📜
๔. นิสฺสคฺคิยกณฺฑํ
๑. จีวรวคฺโค
๑. ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
ตึส ¶ ¶ นิสฺสคฺคิยา ธมฺมา, เย วุตฺตา สมิตาวินา;
เตสํ ทานิ กริสฺสามิ, อปุพฺพปทวณฺณนํ.
๔๕๙. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ โคตมเก เจติเย. เตน โข ปน สมเยน ภควตา ภิกฺขูนํ ติจีวรํ อนฺุาตํ โหตีติ เอตฺถ ติจีวรนฺติ อนฺตรวาสโก อุตฺตราสงฺโค สงฺฆาฏีติ อิทํ จีวรตฺตยํ ปริภฺุชิตุํ อนฺุาตํ โหติ. ยตฺถ ปเนตํ อนฺุาตํ, ยทา จ อนฺุาตํ, เยน จ การเณน อนฺุาตํ, ตํ สพฺพํ จีวรกฺขนฺธเก ชีวกวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๓๒๖ อาทโย) อาคตเมว. อฺเเนว ติจีวเรน คามํ ปวิสนฺตีติ เยน วิหาเร อจฺฉนฺติ นฺหานฺจ โอตรนฺติ, ตโต อฺเน, เอวํ ทิวเส ทิวเส นว จีวรานิ ธาเรนฺติ.
๔๖๐. อุปฺปนฺนํ โหตีติ อนุปฺตฺติยา ทฺวารํ ททมานํ ปฏิลาภวเสน อุปฺปนฺนํ โหติ, โน นิปฺผตฺติวเสน.
อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหตีติ อายสฺมา กิร อานนฺโท ภควนฺตํ เปตฺวา อฺโ เอวรูโป คุณวิสิฏฺโ ปุคฺคโล นตฺถีติ คุณพหุมาเนน อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อติมมายติ. โส สทาปิ มนาปํ จีวรํ ลภิตฺวา รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา เถรสฺเสว เทติ, ปุเรภตฺเต ปณีตํ ยาคุขชฺชกํ วา ปิณฺฑปาตํ วา ลภิตฺวาปิ เถรสฺเสว เทติ, ปจฺฉาภตฺเต มธุผาณิตาทีนิ ลภิตฺวาปิ เถรสฺเสว เทติ, อุปฏฺากกุเลหิ ทารเก นิกฺขาเมตฺวา ปพฺพาเชตฺวาปิ เถรสฺส ¶ สนฺติเก อุปชฺฌํ คาหาเปตฺวา สยํ อนุสาวนกมฺมํ กโรติ. อายสฺมาปิ สาริปุตฺโต ‘‘ปิตุ กตฺตพฺพกิจฺจํ นาม เชฏฺปุตฺตสฺส ภาโร, ตํ มยา ภควโต กตฺตพฺพํ กิจฺจํ อานนฺโท กโรติ, อหํ ¶ อานนฺทํ นิสฺสาย อปฺโปสฺสุกฺโก วิหริตุํ ลภามี’’ติ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อติวิย มมายติ, โสปิ มนาปํ จีวรํ ลภิตฺวา อานนฺทตฺเถรสฺเสว เทตีติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมว ¶ . เอวํ คุณพหุมาเนน มมายนฺโต ตทา อุปฺปนฺนมฺปิ ตํ จีวรํ อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ทาตุกาโม โหตีติ เวทิตพฺโพ.
นวมํ วา ภควา ทิวสํ ทสมํ วาติ เอตฺถ ปน สเจ ภเวยฺย ‘‘กถํ เถโร ชานาตี’’ติ? พหูหิ การเณหิ ชานาติ. สาริปุตฺตตฺเถโร กิร ชนปทจาริกํ ปกฺกมนฺโต อานนฺทตฺเถรํ อาปุจฺฉิตฺวาว ปกฺกมติ ‘‘อหํ เอตฺตเกน นาม กาเลน อาคจฺฉิสฺสามิ, เอตฺถนฺตเร ภควนฺตํ มา ปมชฺชี’’ติ. สเจ สมฺมุขา น อาปุจฺฉติ, ภิกฺขู เปเสตฺวาปิ อาปุจฺฉิตฺวาว คจฺฉติ. สเจ อฺตฺถ วสฺสํ วสติ, เย ปมตรํ ภิกฺขู อาคจฺฉนฺติ, เต เอวํ ปหิณติ ‘‘มม วจเนน ภควโต จ ปาเท สิรสา วนฺทถ, อานนฺทสฺส จ อาโรคฺยํ วตฺวา มํ ‘อสุกทิวเส นาม อาคมิสฺสตี’ติ วทถา’’ติ สทา จ ยถาปริจฺฉินฺนทิวเสเยว เอติ. อปิจายสฺมา อานนฺโท อนุมาเนนปิ ชานาติ ‘‘เอตฺตเก ทิวเส ภควตา วิโยคํ สหนฺโต อธิวาเสนฺโต อายสฺมา สาริปุตฺโต วสิ, อิโต ทานิ ปฏฺาย อสุกํ นาม ทิวสํ น อติกฺกมิสฺสติ อทฺธา อาคมิสฺสตี’’ติ. เยสํ เยสฺหิ ปฺา มหตี เตสํ เตสํ ภควติ เปมฺจ คารโว จ มหา โหตีติ อิมินา นเยนาปิ ชานาติ. เอวํ พหูหิ การเณหิ ชานาติ. เตนาห – ‘‘นวมํ วา ภควา ทิวสํ ทสมํ วา’’ติ. เอวํ วุตฺเต ยสฺมา อิทํ สิกฺขาปทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, น โลกวชฺชํ; ตสฺมา อายสฺมตา อานนฺเทน วุตฺตสทิสเมว ปริจฺเฉทํ กโรนฺโต ‘‘อถ โข ภควา…เป… ธาเรตุ’’นฺติ. สเจ ปน เถเรน อทฺธมาโส วา มาโส วา อุทฺทิฏฺโ อภวิสฺส, โสปิ ภควตา อนฺุาโต อสฺส.
๔๖๒-๓. นิฏฺิตจีวรสฺมินฺติ เยน เกนจิ นิฏฺาเนน นิฏฺิเต จีวรสฺมึ. ยสฺมา ปน ตํ จีวรํ กรเณนปิ นิฏฺิตํ โหติ, นสฺสนาทีหิปิ ตสฺมาสฺส ปทภาชเน อตฺถมตฺตเมว ¶ ทสฺเสตุํ ภิกฺขุโน จีวรํ กตํ วา โหตีติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กตนฺติ สูจิกมฺมปริโยสาเนน กตํ, สูจิกมฺมปริโยสานํ นาม ยํกิฺจิ สูจิยา กตฺตพฺพํ ปาสปฏฺฏคณฺิกปฏฺฏปริโยสานํ กตฺวา สูจิยา ปฏิสามนํ. นฏฺนฺติ โจราทีหิ หฏํ, เอตมฺปิ หิ กรณปลิโพธสฺส นิฏฺิตตฺตา นิฏฺิตนฺติ วุจฺจติ. วินฏฺนฺติ อุปจิกาทีหิ ขายิตํ. ทฑฺฒนฺติ อคฺคินา ทฑฺฒํ. จีวราสา วา อุปจฺฉินฺนาติ ¶ ‘‘อสุกสฺมึ นาม กุเล ¶ จีวรํ ลภิสฺสามี’’ติ ยา จีวราสา อุปฺปนฺนา โหติ, สา วา อุปจฺฉินฺนา, เอเตสมฺปิ หิ กรณปลิโพธสฺเสว นิฏฺิตตฺตา นิฏฺิตภาโว เวทิตพฺโพ.
อุพฺภตสฺมึ กถิเนติ กถิเน จ อุพฺภตสฺมึ. เอเตน ทุติยสฺส ปลิโพธสฺส อภาวํ ทสฺเสติ. ตํ ปน กถินํ ยสฺมา อฏฺสุ วา มาติกาสุ เอกาย อนฺตรุพฺภาเรน วา อุทฺธรียติ, เตนสฺส นิทฺเทเส ‘‘อฏฺนฺนํ มาติกาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘อฏฺิมา, ภิกฺขเว, มาติกา กถินสฺส อุพฺภาราย – ปกฺกมนนฺติกา, นิฏฺานนฺติกา, สนฺนิฏฺานนฺติกา, นาสนนฺติกา, สวนนฺติกา, อาสาวจฺเฉทิกา, สีมาติกฺกนฺติกา, สหุพฺภารา’’ติ เอวํ อฏฺ มาติกาโย กถินกฺขนฺธเก อาคตา. อนฺตรุพฺภาโรปิ ‘‘สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ; ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ กถินํ อุทฺธเรยฺย, เอสา ตฺติ. สุณาตุ เม, ภนฺเต, สงฺโฆ; สงฺโฆ กถินํ อุทฺธรติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ, กถินสฺส อุพฺภาโร, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย. อุพฺภตํ สงฺเฆน กถินํ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (ปาจิ. ๙๒๖) เอวํ ภิกฺขุนีวิภงฺเค อาคโต. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ ตํ อาคตฏฺาเนเยว วณฺณยิสฺสาม. อิธ ปน วุจฺจมาเน ปาฬิ อาหริตพฺพา โหติ, อตฺโถปิ วตฺตพฺโพ. วุตฺโตปิ จ น สุวิฺเยฺโย โหติ, อฏฺาเน วุตฺตตฺตาย.
ทสาหปรมนฺติ ทส อหานิ ปรโม ปริจฺเฉโท อสฺสาติ ทสาหปรโม, ตํ ทสาหปรมํ กาลํ ธาเรตพฺพนฺติ อตฺโถ. ปทภาชเน ¶ ปน อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘ทสาหปรมตา ธาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ ‘‘ทสาหปรม’’นฺติ เอตฺถ ยา ทสาหปรมตา ทสาหปรมภาโว, อยํ เอตฺตโก กาโล ยาว นาติกฺกมติ ตาว ธาเรตพฺพนฺติ.
อธิฏฺิตวิกปฺปิเตสุ อปริยาปนฺนตฺตา อติเรกํ จีวรนฺติ อติเรกจีวรํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน วุตฺตํ ‘‘อนธิฏฺิตํ อวิกปฺปิต’’นฺติ.
ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรนฺติ โขมํ, กปฺปาสิกํ, โกเสยฺยํ, กมฺพลํ, สาณํ, ภงฺคนฺติ อิเมสํ ฉนฺนํ จีวรานํ อฺตรํ. เอเตน จีวรสฺส ชาตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปมาณํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิม’’นฺติ อาห. ตสฺส ปมาณํ ทีฆโต ¶ ทฺเว วิทตฺถิโย, ติริยํ วิทตฺถิ. ตตฺรายํ ปาฬิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อายาเมน อฏฺงฺคุลํ สุคตงฺคุเลน จตุรงฺคุลวิตฺถตํ ปจฺฉิมํ จีวรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘).
ตํ ¶ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ตํ ยถาวุตฺตชาติปฺปมาณํ จีวรํ ทสาหปรมํ กาลํ อติกฺกามยโต, เอตฺถนฺตเร ยถา อติเรกจีวรํ น โหติ ตถา อกุพฺพโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ตฺจ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, ปาจิตฺติยาปตฺติ จสฺส โหตีติ อตฺโถ. อถ วา นิสฺสชฺชนํ นิสฺสคฺคิยํ, ปุพฺพภาเค กตฺตพฺพสฺส วินยกมฺมสฺเสตํ นามํ. นิสฺสคฺคิยมสฺส อตฺถีติ นิสฺสคฺคิยมิจฺเจว. กินฺตํ? ปาจิตฺติยํ. ตํ อติกฺกามยโต สนิสฺสคฺคิยวินยกมฺมํ ปาจิตฺติยํ โหตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน ปมํ ตาว อตฺถวิกปฺปํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ โหตี’’ติ มาติกํ เปตฺวา ‘‘เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ปุน ยสฺส จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ยถา จ นิสฺสชฺชิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺฆสฺส วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกาทเส อรุณุคฺคมเนติ เอตฺถ ยํ ทิวสํ จีวรํ อุปฺปนฺนํ ตสฺส โย อรุโณ, โส อุปฺปนฺนทิวสนิสฺสิโต, ตสฺมา จีวรุปฺปาททิวสเอน สทฺธึ เอกาทเส อรุณุคฺคมเน นิสฺสคฺคิยํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. สเจปิ พหูนิ เอกชฺฌํ พนฺธิตฺวา วา เวเตฺวา วา ปิตานิ เอกาว อาปตฺติ. อพทฺธาเวิเตสุ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย.
นิสฺสชฺชิตฺวา ¶ อาปตฺติ เทเสตพฺพาติ กถํ เทเสตพฺพา? ยถา ขนฺธเก วุตฺตํ, กถฺจ ตตฺถ วุตฺตํ? เอวํ วุตฺตํ – ‘‘เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน, ตํ ปฏิเทเสมี’’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). อิธ ปน สเจ เอกํ จีวรํ โหติ ‘‘เอกํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วตฺตพฺพํ. สเจ ทฺเว, ‘‘ทฺเว’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ พหูนิ ‘‘สมฺพหุลานี’’ติ วตฺตพฺพํ. นิสฺสชฺชเนปิ สเจ เอกํ ยถาปาฬิเมว ‘‘อิทํ เม, ภนฺเต, จีวร’’นฺติ วตฺตพฺพํ. สเจ ทฺเว วา พหูนิ วา, ‘‘อิมานิ เม, ภนฺเต, จีวรานิ ทสาหาติกฺกนฺตานิ นิสฺสคฺคิยานิ, อิมานาหํ สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชามี’’ติ วตฺตพฺพํ. ปาฬึ วตฺตุํ อสกฺโกนฺเตน อฺถาปิ วตฺตพฺพํ.
พฺยตฺเตน ¶ ภิกฺขุนา ปฏิพเลน อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพาติ ขนฺธเก วุตฺตนเยเนว ปฏิคฺคเหตพฺพา. เอวฺหิ ตตฺถ วุตฺตํ – ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ าเปตพฺโพ –
‘สุณาตุ เม ภนฺเต สงฺโฆ, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’นฺติ.
เตน ¶ วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม, ปสฺสามี’ติ. อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). ทฺวีสุ ปน สมฺพหุลาสุ วา ปุริมนเยเนว วจนเภโท าตพฺโพ.
จีวรทาเนปิ ‘‘สงฺโฆ อิมํ จีวรํ อิมานิ จีวรานี’’ติ วตฺถุวเสน วจนเภโท เวทิตพฺโพ. คณสฺส จ ปุคฺคลสฺส จ นิสฺสชฺชเนปิ เอเสว นโย.
อาปตฺติเทสนาปฏิคฺคหเณสุ ปเนตฺถ อยํ ปาฬิ – ‘‘เตน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา สมฺพหุเล ภิกฺขู อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺสุ วจนียา – ‘อหํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู าเปตพฺพา –
‘สุณนฺตุ เม อายสฺมนฺตา, อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ อาปตฺตึ สรติ วิวรติ อุตฺตานึ กโรติ เทเสติ. ยทายสฺมนฺตานํ ปตฺตกลฺลํ, อหํ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน อาปตฺตึ ปฏิคฺคณฺเหยฺย’นฺติ.
เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ? ‘อาม, ปสฺสามี’ติ. ‘อายตึ ¶ สํวเรยฺยาสี’ติ.
เตน ภิกฺขุนา เอกํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, อาวุโส, อิตฺถนฺนามํ อาปตฺตึ อาปนฺโน ตํ ปฏิเทเสมี’ติ. เตน วตฺตพฺโพ ‘ปสฺสสี’ติ, อาม ปสฺสามีติ อายตึ สํวเรยฺยาสี’’ติ (จูฬว. ๒๓๙). ตตฺถ ¶ ปุริมนเยเนว อาปตฺติยา นามคฺคหณํ วจนเภโท จ เวทิตพฺโพ.
ยถา จ คณสฺส นิสฺสชฺชเน เอวํ ทฺวินฺนํ นิสฺสชฺชเนปิ ปาฬิ เวทิตพฺพา. ยทิ หิ วิเสโส ภเวยฺย, ยเถว ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน เต ภิกฺขู าเปตพฺพา’’ติอาทินา นเยน ‘‘ติณฺณนฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุ’’นฺติ วตฺวา ปุน ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ กาตุํ, เอวฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺโพ. เถเรน ภิกฺขุนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺค’’นฺติอาทินา (มหาว. ๑๖๘) นเยน วิสุํเยว ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสโถ วุตฺโต, เอวมิธาปิ ¶ วิสุํ ปาฬึ วเทยฺย, ยสฺมา ปน นตฺถิ, ตสฺมา อวตฺวา คโตติ, คณสฺส วุตฺตา ปาฬิเยเวตฺถ ปาฬิ.
อาปตฺติปฏิคฺคหเณ ปน อยํ วิเสโส, ยถา คณสฺส นิสฺสชฺชิตฺวา อาปตฺติยา เทสิยมานาย อาปตฺติปฏิคฺคาหโก ภิกฺขุ ตฺตึ เปติ, เอวํ อฏฺเปตฺวา ทฺวีสุ อฺตเรน ยถา เอกปุคฺคโล ปฏิคฺคณฺหาติ, เอวํ อาปตฺติ ปฏิคฺคเหตพฺพา. ทฺวินฺนฺหิ ตฺติฏฺปนา นาม นตฺถิ, ยทิ สิยา ทฺวินฺนํ ปาริสุทฺธิอุโปสถํ วิสุํ น วเทยฺย.
นิสฺสฏฺจีวรทาเนปิ ยถา ‘‘อิมํ จีวรํ อายสฺมโต ทมฺมี’’ติ เอโก วทติ, เอวํ ‘‘อิมํ มยํ จีวรํ อายสฺมโต เทมา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อิโต ครุกตรานิ หิ ตฺติทุติยกมฺมานิปิ ‘‘อปโลเกตฺวา กาตพฺพานี’’ติ วุตฺตานิ อตฺถิ, เตสํ เอตํ อนุโลมํ นิสฺสฏฺจีวรํ ปน ทาตพฺพเมว อทาตุํ น ลพฺภติ, วินยกมฺมมตฺตฺเหตํ. น ตํ เตน สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา ทินฺนเมว โหตีติ.
๔๖๘. ทสาหาติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺีติ ทสาหํ อติกฺกนฺเต จีวเร ‘‘อติกฺกนฺตํ อิท’’นฺติ เอวํสฺี, ทสาเห วา อติกฺกนฺเต ‘‘อติกฺกนฺโต ¶ ทสาโห’’ติ เอวํสฺี. นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ น อิธ สฺา รกฺขติ. โยปิ เอวํสฺี, ตสฺสปิ ตํ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยาปตฺติ จ. สนิสฺสคฺคิยวินยกมฺมํ วา ปาจิตฺติยนฺติ อุโภปิ อตฺถวิกปฺปา ยุชฺชนฺติ. เอส นโย สพฺพตฺถ.
อวิสฺสชฺชิเต ¶ วิสฺสชฺชิตสฺีติ กสฺสจิ อทินฺเน อปริจฺจตฺเต ‘‘ปริจฺจตฺตํ มยา’’ติ เอวํสฺี.
อนฏฺเ นฏฺสฺีติ อตฺตโน จีวเรน สทฺธึ พหูนิ อฺเสํ จีวรานิ เอกโต ปิตานิ โจรา หรนฺติ. ตตฺเรส อตฺตโน จีวเร อนฏฺเ นฏฺสฺี โหติ. เอส นโย อวินฏฺาทีสุปิ.
อวิลุตฺเตติ เอตฺถ ปน คพฺภํ ภินฺทิตฺวา ปสยฺหาวหารวเสน อวิลุตฺเตติ เวทิตพฺพํ.
อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สกึ นิวตฺถํ วา สกึ ปารุตํ วา กายโต อโมเจตฺวา ทิวสมฺปิ วิจรติ, เอกาว อาปตฺติ. โมเจตฺวา โมเจตฺวา นิวาเสติ วา ปารุปติ ¶ วา ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. ทุนฺนิวตฺถํ วา ทุปฺปารุตํ วา สณฺเปนฺตสฺส อนาปตฺติ. อฺสฺส ตํ ปริภฺุชโตปิ อนาปตฺติ, ‘‘อนาปตฺติ อฺเน กตํ ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชตี’’ติ (ปารา. ๕๗๐) อาทิวจนฺเจตฺถ สาธกํ. อนติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺิโน เวมติกสฺส จ ทุกฺกฏํ ปริโภคํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๖๙. ‘‘อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ ปน อธิฏฺานุปคํ วิกปฺปนุปคฺจ เวทิตพฺพํ. ตตฺรายํ ปาฬิ – อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘ยานิ ตานิ ภควตา อนฺุาตานิ ‘ติจีวร’นฺติ วา ‘วสฺสิกสาฏิกา’ติ วา ‘นิสีทน’นฺติ วา ‘ปจฺจตฺถรณ’นฺติ วา ‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาที’ติ วา มุขปฺุฉนโจฬกนฺติ วา ปริกฺขารโจฬนฺติ วา สพฺพานิ ตานิ อธิฏฺาตพฺพานีติ นุ โข อุทาหุ วิกปฺเปตพฺพานี’’ติ, ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ –
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; นิสีทนํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; ปจฺจตฺถรณํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาวอาพาธา อธิฏฺาตุํ ตโต ปรํ วิกปฺเปตุํ; มุขปฺุฉนโจฬํ อธิฏฺาตุํ ¶ น วิกปฺเปตุํ; ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘).
‘‘ตตฺถ ¶ ติจีวรํ’’ อธิฏฺหนฺเตน รชิตฺวา กปฺปพินฺทุํ ทตฺวา ปมาณยุตฺตเมว อธิฏฺาตพฺพํ. ตสฺส ปมาณํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉเทน สุคตจีวรโต อูนกํ วฏฺฏติ, ลามกปริจฺเฉเทน สงฺฆาฏิยา อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆโต มุฏฺิปฺจกํ ติริยํ มุฏฺิตฺติกํ ปมาณํ วฏฺฏติ. อนฺตรวาสโก ทีฆโต มุฏฺิปฺจโก ติริยํ ทฺวิหตฺโถปิ วฏฺฏติ. ปารุปเณนปิ หิ สกฺกา นาภึ ปฏิจฺฉาเทตุนฺติ. วุตฺตปฺปมาณโต ปน อติเรกํ อูนกฺจ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺาตพฺพํ.
ตตฺถ ยสฺมา ‘‘ทฺเว จีวรสฺส อธิฏฺานา – กาเยน วา อธิฏฺเติ, วาจาย วา อธิฏฺเตี’’ติ (ปริ. ๓๒๒) วุตฺตํ, ตสฺมา ปุราณสงฺฆาฏึ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา นวํ สงฺฆาฏึ หตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน อธิฏฺาตพฺพา. อิทํ กาเยน อธิฏฺานํ, ตํ เยน เกนจิ สรีราวยเวน อผุสนฺตสฺส น วฏฺฏติ. วาจาย อธิฏฺาเน ปน วจีเภทํ กตฺวา วาจาย อธิฏฺาตพฺพา. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ ‘‘อิมํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ สงฺฆาฏึ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ¶ ภินฺทิตพฺพา. เอส นโย อุตฺตราสงฺเค อนฺตรวาสเก จ. นามมตฺตเมว หิ วิเสโส. ตสฺมา สพฺพานิ สงฺฆาฏึ อุตฺตราสงฺคํ อนฺตรวาสกนฺติ เอวํ อตฺตโน นาเมเนว อธิฏฺาตพฺพานิ. สเจ อธิฏฺหิตฺวา ปิตวตฺเถหิ สงฺฆาฏิอาทีนิ กโรติ, นิฏฺิเต รชเน จ กปฺเป จ อิมํ ‘‘ปจฺจุทฺธรามี’’ติ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพานิ. อธิฏฺิเตน ปน สทฺธึ มหนฺตตรเมว ทุติยปฏฺฏํ วา ขณฺฑํ วา สํสิพฺพนฺเตน ปุน อธิฏฺาตพฺพเมว. สเม วา ขุทฺทเก วา อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ.
ติจีวรํ ปน ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏติ ¶ น วฏฺฏตีติ? มหาปทุมตฺเถโร กิราห – ‘‘ติจีวรํ ติจีวรเมว อธิฏฺาตพฺพํ. สเจ ปริกฺขารโจฬาธิฏฺานํ ลเภยฺย อุโทสิตสิกฺขาปเท ปริหาโร นิรตฺถโก ภเวยฺยา’’ติ. เอวํ วุตฺเต กิร อวเสสา ภิกฺขู อาหํสุ – ‘‘ปริกฺขารโจฬมฺปิ ภควตาว อธิฏฺาตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘ปริกฺขารโจฬํ นาม ปาเฏกฺกํ นิธานมุขเมตนฺติ ติจีวรํ ¶ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. อุโทสิตสิกฺขาปเท ปน ติจีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริหรนฺตสฺส ปริหาโร วุตฺโต’’ติ. อุภโตวิภงฺคภาณโก ปุณฺณวาลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโรปิ กิร อาห – ‘‘มยํ ปุพฺเพ มหาเถรานํ อสฺสุมฺห, อรฺวาสิโน ภิกฺขู รุกฺขสุสิราทีสุ จีวรํ เปตฺวา ปธานํ ปทหนตฺถาย คจฺฉนฺติ. สามนฺตวิหาเร ธมฺมสวนตฺถาย คตานฺจ เนสํ สูริเย อุฏฺิเต สามเณรา วา ทหรภิกฺขู วา ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ตสฺมา สุขปริโภคตฺถํ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬนฺติ อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. มหาปจฺจริยมฺปิ วุตฺตํ ปุพฺเพ อารฺิกา ภิกฺขู อพทฺธสีมายํ ทุปฺปริหารนฺติ ติจีวรํ ปริกฺขารโจฬเมว อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชึสู’’ติ.
‘‘วสฺสิกสาฏิกา’’ อนติริตฺตปฺปมาณา นามํ คเหตฺวา วุตฺตนเยเนว จตฺตาโร วสฺสิเก มาเส อธิฏฺาตพฺพา, ตโต ปรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา. วณฺณเภทมตฺตรตฺตาปิ เจสา วฏฺฏติ. ทฺเว ปน น วฏฺฏนฺติ. ‘‘นิสีทนํ’’ วุตฺตนเยน อธิฏฺาตพฺพเมว, ตฺจ โข ปมาณยุตฺตํ เอกเมว, ทฺเว น วฏฺฏนฺติ. ‘‘ปจฺจตฺถรณ’’มฺปิ อธิฏฺาตพฺพเมว, ตํ ปน มหนฺตมฺปิ วฏฺฏติ, เอกมฺปิ วฏฺฏติ, พหูนิปิ วฏฺฏนฺติ. นีลมฺปิ ปีตกมฺปิ สทสมฺปิ ปุปฺผทสมฺปีติ สพฺพปฺปการํ วฏฺฏติ. สกึ อธิฏฺิตํ อธิฏฺิตเมว โหติ. ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ’’ ยาว อาพาโธ อตฺถิ, ตาว ปมาณิกา อธิฏฺาตพฺพา. อาพาเธ วูปสนฺเต ปจฺจุทฺธริตฺวา วิกปฺเปตพฺพา, เอกาว วฏฺฏติ ¶ . ‘‘มุขปฺุฉนโจฬํ’’ อธิฏฺาตพฺพเมว, ยาว เอกํ โธวิยติ, ตาว อฺํ ปริโภคตฺถาย อิจฺฉิตพฺพนฺติ ¶ ทฺเว วฏฺฏนฺติ. อปเร ปน เถรา ‘‘นิธานมุขเมตํ พหูนิปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ วทนฺติ. ปริกฺขารโจเฬ คณนา นตฺถิ, ยตฺตกํ อิจฺฉติ ตตฺตกํ อธิฏฺาตพฺพเมว. ถวิกาปิ ปริสฺสาวนมฺปิ วิกปฺปนุปคํ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ‘‘ปริกฺขารโจฬก’’นฺติ อธิฏฺาตพฺพเมว. พหูนิ เอกโต กตฺวา ‘‘อิมานิ จีวรานิ ปริกฺขารโจฬานิ อธิฏฺามี’’ติ อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. เภสชฺชนวกมฺมมาตาปิตุอาทีนํ อตฺถาย เปนฺเตนปิ อธิฏฺาตพฺพเมว. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ. มฺจภิสิ ปีกภิสิ พิมฺโพหนํ ปาวาโร โกชโวติ เอเตสุ ปน เสนาสนปริกฺขารตฺถาย ทินฺนปจฺจตฺถรเณ จ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิเยว.
อธิฏฺิตจีวรํ ปน ปริภฺุชโต กถํ อธิฏฺานํ วิชหตีติ? อฺสฺส ทาเนน, อจฺฉินฺทิตฺวา คหเณน, วิสฺสาสคฺคาเหน, หีนายาวตฺตเนน, สิกฺขาปจฺจกฺขาเนน ¶ , กาลํกิริยาย, ลิงฺคปริวตฺตเนน, ปจฺจุทฺธรเณน, ฉิทฺทภาเวนาติ อิเมหิ นวหิ การเณหิ วิชหติ. ตตฺถ ปุริเมหิ อฏฺหิ สพฺพจีวรานิ อธิฏฺานํ วิชหนฺติ, ฉิทฺทภาเวน ปน ติจีวรสฺเสว สพฺพอฏฺกถาสุ อธิฏฺานวิชหนํ วุตฺตํ, ตฺจ นขปิฏฺิปฺปมาเณน ฉิทฺเทน. ตตฺถ นขปิฏฺิปฺปมาณํ กนิฏฺงฺคุลินขวเสน เวทิตพฺพํ, ฉิทฺทฺจ วินิพฺพิทฺธฉิทฺทเมว. ฉิทฺทสฺส หิ อพฺภนฺตเร เอกตนฺตุ เจปิ อจฺฉินฺโน โหติ, รกฺขติ. ตตฺถ สงฺฆาฏิยา จ อุตฺตราสงฺคสฺส จ ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺส ติริยนฺตโต อฏฺงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต น ภินฺทติ. อนฺตรวาสกสฺส ปน ทีฆนฺตโต วิทตฺถิปฺปมาณสฺเสว ติริยนฺตโต จตุรงฺคุลปฺปมาณสฺส ปเทสสฺส โอรโต ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, ปรโต ¶ น ภินฺทติ. ตสฺมา ชาเต ฉิทฺเท ตํ จีวรํ อติเรกจีวรฏฺาเน ติฏฺติ, สูจิกมฺมํ กตฺวา ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. มหาสุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘ปมาณจีวรสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, มหนฺตสฺส ปน ปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทติ, อนฺโตชาตํ ภินฺทตี’’ติ. กรวีกติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘ขุทฺทกํ มหนฺตํ น ปมาณํ, ทฺเว จีวรานิ ปารุปนฺตสฺส วามหตฺเถ สงฺฆริตฺวา ปิตฏฺาเน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทติ, โอรภาเค ภินฺทติ. อนฺตรวาสกสฺสปิ โอวฏฺฏิกํ กโรนฺเตน สงฺฆริตฏฺาเน ฉิทฺทํ น ภินฺทติ, ตโต โอรํ ภินฺทตี’’ติ. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ติจีวเร มหาสุมตฺเถรวาทํ ปมาณํ กตฺวา อุตฺตริมฺปิ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉิมปฺปมาณํ อธิฏฺานํ รกฺขตี’’ติ. ปริกฺขารโจเฬ ทีฆโส อฏฺงฺคุเล สุคตงฺคุเลน ติริยํ จตุรงฺคุเล ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ วิชหติ. มหนฺเต โจเฬ ตโต ปเรน ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น วิชหติ. เอส นโย สพฺเพสุ อธิฏฺาตพฺพเกสุ จีวเรสู’’ติ.
ตตฺถ ยสฺมา สพฺเพสมฺปิ อธิฏฺาตพฺพกจีวรานํ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณโต อฺํ ปจฺฉิมปฺปมาณํ ¶ นาม นตฺถิ, ยฺหิ นิสีทน-กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทิ-วสฺสิกสาฏิกานํ ปมาณํ วุตฺตํ, ตํ อุกฺกฏฺํ, ตโต อุตฺตริ ปฏิสิทฺธตฺตา น ปจฺฉิมํ ตโต เหฏฺา อปฺปฏิสิทฺธตฺตา. ติจีวรสฺสาปิ สุคตจีวรปฺปมาณโต อูนกตฺตํ อุกฺกฏฺปฺปมาณเมว. ปจฺฉิมํ ปน วิสุํ สุตฺเต วุตฺตํ นตฺถิ. มุขปฺุฉนปจฺจตฺถรณปริกฺขารโจฬานํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท นตฺถิเยว. วิกปฺปนุปคปจฺฉิเมน ปน ปจฺฉิมปริจฺเฉโท วุตฺโต. ตสฺมา ยํ ตาว อนฺธกฏฺกถายํ ¶ ‘‘ปจฺฉิมปฺปมาณํ อธิฏฺานํ รกฺขตี’’ติ วตฺวา ตตฺถ ปริกฺขารโจฬสฺเสว สุคตงฺคุเลน อฏฺงฺคุลจตุรงฺคุลปจฺฉิมปฺปมาณํ ทสฺเสตฺวา อิตเรสํ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิปเภทํ ¶ ปจฺฉิมปฺปมาณํ สนฺธาย ‘‘เอส นโย สพฺเพสุ อธิฏฺาตพฺพเกสุจีวเรสู’’ติ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ.
กรวีกติสฺสตฺเถรวาเทปิ ทีฆนฺตโตเยว ฉิทฺทํ ทสฺสิตํ, ติริยนฺตโต น ทสฺสิตํ, ตสฺมา โส อปริจฺฉินฺโน. มหาสุมตฺเถรวาเท ‘‘ปมาณจีวรสฺส ยตฺถ กตฺถจิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ ภินฺทติ, มหนฺตสฺส ปน ปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺทตี’’ติ วุตฺตํ. อิทํ ปน น วุตฺตํ – ‘‘อิทํ นาม ปมาณจีวรํ อิโต อุตฺตริ มหนฺตํ จีวร’’นฺติ. อปิเจตฺถ ติจีวราทีนํ มุฏฺิปฺจกาทิเภทํ ปจฺฉิมปฺปมาณนฺติ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ ยทิ ปจฺฉิมปฺปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺเทยฺย, อุกฺกฏฺปตฺตสฺสาปิ มชฺฌิมปตฺตสฺส วา โอมกปฺปมาณโต พหิ ฉิทฺทํ อธิฏฺานํ น ภินฺเทยฺย, น จ น ภินฺทติ. ตสฺมา อยมฺปิ วาโท อปริจฺฉินฺโน.
โย ปนายํ สพฺพปโม อฏฺกถาวาโท, อยเมเวตฺถ ปมาณํ. กสฺมา? ปริจฺเฉทสพฺภาวโต. ติจีวรสฺส หิ ปจฺฉิมปฺปมาณฺจ ฉิทฺทปฺปมาณฺจ ฉิทฺทุปฺปตฺติเทสปฺปมาณฺจ สพฺพอฏฺกถาสุเยว ปริจฺฉินฺทิตฺวา วุตฺตํ, ตสฺมา สฺเวว วาโท ปมาณํ. อทฺธา หิ โส ภควโต อธิปฺปายํ อนุคนฺตฺวา วุตฺโต. อิตเรสุ ปน เนว ปริจฺเฉโท อตฺถิ, น ปุพฺพาปรํ สเมตีติ.
โย ปน ทุพฺพลฏฺาเน ปมํ อคฺคฬํ ทตฺวา ปจฺฉา ทุพฺพลฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา อปเนติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. มณฺฑลปริวตฺตเนปิ เอเสว นโย. ทุปฏฺฏสฺส เอกสฺมึ ปฏเล ฉิทฺเท วา ชาเต คฬิเต วา อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ, ขุทฺทกํ จีวรํ มหนฺตํ กโรติ, มหนฺตํ วา ขุทฺทกํ กโรติ, อธิฏฺานํ น ภิชฺชติ. อุโภ โกฏิโย มชฺเฌ กโรนฺโต สเจ ปมํ ฉินฺทิตฺวา ปจฺฉา ฆเฏติ, อธิฏฺานํ ภิชฺชติ. อถ ฆเฏตฺวา ฉินฺทติ, น ภิชฺชติ, รชเกหิ โธวาเปตฺวา เสตํ การาเปนฺตสฺสาปิ อธิฏฺานํ อธิฏฺานเมวาติ ¶ . อยํ ตาว ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.
วิกปฺปเน ¶ ¶ ปน ทฺเว วิกปฺปนา – สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ? จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ, อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตุํ ปน วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ, มยฺหํ สนฺตกานิ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
อปโรปิ นโย – ตเถว จีวรานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’ติ วา ‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา, สิกฺขมานาย, ติสฺสสฺส สามเณรสฺส, ติสฺสาย สามเณริยา วิกปฺเปมี’’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหตีติ? จีวรานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘‘อิมํ จีวร’นฺติ วา ‘อิมานิ จีวรานี’ติ วา ‘เอตํ จีวร’นฺติ วา ‘เอตานิ จีวรานี’’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ? ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ‘‘ติสฺโส ภิกฺขูติ วา…เป… ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ¶ ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมีติ วา…เป… ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
ทฺวินฺนํ ¶ วิกปฺปนานํ กึ นานากรณํ? สมฺมุขาวิกปฺปนายํ สยํ วิกปฺเปตฺวา ปเรน ปจฺจุทฺธราเปติ ¶ . ปรมฺมุขาวิกปฺปนาย ปเรเนว วิกปฺปาเปตฺวา ปเรเนว ปจฺจุทฺธราเปติ, อิทเมตฺถ นานากรณํ. สเจ ปน ยสฺส วิกปฺเปติ, โส ปฺตฺติโกวิโท น โหติ, น ชานาติ ปจฺจุทฺธริตุํ, ตํ จีวรํ คเหตฺวา อฺสฺส พฺยตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปุน วิกปฺเปตฺวา ปจฺจุทฺธราเปตพฺพํ. วิกปฺปิตวิกปฺปนา นาเมสา วฏฺฏติ. อยํ ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อิมสฺมึ ปเท วินิจฺฉโย.
‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุ’’นฺติอาทิวจนโต จ อิทํ ‘‘วิกปฺเปตี’’ติ อวิเสเสน วุตฺตวจนํ วิรุทฺธํ วิย ทิสฺสติ, น จ วิรุทฺธํ ตถาคตา ภาสนฺติ. ตสฺมา เอวมสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ, ติจีวรํ ติจีวรสงฺเขเปเนว ปริหรโต อธิฏฺาตุเมว อนุชานามิ, น วิกปฺเปตุํ. วสฺสิกสาฏิกํ ปน จาตุมาสโต ปรํ วิกปฺเปตุเมว น อธิฏฺาตุํ. เอวฺจ สติ โย ติจีวเร เอเกน จีวเรน วิปฺปวสิตุกาโม โหติ, ตสฺส ติจีวราธิฏฺานํ ปจฺจุทฺธริตฺวา วิปฺปวาสสุขตฺถํ วิกปฺปนาย โอกาโส ทินฺโน โหติ. ทสาหาติกฺกเม จ อนาปตฺตีติ เอเตนุปาเยน สพฺพตฺถ วิกปฺปนาย อปฺปฏิสิทฺธภาโว เวทิตพฺโพ.
วิสฺสชฺเชตีติ อฺสฺส เทติ. กถํ ปน ทินฺนํ โหติ, กถํ คหิตํ? ‘‘อิมํ ตุยฺหํ เทมิ ททามิ ทชฺชามิ โอโณเชมิ ปริจฺจชามิ นิสฺสชฺชามิ วิสฺสชฺชามีติ วา ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส เทมิ…เป… นิสฺสชฺชามี’’ติ วา วทติ, สมฺมุขาปิ ¶ ปรมฺมุขาปิ ทินฺนํเยว โหติ. ‘‘ตุยฺหํ คณฺหาหี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหํ คณฺหามี’’ติ วทติ, สุทินฺนํ สุคฺคหิตฺจ. ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหิ, ตว สนฺตกํ โหตุ, ตว สนฺตกํ กริสฺสสี’’ติ วุตฺเต ‘‘มม สนฺตกํ กโรมิ, มม สนฺตกํ โหตุ, มม สนฺตกํ กริสฺสามี’’ติ วทติ, ทุทฺทินฺนํ ทุคฺคหิตฺจ. เนว ทาตา ทาตุํ ชานาติ, น อิตโร คเหตุํ. สเจ ปน ‘‘ตว สนฺตกํ กโรหี’’ติ วุตฺเต ‘‘สาธุ, ภนฺเต, มยฺหํ คณฺหามี’’ติ คณฺหาติ, สุคฺคหิตํ. สเจ ปน ‘‘เอโก คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโร ‘‘น คณฺหามี’’ติ ปุน โส ‘‘ทินฺนํ มยา ตุยฺหํ, คณฺหาหี’’ติ วทติ, อิตโรปิ ‘‘น มยฺหํ อิมินา อตฺโถ’’ติ วทติ. ตโต ปุริโมปิ ‘‘มยา ทินฺน’’นฺติ ทสาหํ อติกฺกาเมติ, ปจฺฉิโมปิ ‘‘มยา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ. กสฺส อาปตฺตีติ? น กสฺสจิ อาปตฺติ. ยสฺส ปน รุจฺจติ, เตน อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ.
โย ¶ ปน อธิฏฺาเน เวมติโก, เตน กึ กาตพฺพํ? เวมติกภาวํ อาโรเจตฺวา สเจ อนธิฏฺิตํ ภวิสฺสติ, เอวํ เม กปฺปิยํ โหตีติ วตฺวา วุตฺตนเยเนว นิสฺสชฺชิตพฺพํ. น หิ เอวํ ¶ ชานาเปตฺวา วินยกมฺมํ กโรนฺตสฺส มุสาวาโท โหติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกน ภิกฺขุนา วิสฺสาสํ คเหตฺวา ปุน ทินฺนํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. น หิ ตสฺเสตํ วินยกมฺมํ, นาปิ ตํ เอตฺตเกน อฺํ วตฺถุํ โหติ.
นสฺสตีติอาทิ อุตฺตานตฺถเมว. โย น ทเทยฺย อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ ‘‘มยฺหํ ทินฺนํ อิมินา’’ติ อิมาย สฺาย น เทนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ตสฺส สนฺตกภาวํ ปน ตฺวา เลเสน อจฺฉินฺทนฺโต ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพติ.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ สิกฺขาปทํ กถินสมุฏฺานํ นาม กายวาจาโต จ กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อนธิฏฺาเนน จ อวิกปฺปเนน จ อาปชฺชนโต อกิริยํ, สฺาย อภาเวปิ น มุจฺจติ, อชานนฺโตปิ อาปชฺชตีติ โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๗๑. เตน ¶ สมเยน พุทฺโธ ภควาติ อุโทสิตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สนฺตรุตฺตเรนาติ อนฺตรนฺติ อนฺตรวาสโก วุจฺจติ, อุตฺตรนฺติ อุตฺตราสงฺโค, สห อนฺตเรน อุตฺตรํ สนฺตรุตฺตรํ, เตน สนฺตรุตฺตเรน, สห อนฺตรวาสเกน อุตฺตราสงฺเคนาติ อตฺโถ. กณฺณกิตานีติ เสเทน ผุฏฺโกาเสสุ สฺชาตกาฬเสตมณฺฑลานิ. อทฺทส โข อายสฺมา อานนฺโท เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโตติ เถโร กิร ภควติ ทิวา ปฏิสลฺลานตฺถาย คนฺธกุฏึ ปวิฏฺเ ตํ โอกาสํ ลภิตฺวา ทุนฺนิกฺขิตฺตานิ ทารุภณฺฑมตฺติกาภณฺฑานิ ปฏิสาเมนฺโต อสมฺมฏฺฏฺานํ สมฺมชฺชนฺโต คิลาเนหิ ภิกฺขูหิ สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต เตสํ ภิกฺขูนํ ¶ เสนาสนฏฺานํ สมฺปตฺโต อทฺทส. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข อายสฺมา อานนฺโท เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต’’ติ.
๔๗๓. อวิปฺปวาสสมฺมุตึ ทาตุนฺติ อวิปฺปวาเส สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ, อวิปฺปวาสาย วา สมฺมุติ อวิปฺปวาสสมฺมุติ. โก ปเนตฺถ อานิสํโส? เยน จีวเรน วิปฺปวสติ, ตํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติ, อาปตฺติฺจ นาปชฺชติ. กิตฺตกํ กาลํ? มหาสุมตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘ยาว โรโค น วูปสมติ, วูปสนฺเต ปน โรเค สีฆํ จีวรฏฺานํ อาคนฺตพฺพ’’นฺติ ¶ . มหาปทุมตฺเถโร อาห – ‘‘สีฆํ อาคจฺฉโต โรโค ปฏิกุปฺเปยฺย, ตสฺมา สณิกํ อาคนฺตพฺพํ. ยโต ปฏฺาย หิ สตฺถํ วา ปริเยสติ, ‘คจฺฉามี’ติ อาโภคํ วา กโรติ, ตโต ปฏฺาย วฏฺฏติ. ‘น ทานิ คมิสฺสามี’ติ เอวํ ปน ธุรนิกฺเขปํ กโรนฺเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตี’’ติ. สเจ ปนสฺส โรโค ปฏิกุปฺปติ, กึ กาตพฺพนฺติ? ผุสฺสเทวตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘สเจ โสเยว โรโค ปฏิกุปฺปติ, สา เอว สมฺมุติ, ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถิ. อถฺโ กุปฺปติ, ปุน ทาตพฺพา สมฺมุตี’’ติ. อุปติสฺสตฺเถโร อาห – ‘‘โส วา โรโค โหตุ, อฺโ วา ปุน สมฺมุติทานกิจฺจํ นตฺถี’’ติ.
๔๗๕-๖. นิฏฺิตจีวรสฺมึ ภิกฺขุนาติ อิธ ปน ปุริมสิกฺขาปเท วิย อตฺถํ อคฺคเหตฺวา นิฏฺิเต จีวรสฺมึ ภิกฺขุโนติ เอวํ สามิวเสน กรณวจนสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กรณวเสน ¶ หิ ภิกฺขุนา อิทํ นาม กาตพฺพนฺติ นตฺถิ. สามิวเสน ปน ภิกฺขุโน จีวรสฺมึ นิฏฺิเต กถิเน จ อุพฺภเต เอวํ ฉินฺนปลิโพโธ เอกรตฺตมฺปิ เจ ภิกฺขุ ติจีวเรน วิปฺปวเสยฺยาติ เอวํ อตฺโถ ยุชฺชติ. ตตฺถ ติจีวเรนาติ อธิฏฺิเตสุ ตีสุ จีวเรสุ เยน เกนจิ. เอเกน วิปฺปวุตฺโถปิ หิ ติจีวเรน วิปฺปวุตฺโถ โหติ, ปฏิสิทฺธปริยาปนฺเนน วิปฺปวุตฺถตฺตา. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘สงฺฆาฏิยา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปฺปวเสยฺยาติ วิปฺปยุตฺโต วเสยฺย.
๔๗๗-๘. คาโม เอกูปจาโรติอาทิ อวิปฺปวาสลกฺขณววตฺถาปนตฺถํ วุตฺตํ. ตโต ปรํ ยถากฺกเมน ตาเนว ปนฺนรส มาติกาปทานิ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘คาโม เอกูปจาโร นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอกกุลสฺส คาโมติ เอกสฺส รฺโ วา โภชกสฺส วา คาโม. ปริกฺขิตฺโตติ เยน ¶ เกนจิ ปากาเรน วา วติยา วา ปริกฺขาย วา ปริกฺขิตฺโต. เอตฺตาวตา เอกกุลคามสฺส เอกูปจารตา ทสฺสิตา. อนฺโตคาเม วตฺถพฺพนฺติ เอวรูเป คาเม จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา คามพฺภนฺตเร ยถารุจิเต าเน อรุณํ อุฏฺาเปตุํ วฏฺฏติ. อปริกฺขิตฺโตติ อิมินา ตสฺเสว คามสฺส นานูปจารตา ทสฺสิตา. เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วตฺถพฺพํ. หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพนฺติ อถ วา ตํ ฆรํ สมนฺตโต หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ, อฑฺฒเตยฺยรตนปฺปมาณปฺปเทสา อุทฺธํ น วิชหิตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. อฑฺฒเตยฺยรตนพฺภนฺตเร ปน วตฺถุํ วฏฺฏติ. ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา สเจปิ อิทฺธิมา ภิกฺขู อากาเส อรุณํ อุฏฺาเปติ, นิสฺสคฺคิยเมว โหติ. เอตฺถ จ ยสฺมึ ฆเรติ ฆรปริจฺเฉโท ‘‘เอกกุลสฺส นิเวสนํ โหตี’’ติอาทินา (ปารา. ๔๘๐) ลกฺขเณน เวทิตพฺโพ.
๔๗๙. นานากุลสฺส ¶ คาโมติ นานาราชูนํ วา โภชกานํ วา คาโม, เวสาลิกุสินาราทิสทิโส. ปริกฺขิตฺโตติ อิมินา นานากุลคามสฺส เอกูปจารตา ทสฺสิตา. สภาเย วา ทฺวารมูเล วาติ เอตฺถ สภายนฺติ ลิงฺคพฺยตฺตเยน สภา วุตฺตา. ทฺวารมูเลติ นครทฺวารสฺส สมีเป. อิทํ วุตฺตํ ¶ โหติ – เอวรูเป คาเม ยสฺมึ ฆเร จีวรํ นิกฺขิตฺตํ, ตตฺถ วา วตฺถพฺพํ. ตตฺถ สทฺทสงฺฆฏฺฏเนน วา ชนสมฺพาเธน วา วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน สภาเย วา วตฺถพฺพํ นครทฺวารมูเล วา. ตตฺรปิ วสิตุํ อสกฺโกนฺเตน ยตฺถ กตฺถจิ ผาสุกฏฺาเน วสิตฺวา อนฺโตอรุเณ อาคมฺม เตสํเยว สภายทฺวารมูลานํ หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ. ฆรสฺส ปน จีวรสฺส วา หตฺถปาเส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.
สภายํ คจฺฉนฺเตน หตฺถปาเส จีวรํ นิกฺขิปิตฺวาติ สเจ ฆเร อฏฺเปตฺวา สภาเย เปสฺสามีติ สภายํ คจฺฉติ, เตน สภายํ คจฺฉนฺเตน หตฺถปาเสติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา ‘‘หนฺทิมํ จีวรํ เปมี’’ติ เอวํ นิกฺเขปสุเข หตฺถปาสคเต กิสฺมิฺจิ อาปเณ จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ปุริมนเยเนว สภาเย วา วตฺถพฺพํ ทฺวารมูเล วา, หตฺถปาสา วา น วิชหิตพฺพํ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ผุสฺสเทวตฺเถโร ตาว อาห – ‘‘จีวรหตฺถปาเส วสิตพฺพํ นตฺถิ, ยตฺถ กตฺถจิ วีถิหตฺถปาเสปิ สภายหตฺถปาเสปิ ทฺวารหตฺถปาเสปิ ¶ วสิตุํ วฏฺฏตี’’ติ. อุปติสฺสตฺเถโร ปนาห – ‘‘นครสฺส พหูนิปิ ทฺวารานิ โหนฺติ พหูนิปิ สภายานิ, ตสฺมา สพฺพตฺถ น วฏฺฏติ. ยสฺสา ปน วีถิยา จีวรํ ปิตํ ยํ ตสฺสา สมฺมุขฏฺาเน สภายฺจ ทฺวารฺจ ตสฺส สภายสฺส จ ทฺวารสฺส จ หตฺถปาสา น วิชหิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ สกฺกา จีวรสฺส ปวตฺติ ชานิตุ’’นฺติ. สภายํ ปน คจฺฉนฺเตน ยสฺส อาปณิกสฺส หตฺเถ นิกฺขิตฺตํ, สเจ โส ตํ จีวรํ อติหริตฺวา ฆเร นิกฺขิปติ, วีถิหตฺถปาโส น รกฺขติ, ฆรสฺส หตฺถปาเส วตฺถพฺพํ. สเจ มหนฺตํ ฆรํ โหติ, ทฺเว วีถิโย ผริตฺวา ิตํ ปุรโต วา ปจฺฉโต วา หตฺถปาเสเยว อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ. สภาเย นิกฺขิปิตฺวา ปน สภาเย วา ตสฺส สมฺมุเข นครทฺวารมูเล วา เตสํเยว หตฺถปาเส วา อรุณํ อุฏฺาเปตพฺพํ.
อปริกฺขิตฺโตติอิมินา ตสฺเสว คามสฺส นานูปจารตา ทสฺสิตา. เอเตเนวุปาเยน สพฺพตฺถ เอกูปจารตา จ นานูปจารตา จ เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ ปน ‘‘คาโม เอกูปจาโร ¶ นามา’’ติ เอวํ อาทิมฺหิ ‘‘อชฺโฌกาโส เอกูปจาโร นามา’’ติ เอวํ อนฺเต จ เอกเมว มาติกาปทํ อุทฺธริตฺวา ปทภาชนํ วิตฺถาริตํ. ตสฺมา ตสฺเสว ปทสฺสานุสาเรน สพฺพตฺถ ปริกฺเขปาทิวเสน เอกูปจารตา จ นานูปจารตา จ เวทิตพฺพา.
๔๘๐-๑. นิเวสนาทีสุ ¶ โอวรกาติ คพฺภานํเยเวตํ ปริยายวจนํ. หตฺถปาสา วาติ คพฺภสฺส หตฺถปาสา. ทฺวารมูเล วาติ สพฺเพสํ สาธารเณ ฆรทฺวารมูเล. หตฺถปาสา วาติ คพฺภสฺส วา ฆรทฺวารมูลสฺส วา หตฺถปาสา.
๔๘๒-๗. อุโทสิโตติ ยานาทีนํ ภณฺฑานํ สาลา. อิโต ปฏฺาย จ นิเวสเน วุตฺตนเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. อฏฺโฏติ ปฏิราชาทิปฏิพาหนตฺถํ อิฏฺกาหิ กโต พหลภิตฺติโก จตุปฺจภูมิโก ปติสฺสยวิเสโส. มาโฬติ เอกกูฏสงฺคหิโต จตุรสฺสปาสาโท. ปาสาโทติ ทีฆปาสาโท. หมฺมิยนฺติ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท.
๔๘๙. สตฺตพฺภนฺตราติเอตฺถ เอกํ อพฺภนฺตรํ อฏฺวีสติหตฺถํ โหติ. สเจ สตฺโถ คจฺฉนฺโต คามํ วา นทึ วา ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺติ อนฺโตปวิฏฺเน สทฺธึ เอกาพทฺโธ หุตฺวา โอรฺจ ปารฺจ ผริตฺวา ิโต โหติ, สตฺถปริหาโรว ลพฺภติ. อถ คาเม วา นทิยา วา ปริยาปนฺโน โหติ อนฺโตปวิฏฺโ ¶ , คามปริหาโร เจว นทีปริหาโร จ ลพฺภติ. สเจ วิหารสีมํ อติกฺกมิตฺวา ติฏฺติ, อนฺโตสีมาย จ จีวรํ โหติ, วิหารํ คนฺตฺวา วสิตพฺพํ. สเจ พหิสีมาย จีวรํ โหติ สตฺถสมีเปเยว วสิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺโต สกเฏ วา ภคฺเค โคเณ วา นฏฺเ อนฺตรา ฉิชฺชติ, ยสฺมึ โกฏฺาเส จีวรํ ตตฺถ วสิตพฺพํ.
๔๙๐. เอกกุลสฺส เขตฺเต หตฺถปาโส นาม จีวรหตฺถปาโสเยว, นานากุลสฺส เขตฺเต หตฺถปาโส นาม เขตฺตทฺวารสฺส หตฺถปาโส. อปริกฺขิตฺเต จีวรสฺเสว หตฺถปาโส.
๔๙๑-๔. ธฺกรณนฺติ ขลํ วุจฺจติ. อาราโมติ ปุปฺผาราโม ¶ วา ผลาราโม วา. ทฺวีสุปิ เขตฺเต วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย. วิหาโร นิเวสนสทิโส. รุกฺขมูเล อนฺโตฉายายนฺติ ฉายาย ผุฏฺโกาสสฺส อนฺโต เอว. วิรฬสาขสฺส ปน รุกฺขสฺส อาตเปน ผุฏฺโกาเส ปิตํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติ, ตสฺมา ตาทิสสฺส สาขาจฺฉายาย วา ขนฺธจฺฉายาย วา เปตพฺพํ. สเจ สาขาย วา วิฏเป วา เปติ, อุปริ อฺสาขาจฺฉายาย ผุฏฺโกาเสเยว เปตพฺพํ. ขุชฺชรุกฺขสฺส ฉายา ทูรํ คจฺฉติ, ฉายาย คตฏฺาเน เปตุํ วฏฺฏติเยว. อิธาปิ หตฺถปาโส จีวรหตฺถปาโสเยว.
อคามเก อรฺเติ อคามกํ นาม อรฺํ วิฺฌาฏวีอาทีสุ วา สมุทฺทมชฺเฌ วา มจฺฉพนฺธานํ อคมนปเถ ทีปเกสุ ลพฺภติ. สมนฺตา สตฺตพฺภนฺตราติ มชฺเฌ ิตสฺส สมตฺตา สพฺพทิสาสุ ¶ สตฺตพฺภนฺตรา, วินิพฺเพเธน จุทฺทส โหนฺติ. มชฺเฌ นิสินฺโน ปุรตฺถิมาย วา ปจฺฉิมาย วา ทิสาย ปริยนฺเต ปิตจีวรํ รกฺขติ. สเจ ปน อรุณุคฺคมนสมเย เกสคฺคมตฺตมฺปิ ปุรตฺถิมํ ทิสํ คจฺฉติ, ปจฺฉิมาย ทิสาย จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ. เอส นโย อิตรสฺมึ. อุโปสถกาเล ปน ปริสปริยนฺเต นิสินฺนภิกฺขุโต ปฏฺาย สตฺตพฺภนฺตรสีมา โสเธตพฺพา. ยตฺตกํ ภิกฺขุสงฺโฆ วฑฺฒติ, สีมาปิ ตตฺตกํ วฑฺฒติ.
๔๙๕. อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ สเจ ปธานิโก ภิกฺขุ สพฺพรตฺตึ ปธานมนุยฺุชิตฺวา ปจฺจุสสมเย ‘‘นฺหายิสฺสามี’’ติ ตีณิปิ จีวรานิ ตีเร เปตฺวา นทึ โอตรติ, นฺหายนฺตสฺเสว จสฺส อรุณํ อุฏฺหติ, กึ กาตพฺพํ. โส หิ ยทิ อุตฺตริตฺวา จีวรํ นิวาเสติ, นิสฺสคฺคิยจีวรํ ¶ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชนปจฺจยา ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. อถ นคฺโค คจฺฉติ, เอวมฺปิ ทุกฺกฏํ อาปชฺชตีติ? น อาปชฺชติ. โส หิ ยาว อฺํ ภิกฺขุํ ทิสฺวา วินยกมฺมํ น กโรติ, ตาว เตสํ ¶ จีวรานํ อปริโภคารหตฺตา นฏฺจีวรฏฺาเน ิโต โหติ. นฏฺจีวรสฺส จ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา เอกํ นิวาเสตฺวา ทฺเว หตฺเถน คเหตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ ทูเร วิหาโร โหติ, อนฺตรามคฺเค มนุสฺสา สฺจรนฺติ. เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา เอกํ อํสกูเฏ เปตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ วิหาเร สภาคภิกฺขู น ปสฺสติ, ภิกฺขาจารํ คตา โหนฺติ, สงฺฆาฏึ พหิคาเม เปตฺวา สนฺตรุตฺตเรน อาสนสาลํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พหิคาเม โจรภยํ โหติ, ปารุปิตฺวา คนฺตพฺพํ. สเจ อาสนสาลา สมฺพาธา โหติ ชนากิณฺณา, น สกฺกา เอกมนฺเต จีวรํ อปเนตฺวา วินยกมฺมํ กาตุํ, เอกํ ภิกฺขุํ อาทาย พหิคามํ คนฺตฺวา วินยกมฺมํ กตฺวา จีวรานิ ปริภฺุชิตพฺพานิ.
สเจ ภิกฺขู ทหรานํ หตฺเถ ปตฺตจีวรํ ทตฺวา มคฺคํ คจฺฉนฺตา ปจฺฉิเม ยาเม สยิตุกามา โหนฺติ, อตฺตโน อตฺตโน จีวรํ หตฺถปาเส กตฺวาว สยิตพฺพํ. สเจ คจฺฉนฺตานํเยว อสมฺปตฺเตสุ ทหเรสุ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ทหรานมฺปิ ปุรโต คจฺฉนฺตานํ เถเรสุ อสมฺปตฺเตสุ เอเสว นโย. มคฺคํ วิรชฺฌิตฺวา อรฺเ อฺมฺํ อปสฺสนฺเตสุปิ เอเสว นโย. สเจ ปน ทหรา ‘‘มยํ, ภนฺเต, มุหุตฺตํ สยิตฺวา อสุกสฺมึ นาม โอกาเส ตุมฺเห สมฺปาปุณิสฺสามา’’ติ วตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สยนฺติ, จีวรฺจ นิสฺสคฺคิยํ โหติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ, ทหเร อุยฺโยเชตฺวา เถเรสุ สยนฺเตสุปิ เอเสว นโย. ทฺเวธาปถํ ทิสฺวา เถรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ ทหรา ‘‘อยํ มคฺโค’’ติ วตฺวา อฺมฺสฺส วจนํ อคฺคเหตฺวา คตา, สห อรุณุคฺคมนา จีวรานิ จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ ¶ , นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ทหรา มคฺคโต โอกฺกมฺม ‘‘อนฺโตอรุเณเยว นิวตฺติสฺสามา’’ติ เภสชฺชตฺถาย คามํ ปวิสิตฺวา อาคจฺฉนฺติ. อสมฺปตฺตานํเยว จ ¶ เตสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน เธนุภเยน วา สุนขภเยน วา ‘‘มุหุตฺตํ ตฺวา คมิสฺสามา’’ติ ตฺวา วา นิสีทิตฺวา วา คจฺฉนฺติ, อนฺตรา อรุเณ อุคฺคเต จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย จ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ อนฺโตสีมายํ ¶ คามํ ปวิฏฺานํ อนฺตรา อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, เนว จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, น นิสฺสโย ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ปน ‘‘วิภายตุ ตาวา’’ติ นิสีทนฺติ, อรุเณ อุคฺคเตปิ น จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เยปิ ‘‘อนฺโตอรุเณเยว อาคมิสฺสามา’’ติ สามนฺตวิหารํ ธมฺมสวนตฺถาย สอุสฺสาหา คจฺฉนฺติ, อนฺตรามคฺเคเยว จ เนสํ อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, จีวรานิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโย ปน น ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. สเจ ธมฺมคารเวน ‘‘ยาว ปริโยสานํ สุตฺวาว คมิสฺสามา’’ติ นิสีทนฺติ, สห อรุณสฺสุคฺคมนา จีวรานิปิ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ, นิสฺสโยปิ ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. เถเรน ทหรํ จีวรโธวนตฺถาย คามกํ เปเสนฺเตน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวาว ทาตพฺพํ. ทหรสฺสาปิ จีวรํ ปจฺจุทฺธราเปตฺวา เปตพฺพํ. สเจ อสฺสติยา คจฺฉติ, อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา ทหรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา เปตพฺพํ. สเจ เถโร นสฺสรติ, ทหโร เอว สรติ, ทหเรน อตฺตโน จีวรํ ปจฺจุทฺธริตฺวา เถรสฺส จีวรํ วิสฺสาเสน คเหตฺวา คนฺตฺวา วตฺตพฺโพ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ อตฺตโนปิ จีวรํ อธิฏฺาตพฺพํ. เอวํ เอกสฺส สติยาปิ อาปตฺติโมกฺโข โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว ¶ .
สมุฏฺานาทีสุ ปมกถินสิกฺขาปเท อนธิฏฺานํ อวิกปฺปนฺจ อกิริยํ, อิธ อปจฺจุทฺธรณํ อยเมว วิเสโส. เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนยเมวาติ.
อุโทสิตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา
๔๙๗. เตน สมเยนาติ ตติยกถินสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุสฺสาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ วิมชฺชตีติ ‘‘วลีสุ นฏฺาสุ อิทํ มหนฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ มฺมาโน อุทเกน สิฺจิตฺวา ปาเทหิ อกฺกมิตฺวา ¶ หตฺเถหิ อุสฺสาเปตฺวา อุกฺขิปิตฺวา ปิฏฺิยํ ฆํสติ, ตํ อาตเป สุกฺขํ ปมปฺปมาณเมว โหติ. โส ปุนปิ ตถา กโรติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อุสฺสาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ วิมชฺชตี’’ติ. ตํ เอวํ กิลมนฺตํ ภควา คนฺธกุฏิยํ นิสินฺโนว ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑนฺโต วิย ตตฺถ อคมาสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อทฺทส โข ภควา’’ติอาทิ.
๔๙๙-๕๐๐. เอกาทสมาเสติ ¶ เอกํ ปจฺฉิมกตฺติกมาสํ เปตฺวา เสเส เอกาทสมาเส. สตฺตมาเสติ กตฺติกมาสํ เหมนฺติเก จ จตฺตาโรติ ปฺจมาเส เปตฺวา เสเส สตฺตมาเส. กาเลปิ อาทิสฺส ทินฺนนฺติ สงฺฆสฺส วา ‘‘อิทํ อกาลจีวร’’นฺติ อุทฺทิสิตฺวา ทินฺนํ, เอกปุคฺคลสฺส วา ‘‘อิทํ ตุยฺหํ ทมฺมี’’ติ ทินฺนํ.
สงฺฆโต วาติ อตฺตโน ปตฺตภาควเสน สงฺฆโต วา อุปฺปชฺเชยฺย. คณโต วาติ อิทํ สุตฺตนฺติกคณสฺส เทม, อิทํ อาภิธมฺมิกคณสฺสาติ เอวํ คณสฺส เทนฺติ. ตโต อตฺตโน ปตฺตภาควเสน คณโต วา อุปฺปชฺเชยฺย.
โน จสฺส ปาริปูรีติ โน เจ ปาริปูรี ภเวยฺย, ยตฺตเกน กยิรมานํ อธิฏฺานจีวรํ ปโหติ, ตฺเจ จีวรํ ตตฺตกํ น ภเวยฺย, อูนกํ ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
ปจฺจาสา โหติ สงฺฆโต วาติอาทีสุ อสุกทิวสํ นาม สงฺโฆ จีวรานิ ลภิสฺสติ, คโณ ลภิสฺสติ, ตโต เม จีวรํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ เอวํ สงฺฆโต วา คณโต วา ปจฺจาสา โหติ. าตเกหิ เม จีวรตฺถาย เปสิตํ, มิตฺเตหิ เปสิตํ, เต อาคตา จีวเร ทสฺสนฺตีติ เอวํ าติโต วา มิตฺตโต วา ปจฺจาสา โหติ. ปํสุกูลํ วาติ เอตฺถ ปน ปํสุกูลํ วา ลจฺฉามีติ ¶ เอวํ ปจฺจาสา โหตีติ โยเชตพฺพํ. อตฺตโน วา ธเนนาติ อตฺตโน กปฺปาสสุตฺตาทินา ธเนน, อสุกทิวสํ นาม ลจฺฉามีติ เอวํ วา ปจฺจาสา โหตีติ อตฺโถ.
ตโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย สติยาปิ ปจฺจาสายาติ มาสปรมโต เจ อุตฺตริ นิกฺขิเปยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ อตฺโถ. เอวํ ปน อวตฺวา ยสฺมา อนฺตรา อุปฺปชฺชมาเน ปจฺจาสาจีวเร มูลจีวรสฺส อุปฺปนฺนทิวสโต ยาว วีสติโม ทิวโส ตาว อุปฺปนฺนํ ปจฺจาสาจีวรํ มูลจีวรํ อตฺตโน คติกํ กโรติ, ตโต อุทฺธํ มูลจีวรํ ปจฺจาสาจีวรํ ¶ อตฺตโน คติกํ กโรติ. ตสฺมา ตํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตทหุปฺปนฺเน มูลจีวเร’’ติอาทินา นเยน ปทภาชนํ วุตฺตํ, ตํ อุตฺตานตฺถเมว.
วิสภาเค อุปฺปนฺเน มูลจีวเรติ ยทิ มูลจีวรํ สณฺหํ, ปจฺจาสาจีวรํ ถูลํ, น สกฺกา โยเชตุํ. รตฺติโย จ เสสา โหนฺติ, น ตาว มาโส ปูรติ ¶ , น อกามา นิคฺคเหน จีวรํ กาเรตพฺพํ. อฺํ ปจฺจาสาจีวรํ ลภิตฺวาเยว กาลพฺภนฺตเร กาเรตพฺพํ. ปจฺจาสาจีวรมฺปิ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มูลจีวรํ ถูลํ โหติ, ปจฺจาสาจีวรํ สณฺหํ, มูลจีวรํ ปริกฺขารโจฬํ อธิฏฺหิตฺวา ปจฺจาสาจีวรเมว มูลจีวรํ กตฺวา เปตพฺพํ. ตํ ปุน มาสปริหารํ ลภติ, เอเตนุปาเยน ยาว อิจฺฉติ ตาว อฺมฺํ มูลจีวรํ กตฺวา เปตุํ วฏฺฏตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
สมุฏฺานาทีนิ ปมกถินสทิสาเนวาติ.
ตติยกถินสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๓-๕. เตน สมเยนาติ ปุราณจีวรสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคาติ ปิตุปิตา ปิตามโห, ปิตามหสฺส ยุคํ ปิตามหยุคํ. ยุคนฺติ อายุปฺปมาณํ วุจฺจติ. อภิลาป มตฺตเมว เจตํ. อตฺถโต ปน ปิตามโหเยว ปิตามหยุคํ. ตโต อุทฺธํ สพฺเพปิ ปุพฺพปุริสา ปิตามหคฺคหเณเนว คหิตา. เอวํ ยาว สตฺตโม ปุริโส ตาว ยา อสมฺพทฺธา สา ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อสมฺพทฺธาติ ¶ วุจฺจติ. เทสนามุขเมว เจตํ. ‘‘มาติโต วา ปิติโต วา’’ติวจนโต ปน ปิตามหยุคมฺปิ ปิตามหิยุคมฺปิ มาตามหยุคมฺปิ มาตามหิยุคมฺปิ เตสํ ภาตุภคินีภาคิเนยฺยปุตฺตปปุตฺตาทโยปิ สพฺเพ อิธ สงฺคหิตา เอวาติ เวทิตพฺพา.
ตตฺรายํ วิตฺถารนโย – ปิตา ปิตุปิตา ตสฺส ปิตา ตสฺสาปิ ปิตาติ เอวํ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา ปิตุมาตา ตสฺสา ปิตา จ มาตา จ ภาตา จ ภคินี จ ปุตฺตา จ ธีตโร จาติ เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, ปิตา ปิตุภาตา ปิตุภคินี ปิตุปุตฺตา ปิตุธีตโร เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุมาตา ตสฺสา มาตา ตสฺสาปิ มาตาติ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุปิตา ตสฺส มาตา จ ปิตา จ ¶ ภาตา จ ภคินี จ ปุตฺตา จ ธีตโร จาติ, เอวมฺปิ อุทฺธฺจ อโธ จ ยาว สตฺตมา ยุคา, มาตา มาตุภาตา มาตุภคินี มาตุปุตฺตา มาตุธีตโร เตสมฺปิ ปุตฺตธีตุปรมฺปราติ ¶ เอวมฺปิ ยาว สตฺตมา ยุคา, เนว มาตุสมฺพนฺเธน น ปิตุสมฺพนฺเธน สมฺพทฺธา, อยํ อฺาติกา นาม.
อุภโต สงฺเฆติ ภิกฺขุนิสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถน ภิกฺขุสงฺเฆ ตฺติจตุตฺเถนาติ อฏฺวาจิกวินยกมฺเมน อุปสมฺปนฺนา.
สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปีติ รชิตฺวา กปฺปํ กตฺวา เอกวารมฺปิ นิวตฺถํ วา ปารุตํ วา. อนฺตมโส ปริโภคสีเสน อํเส วา มตฺถเก วา กตฺวา มคฺคํ คโต โหติ, อุสฺสีสกํ วา กตฺวา นิปนฺโน โหติ, เอตมฺปิ ปุราณจีวรเมว. สเจ ปน ปจฺจตฺถรณสฺส เหฏฺา กตฺวา นิปชฺชติ, หตฺเถหิ วา อุกฺขิปิตฺวา อากาเส วิตานํ กตฺวา สีเสน อผุสนฺโต คจฺฉติ, อยํ ปริโภโค นาม น โหตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
โธตํ นิสฺสคฺคิยนฺติ เอตฺถ เอวํ อาณตฺตา ภิกฺขุนี โธวนตฺถาย อุทฺธนํ สชฺเชติ, ทารูนิ สํหรติ, อคฺคึ กโรติ, อุทกํ อาหรติ ยาว นํ โธวิตฺวา อุกฺขิปติ, ตาว ภิกฺขุนิยา ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. โธวิตฺวา ¶ อุกฺขิตฺตมตฺเต นิสฺสคฺคิยํ โหติ. สเจ ทุทฺโธตนฺติ มฺมานา ปุน สิฺจติ วา โธวติ วา ยาว นิฏฺานํ น คจฺฉติ ตาว ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ. เอส นโย รชนาโกฏเนสุ. รชนโทณิยฺหิ รชนํ อากิริตฺวา ยาว สกึ จีวรํ รชติ, ตโต ปุพฺเพ ยํกิฺจิ รชนตฺถาย กโรติ, ปจฺฉา วา ปฏิรชติ, สพฺพตฺถ ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. เอวํ อาโกฏเนปิ ปโยโค เวทิตพฺโพ.
๕๐๖. อฺาติกาย อฺาติกสฺี ปุราณจีวรํ โธวาเปตีติ โน เจปิ ‘‘อิมํ โธวา’’ติ วทติ, อถ โข โธวนตฺถาย กายวิการํ กตฺวา หตฺเถน วา หตฺเถ เทติ, ปาทมูเล วา เปติ, อุปริ วา ขิปติ, สิกฺขมานาสามเณรีสามเณรอุปาสกติตฺถิยาทีนํ วา หตฺเถ เปเสติ, นทีติตฺเถ โธวนฺติยา อุปจาเร วา ขิปติ, อนฺโตทฺวาทสหตฺเถ โอกาเส ตฺวา, โธวาปิตํเยว โหติ. สเจ ปน อุปจารํ มฺุจิตฺวา โอรโต เปติ สา เจ โธวิตฺวา อาเนติ, อนาปตฺติ. สิกฺขมานาย วา สามเณริยา วา อุปาสิกาย วา หตฺเถ โธวนตฺถาย เทติ, สา เจ อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ, อาปตฺติเยว. อุปาสกสฺส หตฺเถ เทติ, โส เจ ลิงฺเค ปริวตฺเต ภิกฺขุนีสุ ¶ ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปชฺชิตฺวา โธวติ ¶ , อาปตฺติเยว. สามเณรสฺส วา ภิกฺขุสฺส วา หตฺเถ ทินฺเนปิ ลิงฺคปริวตฺตเน เอเสว นโย.
