📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วินยปิฏเก

สารตฺถทีปนี-ฏีกา (ปโม ภาโค)

คนฺถารมฺภกถา

มหาการุณิกํ พุทฺธํ, ธมฺมฺจ วิมลํ วรํ;

วนฺเท อริยสงฺฆฺจ, ทกฺขิเณยฺยํ นิรงฺคณํ.

อุฬารปุฺเตเชน, กตฺวา สตฺตุวิมทฺทนํ;

ปตฺตรชฺชาภิเสเกน, สาสนุชฺโชตนตฺถินา.

นิสฺสาย สีหฬินฺเทน, ยํ ปรกฺกมพาหุนา;

กตฺวา นิกายสามคฺคึ, สาสนํ สุวิโสธิตํ.

กสฺสปํ ตํ มหาเถรํ, สงฺฆสฺส ปริณายกํ;

ทีปสฺมึ ตมฺพปณฺณิมฺหิ, สาสโนทยการกํ.

ปฏิปตฺติปราธีนํ, สทารฺนิวาสินํ;

ปากฏํ คคเน จนฺท-มณฺฑลํ วิย สาสเน.

สงฺฆสฺส ปิตรํ วนฺเท, วินเย สุวิสารทํ;

ยํ นิสฺสาย วสนฺโตหํ, วุทฺธิปฺปตฺโตสฺมิ สาสเน.

อนุเถรํ มหาปุฺํ, สุเมธํ สุติวิสฺสุตํ;

อวิขณฺฑิตสีลาทิ-ปริสุทฺธคุโณทยํ.

พหุสฺสุตํ สติมนฺตํ, ทนฺตํ สนฺตํ สมาหิตํ;

นมามิ สิรสา ธีรํ, ครุํ เม คณวาจกํ.

อาคตาคมตกฺเกสุ , สทฺทสตฺถนยฺุสุ;

ยสฺสนฺเตวาสิภิกฺขูสุ, สาสนํ สุปฺปติฏฺิตํ.

วินยฏฺกถายาหํ, ลีนสารตฺถทีปนึ;

กริสฺสามิ สุวิฺเยฺยํ, ปริปุณฺณมนากุลํ.

โปราเณหิ กตํ ยํ ตุ, ลีนตฺถสฺส ปกาสนํ;

น ตํ สพฺพตฺถ ภิกฺขูนํ, อตฺถํ สาเธติ สพฺพโส.

ทุวิฺเยฺยสภาวาย, สีหฬาย นิรุตฺติยา;

คณฺิปเทสฺวเนเกสุ, ลิขิตํ กิฺจิ กตฺถจิ.

มาคธิกาย ภาสาย, อารภิตฺวาปิ เกนจิ;

ภาสนฺตเรหิ สมฺมิสฺสํ, ลิขิตํ กิฺจิเทว จ.

อสารคนฺถภาโรปิ, ตตฺเถว พหุ ทิสฺสติ;

อากุลฺจ กตํ ยตฺถ, สุวิฺเยฺยมฺปิ อตฺถโต.

ตโต อปริปุณฺเณน, ตาทิเสเนตฺถ สพฺพโส;

กถมตฺถํ วิชานนฺติ, นานาเทสนิวาสิโน.

ภาสนฺตรํ ตโต หิตฺวา, สารมาทาย สพฺพโส;

อนากุลํ กริสฺสามิ, ปริปุณฺณวินิจฺฉยนฺติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา

วินยสํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยํ นมสฺสิตุกาโม ตสฺส วิสิฏฺคุณโยคสนฺทสฺสนตฺถํ ‘‘โย กปฺปโกฏีหิปี’’ติอาทิมาห. วิสิฏฺคุณโยเคน หิ วนฺทนารหภาโว, วนฺทนารเห จ กตา วนฺทนา ยถาธิปฺเปตมตฺถํ สาเธติ. เอตฺถ จ สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณปฺปโยชนํ ตตฺถ ตตฺถ พหุธา ปปฺเจนฺติ อาจริยา. ตถา หิ วณฺณยนฺติ –

‘‘สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยวนฺทนา สํวณฺเณตพฺพสฺส ธมฺมสฺส ปภวนิสฺสยวิสุทฺธิปฏิเวทนตฺถํ, ตํ ปน ธมฺมสํวณฺณนาสุ วิฺูนํ พหุมานุปฺปาทนตฺถํ, ตํ สมฺมเทว เตสํ อุคฺคหณธารณาทิกฺกมลทฺธพฺพาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพหิตสุขนิปฺผาทนตฺถํ. อถ วา มงฺคลภาวโต , สพฺพกิริยาสุ ปุพฺพกิจฺจภาวโต, ปณฺฑิเตหิ สมาจริตภาวโต, อายตึ ปเรสํ ทิฏฺานุคติอาปชฺชนโต จ สํวณฺณนายํ รตนตฺตยปณามกิริยา’’ติ.

มยํ ปน อิธาธิปฺเปตเมว ปโยชนํ ทสฺสยิสฺสาม. ตสฺมา สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. อิทเมว หิ ปโยชนํ อาจริเยน อิธาธิปฺเปตํ. ตถา หิ วกฺขติ –

‘‘อิจฺเจวมจฺจนฺตนมสฺสเนยฺยํ ,

นมสฺสมาโน รตนตฺตยํ ยํ;

ปุฺาภิสนฺทํ วิปุลํ อลตฺถํ,

ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ.

รตนตฺตยปณามกรเณน เจตฺถ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนํ รตนตฺตยปูชาย ปฺาปาฏวภาวโต, ตาย ปฺาปาฏวฺจ ราคาทิมลวิธมนโต. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๑.๑๑).

ตสฺมา รตนตฺตยปูชเนน วิกฺขาลิตมลาย ปฺาย ปาฏวสิทฺธิ.

อถ วา รตนตฺตยปูชนสฺส ปฺาปทฏฺานสมาธิเหตุตฺตา ปฺาปาฏวํ. วุตฺตฺหิ ตสฺส สมาธิเหตุตฺตํ –

‘‘เอวํ อุชุคตจิตฺโต โข, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายติ, ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (อ. นิ. ๑๑.๑๑.).

สมาธิสฺส จ ปฺาย ปทฏฺานภาโว วุตฺโตเยว ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๙; มิ. ป. ๒.๑.๑๔). ตโต เอวํ ปฏุภูตาย ปฺาย ปฏิฺามหตฺตกตํ เขทมภิภุยฺย อนนฺตราเยน สํวณฺณนํ สมาปยิสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถ’’นฺติ.

อถ วา รตนตฺตยปูชาย อายุวณฺณสุขพลวฑฺฒนโต อนนฺตราเยน ปริสมาปนํ เวทิตพฺพํ. รตนตฺตยปณาเมน หิ อายุวณฺณสุขพลานิ วฑฺฒนฺติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อภิวาทนสีลิสฺส , นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน;

จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ, อายุ วณฺโณ สุขํ พล’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๐๙);

ตโต อายุวณฺณสุขพลวุฑฺฒิยา โหเตว การิยนิฏฺานมิติ วุตฺตํ ‘‘อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถ’’นฺติ.

อถ วา รตนตฺตยคารวสฺส ปฏิภานาปริหานาวหตฺตา. อปริหานาวหฺหิ ตีสุปิ รตเนสุ คารวํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สตฺติเม, ภิกฺขเว, อปริหานิยา ธมฺมา. กตเม สตฺต? สตฺถุคารวตา ธมฺมคารวตา สงฺฆคารวตา สิกฺขาคารวตา สมาธิคารวตา กลฺยาณมิตฺตตา โสวจสฺสตา’’ติ (อ. นิ. ๗.๓๔).

โหเตว จ ตโต ปฏิภานาปริหาเนน ยถาปฏิฺาตปริสมาปนํ.

อถ วา ปสาทวตฺถูสุ ปูชาย ปุฺาติสยภาวโต. วุตฺตฺหิ ตสฺส ปุฺาติสยตฺตํ –

‘‘ปูชารเห ปูชยโต, พุทฺเธ ยทิว สาวเก;

ปปฺจสมติกฺกนฺเต, ติณฺณโสกปริทฺทเว.

‘‘เต ตาทิเส ปูชยโต, นิพฺพุเต อกุโตภเย;

น สกฺกา ปุฺํ สงฺขาตุํ, อิเมตฺตมปิ เกนจี’’ติ. (ธ. ป. ๑๙๕-๑๙๖; อป. เถร ๑.๑๐.๑-๒);

ปุฺาติสโย จ ยถาธิปฺเปตปริสมาปนุปาโย. ยถาห –

‘‘เอส เทวมนุสฺสานํ, สพฺพกามทโท นิธิ;

ยํ ยเทวาภิปตฺเถนฺติ, สพฺพเมเตน ลพฺภตี’’ติ. (ขุ. ปา. ๘.๑๐);

อุปาเยสุ จ ปฏิปนฺนสฺส โหเตว การิยนิฏฺานํ. รตนตฺตยปูชา หิ นิรติสยปุฺกฺเขตฺตสํพุทฺธิยา อปริเมยฺยปฺปภโว ปุฺาติสโยติ พหุวิธนฺตราเยปิ โลกสนฺนิวาเส อนฺตรายนิพนฺธนสกลสํกิเลสวิทฺธํสนาย ปโหติ, ภยาทิอุปทฺทวฺจ นิวาเรติ. ตสฺมา สุวุตฺตํ ‘‘สํวณฺณนารมฺเภ รตนตฺตยปณามกรณํ ยถาปฏิฺาตสํวณฺณนาย อนนฺตราเยน ปริสมาปนตฺถนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ.

เอวํ ปน สปฺปโยชนํ รตนตฺตยวนฺทนํ กตฺตุกาโม ปมํ ตาว ภควโต วนฺทนํ กาตุํ ตมฺมูลกตฺตา เสสรตนานํ ‘‘โย กปฺป…เป… มหาการุณิกสฺส ตสฺสา’’ติ อาห. เอตฺถ ปน ยสฺสา เทสนาย สํวณฺณนํ กตฺตุกาโม, สา ยสฺมา กรุณาปฺปธานา, น สุตฺตนฺตเทสนา วิย กรุณาปฺาปฺปธานา, นาปิ อภิธมฺมเทสนา วิย ปฺาปฺปธานา, ตสฺมา กรุณาปฺปธานเมว ภควโต โถมนํ อารทฺธํ. เอสา หิ อาจริยสฺส ปกติ, ยทิทํ อารมฺภานุรูปโถมนา. เตเนว สุตฺตนฺตเทสนาย สํวณฺณนารมฺเภ ‘‘กรุณาสีตลหทยํ, ปฺาปชฺโชตวิหตโมหตม’’นฺติ กรุณาปฺาปฺปธานํ, อภิธมฺมเทสนาย สํวณฺณนารมฺเภ ‘‘กรุณา วิย สตฺเตสุ, ปฺา ยสฺส มเหสิโน’’ติ ปฺาปฺปธานฺจ โถมนํ อารทฺธํ. กรุณาปฺาปฺปธานา หิ สุตฺตนฺตเทสนา เตสํ เตสํ สตฺตานํ อาสยานุสยาธิมุตฺติจริยาทิเภทปริจฺฉินฺทนสมตฺถาย ปฺาย สตฺเตสุ จ มหากรุณาย ตตฺถ สาติสยปฺปวตฺติโต. สุตฺตนฺตเทสนาย หิ มหากรุณาสมาปตฺติพหุโล เวเนยฺยสนฺตาเนสุ ตทชฺฌาสยานุโลเมน คมฺภีรมตฺถปทํ ปติฏฺาเปสิ. อภิธมฺมเทสนา จ เกวลํ ปฺาปฺปธานา ปรมตฺถธมฺมานํ ยถาสภาวปฏิเวธสมตฺถาย ปฺาย ตตฺถ สาติสยปฺปวตฺติโต.

วินยเทสนา ปน อาสยาทินิรเปกฺขํ เกวลํ กรุณาย ปากติกสตฺเตนปิ อโสตพฺพารหํ สุณนฺโต อปุจฺฉิตพฺพารหํ ปุจฺฉนฺโต อวตฺตพฺพารหฺจ วทนฺโต ภควา สิกฺขาปทํ ปฺเปสีติ กรุณาปฺปธานา. ตถา หิ อุกฺกํสปริยนฺตคตหิโรตฺตปฺโปปิ ภควา โลกิยสาธุชเนหิปิ ปริหริตพฺพานิ ‘‘สิขรณีสี’’ติอาทีนิ วจนานิ ยถาปราธฺจ ครหวจนานิ วินยปิฏกเทสนาย มหากรุณาสฺโจทิตมานโส มหาปริสมชฺเฌ อภาสิ, ตํตํสิกฺขาปทปฺตฺติการณาเปกฺขาย เวรฺชาทีสุ สารีริกฺจ เขทมนุโภสิ. ตสฺมา กิฺจาปิ ภูมนฺตรปจฺจยาการสมยนฺตรกถานํ วิย วินยปฺตฺติยาปิ สมุฏฺาปิกา ปฺา อนฺสาธารณตาย อติสยกิจฺจวตี, กรุณาย กิจฺจํ ปน ตโตปิ อธิกนฺติ กรุณาปฺปธานา วินยเทสนา. กรุณาพฺยาปาราธิกตาย หิ เทสนาย กรุณาปฺปธานตา. ตสฺมา อารมฺภานุรูปํ กรุณาปฺปธานเมว เอตฺถ โถมนํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

กรุณาคฺคหเณน จ อปริเมยฺยปฺปภาวา สพฺเพปิ พุทฺธคุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา ตํมูลกตฺตา เสสพุทฺธคุณานํ. มหากรุณาย วา ฉสุ อสาธารณาเณสุ อฺตรตฺตา ตํสหจริตเสสาสาธารณาณานมฺปิ คหณสพฺภาวโต สพฺเพปิ พุทฺธคุณา นยโต ทสฺสิตาว โหนฺติ. เอโสเยว หิ นิรวเสสโต พุทฺธคุณานํ ทสฺสนุปาโย ยทิทํ นยคฺคาโห. อฺถา โก นาม สมตฺโถ ภควโต คุเณ อนุปทํ นิรวเสสโต ทสฺเสตุํ. เตเนวาห –

‘‘พุทฺโธปิ พุทฺธสฺส ภเณยฺย วณฺณํ,

กปฺปมฺปิ เจ อฺมภาสมาโน;

ขีเยถ กปฺโป จิรทีฆมนฺตเร,

วณฺโณ น ขีเยถ ตถาคตสฺสา’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๓๐๔; ๓.๑๔๑; ม. นิ. อฏฺ. ๒.๔๒๕);

เตเนว จ อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรนปิ พุทฺธคุณปริจฺเฉทนํ ปติอนุยุตฺเตน ‘‘โน เหตํ, ภนฺเต’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘อปิจ เม, ภนฺเต, ธมฺมนฺวโย วิทิโต’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๔๖) วุตฺตํ. ตสฺมา ‘‘โย กปฺปโกฏีหิปี’’ติอาทินา กรุณามุเขน สงฺเขปโต สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ อภิตฺถวีติ ทฏฺพฺพํ. อยเมตฺถ สมุทายตฺโถ.

อยํ ปน อวยวตฺโถ – โยติ อนิยมวจนํ. ตสฺส ‘‘นาโถ’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ‘‘กปฺปโกฏีหิปี’’ติอาทินา ปน ยาย กรุณาย โส ‘‘มหาการุณิโก’’ติ วุจฺจติ, ตสฺสา วเสน กปฺปโกฏิคณนายปิ อปฺปเมยฺยํ กาลํ โลกหิตตฺถาย อติทุกฺกรํ กโรนฺตสฺส ภควโต ทุกฺขานุภวนํ ทสฺเสติ. กรุณาย พเลเนว หิ โส ภควา หตฺถคตมฺปิ นิพฺพานํ ปหาย สํสารปงฺเก นิมุคฺคํ สตฺตนิกายํ ตโต สมุทฺธรณตฺถํ จินฺเตตุมฺปิ อสกฺกุเณยฺยํ นยนชีวิตปุตฺตภริยทานาทิกํ อติทุกฺกรมกาสิ. กปฺปโกฏีหิปิ อปฺปเมยฺยํ กาลนฺติ กปฺปโกฏิคณนายปิ ‘‘เอตฺตกา กปฺปโกฏิโย’’ติ ปเมตุํ อสกฺกุเณยฺยํ กาลํ, กปฺปโกฏิคณนวเสนปิ ปริจฺฉินฺทิตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา อปริจฺฉินฺนานิ กปฺปสตสหสฺสาธิกานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานีติ วุตฺตํ โหติ. กปฺปโกฏิวเสเนว หิ โส กาโล อปฺปเมยฺโย, อสงฺขฺเยยฺยวเสน ปน ปริจฺฉินฺโนเยว. ‘‘กปฺปโกฏีหิปี’’ติ อปิสทฺโท กปฺปโกฏิวเสนปิ ตาว ปเมตุํ น สกฺกา, ปเคว วสฺสคณนายาติ ทสฺเสติ. ‘‘อปฺปเมยฺยํ กาล’’นฺติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ ‘‘มาสมธีเต, ทิวสํ จรตี’’ติอาทีสุ วิย. กโรนฺโต อติทุกฺกรานีติ ปฺจมหาปริจฺจาคาทีนิ อติทุกฺกรานิ กโรนฺโต. เอวมติทุกฺกรานิ กโรนฺโต กึ วินฺทีติ เจ? เขทํ คโต, กายิกํ เขทมุปคโต, ปริสฺสมํ ปตฺโตติ อตฺโถ, ทุกฺขมนุภวีติ วุตฺตํ โหติ. ทุกฺขฺหิ ขิชฺชติ สหิตุมสกฺกุเณยฺยนฺติ ‘‘เขโท’’ติ วุจฺจติ. โลกหิตายาติ ‘‘อนมตคฺเค สํสาเร วฏฺฏทุกฺเขน อจฺจนฺตปีฬิตํ สตฺตโลกํ ตมฺหา ทุกฺขโต โมเจตฺวา นิพฺพานสุขภาคิยํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ สตฺตโลกสฺส หิตกรณตฺถายาติ อตฺโถ. อสฺส จ ‘‘อติทุกฺกรานิ กโรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. โลกหิตาย เขทํ คโตติ โยชนายปิ นตฺถิ โทโส. มหาคณฺิปเทปิ หิ ‘‘อติทุกฺกรานิ กโรนฺโต เขทํ คโต, กิมตฺถนฺติ เจ? โลกหิตายา’’ติ วุตฺตํ.

ยํ ปน เอวํ โยชนํ อสมฺภาเวนฺเตน เกนจิ วุตฺตํ ‘‘น หิ ภควา โลกหิตาย สํสารทุกฺขมนุภวติ. น หิ กสฺสจิ ทุกฺขานุภวนํ โลกสฺส อุปการํ อาวหตี’’ติ, ตํ ตสฺส มติมตฺตํ. เอวํ โยชนายปิ อติทุกฺกรานิ กโรนฺตสฺส ภควโต ทุกฺขานุภวนํ โลกหิตกรณตฺถายาติ อยมตฺโถ วิฺายติ, น ตุ ทุกฺขานุภวเนเนว โลกหิตสิทฺธีติ. ปมํ วุตฺตโยชนายปิ หิ น ทุกฺกรกรณมตฺเตน โลกหิตสิทฺธิ. น หิ ทุกฺกรํ กโรนฺโต กฺจิ สตฺตํ มคฺคผลาทีสุ ปติฏฺาเปติ, อถ โข ตาทิสํ อติทุกฺกรํ กตฺวา สพฺพฺุภาวํ สจฺฉิกตฺวา นิยฺยานิกธมฺมเทสนาย มคฺคผลาทีสุ สตฺเต ปติฏฺาเปนฺโต โลกสฺส หิตํ สาเธติ.

กามฺเจตฺถ สตฺตสงฺขารภาชนวเสน ติวิโธ โลโก, หิตกรณสฺส ปน อธิปฺเปตตฺตา ตํวิสยสฺเสว สตฺตโลกสฺส วเสน อตฺโถ คเหตพฺโพ. โส หิ โลกียนฺติ เอตฺถ ปุฺปาปานิ ตํวิปาโก จาติ ‘‘โลโก’’ติ วุจฺจติ. กตฺถจิ ปน ‘‘สนรามรโลกครุ’’นฺติอาทีสุ สมูหตฺโถปิ โลกสทฺโท สมุทายวเสน โลกียติ ปฺาปียตีติ. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ วุตฺตํ ‘‘อิมินา สตฺตโลกฺจ ชาติโลกฺจ สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา ตสฺส สตฺตโลกสฺส อิธโลกปรโลกหิตํ, อติกฺกนฺตปรโลกานํ วา อุจฺฉินฺนโลกสมุทยานํ อิธ ชาติโลเก โอกาสโลเก วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสงฺขาตฺจ หิตํ สมฺปิณฺเฑตฺวา โลกสฺส, โลกานํ, โลเก วา หิตนฺติ สรูเปกเสสํ กตฺวา โลกหิตมิจฺเจวาหา’’ติ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสงฺขอาตหิตสฺสปิ สตฺตโลกวิสยตฺตา, สตฺตโลกคฺคหเณเนว อุจฺฉินฺนมูลานํ ขีณาสวานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา.

สพฺพตฺถ ‘‘เกนจี’’ติ วุตฺเต ‘‘วชิรพุทฺธิฏีกากาเรนา’’ติ คเหตพฺพํ. ‘‘มหาคณฺิปเท’’ติ วา ‘‘มชฺฌิมคณฺิปเท’’ติ วา ‘‘จูฬคณฺิปเท’’ติ วา วุตฺเต ‘‘สีหฬคณฺิปเทสู’’ติ คเหตพฺพํ. เกวลํ ‘‘คณฺิปเท’’ติ วุตฺเต ‘‘มาคธภาสาย ลิขิเต คณฺิปเท’’ติ คเหตพฺพํ.

นาโถติ โลกปฏิสรโณ, โลกสามี โลกนายโกติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ สพฺพานตฺถปอหารปุพฺพงฺคมาย นิรวเสสหิตสุขวิธานตปฺปราย นิรติสยาย ปโยคสมฺปตฺติยา สเทวมนุสฺสาย ปชาย อจฺจนฺตุปการิตาย อปริมิตนิรุปมปฺปภาวคุณวิเสสสมงฺคิตาย จ สพฺพสตฺตุตฺตโม ภควา อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สตฺตานํ เอกปฏิสรโณ ปติฏฺา. อถ วา นาถตีติ นาโถ, เวเนยฺยานํ หิตสุขํ เมตฺตายนวเสน อาสีสติ ปตฺเถตีติ อตฺโถ. อถ วา นาถติ เวเนยฺยคเต กิเลเส อุปตาเปตีติ อตฺโถ, นาถตีติ วา ยาจตีติ อตฺโถ. ภควา หิ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กาเลน กาลํ อตฺตสมฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺเขยฺยา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๘.๗) สตฺตานํ ตํ ตํ หิตปฏิปตฺตึ ยาจิตฺวาปิ กรุณาย สมุสฺสาหิโต เต ตตฺถ นิโยเชติ. ปรเมน วา จิตฺติสฺสริเยน สมนฺนาคโต สพฺพสตฺเต อีสติ อภิภวตีติ ปรมิสฺสโร ภควา ‘‘นาโถ’’ติ วุจฺจติ. สพฺโพปิ จายมตฺโถ สทฺทสตฺถานุสารโต เวทิตพฺโพ.

มหาการุณิกสฺสาติ โย กรุณาย กมฺปิตหทยตฺตา โลกหิตตฺถํ อติทุกฺกรกิริยาย อเนกปฺปการํ ตาทิสํ สํสารทุกฺขมนุภวิตฺวา อาคโต, ตสฺส มหาการุณิกสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺถ กิรตีติ กรุณา, ปรทุกฺขํ วิกฺขิปติ อปเนตีติ อตฺโถ. ทุกฺขิเตสุ วา กิรียติ ปสารียตีติ กรุณา. อถ วา กิณาตีติ กรุณา, ปรทุกฺเข สติ การุณิกํ หึสติ วิพาเธติ, วินาเสติ วา ปรสฺส ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ กมฺปนํ หทยเขทํ กโรตีติ วา กรุณา. อถ วา กมิติ สุขํ, ตํ รุนฺธตีติ กรุณา. เอสา หิ ปรทุกฺขาปนยนกามตาลกฺขณา อตฺตสุขนิรเปกฺขตาย การุณิกานํ สุขํ รุนฺธติ วิพาเธตีติ. กรุณาย นิยุตฺโตติ การุณิโก ยถา ‘‘โทวาริโก’’ติ. ยถา หิ ทฺวารฏฺานโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ ทฺวารปฏิพทฺธชีวิโก ปุริโส ทฺวารานติวตฺตวุตฺติตาย ทฺวาเร นิยุตฺโตติ ‘‘โทวาริโก’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ภควา เมตฺตาทิวเสน กรุณาวิหารโต อฺตฺถ วตฺตมาโนปิ กรุณานติวตฺตวุตฺติตาย กรุณาย นิยุตฺโตติ ‘‘การุณิโก’’ติ วุจฺจติ. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ ยาว มหาปรินิพฺพานา โลกหิตตฺถเมว โลกนาถา ติฏฺนฺติ. มหนฺโต การุณิโกติ มหาการุณิโก. สติปิ ภควโต ตทฺคุณานมฺปิ วเสน มหนฺตภาเว การุณิกสทฺทสนฺนิธาเนน วุตฺตตฺตา กรุณาวเสเนตฺถ มหนฺตภาโว เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘มหาเวยฺยากรโณ’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘มหาการุณิกสฺสา’’ติ อิมินา ปเทน ปุคฺคลาธิฏฺาเนน สตฺถุ มหากรุณา วุตฺตา โหติ.

อถ วา กรุณา กรุณายนํ สีลํ ปกติ เอตสฺสาติ การุณิโก, ปถวีผสฺสาทโย วิย กกฺขฬผุสนาทิสภาวา กรุณายนสภาโว สภาวภูตกรุโณติ อตฺโถ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อถ วา มหาวิสยตาย มหานุภาวตาย มหาพลตาย จ มหตี กรุณาติ มหากรุณา. ภควโต หิ กรุณา นิรวเสเสสุ สตฺเตสุ ปวตฺตติ, ปวตฺตมานา จ อนฺสาธารณา ปวตฺตติ, ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทฺจ มหนฺตเมว สตฺตานํ หิตสุขํ เอกนฺตโต นิปฺผาเทติ, มหากรุณาย นิยุตฺโตติ มหาการุณิโกติ สพฺพํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อถ วา มหตี ปสตฺถา กรุณา อสฺส อตฺถีติ มหาการุณิโก. ปูชาวจโน เหตฺถ มหนฺตสทฺโท ‘‘มหาปุริโส’’ติอาทีสุ วิย. ปสตฺถา จ ภควโต กรุณา มหากรุณาสมาปตฺติวเสนปิ ปวตฺติโต อนฺสาธารณตฺตาติ.

เอวํ กรุณามุเขน สงฺเขปโต สกลสพฺพฺุคุเณหิ ภควนฺตํ โถเมตฺวา อิทานิ สทฺธมฺมํ โถเมตุํ ‘‘อสมฺพุธ’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อสมฺพุธนฺติ ปุพฺพกาลกิริยานิทฺเทโส, ตสฺส อสมฺพุชฺฌนฺโต อปฺปฏิวิชฺฌนฺโตติ อตฺโถ, ยถาสภาวํ อปฺปฏิวิชฺฌนโตติ วุตฺตํ โหติ. เหตุอตฺโถ เหตฺถ อนฺตสทฺโท ‘‘ปนฺโต นิสีทตี’’ติอาทีสุ วิย. นฺติ ปุพฺพกาลกิริยาย อนิยมโต กมฺมนิทฺเทโส. พุทฺธนิเสวิตนฺติ ตสฺส วิเสสนํ. ตตฺถ พุทฺธสทฺทสฺส ตาว ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ, โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๒) นิทฺเทสนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อถ วา สวาสนาย อฺาณนิทฺทาย อจฺจนฺตวิคมโต, พุทฺธิยา วา วิกสิตภาวโต พุทฺธวาติ พุทฺโธ ชาครณวิกสนตฺถวเสน. อถ วา กสฺสจิปิ เยฺยธมฺมสฺส อนวพุทฺธสฺส อภาเวน เยฺยวิเสสสฺส กมฺมภาเวน อคฺคหณโต กมฺมวจนิจฺฉาย อภาเวน อวคมนตฺถวเสเนว กตฺตุนิทฺเทโส ลพฺภตีติ พุทฺธวาติ พุทฺโธ. อตฺถโต ปน ปารมิตาปริภาวิโต สยมฺภูาเณน สห วาสนาย วิหตวิทฺธํสิตนิรวเสสกิเลโส มหากรุณาสพฺพฺุตฺาณาทิอปริเมยฺยคุณคณาธาโร ขนฺธสนฺตาโน พุทฺโธ. ยถาห ‘‘พุทฺโธติ โย โส ภควา สยมฺภู อนาจริยโก ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปตฺโต พเลสุ จ วสีภาว’’นฺติ (มหานิ. ๑๙๒; จูฬนิ. ปารายนตฺถุติคาถานิทฺเทส ๙๗; ปฏิ. ม. ๑.๑๖๑). เตน เอวํ นิรุปมปฺปภาเวน พุทฺเธน นิเสวิตํ โคจราเสวนาภาวนาเสวนาหิ ยถารหํ นิเสวิตํ อนุภูตนฺติ อตฺโถ.

ตตฺถ นิพฺพานํ โคจราเสวนาวเสเนว นิเสวิตํ, มคฺโค ปน อตฺตนา ภาวิโต จ ภาวนาเสวนาวเสน เสวิโต, ปเรหิ อุปฺปาทิตานิ ปน มคฺคผลานิ เจโตปริยาณาทินา ยทา ปริชานาติ, อตฺตนา อุปฺปาทิตานิ วา ปจฺจเวกฺขณาเณน ปริจฺฉินฺทติ, ตทา โคจราเสวนาวเสนปิ เสวิตานิ โหนฺติเยว. เอตฺถ จ ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ ปริยายโต ธมฺมคฺคหเณน คหเณ สติ โสปิ เทสนาสมฺมสนาณโคจรตาย โคจราเสวนาย เสวิโตติ สกฺกา คเหตุํ. ‘‘อภิธมฺมนยสมุทฺทํ อธิคจฺฉติ, ตีณิ ปิฏกานิ สมฺมสี’’ติ จ อฏฺกถายํ วุตฺตตฺตา ปริยตฺติธมฺมสฺสปิ สจฺฉิกิริยาย สมฺมสนปริยาโย ลพฺภตีติ ยํ อสมฺพุธํ อสมฺพุชฺฌนฺโต อสจฺฉิกโรนฺโตติ อตฺถสมฺภวโต โสปิ อิธ วุตฺโต เอวาติ ทฏฺพฺพํ. ตมฺปิ จ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ภวาภวํ คจฺฉติ, ปริฺาตธมฺมวินโย ปน ตทตฺถปฏิปตฺติยา สมฺมาปฏิปนฺโน น จิรสฺเสว ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘โย อิมสฺมึ ธมฺมวินเย, อปฺปมตฺโต วิหสฺสติ;

ปหาย ชาติสํสารํ, ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสตี’’ติ. (ที. นิ. ๒.๑๘๕; สํ. นิ. ๑.๑๘๕);

เอตฺถ จ กิฺจาปิ มคฺคผลนิพฺพานานิ ปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวเกหิปิ โคจราเสวนาทินา เสวิตานิ โหนฺติ, ตถาปิ อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน ‘‘พุทฺธนิเสวิต’’นฺติ วุตฺตํ. เกนจิ ปน พุทฺธสทฺทสฺส สามฺโต พุทฺธานุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธานมฺปิ เอตฺเถว สงฺคโห วุตฺโต.

ภวาภวนฺติ อปรกาลกิริยาย กมฺมนิทฺเทโส, ภวโต ภวนฺติ อตฺโถ. อถ วา ภวาภวนฺติ สุคติทุคฺคติวเสน หีนปณีตวเสน จ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ ภวนฺติ อตฺโถ. วุทฺธตฺโถปิ หิ อ-กาโร ทิสฺสติ ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติอาทีสุ วิย. ตสฺมา อภโวติ มหาภโว วุจฺจติ. อถ วา ภโวติ วุทฺธิ, อภโวติ หานิ. ภโวติ วา สสฺสตทิฏฺิ, อภโวติ อุจฺเฉททิฏฺิ. วุตฺตปฺปกาโร ภโว จ อภโว จ ภวาภโว. ตํ ภวาภวํ. คจฺฉตีติ อปรกาลกิริยานิทฺเทโส. ชีวโลโกติ สตฺตโลโก. ชีวคฺคหเณน หิ สงฺขารภาชนโลกํ นิวตฺเตติ ตสฺส ภวาภวคมนาสมฺภวโต. นโม อตฺถูติ ปาเสโส ทฏฺพฺโพ.

อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสิโนติ ธมฺมวิเสสนํ. ตตฺถ อวินฺทิยํ วินฺทตีติ อวิชฺชา. ปูเรตุํ อยุตฺตฏฺเน กายทุจฺจริตาทิ อวินฺทิยํ นาม, อลทฺธพฺพนฺติ อตฺโถ. ตพฺพิปรีตโต กายสุจริตาทิ วินฺทิยํ นาม, ตํ วินฺทิยํ น วินฺทตีติ วา อวิชฺชา, ขนฺธานํ ราสฏฺํ, อายตนานํ อายตนฏฺํ, ธาตูนํ สุฺตฏฺํ, อินฺทฺริยานํ อธิปติยฏฺํ, สจฺจานํ ตถฏฺํ อวิทิตํ กโรตีติ วา อวิชฺชา, ทุกฺขาทีนํ ปีฬนาทิวเสน วุตฺตํ จตุพฺพิธํ อตฺถํ อวิทิตํ กโรตีติปิ อวิชฺชา, อนฺตวิรหิเต สํสาเร สพฺพโยนิคติภววิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ สตฺเต ชวาเปตีติ วา อวิชฺชา, ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนสุปิ อิตฺถิปุริสาทีสุ ชวติ, วิชฺชมาเนสุปิ ขนฺธาทีสุ น ชวตีติ วา อวิชฺชา. สา อาทิ เยสํ ตณฺหาทีนํ เต อวิชฺชาทโย, เตเยว กิลิสฺสนฺติ เอเตหิ สตฺตาติ กิเลสา, เตเยว จ สตฺตานํ พนฺธนฏฺเน ชาลสทิสาติ ชาลํ, ตํ วิทฺธํเสติ สพฺพโส วินาเสติ สีเลนาติ อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสี. นนุ เจตฺถ สปริยตฺติโก นวโลกุตฺตรธมฺโม อธิปฺเปโต, ตตฺถ จ มคฺโคเยว กิเลเส วิทฺธํเสติ, เนตเรติ เจ? วุจฺจเต. มคฺคสฺสปิ นิพฺพานมาคมฺม กิเลสวิทฺธํสนโต นิพฺพานมฺปิ กิเลเส วิทฺธํเสติ นาม, มคฺคสฺส กิเลสวิทฺธํสนกิจฺจํ ผเลน นิปฺผนฺนนฺติ ผลมฺปิ ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วุจฺจติ. ปริยตฺติธมฺโมปิ กิเลสวิทฺธํสนสฺส ปจฺจยตฺตา ‘‘กิเลสวิทฺธํสี’’ติ วตฺตุมรหตีติ น โกจิ โทโส.

ธมฺมวรสฺส ตสฺสาติ ปุพฺเพ อนิยมิตสฺส นิยมวจนํ. ตตฺถ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จตูสุ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโม.

‘‘เย เกจิ ธมฺมํ สรณํ คตาเส, น เต คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ;

ปหาย มานุสํ เทหํ, เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตี’’ติ. (ที. นิ. ๒.๓๓๒; สํ. นิ. ๑.๓๗) –

หิ วุตฺตํ. สํสารทุกฺเข วา อปตมาเน กตฺวา ธาเรตีติ ธมฺโม มคฺคผลุปฺปตฺติยา สตฺตกฺขตฺตุปรมตาทิวเสน สํสารสฺส ปริจฺฉินฺนตฺตา. อปายาทินิพฺพตฺตกกิเลสวิทฺธํสนฺเจตฺถ ธารณํ. เอวฺจ กตฺวา อริยมคฺโค ตสฺส ตทตฺถสิทฺธิเหตุตาย นิพฺพานฺจาติ อุภยเมว นิปฺปริยายโต ธาเรติ, อริยผลํ ปน ตํสมุจฺฉินฺนกิเลสปฏิปฺปสฺสมฺภเนน ตทนุคุณตาย, ปริยตฺติธมฺโม ตทธิคมเหตุตายาติ อุภยํ ปริยายโต ธาเรตีติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตปฺปกาโร ธมฺโมเยว อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน วโร ปวโร อนุตฺตโรติ ธมฺมวโร, ตสฺส ธมฺมวรสฺส นโม อตฺถูติ สมฺพนฺโธ. เอตฺตาวตา เจตฺถ อมฺเหหิ สารตฺโถ ปกาสิโต. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ ปปฺจิตํ, อมฺเหหิ จ อิธ น ทสฺสิตํ, น ตํ สารโต ปจฺเจตพฺพํ. อิโต ปเรสุปิ เอวเมว ทฏฺพฺพํ. ตสฺมา อิโต ปฏฺาย เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา สารตฺถเมว ทสฺสยิสฺสาม. ยตฺถ ปน เกนจิ อจฺจนฺตวิรุทฺธํ ลิขิตํ, ตมฺปิ กตฺถจิ ทสฺสยิสฺสาม. เอตฺถ จ ‘‘อวิชฺชาทิกิเลสชาลวิทฺธํสิโน’’ติ เอเตน สฺวากฺขาตตาทีหิ ธมฺมํ โถเมติ, ‘‘ธมฺมวรสฺสา’’ติ เอเตน อฺสฺส วิสิฏฺสฺส อภาวทีปนโต ปริปุณฺณตาย. ปเมน วา ปหานสมฺปทํ ธมฺมสฺส ทสฺเสติ, ทุติเยน ปภาวสมฺปทํ.

เอวํ สงฺเขเปเนว สพฺพธมฺมคุเณหิ สทฺธมฺมํ โถเมตฺวา อิทานิ อริยสงฺฆํ โถเมตุํ ‘‘คุเณหี’’ติอาทิมาห. ‘‘คุเณหี’’ติ ปทสฺส ‘‘ยุตฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อิทานิ เยหิ คุเณหิ ยุตฺโต, เต ทสฺเสนฺโต ‘‘สีลสมาธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ จตุปาริสุทฺธิสีลาทิ ‘‘สีล’’นฺติ วุจฺจติ. สมาธีติ ปมชฺฌานาทิ. สมาธิสีเสน หิ ปมชฺฌานาทโย วุตฺตา. ปฺาติ มคฺคปฺา. วิมุตฺติ จ วิมุตฺติาณฺจ วิมุตฺติวิมุตฺติาณนฺติ วตฺตพฺเพ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน ‘‘วิมุตฺติาณ’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิสทฺทปริยาเยน ปภุติสทฺเทน วา วิมุตฺติคฺคหณํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ วิมุตฺตีติ ผลํ. วิมุตฺติาณนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. ปภุติ-สทฺเทน ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทาทโย คุณา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ สีลาทโย คุณา โลกิยา โลกุตฺตรา จ ยถาสมฺภวํ นิทฺทิฏฺาติ เวทิตพฺพา. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ วุตฺตํ ‘‘สีลาทโย กิฺจาปิ โลกิยโลกุตฺตรา ยถาสมฺภวํ ลพฺภนฺติ, ตถาปิ อนฺเต ‘อริยสงฺฆ’นฺติ วจนโต สีลาทโย จตฺตาโร ธมฺมกฺขนฺธา โลกุตฺตราวา’’ติ, ตํ ตสฺส มติมตฺตํ. น หิ อริยสงฺฆสฺส โลกิยคุเณหิปิ โถมนาย โกจิ โทโส ทิสฺสติ, สพฺพฺุพุทฺธสฺสปิ ตาว โลกิยโลกุตฺตรคุเณหิ โถมนา โหติ, กิมงฺคํ ปน อริยสงฺฆสฺสาติ.

กุสลตฺถิกานํ ชนานํ ปุฺสฺส วุทฺธิยา เขตฺตสทิสตฺตา เขตฺตนฺติ อาห ‘‘เขตฺตํ ชนานํ กุสลตฺถิกาน’’นฺติ. ขิตฺตํ พีชํ มหปฺผลภาวกรเณน ตายตีติ หิ เขตฺตํ, ปุพฺพณฺณาปรณฺณวิรุหนภูมิ, ตํสทิสตฺตา อริยสงฺโฆปิ ‘‘เขตฺต’’นฺติ วุจฺจติ. อิมินา อริยสงฺฆสฺส อนุตฺตรปุฺกฺเขตฺตภาวํ ทีเปติ. ‘‘อนุตฺตรํ ปุฺกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ หิ วุตฺตํ. นฺติ ปุพฺเพ ‘‘โย’’ติ อนิยเมน วุตฺตสฺส นิยมวจนํ. อริยสงฺฆนฺติ เอตฺถ อารกตฺตา กิเลเสหิ, อนเย น อิริยนโต, อเย จ อิริยนโต อริยา นิรุตฺตินเยน. อถ วา สเทวเกน โลเกน สรณนฺติ อรณียโต อุปคนฺตพฺพโต อุปคตานฺจ ตทตฺถสิทฺธิโต อริยา. อริยานํ สงฺโฆ สมูโหติ อริยสงฺโฆ. อถ วา อริโย จ โส ยถาวุตฺตนเยน สงฺโฆ จ ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตภาวโตติ อริยสงฺโฆ, อฏฺ อริยปุคฺคลา. ตํ อริยสงฺฆํ. ภควโต อปรภาเค พุทฺธธมฺมรตนานมฺปิ สมธิคโม สงฺฆรตนาธีโนติ อริยสงฺฆสฺส พหูปการตํ ทสฺเสตุํ อิเธว ‘‘สิรสา นมามี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ คาถาตฺตเยน สงฺเขปโต สกลคุณสํกิตฺตนมุเขน รตนตฺตยสฺส ปณามํ กตฺวา อิทานิ ตํ นิปจฺจการํ ยถาธิปฺเปเต ปโยชเน ปริณาเมนฺโต อาห ‘‘อิจฺเจว’’มิจฺจาทิ. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน อจฺจนฺตํ เอกนฺเตน นมสฺสเนยฺยํ นมสฺสิตพฺพํ รตนตฺตยํ นมสฺสมาโน กายวาจาจิตฺเตหิ วนฺทมาโน อหํ วิปุลํ ยํ ปุฺาภิสนฺทํ อลตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ พุทฺธาทโย รติชนนฏฺเน รตนํ. เตสฺหิ ‘‘อิติปิ โส ภควา’’ติอาทินา ยถาภูตคุเณ อาวชฺเชนฺตสฺส อมตาธิคมเหตุภูตํ อนปฺปกํ ปีติปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. ยถาห –

‘‘ยสฺมึ, มหานาม, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๑.๑๑).

จิตฺตีกตาทิภาโว วา รตนฏฺโ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จิตฺตีกตํ มหคฺฆฺจ, อตุลํ ทุลฺลภทสฺสนํ;

อโนมสตฺตปริโภคํ, รตนํ เตน วุจฺจตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๓);

จิตฺตีกตภาวาทโย จ อนฺสาธารณา พุทฺธาทีสุเยว ลพฺภนฺตีติ.

‘‘ปุฺาภิสนฺทนฺติ ปุฺราสึ ปุฺปฺปวตฺตํ วา’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. มชฺฌิมคณฺิปเท ปน จูฬคณฺิปเท จ ‘‘ปุฺาภิสนฺทนฺติ ปุฺาภินิสํส’’นฺติปิ อตฺโถ วุตฺโต. ปุฺาภิสนฺทนฺติ ปุฺนทึ, ปุฺปฺปวาหนฺติ เอวํ ปเนตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อวิจฺเฉเทน ปวตฺติยมานฺหิ ปุฺํ อภิสนฺทนฏฺเน ‘‘ปุฺาภิสนฺโท’’ติ วุจฺจติ. เตเนว สารตฺถปกาสินิยา สํยุตฺตนิกายฏฺกถาย (สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๑๐๒๗) –

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุฺาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทา สุขสฺสาหารา. กตเม จตฺตาโร? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก พุทฺเธ อเวจฺจปฺปสาเทน สมนฺนาคโต โหติ ‘อิติปิ โส ภควา…เป… พุทฺโธ ภควา’ติ, อยํ ปโม ปุฺาภิสนฺโท กุสลาภิสนฺโท สุขสฺสาหาโร’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๒๗) –

เอวมาทิกาย ปาฬิยา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปุฺาภิสนฺทา กุสลาภิสนฺทาติ ปุฺนทิโย กุสลนทิโย’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน คณฺิปเท วุตฺตํ ‘‘ปุฺาภิสนฺทนฺติ ปุฺผล’’นฺติ, ตํ น สุนฺทรํ . น หิ รตนตฺตยํ นมสฺสมาโน ตสฺมึ ขเณ ปุฺผลํ อลตฺถ, กินฺตุ อนปฺปกํ ปุฺราสึ ตทา อลภิ, ตสฺส จ ผลํ ปรโลกภาคี, ทิฏฺธมฺเม ตุ อนฺตรายวิฆาโต ตสฺส จ ปุฺสฺส อานิสํสมตฺตกํ, ‘‘ตสฺสานุภาเวน หตนฺตราโย’’ติ จ วุตฺตํ, น จ ปุฺผเล อนุปฺปนฺเน ตสฺสานุภาเวน หตนฺตรายภาโว น สิชฺฌติ, น เจตํ ตสฺมึเยว ขเณ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อโหสิ. ตสฺมา ตสฺส มหโต ปุฺปฺปวาหสฺส อานุภาเวน หตนฺตราโยติ อยเมว อตฺโถ ยุชฺชติ. อถาปิ ปณามกิริยาย ชนิตตฺตา ปุฺเมว ปุฺผลนฺติ ตสฺสาธิปฺปาโย สิยา, เอวํ สติ ยุชฺเชยฺย. โส จ ปุฺปฺปวาโห น อปฺปมตฺตโก, อถ โข มหนฺโตเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิปุล’’นฺติ, มหนฺตํ อนปฺปกนฺติ วุตฺตํ โหติ. อลตฺถนฺติ อลภึ, ปาปุณินฺติ อตฺโถ.

ตสฺสานุภาเวนาติ ตสฺส ยถาวุตฺตสฺส ปุฺปฺปวาหสฺส อานุภาเวน พเลน. หตนฺตราโยติ ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ. ปณามปโยชเน วุตฺตวิธินา หโต วิทฺธสฺโต อนฺตราโย อุปทฺทโว อสฺสาติ หตนฺตราโย. อสฺส ‘‘วณฺณยิสฺสํ วินย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ, หตนฺตราโย หุตฺวา วินยํ วณฺณยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ตสฺส ปุฺปฺปวาหสฺส อตฺตโน ปสาทสมฺปตฺติยา รตนตฺตยสฺส จ เขตฺตภาวสมฺปตฺติยา อตฺถสํวณฺณนาย อุปฆาตกอุปทฺทวานํ หนเน สมตฺถตํ ทีเปติ.

เอวํ รตนตฺตยสฺส นิปจฺจการกรเณ ปโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺส วินยปิฏกสฺส อตฺถํ สํวณฺเณตุกาโม, ตสฺส ตาว ภควโต สาสนสฺส มูลปติฏฺานภาวํ ทสฺเสตฺวา ตมฺปิ โถเมนฺโต อาห ‘‘ยสฺมึ ิเต’’ติอาทิ. อฏฺิตสฺส สุสณฺิตสฺส ภควโต สาสนํ ยสฺมึ ิเต ปติฏฺิตํ โหตีติ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ยสฺมินฺติ ยสฺมึ วินยปิฏเก. ิเตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ อนูนํ หุตฺวา ลชฺชีปุคฺคเลสุ ปวตฺตนฏฺเน ิเตติ อตฺโถ. สาสนนฺติ อธิสีลอธิจิตฺตอธิปฺาสงฺขาตสิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนํ. อฏฺิตสฺสาติ กามสุขลฺลิกตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาเต อนฺตทฺวเย อฏฺิตสฺสาติ อตฺโถ. ‘‘อปฺปติฏฺํ ขฺวาหํ, อาวุโส, อนายูหํ โอฆมตริ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑) หิ วุตฺตํ. อยฺจตฺโถ ตีสุปิ สีหฬคณฺิปเทสุ วุตฺโตเยว. คณฺิปเท ปน ‘‘อฏฺิตสฺสาติ ปรินิพฺพุตสฺสปิ ภควโต’’ติ วุตฺตํ.

ปติฏฺิตํ โหตีติ เตสุเยว ลชฺชีปุคฺคเลสุ ปวตฺตนฏฺเน ปติฏฺิตํ โหติ. สุสณฺิตสฺสาติ เอตฺถ ตาว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณอสีติอนุพฺยฺชเนหิ สมนฺนาคมนวเสน สุสณฺานสฺสาติ อตฺโถ. อเนน อสฺส รูปกายสมฺปตฺตึ นิทสฺเสตี’’ติ. คณฺิปเท ปน ‘‘ยถาาเน ปติฏฺิเตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคตตฺตา รูปกาเยน สุสณฺิโต, กายวงฺกาทิรหิตตฺตา ตาทิลกฺขณสมนฺนาคตตฺตา จ นามกาเยนปี’’ติ วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘จตุพฺรหฺมวิหารวเสน สตฺเตสุ สุฏฺุ สมฺมา จ ิตสฺสาติ อตฺถวเสน วา สุสณฺิตสฺส. สุสณฺิตตฺตา เหส เกวลํ สตฺตานํ ทุกฺขํ อปเนตุกาโม หิตํ อุปสํหริตุกาโม สมฺปตฺติยา จ ปมุทิโต อปกฺขปติโต จ หุตฺวา วินยํ เทเสติ. ตสฺมา อิมสฺมึ วินยสํวณฺณนาธิกาเร สารุปฺปาย ถุติยา โถเมนฺโต อาห ‘สุสณฺิตสฺสา’’’ติ วตฺวา ‘‘คณฺิปเทสุ วุตฺตตฺโถ อธิปฺเปตาธิการานุรูโป น โหตี’’ติ วุตฺตํ. อยํ ปเนตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ – ยถาวุตฺตกามสุขลฺลิกาทิอนฺตทฺวเย อฏฺิตตฺตาเยว มชฺฌิมาย ปฏิปทาย สมฺมา ิตตฺตา สุสณฺิตสฺสาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพติ. เอวฺหิ สติ อารมฺภานุรูปโถมนา กตา โหติ ยถาวุตฺตอนฺตทฺวยํ วิวชฺเชตฺวา มชฺฌิมาย ปฏิปทาย วินยปฺตฺติยาเยว เยภุยฺเยน ปกาสนโต.

นฺติ ปุพฺเพ ‘‘ยสฺมิ’’นฺติ อนิยเมตฺวา วุตฺตสฺส นิยมวจนํ, ตสฺส ‘‘วินย’’นฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อสมฺมิสฺสนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส, นิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา อนากุลํ กตฺวา วณฺณยิสฺสนฺติ วุตฺตํ โหติ. สิกฺขาปทปฺตฺติยา อนุรูปสฺส กาลมตฺตสฺสปิ ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสทิเสนปิ ทุวิฺเยฺยภาวโต เกวลํ พุทฺธวิสยํ วินยปิฏกํ อตฺตโน พเลน วณฺณยิสฺสามีติ วจนมตฺตมฺปิ อฺเหิ วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา ‘‘นิสฺสาย ปุพฺพาจริยานุภาว’’นฺติ อาห. ปุพฺพาจริยานุภาโว นาม อตฺถโต ปุพฺพาจริเยหิ สํวณฺณิตา อฏฺกถา, ตโตเยว จ ‘‘ปุพฺพาจริยานุภาโว อฏฺกถา’’ติ สพฺพตฺถ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ตสฺมา ปุพฺพาจริเยหิ สํวณฺณิตํ อฏฺกถํ นิสฺสาย วณฺณยิสฺสํ, น อตฺตโนเยว พลํ นิสฺสายาติ วุตฺตํ โหติ.

อถ ‘‘โปราณฏฺกถาสุ วิชฺชมานาสุ ปุน วินยสํวณฺณนาย กึ ปโยชน’’นฺติ โย วเทยฺย, ตสฺส โปราณฏฺกถาย อนูนภาวํ อตฺตโน จ สํวณฺณนาย ปโยชนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘กามฺจา’’ติอาทิมาห. กามนฺติ เอกนฺเตน, ยถิจฺฉกํ วา, สพฺพโสติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺส ‘‘สํวณฺณิโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กามํ สํวณฺณิโตเยว, โน น สํวณฺณิโตติ อตฺโถ. เกหิ ปน โส วินโย สํวณฺณิโตติ อาห ‘‘ปุพฺพาจริยาสเภหี’’ติ. มหากสฺสปตฺเถราทโย ปุพฺพาจริยา เอว อกมฺปิยฏฺเน อุตฺตมฏฺเน จ อาสภา, เตหิ ปุพฺพาจริยาสเภหีติ วุตฺตํ โหติ. กีทิสา ปเนเต ปุพฺพาจริยาติ อาห ‘‘าณมฺพู’’ติอาทิ. อคฺคมคฺคาณสงฺขาเตน อมฺพุนา สลิเลน นิทฺโธตานิ นิสฺเสสโต อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน โธตานิ วิกฺขาลิตานิ วิโสธิตานิ ราคาทีนิ ตีณิ มลานิ กามาสวาทโย จ จตฺตาโร อาสวา เยหิ เต าณมฺพุนิทฺธาตมลาสวา, เตหีติ อตฺโถ. อิมินา จ น เกวลํ เอเตสุ อาจริยภาโวเยว, อถ โข ราคาทิมลรหิตา ขีณาสวา วิสุทฺธสตฺตา เอเตติ ทสฺเสติ.

ขีณาสวภาเวปิ น เอเต สุกฺขวิปสฺสกา, อถ โข เอวรูเปหิปิ อานุภาเวหิ สมนฺนาคตาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิเทหี’’ติ. วิสุทฺธา อจฺจนฺตปริสุทฺธา วิชฺชา จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทา เยสํ เต วิสุทฺธวิชฺชาปฏิสมฺภิทา, เตหิ. เอกเทเสน ปฏิสมฺภิทํ อปฺปตฺตานํ อริยานเมว อภาวโต เอเตหิ อธิคตปฏิสมฺภิทา ปฏุตรลทฺธปฺปเภทาติ ทสฺเสตุํ วิสุทฺธคฺคหณํ กตํ. วิชฺชาติ ติสฺโส วิชฺชา, อฏฺ วิชฺชา วา. ตตฺถ ทิพฺพจกฺขุาณํ ปุพฺเพนิวาสาณํ อาสวกฺขยาณฺจาติ อิมา ติสฺโส วิชฺชา. อฏฺ วิชฺชา ปน –

‘‘วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธิ ,

อิทฺธิปฺปเภโทปิ จ ทิพฺพโสตํ;

ปรสฺส เจโตปริยายาณํ,

ปุพฺเพนิวาสานุคตฺจ าณํ;

ทิพฺพฺจ จกฺขาสวสงฺขโย จ,

เอตานิ าณานิ อิธฏฺ วิชฺชา’’ติ. –

เอวํ วิปสฺสนาาณมโนมยิทฺธีหิ สทฺธึ ปริคฺคหิตา ฉ อภิฺาเยว. อตฺถปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปฏิภานปฏิสมฺภิทาติ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา. ตตฺถ สงฺเขปโต เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา, เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา, เหตุเหตุผลานุรูปํ โวหาเรสุ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา, อิทํ าณํ อิมมตฺถํ โชตยตีติ อิมินา อากาเรน เหฏฺา วุตฺเตสุ ตีสุ าเณสุ ปวตฺตาณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา. เอตาสํ ปน วิตฺถารกถา อติปปฺจภาวโต อิธ น วุจฺจติ. ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตานํ สทฺธมฺเมสุ เฉกภาวโต อาห ‘‘สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหี’’ติ. ‘‘ปฏิสมฺภิทาปฺปตฺตานมฺปิ ธมฺเมสุ อภิโยควเสน วิเสโส โหตีติ ลทฺธปฏิสมฺภิทาสุ สาติสยตํ ทสฺเสตุํ อาหา’’ติปิ วทนฺติ. สทฺธมฺมสํวณฺณนโกวิเทหีติ ปิฏกตฺตยสงฺขาตสฺส สทฺธมฺมสฺส สํวณฺณเน สพฺพโส อตฺถปฺปกาสเน โกวิเทหิ เฉเกหิ, กุสเลหีติ อตฺโถ.

กิเลสชาลํ ปริกฺขารพาหุลฺลํ วา สํลิขติ ตนุํ กโรตีติ สลฺเลโข. อิธ ปน ขีณาสวาธิการตฺตา ปริกฺขารพาหุลฺลสฺส สลฺลิขนวเสเนว อตฺโถ คเหตพฺโพ, ตโตเยว จ คณฺิปเท ‘‘สลฺเลขิเย ปริมิตปริกฺขารวุตฺติยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. สลฺเลขสฺส ภาโว สลฺเลขิยํ, ตสฺมึ สลฺเลขิเย, สลฺเลขปฏิปตฺติยนฺติ วุตฺตํ โหติ. โนสุลภูปเมหีติ อสุลภูปเมหิ สลฺเลขปฏิปตฺติยา อสุกสทิสาติ เตสํ อุปมาย อนุจฺฉวิกปุคฺคลานํ ทุลฺลภตฺตา นตฺถิ สุลภา อุปมา เอเตสนฺติ โนสุลภูปมา. มหาวิหารสฺสาติ จิตฺตลปพฺพตอภยคิริเสสนิกายทฺวยํ ปฏิกฺขิปติ. ธชูปเมหีติ รถสฺส สฺชานนเหตุกํ รเถ พทฺธธชํ วิย อชานนฺตานํ ‘‘อสุเกหิ จ อสุเกหิ จ เถเรหิ นิวาสิโต มหาวิหาโร นามา’’ติ เอวํ มหาวิหารสฺส สฺชานนเหตุตฺตา มหาวิหารสฺส ธชูปเมหิ. สํวณฺณิโตติ สมฺมา อนูนํ กตฺวา วณฺณิโต. สํวณฺณิโต อยํ วินโยติ ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. จิตฺเตหิ นเยหีติ อเนกปฺปเภทนยตฺตา วิจิตฺเตหิ นเยหิ. สมฺพุทฺธวรนฺวเยหีติ สพฺพฺุพุทฺธวรํ อนุคเตหิ, ภควโต อธิปฺปายานุคเตหิ นเยหีติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา พุทฺธวรํ อนุคเตหิ ปุพฺพาจริยาสเภหีติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ.

เอวํ โปราณฏฺกถาย อนูนภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย ปโยชนวิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘สํวณฺณนา’’ติอาทิมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กิฺจาปิ ปุพฺพาจริยาสเภหิ ยถาวุตฺตคุณวิสิฏฺเหิ อยํ วินโย สพฺพโส วณฺณิโต, ตถาปิ เตสํ เอสา สํวณฺณนา สีหฬทีปวาสีนํ ภาสาย สงฺขตตฺตา รจิตตฺตา ทีปนฺตเร ภิกฺขุชนสฺส สีหฬทีปโต อฺทีปวาสิโน ภิกฺขุคณสฺส กิฺจิ อตฺถํ ปโยชนํ ยสฺมา นาภิสมฺภุณาติ น สมฺปาเทติ น สาเธติ, ตสฺมา อิมํ สํวณฺณนํ ปาฬินยานุรูปํ กตฺวา พุทฺธสิริตฺเถเรน อชฺฌิฏฺโ อิทานิ สมารภิสฺสนฺติ. ตตฺถ สํวณฺณิยติ อตฺโถ เอตายาติ สํวณฺณนา, อฏฺกถา. สา ปน ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ ปมํ ตีณิ ปิฏกานิ สงฺคายิตฺวา ตสฺส อตฺถวณฺณนานุรูเปเนว วาจนามคฺคํ อาโรปิตตฺตา ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺโหเยว พุทฺธวจนสฺส อตฺถสํวณฺณนาภูโต กถามคฺโค. โสเยว จ มหามหินฺทตฺเถเรน ตมฺพปณฺณิทีปํ อาภโต, ปจฺฉา ตมฺพปณฺณิเยหิ มหาเถเรหิ นิกายนฺตรลทฺธีหิ สงฺกรปริหรณตฺถํ สีหฬภาสาย ปิโต. เตนาห ‘‘สีหฬทีปเกนา’’ติอาทิ. สีหสฺส ลานโต คหณโต สีหโฬ, สีหกุมาโร. ตํวํสชาตตาย ตมฺพปณฺณิทีเป ขตฺติยานํ เตสํ นิวาสตาย ตมฺพปณฺณิทีปสฺสปิ สีหฬภาโว เวทิตพฺโพ, ตสฺมึ สีหฬทีเป ภูตตฺตา สีหฬทีปเกน วากฺเยน วจเนน, สีหฬภาสายาติ วุตฺตํ โหติ.

ปาฬินยานุรูปนฺติ ปาฬินยสฺส อนุรูปํ กตฺวา, มาคธภาสาย ปริวตฺติตฺวาติ วุตฺตํ โหติ . อชฺเฌสนนฺติ ครุฏฺานิยํ ปยิรุปาสิตฺวา ครุตรํ ปโยชนํ อุทฺทิสฺส อภิปตฺถนา อชฺเฌสนา, ตํ อชฺเฌสนํ, อายาจนนฺติ อตฺโถ. ตสฺส ‘‘สมนุสฺสรนฺโต’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. กสฺส อชฺเฌสนนฺติ อาห ‘‘พุทฺธสิริวฺหยสฺส เถรสฺสา’’ติ. พุทฺธสิรีติ อวฺหโย นามํ ยสฺส โสยํ พุทฺธสิริวฺหโย, ตสฺส, อิตฺถนฺนามสฺส เถรสฺส อชฺเฌสนํ สมฺมา อาทเรน สมนุสฺสรนฺโต หทเย เปนฺโตติ อตฺโถ.

อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย กรณปฺปการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สํวณฺณนํ ตฺจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตฺจ อิทานิ วุจฺจมานํ สํวณฺณนํ สมารภนฺโต สกลายปิ มหาอฏฺกถาย อิธ คเหตพฺพโต มหาอฏฺกถํ ตสฺสา อิทานิ วุจฺจมานาย สํวณฺณนาย สรีรํ กตฺวา มหาปจฺจริยํ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตเถว กุรุนฺทีนามาทีสุ วิสฺสุตาสุ อฏฺกถาสุ โย วินิจฺฉโย วุตฺโต, ตโตปิ วินิจฺฉยโต ยุตฺตมตฺถํ อปริจฺจชนฺโต อนฺโตคธตฺเถรวาทํ กตฺวา สํวณฺณนํ สมารภิสฺสนฺติ ปทตฺถสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อตฺโถ กถิยติ เอตายาติ อตฺถกถา, สาเยว อฏฺกถา ตฺถการสฺส ฏฺการํ กตฺวา ‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗; ๒.๘) วิย. มหาปจฺจริยนฺติ เอตฺถ ปจฺจรีติ อุฬุมฺปํ วุจฺจติ, ตสฺมึ นิสีทิตฺวา กตตฺตา ตเมว นามํ ชาตํ. กุรุนฺทิวลฺลิวิหาโร นาม อตฺถิ, ตตฺถ กตตฺตา กุรุนฺทีติ นามํ ชาตนฺติ วทนฺติ. อาทิสทฺเทน อนฺธกฏฺกถํ สงฺเขปฏฺกถฺจ สงฺคณฺหาติ. วิสฺสุตาสูติ สพฺพตฺถ ปตฺถฏาสุ, ปากฏาสูติ วุตฺตํ โหติ.

ยุตฺตมตฺถนฺติ เอตฺถ ตาว มชฺฌิมคณฺิปเท จูฬคณฺิปเท จ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ยุตฺตมตฺถนฺติ สํวณฺเณตพฺพฏฺานสฺส ยุตฺตมตฺถํ, น ปน ตตฺถ อยุตฺตมฺปิ อตฺถีติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. มหาคณฺิปเท ปเนตฺถ น กิฺจิ วุตฺตํ. เกนจิ ปน ‘‘มหาอฏฺกถานเยน วินยยุตฺติยา วา ยุตฺตมตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ มหาปจฺจริอาทีสุปิ กตฺถจิ อยุตฺตสฺสาปิ อตฺถสฺส อุปริ วิภาวนโต. ‘‘อฏฺกถํเยว คเหตฺวา สํวณฺณนํ กริสฺสามี’’ติ วุตฺเต อฏฺกถาสุ วุตฺตตฺเถรวาทานํ พาหิรภาโว สิยาติ เตปิ อนฺโตกตฺตุกาโม ‘‘อนฺโตคธเถรวาท’’นฺติ อาห, เถรวาเทปิ อนฺโตกตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. สํวณฺณนนฺติ อปรกาลกิริยาย กมฺมนิทฺเทโส. ปุพฺเพ วุตฺตํ ตุ ‘‘สํวณฺณน’’นฺติ วจนํ ตตฺเถว ‘‘สมารภนฺโต’’ติ ปุพฺพกาลกิริยาย กมฺมภาเวน โยเชตพฺพํ. สมฺมาติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน รสฺสภาโว กโตติ เวทิตพฺโพ.

เอวํ กรณปฺปการํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ โสตูหิ ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํ เม’’ติอาทิมาห. อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิทานิ วุจฺจมานํ ตํ มม สํวณฺณนํ ธมฺมปทีปสฺส ตถาคตสฺส ธมฺมํ สาสนธมฺมํ ปาฬิธมฺมํ วา สกฺกจฺจํ ปฏิมานยนฺตา ปูเชนฺตา ถิเรหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา เถรา, อจิรปพฺพชิตตฺตา นวา, เตสํ มชฺเฌ ภวตฺตา มชฺฌิมา จ ภิกฺขู ปสนฺนจิตฺตา ยถาวุตฺตนเยน สปฺปโยชนตฺตา อุปริ วกฺขมานวิธินา ปมาณตฺตา จ สทฺทหิตฺวา ปีติโสมนสฺสยุตฺตจิตฺตา อิสฺสาปกตา อหุตฺวา นิสาเมนฺตุ สุณนฺตูติ. ตตฺถ ธมฺมปฺปทีปสฺสาติ ธมฺโมเยว สตฺตสนฺตาเนสุ โมหนฺธการวิธมนโต ปทีปสทิสตฺตา ปทีโป อสฺสาติ ธมฺมปทีโป, ภควา. ตสฺส ธมฺมปทีปสฺส.

อิทานิ อตฺตโน สํวณฺณนาย อาคมวิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา ปมาณภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘พุทฺเธนา’’ติอาทิมาห. ยเถว พุทฺเธน โย ธมฺโม จ วินโย จ วุตฺโต, โส ตสฺส พุทฺธสฺส เยหิ ปุตฺเตหิ ธมฺมเสนาปติอาทีหิ ตเถว าโต, เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ มติมจฺจชนฺตา สีหฬฏฺกถาจริยา ยสฺมา ปุเร อฏฺกถา อกํสูติ อยเมตฺถ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ธมฺโมติ สุตฺตาภิธมฺเม สงฺคณฺหาติ, วินโยติ สกลํ วินยปิฏกํ. เอตฺตาวตา จ สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ นิทฺทิฏฺํ โหติ. สกลฺหิ พุทฺธวจนํ ธมฺมวินยวเสน ทุวิธํ โหติ. วุตฺโตติ ปาฬิโต จ อตฺถโต จ พุทฺเธน ภควตา วุตฺโต. น หิ ภควตา อพฺยากตํ นาม ตนฺติปทํ อตฺถิ, สพฺเพสํเยว อตฺโถ กถิโต, ตสฺมา สมฺมาสมฺพุทฺเธเนว ติณฺณํ ปิฏกานํ อตฺถวณฺณนากฺกโมปิ ภาสิโตติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ตตฺถ ภควตา ปวตฺติตา ปกิณฺณกเทสนาเยว หิ อฏฺกถา. ตเถว าโตติ ยเถว พุทฺเธน วุตฺโต, ตเถว เอกปทมฺปิ เอกกฺขรมฺปิ อวินาเสตฺวา อธิปฺปายฺจ อวิโกเปตฺวา าโต วิทิโตติ อตฺโถ. เตสํ มติมจฺจชนฺตาติ เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ อธิปฺปายํ อปริจฺจชนฺตา. อฏฺกถา อกํสูติ อฏฺกถาโย อกํสุ. กตฺถจิ ‘‘อฏฺกถามกํสู’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ตตฺถาปิ โสเยวตฺโถ, ม-กาโร ปน ปทสนฺธิวเสน อาคโตติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อฏฺกถา’’ติ พหุวจนนิทฺเทเสน มหาปจฺจริยาทิกํ สงฺคณฺหาติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา เตสํ พุทฺธปุตฺตานํ อธิปฺปายํ อวิโกเปตฺวา ปุเร อฏฺกถา อกํสุ, ตสฺมาติ อตฺโถ. หีติ นิปาตมตฺตํ เหตุอตฺถสฺส ‘‘ตสฺมา’’ติ อิมินาเยว ปกาสิตตฺตา. ยทิ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ปมาณํ, เอวํ สติ ตตฺถ ปมาทเลขาปิ ปมาณํ สิยาติ อาห ‘‘วชฺชยิตฺวาน ปมาทเลข’’นฺติ. ตตฺถ ปมาทเลขนฺติ อปรภาเค โปตฺถการุฬฺหกาเล ปมชฺชิตฺวา ลิขนวเสน ปวตฺตํ ปมาทปาํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปมาเทน สตึ อปจฺจุปฏฺเปตฺวา อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ‘‘สจฺเจปิ อลิเกปิ ทุกฺกฏ’’นฺติ วุตฺตวจนสทิสํ ยํ ลิขิตํ, ตํ วชฺชยิตฺวา อปเนตฺวา สพฺพํ ปมาณนฺติ. วกฺขติ หิ ตตฺถ –

‘‘มหาอฏฺกถายํ ปน สจฺเจปิ อลิเกปิ ทุกฺกฏเมว วุตฺตํ, ตํ ปมาทลิขิตนฺติ เวทิตพฺพํ. น หิ อทินฺนาทานสฺส ปุพฺพปโยเค ปาจิตฺติยฏฺาเน ทุกฺกฏํ นาม อตฺถี’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๙๔).

เกสํ ปมาณนฺติ อาห ‘‘สิกฺขาสุ สคารวานํ อิธ ปณฺฑิตาน’’นฺติ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ปุน ‘‘ยสฺมา’’ติ วจนสฺส โก สมฺพนฺโธติ เจ? เอตฺถ ตาว มหาคณฺิปเท คณฺิปเท จ น กิฺจิ วุตฺตํ, มชฺฌิมคณฺิปเท ปน จูฬคณฺิปเท จ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ยสฺมา ปมาณํ, ตสฺมา นิสาเมนฺตุ ปสนฺนจิตฺตา’’ติ. เอวมสฺส สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ ปมาณํ, ตสฺมา อิธ วุตฺตมฺปิ ปมาณเมวาติ ปาเสสํ กตฺวา วชิรพุทฺธิตฺเถโร วทติ. ตตฺถ อิธาติ อิมิสฺสา สมนฺตปาสาทิกายาติ อตฺโถ คเหตพฺโพ.

ตตฺถ ‘‘ยสฺมา’’ติ วจนสฺส ปมํ วุตฺตสมฺพนฺธวเสน อฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ ปมาณนฺติ สาธิตตฺตา อิทานิ วุจฺจมานาปิ สํวณฺณนา เกวลํ วจนมตฺเตเนว ภินฺนา, อตฺถโต ปน อฏฺกถาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต จ ภาสนฺตรเมวา’’ติอาทิมาห. ปจฺฉา วุตฺตสมฺพนฺธวเสน ปน อิธ วุตฺตมฺปิ กสฺมา ปมาณนฺติ เจ? ยสฺมา วจนมตฺตํ เปตฺวา เอสาปิ อฏฺกถาเยว, ตสฺมา ปมาณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต จ ภาสนฺตรเมวา’’ติอาทิมาห. เอวมากุลํ ทุพฺพิฺเยฺยสภาวฺจ กตฺวา คณฺิปเทสุ สมฺพนฺโธ ทสฺสิโต, อนากุลวจโน จ ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริโย. น หิ โส เอวมากุลํ กตฺวา วตฺตุมรหติ, ตสฺมา ยถาธิปฺเปตมตฺถมนากุลํ สุวิฺเยฺยฺจ กตฺวา ยถาิตสฺส สมฺพนฺธวเสเนว ทสฺสยิสฺสาม. กถํ? ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ ปมาณํ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. ยทิ นาม อฏฺกถาสุ วุตฺตํ ปมาณํ, อยํ ปน อิทานิ วุจฺจมานา กสฺมา สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ อาห ‘‘ตโต จ ภาสนฺตรเมว หิตฺวา’’ติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ ปมาณํ, ยสฺมา จ อยํ สํวณฺณนาปิ ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิมตฺตวิสิฏฺา, อตฺถโต ปน อภินฺนาว, ตโตเยว จ ปมาณภูตา เหสฺสติ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อาทรํ กตฺวา อนุสิกฺขิตพฺพาติ. ตถา หิ โปราณฏฺกถานํ ปมาณภาโว, อิมิสฺสา จ สํวณฺณนาย ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิมตฺตวิสิฏฺาย อตฺถโต ตโต อภินฺนภาโวติ อุภยมฺเปตํ สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพภาวเหตูติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เกวลํ โปราณฏฺกถานํ สติปิ ปมาณภาเว อยํ สํวณฺณนา ตโต ภินฺนา อตฺถโต อฺาเยว จ สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ วตฺตุมรหติ, นาปิ อิมิสฺสา สํวณฺณนาย ตโตอภินฺนภาเวปิ โปราณฏฺกถานํ อสติ ปมาณภาเว อยํ สํวณฺณนา สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ วตฺตุํ ยุตฺตรูปา โหติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตนเยน อุภยมฺเปตํ สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพภาวเหตูติ ทฏฺพฺพํ.

ตโตติ อฏฺกถาโต. ภาสนฺตรเมว หิตฺวาติ กฺจุกสทิสํ สีหฬภาสํ อปเนตฺวา. วิตฺถารมคฺคฺจ สมาสยิตฺวาติ โปราณฏฺกถาสุ อุปริ วุจฺจมานมฺปิ อาเนตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ปปฺจิตํ ‘‘ตฺติจตุตฺเถน กมฺเมน อกุปฺเปน านารเหน อุปสมฺปนฺโนติ ภิกฺขู’’ติ (ปารา. ๔๕) เอตฺถ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนมฺปิ กมฺมานํ วิตฺถารกถา วิย ตาทิสํ วิตฺถารมคฺคํ สงฺขิปิตฺวา วณฺณยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย. ตถา หิ วกฺขติ –

‘‘เอตฺถ จ ตฺติจตุตฺถกมฺมํ เอกเมว อาคตํ, อิมสฺมึ ปน าเน ตฺวา จตฺตาริ สงฺฆกมฺมานิ นีหริตฺวา วิตฺถารโต กเถตพฺพานีติ สพฺพอฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตานิ จ ‘อปโลกนกมฺมํ ตฺติกมฺมํ ตฺติทุติยกมฺมํ ตฺติจตุตฺถกมฺม’นฺติ ปฏิปาฏิยา เปตฺวา วิตฺถาเรน ขนฺธกโต ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺคโต จ ปาฬึ อาหริตฺวา กถิตานิ. ตานิ มยํ ปริวาราวสาเน กมฺมวิภงฺเคเยว วณฺณยิสฺสาม. เอวฺหิ สติ ปมปาราชิกวณฺณนา จ น ภาริยา ภวิสฺสติ, ยถาิตาย จ ปาฬิยา วณฺณนา สุวิฺเยฺยา ภวิสฺสติ, ตานิ จ านานิ อสุฺานิ ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา อนุปทวณฺณนเมว กโรมา’’ติ (ปารา. อฏฺ. ๑.๔๕ ภิกฺขุปทภาชนียวณฺณนา).

วินิจฺฉยํสพฺพมเสสยิตฺวาติ ตํตํอฏฺกถาสุ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ วินิจฺฉยํ อเสสยิตฺวา เสสํ อกตฺวา, กิฺจิมตฺตมฺปิ อปริจฺจชิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วณฺณิตุํ ยุตฺตรูปํ หุตฺวา อนุกฺกเมน อาคตํ ปาฬึ อปริจฺจชิตฺวา สํวณฺณนโต สีหฬฏฺกถาสุ อยุตฺตฏฺาเน วณฺณิตํ ยถาาเนเยว สํวณฺณนโต จ วุตฺตํ ‘‘ตนฺติกฺกมํ กิฺจิ อโวกฺกมิตฺวา’’ติ, กิฺจิ ปาฬิกฺกมํ อนติกฺกมิตฺวา อนุกฺกเมเนว วณฺณยิสฺสามาติ อธิปฺปาโย.

สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถนฺติ สุตฺตนฺตปาฬิยํ อาคตานมฺปิ วจนานมตฺถํ. สีหฬฏฺกถาสุ ‘‘สุตฺตนฺติกานํ ภาโร’’ติ วตฺวา อวุตฺตานมฺปิ เวรฺชกณฺฑาทีสุ ฌานกถาอานาปานสฺสติสมอาธิอาทีนํ สุตฺตนฺตวจนานมตฺถํ ตํตํสุตฺตานุรูปํ สพฺพโส ปริทีปยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย. เหสฺสตีติ ภวิสฺสติ, กริยิสฺสตีติ วา อตฺโถ. เอตฺถ จ ปมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ภาสนฺตรปริจฺจาคาทิกํ จตุพฺพิธํ กิจฺจํ นิปฺผาเทตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา ภวิสฺสตีติ วณฺณนาย วเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา. ปจฺฉิมสฺมึ อตฺถวิกปฺเป ปน เหฏฺาวุตฺตภาสนฺตรปริจฺจาคาทึ กตฺวา สุตฺตนฺติกานํ วจนานมตฺถํ ปริทีปยนฺตี อยํ วณฺณนา อมฺเหหิ กริยิสฺสตีติ เอวํ อาจริยวเสน สมานกตฺตุกตา เวทิตพฺพา. วณฺณนาปีติ เอตฺถ อปิสทฺทํ คเหตฺวา ‘‘ตสฺมาปิ สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ โยเชตพฺพ’’นฺติ จูฬคณฺิปเท วุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตปฺปโยชนวิเสสํ ปมาณภาวฺจ สมฺปิณฺเฑตีติ อธิปฺปาโย. มชฺฌิมคณฺิปเท ปน ‘‘ตสฺมา สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาปี’’ติ สมฺพนฺโธ วุตฺโต. เอตฺถ ปน น เกวลํ อยํ วณฺณนา เหสฺสติ, อถ โข อนุสิกฺขิตพฺพาปีติ อิมมตฺถํ สมฺปิณฺเฑตีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาปิ ยถาิตวเสเนว อปิสทฺทสฺส อตฺโถ คเหตพฺโพติ อมฺหากํ ขนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา อฏฺกถาสุ วุตฺตํ ปมาณํ, ยสฺมา จ อยํ วณฺณนาปิ ตโต อภินฺนตฺตา ปมาณภูตาเยว เหสฺสติ, ตสฺมา สกฺกจฺจํ อนุสิกฺขิตพฺพาติ.

คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พาหิรนิทานกถา

อิทานิ ‘‘ตํ วณฺณยิสฺสํ วินย’’นฺติ ปฏิฺาตตฺตา ยถาปฏิฺาตวินยสํวณฺณนํ กตฺตุกาโม สํวรวินยปหานวินยาทิวเสน วินยสฺส พหุวิธตฺตา อิธ สํวณฺเณตพฺพภาเวน อธิปฺเปโต ตาว วินโย ววตฺถเปตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตาสุ คาถาสุ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ อิมสฺมึ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ. เตน ปมํ วินยํ ววตฺถเปตฺวา ปจฺฉา ตสฺส วณฺณนํ กริสฺสามีติ ทีเปติ. ววตฺถเปตพฺโพติ นิยเมตพฺโพ. เตเนตํ วุจฺจตีติ ยสฺมา ววตฺถเปตพฺโพ, เตน เหตุนา เอตํ ‘‘วินโย นามา’’ติอาทิกํ นิยามกวจนํ วุจฺจตีติ อตฺโถ. อสฺสาติ วินยสฺส. มาติกาติ อุทฺเทโส. โส หิ นิทฺเทสปทานํ ชนนีาเน ิตตฺตา มาตา วิยาติ มาติกาติ วุจฺจติ.

อิทานิ วณฺเณตพฺพมตฺถํ มาติกํ เปตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตํ เยนา’’ติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เอตํ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตี’’ติอาทินิทานวจนปฏิมณฺฑิตํ วินยปิฏกํ เยน ปุคฺคเลน วุตฺตํ, ยสฺมึ กาเล วุตฺตํ, ยสฺมา การณา วุตฺตํ, เยน ธาริตํ, เยน จ อาภตํ, เยสุ ปติฏฺิตํ, เอตํ ยถาวุตฺตวิธานํ วตฺวา ตโต ‘‘เตน สมเยนา’’ติอาทิปาสฺส อตฺถํ อเนกปฺปการโต ทสฺสยนฺโต วินยสฺส อตฺถวณฺณนํ กริสฺสามีติ. เอตฺถ จ ‘‘วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมา’’ติ อิทํ วจนํ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา’’ติอาทินิทานวจนมตฺตํ อเปกฺขิตฺวา วตฺตุกาโมปิ วิสุํ อวตฺวา ‘‘นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, ‘อิทมโวจา’ติ นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณ’’นฺติ จ วจนโต นิทานนิคมนานิปิ สตฺถุเทสนาย อนุวิธานตฺตา ตทนฺโตคธาเนวาติ นิทานสฺสปิ วินยปาฬิยํเยว อนฺโตคธตฺตา ‘‘วุตฺตํ เยน ยทา ยสฺมา’’ติ อิทมฺปิ วินยปิฏกสมฺพนฺธํเยว กตฺวา มาติกํ เปสิ. มาติกาย หิ ‘‘เอต’’นฺติ วุตฺตํ วินยปิฏกํเยว สามฺโต สพฺพตฺถ สมฺพนฺธมุปคจฺฉติ.

อิทานิ ปน ตํ วิสุํ นีหริตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ วุตฺตํ เยนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ มาติกาปเทสุ. อถ กสฺมา อิทเมว วจนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อิทฺหี’’ติอาทิ. อิทนฺติ ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา’’ติอาทิวจนํ . หิ-สทฺโท ยสฺมาติ อตฺเถ ทฏฺพฺโพ, ยสฺมา พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหติ, ตสฺมาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อตฺตโน ปจฺจกฺขํ กตฺวา วุตฺตวจนํ น โหติ, ภควตา วุตฺตวจนํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อาหจฺจ ภาสิตํ น โหตีติ อธิปฺปาโย’’ติ เกนจิ วุตฺตํ. คณฺิปเท ปน ‘‘อตฺตปจฺจกฺขวจนํ น โหตีติ อตฺตโน ธรมานกาเล วุตฺตวจนํ น โหตี’’ติ ลิขิตํ. ตทุภยมฺปิ อตฺถโต สมานเมว. อิทานิ ปฺหกรณํ วตฺวา อนุกฺกเมน ยถาวุตฺตปฺหวิสฺสชฺชนํ กโรนฺโต ‘‘อายสฺมตา’’ติอาทิมาห. อิมินา ปุคฺคลํ นิยเมติ, ‘‘ตฺจา’’ติอาทินา กาลํ นิยเมติ. ตฺจ อุปาลิตฺเถเรน วุตฺตวจนํ กาลโต ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา

อิทานิ ตํ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตุกาโม ตสฺสา ตนฺติอารุฬฺหาย อิธ วจเน การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสา…เป… เวทิตพฺพา’’ติ อาห. ปมมหาสงฺคีติ นาม เจสาติ -สทฺโท อีทิเสสุ าเนสุ วตฺตพฺพสมฺปิณฺฑนตฺโถ, ตฺจ ปมมหาสงฺคีติกาเล วุตฺตํ, เอสา จ ปมมหาสงฺคีติ เอวํ เวทิตพฺพาติ วุตฺตํ โหติ. อุปฺาสตฺโถ วา -สทฺโท. อุปฺาโสติ จ วากฺยารมฺโภ วุจฺจติ. เอสา หิ คนฺถการานํ ปกติ, ยทิทํ กิฺจิ วตฺวา ปุน ปรํ วตฺตุมารภนฺตานํ จสทฺทปฺปโยโค. ยํ ปน เกนจิ วุตฺตํ ‘‘ปมมหาสงฺคีติ นาม จาติ เอตฺถ จ-สทฺโท อติเรกตฺโถ, เตน อฺาปิ อตฺถีติ ทีเปตี’’ติ. ตเทว ตสฺส คนฺถกฺกเม อโกวิทตํ ทสฺเสติ. น เหตฺถ จสทฺเทน อติเรกตฺโถ วิฺายติ. ยทิ เจตฺถ เอตทตฺโถเยว จ-กาโร อธิปฺเปโต สิยา, เอวํ สติ น กตฺตพฺโพเยว ปมสทฺเทเนว อฺาสํ ทุติยาทิสงฺคีตีนมฺปิ อตฺถิภาวสฺส ทีปิตตฺตา. ทุติยาทึ อุปาทาย หิ ปมสทฺทปฺปโยโค ทีฆาทึ อุปาทาย รสฺสาทิสทฺทปฺปโยโค วิย. ยถาปจฺจยํ ตตฺถ ตตฺถ เทสิตตฺตา ปฺตฺตตฺตา จ วิปฺปกิณฺณานํ ธมฺมวินยานํ สงฺคเหตฺวา คายนํ กถนํ สงฺคีติ. เอเตน ตํตํสิกฺขาปทานํ สุตฺตานฺจ อาทิปริโยสาเนสุ อนฺตรนฺตรา จ สมฺพนฺธวเสน ปิตํ สงฺคีติการวจนํ สงฺคหิตํ โหติ. มหาวิสยตฺตา ปูชนียตฺตา จ มหตี สงฺคีติ มหาสงฺคีติ, ปมา มหาสงฺคีติ ปมมหาสงฺคีติ. นิทานโกสลฺลตฺถนฺติ นิททาติ เทสนํ เทสกาลาทิวเสน อวิทิตํ วิทิตํ กตฺวา นิทสฺเสตีติ นิทานํ, ตตฺถ โกสลฺลํ นิทานโกสลฺลํ, ตทตฺถนฺติ อตฺโถ.

