ฉนฺนสฺสาติ โพธิสตฺตกาเล อุปฏฺากฉนฺนสฺส. วิหารวตฺถุํ, ภนฺเต, ชานาหีติ วิหารสฺส ปติฏฺานฏฺานํ, ภนฺเต, ชานาหิ. เอตฺถ จ วิหาโรติ น สกลวิหาโร, เอโก อาวาโส, เตเนวาห – ‘‘อยฺยสฺส วิหารํ การาเปสฺสามี’’ติ.

เจติยรุกฺขนฺติ เอตฺถ จิตฺตีกตฏฺเน เจติยํ, ปูชารหานํ เทวฏฺานานเมตํ อธิวจนํ, ‘‘เจติย’’นฺติ สมฺมตํ รุกฺขํ เจติยรุกฺขํ. คาเมน ปูชิตํ คามสฺส วา ปูชิตนฺติ คามปูชิตํ. เอเสว นโย เสสปเทสุปิ. อปิเจตฺถ ชนปโทติ เอกสฺส รฺโ รชฺเช เอเกโก โกฏฺาโส. รฏฺนฺติ สกลรชฺชํ เวทิตพฺพํ, สกลรชฺชมฺปิ หิ กทาจิ กทาจิ ตสฺส รุกฺขสฺส ปูชํ กโรติ, เตน วุตฺตํ ‘‘รฏฺปูชิต’’นฺติ. เอกินฺทฺริยนฺติ กายินฺทฺริยํ สนฺธาย วทนฺติ. ชีวสฺิโนติ สตฺตสฺิโน.

๓๖๖. มหลฺลกนฺติ สสฺสามิกภาเวน สํยาจิกกุฏิโต มหนฺตภาโว เอตสฺส อตฺถีติ มหลฺลโก. ยสฺมา วา วตฺถุํ เทสาเปตฺวา ปมาณาติกฺกเมนปิ กาตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ปมาณมหนฺตตายปิ มหลฺลโก , ตํ มหลฺลกํ. ยสฺมา ปนสฺส ตํ ปมาณมหตฺตํ สสฺสามิกตฺตาว ลพฺภติ, ตสฺมา ตทตฺถทสฺสนตฺถํ ‘‘มหลฺลโก นาม วิหาโร สสฺสามิโก วุจฺจตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ. เสสํ สพฺพํ กุฏิการสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหิ. สสฺสามิกภาวมตฺตเมว หิ เอตฺถ กิริยโต สมุฏฺานาภาโว ปมาณนิยมาภาโว จ วิเสโส, ปมาณนิยมาภาวา จ จตุกฺกปาริหานีติ.

วิหารการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๘๐. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปติ เวฬุวนนฺติ ตสฺส อุยฺยานสฺส นามํ, ตํ กิร เวฬุหิ จ ปริกฺขิตฺตํ อโหสิ อฏฺารสหตฺเถน จ ปากาเรน โคปุรฏฺฏาลกยุตฺตํ นีโลภาสํ มโนรมํ เตน ‘‘เวฬุวน’’นฺติ วุจฺจติ, กลนฺทกานฺเจตฺถ นิวาปํ อทํสุ เตน ‘‘กลนฺทกนิวาป’’ติ วุจฺจติ.

ปุพฺเพ กิร อฺตโร ราชา ตตฺถ อุยฺยานกีฬนตฺถํ อาคโต, สุรามเทน มตฺโต ทิวาเสยฺยํ สุปิ, ปริชโนปิสฺส สุตฺโต ราชาติ ปุปฺผผลาทีหิ ปโลภิยมาโน อิโต จิโต จ ปกฺกมิ. อถ สุราคนฺเธน อฺตรสฺมา สุสิรรุกฺขา กณฺหสปฺโป นิกฺขมิตฺวา รฺโ อภิมุโข อาคจฺฉติ, ตํ ทิสฺวา รุกฺขเทวตา ‘‘รฺโ ชีวิตํ ทสฺสามี’’ติ กาฬกเวเสน อาคนฺตฺวา กณฺณมูเล สทฺทมกาสิ, ราชา ปฏิพุชฺฌิ, กณฺหสปฺโป นิวตฺโต, โส ตํ ทิสฺวา ‘‘อิมาย กาฬกาย มม ชีวิตํ ทินฺน’’นฺติ กาฬกานํ ตตฺถ นิวาปํ ปฏฺเปสิ, อภยโฆสนฺจ โฆสาเปสิ , ตสฺมา ตํ ตโตปภุติ กลนฺทกนิวาปนฺติ สงฺขฺยํ คตํ. กลนฺทกาติ หิ กาฬกานํ เอตํ นามํ.

ทพฺโพติ ตสฺส เถรสฺส นามํ. มลฺลปุตฺโตติ มลฺลราชสฺส ปุตฺโต. ชาติยา สตฺตวสฺเสน อรหตฺตํ สจฺฉิกตนฺติ เถโร กิร สตฺตวสฺสิโกว สํเวคํ ลภิตฺวา ปพฺพชิโต ขุรคฺเคเยว อรหตฺตํ ปาปุณีติ เวทิตพฺโพ. ยํกิฺจิ สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตนฺติ สาวเกน ปตฺตพฺพํ นาม ติสฺโส วิชฺชา, จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา, ฉ อภิฺา, นว โลกุตฺตรธมฺมาติ อิทํ คุณชาตํ, ตํ สพฺพํ เตน อนุปฺปตฺตํ โหติ. นตฺถิ จสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ จตูสุ สจฺเจสุ, จตูหิ มคฺเคหิ, โสฬสวิธสฺส กิจฺจสฺส กตตฺตา อิทานิสฺส กิฺจิ อุตฺตริ กรณียํ นตฺถิ. กตสฺส วา ปติจโยติ ตสฺเสว กตสฺส กิจฺจสฺส ปุน วฑฺฒนมฺปิ นตฺถิ, โธตสฺส วิย วตฺถสฺส ปฏิโธวนํ ปิสิตสฺส วิย คนฺธสฺส ปฏิปิสนํ, ปุปฺผิตสฺส วิย จ ปุปฺผสฺส ปฏิปุปฺผนนฺติ. รโหคตสฺสาติ รหสิ คตสฺส. ปฏิสลฺลีนสฺสาติ ตโต ตโต ปฏิกฺกมิตฺวา สลฺลีนสฺส, เอกีภาวํ คตสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.

อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ เถโร กิร อตฺตโน กตกิจฺจภาวํ ทิสฺวา ‘‘อหํ อิมํ อนฺติมสรีรํ ธาเรมิ, ตฺจ โข วาตมุเข ิต ปทีโป วิย อนิจฺจตามุเข ิตํ, นจิรสฺเสว นิพฺพายนธมฺมํ ยาว น นิพฺพายติ ตาว กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺเตนฺโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ – ‘‘ติโรรฏฺเสุ พหู กุลปุตฺตา ภควนฺตํ อทิสฺวาว ปพฺพชนฺติ, เต ภควนฺตํ ‘ปสฺสิสฺสาม เจว วนฺทิสฺสาม จา’ติ ทูรโตปิ อาคจฺฉนฺติ, ตตฺร เยสํ เสนาสนํ นปฺปโหติ, เต สิลาปฏฺฏเกปิ เสยฺยํ กปฺเปนฺติ. ปโหมิ โข ปนาหํ อตฺตโน อานุภาเวน เตสํ กุลปุตฺตานํ อิจฺฉาวเสน ปาสาทวิหารอฑฺฒโยคาทีนิ มฺจปีกตฺถรณาทีนิ จ เสนาเสนานิ นิมฺมินิตฺวา ทาตุํ. ปุนทิวเส เจตฺถ เอกจฺเจ อติวิย กิลนฺตรูปา โหนฺติ, เต คารเวน ภิกฺขูนํ ปุรโต ตฺวา ภตฺตานิปิ น อุทฺทิสาเปนฺติ, อหํ โข ปน เนสํ ภตฺตานิปิ อุทฺทิสิตุํ ปโหมี’’ติ. อิติ ปฏิสฺจิกฺขนฺตสฺส ‘‘อถ โข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺย’’นฺติ.

นนุ จ อิมานิ ทฺเว านานิ ภสฺสารามตาทิมนุยุตฺตสฺส ยุตฺตานิ, อยฺจ ขีณาสโว นิปฺปปฺจาราโม, อิมสฺส กสฺมา อิมานิ ปฏิภํสูติ? ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา. สพฺพพุทฺธานํ กิร อิมํ านนฺตรํ ปตฺตา สาวกา โหนฺติเยว. อยฺจ ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล อฺตรสฺมึ กุเล ปจฺจาชาโต อิมํ านนฺตรํ ปตฺตสฺส ภิกฺขุโน อานุภาวํ ทิสฺวา อฏฺสฏฺิยา ภิกฺขุสตสหสฺเสหิ สทฺธึ ภควนฺตํ สตฺต ทิวสานิ นิมนฺเตตฺวา มหาทานํ ทตฺวา ปาทมูเล นิปชฺชิตฺวา ‘‘อนาคเต ตุมฺหาทิสสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปนฺนกาเล อหมฺปิ อิตฺถนฺนาโม ตุมฺหากํ สาวโก วิย เสนาสนปฺาปโก จ ภตฺตุทฺเทสโก จ อสฺส’’นฺติ ปตฺถนํ อกาสิ. ภควา อนาคตํสาณํ เปเสตฺวา อทฺทส, ทิสฺวา จ อิโต กปฺปสตสหสฺสสฺส อจฺจเยน โคตโม นาม พุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตทา ตฺวํ ทพฺโพ นาม มลฺลปุตฺโต หุตฺวา ชาติยา สตฺตวสฺโส นิกฺขมฺม ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ สจฺฉิกริสฺสสิ, อิมฺจ านนฺตรํ ลจฺฉสี’’ติ พฺยากาสิ. โส ตโตปภุติ ทานสีลาทีนิ ปูรยมาโน เทวมนุสฺสสมฺปตฺตึ อนุภวิตฺวา อมฺหากํ ภควโต กาเล เตน ภควตา พฺยากตสทิสเมว อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อถสฺส รโหคตสฺส ‘‘กินฺนุ โข อหํ สงฺฆสฺส เวยฺยาวจฺจํ กเรยฺย’’นฺติ จินฺตยโต ตาย ปุพฺพปตฺถนาย โจทิตตฺตา อิมานิ ทฺเว านานิ ปฏิภํสูติ.

อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข อนิสฺสโรสฺมิ อตฺตนิ, สตฺถารา สทฺธึ เอกฏฺาเน วสามิ, สเจ มํ ภควา อนุชานิสฺสติ , อิมานิ ทฺเว านานิ สมาทิยิสฺสามี’’ติ ภควโต สนฺติกํ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อายสฺมา ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต…เป… ภตฺตานิ จ อุทฺทิสิตุ’’นฺติ. อถ นํ ภควา ‘‘สาธุ สาธุ ทพฺพา’’ติ สมฺปหํเสตฺวา ยสฺมา อรหติ เอวรูโป อคติคมนปริพาหิโร ภิกฺขุ อิมานิ ทฺเว านานิ วิจาเรตุํ, ตสฺมา ‘‘เตน หิ ตฺวํ ทพฺพ สงฺฆสฺส เสนาสนฺจ ปฺเปหิ ภตฺตานิ จ อุทฺทิสา’’ติ อาห. ภควโต ปจฺจสฺโสสีติ ภควโต วจนํ ปติอสฺโสสิ อภิมุโข อสฺโสสิ, สมฺปฏิจฺฉีติ วุตฺตํ โหติ.

ปมํ ทพฺโพ ยาจิตพฺโพติ กสฺมา ภควา ยาจาเปติ? ครหโมจนตฺถํ. ปสฺสติ หิ ภควา ‘‘อนาคเต ทพฺพสฺส อิมํ านํ นิสฺสาย เมตฺติยภุมชกานํ วเสน มหาอุปทฺทโว อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตตฺร เกจิ ครหิสฺสนฺติ ‘อยํ ตุณฺหีภูโต อตฺตโน กมฺมํ อกตฺวา กสฺมา อีทิสํ านํ วิจาเรตี’ติ. ตโต อฺเ วกฺขนฺติ ‘โก อิมสฺส โทโส เอเตเหว ยาจิตฺวา ปิโต’ติ เอวํ ครหโต มุจฺจิสฺสตี’’ติ. เอวํ ครหโมจนตฺถํ ยาจาเปตฺวาปิ ปุน ยสฺมา อสมฺมเต ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆมชฺเฌ กิฺจิ กถยมาเน ขิยฺยนธมฺโม อุปฺปชฺชติ ‘‘อยํ กสฺมา สงฺฆมชฺเฌ อุจฺจาสทฺทํ กโรติ, อิสฺสริยํ ทสฺเสตี’’ติ. สมฺมเต ปน กเถนฺเต ‘‘มายสฺมนฺโต กิฺจิ อวจุตฺถ, สมฺมโต อยํ, กเถตุ ยถาสุข’’นฺติ วตฺตาโร ภวนฺติ. อสมฺมตฺจ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺตสฺส ลหุกา อาปตฺติ โหติ ทุกฺกฏมตฺตา. สมฺมตํ ปน อพฺภาจิกฺขโต ครุกตรา ปาจิตฺติยาปตฺติ โหติ. อถ สมฺมโต ภิกฺขุ อาปตฺติยา ครุกภาเวน เวรีหิปิ ทุปฺปธํสิยตโร โหติ, ตสฺมา ตํ อายสฺมนฺตํ สมฺมนฺนาเปตุํ ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห. กึ ปน ทฺเว สมฺมุติโย เอกสฺส ทาตุํ วฏฺฏนฺตีติ? น เกวลํ ทฺเว, สเจ ปโหติ, เตรสาปิ ทาตุํ วฏฺฏนฺติ. อปฺปโหนฺตานํ ปน เอกาปิ ทฺวินฺนํ วา ติณฺณํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ.

๓๘๒. สภาคานนฺติ คุณสภาคานํ, น มิตฺตสนฺถวสภาคานํ. เตเนวาห ‘‘เย เต ภิกฺขู สุตฺตนฺติกา เตสํ เอกชฺฌ’’นฺติอาทิ . ยาวติกา หิ สุตฺตนฺติกา โหนฺติ, เต อุจฺจินิตฺวา เอกโต เตสํ อนุรูปเมว เสนาสนํ ปฺเปติ; เอวํ เสสานํ. กายทฬฺหีพหุลาติ กายสฺส ทฬฺหีภาวกรณพหุลา, กายโปสนพหุลาติ อตฺโถ. อิมายปิเม อายสฺมนฺโต รติยาติ อิมาย สคฺคมคฺคสฺส ติรจฺฉานภูตาย ติรจฺฉานกถารติยา. อจฺฉิสฺสนฺตีติ วิหริสฺสนฺติ.

เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวา เตเนวาโลเกนาติ เตโชกสิณจตุตฺถชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อภิฺาาเณน องฺคุลิชลนํ อธิฏฺาย เตเนว เตโชธาตุสมาปตฺติชนิเตน องฺคุลิชาลาโลเกนาติ อตฺโถ. อยํ ปน เถรสฺส อานุภาโว นจิรสฺเสว สกลชมฺพุทีเป ปากโฏ อโหสิ, ตํ สุตฺวา อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทฏฺุกามา อปิสุ ภิกฺขู สฺจิจฺจ วิกาเล อาคจฺฉนฺติ. เต สฺจิจฺจ ทูเร อปทิสนฺตีติ ชานนฺตาว ทูเร อปทิสนฺติ. กถํ? ‘‘อมฺหากํ อาวุโส ทพฺพ คิชฺฌกูเฏ’’ติ อิมินา นเยน.

องฺคุลิยา ชลมานาย ปุรโต ปุรโต คจฺฉตีติ สเจ เอโก ภิกฺขุ โหติ, สยเมว คจฺฉติ. สเจ พหู โหนฺติ, พหู อตฺตภาเว นิมฺมินาติ. สพฺเพ อตฺตนา สทิสา เอว เสนาสนํ ปฺเปนฺติ.

อยํ มฺโจติอาทีสุ ปน เถเร ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺเต นิมฺมิตาปิ อตฺตโน อตฺตโน คตคตฏฺาเน ‘‘อยํ มฺโจ’’ติ วทนฺติ; เอวํ สพฺพปเทสุ. อยฺหิ นิมฺมิตานํ ธมฺมตา –

‘‘เอกสฺมึ ภาสมานสฺมึ, สพฺเพ ภาสนฺติ นิมฺมิตา;

เอกสฺมึ ตุณฺหิมาสีเน, สพฺเพ ตุณฺหี ภวนฺติ เต’’ติ.

ยสฺมึ ปน วิหาเร มฺจปีาทีนิ น ปริปูรนฺติ, ตสฺมึ อตฺตโน อานุภาเวน ปูเรนฺติ. เตน นิมฺมิตานํ อวตฺถุกวจนํ น โหติ.

เสนาสนํปฺเปตฺวา ปุนเทว เวฬุวนํ ปจฺจาคจฺฉตีติ เตหิ สทฺธึ ชนปทกถํ กเถนฺโต น นิสีทติ, อตฺตโน วสนฏฺานเมว ปจฺจาคจฺฉติ.

๓๘๓. เมตฺติยภูมชกาติ เมตฺติโย เจว ภูมชโก จ, ฉพฺพคฺคิยานํ อคฺคปุริสา เอเต. ลามกานิ จ ภตฺตานีติ เสนาสนานิ ตาว นวกานํ ลามกานิ ปาปุณนฺตีติ อนจฺฉริยเมตํ. ภตฺตานิ ปน สลากาโย ปจฺฉิยํ วา จีวรโภเค วา ปกฺขิปิตฺวา อาโลเฬตฺวา เอกเมกํ อุทฺธริตฺวา ปฺาเปนฺติ, ตานิปิ เตสํ มนฺทปุตาย ลามกานิ สพฺพปจฺฉิมาเนว ปาปุณนฺติ. ยมฺปิ เอกจาริกภตฺตํ โหติ, ตมฺปิ เอเตสํ ปตฺตทิวเส ลามกํ วา โหติ, เอเต วา ทิสฺวาว ปณีตํ อทตฺวา ลามกเมว เทนฺติ.

อภิสงฺขาริกนฺติ นานาสมฺภาเรหิ อภิสงฺขริตฺวา กตํ สุสชฺชิตํ, สุสมฺปาทิตนฺติ อตฺโถ. กณาชกนฺติ สกุณฺฑกภตฺตํ. พิลงฺคทุติยนฺติ กฺชิกทุติยํ.

กลฺยาณภตฺติโกติ กลฺยาณํ สุนฺทรํ อติวิย ปณีตํ ภตฺตมสฺสาติ กลฺยาณภตฺติโก, ปณีตทายกตฺตา ภตฺเตเนว ปฺาโต. จตุกฺกภตฺตํ เทตีติ จตฺตาริ ภตฺตานิ เทติ, ตทฺธิตโวหาเรน ปน ‘‘จตุกฺกภตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปติฏฺิตฺวา ปริวิสตีติ สพฺพกมฺมนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา มหนฺตํ ปูชาสกฺการํ กตฺวา สมีเป ตฺวา ปริวิสติ. โอทเนน ปุจฺฉนฺตีติ โอทนหตฺถา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต โอทนํ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, เอวํ กรณตฺเถเยว กรณวจนํ โหติ. เอส นโย สูปาทีสุ.

สฺวาตนายาติ สฺเว ภโว ภตฺตปริโภโค สฺวาตโน ตสฺสตฺถาย, สฺวาตนาย สฺเว กตฺตพฺพสฺส ภตฺตปริโภคสฺสตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. อุทฺทิฏฺํ โหตีติ ปาเปตฺวา ทินฺนํ โหติ. เมตฺติยภูมชกานํ โข คหปตีติ อิทํ เถโร อสมนฺนาหริตฺวา อาห. เอวํพลวตี หิ เตสํ มนฺทปุฺตา, ยํ สติเวปุลฺลปฺปตฺตานมฺปิ อสมนฺนาหาโร โหติ. เย เชติ เอตฺถ เชติ ทาสึ อาลปติ.

หิยฺโย โข อาวุโส อมฺหากนฺติ รตฺตึ สมฺมนฺตยมานา อตีตํ ทิวสภาคํ สนฺธาย ‘‘หิยฺโย’’ติ วทนฺติ. น จิตฺตรูปนฺติ น จิตฺตานุรูปํ, ยถา ปุพฺเพ ยตฺตกํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺตกํ สุปนฺติ, น เอวํ สุปึสุ, อปฺปกเมว สุปึสูติ วุตฺตํ โหติ.

พหารามโกฏฺเกติ เวฬุวนวิหารสฺส พหิทฺวารโกฏฺเก. ปตฺตกฺขนฺธาติ ปติตกฺขนฺธา ขนฺธฏฺิกํ นาเมตฺวา นิสินฺนา. ปชฺฌายนฺตาติ ปธูปายนฺตา.

ยโต นิวาตํตโต สวาตนฺติ ยตฺถ นิวาตํ อปฺปโกปิ วาโต นตฺถิ, ตตฺถ มหาวาโต อุฏฺิโตติ อธิปฺปาโย. อุทกํ มฺเ อาทิตฺตนฺติ อุทกํ วิย อาทิตฺตํ.

๓๘๔. สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตาติ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ กตฺตา สรสิ. อถ วา สรสิ ตฺวํ ทพฺพ เอวรูปํ ยถายํ ภิกฺขุนี อาห, กตฺตา ธาสิ เอวรูปํ, ยถายํ ภิกฺขุนี อาหาติ เอวํ โยเชตฺวาเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เย ปน ‘‘กตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว.

ยถา มํ ภนฺเต ภควา ชานาตีติ เถโร กึ ทสฺเสติ. ภควา ภนฺเต สพฺพฺู, อหฺจ ขีณาสโว, นตฺถิ มยฺหํ วตฺถุปฏิเสวนา, ตํ มํ ภควา ชานาติ, ตตฺราหํ กึ วกฺขามิ, ยถา มํ ภควา ชานาติ ตเถวาหํ ทฏฺพฺโพติ.

น โข ทพฺพ ทพฺพา เอวํ นิพฺเพเนฺตีติ เอตฺถ น โข ทพฺพ ปณฺฑิตา ยถา ตฺวํ ปรปฺปจฺจเยน นิพฺเพเสิ, เอวํ นิพฺเพเนฺติ; อปิ จ โข ยเทว สามํ าตํ เตน นิพฺเพเนฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. สเจ ตยา กตํ กตนฺติ อิมินา กึ ทสฺเสติ? น หิ สกฺกา ปริสพเลน วา ปกฺขุปตฺถมฺเภน วา อการโก การโก กาตุํ, การโก วา อการโก กาตุํ, ตสฺมา ยํ สยํ กตํ วา อกตํ วา ตเทว วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. กสฺมา ปน ภควา ชานนฺโตปิ ‘‘อหํ ชานามิ, ขีณาสโว ตฺวํ; นตฺถิ ตุยฺหํ โทโส, อยํ ภิกฺขุนี มุสาวาทินี’’ติ นาโวจาติ? ปรานุทฺทยตาย. สเจ หิ ภควา ยํ ยํ ชานาติ ตํ ตํ วเทยฺย, อฺเน ปาราชิกํ อาปนฺเนน ปุฏฺเน ‘‘อหํ ชานามิ ตฺวํ ปาราชิโก’’ติ วตฺตพฺพํ ภเวยฺย, ตโต โส ปุคฺคโล ‘‘อยํ ปุพฺเพ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ สุทฺธํ กตฺวา อิทานิ มํ อสุทฺธํ กโรติ; กสฺส ทานิ กึ วทามิ, ยตฺร สตฺถาปิ สาวเกสุ ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ; กุโต อิมสฺส สพฺพฺุภาโว’’ติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา อปายูปโค ภเวยฺย, ตสฺมา ภควา อิมาย ปรานุทฺทยตาย ชานนฺโตปิ นาโวจ.