โธวาเปติ รชาเปตีติอาทีสุ เอเกน วตฺถุนา นิสฺสคฺคิยํ, ทุติเยน ทุกฺกฏํ. ตีณิปิ การาเปนฺตสฺส เอเกน นิสฺสคฺคิยํ, เสเสหิ ทฺเว ทุกฺกฏานิ. ยสฺมา ปเนตานิ โธวนาทีนิ ปฏิปาฏิยา วา อุปฺปฏิปาฏิยา วา กาเรนฺตสฺส โมกฺโข นตฺถิ, ตสฺมา เอตฺถ ตีณิ จตุกฺกานิ วุตฺตานิ. สเจปิ หิ ‘‘อิมํ จีวรํ รชิตฺวา โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺเต สา ภิกฺขุนี ปมํ โธวิตฺวา ปจฺฉา รชติ, นิสฺสคฺคิเยน ทุกฺกฏเมว. เอวํ สพฺเพสุ วิปรีตวจเนสุ นโย เนตพฺโพ. สเจ ปน ‘‘โธวิตฺวา อาเนหี’’ติ วุตฺตา โธวติ เจว รชติ จ, โธวาปนปจฺจยา เอว อาปตฺติ, รชเน อนาปตฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ วุตฺตาธิกกรเณ ‘‘อวุตฺตา โธวตี’’ติ อิมินา ลกฺขเณน อนาปตฺติ เวทิตพฺพา. ‘‘อิมสฺมึ ¶ จีวเร ยํ กาตพฺพํ, สพฺพํ ตํ ตุยฺหํ ภาโร’’ติ วทนฺโต ปน เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโย อาปชฺชตีติ.
อฺาติกาย เวมติโก อฺาติกาย าติกสฺีติ อิมานิปิ ปทานิ วุตฺตานํเยว ติณฺณํ จตุกฺกานํ วเสน วิตฺถารโต เวทิตพฺพานิ.
เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย โธวาเปนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ยถาวตฺถุกเมว, ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนา นาม ปฺจสตา สากิยานิโย.
๕๐๗. อวุตฺตา โธวตีติ อุทฺเทสาย วา โอวาทาย วา อาคตา กิลินฺนํ จีวรํ ทิสฺวา ปิตฏฺานโต คเหตฺวา วา ‘‘เทถ, อยฺย, โธวิสฺสามี’’ติ อาหราเปตฺวา วา โธวติ เจว รชติ จ อาโกเฏติ จ, อยํ อวุตฺตา โธวติ นาม. ยาปิ ‘‘อิมํ จีวรํ โธวา’’ติ ทหรํ วา สามเณรํ วา อาณาเปนฺตสฺส ภิกฺขุโน สุตฺวา ‘‘อาหรถยฺย อหํ โธวิสฺสามี’’ติ โธวติ, ตาวกาลิกํ วา คเหตฺวา โธวิตฺวา รชิตฺวา เทติ, อยมฺปิ อวุตฺตา โธวติ นาม.
อฺํ ปริกฺขารนฺติ อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอํสพทฺธกกายพนฺธนมฺจปีภิสิตฏฺฏิกาทึ ยํกิฺจิ โธวาเปติ, อนาปตฺติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ¶ ¶ ปน อิทํ สิกฺขาปทํ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, วจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ปุราณจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๐๘. เตน สมเยนาติ จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺตาติ ปิณฺฑปาตโต ปฏิกฺกนฺตา. เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมีติ อปฺตฺเต สิกฺขาปเท เยน อนฺธวนํ เตนุปสงฺกมิ. กตกมฺมาติ กตโจริกกมฺมา, สนฺธิจฺเฉทนาทีหิ ปรภณฺฑํ หริตาติ วุตฺตํ โหติ. โจรคามณิโกติ โจรเชฏฺโก. โส กิร ปุพฺเพ เถรึ ¶ ชานาติ, ตสฺมา โจรานํ ปุรโต คจฺฉนฺโต ทิสฺวา ‘‘อิโต มา คจฺฉถ, สพฺเพ อิโต เอถา’’ติ เต คเหตฺวา อฺเน มคฺเคน อคมาสิ. สมาธิมฺหา วุฏฺหิตฺวาติ เถรี กิร ปริจฺฉินฺนเวลายํเยว สมาธิมฺหา วุฏฺหิ. โสปิ ตสฺมึเยว ขเณ เอวํ อวจ, ตสฺมา สา อสฺโสสิ, สุตฺวา จ ‘‘นตฺถิ ทานิ อฺโ เอตฺถ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อฺตฺร มยา’’ติ ตํ มํสํ อคฺคเหสิ. เตน วุตฺตํ – ‘‘อถ โข อุปฺปลวณฺณา ภิกฺขุนี’’ติอาทิ.
โอหิยฺยโกติ อวหียโก อวเสโส, วิหารวารํ ปตฺวา เอโกว วิหาเร ิโตติ อตฺโถ. สเจ เม ตฺวํ อนฺตรวาสกํ ทเทยฺยาสีติ กสฺมา อาห? สณฺหํ ฆนมฏฺํ อนฺตรวาสกํ ทิสฺวา โลเภน, อปิจ อปฺปโก ตสฺสา อนฺตรวาสเก โลโภ, เถริยา ปน สิขาปฺปตฺตา โกฏฺาสสมฺปตฺติ เตนสฺสา สรีรปาริปูรึ ปสฺสิสฺสามีติ วิสมโลภํ อุปฺปาเทตฺวา เอวมาห. อนฺติมนฺติ ปฺจนฺนํ จีวรานํ สพฺพปริยนฺตํ หุตฺวา อนฺติมํ, อนฺติมนฺติ ปจฺฉิมํ. อฺํ เลเสนาปิ วิกปฺเปตฺวา วา ปจฺจุทฺธริตฺวา วา ปิตํ จีวรํ นตฺถีติ เอวํ ยถาอนฺุาตานํ ปฺจนฺนํ จีวรานํ ธารณวเสเนว อาห, น โลเภน, น หิ ขีณาสวานํ โลโภ อตฺถิ. นิปฺปีฬิยมานาติ อุปมํ ทสฺเสตฺวา คาฬฺหํ ปีฬยมานา.
อนฺตรวาสกํ ¶ ทตฺวา อุปสฺสยํ อคมาสีติ สงฺกจฺจิกํ นิวาเสตฺวา ยถา ตสฺส มโนรโถ น ปูรติ, เอวํ หตฺถตเลเยว ทสฺเสตฺวา อคมาสิ.
๕๑๐. กสฺมา ¶ ปาริวตฺตกจีวรํ อปฺปฏิคณฺหนฺเต อุชฺฌายึสุ? ‘‘สเจ เอตฺตโกปิ อมฺเหสุ อยฺยานํ วิสฺสาโส นตฺถิ, กถํ มยํ ยาเปสฺสามา’’ติ วิหตฺถตาย สมภิตุนฺนตฺตา.
อนุชานามิ ภิกฺขเว อิเมสํ ปฺจนฺนนฺติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ สหธมฺมิกานํ สมสทฺธานํ สมสีลานํ สมทิฏฺีนํ ปาริวตฺตกํ คเหตุํ อนุชานามีติ อตฺโถ.
๕๑๒. ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ คหณตฺถาย หตฺถปฺปสารณาทีสุ ทุกฺกฏํ. ปฏิลาเภนาติ ปฏิคฺคหเณน. ตตฺถ จ หตฺเถน วา หตฺเถ เทตุ, ปาทมูเล วา เปตุ, อุปริ วา ขิปตุ, โส เจ สาทิยติ ¶ , คหิตเมว โหติ. สเจ ปน สิกฺขมานาสามเณรสามเณรีอุปาสกอุปาสิกาทีนํ หตฺเถ เปสิตํ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺติ. ธมฺมกถํ กเถนฺตสฺส จตสฺโสปิ ปริสา จีวรานิ จ นานาวิราควตฺถานิ จ อาเนตฺวา ปาทมูเล เปนฺติ, อุปจาเร วา ตฺวา อุปจารํ วา มฺุจิตฺวา ขิปนฺติ, ยํ ตตฺถ ภิกฺขุนีนํ สนฺตกํ, ตํ อฺตฺร ปาริวตฺตกา คณฺหนฺตสฺส อาปตฺติเยว. อถ ปน รตฺติภาเค ขิตฺตานิ โหนฺติ, ‘‘อิทํ ภิกฺขุนิยา, อิทํ อฺเส’’นฺติ าตุํ น สกฺกา, ปาริวตฺตกกิจฺจํ นตฺถีติ มหาปจฺจริยํ กุรุนฺทิยฺจ วุตฺตํ, ตํ อจิตฺตกภาเวน น สเมติ. สเจ ภิกฺขุนี วสฺสาวาสิกํ เทติ, ปาริวตฺตกเมว กาตพฺพํ. สเจ ปน สงฺการกูฏาทีสุ เปติ, ‘‘ปํสุกูลํ คณฺหิสฺสนฺตี’’ติ ปํสุกูลํ อธิฏฺหิตฺวา คเหตุํ วฏฺฏติ.
๕๑๓. อฺาติกาย อฺาติกสฺีติ ติกปาจิตฺติยํ. เอกโต อุปสมฺปนฺนายาติ ภิกฺขุนีนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย หตฺถโต คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ, ภิกฺขูนํ สนฺติเก อุปสมฺปนฺนาย ปน ปาจิตฺติยเมว.
๕๑๔. ปริตฺเตน วา วิปุลนฺติ อปฺปคฺฆจีวเรน วา อุปาหนตฺถวิกปตฺตตฺถวิกอํสพทฺธกกายพนฺธนาทินา วา มหคฺฆํ เจตาเปตฺวา สเจปิ จีวรํ ¶ ปฏิคฺคณฺหาติ, อนาปตฺติ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘อนฺตมโส หรีตกีขณฺเฑนาปี’’ติ วุตฺตํ. วิปุเลน วา ปริตฺตนฺติ อิทํ วุตฺตวิปลฺลาเสน เวทิตพฺพํ. อฺํ ปริกฺขารนฺติ ปตฺตตฺถวิกาทึ ยํ กิฺจิ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรปฺปมาณํ ปน ปฏปริสฺสาวนมฺปิ น วฏฺฏติ. ยํ เนว อธิฏฺานุปคํ น วิกปฺปนุปคํ ตํ สพฺพํ วฏฺฏติ. สเจปิ มฺจปฺปมาณา ภิสิจฺฉวิ โหติ, วฏฺฏติเยว; โก ปน วาโท ปตฺตตฺถวิกาทีสุ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ¶ อิทํ ฉสมุฏฺานํ, กิริยากิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ ¶ , ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
จีวรปฏิคฺคหณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๑๕. เตน สมเยนาติ อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปนนฺโท สกฺยปุตฺโตติ อสีติสหสฺสมตฺตานํ สกฺยกุลา ปพฺพชิตานํ ภิกฺขูนํ ปติกิฏฺโ โลลชาติโก. ปฏฺโฏติ เฉโก สมตฺโถ ปฏิพโล สรสมฺปนฺโน กณฺมาธุริเยน สมนฺนาคโต. กิสฺมึ วิยาติ กึสุ วิย กิเลโส วิย, หิโรตฺตปฺปวเสน กมฺปนํ วิย สงฺกมฺปนํ วิย โหตีติ อตฺโถ.
อทฺธานมคฺคนฺติ อทฺธานสงฺขาตํ ทีฆมคฺคํ, น นครวีถิมคฺคนฺติ อตฺโถ. เต ภิกฺขู อจฺฉินฺทึสูติ มุสึสุ, ปตฺตจีวรานิ เนสํ หรึสูติ อตฺโถ. อนุยฺุชาหีติ ภิกฺขุภาวชานนตฺถาย ปุจฺฉ. อนุยฺุชิยมานาติ ปพฺพชฺชาอุปสมฺปทาปตฺตจีวราธิฏฺานาทีนิ ปุจฺฉิยมานา. เอตมตฺถํ อาโรเจสุนฺติ ภิกฺขุภาวํ ชานาเปตฺวา โย ‘‘สาเกตา สาวตฺถึ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา’’ติอาทินา นเยน วุตฺโต, เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ.
๕๑๗. อฺาตกํ คหปตึ วาติอาทีสุ ยํ ปรโต ‘‘ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อาทึ กตฺวา เอวํ อนุปุพฺพกถา เวทิตพฺพา. สเจ โจเร ปสฺสิตฺวา ทหรา ปตฺตจีวรานิ คเหตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนมตฺตํเยว หริตฺวา คจฺฉนฺติ, เถเรหิ ¶ เนว ตาว จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ, น สาขาปลาสํ ภฺชิตพฺพํ. อถ ทหรา สพฺพํ ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวา ปลาตา, โจรา เถรานํ นิวาสนปารุปนํ ตฺจ ภณฺฑกํ คเหตฺวา คจฺฉนฺติ, ทหเรหิ อาคนฺตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ น ตาว เถรานํ ทาตพฺพานิ, น หิ อนจฺฉินฺนจีวรา อตฺตโน อตฺถาย สาขาปลาสํ ภฺชิตุํ ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวรานํ ปน อตฺถาย ลภนฺติ, อจฺฉินฺนจีวราว อตฺตโนปิ ปเรสมฺปิ อตฺถาย ลภนฺติ. ตสฺมา เถเรหิ วา สาขาปลาสํ ภฺชิตฺวา วากาทีหิ คนฺเถตฺวา ทหรานํ ทาตพฺพํ, ทหเรหิ วา เถรานํ อตฺถาย ภฺชิตฺวา คนฺเถตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา วา อทตฺวา วา ¶ อตฺตนา นิวาเสตฺวา อตฺตโน นิวาสนปารุปนานิ เถรานํ ทาตพฺพานิ, เนว ภูตคามปาตพฺยตาย ปาจิตฺติยํ โหติ, น เตสํ ธารเณ ทุกฺกฏํ.
สเจ ¶ อนฺตรามคฺเค รชกตฺถรณํ วา โหติ, อฺเ วา ตาทิเส มนุสฺเส ปสฺสนฺติ, จีวรํ วิฺาเปตพฺพํ. ยานิ จ เนสํ เต วา วิฺตฺตมนุสฺสา อฺเ วา สาขาปลาสนิวาสเน ภิกฺขู ทิสฺวา อุสฺสาหชาตา วตฺถานิ เทนฺติ, ตานิ สทสานิ วา โหนฺตุ อทสานิ วา นีลาทินานาวณฺณานิ วา กปฺปิยานิปิ อกปฺปิยานิปิ สพฺพานิ อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน ิตตฺตา เตสํ นิวาเสตฺุจ ปารุปิตฺุจ วฏฺฏนฺติ. วุตฺตมฺปิเหตํ ปริวาเร –
‘‘อกปฺปกตํ นาปิ รชนาย รตฺตํ;
เตน นิวตฺโถ เยน กามํ วเชยฺย;
น จสฺส โหติ อาปตฺติ;
โส จ ธมฺโม สุคเตน เทสิโต;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ปฺโห อจฺฉินฺนจีวรกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย วุตฺโต. อถ ปน ติตฺถิเยหิ สหคจฺฉนฺติ, เต จ เนสํ กุสจีรวากจีรผลกจีรานิ เทนฺติ, ตานิปิ ลทฺธึ อคฺคเหตฺวา นิวาเสตุํ วฏฺฏนฺติ, นิวาเสตฺวาปิ ลทฺธิ น คเหตพฺพา.
อิทานิ ‘‘ยํ อาวาสํ ปมํ อุปคจฺฉติ, สเจ ตตฺถ โหติ สงฺฆสฺส วิหารจีวรํ วา’’ติอาทีสุ วิหารจีวรํ นาม มนุสฺสา อาวาสํ กาเรตฺวา ‘‘จตฺตาโรปิ ปจฺจยา อมฺหากํเยว สนฺตกา ปริโภคํ คจฺฉนฺตู’’ติ ¶ ติจีวรํ สชฺเชตฺวา อตฺตนา การาปิเต อาวาเส เปนฺติ, เอตํ วิหารจีวรํ นาม. อุตฺตรตฺถรณนฺติ มฺจกสฺส อุปริ อตฺถรณกํ วุจฺจติ. ภุมตฺถรณนฺติ ปริกมฺมกตาย ภูมิยา รกฺขณตฺถํ จิมิลิกาหิ กตอตฺถรณํ ตสฺส อุปริ ตฏฺฏิกํ ปตฺถริตฺวา จงฺกมนฺติ. ภิสิจฺฉวีติ มฺจภิสิยา วา ปีภิสิยา วา ¶ ฉวิ, สเจ ปูริตา โหติ วิธุนิตฺวาปิ คเหตุํ วฏฺฏติ. เอวเมเตสุ วิหารจีวราทีสุ ยํ ตตฺถ อาวาเส โหติ, ตํ อนาปุจฺฉาปิ คเหตฺวา นิวาเสตุํ วา ปารุปิตุํ วา อจฺฉินฺนจีวรกานํ ภิกฺขูนํ ลพฺภตีติ เวทิตพฺพํ. ตฺจ โข ลภิตฺวา โอทหิสฺสามิ ปุน เปสฺสามีติ อธิปฺปาเยน น มูลจฺเฉชฺชาย. ลภิตฺวา จ ปน าติโต วา อุปฏฺากโต วา อฺโต วา กุโตจิ ปากติกเมว กาตพฺพํ. วิเทสคเตน เอกสฺมึ สงฺฆิเก อาวาเส สงฺฆิกปริโภเคน ปริภฺุชนตฺถาย เปตพฺพํ. สจสฺส ปริโภเคเนว ตํ ชีรติ วา นสฺสติ วา คีวา น โหติ. สเจ ปน เอเตสํ วุตฺตปฺปการานํ คิหิวตฺถาทีนํ ภิสิจฺฉวิปริยนฺตานํ กิฺจิ น ลพฺภติ, เตน ติเณน วา ปณฺเณน วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา อาคนฺตพฺพนฺติ.
๕๑๙. เยหิ ¶ เกหิจิ วา อจฺฉินฺนนฺติ เอตฺถ ยมฺปิ อจฺฉินฺนจีวรา อาจริยุปชฺฌายา อฺเ ‘‘อาหรถ, อาวุโส, จีวร’’นฺติ ยาจิตฺวา วา วิสฺสาเสน วา คณฺหนฺติ, ตมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ.
ปริโภคชิณฺณํ วาติ เอตฺถ จ อจฺฉินฺนจีวรานํ อาจริยุปชฺฌายาทีนํ อตฺตนา ติณปณฺเณหิ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ทินฺนจีวรมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉตีติ วตฺตุํ ยุชฺชติ. เอวฺหิ เต อจฺฉินฺนจีวรฏฺาเน นฏฺจีวรฏฺาเน จ ิตา ภวิสฺสนฺติ, เตน เนสํ วิฺตฺติยํ อกปฺปิยจีวรปริโภเค จ อนาปตฺติ อนุรูปา ภวิสฺสติ.
๕๒๑. าตกานํ ปวาริตานนฺติ เอตฺถ ‘‘เอเตสํ สนฺตกํ เทถา’’ติ วิฺาเปนฺตสฺส ยาจนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ าตกปวาริตานํ อาปตฺติ วา อนาปตฺติ วา โหติ. อตฺตโน ธเนนาติ เอตฺถาปิ อตฺตโน กปฺปิยภณฺเฑน กปฺปิยโวหาเรเนว จีวรํ วิฺาเปนฺตสฺส เจตาเปนฺตสฺส ¶ ปริวตฺตาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ปวาริตานนฺติ เอตฺถ จ สงฺฆวเสน ปวาริเตสุ ปมาณเมว วฏฺฏติ. ปุคฺคลิกปวารณาย ยํ ยํ ปวาเรติ, ตํ ตํเยว วิฺาเปตพฺพํ. โย จตูหิ ปจฺจเยหิ ปวาเรตฺวา สยเมว สลฺลกฺเขตฺวา กาลานุกาลํ จีวรานิ ทิวเส ทิวเส ยาคุภตฺตาทีนีติ ¶ เอวํ เยน เยนตฺโถ ตํ ตํ เทติ, ตสฺส วิฺาปนกิจฺจํ นตฺถิ. โย ปน ปวาเรตฺวา พาลตาย วา สติสมฺโมเสน วา น เทติ, โส วิฺาเปตพฺโพ. โย ‘‘มยฺหํ เคหํ ปวาเรมี’’ติ วทติ, ตสฺส เคหํ คนฺตฺวา ยถาสุขํ นิสีทิตพฺพํ นิปชฺชิตพฺพํ, น กิฺจิ คเหตพฺพํ. โย ปน ‘‘ยํ มยฺหํ เคเห อตฺถิ, ตํ ปวาเรมี’’ติ วทติ. ยํ ตตฺถ กปฺปิยํ, ตํ วิฺาเปตพฺพํ, เคเห ปน นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา น ลพฺภตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ.
อฺสฺสตฺถายาติ เอตฺถ อตฺตโน าตกปวาริเต น เกวลํ อตฺตโน อตฺถาย, อถ โข อฺสฺสตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อยเมโก อตฺโถ. อยํ ปน ทุติโย อฺสฺสาติ เย อฺสฺส าตกปวาริตา, เต ตสฺเสว ‘‘อฺสฺสา’’ติ ลทฺธโวหารสฺส พุทฺธรกฺขิตสฺส วา ธมฺมรกฺขิตสฺส วา อตฺถาย วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๒-๔. เตน ¶ สมเยนาติ ตตุตฺตริสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อภิหฏฺุนฺติ อภีติ อุปสคฺโค, หริตุนฺติ อตฺโถ, คณฺหิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปวาเรยฺยาติ อิจฺฉาเปยฺย, อิจฺฉํ รุจึ อุปฺปาเทยฺย, วเทยฺย นิมนฺเตยฺยาติ อตฺโถ. อภิหฏฺุํ ปวาเรนฺเตน ปน ยถา วตฺตพฺพํ, ตํ อาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวตกํ อิจฺฉสิ ตาวตกํ คณฺหาหี’’ติ เอวมสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ. อถ วา ยถา ‘‘เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโต’’ติ (สุ. นิ. ๔๒๖, ๑๑๐๔; จูฬนิ. ชตุกณฺณิมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๖๗) เอตฺถ ทิสฺวาติ อตฺโถ, เอวมิธาปิ ‘‘อภิอฏฺุํ ปวาเรยฺยา’’ติ อภิหริตฺวา ปวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตตฺถ ¶ กายาภิหาโร วาจาภิหาโรติ ทุวิโธ อภิหาโร, กาเยน วา หิ วตฺถานิ อภิหริตฺวา ปาทมูเล เปตฺวา ‘‘ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทนฺโต ปวาเรยฺย, วาจาย วา ‘‘อมฺหากํ ทุสฺสโกฏฺาคารํ ปริปุณฺณํ, ยตฺตกํ อิจฺฉสิ ตตฺตกํ คณฺหาหี’’ติ วทนฺโต ปวาเรยฺย, ตทุภยมฺปิ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อภิหฏฺุํ ปวาเรยฺยา’’ติ วุตฺตํ.
สนฺตรุตฺตรปรมนฺติ สอนฺตรํ ¶ อุตฺตรํ ปรมํ อสฺส จีวรสฺสาติ สนฺตรุตฺตรปรมํ, นิวาสเนน สทฺธึ ปารุปนํ อุกฺกฏฺปริจฺเฉโท อสฺสาติ วุตฺตํ โหติ. ตโต จีวรํ สาทิตพฺพนฺติ ตโต อภิหฏจีวรโต เอตฺตกํ จีวรํ คเหตพฺพํ, น อิโต ปรนฺติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน อจฺฉินฺนสพฺพจีวเรน ติจีวริเกเนว ภิกฺขุนา เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ, อฺเน อฺถาปิ, ตสฺมา ตํ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ ตีณิ นฏฺานิ โหนฺตี’’ติอาทินา นเยนสฺส ปทภาชนํ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – ยสฺส ตีณิ นฏฺานิ, เตน ทฺเว สาทิตพฺพานิ, เอกํ นิวาเสตฺวา เอกํ ปารุปิตฺวา อฺํ สภาคฏฺานโต ปริเยสิสฺสติ. ยสฺส ทฺเว นฏฺานิ, เตน เอกํ สาทิตพฺพํ. สเจ ปกติยาว สนฺตรุตฺตเรน จรติ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. เอวํ เอกํ สาทิยนฺเตเนว สโม ภวิสฺสติ. ยสฺส ตีสุ เอกํ นฏฺํ, น สาทิตพฺพํ. ยสฺส ปน ทฺวีสุ เอกํ นฏฺํ, เอกํ สาทิตพฺพํ. ยสฺส เอกํเยว โหติ, ตฺจ นฏฺํ, ทฺเว สาทิตพฺพานิ. ภิกฺขุนิยา ปน ปฺจสุปิ นฏฺเสุ ทฺเว สาทิตพฺพานิ. จตูสุ นฏฺเสุ เอกํ สาทิตพฺพํ, ตีสุ นฏฺเสุ กิฺจิ น สาทิตพฺพํ, โก ปน วาโท ทฺวีสุ วา เอกสฺมึ วา. เยน เกนจิ หิ สนฺตรุตฺตรปรมตาย าตพฺพํ, ตโต อุตฺตริ น ลพฺภตีติ อิทเมตฺถ ลกฺขณํ.
๕๒๖. เสสกํ อาหริสฺสามีติ ทฺเว จีวรานิ กตฺวา เสสํ ปุน อาหริสฺสามีติ อตฺโถ. น อจฺฉินฺนการณาติ ¶ พาหุสจฺจาทิคุณวเสน เทนฺติ. าตกานนฺติอาทีสุ าตกานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส ปวาริตานํ เทนฺตานํ สาทิยนฺตสฺส อตฺตโน ธเนน สาทิยนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อฏฺกถาสุ ปน ‘‘าตกปวาริตฏฺาเน ปกติยา พหุมฺปิ วฏฺฏติ, อจฺฉินฺนการณา ปมาณเมว วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตํ. ตํ ปาฬิยา น สเมติ. ยสฺมา ปนิทํ สิกฺขาปทํ อฺสฺสตฺถาย วิฺาปนวตฺถุสฺมึเยว ปฺตฺตํ, ตสฺมา อิธ ‘‘อฺสฺสตฺถายา’’ติ น วุตฺตํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ¶ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ตตุตฺตริสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๒๗. เตน ¶ สมเยนาติ อุปกฺขฏสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อตฺถาวุโส มํ โส อุปฏฺาโกติ อาวุโส, ยํ ตฺวํ ภณสิ, อตฺถิ เอวรูโป โส มม อุปฏฺาโกติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อปิ เมยฺย เอวํ โหตีติ อปิ เม อยฺย เอวํ โหติ, อปิ มยฺยา เอวนฺติปิ ปาโ.
๕๒๘-๙. ภิกฺขุํ ปเนว อุทฺทิสฺสาติ เอตฺถ อุทฺทิสฺสาติ อปทิสฺส อารพฺภ. ยสฺมา ปน ยํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ โหติ, ตํ ตสฺสตฺถาย อุปกฺขฏํ นาม โหติ. ตสฺมาสฺส ปทภาชเน ‘‘ภิกฺขุสฺสตฺถายา’’ติ วุตฺตํ.
ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวาติ ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา, ยฺหิ ภิกฺขุํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ, ตํ นิยเมเนว ภิกฺขุํ ปจฺจยํ กตฺวา อุปกฺขฏํ โหติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อารมฺมณํ กริตฺวา’’ติ. ปจฺจโยปิ หิ ‘‘ลภติ มาโร อารมฺมณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๓) อารมฺมณนฺติ อาคโต. อิทานิ ‘‘อุทฺทิสฺสา’’ติ เอตฺถ โย กตฺตา, ตสฺส อาการทสฺสนตฺถํ ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติ วุตฺตํ. ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาเมน หิ เตน ตํ อุทฺทิสฺส อุปกฺขฏํ, น อฺเน การเณน. อิติ โส อจฺฉาเทตุกาโม โหติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ภิกฺขุํ อจฺฉาเทตุกาโม’’ติ.
อฺาตกสฺส ¶ คหปติสฺส วาติ อฺาตเกน คหปตินา วาติ อตฺโถ. กรณตฺเถ หิ อิทํ สามิวจนํ. ปทภาชเน ปน พฺยฺชนํ อวิจาเรตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อฺาตโก นาม…เป… คหปติ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
จีวรเจตาปนฺนนฺติ จีวรมูลํ, ตํ ปน ยสฺมา หิรฺาทีสุ อฺตรํ โหติ, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘หิรฺํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปกฺขฏํ โหตีติ สชฺชิตํ โหติ, สํหริตฺวา ปิตํ, ยสฺมา ปน ‘‘หิรฺํ วา’’ติอาทินา ¶ วจเนนสฺส อุปกฺขฏภาโว ทสฺสิโต โหติ, ตสฺมา ‘‘อุปกฺขฏํ นามา’’ติ ปทํ อุทฺธริตฺวา วิสุํ ปทภาชนํ น วุตฺตํ. อิมินาติ อุปกฺขฏํ สนฺธายาห, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ปจฺจุปฏฺิเตนา’’ติ วุตฺตํ. ยฺหิ อุปกฺขฏํ สํหริตฺวา ปิตํ, ตํ ปจฺจุปฏฺิตํ โหตีติ. อจฺฉาเทสฺสามีติ โวหารวจนเมตํ ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทสฺสามี’’ติ อยํ ปเนตฺถ อตฺโถ. เตเนวสฺส ปทภาชเนปิ ‘‘ทสฺสามี’’ติ วุตฺตํ.
ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร โส คหปติ ¶ วา คหปตานี วา ตตฺร โส ภิกฺขุ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต อุปสงฺกมิตฺวา จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺย เจติ อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺโธ. ตตฺถ อุปสงฺกมิตฺวาติ อิมสฺส คนฺตฺวาติ อิมินาว อตฺเถ สิทฺเธ ปจุรโวหารวเสน ‘‘ฆร’’นฺติ วุตฺตํ. ยตฺร ปน โส ทายโก ตตฺร คนฺตฺวาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ, ตสฺมา ปุนปิ วุตฺตํ ‘‘ยตฺถ กตฺถจิ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ. วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ วิสิฏฺกปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย, ปทภาชเน ปน เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปนฺโน โหติ ตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อายตํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สาธูติ อายาจเน นิปาโต. วตาติ ปริวิตกฺเก. มนฺติ อตฺตานํ นิทฺทิสติ. อายสฺมาติ ปรํ อาลปติ อามนฺเตติ. ยสฺมา ปนิทํ สพฺพํ พฺยฺชนมตฺตเมว, อุตฺตานตฺถเมว, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน อตฺโถ น วุตฺโต. กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทายาติ สุนฺทรกามตํ วิสิฏฺกามตํ จิตฺเตน คเหตฺวา, ตสฺส ‘‘อาปชฺเชยฺย เจ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ยสฺมา ปน โย กลฺยาณกมฺยตํ อุปาทาย อาปชฺชติ, โส สาธตฺถิโก มหคฺฆตฺถิโก โหติ, ตสฺมาสฺส ปทภาชเน พฺยฺชนํ ปหาย อธิปฺเปตตฺถเมว ทสฺเสตุํ ตเทว วจนํ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน น อิมสฺส อาปชฺชนมตฺเตเนว อาปตฺติ สีสํ เอติ, ตสฺมา ‘‘ตสฺส วจเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
๕๓๑. อนาปตฺติ าตกานนฺติอาทีสุ าตกานํ จีวเร วิกปฺปํ อาปชฺชนฺตสฺส อนาปตฺตีติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. มหคฺฆํ เจตาเปตุกามสฺส อปฺปคฺฆํ เจตาเปตีติ คหปติสฺส วีสติอคฺฆนกํ จีวรํ เจตาเปตุกามสฺส ‘‘อลํ มยฺหํ เอเตน, ทสคฺฆนกํ วา อฏฺคฺฆนกํ วา เทหี’’ติ วทติ อนาปตฺติ. อปฺปคฺฆนฺติ อิทฺจ อติเรกนิวารณตฺถเมว วุตฺตํ, สมเกปิ ปน อนาปตฺติ ¶ , ตฺจ โข อคฺฆวเสเนว น ปมาณวเสน, อคฺฆวฑฺฒนกฺหิ อิทํ สิกฺขาปทํ. ตสฺมา โย วีสติอคฺฆนกํ อนฺตรวาสกํ เจตาเปตุกาโม ¶ , ‘‘ตํ เอตฺตกเมว เม อคฺฆนกํ จีวรํ เทหี’’ติ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีนิปิ ตตุตฺตริสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
ปมอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๒. ทุติยอุปกฺขเฏปิ ¶ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตฺหิ อิมสฺส อนุปฺตฺติสทิสํ. เกวลํ ปมสิกฺขาปเท เอกสฺส ปีฬา กตา, ทุติเย ทฺวินฺนํ, อยเมเวตฺถ วิเสโส. เสสํ สพฺพํ ปมสทิสเมว. ยถา จ ทฺวินฺนํ, เอวํ พหูนํ ปีฬํ กตฺวา คณฺหโตปิ อาปตฺติ เวทิตพฺพาติ.
ทุติยอุปกฺขฏสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ราชสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๓๗. เตน สมเยนาติ ราชสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปาสกํ สฺาเปตฺวาติ ชานาเปตฺวา, ‘‘อิมินา มูเลน จีวรํ กิณิตฺวา เถรสฺส เทหี’’ติ เอวํ วตฺวาติ อธิปฺปาโย. ปฺาสพนฺโธติ ปฺาสกหาปณทณฺโฑติ วุตฺตํ โหติ. ปฺาสํ พทฺโธติปิ ปาโ, ปฺาสํ ชิโต ปฺาสํ ทาเปตพฺโพติ อธิปฺปาโย. อชฺชณฺโห, ภนฺเต, อาคเมหีติ ภนฺเต, อชฺช เอกทิวสํ อมฺหากํ ติฏฺ, อธิวาเสหีติ อตฺโถ. ปรามสีติ คณฺหิ. ชีโนสีติ ชิโตสิ.
๕๓๘-๙. ราชโภคฺโคติ ราชโต โภคฺคํ ภฺุชิตพฺพํ อสฺสตฺถีติ ราชโภคฺโค, ราชโภโคติปิ ปาโ, ราชโต โภโค อสฺส อตฺถีติ อตฺโถ.
ปหิเณยฺยาติ เปเสยฺย, อุตฺตานตฺถตฺตา ปนสฺส ปทภาชนํ น วุตฺตํ. ยถา จ เอตสฺส, เอวํ ‘‘จีวรํ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุ’’นฺติอาทีนมฺปิ ปทานํ อุตฺตานตฺถตฺตาเยว ปทภาชนํ น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ ¶ . อาภตนฺติ อานีตํ. กาเลนกปฺปิยนฺติ ¶ ยุตฺตปตฺตกาเลน, ยทา โน อตฺโถ โหติ, ตทา กปฺปิยํ จีวรํ คณฺหามาติ อตฺโถ.
เวยฺยาวจฺจกโรติ กิจฺจกโร, กปฺปิยการโกติ อตฺโถ. สฺตฺโต โส มยาติ อาณตฺโต โส มยา, ยถา ตุมฺหากํ จีวเรน อตฺเถ สติ จีวรํ ทสฺสติ, เอวํ วุตฺโตติ อตฺโถ. อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนาติ โจทนาลกฺขณนิทสฺสนเมตํ, อิทฺหิ วจนํ วตฺตพฺพํ, อสฺส วา อตฺโถ ¶ ยาย กายจิ ภาสาย; อิทํ โจทนาลกฺขณํ. ‘‘เทหิ เม จีวร’’นฺติอาทีนิ ปน นวตฺตพฺพาการทสฺสนตฺถํ วุตฺตานิ, เอตานิ หิ วจนานิ เอเตสํ วา อตฺโถ ยาย กายจิ ภาสาย น วตฺตพฺโพ.
ทุติยมฺปิ วตฺตพฺโพ ตติยมฺปิ วตฺตพฺโพติ ‘‘อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรนา’’ติ อิทเมว ยาวตติยํ วตฺตพฺโพติ. เอวํ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจเทตพฺโพ สาเรตพฺโพ’’ติ เอตฺถ อุทฺทิฏฺโจทนาปริจฺเฉทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน สารยมาโน ตํ จีวรํ อภินิปฺผาเทยฺย, อิจฺเจตํ กุสล’’นฺติ อิเมสํ ปทานํ สงฺเขปโต อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ อภินิปฺผาเทติ, อิจฺเจตํ กุสล’’นฺติ อาห. เอวํ ยาวตติยํ โจเทนฺโต ตํ จีวรํ ยทิ นิปฺผาเทติ, สกฺโกติ อตฺตโน ปฏิลาภวเสน นิปฺผาเทตุํ, อิจฺเจตํ กุสลํ สาธุ สุฏฺุ สุนฺทรํ.
จตุกฺขตฺตุํ ปฺจกฺขตฺตุํ ฉกฺขตฺตุปรมํ ตุณฺหีภูเตน อุทฺทิสฺส าตพฺพนฺติ านลกฺขณนิทสฺสนเมตํ. ฉกฺขตฺตุปรมนฺติ จ ภาวนปุํสกวจนเมตํ, ฉกฺขตฺตุปรมฺหิ เอเตน จีวรํ อุทฺทิสฺส ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ, น อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ, อิทํ านลกฺขณํ. ตตฺถ โย สพฺพฏฺานานํ สาธารโณ ตุณฺหีภาโว, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ ปทภาชเน ‘‘ตตฺถ คนฺตฺวา ตุณฺหีภูเตนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น อาสเน นิสีทิตพฺพนฺติ ‘‘อิธ, ภนฺเต, นิสีทถา’’ติ วุตฺเตนาปิ น นิสีทิตพฺพํ. น อามิสํ ปฏิคฺคเหตพฺพนฺติ ยาคุขชฺชกาทิเภทํ กิฺจิ อามิสํ ‘‘คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ ยาจิยมาเนนาปิ น คณฺหิตพฺพํ. น ธมฺโม ภาสิตพฺโพติ มงฺคลํ วา อนุโมทนํ วา ภาสถาติ ยาจิยมาเนนาปิ กิฺจิ น ภาสิตพฺพํ, เกวลํ ‘‘กึ การณา อาคโตสี’’ติ ปุจฺฉิยมาเนน ‘‘ชานาสิ, อาวุโส’’ติ วตฺตพฺโพ. ปุจฺฉิยมาโนติ อิทฺหิ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ. อถ วา ปุจฺฉํ กุรุมาโน ปุจฺฉิยมาโนติ เอวมฺเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โย หิ ปุจฺฉํ กโรติ, โส เอตฺตกํ วตฺตพฺโพติ านํ ภฺชตีติ อาคตการณํ ภฺชติ.