สตฺตานํ ทสฺสนานุตฺตริยสรณาทิปฏิลาภเหตุภูตาสุ วิชฺชมานาสุปิ อฺาสุ ภควโต กิริยาสุ ‘‘พุทฺโธ โพเธยฺย’’นฺติ ปฏิฺาย อนุโลมนโต เวเนยฺยานํ มคฺคผลุปฺปตฺติเหตุภูตา กิริยา นิปฺปริยาเยน พุทฺธกิจฺจนฺติ อาห ‘‘ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนฺหิ อาทึ กตฺวา’’ติ. ตตฺถ สทฺธินฺทฺริยาทิธมฺโมเยว ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ ธมฺมจกฺกํ. อถ วา จกฺกนฺติ อาณา, ธมฺมโต อนเปตตฺตา ธมฺมฺจ ตํ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน าเยน จกฺกนฺติปิ ธมฺมจกฺกํ. ยถาห –

‘‘ธมฺมฺจ ปวตฺเตติ จกฺกฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, จกฺกฺจ ปวตฺเตติ ธมฺมฺจาติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺเมน ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺกํ, ธมฺมจริยาย ปวตฺเตตีติ ธมฺมจกฺก’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๒.๔๐).

กตพุทฺธกิจฺเจติ กตํ ปรินิฏฺาปิตํ พุทฺธกิจฺจํ เยน, ตสฺมึ กตพุทฺธกิจฺเจ ภควติ โลกนาเถติ สมฺพนฺโธ. เอเตน พุทฺธกตฺตพฺพสฺส กสฺสจิปิ อเสสิตภาวํ ทสฺเสติ. ตโตเยว หิ โส ภควา ปรินิพฺพุโตติ. นนุ จ สาวเกหิ วินีตาปิ วิเนยฺยา ภควตาเยว วินีตา โหนฺติ, ตถา หิ สาวกภาสิตํ สุตฺตํ พุทฺธวจนนฺติ วุจฺจติ, สาวกวิเนยฺยา จ น ตาว วินีตาติ? นายํ โทโส เตสํ วินยนูปายสฺส สาวเกสุ ปิตตฺตา. เตเนวาห –

‘‘น ตาวาหํ ปาปิม ปรินิพฺพายิสฺสามิ, ยาว น ภิกฺขู วิยตฺตา วินีตา วิสารทา พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา สปฺปาฏิหาริยํ ธมฺมํ เทเสสฺสนฺตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๖๘).

‘‘กุสินาราย’’นฺติอาทินา ภควโต ปรินิพฺพุตเทสกาลวิเสสทสฺสนํ, ‘‘อปรินิพฺพุโต ภควา’’ติ คาหสฺส มิจฺฉาภาวทสฺสนตฺถํ โลเก ชาตสํวฑฺฒภาวทสฺสนตฺถฺจ. ตถา หิ มนุสฺสภาวสฺส สุปากฏกรณตฺถํ มหาโพธิสตฺตา จริมภเว ทารปริคฺคหาทีนิปิ กโรนฺตีติ. กุสินารายนฺติ เอวํนามเก นคเร. สมีปตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํ. อุปวตฺตเน มลฺลานํ สาลวเนติ ตสฺส นครสฺส อุปวตฺตนภูตํ มลฺลราชูนํ สาลวนุยฺยานํ ทสฺเสติ. ตตฺถ นครํ ปวิสิตุกามา อุยฺยานโต อุเปจฺจ วตฺตนฺติ คจฺฉนฺติ เอเตนาติ อุปวตฺตนนฺติ สาลวนํ วุจฺจติ. ยถา หิ อนุราธปุรสฺส ถูปาราโม ทกฺขิณปจฺฉิมทิสายํ, เอวํ ตํ อุยฺยานํ กุสินาราย ทกฺขิณปจฺฉิมทิสาย โหติ. ยถา จ ถูปารามโต ทกฺขิณทฺวาเรน นครํ ปวิสนมคฺโค ปาจีนมุโข คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตติ, เอวํ อุยฺยานโต สาลปนฺติ ปาจีนมุขา คนฺตฺวา อุตฺตเรน นิวตฺตา, ตสฺมา ตํ ‘‘อุปวตฺตน’’นฺติ วุจฺจติ. ยมกสาลานมนฺตเรติ ยมกสาลานํ เวมชฺเฌ. ตตฺถ กิร ภควโต ปฺตฺตสฺส ปรินิพฺพานมฺจสฺส เอกา สาลปนฺติ สีสภาเค โหติ, เอกา ปาทภาเค, ตตฺราปิ เอโก ตรุณสาโล สีสภาคสฺส อาสนฺโน โหติ, เอโก ปาทภาคสฺส, ตสฺมา ‘‘ยมกสาลานมนฺตเร’’ติ วุตฺตํ. อปิ จ ‘‘ยมกสาลา นาม มูลกฺขนฺธวิฏปปตฺเตหิ อฺมฺํ สํสิพฺเพตฺวา ิตสาลา’’ติปิ มหาอฏฺกถายํ วุตฺตํ.

อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยาติ อุปาทียเต กมฺมกิเลเสหีติ อุปาทิ, วิปากกฺขนฺธา กฏตฺตา จ รูปํ. โส ปน อุปาทิ กิเลสาภิสงฺขารมารนิมฺมถเนน นิพฺพานปฺปตฺติยํ อโนสฺสฏฺโ, อิธ ขนฺธมจฺจุมารนิมฺมถเนน โอสฺสฏฺโ นิเสสิโตติ อยํ อนุปาทิเสสา นิพฺพานธาตุ นตฺถิ เอติสฺสา อุปาทิเสโสติ กตฺวา. นิพฺพานธาตูติ เจตฺถ นิพฺพุติมตฺตํ อธิปฺเปตํ, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ จายํ กรณนิทฺเทโส. ปรินิพฺพาเนติ ปรินิพฺพานฏฺาเน, นิมิตฺตตฺเถ วา ภุมฺมวจนํ, ปรินิพฺพานเหตุ สนฺนิปติตานนฺติ อตฺโถ. สงฺฆสฺส เถโร สงฺฆตฺเถโร. โส ปน สงฺโฆ กึปริมาโณติ อาห ‘‘สตฺตนฺนํ ภิกฺขุสตสหสฺสาน’’นฺติ. นิจฺจสาเปกฺขตฺตา หิ อีทิเสสุ สมาโส โหติเยว ยถา ‘‘เทวทตฺตสฺส ครุกุล’’นฺติ. สตฺตนฺนํ ภิกฺขุสตสหสฺสานนฺติ จ สงฺฆตฺเถรานํเยว สตฺตนฺนํ ภิกฺขุสตสหสฺสานํ. ตทา หิ ‘‘สนฺนิปติตา ภิกฺขู เอตฺตกา’’ติ ปมาณรหิตา. ตถา หิ เวฬุวคาเม เวทนาวิกฺขมฺภนโต ปฏฺาย ‘‘น จิเรน ภควา ปรินิพฺพายิสฺสตี’’ติ สุตฺวา ตโต ตโต อาคเตสุ ภิกฺขูสุ เอกภิกฺขุปิ ปกฺกนฺโต นาม นตฺถิ, ตสฺมา คณนํ วีติวตฺโต สงฺโฆ อโหสิ. อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ สมฺพนฺโธ.

ตตฺถ มหากสฺสโปติ มหนฺเตหิ สีลกฺขนฺธาทีหิ สมนฺนาคตตฺตา มหนฺโต กสฺสโปติ มหากสฺสโป, อปิจ กุมารกสฺสปตฺเถรํ อุปาทาย อยํ มหาเถโร ‘‘มหากสฺสโป’’ติ วุจฺจติ. อถ กิมตฺถํ อายสฺมา มหากสฺสโป ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ อาห ‘‘สตฺตาหปรินิพฺพุเต’’ติอาทิ. สตฺต อหานิ สมาหฏานิ สตฺตาหํ, สตฺตาหํ ปรินิพฺพุตสฺส อสฺสาติ สตฺตาหปรินิพฺพุโต, ภควา, ตสฺมึ สตฺตาหปรินิพฺพุเต ภควติ, ภควโต ปรินิพฺพานทิวสโต ปฏฺาย สตฺตาเห วีติวตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน วุตฺตวจนํ สมนุสฺสรนฺโตติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ สุภทฺโทติ ตสฺส นามํ, วุฑฺฒกาเล ปน ปพฺพชิตตฺตา วุฑฺฒปพฺพชิโตติ วุจฺจติ. ‘‘อลํ อาวุโส’’ติอาทินา เตน วุตฺตวจนํ นิทสฺเสติ. โส หิ สตฺตาหปรินิพฺพุเต ภควติ อายสฺมตา มหากสฺสปตฺเถเรน สทฺธึ ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺเนสุ ปฺจมตฺเตสุ ภิกฺขุสเตสุ อวีตราเค ภิกฺขู อนฺตรามคฺเค ทิฏฺอาชีวกสฺส สนฺติกา ภควโต ปรินิพฺพานํ สุตฺวา ปตฺตจีวรานิ ฉฑฺเฑตฺวา พาหา ปคฺคยฺห นานปฺปการํ ปริเทวนฺเต ทิสฺวา เอวมาห.

กสฺมา ปน โส เอวมาห? ภควติ อาฆาเตน. อยํ กิร โส ขนฺธเก (มหาว. ๓๐๓) อาคเต อาตุมาวตฺถุสฺมึ นหาปิตปุพฺพโก วุฑฺฒปพฺพชิโต ภควติ กุสินารโต นิกฺขมิตฺวา อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ อาตุมํ คจฺฉนฺเต ‘‘ภควา อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา อาคตกาเล ‘‘ยาคุทานํ กริสฺสามี’’ติ สามเณรภูมิยํ ิเต ทฺเว ปุตฺเต เอตทโวจ ‘‘ภควา กิร ตาตา อาตุมํ อาคจฺฉติ มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ อฑฺฒเตฬเสหิ ภิกฺขุสเตหิ, คจฺฉถ ตุมฺเห ตาตา ขุรภณฺฑํ อาทาย นาฬิยาวาปเกน อนุฆรกํ อนุฆรกํ อาหิณฺฑถ, โลณมฺปิ เตลมฺปิ ตณฺฑุลมฺปิ ขาทนียมฺปิ สํหรถ, ภควโต อาคตสฺส ยาคุทานํ กริสฺสามี’’ติ. เต ตถา อกํสุ. อถ ภควติ อาตุมํ อาคนฺตฺวา ภุสาคารกํ ปวิฏฺเ สุภทฺโท สายนฺหสมยํ คามทฺวารํ คนฺตฺวา มนุสฺเส อามนฺเตตฺวา ‘‘หตฺถกมฺมมตฺตํ เม เทถา’’ติ หตฺถกมฺมํ ยาจิตฺวา ‘‘กึ ภนฺเต กโรมา’’ติ วุตฺเต ‘‘อิทฺจิทฺจ คณฺหถา’’ติ สพฺพูปกรณานิ คาหาเปตฺวา วิหาเร อุทฺธนานิ กาเรตฺวา เอกํ กาฬกํ กาสาวํ นิวาเสตฺวา ตาทิสเมว ปารุปิตฺวา ‘‘อิทํ กโรถ, อิทํ กโรถา’’ติ สพฺพรตฺตึ วิจาเรนฺโต สตสหสฺสํ วิสฺสชฺเชตฺวา โภชฺชยาคุฺจ มธุโคฬกฺจ ปฏิยาทาเปสิ. โภชฺชยาคุ นาม ภุฺชิตฺวา ปาตพฺพยาคุ, ตตฺถ สปฺปิมธุผาณิตมจฺฉมํสปุปฺผผลรสาทิ ยํ กิฺจิ ขาทนียํ นาม อตฺถิ, ตํ สพฺพํ ปวิสติ, กีฬิตุกามานํ สีสมกฺขนโยคฺคา โหติ สุคนฺธคนฺธา.

อถ ภควา กาลสฺเสว สรีรปฏิชคฺคนํ กตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต ปิณฺฑาย จริตุํ อาตุมาภิมุโข ปายาสิ. มนุสฺสา ตสฺส อาโรเจสุํ ‘‘ภควา ปิณฺฑาย คามํ ปวิสติ, ตยา กสฺส ยาคุ ปฏิยาทิตา’’ติ. โส ยถานิวตฺถปารุเตเหว เตหิ กาฬกกาสาเวหิ เอเกน หตฺเถน ทพฺพิฺจ กฏจฺฉุฺจ คเหตฺวา พฺรหฺมา วิย ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ภูมิยํ ปติฏฺาเปตฺวา วนฺทิตฺวา ‘‘ปฏิคฺคณฺหตุ เม ภนฺเต ภควา ยาคุ’’นฺติ อาห. ตโต ‘‘ชานนฺตาปิ ตถาคตา ปุจฺฉนฺตี’’ติ ขนฺธเก (มหาว. ๓๐๓) อาคตนเยน ภควา ปุจฺฉิตฺวา จ สุตฺวา จ ตํ วุฑฺฒปพฺพชิตํ วิครหิตฺวา ตสฺมึ วตฺถุสฺมึ อกปฺปิยสมาทาปนสิกฺขาปทํ ขุรภณฺฑปริหรณสิกฺขาปทฺจาติ ทฺเว สิกฺขาปทานิ ปฺเปตฺวา ‘‘ภิกฺขเว อเนกกปฺปโกฏิโย โภชนํ ปริเยสนฺเตเหว วีตินามิตา, อิทํ ปน ตุมฺหากํ อกปฺปิยํ, อธมฺเมน อุปฺปนฺนโภชนํ อิมํ ปริภุฺชิตฺวา อเนกานิ อตฺตภาวสหสฺสานิ อปาเยสฺเวว นิพฺพตฺติสฺสนฺติ, อเปถ มา คณฺหถา’’ติ ภิกฺขาจาราภิมุโข อคมาสิ, เอกภิกฺขุนาปิ น กิฺจิ คหิตํ.

สุภทฺโท อนตฺตมโน หุตฺวา ‘‘อยํ ‘สพฺพํ ชานามี’ติ อาหิณฺฑติ, สเจ น คเหตุกาโม เปเสตฺวา อาโรเจตพฺพํ อสฺส, ปกฺกาหาโร นาม สพฺพจิรํ ติฏฺนฺโต สตฺตาหมตฺตํ ติฏฺเยฺย, อิทฺจ มม ยาวชีวํ ปริยตฺตํ อสฺส, สพฺพํ เตน นาสิตํ, อหิตกาโม อยํ มยฺห’’นฺติ ภควติ อาฆาตํ พนฺธิตฺวา ทสพเล ธรมาเน กิฺจิ วตฺตุํ นาสกฺขิ. เอวํ กิรสฺส อโหสิ ‘‘อยํ อุจฺจกุลา ปพฺพชิโต มหาปุริโส, สเจ กิฺจิ วกฺขามิ, มมํเยว สนฺตชฺเชสฺสตี’’ติ. สฺวายํ อชฺช มหากสฺสปตฺเถเรน สทฺธึ อาคจฺฉนฺโต ‘‘ปรินิพฺพุโต ภควา’’ติ สุตฺวา ลทฺธสฺสาโส วิย หฏฺตุฏฺโ เอวมาห. เถโร ปน ตํ สุตฺวา หทเย ปหารํ วิย มตฺถเก ปติตสุกฺกาสนึ วิย มฺิ, ธมฺมสํเวโค จสฺส อุปฺปชฺชิ ‘‘สตฺตาหมตฺตปรินิพฺพุโต ภควา, อชฺชาปิสฺส สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ ธรติเยว, ทุกฺเขน ภควตา อาราธิตสาสเน นาม เอวํ ลหุํ มหนฺตํ ปาปกสฏํ กณฺฏโก อุปฺปนฺโน, อลํ โข ปเนส ปาโป วฑฺฒมาโน อฺเปิ เอวรูเป สหาเย ลภิตฺวา สาสนํ โอสกฺกาเปตุ’’นฺติ.

ตโต เถโร จินฺเตสิ ‘‘สเจ โข ปนาหํ อิมํ มหลฺลกํ อิเธว ปิโลติกํ นิวาเสตฺวา ฉาริกาย โอกิราเปตฺวา นีหราเปสฺสามิ, มนุสฺสา ‘สมณสฺส โคตมสฺส สรีเร ธรมาเนเยว สาวกา วิวทนฺตี’ติ อมฺหากํ โทสํ ทสฺเสสฺสนฺติ, อธิวาเสมิ ตาว. ภควตา หิ เทสิตธมฺโม อสงฺคหิตปุปฺผราสิสทิโส, ตตฺถ ยถา วาเตน ปหฏปุปฺผานิ ยโต วา ตโต วา คจฺฉนฺติ, เอวเมว เอวรูปานํ วเสน คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล วินเย เอกํ ทฺเว สิกฺขาปทานิ นสฺสิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ, สุตฺเต เอโก ทฺเว ปฺหวารา นสฺสิสฺสนฺติ, อภิธมฺเม เอกํ ทฺเว ภูมนฺตรานิ นสฺสิสฺสนฺติ, เอวํ อนุกฺกเมน มูเล นฏฺเ ปิสาจสทิสา ภวิสฺสาม, ตสฺมา ธมฺมวินยสงฺคหํ กริสฺสามิ, เอวํ สติ ทฬฺหสุตฺเตน สงฺคหิตปุปฺผานิ วิย อยํ ธมฺมวินโย นิจฺจโล ภวิสฺสติ. เอตทตฺถฺหิ ภควา มยฺหํ ตีณิ คาวุตานิ ปจฺจุคฺคมนํ อกาสิ, ตีหิ โอวาเทหิ อุปสมฺปทํ อกาสิ, กายโต จีวรปริวตฺตนํ อกาสิ, อากาเส ปาณึ จาเลตฺวา จนฺโทปมปฏิปทํ กเถนฺโต มฺเว สกฺขึ กตฺวา กเถสิ, ติกฺขตฺตุํ สกลสาสนรตนํ ปฏิจฺฉาเปสิ, มาทิเส ภิกฺขุมฺหิ ติฏฺมาเน อยํ ปาโป สาสเน วฑฺฒึ มา อลตฺถุ, ยาว อธมฺโม น ทิปฺปติ, ธมฺโม น ปฏิพาหียติ, อวินโย น ทิปฺปติ, วินโย น ปฏิพาหียติ, อธมฺมวาทิโน น พลวนฺโต โหนฺติ, ธมฺมวาทิโน น ทุพฺพลา โหนฺติ, อวินยวาทิโน น พลวนฺโต โหนฺติ, วินยวาทิโน น ทุพฺพลา โหนฺติ, ตาว ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิสฺสามิ, ตโต ภิกฺขู อตฺตโน อตฺตโน ปโหนกํ คเหตฺวา กปฺปิยากปฺปิเย กเถสฺสนฺติ, อถายํ ปาโป สยเมว นิคฺคหํ ปาปุณิสฺสติ, ปุน สีสํ อุกฺขิปิตุํ น สกฺขิสฺสติ, สาสนํ อิทฺธฺเจว ผีตฺจ ภวิสฺสตี’’ติ. จินฺเตตฺวา โส ‘‘เอวํ นาม มยฺหํ จิตฺตํ อุปฺปนฺน’’นฺติ กสฺสจิ อนาโรเจตฺวา ภิกฺขุสงฺฆํ สมสฺสาเสตฺวา อถ ปจฺฉา ธาตุภาชนทิวเส ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อายสฺมา มหากสฺสโป สตฺตาหปรินิพฺพุเต…เป… ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสี’’ติ.

ตตฺถ อลนฺติ ปฏิกฺเขปวจนํ. อาวุโสติ ปริเทวนฺเต ภิกฺขู อาลปติ. มา โสจิตฺถาติ จิตฺเต อุปฺปนฺนพลวโสเกน มา โสจิตฺถ. มา ปริเทวิตฺถาติ วาจาย มา ปริเทวิตฺถ ‘‘ปริเทวนํ วิลาโป’’ติ วจนโต. อิทานิ อโสจนาทีสุ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุมุตฺตา มย’’นฺติอาทิมาห. เตน มหาสมเณนาติ นิสฺสกฺเก กรณวจนํ, ตโต มหาสมณโต สุฏฺุ มุตฺตา มยนฺติ อตฺโถ, อุปทฺทุตา จ โหม ตทาติ อธิปฺปาโย. โหมาติ วา อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ, อหุมฺหาติ อตฺโถ, อนุสฺสรนฺโต ธมฺมสํเวควเสนาติ อธิปฺปาโย. ธมฺมสภาวจินฺตาวเสน ปวตฺตํ สโหตฺตปฺปาณํ ธมฺมสํเวโค. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สพฺพสงฺขตธมฺเมสุ, โอตฺตปฺปาการสณฺิตํ;

าณโมหิตภารานํ, ธมฺมสํเวคสฺิต’’นฺติ.

านํ โข ปเนตํ วิชฺชตีติ ติฏฺติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ านํ, เหตุ. โขติ อวธารเณ, เอตํ การณํ วิชฺชเตว, โน น วิชฺชตีติ อตฺโถ. กึ ตํ การณนฺติ อาห ‘‘ยํ ปาปภิกฺขู’’ติอาทิ. เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ, การณนิทฺเทโส วา, เยน การเณน อนฺตรธาเปยฺยุํ, ตเทตํ การณํ วิชฺชตีติ อตฺโถ. ปาปภิกฺขูติ ปาปิกาย ลามิกาย อิจฺฉาย สมนฺนาคตา ภิกฺขู. อตีโต อติกฺกนฺโต สตฺถา เอตฺถ, เอตสฺสาติ วา อตีตสตฺถุกํ, ปาวจนํ. ปธานํ วจนํ ปาวจนํ, ธมฺมวินยนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปกฺขํ ลภิตฺวาติ อลชฺชีปกฺขํ ลภิตฺวา. น จิรสฺเสวาติ น จิเรเนว. ยาว จ ธมฺมวินโย ติฏฺตีติ ยตฺตกํ กาลํ ธมฺโม จ วินโย จ ลชฺชีปุคฺคเลสุ ติฏฺติ.

วุตฺตฺเหตํ ภควตาติ ปรินิพฺพานมฺจเก นิปนฺเนน ภควตา ภิกฺขู โอวทนฺเตน เอตํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. เทสิโต ปฺตฺโตติ ธมฺโมปิ เทสิโต เจว ปฺตฺโต จ. สุตฺตาภิธมฺมสงฺคหิตสฺส หิ ธมฺมสฺส อภิสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา, ตสฺเสว ปการโต าปนํ วิเนยฺยสนฺตาเน ปนํ ปฺาปนํ, ตสฺมา ธมฺโมปิ เทสิโต เจว ปฺตฺโต จาติ วุตฺโต. ปฺตฺโตติ จ ปิโตติ อตฺโถ. วินโยปิ เทสิโต เจว ปฺตฺโต จ. วินยตนฺติสงฺคหิตสฺส หิ อตฺถสฺส กายวาจานํ วินยนโต วินโยติ ลทฺธาธิวจนสฺส อติสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา, ตสฺเสว ปการโต าปนํ อสงฺกรโต ปนํ ปฺาปนํ, ตสฺมา วินโยปิ เทสิโต เจว ปฺตฺโต จาติ วุจฺจติ.

โส โว มมจฺจเยนาติ โส ธมฺมวินโย ตุมฺหากํ มมจฺจเยน สตฺถา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – มยา โว ิเตเนว ‘‘อิทํ ลหุกํ, อิทํ ครุกํ, อิทํ สเตกิจฺฉํ, อิทํ อเตกิจฺฉํ, อิทํ โลกวชฺชํ, อิทํ ปณฺณตฺติวชฺชํ. อยํ อาปตฺติ ปุคฺคลสฺส สนฺติเก วุฏฺาติ, อยํ คณสฺส, อยํ สงฺฆสฺส สนฺติเก วุฏฺาตี’’ติ สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกมนียตาวเสน โอติณฺณวตฺถุสฺมึ สขนฺธกปริวาโร อุภโตวิภงฺโค มหาวินโย นาม เทสิโต, ตํ สกลมฺปิ วินยปิฏกํ มยิ ปรินิพฺพุเต ตุมฺหากํ สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ ‘‘อิทํ โว กตฺตพฺพํ, อิทํ โว น กตฺตพฺพ’’นฺติ กตฺตพฺพากตฺตพฺพสฺส วิภาเคน อนุสาสนโต. ิเตเนว จ มยา ‘‘อิเม จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคานิ, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ เตน เตน วิเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุรูเปน ปกาเรน อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺเม วิภชิตฺวา สุตฺตนฺตปิฏกํ เทสิตํ, ตํ สกลมฺปิ สุตฺตนฺตปิฏกํ มยิ ปรินิพฺพุเต ตุมฺหากํ สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ ตํตํจริยานุรูปํ สมฺมาปฏิปตฺติยา อนุสาสนโต. ิเตเนว จ มยา ‘‘ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, จตฺตาริ สจฺจานิ, พาวีสตินฺทฺริยานิ, นว เหตู, จตฺตาโร อาหารา, สตฺต ผสฺสา, สตฺต เวทนา, สตฺต สฺา, สตฺต เจตนา, สตฺต จิตฺตานิ, ตตฺราปิ เอตฺตกา ธมฺมา กามาวจรา, เอตฺตกา รูปาวจรา, เอตฺตกา อรูปาวจรา, เอตฺตกา ปริยาปนฺนา, เอตฺตกา อปริยาปนฺนา, เอตฺตกา โลกิยา, เอตฺตกา โลกุตฺตรา’’ติ อิเม ธมฺเม วิภชิตฺวา อภิธมฺมปิฏกํ เทสิตํ, ตํ สกลมฺปิ อภิธมฺมปิฏกํ มยิ ปรินิพฺพุเต ตุมฺหากํ สตฺถุกิจฺจํ สาเธสฺสติ, ขนฺธาทิวิภาเคน ายมานํ จตุสจฺจสมฺโพธาวหตฺตา สตฺถารา สมฺมาสมฺพุทฺเธน กตฺตพฺพกิจฺจํ นิปฺผาเทสฺสติ. อิติ สพฺพมฺเปตํ อภิสมฺโพธิโต ยาว ปรินิพฺพานา ปฺจจตฺตาลีส วสฺสานิ ภาสิตํ ลปิตํ, ตีณิ ปิฏกานิ, ปฺจ นิกายา, นวงฺคานิ, จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ เอวํ มหปฺปเภทํ โหติ. อิติ อิมานิ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ ติฏฺนฺติ, อหํ เอโกว ปรินิพฺพายามิ, อหฺจ ปนิทานิ เอโกว โอวทามิ อนุสาสามิ, มยิ ปรินิพฺพุเต อิมานิ จตุราสีติ พุทฺธสหสฺสานิ ตุมฺเห โอวทิสฺสนฺติ อนุสาสิสฺสนฺติ โอวาทานุสาสนีกิจฺจสฺส นิปฺผาทนโตติ.

สาสนนฺติ ปริยตฺติปฏิปตฺติปฏิเวธวเสน ติวิธํ สาสนํ, นิปฺปริยายโต ปน สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา. อทฺธนิยนฺติ อทฺธานมคฺคคามีติ อทฺธนิยํ, อทฺธานกฺขมนฺติ อตฺโถ. จิรฏฺิติกนฺติ จิรํ ิติ เอตสฺสาติ จิรฏฺิติกํ, สาสนํ, อสฺส ภเวยฺยาติ สมฺพนฺโธ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เยน ปกาเรน อิทํ สาสนํ ทีฆมทฺธานํ ปวตฺติตุํ สมตฺถํ, ตโตเยว จิรฏฺิติกํ อสฺส, ตถา เตน ปกาเรน ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยนฺติ.

อิทานิ สมฺมาสมฺพุทฺเธน อตฺตโน กตํ อนุคฺคหวิเสสํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ยฺจาหํ ภควตา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘ยฺจาห’’นฺติ เอตสฺส ‘‘อนุคฺคหิโต’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ. ตตฺถ นฺติ ยสฺมา, เยน การเณนาติ วุตฺตํ โหติ. กิริยาปรามสนํ วา เอตํ, เตน ‘‘อนุคฺคหิโต’’ติ เอตฺถ อนุคฺคณฺหนํ ปรามสติ. ธาเรสฺสสีติอาทิกํ ปน ภควา อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล มหากสฺสปตฺเถเรน ปฺตฺตสงฺฆาฏิยํ นิสินฺโน ตํ จีวรํ วิกสิตปทุมปุปฺผวณฺเณน ปาณินา อนฺตเร ปรามสนฺโต อาห. วุตฺตฺเหตํ กสฺสปสํยุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) มหากสฺสปตฺเถเรเนว อานนฺทตฺเถรํ อามนฺเตตฺวา กเถนฺเตน –

‘‘อถ โข, อาวุโส, ภควา มคฺคา โอกฺกมฺม เยน อฺตรํ รุกฺขมูลํ เตนุปสงฺกมิ, อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, ปฏปิโลติกานํ สงฺฆาฏึ จตุคฺคุณํ ปฺาเปตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจํ ‘อิธ, ภนฺเต, ภควา นิสีทตุ, ยํ มมสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติ. นิสีทิ โข, อาวุโส, ภควา ปฺตฺเต อาสเน, นิสชฺช โข มํ, อาวุโส, ภควา เอตทโวจ ‘มุทุกา โข ตฺยายํ กสฺสป ปฏปิโลติกานํ สงฺฆาฏี’ติ. ‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม, ภนฺเต, ภควา ปฏปิโลติกานํ สงฺฆาฏึ อนุกมฺปํ อุปาทายา’ติ. ‘ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ กสฺสป สาณานิ ปํสุกูลานิ นิพฺพสนานี’ติ. ‘ธาเรสฺสามหํ, ภนฺเต, ภควโต สาณานิ ปํสุกูลานิ นิพฺพสนานี’ติ. โส ขฺวาหํ, อาวุโส, ปฏปิโลติกานํ สงฺฆาฏึ ภควโต ปาทาสึ, อหํ ปน ภควโต สาณานิ ปํสุกูลานิ นิพฺพสนานิ ปฏิปชฺชิ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔).

ตตฺถ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔) มุทุกา โข ตฺยายนฺติ มุทุกา โข เต อยํ. กสฺมา ภควา เอวมาหาติ? เถเรน สห จีวรํ ปริวตฺเตตุกามตาย. กสฺมา ปริวตฺเตตุกาโม ชาโตติ? เถรํ อตฺตโน าเน เปตุกามตาย. กึ สาริปุตฺตโมคฺคลฺลานา นตฺถีติ? อตฺถิ, เอวํ ปนสฺส อโหสิ ‘‘อิเม น จิรํ สฺสนฺติ, กสฺสโป ปน วีสวสฺสสตายุโก, ‘โส มยิ ปรินิพฺพุเต สตฺตปณฺณิคุหายํ วสิตฺวา ธมฺมวินยสงฺคหํ กตฺวา มม สาสนํ ปฺจวสฺสสหสฺสปริมาณํ กาลํ ปวตฺตนกํ กริสฺสตี’ติ อตฺตโน นํ าเน เปมิ, เอวํ ภิกฺขู กสฺสปสฺส สุสฺสูสิตพฺพํ มฺิสฺสนฺตี’’ติ, ตสฺมา เอวมาห. เถโร ปน ยสฺมา จีวรสฺส วา ปตฺตสฺส วา วณฺเณ กถิเต ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ คณฺหถา’’ติ จาริตฺตเมว, ตสฺมา ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ เม ภนฺเต ภควา’’ติ อาห. ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ กสฺสปาติ กสฺสป ตฺวํ อิมานิ ปริโภคชิณฺณานิ ปํสุกูลานิ ปารุปิตุํ สกฺขิสฺสสีติ วทติ. ตฺจ โข น กายพลํ สนฺธาย, ปฏิปตฺติปูรณํ ปน สนฺธาย เอวมาห. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – อหํ อิมํ จีวรํ ปุณฺณํ นาม ทาสึ ปารุปิตฺวา อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ ตุมฺพมตฺเตหิ ปาณเกหิ สมฺปริกิณฺณํ เต ปาณเก วิธุนิตฺวา มหาอริยวํเส ตฺวา อคฺคเหสึ, ตสฺส เม อิมํ จีวรํ คหิตทิวเส ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ มหาปถวี มหารวํ วิรวมานา กมฺปิตฺถ, อากาสํ ตฏตฏายิ, จกฺกวาฬเทวตา สาธุการํ อทํสุ ‘‘อิมํ จีวรํ คณฺหนฺเตน ภิกฺขุนา ชาติปํสุกูลิเกน ชาติอารฺิเกน ชาติเอกาสนิเกน ชาติสปทานจาริเกน ภวิตุํ วฏฺฏติ, ตฺวํ อิมสฺส จีวรสฺส อนุจฺฉวิกํ กาตุํ สกฺขิสฺสสี’’ติ. เถโรปิ อตฺตนา ปฺจนฺนํ หตฺถีนํ พลํ ธาเรติ. โส ตํ อตกฺกยิตฺวา ‘‘อหเมตํ ปฏิปตฺตึ ปูเรสฺสามี’’ติ อุสฺสาเหน สุคตจีวรสฺส อนุจฺฉวิกํ กาตุกาโม ‘‘ธาเรสฺสามหํ ภนฺเต’’ติ อาห. ปฏิปชฺชินฺติ ปฏิปนฺโนสึ. เอวํ ปน จีวรปริวตฺตนํ กตฺวา เถเรน ปารุตจีวรํ ภควา ปารุปิ, สตฺถุ จีวรํ เถโร. ตสฺมึ สมเย มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา อุนฺนทนฺตี กมฺปิตฺถ.

สาณานิปํสุกูลานีติ มตกเฬวรํ ปริเวเตฺวา ฉฑฺฑิตานิ ตุมฺพมตฺเต กิมี ปปฺโผเฏตฺวา คหิตานิ สาณวากมยานิ ปํสุกูลจีวรานิ. รถิกสุสานสงฺการกูฏาทีนํ ยตฺถ กตฺถจิ ปํสูนํ อุปริ ิตตฺตา อพฺภุคฺคตฏฺเน เตสุ ปํสุกูลมิวาติ ปํสุกูลํ. อถ วา ปํสุ วิย กุจฺฉิตภาวํ อุลติ คจฺฉตีติ ปํสุกูลนฺติ ปํสุกูลสทฺทสฺส อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นิพฺพสนานีติ นิฏฺิตวสนกิจฺจานิ, ปริโภคชิณฺณานีติ อตฺโถ. เอตฺถ ‘‘กิฺจาปิ เอกเมว ตํ จีวรํ, อเนกาวยวตฺตา ปน พหุวจนํ กต’’นฺติ มชฺฌิมคณฺิปเท วุตฺตํ. จีวเร สาธารณปริโภเคนาติ เอตฺถ อตฺตนา สาธารณปริโภเคนาติ วิฺายมานตฺตา วิฺายมานตฺถสฺส จ-สทฺทสฺส ปโยเค กามาจารตฺตา ‘‘อตฺตนา’’ติ น วุตฺตํ. ‘‘ธาเรสฺสสิ ปน เม ตฺวํ, กสฺสป, สาณานิ ปํสุกูลานี’’ติ หิ วุตฺตตฺตา อตฺตนาว สาธารณปริโภโค วิฺายติ, นาฺเน. น หิ เกวลํ สทฺทโตเยว สพฺพตฺถ อตฺถนิจฺฉโย ภวิสฺสติ อตฺถปกรณาทินาปิ เยภุยฺเยน อตฺถสฺส นิยเมตพฺพตฺตา. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปเนตฺถ อิทํ วุตฺตํ ‘‘จีวเร สาธารณปริโภเคนาติ เอตฺถ อตฺตนา สมสมฏฺปเนนาติ อิธ อตฺตนาสทฺทํ อาเนตฺวา จีวเร อตฺตนา สาธารณปริโภเคนา’’ติ โยเชตพฺพํ.

‘‘ยสฺส เยน หิ สมฺพนฺโธ, ทูรฏฺมฺปิ จ ตสฺส ตํ;

อตฺถโต หฺยสมานานํ, อาสนฺนตฺตมการณ’’นฺติ.

อถ วา ภควตา จีวเร สาธารณปริโภเคน ภควตา อนุคฺคหิโตติ โยชนียํ เอกสฺสปิ กรณนิทฺเทสสฺส สหโยคกตฺตุตฺถโชตกตฺตสมฺภวโตติ. สพฺพตฺถ ‘‘อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรนา’’ติ วุตฺเต สุตฺตนฺตฏีกากาเรนาติ คเหตพฺพํ. สมานํ ธารณเมตสฺสาติ สาธารโณ, ปริโภโค. สาธารณปริโภเคน เจว สมสมฏฺปเนน จ อนุคฺคหิโตติ สมฺพนฺโธ.

อิทานิ (สํ. นิ. ๒.๑๕๒) –

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรามิ, สโต จ สมฺปชาโน สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทมิ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ ‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’ติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ…เป… ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ , ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา…เป… อากาสานฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม…เป… วิฺาณฺจายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ , ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ…เป… อากิฺจฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สพฺพโส อากิฺจฺายตนํ สมติกฺกมฺม เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ…เป… เนวสฺานาสฺายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ…เป… สฺาเวทยิตนิโรธํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภมิ, เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหมิ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหมิ, อาวิภาวํ ติโรภาวํ ติโรกุฏฺฏํ ติโรปาการํ ติโรปพฺพตํ อสชฺชมาโน คจฺฉามิ เสยฺยถาปิ อากาเส, ปถวิยาปิ อุมฺมุชฺชนิมุชฺชํ กโรมิ เสยฺยถาปิ อุทเก, อุทเกปิ อภิชฺชมาเน คจฺฉามิ เสยฺยถาปิ ปถวิยํ, อากาเสปิ ปลฺลงฺเกน กมามิ เสยฺยถาปิ ปกฺขี สกุโณ, อิเมปิ จนฺทิมสูริเย เอวํมหิทฺธิเก เอวํมหานุภาเว ปาณินา ปริมสามิ ปริมชฺชามิ, ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตมิ. กสฺสโปปิ ภิกฺขเว ยาวเท อากงฺขติ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ…เป… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วตฺเตติ.

‘‘อหํ , ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ ทิพฺพาย โสตธาตุยา วิสุทฺธาย อติกฺกนฺตมานุสิกาย อุโภ สทฺเท สุณามิ ทิพฺเพ จ มานุเส จ เย ทูเร สนฺติเก จ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ ทิพฺพาย โสตธาตุยา…เป… เย ทูเร สนฺติเก จ.

‘‘อหํ , ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานามิ, สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานามิ, วีตราคํ วา จิตฺตํ ‘วีตราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานามิ, สโทสํ วา จิตฺตํ…เป… วีตโทสํ วา จิตฺตํ…เป… สโมหํ วา จิตฺตํ…เป… วีตโมหํ วา จิตฺตํ…เป… สํขิตฺตํ วา จิตฺตํ…เป… วิกฺขิตฺตํ วา จิตฺตํ…เป… มหคฺคตํ วา จิตฺตํ…เป… อมหคฺคตํ วา จิตฺตํ…เป… สอุตฺตรํ วา จิตฺตํ…เป… อนุตฺตรํ วา จิตฺตํ…เป… สมาหิตํ วา จิตฺตํ…เป… อสมาหิตํ วา จิตฺตํ…เป… วิมุตฺตํ วา จิตฺตํ…เป… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ ปรสตฺตานํ ปรปุคฺคลานํ เจตสา เจโต ปริจฺจ ปชานาติ, สราคํ วา จิตฺตํ ‘สราคํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ…เป… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ ‘อวิมุตฺตํ จิตฺต’นฺติ ปชานาติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย ติสฺโสปิ ชาติโย จตสฺโสปิ ชาติโย ปฺจปิ ชาติโย ทสปิ ชาติโย วีสมฺปิ ชาติโย ตึสมฺปิ ชาติโย จตฺตาลีสมฺปิ ชาติโย ปฺาสมฺปิ ชาติโย ชาติสตมฺปิ ชาติสหสฺสมฺปิ ชาติสตสหสฺสมฺปิ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป ‘อมุตฺราสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทึ, ตตฺราปาสึ เอวํนาโม เอวํโคตฺโต เอวํวณฺโณ เอวมาหาโร เอวํสุขทุกฺขปฺปฏิสํเวที เอวมายุปริยนฺโต, โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโน’ติ. อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ – เอกมฺปิ ชาตึ…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา. อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺิกา สมฺมาทิฏฺิกมฺมสมาทานา, เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนา’ติ. อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, ยาวเท อากงฺขติ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสติ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ สุคเต ทุคฺคเต, ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาติ.

‘‘อหํ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรามิ. กสฺสโปปิ, ภิกฺขเว, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ทิฏฺเว ธมฺเม สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๒) –

เอวํ นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเท อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปนตฺถาย ภควตา วุตฺตํ กสฺสปสํยุตฺเต อาคตํ ปาฬิมิมํ เปยฺยาลมุเขน อาทิคฺคหเณน จ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อหํ ภิกฺขเว’’ติอาทิ.

ตตฺถ ยาวเท อากงฺขามีติ ยาวเทว อิจฺฉามีติ อตฺโถ. ตโตเยว หิ มชฺฌิมคณฺิปเท จูฬคณฺิปเท จ ‘‘ยาวเทติ ยาวเทวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ ลิขิตํ. สํยุตฺตนิกายฏฺกถายมฺปิ ‘‘ยาวเท อากงฺขามีติ ยาวเทว อิจฺฉามี’’ติ อตฺโถ วุตฺโต. ตถา หิ ตตฺถ ลีนตฺถปกาสนิยํ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรเนว วุตฺตํ ‘‘ยาวเทวาติ อิมินา สมานตฺถํ ยาวเทติ อิทํ ปท’’นฺติ. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘ยาวเทวา’’ติ อยเมว ปาโ ทิสฺสติ. ยานิ ปน อิโต ปรํ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา นเยน จตฺตาริ รูปาวจรกิริยฌานานิ, ‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติอาทินา นเยน จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ‘‘สพฺพโส เนวสฺานาสฺายตนํ สมติกฺกมฺม สฺาเวทยิตนิโรธ’’นฺติอาทินา นเยน นิโรธสมาปตฺติ, ‘‘อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธ’’นฺติอาทินา นเยน อภิฺา จ วุตฺตา. ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ อนุปทวณฺณนาย เจว ภาวนาวิธาเนน จ สทฺธึ วิสุทฺธิมคฺเค (วิสุทฺธิ. ๑.๖๙-๗๐) สพฺพโส วิตฺถาริตํ. อิธาปิ จ เวรฺชกณฺเฑ จตฺตาริ รูปาวจรฌานานิ ติสฺโส จ วิชฺชา อาวิ ภวิสฺสนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ตตฺเถว วณฺณยิสฺสาม.

นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาปฺปเภเทติ เอตฺถ นวานุปุพฺพวิหารา นาม อนุปฏิปาฏิยา สมาปชฺชิตพฺพภาวโต เอวํสฺิตา นิโรธสมาปตฺติยา สห อฏฺ สมาปตฺติโย. ฉฬภิฺา นาม อาสวกฺขยาเณน สทฺธึ ปฺจาภิฺาโยติ เอวํ โลกิยโลกุตฺตรเภทา สพฺพา อภิฺาโย. อุตฺตริมนุสฺสธมฺเมติ อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจ ธมฺโม อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม. อถ วา อุตฺตริ มนุสฺสธมฺมาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม, มนุสฺสธมฺโม นาม ทสกุสลกมฺมปถธมฺโม. โส หิ วินา ภาวนามนสิกาเรน ปกติยาว มนุสฺเสหิ นิพฺพตฺเตตพฺพโต มนุสฺสตฺตภาวาวหโต วา ‘‘มนุสฺสธมฺโม’’ติ วุจฺจติ, ตโต อุตฺตริ ปน ฌานาทีนิ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺโม’’ติ เวทิตพฺพานิ. อตฺตนา สมสมฏฺปเนนาติ อหํ ยตฺตกํ กาลํ ยตฺตเก วา สมาปตฺติวิหาเร อภิฺาโย จ วฬฺเชมิ, ตถา กสฺสโปปีติ เอวํ ยถาวุตฺตอุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมํ กตฺวา ปเนน. อิทฺจ นวานุปุพฺพวิหารฉฬภิฺาทิภาวสามฺเน ปสํสามตฺตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ อายสฺมา มหากสฺสโป ภควา วิย เทวสิกํ จตุวีสติโกฏิสตสหสฺสสงฺขา สมาปตฺติโย สมาปชฺชติ, ยมกปาฏิหาริยาทิวเสน วา อภิฺาโย วฬฺเชติ. เอตฺถ จ ‘‘อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อตฺตนา สมสมฏฺปเนนา’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตถา หิ –

‘‘โอวท กสฺสป ภิกฺขู, กโรหิ กสฺสป ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ, อหํ วา กสฺสป ภิกฺขู โอวเทยฺยํ ตฺวํ วา, อหํ วา กสฺสป ภิกฺขูนํ ธมฺมึ กถํ กเรยฺยํ ตฺวํ วา’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๔๙).

เอวมฺปิ อตฺตนา สมสมฏฺาเน เปติเยว, ตสฺส กิมฺํ อาณณฺยํ ภวิสฺสติ อฺตฺร ธมฺมวินยสงฺคายนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ ‘‘ตสฺสาติ ตสฺส อนุคฺคหสฺสา’’ติ มชฺฌิมคณฺิปเท วุตฺตํ. ตสฺส เมติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. โปตฺถเกสุ หิ กตฺถจิ ‘‘ตสฺส เม’’ติ ปาโเยว ทิสฺสติ, ธมฺมวินยสงฺคายนํ เปตฺวา อฺํ กึ นาม ตสฺส เม อาณณฺยํ อณณภาโว ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. ‘‘นนุ มํ ภควา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ อุปมาวเสน วิภาเวติ. สกกวจอิสฺสริยานุปฺปทาเนนาติ เอตฺถ จีวรสฺส นิทสฺสนวเสน กวจสฺส คหณํ กตํ, สมาปตฺติยา นิทสฺสนวเสน อิสฺสริยํ คหิตํ. กุลวํสปฺปติฏฺาปกนฺติ กุลวํสสฺส กุลปฺปเวณิยา ปติฏฺาปกํ. ‘‘เม สทฺธมฺมวํสปฺปติฏฺาปโก’’ติ นิจฺจสาเปกฺขตฺตา สมาโส ทฏฺพฺโพ, เม สทฺธมฺมวํสสฺส ปติฏฺาปโก ปวตฺตโกติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตวจนมนุสฺสรนฺโต อนุคฺคเหสีติ จินฺตยนฺโต ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ สมฺพนฺโธ, ธาตุภาชนทิวเส ตตฺถ สนฺนิปติตานํ ภิกฺขูนํ อุสฺสาหํ ชเนสีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. ตตฺถ เอกมิทาหนฺติ เอตฺถ อิทนฺติ นิปาตมตฺตํ. เอกํ สมยนฺติ จ ภุมฺมตฺเถ อุปโยควจนํ, เอกสฺมึ สมเยติ วุตฺตํ โหติ. ปาวายาติ ปาวานครโต, ตตฺถ ปิณฺฑาย จริตฺวา กุสินารํ คมิสฺสามีติ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. อทฺธานมคฺโคติ จ ทีฆมคฺโค วุจฺจติ. ทีฆปริยาโย เหตฺถ อทฺธานสทฺโท. มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธินฺติ คุณมหตฺเตนปิ สงฺขฺยามหตฺเตนปิ มหตา. ภิกฺขูนํ สงฺเฆน ภิกฺขุสงฺเฆน, สมณคเณน สทฺธึ เอกโตติ อตฺโถ. ‘‘ปฺจมตฺเตหี’’ติอาทินา สงฺขฺยามหตฺตํ วิภาเวติ. มตฺต-สทฺโท เจตฺถ ปมาณวจโน ‘‘โภชเน มตฺตฺุตา’’ติอาทีสุ วิย. สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพนฺติ สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ อิธ อาเนตฺวา วิตฺถารโต ทสฺเสตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

‘‘ตโต ปรนฺติ ตโต ภิกฺขูนํ อุสฺสาหชนนโต ปร’’นฺติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ. มหาคณฺิปเท ปน ‘‘ตโต ปรนฺติ สุภทฺทกณฺฑโต ปร’’นฺติ วุตฺตํ. อิทเมเวตฺถ สารโต ปจฺเจตพฺพนฺติ โน ตกฺโก. อยเมว หิ อุสฺสาหชนนปฺปกาโร, ยทิทํ ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยาม, ปุเร อธมฺโม ทิปฺปตี’’ติอาทิ, ตสฺมา อุสฺสาหชนนโต ปรนฺติ น วตฺตพฺพํ เหฏฺา อุสฺสาหชนนปฺปการสฺส ปาฬิยํ อวุตฺตตฺตา. อยฺเหตฺถ ปาฬิกฺกโม –

‘‘อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป ภิกฺขู อามนฺเตสิ, เอกมิทาหํ, อาวุโส, สมยํ ปาวาย กุสินารํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ ปฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ. อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, มคฺคา โอกฺกมฺม อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล นิสีทึ.

‘‘เตน โข ปน สมเยน อฺตโร อาชีวโก กุสินาราย มนฺทารวปุปฺผํ คเหตฺวา ปาวํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺโน โหติ. อทฺทสํ โข อหํ, อาวุโส, ตํ อาชีวกํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ตํ อาชีวกํ เอตทโวจํ ‘อปาวุโส, อมฺหากํ สตฺถารํ ชานาสี’ติ ? ‘อาม, อาวุโส, ชานามิ. อชฺช สตฺตาหปรินิพฺพุโต สมโณ โคตโม, ตโต เม อิทํ มนฺทารวปุปฺผํ คหิตนฺติ. ตตฺราวุโส, เย เต ภิกฺขู อวีตราคา, อปฺเปกจฺเจ พาหา ปคฺคยฺห กนฺทนฺติ, ฉินฺนปาตํ ปปตนฺติ อาวฏฺฏนฺติ วิวฏฺฏนฺติ, ‘อติขิปฺปํ ภควา ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ สุคโต ปรินิพฺพุโต, อติขิปฺปํ จกฺขุํ โลเก อนฺตรหิต’นฺติ. เย ปน เต ภิกฺขู วีตราคา, เต สตา สมฺปชานา อธิวาเสนฺติ ‘อนิจฺจา สงฺขารา, ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา’’’ติ.

‘‘อถ ขฺวาหํ, อาวุโส, เต ภิกฺขู เอตทโวจํ – ‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ, นนฺเวตํ, อาวุโส, ภควตา ปฏิกจฺเจว อกฺขาตํ ‘สพฺเพเหว ปิเยหิ มนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว อฺถาภาโว. ตํ กุเตตฺถ, อาวุโส, ลพฺภา, ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชี’ติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ.

‘‘เตน โข ปน สมเยน, อาวุโส, สุภทฺโท นาม วุฑฺฒปพฺพชิโต ตสฺสํ ปริสายํ นิสินฺโน โหติ. อถ โข อาวุโส สุภทฺโท วุฑฺฒปพฺพชิโต เต ภิกฺขู เอตทโวจ ‘อลํ, อาวุโส, มา โสจิตฺถ มา ปริเทวิตฺถ, สุมุตฺตา มยํ เตน มหาสมเณน, อุปทฺทุตา จ มยํ โหม’ ‘อิทํ โว กปฺปติ, อิทํ โว น กปฺปตี’ติ, ‘อิทานิ ปน มยํ ยํ อิจฺฉิสฺสาม, ตํ กริสฺสาม, ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’ติ. หนฺท มยํ อาวุโส ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคาเยยฺยาม, ปุเร อธมฺโม ทิปฺปติ, ธมฺโม ปฏิพาหียติ, อวินโย ปุเร ทิปฺปติ, วินโย ปฏิพาหียติ, ปุเร อธมฺมวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, ธมฺมวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺติ, ปุเร อวินยวาทิโน พลวนฺโต โหนฺติ, วินยวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ.

‘‘‘เตน หิ, ภนฺเต, เถโร ภิกฺขู อุจฺจินตู’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป เอเกนูนปฺจอรหนฺตสตานิ อุจฺจินิ. ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ มหากสฺสปํ เอตทโวจุํ ‘อยํ, ภนฺเต, อายสฺมา อานนฺโท กิฺจาปิ เสกฺโข, อภพฺโพ ฉนฺทา โทสา โมหา ภยา อคตึ คนฺตุํ, พหุ จาเนน ภควโต สนฺติเก ธมฺโม จ วินโย จ ปริยตฺโต. เตน หิ, ภนฺเต, เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตู’’’ติอาทิ (จูฬว. ๔๓๗).

ตสฺมา ตโต ปรนฺติ เอตฺถ สุภทฺทกณฺฑโต ปรนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘สพฺพํ สุภทฺทกณฺฑํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพ’’นฺติ หิ อิมินา ‘‘ยํ น อิจฺฉิสฺสาม, น ตํ กริสฺสามา’’ติ เอตํ ปริยนฺตํ สุภทฺทกณฺฑปาฬึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวเสสํ อุสฺสาหชนนปฺปการปฺปวตฺตํ ปาฬิเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘หนฺท มยํ อาวุโส’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ ปุเร อธมฺโม ทิปฺปตีติ เอตฺถ อธมฺโม นาม ทสกุสลกมฺมปถธมฺมปฏิปกฺขภูโต อธมฺโม. ปุเร ทิปฺปตีติ อปิ นาม ทิปฺปติ. อถ วา ยาว อธมฺโม ธมฺมํ ปฏิพาหิตุํ สมตฺโถ โหติ, ตโต ปุเรตรเมวาติ อตฺโถ. อาสนฺเน หิ อนาคเต อยํ ปุเรสทฺโท. ทิปฺปตีติ ทิปฺปิสฺสติ. ปุเร-สทฺทโยเคน หิ อนาคตตฺเถ อยํ วตฺตมานปโยโค ยถา ‘‘ปุรา วสฺสติ เทโว’’ติ. เกจิ ปเนตฺถ เอวํ วณฺณยนฺติ ‘‘ปุเรติ ปจฺฉา อนาคเต ยถา อทฺธานํ คจฺฉนฺตสฺส คนฺตพฺพมคฺโค ‘ปุเร’ติ วุจฺจติ, ตถา อิธ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. อวินโยติ ปหานวินยสํวรวินยานํ ปฏิปกฺขภูโต อวินโย. ‘‘วินยวาทิโน ทุพฺพลา โหนฺตี’’ติ เอวํ อิติ-สทฺโทปิ เอตฺถ ทฏฺพฺโพ, ‘‘ตโต ปรํ อาหา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ อิติ-สทฺโท น ทิสฺสติ, ปาฬิยํ ปน ทีฆนิกายฏฺกถายฺจ อตฺเถว อิติ-สทฺโท.

เตน หีติ อุยฺโยชนตฺเถ นิปาโต. อุจฺจินเน อุยฺโยเชนฺตา หิ ตํ มหากสฺสปตฺเถรํ เอวมาหํสุ. ภิกฺขู อุจฺจินตูติ สงฺคีติยา อนุรูเป ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา คณฺหาตูติ อตฺโถ. ‘‘สกลนวงฺค…เป… ปริคฺคเหสี’’ติ เอเตน สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวปริยนฺตานํ ยถาวุตฺตปุคฺคลานํ สติปิ อาคมาธิคมสพฺภาเว สห ปฏิสมฺภิทาหิ เตวิชฺชาทิคุณยุตฺตานํ อาคมาธิคมสมฺปตฺติยา อุกฺกํสคตตฺตา สงฺคีติยา พหูปการตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธเรติ สกลํ สุตฺตเคยฺยาทิ นวงฺคํ เอตฺถ, เอตสฺส วา อตฺถีติ สกลนวงฺคํ, สตฺถุสาสนํ. อตฺถกาเมน ปริยาปุณิตพฺพโต ทิฏฺธมฺมิกาทิปุริสตฺตปริยตฺตภาวโต จ ปริยตฺตีติ ตีณิ ปิฏกานิ วุจฺจนฺติ, ตํ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนสงฺขาตํ ปริยตฺตึ ธาเรนฺตีติ สกลนวงฺคสตฺถุสาสนปริยตฺติธรา, ตาทิเสติ อตฺโถ. พหูนํ นานปฺปการานํ กิเลสานํ สกฺกายทิฏฺิยา จ อวิหตตฺตา ตา ชเนนฺติ, ตาหิ วา ชนิตาติ ปุถุชฺชนา. ทุวิธา ปุถุชฺชนา อนฺธปุถุชฺชนา กลฺยาณปุถุชฺชนาติ. ตตฺถ เยสํ ขนฺธธาตุอายตนาทีสุ อุคฺคหปริปุจฺฉาสวนธารณปจฺจเวกฺขณานิ นตฺถิ, เต อนฺธปุถุชฺชนา. เยสํ ตานิ อตฺถิ, เต กลฺยาณปุถุชฺชนา. เต อิธ ‘‘ปุถุชฺชนา’’ติ อธิปฺเปตา. สมถภาวนาสิเนหาภาเวน สุกฺขา ลูขา อสินิทฺธา วิปสฺสนา เอเตสนฺติ สุกฺขวิปสฺสกา.

ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธเรติ ติณฺณํ ปิฏกานํ สมาหาโร ติปิฏกํ, ติปิฏกสงฺขาตํ นวงฺคาทิวเสน อเนกธา ภินฺนํ สพฺพปริยตฺติปฺปเภทํ ธาเรนฺตีติ ติปิฏกสพฺพปริยตฺติปฺปเภทธรา, ตาทิเสติ อตฺโถ. อนุ อนุ ตํสมงฺคีนํ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อนุภาโว, อนุภาโว เอว อานุภาโว, ปภาโว. มหนฺโต อานุภาโว เยสํ เต มหานุภาวา. เตวิชฺชาทิเภเทติ ติสฺโส วิชฺชาเยว เตวิชฺชา, ตา อาทิ เยสํ ฉฬภิฺาทีนํ เต เตวิชฺชาทโย, เต เภทา อเนกปฺปการา ภินฺนา เอเตสนฺติ เตวิชฺชาทิเภทา, ขีณาสวา, ตาทิเสติ อตฺโถ. อถ วา ติสฺโส วิชฺชา เอตสฺส อตฺถีติ เตวิชฺโช, โส อาทิ เยสํ ฉฬภิฺาทีนํ เต เตวิชฺชาทโย, เต เภทา เยสํ ขีณาสวานํ เต เตวิชฺชาทิเภทา, ตาทิเสติ อตฺโถ. เย สนฺธาย อิทํ วุตฺตนฺติ เย ภิกฺขู สนฺธาย อิทํ ‘‘อถ โข อายสฺมา’’ติอาทิวจนํ สงฺคีติกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๓๗) วุตฺตนฺติ อตฺโถ.

กิสฺส ปนาติ กสฺมา ปน. สิกฺขตีติ เสกฺโข, อถ วา สิกฺขนํ สิกฺขา, สาเยว ตสฺส สีลนฺติ เสกฺโข. โส หิ อปริโยสิตสิกฺขตฺตา จ ตทธิมุตฺตตฺตา จ เอกนฺเตน สิกฺขนสีโล น อเสกฺโข วิย ปรินิฏฺิตสิกฺโข ตตฺถ ปฏิปสฺสทฺธุสฺสาโห, นาปิ วิสฺสฏฺสิกฺโข ปจุรชโน วิย ตตฺถ อนธิมุตฺโต. อถ วา อริยาย ชาติยา ตีสุ สิกฺขาสุ ชาโต, ตตฺถ วา ภโวติ เสกฺโข. อถ วา อิกฺขติ เอตายาติ อิกฺขา, มคฺคผลสมฺมาทิฏฺิ. สห อิกฺขายาติ เสกฺโข. อุปริมคฺคตฺตยกิจฺจสฺส อปริโยสิตตฺตา สห กรณีเยนาติ สกรณีโย. อสฺสาติ อเนน. อสมฺมุขา ปฏิคฺคหิตํ นาม นตฺถีติ นนุ จ –

‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต;

จตุราสีติ สหสฺสานิ, เย เม ธมฺมา ปวตฺติโน’’ติ. (เถรคา. ๑๐๒๗) –

วุตฺตตฺตา กถเมตํ ยุชฺชตีติ? ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ วุตฺตมฺปิ ภควโต สนฺติเก ปฏิคฺคหิตเมวาติ กตฺวา วุตฺตนฺติ นายํ วิโรโธ. พหุการตฺตาติ พหุอุปการตฺตา. อุปการวจโน เหตฺถ การสทฺโท. อสฺสาติ ภเวยฺย.

อติวิย วิสฺสตฺโถติ อติวิย วิสฺสาสิโก. นฺติ อานนฺทตฺเถรํ, ‘‘โอวทตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อานนฺทตฺเถรสฺส เยภุยฺเยน นวกาย ปริสาย วิพฺภมเนน มหากสฺสปตฺเถโร เอวมาห ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ. ตถา หิ ปรินิพฺพุเต สตฺถริ มหากสฺสปตฺเถโร สตฺถุปรินิพฺพาเน สนฺนิปติตสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มชฺเฌ นิสีทิตฺวา ธมฺมวินยสงฺคายนตฺถํ ปฺจสเต ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา ‘‘อาวุโส, ราชคเห วสฺสํ วสนฺตา ธมฺมวินยํ สงฺคาเยยฺยาม, ตุมฺเห ปุเร วสฺสูปนายิกาย อตฺตโน อตฺตโน ปลิโพธํ ปจฺฉินฺทิตฺวา ราชคเห สนฺนิปตถา’’ติ วตฺวา อตฺตนา ราชคหํ คโต. อานนฺทตฺเถโรปิ ภควโต ปตฺตจีวรมาทาย มหาชนํ สฺาเปนฺโต สาวตฺถึ คนฺตฺวา ตโต นิกฺขมฺม ราชคหํ คจฺฉนฺโต ทกฺขิณคิริสฺมึ จาริกํ จริ. ตสฺมึ สมเย อานนฺทตฺเถรสฺส ตึสมตฺตา สทฺธิวิหาริกา เยภุยฺเยน กุมารภูตา เอกวสฺสิกทุวสฺสิกภิกฺขู เจว อนุปสมฺปนฺนา จ วิพฺภมึสุ. กสฺมา ปเนเต ปพฺพชิตา, กสฺมา วิพฺภมึสูติ? เตสํ กิร มาตาปิตโร จินฺเตสุํ ‘‘อานนฺทตฺเถโร สตฺถุวิสฺสาสิโก อฏฺ วเร ยาจิตฺวา อุปฏฺหติ, อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํ สตฺถารํ คเหตฺวา คนฺตุํ สกฺโกติ, อมฺหากํ ทารเก เอตสฺส สนฺติเก ปพฺพาเชสฺสาม, โส สตฺถารํ คเหตฺวา อาคมิสฺสติ, ตสฺมึ อาคเต มยํ มหาสกฺการํ กาตุํ ลภิสฺสามา’’ติ อิมินา ตาว การเณน เนสํ าตกา เต ปพฺพาเชสุํ. สตฺถริ ปน ปรินิพฺพุเต เตสํ สา ปตฺถนา อุปจฺฉินฺนา, อถ เน เอกทิวเสเนว อุปฺปพฺพาเชสุํ.

อถ อานนฺทตฺเถรํ ทกฺขิณคิริสฺมึ จาริกํ จริตฺวา ราชคหมาคตํ ทิสฺวา มหากสฺสปตฺเถโร เอวมาห ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ. วุตฺตฺเหตํ กสฺสปสํยุตฺเต –

‘‘อถ กิฺจรหิ ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, อิเมหิ นเวหิ ภิกฺขูหิ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาเรหิ โภชเน อมตฺตฺูหิ ชาคริยํ อนนุยุตฺเตหิ สทฺธึ จาริกํ จรสิ, สสฺสฆาตํ มฺเ จรสิ, กุลูปฆาตํ มฺเ จรสิ, โอลุชฺชติ โข เต, อาวุโส อานนฺท, ปริสา, ปลุชฺชนฺติ โข เต อาวุโส นวปฺปายา, น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสีติ.

‘‘อปิ เม ภนฺเต กสฺสป สิรสฺมึ ปลิตานิ ชาตานิ, อถ จ ปน มยํ อชฺชาปิ อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส กุมารกวาทา น มุจฺจามาติ. ตถา หิ ปน ตฺวํ, อาวุโส อานนฺท, อิเมหิ นเวหิ ภิกฺขูหิ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวาเรหิ โภชเน อมตฺตฺูหิ ชาคริยํ อนนุยุตฺเตหิ สทฺธึ จาริกํ จรสิ, สสฺสฆาตํ มฺเ จรสิ, กุลูปฆาตํ มฺเ จรสิ, โอลุชฺชติ โข เต, อาวุโส อานนฺท, ปริสา, ปลุชฺชนฺติ โข เต อาวุโส นวปฺปายา, น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔).

ตตฺถ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔) สสฺสฆาตํ มฺเจรสีติ สสฺสํ ฆาเตนฺโต วิย อาหิณฺฑสิ. กุลูปฆาตํ มฺเ จรสีติ กุลานิ อุปฆาเตนฺโต วิย หนนฺโต วิย อาหนนฺโต วิย อาหิณฺฑสิ. โอลุชฺชตีติ ปลุชฺชติ ภิชฺชติ. ปลุชฺชนฺติ โข เต อาวุโส นวปฺปายาติ, อาวุโส, เอวํ เอเต ตุยฺหํ ปาเยน เยภุยฺเยน นวกา เอกวสฺสิกทุวสฺสิกทหรา เจว สามเณรา จ ปลุชฺชนฺติ. น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสีติ อยํ กุมารโก อตฺตโน ปมาณํ น วต ชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาห. กุมารกวาทา น มุจฺจามาติ กุมารกวาทโต น มุจฺจาม. ตถา หิ ปน ตฺวนฺติ อิทมสฺส เอวํ วตฺตพฺพตาย การณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา ตฺวํ อิเมหิ นวเกหิ ภิกฺขูหิ อินฺทฺริยสํวรรหิเตหิ สทฺธึ วิจรสิ, ตสฺมา กุมารเกหิ สทฺธึ จรนฺโต ‘‘กุมารโก’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหสีติ.

‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’’ติ เอตฺถ วา-สทฺโท ปทปูรเณ. วา-สทฺโท หิ อุปมานสมุจฺจยสํสยววสฺสคฺคปทปูรณวิกปฺปาทีสุ พหูสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. ตถา เหส ‘‘ปณฺฑิโต วาปิ เตน โส’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๖๓) อุปมาเน ทิสฺสติ, สทิสภาเวติ อตฺโถ. ‘‘ตํ วาปิ ธีรา มุนิ เวทยนฺตี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๒๑๓) สมุจฺจเย. ‘‘เก วา อิเม กสฺส วา’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๙๖) สํสเย. ‘‘อยํ วา อิเมสํ สมณพฺราหฺมณานํ สพฺพพาโล สพฺพมูฬฺโห’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๘๑) ววสฺสคฺเค. ‘‘เย หิ เกจิ, ภิกฺขเว, สมณา วา พฺราหฺมณา วา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๗๐; สํ. นิ. ๒.๑๓) วิกปฺเปติ. อิธ ปน ปทปูรเณ ทฏฺพฺโพ. เตเนว จ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ ‘‘วาสทฺทสฺส อตฺถุทฺธารํ กโรนฺเตน ‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสี’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕๔) ปทปูรเณ’’ติ. อฏฺกถายมฺปิ (สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๑๕๔) เอตฺตกเมว วุตฺตํ ‘‘น วายํ กุมารโก มตฺตมฺาสีติ อยํ กุมารโก อตฺตโน ปมาณํ น วต ชานาตีติ เถรํ ตชฺเชนฺโต อาหา’’ติ. เอตฺถาปิ วตาติ วจนสิลิฏฺตาย วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ วุตฺตํ ‘‘น วายนฺติ เอตฺถ วาติ วิภาสา, อฺาสิปิ น อฺาสิปีติ อตฺโถ’’ติ . ตํ ตสฺส มติมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น เหตฺถ อยมตฺโถ สมฺภวติ, ตสฺมา อตฺตโน ปมาณํ นาฺาสีติ เอวมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺราติ เอวํ สติ. ฉนฺทาคมนํ วิยาติ เอตฺถ ฉนฺทา อาคมนํ วิยาติ ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ, ฉนฺเทน อาคมนํ ปวตฺตนํ วิยาติ อตฺโถ, ฉนฺเทน อกตฺตพฺพกรณํ วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ฉนฺทํ วา อาคจฺฉติ สมฺปโยควเสนาติ ฉนฺทาคมนํ, ตถา ปวตฺโต อปายคมนีโย อกุสลจิตฺตุปฺปาโท. อถ วา อนนุรูปํ คมนํ อคมนํ, ฉนฺเทน อคมนํ ฉนฺทาคมนํ, ฉนฺเทน สิเนเหน อนนุรูปํ คมนํ ปวตฺตนํ อกตฺตพฺพกรณํ วิยาติ วุตฺตํ โหติ. อเสกฺขปฏิสมฺภิทาปฺปตฺเตติ อเสกฺขภูตา ปฏิสมฺภิทา อเสกฺขปฏิสมฺภิทา, ตํ ปตฺเต, ปฏิลทฺธอเสกฺขปฏิสมฺภิเทติ อตฺโถ. อนุมติยาติ อนุฺาย, ยาจนายาติ วุตฺตํ โหติ.

‘‘กิฺจาปิ เสกฺโข’’ติ อิทํ น เสกฺขานํ อคติคมนสพฺภาเวน วุตฺตํ, อเสกฺขานํเยว ปน อุจฺจินิตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. ปมมคฺเคเนว หิ จตฺตาริ อคติคมนานิ ปหียนฺติ, ตสฺมา กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ เถโร อายสฺมนฺตมฺปิ อานนฺทํ อุจฺจินตูติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. น ปน กิฺจาปิ เสกฺโข, ตถาปิ อภพฺโพ อคตึ คนฺตุนฺติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อภพฺโพ’’ติอาทินา ปน ธมฺมสงฺคีติยา ตสฺส อรหภาวํ ทสฺเสนฺตา วิชฺชมาเน คุเณ กเถนฺติ. ตตฺถ ฉนฺทาติ ฉนฺเทน, สิเนเหนาติ อตฺโถ. อคตึ คนฺตุนฺติ อคนฺตพฺพํ คนฺตุํ, อกตฺตพฺพํ กาตุนฺติ วุตฺตํ โหติ. อิมานิ ปน จตฺตาริ อคติคมนานิ ภณฺฑภาชนีเย จ วินิจฺฉยฏฺาเน จ ลพฺภนฺติ. ตตฺถ ภณฺฑภาชนีเย ตาว อตฺตโน ภารภูตานํ ภิกฺขูนํ อมนาเป ภณฺเฑ สมฺปตฺเต ตํ ปริวตฺติตฺวา มนาปํ เทนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อตฺตโน ปน อภารภูตานํ มนาเป ภณฺเฑ สมฺปตฺเต ตํ ปริวตฺติตฺวา อมนาปํ เทนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. ภณฺเฑสุ ภาชนียวตฺถุฺจ ิติกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรานํ วา ราชาทินิสฺสิตานํ วา ‘‘อิเม เม อมนาเป ภณฺเฑ ทินฺเน อนตฺถํ กเรยฺยุ’’นฺติ ภเยน ปริวตฺติตฺวา มนาปํ เทนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน เอวํ น คจฺฉติ, สพฺเพสํ ตุลาภูโต ปมาณภูโต มชฺฌตฺโตว หุตฺวา ยํ ยสฺส ปาปุณาติ, ตเทว ตสฺส เทติ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคตึ น คจฺฉติ นาม. วินิจฺฉยฏฺาเน ปน อตฺตโน ภารภูตสฺส ครุกาปตฺตึ ลหุกาปตฺตึ กตฺวา กเถนฺโต ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ นาม. อิตรสฺส ลหุกาปตฺตึ ครุกาปตฺตึ กตฺวา กเถนฺโต โทสาคตึ คจฺฉติ นาม. อาปตฺติวุฏฺานํ ปน สมุจฺจยกฺขนฺธกฺจ อชานนฺโต โมหาคตึ คจฺฉติ นาม. มุขรสฺส วา ราชปูชิตสฺส วา ‘‘อยํ เม ครุกํ กตฺวา อาปตฺตึ กเถนฺตสฺส อนตฺถมฺปิ กเรยฺยา’’ติ ครุกเมว ลหุกาปตฺตึ กเถนฺโต ภยาคตึ คจฺฉติ นาม. โย ปน สพฺเพสํ ยถาภูตเมว กเถสิ, อยํ จตุพฺพิธมฺปิ อคติคมนํ น คจฺฉติ นาม. เถโรปิ ตาทิโส จตุนฺนมฺปิ อคติคมนานํ ปมมคฺเคเนว ปหีนตฺตา, ตสฺมา สงฺคายนวเสน ธมฺมวินยวินิจฺฉเย สมฺปตฺเต ฉนฺทาทิวเสน อฺถา อกเถตฺวา ยถาภูตเมว กเถตีติ วุตฺตํ ‘‘อภพฺโพ…เป… อคตึ คนฺตุ’’นฺติ. ปริยตฺโตติ อธีโต, อุคฺคหิโตติ อตฺโถ.

อุจฺจินิเตนาติ อุจฺจินิตฺวา คหิเตน. เอตทโหสีติ เอตํ ปริวิตกฺกนํ อโหสิ. ราชคหํ โข มหาโคจรนฺติ เอตฺถ ‘‘ราชคหนฺติ ราชคหสามนฺตํ คเหตฺวา วุตฺต’’นฺติ จูฬคณฺิปเท มชฺฌิมคณฺิปเท จ วุตฺตํ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิย โคจโร, ภิกฺขาจรณฏฺานํ. โส มหนฺโต อสฺส, เอตฺถาติ วา มหาโคจรํ, ราชคหํ. ถาวรกมฺมนฺติ จิรฏฺายิกมฺมํ. วิสภาคปุคฺคโล สุภทฺทสทิโส. อุกฺโกเฏยฺยาติ นิวาเรยฺยาติ อตฺโถ. ตฺติทุติเยน กมฺเมน สาเวสีติ –

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ, ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สงฺโฆ อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สมฺมนฺเนยฺย ‘ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพ’นฺติ, เอสา ตฺติ.

‘‘สุณาตุ เม, อาวุโส, สงฺโฆ, สงฺโฆ อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ สมฺมนฺนติ ‘ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพ’นฺติ, ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ ภิกฺขุสตานํ สมฺมุติ ‘ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานํ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพ’นฺติ, โส ตุณฺหสฺส. ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺย.

‘‘สมฺมตานิ สงฺเฆน อิมานิ ปฺจ ภิกฺขุสตานิ ‘ราชคเห วสฺสํ วสนฺตานิ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายิตุํ, น อฺเหิ ภิกฺขูหิ ราชคเห วสฺสํ วสิตพฺพ’นฺติ, ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติ (จูฬว. ๔๓๗) –

เอวํ ตฺติทุติเยน กมฺเมน สาเวสิ. อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตํ สงฺคีติกฺขนฺธเก วุตฺตนเยเนว าตพฺพ’’นฺติ.

อยํ ปน กมฺมวาจา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต เอกวีสติเม ทิวเส กตา. วุตฺตฺเหตํ ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมสงฺคีติกถา) ‘‘อยํ ปน กมฺมวาจา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต เอกวีสติเม ทิวเส กตา. ภควา หิ วิสาขปุณฺณมายํ ปจฺจูสสมเย ปรินิพฺพุโต, อถสฺส สตฺตาหํ สุวณฺณวณฺณํ สรีรํ คนฺธมาลาทีหิ ปูชยึสุ. เอวํ สตฺตาหํ สาธุกีฬนทิวสา นาม อเหสุํ. ตโต สตฺตาหํ จิตกาย อคฺคินา ฌายิ, สตฺตาหํ สตฺติปฺชรํ กตฺวา สนฺถาคารสาลายํ ธาตุปูชํ กรึสูติ เอกวีสติ ทิวสา คตา. เชฏฺมูลสุกฺกปกฺขปฺจมิยํ ปน ธาตุโย ภาชยึสุ. เอตสฺมึ ธาตุภาชนทิวเส สนฺนิปติตสฺส มหาภิกฺขุสงฺฆสฺส สุภทฺเทน วุฑฺฒปพฺพชิเตน กตํ อนาจารํ อาโรเจตฺวา วุตฺตนเยเนว ภิกฺขู อุจฺจินิตฺวา อยํ กมฺมวาจา กตา. อิมฺจ ปน กมฺมวาจํ กตฺวา เถโร ภิกฺขู อามนฺเตสิ ‘อาวุโส อิทานิ ตุมฺหากํ จตฺตาลีสทิวสา โอกาโส, ตโต ปรํ อยํ นาม โน ปลิโพโธ อตฺถีติ วตฺตุํ น ลพฺภา, ตสฺมา เอตฺถนฺตเร ยสฺส โรคปลิโพโธ วา อาจริยุปชฺฌายปลิโพโธ วา มาตาปิตุปลิโพโธ วา อตฺถิ, ปตฺตํ วา ปน ปจิตพฺพํ จีวรํ วา กาตพฺพํ, โส ตํ ปลิโพธํ ฉินฺทิตฺวา กรณียํ กโรตู’ติ. เอวฺจ ปน วตฺวา เถโร อตฺตโน ปฺจสตาย ปริสาย ปริวุโต ราชคหํ คโต, อฺเปิ มหาเถรา อตฺตโน อตฺตโน ปริวารํ คเหตฺวา โสกสลฺลสมปฺปิตํ มหาชนํ อสฺสาเสตุกามา ตํ ตํ ทิสํ ปกฺกนฺตา. ปุณฺณตฺเถโร ปน สตฺตสตภิกฺขุปริวาโร ‘ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานฏฺานํ อาคตาคตํ มหาชนํ อสฺสาเสสฺสามี’ติ กุสินารายเมว อฏฺาสิ. อายสฺมา อานนฺโท ยถา ปุพฺเพ อปรินิพฺพุตสฺส, เอวํ ปรินิพฺพุตสฺสปิ ภควโต สยเมว ปตฺตจีวรมาทาย ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิ. คจฺฉโต ปนสฺส ปริวารา ภิกฺขู คณนปถํ วีติวตฺตา’’ติ. ตสฺมา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต ตีสุ สตฺตาเหสุ อติกฺกนฺเตสุ เอกวีสติเม ทิวเส อิมํ กมฺมวาจํ สาเวตฺวา เถโร ราชคหํ ปกฺกนฺโตติ เวทิตพฺพํ.

ยทิ เอวํ กสฺมา ปน อิธ มงฺคลสุตฺตฏฺกถายฺจ (ขุ. ปา. อฏฺ. ๕.ปมมหาสงฺคีติกถา) ‘‘สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสุ สตฺตสุ จ ธาตุปูชาทิวเสสุ วีติวตฺเตสู’’ติ วุตฺตํ? สตฺตสุ ธาตุปูชาทิวเสสุ คหิเตสุ ตทวินาภาวโต มชฺเฌ จิตกาย ฌาปนสตฺตาหมฺปิ คหิตเมวาติ กตฺวา วิสุํ น วุตฺตํ วิย ทิสฺสติ. ยทิ เอวํ อถ กสฺมา ‘‘อฑฺฒมาโส อติกฺกนฺโต, ทิยฑฺฒมาโส เสโส’’ติ จ วุตฺตนฺติ? นายํ โทโส. อปฺปกฺหิ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหติ, ตสฺมา สมุทาโย อปฺปเกน อธิโกปิ อนธิโก วิย โหตีติ กตฺวา อฑฺฒมาสโต อธิเกปิ ปฺจ ทิวเส ‘‘อฑฺฒมาโส อติกฺกนฺโต’’ติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวาสีติขนฺธกวตฺตานํ กตฺถจิ อสีติขนฺธกวตฺตานี’’ติ วจนํ วิย. ตถา อปฺปเกน อูโนปิ จ สมุทาโย อนูโน วิย โหตีติ กตฺวา ‘‘ทิยฑฺฒมาสโต อูเนปิ ปฺจ ทิวเส ทิยฑฺฒมาโส เสโส’’ติ จ วุตฺตํ. สติปฏฺานวิภงฺคฏฺกถายฺหิ (วิภ. อฏฺ. ๓๕๖) ฉมาสโต อูเนปิ อฑฺฒมาเส ‘‘ฉ มาเส สชฺฌาโย กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตวจนํ วิย. ตตฺถ หิ ตจปฺจกาทีสุ จตูสุ ปฺจเกสุ ทฺวีสุ จ ฉกฺเกสุ เอเกกสฺมึ อนุโลมโต ปฺจาหํ, ปฏิโลมโต ปฺจาหํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปฺจาหํ, ตถา ปุริมปุริเมหิ ปฺจกฉกฺเกหิ สทฺธึ อนุโลมโต ปฺจาหํ, ปฏิโลมโต ปฺจาหํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปฺจาหนฺติ เอวํ วิสุํ ติปฺจาหํ เอกโต ติปฺจาหฺจ สชฺฌายํ กตฺวา ฉมาสํ สชฺฌาโย กาตพฺโพติ วจนํ วิย. ตตฺถ หิ วกฺกปฺจกาทีสุ ตีสุ ปฺจเกสุ ทฺวีสุ จ ฉกฺเกสุ วิสุํ เหฏฺิเมหิ เอกโต จ สชฺฌาเย ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ ปฺจกานํ วเสน ปฺจมาสปริปุณฺณา ลพฺภนฺติ, ตจปฺจเก ปน วิสุํ ติปฺจาหเมวาติ อฑฺฒมาโสเยเวโก ลพฺภตีติ อฑฺฒมาสาธิกปฺจมาสา ลพฺภนฺติ.

เอวํ สติ ยถา ตตฺถ อฑฺฒมาเส อูเนปิ มาสปริจฺเฉเทน ปริจฺฉิชฺชมาเน สชฺฌาเย ฉ มาสา ปริจฺเฉทกา โหนฺตีติ ปริจฺฉิชฺชมานสฺส สชฺฌายสฺส สตฺตมาสาทิมาสนฺตรคมนนิวารณตฺถํ ฉมาสคฺคหณํ กตํ, น สกลฉมาเส สชฺฌายปฺปวตฺติทสฺสนตฺถํ, เอวมิธาปิ มาสวเสน กาเล ปริจฺฉิชฺชมาเน อูเนปิ ปฺจทิวเส ทิยฑฺฒมาโส ปริจฺเฉทโก โหตีติ ปริจฺฉิชฺชมานสฺส กาลสฺส ทฺวิมาสาทิมาสนฺตรคมนนิวารณตฺถํ ‘‘ทิยฑฺฒมาโส เสโส’’ติ ทิยฑฺฒมาสคฺคหณํ กตนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อฺถา จ อฏฺกถาวจนานํ อฺมฺวิโรโธ อาปชฺชติ. เอกาหเมว วา ภควโต สรีรํ จิตกาย ฌายีติ ขุทฺทกภาณกานํ อธิปฺปาโยติ คเหตพฺพํ. เอวฺหิ สติ ปรินิพฺพานโต สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสุ วีติวตฺเตสุ อฏฺมิยํ จิตกาย ภควโต สรีรํ ฌาเปตฺวา ตโต ปรํ สตฺตสุ ทิวเสสุ ธาตุปูชํ อกํสูติ อฑฺฒมาโส อติกฺกนฺโต, คิมฺหานํ ทิยฑฺโฒ จ มาโส เสโส โหติ. ปรินิพฺพานสุตฺตนฺตปาฬิยมฺปิ หิ จิตกาย ฌาปนสตฺตาหํ น อาคตํ, ทฺเวเยว สตฺตาหานิ อาคตานิ, อุปปริกฺขิตฺวา ปน ยํ รุจฺจติ, ตํ คเหตพฺพํ. อิโต อฺเน วา ปกาเรน ยถา น วิรุชฺฌติ, ตถา การณํ ปริเยสิตพฺพํ. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ วุตฺตํ ‘‘อฑฺฒมาโส อติกฺกนฺโตติ เอตฺถ เอโก ทิวโส นฏฺโ. โส ปาฏิปททิวโส โกลาหลทิวโส นาม, ตสฺมา อิธ น คหิโต’’ติ. ตํ น สุนฺทรํ ปรินิพฺพานสุตฺตนฺตปาฬิยํ ปาฏิปททิวสโตเยว ปฏฺาย สตฺตาหสฺส วุตฺตตฺตา อฏฺกถายฺจ ปรินิพฺพานทิวเสนปิ สทฺธึ ติณฺณํ สตฺตาหานํ คหิตตฺตา. ตถา หิ ปรินิพฺพานทิวเสน สทฺธึ ติณฺณํ สตฺตาหานํ คหิตตฺตา เชฏฺมูลสุกฺกปฺจมี เอกวีสติโม ทิวโส โหติ.