กิฺจ ภิยฺโย อุปวาทปริวชฺชนโตปิ นาโวจ. ยทิ หิ ภควา เอวํ วเทยฺย, เอวํ อุปวาโท ภเวยฺย ‘‘ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส วุฏฺานํ นาม ภาริยํ, สมฺมาสมฺพุทฺธํ ปน สกฺขึ ลภิตฺวา วุฏฺิโต’’ติ. อิทฺจ วุฏฺานลกฺขณํ มฺมานา ‘‘พุทฺธกาเลปิ สกฺขินา สุทฺธิ วา อสุทฺธิ วา โหติ มยํ ชานาม, อยํ ปุคฺคโล อสุทฺโธ’’ติ เอวํ ปาปภิกฺขู ลชฺชิมฺปิ วินาเสยฺยุนฺติ. อปิจ อนาคเตปิ ภิกฺขู โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ โจเทตฺวา สาเรตฺวา ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ ลชฺชีนํ ปฏิฺํ คเหตฺวา กมฺมํ กริสฺสนฺตีติ วินยลกฺขเณ ตนฺตึ เปนฺโต ‘‘อหํ ชานามี’’ติ อวตฺวาว ‘‘สเจ ตยา กตํ, ‘กต’นฺติ วเทหี’’ติ อาห.

นาภิชานามิ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตาติ สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น อภิชานามิ, น ปฏิเสวิตา อหนฺติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปฏิเสวิตา หุตฺวา สุปินนฺเตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ น ชานามีติ วุตฺตํ โหติ. เย ปน ‘‘ปฏิเสวิตฺวา’’ติ ปนฺติ เตสํ อุชุกเมว. ปเคว ชาคโรติ ชาครนฺโต ปน ปมํเยว น ชานามีติ.

เตน หิ ภิกฺขเว เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ ยสฺมา ทพฺพสฺส จ อิมิสฺสา จ วจนํ น ฆฏียติ ตสฺมา เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถาติ วุตฺตํ โหติ.

ตตฺถ ติสฺโส นาสนา – ลิงฺคนาสนา, สํวาสนาสนา, ทณฺฑกมฺมนาสนาติ. ตาสุ ‘‘ทูสโก นาเสตพฺโพ’’ติ (ปารา. ๖๖) อยํ ‘‘ลิงฺคนาสนา’’. อาปตฺติยา อทสฺสเน วา อปฺปฏิกมฺเม วา ปาปิกาย ทิฏฺิยา อปฺปฏินิสฺสคฺเค วา อุกฺเขปนียกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘สํวาสนาสนา’’. ‘‘จร ปิเร วินสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๔๒๙) ทณฺฑกมฺมํ กโรนฺติ, อยํ ‘‘ทณฺฑกมฺมนาสนา’’. อิธ ปน ลิงฺคนาสนํ สนฺธายาห – ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ.

อิเม จ ภิกฺขู อนุยุฺชถาติ อิมินา อิมํ ทีเปติ ‘‘อยํ ภิกฺขุนี อตฺตโน ธมฺมตาย อการิกา อทฺธา อฺเหิ อุยฺโยชิตา, ตสฺมา เยหิ อุยฺโยชิตา อิเม ภิกฺขู อนุยุฺชถ คเวสถ ชานาถา’’ติ.

กึ ปน ภควตา เมตฺติยา ภิกฺขุนี ปฏิฺาย นาสิตา อปฺปฏิฺาย นาสิตาติ, กิฺเจตฺถ ยทิ ตาว ปฏิฺาย นาสิตา, เถโร การโก โหติ สโทโส? อถ อปฺปฏิฺาย, เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส.

ภาติยราชกาเลปิ มหาวิหารวาสีนฺจ อภยคิริวาสีนฺจ เถรานํ อิมสฺมึเยว ปเท วิวาโท อโหสิ. อภยคิริวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ วทนฺติ. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหตี’’ติ วทนฺติ. ปฺโห น ฉิชฺชติ. ราชา สุตฺวา เถเร สนฺนิปาเตตฺวา ทีฆการายนํ นาม พฺราหฺมณชาติยํ อมจฺจํ ‘‘เถรานํ กถํ สุณาหี’’ติ อาณาเปสิ. อมจฺโจ กิร ปณฺฑิโต ภาสนฺตรกุสโล โส อาห – ‘‘วทนฺตุ ตาว เถรา สุตฺต’’นฺติ. ตโต อภยคิริเถรา อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ สกาย ปฏิฺาย นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร การโก โหติ สโทโส’’ติ อาห. มหาวิหารวาสิโนปิ อตฺตโน สุตฺตํ วทึสุ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถา’’ติ. อมจฺโจ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ วาเท เถโร อการโก โหติ นิทฺโทโส’’ติ อาห. กึ ปเนตฺถ ยุตฺตํ? ยํ ปจฺฉา วุตฺตํ วิจาริตฺเหตํ อฏฺกถาจริเยหิ, ภิกฺขุ ภิกฺขุํ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ, สงฺฆาทิเสโส; ภิกฺขุนึ อนุทฺธํเสติ, ทุกฺกฏํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘มุสาวาเท ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ.

ตตฺรายํ วิจารณา, ปุริมนเย ตาว อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา ทุกฺกฏเมว ยุชฺชติ. ยถา สติปิ มุสาวาเท ภิกฺขุโน ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส, สติปิ จ มุสาวาเท อสุทฺธํ สุทฺธทิฏฺิโน อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอมสวาเทเนว ปาจิตฺติยํ, น สมฺปชานมุสาวาเทน; เอวํ อิธาปิ อนุทฺธํสนาธิปฺปายตฺตา สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยํ น ยุชฺชติ, ทุกฺกฏเมว ยุตฺตํ. ปจฺฉิมนเยปิ มุสาวาทตฺตา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ, วจนปฺปมาณโต หิ อนุทฺธํสนาธิปฺปาเยน ภิกฺขุสฺส ภิกฺขุสฺมึ สงฺฆาทิเสโส. อกฺโกสาธิปฺปายสฺส จ โอมสวาโท. ภิกฺขุสฺส ปน ภิกฺขุนิยา ทุกฺกฏนฺติวจนํ นตฺถิ, สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยนฺติ วจนมตฺถิ, ตสฺมา ปาจิตฺติยเมว ยุชฺชติ.

ตตฺร ปน อิทํ อุปปริกฺขิตพฺพํ – ‘‘อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย อสติ ปาจิตฺติยํ, ตสฺมึ สติ เกน ภวิตพฺพ’’นฺติ? ตตฺร ยสฺมา มุสา ภณนฺตสฺส ปาจิตฺติเย สิทฺเธปิ อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํสเน วิสุํ ปาจิตฺติยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนุทฺธํสนาธิปฺปาเย สติ สมฺปชานมุสาวาเท ปาจิตฺติยสฺส โอกาโส น ทิสฺสติ, น จ สกฺกา อนุทฺธํเสนฺตสฺส อนาปตฺติยา ภวิตุนฺติ ปุริมนโยเวตฺถ ปริสุทฺธตโร ขายติ. ตถา ภิกฺขุนี ภิกฺขุนึ อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา อนุทฺธํเสติ สงฺฆาทิเสโส, ภิกฺขุํ อนุทฺธํเสติ ทุกฺกฏํ, ตตฺร สงฺฆาทิเสโส วุฏฺานคามี ทุกฺกฏํ, เทสนาคามี เอเตหิ นาสนา นตฺถิ. ยสฺมา ปน สา ปกติยาว ทุสฺสีลา ปาปภิกฺขุนี อิทานิ จ สยเมว ‘‘ทุสฺสีลามฺหี’’ติ วทติ ตสฺมา นํ ภควา อสุทฺธตฺตาเยว นาเสสีติ.

อถโข เมตฺติยภูมชกาติ เอวํ ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนึ นาเสถ, อิเม จ ภิกฺขู อนุยุฺชถา’’ติ วตฺวา อุฏฺายาสนา วิหารํ ปวิฏฺเ ภควติ เตหิ ภิกฺขูหิ ‘‘เทถ ทานิ อิมิสฺสา เสตกานี’’ติ นาสิยมานํ ตํ ภิกฺขุนึ ทิสฺวา เต ภิกฺขู ตํ โมเจตุกามตาย อตฺตโน อปราธํ อาวิกรึสุ, เอตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ โข เมตฺติยภูมชกา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๓๘๕-๖. ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จ. อุปฺปนฺเน หิ โทเส ปุคฺคโล เตน โทเสน ทูสิโต โหติ ปกติภาวํ ชหาปิโต, ตสฺมา ‘‘ทุฏฺโ’’ติ วุจฺจติ. ปรฺจ ทูเสติ วินาเสติ, ตสฺมา ‘‘โทโส’’ติ วุจฺจติ. อิติ ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ เอกสฺเสเวตํ ปุคฺคลสฺส อาการนานตฺเตน นิทสฺสนํ, เตน วุตฺตํ ‘‘ทุฏฺโ โทโสติ ทูสิโต เจว ทูสโก จา’’ติ ตตฺถ สทฺทลกฺขณํ ปริเยสิตพฺพํ. ยสฺมา ปน โส ‘‘ทุฏฺโ โทโส’’ติ สงฺขฺยํ คโต ปฏิฆสมงฺคีปุคฺคโล กุปิตาทิภาเว ิโตว โหติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘กุปิโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กุปิโตติ กุปฺปภาวํ ปกติโต จวนภาวํ ปตฺโต. อนตฺตมโนติ น สกมโน อตฺตโน วเส อฏฺิตจิตฺโต; อปิจ ปีติสุเขหิ น อตฺตมโน น อตฺตจิตฺโตติ อนตฺตมโน. อนภิรทฺโธติ น สุขิโต น วา ปสาทิโตติ อนภิรทฺโธ. ปฏิเฆน อาหตํ จิตฺตมสฺสาติ อาหตจิตฺโต. จิตฺตถทฺธภาวจิตฺตกจวรสงฺขาตํ ปฏิฆขีลํ ชาตมสฺสาติ ขิลชาโต. อปฺปตีโตติ นปฺปตีโต ปีติสุขาทีหิ วชฺชิโต, น อภิสโฏติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยสํ ธมฺมานํ วเสน อปฺปตีโต โหติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘เตน จ โกเปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ เตน จ โกเปนาติ เยน ทุฏฺโติ จ กุปิโตติ จ วุตฺโต อุภยมฺปิ เหตํ ปกติภาวํ ชหาปนโต เอกาการํ โหติ. เตน จ โทเสนาติ เยน ‘‘โทโส’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ สงฺขารกฺขนฺธเมว ทสฺเสติ.

ตาย จ อนตฺตมนตายาติ ยาย ‘‘อนตฺตมโน’’ติ วุตฺโต. ตาย จ อนภิรทฺธิยาติ ยาย ‘‘อนภิรทฺโธ’’ติ วุตฺโต. อิเมหิ ทฺวีหิ เวทนากฺขนฺธํ ทสฺเสติ.

อมูลเกน ปาราชิเกนาติ เอตฺถ นาสฺส มูลนฺติ อมูลกํ, ตํ ปนสฺส อมูลกตฺตํ ยสฺมา โจทกวเสน อธิปฺเปตํ, น จุทิตกวเสน. ตสฺมา ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘อมูลกํ นาม อทิฏฺํ อสุตํ อปริสงฺกิต’’นฺติ อาห. เตน อิมํ ทีเปติ ‘‘ยํ ปาราชิกํ โจทเกน จุทิตกมฺหิ ปุคฺคเล เนว ทิฏฺํ น สุตํ น ปริสงฺกิตํ อิทํ เอเตสํ ทสฺสนสวนปริสงฺกาสงฺขาตานํ มูลานํ อภาวโต อมูลกํ นาม, ตํ ปน โส อาปนฺโน วา โหตุ อนาปนฺโน วา เอตํ อิธ อปฺปมาณนฺติ.

ตตฺถ อทิฏฺํ นาม อตฺตโน ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา อทิฏฺํ. อสุตํ นาม ตเถว เกนจิ วุจฺจมานํ น สุตํ. อปริสงฺกิตํ นาม จิตฺเตน อปริสงฺกิตํ.

‘‘ทิฏฺํ’’ นาม อตฺตนา วา ปเรน วา ปสาทจกฺขุนา วา ทิพฺพจกฺขุนา วา ทิฏฺํ. ‘‘สุตํ’’ นาม ตเถว สุตํ. ‘‘ปริสงฺกิต’’มฺปิ อตฺตนา วา ปเรน วา ปริสงฺกิตํ. ตตฺถ อตฺตนา ทิฏฺํ ทิฏฺเมว, ปเรหิ ทิฏฺํ อตฺตนา สุตํ, ปเรหิ สุตํ, ปเรหิ ปริสงฺกิตนฺติ อิทํ ปน สพฺพมฺปิ อตฺตนา สุตฏฺาเนเยว ติฏฺติ.

ปริสงฺกิตํ ปน ติวิธํ – ทิฏฺปริสงฺกิตํ, สุตปริสงฺกิตํ, มุตปริสงฺกิตนฺติ. ตตฺถ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม เอโก ภิกฺขุ อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมน คามสมีเป เอกํ คุมฺพํ ปวิฏฺโ, อฺตราปิ อิตฺถี เกนจิเทว กรณีเยน ตํ คุมฺพํ ปวิสิตฺวา นิวตฺตา, นาปิ ภิกฺขุ อิตฺถึ อทฺทส; น อิตฺถี ภิกฺขุํ, อทิสฺวาว อุโภปิ ยถารุจึ ปกฺกนฺตา, อฺตโร ภิกฺขุ อุภินฺนํ ตโต นิกฺขมนํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ นาม.

สุตปริสงฺกิตํ นาม อิเธกจฺโจ อนฺธกาเร วา ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส มาตุคาเมน สทฺธึ ภิกฺขุโน ตาทิสํ ปฏิสนฺถารวจนํ สุณาติ, สมีเป อฺํ วิชฺชมานมฺปิ ‘‘อตฺถิ นตฺถี’’ติ น ชานาติ, โส ‘‘อทฺธา อิเมสํ กตํ วา กริสฺสนฺติ วา’’ติ ปริสงฺกติ, อิทํ สุตปริสงฺกิตํ นาม.

มุตปริสงฺกิตํ นาม สมฺพหุลา ธุตฺตา รตฺติภาเค ปุปฺผคนฺธมํสสุราทีนิ คเหตฺวา อิตฺถีหิ สทฺธึ เอกํ ปจฺจนฺตวิหารํ คนฺตฺวา มณฺฑเป วา โภชนสาลาทีสุ วา ยถาสุขํ กีฬิตฺวา ปุปฺผาทีนิ วิกิริตฺวา คตา, ปุนทิวเส ภิกฺขู ตํ วิปฺปการํ ทิสฺวา ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺติ. ตตฺร จ เกนจิ ภิกฺขุนา ปเคว วุฏฺหิตฺวา วตฺตสีเสน มณฺฑปํ วา โภชนสาลํ วา ปฏิชคฺคนฺเตน ปุปฺผาทีนิ อามฏฺานิ โหนฺติ, เกนจิ อุปฏฺากกุลโต อาภเตหิ ปุปฺผาทีหิ ปูชา กตา โหติ, เกนจิ เภสชฺชตฺถํ อริฏฺํ ปีตํ โหติ, อถ เต ‘‘กสฺสิทํ กมฺม’’นฺติ วิจินนฺตา ภิกฺขู เตสํ หตฺถคนฺธฺจ มุขคนฺธฺจ ฆายิตฺวา เต ภิกฺขู ปริสงฺกนฺติ, อิทํ มุตปริสงฺกิตํ นาม.

ตตฺถ ทิฏฺํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ, อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุเตปิ. ปริสงฺกิเต ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ อตฺถิ สมูลกํ, อตฺถิ อมูลกํ; ทิฏฺปริสงฺกิตเมว อตฺถิ สฺาสมูลกํ , อตฺถิ สฺาอมูลกํ. เอส นโย สุตมุตปริสงฺกิเตสุ. ตตฺถ ทิฏฺํ สมูลกํ นาม ปาราชิกํ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวาว ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ, อมูลกํ นาม ปฏิจฺฉนฺโนกาสโต นิกฺขมนฺตํ ทิสฺวา วีติกฺกมํ อทิสฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ วทติ. ทิฏฺเมว สฺาสมูลกํ นาม ทิสฺวาว ทิฏฺสฺี หุตฺวา โจเทติ, สฺาอมูลกํ นาม ปุพฺเพ ปาราชิกวีติกฺกมํ ทิสฺวา ปจฺฉา อทิฏฺสฺี ชาโต, โส สฺาย อมูลกํ กตฺวา ‘‘ทิฏฺโ มยา’’ติ โจเทติ. เอเตน นเยน สุตมุตปริสงฺกิตานิปิ วิตฺถารโต เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ จ สพฺพปฺปกาเรณาปิ สมูลเกน วา สฺาสมูลเกน วา โจเทนฺตสฺส อนาปตฺติ, อมูลเกน วา ปน สฺาอมูลเกน วา โจเทนฺตสฺเสว อาปตฺติ.

อนุทฺธํเสยฺยาติ ธํเสยฺย ปธํเสยฺย อภิภเวยฺย อชฺโฌตฺถเรยฺย. ตํ ปน อนุทฺธํสนํ ยสฺมา อตฺตนา โจเทนฺโตปิ ปเรน โจทาเปนฺโตปิ กโรติเยว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘โจเทติ วา โจทาเปติ วา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ โจเทตีติ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อาปนฺโนสี’’ติอาทีหิ วจเนหิ สยํ โจเทติ, ตสฺส วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. โจทาเปตีติ อตฺตนา สมีเป ตฺวา อฺํ ภิกฺขุ อาณาเปติ, โส ตสฺส วจเนน ตํ โจเทติ, โจทาปกสฺเสว วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส. อถ โสปิ ‘‘มยา ทิฏฺํ สุตํ อตฺถี’’ติ โจเทติ, ทฺวินฺนมฺปิ ชนานํ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส.

โจทนาปฺปเภทโกสลฺลตฺถํ ปเนตฺถ เอกวตฺถุเอกโจทกาทิจตุกฺกํ ตาว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ เอเกน วตฺถุนา โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา เอกํ เอกวตฺถุนา โจเทนฺติ, ปฺจสตา เมตฺติยภูมชกปฺปมุขา ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตมิว, อิมิสฺสา โจทนาย เอกํ วตฺถุ นานาโจทกา. เอโก ภิกฺขุ เอกํ ภิกฺขุํ สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ เอโก โจทโก. สมฺพหุลา สมฺพหุเล สมฺพหุเลหิ วตฺถูหิ โจเทนฺติ, อิมิสฺสา โจทนาย นานาวตฺถูนิ นานาโจทกา.

โจเทตุํ ปน โก ลภติ, โก น ลภตีติ? ทุพฺพลโจทกวจนํ ตาว คเหตฺวา โกจิ น ลภติ. ทุพฺพลโจทโก นาม สมฺพหุเลสุ กถาสลฺลาเปน นิสินฺเนสุ เอโก เอกํ อารพฺภ อโนทิสฺสกํ กตฺวา ปาราชิกวตฺถุํ กเถติ, อฺโ ตํ สุตฺวา อิตรสฺส คนฺตฺวา อาโรเจติ. โส ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ตฺวํ กิร มํ อิทฺจิทฺจ วทสี’’ติ วทติ. โส ‘‘นาหํ เอวรูปํ ชานามิ, กถาปวตฺติยํ ปน มยา อโนทิสฺสกํ กตฺวา วุตฺตมตฺถิ, สเจ อหํ ตว อิมํ ทุกฺขุปฺปตฺตึ ชาเนยฺยํ, เอตฺตกมฺปิ น กเถยฺย’’นฺติ อยํ ทุพฺพลโจทโก. ตสฺเสตํ กถาสลฺลาปํ คเหตฺวา ตํ ภิกฺขุํ โกจิ โจเทตุํ น ลภติ. เอตํ ปน อคฺคเหตฺวา สีลสมฺปนฺโน ภิกฺขุ ภิกฺขุํ วา ภิกฺขุนึ วา สีลสมฺปนฺนา จ ภิกฺขุนี ภิกฺขุนีเมว โจเทตุํ ลภตีติ มหาปทุมตฺเถโร อาห. มหาสุมตฺเถโร ปน ‘‘ปฺจปิ สหธมฺมิกา ลภนฺตี’’ติ อาห. โคทตฺตตฺเถโร ปน ‘‘น โกจิ น ลภตี’’ติ วตฺวา ‘‘ภิกฺขุสฺส สุตฺวา โจเทติ, ภิกฺขุนิยา สุตฺวา โจเทติ…เป… ติตฺถิยสาวกานํ สุตฺวา โจเทตี’’ติ อิทํ สุตฺตมาหริ. ติณฺณมฺปิ เถรานํ วาเท จุทิตกสฺเสว ปฏิฺาย กาเรตพฺโพ.

อยํ ปน โจทนา นาม ทูตํ วา ปณฺณํ วา สาสนํ วา เปเสตฺวา โจเทนฺตสฺส สีสํ น เอติ, ปุคฺคลสฺส ปน สมีเป ตฺวาว หตฺถมุทฺทาย วา วจีเภเทน วา โจเทนฺตสฺเสว สีสํ เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานเมว หิ หตฺถมุทฺทาย สีสํ น เอติ, อิทํ ปน อนุทฺธํสนํ อภูตาโรจนฺจ เอติเยว. โย ปน ทฺวินฺนํ ิตฏฺาเน เอกํ นิยเมตฺวา โจเทติ, โส เจ ชานาติ, สีสํ เอติ. อิตโร ชานาติ, สีสํ น เอติ. ทฺเวปิ นิยเมตฺวา โจเทติ, เอโก วา ชานาตุ ทฺเว วา, สีสํ เอติเยว. เอสว นโย สมฺพหุเลสุ. ตงฺขเณเยว จ ชานนํ นาม ทุกฺกรํ, สมเยน อาวชฺชิตฺวา าเต ปน าตเมว โหติ. ปจฺฉา เจ ชานาติ, สีสํ น เอติ. สิกฺขาปจฺจกฺขานํ อภูตาโรจนํ ทุฏฺุลฺลวาจา-อตฺตกาม-ทุฏฺโทสภูตาโรจนสิกฺขาปทานีติ สพฺพาเนว หิ อิมานิ เอกปริจฺเฉทานิ.