อิทานิ ¶ ¶ ยา ติสฺโส โจทนา, ฉ จ านานิ วุตฺตานิ. ตตฺถ วุฑฺฒิฺจ หานิฺจ ทสฺเสนฺโต ¶ ‘‘จตุกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา’’ติอาทิมาห. ยสฺมา จ เอตฺถ เอกโจทนาวุฑฺฒิยา ทฺวินฺนํ านานํ หานิ วุตฺตา, ตสฺมา ‘‘เอกา โจทนา ทิคุณํ าน’’นฺติ ลกฺขณํ ทสฺสิตํ โหติ. อิติ อิมินา ลกฺขเณน ติกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา ฉกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, ทฺวิกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา อฏฺกฺขตฺตุํ าตพฺพํ, สกึ โจเทตฺวา ทสกฺขตฺตุํ าตพฺพนฺติ. ยถา จ ‘‘ฉกฺขตฺตุํ โจเทตฺวา น าตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ตฺวา น โจเทตพฺพ’’นฺติปิ วุตฺตเมว โหติ. ตสฺมา สเจ โจเทติเยว น ติฏฺติ, ฉ โจทนา ลพฺภนฺติ. สเจ ติฏฺติเยว น โจเทติ, ทฺวาทส านานิ ลพฺภนฺติ. สเจ โจเทติปิ ติฏฺติปิ, เอกาย โจทนาย ทฺเว านานิ หาเปตพฺพานิ. ตตฺถ โย เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ฉกฺขตฺตุํ โจเทติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ‘‘อตฺโถ เม, อาวุโส, จีวเรนา’’ติ ฉกฺขตฺตุํ วทติ. ตถา เอกทิวสเมว ปุนปฺปุนํ คนฺตฺวา ทฺวาทสกฺขตฺตุํ ติฏฺติ, สกึเยว วา คนฺตฺวา ตตฺร ตตฺร าเน ติฏฺติ, โสปิ สพฺพโจทนาโย สพฺพฏฺานานิ จ ภฺชติ. โก ปน วาโท นานาทิวเสสุ เอวํ กโรนฺตสฺสาติ เอวเมตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ยตสฺส จีวรเจตาปนฺนํ อาภตนฺติ ยโต ราชโต วา ราชโภคฺคโต วา อสฺส ภิกฺขุโน จีวรเจตาปนฺนํ อานีตํ. ยตฺวสฺสาติปิ ปาโ. อยเมวตฺโถ. ‘‘ยตฺถสฺสา’’ติปิ ปนฺติ, ยสฺมึ าเน อสฺส จีวรเจตาปนฺนํ เปสิตนฺติ จ อตฺถํ กเถนฺติ, พฺยฺชนํ ปน น สเมติ. ตตฺถาติ ตสฺส รฺโ วา ราชโภคฺคสฺส วา สนฺติเก; สมีปตฺเถ หิ อิทํ ภุมฺมวจนํ. น ตํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อตฺถํ อนุโภตีติ ตํ จีวรเจตาปนฺนํ ตสฺส ภิกฺขุโน กิฺจิ อปฺปมตฺตกมฺปิ กมฺมํ น นิปฺผาเทติ. ยฺุชนฺตายสฺมนฺโต สกนฺติ อายสฺมนฺโต อตฺตโน สนฺตกํ ธนํ ปาปุณนฺตุ. มา โว สกํ วินสฺสาติ ตุมฺหากํ สนฺตกํ มา วินสฺสตุ. โย ปน เนว สามํ คจฺฉติ, น ทูตํ ปาเหติ, วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ.
กึ ¶ ปน สพฺพกปฺปิยการเกสุ เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ? น ปฏิปชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กปฺปิยการโก นาม สงฺเขปโต ทุวิโธ นิทฺทิฏฺโ จ อนิทฺทิฏฺโ จ. ตตฺถ นิทฺทิฏฺโ ทุวิโธ – ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺโ, ทูเตน นิทฺทิฏฺโติ. อนิทฺทิฏฺโปิ ทุวิโธ – มุขเววฏิก กปฺปิยการโก, ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ. เตสุ ภิกฺขุนา ¶ นิทฺทิฏฺโ สมฺมุขาสมฺมุขวเสน จตุพฺพิโธ โหติ. ตถา ทูเตน นิทฺทิฏฺโปิ.
กถํ? อิเธกจฺโจ ภิกฺขุสฺส จีวรตฺถาย ทูเตน อกปฺปิยวตฺถุํ ปหิณติ, ทูโต ตํ ภิกฺขุํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิทํ, ภนฺเต, อิตฺถนฺนาเมน ตุมฺหากํ จีวรตฺถาย ปหิตํ, คณฺหถ น’’นฺติ วทติ, ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, ทูโต ‘‘อตฺถิ ปน เต, ภนฺเต, เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ ¶ ปุจฺฉติ, ปฺุตฺถิเกหิ จ อุปาสเกหิ ‘‘ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจํ กโรถา’’ติ อาณตฺตา วา, ภิกฺขูนํ วา สนฺทิฏฺา สมฺภตฺตา เกจิ เวยฺยาวจฺจกรา โหนฺติ, เตสํ อฺตโร ตสฺมึ ขเณ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, ภิกฺขุ ตํ นิทฺทิสติ ‘‘อยํ ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ. ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ คจฺฉติ, อยํ ภิกฺขุนา สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.
โน เจ ภิกฺขุสฺส สนฺติเก นิสินฺโน โหติ, อปิจ โข ภิกฺขุ นิทฺทิสติ – ‘‘อสุกสฺมึ นาม คาเม อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขูนํ เวยฺยาวจฺจกโร’’ติ, โส คนฺตฺวา ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ กิณิตฺวา ทเทยฺยาสี’’ติ อาคนฺตฺวา ภิกฺขุสฺส อาโรเจตฺวา คจฺฉติ, อยเมโก ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.
น เหว โข โส ทูโต อตฺตนา อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อปิจ โข อฺํ ปหิณติ ‘‘ทินฺนํ มยา, ภนฺเต, ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ, จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ทุติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.
น เหว โข อฺํ ปหิณติ, อปิจ โข คจฺฉนฺโตว ภิกฺขุํ วทติ ‘‘อหํ ตสฺส หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ, อยํ ตติโย ภิกฺขุนา อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ภิกฺขุนา นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา ¶ นาม. เอเตสุ อิมสฺมึ ราชสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตพฺพํ.
อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต นตฺถิตาย วา, อวิจาเรตุกามตาย วา ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตสฺมิฺจ ขเณ โกจิ มนุสฺโส อาคจฺฉติ, ทูโต ตสฺส หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘อิมสฺส หตฺถโต จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา คจฺฉติ, อยํ ทูเตน สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ.
อปโร ¶ ทูโต คามํ ปวิสิตฺวา อตฺตนา อภิรุจิตสฺส กสฺสจิ หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ปุริมนเยเนว อาคนฺตฺวา อาโรเจติ, อฺํ วา ปหิณติ, ‘‘อหํ อสุกสฺส นาม หตฺเถ จีวรเจตาปนฺนํ ทสฺสามิ, ตุมฺเห จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ วตฺวา วา คจฺฉติ, อยํ ตติโย ทูเตน อสมฺมุขานิทฺทิฏฺโติ เอวํ เอโก สมฺมุขานิทฺทิฏฺโ, ตโย อสมฺมุขานิทฺทิฏฺาติ อิเม จตฺตาโร ทูเตน นิทฺทิฏฺเวยฺยาวจฺจกรา ¶ นาม. เอเตสุ เมณฺฑกสิกฺขาปเท วุตฺตนเยน ปฏิปชฺชิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, มนุสฺสา สทฺธา ปสนฺนา, เต กปฺปิยการกานํ หตฺเถ หิรฺํ อุปนิกฺขิปนฺติ – ‘อิมินา อยฺยสฺส ยํ กปฺปิยํ ตํ เทถา’ติ. อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ตโต กปฺปิยํ ตํ สาทิตุํ, น ตฺเววาหํ, ภิกฺขเว, เกนจิ ปริยาเยน ชาตรูปรชตํ สาทิตพฺพํ ปริเยสิตพฺพนฺติ วทามี’’ติ (มหาว. ๒๙๙). เอตฺถ จ โจทนาย ปมาณํ นตฺถิ, มูลํ อสาทิยนฺเตน สหสฺสกฺขตฺตุมฺปิ โจทนาย วา าเนน วา กปฺปิยภณฺฑํ สาทิตุํ วฏฺฏติ. โน เจ เทติ, อฺํ กปฺปิยการกํ เปตฺวาปิ อาหราเปตพฺพํ. สเจ อิจฺฉติ มูลสามิกานมฺปิ กเถตพฺพํ; โน เจ อิจฺฉติ น กเถตพฺพํ.
อปโร ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ทูเตน ปุจฺฉิโต ‘‘นตฺถมฺหากํ กปฺปิยการโก’’ติ วทติ, ตทฺโ สมีเป ิโต สุตฺวา ‘‘อาหร โภ อหํ อยฺยสฺส จีวรํ เจตาเปตฺวา ทสฺสามี’’ติ วทติ. ทูโต ‘‘หนฺท โภ ทเทยฺยาสี’’ติ ตสฺส หตฺเถ ทตฺวา ภิกฺขุสฺส อนาโรเจตฺวาว คจฺฉติ, อยํ มุขเววฏิกกปฺปิยการโก. อปโร ภิกฺขุโน อุปฏฺากสฺส วา อฺสฺส วา หตฺเถ อกปฺปิยวตฺถุํ ทตฺวา ‘‘เถรสฺส จีวรํ ทเทยฺยาสี’’ติ ¶ เอตฺโตว ปกฺกมติ, อยํ ปรมฺมุขกปฺปิยการโกติ อิเม ทฺเว อนิทฺทิฏฺกปฺปิยการกา นาม. เอเตสุ อฺาตกอปฺปวาริเตสุ วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจ สยเมว จีวรํ อาเนตฺวา ททนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ, กิฺจิ น วตฺตพฺพา. เทสนามตฺตเมว เจตํ ‘‘ทูเตน จีวรเจตาปนฺนํ ปหิเณยฺยา’’ติ สยํ อาหริตฺวาปิ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย ททนฺเตสุปิ เอเสว นโย. น เกวลฺจ อตฺตโนเยว อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ, สเจปิ โกจิ ชาตรูปรชตํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, อารามํ วา กโรถ เจติยํ วา โภชนสาลาทีนํ วา อฺตร’’นฺติ วทติ, อิทมฺปิ สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. ยสฺส กสฺสจิ หิ อฺสฺสตฺถาย สมฺปฏิจฺฉนฺตสฺส ทุกฺกฏํ โหตีติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ.
สเจ ¶ ปน ‘‘นยิทํ ภิกฺขูนํ สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘วฑฺฒกีนํ วา กมฺมกรานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห สุกตทุกฺกฏํ ชานาถา’’ติ วตฺวา เตสํ หตฺเถ ทตฺวา ปกฺกมติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘มม มนุสฺสานํ หตฺเถ ภวิสฺสติ มยฺหเมว วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ยํ ยสฺส ทาตพฺพํ, ตทตฺถาย เปเสยฺยาถา’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.
สเจ ปน สงฺฆํ วา คณํ วา ปุคฺคลํ วา อนามสิตฺวา ‘‘อิทํ หิรฺสุวณฺณํ เจติยสฺส เทม, วิหารสฺส เทม, นวกมฺมสฺส เทมา’’ติ วทนฺติ, ปฏิกฺขิปิตุํ น วฏฺฏติ. ‘‘อิเม อิทํ ภณนฺตี’’ติ ¶ กปฺปิยการกานํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ‘‘เจติยาทีนํ อตฺถาย ตุมฺเห คเหตฺวา เปถา’’ติ วุตฺเตน ปน ‘‘อมฺหากํ คเหตุํ น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพํ.
สเจ ปน โกจิ พหุํ หิรฺสุวณฺณํ อาเนตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส ทมฺมิ, จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติ. ตตฺร เจ เอโก ภิกฺขุ ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก จ ‘‘ยทิ น กปฺปติ, มยฺหเมว ภวิสฺสตี’’ติ คจฺฉติ. โส ภิกฺขุ ‘‘ตยา สงฺฆสฺส ลาภนฺตราโย กโต’’ติ น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา. สเจ ¶ ปน ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺเต ‘‘กปฺปิยการกานํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, มม ปุริสานํ วา มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, เกวลํ ตุมฺเห ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ.
จตุปจฺจยตฺถาย จ ทินฺนํ เยน เยน ปจฺจเยน อตฺโถ โหติ, ตทตฺถํ อุปเนตพฺพํ, จีวรตฺถาย ทินฺนํ จีวเรเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ จีวเรน ตาทิโส อตฺโถ นตฺถิ, ปิณฺฑปาตาทีหิ สงฺโฆ กิลมติ, สงฺฆสุฏฺุตาย อปโลเกตฺวา ตทตฺถายปิ อุปเนตพฺพํ. เอส นโย ปิณฺฑปาตคิลานปจฺจยตฺถาย ทินฺเนปิ, เสนาสนตฺถาย ทินฺนํ ปน เสนาสนสฺส ครุภณฺฑตฺตา เสนาสเนเยว อุปเนตพฺพํ. สเจ ปน ภิกฺขูสุ เสนาสนํ ฉฑฺเฑตฺวา คเตสุ เสนาสนํ วินสฺสติ, อีทิเส กาเล เสนาสนํ วิสฺสชฺเชตฺวาปิ ภิกฺขูนํ ปริโภโค อนฺุาโต, ตสฺมา เสนาสนชคฺคนตฺถํ มูลจฺเฉชฺชํ อกตฺวา ยาปนมตฺตํ ปริภฺุชิตพฺพํ.
น ¶ เกวลฺจ หิรฺสุวณฺณเมว, อฺมฺปิ เขตฺตวตฺถาทิ อกปฺปิยํ น สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. สเจ หิ โกจิ ‘‘มยฺหํ ติสสฺสสมฺปาทนกํ มหาตฬากํ อตฺถิ, ตํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วทติ, ตํ เจ สงฺโฆ สมฺปฏิจฺฉติ, ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ อาปตฺติเยว. โย ปน ตํ ปฏิกฺขิปติ, โส ปุริมนเยเนว น เกนจิ กิฺจิ วตฺตพฺโพ. โย หิ ตํ โจเทติ, สฺเวว สาปตฺติโก โหติ, เตน ปน เอเกน พหู อนาปตฺติกา กตา.
โย ปน ‘‘ตาทิสํเยว ตฬากํ ทมฺมี’’ติ วตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘อสุกฺจ อสุกฺจ สงฺฆสฺส ตฬากํ อตฺถิ, ตํ กถํ วฏฺฏตี’’ติ. โส วตฺตพฺโพ – ‘‘กปฺปิยํ กตฺวา ทินฺนํ ภวิสฺสตี’’ติ. กถํ ทินฺนํ กปฺปิยํ โหตีติ? ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ วตฺวา ทินฺนนฺติ. โส สเจ ‘‘สาธุ, ภนฺเต, จตฺตาโร ปจฺจเย สงฺโฆ ปริภฺุชตู’’ติ ¶ เทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘ตฬากํ คณฺหถา’’ติ วตฺวา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘กปฺปิยการโก อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘นตฺถี’’ติ ¶ วุตฺเต ‘‘อิทํ อสุโก นาม วิจาเรสฺสติ, อสุกสฺส วา หตฺเถ, มยฺหํ วา หตฺเถ ภวิสฺสติ, สงฺโฆ กปฺปิยภณฺฑํ ปริภฺุชตู’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. สเจปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต ‘‘อุทกํ ปริภฺุชิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วทติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. อถาปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต วทติ ‘‘กปฺปิยสีเสน คณฺหถา’’ติ. ‘‘สาธุ, อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสติ, ภณฺฑกํ โธวิสฺสติ, มิคปกฺขิโน ปิวิสฺสนฺตี’’ติ วตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
อถาปิ ‘‘มม ตฬากํ วา โปกฺขรณึ วา สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ ‘‘วุตฺเต, สาธุ, อุปาสก, สงฺโฆ ปานียํ ปิวิสฺสตี’’ติอาทีนิ วตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติเยว. ยทิ ปน ภิกฺขูหิ หตฺถกมฺมํ ยาจิตฺวา สหตฺเถน จ กปฺปิยปถวึ ขนิตฺวา อุทกปริโภคตฺถาย ตฬากํ การิตํ โหติ, ตํ เจ นิสฺสาย สสฺสํ นิปฺผาเทตฺวา มนุสฺสา วิหาเร กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, วฏฺฏติ. อถ มนุสฺสา เอว สงฺฆสฺส อุปการตฺถาย สงฺฆิกภูมึ ขนิตฺวา ตํ นิสฺสาย นิปฺผนฺนสสฺสโต กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ. ‘‘อมฺหากํ เอกํ กปฺปิยการกํ เปถา’’ติ วุตฺเต จ เปตุมฺปิ ลพฺภติ. อถ ปน เต มนุสฺสา ราชพลินา อุปทฺทุตา ปกฺกมนฺติ, อฺเ ปฏิปชฺชนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, อุทกํ วาเรตุํ ลพฺภติ. ตฺจ โข กสิกมฺมกาเลเยว, น สสฺสกาเล. สเจ เต วทนฺติ ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิมํ นิสฺสาย สสฺสํ อกํสู’’ติ ¶ . ตโต วตฺตพฺพา – ‘‘เต สงฺฆสฺส อิมฺจ อิมฺจ อุปการํ อกํสุ, อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.
สเจ ปน โกจิ อพฺยตฺโต อกปฺปิยโวหาเรน ตฬากํ ปฏิคฺคณฺหาติ วา กาเรติ วา, ตํ ภิกฺขูหิ น ปริภฺุชิตพฺพํ, ตํ นิสฺสาย ลทฺธํ กปฺปิยภณฺฑมฺปิ อกปฺปิยเมว. สเจ ภิกฺขูหิ ปริจฺจตฺตภาวํ ตฺวา สามิโก วา ตสฺส ปุตฺตธีตโร วา อฺโ วา โกจิ วํเส อุปฺปนฺโน ปุน กปฺปิยโวหาเรน เทติ, วฏฺฏติ. ปจฺฉินฺเน กุลวํเส โย ตสฺส ชนปทสฺส สามิโก, โส อจฺฉินฺทิตฺวา ¶ ปุน เทติ, จิตฺตลปพฺพเต ภิกฺขุนา นีหฏอุทกวาหกํ อฬนาคราชมเหสี วิย, เอวมฺปิ วฏฺฏติ.
กปฺปิยโวหาเรปิ อุทกวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก สุทฺธจิตฺตานํ มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ ¶ จ กาตุํ วฏฺฏติ. ตํ นิสฺสาย ปน สสฺสํ กโรนฺเต ทิสฺวา กปฺปิยการกํ เปตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ เต สยเมว กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น โจเทตพฺพํ, น สาเรตพฺพํ. ปจฺจยวเสน ปฏิคฺคหิตตฬาเก กปฺปิยการกํ เปตุํ วฏฺฏติ. มตฺติกุทฺธรณปาฬิพนฺธนาทีนิ ปน กาตุํ น วฏฺฏติ. สเจ กปฺปิยการกา สยเมว กโรนฺติ, วฏฺฏติ. อพฺยตฺเตน ปน ลชฺชิภิกฺขุนา การาปิเตสุ กิฺจาปิ ปฏิคฺคหเณ กปฺปิยํ, ภิกฺขุสฺส ปโยคปจฺจยา อุปฺปนฺเนน มิสฺสกตฺตา วิสคตปิณฺฑปาโต วิย อกปฺปิยมํสรสมิสฺสกโภชนํ วิย จ ทุพฺพินิพฺโภคํ โหติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยเมว.
สเจ ปน ‘‘อุทกสฺส โอกาโส อตฺถิ, ตฬากสฺส ปาฬิ ถิรา, ยถา พหุํ อุทกํ คณฺหาติ, เอวํ กโรหิ, ตีรสมีเป อุทกํ กโรหี’’ติ เอวํ อุทกเมว วิจาเรติ, วฏฺฏติ. อุทฺธเน อคฺคึ น ปาเตนฺติ, ‘‘อุทกกมฺมํ ลพฺภตุ อุปาสกา’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ‘‘สสฺสํ กตฺวา อาหรถา’’ติ วตฺตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ ปน ตฬาเก อติพหุํ อุทกํ ทิสฺวา ปสฺสโต วา ปิฏฺิโต วา มาติกํ นีหราเปติ, วนํ ฉินฺทาเปตฺวา เกทาเร การาเปติ, โปราณเกทาเรสุ วา ปกติภาคํ อคฺคเหตฺวา อติเรกํ คณฺหาติ, นวสสฺเส วา อกาลสสฺเส วา อปริจฺฉินฺนภาเค ‘‘เอตฺตเก กหาปเณ เทถา’’ติ กหาปเณ อุฏฺาเปติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ.
โย ¶ ปน ‘‘กสฺสถ วปถา’’ติ อวตฺวา ‘‘เอตฺตกาย ภูมิยา, เอตฺตโก นาม ภาโค’’ติ เอวํ ภูมึ วา ปติฏฺเปติ, ‘‘เอตฺตเก ภูมิภาเค อมฺเหหิ สสฺสํ กตํ, เอตฺตกํ นาม ภาคํ คณฺหถา’’ติ วทนฺเตสุ กสฺสเกสุ ภูมิปฺปมาณคฺคหณตฺถํ ¶ รชฺชุยา วา ทณฺเฑน วา มินาติ, ขเล วา ตฺวา รกฺขติ, ขลโต วา นีหราเปติ, โกฏฺาคาเร วา ปฏิสาเมติ, ตสฺเสว ตํ อกปฺปิยํ.
สเจ กสฺสกา กหาปเณ อาหริตฺวา ‘‘อิเม สงฺฆสฺส อาหฏา’’ติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ‘‘น สงฺโฆ กหาปเณ ขาทตี’’ติ สฺาย ‘‘เอตฺตเกหิ กหาปเณหิ สาฏเก อาหร, เอตฺตเกหิ ยาคุอาทีนิ สมฺปาเทหี’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ อกปฺปิยํ. กสฺมา? กหาปณานํ วิจาริตตฺตา.
สเจ ธฺํ อาหริตฺวา อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏนฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ วีหีหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, ตสฺเสว อกปฺปิยํ. กสฺมา? ธฺสฺส วิจาริตตฺตา.
สเจ ¶ ตณฺฑุลํ วา อปรณฺณํ วา อาหริตฺวา ‘‘อิทํ สงฺฆสฺส อาหฏ’’นฺติ วทนฺติ, อฺตโร จ ภิกฺขุ ปุริมนเยเนว ‘‘เอตฺตเกหิ ตณฺฑุเลหิ อิทฺจิทฺจ อาหรถา’’ติ วทติ. ยํ เต อาหรนฺติ, สพฺเพสํ กปฺปิยํ. กสฺมา? กปฺปิยานํ ตณฺฑุลาทีนํ วิจาริตตฺตา. กยวิกฺกเยปิ อนาปตฺติ, กปฺปิยการกสฺส อาจิกฺขิตตฺตา.
ปุพฺเพ ปน จิตฺตลปพฺพเต เอโก ภิกฺขุ จตุสาลทฺวาเร ‘‘อโห วต สฺเว สงฺฆสฺส เอตฺตกปฺปมาเณ ปูเว ปเจยฺยุ’’นฺติ อารามิกานํ สฺาชนนตฺถํ ภูมิยํ มณฺฑลํ อกาสิ, ตํ ทิสฺวา เฉโก อารามิโก ตเถว กตฺวา ทุติยทิวเส เภริยา อาโกฏิตาย สนฺนิปติเต สงฺเฆ ปูวํ คเหตฺวา สงฺฆตฺเถรํ อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺเหหิ อิโต ปุพฺเพ เนว ปิตูนํ น ปิตามหานํ เอวรูปํ สุตปุพฺพํ, เอเกน อยฺเยน จตุสฺสาลทฺวาเร ปูวตฺถาย สฺา กตา, อิโต ทานิ ปภุติ อยฺยา อตฺตโน อตฺตโน จิตฺตานุรูปํ วทนฺตุ, อมฺหากมฺปิ ผาสุวิหาโร ภวิสฺสตี’’ติ. มหาเถโร ตโตว นิวตฺติ, เอกภิกฺขุนาปิ ปูโว น คหิโต. เอวํ ปุพฺเพ ตตฺรุปฺปาทมฺปิ น ปริภฺุชึสุ. ตสฺมา –
สลฺเลขํ ¶ อจฺจชนฺเตน, อปฺปมตฺเตน ภิกฺขุนา;
กปฺปิเยปิ น กาตพฺพา, อามิสตฺถาย โลลตาติ.
โย ¶ จายํ ตฬาเก วุตฺโต, โปกฺขรณี-อุทกวาหกมาติกาทีสุปิ เอเสว นโย.
ปุพฺพณฺณาปรณฺณอุจฺฉุผลาผลาทีนํ วิรุหนฏฺานํ ยํ กิฺจิ เขตฺตํ วา วตฺถุํ วา ทมฺมีติ วุตฺเตปิ ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ตฬาเก วุตฺตนเยเนว ยทา กปฺปิยโวหาเรน ‘‘จตุปจฺจยปริโภคตฺถาย ทมฺมี’’ติ วทติ, ตทา สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ‘‘วนํ ทมฺมิ, อรฺํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต ปน วฏฺฏติ. สเจ มนุสฺสา ภิกฺขูหิ อนาณตฺตาเยว ตตฺถ รุกฺเข ฉินฺทิตฺวา อปรณฺณาทีนิ สมฺปาเทตฺวา ภิกฺขูนํ ภาคํ เทนฺติ, วฏฺฏติ; อเทนฺตา น โจเทตพฺพา. สเจ เกนจิเทว อนฺตราเยน เตสุ ปกฺกนฺเตสุ อฺเ กโรนฺติ, น จ ภิกฺขูนํ กิฺจิ เทนฺติ, เต วาเรตพฺพา. สเจ วทนฺติ – ‘‘นนุ, ภนฺเต, ปุพฺเพปิ มนุสฺสา อิธ สสฺสานิ อกํสู’’ติ, ตโต เต วตฺตพฺพา – ‘‘เต สงฺฆสฺส อิทฺจิทฺจ กปฺปิยภณฺฑํ อทํสู’’ติ. สเจ วทนฺติ – ‘‘มยมฺปิ ทสฺสามา’’ติ เอวํ วฏฺฏติ.
กฺจิ ¶ สสฺสุฏฺานกํ ภูมิปฺปเทสํ สนฺธาย ‘‘สีมํ เทมา’’ติ วทนฺติ, วฏฺฏติ. สีมา ปริจฺเฉทนตฺถํ ปน ถมฺภา วา ปาสาณา วา สยํ น เปตพฺพา. กสฺมา? ภูมิ นาม อนคฺฆา อปฺปเกนาปิ ปาราชิโก ภเวยฺย, อารามิกานํ ปน วตฺตพฺพํ – ‘‘อิมินา าเนน อมฺหากํ สีมา คตา’’ติ. สเจปิ หิ เต อธิกํ คณฺหนฺติ, ปริยาเยน กถิตตฺตา อนาปตฺติ. ยทิ ปน ราชราชมหามตฺตาทโย สยเมว ถมฺเภ ปาเปตฺวา ‘‘จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภฺุชถา’’ติ เทนฺติ, วฏฺฏติเยว.
สเจ โกจิ อนฺโตสีมาย ตฬากํ ขนติ, วิหารมชฺเฌน วา มาติกํ เนติ, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณาทีนิ ทุสฺสนฺติ, วาเรตพฺโพ. สเจ สงฺโฆ กิฺจิ ลภิตฺวา อามิสครุกตาย น วาเรติ, เอโก ภิกฺขุ วาเรติ, โสว ภิกฺขุ อิสฺสโร. สเจ เอโก ภิกฺขุ น วาเรติ, ‘‘เนถ ตุมฺเห’’ติ เตสํเยว ปกฺโข โหติ, สงฺโฆ วาเรติ, สงฺโฆว อิสฺสโร. สงฺฆิเกสุ หิ กมฺเมสุ โย ธมฺมกมฺมํ กโรติ, โสว อิสฺสโร. สเจ วาริยมาโนปิ กโรติ, เหฏฺา คหิตํ ปํสุํ เหฏฺา ปกฺขิปิตฺวา, อุปริ คหิตํ ปํสุํ อุปริ ปกฺขิปิตฺวา ปูเรตพฺพา.
สเจ ¶ โกจิ ยถาชาตเมว อุจฺฉุํ วา อปรณฺณํ วา อลาพุกุมฺภณฺฑาทิกํ ¶ วา วลฺลิผลํ ทาตุกาโม ‘‘เอตํ สพฺพํ อุจฺฉุเขตฺตํ อปรณฺณวตฺถุํ วลฺลิผลาวาฏํ ทมฺมี’’ติ วทติ, สห วตฺถุนา ปรามฏฺตฺตา ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อภิลาปมตฺตเมตํ สามิกานํเยว หิ โส ภูมิภาโค ตสฺมา วฏฺฏตี’’ติ อาห.
‘‘ทาสํ ทมฺมี’’ติ วทติ, น วฏฺฏติ. ‘‘อารามิกํ ทมฺมิ, เวยฺยาวจฺจกรํ ทมฺมิ, กปฺปิยการกํ ทมฺมี’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. สเจ โส อารามิโก ปุเรภตฺตมฺปิ ปจฺฉาภตฺตมฺปิ สงฺฆสฺเสว กมฺมํ กโรติ, สามเณรสฺส วิย สพฺพํ เภสชฺชปฏิชคฺคนมฺปิ ตสฺส กาตพฺพํ. สเจ ปุเรภตฺตเมว สงฺฆสฺส กมฺมํ กโรติ, ปจฺฉาภตฺตํ อตฺตโน กมฺมํ กโรติ, สายํ นิวาโป น ทาตพฺโพ. เยปิ ปฺจทิวสวาเรน วา ปกฺขวาเรน วา สงฺฆสฺส กมฺมํ กตฺวา เสสกาเล อตฺตโน กมฺมํ กโรนฺติ, เตสมฺปิ กรณกาเลเยว ภตฺตฺจ นิวาโป จ ทาตพฺโพ. สเจ สงฺฆสฺส กมฺมํ นตฺถิ, อตฺตโนเยว กมฺมํ กตฺวา ชีวนฺติ, เต เจ หตฺถกมฺมมูลํ อาเนตฺวา เทนฺติ, คเหตพฺพํ. โน เจ เทนฺติ, น กิฺจิ วตฺตพฺพา. ยํ กิฺจิ รชกทาสมฺปิ เปสการทาสมฺปิ อารามิกนาเมน สมฺปฏิจฺฉิตุํ วฏฺฏติ.
สเจ ‘‘คาโว เทมา’’ติ วทนฺติ, ‘‘น วฏฺฏตี’’ติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อิมา คาโว กุโตติ ¶ ปณฺฑิเตหิ ปฺจ โครสปริโภคตฺถาย ทินฺนาติ, ‘‘มยมฺปิ ปฺจโครสปริโภคตฺถาย เทมา’’ติ วุตฺเต วฏฺฏติ. อชิกาทีสุปิ เอเสว นโย. ‘‘หตฺถึ เทม, อสฺสํ มหิสํ กุกฺกุฏํ สูกรํ เทมา’’ติ วทนฺติ, สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. สเจ เกจิ มนุสฺสา ‘‘อปฺโปสฺสุกฺกา, ภนฺเต, ตุมฺเห โหถ, มยํ อิเม คเหตฺวา ตุมฺหากํ กปฺปิยภณฺฑํ ทสฺสามา’’ติ คณฺหนฺติ, วฏฺฏติ. ‘‘กุกฺกุฏสูกรา สุขํ ชีวนฺตู’’ติ อรฺเ วิสฺสชฺเชตุํ วฏฺฏติ. ‘‘อิมํ ตฬากํ, อิมํ เขตฺตํ, อิมํ วตฺถุํ, วิหารสฺส เทมา’’ติ วุตฺเต ปฏิกฺขิปิตุํ น ลพฺภตีติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ อิทมฺปิ ฉสมุฏฺานํ กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ ¶ , ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
ราชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต จีวรวคฺโค ปโม.
๒. โกสิยวคฺโค
๑. โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๒. เตน ¶ สมเยนาติ โกสิยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สนฺถริตฺวา กตํ โหตีติ สเม ภูมิภาเค โกสิยํสูนิ อุปรูปริ สนฺถริตฺวา กฺชิกาทีหิ สิฺจิตฺวา กตํ โหติ. เอเกนปิ โกสิยํสุนา มิสฺสิตฺวาติ ติฏฺตุ อตฺตโน รุจิวเสน มิสฺสิตํ, สเจปิ ตสฺส กรณฏฺาเน วาโต เอกํ โกสิยํสุํ อาเนตฺวา ปาเตติ, เอวมฺปิ มิสฺเสตฺวา กตเมว โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,
ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
โกสิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๔๗. เตน สมเยนาติ สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สุทฺธกาฬกานนฺติ สุทฺธานํ กาฬกานํ ¶ , อฺเหิ อมิสฺสิตกาฬกานนฺติ อตฺโถ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว. สมุฏฺานาทีนิปิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
สุทฺธกาฬกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๒. เตน สมเยนาติ ทฺเวภาคสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อนฺเต อาทิยิตฺวาติ สนฺถตสฺส อนฺเต อนุวาตํ วิย ทสฺเสตฺวา โอทาตํ อลฺลิยาเปตฺวา.
ทฺเว ภาคาติ ทฺเว โกฏฺาสา. อาทาตพฺพาติ คเหตพฺพา. โคจริยานนฺติ กปิลวณฺณานํ. ทฺเว ตุลา อาทาตพฺพาติ จตูหิ ตุลาหิ กาเรตุกามํ สนฺธาย วุตฺตํ. อตฺถโต ปน ยตฺตเกหิ เอฬกโลเมหิ กาตุกาโม โหติ, เตสุ ทฺเว โกฏฺาสา กาฬกานํ เอโก โอทาตานํ, เอโก โคจริยานนฺติ อิทเมว ทสฺสิตํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีนิปิ ¶ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนว. เกวลํ อิทํ อาทาย อนาทาย จ กรณโต กิริยากิริยํ เวทิตพฺพนฺติ.
ทฺเวภาคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๕๗. เตน ¶ สมเยนาติ ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อูหทนฺติปิ อุมฺมิหนฺติปีติ สนฺถตานํ อุปริ วจฺจมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ กโรนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
ทินฺนา สงฺเฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สนฺถตสมฺมุตีติ เอวํ ลทฺธสมฺมุติโก ภิกฺขุ ยาว โรโค น วูปสมฺมติ, ตาว ยํ ยํ านํ คจฺฉติ, ตตฺถ ตตฺถ สนฺถตํ กาตุํ ลภติ. สเจ อโรโค หุตฺวา ปุน มูลพฺยาธินาว คิลาโน โหติ, โสเยว ปริหาโร, นตฺถฺํ สมฺมุติกิจฺจนฺติ ผุสฺสเทวตฺเถโร อาห. อุปติสฺสตฺเถโร ปน ‘‘โส วา พฺยาธิ ปฏิกุปฺปตุ, อฺโ วา, ‘สกึ คิลาโน’ติ นามํ ลทฺธํ ลทฺธเมว, ปุน สมฺมุติกิจฺจํ นตฺถี’’ติ อาห.
โอเรน ¶ เจ ฉนฺนํ วสฺสานนฺติ ฉนฺนํ วสฺสานํ โอริมภาเค, อนฺโตติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน สงฺขฺยามตฺตทสฺสนตฺถํ ‘‘อูนกฉพฺพสฺสานี’’ติ วุตฺตํ.
อนาปตฺติ ฉพฺพสฺสานิ กโรตีติ ยทา ฉพฺพสฺสานิ ปริปุณฺณานิ โหนฺติ, ตทา สนฺถตํ กโรติ. ทุติยปเทปิ ‘‘ยทา อติเรกฉพฺพสฺสานิ โหนฺติ, ตทา กโรตี’’ติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. น หิ โส ฉพฺพสฺสานิ กโรตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีนิ โกสิยสิกฺขาปทสทิสาเนวาติ.
ฉพฺพสฺสสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๖๕. เตน สมเยนาติ นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อิจฺฉามหํ ภิกฺขเวติ ภควา กิร ตํ เตมาสํ น กิฺจิ โพธเนยฺยสตฺตํ อทฺทส, ตสฺมา ¶ เอวมาห. เอวํ สนฺเตปิ ตนฺติวเสน ธมฺมเทสนา กตฺตพฺพา สิยา. ยสฺมา ปนสฺส เอตทโหสิ – ‘‘มยิ โอกาสํ กาเรตฺวา ปฏิสลฺลีเน ภิกฺขู อธมฺมิกํ กติกวตฺตํ กริสฺสนฺติ, ตํ อุปเสโน ภินฺทิสฺสติ. อหํ ตสฺส ปสีทิตฺวา ภิกฺขูนํ ทสฺสนํ อนุชานิสฺสามิ, ตโต มํ ปสฺสิตุกามา พหู ภิกฺขู ธุตงฺคานิ สมาทิยิสฺสนฺติ, อหฺจ เตหิ อุชฺฌิตสนฺถตปจฺจยา สิกฺขาปทํ ปฺเปสฺสามี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห. เอวํ พหูนิ หิ เอตฺถ อานิสํสานีติ.
สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ ¶ เถโร กิร ‘‘น, ภิกฺขเว, อูนทสวสฺเสน อุปสมฺปาเทตพฺโพ, โย อุปสมฺปาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (มหาว. ๗๕) อิมสฺมึ ขนฺธกสิกฺขาปเท ‘‘กถฺหิ นาม ตฺวํ โมฆปุริส อฺเหิ โอวทิโย อนุสาสิโย อฺํ โอวทิตุํ อนุสาสิตุํ มฺิสฺสสี’’ติ เอวมาทินา นเยน ครหํ ลภิตฺวา ‘‘สตฺถา มยฺหํ ปริสํ นิสฺสาย ครหํ อทาสิ, โส ทานาหํ ภควนฺตํ เตเนว ปุณฺณจนฺทสสฺสิรีเกน สพฺพาการปริปุณฺเณน มุเขน พฺรหฺมโฆสํ นิจฺฉาเรตฺวา ปริสํเยว นิสฺสาย สาธุการํ ทาเปสฺสามี’’ติ สุหทโย กุลปุตฺโต อติเรกโยชนสตํ ปฏิกฺกมิตฺวา ปริสํ จินิตฺวา ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ ปริวุโต ปุน ภควนฺตํ อุปสงฺกมนฺโต. เตน วุตฺตํ – ‘‘สปริโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมี’’ติ. น หิ สกฺกา พุทฺธานํ อฺถา อาราเธตุํ อฺตฺร วตฺตสมฺปตฺติยา.
ภควโต ¶ อวิทูเร นิสินฺโนติ วตฺตสมฺปตฺติยา ปริสุทฺธภาเวน นิราสงฺโก สีโห วิย กฺจนปพฺพตสฺส ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน. เอตทโวจาติ กถาสมุฏฺาปนตฺถํ เอตํ อโวจ. มนาปานิ เต ภิกฺขุ ปํสุกูลานีติ ภิกฺขุ ตว อิมานิ ปํสุกูลานิ มนาปานิ, อตฺตโน รุจิยา ขนฺติยา คหิตานีติ อตฺโถ. น โข เม, ภนฺเต, มนาปานีติ, ภนฺเต น มยา อตฺตโน รุจิยา คหิตานิ, คลคฺคาเหน วิย มตฺถกตาฬเนน วิย จ คาหิโตมฺหีติ ทสฺเสติ.
ปฺายิสฺสตีติ ปฺาโต อภิฺาโต ภวิสฺสติ, ตตฺถ สนฺทิสฺสิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติ. น มยํ อปฺตฺตํ ปฺเปสฺสามาติ มยํ สาวกา นาม อปฺตฺตํ น ปฺเปสฺสาม, พุทฺธวิสโย หิ เอโส ยทิทํ ¶ ‘‘ปาจิตฺติยํ ทุกฺกฏ’’นฺติอาทินา นเยน อปฺตฺตสิกฺขาปทปฺปนํ ปฺตฺตสมุจฺฉินฺทนํ วา. สมาทายาติ ตํ ตํ สิกฺขาปทํ สมาทิยิตฺวา, ‘‘สาธุ สุฏฺู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ยถาปฺตฺเตสุ สพฺพสิกฺขาปเทสุ สิกฺขิสฺสามาติ ทสฺเสติ. ตสฺส ¶ อารทฺธจิตฺโต ปุนปิ ‘‘สาธุ สาธู’’ติ สาธุการมทาสิ.
๕๖๖. อนฺุาตาวุโสติ อนฺุาตํ, อาวุโส. ปิเหนฺตาติ ปิหยนฺตา. สนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวาติ สนฺถเต จตุตฺถจีวรสฺิตาย สพฺพสนฺถตานิ อุชฺฌิตฺวา. ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสีติ ภควา สนฺถตานิ วิปฺปกิณฺณานิ ทิสฺวา ‘‘สทฺธาเทยฺยวินิปาตเน การณํ นตฺถิ, ปริโภคุปายํ เนสํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ธมฺมึ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามนฺเตสิ.
๕๖๗. สกึ นิวตฺถมฺปิ สกึ ปารุตมฺปีติ สกึ นิสินฺนฺเจว นิปนฺนฺจ. สามนฺตาติ เอกปสฺสโต วฏฺฏํ วา จตุรสฺสํ วา ฉินฺทิตฺวา คหิตฏฺานํ ยถา วิทตฺถิมตฺตํ โหติ, เอวํ คเหตพฺพํ, สนฺถรนฺเตน ปน ปาฬิยํ วุตฺตนเยเนว เอกเทเส วา สนฺถริตพฺพํ, วิชเฏตฺวา วา มิสฺสกํ กตฺวา สนฺถริตพฺพํ, เอวํ ถิรตรํ โหตีติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีนิ กิริยากิริยตฺตา อิมสฺส สิกฺขาปทสฺส ทฺเวภาคสิกฺขาปทสทิสานีติ.
อิเมสุ ปน ปฺจสุ สนฺถเตสุ ปุริมานิ ตีณิ วินยกมฺมํ กตฺวา ปฏิลภิตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺติ, ปจฺฉิมานิ ทฺเว วฏฺฏนฺตีติ เวทิตพฺพานีติ.
นิสีทนสนฺถตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๑. เตน ¶ สมเยนาติ เอฬกโลมสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อุปฺปณฺเฑสุนฺติ ‘‘กิตฺตเกน, ภนฺเต, กีตานี’’ติอาทีนิ วทนฺตา อวหสึสุ. ิตโกว อาสุมฺภีติ ยถา มนุสฺสา อรฺโต มหนฺตํ ทารุภารํ อาเนตฺวา กิลนฺตา ิตกาว ปาเตนฺติ, เอวํ ปาเตสีติ อตฺโถ.
๕๗๒. สหตฺถาติ ¶ สหตฺเถน, อตฺตนา หริตพฺพานีติ วุตฺตํ โหติ. พหิติโยชนํ ปาเตตีติ ติโยชนโต พหิ ปาเตติ. อนนฺตราเยน ปตนเก หตฺถโต มุตฺตมตฺเต โลมคณนาย นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยานิ. สเจ พหิติโยชเน รุกฺเข วา ถมฺเภ วา ปฏิหฺิตฺวา ปุน อนฺโต ปตนฺติ, อนาปตฺติ ¶ . ภูมิยํ ปติตฺวา ตฺวา ตฺวา วฏฺฏมานา เอฬกโลมภณฺฑิกา ปุน อนฺโต ปวิสติ, อาปตฺติเยว. อนฺโต ตฺวา หตฺเถน วา ปาเทน วา ยฏฺิยา วา วฏฺเฏติ ตฺวา วา อตฺวา วา วฏฺฏมานา ภณฺฑิกา คจฺฉตุ, อาปตฺติเยว. ‘‘อฺโ หริสฺสตี’’ติ เปติ, เตน หริเตปิ อาปตฺติเยว. สุทฺธจิตฺเตน ปิตํ วาโต วา อฺโ วา อตฺตโน ธมฺมตาย พหิ ปาเตติ, อาปตฺติเยว. สอุสฺสาหตฺตา อจิตฺตกตฺตา จ สิกฺขาปทสฺส. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘เอตฺถ อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตา, สา อนาปตฺติ ปาฬิยา น สเมติ. อุภโตภณฺฑิกํ เอกาพทฺธํ กตฺวา เอกํ ภณฺฑิกํ อนฺโตสีมาย เอกํ พหิสีมาย กโรนฺโต เปติ, รกฺขติ ตาว. เอกาพทฺเธ กาเชปิ เอเสว นโย. ยทิ ปน อพนฺธิตฺวา กาชโกฏิยํ ปิตมตฺตเมว โหติ, น รกฺขติ. เอกาพทฺเธปิ ปริวตฺเตตฺวา ปิเต อาปตฺติเยว.
อฺสฺส ยาเน วาติ เอตฺถ คจฺฉนฺเต ยาเน วา หตฺถิปิฏฺิอาทีสุ วา สามิกสฺส อชานนฺตสฺเสว หริสฺสตีติ เปติ, ตสฺมึ ติโยชนํ อติกฺกนฺเต อาปตฺติ. อคจฺฉนฺเตปิ เอเสว นโย. สเจ ปน อคจฺฉนฺเต ยาเน วา หตฺถิปิฏฺิยาทีสุ วา เปตฺวา อภิรุหิตฺวา สาเรติ, เหฏฺา วา คจฺฉนฺโต โจเทติ, ปกฺโกสนฺโต วา อนุพนฺธาเปติ, ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ วจนโต อนาปตฺติ. กุรุนฺทิยาทีสุ ปน ‘‘อาปตฺตี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ‘‘อฺํ หราเปตี’’ติ อิมินา น สเมติ. อทินฺนาทาเน ปน สุงฺกฆาเต อาปตฺติ โหติ. ยา หิ ตตฺถ อาปตฺติ, สา อิธ อนาปตฺติ. ยา อิธ อาปตฺติ, สา ตตฺถ อนาปตฺติ. ตํ านํ ปตฺวา อฺวิหิโต วา โจราทีหิ วา อุปทฺทุโต คจฺฉติ, อาปตฺติเยว. สพฺพตฺถ โลมคณนาย อาปตฺติปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
๕๗๕. ติโยชนํ วาสาธิปฺปาโย คนฺตฺวา ตโต ปรํ หรตีติ ยตฺถ คโต, ตตฺถ อุทฺเทสปริปุจฺฉาทีนํ ¶ วา ปจฺจยาทีนํ วา อลาเภน ตโต ¶ ปรํ อฺตฺถ คจฺฉติ, ตโตปิ อฺตฺถาติ เอวํ โยชนสตมฺปิ หรนฺตสฺส อนาปตฺติ. อจฺฉินฺนํ ปฏิลภิตฺวาติ โจรา อจฺฉินฺทิตฺวา นิรตฺถกภาวํ ตฺวา ปฏิเทนฺติ, ตํ หรนฺตสฺส อนาปตฺติ. นิสฺสฏฺํ ปฏิลภิตฺวาติ วินยกมฺมกตํ ปฏิลภิตฺวาติ ¶ อตฺโถ.
กตภณฺฑนฺติ กตํภณฺฑํ กมฺพลโกชวสนฺถตาทึ ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สุตฺตเกน พทฺธมตฺตมฺปิ. โย ปน ตนุกปตฺตตฺถวิกนฺตเร วา อาโยคอํสพทฺธกกายพนฺธนาทีนํ อนฺตเรสุ วา ปิปฺผลิกาทีนํ มลรกฺขณตฺถํ สิปาฏิกาย วา อนฺตมโส วาตาพาธิโก กณฺณจฺฉิทฺเทปิ โลมานิ ปกฺขิปิตฺวา คจฺฉติ, อาปตฺติเยว. สุตฺตเกน ปน พนฺธิตฺวา ปกฺขิตฺตํ กตภณฺฑฏฺาเน ติฏฺติ, เวณึ กตฺวา หรติ, อิทํ นิธานมุขํ นาม, อาปตฺติเยวาติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ อิทํ เอฬกโลมสมุฏฺานํ นาม, กายโต จ กายจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เอฬกโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๗๖. เตน สมเยนาติ เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ริฺจนฺตีติ อุชฺฌนฺติ วิสฺสชฺเชนฺติ, น สกฺโกนฺติ อนุยฺุชิตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ ปุราณจีวรสิกฺขาปเท วุตฺตนเยเนว สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
เอฬกโลมโธวาปนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๒. เตน สมเยนาติ รูปิยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปฏิวิโสติ โกฏฺาโส.
๕๘๓-๔. ชาตรูปรชตนฺติ ¶ เอตฺถ ชาตรูปนฺติ สุวณฺณสฺส นามํ. ตํ ปน ยสฺมา ตถาคตสฺส วณฺณสทิสํ โหติ, ตสฺมา ‘‘สตฺถุวณฺโณ วุจฺจตี’’ติ ปทภาชเน วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – ‘‘โย ¶ สตฺถุวณฺโณ โลหวิเสโส, อิทํ ชาตรูปํ นามา’’ติ รชตํ ปน ‘‘สงฺโข, สิลา, ปวาล, รชตํ, ชาตรูป’’นฺติอาทีสุ (ปาจิ. ๕๐๖) รูปิยํ วุตฺตํ. อิธ ปน ยํ กิฺจิ โวหารคมนียํ กหาปณาทิ อธิปฺเปตํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘กหาปโณ โลหมาสโก’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กหาปโณติ โสวณฺณมโย วา รูปิยมโย วา ปากติโก วา. โลหมาสโกติ ตมฺพโลหาทีหิ กตมาสโก. ทารุมาสโกติ สารทารุนา วา เวฬุเปสิกาย วา อนฺตมโส ตาลปณฺเณนาปิ รูปํ ¶ ฉินฺทิตฺวา กตมาสโก. ชตุมาสโกติ ลาขาย วา นิยฺยาเสน วา รูปํ สมุฏฺาเปตฺวา กตมาสโก. ‘‘เย โวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ อิมินา ปน ปเทน โย โย ยตฺถ ยตฺถ ชนปเท ยทา ยทา โวหารํ คจฺฉติ, อนฺตมโส อฏฺิมโยปิ จมฺมมโยปิ รุกฺขผลพีชมโยปิ สมุฏฺาปิตรูโปปิ อสมุฏฺาปิตรูโปปิ สพฺโพ สงฺคหิโต.
อิจฺเจตํ สพฺพมฺปิ รชตํ ชาตรูปํ ชาตรูปมาสโก, วุตฺตปฺปเภโท สพฺโพปิ รชตมาสโกติ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุ โหติ. มุตฺตา, มณิ, เวฬุริโย, สงฺโข, สิลา, ปวาล, โลหิตงฺโก, มสารคลฺลํ, สตฺต ธฺานิ, ทาสิทาสเขตฺตวตฺถุปุปฺผารามผลารามาทโยติ อิทํ ทุกฺกฏวตฺถุ. สุตฺตํ ผาโล ปฏโก กปฺปาโส อเนกปฺปการํ อปรณฺณํ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตาทิเภสชฺชฺจ อิทํ กปฺปิยวตฺถุ. ตตฺถ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ อตฺตโน วา สงฺฆคณปุคฺคลเจติยานํ วา อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉิตุํ น วฏฺฏติ. อตฺตโน อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ โหติ, เสสานํ อตฺถาย ทุกฺกฏํ. ทุกฺกฏวตฺถุํ สพฺเพสมฺปิ อตฺถาย สมฺปฏิจฺฉโต ทุกฺกฏเมว. กปฺปิยวตฺถุมฺหิ อนาปตฺติ. สพฺพมฺปิ นิกฺขิปนตฺถาย ภณฺฑาคาริกสีเสน สมฺปฏิจฺฉโต อุปริ รตนสิกฺขาปเท อาคตวเสน ปาจิตฺติยํ.
อุคฺคณฺเหยฺยาติ คณฺเหยฺย. ยสฺมา ปน คณฺหนฺโต อาปตฺตึ อาปชฺชติ, เตนสฺส ปทภาชเน ‘‘สยํ คณฺหาติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. เอส นโย เสสปเทสุปิ.
ตตฺถ ¶ ชาตรูปรชตภณฺเฑสุ กหาปณมาสเกสุ จ เอกํ คณฺหโต วา คณฺหาปยโต วา เอกา อาปตฺติ. สหสฺสํ เจปิ เอกโต คณฺหาติ, คณฺหาเปติ, วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. มหาปจฺจริยํ ปน กุรุนฺทิยฺจ สิถิลพทฺธาย ถวิกาย สิถิลปูริเต วา ภาชเน รูปคณนาย อาปตฺติ. ฆนพทฺเธ ปน ฆนปูริเต วา เอกาว อาปตฺตีติ วุตฺตํ.
อุปนิกฺขิตฺตสาทิยเน ปน ‘‘อิทํ อยฺยสฺส โหตู’’ติ วุตฺเต สเจปิ จิตฺเตน สาทิยติ, คณฺหิตุกาโม โหติ, กาเยน วา วาจาย วา ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อนาปตฺติ. กายวาจาหิ ¶ วา อปฺปฏิกฺขิปิตฺวาปิ ¶ สุทฺธจิตฺโต หุตฺวา ‘‘นยิทํ อมฺหากํ กปฺปตี’’ติ น สาทิยติ, อนาปตฺติเยว. ตีสุ ทฺวาเรสุ หิ เยน เกนจิ ปฏิกฺขิตฺตํ ปฏิกฺขิตฺตเมว โหติ. สเจ ปน กายวาจาหิ อปฺปฏิกฺขิปิตฺวา จิตฺเตน อธิวาเสติ, กายวาจาหิ กตฺตพฺพสฺส ปฏิกฺเขปสฺส อกรณโต อกิริยสมุฏฺานํ กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, มโนทฺวาเร ปน อาปตฺติ นาม นตฺถิ.
เอโก สตํ วา สหสฺสํ วา ปาทมูเล เปติ ‘‘ตุยฺหิทํ โหตู’’ติ, ภิกฺขู ‘‘นยิทํ กปฺปตี’’ติ ปฏิกฺขิปติ, อุปาสโก ปริจฺจตฺตํ มยา ตุมฺหากนฺติ คโต, อฺโ ตตฺถ อาคนฺตฺวา ปุจฺฉติ – ‘‘กึ, ภนฺเต, อิท’’นฺติ? ยํ เตน อตฺตนา จ วุตฺตํ, ตํ อาจิกฺขิตพฺพํ. โส เจ วทติ – ‘‘โคปยิสฺสามิ, ภนฺเต, คุตฺตฏฺานํ ทสฺเสถา’’ติ, สตฺตภูมิกมฺปิ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ‘‘อิทํ คุตฺตฏฺาน’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ, ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอตฺตาวตา กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตํ โหติ. ทฺวารํ ปิทหิตฺวา รกฺขนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ กิฺจิ วิกฺกายิกภณฺฑํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา อาคจฺฉติ, ‘‘อิทํ คเหสฺสถ ภนฺเต’’ติ วุตฺเต ‘‘อุปาสก อตฺถิ อมฺหากํ อิมินา อตฺโถ, วตฺถุ จ เอวรูปํ นาม สํวิชฺชติ, กปฺปิยการโก นตฺถี’’ติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส วทติ, ‘‘อหํ กปฺปิยการโก ภวิสฺสามิ, ทฺวารํ วิวริตฺวา เทถา’’ติ, ทฺวารํ วิวริตฺวา ‘‘อิมสฺมึ โอกาเส ปิต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, ‘‘อิทํ คณฺหา’’ติ น วตฺตพฺพํ. เอวมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ นิสฺสาย ิตเมว โหติ, โส เจ ตํ คเหตฺวา ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ เทติ, วฏฺฏติ. สเจ อธิกํ คณฺหาติ, ‘‘น มยํ ตว ภณฺฑํ คณฺหาม, ‘‘นิกฺขมาหี’’ติ วตฺตพฺโพ.
สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ เอตฺถ ยสฺมา รูปิยํ นาม อกปฺปิยํ, ‘‘ตสฺมา นิสฺสชฺชิตพฺพํ สงฺฆสฺส วา คณสฺส วา ปุคฺคลสฺส วา’’ติ น วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ตํ ปฏิคฺคหิตมตฺตเมว น เตน กิฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิตํ, ตสฺมา อุปาเยน ¶ ปริโภคทสฺสนตฺถํ ‘‘สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. กปฺปิยํ อาจิกฺขิตพฺพํ สปฺปิ วาติ ‘‘ปพฺพชิตานํ สปฺปิ วา เตลํ วา วฏฺฏติ อุปาสกา’’ติ เอวํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
รูปิยปฏิคฺคาหกํ เปตฺวา สพฺเพเหว ปริภฺุชิตพฺพนฺติ ¶ สพฺเพหิ ภาเชตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. รูปิยปฏิคฺคาหเกน ภาโค น คเหตพฺโพ. อฺเสํ ภิกฺขูนํ วา อารามิกานํ วา ปตฺตภาคมฺปิ ลภิตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ, อนฺตมโส มกฺกฏาทีหิ ตโต หริตฺวา อรฺเ ปิตํ วา เตสํ หตฺถโต คฬิตํ วา ติรจฺฉานคตปริคฺคหิตมฺปิ ปํสุกูลมฺปิ น วฏฺฏติเยว, ตโต ¶ อาหเฏน ผาณิเตน เสนาสนธูปนมฺปิ น วฏฺฏติ. สปฺปินา วา เตเลน วา ปทีปํ กตฺวา ทีปาโลเก นิปชฺชิตุํ กสิณปริกมฺมมฺปิ กาตุํ, โปตฺถกมฺปิ วาเจตุํ น วฏฺฏติ. เตลมธุผาณิเตหิ ปน สรีเร วณํ มกฺเขตุํ น วฏฺฏติเยว. เตน วตฺถุนา มฺจปีาทีนิ วา คณฺหนฺติ, อุโปสถาคารํ วา โภชนสาลํ วา กโรนฺติ, ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. ฉายาปิ เคหปริจฺเฉเทน ิตา น วฏฺฏติ, ปริจฺเฉทาติกฺกนฺตา อาคนฺตุกตฺตา วฏฺฏติ. ตํ วตฺถุํ วิสฺสชฺเชตฺวา กเตน มคฺเคนปิ เสตุนาปิ นาวายปิ อุฬุมฺเปนปิ คนฺตุํ น วฏฺฏติ, เตน วตฺถุนา ขนาปิตาย โปกฺขรณิยา อุพฺภิโททกํ ปาตุํ วา ปริภฺุชิตุํ วา น วฏฺฏติ. อนฺโต อุทเก ปน อสติ อฺํ อาคนฺตุกํ อุทกํ วา วสฺโสทกํ วา ปวิฏฺํ วฏฺฏติ. กีตาย เยน อุทเกน สทฺธึ กีตา ตํ อาคนฺตุกมฺปิ น วฏฺฏติ, ตํ วตฺถุํ อุปนิกฺเขปํ เปตฺวา สงฺโฆ ปจฺจเย ปริภฺุชติ, เตปิ ปจฺจยา ตสฺส น วฏฺฏนฺติ. อาราโม คหิโต โหติ, โสปิ ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏติ. ยทิ ภูมิปิ พีชมฺปิ อกปฺปิยํ เนว ภูมึ น ผลํ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ. สเจ ภูมึเยว กิณิตฺวา อฺานิ พีชานิ โรปิตานิ ผลํ วฏฺฏติ, อถ พีชานิ กิณิตฺวา กปฺปิยภูมิยํ โรปิตานิ, ผลํ น วฏฺฏติ, ภูมิยํ นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา วฏฺฏติ.
สเจ โส ฉฑฺเฑตีติ ยตฺถ กตฺถจิ ขิปติ, อถาปิ น ฉฑฺเฑติ, สยํ คเหตฺวา คจฺฉติ, น วาเรตพฺโพ. โน เจ ฉฑฺเฑตีติ อถ เนว คเหตฺวา คจฺฉติ, น ฉฑฺเฑติ, กึ มยฺหํ อิมินา พฺยาปาเรนาติ เยน กามํ ปกฺกมติ, ตโต ยถาวุตฺตลกฺขโณ รูปิยฉฑฺฑโก สมฺมนฺนิตพฺโพ.
โย ¶ น ฉนฺทาคตินฺติอาทีสุ โลภวเสน ตํ วตฺถุํ อตฺตโน วา กโรนฺโต อตฺตานํ วา อุกฺกํเสนฺโต ฉนฺทาคตึ นาม คจฺฉติ ¶ . โทสวเสน ‘‘เนวายํ มาติกํ ชานาติ, น วินย’’นฺติ ปรํ อปสาเทนฺโต โทสาคตึ นาม คจฺฉติ. โมหวเสน มุฏฺปมุฏฺสฺสติภาวํ อาปชฺชนฺโต โมหาคตึ นาม คจฺฉติ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ภเยน ฉฑฺเฑตุํ อวิสหนฺโต ภยาคตึ นาม คจฺฉติ. เอวํ อกโรนฺโต น ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ, น โทสาคตึ คจฺฉติ, น โมหาคตึ คจฺฉติ, น ภยาคตึ คจฺฉตีติ เวทิตพฺโพ.
๕๘๕. อนิมิตฺตํ กตฺวาติ นิมิตฺตํ อกตฺวา, อกฺขีนิ นิมฺมีเลตฺวา นทิยา วา ปปาเต วา วนคหเน วา คูถํ วิย อนเปกฺเขน ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตน ปาเตตพฺพนฺติ อตฺโถ. เอวํ ชิคุจฺฉิตพฺเพปิ รูปิเย ภควา ปริยาเยน ภิกฺขูนํ ปริโภคํ อาจิกฺขิ. รูปิยปฏิคฺคาหกสฺส ปน เกนจิ ปริยาเยน ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยปริโภโค น วฏฺฏติ. ยถา จายํ เอตสฺส น วฏฺฏติ, เอวํ อสนฺตสมฺภาวนาย วา กุลทูสกกมฺเมน วา กุหนาทีหิ วา อุปฺปนฺนปจฺจยา ¶ เนว ตสฺส น อฺสฺส วฏฺฏนฺติ, ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺนาปิ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภฺุชิตุํ น วฏฺฏนฺติ.
จตฺตาโร หิ ปริโภคา – เถยฺยปริโภโค, อิณปริโภโค, ทายชฺชปริโภโค, สามิปริโภโคติ. ตตฺถ สงฺฆมชฺเฌปิ นิสีทิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค ‘‘เถยฺยปริโภโค’’ นาม. สีลวโต อปฺปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ‘‘อิณปริโภโค’’ นาม. ตสฺมา จีวรํ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, ปิณฺฑปาโต อาโลเป อาโลเป. ตถา อสกฺโกนฺเตน ปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปุริมยามปจฺฉิมยาเมสุ. สจสฺส อปฺปจฺจเวกฺขโตว อรุโณ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเค ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ, เภสชฺชสฺส ปฏิคฺคหเณปิ ปริโภเคปิ สติปจฺจยตา วฏฺฏติ, เอวํ สนฺเตปิ ปฏิคฺคหเณ สตึ กตฺวา ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺติ, ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺติ.
จตุพฺพิธา หิ สุทฺธิ – เทสนาสุทฺธิ, สํวรสุทฺธิ, ปริเยฏฺิสุทฺธิ, ปจฺจเวกฺขณสุทฺธีติ. ตตฺถ เทสนาสุทฺธิ นาม ปาติโมกฺขสํวรสีลํ ¶ , ตฺหิ เทสนาย สุชฺฌนโต ¶ ‘‘เทสนาสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. สํวรสุทฺธิ นาม อินฺทฺริยสํวรสีลํ, ตฺหิ น ปุน เอวํ กริสฺสามีติ จิตฺตาธิฏฺานสํวเรเนว สุชฺฌนโต ‘‘สํวรสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปริเยฏฺิสุทฺธิ นาม อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ, ตฺหิ อเนสนํ ปหาย ธมฺเมน สเมน ปจฺจเย อุปฺปาเทนฺตสฺส ปริเยสนาย สุทฺธตฺตา ‘‘ปริเยฏฺิสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ นาม ปจฺจยปริโภคสนฺนิสฺสิตสีลํ, ตฺหิ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘) นเยน วุตฺเตน ปจฺจเวกฺขเณน สุชฺฌนโต ‘‘ปจฺจเวกฺขณสุทฺธี’’ติ วุจฺจติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ปฏิคฺคหเณ ปน สตึ อกตฺวา ปริโภเค กโรนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ.
สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ ปจฺจยปริโภโค ทายชฺชปริโภโค นาม, เต หิ ภควโต ปุตฺตา, ตสฺมา ปิตุสนฺตกานํ ปจฺจยานํ ทายาทา หุตฺวา เต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ. กึ ปน เต ภควโต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺติ, คิหีนํ ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตีติ? คิหีหิ ทินฺนาปิ ภควตา อนฺุาตตฺตา ภควโต สนฺตกา โหนฺติ, ตสฺมา เต ภควโต ปจฺจเย ปริภฺุชนฺตีติ (ม. นิ. ๑.๒๙) เวทิตพฺพํ, ธมฺมทายาทสุตฺตฺเจตฺถ สาธกํ.
ขีณาสวานํ ¶ ปริโภโค สามิปริโภโค นาม, เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภฺุชนฺตีติ. อิเมสุ ปริโภเคสุ สามิปริโภโค จ ทายชฺชปริโภโค จ สพฺเพสมฺปิ วฏฺฏติ. อิณปริโภโค น วฏฺฏติ, เถยฺยปริโภเค กถาเยว นตฺถิ.
อปเรปิ จตฺตาโร ปริโภคา – ลชฺชิปริโภโค, อลชฺชิปริโภโค, ธมฺมิยปริโภโค, อธมฺมิยปริโภโคติ.
ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค วฏฺฏติ, อาปตฺติยา น กาเรตพฺโพ. ลชฺชิโน อลชฺชินา สทฺธึ ยาว น ชานาติ, ตาว วฏฺฏติ. อาทิโต ปฏฺาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถิ, ตสฺมา ยทาสฺส อลชฺชีภาวํ ชานาติ ตทา วตฺตพฺโพ ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร จ วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถ, ตํ อปฺปติรูปํ มา เอวมกตฺถา’’ติ. สเจ อนาทิยิตฺวา กโรติเยว, ยทิ เตน สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ อลชฺชีเยว โหติ. โยปิ อตฺตโน ภารภูเตน อลชฺชินา สทฺธึ ปริโภคํ กโรติ, โสปิ นิวาเรตพฺโพ. สเจ ¶ น โอรมติ, อยมฺปิ อลชฺชีเยว โหติ. เอวํ เอโก อลชฺชี อลชฺชีสตมฺปิ กโรติ. อลชฺชิโน ¶ ปน อลชฺชินาว สทฺธึ ปริโภเค อาปตฺติ นาม นตฺถิ. ลชฺชิโน ลชฺชินา สทฺธึ ปริโภโค ทฺวินฺนํ ขตฺติยกุมารานํ สุวณฺณปาติยํ โภชนสทิโสติ.
ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สเจ ปุคฺคโลปิ อลชฺชี ปิณฺฑปาโตปิ อธมฺมิโย, อุโภ เชคุจฺฉา. ปุคฺคโล อลชฺชี ปิณฺฑปาโต ธมฺมิโย, ปุคฺคลํ ชิคุจฺฉิตฺวา ปิณฺฑปาโต น คเหตพฺโพ. มหาปจฺจริยํ ปน ทุสฺสีโล สงฺฆโต อุทฺเทสภตฺตาทีนิ ลภิตฺวา สงฺฆสฺเสว เทติ, เอตานิ ยถาทานเมว คตตฺตา วฏฺฏนฺตีติ วุตฺตํ. ปุคฺคโล ลชฺชี ปิณฺฑปาโต อธมฺมิโย, ปิณฺฑปาโต เชคุจฺโฉ น คเหตพฺโพ. ปุคฺคโล ลชฺชี, ปิณฺฑปาโตปิ ธมฺมิโย, วฏฺฏติ.
อปเร ทฺเว ปคฺคหา; ทฺเว จ ปริโภคา – ลชฺชิปคฺคโห, อลชฺชิปคฺคโห; ธมฺมปริโภโค อามิสปริโภโคติ.
ตตฺถ อลชฺชิโน ลชฺชึ ปคฺคเหตุํ วฏฺฏติ, น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ. สเจ ปน ลชฺชี อลชฺชึ ปคฺคณฺหาติ, อนุโมทนาย อชฺเฌสติ, ธมฺมกถาย อชฺเฌสติ, กุเลสุ อุปตฺถมฺเภติ ¶ . อิตโรปิ ‘‘อมฺหากํ อาจริโย อีทิโส จ อีทิโส จา’’ติ ตสฺส ปริสติ วณฺณํ ภาสติ, อยํ สาสนํ โอสกฺกาเปติ อนฺตรธาเปตีติ เวทิตพฺโพ.
ธมฺมปริโภค-อามิสปริโภเคสุ ปน ยตฺถ อามิสปริโภโค วฏฺฏติ, ตตฺถ ธมฺมปริโภโคปิ วฏฺฏติ. โย ปน โกฏิยํ ิโต คนฺโถ ตสฺส ปุคฺคลสฺส อจฺจเยน นสฺสิสฺสติ, ตํ ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตีติ วุตฺตํ.
ตตฺริทํ วตฺถุ – มหาภเย กิร เอกสฺเสว ภิกฺขุโน มหานิทฺเทโส ปคุโณ อโหสิ. อถ จตุนิกายิกติสฺสตฺเถรสฺส อุปชฺฌาโย มหาติปิฏกตฺเถโร นาม มหารกฺขิตตฺเถรํ อาห – ‘‘อาวุโส มหารกฺขิต, เอตสฺส สนฺติเก มหานิทฺเทสํ คณฺหาหี’’ติ. ‘‘ปาโป กิรายํ, ภนฺเต, น คณฺหามี’’ติ. ‘‘คณฺหาวุโส, อหํ เต สนฺติเก นิสีทิสฺสามี’’ติ. ‘‘สาธุ, ภนฺเต, ตุมฺเหสุ นิสินฺเนสุ คณฺหิสฺสามี’’ติ ปฏฺเปตฺวา รตฺตินฺทิวํ นิรนฺตรํ ปริยาปุณนฺโต ¶ โอสานทิวเส เหฏฺามฺเจ อิตฺถึ ทิสฺวา ‘‘ภนฺเต, สุตํเยว เม ปุพฺเพ, สจาหํ เอวํ ชาเนยฺยํ, น อีทิสสฺส สนฺติเก ธมฺมํ ปริยาปุเณยฺย’’นฺติ อาห. ตสฺส ปน สนฺติเก ¶ พหู มหาเถรา อุคฺคณฺหิตฺวา มหานิทฺเทสํ ปติฏฺาเปสุํ.
๕๘๖. รูปิเย รูปิยสฺีติ เอตฺถ สพฺพมฺปิ ชาตรูปรชตํ รูปิยสงฺคหเมว คตนฺติ เวทิตพฺพํ.
รูปิเย เวมติโกติ ‘‘สุวณฺณํ นุ โข, ขรปตฺตํ นุ โข’’ติอาทินา นเยน สํสยชาโต.
รูปิเย อรูปิยสฺีติ สุวณฺณาทีสุ ขรปตฺตาทิสฺี. อปิจ ปฺุกามา ราโชโรธาทโย ภตฺตขชฺชกคนฺธปิณฺฑาทีสุ ปกฺขิปิตฺวา หิรฺสุวณฺณํ เทนฺติ, โจฬภิกฺขาย จรนฺตานํ ทสฺสนฺเต พทฺธกหาปณาทีหิเยว สทฺธึ โจฬกานิ เทนฺติ, ภิกฺขู ภตฺตาทิสฺาย วา โจฬกสฺาย วา ปฏิคฺคณฺหนฺติ, เอวมฺปิ รูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ คณฺหาตีติ เวทิตพฺโพ. ปฏิคฺคณฺหนฺเตน ปน ‘‘อิมสฺมึ เคเห อิทํ ลทฺธ’’นฺติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. เยน หิ อสฺสติยา ทินฺนํ โหติ, โส สตึ ปฏิลภิตฺวา ปุน อาคจฺฉติ, อถสฺส วตฺตพฺพํ – ‘‘ตว โจฬกํ ปสฺสาหี’’ติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
สมุฏฺานาทีสุ ฉสมุฏฺานํ, สิยา กิริยํ คหเณน อาปชฺชนโต, สิยา อกิริยํ ปฏิกฺเขปสฺส ¶ อกรณโต รูปิยอฺวาทกอุปสฺสุติสิกฺขาปทานิ หิ ตีณิ เอกปริจฺเฉทานิ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๘๗. เตน สมเยนาติ รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทํ. ตตฺถ นานปฺปการกนฺติ กตากตาทิวเสน อเนกวิธํ. รูปิยสํโวหารนฺติ ชาตรูปรชตปริวตฺตนํ. สมาปชฺชนฺตีติ ปฏิคฺคหณสฺเสว ปฏิกฺขิตตฺตา ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเน โทสํ อปสฺสนฺตา กโรนฺติ.
๕๘๙. สีสูปคนฺติอาทีสุ ¶ สีสํ อุปคจฺฉตีติ สีสูปคํ, โปตฺถเกสุ ปน ‘‘สีสูปก’’นฺติ ลิขิตํ, ยสฺส กสฺสจิ สีสาลงฺการสฺเสตํ อธิวจนํ. เอส นโย สพฺพตฺถ. กเตน กตนฺติอาทีสุ สุทฺโธ รูปิยสํโวหาโรเยว.
รูปิเย รูปิยสฺีติอาทิมฺหิ ปุริมสิกฺขาปเท วุตฺตวตฺถูสุ นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส ¶ มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, อปราปรปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว. นิสฺสคฺคิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ วา กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺสปิ เอเสว นโย. โย หิ อยํ อรูปิเย รูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปตีติอาทิ ทุติโย ติโก วุตฺโต, ตสฺสานุโลมตฺตา อวุตฺโตปิ อยมปโรปิ รูปิเย รูปิยสฺี อรูปิยํ เจตาเปตีติอาทิ ติโก เวทิตพฺโพ. อตฺตโน วา หิ อรูปิเยน ปรสฺส รูปิยํ เจตาเปยฺย อตฺตโน วา รูปิเยน ปรสฺส อรูปิยํ, อุภยถาปิ รูปิยสํโวหาโร กโตเยว โหติ, ตสฺมา ปาฬิยํ เอกนฺเตน รูปิยปกฺเข เอโกเยว ติโก วุตฺโตติ.
ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ครุกสฺส เจตาปิตตฺตา. ทุกฺกฏวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุเมว, กปฺปิยวตฺถุํ วา เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน ทุกฺกฏํ, ปจฺฉา ปริวตฺตเนปิ อิมินา ทุกฺกฏเมว. กสฺมา? อกปฺปิยวตฺถุนา เจตาปิตตฺตา. อนฺธกฏฺกถายํ ปน ‘‘สเจ กยวิกฺกยํ สมาปชฺเชยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ภาสิตํ, ตํ ทุพฺภาสิตํ. กสฺมา? น หิ ทานคฺคหณโต อฺโ กยวิกฺกโย นาม อตฺถิ, กยวิกฺกยสิกฺขาปทฺจ กปฺปิยวตฺถุนา ¶ กปฺปิยวตฺถุปริวตฺตนเมว สนฺธาย วุตฺตํ, ตฺจ โข อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ. อิทํ สิกฺขาปทํ รูปิเยน จ รูปิยารูปิยเจตาปนํ อรูปิเยน จ รูปิยเจตาปนํ. ทุกฺกฏวตฺถุนา ปน ทุกฺกฏวตฺถุโน เจตาปนํ เนว อิธ น ตตฺถ ปาฬิยํ วุตฺตํ, น เจตฺถ อนาปตฺติ ภวิตุํ อรหติ. ตสฺมา ยเถว ทุกฺกฏวตฺถุโน ปฏิคฺคหเณ ทุกฺกฏํ, ตเถว ตสฺส วา เตน วา เจตาปเนปิ ทุกฺกฏํ ยุตฺตนฺติ ภควโต อธิปฺปายฺูหิ วุตฺตํ.