สตฺตสุ สาธุกีฬนทิวเสสูติ เอตฺถ สาธุกีฬนํ นาม สํเวควตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กิตฺเตตฺวา อนิจฺจตาปฏิสํยุตฺตานิ คีตานิ คายิตฺวา ปูชาวเสน กีฬนโต สุนฺทรํ กีฬนนฺติ สาธุกีฬนํ. อถ วา สปรหิตสาธนฏฺเน สาธุ, เตสํ สํเวควตฺถุํ กิตฺเตตฺวา กิตฺเตตฺวา กีฬนํ สาธุกีฬนํ, อุฬารปุฺปสวนโต สมฺปรายิกตฺถาวิโรธิกีฬาวิหาโรติ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปุริมสฺมึ สตฺตาเห สาธุกีฬาย เอกเทเสน กตตฺตา สาธุกีฬนทิวสา นาม เต ชาตา. วิเสสโต ปน ธาตุปูชาทิวเสสุเยว สาธุกีฬนํ อกํสุ. ตโตเยว จ มหาปรินิพฺพานสุตฺตนฺตปาฬิยํ –

‘‘อถ โข โกสินารกา มลฺลา ภควโต สรีรานิ สตฺตาหํ สนฺถาคาเร สตฺติปฺชรํ กริตฺวา ธนุปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวา นจฺเจหิ คีเตหิ วาทิเตหิ มาเลหิ คนฺเธหิ สกฺกรึสุ ครุํ กรึสุ มาเนสุํ ปูเชสุ’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๒๓๕).

เอตสฺส อฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๒.๒๓๕) วุตฺตํ –

‘‘กสฺมา ปเนเต เอวมกํสูติ? อิโต ปุริเมสุ ทฺวีสุ สตฺตาเหสุ เต ภิกฺขุสงฺฆสฺส านนิสชฺโชกาสํ กโรนฺตา ขาทนียโภชนียาทีนิ สํวิทหนฺตา สาธุกีฬิกาย โอกาสํ น ลภึสุ. ตโต เนสํ อโหสิ ‘อิมํ สตฺตาหํ สาธุกีฬิตํ กีฬิสฺสาม, านํ โข ปเนตํ วิชฺชติ, ยํ อมฺหากํ ปมตฺตภาวํ ตฺวา โกจิเทว อาคนฺตฺวา ธาตุโย คณฺเหยฺย, ตสฺมา อารกฺขํ เปตฺวา กีฬิสฺสามา’ติ, เตน เต เอวมกํสู’’ติ.

ตสฺมา วิเสสโต สาธุกีฬิกา ธาตุปูชาทิวเสสุเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เต ปน ธาตุปูชาย กตตฺตา ‘‘ธาตุปูชาทิวสา’’ติ ปากฏา ชาตาติ อาห ‘‘สตฺตสุ จ ธาตุปูชาทิวเสสู’’ติ. อุปกฏฺาติ อาสนฺนา. วสฺสํ อุปเนนฺติ อุปคจฺฉนฺติ เอตฺถาติ วสฺสูปนายิกา. เอกํ มคฺคํ คโตติ จาริกํ จริตฺวา มหาชนํ อสฺสาเสตุํ เอเกน มคฺเคน คโต. เอวํ อนุรุทฺธตฺเถราทโยปิ เตสุ เตสุ ชนปเทสุ จาริกํ จริตฺวา มหาชนํ อสฺสาเสนฺตา คตาติ ทฏฺพฺพํ. เยน สาวตฺถิ, เตน จาริกํ ปกฺกามีติ ยตฺถ สาวตฺถิ, ตตฺถ จาริกํ ปกฺกามิ, เยน วา ทิสาภาเคน สาวตฺถิ ปกฺกมิตพฺพา โหติ, เตน ทิสาภาเคน จาริกํ ปกฺกามีติ อตฺโถ.

ตตฺราติ ตสฺสํ สาวตฺถิยํ. สุทนฺติ นิปาตมตฺตํ. อนิจฺจตาทิปฏิสํยุตฺตายาติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย. อสมุจฺฉินฺนตณฺหานุสยตฺตา อวิชฺชาตณฺหาภิสงฺขเตน กมฺมุนา ภวโยนิคติิติสตฺตาวาเสสุ ขนฺธปฺจกสงฺขาตํ อตฺตภาวํ ชเนติ อภินิพฺพตฺเตตีติ ชโน, กิเลเส ชเนติ, อชนิ, ชนิสฺสตีติ วา ชโน, มหนฺโต ชโนติ มหาชโน, ตํ มหาชนํ, พหุชนนฺติ อตฺโถ. สฺาเปตฺวาติ สมสฺสาเสตฺวา. คนฺธกุฏิยา ทฺวารํ วิวริตฺวาติ ปริโภคเจติยภาวโต คนฺธกุฏึ วนฺทิตฺวา คนฺธกุฏิยา ทฺวารํ วิวรีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว ทีฆนิกายฏฺกถายํ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา) ‘‘คนฺธกุฏึ วนฺทิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. มิลาตํ มาลากจวรํ มิลาตมาลากจวรํ. ยถาาเน เปตฺวาติ ปมิตฏฺานํ อนติกฺกมิตฺวา ยถาิตฏฺาเนเยว เปตฺวาติ อตฺโถ. ภควโต ิตกาเล กรณียํ วตฺตํ สพฺพมกาสีติ เสนาสเน กตฺตพฺพวตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ. กโรนฺโต จ นฺหานโกฏฺเก สมฺมชฺชนอุทกูปฏฺานาทิกาเลสุ คนฺธกุฏึ คนฺตฺวา ‘‘นนุ ภควา อยํ ตุมฺหากํ นฺหานกาโล, อยํ ธมฺมเทสนากาโล, อยํ ภิกฺขูนํ โอวาททานกาโล, อยํ สีหเสยฺยํ กปฺปนกาโล, อยํ มุขโธวนกาโล’’ติอาทินา นเยน ปริเทวมาโนว อกาสิ. ตเมนํ อฺตรา เทวตา ‘‘ภนฺเต อานนฺท, ตุมฺเห เอวํ ปริเทวมานา กถํ อฺเ อสฺสาสยิสฺสถา’’ติ สํเวเชสิ. โส ตสฺสา วจเนน สํวิคฺคหทโย สนฺถมฺภิตฺวา ตถาคตสฺส ปรินิพฺพานโต ปภุติ านนิสชฺชพหุลตาย อุสฺสนฺนธาตุกํ กายํ สมสฺสาเสตุํ ขีรวิเรจนํ ปิวิ. อิทานิ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ เถโร’’ติอาทิมาห.

อุสฺสนฺนธาตุกนฺติ อุปจิตเสมฺหาทิธาตุกํ กายํ. สมสฺสาเสตุนฺติ สนฺตปฺเปตุํ. ทุติยทิวเสติ เทวตาย สํเวชิตทิวสโต. ‘‘เชตวนวิหารํ ปวิฏฺทิวสโต วา ทุติยทิวเส’’ติ วทนฺติ. วิริจฺจติ เอเตนาติ วิเรจนํ, โอสธปริภาวิตํ ขีรเมว วิเรจนนฺติ ขีรวิเรจนํ. ยํ สนฺธายาติ ยํ เภสชฺชปานํ สนฺธาย. องฺคสุภตาย สุโภติ เอวํ ลทฺธนามตฺตา สุเภน มาณเวน. ปหิตํ มาณวกนฺติ ‘‘สตฺถา ปรินิพฺพุโต อานนฺทตฺเถโร กิรสฺส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา อาคโต, มหาชโน จ ตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมตี’’ติ สุตฺวา ‘‘วิหารํ โข ปน คนฺตฺวา มหาชนมชฺเฌ น สกฺกา สุเขน ปฏิสนฺถารํ วา กาตุํ ธมฺมกถํ วา โสตุํ, เคหํ อาคตํเยว นํ ทิสฺวา สุเขน ปฏิสนฺถารํ กริสฺสามิ, เอกา จ เม กงฺขา อตฺถิ, ตมฺปิ นํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา สุเภน มาณเวน เปสิตํ มาณวกํ. เอตทโวจาติ เอตํ ‘‘อกาโล โข’’ติอาทิกํ อานนฺทตฺเถโร อโวจ. อกาโล โขติ อชฺช คนฺตุํ ยุตฺตกาโล น โหติ. กสฺมาติ เจ อาห ‘‘อตฺถิ เม อชฺชา’’ติอาทิ. เภสชฺชมตฺตาติ อปฺปมตฺตกํ เภสชฺชํ. อปฺปตฺโถ หิ อยํ มตฺตาสทฺโท ‘‘มตฺตา สุขปริจฺจาคา’’ติอาทีสุ วิย.

ทุติยทิวเสติ ขีรวิเรจนํ ปีตทิวสโต ทุติยทิวเส. เจตกตฺเถเรนาติ เจติยรฏฺเ ชาตตฺตา ‘‘เจตโก’’ติ เอวํลทฺธนาเมน. สุเภน มาณเวน ปุฏฺโติ ‘‘เยสุ ธมฺเมสุ ภวํ โคตโม อิมํ โลกํ ปติฏฺาเปสิ, เต ตสฺส อจฺจเยน นฏฺา นุ โข, ธรนฺติ, สเจ ธรนฺติ, อานนฺโท ชานิสฺสติ, หนฺท นํ ปุจฺฉามี’’ติ เอวํ จินฺเตตฺวา ‘‘เยสํ โส ภวํ โคตโม ธมฺมานํ วณฺณวาที อโหสิ, ยตฺถ จ อิมํ ชนตํ สมาทเปสิ นิเวเสสิ ปติฏฺาเปสิ, กตเมสานํ โข โภ อานนฺท ธมฺมานํ โส ภวํ โคตโม วณฺณวาที อโหสี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๔๔๘) สุเภน มาณเวน ปุฏฺโ. อถสฺส เถโร ตีณิ ปิฏกานิ สีลกฺขนฺธาทีหิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ติณฺณํ โข, มาณว, ขนฺธานํ โส ภควา วณฺณวาที’’ติอาทินา สุภสุตฺตมภาสิ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ทีฆนิกาเย สุภสุตฺตํ นาม ทสมํ สุตฺตมภาสี’’ติ.

ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณนฺติ เอตฺถ ขณฺฑนฺติ ฉินฺนํ. ผุลฺลนฺติ ภินฺนํ. เตสํ ปฏิสงฺขรณํ ปุน สมฺมา ปากติกกรณํ, อภินวกรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ราชคหนฺติ เอวํนามกํ นครํ. ตฺหิ มนฺธตุมหาโควินฺทาทีหิ ปริคฺคหิตตฺตา ‘‘ราชคห’’นฺติ วุจฺจติ. ฉฑฺฑิตปติตอุกฺลาปาติ ฉฑฺฑิตา จ ปติตา จ อุกฺลาปา จ อเหสุนฺติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ภควโต ปรินิพฺพานฏฺานํ คจฺฉนฺเตหิ ภิกฺขูหิ ฉฑฺฑิตา วิสฺสฏฺา, ตโตเยว จ อุปจิกาทีหิ ขาทิตตฺตา อิโต จิโต จ ปติตา, สมฺมชฺชนาภาเวน อากิณฺณกจวรตฺตา อุกฺลาปา จ อเหสุนฺติ. อิมเมวตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภควโต หี’’ติอาทิ. ปริจฺเฉทวเสน เวณิยติ ทิสฺสตีติ ปริเวณํ. ตตฺถาติ เตสุ วิหาเรสุ. ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณนฺติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปมํ มาสนฺติ วสฺสานสฺส ปมํ มาสํ, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. เสนาสนวตฺตานํ ปฺตฺตตฺตา เสนาสนกฺขนฺธเก จ เสนาสนปฏิพทฺธานํ พหูนํ วจนโต ‘‘ภควตา…เป… วณฺณิต’’นฺติ วุตฺตํ.

ทุติยทิวเสติ ‘‘ขณฺฑผุลฺลปฏิสงฺขรณํ กโรมา’’ติ จินฺติตทิวสโต ทุติยทิวเส. โส จ วสฺสูปนายิกทิวสโต ทุติยทิวโสติ เวทิตพฺโพ. เต หิ เถรา อาสาฬฺหีปุณฺณมาย อุโปสถํ กตฺวา ปาฏิปเท สนฺนิปติตฺวา วสฺสํ อุปคนฺตฺวา เอวํ จินฺเตสุํ. อชาตสตฺตุ ราชาติ อชาโต หุตฺวา ปิตุโน ปจฺจตฺถิโก ชาโตติ ‘‘อชาตสตฺตู’’ติ ลทฺธโวหาโร ราชา. ตสฺมึ กิร กุจฺฉิคเต เทวิยา เอวรูโป โทหโฬ อุปฺปชฺชิ ‘‘อโห วตาหํ รฺโ ทกฺขิณพาหุโต โลหิตํ ปิเวยฺย’’นฺติ . อถ ตสฺสา กเถตุํ อสกฺโกนฺติยา กิสภาวํ ทุพฺพณฺณภาวฺจ ทิสฺวา ราชา สยเมว ปุจฺฉิตฺวา ตฺวา จ เวชฺเช ปกฺโกสาเปตฺวา สุวณฺณสตฺถเกน พาหุํ ผาเลตฺวา สุวณฺณสรเกน โลหิตํ คเหตฺวา อุทเกน สมฺภินฺทิตฺวา ปาเยสิ. เนมิตฺตกา ตํ สุตฺวา ‘‘เอส คพฺโภ รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสติ, อิมินา ราชา หฺิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ, ตสฺมา ‘‘อชาโตเยว รฺโ สตฺตุ ภวิสฺสตี’’ติ เนมิตฺตเกหิ นิทฺทิฏฺตฺตา อชาตสตฺตุ นาม ชาโต. กินฺติ การณปุจฺฉนตฺเถ นิปาโต, กสฺมาติ อตฺโถ. ปฏิเวเทสุนฺติ นิเวเทสุํ, ชานาเปสุนฺติ อตฺโถ. วิสฺสตฺถาติ นิราสงฺกจิตฺตา. อาณาจกฺกนฺติ อาณาเยว อปฺปฏิหตวุตฺติยา ปวตฺตนฏฺเน จกฺกนฺติ อาณาจกฺกํ. สนฺนิสชฺชฏฺานนฺติ สนฺนิปติตฺวา นิสีทนฏฺานํ.

ราชภวนวิภูตินฺติ ราชภวนสมฺปตฺตึ. อวหสนฺตมิวาติ อวหาสํ กุรุมานํ วิย. สิริยา นิเกตมิวาติ สิริยา วสนฏฺานมิว. เอกนิปาตติตฺถมิว จ เทวมนุสฺสนยนวิหงฺคานนฺติ เอกสฺมึ ปานียติตฺเถ สนฺนิปตนฺตา ปกฺขิโน วิย สพฺเพสํ ชนานํ จกฺขูนิ มณฺฑเปเยว นิปตนฺตีติ เทวมนุสฺสานํ นยนสงฺขาตวิหงฺคานํ เอกนิปาตติตฺถมิว จ. โลกรามเณยฺยกมิว สมฺปิณฺฑิตนฺติ เอกตฺถ สมฺปิณฺฑิตํ ราสิกตํ โลเก รมณียภาวํ วิย. ยทิ โลเก วิชฺชมานํ รมณียตฺตํ สพฺพเมว อาเนตฺวา เอกตฺถ สมฺปิณฺฑิตํ สิยา, ตํ วิยาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ทฏฺพฺพสารมณฺฑนฺติ เผคฺคุรหิตสารํ วิย กสฏวินิมุตฺตํ ปสนฺนภูตํ วิย จ ทฏฺพฺเพสุ ทฏฺุํ อรหรูเปสุ สารภูตํ ปสนฺนภูตฺจา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ทฏฺพฺโพ ทสฺสนีโย สารภูโต วิสิฏฺตโร มณฺโฑ มณฺฑนํ อลงฺกาโร เอตสฺสาติ ทฏฺพฺพสารมณฺโฑ, มณฺฑโปติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพติ อมฺหากํ ขนฺติ, อุปปริกฺขิตฺวา ยุตฺตตรํ คเหตพฺพํ. มณฺฑํ สูริยรสฺมึ ปาติ นิวาเรตีติ มณฺฑโป. วิวิธ…เป… จารุวิตานนฺติ เอตฺถ กุสุมทามานิ จ ตานิ โอลมฺพกานิ จาติ กุสุมทามโอลมฺพกานิ. เอตฺถ จ วิเสสนสฺส ปรนิปาโต ทฏฺพฺโพ, โอลมฺพกกุสุมทามานีติ อตฺโถ. ตานิ วิวิธานิ อเนกปฺปการานิ วินิคฺคลนฺตํ วเมนฺตํ นิกฺขาเมนฺตมิว จารุ โสภนํ วิตานํ เอตฺถาติ วิวิธกุสุมทามโอลมฺพกวินิคฺคลนฺตจารุวิตาโน, มณฺฑโป, ตํ อลงฺกริตฺวาติ โยเชตพฺพํ. รตนวิจิตฺรมณิกโอฏฺฏิมตลมิวาติ นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตสุปรินิฏฺิตภูมิกมฺมตฺตาเยว นานารตเนหิ วิจิตฺตภูตมณิโกฏฺฏิมตลมิวาติ อตฺโถ. เอตฺถ จ รตนวิจิตฺตคฺคหณํ นานาปุปฺผูปหารวิจิตฺตตาย นิทสฺสนํ, มณิโกฏฺฏิมตลคฺคหณํ สุปรินิฏฺิตภูมิปริกมฺมตายาติ เวทิตพฺพํ. มณิโย โกฏฺเฏตฺวา กตตลตฺตา มณิโกฏฺฏเนน นิพฺพตฺตตลนฺติ มณิโกฏฺฏิมตลํ. นฺติ มณฺฑปํ. ปุปฺผูปหาโร ปุปฺผปูชา. อุตฺตราภิมุขนฺติ อุตฺตรทิสาภิมุขํ. อาสนารหนฺติ นิสีทนารหํ. ทนฺตขจิตนฺติ ทนฺเตหิ รจิตํ, ทนฺเตหิ กตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถาติ อาสเน. นิฏฺิตํ ภนฺเต มม กิจฺจนฺติ มยา กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺิตนฺติ อตฺโถ.

ตสฺมึ ปน ทิวเส เอกจฺเจ ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ สนฺธาย เอวมาหํสุ ‘‘อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ เอโก ภิกฺขุ วิสฺสคนฺธํ วายนฺโต วิจรตี’’ติ. เถโร ตํ สุตฺวา ‘‘อิมสฺมึ ภิกฺขุสงฺเฆ อฺโ วิสฺสคนฺธํ วายนฺโต วิจรณกภิกฺขุ นาม นตฺถิ, อทฺธา เอเต มํ สนฺธาย วทนฺตี’’ติ สํเวคํ อาปชฺชิ. เอกจฺเจ นํ อาหํสุเยว ‘‘สฺเว, อาวุโส, สนฺนิปาโต’’ติอาทิ. อิทานิ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ภิกฺขู อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อาหํสู’’ติอาทิ. เตนาติ ตสฺมา. อาวชฺเชสีติ อุปนาเมสิ. อนุปาทายาติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน กฺจิ ธมฺมํ อคเหตฺวา, เยหิ วา กิเลเสหิ สพฺเพหิ วิมุจฺจติ, เตสํ เลสมตฺตมฺปิ อคเหตฺวาติ อตฺโถ. อาสเวหีติ ภวโต อาภวคฺคํ ธมฺมโต วา อาโคตฺรภุํ สวนโต ปวตฺตนโต อาสวสฺิเตหิ กิเลเสหิ. ลกฺขณวจนฺเจตํ อาสเวหีติ, ตเทกฏฺตาย ปน สพฺเพหิปิ กิเลเสหิ, สพฺเพหิปิ ปาปธมฺเมหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติเยว. จิตฺตํ วิมุจฺจีติ จิตฺตํ อรหตฺตมคฺคกฺขเณ อาสเวหิ วิมุจฺจมานํ กตฺวา อรหตฺตผลกฺขเณ วิมุจฺจีติ อตฺโถ. จงฺกเมนาติ จงฺกมนกิริยาย. วิวฏฺฏูปนิสฺสยภูตํ กตํ อุปจิตํ ปุฺํ เอเตนาติ กตปุฺโ, อรหตฺตาธิคมาย กตาธิกาโรติ อตฺโถ. ปธานมนุยุฺชาติ วีริยํ อนุยุฺช, อรหตฺตาธิคมาย อนุโยคํ กโรหีติ อตฺโถ. กถาโทโส นาม นตฺถีติ กถาย อปรชฺฌํ นาม นตฺถิ. อจฺจารทฺธํ วีริยนฺติ อติวิย อารทฺธํ วีริยํ. อุทฺธจฺจายาติ อุทฺธตภาวาย. วีริยสมตํ โยเชมีติ จงฺกมนวีริยสฺส อธิมตฺตตฺตา ตสฺส ปหานวเสน สมาธินา สมรสตาปาทเนน วีริยสมตํ โยเชมิ.

ทุติยทิวเสติ เถเรน อรหตฺตปฺปตฺตทิวสโต ทุติยทิวเส. ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตาติ ปกฺขสฺส ปฺจมิยํ สนฺนิปตึสุ. อตฺตโน อรหตฺตปฺปตฺตึ าเปตุกาโมติ ‘‘เสกฺขตาย ธมฺมสงฺคีติยา คเหตุํ อยุตฺตมฺปิ พหุสฺสุตตฺตา คณฺหิสฺสามา’’ติ จินฺเตตฺวา นิสินฺนานํ เถรานํ ‘‘อิทานิ อรหตฺตปฺปตฺโต’’ติ โสมนสฺสุปฺปาทนตฺถํ ‘‘อปฺปมตฺโต โหหี’’ติ ทินฺนโอวาทสฺส สผลตาทีปนตฺถํ อตฺตุปนายิกํ อกตฺวา อฺพฺยากรณสฺส ภควตา สํวณฺณิตตฺตา จ เถโร อตฺตโน อรหตฺตปฺปตฺตึ าเปตุกาโม อโหสีติ เวทิตพฺพํ. ยถาวุฑฺฒนฺติ วุฑฺฒปฏิปาฏึ อนติกฺกมิตฺวา. เอเกติ มชฺฌิมภาณกานํเยว เอเก. ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ หิ สพฺพํ มชฺฌิมภาณกา วทนฺติเยวาติ เวทิตพฺพํ. ทีฆภาณกา (ที. นิ. อฏฺ. ๑.ปมมหาสงฺคีติกถา) ปเนตฺถ เอวํ วทนฺติ –

‘‘อถ โข อายสฺมา อานนฺโท อรหา สมาโน สนฺนิปาตํ อคมาสิ. กถํ อคมาสิ? ‘อิทานิมฺหิ สนฺนิปาตมชฺฌํ ปวิสนารโห’ติ หฏฺตุฏฺจิตฺโต เอกํสํ จีวรํ กตฺวา พนฺธนา มุตฺตตาลปกฺกํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตชาติมณิ วิย วิคตวลาหเก นเภ สมุคฺคตปุณฺณจนฺโท วิย พาลาตปสมฺผสฺสวิกสิตเรณุปิฺชรคพฺภํ ปทุมํ วิย จ ปริสุทฺเธน ปริโยทาเตน สปฺปเภน สสฺสิริเกน มุขวเรน อตฺตโน อรหตฺตปฺปตฺตึ อาโรจยมาโน วิย จ อคมาสิ. อถ นํ ทิสฺวา อายสฺมโต มหากสฺสปสฺส เอตทโหสิ ‘โสภติ วต โภ อรหตฺตปฺปตฺโต อานนฺโท, สเจ สตฺถา ธเรยฺย, อทฺธา อชฺช อานนฺทสฺส สาธุการํ ทเทยฺย, หนฺท อิมสฺสาหํ อิทานิ สตฺถารา ทาตพฺพํ สาธุการํ ททามี’ติ ติกฺขตฺตุํ สาธุการมทาสี’’ติ.

อากาเสน อาคนฺตฺวา นิสีทีติปิ เอเกติ เอตฺถ ปน เตสํ เตสํ ตถา ตถา คเหตฺวา อาคตมตฺตํ เปตฺวา วิสุํ วิสุํ วจเน อฺํ วิเสสการณํ นตฺถีติ วทนฺติ. อุปติสฺสตฺเถโร ปนาห ‘‘สตฺตมาสํ กตาย ธมฺมสงฺคีติยา กทาจิ ปถวิยํ นิมุชฺชิตฺวา อาคตตฺตา ตํ คเหตฺวา เอเก วทนฺติ. กทาจิ อากาเสน อาคตตฺตา ตํ คเหตฺวา เอเก วทนฺตี’’ติ.

ภิกฺขูอามนฺเตสีติ ภิกฺขู อาลปิ อภาสิ สมฺโพเธสีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อฺตฺร ปน าปเนปิ โหติ. ยถาห – ‘‘อามนฺตยามิ โว, ภิกฺขเว, (ที. นิ. ๒.๒๑๘) ปฏิเวทยามิ โว, ภิกฺขเว’’ติ (อ. นิ. ๗.๗๒). ปกฺโกสเนปิ ทิสฺสติ. ยถาห ‘‘เอหิ ตฺวํ, ภิกฺขุ, มม วจเนน สาริปุตฺตํ อามนฺเตหี’’ติ (อ. นิ. ๙.๑๑). อาวุโสติ อามนฺตนาการทีปนํ. กํ ธุรํ กตฺวาติ กํ เชฏฺกํ กตฺวา. กึ อานนฺโท นปฺปโหตีติ อฏฺกถาจริเยหิ ปิตปุจฺฉา. นปฺปโหตีติ น สกฺโกติ. เอตทคฺคนฺติ เอโส อคฺโค. ลิงฺควิปลฺลาเสน หิ อยํ นิทฺเทโส. ยทิทนฺติ จ โย อยนฺติ อตฺโถ, ยทิทํ ขนฺธปฺจกนฺติ วา โยเชตพฺพํ. สมฺมนฺนีติ สมฺมตํ อกาสิ. อุปาลึ วินยํ ปุจฺเฉยฺยนฺติ ปุจฺฉธาตุสฺส ทฺวิกมฺมกตฺตา วุตฺตํ. พีชนึ คเหตฺวาติ เอตฺถ พีชนีคหณํ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมตาติ เวทิตพฺพํ. ภควาปิ หิ ธมฺมกถิกานํ ธมฺมตาทสฺสนตฺถเมว วิจิตฺตพีชนึ คณฺหาติ. น หิ อฺถา สพฺพสฺสปิ โลกสฺส อลงฺการภูตํ ปรมุกฺกํสคตสิกฺขาสํยมานํ พุทฺธานํ มุขจนฺทมณฺฑลํ ปฏิจฺฉาเทตพฺพํ โหติ. ‘‘ปมํ, อาวุโส อุปาลิ, ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตสฺส สงฺคีติยา ปุริมกาเล ปมภาโว น ยุตฺโตติ? โน น ยุตฺโต ภควตา ปฺตฺตานุกฺกเมน ปาติโมกฺขุทฺเทสานุกฺกเมน จ ปมภาวสฺส สิทฺธตฺตา. เยภุยฺเยน หิ ตีณิ ปิฏกานิ ภควโต ธรมานกาเล ิตานุกฺกเมเนว สงฺคีตานิ, วิเสสโต วินยาภิธมฺมปิฏกานีติ ทฏฺพฺพํ. กิสฺมึ วตฺถุสฺมึ เมถุนธมฺเมติ จ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมวจนํ.

วตฺถุมฺปิ ปุจฺฉีติอาทิ ‘‘กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา ทสฺสิเตน สห ตโต อวสิฏฺมฺปิ สงฺคเหตฺวา ทสฺสนวเสน วุตฺตํ. กึ ปเนตฺถ ปมปาราชิกปาฬิยํ กิฺจิ อปเนตพฺพํ วา ปกฺขิปิตพฺพํ วา อาสิ นาสีติ? พุทฺธสฺส ภควโต ภาสิเต อปเนตพฺพํ นาม นตฺถิ. น หิ ตถาคตา เอกพฺยฺชนมฺปิ นิรตฺถกํ วทนฺติ, สาวกานํ ปน เทวตานํ วา ภาสิเต อปเนตพฺพมฺปิ โหติ, ตํ ธมฺมสงฺคาหกตฺเถรา อปนยึสุ, ปกฺขิปิตพฺพํ ปน สพฺพตฺถาปิ อตฺถิ, ตสฺมา ยํ ยตฺถ ปกฺขิปิตุํ ยุตฺตํ, ตํ ตตฺถ ปกฺขิปึสุเยว. กึ ปน ตนฺติ เจ? ‘‘เตน สมเยนา’’ติ วา ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติ วา ‘‘อถ โข’’อิติ วา ‘‘เอวํ วุตฺเต’’ติ วา ‘‘เอตทโวจา’’ติ วา เอวมาทิกํ สมฺพนฺธวจนมตฺตํ. เอวํ ปกฺขิปิตพฺพยุตฺตํ ปกฺขิปิตฺวา ปน อิทํ ปมปาราชิกนฺติ เปสุํ . ปมปาราชิเก สงฺคหมารุฬฺเห ปฺจ อรหนฺตสตานิ สงฺคหํ อาโรปิตนเยเนว คณสชฺฌายมกํสุ. ‘‘เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา เวรฺชายํ วิหรตี’’ติ จ เนสํ สชฺฌายารมฺภกาเลเยว สาธุการํ ททมานา วิย มหาปถวี อุทกปริยนฺตํ กตฺวา กมฺปิตฺถ. เต เอเตเนว นเยน เสสปาราชิกานิปิ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา ‘‘อิทํ ปาราชิกกณฺฑ’’นฺติ เปสุํ. เอวํ เตรส สงฺฆาทิเสสานิ ‘‘เตรสก’’นฺติอาทีนิ วตฺวา วีสาธิกานิ ทฺเว สิกฺขาปทสตานิ ‘‘มหาวิภงฺโค’’ติ กิตฺเตตฺวา เปสุํ. มหาวิภงฺคาวสาเนปิ ปุริมนเยเนว มหาปถวี อกมฺปิตฺถ. ตโต ภิกฺขุนิวิภงฺเค อฏฺ สิกฺขาปทานิ ‘‘ปาราชิกกณฺฑํ นามา’’ติอาทีนิ วตฺวา ตีณิ สิกฺขาปทสตานิ จตฺตาริ จ สิกฺขาปทานิ ‘‘ภิกฺขุนิวิภงฺโค’’ติ กิตฺเตตฺวา ‘‘อยํ อุภโตวิภงฺโค นาม จตุสฏฺิภาณวาโร’’ติ เปสุํ. อุภโตวิภงฺคาวสาเนปิ วุตฺตนเยเนว ปถวี อกมฺปิตฺถ. เอเตเนวุปาเยน อสีติภาณวารปริมาณํ ขนฺธกํ ปฺจวีสติภาณวารปริมาณํ ปริวารฺจ สงฺคหํ อาโรเปตฺวา ‘‘อิทํ วินยปิฏกํ นามา’’ติ เปสุํ. วินยปิฏกาวสาเนปิ วุตฺตนเยเนว ปถวีกมฺโป อโหสิ. ตํ อายสฺมนฺตํ อุปาลิตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อิทํ ตุยฺหํ นิสฺสิตเก วาเจหี’’ติ เอวเมตฺถ อวุตฺโตปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.

เอวํ วินยปิฏกํ สงฺคหมาโรเปตฺวา สุตฺตนฺตปิฏกํ สงฺคายึสุ. อิทานิ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วินยํ สงฺคายิตฺวา’’ติอาทิ. มหากสฺสปตฺเถโร อานนฺทตฺเถรํ ธมฺมํ ปุจฺฉีติ เอตฺถ อยมนุกฺกโม เวทิตพฺโพ – อานนฺทตฺเถเร ทนฺตขจิตํ พีชนึ คเหตฺวา ธมฺมาสเน นิสินฺเน อายสฺมา มหากสฺสปตฺเถโร ภิกฺขู ปุจฺฉิ ‘‘กตรํ, อาวุโส, ปิฏกํ ปมํ สงฺคายามา’’ติ? ‘‘สุตฺตนฺตปิฏกํ, ภนฺเตติ. สุตฺตนฺตปิฏเก จตสฺโส สงฺคีติโย, ตาสุ ปมํ กตรํ สงฺคีตินฺติ? ทีฆสงฺคีตึ, ภนฺเตติ. ทีฆสงฺคีติยํ จตุตฺตึส สุตฺตานิ, ตโย จ วคฺคา, เตสุ ปมํ กตรํ วคฺคนฺติ. สีลกฺขนฺธวคฺคํ, ภนฺเตติ. สีลกฺขนฺธวคฺเค เตรส สุตฺตนฺตา, เตสุ ปมํ กตรํ สุตฺตนฺติ? พฺรหฺมชาลสุตฺตํ นาม ภนฺเต ติวิธสีลาลงฺกตํ นานาวิธมิจฺฉาชีวกุหนลปนาทิวิทฺธํสนํ ทฺวาสฏฺิทิฏฺิชาลวินิเวนํ ทสสหสฺสิโลกธาตุปกมฺปนํ, ตํ ปมํ สงฺคายามา’’ติ. อถ โข อายสฺมา มหากสฺสโป อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ ‘‘พฺรหฺมชาลํ, อาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติ?

อนฺตราจ ภนฺเต ราชคหํ อนฺตรา จ นาฬนฺทนฺติ เอตฺถ อนฺตรา-สทฺโท การณขณจิตฺตเวมชฺฌวิวราทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ ‘‘ตทนฺตรํ โก ชาเนยฺย อฺตฺร ตถาคตา’’ติ (อ. นิ. ๖.๔๔; ๑๐.๗๕) จ, ‘‘ชนา สงฺคมฺม มนฺเตนฺติ, มฺจ ตฺจ กิมนฺตร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๒๘) จ อาทีสุ การเณ อนฺตราสทฺโท วตฺตติ. ‘‘อทฺทส มํ ภนฺเต อฺตรา อิตฺถี วิชฺชนฺตริกาย ภาชนํ โธวนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) ขเณ. ‘‘ยสฺสนฺตรโต น สนฺติ โกปา’’ติอาทีสุ (อุทา. ๒๐) จิตฺเต. ‘‘อนฺตรา โวสานมาปาที’’ติอาทีสุ เวมชฺเฌ. ‘‘อปิ จายํ ตโปทา ทฺวินฺนํ มหานิรยานํ อนฺตริกาย อาคจฺฉตี’’ติอาทีสุ (ปารา. ๒๓๑) วิวเร. สฺวายมิธ วิวเร วตฺตติ, ตสฺมา ราชคหสฺส จ นาฬนฺทาย จ วิวเรติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อนฺตราสทฺเทน ปน ยุตฺตตฺตา อุปโยควจนํ กตํ. อีทิเสสุ จ าเนสุ อกฺขรจินฺตกา ‘‘อนฺตรา คามฺจ นทิฺจ ยาตี’’ติ เอวํ เอกเมว อนฺตราสทฺทํ ปยุชฺชนฺติ, โส ทุติยปเทนปิ โยเชตพฺโพ โหติ. อโยชิยมาเน อุปโยควจนํ น ปาปุณาติ สามิวจนปฺปสงฺเค อนฺตราสทฺทโยเคน อุปโยควจนสฺส อิจฺฉิตตฺตา. อิธ ปน โยเชตฺวา เอวํ วุตฺโต. ราชาคารเกติ ตตฺถ รฺโ กีฬนตฺถํ ปฏิภานจิตฺตวิจิตฺรํ อคารํ อกํสุ, ตํ ราชาคารกนฺติ ปวุจฺจติ, ตสฺมึ. อมฺพลฏฺิกาติ รฺโ อุยฺยานํ. ตสฺส กิร ทฺวารสมีเป ตรุโณ อมฺพรุกฺโข อตฺถิ, ตํ อมฺพลฏฺิกาติ วทนฺติ. ตสฺส อวิทูรภวตฺตา อุยฺยานมฺปิ อมฺพลฏฺิกาตฺเวว สงฺขฺยํ คตํ ‘‘วรุณานคร’’นฺติอาทีสุ วิย.

สุปฺปิยฺจ ปริพฺพาชกนฺติ เอตฺถ สุปฺปิโยติ ตสฺส นามํ, ปริพฺพาชโกติ สฺชยสฺส อนฺเตวาสี ฉนฺนปริพฺพาชโก. พฺรหฺมทตฺตฺจ มาณวกนฺติ เอตฺถ พฺรหฺมทตฺโตติ ตสฺส นามํ. มาณโวติ สตฺโตปิ โจโรปิ ตรุโณปิ วุจฺจติ. ตถา หิ –

‘‘โจทิตา เทวทูเตหิ, เย ปมชฺชนฺติ มาณวา;

เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ, หีนกายูปคา นรา’’ติ. (ม. นิ. ๓.๒๗๑; อ. นิ. ๓.๓๖) –

อาทีสุ สตฺโต มาณโวติ วุตฺโต. ‘‘มาณเวหิปิ สมาคจฺฉนฺติ กตกมฺเมหิปิ อกตกมฺเมหิปี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๑๔๙) โจโร. ‘‘อมฺพฏฺมาณโว องฺคโก มาณโว’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๕๘-๒๖๑, ๓๑๖) ตรุโณ มาณโวติ วุตฺโต. อิธาปิ อยเมว อธิปฺเปโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ ‘‘พฺรหฺมทตฺตํ นาม ตรุณปุริสํ อารพฺภา’’ติ. ชีวกมฺพวเนติ ชีวกสฺส โกมารภจฺจสฺส อมฺพวเน. อถ ‘‘กํ อารพฺภา’’ติ อวตฺวา ‘‘เกนสทฺธิ’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ? น เอตํ สุตฺตํ ภควตา เอว วุตฺตํ, รฺาปิ ‘‘ยถา นุ โข อิมานิ ปุถุสิปฺปายตนานี’’ติอาทินา กิฺจิ กิฺจิ วุตฺตํ อตฺถิ, ตสฺมา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เวเทหิปุตฺเตนาติ อยํ โกสลรฺโ ธีตาย ปุตฺโต, น วิเทหรฺโ, ‘‘เวเทหี’’ติ ปน ปณฺฑิตาธิวจนเมตํ. วิทนฺติ เอเตนาติ เวโท, าณสฺเสตํ อธิวจนํ. เวเทน อีหติ ฆฏติ วายมตีติ เวเทหี, เวเทหิยา ปุตฺโต เวเทหิปุตฺโต, เตน.

เอเตเนวุปาเยน ปฺจ นิกาเย ปุจฺฉีติ เอตฺถ อยมนุกฺกโม เวทิตพฺโพ. วุตฺตนเยน พฺรหฺมชาลสฺส ปุจฺฉาวิสชฺชนาวสาเน ปฺจ อรหนฺตสตานิ สชฺฌายมกํสุ. วุตฺตนเยเนว จ ปถวีกมฺโป อโหสิ. เอวํ พฺรหฺมชาลํ สงฺคายิตฺวา ตโต ปรํ ‘‘สามฺผลํ ปนาวุโส อานนฺท, กตฺถ ภาสิต’’นฺติอาทินา ปุจฺฉาวิสชฺชนานุกฺกเมน สทฺธึ พฺรหฺมชาเลน เตรสสุตฺตนฺตํ สงฺคายิตฺวา ‘‘อยํ สีลกฺขนฺธวคฺโค นามา’’ติ กิตฺเตตฺวา เปสุํ. ตทนนฺตรํ มหาวคฺคํ, ตทนนฺตรํ ปาถิกวคฺคนฺติ เอวํ ติวคฺคสงฺคหํ จตุตฺตึสสุตฺตนฺตปฏิมณฺฑิตํ จตุสฏฺิภาณวารปริมาณํ ตนฺตึ สงฺคายิตฺวา ‘‘อยํ ทีฆนิกาโย นามา’’ติ วตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสุํ ‘‘อาวุโส, อิมํ ตุยฺหํ นิสฺสิตเก วาเจหี’’ติ. ตโต อนนฺตรํ อสีติภาณวารปริมาณํ มชฺฌิมนิกายํ สงฺคายิตฺวา ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถรสฺส นิสฺสิตเก ปฏิจฺฉาเปสุํ ‘‘อิมํ ตุมฺเห ปริหรถา’’ติ. ตทนนฺตรํ ภาณวารสตปริมาณํ สํยุตฺตนิกายํ สงฺคายิตฺวา มหากสฺสปตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสุํ ‘‘ภนฺเต, อิมํ ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วาเจถา’’ติ. ตทนนฺตรํ วีสติภาณวารสตปอมาณํ องฺคุตฺตรนิกายํ สงฺคายิตฺวา อนุรุทฺธตฺเถรํ ปฏิจฺฉาเปสุํ ‘‘อิมํ ตุมฺหากํ นิสฺสิตเก วาเจถา’’ติ.

ตทนนฺตรํ –

‘‘ธมฺมสงฺคณึ วิภงฺคฺจ, กถาวตฺถุฺจ ปุคฺคลํ;

ธาตุยมกํ ปฏฺานํ, อภิธมฺโมติ วุจฺจตี’’ติ. –

เอวํ สํวณฺณิตํ สุขุมาณโคจรํ ตนฺตึ สงฺคายิตฺวา ‘‘อิทํ อภิธมฺมปิฏกํ นามา’’ติ วตฺวา ปฺจ อรหนฺตสตานิ สชฺฌายมกํสุ. วุตฺตนเยเนว ปถวีกมฺโป อโหสิ. ตโต ปรํ ชาตกํ มหานิทฺเทโส ปฏิสมฺภิทามคฺโค อปทานํ สุตฺตนิปาโต ขุทฺทกปาโ ธมฺมปทํ อุทานํ อิติวุตฺตกํ วิมานวตฺถุ เปตวตฺถุ เถรคาถา เถรีคาถาติ อิมํ ตนฺตึ สงฺคายิตฺวา ‘‘ขุทฺทกคนฺโถ นาม อย’’นฺติ จ วตฺวา อภิธมฺมปิฏกสฺมึเยว สงฺคหํ อาโรปยึสูติ ทีฆภาณกา วทนฺติ. มชฺฌิมภาณกา ปน ‘‘จริยาปิฏกพุทฺธวํเสหิ สทฺธึ สพฺพมฺปิ ตํ ขุทฺทกคนฺถํ สุตฺตนฺตปิฏเก ปริยาปนฺน’’นฺติ วทนฺติ. อยเมตฺถ อธิปฺปาโย – ชาตกาทิเก ขุทฺทกนิกายปริยาปนฺเน เยภุยฺเยน จ ธมฺมนิทฺเทสภูเต ตาทิเส อภิธมฺมปิฏเก สงฺคณฺหิตุํ ยุตฺตํ, น ปน ทีฆนิกายาทิปฺปกาเร สุตฺตนฺตปิฏเก, นาปิ ปฺตฺตินิทฺเทสภูเต วินยปิฏเกติ. ทีฆภาณกา ‘‘ชาตกาทีนํ อภิธมฺมปิฏเก สงฺคโห’’ติ วทนฺติ. จริยาปิฏกพุทฺธวํสานฺเจตฺถ อคฺคหณํ ชาตกคติกตฺตา. มชฺฌิมภาณกา ปน อฏฺุปฺปตฺติวเสน เทสิตานํ ชาตกาทีนํ ยถานุโลมเทสนาภาวโต ตาทิเส สุตฺตนฺตปิฏเก สงฺคโห ยุตฺโต, น ปน สภาวธมฺมนิทฺเทสภูเต ยถาธมฺมสาสเน อภิธมฺมปิฏเกติ ชาตกาทีนํ สุตฺตปริยาปนฺนตํ วทนฺติ. ตตฺถ ยุตฺตํ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ. ขุทฺทกนิกายสฺส เสสนิกายานํ วิย อปากฏตฺตา เสเส เปตฺวา ขุทฺทกนิกายํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ ขุทฺทกนิกาโย นามา’’ติอาทิมาห. ตตฺถาติ เตสุ นิกาเยสุ. ตตฺถาติ ขุทฺทกนิกาเย.

เอวํ นิมิตฺตปโยชนกาลเทสการกกรณปฺปกาเรหิ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ ววตฺถาปิเตสุ ธมฺมวินเยสุ นานปฺปการโกสลฺลตฺถํ เอกวิธาทิเภเท ทสฺเสตุํ ‘‘ตเทตํ สพฺพมฺปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนุตฺตรํ สมฺมาสมฺโพธินฺติ เอตฺถ อนาวรณาณปทฏฺานํ มคฺคาณํ มคฺคาณปทฏฺานฺจ อนาวรณาณํ ‘‘สมฺมาสมฺโพธี’’ติ วุจฺจติ. ปจฺจเวกฺขนฺเตน วาติ อุทานาทิวเสน ปวตฺตธมฺมํ สนฺธายาห. วิมุตฺติรสนฺติ อรหตฺตผลสฺสาทํ วิมุตฺติสมฺปตฺติกํ วา อคฺคผลนิปฺผาทนโต, วิมุตฺติกิจฺจํ วา กิเลสานํ อจฺจนฺตวิมุตฺติสมฺปาทนโต.

กิฺจาปิ อวิเสเสน สพฺพมฺปิ พุทฺธวจนํ กิเลสวินยเนน วินโย, ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน อปายปตนาทิโต ธารเณน ธมฺโม จ โหติ , อิธาธิปฺเปเต ปน ธมฺมวินเย นิทฺธาเรตุํ ‘‘ตตฺถ วินยปิฏก’’นฺติอาทิมาห. ขนฺธาทิวเสน สภาวธมฺมเทสนาพาหุลฺลโต อาห ‘‘อวเสสํ พุทฺธวจนํ ธมฺโม’’ติ. อถ วา ยทิปิ ธมฺโมเยว วินโย ปริยตฺติอาทิภาวโต, ตถาปิ วินยสทฺทสนฺนิธาโน อภินฺนาธิกรณภาเวน ปยุตฺโต ธมฺมสทฺโท วินยตนฺติวิปรีตํ ตนฺตึ ทีเปติ ยถา ‘‘ปุฺาณสมฺภาโร, โคพลีพทฺท’’นฺติอาทิ.

อเนกชาติสํสารนฺติ อยํ คาถา ภควตา อตฺตโน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺานํ อรหตฺตปฺปตฺตึ ปจฺจเวกฺขนฺเตน เอกูนวีสติมสฺส ปจฺจเวกฺขณาณสฺส อนนฺตรํ ภาสิตา. เตนาห ‘‘อิทํ ปมพุทฺธวจน’’นฺติ. อิทํ กิร สพฺพพุทฺเธหิ อวิชหิตอุทานํ. อยมสฺส สงฺเขปตฺโถ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๕๔) – อหํ อิมสฺส อตฺตภาวเคหสฺส การกํ ตณฺหาวฑฺฒกึ คเวสนฺโต เยน าเณน ตํ ทฏฺุํ สกฺกา, ตสฺส โพธิาณสฺสตฺถาย ทีปงฺกรปาทมูเล กตาภินีหาโร เอตฺตกํ กาลํ อเนกชาติสํสารํ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขฺยํ สํสารวฏฺฏํ อนิพฺพิสํ อนิพฺพิสนฺโต ตํ าณํ อวินฺทนฺโต อลภนฺโตเยว สนฺธาวิสฺสํ สํสรึ. ยสฺมา ชราพฺยาธิมรณมิสฺสตาย ชาติ นาเมสา ปุนปฺปุนํ อุปคนฺตุํ ทุกฺขา, น จ สา ตสฺมึ อทิฏฺเ นิวตฺตติ, ตสฺมา ตํ คเวสนฺโต สนฺธาวิสฺสนฺติ อตฺโถ.

ทิฏฺโสีติ อิทานิ มยา สพฺพฺุตฺาณํ ปฏิวิชฺฌนฺเตน ทิฏฺโ อสิ. ปุน เคหนฺติ ปุน อิมํ อตฺตภาวสงฺขาตํ มม เคหํ น กาหสิ น กริสฺสสิ. ตว สพฺพา อนวเสสา กิเลสผาสุกา มยา ภคฺคา. อิมสฺส ตยา กตสฺส อตฺตภาวเคหสฺส กูฏํ อวิชฺชาสงฺขาตํ กณฺณิกมณฺฑลํ วิสงฺขตํ วิทฺธํสิตํ. วิสงฺขารํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน คตํ อนุปวิฏฺํ อิทานิ มม จิตฺตํ, อหฺจ ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคํ อรหตฺตผลํ วา อชฺฌคา อธิคโต ปตฺโตสฺมีติ อตฺโถ. คณฺิปเทสุ ปน ‘‘วิสงฺขารคตนฺติ จิตฺตเมว ตณฺหานํ ขยสงฺขาตํ อรหตฺตมคฺคํ อรหตฺตผลํ วา อชฺฌคา อธิคโต ปตฺโต’’ติ เอวมฺปิ อตฺโถ วุตฺโต. อยํ มนสา ปวตฺติตธมฺมานํ อาทิ. ‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมาติ อยํ ปน วาจาย ปวตฺติตธมฺมานํ อาที’’ติ วทนฺติ. อนฺโตชปฺปนวเสน กิร ภควา ‘‘อเนกชาติสํสาร’’นฺติอาทิมาห.

เกจีติ ขนฺธกภาณกา. ปมํ วุตฺโต ปน ธมฺมปทภาณกานํ อธิปฺปาโยติ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ขนฺธกภาณกา วทนฺติ ‘‘ธมฺมปทภาณกานํ คาถา มนสา เทสิตตฺตา ตทา มหโต ชนสฺส อุปการาย น โหติ, อมฺหากํ ปน คาถา วจีเภทํ กตฺวา เทสิตตฺตา ตทา สุณนฺตานํ เทวพฺรหฺมานํ อุปการาย อโหสิ, ตสฺมา อิทเมว ปมพุทฺธวจน’’นฺติ. ธมฺมปทภาณกา ปน ‘‘เทสนาย ชนสฺส อุปการานุปการภาโว ลกฺขณํ น โหติ, ภควตา มนสา เทสิตตฺตาเยว อิทํ ปมพุทฺธวจน’’นฺติ วทนฺติ, ตสฺมา อุภยมฺปิ อฺมฺํ วิรุทฺธํ น โหตีติ เวทิตพฺพํ. นนุ จ ยทิ ‘‘อเนกชาติสํสาร’’นฺติ มนสา เทสิตํ, อถ กสฺมา ธมฺมปทอฏฺกถายํ (ธ. ป. อฏฺ. ๒.๑๕๓-๑๕๔) ‘‘อเนกชาติสํสารนฺติ อิมํ ธมฺมเทสนํ สตฺถา โพธิรุกฺขมูเล นิสินฺโน อุทานวเสน อุทาเนตฺวา อปรภาเค อานนฺทตฺเถเรน ปุฏฺโ กเถสี’’ติ วุตฺตนฺติ? ตตฺถาปิ มนสา อุทาเนตฺวาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. อถ วา มนสาว เทสิตนฺติ เอวํ คหเณ กึ การณนฺติ เจ? ยทิ วจีเภทํ กตฺวา เทสิตํ สิยา, อุทานปาฬิยํ อารุฬฺหํ ภเวยฺย, ตสฺมา อุทานปาฬิยํ อนารุฬฺหภาโวเยว วจีเภทํ อกตฺวา มนสา เทสิตภาเว การณนฺติ วทนฺติ.

ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมาติ เอตฺถ อิติสทฺโท อาทิอตฺโถ. เตน ‘‘อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส, อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา. ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติ อาทิคาถาตฺตยํ สงฺคณฺหาติ. อุทานคาถนฺติ ปน ชาติยา เอกวจนํ, ตตฺถาปิ ปมคาถํเยว วา คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ ปน ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ขนฺธเก อาวิ ภวิสฺสติ. ปาฏิปททิวเสติ อิทํ ‘‘สพฺพฺุภาวปฺปตฺตสฺสา’’ติ น เอเตน สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อุปฺปนฺนา’’ติ เอเตน ปน สมฺพนฺธิตพฺพํ. วิสาขปุณฺณมายเมว หิ ภควา ปจฺจูสสมเย สพฺพฺุตํ ปตฺโตติ. โสมนสฺสมยาเณนาติ โสมนสฺสสมฺปยุตฺตาเณน. อามนฺตยามีติ นิเวทยามิ, โพเธมีติ อตฺโถ. วยธมฺมาติ อนิจฺจลกฺขณมุเขน ทุกฺขานตฺตลกฺขณมฺปิ สงฺขารานํ วิภาเวติ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ, ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต. ลกฺขณตฺตยวิภาวนนเยเนว ตทารมฺมณํ วิปสฺสนํ ทสฺเสนฺโต สพฺพติตฺถิยานํ อวิสยภูตํ พุทฺธาเวณิกํ จตุสจฺจกมฺมฏฺานาธิฏฺานํ อวิปรีตํ นิพฺพานคามินึ ปฏิปทํ ปกาเสตีติ ทฏฺพฺพํ . อิทานิ ตตฺถ สมฺมาปฏิปตฺติยํ นิโยเชติ ‘‘อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ. อถ วา ‘‘วยธมฺมา สงฺขารา’’ติ เอเตน สงฺเขเปน สํเวเชตฺวา ‘‘อปฺปมาเทน สมฺปาเทถา’’ติ สงฺเขเปเนว นิรวเสสํ สมฺมาปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ. อปฺปมาทปทฺหิ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ เกวลปริปุณฺณํ สาสนํ ปริยาทิยิตฺวา ติฏฺตีติ. อนฺตเรติ อนฺตราเฬ, เวมชฺเฌติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺตปิฏกนฺติ เอตฺถ ยถา กมฺมเมว กมฺมนฺตํ, เอวํ สุตฺตเมว สุตฺตนฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อสงฺคีตนฺติ สงฺคีติกฺขนฺธกกถาวตฺถุปฺปกรณาทิ. เกจิ ปน ‘‘สุภสุตฺตมฺปิ ปมสงฺคีติยํ อสงฺคีต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ. ‘‘ปมสงฺคีติโต ปุเรตรเมว หิ อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน เชตวเน วิหรนฺเตน สุภสฺส มาณวสฺส เทสิต’’นฺติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ. สุภสุตฺตํ ปน ‘‘เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม อจิรปรินิพฺพุเต ภควตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๔๔๔) อาคตํ. ตตฺถ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิวจนํ ปมสงฺคีติยํ อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรเนว วตฺตุํ ยุตฺตรูปํ น โหติ. น หิ อานนฺทตฺเถโร สยเมว สุภสุตฺตํ เทเสตฺวา ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทีนิ วทติ. เอวํ ปน วตฺตพฺพํ สิยา ‘‘เอกมิทาหํ, ภนฺเต, สมยํ สาวตฺถิยํ วิหรามิ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเม’’ติ, ตสฺมา ทุติยตติยสงฺคีติการเกหิ ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทินา สุภสุตฺตํ สงฺคีติมาโรปิตํ วิย ทิสฺสติ. อถ อาจริยธมฺมปาลตฺเถรสฺส เอวมธิปฺปาโย สิยา ‘‘อานนฺทตฺเถเรเนว วุตฺตมฺปิ สุภสุตฺตํ ปมสงฺคีตึ อาโรเปตฺวา ตนฺตึ เปตุกาเมหิ มหากสฺสปตฺเถราทีหิ อฺเสุ สุตฺเตสุ อาคตนเยเนว ‘เอวํ เม สุต’นฺติอาทินา ตนฺติ ปิตา’’ติ, เอวํ สติ ยุชฺเชยฺย. อถ วา อายสฺมา อานนฺทตฺเถโร สุภสุตฺตํ สยํ เทเสนฺโตปิ สามฺผลาทีสุ ภควตา เทสิตนเยเนว เทเสสีติ ภควโต สมฺมุขา ลทฺธนเย ตฺวา เทสิตตฺตา ภควตา เทสิตํ ธมฺมํ อตฺตนิ อทหนฺโต ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติอาทิมาหาติ เอวมธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.

อุภยานิ ปาติโมกฺขานีติ ภิกฺขุภิกฺขุนีปาติโมกฺขวเสน. ทฺเว วิภงฺคานีติ ภิกฺขุภิกฺขุนีวิภงฺควเสเนว ทฺเว วิภงฺคานิ. ทฺวาวีสติ ขนฺธกานีติ มหาวคฺคจูฬวคฺเคสุ อาคตานิ ทฺวาวีสติ ขนฺธกานิ. โสฬสปริวาราติ โสฬสหิ ปริวาเรหิ อุปลกฺขิตตฺตา โสฬสปริวาราติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปริวารปาฬิยํ ‘‘ยํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปมํ ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑) ปฺตฺติวาโร, ตโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต กติ อาปตฺติโย อาปชฺชตี’’ติอาทินา (ปริ. ๑๕๗) กตาปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ วิปตฺตีนํ กติ วิปตฺติโย ภชนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๒) วิปตฺติวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ กติหิ อาปตฺติกฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๓) สงฺคหวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย ฉนฺนํ อาปตฺติสมุฏฺานานํ กติหิ สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺนฺตี’’ติอาทินา (ปริ. ๑๘๔) สมุฏฺานวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย จตุนฺนํ อธิกรณานํ กตมํ อธิกรณ’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑๘๕) อธิกรณวาโร, ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺตสฺส อาปตฺติโย สตฺตนฺนํ สมถานํ กติหิ สมเถหิ สมฺมนฺตี’’ติอาทิปฺปเภโท (ปริ. ๑๘๖) สมถวาโร, ตทนนฺตรํ สมุจฺจยวาโร จาติ อฏฺ วารา วุตฺตา. ตโต ปรํ ‘‘เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนปจฺจยา ปาราชิกํ กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา (ปริ. ๑๘๘) นเยน ปุน ปจฺจยวเสน เอโก ปฺตฺติวาโร, ตสฺส วเสน ปุริมสทิสา เอว กตาปตฺติวาราทโย สตฺต วาราติ เอวํ อปเรปิ อฏฺ วารา วุตฺตา. อิติ อิมานิ อฏฺ, ปุริมานิปิ อฏฺาติ มหาวิภงฺเค โสฬส วารา ทสฺสิตา. ตโต ปรํ เตเนว นเยน ภิกฺขุนิวิภงฺเคปิ โสฬส วารา อาคตาติ อิเมหิ โสฬสหิ วาเรหิ อุปลกฺขิตตฺตา โสฬสปริวาราติ วุจฺจติ. โปตฺถเกสุ ปน กตฺถจิ ‘‘ปริวาโร’’ติ เอตฺตกเมว ทิสฺสติ, พหูสุ ปน โปตฺถเกสุ ทีฆนิกายฏฺกถายํ อภิธมฺมฏฺกถายฺจ ‘‘โสฬสปริวารา’’ติ เอวเมว วุตฺตตฺตา อยมฺปิ ปาโ น สกฺกา ปฏิพาหิตุนฺติ ตสฺเสวตฺโถ วุตฺโต.

พฺรหฺมชาลาทิจตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโหติ พฺรหฺมชาลสุตฺตาทีนิ จตุตฺตึส สุตฺตานิ สงฺคยฺหนฺติ เอตฺถ, เอเตนาติ วา พฺรหฺมชาลาทิจตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโห. วุตฺตปฺปมาณานํ วา สุตฺตานํ สงฺคโห เอตสฺสาติ พฺรหฺมชาลาทิจตุตฺตึสสุตฺตสงฺคโหติ. เอวํ เสเสสุปิ เวทิตพฺพํ.

วิวิธวิเสสนยตฺตาติ อิมิสฺสา คาถาย อตฺถํ วิภาเวนฺโต อาห ‘‘วิวิธา หี’’ติอาทิ. ทฬฺหีกมฺมสิถิลกรณปฺปโยชนาติ ยถากฺกมํ โลกวชฺเชสุ สิกฺขาปเทสุ ทฬฺหีกมฺมปฺปโยชนา, ปณฺณตฺติวชฺเชสุ สิถิลกรณปฺปโยชนาติ เวทิตพฺพํ. อชฺฌาจารนิเสธนโตติ สฺมเวลํ อติภวิตฺวา ปวตฺโต อาจาโร อชฺฌาจาโร, วีติกฺกโม, ตสฺส นิเสธนโตติ อตฺโถ. เตนาติ วิวิธนยตฺตาทิเหตุนา. เอตนฺติ ‘‘วิวิธวิเสสนยตฺตา’’ติอาทิคาถาวจนํ. เอตสฺสาติ วินยสฺส. อิตรํ ปนาติ สุตฺตํ.

อิทานิ อตฺถานํ สูจนโตติอาทิคาถาย อตฺถํ ปกาเสนฺโต อาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. อตฺตตฺถปรตฺถาทิเภเทติ โย ตํ สุตฺตํ สชฺฌายติ สุณาติ วาเจติ จินฺเตติ เทเสติ จ, สุตฺเตน สงฺคหิโต สีลาทิอตฺโถ ตสฺสปิ โหติ, เตน ปรสฺส สาเธตพฺพโต ปรสฺสปิ โหตีติ ตทุภยํ ตํ สุตฺตํ สูเจติ ทีเปติ. ตถา ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถ โลกิยโลกุตฺตรตฺเถ จาติ เอวมาทิเภเท อตฺเถ อาทิสทฺเทน สงฺคณฺหาติ. อตฺถสทฺโท จายํ หิตปริยายวจโน, น ภาสิตตฺถวจโน. ยทิ สิยา, สุตฺตํ อตฺตโนปิ ภาสิตตฺถํ สูเจติ ปรสฺสปีติ อยมตฺโถ วุตฺโต สิยา, สุตฺเตน จ โย อตฺโถ ปกาสิโต, โส ตสฺเสว โหติ, น เตน ปรตฺโถ สูจิโต โหตีติ. เตน สูเจตพฺพสฺส ปรตฺถสฺส นิวตฺเตตพฺพสฺส อภาวา อตฺตคฺคหณฺจ น กตฺตพฺพํ. อตฺตตฺถปรตฺถวินิมุตฺตสฺส ภาสิตตฺถสฺส อภาวา อาทิคฺคหณฺจ น กตฺตพฺพํ, ตสฺมา ยถาวุตฺตสฺส หิตปริยายสฺส อตฺถสฺส สุตฺเต อสมฺภวโต สุตฺตาธารสฺส ปุคฺคลสฺส วเสน อตฺตตฺถปรตฺถา วุตฺตา.

อถ วา สุตฺตํ อนเปกฺขิตฺวา เย อตฺตตฺถาทโย อตฺถปฺปเภทา ‘‘น หฺทตฺถตฺถิ ปสํสลาภา’’ติ เอตสฺส ปทสฺส นิทฺเทเส (มหานิ. ๖๓) วุตฺตา อตฺตตฺโถ, ปรตฺโถ, อุภยตฺโถ, ทิฏฺธมฺมิโก อตฺโถ, สมฺปรายิโก อตฺโถ, อุตฺตาโน อตฺโถ, คมฺภีโร อตฺโถ, คุฬฺโห อตฺโถ, ปฏิจฺฉนฺโน อตฺโถ, เนยฺโย อตฺโถ, นีโต อตฺโถ, อนวชฺโช อตฺโถ, นิกฺกิเลโส อตฺโถ, โวทาโน อตฺโถ, ปรมตฺโถติ, เต อตฺเถ สุตฺตํ สูเจตีติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. ตถา หิ กิฺจาปิ สุตฺตนิรเปกฺขํ อตฺตตฺถาทโย วุตฺตา สุตฺตตฺถภาเวน อนิทฺทิฏฺตฺตา, เตสุ ปน เอโกปิ อตฺถปฺปเภโท สุตฺเตน ทีเปตพฺพตํ นาติกฺกมติ, ตสฺมา เต อตฺเถ สุตฺตํ สูเจตีติ วุจฺจติ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป อตฺถ-สทฺโทยํ ภาสิตตฺถปริยาโยปิ โหติ. เอตฺถ หิ ปุริมกา ปฺจ อตฺถปฺปเภทา หิตปริยายา, ตโต ปเร ฉ ภาสิตตฺถเภทา, ปจฺฉิมกา ปน อุภยสภาวา. ตตฺถ ทุรธิคมตาย วิภาวเน อคาธภาโว คมฺภีโร, น วิวโฏ คุฬฺโห, มูลุทกาทโย วิย ปํสุนา อกฺขรสนฺนิเวสาทินา ติโรหิโต ปฏิจฺฉนฺโน. นิทฺธาเรตฺวา าเปตพฺโพ เนยฺโย, ยถารุตวเสน เวทิตพฺโพ นีโต. อนวชฺชนิกฺกิเลสโวทานา ปริยายวเสน วุตฺตา, กุสลวิปากกิริยธมฺมวเสน วา. ปรมตฺโถ นิพฺพานํ, ธมฺมานํ อวิปรีตสภาโว เอว วา.

อถ วา อตฺตนา จ อปฺปิจฺโฉ โหตีติ อตฺตตฺถํ, อปฺปิจฺฉากถฺจ ปเรสํ กตฺตา โหตีติ ปรตฺถํ สูเจติ. เอวํ ‘‘อตฺตนา จ ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหตี’’ติอาทีนิ (อ. นิ. ๔.๙๙) สุตฺตานิ โยเชตพฺพานิ. วินยาภิธมฺเมหิ จ วิเสเสตฺวา สุตฺตสทฺทสฺส อตฺโถ วตฺตพฺโพ, ตสฺมา เวเนยฺยชฺฌาสยวสปฺปวตฺตาย เทสนาย อตฺตหิตปรหิตาทีนิ สาติสยํ ปกาสิตานิ โหนฺติ ตปฺปธานภาวโต, น อาณาธมฺมสภาววสปฺปวตฺตายาติ อิทเมว อตฺถานํ สูจนโต สุตฺตนฺติ วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺน’’นฺติ (ปาจิ. ๖๕๕) จ ‘‘สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) จ เอวมาทีสุ สุตฺตสทฺโท อุปจริโตติ คเหตพฺโพ.

สุตฺเตสุ อาณาธมฺมสภาวา จ เวเนยฺยชฺฌาสยํ อนุวตฺตนฺติ, น วินยาภิธมฺเมสุ วิย เวเนยฺยชฺฌาสโย อาณาธมฺมสภาเว, ตสฺมา เวเนยฺยานํ เอกนฺตหิตปฏิลาภสํวตฺตนิกา สุตฺตนฺตเทสนา โหตีติ ‘‘สุวุตฺตา เจตฺถ อตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘เอกนฺตหิตปฏิลาภสํวตฺตนิกา สุตฺตนฺตเทสนา’’ติ อิทมฺปิ เวเนยฺยานํ หิตสมฺปาปเน สุตฺตนฺตเทสนาย ตปฺปรภาวํเยว สนฺธาย วุตฺตํ. ตปฺปรภาโว จ เวเนยฺยชฺฌาสยานุโลมโต ทฏฺพฺโพ. เตเนวาห ‘‘เวเนยฺยชฺฌาสยานุโลเมน วุตฺตตฺตา’’ติ . วินยเทสนํ วิย อิสฺสรภาวโต อาณาปติฏฺาปนวเสน อเทเสตฺวา เวเนยฺยานํ อชฺฌาสยานุโลเมน จริยานุรูปํ วุตฺตตฺตา เทสิตตฺตาติ อตฺโถ.

อนุปุพฺพสิกฺขาทิวเสน กาลนฺตเร อภินิปฺผตฺตึ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สสฺสมิว ผล’’นฺติ. ปสวตีติ ผลติ, นิปฺผาเทตีติ อตฺโถ. อุปายสมงฺคีนํเยว นิปฺผชฺชนภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เธนุ วิย ขีร’’นฺติ อาห. เธนุโตปิ หิ อุปายวนฺตานํเยว ขีรปฏิลาโภ โหติ. อนุปาเยน หิ อกาเล อชาตวจฺฉํ เธนุํ โทหนฺโต กาเลปิ วา วิสาณํ คเหตฺวา โทหนฺโต เนว ขีรํ ปฏิลภติ. ‘‘สุตฺตาณา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘สุฏฺุ จ เน ตายตี’’ติ วุตฺตํ.

สุตฺตสภาคนฺติ สุตฺตสทิสํ. สุตฺตสภาคตํเยว ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ. ตจฺฉกานํ สุตฺตนฺติ วฑฺฒกีนํ กาฬสุตฺตํ. ปมาณํ โหตีติ ตทนุสาเรน ตจฺฉนโต. เอวเมตมฺปิ วิฺูนนฺติ ยถา กาฬสุตฺตํ ปสาเรตฺวา สฺาเณ กเต คเหตพฺพํ วิสฺสชฺเชตพฺพฺจ ปฺายติ, เอวํ วิวาเทสุ อุปฺปนฺเนสุ สุตฺเต อานีตมตฺเต ‘‘อิทํ คเหตพฺพํ, อิทํ วิสฺสชฺเชตพฺพ’’นฺติ วิฺูนํ ปากฏตฺตา วิวาโท วูปสมฺมตีติ เอตมฺปิ สุตฺตํ วิฺูนํ ปมาณํ โหตีติ อตฺโถ. อิทานิ อฺถาปิ สุตฺตสภาคตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ. สุตฺตํ วิย ปมาณตฺตา สงฺคาหกตฺตา จ สุตฺตมิว สุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ จ อตฺตตฺถาทิวิธาเน สุตฺตสฺส ปมาณภาโว อตฺตตฺถาทีนํเยว จ สงฺคาหกตฺตํ โยเชตพฺพํ ตทตฺถปฺปกาสนปธานตฺตา สุตฺตสฺส. วินยาภิธมฺเมหิ วิเสสตฺตฺจ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว โยเชตพฺพํ. เอตนฺติ ‘‘อตฺถานํ สูจนโต’’ติอาทิกํ อตฺถวจนํ. เอตสฺสาติ สุตฺตสฺส.

นฺติ ยสฺมา. เอตฺถาติ อภิธมฺเม. อภิกฺกมนฺตีติ เอตฺถ อภิ-สทฺโท กมนกิริยาย วุฑฺฒิภาวํ อติเรกตํ ทีเปตีติ อาห ‘‘อภิกฺกมนฺตีติอาทีสุ วุฑฺฒิยํ อาคโต’’ติ. อภิฺาตาติ อฑฺฒจนฺทาทินา เกนจิ สฺาเณน าตา ปฺาตา ปากฏาติ อตฺโถ. อฑฺฒจนฺทาทิภาโว หิ รตฺติยา อุปลกฺขณวเสน สฺาณํ โหติ, ยสฺมา อฑฺโฒ จนฺโท, ตสฺมา อฏฺมี, ยสฺมา อูโน, ตสฺมา จาตุทฺทสี, ยสฺมา ปุณฺโณ, ตสฺมา ปนฺนรสีติ. อภิลกฺขิตาติ เอตฺถาปิ อยเมวตฺโถ เวทิตพฺโพ. อภิลกฺขิตสทฺทปริยาโย อภิฺาตสทฺโทติ อาห ‘‘อภิฺาตา อภิลกฺขิตาติอาทีสุ ลกฺขเณ’’ติ. เอตฺถ จ วาจกสทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน นิปาตานํ ตทตฺถโชตกมตฺตตฺตา ลกฺขิตสทฺทตฺถโชตโก อภิสทฺโท ลกฺขเณ วตฺตตีติ วุตฺโต. ราชาภิราชาติ ราชูหิ ปูเชตุํ อรโห ราชา. ปูชิเตติ ปูชารเห.

อภิธมฺเมติ ‘‘สุปินนฺเตน สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อนาปตฺติภาเวปิ อกุสลเจตนา อุปลพฺภตี’’ติอาทินา วินยปฺตฺติยา สงฺกรวิรหิเต ธมฺเม. ‘‘ปุพฺพาปรวิโรธาภาวโต ธมฺมานํเยว จ อฺมฺสงฺกรวิรหิเต ธมฺเม’’ติปิ วทนฺติ. ‘‘ปาณาติปาโต อกุสล’’นฺติ เอวมาทีสุ จ มรณาธิปฺปายสฺส ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา อกุสลํ, น ปาณสงฺขาตชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทสงฺขาโต อติปาโต, ตถา อทินฺนสฺส ปรสนฺตกสฺส อาทานสงฺขาตา วิฺตฺติ อพฺยากโต ธมฺโม, ตํวิฺตฺติสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อกุสโล ธมฺโมติ เอวมาทินาปิ อฺมฺสงฺกรวิรหิเต ธมฺเมติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อภิวินเยติ เอตฺถ ‘‘ชาตรูปรชตํ น ปฏิคฺคเหตพฺพ’’นฺติ วทนฺโต วินเย วิเนติ นาม. เอตฺถ ‘‘เอวํ ปฏิคฺคณฺหโต ปาจิตฺติยํ, เอวํ ทุกฺกฏนฺติ วทนฺโต จ อภิวินเย วิเนติ นามา’’ติ วทนฺติ. ตสฺมา ชาตรูปรชตํ เถยฺยจิตฺเตน ปรสนฺตกํ คณฺหนฺตสฺส ยถาวตฺถุ ปาราชิกถุลฺลจฺจยทุกฺกเฏสุ อฺตรํ, ภณฺฑาคาริกสีเสน คณฺหนฺตสฺส ปาจิตฺติยํ, อตฺตตฺถาย คณฺหนฺตสฺส นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. เกวลํ โลลตาย คณฺหนฺตสฺส อนามาสทุกฺกฏํ, รูปิยฉฑฺฑกสฺส สมฺมตสฺส อนาปตฺตีติ เอวํ อฺมฺสงฺกรวิรหิเต วินเย ปฏิพโล วิเนตุนฺติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อภิกฺกนฺเตนาติ เอตฺถ กนฺติยา อธิกตฺตํ อภิสทฺโท ทีเปตีติ อาห ‘‘อธิเก’’ติ.

นนุ จ ‘‘อภิกฺกมนฺตี’’ติ เอตฺถ อภิสทฺโท กมนกิริยาย วุฑฺฒิภาวํ อติเรกตํ ทีเปติ, ‘‘อภิฺาตา อภิลกฺขิตา’’ติ เอตฺถ าณลกฺขณกิริยานํ สุปากฏตฺตา วิเสสํ, ‘‘อภิกฺกนฺเตนา’’ติ เอตฺถ กนฺติยา อธิกตฺตํ วิสิฏฺตํ ทีเปตีติ อิทํ ตาว ยุตฺตํ กิริยาวิเสสกตฺตา อุปสคฺคสฺส, ‘‘อภิราชา อภิวินโย’’ติ ปน ปูชิตปริจฺฉินฺเนสุ ราชวินเยสุ อภิสทฺโท วตฺตตีติ กถเมตํ ยุชฺเชยฺยาติ เจ? อิธาปิ นตฺถิ โทโส ปูชนปริจฺเฉทนกิริยาทีปนโต, ตาหิ จ กิริยาหิ ราชวินยานํ ยุตฺตตฺตา, ตสฺมา เอตฺถ อติมาลาทีสุ อติสทฺโท วิย อภิสทฺโท สห สาธเนน กิริยํ วทตีติ อภิราชอภิวินยสทฺทา สิทฺธา, เอวํ อภิธมฺมสทฺเท อภิสทฺโท สห สาธเนน วุฑฺฒิยาทิกิริยํ ทีเปตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.

เอตฺถจาติ อภิธมฺเม. ภาเวตีติ จิตฺตสฺส วฑฺฒนํ วุตฺตํ. ผริตฺวาติ อารมฺมณสฺส วฑฺฒนํ วุตฺตํ. วุฑฺฒิมนฺโตติ ภาวนาผรณวุฑฺฒีหิ วุฑฺฒิมนฺโตปิ ธมฺมา วุตฺตาติ อตฺโถ. อารมฺมณาทีหีติ อารมฺมณสมฺปยุตฺตกมฺมทฺวารปฏิปทาทีหิ. ลกฺขณียตฺตาติ สฺชานิตพฺพตฺตา. เอกนฺตโต โลกุตฺตรธมฺมานํเยว ปูชารหตฺตา ‘‘เสกฺขา ธมฺมา’’ติอาทินา โลกุตฺตราเยว ปูชิตาติ ทสฺสิตา. สภาวปริจฺฉินฺนตฺตาติ ผุสนาทิสภาเวน ปริจฺฉินฺนตฺตา. อธิกาปิ ธมฺมา วุตฺตาติ เอตฺถ กามาวจเรหิ มหนฺตภาวโต มหคฺคตา ธมฺมาปิ อธิกา นาม โหนฺตีติ เตหิ สทฺธึ อธิกา ธมฺมา วุตฺตา.

ยํ ปเนตฺถ อวิสิฏฺนฺติ เอตฺถ วินยาทีสุ ตีสุ อฺมฺวิสิฏฺเสุ ยํ อวิสิฏฺํ สมานํ, ตํ ปิฏกสทฺทนฺติ อตฺโถ. วินยาทโย หิ ตโย สทฺทา อฺมฺํ อสาธารณตฺตา วิสิฏฺา นาม, ปิฏกสทฺโท ปน เตหิ ตีหิปิ สาธารณตฺตา อวิสิฏฺโติ วุจฺจติ. มา ปิฏกสมฺปทาเนนาติ ปาฬิสมฺปทานวเสน มา คณฺหถาติ วุตฺตํ โหติ. กุทาลฺจ ปิฏกฺจ กุทาลปิฏกํ. ตตฺถ กุ วุจฺจติ ปถวี, ตสฺสา ทาลนโต วิทาลนโต อโยมโย อุปกรณวิเสโส กุทาลํ นาม, ตาลปณฺณเวตฺตลตาทีหิ กโต ภาชนวิเสโส ปิฏกํ นาม, ตํ อาทาย คเหตฺวาติ อตฺโถ. ยถาวุตฺเตนาติ ‘‘เอวํ ทุวิธตฺเถนา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปกาเรน.

เทสนาสาสนกถาเภทนฺติ เอตฺถ กเถตพฺพานํ อตฺถานํ เทสกายตฺเตน อาณาทิวิธินา อภิสชฺชนํ ปโพธนํ เทสนา. สาสิตพฺพปุคฺคลคเตน ยถาปราธาทินา สาสิตพฺพภาเวน อนุสาสนํ วินยนํ สาสนํ. กเถตพฺพสฺส สํวราสํวราทิโน อตฺถสฺส กถนํ วจนปฏิพทฺธตากรณํ กถาติ วุจฺจติ. ตสฺมา เทสิตารํ ภควนฺตมเปกฺขิตฺวา เทสนา, สาสิตพฺพปุคฺคลวเสน สาสนํ, กเถตพฺพสฺส อตฺถสฺส วเสน กถาติ เอวเมตฺถ เทสนาทีนํ นานากรณํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ กิฺจาปิ เทสนาทโย เทเสตพฺพาทินิรเปกฺขา น โหนฺติ, อาณาทโย ปน วิเสสโต เทสกาทิอธีนาติ ตํตํวิเสสโยควเสน เทสนาทีนํ เภโท วุตฺโต. ตถา หิ อาณาวิธานํ วิเสสโต อาณารหาธีนํ ตตฺถ โกสลฺลโยคโต. เอวํ โวหารปรมตฺถวิธานานิ จ วิธายกาธีนานีติ อาณาทิวิธิโน เทสกายตฺตตา วุตฺตา. อปราธชฺฌาสยานุรูปํ วิย ธมฺมานุรูปมฺปิ สาสนํ วิเสสโต, ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลาเปกฺขนฺติ สาสิตพฺพปุคฺคลวเสน สาสนํ วุตฺตํ. สํวราสํวรนามรูปานํ วิย วินิเวเตพฺพาย ทิฏฺิยาปิ กถนํ สติ วาจาวตฺถุสฺมึ นาสตีติ วิเสสโต ตทธีนนฺติ กเถตพฺพสฺส อตฺถสฺส วเสน กถา วุตฺตา. เภทสทฺโท วิสุํ วิสุํ โยเชตพฺโพ ‘‘เทสนาเภทํ สาสนเภทํ กถาเภทฺจ ยถารหํ ปริทีปเย’’ติ. เภทนฺติ จ นานตฺตนฺติ อตฺโถ. เตสุ ปิฏเกสุ สิกฺขา จ ปหานานิ จ คมฺภีรภาโว จ สิกฺขาปหานคมฺภีรภาวํ, ตฺจ ยถารหํ ปริทีปเยติ อตฺโถ. ปริยตฺติเภทฺจ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ.

ปริยตฺติเภทนฺติ จ ปริยาปุณนเภทนฺติ อตฺโถ. ยหินฺติ ยสฺมึ วินยาทิเก ปิฏเก. ยํ สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ สมฺพนฺโธ. อถ วา ยํ ปริยตฺติเภทํ สมฺปตฺติฺจ วิปตฺติฺจาปิ ยหึ ยถา ปาปุณาติ, ตมฺปิ สพฺพํ วิภาวเยติ โยเชตพฺพํ. เอตฺถ ยถาติ เยหิ อุปารมฺภาทิเหตุปริยาปุณนาทิปฺปกาเรหิ อุปารมฺภนิสฺสรณธมฺมโกสกรกฺขณเหตุปริยาปุณนํ สุปฺปฏิปตฺติ ทุปฺปฏิปตฺตีติ เอเตหิ ปกาเรหีติ วุตฺตํ โหติ.

ปริทีปนา วิภาวนา จาติ เหฏฺา วุตฺตสฺส อนุรูปโต วุตฺตํ, อตฺถโต ปน เอกเมว. อาณารเหนาติ อาณํ เปตุํ อรหตีติ อาณารโห, ภควา. โส หิ สมฺมาสมฺพุทฺธตาย มหาการุณิกตาย จ อวิปรีตหิโตปเทสกภาเวน ปมาณวจนตฺตา อาณํ ปเณตุํ อรหติ, โวหารปรมตฺถานมฺปิ สมฺภวโต อาห ‘‘อาณาพาหุลฺลโต’’ติ. อิโต ปเรสุปิ เอเสว นโย.

ปมนฺติ วินยปิฏกํ. ปจุราปราธา เสยฺยสกตฺเถราทโย. เต หิ โทสพาหุลฺลโต ‘‘ปจุราปราธา’’ติ วุตฺตา. ปจุโร พหุโก พหุโล อปราโธ โทโส วีติกฺกโม เยสํ เต ปจุราปราธา. อเนกชฺฌาสยาติอาทีสุ อาสโยว อชฺฌาสโย. โส จ อตฺถโต ทิฏฺิ าณฺจ, ปเภทโต ปน จตุพฺพิธํ โหติ. ตถา หิ ปุพฺพจริยวเสน อายตึ สติ ปจฺจเย อุปฺปชฺชมานารหา สสฺสตุจฺเฉทสงฺขาตา มิจฺฉาทิฏฺิ สจฺจานุโลมิกาณกมฺมสฺสกตฺาณสงฺขาตา สมฺมาทิฏฺิ จ ‘‘อาสโย’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิ จ, ขนฺติ เจวานุโลมิกา;

ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสฺิต’’นฺติ.

อิทฺจ จตุพฺพิธํ อาสยนฺติ เอตฺถ สตฺตา นิวสนฺตีติ อาสโยติ วุจฺจติ. อนุสยา กามราคภวราคทิฏฺิปฏิฆวิจิกิจฺฉามานาวิชฺชาวเสน สตฺต. มูสิกวิสํ วิย การณลาเภ อุปฺปชฺชนารหา อนาคตา กิเลสา, อตีตา ปจฺจุปฺปนฺนา จ ตเถว วุจฺจนฺติ. น หิ กาลเภเทน ธมฺมานํ สภาวเภโท อตฺถีติ. จริยาติ ราคจริยาทิกา ฉ มูลจริยา, อนฺตรเภเทน อเนกวิธา, สํสคฺควเสน ปน เตสฏฺิ โหนฺติ. อถ วา จริยาติ จริตํ, ตํ สุจริตทุจฺจริตวเสน ทุวิธํ. ‘‘อธิมุตฺติ นาม ‘อชฺเชว ปพฺพชิสฺสามิ, อชฺเชว อรหตฺตํ คณฺหิสฺสามี’ติอาทินา ตนฺนินฺนภาเวน ปวตฺตมานํ สนฺนิฏฺาน’’นฺติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ปน ‘‘สตฺตานํ ปุพฺพจริยวเสน อภิรุจี’’ติ วุตฺตํ. สา ทุวิธา หีนปณีตเภเทน. ยถานุโลมนฺติ อชฺฌาสยาทีนํ อนุรูปํ. อหํ มมาติ สฺิโนติ ทิฏฺิมานตณฺหาวเสน อหํ มมาติ เอวํ ปวตฺตสฺิโน. ยถาธมฺมนฺติ นตฺเถตฺถ อตฺตา อตฺตนิยํ วา, เกวลํ ธมฺมมตฺตเมตนฺติ เอวํ ธมฺมสภาวานุรูปนฺติ อตฺโถ.