เอวํ กายวาจาวเสน จายํ ทุวิธาปิ โจทนา. ปุน ทิฏฺโจทนา, สุตโจทนา, ปริสงฺกิตโจทนาติ ติวิธา โหติ. อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ – สีลวิปตฺติโจทนา, อาจารวิปตฺติโจทนา, ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีววิปตฺติโจทนาติ. ตตฺถ ครุกานํ ทฺวินฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ วเสน สีลวิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา. อวเสสานํ วเสน อาจารวิปตฺติโจทนา, มิจฺฉาทิฏฺิอนฺตคฺคาหิกทิฏฺิวเสน ทิฏฺิวิปตฺติโจทนา, อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วเสน อาชีววิปตฺติโจทนา เวทิตพฺพา.

อปราปิ จตุพฺพิธา โหติ – วตฺถุสนฺทสฺสนา, อาปตฺติสนฺทสฺสนา, สํวาสปฏิกฺเขโป, สามีจิปฏิกฺเขโปติ. ตตฺถ วตฺถุสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวิตฺถ, อทินฺนํ อาทิยิตฺถ, มนุสฺสํ ฆาตยิตฺถ, อภูตํ อาโรจยิตฺถา’’ติ เอวํ ปวตฺตา. อาปตฺติสนฺทสฺสนา นาม ‘‘ตฺวํ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺตา. สํวาสปฏิกฺเขโป นาม ‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ เอวํ ปวตฺตา; เอตฺตาวตา ปน สีสํ น เอติ, ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. สามีจิปฏิกฺเขโป นาม อภิวาทน-ปจฺจุฏฺาน-อฺชลิกมฺม-พีชนาทิกมฺมานํ อกรณํ. ตํ ปฏิปาฏิยา วนฺทนาทีนิ กโรโต เอกสฺส อกตฺวา เสสานํ กรณกาเล เวทิตพฺพํ. เอตฺตาวตา จ โจทนา นาม โหติ, อาปตฺติ ปน สีสํ น เอติ. ‘‘กสฺมา มม วนฺทนาทีนิ น กโรสี’’ติ ปุจฺฉิเต ปน ‘‘อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติอาทิวจเนหิ สทฺธึ ฆฏิเตเยว สีสํ เอติ. ยาคุภตฺตาทินา ปน ยํ อิจฺฉติ ตํ อาปุจฺฉติ, น ตาวตา โจทนา โหติ.

อปราปิ ปาติโมกฺขฏฺปนกฺขนฺธเก ‘‘เอกํ, ภิกฺขเว, อธมฺมิกํ ปาติโมกฺขฏฺปนํ เอกํ ธมฺมิก’’นฺติ อาทึ ‘‘กตฺวา ยาว ทส อธมฺมิกานิ ปาติโมกฺขฏฺปนานิ ทส ธมฺมิกานี’’ติ (จูฬว. ๓๘๗) เอวํ อธมฺมิกา ปฺจปฺาส ธมฺมิกา ปฺจปฺาสาติ ทสุตฺตรสตํ โจทนา วุตฺตา. ตา ทิฏฺเน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, สุเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตํ, ปริสงฺกิเตน โจเทนฺตสฺส ทสุตฺตรสตนฺติ ตึสานิ ตีณิ สตานิ โหนฺติ. ตานิ กาเยน โจเทนฺตสฺส, วาจาย โจเทนฺตสฺส, กายวาจาหิ โจเทนฺตสฺสาติ ติคุณานิ กตานิ นวุตานิ นว สตานิ โหนฺติ. ตานิ อตฺตนา โจเทนฺตสฺสาปิ ปเรน โจทาเปนฺตสฺสาปิ ตตฺตกาเนวาติ วีสติอูนานิ ทฺเว สหสฺสานิ โหนฺติ, ปุน ทิฏฺาทิเภเท สมูลกามูลกวเสน อเนกสหสฺสา โจทนา โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา อฏฺกถาย ‘‘อตฺตาทานํ อาทาตุกาเมน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ อตฺตาทานํ อาทาตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๓๙๘) จ ‘‘โจทเกน อุปาลิ ภิกฺขุนา ปรํ โจเทตุกาเมน ปฺจ ธมฺเม อชฺฌตฺตํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปโร โจเทตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๓๙๙) จ เอวํ อุปาลิปฺจกาทีสุ วุตฺตานิ พหูนิ สุตฺตานิ อาหริตฺวา อตฺตาทานลกฺขณฺจ โจทกวตฺตฺจ จุทิตกวตฺตฺจ สงฺเฆน กาตพฺพกิจฺจฺจ อนุวิชฺชกวตฺตฺจ สพฺพํ วิตฺถาเรน กถิตํ, ตํ มยํ ยถาอาคตฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม.

วุตฺตปฺปเภทาสุ ปน อิมาสุ โจทนาสุ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทกา วตฺตพฺพา ‘‘ตุมฺเห อมฺหากํ วินิจฺฉเยน ตุฏฺา ภวิสฺสถา’’ติ. สเจ ‘‘ภวิสฺสามา’’ติ วทนฺติ, สงฺเฆน ตํ อธิกรณํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปน ‘‘วินิจฺฉินถ ตาว, ภนฺเต, สเจ อมฺหากํ ขมิสฺสติ, คณฺหิสฺสามา’’ติ วทนฺติ. ‘‘เจติยํ ตาว วนฺทถา’’ติอาทีนิ วตฺวา ทีฆสุตฺตํ กตฺวา วิสฺสชฺชิตพฺพํ. เต เจ จิรรตฺตํ กิลนฺตา ปกฺกนฺตปริสา อุปจฺฉินฺนปกฺขา หุตฺวา ปุน ยาจนฺติ, ยาวตติยํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยทา นิมฺมทา โหนฺติ ตทา เนสํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. วินิจฺฉินนฺเตหิ จ สเจ อลชฺชุสฺสนฺนา โหติ, ปริสา อุพฺพาหิกาย ตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตพฺพํ. สเจ พาลุสฺสนฺนา โหติ ปริสา ‘‘ตุมฺหากํ สภาเค วินยธเร ปริเยสถา’’ติ วินยธเร ปริเยสาเปตฺวา เยน ธมฺเมน เยน วินเยน เยน สตฺถุสาสเนน ตํ อธิกรณํ วูปสมติ, ตถา ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ.

ตตฺถ จ ‘‘ธมฺโม’’ติ ภูตํ วตฺถุ. ‘‘วินโย’’ติ โจทนา สารณา จ. ‘‘สตฺถุสาสน’’นฺติ ตฺติสมฺปทา จ อนุสาวนสมฺปทา จ. ตสฺมา โจทเกน วตฺถุสฺมึ อาโรจิเต จุทิตโก ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘สนฺตเมตํ, โน’’ติ. เอวํ วตฺถุํ อุปปริกฺขิตฺวา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา จ ตฺติสมฺปทาย อนุสาวนสมฺปทาย จ ตํ อธิกรณํ วูปสเมตพฺพํ. ตตฺร เจ อลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, โส จ อลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต นาสฺส นโย ทาตพฺโพ. เอวํ ปน วตฺตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสี’’ติ? อทฺธา โส วกฺขติ – ‘‘กิมิทํ, ภนฺเต, กิมฺหิ นํ นามา’’ติ. ตฺวํ กิมฺหิ นมฺปิ น ชานาสิ, น ยุตฺตํ ตยา เอวรูเปน พาเลน ปรํ โจเทตุนฺติ อุยฺโยเชตพฺโพ นาสฺส อนุโยโค ทาตพฺโพ. สเจ ปน โส อลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต ทิฏฺเน วา สุเตน วา อชฺโฌตฺถริตฺวา สมฺปาเทตุํ สกฺโกติ เอตสฺส อนุโยคํ ทตฺวา ลชฺชิสฺเสว ปฏิฺาย กมฺมํ กาตพฺพํ.

สเจ ลชฺชี อลชฺชึ โจเทติ, โส จ ลชฺชี พาโล โหติ อพฺยตฺโต, น สกฺโกติ อนุโยคํ ทาตุํ. ตสฺส นโย ทาตพฺโพ – ‘‘กิมฺหิ นํ โจเทสิ สีลวิปตฺติยา วา อาจารวิปตฺติอาทีสุ วา เอกิสฺสา’’ติ. กสฺมา ปน อิมสฺเสว เอวํ นโย ทาตพฺโพ, น อิตรสฺส? นนุ น ยุตฺตํ วินยธรานํ อคติคมนนฺติ? น ยุตฺตเมว. อิทํ ปน อคติคมนํ น โหติ, ธมฺมานุคฺคโห นาม เอโส อลชฺชินิคฺคหตฺถาย หิ ลชฺชิปคฺคหตฺถาย จ สิกฺขาปทํ ปฺตฺตํ. ตตฺร อลชฺชี นยํ ลภิตฺวา อชฺโฌตฺถรนฺโต เอหีติ, ลชฺชี ปน นยํ ลภิตฺวา ทิฏฺเ ทิฏฺสนฺตาเนน, สุเต สุตสนฺตาเนน ปติฏฺาย กเถสฺสติ, ตสฺมา ตสฺส ธมฺมานุคฺคโห วฏฺฏติ. สเจ ปน โส ลชฺชี ปณฺฑิโต โหติ พฺยตฺโต, ปติฏฺาย กเถติ, อลชฺชี จ ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ, อลชฺชิสฺส ปฏิฺาย เอว กาตพฺพํ.

ตทตฺถทีปนตฺถฺจ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ. เตปิฏกจูฬาภยตฺเถโร กิร โลหปาสาทสฺส เหฏฺา ภิกฺขูนํ วินยํ กเถตฺวา สายนฺหสมเย วุฏฺาติ, ตสฺส วุฏฺานสมเย ทฺเว อตฺตปจฺจตฺถิกา กถํ ปวตฺเตสุํ. เอโก ‘‘เอตมฺปิ นตฺถิ, เอตมฺปิ นตฺถี’’ติ ปฏิฺํ น เทติ. อถ อปฺปาวเสเส ปมยาเม เถรสฺส ตสฺมึ ปุคฺคเล ‘‘อยํ ปติฏฺาย กเถติ, อยํ ปน ปฏิฺํ น เทติ, พหูนิ จ วตฺถูนิ โอสฏานิ อทฺธา เอตํ กตํ ภวิสฺสตี’’ติ อสุทฺธลทฺธิ อุปฺปนฺนา. ตโต พีชนีทณฺฑเกน ปาทกถลิกาย สฺํ ทตฺวา ‘‘อหํ อาวุโส วินิจฺฉินิตุํ อนนุจฺฉวิโก อฺเน วินิจฺฉินาเปหี’’ติ อาห. กสฺมา ภนฺเตติ? เถโร ตมตฺถํ อาโรเจสิ, จุทิตกปุคฺคลสฺส กาเย ฑาโห อุฏฺิโต, ตโต โส เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ภนฺเต, วินิจฺฉินิตุํ อนุรูเปน วินยธเรน นาม ตุมฺหาทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏติ. โจทเกน จ อีทิเสเนว ภวิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา เสตกานิ นิวาเสตฺวา ‘‘จิรํ กิลมิตตฺถ มยา’’ติ ขมาเปตฺวา ปกฺกามิ.

เอวํ ลชฺชินา โจทิยมาโน อลชฺชี พหูสุปิ วตฺถูสุ อุปฺปนฺเนสุ ปฏิฺํ น เทติ, โส เนว ‘‘สุทฺโธ’’ติ วตฺตพฺโพ น ‘‘อสุทฺโธ’’ติ. ชีวมตโก นาม อามกปูติโก นาม เจส.

สเจ ปนสฺส อฺมฺปิ ตาทิสํ วตฺถุํ อุปฺปชฺชติ น วินิจฺฉินิตพฺพํ . ตถา นาสิตโกว ภวิสฺสติ. สเจ ปน อลชฺชีเยว อลชฺชึ โจเทติ, โส วตฺตพฺโพ ‘‘อาวุโส ตว วจเนนายํ กึ สกฺกา วตฺตุ’’นฺติ อิตรมฺปิ ตเถว วตฺวา อุโภปิ ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ วตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา, สีลตฺถาย เตสํ วินิจฺฉโย น กาตพฺโพ. ปตฺตจีวรปริเวณาทิอตฺถาย ปน ปติรูปํ สกฺขึ ลภิตฺวา กาตพฺโพ.

อถ ลชฺชี ลชฺชึ โจเทติ, วิวาโท จ เนสํ กิสฺมิฺจิเทว อปฺปมตฺตโก โหติ, สฺาเปตฺวา ‘‘มา เอวํ กโรถา’’ติ อจฺจยํ เทสาเปตฺวา อุยฺโยเชตพฺพา. อถ ปเนตฺถ จุทิตเกน สหสา วิรทฺธํ โหติ, อาทิโต ปฏฺาย อลชฺชี นาม นตฺถิ. โส จ ปกฺขานุรกฺขณตฺถาย ปฏิฺํ น เทติ, ‘‘มยํ สทฺทหาม, มยํ สทฺทหามา’’ติ พหู อุฏฺหนฺติ. โส เตสํ ปฏิฺาย เอกวารํ ทฺเววารํ สุทฺโธ โหตุ. อถ ปน วิรทฺธกาลโต ปฏฺาย าเน น ติฏฺติ, วินิจฺฉโย น ทาตพฺโพ.

เอวํ ยาย กายจิ โจทนาย วเสน สงฺฆมชฺเฌ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ จุทิตกโจทเกสุ ปฏิปตฺตึ ตฺวา ตสฺสาเยว โจทนาย สมฺปตฺติวิปตฺติชานนตฺถํ อาทิมชฺฌปริโยสานาทีนํ วเสน วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ โจทนาย โก อาทิ, กึ มชฺเฌ, กึ ปริโยสานํ? โจทนาย ‘‘อหํ ตํ วตฺตุกาโม, กโรตุ เม อายสฺมา โอกาส’’นฺติ เอวํ โอกาสกมฺมํ อาทิ, โอติณฺเณน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา วินิจฺฉโย มชฺเฌ, อาปตฺติยํ วา อนาปตฺติยํ วา ปติฏฺาปเนน สมโถ ปริโยสานํ.

โจทนาย กติ มูลานิ, กติ วตฺถูนิ, กติ ภูมิโย? โจทนาย ทฺเว มูลานิ – สมูลิกา วา อมูลิกา วา; ตีณิ วตฺถูนิ – ทิฏฺํ, สุตํ, ปริสงฺกิตํ; ปฺจ ภูมิโย – กาเลน วกฺขามิ โน อกาเลน, ภูเตน วกฺขามิ โน อภูเตน, สณฺเหน วกฺขามิ โน ผรุเสน, อตฺถสํหิเตน วกฺขามิ โน อนตฺถสํหิเตน, เมตฺตจิตฺโต วกฺขามิ โน โทสนฺตโรติ. อิมาย จ ปน โจทนาย โจทเกน ปุคฺคเลน ‘‘ปริสุทฺธกายสมาจาโร นุ โขมฺหี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๙๙) นเยน อุปาลิปฺจเก วุตฺเตสุ ปนฺนรสสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ, จุทิตเกน ทฺวีสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาตพฺพํ สจฺเจ จ อกุปฺเป จาติ.

อปฺเปวนาม นํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺยนฺติ อปิ เอว นาม นํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา เสฏฺจริยา จาเวยฺยํ, ‘‘สาธุ วตสฺส สจาหํ อิมํ ปุคฺคลํ อิมมฺหา พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมินา อธิปฺปาเยน อนุทฺธํเสยฺยาติ วุตฺตํโหติ. ปทภาชเน ปน ‘‘พฺรหฺมจริยา จาเวยฺย’’นฺติ อิมสฺเสว ปริยายมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุภาวา จาเวยฺย’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ขณาทีนิ สมยเววจนานิ. ตํ ขณํ ตํ ลยํ ตํ มุหุตฺตํ วีติวตฺเตติ ตสฺมึ ขเณ ตสฺมึ ลเย ตสฺมึ มุหุตฺเต วีติวตฺเต. ภุมฺมปฺปตฺติยา หิ อิทํ อุปโยควจนํ.

สมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส เยน วตฺถุนา อนุทฺธํสิโต โหตีติ จตูสุ ปาราชิกวตฺถูสุ เยน วตฺถุนา โจทเกน จุทิตโก อนุทฺธํสิโต อภิภูโต อชฺโฌตฺถโฏ โหติ. ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ สมนุคฺคาหิยมาโนติ ตสฺมึ โจทเกน วุตฺตวตฺถุสฺมึ โส โจทโก อนุวิชฺชเกน ‘‘กึ เต ทิฏฺํ, กินฺติ เต ทิฏฺ’’นฺติอาทินา นเยน อนุวิชฺชิยมาโน วีมํสิยมาโน อุปปริกฺขิยมาโน.

อสมนุคฺคาหิยมานนิทฺเทเส น เกนจิ วุจฺจมาโนติ อนุวิชฺชเกน วา อฺเน วา เกนจิ, อถ วา ทิฏฺาทีสุ วตฺถูสุ เกนจิ อวุจฺจมาโน. เอเตสฺจ ทฺวินฺนํ มาติกาปทานํ ปรโต ‘‘ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาตี’’ติอิมินา สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – ‘‘เอวํ สมนุคฺคาหิยมาโน วา อสมนุคฺคาหิยมาโน วา ภิกฺขุ จ โทสํ ปติฏฺาติ ปฏิจฺจ ติฏฺติ ปฏิชานาติ สงฺฆาทิเสโส’’ติ. อิทฺจ อมูลกภาวสฺส ปากฏกาลทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ. อาปตฺตึ ปน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว อาปชฺชติ.

อิทานิ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ เอตฺถ ยสฺมา อมูลกลกฺขณํ ปุพฺเพ วุตฺตํ, ตสฺมา ตํ อวตฺวา อปุพฺพเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อธิกรณํ นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยสฺมา อธิกรณํ อธิกรณฏฺเน เอกมฺปิ วตฺถุวเสน นานา โหติ, เตนสฺส ตํ นานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘จตฺตาริ อธิกรณานิ วิวาทาธิกรณ’’นฺติอาทิมาห. โก ปน โส อธิกรณฏฺโ, เยเนตํ เอกํ โหตีติ? สมเถหิ อธิกรณียตา. ตสฺมา ยํ อธิกิจฺจ อารพฺภ ปฏิจฺจ สนฺธาย สมถา วตฺตนฺติ, ตํ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ เวทิตพฺพํ.

อฏฺกถาสุ ปน วุตฺตํ – ‘‘อธิกรณนฺติ เกจิ คาหํ วทนฺติ, เกจิ เจตนํ, เกจิ อกฺขนฺตึ เกจิ โวหารํ, เกจิ ปณฺณตฺติ’’นฺติ. ปุน เอวํ วิจาริตํ ‘‘ยทิ คาโห อธิกรณํ นาม, เอโก อตฺตาทานํ คเหตฺวา สภาเคน ภิกฺขุนา สทฺธึ มนฺตยมาโน ตตฺถ อาทีนวํ ทิสฺวา ปุน จชติ, ตสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ. ยทิ เจตนา อธิกรณํ, ‘‘อิทํ อตฺตาทานํ คณฺหามี’’ติ อุปฺปนฺนา เจตนา นิรุชฺฌติ. ยทิ อกฺขนฺติ อธิกรณํ, อกฺขนฺติยา อตฺตาทานํ คเหตฺวาปิ อปรภาเค วินิจฺฉยํ อลภมาโน วา ขมาปิโต วา จชติ. ยทิ โวหาโร อธิกรณํ, กเถนฺโต อาหิณฺฑิตฺวา อปรภาเค ตุณฺหี โหติ นิรโว, เอวมสฺส ตํ อธิกรณํ สมถปฺปตฺตํ ภวิสฺสติ, ตสฺมา ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ.

ตํ ปเนตํ ‘‘เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติ เมถุนธมฺมปาราชิกาปตฺติยา ตพฺภาคิยา…เป… เอวํ อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ จ วิวาทาธิกรณํ สิยา กุสลํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ จ เอวมาทีหิ วิรุชฺฌติ. น หิ เต ปณฺณตฺติยา กุสลาทิภาวํ อิจฺฉนฺติ, น จ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกน ธมฺเมนา’’ติ เอตฺถ อาคโต ปาราชิกธมฺโม ปณฺณตฺติ นาม โหติ. กสฺมา? อจฺจนฺตอกุสลตฺตา. วุตฺตมฺปิ เหตํ – ‘‘อาปตฺตาธิกรณํ สิยา อกุสลํ สิยา อพฺยากต’’นฺติ (ปริ. ๓๐๓).

ยฺเจตํ ‘‘อมูลเกน ปาราชิเกนา’’ติ เอตฺถ อมูลกํ ปาราชิกํ นิทฺทิฏฺํ, ตสฺเสวายํ ‘‘อมูลกฺเจว ตํ อธิกรณํ โหตี’’ติ ปฏินิทฺเทโส, น ปณฺณตฺติยา น หิ อฺํ นิทฺทิสิตฺวา อฺํ ปฏินิทฺทิสติ. ยสฺมา ปน ยาย ปณฺณตฺติยา เยน อภิลาเปน โจทเกน โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนติ ปฺตฺโต, ปาราชิกสงฺขาตสฺส อธิกรณสฺส อมูลกตฺตา สาปิ ปฺตฺติ อมูลิกา โหติ, อธิกรเณ ปวตฺตตฺตา จ อธิกรณํ. ตสฺมา อิมินา ปริยาเยน ปณฺณตฺติ ‘‘อธิกรณ’’นฺติ ยุชฺเชยฺย, ยสฺมา วา ยํ อมูลกํ นาม อธิกรณํ ตํ สภาวโต นตฺถิ, ปฺตฺติมตฺตเมว อตฺถิ. ตสฺมาปิ ปณฺณตฺติ อธิกรณนฺติ ยุชฺเชยฺย. ตฺจ โข อิเธว น สพฺพตฺถ. น หิ วิวาทาทีนํ ปณฺณตฺติ อธิกรณํ. อธิกรณฏฺโ ปน เตสํ ปุพฺเพ วุตฺตสมเถหิ อธิกรณียตา. อิติ อิมินา อธิกรณฏฺเน อิเธกจฺโจ วิวาโท วิวาโท เจว อธิกรณฺจาติ วิวาทาธิกรณํ. เอส นโย เสเสสุ .