กปฺปิยวตฺถุนา ¶ ปน นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘อรูปิเย อรูปิยสฺี รูปิยํ เจตาเปติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ ¶ . เตเนว กปฺปิยวตฺถุนา ทุกฺกฏวตฺถุํ เจตาเปนฺตสฺส มูลปฏิคฺคหเณ ตเถว อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อิมินา ทุกฺกฏํ. กสฺมา? อกปฺปิยสฺส เจตาปิตตฺตา. กปฺปิยวตฺถุนา ปน กปฺปิยวตฺถุํ อฺตฺร สหธมฺมิเกหิ เจตาเปนฺตสฺส มูลคฺคหเณ ปุริมสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ, ปจฺฉา ปริวตฺตเน อุปริ กยวิกฺกยสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. กยวิกฺกยํ โมเจตฺวา คณฺหนฺตสฺส อุปริสิกฺขาปเทนปิ อนาปตฺติ, วฑฺฒึ ปโยเชนฺตสฺส ทุกฺกฏํ.
อิมสฺส จ รูปิยสํโวหารสฺส ครุกภาวทีปกํ อิทํ ปตฺตจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ. โย หิ รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน อยพีชํ สมุฏฺาเปติ, ตํ โกฏฺฏาเปตฺวา เตน โลเหน ปตฺตํ กาเรติ, อยํ ปตฺโต มหาอกปฺปิโย นาม, น สกฺกา เกนจิ อุปาเยน กปฺปิโย กาตุํ. สเจ หิ ตํ วินาเสตฺวา ถาลกํ กาเรติ, ตมฺปิ อกปฺปิยํ. วาสึ กาเรติ, ตาย ฉินฺนํ ทนฺตกฏฺมฺปิ อกปฺปิยํ. พฬิสํ กาโรติ, เตน มาริตา มจฺฉาปิ อกปฺปิยา. วาสิผลํ ตาเปตฺวา อุทกํ วา ขีรํ วา อุณฺหาเปติ, ตมฺปิ อกปฺปิยเมว.
โย ปน รูปิยํ อุคฺคณฺหิตฺวา เตน ปตฺตํ กิณาติ, อยมฺปิ ปตฺโต อกปฺปิโย. ‘‘ปฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกานํ น กปฺปตี’’ติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. สกฺกา ปน กปฺปิโย กาตุํ, โส หิ มูเล มูลสามิกานํ ปตฺเต จ ปตฺตสามิกานํ ทินฺเน กปฺปิโย โหติ. กปฺปิยภณฺฑํ ทตฺวา คเหตฺวา ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
โยปิ รูปิยํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วทติ. กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยมฺปิ ¶ ปตฺโต กปฺปิยโวหาเรน คหิโตปิ ทุติยปตฺตสทิโสเยว, มูลสฺส สมฺปฏิจฺฉิตตฺตา อกปฺปิโย. กสฺมา เสสานํ น กปฺปตีติ? มูลสฺส อนิสฺสฏฺตฺตา.
โย ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อิเม กหาปเณ ¶ คเหตฺวา อิมํ เทหี’’ติ กหาปเณ ทาเปตฺวา คหิโต, อยํ ปตฺโต เอตสฺเสว ภิกฺขุโน น วฏฺฏติ ทุพฺพิจาริตตฺตา, อฺเสํ ปน วฏฺฏติ, มูลสฺส อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตา.
มหาสุมตฺเถรสฺส กิร อุปชฺฌาโย อนุรุทฺธตฺเถโร นาม อโหสิ. โส อตฺตโน เอวรูปํ ¶ ปตฺตํ สปฺปิสฺส ปูเรตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชิ. ติปิฏกจูฬนาคตฺเถรสฺสปิ สทฺธิวิหาริกานํ เอวรูโป ปตฺโต อโหสิ. ตํ เถโรปิ สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา สงฺฆสฺส นิสฺสชฺชาเปสีติ. อิทํ อกปฺปิยปตฺตจตุกฺกํ.
สเจ ปน รูปิยํ อสมฺปฏิจฺฉิตฺวา ‘‘เถรสฺส ปตฺตํ กิณิตฺวา เทหี’’ติ ปหิตกปฺปิยการเกน สทฺธึ กมฺมารกุลํ คนฺตฺวา ปตฺตํ ทิสฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ รุจฺจตี’’ติ วา ‘‘อิมาหํ คเหสฺสามี’’ติ วา วทติ, กปฺปิยการโก จ ตํ รูปิยํ ทตฺวา กมฺมารํ สฺาเปติ, อยํ ปตฺโต สพฺพกปฺปิโย พุทฺธานมฺปิ ปริโภคารโหติ.
๕๙๑. อรูปิเย รูปิยสฺีติ ขรปตฺตาทีสุ สุวณฺณาทิสฺี. อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ สเจ เตน อรูปิยํ เจตาเปติ ทุกฺกฏาปตฺติ โหติ. เอส นโย เวมติเก. อรูปิยสฺิสฺส ปน ปฺจหิ สหธมฺมิเกหิ สทฺธิ ‘‘อิทํ คเหตฺวา อิทํ เทถา’’ติ กยวิกฺกยํ กโรนฺตสฺสาปิ อนาปตฺติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๓. เตน ¶ สมเยนาติ กยวิกฺกยสิกฺขาปทํ. ตตฺถ กติ หิปิ ตฺยายนฺติ กติ เต อยํ, หิกาโร ปเนตฺถ ปทปูรโณ, ปิกาโร ครหายํ, อยํ ทุพฺพลสงฺฆาฏิ ตว กติ ทิวสานิ ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. อถ วา กติหมฺปิ ตฺยายนฺติปิ ปาโ. ตตฺถ กติหนฺติ กติ อหานิ, กติ ทิวสานีติ วุตฺตํ โหติ. เสสํ วุตฺตนยเมว. กติหิปิ มฺยายนฺติ อิทมฺปิ ¶ เอเตเนว นเยน เวทิตพฺพํ. คิหีปิ นํ คิหิสฺสาติ เอตฺถ นนฺติ นามตฺเถ นิปาโต, คิหี นาม คิหิสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
๕๙๔. นานปฺปการกนฺติ จีวราทีนํ กปฺปิยภณฺฑานํ วเสน อเนกวิธํ. เตเนวสฺส ปทภาชเน จีวรํ อาทึ กตฺวา ทสิกสุตฺตปริโยสานํ กปฺปิยภณฺฑเมว ทสฺสิตํ. อกปฺปิยภณฺฑปริวตฺตนฺหิ กยวิกฺกยสงฺคหํ น คจฺฉติ. กยวิกฺกยนฺติ กยฺเจว วิกฺกยฺจ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติอาทินา หิ นเยน ปรสฺส กปฺปิยภณฺฑํ คณฺหนฺโต กยํ สมาปชฺชติ, อตฺตโน กปฺปิยภณฺฑํ เทนฺโต วิกฺกยํ ¶ .
๕๙๕. อชฺฌาจรตีติ อภิภวิตฺวา จรติ, วีติกฺกมวาจํ ภาสตีติ อตฺโถ. ยโต กยิตฺจ โหติ วิกฺกยิตฺจาติ ยทา กยิตฺจ โหติ ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ กโรนฺเตน, วิกฺกีตฺจ อตฺตโน ภณฺฑํ ปรหตฺถคตํ กโรนฺเตน. ‘‘อิมินา อิม’’นฺติอาทิวจนานุรูปโต ปน ปาเ ปมํ อตฺตโน ภณฺฑํ ทสฺสิตํ.
นิสฺสชฺชิตพฺพนฺติ เอวํ ปรสฺส หตฺถโต กยวเสน คหิตกปฺปิยภณฺฑํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ. อยฺหิ กยวิกฺกโย เปตฺวา ปฺจ สหธมฺมิเก อวเสเสหิ คิหิปพฺพชิเตหิ อนฺตมโส มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ น วฏฺฏติ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – วตฺเถน วา วตฺถํ โหตุ ภตฺเตน วา ภตฺตํ, ยํ กิฺจิ กปฺปิยํ ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วทติ, ทุกฺกฏํ. เอวํ วตฺวา มาตุยาปิ อตฺตโน ภณฺฑํ เทติ, ทุกฺกฏํ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ วุตฺโต วา ‘‘อิมํ เทหิ, อิมํ เต ทสฺสามี’’ติ วตฺวา วา มาตุยาปิ ภณฺฑํ อตฺตนา คณฺหาติ, ทุกฺกฏํ. อตฺตโน ภณฺเฑ ปรหตฺถํ ปรภณฺเฑ จ อตฺตโน หตฺถํ สมฺปตฺเต นิสฺสคฺคิยํ. มาตรํ ปน ปิตรํ วา ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ น โหติ. ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ วทโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ น โหติ. อฺาตกํ ‘‘อิมํ เทหี’’ติ วทโต วิฺตฺติ ¶ โหติ. ‘‘อิมํ คณฺหาหี’’ติ วทโต สทฺธาเทยฺยวินิปาตนํ โหติ. ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ กยวิกฺกยํ อาปชฺชโต นิสฺสคฺคิยํ. ตสฺมา กปฺปิยภณฺฑํ ปริวตฺเตนฺเตน มาตาปิตูหิปิ สทฺธึ กยวิกฺกยํ อฺาตเกหิ สทฺธึ ติสฺโส อาปตฺติโย โมเจนฺเตน ปริวตฺเตตพฺพํ.
ตตฺรายํ ¶ ปริวตฺตนวิธิ – ภิกฺขุสฺส ปาเถยฺยตณฺฑุลา โหนฺติ, โส อนฺตรามคฺเค ภตฺตหตฺถํ ปุริสํ ทิสฺวา ‘‘อมฺหากํ ตณฺฑุลา อตฺถิ, น จ โน อิเมหิ อตฺโถ, ภตฺเตน ปน อตฺโถ’’ติ วทติ. ปุริโส ตณฺฑุเล คเหตฺวา ภตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ติสฺโสปิ อาปตฺติโย น โหนฺติ. อนฺตมโส นิมิตฺตกมฺมมตฺตมฺปิ น โหติ. กสฺมา? มูลสฺส อตฺถิตาย. ปรโต จ วุตฺตเมว ‘‘อิทํ อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อิมินา จ อิมินา จ อตฺโถติ ภณตี’’ติ. โย ปน เอวํ อกตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ เทหี’’ติ ปริวตฺเตติ; ยถาวตฺถุกเมว ¶ . วิฆาสาทํ ทิสฺวา ‘‘อิมํ โอทนํ ภฺุชิตฺวา, รชนํ วา ทารูนิ วา อาหรา’’ติ วทติ, รชนฉลฺลิคณนาย ทารุคณนาย จ นิสฺสคฺคิยานิ โหนฺติ. ‘‘อิมํ โอทนํ ภฺุชิตฺวา อิทํ นาม กโรถา’’ติ ทนฺตการาทีหิ สิปฺปิเกหิ ธมกรณาทีสุ ตํ ตํ ปริกฺขารํ กาเรติ, รชเกหิ วา วตฺถํ โธวาเปติ; ยถาวตฺถุกเมว. นฺหาปิเตน เกเส ฉินฺทาเปติ, กมฺมกาเรหิ นวกมฺมํ กาเรติ; ยถาวตฺถุกเมว. สเจ ปน ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา อิทํ กโรถา’’ติ น วทติ ‘‘อิทํ ภตฺตํ ภฺุช ภุตฺโตสิ ภฺุชิสฺสสิ, อิทํ นาม กโรหี’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ วตฺถโธวเน วา เกสจฺเฉทเน วา ภูมิโสธนาทินวกมฺเม วา ปรภณฺฑํ อตฺตโน หตฺถคตํ นิสฺสชฺชิตพฺพํ นาม นตฺถิ. มหาอฏฺกถายํ ปน ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา เอตํ ปฏิกฺขิปิตุํ, ตสฺมา ยถา นิสฺสคฺคิยวตฺถุมฺหิ ปริภุตฺเต วา นฏฺเ วา ปาจิตฺติยํ เทเสติ, เอวมิธาปิ เทเสตพฺพํ.
๕๙๖. กยวิกฺกเย กยวิกฺกยสฺีติอาทิมฺหิ โย กยวิกฺกยํ สมาปชฺชติ, โส ตสฺมึ กยวิกฺกยสฺี วา ภวตุ เวมติโก วา, น กยวิกฺกยสฺี วา นิสฺสคฺคิยปาจิตฺติยเมว. จูฬตฺติเก ทฺวีสุ ปเทสุ ทุกฺกฏเมวาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๕๙๗. อคฺฆํ ปุจฺฉตีติ ‘‘อยํ ตว ปตฺโต กึ อคฺฆตี’’ติ ปุจฺฉติ. ‘‘อิทํ นามา’’ติ วุตฺเต ปน สเจ ตสฺส กปฺปิยภณฺฑํ มหคฺฆํ โหติ, เอวฺจ นํ ปฏิวทติ ‘‘อุปาสก, มม อิทํ วตฺถุ มหคฺฆํ, ตว ปตฺตํ อฺสฺส เทหี’’ติ. ตํ สุตฺวา อิตโร ‘‘อฺํ ถาลกมฺปิ ทสฺสามี’’ติ วทติ คณฺหิตุํ วฏฺฏติ, ‘‘อิทํ อมฺหากํ อตฺถี’’ติ วุตฺตลกฺขเณ ปตติ ¶ . สเจ โส ปตฺโต มหคฺโฆ, ภิกฺขุโน วตฺถุ อปฺปคฺฆํ, ปตฺตสามิโก จสฺส อปฺปคฺฆภาวํ น ชานาติ, ปตฺโต น คเหตพฺโพ, ‘‘มม วตฺถุ อปฺปคฺฆ’’นฺติ อาจิกฺขิตพฺพํ. มหคฺฆภาวํ ตฺวา ¶ วฺเจตฺวา คณฺหนฺโต หิ คหิตภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺพตํ อาปชฺชติ. สเจ ปตฺตสามิโก ‘‘โหตุ, ภนฺเต, เสสํ มม ปฺุํ ภวิสฺสตี’’ติ เทติ, วฏฺฏติ.
กปฺปิยการกสฺส ¶ อาจิกฺขตีติ ยสฺส หตฺถโต ภณฺฑํ คณฺหาติ, ตํ เปตฺวา อฺํ อนฺตมโส ตสฺส ปุตฺตภาติกมฺปิ กปฺปิยการกํ กตฺวา ‘‘อิมินา อิมํ นาม คเหตฺวา เทหี’’ติ อาจิกฺขติ. โส เจ เฉโก โหติ, ปุนปฺปุนํ อปเนตฺวา วิวทิตฺวา คณฺหาติ, ตุณฺหีภูเตน าตพฺพํ. โน เจ เฉโก โหติ, น ชานาติ คเหตุํ, วาณิชโก ตํ วฺเจติ, ‘‘มา คณฺหา’’ติ วตฺตพฺโพ.
อิทํ อมฺหากนฺติอาทิมฺหิ ‘‘อิทํ ปฏิคฺคหิตํ เตลํ วา สปฺปิ วา อมฺหากํ อตฺถิ, อมฺหากฺจ อฺเน อปฺปฏิคฺคหิตเกน อตฺโถ’’ติ ภณติ. สเจ โส ตํ คเหตฺวา อฺํ เทติ, ปมํ อตฺตโน เตลํ น มินาเปตพฺพํ. กสฺมา? นาฬิยฺหิ อวสิฏฺเตลํ โหติ, ตํ ปจฺฉา มินนฺตสฺส อปฺปฏิคฺคหิตกํ ทูเสยฺยาติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
กยวิกฺกยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต โกสิยวคฺโค ทุติโย.
๓. ปตฺตวคฺโค
๑. ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา
๕๙๘. เตน สมเยนาติ ปตฺตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปตฺตวาณิชฺชนฺติ คามนิคมาทีสุ วิจรนฺตา ปตฺตวาณิชฺชํ วา กริสฺสนฺติ. อามตฺติกาปณํ วาติ อมตฺตานิ วุจฺจนฺติ ภาชนานิ, ตานิ เยสํ ภณฺฑํ เต อามตฺติกา, เตสํ อามตฺติกานํ อาปณํ อามตฺติกาปณํ, กุลาลภณฺฑวาณิชกาปณนฺติ อตฺโถ.
๖๐๒. ตโย ¶ ปตฺตสฺส วณฺณาติ ตีณิ ปตฺตสฺส ปมาณานิ. อฑฺฒาฬฺหโกทนํ คณฺหาตีติ มคธนาฬิยา ทฺวินฺนํ ตณฺฑุลนาฬีนํ โอทนํ คณฺหาติ. มคธนาฬิ ¶ นาม อฑฺฒเตรสปลา โหตีติ อนฺธกฏฺกถายํ วุตฺตํ. สีหฬทีเป ปกตินาฬิ มหนฺตา, ทมิฬนาฬิ ขุทฺทกา, มคธนาฬิ ปมาณยุตฺตา, ตาย มคธนาฬิยา ทิยฑฺฒนาฬิ เอกา สีหฬนาฬิ โหตีติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ. จตุภาคํ ขาทนนฺติ โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาณํ ขาทนํ, ตํ หตฺถหาริยสฺส มุคฺคสูปสฺส ¶ วเสน เวทิตพฺพํ. ตทุปิยํ พฺยฺชนนฺติ ตสฺส โอทนสฺส อนุรูปํ มจฺฉมํสสากผลกฬีราทิพฺยฺชนํ.
ตตฺรายํ วินิจฺฉโย – อนุปหตปุราณสาลิตณฺฑุลานํ สุโกฏฺฏิตปริสุทฺธานํ ทฺเว มคธนาฬิโย คเหตฺวา เตหิ ตณฺฑุเลหิ อนุตฺตณฺฑุลํ อกิลินฺนํ อปิณฺฑิตํ สุวิสทํ กุนฺทมกุฬราสิสทิสํ อวสฺสาวิโตทนํ ปจิตฺวา นิรวเสสํ ปตฺเต ปกฺขิปิตฺวา ตสฺส โอทนสฺส จตุตฺถภาคปฺปมาโณ นาติฆโน นาติตนุโก หตฺถหาริโย สพฺพสมฺภารสงฺขโต มุคฺคสูโป ปกฺขิปิตพฺโพ. ตโต อาโลปสฺส อาโลปสฺส อนุรูปํ ยาวจริมาโลปปฺปโหนกํ มจฺฉมํสาทิพฺยฺชนํ ปกฺขิปิตพฺพํ, สปฺปิเตลตกฺกรสกฺชิกาทีนิ ปน คณนูปคานิ น โหนฺติ, ตานิ หิ โอทนคติกาเนว, เนว หาเปตุํ น วฑฺเฒตุํ สกฺโกนฺติ. เอวเมตํ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ สเจ ปตฺตสฺส มุขวฏฺฏิยา เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, สุตฺเตน วา หีเรน วา ฉินฺทนฺตสฺส สุตฺตสฺส วา หีรสฺส วา เหฏฺิมนฺตํ ผุสติ, อยํ อุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ อุกฺกฏฺโมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ, อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต.
นาฬิโกทนนฺติ มคธนาฬิยา เอกาย ตณฺฑุลนาฬิยา โอทนํ. ปตฺโถทนนฺติ มคธนาฬิยา อุปฑฺฒนาฬิโกทนํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อยํ ปน นามมตฺเต วิเสโส – สเจ นาฬิโกทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ วุตฺตนเยเนว เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโม นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ มชฺฌิโมมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น สมฺปาปุณาติ อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ มชฺฌิมุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโต. สเจ ปตฺโถทนาทิ สพฺพมฺปิ ปกฺขิตฺตํ เหฏฺิมราชิสมํ ติฏฺติ, อยํ โอมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ อติกฺกมฺม ถูปีกตํ ติฏฺติ, อยํ โอมโกมโก นาม ปตฺโต. สเจ ตํ ราชึ น ปาปุณาติ อนฺโตคตเมว โหติ, อยํ ¶ โอมกุกฺกฏฺโ นาม ปตฺโตติ เอวเมเต นว ปตฺตา. เตสุ ทฺเว อปตฺตา อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ ¶ จ โอมโกมโก จ. ‘‘ตโต อุกฺกฏฺโ ¶ อปตฺโต โอมโก อปตฺโต’’ติ อิทฺหิ เอเต สนฺธาย วุตฺตํ. อุกฺกฏฺุกฺกฏฺโ หิ เอตฺถ อุกฺกฏฺโต อุกฺกฏฺตฺตา ‘‘ตโต อุกฺกฏฺโ อปตฺโต’’ติ วุตฺโต. โอมโกมโก จ โอมกโต โอมกตฺตา ตโต โอมโก อปตฺโตติ วุตฺโต. ตสฺมา เอเต ภาชนปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพา, น อธิฏฺานุปคา, น วิกปฺปนุปคา. อิตเร ปน สตฺต อธิฏฺหิตฺวา วา วิกปฺเปตฺวา วา ปริภฺุชิตพฺพา, เอวํ อกตฺวา ตํ ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ ตํ สตฺตวิธมฺปิ ปตฺตํ ทสาหปรมํ กาลํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.
๖๐๗. นิสฺสคฺคิยํ ปตฺตํ อนิสฺสชฺชิตฺวา ปริภฺุชตีติ ยาคุํ ปิวิตฺวา โธเต ทุกฺกฏํ, ขฺชกํ ขาทิตฺวา ภตฺตํ ภฺุชิตฺวา โธเต ทุกฺกฏนฺติ เอวํ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏํ.
๖๐๘. อนาปตฺติ อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตีติ เอตฺถ ปน ปมาณยุตฺตสฺสปิ อธิฏฺานวิกปฺปนุปคตฺตํ เอวํ เวทิตพฺพํ – อโยปตฺโต ปฺจหิ ปาเกหิ มตฺติกาปตฺโต ทฺวีหิ ปาเกหิ ปกฺโก อธิฏฺานุปโค, อุโภปิ ยํ มูลํ ทาตพฺพํ, ตสฺมึ ทินฺเนเยว. สเจ เอโกปิ ปาโก อูโน โหติ, กากณิกมตฺตมฺปิ วา มูลํ อทินฺนํ, น อธิฏฺานุปโค. สเจปิ ปตฺตสามิโก วทติ ‘‘ยทา ตุมฺหากํ มูลํ ภวิสฺสติ, ตทา ทสฺสถ, อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชถา’’ติ เนว อธิฏฺานุปโค โหติ, ปากสฺส หิ อูนตฺตา ปตฺตสงฺขํ น คจฺฉติ, มูลสฺส สกลสฺส วา เอกเทสสฺส วา อทินฺนตฺตา สกภาวํ น อุเปติ, อฺสฺเสว สนฺตโก โหติ, ตสฺมา ปาเก จ มูเล จ นิฏฺิเตเยว อธิฏฺานุปโค โหติ. โย อธิฏฺานุปโค, สฺเวว วิกปฺปนุปโค, โส หตฺถํ อาคโตปิ อนาคโตปิ อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา. ยทิ หิ ปตฺตการโก มูลํ ลภิตฺวา สยํ วา ทาตุกาโม หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา อสุกทิวเส นาม ปจิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ¶ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, ปตฺโต นิฏฺิโต’’ติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ นปมาณํ. ยทา ปน เตน เปสิโตเยว ¶ อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปตฺตการโก ‘‘อหํ ตุมฺหากํ ปตฺตํ กตฺวา ปจิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, ปตฺตํ คเหตฺวา อาคตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภโต ปตฺโต สุนฺทโร’’ติ! ‘‘กุหึ, อาวุโส, ปตฺโต’’ติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิโต’’ติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ ปตฺตํ เทติ ¶ , ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ตสฺมา ทสาหํ อนติกฺกาเมตฺวาว อธิฏฺาตพฺโพ วิกปฺเปตพฺโพ วา.
ตตฺถ ทฺเว ปตฺตสฺส อธิฏฺานา – กาเยน วา อธิฏฺาติ, วาจาย วา อธิฏฺาติ. เตสํ วเสน อธิฏฺหนฺเตน จ ‘‘อิมํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺตํ ปจฺจุทฺธรามี’’ติ วา เอวํ สมฺมุเข วา ปรมฺมุเข วา ิตํ ปุราณปตฺตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺสฺส วา ทตฺวา นวํ ปตฺตํ ยตฺถ กตฺถจิ ิตํ หตฺเถน ปรามสิตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ จิตฺเตน อาโภคํ กตฺวา กายวิการํ กโรนฺเตน กาเยน วา อธิฏฺาตพฺโพ, วจีเภทํ กตฺวา วาจาย วา อธิฏฺาตพฺโพ. ตตฺร ทุวิธํ อธิฏฺานํ – สเจ หตฺถปาเส โหติ ‘‘อิมํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา. อถ อนฺโตคพฺเภ วา อุปริปาสาเท วา สามนฺตวิหาเร วา โหติ, ปิตฏฺานํ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘เอตํ ปตฺตํ อธิฏฺามี’’ติ วาจา ภินฺทิตพฺพา.
อธิฏฺหนฺเตน ปน เอกเกน อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ, อฺสฺส สนฺติเก อธิฏฺาตุมฺปิ วฏฺฏติ. อฺสฺส สนฺติเก อยมานิสํโส – สจสฺส ‘‘อธิฏฺิโต นุ โข เม, โน’’ติ วิมติ อุปฺปชฺชติ, อิตโร สาเรตฺวา วิมตึ ฉินฺทิสฺสตีติ. สเจ โกจิ ทส ปตฺเต ลภิตฺวา สพฺเพว อตฺตนาว ปริภฺุชิตุกาโม โหติ, น สพฺเพ อธิฏฺาตพฺพา. เอกํ ปตฺตํ อธิฏฺาย ปุนทิวเส ตํ ปจฺจุทฺธริตฺวา อฺโ ¶ อธิฏฺาตพฺโพ. เอเตนุปาเยน วสฺสสตมฺปิ ปริหริตุํ สกฺกา.
เอวํ อปฺปมตฺตสฺส ภิกฺขุโน สิยา อธิฏฺานวิชหนนฺติ? สิยา. สเจ หิ อยํ ปตฺตํ อฺสฺส วา เทติ, วิพฺภมติ วา สิกฺขํ วา ปจฺจกฺขาติ, กาลํ วา กโรติ, ลิงฺคํ วาสฺส ปริวตฺตติ, ปจฺจุทฺธรติ วา, ปตฺเต วา ฉิทฺทํ โหติ, อธิฏฺานํ วิชหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘ทินฺนวิพฺภนฺตปจฺจกฺขา ¶ , กาลํกิริยกเตน จ;
ลิงฺคปจฺจุทฺธรา เจว, ฉิทฺเทน ภวติ สตฺตม’’นฺติ.
โจรหรณวิสฺสาสคฺคาเหหิปิ วิชหติเยว. กิตฺตเกน ฉิทฺเทน อธิฏฺานํ ภิชฺชติ? เยน กงฺคุสิตฺถํ นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ. อิทฺหิ สตฺตนฺนํ ธฺานํ ลามกธฺสิตฺถํ, ตสฺมึ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา ปฏิปากติเก กเต ทสาหพฺภนฺตเร ปุน อธิฏฺาตพฺโพ. อยํ ตาว ‘‘อนฺโตทสาหํ อธิฏฺเติ วิกปฺเปตี’’ติ เอตฺถ อธิฏฺาเน วินิจฺฉโย.
วิกปฺปเน ¶ ปน ทฺเว วิกปฺปนา – สมฺมุขาวิกปฺปนา จ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา จ. กถํ สมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺเปมี’’ติ วตฺตพฺพํ. อยเมกา สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริภฺุชิตุํ วา วิสฺสชฺเชตุํ วา อธิฏฺาตุํ วา น วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหํ สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ เอวํ ปน วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ, ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
อปโร นโย – ตเถว ปตฺตานํ เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ตสฺเสว ภิกฺขุโน สนฺติเก ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ปฺจสุ สหธมฺมิเกสุ อฺตรสฺส อตฺตนา อภิรุจิตสฺส ยสฺส กสฺสจิ นามํ คเหตฺวา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน วิกปฺเปมี’’ติ วา ‘‘ติสฺสาย ภิกฺขุนิยา สิกฺขมานาย สามเณรสฺส ติสฺสาย ¶ สามเณริยา วิกปฺเปมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ อปราปิ สมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ‘‘ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน สนฺตกํ…เป… ติสฺสาย สามเณริยา สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
กถํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา โหติ? ปตฺตานํ ตเถว เอกพหุภาวํ สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวฺจ ตฺวา ‘‘อิมํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘อิเม ปตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตํ ปตฺต’’นฺติ วา ‘‘เอเต ปตฺเต’’ติ วา วตฺวา ‘‘ตุยฺหํ วิกปฺปนตฺถาย ทมฺมี’’ติ วตฺตพฺพํ. เตน วตฺตพฺโพ – ‘‘โก เต มิตฺโต วา สนฺทิฏฺโ วา’’ติ? ตโต อิตเรน ปุริมนเยเนว ¶ ‘‘ติสฺโส ภิกฺขูติ วา…เป… ติสฺสา สามเณรี’’ติ วา วตฺตพฺพํ. ปุน เตน ภิกฺขุนา ‘‘อหํ ติสฺสสฺส ภิกฺขุโน ทมฺมี’’ติ วา…เป… ‘‘ติสฺสาย สามเณริยา ทมฺมี’’ติ วา วตฺตพฺพํ, อยํ ปรมฺมุขาวิกปฺปนา. เอตฺตาวตฺตา นิเธตุํ วฏฺฏติ, ปริโภคาทีสุ ปน เอกมฺปิ น วฏฺฏติ. เตน ปน ภิกฺขุนา ทุติยสมฺมุขาวิกปฺปนายํ วุตฺตนเยเนว ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส สนฺตกํ ปริภฺุช วา วิสฺสชฺเชหิ วา ยถาปจฺจยํ วา กโรหี’’ติ วุตฺเต ปจฺจุทฺธาโร นาม โหติ. ตโตปภุติ ปริโภคาทโยปิ วฏฺฏนฺติ.
อิมาสํ ¶ ปน ทฺวินฺนํ วิกปฺปนานํ นานากรณํ, อวเสโส จ วจนกฺกโม สพฺโพ ปมกถินสิกฺขาปทวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ สทฺธึ สมุฏฺานาทีหีติ.
ปตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๐๙. เตน สมเยนาติ อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ น ยาเปตีติ โส กิร ยทิ อริยสาวโก นาภวิสฺสา, อฺถตฺตมฺปิ อคมิสฺสา, เอวํ เตหิ อุพฺพาฬฺโห, โสตาปนฺนตฺตา ปน เกวลํ สรีเรเนว น ยาเปติ, เตน วุตฺตํ – ‘‘อตฺตนาปิ น ยาเปติ, ปุตฺตทาราปิสฺส กิลมนฺตี’’ติ.
๖๑๒-๓. อูนปฺจพนฺธเนนาติ เอตฺถ อูนานิ ปฺจ พนฺธนานิ อสฺสาติ อูนปฺจพนฺธโน, นาสฺส ปฺจ พนฺธนานิ ปูเรนฺตีติ อตฺโถ, เตน อูนปฺจพนฺธเนน. อิตฺถมฺภูตสฺส ลกฺขเณ กรณวจนํ. ตตฺถ ยสฺมา อพนฺธนสฺสาปิ ปฺจ พนฺธนานิ น ปูเรนฺติ, สพฺพโส นตฺถิตาย, ตสฺมา ปทภาชเน ‘‘อพนฺธโน วา’’ติอาทิ วุตฺตํ ¶ . ‘‘อูนปฺจพนฺธเนนา’’ติ จ วุตฺตตฺตา ยสฺส ปฺจพนฺธโน ปตฺโต โหติ, ตสฺส โส อปตฺโต, ตสฺมา อฺํ วิฺาเปตุํ วฏฺฏติ. พนฺธนฺจ นาเมตํ ยสฺมา พนฺธโนกาเส สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺมา ตสฺส ลกฺขณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อพนฺธโนกาโส นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ทฺวงฺคุลา ราชิ น โหตีติ มุขวฏฺฏิโต เหฏฺา ทฺวงฺคุลปฺปมาณา เอกาปิ ราชิ น โหติ. ยสฺส ทฺวงฺคุลา ราชิ โหตีติ ยสฺส ปน ตาทิสา เอกา ¶ ราชิ โหติ, โส ตสฺสา ราชิยา เหฏฺิมปริยนฺเต ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิตฺวา ปจิตฺวา สุตฺตรชฺชุก-มกจิรชฺชุกาทีหิ วา ติปุสุตฺตเกน วา พนฺธิตพฺโพ, ตํ พนฺธนํ อามิสสฺส อลคฺคนตฺถํ ติปุปฏฺฏเกน วา เกนจิ พทฺธสิเลเสน วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ. โส จ ปตฺโต อธิฏฺหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺโพ, สุขุมํ วา ฉิทฺทํ กตฺวา พนฺธิตพฺโพ. สุทฺเธหิ ปน มธุสิตฺถกลาขาสชฺชุลสาทีหิ พนฺธิตุํ น วฏฺฏติ. ผาณิตํ ฌาเปตฺวา ปาสาณจุณฺเณน พนฺธิตุํ วฏฺฏติ. มุขวฏฺฏิสมีเป ปน ปตฺตเวธเกน วิชฺฌิยมาโน กปาลสฺส พหลตฺตา ภิชฺชติ, ตสฺมา เหฏฺา วิชฺฌิตพฺโพ. ยสฺส ปน ทฺเว ราชิโย เอกาเยว วา จตุรงฺคุลา, ตสฺส ทฺเว พนฺธนานิ ทาตพฺพานิ. ยสฺส ติสฺโส เอกาเยว วา ฉฬงฺคุลา, ตสฺส ตีณิ. ยสฺส จตสฺโส เอกาเยว วา อฏฺงฺคุลา, ตสฺส จตฺตาริ. ยสฺส ปฺจ ¶ เอกาเยว วา ทสงฺคุลา, โส พทฺโธปิ อพทฺโธปิ อปตฺโตเยว, อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. เอส ตาว มตฺติกาปตฺเต วินิจฺฉโย.
อโยปตฺเต ปน สเจปิ ปฺจ วา อติเรกานิ วา ฉิทฺทานิ โหนฺติ, ตานิ เจ อยจุณฺเณน วา อาณิยา วา โลหมณฺฑลเกน วา พทฺธานิ มฏฺานิ โหนฺติ, สฺเวว ปตฺโต ปริภฺุชิตพฺโพ, น อฺโ วิฺาเปตพฺโพ. อถ ปน เอกมฺปิ ฉิทฺทํ มหนฺตํ โหติ, โลหมณฺฑลเกน พทฺธมฺปิ มฏฺํ น โหติ, ปตฺเต อามิสํ ลคฺคติ, อกปฺปิโย โหติ, อยํ อปตฺโต. อฺโ วิฺาเปตพฺโพ.
๖๑๕. เถโร วตฺตพฺโพติ ปตฺเต อานิสํสํ ทสฺเสตฺวา ‘‘อยํ, ภนฺเต, ปตฺโต ปมาณยุตฺโต สุนฺทโร เถรานุรูโป, ตํ คณฺหถา’’ติ วตฺตพฺโพ. โย น คณฺเหยฺยาติ อนุกมฺปาย น คณฺหนฺตสฺส ทุกฺกฏํ. โย ปน สนฺตุฏฺิยา ‘‘กึ เม อฺเน ปตฺเตนา’’ติ น คณฺหาติ, ตสฺส อนาปตฺติ. ปตฺตปริยนฺโตติ เอวํ ปริวตฺเตตฺวา ¶ ปริยนฺเต ิตปตฺโต.
น อเทเสติ มฺจปีฉตฺตนาคทนฺตกาทิเก อเทเส, น นิกฺขิปิตพฺโพ. ยตฺถ ปุริมํ สุนฺทรํ ปตฺตํ เปติ, ตตฺเถว เปตพฺโพ. ปตฺตสฺส หิ นิกฺขิปนเทโส ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาธารก’’นฺติอาทินา นเยน ขนฺธเก วุตฺโตเยว.
น ¶ อโภเคนาติ ยาคุรนฺธนรชนปจนาทินา อปริโภเคน น ปริภฺุชิตพฺโพ. อนฺตรามคฺเค ปน พฺยาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน อฺสฺมึ ภาชเน อสติ มตฺติกาย ลิมฺเปตฺวา ยาคุํ วา ปจิตุํ อุทกํ วา ตาเปตุํ วฏฺฏติ.
น วิสฺสชฺเชตพฺโพติ อฺสฺส น ทาตพฺโพ. สเจ ปน สทฺธิวิหาริโก วา อนฺเตวาสิโก วา อฺํ วรปตฺตํ เปตฺวา ‘‘อยํ มยฺหํ สารุปฺโป, อยํ เถรสฺสา’’ติ คณฺหาติ, วฏฺฏติ. อฺโ วา ตํ คเหตฺวา อตฺตโน ปตฺตํ เทติ, วฏฺฏติ. ‘‘มยฺหเมว ปตฺตํ อาหรา’’ติ วตฺตพฺพกิจฺจํ นตฺถิ.
๖๑๗. ปวาริตานนฺติ เอตฺถ สงฺฆวเสน ปวาริตฏฺาเน ปฺจพนฺธเนเนว วฏฺฏติ. ปุคฺคลวเสน ปวาริตฏฺาเน อูนปฺจพนฺธเนนาปิ วฏฺฏตีติ กุรุนฺทิยํ วุตฺตํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ , กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อูนปฺจพนฺธนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๑๘. เตน สมเยนาติ เภสชฺชสิกฺขาปทํ. ตตฺถ อตฺโถ, ภนฺเตติ ราชา ภิกฺขู อุยฺยุตฺตปฺปยุตฺเต เถรสฺส เลณตฺถาย ปพฺภารํ โสเธนฺเต ทิสฺวา อารามิกํ ทาตุกาโม ปุจฺฉิ.