สํวราสํวโรติ เอตฺถ สํวรณํ สํวโร, กายวาจาหิ อวีติกฺกโม. มหนฺโต สํวโร อสํวโร. วุฑฺฒิอตฺโถ หิ อยํ อ-กาโร ยถา ‘‘อเสกฺขา ธมฺมา’’ติ, ตสฺมา ขุทฺทโก มหนฺโต จ สํวโรติ อตฺโถ. ทิฏฺิวินิเวนาติ ทิฏฺิยา วิโมจนํ. อธิสีลสิกฺขาทีนํ วิภาโค ปรโต ปมปาราชิกสํวณฺณนาย อาวิ ภวิสฺสติ. สุตฺตนฺตปาฬิยํ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา สมาธิเทสนาพาหุลฺลโต ‘‘สุตฺตนฺตปิฏเก อธิจิตฺตสิกฺขา’’ติ วุตฺตํ. วีติกฺกมปฺปหานํ กิเลสานนฺติ สํกิเลสธมฺมานํ กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรหิ วีติกฺกโม, ตสฺส ปหานํ. อนุสยวเสน สนฺตาเน อนุวตฺตนฺตา กิเลสา การณลาเภ ปริยุฏฺิตาปิ สีลเภทวเสน วีติกฺกมิตุํ น ลภนฺตีติ อาห ‘‘วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺสา’’ติ. ปริยุฏฺานปฺปหานนฺติ โอกาสทานวเสน กิเลสานํ จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา อุฏฺานํ ปริยุฏฺานํ, ตสฺส ปหานํ จิตฺตสนฺตาเนสุ อุปฺปตฺติวเสน กิเลสานํ ปริยุฏฺานสฺส ปหานนฺติ วุตฺตํ โหติ. อนุสยปฺปหานนฺติ อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน อนุ อนุ สยนกา การณลาเภ อุปฺปตฺติอรหา อนุสยา. เต ปน อนุรูปํ การณํ ลทฺธา อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา, เตสํ ปหานํ อนุสยปฺปหานํ. เต จ สพฺพโส อริยมคฺคปฺาย ปหียนฺตีติ อาห ‘‘อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺายา’’ติ.

ตทงฺคปฺปหานนฺติ ทีปาโลเกเนว ตมสฺส ทานาทิปุฺกิริยวตฺถุคเตน เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานํ ‘‘ตทงฺคปฺปหาน’’นฺติ วุจฺจติ. อิธ ปน เตน เตน สุสีลฺยงฺเคน ตสฺส ตสฺส ทุสฺสีลฺยงฺคสฺส ปหานํ ‘‘ตทงฺคปฺปหาน’’นฺติ เวทิตพฺพํ. วิกฺขมฺภนสมอุจฺเฉทปฺปหานานีติ เอตฺถ อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺตินิวารเณน ฆฏปฺปหาเรเนว ชลตเล เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณานํ ธมฺมานํ วิกฺขมฺภนวเสน ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต สนฺตาเน สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติสงฺขาตสมุจฺเฉทวเสน ปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ. ทุจฺจริตสํกิเลสสฺส ปหานนฺติ กายทุจฺจริตาทิ ทุฏฺุ จริตํ, กิเลเสหิ วา ทูสิตํ จริตนฺติ ทุจฺจริตํ. ตเทว ยตฺถ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺตานํ สมฺมา กิเลเสติ พาธยติ อุปตาเปติ จาติ สํกิเลโส, ตสฺส ปหานํ, กายวจีทุจฺจริตวเสน ปวตฺตสํกิเลสสฺส ตทงฺควเสน ปหานนฺติ วุตฺตํ โหติ. สมาธิสฺส กามจฺฉนฺทปฏิปกฺขตฺตา สุตฺตนฺตปิฏเก ตณฺหาสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ. อตฺตาทิวินิมุตฺตสภาวธมฺมปฺปกาสนโต อภิธมฺมปิฏเก ทิฏฺิสํกิเลสสฺส ปหานํ วุตฺตํ.

เอกเมกสฺมิฺเจตฺถาติ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ เอกเมกสฺมึ ปิฏเกติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ธมฺโมติ ปาฬีติ เอตฺถ ปกฏฺานํ อุกฺกฏฺานํ สีลาทิอตฺถานํ โพธนโต สภาวนิรุตฺติภาวโต พุทฺธาทีหิ ภาสิตตฺตา จ ปกฏฺานํ วจนปฺปพนฺธานํ อาฬีติ ปาฬิ, ปริยตฺติธมฺโม. ‘‘ธมฺโมติ ปาฬีติ เอตฺถ ภควตา วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส โวหารสฺส จ ทีปโน สทฺโทเยว ปาฬิ นามา’’ติ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อภิธมฺมฏฺกถาย ลิขิเต สีหฬคณฺิปเท ปน อิทํ วุตฺตํ – สภาวตฺถสฺส สภาวโวหารสฺส จ อนุรูปวเสน ภควตา มนสา ววตฺถาปิตา ปณฺฑตฺติ ปาฬีติ วุจฺจติ. ยทิ สทฺโทเยว ปาฬิ สิยา, ปาฬิยา เทสนาย จ นานตฺเตน ภวิตพฺพํ. มนสา ววตฺถาปิตาย จ ปาฬิยา วจีเภทกรณมตฺตํ เปตฺวา เทสนาย นานตฺตํ นตฺถิ. ตถา หิ เทสนํ ทสฺเสนฺเตน มนสา ววตฺถาปิตาย ปาฬิยา เทสนาติ วจีเภทกรณมตฺตํ วินา ปาฬิยา สห เทสนาย อนฺถา วุตฺตา. ตถา จ อุปริ ‘‘เทสนาติ ปฺตฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา เทสนาย อนฺภาเวน ปาฬิยา ปณฺณตฺติภาโว กถิโต โหติ. อปิจ ยทิ ปาฬิยา อฺาเยว เทสนา สิยา, ‘‘ปาฬิยา จ ปาฬิอตฺถสฺส จ เทสนาย จ ยถาภูตาวโพโธ’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา, เอวํ ปน อวตฺวา ‘‘ปาฬิยา จ ปาฬิอตฺถสฺส จ ยถาภูตาวโพโธ’’ติ วุตฺตตฺตา ปาฬิยา เทสนาย จ อนฺภาโว ทสฺสิโต โหติ. เอวฺจ กตฺวา อุปริ ‘‘เทสนา นาม ปฺตฺตี’’ติ ทสฺเสนฺเตน เทสนาย อนฺภาวโต ปาฬิยา ปณฺณตฺติภาโว กถิโตว โหตีติ.

เอตฺถ จ ‘‘สทฺโทเยว ปาฬิ นามา’’ติ อิมสฺมึ ปกฺเข ธมฺมสฺสปิ สทฺทสภาวตฺตา ธมฺมเทสนานํ โก วิเสโสติ เจ? เตสํ เตสํ อตฺถานํ โพธกภาเวน าโต อุคฺคหณาทิวเสน จ ปุพฺเพ ววตฺถาปิโต สทฺทปฺปพนฺโธ ธมฺโม, ปจฺฉา ปเรสํ อวโพธนตฺถํ ปวตฺติโต ตทตฺถปฺปกาสโก สทฺโท เทสนาติ เวทิตพฺพํ. อถ วา ยถาวุตฺตสทฺทสมุฏฺาปโก จิตฺตุปฺปาโท เทสนา ‘‘เทสียติ สมุฏฺาปียติ สทฺโท เอเตนา’’ติ กตฺวา มุสาวาทาทโย วิย. ตตฺถาปิ หิ มุสาวาทาทิสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาทาทิสทฺเทน โวหรียติ.

ตีสุปิ เจเตสุ เอเต ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธาติ เอตฺถ ปาฬิอตฺโถ ปาฬิเทสนา ปาฬิอตฺถปฏิเวโธ จาติ อิเม ตโย ปาฬิวิสยา โหนฺตีติ วินยปิฏกาทีนํ อตฺถสฺส เทสนาย ปฏิเวธสฺส จ อาธารภาโว ยุตฺโต, ปิฏกานิ ปน ปาฬิโยเยวาติ เตสํ ธมฺมสฺส อาธารภาโว กถํ ยุชฺเชยฺยาติ เจ? ปาฬิสมุทายสฺส อวยวปาฬิยา อาธารภาวโต. อวยวสฺส หิ สมุทาโย อาธารภาเวน วุจฺจติ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ. เอตฺถ จ ธมฺมาทีนํ ทุกฺโขคาหภาวโต เตหิ ธมฺมาทีหิ วินยาทโย คมฺภีราติ วินยาทีนมฺปิ จตุพฺพิโธ คมฺภีรภาโว วุตฺโตเยว, ตสฺมา ธมฺมาทโย เอว ทุกฺโขคาหตฺตา คมฺภีรา, น วินยาทโยติ น โจเทตพฺพเมตํ สมฺมุเขน วิสยวิสยีมุเขน จ วินยาทีนํเยว คมฺภีรภาวสฺส วุตฺตตฺตา. ธมฺโม หิ วินยาทโย, เตสํ วิสโย อตฺโถ, ธมฺมตฺถวิสยา จ เทสนาปฏิเวธาติ. ตตฺถ ปฏิเวธสฺส ทุกฺกรภาวโต ธมฺมตฺถานํ, เทสนาาณสฺส ทุกฺกรภาวโต เทสนาย จ ทุกฺโขคาหภาโว เวทิตพฺโพ. ปฏิเวธสฺส ปน อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ตํวิสยาณุปฺปตฺติยา จ ทุกฺกรภาวโต ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา. ทุกฺเขน โอคยฺหนฺตีติ ทุกฺโขคาหา. เอกเทเสน โอคาหนฺเตหิปิ มนฺทพุทฺธีหิ ปติฏฺา ลทฺธุํ น สกฺกาติ อาห ‘‘อลพฺภเนยฺยปติฏฺา จา’’ติ. เอกเมกสฺมินฺติ เอเกกสฺมึ ปิฏเก. เอตฺถาติ เอเตสุ ปิฏเกสุ. นิทฺธารเณ เจตํ ภุมฺมวจนํ.

อิทานิ เหตุเหตุผลาทีนํ วเสนปิ คมฺภีรภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิ. เหตูติ ปจฺจโย. โส หิ อตฺตโน ผลํ ทหติ วิทหตีติ ธมฺโมติ วุจฺจติ. ธมฺมสทฺทสฺส เจตฺถ เหตุปริยายตา กถํ วิฺายตีติ อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. นนุ จ ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอเตน วจเนน ธมฺมสฺส เหตุภาโว กถํ วิฺายตีติ เจ? ธมฺมปฏิสมฺภิทาติ เอตสฺส สมาสปทสฺส อวยวปทตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เหตุมฺหิ าณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา. ‘‘ธมฺเม ปฏิสมฺภิทา ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ เอตฺถ หิ ‘‘ธมฺเม’’ติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘เหตุมฺหี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ปฏิสมฺภิทา’’ติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘าณ’’นฺติ, ตสฺมา เหตุธมฺมสทฺทา เอกตฺถา าณปฏิสมฺภิทาสทฺทา จาติ อิมมตฺถํ วทนฺเตน สาธิโต ธมฺมสฺส เหตุภาโว. เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทาติ เอเตน วจเนน สาธิโต อตฺถสฺส เหตุผลภาโวปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ. เหตุโน ผลํ เหตุผลํ. ตฺจ ยสฺมา เหตุอนุสาเรน อรียติ อธิคมียติ สมฺปาปุณียติ, ตสฺมา อตฺโถติ วุจฺจติ.

ยถาธมฺมนฺติ เอตฺถ ธมฺมสทฺโท เหตุํ เหตุผลฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหาติ. สภาววาจโก เหส ธมฺมสทฺโท, น ปริยตฺติเหตุภาววาจโก, ตสฺมา ยถาธมฺมนฺติ โย โย อวิชฺชาทิสงฺขาราทิธมฺโม, ตสฺมึ ตสฺมินฺติ อตฺโถ. ธมฺมานุรูปํ วา ยถาธมฺมํ. เทสนาปิ หิ ปฏิเวโธ วิย อวิปรีตวิสยวิภาวนโต ธมฺมานุรูปํ ปวตฺตติ, ตโตเยว จ อวิปรีตาภิลาโปติ วุจฺจติ. ธมฺมาภิลาโปติ อตฺถพฺยฺชนโก อวิปรีตาภิลาโป. เอตฺถ จ อภิลปฺปตีติ อภิลาโปติ สทฺโท วุจฺจติ. เอเตน ‘‘ตตฺร ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๘) เอตฺถ วุตฺตํ ธมฺมนิรุตฺตึ ทสฺเสติ สทฺทสภาวตฺตา เทสนาย. ตถา หิ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทาย ปริตฺตารมฺมณาทิภาโว ปฏิสมฺภิทาวิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๗๑๘ อาทโย) วุตฺโต. อฏฺกถายฺจ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๘) ‘‘ตํ สภาวนิรุตฺตึ สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา’’ติอาทินา สทฺทารมฺมณตา ทสฺสิตา. ตถา หิ อิมสฺส อตฺถสฺส อยํ สทฺโท วาจโกติ วจนวจนตฺเถ ววตฺถเปตฺวา ตํตํวจนตฺถวิภาวนวเสน ปวตฺติโต สทฺโท เทสนาติ วุจฺจติ. อธิปฺปาโยติ เอเตน ‘‘เทสนาติ ปฺตฺตี’’ติ เอตํ วจนํ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาปํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตโต วินิมุตฺตํ ปฺตฺตึ สนฺธายาติ อธิปฺปายํ ทสฺเสติ. เทสียติ อตฺโถ เอเตนาติ หิ เทสนา, ปกาเรน าปียติ เอเตน, ปการโต าเปตีติ วา ปฺตฺตีติ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาโป วุจฺจติ. เอวํ ‘‘เทสนา นาม สทฺโท’’ติ อิมสฺมึ ปกฺเข อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘เทสนาติ ปฺตฺตี’’ติ เอตฺถ ปฺตฺติวาทิโน ปน เอวํ วทนฺติ – กิฺจาปิ ‘‘ธมฺมาภิลาโป’’ติ เอตฺถ อภิลปฺปตีติ อภิลาโปติ สทฺโท วุจฺจติ, น ปณฺณตฺติ, ตถาปิ สทฺเท วุจฺจมาเน ตทนุรูปํ โวหารํ คเหตฺวา เตน โวหาเรน ทีปิตสฺส อตฺถสฺส ชานนโต สทฺเท กถิเต ตทนุรูปา ปณฺณตฺติปิ การณูปจาเรน กถิตาเยว โหติ. อถ วา ‘‘ธมฺมาภิลาโปติ อตฺโถ’’ติ อวตฺวา ‘‘ธมฺมาภิลาโปติ อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตตฺตา เทสนา นาม สทฺโท น โหตีติ ทีปิตเมวาติ.

อิทานิ ปฏิเวธํ นิทฺทิสนฺโต อาห ‘‘ปฏิเวโธติ อภิสมโย’’ติ. ปฏิวิชฺฌตีติ าณํ ปฏิเวโธติ วุจฺจติ. ปฏิวิชฺฌนฺติ เอเตนาติ วา ปฏิเวโธ , อภิสเมตีติ อภิสมโย, อภิสเมนฺติ เอเตนาติ วา อภิสมโย. อิทานิ อภิสมยปฺปเภทโต อภิสมยปฺปการโต อารมฺมณโต สภาวโต จ ปากฏํ กาตุํ ‘‘โส จ โลกิยโลกุตฺตโร’’ติอาทิมาห. วิสยโต อสมฺโมหโต จ อวโพโธติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ วิสยโต อตฺถาทิอนุรูปํ ธมฺมาทีสุ อวโพโธ นาม อวิชฺชาทิธมฺมารมฺมโณ สงฺขาราทิอตฺถารมฺมโณ ตทุภยปฺาปนารมฺมโณ โลกิโย อวโพโธ. อสมฺโมหโต อตฺถาทิอนุรูปํ ธมฺมาทีสุ อวโพโธ ปน นิพฺพานารมฺมโณ มคฺคยุตฺโต ยถาวุตฺตธมฺมตฺถปฺตฺตีสุ สมฺโมหวิทฺธํสโน โลกุตฺตโร อภิสมโย. ตถา หิ ‘‘อยํ เหตุ, อิทมสฺส ผลํ, อยํ ตทุภยานุรูโป โวหาโร’’ติ เอวํ อารมฺมณกรณวเสน โลกิยาณํ วิสยโต ปฏิวิชฺฌติ, โลกุตฺตราณํ ปน เหตุเหตุผลาทีสุ สมฺโมหสฺส มคฺคาเณน สมุจฺฉินฺนตฺตา อสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌติ. อตฺถานุรูปํ ธมฺเมสูติ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, สงฺขาเร อุปฺปาเทติ อวิชฺชาติ เอวํ การิยานุรูปํ การเณสูติ อตฺโถ. อถ วา ปุฺาภิสงฺขารอปุฺาภิสงฺขารอาเนฺชาภิสงฺขาเรสุ ตีสุ อปุฺาภิสงฺขารสฺส สมฺปยุตฺตอวิชฺชา ปจฺจโย, อิตเรสํ ยถานุรูปนฺติอาทินา การิยานุรูปํ การเณสุ ปฏิเวโธติ อตฺโถ. ธมฺมานุรูปํ อตฺเถสูติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติอาทินา การณานุรูปํ การิเยสุ อวโพโธติ อตฺโถ. ปฺตฺติปถานุรูปํ ปฺตฺตีสูติ ปฺตฺติยา วุจฺจมานธมฺมานุรูปํ ปณฺณตฺตีสุ อวโพโธติ อตฺโถ.

ยถาวุตฺเตหิ ธมฺมาทีหิ ปิฏกานํ คมฺภีรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทานิ ยสฺมา เอเตสุ ปิฏเกสู’’ติอาทิมาห. ธมฺมชาตนฺติ การณปฺปเภโท การณเมว วา. อตฺถชาตนฺติ การิยปฺปเภโท การิยเมว วา. ยา จายํ เทสนาติ สมฺพนฺโธ. โย เจตฺถาติ เอตาสุ ตํตํปิฏกคตาสุ ธมฺมตฺถเทสนาสุ โย ปฏิเวโธติ อตฺโถ. ทุกฺโขคาหนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาสงฺขาราทีนํ ธมฺมตฺถานํ ทุปฺปฏิวิชฺฌตาย ทุกฺโขคาหตา. เตสํ ปฺาปนสฺส ทุกฺกรภาวโต เทสนาย ปฏิเวธนสงฺขาตสฺส ปฏิเวธสฺส จ อุปฺปาทนวิสยีกรณานํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทุกฺโขคาหตา เวทิตพฺพา. เอวมฺปีติ ปิสทฺโท ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการนฺตรํ สมฺปิณฺเฑติ. เอตฺถาติ เอเตสุ ตีสุ ปิฏเกสุ. วุตฺตตฺถาติ วุตฺโต สํวณฺณิโต อตฺโถ อสฺสาติ วุตฺตตฺถา.

ตีสุปิฏเกสูติ เอตฺถ ‘‘เอเกกสฺมิ’’นฺติ อธิการโต ปกรณโต วา เวทิตพฺพํ. ปริยตฺติเภโทติ ปริยาปุณนํ ปริยตฺติ. ปริยาปุณนวาจโก เหตฺถ ปริยตฺติสทฺโท, น ปาฬิปริยาโย, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ ‘‘ตีสุ ปิฏเกสุ เอเกกสฺมึ ปริยาปุณนปฺปกาโร ทฏฺพฺโพ าตพฺโพ’’ติ. ตโตเยว จ ‘‘ปริยตฺติโย ปริยาปุณนปฺปการา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อถ วา ตีหิ ปกาเรหิ ปริยาปุณิตพฺพา ปาฬิโย เอว ปริยตฺตีติ วุจฺจนฺติ, ตโตเยว จ ‘‘ปริยตฺติโย ปาฬิกฺกมา’’ติ อภิธมฺมฏฺกถาย ลิขิเต สีหฬคณฺิปเท วุตฺตํ. เอวมฺปิ หิ อลคทฺทูปมาปริยาปุณนโยคโต อลคทฺทูปมา ปริยตฺตีติ ปาฬิปิ สกฺกา วตฺตุํ, เอวฺจ กตฺวา ‘‘ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา อลคทฺทูปมา’’ติ ปรโต นิทฺเทสวจนมฺปิ อุปปนฺนํ โหติ. ตตฺถ หิ ปาฬิเยว ทุคฺคหิตา ปริยาปุฏาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อลคทฺทูปมาติ อลคทฺโท อลคทฺทคฺคหณํ อุปมา เอติสฺสาติ อลคทฺทูปมา. อลคทฺทสฺส คหณฺเหตฺถ อลคทฺทสทฺเทน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อาปูปิโก’’ติ เอตฺถ อปูปสทฺเทน อปูปขาทนํ วิย อลคทฺทคฺคหเณน คหิตปริยตฺติ อุปมียติ, น ปน อลคทฺเทน. ‘‘อลคทฺทคฺคหณูปมา’’ติ วา วตฺตพฺเพ มชฺเฌปทโลปํ กตฺวา ‘‘อลคทฺทูปมา’’ติ วุตฺตํ ‘‘โอฏฺมุโข’’ติอาทีสุ วิย. อลคทฺโทติ เจตฺถ อาสีวิโส วุจฺจติ. คโทติ หิ วิสสฺส นามํ. ตฺจ ตสฺส อลํ ปริปุณฺณํ อตฺถิ, ตสฺมา อลํ ปริยตฺโต ปริปุณฺโณ คโท อสฺสาติ อนุนาสิกโลปํ ทการาคมฺจ กตฺวา ‘‘อลคทฺโท’’ติ วุจฺจติ. อถ วา อลํ ชีวิตหรเณ สมตฺโถ คโท อสฺสาติ อลคทฺโท. นิสฺสรณตฺถาติ วฏฺฏทุกฺขโต นิสฺสรณํ อตฺโถ ปโยชนํ เอติสฺสาติ นิสฺสรณตฺถา. ภณฺฑาคาริกปริยตฺตีติ เอตฺถ ภณฺฑาคาเร นิยุตฺโต ภณฺฑาคาริโก, ภณฺฑาคาริโก วิย ภณฺฑาคาริโก, ธมฺมรตนานุปาลโก. อฺํ อตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ภณฺฑาคาริกสฺเสว สโต ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ.

ทุคฺคหิตาติ ทุฏฺุ คหิตา. ทุคฺคหิตภาวเมว วิภาเวนฺโต อาห ‘‘อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา’’ติ, อุปารมฺภา อิติวาทปฺปโมกฺขาทิเหตุ อุคฺคหิตาติ อตฺโถ. ลาภสกฺการาทิเหตุ ปริยาปุณนมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ อลคทฺทสุตฺตฏฺกถายํ (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๓๙) –

‘‘โย หิ พุทฺธวจนํ ‘เอวํ จีวราทีนิ วา ลภิสฺสามิ, จตุปริสมชฺเฌ วา มํ ชานิสฺสนฺตี’ติ ลาภสกฺการาทิเหตุ ปริยาปุณาติ, ตสฺส สา ปริยตฺติ อลคทฺทปริยตฺติ นาม. เอวํ ปริยาปุณนโต หิ พุทฺธวจนํ อปริยาปุณิตฺวา นิทฺโทกฺกมนํ วรตร’’นฺติ.

นนุ จ อลคทฺทคฺคหณูปมา ปริยตฺติ อลคทฺทูปมาติ วุจฺจติ, เอวฺจ สติ สุคฺคหิตาปิ ปริยตฺติ อลคทฺทูปมาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ ตตฺถาปิ อลคทฺทคฺคหณสฺส อุปมาภาเวน ปาฬิยํ วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อลคทฺทตฺถิโก อลคทฺทคเวสี อลคทฺทปริเยสนํ จรมาโน, โส ปสฺเสยฺย มหนฺตํ อลคทฺทํ, ตเมนํ อชปเทน ทณฺเฑน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺเหยฺย, อชปเทน ทณฺเฑน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา คีวาย สุคฺคหิตํ คณฺเหยฺย. กิฺจาปิ โส, ภิกฺขเว, อลคทฺโท ตสฺส ปุริสสฺส หตฺถํ วา พาหํ วา อฺตรํ วา องฺคปจฺจงฺคํ โภเคหิ ปลิเวเยฺย, อถ โข โส เนว ตโตนิทานํ มรณํ วา นิคจฺเฉยฺย มรณตฺตํ วา ทุกฺขํ. ตํ กิสฺส เหตุ, สุคฺคหิตตฺตา, ภิกฺขเว, อลคทฺทสฺส, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺเจ กุลปุตฺตา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ สุตฺตํ เคยฺย’’นฺติอาทิ (ม. นิ. ๑.๒๓๙).

ตสฺมา อิธ ทุคฺคหิตา เอว ปริยตฺติ อลคทฺทูปมาติ อยํ วิเสโส กุโต วิฺายติ, เยน ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา อลคทฺทูปมาติ วุจฺจตีติ? สจฺจเมตํ, อิทํ ปน ปาริเสสาเยน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิ นิสฺสรณตฺถภณฺฑาคาริกปริยตฺตีนํ วิสุํ คหิตตฺตา ปาริเสสโต อลคทฺทสฺส ทุคฺคหณูปมา ปริยตฺติ อลคทฺทูปมาติ วิฺายติ. สุคฺคหณูปมา หิ ปริยตฺติ นิสฺสรณตฺถา วา โหติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ วา, ตสฺมา สุวุตฺตเมตํ ‘‘ทุคฺคหิตา อุปารมฺภาทิเหตุ ปริยาปุฏา อลคทฺทูปมา’’ติ. ยํ สนฺธายาติ ยํ ปริยตฺติทุคฺคหณํ สนฺธาย. วุตฺตนฺติ อลคทฺทสุตฺเต วุตฺตํ.

อลคทฺทตฺถิโกติ อาสีวิสตฺถิโก. อลคทฺทํ คเวสติ ปริเยสติ สีเลนาติ อลคทฺทคเวสี. อลคทฺทปริเยสนํ จรมาโนติ อลคทฺทปริเยสนตฺถํ จรมาโน. โภเคติ สรีเร. หตฺเถ วา พาหายวาติ เอตฺถ มณิพนฺธโก ยาว อคฺคนขา ‘‘หตฺโถ’’ติ เวทิตพฺโพ, สทฺธึ อคฺคพาหาย อวเสสา ‘‘พาหา’’ติ. กตฺถจิ ปน ‘‘กปฺปรโต ปฏฺายปิ ยาว อคฺคนขา หตฺโถ’’ติ วุจฺจติ. อฺตรสฺมึ วา องฺคปจฺจงฺเคติ วุตฺตลกฺขณํ หตฺถฺจ พาหฺจ เปตฺวา อวเสสํ สรีรํ ‘‘องฺคปจฺจงฺค’’นฺติ เวทิตพฺพํ. ตโตนิทานนฺติ ตํนิทานํ, ตํการณาติ วุตฺตํ โหติ. ปุริมปเท หิ วิภตฺติอโลปํ กตฺวา นิทฺเทโส. ตํ หตฺถาทีสุ ฑํสนํ นิทานํ การณํ เอตสฺสาติ ตํนิทานนฺติ หิ วตฺตพฺเพ ‘‘ตโตนิทาน’’นฺติ ปุริมปเท ปจฺจตฺเต นิสฺสกฺกวจนํ กตฺวา ตสฺส จ โลปํ อกตฺวา นิทฺเทโส. ตํ กิสฺส เหตูติ ยํ วุตฺตํ หตฺถาทีสุ ฑํสนํ ตํนิทานฺจ มรณาทิอุปคมนํ, ตํ กิสฺส เหตุ เกน การเณนาติ เจ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. เอกจฺเจ โมฆปุริสาติ เอกจฺเจ ตุจฺฉปุริสา. ธมฺมนฺติ ปาฬิธมฺมํ. ปริยาปุณนฺตีติ อุคฺคณฺหนฺตีติ อตฺโถ, สชฺฌายนฺติ เจว วาจุคฺคตา กโรนฺตา ธาเรนฺติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถนฺติ ยถาภูตํ ภาสิตตฺถํ ปโยชนตฺถฺจ. น อุปปริกฺขนฺตีติ น ปริคฺคณฺหนฺติ น วิจาเรนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘อิมสฺมึ าเน สีลํ กถิตํ, อิธ สมาธิ, อิธ ปฺา กถิตา, มยฺจ ตํ ปูเรสฺสามา’’ติ เอวํ ภาสิตตฺถํ ปโยชนตฺถฺจ ‘‘สีลํ สมาธิสฺส การณํ, สมาธิ วิปสฺสนายา’’ติอาทินา น ปริคฺคณฺหนฺตีติ. อนุปปริกฺขตนฺติ อนุปปริกฺขนฺตานํ. น นิชฺฌานํ ขมนฺตีติ นิชฺฌานปฺํ นกฺขมนฺติ, นิชฺฌายิตฺวา ปฺาย ทิสฺวา โรเจตฺวา คเหตพฺพา น โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. เตน อิมมตฺถํ ทีเปติ ‘‘เตสํ ปฺาย อตฺถํ อนุปปริกฺขนฺตานํ เต ธมฺมา น อุปฏฺหนฺติ, ‘อิมสฺมึ าเน สีลํ, สมาธิ, วิปสฺสนา, มคฺโค, ผลํ, วฏฺฏํ, วิวฏฺฏํ กถิต’นฺติ เอวํ ชานิตุํ น สกฺกา โหนฺตี’’ติ.

เต อุปารมฺภานิสํสา เจวาติ เต ปเรสํ วาเท โทสาโรปนานิสํสา หุตฺวา ปริยาปุณนฺตีติ อตฺโถ. อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา จาติ อิติ เอวํ เอตาย ปริยตฺติยา วาทปฺปโมกฺขานิสํสา, อตฺตโน อุปริ ปเรหิ อาโรปิตวาทสฺส นิคฺคหสฺส ปโมกฺขปฺปโยชนา หุตฺวา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตีติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปเรหิ สกวาเท โทเส อาโรปิเต ตํ โทสํ เอวฺจ เอวฺจ โมเจสฺสามาติ อิมินา จ การเณน ปริยาปุณนฺตีติ. อถ วา โส โส วาโท อิติวาโท, อิติวาทสฺส ปโมกฺโข อิติวาทปฺปโมกฺโข, อิติวาทปฺปโมกฺโข อานิสํโส เอเตสนฺติ อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสา, ตํตํวาทปฺปโมจนานิสํสา จาติ อตฺโถ . ยสฺส จตฺถาย ธมฺมํ ปริยาปุณนฺตีติ ยสฺส จ สีลาทิปูรณสฺส มคฺคผลนิพฺพานสฺส วา อตฺถาย อิมสฺมึ สาสเน กุลปุตฺตา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ. ตฺจสฺส อตฺถํ นานุโภนฺตีติ ตฺจ อสฺส ธมฺมสฺส สีลาทิปริปูรณสงฺขาตํ อตฺถํ เอเต ทุคฺคหิตคาหิโน นานุโภนฺติ น วินฺทนฺติ.

อถ วา ยสฺส อุปารมฺภสฺส อิติวาทปฺปโมกฺขสฺส วา อตฺถาย เย โมฆปุริสา ธมฺมํ ปริยาปุณนฺติ, เต ปเรหิ ‘‘อยมตฺโถ น โหตี’’ติ วุตฺเต ทุคฺคหิตตฺตาเยว โสเยวตฺโถติ ปฏิปาทนกฺขมา น โหนฺตีติ ปรสฺส วาเท อุปารมฺภํ อาโรเปตุํ อตฺตโน วาทา ตํ โมเจตุฺจ อสกฺโกนฺตาปิ ตํ อตฺถํ นานุโภนฺติเยวาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตีติ เตสํ เต ธมฺมา ทุคฺคหิตตฺตา อุปารมฺภมานทปฺปมกฺขปลาสาทิเหตุภาเวน ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ. เอตฺถ หิ การเณ ผลโวหาเรน ‘‘เต ธมฺมา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ กิฺจาปิ น เต ธมฺมา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺติ, ตถาปิ วุตฺตนเยน ปริยาปุณนฺตานํ สชฺฌายกาเล วิวาทสมเย จ ตํมูลกานํ อุปารมฺภาทีนํ อเนเกสํ อกุสลานํ อุปฺปตฺติสพฺภาวโต ‘‘เต ธมฺมา อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนฺตี’’ติ การเณ ผลโวหาเรน วุตฺตํ. ตํ กิสฺส เหตูติ เอตฺถ นฺติ ยถาวุตฺตสฺสตฺถสฺส อนภิสมฺภุณนํ เตสฺจ ธมฺมานํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตนํ ปรามสติ.

สีลกฺขนฺธาทิปาริปูรึเยวาติ เอตฺถ อาทิสทฺเทน สมาธิวิปสฺสนาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. โย หิ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหิตฺวา สีลสฺส อาคตฏฺาเน สีลํ ปูเรตฺวา สมาธิโน อาคตฏฺาเน สมาธิคพฺภํ คณฺหาเปตฺวา วิปสฺสนาย อาคตฏฺาเน วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา มคฺคผลานํ อาคตฏฺาเน มคฺคํ ภาเวสฺสามิ, ผลํ สจฺฉิกริสฺสามีติ อุคฺคณฺหาติ, ตสฺเสว สา ปริยตฺติ นิสฺสรณตฺถา นาม โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ยํ ปริยตฺติสุคฺคหณํ สนฺธาย อลคทฺทสุตฺเต วุตฺตํ. ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺตีติ สีลาทีนํ อาคตฏฺาเน สีลาทีนิ ปูเรนฺตานมฺปิ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริสมชฺเฌ ธมฺมํ เทเสตฺวา ธมฺมเทสนาย ปสนฺเนหิ อุปนีเต จตฺตาโร ปจฺจเย ปริภุฺชนฺตานมฺปิ ปเรสํ วาเท สหธมฺเมน อุปารมฺภํ อาโรเปนฺตานมฺปิ สกวาทโต โทสํ หรนฺตานมฺปิ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขาย สํวตฺตนฺติ. ตถา หิ น เกวลํ สุคฺคหิตปริยตฺตึ นิสฺสาย มคฺคภาวนาผลสจฺฉิกิริยาทีเนว, ปรวาทนิคฺคหสกวาทปติฏฺาปนานิปิ อิชฺฌนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนํ ปรปฺปวาทํ สหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตฺวา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๖๘).

ปริฺาตกฺขนฺโธติ ทุกฺขปริชานเนน ปริฺาตกฺขนฺโธ. ปหีนกิเลโสติ สมุทยปฺปหาเนน ปหีนกิเลโส. ปฏิวิทฺธากุปฺโปติ ปฏิวิทฺธอรหตฺตผโล. น กุปฺปตีติ อกุปฺปนฺติ หิ อรหตฺตผลสฺเสตํ นามํ. สติปิ หิ จตุนฺนํ มคฺคานํ จตุนฺนฺจ ผลานํ อกุปฺปสภาเว สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ สกสกนามปริจฺจาเคน อุปรูปริ นามนฺตรปฺปตฺติโต เตสํ มคฺคผลานิ ‘‘อกุปฺปานี’’ติ น วุจฺจนฺติ, อรหา ปน สพฺพทาปิ อรหาเยว นามาติ ตสฺเสว ผลํ ‘‘อกุปฺป’’นฺติ วุตฺตํ. อิมินา จ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘ขีณาสวสฺเสว ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ นามา’’ติ. ตสฺส หิ อปริฺาตํ อปฺปหีนํ อภาวิตํ อสจฺฉิกตํ วา นตฺถิ, ตสฺมา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณนฺโต ตนฺติธารโก ปเวณีปาลโก วํสานุรกฺขโก จ หุตฺวา อุคฺคณฺหาติ. เตเนวาห ‘‘ปเวณีปาลนตฺถายา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปเวณีติ ธมฺมสนฺตติ, ธมฺมสฺส อวิจฺเฉเทน ปวตฺตีติ อตฺโถ. วํสานุรกฺขณตฺถายาติ พุทฺธสฺส ภควโต วํสานุรกฺขณตฺถํ. ตสฺส วํโสปิ อตฺถโต ปเวณีเยวาติ เวทิตพฺพํ.

นนุ จ ยทิ ปเวณีปาลนตฺถาย พุทฺธวจนสฺส ปริยาปุณนํ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ, กสฺมา ‘‘ขีณาสโว’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เอกจฺจสฺส ปุถุชฺชนสฺสปิ หิ อยํ นโย ลพฺภติ. ตถา หิ เอกจฺโจ ภิกฺขุ ฉาตกภยาทีสุ คนฺถธเรสุ เอกสฺมึ าเน วสิตุํ อสกฺโกนฺเตสุ สยํ ภิกฺขาจาเรน อกิลมมาโน อติมธุรํ พุทฺธวจนํ มา นสฺสตุ, ตนฺตึ ธาเรสฺสามิ, วํสํ เปสฺสามิ, ปเวณึ ปาเลสฺสามีติ ปริยาปุณาติ, ตสฺมา ตสฺสปิ ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ นาม กสฺมา น โหตีติ? วุจฺจเต – เอวํ สนฺเตปิ ปุถุชฺชนสฺส ปริยตฺติ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติ นาม น โหติ. กิฺจาปิ หิ ปุถุชฺชโน ‘‘ปเวณึ ปาเลสฺสามี’’ติ อชฺฌาสเยน ปริยาปุณาติ, อตฺตโน ปน ภวกนฺตารโต อนิตฺติณฺณตฺตา ตสฺส ปริยตฺติ นิสฺสรณปริยตฺติ นาม โหติ, ตสฺมา ปุถุชฺชนสฺส ปริยตฺติ อลคทฺทูปมา วา โหติ นิสฺสรณตฺถา วา, สตฺตนฺนํ เสกฺขานํ นิสฺสรณตฺถาว, ขีณาสวานํ ภณฺฑาคาริกปริยตฺติเยวาติ เวทิตพฺพํ. ขีณาสโว จ ภณฺฑาคาริกสทิสตฺตา ภณฺฑาคาริโกติ วุจฺจติ. ยถา หิ ภณฺฑาคาริโก อลงฺการภณฺฑํ ปฏิสาเมตฺวา ปสาธนกาเล ตทุปิยํ อลงฺการภณฺฑํ รฺโ อุปนาเมตฺวา อลงฺกโรติ, เอวํ ขีณาสโวปิ ธมฺมรตนภณฺฑํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา โมกฺขาธิคมสฺส ภพฺพรูเป สเหตุเก สตฺเต ปสฺสิตฺวา ตทนุรูปํ ธมฺมเทสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคาทิสงฺขาเตน โลกุตฺตเรน อลงฺกาเรน อลงฺกโรตีติ ภณฺฑาคาริโกติ วุจฺจติ.

เอวํ ติสฺโส ปริยตฺติโย วิภชิตฺวา อิทานิ ตีสุปิ ปิฏเกสุ ยถารหํ สมฺปตฺติวิปตฺติโย วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วินเย ปนา’’ติอาทิ. สีลสมฺปตฺตึ นิสฺสาย ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณาตีติอาทีสุ ยสฺมา สีลํ วิสุชฺฌมานํ สติสมฺปชฺพเลน กมฺมสฺสกตฺาณพเลน จ สํกิเลสมลโต วิสุชฺฌติ, ปาริปูริฺจ คจฺฉติ, ตสฺมา สีลสมฺปทา สิชฺฌมานา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติภาเวน สติพลํ าณพลฺจ ปจฺจุปฏฺเปตีติ ตสฺสา วิชฺชตฺตยูปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา สภาคเหตุสมฺปทานโต. สติพเลน หิ ปุพฺเพนิวาสวิชฺชาสิทฺธิ, สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺเจสุ สุทิฏฺการิตาปริจเยน จุตูปปาตาณานุพทฺธาย ทุติยวิชฺชาย สิทฺธิ, วีติกฺกมาภาเวน สํกิเลสปฺปหานสพฺภาวโต วิวฏฺฏูปนิสฺสยตาวเสน อชฺฌาสยสุทฺธิยา ตติยวิชฺชาสิทฺธิ. ปุเรตรสิทฺธานํ สมาธิปฺานํ ปาริปูรึ วินา สีลสฺส อาสวกฺขยาณูปนิสฺสยตา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสเวหิ ทีเปตพฺพา. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๙; ๓.๕; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔) วจนโต สมาธิสมฺปทา ฉฬภิฺตาย อุปนิสฺสโย. ‘‘โยคา เว ชายติ ภูรี’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒) วจนโต ปุพฺพโยเคน ครุวาสเทสภาสาโกสลฺลอุคฺคหณปริปุจฺฉาทีหิ จ ปริภาวิตา ปฺาสมฺปตฺติ ปฏิสมฺภิทาปฺปเภทสฺส อุปนิสฺสโย. เอตฺถ จ ‘‘สีลสมฺปตฺตึ นิสฺสายา’’ติ วุตฺตตฺตา ยสฺส สมาธิวิชมฺภนภูตา อนวเสสา ฉ อภิฺา น อิชฺฌนฺติ, ตสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน น สมาธิสมฺปทา อตฺถีติ สติปิ วิชฺชานํ อภิฺเกเทสภาเว สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา เอว ติสฺโส วิชฺชา คหิตา. ยถา หิ ปฺาสมฺปตฺติสมุทาคตา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺติ มคฺคกฺขเณ เอว ตาสํ ปฏิลภิตพฺพโต. เอวํ สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา ติสฺโส วิชฺชา สมาธิสมฺปตฺติสมุทาคตา จ ฉ อภิฺา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺตีติ มคฺคาธิคเมเนว ตาสํ อธิคโม เวทิตพฺโพ. ปจฺเจกพุทฺธานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานฺจ ปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิธมฺมสมธิคมสทิสา หิ อิเมสํ อริยานํ อิเม วิเสสาธิคมาติ.

ตาสํเยว จ ตตฺถ ปเภทวจนโตติ เอตฺถ ตาสํเยวาติ อวธารณํ ปาปุณิตพฺพานํ ฉฬภิฺาจตุปฏิสมฺภิทานํ วินเย ปเภทวจนาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ. เวรฺชกณฺเฑ หิ ติสฺโส วิชฺชาว วิภตฺตาติ. ทุติเย ตาสํเยวาติ อวธารณํ จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อเปกฺขิตฺวา กตํ, น ติสฺโส วิชฺชา. ตา หิ ฉสุ อภิฺาสุ อนฺโตคธตฺตา สุตฺเต วิภตฺตาเยวาติ. ตาสฺจาติ เอตฺถ -สทฺเทน เสสานมฺปิ ตตฺถ อตฺถิภาวํ ทีเปติ. อภิธมฺมปิฏเก หิ ติสฺโส วิชฺชา ฉ อภิฺา จตสฺโส จ ปฏิสมฺภิทา วุตฺตาเยว. ปฏิสมฺภิทานํ ปน อฺตฺถ ปเภทวจนาภาวํ ตตฺเถว จ สมฺมา วิภตฺตภาวํ ทีเปตุกาโม เหฏฺา วุตฺตนเยน อวธารณํ อกตฺวา ‘‘ตตฺเถวา’’ติ ปริวตฺเตตฺวา อวธารณํ เปสิ.

อิทานิ ‘‘วินเย ทุปฺปฏิปนฺโน ‘มุทุกานํ อตฺถรณาทีนํ สมฺผสฺโส วิย อิตฺถิสมฺผสฺโสปิ วฏฺฏตี’ติ เมถุนวีติกฺกเม โทสํ อทิสฺวา สีลวิปตฺตึ ปาปุณาตี’’ติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วินเย ปน ทุปฺปฏิปนฺโน’’ติอาทิ. ตตฺถ สุโข สมฺผสฺโส เอเตสนฺติ สุขสมฺผสฺสานิ, อตฺถรณปาวุรณาทีนิ. อุปาทินฺนผสฺโส อิตฺถิผสฺโส, เมถุนธมฺโมติ วุตฺตํ โหติ. วุตฺตมฺปิ เหตนฺติ อริฏฺเน ภิกฺขุนา วุตฺตํ. โส หิ พหุสฺสุโต ธมฺมกถิโก กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทอาณาวีติกฺกมวเสน ปฺจวิเธสุ อนฺตรายิเกสุ เสสนฺตรายิเก ชานาติ, วินเย ปน อโกวิทตฺตา ปณฺณตฺติวีติกฺกมนฺตรายิเก น ชานาติ, ตสฺมา รโหคโต เอวํ จินฺเตสิ ‘‘อิเม อคาริกา ปฺจ กามคุเณ ปริภุฺชนฺตา โสตาปนฺนาปิ สกทาคามิโนปิ อนาคามิโนปิ โหนฺติ. ภิกฺขูปิ มนาปิกานิ จกฺขุวิฺเยฺยานิ รูปานิ ปสฺสนฺติ…เป… กายวิฺเยฺเย โผฏฺพฺเพ ผุสนฺติ, มุทุกานิ อตฺถรณปาวุรณาทีนิ ปริภุฺชนฺติ, เอตํ สพฺพํ วฏฺฏติ, กสฺมา อิตฺถีนํเยว รูปสทฺทคนฺธรสโผฏฺพฺพา น วฏฺฏนฺติ, เอเตปิ วฏฺฏนฺตี’’ติ อนวชฺเชน ปจฺจยปริภุฺชนรเสน สาวชฺชกามคุณปริโภครสํ สํสนฺทิตฺวา สจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ นิจฺฉนฺทราคปริโภคฺจ เอกํ กตฺวา ถูลวาเกหิ สทฺธึ อติสุขุมสุตฺตํ ฆเฏนฺโต วิย สาสเปน สทฺธึ สิเนรุโน สทิสตํ อุปสํหรนฺโต วิย ปาปกํ ทิฏฺิคตํ อุปฺปาเทตฺวา ‘‘กึ ภควตา มหาสมุทฺทํ พนฺธนฺเตน วิย มหตา อุสฺสาเหน ปมปาราชิกํ ปฺตฺตํ, นตฺถิ เอตฺถ โทโส’’ติ สพฺพฺุตฺาเณน สทฺธึ ปฏิวิรุชฺฌนฺโต เวสารชฺชาณํ ปฏิพาหนฺโต อริยมคฺเค ขาณุกณฺฏกาทีนิ ปกฺขิปนฺโต ‘‘เมถุนธมฺเม โทโส นตฺถี’’ติ ชินสฺส อาณาจกฺเก ปหารมทาสิ. เตนาห ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามี’’ติอาทิ.

ตตฺถ อนฺตรายิกาติ ตํตํสมฺปตฺติยา วิพนฺธนวเสน สตฺตสนฺตานสฺส อนฺตเร เวมชฺเฌ เอติ อาคจฺฉตีติ อนฺตราโย, ทิฏฺธมฺมิกาทิอนตฺโถ. อนติกฺกมนฏฺเน ตสฺมึ อนฺตราเย นิยุตฺตา, อนฺตรายํ วา ผลํ อรหนฺติ, อนฺตรายสฺส วา กรณสีลาติ อนฺตรายิกา, สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกราติ วุตฺตํ โหติ. เต จ กมฺมกิเลสวิปากอุปวาทอาณาวีติกฺกมวเสน ปฺจวิธา. เตสํ วิตฺถารกถา ปรโต อริฏฺสิกฺขาปเท (ปาจิ. ๔๑๗) อาวิ ภวิสฺสติ. อยํ ปเนตฺถ ปทตฺถสมฺพนฺโธ – เย อิเม ธมฺมา อนฺตรายิกา อนฺตรายกราติ ภควตา วุตฺตา เทสิตา เจว ปฺตฺตา จ, เต ธมฺเม ปฏิเสวโต ปฏิเสวนฺตสฺส ยถา เยน ปกาเรน เต ธมฺมา อนฺตรายาย สคฺคโมกฺขานํ อนฺตรายกรณตฺถํ นาลํ สมตฺถา น โหนฺติ, ตถา เตน ปกาเรนาหํ ภควตา เทสิตํ ธมฺมํ อาชานามีติ. ตโต ทุสฺสีลภาวํ ปาปุณาตีติ ตโต อนวชฺชสฺีภาวเหตุโต วีติกฺกมิตฺวา ทุสฺสีลภาวํ ปาปุณาติ.

จตฺตาโรเม, ภิกฺขเวติอาทินา –

‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมึ. กตเม จตฺตาโร, อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน ปรหิตาย, ปรหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ, โน อตฺตหิตาย, เนว อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน โหติ โน ปรหิตาย, อตฺตหิตาย เจว ปฏิปนฺโน โหติ ปรหิตาย จา’’ติ (อ. นิ. ๔.๙๖; ปุ. ป. มาติกา, จตุกฺกอุทฺเทส ๒๔) –

อาทินา ปุคฺคลเทสนาปฏิสํยุตฺตสุตฺตนฺตปาฬึ นิทสฺเสติ. อธิปฺปายํ อชานนฺโตติ ‘‘อยํ ปุคฺคลเทสนา โวหารวเสน, น ปรมตฺถโต’’ติ เอวํ ภควโต อธิปฺปายํ อชานนฺโต. พุทฺธสฺส หิ ภควโต ทุวิธา เทสนา สมฺมุติเทสนา ปรมตฺถเทสนา จาติ. ตตฺถ ‘‘ปุคฺคโล สตฺโต อิตฺถี ปุริโส ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เทโว มาโร’’ติ เอวรูปา สมฺมุติเทสนา. ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ สติปฏฺานา’’ติ เอวรูปา ปรมตฺถเทสนา. ตตฺถ ภควา เย สมฺมุติวเสน เทสนํ สุตฺวา อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา โมหํ ปหาย วิเสสมธิคนฺตุํ สมตฺถา, เตสํ สมฺมุติเทสนํ เทเสติ. เย ปน ปรมตฺถวเสน เทสนํ สุตฺวา อตฺถํ ปฏิวิชฺฌิตฺวา โมหํ ปหาย วิเสสมธิคนฺตุํ สมตฺถา, เตสํ ปรมตฺถเทสนํ เทเสติ.

ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ เทสภาสากุสโล ติณฺณํ เวทานํ อตฺถสํวณฺณโก อาจริโย เย ทมิฬภาสาย วุตฺเต อตฺถํ ชานนฺติ, เตสํ ทมิฬภาสาย อาจิกฺขติ, เย อนฺธกภาสาทีสุ อฺตราย, เตสํ ตาย ภาสาย, เอวํ เต มาณวา เฉกํ พฺยตฺตํ อาจริยมาคมฺม ขิปฺปเมว สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺติ. ตตฺถ อาจริโย วิย พุทฺโธ ภควา, ตโย เวทา วิย กเถตพฺพภาเว ิตานิ ตีณิ ปิฏกานิ, เทสภาสาย โกสลฺลมิว สมฺมุติปรมตฺถโกสลฺลํ, นานาเทสภาสามาณวกา วิย สมฺมุติปรมตฺถวเสน ปฏิวิชฺฌนสมตฺถา เวเนยฺยสตฺตา, อาจริยสฺส ทมิฬภาสาทิอาจิกฺขนํ วิย ภควโต สมฺมุติปรมตฺถวเสนปิ เทสนา เวทิตพฺพา. อาห เจตฺถ –

‘‘ทุเว สจฺจานิ อกฺขาสิ, สมฺพุทฺโธ วทตํ วโร;

สมฺมุตึ ปรมตฺถฺจ, ตติยํ นูปลพฺภติ.

‘‘สงฺเกตวจนํ สจฺจํ, โลกสมฺมุติการณา;

ปรมตฺถวจนํ สจฺจํ, ธมฺมานํ ภูตการณา.

‘‘ตสฺมา โวหารกุสลสฺส, โลกนาถสฺส สตฺถุโน;

สมฺมุตึ โวหรนฺตสฺส, มุสาวาโท น ชายตี’’ติ. (ม. นิ. อฏฺ. ๑.๕๗; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๗๐);

อปิจ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ปุคฺคลกถํ กเถติ – หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถํ ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ อานนฺตริยทีปนตฺถํ พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถํ ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถฺจาติ. ‘‘ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ หิริยนฺติ โอตฺตปฺปนฺตี’’ติ วุตฺเต มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหมาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ หิริยนฺติ โอตฺตปฺปนฺติ นามา’’ติ. ‘‘อิตฺถี หิริยติ โอตฺตปฺปติ, ปุริโส ขตฺติโย พฺราหฺมโณ เทโว มาโร’’ติ วุตฺเต มหาชโน ชานาติ, น สมฺโมหมาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ, ตสฺมา ภควา หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา กมฺมสฺสกา ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘เวฬุวนาทโย มหาวิหารา ขนฺเธหิ การาปิตา, ธาตูหิ อายตเนหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา มาตรํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, ปิตรํ อรหนฺตํ, รุหิรุปฺปาทกมฺมํ สงฺฆเภทํ กโรนฺติ, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา อานนฺตริยทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ.

‘‘ขนฺธา เมตฺตายนฺติ, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา ทานํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหมาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตุโย อายตนานิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ นามา’’ติ. ‘‘ปุคฺคลา ปฏิคฺคณฺหนฺติ สีลวนฺโต กลฺยาณธมฺมา’’ติ วุตฺเต ปน ชานาติ, น สมฺโมหมาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ. ตสฺมา ภควา ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. โลกสมฺมุติฺจ พุทฺธา ภควนฺโต น วิชหนฺติ, โลกสมฺาย โลกนิรุตฺติยา โลกาภิลาเป ิตาเยว ธมฺมํ เทเสนฺติ. ตสฺมา ภควา โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถมฺปิ ปุคฺคลกถํ กเถติ , ตสฺมา อิมินา จ อธิปฺปาเยน ภควโต ปุคฺคลเทสนา, น ปรมตฺถเทสนาติ เอวํ อธิปฺปายํ อชานนฺโตติ วุตฺตํ โหติ.

ทุคฺคหิตํ คณฺหาตีติ ‘‘ตถาหํ ภควตา ธมฺมํ เทสิตํ อาชานามิ, ยถา ตเทวิทํ วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ, อนฺ’’นฺติอาทินา ทุคฺคหิตํ กตฺวา คณฺหาติ, วิปรีตํ คณฺหาตีติ วุตฺตํ โหติ. ทุคฺคหิตนฺติ หิ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส. ยํ สนฺธายาติ ยํ ทุคฺคหิตคาหํ สนฺธาย. อตฺตนา ทุคฺคหิเตน ธมฺเมนาติ ปาเสโส เวทิตพฺโพ. อถ วา ทุคฺคหณํ ทุคฺคหิตํ. อตฺตนาติ จ สามิอตฺเถ กรณวจนํ, ตสฺมา อตฺตโน ทุคฺคหเณน วิปรีตคาเหนาติ วุตฺตํ โหติ. อมฺเห เจว อพฺภาจิกฺขตีติ อมฺหากฺจ อพฺภาจิกฺขนํ กโรติ. อตฺตานฺจ ขนตีติ อตฺตโน กุสลมูลานิ ขนนฺโต อตฺตานํ ขนติ นาม.

ธมฺมจินฺตนฺติ ธมฺมสภาววิชานนํ. อติธาวนฺโตติ าตพฺพมริยาทายํ อฏฺตฺวา ‘‘จิตฺตุปฺปาทมตฺเตน ทานํ โหติ, สยเมว จิตฺตํ อตฺตโน อารมฺมณํ โหติ, สพฺพํ จิตฺตํ อสภาวธมฺมารมฺมณ’’นฺติ เอวมาทินา อติธาวนฺโต อติกฺกมิตฺวา ปวตฺตมาโน. จตฺตารีติ พุทฺธวิสยอิทฺธิวิสยกมฺมวิปากโลกวิสยสงฺขาตานิ จตฺตาริ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺยานิ น จินฺเตตพฺพานิ, ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. กตมานิ จตฺตาริ? พุทฺธานํ ภิกฺขเว พุทฺธวิสโย อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ, ยํ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺส. ฌายิสฺส, ภิกฺขเว, ฌานวิสโย อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ…เป… กมฺมวิปาโก, ภิกฺขเว, อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ…เป… โลกจินฺตา ภิกฺขเว อจินฺเตยฺยา น จินฺเตตพฺพา…เป… อิมานิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ อจินฺเตยฺยานิ น จินฺเตตพฺพานิ, ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗).

ตตฺถ ‘‘อจินฺเตยฺยานี’’ติ เตสํ สภาวนิทสฺสนํ. ‘‘น จินฺเตตพฺพานี’’ติ ตตฺถ กตฺตพฺพตานิทสฺสนํ. ตตฺถ อจินฺเตยฺยานีติ จินฺเตตุมสกฺกุเณยฺยานิ, จินฺเตตุํ อรหรูปานิ น โหนฺตีติ อตฺโถ. อจินฺเตยฺยตฺตา เอว น จินฺเตตพฺพานิ, กามํ อจินฺเตยฺยานิปิ ฉ อสาธารณาทีนิ อนุสฺสรนฺตสฺส กุสลุปฺปตฺติเหตุภาวโต ตานิ จินฺเตตพฺพานิ, อิมานิ ปน เอวํ น โหนฺตีติ อผลภาวโต น จินฺเตตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘ยานิ จินฺเตนฺโต อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ. เตสนฺติ เตสํ ปิฏกานํ.

เอตนฺติ เอตํ พุทฺธวจนํ. ติวคฺคสงฺคหานีติ สีลกฺขนฺธวคฺคมหาวคฺคปาถิกวคฺคสงฺขาเตหิ ตีหิ วคฺเคหิ สงฺคโห เอเตสนฺติ ติวคฺคสงฺคหานิ. จตุตฺตึเสว สุตฺตนฺตาติ คาถาย เอวมตฺถโยชนา เวทิตพฺพา – ยสฺส นิกายสฺส สุตฺตคณนาโต จตุตฺตึเสว จ สุตฺตนฺตา วคฺคสงฺคหวเสน ตโย วคฺคา อสฺส สงฺคหสฺสาติ ติวคฺโค สงฺคโห. เอส ปโม นิกาโย ทีฆนิกาโยติ อนุโลมิโก อปจฺจนีโก, อตฺถานุโลมนโต อนฺวตฺถนาโมติ วุตฺตํ โหติ.

อตฺถานุโลมนโต อนุโลมิโก, อนุโลมิกตฺตํเยว วิภาเวตุํ ‘‘กสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. เอกนิกายมฺปีติ เอกสมูหมฺปิ. เอวํ จิตฺตนฺติ เอวํ วิจิตฺตํ. ยถยิทนฺติ ยถา อิเม. โปณิกา จิกฺขลฺลิกา จ ขตฺติยา, เตสํ นิวาโส โปณิกนิกาโย จิกฺขลฺลิกนิกาโยติ วุจฺจติ. เอวมาทีนิ เจตฺถ สาธกานิ สาสนโต จ โลกโต จาติ เอวมาทีนิ อุทาหรณานิ เอตฺถ นิกายสทฺทสฺส สมูหนิวาสานํ วาจกภาเว สาสนโต จ โวหารโต จ สาธกานิ ปมาณานีติ อตฺโถ. เอตฺถ ปมมุทาหรณํ สาสนโต สาธกวจนํ, ทุติยํ โลกโตติ เวทิตพฺพํ.

ปฺจทสวคฺคสงฺคหานีติ มูลปริยายวคฺคาทีหิ ปฺจทสหิ วคฺเคหิ สงฺคโห เอเตสนฺติ ปฺจทสวคฺคสงฺคหานิ. ทิยฑฺฒสตํ ทฺเว จ สุตฺตานีติ อฑฺเฒน ทุติยํ ทิยฑฺฒํ, เอกํ สตํ ทฺเว ปฺาสสุตฺตานิ จาติ อตฺโถ. ยตฺถาติ ยสฺมึ นิกาเย. ปฺจทสวคฺคปริคฺคโหติ ปฺจทสหิ วคฺเคหิ ปริคฺคหิโต สงฺคหิโตติ อตฺโถ.

สุตฺตนฺตานํ สหสฺสานิ สตฺตสุตฺตสตานิ จาติ ปาเ สุตฺตนฺตานํ สตฺต สหสฺสานิ สตฺต สตานิ จาติ โยเชตพฺพํ. กตฺถจิ ปน ‘‘สตฺต สุตฺตสหสฺสานิ สตฺต สุตฺตสตานิ จา’’ติปิ ปาโ. สํยุตฺตสงฺคโหติ สํยุตฺตนิกายสฺส สงฺคโห.

ปุพฺเพ นิทสฺสิตาติ สุตฺตนฺตปิฏกนิทฺเทเส นิทสฺสิตา. วุตฺตเมว ปการนฺตเรน สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เปตฺวา จตฺตาโร นิกาเย อวเสสํ พุทฺธวจน’’นฺติ วุตฺตํ. สกลํ วินยปิฏกนฺติอาทินา นิทฺทิฏฺเมว หิ อิมินา ปการนฺตเรน สงฺขิปิตฺวา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘เปตฺวา จตุโรเปเต’’ติอาทิ. ตทฺนฺติ เตหิ จตูหิ นิกาเยหิ อฺํ อวเสสนฺติ อตฺโถ.

สพฺพเมวหิทนฺติ สพฺพเมว อิทํ พุทฺธวจนํ. นวปฺปเภทนฺติ เอตฺถ กถํ ปเนตํ นวปฺปเภทํ โหติ. ตถา หิ นวหิ องฺเคหิ ววตฺถิเตหิ อฺมฺสงฺกรรหิเตหิ ภวิตพฺพํ, ตถา จ สติ อสุตฺตสภาวาเนว เคยฺยงฺคาทีนิ สิยุํ, อถ สุตฺตสภาวาเนว เคยฺยงฺคาทีนิ, เอวํ สติ สุตฺตนฺติ วิสุํ สุตฺตงฺคเมว น สิยา, เอวํ สนฺเต อฏฺงฺคํ สาสนนฺติ อาปชฺชติ. อปิจ ‘‘สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณ’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. สุตฺตฺจ นาม สคาถกํ วา สิยา นิคฺคาถกํ วาติ องฺคทฺวเยเนว ตทุภยํ สงฺคหิตนฺติ ตทุภยวินิมุตฺตฺจ สุตฺตํ อุทานาทิวิเสสสฺารหิตํ นตฺถิ, ยํ สุตฺตงฺคํ สิยา, อถาปิ กถฺจิ วิสุํ สุตฺตงฺคํ สิยา, มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห วา น สิยา คาถาภาวโต ธมฺมปทาทีนํ วิย, เคยฺยงฺคสงฺคโห วา สิยา สคาถกตฺตา สคาถกวคฺคสฺส วิย, ตถา อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานนฺติ? วุจฺจเต –

สุตฺตนฺติ สามฺวิธิ, วิเสสวิธโย ปเร;

สนิมิตฺตา นิรุฬฺหตฺตา, สหตาฺเน นาฺโต.

ยถาวุตฺตสฺส โทสสฺส, นตฺถิ เอตฺถาวคาหณํ;

ตสฺมา อสงฺกรํเยว, นวงฺคํ สตฺถุสาสนํ.

สพฺพสฺสปิ หิ พุทฺธวจนสฺส สุตฺตนฺติ อยํ สามฺวิธิ. ตถา หิ ‘‘เอตฺตกํ ตสฺส ภควโต สุตฺตาคตํ สุตฺตปริยาปนฺนํ, สาวตฺถิยา สุตฺตวิภงฺเค, สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานี’’ติอาทิวจนโต วินยาภิธมฺมปริยตฺติวิเสเสสุปิ สุตฺตโวหาโร ทิสฺสติ. เตเนว จ อายสฺมา มหากจฺจาโน เนตฺติยํ (เนตฺติ. สงฺคหวาร) อาห – ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ. ตตฺถ หิ สุตฺตาทิวเสน นวงฺคสฺส สาสนสฺส ปริเยฏฺิ ปริเยสนา อตฺถวิจารณา ‘‘นววิธสุตฺตนฺตปริเยฏฺี’’ติ วุตฺตา. ตเทกเทเสสุ ปน เคยฺยาทโย วิเสสวิธโย เตน เตน นิมิตฺเตน ปติฏฺิตา. ตถา หิ เคยฺยสฺส สคาถกตฺตํ ตพฺภาวนิมิตฺตํ. โลเกปิ หิ สสิโลกํ สคาถกํ วา จุณฺณิยคนฺถํ ‘‘เคยฺย’’นฺติ วทนฺติ. คาถาวิรเห ปน สติ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตํ. ปุจฺฉาวิสชฺชนฺหิ ‘‘พฺยากรณ’’นฺติ วุจฺจติ. พฺยากรณเมว เวยฺยากรณํ. เอวํ สนฺเต สคาถกาทีนมฺปิ ปุจฺฉํ กตฺวา วิสชฺชนวเสน ปวตฺตานํ เวยฺยากรณภาโว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. เคยฺยาทิสฺานํ อโนกาสภาวโต สโอกาสโต อโนกาสวิธิ พลวาติ ‘‘คาถาวิรเห สตี’’ติ วิเสสิตตฺตา จ. ตถา หิ ธมฺมปทาทีสุ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ สคาถกตฺเตปิ โสมนสฺสาณมยิกคาถายุตฺเตสุ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิวจนสมฺพนฺเธสุ อพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺเตสุ จ สุตฺตวิเสเสสุ ยถากฺกมํ คาถาอุทานอิติวุตฺตกอพฺภุตธมฺมสฺา ปติฏฺิตา. เอตฺถ หิ สติปิ สฺนฺตรนิมิตฺตโยเค อโนกาสสฺานํ พลวภาเวเนว คาถาทิสฺา ปติฏฺิตา, ตถา สติปิ คาถาพนฺธภาเว ภควโต อตีตาสุ ชาตีสุ จริยานุภาวปฺปกาสเกสุ ชาตกสฺา ปติฏฺิตา, สติปิ ปฺหาวิสชฺชนภาเว สคาถกตฺเต จ เกสุจิ สุตฺตนฺเตสุ เวทสฺส ลภาปนโต เวทลฺลสฺา ปติฏฺิตาติ เอวํ เตน เตน สคาถกตฺตาทินา นิมิตฺเตน เตสุ เตสุ สุตฺตวิเสเสสุ เคยฺยาทิสฺา ปติฏฺิตาติ วิเสสวิธโย สุตฺตงฺคโต ปเร เคยฺยาทโย. ยํ ปเนตฺถ เคยฺยงฺคาทินิมิตฺตรหิตํ, ตํ สุตฺตงฺคํ วิเสสสฺาปริหาเรน สามฺสฺาย ปวตฺตนโต.

นนุ จ เอวํ สนฺเตปิ สคาถกํ สุตฺตํ เคยฺยํ, นิคฺคาถกํ สุตฺตํ เวยฺยากรณนฺติ สุตฺตงฺคํ น สมฺภวตีติ โจทนา ตทวตฺถา เอวาติ? น ตทวตฺถา. โสธิตตฺตา. โสธิตฺหิ ปุพฺเพ คาถาวิรเห สติ ปุจฺฉาวิสชฺชนภาโว เวยฺยากรณสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตนฺติ. ยฺจ วุตฺตํ ‘‘คาถาภาวโต มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห น สิยา’’ติ, ตํ น, นิรุฬฺหตฺตาติ. นิรุฬฺโห หิ มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตภาโว. น หิ ตานิ ธมฺมปทพุทฺธวํสาทโย วิย คาถาภาเวน ปฺาตานิ, อถ โข สุตฺตภาเวเนว. เตเนว หิ อฏฺกถายํ สุตฺตนามกนฺติ นามคฺคหณํ กตํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สคาถกตฺตา เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตมฺปิ นตฺถิ. ยสฺมา สหตาฺเน. สหภาโว หิ นาม อตฺถโต อฺเน โหติ, สห คาถาหีติ จ สคาถกํ. น จ มงฺคลสุตฺตาทีสุ คาถาวินิมุตฺโต โกจิ สุตฺตปฺปเทโส อตฺถิ, โย ‘‘สห คาถาหี’’ติ วุจฺเจยฺย. นนุ จ คาถาสมุทาโย คาถาหิ อฺโ โหติ, ตถา จ ตสฺส วเสน สห คาถาหีติ สคาถกนฺติ สกฺกา วตฺตุนฺติ? ตํ น. น หิ อวยววินิมุตฺโต สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. ยมฺปิ วุตฺตํ ‘‘อุภโตวิภงฺคาทีสุ สคาถกปฺปเทสานํ เคยฺยงฺคสงฺคโห สิยา’’ติ, ตมฺปิ น อฺโต. อฺาเยว หิ ตา คาถา ชาตกาทิปริยาปนฺนตฺตา. อโถ น ตาหิ อุภโตวิภงฺคาทีนํ เคยฺยงฺคภาโวติ เอวํ สุตฺตาทีนํ องฺคานํ อฺมฺสงฺกราภาโว เวทิตพฺโพ.

อิทานิ สุตฺตาทีนิ นวงฺคานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวารา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิทฺเทโส นาม สุตฺตนิปาเต –

‘‘กามํ กามยมานสฺส, ตสฺส เจตํ สมิชฺฌติ;

อทฺธา ปีติมโน โหติ, ลทฺธา มจฺโจ ยทิจฺฉตี’’ติ. (สุ. นิ. ๗๗๒) –

อาทินา อาคตสฺส อฏฺกวคฺคสฺส,

‘‘เกนสฺสุ นิวุโต โลโก, (อิจฺจายสฺมา อชิโต;)

เกนสฺสุ นปฺปกาสติ;

กิสฺสาภิเลปนํ พฺรูสิ,

กึสุ ตสฺส มหพฺภย’’นฺติ. (สุ. นิ. ๑๐๓๘) –

อาทินา อาคตสฺส ปารายนวคฺคสฺส,

‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,

อวิเหยํ อฺตรมฺปิ เตสํ;

น ปุตฺตมิจฺเฉยฺย กุโต สหายํ,

เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป’’ติ. (สุ. นิ. ๓๕) –

อาทินา อาคตสฺส ขคฺควิสาณสุตฺตสฺส จ ตทตฺถวิภาควเสน สตฺถุกปฺเปน อายสฺมตา ธมฺมเสนาปติสาริปุตฺตตฺเถเรน กโต นิทฺเทโส มหานิทฺเทโส จูฬนิทฺเทโสติ จ วุจฺจติ. เอวมิธ นิทฺเทสสฺส สุตฺตงฺคสงฺคโห ภทนฺตพุทฺธโฆสาจริเยน ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ. อฺตฺถาปิ จ ทีฆนิกายฏฺกถาทีสุ สพฺพตฺถ อุภโตวิภงฺคนิทฺเทสขนฺธกปริวาราติ นิทฺเทสสฺส สุตฺตงฺคสงฺคโห เอว ทสฺสิโต. อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรนปิ เนตฺติปกรณฏฺกถายํ เอวเมตสฺส สุตฺตงฺคสงฺคโหว กถิโต. เกจิ ปน นิทฺเทสสฺส คาถาเวยฺยากรณงฺเคสุ ทฺวีสุ สงฺคหํ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ นิทฺเทสอฏฺกถายํ อุปเสนตฺเถเรน

‘‘ตเทตํ วินยปิฏกํ สุตฺตนฺตปิฏกํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ ตีสุ ปิฏเกสุ สุตฺตนฺตปิฏกปริยาปนฺนํ, ทีฆนิกาโย มชฺฌิมนิกาโย สํยุตฺตนิกาโย องฺคุตฺตรนิกาโย ขุทฺทกนิกาโยติ ปฺจสุ มหานิกาเยสุ ขุทฺทกมหานิกาเย ปริยาปนฺนํ, สุตฺตํ เคยฺยํ เวยฺยากรณํ คาถา อุทานํ อิติวุตฺตกํ ชาตกํ อพฺภุตธมฺมํ เวทลฺลนฺติ นวสุ สตฺถุสาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ คาถาเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิต’’นฺติ (มหานิ. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา).

เอตฺถ ตาว กตฺถจิ ปุจฺฉาวิสชฺชนสภาวโต นิทฺเทเสกเทสสฺส เวยฺยากรณงฺคสงฺคโห ยุชฺชตุ นาม , คาถงฺคสงฺคโห ปน กถํ ยุชฺเชยฺยาติ อิทเมตฺถ วีมํสิตพฺพํ. ธมฺมปทาทีนํ วิย หิ เกวลํ คาถาพนฺธภาโว คาถงฺคสฺส ตพฺภาวนิมิตฺตํ. ธมฺมปทาทีสุ หิ เกวลํ คาถาพนฺเธสุ คาถาสมฺา ปติฏฺิตา, นิทฺเทเส จ น โกจิ เกวโล คาถาพนฺธปฺปเทโส อุปลพฺภติ. สมฺมาสมฺพุทฺเธน ภาสิตานํเยว หิ อฏฺกวคฺคาทิสงฺคหิตานํ คาถานํ นิทฺเทสมตฺตํ ธมฺมเสนาปตินา กตํ. อตฺถวิภชนตฺถํ อานีตาปิ หิ ตา อฏฺกวคฺคาทิสงฺคหิตา นิทฺทิสิตพฺพา มูลคาถาโย สุตฺตนิปาตปริยาปนฺนตฺตา อฺาเยวาติ น นิทฺเทสสงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ อุภโตวิภงฺคาทีสุ อาคตภาเวปิ ตํ โวหารํ อลภมานา ชาตกาทิคาถาปริยาปนฺนา คาถาโย วิย, ตสฺมา การณนฺตรเมตฺถ คเวสิตพฺพํ, ยุตฺตตรํ วา คเหตพฺพํ.

นาลกสุตฺตตุวฏฺฏกสุตฺตานีติ เอตฺถ นาลกสุตฺตํ นาม ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต สาวกํ โมเนยฺยปฏิปทํ ปฏิปนฺนํ ทิสฺวา ตทตฺถํ อภิกงฺขมาเนน ตโต ปภุติ กปฺปสตสหสฺสํ ปารมิโย ปูเรตฺวา อาคเตน อสิตสฺส อิสิโน ภาคิเนยฺเยน นาลกตฺเถเรน ธมฺมจกฺกปฺปวตฺติตทิวสโต สตฺตเม ทิวเส ‘‘อฺาตเมต’’นฺติอาทีหิ ทฺวีหิ คาถาหิ โมเนยฺยปฏิปทํ ปุฏฺเน ภควตา ‘‘โมเนยฺยํ เต อุปฺิสฺส’’นฺติอาทินา (สุ. นิ. ๗๐๖) นาลกตฺเถรสฺส ภาสิตํ โมเนยฺยปฏิปทาปริทีปกํ สุตฺตํ. ตุวฏฺฏกสุตฺตํ ปน มหาสมยสุตฺตนฺตเทสนาย สนฺนิปติเตสุ เทเวสุ ‘‘กา นุ โข อรหตฺตปฺปตฺติยา ปฏิปตฺตี’’ติ อุปฺปนฺนจิตฺตานํ เอกจฺจานํ เทวตานํ ตมตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘ปุจฺฉามิ ตํ อาทิจฺจพนฺธู’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๙๒๑; มหานิ. ๑๕๐ ) นิมฺมิตพุทฺเธน อตฺตานํ ปุจฺฉาเปตฺวา ‘‘มูลํ ปปฺจสงฺขายา’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๙๒๒) ภาสิตํ สุตฺตํ. เอวมิธสุตฺตนิปาเต อาคตานํ มงฺคลสุตฺตาทีนํ สุตฺตงฺคสงฺคโห ทสฺสิโต, ตตฺเถว อาคตานํ อสุตฺตนามิกานํ สุทฺธิกคาถานํ คาถงฺคสงฺคหฺจ ทสฺสยิสฺสติ, เอวํ สติ สุตฺตนิปาตฏฺกถารมฺเภ –

‘‘คาถาสตสมากิณฺโณ , เคยฺยพฺยากรณงฺกิโต;

กสฺมา สุตฺตนิปาโตติ, สงฺขเมส คโตติ เจ’’ติ. (สุ. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) –

สกลสฺสปิ สุตฺตนิปาตสฺส เคยฺยเวยฺยากรณงฺคสงฺคโห กสฺมา โจทิโตติ? นายํ วิโรโธ. เกวลฺหิ ตตฺถ โจทเกน สคาถกตฺตํ กตฺถจิ ปุจฺฉาวิสชฺชนมตฺตฺจ คเหตฺวา โจทนามตฺตํ กตนฺติ คเหตพฺพํ. อฺถา สุตฺตนิปาเต นิคฺคาถกสฺส สุตฺตสฺเสว อภาวโต เวยฺยากรณงฺคสงฺคโห น โจเทตพฺโพ สิยาติ. สคาถาวคฺโค เคยฺยนฺติ โยเชตพฺพํ. ‘‘อฏฺหิ องฺเคหิ อสงฺคหิตํ นาม ปฏิสมฺภิทาที’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺคสฺส เคยฺยเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหํ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทามคฺคฏฺกถายํ (ปฏิ. ม. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา) ‘‘นวสุ สตฺถุสาสนงฺเคสุ ยถาสมฺภวํ เคยฺยเวยฺยากรณงฺคทฺวยสงฺคหิต’’นฺติ.

โนสุตฺตนามิกาติ อสุตฺตนามิกา. ‘‘สุทฺธิกคาถา นาม วตฺถุคาถา’’ติ ตีสุ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ตตฺถ วตฺถุคาถาติ –

‘‘โกสลานํ ปุรา รมฺมา, อคมา ทกฺขิณาปถํ;

อากิฺจฺํ ปตฺถยาโน, พฺราหฺมโณ มนฺตปารคู’’ติ. (สุ. นิ. ๙๘๒) –

อาทินา ปารายนวคฺคสฺส นิทานํ อาโรเปนฺเตน อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน สงฺคีติกาเล วุตฺตา ฉปฺปฺาส จ คาถาโย, อานนฺทตฺเถเรเนว สงฺคีติกาเล นาลกสุตฺตสฺส นิทานํ อาโรเปนฺเตน วุตฺตา –

‘‘อานนฺทชาเต ติทสคเณ ปตีเต,

สกฺกฺจ อินฺทํ สุจิวสเน จ เทเว;

ทุสฺสํ คเหตฺวา อติริว โถมยนฺเต,

อสิโต อิสิ อทฺทส ทิวาวิหาเร’’ติ. (สุ. นิ. ๖๘๔) –

อาทิกา วีสติมตฺตา คาถาโย จ วุจฺจนฺติ. ตตฺถ ‘‘นาลกสุตฺตสฺส วตฺถุคาถาโย นาลกสุตฺตสงฺขฺยํเยว คจฺฉนฺตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ สุตฺตนิปาตฏฺกถายํ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.๖๘๕) –

‘‘ปรินิพฺพุเต ปน ภควติ สงฺคีตึ กโรนฺเตน อายสฺมตา มหากสฺสเปน อายสฺมา อานนฺโท ตเมว โมเนยฺยปฏิปทํ ปุฏฺโ เยน ยทา จ สมาทปิโต นาลโก ภควนฺตํ ปุจฺฉิ, ตํ สพฺพํ ปากฏํ กตฺวา ทสฺเสตุกาโม ‘อานนฺทชาเต’ติอาทิกา วีสติ วตฺถุคาถาโย วตฺวา อภาสิ. ตํ สพฺพมฺปิ นาลกสุตฺตนฺติ วุจฺจตี’’ติ.

ตสฺมา นาลกสุตฺตสฺส วตฺถุคาถาโย นาลกสุตฺตคฺคหเณเนว สงฺคหิตาติ ปารายนิกวคฺคสฺส วตฺถุคาถาโย อิธ สุทฺธิกคาถาติ คเหตพฺพํ. ตตฺเถว ปนสฺส ปารายนิยวคฺเค อชิตมาณวกาทีนํ โสฬสนฺนํ พฺราหฺมณานํ ปุจฺฉาคาถา ภควโต วิสชฺชนคาถา จ อิธ สุทฺธิกคาถาติ เอวมฺปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ. ตาปิ หิ ปาฬิยํ สุตฺตนาเมน อวตฺวา ‘‘อชิตมาณวกปุจฺฉา ติสฺสเมตฺตยฺยมาณวกปุจฺฉา’’ติอาทินา (สุ. นิ. ๑๐๓๘-๑๐๔๘) อาคตตฺตา จุณฺณิยคนฺเถหิ อมิสฺสตฺตา จ โนสุตฺตนามิกา สุทฺธิกคาถา นามาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.

อิทานิ อุทานํ สรูปโต ววตฺถเปนฺโต อาห ‘‘โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตา’’ติอาทิ. เกนฏฺเน (อุทา. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา) ปเนตํ ‘‘อุทาน’’นฺติ วุจฺจติ? อุทานนฏฺเน. กิมิทํ อุทานํ นาม? ปีติเวคสมุฏฺาปิโต อุทาหาโร. ยถา หิ ยํ เตลาทิ มินิตพฺพวตฺถุ มานํ คเหตุํ น สกฺโกติ, วิสฺสนฺทิตฺวา คจฺฉติ, ตํ ‘‘อวเสโก’’ติ วุจฺจติ, ยฺจ ชลํ ตฬากํ คเหตุํ น สกฺโกติ, อชฺโฌตฺถริตฺวา คจฺฉติ, ตํ ‘‘มโหโฆ’’ติ วุจฺจติ, เอวเมว ยํ ปีติเวคสมุฏฺาปิตํ วิตกฺกวิปฺผารํ หทยํ สนฺธาเรตุํ น สกฺโกติ, โส อธิโก หุตฺวา อนฺโต อสณฺหิตฺวา พหิ วจีทฺวาเรน นิกฺขนฺโต ปฏิคฺคาหกนิรเปกฺโข อุทาหารวิเสโส ‘‘อุทาน’’นฺติ วุจฺจติ. ธมฺมสํเวควเสนปิ อยมากาโร ลพฺภเตว. ตยิทํ กตฺถจิ คาถาพนฺธวเสน กตฺถจิ วากฺยวเสน ปวตฺตํ. ตถา หิ –

‘‘เตน โข ปน สมเยน ภควา ภิกฺขู นิพฺพานปฏิสํยุตฺตาย ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสติ สมาทเปติ สมุตฺเตเชติ สมฺปหํเสติ. เตธ ภิกฺขู อฏฺึ กตฺวา มนสิ กตฺวา สพฺพํ เจตสา สมนฺนาหริตฺวา โอหิตโสตา ธมฺมํ สุณนฺติ. อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ ‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี น อาโป’’’ติ (อุทา. ๗๑-๗๒) –

อาทีสุ โสมนสฺสาณสมุฏฺิตวากฺยวเสน ปวตฺตํ.

นนุ จ อุทานํ นาม ปีติโสมนสฺสสมุฏฺาปิโต ธมฺมสํเวคสมุฏฺาปิโต วา ธมฺมปฏิคฺคาหกนิรเปกฺโข อุทาหาโร ตถา เจว สพฺพตฺถ อาคตํ, อิธ กสฺมา ภควา อุทาเนนฺโต ภิกฺขู อามนฺเตสีติ? เตสํ ภิกฺขูนํ สฺาปนตฺถํ. นิพฺพานปฏิสํยุตฺตฺหิ ภควา เตสํ ภิกฺขูนํ ธมฺมํ เทเสตฺวา นิพฺพานคุณานุสฺสรเณน อุปฺปนฺนปีติโสมนสฺเสน อุทานํ อุทาเนนฺโต ‘‘อิธ นิพฺพานวชฺโช สพฺโพ สภาวธมฺโม ปจฺจยายตฺตวุตฺติโกว อุปลพฺภติ, น ปจฺจยนิรเปกฺโข, อยํ ปน นิพฺพานธมฺโม กถมปฺปจฺจโย อุปลพฺภตี’’ติ เตสํ ภิกฺขูนํ เจโตปริวิตกฺกมฺาย เตสํ าเปตุกาโม ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตน’’นฺติ (อุทา. ๗๑)-อาทิมาห. น เอกนฺตโต เต ปฏิคฺคาหเก กตฺวาติ เวทิตพฺพํ.

‘‘สเจ ภายถ ทุกฺขสฺส, สเจ โว ทุกฺขมปฺปิยํ;

มากตฺถ ปาปกํ กมฺมํ, อาวิ วา ยทิ วา รโห’’ติ. (อุทา. ๔๔) –

เอวมาทิกํ ปน ธมฺมสํเวควสปฺปวตฺตํ อุทานนฺติ เวทิตพฺพํ.