ตตฺถ ‘‘อิธ ภิกฺขู วิวทนฺติ ธมฺโมติ วา อธมฺโมติ วา’’ติ เอวํ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน วิวาโท วิวาทาธิกรณํ. ‘‘อิธ ภิกฺขู ภิกฺขุํ อนุวทนฺติ สีลวิปตฺติยา วา’’ติ เอวํ จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺโน อนุวาโท อนุวาทาธิกรณํ. ‘‘ปฺจปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณํ, สตฺตปิ อาปตฺติกฺขนฺธา อาปตฺตาธิกรณ’’นฺติ เอวํ อาปตฺติเยว อาปตฺตาธิกรณํ. ‘‘ยา สงฺฆสฺส กิจฺจยตา กรณียตา อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’’นฺติ (จูฬว. ๒๑๕) เอวํ จตุพฺพิธํ สงฺฆกิจฺจํ กิจฺจาธิกรณนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิมสฺมึ ปนตฺเถ ปาราชิกาปตฺติสงฺขาตํ อาปตฺตาธิกรณเมว อธิปฺเปตํ. เสสานิ อตฺถุทฺธารวเสน วุตฺตานิ, เอตฺตกา หิ อธิกรณสทฺทสฺส อตฺถา. เตสุ ปาราชิกเมว อิธ อธิปฺเปตํ. ตํ ทิฏฺาทีหิ มูเลหิ อมูลกฺเจว อธิกรณํ โหติ. อยฺจ ภิกฺขุ โทสํ ปติฏฺาติ, ปฏิจฺจ ติฏฺติ ‘‘ตุจฺฉกํ มยา ภณิต’’นฺติอาทีนิ วทนฺโต ปฏิชานาติ. ตสฺส ภิกฺขุโน อนุทฺธํสิตกฺขเณเยว สงฺฆาทิเสโสติ อยํ ตาวสฺส สปทานุกฺกมนิทฺเทสสฺส สิกฺขาปทสฺส อตฺโถ.

๓๘๗. อิทานิ ยานิ ตานิ สงฺเขปโต ทิฏฺาทีนิ โจทนาวตฺถูนิ วุตฺตานิ, เตสํ วเสน วิตฺถารโต อาปตฺตึ โรเปตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อทิฏฺสฺส โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อทิฏฺสฺส โหตีติ อทิฏฺโ อสฺส โหติ. เอเตน โจทเกน อทิฏฺโ โหติ, โส ปุคฺคโล ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ อตฺโถ. เอส นโย อสุตสฺส โหตีติอาทีสุปิ.

ทิฏฺโ มยาติ ทิฏฺโสิ มยาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย สุโต มยาติอาทีสุปิ. เสสํ อทิฏฺมูลเก อุตฺตานตฺถเมว. ทิฏฺมูลเก ปน ตฺเจ โจเทติ ‘‘สุโต มยา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ สุตฺตาทีนํ อาภาเวน อมูลกตฺตํ เวทิตพฺพํ.

สพฺพสฺมึเยว จ อิมสฺมึ โจทกวาเร ยถา อิธาคเตสุ ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ, อสกฺยปุตฺติโยสี’’ติ อิเมสุ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติ, เอวํ อฺตฺร อาคเตสุ ‘‘ทุสฺสีโล, ปาปธมฺโม, อสุจิสงฺกสฺสรสมาจาโร, ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺโต , อสฺสมโณ สมณปฏิฺโ, อพฺรหฺมจารี พฺรหฺมจาริปฏิฺโ, อนฺโตปูติ, อวสฺสุโต, กสมฺพุชาโต’’ติ อิเมสุปิ วจเนสุ เอเกกสฺส วเสน วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสโส โหติเยว.

‘‘นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ อิมานิ ปน สุทฺธานิ สีสํ น เอนฺติ, ‘‘ทุสฺสีโลสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา’’ติ เอวํ ทุสฺสีลาทิปเทสุ ปน ‘‘ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ติอาทิปเทสุ วา เยน เกนจิ สทฺธึ ฆฏิตาเนว สีสํ เอนฺติ, สงฺฆาทิเสสกรานิ โหนฺติ.

มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘น เกวลํ อิธ ปาฬิยํ อนาคตานิ ‘ทุสฺสีโล ปาปธมฺโม’ติอาทิปทาเนว สีสํ เอนฺติ, ‘โกณฺโสิ มหาสามเณโรสิ, มหาอุปาสโกสิ, เชฏฺพฺพติโกสิ, นิคณฺโสิ, อาชีวโกสิ, ตาปโสสิ, ปริพฺพาชโกสิ, ปณฺฑโกสิ, เถยฺยสํวาสโกสิ, ติตฺถิยปกฺกนฺตโกสิ, ติรจฺฉานคโตสิ, มาตุฆาตโกสิ, ปิตุฆาตโกสิ, อรหนฺตฆาตโกสิ, สงฺฆเภทโกสิ, โลหิตุปฺปาทโกสิ, ภิกฺขุนีทูสโกสิ, อุภโตพฺยฺชนกโอสี’ติ อิมานิปิ สีสํ เอนฺติเยวา’’ติ. มหาปทุมตฺเถโรเยว จ ‘‘ทิฏฺเ เวมติโกติอาทีสุ ยทคฺเคน เวมติโก ตทคฺเคน โน กปฺเปติ, ยทคฺเคน โน กปฺเปติ ตทคฺเคน นสฺสรติ, ยทคฺเคน นสฺสรติ ตทคฺเคน ปมุฏฺโ โหตี’’ติ วทติ.

มหาสุมตฺเถโร ปน เอเกกํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา จตุนฺนมฺปิ ปาเฏกฺกํ นยํ ทสฺเสติ. กถํ? ทิฏฺเ เวมติโกติ อยํ ตาว ทสฺสเน วา เวมติโก โหติ ปุคฺคเล วา, ตตฺถ ‘‘ทิฏฺโ นุโข มยา น ทิฏฺโ’’ติ เอวํ ทสฺสเน เวมติโก โหติ. ‘‘อยํ นุโข มยา ทิฏฺโ อฺโ’’ติ เอวํ ปุคฺคเล เวมติโก โหติ. เอวํ ทสฺสนํ วา โน กปฺเปติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา นสฺสรติ ปุคฺคลํ วา, ทสฺสนํ วา ปมุฏฺโ โหติ ปุคฺคลํ วา. เอตฺถ จ เวมติโกติ วิมติชาโต. โน กปฺเปตีติ น สทฺทหติ. นสฺสรตีติ อสาริยมาโน นสฺสรติ. ยทา ปน ตํ ‘‘อสุกสฺมึ นาม ภนฺเต าเน อสุกสฺมึ นาม กาเล’’ติ สาเรนฺติ ตทา สรติ. ปมุฏฺโติ โย เตหิ เตหิ อุปาเยหิ สาริยมาโนปิ นสฺสรติเยวาติ . เอเตเนวุปาเยน โจทาปกวาโรปิ เวทิตพฺโพ, เกวลฺหิ ตตฺถ ‘‘มยา’’ติ ปริหีนํ, เสสํ โจทกวารสทิสเมว.

๓๘๙. ตโต ปรํ อาปตฺติเภทํ อนาปตฺติเภทฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุทฺเธ สุทฺธทิฏฺี’’ติอาทิกํ จตุกฺกํ เปตฺวา เอกเมกํ ปทํ จตูหิ จตูหิ เภเทหิ นิทฺทิฏฺํ, ตํ สพฺพํ ปาฬินเยเนว สกฺกา ชานิตุํ. เกวลํ เหตฺถาธิปฺปายเภโท เวทิตพฺโพ. อยฺหิ อธิปฺปาโย นาม – จาวนาธิปฺปาโย, อกฺโกสาธิปฺปาโย, กมฺมาธิปฺปาโย, วุฏฺานาธิปฺปาโย, อุโปสถปวารณฏฺปนาธิปฺปาโย, อนุวิชฺชนาธิปฺปาโย, ธมฺมกถาธิปฺปาโยติ อเนกวิโธ. ตตฺถ ปุริเมสุ จตูสุ อธิปฺปาเยสุ โอกาสํ อการาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โอกาสํ การาเปตฺวาปิ จ สมฺมุขา อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส. อมูลเกน สงฺฆาทิเสเสน อนุทฺธํเสนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อาจารวิปตฺติยา อนุทฺธํเสนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อกฺโกสาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ. อสมฺมุขา ปน สตฺตหิปิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ วทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. อสมฺมุขา เอว สตฺตวิธมฺปิ กมฺมํ กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว.

กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘วุฏฺานาธิปฺปาเยน ‘ตฺวํ อิมํ นาม อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิกโรหี’ติ วทนฺตสฺส โอกาสกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. สพฺพตฺเถว ปน ‘‘อุโปสถปวารณํ เปนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ปนกฺเขตฺตํ ปน ชานิตพฺพํ. ‘‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ อชฺชุโปสโถ ปนฺนรโส ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ สงฺโฆ อุโปสถํ กเรยฺย’’ติ เอตสฺมิฺหิ เร-กาเร อนติกฺกนฺเตเยว เปตุํ ลพฺภติ. ตโต ปรํ ปน ยฺย-กาเร ปตฺเต น ลพฺภติ. เอส นโย ปวารณาย. อนุวิชฺชกสฺสาปิ โอสเฏ วตฺถุสฺมึ ‘‘อตฺเถตํ ตวา’’ติ อนุวิชฺชนาธิปฺปาเยน วทนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ.

ธมฺมกถิกสฺสาปิ ธมฺมาสเน นิสีทิตฺวา ‘‘โย อิทฺจิทฺจ กโรติ, อยํ ภิกฺขุ อสฺสมโณ’’ติอาทินา นเยน อโนทิสฺส ธมฺมํ กเถนฺตสฺส โอกาสกมฺมํ นตฺถิ. สเจ ปน โอทิสฺส นิยเมตฺวา ‘‘อสุโก จ อสุโก จ อสฺสมโณ อนุปาสโก’’ติ กเถติ, ธมฺมาสนโต โอโรหิตฺวา อาปตฺตึ เทเสตฺวา คนฺตพฺพํ. ยํ ปน ตตฺถ ตตฺถ ‘‘อโนกาสํ การาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ ตสฺส โอกาสํ อการาเปตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ, น หิ โกจิ อโนกาโส นาม อตฺถิ, ยโมกาสํ การาเปตฺวา อาปตฺตึ อาปชฺชติ, โอกาสํ ปน อการาเปตฺวา อาปชฺชตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต, วาจาจิตฺตโต, กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ. กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปมทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา

๓๙๑. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ หนฺท มยํ อาวุโส อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมาติ เต กิร ปมวตฺถุสฺมึ อตฺตโน มโนรถํ สมฺปาเทตุํ อสกฺโกนฺตา ลทฺธนิคฺคหา วิฆาตปฺปตฺตา ‘‘อิทานิ ชานิสฺสามา’’ติ ตาทิสํ วตฺถุํ ปริเยสมานา วิจรนฺติ. อเถกทิวสํ ทิสฺวา ตุฏฺา อฺมฺํ โอโลเกตฺวา เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, อิมํ ฉคลกํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ, ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามาย’’นฺติ เอวมสฺส นามํ กโรมาติ วุตฺตํ โหติ. เอส นโย เมตฺติยํ นาม ภิกฺขุนินฺติ เอตฺถาปิ.

เต ภิกฺขู เมตฺติยภุมชเก ภิกฺขู อนุยุฺชึสูติ เอวํ อนุยุฺชึสุ –‘‘อาวุโส, กุหึ ตุมฺเหหิ ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต เมตฺติยาย ภิกฺขุนิยา สทฺธึ ทิฏฺโ’’ติ? ‘‘คิชฺฌกูฏปพฺพตปาเท’’ติ. ‘‘กาย เวลาย’’ติ? ‘‘ภิกฺขาจารคมนเวลายา’’ติ. อาวุโส ทพฺพ อิเม เอวํ วทนฺติ – ‘‘ตฺวํ ตทา กุหิ’’นฺติ? ‘‘เวฬุวเน ภตฺตานิ อุทฺทิสามี’’ติ. ‘‘ตว ตาย เวลาย เวฬุวเน อตฺถิภาวํ โก ชานาตี’’ติ? ‘‘ภิกฺขุสงฺโฆ, ภนฺเต’’ติ. เต สงฺฆํ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ชานาถ ตุมฺเห ตาย เวลาย อิมสฺส เวฬุวเน อตฺถิภาว’’นฺติ. ‘‘อาม, อาวุโส, ชานาม, เถโร สมฺมุติลทฺธทิวสโต ปฏฺาย เวฬุวเนเยวา’’ติ. ตโต เมตฺติยภุมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ตุมฺหากํ กถา น สเมติ, กจฺจิ โน เลสํ โอฑฺเฑตฺวา วทถา’’ติ. เอวํ เต เตหิ ภิกฺขูหิ อนุยุฺชิยมานา อาม อาวุโสติ วตฺวา เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.

กึปน ตุมฺเห, อาวุโส, อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ เอตฺถ อฺภาคสฺส อิทํ, อฺภาโค วา อสฺส อตฺถีติ อฺภาคิยํ. อธิกรณนฺติ อาธาโร เวทิตพฺโพ, วตฺถุ อธิฏฺานนฺติ วุตฺตํ โหติ. โย หิ โส ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต นามา’’ติ ฉคลโก วุตฺโต, โส ยฺวายํ อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส ภาโค โกฏฺาโส ปกฺโข มนุสฺสชาติ เจว ภิกฺขุภาโว จ ตโต อฺสฺส ภาคสฺส โกฏฺาสสฺส ปกฺขสฺส โหติ ติรจฺฉานชาติยา เจว ฉคลกภาวสฺส จ โส วา อฺภาโค อสฺส อตฺถีติ ตสฺมา อฺภาคิยสงฺขฺยํ ลภติ. ยสฺมา จ เตสํ ‘‘อิมํ มยํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาม กโรมา’’ติ วทนฺตานํ ตสฺสา นามกรณสฺาย อาธาโร วตฺถุ อธิฏฺานํ, ตสฺมา อธิกรณนฺติ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘เต ภิกฺขู อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสา’’ติ อาหํสุ, น วิวาทาธิกรณาทีสุ อฺตรํ. กสฺมา? อสมฺภวโต. น หิ เต จตุนฺนํ อธิกรณานํ กสฺสจิ อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทิยึสุ. น จ จตุนฺนํ อธิกรณานํ เลโส นาม อตฺถิ. ชาติเลสาทโย หิ ปุคฺคลานํเยว เลสา วุตฺตา, น วิวาทาธิกรณาทีนํ. อิทฺจ ‘‘ทพฺโพ มลฺลปุตฺโต’’ติ นามํ ตสฺส อฺภาคิยาธิกรณภาเว ิตสฺส ฉคลกสฺส โกจิ เทโส โหติ เถรํ อมูลเกน ปาราชิเกน อนุทฺธํเสตุํ เลสมตฺโต.

เอตฺถ จ ทิสฺสติ อปทิสฺสติ อสฺส อยนฺติ โวหรียตีติ เทโส. ชาติอาทีสุ อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. อฺมฺปิ วตฺถุํ ลิสฺสติ สิลิสฺสติ โวหารมตฺเตเนว อีสกํ อลฺลียตีติ เลโส. ชาติอาทีนํเยว อฺตรโกฏฺาสสฺเสตํ อธิวจนํ. ตโต ปรํ อุตฺตานตฺถเมว. สิกฺขาปทปฺตฺติยมฺปิ อยเมวตฺโถ. ปทภาชเน ปน ยสฺส อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส กิฺจิเทสํ เลสมตฺตํ อุปาทาย ปาราชิเกน ธมฺเมน อนุทฺธํเสยฺย , ตํ ยสฺมา อฏฺุปฺปตฺติวเสเนว อาวิภูตํ, ตสฺมา น วิภตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

๓๙๓. ยานิ ปน อธิกรณนฺติ วจนสามฺโต อตฺถุทฺธารวเสน ปวตฺตานิ จตฺตาริ อธิกรณานิ, เตสํ อฺภาคิยตา จ ตพฺภาคิยตา จ ยสฺมา อปากฏา ชานิตพฺพา จ วินยธเรหิ, ตสฺมา วจนสามฺโต ลทฺธํ อธิกรณํ นิสฺสาย ตํ อาวิกโรนฺโต ‘‘อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺสาติ อาปตฺตฺภาคิยํ วา โหติ อธิกรณฺภาคิยํ วา’’ติอาทิมาห. ยา จ สา อวสาเน อาปตฺตฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส วเสน โจทนา วุตฺตา, ตมฺปิ ทสฺเสตุํ อยํ สพฺพาธิกรณานํ ตพฺภาคิยอฺภาคิยตา สมาหฏาติ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ จ อาปตฺตฺภาคิยํ วาติ ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา ‘‘กถฺจ อาปตฺติ อาปตฺติยา อฺภาคิยา โหตี’’ติ นิทฺเทเส อารภิตพฺเพ ยสฺมา อาปตฺตาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยวิจารณายํเยว อยมตฺโถ อาคมิสฺสติ, ตสฺมา เอวํ อนารภิตฺวา ‘‘กถฺจ อธิกรณํ อธิกรณสฺส อฺภาคิย’’นฺติ ปจฺฉิมปทํเยว คเหตฺวา นิทฺเทโส อารทฺโธติ เวทิตพฺโพ.

ตตฺถ อฺภาคิยวาโร อุตฺตานตฺโถเยว. เอกเมกฺหิ อธิกรณํ อิตเรสํ ติณฺณํ ติณฺณํ อฺภาคิยํ อฺปกฺขิยํ อฺโกฏฺาสิยํ โหติ, วตฺถุวิสภาคตฺตา, ตพฺภาคิยวาเร ปน วิวาทาธิกรณํ วิวาทาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยํ ตปฺปกฺขิยํ ตํโกฏฺาสิยํ วตฺถุสภาคตฺตา, ตถา อนุวาทาธิกรณํ อนุวาทาธิกรณสฺส. กถํ? พุทฺธกาลโต ปฏฺาย หิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนวิวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกวิวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ วิวาทาธิกรณเมว โหติ, ตถา พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตสฺโส วิปตฺติโย นิสฺสาย อุปฺปนฺนอนุวาโท จ อิทานิ อุปฺปชฺชนกอนุวาโท จ วตฺถุสภาคตาย เอกํ อนุวาทาธิกรณเมว โหติ. ยสฺมา ปน อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สภาควิสภาควตฺถุโต สภาคสริกฺขาสริกฺขโต จ เอกํเสน ตพฺภาคิยํ น โหติ, ตสฺมา อาปตฺตาธิกรณํ อาปตฺตาธิกรณสฺส สิยา ตพฺภาคิยํ สิยา อฺภาคิยนฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อาทิโต ปฏฺาย อฺภาคิยสฺส ปมํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิธาปิ อฺภาคิยเมว ปมํ นิทฺทิฏฺํ, ตตฺถ อฺภาคิยตฺตฺจ ปรโต ตพฺภาคิยตฺตฺจ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.

กิจฺจาธิกรณํกิจฺจาธิกรณสฺส ตพฺภาคิยนฺติ เอตฺถ ปน พุทฺธกาลโต ปฏฺาย จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณฺจ อิทานิ จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกํ อธิกรณฺจ สภาคตาย สริกฺขตาย จ เอกํ กิจฺจาธิกรณเมว โหติ. กึ ปน สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ กิจฺจาธิกรณํ, อุทาหุ สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนนฺติ? สงฺฆกมฺมานเมเวตํ อธิวจนํ. เอวํ สนฺเตปิ สงฺฆกมฺมํ นาม ‘‘อิทฺจิทฺจ เอวํ กตฺตพฺพ’’นฺติ ยํ กมฺมลกฺขณํ มนสิกโรติ ตํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต ปุริมํ ปุริมํ สงฺฆกมฺมํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนโต จ สงฺฆกมฺมานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ อธิกรณํ กิจฺจาธิกรณนฺติ วุตฺตํ.

๓๙๔. กิฺจิ เทสํ เลสมตฺตํ อุปาทายาติ เอตฺถ ปน ยสฺมา เทโสติ วา เลสมตฺโตติ วา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว พฺยฺชนโต นานํ อตฺถโต เอกํ, ตสฺมา ‘‘เลโส นาม ทส เลสา ชาติเลโส นามเลโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ชาติเยว ชาติเลโส. เอส นโย เสเสสุ.

๓๙๕. อิทานิ ตเมว เลสํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ยถา ตํ อุปาทาย อนุทฺธํสนา โหติ ตถา สวตฺถุกํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ชาติเลโส นาม ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ขตฺติโย ทิฏฺโ โหตีติ อฺโ โกจิ ขตฺติยชาติโย อิมินา โจทเกน ทิฏฺโ โหติ. ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโตติ เมถุนธมฺมาทีสุ อฺตรํ อาปชฺชนฺโต. อฺํ ขตฺติยํ ปสฺสิตฺวาโจเทตีติ อถ โส อฺํ อตฺตโน เวรึ ขตฺติยชาติยํ ภิกฺขุํ ปสฺสิตฺวา ตํ ขตฺติยชาติเลสํ คเหตฺวา เอวํ โจเทติ ‘‘ขตฺติโย มยา ทิฏฺโ ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปชฺชนฺโต, ตฺวํ ขตฺติโย, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสี’’ อถ วา ‘‘ตฺวํ โส ขตฺติโย, น อฺโ, ปาราชิกํ ธมฺมํ อชฺฌาปนฺโนสิ, อสฺสมโณสิ อสกฺยปุตฺติโยสิ นตฺถิ ตยา สทฺธึ อุโปสโถ วา ปวารณา วา สงฺฆกมฺมํ วา’’ติ, อาปตฺติ วาจาย วาจาย สงฺฆาทิเสสสฺส. เอตฺถ จ เตสํ ขตฺติยานํ อฺมฺํ อสทิสสฺส ตสฺส ตสฺส ทีฆาทิโน วา ทิฏฺาทิโน วา วเสน อฺภาคิยตา ขตฺติยชาติปฺตฺติยา อาธารวเสน อธิกรณตา จ เวทิตพฺพา, เอเตนุปาเยน สพฺพปเทสุ โยชนา เวทิตพฺพา.

๔๐๐. ปตฺตเลสนิทฺเทเส จ สาฏกปตฺโตติ โลหปตฺตสทิโส สุสณฺาโน สุจฺฉวิ สินิทฺโธ ภมรวณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วุจฺจติ. สุมฺภกปตฺโตติ ปกติมตฺติกาปตฺโต.

๔๐๖. ยสฺมา ปน อาปตฺติเลสสฺส เอกปเทเนว สงฺเขปโต นิทฺเทโส วุตฺโต, ตสฺมา วิตฺถารโตปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ภิกฺขุ สงฺฆาทิเสสํ อชฺฌาปชฺชนฺโต ทิฏฺโ โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. กสฺมา ปนสฺส ตตฺเถว นิทฺเทสํ อวตฺวา อิธ วิสุํ วุตฺโตติ? เสสนิทฺเทเสหิ อสภาคตฺตา. เสสนิทฺเทสา หิ อฺํ ทิสฺวา อฺสฺส โจทนาวเสน วุตฺตา. อยํ ปน เอกเมว อฺํ อาปตฺตึ อาปชฺชนฺตํ ทิสฺวา อฺาย อาปตฺติยา โจทนาวเสน วุตฺโต. ยทิ เอวํ กถํ อฺภาคิยํ อธิกรณํ โหตีติ? อาปตฺติยา. เตเนว วุตฺตํ – ‘‘เอวมฺปิ อาปตฺตฺภาคิยฺจ โหติ เลโส จ อุปาทินฺโน’’ติ. ยฺหิ โส สงฺฆาทิเสสํ อาปนฺโน ตํ ปาราชิกสฺส อฺภาคิยํ อธิกรณํ. ตสฺส ปน อฺภาคิยสฺส อธิกรณสฺส เลโส นาม โย โส สพฺพขตฺติยานํ สาธารโณ ขตฺติยภาโว วิย สพฺพาปตฺตีนํ สาธารโณ อาปตฺติภาโว. เอเตนุปาเยน เสสาปตฺติมูลกนโย โจทาปกวาโร จ เวทิตพฺโพ.