๖๑๙-๒๑. ปาฏิเยกฺโกติ วิสุํ เอโก. มาลากิเตติ กตมาเล มาลาธเร, กุสุมมาลาปฏิมณฺฑิเตติ อตฺโถ. ติณณฺฑุปกนฺติ ติณจุมฺพฏกํ. ปฏิมฺุจีติ เปสิ. สา อโหสิ สุวณฺณมาลาติ ทาริกาย สีเส ปิตมตฺตาเยว เถรสฺส อธิฏฺานวเสน สุวณฺณปทุมมาลา อโหสิ. ตฺหิ ติณณฺฑุปกํ สีเส ปิตมตฺตเมว ‘‘สุวณฺณมาลา โหตู’’ติ เถโร อธิฏฺาสิ. ทุติยมฺปิ โข…เป…. เตนุปสงฺกมีติ ทุติยทิวเสเยว อุปสงฺกมิ.
สุวณฺณนฺติ ¶ อธิมุจฺจีติ ‘‘โสวณฺณมโย โหตู’’ติ อธิฏฺาสิ. ปฺจนฺนํ เภสชฺชานนฺติ สปฺปิอาทีนํ. พาหุลิกาติ ¶ ปจฺจยพาหุลิกตาย ปฏิปนฺนา. โกลมฺเพปิ ฆเฏปีติเอตฺถ โกลมฺพา นาม มหามุขจาฏิโย วุจฺจนฺติ. โอลีนวิลีนานีติ เหฏฺา จ อุภโตปสฺเสสุ จ คฬิตานิ. โอกิณฺณวิกิณฺณาติ สปฺปิอาทีนํ คนฺเธน ภูมึ ขนนฺเตหิ โอกิณฺณา, ภิตฺติโย ขนนฺเตหิ อุปริ สฺจรนฺเตหิ จ วิกิณฺณา. อนฺโตโกฏฺาคาริกาติ อพฺภนฺตเร สํวิหิตโกฏฺาคารา.
๖๒๒. ปฏิสายนียานีติ ปฏิสายิตพฺพานิ, ปริภฺุชิตพฺพานีติ อตฺโถ. เภสชฺชานีติ เภสชฺชกิจฺจํ กโรนฺตุ วา มา วา, เอวํ ลทฺธโวหารานิ. ‘‘โคสปฺปี’’ติอาทีหิ โลเก ปากฏํ ทสฺเสตฺวา ‘‘เยสํ มํสํ กปฺปตี’’ติ อิมินา อฺเสมฺปิ มิคโรหิตสสาทีนํ สปฺปึ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสสิ. เยสฺหิ ขีรํ อตฺถิ, สปฺปิปิ เตสํ อตฺถิเยว, ตํ ปน สุลภํ วา โหตุ ทุลฺลภํ วา, อสมฺโมหตฺถํ วุตฺตํ. เอวํ นวนีตมฺปิ.
สนฺนิธิการกํ ปริภฺุชิตพฺพานีติ สนฺนิธึ กตฺวา นิทหิตฺวา ปริภฺุชิตพฺพานิ. กถํ? ปาฬิยา อาคตสปฺปิอาทีสุ สปฺปิ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ นิรามิสมฺปิ ¶ ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสํ ปริภฺุชิตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ เอกภาชเน ปิตํ, เอกํ นิสฺสคฺคิยํ. สเจ พหูสุ วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ; อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, อนชฺโฌหรณียตํ อาปนฺนตฺตา. ‘‘ปฏิสายนียานี’’ติ หิ วุตฺตํ. สเจ อนุปสมฺปนฺโน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน สปฺปึ กตฺวา เทติ, ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ. สเจ สยํ กโรติ, สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตนวนีเตน ปน เยน เกนจิ กตสปฺปิ สตฺตาหมฺปิ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. อุคฺคหิตเกน กเต ปุพฺเพ วุตฺตสุทฺธสปฺปินเยเนว วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตขีเรน วา ทธินา วา กตสปฺปิ ¶ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ สามิสมฺปิ ตทหุปุเรภตฺตํ วฏฺฏติ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ ¶ . นวนีตํ ตาเปนฺตสฺส หิ สามํปาโก น โหติ, สามํปกฺเกน ปน เตน สทฺธึ อามิสํ น วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย จ น วฏฺฏติเยว. สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สวตฺถุกสฺส ปฏิคฺคหิตตฺตา, ‘‘ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา’’ติ หิ วุตฺตํ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตหิ กตํ ปน อพฺภฺชนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตมฺปิ จ อุคฺคหิตเกหิ กตํ อุภเยสมฺปิ สตฺตาหาติกฺกเม อนาปตฺติ. เอเสว นโย อกปฺปิยมํสสปฺปิมฺหิ. อยํ ปน วิเสโส – ยตฺถ ปาฬิยํ อาคตสปฺปินา นิสฺสคฺคิยํ, ตตฺถ อิมินา ทุกฺกฏํ. อนฺธกฏฺกถายํ การณปติรูปกํ วตฺวา มนุสฺสสปฺปิ จ นวนีตฺจ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตํ ทุปฺปฏิกฺขิตฺตํ, สพฺพอฏฺกถาสุ อนฺุาตตฺตา. ปรโต จสฺส วินิจฺฉโยปิ อาคจฺฉิสฺสติ.
ปาฬิยํ อาคตํ นวนีตมฺปิ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ตทหุปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม นานาภาชเนสุ ปิเต ภาชนคณนาย เอกภาชเนปิ อมิสฺเสตฺวา ปิณฺฑปิณฺฑวเสน ปิเต ปิณฺฑคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สปฺปินเยเนว เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ทธิคุฬิกาโยปิ ตกฺกพินฺทูนิปิ โหนฺติ, ตสฺมา ตํ โธตํ วฏฺฏตีติ อุปฑฺฒตฺเถรา อาหํสุ. มหาสีวตฺเถโร ปน ‘‘ภควตา อนฺุาตกาลโต ปฏฺาย ตกฺกโต อุทฺธฏมตฺตเมว ขาทึสู’’ติ อาห. ตสฺมา นวนีตํ ปริภฺุชนฺเตน โธวิตฺวา ทธิตกฺกมกฺขิกากิปิลฺลิกาทีนิ อปเนตฺวา ปริภฺุชิตพฺพํ. ปจิตฺวา สปฺปึ กตฺวา ปริภฺุชิตุกาเมน อโธตมฺปิ ปจิตุํ วฏฺฏติ. ยํ ตตฺถ ทธิคตํ วา ตกฺกคตํ วา ตํ ขยํ คมิสฺสติ, เอตฺตาวตา หิ สวตฺถุกปฏิคฺคหิตํ นาม น โหตีติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. อามิเสน ¶ สทฺธึ ปกฺกตฺตา ปน ตสฺมิมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติ กุกฺกุจฺจกา. อิทานิ อุคฺคเหตฺวา ปิตนวนีเต จ ปุเรภตฺตํ ขีรทธีนิ ¶ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ ปจฺฉาภตฺตํ ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา กตนวนีเต จ อุคฺคหิเตหิ กตนววีเต จ อกปฺปิยมํสนวนีเต จ สพฺโพ อาปตฺตานาปตฺติปริโภคาปริโภคนโย สปฺปิมฺหิ วุตฺตกฺกเมเนว คเหตพฺโพ.
เตลภิกฺขาย ปวิฏฺานํ ปน ภิกฺขูนํ ตตฺเถว สปฺปิมฺปิ นวนีตมฺปิ ปกฺกเตลมฺปิ อปกฺกเตลมฺปิ อากิรนฺติ, ตตฺถ ตกฺกทธิพินฺทูนิปิ ภตฺตสิตฺถานิปิ ตณฺฑุลกณาปิ มกฺขิกาทโยปิ โหนฺติ. อาทิจฺจปากํ กตฺวา ¶ ปริสฺสาเวตฺวา คหิตํ สตฺตาหกาลิกํ โหติ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปิตเภสชฺเชหิ สทฺธึ ปจิตฺวา นตฺถุปานมฺปิ กาตุํ วฏฺฏติ. สเจ วทฺทลิสมเย ลชฺชิ สามเณโร ยถา ตตฺถ ปติตตณฺฑุลกณาทโย น ปจฺจนฺติ, เอวํ สามิสปากํ โมเจนฺโต อคฺคิมฺหิ วิลียาเปตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา ปุน ปจิตฺวา เทติ, ปุริมนเยเนว สตฺตาหํ วฏฺฏติ.
เตเลสุ ติลเตลํ ตาว ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม ปนสฺส ภาชนคณนาย นิสฺสคฺคิยภาโว เวทิตพฺโพ. ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกํ กตฺวา นิกฺขิตฺตํ อชฺโฌหริตุํ น วฏฺฏติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปุเรภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อนชฺโฌหรณียํ โหติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ ติเล ปฏิคฺคเหตฺวา กตเตลํ อนชฺโฌหรณียเมว, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ วา ปจฺฉาภตฺตํ วา อุคฺคหิตกติเลหิ กตเตเลปิ เอเสว นโย.
ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตกติเล ภชฺชิตฺวา วา ติลปิฏฺํ วา เสเทตฺวา อุณฺโหทเกน วา เตเมตฺวา กตเตลํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. อตฺตนา กตเตลํ ปน นิพฺพฏฺฏิตตฺตา ปุเรภตฺตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สามํปกฺกตฺตา ¶ สามิสํ น วฏฺฏติ, สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา ปน ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย อุภยมฺปิ อนชฺโฌหรณียํ, สีสมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ยทิ ปน อปฺปํ อุณฺโหทกํ โหติ อพฺภุกฺกิรณมตฺตํ, อพฺโพหาริกํ โหติ, สามปากคณนํ น คจฺฉติ. สาสปเตลาทีสุปิ อวตฺถุกปฏิคฺคหิเตสุ อวตฺถุกติลเตเล วุตฺตสทิโสว วินิจฺฉโย.
สเจ ¶ ปน ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตานํ สาสปาทีนํ จุณฺเณหิ อาทิจฺจปาเกน สกฺกา เตลํ กาตุํ, ตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย นิรามิสเมว, สตฺตาหาติกฺกเม นิสฺสคฺคิยํ. ยสฺมา ปน สาสปมธุกจุณฺณาทีนิ เสเทตฺวา เอรณฺฑกฏฺีนิ จ ภชฺชิตฺวา เอว เตลํ กโรนฺติ, ตสฺมา เตสํ เตลํ อนุปสมฺปนฺเนหิ กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. วตฺถูนํ ยาวชีวิกตฺตา ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหเณ โทโส นตฺถีติ. อตฺตนา กตํ ¶ สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคเนว ปริภฺุชิตพฺพํ. อุคฺคหิตเกหิ กตํ อนชฺโฌหรณียํ พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ.
เตลกรณตฺถาย สาสปมธุกเอรณฺฑกฏฺีนิ วา ปฏิคฺคเหตฺวา กตํ เตลํ สตฺตาหกาลิกํ. ทุติยทิวเส กตํ ฉาหํ วฏฺฏติ. ตติยทิวเส กตํ ปฺจาหํ วฏฺฏติ. จตุตฺถ-ปฺจม-ฉฏฺสตฺตามทิวเส กตํ ตทเหว วฏฺฏติ. สเจ ยาว อรุณสฺส อุคฺคมนา ติฏฺติ, นิสฺสคฺคิยํ. อฏฺเม ทิวเส กตํ อนชฺโฌหรณียํ. อนิสฺสคฺคิยตฺตา ปน พาหิรปริโภเค วฏฺฏติ. สเจปิ น กโรติ, เตลตฺถาย คหิตสาสปาทีนํ สตฺตาหาติกฺกมเน ทุกฺกฏเมว. ปาฬิยํ ปน อนาคตานิ อฺานิปิ นาฬิเกรนิมฺพโกสมฺพกกรมนฺทอตสีอาทีนํ เตลานิ อตฺถิ, ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา สตฺตาหํ อติกฺกามยโต ทุกฺกฏํ โหติ. อยเมเตสุ วิเสโส. เสสํ ยาวกาลิกวตฺถุํ ยาวชีวิกวตฺถฺุจ สลฺลกฺเขตฺวา สามํปากสวตฺถุกปุเรภตฺตปจฺฉาภตฺตปฏิคฺคหิตอุคฺคหิตกวตฺถุวิธานํ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๖๒๓. วสาเตลนฺติ ¶ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานิ, อจฺฉวสํ, มจฺฉวสํ, สุสุกาวสํ, สูกรวสํ, คทฺรภวส’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ อนฺุาตวสานํ เตลํ. เอตฺถ จ ‘‘อจฺฉวส’’นฺติ วจเนน เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ อกปฺปิยมํสาน วสา อนฺุาตา. มจฺฉคฺคหเณน จ สุสุกาปิ คหิตา โหนฺติ, วาฬมจฺฉตฺตา ปน วิสุํ วุตฺตํ. มจฺฉาทิคฺคหเณน เจตฺถ สพฺเพสมฺปิ กปฺปิยมํสานํ วสา อนฺุาตา. มํเสสุ หิ ทสมนอุสฺส-หตฺถิ-อสฺส-สุนข-อหิ-สีห-พฺยคฺฆ-ทีปิ-อจฺฉ-ตรจฺฉานํ มํสานิ อกปฺปิยานิ. วสาสุ เอกา มนุสฺสวสาว. ขีราทีสุ อกปฺปิยํ นาม นตฺถิ.
อนุปสมฺปนฺเนหิ กตนิพฺพฏฺฏิตวสาเตลํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ยํ ปน ตตฺถ สุขุมรชสทิสํ มํสํ วา นฺหารุ วา อฏฺิ วา โลหิตํ วา โหติ, ตํ อพฺโพหาริกํ. สเจ ปน วสํ ปฏิคฺคเหตฺวา สยํ กโรติ, ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคเหตฺวา ปจิตฺวา ปริสฺสาเวตฺวา สตฺตาหํ นิรามิสปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพํ ¶ . นิรามิสปริโภคฺหิ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘กาเล ¶ ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุ’’นฺติ (มหาว. ๒๖๒). ตตฺราปิ อพฺโพหาริกํ อพฺโพหาริกเมว. ปจฺฉาภตฺตํ ปน ปฏิคฺคหิตุํ วา กาตุํ วา น วฏฺฏติเยว. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘วิกาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ติณฺณํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ วิกาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทฺวินฺนํ ทุกฺกฏานํ. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ วิกาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส. กาเล เจ, ภิกฺขเว, ปฏิคฺคหิตํ กาเล นิปฺปกฺกํ กาเล สํสฏฺํ, ตํ เจ ปริภฺุเชยฺย, อนาปตฺตี’’ติ.
อุปติสฺสตฺเถรํ ปน อนฺเตวาสิกา ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, สปฺปินวนีตวสานิ ¶ เอกโต ปจิตฺวา นิพฺพฏฺฏิตานิ วฏฺฏนฺติ, น วฏฺฏนฺตี’’ติ? ‘‘น วฏฺฏนฺติ, อาวุโส’’ติ. เถโร กิเรตฺถ ปกฺกเตลกสเฏ วิย กุกฺกุจฺจายติ. ตโต นํ อุตฺตริ ปุจฺฉึสุ – ‘‘ภนฺเต, นวนีเต ทธิคุฬิกา วา ตกฺกพินฺทุ วา โหติ, เอตํ วฏฺฏตี’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ, อาวุโส, น วฏฺฏตี’’ติ. ตโต นํ อาหํสุ – ‘‘ภนฺเต, เอกโต ปจิตฺวา สํสฏฺานิ เตชวนฺตานิ โหนฺติ, โรคํ นิคฺคณฺหนฺตี’’ติ? ‘‘สาธาวุโส’’ติ เถโร สมฺปฏิจฺฉิ.
มหาสุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘กปฺปิยมํสวสา สามิสปริโภเค วฏฺฏติ, อิตรา นิรามิสปริโภเค วฏฺฏตี’’ติ. มหาปทุมตฺเถโร ปน ‘‘อิทํ กิ’’นฺติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘นนุ วาตาพาธิกา ภิกฺขู ปฺจมูลกสาวยาคุยํ อจฺฉสูกรเตลาทีนิ ปกฺขิปิตฺวา ยาคุํ ปิวนฺติ, สา เตชุสฺสทตฺตา โรคํ นิคฺคณฺหาตี’’ติ วตฺวา ‘‘วฏฺฏตี’’ติ อาห.
มธุ นาม มกฺขิกามธูติ มธุกรีหิ นาม มธุมกฺขิกาหิ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ ภมรมกฺขิกาหิ จ กตํ มธุ. ตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสปริโภคมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสปริโภคเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม สเจ สิเลสสทิสํ มหามธุํ ขณฺฑํ ขณฺฑํ กตฺวา ปิตํ, อิตรํ วา นานาภาชเนสุ, วตฺถุคณนาย นิสฺสคฺคิยานิ. สเจ เอกเมว ขณฺฑํ, เอกภาชเน วา อิตรํ เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อรุมกฺขนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. มธุปฏลํ ¶ วา มธุสิตฺถกํ วา สเจ มธุนา อมกฺขิตํ ¶ ปริสุทฺธํ, ยาวชีวิกํ. มธุมกฺขิตํ ปน มธุคติกเมว. จีริกา นาม สปกฺขา ทีฆมกฺขิกา, ตุมฺพลนามิกา จ อฏฺิปกฺขา กาฬมหาภมรา โหนฺติ, เตสํ อาสเยสุ นิยฺยาสสทิสํ มธุ โหติ, ตํ ยาวชีวิกํ.
ผาณิตํ นาม อุจฺฉุมฺหา นิพฺพตฺตนฺติ อุจฺฉุรสํ อุปาทาย อปกฺกา วา อวตฺถุกปกฺกา วา สพฺพาปิ อวตฺถุกา อุจฺฉุวิกติ ผาณิตนฺติ เวทิตพฺพา. ตํ ผาณิตํ ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ¶ นิสฺสคฺคิยํ. พหู ปิณฺฑา จุณฺเณตฺวา เอกภาชเน ปกฺขิตฺตา โหนฺติ ฆนสนฺนิเวสา, เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. อุคฺคหิตกํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, ฆรธูปนาทีสุ อุปเนตพฺพํ. ปุเรภตฺตํ ปฏิคฺคหิเตน อปริสฺสาวิตอุจฺฉุรเสน กตผาณิตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ, สามิสมฺปิ วฏฺฏติ. สยํกตํ นิรามิสเมว วฏฺฏติ. ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย ปน สวตฺถุกปฏิคฺคหิตตฺตา อนชฺโฌหรณียํ, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ปจฺฉาภตฺตํ อปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตมฺปิ อนชฺโฌหรณียเมว, สตฺตาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. เอส นโย อุจฺฉุํ ปฏิคฺคเหตฺวา กตผาณิเตปิ. ปุเรภตฺตํ ปน ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิตเกน กตํ สเจ อนุปสมฺปนฺเนน กตํ ปุเรภตฺตํ สามิสมฺปิ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สยํกตํ ปุเรภตฺตมฺปิ นิรามิสเมว. ปจฺฉาภตฺตํ ปริสฺสาวิตปฏิคฺคหิเตน กตํ ปน นิรามิสเมว สตฺตาหํ วฏฺฏติ. อุคฺคหิตกกตํ วุตฺตนยเมว. ‘‘ฌามอุจฺฉุผาณิตํ วา โกฏฺฏิตอุจฺฉุผาณิตํ วา ปุเรภตฺตเมว วฏฺฏตี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ.
มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘เอตํ สวตฺถุกปกฺกํ วฏฺฏติ, โน วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉํ กตฺวา ‘‘อุจฺฉุผาณิตํ ปจฺฉาภตฺตํ โนวฏฺฏนกํ นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ. สีตุทเกน กตํ มธุกปุปฺผผาณิตํ ปุเรภตฺตํ สามิสํ วฏฺฏติ, ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สตฺตาหํ นิรามิสเมว. สตฺตาหาติกฺกเม วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏํ. ขีรํ ปกฺขิปิตฺวา กตํ มธุกผาณิตํ ยาวกาลิกํ. ขณฺฑสกฺขรํ ปน ขีรชลฺลิกํ อปเนตฺวา โสเธนฺติ, ตสฺมา วฏฺฏติ. มธุกปุปฺผํ ปน ปุเรภตฺตํ อลฺลํ วฏฺฏติ, ภชฺชิตมฺปิ วฏฺฏติ. ภชฺชิตฺวา ติลาทีหิ มิสฺสํ วา ¶ อมิสฺสํ วา กตฺวา โกฏฺฏิตมฺปิ วฏฺฏติ. ยทิ ปน ตํ คเหตฺวา เมรยตฺถาย โยเชนฺติ, โยชิตํ พีชโต ปฏฺาย น วฏฺฏติ. กทลี-ขชฺชูรี-อมฺพ-ลพุช-ปนส-จิฺจาทีนํ สพฺเพสํ ยาวกาลิกผลานํ ¶ ผาณิตํ ยาวกาลิกเมว. มริจปกฺเกหิ ผาณิตํ กโรนฺติ, ตํ ยาวชีวิกํ.
ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวาติ สเจปิ สพฺพานิปิ ปฏิคฺคเหตฺวา เอก ฆเฏ อวินิพฺโภคานิ กตฺวา นิกฺขิปติ ¶ , สตฺตาหาติกฺกเม เอกเมว นิสฺสคฺคิยํ. วินิภุตฺเตสุ ปฺจ นิสฺสคฺคิยานิ. สตฺตาหํ ปน อนติกฺกาเมตฺวา คิลาเนนปิ อคิลาเนนปิ วุตฺตนเยเนว ยถาสุขํ ปริภฺุชิตพฺพํ. สตฺตวิธฺหิ โอทิสฺสํ นาม – พฺยาธิโอทิสฺสํ, ปุคฺคโลทิสฺสํ, กาโลทิสฺสํ, สมโยทิสฺสํ, เทโสทิสฺสํ, วโสทิสฺสํ, เภสชฺโชทิสฺสนฺติ.
ตตฺถ พฺยาธิโอทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิต’’นฺติ (มหาว. ๒๖๔) เอวํ พฺยาธึ อุทฺทิสฺส อนฺุาตํ, ตํ เตเนว อาพาเธน อาพาธิกสฺส วฏฺฏติ, น อฺสฺส. ตฺจ โข กาเลปิ วิกาเลปิ กปฺปิยมฺปิ อกปฺปิยมฺปิ วฏฺฏติเยว.
ปุคฺคโลทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถนํ. น จ, ภิกฺขเว, พหิมุขทฺวารํ นีหริตฺวา อชฺโฌหริตพฺพ’’นฺติ (จูฬว. ๒๗๓) เอวํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส อนฺุาตํ, ตํ ตสฺเสว วฏฺฏติ, น อฺสฺส.
กาโลทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ มหาวิกฏานิ ทาตุํ – คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกํ, มตฺติก’’นฺติ (มหาว. ๒๖๘) เอวํ อหินา ทฏฺกาลํ อุทฺทิสฺส อนฺุาตํ, ตํ ตสฺมึเยว กาเล อปฺปฏิคฺคหิตกมฺปิ วฏฺฏติ, น อฺสฺมึ.
สมโยทิสฺสํ นาม – ‘‘คณโภชเน อฺตฺร สมยา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๒๑๗) นเยน ตํ ตํ สมยํ อุทฺทิสฺส อนฺุาตา อนาปตฺติโย, ตา ตสฺมึ ตสฺมึเยว สมเย อนาปตฺติโย โหนฺติ, น อฺทา.
เทโสทิสฺสํ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอวรูเปสุ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปฺจเมน คเณน อุปสมฺปท’’นฺติ (มหาว. ๒๕๙) เอวํ ปจฺจนฺตเทเส อุทฺทิสฺส อนฺุาตานิ อุปสมฺปทาทีนิ, ตานิ ตตฺเถว วฏฺฏนฺติ, น มชฺฌิมเทเส.
วโสทิสฺสํ ¶ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วสานิ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๒) เอวํ วสานาเมน อนฺุาตํ ¶ , ตํ เปตฺวา มนุสฺสวสํ สพฺเพสํ กปฺปิยากปฺปิยวสานํ เตลํ ตํตทตฺถิกานํ เตลปริโภเคน ปริภฺุชิตุํ วฏฺฏติ.
เภสชฺโชทิสฺสํ ¶ นาม – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฺจ เภสชฺชานี’’ติ (มหาว. ๒๖๐-๒๖๑) เอวํ เภสชฺชนาเมน อนฺุาตานิ อาหารตฺถํ ผริตุํ สมตฺถานิ สปฺปินวนีตเตลมธุผาณิตนฺติ. ตานิ ปฏิคฺคเหตฺวา ตทหุปุเรภตฺตํ ยถาสุขํ ปจฺฉาภตฺตโต ปฏฺาย สติ ปจฺจเย วุตฺตนเยเนว สตฺตาหํ ปริภฺุชิตพฺพานิ.
๖๒๔. สตฺตาหาติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ สเจปิ สาสปมตฺตํ โหติ สกึ วา องฺคุลิยา คเหตฺวา ชิวฺหาย สายนมตฺตํ นิสฺสชฺชิตพฺพเมว, ปาจิตฺติยฺจ เทเสตพฺพํ.
น กายิเกน ปริโภเคน ปริภฺุชิตพฺพนฺติ กาโย วา กาเย อรุ วา น มกฺเขตพฺพํ. เตหิ มกฺขิตานิ กาสาวกตฺตรยฏฺิอุปาหนปาทกถลิกมฺจปีาทีนิปิ อปริโภคานิ. ‘‘ทฺวารวาตปานกวาเฏสุปิ หตฺเถน คหณฏฺานํ น มกฺเขตพฺพ’’นฺติ มหาปจฺจริยํ วุตฺตํ. ‘‘กสาเว ปน ปกฺขิปิตฺวา ทฺวารวาตปานกวาฏานิ มกฺเขตพฺพานี’’ติ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ.
อนาปตฺติ อนฺโตสตฺตาหํ อธิฏฺเตีติ สตฺตาหพฺภนฺตเร สปฺปิฺจ เตลฺจ วสฺจ มุทฺธนิเตลํ วา อพฺภฺชนํ วา มธุํ อรุมกฺขนํ ผาณิตํ ฆรธูปนํ อธิฏฺเติ, อนาปตฺติ. สเจ อธิฏฺิตเตลํ อนธิฏฺิตเตลภาชเน อากิริตุกาโม โหติ, ภาชเน เจ สุขุมํ ฉิทฺทํ ปวิฏฺํ ปวิฏฺํ เตลํ ปุราณเตเลน อชฺโฌตฺถรียติ, ปุน อธิฏฺาตพฺพํ. อถ มหามุขํ โหติ, สหสาว พหุเตลํ ปวิสิตฺวา ปุราณเตลํ อชฺโฌตฺถรติ, ปุน อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. อธิฏฺิตคติกเมว หิ ตํ โหติ, เอเตน นเยน อธิฏฺิตเตลภาชเน อนธิฏฺิตเตลากิรณมฺปิ ¶ เวทิตพฺพํ.
๖๒๕. วิสฺสชฺเชตีติ เอตฺถ สเจ ทฺวินฺนํ สนฺตกํ เอเกน ปฏิคฺคหิตํ อวิภตฺตํ โหติ, สตฺตาหาติกฺกเม ทฺวินฺนมฺปิ อนาปตฺติ, ปริภฺุชิตุํ ปน น วฏฺฏติ. สเจ เยน ปฏิคฺคหิตํ, โส อิตรํ ภณติ – ‘‘อาวุโส, อิมํ เตลํ สตฺตาหมตฺตํ ปริภฺุช ตฺว’’นฺติ. โส จ ปริโภคํ น กโรติ, กสฺส อาปตฺติ? น กสฺสจิปิ อาปตฺติ ¶ . กสฺมา? เยน ปฏิคฺคหิตํ เตน วิสฺสชฺชิตตฺตา, อิตรสฺส อปฺปฏิคฺคหิตตฺตา.
วินสฺสตีติ อปริโภคํ โหติ. จตฺเตนาติอาทีสุ เยน จิตฺเตน เภสชฺชํ จตฺตฺจ วนฺตฺจ มุตฺตฺจ โหติ, ตํ จิตฺตํ จตฺตํ วนฺตํ มุตฺตนฺติ วุจฺจติ. เตน จิตฺเตน ปุคฺคโล อนเปกฺโขติ วุจฺจตฺติ, เอวํ อนเปกฺโข สามเณรสฺส ทตฺวาติ อตฺโถ. อิทํ กสฺมา วุตฺตํ? ‘‘เอวํ ¶ อนฺโตสตฺตาเห ทตฺวา ปจฺฉา ลภิตฺวา ปริภฺุชนฺตสฺส อนาปตฺติทสฺสนตฺถ’’นฺติ มหาสุมตฺเถโร อาห. มหาปทุมตฺเถโร ปนาห – ‘‘นยิทํ ยาจิตพฺพํ, อนฺโตสตฺตาเห ทินฺนสฺส หิ ปุน ปริโภเค อาปตฺติเยว นตฺถิ. สตฺตาหาติกฺกนฺตสฺส ปน ปริโภเค อนาปตฺติทสฺสนตฺถมิทํ วุตฺต’’นฺติ. ตสฺมา เอวํ ทินฺนํ เภสชฺชํ สเจ สามเณโร อภิสงฺขริตฺวา วา อนภิสงฺขริตฺวา วา ตสฺส ภิกฺขุโน นตฺถุกมฺมตฺถํ ทเทยฺย, คเหตฺวา นตฺถุกมฺมํ กาตพฺพํ. สเจ พาโล โหติ, ทาตุํ น ชานาติ, อฺเน ภิกฺขุนา วตฺตพฺโพ – ‘‘อตฺถิ เต, สามเณร, เตล’’นฺติ ‘‘อาม, ภนฺเต, อตฺถี’’ติ. ‘‘อาหร, เถรสฺส เภสชฺชํ กริสฺสามา’’ติ. เอวมฺปิ วฏฺฏติ. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
กถินสมุฏฺานํ, อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,
ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
เภสชฺชสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๒๖. เตน สมเยนาติ วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ วสฺสิกสาฏิกา อนฺุาตาติ จีวรกฺขนฺธเก วิสาขาวตฺถุสฺมึ (มหาว. ๓๔๙ อาทโย) อนฺุาตา. ปฏิกจฺเจวาติ ปุเรเยว.
๖๒๗. มาโส เสโส คิมฺหานนฺติ จตุนฺนํ คิมฺหมาสานํ เอโก ปจฺฉิมมาโส เสโส. กตฺวาติ สิพฺพนรชนกปฺปปริโยสาเนน นิฏฺเปตฺวา. กโรนฺเตน ¶ จ เอกเมว กตฺวา สมเย อธิฏฺาตพฺพํ, ทฺเว อธิฏฺาตุํ น วฏฺฏนฺติ.
อติเรกมาเส เสเส คิมฺหาเนติ คิมฺหานนามเก อติเรกมาเส เสเส.
อติเรกทฺธมาเส ¶ เสเส คิมฺหาเน กตฺวา นิวาเสตีติ เอตฺถ ปน ตฺวา วสฺสิกสาฏิกาย ปริเยสนกฺเขตฺตํ กรณกฺเขตฺตํ นิวาสนกฺเขตฺตํ อธิฏฺานกฺเขตฺตนฺติ จตุพฺพิธํ เขตฺตํ, กุจฺฉิสมโย ปิฏฺิสมโยติ ทุวิโธ สมโย, ปิฏฺิสมยจตุกฺกํ กุจฺฉิสมยจตุกฺกนฺติ ทฺเว จตุกฺกานิ จ เวทิตพฺพานิ.
ตตฺถ เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กาฬปกฺขุโปสถา, อยเมโก อทฺธมาโส ปริเยสนกฺเขตฺตฺเจว กรณกฺเขตฺตฺจ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วสฺสิกสาฏิกํ อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตฺุจ วฏฺฏติ, นิวาเสตุํ อธิฏฺาตฺุจ น วฏฺฏติ. กาฬปกฺขุโปสถสฺส ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว อาสาฬฺหีปุณฺณมา, อยเมโก ¶ อทฺธมาโส ปริเยสนกรณนิวาสนานํ ติณฺณมฺปิ เขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ปริเยสิตุํ กาตุํ นิวาเสตฺุจ วฏฺฏติ, อธิฏฺาตุํเยว น วฏฺฏติ. อาสาฬฺหีปุณฺณมาสิยา ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา, อิเม จตฺตาโร มาสา ปริเยสนกรณนิวาสนาธิฏฺานานํ จตุนฺนํ เขตฺตํ. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร อลทฺธํ ปริเยสิตุํ ลทฺธํ กาตุํ นิวาเสตุํ อธิฏฺาตฺุจ วฏฺฏติ. อิทํ ตาว จตุพฺพิธํ เขตฺตํ เวทิตพฺพํ.
กตฺติกปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว เชฏฺมูลปุณฺณมา, อิเม สตฺต มาสา ปิฏฺิสมโย นาม. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร ‘‘กาโล วสฺสิกสาฏิกายา’’ติอาทินา นเยน สตุปฺปาทํ กตฺวา อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วสฺสิกสาฏิกจีวรํ นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ‘‘เทถ เม วสฺสิกสาฏิกจีวร’’นฺติอาทินา นเยน วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. วุตฺตนเยเนว สตุปฺปาทํ กตฺวา าตกปวาริตฏฺานโต นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินาว สิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ ¶ . วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. วุตฺตฺเหตํ ปริวาเร –
‘‘มาตรํ จีวรํ ยาเจ, โน จ สงฺเฆ ปริณตํ;
เกนสฺส โหติ อาปตฺติ, อนาปตฺติ จ าตเก;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๑);
อยฺหิ ¶ ปฺโห อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺโตติ. เอวํ ปิฏฺิสมยจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.
เชฏฺมูลปุณฺณมาสิยา ปน ปจฺฉิมปาฏิปททิวสโต ปฏฺาย ยาว กตฺติกปุณฺณมา, อิเม ปฺจ มาสา กุจฺฉิสมโย นาม. เอตสฺมิฺหิ อนฺตเร วุตฺตนเยน สตุปฺปาทํ กตฺวา อฺาตกอปฺปวาริตฏฺานโต วสฺสิกสาฏิกจีวรํ นิปฺผาเทนฺตสฺส วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ. เย มนุสฺสา ปุพฺเพปิ วสฺสิกสาฏิกจีวรํ เทนฺติ, อิเม ปน สเจปิ อตฺตโน อฺาตกอปฺปวาริตา โหนฺติ, วตฺตเภโท นตฺถิ, เตสุ สตุปฺปาทกรณสฺส อนฺุาตตฺตา. วิฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. อิทํ ปน ปกติยา วสฺสิกสาฏิกทายเกสุปิ ¶ โหติเยว. วุตฺตนเยเนว สตุปฺปาทํ กตฺวา าตกปวาริตฏฺานโต นิปฺผาเทนฺตสฺส อิมินา สิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. วิฺตฺตึ กตฺวา นิปฺผาเทนฺตสฺส อฺาตกวิฺตฺติสิกฺขาปเทน อนาปตฺติ. ‘‘น วตฺตพฺพา เทถ เม’’ติ อิทฺหิ ปริเยสนกาเล อฺาตกอปฺปวาริเตเยว สนฺธาย วุตฺตํ. เอวํ กุจฺฉิสมยจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.
นคฺโค กายํ โอวสฺสาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ เอตฺถ อุทกผุสิตคณนาย อกตฺวา นฺหานปริโยสานวเสน ปโยเค ปโยเค ทุกฺกเฏน กาเรตพฺโพ. โส จ โข วิวฏงฺคเณ อากาสโต ปติตอุทเกเนว นฺหายนฺโต. นฺหานโกฏฺกวาปิอาทีสุ ฆเฏหิ อาสิตฺตอุทเกน วา นฺหายนฺตสฺส อนาปตฺติ.
วสฺสํ อุกฺกฑฺฒิยตีติ เอตฺถ สเจ กตปริเยสิตาย วสฺสิกสาฏิกาย คิมฺหานํ ปจฺฉิม มาสํ เขเปตฺวา ปุน วสฺสานสฺส ปมมาสํ อุกฺกฑฺฒิตฺวา คิมฺหานํ ปจฺฉิมมาสเมว กโรนฺติ, วสฺสิกสาฏิกา โธวิตฺวา นิกฺขิปิตพฺพา. อนธิฏฺิตา อวิกปฺปิตา ทฺเว มาเส ปริหารํ ¶ ลภติ, วสฺสูปนายิกทิวเส อธิฏฺาตพฺพา. สเจ สติสมฺโมเสน วา อปฺปโหนกภาเวน วา อกตา โหติ, เต จ ทฺเว มาเส วสฺสานสฺส จ จาตุมาสนฺติ ฉ มาเส ปริหารํ ลภติ. สเจ ปน กตฺติกมาเส กถินํ อตฺถรียติ, อปเรปิ จตฺตาโร มาเส ลภติ, เอวํ ทส มาสา โหนฺติ. ตโต ปรมฺปิ สติยา ปจฺจาสาย มูลจีวรํ กตฺวา เปนฺตสฺส เอกมาสนฺติ ¶ เอวํ เอกาทส มาเส ปริหารํ ลภติ. สเจ ปน เอกาหทฺวีหาทิวเสน ยาว ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ, กทา อธิฏฺาตพฺพาติ เอตํ อฏฺกถาสุ น วิจาริตํ. ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห นิฏฺิตา ปน ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา. ทสาหาติกฺกเม นิฏฺิตา ตทเหว อธิฏฺาตพฺพา. ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพาติ อยํ โน อตฺตโนมติ. กสฺมา? ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติจีวรํ อธิฏฺาตุํ น วิกปฺเปตุํ; วสฺสิกสาฏิกํ วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุํ, ตโต ปรํ วิกปฺเปตุ’’นฺติ (มหาว. ๓๕๘) หิ วุตฺตํ. ตสฺมา วสฺสูปนายิกโต ปุพฺเพ ทสาหาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ (ปารา. ๔๖๒) จ วุตฺตํ. ตสฺมา เอกาหทฺวีหาทิวเสน ยาว ทสาหานาคตาย วสฺสูปนายิกาย อนฺโตวสฺเส วา ลทฺธา เจว นิฏฺิตา จ วุตฺตนเยเนว อนฺโตทสาเห วา ตทหุ วา อธิฏฺาตพฺพา, ทสาเห อปฺปโหนฺเต จีวรกาลํ นาติกฺกเมตพฺพา.