‘‘สุขกามานิ ภูตานิ, โย ทณฺเฑน วิหึสติ;

อตฺตโน สุขเมสาโน, เปจฺจ โส น ลภเต สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๓๑; อุทา. ๑๓) –

อิทมฺปิ ธมฺมสํเวควสปฺปวตฺตํ อุทานนฺติ วทนฺติ. ตถา หิ เอกสฺมึ สมเย สมฺพหุลา โคปาลกา อนฺตรา จ สาวตฺถึ อนฺตรา จ เชตวนํ อหึ ทณฺเฑหิ หนนฺติ. เตน จ สมเยน ภควา สาวตฺถึ ปิณฺฑาย คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เต ทารเก อหึ ทณฺเฑน หนนฺเต ทิสฺวา ‘‘กสฺมา กุมารกา อิมํ อหึ ทณฺเฑน หนถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ฑํสนภเยน ภนฺเต’’ติ จ วุตฺเต ‘‘อิเม ‘อตฺตโน สุขํ กริสฺสามา’ติ อิมํ ปหรนฺตา นิพฺพตฺตฏฺาเน ทุกฺขํ อนุภวิสฺสนฺติ, อโห อวิชฺชาย นิกติโกสลฺล’’นฺติ ธมฺมสํเวคํ อุปฺปาเทสิ. เตเนว จ ธมฺมสํเวเคน อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ. เอวเมตํ กตฺถจิ คาถาพนฺธวเสน กตฺถจิ วากฺยวเสน กตฺถจิ โสมนสฺสวเสน กตฺถจิ ธมฺมสํเวควเสน ปวตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘โสมนสฺสาณมยิกคาถาปฏิสํยุตฺตานี’’ติ ยํ อุทานลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. เยภุยฺเยน หิ อุทานํ คาถาพนฺธวเสน ภาสิตํ ปีติโสมนสฺสสมุฏฺาปิตฺจ.

ตยิทํ สพฺพฺุพุทฺธภาสิตํ ปจฺเจกพุทฺธภาสิตํ สาวกภาสิตนฺติ ติวิธํ โหติ. ตตฺถ ปจฺเจกพุทฺธภาสิตํ –

‘‘สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ,

อวิเหยํ อฺตรมฺปิ เตส’’นฺติ. –

อาทินา ขคฺควิสาณสุตฺเต (สุ. นิ. ๓๕) อาคตเมว. สาวกภาสิตานิปิ –

‘‘สพฺโพ ราโค ปหีโน เม, สพฺโพ โทโส สมูหโต;

สพฺโพ เม วิหโต โมโห, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต’’ติ. –

อาทินา เถรคาถาสุ (เถรคา. ๗๙),

‘‘กาเยน สํวุตา อาสึ, วาจาย อุท เจตสา;

สมูลํ ตณฺหมพฺภุยฺห, สีติภูตามฺหิ นิพฺพุตา’’ติ. –

เถริคาถาสุ (เถรีคา. ๑๕) จ อาคตานิ. อฺานิปิ สกฺกาทีหิ เทเวหิ ภาสิตานิ ‘‘อโห ทานํ ปรมทานํ กสฺสเป สุปติฏฺิต’’นฺติอาทีนิ (อุทา. ๒๗), โสณทณฺฑพฺราหฺมณาทีหิ มนุสฺเสหิ จ ภาสิตานิ ‘‘นโม ตสฺส ภควโต’’ติอาทีนิ (ที. นิ. ๒.๓๗๑; ม. นิ. ๑.๒๙๐) ติสฺโส สงฺคีติโย อารุฬฺหานิ อุทานานิ สนฺติ เอว, น ตานิ อิธ อธิปฺเปตานิ. ยานิ ปน สมฺมาสมฺพุทฺเธน สามํ อาหจฺจภาสิตานิ ชินวจนภูตานิ, ตาเนว จ ธมฺมสงฺคาหเกหิ ‘‘อุทาน’’นฺติ สงฺคีตํ. เอตานิเยว จ สนฺธาย ภควโต ปริยตฺติธมฺมํ นววิธา วิภชิตฺวา อุทฺทิสนฺเตน อุทานนฺติ วุตฺตํ.

ยา ปน ‘‘อเนกชาติสํสาร’’นฺติอาทิคาถา ภควตา โพธิยา มูเล อุทานวเสน ปวตฺติตา อเนกสตสหสฺสานํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อุทานภูตา จ, ตา อปรภาเค ธมฺมภณฺฑาคาริกสฺส ภควตา เทสิตตฺตา ธมฺมสงฺคาหเกหิ อุทานปาฬิยํ สงฺคหํ อนาโรเปตฺวา ธมฺมปเท สงฺคหิตา. ยฺจ ‘‘อฺาสิ วต โภ โกณฺฑฺโ’’ติ อุทานวจนํ ทสสหสฺสิโลกธาตุยา เทวมนุสฺสานํ ปเวทนสมตฺถนิคฺโฆสวิปฺผารํ ภควตา ภาสิตํ, ตทปิ ปมโพธิยํ สพฺเพสํ เอว ภิกฺขูนํ สมฺมาปฏิปตฺติปจฺจเวกฺขณเหตุกํ ‘‘อาราธยึสุ วต มํ ภิกฺขู เอกํ สมย’’นฺติอาทิวจนํ (ม. นิ. ๑.๒๒๕) วิย ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนสุตฺตเทสนาปริโยสาเน อตฺตนา อธิคตธมฺเมกเทสสฺส ยถาเทสิตสฺส อริยมคฺคสฺส สาวเกสุ สพฺพปมํ เถเรน อธิคตตฺตา อตฺตโน ปริสฺสมสฺส สผลภาวปจฺจเวกฺขณเหตุกํ ปีติโสมนสฺสชนิตํ อุทาหารมตฺตาํ, น ‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา’’ติอาทิวจนํ (มหาว. ๑-๓; อุทา. ๑-๓) วิย ปวตฺติยา นิวตฺติยา วา ปกาสนนฺติ น ธมฺมสงฺคาหเกหิ อุทานปาฬิยํ สงฺคีตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อุทานปาฬิยฺจ โพธิวคฺคาทีสุ อฏฺสุ วคฺเคสุ ทส ทส กตฺวา อสีติเยว สุตฺตนฺตา สงฺคีตา , ตโตเยว จ อุทานฏฺกถายํ (อุทา. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา) อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ –

‘‘อสีติ เอว สุตฺตนฺตา, วคฺคา อฏฺ สมาสโต;

คาถา จ ปฺจนวุติ, อุทานสฺส ปกาสิตา.

‘‘อฑฺฒูนนวมตฺตา จ, ภาณวารา ปมาณโต;

เอกาธิกา ตถาสีติ, อุทานสฺสานุสนฺธโย.

‘‘เอกวีสสหสฺสานิ, สตเมว วิจกฺขโณ;

ปทาเนตานุทานสฺส, คณิตานิ วินิทฺทิเส. –

คาถาปาทโต ปน –

‘‘อฏฺสหสฺสมตฺตานิ, จตฺตาเรว สตานิ จ;

ปทาเนตานุทานสฺส, เตวีสติ จ นิทฺทิเส.

‘‘อกฺขรานํ สหสฺสานิ, สฏฺิ สตฺต สตานิ จ;

ตีณิ ทฺวาสีติ จ ตถา, อุทานสฺส ปเวทิตา’’ติ.

อิธ ปน ‘‘ทฺวาสีติ สุตฺตนฺตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ น สเมติ, ตสฺมา ‘‘อสีติ สุตฺตนฺตา’’ติ ปาเน ภวิตพฺพํ.

วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ. เอกธมฺมํ, ภิกฺขเว, ปชหถ, อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตาย. กตมํ เอกธมฺมํ? โลภํ, ภิกฺขเว, เอกธมฺมํ ปชหถ, อหํ โว ปาฏิโภโค อนาคามิตายา’’ติ เอวมาทินา เอกกทุกติกจตุกฺกวเสน อิติวุตฺตกปาฬิยํ (อิติวุ. ๑) สงฺคหมาโรปิตานิ ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตานิ อิติวุตฺตกํ นามาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ. ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตาติ เอตฺถาปิ ‘‘ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา’’ติ ปาเน ภวิตพฺพํ. ตถา หิ เอกกนิปาเต ตาว สตฺตวีสติ สุตฺตานิ, ทุกนิปาเต ทฺวาวีสติ, ติกนิปาเต ปฺาส, จตุกฺกนิปาเต เตรสาติ ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตาเนว อิติวุตฺตกปาฬิยํ อาคตานิ. ตโตเยว จ ปาฬิยํ –

‘‘โลโภ โทโส จ โมโห จ,

โกโธ มกฺเขน ปฺจมํ;

มาโน สพฺพํ ปุน มาโน,

โลโภ โทเสน เตรส.

‘‘โมโห โกโธ ปุน มกฺโข,

นีวรณา ตณฺหาย ปฺจมํ;

ทฺเว เสกฺขเภทา สามคฺคี,

ปทุฏฺนิรเยน เตรส.

‘‘ปสนฺนา เอกมาภายิ, ปุคฺคลํ อตีเตน ปฺจมํ;

เอวฺเจ โอปธิกํ ปุฺํ, สตฺตวีส ปกาสิตา’’ติ. –

เอวมาทินา อุทฺทานคาถาหิ ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตานิ คเณตฺวา ทสฺสิตานิ. เตเนว จ อฏฺกถายมฺปิ (อิติวุ. อฏฺ. คนฺถารมฺภกถา) –

‘‘สุตฺตโต เอกกนิปาเต ตาว สตฺตวีสติ สุตฺตานิ, ทุกนิปาเต ทฺวาวีสติ, ติกนิปาเต ปฺาส, จตุกฺกนิปาเต เตรสาติ ทฺวาทสาธิกสตสุตฺตสงฺคห’’นฺติ –

วุตฺตํ. กามฺเจตฺถ อปฺปกํ อูนมธิกํ วา คณนูปคํ น โหตีติ กตฺวา ‘‘ทฺวาสีติ ขนฺธกวตฺตานี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘อสีติ ขนฺธกวตฺตานี’’ติ วุตฺตวจนํ วิย ‘‘ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘ทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา’’ติ วุตฺตนฺติปิ สกฺกา วตฺตุํ, ตถาปิ อีทิเส าเน ปมาณํ ทสฺเสนฺเตน ยาถาวโตว นิยเมตฺวา ทสฺเสตพฺพนฺติ ‘‘ทฺวาทสุตฺตรสตสุตฺตนฺตา’’ อิจฺเจว ปาเน ภวิตพฺพํ.

ชาตํ ภูตํ ปุราวุตฺถํ ภควโต ปุพฺพจริตํ กายติ กเถติ ปกาเสตีติ ชาตกํ.

‘‘จตฺตาโรเม , ภิกฺขเว, อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท. กตเม จตฺตาโร? สเจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺถ เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ, อติตฺตาว, ภิกฺขเว, ภิกฺขุปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ. สเจ ภิกฺขุนีปริสา…เป… อุปาสกปริสา…เป… อุปาสิกา ปริสา อานนฺทํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมติ, ทสฺสเนนปิ สา อตฺตมนา โหติ. ตตฺถ เจ อานนฺโท ธมฺมํ ภาสติ, ภาสิเตนปิ สา อตฺตมนา โหติ, อติตฺตาว, ภิกฺขเว, อุปาสิกาปริสา โหติ, อถ อานนฺโท ตุณฺหี ภวติ. อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร อจฺฉริยา อพฺภุตา ธมฺมา อานนฺเท’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๒๙) เอวมาทินยปฺปวตฺตา สพฺเพปิ อจฺฉริยอพฺภุตธมฺมปฏิสํยุตฺตา สุตฺตนฺตา อพฺภุตธมฺมํ นามาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว’’ติอาทิ.

จูฬเวทลฺลาทีสุ (ม. นิ. ๑.๔๖๐ อาทโย) วิสาเขน นาม อุปาสเกน ปุฏฺาย ธมฺมทินฺนาย นาม ภิกฺขุนิยา ภาสิตํ สุตฺตํ จูฬเวทลฺลนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาเวทลฺลํ (ม. นิ. ๑.๔๔๙ อาทโย) ปน มหาโกฏฺิกตฺเถเรน ปุจฺฉิเตน อายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ. สมฺมาทิฏฺิสุตฺตมฺปิ (ม. นิ. ๑.๘๙ อาทโย) ภิกฺขูหิ ปุฏฺเน เตเนวายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ภาสิตํ. เอตานิ มชฺฌิมนิกายปริยาปนฺนานิ. สกฺกปฺหํ (ที. นิ. ๒.๓๔๔ อาทโย) ปน สกฺเกน ปุฏฺโ ภควา อภาสิ, ตฺจ ทีฆนิกายปริยาปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาปุณฺณมสุตฺตมฺปิ (ม. นิ. ๓.๘๕ อาทโย) ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส ปุณฺณมาย รตฺติยา อฺตเรน ภิกฺขุนา ปุฏฺเน ภควตา ภาสิตํ, ตํ ปน มชฺฌิมนิกายปริยาปนฺนนฺติ เวทิตพฺพํ. เวทนฺติ าณํ. ตุฏฺินฺติ ยถาภาสิตธมฺมเทสนํ วิทิตฺวา ‘‘สาธุ อยฺเย, สาธาวุโส’’ติอาทินา อพฺภนุโมทนวสปฺปวตฺตํ ปีติโสมนสฺสํ. ลทฺธา ลทฺธาติ ลภิตฺวา ลภิตฺวา, ปุนปฺปุนํ ลภิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

เอวํ องฺควเสน สกลมฺปิ พุทฺธวจนํ วิภชิตฺวา อิทานิ ธมฺมกฺขนฺธวเสน วิภชิตฺวา กเถตุกาโม อาห ‘‘กถํ ธมฺมกฺขนฺธวเสนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ธมฺมกฺขนฺธวเสนาติ ธมฺมราสิวเสน. ทฺวาสีติ สหสฺสานิ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต คณฺหินฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ พุทฺธโต คณฺหินฺติ สมฺมาสมฺพุทฺธโต อุคฺคณฺหึ, ทฺเวสหสฺสาธิกานิ อสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ สตฺถุ สนฺติกา อธิคณฺหินฺติ อตฺโถ. ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ ทฺเว ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานิ ภิกฺขุโต อุคฺคณฺหึ, ธมฺมเสนาปติอาทีนํ ภิกฺขูนํ สนฺติกา อธิคณฺหึ. สาริปุตฺตตฺเถราทีหิ ภาสิตานํ สมฺมาทิฏฺิสุตฺตนฺตาทีนํ วเสน หิ ‘‘ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโต’’ติ วุตฺตํ. จตุราสีติ สหสฺสานีติ ตทุภยํ สโมธาเนตฺวา จตุสหสฺสาธิกานิ อสีติ สหสฺสานิ. เย เม ธมฺมา ปวตฺติโนติ เย ธมฺมา มม ปวตฺติโน ปวตฺตมานา ปคุณา วาจุคฺคตา ชิวฺหคฺเค ปริวตฺตนฺติ, เต ธมฺมา จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานีติ วุตฺตํ โหติ. เกจิ ปน ‘‘เย อิเม’’ติ ปทจฺเฉทํ กตฺวา ‘‘เย อิเม ธมฺมา พุทฺธสฺส ภควโต ภิกฺขูนฺจ ปวตฺติโน, เตหิ ปวตฺติตา, เตสฺวาหํ ทฺวาสีติ สหสฺสานิ พุทฺธโต คณฺหึ, ทฺเว สหสฺสานิ ภิกฺขุโตติ เอวํ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ.

เอตฺถ จ สุภสุตฺตํ (ที. นิ. ๑.๔๔๔ อาทโย) โคปกโมคฺคลฺลานสุตฺตฺจ (ม. นิ. ๓.๗๙ อาทโย) ปรินิพฺพุเต ภควติ อานนฺทตฺเถเรน วุตฺตตฺตา จตุราสีติธมฺมกฺขนฺธสหสฺเสสุ อนฺโตคธํ โหติ, น โหตีติ? ตตฺถ ปฏิสมฺภิทาคณฺิปเท ตาว อิทํ วุตฺตํ ‘‘สยํ วุตฺตธมฺมกฺขนฺธานํ ภิกฺขุโต คหิเตเยว สงฺคเหตฺวา เอวมาหาติ ทฏฺพฺพ’’นฺติ. ภควตา ปน ทินฺนนเย ตฺวา ภาสิตตฺตา สยํ วุตฺตธมฺมกฺขนฺธานมฺปิ ‘‘พุทฺธโต คณฺหิ’’นฺติ เอตฺถ สงฺคหํ กตฺวา วุตฺตนฺติ เอวเมตฺถ วตฺตุํ ยุตฺตตรํ วิย ทิสฺสติ. ภควตาเยว หิ ทินฺนนเย ตฺวา สาวกา ธมฺมํ เทเสนฺติ. เตเนว หิ ตติยสงฺคีติยฺจ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน ภาสิตมฺปิ กถาวตฺถุปฺปกรณํ พุทฺธภาสิตํ นาม ชาตํ, ตโตเยว จ อตฺตนา ภาสิตมฺปิ สุภสุตฺตาทิ สงฺคีตึ อาโรเปนฺเตน อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน ‘‘เอวํ เม สุต’’นฺติ วุตฺตํ.

เอวํ ปริทีปิตธมฺมกฺขนฺธวเสนาติ โคปกโมคฺคลฺลาเนน พฺราหฺมเณน ‘‘ตฺวํ พหุสฺสุโตติ พุทฺธสาสเน ปากโฏ, กิตฺตกา ธมฺมา เต สตฺถารา ภาสิตา, ตยา ธาริตา’’ติ ปุจฺฉิเต ตสฺส ปฏิวจนํ เทนฺเตน อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน เอวํ ‘‘ทฺวาสีติ พุทฺธโต คณฺหิ’’นฺติอาทินา ปริทีปิตธมฺมกฺขนฺธานํ วเสน. เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ สติปฏฺานาทิ. สติปฏฺานสุตฺตฺหิ ‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๓) จตฺตาโร สติปฏฺาเน อารภิตฺวา เตสํเยว วิภาคทสฺสนวเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘เอกานุสนฺธิก’’นฺติ วุจฺจติ. อเนกานุสนฺธิกนฺติ นานานุสนฺธิกํ ปรินิพฺพานสุตฺตาทิ. ปรินิพฺพานสุตฺตฺหิ นานาาเนสุ นานาธมฺมเทสนานํ วเสน ปวตฺตตฺตา ‘‘อเนกานุสนฺธิก’’นฺติ วุจฺจติ. คาถาพนฺเธสุ ปฺหปุจฺฉนนฺติ –

‘‘กติ ฉินฺเท กติ ชเห, กติ จุตฺตริ ภาวเย;

กติ สงฺคาติโค ภิกฺขุ, ‘โอฆติณฺโณ’ติ วุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๕) –

เอวมาทินยปฺปวตฺตํ ปฺหปุจฺฉนํ เอโก ธมฺมกฺขนฺโธติ อตฺโถ.

‘‘ปฺจ ฉินฺเท ปฺจ ชเห, ปฺจ จุตฺตริ ภาวเย;

ปฺจ สงฺคาติโค ภิกฺขุ, ‘โอฆติณฺโณ’ติ วุจฺจตี’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๕) –

เอวมาทินยปฺปวตฺตํ วิสชฺชนนฺติ เวทิตพฺพํ. ติกทุกภาชนํ นิกฺเขปกณฺฑอฏฺกถากณฺฑวเสน เวทิตพฺพํ. ตสฺมา ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา, อพฺยากตา ธมฺมา, สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, ทุกฺขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา, อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา ธมฺมา’’ติ เอวมาทีสุ ติเกสุ กุสลตฺติกสฺส วิภชนวเสน ยํ วุตฺตํ นิกฺเขปกณฺเฑ (ธ. ส. ๙๘๕-๙๘๗) –

‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? ตีณิ กุสลมูลานิ อโลโภ อโทโส อโมโห, ตํสมฺปยุตฺโต เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ วิฺาณกฺขนฺโธ, ตํสมุฏฺานํ กายกมฺมํ วจีกมฺมํ มโนกมฺมํ. อิเม ธมฺมา กุสลา.

‘‘กตเม ธมฺมา อกุสลา? ตีณิ อกุสลมูลานิ โลโภ โทโส โมโห, ตเทกฏฺา จ กิเลสา, ตํสมฺปยุตฺโต เวทนากฺขนฺโธ…เป… มโนกมฺมํ. อิเม ธมฺมา อกุสลา.

‘‘กตเม ธมฺมา อพฺยากตา? กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ วิปากา กามาวจรา รูปาวจรา อรูปาวจรา อปริยาปนฺนา เวทนากฺขนฺโธ …เป… วิฺาณกฺขนฺโธ, เย จ ธมฺมา กิริยา เนว กุสลา นากุสลา น จ กมฺมวิปากา สพฺพฺจ รูปํ อสงฺขตา จ ธาตุ. อิเม ธมฺมา อพฺยากตา’’ติ –

อยเมโก ธมฺมกฺขนฺโธ. เอวํ เสสตฺติกานมฺปิ เอเกกสฺส ติกสฺส วิภชนํ เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เวทิตพฺพํ.

ตถา ‘‘เหตู ธมฺมา’’ติ เอวมาทิเกสุ ทุเกสุ เอเกกสฺส ทุกสฺส วิภชนวเสน ยํ วุตฺตํ –

‘‘กตเม ธมฺมา เหตู? ตโย กุสลา เหตู, ตโย อกุสลา เหตู, ตโย อพฺยากตา เหตู’’ติ (ธ. ส. ๑๐๕๙) –

อาทิ, ตตฺถาปิ เอเกกสฺส ทุกสฺส วิภชนํ เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธ. ปุน อฏฺกถากณฺเฑ (ธ. ส. ๑๓๘๔-๑๓๘๖) –

‘‘กตเม ธมฺมา กุสลา? จตูสุ ภูมีสุ กุสลํ. อิเม ธมฺมา กุสลา. กตเม ธมฺมา อกุสลา? ทฺวาทส อกุสลจิตฺตุปฺปาทา. อิเม ธมฺมา อกุสลา. กตเม ธมฺมา อพฺยากตา? จตูสุ ภูมีสุ วิปาโก ตีสุ ภูมีสุ กิริยาพฺยากตํ รูปฺจ นิพฺพานฺจ. อิเม ธมฺมา อพฺยากตา’’ติ –

เอวมาทินา กุสลตฺติกาทิวิภชนวเสน ปวตฺเตสุ ติกภาชเนสุ เอเกกสฺส ติกสฺส ภาชนํ เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธ. ตถา –

‘‘กตเม ธมฺมา เหตู? ตโย กุสลา เหตู, ตโย อกุสลา เหตู, ตโย อพฺยากตา เหตู’’ติ (ธ. ส. ๑๔๔๑) –

อาทินยปฺปวตฺเตสุ ทุกภาชเนสุ เอกเมกํ ทุกภาชนํ เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เอวเมตฺถ ติกทุกภาชนวเสน ธมฺมกฺขนฺธวิภาโค เวทิตพฺโพ.

เอกเมกฺจ จิตฺตวารภาชนนฺติ เอตฺถ ปน –

‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ รูปารมฺมณํ วา…เป… ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) –

เอวมาทินยปฺปวตฺเต จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ เอกเมกํ จิตฺตวารภาชนํ เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธติ คเหตพฺพํ. เอโก ธมฺมกฺขนฺโธติ เอตฺถ ‘‘เอเกกติกทุกภาชนํ เอกเมกํ จิตฺตวารภาชน’’นฺติ วุตฺตตฺตา เอเกโก ธมฺมกฺขนฺโธติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘เอเกโก’’ติ อวุตฺเตปิ หิ อยมตฺโถ อตฺถโต วิฺายมาโนว โหตีติ ‘‘เอโก ธมฺมกฺขนฺโธ’’ติ วุตฺตํ. อตฺถิ วตฺถูติอาทีสุ วตฺถุ นาม สุทินฺนกณฺฑาทิ . มาติกาติ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน’’ติอาทินา (ปารา. ๔๔) ตสฺมึ ตสฺมึ อชฺฌาจาเร ปฺตฺตสิกฺขาปทํ. ปทภาชนียนฺติ ตสฺส ตสฺส สิกฺขาปทสฺส ‘‘โย ปนาติ โย ยาทิโส’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ (ปารา. ๔๕) วิภชนํ. อนฺตราปตฺตีติ ‘‘ปฏิลาตํ อุกฺขิปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ (ปาจิ. ๓๕๕) เอวมาทินา สิกฺขาปทนฺตเรสุ ปฺตฺตา อาปตฺติ. อนาปตฺตีติ ‘‘อนาปตฺติ อชานนฺตสฺส อสาทิยนฺตสฺส อุมฺมตฺตกสฺส ขิตฺตจิตฺตสฺส เวทนาฏฺฏสฺส อาทิกมฺมิกสฺสา’’ติอาทินยปฺปวตฺโต กจฺเฉโทติ ‘‘ทสาหาติกฺกนฺเต อติกฺกนฺตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ทสาหาติกฺกนฺเต เวมติโก นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ, ทสาหาติกฺกนฺเต อนติกฺกนฺตสฺี นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติย’’นฺติ (ปารา. ๔๖๘) เอวมาทินยปฺปวตฺโต ติกปาจิตฺติยติกทุกฺกฏาทิเภโท ติกปริจฺเฉโท.

อิทานิ เอวเมตํ อเภทโต รสวเสน เอกวิธนฺติอาทินา ‘‘อยํ ธมฺโม, อยํ วินโย…เป… อิมานิ จตุราสีติ ธมฺมกฺขนฺธสหสฺสานี’’ติ พุทฺธวจนํ ธมฺมวินยาทิเภเทน ววตฺถเปตฺวา สงฺคายนฺเตน มหากสฺสปปมุเขน วสีคเณน อเนกจฺฉริยปาตุภาวปฏิมณฺฑิตาย สงฺคีติยา อิมสฺส ปิฏกสฺส วินยภาโว มชฺฌิมพุทฺธวจนาทิภาโว จ ววตฺถาปิโตติ ทสฺเสติ. น เกวลํ อิมเมวิมสฺส ยถาวุตฺตปฺปเภทํ ววตฺถเปตฺวา สงฺคีตํ, อถ โข อฺมฺปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น เกวลฺจ อิมเมวา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทฺทานสงฺคโห ปมปาราชิกาทีสุ อาคตานํ วินีตวตฺถุอาทีนํ สงฺเขปโต สงฺคหทสฺสนวเสน ธมฺมสงฺคาหเกหิ กถิตา –

‘‘มกฺกฏี วชฺชิปุตฺตา จ, คิหี นคฺโค จ ติตฺถิยา;

ทาริกุปฺปลวณฺณา จ, พฺยฺชเนหิปเร ทุเว’’ติ. (ปารา. ๖๖) –

อาทิกา คาถาโย. สีลกฺขนฺธวคฺคมูลปริยายวคฺคาทิวเสน สงฺคโห วคฺคสงฺคโห. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมเปยฺยาลนีลจกฺกเปยฺยาลาทิววตฺถาปนวเสน เปยฺยาลสงฺคโห. องฺคุตฺตรนิกายาทีสุ เอกกนิปาตาทิสงฺคโห. สํยุตฺตนิกาเย เทวตาสํยุตฺตาทิวเสน สํยุตฺตสงฺคโห. มชฺฌิมนิกายาทีสุ มูลปณฺณาสกาทิวเสน ปณฺณาสกสงฺคโห.

อสฺส พุทฺธวจนสฺส สงฺคีติปริโยสาเน สาธุการํ ททมานา วิยาติ สมฺพนฺโธ. สงฺกมฺปีติ อุทฺธํ อุทฺธํ คจฺฉนฺตี สุฏฺุ กมฺปิ. สมฺปกมฺปีติ อุทฺธํ อโธ จ คจฺฉนฺตี สมฺปกมฺปิ. สมฺปเวธีติ จตูสุ ทิสาสุ คจฺฉนฺตี สุฏฺุ ปเวธิ. อจฺฉรํ ปหริตุํ ยุตฺตานิ อจฺฉริยานิ, ปุปฺผวสฺสเจลุกฺเขปาทีนิ . ยา ปมมหาสงฺคีติ ธมฺมสงฺคาหเกหิ มหากสฺสปาทีหิ ปฺจหิ สเตหิ เยน กตา สงฺคีตา, เตน ปฺจสตานิ เอติสฺสา อตฺถีติ ‘‘ปฺจสตา’’ติ จ, เถเรเหว กตตฺตา เถรา มหากสฺสปาทโย เอติสฺสา อตฺถีติ ‘‘เถริกา’’ติ จ โลเก วุจฺจติ, อยํ ปมมหาสงฺคีติ นามาติ สมฺพนฺโธ.

เอวํ ปมมหาสงฺคีตึ ทสฺเสตฺวา ยทตฺถํ สา อิธ นิทสฺสิตา, ตํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘อิมิสฺสา’’ติอาทิมาห. อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน วุตฺตนฺติ ‘‘เตน สมเยนา’’ติอาทิ วกฺขมานํ สพฺพํ นิทานวจนํ วุตฺตํ. กิมตฺถํ ปเนตฺถ ธมฺมวินยสงฺคเห กถิยมาเน นิทานวจนํ วุตฺตํ, นนุ จ ภควตา ภาสิตวจนสฺเสว สงฺคโห กาตพฺโพติ? วุจฺจเต – เทสนาย ิติอสมฺโมสสทฺธเอยฺยภาวสมฺปาทนตฺถํ. กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ อุปนิพนฺธิตฺวา ปิตา หิ เทสนา จิรฏฺิติกา โหติ อสมฺโมสธมฺมา สทฺเธยฺยา จ, เทสกาลกตฺตุเหตุนิมิตฺเตหิ อุปนิพนฺโธ วิย โวหารวินิจฺฉโย. เตเนว จ อายสฺมตา มหากสฺสเปน ‘‘ปมปาราชิกํ อาวุโส, อุปาลิ, กตฺถ ปฺตฺต’’นฺติอาทินา เทสาทิปุจฺฉาสุ กตาสุ ตาสํ วิสชฺชนํ กโรนฺเตน อายสฺมตา อุปาลิตฺเถเรน ‘‘เตน สมเยนา’’ติอาทินา ปมปาราชิกสฺส นิทานํ ภาสิตํ.

อปิจ สาสนสมฺปตฺติปกาสนตฺถํ นิทานวจนํ. าณกรุณาปริคฺคหิตสพฺพกิริยสฺส หิ ภควโต นตฺถิ นิรตฺถกา ปฏิปตฺติ อตฺตหิตตฺถา วา, ตสฺมา ปเรสํเยวตฺถาย ปวตฺตสพฺพกิริยสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สกลมฺปิ กายวจีมโนกมฺมํ ยถาปวตฺตํ วุจฺจมานํ ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ สตฺตานํ อนุสาสนฏฺเน สาสนํ, น กพฺพรจนา. ตยิทํ สตฺถุรจิตํ กาลเทสเทสกปริสาปเทเสหิ สทฺธึ ตตฺถ ตตฺถ นิทานวจเนหิ ยถารหํ ปกาสียติ.

อปิจ สตฺถุโน ปมาณภาวปฺปกาสเนน สาสนสฺส ปมาณภาวทสฺสนตฺถํ นิทานวจนํ, ตฺจสฺส ปมาณภาวทสฺสนํ ‘‘พุทฺโธ ภควา’’ติ อิมินา ปททฺวเยน วิภาวิตนฺติ เวทิตพฺพํ. พุทฺโธติ หิ อิมินา ตถาคตสฺส อนฺสาธารณสุปริสุทฺธาณาทิคุณวิเสสโยคปริทีปเนน, ภควาติ จ อิมินา ราคโทสโมหาทิสพฺพกิเลสมลทุจฺจริตาทิโทสปฺปหานทีปเนน, ตโต เอว จ สพฺพสตฺตุตฺตมภาวทีปเนน อยมตฺโถ สพฺพถา ปกาสิโต โหตีติ อิทเมตฺถ นิทานวจนปฺปโยชนสฺส มุขมตฺตนิทสฺสนํ.

ตตฺรายํ อาจริยปรมฺปราติ ตสฺมึ ชมฺพุทีเป อยํ อาจริยานํ ปรมฺปรา ปเวณี ปฏิปาฏิ. อุปาลิ ทาสโกติอาทีสุ อุปาลิตฺเถโร ปากโฏเยว, ทาสกตฺเถราทโย ปน เอวํ เวทิตพฺพา . เวสาลิยํ กิร เอโก ทาสโก นาม พฺราหฺมณมาณโว ติณฺณํ อนฺเตวาสิกสตานํ เชฏฺนฺเตวาสิโก หุตฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก สิปฺปํ อุคฺคณฺหนฺโต ทฺวาทสวสฺสิโกเยว ติณฺณํ เวทานํ ปารคู อโหสิ. โส เอกทิวสํ อนฺเตวาสิกปริวุโต ธมฺมวินยํ สงฺคายิตฺวา วาลิการาเม นิวสนฺตํ อายสฺมนฺตํ อุปาลิตฺเถรํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน เวเทสุ สพฺพานิ คณฺิฏฺานานิ เถรํ ปุจฺฉิ. เถโรปิ สพฺพํ พฺยากริตฺวา สยมฺปิ เอกํ ปฺหํ ปุจฺฉนฺโต นามํ สนฺธาย อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ ‘‘เอกธมฺโม โข, มาณว, สพฺเพสุ ธมฺเมสุ อนุปตติ, สพฺเพปิ, มาณว, ธมฺมา เอกธมฺมสฺมึ โอสรนฺติ, กตโม นุ โข โส, มาณวก, ธมฺโม’’ติ. โสปิ โข มาณโว ปฺหสฺส อตฺถํ อชานนฺโต ‘‘กิมิทํ โภ ปพฺพชิตา’’ติ อาห. พุทฺธมนฺโตยํ มาณวาติ. สกฺกา ปนายํ โภ มยฺหมฺปิ ทาตุนฺติ. สกฺกา, มาณว, อมฺเหหิ คหิตปพฺพชฺชํ คณฺหนฺตสฺส ทาตุนฺติ. ‘‘สาธุ โข โภ ปพฺพชิตา’’ติ มาณโว สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อตฺตโน มาตรํ ปิตรํ อาจริยฺจ อนุชานาเปตฺวา ตีหิ อนฺเตวาสิกสเตหิ สทฺธึ เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ปริปุณฺณวีสติวสฺโส อุปสมฺปทํ ลภิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เถโร ตํ ธุรํ กตฺวา ขีณาสวสหสฺสสฺส ปิฏกตฺตยํ วาเจสิ.

โสณโก ปน ทาสกตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก. โส กิร กาสีสุ เอกสฺส วาณิชกสฺส ปุตฺโต หุตฺวา ปฺจทสวสฺสุทฺเทสิโก เอกํ สมยํ มาตาปิตูหิ สทฺธึ วาณิชฺชาย คิริพฺพชํ คโต. ตโต ปฺจปฺาสทารเกหิ สทฺธึ เวฬุวนํ คนฺตฺวา ตตฺถ ทาสกตฺเถรํ สปริสํ ทิสฺวา อติวิย ปสนฺโน ปพฺพชฺชํ ยาจิตฺวา เถเรน มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ‘‘ปพฺพชาหี’’ติ วุตฺโต มาตาปิตุสนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจตฺวา เตสุ อนิจฺฉนฺเตสุ ฉินฺนภตฺโต หุตฺวา มาตาปิตโร อนุชานาเปตฺวา ปฺจปฺาสาย ทารเกหิ สทฺธึ เถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ลทฺธูปสมฺปโท อรหตฺตํ ปาปุณิ. ตํ เถโร สกลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปสิ. โสปิ คณปาโมกฺโข หุตฺวา พหูนํ ธมฺมวินยํ วาเจสิ.

สิคฺควตฺเถโร ปน โสณกตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริโก อโหสิ. โส กิร ปาฏลิปุตฺเต สิคฺคโว นาม อมจฺจปุตฺโต หุตฺวา ติณฺณํ อุตูนํ อนุจฺฉวิเกสุ ตีสุ ปาสาเทสุ สมฺปตฺตึ อนุภวมาโน เอกทิวสํ อตฺตโน สหาเยน จณฺฑวชฺชินา เสฏฺิปุตฺเตน สทฺธึ สปริวาโร กุกฺกุฏารามํ คนฺตฺวา ตตฺถ โสณกตฺเถรํ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺนํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา อตฺตนา สทฺธึ อนาลปนฺตํ ตฺวา คนฺตฺวา ตํ การณํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปุจฺฉิตฺวา ภิกฺขูหิ ‘‘สมาปตฺตึ สมาปนฺนา นาลปนฺตี’’ติ วุตฺโต ‘‘กถํ, ภนฺเต, สมาปตฺติโต วุฏฺหนฺตี’’ติ ปุน ปุจฺฉิตฺวา เตหิ จ ภิกฺขูหิ ‘‘สตฺถุโน เจว สงฺฆสฺส จ ปกฺโกสนาย ยถาปริจฺฉินฺนกาลโต อายุสงฺขยา จ วุฏฺหนฺตี’’ติ วตฺวา ตสฺส สปริวารสฺส อุปนิสฺสยํ ทิสฺวา สงฺฆสฺส วจเนน นิโรธา วุฏฺาปิตํ โสณกตฺเถรํ ทิสฺวา ‘‘กสฺมา, ภนฺเต, มยา สทฺธึ นาลปิตฺถา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา เถเรน ‘‘ภุฺชิตพฺพกํ กุมาร ภุฺชิมฺหา’’ติ วุตฺเต ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, อมฺเหหิปิ ตํ โภเชตุ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สกฺกา, กุมาร, อมฺหาทิเส กตฺวา โภเชตุ’’นฺติ วุตฺเต ตมตฺถํ มาตาปิตูนํ อาโรเจตฺวา เตหิ อนุฺาโต อตฺตโน สหาเยน จณฺฑวชฺชินา เตหิ จ ปฺจหิ ปุริสสเตหิ สทฺธึ โสณกตฺเถรสฺส สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา อุปสมฺปนฺโน อโหสิ. ตตฺถ สิคฺคโว จ จณฺฑวชฺชี จ ทฺเว อุปชฺฌายสฺเสว สนฺติเก ธมฺมวินยํ ปริยาปุณิตฺวา อปรภาเค ฉฬภิฺา อเหสุํ.

ติสฺสสฺส ปน โมคฺคลิปุตฺตสฺส อนุปุพฺพกถา ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. วิชิตาวิโนติ วิชิตสพฺพกิเลสปฏิปกฺขตฺตา วิชิตวนฺโต. ปรมฺปรายาติ ปฏิปาฏิยา, อนุกฺกเมนาติ วุตฺตํ โหติ. ชมฺพุสิริวฺหเยติ ชมฺพุสทิสนาเม, ชมฺพุนามเกติ วุตฺตํ โหติ. มหนฺเตน หิ ชมฺพุรุกฺเขน อภิลกฺขิตตฺตา ทีโปปิ ‘‘ชมฺพู’’ติ วุจฺจติ. อจฺฉิชฺชมานํ อวินสฺสมานํ กตฺวา.

วินยวํสนฺติอาทีหิ ตีหิ วินยปาฬิเยว กถิตา ปริยายวจนตฺตา. ปกตฺุตนฺติ เวยฺยตฺติยํ, ปฏุภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ธุรคฺคาโห อโหสีติ ปธานคฺคาหี อโหสิ, สพฺเพสํ ปาโมกฺโข หุตฺวา คณฺหีติ วุตฺตํ โหติ. ภิกฺขูนํ สมุทาโย สมูโห ภิกฺขุสมุทาโย, สมณคโณติ อตฺโถ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ปมมหาสงฺคีติกถาวณฺณนา สมตฺตา.

ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนา

‘‘ยทา นิพฺพายึสู’’ติ สมฺพนฺโธ. โชตยิตฺวา จ สพฺพธีติ ตเมว สทฺธมฺมํ สพฺพตฺถ ปกาสยิตฺวา. ‘‘ชุติมนฺโต’’ติ วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน ‘‘ชุตีมนฺโต’’ติ วุตฺตํ, ปฺาโชติสมฺปนฺนาติ อตฺโถ, เตชวนฺโตติ วา, มหานุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. นิพฺพายึสูติ อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายึสุ. ปหีนสพฺพกิเลสตฺตา นตฺถิ เอเตสํ กตฺถจิ อาลโย ตณฺหาติ อนาลยา, วีตราคาติ วุตฺตํ โหติ.

วสฺสสตปรินิพฺพุเต ภควตีติ วสฺสสตํ ปรินิพฺพุตสฺส อสฺสาติ วสฺสสตปรินิพฺพุโต, ภควา, ตสฺมึ ปรินิพฺพานโต วสฺสสเต อติกฺกนฺเตติ วุตฺตํ โหติ. เวสาลิกาติ เวสาลีนิวาสิโน. วชฺชิปุตฺตกาติ วชฺชิรฏฺเ เวสาลิยํ กุลานํ ปุตฺตา. กปฺปติ สิงฺคีโลณกปฺโปติ สิงฺเคน โลณํ ปริหริตฺวา ปริหริตฺวา อโลณกปิณฺฑปาเตน สทฺธึ ภุฺชิตุํ กปฺปติ, น สนฺนิธึ กโรตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ ทฺวงฺคุลกปฺโปติ ทฺวงฺคุลํ อติกฺกนฺตาย ฉายาย วิกาเล โภชนํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ คามนฺตรกปฺโปติ ‘‘คามนฺตรํ คมิสฺสามี’’ติ ปวาริเตน อนติริตฺตโภชนํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อาวาสกปฺโปติ เอกสีมายํ นานาเสนาสเนสุ วิสุํ วิสุํ อุโปสถาทีนิ สงฺฆกมฺมานิ กาตุํ วฏฺฏตีติ อตฺโถ. กปฺปติ อนุมติกปฺโปติ ‘‘อนาคตานํ อาคตกาเล อนุมตึ คเหสฺสามี’’ติ เตสุ อนาคเตสุเยว วคฺเคน สงฺเฆน กมฺมํ กตฺวา ปจฺฉา อนุมตึ คเหตุํ กปฺปติ, วคฺคกมฺมํ น โหตีติ อธิปฺปาโย. กปฺปติ อาจิณฺณกปฺโปติ อาจริยุปชฺฌาเยหิ อาจิณฺโณ กปฺปตีติ อตฺโถ. โส ปน เอกจฺโจ กปฺปติ ธมฺมิโก, เอกจฺโจ น กปฺปติ อธมฺมิโกติ เวทิตพฺโพ. กปฺปติ อมถิตกปฺโปติ ยํ ขีรํ ขีรภาวํ วิชหิตํ ทธิภาวํ อสมฺปตฺตํ, ตํ ภุตฺตาวินา ปวาริเตน อนติริตฺตํ ภุฺชิตุํ กปฺปตีติ อตฺโถ. กปฺปติ ชโลคึ ปาตุนฺติ เอตฺถ ชโลคีติ ตรุณสุรา. ยํ มชฺชสมฺภารํ เอกโต กตํ มชฺชภาวมสมฺปตฺตํ, ตํ ปาตุํ วฏฺฏตีติ อธิปฺปาโย. ชาตรูปรชตนฺติ สรสโต วิการํ อนาปชฺชิตฺวา สพฺพทา ชาตํ รูปเมว โหตีติ ชาตํ รูปเมตสฺสาติ ชาตรูปํ, สุวณฺณํ. ธวลสภาวตาย ราชตีติ รชตํ, รูปิยํ. สุสุนาคปุตฺโตติ สุสุนาคสฺส ปุตฺโต.

กากณฺฑกปุตฺโตติ กากณฺฑกพฺราหฺมณสฺส ปุตฺโต. วชฺชีสูติ ชนปทวจนตฺตา พหุวจนํ กตํ. เอโกปิ หิ ชนปโท รุฬฺหีสทฺทตฺตา พหุวจเนน วุจฺจติ. เยน เวสาลี, ตทวสรีติ เยน ทิสาภาเคน เวสาลี อวสริตพฺพา, ยสฺมึ วา ปเทเส เวสาลี, ตทวสริ, ตํ ปตฺโตติ อตฺโถ. มหาวเน กูฏาคารสาลายนฺติ เอตฺถ มหาวนํ นาม สยํชาตมโรปิมํ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนํ. กปิลวตฺถุสามนฺตา ปน มหาวนํ หิมวนฺเตน สห เอกาพทฺธํ อปริจฺเฉทํ หุตฺวา มหาสมุทฺทํ อาหจฺจ ิตํ, อิทํ ตาทิสํ น โหตีติ สปริจฺเฉทํ มหนฺตํ วนนฺติ มหาวนํ. กูฏาคารสาลา ปน มหาวนํ นิสฺสาย กเต อาราเม กูฏาคารํ อนฺโต กตฺวา หํสวฏฺฏกจฺฉนฺเนน หํสมณฺฑลากาเรน กตา.

ตทหุโปสเถติ เอตฺถ ตทหูติ ตสฺมึ อหนิ, ตสฺมึ ทิวเสติ อตฺโถ. อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, อุปวสิตพฺพทิวโส. อุปวสนฺตีติ จ สีเลน วา สพฺพโส อาหารสฺส จ อภุฺชนสงฺขาเตน อนสเนน วา ขีรปานมธุปานาทิมตฺเตน วา อุเปตา หุตฺวา วสนฺตีติ อตฺโถ. โส ปเนส ทิวโส อฏฺมีจาตุทฺทสีปนฺนรสีเภเทน ติวิโธ. กตฺถจิ ปน ปาติโมกฺเขปิ สีเลปิ อุปวาเสปิ ปฺตฺติยมฺปิ อุโปสถสทฺโท อาคโต. ตถา เหส ‘‘อายามาวุโส กปฺปิน, อุโปสถํ คมิสฺสามา’’ติอาทีสุ ปาติโมกฺขุทฺเทเส อาคโต. ‘‘เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคโต โข วิสาเข อุโปสโถ อุปวุตฺโถ’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๘.๔๓) สีเล. ‘‘สุทฺธสฺส เว สทา เผคฺคุ, สุทฺธสฺสุโปสโถ สทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๗๙) อุปวาเส. ‘‘อุโปสโถ นาม นาคราชา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๒๔๖; ม. นิ. ๓.๒๕๘) ปฺตฺติยฺจ อาคโต. ตตฺถ อุเปจฺจ วสิตพฺพโต อุโปสโถ ปาติโมกฺขุทฺเทโส. อุเปเตน สมนฺนาคเตน หุตฺวา วสิตพฺพโต สนฺตาเน วาเสตพฺพโต อุโปสโถ สีลํ. อสนาทิสํยมาทึ วา อุเปจฺจ วสนฺตีติ อุโปสโถ อุปวาโส. ตถารูเป หตฺถิอสฺสวิเสเส อุโปสโถติ สมฺามตฺตโต อุโปสโถ ปฺตฺติ. อิธ ปน ‘‘น, ภิกฺขเว, ตทหุโปสเถ สภิกฺขุกา อาวาสา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๘๑) วิย อุโปสถทิวโส อธิปฺเปโต, ตสฺมา ตทหุโปสเถติ ตสฺมึ อุโปสถทิวเสติ อตฺโถ. กํสปาตินฺติ สุวณฺณปาตึ. กหาปณมฺปีติอาทีสุ กหาปณสฺส สมภาโค อฑฺโฒ. ปาโท จตุตฺถภาโค. มาสโกเยว มาสกรูปํ. สพฺพํ ตาว วตฺตพฺพนฺติ อิมินา สตฺตสติกกฺขนฺธเก (จูฬว. ๔๔๖ อาทโย) อาคตา สพฺพาปิ ปาฬิ อิธ อาเนตฺวา วตฺตพฺพาติ ทสฺเสติ. สา กุโต วตฺตพฺพาติ อาห ‘‘ยาว อิมาย ปน วินยสงฺคีติยา’’ติอาทิ. สงฺคายิตสทิสเมว สงฺคายึสูติ สมฺพนฺโธ.

ปุพฺเพ กตํ อุปาทายาติ ปุพฺเพ กตํ ปมสงฺคีติมุปาทาย. สา ปนายํ สงฺคีตีติ สมฺพนฺโธ. เตสูติ เตสุ สงฺคีติการเกสุ เถเรสุ. วิสฺสุตาติ คณปาโมกฺขตาย วิสฺสุตา สพฺพตฺถ ปากฏา. ตสฺมิฺหิ สนฺนิปาเต อฏฺเว คณปาโมกฺขา มหาเถรา อเหสุํ, เตสุ จ วาสภคามี สุมโนติ ทฺเว เถรา อนุรุทฺธตฺเถรสฺส สทฺธิวิหาริกา, อวเสสา ฉ อานนฺทตฺเถรสฺส. เอเต ปน สพฺเพปิ อฏฺ มหาเถรา ภควนฺตํ ทิฏฺปุพฺพา. อิทานิ เต เถเร สรูปโต ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สพฺพกามี จา’’ติอาทิ. สาณสมฺภูโตติ สาณเทสวาสี สมฺภูตตฺเถโร . ทุติโย สงฺคโหติ สมฺพนฺโธ. ปนฺนภาราติ ปติตกฺขนฺธภารา. ‘‘ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๒) หิ วุตฺตํ. กตกิจฺจาติ จตูสุ สจฺเจสุ จตูหิ มคฺเคหิ กตฺตพฺพสฺส ปริฺาปหานสอฉกิริยาภาวนาสงฺขาตสฺส โสฬสวิธสฺสปิ กิจฺจสฺส ปรินิฏฺิตตฺตา กตกิจฺจา.

อพฺพุทนฺติ อุปทฺทวํ วทนฺติ โจรกมฺมมฺปิ ภควโต วจนํ เถเนตฺวา อตฺตโน วจนสฺส ทีปนโต . คณฺิปเท ปน ‘‘อพฺพุทํ คณฺโฑ’’ติ วุตฺตํ. อิมนฺติ วกฺขมานนิทสฺสนํ. สนฺทิสฺสมานา มุขา สมฺมุขา. อุปริพฺรหฺมโลกูปปตฺติยา ภาวิตมคฺคนฺติ อุปริพฺรหฺมโลเก อุปปตฺติยา อุปฺปาทิตชฺฌานํ. ฌานฺหิ ตตฺรูปปตฺติยา อุปายภาวโต อิธ ‘‘มคฺโค’’ติ วุตฺตํ. อุปาโย หิ ‘‘มคฺโค’’ติ วุจฺจติ. วจนตฺโถ ปเนตฺถ – ตํ ตํ อุปปตฺตึ มคฺคติ คเวสติ ชเนติ นิปฺผาเทตีติ มคฺโคติ เอวํ เวทิตพฺโพ. อตฺถโต จายํ มคฺโค นาม เจตนาปิ โหติ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ ตทุภยมฺปิ. ‘‘นิรยฺจาหํ, สาริปุตฺต, ชานามิ นิรยคามิฺจ มคฺค’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๕๓) หิ เอตฺถ เจตนา มคฺโค นาม.

‘‘สทฺธา หิริยํ กุสลฺจ ทานํ,

ธมฺมา เอเต สปฺปุริสานุยาตา;

เอตฺหิ มคฺคํ ทิวิยํ วทนฺติ,

เอเตน หิ คจฺฉติ เทวโลก’’นฺติ. (อ. นิ. ๘.๓๒; กถา. ๔๗๙) –

เอตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา มคฺโค นาม. ‘‘อยํ ภิกฺขเว มคฺโค อยํ ปฏิปทา’’ติ สงฺขารูปปตฺติสุตฺตาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๖๑) เจตนาปิ เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ มคฺโค นาม. อิมสฺมึ าเน ฌานสฺส อธิปฺเปตตฺตา เจตนาสมฺปยุตฺตธมฺมา คเหตพฺพา.

โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺสาติ โลกสมฺมตสฺส อปุตฺตกสฺส โมคฺคลินามพฺราหฺมณสฺส. นนุ จ กถเมตํ นาม วุตฺตํ ‘‘โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ คเหสฺสตี’’ติ. กึ อุปรูปปตฺติยา ปฏิลทฺธสมาปตฺตีนมฺปิ กามาวจเร อุปฺปตฺติ โหตีติ? โหติ. สา จ กตาธิการานํ มหาปุฺานํ เจโตปณิธิวเสน โหติ, น สพฺเพสนฺติ ทฏฺพฺพํ. อถ มหคฺคตสฺส ครุกกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา ปริตฺตกมฺมํ กถมตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตีติ? เอตฺถ จ ตาว ตีสุปิ คณฺิปเทสุ อิทํ วุตฺตํ ‘‘นิกนฺติพเลเนว ฌานา ปริหายติ, ตโต ปริหีนชฺฌานา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อนีวรณาวตฺถาย นิกนฺติยา ฌานสฺส ปริหานิ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพา’’ติ วตฺวา เอวเมตฺถ การณํ วทนฺติ ‘‘สติปิ มหคฺคตกมฺมุโน วิปากปฏิพาหนสมตฺถสฺส ปริตฺตกมฺมสฺสปิ อภาเว ‘อิชฺฌติ, ภิกฺขเว, สีลวโต เจโตปณิธิ วิสุทฺธตฺตา’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๗; อ. นิ. ๘.๓๕; สํ. นิ. ๔.๓๕๒) วจนโต กามภเว เจโตปณิธิ มหคฺคตกมฺมสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา ปริตฺตกมฺมุโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรตี’’ติ.

สาธุสปฺปุริสาติ เอตฺถ สาธูติ อายาจนตฺเถ นิปาโต, ตํ ยาจามาติ อตฺโถ. หฏฺปหฏฺโติ จิตฺตปีณนวเสน ปุนปฺปุนํ สนฺตุฏฺโ. อุทคฺคุทคฺโคติ สรีรวิการุปฺปาทนปีติวเสน อุทคฺคุทคฺโค. ปีติมา หิ ปุคฺคโล กายจิตฺตานํ อุคฺคตตฺตา อพฺภุคฺคตตฺตา ‘‘อุทคฺโค’’ติ วุจฺจติ. สาธูติ ปฏิสฺสุณิตฺวาติ ‘‘สาธู’’ติ ปฏิวจนํ ทตฺวา. ตีเรตฺวาติ นิฏฺเปตฺวา. ปุน ปจฺจาคมึสูติ ปุน อาคมึสุ. เตน โข ปน สมเยนาติ ยสฺมึ สมเย ทุติยสงฺคีตึ อกํสุ, ตสฺมึ สมเยติ อตฺโถ. นวกาติ วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ทหรภิกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตํ อธิกรณํ น สมฺปาปุณึสูติ ตํ วชฺชิปุตฺตเกหิ อุปฺปาทิตํ อธิกรณํ วินิจฺฉินิตุํ น สมฺปาปุณึสุ นาคมึสุ. โน อหุวตฺถาติ สมฺพนฺโธ. อิทํ ทณฺฑกมฺมนฺติ อิทานิ วตฺตพฺพํ สนฺธาย วุตฺตํ. ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพุตาติ สมฺพนฺโธ, ยาว อตฺตโน อตฺตโน อายุปริมาณํ, ตาว ตฺวา ปรินิพฺพุตาติ อตฺโถ.

กึ ปน กตฺวา เต เถรา ปรินิพฺพุตาติ อาห ‘‘ทุติยํ สงฺคหํ กตฺวา’’ติอาทิ. อนาคเตปิ สทฺธมฺมวุฑฺฒิยา เหตุํ กตฺวา ปรินิพฺพุตาติ สมฺพนฺโธ. อิทานิ ‘‘เตปิ นาม เอวํ มหานุภาวา เถรา อนิจฺจตาย วสํ คตา, กิมงฺคํ ปน อฺเ’’ติ สํเวเชตฺวา โอวทนฺโต อาห ‘‘ขีณาสวา’’ติอาทิ. อนิจฺจตาวสนฺติ อนิจฺจตาวสตฺตํ, อนิจฺจตายตฺตภาวํ อนิจฺจตาธีนภาวนฺติ วุตฺตํ โหติ. ชมฺมึ ลามกํ ทุรภิสมฺภวํ อนภิภวนียํ อติกฺกมิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ อนิจฺจตํ เอวํ ตฺวาติ สมฺพนฺโธ. เกจิ ปน ‘‘ทุรภิสมฺภว’’นฺติ เอตฺถ ‘‘ปาปุณิตุํ อสกฺกุเณยฺย’’นฺติ อิมมตฺถํ คเหตฺวา ‘‘ยํ ทุรภิสมฺภวํ นิจฺจํ อมตํ ปทํ, ตํ ปตฺตุํ วายเม ธีโร’’ติ สมฺพนฺธํ วทนฺติ. สพฺพากาเรนาติ สพฺพปฺปกาเรน วตฺตพฺพํ กิฺจิปิ อเสเสตฺวา ทุติยสงฺคีติ สํวณฺณิตาติ อธิปฺปาโย.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ทุติยสงฺคีติกถาวณฺณนา สมตฺตา.

ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา

อิมิสฺสา ปน สงฺคีติยา ธมฺมสงฺคาหกตฺเถเรหิ นิกฺกฑฺฒิตา เต ทสสหสฺสา วชฺชิปุตฺตกา ภิกฺขู ปกฺขํ ปริเยสมานา อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปํ ทุพฺพลปกฺขํ ลภิตฺวา วิสุํ มหาสงฺฆิกํ อาจริยกุลํ นาม อกํสุ, ตโต ภิชฺชิตฺวา อปรานิ ทฺเว อาจริยกุลานิ ชาตานิ โคกุลิกา จ เอกพฺโยหาริกา จ. โคกุลิกนิกายโต ภิชฺชิตฺวา อปรานิ ทฺเว อาจริยกุลานิ ชาตานิ ปณฺณตฺติวาทา จ พาหุลิยา จ. พหุสฺสุติกาติปิ เตสํเยว นามํ, เตสํเยว อนฺตรา เจติยวาทา นาม อปเร อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. เอวํ มหาสงฺฆิกาจริยกุลโต ทุติเย วสฺสสเต ปฺจาจริยกุลานิ อุปฺปนฺนานิ, ตานิ มหาสงฺฆิเกหิ สทฺธึ ฉ โหนฺติ.

ตสฺมึเยว ทุติเย วสฺสสเต เถรวาทโต ภิชฺชิตฺวา ทฺเว อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา มหิสาสกา จ วชฺชิปุตฺตกา จ. ตตฺถ วชฺชิปุตฺตกวาทโต ภิชฺชิตฺวา อปเร จตฺตาโร อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา ธมฺมุตฺตริกา ภทฺทยานิกา ฉนฺนาคาริกา สมิติกาติ. ปุน ตสฺมึเยว ทุติเย วสฺสสเต มหิสาสกวาทโต ภิชฺชิตฺวา สพฺพตฺถิวาทา ธมฺมคุตฺติกาติ ทฺเว อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. ปุน สพฺพตฺถิวาทกุลโต ภิชฺชิตฺวา กสฺสปิกา นาม ชาตา, กสฺสปิเกสุปิ ภินฺเนสุ อปเร สงฺกนฺติกา นาม ชาตา, สงฺกนฺติเกสุ ภินฺเนสุ สุตฺตวาทา นาม ชาตาติ เถรวาทโต ภิชฺชิตฺวา อิเม เอกาทส อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา, เต เถรวาเทน สทฺธึ ทฺวาทส โหนฺติ. อิติ อิเม จ ทฺวาทส มหาสงฺฆิกานฺจ ฉ อาจริยวาทาติ สพฺเพ อฏฺารส อาจริยวาทา ทุติเย วสฺสสเต อุปฺปนฺนา. อฏฺารส นิกายาติปิ อฏฺารสาจริยกุลานีติปิ เอเตสํเยว นามํ. เอเตสุ ปน สตฺตรส วาทา ภินฺนกา, เถรวาโทเวโก อสมฺภินฺนโกติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ทีปวํเส –

‘‘นิกฺกฑฺฒิตา ปาปภิกฺขู, เถเรหิ วชฺชิปุตฺตกา;

อฺํ ปกฺขํ ลภิตฺวาน, อธมฺมวาที พหู ชนา.

‘‘ทสสหสฺสา สมาคนฺตฺวา, อกํสุ ธมฺมสงฺคหํ;

ตสฺมายํ ธมฺมสงฺคีติ, มหาสงฺคีติ วุจฺจติ.

‘‘มหาสงฺคีติกา ภิกฺขู, วิโลมํ อกํสุ สาสเน;

ภินฺทิตฺวา มูลสงฺคหํ, อฺํ อกํสุ สงฺคหํ.

‘‘อฺตฺร สงฺคหิตํ สุตฺตํ, อฺตฺร อกรึสุ เต;

อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, วินเย นิกาเยสุ จ ปฺจสุ.

‘‘ปริยายเทสิตฺจาปิ , อโถ นิปฺปริยายเทสิตํ;

นีตตฺถฺเจว เนยฺยตฺถํ, อชานิตฺวาน ภิกฺขโว.

‘‘อฺํ สนฺธาย ภณิตํ, อฺํ อตฺถํ ปยึสุ เต;

พฺยฺชนจฺฉายาย เต ภิกฺขู, พหุํ อตฺถํ วินาสยุํ.

‘‘ฉฑฺเฑตฺวาน เอกเทสํ, สุตฺตํ วินยคมฺภิรํ;

ปติรูปํ สุตฺตํ วินยํ, ตฺจ อฺํ กรึสุ เต.

‘‘ปริวารํ อตฺถุทฺธารํ, อภิธมฺมํ ฉปฺปกรณํ;

ปฏิสมฺภิทฺจ นิทฺเทสํ, เอกเทสฺจ ชาตกํ;

เอตฺตกํ วิสฺสชฺเชตฺวาน, อฺานิ อกรึสุ เต.

‘‘นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ;

ปกติภาวํ วิชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต.

‘‘ปุพฺพงฺคมา ภินฺนวาทา, มหาสงฺคีติการกา;

เตสฺจ อนุกาเรน, ภินฺนวาทา พหู อหุ.

‘‘ตโต อปรกาลมฺหิ, ตสฺมึ เภโท อชายถ;

โคกุลิกา เอกพฺโยหาริ, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว.

‘‘โคกุลิกานํ ทฺเว เภทา, อปรกาลมฺหิ ชายถ;

พหุสฺสุติกา จ ปฺตฺติ, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว.

‘‘เจติยา จ ปุนวาที, มหาสงฺคีติเภทกา;

ปฺจ วาทา อิเม สพฺเพ, มหาสงฺคีติมูลกา.

‘‘อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, เอกเทสฺจ สงฺคหํ;

คนฺถฺจ เอกเทสฺหิ, ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อกํสุ เต.

‘‘นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ;

ปกติภาวํ วิชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต.

‘‘วิสุทฺธตฺเถรวาทมฺหิ, ปุน เภโท อชายถ;

มหิสาสกา วชฺชิปุตฺตกา, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว.

‘‘วชฺชิปุตฺตกวาทมฺหิ, จตุธา เภโท อชายถ;

ธมฺมตฺตุริกา ภทฺทยานิกา, ฉนฺนาคาริกา จ สมิติ.

‘‘มหิสาสกานํ ทฺเว เภทา, อปรกาลมฺหิ อชายถ;

สพฺพตฺถิวาทา ธมฺมคุตฺตา, ทฺวิธา ภิชฺชิตฺถ ภิกฺขโว.

‘‘สพฺพตฺถิวาทานํ กสฺสปิกา, สงฺกนฺติ กสฺสปิเกน จ;

สงฺกนฺติกานํ สุตฺตวาที, อนุปุพฺเพน ภิชฺชถ.

‘‘อิเม เอกาทส วาทา, ปภินฺนา เถรวาทโต;

อตฺถํ ธมฺมฺจ ภินฺทึสุ, เอกเทสฺจ สงฺคหํ;

คนฺถฺจ เอกเทสฺหิ, ฉฑฺเฑตฺวา อฺํ อกํสุ เต.

‘‘นามํ ลิงฺคํ ปริกฺขารํ, อากปฺปกรณานิ จ;

ปกติภาวํ วิชหิตฺวา, ตฺจ อฺํ อกํสุ เต.

‘‘สตฺตรส ภินฺนวาทา, เอกวาโท อภินฺนโก;

สพฺเพวฏฺารส โหนฺติ, ภินฺนวาเทน เต สห;

นิคฺโรโธว มหารุกฺโข, เถรวาทานมุตฺตโม.

‘‘อนูนํ อนธิกฺจ, เกวลํ ชินสาสนํ;

กณฺฏกา วิย รุกฺขมฺหิ, นิพฺพตฺตา วาทเสสกา.

‘‘ปเม วสฺสสเต นตฺถิ, ทุติเย วสฺสสตนฺตเร;

ภินฺนา สตฺตรส วาทา, อุปฺปนฺนา ชินสาสเน’’ติ.

อปราปรํ ปน เหมวตา ราชคิริกา สิทฺธตฺถิกา ปุพฺพเสลิยา อปรเสลิยา วาชิริยาติ อฺเปิ ฉ อาจริยวาทา อุปฺปนฺนา. ปุริมกานํ ปน อฏฺารสนฺนํ อาจริยวาทานํ วเสน ปวตฺตมาเน สาสเน อโสโก ธมฺมราชา ปฏิลทฺธสทฺโธ ทิวเส ทิวเส พุทฺธปูชาย สตสหสฺสํ, ธมฺมปูชาย สตสหสฺสํ, สงฺฆปูชาย สตสหสฺสํ, อตฺตโน อาจริยสฺส นิคฺโรธตฺเถรสฺส สตสหสฺสํ, จตูสุ ทฺวาเรสุ เภสชฺชตฺถาย สตสหสฺสนฺติ ปฺจ สตสหสฺสานิ ปริจฺจชนฺโต สาสเน อุฬารํ ลาภสกฺการํ ปวตฺเตสิ. ตทา หตลาภสกฺกาเรหิ ติตฺถิเยหิ อุปฺปาทิตํ อเนกปฺปการํ สาสนมลํ วิโสเธตฺวา โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถโร ติปิฏกปริยตฺติธรานํ ปภินฺนปฏิสมฺภิทานํ ภิกฺขูนํ สหสฺสเมกํ คเหตฺวา ยถา มหากสฺสปตฺเถโร จ ยสตฺเถโร จ ธมฺมฺจ วินยฺจ สงฺคายึสุ, เอวเมว สงฺคายนฺโต ตติยสงฺคีตึ อกาสิ. อิทานิ ตํ ตติยสงฺคีตึ มูลโต ปภุติ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ติสฺโสปิ โข มหาพฺรหฺมา พฺรหฺมโลกโต จวิตฺวา โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสี’’ติอาทิ.

ตตฺถ เคเห ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสีติ โมคฺคลิพฺราหฺมณสฺส เคเห พฺราหฺมณิยา กุจฺฉิมฺหิ ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสีติ อตฺโถ. เคหสฺส ปน ตนฺนิสฺสยตฺตา นิสฺสิเต นิสฺสยโวหารวเสน ‘‘เคเห ปฏิสนฺธึ อคฺคเหสี’’ติ วุตฺตํ ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺติ, สพฺโพ คาโม อาคโต’’ติ. สตฺตวสฺสานีติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ. อติจฺฉถาติ อติกฺกมิตฺวา อิจฺฉถ, อิธ ภิกฺขา น ลพฺภติ, อิโต อฺตฺถ คนฺตฺวา ภิกฺขํ ปริเยสถาติ อธิปฺปาโย. ‘‘โภ ปพฺพชิตา’’ติอาทิ พฺราหฺมโณ อตฺตโน เคเห ภิกฺขาลาภํ อนิจฺฉนฺโต อาห. ปฏิยาทิตภตฺตโตติ สมฺปาเทตฺวา ปิตภตฺตโต. ตทุปิยนฺติ ตทนุรูปํ. อุปสมํ ทิสฺวาติ เถรสฺส กายจิตฺตวูปสมํ ปุนปฺปุนํ ทิสฺวา, ตฺวาติ อตฺโถ. อิริยาปถวูปสมสนฺทสฺสเนน หิ ตนฺนิพนฺธิโน จิตฺตสฺส โยนิโส ปวตฺติอุปสโมปิ วิฺายติ. ภิยฺโยโส มตฺตาย ปสีทิตฺวาติ ปุนปฺปุนํ วิเสสโต อธิกตรํ ปสีทิตฺวา. ภตฺตวิสฺสคฺคกรณตฺถายาติ ภตฺตกิจฺจกรณตฺถาย. อธิวาเสตฺวาติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา.

โสฬสวสฺสุทฺเทสิโกติ โสฬสวสฺโสติ อุทฺทิสิตพฺโพ โวหริตพฺโพติ โสฬสวสฺสุทฺเทโส, โสเยว โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก. โสฬสวสฺโสติ วา อุทฺทิสิตพฺพตํ อรหตีติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, โสฬสวสฺสานิ วา อุทฺทิสิตพฺพานิ อสฺสาติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, โสฬสวสฺโสติ อุทฺเทโส วา อสฺส อตฺถีติ โสฬสวสฺสุทฺเทสิโก, อตฺถโต ปน โสฬสวสฺสิโกติ วุตฺตํ โหติ. ติณฺณํ เวทานํ ปารคูติ อิรุเวทยชุเวทสามเวทสงฺขาตานํ ติณฺณํ เวทานํ ปคุณกรณวเสน ปารํ คโตติ ปารคู. ปารคูติ เจตฺถ นิจฺจสาเปกฺขตาย สมาสาทิกํ เวทิตพฺพํ. ลคฺเคตฺวาติ โอลมฺเพตฺวา. น จ กาจีติ เอตฺถ -สทฺโท อวธารเณ, กาจิ กถา เนว อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ปลฺลงฺกนฺติ นิสีทิตพฺพาสนํ. อุปฺปชฺชิสฺสตีติ เอตฺถาปิ ‘‘กถา’’ติ อิทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. กุปิโต อนตฺตมโนติ โกเปน กุปิโต, อนตฺตมโน โทมนสฺเสน. โทมนสฺสสมงฺคี หิ ปุคฺคโล ปีติสุเขหิ น อตฺตมโน น อตฺตจิตฺโตติ อนตฺตมโนติ วุจฺจติ. น สกมโนติ วา อนตฺตมโน อตฺตโน วเส อฏฺิตจิตฺตตฺตา.

จณฺฑิกฺกภาเวติ จณฺฑิโก วุจฺจติ จณฺโฑ ถทฺธปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว จณฺฑิกฺกํ, ถทฺธภาโวติ อตฺโถ. อิธ ปน ‘‘จณฺฑิกฺกภาเว’’ติ วุตฺตตฺตา จณฺฑิโกเยว จณฺฑิกฺกนฺติ คเหตพฺพํ, เตน ‘‘จณฺฑิกฺกภาเว’’ติ เอตฺถ ถทฺธภาเวติ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. กิฺจิ มนฺตนฺติ กิฺจิ เวทํ. อฺเ เก ชานิสฺสนฺตีติ น เกจิ ชานิสฺสนฺตีติ อธิปฺปาโย. ปุจฺฉิตฺวา สกฺกา ชานิตุนฺติ อตฺตโน ปเทสาเณ ิตตฺตา เถโร เอวมาห. สพฺพฺุพุทฺธา เอว หิ ‘‘ปุจฺฉ, มาณว, ยทากงฺขสี’’ติอาทินา ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ อสาธารณํ สพฺพฺุปวารณํ ปวาเรนฺติ. สาวกา ปน ปเทสาเณ ิตตฺตา ‘‘สุตฺวา เวทิสฺสามา’’ติ วา ‘‘ปุจฺฉิตฺวา สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ วา วทนฺติ.

ตีสุ เวเทสูติอาทีสุ ตโย เวทา ปุพฺเพ วุตฺตนยา เอว. นิฆณฺฑูติ นามนิฆณฺฑุรุกฺขาทีนํ เววจนปฺปกาสกํ สตฺถํ, เววจนปฺปกาสกนฺติ จ ปริยายสทฺททีปกนฺติ อตฺโถ, เอเกกสฺส อตฺถสฺส อเนกปริยายวจนวิภาวกนฺติ วุตฺตํ โหติ. นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ อเนเกสํ อตฺถานํ เอกสทฺทสฺส วจนียตาวิภาวนวเสนปิ ตสฺส คนฺถสฺส ปวตฺตตฺตา. วจนียวาจกภาเวน อตฺถํ สทฺทฺจ นิขณฺเฑติ ภินฺทติ วิภชฺช ทสฺเสตีติ นิขณฺฑุ, โส เอว อิธ ข-การสฺส ฆ-การํ กตฺวา นิฆณฺฑูติ วุตฺโต. เกฏุภนฺติ กิริยากปฺปวิกปฺโป กวีนํ อุปการสตฺถํ. เอตฺถ จ กิริยากปฺปวิกปฺโปติ วจีเภทาทิลกฺขณา กิริยา กปฺปียติ วิกปฺปียติ เอเตนาติ กิริยากปฺโป, โส ปน วณฺณปทพนฺธปทตฺถาทิวิภาคโต พหุวิกปฺโปติ กิริยากปฺปวิกปฺโปติ วุจฺจติ. อิทฺจ มูลกิริยากปฺปคนฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. โส หิ สตสหสฺสปริมาโณ นยาทิจริยาทิกํ ปกรณํ. วจนตฺถโต ปน กิฏติ คเมติ กิริยาทิวิภาคํ, ตํ วา อนวเสสปริยาทานโต คเมนฺโต ปูเรตีติ เกฏุภนฺติ วุจฺจติ, สห นิฆณฺฑุนา เกฏุเภน จ สนิฆณฺฑุเกฏุภา, ตโย เวทา. เตสุ สนิฆณฺฑุเกฏุเภสุ. านกรณาทิวิภาคโต นิพฺพจนวิภาคโต จ อกฺขรา ปเภทียนฺติ เอเตนาติ อกฺขรปฺปเภโท, สิกฺขา จ นิรุตฺติ จ. สห อกฺขรปฺปเภเทนาติ สากฺขรปฺปเภทา, เตสุ สากฺขรปฺปเภเทสุ. อิติหาสปฺจเมสูติ อถพฺพนเวทํ จตุตฺถํ กตฺวา ‘‘อิติห อาส อิติห อาสา’’ติ อีทิสวจนปฏิสํยุตฺโต ปุราณกถาสงฺขาโต อิติหาโส ปฺจโม เอเตสนฺติ อิติหาสปฺจมา, ตโย เวทา. เตสุ อิติหาสปฺจเมสุ. เนว อตฺตนา ปสฺสตีติ เนว สยํ ปสฺสติ, เนว ชานาตีติ อตฺโถ. ปุจฺฉ, พฺยากริสฺสามีติ ‘‘สพฺพาปิ ปุจฺฉา เวเทสุเยว อนฺโตคธา’’ติ สลฺลกฺเขนฺโต เอวมาห.

ยสฺส จิตฺตนฺติอาทิปฺหทฺวยํ จุติจิตฺตสมงฺคิโน ขีณาสวสฺส จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ ปมปฺเห อุปฺปชฺชตีติ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย อุปฺปชฺชติ. น นิรุชฺฌตีติ นิโรธกฺขณํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ตสฺส จิตฺตนฺติ ตสฺส ปุคฺคลสฺส ตโต ปฏฺาย จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ปุจฺฉติ. ยสฺส วา ปนาติอาทิเก ปน ทุติยปฺเห นิรุชฺฌิสฺสตีติ ยสฺส จิตฺตํ ภงฺคกฺขณํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ. นุปฺปชฺชิสฺสตีติ ภงฺคโต ปรภาเค สยํ วา อฺํ วา นุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส ปุคฺคลสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตีติ ปุจฺฉติ. อิเมสํ ปน ปฺหานํ ปโม ปฺโห วิภชฺชพฺยากรณีโย, ตสฺมา ‘‘ยสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๖๓) เอวํ ปุฏฺเน สตา เอวมยํ ปฺโห จ วิสฺสชฺเชตพฺโพ ‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ นิรุชฺฌิสฺสติ น อุปฺปชฺชิสฺสติ, อิตเรสํ จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ เตสํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌติ, นิรุชฺฌิสฺสติ เจว อุปฺปชฺชิสฺสติ จา’’ติ (ยม. ๒.จิตฺตยมก.๖๓). เยสฺหิ ปริจฺฉินฺนวฏฺฏทุกฺขานํ ขีณาสวานํ สพฺพปจฺฉิมสฺส จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ วตฺตติ, เตสํ ตเทว จุติจิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ นุปฺปชฺชิสฺสตีติ. อุปฺปาทปฺปตฺตตาย อุปฺปชฺชติ นาม, ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ภงฺคํ ปน ปตฺวา ตํ เตสํ จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ, ตโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา อฺํ น อุปฺปชฺชิสฺสติ. เปตฺวา ปน ปจฺฉิมจิตฺตสมงฺคิขีณาสวํ อิตเรสํ เสกฺขาเสกฺขปุถุชฺชนานํ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิจิตฺตํ อุปฺปาทปฺปตฺตตาย อุปฺปชฺชติ นาม, ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ. ภงฺคํ ปน ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสเตว, อฺํ ปน ตสฺมึ วา อฺสฺมึ วา อตฺตภาเว อุปฺปชฺชิสฺสติ เจว นิรุชฺฌิสฺสติ จ. ทุติโย ปน ปฺโห อรหโต จุติจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ นิยมิตตฺตา เอกํสพฺยากรณีโย, ตสฺมา ‘‘ยสฺส วา ปน จิตฺตํ นิรุชฺฌิสฺสติ น อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ น นิรุชฺฌตี’’ติ ปุฏฺเน ‘‘อามนฺตา’’ติ วตฺตพฺพํ. ขีณาสวสฺส หิ อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิจุติจิตฺตํ ภงฺคํ ปตฺวา นิรุชฺฌิสฺสติ นาม, ตโต ปรํ นุปฺปชฺชิสฺสติ. อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตาย ปน อุปฺปชฺชติ เจว ภงฺคํ อปฺปตฺตตาย น นิรุชฺฌติ จาติ วุจฺจติ.

อยํ ปน มาณโว เอวมิเม ปฺเห วิสฺสชฺเชตุมสกฺโกนฺโต วิฆาตํ ปาปุณิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มาณโว อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโต’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทฺธํ วา อโธ วา หริตุํ อสกฺโกนฺโตติ อุปริมปเท วา เหฏฺิมปทํ, เหฏฺิมปเท วา อุปริมปทํ อตฺถโต สมนฺนาหริตุํ อสกฺโกนฺโตติ อตฺโถ, ปุพฺเพนาปรํ โยเชตฺวา ปฺหสฺส อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานํ ตาว อาจิกฺขีติ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย’’ติอาทิกํ ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานํ ‘‘มนฺตสฺส อุปจาโร อย’’นฺติ ปมํ อาจิกฺขิ. โสตาปนฺนานํ สีเลสุ ปริปูรการิตาย สมาทินฺนสีลโต นตฺถิ ปริหานีติ อาห ‘‘อภพฺโพ ทานิ สาสนโต นิวตฺติตุ’’นฺติ. วฑฺเฒตฺวาติ อุปริมคฺคตฺถาย กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา. อปฺโปสฺสุกฺโก ภเวยฺย พุทฺธวจนํ คเหตุนฺติ อรหตฺตปฺปตฺติยา กตกิจฺจภาวโตติ อธิปฺปาโย. โวหารวิธิมฺหิ เฉกภาวตฺถํ ‘‘อุปชฺฌาโย มํ ภนฺเต ตุมฺหากํ สนฺติกํ ปหิณี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อุทกทนฺตโปนํ อุปฏฺาเปสีติ ปริโภคตฺถาย อุทกฺจ ทนฺตกฏฺฺจ ปฏิยาเทตฺวา เปสิ. ทนฺเต ปุนนฺติ วิโสเธนฺติ เอเตนาติ ทนฺตโปนํ วุจฺจติ ทนฺตกฏฺํ. คุณวนฺตานํ สงฺคเหตพฺพภาวโต เถโร สามเณรสฺส จ ขนฺติวีริยอุปฏฺานาทิคุเณ ปจฺจกฺขกรณตฺถํ วินาว อภิฺาย ปกติยา วีมํสมาโน ปุน สมฺมชฺชนาทึ อกาสิ. ‘‘สามเณรสฺส จิตฺตทมนตฺถํ อกาสี’’ติปิ วทนฺติ. พุทฺธวจนํ ปฏฺเปสีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปตุํ อารภิ. เปตฺวา วินยปิฏกนฺติ เอตฺถ ‘‘สามเณรานํ วินยปริยาปุณนํ จาริตฺตํ น โหตีติ เปตฺวา วินยปิฏกํ อวเสสํ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหาเปสี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. อวสฺสิโกว สมาโนติ อุปสมฺปทโต ปฏฺาย อปริปุณฺณเอกวสฺโสติ อธิปฺปาโย. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส หทเย ปติฏฺาปิตมฺปิ พุทฺธวจนํ โวหารวเสน ตสฺส หตฺเถ ปติฏฺาปิตํ นาม โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘หตฺเถ สกลํ พุทฺธวจนํ ปติฏฺาเปตฺวา’’ติ. ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพายึสูติ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส หตฺเถ สกลสาสนปติฏฺาปเนน ทุติยสงฺคีติการกาโรปิตทณฺฑกมฺมโต มุตฺตา หุตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา ปรินิพฺพายึสุ.

พินฺทุสารสฺส รฺโ เอกสตปุตฺตาติ เอตฺถ พินฺทุสาโร นาม สกฺยกุลปฺปสุโต จนฺทคุตฺตสฺส นาม รฺโ ปุตฺโต. ตถา หิ วิฏฏูภสงฺคาเม กปิลวตฺถุโต นิกฺขนฺตสกฺยปุตฺเตหิ มาปิเต โมริยนคเร ขตฺติยกุลสมฺภโว จนฺทคุตฺตกุมาโร ปาฏลิปุตฺเต ราชา อโหสิ. ตสฺส ปุตฺโต พินฺทุสาโร นาม ราชกุมาโร ปิตุ อจฺจเยน ราชา หุตฺวา เอกสตปุตฺตกานํ ชนโก อโหสิ. เอกสตนฺติ เอกฺจ สตฺจ เอกสตํ, เอเกนาธิกํ สตนฺติ อตฺโถ. เอกาว มาตา อสฺสาติ เอกมาติกํ, อตฺตนา สโหทรนฺติ วุตฺตํ โหติ. น ตาว เอกรชฺชํ กตนฺติ อาห ‘‘อนภิสิตฺโตว รชฺชํ กาเรตฺวา’’ติ. เอกรชฺชาภิเสกนฺติ สกลชมฺพุทีเป เอกาธิปจฺจวเสน กริยมานํ อภิเสกํ. ปุฺปฺปภาเวน ปาปุณิตพฺพาปิ ราชิทฺธิโย อรหตฺตมคฺเคน อาคตา ปฏิสมฺภิทาทโย อวเสสวิเสสา วิย ปโยคสมฺปตฺติภูตา อภิเสกานุภาเวเนว อาคตาติ อาห ‘‘อภิเสกานุภาเวน จสฺส อิมา ราชิทฺธิโย อาคตา’’ติ.

ตตฺถ ราชิทฺธิโยติ ราชภาวานุคตปฺปภาวา. ยโตติ ยโต โสฬสฆฏโต. สาสเน อุปฺปนฺนสทฺโธติ พุทฺธสาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธ. อสนฺธิมิตฺตาติ ตสฺสาว นามํ. ตสฺสา กิร สรีเร สนฺธโย น ปฺายนฺติ, ตสฺมา เอวํนามิกา ชาตาติปิ วทนฺติ. เทวตา เอว ทิวเส ทิวเส อาหรนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เทวสิกนฺติ ทิวเส ทิวเส. อคทามลกนฺติ อปฺปเกเนว สรีรโสธนาทิสมตฺถํ สพฺพโทสหรณํ โอสธามลกํ. อคทหรีตกมฺปิ ตาทิสเมว หรีตกํ. เตสุ กิร ทฺวีสุ ยถากามเมกํ ปริภุฺชติ. ฉทฺทนฺตทหโตติ ฉทฺทนฺตทหสมีเป ิตเทววิมานโต กปฺปรุกฺขโต วา. ‘‘ฉทฺทนฺตทเห ตาทิสา รุกฺขวิเสสา สนฺติ, ตโต อาหรนฺตี’’ติปิ วทนฺติ. ทิพฺพฺจ ปานกนฺติ ทิพฺพผลรสปานกฺจ. อสุตฺตมยิกนฺติ กปฺปรุกฺขโต นิพฺพตฺตทิพฺพทุสฺสตฺตา สุตฺเตหิ น กตนฺติ อสุตฺตมยิกํ. สุมนปุปฺผปฏนฺติ สพฺพตฺถ สุขุมํ หุตฺวา อุคฺคตปุปฺผานํ อตฺถิตาย สุมนปุปฺผปฏํ นาม ชาตํ. อุฏฺิตสฺส สาลิโนติ สยํชาตสาลิโน. สมุทายาเปกฺขฺเจตฺถ เอกวจนํ, สาลีนนฺติ อตฺโถ. นว วาหสหสฺสานีติ เอตฺถ ‘‘จตสฺโส มุฏฺิโย เอโก กุฑุโว, จตฺตาโร กุฑุวา เอโก ปตฺโถ, จตฺตาโร ปตฺถา เอโก อาฬฺหโก, จตฺตาโร อาฬฺหกา เอกํ โทณํ, จตฺตาโร โทณา เอกมานิกา, จตสฺโส มานิกา เอกขารี, วีสติ ขาริโย เอโก วาโห, ตเทว เอกํ สกฏ’’นฺติ สุตฺตนิปาตฏฺกถาทีสุ (สุ. นิ. อฏฺ. ๒.โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๘๑; อ. นิ. ๓.๑๐; ๘๙) วุตฺตํ. อิธ ปน ‘‘ทฺเว สกฏานิ เอโก วาโห’’ติ วทนฺติ. นิตฺถุสกเณ กโรนฺตีติ ถุสกุณฺฑกรหิเต กโรนฺติ. มธุํ กโรนฺตีติ อาคนฺตฺวา สมีปฏฺาเน มธุํ กโรนฺติ. พลิกมฺมํ กโรนฺตีติ สพฺพตฺถ พลิกมฺมการกา รฏฺวาสิโน วิย มธุรสรํ วิกูชนฺตา พลึ กโรนฺติ. ‘‘อาคนฺตฺวา อากาเสเยว สทฺทํ กตฺวา อตฺตานํ อชานาเปตฺวา คจฺฉนฺตี’’ติ วทนฺติ.