๔๐๘. อนาปตฺติ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วาติ ‘‘ปาราชิกํเยว อยํ อาปนฺโน’’ติ โย เอวํ ตถาสฺี โจเทติ วา โจทาเปติ วา ตสฺส อนาปตฺติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ ปมทุฏฺโทสสทิสาเนวาติ.

ทุติยทุฏฺโทสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๐๙. เตนสมเยน พุทฺโธ ภควาติ สงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อถ โข เทวทตฺโตติอาทีสุ โย จ เทวทตฺโต, ยถา จ ปพฺพชิโต, เยน จ การเณน โกกาลิกาทโย อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เอถ มยํ อาวุโส สมณสฺส โคตมสฺส สงฺฆเภทํ กริสฺสาม จกฺกเภท’’นฺติ อาห. ตํ สพฺพํ สงฺฆเภทกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๔๓) อาคตเมว. ปฺจวตฺถุยาจนา ปน กิฺจาปิ ตตฺเถว อาคมิสฺสติ. อถ โข อิธาปิ อาคตตฺตา ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วตฺวาว คมิสฺสาม.

สาธุ ภนฺเตติ อายาจนา. ภิกฺขู ยาวชีวํ อารฺิกา อสฺสูติ อารฺิกธุตงฺคํ สมาทาย สพฺเพปิ ภิกฺขู ยาว ชีวนฺติ ตาว อารฺิกา โหนฺตุ , อรฺเเยว วสนฺตุ. โย คามนฺตํ โอสเรยฺย วชฺชํ นํ ผุเสยฺยาติ โย เอกภิกฺขุปิ อรฺํ ปหาย นิวาสตฺถาย คามนฺตํ โอสเรยฺย, วชฺชํ ตํ ผุเสยฺย นํ ภิกฺขุํ โทโส ผุสตุ, อาปตฺติยา นํ ภควา กาเรตู’’ติ อธิปฺปาเยน วทติ. เอส นโย เสสวตฺถูสุปิ.

๔๑๐. ชนํ สฺาเปสฺสามาติ ชนํ อมฺหากํ อปฺปิจฺฉตาทิภาวํ ชานาเปสฺสาม, อถ วา ปริโตเสสฺสาม ปสาเทสฺสามาติ วุตฺตํ โหติ.

อิมานิ ปน ปฺจ วตฺถูนิ ยาจโต เทวทตฺตสฺส วจนํ สุตฺวาว อฺาสิ ภควา ‘‘สงฺฆเภทตฺถิโก หุตฺวา อยํ ยาจตี’’ติ. ยสฺมา ปน ตานิ อนุชานิยมานานิ พหูนํ กุลปุตฺตานํ มคฺคนฺตรายาย สํวตฺตนฺติ, ตสฺมา ภควา ‘‘อลํ เทวทตฺตา’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘โย อิจฺฉติ อารฺิโก โหตู’’ติอาทิมาห.

เอตฺถ ปน ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา กุลปุตฺเตน อตฺตโน ปติรูปํ เวทิตพฺพํ. อยฺเหตฺถ ภควโต อธิปฺปาโย – ‘‘เอโก ภิกฺขุ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ. เอโก ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม อรฺเ น สกฺโกติ, คามนฺเตเยว สกฺโกติ. เอโก มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว. เอโก เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ.

ตตฺร ยฺวายํ มหชฺฌาสโย โหติ มหุสฺสาโห, สกฺโกติ คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อรฺเ วิหรนฺโต ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, โส อรฺเเยว วสตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ. สทฺธิวิหาริกาทโยปิ จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพเมว มฺิสฺสนฺติ.

โย ปน ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, น อรฺเ โส คามนฺเตเยว วสตุ, ยฺวายํ มหพฺพโล สมปฺปวตฺตธาตุโก อธิวาสนขนฺติสมฺปนฺโน อิฏฺานิฏฺเสุ สมจิตฺโต อรฺเปิ คามนฺเตปิ สกฺโกติเยว, อยมฺปิ คามนฺตเสนาสนํ ปหาย อรฺเ วิหรตุ, อิทมสฺส ปติรูปํ สทฺธิวิหาริกาปิ หิสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ.

โย ปนายํ เนว คามนฺเต น อรฺเ สกฺโกติ ปทปรโม โหติ. อยมฺปิ อรฺเเยว วสตุ. อยํ หิสฺส ธุตงฺคเสวนา กมฺมฏฺานภาวนา จ อายตึ มคฺคผลานํ อุปนิสฺสโย ภวิสฺสติ. สทฺธิวิหาริกาทโย จสฺส อนุสิกฺขมานา อรฺเ วิหาตพฺพํ มฺิสฺสนฺตีติ.

เอวํ ยฺวายํ ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม คามนฺเตเยว วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ น อรฺเ, อิมํ ปุคฺคลํ สนฺธาย ภควา ‘‘โย อิจฺฉติ คามนฺเต วิหรตู’’ติ อาห. อิมินา จ ปุคฺคเลน อฺเสมฺปิ ทฺวารํ ทินฺนํ.

ยทิ ปน ภควา เทวทตฺตสฺส วาทํ สมฺปฏิจฺเฉยฺย, ยฺวายํ ปุคฺคโล ปกติยา ทุพฺพโล โหติ อปฺปถาโม, โยปิ ทหรกาเล อรฺวาสํ อภิสมฺภุณิตฺวา ชิณฺณกาเล วา วาตปิตฺตาทีหิ สมุปฺปนฺนธาตุกฺโขภกาเล วา นาภิสมฺภุณาติ, คามนฺเตเยว ปน วิหรนฺโต สกฺโกติ ทุกฺขสฺสนฺตํ กาตุํ, เตสํ อริยมคฺคุปจฺเฉโท ภเวยฺย, อรหตฺตผลาธิคโม น ภเวยฺย, อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ วิโลมํ อนิยฺยานิกํ สตฺถุ สาสนํ ภเวยฺย, สตฺถา จ เตสํ อสพฺพฺู อสฺส ‘‘สกวาทํ ฉฑฺเฑตฺวา เทวทตฺตวาเท ปติฏฺิโต’’ติ คารยฺโห จ ภเวยฺย. ตสฺมา ภควา เอวรูเป ปุคฺคเล สงฺคณฺหนฺโต เทวทตฺตสฺส วาทํ ปฏิกฺขิปิ. เอเตเนวูปาเยน ปิณฺฑปาติกวตฺถุสฺมิมฺปิ ปํสุกูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ อฏฺ มาเส รุกฺขมูลิกวตฺถุสฺมิมฺปิ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. จตฺตาโร ปน มาเส รุกฺขมูลเสนาสนํ ปฏิกฺขิตฺตเมว.

มจฺฉมํสวตฺถุสฺมึ ติโกฏิปริสุทฺธนฺติ ตีหิ โกฏีหิ ปริสุทฺธํ, ทิฏฺาทีหิ อปริสุทฺธีหิ วิรหิตนฺติ อตฺโถ. เตเนวาห – ‘‘อทิฏฺํ, อสุตํ, อปริสงฺกิต’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘อทิฏฺํ’’ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คยฺหมานํ อทิฏฺํ. ‘‘อสุตํ’’ นาม ภิกฺขูนํ อตฺถาย มิคมจฺเฉ วธิตฺวา คหิตนฺติ อสุตํ. ‘‘อปริสงฺกิตํ’’ ปน ทิฏฺปริสงฺกิตํ สุตปริสงฺกิตํ ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตฺจ ตฺวา ตพฺพิปกฺขโต ชานิตพฺพํ. กถํ? อิธ ภิกฺขู ปสฺสนฺติ มนุสฺเส ชาลวาคุราทิหตฺเถ คามโต ว นิกฺขมนฺเต อรฺเ วา วิจรนฺเต, ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิหรนฺติ. เต เตน ทิฏฺเน ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ทิฏฺปริสงฺกิตํ, นาม เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา ภนฺเต น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ ภนฺเต ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.

นเหว โข ภิกฺขู ปสฺสนฺติ; อปิจ สุณนฺติ, มนุสฺสา กิร ชาลวาคุราทิหตฺถา คามโต วา นิกฺขมนฺติ, อรฺเ วา วิจรนฺตี’’ติ. ทุติยทิวเส จ เนสํ ตํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘สุตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ, อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ.

นเหว โข ปน ภิกฺขู ปสฺสนฺติ, น สุณนฺติ; อปิจ โข เตสํ คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺานํ ปตฺตํ คเหตฺวา สมจฺฉมํสํ ปิณฺฑปาตํ อภิสงฺขริตฺวา อภิหรนฺติ, เต ปริสงฺกนฺติ ‘‘ภิกฺขูนํ นุโข อตฺถาย กต’’นฺติ อิทํ ‘‘ตทุภยวิมุตฺตปริสงฺกิตํ’’ นาม. เอตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ. ยํ เอวํ อปริสงฺกิตํ ตํ วฏฺฏติ. สเจ ปน เต มนุสฺสา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ สุตฺวา ‘‘นยิทํ, ภนฺเต, ภิกฺขูนํ อตฺถาย กตํ อมฺเหหิ อตฺตโน อตฺถาย วา ราชยุตฺตาทีนํ อตฺถาย วา กตํ ปวตฺตมํสํ วา กปฺปิยเมว ลภิตฺวา ภิกฺขูนํ อตฺถาย สมฺปาทิต’’นฺติ วทนฺติ กปฺปติ. มตานํ เปตกิจฺจตฺถาย มงฺคลาทีนํ วา อตฺถาย กเตปิ เอเสว นโย. ยํ ยฺหิ ภิกฺขูนํเยว อตฺถาย อกตํ, ยตฺถ จ นิพฺเพมติโก โหติ, ตํ สพฺพํ กปฺปติ.

สเจ ปน เอกสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู อุทฺทิสฺส กตํ โหติ, เต จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ น ชานนฺติ, อฺเ ชานนฺติ. เย ชานนฺติ, เตสํ น วฏฺฏติ , อิตเรสํ วฏฺฏติ. อฺเ น ชานนฺติ, เตเยว ชานนฺติ, เตสํเยว น วฏฺฏติ, อฺเสํ วฏฺฏติ. เตปิ อมฺหากํ อตฺถาย กตนฺติ ชานนฺติ, อฺเปิ เอเตสํ อตฺถาย กตนฺติ ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ น วฏฺฏติ, สพฺเพ น ชานนฺติ, สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. ปฺจสุ หิ สหธมฺมิเกสุ ยสฺส วา ตสฺส วา อตฺถาย อุทฺทิสฺส กตํ, สพฺเพสํ น กปฺปติ.

สเจ ปน โกจิ เอกํ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส ปาณํ วธิตฺวา ตสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา เทติ, โส จ อตฺตโน อตฺถาย กตภาวํ ชานํเยว คเหตฺวา อฺสฺส ภิกฺขุโน เทติ, โส ตสฺส สทฺธาย ปริภุฺชติ, กสฺส อาปตฺตีติ? ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ. ยฺหิ อุทฺทิสฺส กตํ ตสฺส อภุตฺตตาย อนาปตฺติ, อิตรสฺส อชานนตาย. กปฺปิยมํสสฺส หิ ปฏิคฺคหเณ อาปตฺติ นตฺถิ. อุทฺทิสฺส กตฺจ อชานิตฺวา ภุตฺตสฺส ปจฺฉา ตฺวา อาปตฺติเทสนากิจฺจํ นาม นตฺถิ, อกปฺปิยมํสํ ปน อชานิตฺวา ภุตฺเตน ปจฺฉา ตฺวาปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพา, อุทฺทิสฺส กตฺหิ ตฺวา ภุฺชโตว อาปตฺติ. อกปฺปิยมํสํ อชานิตฺวา ภุฺชนฺตสฺสาปิ อาปตฺติเยว. ตสฺมา อาปตฺติภีรุเกน รูปํ สลฺลกฺเขนฺเตนปิ ปุจฺฉิตฺวาว มํสํ ปฏิคฺคเหตพฺพํ. ปริโภคกาเล ปุจฺฉิตฺวา ปริภุฺชิสฺสามีติ วา คเหตฺวา ปุจฺฉิตฺวาว ปริภุฺชิตพฺพํ. กสฺมา? ทุวิฺเยฺยตฺตา. อจฺฉมํสํ หิ สูกรมํสสทิสํ โหติ, ทีปิมํสาทีนิปิ มิคมํสาทิสทิสานิ, ตสฺมา ปุจฺฉิตฺวา คหณเมว วตฺตนฺติ วทนฺติ.

หฏฺโ อุทคฺโคติ ตุฏฺโ เจว อุนฺนตกายจิตฺโต จ หุตฺวา. โส กิร ‘‘น ภควา อิมานิ ปฺจ วตฺถูนิ อนุชานาติ, อิทานิ สกฺขิสฺสามิ สงฺฆเภทํ กาตุ’’นฺติ โกกาลิกสฺส อิงฺคิตาการํ ทสฺเสตฺวา ยถา วิสํ วา ขาทิตฺวา รชฺชุยา วา อุพฺพนฺธิตฺวา สตฺถํ วา อาหริตฺวา มริตุกาโม ปุริโส วิสาทีสุ อฺตรํ ลภิตฺวา ตปฺปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ มรณทุกฺขํ อชานนฺโต หฏฺโ อุทคฺโค โหติ; เอวเมว สงฺฆเภทปจฺจยา อาสนฺนมฺปิ อวีจิมฺหิ นิพฺพตฺติตฺวา ปฏิสํเวทนียํ ทุกฺขํ อชานนฺโต ‘‘ลทฺโธ ทานิ เม สงฺฆเภทสฺส อุปาโย’’ติ หฏฺโ อุทคฺโค สปริโส อุฏฺายาสนา เตเนว หฏฺภาเวน ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิ.

เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ สมาทาย วตฺตามาติ เอตฺถ ปน ‘‘อิมานิ ปฺจ วตฺถูนี’’ติ วตฺตพฺเพปิ เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหิ ชนํ สฺาเปสฺสามาติ อภิณฺหํ ปริวิตกฺกวเสน วิภตฺติวิปลฺลาสํ อสลฺลกฺเขตฺวา อภิณฺหํ ปริวิตกฺกานุรูปเมว ‘‘เต มยํ อิเมหิ ปฺจหิ วตฺถูหี’’ติ อาห, ยถา ตํ วิกฺขิตฺตจิตฺโต.

ธุตาสลฺเลขวุตฺติโนติ ยา ปฏิปทา กิเลเส ธุนาติ, ตาย สมนฺนาคตตฺตา ธุตา. ยา จ กิเลเส สลฺลิขติ, สา เอเตสํ วุตฺตีติ สลฺเลขวุตฺติโน.

พาหุลิโกติ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว พาหุลฺลํ, ตํ พาหุลฺลมสฺส อตฺถิ, ตสฺมึ วา พาหุลฺเล นิยุตฺโต ิโตติ พาหุลิโก. พาหุลฺลาย เจเตตีติ พาหุลตฺตาย เจเตติ กปฺเปติ ปกปฺเปติ. กถฺหิ นาม มยฺหฺจ สาวกานฺจ จีวราทีนํ ปจฺจยานํ พหุลภาโว ภเวยฺยาติ เอวํ อุสฺสุกฺกมาปนฺโนติ อธิปฺปาโย. จกฺกเภทายาติ อาณาเภทาย.

ธมฺมึ กถํ กตฺวาติ ขนฺธเก วุตฺตนเยน ‘‘อลํ, เทวทตฺต, มา เต รุจฺจิ สงฺฆเภโท. ครุโก โข, เทวทตฺต, สงฺฆเภโท. โย โข, เทวทตฺต, สมคฺคํ สงฺฆํ ภินฺทติ, กปฺปฏฺิกํ กิพฺพิสํ ปสวติ, กปฺปํ นิรยมฺหิ ปจฺจติ, โย จ โข, เทวทตฺต, ภินฺนํ สงฺฆํ สมคฺคํ กโรติ, พฺรหฺมํ ปุฺํ ปสวติ, กปฺปํ สคฺคมฺหิ โมทตี’’ติ (จูฬว. ๓๔๓) เอวมาทิกํ อเนกปฺปการํ เทวทตฺตสฺส จ ภิกฺขูนฺจ ตทนุจฺฉวิกํ ตทนุโลมิกํ ธมฺมึ กถํ กตฺวา.

๔๑๑. สมคฺคสฺสาติ สหิตสฺส จิตฺเตน จ สรีเรน จ อวิยุตฺตสฺสาติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิ หิ อยเมว อตฺโถ ทสฺสิโต. สมานสํวาสโกติ หิ วทตา จิตฺเตน อวิโยโค ทสฺสิโต โหติ. สมานสีมายํ ิโตติ วทตา สรีเรน. กถํ? สมานสํวาสโก หิ ลทฺธินานาสํวาสเกน วา กมฺมนานาสํวาสเกน วา วิรหิโต สมจิตฺตตาย จิตฺเตน อวิยุตฺโต โหติ. สมานสีมายํ ิโต กายสามคฺคิทานโต สรีเรน อวิยุตฺโต.

เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณนฺติ เภทนสฺส สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ การณํ. อิมสฺมิฺหิ โอกาเส ‘‘กามเหตุ กามนิทานํ กามาธิกรณ’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๖๘) วิย การณํ อธิกรณนฺติ อธิปฺเปตํ. ตฺจ ยสฺมา อฏฺารสวิธํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อฏฺารส เภทกรวตฺถูนี’’ติ วุตฺตํ. ตานิ ปน ‘‘อิธูปาลิ, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปตี’’ติอาทินา (จูฬว. ๓๕๒) นเยน ขนฺธเก อาคตานิ, ตสฺมา ตตฺเรว เนสํ อตฺถํ วณฺณยิสฺสาม. โยปิ จายํ อิมานิ วตฺถูนิ นิสฺสาย อปเรหิปิ กมฺเมน, อุทฺเทเสน, โวหาเรน, อนุสาวนาย, สลากคฺคาเหนาติ ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆเภโท โหติ, ตมฺปิ อาคตฏฺาเนเยว ปกาสยิสฺสาม. สงฺเขปโต ปน เภทนสํวตฺตนิกํ วา อธิกรณํ สมาทายาติ เอตฺถ สงฺฆเภทสฺส อตฺถาย สํวตฺตนิกํ สงฺฆเภทนิปฺผตฺติสมตฺถํ การณํ คเหตฺวาติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปคฺคยฺหาติ ปคฺคหิตํ อพฺภุสฺสิตํ ปากฏํ กตฺวา. ติฏฺเยฺยาติ ยถาสมาทินฺนํ ยถาปคฺคหิตเมว จ กตฺวา อจฺเฉยฺย . ยสฺมา ปน เอวํ ปคฺคณฺหตา ติฏฺตา จ ตํ ทีปิตฺเจว อปฺปฏินิสฺสฏฺฺจ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘ทีเปยฺยา’’ติ จ ‘‘นปฺปฏินิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ จ วุตฺตํ.

ภิกฺขูหิ เอวมสฺส วจนีโยติ อฺเหิ ลชฺชีหิ ภิกฺขูหิ เอวํ วตฺตพฺโพ ภเวยฺย. ปทภาชเน จสฺส เย ปสฺสนฺตีติ เย สมฺมุขา ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตํ ปสฺสนฺติ. เย สุณนฺตีติ เยปิ ‘‘อสุกสฺมึ นาม วิหาเร ภิกฺขู เภทนสํวตฺตนิกํ อธิกรณํ สมาทาย ปคฺคยฺห ติฏฺนฺตี’’ติ สุณนฺติ.

สเมตายสฺมา สงฺเฆนาติ อายสฺมา สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ เอกลทฺธิโก โหตูติ อตฺโถ. กึ การณา? สมคฺโค หิ สงฺโฆ สมฺโมทมาโน อวิวทมาโน เอกุทฺเทโส ผาสุ วิหรตีติ.

ตตฺถ สมฺโมทมาโนติ อฺมฺํ สมฺปตฺติยา สฏฺุ โมทมาโน. อวิวทมาโนติ ‘‘อยํ ธมฺโม, นายํ ธมฺโม’’ติ เอวํ น วิวทมาโน. เอโก อุทฺเทโส อสฺสาติ เอกุทฺเทโส, เอกโต ปวตฺตปาติโมกฺขุทฺเทโส, น วิสุนฺติ อตฺโถ. ผาสุ วิหรตีติ สุขํ วิหรติ.

อิจฺเจตํ กุสลนฺติ เอตํ ปฏินิสฺสชฺชนํ กุสลํ เขมํ โสตฺถิภาโว ตสฺส ภิกฺขุโน. โน เจ ปฏินิสฺสชฺชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ติกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชโต ทุกฺกฏํ. สุตฺวา น วทนฺติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เย สุตฺวา น วทนฺติ, เตสมฺปิ ทุกฺกฏํ. กีวทูเร สุตฺวา อวทนฺตานํ ทุกฺกฏํ? เอกวิหาเร ตาว วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา อทฺธโยชเน ภิกฺขูนํ ภาโร. ทูตํ วา ปณฺณํ วา เปเสตฺวา วทโตปิ อาปตฺติโมกฺโข นตฺถิ. สยเมว คนฺตฺวา ‘ครุโก โข, อาวุโส, สงฺฆเภโท , มา สงฺฆเภทาย, ปรกฺกมี’ติ นิวาเรตพฺโพ’’ติ. ปโหนฺเตน ปน ทูรมฺปิ คนฺตพฺพํ อคิลานานฺหิ ทูเรปิ ภาโรเยว.

อิทานิ ‘‘เอวฺจ โส ภิกฺขุ ภิกฺขูหิ วุจฺจมาโน’’ติอาทีสุ อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวา วตฺตพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺฆมชฺฌมฺปิ อากฑฺฒิตฺวาติ สเจ ปุริมนเยน วุจฺจมาโน น ปฏินิสฺสชฺชติ หตฺเถสุ จ ปาเทสุ จ คเหตฺวาปิ สงฺฆมชฺฌํ อากฑฺฒิตฺวา ปุนปิ ‘‘มา อายสฺมา’’ติอาทินา นเยน ติกฺขตฺตุํ วตฺตพฺโพ.