ตตฺถ สิยา ‘‘วสฺสานํ จาตุมาสํ อธิฏฺาตุ’’นฺติ วจนโต ‘‘จาตุมาสพฺภนฺตเร ยทา วา ตทา ¶ วา อธิฏฺาตุํ วฏฺฏตี’’ติ. ยทิ เอวํ, ‘‘กณฺฑุปฺปฏิจฺฉาทึ ยาว อาพาธา อธิฏฺาตุ’’นฺติ วุตฺตํ สาปิ, จ ทสาหํ อติกฺกาเมตพฺพา สิยา. เอวฺจ สติ ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิทํ วิรุชฺฌติ. ตสฺมา ยถาวุตฺตเมว คเหตพฺพํ, อฺํ วา อจลํ การณํ ลภิตฺวา ฉฑฺเฑตพฺพํ. อปิจ กุรุนฺทิยมฺปิ นิสฺสคฺคิยาวสาเน ¶ วุตฺตํ – ‘‘กทา อธิฏฺาตพฺพา? ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย อนฺโตทสาเห นิฏฺิตา ปน ตสฺมึเยว อนฺโตทสาเห อธิฏฺาตพฺพา. ยทิ นปฺปโหติ ยาว กตฺติกปุณฺณมา ปริหารํ ลภตี’’ติ.
๖๓๐. อจฺฉินฺนจีวรสฺสาติ เอตํ วสฺสิกสาฏิกเมว สนฺธาย วุตฺตํ. เตสฺหิ นคฺคานํ กาโยวสฺสาปเน อนาปตฺติ. เอตฺถ จ มหคฺฆวสฺสิกสาฏิกํ นิวาเสตฺวา นฺหายนฺตสฺส โจรุปทฺทโว อาปทา นาม. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมว.
ฉสมุฏฺานํ ¶ , กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
วสฺสิกสาฏิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๑. เตน สมเยนาติ จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ยมฺปิ ตฺยาหนฺติ ยมฺปิ เต อหํ. โส กิร ‘‘มม ปตฺตจีวรอุปาหนปจฺจตฺถรณานิ วหนฺโต มยา สทฺธึ จาริกํ ปกฺกมิสฺสตี’’ติ อทาสิ. เตเนวมาห. อจฺฉินฺทีติ พลกฺกาเรน อคฺคเหสิ, สกสฺาย คหิตตฺตา ปนสฺส ปาราชิกํ นตฺถิ, กิลเมตฺวา คหิตตฺตา อาปตฺติ ปฺตฺตา.
๖๓๓. สยํ อจฺฉินฺทติ นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยนฺติ เอกํ จีวรํ เอกาพทฺธานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต เอกา อาปตฺติ. เอกโต อพทฺธานิ วิสุํ วิสุํ ิตานิ จ พหูนิ อจฺฉินฺทโต ‘‘สงฺฆาฏึ อาหร, อุตฺตราสงฺคํ อาหรา’’ติ เอวํ อาหราปยโต จ วตฺถุคณนาย อาปตฺติโย. ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ อาหรา’’ติ วทโตปิ เอกวจเนเนว สมฺพหุลา อาปตฺติโย.
อฺํ อาณาเปติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสาติ ‘‘จีวรํ คณฺหา’’ติ อาณาเปติ, เอกํ ทุกฺกฏํ. อาณตฺโต พหูนิ คณฺหาติ, เอกํ ปาจิตฺติยํ ‘‘สงฺฆาฏึ คณฺห, อุตฺตราสงฺคํ คณฺหา’’ติ วทโต วาจาย ¶ วาจาย ทุกฺกฏํ. ‘‘มยา ทินฺนานิ สพฺพานิ คณฺหา’’ติ วทโต เอกวาจาย สมฺพหุลา อาปตฺติโย.
๖๓๔. อฺํ ปริกฺขารนฺติ วิกปฺปนุปคปจฺฉิมจีวรํ เปตฺวา ยํ กิฺจิ อนฺตมโส สูจิมฺปิ. เวเตฺวา ปิตสูจีสุปิ วตฺถุคณนาย ทุกฺกฏานิ. สิถิลเวิตาสุ เอวํ. คาฬฺหํ กตฺวา พทฺธาสุ ปน เอกเมว ทุกฺกฏนฺติ มหาปจฺจริยํ ¶ วุตฺตํ. สูจิฆเร ปกฺขิตฺตาสุปิ เอเสว นโย. ถวิกาย ปกฺขิปิตฺวา สิถิลพทฺธ คาฬฺหพทฺเธสุ ติกฏุกาทีสุ เภสชฺเชสุปิ เอเสว นโย.
๖๓๕. โส ¶ วา เทตีติ ‘‘ภนฺเต, ตุมฺหากํเยว อิทํ สารุปฺป’’นฺติ เอวํ วา เทติ, อถ วา ปน ‘‘อาวุโส, มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตปฏิปตฺตึ กริสฺสติ, อมฺหากํ สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหิสฺสติ, ธมฺมํ ปริยาปุณิสฺสตี’ติ จีวรํ อทมฺห, โส ทานิ ตฺวํ น วตฺตํ กโรสิ, น อุปชฺฌํ คณฺหาสิ, น ธมฺมํ ปริยาปุณาสี’’ติ เอวมาทีนิ วุตฺโต ‘‘ภนฺเต, จีวรตฺถาย มฺเ ภณถ, อิทํ โว จีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ โส วา เทติ. ทิสาปกฺกนฺตํ วา ปน ทหรํ ‘‘นิวตฺเตถ น’’นฺติ ภณติ, โส น นิวตฺตติ. จีวรํ คเหตฺวา รุนฺธถาติ, เอวํ เจ นิวตฺตติ, สาธุ. สเจ ‘‘ปตฺตจีวรตฺถาย มฺเ ตุมฺเห ภณถ, คณฺหถ น’’นฺติ เทติ. เอวมฺปิ โส วา เทติ, วิพฺภนฺตํ วา ทิสฺวา ‘‘มยํ ตุยฺหํ ‘วตฺตํ กริสฺสตี’ติ ปตฺตจีวรํ อทมฺห, โส ทานิ ตฺวํ วิพฺภมิตฺวา จรสี’’ติ วทติ. อิตโร ‘‘คณฺหถ ตุมฺหากํ ปตฺตจีวร’’นฺติ เทติ, เอวมฺปิ โส วา เทติ. ‘‘มม สนฺติเก อุปชฺฌํ คณฺหนฺตสฺเสว เทมิ, อฺตฺถ คณฺหนฺตสฺส น เทมิ. วตฺตํ กโรนฺตสฺเสว เทมิ, อกโรนฺตสฺส น เทมิ, ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตสฺเสว เทมิ, อปริยาปุณนฺตสฺส น เทมิ, อวิพฺภมนฺตสฺเสว เทมิ, วิพฺภมนฺตสฺส น เทมี’’ติ เอวํ ปน ทาตุํ น วฏฺฏติ, ททโต ทุกฺกฏํ. อาหราเปตุํ ปน วฏฺฏติ. จชิตฺวา ทินฺนํ อจฺฉินฺทิตฺวา คณฺหนฺโต ภณฺฑคฺเฆน กาเรตพฺโพ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
ติสมุฏฺานํ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ทุกฺขเวทนนฺติ.
จีวรอจฺฉินฺทนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๓๖. เตน ¶ สมเยนาติ สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทํ. ตตฺถ โขมนฺติ โขมวาเกหิ กตสุตฺตํ. กปฺปาสิกนฺติ กปฺปาสโต นิพฺพตฺตํ. โกเสยฺยนฺติ โกสิยํสูหิ กนฺติตฺวา กตสุตฺตํ. กมฺพลนฺติ เอฬกโลมสุตฺตํ. สาณนฺติ สาณวากสุตฺตํ. ภงฺคนฺติ ปาเฏกฺกํ วากสุตฺตเมวาติ เอเก. เอเตหิ ปฺจหิ ¶ มิสฺเสตฺวา กตสุตฺตํ ปน ‘‘ภงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ.
วายาเปติ ปโยเค ปโยเค ทุกฺกฏนฺติ สเจ ตนฺตวายสฺส ตุริเวมาทีนิ นตฺถิ, ตานิ ‘‘อรฺโต อาหริสฺสามี’’ติ วาสึ วา ผรสุํ วา ¶ นิเสติ, ตโต ปฏฺาย ยํ ยํ อุปกรณตฺถาย วา จีวรวายนตฺถาย วา กโรติ, สพฺพตฺถ ตนฺตวายสฺส ปโยเค ปโยเค ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฏํ. ทีฆโต วิทตฺถิมตฺเต ติริยฺจ หตฺถมตฺเต วีเต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. มหาปจฺจริยํ ปน ‘‘ยาว ปริโยสานํ วายาเปนฺตสฺส ผลเก ผลเก นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ วุตฺตํ. ตมฺปิ อิทเมว ปมาณํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิกปฺปนุปคปจฺฉิมฺหิ จีวรสงฺขฺยํ คจฺฉตีติ.
อปิเจตฺถ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ – สุตฺตํ ตาว สามํ วิฺาปิตํ อกปฺปิยํ, เสสํ าตกาทิวเสน อุปฺปนฺนํ กปฺปิยํ. ตนฺตวาโยปิ อฺาตกอปฺปวาริโต วิฺตฺติยา ลทฺโธ อกปฺปิโย, เสโส กปฺปิโย. ตตฺถ อกปฺปิยสุตฺตํ อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปนฺตสฺส ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นิสฺสคฺคิยํ. เตเนว ปน กปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฏํ. เตเนว กปฺปิยํ อกปฺปิยฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยทิ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณน เอโก ปริจฺเฉโท สุทฺธกปฺปิยสุตฺตมโย, เอโก อกปฺปิยสุตฺตมโยติ เอวํ เกทารพทฺธํ วิย จีวรํ โหติ, อกปฺปิยสุตฺตมเย ปริจฺเฉเท ปาจิตฺติยํ, อิตรสฺมึ ตเถว ทุกฺกฏํ. ยทิ ตโต อูนปริจฺเฉทา โหนฺติ, อนฺตมโส อจฺฉิมณฺฑลปฺปมาณาปิ, สพฺพปริจฺเฉเทสุ ปริจฺเฉทคณนาย ทุกฺกฏํ. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ. กปฺปิยตนฺตวาเยนปิ อกปฺปิยสุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส ยถา ปุพฺเพ นิสฺสคฺคิยํ, เอวํ ทุกฺกฏํ. เตเนว กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ สุตฺตํ วายาเปนฺตสฺส สเจ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาณา อูนกา วา อกปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉทา โหนฺติ, เตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ทุกฺกฏํ. กปฺปิยสุตฺตปริจฺเฉเทสุ ¶ อนาปตฺติ. อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา กปฺปิยํ ติริยํ อกปฺปิยํ กตฺวา วีตํ โหติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ.
ยทิ ¶ ปน ทฺเว ตนฺตวายา โหนฺติ, เอโก กปฺปิโย เอโก อกปฺปิโย, สุตฺตฺจ อกปฺปิยํ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํ, อูนตเร ทุกฺกฏํ. อิตเรน วีเต อุภยตฺถ ทุกฺกฏํ. สเจ ทฺเวปิ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ปาจิตฺติยํ. อถ สุตฺตํ กปฺปิยํ, จีวรฺจ เกทารพทฺธาทีหิ สปริจฺเฉทํ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน วีเต ปริจฺเฉเท ปริจฺเฉเท ทุกฺกฏํ, อิตเรน วีเต อนาปตฺติ. สเจ ทฺเวปิ ¶ เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ. อถ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยฺจ อกปฺปิยฺจ, เต เจ วาเรน วินนฺติ, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปจฺฉิมจีวรปฺปมาเณสุ ปริจฺเฉเทสุ วีเตสุ ปริจฺเฉทคณนาย ปาจิตฺติยํ. อูนกตเรสุ กปฺปิยสุตฺตมเยสุ จ ทุกฺกฏํ. กปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยสุตฺตมเยสุ ปมาณยุตฺเตสุ วา อูนเกสุ วา ทุกฺกฏเมว. กปฺปิยสุตฺตมเยสุ อนาปตฺติ.
อถ เอกนฺตริเกน วา สุตฺเตน ทีฆโต วา อกปฺปิยํ ติริยํ กปฺปิยํ กตฺวา วินนฺติ, อุโภปิ วา เต เวมํ คเหตฺวา เอกโต วินนฺติ, อปริจฺเฉเท จีวเร ผลเก ผลเก ทุกฺกฏํ, สปริจฺเฉเท ปริจฺเฉทวเสน ทุกฺกฏานีติ. อยํ ปน อตฺโถ มหาอฏฺกถายํ อปากโฏ, มหาปจฺจริยาทีสุ ปากโฏ. อิธ สพฺพากาเรเนว ปากโฏ.
สเจ สุตฺตมฺปิ กปฺปิยํ, ตนฺตวาโยปิ กปฺปิโย าตกปฺปวาริโต วา มูเลน วา ปโยชิโต, วายาปนปจฺจยา อนาปตฺติ. ทสาหาติกฺกมนปจฺจยา ปน อาปตฺตึ รกฺขนฺเตน วิกปฺปนุปคปฺปมาณมตฺเต วีเต ตนฺเต ิตํเยว อธิฏฺาตพฺพํ. ทสาหาติกฺกเมน นิฏฺาปิยมานฺหิ นิสฺสคฺคิยํ ภเวยฺยาติ. าตกาทีหิ ตนฺตํ อาโรเปตฺวา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, อิทํ จีวรํ คณฺเหยฺยาถา’’ติ นิยฺยาติเตปิ เอเสว นโย.
สเจ ตนฺตวาโย เอวํ ปโยชิโต วา สยํ ทาตุกาโม วา หุตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากํ จีวรํ ¶ อสุกทิวเส นาม วายิตฺวา เปสฺสามี’’ติ วทติ, ภิกฺขุ จ เตน ปริจฺฉินฺนทิวสโต ทสาหํ อติกฺกาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.
สเจ ปน ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา สาสนํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, เตน เปสิตภิกฺขุ ปน ตสฺส ภิกฺขุโน น อาโรเจติ, อฺโ ทิสฺวา วา สุตฺวา วา ‘‘ตุมฺหากํ, ภนฺเต, จีวรํ นิฏฺิต’’นฺติ อาโรเจติ, เอตสฺส อาโรจนํ น ปมาณํ. ยทา ¶ ปน เตน เปสิโตเยว อาโรเจติ, ตสฺส วจนํ สุตทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ.
สเจ ตนฺตวาโย ‘‘อหํ ตุมฺหากํ จีวรํ วายิตฺวา กสฺสจิ หตฺเถ ปหิณิสฺสามี’’ติ วตฺวา ตเถว กโรติ, จีวรํ คเหตฺวา คตภิกฺขุ ปน อตฺตโน ปริเวเณ เปตฺวา ตสฺส น อาโรเจติ, อฺโ โกจิ ภณติ ¶ ‘‘อปิ, ภนฺเต, อธุนา อาภตํ จีวรํ สุนฺทร’’นฺติ? ‘‘กุหึ, อาวุโส, จีวร’’นฺติ? ‘‘อิตฺถนฺนามสฺส หตฺเถ เปสิต’’นฺติ. เอตสฺสปิ วจนํ น ปมาณํ. ยทา ปน โส ภิกฺขุ จีวรํ เทติ, ลทฺธทิวสโต ปฏฺาย ทสาหํ อติกฺกามยโต นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. สเจ ปน วายาปนมูลํ อทินฺนํ โหติ, ยาว กากณิกมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ, ตาว รกฺขติ.
๖๔๐. อนาปตฺติ จีวรํ สิพฺเพตุนฺติ จีวรสิพฺพนตฺถาย สุตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ อตฺโถ. อาโยเคติอาทีสุปิ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ, อาโยคาทินิมิตฺตํ วิฺาเปนฺตสฺส อนาปตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สุตฺตวิฺตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๑. เตน สมเยนาติ มหาเปสการสิกฺขาปทํ. ตตฺถ สุตฺตํ ธารยิตฺวาติ สุตฺตํ ตุเลตฺวา ปลปริจฺเฉทํ กตฺวา. อปฺปิตนฺติ ฆนํ. สุวีตนฺติ สุฏฺุ วีตํ, สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา วีตํ. สุปฺปวายิตนฺติ สุฏฺุ ปวายิตํ สพฺพฏฺาเนสุ สมํ กตฺวา ตนฺเต ปสาริตํ. สุวิเลขิตนฺติ เลขนิยา สุฏฺุ วิลิขิตํ. สุวิตจฺฉิตนฺติ โกจฺเฉน สุฏฺุ วิตจฺฉิตํ, สุนิทฺโธตนฺติ อตฺโถ. ปฏิพทฺธนฺติ เวกลฺลํ ¶ . ตนฺเตติ ตนฺเต ทีฆโต ปสารเณเยว อุปเนตฺวาติ อตฺโถ.
๖๔๒. ตตฺร เจ โส ภิกฺขูติ ยตฺร คาเม วา นิคเม วา เต ตนฺตวายา ตตฺร. วิกปฺปํ อาปชฺเชยฺยาติ ¶ วิสิฏฺํ กปฺปํ อธิกวิธานํ อาปชฺเชยฺย. ปาฬิยํ ปน เยนากาเรน วิกปฺปํ อาปนฺโน โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ โข, อาวุโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ธมฺมมฺปิ ภณตีติ ธมฺมกถมฺปิ กเถติ, ‘‘ตสฺส วจเนน อายตํ วา วิตฺถตํ วา อปฺปิตํ วา’’ติ สุตฺตวฑฺฒนอาการเมว ทสฺเสติ.
ปุพฺเพ ¶ อปฺปวาริโตติ จีวรสามิเกหิ ปุพฺเพ อปฺปวาริโต หุตฺวา. เสสํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ฉสมุฏฺานํ, กิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ,
ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๔๖-๙. เตน สมเยนาติ อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ทสาหานาคตนฺติ ทส อหานิ ทสาหํ, เตน ทสาเหน อนาคตา ทสาหานาคตา, ทสาเหน อสมฺปตฺตาติ อตฺโถ, ตํ ทสาหานาคตํ, อจฺจนฺตสํโยควเสน ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, เตเนวสฺส ปทภาชเน ‘‘ทสาหานาคตายา’’ติ วุตฺตํ. ปวารณายาติ อิทํ ปน ยา สา ทสาหานาคตาติ วุตฺตา, ตํ สรูปโต ทสฺเสตุํ อสมฺโมหตฺถํ อนุปโยควจนํ.
กตฺติกเตมาสิกปุณฺณมนฺติ ปมกตฺติกเตมาสิกปุณฺณมํ. อิธาปิ ปมปทสฺส อนุปโยคตฺตา ปุริมนเยเนว ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘‘ยโต ปฏฺาย ปมมหาปวารณา ทสาหานาคตา’ติ วุจฺจติ, สเจปิ ตานิ ทิวสานิ อจฺจนฺตเมว ภิกฺขุโน อจฺเจกจีวรํ อุปฺปชฺเชยฺย, ‘อจฺเจกํ อิท’นฺติ ชานมาเนน ภิกฺขุนา สพฺพมฺปิ ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ. เตน ปวารณามาสสฺส ชุณฺหปกฺขปฺจมิโต ปาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหติ. กามฺเจส ‘‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อตฺถุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ¶ ปิตํ.
อจฺเจกจีวรนฺติ อจฺจายิกจีวรํ วุจฺจติ, ตสฺส ปน อจฺจายิกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสนาย วา คนฺตุกาโม โหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สทฺธาติ อิมินา สทฺธามตฺตกเมว ทสฺสิตํ. ปสาโทติ ¶ อิมินา สุปฺปสนฺนา พลวสทฺธา. เอตํ อจฺเจกจีวรํ นามาติ เอตํ อิเมหิ การเณหิ ทาตุกาเมน ทูตํ วา เปเสตฺวา สยํ วา อาคนฺตฺวา ‘‘วสฺสาวาสิกํ ทสฺสามี’’ติ เอวํ อาโรจิตํ จีวรํ อจฺเจกจีวรํ นาม โหตี. ฉฏฺิโต ปฏฺาย ¶ ปน อุปฺปนฺนํ อนจฺเจกจีวรมฺปิ ปจฺจุทฺธริตฺวา ปิตจีวรมฺปิ เอตํ ปริหารํ ลภติเยว.
สฺาณํ กตฺวา นิกฺขิปิตพฺพนฺติ กิฺจิ นิมิตฺตํ กตฺวา เปตพฺพํ. กสฺมา เอตํ วุตฺตํ? ยทิ หิ ตํ ปุเร ปวารณาย วิภชนฺติ. เยน คหิตํ, เตน ฉินฺนวสฺเสน น ภวิตพฺพํ. สเจ ปน โหติ, ตํ จีวรํ สงฺฆิกเมว โหติ. ตโต สลฺลกฺเขตฺวา สุขํ ทาตุํ ภวิสฺสตีติ.
๖๕๐. อจฺเจกจีวเร อจฺเจกจีวรสฺีติ เอวมาทิ วิภชิตฺวา คหิตเมว สนฺธาย วุตฺตํ. สเจ ปน อวิภตฺตํ โหติ, สงฺฆสฺส วา ภณฺฑาคาเร, จีวรสมยาติกฺกเมปิ อนาปตฺติ. อิติ อติเรกจีวรสฺส ทสาหํ ปริหาโร. อกตสฺส วสฺสิกสาฏิกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน ปฺจ มาสา, วสฺเส อุกฺกฑฺฒิเต ฉ มาสา, อตฺถเต กถิเน อปเร จตฺตาโร มาสา. เหมนฺตสฺส ปจฺฉิเม ทิวเส มูลจีวราธิฏฺานวเสน อปโรปิ เอโก มาโสติ เอกาทส มาสา ปริหาโร. สติยา ปจฺจาสาย มูลจีวรสฺส เอโก มาโส, อจฺเจกจีวรสฺส อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปฺจ มาสา, ตโต ปรํ เอกทิวสมฺปิ ปริหาโร นตฺถีติ เวทิตพฺพํ.
อนจฺเจกจีวเรติ อจฺเจกจีวรสทิเส อฺสฺมึ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
กถินสมุฏฺานํ – อกิริยํ, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๒. เตน ¶ สมเยนาติ สาสงฺกสิกฺขาปทํ. ตตฺถ วุตฺถวสฺสา อารฺเกสูติ เต ปุพฺเพปิ อรฺเเยว วิหรึสุ. ทุพฺพลจีวรตฺตา ปน ปจฺจยวเสน คามนฺตเสนาสเน วสฺสํ วสิตฺวา นิฏฺิตจีวรา หุตฺวา ‘‘อิทานิ นิปฺปลิโพธา สมณธมฺมํ กริสฺสามา’’ติ อารฺเกสุ เสนาสเนสุ ¶ ¶ วิหรนฺติ. กตฺติกโจรกาติ กตฺติกมาเส โจรา. ปริปาเตนฺตีติ อุปทฺทวนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อาธาวิตฺวา อุตฺตาเสนฺติ ปลาเปนฺติ. อนฺตรฆเร นิกฺขิปิตุนฺติ อนฺโตคาเม นิกฺขิปิตุํ. ภควา ยสฺมา ปจฺจยา นาม ธมฺเมน สเมน ทุลฺลภา, สลฺเลขวา หิ ภิกฺขุ มาตรมฺปิ วิฺาเปตุํ น สกฺโกติ. ตสฺมา จีวรคุตฺตตฺถํ อนฺตรฆเร นิกฺขิปิตุํ อนุชานาติ. ภิกฺขูนํ ปน อนุรูปตฺตา อรฺวาสํ น ปฏิกฺขิปิ.
๖๕๓. อุปวสฺสํ โข ปนาติ เอตฺถ อุปวสฺสนฺติ อุปวสฺส; อุปวสิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิย หิ เอตฺถ อนุนาสิโก ทฏฺพฺโพ. วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จาติ อตฺโถ. อิมสฺส จ ปทสฺส ‘‘ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กึ วุตฺตํ โหติ? วสฺสํ อุปคนฺตฺวา วสิตฺวา จ ตโต ปรํ ปจฺฉิมกตฺติกปุณฺณมปริโยสานกาลํ ยานิ โข ปน ตานิ อารฺกานิ เสนาสนานิ สาสงฺกสมฺมตานิ สปฺปฏิภยานิ; ตถารูเปสุ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต อากงฺขมาโน ติณฺณํ จีวรานํ อฺตรํ จีวรํ อนฺตรฆเร นิกฺขิเปยฺยาติ. ยสฺมา ปน โย วสฺสํ อุปคนฺตฺวา ยาว ปมกตฺติกปุณฺณมํ วสติ, โส วุฏฺวสฺสานํ อพฺภนฺตโร โหติ, ตสฺมา อิทํ อติคหนํ พฺยฺชนวิจารณํ อกตฺวา ปทภาชเน เกวลํ จีวรนิกฺเขปารหํ ปุคฺคลํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุฏฺวสฺสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ตสฺสาปิ ‘‘ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อยฺหิ เอตฺถ อตฺโถ ‘‘วุฏฺวสฺสานํ ภิกฺขุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต’’ติ เอวรูปานํ ภิกฺขูนํ อพฺภนฺตเร โย โกจิ ภิกฺขูติ วุตฺตํ โหติ.
อรฺลกฺขณํ อทินฺนาทานวณฺณนายํ วุตฺตํ. อยํ ปน วิเสโส – สเจ วิหาโร ปริกฺขิตฺโต โหติ, ปริกฺขิตฺตสฺส ¶ คามสฺส อินฺทขีลโต อปริกฺขิตฺตสฺส ปริกฺเขปารหฏฺานโต ปฏฺาย ยาว วิหารปริกฺเขปา มินิตพฺพํ. สเจ วิหาโร อปริกฺขิตฺโต โหติ, ยํ สพฺพปมํ เสนาสนํ วา ภตฺตสาลา วา ธุวสนฺนิปาตฏฺานํ วา โพธิวา เจติยํ วา ทูเร เจปิ เสนาสนโต โหติ, ตํ ปริจฺเฉทํ กตฺวา มินิตพฺพํ. สเจปิ อาสนฺเน คาโม โหติ, วิหาเร ิเตหิ ฆรมานุสกานํ สทฺโท สูยติ, ปพฺพตนทีอาทีหิ ปน อนฺตริตตฺตา น สกฺกา อุชุํ คนฺตุํ, โย จสฺส ปกติมคฺโค โหติ, สเจปิ นาวาย สฺจริตพฺโพ, เตน มคฺเคน คามโต ¶ ปฺจธนุสติกํ คเหตพฺพํ. โย อาสนฺนคามสฺส องฺคสมฺปาทนตฺถํ ตโต ตโต มคฺคํ ปิทหติ, อยํ ‘‘ธุตงฺคโจโร’’ติ เวทิตพฺโพ.
สาสงฺกสมฺมตานีติ ¶ ‘‘สาสงฺกานี’’ติ สมฺมตานิ; เอวํ สฺาตานีติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยน การเณน ตานิ สาสงฺกสมฺมตานิ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาราเม อารามูปจาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สห ปฏิภเยน สปฺปฏิภยานิ, สนฺนิหิตพลวภยานีติ อตฺโถ. ปทภาชเน ปน เยน การเณน ตานิ สปฺปฏิภยานิ; ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาราเม อารามูปจาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ.
สมนฺตา โคจรคาเม นิกฺขิเปยฺยาติ อารฺกสฺส เสนาสนสฺส สมนฺตา สพฺพทิสาภาเคสุ อตฺตนา อภิรุจิเต โคจรคาเม สติยา องฺคสมฺปตฺติยา นิกฺขิเปยฺย.
ตตฺรายํ องฺคสมฺปตฺติ – ปุริมิกาย อุปคนฺตฺวา มหาปวารณาย ปวาริโต โหติ, อิทเมกํ องฺคํ. สเจ ปจฺฉิมิกาย วา อุปคโต โหติ ฉินฺนวสฺโส วา, นิกฺขิปิตุํ น ลภติ. กตฺติกมาโสเยว โหติ, อิทํ ทุติยํ องฺคํ. กตฺติกมาสโต ปรํ น ลภติ, ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิมเมว ปมาณยุตฺตํ เสนาสนํ โหติ, อิทํ ตติยํ องฺคํ. อูนปฺปมาเณ วา คาวุตโต อติเรกปฺปมาเณ วา น ลภติ, ยตฺร หิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ปุน วิหารํ ภตฺตเวลายํ สกฺกา อาคนฺตุํ, ตเทว อิธ อธิปฺเปตํ. นิมนฺติโต ปน อทฺธโยชนมฺปิ โยชนมฺปิ คนฺตฺวา วสิตุํ ปจฺเจติ, อิทมปฺปมาณํ. สาสงฺกสปฺปฏิภยเมว โหติ, อิทํ จตุตฺถํ ¶ องฺคํ. อนาสงฺกอปฺปฏิภเย หิ องฺคยุตฺเตปิ เสนาสเน วสนฺโต นิกฺขิปิตุํ น ลภตีติ.
อฺตฺร ภิกฺขุสมฺมุติยาติ ยา อุโทสิตสิกฺขาปเท โกสมฺพกสมฺมุติ (ปารา. ๔๗๕) อนฺุาตา ตสฺสา สมฺมุติยา อฺตฺร; สเจ สา ลทฺธา โหติ, ฉารตฺตาติเรกมฺปิ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏติ.
ปุน คามสีมํ โอกฺกมิตฺวาติ สเจ โคจรคามโต ปุรตฺถิมาย ทิสาย เสนาสนํ; อยฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหติ, เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺาเปตุํ อสกฺโกนฺเตน คามสีมมฺปิ โอกฺกมิตฺวา ¶ สภายํ วา ยตฺถ กตฺถจิ วา วสิตฺวา จีวรปฺปวตฺตึ ตฺวา ปกฺกมิตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. เอวํ อสกฺโกนฺเตน ตตฺเถว ิเตน ปจฺจุทฺธริตพฺพํ, อติเรกจีวรฏฺาเน สฺสตีติ. เสสํ อุตฺตานเมว.
กถินสมุฏฺานํ ¶ – กายวาจโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, อกิริยา, โนสฺาวิโมกฺขํ, อจิตฺตกํ, ปณฺณตฺติวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, ติจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา
๖๕๗. เตน สมเยนาติ ปริณตสิกฺขาปทํ. ตตฺถ ปูคสฺสาติ สมูหสฺส; ธมฺมคณสฺสาติ อตฺโถ. ปฏิยตฺตนฺติ ปฏิยาทิตํ. พหู สงฺฆสฺส ภตฺตาติ สงฺฆสฺส พหูนิ ภตฺตานิ อเนกานิ ลาภมุขานิ; น สงฺฆสฺส เกนจิ ปริหานีติ ทีเปนฺติ. โอโณเชถาติ เทถ. กึ ปเนวํ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ กสฺมา น วฏฺฏติ? อยฺหิ อภิหฏภิกฺขา อภิหริตฺวา เอกสฺมึ โอกาเส สงฺฆสฺสตฺถาย ปฏิยตฺตา อภิหฏปฏิยตฺเต จ อุทฺทิสฺส ปิตภาเค จ ปยุตฺตวาจา นาม นตฺถิ.
๖๕๘. สงฺฆิกนฺติ สงฺฆสฺส สนฺตกํ. โส หิ สงฺฆสฺส ปริณตตฺตา หตฺถํ อนารูฬฺโหปิ เอเกน ปริยาเยน สงฺฆสฺส สนฺตโก โหติ, ปทภาชเน ปน ‘‘สงฺฆิกํ นาม สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ ปริจฺจตฺต’’นฺติ เอวํ อตฺถุทฺธารวเสน นิปฺปริยายโตว สงฺฆิกํ ทสฺสิตํ. ลาภนฺติ ปฏิลภิตพฺพวตฺถุํ ¶ อาห. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘จีวรมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปริณตนฺติ สงฺฆสฺส นินฺนํ สงฺฆสฺส โปณํ สงฺฆสฺส ปพฺภารํ หุตฺวา ิตํ. เยน ปน การเณน โส ปริณโต โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทสฺสาม กริสฺสามาติ วาจา ภินฺนา โหตี’’ติ ปทภาชนํ วุตฺตํ.
๖๕๙. ปโยเค ¶ ทุกฺกฏนฺติ ปริณตลาภสฺส อตฺตโน ปริณามนปโยเค ทุกฺกฏํ, ปฏิลาเภน ตสฺมึ หตฺถํ อารูฬฺเห นิสฺสคฺคิยํ. สเจ ปน สงฺฆสฺส ทินฺนํ โหติ, ตํ คเหตุํ น วฏฺฏติ, สงฺฆสฺเสว ทาตพฺพํ. โยปิ อารามิเกหิ สทฺธึ เอกโต ขาทติ, ภณฺฑํ อคฺฆาเปตฺวา กาเรตพฺโพ. ปริณตํ ปน สหธมฺมิกานํ วา คิหีนํ วา อนฺตมโส มาตุสนฺตกมฺปิ ‘‘อิทํ มยฺหํ เทหี’’ติ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมตฺวา คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ‘‘อิมสฺส ภิกฺขุโน เทหี’’ติ เอวํ อฺสฺส ปริณาเมนฺตสฺส สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. เอกํ ปตฺตํ วา จีวรํ วา อตฺตโน, เอกํ อฺสฺส ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยฺเจว สุทฺธิกปาจิตฺติยฺจ. เอเสว นโย พหูสุ. วุตฺตมฺปิ เจตํ –
‘‘นิสฺสคฺคิเยน ¶ อาปตฺตึ, สุทฺธิเกน ปาจิตฺติยํ;
อาปชฺเชยฺย เอกโต;
ปฺหา เมสา กุสเลหิ จินฺติตา’’ติ. (ปริ. ๔๘๐);
อยฺหิ ปริณามนํ สนฺธาย วุตฺโต. โยปิ วสฺสิกสาฏิกสมเย มาตุฆเรปิ สงฺฆสฺส ปริณตํ วสฺสิกสาฏิกํ ตฺวา อตฺตโน ปริณาเมติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ปรสฺส ปริณาเมติ, สุทฺธิกปาจิตฺติยํ. มนุสฺสา ‘‘สงฺฆภตฺตํ กริสฺสามา’’ติ สปฺปิเตลาทีนิ อาหรนฺติ, คิลาโน เจปิ ภิกฺขุ สงฺฆสฺส ปริณตภาวํ ตฺวา กิฺจิ ยาจติ, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยเมว. สเจ ปน โส ‘‘ตุมฺหากํ สปฺปิอาทีนิ อาภฏานิ อตฺถี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม, อตฺถี’’ติ วุตฺเต ‘‘มยฺหมฺปิ เทถา’’ติ วทติ, วฏฺฏติ. อถาปิ นํ กุกฺกุจฺจายนฺตํ อุปาสกา วทนฺติ – ‘‘สงฺโฆปิ อมฺเหหิ ทินฺนเมว ลภติ; คณฺหถ, ภนฺเต’’ติ เอวมฺปิ วฏฺฏติ.
๖๖๐. สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺสงฺฆสฺสาติ เอกสฺมึ วิหาเร สงฺฆสฺส ปริณตํ อฺํ วิหารํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘อสุกสฺมึ นาม มหาวิหาเร สงฺฆสฺส เทถา’’ติ ปริณาเมติ ¶ .
เจติยสฺส วาติ ‘‘กึ สงฺฆสฺส ทินฺเนน, เจติยสฺสปูชํ กโรถา’’ติ เอวํ เจติยสฺส วา ปริณาเมติ.
เจติยสฺส ¶ ปริณตนฺติ เอตฺถ นิยเมตฺวา อฺเจติยสฺสตฺถาย โรปิตมาลาวจฺฉโต อฺเจติยมฺหิ ปุปฺผมฺปิ อาโรเปตุํ น วฏฺฏติ. เอกสฺส เจติยสฺส ปน ฉตฺตํ วา ปฏากํ วา อาโรเปตฺวา ิตํ ทิสฺวา เสสํ อฺสฺส เจติยสฺส ทาเปตุํ วฏฺฏติ.
ปุคฺคลสฺส ปริณตนฺติ อนฺตมโส สุนขสฺสาปิ ปริณตํ ‘‘อิมสฺส สุนขสฺส มา เทหิ, เอตสฺส เทหี’’ติ เอวํ อฺปุคฺคลสฺส ปริณาเมติ, ทุกฺกฏํ. สเจ ปน ทายกา ‘‘มยํ สงฺฆสฺส ภตฺตํ ทาตุกามา, เจติยสฺส ปูชํ กาตุกามา, เอกสฺส ภิกฺขุโน ปริกฺขารํ ทาตุกามา, ตุมฺหากํ รุจิยา ทสฺสาม; ภณถ, กตฺถ เทมา’’ติ วทนฺติ. เอวํ วุตฺเต เตน ภิกฺขุนา ‘‘ยตฺถ อิจฺฉถ, ตตฺถ เทถา’’ติ วตฺตพฺพา. สเจ ปน เกวลํ ‘‘กตฺถ เทมา’’ติ ปุจฺฉนฺติ, ปาฬิยํ อาคตนเยเนว วตฺตพฺพํ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.
ติสมุฏฺานํ ¶ – กายจิตฺตโต วาจาจิตฺตโต กายวาจาจิตฺตโต จ สมุฏฺาติ, กิริยํ, สฺาวิโมกฺขํ, สจิตฺตกํ, โลกวชฺชํ, กายกมฺมวจีกมฺมํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติ.
สมนฺตปาสาทิกาย วินยสํวณฺณนาย
ปริณตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิโต ปตฺตวคฺโค ตติโย.
นิสฺสคฺคิยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปาราชิกกณฺฑ-อฏฺกถา นิฏฺิตา.