สุวณฺณสงฺขลิกาเยว พนฺธนํ สุวณฺณสงฺขลิกพนฺธนํ. จตุนฺนํ พุทฺธานนฺติ กกุสนฺธาทีนํ จตุนฺนํ พุทฺธานํ. อธิคตรูปทสฺสนนฺติ ปฏิลทฺธรูปทสฺสนํ. อยํ กิร กปฺปายุกตฺตา จตุนฺนมฺปิ พุทฺธานํ รูปสมฺปตฺตึ ปจฺจกฺขโต อทฺทกฺขิ. กาฬํ นามนาคราชานํ อานยิตฺวาติ เอตฺถ โส ปน นาคราชา คงฺคายํ นิกฺขิตฺตสุวณฺณสงฺขลิกาย คนฺตฺวา อตฺตโน ปาเทสุ ปติตสฺาย อาคโตติ เวทิตพฺโพ. นนุ จ อโสกสฺส รฺโ อาณา เหฏฺา โยชนโต อุปริ ปวตฺตติ, อิมสฺส จ วิมานํ โยชนปริจฺเฉทโต เหฏฺา ปติฏฺิตํ, ตสฺมา กถํ อยํ นาคราชา รฺโ อาณาย อาคโตติ? กิฺจาปิ อตฺตโน วิมานํ โยชนปริจฺเฉทโต เหฏฺา ปติฏฺิตํ, ตถาปิ รฺโ อาณาปวตฺติฏฺาเนน สห เอกาพทฺธตาย ตสฺส อาณํ อกาสิ. ยถา หิ รชฺชสีมนฺตรวาสิโน มนุสฺสา เตหิ เตหิ ราชูหิ นิปฺปีฬิยมานา เตสํ เตสํ อาณาย ปวตฺตนฺติ, เอวํสมฺปทมิทนฺติ วทนฺติ.

อาปาถํ กโรหีติ สมฺมุขํ กโรหิ, โคจรํ กโรหีติ อตฺโถ. เตน นิมฺมิตํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโตติ สมฺพนฺโธ. กีทิสํ ตํ พุทฺธรูปนฺติ อาห ‘‘สกลสรีรวิปฺปกิณฺณา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปุฺปฺปภาวนิพฺพตฺตคฺคหณํ เตน นิมฺมิตานมฺปิ อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตานํ ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณานํ ภควโต ปุฺปฺปภาวนิพฺพตฺตอสีติอนุพฺยฺชนาทีหิ สทิสตฺตา กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. น หิ เตน ตทา นิมฺมิตํ อเนกาการปริปุณฺณํ พุทฺธรูปํ ภควโต ปุฺปฺปภาเวน นิพฺพตฺตนฺติ สกฺกา วตฺตุํ. อสีติอนุพฺยฺชนํ ตมฺพนขตุงฺคนาสาทิ. ทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณํ สุปฺปติฏฺิตปาทตาทิ. วิกสิต…เป… สลิลตลนฺติ สูริยรสฺมิสมฺผสฺเสน วิกสิเตหิ วิกาสมุปคเตหิ กํ อลงฺกโรตีติ ‘‘กมล’’นฺติ ลทฺธนาเมหิ รตฺตปทุเมหิ นีลุปฺปลาทิเภเทหิ อุปฺปเลหิ เจว เสตปทุมสงฺขาเตหิ ปุณฺฑรีเกหิ จ ปฏิมณฺฑิตํ สมนฺตโต สชฺชิตํ ชลตลมิว. ตาราคณ…เป… คคนตลนฺติ สพฺพตฺถ วิปฺปกิณฺณตารกคณสฺส รสฺมิชาลวิสเทหิ วิปฺผุริตาย ภาสมานาย โสภาย กนฺติยา สมุชฺชลํ สมฺมา ภาสมานํ คคนตลมิว อากาสตลมิว. สฺฌาปฺปภา…เป… กนกคิริสิขรนฺติ สฺฌากาลสฺชาตปฺปภานุราเคหิ อินฺทจาเปหิ วิชฺชุลตาหิ จ ปริกฺขิตฺตํ สมนฺตโต ปริวาริตํ กนกคิริสิขรมิว สุวณฺณปพฺพตกูฏมิว. วิมลเกตุมาลาติ เอตฺถ ‘‘เกตุมาลา นาม สีสโต นิกฺขมิตฺวา อุปริ มุทฺธนิ ปุฺโช หุตฺวา ทิสฺสมานรสฺมิราสี’’ติ วทนฺติ. ‘‘มุทฺธนิ มชฺเฌ ปฺายมาโน อุนฺนตปฺปเทโสติปิ วทนฺตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน อโสโก ธมฺมราชา สฺชาตปีติโสมนสฺโส สตฺตาหํ นิราหาโร หุตฺวา ยถาิโตว อวิกฺขิตฺตจิตฺโต ปสาทโสมฺเมหิ จกฺขูหิ นิรนฺตรํ พุทฺธรูปเมว โอโลเกสิ, ตสฺมา อกฺขีหิ ปูชา กตา นาม โหตีติ อาห ‘‘อกฺขิปูชํ นาม อกาสี’’ติ. อถ วา จกฺขูนํ ตาทิสสฺส อิฏฺารมฺมณสฺส อุปฏฺาปเนน อกฺขีนํ ปูชา กตา นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อกฺขิปูชํ นาม อกาสี’’ติ.

อิทฺธิวิภาวนาธิการปฺปสงฺเคน เจตํ วตฺถุ วุตฺตํ, นานุกฺกเมน. อยฺเหตฺถ อนุกฺกโม – อโสโก กิร มหาราชา อุปริ วกฺขมานานุกฺกเมน สีหปฺชเรน โอโลเกนฺโต นิคฺโรธสามเณรํ อิริยาปถสมฺปนฺนํ นาครชนนยนานิ อากฑฺฒนฺตํ ยุคมตฺตํ เปกฺขมานํ ทิสฺวา ปสีทิตฺวา สฺชาตเปโม สพหุมาโน อามนฺตาเปตฺวา เสตจฺฉตฺตสฺส เหฏฺา สีหาสเน นิสีทาเปตฺวา โภเชตฺวา สามเณรสฺส วจนาทาเส ทิสฺสมานํ ทสพลสฺส ธมฺมกายํ ทิสฺวา รตนตฺตเย ปสีทิตฺวา สปริโส สรณสีเลสุ ปติฏฺาย ตโต ปฏฺาย อภิวฑฺฒมานสทฺโธ ปุพฺเพ โภชิยมานานิ ติตฺถิยสฏฺิสหสฺสานิ นีหริตฺวา ภิกฺขูนํ สฏฺิสหสฺสานํ สุวกาหตสาลิสมฺปาทิตภตฺตํ ปฏฺเปตฺวา เทวโตปนีตํ อโนตตฺตสลิลํ นาคลตาทนฺตกฏฺฺจ อุปนาเมตฺวา นิจฺจสงฺฆุปฏฺานํ กโรนฺโต เอกทิวสํ สุวณฺณสงฺขลิกพนฺธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา กาฬํ นาคราชานํ อานยิตฺวา เตน นิมฺมิตํ วุตฺตปฺปการํ สิรีโสภคฺคสมฺปนฺนํ พุทฺธรูปํ ปสฺสนฺโต ทีฆปุถุลนิจฺจลนยนปฺปภาหิ สตฺตาหํ อกฺขิปูชมกาสิ.

อิทานิ ปน ยถานุสนฺธึ ฆเฏตฺวา อนุกฺกเมน ตสฺส สาสนาวตารํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ราชา กิร อภิเสกํ ปาปุณิตฺวา’’ติอาทิ. พาหิรกปาสณฺฑนฺติ พาหิรกปฺปเวทิตํ สมยวาทํ. พาหิรกปฺปเวทิตา หิ สมยวาทา สตฺตานํ ตณฺหาปาสํ ทิฏฺิปาสฺจ เฑนฺติ โอฑฺเฑนฺตีติ ‘‘ปาสณฺฑา’’ติ วุจฺจนฺติ. ปริคฺคณฺหีติ วีมํสมาโน ปริคฺคเหสิ. พินฺทุสาโร พฺราหฺมณภตฺโต อโหสีติ อตฺตโน ปิตุ จนฺทคุตฺตสฺส กาลโต ปฏฺาย พฺราหฺมเณสุ สมฺภตฺโต อโหสิ. จนฺทเกน นาม กิร พฺราหฺมเณน สมุสฺสาหิโต จนฺทคุตฺตกุมาโร เตน ทินฺนนเย ตฺวา สกลชมฺพุทีเป เอกรชฺชมกาสิ, ตสฺมา ตสฺมึ พฺราหฺมเณ สฺชาตพหุมานวเสน จนฺทคุตฺตกาลโต ปฏฺาย สฏฺิสหสฺสมตฺตา พฺราหฺมณชาติกา ตสฺมึ ราชกุเล นิจฺจภตฺติกา อเหสุํ. พฺราหฺมณานนฺติ ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทิภาวมนุปคเต ทสฺเสติ. ปณฺฑรงฺคปริพฺพาชกาทโย จ พฺราหฺมณชาติวนฺโตติ อาห ‘‘พฺราหฺมณชาติยปาสณฺฑาน’’นฺติ. เอตฺถ ปน ทิฏฺิปาสาทีนํ โอฑฺฑนโต ปณฺฑรงฺคาทโยว ‘‘ปาสณฺฑา’’ติ วุตฺตา. สีหปฺชเรติ มหาวาตปาเน. อุปสมปริพาหิเรนาติ อุปสมโต ปริพาหิเรน, อุปสมรหิเตนาติ อตฺโถ. อนฺเตปุรํ อติหรถาติ อนฺเตปุรํ ปเวเสถ, อาเนถาติ วุตฺตํ โหติ.

อมา สห ภวนฺติ กิจฺเจสูติ อมจฺจา, รชฺชกิจฺจโวสาปนกา. เทวาติ ราชานํ อาลปนฺติ. ราชาโน หิ ทิพฺพนฺติ กามคุเณหิ กีฬนฺติ, เตสุ วา วิหรนฺติ วิชยสมตฺถตาโยเคน ปจฺจตฺถิเก วิเชตุํ อิจฺฉนฺติ, อิสฺสริยานาทิสกฺการทานคหณํ ตํ ตํ อตฺถานุสาสนํ วา กโรนฺติ โวหรนฺติ, ปุฺานุภาวปฺปตฺตาย ชุติยา โชตนฺตีติ วา ‘‘เทวา’’ติ วุจฺจนฺติ . ตถา หิ เต จตูหิ สงฺคหวตฺถูหิ ชนํ รฺเชนฺตา สยํ ยถาวุตฺเตหิ วิเสเสหิ ราชนฺติ ทิปฺปนฺติ โสภนฺตีติ ‘‘ราชาโน’’ติ จ วุจฺจนฺติ. นิคณฺาทโยติ เอตฺถ นิคณฺโ นาม ‘‘อมฺหากํ คณฺนกิเลโส สํสาเร ปลิพุทฺธนกิจฺโจ ราคาทิกิเลโส เขตฺตวตฺถุปุตฺตทาราทิวิสโย นตฺถิ, กิเลสคณฺิรหิตา มย’’นฺติ เอวํ วาทิตาย ‘‘นิคณฺา’’ติ ลทฺธนามา ติตฺถิยา.

อุจฺจาวจานีติ อุจฺจานิ จ อวจานิ จ, มหนฺตานิ เจว ขุทฺทกานิ จ, อถ วา วิสิฏฺานิ เจว ลามกานิ จาติ อตฺโถ. ภทฺทปีเกสูติ เวตฺตมยปีเสุ. สาโรติ สีลาทิคุณสาโร. ราชงฺคเณนาติ ราชนิเวสนทฺวาเร วิวเฏน ภูมิปฺปเทเสน. องฺคณนฺติ หิ กตฺถจิ กิเลสา วุจฺจนฺติ ‘‘ราโค องฺคณ’’นฺติอาทีสุ (วิภ. ๙๒๔). ราคาทโย หิ องฺคนฺติ เอเตหิ ตํสมงฺคีปุคฺคลา นิหีนภาวํ คจฺฉนฺตีติ องฺคณานีติ วุจฺจนฺติ. กตฺถจิ มลํ วา ปงฺโก วา ‘‘ตสฺเสว รชสฺส วา องฺคณสฺส วา ปหานาย วายมตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๘๔). อฺชติ สมฺมกฺเขตีติ หิ องฺคณํ, มลาทิ. กตฺถจิ ตถารูโป วิวฏปฺปเทโส ‘‘เจติยงฺคณํ โพธิยงฺคณ’’นฺติอาทีสุ. อฺชติ ตตฺถ ิตํ อติสุนฺทรตาย อภิพฺยฺเชตีติ หิ องฺคณํ, วิวโฏ ภูมิปฺปเทโส. อิธาปิ โสเยว อธิปฺเปโต. ทนฺตนฺติอาทีสุ กิเลสวิปฺผนฺทรหิตจิตฺตตาย ทนฺตํ, นิจฺจํ ปจฺจุปฏฺิตสตารกฺขตาย คุตฺตํ, จกฺขาทิอินฺทฺริยานํ สนฺตตาย สนฺตินฺทฺริยํ, ปาสาทิเกน อิริยาปเถน สมนฺนาคตตฺตา สมฺปนฺนอิริยาปถํ. อิทานิ นิคฺโรธสามเณรํ สรูปโต วิภาเวตุกาโม อาห ‘‘โก ปนายํ นิคฺโรโธ นามา’’ติอาทิ.

ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถาติ เอตฺถ พินฺทุสารสฺส กิร เอกสตปุตฺเตสุ โมริยวํสชาย ธมฺมเทวิยา อโสกติสฺสนามานํ ทฺวินฺนํ ปุตฺตานํ มชฺเฌ เชฏฺโ อโสกกุมาโร อวนฺติรฏฺํ ภุฺชติ. ปิตรา เปสิโต ปาฏลิปุตฺตโต ปฺาสโยชนมตฺถเก วิฏฏูภภยาคตานํ สากิยานมาวาสํ เวฏิสํ นาม นครํ ปตฺวา ตตฺถ เวฏิสํ นาม เสฏฺิธีตรํ อาทาย อุชฺเชนีราชธานิยํ รชฺชํ กโรนฺโต มหินฺทํ นาม กุมารํ สงฺฆมิตฺตฺจ กุมาริกํ ลภิตฺวา เตหิ สทฺธึ รชฺชสุขมนุภวนฺโต ปิตุโน คิลานภาวํ สุตฺวา อุชฺเชนึ ปหาย สีฆํ ปาฏลิปุตฺตํ อุปคนฺตฺวา ปิตุ อุปฏฺานํ กตฺวา ตสฺส อจฺจเยน รชฺชํ อคฺคเหสิ. ตํ สุตฺวา ยุวราชา สุมนาภิธาโน กุชฺฌิตฺวา ‘‘อชฺช เม มรณํ วา โหตุ รชฺชํ วา’’ติ อฏฺนวุติภาติกปริวุโต สํวฏฺฏสาคเร ชลตรงฺคสงฺฆาโต วิย อชฺโฌตฺถรนฺโต อุปคจฺฉติ. ตโต อโสโก อุชฺเชนีราชา สงฺคามํ ปกฺขนฺทิตฺวา สตฺตุมทฺทนํ กโรนฺโต สุมนํ นาม ราชกุมารํ คเหตฺวา ฆาเตสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘พินฺทุสารรฺโ กิร ทุพฺพลกาเลเยว อโสกกุมาโร อตฺตนา ลทฺธํ อุชฺเชนีรชฺชํ ปหาย อาคนฺตฺวา สพฺพนครํ อตฺตโน หตฺถคตํ กตฺวา สุมนํ นาม ราชกุมารํ อคฺคเหสี’’ติ.

ปริปุณฺณคพฺภาติ ปริปกฺกคพฺภา. เอกํ สาลนฺติ สพฺพปริจฺฉนฺนํ เอกํ ปาสาทํ. ‘‘เทวตาย ปน อานุภาเวน ตสฺมึ ปาสาเท มหาชเนน อทิสฺสมานา หุตฺวา วาสํ กปฺเปสี’’ติ วทนฺติ. นิพทฺธวตฺตนฺติ ‘‘เอกสฺส ทิวสสฺส เอตฺตก’’นฺติ นิยาเมตฺวา ปิตวตฺตํ. เหตุสมฺปทนฺติ อรหตฺตูปนิสฺสยปุฺสมฺปทํ. ขุรคฺเคเยวาติ ขุรกมฺมปริโยสาเนเยว, ตจปฺจกกมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ตํ ปริคฺคณฺหนฺโต อนฺติมาย เกสวฏฺฏิยา โวโรปนาย สมกาลเมว จ อรหตฺตํ ปาปุณีติ วุตฺตํ โหติ. สรีรํ ชคฺคิตฺวาติ ทนฺตกฏฺขาทนมุขโธวนาทีหิ สรีรปริกมฺมํ กตฺวา.

สีหปฺชเร จงฺกมตีติ สีหปฺชรสมีเป อปราปรํ จงฺกมติ. ตงฺขณฺเวาติ ตสฺมึ ขเณเยว. อยํ ชโนติ ราชงฺคเณ จรมานํ ชนํ ทิสฺวา วทติ. ภนฺตมิคปฺปฏิภาโคติ อนวฏฺิตตฺตา กายจาปลฺเลน สมนฺนาคตตฺตา ภนฺตมิคสทิโส. อติวิย โสภตีติ สมฺพนฺโธ. อาโลกิตวิโลกิตนฺติ เอตฺถ อาโลกิตํ นาม ปุรโตเปกฺขนํ. อภิมุโขโลกนฺหิ ‘‘อาโลกิต’’นฺติ วุจฺจติ. วิโลกิตนฺติ อนุทิสาเปกฺขนํ, ยํ ทิสาภิมุขํ โอโลเกติ, ตทนุคตทิสาเปกฺขนนฺติ อตฺโถ. สมิฺชนํ ปพฺพสงฺโกจนํ. ปสารณฺจ เตสํเยว ปสารณํ. โลกุตฺตรธมฺโมติ เสสชเนสุ อวิชฺชมาโน วิสิฏฺธมฺโม. เปมํ สณฺหีติ เปมํ ปติฏฺาสิ, อุปฺปชฺชีติ อตฺโถ. วาณิชโก อโหสีติ มธุวาณิชโก อโหสิ.

อตีเต กิร ตโย ภาตโร มธุวาณิชกา อเหสุํ. เตสุ กนิฏฺโ มธุํ วิกฺกิณาติ, อิตเร อรฺโต อาหรนฺติ. ตทา เอโก ปจฺเจกพุทฺโธ ปณฺฑุกโรคาตุโร อโหสิ. อปโร ปน ปจฺเจกพุทฺโธ ตทตฺถํ มธุภิกฺขาย จรมาโน นครํ ปาวิสิ. ปวิฏฺฺจ ตํ เอกา กุมฺภทาสี อุทกหรณตฺถํ ติตฺถํ คจฺฉมานา อทฺทส. ทิสฺวา จ ปุจฺฉิตฺวา อาคตการณฺจ ตฺวา ‘‘เอตฺถ, ภนฺเต, มธุวาณิชกา วสนฺติ, ตตฺถ คจฺฉถา’’ติ หตฺถํ ปสาเรตฺวา มธุอาปณํ ทสฺเสสิ. โส จ ตตฺถ อคมาสิ. ตํ ทิสฺวา กนิฏฺโ มธุวาณิโช สฺชาตปีติโสมนสฺโส ‘‘เกนาคตาตฺถ, ภนฺเต’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ตมตฺถํ วิทิตฺวา ปตฺตํ คเหตฺวา มธุโน ปูเรตฺวา ททมาโน ปตฺตปุณฺณํ มธุํ อุคฺคนฺตฺวา มุขโต วิสฺสนฺทิตฺวา ภูมิยํ ปตมานํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส ‘‘อิมินาหํ, ภนฺเต, ปุฺกมฺเมน ชมฺพุทีเป เอกรชฺชํ กเรยฺยํ, อาณา จ เม อากาเส ปถวิยฺจ โยชนปฺปมาเณ าเน ผรตู’’ติ ปตฺถนมกาสิ. ปจฺเจกพุทฺโธ จ ‘‘เอวํ โหตุ อุปาสกา’’ติ วตฺวา คนฺธมาทนํ คนฺตฺวา ปจฺเจกพุทฺธสฺส เภสชฺชมกาสิ.

กนิฏฺโ ปน มธุวาณิโช มธุํ ทตฺวา เคเห นิสินฺโน อิตเร อรฺโต อาคเต ทิสฺวา เอวมาห ‘‘ตุมฺหากํ ภาตโร จิตฺตํ ปสาเทถ, มมฺจ ตุมฺหากฺจ มธุํ คเหตฺวา อีทิสสฺส นาม ปจฺเจกพุทฺธสฺส ปตฺตํ ปูเรตฺวา อทาสิ’’นฺติ. เตสุ เชฏฺโ กุชฺฌิตฺวา เอวมาห ‘‘จณฺฑาลาปิ กาสาวนิวาสิโน โหนฺติ, นนุ ตว หตฺถโต มธุํ ปฏิคฺคเหตฺวา คโต จณฺฑาโล ภวิสฺสตี’’ติ. มชฺฌิโม ปน กุชฺฌิตฺวา ‘‘ตว ปจฺเจกพุทฺธํ คเหตฺวา ปรสมุทฺเท นิกฺขิปาหี’’ติ อาห. ปจฺฉา ปน เตปิ ทฺเว ภาตโร กนิฏฺเน วุจฺจมานํ ทานานิสํสปฏิสํยุตฺตกถํ สุตฺวา อนุโมทึสุเยว. สาปิ จ กุมฺภทาสี ‘‘ตสฺส มธุทายกสฺส อคฺคมเหสี ภเวยฺย’’นฺติ ปตฺถนมกาสิ. เตสุ กนิฏฺโ อโสโก ธมฺมราชา อโหสิ, สา จ กุมฺภทาสี อติวิย รูปโสภคฺคปฺปตฺตา อสนฺธิมิตฺตา นาม ตสฺส อคฺคมเหสี อโหสิ. ปรสมุทฺทวาที ปน มชฺฌิโม อิมสฺมึเยว ตมฺพปณฺณิทีเป เทวานํปิยติสฺโส นาม มหานุภาโว ราชา อโหสิ. เชฏฺโ ปน จณฺฑาลวาทิตาย จณฺฑาลคาเม ชาโต นิคฺโรโธ นาม สามเณโร อโหสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ หิ กิร ปุฺกรณกาเล เอส รฺโ เชฏฺภาตา วาณิชโก อโหสี’’ติ.

ปุพฺเพ ว สนฺนิวาเสนาติ เอตฺถ (ชา. อฏฺ. ๒.๒.๑๗๔) คาถาพนฺธวเสน วา-สทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ, ปุพฺเพ สนฺนิวาเสน วาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุพฺเพติ อตีตชาติยํ. สนฺนิวาเสนาติ สหวาเสน. สหสทฺทตฺโถ หิ อยํ สํสทฺโท. ปจฺจุปฺปนฺนหิเตน วาติ ปจฺจุปฺปนฺเน วตฺตมานภเว หิตจรเณน วา. เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ สิเนหสงฺขาตํ เปมํ ชายเต อุปฺปชฺชติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เปมํ นาเมตํ ทฺวีหิปิ การเณหิ ชายติ, ปุริมภเว มาตา วา ปิตา วา ธีตา วา ปุตฺโต วา ภาตา วา ภคินี วา ปติ วา ภริยา วา สหาโย วา มิตฺโต วา หุตฺวา โย เยน สทฺธึ เอกฏฺาเน นิวุตฺถปุพฺโพ, ตสฺส อิมินา ปุพฺเพ วา สนฺนิวาเสน ภวนฺตเรปิ อนุพนฺธนฺโต โส สิเนโห น วิชหติ, อิมสฺมึ อตฺตภาเว กเตน ปจฺจุปฺปนฺเนน หิเตน วาติ เอวํ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ ตํ เปมํ นาม ชายตีติ. กึ วิยาติ อาห ‘‘อุปฺปลํ ว ยโถทเก’’ติ. เอตฺถาปิ วา-สทฺทสฺส วุตฺตนเยเนว รสฺสตฺตํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อวุตฺตสมฺปิณฺฑนตฺโถ เจตฺถ วาสทฺโท. เตน ปทุมาทโย สงฺคณฺหาติ. ยถา-สทฺโท อุปมายํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อุปฺปลฺจ เสสฺจ ปทุมาทิ อุทเก ชายมานํ ทฺเว การณานิ นิสฺสาย ชายติ อุทกฺเจว กลลฺจ, ตถา เอเตหิ ทฺวีหิ การเณหิ เปมํ ชายตีติ.

รฺโ หตฺเถติ สนฺติกํ อุปคตสฺส รฺโ หตฺเถ. รฺโ อนุรูปนฺติ เอกูนสตภาตุกานํ ฆาติตตฺตา จณฺฑปกติตาย รชฺเช ิตตฺตา จ ‘‘ปมาทวิหารี อย’’นฺติ มฺมาโน ตทนุรูปํ ธมฺมปเท อปฺปมาทวคฺคํ เทเสตุํ อารภิ. ตตฺถ (ธ. ป. อฏฺ. ๑.๒๓) อปฺปมาโทติ สติยา อวิปฺปวาโส, นิจฺจํ อุปฏฺิตาย สติยา เอตํ อธิวจนํ. อมตปทนฺติ อมตํ วุจฺจติ นิพฺพานํ. ตฺหิ อชาตตฺตา น ชียติ น มียติ, ตสฺมา ‘‘อมต’’นฺติ วุจฺจติ. อมตสฺส ปทํ อมตปทํ, อมตสฺส อธิคมุปาโยติ วุตฺตํ โหติ. ปมาโทติ ปมชฺชนภาโว, มุฏฺสฺสจฺจสงฺขาตสฺส สติยา โวสฺสคฺคสฺเสตํ นามํ. มจฺจุโนติ มรณสฺส. ปทนฺติ อุปาโย มคฺโค. ปมตฺโต หิ ชาตึ นาติวตฺตติ, ชาโต ปน ชียติ เจว มียติ จาติ ปมาโท มจฺจุโน ปทํ นาม โหติ, มรณํ อุปเนตีติ วุตฺตํ โหติ.

อฺาตํ ตาต, ปริโยสาเปหีติ อิมินา ‘‘สทา อปฺปมาเทน หุตฺวา วตฺติตพฺพนฺติ เอตฺตเกเนว มยา าตํ, ตุมฺเห ธมฺมเทสนํ นิฏฺเปถา’’ติ ตสฺมึ ธมฺเม อตฺตโน ปฏิปชฺชิตุกามตํ ทีเปนฺโต ธมฺมเทสนาย ปริโยสานํ ปาเปตฺวา กถเน อุสฺสาหํ ชเนติ. เกจิ ปน ‘‘อภาสีติ เอตฺถ ‘ภาสิสฺสามิ วิตกฺเกมี’ติ อตฺถํ คเหตฺวา ‘สพฺพํ อปฺปมาทวคฺคํ ภาสิสฺสามี’ติ สลฺลกฺขิตตฺตา อภาสีติ วุตฺตํ, รฺา ปน อฑฺฒคาถํ สุตฺวาว ‘อฺาตํ ตาต, ปริโยสาเปหี’ติ วุตฺตตฺตา ‘อุปริ น กเถสี’’’ติ วทนฺติ. ‘‘ตํ ปน ยุตฺตํ น โหตี’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. ธุวภตฺตานีติ นิจฺจภตฺตานิ. วชฺชาวชฺชํ อุปนิชฺฌายตีติ อุปชฺฌาโยติ อาห ‘‘วชฺชาวชฺชํ ทิสฺวา โจเทตา สาเรตา จา’’ติ. ตตฺถ วชฺชาวชฺชนฺติ ขุทฺทกํ มหนฺตฺจ วชฺชํ. โจเทตาติ ‘‘อิทํ ตยา ทุกฺกฏํ, อิทํ ทุพฺภาสิต’’นฺติอาทีนิ วตฺวา โจเทตา. สาเรตาติ อตฺตโน วชฺชํ อสฺสรนฺตสฺส สตึ อุปฺปาเทตา, สมฺมาปฏิปตฺติยํ วา สาเรตา, ปวตฺเตตาติ อตฺโถ.

‘‘เอวํ ตยา พุทฺธวจนํ สชฺฌายิตพฺพํ, เอวํ อภิกฺกมิตพฺพํ, เอวํ ปฏิกฺกมิตพฺพ’’นฺติอาทินา อาจารสฺส สิกฺขาปนโต อาจริโย นามาติ อาห ‘‘อิมสฺมึ สาสเน สิกฺขิตพฺพกธมฺเมสุ ปติฏฺาเปตา’’ติ. ตตฺถ สิกฺขิตพฺพกธมฺโม นาม สกลํ พุทฺธวจนํ สีลาทโย จ ธมฺมา. ‘‘ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จา’’ติ อิทํ ลพฺภมานวเสน วุตฺตํ . อาจริยุปชฺฌายานนฺติ อิมินา ปพฺพชฺชา อุปสมฺปทา จ โยเชตพฺพา, มม จาติ อิมินา ปน ปพฺพชฺชาว. ตทา สามเณรภูมิยํ ิตตฺตา นิคฺโรธสฺส ภาวินึ วา อุปสมฺปทํ สนฺธาย อุภยมฺปิ โยเชตพฺพํ. สรณคมนวเสน ปพฺพชฺชาสิทฺธิโต ภิกฺขุสงฺฆสฺสปิ ปพฺพชฺชาย นิสฺสยภาโว เวทิตพฺโพ. ภณฺฑุกมฺมวเสนปิ นิสฺสยภาโว ลพฺภเตวาติ คเหตพฺพํ. ทิวเส ทิวเส วฑฺฒาเปนฺโตติ วุตฺตนเยเนว ทิวเส ทิวเส ตโต ตโต ทิคุณํ กตฺวา วฑฺฒาเปนฺโต. โปถุชฺชนิเกนาติ ปุถุชฺชนภาวานุรูเปน. นิคฺโรธตฺเถรสฺส อานุภาวกิตฺตนาธิการตฺตา ปุพฺเพ วุตฺตมฺปิ ปจฺฉา วตฺตพฺพมฺปิ สมฺปิณฺเฑตฺวา อาห ‘‘ปุน ราชา อโสการามํ นาม มหาวิหารํ กาเรตฺวา’’ติอาทิ . เจติยปฏิมณฺฑิตานีติ เอตฺถ จยิตพฺพํ ปูเชตพฺพนฺติ เจติยํ, อิฏฺกาทีหิ จิตตฺตา วา เจติยํ, เจติเยหิ ปฏิมณฺฑิตานิ วิภูสิตานีติ เจติยปฏิมณฺฑิตานิ. ธมฺเมนาติ ธมฺมโต อนเปเตน.

วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถารโต วิภาเวนฺโต อาห ‘‘เอกทิวสํ กิรา’’ติอาทิ. อโสการาเม มหาทานํ ทตฺวาติ เอตฺถ กเต อาราเม ปจฺฉา การาปกสฺส รฺโ นามวเสน นิรุฬฺหํ นามปณฺณตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อโสการาเม’’ติ. เกจิ ปน ‘‘ตสฺมึ ทิวเส ราชา อตฺตโน ฆเรเยว สพฺพํ ภิกฺขุสงฺฆํ นิสีทาเปตฺวา โภเชตฺวา อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉี’’ติ วทนฺติ. มหาทานํ ทตฺวาติ โภเชตฺวา สพฺพปริกฺขารทานวเสน มหาทานํ ทตฺวา. วุตฺตฺเหตํ ทีปวํเส

‘‘นิเวสนํ ปเวเสตฺวา, นิสีทาเปตฺวาน อาสเน;

ยาคุํ นานาวิธํ ขชฺชํ, โภชนฺจ มหารหํ;

อทาสิ ปยตปาณิ, ยาวทตฺถํ ยทิจฺฉกํ.

‘‘ภุตฺตาวิภิกฺขุสงฺฆสฺส, โอนีตปตฺตปาณิโน;

เอกเมกสฺส ภิกฺขุโน, อทาสิ ยุคสาฏกํ.

‘‘ปาทอพฺภฺชนํ เตลํ, ฉตฺตฺจาปิ อุปาหนํ;

สพฺพํ สมณปริกฺขารํ, อทาสิ ผาณิตํ มธุํ.

‘‘อภิวาเทตฺวา นิสีทิ, อโสกธมฺโม มหีปติ;

นิสชฺช ราชา ปวาเรสิ, ภิกฺขุสงฺฆสฺส ปจฺจยํ.

‘‘ยาวตา ภิกฺขู อิจฺฉนฺติ, ตาว เทมิ ยทิจฺฉกํ;

สนฺตปฺเปตฺวา ปริกฺขาเรน, ปวาเรตฺวาน ปจฺจเย;

ตโต อปุจฺฉิ คมฺภีรํ, ธมฺมกฺขนฺธํ สุเทสิต’’นฺติ.

องฺคโต, มหาราช, นว องฺคานีติอาทิ โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถเรน วุตฺตนฺติ วทนฺติ. นวกมฺมาธิฏฺายกํ อทาสีติ จตุราสีติวิหารสหสฺเสสุ กตฺตพฺพสฺส นวกมฺมสฺส อธิฏฺายกํ วิธายกํ กตฺวา อทาสิ. เอกทิวสเมว สพฺพนคเรหิ ปณฺณานิ อาคมึสูติ สพฺพวิหาเรสุ กิร ราหุนา จนฺทสฺส คหณทิวเส นวกมฺมํ อารภิตฺวา ปุน ราหุนา จนฺทสฺส คหณทิวเสเยว นิฏฺาเปสุํ, ตสฺมา เอกทิวสเมว ปณฺณานิ อาคมึสูติ วทนฺติ. อฏฺ สีลงฺคานีติ อฏฺ อุโปสถงฺคสีลานิ. ‘‘สพฺพาลงฺการวิภูสิตายา’’ติ อิทํ อสมาทินฺนุโปสถงฺคานํ วเสน วุตฺตํ. อมรวติยา ราชธานิยาติ ตาวตึสเทวนคเร. อลงฺกตปฏิยตฺตนฺติ อลงฺกตกรณวเสน สพฺพสชฺชิตํ.

อธิกํ การํ อธิการํ, อธิกํ กิริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. โลกวิวรณํ นาม ปาฏิหาริยํ อกํสูติ เอตฺถ อเนกสหสฺสสงฺขฺยสฺส โอกาสโลกสฺส ตนฺนิวาสีสตฺตโลกสฺส จ วิวฏภาวกรณปาฏิหาริยํ โลกวิวรณํ นาม. ตํ ปน กโรนฺโต อิทฺธิมา อนฺธการํ วา อาโลกํ กโรติ, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวฏํ, อนาปาถํ วา อาปาถํ กโรติ. กถํ? อยฺหิ ยถา ปฏิจฺฉนฺโนปิ ทูเร ิโตปิ อตฺตา วา ปโร วา ทิสฺสติ, เอวํ อตฺตานํ วา ปรํ วา ปากฏํ กาตุกาโม ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อิทํ อนฺธการฏฺานํ อาโลกชาตํ โหตู’’ติ วา ‘‘อิทํ ปฏิจฺฉนฺนํ วิวฏํ โหตู’’ติ วา ‘‘อิทํ อนาปาถํ อาปาถํ โหตู’’ติ วา อาวชฺเชตฺวา ปุน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อธิฏฺาติ. สห อธิฏฺาเนน ยถาธิฏฺิตเมว โหติ. อปเร ทูเร ิตาปิ ปสฺสนฺติ, สยมฺปิ ปสฺสิตุกาโม ปสฺสติ ภควา วิย เทโวโรหเณ. ภควา หิ เทวโลเก อภิธมฺมเทสนํ นิฏฺเปตฺวา สงฺกสฺสนครํ โอตรนฺโต สิเนรุมุทฺธนิ ตฺวา ปุรตฺถิมํ โลกธาตุํ โอโลเกสิ, อเนกานิ จกฺกวาฬสหสฺสานิ วิวฏานิ วิย หุตฺวา เอกงฺคณํ วิย หุตฺวา ปกาสึสุ. ยถา จ ปุรตฺถิเมน, เอวํ ปจฺฉิเมนปิ อุตฺตเรนปิ ทกฺขิเณนปิ สพฺพํ วิวฏมทฺทส. เหฏฺาปิ ยาว อวีจิ อุปริ จ ยาว อกนิฏฺภวนํ, ตาว อทฺทส. มนุสฺสาปิ เทเว ปสฺสนฺติ, เทวาปิ มนุสฺเส. ตตฺถ เนว มนุสฺสา อุทฺธํ อุลฺโลเกนฺติ, น เทวา อโธ โอโลเกนฺติ, สพฺเพ สมฺมุขสมฺมุขาว อฺมฺํ ปสฺสนฺติ, ตํ ทิวสํ โลกวิวรณํ นาม อโหสิ.

อปิจ ตมฺพปณฺณิทีเป ตฬงฺครวาสี ธมฺมทินฺนตฺเถโรปิ อิมํ ปาฏิหาริยํ อกาสิ. โส กิร เอกทิวสํ ติสฺสมหาวิหาเร เจติยงฺคณมฺหิ นิสีทิตฺวา ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ อปณฺณกปฏิปทํ ปฏิปนฺโน โหตี’’ติ อปณฺณกสุตฺตํ (อ. นิ. ๓.๑๖) กเถนฺโต เหฏฺามุขํ พีชนึ อกาสิ, ยาว อวีจิโต เอกงฺคณํ อโหสิ, ตโต อุปริมุขํ อกาสิ, ยาว พฺรหฺมโลกา เอกงฺคณํ อโหสิ. เถโร นิรยภเยน ตชฺเชตฺวา สคฺคสุเขน จ ปโลเภตฺวา ธมฺมํ เทเสสิ. เกจิ โสตาปนฺนา อเหสุํ, เกจิ สกทาคามี อนาคามี อรหนฺโตติ เอวํ ตสฺมึ ทิวเสปิ โลกวิวรณํ นาม อโหสิ. อิเม ปน ภิกฺขู ยถา อโสโก ธมฺมราชา อโสการาเม ิโต จตุทฺทิสา อนุวิโลเกนฺโต สมนฺตโต สมุทฺทปริยนฺตํ ชมฺพุทีปํ ปสฺสติ, จตุราสีติ จ วิหารสหสฺสานิ อุฬาราย วิหารมหปูชาย วิโรจมานานิ, เอวํ อธิฏฺหิตฺวา โลกวิวรณํ นาม ปาฏิหาริยํ อกํสุ.

วิหารมหปูชายาติ วิหารมหสงฺขาตาย ปูชาย. วิภูตินฺติ สมฺปตฺตึ. เอวรูปํ ปีติปาโมชฺชนฺติ อีทิสํ ปริจฺจาคมูลกํ ปีติปาโมชฺชํ. โมคฺคลิปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส ภารมกาสีติ เถรสฺส มหานุภาวตฺตา ‘‘อุตฺตริปิ เจ กเถตพฺพํ อตฺถิ, ตมฺปิ โสเยว กเถสฺสตี’’ติ มฺมาโน ภิกฺขุสงฺโฆ รฺา ปุจฺฉิตปฺหสฺส วิสชฺชนํ เถรสฺส ภารมกาสิ. สาสนสฺส ทายาโท โหมิ, น โหมีติ สาสนสฺส าตโก อพฺภนฺตโร โหมิ, น โหมีติ อตฺโถ. เยสํ สาสเน ปพฺพชิตา ปุตฺตธีตโร น สนฺติ, น เต สาสเน กตฺตพฺพกิจฺจํ อตฺตโน ภารํ กตฺวา วหนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เถโร เอวมาห ‘‘น โข, มหาราช, เอตฺตาวตา สาสนสฺส ทายาโท โหตี’’ติ. กถฺจรหิ, ภนฺเต, สาสนสฺส ทายาโท โหตีติ เอตฺถ จรหีติ นิปาโต อกฺขนฺตึ ทีเปติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ เอวรูปํ ปริจฺจาคํ กตฺวาปิ สาสนสฺส ทายาโท น โหติ, อฺํ กึ นาม กตฺวา โหตีติ.

ติสฺสกุมารสฺส ปพฺพชิตกาลโต ปภุตีติ ยทา จ ติสฺสกุมาโร ปพฺพชิโต, เยน จ การเณน ปพฺพชิโต, ตํ สพฺพํ วิตฺถารโต อุตฺตริ อาวิ ภวิสฺสติ. สกฺขสีติ สกฺขิสฺสสิ. ปาโมชฺชชาโตติ สฺชาตปาโมชฺโช. ปุตฺตานํ มนํ ลภิตฺวาติ เอตฺถ ปุตฺตีปิ สามฺโต ปุตฺตสทฺเทน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา, ปุตฺโต จ ธีตา จ ปุตฺตาติ เอวํ เอกเสสนเยน วา เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ธีตุสทฺเทน สห ปยุชฺชมาโน หิ ปุตฺตสทฺโท เอโกว อวสิสฺสติ, ธีตุสทฺโท นิวตฺตตีติ สทฺทสตฺถวิทู วทนฺติ. สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุนฺติ ตสฺมึเยว สีมมณฺฑเล สิกฺขาสมฺมุตึ ทตฺวา ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีสุ วิกาลโภชนาเวรมณิปริโยสานาสุ ฉสุ สิกฺขาสุ สมาทปนวเสน สิกฺขาย ปติฏฺาเปสุํ. สฏฺิวสฺสายปิ หิ สามเณริยา ‘‘ปาณาติปาตาเวรมณึ ทฺเว วสฺสานิ อวีติกฺกมฺม สมาทานํ สมาทิยามี’’ติอาทินา (ปาจิ. ๑๐๗๘-๑๐๗๙) ฉ สิกฺขาโย สมาทิยิตฺวา สิกฺขิตพฺพาเยว. น หิ เอตาสุ ฉสุ สิกฺขาปเทสุ ทฺเว วสฺสานิ อสิกฺขิตสิกฺขํ สามเณรึ อุปสมฺปาเทตุํ วฏฺฏติ. ฉ วสฺสานิ อภิเสกสฺส อสฺสาติ ฉพฺพสฺสาภิเสโก, อภิเสกโต ปฏฺาย อติกฺกนฺตฉวสฺโสติ วุตฺตํ โหติ.

สพฺพํ เถรวาทนฺติ ทฺเว สงฺคีติโย อารุฬฺหา ปาฬิเยเวตฺถ ‘‘เถรวาโท’’ติ เวทิตพฺพา. สา หิ มหากสฺสปปภุตีนํ มหาเถรานํ วาทตฺตา ‘‘เถรวาโท’’ติ วุจฺจติ. โกนฺตปุตฺตติสฺสตฺเถโรติ เอตฺถ โกนฺตสกุณิโย นาม กินฺนรชาติโย. ‘‘ตาสุ เอกิสฺสา กุจฺฉิยํ สยิโต มนุสฺสชาติโก รฺา โปสิโต โกนฺตปุตฺตติสฺสตฺเถโร นามา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มหาวํเสปิ เจตํ วุตฺตํ –

‘‘ปุเร ปาฏลิปุตฺตมฺหา, วเน วนจโร จรํ;

โกนฺตกินฺนริยา สทฺธึ, สํวาสํ กิร กปฺปยิ.

‘‘เตน สํวาสมนฺวาย, สา ปุตฺเต ชนยี ทุเว;

ติสฺโส เชฏฺโ กนิฏฺโ ตุ, สุมิตฺโต นาม นามโต.

‘‘มหาวรุณตฺเถรสฺส , กาเล ปพฺพชิ สนฺติเก;

อรหตฺตํ ปาปุณึสุ, ฉฬภิฺาคุณํ อุโภ’’ติ.

เกจิ ปน เอวํ วทนฺติ ‘‘โกนฺตา นาม กฏฺวาหนรฺโ วํเส ชาตา เอกา ราชธีตา. ตํ ครุฬยนฺเตน อรฺคตํ เอโก วนจรโก อาเนตฺวา ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา ตสฺส อุโภ ปุตฺเต วิชายิ. ตตฺรายํ เชฏฺโก มาตุนาเมน โกนฺตปุตฺโต นาม ชาโต’’ติ. กฏฺวาหนรฺโ กิร นคเร สพฺเพปิ วิภวสมฺปนฺนา นทีปพฺพตกีฬาทีสุ ครุฬสกุณสทิสํ ยนฺตํ กาเรตฺวา กฏฺวาหนราชา วิย ครุฬวาหเนน วิจรนฺติ.

พฺยาธิปฏิกมฺมตฺถํ ภิกฺขาจารวตฺเตน อาหิณฺฑนฺโต ปสตมตฺตํ สปฺปึ อลภิตฺวาติ ตทา กิร เชฏฺสฺส โกนฺตปุตฺตติสฺสตฺเถรสฺส กุจฺฉิวาโต สมุฏฺาสิ. ตํ พาฬฺหาย ทุกฺขเวทนาย ปีฬิตํ กนิฏฺโ สุมิตฺโต นาม เถโร ทิสฺวา ‘‘กิเมตฺถ, ภนฺเต, ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ ปุจฺฉิ. ติสฺสตฺเถโร, ‘‘อาวุโส, ปสตมตฺตํ สปฺปึ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติ วตฺวา รฺโ นิเวทนํ ตสฺส คิลานปจฺจยํ ปจฺฉาภตฺตํ สปฺปิอตฺถาย จรณฺจ ปฏิกฺขิปิตฺวา ‘‘ภิกฺขาจารเวลายเมว ปิณฺฑาย จรนฺเตน ตยา ยทิ สกฺกา ลทฺธุํ, เอวํ วิจริตฺวา ยํ ลทฺธํ, ตํ อาหรา’’ติ อาห. กนิฏฺโปิ วุตฺตนเยเนว ภิกฺขาจารวตฺเตน จรนฺโต ปสตมตฺตมฺปิ สปฺปึ นาลตฺถ. โส ปน กุจฺฉิวาโต พลวตโร สปฺปิฆฏสเตนปิ วูปสเมตุํ อสกฺกุเณยฺโย อโหสิ. เถโร เตเนว พฺยาธิพเลน กาลมกาสิ. เกจิ ปน ‘‘วิจฺฉิกนามเกน กีฏวิเสน ฑฏฺโ เถโร ตสฺส วิสเวเคน อธิมตฺตาย ทุกฺขเวทนาย สมนฺนาคโต ตํ วูปสเมตุํ วุตฺตนเยเนว ปสตมตฺตํ สปฺปึ อลภิตฺวา ปรินิพฺพุโต’’ติ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘ปาเท กีฏวิเสนาสิ, ฑฏฺโ เชฏฺโ สเวทโน;

อาห ปุฏฺโ กนิฏฺเน, เภสชฺชํ ปสตํ ฆตํ.

‘‘รฺโ นิเวทนํ เถโร, คิลานปจฺจเยปิ จ;

สปฺปิอตฺถฺจ จรณํ, ปจฺฉาภตฺตํ ปฏิกฺขิปิ.

‘‘ปิณฺฑาย เจ จรํ สปฺปึ, ลภเส ตฺวํ ตมาหร;

อิจฺจาห ติสฺสตฺเถโร โส, สุมิตฺตํ เถรมุตฺตมํ.

‘‘ปิณฺฑาย จรตา เตน, น ลทฺธํ ปสตํ ฆตํ;

สปฺปิกุมฺภสเตนาปิ, พฺยาธิ ชาโต อสาธิโย.

‘‘เตเนว พฺยาธินา เถโร, ปตฺโต อายุกฺขยนฺติกํ;

โอวทิตฺวปฺปมาเทน, นิพฺพาตุํ มานสํ อกา.

‘‘อากาสมฺหิ นิสีทิตฺวา, เตโชธาตุวเสน โส;

ยถารุจิ อธิฏฺาย, สรีรํ ปรินิพฺพุโต.

‘‘ชาลา สรีรา นิกฺขมฺม, นิมํสฉาริกํ ฑหิ;

เถรสฺส สกลํ กายํ, อฏฺิกานิ ตุ โน ฑหี’’ติ.

อปฺปมาเทน โอวทิตฺวาติ ‘‘อมฺหาทิสานมฺปิ เอวํ ปจฺจยา ทุลฺลภา, ตุมฺเห ลภมาเนสุ ปจฺจเยสุ อปฺปมชฺชิตฺวา สมณธมฺมํ กโรถา’’ติ เอวํ อปฺปมาเทน โอวทิตฺวา. ปลฺลงฺเกนาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสเนน. อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ เจตํ กรณวจนํ. เตโชธาตุํ สมาปชฺชิตฺวาติ เตโชธาตุกสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา. เถรสฺส สกฺการํ กตฺวาติ เถรสฺส ธาตุสกฺการํ กตฺวา. จตูสุ ทฺวาเรสุ โปกฺขรณิโย การาเปตฺวา เภสชฺชสฺส ปูราเปตฺวาติ เอกสฺมึ ทฺวาเร จตสฺโส โปกฺขรณิโย การาเปตฺวา ตตฺถ เอกํ โปกฺขรณึ สปฺปิสฺส ปูราเปตฺวา เอกํ มธุโน, เอกํ ผาณิตสฺส, เอกํ สกฺกราย ปูราเปสิ. เสสทฺวาเรสุปิ เอวเมว การาเปสีติ วทนฺติ.

สภายํ สตสหสฺสนฺติ นครมชฺเฌ วินิจฺฉยสาลายํ สตสหสฺสํ. อิมินา สกลนครโต สมุฏฺิตํ อายํ นิทสฺเสติ. ปฺจสตสหสฺสานิ รฺโ อุปฺปชฺชนฺตีติ จ รฏฺโต อุปฺปชฺชนกํ อายํ เปตฺวา วุตฺตํ. ตโตติ ยถาวุตฺตปฺจสตสหสฺสโต. นิคฺโรธตฺเถรสฺส เทวสิกํ สตสหสฺสํ วิสชฺเชสีติ กถํ ปน เถรสฺส สตสหสฺสํ วิสชฺเชสิ? ราชา กิร ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ สาฏเก ปริวตฺเตนฺโต ‘‘เถรสฺส จีวรํ นีต’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อาม นีต’’นฺติ สุตฺวาว ปริวตฺเตติ. เถโรปิ ทิวสสฺส ติกฺขตฺตุํ ติจีวรํ ปริวตฺเตติ. ตสฺส หิ ติจีวรํ หตฺถิกฺขนฺเธ เปตฺวา ปฺจหิ จ คนฺธสมุคฺคสเตหิ ปฺจหิ จ มาลาสมุคฺคสเตหิ สทฺธึ ปาโตว อาหรียิตฺถ, ตถา ทิวา เจว สายฺจ. เถโรปิ น ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา เปสิ, สมฺปตฺตสพฺรหฺมจารีนํ อทาสิ. ตทา กิร ชมฺพุทีเป ภิกฺขุสงฺฆสฺส เยภุยฺเยน นิคฺโรธตฺเถรสฺเสว สนฺตกํ จีวรํ อโหสิ. เอวํ เถรสฺส ทิวเส ทิวเส สตสหสฺสํ วิสชฺเชสิ. อุฬาโร ลาภสกฺกาโรติ เอตฺถ ลพฺภติ ปาปุณียตีติ ลาโภ, จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตํ อธิวจนํ. สกฺกจฺจํ กาตพฺโพ ทาตพฺโพติ สกฺกาโร, จตฺตาโร ปจฺจยาเยว. ปจฺจยา เอว หิ ปณีตปณีตา สุนฺทรสุนฺทรา อภิสงฺขริตฺวา กตา ‘‘สกฺกาโร’’ติ วุจฺจนฺติ. อถ วา ปเรหิ กาตพฺพคารวกิริยา ปุปฺผาทีหิ ปูชา วา สกฺกาโร.

ทิฏฺิคตานีติ เอตฺถ ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘คูถคตํ มุตฺตคตํ (ม. นิ. ๒.๑๑๙), สงฺขารคต’’นฺติอาทีสุ (มหานิ. ๔๑) วิย. คนฺตพฺพาภาวโต วา ทิฏฺิยา คตมตฺตํ ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺิยา คหณมตฺตนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺิปฺปกาโร วา ทิฏฺิคตํ, ทิฏฺิเภโทติ วุตฺตํ โหติ. โลกิยา หิ วิธยุตฺตคตปฺปการสทฺเท สมานตฺเถ อิจฺฉนฺติ. น โข ปเนตํ สกฺกา อิเมสํ มชฺเฌ วสนฺเตน วูปสเมตุนฺติ เตสฺหิ มชฺเฌ วสนฺโต เตสุเยว อนฺโตคธตฺตา อาเทยฺยวจโน น โหติ, ตสฺมา เอวํ จินฺเตสิ. ตทา ตสฺมึ าเน วสนฺตสฺส สุขวิหาราภาวโต ตํ ปหาย อิจฺฉิตพฺพสุขวิหารมตฺตํ คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘อตฺตนา ผาสุกวิหาเรน วิหริตุกาโม’’ติ. อโหคงฺคปพฺพตนฺติ เอวํนามกํ ปพฺพตํ. ธมฺเมน วินเยน สตฺถุสาสเนนาติ เอตฺถ ธมฺโมติ ภูตํ วตฺถุ. วินโยติ โจทนา สารณา จ. สตฺถุสาสนนฺติ ตฺติสมฺปทา อนุสาวนสมฺปทา จ, ตสฺมา ภูเตน วตฺถุนา โจเทตฺวา สาเรตฺวา ตฺติสมฺปทาย อนุสาวนสมฺปทาย จ อุกฺเขปนียาทิกมฺมวเสน นิคฺคยฺหมานาปีติ วุตฺตํ โหติ. อพฺพุทํ เถนนฏฺเน, มลํ กิลิฏฺภาวกรณฏฺเน, กณฺฏกํ วิชฺฌนฏฺเน. อคฺคึ ปริจรนฺตีติ อคฺคิหุตฺตกา วิย อคฺคึ ปูเชนฺติ . ปฺจาตเป ตปฺปนฺตีติ จตูสุ าเนสุ อคฺคึ กตฺวา มชฺเฌ ตฺวา สูริยาตเปน ตปฺปนฺติ. อาทิจฺจํ อนุปริวตฺตนฺตีติ อุทยกาลโต ปภุติ สูริยํ โอโลกยมานา ยาวตฺถงฺคมนา สูริยาภิมุขาว ปริวตฺตนฺติ. โวภินฺทิสฺสามาติ ปคฺคณฺหึสูติ วินาเสสฺสามาติ อุสฺสาหมกํสุ. อวิสหนฺโตติ อสกฺโกนฺโต.

สตฺตทิวเสนรชฺชํ สมฺปฏิจฺฉาติ สตฺตทิวเส รชฺชสุขํ ตาว อนุภว. ตมตฺถํ สฺาเปสีติ กุกฺกุจฺจายิตมตฺถํ โพเธสิ. กถํ สฺาเปสีติ อาห ‘‘โส กิรา’’ติอาทิ. จิตฺตรูปนฺติ จิตฺตานุรูปํ, ยถากามนฺติ วุตฺตํ โหติ. กิสฺสาติ เกน การเณน. อเร ตฺวํ นาม ปริจฺฉินฺนมรณนฺติ สตฺตหิ ทิวเสหิ ปริจฺฉินฺนมรณํ. วิสฺสตฺโถติ นิราสงฺกจิตฺโต, มรณสงฺการหิโต นิพฺภโยติ วุตฺตํ โหติ. อสฺสาสปสฺสาสนิพทฺธํ มรณํ เปกฺขมานาติ ‘‘อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ, ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา ปสฺสสามิ ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิ กเรยฺยํ, พหุ วต เม กตํ อสฺสา’’ติ เอวํ มรณสฺสติยา อนุยุฺชนโต อสฺสาสปสฺสาสปฺปวตฺติกาลปฏิพทฺธํ มรณํ เปกฺขมานา. ตตฺถ อสฺสาโสติ พหินิกฺขมนนาสวาโต. ปสฺสาโสติ อนฺโตปวิสนวาโต. วุตฺตวิปริยาเยนปิ วทนฺติ.

มิควํ นิกฺขมิตฺวาติ มิคมารณตฺถาย ‘‘อรฺเ มิคปริเยสนํ จริสฺสามี’’ติ นิกฺขมิตฺวา. ตตฺถ มิควนฺติ มิคานํ วานนโต เหสนโต พาธนโต ‘‘มิคว’’นฺติ ลทฺธสมฺํ มิควํ. โยนกมหาธมฺมรกฺขิตตฺเถรนฺติ โยนกวิสเย ชาตํ อิธาคนฺตฺวา ปพฺพชิตํ ธมฺมรกฺขิตนามเธยฺยํ มหาเถรํ. หตฺถินาเคนาติ มหาหตฺถินา. มหนฺตปริยาโยปิ หิ นาคสทฺโทติ วทนฺติ. อหินาคาทิโต วา วิเสสนตฺถํ ‘‘หตฺถินาเคนา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสาสยํ ตสฺส อชฺฌาสยํ. ตสฺส ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อนาทเร สามิวจนํ, ตสฺมึ ปสฺสนฺเตเยวาติ อตฺโถ. อากาเส อุปฺปติตฺวาติ เอตฺถ อยํ วิกุพฺพนิทฺธิ น โหตีติ คิหิสฺสปิ อิมํ อิทฺธิปาฏิหาริยํ ทสฺเสสิ. สา หิ ‘‘ปกติวณฺณํ วิชหิตฺวา กุมารกวณฺณํ วา ทสฺเสติ นาควณฺณํ วา, วิวิธมฺปิ เสนาพฺยูหํ ทสฺเสตี’’ติ เอวํ อาคตา อิทฺธิ ปกติวณฺณวิชหนวิการวเสน ปวตฺตตฺตา วิกุพฺพนิทฺธิ นาม. อธิฏฺานิทฺธิยา ปน ปฏิกฺเขโป นตฺถิ. ตถา จ วกฺขติ ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนายํ (จูฬว. อฏฺ. ๒๕๒) ‘‘อิทฺธิปาฏิหาริยนฺติ เอตฺถ วิกุพฺพนิทฺธิปาฏิหาริยํ ปฏิกฺขิตฺตํ, อธิฏฺานิทฺธิ ปน อปฺปฏิกฺขิตฺตาติ เวทิตพฺพา’’ติ. ลคฺเคตฺวาติ อากาเส กายพนฺธนํ ปสาเรตฺวา ตตฺถ จีวรํ ลคฺเคตฺวา.

ฉณเวสนฺติ ตุฏฺิชนนเวสํ, อุสฺสวเวสนฺติ อตฺโถ. ปฏิยาเทสุนฺติ ‘‘อาคตกาเล จีวราทีนํ ปริเยสนํ ภาริย’’นฺติ ปมเมว ปตฺตจีวรานิ สมฺปาเทสุํ. ปธานฆรนฺติ ภาวนานุโยควเสน วีริยารมฺภสฺส อนุรูปํ วิวิตฺตเสนาสนํ. โสปีติ รฺโ ภาคิเนยฺยํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนุปพฺพชิโตติ อุฬารวิภเวน ขตฺติยชเนน อนุคนฺตฺวา ปพฺพชิโต. คนฺตฺวาติ อิทฺธิยา คนฺตฺวา. กุสลาธิปฺปาโยติ มนาปชฺฌาสโย. ทฺเวฬฺหกชาโตติ ‘‘อิเม ภิกฺขู น เอกมคฺเคน กเถนฺตี’’ติ สํสยมาปนฺโน. เอเกกํ ภิกฺขุสหสฺสปริวารนฺติ เอเกกสฺส เอเกกสหสฺสปริจฺฉินฺนํ ภิกฺขุปริวารฺจ. คณฺหิตฺวา อาคจฺฉถาติ วุตฺเตปิ ‘‘สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ สมตฺโถ’’ติ วุตฺตตฺตา เถรา ภิกฺขู ‘‘ธมฺมกมฺม’’นฺติ มฺมานา คตา. อีทิเสสุ หิ าเนสุ กุกฺกุจฺจํ น กาตพฺพํ. กปฺปิยสาสนฺเหตํ น คิหิกมฺมปฏิสํยุตฺตํ. เถโร นาคจฺฉีติ กิฺจาปิ ‘‘ราชา ปกฺโกสตี’’ติ วุตฺเตปิ ธมฺมกมฺมตฺถาย อาคนฺตุํ วฏฺฏติ, ทฺวิกฺขตฺตุํ ปน เปสิเตปิ น อาคโต กิร. เถโร หิ สพฺพตฺถ วิขฺยาตวเสน สมฺภาวนุปฺปตฺติโต สมฺภาวิตสฺส จ อุทฺธํ กตฺตพฺพกิจฺจสิทฺธิโต อสารุปฺปวจนเลเสน น อาคจฺฉีติ. มหลฺลโก นุ โข ภนฺเต เถโรติ กิฺจาปิ ราชา เถรํ ทิฏฺปุพฺโพ, นามํ ปน สลฺลกฺเขตุํ อสกฺโกนฺโต เอวํ ปุจฺฉีติ วทนฺติ. วยฺหนฺติ อุปริ มณฺฑปสทิสํ ปทรจฺฉนฺนํ, สพฺพปลิคุณฺิมํ วา ฉาเทตฺวา กตํ สกฏวิเสสํ วยฺหนฺติ วทนฺติ. นาวาสงฺฆาฏํ พนฺธิตฺวาติ เอตฺถ นาวาติ โปโต. โส หิ โอรโต ปารํ ปตติ คจฺฉตีติ โปโต, สตฺเต เนตีติ นาวาติ จ วุจฺจติ. เอกโต สงฺฆฏิตา นาวา นาวาสงฺฆาฏํ, ตถา ตํ พนฺธิตฺวาติ อตฺโถ.

สาสนปจฺจตฺถิกานํ พหุภาวโต อาห ‘‘อารกฺขํ สํวิธายา’’ติ. นฺติ ยสฺมา, เยน การเณนาติ อตฺโถ. ‘‘อาคุํ น กโรตีติ นาโค’’ติ (จูฬว. เมตฺตคูมาณวปูจฺฉานิทฺเทส ๒๗) วจนโต ปาปกรณาภาวโต สมโณ อิธ นาโค นามาติ มฺมานา ‘‘เอโก ตํ มหาราช สมณนาโค ทกฺขิณหตฺเถ คณฺหิสฺสตี’’ติ พฺยากรึสุ. อพฺพาหึสูติ อากฑฺฒึสุ. ‘‘รฺโ หตฺถคฺคหณํ ลีฬาวเสน กตํ วิย โหตีติ กสฺมาติอาทิโจทนํ กต’’นฺติ วทนฺติ. พาหิรโตติ อุยฺยานสฺส พาหิรโต. ปสฺสนฺตานํ อติทุกฺกรํ หุตฺวา ปฺายตีติ อาห ‘‘ปเทสปถวีกมฺปนํ ทุกฺกร’’นฺติ. อธิฏฺาเน ปเนตฺถ วิสุํ ทุกฺกรตา นาม นตฺถิ. สีมํ อกฺกมิตฺวาติ อนฺโตสีมํ สีมาย อพฺภนฺตรํ อกฺกมิตฺวา. อภิฺาปาทกนฺติ อภิฺาย ปติฏฺาภูตํ. วิกุพฺพนิทฺธิยา เอว ปฏิกฺขิตฺตตฺตา ปถวีจลนํ อธิฏฺหิ. รถสฺส อนฺโตสีมาย ิโต ปาโทว จลีติ เอตฺถ ปาโทติ รถจกฺกํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตฺหิ รถสฺส คมนกิจฺจสาธนโต ปาทสทิสตฺตา อิธ ‘‘ปาโท’’ติ วุตฺตํ. สกฺขตีติ สกฺขิสฺสติ. เอตมตฺถนฺติ วินา เจตนาย ปาปสฺส อสมฺภวสงฺขาตํ อตฺถํ. เจตนาหนฺติ เอตฺถ ‘‘เจตนํ อห’’นฺติ ปทจฺเฉโท กาตพฺโพ. เจตยิตฺวาติ เจตนํ ปวตฺตยิตฺวา. ทีปกติตฺติโรติ อตฺตโน นิสินฺนภาวสฺส ทีปนโต เอวํลทฺธนาโม ติตฺติโร. ยํ อรฺํ เนตฺวา สากุณิโก ตสฺส สทฺเทน อาคตาคเต ติตฺติเร คณฺหาติ.

ตาปสํ ปุจฺฉีติ อตีเต กิร เอกสฺมึ ปจฺจนฺตคาเม เอโก สากุณิโก เอกํ ทีปกติตฺติรํ คเหตฺวา สุฏฺุ สิกฺขาเปตฺวา ปฺชเร ปกฺขิปิตฺวา ปฏิชคฺคติ. โส ตํ อรฺํ เนตฺวา ตสฺส สทฺเทน อาคตาคเต ติตฺติเร คณฺหาติ. ติตฺติโร ‘‘มํ นิสฺสาย พหู มม าตกา นสฺสนฺติ, มยฺเหตํ ปาป’’นฺติ นิสฺสทฺโท อโหสิ. โส ตสฺส นิสฺสทฺทภาวํ ตฺวา เวฬุเปสิกาย ตํ สีเส ปหรติ. ติตฺติโร ทุกฺขาตุรตาย สทฺทํ กโรติ. เอวํ โส สากุณิโก ตํ นิสฺสาย ติตฺติเร คเหตฺวา ชีวิกํ กปฺเปสิ. อถ โส ติตฺติโร จินฺเตสิ ‘‘อิเม มรนฺตูติ มยฺหํ เจตนา นตฺถิ, ปฏิจฺจ กมฺมํ ปน มํ ผุสติ. มยิ สทฺทํ อกโรนฺเต หิ เอเต นาคจฺฉนฺติ, กโรนฺเตเยวาคจฺฉนฺติ, อาคตาคเต อยํ คเหตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปติ, อตฺถิ นุ โข เอตฺถ มยฺหํ ปาปํ, นตฺถี’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ‘‘โก นุ โข เม อิมํ กงฺขํ ฉินฺเทยฺยา’’ติ ตถารูปํ ปณฺฑิตํ อุปธาเรนฺโต จรติ. อเถกทิวสํ โส สากุณิโก พหุเก ติตฺติเร คเหตฺวา ปจฺฉึ ปูเรตฺวา ‘‘ปานียํ ปิวิสฺสามี’’ติ โพธิสตฺตสฺส ตาปสปพฺพชฺชาย ปพฺพชิตฺวา ฌานาภิฺาโย นิพฺพตฺเตตฺวา อรฺเ วสนฺตสฺส อสฺสมํ คนฺตฺวา ตํ ปฺชรํ โพธิสตฺตสฺส สนฺติเก เปตฺวา ปานียํ ปิวิตฺวา วาลิกาตเล นิปนฺโน นิทฺทํ โอกฺกมิ. ติตฺติโร ตสฺส นิทฺทโมกฺกนฺตภาวํ ตฺวา ‘‘มม กงฺขํ อิมํ ตาปสํ ปุจฺฉิสฺสามิ, ชานนฺโต เม กเถสฺสตี’’ติ ปฺชเร นิสินฺโนเยว –

‘‘าตโก โน นิสินฺโนติ, พหุ อาคจฺฉเต ชโน;

ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสติ, ตสฺมึ เม สงฺกเต มโน’’ติ. (ชา. ๑.๔.๗๕) –

ตาปสํ ปุจฺฉิ. ตสฺสตฺโถ (ชา. อฏฺ. ๓.๗๕) – ภนฺเต, สจาหํ สทฺทํ น กเรยฺยํ, อยํ ติตฺติรชโน น อาคจฺเฉยฺย, มยิ ปน สทฺทํ กโรนฺเต ‘‘าตโก โน นิสินฺโน’’ติ อยํ พหุชโน อาคจฺฉติ, ตํ อาคตาคตํ ลุทฺโท คเหตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาเปนฺโต มํ ปฏิจฺจ มํ นิสฺสาย เอตํ ปาณาติปาตกมฺมํ ผุสติ ปฏิลภติ วินฺทติ, ตสฺมึ มํ ปฏิจฺจ กเต ปาเป ‘‘มม นุ โข เอตํ ปาป’’นฺติ เอวํ เม มโน สงฺกติ ปริสงฺกติ กุกฺกุจฺจํ อาปชฺชตีติ.

น ปฏิจฺจ กมฺมํ ผุสตีติอาทิกาย ปน ตาปเสน วุตฺตคาถาย อยมตฺโถ – ยทิ ตว ปาปกิริยาย มโน น ปทุสฺสติ, ตนฺนินฺโน ตปฺโปโณ น โหติ, เอวํ สนฺเต ลุทฺเทน ตํ ปฏิจฺจ กตมฺปิ ปาปกมฺมํ ตํ น ผุสติ น อลฺลียติ. ปาปกิริยาย หิ อปฺโปสฺสุกฺกสฺส นิราลยสฺส ภทฺรสฺส ปริสุทฺธสฺส สโต ตว ปาณาติปาตเจตนาย อภาวา ตํ ปาปํ น อุปลิมฺปติ, ตว จิตฺตํ น อลฺลียตีติ.

สมยํ อุคฺคณฺหาเปสีติ อตฺตโน สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ลทฺธึ อุคฺคณฺหาเปสิ. สาณิปาการํ ปริกฺขิปาเปตฺวาติ เอตฺถ สาณิปาการนฺติ กรณตฺเถ อุปโยควจนํ, อตฺตานฺจ เถรฺจ ยถา เต ภิกฺขู น ปสฺสนฺติ, เอวํ สาณิปากาเรน สมนฺตโต ปริกฺขิปาเปตฺวาติ อตฺโถ, สาณิปาการํ วา สมนฺตโต ปริกฺขิปาเปตฺวาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ คเหตพฺโพ. สาณิปาการนฺตเรติ สาณิปาการสฺส อพฺภนฺตเร. เอกลทฺธิเกติ สมานลทฺธิเก. กึ วทติ สีเลนาติ กึวาที. อถ วา โก กตโม วาโท กึวาโท, โส เอตสฺส อตฺถีติ กึวาที. สสฺสตํ อตฺตานฺจ โลกฺจ วทนฺติ ปฺเปนฺติ สีเลนาติ สสฺสตวาทิโน. อถ วา วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ทิฏฺิยา เอตํ อธิวจนํ. สสฺสโต วาโท สสฺสตวาโท, โส เอเตสํ อตฺถีติ สสฺสตวาทิโน, สสฺสตทิฏฺิโนติ อตฺโถ. อถ สสฺสโต วาโท เอเตสมตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ, เตสฺหิ อตฺตา โลโก จ สสฺสโตติ อธิปฺเปโต, น วาโทติ? สจฺจเมตํ. สสฺสตสหจริตตาย ปน วาโทปิ สสฺสโตติ วุตฺโต ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ. สสฺสโตติ วาโท เอเตสนฺติ วา อิติสทฺทโลโป ทฏฺพฺโพ. เย รูปาทีสุ อฺตรํ อตฺตาติ จ โลโกติ จ คเหตฺวา ตํ สสฺสตํ อมตํ นิจฺจํ ธุวํ ปฺเปนฺติ, เต สสฺสตวาทิโนติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ นิทฺเทเส ปฏิสมฺภิทายฺจ

‘‘รูปํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺติ. เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตา เจว โลโก จ สสฺสโต จาติ อตฺตานฺจ โลกฺจ ปฺเปนฺตี’’ติ.

อยฺจ อตฺโถ ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, เวทนํ… สฺํ… สงฺขาเร… วิฺาณํ อตฺตโต สมนุปสฺสตี’’ติ อิมิสฺสา ปฺจวิธาย สกฺกายทิฏฺิยา วเสน วุตฺโต. ‘‘รูปวนฺตํ อตฺตาน’’นฺติอาทิกาย ปน ปฺจทสวิธาย สกฺกายทิฏฺิยา วเสน จตฺตาโร จตฺตาโร ขนฺเธ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตทฺโ โลโกติ ปฺเปนฺตีติ อยฺจ อตฺโถ ลพฺภติ. ตถา เอกํ ขนฺธํ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา อฺโ อตฺตโน อุปโภคภูโต โลโกติ, สสนฺตติปติเต วา ขนฺเธ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา ตทฺโ โลโกติ ปฺเปนฺตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สตฺเตสุ สงฺขาเรสุ วา เอกจฺจํ สสฺสตํ เอตสฺสาติ เอกจฺจสสฺสโต, เอกจฺจสสฺสตวาโท. โส เอเตสมตฺถีติ เอกจฺจสสฺสติกา, เอกจฺจสสฺสตวาทิโน. เต ทุวิธา โหนฺติ สตฺเตกจฺจสสฺสติกา สงฺขาเรกจฺจสสฺสติกาติ . ตตฺถ ‘‘อิสฺสโร นิจฺโจ, อฺเ สตฺตา อนิจฺจา’’ติ เอวํ ปวตฺตวาทา สตฺเตกจฺจสสฺสติกา เสยฺยถาปิ อิสฺสรวาทา. ‘‘นิจฺโจ พฺรหฺมา, อฺเ สตฺตา อนิจฺจา’’ติ เอวํ ปวตฺตวาทาปิ สตฺเตกจฺจสสฺสติกาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ปรมาณโว นิจฺจา, ทฺวิอณุกาทโย อนิจฺจา’’ติ เอวํ ปวตฺตวาทา สงฺขาเรกจฺจสสฺสติกา เสยฺยถาปิ กณาทวาทาทโย. ‘‘จกฺขาทโย อนิจฺจา, วิฺาณํ นิจฺจ’’นฺติ เอวํวาทิโนปิ สงฺขาเรกจฺจสสฺสติกาติ เวทิตพฺพา.

นนุ ‘‘เอกจฺเจ ธมฺมา สสฺสตา, เอกจฺเจ อสสฺสตา’’ติ เอตสฺมึ วาเท จกฺขาทีนํ อสสฺสตภาวสนฺนิฏฺานํ ยถาสภาวาวโพโธ เอว, ตยิทํ กถํ มิจฺฉาทสฺสนนฺติ? โก วา เอวมาห – ‘‘จกฺขาทีนํ อสสฺสตภาวสนฺนิฏฺานํ มิจฺฉาทสฺสน’’นฺติ, อสสฺสเตสุเยว ปน เกสฺจิ ธมฺมานํ สสฺสตภาวาภินิเวโส อิธ มิจฺฉาทสฺสนํ. เตน ปน เอกวาเร ปวตฺตมาเนน จกฺขาทีนํ อสสฺสตภาวาวโพโธ วิทูสิโต สํสฏฺภาวโต, วิสสํสฏฺโ วิย สพฺโพ สปฺปิมณฺโฑ สกิจฺจกรณาสมตฺถตาย สมฺมาทสฺสนปกฺเข เปตพฺพตํ นารหตีติ. อสสฺสตภาเวน นิจฺฉิตาปิ วา จกฺขุอาทโย สมาโรปิตชีวสภาวา เอว ทิฏฺิคติเกหิ คยฺหนฺตีติ ตทวโพธสฺส มิจฺฉาทสฺสนภาโว น สกฺกา นิวาเรตุํ. เอวฺจ กตฺวา อสงฺขตาย จ สงฺขตาย จ ธาตุยา วเสน ยถากฺกมํ เอกจฺเจ ธมฺมา สสฺสตา, เอกจฺเจ อสสฺสตาติ เอวํ ปวตฺโต วิภชฺชวาโทปิ เอกจฺจสสฺสตวาโท อาปชฺชตีติ เอวํปการา โจทนา อนวกาสา โหติ อวิปรีตธมฺมสภาวสมฺปฏิปตฺติภาวโต. กามฺเจตฺถ ปุริมสสฺสตวาเทปิ อสสฺสตานํ ธมฺมานํ สสฺสตาติ คหณํ วิเสสโต มิจฺฉาทสฺสนํ, สสฺสตานํ ปน สสฺสตาติ คาโห น มิจฺฉาทสฺสนํ ยถาสภาวคฺคหณภาวโต. อสสฺสเตสุเยว ปน เกจิเทว ธมฺมา สสฺสตาติ คเหตพฺพธมฺเมสุ วิภาคปฺปวตฺติยา อิมสฺส วาทสฺส วาทนฺตรตา วุตฺตา. น เจตฺถ สมุทายนฺโตคธตฺตา เอกเทสสฺส สปฺปเทสสสฺสตคฺคาโห นิปฺปเทสสสฺสตคฺคาเห สโมธานํ คจฺฉตีติ สกฺกา วตฺตุํ วาทิตพฺพิสยวิเสสวเสน วาททฺวยสฺส ปวตฺตตฺตา. อฺเ เอว หิ ทิฏฺิคติกา ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สสฺสตา’’ติ อภินิวิฏฺา, อฺเ เอกจฺจสสฺสตาติ สงฺขารานํ อนวเสสปริยาทานํ เอกเทสปริคฺคโห จ วาททฺวยสฺส ปริพฺยตฺโตเยวาติ.

อนฺตานนฺติกาติ เอตฺถ อมติ คจฺฉติ เอตฺถ สภาโว โอสานนฺติ อนฺโต, มริยาทา. ตปฺปฏิเสเธน อนนฺโต. กสฺส ปนายํ อนฺตานนฺโตติ? โลกียติ สํสารนิสฺสรณตฺถิเกหิ ทิฏฺิคติเกหิ, โลกียติ วา เอตฺถ เตหิ ปุฺาปุฺํ ตพฺพิปาโก จาติ โลโกติ สงฺขฺยํ คตสฺส ปฏิภาคนิมิตฺตาทิสภาวสฺส อตฺตโน. อนฺโต จ อนนฺโต จ อนฺตานนฺโต จ เนวนฺตนานนฺโต จาติ อนฺตานนฺโต สามฺนิทฺเทเสน, เอกเสเสน วา ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทีสุ วิย. อนฺตานนฺตสหจริโต วาโท อนฺตานนฺโต ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ. อนฺตานนฺตสนฺนิสฺสโย วา ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. โส เอเตสมตฺถีติ อนฺตานนฺติกา, อนฺตานนฺตวาทิโน. ‘‘อนฺตวา อยํ โลโก, อนนฺโต อยํ โลโก, อนฺตวา จ อยํ โลโก อนนฺโต จ, เนวายํ โลโก อนฺตวา น ปนานนฺโต’’ติ เอวํ อนฺตํ วา อนนฺตํ วา อนฺตานนฺตํ วา เนวนฺตนานนฺตํ วา อารพฺภ ปวตฺตวาทาติ อตฺโถ. จตุพฺพิธา หิ อนฺตานนฺตวาทิโน อนฺตวาที อนนฺตวาที อนฺตานนฺตวาที เนวนฺตนานนฺตวาทีติ. ตถา หิ โกจิ ปฏิภาคนิมิตฺตํ จกฺกวาฬปริยนฺตํ อวฑฺเฒตฺวา ตํ ‘‘โลโก’’ติ คเหตฺวา อนฺตสฺี โลกสฺมึ โหติ. จกฺกวาฬปริยนฺตํ กตฺวา วฑฺฒิตกสิเณ ปน อนนฺตสฺี โหติ. อุทฺธมโธ อวฑฺเฒตฺวา ปน ติริยํ วฑฺเฒตฺวา อุทฺธมโธ อนฺตสฺี ติริยํ อนนฺตสฺี โหติ. โกจิ ปน ยสฺมา โลกสฺิโต อตฺตา อธิคตวิเสเสหิ มเหสีหิ กทาจิ อนนฺโต สกฺขิทิฏฺโ อนุสุยฺยติ, ตสฺมา เนวนฺตวา. ยสฺมา ปน เตหิเยว กทาจิ อนฺตวา สกฺขิทิฏฺโ อนุสุยฺยติ, ตสฺมา น ปน อนนฺโตติ เอวํ เนวนฺตนานนฺตสฺี โลกสฺมึ โหติ. เกจิ ปน ยทิ ปนายํ อตฺตา อนฺตวาสิยา, ทูรเทเส อุปปชฺชมานานุสฺสรณาทิกิจฺจนิปฺผตฺติ น สิยา. อถ อนนฺโต อิธ ิตสฺส เทวโลกนิรยาทีสุ สุขทุกฺขานุภวนมฺปิ สิยา. สเจ ปน อนฺตวา จ อนนฺโต จ, ตทุภยปฏิเสธโทสสมาโยโค, ตสฺมา อนฺตวา อนนฺโตติ จ อพฺยากรณีโย อตฺตาติ เอวํ ตกฺกนวเสน เนวนฺตนานนฺตสฺี โหตีติ วณฺณยนฺติ.

เอตฺถ จ ยุตฺตํ ตาว ปุริมานํ ติณฺณํ วาทีนํ อนฺตฺจ อนนฺตฺจ อนฺตานนฺตฺจ อารพฺภ ปวตฺตวาทตฺตา อนฺตานนฺติกตฺตํ, ปจฺฉิมสฺส ปน ตทุภยปฏิเสธนวเสน ปวตฺตวาทตฺตา กถํ อนฺตานนฺติกตฺตนฺติ? ตทุภยปฏิเสธนวเสน ปวตฺตวาทตฺตา เอว. ยสฺมา อนฺตานนฺตปอเสธวาโทปิ อนฺตานนฺตวิสโย เอว ตํ อารพฺภ ปวตฺตตฺตา. เอตทตฺถเมว หิ อารพฺภ ‘‘ปวตฺตวาทา’’ติ เหฏฺา วุตฺตํ, เอวํ สนฺเตปิ ยุตฺตํ ตาว ปจฺฉิมวาททฺวยสฺส อนฺตานนฺติกตฺตํ, อนฺตานนฺตานํ วเสน อุภยวิสยตฺตา เอเตสํ วาทสฺส, ปุริมวาททฺวยสฺส ปน กถํ วิสุํ อนฺตานนฺติกตฺตนฺติ? อุปจารวุตฺติยา. สมุทิเตสุ หิ อนฺตานนฺตวาเทสุ ปวตฺตมาโน อนฺตานนฺติกสทฺโท ตตฺถ นิรุฬฺหตาย ปจฺเจกมฺปิ อนฺตานนฺตวาทีสุ ปวตฺตติ ยถา อรูปชฺฌาเนสุ ปจฺเจกํ อฏฺวิโมกฺขปริยาโย, ยถา จ โลเก สตฺติสโยติ.

อมราวิกฺเขปิกาติ เอตฺถ น มรติ น อุปจฺฉิชฺชตีติ อมรา. กา สา? ‘‘เอวนฺติปิ เม โน, ตถาติปิ เม โน, อฺถาติปิ เม โน, โนติปิ เม โน, โน โนติปิ เม โน’’ติ (ที. นิ. ๑.๖๒) เอวํ ปวตฺตวาทวเสน ปริยนฺตรหิตา ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จ. ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติอาทินา วิวิโธ นานปฺปกาโร เขโป ปรวาทีนํ ขิปนํ วิกฺเขโป, อมราย ทิฏฺิยา วาจาย วา วิกฺเขโป อมราวิกฺเขโป, โส เอเตสมตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา. อถ วา อมราย ทิฏฺิยา วาจาย วิกฺขิปนฺตีติ อมราวิกฺเขปิโน, อมราวิกฺเขปิโน เอว อมราวิกฺเขปิกา. อถ วา อมรา นาม มจฺฉชาติ, สา อุมฺมุชฺชนนิมุชฺชนาทิวเสน อุทเก สนฺธาวมานา คเหตุํ น สกฺกา, เอวเมว อยมฺปิ วาโท เอกสฺมึ สภาเว อนวฏฺานโต อิโต จิโต จ สนฺธาวติ, คาหํ น อุปคจฺฉตีติ อมราย วิกฺเขโป วิยาติ อมราวิกฺเขโปติ วุจฺจติ. อยฺหิ อมราวิกฺเขปิโก ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา ‘‘อกุสล’’นฺติ วา ปุฏฺโ น กิฺจิ พฺยากโรติ. ‘‘อิทํ กุสล’’นฺติ วา ปุฏฺโ ‘‘เอวนฺติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘กึ อกุสล’’นฺติ วุตฺเต ‘‘ตถาติปิ เม โน’’ติ วทติ. ‘‘กึ อุภยโต อฺถา’’ติปิ วุตฺเต ‘‘อฺถาติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘ติวิเธนปิ น โหติ, กึ เต ลทฺธี’’ติ วุตฺเต ‘‘โนติปิ เม โน’’ติ วทติ. ตโต ‘‘กึ โน โน เต ลทฺธี’’ติ วุตฺเต ‘‘โน โนติปิ เม โน’’ติ วทติ. เอวํ วิกฺเขปเมว อาปชฺชติ, เอกเมกสฺมิมฺปิ ปกฺเข น ติฏฺติ. ตโต ‘‘อตฺถิ ปโร โลโก’’ติอาทินา ปุฏฺโปิ เอวเมว วิกฺขิปติ, น เอกสฺมึ ปกฺเข ติฏฺติ. โส วุตฺตปฺปกาโร อมราวิกฺเขโป เอเตสมตฺถีติ อมราวิกฺเขปิกา.