ยาวตติยํ สมนุภาสิตพฺโพติ ยาว ตติยํ สมนุภาสนํ ตาว สมนุภาสิตพฺโพ. ตีหิ สมนุภาสนกมฺมวาจาหิ กมฺมํ กาตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปทภาชเน ปนสฺส อตฺถเมว คเหตฺวา สมนุภาสนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ภิกฺขุ สมนุภาสิตพฺโพ. เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, สมนุภาสิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๔๑๔. ตตฺถ ตฺติยา ทุกฺกฏํ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจยา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตีติ ยฺจ ตฺติปริโยสาเน ทุกฺกฏํ อาปนฺโน, เย จ ทฺวีหิ กมฺมวาจาหิ ถุลฺลจฺจเย, ตา ติสฺโสปิ อาปตฺติโย ‘‘ยสฺส นกฺขมติ โส ภาเสยฺยา’’ติ เอวํ ยฺย-การปฺปตฺตมตฺตาย ตติยกมฺมวาจาย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ สงฺฆาทิเสโสเยว ติฏฺติ. กึ ปน อาปนฺนาปตฺติโย ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ อนาปนฺนาติ? มหาสุมตฺเถโร ตาว วทติ ‘‘โย อวสาเน ปฏินิสฺสชฺชิสฺสติ, โส ตา อาปตฺติโย น อาปชฺชติ, ตสฺมา อนาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ลิงฺคปริวตฺเตน อสาธารณาปตฺติโย วิย อาปนฺนา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ, อนาปนฺนานํ กึ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา’’ติ อาห.

๔๑๕. ธมฺมกมฺเม ธมฺมกมฺมสฺีติ ตฺเจ สมนุภาสนกมฺมํ ธมฺมกมฺมํ โหติ, ตสฺมึ ธมฺมกมฺมสฺีติ อตฺโถ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อิธ สฺา น รกฺขติ, กมฺมสฺส ธมฺมิกตฺตา เอว อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาปชฺชติ.

๔๑๖. อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อสมนุภาสิยมานสฺส อปฺปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาปิ สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.

ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺสาติ ตฺติโต ปุพฺเพ วา ตฺติกฺขเณ วา ตฺติปริโยสาเน วา ปมาย วา อนุสาวนาย ทุติยาย วา ตติยาย วา ยาว ยฺย-การํ น สมฺปาปุณาติ, ตาว ปฏินิสฺสชฺชนฺตสฺส สงฺฆาทิเสเสน อนาปตฺติ.

อาทิกมฺมิกสฺสาติ. เอตฺถ ปน ‘‘เทวทตฺโต สมคฺคสฺส สงฺฆสฺส เภทาย ปรกฺกมิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๗) อาคตตฺตา เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโก. โส จ โข สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนสฺเสว, น อปฺปฏินิสฺสชฺชนสฺส. น หิ ตสฺส ตํ กมฺมํ กตํ. กถมิทํ ชานิตพฺพนฺติ เจ? สุตฺตโต. ยถา หิ ‘‘อริฏฺโ ภิกฺขุ คทฺธพาธิปุพฺโพ ยาวตติยํ สมนุภาสนาย น ปฏินิสฺสชฺชิ, ตสฺมึ วตฺถุสฺมิ’’นฺติ ปริวาเร (ปริ. ๑๒๑) อาคตตฺตา อริฏฺสฺส กมฺมํ กตนฺติ ปฺายติ, น ตถา เทวทตฺตสฺส. อถาปิสฺส กเตน ภวิตพฺพนฺติ โกจิ อตฺตโน รุจิมตฺเตน วเทยฺย, ตถาปิ อปฺปฏินิสฺสชฺชเน อาทิกมฺมิกสฺส อนาปตฺติ นาม นตฺถิ. น หิ ปฺตฺตํ สิกฺขาปทํ วีติกฺกมนฺตสฺส อฺตฺร อุทฺทิสฺส อนุฺาตโต อนาปตฺติ นาม ทิสฺสติ. ยมฺปิ อริฏฺสิกฺขาปทสฺส อนาปตฺติยํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ โปตฺถเกสุ ลิขิตํ, ตํ ปมาทลิขิตํ. ปมาทลิขิตภาโว จสฺส ‘‘ปมํ อริฏฺโ ภิกฺขุ โจเทตพฺโพ, โจเทตฺวา สาเรตพฺโพ, สาเรตฺวา อาปตฺตึ โรเปตพฺโพ’’ติ (จูฬว. ๖๕) เอวํ กมฺมกฺขนฺธเก อาปตฺติโรปนวจนโต เวทิตพฺโพ.

อิติ เภทาย ปรกฺกมเน อาทิกมฺมิกสฺส เทวทตฺตสฺส ยสฺมา ตํ กมฺมํ น กตํ, ตสฺมาสฺส อาปตฺติเยว น ชาตา. สิกฺขาปทํ ปน ตํ อารพฺภ ปฺตฺตนฺติ กตฺวา ‘‘อาทิกมฺมิโก’’ติ วุตฺโต. อิติ อาปตฺติยา อภาวโตเยวสฺส อนาปตฺติ วุตฺตา. สา ปเนสา กิฺจาปิ อสมนุภาสนฺตสฺสาติ อิมินาว สิทฺธา, ยสฺมา ปน อสมนุภาสนฺโต นาม ยสฺส เกวลํ สมนุภาสนํ น กโรนฺติ, โส วุจฺจติ, น อาทิกมฺมิโก. อยฺจ เทวทตฺโต อาทิกมฺมิโกเยว, ตสฺมา ‘‘อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอเตนุปาเยน เปตฺวา อริฏฺสิกฺขาปทํ สพฺพสมนุภาสนาสุ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีสุ ติวงฺคิกํ เอกสมุฏฺานํ, สมนุภาสนสมุฏฺานํ นามเมตํ, กายวาจาจิตฺตโต สมุฏฺาติ. ปฏินิสฺสชฺชามีติ กายวิการํ วา วจีเภทํ วา อกโรนฺตสฺเสว ปน อาปชฺชนโต อกิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.

ปมสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๑๗-๘. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนุวตฺตกาติ ตสฺส ทิฏฺิขนฺติรุจิคฺคหเณน อนุปฏิปชฺชนกา. วคฺคํ อสามคฺคิปกฺขิยวจนํ วทนฺตีติ วคฺควาทกา. ปทภาชเน ปน ‘‘ตสฺส วณฺณาย ปกฺขาย ิตา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺส สงฺฆเภทาย ปรกฺกมนฺตสฺส วณฺณตฺถาย จ ปกฺขวุฑฺฒิอตฺถาย จ ิตาติ อตฺโถ. เย หิ วคฺควาทกา, เต นิยเมน อีทิสา โหนฺติ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ติณฺณํ อุทฺธํ กมฺมารหา น โหนฺติ, น หิ สงฺโฆ สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ตสฺมา เอโก วา ทฺเว วา ตโย วาติ วุตฺตํ.

ชานาติโนติ อมฺหากํ ฉนฺทาทีนิ ชานาติ. ภาสตีติ ‘‘เอวํ กโรมา’’ติ อมฺเหหิ สทฺธึ ภาสติ. อมฺหากมฺเปตํ ขมตีติ ยํ โส กโรติ, เอตํ อมฺหากมฺปิ รุจฺจติ.

สเมตายสฺมนฺตานํ สงฺเฆนาติ อายสฺมนฺตานํ จิตฺตํ สงฺเฆน สทฺธึ สเมตุ สมาคจฺฉตุ, เอกีภาวํ ยาตูติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ปมสิกฺขาปเท วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานตฺถตฺตา จ ปากฏเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ ปมสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.

ทุติยสงฺฆเภทสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๒๔. เตน สมเยน พุทฺโธ ภควาติ ทุพฺพจสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนาจารํ อาจรตีติ อเนกปฺปการํ กายวจีทฺวารวีติกฺกมํ กโรติ. กึ นุ โข นามาติ วมฺภนวจนเมตํ. อหํ โข นามาติ อุกฺกํสวจนํ. ตุมฺเห วเทยฺยนฺติ ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ มา กโรถา’’ติ อหํ ตุมฺเห วตฺตุํ อรหามีติ ทสฺเสติ. กสฺมาติ เจ? ยสฺมา อมฺหากํ พุทฺโธ ภควา กณฺฏกํ อารุยฺห มยา สทฺธึ นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิโตติเอวมาทิมตฺถํ สนฺธายาห. ‘‘อมฺหากํ ธมฺโม’’ติ วตฺวา ปน อตฺตโน สนฺตกภาเว ยุตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน ธมฺโม อภิสมิโต’’ติ อาห. ยสฺมา อมฺหากํ อยฺยปุตฺเตน จตุสจฺจธมฺโม ปฏิวิทฺโธ, ตสฺมา ธมฺโมปิ อมฺหากนฺติ วุตฺตํ โหติ. สงฺฆํ ปน อตฺตโน เวริปกฺเข ิตํ มฺมาโน อมฺหากํ สงฺโฆติ น วทติ. อุปมํ ปน วตฺวา สงฺฆํ อปสาเทตุกาโม ‘‘เสยฺยถาปิ นามา’’ติอาทิมาห. ติณกฏฺปณฺณสฏนฺติ ตตฺถ ตตฺถ ปติตํ ติณกฏฺปณฺณํ. อถ วา ติณฺจ นิสฺสารกํ ลหุกํ กฏฺฺจ ติณกฏฺํ. ปณฺณสฏนฺติ ปุราณปณฺณํ. อุสฺสาเรยฺยาติ ราสึ กเรยฺย.

ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพตปฺปภวา, สา หิ สีฆโสตา โหติ, ตสฺมา ตเมว คณฺหาติ. สงฺขเสวาลปณกนฺติ เอตฺถ สงฺโขติ ทีฆมูลโก ปณฺณเสวาโล วุจฺจติ. เสวาโลติ นีลเสวาโล, อวเสโส อุทกปปฺปฏกติลพีชกาทิ สพฺโพปิ ปณโกติ สงฺขฺยํ คจฺฉติ. เอกโต อุสฺสาริตาติ เอกฏฺาเน เกนาปิ สมฺปิณฺฑิตา ราสีกตาติ ทสฺเสติ.

๔๒๕-๖. ทุพฺพจชาติโกติ ทุพฺพจสภาโว วตฺตุํ อสกฺกุเณยฺโยติ อตฺโถ. ปทภาชเนปิสฺส ทุพฺพโจติ ทุกฺเขน กิจฺเฉน วทิตพฺโพ, น สกฺกา สุเขน วตฺตุนฺติ อตฺโถ. โทวจสฺสกรเณหีติ ทุพฺพจภาวกรณีเยหิ, เย ธมฺมา ทุพฺพจํ ปุคฺคลํ กโรนฺติ, เตหิ สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. เต ปน ‘‘กตเม จ, อาวุโส, โทวจสฺสกรณา ธมฺมา? อิธาวุโส, ภิกฺขุ ปาปิจฺโฉ โหตี’’ติอาทินา นเยน ปฏิปาฏิยา อนุมานสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๑๘๑) อาคตา ปาปิจฺฉตา, อตฺตุกฺกํสกปรวมฺภกตา, โกธนตา, โกธเหตุ อุปนาหิตา, โกธเหตุอภิสงฺคิตา, โกธเหตุโกธสามนฺตวาจานิจฺฉารณตา, โจทกํ ปฏิปฺผรณตา, โจทกํ อปสาทนตา, โจทกสฺส ปจฺจาโรปนตา, อฺเน อฺํปฏิจรณตา , อปทาเนน น สมฺปายนตา, มกฺขิปฬาสิตา, อิสฺสุกีมจฺฉริตา, สมายาวิตา, ถทฺธาติมานิตา, สนฺทิฏฺิปรามาสิอาธานคฺคหิทุปฺปฏินิสฺสคฺคิตาติ เอกูนวีสติ ธมฺมา เวทิตพฺพา.

โอวาทํ นกฺขมติ น สหตีติ อกฺขโม. ยถานุสิฏฺํ อปฺปฏิปชฺชนโต ปทกฺขิเณน อนุสาสนึ น คณฺหาตีติ อปฺปทกฺขิณคฺคาหี อนุสาสนึ.

อุทฺเทสปริยาปนฺเนสูติ อุทฺเทเส ปริยาปนฺเนสุ อนฺโตคเธสุ. ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ, โส อาวิกเรยฺยา’’ติ เอวํ สงฺคหิตตฺตา อนฺโต ปาติโมกฺขสฺส วตฺตมาเนสูติ อตฺโถ. สหธมฺมิกํ วุจฺจมาโนติ สหธมฺมิเกน วุจฺจมาโน กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สิกฺขิตพฺพตฺตา เตสํ วา สนฺตกตฺตา สหธมฺมิกนฺติ ลทฺธนาเมน พุทฺธปฺตฺเตน สิกฺขาปเทน วุจฺจมาโนติ อตฺโถ.

วิรมถายสฺมนฺโต มม วจนายาติ เยน วจเนน มํ วทถ, ตโต มม วจนโต วิรมถ. มา มํ ตํ วจนํ วทถาติ วุตฺตํ โหติ.

วทตุ สหธมฺเมนาติ สหธมฺมิเกน สิกฺขาปเทน สหธมฺเมน วา อฺเนปิ ปาสาทิกภาวสํวตฺตนิเกน วจเนน วทตุ. ยทิทนฺติ วุฑฺฒิการณนิทสฺสนตฺเถ นิปาโต. เตน ‘‘ยํ อิทํ อฺมฺสฺส หิตวจนํ อาปตฺติโต วุฏฺาปนฺจ เตน อฺมฺวจเนน อฺมฺวุฏฺาปเนน จ สํวฑฺฒา ปริสา’’ติ เอวํ ปริสาย วุฑฺฒิการณํ ทสฺสิตํ โหติ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมว.

สมุฏฺานาทีนิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ.

ทุพฺพจสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา

๔๓๑. เตนสมเยน พุทฺโธ ภควาติ กุลทูสกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อสฺสชิปุนพฺพสุกา นามาติ อสฺสชิ เจว ปุนพฺพสุโก จ. กีฏาคิริสฺมินฺติ เอวํนามเก ชนปเท. อาวาสิกา โหนฺตีติ เอตฺถ อาวาโส เอเตสํ อตฺถีติ อาวาสิกา. ‘‘อาวาโส’’ติ วิหาโร วุจฺจติ. โส เยสํ อายตฺโต นวกมฺมกรณปุราณปฏิสงฺขรณาทิภารหารตาย, เต อาวาสิกา. เย ปน เกวลํ วิหาเร วสนฺติ, เต เนวาสิกาติ วุจฺจนฺติ. อิเม อาวาสิกา อเหสุํ. อลชฺชิโน ปาปภิกฺขูติ นิลฺลชฺชา ลามกภิกฺขู, เต หิ ฉพฺพคฺคิยานํ เชฏฺกฉพฺพคฺคิยา.

สาวตฺถิยํ กิร ฉ ชนา สหายกา ‘‘กสิกมฺมาทีนิ ทุกฺกรานิ, หนฺท มยํ สมฺมา ปพฺพชาม! ปพฺพชนฺเตหิ จ อุปฺปนฺเน กิจฺเจ นิตฺถรณกฏฺาเน ปพฺพชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ สมฺมนฺตยิตฺวา ทฺวินฺนํ อคฺคสาวกานํ สนฺติเก ปพฺพชึสุ. เต ปฺจวสฺสา หุตฺวา มาติกํ ปคุณํ กตฺวา มนฺตยึสุ ‘‘ชนปโท นาม กทาจิ สุภิกฺโข โหติ กทาจิ ทุพฺภิกฺโข, มยํ มา เอกฏฺาเน วสิมฺห, ตีสุ าเนสุ วสามา’’ติ. ตโต ปณฺฑุกโลหิตเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, สาวตฺถิ นาม สตฺตปฺาสาย กุลสตสหสฺเสหิ อชฺฌาวุตฺถา, อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ กาสิโกสลรฏฺานํ อายมุขภูตา, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา อมฺพปนสนาฬิเกราทีนิ โรเปตฺวา ปุปฺเผหิ จ ผเลหิ จ กุลานิ สงฺคณฺหนฺตา กุลทารเก ปพฺพาเชตฺวา ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.

เมตฺติยภูมชเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, ราชคหํ นาม อฏฺารสหิ มนุสฺสโกฏีหิ อชฺฌาวุตฺถํ อสีติคามสหสฺสปฏิมณฺฑิตานํ ติโยชนสติกานํ ทฺวินฺนํ องฺคมคธรฏฺานํ อายมุขภูตํ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ.

อสฺสชิปุนพฺพสุเก อาหํสุ – ‘‘อาวุโส, กีฏาคิริ นาม ทฺวีหิ เมเฆหิ อนุคฺคหิโต ตีณิ สสฺสานิ ปสวนฺติ, ตตฺร ตุมฺเห ธุรฏฺาเนเยว ปริเวณานิ กาเรตฺวา…เป… ปริสํ วฑฺเฒถา’’ติ. เต ตถา อกํสุ. เตสุ เอกเมกสฺส ปกฺขสฺส ปฺจ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ปริวารา, เอวํ สมธิกํ ทิยฑฺฒภิกฺขุสหสฺสํ โหติ. ตตฺร ปณฺฑุกโลหิตกา สปริวารา สีลวนฺโตว ภควตา สทฺธึ ชนปทจาริกมฺปิ จรนฺติ, เต อกตวตฺถุํ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทํ ปน น มทฺทนฺติ, อิตเร สพฺเพ อลชฺชิโน อกตวตฺถุฺจ อุปฺปาเทนฺติ, ปฺตฺตสิกฺขาปทฺจ มทฺทนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อลชฺชิโน ปาปภิกฺขู’’ติ.

เอวรูปนฺติ เอวํชาติกํ. อนาจารํ อาจรนฺตีติ อนาจริตพฺพํ อาจรนฺติ, อกาตพฺพํ กโรนฺติ. มาลาวจฺฉนฺติ ตรุณปุปฺผรุกฺขํ, ตรุณกา หิ ปุปฺผรุกฺขาปิ ปุปฺผคจฺฉาปิ มาลาวจฺฉา ตฺเวว วุจฺจนฺติ, เต จ อเนกปฺปการํ มาลาวจฺฉํ สยมฺปิ โรเปนฺติ, อฺเนปิ โรปาเปนฺติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปี’’ติ. สิฺจนฺตีติ สยเมว อุทเกน สิฺจนฺติ. สิฺจาเปนฺตีติ อฺเนปิ สิฺจาเปนฺติ.

เอตฺถ ปน อกปฺปิยโวหาโร กปฺปิยโวหาโร ปริยาโย โอภาโส นิมิตฺตกมฺมนฺติ อิมานิ ปฺจ ชานิตพฺพานิ. ตตฺถ อกปฺปิยโวหาโร นาม อลฺลหริตานํ โกฏฺฏนํ โกฏฺฏาปนํ, อาวาฏสฺส ขณนํ ขณาปนํ, มาลาวจฺฉสฺส โรปนํ โรปาปนํ, อาฬิยา พนฺธนํ พนฺธาปนํ, อุทกสฺส เสจนํ เสจาปนํ, มาติกาย สมฺมุขกรณํ กปฺปิยอุทกสิฺจนํ หตฺถมุขปาทโธวนนฺหาโนทกสิฺจนนฺติ. กปฺปิยโวหาโร นาม ‘‘อิมํ รุกฺขํ ชาน, อิมํ อาวาฏํ ชาน, อิมํ มาลาวจฺฉํ ชาน, เอตฺถ อุทกํ ชานา’’ติ วจนํ สุกฺขมาติกาย อุชุกรณฺจ. ปริยาโย นาม ‘‘ปณฺฑิเตน นาม มาลาวจฺฉาทโย โรปาเปตพฺพา นจิรสฺเสว อุปการาย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทิวจนํ. โอภาโส นาม กุทาลขณิตฺตาทีนิ จ มาลาวจฺเฉ จ คเหตฺวา านํ, เอวํ ิตฺหิ สามเณราทโย ทิสฺวา เถโร การาเปตุกาโมติ คนฺตฺวา กโรนฺติ. นิมิตฺตกมฺมํ นาม กุทาล-ขณิตฺติ-วาสิ-ผรสุ-อุทกภาชนานิ อาหริตฺวา สมีเป ปนํ.

อิมานิ ปฺจปิ กุลสงฺคหตฺถาย โรปเน น วฏฺฏนฺติ, ผลปริโภคตฺถาย กปฺปิยากปฺปิยโวหารทฺวยเมว น วฏฺฏติ, อิตรตฺตยํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘กปฺปิยโวหาโรปิ วฏฺฏติ. ยฺจ อตฺตโน ปริโภคตฺถาย วฏฺฏติ, ตํ อฺปุคฺคลสฺส วา สงฺฆสฺส วา เจติยสฺส วา อตฺถายปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ.

อารามตฺถาย ปน วนตฺถาย ฉายตฺถาย จ อกปฺปิยโวหารมตฺตเมว น จ วฏฺฏติ, เสสํ วฏฺฏติ, น เกวลฺจ เสสํ ยํกิฺจิ มาติกมฺปิ อุชุํ กาตุํ กปฺปิยอุทกํ สิฺจิตุํ นฺหานโกฏฺกํ กตฺวา นฺหายิตุํ หตฺถปาทมุขโธวนุทกานิ จ ตตฺถ ฉฑฺเฑตุมฺปิ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อารามาทิอตฺถาย ปน โรปิตสฺส วา โรปาปิตสฺส วา ผลํ ปริภุฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ.

โอจินนโอจินาปเน ปกติยาปิ ปาจิตฺติยํ. กุลทูสนตฺถาย ปน ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ. คนฺถนาทีสุ จ อุรจฺฉทปริโยสาเนสุ กุลทูสนตฺถาย อฺตฺถาย วา กโรนฺตสฺส ทุกฺกฏเมว . กสฺมา? อนาจารตฺตา, ‘‘ปาปสมาจาโร’’ติ เอตฺถ วุตฺตปาปสมาจารตฺตา จ. อารามาทิอตฺถาย รุกฺขโรปเน วิย วตฺถุปูชนตฺถาย กสฺมา น อนาปตฺตีติ เจ? อนาปตฺติเยว. ยถา หิ ตตฺถ กปฺปิยโวหาเรน ปริยายาทีหิ จ อนาปตฺติ ตถา วตฺถุปูชตฺถายปิ อนาปตฺติเยว.

นนุ จ ตตฺถ ‘‘กปฺปิยปถวิยํ สยํ โรเปตุมฺปิ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตนฺติ? วุตฺตํ, น ปน มหาอฏฺกถายํ. อถาปิ มฺเยฺยาสิ อิตราสุ วุตฺตมฺปิ ปมาณํ. มหาอฏฺกถายฺจ กปฺปิยอุทกเสจนํ วุตฺตํ, ตํ กถนฺติ? ตมฺปิ น วิรุชฺฌติ. ตตฺร หิ อวิเสเสน ‘‘รุกฺขํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิฺจนฺติปิ สิฺจาเปนฺติปี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มาลาวจฺฉ’’นฺติ วทนฺโต าเปติ ‘‘กุลสงฺคหตฺถาย ปุปฺผผลูปคเมว สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, อฺตฺร ปน ปริยาโย อตฺถี’’ติ. ตสฺมา ตตฺถ ปริยายํ, อิธ จ ปริยายาภาวํ ตฺวา ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ สุวุตฺตเมว. วุตฺตฺเจตํ –

‘‘พุทฺเธน ธมฺโม วินโย จ วุตฺโต;

โย ตสฺส ปุตฺเตหิ ตเถว าโต;

โส เยหิ เตสํ มติมจฺจชนฺตา;

ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ.