นนุ จายํ สพฺโพปิ อมราวิกฺเขปิโก กุสลาทโย ธมฺเม ปรโลกตฺถิกาทีนิ จ ยถาภูตํ อนวพุชฺฌมาโน ตตฺถ ตตฺถ ปฺหํ ปุฏฺโ ปุจฺฉาย วิกฺเขปนมตฺตํ อาปชฺชติ, ตสฺส กถํ ทิฏฺิคติกภาโว. น หิ อวตฺตุกามสฺส วิย ปุจฺฉิตํ อชานนฺตสฺส วิกฺเขปกรณมตฺเตน ทิฏฺิคติกตา ยุตฺตาติ? วุจฺจเต – น เหว โข ปุจฺฉาย วิกฺเขปกรณมตฺเตน ตสฺส ทิฏฺิคติกตา, อถ โข มิจฺฉาภินิเวสวเสน สสฺสตาภินิเวสโต. มิจฺฉาภินิวิฏฺโเยว หิ ปุคฺคโล มนฺทพุทฺธิตาย กุสลาทิธมฺเม ปรโลกตฺถิกาทีนิ จ ยาถาวโต อสมฺปฏิปชฺชมาโน อตฺตนา อวิฺาตสฺส อตฺถสฺส ปรํ วิฺาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย มุสาวาทาทิภเยน จ วิกฺเขปํ อาปชฺชตีติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘สตฺเตว อุจฺเฉททิฏฺิโย, เสสา สสฺสตทิฏฺิโย’’ติ. อถ วา ปุฺปาปานํ ตพฺพิปากานฺจ อนวโพเธน อสทฺทหเนน จ ตพฺพิสยาย ปุจฺฉาย วิกฺเขปกรณํเยว สุนฺทรนฺติ ขนฺตึ รุจึ อุปฺปาเทตฺวา อภินิวิสนฺตสฺส อุปฺปนฺนา วิสุํเยว เจสา เอกา ทิฏฺิ สตฺตภงฺคทิฏฺิ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ตโตเยว จ วุตฺตํ ‘‘ปริยนฺตรหิตา ทิฏฺิคติกสฺส ทิฏฺิ เจว วาจา จา’’ติ.

อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกาติ เอตฺถ อธิจฺจ ยทิจฺฉกํ ยํ กิฺจิ การณํ วินา สมุปฺปนฺโน อตฺตา จ โลโก จาติ ทสฺสนํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. อตฺตโลกสฺิตานฺหิ ขนฺธานํ อธิจฺจุปฺปตฺติอาการารมฺมณํ ทสฺสนํ ตทาการสนฺนิสฺสยวเสน ปวตฺติโต ตทาการสหจริตตาย จ อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ ยถา ‘‘มฺจา โฆสนฺติ, กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ จ. ตํ เอเตสมตฺถีติ อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา.

สฺีวาทาติ สฺี วาโท เอเตสมตฺถีติ สฺีวาทา ‘‘พุทฺธํ อสฺส อตฺถีติ พุทฺโธ’’ติ ยถา. อถ วา สฺีติ ปวตฺโต วาโท สฺีสหจรณนเยน. สฺี วาโท เยสํ เต สฺีวาทา. ‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, สฺีติ นํ ปฺเปนฺติ, อรูปี อตฺตา โหติ, รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ, เนว รูปี นารูปี จ อตฺตา โหติ. อนฺตวา อตฺตา โหติ, อนนฺตวา อตฺตา โหติ, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ, เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ. เอกตฺตสฺี อตฺตา โหติ, นานตฺตสฺี อตฺตา โหติ. ปริตฺตสฺี อตฺตา โหติ, อปฺปมาณสฺี อตฺตา โหติ. เอกนฺตสุขี อตฺตา โหติ, เอกนฺตทุกฺขี อตฺตา โหติ. สุขทุกฺขี อตฺตา โหติ, อทุกฺขมสุขี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, สฺีติ นํ ปฺเปนฺตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๗๖) เอวํ โสฬสวิเธน วิภตฺตวาทานเมตํ อธิวจนํ.

อสฺีวาทา เนวสฺีนาสฺีวาทา จ สฺีวาเท วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา. เกวลฺหิ ‘‘สฺี อตฺตา’’ติ คณฺหนฺตานํ วเสน สฺีวาทา วุตฺตา, ‘‘อสฺี’’ติ จ ‘‘เนวสฺีนาสฺี’’ติ จ คณฺหนฺตานํ วเสน อสฺีวาทา จ เนวสฺีนาสฺีวาทา จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ อสฺีวาทา ‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อสฺีติ นํ ปฺเปนฺติ, อรูปี อตฺตา โหติ, รูปี จ อรูปี จ อตฺตา โหติ, เนว รูปี นารูปี อตฺตา โหติ. อนฺตวา อตฺตา โหติ, อนนฺตวา อตฺตา โหติ, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ อตฺตา โหติ, เนวนฺตวา นานนฺตวา อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, อสฺีติ นํ ปฺเปนฺตี’’ติ เอวํ อฏฺวิเธน วิภตฺตา. เนวสฺีนาสฺีวาทาปิ เอวเมว ‘‘รูปี อตฺตา โหติ อโรโค ปรํ มรณา, เนวสฺีนาสฺีติ นํ ปฺเปนฺตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๘๒) อฏฺวิเธน วิภตฺตาติ เวทิตพฺพา.

อุจฺเฉทวาทาติ ‘‘อยํ อตฺตา รูปี จาตุมหาภูติโก มาตาเปตฺติกสมฺภโว กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ, น โหติ ปรํ มรณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๘๕) เอวมาทินา นเยน ปวตฺตํ อุจฺเฉททสฺสนํ อุจฺเฉโท สหจรณนเยน. อุจฺเฉโท วาโท เยสํ เต อุจฺเฉทวาทา, อุจฺเฉทวาโท วา เอเตสมตฺถีติ อุจฺเฉทวาทา, อุจฺเฉทํ วทนฺตีติ วา อุจฺเฉทวาทา.

ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺโม นาม ทสฺสนภูเตน าเณน อุปลทฺธธมฺโม, ปจฺจกฺขธมฺโมติ อตฺโถ. ตตฺถ ตตฺถ ปฏิลทฺธตฺตภาวสฺเสตํ อธิวจนํ. ทิฏฺธมฺเม นิพฺพานํ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ, อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว ทุกฺขวูปสมนฺติ อตฺโถ. ตํ วทนฺตีติ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา. เต ปน ‘‘ยโต โข โภ อยํ อตฺตา ปฺจหิ กามคุเณหิ สมปฺปิโต สมงฺคีภูโต ปริจาเรติ, เอตฺตาวตา โข โภ อยํ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๙๔) เอวมาทินา นเยน ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพานํ ปฺเปนฺติ. เต หิ มนฺธาตุกามคุณสทิเส มานุสเก กามคุเณ, ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทวราชสฺส กามคุณสทิเส ทิพฺเพ จ กามคุเณ อุปคตานํ ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพานปฺปตฺตึ วทนฺติ.

วิภชฺชวาทีติ เวรฺชกณฺเฑ อาคตนเยเนว เวนยิกาทิภาวํ วิภชฺช วทตีติ วิภชฺชวาที.

ตตฺถ หิ ภควตา ‘‘อหฺหิ, พฺราหฺมณ, วินยาย ธมฺมํ เทเสมิ ราคสฺสา’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘โน จ โข ยํ ตฺวํ สนฺธาย วเทสี’’ติอาทินา เวรฺชพฺราหฺมณสฺส อตฺตโน เวนยิกาทิภาโว วิภชฺช วุตฺโตติ. อปิจ โสมนสฺสาทีนํ จีวราทีนฺจ เสวิตพฺพาเสวิตพฺพภาวํ วิภชฺช วทตีติ วิภชฺชวาที, สสฺสตุจฺเฉทวาเท วา วิภชฺช วทตีติ วิภชฺชวาที, ‘‘สสฺสโต อตฺตา จ โลโก จา’’ติอาทีนํ ปนียานํ ปฺหานํ ปนโต ราคาทิขยสงฺขาตสฺส สสฺสตสฺส ราคาทิกายทุจฺจริตาทิอุจฺเฉทสฺส วจนโต วิภชฺชวาที, สสฺสตุจฺเฉทภูเต อุโภ อนฺเต อนุปคฺคมฺม มชฺฌิมปฏิปทาภูตสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส เทสนโต วิภชฺชวาที, ภควา. ปรปฺปวาทํ มทฺทนฺโตติ ตสฺมึ ตติยสงฺคีติกาเล อุปฺปนฺนํ วาทํ, ตโต ปฏฺาย ยาว สทฺธมฺมนฺตรธานา อายตึ อุปฺปชฺชนกวาทฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. ตสฺมิฺหิ สมาคเม อยํ เถโร ยานิ จ ตทา อุปฺปนฺนานิ วตฺถูนิ, ยานิ จ อายตึ อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สพฺเพสมฺปิ เตสํ ปฏิพาหนตฺถํ สตฺถารา ทินฺนนยวเสเนว ตถาคเตน ปิตมาติกํ วิภชนฺโต สกวาเท ปฺจ สุตฺตสตานิ, ปรวาเท ปฺจาติ สุตฺตสหสฺสํ อาหริตฺวา ตทา อุปฺปนฺนวาทสฺส มทฺทนโต ปรปฺปวาทมทฺทนํ อายตึ อุปฺปชฺชนกวาทานํ ปฏิเสธนลกฺขณภาวโต อายตึ ปฏิเสธลกฺขณํ กถาวตฺถุปฺปกรณํ อกาสิ.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

ตติยสงฺคีติกถาวณฺณนา สมตฺตา.

อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา

‘‘เกนาภต’’นฺติ อิมํ ปฺหํ วิสชฺเชนฺเตน ชมฺพุทีเป ตาว อาจริยปรมฺปรา ยาว ตติยสงฺคีติ, ตาว ทสฺเสตฺวา อิทานิ สีหฬทีเป อาจริยปรมฺปรํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตติยสงฺคหโต ปน อุทฺธ’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. อิมํ ทีปนฺติ อิมํ ตมฺพปณฺณิทีปํ. กฺจิ กาลนฺติ กิสฺมิฺจิ กาเล. โปราณาติ อฏฺกถาจริยา. ภทฺทนาโมติ ภทฺทสาลตฺเถโร. นามสฺส เอกเทเสนปิ หิ โวหาโร ทิสฺสติ ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ ยถา. อาคุํ น กโรนฺตีติ นาคา. วินยปิฏกํ วาจยึสูติ สมฺพนฺโธ. ตมฺพปณฺณิยาติ ภุมฺมวจนํ. นิกาเย ปฺจ วาเจสุนฺติ วินยาภิธมฺมวชฺเช ทีฆนิกายาทิเก ปฺจ นิกาเย จ วาเจสุํ. สตฺต เจว ปกรเณติ ธมฺมสงฺคณีวิภงฺคาทิเก สตฺต อภิธมฺมปฺปกรเณ จ วาเจสุนฺติ อตฺโถ. อสนิ วิย สิลุจฺจเย กิเลเส เมธติ หึสตีติ เมธา, ขิปฺปํ คหณธารณฏฺเน วา เมธา, ปฺา, สา เอตสฺส อตฺถีติ เมธาวี. ติเปฏโกติ ตีณิ ปิฏกานิ เอตสฺส อตฺถีติ ติเปฏโก, เตปิฏโกติ วุตฺตํ โหติ, ติปิฏกปริยตฺติธโรติ อตฺโถ. ตารกานํ ราชาติ ตารกราชา, จนฺทิมา. อติโรจถาติ อติวิย วิโรจิตฺถ. ปุปฺผนาโมติ มหาปทุมตฺเถโร. สทฺธมฺมวํสโกวิโทติ สทฺธมฺมตนฺติยา โกวิโท. ปุปฺผนาโมติ สุมนตฺเถโร. ชมฺพุทีเป ปติฏฺิโตติ สุมนตฺเถโร กิร เอกสฺมึ สมเย สีหฬทีปมฺหิ สาสเน โอสกฺกมาเน ชมฺพุทีปํ คนฺตฺวา อุคฺคณฺหิตฺวา สาสนํ อนุรกฺขนฺโต ตตฺเถว ปติฏฺาสิ. มคฺคโกวิทาติ สคฺคมคฺคโมกฺขมคฺเคสุ โกวิทา.

ภารํกตฺวาติ เตสํ เตสํ ภิกฺขูนํ สาสนํ ภารํ กตฺวา, ปฏิพทฺธํ กตฺวาติ อตฺโถ. ‘‘เต เต ภิกฺขู ตตฺถ ตตฺถ เปเสสี’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถาเรตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มชฺฌนฺติกตฺเถรํ กสฺมีรคนฺธารรฏฺํ เปเสสี’’ติอาทิ. มหึสกมณฺฑลนฺติ อนฺธกรฏฺํ วทนฺติ. วนวาสินฺติ วนวาสิรฏฺํ. อตฺตา ปฺจโม เอเตสนฺติ อตฺตปฺจมา, ตํ ตํ ทิสาภาคํ ปฺจ ปฺเจว ภิกฺขู อคมํสูติ วุตฺตํ โหติ.

อิทานิ ตตฺถ ตตฺถ คตานํ เถรานํ กิจฺจานุภาวํ ทสฺเสตุกาโม มชฺฌนฺติกตฺเถรสฺส คตฏฺาเน กิจฺจํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘เตน โข ปน สมเยน กสฺมีรคนฺธารรฏฺเ’’ติอาทิมาห. กรกวสฺสนฺติ หิมปาตนกวสฺสํ. หราเปตฺวาติ อุทโกเฆน หราเปตฺวา. อรวาฬทหปิฏฺิยนฺติ อรวาฬทหสฺส อุทกปิฏฺิยํ. ฉินฺนภินฺนปฏธโรติ สตฺถเกน ฉินฺนํ รงฺเคน ภินฺนํ วณฺณวิการมาปนฺนํ ปฏํ ธาเรตีติ ฉินฺนภินฺนปฏธโร. อถ วา สตฺถเกน ฉินฺนานํ คิหิวตฺถวิสภาคานํ กาสาวานํ ธารณโต ฉินฺนภินฺนปฏธโร. ภณฺฑูติ มุณฺฑโก. กาสาววสโนติ กาสาววตฺถนิวตฺโถ. มกฺขํ อสหมาโนติ เถรํ ปฏิจฺจ อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขณํ มกฺขํ อสหมาโน สนฺธาเรตุํ อธิสหิตุํ วูปสเมตุํ อสกฺโกนฺโต. ภึสนกานีติ เภรวารมฺมณานิ. ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต ตโต ภุสา วาตา วายนฺตี’’ติอาทิมาห. ภุสา วาตาติ รุกฺขเภทนปพฺพตกูฏนิปาตนสมตฺถา พลววาตา. อสนิโย ผลนฺตีติ อสนิโย ภิชฺชนฺติ, ปตนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ปหรณวุฏฺิโยติ อเนกปฺปการา อาวุธวุฏฺิโย. นิทฺธมถาติ คเหตฺวา อปเนถ. ภึสนกนฺติ นาคราชสฺส กายิกวาจสิกปโยคชนิตภยนิมิตฺตํ วิปฺปการํ.

เม ภยเภรวํ ชเนตุํ ปฏิพโล น อสฺส น ภเวยฺยาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ภยเภรวํ นาม ขุทฺทานุขุทฺทกํ ภยํ. อถ วา ภยนฺติ จิตฺตุตฺราสภยํ, ปฏิฆภยสฺเสตํ อธิวจนํ. เภรวนฺติ ภยชนกมารมฺมณํ. สเจปิ ตฺวํ มหึ สพฺพนฺติ สเจปิ ตฺวํ มหานาค สพฺพํ มหึ สมุทฺเทน สห สสมุทฺทํ ปพฺพเตน สห สปพฺพตํ อุกฺขิปิตฺวา มมูปริ มยฺหํ สีโสปริ ขิเปยฺยาสีติ อตฺโถ. เม ภยเภรวํ ชเนตุํ เนว สกฺกุเณยฺยาสีติ สมฺพนฺโธ. อฺทตฺถูติ เอกํเสน. ตเววสฺส วิฆาโต อุรคาธิปาติ อุรคานํ นาคานํ อธิปติ ราช ตว เอว วิฆาโต ทุกฺขํ วิหึสา อสฺส ภเวยฺยาติ อตฺโถ.

ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวาติอาทีสุ ตงฺขณานุรูปาย ธมฺมเทสนาย ทิฏฺธมฺมสมฺปรายิกํ อตฺถํ สนฺทสฺเสตฺวา กุสเล ธมฺเม สมาทเปตฺวา คณฺหาเปตฺวา ตตฺถ จ นํ สมุตฺเตเชตฺวา สอุสฺสาหํ กตฺวา ตาย จ สอุสฺสาหตาย อฺเหิ จ วิชฺชมานคุเณหิ สมฺปหํเสตฺวา โตเสตฺวาติ อตฺโถ. เถเรน กตํ นาคานุสาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถายสฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิโต อุทฺธํ ยถา ปุเรติ ยถา ตุมฺเห อิโต ปุเร สทฺธมฺมสวนุปฺปตฺติวิรหิตกาเล ปรสฺส โกธํ อุปฺปาทยิตฺถ, อิทานิ อิโต ปฏฺาย อุทฺธํ อนาคเต โกธฺจ มา ชนยิตฺถ, วิชาตมาตุยาปิ ปุตฺเต สิเนหจฺเฉทนํ สพฺพวินาสมูลกํ สสฺสฆาตกฺจ มา กริตฺถาติ อตฺโถ. สุขกามา หิ ปาณิโนติ เอตฺถ หิ-สทฺโท การโณปเทเส, ยสฺมา สพฺเพ สตฺตา สุขกามา, ตสฺมา หิตสุขอุปจฺเฉทกรํ สสฺสฆาตฺจ มา กโรถาติ วุตฺตํ โหติ.

ยถานุสิฏฺนฺติ ยํ ยํ อนุสิฏฺํ ยถานุสิฏฺํ, อนุสิฏฺํ อนติกฺกมฺม วา ยถานุสิฏฺํ, เถเรน ทินฺโนวาทํ อนติกฺกมฺมาติ วุตฺตํ โหติ. ธมฺมาภิสมโย อโหสีติ ปมมคฺคผลาธิคโม อโหสีติ วทนฺติ. กุลสตสหสฺสนฺติ อิมินา ปุริสานํ สตสหสฺสํ ทสฺเสติ. กสฺมีรคนฺธาราติ กสฺมีรคนฺธารรฏฺวาสิโน. กาสาวปชฺโชตาติ ภิกฺขูนํ นิวตฺถปารุตกาสาววตฺเถหิ โอภาสิตา. อิสิวาตปฏิวาตาติ ภิกฺขูนํ นิวาสนปารุปนวาเตน เจว หตฺถปาทานํ สมิฺชนปสารณาทิวาเตน จ สมนฺตโต พีชิยมานา อเหสุํ. ทุฏฺนฺติ กุปิตํ. พนฺธนาติ สํสารพนฺธนโต.

ธมฺมจกฺขุนฺติ เหฏฺามคฺคตฺตเย าณํ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘ปมมคฺคาณเมว เต ปฏิลภึสู’’ติ วทนฺติ. โจเทตฺวา เทวทูเตหีติ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๒๖๓ อาทโย) เทวทูตสุตฺตนฺตเทสนาวเสน (ม. นิ. ๓.๒๖๑ อาทโย) ทหรกุมาโร ชราชิณฺณสตฺโต คิลานสตฺโต กมฺมการณา กมฺมการณิกา วา มตสตฺโตติ อิเมหิ ปฺจหิ เทวทูเตหิ โจเทตฺวา โอวทิตฺวา, สํเวคํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ. ทหรกุมาราทโย หิ ตตฺถ ‘‘เทวทูตา’’ติ วุจฺจนฺติ. ตถา หิ ทหรกุมาโร อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ โภ มยฺหมฺปิ ตุมฺหากํ วิย หตฺถปาทา อตฺถิ, สเก ปนมฺหิ มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺหิตฺวา นหายิตุํ น สกฺโกมิ, ‘อหํ กิลิฏฺโ, นหาเปถ ม’นฺติ วตฺตุมฺปิ น สกฺโกมิ, ชาติโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต, น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชาติโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชาติ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

ชราชิณฺณสตฺโตปิ อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ โภ อหมฺปิ ตุมฺเห วิย ตรุโณ อโหสึ อูรุพลพาหุพลชวสมฺปนฺโน, ตสฺส เม ตา พลชวสมฺปตฺติโย อนฺตรหิตา, หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจฺจ น กโรนฺติ, ชรายมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต, น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ ชราย อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ ชรา อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺสา ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

คิลานสตฺโตปิ อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ โภ อหมฺปิ ตุมฺเห วิย นิโรโค อโหสึ, โสมฺหิ เอตรหิ พฺยาธินา อภิหโต สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺโน, อุฏฺาตุมฺปิ น สกฺโกมิ, วิชฺชมานาปิ เม หตฺถปาทา หตฺถปาทกิจฺจํ น กโรนฺติ, พฺยาธิโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต, น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ พฺยาธิโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ พฺยาธิ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต.

กมฺมการณา กมฺมการณิกา วา จตุตฺโถ เทวทูโตติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ กมฺมการณปกฺเข ทฺวตฺตึส ตาว กมฺมการณา อตฺถโต เอวํ วทนฺติ นาม ‘‘มยํ นิพฺพตฺตมานา น รุกฺเข วา ปาสาเณ วา นิพฺพตฺตาม, ตุมฺหาทิสานํ สรีเร นิพฺพตฺตาม, อิติ อมฺหากํ ปุเร นิพฺพตฺติโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนตา เทวทูตา นาม ชาตา. กมฺมการณิกาปิ อตฺถโต เอวํ วทนฺติ นาม ‘‘มยํ ทฺวตฺตึส กมฺมการณา กโรนฺตา น รุกฺขาทีสุ กโรม, ตุมฺหาทิเสสุ สตฺเตสุเยว กโรม, อิติ อมฺหากํ ตุมฺเหสุ ปุเร กมฺมการณาการณโตว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนเตปิ เทวทูตา นาม ชาตา.

มตกสตฺโตปิ อตฺถโต เอวํ วทติ นาม ‘‘ปสฺสถ โภ มํ อามกสุสาเน ฉฑฺฑิตํ อุทฺธุมาตกาทิภาวํ ปตฺตํ, มรณโตมฺหิ อปริมุตฺตตาย เอทิโส ชาโต, น โข ปนาหเมว, ตุมฺเหปิ มรณโต อปริมุตฺตาว. ยเถว หิ มยฺหํ, เอวํ ตุมฺหากมฺปิ มรณํ อาคมิสฺสติ, อิติ ตสฺส ปุเร อาคมนาว กลฺยาณํ กโรถา’’ติ. เตเนส เทวทูโต นาม ชาโต. ตสฺมา ทหรกุมาราทโย เอตฺถ ‘‘เทวทูตา’’ติ เวทิตพฺพา.

อนมตคฺคิยนฺติ อนมตคฺคสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔). ธมฺมามตํ ปาเยสีติ โลกุตฺตรธมฺมามตํ ปานํ ปฏิลาภกรณวเสน ปาเยสีติ อตฺโถ. สมธิกานีติ สหาธิกานิ. สหตฺโถ เหตฺถ สํสทฺโท. อิสีติ สีลกฺขนฺธาทโย ธมฺมกฺขนฺเธ เอสิ คเวสิ ปริเยสีติ อิสีติ วุจฺจติ. ปฺจ รฏฺานีติ ปฺจวิธจีนรฏฺานิ. หิมวนฺตํ คนฺตฺวา ธมฺมจกฺกปฺปวตฺตนํ ปกาเสนฺโต ยกฺขเสนํ ปสาทยีติ โยเชตพฺพํ.

เตน จ สมเยนาติ ตสฺมึ สมเย เตสํ คมนโต ปุพฺพภาคกาเล. ลทฺธํ ภวิสฺสตีติ เวสฺสวณสนฺติกา ลทฺธํ ภวิสฺสติ. เวคสาติ เวเคน. สมนฺตโต อารกฺขํ เปสีติ ‘‘อิโต ปฏฺาย มา ปวิสนฺตู’’ติ อธิฏฺานวเสน สมนฺตา อารกฺขํ เปสิ. อฑฺฒุฑฺฒานิ สหสฺสานีติ อฑฺเฒน จตุตฺถานิ อฑฺฒุฑฺฒานิ, อติเรกปฺจสตานิ ตีณิ สหสฺสานีติ วุตฺตํ โหติ. ทิยฑฺฒสหสฺสนฺติ อฑฺเฒน ทุติยํ ทิยฑฺฒํ, อติเรกปฺจสตํ เอกํ สหสฺสนฺติ อตฺโถ. โสณุตฺตราติ โสโณ จ อุตฺตโร จ โสณุตฺตรา. นิทฺธเมตฺวานาติ ปลาเปตฺวาน. อเทสิสุนฺติ อเทสยุํ.

อชฺฌิฏฺโติ อาณตฺโต. ปุน ทานีติ เอตฺถ ทานีติ นิปาตมตฺตํ, ปุน อาคจฺเฉยฺยาม วา น วาติ อตฺโถ. ราชคหนครปริวตฺตเกนาติ ราชคหนครํ ปริวชฺเชตฺวา ตโต พหิ ตํ ปทกฺขิณํ กตฺวา คตมคฺเคน คมเนน วา. อิทานิ เถรมาตุยา เวฏิสนคเร นิวาสการณํ ทสฺเสตุํ ตสฺส นครสฺส ตสฺสา ชาติภูมิภาวํ เถรสฺส จ อฏฺุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘อโสโก กิร กุมารกาเล’’ติอาทิมาห.

อยํ ปเนตฺถ อนุปุพฺพิกถา – ปุพฺเพ กิร โมริยวํเส ชาตสฺส จนฺทคุตฺตสฺส นาม รฺโ ปุตฺโต พินฺทุสาโร นาม กุมาโร ปิตุ อจฺจเยน ปาฏลิปุตฺตมฺหิ นคเร ราชา อโหสิ. ตสฺส ทฺเว ปุตฺตา สอุทริยา อเหสุํ, เตสํ เอกูนสตมตฺตา เวมาติกภาตโร อเหสุํ. ราชา ปน เตสํ สพฺพเชฏฺกสฺส อโสกกุมารสฺส อุปรชฺชฏฺานฺจ อวนฺติรฏฺฺจ ทตฺวา อเถกทิวสํ อตฺตโน อุปฏฺานํ อาคตํ ทิสฺวา ‘‘ตาต, อุปราช, ตว รฏฺํ คนฺตฺวา ตตฺถ อุชฺเชนีนคเร วสาหี’’ติ อาณาเปสิ. โส ปิตุ วจเนน ตํ อุชฺเชนึ คจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เวฏิสคิรินคเร เวฏิสนามกสฺส เสฏฺิสฺส ฆเร นิวาสํ อุปคนฺตฺวา ตสฺส เสฏฺิสฺส ธีตรํ ลกฺขณสมฺปนฺนํ โยพฺพนปฺปตฺตํ เวฏิสคิรึ นาม กุมารึ ทิสฺวา ตาย ปฏิพทฺธจิตฺโต มาตาปิตูนํ กถาเปตฺวา ตํ เตหิ ทินฺนํ ปฏิลภิตฺวา ตาย สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ. สา เตน สํวาเสน สฺชาตคพฺภา หุตฺวา ตโต อุชฺเชนึ นีตา มหินฺทกุมารํ ชนยิ. ตโต วสฺสทฺวเย อติกฺกนฺเต สงฺฆมิตฺตฺจ ธีตรํ อุปลภิตฺวา อุปราเชน สทฺธึ ตตฺถ วสติ. อุปราชสฺส ปน ปิตา พินฺทุสาโร มรณมฺเจ นิปนฺโน ปุตฺตํ อโสกกุมารํ สริตฺวา ตํ ปกฺโกสาเปตุํ อุชฺเชนึ มนุสฺเส เปเสสิ. เต ตโต อุชฺเชนึ คนฺตฺวา อโสกสฺส ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสุํ. เตสํ วจเนน โส ปิตุ สนฺติกํ ตุริตคมเนนาคจฺฉนฺโต อนฺตรามคฺเค เวฏิสคิรินครมฺหิ ปุตฺตทาเร เปตฺวา ปิตุ สนฺตกํ ปาฏลิปุตฺตนครํ คนฺตฺวา คตสมนนฺตรเมว กาลกตสฺส ปิตุโน สรีรกิจฺจํ การาเปตฺวา ตโต เอกูนสตมตฺเต เวมาติกภาตโร จ ฆาตาเปตฺวา วิหตกณฺฏโก หุตฺวา ตตฺถ ฉตฺตํ อุสฺสาเปตฺวา อภิเสกํ คณฺหิ. ตทาปิ เถรมาตา ทารเก รฺโ สนฺติกํ เปเสตฺวา สยํ ตตฺเถว เวฏิสคิรินคเร วสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สา ตสฺส มาตา เตน สมเยน าติฆเร วสี’’ติ.

อาโรเปสีติ ปฏิปาเทสิ. อมฺหากํ อิธ กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฏฺิตนฺติ มาตุ ทสฺสนสฺส กตภาวํ สนฺธายาห. อนุภวตุ ตาว เม ปิตรา เปสิตํ อภิเสกนฺติอาทีสุ อภิเสกเปสนาทิกถา วิตฺถาเรน อุตฺตรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ฉณตฺถนฺติ ฉณนิมิตฺตํ, ฉณเหตูติ อตฺโถ, สยํ ฉณกีฬํ อกาตุกาโมติ วุตฺตํ โหติ. ตทา กิร เทวานํปิยติสฺโส เชฏฺมูลมาสปุณฺณมิยํ นกฺขตฺตํ โฆสาเปตฺวา ‘‘สลิลกีฬาฉณํ กโรถา’’ติ อมจฺเจ อาณาเปตฺวา สยํ มิควํ กีฬิตุกาโม มิสฺสกปพฺพตํ อคมาสิ. มิสฺสกปพฺพตนฺติ ปํสุปาสาณมิสฺสกตฺตา เอวํลทฺธนามํ ปพฺพตํ. ทิฏฺสจฺโจติ อนาคามิมคฺเคน ปฏิวิทฺธสจฺโจ, อนาคามิผลํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. โส กิร เถเรน อตฺตโน มาตุเทวิยา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา อนาคามิผลํ สจฺฉากาสิ, โส จ เถรสฺส ภาคิเนยฺโยติ เวทิตพฺโพ. ตถา หิ เถรสฺส มาตุเทวิยา ภคินี ตสฺสา ธีตา, ตสฺสา อยํ ปุตฺโต. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘เทวิยา ภคินี ธีตุ, ปุตฺโต ภณฺฑุกนามโก;

เถเรน เทวิยา ธมฺมํ, สุตฺวา เทสิตเมว ตุ;

อนาคามิผลํ ปตฺวา, วสิ เถรสฺส สนฺติเก’’ติ.

สมฺมาสมฺพุทฺเธน จ ตุมฺเห พฺยากตาติ โพธิมูเล เอว พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกตฺวา ตมฺพปณฺณิทีปํ ทิสฺวา อนาคเต ตสฺส ทีปสฺส สมฺปตฺตึ ทิฏฺเน สมฺมาสมฺพุทฺเธน ‘‘อนาคเต มหินฺโท นาม ภิกฺขุ ตมฺพปณฺณิทีปํ ปสาเทสฺสตี’’ติ ตุมฺเห พฺยากตา. ตตฺถ ตมฺพปณฺณิทีปนฺติ ทีปวาสิโน วุตฺตา. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ อาสยานุสยาณฺจ ‘‘พุทฺธจกฺขู’’ติ วุจฺจติ. เตน ปน อินฺทฺริยปโรปราทึ วินา อฺํ น สกฺกา ทฏฺุนฺติ ‘‘โวโลเกนฺโต’’ติ อวตฺวา ‘‘โวโลเกตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เอตมตฺถนฺติ ‘‘อนาคเต มหินฺโท นาม ภิกฺขุ ตมฺพปณฺณิทีปํ ปสาเทสฺสตี’’ติ อิมมตฺถํ.

เวฏิสคิริมฺหิ ราชคเหติ เทวิยา กตวิหาเร. กาโลว คมนสฺส, คจฺฉาม ทีปมุตฺตมนฺติ โยเชตพฺพํ. อิทฺจ เตสํ ปริวิตกฺกนิทสฺสนํ. ปฬินาติ อากาสํ ปกฺขนฺทึสุ. อมฺพเรติ อากาเส. เอวมากาสํ ปกฺขนฺทิตฺวา กึ เต อกํสูติ เจติยปพฺพเต นิปตึสูติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอวมุปฺปติตา เถรา, นิปตึสุ นคุตฺตเม’’ติ. อิทานิ ตสฺส ปพฺพตสฺส ปติฏฺิตฏฺานํ เถรานฺจ ตตฺถ นิปติตฏฺานํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุรโต ปุรเสฏฺสฺสา’’ติอาทิคาถมาห. ปุรโตติ ปาจีนทิสาภาเค. ปุรเสฏฺสฺสาติ อนุราธปุรสงฺขาตสฺส ปุรวรสฺส. เมฆสนฺนิเภติ สมนฺตโต นีลวณฺณตฺตา นีลมหาเมฆสทิเส. สีลกูฏมฺหีติ เอวํนามเก ปพฺพตกูเฏ. หํสาว นคมุทฺธนีติ ปพฺพตมุทฺธนิ หํสา วิย.

ตตฺถ ปน ปติฏฺหนฺโต กทา ปติฏฺหีติ อาห ‘‘เอวํ อิฏฺฏิยาทีหิ สทฺธิ’’นฺติอาทิ. ปรินิพฺพานโตติ ปรินิพฺพานวสฺสโต ตํ อวธิภูตํ มุฺจิตฺวา ตโต อุทฺธํ ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ ฉตฺตึสติเม วสฺเสติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. กถํ เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อชาตสตฺตุสฺส หี’’ติอาทิ. ตสฺมึเยว วสฺเสติ เอตฺถ ยสฺมึ สํวจฺฉเร ยสฺมิฺจ ทิวเส ภควา ปรินิพฺพุโต, ตสฺมึ สํวจฺฉเร ตสฺมึเยว จ ทิวเส วิชยกุมาโร อิมํ ทีปมาคโตติ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ลงฺกายํ วิชยสนามโก กุมาโร,

โอติณฺโณ ถิรมติ ตมฺพปณฺณิทีเป;

สาลานํ ยมกคุณานมนฺตรสฺมึ,

นิพฺพาตุํ สยิตทิเน ตถาคตสฺสา’’ติ.

สีหกุมารสฺส ปุตฺโตติ เอตฺถ กาลิงฺคราชธีตุ กุจฺฉิสฺมึ สีหสฺส ชาโต กุมาโร สีหกุมาโรติ เวทิตพฺโพ, ปุพฺเพ อมนุสฺสาวาสตฺตา อาห ‘‘มนุสฺสาวาสํ อกาสี’’ติ. จุทฺทสเม วสฺเสติ จุทฺทสเม วสฺเส สมฺปตฺเต. อิธ วิชโย กาลมกาสีติ อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป วิชยราชกุมาโร อฏฺตึส วสฺสานิ รชฺชํ กาเรตฺวา กาลมกาสิ. ตถา หิ อชาตสตฺตุ ราชา ทฺวตฺตึส วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ, อุทยภทฺโท โสฬส วสฺสานิ, ตสฺมา อชาตสตฺตุสฺส อฏฺมวสฺสํ อิธ วิชยสฺส ปมวสฺสนฺติ กตฺวา ตโต อุทฺธํ อชาตสตฺตุสฺส จตุวีสติ วสฺสานิ อุทยภทฺทสฺส จุทฺทส วสฺสานีติ วิชยสฺส อฏฺตึส วสฺสานิ ปริปูรึสุ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘วิชโย ลงฺกมาคมฺม, สตฺถุ นิพฺพานวาสเร;

อฏฺตึส สมากาสิ, รชฺชํ ยกฺขวิมทฺทโก’’ติ.

‘‘อุทยภทฺทสฺส ปฺจทสเม วสฺเส ปณฺฑุวาสุเทโว นาม อิมสฺมึ ทีเป รชฺชํ ปาปุณี’’ติ วุตฺตตฺตา อุทยภทฺทสฺส จุทฺทสมวสฺสสงฺขาตํ เอกํ วสฺสํ อิมสฺมึ ทีเป วิชยสฺส ปณฺฑุวาสุเทวสฺส จ อนฺตเร สีหฬํ อราชิกํ หุตฺวา ิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตสฺมิฺหิ วสฺเส วิชยราชสฺส อมจฺจา อุปติสฺสํ นาม อมจฺจํ เชฏฺกํ กตฺวา ตสฺส นาเมน กเต อุปติสฺสคาเม วสนฺตา อราชิกํ รชฺชมนุสาสึสุ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ตสฺมึ มเต อมจฺจา เต, เปกฺขนฺตา ขตฺติยาคมํ;

อุปติสฺสคาเม ตฺวาน, รฏฺํ สมนุสาสิสุํ.

‘‘มเต วิชยราชมฺหิ, ขตฺติยาคมนา ปุรา;

เอกํ วสฺสํ อยํ ลงฺกา-ทีโป อาสิ อราชิโก’’ติ.

ตตฺถาติ ชมฺพุทีเป. อิธ ปณฺฑุวาสุเทโว กาลมกาสีติ อิมสฺมึ สีหฬทีเป ปณฺฑุวาสุเทโว ตึส วสฺสานิ รชฺชมนุสาสิตฺวา กาลมกาสิ. ตถา หิ อุทยภทฺทสฺส อนนฺตรํ อนุรุทฺโธ จ มุณฺโฑ จ อฏฺ วสฺสานิ รชฺชมนุสาสึสุ, ตทนนฺตรํ นาคทาสโก จตุวีสติ วสฺสานิ, ตสฺมา อุทยภทฺทสฺส ปฺจทสมโสฬสมวสฺเสหิ สทฺธึ อนุรุทฺธสฺส จ มุณฺฑสฺส จ อฏฺ วสฺสานิ, นาคทาสกสฺส จ จตุวีสติวสฺเสสุ วีสติ วสฺสานีติ ปณฺฑุวาสุเทวสฺส รฺโ ตึส วสฺสานิ ปริปูรึสุ. เตเนว วุตฺตํ –

‘‘ตโต ปณฺฑุวาสุเทโว, รชฺชํ ตึส สมา อกา’’ติ;

ตตฺถาติ ชมฺพุทีเป. สตฺตรสเม วสฺเสติ สตฺตรสเม วสฺเส สมฺปตฺเต. ตถา หิ นาคทาสกสฺส อนนฺตรา สุสุนาโค อฏฺารส วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ, ตสฺมา นาคทาสกสฺส จตุวีสติวสฺเสสุ วีสติ วสฺสานิ เปตฺวา เสเสหิ จตูหิ วสฺเสหิ สทฺธึ สุสุนาคสฺส อฏฺารสสุ วสฺเสสุ โสฬส วสฺสานีติ อิธ อภยรฺโ วีสติ วสฺสานิ ปริปูรึสุ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อภโย วีสติ วสฺสานิ, ลงฺการชฺชมการยี’’ติ;

ทามริโกติ ยุทฺธการโก โจโร. ปณฺฑุกาภโย ปน อภยสฺส ภาคิเนยฺโย ราชาเยว, น โจโร, พลกฺกาเรน ปน รชฺชสฺส คหิตตฺตา ‘‘ทามริโก’’ติ วุตฺตํ. รชฺชํ อคฺคเหสีติ เอกเทสสฺส คหิตตฺตา วุตฺตํ. อภยสฺส หิ วีสติเม วสฺเส น ตาว สพฺพํ รชฺชมคฺคเหสีติ. ตถา หิ วีสติมวสฺสโต ปฏฺาย อภยสฺส นว ภาติเก อตฺตโน มาตุเล ตตฺถ ตตฺถ ยุทฺธํ กตฺวา ฆาเตนฺตสฺส อนภิสิตฺตสฺเสว สตฺตรส วสฺสานิ อติกฺกมึสุ, ตโตเยว จ ตานิ ราชสุฺานิ นาม อเหสุํ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘ปณฺฑุกาภยรฺโ จ, อภยสฺส จ อนฺตเร;

ราชสุฺานิ วสฺสานิ, อเหสุํ ทส สตฺต จา’’ติ.

ตตฺถาติ ชมฺพุทีเป. ปณฺฑุกสฺสาติ ปณฺฑุกาภยสฺส. ภวติ หิ เอกเทเสนปิ โวหาโร ‘‘เทวทตฺโต ทตฺโต’’ติ ยถา. สตฺตรส วสฺสานิ ปริปูรึสูติ อนภิสิตฺตสฺเสว ปริปูรึสุ. เอตฺถ จ กาฬาโสกสฺส โสฬสมวสฺสํ เปตฺวา ปนฺนรส วสฺสานิ เหฏฺา สุสุนาคสฺส สตฺตรสมอฏฺารสมวสฺสานิ จ ทฺเว คเหตฺวา สตฺตรส วสฺสานิ คณิตพฺพานิ. ตานิ เหฏฺา เอเกน วสฺเสน สห อฏฺารส โหนฺตีติ ตานิ ราชสุฺานิ สตฺตรส วสฺสานิ เหฏฺา วิชยปณฺฑุวาสุเทวราชูนมนฺตเร อราชิเกน เอเกน วสฺเสน สทฺธึ อฏฺารส ราชสุฺวสฺสานิ นาม โหนฺติ.

จนฺทคุตฺตสฺสจุทฺทสเม วสฺเส อิธ ปณฺฑุกาภโย กาลมกาสีติ จนฺทคุตฺตสฺส จุทฺทสเม วสฺเส อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ปณฺฑุกาภโย นาม ราชา สตฺตติ วสฺสานิ รชฺชมนุสาสิตฺวา กาลมกาสิ. ตถา หิ สุสุนาคสฺส ปุตฺโต กาฬาโสโก อฏฺวีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. ตโต ตสฺส ปุตฺตา ทส ภาตุกา ทฺเววีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสุํ, เตสํ ปจฺฉา นว นนฺทา ทฺเววีสติ, จนฺทคุตฺโต จตุวีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ. ตตฺถ กาฬาโสกสฺส อฏฺวีสติวสฺเสสุ ปนฺนรส วสฺสานิ เหฏฺา คหิตานีติ ตานิ เปตฺวา เสสานิ เตรส วสฺสานิ, ทสภาตุกานํ ทฺเววีสติ, ตถา นวนนฺทานํ ทฺเววีสติ, จนฺทคุตฺตสฺส จุทฺทสมวสฺสํ เปตฺวา เตรส วสฺสานีติ ปณฺฑุกาภยสฺส สตฺตติ วสฺสานิ ปริปูรึสุ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘ปณฺฑุกาภยนามสฺส, รฺโ วสฺสานิ สตฺตตี’’ติ;

ตตฺถ อโสกธมฺมราชสฺส สตฺตรสเม วสฺเส อิธ มุฏสิวราชา กาลมกาสีติ ตสฺมึ ชมฺพุทีเป อโสกธมฺมราชสฺส สตฺตรสเม วสฺเส อิธ มุฏสิโว นาม ราชา สฏฺิ วสฺสานิ รชฺชมนุสาสิตฺวา กาลมกาสิ . ตถา หิ จนฺทคุตฺตสฺส ปุตฺโต พินฺทุสาโร อฏฺวีสติ วสฺสานิ รชฺชํ กาเรสิ, ตโต ตสฺส ปุตฺโต อโสกธมฺมราชา รชฺชํ ปาปุณิ, ตสฺมา จนฺทคุตฺตสฺส เหฏฺา วุตฺเตสุ จตุวีสติวสฺเสสุ เตรส วสฺสานิ คหิตานีติ ตานิ เปตฺวา เสสานิ เอกาทส วสฺสานิ, พินฺทุสารสฺส อฏฺวีสติ วสฺสานิ, อโสกสฺส อนภิสิตฺตสฺส จตฺตาริ วสฺสานิ, อภิสิตฺตสฺส สตฺตรส วสฺสานีติ เอวํ สฏฺิ วสฺสานิ อิธ มุฏสิวสฺส ปริปูรึสุ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘มุฏสิโว สฏฺิ วสฺสานิ, ลงฺการชฺชมการยี’’ติ;

เทวานํปิยติสฺโส รชฺชํ ปาปุณีติ อโสกธมฺมราชสฺส อฏฺารสเม วสฺเส ปาปุณิ. อิทานิ ปรินิพฺพุเต ภควติ อชาตสตฺตุอาทีนํ วสฺสคณนาวเสน ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ ฉตฺตึสติ วสฺสานิ เอกโต คเณตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปรินิพฺพุเต จ สมฺมาสมฺพุทฺเธ’’ติอาทิ. ตตฺถ อชาตสตฺตุสฺส จตุวีสตีติ ปรินิพฺพานวสฺสสงฺขาตํ อฏฺมวสฺสํ มุฺจิตฺวา วุตฺตํ. อโสกสฺส ปุตฺตกา ทส ภาตุกราชาโนติ กาฬาโสกสฺส ปุตฺตา ภทฺทเสโน โกรณฺฑวณฺโณ มงฺกุโร สพฺพฺชโห ชาลิโก อุภโก สฺจโย โกรพฺโย นนฺทิวฑฺฒโน ปฺจมโกติ อิเม ทส ภาตุกราชาโนติ เวทิตพฺพา. อุคฺคเสนนนฺโท ปณฺฑุกนนฺโท ปณฺฑุคตินนฺโท ภูตปาลนนฺโท รฏฺปาลนนฺโท โควิสาณกนนฺโท สวิทฺธกนนฺโท เกวฏฺฏกนนฺโท ธนนนฺโทติ อิเม นว นนฺทาติ เวทิตพฺพา. เอเตน ราชวํสานุสาเรนาติ เอเตน ชมฺพุทีปวาสิราชูนํ วํสานุสาเรน เวทิตพฺพเมตนฺติ อตฺโถ.

ตมฺพปณฺณิทีปวาสีนมฺปิ ปุน ราชูนํ วเสน เอวํ คณนา เวทิตพฺพา – สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ปรินิพฺพานวสฺสํ อิธ วิชยสฺส ปมํ วสฺสนฺติ กตฺวา ตํ อปเนตฺวา ปรินิพฺพานวสฺสโต อุทฺธํ วิชยสฺส สตฺตตึส วสฺสานิ, ตโต อราชิกเมกวสฺสํ, ปณฺฑุวาสุเทวสฺส ตึส วสฺสานิ, อภยสฺส วีสติ วสฺสานิ, ปณฺฑุกาภยสฺส อภิเสกโต ปุพฺเพ สตฺตรส วสฺสานิ, อภิสิตฺตสฺส สตฺตติ วสฺสานิ, มุฏสิวสฺส สฏฺิ วสฺสานิ, เทวานํปิยติสฺสสฺส ปมํ วสฺสนฺติ เอวํ ปรินิพฺพานโต ทฺวินฺนํ วสฺสสตานํ อุปริ ฉตฺตึส วสฺสานิ เวทิตพฺพานิ.

เชฏฺมาสสฺส ปุณฺณมิยํ เชฏฺนกฺขตฺตํ มูลนกฺขตฺตํ วา โหตีติ อาห ‘‘เชฏฺมูลนกฺขตฺตํ นาม โหตี’’ติ. ตสฺมึ ปน นกฺขตฺเต กตฺตพฺพฉณมฺปิ ตนฺนิสฺสยตฺตา ตเมว นามํ ลภตีติ เวทิตพฺพํ. มิควนฺติ มิคานํ วานนโต เหสนโต พาธนโต มิควนฺติ ลทฺธสมฺํ มิควํ. โรหิตมิครูปนฺติ โคกณฺณมิคเวสํ. ชิยนฺติ ธนุชิยํ. อนุพนฺธนฺโตติ ปทสา อนุธาวนฺโต. มมํเยว ราชา ปสฺสตูติ เอตฺถ ‘‘อมฺเหสุ พหูสุ ทิฏฺเสุ ราชา อติวิย ภายิสฺสตี’’ติ อิมินา การเณน อตฺตานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘มมํเยว ปสฺสตู’’ติ อธิฏฺาสีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘จินฺเตสี’’ติ วตฺวา ตสฺส จินฺตนาการํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อิมสฺมึ ทีเป ชาโต’’ติอาทิ. เถโร ตสฺส ปริวิตกฺกํ ชานิตฺวา อตฺตโน สภาวํ กเถตฺวา ตํ อสฺสาเสตุกาโม ‘‘สมณา มยํ มหาราชา’’ติอาทิมาห. มหาราช มยํ สมณา นาม, ตฺวํ ปริวิตกฺกํ มา อกาสีติ วุตฺตํ โหติ. ตเวว อนุกมฺปายาติ ตว อนุกมฺปตฺถาย เอว อาคตา, น วิมุขภาวตฺถายาติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิเม สมณา นามา’’ติ อชานนฺตสฺส ‘‘สมณา มยํ, มหาราชา’’ติ กสฺมา เถโร อาหาติ เจ? อโสกธมฺมราเชน เปสิตสาสเนเนว ปุพฺเพ คหิตสมณสฺํ สาเรตุํ เอวมาหาติ. อิมมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เตน จ สมเยนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อทิฏฺา หุตฺวา สหายกาติ อทิฏฺสหายกา, อฺมฺํ อทิสฺวาว สหายกภาวํ อุปคตาติ วุตฺตํ โหติ. ฉาตปพฺพตปาเทติ ฉาตวาหสฺส นาม ปพฺพตสฺส ปาเท. ตํ กิร ปพฺพตํ อนุราธปุรา ปุพฺพทกฺขิณทิสาภาเค อติเรกโยชนทฺวยมตฺถเก ติฏฺติ. ตมฺหิ าเน ปจฺฉา สทฺธาติสฺโส นาม มหาราชา วิหารํ การาเปสิ, ตํ ‘‘ฉาตวิหาร’’นฺติ โวหรึสุ. ‘‘รถยฏฺิปฺปมาณาติ อายามโต จ อาวฏฺฏโต จ รถปโตเทน สมปฺปมาณา’’ติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. มหาวํเสปิ วุตฺตํ –

‘‘ฉาตปพฺพตปาทมฺหิ , ติสฺโส จ เวฬุยฏฺิโย;

ชาตา รถปโตเทน, สมานา ปริมาณโต’’ติ.

คณฺิปเท ปน ‘‘รถยฏฺิปฺปมาณาติ รถสฺส ธชยฏฺิปฺปมาณา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปชฺชึสูติ ตสฺส อภิเสกสมกาลเมว อุปฺปชฺชึสุ. เอวมุตฺตริปิ วกฺขมานานํ อจฺฉริยานํ ปาตุภาโว เวทิตพฺโพ. ตถา จ วุตฺตํ มหาวํเส

‘‘เทวานํปิยติสฺโส โส, ราชาสิ ปิตุอจฺจเย;

ตสฺสาภิเสเกน สมํ, พหูนจฺฉริยานหู’’ติ.

เอกา ลตา ยฏฺิ นามาติ กฺจนลตาย ปฏิมณฺฑิตตฺตา เอวํลทฺธนามา เอกา ยฏฺิ อโหสิ. ตํ อลงฺกริตฺวา อุปฺปนฺนลตาติ ตํ รชตวณฺณํ ยฏฺึ อลงฺกริตฺวา ตตฺเถว จิตฺตกมฺมกตา วิย อุปฺปนฺนลตา. ขายตีติ ทิสฺสติ. กิฺชกฺขานีติ เกสรานิ. เอตานิ จ ปุปฺผยฏฺิยํ นีลปุปฺผาทีนิ สกุณยฏฺิยฺจ นานปฺปการา มิคปกฺขิโน ตตฺเถว จิตฺตกมฺมกตา วิย ปฺายนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. เสตา รชตยฏฺีวาติ รชตมยยฏฺิ วิย เอกา ยฏฺิ เสตวณฺณาติ อตฺโถ. ลตาติ ตตฺเถว จิตฺตกมฺมกตา วิย ทิสฺสมานลตา. นีลาทิ ยาทิสํ ปุปฺผนฺติ ยาทิสํ โลเก นีลาทิปุปฺผํ อตฺถิ, ตาทิสํ ปุปฺผยฏฺิมฺหิ ขายตีติ อตฺโถ.

อเนกวิหิตํ รตนํ อุปฺปชฺชีติ อเนกปฺปการํ รตนํ สมุทฺทโต สยเมว ตีรํ อารุหิตฺวา เวลนฺเต อูมิเวคาภิชาตมริยาทวฏฺฏิ วิย อุปฺปชฺชิ, อุฏฺหิตฺวา อฏฺาสีติ อตฺโถ. ตมฺพปณฺณิยํ ปน อฏฺ มุตฺตา อุปฺปชฺชึสูติ เอตฺถาปิ ตมฺพปณฺณิยํ สมุทฺทโต สยเมว อุฏฺหิตฺวา ชาติโต อฏฺ มุตฺตา สมุทฺทตีเร วุตฺตนเยเนว ิตาติ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘ลงฺกาทีปมฺหิ สกเล, นิธโย รตนานิ จ;

อนฺโติตานิ อุคฺคนฺตฺวา, ปถวีตลมารุหุํ.

‘‘ลงฺกาทีปสมีปมฺหิ, ภินฺนนาวาคตานิ จ;

ตตฺร ชาตานิ จ ถลํ, รตนานิ สมารุหุํ.

‘‘หยคชา รถามลกา, วลยงฺคุลิเวกา;

กกุธผลา ปากติกา, อิจฺเจตา อฏฺ ชาติโต.

‘‘มุตฺตา สมุทฺทา อุคฺคนฺตฺวา, ตีเร วฏฺฏิ วิย ิตา;

เทวานํปิยติสฺสสฺส, สพฺพปุฺวิชมฺภิต’’นฺติ.

หยมุตฺตาติ อสฺสรูปสณฺานมุตฺตา. คชมุตฺตาติ หตฺถิรูปสณฺานา. เอวํ สพฺพตฺถ ตํตํสณฺานวเสน มุตฺตาเภโท เวทิตพฺโพ. องฺคุลิเวกมุตฺตาติ องฺคุลียกสณฺานา, มุทฺทิกาสณฺานาติ อตฺโถ. กกุธผลมุตฺตาติ กกุธรุกฺขผลาการา พหู อสามุทฺทิกา มุตฺตา. ราชกกุธภณฺฑานีติ ราชารหอุตฺตมภณฺฑานิ. ตานิ สรูเปน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉตฺตํ จามร’’นฺติอาทิ. อฺฺจ พหุวิธํ ปณฺณาการํ ปหิณีติ สมฺพนฺโธ. สงฺขนฺติ อภิเสกาสิฺจนกํ สามุทฺทิกํ ทกฺขิณาวฏฺฏํ สงฺขํ. อโนตตฺโตทกเมว ‘‘คงฺโคทก’’นฺติ วุตฺตํ. วฑฺฒมานนฺติ อลงฺการจุณฺณํ. ‘‘นหานจุณฺณ’’นฺติ เกจิ. วฏํสกนฺติ กณฺณปิฬนฺธนวฏํสกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘วฏํสกํ กณฺณจูฬิกฏฺาเน โอลมฺพก’’นฺติปิ วทนฺติ. ภิงฺคารนฺติ สุวณฺณมยํ มหาภิงฺคารํ. ‘‘มกรมุขสณฺานา พลิกมฺมาทิกรณตฺถํ กตา ภาชนวิกตี’’ติปิ วทนฺติ. นนฺทิยาวฏฺฏนฺติ กากปทสณฺานา มงฺคลตฺถํ กตา สุวณฺณภาชนวิกติ. กฺนฺติ ขตฺติยกุมารึ. อโธวิมํ ทุสฺสยุคนฺติ กิลิฏฺเ ชาเต อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตมตฺเต ปริสุทฺธภาวมุปคจฺฉนฺตํ อโธวิมํ ทุสฺสยุคํ. หตฺถปุฺฉนนฺติ ปีตวณฺณํ มหคฺฆํ หตฺถปุฺฉนปฏํ. หริจนฺทนนฺติ หริวณฺณจนฺทนํ, สุวณฺณวณฺณจนฺทนนฺติ อตฺโถ. โลหิตจนฺทนํ วา, โคสิตจนฺทนนฺติ อตฺโถ. ตํ กิร อุทฺธเน กุถิตเตลมฺหิ ปกฺขิตฺตมตฺตํ สกลมฺปิ เตลํ อคฺคิฺจ นิพฺพาปนสมตฺถํ จนฺทนํ. เตเนว ‘‘โคสิตจนฺทน’’นฺติ วุจฺจติ. โคสทฺเทน หิ ชลํ วุจฺจติ, ตํ วิย สิตํ จนฺทนํ โคสิตจนฺทนํ. นาคภวนสมฺภวํ อรุณวณฺณมตฺติกํ. หรีตกํ อามลกนฺติ อคทหรีตกํ อคทามลกํ. ตํ ขิปฺปเมว สรีรมลโสธนาทิกรณสมตฺถํ โหติ.

อุณฺหีสนฺติ อุณฺหีสปฏฺฏํ. เวนนฺติ สีสเวนํ. สารปามงฺคนฺติ อุตฺตมํ รตนปามงฺคสุตฺตํ. วตฺถโกฏิกนฺติ วตฺถยุคเมว. นาคมาหฏนฺติ นาเคหิ อาหฏํ. -กาโร ปทสนฺธิกโร. อมโตสธนฺติ เอวํนามิกา คุฬิกชาติ, อมตสทิสกิจฺจตฺตา เอวํ วุจฺจติ. ตํ กิร ปริปนฺถํ วิธเมตฺวา สพฺพตฺถ สาเธนฺเตหิ อคโทสธสมฺภาเรหิ โยเชตฺวา วฏฺเฏตฺวา กตํ คุฬิกํ. ตํ ปน ราชูนํ มุขโสธนนหานปริโยสาเน มหตา ปริหาเรน อุปเนนฺติ. เตน เต องฺคราคํ นาม กโรนฺติ, กโรนฺตา จ ยถารหํ ทฺวีหิ ตีหิ อคโทสธรงฺคติลกาหิ นลาฏกอํสกูฏอุรมชฺฌสงฺขาตํ องฺคํ สชฺเชตฺวา องฺคราคํ กโรนฺตีติ เวทิตพฺพํ. สา ปน คุฬิกา อหิวิจฺฉิกาทีนมฺปิ วิสํ หนติ, เตนปิ ตํ วุจฺจติ ‘‘อมโตสธ’’นฺติ.

อหํ พุทฺธฺจาติอาทีสุ สพฺพธมฺเม ยาถาวโต อพุชฺฌิ ปฏิพุชฺฌีติ พุทฺโธติ สงฺขฺยํ คตํ สมฺมาสมฺพุทฺธฺจ, อธิคตมคฺเค สจฺฉิกตนิโรเธ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาเน จ อปาเยสุ อปตมาเน ธาเรตีติ ธมฺโมติ สงฺขฺยํ คตํ ปริยตฺติยา สทฺธึ นว โลกุตฺตรธมฺมฺจ, ทิฏฺิสีลสามฺเน สํหตตฺตา สงฺโฆติ สงฺขฺยํ คตํ อริยสาวกสงฺฆฺจ อหํ สรณํ คโต ปรายณนฺติ อุปคโต, ภชึ เสวินฺติ อตฺโถ. อถ วา หึสติ ตปฺปสาทตคฺครุกตาหิ วิหตกิเลเสน ตปฺปรายณตาการปฺปวตฺเตน จิตฺตุปฺปาเทน สรณคตานํ เตเนว สรณคมเนน ภยํ สนฺตาสํ ทุกฺขํ ทุคฺคตึ ปริกิเลสํ หนติ วินาเสตีติ สรณํ, รตนตฺตยสฺเสตํ อธิวจนํ. อปิจ สมฺมาสมฺพุทฺโธ หิเต ปวตฺตเนน อหิตา จ นิวตฺตเนน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ สรณนฺติ วุจฺจติ. ธมฺโมปิ ภวกนฺตารา อุตฺตารเณน อสฺสาสทาเนน จ สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ สรณนฺติ วุจฺจติ. สงฺโฆปิ อปฺปกานมฺปิ การานํ วิปุลผลปฏิลาภกรเณน สตฺตานํ ภยํ หึสตีติ สรณนฺติ วุจฺจติ. อิมินา อตฺเถน สรณภูตํ รตนตฺตยํ เตเนว การเณน สรณนฺติ คโต อวคโต, ชานินฺติ อตฺโถ. อุปาสกตฺตํ เทเสสินฺติ รตนตฺตยํ อุปาสตีติ อุปาสโกติ เอวํ ทสฺสิตํ อุปาสกภาวํ มยิ อภินิวิฏฺํ วาจาย ปกาเสสินฺติ อตฺโถ, ‘‘อุปาสโกหํ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คโต’’ติ เอวํ อุปาสกตฺตํ ปฏิเวเทสินฺติ วุตฺตํ โหติ. สกฺยปุตฺตสฺส สาสเนติ สกฺยสฺส สุทฺโธทนสฺส ปุตฺโต โส ภควา สกฺยปุตฺโต, ตสฺส สกฺยปุตฺตสฺส สาสเนติ อตฺโถ. สทฺธาติ สทฺธาย, ‘‘สยํ อภิฺา สจฺฉิกตฺวา’’ติอาทีสุ วิย ยการโลโป ทฏฺพฺโพ. อุเปหีติ อุปคจฺฉ.

อโสกรฺา เปสิเตน อภิเสเกนาติ อโสกรฺา เปสิเตน อภิเสกุปกรเณน. ยทา หิ เทวานํปิยติสฺโส มหาราชา อตฺตโน สหายสฺส ธมฺมาโสกรฺโ อิโต เวฬุยฏฺิยาทโย มหารเห ปณฺณากาเร เปเสสิ. ตทา โสปิ เต ทิสฺวา ปสีทิตฺวา อติวิย ตุฏฺโ ‘‘อิเมหิ อติเรกตรํ กึ นาม มหคฺฆํ ปฏิปณฺณาการํ สหายสฺส เม เปเสสฺสามี’’ติ อมจฺเจหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา ลงฺกาทีเป อภิเสกปริหารํ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘น ตตฺถ อีทิโส อภิเสกปริหาโร อตฺถี’’ติ สุตฺวา ‘‘สาธุ วต เม สหายสฺส อภิเสกปริหารํ เปเสสฺสามี’’ติ วตฺวา สามุทฺทิกสงฺขาทีนิ ตีณิ สงฺขานิ จ คงฺโคทกฺจ อรุณวณฺณมตฺติกฺจ อฏฺฏฺ ขตฺติยพฺราหฺมณคหปติกฺาโย จ สุวณฺณรชตโลหมตฺติกามยฆเฏ จ อฏฺหิ เสฏฺิกุเลหิ สทฺธึ อฏฺ อมจฺจกุลานิ จาติ เอวํ สพฺพฏฺกํ นาม อิธ เปเสสิ ‘‘อิเมหิ เม สหายสฺส ปุน อภิเสกํ กโรถา’’ติ, อฺฺจ อภิเสกตฺถาย พหุํ ปณฺณาการํ เปเสสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘อโสกรฺา เปสิเตน อภิเสเกนา’’ติ. เอโก มาโส อภิสิตฺตสฺส อสฺสาติ เอกมาสาภิสิตฺโต. กถํ ปน ตสฺส ตทา เอกมาสาภิสิตฺตตา วิฺายตีติ อาห ‘‘วิสาขปุณฺณมายํ หิสฺส อภิเสกมกํสู’’ติ, ปุพฺเพ กตาภิเสกสฺสปิ อโสกรฺา เปสิเตน อนคฺเฆน ปริหาเรน วิสาขปุณฺณมายํ ปุน อภิเสกมกํสูติ อตฺโถ. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘เต มิคสิรมาสสฺส, อาทิจนฺโททยํ ทิเน;

อภิสิตฺตฺจ ลงฺกินฺทํ, อมจฺจา สามิภตฺติโน.

‘‘ธมฺมาโสกสฺส วจนํ, สุตฺวา สามิหิเต รตา;

ปุนาปิ อภิเสจึสุ, ลงฺกาหิตสุเข รต’’นฺติ.

ทีปวํเสปิ เจตํ วุตฺตํ –

‘‘วิสาขมาเส ทฺวาทสิยํ, ชมฺพุทีปา อิธาคตา;

อภิเสกํ สปริวารํ, อโสกธมฺเมน เปสิตํ.

‘‘ทุติยํ อภิสิฺจิตฺถ, ราชานํ เทวานํปิยํ;

อภิสิตฺโต ทุติยาภิเสเกน, วิสาขมาเส อุโปสเถ.

‘‘ตโต มาเส อติกฺกมฺม, เชฏฺมาเส อุโปสเถ;

มหินฺโท สตฺตโม หุตฺวา, ชมฺพุทีปา อิธาคโต’’ติ.

ตทา ปน ตสฺส รฺโ วิสาขปุณฺณมาย อภิเสกสฺส กตตฺตา ตโต ปภุติ ยาวชฺชตนา วิสาขปุณฺณมายเมว อภิเสกกรณมาจิณฺณํ. อภิเสกวิธานฺเจตฺถ เอวํ เวทิตพฺพํ – อภิเสกมงฺคลตฺถํ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตสฺส มณฺฑปสฺส อนฺโต กตสฺส อุทุมฺพรสาขมณฺฑปสฺส มชฺเฌ สุปฺปติฏฺิเต อุทุมฺพรภทฺทปีมฺหิ อภิเสการหํ อภิชจฺจํ ขตฺติยํ นิสีทาเปตฺวา ปมํ ตาว มงฺคลาภรณภูสิตา ชาติสมฺปนฺนา ขตฺติยกฺา คงฺโคทกปุณฺณํ สามุทฺทิกํ ทกฺขิณาวฏฺฏสงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิฺจติ, เอวฺจ วเทติ ‘‘เทว, ตํ สพฺเพปิ ขตฺติยคณา อตฺตานมารกฺขณตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ ขตฺติยคเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติ.

ตโต ปุน ปุโรหิโตปิ ปุโรหิจฺจฏฺานานุรูปาลงฺกาเรหิ อลงฺกตปฺปฏิยตฺโต คงฺโคทกปุณฺณํ รชตมยสงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา ตสฺส สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิฺจติ, เอวฺจ วเทติ ‘‘เทว, ตํ สพฺเพปิ พฺราหฺมณคณา อตฺตานมารกฺขณตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ พฺราหฺมเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติ.

ตโต ปุน เสฏฺิปิ เสฏฺิฏฺานานุรูปภูสนภูสิโต คงฺโคทกปุณฺณํ รตนมยสงฺขํ อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตฺวา ตสฺส สีโสปริ อุสฺสาเปตฺวา เตน ตสฺส มุทฺธนิ อภิเสโกทกํ อภิสิฺจติ, เอวฺจ วเทติ ‘‘เทว ตํ สพฺเพปิ คหปติคณา อตฺตานมารกฺขณตฺถํ อิมินา อภิเสเกน อภิเสกิกํ มหาราชํ กโรนฺติ, ตฺวํ ราชธมฺเมสุ ิโต ธมฺเมน สเมน รชฺชํ กาเรหิ, เอเตสุ คหปติคเณสุ ตฺวํ ปุตฺตสิเนหานุกมฺปาย สหิตจิตฺโต หิตสมเมตฺตจิตฺโต จ ภว, รกฺขาวรณคุตฺติยา เตสํ รกฺขิโต จ ภวาหี’’ติ.

เต ปน ตสฺส เอวํ วทนฺตา ‘‘สเจ ตฺวํ อมฺหากํ วจนานุรูเปน รชฺชํ กาเรสฺสสิ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ กาเรสฺสสิ, ตว มุทฺธา สตฺตธา ผลตู’’ติ เอวํ รฺโ อภิสปนฺติ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. อิมสฺมึ ปน ทีเป เทวานํปิยติสฺสสฺส มุทฺธนิ ธมฺมาโสเกเนว อิธ เปสิตา ขตฺติยกฺาเยว อโนตตฺโตทกปุณฺเณน สามุทฺทิกทกฺขิณาวฏฺฏสงฺเขน อภิเสโกทกํ อภิสิฺจีติ วทนฺติ. อิทฺจ ยถาวุตฺตํ อภิเสกวิธานํ มชฺฌิมนิกาเย จูฬสีหนาทสุตฺตวณฺณนายํ สีหฬฏฺกถายมฺปิ ‘‘ปมํ ตาว อภิเสกํ คณฺหนฺตานํ ราชูนํ สุวณฺณมยาทีนิ ตีณิ สงฺขานิ จ คงฺโคทกฺจ ขตฺติยกฺฺจ ลทฺธุํ วฏฺฏตี’’ติอาทินา วุตฺตนฺติ วทนฺติ.

สมฺโมทนียํ กถํ กถยมาโนติ ปีติปาโมชฺชสงฺขาตสมฺโมทชนนโต สมฺโมทิตุํ ยุตฺตภาวโต จ สมฺโมทนียํ ‘‘กจฺจิ ภนฺเต ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ โว อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฏฺานํ พลํ ผาสุวิหาโร’’ติ เอวมาทิกถํ กถยมาโน. ฉ ชเน ทสฺเสสีติ รฺา สทฺธึ อาคตานํ ‘‘น อิเม ยกฺขา, มนุสฺสา อิเม’’ติ สฺชานนตฺถํ ภณฺฑุกสฺส อุปาสกสฺส อานีตตฺตา เตน สทฺธึ ฉ ชเน ทสฺเสสิ. เตวิชฺชาติ ปุพฺเพนิวาสทิพฺพจกฺขุอาสวกฺขยสงฺขาตาหิ ตีหิ วิชฺชาหิ สมนฺนาคตา. อิทฺธิปฺปตฺตาติ อิทฺธิวิธาณํ ปตฺตา. เจโตปริยโกวิทาติ ปเรสํ จิตฺตาจาเร กุสลา. เอวเมตฺถ ปฺจ อภิฺา สรูเปน วุตฺตา, ทิพฺพโสตํ ปน ตาสํ วเสน อาคตเมว โหติ. พหูติ เอวรูปา ฉฬภิฺา พุทฺธสาวกา พหู คณนปถํ อติกฺกนฺตา สกลชมฺพุทีปํ กาสาวปชฺโชตํ กตฺวา วิจรนฺตีติ. เกจิ ปน ‘‘เตวิชฺชา อิทฺธิปฺปตฺตา จ ขีณาสวา เจโตปริยโกวิทา เกจิ ขีณาสวาติ วิสุํ โยเชตฺวา ‘อรหนฺโต’ติ อิมินา สุกฺขวิปสฺสกา วุตฺตา’’ติ วทนฺติ.

ปฺาเวยฺยตฺติยนฺติ ปฺาปาฏวํ, ปฺาย ติกฺขวิสทภาวนฺติ อตฺโถ. อาสนฺนนฺติ อาสนฺเน ิตํ. สาธุ มหาราช ปณฺฑิโตสีติ ราชานํ ปสํสติ. ปุน วีมํสนฺโต ‘‘อตฺถิ ปน เต มหาราชา’’ติอาทิมาห. จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตนฺตํ กเถสีติ ‘‘อยํ ราชา ‘อิเม สมณา นาม อีทิสา, สีลาทิปฏิปตฺติ จ เตสํ อีทิสี’ติ จ น ชานาติ, หนฺท นํ อิมาย จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตนฺตเทสนาย สมณภาวูปคมนํ สมณปฏิปตฺติฺจ วิฺาเปสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ปมํ จูฬหตฺถิปโทปมสุตฺตนฺตํ กเถสิ. ตตฺถ หิ –

‘‘เอวเมว โข, พฺราหฺมณ, อิธ ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน…เป… สาตฺถํ สพฺยฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติ, ตํ ธมฺมํ สุณาติ คหปติ วา คหปติปุตฺโต วา อฺตรสฺมึ วา กุเล ปจฺจาชาโต, โส ตํ ธมฺมํ สุตฺวา ตถาคเต สทฺธํ ปฏิลภติ, โส เตน สทฺธาปฏิลาเภน สมนฺนาคโต อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ ‘สมฺพาโธ ฆราวาโส รโชปโถ, อพฺโภกาโส ปพฺพชฺชา, นยิทํ สุกรํ อคารํ อชฺฌาวสตา เอกนฺตปริปุณฺณํ เอกนฺตปริสุทฺธํ สงฺขลิขิตํ พฺรหฺมจริยํ จริตุํ, ยนฺนูนาหํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพเชยฺย’นฺติ. โส อปเรน สมเยน อปฺปํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ ปหาย อปฺปํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย มหนฺตํ วา าติปริวฏฺฏํ ปหาย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชติ.

‘‘โส เอวํ ปพฺพชิโต สมาโน ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ, ลชฺชี ทยาปนฺโน สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติ.

‘‘อทินฺนาทานํ ปหาย อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต โหติ ทินฺนาทายี ทินฺนปาฏิกงฺขี, อเถเนน สุจิภูเตน อตฺตนา วิหรตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙๑-๒๙๒) –

เอวมาทินา สาสเน สทฺธาปฏิลาภํ ปฏิลทฺธสทฺเธหิ จ ปพฺพชฺชุปคมนํ ปพฺพชิเตหิ จ ปฏิปชฺชิตพฺพา สีลกฺขนฺธาทโย ธมฺมา ปกาสิตา.

ราชา สุตฺตนฺตํ สุณนฺโตเยว อฺาสีติ ‘‘โส พีชคามภูตคามสมารมฺภา ปฏิวิรโต โหติ, เอกภตฺติโก โหติ รตฺตุปรโต วิรโต วิกาลโภชนา’’ติ เอวํ ตสฺมึ สุตฺตนฺเต (ม. นิ. ๑.๒๙๓) อาคตตฺตา ตํ สุณนฺโตเยว อฺาสิ. อิเธว วสิสฺสามาติ น ตาว รตฺติยา อุปฏฺิตตฺตา อนาคตวจนมกาสิ. อาคตผโลติ อนาคามิผลํ สนฺธายาห, สมฺปตฺตอนาคามิผโลติ อตฺโถ. ตโตเยว จ วิเสสโต อวิปรีตวิทิตสตฺถุสาสนตฺตา วิฺาตสาสโน. อิทานิ ปพฺพชิสฺสตีติ คิหิลิงฺเคน อานีตกิจฺจสฺส นิฏฺิตตฺตา เอวมาห. อจิรปกฺกนฺตสฺส รฺโติ รฺเ อจิรปกฺกนฺเตติ อตฺโถ. อธิฏฺหิตฺวาติ อนฺโตตมฺพปณฺณิทีเป สมาคตา สุณนฺตูติ อธิฏฺหิตฺวา.

ภูมตฺถรณสงฺเขเปนาติ ภูมตฺถรณากาเรน. อุปฺปาตปากาติ นิมิตฺตปากา, เนมิตฺตกาติ อตฺโถ. คหิตา ทานิ อิเมหิ ปถวีติ อาสนานํ ปถวิยํ อตฺถตตฺตา เอวมาหํสุ. ปติฏฺหิสฺสตีติ จินฺเตนฺโตติ เอตฺถ เตน การเณน สาสนปติฏฺานสฺส อภาวโต อวสฺสํ ปติฏฺหนฺตสฺส สาสนสฺส ปุพฺพนิมิตฺตมิทนฺติ เอวํ ปุพฺพนิมิตฺตภาเวน สลฺลกฺเขสีติ เวทิตพฺพํ. ปณีเตนาติ อุตฺตเมน. สหตฺถาติ สหตฺเถน สนฺตปฺเปตฺวาติ สุฏฺุ ตปฺเปตฺวา, ปริปุณฺณํ สุหิตํ ยาวทตฺถํ กตฺวาติ อตฺโถ. เปตวตฺถุํ วิมานวตฺถุํ สจฺจสํยุตฺตฺจ กเถสีติ เทสนาวิธิกุสโล เถโร ชนสฺส สํเวคํ ชเนตุํ ปมํ เปตวตฺถุํ กเถตฺวา ตทนนฺตรํ สํเวคชาตํ ชนํ อสฺสาเสตุํ สคฺคกถาวเสน วิมานวตฺถุฺจ กเถตฺวา ตทนนฺตรํ ปฏิลทฺธสฺสาสานํ ‘‘มา เอตฺถ อสฺสาทํ กโรถ นิพฺพานํ วินา น อฺํ กิฺจิ สงฺขารคตํ ธุวํ นาม อตฺถิ, ตสฺมา ปรมสฺสาสกํ นิพฺพานมธิคนฺตุํ วายมถา’’ติ สจฺจปฏิเวธตฺถาย อุสฺสาหํ ชเนนฺโต อนฺเต สจฺจสํยุตฺตํ กเถสีติ เวทิตพฺพํ.

เตสํ สุตฺวาติ เตสํ สนฺติกา เถรานํ คุณกถํ สุตฺวา. รฺโ สํวิทิตํ กตฺวาติ รฺโ นิเวทนํ กตฺวา, ราชานํ ปฏิเวทยิตฺวาติ อตฺโถ. อลํ คจฺฉามาติ ปุรสฺส อจฺจาสนฺนตฺตา สารุปฺปํ น โหตีติ ปฏิปกฺขิปนฺโต อาห. เมฆวนํ นาม อุยฺยานนฺติ มหาเมฆวนุยฺยานํ. ตสฺส กิร อุยฺยานสฺส ภูมิคฺคหณทิวเส อกาลมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา สพฺพตฬากโปกฺขรณิโย ปูเรนฺโต คิมฺหาภิหตรุกฺขลตาทีนํ อนุคฺคณฺหนฺโตว ปาวสฺสิ, เตน การเณน ตํ มหาเมฆวนํ นาม อุยฺยานํ ชาตํ. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘อุยฺยานฏฺานคฺคหเณ, มหาเมโฆ อกาลโช;

ปาวสฺสิ เตน อุยฺยานํ, มหาเมฆวนํ อหู’’ติ.

สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิตฺวาติ ‘‘กจฺจิ, ภนฺเต, อิธ สุขํ สยิตฺถ, ตุมฺหากํ อิธ นิวาโส สุข’’นฺติ เอวํ สุขสยิตภาวํ ปุจฺฉิตฺวา ตโต เถเรน ‘‘สุขสยิตมฺหิ, มหาราช, ภิกฺขูนํ ผาสุกมิทํ อุยฺยาน’’นฺติ วุตฺเต ‘‘เอวํ สติ อิทํ โน อุยฺยานํ ทสฺสามี’’ติ จินฺเตตฺวา ‘‘กปฺปติ, ภนฺเต, ภิกฺขุสงฺฆสฺส อาราโม’’ติ ปุจฺฉิ. อิมํ สุตฺตนฺติ เวฬุวนารามปฏิคฺคหเณ วุตฺตมิมํ สุตฺตํ. อุทกนฺติ ทกฺขิโณทกํ. มหาเมฆวนุยฺยานํ อทาสีติ ‘‘อิมํ มหาเมฆวนุยฺยานํ สงฺฆสฺส ทมฺมี’’ติ วตฺวา เชฏฺมาสสฺส กาฬปกฺเข ทุติยทิวเส อทาสิ. มหาวิหารสฺส ทกฺขิโณทกปาเตเนว สทฺธึ ปติฏฺิตภาเวปิ น ตาว ตตฺถ วิหารกมฺมํ นิฏฺิตนฺติ อาห ‘‘อิทฺจ ปมํ วิหารฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ. ปุนทิวเสปีติ กาฬปกฺขสฺส ทุติยทิวเสเยว. อฑฺฒนวมานํ ปาณสหสฺสานนฺติ อฑฺเฒน นวมานํ ปาณสหสฺสานํ, ปฺจสตาธิกานํ อฏฺสหสฺสานนฺติ อตฺโถ. โชติปาตุภาวฏฺานนฺติ าณาโลกสฺส ปาตุภาวฏฺานํ. อปฺปมาทสุตฺตนฺติ องฺคุตฺตรนิกาเย มหาอปฺปมาทสุตฺตํ, ราโชวาทสุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ.

มหจฺจนฺติ กรณตฺเถ ปจฺจตฺตวจนํ, มหตา ราชานุภาเวนาติ อตฺโถ. ตุมฺเห ชานนตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. อริฏฺโ นาม อมจฺโจติ รฺโ ภาคิเนยฺโย อริฏฺโ นาม อมจฺโจ. ปฺจปณฺณาสายาติ เอตฺถ ‘‘จตุปณฺณาสายา’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวฺหิ สติ อุปริ วุจฺจมานํ ‘‘ทฺวาสฏฺิ อรหนฺโต’’ติ วจนํ สเมติ. เตเนว จ สีหฬภาสาย ลิขิเต มหาวํเส ‘‘จตุปณฺณาสาย สทฺธิ’’นฺติ วุตฺตํ. ทสภาติกสมากุลํ ราชกุลนฺติ มุฏสิวสฺส ปุตฺเตหิ อภโย เทวานํปิยติสฺโส มหานาโค อุตฺติโย มตฺตาภโย สูรติสฺโสติ เอวมาทีหิ ทสหิ ภาติเกหิ สมากิณฺณํ ราชกุลํ. เจติยคิริมฺหิ วสฺสํ วสึสูติ อาสาฬฺหีปุณฺณมทิวเส รฺา ทินฺนวิหาเรเยว ปฏิคฺคเหตฺวา ปาฏิปททิวเส วสฺสํ วสึสุ. ปวาเรตฺวาติ มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา. กตฺติกปุณฺณมายนฺติ อปรกตฺติกปุณฺณมายํ. มหามหินฺทตฺเถโร หิ ปุริมิกายํ อุปคนฺตฺวา วุตฺถวสฺโส มหาปวารณาย ปวาเรตฺวา ตโต เอกมาสํ อติกฺกมฺม จาตุมาสินิยํ ปุณฺณมทิวเส อริยคณปริวุโต ราชกุลํ คนฺตฺวา โภชนาวสาเน ‘‘มหาราช, อมฺเหหิ จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติอาทิวจนมพฺรฺวิ. เอวฺจ กตฺวา วกฺขติ ‘‘ปุณฺณมายํ มหาวีโร, จาตุมาสินิยา อิธา’’ติ. ยํ ปเนตฺถ เกนจิ วุตฺตํ ‘‘วุตฺถวสฺโส ปวาเรตฺวาติ จาตุมาสินิยา ปวารณายาติ อตฺโถ, ปมปวารณาย วา ปวาเรตฺวา เอกมาสํ ตตฺเถว วสิตฺวา กตฺติกปุณฺณมิยํ อโวจ, อฺถา ‘ปุณฺณมายํ มหาวีโร’ติ วุตฺตตฺตา น สกฺกา คเหตุ’’นฺติ, ตตฺถ จาตุมาสินิยา ปวารณายาติ อยมตฺถวิกปฺโป น ยุชฺชติ. น หิ ปุริมิกาย วสฺสูปคตา จาตุมาสินิยํ ปวาเรนฺติ. จิรทิฏฺโ สมฺมาสมฺพุทฺโธติ สตฺถุสฺส สรีราวยโว จ สมฺมาสมฺพุทฺโธเยวาติ กตฺวา อวยเว สมุทายโวหารวเสน เอวมาหาติ ทฏฺพฺพํ ยถา ‘‘สมุทฺโท ทิฏฺโ’’ติ.

เถเรน วุตฺตมฺปิ คมนการณํ เปตฺวา อิธ วาเส ปโยชนเมว ทสฺเสตฺวา คมนํ ปฏิเสเธตุกาโม อาห ‘‘อหํ ภนฺเต ตุมฺเห’’ติอาทิ. อภิวาทนาทีสุ อาจริยํ ทิสฺวา อภิวาทนกรณํ อภิวาทนํ นาม. ยสฺมึ วา ทิสาภาเค อาจริโย วสติ อิริยาปเถ กปฺเปนฺโต, ตโต อภิมุโขว วนฺทิตฺวา คจฺฉติ, วนฺทิตฺวา ติฏฺติ, วนฺทิตฺวา นิสีทติ, วนฺทิตฺวา นิปชฺชติ, อิทํ อภิวาทนํ นาม. อาจริยํ ปน ทูรโตว ทิสฺวา ปจฺจุฏฺาย ปจฺจุคฺคมนกรณํ ปจฺจุฏฺานํ นาม. อาจริยํ ปน ทิสฺวา อฺชลึ ปคฺคยฺห สีเส เปตฺวา อาจริยํ นมสฺสติ, ยสฺมึ ทิสาภาเค โส วสติ, ตทภิมุโขปิ ตเถว นมสฺสติ, คจฺฉนฺโตปิ ิโตปิ นิสินฺโนปิ อฺชลึ ปคฺคยฺห นมสฺสติเยวาติ อิทํ อฺชลิกมฺมํ นาม. อนุจฺฉวิกกมฺมสฺส ปน กรณํ สามีจิกรณํ นาม. จีวราทีสุ หิ จีวรํ เทนฺโต น ยํ วา ตํ วา เทติ, มหคฺฆํ สตมูลคฺฆมฺปิ ปฺจสตมูลคฺฆมฺปิ สตสหสฺสมูลคฺฆมฺปิ เทติเยว. ปิณฺฑปาตาทีสุปิ เอเสว นโย. อิทํ สามีจิกรณํ นาม. สรีรธาตุโยติ สรีราวยวา. อฺาตนฺติ อฺาตํ, วิทิตํ มยาติ อตฺโถ. กุโต ลจฺฉามาติ กุโต ลภิสฺสาม. สุมเนน สทฺธึ มนฺเตหีติ ปมเมว สามเณรสฺส กถิตตฺตา วา ‘‘ชานาติ เอส อมฺหากมธิปฺปาย’’นฺติ ตฺวา วา เอวมาหาติ ทฏฺพฺพํ.

อปฺโปสฺสุกฺโก ตฺวํ มหาราชาติ มหาราช ตฺวํ ธาตูนํ ปฏิลาเภ มา อุสฺสุกฺกํ กโรหิ, มา ตฺวํ ตตฺถ วาวโฏ ภว, อฺํ ตยา กตฺตพฺพํ กโรหีติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตเทว รฺา กตฺตพฺพกิจฺจํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วีถิโย โสธาเปตฺวา’’ติอาทิมาห. สพฺพตาฬาวจเร อุปฏฺาเปตฺวาติ กํสตาฬาทิตาฬํ อวจรติ เอตฺถาติ ตาฬาวจรํ วุจฺจติ อาตตวิตตาทิ สพฺพํ ตูริยภณฺฑํ. เตเนว ปรินิพฺพานสุตฺตฏฺกถายํ ‘‘สพฺพฺจ ตาฬาวจรํ สนฺนิปาเตถาติ เอตฺถ สพฺพฺจ ตาฬาวจรนฺติ สพฺพํ ตูริยภณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ. เอตฺถ ปน สหจรณนเยน สพฺพตูริยภณฺฑานํ วาทกาปิ คเหตุํ วฏฺฏนฺตีติ เต สพฺเพ อุปฏฺาเปตฺวา สนฺนิปาเตตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ลจฺฉสีติ ลภิสฺสสิ. เถรา เจติยคิริเมว อคมํสูติ ราชนิเวสนโต นิกฺขมิตฺวา ปุน เจติยคิริเมว อคมํสุ.

ตาวเทวาติ ตํ ขณํเยว. ปาฏลิปุตฺตทฺวาเรติ ปาฏลิปุตฺตนครทฺวาเร. กึ ภนฺเต สุมน อาหิณฺฑสีติ สุมน ตฺวํ สมณธมฺมํ อกตฺวา กสฺมา วิจรสีติ ปุจฺฉติ. เจติยคิริมฺหิเยว ปติฏฺาเปตฺวาติ ปจฺฉา ตตฺถ วิหารตฺถาย อากงฺขิตพฺพภาวโต เจติยคิริมฺหิเยว ปติฏฺาเปตฺวา. วฑฺฒมานกจฺฉายายาติ ปจฺฉาภตฺตนฺติ อตฺโถ. ปจฺฉาภตฺตเมว หิ ฉายา วฑฺฒติ. อถสฺส เอตทโหสีติ ธาตุจงฺโกฏกํ ทิสฺวา เอวํ จินฺเตสิ. ฉตฺตํ อปนมตูติ อิทํ เสตจฺฉตฺตํ สยเมว เม สีโสปริโต ธาตุจงฺโกฏกาภิมุขํ หุตฺวา นมตูติ อตฺโถ. มยฺหํ มตฺถเก ปติฏฺาตูติ อิทํ ธาตุจงฺโกฏกํ เถรสฺส หตฺถโต ธาตุยา สห อาคนฺตฺวา สิรสฺมึ เม ปติฏฺาตูติ อตฺโถ. โปกฺขรวสฺสํ นาม โปกฺขรปตฺตปฺปมาณํ วลาหกมชฺเฌ อุฏฺหิตฺวา กเมน ผริตฺวา เตเมตุกาเมเยว เตมยมานํ มหนฺตํ หุตฺวา วสฺสติ. มหาวีโรติ มหาปรกฺกโม. มหาวีราวยวตฺตา เจตฺถ สตฺถุโวหาเรน ธาตุโย เอว นิทฺทิฏฺา. ธาตุสรีเรนาคมนฺหิ สนฺธาย อยํ คาถา วุตฺตา.

ปจฺฉิมทิสาภิมุโขว หุตฺวา อปสกฺกนฺโตติ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโตเยว ปจฺฉิมทิสาภิมุโข หุตฺวา โอสกฺกนฺโต, คจฺฉนฺโตติ อตฺโถ. กิฺจาปิ เอส ปจฺฉิมทิสํ น โอโลเกติ, ตถาปิ ปจฺฉิมทิสํ สนฺธาย คจฺฉตีติ ‘‘ปจฺฉิมทิสาภิมุโข’’ติ วุตฺตํ. ปุรตฺถิเมน ทฺวาเรน นครํ ปวิสิตฺวาติ เอตฺถ ปิฏฺิโต ปิฏฺิโตเยว อาคนฺตฺวา ทฺวาเร สมฺปตฺเต ปริวตฺเตตฺวา อุชุเกเนว นครํ ปาวิสีติ เวทิตพฺพํ. มเหชวตฺถุ นามาติ มเหชนามเกน ยกฺเขน ปริคฺคหิตํ เอกํ เทวฏฺานนฺติ เวทิตพฺพํ . ปริโภคเจติยฏฺานนฺติ เอตฺถ ปริภุตฺตูปกรณานิ นิทหิตฺวา กตํ เจติยํ ปริโภคเจติยนฺติ ทฏฺพฺพํ. ติวิธฺหิ เจติยํ วทนฺติ ปริโภคเจติยํ ธาตุเจติยํ ธมฺมเจติยนฺติ. ตตฺถ ปริโภคเจติยํ วุตฺตนยเมว. ธาตุเจติยํ ปน ธาตุโย นิทหิตฺวา กตํ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทาทิลิขิตโปตฺถกํ นิทหิตฺวา กตํ ปน ธมฺมเจติยํ นาม. สารีริกํ ปริโภคิกํ อุทฺทิสฺสกนฺติ เอวมฺปิ ติปฺปเภทํ เจติยํ วทนฺติ. อยํ ปน ปเภโท ปฏิมารูปสฺสปิ อุทฺทิสฺสกเจติเยเนว สงฺคหิตตฺตา สุฏฺุตรํ ยุชฺชติ.

กถํ ปน อิทํ านํ ติณฺณํ พุทฺธานํ ปริโภคเจติยฏฺานํ อโหสีติ อาห ‘‘อตีเต กิรา’’ติอาทิ. ปชฺชรเกนาติ เอตฺถ ปชฺชรโก นาม โรโค วุจฺจติ. โส จ ยกฺขานุภาเวน สมุปฺปนฺโนติ เวทิตพฺโพ. ตทา กิร ปุณฺณกาโฬ นาม ยกฺโข อตฺตโน อานุภาเวน มนุสฺสานมฺปิ สรีเร ปชฺชรกํ นาม โรคํ สมุฏฺาเปสิ. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘รกฺขเสหิ ชนสฺเสตฺถ, โรโค ปชฺชรโก อหู’’ติ;

ทีปวํเสปิ เจตํ วุตฺตํ –

‘‘รกฺขสา จ พหู ตตฺถ, ปชฺชรา จ สมุฏฺิตา;

ปชฺชเรน พหู สตฺตา, นสฺสนฺติ ทีปมุตฺตเม’’ติ.

อนยพฺยสนนฺติ เอตฺถ อนโยติ อวฑฺฒิ. กายิกํ เจตสิกฺจ สุขํ พฺยสติ วิกฺขิปติ วินาเสตีติ พฺยสนนฺติ ทุกฺขํ วุจฺจติ. กิฺจาปิ ‘‘พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกนฺโต’’ติ วุตฺตํ, ตถาปิ ‘‘เต สตฺเต อนยพฺยสนมาปชฺชนฺเต ทิสฺวา’’ติ วจนโต ปมํ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โอโลเกตฺวา ปจฺฉา สพฺพฺุตฺาเณน โลกํ โอโลเกนฺโต เต สตฺเต อนยพฺยสนมาปชฺชนฺเต ทิสฺวาติ คเหตพฺพํ. น หิ อาสยานุสยาทิพุทฺธจกฺขุสฺส เต สตฺตา อนยพฺยสนํ อาปชฺชนฺตา ทิสฺสนฺติ. ทุพฺพุฏฺิกาติ วิสมวสฺสาทิวเสน ทุฏฺา อโสภนา วุฏฺิเยว ทุพฺพุฏฺิกา, สสฺสุปฺปตฺติเหตุภูตา กายสุขุปฺปตฺติสปฺปายา สตฺตุปการา สมฺมา วุฏฺิ ตตฺถ น โหตีติ อธิปฺปาโย. ตโตเยว จ ‘‘ทุพฺภิกฺขํ ทุสฺสสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ภิกฺขาย อภาโว , ทุลฺลภภาโว วา ทุพฺภิกฺขํ, สุลภา ตตฺถ ภิกฺขา น โหตีติ วุตฺตํ โหติ. สสฺสานํ อภาโว, อสมฺปนฺนตา วา ทุสฺสสฺสํ. เทโวติ เมฆสฺเสตํ นามํ. สมฺมาธารมนุปเวจฺฉีติ อุทกธารํ สมฺมา วิมุฺจิ, สมฺมา อนุปวสฺสีติ วุตฺตํ โหติ.

มหาวิวาโท โหตีติ ตสฺมึ กิร กาเล ชยนฺตมหาราเชน จ ตสฺส รฺโ กนิฏฺภาตุเกน สมิทฺธกุมารนามเกน อุปราเชน จ สทฺธึ อิมสฺมึ ทีเป มหายุทฺธํ อุปฏฺิตํ. เตเนตํ วุตฺตํ ‘‘เตน โข ปน สมเยน มณฺฑทีเป มหาวิวาโท โหตี’’ติ. โหตีติ กิริยา กาลมเปกฺขิตฺวา วตฺตมานปโยโค, วิวาทสฺส ปน อตีตกาลิกตฺตํ ‘‘เตน โข ปน สมเยนา’’ติ อิมินาว วิฺายติ. สทฺทนฺตรสนฺนิธาเนน เหตฺถ อตีตกาลาวคโม ยถา ‘‘ภาสเต วฑฺฒเต ตทา’’ติ. เอวํ สพฺพตฺถ อีทิเสสุ าเนสุ วตฺตมานปโยโค ทฏฺพฺโพ. กลหวิคฺคหชาตาติ เอตฺถ กลโห นาม มตฺถกปฺปตฺโต กายกลโหปิ วาจากลโหปิ. ตตฺถ หตฺถปรามาสาทิวเสน กาเยน กาตพฺโพ กลโห กายกลโห. มมฺมฆฏฺฏนาทิวเสน วาจาย กาตพฺโพ กลโห วาจากลโห. วิปจฺจนีกคหณํ วิคฺคโห. กลหสฺส ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺโน อฺมฺวิรุทฺธคาโห. อถ วา กลโห นาม วาจากลโห. อฺมฺํ หตฺถปรามาสาทิวเสน วิรูปํ วิรุทฺธํ วา คหณํ วิคฺคโห กายกลโห. ยถาวุตฺโต กลโห จ วิคฺคโห จ ชาโต สฺชาโต เอเตสนฺติ กลหวิคฺคหชาตา, สฺชาตกลหวิคฺคหาติ อตฺโถ.

ตานิ สาสนนฺตรธาเนน นสฺสนฺตีติ ปริยตฺติปฏิเวธปฏิปตฺติสงฺขาตสฺส ติวิธสฺสปิ สาสนสฺส อนฺตรธาเนน ธาตุปรินิพฺพาเน สติ ตานิ เจติยานิ วินสฺสนฺติ. ตีณิ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๑๖๑; วิภ. อฏฺ. ๘๐๙) หิ ปรินิพฺพานานิ กิเลสปรินิพฺพานํ ขนฺธปรินิพฺพานํ ธาตุปรินิพฺพานนฺติ, ตานิ ปน อมฺหากํ ภควโต วเสน เอวํ เวทิตพฺพานิ. ตสฺส หิ กิเลสปรินิพฺพานํ โพธิปลฺลงฺเก อโหสิ, ขนฺธปรินิพฺพานํ กุสินารายํ. ธาตุปรินิพฺพานํ อนาคเต ภวิสฺสติ. สาสนสฺส กิร โอสกฺกนกาเล อิมสฺมึ ตมฺพปณฺณิทีเป ธาตุโย สนฺนิปติตฺวา มหาเจติยํ คมิสฺสนฺติ, มหาเจติยโต นาคทีเป ราชายตนเจติยํ, ตโต มหาโพธิปลฺลงฺกํ คมิสฺสนฺติ, นาคภวนโตปิ เทวโลกโตปิ พฺรหฺมโลกโตปิ ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺกเมว คมิสฺสนฺติ, สาสปมตฺตาปิ ธาตุ น อนฺตรา นสฺสิสฺสติ. สพฺพา ธาตุโย มหาโพธิปลฺลงฺเก ราสิภูตา สุวณฺณกฺขนฺโธ วิย เอกคฺฆนา หุตฺวา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย วิสฺสชฺเชสฺสนฺติ, ตา ทสสหสฺสิโลกธาตุํ ผริสฺสนฺติ. ตโต ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวตา สนฺนิปติตฺวา ‘‘อชฺช สตฺถา ปรินิพฺพาติ, อชฺช สาสนํ โอสกฺกติ, ปจฺฉิมทสฺสนํ ทานิ อิทํ อมฺหาก’’นฺติ ทสพลสฺส ปรินิพฺพุตทิวสโต มหนฺตตรํ การุฺํ กริสฺสนฺติ, เปตฺวา อนาคามิขีณาสเว อวเสสา สกภาเวน สณฺาตุํ น สกฺขิสฺสนฺติ. ธาตูสุ เตโชธาตุ อุฏฺหิตฺวา ยาว พฺรหฺมโลกา อุคฺคจฺฉิสฺสติ, สาสปมตฺติยาปิ ธาตุยา สติ เอกชาลาว ภวิสฺสติ, ธาตูสุ ปริยาทานํ คตาสุ ปริจฺฉิชฺชิสฺสติ. เอวํ มหนฺตํ อานุภาวํ ทสฺเสตฺวา ธาตูสุ อนฺตรหิตาสุ สาสนํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ.

ทิวา โพธิรุกฺขฏฺาเน หตฺถิสาลายํ ติฏฺตีติ ทิวา วตฺถุวิจินนาย โอกาสํ กุรุมาโน ตโต ธาตุํ คเหตฺวา กุมฺเภ เปตฺวา สธาตุโกว หุตฺวา ติฏฺตีติ วทนฺติ. วุตฺตฺเหตํ มหาวํเส

‘‘รตฺตึ นาโคนุปริยาติ, ตํ านํ โส สธาตุกํ;

โพธิฏฺานมฺหิ สาลายํ, ทิวา าติ สธาตุโก’’ติ.

ถูปปติฏฺานภูมึ ปริยายตีติ มตฺถกโต ธาตุํ ตตฺถ ปติฏฺาเปตฺวา สธาตุกํ ถูปปติฏฺานภูมึ รตฺติภาเค ปริยายติ, สมนฺตโต วิจรตีติ อตฺโถ. ชงฺฆปฺปมาณนฺติ ปุปฺผฏฺานปฺปมาณํ. ถูปกุจฺฉิโต เหฏฺาภาคฺหิ ถูปสฺส ชงฺฆาติ วทนฺติ. ธาตุโอโรปนตฺถายาติ หตฺถิกุมฺภโต ธาตุกรณฺฑกสฺส โอโรปนตฺถาย. สกลนครฺจ ชนปโท จาติ นครวาสิโน ชนปทวาสิโน จ อเภทโต นครชนปทสทฺเทหิ วุตฺตา ‘‘สพฺโพ คาโม อาคโต, มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติอาทีสุ วิย. มหาชนกาเยติ มหาชนสมูเห. สมูหปริยาโย เหตฺถ กายสทฺโท. เอเกกธาตุปฺปเทสโต เตโชทกนิกฺขมนาทิวเสน ยมกยมกํ หุตฺวา ปวตฺตํ ปาฏิหาริยํ ยมกปาฏิหาริยํ. ฉนฺนํ วณฺณานํ รสฺมิโย จาติ สมฺพนฺโธ กาตพฺโพ. ฉนฺนํ วณฺณานํ อุทกธารา จาติ เอวมฺเปตฺถ สมฺพนฺธํ วทนฺติ. ปรินิพฺพุเตปิ ภควติ ตสฺสานุภาเวน เอวรูปํ ปาฏิหาริยมโหสิเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ อจินฺติยา’’ติอาทิคาถมาห. พุทฺธธมฺมาติ เอตฺถ พุทฺธคุณา.

ธรมานกาเลปิ ติกฺขตฺตุํ อาคมาสีติ ภควา กิร อภิสมฺโพธิโต นวเม มาเส ผุสฺสปุณฺณมทิวเส ยกฺขาธิวาสํ ลงฺกาทีปมุปคนฺตฺวา ลงฺกามชฺเฌ ติโยชนายเต โยชนวิตฺถเต มหานาควนุยฺยาเน มหายกฺขสมาคเม อุปริอากาเส ตฺวา กปฺปุฏฺานสมเย สมุฏฺิตวุฏฺิวาตนิพฺพิเสสวสฺสวายุนา จ โลกนฺตริกนิรยนฺธการสทิสโฆรนฺธการนิกาเยน จ สีตนรกนิพฺพิเสสพหลสีเตน จ สํวฏฺฏกาลสฺชาตวาตสงฺขุภิเตหิ เมฆนภคชฺชิตสทิเสน คคนเมทนีนินฺนาเทน จ ยกฺขานํ ภยํ สนฺตาสํ ชเนตฺวา เตหิ ยาจิตาภโย ‘‘เทถ เม สมคฺคา นิสีทนฏฺาน’’นฺติ วตฺวา ‘‘เทม เต สกลทีปํ, เทหิ โน, มาริส, อภย’’นฺติ วุตฺเต สพฺพํ ตํ อุปทฺทวํ อนฺตรธาเปตฺวา ยกฺขทตฺตภูมิยา จมฺมขณฺฑํ ปตฺถริตฺวา ตตฺถ นิสินฺโน สมนฺตโต ชลมานํ จมฺมขณฺฑํ ปสาเรตฺวา กปฺปุฏฺานคฺคิสทิสทหนาภิภูตานํ ชลธิสลิลภีตานํ สมนฺตา เวลนฺเต ภมนฺตานํ ยกฺขานํ คิริทีปํ ทสฺเสตฺวา เตสุ ตตฺถ ปติฏฺิเตสุ ตํ ยถาาเน ปติฏฺาเปตฺวา จมฺมขณฺฑํ สงฺขิปิตฺวา นิสินฺโน ตทา สมาคเต อเนกเทวตาสนฺนิปาเต ธมฺมํ เทเสตฺวา อเนกปาณโกฏีนํ ธมฺมาภิสมยํ กตฺวา สุมนกูฏวาสินา มหาสุมนเทวราเชน สมธิคตโสตาปตฺติผเลน ยาจิตปูชนีโย สีสํ ปรามสิตฺวา มุฏฺิมตฺตา นีลามลเกสธาตุโย ตสฺส ทตฺวา ชมฺพุทีปมคมาสิ.

ทุติยํ อภิสมฺโพธิโต ปฺจเม สํวจฺฉเร จูโฬทรมโหทรานํ ชลถลนิวาสีนํ มาตุลภาคิเนยฺยานํ นาคราชูนํ มณิปลฺลงฺกํ นิสฺสาย อุปฏฺิตมหาสงฺคาเม นาคานํ มหาวินาสํ ทิสฺวา จิตฺตมาสกาฬปกฺขสฺส อุโปสถทิวเส ปาโตว สมิทฺธสุมเนน นาม รุกฺขเทวปุตฺเตน ฉตฺตํ กตฺวา ธาริตราชายตโน นาคทีปํ สมาคนฺตฺวา สงฺคามมชฺเฌ อากาเส ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน โฆรนฺธกาเรน นาเค สนฺตาเสตฺวา อสฺสาเสนฺโต อาโลกํ ทสฺเสตฺวา สฺชาตปีติโสมนสฺสานํ อุปคตนาคานํ สามคฺคิกรณียํ ธมฺมํ เทเสตฺวา มาตุลภาคิเนยฺเยหิ ทฺวีหิ นาคราชูหิ ปูชิเต ปถวีตลคเต มณิปลฺลงฺเก นิสินฺโน นาเคหิ ทิพฺพนฺนปาเนหิ สนฺตปฺปิโต ชลถลนิวาสิโน อสีติโกฏินาเค สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาเปตฺวา เตหิ นมสฺสิตุํ ปลฺลงฺกฺจ ราชายตนปาทปฺจ ตตฺถ ปติฏฺาเปตฺวา ชมฺพุทีปมคมาสิ.

ตติยมฺปิ อภิสมฺโพธิโต อฏฺเม สํวจฺฉเร มโหทรมาตุเลน มณิอกฺขิกนาคราเชนาภิยาจิโต วิสาขปุณฺณมทิวเส ปฺจภิกฺขุสตปริวุโต กลฺยาณีปเทเส มณิอกฺขิกสฺส ภวนมุปคนฺตฺวา ตตฺถ มาปิตรุจิรรตนมณฺฑเป มโนหรวรปลฺลงฺเก นิสินฺโน นาคราเชน ทิพฺพนฺนปาเนหิ สนฺตปฺเปตฺวา นาคมาณวิกคณปริวุเตน ทิพฺพมาลาคนฺธาทีหิ ปูชิโต ตตฺถ ธมฺมํ เทเสตฺวา วุฏฺายาสนา สุมนกูเฏ ปทํ ทสฺเสตฺวา ปพฺพตปาเท ทิวาวิหารํ กตฺวา ทีฆวาปิเจติยฏฺาเน จ มุภิยงฺคณเจติยฏฺาเน จ กลฺยาณีเจติยฏฺาเน จ มหาโพธิฏฺาเน จ ถูปารามฏฺาเน จ มหาเจติยฏฺาเน จ สสาวโก นิสีทิตฺวา นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา สิลาเจติยฏฺาเนเยว ตฺวา เทวนาเค สมนุสาสิตฺวา ชมฺพุทีปมคมาสิ. เอวํ ภควา ธรมานกาเลปิ อิมํ ทีปํ ติกฺขตฺตุํ อาคมาสีติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ตเทว ติกฺขตฺตุมาคมนํ สงฺเขปโต วิภาเวนฺโต อาห ‘‘ปมํ ยกฺขทมนตฺถ’’นฺติอาทิ. รกฺขํ กโรนฺโตติ ยกฺขานํ ปุน อปวิสนตฺถาย รกฺขํ กโรนฺโต. อาวิชฺชีติ สมนฺตโต วิจริ. มาตุลภาคิเนยฺยานนฺติ จูโฬทรมโหทรานํ. เอตฺถ ปน กิฺจาปิ ภควา สมิทฺธสุมเนน นาม เทวปุตฺเตน สทฺธึ อาคโต, ตถาปิ ปจฺฉาสมเณน เอเกนปิ ภิกฺขุนา สทฺธึ อนาคตตฺตา ‘‘เอกโกว อาคนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ตทนุรูปสฺส ปริปนฺถสฺส วิหตตฺตา ‘‘ปริฬาหํ วูปสเมตฺวา’’ติ วุตฺตํ. รฺโ ภาตาติ รฺโ กนิฏฺภาตา. อภโยติ มตฺตาภโย.

อนุฬา เทวีติ รฺโ เชฏฺภาตุชายา อนุฬา เทวี. ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ โพธิ ปติฏฺาสีติ ยทา หิ โส กกุสนฺโธ นาม ภควา อิมสฺมึ ทีเป มนุสฺเส ปชฺชรกาภิภูเต อนยพฺยสนมาปชฺชนฺเต ทิสฺวา กรุณาย สฺโจทิตหทโย อิมํ ทีปมาคโต, ตทา ตํ โรคภยํ วูปสเมตฺวา สนฺนิปติตานํ ธมฺมํ เทเสนฺโต จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมยํ กตฺวา สายนฺหสมเย โพธิปติฏฺานารหฏฺานํ คนฺตฺวา ตตฺถ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘มม สิรีสมหาโพธิโต ทกฺขิณมหาสาขมาทาย รุจนนฺทา ภิกฺขุนี อิธาคจฺฉตู’’ติ อธิฏฺาสิ . สา สตฺถุ จิตฺตํ ตฺวา ตงฺขณฺเว เขมวตีราชธานิยา เขมราชานมาทาย มหาโพธิมุปคนฺตฺวา ทกฺขิณมหาสาขาย มโนสิลาเลขํ เขมราเชน ทาเปตฺวา ตํ สยํ ฉิชฺชิตฺวา สุวณฺณกฏาเห ิตํ โพธิสาขมาทาย ปฺจสตภิกฺขุนีหิ เจว เทวตาหิ จ ปริวาริตา อิทฺธิยา อิธาเนตฺวา ตถาคเตน ปสาริเต ทกฺขิณหตฺเถ สสุวณฺณกฏาหํ มหาโพธึ เปสิ. ตํ ตถาคโต อภยสฺส นาม รฺโ ทตฺวา เตน ตสฺมึ สมเย ‘‘มหาติตฺถวน’’นฺติ ปฺาเต มหาเมฆวนุยฺยาเน ปติฏฺาเปสิ.

โกณาคมโน จ ภควา ทุพฺพุฏฺิปีฬิเต ทีปวาสิโน ทิสฺวา อิมํ ทีปมาคโต ตํ ภยํ วูปสเมตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ มคฺคผเลสุ ปติฏฺาเปตฺวา ปุพฺพโพธิฏฺานํ คนฺตฺวา สมาปตฺติปริโยสาเน ‘‘มม อุทุมฺพรมหาโพธิโต ทกฺขิณมหาสาขมาทาย กรกนตฺตา ภิกฺขุนี อิธาคจฺฉตู’’ติ จินฺเตสิ. สา ภควโต อธิปฺปายํ วิทิตฺวา ตงฺขณฺเว โสภราชธานิยา โสภราชานมาทาย มหาโพธิมุปคนฺตฺวา ทกฺขิณมหาสาขาย มโนสิลาเลขํ โสภราเชน ทาเปตฺวา ตํ สยํ ฉิชฺชิตฺวา เหมกฏาเห ปติฏฺิตํ โพธิสาขมาทาย ปฺจสตภิกฺขุนีหิ สทฺธึ สุรคณปริวุตา อิทฺธิยา อิธาหริตฺวา สตฺถารา ปสาริตทกฺขิณปาณิตเล สเหมกฏาหํ มหาโพธึ เปสิ. ตํ ตถาคโต สมิทฺธสฺส รฺโ ทตฺวา เตน ตสฺมึ สมเย ‘‘มหานาควน’’นฺติ สงฺขฺยํ คเต มหาเมฆวนุยฺยาเน มหาโพธึ ปติฏฺาเปสิ.

กสฺสโปปิ จ ภควา อุปฏฺิตราชูปราชยุทฺเธน ปาณิโน วินาสํ ทิสฺวา กรุณาย โจทิโต อิมํ ทีปมาคนฺตฺวา ตํ กลหํ วูปสเมตฺวา ธมฺมํ เทเสนฺโต จตุราสีติ ปาณสหสฺสานิ มคฺคผลํ ปาเปตฺวา มหาโพธิฏฺานํ คนฺตฺวา ตตฺถ สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘มม นิคฺโรธมหาโพธิโต ทกฺขิณมหาสาขมาทาย สุธมฺมา ภิกฺขุนี อิธาคจฺฉตู’’ติ อธิฏฺาสิ. สา ภควโต จิตฺตํ วิทิตฺวา ตงฺขณฺเว พาราณสีราชธานิยา พฺรหฺมทตฺตราชานมาทาย มหาโพธิมุปคนฺตฺวา ทกฺขิณมหาสาขาย มโนสิลาเลขํ พฺรหฺมทตฺเตน ทาเปตฺวา ตํ สยํ ฉิชฺชิตฺวา กนกกฏาเห ิตํ โพธิสาขมาทาย ปฺจสตภิกฺขุนีปริวารา เทวคณปริวุตา อิทฺธิยา เอตฺถ อาเนตฺวา มุนินฺเทน ปสาริเต ทกฺขิณกรตเล สสุวณฺณกฏาหํ มหาโพธึ เปสิ. ตํ ภควา ชยนฺตรฺโ ทตฺวา เตน ตสฺมึ สมเย ‘‘มหาสาลวน’’นฺติ สงฺขฺยํ คเต มหาเมฆวนุยฺยาเน มหาโพธึ ปติฏฺาเปสิ. เอวํ อิมสฺมึ ทีเป ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ โพธึ ปติฏฺาเปสิ. ตํ สนฺธาย เอวมาห ‘‘อิมสฺมิฺจ มหาราช ทีเป ปุริมกานํ ติณฺณํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ โพธิ ปติฏฺาสี’’ติ.

สรสรํสิชาลวิสฺสชฺชนเกนาติ สินิทฺธตาย รสวนฺตํ โอชวนฺตํ อภินวรํสิชาลํ วิสฺสชฺเชนฺเตน. อถ วา อิโต จิโต จ สํสรณโต สรสํ สชีวํ ชีวมานํ วิย รํสิชาลํ วิสฺสชฺเชนฺเตน. อถ วา สรสกาเล ธรมานกาเล พุทฺเธน วิย รํสิชาลํ มุฺจนฺเตนาติ เอวเมตฺถ อตฺถํ วณฺณยนฺติ. เอกทิวเสเนว อคมาสีติ สมฺพนฺโธ. ปฺจหิ กฺาสเตหีติ อตฺตโน ปริจาริเกหิ ปฺจหิ กฺาสเตหิ. อุปสฺสยํ การาเปตฺวาติ ภิกฺขุนุปสฺสยํ การาเปตฺวา. อปฺเปสีติ เลขสาสนํ ปติฏฺาเปสิ. เอวฺจ อโวจาติ ราชสนฺเทสํ อปฺเปตฺวา เถรสฺส มุขสาสนํ วิฺาเปนฺโต เอวํ อโวจ. อุทิกฺขตีติ อเปกฺขติ ปตฺเถติ.

ฉินฺนหตฺถํ วิยาติ ฉินฺนหตฺถวนฺตํ วิย. ฉินฺนา หตฺถา เอตสฺสาติ ฉินฺนหตฺโถติ อฺปทตฺถสมาโส ทฏฺพฺโพ. ปพฺพชฺชาปุเรกฺขาราติ ปพฺพชฺชาภิมุขา, ปพฺพชฺชาย สฺชาตาภิลาสา ‘‘กทา นุ โข ปพฺพชิสฺสามี’’ติ ตตฺถ อุสฺสุกฺกมาปนฺนาติ วุตฺตํ โหติ. มํ ปฏิมาเนตีติ มํ อุทิกฺขติ. สตฺเถน ฆาตํ น อรหตีติ อสตฺถฆาตารหํ. หิมวลาหกคพฺภนฺติ หิมปุณฺณวลาหกคพฺภํ. ปาฏิหาริยวเสน ชาตํ หิมเมว ‘‘วลาหกคพฺภ’’นฺติปิ วทนฺติ. โทณมตฺตาติ มคธนาฬิยา โสฬสนาฬิปฺปมาณา.

มคฺคนฺติ สตฺตโยชนิกํ มคฺคํ. ปฏิชคฺคาเปตฺวาติ โสธาเปตฺวา, ขาณุกณฺฏกาทีนิ หราเปตฺวา ตตฺถ พหลวิปุลวาลุกํ โอกิราเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. กมฺมารวณฺณนฺติ รฺโ ปกติสุวณฺณการวณฺณํ. นวหตฺถปริกฺเขปนฺติ นวหตฺถปฺปมาโณ ปริกฺเขโป อสฺสาติ นวหตฺถปริกฺเขปํ, ปริกฺเขปโต นวหตฺถปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘ปฺจหตฺถุพฺเพธ’’นฺติอาทีสุปิ อิมินาว นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ติหตฺถวิกฺขมฺภนฺติ ติหตฺถปฺปมาณวิตฺถารํ. สมุสฺสิตธชปฏากนฺติ อุสฺสาปิตนีลปีตาทิวิวิธธชปฏากํ. นานารตนวิจิตฺตนฺติ ตตฺถ ตตฺถ รจิตนานารตเนหิ สุวิจิตฺตํ. อเนกาลงฺการปฏิมณฺฑิตนฺติ ปสนฺนชนปูชิเตหิ หตฺถูปคาทีหิ นานาลงฺกาเรหิ สชฺชิตํ. นานาวิธกุสุมสมากิณฺณนฺติ อุปหารวเสน อุปนีเตหิ นานปฺปกาเรหิ วณฺณคนฺธสมฺปนฺเนหิ ชลถลปุปฺเผหิ อากิณฺณํ. อเนกตูริยสงฺฆุฏฺนฺติ อาตภวิตตาทิปฺจงฺคิกตูริยสงฺโฆสิตํ. อวเสสํ อทสฺสนํ อคมาสีติ เอตฺถ ‘‘หนฺท, มหาราช, ตยา คเหตพฺพา อยํ สาขา, ตสฺส อุปนิสฺสยภูโต อยํ ขนฺโธ, น มยํ ตยา คเหตพฺพา’’ติ วทนฺตา วิย อวเสสา สาขา สตฺถุ เตชสา อทสฺสนมคมํสูติ วทนฺติ. ควกฺขชาลสทิสนฺติ ภาวนปุํสกํ, ชาลกวาฏสทิสํ กตฺวาติ อตฺโถ. เจลุกฺเขปสตสหสฺสานิ ปวตฺตึสูติ เตสํ เตสํ ชนานํ สีโสปริ ภมนฺตานํ อุตฺตราสงฺคเจลานํ อุกฺเขปสตสหสฺสานิ ปวตฺตึสูติ อตฺโถ. มูลสเตนาติ ทสสุ เลขาสุ เอเกกาย ทส ทส หุตฺวา นิกฺขนฺตมูลสเตน. ทส มหามูลาติ ปมเลขาย นิกฺขนฺตทสมหามูลานิ.

เทวทุนฺทุภิโย ผลึสูติ เทวทุนฺทุภิโย ถนึสุ. เทวทุนฺทุภีติ จ น เอตฺถ กาจิ เภรี อธิปฺเปตา, อถ โข อุปฺปาตภาเวน อากาสคโต นิคฺโฆสสทฺโท. เทโวติ หิ เมโฆ. ตสฺส หิ อจฺฉภาเวน อากาสวณฺณสฺส เทวสฺสาภาเวน สุกฺขคชฺชิตสฺิเต สทฺเท นิจฺฉรนฺเต เทวทุนฺทุภีติ สมฺา, ตสฺมา เทวทุนฺทุภิโย ผลึสูติ เทโว สุกฺขคชฺชิตํ คชฺชีติ วุตฺตํ โหติ. ปพฺพตานํ นจฺเจหีติ ปถวีกมฺเปน อิโต จิโต จ ภมนฺตานํ ปพฺพตานํ นจฺเจหิ. ยกฺขานํ หิงฺกาเรหีติ วิมฺหยชาตานํ ยกฺขานํ วิมฺหยปฺปกาสนวเสน ปวตฺเตหิ หิงฺการสทฺเทหิ. ยกฺขา หิ วิมฺหยชาตา ‘‘หึ หิ’’นฺติ สทฺทํ นิจฺฉาเรนฺติ. ถุติชปฺเปหีติ ปสํสาวจเนหิ. พฺรหฺมานํ อปฺโผฏเนหีติ ปีติโสมนสฺสชาตานํ พฺรหฺมานํ พาหายํ ปหรณสงฺขาเตหิ อปฺโผฏเนหิ. ปีติโสมนสฺสชาตา หิ พฺรหฺมาโน วามหตฺถํ สมิฺชิตฺวา ทกฺขิเณน หตฺเถน พาหายํ ปหารํ เทนฺติ. เอกโกลาหลนฺติ เอกโต ปวตฺตโกลาหลํ . เอกนินฺนาทนฺติ เอกโต ปวตฺตนิคฺโฆสํ. ผลโต นิกฺขนฺตา ฉพฺพณฺณรสฺมิโย อุชุกํ อุคฺคนฺตฺวา โอนมิตฺวา จกฺกวาฬปพฺพตมุขวฏฺฏึ อาหจฺจ ติฏฺนฺตีติ อาห ‘‘สกลจกฺกวาฬํ รตนโคปานสีวินทฺธํ วิย กุรุมานา’’ติ. ตงฺขณโต จ ปน ปภุตีติ วุตฺตนเยน สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตสฺส มหาโพธิสฺส ฉพฺพณฺณรสฺมีนํ วิสฺสชฺชิตกาลโต ปภุติ. หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสีติ สุวณฺณกฏาเหเนว สทฺธึ อุคฺคนฺตฺวา หิโมทกปุณฺณํ วลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. ปมํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิโตเยว หิ โพธิ ปจฺฉา วุตฺตปฺปการอจฺฉริยปฏิมณฺฑิโต หุตฺวา หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสิ. เตเนว วกฺขติ ‘‘ปมํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหิ, ตโต หิมคพฺภสตฺตาหํ อภิเสกสตฺตาหฺจ วีตินาเมตฺวา’’ติอาทิ. ตโตเยว จ มหาวํเสปิ วุตฺตํ –

‘‘เอวํ สเตน มูลานํ, ตตฺเถสา คนฺธกทฺทเม;

ปติฏฺาสิ มหาโพธิ, ปสาเทนฺตี มหาชนํ.

‘‘ตสฺสา ขนฺโธ ทสหตฺโถ, ปฺจ สาขา มโนรมา;

จตุหตฺถา จตุหตฺถา, ทสฑฺฒผลมณฺฑิตา.

‘‘สหสฺสนฺตุ ปสาขานํ, สาขานํ ตาสมาสิ จ;

เอวํ อาสิ มหาโพธิ, มโนหรสิรินฺธรา.

‘‘กฏาหมฺหิ มหาโพธิ, ปติฏฺิตกฺขเณ มหี;

อกมฺปิ ปาฏิหีรานิ, อเหสุํ วิวิธานิ จ.

‘‘สยํ นาเทหิ ตูริยานํ, เทเวสุ มานุเสสุ จ;

สาธุการนินฺนาเทหิ, เทวพฺรหฺมคณสฺส จ.

‘‘เมฆานํ มิคปกฺขีนํ, ยกฺขาทีนํ รเวหิ จ;

รเวหิ จ มหีกมฺเป, เอกโกลาหลํ อหุ.

‘‘โพธิยา ผลปตฺเตหิ, ฉพฺพณฺณรํสิโย สุภา;

นิกฺขมิตฺวา จกฺกวาฬํ, สกลํ โสภยึสุ จ.

‘‘สกฏาหา มหาโพธิ, อุคฺคนฺตฺวาน ตโต นภํ;

อฏฺาสิ หิมคพฺภมฺหิ, สตฺตาหานิ อทสฺสนา’’ติ.

ตสฺมา สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิโตเยว โพธิ กฏาเหเนว สทฺธิ อุคฺคนฺตฺวา หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา อฏฺาสีติ เวทิตพฺพํ.

เหฏฺา ปน ภควโต อธิฏฺานกฺกมํ ทสฺเสนฺเตน ยํ วุตฺตํ –

‘‘ภควา กิร มหาปรินิพฺพานมฺเจ นิปนฺโน ลงฺกาทีเป มหาโพธิปติฏฺาปนตฺถาย อโสกมหาราชา มหาโพธิคฺคหณตฺถํ คมิสฺสติ, ตทา มหาโพธิสฺส ทกฺขิณสาขา สยเมว ฉิชฺชิตฺวา สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺาตูติ อธิฏฺาสิ, อิทเมกมธิฏฺานํ.

‘‘ตตฺถ ปติฏฺานกาเล จ ‘มหาโพธิ หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา ติฏฺตู’ติ อธิฏฺาสิ, อิทํ ทุติยมธิฏฺานํ.

‘‘สตฺตเม ทิวเส หิมวลาหกคพฺภโต โอรุยฺห สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหนฺโต ปตฺเตหิ จ ผเลหิ จ ฉพฺพณฺณรสฺมิโย มุฺจตูติ อธิฏฺาสิ, อิทํ ตติยมธิฏฺาน’’นฺติ.

ตํ อิมินา น สเมติ. ตตฺถ หิ ปมํ หิมวลาหกคพฺภํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉา สตฺตเม ทิวเส หิมวลาหกคพฺภโต โอรุยฺห ฉพฺพณฺณรํสิวิสฺสชฺชนํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหนฺจ วุตฺตํ, ตสฺมา อฏฺกถาย ปุพฺเพนาปรํ น สเมติ. มหาวํเส ปน อธิฏฺาเนปิ ปมํ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺหนํ ปจฺฉาเยว ฉพฺพณฺณรํสิวิสฺสชฺชนํ หิมวลาหกคพฺภปวิสนฺจ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปรินิพฺพานมฺจมฺหิ, นิปนฺเนน ชิเนน หิ;

กตํ มหาอธิฏฺานํ, ปฺจกํ ปฺจจกฺขุนา.

‘‘คยฺหมานา มหาโพธิ-สาขาโสเกน ทกฺขิณา;

ฉิชฺชิตฺวาน สยํเยว, ปติฏฺาตุ กฏาหเก.

‘‘ปติฏฺหิตฺวา สา สาขา, ฉพฺพณฺณรสฺมิโย สุภา;

ราชยนฺตี ทิสา สพฺพา, ผลปตฺเตหิ มุฺจตุ.

‘‘สสุวณฺณกฏาหา สา, อุคฺคนฺตฺวาน มโนรมา;

อทิสฺสมานา สตฺตาหํ, หิมคพฺภมฺหิ ติฏฺตู’’ติ.

โพธิวํเสปิ จ อยเมว อธิฏฺานกฺกโม วุตฺโต, ตสฺมา อฏฺกถายํ วุตฺโต อธิฏฺานกฺกโม ยถา ปุพฺเพนาปรํ น วิรุชฺฌติ, ตถา วีมํสิตฺวา คเหตพฺโพ.

หิมฺจ ฉพฺพณฺณรํสิโย จ อาวตฺติตฺวา มหาโพธิเมว ปวิสึสูติ มหาโพธึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา ิตํ หิมฺจ โพธิโต นิกฺขนฺตฉพฺพณฺณรสฺมิโย จ อาวตฺติตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา โพธิเมว ปวิสึสุ, โพธิปวิฏฺา วิย หุตฺวา อนฺตรหิตาติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ปน ‘‘หิมฺจ รํสิโย จา’’ติ อยเมว ปาโ สตโสธิตสมฺมเต โปราณโปตฺถเก เสเสสุ จ สพฺพโปตฺถเกสุ ทิสฺสติ. มหาวํเสปิ เจตํ วุตฺตํ –

‘‘อตีเต ตมฺหิ สตฺตาเห, สพฺเพ หิมวลาหกา;

ปวิสึสุ มหาโพธึ, สพฺพา ตา รํสิโยปิ จา’’ติ.

เกนจิ ปน ‘‘ปฺจ รํสิโย’’ติ ปาํ ปริกปฺเปตฺวา ยํ วุตฺตํ ‘‘สพฺพทิสาหิ ปฺจ รสฺมิโย อาวตฺติตฺวาติ ปฺจหิ ผเลหิ นิกฺขนฺตตฺตา ปฺจ, ตา ปน ฉพฺพณฺณาวา’’ติ, ตํ ตสฺส สมฺโมหวิชมฺภิตมตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปริปุณฺณขนฺธสาขาปสาขปฺจผลปฏิมณฺฑิโตติ ปริปุณฺณขนฺธสาขาปสาขาหิ เจว ปฺจหิ จ ผเลหิ ปฏิมณฺฑิโต, สมนฺตโต วิภูสิโตติ อตฺโถ. อภิเสกํ ทตฺวาติ อโนตตฺโตทเกน อภิเสกํ ทตฺวา. มหาโพธิฏฺาเนเยว อฏฺาสีติ โพธิสมีเปเยว วสิ.

ปุพฺพกตฺติกปวารณาทิวเสติ อสฺสยุชมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปุณฺณมิยํ. จาตุทฺทสีอุโปสถตฺตา ทฺวิสตฺตาเห ชาเต อุโปสโถ สมฺปตฺโตติ อาห ‘‘กาฬปกฺขสฺส อุโปสถทิวเส’’ติ, อสฺสยุชมาสกาฬปกฺขสฺส จาตุทฺทสีอุโปสเถติ อตฺโถ. ปาจีนมหาสาลมูเล เปสีติ นครสฺส ปาจีนทิสาภาเค ชาตสฺส มหาสาลรุกฺขสฺส เหฏฺา มณฺฑปํ กาเรตฺวา ตตฺถ เปสิ. สตฺตรสเม ทิวเสติ ปาฏิปททิวสโต ทุติยทิวเส. กตฺติกฉณปูชํ อทฺทสาติ กตฺติกฉณวเสน โพธิสฺส กริยมานํ ปูชํ สุมนสามเณโร อทฺทส, ทิสฺวา จ อาคโต สพฺพํ ตํ ปวตฺตึ อาโรเจสิ. ตํ สนฺธาเยว จ เถโร โพธิอาหรณตฺถํ เปเสสิ.

อฏฺารส เทวตากุลานีติ มหาโพธึ ปริวาเรตฺวา ิตนาคยกฺขาทิเทวตากุลานิ ทตฺวาติ สมฺพนฺโธ. อมจฺจกุลานิ โพธิสฺส กตฺตพฺพวิจารณตฺถาย อทาสิ, พฺราหฺมณกุลานิ โลกสมฺมตตฺตา อุทกาสิฺจนตฺถาย อทาสิ, กุฏุมฺพิยกุลานิ โพธิสฺส กตฺตพฺพปูโชปกรณโคปนตฺถาย อทาสิ. ‘‘โคปกา ราชกมฺมิโน ตถา ตรจฺฉา’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. คณฺิปเท ปน ‘‘โคปกกุลานิ โพธิสิฺจนตฺถํ ขีรเธนุปาลนตฺถาย ตรจฺฉกุลานิ กาลิงฺคกุลานิ วิสฺสาสิกานิ ปธานมนุสฺสกุลานี’’ติ วุตฺตํ. กาลิงฺคกุลานีติ เอตฺถ ‘‘อุทกาทิคาหกา กาลิงฺคา’’ติ มหาคณฺิปเท วุตฺตํ. ‘‘กลิงฺเคสุ ชนปเท ชาติสมฺปนฺนกุลํ กาลิงฺคกุล’’นฺติ เกจิ. อิมินา ปริวาเรนาติ สหตฺเถ กรณวจนํ, อิมินา วุตฺตปฺปการปริวาเรน สทฺธินฺติ อตฺโถ. วิฺฌาฏวึ สมติกฺกมฺมาติ ราชา สยมฺปิ มหาโพธิสฺส ปจฺจุคฺคมนํ กโรนฺโต เสนงฺคปริวุโต ถลปเถน คจฺฉนฺโต วิฺฌาฏวึ นาม อฏวึ อติกฺกมิตฺวา. ตามลิตฺตึ อนุปฺปตฺโตติ ตามลิตฺตึ นาม ติตฺถํ สมฺปตฺโต. อิทมสฺส ตติยนฺติ สุวณฺณกฏาเห ปติฏฺิตมหาโพธิสฺส รชฺชสมฺปทานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตโต ปุพฺเพ ปเนส เอกวารํ สทฺธาย สกลชมฺพุทีปรชฺเชน มหาโพธึ ปูเชสิเยว, ตสฺมา เตน สทฺธึ จตุตฺถมิทํ รชฺชสมฺปทานํ. มหาโพธึ ปน ยสฺมึ ยสฺมึ ทิวเส รชฺเชน ปูเชสิ, ตสฺมึ ตสฺมึ ทิวเส สกลชมฺพุทีปรชฺชโต อุปฺปนฺนํ อายํ คเหตฺวา มหาโพธิปูชํ กาเรสิ.

มาคสิรมาสสฺสาติ มิคสิรมาสสฺส. ปมปาฏิปททิวเสติ สุกฺกปกฺขปาฏิปททิวเส. ตฺหิ กณฺหปกฺขปาฏิปททิวสํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘ปมปาฏิปททิวส’’นฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ อิมสฺมึ ทีเป ปวตฺตมานโวหารํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ตตฺถ ปน ปุณฺณมิโต ปฏฺาย ยาว อปรา ปุณฺณมี, ตาว เอโก มาโสติ โวหารสฺส ปวตฺตตฺตา เตน โวหาเรน ‘‘ทุติยปาฏิปททิวเส’’ติ วตฺตพฺพํ สิยา. ตตฺถ หิ กณฺหปกฺขปาฏิปททิวสํ ‘‘ปมปาฏิปท’’นฺติ วุจฺจติ. อุกฺขิปิตฺวาติ มหาสาลมูเล ทินฺเนหิ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ สทฺธึ อุกฺขิปิตฺวาติ วทนฺติ. คจฺฉติ วตเรติ เอตฺถ อเรติ เขเท. เตเนวาห ‘‘กนฺทิตฺวา’’ติ, โพธิยา อทสฺสนํ อสหมาโน โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวาติ อตฺโถ. สรสรํสิชาลนฺติ เอตฺถ ปน เหฏฺา วุตฺตนเยเนว อตฺโถ เวทิตพฺโพ. มหาโพธิสมารุฬฺหาติ มหาโพธินา สมารุฬฺหา. ปสฺสโต ปสฺสโตติ อนาทเร สามิวจนํ, ปสฺสนฺตสฺเสวาติ อตฺโถ . มหาสมุทฺทตลํ ปกฺขนฺตาติ มหาสมุทฺทสฺส อุทกตลํ ปกฺขนฺทิ. สมนฺตา โยชนนฺติ สมนฺตโต เอเกเกน ปสฺเสน โยชนปฺปมาเณ ปเทเส. อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. วีจิโย วูปสนฺตาติ วีจิโย น อุฏฺหึสุ, นาเหสุนฺติ วุตฺตํ โหติ. ปวชฺชึสูติ วิรวึสุ, นาทํ ปวตฺตยึสูติ อตฺโถ. รุกฺขาทิสนฺนิสฺสิตาหีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ปพฺพตาทิสนฺนิสฺสิตา เทวตา สงฺคณฺหาติ.

สุปณฺณรูเปนาติ สุปณฺณสทิเสน รูเปน. นาคกุลานิ สนฺตาเสสีติ มหาโพธิคฺคหณตฺถํ อาคตานิ นาคกุลานิ สนฺตาเสสิ, เตสํ ภยํ อุปฺปาเทตฺวา ปลาเปสีติ วุตฺตํ โหติ. ตทา หิ สมุทฺทวาสิโน นาคา มหาโพธึ คเหตุํ วาตวสฺสนฺธการาทีหิ มหนฺตํ วิกุพฺพนํ อกํสุ. ตโต สงฺฆมิตฺตตฺเถรี ครุฬวณฺณํ มาเปตฺวา เตน ครุฬรูเปน อากาสํ ปูรยมานา สิขามรีจิชาเลน คคนํ เอกนฺธการํ กตฺวา ปกฺขปฺปหารวาเตน มหาสมุทฺทํ อาโลเฬตฺวา สํวฏฺฏชลธินาทสทิเสน รเวน นาคานํ หทยานิ ภินฺทนฺตี วิย ตาเสตฺวา นาเค ปลาเปสิ. เต จ อุตฺรสฺตรูปา นาคา อาคนฺตฺวาติ เต จ วุตฺตนเยน อุตฺตาสิตา นาคา ปุน อาคนฺตฺวา. ตํ วิภูตินฺติ ตํ อิทฺธิปาฏิหาริยสงฺขาตํ วิภูตึ, ตํ อจฺฉริยนฺติ วุตฺตํ โหติ. เถรี ยาจิตฺวาติ ‘‘อยฺเย, อมฺหากํ ภควา มุจลินฺทนาคราชสฺส โภคาวลึ อตฺตโน คนฺธกุฏึ กตฺวา สตฺตาหํ ตสฺส สงฺคหํ อกาสิ. อภิสมฺพุชฺฌนทิวเส เนรฺชรานทีตีเร อตฺตโน อุจฺฉิฏฺปตฺตํ มหากาฬนาคสฺส วิสฺสชฺเชสิ. อุรุเวลนาเคน มาปิตํ วิสธูมทหนํ อคเณตฺวา ตสฺส สรณสีลาภรณมทาสิ. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรํ เปเสตฺวา นนฺโทปนนฺทนาคราชานํ ทเมตฺวา นิพฺพิสํ อกาสิ. เอวํ โส โลกนายโก อมฺหากํ อุปการโก, ตฺวมฺปิ โน โทสมสฺสริตฺวา มุหุตฺตํ มหาโพธึ วิสฺสชฺเชตฺวา นาคโลกสฺส สคฺคโมกฺขมคฺคํ สมฺปาเทหี’’ติ เอวํ ยาจิตฺวา. มหาโพธิวิโยคทุกฺขิโตติ มหาโพธิวิโยเคน ทุกฺขิโต สฺชาตมานสิกทุกฺโข. กนฺทิตฺวาติ อิมสฺส ปริยายวจนมตฺตํ โรทิตฺวาติ, คุณกิตฺตนวเสน วา ปุนปฺปุนํ โรทิตฺวา, วิลาปํ กตฺวาติ อตฺโถ.

อุตฺตรทฺวารโตติ อนุราธปุรสฺส อุตฺตรทฺวารโต. มคฺคํ โสธาเปตฺวาติ ขาณุกณฺฏกาทีนํ อุทฺธราปนวเสน มคฺคํ โสธาเปตฺวา. อลงฺการาเปตฺวาติ วาลุกาทีนํ โอกิราปนาทิวเสน สชฺเชตฺวา. สมุทฺทสาลวตฺถุสฺมินฺติ สมุทฺทาสนฺนสาลาย วตฺถุภูเต ปเทเส. ตสฺมึ กิร ปเทเส ิเตหิ สมุทฺทสฺส ทิฏฺตฺตา ตํ อจฺฉริยํ ปกาเสตุํ ตตฺถ เอกา สาลา กตา. สา นาเมน ‘‘สมุทฺทาสนฺนสาลา’’ติ ปากฏา ชาตา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘สมุทฺทาสนฺนสาลาย, าเน ตฺวา มหณฺณเว;

อาคจฺฉนฺตํ มหาโพธึ, มหาเถริทฺธิยาทฺทส.

‘‘ตสฺมึ าเน กตา สาลา, ปกาเสตุํ ตมพฺภุตํ;

‘สมุทฺทาสนฺนสาลา’ติ, นาเมนาสิธ ปากฏา’’ติ.

ตาย วิภูติยาติ ตาย วุตฺตปฺปการาย ปูชาสกฺการาทิสมฺปตฺติยา. เถรสฺสาติ มหามหินฺทตฺเถรสฺส. มคฺคสฺส กิร อุโภสุ ปสฺเสสุ อนฺตรนฺตรา ปุปฺเผหิ กูฏาคารสทิสสณฺานานิ ปุปฺผเจติยานิ การาเปสิ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘อนฺตรนฺตเร ปุปฺผอคฺฆิยานิ เปนฺโต’’ติ. อาคโต วตเรติ เอตฺถ อเรติ ปสํสายํ, สาธุ วตาติ อตฺโถ. โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหีติ อฏฺหิ อมจฺจกุเลหิ อฏฺหิ จ พฺราหฺมณกุเลหีติ เอวํ โสฬสหิ ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ. สมุทฺทตีเร มหาโพธึ เปตฺวาติ สมุทฺทเวลาตเล อลงฺกตปฺปฏิยตฺเต รมณีเย มณฺฑเป มหาโพธึ เปตฺวา. เอวํ ปน กตฺวา สกลตมฺพปณฺณิรชฺเชน มหาโพธึ ปูเชตฺวา โสฬสนฺนํ กุลานํ รชฺชํ นิยฺยาเตตฺวา สยํ โทวาริกฏฺาเน ตฺวา ตโย ทิวเส อเนกปฺปการํ ปูชํ การาเปสิ. ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีณิ ทิวสานี’’ติอาทิมาห. รชฺชํ วิจาเรสีติ รชฺชํ วิจาเรตุํ วิสฺสชฺเชสิ, โสฬสหิ วา ชาติสมฺปนฺนกุเลหิ รชฺชํ วิจาราเปสีติ อตฺโถ. จตุตฺเถ ทิวเสติ มิคสิรมาสสฺส สุกฺกปกฺขทสมิยํ. อนุปุพฺเพน อนุราธปุรํ สมฺปตฺโตติ ทสมิยํ อลงฺกตปฺปฏิยตฺตรเถ มหาโพธึ เปตฺวา อุฬารปูชํ กุรุมาโน ปาจีนปสฺสวิหารสฺส ปติฏฺาตพฺพฏฺานมาเนตฺวา ตตฺถ สงฺฆสฺส ปาตราสํ ปวตฺเตตฺวา มหินฺทตฺเถเรน ภาสิตํ นาคทีเป ทสพเลน กตํ นาคทมนํ สุตฺวา ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน นิสชฺชาทินา ปริภุตฺตฏฺาเนสุ ถูปาทีหิ สกฺการํ กริสฺสามี’’ติ สฺาณํ กาเรตฺวา ตโต อาหริตฺวา ตวกฺกพฺราหฺมณสฺส คามทฺวาเร เปตฺวา ปูเชตฺวา เอวํ ตสฺมึ ตสฺมึ าเน ปูชํ กตฺวา อิมินา อนุกฺกเมน อนุราธปุรํ สมฺปตฺโต. จาตุทฺทสีทิวเสติ มิคสิรมาสสฺเสว สุกฺกปกฺขจาตุทฺทเส. วฑฺฒมานกจฺฉายายาติ ฉายาย วฑฺฒมานสมเย, สายนฺหสมเยติ วุตฺตํ โหติ. สมาปตฺตินฺติ ผลสมาปตฺตึ. ติลกภูเตติ อลงฺการภูเต. ราชวตฺถุทฺวารโกฏฺกฏฺาเนติ ราชุยฺยานสฺส ทฺวารโกฏฺกฏฺาเน. ‘‘สกลรชฺชํ มหาโพธิสฺส ทินฺนปุพฺพตฺตา อุปจารตฺถํ ราชา โทวาริกเวสํ คณฺหี’’ติ วทนฺติ.

อนุปุพฺพวิปสฺสนนฺติ อุทยพฺพยาทิอนุปุพฺพวิปสฺสนํ. ปฏฺเปตฺวาติ อารภิตฺวา. อตฺถงฺคมิเตติ อตฺถงฺคเต. ‘‘สห โพธิปติฏฺาเนนา’’ติ วตฺตพฺเพ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา ‘‘สห โพธิปติฏฺานา’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ กตํ. สติ หิ สหโยเค กรณวจเนน ภวิตพฺพํ. มหาปถวี อกมฺปีติ จ อิทํ มุขมตฺตนิทสฺสนํ, อฺานิปิ อเนกานิ อจฺฉริยานิ อเหสุํเยว. ตถา หิ สห โพธิปติฏฺาเนน อุทกปริยนฺตํ กตฺวา มหาปถวี อกมฺปิ, ตานิ มูลานิ กฏาหมุขวฏฺฏิโต อุคฺคนฺตฺวา ตํ กฏาหํ วินนฺธนฺตา ปถวีตลโมตรึสุ, สมนฺตโต ทิพฺพกุสุมานิ วสฺสึสุ, อากาเส ทิพฺพตูริยานิ วชฺชึสุ, มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา วุฏฺิธารมกาสิ, อากาสปเทสา วิรวึสุ, วิชฺชุลตา นิจฺฉรึสุ. เทวตา สาธุการมทํสุ, สมาคตา สกลทีปวาสิโน คนฺธมาลาทีหิ ปูชยึสุ, คหิตมกรนฺทา มนฺทมารุตา วายึสุ, สมนฺตโต ฆนสีตลหิมวลาหกา มหาโพธึ ฉาทยึสุ. เอวํ โพธิ ปถวิยํ ปติฏฺหิตฺวา หิมคพฺเภ สนฺนิสีทิตฺวา สตฺตาหํ โลกสฺส อทสฺสนํ อคมาสิ. หิมคพฺเภ สนฺนิสีทีติ หิมคพฺภสฺส อนฺโต อฏฺาสิ. วิปฺผุรนฺตาติ วิปฺผุรนฺตา อิโต จิโต จ สํสรนฺตา. นิจฺฉรึสูติ นิกฺขมึสุ. ทสฺสึสูติ ปฺายึสุ. สพฺเพ ทีปวาสิโนติ สพฺเพ ตมฺพปณฺณิทีปวาสิโน. อุตฺตรสาขโต เอกํ ผลนฺติ อุตฺตรสาขาย ิตํ เอกํ ผลํ. ‘‘ปาจีนสาขาย เอกํ ผล’’นฺติปิ เกจิ. มหาอาสนฏฺาเนติ ปุพฺพปสฺเส มหาสิลาสเนน ปติฏฺิตฏฺาเน. อิสฺสรนิมฺมานวิหาเรติ อิสฺสรนิมฺมานสงฺขาเต กสฺสปคิริวิหาเร. ‘‘อิสฺสรนิมฺมานวิหาเร’’ติ หิ ปุพฺพสงฺเกตวเสน วุตฺตํ, อิทานิ ปน โส วิหาโร ‘‘กสฺสปคิรี’’ติ ปฺาโต. ‘‘อิสฺสรสมณาราเม’’ติปิ เกจิ ปนฺติ. ตถา จ วุตฺตํ –

‘‘ตวกฺกพฺราหฺมณคาเม , ถูปาราเม ตเถว จ;

อิสฺสรสมณาราเม, ปเม เจติยงฺคเณ’’ติ.

โยชนิยอาราเมสูติ อนุราธปุรสฺส สมนฺตา โยชนสฺส อนฺโต กตอาราเมสุ. สมนฺตา ปติฏฺิเต มหาโพธิมฺหีติ สมฺพนฺโธ. อนุราธปุรสฺส สมนฺตา เอวํ ปุตฺตนตฺตุปรมฺปราย มหาโพธิมฺหิ ปติฏฺิเตติ อตฺโถ. โลหปาสาทฏฺานํ ปูเชสีติ โลหปาสาทสฺส กตฺตพฺพฏฺานํ ปูเชสิ. ‘‘กิฺจาปิ โลหปาสาทํ เทวานํปิยติสฺโสเยว มหาราชา กาเรสฺสติ, ตถาปิ ตสฺมึ สมเย อภาวโต ‘อนาคเต’ติ วุตฺต’’นฺติ ตีสุปิ คณฺิปเทสุ วุตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ทุฏฺคามณิอภเยเนว การิโต โลหปาสาโท’’ติ วทนฺติ. มูลานิ ปนสฺส น ตาว โอตรนฺตีติ อิมินา, มหาราช, อิมสฺมึ ทีเป สตฺถุสาสนํ ปติฏฺิตมตฺตเมว อโหสิ, น ตาว สุปติฏฺิตนฺติ ทสฺเสติ, อสฺส สตฺถุสาสนสฺส มูลานิ ปน น ตาว โอติณฺณานีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. โอตรนฺตีติ หิ อตีตตฺเถ วตฺตมานวจนํ. เตเนวาห ‘‘กทา ปน ภนฺเต มูลานิ โอติณฺณานิ นาม ภวิสฺสนฺตี’’ติ. โย อมจฺโจ จตุปณฺณาสาย เชฏฺกกนิฏฺภาตุเกหิ สทฺธึ เจติยคิริมฺหิ ปพฺพชิโต, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มหาอริฏฺโ ภิกฺขู’’ติ. เมฆวณฺณาภยสฺส อมจฺจสฺส ปริเวณฏฺาเนติ เมฆวณฺณาภยสฺส รฺโ อมจฺเจน กตฺตพฺพสฺส ปริเวณสฺส วตฺถุภูเต าเน. มณฺฑปปฺปการนฺติ มณฺฑปสทิสํ. สทิสตฺถมฺปิ หิ ปการสทฺทํ วณฺณยนฺติ. สาสนสฺส มูลานิ โอตรนฺตานิ ปสฺสิสฺสามีติ อิมินา สาสนสฺส สุฏฺุ ปติฏฺานาการํ ปสฺสิสฺสามีติ ทีเปติ.

เมฆวิรหิตสฺส นิมฺมลสฺเสว อากาสสฺส วิรวิตตฺตา ‘‘อากาสํ มหาวิรวํ รวี’’ติ วุตฺตํ. ปจฺเจกคณีหีติ วิสุํ วิสุํ คณาจริเยหิ. ปจฺเจกํ คณํ เอเตสํ อตฺถีติ ปจฺเจกคณิโน. ยถา เวชฺโช คิลาเนสุ กรุณาย ติกิจฺฉนเมว ปุรกฺขตฺวา วิคตจฺฉนฺทโทโส ชิคุจฺฉนีเยสุ วเณสุ คุยฺหฏฺาเนสุ จ เภสชฺชเลปนาทินา ติกิจฺฉนเมว กโรติ, เอวํ ภควาปิ กิเลสพฺยาธิปีฬิเตสุ สตฺเตสุ กรุณาย เต สตฺเต กิเลสพฺยาธิทุกฺขโต โมเจตุกาโม อวตฺตพฺพารหานิ คุยฺหฏฺานนิสฺสิตานิปิ อสปฺปายานิ วทนฺโต วินยปฺตฺติยา สตฺตานํ กิเลสพฺยาธึ ติกิจฺฉติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺถุ กรุณาคุณปริทีปก’’นฺติ. อนุสิฏฺิกรานนฺติ อนุสาสนีกรานํ, เย ภควโต อนุสาสนึ สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ, เตสนฺติ อตฺโถ. กายกมฺมวจีกมฺมวิปฺผนฺทิตวินยนนฺติ กายวจีทฺวาเรสุ อชฺฌาจารวเสน ปวตฺตสฺส กิเลสวิปฺผนฺทิตสฺส วินยนกรํ.

ราชิโนติ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ, ราชานมนุสาสึสูติ อตฺโถ. อาโลกนฺติ าณาโลกํ. นิพฺพายึสุ มเหสโยติ เอตฺถ มหามหินฺทตฺเถโร ทฺวาทสวสฺสิโก หุตฺวา ตมฺพปณฺณิทีปํ สมฺปตฺโต, ตตฺถ ทฺเว วสฺสานิ วสิตฺวา วินยํ ปติฏฺเปสิ. ทฺวาสฏฺิวสฺสิโก หุตฺวา ปรินิพฺพุโตติ วทนฺติ.

เตสํเถรานํ อนฺเตวาสิกาติ เตสํ มหามหินฺทตฺเถรปฺปมุขานํ เถรานํ อนฺเตวาสิกา. ติสฺสทตฺตาทโย ปน มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา, ตสฺมา ติสฺสทตฺตกาฬสุมนทีฆสุมนาทโย มหาอริฏฺตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา จาติ โยเชตพฺพํ. อนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกาติ อุภยถา วุตฺตอนฺเตวาสิกานํ อนฺเตวาสิกา. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการาติ –

‘‘ตโต มหินฺโท อิฏฺฏิโย, อุตฺติโย สมฺพโล ตถา;

ภทฺทนาโม จ ปณฺฑิโต.

‘‘เอเต นาคา มหาปฺา, ชมฺพุทีปา อิธาคตา;

วินยํ เต วาจยึสุ, ปิฏกํ ตมฺพปณฺณิยา.

‘‘นิกาเย ปฺจ วาเจสุํ, สตฺต เจว ปกรเณ;

ตโต อริฏฺโ เมธาวี, ติสฺสทตฺโต จ ปณฺฑิโต.

‘‘วิสารโท กาฬสุมโน, เถโร จ ทีฆนามโก’’ติ. –

เอวมาทินา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการา อาจริยปรมฺปรา.

อาจริยปรมฺปรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วินยานิสํสกถาวณฺณนา

เอตฺตาวตา จ ‘‘เกนาภต’’นฺติ อิมํ ปฺหํ วิตฺถารโต วิภชิตฺวา อิทานิ ‘‘กตฺถ ปติฏฺิต’’นฺติ อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชนฺโต อาห ‘‘กตฺถ ปติฏฺิต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ เตลมิวาติ สีหเตลมิว. อธิมตฺตสติคติธีติมนฺเตสูติ เอตฺถ สตีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวา ธารณกสติ. คตีติ อุคฺคณฺหนกคติ. ธีตีติ สนฺนิฏฺานํ กตฺวา คณฺหนกาณํ. คตีติ วา ปฺาคติ. ธีตีติ พุทฺธวจนํ อุคฺคณฺหนวีริยํ สชฺฌายนวีริยํ ธารณวีริยฺจ. ลชฺชีสูติ ปาปชิคุจฺฉนกลกฺขณาย ลชฺชาย สมนฺนาคเตสุ. กุกฺกุจฺจเกสูติ อณุมตฺเตสุปิ วชฺเชสุ โทสทสฺสาวิตาย กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺจการีสุ. สิกฺขากาเมสูติ อธิสีลออจิตฺตอธิปฺาวเสน ติสฺโส สิกฺขา กามยมาเนสุ สมฺปิยายิตฺวา สิกฺขนฺเตสุ.

อกตฺตพฺพโต นิวาเรตฺวา กตฺตพฺเพสุ ปติฏฺาปนโต มาตาปิตุฏฺานิโยติ วุตฺตํ. อาจารโคจรกุสลตาติ เวฬุทานาทิมิจฺฉาชีวสฺส กายปาคพฺภิยาทีนฺจ อกรเณน สพฺพโส อนาจารํ วชฺเชตฺวา ‘‘กายิโก อวีติกฺกโม วาจสิโก อวีติกฺกโม’’ติ (วิภ. ๕๑๑) เอวํ วุตฺตภิกฺขุสารุปฺปอาจารสมฺปตฺติยา เวสิยาทิอโคจรํ วชฺเชตฺวา ปิณฺฑปาตาทิอตฺถํ อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานสงฺขาตโคจเรน จ สมฺปนฺนตฺตา สมณาจาเรสุ เจว สมณโคจเรสุ จ กุสลตา. อปิจ โย ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว สปฺปติสฺโส สพฺรหฺมจารีสุ สคารโว สปฺปติสฺโส หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺเตน ปฏิกฺกนฺเตน อาโลกิเตน วิโลกิเตน สมิฺชิเตน ปสาริเตน โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร โภชเน มตฺตฺู ชาคริยมนุยุตฺโต สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโต อปฺปิจฺโฉ สนฺตุฏฺโ อารทฺธวีริโย ปวิวิตฺโต อสํสฏฺโ อาภิสมาจาริเกสุ สกฺกจฺจการี ครุจิตฺตีการพหุโล วิหรติ, อยํ วุจฺจติ อาจาโร.

โคจโร ปน อุปนิสฺสยโคจโร อารกฺขโคจโร อุปนิพนฺธโคจโรติ ติวิโธ. ตตฺถ ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต กลฺยาณมิตฺโต, ยํ นิสฺสาย อสฺสุตํ สุณาติ, สุตํ ปริโยทาเปติ, กงฺขํ วิตรติ , ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ, จิตฺตํ ปสาเทติ, ยสฺส วา ปน อนุสิกฺขมาโน สทฺธาย วฑฺฒติ, สีเลน, สุเตน, จาเคน, ปฺาย วฑฺฒติ, อยํ อุปนิสฺสยโคจโร. โย ปน ภิกฺขุ อนฺตรฆรํ ปวิฏฺโ วีถิปฏิปนฺโน โอกฺขิตฺตจกฺขุ ยุคมตฺตทสฺสาวี สํวุโต คจฺฉติ, น หตฺถึ โอโลเกนฺโต, น อสฺสํ, น รถํ, น ปตฺตึ, น อิตฺถึ, น ปุริสํ โอโลเกนฺโต, น อุทฺธํ โอโลเกนฺโต, น อโธ โอโลเกนฺโต, น ทิสาวิทิสมฺปิ เปกฺขมาโน คจฺฉติ, อยํ อารกฺขโคจโร. อุปนิพนฺธโคจโร ปน จตฺตาโร สติปฏฺานา, ยตฺถ ภิกฺขุ อตฺตโน จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย, ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ. อยํ อุปนิพนฺธโคจโร. อิติ อิมินา จ อาจาเรน อิมินา จ โคจเรน สมนฺนาคตตฺตา อาจารโคจรกุสลตา. เอวํ อนาจารํ อโคจรฺจ วชฺเชตฺวา สทฺธาปพฺพชิตานํ ยถาวุตฺตอาจารโคจเรสุ กุสลภาโว วินยธรายตฺโตติ อยมานิสํโส วินยปริยตฺติยา ทสฺสิโตติ เวทิตพฺโพ.

วินยปริยตฺตึ นิสฺสายาติ วินยปริยาปุณนํ นิสฺสาย. อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติสุรกฺขิโตติ กถมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต? อาปตฺติฺหิ อาปชฺชนฺโต ฉหากาเรหิ อาปชฺชติ อลชฺชิตา, อฺาณตา, กุกฺกุจฺจปกตตา, อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตา, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺิตา, สติสมฺโมสาติ. วินยธโร ปน อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ.

กถํ อลชฺชิตาย นาปชฺชติ? โส หิ ‘‘ปสฺสถ โภ, อยํ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานนฺโตเยว ปณฺณตฺติวีติกฺกมํ กโรตี’’ติ อิมํ ปรูปวาทํ รกฺขนฺโตปิ อกปฺปิยภาวํ ชานนฺโตเยว มทฺทิตฺวา วีติกฺกมํ น กโรติ. เอวํ อลชฺชิตาย นาปชฺชติ. สหสา อาปนฺนมฺปิ เทสนาคามินึ เทเสตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺหิตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาติ, ตโต –

‘‘สฺจิจฺจ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, อาปตฺตึ น ปริคูหติ;

อคติคมนฺจ น คจฺฉติ, เอทิโส วุจฺจติ ลชฺชิปุคฺคโล’’ติ. (ปริ. ๓๕๙) –

อิมสฺมึ ลชฺชิภาเว ปติฏฺิโตว โหติ.

กถํ อฺาณตาย นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา กปฺปิยํเยว กโรติ, อกปฺปิยํ น กโรติ. เอวํ อฺาณตาย นาปชฺชติ.

กถํ กุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ? กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย กุกฺกุจฺเจ อุปฺปนฺเน วตฺถุํ โอโลเกตฺวา มาติกํ ปทภาชนํ อนฺตราปตฺตึ อนาปตฺตึ โอโลเกตฺวา กปฺปิยํ เจ โหติ, กโรติ, อกปฺปิยํ เจ, น กโรติ. อุปฺปนฺนํ ปน กุกฺกุจฺจํ อวินิจฺฉินิตฺวาว ‘‘วฏฺฏตี’’ติ มทฺทิตฺวา น วีติกฺกมติ. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตตาย นาปชฺชติ.

กถํ อกปฺปิเย กปฺปิยสฺิตาทีหิ นาปชฺชติ? โส หิ กปฺปิยากปฺปิยํ ชานาติ, ตสฺมา อกปฺปิเย กปฺปิยสฺี น โหติ, กปฺปิเย อกปฺปิยสฺี น โหติ, สุปติฏฺิตา จสฺส สติ โหติ, อธิฏฺาตพฺพํ อธิฏฺเติ, วิกปฺเปตพฺพํ วิกปฺเปติ. อิติ อิเมหิ ฉหากาเรหิ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, อาปตฺตึ อนาปชฺชนฺโต อขณฺฑสีโล โหติ ปริสุทฺธสีโล. เอวมสฺส อตฺตโน สีลกฺขนฺโธ สุคุตฺโต โหติ สุรกฺขิโต.

กุกฺกุจฺจปกตานนฺติ กปฺปิยากปฺปิยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺเนน กุกฺกุจฺเจน อภิภูตานํ. กถํ ปน กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ? ติโรรฏฺเสุ ติโรชนปเทสุ จ อุปฺปนฺนกุกฺกุจฺจา ภิกฺขู ‘‘อสุกสฺมึ กิร วิหาเร วินยธโร วสตี’’ติ ทูรโตปิ ตสฺส สนฺติกํ อาคนฺตฺวา กุกฺกุจฺจํ ปุจฺฉนฺติ. โส เตหิ กตกมฺมสฺส วตฺถุํ โอโลเกตฺวา อาปตฺตานาปตฺตึ ครุกลหุกาทิเภทํ สลฺลกฺเขตฺวา เทสนาคามินึ เทสาเปตฺวา วุฏฺานคามินิยา วุฏฺาเปตฺวา สุทฺธนฺเต ปติฏฺาเปติ. เอวํ กุกฺกุจฺจปกตานํ ปฏิสรณํ โหติ.

วิสารโท สงฺฆมชฺเฌ โวหรตีติ วิคโต สารโท ภยํ เอตสฺสาติ วิสารโท, อภีโตติ อตฺโถ. อวินยธรสฺส หิ สงฺฆมชฺเฌ กเถนฺตสฺส ภยํ สารชฺชํ โอกฺกมติ, วินยธรสฺส ตํ น โหติ. กสฺมา? ‘‘เอวํ กเถนฺตสฺส โทโส โหติ, เอวํ น โทโส’’ติ ตฺวา กถนโต.

ปจฺจตฺถิเกสหธมฺเมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคณฺหาตีติ เอตฺถ ทฺวิธา ปจฺจตฺถิกา นาม อตฺตปจฺจตฺถิกา จ สาสนปจฺจตฺถิกา จ. ตตฺถ เมตฺติยภุมฺมชกา จ ภิกฺขู วฑฺโฒ จ ลิจฺฉวี อมูลเกน อนฺติมวตฺถุนา โจเทสุํ, อิเม อตฺตปจฺจตฺถิกา นาม. เย วา ปนฺเปิ ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, สพฺเพ เต อตฺตปจฺจตฺถิกา. วิปรีตทสฺสนา ปน อริฏฺภิกฺขุกณฺฏกสามเณรเวสาลิกวชฺชิปุตฺตกา มหาสงฺฆิกาทโย จ อพุทฺธสาสนํ ‘‘พุทฺธสาสน’’นฺติ วตฺวา กตปคฺคหา สาสนปจฺจตฺถิกา นาม. เต สพฺเพปิ สหธมฺเมน สหการเณน วจเนน ยถา ตํ อสทฺธมฺมํ ปติฏฺาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, เอวํ สุนิคฺคหิตํ กตฺวา นิคฺคณฺหาติ.

สทฺธมฺมฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตีติ เอตฺถ ปน ติวิโธ สทฺธมฺโม ปริยตฺติปฏิปตฺติอธิคมวเสน. ตตฺถ ติปิฏกํ พุทฺธวจนํ ปริยตฺติสทฺธมฺโม นาม. เตรส ธุตงฺคคุณา จุทฺทส ขนฺธกวตฺตานิ ทฺเวอสีติ มหาวตฺตานีติ อยํ ปฏิปตฺติสทฺธมฺโม นาม. จตฺตาโร มคฺคา จ จตฺตาริ ผลานิ จ, อยํ อธิคมสทฺธมฺโม นาม. ตตฺถ เกจิ เถรา ‘‘โย โว, อานนฺท, มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ปฺตฺโต, โส โว มมจฺจเยน สตฺถา’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๖) อิมินา สุตฺเตน ‘‘สาสนสฺส ปริยตฺติ มูล’’นฺติ วทนฺติ. เกจิ เถรา ‘‘อิเม จ, สุภทฺท, ภิกฺขู สมฺมา วิหเรยฺยุํ, อสุฺโ โลโก อรหนฺเตหิ อสฺสา’’ติ อิมินา สุตฺเตน (ที. นิ. ๒.๒๑๔) ‘‘สาสนสฺส ปฏิปตฺติ มูล’’นฺติ วตฺวา ‘‘ยาว ปฺจ ภิกฺขู สมฺมา ปฏิปนฺนา สํวิชฺชนฺติ, ตาว สาสนํ ิตํ โหตี’’ติ อาหํสุ. อิตเร ปน เถรา ‘‘ปริยตฺติยา อนฺตรหิตาย สุปฺปฏิปนฺนสฺสปิ ธมฺมาภิสมโย นตฺถี’’ติ วตฺวา อาหํสุ. สเจปิ ปฺจ ภิกฺขู จตฺตาริ ปาราชิกานิ รกฺขณกา โหนฺติ, เต สทฺเธ กุลปุตฺเต ปพฺพาเชตฺวา ปจฺจนฺติเม ชนปเท อุปสมฺปาเทตฺวา ทสวคฺคคณํ ปูเรตฺวา มชฺฌิมชนปเทปิ อุปสมฺปทํ กริสฺสนฺติ. เอเตนุปาเยน วีสติวคฺคสงฺฆํ ปูเรตฺวา อตฺตโนปิ อพฺภานกมฺมํ กตฺวา สาสนํ วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ คมยิสฺสนฺติ. เอวมยํ วินยธโร ติวิธสฺสปิ สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิติยา ปฏิปนฺโน โหตีติ. เอวมยํ วินยธโร อิเม ปฺจานิสํเส ปฏิลภตีติ เวทิตพฺโพ.

วินโย สํวรตฺถายาติอาทีสุ (ปริ. อฏฺ. ๓๖๖) วินโยติ วินยสฺส ปริยาปุณนํ, วินโยติ วา วินยปฺตฺติ วุตฺตา, ตสฺมา สกลาปิ วินยปฺตฺติ วินยปริยาปุณนํ วา กายวจีทฺวารสํวรตฺถายาติ อตฺโถ, อาชีวปาริสุทฺธิปริโยสานสฺส สีลสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อวิปฺปฏิสาโรติ ปาปปุฺานํ กตากตานุโสจนวเสน ปวตฺตจิตฺตวิปฺปฏิสาราภาโว. ปาโมชฺชนฺติ ทุพฺพลา ตรุณปีติ. ปีตีติ พลวปีติ. ปสฺสทฺธีติ กายจิตฺตทรถปฏิปฺปสฺสทฺธิ. สุขนฺติ กายิกํ เจตสิกฺจ สุขํ. ตฺหิ ทุวิธมฺปิ สมาธิสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. สมาธีติ จิตฺเตกคฺคตา. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห. นิพฺพิทาติ วิปสฺสนา. อถ วา ยถาภูตาณทสฺสนํ ตรุณวิปสฺสนา, อุทยพฺพยาณสฺเสตํ อธิวจนํ. จิตฺเตกคฺคตา หิ ตรุณวิปสฺสนาย อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. นิพฺพิทาติ สิขาปฺปตฺตา วุฏฺานคามินิพลววิปสฺสนา. วิราโคติ อริยมคฺโค. วิมุตฺตีติ อรหตฺตผลํ. จตุพฺพิโธปิ หิ อริยมคฺโค อรหตฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจโย โหติ. วิมุตฺติาณทสฺสนนฺติ ปจฺจเวกฺขณาณํ. อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายาติ กฺจิ ธมฺมํ อคฺคเหตฺวา อนวเสเสตฺวา ปรินิพฺพานตฺถาย, อปฺปจฺจยปรินิพฺพานตฺถายาติ อตฺโถ. อปฺปจฺจยปรินิพฺพานสฺส หิ วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจโย โหติ ตสฺมึ อนุปฺปตฺเต อวสฺสํ ปรินิพฺพายิตพฺพโต, น จ ปจฺจเวกฺขณาเณ อนุปฺปนฺเน อนฺตรา ปรินิพฺพานํ โหติ.

เอตทตฺถา กถาติ อยํ วินยกถา นาม เอตทตฺถาย, อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายาติ อตฺโถ. เอวํ สพฺพตฺถปิ. มนฺตนาปิ วินยมนฺตนาเอว, ‘‘เอวํ กริสฺสาม, น กริสฺสามา’’ติ วินยปฏิพทฺธสํสนฺทนา. เอตทตฺถา อุปนิสาติ อุปนิสีทติ เอตฺถ ผลํ ตปฺปฏิพทฺธวุตฺติตายาติ อุปนิสา วุจฺจติ การณํ ปจฺจโยติ. ‘‘วินโย สํวรตฺถายา’’ติอาทิกา การณปรมฺปรา เอตทตฺถาติ อตฺโถ. เอตทตฺถํ โสตาวธานนฺติ อิมิสฺสา ปรมฺปรปจฺจยกถาย โสตาวธานํ อิมํ กถํ สุตฺวา ยํ อุปฺปชฺชติ าณํ, ตมฺปิ เอตทตฺถํ. ยทิทํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺโขติ ยทิทนฺติ นิปาโต. สพฺพลิงฺควิภตฺติวจเนสุ ตาทิโสว ตตฺถ ตตฺถ อตฺถโต ปริณาเมตพฺโพ, ตสฺมา เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ – โย อยํ จตูหิ อุปาทาเนหิ อนุปาทิยิตฺวา จิตฺตสฺส อรหตฺตผลสงฺขาโต วิโมกฺโข, โสปิ เอตทตฺถาย อนุปาทาปรินิพฺพานตฺถายาติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. โย อยํ อนุปาทาจิตฺตสฺส วิโมกฺขสงฺขาโต มคฺโค, เหฏฺา วุตฺตํ สพฺพมฺปิ เอตทตฺถเมวาติ. เอวฺจ สติ อิมินา มหุสฺสาหโต สาธิตพฺพํ นิยตปฺปโยชนํ ทสฺสิตํ โหติ. เหฏฺา ‘‘วิราโค…เป… นิพฺพานตฺถายา’’ติ อิมินา ปน ลพฺภมานานิสํสผลํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. อาโยโคติ อุคฺคหณจินฺตนาทิวเสน ปุนปฺปุนํ อภิโยโค.

วินยานิสํสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ สมนฺตปาสาทิกาย วินยฏฺกถาย สารตฺถทีปนิยํ

พาหิรนิทานวณฺณนา สมตฺตา.