‘‘ตสฺมา หิ ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ;

ตํ วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลขํ;

สพฺพมฺปิ สิกฺขาสุ สคารวานํ;

ยสฺมา ปมาณํ อิธ ปณฺฑิตาน’’นฺติ.

สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ตตฺถ สิยา ยทิ วตฺถุปูชนตฺถายปิ คนฺถานาทีสุ อาปตฺติ, หรณาทีสุ กสฺมา อนาปตฺตีติ? กุลิตฺถีอาทีนํ อตฺถาย หรณโต หรณาธิกาเร หิ วิเสเสตฺวา เต กุลิตฺถีนนฺติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา พุทฺธาทีนํ อตฺถาย หรนฺตสฺส อนาปตฺติ.

ตตฺถ เอกโตวณฺฏิกนฺติ ปุปฺผานํ วณฺเฏ เอกโต กตฺวา กตมาลํ. อุภโตวณฺฏิกนฺติ อุโภหิ ปสฺเสหิ ปุปฺผวณฺเฏ กตฺวา กตมาลํ. มฺชริกนฺติอาทีสุ ปน มฺชรี วิย กตา ปุปฺผวิกติ มฺชริกาติ วุจฺจติ. วิธูติกาติ สูจิยา วา สลากาย วา สินฺทุวารปุปฺผาทีนิ วิชฺฌิตฺวา กตา. วฏํสโกติ วตํสโก. อาเวฬาติ กณฺณิกา. อุรจฺฉโทติ หารสทิสํ อุเร ปนกปุปฺผทามํ. อยํ ตาว เอตฺถ ปทวณฺณนา.

อยํ ปน อาทิโต ปฏฺาย วิตฺถาเรน อาปตฺติวินิจฺฉโย. กุลทูสนตฺถาย อกปฺปิยปถวิยํ มาลาวจฺฉํ โรเปนฺตสฺส ปาจิตฺติยฺเจว ทุกฺกฏฺจ, ตถา อกปฺปิยโวหาเรน โรปาเปนฺตสฺส. กปฺปิยปถวิยํ โรปเนปิ โรปาปเนปิ ทุกฺกฏเมว. อุภยตฺถาปิ สกึ อาณตฺติยา พหุนฺนมฺปิ โรปเน เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ วา สุทฺธทุกฺกฏํ วา โหติ. ปริโภคตฺถาย หิ กปฺปิยภูมิยํ วา อกปฺปิยภูมิยํ วา กปฺปิยโวหาเรน โรปาปเน อนาปตฺติ. อารามาทิอตฺถายปิ อกปฺปิยปถวิยํ โรเปนฺตสฺส วา อกปฺปิยวจเนน โรปาเปนฺตสฺส วา ปาจิตฺติยํ. อยํ ปน นโย มหาอฏฺกถายํ น สุฏฺุ วิภตฺโต, มหาปจฺจริยํ วิภตฺโตติ.

สิฺจนสิฺจาปเน ปน อกปฺปิยอุทเกน สพฺพตฺถ ปาจิตฺติยํ, กุลทูสนปริโภคตฺถาย ทุกฺกฏมฺปิ. กปฺปิเยน เตสํเยว ทฺวินฺนมตฺถาย ทุกฺกฏํ. ปริโภคตฺถาย เจตฺถ กปฺปิยโวหาเรน สิฺจาปเน อนาปตฺติ. อาปตฺติฏฺาเน ปน ธาราวจฺเฉทวเสน ปโยคพหุลตาย อาปตฺติพหุลตา เวทิตพฺพา.

กุลทูสนตฺถาย โอจินเน ปุปฺผคณนาย ทุกฺกฏปาจิตฺติยานิ อฺตฺถ ปาจิตฺติยาเนว. พหูนิ ปน ปุปฺผานิ เอกปโยเคน โอจินนฺโต ปโยควเสน กาเรตพฺโพ. โอจินาปเน กุลทูสนตฺถาย สกึ อาณตฺโต พหุมฺปิ โอจินติ, เอกเมว สปาจิตฺติยทุกฺกฏํ, อฺตฺร ปาจิตฺติยเมว.

คนฺถนาทีสุ สพฺพาปิ ฉ ปุปฺผวิกติโย เวทิตพฺพา – คนฺถิมํ, โคปฺผิมํ, เวธิมํ, เวิมํ, ปูริมํ, วายิมนฺติ. ตตฺถ ‘‘คนฺถิมํ’’ นาม สทณฺฑเกสุ วา อุปฺปลปทุมาทีสุ อฺเสุ วา ทีฆวณฺเฏสุ ปุปฺเผสุ ทฏฺพฺพํ. ทณฺฑเกน ทณฺฑกํ วณฺเฏน วา วณฺฏํ คนฺเถตฺวา กตเมว หิ คนฺถิมํ. ตํ ภิกฺขุสฺส วา ภิกฺขุนิยา วา กาตุมฺปิ อกปฺปิยวจเนน การาเปตุมฺปิ น วฏฺฏติ. เอวํ ชาน, เอวํ กเต โสเภยฺย, ยถา เอตานิ ปุปฺผานิ น วิกิริยนฺติ ตถา กโรหีติอาทินา ปน กปฺปิยวจเนน กาเรตุํ วฏฺฏติ.

‘‘โคปฺผิมํ’’ นาม สุตฺเตน วา วากาทีหิ วา วสฺสิกปุปฺผาทีนํ เอกโตวณฺฏิกอุภโตวณฺฏิกมาลาวเสน โคปฺผนํ, วากํ วา รชฺชุํ วา ทิคุณํ กตฺวา ตตฺถ อวณฺฏกานิ นีปปุปฺผาทีนิ ปเวเสตฺวา ปฏิปาฏิยา พนฺธนฺติ, เอตมฺปิ โคปฺผิมเมว. สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ.

‘‘เวธิมํ’’ นาม สวณฺฏกานิ วสฺสิกปุปฺผาทีนิ วณฺเฏสุ, อวณฺฏกานิ วา วกุลปุปฺผาทีนิ อนฺโตฉิทฺเท สูจิตาลหีราทีหิ วินิวิชฺฌิตฺวา อาวุนนฺติ, เอตํ เวธิมํ นาม, ตมฺปิ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. เกจิ ปน กทลิกฺขนฺธมฺหิ กณฺฏเก วา ตาลหีราทีนิ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ ปุปฺผานิ วิชฺฌิตฺวา เปนฺติ, เกจิ กณฺฏกสาขาสุ, เกจิ ปุปฺผจฺฉตฺตปุปฺผกูฏาคารกรณตฺถํ ฉตฺเต จ ภิตฺติยฺจ ปเวเสตฺวา ปิตกณฺฏเกสุ, เกจิ ธมฺมาสนวิตาเน พทฺธกณฺฏเกสุ, เกจิ กณิการปุปฺผาทีนิ สลากาหิ วิชฺฌนฺติ, ฉตฺตาธิฉตฺตํ วิย จ กโรนฺติ, ตํ อติโอฬาริกเมว . ปุปฺผวิชฺฌนตฺถํ ปน ธมฺมาสนวิตาเน กณฺฏกมฺปิ พนฺธิตุํ กณฺฏกาทีหิ วา เอกปุปฺผมฺปิ วิชฺฌิตุํ ปุปฺเผเยว วา ปุปฺผํ ปเวเสตุํ น วฏฺฏติ. ชาลวิตานเวทิก-นาคทนฺตก ปุปฺผปฏิจฺฉกตาลปณฺณคุฬกาทีนํ ปน ฉิทฺเทสุ อโสกปิณฺฑิยา วา อนฺตเรสุ ปุปฺผานิ ปเวเสตุํ น โทโส. เอตํ เวธิมํ นาม น โหติ. ธมฺมรชฺชุยมฺปิ เอเสว นโย.

‘‘เวิมํ’’ นาม ปุปฺผทามปุปฺผหตฺถเกสุ ทฏฺพฺพํ. เกจิ หิ มตฺถกทามํ กโรนฺตา เหฏฺา ฆฏกาการํ ทสฺเสตุํ ปุปฺเผหิ เวเนฺติ, เกจิ อฏฺฏฺ วา ทส ทส วา อุปฺปลปุปฺผาทีนิ สุตฺเตน วา วาเกน วา ทณฺฑเกสุ พนฺธิตฺวา อุปฺปลหตฺถเก วา ปทุมหตฺถเก วา กโรนฺติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. สามเณเรหิ อุปฺปาเฏตฺวา ถเล ปิตอุปฺปลาทีนิ กาสาเวน ภณฺฑิกมฺปิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. เตสํเยว ปน วาเกน วา ทณฺฑเกน วา พนฺธิตุํ อํสภณฺฑิกํ วา กาตุํ วฏฺฏติ. อํสภณฺฑิกา นาม ขนฺเธ ปิตกาสาวสฺส อุโภ อนฺเต อาหริตฺวา ภณฺฑิกํ กตฺวา ตสฺมึ ปสิพฺพเก วิย ปุปฺผานิ ปกฺขิปนฺติ, อยํ วุจฺจติ อํสภณฺฑิกา, เอตํ กาตุํ วฏฺฏติ. ทณฺฑเกหิ ปทุมินิปณฺณํ วิชฺฌิตฺวา อุปฺปลาทีนิ ปณฺเณน เวเตฺวา คณฺหนฺติ, ตตฺราปิ ปุปฺผานํ อุปริ ปทุมินิปณฺณเมว พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. เหฏฺา ทณฺฑกํ ปน พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ.

‘‘ปูริมํ’’ นาม มาลาคุเณ จ ปุปฺผปเฏ จ ทฏฺพฺพํ. โย หิ มาลาคุเณน เจติยํ วา โพธึ วา เวทิกํ วา ปริกฺขิปนฺโต ปุน อาเนตฺวา ปูริมานํ อติกฺกาเมติ, เอตฺตาวตาปิ ปูริมํ นาม โหติ. โก ปน วาโท อเนกกฺขตฺตุํ ปริกฺขิปนฺตสฺส, นาคทนฺต-กนฺตเรหิ ปเวเสตฺวา หรนฺโต โอลมฺพกํ กตฺวา ปุน นาคทนฺตกํ ปริกฺขิปติ, เอตมฺปิ ปูริมํ นาม. นาคทนฺตเก ปน ปุปฺผวลยํ ปเวเสตุํ วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปุปฺผปฏํ กโรนฺติ. ตตฺราปิ เอกเมว มาลาคุณํ หริตุํ วฏฺฏติ. ปุน ปจฺจาหรโต ปูริมเมว โหติ, ตํ สพฺพํ ปุริมนเยเนว น วฏฺฏติ. มาลาคุเณหิ ปน พหูหิปิ กตํ ปุปฺผทามํ ลภิตฺวา อาสนมตฺถกาทีสุ พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. อติทีฆํ ปน มาลาคุณํ เอกวารํ หริตฺวา วา ปริกฺขิปิตฺวา วา ปุน อฺสฺส ภิกฺขุโน ทาตุํ วฏฺฏติ. เตนาปิ ตเถว กาตุํ วฏฺฏติ.

‘‘วายิมํ’’ นาม ปุปฺผชาลปุปฺผปฏปุปฺผรูเปสุ ทฏฺพฺพํ. เจติเยสุ ปุปฺผชาลํ กโรนฺตสฺส เอกเมกมฺหิ ชาลจฺฉิทฺเท ทุกฺกฏํ. ภิตฺติจฺฉตฺตโพธิตฺถมฺภาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุปฺผปฏํ ปน ปเรหิ ปูริตมฺปิ วายิตุํ น ลพฺภติ. โคปฺผิมปุปฺเผเหว หตฺถิอสฺสาทิรูปกานิ กโรนฺติ, ตานิปิ วายิมฏฺาเน ติฏฺนฺติ. ปุริมนเยเนว สพฺพํ น วฏฺฏติ. อฺเหิ กตปริจฺเฉเท ปน ปุปฺผานิ เปนฺเตน หตฺถิอสฺสาทิรูปกมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กลมฺพเกน อฑฺฒจนฺทเกน จ สทฺธึ อฏฺปุปฺผวิกติโย วุตฺตา. ตตฺถ กลมฺพโกติ อฑฺฒจนฺทกนฺตเร ฆฏิกทามโอลมฺพโก วุตฺโต. ‘‘อฑฺฒจนฺทโก’’ติ อฑฺฒจนฺทากาเรน มาลาคุณปริกฺเขโป. ตทุภยมฺปิ ปูริเมเยว ปวิฏฺํ. กุรุนฺทิยํ ปน ‘‘ทฺเว ตโย มาลาคุเณ เอกโต กตฺวา ปุปฺผทามกรณมฺปิ วายิมํเยวา’’ติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิธ ปูริมฏฺาเนเยว ปวิฏฺํ, น เกวลฺจ ปุปฺผคุฬทามเมว ปิฏฺมยทามมฺปิ เคณฺฑุกปุปฺผทามมฺปิ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ, ขรปตฺตทามมฺปิ สิกฺขาปทสฺส สาธารณตฺตา ภิกฺขูนมฺปิ ภิกฺขุนีนมฺปิ เนว กาตุํ น การาเปตุํ วฏฺฏติ. ปูชานิมิตฺตํ ปน กปฺปิยวจนํ สพฺพตฺถ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ปริยายโอภาสนิมิตฺตกมฺมานิ วฏฺฏนฺติเยว.

ตุวฏฺเฏนฺตีติ นิปชฺชนฺติ. ลาเสนฺตีติ ปีติยา อุปฺปิลวมานา วิย อุฏฺหิตฺวา ลาสิยนาฏกํ นาเฏนฺติ, เรจกํ เทนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ นจฺจนฺตีติ ยทา นาฏกิตฺถี นจฺจติ, ตทา เตปิ ตสฺสา ปุรโต วา ปจฺฉโต วา คจฺฉนฺตา นจฺจนฺติ. นจฺจนฺติยาปิ คายนฺตีติ ยทา สา นจฺจติ, ตทา นจฺจานุรูปํ คายนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ. อฏฺปเทปิ กีฬนฺตีติ อฏฺปทผลเก ชูตํ กีฬนฺติ. ตถา ทสปเท, อากาเสปีติ อฏฺปททสปเทสุ วิย อากาเสเยว กีฬนฺติ. ปริหารปเถปีติ ภูมิยํ นานาปถมณฺฑลํ กตฺวา ตตฺถ ปริหริตพฺพปถํ ปริหรนฺตา กีฬนฺติ. สนฺติกายปิ กีฬนฺตีติ สนฺติกกีฬาย กีฬนฺติ, เอกชฺฌํ ปิตา สาริโย วา ปาสาณสกฺขราโย วา อจาเลนฺตา นเขเนว อปเนนฺติ จ อุปเนนฺติ จ, สเจ ตตฺถ กาจิ จลติ, ปราชโย โหติ. ขลิกายาติ ชูตผลเก ปาสกกีฬาย กีฬนฺติ. ฆฏิกายาติ ฆฏิกา วุจฺจติ ทณฺฑกกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ทีฆทณฺฑเกน รสฺสทณฺฑกํ ปหรนฺตา วิจรนฺติ.

สลากหตฺเถนาติ ลาขาย วา มฺชฏฺิยา วา ปิฏฺอุทเก วา สลากหตฺถํ เตเมตฺวา ‘‘กึ โหตู’’ติ ภูมิยํ วา ภิตฺติยํ วา ตํ ปหริตฺวา หตฺถิอสฺสาทีรูปานิ ทสฺเสนฺตา กีฬนฺติ. อกฺเขนาติ คุเฬน. ปงฺคจีเรนาติ ปงฺคจีรํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิกา, ตํ ธมนฺตา กีฬนฺติ. วงฺกเกนาติ คามทารกานํ กีฬนเกน ขุทฺทกนงฺคเลน. โมกฺขจิกายาติ โมกฺขจิกา วุจฺจติ สมฺปริวตฺตกกีฬา, อากาเส วา ทณฺฑํ คเหตฺวา, ภูมิยํ วา สีสํ เปตฺวา เหฏฺุปริยภาเวน ปริวตฺตนฺตา กีฬนฺตีติ อตฺโถ. จิงฺคุลเกนาติ จิงฺคุลกํ วุจฺจติ ตาลปณฺณาทีหิ กตํ วาตปฺปหาเรน ปริพฺภมนจกฺกํ, เตน กีฬนฺติ. ปตฺตาฬฺหเกนาติ ปตฺตาฬฺหกํ วุจฺจติ ปณฺณนาฬิ, ตาย วาลิกาทีนิ มินนฺตา กีฬนฺติ. รถเกนาติ ขุทฺทกรเถน. ธนุเกนาติ ขุทฺทกธนุนา.

อกฺขริกายาติ อกฺขริกา วุจฺจติ อากาเส วา ปิฏฺิยํ วา อกฺขรชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. มเนสิกายาติ มเนสิกา วุจฺจติ มนสา จินฺติตชานนกีฬา, ตาย กีฬนฺติ. ยถาวชฺเชนาติ ยถาวชฺชํ วุจฺจติ กาณกุณิกขฺชาทีนํ ยํ ยํ วชฺชํ ตํ ตํ ปโยเชตฺวา ทสฺสนกีฬา ตาย กีฬนฺติ, เวลมฺภกา วิย. หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺตีติ หตฺถินิมิตฺตํ ยํ สิปฺปํ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สิกฺขนฺติ. เอเสว นโย อสฺสาทีสุ. ธาวนฺติปีติ ปรมฺมุขา คจฺฉนฺตา ธาวนฺติ. อาธาวนฺติปีติ ยตฺตกํ ธาวนฺติ, ตตฺตกเมว อภิมุขา ปุน อาคจฺฉนฺตา อาธาวนฺติ. นิพฺพุชฺฌนฺตีติ มลฺลยุทฺธํ กโรนฺติ. นลาฏิกมฺปิ เทนฺตีติ ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินี’’ติ อตฺตโน นลาเฏ องฺคุลึ เปตฺวา ตสฺสา นลาเฏ เปนฺติ. วิวิธมฺปิ อนาจารํ อาจรนฺตีติ อฺมฺปิ ปาฬิยํ อนาคตํ มุขฑิณฺฑิมาทิวิวิธํ อนาจารํ อาจรนฺติ.

๔๓๒. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน, สารุปฺเปน สมณานุจฺฉวิเกน. อภิกฺกนฺเตนาติ คมเนน. ปฏิกฺกนฺเตนาติ นิวตฺตเนน. อาโลกิเตนาติ ปุรโต ทสฺสเนน. วิโลกิเตนาติ อิโต จิโต จ ทสฺสเนน. สมิฺชิเตนาติ ปพฺพสงฺโกจเนน. ปสาริเตนาติ เตสํเยว ปสารเณน. สพฺพตฺถ อิตฺถมฺภูตาขฺยานตฺเถ กรณวจนํ, สติสมฺปชฺเหิ อภิสงฺขตตฺตา ปาสาทิก อภิกฺกนฺต-ปฏิกฺกนฺต-อาโลกิต-วิโลกิต-สมิฺชิต-ปสาริโต หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺา-ขิตฺตจกฺขุ . อิริยาปถสมฺปนฺโนติ ตาย ปาสาทิกอภิกฺกนฺตาทิตาย สมฺปนฺนอิริยาปโถ.

กฺวายนฺติ โก อยํ. อพลพโล วิยาติ อพโล กิร โพนฺโท วุจฺจติ, อติสยตฺเถ จ อิทํ อาเมฑิตํ, ตสฺมา อติโพนฺโท วิยาติ วุตฺตํ โหติ. มนฺทมนฺโทติ อภิกฺกนฺตาทีนํ อนุทฺธตตาย อติมนฺโท. อติสณฺโหติ เอวํ คุณเมว โทสโต ทสฺเสนฺติ. ภากุฏิกภากุฏิโก วิยาติ โอกฺขิตฺตจกฺขุตาย ภกุฏึ กตฺวา สงฺกุฏิตมุโข กุปิโต วิย วิจรตีติ มฺมานา วทนฺติ. สณฺหาติ นิปุณา, ‘‘อมฺม ตาต ภคินี’’ติ เอวํ อุปาสกชนํ ยุตฺตฏฺาเน อุปเนตุํ เฉกา, น ยถา อยํ; เอวํ อพลพโล วิยาติ อธิปฺปาโย. สขิลาติ สาขลฺเยน ยุตฺตา. สุขสมฺภาสาติ อิทํ ปุริมสฺส การณวจนํ. เยสฺหิ สุขสมฺภาสา สมฺโมทนียกถา เนลา โหติ กณฺณสุขา, เต สขิลาติ วุจฺจนฺติ. เตนาหํสุ – ‘‘สขิลา สุขสมฺภาสา’’ติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – อมฺหากํ อยฺยา อุปาสเก ทิสฺวา มธุรํ สมฺโมทนียํ กถํ กเถนฺติ, ตสฺมา สขิลา สุขสมฺภาสา, น ยถา อยํ; เอวํ มนฺทมนฺทา วิยาติ. มิหิตปุพฺพงฺคมาติ มิหิตํ ปุพฺพงฺคมํ เอเตสํ วจนสฺสาติ มิหิตปุพฺพงฺคมา, ปมํ สิตํ กตฺวา ปจฺฉา วทนฺตีติ อตฺโถ. เอหิสฺวาคตวาทิโนติ อุปาสกํ ทิสฺวา ‘‘เอหิ สฺวาคตํ ตวา’’ติ เอวํวาทิโน, น ยถา อยํ; เอวํ สงฺกุฏิตมุขตาย ภากุฏิกภากุฏิกา วิย เอวํ มิหิตปุพฺพงฺคมาทิตาย อภากุฏิกภาวํ อตฺถโต ทสฺเสตฺวา ปุน สรูเปนปิ ทสฺเสนฺโต อาหํสุ – ‘‘อภากุฏิกา อุตฺตานมุขา ปุพฺพภาสิโน’’ติ. อุปฺปฏิปาฏิยา วา ติณฺณมฺปิ อาการานํ อภาวทสฺสนเมตนฺติ เวทิตพฺพํ. กถํ? เอตฺถ หิ ‘‘อภากุฏิกา’’ติ อิมินา ภากุฏิกภากุฏิกาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต. ‘‘อุตฺตานมุขา’’ติ อิมินา มนฺทมนฺทาการสฺส, เย หิ จกฺขูนิ อุมฺมิเลตฺวา อาโลกเนน อุตฺตานมุขา โหนฺติ, น เต มนฺทมนฺทา. ปุพฺพภาสิโนติ อิมินา อพลพลาการสฺส อภาโว ทสฺสิโต, เย หิ อาภาสนกุสลตาย ‘‘อมฺม ตาตา’’ติ ปมตรํ อาภาสนฺติ, น เต อพลพลาติ.

เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามาติ โส กิร อุปาสโก ‘‘น โข, อาวุโส, ปิณฺโฑ ลพฺภตี’’ติ วุตฺเต ‘‘ตุมฺหากํ ภิกฺขูหิเยว เอตํ กตํ , สกลมฺปิ คามํ วิจรนฺตา น ลจฺฉถา’’ติ วตฺวา ปิณฺฑปาตํ ทาตุกาโม ‘‘เอหิ, ภนฺเต, ฆรํ คมิสฺสามา’’ติ อาห. กึ ปนายํ ปยุตฺตวาจา โหติ, น โหตีติ? น โหติ. ปุจฺฉิตปฺโห นามายํ กเถตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมา อิทานิ เจปิ ปุพฺพณฺเห วา สายนฺเห วา อนฺตรฆรํ ปวิฏฺํ ภิกฺขุํ โกจิ ปุจฺเฉยฺย – ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, จรถา’’ติ? เยนตฺเถน จรติ, ตํ อาจิกฺขิตฺวา ‘‘ลทฺธํ น ลทฺธ’’นฺติ วุตฺเต สเจ น ลทฺธํ, ‘‘น ลทฺธ’’นฺติ วตฺวา ยํ โส เทติ, ตํ คเหตุํ วฏฺฏติ.

ทุฏฺโติ น ปสาทาทีนํ วินาเสน ทุฏฺโ, ปุคฺคลวเสน ทุฏฺโ. ทานปถานีติ ทานานิเยว วุจฺจนฺติ. อถ วา ทานปถานีติ ทานนิพทฺธานิ ทานวตฺตานีติ วุตฺตํ โหติ. อุปจฺฉินฺนานีติ ทายเกหิ อุปจฺฉินฺนานิ, น เต ตานิ เอตรหิ เทนฺติ. ริฺจนฺตีติ วิสุํ โหนฺติ นานา โหนฺติ, ปกฺกมนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สณฺเหยฺยาติ สมฺมา ติฏฺเยฺย, เปสลานํ ภิกฺขูนํ ปติฏฺา ภเวยฺย.

เอวมาวุโสติ โข โส ภิกฺขุ สทฺธสฺส ปสนฺนสฺส อุปาสกสฺส สาสนํ สมฺปฏิจฺฉิ. เอวรูปํ กิร สาสนํ กปฺปิยํ หริตุํ วฏฺฏติ, ตสฺมา ‘‘มม วจเนน ภควโต ปาเท วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติยํ ปฏิมํ โพธึ สงฺฆตฺเถรํ วนฺทถา’’ติ วา ‘‘เจติเย คนฺธปูชํ กโรถ, ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วา ‘‘ภิกฺขู สนฺนิปาเตถ, ทานํ ทสฺสาม , ธมฺมํ โสสฺสามาติ วา อีทิเสสุ สาสเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนานิ เอตานิ น คิหีนํ คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตานีติ. กุโต จ ตฺวํ, ภิกฺขุ, อาคจฺฉสีติ นิสินฺโน โส ภิกฺขุ น อาคจฺฉติ อตฺถโต ปน อาคโต โหติ; เอวํ สนฺเตปิ วตฺตมานสมีเป วตฺตมานวจนํ ลพฺภติ, ตสฺมา น โทโส. ปริโยสาเน ‘‘ตโต อหํ ภควา อาคจฺฉามี’’ติ เอตฺถาปิ วจเน เอเสว นโย.

๔๓๓. ปมํ อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขู โจเทตพฺพาติ ‘‘มยํ ตุมฺเห วตฺตุกามา’’ติ โอกาสํ กาเรตฺวา วตฺถุนา จ อาปตฺติยา จ โจเทตพฺพา. โจเทตฺวา ยํ น สรนฺติ, ตํ สาเรตพฺพา. สเจ วตฺถุฺจ อาปตฺติฺจ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺติเมว วา ปฏิชานนฺติ, น วตฺถุํ, อาปตฺตึ โรเปตพฺพา. อถ วตฺถุเมว ปฏิชานนฺติ, นาปตฺตึ; เอวมฺปิ ‘‘อิมสฺมึ วตฺถุสฺมึ อยํ นาม อาปตฺตี’’ติ โรเปตพฺพา เอว. ยทิ เนว วตฺถุํ, นาปตฺตึ ปฏิชานนฺติ, อาปตฺตึ น โรเปตพฺพา อยเมตฺถ วินิจฺฉโย. ยถาปฏิฺาย ปน อาปตฺตึ โรเปตฺวา; เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมํ กาตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา’’ติอาทิมาห, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.

เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกเตน ภิกฺขุนา ยสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน ยสฺมึ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ, ตสฺมึ วิหาเร วา ตสฺมึ คาเม วา น วสิตพฺพํ. ตสฺมึ วิหาเร วสนฺเตน สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. สามนฺตวิหาเรปิ วสนฺเตน ตสฺมึ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพํ. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘ภนฺเต นครํ นาม มหนฺตํ ทฺวาทสโยชนิกมฺปิ โหตี’’ติ อนฺเตวาสิเกหิ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา วีถิยา กุลทูสกกมฺมํ กตํ ตตฺเถว วาริต’’นฺติ อาห. ตโต ‘‘วีถิปิ มหตี นครปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต ‘‘ยสฺสา ฆรปฏิปาฏิยา’’ติ อาห, ‘‘ฆรปฏิปาฏีปิ วีถิปฺปมาณาว โหตี’’ติ วุตฺโต อิโต จิโต จ สตฺต ฆรานิ วาริตานี’’ติ อาห. ตํ ปน สพฺพํ เถรสฺส มโนรถมตฺตเมว. สเจปิ วิหาโร ติโยชนปรโม โหติ ทฺวาทสโยชนปรมฺจ นครํ, เนว วิหาเร วสิตุํ ลพฺภติ, น นคเร จริตุนฺติ.

๔๓๕. เตสงฺเฆน ปพฺพาชนียกมฺมกตาติ กถํ สงฺโฆ เตสํ กมฺมํ อกาสิ? น คนฺตฺวาว อชฺโฌตฺถริตฺวา อกาสิ, อถ โข กุเลหิ นิมนฺเตตฺวา สงฺฆภตฺเตสุ กยิรมาเนสุ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน เถรา สมณปฏิปทํ กเถตฺวา ‘‘อยํ สมโณ, อยํ อสฺสมโณ’’ติ มนุสฺเส สฺาเปตฺวา เอกํ ทฺเว ภิกฺขู สีมํ ปเว เสตฺวา เอเตเนวุปาเยน สพฺเพสํ ปพฺพาชนียกมฺมํ อกํสูติ. เอวํ ปพฺพาชนียกมฺมกตสฺส จ อฏฺารส วตฺตานิ ปูเรตฺวา ยาจนฺตสฺส กมฺมํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภตพฺพํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกมฺเมนาปิ จ เตน เยสุ กุเลสุ ปุพฺเพ กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตโต ปจฺจยา น คเหตพฺพา, อาสวกฺขยปฺปตฺเตนาปิ น คเหตพฺพา, อกปฺปิยาว โหนฺติ. ‘‘กสฺมา น คณฺหถา’’ติ ปุจฺฉิเตน ‘‘ปุพฺเพ เอวํ กตตฺตา’’ติ วุตฺเต, สเจ วทนฺติ ‘‘น มยํ เตน การเณน เทม อิทานิ สีลวนฺตตาย เทมา’’ติ คเหตพฺพา. ปกติยา ทานฏฺาเนเยว กุลทูสกกมฺมํ กตํ โหติ. ตโต ปกติทานเมว คเหตุํ วฏฺฏติ, ยํ วฑฺเฒตฺวา เทนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ.

น สมฺมา วตฺตนฺตีติ เต ปน อสฺสชิปุนพฺพสุกา อฏฺารสสุ วตฺเตสุ สมฺมา น วตฺตนฺติ. น โลมํ ปาเตนฺตีติ อนุโลมปฏิปทํ อปฺปฏิปชฺชนตาย น ปนฺนโลมา โหนฺติ. น เนตฺถารํ วตฺตนฺตีติ อตฺตโน นิตฺถรณมคฺคํ น ปฏิปชฺชนฺติ . น ภิกฺขู ขมาเปนฺตีติ ‘‘ทุกฺกฏํ, ภนฺเต, อมฺเหหิ, น ปุน เอวํ กริสฺสาม, ขมถ อมฺหาก’’นฺติ เอวํ ภิกฺขูนํ ขมาปนํ น กโรนฺติ. อกฺโกสนฺตีติ การกสงฺฆํ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนฺติ. ปริภาสนฺตีติ ภยํ เนสํ ทสฺเสนฺติ. ฉนฺทคามิตา…เป… ภยคามิตา ปาเปนฺตีติ เอเต ฉนฺทคามิโน จ…เป… ภยคามิโน จาติ เอวํ ฉนฺทคามิตายปิ…เป… ภยคามิตายปิ ปาเปนฺติ, โยเชนฺตีติ อตฺโถ. ปกฺกมนฺตีติ เตสํ ปริวาเรสุ ปฺจสุ สมณสเตสุ เอกจฺเจ ทิสา ปกฺกมนฺติ. วิพฺภมนฺตีติ เอกจฺเจ คิหี โหนฺติ. กถฺหิ นาม อสฺสชิปุนพฺพสุกา ภิกฺขูติ เอตฺถ ทฺวินฺนํ ปโมกฺขานํ วเสน สพฺเพปิ ‘‘อสฺสชิปุนพฺพสุกา’’ติ วุตฺตา.

๔๓๖-๗. คามํ วาติ เอตฺถ นครมฺปิ คามคฺคหเณเนว คหิตํ. เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘คาโมปิ นิคโมปิ นครมฺปิ คาโม เจว นิคโม จา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อปาการปริกฺเขโป สอาปโณ นิคโมติ เวทิตพฺโพ.

กุลานิ ทูเสตีติ กุลทูสโก. ทูเสนฺโต จ น อสุจิกทฺทมาทีหิ ทูเสติ, อถ โข อตฺตโน ทุปฺปฏิปตฺติยา เตสํ ปสาทํ วินาเสติ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุปฺเผน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โย หริตฺวา วา หราเปตฺวา วา ปกฺโกสิตฺวา วา ปกฺโกสาเปตฺวา วา สยํ วา อุปคตานํ ยํกิฺจิ อตฺตโน สนฺตกํ ปุปฺผํ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกํ เทติ, ทุกฺกฏเมว. เถยฺยจิตฺเตน เทติ, ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เอเสว นโย สงฺฆิเกปิ. อยํ ปน วิเสโส, เสนาสนตฺถาย นิยามิตํ อิสฺสรวตาย ททโต ถุลฺลจฺจยํ.

ปุปฺผํ นาม กสฺส ทาตุํ วฏฺฏติ, กสฺส น วฏฺฏตีติ? มาตาปิตูนฺนํ ตาว หริตฺวาปิ หราเปตฺวาปิ ปกฺโกสิตฺวาปิ ปกฺโกสาเปตฺวาปิ ทาตุํ วฏฺฏติ, เสสาตกานํ ปกฺโกสาเปตฺวาว. ตฺจ โข วตฺถุปูชนตฺถาย, มณฺฑนตฺถาย ปน สิวลิงฺคาทิปูชนตฺถาย วา กสฺสจิปิ ทาตุํ น วฏฺฏติ. มาตาปิตูนฺจ หราเปนฺเตน าติสามเณเรเหว หราเปตพฺพํ. อิตเร ปน ยทิ สยเมว อิจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. สมฺมเตน ปุปฺผภาชเกน ภาชนกาเล สมฺปตฺตานํ สามเณรานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุรุนฺทิยํ สมฺปตฺตคิหีนํ อุปฑฺฒภาคํ. มหาปจฺจริยํ ‘‘จูฬกํ ทาตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ.

อาจริยุปชฺฌาเยสุ สคารวา สามเณรา พหูนิ ปุปฺผานิ อาหริตฺวา ราสึ กตฺวา เปนฺติ, เถรา ปาโตว สมฺปตฺตานํ สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปาสกานํ วา ‘‘ตฺวํ อิทํ คณฺห, ตฺวํ อิทํ คณฺหา’’ติ เทนฺติ, ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. ‘‘เจติยํ ปูเชสฺสามา’’ติ คเหตฺวา คจฺฉนฺตาปิ ปูชํ กโรนฺตาปิ ตตฺถ ตตฺถ สมฺปตฺตานํ เจติยปูชนตฺถาย เทนฺติ, เอตมฺปิ ปุปฺผทานํ นาม น โหติ. อุปาสเก อกฺกปุปฺผาทีหิ ปูเชนฺเต ทิสฺวา ‘‘วิหาเร กณิการปุปฺผาทีนิ อตฺถิ, อุปาสกา ตานิ คเหตฺวา ปูเชถา’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. ภิกฺขู ปุปฺผปูชํ กตฺวา ทิวาตรํ คามํ ปวิฏฺเ ‘‘กึ, ภนฺเต, อติทิวา ปวิฏฺตฺถา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ‘‘วิหาเร พหูนิ ปุปฺผานิ ปูชํ อกริมฺหา’’ติ วทนฺติ. มนุสฺสา ‘‘พหูนิ กิร วิหาเร ปุปฺผานี’’ติ ปุนทิวเส ปหูตํ ขาทนียํ โภชนียํ คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ปุปฺผปูชฺจ กโรนฺติ, ทานฺจ เทนฺติ, วฏฺฏติ. มนุสฺสา ‘‘มยํ, ภนฺเต, อสุกทิวสํ นาม ปูเชสฺสามา’’ติ ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อนุฺาตทิวเส อาคจฺฉนฺติ, สามเณเรหิ จ ปเคว ปุปฺผานิ โอจินิตฺวา ปิตานิ โหนฺติ, เต รุกฺเขสุ ปุปฺผานิ อปสฺสนฺตา ‘‘กุหึ, ภนฺเต, ปุปฺผานี’’ติ วทนฺติ, สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานิ ตุมฺเห ปน ปูเชตฺวา คจฺฉถ, สงฺโฆ อฺํ ทิวสํ ปูเชสฺสตีติ. เต ปูเชตฺวา ทานํ ทตฺวา คจฺฉนฺติ, วฏฺฏติ. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ ‘‘เถรา สามเณเรหิ ทาเปตุํ น ลภนฺติ. สเจ สยเมว ตานิ ปุปฺผานิ เตสํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. เถเรหิ ปน ‘สามเณเรหิ โอจินิตฺวา ปิตานี’ติ เอตฺตกเมว วตฺตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. สเจ ปน ปุปฺผวารํ ยาจิตฺวา อโนจิเตสุ ปุปฺเผสุ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย อาคนฺตฺวา สามเณเร ‘‘โอจินิตฺวา เทถา’’ติ วทนฺติ. าตกสามเณรานํเยว โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. อฺาตเก อุกฺขิปิตฺวา รุกฺขสาขาย เปนฺติ, น โอโรหิตฺวา ปลายิตพฺพํ, โอจินิตฺวา ทาตุํ วฏฺฏติ. สเจ ปน โกจิ ธมฺมกถิโก ‘‘พหูนิ อุปาสกา วิหาเร ปุปฺผานิ ยาคุภตฺตาทีนิ อาทาย คนฺตฺวา ปุปฺผปูชํ กโรถา’’ติ วทติ, ตสฺเสว น กปฺปตีติ มหาปจฺจริยฺจ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ. มหาอฏฺกถายํ ปน ‘‘เอตํ อกปฺปิยํ น วฏฺฏตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.

ผลมฺปิ อตฺตโน สนฺตกํ วุตฺตนเยเนว มาตาปิตูนํฺจ เสสาตกานฺจ ทาตุํ วฏฺฏติ. กุลสงฺคหตฺถาย ปน เทนฺตสฺส วุตฺตนเยเนว อตฺตโน สนฺตเก ปรสนฺตเก สงฺฆิเก เสนาสนตฺถาย นิยามิเต จ ทุกฺกฏาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อตฺตโน สนฺตกํเยว คิลานมนุสฺสานํ วา สมฺปตฺตอิสฺสรานํ วา ขีณปริพฺพยานํ วา ทาตุํ วฏฺฏติ, ผลทานํ น โหติ. ผลภาชเกนาปิ สมฺมเตน สงฺฆสฺส ผลภาชนกาเล สมฺปตฺตมนุสฺสานํ อุปฑฺฒภาคํ ทาตุํ วฏฺฏติ. อสมฺมเตน อปโลเกตฺวา ทาตพฺพํ. สงฺฆาราเมปิ ผลปริจฺเฉเทน วา รุกฺขปริจฺเฉเทน วา กติกา กาตพฺพา. ตโต คิลานมนุสฺสานํ วา อฺเสํ วา ผลํ ยาจนฺตานํ ยถาปริจฺเฉเทน จตฺตาริ ปฺจ ผลานิ ทาตพฺพานิ. รุกฺขา วา ทสฺเสตพฺพา ‘‘อิโต คเหตุํ ลพฺภตี’’ติ. ‘‘อิฆ ผลานิ สุนฺทรานิ, อิโต คณฺหถา’’ติ เอวํ ปน น วตฺตพฺพํ.

จุณฺเณนาติ เอตฺถ อตฺตโน สนฺตกํ สิรีสจุณฺณํ วา อฺํ วา กสาวํ ยํกิฺจิ กุลสงฺคหตฺถาย เทติ, ทุกฺกฏํ. ปรสนฺตกาทีสุปิ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อยํ ปน วิเสโส – อิธ สงฺฆสฺส รกฺขิตโคปิตาปิ รุกฺขจฺฉลฺลิ ครุภณฺฑเมว. มตฺติกทนฺตกฏฺเวฬูสุปิ ครุภณฺฑูปคํ ตฺวา จุณฺเณ วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ปณฺณทานํ ปน เอตฺถ น อาคตํ, ตมฺปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ปรโตปิ ครุภณฺฑวินิจฺฉเย สพฺพํ วิตฺถาเรน วณฺณยิสฺสาม.

เวชฺชิกาย วาติ เอตฺถ เวชฺชกมฺมวิธิ ตติยปาราชิกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

ชงฺฆเปสนิเกนาติ เอตฺถ ชงฺฆเปสนิยนฺติ คิหีนํ ทูเตยฺยสาสนหรณกมฺมํ วุจฺจติ, ตํ น กาตพฺพํ. คิหีนฺหิ สาสนํ คเหตฺวา คจฺฉนฺตสฺส ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. ตํ กมฺมํ นิสฺสาย ลทฺธโภชนํ ภุฺชนฺตสฺสาปิ อชฺโฌหาเร อชฺโฌหาเร ทุกฺกฏํ. ปมํ สาสนํ อคฺคเหตฺวาปิ ปจฺฉา ‘‘อยํ ทานิ โส คาโม หนฺท ตํ สาสนํ อาโรเจมี’’ติ มคฺคา โอกฺกมนฺตสฺสาปิ ปเท ปเท ทุกฺกฏํ. สาสนํ อาโรเจตฺวา ลทฺธโภชนํ ภุฺชโต ปุริมนเยเนว ทุกฺกฏํ. สาสนํ อคฺคเหตฺวา อาคเตน ปน ‘‘ภนฺเต ตสฺมึ คาเม อิตฺถนฺนามสฺส กา ปวตฺตี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน กเถตุํ วฏฺฏติ, ปุจฺฉิตปฺเห โทโส นตฺถิ. ปฺจนฺนํ ปน สหธมฺมิกานํ มาตาปิตูนํ ปณฺฑุปลาสสฺส อตฺตโน เวยฺยาวจฺจกรสฺส จ สาสนํ หริตุํ วฏฺฏติ, คิหีนฺจ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ กปฺปิยสาสนํ. อิทฺหิ ชงฺฆเปสนิยกมฺมํ นาม น โหติ. อิเมหิ ปน อฏฺหิ กุลทูสกกมฺเมหิ อุปฺปนฺนปจฺจยา ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปนฺติ, อภูตาโรจนรูปิยสํโวหาเรหิ อุปฺปนฺนปจฺจยสทิสาว โหนฺติ.

ปาปา สมาจารา อสฺสาติ ปาปสมาจาโร. เต ปน ยสฺมา มาลาวจฺฉโรปนาทโย อิธ อธิปฺเปตา, ตสฺมา ‘‘มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปี’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. ติโรกฺขาติ ปรมฺมุขา. กุลานิ จ เตน ทุฏฺานีติ เอตฺถ ปน ยสฺมา ‘‘กุลานี’’ติ โวหารมตฺตเมตํ, อตฺถโต หิ มนุสฺสา เตน ทุฏฺา โหนฺติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘ปุพฺเพ สทฺธา หุตฺวา’’ติอาทิมาห. ฉนฺทคามิโนติ ฉนฺเทน คจฺฉนฺตีติ ฉนฺทคามิโน. เอส นโย เสเสสุ. สมนุภาสิตพฺโพ ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคายาติ เอตฺถ กุลทูสกกมฺเมน ทุกฺกฏเมว. ยํ ปน โส สงฺฆํ ปริภวิตฺวา ‘‘ฉนฺทคามิโน’’ติอาทิมาห. ตสฺส ปฏินิสฺสคฺคาย สมนุภาสนกมฺมํ กาตพฺพนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

สมุฏฺานาทีนิปิ ปมสงฺฆเภทสทิสาเนวาติ.

กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนวณฺณนา

๔๔๒. อุทฺทิฏฺา โข…เป… เอวเมตํ ธารยามีติ เอตฺถ ปมํ อาปตฺติ เอเตสนฺติ ปมาปตฺติกา, ปมํ วีติกฺกมกฺขเณเยว อาปชฺชิตพฺพาติ อตฺโถ. อิตเร ปน ยถา ตติเย จตุตฺเถ จ ทิวเส โหตีติ ชโร ‘‘ตติยโก จตุตฺถโก’’ติ จ วุจฺจติ; เอวํ ยาวตติเย สมนุภาสนกมฺเม โหนฺตีติ ยาวตติยกาติ เวทิตพฺพา.

ยาวตีหํ ชานํ ปฏิจฺฉาเทตีติ ยตฺตกานิ อหานิ ชานนฺโต ปฏิจฺฉาเทติ, ‘‘อหํ อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน’’ติ สพฺรหฺมจารีนํ นาโรเจติ. ตาวตีหนฺติ ตตฺตกานิ อหานิ. อกามา ปริวตฺถพฺพนฺติ น กาเมน, น วเสน, อถ โข อกาเมน อวเสน ปริวาสํ สมาทาย วตฺถพฺพํ. อุตฺตริ ฉารตฺตนฺติ ปริวาสโต อุตฺตริ ฉ รตฺติโย. ภิกฺขุมานตฺตายาติ ภิกฺขูนํ มานนภาวาย, อาราธนตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. วีสติสงฺโฆ คโณ อสฺสาติ วีสติคโณ . ตตฺราติ ยตฺร สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน วีสติคโณ ภิกฺขุสงฺโฆ อตฺถิ ตตฺร. อพฺเภตพฺโพติ อภิเอตพฺโพ สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ, อพฺภานกมฺมวเสน โอสาเรตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ , อวฺหาตพฺโพติ วา อตฺโถ. อนพฺภิโตติ น อพฺภิโต, อสมฺปฏิจฺฉิโต, อกตพฺภานกมฺโมติ วุตฺตํ โหติ, อนวฺหาโตติ วา อตฺโถ. สามีจีติ อนุธมฺมตา, โลกุตฺตรธมฺมํ อนุคตา โอวาทานุสาสนี, สามีจิ ธมฺมตาติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ วุตฺตนยเมวาติ.

สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย

เตรสกวณฺณนา นิฏฺิตา.